พิมพ์หน้านี้ - เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Seiki ที่ 09-03-2010 23:52:20

หัวข้อ: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 09-03-2010 23:52:20
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออก ไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ดโดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคล ที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่ นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
***=================================================***

นิยายใหม่ ใหม่ทั้งคนแต่งและคนลงจ้า ฝากติชมด้วยนะ
o1 o1 o1

============================================



============================================

สารบัญ "นิยาย"
ตอนที่ 1 ,2,3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.0)                     
ตอนที่ 4 ,5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.30)
ตอนที่ 6 ,7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.60)
ตอนที่ 8 ,9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.90)
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.120)
ตอนที่ 11 ,12 ,13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.150)
ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.180)
ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.210)
ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.240)
ตอนที่ 17 ,18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.270)   
ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.300)
ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.330)
ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.360)
ตอนที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.420)
ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.450)
ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.480)
ตอนที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.510)
ตอนที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.570)
ตอนที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.600)
ตอนที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.630)
ตอนที่ 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.660)
ตอนที่ 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.690)
ตอนที่ 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.720)
ตอนที่ 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.750)
ตอนที่ 33 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.810)
ตอนที่ 34 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.840)
ตอนที่ 35 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.900)
ตอนที่ 36 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.930)
ตอนพิเศษ “ซุกเด็ก 1” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.960)
ตอนพิเศษ “ซุกเด็ก 2” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1020)
ตอนที่ 37 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1050)
ตอนที่ 38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1110)
ตอนที่ 39 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1140)
ตอนที่ 40 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1200)
ตอนที่ 41 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1260)
ตอนที่ 42 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1320)
ตอนที่ 43 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1380)
ตอนที่ 44 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1470)
ตอนที่ 45 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1530)
ตอนอวสาน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1590)
ตอนพิเศษ “รัก…ครั้งแรก” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1650)
ตอนพิเศษ “รักสนุก...แต่ไม่ผูกพัน” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1710)
ตอนพิเศษ “รัก…ต้องรุก” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1770)
ตอนพิเศษ “รัก…(ต้อง)ลองใจ 1” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1800)
ตอนพิเศษ “รัก…(ต้อง)ลองใจ 2” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1860)
ตอนพิเศษ “รัก…ต้องแสดงออก” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1920)
เรื่องพิเศษ “คุณคนเดียวแต่เราสองคน”  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.1980)
ตอนพิเศษ “รัก…ไม่ต้องการเวลา” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.2040)

===============================================

สวัสดีคะทุกคน...วันนี้ไม่ได้ลงเรื่องนะคะ

ตอนแรกจะประชาสัมพันธ์ในวันที่ลงตอนจบของเรื่องนี้ (คุณคนเดียวแต่เราสองคน)

แต่วันนี้เป็นวันดีวันที่ 29 ค่ะ...เลยขอลงเอาฤกษ์เอาชัยก่อนนะคะ

 :impress2: :impress2: :-[ :-[

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line19/kuma1.gif)


ข่าวประกาศประชาสัมพันธ์นะคะ


คนเขียนเคยเล่าให้ฟังช่วงทอล์คไปแล้ว เกี่ยวกับที่มาที่ไปของเรื่องคุณคนเดียวแต่เราสองคน เพราะว่าทุกคนถึงได้มีฉบับต่อความยาวสาวความยืดนี้เกิดขึ้น ทั้งๆที่ตั้งใจให้เป็นเรื่องสั้นพิเศษแถมในเรื่องแมื่อแหงนมองฯ เพราะตอนพิเศษของเมื่อแหงนมองนั้นลงเล้าไปหมดแม็กแล้ว...

และเมื่อ ต้นปีถ้าใครได้ติดตามกิจกรรมของเล้าเรื่องประมูลเงินเพื่อทำบุญและทำกิจกรรม เล้า (มีมิตติ้งไปแล้ว) มีน้องคนหนึ่งได้รางวัลจากเซกิเป็นหนังสือรวมเล่มพี่ดินไปแต่น้องได้สั่ง ซื้อหนังสือไปก่อนหน้านี้แล้ว น้องเลยมอบหนังสือชุดนี้ให้เล้าประมูลหารายได้

มีพี่ใจดีคนหนึ่ง ประมูลหนังสือชุดพี่ดินไปในราคา 3300 บาทถ้วน ในฐานะคนเขียนทั้งดีใจและตกใจไปพร้อมๆกัน สำหรับหนังสือราคาชุดละ 700 บาท ขยับเป็น 3300 นั้น มันเกินราคาจริงไปเกือบ 5 เท่า คนเขียนเลยอยากจะทำอะไรให้พี่เค้าเป็นการตอบแทน จากที่เคยประกาศไป เลยมาสรุปที่ Boxet รวบรวมผลงานของคนเขียนเองนี่แหละ โดยจะยุบรวมแต่ละเรื่อง จากเรื่องละสองเล่ม เหลือเพียงเล่มเดียวและทำปกแข็งกระดาษจัวปัง (เหมือนแฮรี่พอตเตอร์) และเปลี่ยนรูปแบบปกใหม่ทั้งหมด และแถมเรื่องคุณคนเดียวแต่เราสองคนไปให้ด้วย ในเมื่อรวมกันได้ 3 เรื่องแล้วก็จะต้องมีแพ็คเกจตามสไตล์ TRomance จึงมาลงตัวที่ Boxet กล่องไม้ขีดกระดาษแข็งปิดผิวกระดาษอาร์ตพิมพ์ลาย 4 สี เคลือบ PVC ด้าน (เนื่องจากคนเขียนเองเคยมีส่วนร่วมในการออกแบบและจัดทำ box แบบนี้แล้วในเรื่องหรือว่าความรักของพี่ figs เลยเป็นแพ็คเกจที่ลงตัวที่สุดสำหรับงานจำนวนน้อยๆนี้ เมื่อแจ้งข่าวให้พี่ที่ประมูลได้ ว่าคนเขียนจะทำแบบนี้ขึ้นมาเพียงแค่สองชุดสำหรับตัวคนเขียนเองและพี่คน ประมูลได้ พี่ได้แนะนำคนเขียนมาว่า ในเมื่อคนเขียนปั้นคุณคนเดียวมาเป็นเล่มแล้วก็เปิดโอกาสให้คนที่อยากเก็บ เรื่องนี้ด้วยเถอะ ส่วนอีกสองเรื่องที่เปลี่ยนปกใหม่และทำเป็นปกแข็ง ก็เปิดไปด้วยเลยเผื่อมีใครที่อยากเก็บจริงๆ ด้วยคำแนะนำและกำลังใจจากหลายๆคน คนเขียนเลยตัดสินใจเปิดให้คนอ่านที่อยากเก็บผลงานเอาไว้นะคะ

****ก่อนอ่านรายละเอียดและจับจอง ให้อ่านคำอธิบายให้ละเอียดก่อนนะคะ (ขอร้องว่าอ่านก่อนนะคะ)


(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line19/kuma1.gif)



1.เรื่องคุณคนเดียวแต่เราสองคน


(http://image.ohozaa.com/i/1e7/112covers.jpg)


1 เล่มจบ จำนวน 200-250 หน้า

หนังสือขนาด 13.5*18.5 cm เล็กกว่า A5 นิดหน่อย (A5 ปกติขนาด 14.8*21 cm) ปกปีกด้านเดียว มีที่คั่นปกติและที่คั่นแม่เหล็กตามมาตรฐาน TRomance

เนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบมีให้อ่านในเล้าเป็ด และไม่ลบเรื่องออกขณะทำการเปิดขายและหลังจากนั้น ในเล่มมีตอนพิเศษให้ 3 ตอนซึ่งไม่มีลงในเล้าเป็ด เป็นตอนที่คนเขียนเพิ่มขึ้นมา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักหรือส่วนขยายเนื้อหาหลักแต่อย่างใด

ราคา 300 บาท ต่อเล่ม ค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน 50 บาท/ชุด



(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line19/kuma1.gif)



2.Boxets รวมผลงาน 3 เรื่องของ TRomance  ประกอบไปด้วย

เมื่อแหงนมองจันทร์ผมเห็นตะวัน (พี่เมฆพี่ฉาน) จากเดิม 2 เล่มจบ ยุบเหลือ 1 เล่มจบ ปกแข็งกระดาษจัวปัง เนื้อหาภายในเล่มเหมือนที่เคยรวมเล่มไปแล้วทุกประการ

อ่านเรื่องทั้งหมดได้ที่นี่ค่ะ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.0)

(http://image.ohozaa.com/i/24c/mekchancover.jpg)


[ภูตะวัน vs เพียงดิน] เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง (พี่ดินกับไอ้เสาไฟฟ้า) จากเดิม 2 เล่มจบ ยุบเหลือ 1 เล่มจบ ปกแข็งกระดาษจัวปัง เนื้อหาภายในเล่มเหมือนที่เคยรวมเล่มไปแล้วทุกประการ เพิ่มตอนพิเศษวันวาเลนไทน์ที่ลงเล้าไปหลังจากรวมเล่มให้อีก 1 ตอน

อ่านเรื่องทั้งหมดได้ที่นี่ค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=18569.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=18569.0)

(http://image.ohozaa.com/i/d73/phoodincover3.jpg)

คุณคนเดียวแต่เราสองคน รายละเอียดตามที่บอกไปแล้วหัวข้อข้างบน

อ่านเรื่องทั้งหมดได้ที่นี่ค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20393.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20393.0)

(http://image.ohozaa.com/i/1e7/112covers.jpg)

๐ ราคา Boxet 1 ชุด ราคา 1,700 บาท ค่าจัดส่งชุดละ 75 บาท เป็นพัสดุลงทะเบียนนะคะ


*** Boxet นี้ทำขนาดเดียวสำหรับใส่ผลงานทั้ง 3  เพราะฉะนั้นไม่แยกขายนะคะ

*** สำหรับใครที่ต้องการแยกซื้อไม่ว่าเรื่องพี่ดินหรือพี่เมฆ ชุดละ 750 บาท ค่าจัดส่งชุดละ 65 บาท  (แยกซื้อไม่มี Boxet ให้นะคะ)



รูปแบบกล่องให้ทุกคนนึกถึงภาพกล่องไม้ขีด จะมีถาดสำหรับใส่หนังสือ (ป้องกันขอบหนังสือเวลาสอดเข้าหรือถอดออก) แล้วสวมทับด้วย Box นอกอีกทีค่ะ

ตัวอย่าง box...ลายกล่องเป็นเพียงตัวอย่างนะคะ เนื่องจากคนเขียนยังนึกแบบไม่ออก


(http://image.ohozaa.com/i/3f2/4page.jpg)


(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line19/kuma1.gif)

ครั้ง นี้เป็น Project พิเศษจริงๆ ต้องขอบคุณพี่ที่ประมูลหนังสือได้ที่สนับสนุนให้คนเขียนเปิดให้คนอ่านทุกๆคน ได้สั่งจองเข้ามา และต้นทุนในการทำในครั้งนี้ สำหรับคนเขียนแล้วเป็นต้นทุนที่สูงมากค่ะ จำนวนที่สั่งทำก็คงจะไม่เยอะเท่าที่เปิดจองรอบปกติ ดังนั้นคนเขียนจะเปิดจองแค่รอบนี้เพียงรอบเดียว ไม่มีรอบเก็บตกอีกแล้วนะคะ และในอนาคตต่อไปข้างหน้า หากจะมี Reprint อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน คนเขียนจะกลับไป Reprint เหมือนชุดปกติอย่างที่เคยทำค่ะ

เปิดจองและโอนเงิน วันนี้ ถึง 15 พฤษภาคม ศกนี้ค่ะ
 

คนที่สนใจ mail มาขอรับ Code โอนเงินที่ Mail ด้านล่างนี้นะคะ


(http://image.ohozaa.com/iw/ymail.jpg)

ตั้งชื่อเมลล์ว่า สั่งจองหนังสือ...

1.ระบุชื่อคนจองหรือ Login

2.ระบุเรื่องที่ต้องการจอง

2.1 รวมเล่มคุณคนเดียวแต่เราสองคน จำนวน.....เล่ม

2.2 Boxet ประกอบด้วย (พี่ดิน+พี่เมฆ ปกแข็ง และ คุณคนเดียวฯ) จำนวน........ชุด

2.3 แยกซื้อ พี่ดินหรือพี่เมฆ ปกแข็ง อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองเรื่อง (ไม่เอา Box) จำนวน.........เล่ม

3.
รอรับ Code โอนเงินทางเมลล์เหมือนเดิมค่ะ


ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนกันมาโดยตลอดนะคะ

 :pig4: :pig4: :pig4:


(http://image.ohozaa.com/i/91e/1untitled1.gif)

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 09-03-2010 23:53:41
(http://image.ohozaa.com/iy/rbrd8.jpg)

ตอนที่ 1
กี่ปีมาแล้วนะ 5ปี 10ปี ไม่สิ 15 ปีมาแล้วนี่หว่า ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ผมแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้า
สิ่งที่สะท้อนกลับมาในดวงตาผม ก็มีแต่ “ดวงตะวัน” ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน หรือกลางคืน

ทำไมนะเหรอ ......ผมจะเล่าให้ฟัง
ผมมีชื่อสุดหรู ที่ใครๆ เรียกว่า “นายสยมภู” ใช่ นายสยมภู ที่แปลว่าพระอิศวร
หรือผู้ที่เกิดมาได้ด้วยตัวเอง
ซึ่งมันโกหกชัดๆ ผมหนะ เกิดมาจากท้องแม่นี่แหละ เกิดมาทั้งๆที่เค้าไม่อยากให้เกิดหรอก
ผมน่าจะชื่ออย่างอื่น ที่แปลว่า “ผู้ที่เกิดมาจากความผิดพลาด” มากกว่านะ
ชื่อนี้ พ่อผมตั้งให้ ก่อนที่จะทิ้งแม่ไปมีเมียใหม่ ส่วนแม่ หลังจากที่พ่อทิ้งผมไปไม่เท่าไหร่
ผมจำเวลานั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ
แม่ก็ทิ้งผมไปอีกคน แม่คงกลัวจะน้อยหน้าพ่อมั้ง เลยทิ้งผมบ้าง แต่พระเจ้าคงปราณีผมอยู่บ้าง ตรงที่แม่ไม่ได้ทิ้งผมไว้ข้างถนน หรือใต้สะพานลอย แม่เอาผมมาฝากไว้กับเพื่อนสนิท คนที่ผมเรียกว่า “แม่นิ่ม” มาถึงทุกวันนี้

แล้วผม ชีวิตผู้ยิ่งใหญ่อย่างพระอิศวรอย่างผม ตกเป็นข้าทาสบริวารของ “ดวงตะวัน” ได้ยังงัยนะเหรอ
ก็หลังจากที่แม่ยกผมให้ แม่นิ่มแบบฟรีๆ อย่างมีน้ำใจแล้ว ผมก็ย้ายมาอยู่กับแม่นิ่ม ที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งนึง
ในเมืองหลวงนี่แหละ

ตอนนั้น ผมกำลังอยู่ในอารมณ์พระเอกมิวสิควีดีโอเพลงเศร้า ผมตั้งชื่อเพลงเศร้าเพลงนั้นว่า “อังคารร้าวราน” แล้วกัน
ก็วันนั้นผมจำได้ว่าเป็นวันอังคาร ตอนที่แม่ โบกมือลาจากผม เดินไปขึ้นรถเก๋งคันโก้ ผมในขณะนั้น ทำได้แต่เพียง ร้องไห้จนตัวโยน โดยมี แม่นิ่มจับมือข้างนึงของผมไว้ มืออีกข้างนึงของแม่นิ่ม ลูบหัวผมอย่างปลอบประโลม รอบๆตัวผม เต็มไปด้วยละอองแห่งความหม่นหมอง ท่ามกลางแดดจ้าของเที่ยงวัน รอบตัวผม เต็มไปด้วยสีเทาดำ อ้างว้าง โดดเดี่ยว เสียงตะโกนเรียกแม่ ที่ไม่ว่าผมจะร้องออกไปดังมากเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าแม่ไม่ได้ยินเสียงนั้นของผมด้วยซ้ำ ก็แม่หนะ เดินห่างจากผมออกไปเรื่อยๆ ในขณะที่ชีวิต ตอน 5 ขวบของผม หม่นหมองอย่างที่สุด ผมกำลังเป็นพระเอกมิวสิคอย่างเต็มรูปแบบ
อารมณ์เศร้าของผมในเวลานั้น ถ้าพจน์ อานนท์ มาเห็น ในวันนี้ คงไม่มี มาริโอ้ ในวงการบันเทิงหรอกครับ
หากไม่มีมือนึง ที่ไม่ใช่มือของแม่นิ่ม เข้ามาจับมือผมอีกข้าง ที่แม่นิ่มไม่ได้จับไว้ (จะอธิบายให้งงทำไม)
ผมไม่ขอเรียกว่านั่นคือการจับมือได้มั้ยครับ ผมขอใช้คำว่ากระชากเลยจะถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่า
“นี่นาย หลานน้านิ่มใช่มั้ย พอดีเลย เรากำลังหาพวก นายช่วยมาเป็นพวกเราหน่อย” เสียงเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม
นี่แหละครับ  มันคือไอ้ดวงตะวันดวงนั้น ในชีวิตผม ตั้งแต่ 5 ขวบ วันนั้น จน อายุ 20 ปีในวันนี้
ไอ้ดวงตะวันดวงนี้ มันก็ไม่ไปไหน ดวงตะวันดวงนี้นั้น มันชื่อ “ฉานแสง” ครับ ไอ้ฉานมันเข้ามาทำลายบรรยากาศมิวสิควีดีโอผมอย่างหน้าด้านๆ ผสมผสานกับอาการหน้ามึน มันไม่รอคำตอบจากผม ที่ยืนงงเอ๋อแดก หรือแม่นิ่ม ที่ทำหน้าที่นางเอกมิวสิคต่างวัย ปลอบใจผมอยู่เลยครับ มันกระชากผมไม่พอ มันลาก ลาก แล้วก็ลากผม มาที่กำแพงข้างหมู่บ้าน ที่มีบันไดไม้อันใหญ่พอดูสำหรับเด็กอย่างผม วางพาดอยู่
ไอ้ฉาน มันปีนบันไดขึ้นไปก่อนครับ มันขึ้นไปยืนบนขอบกำแพง มองมาทางผม
“ทำไมไม่ขึ้นมาหละ   เร็วๆหน่อยสิ พวกนั้นรออยู่” มันต้องเป็นลูก ผู้กำกับแห่งชาติแน่ๆครับ มันไม่ได้ถามผมแค่คำพูดนะ หน้าตามันหนะ ขมวดกันเป็นเกลียว เพิ่มสิ่งที่มันสงสัยเข้าไปด้วยครับ
แต่ ให้โดเรมอนกับโสนน้อยเรือนงาม เป็นแฟนกันเถอะครับ ก็ไอ้กำแพงนั้นนะ สูงมากนะครับ แล้วทั้งผมและมันหนะ
อายุ 5 ขวบเองนะ ชาติที่แล้ว ไอ้อ้วนนี่ มันคงเกิดเป็นลิงหรือกิ้งก่าแน่ๆ ผมไม่กล้าหรอกครับ ใครจะไปกล้า ผมไม่ใช่พญาวานรนะ สงสัยว่าผมในตอนนั้น คงทดความคิดติดไว้ในใจไม่ได้ คงจะมีสมการอะไรบางอย่างส่งออกมาทางสีหน้าบ้าง
“เอ้า ปีนขึ้นมาสิ เรารอจับอยู่ตรงนี้แหละ ไม่เป็นไรหรอกน่า เราขึ้นมาหลายครั้ง ไม่เคยตกเลยสักครั้ง “
มันคืออะไรครับ  คำพูดนั้น มันคือคำพูดปลุกใจ ให้กำลังใจ ใช่หรือไม่ครับ แล้วทำไม สายตา จิก เยี่ยงไก่ของมันถึงฉายแสงแรงกล้า ลงมาที่ผมละครับ ไม่พอนะ ไอ้พญาวานรมันพูดแล้ว มันก็ยื่นมือรอรับ ดังปากพูดจริงๆครับ
ผมที่ทำใจอยู่นาน ค่อยๆปีนขึ้นไปทีละขั้นบันได พร้อมขาน้อยๆที่สั่นไหว จนมือป้อมๆๆมือนั้นยื่นมาจับมือผมไว้ แล้วกระชากขึ้นไปยืนอยู่เคียงข้างมัน ประมาณว่าฉันจะอยุ่เคียงข้างเธอนั่นแหละครับ เมื่อผมตั้งสติได้ มองไปยังอีกฝั่งของกำแพงจึงรู้ว่า มันคือกองฟางขนาดใหญ่ ไล่ลงมาเป็นสโลปครับ ที่ผมอธิบายได้ขนาดนี้ เพราะตอนนี้ ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วหนะสิครับ แต่ผมในตอนนั้นหนะ จำได้ว่าตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นมาก แล้วไอ้อ้วนที่อยู่ข้างๆผมหนะ ดูมันภูมิใจกับอาการตื่นเต้นของผมมากเลยนะ  ดูตัวมันยืดๆ และแอ่นๆ ยังงัยก็ไม่รู้ หรือว่ามันคือท่าเริ่มต้นที่จะแปลงร่าง
“เดี๊ยวกลิ้งลงไปนะ พวกนั้นรออยู่นานแล้วมั้ง ฝั่งนั้นเป็นโรงเรียน” พอมันพูดจบ มันก็กลิ้งลงไปเยี่ยงนินจาฮาโตริเลยครับ
ส่วนผม ก็ทำตามมัน  อยางหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่ผมว่า ในตอนนั้น ผมลืมนับนะ ว่ามันม้วนตัวลงไปกี่รอบ ผมจะได้ทำสเตปตามมัน ให้สมกับตำแหน่งผู้กำกับแห่งชาติของมัน สนองคุณมันแบบคอมโบ้เซตไปเลยครับ

สังเกตุอะไรกันมั้ยครับ  ว่าผมหนะ ยังไม่มีบทพูดอะไรสักคำเลยนะครับ เฮ้อออ......คนเขียนบทคงขี้เกียจ
ไม่ใช่ครับ ผมหนะ เป็นเด็ก ที่เป็นเด็กจริงๆนะ ไม่ใช่เด็กแต่ตัวอย่างไอ้อ้วนฉานมัน ผมในตอนนั้นยังปรับอารมณ์ไม่ทันครับ
อีกอย่างผมงงกะไอ้ฉานด้วย แต่ผมก็เชื่องนะครับในตอนนั้น ผมไม่คัดค้านอะไรมันสักอย่างเลย แต่ตอนนี้ผม เก่งขึ้นแล้วนะครับ ผมกะไอ้ฉานหนะ เถียงกันแบบไม่มีใครยอมใคร เถียงกันประหนึ่งชิงถ้วยพระราชทานนั่นแหละครับ
ไอ้อ้วนฉาน มันจูงผมลัดเลาะแนวกองฟาง มาตามทางเดิน จนมาเจอสิ่งปลูกสร้าง สองหลังติดกัน กั้นด้วยทางเดินแคบๆจัดแลนด์สเคปด้วยต้นพุดร้อยมาลัย 1 ต้นถ้วน มันคือห้องน้ำนักเรียนหญิงและชายครับ ในตอนนั้นผมไม่คิดอะไรหรอกครับ ผมคิดไม่ออกหนะ แต่พอมาคิดถึงมันในตอนนี้สิครับ
ไอ้ฉานนะไอ้ฉาน มึง มึง เอาอะไรเข้ามาแปดเปื้อนในชีวิตกู ไอ้ ไอ้ ไอ้ ไอ้หล่อเอ้ย......
เอ่อ........ผมเป็นคนตรงๆครับ ด่าอะไรมักด่าตามความจริงเสมอ เฮ้อออออ!!!! ชีวิตผมอันเดอร์มันตลอดแหละครับ


ไอ้ฉานมันพาผมมาเจอ “พวก” ของมันครับ ก็เป็นเด็กรุ่นเดียวกันแหละครับ เป็นลูกครู-อาจารย์ในโรงเรียนนี้หนะครับ โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนมัธยม และพวกของไอ้ฉานบางคน ก็เรียนอนุบาลห้องเดียวกะมันเลยครับ ส่วนบางคนก็เพื่อนข้างห้อง เพื่อนของเพื่อน เยอะอย่างครับเยอะอย่าง นับได้ในตอนนั้นประมาณ 7 คนได้ ไอ้ฉานมันแน่แค่ไหนครับ คิดดู
“เฮ้ยย.....นี่พวกกูคนใหม่ จะมาเล่นกะเรา วันนี้เล่นเดี่ยวแล้วกัน ไม่เล่นหมู่” มาถึงมันก็ยัดเยียดผมเข้าเป็นหนึ่งในพวกมัน
เท่านั้นยังไม่หนำใจจอมบงการอย่างมันครับ มันยังออกคำสั่งเพื่อนคนอื่นๆด้วยครับ นั่นไม่เท่าไหร่ แต่ที่แปลกใจคือ ทุกคนพยักหน้ารับฟังคำสั่งไอ้ฉานกันหมดเลยครับ โอ้ ผมเพิ่งรู้ครับตอนนั้น ว่าไอ้ฉานเป็นหัวโจก เป็นหัวหน้าใหญ่ แล้วเราเล่นอะไรกันหนะเหรอครับ
เล่นซ่อนหาครับ เล่นซ่อนหา ในโลเคชั่นที่ดีที่สุด ในกรุงเทพครับ ห้องน้ำนักเรียนหญิงและชาย ในโรงเรียนมัธยมแห่งนึง
บรรเจิดประเสริฐที่สุดเลยนะผมว่า คนที่คิดเอาสถานที่แห่งนี้ เป็นโลเคชั่นเล่นเกมส์ปัญญาอ่อนนี้ได้ ผมว่ามันต้องมีจินตนาการขั้นเทพ  มันน่าถูกส่งไปออกแบบเมืองใหม่ของดูไบจริง จริงนะครับ

ที่พูดมาทั้งหมด ผมประชดชีวิตครับ.....
โลเคชั่นของพวกผม ไม่ได้สำคัญแค่เป็นที่เล่นซ่อนหาอย่างเดียวนะครับ ด้านหลังห้องน้ำหนะ มีบ่อน้ำที่ก่อขั้นมา สูงท่วมหัวผมในตอนนั้นครับ แต่ในหลายปีต่อมา มันก็เตี้ยพอให้พวกผมปีนขึ้นไป และติ๊ต่างให้มันเป็น สวิมมิ่งพูล ส่วนตัวได้หนะครับ อนาถมั้ยครับชีวิตผม บ่อน้ำนั้นหนะ เป็นบ่อน้ำแบบเปิด สำหรับเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ในห้องน้ำนะครับ
ปัจจุบันนี้บางทีที่ผมกะไอ้ฉานเดินไปย้อนอดีตวัยหวาน ก็เห็นพวกนักเรียนโข่ง มันจุ่มเท้าลงไปล้าง บ้าง ทิ้งขยะลงไปตามความคะนองบ้าง แล้วย้อนกลับไปถึงผมในตอนนั้นสิครับ มีแต่โสโครกและโสโครกครับ คิดถึงทีไร กระชากอ๊วกผมได้ทุกที


แต่นั่น มันก็เป็นวันแรกที่ผมได้รู้จักดวงตะวัน ไม่ใช่เหรอครับ หากไม่มีสถานที่แห่งความทรงจำแห่งนั้น
จะมีกันและกันในวันนี้ได้ยังงัย จริงไหมครับ

=========
แล้วเจอกันตอนต่อไปจ้า  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: RAJCHABUT ที่ 09-03-2010 23:59:14
ชื่อเรื่องน่ารักมาครับ

อ่านไปนิดนึง  ขอเจิมก่อน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 10-03-2010 00:10:39
นั่นสิ มันได้ถามใครมั้ย ว่าเค้าอยากเป็นพวกกะมันรึเปล่า

ฉานแสงนี่เข้าขั้นเกรียนนะเนี่ยเรา

กดคนโพสเน้นๆ พอเป็นพิธีค่ะ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 10-03-2010 00:11:51
+1 ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า
ท่าทางน่าติดตามดีมีอารมณ์แบบดราม่านิดๆ โรแม้นนิดหน่อย
แล้วจะมาเป็นกำลังใจให้น๊า
นิว(ยิ้มๆ)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 10-03-2010 00:39:33
น่าสนุกอ่ะ

+1 จัดไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 10-03-2010 00:46:38
แวะเอาดอกไม้มาให้กั๊บป๋ม  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 10-03-2010 03:37:06
 :L2: รับเรื่องใหม่ด้วย


+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 10-03-2010 08:19:57
ตามมาเจิมเรื่องใหม่ด้วยคน  :mc4:

เรื่องน่ารักดีจ้ะ เเล้วจะรออ่านตอนต่อนะ  :L2:

อยากรู้ว่าเมื่อไหร่สยมภู จะเอื้อยเอ่ยออกมาซะที
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: Pa Pao ที่ 10-03-2010 12:49:36
ขอให้มีคนอ่านเยอะๆ นะ พยายามต่อไปล่ะกัน หวังว่าคงไม่ประสาทแด๊กซะก่อนนะ แค่นี้ก็มีอะไรต้องทำเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ  :jul3:

ให้กำลังใจเสร็จแระ ไปแระ :a1:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 10-03-2010 15:58:29
จะรออ่านตอนต่อไปนะ   :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: สุดโฉด ที่ 10-03-2010 16:55:57
มารอตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 10-03-2010 17:57:35
มันจะฮา หรือมันจะเศร้าอะ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 11-03-2010 01:08:28
โอ้ยยยย จะดราม่าไปไหน  หวังว่าตอนต่อไปคงไม่ดราม่านะ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 11-03-2010 01:11:38
เข้ามาเพราะชื่อเรื่องเลยนะเนี่ยยยย ^^ อย่าให้จบเศร้าเป็นพอ รอตอนต่อไปอยู่นะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 11-03-2010 03:49:38
มาแล้วจ้าสำหรับตอนที่สอง จะไปขู่คนเขียนให้นะว่าห้ามจบเศร้า  :z1:
ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะจ๊ะ ถ้าคนโพสกดบวกได้มะไหร่จะรีบไล่แจกเลย  

ขออภัยถ้าหากมีข้อผิดพลาด
 o1
======================================
ตอนที่ 2

วันแรกแห่งการรู้จักไอ้ฉาน และเพื่อนใหม่ในวันนั้น จบลงเวลาเย็นๆเกือบพลบค่ำครับ ดีนะวันนั้นผมได้เล่นเป็นผู้ซ่อนตลอด
ถ้าผมต้องเป็นผู้หานะครับ ไม่อยากจะคิดเลยว่า ผมต้องเป็นผู้หามันทุกตาไปนั่นแหละครับ ก็ผมหนะรู้จักชื่อเพื่อนซะที่ไหนละครับ แม้แต่ชื่อไอ้ฉาน ผมยังมารู้จักที่บ้าน หลังจากมันเอาผมมาคืน แม่นิ่มเลยครับ
“น้านิ่มๆ ฉานเอาหลานน้ามาคืนครับ วันหลังจะยืมไปใหม่ ว่าแต่หลานน้ากลับวันไหนเหรอ” มันพ่นออกมาเป็นลาวาไหลเลยครับ
“ ฉาน  เมฆหนะ จะมาอยู่กับน้านิ่มนะ เมฆเป็นลูกบุญธรรมน้านิ่ม เดี๋ยวก็จะไปเรียนโรงเรียนเดียวกับฉาน น้าฝากเมฆด้วยนะ”
น้านิ่มแนะนำผมให้ไอ้ฉานรู้จักครับ มันพยักหน้าหงึกหงัก อย่างกะผู้ใหญ่  ชิส์ ไอ้แก่แดดเอ้ย
“เราชื่อฉาน  อยู่บ้านติดกะน้านิ่ม ยินดีที่ได้รู้จักนะ” โห มันหน้ามึนมั้ยละครับ มันลักพาตัวผมไปเล่นกะมันอยู่ครึ่งวัน
มันเพิ่งมาแนะนำตัวเองกะผมตอนนี้นี่นะ แถมคำพูดคำจายังกะถอดออกมาจากละคร

ครับ แล้วหลังจากวันนั้น ไอ้ฉานมันก็ยัดเยียดตัวมันเองเข้ามาเป็นดวงตะวันของผม โดยที่ผมเองไม่ได้เรียกร้อง
(ในตอนแรก) แต่กลับขาดไม่ได้ในตอนหลัง เอ๊ะ ยังไง ตกลงผมรู้สึกยังงัยกับมันกันแน่อะเหรอครับ
ตอนแรก รำคาญมันมากครับ เพราะมันหนะทำตัวประหนึ่งผู้กำกับชีวิตผมเลยครับ
ผมว่านะถ้ามันกำหนดทางเดินระบบหายใจผมได้ มันคงทำอะครับ ส่วนความดีของมันอะเหรอครับ ก็พอจะมีอยู่บ้างอะนะ
อย่างแรกเลย มันคุ้มกะลาหัวผมได้ ตั้งแต่ตอนนั้น จน เอ่อ จนถึงตอนนี้เลยอะนะ ผมจำได้ว่า ตั้งแต่รู้จักกับมันมา
ผมยังไม่เคยได้ออกสเต็ปสมชายจดปลายเท้าเลยครับ มีเรื่องกับคนอื่นทีไรมันจะเสนอหน้ามาออกสเต็ปนั้นแทนผมทุกครั้งไป
ผมไม่เคยเจ็บตัวครับ ถ้ามันอยู่ แต่ผมลำบาก ที่ต้องดูแลมัน (ถ้ามันได้ร่องรอยแห่งเกียรติยศกลับมานะ)
มันดูแลผมทุกอย่างครับ เรียกว่าออกแนวบงการ ทั้งด้านการเรียน ที่มันเองอยากเป็นสถาปนิกหนุ่มในอนาคตข้างหน้า
ส่วนผม อยากเป็นดีไซน์เนอร์ออกแบบพวกแพ็คเกจจิ้ง ถึงจะไปด้วยกันได้ แต่คนละไลน์คนละฟิวเลยนะครับ
ผมไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด ที่จะต้องเรียนสายวิทย์-คณิต ที่ยากฉิบหาย จะยากไปไหน จะเรียนไปทำไมมากมายก็ไม่รู้
แต่ก็ต้องจำใจเรียน เพราะไอ้ฉานมันต้องเรียนสายนี้ครับ มันถึงจะเอนท์สะท้านเข้าถาปัตย์ได้ แต่มันเก่งครับ
ด้วยความเก่งของมัน ที่เรียนไปโดดไป ก็ยังได้คะแนนดี ส่วนผมนั้นจะสอบแต่ละที ต้องทำหน้าละห้อย
ให้มันติวให้ ทั้งๆที่ผมหนะ เข้าเรียนทุกครั้งนะครับ ไม่ได้โดดครั้งเว้นครั้งแบบมัน ผมยังเรียนสู้มันไม่ได้
แต่ไม่เป็นไรครับ ผมเรียนประดับบารมี ไม่ได้ใช้มากแบบไอ้ฉาน

ไอ้ฉาน มันเป็นทั้งเพื่อนสนิท เป็นพี่ (มันแก่เดือนครับ) เป็นผู้ปกครอง (มันยังอุตส่าห์เบียดเบียนหน้าที่แม่นิ่มของผมนะครับ)
มันอยู่กับผมทุกสถานการณ์ครับ แต่ทุกสถานการณ์นั้น ผมกับมันไม่ได้คุยกันดีๆหรอกนะครับ ก็ไอ้ฉานหนะมันกวนตีน
เพื่อนถามผมอยู่บ่อยๆ ว่าสนิทกับมันได้งัย ในเมื่อมองจากภายนอกแล้ว ผมกะมันกัดกันขนาดนี้ น่าจะเป็นศัตรูกันมากกว่า
ครับ มันก็ใช่นะครับ แต่ไม่ใช่สำหรับผมและไอ้ฉาน เพราะความสัมพันธ์ของผมกับมัน ต้องขูดเอาเนื้อเยื่อบางๆ
แล้วมองผ่านกล้องจุลทรรศน์ครับ ถึงจะเห็น  มันก็มีมุมดีๆของมัน แต่ไม่มีใครได้เห็น นอกจากผม (มั้งนะ)
มุมดีๆของมันอีกอย่างนึงก็คือ มันจะเป็นเดือดเป็นแค้นแทนผมทุกครั้งไป ถ้าหากมีใครมาล้อผม ทำนอง ไอ้ลูกพ่อแม่ทิ้ง
ไอ้เด็กเก็บมาเลี้ยง ไอ้เด็กข้างถนน ไอ้ฉานมันเอาตายครับ ส่วนมุมที่น่าหมั่นไส้ของมันนะเหรอครับ
มันหล่อ เข้ม ยิ้มแล้วโลกสดใส สาวตรึมมากครับ ส่วนผม หน้าตาดี ยิ้มทีมีเขี้ยวข้างเดียว แต่ผู้ชายอย่างผม ไม่มีใครชมว่าหล่อครับ ร้อยละ 99 ชมว่าน่ารัก ผมสาวไม่ตรึมแบบไอ้ฉานนะครับ สาวไหนเข้าใกล้ผม ไอ้ฉานมันระราน จนเค้าทนไม่ได้
ถอยกลับไปเองนั่นแหละครับ ผมเคืองมันจนกลายเป็นความชินชา ส่วนมันนะเหรอครับ มีสาวมาให้ชิมเป็นว่าเล่น
แต่มันไม่จริงจังกับใครนะครับ มันบอกตอบสนองเค้าแค่พอไม่เสียน้ำใจ ส่วนจะให้จริงจังนั้น มันไม่อยากมีภาระครับ
มันบอกมันไม่อยากอยู่แบบ 3 คนผัวเมีย  มันบอกอยากอยู่แบบผัวเดียวเมียเดียวกับผม ครับ ใช่กับผม
แต่ไม่ต้องตกใจไปหรอกนะครับ ไอ้ฉาน มันพูดแบบนี้กับเพื่อนผม และเพื่อนมัน จนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

แต่.......มันผิดปกติต่อคนอื่น ก็ตอนที่

“ไอ้เมฆ โว้ย ไอ้เมฆ อยู่ไหนวะ เมฆ เมฆ “ เสียงเรียกมาแต่ไกล แต่ตอนนี้นั้นผมสั่นจนทำอะไรไม่ถูก ครับ เพราะตอนนี้ผมอยู่ในห้องนอนส่วนตัว บนหอพักสุดหรูติด มหาวิทยาลัย ไกลจากตัวเมืองพอควรครับ ผมกับไอ้ฉาน มาอยู่หอพักที่นี่ตอนอยู่ปีหนึ่ง ที่มันบังคับให้ผมเอ็นท์ที่เดียวกับมัน แต่มันยังปราณีให้ผมเรียนคณะที่ผมชอบ แม่นิ่มกะพ่อแม่มัน ลงความเห็นให้ผมกะมันมาอยู่หอพัก เดียวกัน ห้องเดียวกัน แค่แยกห้องนอนเท่านั้นครับ ก็บอกแล้วว่าหอพักผมหรู 2ห้องนอน 2ห้องน้ำ 1ห้อง living และอีก 1 แพนทรี แถมมีระเบียง จัดแลนด์สเคปอย่างดี ฝีมือผมกะไอ้ฉานประสานมือกันครับ
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมสั่น  ประเด็นมันอยู่ที่
ในห้องนอนผมตอนนี้ มีนารี นางหนึ่ง ที่ผมได้ติดไม้ติดมือมาจากพี่รหัสเรียกให้ เป็นสาวไซไลน์เกรดเอ  ผมพาเธอมาหลังจากเรากินเลี้ยงสายรหัสกันเมื่อตอนหัวค่ำ พอได้เวลาก็แยกย้ายกันมานี่แหละครับ ลำพังแค่ผมกะเธอนั่งมองหน้ากันท่ามกลางความเงียบของราตรีนี้ ก็สั่นพอแล้ว ผมไม่ใช่ไอ้ฉานตรงที่ ของแบบนี้กะใครก็ได้นะครับ ผมไม่เคยขึ้นครู และผมก็ไม่รู้ว่า จะต้องเริ่มยังงัย กะคนแปลกหน้า ที่ยังไม่เคยถามชื่อกัน  ผมเลยนั่งเงียบแข่งกะเวลาอยู่นี่หละครับ ไม่มีคำพูดใด ใด หลุดจากปากเธอ ตั้งแต่เราขึ้นห้องมาด้วยกัน พอๆๆกับที่ผมเองก็ไม่รู้จะชวนเธอคุยเรื่องอะไร แถมตอนนี้ โมเม็นท์นี้ เสียงเรียกของไอ้ฉาน ที่ลอยมาจากหน้าห้องจากการคาดคะเนด้วยหูผม เสียงนั้นลอยเข้ามาเรื่อย เรื่อย ใจผมก็สั่นจนแทบจะระเบิด จนกระทั่ง
กริ๊ก กริ๊ก ปัง เสียงกระแทกประตู ที่กระทบกับผนังห้อง มีพลังพอที่จะกระชากหน้าผม และเธอให้หันหน้าไปทางต้นเสียงครับ  ไอ้ฉานที่ตอนนี้หน้ามันประมาณ ว่าฆ่าคนได้เพียงใช้สายตามอง จ้องผมมาที่ผม สะดุ้งสุดตัวเลยสิครับ
ไม่พอ มันยังเผื่อแผ่ไปให้ คนข้างๆผมตอนนั้นด้วย  แอบปลายสายตาไปมอง ปรากฎว่าเธอเองก็สะดุ้งตกใจ ไม้แพ้ผมครับ
“เมฆ กูหาตั้งนาน ออกไปหาซื้อดินสอเป็นเพื่อนกูหน่อย” โห กูกลัวแทบตาย กับใบหน้าแทบฆ่าคนได้ของมึง เหี้ย กูตกใจฟรีไปล่วงหน้า สรุปว่าไม่คุ้ม ว่าแต่ สาดเหอะ ดินสอบ้านพ่อมึงสิ มีขายตอนตีหนึ่งตีสอง
“ ขอโทษครับ ผมขอตัวเมียผม ออกไปซื้ออุปกรณ์การเรียนก่อนนะครับ จะติดรถผมไปหน้ามหาลัยมั้ย” มันยังมีน้ำใจเผื่อแผ่ไปยังผู้หญิงคนนั้นครับ แหม ประเสริฐจริง จริงนะมึง แต่ถ้ามึงช่างสังเกตุนิดนึงนะ มึงจะเห็นว่า เธอหน้าซีดเผือด จ้องมาที่ผมกะมัน สลับกันไปมา ดวงตาเบิกโพลง บ่งบอกให้รู้ว่า เธอตกใจมากกว่าเสียงประตูกระแทกฝาเมื่อกี้เป็นไหน ๆ
ผมเอะใจว่า เธอคงตกใจที่ไอ้ฉานเรียกผมว่าเมียนั่นแหละครับ ผมได้แต่ถอนหายใจ โดยทำอะไรไม่ได้  
เดินตามไอ้ฉานออกไปรอเธอตรงห้องนั่งเล่นครับ ให้เวลาเธอทำใจนิดนึงครับ
“ฉานมึงเห็นมั้ย เค้าตกใจมากเลยนะ พูดอะไร มึงดูบ้าง เค้าไม่ใช่เพื่อนพวกเรานะเว้ย เค้าตกใจจริงแน่กูว่า”
จริงๆนะครับ จนตอนนี้ เธอยังไม่ออกมาจากห้องผมเลย
“ทำไม กูจะพูดตอนไหนก็เรื่องของกูเหอะ นี่จะออกไปยังเนี่ย “ นอกจากจิตสำนึกมันไม่มีแล้ว มันยังเหวี่ยงอีกครับ
ยังไม่ทันที่พวกผมจะตอบโต้อะไรกันต่อ ก็พบว่าเธอออกมาจากห้องผมครับ ออกมายืนประมาณว่า จะพูดดีมั้ย
ถ้าพูดอะไรไอ้ฉานจะเดินไปเด็ดคอเธอมาจิ้มน้ำพริกหรือเปล่า ผมเองก็ลุ้นครับ บรรยากาศแบบนี้ ผมอยากช่วยเธอนะครับ
แต่ว่า ผมเฉยไว้ก่อนจะดีกว่านะ
“เอ่อ เราจะบอกว่าไม่เป็นไร เราอารถมา จอดไว้แถวนี้แหละ “ นั่นไง ผมว่าแล้ว ว่าสาวไซด์ไลน์เกรดประมาณเธอ
ไม่น่าจะนั่งแท็กซี่มาพบแขกหรอก เธอสวยมากครับ ผมว่านะ เป็นนางเอกได้สบายๆเลยหละ
แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าทำไมเธอเลือกทำอาชีพนี้ ดูดีดี เธอน่าจะยังเรียนอยู่ แต่คงจะเป็นคนละมหาลัยกะผมละครับ
“ได้เงินแล้วใช่มั้ย ยังขาดเหลืออะไรตรงไหนหรือเปล่า” ไอ้ฉานครับไอ้ฉาน มันถามไปอย่างแสนรู้
เงินหนะเธอได้ไปจากพี่รหัสผมก่อนมากับผมแล้วครับ แต่ที่เธอยังไม่ได้หนะ คือยังไม่ได้มีอะไรกับผมนี่แหละครับ
หรือว่าเธอจะเกรงใจตรงจุดนี้
“งั้นผมกะเมียขอตัวนะ ส่วนเงินนั่นหนะ เก็บไว้เถอะ ไม่ใช่เงินผมกะเมีย ผมไม่ซีเรียส” แน่สิ มันจะซีเรียสหาดาวพลูโตไปทำไม
ในเมื่อไม่ใช่เงินผมและไม่ใช่เงินมัน มันพูดจบ มันเบี่ยงตัวให้ผู้หญิงคนนั้น ออกจากห้องไปก่อนครับ
ก่อนที่มันจะดึงผมออกมาแล้วล็อคห้อง
“ฉาน ป่านนี้แล้ว มึงจะไปไหนวะ” ผมยัง งง อยู่ครับ นี่มันตีหนึ่งตีสองแล้วนะครับ ขนาดผับยังปิดแล้ว
แล้วดินสอร้านไหนที่เปิดรอมันเข้าไปใช้บริการเหรอครับ ผมอยู่กะมันมาตั้งแต่เด็ก มุขข้ออ้างของมัน ทำไมผมจะไม่รู้
แต่ขอโทษเถอะครับ มุขนี้ของมัน นอนเซ็นส์เป็นที่สุดครับ
“ไปซื้อดินสองัย” แหนะ ยังแถได้อีกนะมึง กูละอ่อนใจ
“ดินสออะไร ของกูก็มีนะ มึงเอาไปใช้ก่อนได้ กูมีหลายแบบ” ครับของผมหนะ มีตั้งแต่ HB ยัน EE
ถ้าค้นดีๆผมว่าผมมีเกรยองด้วยนะ แอ๊ดว๊านไม่หยอกหรอกผมเนี่ย
“ไม่ได้หรอก ดินสอมึงหนะให้คัตเตอร์เหลา แต่ดินสอกูใช้โม่เหลา” อ๋อ มันหมายถึงดินสอเขียนแบบการัญด๊าช
ครับ มีอย่างเดียวแหละถ้าใช้โม่เหลา แต่ ดินสอที่ผมมีอยู่ก็เขียนแบบได้นะ มันมั่วแน่ๆ
“แล้วเวลาลบ มึงใช้อะไรลบ” นี่ครับ มันสับขาหลอกผม ผมต้องเอามั่งครับ อยู่กับมัน ต้องตามมันให้ทันครับ
“ยางลบสิมึง ดินสอ มันลบด้วยอย่างอื่นได้ด้วยเหรอ” คำพูดคงไม่พอครับ เพราะมันเอามือมัน
กระแทกหน้าผากผมไปด้วยหนึ่งที เริ่มจนมุมสิมึง ถึงได้เล่นไม้นี้กะกู
“ ได้สิ ตอนป.สาม มึงยังใช้น้ำลายลบอยู่นะ กูจำได้” ประจำครับมัน เรื่องทำอะไรตรงข้ามกะหน้าตา
นี่ผมว่ามันก้อหนึ่งในยุทธจักรนะ
“มึงเป็นอะไรวะฉาน หงุดหงิดอะไร ไหนๆก็ออกมาแล้ว ไปกินต้มเลือดหมูกันมั้ย” มันหงุดหงิดอยู่ครับ
ต้องเอาใจมันนิด พูดดีกะมันหน่อย เดี๊ยวมันก็คายออกมาครับ โฮะ โฮะ นิสัยนี้ของมัน ผมจับทางได้
ตั้งแต่อนุบาลสาม แมร่ง ของแบบนี้มันเสมอต้นเสมอปลายมากครับ
“มึงไปกินเหล้ากะพวกพี่เด่น ทำไมไม่บอกกู แล้วหิ้วกะหรี่ขึ้นห้องอีก มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบ” เห็นมั้ยครับ ไม่ทันไร
เรื่องที่มันหงุดหงิดใจก็คายออกมา อ่านง่ายยิ่งกว่านิยายเล่มละสิบห้าบาทอีกนะครับ มันเนี่ย ว่าแต่
มันไม่ชอบตรงไหนครับ ตรงที่ผมไปกินเหล้ากะพี่รหัสแล้วไม่แจ้งให้มันทราบ
หรือเรื่องที่ผมหิ้วเธอคนนั้นขึ้นไปแล้วมันไม่ได้ด้วย แต่นี่พี่รหัสผมนะครับ แล้วค่าตัวเธอคนนั้น
ไม่น่าจะต่ำว่า สี่พันนะผมว่า ถ้าพี่รหัสผมใจป๋า หาให้มันด้วยเนี่ย พี่รหัสผมคงกินข้าวผสมน้ำตาแน่ครับ
ถึงแม้ว่าพี่รหัสผมนั้นจะรวยมากก็เหอะ
“ พอดีพี่เค้าบอกกระทันหันหนะ ส่วนผู้หญิงคนนั้นอ่ะ พี่เค้ายัดใส่มือให้ จะปฎิเสธ กูก็ไม่กล้า
เลยพามาที่ห้องก่อน แต่กูไม่ได้ทำอะไรเค้านะ แต่กูกลัวพี่เด่นติดตามผลหลังการใช้ กูเลยพาเข้าห้องกูไปแค่นั้นเอง”
ผมพ่นพรวดออกมารวดเดียวเลยครับ มันเรื่องจริงนะที่ว่าพี่รหัสผมอาจจะมาติดตามผล พี่รหัสผมไม่ธรรมดาครับ
เรื่องนี้ผมต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ประสบการณ์สอนผมไว้ครับ
“ถึงว่า ยัยนั่นแมร่งทำหน้าเอ๋อ เหรอหรา ที่แท้ได้ตังค์แต่ไม่ได้เสียวนี่เอง” ปากมันเริ่มเหยียดยิ้มแล้วครับ
มือมันก็ล้วงกระเป๋า นั่นเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ผมรู้ว่ามันหายหงุดหงิดแล้ว
“ตกลงมึงจะกินต้มเลือดหมูใช่มั้ย” นั่นไงครับ มันหายแล้วจริงๆด้วย ไอ้เห็นแก่กินเอ้ยยยยยยยย
“ยิ้มรัย มีความผิดติดตัวอยู่นะมึงหนะ แมร่ง เป็นเมียแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน เผลอแป๊บเดียว แมร่งมีชู้”
อ้าวผมยิ้มอยู่เหรอครับ ลองเอานิ้วแตะๆแถวริมฝีปากดู ฉิบหายแล้วกู ยิ้มอยู่จริงด้วย จะด่าที่มันปากเสีย
เป็นอันพับเก็บไปครับ นัดนี้มันชนะครับมันชนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 11-03-2010 04:02:39
 :z2: :z2: :z2:
ความรู้สึกๆลึกต่างรู้ดี อยู่แค่ว่าจะทำความเข้าใจกับมันได้มากน้อยแค่ไหน...
จากการกระทำ หรือ จากคำพูด หรือ การแสดงความเป็นห่วงออกนอกหน้าเรื่องผู้หญิง...
หลายๆอย่างทำให้คิด และกลัวจนถึงเป้นกังวลจริงไหม เมฆ อิอิ
แล้วจะรออ่านต่อ เป็นกำลังใจให้น๊า
นิว(ยิ้มๆ)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 11-03-2010 04:10:02
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย~ น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกได้อีกอ่ะ  :o8:

เพื่อนกันที่ไหนเรียกผัวๆเมียๆกันล่ะเคอะ  :impress2: :give2:

ยิ่งนายฉานนี่ท่าทางคิดเอาจริงตั้งแต่เด็ก งี้เมฆก็หนีไปไหนไม่รอดหรอกเคอะ  :m12:


รอตอนต่อไป  :L2:


Ps.ขอบคุณคนโพสด้วยนะคะ o14 แล้วอย่าลืมไปขู่นะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 11-03-2010 05:01:12
ชัดเจนกว่านี้ซินายฉาน

มาอัพเร็วดี ขอบคุณนะ  :L2:



+1


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 11-03-2010 07:17:36
รู้ทางกันแต่ยังไม่รู้ใจกันละสิคู่นี้ 

รอลุ้นกันต่อไปจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 11-03-2010 08:18:48
มาเชียร์ฉานด้วยคน

thx ไร้ท์เตอร์ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 11-03-2010 12:34:16
คนนึงถาปัต อีกคนไรอะ อิอิ 

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 11-03-2010 12:53:42
แหม  ฉาน ขี้หวงจิงนะ
แต่น่ารักมากกก 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 11-03-2010 13:45:32
ตอนนี้เป็นเมียในนาม เมื่อไหร่จะกดล่ะเนี่ย  :laugh: มันจะเร็วไปมั้ย คึคึ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 11-03-2010 20:36:54
น่ารักดีอ่ะ  ชอบๆ :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 11-03-2010 20:44:19
ฉานมันไม่กล้าให้เมฆขึ้นครู

เพราะกลัวเมฆ จะทำไม่เป็น

แล้วจะขายขี้หน้ามาถึงเพื่อนสนิทอย่างฉานหรือเปล่า


อย่างว่าเนอะ ของแบบนี้ มันผูกพันธ์กันมาตั้งแต่เด็ก

กว่าจะรู้ว่ารักกันแบบไหน

ต้องใช้เวลา (รึเปล่า)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 11-03-2010 20:52:57
ใช่เหรอออออ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 2 ,11 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 12-03-2010 15:24:36
ชอบชื่อเรื่องนี้จังเลย  :m1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 13-03-2010 01:54:15
เข็นมาได้อีกตอนแล้ว  :mc4: เชิญติดตามความคืบหน้าของนายฉานกะนุ้งเมฆได้เลยจ้า

==============================
(http://image.ohozaa.com/iy/rbrd8.jpg)

ตอนที่ 3

เราสองคนลงลิฟท์มาลานจอดรถใต้หอครับ รถที่ทั้งผมและมันเป็นเจ้าของ ใช่ครับทั้งผมและทั้งมันมีชื่อเป็น
เจ้าของรถคันนี้อภินันทนาการมาจากพ่อแม่มันและแม่นิ่มผมอีกทีครับ เค้าสามัคคีกันซื้อให้ตอนผมกะมัน
เอนท์ติดนั่นแหละครับออสตินมินิ สีทูโทน มันชอบสีดำ ผมชอบสีขาวครีม เลยออกมาเป็น มินิสีดำหลังคาคาดครีม
ครับ คุณอ่านไม่ผิดแต่อย่างใดครับ ผมกับมันเป็นเจ้าของรถกันคนละครึ่ง แต่ทำไม สีที่ผมชอบจึงได้แค่
สีคาดหลังคานะเหรอครับ ก็ผมนะ เป็นใครหละครับ ผมมันนายสยมภูก็จริงนะครับ แต่ไม่ว่าอะไร
ผมก็แพ้มันตลอดแหละครับ พ่อแม่มันถึงจะเอ็นดูผมมาก แต่แม่นิ่มสิครับ หลงมันยังกะอะไรดี มันเก่งครับ
เรื่องเข้าหาผู้ใหญ่ต้องยกให้มัน ก็ยังดีที่มันยังมีสีที่ผมชอบอยู่บ้าง หยวนๆครับ เป็นพระเอกต้องจิตใจดี
เราออกมากินต้มเลือดหมู เจ้าประจำ ที่เวลาผมกะมัน เมากันมาทีไร ใช้ต้มเลือดหมู เป็นอาหารย้อมใจตอนใกล้สว่าง
“พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง” ระหว่างที่นั่งรอต้มเลือดหมู มันถามผมครับ
“บ่ายโมง ทำไมเหรอ” นานๆมันถามเวลาเรียนทีนึงครับ ผมว่านะ ผมกะมันห่างกัน
ก็ตอนแยกย้ายกันไปเรียนคณะใครคณะมันนี่แหละครับ
“งั้นดี ตอนเช้ากูมีเรียนสิบโมง มึงไปเรียนกะกูด้วยนะ” อ้าว เชี่ยแล้วมั้ย ผมมีเรียนบ่าย อยากจะนอนตื่นสายบ้างอะไรบ้าง
นี่มันจะลากผมไปเรียนด้วยทำไม มันเรียนเก่งกว่าผมเป็นไหนๆ จะเอาผมไปเกะกะทำไมเนี่ย
“ก็กูมีเรียนกฎหมาย สาระมันเยอะ กูเก็บไม่หมดหรอก มาช่วยกูเก็บหน่อยสิ มึงอย่าลีลามาก มีความผิดอยู่นะมึงหนะ”
อ้าว ฉิบหาย กูคิดว่าประเด็นนี้ศาลยกฟ้องไปแล้ว ทำไมมึงยังเอาออกมาอุธรอีกเนี่ย สาดดดด  แล้วประเด็นนี้ผมผิดตรงไหน ยังไม่เข้าใจอยู่ แล้วมันจะเอามาอ้างกะผม ยันลูกบวชเลยมั้ยเนี่ย
“แต่มันเช้านะมึง อีกอย่างกฎหมายก่อสร้างของมึง ไม่เกี่ยวกะกูเลยนะ กูไม่ต้องมีส่วนร่วมก็ไม่เป็นไรมั้ง”
“ตอนนี้มันไม่เกี่ยวใช่ปะ” ผมรีบพยักหน้ารัวเลยครับ ผมเรียนศิลปะกรรม ออกแบบบรรจุภัณฑ์นะครับ
กฎหมายก่อสร้างห่างไกลจากผมมากครับ เรียกได้ว่า รังสิตกะพุทธมณฑลสาย 5 เลยก็ว่าได้
“เดียวพรุ่งนี้มันก็เกี่ยวกะมึงเองแหละ ถ้ามึงเข้าเรียนกะกูอะ” สรุปว่าแพ้อีกเกมส์ครับ นี่ผมเถียงมันเพื่อพบเจอกับ
ความพ่ายแพ้ของตัวเองใช่มั้ยครับ
“ทีหลังเวลาใครให้อะไร ก็อย่าใจง่ายหยิบติดมือมาอีกนะ” อ้าว นี่ตกลง มีต่อภาคสองเหรอครับเนี่ย
ผมคิดว่ามันจบไปแล้ว
“ดูดีๆ ก่อนนะมึง ถ้าเห็นอะไรไม่ถูกไม่ควร ก็ทิ้งขยะไปใต้หอนั่นแหละ” แมร่ง นี่มันพูดถึงคน หรือเปลือกมังคุดวะ
ที่ว่าถ้าเก็บขึ้นมาแล้วจะเน่าใส่ห้อง
“อ้าวฉาน ตกลงมึงเจอเมฆที่ไหนวะ เห็นว่ามึงหามันทั้งมหาลัย ลามไปถึงตลาดหลัง ม. “ ไอ้ยอนครับ
เพื่อนคณะผมนี่แหละ แต่รู้จักกะไอ้ฉาน เพราะมันไปเดินแบบที่คณะผมบ่อยๆอะครับ
“เออ เจอมันที่ถังขยะของเทศบาล เค้ากำลังใส่ถุงดำพอดี “ มันยังออกสะเก็ดเหวี่ยงผมไปโดนเพื่อนผม
แบบละลอกคลื่นครับ
“มึงกะไอ้เมฆเนี่ย ยังกะรักยมเลยนะเว้ย แมร่งต้องติดกันตลอด ขาดกันไม่ได้ ขาดกันแล้วไม่ขลัง”
“เออ ก็เมียกูทั้งคน ขาดมันไป ลูกกูก็กำพร้าดิ” ไม่แผ่วหรอกคับมัน หมาในปากแตกสปอร์ตลอดเวลา
ผมว่าก่อนที่บรรยากาศจะรื่นเริงไปมากกว่านี้ ผมต้องหาวิธีเบรค

“ยอน กินข้าวกะพวกกูมั้ย จะไปไหนหรือปล่าว” ผมเบี่ยงเบนประเด็นที่เป็นข่าวออกไปก่อนครับ
“เอาเลยกูกินแล้ว ป่านนี้แล้ว กูจะไปชิงดำหวะ” มันหมายถึงโต๊ะสนุกเกอร์แบบโต้รุ่งครับ
“กูไปก่อนนะ “ มันหันไปบอกไอ้ฉานครับ “เมฆจ๋า พี่ยอนไปฝึกมือก่อนนะ จุ๊บๆ” มันไม่พูดปล่าวครับ
มันเอานิ้วมาบิดแก้มผมแต่พองาม แต่เจ็บจริงครับ ผมรู้ว่ามันคงหมั่นไส้ อาการปากยื่นๆ จมูกรั้นๆของไอ้ฉาน
ตอนนี้แหละครับ แต่ ไอ้ฉานนะครับ ไอ้ฉาน เล่นกะใครผมไม่ว่า แต่กะไอ้ฉานนี่ตัวใครตัวมันครับ
เพราะหลังจากที่มันบิดแก้มผม ยังไม่ทันจะดึงมือออก เท่านั้นแหละครับ สิ่งที่ตามมาคือ
รองพระบาทเชิงงอนของไอ้ฉาน เตะเข้าพอดีพอดิบที่หน้าแข้งไอ้ยอนครับ ความรุนแรงของมันไม่มากไม่น้อย
แค่พอให้ไอ้ยอนมักชักขาขึ้นทันที พร้อมกับซี๊ดปากพร้อมกันเป็นจังหวะสามช่าเลย แค่นั้นเองครับ แค่นั้นเองจริงๆ
ไม่อยากบอกว่า ในใจลึกๆ ก็แอบสะใจไอ้ยอนนะครับ ในฐานะที่ทำผมเจ็บเมื่อกี้ แต่มันไม่ดีใช่มั้ย
ไม่เหมาะกะบทพระเอกเนอะ นี่ผมแสดงอาการสะใจไอ้ยอนมากไปหรือไงไม่รู้ครับ หรือว่า
มันเป็นอาฟเตอร์ช็อคจากไอ้ยอนอีกที ก็ไอ้ฉานหนะสิครับ
มันตบกบาลผมไปอีกที แค่นี้กูยังโง่ไม่พอเหรอสาด

“มึงกินสักทีเมฆ มันเย็นจนมึงใส่น้ำตาลไปมันก็ไม่ละลายแล้วเนี่ย” อ้าวนะ
แล้วต้มเลือดหมูมาอยู่หน้ากูตอนไหนคนเราอารมณ์พาลก็งี้แหละครับ ก็ว่ากันไป

“ฉาน มึงจะตามหากูทำไม กูไม่ได้ไปกินเหล้ากะพี่เด่น โดยไม่มีมึงเป็นครั้งแรกซะหน่อย”
ครับสายรหัสผมกินกันบ่อยกินล้างกินผลาญ ตามฐานะทางบ้านของพี่รหัสบ่อยๆครับ
บางครั้งไอ้ฉานก็ติดสอยห้อมตามผมไปกินฟรี  บางทีมันก็ไปกับพวกเพื่อนมัน ถึงแม้ตอนไอ้ยอน
บอกว่ามันตามหาผมทั่วมหาลัย ใจผมมันจะฟองฟูจนจะล้นออกจากอกออกมาทางปากยังงัย
แต่ผมก็สงสัยอยู่ดีแหละครับ ถึงเราจะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ผมก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดทำอะไรเองไม่ได้
ไปไหนมาไหนเองคนเดียวไม่ได้เสียหน่อย ถึงเหตุการณ์นี้จะมีน้อยก็เถอะ แต่หลังๆมา ผมก็ไปไหนมาไหนคนไหน
เองคนเดียวบ่อยนะครับ อย่างน้อยก็ตอนไปเรียน

“ฉาน มันไม่มีอะไรจริงๆเหรอวะ มึงแปลกๆนะกูว่า” ผมยังคาใจครับ ครั้งล่าสุดที่ไอ้ฉานมันตามหาผมอย่างบ้าคลั่ง
ก็ตอนที่ผมแอบได้ยินแม่นิ่มคุยโทรศัพท์กะใครสักคน ซึ่งมีผมอยู่ในวงสนทนานั้นเป็นเฮดทอปปิคเลยก็ว่าได้
ผมไม่ใช่เด็กไร้มารยาท แม่นิ่มสอนผมมาดีอยู่ครับ ว่าอย่าแอบฟังผู้ใหญ่คุยกัน แต่ถ้าเรื่องนั้นไม่มีแต่ชื่อผม
ผมไม่สนใจหรอกครับ แต่นี่มันมีแต่ผมและผมอยู่ตลอด จะไม่ให้สนใจได้ยังงัยครับ หลังจากที่แอบ เอร้ย
ยืนฟังอยู่หลังประตู โดยแม่นิ่มไม่รู้อยู่นาน จับใจความประมาณว่า แม่มาแอบดูผม แต่ไม่กล้าเข้าบ้าน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแม่ถึงไม่เข้ามา แต่หลังจากที่แม่เอาผมมาฝากกับแม่นิ่มนั้น ก็ไม่เคยได้ข่าวแม่อีกเลย
ส่วนพ่อนั้น ลืมไปเถอะครับ มันเลือนลางจางหายมาก เหมือนกับจะตายจากกันนั่นแหละครับ ผมในตอนนั้นได้แต่คิดว่า อยากเจอแม่ ผ่านไปหลายปี แม่ตอนนั้นกับแม่ตอนนี้จะเปลี่ยนไปแค่ไหน ถ้าผมเห็น จะจำได้มั้ยว่าเป็นแม่
ผมยืนฟังให้แน่ใจอยู่นานครับ ถึงค่อยๆย่องออกจากบ้าน เดินไปทางหน้าบ้าน วนไปวนมาจากซอยบ้าน
จนถึงถนนหลักของหมู่บ้าน ความหวังผมในตอนนั้นคืออยากเจอแม่ อยากรู้ว่าถ้าเจอแม่และแม่เจอผม
เราจะปฎิบัติยังงัยต่อกัน แม่จะโผมากอดผมเหมือนในละครช่องมากสี หรือวิ่งหนีไป ไม่ว่ายังไงเถอะครับ
ผมก็ยังเดินตามหา เดินทั้งๆที่ไม่รู้หรอกว่า แม่มายังงัย จะเดินมา หรือนั่งรถมา แล้วถ้านั่งรถ จะเป็นรถอะไร
รุ่นไหน บางครั้งช่วงเวลาแบบนี้ ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าตรึกตรองคืออะไร ผมทำตามใจล้วนๆครับ ถึงแม้ว่า
ผมจะมาอยู่กะแม่นิ่มหลายปีแล้ว แต่หมู่บ้านที่ผมอยู่นี้ เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่มากครับ มีทะเลสาบแบ่งโซนบ้าน
มีวงเวียนไม่รู้สักกี่วงเวียน มีโรงเรียนมัธยมในหมู่บ้าน คงไม่ต้องบอกนะครับว่าหมู่บ้านมันกว้างใหญ่แค่ไหน
ผมเดินจากกำลังใจเต็มเปี่ยม จนมันเริ่มหมดลงช้าๆ พร้อมๆกับกำลังขาที่อ่อนล้าลงเรื่อยๆ เวลาก็ผ่านไป
จากแดดกล้าเป็นอ่อนแสง ผมจำได้ว่านั่งหมดแรงลงตรงโซนคอนโดของหมู่บ้านครับ ผมนั่งพัก ตรงม้าไม้
ที่เป็นสวนหน้าคอนโด ไม่ต้องด่าหรอกครับ ผมรู้ว่าตอนนั้นผมโง่ ถึงแม้ผมกับแม่จะจากกันตอนห้าขวบ
แต่เด็กห้าขวบก็จำอะไรได้แม่นแล้วนะครับ แล้วความผูกพันธ์ของสายเลือด มันก็น่าจะเพียงพอกับความหวัง
ของผมในครั้งนี้นะครับ ผมพูดได้อย่างไม่อายเลยว่า ผมนั่งร้องไห้อยู่ตรงม้าไม้นั่นแหละครับ เหนื่อยกาย
ถ้านั่งไปสักพักมันก็น่าจะทุเลาจนจางหาย แต่เหนื่อยใจละครับ ทำยังงัยถึงจะหาย ผมนั่งหมดอาลัยตาย
อยากอยู่นานแค่ไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกที ตอนไฟทางเดินสวนของคอนโด มันเปิดพรึ่บขึ้นพร้อมกันนั่นแหละครับ
สติถึงได้กลับมาพร้อมกลับปัญหาที่ว่า

“กูอยู่ไหนของหมู่บ้านวะเนี่ย” ตอนเดินก็ไม่ได้ดูทาง มัวแต่มองคนสลับกับรถที่ผ่านไปผ่านมา
แว่บแรกที่ผมคิดถึง ไม่ใช่แม่นิ่มครับ ทุกคนได้แต้มครับ คุณทายถูก ผมคิดถึงไอ้ฉานครับ
ปกติมันชอบเสนอหน้ามาอ้อนกินข้าวบ้านผม บางครั้งมีขั้นกว่า ยิ่งกว่านั้นคือ ขอนอนกับผมครับ
ป่านนี้มันคงด่า ที่ผมกลับช้า มันท่าจะโมโหหิวอยู่แน่ๆ ผมก็เริ่มหิวครับ ผมก็อยากกลับบ้าน แต่บ้านกูอยู่ไหนครับเนี่ย ตอนออกมาอย่าว่าแต่เงินสักบาทเลย โทรศัพท์อยู่ไหน ก็ไม่รู้ จากเมื่อกี้ที่น้ำตาไหลเพราะไม่เจอแม่ น้ำตาผมเริ่มไหลอีกรอบ ไหลเพราะหาทางกลับบ้านไม่ถูกครับ ผมกำลังรวบรวมพลังความกล้า ไปถามยามคอนโด
ช่วงวินาทีที่เงยหน้าขึ้นมา ไฟหน้ารถมอเตอร์ไซค์ก็แยงตามาแบบพอดีๆครับ มันมุ่งตรงมาทางผม
ผมกำลังด่าไอ้มอร์ไซค์ไม่มีมารยาทอยู่ในใจ เพราะนี่มันถนนคนเดินนะครับ ไม่ใช่ทางรถวิ่ง มันผ่ามาได้งัย
ไอ้หน้าด้าน  แหนะ นี่ขนาดผมด่ามันในใจ มันยังไร้สำนึกนะครับ มันยังมุ่งหน้ามาหาผม ไม่ไหวครับ
ผมยกแขนขึ้นมาบังหน้า ไฟมันแยงตาเกินไปครับ ผมเพิ่งหม่นหมองประคองอารมณ์มาหมาด ๆ
ไม่ไหวหรอกครับแบบนี้ ขณะที่รถพุ่งมาที่ผม และผมพยายามหนี รถมันถูกจอดแบบทิ้งลงมาเลยครับ
ไม่มีการวางขาให้เสียเวลาเด็กแว๊น พ่อแม่มันคงรวยนะครับ ก็ลูกมันไม่รักษาของขนาดนี้ แย่ ครับแย่ นิสัยไม่ดีสุดๆ
แต่หน้ามันคุ้นๆนะครับ ผมปรับโฟกัสสายตา พอดีว่าไอ้บ้านั่นเดินมาใกล้ มันคว้าตัวผมไปกอดครับ
มันเป็นงูเหลือมเมื่อชาติที่แล้วรึเปล่าครับ รัดกูซะแน่น นี่ถ้ากระดูกกรูบ่นขึ้นมานะ จะเอาขี้หมาไปปาหน้าบ้านมัน
มันกอดผมอยู่นานพอดูครับ นานพอที่จะให้ผมแช่งชักหักกระดูกและสาปแช่งมัน (แต่เพียงในใจ)
แต่วินาทีที่มันปล่อยผมออกมา ไอ้ฉานครับไอ้ฉาน มันตามผมมา มันกอดผมไว้ แล้วมันก็น้ำตาไหลครับ
ตอนนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเก็บกลืนมันไว้ได้เมื่อสักครุแล้วนั้น มันโดนส่งออกมาเป็นน้ำตาอีกครั้งครับ
ผมร้องไห้แบบไม่อายใคร ร้องไห้กับสิ่งที่ทำลงไป และร้องไห้กับความตื้นตันใจที่เห็นมันครับ มันไม่พูดอะไร
นอกจากจูงมือผมกลับไปนั่งที่ม้าไม้ตัวเดิมที่ผมนั่ง เรานั่งข้างกัน มือมันจับมือผมไว้ เราสองคนร้องไห้อยู่ตรงนั้น
ผมไม่รู้ว่ามันร้องไห้กะเรื่องไหน แต่เราก็ร้องไห้ด้วยกัน มันไม่ถาม ไม่ตะคอกด่าผม ที่ทำให้มันต้องรอกินข้าว
ไม่บ่นที่ทำอะไรโดยไม่คิด ไม่วางแผน ไม่ด่าที่เสร่อหาทางกลับบ้านไม่ถูก มันปล่อยให้ผมร้องไห้
จากที่เราร้องไห้ไปด้วยกัน กลายเป็นผมที่ร้องไห้คนเดียว โดยมีมันสละชายเสื้อตัวเก่งของมัน มาปาดน้ำมูก
ไห้ผมบ้างเป็นครั้งคราว

“กลับบ้านกันได้แล้วมั้ง ฉานหิวข้าวแล้ว  แม่นิ่มตั้งโต๊ะแล้ว แต่ยังไม่ผัดผักบุ้งนะ แม่นิ่มกลัวไม่ร้อนแล้วจะไม่อร่อย”
ผมเช็ดหน้าเช็ดตาครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะพยักหน้าให้มันพาไปที่มอเตอร์ไซค์  เรากลับมากินข้าวพร้อมกัน
โดยที่วันนั้นไม่มีเสียงทะเลาะแย่งกับข้าวของผมและมัน เรากินกันไปเงียบๆ วันนี้ไอ้ฉานมันไปนอนบ้านตัวเองครับ
มันคงสำนึกได้ว่าบ้านมันมีห้องนอนของมัน แต่อาจโดนยึดโดยหยากไย่ใยแมงมุมทั้งหลายไปแล้ว
คืนนั้นคนที่มานอนกับผมกลายเป็นแม่นิ่มครับ แม่นิ่มกอดผม ลูบหัวผม ลูบหลังให้ผม จนเคลิ้มๆจะหลับแล้วหละครับ

 “วันนี้ แม่ไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นนะ ฉานเองก็คงจะไม่ถามเมฆใช่มั้ย แม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไร แต่เมฆรู้มั้ย แม่นิ่มรักเมฆนะ    
ฉานเองก็รักเมฆ ตอนฉานเข้าบ้านมาแล้วถามหาเมฆ แม่ก็คิดว่าเมฆไปกับฉาน แต่ฉานสิพอรู้ว่าเมฆไม่ได้อยู่บ้าน
ฉานก้ไปเอามอเตอร์ไซค์ของใครไม่รู้มา แล้วออกตามหาเมฆ ฉานมันวิ่งเข้าวิ่งออกอยู่หลายรอบ จนแม่ก็ร้อนใจ
แม่ก็ทำอะไรไม่ถูก ทุกคนบอกให้แม่รอ แม่ก็รอ แต่เมฆรู้มั้ย การรอแบบไม่ได้ทำอะไร มันทรมานมาก แม่เพิ่งรู้ว่า
จะขาดใจมันเป็นยังงัยก็วันนี้แหละ น้าชาติกับน้าพิมก็ร้อนใจ โทรไป จส 100 ด้วยนะ แม่ห่วง กลัวเมฆเกิดอุบัติเหตุ
แล้วแม่จะอยู่ยังไง กลัวฉานออกไปแล้วก้จะเกิดอุบัติเหตุเหมือนกัน แม่หนะ ถ้าไม่มีเมฆแล้ว ต้องเสียฉานไปอีกคน
แม่คงจะอยู่สู้หน้าน้าชาติกับน้าพิมพ์ไม่ได้

เมฆ แม่ เมฆคือหัวใจของแม่นะ ถึงแม่ไม่ได้เกิดเมฆมา แต่ตลอดเวลาเมฆคือหัวใจของแม่
เมฆคิดว่าแค่ความรักของแม่ มันพอมั้ย ถึงแม้จะขาดใครไป แต่เมฆมีแม่นะ นะเมฆนะ อย่าทำแบบนี้อีกนะลูก
อย่าทำให้แม่เหมือนตายทั้งเป็นแบบวันนี้อีกนะลูกนะ “ ผมไม่ได้ตอบอะไรแม่นิ่มเลยสักคำครับ
สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนั้นคือ พลิกตัวเข้าหาอ้อมกอดแม่นิ่ม แล้ววาดแขนของผมไปบนตัวแม่นิ่ม
ผมกอดแม่แน่นมากครับ ผมอยากให้ความอบอุ่นของแม่ส่งมาถึงผมมากที่สุด ผมอยากตักตวงความรักนี้ไว้ให้มากที่สุด ผมกอดแม่ไว้ จนผ่านคืนนั้นไปเลยครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 13-03-2010 02:35:51
 :monkeysad:
นายฉานสุดยอด
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 13-03-2010 02:44:33
ซึ้งตอนที่พูดเกี่ยวกับแม่  :monkeysad:   

ไม่เป็นไรแล้วนะ :กอด1: เมฆก็มีแม่นิ่มเป็นแม่แล้วไง แล้วยังได้ทั้งพ่อแม่ของฉานมาเป็นครอบครัวด้วย

แถมคู่ชีวิตก็ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนไกลก็นายฉานนี่แหละ :o8:

และก็ฮานายฉานด้วย หวงเมียเอ๊ยเมฆจริงๆนะ  :m12:

แต่..นั่นสิ ทำไมต้องตามหาอย่างบ้าคลั่งด้วยอ่ะ :confuse:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-03-2010 03:03:12
น่ารักดีค่ะนายฉานนี่หวงนายก้อนเมฆจริงๆเชียว

ปลลิงเรื่องนี้ช่วยอ้อนวอนไรเตอร์ด้วยนะคะอย่าเศร้าเลยนะคะพลีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส


ปวดใจมามากแล้วขอหวานๆ น่ารักๆ หน่อยนะคะ หิหิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 13-03-2010 03:30:43
 :mc4: ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ ดีใจนึกว่าจะเป็กซะแล้วเรื่องนี้
มีคนอ่านด้วย  :mc3: ดีใจมากมาย ขอบคุณหลายๆ  o14 o15

เดี๋ยวจะไปขู่คนเขียนให้จ้ารีบน เพราะทุกวันนี้ก็ขู่ว่าห้ามเศร้า
จบเศร้านี่ คุณมรึงตายยยยยยยยยยย  :laugh5:
แล้วเจอกันตอนต่อไปจ้า  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 13-03-2010 03:41:46
มาขู่ เอ๊ย! มาขอย้ำว่าห้ามเศร้าเด็ดขาด!!!  :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 13-03-2010 05:29:18
 :sad4: สงสารน้องเมฆ
แต่นายฉานดูจะรู้อะไรๆเยอะนะ
ถึงได้ตามเป็นห่วงเมฆขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 13-03-2010 09:53:45
ชอบเรื่องนี้นะ  :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 13-03-2010 10:58:27
ชีวิตน้องเมฆช่างรันทดยิ่งนัก  แอร๊ยยยย

ทำไมถึงทำกะเด่ะน้อยได้ พ่อแม่+ความรับผิดชอบหายไปไหน  :เฮ้อ:

ดีที่ยังมีแม่นิ่มกะเจ้าฉาน

ชอบเจ้าฉาน เด็กเอ๋ยเด็กน้อย   :man1: 

จองน้องเมฆตั้งแต่ยังเด่ะเลย  555  น่ารักดี

ชอบเวลาที่ฉานแสดงความเป็นเจ้าของนุ้งเมฆ555

ปั๋ว ๆ เมีย ๆ ชอบนักแล กรากกกกกกก

แม่นางคนนั้นงงตาแตกเลย กรากกก เจ้าฉานปากจัด แอร๊ยยยย 
 
ตอนล่าสุด ซึ้งความรักของแม่นิ่ม ฉาน   :กอด1:

 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 13-03-2010 11:33:23

เด็กน้องอะน่ะถึงยังไงก็ไม่ลืมหรอกว่าแม่จริงๆของตัวเอง เป็นยังไงใจร้ายแค่ไหนก็ยังรอ
วันนึงที่จะได้กลับมาพบหน้ากัน แต่ก็อีกอ่ะนะความรักที่จับต้องได้และแสนจะอบอุ่นตรงหน้า
ที่เห็นอยู่..ยังจะต้องการอะไรอีกล่ะในเมื่อแม่นิ่มก็คือทุกสิ่งแล้ว


ตอนแรกที่อ่าน มันก็ฮาๆๆอยู่ กำลังคิดว่าจะเศร้าดีมั้ย

ก็ต้องมาเศร้าเพราะความเห็นอิป้านี่แหละ...... :laugh:

ความเห็นป้าดราม่าดี รู้สึกว่า จริงๆๆด้วย

เด็กมันอาจจะพูดให้ผู้ใหญ่ตายใจว่าลืมความเจ็บปวดแล้ว


แต่จริงๆแล้วยังฝังใจอยู่
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 13-03-2010 22:51:42
ถึงจะขาดความรักของพ่อและแม่ไป

แต่เมฆก็ยังโชคดีได้รับความรักของแม่นิ่มมาแทน

และความอบอุ่นดวงตะวัน นะจ้ะ

รออ่านตอนที่ 4 จ้ะ  :L2:




หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 13-03-2010 23:04:19
โอยยย นะ ทุกทีเลยพูดถึงเรื่องครอบครัวแล้วบ่อน้ำตาแตก   

รักแม่รักพ่อกันให้มากๆเนอะ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-03-2010 01:52:57
ตอนหน้าไม่เศร้าแล้วชิมิ ไม่อยากอ่านอะไรเศร้าๆ  :sad11:
แล้วเมื่อไหร่ฉานจะกดน้องเมฆสักที  :laugh: นี่แหละที่อยากอ่าน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 14-03-2010 02:25:48
 :impress2:  :impress2:  :impress2:


อ่าน้อ....อ่านตอนแรกฮา.....ไปๆ มาๆ เริ่มซึ้ง..... :กอด1:

ขอแบบว่าเร่องนี้แฮปปี้ได้ไหมจร๊า.....คิดมากไปป่าวว่า  เรื่องตอนจบมันจะเศร้าอ่า??


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 14-03-2010 10:55:02
ตอนหน้าไม่เศร้าแล้วชิมิ ไม่อยากอ่านอะไรเศร้าๆ  :sad11:
แล้วเมื่อไหร่ฉานจะกดน้องเมฆสักที  :laugh: นี่แหละที่อยากอ่าน

----->>เท่าที่อ่าน  เค้าเป็นเพื่อนกันมะใช่เหรอป้า ถ้ากดกัน ก็เป็นอย่างอื่นกันแล้วจิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เซ็งเป็ด ที่ 14-03-2010 11:12:52
เข้ามาดัน  :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 14-03-2010 15:40:29
 :L2:   :pig4:   :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 14-03-2010 16:25:29
ตามอ่านจนทัน

มาต่อไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 14-03-2010 23:28:49
อ่านตอน 1 แระ


มาดันให้ก่อน


เพื่อเป็นกัมลังจายยยยย


"คุณทำได้ดีแล้วครับ"

 :laugh:

อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 3 ,13 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 14-03-2010 23:46:16
 :เฮ้อ: อ่านแล้วเศร้าจัง เป็นกำลังใจให้น๊า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 4 ,15 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 15-03-2010 00:14:58
มาแล้วจ้า มีข่าวจาคนเขียนมาบอกด้วย
ว่า... เรื่องนี้จบไม่เศร้าหรอก  คนแต่งเศร้าไม่เป็น เราเน้นฮา :laugh: พยายามอ่านให้ฮานะ
ขอบคุณทุกคอมเมนท์เหมือนเดิมรอคนโพสกดได้จะไล่แจกทุกวันเลย  :z2:

==========================================
(http://image.ohozaa.com/iy/rbrd8.jpg)

เพลงประกอบของตอนนี้
http://www.youtube.com/v/RNdVxI9sAjo&rel=0&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1

ตอนที่ 4

หลังจากครั้งนั้น ผมไม่ได้ทำตัวให้แม่ หรือใครเป็นกังวลใจอีกเลย จนมาถึงวันนี้ วันที่ไอ้ยอนบออกว่า ฉานมันวิ่งหาผมไปทั่ว ผมไม่รู้ว่า ผมทำอะไร อันไหนคือสาเหตุให้มันกระวนกระวายใจตามหาผมขนาดนั้น ผมไม่รู้จริงๆครับ
“ฉาน” มันแหงนหน้าขึ้นมองผมครับ ยกคิ้วเป็นคำถามแทนการอ้าปากพูด คิดดูสิครับ มันเป็นห่วงตับชิ้นใหญ่ในปากมัน จนให้คิ้วมันตั้งคำถามกับผมได้
“มึงรีบกินเถอะน่า จะได้รีบไปนอน อย่าลืมสิ พรุ่งนี้มึงมีเรียนเช้ากะกู” มันกลืนสิ่งล้ำค่าชิ้นนั้นลงคอไปแล้วครับ แล้วจัดมาให้ผมอีกชุดใหญ่
“ตกลงเรื่องนั้นมึงพูดจริงเหรอ” ผมต้องไปเรียนเช้ากับมันจริงๆใช่มั้ยครับเนี่ย
“กูเคยพูดเล่นปะ มึงก็รู้กูคนจริงจัง” ครับพี่ มึงหนะจึงจังมาก แต่จริงจังกับการบงการชีวิตกูนะ แล้วปลดปล่อยอิระเสรีฟรีด้อมกะชีวิตมึง เดียวกูทนไม่ไหว กูถุยน้ำลายใส่ปากเลยนี่ แมร่ง ผมแค้นและหมั่นไส้มันในใจครับ แสดงออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ครับ มีแต่เจ็บกับเจ็บครับ กระต่ายชนช้าง มั้นไม่คุ้มใช่มั้ยครับ แล้วมันก็ลากผมกลับห้อง ครับ คืนนั้นกว่าผมกับมันจะได้นอน ก็ปาเข้าไปตีสี่ได้แล้วครับ แล้วที่มันสะเทือนใจผมไปกว่านั้นคือ มันมานอนห้องผมสิครับ ถึงหอพักจะมีสองห้อง แต่มันเป็นห้องนอนเล็กๆ จุเตียงเดี่ยวได้และมีที่ว่างเก็บของส่วนตัวนิดหน่อยเองครับ คืนนั้นทั้งผมและมันเบียดกันอบอุ่นปานร้อนวูบ แต่ผมสิครับ แทบอยากจะวูบในวันถัดมา ผมกระชากร่างพร้อมๆ กับสติและวิญญาณอันน้อยนิด มาถึงเดคไม้ใต้ต้นจิกน้ำ ข้างคณะได้อย่างทุลักทุเล หลังจากที่เมื่อคืนเข้านอนไปตอนตี 4 พร้อมๆ กับที่มีผีฉานแสงตามมาอำแบบเสริฟร้อนถึงที่ ไอ้ฉานหนะมันหลับได้หลับดีครับ พร้อมกับที่ลากผม ออกมาแลคเชอร์วิชากฎหมายก่อสร้าง กับมันในตอนเช้าได้ แล้วไหนจะต้องเรียนวิชาของตัวเองอีกหละ  ผมจะไม่บ่นอะไรขนาดนี้ ถ้าเมื่อคืนหลังตี 4 ผมหลับได้หลับดีอย่างไอ้ฉานบ้าง แต่เปล่าเลยครับ ผมข่มตาหลับไม่ได้เลย เรื่องไอ้ฉานยังเป็นสมการที่ติดว่าตัวแปร X ที่ยังถอดไม่ได้ ยังไม่ทันที่สติจะเตรียมพร้อมอะไร ไอ้ฉานมันก็ลากออกมาจากหอ มารอเรียนพร้อมมัน จนเข้าช่วงบ่ายในวันนี้ ที่ผมพาร่างกายอันบอบช้ำ และสมองอันหนักอึ้ง มาถึงที่ประจำข้างคณะได้ ผมหลับตา ปล่อยวางสติลงช้าๆ  เดคไม้ใต้ต้นจิกน้ำนี้ อยู่ข้างคณะครับ ลมพัดพาไอ้เย็นจากผิวน้ำ จากคลองเล็กๆ ที่แบ่งแยกอาณาเขตระหว่าง ศิลปศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ที่ตรงนี้พวกผมใช้เป็นฐานทัพในการสุมหัวกันทำงานบ้าง นั่งเล่นกันบ้าง ด้วยว่าคณะผมและคณะไอ้ฉาน ค่อนข้างเป็นคณะศูนย์รวมของลิ่ง ค่าง ทั้งหลาย จึงถูกเนรเทศมาสร้างคณะใหม่อยู่ห่างไกลความเจริญแบบนี้แหละครับ แต่ผมกลับรู้สึกชอบบรรยากาศเงียบสงบแบบนี้จังครับ ศิลปศาสตร์หนะมีแค่คลองเล็กๆ ตัดผ่าน แต่คณะไอ้ฉาน อยู่บนเกาะกลางน้ำเลยครับ สร้างได้ตามหลักยุทธศาสตร์ด้านการรบมากๆ ให้อารมณ์แบบกรุงศรีอยุธยา แต่ติดที่ว่า คณะมันเป็นอาคารแบบโมเดิร์นดิบๆนะสิครับ เลยมองไกลๆเหมือนสเคาท์เจอร์ประหลาดๆ(แต่สวยนะ) บนเกาะร้างมากกว่า คณะผมกับมัน มีสะพานไม้ข้ามคลองนี้ เป็นสะพานเชื่อมสัมพันธไมตรีของ 2 คณะครับ ไหนๆ เป็นคณะที่ไม่ค่อยคบใคร พอๆกับไม่มีใครอยากคบ เราเลยต้องมาคบกันเองแบบจำใจหนะครับ

     ก่อนที่สติผมจะดับสลายไป
บ้านน้องอยู่ฝั่งทางโน้น
บ้านพี่อยู่ฝั่งทางนี้
หัวสะพานตรงกัน
อาบน้ำกันเห็นกันทุกที
อึ้ม! มามาซิ
ข้ามคลอง มารักกันรักกัน

เอ๊ะ! ถ้าจำไม่ผิดก่อนสติจะหลุดจากร่าง ผมจำได้ว่าเอนหลังตรงเคดไม้ใต้ต้นจิกนะ
แล้วนี่ ผมอยู่ที่ไหน มีใครมาจัดมหกรรมเพลงลูกทุ่งแถวนี้หรือเปล่า
ช่างมันเถอะครับ เพลงลูกทุ่งสกา ห่าเหวอะไร เรียกร้องความสนใจของผมตอนนี้ไม่ได้หรอก
สิ่งเดียวที่ใฝ่ฝันคือ คือ อยู่ในที่ ที่ พระอิศวร อย่างผม ควรอยู่ครับ

“ทน พี่ทน พี่ทนว่ายน้ำข้ามคลอง
คลอง ข้ามคลอง
ข้ามคลองที่กว้างห่างไกล
รักมันปักอุรา
พี่ว่ายข้ามมาด้วยความเต็มใจ
เอาความรักมาให้ ขวัญใจ
ด้วยความหวังดี”
ฮุย เลฮุย เลฮุย เลฮุย
เพลงนี้จะว่าไป ก็น่าออกสเต็ปดีเหมือนกันนะครับ แต่ไม่ไหวครับตอนนี้ พี่อยากนอน.......
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!! 555555555555
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!! 555555555555
เอ่อ.......ผมว่า ผมเริ่มไม่ไหวครับ ตามนิสัยแล้ว ผมชอบนอนที่สงบๆ และมืดๆ ครับ


เสียงเมื้อกี้ยังพอทนได้ จัดให้มันเป็นเพลงกล่อมนอนได้ แต่ไอ้เสียงกรี๊ด และเสียงหัวเราะที่ตามมา
เรียกว่าอะไรครับ มันเกิดอะไรขึ้น นักร้องมหกรรมเพลงลูกทุ่งสัญจรออนทัวร์ มันเต้นแล้วเป้ากางเกงขาด
หรือว่าอะไรครับ ผมว่า ผมตื่นมาหาคำตอบเองจะดีกว่า ตอนนี้ ที่ที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ใช่เสมอไปแล้วครับ

ชั่วขณะที่ขยี้บี้ขี้ตาอยู่นั้น เรตินาผมเริ่มจะปรับโฟกัส เข้าใกล้ความปกติมากที่สุด พยายามเพ่งมองไปตามเสียงนั้นครับ เห็น ร่าง 2 ร่าง ที่ยังไม่แน่ใจว่าใช่ผีหรือคน กำลังออกสเตปหลุดโลก โยกย้ายไปมา อยู่ฝั่งตรงข้ามคลอง ครับ
หืออออออออออออออออออ!! คลองฝั่งตรงข้าม มันคือคณะถาปัตย์ แล้วร่างสองร่างนั้น ถ้าเพ่งมาดีๆ
ผมคุ้นตามันทั้ง 2 ร่างนั่นแหละครับ ไม่รอช้าครับไม่รอช้า ผมเทคตัวขึ้นมา เดินไปตรง เดคที่ยื่นไปในน้ำครับ
พยายามรวบรวมตั้งสติที่มีอยู่ในตอนนี้ เพ่งมองไปที่ พญาวานร สองตัว ที่ตอนนี้ มันบิดตัวไปมา มือไม้มันวาดไปมาในอากาศ
มันคล้ายๆกับท่าเต้น แต่สเตปมันเป็นจังหวะอิสระมากคับ นั่นคือ ไอ้สองตัวนั้น มันเต้นตามใจมัน แล้วคิดดูนะครับ ผู้ชายคนนึงหน้าตาดี มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วมหาลัย นี่ขนาดคณะมันโดนเนรเทศ มาอยู่ห่างไกลสิ่งเจริญหูเจริญตาขนาดนี้ ยังไม่วาย มีสาวๆๆคณะอื่น โฉบมาด้อมๆ มองๆ ไม่ได้ขาด กำลังเต้นท่าอุบาทว์สายตา อยู่ริมน้ำ
ถูกครับ ไอ้คนนั้น มันคือไอ้ฉาน ส่วนอีกคนที่เห็นนั้น มันตัดผมสกินเฮดครับ แต่มีปอยด้านหลัง เหมือนเด็กจุกสมัยก่อน แต่ที่ล้ำกว่านั้นก็คือ จุกหยอมแหยมนั้น มันยังเสือกปั่นเดทล็อคครับ หล่อฉิบตายเลยครับ หล่อแต่เลือกไม่ได้
หรือว่า คณะผมกับคณะตรงข้าม เรายังไม่ได้ทำบุญตึก ครับ ไอ้ฉานกับไอ้แกละ เพื่อนสนิท แห่งสถาปัตย์ คู่หูดูโอคอนทราส มันถึงได้มาร้องเพลง แถมเต้น ขอส่วนบุญอยู่ฝั่งนั้น
“เฮ้ย ไอ้ฉานแสงแรงกล้า มึงมาตะโกนโหวกเหวกอะไรวะ มึงเห็นมั้ย ไอ้เมฆมันนอนตายอยู่ มึงร้องเพลงเกี้ยวใครไม่ทราบ
แถวนี้ ไม่มีตัวเมียที่ไหน ผ่านไปผ่านมาสักพักแล้วนะมึง” เสียงไอ้หน่าครับ เสียงนี้มีคนเดียวแหละครับ ในคณะผม เสียงยัยทอมฆ้องแตกแห่งศิลปกรรม มันเป็นคู่ปรับลับหมาในปากกันมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแล้วครับ นี่ก็เป็นเรื่องปกติในกลุ่มเพื่อนผมและเพื่อนไอ้ฉาน ไม่ได้แปลกใหม่แต่อย่างใดครับ ไม่ต้องตกใจ
“ บ่นอะไรยัยแก้วสามดวง เค้าร้องเพลงเกี้ยวเมียเค้า แล้วเราเกี่ยวอะไรไม่ทราบคร๊าบบบบบบบบบ” จะใครซะอีกละครับ รีแอคชั่นลับมาทันทีไม่มีเบรคคิดก่อนแบบนี้ มีไอ้ฉานคนเดียว
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววว” เสียงนี้ก็ไม่ใช่ใครครับ ไอ้แกละ ลูกสมุนไอ้ฉาน มันเป็นลูกคู่ให้ลูกพี่มันครับ เรื่องปกติขอีกเช่นกัน
ยัยแก้วสามดวง หรือไอ้หน่า จริงๆ ที่บ้านเรียงน้องน้อยหน่า พ่อแม่มันเรียก รัตนา ครับ แต่ยัยแก้วสามดวงที่ไอ้ฉานเรียก มาจากคำแปลของรัตนา ชื่อจริงมันนั่นแหละรับ
ผมถอดหายใจทิ้งไปเสียเฮือกใหญ่ครับ ก่อนหันหลังกลับไปทรุดนั่ง พิงหลังต้นจิกเหมือนเดิม เสียงกรี๊ดและเสียงหัวเราะ เงียบไปแล้วครับ มองไปอีกที ไอ้ฉานกับไอ้แกละ รวมถึง ไอ้นที ไอ้ไผ่ ไอ้ไม้ และไอ้ปาย เพื่อนๆๆแกงค์ไอ้ฉานมัน เดินข้ามสะพานเชื่อมคลองมาทางฝั่งนี้แล้วครับ

ความบรรลัยมาเยือนอย่างไม่ต้องสงสัย

“ เมฆ มึงหนะหัดอบรมสามีบ้างอะไรบ้างนะ เห่าหอนแบบนี้ เห็นทีจะเสร็จพวกเทศบาล” ไอ้หน่ามันเริ่มเปิดศึกวันธงชัยครับ ผมเองก็หวั่นใจว่าต้องเป็นกรรมการห้ามมวย ถ้าใครว่างก็ช่วยโทรตามให้แอนตาซิล กระทิงแดงสแตนบายไว้ที คราวนี้ผมว่ามีแตก เผลอๆๆมีน็อค ได้แจกทองแน่ๆครับ
“น้องหน่าจ๋าน้องหน่า ใครเห่าใครหอนจ๊ะ พวกพี่นะเทพมาจุตินะ ไม่ใช่กระต่าย จะเห่าหอนได้อย่างไร” ยกแรกไม่ต้องถึงมือไอ้ฉานครับ ไอ้แกละลูกสมุนมันปล่อยมาก่อนฮุกแรก
“ กูหมายถึงหมาอะแกละ “ ไอ้หน่าหลบทันปล่อยหมัดฮุกหน้าตามมาครับ
“อุ้ย แรงครับแรง สุภาพสตรีฝั่งคลองทางนี้ ทำพี่แกละสะเทือนใจ” ตอแหลได้ใจมากครับไอ้แกละ ผมหละอยากบ้าวันละลายๆๆเวลา ถ้ามันมาชุมนุมพร้อมกันแต่ละที นี่เพื่อนกลุ่มผมยังมาไม่ครบนะครับ
“หมดยกๆ เลิกๆ กูหนวกหู วันนี้วันศุกร์ ไปไหนกันวะพวกมึงทั้งหล่ยอะ” ขอบคุณครับเพื่อนไผ่ กูขอบคุณมึงมากอย่างใหญ่หลวง
“ถ้าไม่ไปไหน 1 เมามั้ย แล้วห้องใครห้องมัน” ไอ้ไม้ มันเปิดคอร์สบริหารตับครับ สุดสัปดาหืทั้งทีเป็นเรื่องปกติมากครับ
ขนาดไม่สุดสัปดาห์ มันยังหาเรื่องเมามันได้ทุกวัน
“กูกะไอ้เมฆ ต้องกลับบ้านหวะ แม่โทรมาตามแล้ววันนี้” โอ้ พระเอกเราค่าตัวแพงครับ จะมีบทพูดทีต้องรอเวลา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 4 ,15 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 15-03-2010 00:21:30
ป้าคนโพสค่ะ

เพลงสมัยไหนอ่ะ เกิดไม่ทัน

ว่าแต่ ฉานเต้นยังงัยอ่ะ อยากเห็นฉานเต้น

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 4 ,15 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 15-03-2010 00:59:08
ชอบฉานอะทำตัวน่าฮักดี

มาสมัครเป็นFC ฉาน นะครับ :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 4 ,15 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 15-03-2010 02:43:00
 :laugh: มารออ่านต่อ

+1 เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 4 ,15 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 15-03-2010 03:45:43
ไปๆมาๆ มันจะเหมือนคลองหกมั้ยน้า   :laugh:

ว่าแต่เพลงไรและท่าไหน ทำไมไม่คุ้นเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 4 ,15 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 15-03-2010 05:04:23
 :laugh:  เพลงสมัยไหนไม่รู้จัก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 4 ,15 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 15-03-2010 16:14:34
 :m4: ซาหนุกๆๆๆ เอาอีกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 4 ,15 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-03-2010 17:26:50
เข้ามาฟังเพลง เกินไม่ทันอะเพลงนี้  :pigha2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 4 ,15 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 15-03-2010 21:23:25
ชอบบบบบ
น่ารัก :man1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจū
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 15-03-2010 21:26:12
แอบเข้ามาหลงเสน่ห์บุคลิกของนายฉานแสงแรงกล้า  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 16-03-2010 16:12:01
ตอนนี้ขอเปลี่ยนเวลาลงมาลงช่วงบ่ายๆแระ มีคนท้วงมาว่าลงดึกเกิน  :laugh: ทำไมก็มันสงบนิ
ยามดึกสงัด เชิญติดตามเรื่องราวของนายฉานต่อได้เลยจ้า  :L2:

ขอบคุณทุกคอมเมนท์เช่นเคย  :กอด1: ขอบคุณมากๆจ้า
===================================
(http://image.ohozaa.com/iy/rbrd8.jpg)

ตอนที่ 5

ตอนนี้ ขณะนี้ วินาทีนี้ และคาดว่า อีกตลอดเวลาก่อนถึงบ้าน แมกมาที่กำลังที่กำลังบ่มความร้อนอย่างเต็มที่ ในทุกอณูของร่างกายผมตอนนี้ มันต้องปะทุออกมาเป็นลาวาไหล ในไม่กี่วินาทีข้างหน้าอย่างแน่นอน จนกว่าความอดทนที่มันมีอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยนิด จะหมดลงไป

เพราะอะไรนะเหรอครับ
เพราะไอ้ฉานแสงแรงกล้า ที่ไอ้หน่าเรียกนั่นแหละ มันสร้างบรรยากาศน่าอึดอัดขั้นแม็กซ์ ทะลุขีดแดงใส่ผมตั้งแต่มันเดินด้วยความเร็วแสง มารอผมที่รถจนตอนนี้ มันขับรถออกมาจากมหาลัยแล้ว มันยังเสมอต้นเสมอปลาย สร้างชั้นบรรยากาศมาคุสเฟียร์ใส่ผมอยู่นั่นแหละ  ไอ้หน้าตาดี........แต่งี่เง่าเอ้ย ไอ้ฉงนเรียกพี่ ไอ้กูปรีหน้างอ !! มันคือคำด่า ที่ผมตะโกนใส่มันในใจครับ T_T

ไอ้ฉานมันเงียบครับ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ผมยินดีให้เพลงของสถานีวิทยุใดสักสถานีนึง เป็นเพื่อนเราทั้งสอง ไปตลอดทางกลับบ้านได้ แต่ออฟชั่นเสริมที่มันแถมมากับความเงียบ คือ คิ้วมันชนกับครับ นั่นยังไม่พอ มันขมวดจนใกล้เคียงจะบิดกันเป็นเกลียวอยู่แล้ว ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจหนัก สั้นบ้างยาวบ้าง ออกมาทุกระยะเวลา ที่ไม่รู้มันวางแผนไว้หรือเปล่าว่าอยู่ในระดับความสนใจ ที่ใกล้เคียงคำว่าความรำคาญของผมอย่างมาก จนใกล้จะถึงมากที่สุดแล้วหละตลอดเวลาที่เราโตมาด้วยกัน ถ้าถามว่า ระหว่างผมกับมัน ใครยอมใครมากกว่ากันไม่ต้องคิดก่อนตอบเลยว่า “นายสยมภู คนนี้แหละครับ” ที่ผมยอมมันก่อนเป็นส่วนใหญ่เป็นเพราะเหตุผล ที่ผมชักแม่น้ำออกมาน้อยสายกว่า เลยชนะมันไม่ได้และสอง เพื่อไม่ให้บรรยากาศ รอบๆ กาย มันเลวร้ายไปกว่านี้ จริงๆ เวลาไอ้ฉานมันอารมณ์ดี มันฮามากครับมันมุขเยอะ และกวนตีนคนรอบกายได้ตลอดเวลานั่นแหละ ผมเองก็ยอมรับว่า ชอบให้รอบๆ ตัวมีเสียงหัวเราะมากกว่าบรรยากาศที่น่าอึดอัด เหมือนตอนนี้ เลยพยายามรวบรวมสติที่มีดูวิวข้างทางก็ได้(วะ) เพราะที่ผ่านมา เวลาที่เราสองคนกลับบ้าน ไม่มันก็ผม จะคุยนู่นนี่นั่นโน่น ตั้งแต่เรื่องเพื่อน เรื่องเรียน เรื่องหมู หมากาไก่ เรายังเอามาคุยกันได้จนถึงบ้าน เพราะทั้งผมทั้งมัน คุยเก่งพอกันครับ เอาวะ วันนี้ถือว่าเปลี่ยนคอนเซปสักวัน ส่วนมัน ถ้าเหน็บแดกหน้าถ้าไม่คุกเข่าร้อง อย่าหวังว่าจะหันไปมอง ไม่ได้งอนนะ แค่หมั่นไส้มันเฉยๆ เป็นไรอะทำไมไม่บอก สงสัยอะไรทำไมไม่ถาม ก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้น........ตัดภาพกลับไปที่ตรอกไดอะกอน (ไม่ใช่แระ)  ย้อนกลับไป ที่เดคไม้ข้างคณะ (ของผม) หลังจากสงครามขี้ฟันของไอ้หน่า ไอ้ฉานและบรรดาลูกสมุนทั้งหลายของมัน จบลง ผมกำลังเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน

ทันใดนั้น !!!!!!!!!!


(เสียดาย นี่คือนิยาย เลยไม่มีซาวน์เอฟเฟคประกอบ ถ้าคุณไม่มีอารมณ์ร่วมกับนิยายเรื่องนี้ ขอให้รู้ว่า คนแต่งไม่ผิด ผิดที่เป็นนิยายพิมพ์)ไอ้หวาน  มันเป็นผู้ชายครับ หน้าตาตรงข้ามกะชื่อมากมาย เดาว่าแม่มันตั้งชื่อนี้แก้เคล็ด เพราะถ้ามันลงไปสาม จ.ชายแดนใต้ มันจะตกเป็นหนึ่งในแพะรับบาปแทนโจรใต้ตัวจริง แบบไม่ต้องสงสัย หนึ่งในเดอะแกงค์เด็กอาร์ตอย่างผมมันผ่ามากลางวงสนทนาแบบหน้าอึนๆ แล้วลั่นวาจาอย่างไม่กลัวตาย

“ไปกินน้ำแข็งใส กันมั้ยวะ” พ่อมึงสิไอ้ควาย ทุกคนพร้อมใจกันจ้องหน้ามันโดยไม่ได้นัดหมายครับ
“แหะ  แหะ  กูเห็นอากาศมันร้อน แล้วพวกมึงก็เครียด แล้วมึง มึง ก็ใช้พลังงานเสียงเยอะใช่มั้ยหน่า “ มันเริ่มมองหาตัวช่วยครับ ไอ้หน่าได้สิทธิ์นั้นเดียวนี้ เสียงมันเริ่มตะกุกตะกักครับ หน้าตาเริ่มเลิกลั่ก และเสียงมันเริ่มสั่น มือเริ่มเกาหัวล้านๆของมัน เพื่อนทุกคนเริ่มส่ายหน้าให้กับความไร้เดียงสา เอ่อ ถอนคำพูดครับ อย่างมัน ผมต้องเรียกว่า ซื่อบื้อครับ
ผมสงสารไอ้หวานมันนะ อย่างน้อยไปกินน้ำแข็งใสก่อนกลับบ้านก็ได้ ไม่อิ่มเกินไป ยังไงก็ได้กลับไปกินข้าวพร้อมแม่นิ่มได้แน่ๆ วันนี้ ผมกำลังจะเห็นด้วยกับคำชวนของไอ้หวาน ตาผมกำลังจะสบอย่างมีความหมายให้ไอ้ฉานหาพวก ครับ หาพวก ถ้าไอ้ฉานตกลง สาวๆบริหาร เตรียมรับขบวน หนุ่มหล่อจากศิลปกรรมและถาปัตย์พร้อมกันเลยครับแต่นิยายไทย ต่อให้เป็นนิยายเกย์ มันก็ต้องมีตัวร้ายครับ มันเป็นสูตรสำเร็จของนิยาย เหมือน F=ma นั่นแหละครับ (ถ้าจำไม่ผิด แรง เท่ากับ มวลxระยะทาง ตอน ม. ปลาย ไอ้ฉานมันเคยเรียน)ไอ้ดิว เดินมาจากไหนไม่มีใครรู้ สิ่งสุดท้ายที่ทุกคนจับภาพและเสียงได้คือ

ป๊าบ  !! มือไอ้ดิว เหวี่ยงไปที่กบาลไอ้หวาน   

“โอ้ยยยยยย เจ็บนะเว้ย ไอ้เชี่ยดิว” ไอ้หวานมันอวดครวญประกอบท่า เอามือลูบหัวตัวเอง
“ หวาน มึงเป็นไรมากมั้ย กูแค่ให้มาแซว ไอ้เมฆ ว่า ตกลงคืนนั้น มันได้ขึ้นครู หรือมันโดนครูขึ้น “
แค่นี้ครับ แค่นี้เอง
แค่ไอ้ดิวพ่นออกมาแค่นี้ ไอ้ฉานมันก็เดินตัวปลิวไปที่รถ ทิ้งภาพทุกคนที่ทำหน้างงไว้เบื้องหลังแต่ผม มีเวลางงแค่ไม่นานครับ รถคันนั้น เราเป็นเจ้าของร่วมกัน และมันเป็นคนขับ ถ้าช้า มีหวังแท็กซี่สถานเดียวครับ ไกลไม่น้อยเลยนะ บ้านผมกับมหาลัยหนะ ไม่เสี่ยงครับ ไม่เสี่ยง ไม่คุ้มมากในเชิงธุรกิจและนั่นก็เป็นที่มาที่ไปของความกดดันในชั่นบรรยากาศของผมตอนนี้ครับและมันก็ถึงขีดสุดของความอดทนของผมแล้วด้วย ความอดทนหนะมีครับ แต่น้อย แล้วตอนนี้ มันก็หมดลงแล้ว

“ ฉาน กูไม่ไหวแล้วนะ มึงเป็นอะไร มึงบอกกูสิ มึงโกรธอะไรใคร มึงบอกกูได้ป่ะ กูพูดตรงๆ นะ ทำตัวไม่ถูกหวะ”
“.....................................” เงียบครับ แมร่ง เห็นแก่ตัวโครต กูพูดตั้งเยอะ มันตอบกลับมาแค่ความเงียบ
“เอางี้นะฉาน กูจะถามครั้งสุดท้าย แค่ว่า เรื่องที่มึงหงุดหงิด เกี่ยวกะกูมั้ย” ลุ้นครับลุ้น แอบมองหน้ามัน ไอ้ฉานมันต้องรุกลี้รุกลนกับอาการนี้ของผมบ้างแหละ ไม่บ่อยนะครับ เมฆเวอร์ชั่นซักฟอก วันนี้ถ้าไม่ได้คำตอบ กูจะเอามึงแช่ไฮเตอร์ ไอ้ฉาน
“............................................” พอกันทีครับ ต่อไปนี้ เหตุผล เราไม่เอามาใช้ สันดานล้วนๆครับ สันดานล้วน
“ฉานมึงจอดรถให้กูลงด้วย กูอึดอัด หายใจไม่ออก กูจะกลับเองวันนี้ เจอกันที่บ้านนะมึง”  ไม่ไหวครับ ถ้าเป็นแบบนี้ มีเราสองคนนั่งในรถก็จริง แต่ผมรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว ในที่แคบๆ ไม่มีอากาศให้หายใจ มันอึดอัด มันทรมาน สุดที่จะบรรยายจริงๆ โดยเฉพาะ เหตุเกิดจากคนที่ผมคิดว่า สนิทที่สุด แคร์ที่สุด และเป็นที่สุดในหลายๆเรื่องแล้วนั้น เกมส์โอเวอร์ ครับ
ไม่ขอทนไอ้ฉานมันชะลอรถแล้วครับ มันจะไม่พูดอะไรกะผมจริงๆ เหรอ ปกติ มันจะง้อนี่หว่า แล้วนี่ทำไมมันชะลอรถวะ ฉิบหายนี่กูใช้มุขเดิมไม่ได้ผลแล้วเหรอ แค่ 15 ปีที่ผ่านมา  รู้สึกว่าจะใช้ไปไม่กี่ครั้งเองนะ เปลี่ยนแผนทันมั้ยเนี่ย เครียดก็เครียดครับ หงุดหงิดก็ใช่อยู่ ที่ไม่รู้คือไอ้ฉานมันเป็นอะไร แล้วทำไมมันไม่ง้อผม ในขณะที่สมองผมประมวลแผนการใหม่

ให้ฟุตบอลไทยได้ไปบอลโลกเถอะครับ ไอ้ฉานมันตบไฟเลี้ยวชิดซ้าย หน้าผมเริ่มซีด ปากเริ่มสั่น มันเอาจริงเหรอครับเนี่ย ไอ้เมฆ มึงต้องยอมรับความจริงได้แล้วนะ มึงไม่ใช่คนที่ไอ้ฉานจะตามใจแบบเมื่อก่อนแล้ว มึงต้องหัดเดินด้วยตัวเองบ้าง ที่ผ่านมา ในชีวิตมึง ไอ้ฉานช่วยเหลือมาตลอดไม่ใช่เหรอ มีสักกี่อย่างที่มึงลุยเดี่ยวได้ น้อยมากใช่มั้ย แทบคิดไม่ออกเลยใช่หรือเปล่า  แล้วมึงควรรู้เอาไว้นะ ว่าต่อไป มึงควรอยู่ได้ด้วยตัวเอง มันจะเป็นแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ อนาคตมึงและไอ้ฉานต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ของเรา อย่างที่เป็นทุกวันนี้ ตื่นได้แล้วเมฆ มึงต้องยอมรับความจริงที่จะเกิด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 16-03-2010 19:56:25
โหนะ  อย่าแคร์ๆ ลงรถแล้วกลับบ้านเองแม่งเลย 5555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 16-03-2010 20:18:30
งอลเงียบ!!!!!!!!!!!!
ไร้เหตุผล เมฆอย่าได้แคร์
ปล่อยมันไป :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 16-03-2010 21:20:36
โห  ฉานเมฆเขาง้อ

ขนาดนั้นแล้วนังไม่ใจอ่อนอีก

รึจะให้เมฆต้องลงรถกลับบ้านเอง

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 16-03-2010 22:17:54
ขอยาวยาววววววววววววววววววววววววววววววคราบบบบบบบบบบ  :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 16-03-2010 23:35:34
 :z2: :z2: :z2:
เครียดเนอะตอนนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 16-03-2010 23:42:47
ที่ร๊ากก งอนอะไรจ๊าาาาา


ฉานมันงอนอะไรเนี่ย


มันโกรธครายยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 17-03-2010 01:09:59
โกดคนแต่งมั้ง อิอิ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 17-03-2010 03:42:10
รีฯ บนเห็นด้วย :laugh:
ค้างงงง  ...
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-03-2010 08:14:50
ตกลงนายฉาน งอนอะไรเมฆล่ะเนี่ย :really2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 17-03-2010 10:37:55
ตามมาอ่าน เพิ่งรู้ ทำไมเพิ่งบอกนะ
สนุกจัง ขอบคุณคนแต่งกะคนโพส แบบว่าคิดไม่ถึงว่าแต่งเก่งอ่ะ
สัญญาแล้วนะว่าจะไม่เศร้า
ความรักความผูกพันตั้งแต่เด็ก ความรักที่ค่อยๆเปลี่ยนสถานะ น่ารักจัง
แต่ตอนนี้ค้างอ่ะ เพราะคนแต่งหรือคนโพส?
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 17-03-2010 11:06:01
ไอ้ฉานมันบ้าา ไม่ต้องไปสนมัน เด๋วมันก็ต้องกลับมาง้อเมีย เอ๊ย! กลับมาหาเมฆ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 5 ,16 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 17-03-2010 12:00:47
อาการนี้เค้าเรียกว่า  ช่วงนั้นของเดือน  :jul3:



ฉานงอลๆๆๆ  กิ้วๆๆๆๆๆ :m20:



มาทำหน้าที่แล้วนะ  ว่าแต่  จ่ายเท่าไรอะ   o11
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 17-03-2010 15:14:43
มะวานมันสั้นไปวันนี้เลยมาลงให้อีกตอน สต๊อกจะหมดแย้ว  :serius2:
มาดูกันว่าเจ้าฉานมันงอลไรนักหนาน้องเมฆง้อขนาดนี้แล้ว

มันได้เจอท่าไม้ตายของน้องเมฆแน่ๆ  :jul3:
===================================
ตอนที่ 6

ผมสูดหายใจเอาความเชื่อมั่น พร้อมทั้งเรียกขวัญและกำลังใจ เข้าปอดลึกๆ กระบอกตาเริ่มปวด และรู้สึกว่าน้ำในตาจะเริ่มไหล ออกมาฟ้องความอ่อนแอ ไม่ได้การครับ ไอ้ฉานเห็นผมตอนนี้ มันคงสะใจ ผมกลืนก้อนอะไรสักอย่างที่ตีตื้นขึ้นมาที่คอเอาไว้อย่างยากลำบาก แหงนหน้าขึ้นฟ้า หลับตาไล่ไอ้หลักฐานแห่งความอ่อนแอบ้าๆนั่นกลับไป ไม่นานครับ
ผมกำลังเอื้อมมือไปปลดล็อคเบลล์

พร้อมกับที่ไอ้ฉาน ตบไฟกระชากรถออกไปเลนขวา แบบปาดหน้ารถคันอื่น ให้เค้าด่าแม่แต่พองาม มันเหยียบคันเร่งเท่าไหร่ ผมไม่รู้ครับ มันมองไม่เห็น ม่านน้ำตามันมาบดบังทิศทางการมองเห็นไปตอนไหน อ๋อ ตอนไอ้ฉานกระชากรถออกขวาอย่างแรงนั่นแน่ๆ โธ่เอ้ยยยยยยยยยย ไอ้เมฆ มึงแพ้อีกแล้วนะเกมส์นี้ ไอ้ฉานเห็นน้ำตามึงอีกแล้ว ตลอดเลย มึงแพ้ไอ้ฉานตลอด ไอ้เมฆ ไอ้....... เอร้ยยยยยยยย

“เมฆ มึงหยุดร้องไห้ก่อนนะ กูสัญญาเมฆ กูสัญญา ว่ากลับบ้านไป กูจะบอกมึงว่ากูเป็นอะไร เราจะคุยกันทุกเรื่อง ทุกเรื่องที่มึงอยากรู้ และทุกเรื่องที่กูอยากบอกมึงนะ” มันพ่นออกมารวดเดียวเลยครับ

จริงๆ มุขนี้ของผมก็ยังพอใช้การได้อยู่นะเนี่ย

ถึงมันจะออกผลช้าไปหน่อย แต่ก็ถือว่า คุ้มละนะ ตอนแรกก็ว่าจะหยิ่งในศักดิ์ศรี กลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วบอกมันให้จอดรถ ลงมาเยี่ยงลูกผู้ชาย พล็อตมิวสิควีดีโอโผล่มาเลยครับตอนนั้น แต่คิดดูอีกที ผมใช้มุขเดิมจนมันเริ่มจับทางได้ จนเริ่มไม่ได้ผล แต่ลืมไปว่าไม้สุดท้ายที่ใช้เมื่อไหร่ ก็ได้ผลทุกครั้งไป นั่นคือน้ำตาครับ ลืมไปว่า ฟินาเล่สุดท้าย ยังไม่ได้งัดออกมาใช้เลยนี่หว่า งั้นจะรอช้าอยู่ใย น้ำตาที่สั่งมันกลับไปได้ เราก็สั่งมันออกมาใหม่ได้ และแล้วก็บิงโกครับ
วะ ฮ่า ฮ่า ไอ้เมฆ ซะอย่าง

ก็แหม คิดดูนะว่า ถ้าต้องลงรถตรงนี้ อีกนิดเดียวก็ถึงบ้านแล้ว บวกลบคูณหารแล้ว ไม่เท่ห์ครับไม่เท่ห์ ผมนั่งเหยียดตัวตรง เบือนหน้าไปนอกหน้าต่างครับ ทำปากรั้นขึ้นนิด บิดมุมหน่อยๆ ยอมเมื่อยคออีกเล็กน้อย ลงทุนหน่อยครับ ใกล้ถึงบ้านแล้ว เมื่อยนิดหน่อยทนได้ แลกกับความสะใจส่วนตัว

“เมฆ ไปหาหมอมั้ย เมื่อกี้กูเห็นมึงร้องไห้ คราบน้ำตามึงยังไม่แห้งเลยนะ มึงยิ้มได้งัยเนี่ย” ผมเอามือลูบหน้าครับ
เชี่ยเอ้ย แก้มยังเปียกๆ อยู่จริงๆ ด้วยอ่ะ
“ซื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ไอ้อาการสูดน้ำมูกกระทันทันนี้ ผมว่ามันเป็นอาฟเตอร์เอฟเฟคจากที่ผมร้องไห้เมื่อกี้นะ
ก่อนจะเสียหายไปมากกว่านี้ ผมรีบปาดน้ำมูก น้ำหูน้ำตา แล้วนั่งหน้าเริ่ดๆ เชิดๆ หล่อๆ มองวิวข้างทางดีกว่านะ (ไม่ใช่รัยหรอก มันเริ่มจับทางผมได้แล้ว เดี๊ยวไม่เนียน)
“หิวยัง หืมมมมห์” ไอ้ฉาน ไอ้นรก มันไม่พูดเปล่าครับ มันเอื้อมมือมาขยี้หัวผม ไม่พอครับไม่พอ พี่แกขอเบิ้ลเป็นโยกไปโยกมาด้วย เดี๊ยวก่อน เดี๊ยวพี่เมฆจะโชว์สเตป เอานิ้วตีนเขี่ยหน้าพี่เมฆไม่ว่า แต่เล่นถึงหัวเมื่อไหร่พี่เมฆไม่ยอม ไอ้กร๊วกกกฉาน

“ อืม หิวแล้ว เมื่อไหร่จะถึงบ้านสักที” เอร้ยยยยย ผมตอบมันไปแบบนี้เหรอครับ แล้วแถมทำหน้าเป็นหมาเชื่องด้วยเหรอ
แย่ แย่ แล้วไอ้เมื่อกี้มันคืออะไร มันคือไอ้เมฆคนนี้คิดไปเองในใจคนเดียวอะเหรอ


ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยย!!
พอลล่าครับ อั้มครับ ริต้าด้วยก็ได้ครับ น้องเมฆอยากตาย พวกพี่สนใจไปเปิดเนอสเซอรี่บนสวรรค์ม้ายยยยยยยยยยยย




แล้วเราก็มาถึงบ้านในเวลาต่อมา (ได้อีกสักประโยคก็เอา )


ครับ บ้านที่ไม่มีผู้หญิงที่ปลอมเป็นผู้ชายคนไหน ที่ใครๆก็ดูรู้ แต่ที่ไม่รู้คือพระเอก วิ่งหน้าตาตื่นออกมา แล้วบอกพวกเราว่า “เจ้าฮะ กาแฟมั้ยฮะ” หรือ คฤหาสน์ ที่หน้าบ้านมีวงเวียนเหยี่ยวกำลังพ่นน้ำ มุมกล้องเป็นเปอสเปคตีฟแพนเข้าไป เป็นบรรดาคนใช้ ยืนเข้าแถวเรียงหนึ่งสองฝากทางเดิน พร้อมกันก้มหัวมองพรมแดงที่พื้น แล้วบอกว่า
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณชาย” มันไม่ใช่เลยครับมันไม่ใช่ ถ้าบ้านผมมีอารมณ์ประมาณนี้ ก็น่าสยองดีไม่น้อยนะครับเนี่ย แค่คิดก็ บรึ๋ยยยยยยยยยยยย ตัวใครตัวมันแล้วครับ

บ้านของผม เอาเป็นว่า ของผมและไอ้ฉาน บอกทีเดียวไปเลยก็ได้ครับ ง่ายดี  เป็นบ้านเดี่ยวสองหลังติดกัน แบ่งอาณาเขตบ้าน ด้วยรั้วไม้เตี้ย ประมาณกระโดดข้ามได้ โจรคนไหนที่ตอนเด็กๆ พื้นฐานการเล่นกระโดดยางอยู่ในขั้นดี ถึงดีมาก รั้วที่กั้นบ้านผมและไอ้ฉาน สะดวกสบายสำหรับคุณโจรมากครับ 

พูดเล่นครับ

ที่รั้วบ้านผมกับไอ้ฉานมันเตี้ยได้ เพราะหน้าบ้านรั้วเป็นไม้ไผ่ต้นสูงผูกติดกันเป็นซุ้มยาวตลอดแนวหน้าบ้านผมไปถึงหน้าบ้านไอ้ฉานเลยครับ ด้านหน้ารั้วไม้ไผ่ปลูกต้น  คริสตินา ยาวตลอดแนว ด้านหลังเป็นไผ่เลี้ยง สูงเหนือรั้วนิดหน่อย ภายในบริเวณบ้านร่มรื่นด้วยสวนและพันธ์ไม้ นานาชนิด ดูเงียบและสงบ และที่สำคัญ ดูเป็นส่วนตัวด้วย บ้านในเมืองก็งี้แหละครับ หาความเป็นส่วนตัวยากยิ่งกว่าสิ่งใด สองฝั่งรั้วเตี้ยแบ่งอาณาเขตบ้านปลูกไม่พุ่มตัดแต่ง นำสายตา ด้วยต้นนีออนครับ ใบต้นนี้จะออกอมเขียวอมขาวอมเทา ดอกสีม่วง เก๋มากครับ ความคิดไอ้ฉานเลย มันบอก ไม่พุ่มปลูกแนวรั้วสีเขียว เชยแล้ว คิดใหม่ทำใหม่บ้าง ครับแล้วทุกคนก็เชื่อมัน โดยเฉพาะแม่นิ่ม ออกแนวเชื่อและเชียร์


พล่ามมาตั้งนานเพียงแค่จะบอกว่า
พอไอ้ฉานจอดรถ หยิบจับสัมภาระตัวเองได้ ผมเข้าบ้านผม ส่วนไอ้ฉานมันก็เข้าบ้านผมครับ
อ้าว !!!!! ไอ้นี่ออกแนวมั่ว  บ้านมึงก็มี มาเนียนเข้าบ้านกู
“ ฉานมึงเบลอป่ะ บ้านมึงแยกไปทางซ้ายไม่ใช่เหรอ” คุณชายเมฆขอซ้อมเสียงนิดนึงครับ เดียวเจอแม่นิ่ม ต้องคุยกันเยอะคุยกันยาว เสียงจึงมีความจำเป็นมาก สำหรับผมในตอนนี้ แถได้แถดี นี่แหละกู
“รู้แล้ว จะมาบอกแม่นิ่มว่า ให้เอากับข้าวไปตั้งโต๊ะ ที่บ่อปลาคาร์ฟ หลังบ้านกู” แฮ่ แฮ่ ก็ใครจะไปรู้หละ เห็นมันเดินดุ่มๆ เข้าบ้านคนอื่นเค้าแบบนี้ ไม่ได้เบื่อขี้หน้ามันหรอกครับ แต่นี่หวังดี กลัวน้าพิมกับน้าชาติจำหน้ามันไม่ได้ เพราะลำพัง พี่ฉาย พี่ชายมันไปเรียนเมืองนอก พ่อแม่มันก็เหงาพอแล้วนะ ผมว่า ถ้าลืมหน้ามันไปอีกคน มรดกบ้านนั้น ไม่ต้องยกให้มูลนิธิไหนสักที่เหรอครับ นี่ผมรักษาผลประโยชน์ให้ไอ้ฉานมันนะ
“ มากันแล้วเหรอลูก ฉาน เมฆ” แม่นิ่มครับ เสียงหวานออกมาทัก เอ่อ ไอ้ฉานหลานรักก่อนเลย
“ครับแม่ สวัสดีครับ คิดถึงจัง” ไม่ใช่ผมแน่ๆ ครับ สอพลอโปรดักชั่น ขนาดนี้ เป็นใครไปไม่ได้
มันเรียกแม่นิ่ม ว่าแม่ ตามผมมาตั้งแต่ตอนไหนจำไม่ได้ แต่มันก็เรียกมาจนถึงทุกวันนี้ครับ ส่วนผมก็ยังเรียกพ่อแม่มันว่าน้าเหมือนเดิม
“หวัดดีครับแม่ เมฆไม่ได้ซื้ออะไรมาฝากนะ แค่ความคิดถึง เมฆก็แทบจะขนมาไม่ไหวแล้ว” ได้แค่นี้แหละครับ ผมพูดไม่เก่ง อ้อนใครก็ไม่เป็นกะเค้า เฮ้ออออออ!!
แล้วก็กลัวไอ้ฉานแย่งซีนไปกว่านี้ ผมเข้าไปเหนี่ยวเอวแม่นิ่มมาไว้กะตัว แล้วเอาจมูก ซุกๆไซร้ๆ ไปตามแก้มทั้งสองข้างของแม่ครับ กลับมาบ้านทีไร อุ่นใจดีจัง
“เมฆ ๆ พอแล้ว แม่จั๊กกะจี้ ไปอาบน้ำอาบท่า กันสองคนนั่นแหละ เดียวมากินข้าวด้วยกัน บอกให้เด็กเตรียมยกไปบ่อปลาแล้ว” รัยวะ ไอ้ฉานแค่พูดหวานๆ แม่นิ่มก็ยิ้มหน้าบานแล้ว นี่ไอ้เมฆทั้งพูดทั้งกระทำ ยังไม่ได้อะไร แย่ แย่ แพ้ไอ้ฉานทุกที
“แม่ งั้นเมฆไปอาบน้ำก่อนนะ เจอกันที่โต๊ะครับ” ผมพองลมใส่แก้ม กะว่าน่ารักนะในสายตาแม่ งานที่โฟกัสไปที่แม่ครับ
แต่
“เมฆ อาบน้ำนะเว้ยมึงไม่ใช่แช่น้ำ กูหิวแล้ว มากด้วย” ชิส์ เป็นพ่อกูด้วยอีกอย่างมั้ยมึง รู้สึกกูยังไม่มอบสายสะพายตำแหน่งนี้ให้นะ จัดไปจะได้ครบๆ
“ มึงกำกับกูขนาดนี้แล้ว มึงไม่ขึ้นมาอาบให้กูด้วยเลยหละ “ ใครก็รู้ใช่ป่ะ ว่าประชด ทุกคนต้องรู้แน่
“อือ กูเสร็จแล้วจะขึ้นไปช่วยมึง” หงะ เห็นมั้ยครับ ก็ยังมีไอ้กูปรีนี้ที่ยังไม่รู้
ไม่เปลืองตัวดีกว่าครับ ไปดีกว่า


อาหารมือเย็นนี้ ผ่านไปด้วยดีครับ พวกเราผลัดกันเล่านู่น นั่น นี่ ให้ที่บ้านฟังแบบไม่มีใครยอมใคร
บรรยากาศอบอุ่นแบบนี้ เกิดขึ้นบ่อยๆครับ
ตั้งแต่ผมกับไอ้ฉานสนิทกัน จนมาเป็นครอบครัวเราทั้งสองสนิทกันเพราะ ไอ้ฉานมันมาระรานชีวิตผมบ่อยๆ
ตั้งแต่เล่น กิน นอน เรียกได้ว่า มันอยู่บ้านผม มากกว่าอยู่บ้านมัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพี่ไอ้ฉาน ห่างกับมันหลายปีอยู่
แถมสอบชิงทุนไปเรียนเมืองนอก มันเองคงเหงา เลยอยากมีเพื่อนเล่น ผมเองตอนนั้น ดวงคงตกอยู่ในแนวราหูอมพอดี
เลยต้องมาเป็นเพื่อนสนิทมันไป โดยไม่ได้เต็มใจเท่าไหร่หรอก พ่อกะแม่มัน เอ็นดูผมมากเหมือนกัน ส่วนหนึ่งคงรู้ว่าผมเป็นเด็กบ้านแตก พ่อแม่แยกทางกัน แล้วอีกอย่างตอนนั้น ก็นับได้ว่า ทั้งบ้านมีผู้หญิงคือแม่นิ่ม อยู่บ้านคนเดียวกับเด็กอย่างผม ถือว่าอันตรายมากเหมือนกันนะครับ พ่อแม่มันเลยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือหลายอย่าง จนเราสนิทกัน และเป็นเหมือนทุกวันนี้

กำลังจะแยกย้ายบ้านใครบ้านมันอยู่พอดี

“เมฆ ยังไม่ลืมใช่มั้ย  เรามีอะไรต้องคุยกันนะ “ จำได้ก็ตอนที่มันทักนี่แหละครับ ก่อนหน้านั้น มัวแต่เมาท์อย่างอื่น
จนลืมเรื่องนี้ไปช่วงนึง แต่ ทำไมไอ้ฉานต้องทำหน้าเครียดด้วยละครับ หรือว่ามันไม่สบายใจอะไรอยู่เหรอ
============================
 :z3: จบตอนได้เครียดอีก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 17-03-2010 15:34:09
ลุ้นแทบแย่ ยังไม่รู้จนได้
รีบมาเล่าต่อเลยนะว่าฉานงอนไรเมฆ
เริ่มติดละ อยากรู้ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 17-03-2010 16:13:20
นั่นดิเรื่องอะไรอ่ะ..คาใจ ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 17-03-2010 16:25:06
 :3123: เอารางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมไปเลย สั่งน้ำตาไหลได้ดังใจเลยนะเมฆ  :m20:

แล้วตกลงว่าฉานเป็นไร เคลียกันด่วนนนนนนนนน  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 17-03-2010 16:26:34
อ้าว นึกจะไปก็ไปซะงั้นอ่ะ
ไรเตอร์กลับมาเด๋วนี้เลยนะ :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 17-03-2010 20:23:07
หุหุ นู๋เมฆเราก็ร้ายไช่เล่นนะเนี่ยะ อิอิ :laugh:

ตอนต่อไป จะสารภาพรักเลยรึเปล่าอะคับ แบบว่า  อยากเสียเลือดอะ  เอิ๊กๆๆๆๆๆ :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 17-03-2010 21:53:17
ดวงตะวันกำลังจะบอกรักก้อนเมฆรึป่าวหว่าาา  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 17-03-2010 22:47:59
ถึงจะเอาอีกตอนมาลง ก็ยังคงค้าง  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 18-03-2010 00:36:43
เครียดดดดด

ค้างด้วยยยย

มาต่อไวๆนะครับ :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 18-03-2010 01:45:15
ไม่คุยกันซะที    :เฮ้อ:
น้องเมฆร้ายเหมือนกัน


+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 18-03-2010 01:56:56
ชอบเมฆ  อ้ายยยยยยยยยยย มันต้องแบบนี้ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 18-03-2010 08:26:39
ผ่านไปอีกตอน ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉาน 55+

รอลุ้นกันต่อไป  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 18-03-2010 09:31:45
น่ารักจังค่ะ เมฆนี่มุกเยอะนะ 555+
รอลุ้นกันต่อไป




ปล.บางช่วงที่บรรยายยาวๆ ช่วยเว้นย่อหน้าหน่อยก็ดีค่ะ เริ่มตาลาย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 18-03-2010 20:03:04
มาลงได้แล้ววันนี้ ช้าหวะๆๆ สงสัยคนโพสจะไม่ค่อยมีแรง อิอิ  แก่แล้วก็นะพักผ่อนเยอะๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-03-2010 22:19:27
คืนนี้ไร้ซึ่งดวงตะวันและก้อนเมฆ??  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 19-03-2010 15:14:39
ต้องขออภัยในความล่าช้าด้วยนะคะ มาแล้วจ้าตอนต่อไป จะกระจ่างมั้ยเชิญติดตาม  :mc4:

==========================================
(http://image.ohozaa.com/iy/rbrd8.jpg)

ตอนที่ 7

ไอ้ฉานนะไอ้ฉานมันเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย หรือว่ามันเริ่มเข้าสู่วัยทอง เดี๊ยวนี้อารมณ์มันแปรปรวนง่าย จนตามแทบไม่ทัน
เมื่อวานมันหัวเราะ
วันนี้มันหงุดหงิด
เมื่อวานมันไร้สาระ
วันนี้มันเน้นหนักหลักวิชาการ
ไอ้ดวงตะวันเอ้ย.......หมุนรอบตัวเองแทนโลกหรือไงมึงหนะ ทำตัวปกติชนแบบ ท่านเมฆบ้างสิเว้ย
ต้องเอาใจใส่มันหน่อยครับ  เดี๋ยวนี้แค่รดน้ำพรวนดินไม่พอ ไอ้ฉานมันอัพเลเวลตัวเอง จนต้องเพิ่มการใส่ปุ๋ยลงไปด้วยแล้ว
ในฐานะคนสนิทอย่าง องค์สยมภู แล้ว เอาใจมันสักนิด ดูแลมันสักหน่อย ให้มันค่อยๆ ตายใจ
แล้วเราก็ค่อยตลบหลัง ผสมยาในกาแฟมันวันละนิด พอมันเสียชีวิตไป สมบัติมัน ขี้คร้านจะเป็นของเรา
วะ ฮ่า ฮ่า......แอบหัวเราะในใจประมาณว่าเป็นคนบ้า พบเหรียญบาท ฉลาดจริงๆ ท่านเมฆ

แต่นี่ชีวิตนะครับชีวิต ไม่ใช่ละครหลังข่าว จริงๆ เห็นหน้ามันเมื่อกี้แล้วแอบเครียด

“ที่ไหนอะ ฉาน” บีบเสียงให้ดูสลดสุดๆ เจี๋ยมเจี้ยม ที่สุด จริงจังในท่าทางแถมเข้าไปด้วยอีกนิด
“ห้องกู” ห๊า !! ทำไมมีตัวเลือกเดียวเองหละ   ท่านเมฆไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว ก็คิดถึงหุ่นกันดั้ม อุลตร้าแมน
บ้างอะไรบ้างเหมือนกันนะเว้ย.......จ๋อยครับ จ๋อย
ปกติ เวลากลับมาบ้าน ส่วนใหญ่ ก็นอนด้วยกันนี่แหละครับ อยู่หอ ก็นอนห้องใครห้องมัน แต่กลับบ้าน ก็นอนด้วยกัน
แต่เวลาจะเข้านอน ไอ้ฉานมันจะให้ผมเลือกครับ
“ ห้องมึง หรือห้องกู “ อันนี้เป็นตัวเลือก เวอร์ชั่น คุณฉานแสง ตอนอารมณ์ปกติ
“ ห้องเมียคนดี หรือห้องพี่ดีจ๊ะ ที่รักจ๋า “ ตัวเลือก ตอนคุณฉานแสง อารมณ์เกินพอดี บางทีมันมีหยิกแก้มแถมความน่าหมั่นไส้ลงไปด้วยนะครับ

แต่คราวนี้ มันจะเครียดไปไหมหละ ท่านเมฆ ปรับอารมณ์ไม่ทัน คุณพี่ฉานจริงๆนะครับ ต้องต่อต้านครับต้องต่อต้าน
วัยผมวันรุ่นพอดี แบบนี้ ต้องเจอกันหน่อย
ก่อนอื่น ต้องเอามือถูจมูกทำเท่ห์ แบบที่พระเอกหนัง เค้าทำกัน  ถลกแขนเสื้อขึ้นอีกนิด จะดูสมจริงกว่ามั้ยวะ
“เมฆ จะไปกันยัง “ ขัดจังหวะ แบบนี้ทุกทีสิน่า อารมณ์เสีย ชิส์
“ไปเอาหมอนข้างก่อน แล้วเดี๊ยวตามไป” ให้ได้สิ อย่าเพิ่งเริ่มชินกันนะ นี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่ ที่ผมต้องแพ้แบบนี้
ปล่อยไอ้ฉานมันรอไปครับ ขอขึ้นไปเอายานอนหลับประจำตัวก่อน  ผมติดหมอนข้างอย่างแรง ในขณะที่ไอ้ฉาน มันรำคาญหมอนข้างอย่างแรงเช่นกันครับ ห้องมันมีแต่หมอนหนุน ผ้าห่มนี่มีประดับบารมีมั้งครับ เพราะมันไม่ค่อยห่มหรอก ส่วนผม อย่างน้อยถ้าไม่ได้ห่มจริงจัง ก็ต้องมีบ้างที่เอาผ้ามาปิดปลายเท้าไว้สักนิด โรคจิตนิดๆ เหมือนกันนะเนี่ยผม


มือหนึ่งกอดหมอนข้างแสนรัก มือนึงค่อยๆ จับลูกบิด ห้องไอ้ฉาน อาการผมตอนนี้ ประหนึ่งตีนแมวแอบเข้าบ้านคนอะครับ ก็แล้วทำไมกูต้องย่องวะเนี่ย ไม่เข้าใจ เดินปกติ ดีๆก็ได้ แล้วทำไมไม่ทำวะ

ไม่รู้ครับ ผมรู้สึกว่า บรรยากาศมันเริ่มจะอึมครึม ยังงัยไม่รู้ ดุไอ้ฉานมันเครียดๆ ไอ้นี่ก็น่าจะแสดงละครนะครับ ให้มันเป็นคนขับรถอะไรแบบนี้ ได้บทบาทตามหน้าตามันแหละครับ ก็เพราะบทพระเอกหนะ ท่านเมฆสอยมาแบบเน้นๆอยู่แล้ว
ตอนกินข้าว ไอ้ฉานก็ยังเป็นไอ้ฉานคนเดิมของน้าชาติ น้าพิมพ์ และแม่นิ่มครับ ออกแนวตลกบริโภค
พอผู้กำกับสั่งคัท
มันก็กลับมาอึมครึม ใส่ผม เฮ้ออออ !!!


หือออออออออ...เข้าห้องมา นึกว่าป่าช้าวัดเสมียนนารีครับ ทำไมถึงเงียบและมืดแบบนี้
“ ฉาน ฉาน มึงอยู่ไหน ไฟดับเหรอ” ถามโง่ๆ ไปงั้นแหละครับ เดินเข้าบ้านมาไฟสว่างโร่ ทั้งบ้าน
คงไม่อุตริ ดับแค่ห้องมันห้องเดียวหรอกมั้ง
จัดการเปิดไฟเปิดแอร์ ก่อนหันไปเจอมัน ยืนดูดบุหรี่ที่ระเบียงครับ
“ฉาน ไหนว่ามึงจะไม่ดูดบุหรี่ที่บ้านไง” มันไม่ได้ติดบุหรี่หรอกนะครับ มันจะดูดตอนที่กินเหล้า หรือตอนที่มันคิดโปรเจคส่งอาจารย์ไม่ออก แต่มันบอกว่า จะไม่ดูดที่บ้านเด็ดขาด น้าพิมน้าชาติ ไม่ว่าอะไรหรอกครับ แต่มันคงเกรงใจและรู้สึกไม่ดี ที่จะมาดูดให้พ่อแม่เห็น แค่เรื่องที่พวกเราเลือกเอนท์มหาลัยซะไกลบ้าน ก็คงทำให้พวกท่าน เป็นกังวลใจมากพอแล้ว
“พอดีเปรี้ยวปากหนะ”  เห!! มันไม่ได้นับหน้าเจ็ดหลังเจ็ดเหรอวะ ทำไมมันถึงพลาดได้
“มึงอยากกินอะไรเปรี้ยวๆ มั้ย มะดัน มะยมดอง มะขาม อร่อยนะเว้ย กินพร้อมยาดอง มีน้ำใบเตยแถมด้วย” ท่านเมฆไม่เน้นเครียดครับ เราเน้นฮา
“ ทะลึ่งแระเมฆ มานี่มา “ มันขาดการกระดิกนิ้วอีกนิดนะเนี่ย  ผมจะได้เดินไปหามันพร้อมกระดิกหาง
“มีไรวะ” ทำไมแอบรู้สึกอยากเอาหัวถูๆ ไหล่ มันวะเนี่ย
“เวลามึงมองดวงจันทร์  มึงเห็นอะไรวะ” มันเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบแบบไหนเนี่ย
“ตะวัน” มันออกมาเองครับ คำตอบนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอบแบบนี้
“ทำไมวะ”  งง แดกเลยครับ มันไม่ใช่คำตอบที่ได้แต้มหรืออย่างไร
“จะให้กูตอบว่างัยหละ ตอบว่า เวลาน้องเมฆมองดวงจันทร์ น้องเมฆ มองเห็นกระต่าย แบบนี้ใช่มั้ยครับพี่ฉาน”
เมื่อกี้ยังทำหน้าเครียดเป็นกูปรีหนีน้ำอยู่เลยนะมึง ที่ตอนนี้หละหลุดยิ้ม ถ้ามองไม่ผิด คิดว่า มันหลุดหัวเราะออกมาในลำคอด้วยนะเนี่ย
“เหมือนที่กูมองขึ้นไปทีไร ก็เห็นแต่ก้อนเมฆ อะเหรอวะ”  ฉึก!! ตรงกลางใจพี่เมฆเลยครับ
“ แนะ แนะ แน๊น๊น๊น๊.....จะบอกรักพี่เมฆทางอ้อมเหรอครับไอ้พี่ฉาน ถ้าพี่ฉานพูดแบบนี้ ให้แม่มาขอพี่เมฆเลยดีกว่าครับ”
เล่นกะมันหน่อยครับ โบราณท่านว่า เล่นกับหมา หมาเลียปาก แต่เดี๊ยวท่านเมฆคนนี้ จะดูดปากหมาฉานให้ดู หึ หึ
“มึงนี่น๊า  เคยเครียดอะไรกะใครเค้าบ้างมั้ยเนี่ย”  พูดอย่างเดียวก็พอมั้ง มือไม้ไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหน จับใข่ไว้ก็ได้
ทำไมต้องเอามาขยี้หัวกูด้วยว๊า  วัยรุ่นเซ็ง!!
“ กูได้กลิ่น  คะน้าปลาเค็ม จากไหนไม่รู้หวะเมฆ  ขมลงคอเลยเนี่ย” อะไรของมันวะ บนโต๊ะกินข้าววันนี้   ก็ไม่มีนะคะน้าปลาเค็ม
“ไหนวะ ฉาน จมูกดีไปมั้ย กูไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลย” ไม่ได้กลิ่นจริงๆนะครับ อันนี้ไม่ได้แกล้งเลย
ไอ้ฉานมันไม่หายสงสัยครับ มันฟุดฟิด ฟุดฟิด ดมหากลิ่นของมันไปเรื่อย  สงสัยสมองส่วนไฮโพธาลามัส ของมันจะประสิทธิภาพดีเป็นพิเศษ
“มึงไม่สระผมมากี่วันแล้วเมฆ “ เฮ้ย  อะไรวะ มันหากลิ่นคะน้าปลาเค็มอยู่ดีๆ ทำไมมาโผล่ที่หัวผมได้
“ 2 เอ้ย 3 หรือ 4 วะ  กูไม่แน่ใจหวะ” จำไม่ได้จริงๆครับ แหะ แหะ
“ก่อนนอนบนเตียงกูเนี่ย มึงกรุณาไปอาบน้ำสระผมใหม่เลยนะ ไม่งั้นกูไม่ให้นอนใกล้กูแน่” อ้าว แล้วเมื่อกี้หมาที่ไหน บอกมีเรื่องจะคุย แล้วให้มานอนที่ห้องมันเนี่ย
“ งั้น พรุ่งนี้เจอกันนะ กูกลับห้องกูแระ ฝันดีหวะ”  เหอ เหอ เลือกกลับห้อง ดีกว่าเลือกสระผมครับ ดึกแล้วหนาวจะตาย
สระผมก็ต้องอาบน้ำใหม่  เปลืองน้ำก็เปลือง แถมหัวไม่แห้ง ตื่นเช้ามาไม่จะทำไง ก็เดือดร้อนมันต้องมาดูแลผมอีก
“เมฆมึงจะอาบดีๆ หรือให้กูอาบให้ “ ขยันขู่จริงๆนะมึง
“ฉาน แต่กูง่วงแล้วนะ  อีกอย่าง มึงลองดูสิ เนี่ย ลมแรงมากเลย กูรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวด้วย ถ้าอาบน้ำสระผม กูอาจไม่สบายนะมึง จริงๆ นะฉาน มึงไม่สงสารกูเหรอ” ผมชักแม่น้ำมาครบทั้ง 5 สายยังครับ ถ้ายังไม่ครบ ขอแถมหน้าแบบหมาหงอยเข้าไปอีกหนึ่งสเตป
“พูดแบบนี้แสดงว่าอยากให้กูอาบให้สินะ มาสิ วันนี้กูโปรโมชั่นพิเศษ  แถมแก้ผ้าให้ด้วย ฟรี”
“มะ มะ ไม่ต้อง กูจัดการตัวเองได้ แต่มึงเป่าผมให้กูนะ โอเคมั้ย” ต่อรองมันซะหน่อยครับ กำไรไม่ได้ ถอนทุนคืนบ้างก็ยังดี
“เออ ลีลาเยอะจริงๆ “ ค่อนขอดกูจริงๆ สามารถเอามาต่อว่ากูได้ทุกเรื่อง อาบน้ำนานมันก็ว่า อาบน้ำเร็วมันก็ว่า เกิดเป็นท่านเมฆ มีดีที่หน้าตาอย่างเดียวครับ ที่เหลือ รู้สึกจะโดนหมาบ้ามาบงการ


ขณะนี้เวลา สองนาฬิกา ห้าสิบเก้านาที สิบวินาที
ขณะนี้เวลา สองนาฬิกา ห้าสิบเก้านาที สามสิบวินาที
ขณะนี้เวลา สองนาฬิกา ห้าสิบเก้านาที สี่สิบวินาที
ไอ้วิทยุบ้า คลื่นไหนไม่รู้ครับ มันจะนับเวลาทำไมนักหนา มันจะรอให้ สามนาฬิกา แล้วค่อยประกาศทีเดียว ก็คงไม่มีใครด่ามันหรอก นับอยู่ได้น่ารำคาญ คนกำลังเคลิ้มๆ
ตอนนี้ผมกำลังนั่งสัปหงก พิงอก ไอ้ฉานอยู่ครับ โทษฐานที่มันไล่ผมไปอาบน้ำสระผม มันเลยต้องชดใช้กรรม มาเป่าผมให้
สมน้ำหน้ามันครับ
“อืม ค่อยดมได้ขึ้นมาหน่อย “ สะดุ้งตกใจสิครับ ไม่ได้สะดุ้งที่โดนไอ้ฉานหอมหัวนะ เรื่องแบบนี้ปกติธรรมดา เราปฎิบัติกันมาแต่เด็ก แต่ที่ต้องสะดุ้งหนะ ก็ตอนไอ้ฉานมันก้มหน้าลงมาดมหัวผม ปลายดรายเป่าผม ก็จ่อตรงคอพอดี ร้อนสิครับทีนี้
“555 เป็นอะไร ร้อนเหรอ” เออสิวะถามได้ แมร่ง เอามือลูบๆตรงคอตอนนี้ยังอุ่นๆ อยู่เลยครับ
“เมฆ มึงชอบแบบที่เราอยู่กันแบบนี้รึเปล่าวะ” มันเอาดรายวางไปแล้วครับ เปลี่ยนมาเป็นเอามือมาเกี่ยวเอวผม แล้วโยกไปโยกมา เหมือนผู้ใหญ่กล่อมเด็กนอน กำลังจะเคลิ้มตามน้ำ นึกได้ ท่านฉานได้ตั้งคำถามไว้นี่หว่า
“ชอบสิ ก็อยู่กันมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่หว่า อีกอย่างกูก็ชินกับชีวิตแบบนี้แล้วด้วย ทำไมเหรอ เออ แล้ววันนี้ไหนมึงว่ามีเรื่องจะคุยกะกูงัย”
มันไม่ตอบอะไร นอกจากดึงตัวผมให้ล้มลงนอนข้างๆมันกำลังจะจัดท่าทางการนอนประจำตัว
“ กูว่า กูรู้สึกมากกว่าปกติหวะ “ อะไรของมันวะ รู้สึกมากกว่าปกติ ตลอดเวลา มันก็ไม่เคยปกติกะผมอยู่แล้วนะ
“ยังงัยวะฉาน ที่ว่า ผิดปกติ โอ๊ยยยยยยยย ตบหัวกูทำไมเนี่ย “ ตลอด ตลอด ไหนว่าบัณฑิตเค้าใช้ปัญญา แล้วทำไมไอ้ห่านี่ชอบใช้กำลังกะท่านเมฆจังวะ กูอะ พระอิศวรนะเว้ย เดี๋ยวเจอกูสวนแล้วจะหนาว
“ก็มึงอะน๊า เป็นซะแบบนี้ จะไม่ให้กูห่วงได้งัย จะให้กูปล่อยมึงให้คลาดสายตาได้ไง” ก็ใช่อะดิ ท่านเมฆ เป็นมนุษย์สปีชีย์ ต้องการได้รับการเอาใจอย่างสูง ใครๆก็อยากมาดูแลกันทั้งนั้นแหละ
“ก็ถูกต้องแล้วงัย นี่มึงทำไมมาคิดได้เอาตอนนี้วะ “ เอานิ้วจิ้มหน้าผากมันไปทีครับ ก่อนจะดึงมึงมันออกมารองรับหัวผม อันนี้ไม่ได้อ้อนนะครับ เรื่องนอนหนุนแขน ผมก็ทำเป็นประจำเช่นกัน แต่ไม่ทั้งคืนหรอกครับ พอต่างคนต่างหลับไปแล้ว
แต่ละคนถนัดวาดลีลาตอนนอนท่าไหน ก็ฟรีสไตล์ครับ
“ไม่รู้สิ ตอนกูตามหามึง แล้วเจอไอ้ดิวบอกกูว่า พี่เด่นพามึงไปขึ้นครู ตอนนั้นกูหัวเสียมาก วิบทั้งมึง วิบทั้งพี่เด่นแต่ที่มากกว่านั้น กูเป็นห่วงมึง จนเรียกได้ว่าหวง มึงว่าแบบนี้ มันคือความรู้สึกที่มากกว่าปกติป่าววะ” อืมมมมมมม อันนี้ก็น่าคิดนะครับเนี่ย
“ ไม่หรอก มันคงเป็นเพราะ กูเพิ่งเจอเรื่องนี้ครั้งแรกมั้ง มึงเลยห่วงกู กลัวกูทำไม่เป็นใช่มะ กลัวกูจะเป็นขี้ปากไอ้พวกนั้นว่าไม่เอาไหน ใช่ป่ะ “ มันอึ้งไปครับ บอกแล้วเห็นมั้ย ระดับสมองอย่างท่านเมฆ ซะอย่าง เรื่องแบบนี้ ท่านเมฆชนะขาด
“แต่ฉาน ตอนที่รู้ว่า มึงตามหากูแทบคลั่ง เหมือนตอนนั้นอ่ะ กูดีใจมากเลยนะ สุดๆไปเลยอะมึง กูรู้สึกว่า กูไม่เคยอยู่คนเดียวในโลกอีกเลย ตั้งแต่มีมึง มีแม่นิ่ม “ ผมเอาหัวถูๆกับอกมันครับ ไม่ใช่คำพูดที่อยากจะเอาใจ แต่มันเป็นคำพูดที่มาจากใจจริงๆครับ แปลก ผมไม่เคยคิดถึงอนาคตข้างหน้า ไม่เคยจินตนาการว่าต่อไป ผมจะมีชีวิตแบบไหน ไอ้ฉานจะตกลงมีครอบครัวกับใคร ผมไม่เคยเก็บมาคิดครับ เพราะทุกวันนี้ ไม่ว่าผมจะอยู่ตรงไหน ทำอะไรอยู่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการแค่เรียกกำลังใจในการทำอะไร ไอ้ฉานมักเข้ามาอยู่ในกรอบสายตาทุกครั้งที่ผมมองหาเสมอ
เพราะฉะนั้น อะไรที่คิดไปแล้วทำให้ผมกะมันไม่ได้เดินอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ก็ไม่รู้จะคิดทำไมให้บั่นทอนจิตใจครับ พรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็ช่างแม่ง วันนี้ผมยังมีมัน และมั่นใจว่าพรุ่งนี้ผมก็ต้องมีมัน แค่นี้เองครับแรงใจอันน้อยนิดแต่ยิ่งใหญ่ของพระอิศวรอย่างผม
“อืม กูบอกแล้ว ว่ากูอะมองไปบนฟ้าทีไรก็เห็นแต่ก้อนเมฆ เหมือนที่มึงมองขึ้นไปแล้วเห็นตะวันนั่นแหละ นอนเถอะ กูไม่มีวันทิ้งมึงแน่ กูสัญญาเลยเมฆ ไม่ว่าจะตอนไหน มึงคือคนสำคัญที่สุดของกูเสมอ” อุ่นใจจังครับ คำพูดนี้ ผมถือว่าเป็นคำสัญญาได้มั้ย ถึงเราจะพูดตอนที่สติกำลังจะหลุดลอยไปจากร่าง ถึงมันอาจจะพูดแค่กล่อมให้ผมหลับ แต่ทำไมประโยคนี้ดังอยู่ในหัวตลอดเวลา วนไปวนมาเหมือนบทเพลง จากที่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนค่อยๆเบาลงในที่สุด
อา คืนนี้ไอ้เมฆนอนหลับฝันดีแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 19-03-2010 15:38:16
เมฆความรู้สึกช้า
เมฆไม่เก็ทที่ฉานพูดเหรอ
บรรยายเรื่องได้ตลกดี
เออ..ตกลงเมฆเรียนศิลปกรรมหรือศิลปศาสตร์อ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 19-03-2010 15:50:10
^
^
^



เมฆมันเรียนศิลปกรรมค่ะพี่.....ถ้ามีพลาด คนโพสไม่ผิด น่าจะผิดที่คนแต่งนะ  :laugh:

เมฆมันโง่ เฉพาะเรื่องร๊ากกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 19-03-2010 16:24:02
โอย.......ยิ้มจนเมื่อยแก้มกะความน่ารักของพี่ฉานกะพี่เมฆ
ชอบจังแล้วมาต่อเร็วๆ นะคับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 19-03-2010 16:37:17
ปาติบัดหน้าที่ คับป๋ม อิอิ   :z2:
ชอบจังเลยอะ  ฮาแบบหวานซึ่ง  ฮู้ยยยยยยย   น้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ดๆ   :pighaun:
เมฆ(เคะ) กับตะวัน(เมะ)  เหอๆๆๆๆ  :haun4:  น่าจะมีซีนลักหลับมั่งนะ  ชอบๆๆ :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-03-2010 17:20:10
เห็นด้วยกะรีบน เมื่อไหร่มันจะกดกันสักที  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 19-03-2010 17:46:26
^
^
^

ป้าเเก่เเล้วเพลาๆเรื่องึวามหื่นหน่อย  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 19-03-2010 20:58:48
คนนึงมองเห็นแต่ตะวัน อีกคนมองเห็นแต่ก้อนเมฆ

สองคนนี้ไม่ต้องมองไปที่อื่นแล้ววว แค่มองกันและกันก็พอ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 19-03-2010 22:02:54
โอ๊ยยยยยยย ไม่รู้จาเม้นไรดี :-[

 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-03-2010 22:05:28
นี่ขนาดยังไม่รู้ตัวกันนะเนี่ย ยังดูแลกันขนาดนี้ น่ารักดีอะ   :m3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 19-03-2010 22:48:16
ความผูกพันเกิดเป็นความรัก

น่ารักดี รออ่านต่อครับ

 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 20-03-2010 00:26:55
 :z2: :z2: :z2:
ไม่ช้าไำม่นานคนเขียนจะจัดตัวละครบางตัวให้เกินเข้ามาทำลายคำสัญญาในตอนนี้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 20-03-2010 00:50:42
 :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 20-03-2010 01:02:26
  :seng2ped: มาเจิมนิยาย คุณเจ้ คับ
 เมื่อไหร่ ท่านฉาน กะคุณเมฆ จะร่วมหอลงโรง กันซะที ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 20-03-2010 01:14:00
ทำไมกุไม่มีคนดูแลแบบนี้บ้างวะ 5555

วิบเลย เหรอ อิอิ วิบจิงๆอะ  วิบคืออะไรเหรอ 55555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 7 ,19 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 20-03-2010 01:52:34
เป็นผัวเมียกันจริงๆซะทีเด๊ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 20-03-2010 14:34:36
(http://image.ohozaa.com/iy/rbrd8.jpg)

ตอนที่ 8

“อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส เราเบิกบานรีบมาเร็วไว ยิ้มรับวันใหม่ยิ้มให้แก่กัน”



“ เมียจ๋า ตื่นได้แล้วมั้ย สามีหิวจนจะตายอยู่แล้ว” คุณๆ อาจจะเกิดความสงสัย ว่าใครงัดเอาเพลงสมัยอนุบาลมาร้อง
ถ้าไม่ใช่ ไอ้ (เดร) ฉาน  อารมณ์เบิกบาน กวนตีนกูแต่เช้าเลยนะมึง อย่าไปสนใจเรียงนกเสียงหมาฉานครับ


ผมมุดลงใต้ผ้านวมด้วยความไวแสง แดดร้อน ลมแรง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟถล่ม ไม่มีผลใดๆ ต่อการนอนทั้งสิ้นครับ

“เมียร๊ากกกกก “ ผมมุดได้ ไอ้ฉานมันก็ตามมาดึงออกได้ครับ ไม่ใช่แค่นั้น มันเอาปลายเท้ามาเขี่ยๆท่อนขาผม พอเห็นว่าไม่เข้าท่า มันงัดวิชายุทธ โค่นเซียนออกมา วิชานั้นว่าด้วยการ  กางนิ้วหัวแม่เท้าออกห่างจากนิ้วชี้ เล็งดีๆ ตรงเนื้อน่อง จากนั้นหนีบเข้าหากัน แล้วบิด .......ถ้าใช้วิชายุทธขั้นนี้แล้ว

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์!!!!!!!!! สะดุ้งลุกขึ้นนั่งยังกะจับวางทันทีครับ
ลองดูสิ เวลาคุณเคลิ้มๆ สะลึมสะลือหนะ   แล้วโดนใครมาทำแบบนี้ ไม่รอดสักรายครับ เจ็บจริงจัง

“ไอ้เหี้ยฉาน  มึงเล่นอะไรของมึง กูจะนอนนนนนนนนนนนนนนนน เจ็บนะไอ้เชี่ยยยยย”    มันจะเข้าใจภาษาคนมั้ยเนี่ย เมื่อคืนผมปั่นโปรเจค เพิ่งได้นอนตอนฟ้าสาง  มาโดน มารผจญแบบนี้อีก

ชาติหน้ากูขอเกิดมาหน้าตัวเมียยก!!!!! เกี่ยวมั้ย ไม่เกี่ยวเหรอ เห็นพระเจ้าชอบแกล้งคนหน้าตาดี

“แต่มันเที่ยงแล้วน๊า” แล้วจะทำเสียงปัญญาอ่อนเพื่อ

“ก็ช่างเที่ยงมันสิ    กูจะนอนก็คือกูจะนอนนะฉาน มึงเลิกระรานกูก่อนได้ป่ะ
“แต่กูหิว” มันยังมีหน้ามาโอดครวญ ไปตายไป๋ ไอ้ กร๊วกกกกกกกกกกก
“แล้วกูเหนี่ยวท้องมึงเอาไว้ตอนไหน” อารมณ์หงุดหงิดครับ เริ่มอยากเหวี่ยง
“มึงลุกมาผัดมาม่าให้ผัวหน่อยสิ นะ แล้วค่อยนอนต่อ “ เฮ้ออออออออ ยังจะออกเสตปกวนตีนกูได้อีก
“นะเมฆนะ จริงๆแล้วถึงมึงง่วง มึงก็ต้องลุกขึ้นมากินนะ แล้วค่อยนอนต่อ ไม่งั้นกระเพาะถามหานะมึง”
มันจะมามีเหตุผลอะไรเอาตอนนี้ว๊า  เอาเถอะครับ โดนก่อกวนซะขนาดนี้ ตื่นก่อน แล้วค่อยมานอนทีหลังก็ได้
ผมผิดเองที่ก่อนนอน ลืมล็อคห้องไว้
“พี่ฉานรักน้องเมฆที่สุดเลยนะ น้องเมฆที่สุดเลยนะ ที่สุดเลยนะ “(มันตะโกนเป็นเสียงแอคโค่)

ไอ้ห่าฉานมันปัญญาอ่อนปกติมันอยู่หน้าเพื่อนๆ มันก็ปัญญาอ่อนบ้างนะครับ แต่ถ้าอยู่ในที่สาธารณชน ส่วนใหญ่ มันจะวางมาดขรึม แต่เวลามันอยู่กับผม มันปัญญาอ่อน คูณสิบยกกำลังห้า

องค์อิศวรจำต้องตื่นบรรทม สลืมสะลือ ออกมาจัดหาอาหาร ให้ (เดร) ฉาน อย่างมัน  แล้วมันใช่เรื่องของกูมั้ยเนี่ย
ตอนหิวมันหิวคนเดียว แต่คนที่เดือดร้อนคือผม

อ้าว!!!!

ไอ้ฉานมั้นต้มน้ำร้อนรออยู่แล้ว ไอ้เชี่ยนี้หัดเตรียมการล่วงหน้า เหมือน นปช เลยนะมึง
ช่างแมร่งครับ ไหนๆก็ลุกมาแล้ว ผมรื้อๆ ในตู้ครัว ได้มาม่ารสอะไรมาไม่รู้สองสามห่อ
อย่าได้สนใจในความต่างครับ ผมง่วงผมไม่ผิด แกะห่อได้ โยนโครมลงไปในหม้อนั่นแหละครับ
ผมกำลังจะแกะห่อเครื่องปรุงมารวมกัน และจะหันไปเปิดตู้เย็น หาร่องรอยอารยธรรมของผัก และเนื้อสัตว์

“เดี๊ยวกูผัดให้นะ” ไอ้หมาฉานนนนนนนน แล้วมึงจะปลุกกูมาหาขี้เกลืออะไร ผมหยิบผักหยิบหมูวางบนเคาน์เตอร์ได้
และกำลังจะหันหลังกลับไปนอน ก็มีอันให้ต้องมีมือมารมารั้งแขนผมไว้ จนได้สิน่า

“เมฆ แล้วใครจะปรุงให้กู กูปรุงเอง กินไม่ได้ แล้วใครจะรับผิดชอบ มึงมาปรุงก่อน นะ นะ มึงปรุงอร่อยสุดแล้ว”
มันยากตรงไหนวะครับ มันยากตรงไหน

ปรุงอร่อยที่สุดที่มันว่า

ผมแค่เอาเครื่องปรุงมารวมกัน กดน้ำร้อนใส่นิดนึงแล้วคนให้ละลาย ใส่ลงไปตอนผัดเส้นผัดหมู แล้วค่อยใส่ผัก แค่เนี๊ย
ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะใส่อะไรเพิ่ม ไม่ว่าใครก็ทำสูตรนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ถ้วยตวง แล้วไอ้บ้าฉาน มันเอาที่ไหนมาพูด ว่า

ผมทำอร่อยสุด

แต่เอาเถอะครับ เห็นแก่ที่มันพยายามทำสายตาละห้อยใส่ อีกอย่าง ผมเองก็เริ่มหายง่วงแล้ว และรู้สึกหิวบ้างแล้วเหมือนกัน ทำให้มันก็ได้ นี่เห็นแก่ตัวเองหรอกนะ ไม่งั้นไอ้ฉานเจอท่านเมฆเหวี่ยงแน่

“เอ๊ก อุ้งอี้ อะนะอู เอิดอับ เอะใอ่ ไอ เอี่ยว เอ่น อัน อั้ย” เชี่ย มาม่า เต็มปาก ยังอยากแสดงความพยายาม

“เอื๊อก อืม ....... ก็พรุ่งนี้คณะกูเปิดรับเด็กใหม่ มาติว ความถนัดงัย ไปเที่ยวคณะกูมั้ย” ก็แล้วถ้ามันกลืนก่อนค่อยคุยตั้งแต่แรก ป่านนี้รู้เรื่องไปนานแล้ว
“ไปสิ เผื่อมีสาวงาม ท่ามกลางอสูรอย่างพวกมึง เด็ก ม.ปลาย กำลังน่ารัก” เคลิ้มครับเคลิ้ม ปีนี้เป็นปีแรกที่ไอ้ฉาน มีสิทธิ์สอนวิชานี้น้องได้ ปีที่แล้ว มันได้แค่ไปแอบมองน้องๆ ม.ปลาย ปีนี้ มันได้เลื่อนขั้นเป็นพี่สตาฟ สอนน้อง ปีสองขึ้นไปครับถึงจะทำได้

ปัด ถา ปัด ถาปัด ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ ว่าง ว่างไม่มีอะไรทำ
ถาปัตยากรรม ถาปัตยากรรม  ถาปัตยากรรมรูปหล่อทุกคน ถาปัตยากรรมรูปหล่อ ทุก ทุก คน

มีคณะเดียวครับ ที่สามารถเอาเพลงสองเพลงที่ไม่มีคำร้องที่เกี่ยวข้องกันเลย มา Feat.กันได้อย่างน่าแสบแก้วหูเป็นที่สุด

ผมกะไอ้ฉานเดินลัดเลาะเข้ามาข้างคณะผม เพื่อจะเดินไป ถาปัตย์ ครับ ที่ต้องมาอ้อมคณะผมก่อนเพราะ ไอ้ฉานต้องจอดรถที่คณะผม เนื่องจากคณะมันเป็นเกาะกลางน้ำ ไม่อนุญาติให้เอารถไปจอด ให้สูญเสียทัศนียภาพ แต่อนุญาติให้เดือดร้อนคณะบ้านใกล้เรือนเคียงได้ ดีจริงๆ


น้องปี๊หนึ่ง (ตะลึง ตึง ตึง ..เสียงกลองประกอบ) รู้รึเปล่า
ว่ามีใคร ว่ามีใคร เค้าแอบหมายปอง
พี่คนนั้น (ชี้มาที่ไอ้ฉานและผม) เค้าอยู่ปีส๊อง
เค้านัดเจอน๊อง ที่หน้า คณะ ทู๊กวัน
(ทุ๊กว๊าน ทุกวัน)


“อ้าว น้องๆ ปรบมือต้อนรับ พี่ฉานแสงแรงกล้า แห่ง เตคเพียวปีสองหน่อยคร๊าบบบ”

“ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววว” คอรัสร้องขอส่วนบุญต้องตามมาอยู่แล้วครับ

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

นี่เป็นเสียงน้องๆ ที่นอกจากจะตบมือกันอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วไม่สะใจพอ ประโคมเสียงกรี๊ดดดดดดดดมาให้ชุดใหญ่

“แล้วก็ขอเสียงปรบมือต้อนรับ สะใภ้ถาปัตย์ พี่เมฆครับพี่เมฆ เดคคอเรทีฟ ดีไซน์ จากศิลปกรรมบ้านใกล้เรือนเคียงเรานี่เองครับ” เฮ้ยยยยยยยย แล้วเอากูไปเกี่ยวด้วยทำไมเนี่ย อึ้งครับ แต่ที่อึ้งกว่าคือ มองไปที่กลุ่มน้องๆ ทุกคนง้างมือค้าง
เหมือนโดนเวทมนต์ เสกให้เป็นหินครับ ผมซีดเลยสอทีนี้ ไอ้พี่โก้ มันเล่นเข้าแล้วงัย
แต่ชั่วอึดใจเดียว

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
มันตามมาด้วยเสียงแสบแก้วหูแบบนี้ครับแล้วถึงจะประโคมเสียงปรบมือ ที่ผมไม่รู้ว่าจะแปลโค๊ดจังหวะมือพวกนี้ว่ายังงัยดี

“พี่ฉานออกจะหล่อ   พี่ฉานเป็นเกย์เหรอค๊า       

ว๊า!!!!  พี่เมฆก็น่ารักดี  แต่ทำแบบนี้เสียของจริงๆ เลยนะ” ผมได้ยินประโยคประมาณนี้ ดังออกมาจากน้องๆที่มาสมัครเรียนติวครั้งนี้ครับ นอกจากนั้น สาวๆยังมีหันหลังไปแอบซุบซิบ จนตอนนี้ มีสภาพเหมือนนกแตกรัง ยังงัยยังงั้นเลยครับ
ผมเดินหลบไปนั่งกะเพื่อนคนอื่นๆ ของไอ้ฉาน กะมาดูสาวๆๆฟรี งานนี้มาอายซะงั้น

“พอๆ น้องๆ ตื่นเต้นดีใจกันแค่พอประมาณ สนใจพี่โก้บ้าง แหมๆ พอมาริโอ้มา ก็ไม่สนใจศรรามคนนี้เลยนะ “นี่แหละครับคณะนี้ ปากประมาณนี้ทุกคน แล้วแต่ใครจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กะความละตินส่วนตัว
“ เอาหละ พี่ฉาน จะเป็นหนึ่งในสต๊าฟ ติวในครั้งนี้นะครับ เดี๊ยวพี่ฉานจะจับฉลาก ว่าจะได้ดูแลน้องๆ บ้านไหน”
ไอ้พี่โก้คนเดิมครับ มันอธิบายขั้นตอนการแบ่งทีมสอน ก่อนจะทำการสอน เค้าจะแบ่งน้องๆ เป็นกลุ่มๆ ครับ
กลุ่มละประมาณ 15 คน แล้วก็ให้พี่ปี 2 ที่เป็นสต๊าฟ ที่โดนรุ่นพี่ปี 5 ได้คัดเลือกไว้แล้ว มาจับฉลาก ว่าจะได้ทำการสอน น้องๆ กลุ่มไหน บางปีก็ตั้งชื่อแต่ละทีมตามชื่อละครที่ดัง ตามชื่อพรรคการเมือง ตามชื่อหมอดู ตามเขตการปกครอง แล้วแต่พี่ปีที่สูงขึ้นไปเค้าจะคิดได้นั่นแหละครับ ส่วนปีนี้

“ขอแสดงความยินดีกับบ้านกริ๊ฟฟินดอร์ครับ ที่ได้พี่ฉานไปดูการการเรียนการสอนให้” ผมว่า ไอ้พี่ที่คิดชื่อทีมของปีนี้ มันต้องเป็นญาติกับแฮรี่พอตเตอร์แน่ๆ
หลังจากที่ระอาใจกับความวุ่นวายของการจัดการเรียนติวของคณะไอ้ฉานแล้ว ผมเองตอนนี้เริ่มมองหาอะไรทำครับ
เป็นคนอยู่นิ่งไม่ค่อยได้ นิ่งเป็นต้องหลับครับ ขณะที่กำลังคิดว่าจะหนีไปพักสายตาที่เดคไม้ คณะตัวเองดีมั้ย
“พี่เมฆ ใช่มั้ยค่ะ พี่เมฆก็เรียนดีไซน์เหมือนกันใช่มั้ยค่ะ จะรังเกียจมั้ย ถ้าจะช่วยสอนวาดเส้น ฟางหน่อย ฟางอ่อนมากถึงมากที่สุดอะค่ะ ถ้าเรียนรวมกับเพื่อนในกลุ่ม ฟางต้องไม่พัฒนาขึ้นแน่ๆ นะคะพี่เมฆ “ เอ่อ คือผมไม่ได้รู้จักน้องคนนี้มาก่อนครับ และผมคิดว่า น้องรู้จักชื่อผมตอนไอ้พี่โก้มันแซวนั่นแหละ แต่ทำไมอยู่ดีๆ น้องถึงมาให้ผมช่วยสอนให้ ความจริง มันก้ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอกครับ วาดเส้น เป็นพื้นฐานศิลปะทั่วไป เอาไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งคณะผมและคณะไอ้ฉานนั่นแหละ แต่มันอาจจะไม่ดีตรงที่ มาสอนข้ามคณะกันเนี่ย  คงไม่ดีมั้ง  ถึงแม้คณะผมและคณะไอ้ฉาน จะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันก็เถอะ

“คงไม่ได้หรอกครับน้อง พี่เมฆเค้าอยู่คนละคณะ ไม่ได้มีหน้าที่เป็นพี่สต๊าฟ ถ้าน้องคิดว่า ติวเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ แล้วพี่ดูแลดีไม่พอ น้องจะเปลี่ยนใจไปติวกับสถาบันไหน พี่ก็ไม่ว่านะครับ” ไอ้ฉานครับ ไม่รู้มันโผล่มาจากไหน เทศนาซะน้องเค้าซะหน้าซีดเลย สงสารก็สงสารน้องนะครับ แต่นี่ก็ไม่ใช่หน้าที่ผมเช่นกัน อีกอย่าง ไอ้ฉานโหมดนี้ มีให้เห็นไม่บ่อยหรอกครับ

=================================================
สั้นไปป่าวมะแน่ใจ ยังงัยคืนนี้จะพยายามมาลงให้อีกตอน ไปเข็นคนเขียนก่อน ไม่ส่งต้นฉบับเลยช่วงนี้  :beat:
ขอบคุณทุกคอมเมนท์มากๆจ้า  o14 o15
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 20-03-2010 15:00:35
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 20-03-2010 16:31:47
 :a5:  มาเม้นต์ก่อน
ค่อยไปอ่าน  ได้ข่าว โดนเฮียด่าดิคับ คนแต่ง  ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 20-03-2010 16:54:08
 o13

+1 จัดไปโลดดดด ชอบๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 20-03-2010 17:09:43
อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส เราเบิกบานรีบมาเร็วไว ยิ้มรับวันใหม่ยิ้มให้แก่กัน เพื่อนๆครบหน้า พี่น้องพร้อมหมู่ ต่างมาดูรายการสุขสันต์ เจ้าขุนทองขับขานแล้วนั่น เจ้าขุนทองขับขานแล้วนั่น เพื่อนผองมากัน ยินดีปรีดา
บ้างร้อง (บ้างร้อง) บ้างเล่น(บ้างเล่น) ทั้งเต้น ส่งภาษา ขับขาน เจรจา เริงร่า กับขุนทอง
เจ้าขุนทอง (ฮุยฮา ฮุยฮา)
เจ้าขุนทอง (เจื้อยแจ้วเจรจา)
เจ้าขุนทอง (ฮุยฮา ฮุยฮา)
พบกับเจ้าขุนทอง ที่ช่องเจ็ดนะคร๊าบบบบบ  :jul3:
บ่งบอกว่าตูแก่  :laugh: 
ชอบจัง ฉานโหมดขี้อ้อนเนี่ยะ  :z1:
โหมดหึงหวงก็น่ากลัวไช่หยอก  :fire:
แต่ๆๆ.....อยากเห็นฉานโหมดหื่นจังเลยอ่า  :haun4:   พลีสสสสสสสสส :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 20-03-2010 17:20:24
นางตะวันฉานนน

หึง เเรงไปมั้ย

กรั๊ก ๆ

สงสารพี่เฆฆจัง อย่ายอมให้พี่ฉานกดขี่น๊า  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 20-03-2010 17:34:57
นางตะวันฉานนน

หึง เเรงไปมั้ย

กรั๊ก ๆ

สงสารพี่เฆฆจัง อย่ายอมให้พี่ฉานกดขี่น๊า  :z3:

แต่ดูๆแล้วนี่นายฉานแสงแรงกล้านี่น่าจะชอบทั้งกดทั้งขี่นายก้อนเมฆนาาาา  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 20-03-2010 21:10:52
ฉานเหวี่ยงน้องฟาง

น่าสงสาร มาต่อไวๆนะครับ

ไงคืนนี้ จะรอตอนต่อไปครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 20-03-2010 23:35:14
เป็นแบบนี้ก็น่ารักดี ไม่ต้องรู้ว่าคบกันแบบไหน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 21-03-2010 01:56:42
คณะนี้แม่งปากงี้ทุกคนเลยป่าวหว่า   น่าจะจิง5555

เออนะ ดีเนอะ ชอบแต่กด ขี่  พี่เมฆของเค้า อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 21-03-2010 02:04:05
เรื่องนี้ยังไปไม่ถึงไหน แต่อยากอ่านเวอร์ชั่น

เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “เมฆ” ซะแล้วสิ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 21-03-2010 02:18:06
ตอนเช้า(หรือเที่ยง?)ก็มาอ้อนๆๆซะน่าโดนถีบ  o6

พอมาคณะว่าที่สามีก็โดนแซวซะเขินนนนนเล่นเอาหลบ(หลังเพื่อน)ไม่ทัน  o22

พอน้องที่คณะตัวเองมาหาว่าที่สะใภ้คนนี้ให้ไปช่วยสอนเขาหน่อยก็หึงซะจนน้องหน้าซีด(มึงเป็นพี่ที่ดีไหมมมม)  o12

แบบนี้น่าโดนถีบม้ายยยยยยยยยย  :m31:   <--- เสียงเพรียกร้องจากใจนายเมฆ    :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 21-03-2010 02:30:40
เป็นแค่น้องติว ยังแรงซะ
ถ้าได้มาเป็นน้องคณะ
นายฉาน คงต้องอยู่โหมดนี้อีกนาน
 :laugh: o18

+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 21-03-2010 12:22:32
เมื่อไหร่น้องเมฆ จะฉลาดด   เมื่อไหร่ เมื่อไหร่  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 21-03-2010 12:26:27
 :z13:ตูน
เมื่อไหร่น้องเมฆ จะฉลาดด   เมื่อไหร่ เมื่อไหร่ 
เมื่อคนแต่งฉลาดมั้ง :m20:
จะมาต่อยังจ๊ะ อยากอ่านอ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 8 ,20 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 21-03-2010 12:45:22

เมื่อคนแต่งฉลาดมั้ง :m20:


 :laugh: :laugh: :laugh:เห็นด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 21-03-2010 15:50:46
สปอยๆ นางร้ายปรากฏแล้ว  :jul3: เค้าจูบกันแน่แล้ว คึคึ
===============================

(http://image.ohozaa.com/iy/rbrd8.jpg)

ตอนที่ 9

น้องฟางเดินออกไปหาเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มแล้ว จากที่ดู น้องเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะมีเจตนาไม่ดีหรอก แต่น้องเค้าคงลืมคิดก่อนพูด คำพูดของน้องเลยออกมาในแนวที่ทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ ไอ้ฉานเองมันก็คงจะรู้สึกไม่ดี ที่ยังไม่ทันจะได้ติวกันเลย แต่กลับมีคนออกมาพูดในทำนองไม่เชื่อใจ ผมรู้นิสัยไอ้ฉานดี มันเป็นคนที่ทำอะไรแล้วจะทุ่มเทมาก และมันเองก็คงเกร็งไม่น้อย ที่ได้รับเลือกให้เป็นสต๊าฟ สอนติว ถึงแม้ว่าไอ้ฉานมันจะเก่งเรื่องเรียนสักแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
คนเรียนเก่ง จะเป็นคนที่สื่อสาร ให้คนอื่นเข้าใจได้เก่ง ผมเองก็ยังลุ้นและหวังว่า ไอ้ฉานมันจะสอนได้ดีเหมือนกับการเรียน


ปกติไอ้ฉาน มันจะคุยเก่งและสนุกสนานเฮฮา เป็นไอ้บ้าฉาน เฉพาะกับคนที่มันสนิทด้วย หากคนที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้สนิทกัน
มากนัก ไอ้ฉานในสายตาคนเหล่านั้น จะเป็นคนเงียบๆที่ติดจะดูหยิ่งๆ ด้วยซ้ำ
ออกแนวมนุษย์สัมพันธ์แย่กับคนแปลกหน้า


ผมเดินตามหาไอ้ฉานไปทั่วคณะ เห็นมันมานั่งสงบสติอารมณ์อยู่ริมน้ำ

“ เอาตีนลงไปแช่น้ำดับร้อนเหรอวะฉาน  มึงท่าจะร้อนมากนะเนี่ย ควันออกทั้งทางจมูก ทางปากเลยเนี่ย” มาแนวเนียนๆ จะได้ผลมั้ยเนี่ย
เงียบ เป็นคำตอบที่ท่านได้รับ ปฎิบัติการนี้ล้มเหลว

การปลอบใจไอ้ฉาน เป็นอะไรที่สร้างความกลุ้มใจให้ผมเสมอครับ ไม่รู้ต้องเข้าหามันด้วยอารมณ์ไหน ในสถานการณ์แบบนี้ การปลอบใจไอ้ฉาน ไม่มีหลักการตายตัวครับ เรียกว่าต้องมั่วแบบเดาสุ่ม
ซึ่งวิธีการกวนส้นตีน ในครั้งนี้ ไม่ได้ผลครับ

“ ฉานมึงก็อย่าคิดมากเลยนะ  น้องเค้าคงเป็นเด็กโดนพ่อแม่ตามใจอะมึง พูดอะไรไม่ทันคิด หรืออาจจะคิด แต่เรียบเรียงคำพูดไม่ถูก” เหมือนครั้งนึง ตอนที่ผมกะไอ้ฉานรู้จักกันได้ไม่นานเท่าไหร่ แม่นิ่มคงกลัวว่า ผมกะไอ้ฉานจะเข้ากันไม่ได้ กลัวจะเล่นกันแล้วทะเลาะกัน แบบเด็กๆทั่วไป ที่ไม่ได้ดั่งใจก็งอแงตีกันซะงั้น แต่พอผ่านไปสักพักก็กลับมาเล่นกันใหม่
“ ฉาน น้องเมฆดีกะฉานมั้ย เล่นกันไม่มีปัญหาอะไรกันใช่มั้ยลูก” แม่นิ่มถามความเห็นไอ้ฉานที่มีต่อผม ซึ่งความจริง แม่นิ่มควรถามผมมากกว่า ว่าไอ้ผู้กำกับแห่งชาติคนนี้ มันดีกะลูกแม่นิ่มรึเปล่า มันสั่งเอาๆ แม่จะรู้มั้ย
“อือ...”
“พูดกะผู้ใหญ่ก็ไม่เพราะ ครูสอนจำไม่ได้รึงัย พูดกับผู้ใหญ่ต้องมีหางเสียง” ไอ้ตัวดีมันตวัดสายตาอาฆาต กลับมาทันที
“ ครับ เมฆก็ดี ไม่กวนใจอะไรฉาน” ใช่สิไอ้หน้าลิง กูจะกล้ามีอะไรกะมึง มึงมันมาเฟียดีๆ นี่เอง กูหือกะมึง กูต้องเจอสมุนมึงกี่ตีนหละ คนอย่างท่านเมฆหน้าตาดีไม่พอหรอกเว้ย ฉลาดด้วย
“แล้วฉานชอบน้องเมฆมั้ย” แม่นิ่มอย่าถามเลยครับ น้องเมฆกลัวคำตอบ จะออกแนวดีก็ยังขัดใจ อะไรประมาณนี้
“รักครับ” หือออ มันตอบแบบนี้จริงๆ นะครับตอนนั้น
“ตอบก็ไม่ถูก” ผมในตอนนั้น หมายถึงไอ้ฉานมันตอบไม่ตรงคำถามแหละครับ

คิดถึงตอนนั้นทีไร อดยิ้มไม่ได้ทุกที ไอ้ฉานมันน่ารัก เข้าหาผู้ใหญ่เก่ง ใครๆก็รักมัน บางทีผมก็อยากจะได้สักครึ่งนึงของมัน
ผมนั่งลงข้างๆมัน เอาเท้าจุ่มน้ำแล้วแกว่งเล่น โยกตัวไปมากระแทกไหล่ไอ้ฉานเล่น

“เมฆ มึงจะสั่นขาหาอาม่ามึงเหรอ แล้วโยกตัวมากระแทกไหล่กูอีก เดี๋ยวกูจับลากลงน้ำกินทั้งสดๆซะดีมั้ย” แค่นี้ก็พอครับ แค่นี้มันก็เพียงพอทำให้ผมยิ้มได้แล้ว แค่ไอ้ฉานยอมพูด แค่มันกลับมากวนตีนผมเหมือนเดิม ต่อให้มันกวนตีนผมหนักกว่านี้ ผมก็จะไม่ว่ามันครับ เพราะถ้ามันกวนตีนได้ แสดงว่ามันใจเย็นลงเยอะแล้ว

“พี่ฉานค่ะ” น้องฟางนั่นเองครับ เดินมากะเพื่อนคนนึง น่าจะมาเรียนติวด้วยกันนั่นแหละ
“ฟางขอโทษนะคะพี่ ฟางไม่ได้ตั้งใจจะหมายความว่า พี่ฉานไม่ดี ดูแลกลุ่มเราได้ไม่ทั่วถึงนะค่ะ ฟางขอโทษจริงๆค่ะฟางใจร้อนไปหน่อย พอดีตอนแรก แม่ฟางบอกว่า ให้มาสมัครติวที่นี่คะ แล้วพอสมัครเสร็จ ก็ให้หาพี่สักคน ขอให้เค้าสอนแบบตัวต่อตัวหนะค่ะ เพราะฟางอยากเรียนคณะนี้จริงๆ นะคะ แต่ฟางไม่ได้ฝึกความถนัดเลย ถ้าจะเรียนแบบตัวต่อตัวกับสถาบันติว ก็ยิ่งไม่มีโอกาสใหญ่เลย อีกอย่างถ้าเรียนกันเป็นกลุ่ม ฟางกลัวจะเป็นตัวถ่วงให้กลุ่มอะค่ะ” น้องฟางอธิบายไปยกมือไหว้ไป ดูท่าทางน้องเองก็คงไม่สบายใจกับคำพูดตัวเองเท่าไหร่หรอก

“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่เข้าใจ กลับไปรวมตัวปฐมนิเทศกับเพื่อนๆ ต่อเถอะ เสร็จแล้วเย็นนี้ พี่จะพาบ้านกริฟฟินดอร์ ไปฉลองที่ร้านหัวหมู หมู่บ้านฮอกส์มีดส์กันนะ” ไอ้ฟาย เปลี่ยนอารมณ์ไวมาก เมื่อกี้ยังทำหน้าเป็นหมาหงอยอยู่เลย

แล้วนี่คณะมึงทั้งคณะบ้าแฮรี่พอตเตอร์กันหมดเลยเหรอ ไอ้ปัญญาอ่อนเอ้ยยยยยย

ปล่อยให้ไอ้ฉานไปทำกิจกรรมในคณะมันต่อครับ เดียวเย็นนี้ มันต้องพาน้องๆกลุ่มติวไปเลี้ยงต้อนรับ ก็เหมือนเลี้ยงน้องรหัสนั่นแหละครับ เหมือนทำความคุ้นเคยกันมากกว่า เป็นเทคนิคของถาปัตย์ทุกปี เรียกว่าเลี้ยงนัดกระชับมิตร ซึ่งท่านเมฆคนนี้ต้องไม่พลาดอยู่แล้วครับ กินฟรี สามีจ่าย(เอากะเค้าหน่อย) สบายท้องและสบายกระเป๋า

ผมเดินลัดตรงลานกิจกรรมถาปัตย์ มาทางสวนหย่อม “ตรงซุ้มทำใจ “

ซุ้มทำใจ เป็นโต๊ะม้านั่ง ที่มีหลายชุดเรียงรายไว้ในสวน ส่วนกลางของคณะ ทุกซุ้มจะมีไม้หอมปลูกคลุมระแนงหลังคา คละพันธ์กันครับ บ้างเป็นไม้เลื้อยที่หอมกลางคืน บ้างก็เป็นไม้เลื้อยที่หอมกลางวัน ปลูกสลับกันไป ไม่งั้นกลิ่นคงตีกันจนมึนมากกว่าหอมแน่ๆ ว่ากันว่า ซุ้มทำใจ คณะบดีคิดขึ้นมา เพราะเวลาเด็กในคณะกำลังจะพรีเซนต์โปรเจคกันเมื่อไหร่ มักจะลนลานทำอะไรไม่ถูก ออกแนวคลุ้มคลั่ง เลยทำซุ้มไว้ให้สงบสติอารมณ์ก่อนเข้าพรีเซนต์ เป็นเทคนิคธรรมชาติบำบัดที่แยบยลมาก

นอกจากนี้ สวนหย่อมของสถาปัตย์ ยังเป็นที่ ที่มักจะมีคนมาวิ่งออกกำลังกายกันเยอะ ส่วนหนึ่งคงเพราะบรรยากาศให้
ลมพัดเย็นสบาย เพราะมีทั้งต้นไม้และน้ำจากทะเลสาบพัดไอ้เย็นขึ้นมา
ผมพาตัวเองมาเข้าห้องน้ำที่มีไว้บริการกลางสวน ห้องน้ำนี้ผมชอบมาใช้บ่อยๆเวลามารอไอ้ฉานที่คณะ เหมือนห้องน้ำสวยๆตามรีสอร์ทเลยครับ
ขณะที่กำลังฮัมเพลงชื่นชมบรรยากาศ ๆจีบนกหนูแมลงไปเรื่อย ช่วงที่กำลังดึงน้องออกมาร้องไห้

“ เฮ้ยแก นี่ตกลงแกสนใจพี่เมฆจริงๆเหรอวะ ชั้นก็คิดว่าแกสนใจพี่ฉานซะอีก พี่เมฆอ่ะ น่ารักไป พี่ฉานนี่ทั้งหล่อ ทั้งแมน ทั้งเท่นะเว้ย” เสียงผู้หญิงคุยกันลอยออกมาจากห้องน้ำหญิงฝั่งตรงข้ามครับ อันนี้เป็นเรื่องปกติ ห้องน้ำสาธารณะแบบนี้ ธรรมดามากที่ห้องน้ำชายและหญิงจะอยู่ติดกัน 
“อะไรที่ทำให้แกคิดว่าฉันสนใจพี่เมฆเหรอ”
“อ้าว ก็ชั้นเห็นแกวิ่งถลาไปหาพี่เมฆ ชั้นก็คิดว่าแกเล็งพี่เมฆสิ ยังแอบคิดเลยว่า แกจะกระโตกกระตากไปไหน”
“ฉันโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ใครจะไปรู้หละ นึกว่าแกอดอยากมานาน เลยรีบ “
“ แกเข้าใจถูกแล้ว ชั้นสนใจพี่ฉาน แต่ชั้นก็ต้องพิสูจน์อะไรบ้างสิ”
“พิสูจน์อะไรวะ”
“ก็พิสูจน์ว่าพี่ฉานคิดกะพี่เมฆจริง อย่างที่เค้าแซวกันมั้ย “
“เรื่องพี่เค้าเป็นแฟนกันอะเหรอ แล้วแกคิดว่าเค้าเป็นกันจริงมั้ย”
“ ไม่รู้สิ ไม่แน่ใจ เรื่องที่ชั้นทำวันนี้ ก็พอจะเป็นไปได้ แต่ไม่รู้พี่ฉานโกรธชั้นเรื่องอะไร เรื่องไม่ไว้ใจเรื่องสอนหรือเรื่องที่ชั้นเข้าหาพี่เมฆ”


มันเรื่องอะไรกันครับ นี่มันเรื่องอะไรกัน
ทุกประโยคที่น้องผู้หญิงสองคนโต้ตอบกัน หมายถึงผมกับไอ้ฉานแน่ๆ

สมองผมมันกำลังประมวลผลอย่างมึนๆ ผมไม่เคยใส่ใจเรื่องที่เพื่อนๆคณะผมและไอ้ฉานมันแซว ออกจะเฉยๆด้วยซ้ำ เพราะเข้าใจปากเพื่อนๆ รวมถึงรุ่นพี่รุ่นน้องทั้งสองคณะดีอยู่ แต่ที่แปลกใจคือ น้องทั้งสองคนนี้เพิ่งเจอผมกับไอ้ฉานครั้งแรก ทำไมน้องเขาสงสัยในตัวผมกับไอ้ฉานได้ จะว่าเป็นเพราะพี่โก้ แซวตอนที่ผมกับไอ้ฉานเดินเข้าคณะก็มีส่วน แต่นี่ดูเหมือนน้องเค้าไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น ไม่งั้นน้องเค้าคงไม่คิดที่จะพิสูจน์เรื่องนี้แน่ๆ แล้วน้องเค้าชอบไอ้ฉานเหรอ
ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรที่มีคนมาชอบไอ้ฉาน ปีนึงๆ มีเรื่องเข้าหูผมแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน นั่นไม่ทำให้ผมกังวลใจเท่ากับเรื่องที่มีคนคิดว่า ผมกับไอ้ฉานเป็นแฟนกันจริงจังแบบนี้มาก่อน

ก็แล้วทำไมผมต้องต้องมาคิดหาคำตอบให้เรื่องที่เกิดขึ้นมาตลอดหลายปีที่เราสนิทกันนี้ ผมเองก็ไม่เข้าใจ





ผมแสร้งทำเป็นสนุกสนานตลอดเวลาที่กินเลี้ยงกับน้องๆในกลุ่มติวของไอ้ฉาน น้องฟางกับเพื่อนก็ดูสนุกสนานร่าเริงสดใสดี
มันก็ไม่แปลกหรอก เพราะน้องเค้าไม่รู้ว่าผมได้ยินเรื่องที่เค้าคุยกัน ก็นะ ในคณะก็มีห้องน้ำเยอะแยะ ใครจะไปคิดว่าจะใจตรงใช้ห้องน้ำที่เดียวกันหละ  ไอ้ฉานเองก็หายเกร็งไปเยอะ ดูมันให้ความสนใจน้องๆทุกคนดี อย่างนี้แหละ ไอ้ฉานมันกำลังเข้าสู่ปีสอง  มันเป็นน้องมาตลอด ตอนนี้กำลังจะเป็นรุ่นพี่ อารมณ์อยากเอาใจใส่น้องเป็นเรื่องธรรมดาสุดๆ


“เอ๊ะ ไหนว่าพี่เมฆกะพี่ฉานเป็นสามีภรรยากัน ทำไมวันนี้ถึงได้นั่งห่างกันละคะ” น้องคนหนึ่งในกลุ่ม เหล้าคงเข้าปากมากแล้ว เลยกล้าแซวซะสนิทแบบนี้
“อ๋อ เมื่อคืนพี่ไม่มีแรงทำการบ้านหนะ วันนี้เมียเลยงอน เอ้า!!! ชนแก้วให้กำลังใจ ผู้ชายเมียงอนหน่อย” เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆได้ดีทีเดียวครับ  ผู้หญิงสมัยนี้ก็แปลก ทั้งๆที่ผมกะไอ้ฉานเป็นผู้ชาย โดนมองว่าเป็นแฟนกัน แทนที่จะตกใจ กลับรู้สึกตื่นเต้นยินดีไปซะนี่ เฮ้อออออออออ กลุ้มใจ เอาตีนขึ้นมาก่ายหน้าผากตอนนี้ได้ ผมทำไปนานแล้ว

“หนูช่วยเต็มที่พี่ หนูสนับสนุนให้ผู้ชายรักกันอย่างเป็นทางการ พี่เมฆพี่ฉาน จงเจริญ” ตอนน้องเค้าพูดจบ ผมมองเห็นภาพกราฟฟิครูปหัวใจลอยไปมาในอากาศ แต่ทำไมมันไม่ทำให้ผมดีใจหละ ตอนนี้ ขนแขนสแตนอัพพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เหมือนๆจะรู้สึกว่า หมาแถวนี้เห่ารับ เสียงประกาศของน้องเค้าด้วยนะ

เราสองคนกลับมาถึงห้องสักพักแล้ว ไอ้ฉานหายหัวเข้าไปห้องน้ำ ตั้งแต่มาถึงห้อง ตอนนี้ยังไม่ออกมา
วันนี้ไอ้ห่านี่เต็มที่กับชีวิตสุดๆ กินเหล้า ปล่อยมุขเรียกเสียงฮากระจาย ไม่ห่วงหล่อเลยมัน ต่างจากผมที่หลังจากได้ยินน้องฟางและเพื่อนคุยกันแล้ว ผมสงบใจ ไม่คิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้เลยสักครั้ง ขนาดพยายามสาดเหล้าเข้าคอเท่าไหร่ กลับยิ่งทำให้ผมกลับสงสัยขึ้นเรื่อยๆ

ผมกับไอ้ฉาน ตกลงเราเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน หรือมากกว่านั้นกันแน่

“คิดอะไรอยู่มึง คิ้วมึงขมวดกันเป็นเงื่อนพิรอดแล้วนั่น” มันออกมาจากห้องน้ำตอนไหนไม่รู้ครับ กำลังคิดอะไรเพลินๆ
“ฉาน กูขออะไรมึงอย่างได้ป่ะ “
“ได้สิจ๊ะเมียจ๋า เมียขออะไรก็ได้ แต่พี่ฉานไม่ให้ฟรีนะ” มันไม่ตอบปากเปล่าครับ มันเอามือลูบแก้มผม พร้อมทำตาวาวๆ เหมือนเสี่ยกำลังตะล่อมเมียน้อยยังงัยยังงั้นเลย
“กูจริงจังนะฉาน มึงก็เล่นไปเรื่อย” ไอ้นี่ มันคิดว่า ผมเครียดซ้อมละครคณะอยู่หรือไงเนี่ย
“ อะ อะ ว่ามาๆ “
“จูบกูที”
“หาาาาาาาาาาาาาาาาาาา” อะไรแม่งหายวะ สัดนี่ กูยิ่งประหม่าอยู่
“กูบอกว่าจูบกูที” มันทำหน้าตกใจใส่ด้วยครับ ยิ่งประหม่าไปใหญ่เลยผม ฮือๆ กูไม่น่าอยากรู้เล้ย ให้ภราดรกะนาตาลีเลิกกันสิ

“จัดให้ มามะ เมียจ๋า คืนนี้เป็นของพี่ฉานซะดีๆ” พ่อมันสิ กูขอแค่จูบ มึงไม่ต้องแถมคำว่า สามีเติม’s กะกูก็ได้
“เร็วสิๆ” ตอนนี้ผมหันหน้าไปหามัน หลับตาปี๋เลยครับ ในใจนี่เต้นโครมครามสุดๆ ผมว่า ผมควักมันออกมาวางบนโต๊ะก่อนได้มั้ย เต้นกระทุ้งอกกูอยู่ได้
ไอ้ฉานมันเงียบไปครับ
เชี่ย!!!!!!! ใจกูเต้นจนจะหลุดออกมาวาดสเตปข้างนอกอยู่แระ มันจะเงียบหานกเพนกวินอะไรของมันวะ
ผมค่อยๆเปิดเปลือกตามองดูสถานการณ์ครับ แต่สายตายังไม่ทันจะปรับสภาพกับแสงได้
ผมรู้สึกเหมือนลมพัดเฉี่ยวแถวๆ เปลือกปากผมวูบนึง
ผมกระพริบตาถี่ๆ วูบนึงเมื่อกี้ มันคือไอ้ฉานฉกเปลือกปากมันมาแตะกะริมฝีปากผมครับ วูบเดียวก็ถอนออก

“ ฉาน “
“หือ มีอะไร “
“จูบก็จูบให้จริงสิ”
“แล้วเมื่อกี้ กูเปิด วีทีอาร์ ให้มึงดูหรือครับเมีย “ ห่า กูนึกว่ามึงเปิดหน้าต่างแล้วลมพัด
“ไม่ใช่ กูหมายถึงใช้ลิ้นด้วยสิ”
“หืมมมม เดี๋ยวนี้เมียพี่ฉานโตเป็นสาวแล้วน๊า อยากกินลิ้นพี่ฉานก็ไม่บอก” เออ กูไม่ต่อปากกะมึงแระ จูบกูสักที อยากรู้จนเริ่มจะไม่อยากรู้แระ ใจกูเต้นจนเหนื่อยแล้ว อยากพัก

ไอ้ฉานมันค่อยๆขยับมาหาผมครับ มือมันค่อยๆดึงไหล่ผมเข้าไปหามัน มันสบตาผมแว่บนึง ก่อนจะเอาจมูกมันมาถูๆที่จมูกผม แล้วมันค่อยแตะริมผีปากมันกับผม ตอนที่ริมฝีปากเราสองคนเจอกัน ผมพยายามตั้งสติกับความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นต่อไปข้างหน้านี้ ไอ้ฉานมันส่งลิ้นออกมาไล้แตะตามริมฝีปากผม ชั่วขณะที่ผมกำลังจะลังปิดเปลือกตาลงไป ปลายลิ้นมันก็ส่งเข้ามาในปากผม 

วูบนึงผมตกใจ
นี่ผมกำลังทำอะไร
ผมอยากรู้อะไร
ใจผมมันบอกบอกว่า ผมควรจะหยุดเหตุการณ์นี้ไว้

แต่ทำไมมันกลายเป็นว่า ผมเปิดช่องว่างของโพรงปาก ให้ไอ้ฉานมานสำรวจมากขึ้น ลิ้นมันวนไปทั่วปากผม ควานไปมาเหมือนมันกำลังหาอะไรสักอย่าง

อ๋อ มันหาลิ้นผมนั่นเองครับ ยิ่งผมตวัดลิ้นหนี มันก็ส่งลิ้นมามาลุกไล่ควานหา

ยิ่งผมเบี่ยงหนีมันเท่าไหร่ เท่ากับผมเปิดโอกาสให้มันแนบชิดเปลี่ยนมุมลุกไล่ผมได้มากเท่านั้น
“อืมมมมมมมมม” นานเท่าไหร่ไม่รู้ครับ ที่ลิ้นผมกับลิ้นมันลุกไล่เกี่ยวพันกันในปาก

ในตอนแรกที่มันจูบผม
กลายเป็นเราสองคนกำลังจูบกัน

ตอนที่ผมสับสนกับความรู้สึกที่กำลังตีกันอยู่ในสมองนั้น ลิ้นไอ้ฉานมันตามลิ้นผมเจออีกครั้งครับ ครั้งนี้มันคงกลัวว่าผมจะพาลิ้นหนีมันอีก มันเลยดูดตอดปลายลิ้นผมย้ำๆ อยู่อย่างนั้น
ซาบซ่าน และเคลิบเคลิ้ม
เหมือนผมยืนอยู่ตรงปลายหน้าผา แล้วโดนผลักลงมา วูบนึงของความรู้สึก

การจูบกันมันเป็นยังงัย วันนี้ผมเพิ่งรู้ มันหวาน ใช่ มันหวานมาก เพราะถ้ามันไม่หวาน เราจะควานหากันและกันขนาดนี้เหรอ ใจผมมันรู้สึกเบาหวิวล่องลอย
ตอนแรกผมอยากรู้ว่า ถ้าผู้ชายจูบกับผู้ชายจะเป็นยังงัย โดยเฉพาะผมกับไอ้ฉาน ที่เราโตมาด้วยกัน
ตอนผมขอให้มันจูบ ถ้าไอ้ฉานมันโกรธแล้วหาว่าผมโรคจิต ผมจะทำยังงัย

แต่ตอนนี้ ผมกำลังจะตายหรือเปล่าครับ ทำไมผมรู้สึกล่องลอย อยู่ในที่ไหนก็ไม่รู้  รู้แต่ว่ามันเริ่มจะอึดอัด และผมพยายามจะดึงสติที่มีอยู่น้อยนิดกลับมา
“อือ อือ ฉาน พอก่อน” ผมตกใจตื่นหรือยังงัยครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อย เหมือนวิ่งมาไกลแสนไกล
ผมอ้าปากจ้วงเอาอาการหายใจเข้าปอด เหมือนคนที่กำลังตกจากที่สูง แล้วโดนคว้ากลับขึ้นมาใหม่
“เมฆ กูขอโทษ มัน มัน มันทำให้มึงรู้สึกแย่หรือเปล่า เมฆ มึงอย่าเงียบสิ” ผมค่อยแหงนหน้าขึ้นช้าๆ ผมจะบอกมันได้ยังงัยหละครับว่าที่ผมผลักมันออกมาหนะ
เพราะว่าผมอาย


แล้วก็


“ปะ ป่าว มันรู้สึกดี แต่กูเหนื่อย แล้วเริ่มหายใจไม่ออกอะ มึงกินลิ้นกูนานไป” แทรกหน้าไปไว้ไหนดีวะเมฆ หน้าด้านเป็นที่สุด มึงขอให้เค้าจูบ พอเค้าจูบแล้วมึงเสือกบอกว่ารู้สึกดี โอยยยยยยยยย กูมุดโซฟาตอนนี้ทันไหม

“อ้าว กูก็นึกว่ามึงชอบ พอกูดึงลิ้นออก มึงก็ตามมาเกี่ยวกลับไปทุกที” มึงจะบอกกูทำม๊ายยยยยย
ตอนนี้สติกูเริ่มมา กูเริ่มรู้อะไรเป็นอะไรแล้ว กูอาย ถึงเป็นพระอิศวร อวตารลงมาเกิดอย่างกู ก็อายเป็น ถึงจะช้าไปหน่อยก็เถอะ
“เมฆ อย่าไปอยากรู้อยากเห็นแบบนี้กะใครที่ไหนอีก แค่กูคนเดียวเมฆ กูขอแค่กูคนเดียว มึงรับปากกูได้ไหม”
ผมจะไปทำอะไรกะท่านฉานได้ นอกจากพยักหน้ารับปากมัน
“เพราะเป็นมึงไงฉาน กูถึงกล้า และกูคิดว่า ถ้าไม่ใช่มึง กูจะไม่มีวันกล้าทำแบบนี้กะใครอีกแน่” ไม่รู้อะไรมาดลใจให้ผมตอบไอ้ฉานไปแบบนี้ครับ ผมคิดว่า คำตอบนี้มันออกมาจากลึกๆในใจนะ ว่าถ้าไม่ใช่ไอ้ฉาน ผมไม่กล้าทำอะไรแบบนี้แน่ โดยเฉพาะ เรื่องทีไม่ใช่เรื่องปกติตามธรรมชาติ
“แล้วเป็นงัยมึง จูบกูหวานเหมือนจูบสาวๆมั้ย” หืออออออ แล้วมึงจะอยากรู้อะไรอีก ปล่อยให้กูแก้มแดงของกูไปคนเดียวจะได้มั้ย
“ไม่รู้เว้ยยยยยยยย  กูไม่เคยจูบกับใคร” ก็จริงนี่ครับ ตั้งแต่โตมา มัวแต่ผูกชีวิตติดกะไอ้ฉาน เลยไม่มีโอกาสหาแฟนเลย งือๆ จนตอนนี้น้องแพท เป็นแฟนกะแดนดีทูบีไปแระ เซ็งครับเซ็ง นางฟ้าหลุดลอย
“และแล้วก็เป็นเมียพี่จริงๆแล้วนะที่รักจ๋า เพราะฉะนั้น ไปอาบน้ำสักที นี่มึงไม่สระผมอีกแล้วใช่มั้ย  กูเข้าใกล้แล้วขมลงคอ”
เพราะแบบนี้รึเปล่าครับ เพราะไอ้ฉานมันเป็นคนแบบนี้ ผมถึงสนิทใจเวลาที่อยู่กะมัน เพราะมันไม่เคยทำให้ผมรู้สึกแปลก ไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ มันไม่ทำให้ผมรู้สึกลำบากใจ หรือคิดมาก ทั้งๆเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ผมขอให้มันจูบ แล้วมันก็จูบผม แล้วเราก็จูบกัน ที่สำคัญ ผมให้ความร่วมมือมันอย่างดีไม่มีขัดขืน
ผมยอมรับว่า ตอนที่เราจูบกัน ผมรู้สึกดีจริงๆ นะครับ ทำไมผมถึงรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้ฝืนธรรมชาติ ทั้งๆที่เราสองคนเป็นผู้ชาย

แล้วที่เราแลกลิ้นกันขนาดนั้น  มันไม่คิดอะไรเลยเหรอครับ มันไม่รู้สึกอะไรเลยหรืองัยนะ
ว่ามันหนะกำลังจูบกับเพื่อนสนิทของมันอยู่

“มึงคิดยังงัยกะกูวะฉาน กูอยากรู้ “
“มึงคิดกะกูมากกว่าเพื่อน เหมือนที่ใครๆเค้าพูดกันมั้ย”


คำถามนั้น ผมกล้าถามมัน แต่เพียงในใจครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 21-03-2010 17:39:58
^
^
ป้ารีบนค่ะ ตกลงพ่อน้องเมฆชื่อ พ่อแก้วเหรอ  :laugh:

จริงๆแล้ว พี่ฉานเค้ารอโอกาสนี้มานานแล้วหรือเปล่า

เลยแบบเนียนๆไป ไม่ตกใจให้กระโตกกระตาก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 21-03-2010 17:57:25
 ^
 ^
 ^

:z13: บังเอิญมาเจอ 

เม้นต์ให้กำลังใจนิดหน่อย ไม่ต้องดีใจนะ ฮ๋าๆๆๆๆ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 21-03-2010 18:07:33
เมฆกล้าหาญมากขอให้ฉานจูบ
เพิ่งรู้นะว่าแค่ถูกจูบก็เป็นเมียละ
ตอนหน้าเมฆขอให้ฉานจิ้มเลยนะ
ไหนๆเมฆก็อยากพิสูจน์
คนอ่านหนับหนุน :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 21-03-2010 19:13:30
ดวงตะวันรักก้อนเมฆตั้งแต่เด็กๆเลยง่ะ

ก้อนเมฆน่าจะถามตะวันไปเลยนะเนี่ย ว่าคิดไงกันแน่ เฮ้ออออ

คอยดูกันต่อปายยยย  o13 o13 o13

PS. ก้อนเมฆมีไรกะการสระผมปะเนี่ย ชอบดองเค็มเกิ๊นนน

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 21-03-2010 19:42:43
กรี๊ดดดด น้องเมฆทำอะไรลงป๊ายยย
ขนาดขอจูบกันเลยทีเดียว  :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 21-03-2010 21:12:41
 :a5: อ๊าคคคคคคคคคคคคคค    :m25:
นู่เมฆทำไมเร่าร้อนขนาดนี้เนี่ยะ    :pighaun:
อ๋อยๆๆๆ  มาไม่ทันตั้งตัวแบบนี้  หัวใจจะวาย  ได้อีกๆๆ 555 :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 21-03-2010 21:16:09
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เขาจูบกันแล้ววววววว :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 21-03-2010 23:23:45
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เพื่อนสนิทคู่ไหนๆเค้าก็ไม่ดูดปากกันขนาดนี้หรอกนะตัวเอง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 21-03-2010 23:43:36
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :m11:

จ๊วบบบบบบบ :จุ๊บๆ: จูบกันแล้นนนนนนนนนนนน  :-[

แหมๆๆ พี่ฉานจ๊ะ ถึงขั้นตกใจเลยสินะ ภรรเมียผู้บริสุทธิ์ใสซื่ออยู่ๆก็ขอจูบซะงั้น  :laugh:

แหมๆๆ แค่นี้ยังแค่ขั้นA-Bนะจ๊ะ แล้วเมื่อไหร่จะถึงขั้นCล่ะเคอะ  :haun5:

รอดูการพัฒนาการความสัมพันธ์ของสามี-ภรรยาคู่นี้อยู่นะจ๊ะ  :interest:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 22-03-2010 02:37:50
ไรวะ  ทำไมไม่รู้ใจตัวเองกันซักที งี้เมื่อไรจะได้กันเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 22-03-2010 09:13:24
ว้าววว จูบกันแล้ว ต่อไปก็ ....  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 22-03-2010 15:34:53
เมื่อหร่ายสามีจะเปิดปากสารภาพกะภรรยา
ที่แสนจะไร้เดียงสาซะทีล่ะคับ
ทำอ้ำๆ อึ้ง ๆ วันหลังไม่ให้น้องเมฆขอกินลิ้นอีกน๊า :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 22-03-2010 22:20:50
คืนนี้ดวงตะวันไม่ขึ้น ก้อนเมฆไม่ลอยผ่านหรอ  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 23-03-2010 06:18:34
เข้ามารอตอนที่ 10    :z1: :haun4:   เค้า :oo1:กันใหมนะ  555555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 23-03-2010 16:24:33
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้...



นายฉานเทห์โคตร...แสดงออกซะขนาดนั้น o13
ส่วนน้องเมฆ ก็น่าร๊ากกกก :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 23-03-2010 23:02:45
คืนนี้ดวงตะวันก็ไม่ทอแสงให้กับก้อนเมฆหรอ  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 9 ,21 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 24-03-2010 00:31:42
จะเข้าวันที่3แล้วนะ

ฉานกับเมฆยังเขิลกันไม่เสร็จหรอ

อยากอ่านต่อแล้วอ่า มาต่อไวๆน๊า :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 24-03-2010 08:56:59
มาแล้วจ้า ตอนที่ 10 กับ สารจาคนแต่ง  :z2:

สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
ผ่านไป 9 เป็นยังไงกันบ้างกับเรื่องของฉานและเมฆ
ยังไม่มีอะไรมากไปกว่าจูบแบบจิบชาของทั้งคู่
55555
เรื่องนี้แต่งเพราะความคึกคะนองส่วนตัวจริงๆ
หากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยไว้ในที่นี้ด้วยค่ะ
ความจริงเนื้อหาสาระของความรักคู่นี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าความผูกพันธ์
หลายๆคนอาจจะมองว่า ฉานแสดงออกขนาดนั้น ทำไมเมฆโง่จัง
จริงๆแล้วเมฆไม่ได้โง่ แต่ด้วยความสนิทของเพื่อน และความผูกพันธ์
มันละเอียดอ่อนที่จะเข้าใจจริงๆ
เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์หลายสิ่งหลายอย่างได้
ว่าความรักของทั้งคู่คืออะไร
บางครั้งปฎิกริยาทางเคมีของความรัก ก้ต้องมีหลายๆเหตุการณืมากระตุ้น
ให้ความรู้สึกนั้นแสดงออกมา
ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม
สัญญาว่าเรื่องนี้ไม่มีเศร้า เพราะเราเน้นฮา

TRomance

=============================

ตอนที่ 10

หลังจากความอยากรู้อยากเห็นของผมในวันนั้นแล้ว
ผมกับไอ้ฉาน เราก็ปฎิบัติตัวต่อกันตามปกติครับ
มันไม่เคยถามว่าผมมีความคิดพิเรนๆ แบบนั้นมาจากไหน
พอๆกับผมเองก็พอใจ ที่ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
เพราะถ้าเกิดไอ้ฉาน มันคาดคั้นเอาคำตอบกับผมจริงๆ
ผมเองยังไม่รู้เลยว่าจะเอาคำตอบจากไหนมาให้มัน
ในเมื่อความรู้สึกนั้นคืออะไร ผมเองก็ไม่รู้


ช่วงเวลาก่อนสอบเอ็นทรานท์ เป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานดีนะครับ
ไม่แพ้ช่วงเวลารับน้องเลย ทั้งคณะผมและคณะไอ้ฉาน มีเด็กม.ปลาย
มาเรียนติววิชาความถนัด ของแต่ละคณะกันเต็มไปหมด
ผมเองก็มีไปช่วยพี่ๆ ดูแลน้องๆมาติวบ้าง ช่วยพี่ๆดูงานที่น้องๆทำส่งบ้าง
ไอ้ฉานหนะ เป็นอาจารย์เต็มตัวไปแล้ว มีทั้งลูกศิษย์ มีทั้งแฟนคลับ
สารพัดครับ ส่วนหนึ่งมันหน้าตาดี อันนี้ผมเข้าใจ
แต่ผมก็หน้าตาดีนะ  แต่ทำไมเหี่ยวแห้งแบบนี้  นี่แหละที่ไม่เข้าใจ

เก็บสัมภาระส่วนตัวได้ ท่านเมฆเดินตัวปลิวแบบไม่รอลาหมาที่ไหน
ช้าไม่ได้ครับ ขืนช้า พวกเพื่อนๆ มากันครบ เดี๋ยวจะเสียงานเสียการ
วันนี้นัดไอ้ฉานไว้ ถ้าไปช้า เดียวไอ้หมาบ้ามันกัด
เค้าว่าหมาเห่า มักจะเก่งแต่ปากใช่มั้ยครับ
แต่ไอ้ห่าฉาน มันเก่งทั้งเห่า เก่งทั้งกัด ผิดหลักธรรมชาติของทุกกฎเกณฑ์
ผมเอาเป้พาดบ่า ในท่าที่คิดว่าหล่อและเทห์ที่สุด
เดินข้ามสะพานไม้ ไปดินแดนแคว้นถาปัตย์
“คิดถึงเธออยากให้เธอรู้จริงๆ
เธอนั้นนะคิดถึงฉันบ้างไหม
อยากยืนข้างกาย ได้กุมมือโอบหัวไหล่
ฉันคงสุขใจ เธอมีความหมาย”
แหม จะเดินหล่ออย่างเดียวก็กระไรอยู่ ฮัมเพลงไปด้วยอะไรด้วย ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย


เหหหห!!!!! ทำไมวันนี้ลานกิจกรรมถาปัตย์ ไม่พลุกพล่านเท่าที่ควร

แล้วนี่เค้าไม่มีติวกันเหรอ พวกลิงค่างม.ปลาย หายไปไหนกันหมด
ไอ้พวกเด็กม.ปลายที่ผมว่า ไม่ใช่ประเด็นครับ แต่อยากเห็นแค่พอเป็นอาหารตา
ผมมองหาไอ้ตัวดี ต่างหากครับ มันหายไปไหนของมันวะครับเนี่ย
รู้งี้ผมนอนรอมันแบบหล่อๆ อยู่เดคไม้ ที่คณะดีกว่า เซ็งครับ เหนื่อยฟรี
“พี่เมฆ มาหาพี่ฉานเหรอค่ะ “ เอ๊ะ สาวที่ไหนนะ มาทำเป็นแสนรู้ เดาความคิดพี่เมฆออก
“ อะ อืม อืม ครับ” แหะ แหะ ตอบไปคิดไป ว่ารู้จักน้องคนนี้ตอนไหน
“พี่ฉานออกไปกะฟางอะค่ะ  พอดีวันนี้เลิกไว ออกกันไปตั้งแต่เที่ยงแล้วนี่ค่ะ” หืม อืม สรุปว่าไอ้ห่าฉานไม่อยู่
กูมาฟรีจริงๆด้วย
ตอนที่รู้ว่าไอ้ฉานไม่อยู่ ผมรู้สึกยังงัยอะเหรอครับ
ก่อนอื่นบอกได้เลยว่าเซ็ง มันจะไปไหนทำไมมันไม่บอกผม
ทำไมมันต้องให้ผมมาตามหา ตามมารอ มาหาทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันไประเริงที่ไหนเนี่ยนะ
ออกไปกะสาวซะด้วย


โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ท่านพี่เมฆเซ็งโว้ยเซ็ง

ผมเขวี้ยงเป้ไปบนโต๊ะข้างต้นจิกน้ำ เฉียดหน้าไอ้หวานไปนิดเดียว
ถือเป็นบุญของไอ้หวาน ที่มันไม่ค่อยมีดั้ง เลยรอดตัวไป ไม่เจอแรงกระแทกแบบสัมผัสเน้นๆ
“เป็นอะไรวะครับไอ้เมฆ เมนส์ไม่มา หรือมาแล้วแต่กระปริบกระปรอย มึงถนัดยาสตรีเพ็ญภาค หรือสตรีเบนโลหละครับ เพื่อนหวานจัดให้” นี่ไอ้หวานมันแหย่หน้ามาในทางปืนเองนะ สาดนี่ เดียวกูเขวี้ยงเป้ใหม่แบบรีเทรนดั้งแมร่งเลย
“ ป่าว กูเซ็งนิดหน่อย แมร่ง ห่าฉาน นัดกูไว้ให้กูไปหา แต่เสือกออกไปไหนไม่รู้ กูเซ็ง” ผมถอนหายใจใส่ดินฟ้าอากาศ ครับ
“ อ๋อๆ แต่ที่แท้ผัวหาย มึงก็ปล่อยให้ไอ้ฉานหายใจบ้างสิวะ ไว้มันกลับมา มึงก็ดูว่าสะดือมันขาวมั้ย ถ้าขาว มึงก็จัดการไปให้มีลูกไม่ได้เลย ไม่เห็นจะยาก” เออ ก็ว่าจะเชือดให้เป็ดกินอยู่เหมือนกัน ออกไปกะสาวด้วย ไม่รู้สะดือมันหรือสะดือหญิงที่ขาว
“มึงรู้ได้งัยวะว่ามันออกไปกะสาว” ไอ้หน้าเหี้ยมนามว่าหวาน มันรู้ได้งัยเนี่ย มันดันแซวตรงทาง ตอกย้ำอารมณ์ผมให้กรุ่นขึ้นมาอีก
“หืออออ ป่าว กูเดาเอา นี่ตกลงที่หงุดหงิดนี่หึงว่างั้น”
หึงเหรอ ????
ไอ้หวานมันเอาที่ไหนพูด ผมจะหึงไอ้ฉานมันทำไม
ผมแค่เบื่อ แค่เซ็ง แต่หงุดหงิดนิดหน่อยก็เท่านั้น
ก็ถ้าแค่เพราะว่า ช่วงที่มีการสอนติวมานี้ ไอ้ฉานมันทุ่มเทให้กับน้องๆกลุ่มมันมาก
แล้วก็ช่วงที่ผ่านมานี้ มันวุ่นวายกับผมน้อยลงกว่าเดิม นิดหน่อย
แล้วเผอิญวันนี้ มันบอกมันว่าง มันชวนผมไปดูหนัง
ก็แค่มันผิดนัด
ก็แค่ผมไม่สำคัญเหมือนเดิม
ก้แค่ผมเสียใจ น้อยใจ
มันก็แค่มัน
มึงจะหงุดหงิดอะไรมากมายวะเมฆ
มันเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่ไอ้หวานว่า
ไอ้ฉานมันก็ต้องมีช่วงเวลาของมันบ้าง


ทั้งหมดมันก็แค่ผมน้อยใจ ผมหงุดหงิด ที่ไอ้ฉานมันผิดนัด
แต่ไม่ได้ “หึง” อย่างที่ไอ้หวานมันยัดเยียดข้อกล่าวหาให้สักหน่อย

“ใจเย็นดิวะเมฆ ฉานมันไปทำธุระเปล่า มันไม่โทรมาบอกเหรอ” ไอ้หน่าครับ ไอ้หน่ามันปากหมาเฉพาะกับไอ้ฉาน
แล้วมันก็เป็นคนรู้เวลากาลเทศะดี ไม่เหมือนไอ้หวานหรอก
“ก็เพราะมันไม่โทรมาบอกเหี้ยรัยกูเลยนะสิ กูถึงหงุดหงิดอยู่นี่งัย” ครับ จะยกเลิก หรือเลื่อนนัด มันก็ไม่โทรมาบอก
“มึงแน่ใจเหรอวะ ไม่ใช่ว่ามันโทรมาบอกมึงแล้ว แต่มึงไม่เปิดเครื่องเหรอ” ลืมปิดเครื่องเหรอ ไม่รู้สิ วันนี้ก็ยังไม่มีสายเข้าเลยนี่นะ
“ก่อนกูมาเจอมึงกำลังจพ่นไฟที่นี่ กูโทรหามึงว่าอยู่กันที่ไหน กูเห็นเครื่องมึงฝากข้อความ ไม่รู้แบตหมดหรือปิดเครื่อง”

อ้าวฉิบหาย!!!! ผมรีบกระชากเป้ มารื้อหาโทรศัพท์ดูเลยครับ เริ่มไม่ดีแล้วครับไม่ดี แหวกหาอยู่สักพักก็พบว่า โทรศัพท์ผมหน้าจอดับสนิทครับ เปิดเครื่องออกมา

พ่อแดกหัวกบาลมึงแน่ไอ้เมฆ  11 สายที่ไม่ได้รับ
ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น มาจากชื่อที่ผมเมมว่า “ครอบจักรวาลล้านแปด”

เฮ้ออออ!!! ทุกคนคงบอกว่าแล้วไป
แต่ไม่ใช่ครับไม่ใช่ บรรลัยแน่

ก็ “ครอบจักรวาลล้านแปด” มันก็คือไอ้ฉานนั่นแหละครับ ผมกวนตีนมัน เลยเมมชื่อแบบนี้
ผมได้แต่หัวเราะ แหะ แหะ แก้เก้อ กะไอ้หน่า ก็ใครจะไปรู้หละว่า ลืมเปิดเครื่อง
ผมปิดมันตอนไหนผมยังจำไม่ได้เลยเถอะ

{{{{{{{{{{RRRRRRRRRRRRR}}}}}}}}}}}}}}}}

มีสายเข้า “ครอบจักรวาล”
ไม่ทันไร มันตายยากจริงๆครับ
“ว่า” ทำเสียงให้เป็นปกติสุดๆ
“ปิดโทรศัพท์ทำไม” เสียงเขียวมาเลยครับ ซีดสิผมทีนี้ กะว่าจะด่ามันให้หายหงุดหงิดเสียหน่อย
“ไม่รู้อ่ะ ไม่รู้เผลอไปปิดมันตอนไหน” อันนี้เรื่องจริงนะจ๊ะ พี่เมฆสาบาน
“อยู่ไหน” โอยยยย ฉาน เสียงมึงจะดุไปไหน เดียวกูน้ำตาไหลโชว์ซะเลยนิ
“อยู่คณะ” เผลอเสียงสั่นออกไปบ้างป่าวก็ไม่รู้
“อยู่ที่นั่นแหละ เดี๊ยวไปรับ” เสียวสันหลังวูบเลยครับ
ไม่ใช่สิ นี่มันหนังคนละม้วนแล้วนี่หว่า คนผิดนัดผมคือมันนะ คนที่ควรหงุดหงิดใส่มันคือผมไม่ใช่เหรอ
แล้วทำไมมันกลับกันแบบนี้หละ
“มึงอยู่ไหนอ่ะ  เดี๊ยวกูไปหาเองก็ได้ “ นี่เห็นว่ามันเสียงเขียวใส่นะเนี่ย
“กูบอกว่างัย จะไปรับก็ไปรับสิ อย่าเรื่องมากเมฆ รถอยู่กะกู มึงจะมาหากูได้งัย” ก็แหม เรียกว่ากูสำนึกดีได้มั้ยหละสาด
ก็รู้ว่ารถอยู่กะมึงแน่ๆ ต่อให้รถอยู่กะกู กูก็ไม่มีปัญญาไปรับมึง เพราะกูขับรถไม่เป็น เหอเหอ
ไอ้ฉานมันวางไปแล้วครับ พร้อมๆกับผมที่หน้าซีด ฮือ ฮือ เดี๊ยวมันมาจะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้
เงยหน้าขึ้นมาอีกที เห็นลิงสองตัวนั่งเสนอหน้า อยากรู้เรื่องในครอบครัวชาวบ้าน แบบไม่ปิดบังเลยครับ
จะบอกมันตามความจริง หรือสร้างเรื่องแกล้งมันสักนิด ดีหว่า
“ เดียวมันมารับอะ” ไม่แกล้งดีกว่าครับ เดี๊ยวกรรมตามทัน ตอนนี้มีคดีติดตัวอยู่

ผมนั่งเล่นคุยเล่นไปกะไอ้หวานไอ้หน่าสักพัก
ก็เห้นมนุษย์ชายหน้าตาดี คนหนึ่งเดินเข้ามาแถวที่พวกผมนั่ง ใส่แว่นตาดำด้วย
หล่อมาก หล่อสุดๆ หน้าตาดีไม่เผื่อแผ่ใคร ชมมันเข้าไป ไอ้ฉานนั่นเองครับ
แต่ที่เดินตามหลังมันมาด้วยนั่นใคร
 อ๋ออออ   น้องฟางนั่นเองครับ  ว่าแต่มันพาน้องเค้ามาด้วยทำไม ไหนว่ามันมารับผม
ทุกคนครับ ท่านเมฆ ขออนุญาติเซ็งอีกรอบ
“สวัสดีค่ะพี่เมฆ พี่ๆทุกคน” น้องฟางนั่นเองครับ น้องเค้าก็มีมารยาท ทักผมกะไอ้หน่าไอ้หวาน
แต่พ่อเทพบุตรหนะสิครับ มันมาถึง มันก็ยืนค้ำหัวผม ทำหน้าโหดอีก ไอ้กูปรี กูรู้แระว่ามึงหล่อ
“ทำไมอยู่กันแค่นี้” มันถามคำถามแบบรวมๆครับ
“ อ๋อ คนอื่นเค้ากลับบ้านกันหนะ แต่พอดีกูกะไอ้หวาน ขี้เกียจนั่งรถ เลยอยู่หอ” ไอ้ฉานมันพยักหน้ารับคำตอบครับแล้วมันก็หันขวับมาทางผม
อะไรอีกหละมึง  กูหงุดหงิดอยู่นะ
“เก็บของสิ จะได้ไปกันเลย ไปก่อนนะเว้ย หวาน หน่า” ผมหยิบเป้ หนึ่งใบถ้วนของผม เดินตามไอ้ฉาน ที่ตอนนี้มันเดินไปที่รถกะน้องฟางแล้ว

ตอนนี้รถที่เป็นของเราสองคน มีไอ้ฉานเป็นคนขับ มีตุ๊กตาหน้ารถหน้าตาดีอยู่ข้างๆ
มีตัวแถมที่กึ่งนั่งกึ่งนอน ทำหน้าเป็นหมาหงอยเบื่อโลกอยู่ข้างหลัง
“เดี๋ยวไปดูหนังแถวบ้านน้องฟางก็แล้วกันนะ จะได้แวะส่งน้องเค้าที่บ้านด้วยเลย”
“อืมมม” แล้วตัวแถมอย่างผม มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นอะไรเหรอครับ

========================

สั้นได้อีกนะอินังคนแต่ง  :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 24-03-2010 09:07:39
เมฆ..ใจเย็นนะรอดูไปก่อน :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 24-03-2010 09:17:13
ความรักยังไม่ทันรู้ใจตัวเองก็มีมือที่สามซะแล้ว
เมฆหรือฉานจะจัดการน้องฟางก้างชิ้นโตยังไง
ขอบคุณคนแต่งที่คึกคะนองและขอบคุณคนโพส
ถ้ารู้ว่าถาปัดหนุกอย่างนี้ก็เลือกไปแล้ว เฮ้อ..ช้าไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 24-03-2010 10:05:27
มัวแต่งอนกัน เลยลืมดูเลยว่า ตกลงฉานสะดือขาวรึเปล่า

แล้วก็สั้นจริงๆๆด้วย  :beat: :beat:.....ฝากคนโพสไปตบคนแต่ง (เอาความรักตบนะ)



แต่ว่า


ก็แล้วทำไมคนโพส ทไม่เคาะให้มันยาวๆๆหละเจ้าค่ะ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 24-03-2010 10:17:14
ฉานแค่เมฆ เผลอปิดเครื่องแค่นี้

ทำไมต้องหงุดหงิดด้วย หรือว่าหงุดหงิด

น้องฟางจ๊ะ ที่ตามตูดต่อยๆแบบนี้ต้องประหาร  :fire:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 24-03-2010 11:34:47
ความรู้สึกซับซ้อน ที่ซ่อนอยู่ข้างในเริ่มจะออกมาให้รู้สึกแปลกๆที่หัวใจแล้ว


ถ้าไม่หลอกตัวเอง หรือ ประชดฝั่งตรงข้าม เรื่องราวก็ไม่น่ารุนแรงมากเท่าไหร่นะเนีย..
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 24-03-2010 18:59:24
แล้วทำไมคนแต่งไม่แต่งยาวๆละ ค้าบบบบบบ  ค้างมากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-03-2010 21:36:46
รีบๆ เอา ฟาง ไปเก็บในโรงนาเร็วๆๆ เลย   :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 24-03-2010 22:18:26
คุณ TRomance แน่ใจหรอว่าเน้นฮา

อ่านทีไร มีแต่หวานกะซึ้ง โดนมดกัดตลอดง่ะ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 24-03-2010 22:41:12
 :z6: :z6:  คนแต่งนี่เนียนได้อีก

แต่งมากะสั้นนิดเดียว :seng2ped:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 25-03-2010 01:45:03
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 25-03-2010 07:25:56
มารออ่านตอนใหม่จ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 25-03-2010 16:09:51
แอร๊ยย จูบกันแล้ว  :-[
เบื่ออิน้องฟางนี่จัง
ตามรังควานอยู่ได้
 :m31:
รักเมฆคู่ตัวันน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 26-03-2010 16:00:56
เด๋วอีนังน้องแรด เอ๊ย! น้องฟางต้องขอตามไปดูหนังด้วยแน่เลย นังหน้าเหียกนี่ใช้มารยาเล่ห์กลอันใดยะวะเนี่ยยยยยยย :fire:

คุมสามีตัวเองดีๆหน่อยซียะหนูเมฆ อย่าให้มันนอกลู่นอกทางนัก  อีกอย่าง..เราเป็นภรรเมียต้องนั่งหน้าเซ่! :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 26-03-2010 18:32:28
คนแต่งชอบสั้น ๆ ก็ไม่บอก :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 26-03-2010 20:32:58
สงสัย ตะวันจะโดนเมฆบัง

เลยยังไม่มาต่อที แบบนี้ต้อง :z13:

มาต่อไวๆนะครับคิดถึงฉานกับเมฆ :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 27-03-2010 01:02:41
ก้อนเมฆกับดวงตะวันหายไปไหน หรือว่าคืนนี้เป็นคืนข้างแรม  :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 27-03-2010 09:03:39
ตาเมฆเอ้ย เพื่อนที่ไหนมันจูบก๊านนนนนนนน

เลิกซื่อได้แล้ว จับไอ้ฉานกดได้แล้ว

 :z13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 10 ,24 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 27-03-2010 21:10:40
คืนนี้ไม่ใช่คืนเดือนมืดนะ ดวงตะวันขึ้นมาฉานแสงแรงกล้าให้ก้อนเมฆได้แล้วววว

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 27-03-2010 22:27:25
ต้องขออภัยนะเจ้าค่ะ ช่วงนี้กำลังติดตามท่านเจ้าคุณ เลยไม่ได้มาลงนิยาย  :m23: เชิญติดตามตอนต่อไปเลยจ้า
========================================================
ตอนที่ 11

ตลอดเวลาที่มาถึงห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านน้องฟาง แต่ห่างจากบ้านพวกผมประมาณสามโลก
นายสยมภูก็มีสภาพเป็นตัวแถมอย่างสมบูรณ์แบบ
นั่นมันทำให้ผมเบื่อโลกแต่แสดงออกมาไม่ได้ อีกหนึ่งอย่างที่ผมควรต้องเรียนรู้คือ
พื้นฐานการแสดงนั่นเอง สร้างภาพยังไงให้โลกรู้ว่ากูสนุกสัดๆ  เฮ้ออออออออ!! เกิดเป็นกูแท้จริงยิ่งลำบาก
เซ็งครับเซ็ง
แต่แค่เซ็งนะ ไม่ได้ “หึง” ห้ามคิดว่านี่คือการหึงเด็ดขาด
ถึงแม้ว่าตอนแรกไอ้ฉานบอก เราจะมาดูหนังกันสองคน แล้วกลับไปกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้านตามปกติ
แล้วตอนนี้ ก็มีน้องฟางเข้ามาร่วมแจมอีกคน ปกติไอ้ฉานมันก็หิ้วสาวบ่อยๆแหละครับ แต่ที่ผ่านมา มันหิ้วแบบไม่เปิดเผยเหมือนตอนนี้ นั่นคือผมรู้แต่ผมไม่เห็นนั่นเอง เลยอธิบายความรู้สึกอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นในอกผมว่าอะไรดี
ผมเดินเล่นคนเดียว เน้นย้ำว่าคนเดียว เพราะคู่นั้นเค้าเข้าไปซื้อตั๋วหนังนานหลายชาติเศษแล้ว
สงสัยแมร่งไปช่วยเค้าพิมพ์ตั๋ว
วุ้ย เห็นอะไรก็หัดหูขัดตาไปหมด
ผมยืนดูตัวอย่างหนังโปรแกรมหนึ่งที่ฉายร่วมกันกับเรื่องที่ผมมาดูอยู่พอดี
พอตัวอย่างหนังเริ่มวนกลับมาที่เดิม ความสนใจผมก็หมดไป ผมกำลังจะหันหลังกลับไปหาสองคนนั้น
ก็พบว่า ตัวเองเกือบชนผู้ชายคนนึง ที่สูงกว่าผมมาก สงสัยตอนเด็กๆแม่บดเสาไฟฟ้าให้กินกับกล้วย(ยังจะพาลคนอื่น)
เค้าหน้าตาไม่เรียกว่าหล่อ  แต่ด้วยบุคลิคและการแต่งตัวประกอบกัน ผมพิจารณาพร็อพโพชั่นแล้ว
อืมมมมม ดูดี
ฉิบหาย ไอ้เมฆ มึงพลิกตัวเร็วไปเกือบชนใครก็ไม่รู้ แทนที่จะขอโทษตามจิตสำนึกที่ควรมี มึงเสือกพิจารณาเค้าตั้งแต่หัวจดเท้า ไม่พอ มึงยังทำสันดานวิจารณ์เค้าอีก
พระอินทร์ครับ พระอะไรอีกก็ได้ครับ สยมภูผิดไปแล้ว
“ ขอโทษครับ ผมไม่ทันมองว่าคุณก็ยืนดูอยู่” ที่สำคัญ มาพิจารณาดูอีกที ถ้าผมหันตัวมาแล้วจะชนตาคนนี้ได้ แสดงว่ามัน
เอ้ย คุณคนนี้ ยืนซ้อนหลังผมเลยนี่หว่า แจ็คกะโรสลอยมาแทกกบาลกูในทันที
“ไม่เป็นไรครับ ผมเห็นตรงนี้น่าสนใจดี เลยรีบมาดูอะครับ “ เอ๊ะ มันตอบแปลกๆนะ หรือมันเรียนโรงเรียนนานาชาติวะ
เลยไม่ถนัดใช้ภาษาไทย ถ้าเป็นพี่เมฆนะ พี่เมฆจะบอกว่า “ตัวอย่างหนังเรื่องนี้น่าสนใจดี ไม่ใช่ตรงนี้น่าสนใจดี” เหอะ เหอะ
“มาดูหนังคนเดียวเหรอครับ” เค้าสานต่ออะครับ พี่เมฆนิสัยดี แถมตอนนี้เซ็งอยู่ คุยด้วยก็ได้ ปกติพี่เมฆหยิ่งนะเนี่ย
“ป่าวครับ มากับเพื่อนแล้วก็รุ่นน้องอะครับ” ตอบถามจริงแถมละเอียดด้วยเถอะ
“ อ้าว ผมก็คิดว่ามีพวก เพราะผมมาดูหนังคนเดียวครับ” หน้ามันเหี่ยวลงนิดนึงครับดูท่าทางจะผิดหวังที่ผมไม่ใชพวกเดียวกะมัน ผมยังปกติครับ ไม่พิลึกพิลั่นมาดูหนังคนเดียวหรอก
“เอ่อ ผมว่าหาที่นั่งมั้ยครับ “ ไม่ได้อ่อยนะ แต่เมื่อยแล้ว คุยได้ไม่ว่า แต่ขอนั่งคุยเหอะนะ
“ดูท่าทางไม่ได้เรียนแถวนี้ใช่มั้ยครับเนี่ย” มันรู้ได้งัยวะ นี่เมื่อเช้ากูขาดเข็มขัดนักศึกษาไว้ที่หน้าผากป่าววะ
เร็วตามใจคิด ผมก็ต้องเอามือลูบๆหาไอ้ที่ว่าที่หน้าผากอะครับ
“ครับพอดี มาส่งน้อง แถวนี้อะครับ” เชื่องเนอะเมฆ มึงนี่บอกเค้าหมด เค้าชื่ออะไรมึงยังไม่รู้เลย
“เต้นะครับ คุณทำตัวเป็นธรรมชาติดีจัง” อะไรของมันวะ ทำตัวธรรมชาติอย่างที่ว่าเนี่ย พี่เมฆจะถือว่าเป็นคำชมนะ
“เมฆครับ อยู่ปีสอง มหาลัย …….จะขึ้นปีสาม” หูยย ตอบยังกะเล่น MSN ห้องหาคู่เลนะมึงไอ้เมฆ
“งั้นเมฆเป็นน้อง พี่เต้อยู่ปี 4 แล้วหละ มีเบอร์โทรป่าวเนี่ยเรา เอามาหน่อยสิ เมฆคุยสนุกดี” ขอโทษครับ ขอให้ทุกคนคิดว่านี่คือข้อสอบโอเน็ต แล้วจงวิเคราะห์ว่า ที่ผมกะพี่เต้คุยกัน ประโยคไหนบ่งบอกว่าผมคุยสนุกครับเนี่ย
“081……71…..28……” พี่เมฆไม่ได้ใจง่ายน๊า แต่ว่าเค้าเอามือถือมารอเมมแล้วอะ ตามมารยาทนะตามมารยาท
“ขอบคุณครับ พี่เต้ยิงเบอร์พี่เต้ไว้ที่เครื่องน้องเมฆแล้วนะ เมมด้วยหละ “ ผมพยักหน้าหงึกหงัก ประมาณว่าเชื่องแล้วก้เอาให้ถึงที่สุดไปเลยแล้วกัน
“เมฆ มึงจะดูมั้ยหนัง กูเดินตามหาตั้งนาน เร็ว” ไม่ต้องเดาครับ คุณก็รู้ว่าใคร เดินแทคทีมกันหน้าบูดเข้ามาหาผม
หากูแค่นี้ทำบ่น ชิส์ หน้าโรงหนังจะกว้างแค่ไหนกันเชียว ไม่ใช่สนามหลวงนะเว้ย ผมชักสีหน้าตอบโต้บ้างสิครับ
“พี่เต้ครับ ผมไปก่อนนะ”  ผมบอกลาพี่เต้ที่ทำหน้าเอ๋อ เหรอหรา ที่ไอ้ฉานกะน้องฟางไม่มีทีท่าจะสนใจ ที่พี่เต้อยู่ในวงสนทนาด้วยแต่อย่างใด
“มึงให้เบอร์โทรมันเหรอ” มันเดินไปลากผมไปแล้วยังสามารถซักฟอกไปด้วยได้ ไอ้มากความสามารถเอ้ยยยยยยย
“อืม” ตอบสั้นๆก็พอครับ ต้องรอดูเอฟเฟคกลับมาก่อน
“ให้ทำไม มีธุระอะไรต้องติดต่อกันเหรอ” เอ่อ เห็นมั้ยครับ ว่าไอ้นี่ลูกผีลูกคน กูไม่ใช่เหรอที่ควรเหวี่ยงใส่มึงอ่ะ
“ก็เค้าขออะ” ถ้าเป็นมึง มึงก็ต้องให้แหละ แค่เบอร์เอง
“เพิ่งรู้นะว่ามึงนี่ใจง่าย “ ฉึก!! ไรของมันวะครับ แค่ผมให้เบอร์ไอ้พี่เต้ นี่ผมใจง่ายเหรอ มันแปลกตรงไหนอะ ไอ้การให้เบอร์เนี่ย แล้วอีกอย่าง ก็ผู้ชายเหมือนกันนะ ทั้งชีวิตจะให้สนิทกะมันคนเดียวเลยหรือไง กูก็โมโหเป็นนะ
“ก็แล้วมันจะอะไรนักหนา ก็แค่เค้าขอเบอร์แล้วกูก้ให้ เค้าก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ก็สุภาพกะกูดี”
“ เออเมฆ มึงอะเก่ง เก่งตลอดแหละ ไม่ต้องมีใครคอยเป็นห่วงมึงแล้วก้ได้ใช่ป่ะ เดี๊ยวนี้กูพูดไรนิดอะไรหน่อยชักสีหน้าใส่กูนะ ได้เมฆได้ แล้วต่อไปนี้นะ กูไม่ยุ่งวุ่นวายกะชีวิตมึงก็ได้” ไปกันใหญ่แล้วครับ ไอ้ฉานมันเป็นอะไรเนี่ย แล้วที่ชักสีหน้าใส่ มันสมควรมั้ยหละ เรื่องเล็กน้อยเองนะ แล้วมันพูดแบบนี้ใส่ผม มันคิดว่ามันโกรธได้ แล้วผมน้อยใจไม่ได้เหรองัย
ไม่ยุ่งวุ่นวายกับผมอีกก็ได้งั้นเหรอ
ก็ได้ฉานก็ได้ ไม่มีมึงกูก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
แค่ต้องอยู่คนเดียวให้ได้ ครั้งแรกในรอบ 15 ปี
ผมยังคงเข้าไปดูหนังกับน้องฟางและไอ้ฉานตามปกติ
ไม่รู้ว่าหนังเรื่องราวมันเป็นยังไง สนุกสนานแค่ไหนผมไม่รู้ ผมรู้แต่ทำไมไอ้ฉานมันสนใจแต่ความรู้สึกของตัวมันเอง
มันโกรธผม มันประชดประชันผม โดยที่มันไม่รู้ว่า ผมเองก็โกรธมัน แต่ไม่เคยประชดประชันมันเลย ทั้งๆที่วันนี้ คนที่ควรโกรธคือผม แต่ก็กลายเป็นมันจนได้ ที่มาโกรธผมแทน ถึงแม้เรื่องทะเลาะกันของเรา จะเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนการกินข้าวไปแล้วก็ตาม แต่ไม่เคยเลยสักครั้ง ที่มันจะบอกผมว่า จะไม่มายุ่งวุ่นวายกับผมแล้ว
ไม่ปลุกให้อาบน้ำไปเรียน
ไม่มารับไปส่งที่คณะ เวลาที่ผมมีเรียนบ่าย ขณะที่มันมีเรียนเช้า
ไม่มาช่วยผมคิดคอนเซปงาน ที่บางครั้งมันรำคาญ มันก็ทำให้เสียเอง
ไม่มาบงการชีวิตนู่นนี่นั่นของผม
ไม่มาทำให้รำคาญ ไม่มาแหย่ให้ผมโกรธ แล้วมันก็ทำท่าบ้าๆใส่ผม ให้ผมต้องหัวเราะ
ไม่มีผมที่คอยทำอะไรง่ายๆให้มันกิน แล้วมันต้องล้างจาน
ไม่มีใครช่วยแปรงกางเกงยีนส์ก่อนลงปั่น ไม่มีใครช่วยตากผ้า
มันก็แค่นั้น ก็แค่ต้องอยู่คนเดียว

แล้วน้ำตา ทำไมต้องไหลวะ เรื่องแค่นี้เอง

วันนั้นหลังจากดูหนังและกินข้าวกันเสร็จ มันไปส่งน้องฟางที่บ้าน
แล้วเราก็กลับมาหอด้วยกัน โดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ
ผมไม่ถามว่าทำไมมันไม่กลับบ้าน เพราะว่าก็ดีเหมือนกัน ถ้ากลับบ้านไปแล้วผมกับมันมึนตึงใส่กันแบบนี้
แม่มันและแม่ผมเองก็คงกลุ้มใจกันแน่ๆ
พอกลับถึงหอ มันไปขลุกอยู่ในห้องมัน ผมเองก็ขลุกอยู่ห้องตัวเองเหมือนกัน
ทำไมผมต้องมาคิดมากกับความไม่มีเหตุผลของมันด้วยวะ
ไม่เข้าใจตัวเองสักที

แสงแดดของช่วงเวลาไหนของวันก็ไม่รู้ ส่องเข้ามาทางหน้าต่างห้อง น่าจะเป็นแสงของช่วงสายๆของวันจันทร์
วันนี้ผมมีเรียนบ่าย ส่วนใหญ่วันนี้ผมจะตื่นประมาณ สิบเอ็ดโมงถึงเที่ยง แล้วประมาณเที่ยงครึ่งไอ้ฉานมันต้องมารับผมไปกินข้าว แล้วเราก็แยกย้ายไปเรียนวิชาของใครของมันในตอนบ่ายด้วยกัน
ผมยันตัวเองลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เรี่ยวแรงที่มีหายไปไหนหมดไม่รู้ ตามมาด้วยหัวสมองมันหนักอึ้งพร้อมๆกับอาการปวดตุบๆข้างใน ทำให้ผมต้องล้มตัวลงนอนอีกรอบ แล้วทำไมแดดข้างนอกจ้าขนาดนี้ ผมถึงได้รู้สึกหนาวจัง ผมขดตัวเข้ากับผ้านวมเอาผ้านวมมาพันๆตัวให้รับอากาศน้อยที่สุด ผมคงไม่สบาย จากอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวที่รู้สึกตอนเคลื่อนไหวเมื่อกี้แล้วบอกชัด นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ ครั้งสุดท้ายที่ผมไม่สบายมันตอนไหนกันนะ แล้วก็อยู่มาได้ตั้งนานทำไมถึงไม่เป็น
มาเป็นอะไรเอาตอนนี้  ตอนที่ไม่มีใคร เอาใจใส่เหมือนอย่างเคย

กำลังจะเอื้อมมือควานหาโทรศัพท์ เพื่อบอกใครสักคนในกลุ่มผม ว่าวันนี้ ท่านเมฆคงไม่เข้าเรียน แต่ร่างกายมันก็ไม่เอื้ออำนวย แค่เพียงผมยื่นมือออกนอกผ้านวม ความหนาวก็เข้ามาปะทะจนปวดแล้วก็ชาไปหมด ไหนจะรู้สึกอยากจะอาเจียนตอนที่ผมกำลังจะขยับตัวอีกครั้งหละ ตอนนี้สัญชาตญาณบอกผมว่า ควรอยู่นิ่งๆเท่านั้น

นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมหลับไปพร้อมกับพิษไข้ ได้ยินเหมือนเสียงใครเรียกเบาๆอยู่หน้าห้อง อย่าว่าแต่ลุกไปเปิดประตูให้เจ้าของเสียงนั้นเลย แค่ผมขยับตัวเพียงนิด ห้องทั้งห้องก็หมุนโพรงพร้อมๆกับที่ลมในท้องพยายามตีมวลอากาศให้ออกมาเสียให้ได้ นี่ผมจะตายหรือเปล่า ได้แต่หวังในใจว่า ขอให้เสียงที่เรียกผมอยู่ไกลๆด้านนอก เข้ามาเห็นผมในสภาพนี้ได้
ผมยังไม่อยากตาย ผมยังไม่ได้เห็นแม่เลย ยังไม่ได้ทดแทนบุญคุณแม่นิ่มที่รับภาระแทนแม่จริงๆผมมาตลอด ยังไม่รู้เลยว่าความฝันที่ผมเคยฝันมาตลอดว่า วันรับปริญญา จะเห็นแม่สองคนมายืนขนาบผมในชุดครุยพระราชทานแล้วยิ้มใส่กล้องมันเป็นยังงัย ยังไม่ได้ถามคนใจร้ายอย่างไอ้ฉาน ว่ามันโกรธอะไรนักหนาถึงกับตัดขาดกันขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าวันนี้มันจะตัดเยื่อใยกับผม แล้ววันนั้นมันลากผมไปเล่นด้วยทำไม มาสนิทกับผมให้ต้องผูกพันธ์กับมันทำไม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 27-03-2010 22:33:52
ตอนต่อไปเลยแล้วกัน  :mc4: ขอบคุณทุกคนที่คอมเม้นท์นะคะ รักนะจุ๊บๆ  :จุ๊บๆ:

===================================

ตอนที่ 12

ผมค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมองฝ้าเพดานอีกครั้ง พยายามหยีตาสุดชีวิต เพราะกลัวฝ้าเพดานจะเล่นม้าหมุนใส่ตาให้ผมนึกอยากอาเจียนอีก ปรากฎว่าครั้งนี้ ฝ้าเพดานปกติดี แม้มันจะพร่าเลือนไปสักหน่อยก็ตาม ผมค่อยๆปรับสายตาไล่มองไปรอบๆ ห้อง แต่ก้ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อพบกับ เงาร่างของคนหรือวิญญาณไม่ทราบได้ หลายชีวิตอยู่ข้างๆเตียงผม

หรือว่านี่คือวิญญาณบรรพบุรุษ ที่มาตามเสด็จองค์อิศวรกลับไปบนฟากฟ้า

“เฮ้ยๆ ไอ้เมฆตื่นแล้ว” เสียงใครสักคนร้องบอกคนกลุ่มนั้น แล้วในกรอบสายตาก็เห็นทุกคนเคลื่อนไหวเข้ามาที่ผม

ผมพยายามเพ่งมองทุกคนให้ชัดกว่านี้ ปรากฎว่า เสียงเมื่อกี้เป็นไอ้หน่านั่นเอง เพราะมันเป็นหนึ่งชายในร่างหญิงเพียงคนเดียวของกลุ่ม ผมมองไล่ไปก็เจอ ไอ้หวาน ไอ้ดิว คราวนี้ไอ้ยอนก็มาด้วย  สรุปคือเพื่อนสนิทผมมากันครบ แม้กระทั่งไอ้แกละ ไอ้ไผ่ ไอ้ไม้ เพื่อนไอ้ฉานก็มา 7 ชีวิตอัดกันอยู่ในห้องผม กวาดตามองหาไอ้ตัวใจร้ายก็ไม่เห็น
ใช่สินะ ลืมไป มันจะไม่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตผมแล้วนี่
แต่นี่ท่านเมฆไม่สบายอยู่นะ แบบนี้มันไม่เรียกใจร้ายแล้ว เค้าเรียกใจดำ
“มึงค้อนอะไรกูไอ้เมฆ พวกกูเป็นห่วงแทบตาย นึกว่านอนอืดตายอยู่คาห้อง” ไอ้หวานไอ้ปากหมา กูค้อนดินฟ้าอากาศ เว้ย
“พวกมึงเข้ามากันได้งัยเนี่ย” นั่นสิครับ ผมอยู่ในห้องคนเดียว แถมไอ้ฉานไม่อยู่ พวกมันเข้ามากันได้ยังงัย
“มึงคิดว่าวันนี้วันอะไรครับควาย มึงนอนตายมา 1 วัน กับ 1คืนแล้ว” สรุปว่านี่คือวันอังคาร แล้วเหรอ
“เมื่อวานไอ้ดิวมันแวะมารับมึงไปเรียน มาเรียกอยู่นานสามชาติได้ มึงไม่ออกมาสักที โทรไปหาไอ้พวกนี้ก็ว่ามึงยังไปไม่ถึงคณะ” อืมเรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง
“กูเลยโทรหาไอ้ฉาน มันก็เหาะมาช่วยกูกู้เก็บศพมึงเนี่ย” ไอ้ดิว เสือกปากดี ถ้ากูตายจริงขึ้นมา มึ่งนั่นแหละขี้คร้านจะร้องโวยวายที่ต้องเสียเพื่อนหน้าตาดี ชิส์
ว่าแต่ ไอ้ฉานมาช่วยไอ้ดิวดูผมเหรอครับเมื่อวาน แล้วนี่มันหายหัวไปไหนหละ
เสือกอยากปิดทองหลังพระเอาตอนนี้ไม่ทันแล้วเว้ย กูรู้แล้ว แอบดีใจอยู่ลึกๆนะเนี่ย
“กูซื้อข้าวต้มมาฝาก แต่ไอ้หน่า แมร่งบอกกูว่าให้ซื้อโจ๊ก กูเลยซื้อแมร่งมาทั้งคู่” ไอ้หวานครับไอ้หวาน รอบคอบดี แต่โทษทีหวะเพื่อน ที่นี่เป็นครั้งแรกที่กูป่วยร้ายแรงให้พวกมึงเห็น แล้วกูก็ไม่เคยบอกพวกมึงไว้ก่อนว่า กูไม่สบาย กูจะไม่กินโจ๊กกะข้าวต้มเด็ดขาด ก็นั่นมันอาหารคนป่วยนี่ครับ เราจะกินตอกย้ำความป่วยทำไม
ท่านเมฆนะเวลาป่วยทีไรมีแต่คนเอาใจ เพราะฉะนั้น เวลาป่วยทีไร อะไรที่ท่านเมฆอยากกินก็จะได้กินครับ
ต่อให้ร้านอร่อยอยู่คนละซีกโลกของบ้าน ไอ้เมฆก็ได้กินอยู่ดี วะฮ่าฮ่า
แล้วไอ้คนที่รู้จุดนี้ของผมดี มันไปไหนซะละครับ
“ขอบใจนะพวกมึง แต่กูขมคออ่ะ ไม่อยากกินอะไร” บอกเหตุผลตามความจริงไป ก็โดนมันด่าแย่สิครับ พี่เมฆหรือจะพลาด
“แล้วถ้ามึงไม่กินอะไร มึงจะกินยาได้งัย” นั่นสินะ แต่ว่ายาพี่เมฆก็ไม่อยากกินนะ ไม่โปรด
“แล้วมันมียาแบบกินแล้วหายโดยไม่ต้องกินข้าวปะ” ไม่ได้กวนตีนนะครับ นี่พี่เมฆปรึกษาจริงจัง
“บ้านพ่อมึงสิ ที่ไหนเค้าจะมียาแบบที่มึงว่า ไม่ป่วยก็บ้า ป่วยแล้วก็ยังไร้สาระ” อ้าว ไหนว่าไอ้หน่ามันจะปากหมาแค่กะไอ้ฉานงัย
“กูจะกินไอ้ที่อยู่ในมือไอ้หวานอ่ะ” มันคือซาลาเปาไส้หมูแดง 7-11 นี่แหละครับ ผมพิจารณาแล้วดีกว่าโจ๊กกะข้าวต้มแน่ๆ


แย่งซาลาเปาจากไอ้หวานมาได้ พวกมันก็บังคับเอายากรอกปากผมแล้วก็แยกย้ายกันไปให้ผมพักผ่อนครับ
พี่เมฆไม่อยากขัดใจเพื่อน เลยจัดหลับยาวแบบคอมโบ้เซตใส่ เป็นไงหละ ตื่นขึ้นมาอีกที ตอนนี้รอบตัวมืดมิดไปหมด
แล้วไอ้พวกนั้นก็หายหัวกันไปหมด ไม่เหลือไว้เป็นเพื่อนผมสักคน
กำลังจะลุกขึ้นไปสูดอากาศภายนอกห้องบ้าง ก็ต้องเซล้มลงไปนอนอีก ถ้านอนนิ่งๆทุกอย่างก็เป็นปกติดีอยู่ครับแค่จะรู้สึกปวดเมื่อยตามเนื้อตัวอยู่ แต่พอลุกสิครับ เซไม่เป็นท่าเลยทีเดียว
“จะลุกไปไหน” ไอ้ฉานครับ อยู่ๆมันก็เข้ามาในห้องผมพอดี คงเห็นที่ผมพยายามลุกแล้วล้มลงไปนอนอีกนั่นแหละ
มันเปิดไฟ แล้วเดินมาที่ผม ก่อนจะปรับแอร์ให้เย็นลงหรืออุ่นขึ้นก็ไม่รู้ ดูไม่เห็นครับ
“แล้วนี่ไอ้พวกนั้นบอกว่ามึงไม่ยอมกินข้าว” แหนะ มันมีฟ้องกันด้วยเว้ย อย่าให้พี่เมฆมีแรงนะ จะตามจัดการให้ครบทุกปากเสียงเลยเชียว
ผมไม่พูดอะไรครับ ได้แต่ส่งสายตาไปที่ต้นเหตุ ที่ตอนนี้นอนนิ่งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงผม ไอ้ฉานมันมองตามสายตาผมมาแล้วก็ต้อง ถอนใจ
“ซื้อกระเพาะปลาผัดแห้งมาให้ เดียวกินซะหน่อยจะได้กินยา” โห นี่ถ้าไม่ติดว่าผมกะมันงอนกันอยู่นะ จะโน้มคอพี่ฉานลงมาดูดปากสักสองสามที แหมรู้ใจจริงๆ
หิวมากครับตอนนี้ เพราะตั้งแต่วันอาทิตย์ จนถึงวันนี้ ซาลาเปาไอ้หวาน เป็นเพียงอาหารชนิดเดียวที่มีโอกาสเล็ดลอดเข้ามาทำความรู้จักกับกระเพาะคนหน้าตาดีอย่างผม
“ไปกินที่ระเบียงได้มั้ย” ไม่ได้อ้อนนะครับ แต่อุดอู้ในห้องมาหลายวันแล้ว อยากออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง
“อืมได้ เดี๊ยวจะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ มึงเหงื่อออกซะเบาะชุ่มขนาดนี้ “ เออ เริ่มรู้สึกอยากอาบน้ำด้วยเลยเนี่ย
“อาบน้ำด้วยเลยได้ป่ะ กูเหนียวตัว” ขอมันหน่อยครับ ไถ่โทษที่ว่ามันใจร้าย
“ไม่ได้ อย่าอวดดี เดี๋ยวไข้กลับมาอีกหรอก”เมื่อกี้ ขอถอนคำพูดครับ
มันพยุงผมออกมาตรงม้านั่งที่ระเบียงห้อง แล้วไปจัดแจงเอากระเพาะปลาผัดแห้งของโปรด แล้วน้ำซุป และน้ำเปล่าครบชุดมาประเคนให้บนโต๊ะ ผมคงเผลอมองมันนานไปมั้งครับ
“ทำไม ไม่กินหละ อย่าบอกนะว่ารอกูป้อน” มันด่าเสร็จไม่รอคำตอบ เดินตัวปลิวเข้าห้องไปครับ ไหนๆมันก็ไม่เห็น กูขอแลบลิ้นไล่หลังมึงสักทีเหอะไอ้ฉาน หมั่นไส้มันจริงๆครับ
“เอ้า คลุมไว้ เด๊ยวก็ได้นอนสั่นอีกอะ” มันโผล่มาตอนไหนไม่รู้ครับ เอาผ้ามาให้คลุมไหล่ทำเอาสะดุ้งกันเลยทีเดียว
“ไม่กินด้วยกันเหรอ” กินคนเดียวมันก็เหงาะเนอะครับ
“กิน เดียวออกมากินด้วย มึงกินไปก่อนได้เลย กูไปถอดผ้าปูที่นอนมึงมาซักก่อน เชื้อโรคทั้งนั้น เดี๊ยวคืนนี้มันกระโดดมาติดกู” เอ๊ะ จับใจความประโยคหลังได้ว่า เดี๊ยวมันกระโดดมาติดกู ซึ่งก็หมายความว่า คืนนี้มันจะมานอนกับผมเหรอ

มันหายไปในห้องอีกพักใหญ่ๆ ออกมาที่ระเบียงอีกทีพร้อมกับจานข้าวมันเองครับ
“คืนนี้มึงจะนอนห้องกูเหรอ” เค้าบอกว่าเด็กฉลาดมักช่างซักถามใช่มั้ยครับ
“เออสิ เมื่อคืนกูก็นอน เหงื่อมึงไหล กูยังตกใจคิดว่าฉี่รดที่นอน” บ้านมึงสิ กูโตขนาดนี้แล้วจะมาฉี่รดที่นอนได้งัย ผมทำหน้าบู้ใส่มันเลยครับ ไม่ไหว ไอ้บ้านี่ใส่ความ
“แล้วทำไมไม่กินคึ่นช่าย กินเข้าไปเลย มันช่วยขับไข้ “ มันเริ่มกลับมาแล้วครับ วิญญาณผู้กำกับแห่งชาติ ผมจะไปทำอะไรได้ นอกจากเก็บกลืนไอ้ผักที่ผมโครตเกลียดเข้าไปแบบผะอืดผะอม ไอ้ห่าฉานมันค่อยๆยิ้มก่อนจะหลุดเก๊กขำผมออกมา
“เดี๊ยวกินยาเสร็จแล้วกูเช็ดตัวให้ จะได้นอนสบายๆ คืนนี้เปิดแอร์ปกติได้แล้วมั้ง “ มันไม่พูดเปล่าครับ มันเอามือมาลูบหัวผมด้วย ทำไมรู้สึกอบอุ่นจัง
“พอฟื้นไข้แล้วก็อวดดี ทีเมื่อคืนทำไมไม่ลุกขึ้นมาเช็ดตัวเองหละ” ก็ถ้ากูรู้ตัว กูก็คงจะปล่อยให้มึงทำแล้วมาทวงบุญคุณกูอยู่ตรงนี้มั้งสาด

จัดให้มันไปครับ อย่าคิดว่าผู้หญิงเท่านั้นที่ทำได้ ท่านเมฆก็ทำได้ครับ ค้อนวงใหญ่ จัดไปอย่าได้แคร์

ผมไม่รู้นะว่า มันพักข้อกำหนดที่ว่าจะไม่มาวุ่นวายกับผมชั่วคราวเพราะผมกำลังป่วย หรือว่ามันลืมไปแล้วว่าประกาศตัดเยื่อใยอะไรไว้กับผม
ผมเองก็ไม่อยากถาม เพราะไม่รู้ว่าถ้าถามไปแล้ว มันจะยังดูแลผมอยู่มั้ย เพราะเวลาไม่สบายทีไร มีมันอยู่ด้วยแบบนี้ ผมก็อุ่นใจดี และบางทีก็รู้สึกมีความสุขพัดผ่านเข้ามาในใจผมด้วย ก็ถ้าเกิดมันยังอยู่ข้างผมแบบนี้ เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ก็ไม่รู้จะเก็บกลับมาให้เป็นปัญหาอีกทำไม ในเมื่อที่เป็นอยู่นี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว

“เมฆเข้ามาข้างในได้แล้ว กูเปลี่ยนผ้าปูแล้ว มึงเข้ามาเช็ดตัวสักที” โหย อะไรเนี่ย ท่านเมฆขัดใจ ก็ตอนออกไป ไม่ใช่หมาฉานหรอกเรอะที่พยุงออก ทำไมตอนเข้า มันไม่มาพยุงท่านเมฆเข้าไปละวะ
 “อ้าว กูลืมไปว่ามึงไม่สบาย ต้องได้รับการเอาใจอยู่” ชิส์ ที่อย่างนี้ละรู้นะมึง ผมเงียบไปนี่ครับเมื่อกี้ มันเลยต้องออกมาตามท่านเมฆที่ระเบียงนี่แหละ
เข้าห้องมาได้ ไอ้ฉานมันก็ต้องไปเตรียมน้ำอุ่นน้ำร้อน น้ำเย็นตามเรื่องของมันครับ เพราะท่านเมฆยุ่งอยู่ นั่นคือ นั่งแทะข้าวโพดต้มฝักใหญ่ รอท่าอยู่หน้าห้องน้ำครับ มันจะต้องมีพิธีอะไรนักหนา กะแค่ว่าเช็ดตัว นั่งกระดิกเท้าไปได้พักใหญ่
ไอ้ฉานมันก็ออกมาครับ ทำหน้ารำคาญพร้อมส่ายหัวให้ผมอีกนิดหน่อย
“เมื่อกี้ยังไม่อิ่มเหรอ ถอดเสื้อสิ เมื่อกี้แม่โทรมาบอกว่า ถ้ามึงซ่าถึงขั้นต่อปากกะกูได้แล้ว ให้เอาน้ำต้มใบมะขาม ให้มึงลงแช่ “ นี่แสดงว่า ท่านเมฆกำลังเข้ารับการสปาแบบท้องถิ่นนะสิครับ
“ไม่ต้องเช็ดตัวแล้วเหรอ “ ดีครับอยากอาบมากกว่าเช็ด ก็นะ มันต่างกันเป็นไหนๆ ไอ้เช็ดตัวกะอาบอ่ะ ถึงจะมีใบมะขามเป็นพร็อพแทนกลีบกุหลาบในสปาสุดหรูก็เหอะ พี่เมฆจะคิดว่าเป็นงานอาร์ตก็แล้วกัน
“ไปเอาใบมะขามมาจากไหน” ผมพูดไปแกะเสื้อนอนตัวเองไปครับ
งงใช่มั้ย ว่าถอดเสื้อผ้าต่อหน้าไอ้ฉานทำไมผมไม่อาย บอกให้ก็ได้
หนึ่ง ผมเป็นผู้ชาย ไม่เขินอายแบบผู้หญิงหรอก
สอง ผมกับไอ้ฉาน แก้ผ้าเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ถึงโตแล้วบางครั้งก็ยังอาบน้ำด้วยกันอยู่
“ไอ้หวานมันไปหามาให้ในมหาลัยนั่นแหละ” เหอ เหอ ใช่ต้นที่ผมเคยไปแอบพิเรนฉี่รดไว้รึเปล่าก็ไม่รู้
ไอ้ฉานมันพูดไปมันก็ดึงผมลงมาแช่ในอ่างไป อ่างอาบน้ำหอผม คงมีประโยชน์ก็คราวนี้แหละ ถ้าเลือกได้ ผมกะไอ้ฉานมีความเห็นตรงกันว่า จะไม่ทำห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำเด็ดขาด เปลืองพื้นที่ แถมนานๆทีถึงจะได้ใช้อีก มีแค่ห้องอาบน้ำก็พอแล้วมั้งผมว่า
“ตาโหลแถมขี้เหร่ลงไปเยอะเลยนะมึง ไม่สบายแค่สองวันเอง” หูย กูหน้าตาดีมาตลอดชีวิตแล้ว แสดงละครขี้เหร่บ้างอะไรบ้างจะเป็นไรไป
“เล่นเอากูตกใจแทบแย่ ทั้งตัวร้อนทั้งเพ้อ กูจะหามมึงไปโรงบาลตั้งหลายรอบ” อืม พูดไปถูหลังไปแบบนี้แหละดี มีประโยชน์
“แล้วทำไมไม่พาไปหละ รถก็มี” พูดไปงั้นแหละครับผม เอาเข้าจริงผมกลัวโรงบาลแบบขี้ขึ้นหัวเลยทีเดียว
“ไม่เอาอ่ะ เดี๊ยวหมาบางตัวตื่นขึ้นมาแล้วอาละวาด กูอายหมอ เดี๊ยวเค้าว่าหมาตัวเดียวเลี้ยงยังไง ทำไมไม่เชื่อง”
“ไอ้ฉาน หมาบ้านอาม่ามึงน่ารักได้อย่างกูเหรอ อย่าอยู่เลยมึง” ขอเตะมันสักทีเถอะครับ ปากดีขนาดนี้ แถมต่อยไหล่ให้มันเซอีกสักทีด้วย
“อ๊ะ อ๊ะ เมียพี่ฉาน เถียงสู้ไม่ได้ใช้กำลังทุกที มามะ ให้พี่ฉานชื่นใจที นี่เฝ้าไข้ทั้งคืนเลยนะ” มันดึงผมเข้าไปแล้วปล้ำหอมแก้มผมใหญ่เลยครับ หอมแก้มทั้งสองข้างแบบเน้นๆ ย้ำๆด้วย
“มึงกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าน้องฟางของมึงปะ สาด น้ำลายติดแก้มกูด้วยอะฉาน” โสโครกมากครับมัน ลองเอามือลูบแก้มดู เหนียวติดนิ้วมาเลยอ่ะ
“กล้าสิ มึงอยากลองต่อหน้าสาธารณะชนก็ไม่บอก นี่อย่าบอกนะ ว่าหึงกูกะน้องฟาง มึงนี่ไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆเล้ยย” มันตบกบาลผมอีกแล้วครับ ไอ้บ้านี่ ก็ชอบใช้กำลังเหมือนกันแหละ
“น้องเค้ามาจอดรถไว้ที่หน้าคณะมึงอะ แล้วหาย ตำรวจเค้าสกัดไว้ได้ที่วังน้อย พ่อแม่น้องเค้าจะไปตามรถกลับมาให้ ที่กูหายไปเนี่ย พาน้องเค้าไปทำเรื่องที่สถานีตำรวจมา แล้วก็เลยต้องรับผิดชอบพาน้องเค้าไปส่งบ้าน แล้วกูก็สงสารเลยเลี้ยงหนังปลอบใจ แล้วก็มาคิดเองว่ากูคั่วน้องเค้าใช่มั้ยเนี่ย เอาอะไรมาคิด มีมึงเป็นเมียคนเดียวกูก็ปวดหัวพอแล้วมั้ย “ ก็แล้วทำไมต้องเบิ้ลตบกบาลกูด้วยละเฮ้ยยย บอกดีๆ กูก็เข้าใจ กูฉลาดจะตาย
“กูจะมีใคร หรือทำอะไรที่ไหน ก็คิดถึงมึงก่อนเสมอแหละเมฆ แล้วมึงอะเวลาทำอะไร เคยคิดถึงใจกูบ้างรึเปล่า”
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 27-03-2010 22:45:23
ดวงตะวันเกิดอาการน้อยใจก้อนเมฆแฮ่ะ   


 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 27-03-2010 22:54:02
อร๊ายยยยยยยยยยยย 


อ่านตอนที่ 11 จบ
นี่แทบจะ  :z6:   อีตาพี่ฉาน โทษฐานที่ทำให้น้องเมฆของช้านนน  ร้องไห้
 :กอด1:  น้องเมฆ  ไม่มีตะวัน เอา ดาวพระศุกร์ไปแทนก่อนก็ได้นะ 
แม้ว่าจะเป็นดาวเคราะห์น้อยๆ ที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเองก็เถอะ...  :o8:


แต่พออ่านตอน 12 แล้วให้อภัยตะวันดวงโตก็ได้  ชิ
เห็นว่าดูแล น้งเมฆของดาวพระศุกร์ดีหรอก  เชอะ...




แหมมาว่า นุ้งเมฆของชั้นไม่นึกถึงจิตใจ....

อยากให้นึกถึงก็บอกความในใจไปเด้... :angry2:
เดี๋ยวโดน เสาไฟคาบไปกินนะเว้ย...


 :L2: ให้คนแต่งที่น่าร๊ากกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 27-03-2010 23:13:37
แอร๊ยยยยยยยยยย น่ารักที่สุด :-[
อีตาฉาน มัวอมพะนำ ไม่พูดให้ชัดเจน
ระวังจะโดนขโมยน้องเมฆไปนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจū
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 28-03-2010 01:24:59
โหหหห

ประโยคเด็ด โดนใจ

“กูจะมีใคร หรือทำอะไรที่ไหน ก็คิดถึงมึงก่อนเสมอแหละเมฆ แล้วมึงอะเวลาทำอะไร เคยคิดถึงใจกูบ้างรึเปล่า”


+ 1 ให้กับคนโพสครับ อย่าหายไปนานนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 28-03-2010 08:24:50
 :z6: อีพี่ฉาน 1ที โทษฐานทำให้น้องเมฆช้ำจายยย น้องเมฆจ๋า มาม๊ะ :กอด1: ปลอบจาย อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 28-03-2010 09:12:07
ง่ะ คืนดีกันซะและ ยังไม่ทันจะแง่ง ๆ ใส่กันเท่าไรเลย

 :z13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 28-03-2010 14:24:43
 :beat: หมั่นไส้พี่ฉาน
ทำน้องเมฆเสียใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 28-03-2010 15:29:11
 :a14: เชอะๆๆ! งอนเล็กน้อยถึงปานกลาง

ก็รู้อยู่ว่าน้องเมฆคนน่ารักคนนี้ไม่รู้อะไรเลย แล้วพี่ฉานยังมาพูดทำร้ายจิตใจอีก :beat:
ที่หายไปก็ไม่อธิบาย แล้วยังมาทิ้งเมียหายไปกะกิ๊ก(?)อีก
พอมีคนมาจีบน้องเมฆ..เค้าก็ประชดด้วยการมีกิ๊กมั่งซะเลยสิ(เหรออ?) :angry2:
ทำเค้าเสียน้ำตา คิดมากจนไข้ขึ้นแล้วก็รับผิดชอบด้วยการเอาใจเมียน่ารักๆคนนี้มากๆๆซะดีๆ :m16:
คราวหน้าคราวหลังอยากให้น้องเมฆหายไร้เดียงสาสักทีก็จับปล้ำทำเมียจริงๆซะทีสิ
เด๋วพี่เต้กิ๊กใหม่น้องฉานก็มาโฉบไปซะก่อนนะจ๊ะพี่ฉานสุดหล่อออ  :laugh:


มาต่ออีกเร็วไว&ยาวววววๆๆอีกเนอะเคอะ :กอด1: :จุ๊บๆ:

เป็นกำลังใจให้น๊าา  :L2:  &  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 28-03-2010 21:43:34
อ่านแล้วสะอึกตลอดเวลาโดยเฉพาะุถ้านึกคิดถึงเรื่องของตัวเองไปด้วย

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 29-03-2010 04:40:51
แวะมาบอกอิป้านุ้งเมฆ ไปตัดแว่นใหม่ได้แล้ว  :m20:

คนโพสค่ะ รอบหน้าขออีกสองตอนนะคะ  :impress2: แ้ล้วฝากถามคนเขียนหน่อย
มะไหร่มันจะกดของจริงกัน อยากอ่าน  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 29-03-2010 09:33:12
สงสารเมฆจังไม่โดนกดซะที  :sad4:
สงสัยคนแต่งทำไม่เป็นเลยยังไม่ถึงไหน
เมฆหายป่วยได้แล้วคนอ่านรอฉากอย่างว่าอยู่ :impress2:
ขอบคุณคนแต่งคนโพสจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ๋JEFF ที่ 29-03-2010 09:50:11
กรี๊ดดดดดดด


มึงจะกรี๊ดทำไมวะ :angry2:


เรื่องของกู  :laugh:


         น่ารักๆๆๆ



เป็นกำลัใจให้ เรื่องนี้ ด้วยค่ะะ


ขอติดตามมมมมมมมม !!


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 29-03-2010 20:34:57
เมฆยังไม่หายดี

ฉานเฝ้าไข้อยู่ ว่าแต่คนโพสหาย

รึ ว่าไปเฝ้าไข้เมฆเป็นคู่ฉาน :m20: :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 29-03-2010 20:40:21
คืนนี้ดวงตะวันจะมาให้ความอบอุ่นกะก้อนเมฆรึป่าวน้าาาาาา  :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ๋JEFF ที่ 29-03-2010 21:12:46
 

คิดถึงง   จังง

   :กอด1:

 เมื่อไร    ตะวัน จะกด ก้อนเมฆ ล่ะ

พิรี้พิไรอยู่ได้   :m31:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 29-03-2010 21:27:28
เข้ามาเพราะชื่อเรื่องสะดุดใจมากกก

ขอตัวไปอ่านก่อนเน้ออ

 :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 29-03-2010 22:15:40
โหย นะ แบบนี้เมื่อไรจะได้กันวะ  สงสัยคงอีกนานแน่ๆ

พี่เมฆไปยอมไอพี่ฉานแบบนี้ได้ไง ไม่ไหวๆๆ 

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 29-03-2010 23:09:54
เยสสสส อ่านตามทันแล้ว

พี่ฉาน ทำไมน่ารักกก

ชักจะหลงรัก แล้วสิ 5555555

ตอนพี่แกจูบกัน ใจฉัน สั่นไหว ก๊ากๆ


ตอนนี้ก็ได้แต่ รอ ว่าเมื่อไร จะ กด   กันซักที

55


 :กอด1: ไรเตอร์     :L2: คนโพสต์
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 30-03-2010 02:32:22
 :seng2ped:  รอวันฉัน (ฉาน) กดเธอ (เมฆ)

ไรท์เตอร์  จับกดกันเลย

รอนานและ

ไม่งั้น  :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 30-03-2010 14:56:47
คิดถึงผัวเมียคู่นี้อ่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 11-12 ,27 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 30-03-2010 16:20:28
โห นึกว่านุ้งเมฆจะเสร็จพี่ฉาน กลางอ่างอาบน้ำ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

แล้วนุ้งเซ หายไปไหนนนน

ไม่มาลงตอนต่อไปละเนี่ย

โดนฝังกลางป่าปาล์มไปแล้วรึยัง

 :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 30-03-2010 20:09:02
ต้องขออภัยนะคะ ช่วงนี้คนโพส มีภารกิจฟิชโช่  :laugh: เลยไม่ได้เข้าเล้าเท่าไหร่
แล้วอีกเรื่องคือ สต๊อกที่มีทันจะหมด  :serius2: คนเขียนทราบแล้วเปลี่ยน ส่งต้นฉบับมาอีก ด่วน!!!
=================================================

ตอนที่ 13


ไม่เห็นต้อง sad อะไร อะไรมากมาย
ไม่กลัวอยู่แล้ว ยังไง ยังไง ไม่ตาย
ตะโกนคำนี้ไปเลย ให้ดังๆ.. It’s alright..

ไม่ใช่ครับ เสียงนี้ไม่ใช่เสียงโทรศัพท์ท่านเมฆแน่ๆ แต่ว่าน่ารักดี (คนร้อง )
มันเป็นเสียงตามสาย ในคณะผมนี่แหละครับ เพราะโทรศัพท์หนะ ตั้งสั่นไว้
“สวัสดีครับ สยมภูรับสาย” ไม่รู้ใครสุภาพไว้ก่อนครับ เผื่อสาวหลงมา

“ใจร้าย โทรไปไม่เคยรับเลยนะ” โดนต่อว่ายามเช้าซะงั้น ว่าแต่ ใครวะ

“ใครครับเนี่ย”  วันนี้พี่เมฆอารมณ์ดี นานๆมีทีนะเนี่ย

“ว่าแล้วว่าไม่ได้เมมไว้ แล้วก็จริงอย่างที่คิดด้วย” หือ....ว่ากันตอนไหนวะ

“เราเคยเจอกันหรือครับ”
“เคยสิ คุยกันด้วยนะ ทำไมถึงลืมกันง่ายๆหละ พี่ยังจำนายได้ตลอด” ออกแนวตัดพ้อด้วย ท่านเมฆเคยไปเหยียบตาปลาใครไว้วะ

“พี่เต้เอง เจอกันที่โรงหนัง จำได้มั้ย อยู่ไหนครับเนี่ย” รัวขนาดนี้ ถ้าเป็นลูกกระสุน ไอ้เมฆตายไปนานแล้วครับ

“อ๋อ จำได้แล้วครับพี่เต้ อยู่คณะ ที่มหาลัยครับพี่ “ จริงๆแล้วแอบรื้อความจำอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน

“ดีเลยๆ เดี๋ยวพี่ไปรับ กินข้าวเที่ยงกันหน่อยนะ โทษฐานที่ไม่รับโทรศัพท์พี่” อ้าว จะปฎิเสธยังงัย ไหนเมื่อพูดเหมือนกูผิดเลย

“ครับพี่เต้ ว่าแต่ พี่รู้เหรอว่าผมอยู่ มหาลัยไหน คณะ อะไร “ ถึงพี่เมฆจะใจง่าย แต่ก็ต้องถามเพื่อความแน่ใจกันหน่อย

“รู้สิ คนที่น่าสนใจ พี่ก็ต้องสนใจหารายละเอียดของเค้าสิ “ หือ....ถ้าเป็นผู้หญิง คิดว่าโดนจีบอย่นะเนี่ย

“ครับ ครับ เมฆ รออยู่ที่คณะแล้วกันครับ “

สงสัยมากครับ ว่าพี่เต้ รู้จักมหาลัยและคณะที่ผมเรียนได้ยังงัย เพราะเราไม่ได้คุยกันระเอียดเจาะลึกในดีเทลขนาดนี้
แล้วอีกอย่าง วันนั้นให้เบอร์ไปตามมารยาท ไม่คิดว่าเค้าจะสานต่ออะไร แล้วพี่เค้าคุยกับผมเหมือนสนิทกันมาสักสามชาติได้ เอาเถอะครับ ไม่อยากจะสงสัยอะไรมากไปกว่าตอนนี้ และตอนนี้ ผมต้องโทรรายงานผู้ปกครองก่อน เดี๊ยวมันจัดเทศนาชุดใหญ่ โทษฐานที่ผมใจง่ายอีก
“ฉะ ฉะ ฉานแสงงงงง คร๊าบบบบบ” ปัญญาอ่อนใส่มันวันละนิด จิตแจ่มใส

“เรียกใหม่ว่า ผัวจ๋า เดี๊ยวนี้” พ่อมึงสิ ปัญญาอ่อนกว่ากูอีก
“ มึงอยู่ไหนอ่ะ “ เข้าเรื่อง ดีกว่า ดูท่าจะไม่ชนะมัน

“คงไม่ได้นั่งอยู่กลางใจมึงหรอก ไม่งั้นมึงคงไม่ใจร้ายกับกูขนาดนี้” มันเริ่มเชี่ย ใส่ผมแล้วมั้ย จะอารมณ์ดีอะไรนักหนา
เดี๊ยวกูชวนทะเลาะ ประเดิมที่เราเพิ่งหายงอนกันซะนี่ ไอ้นี่ขี้งอนยังกะผู้หญิง

“ ฉาน มึงพอก่อน กูจะบอกว่า กูมีนัดกินข้าวกะพี่เต้ นะ เดี๊ยวหาว่ากูไม่บอกอีก “

“เต้ไหน ทำไมกูไม่คุ้นวะ”  แล้วมึงต้องคุ้นกะคนรู้จักกูทุกคนเลยปะเนี่ย

“พี่เต้ คนที่เจอโรงหนังวันนั้นไง วันที่ไปส่งน้องฟางของมึงอ่ะ”  ขอประชดมันสักนิด หมั่นไส้

“ อ๋อ เชี่ยนี่ เป็นไรมากมั้ย อยู่ไกลกันสามโลก แถกมารับเมียกูเนี่ย กูไปด้วย” โธ่ มึงอยากกินฟรีอะดิ๊ แล้วไปด่าเค้า

“ เฮ้ย กูไม่ได้บอกนะว่าจะเอาเพื่อนไปด้วย ไม่น่าเกลียดเหรอวะ เค้าคงแค่ผ่านมาหนะ “ ท่านเมฆ แม่นิ่มสอนมาดีนะครับ เรื่องเกรงใจคน ท่านเมฆมีเต็มเปี่ยม

“ ผ่านบ้านป้ามึงสิ ไกลขนาดนี้ ส่วนของกู กูจ่ายเองได้ แต่กูต้องไปด้วย จะไปเฝ้าเมีย มีไรมั้ย ถ้าเรื่องมาก มึงก็ไม่ต้องไป”ไปก็ไปดิว๊า กูจะว่าไรได้ครับพ่อ

“เค้าว่าจะมารับที่คณะ กูรออยู่ที่เดค มึงรีบมานะ “ ขอสั่งบ้างสักนิดปิดท้ายเหอะ

ป๊าบบบบบบบบบบบ! เสียงวัตถุบางกระทบหัวพี่เมฆ ครับ เจ็บแบบชินๆยังงัยไม่รู้
“ อ้าว เฮ้ย มึงมาตอนไหนเนี่ย ซุ่มอยู่ใช่มั้ยมึง “ ไอ้ฉานครับ มันซุ่มมาตอนไหนไม่รู้ หันไป ตกใจหมดเลย

“ก็มึงบอกให้รีบมา เป็นงัยจ๊ะเมียจ๋า เร็วทันใจดีมั้ย” ทันใจดีมาก ทันใจจนกูตกใจ ห่า ถ้าหน้าตาไม่ดี กูนึกว่าผีมาหลอกเทวดา

“ แรด จริงๆ เมียกู อยู่ๆ มีผู้ชายมารับถึงบ้าน ไหนๆ พี่ฉานดูสิ นอ ออกมาแค่ไหนแล้ว “ ใครก็ได้เอาไอ้ปากจัดนี่ไปเก็บที มันปากแบบนี้กะผมคนเดียวแหละครับ กับคนอื่นมันสุภาพดีอยู่ แต่ตอนนี้ มันพยายามจับหัวผมไปใกล้มันอ่ะ เหมือนชิมแปนซี จ้องหาเห็บยังงัยยังงั้นเลย

“ ฉานมึงอย่าพูดแบบนี้สิ กูขนลุกนะเนี่ย กูผู้ชาย แล้วก็แมนขนาดนี้ แค่เป็นเมียมึง เนี่ย กูก็ปวดหัวจะแย่แล้ว ผู้หญิงไม่เข้าหา ทั้งๆ ที่กูหน้าตาดี “ แย่ ครับ แย่ ผู้หญิงที่คนที่ผ่านเข้ามา เสร็จไอ้ฉานหมดเลย พี่เมฆ ไม่ดีตรงหนายยยยยยย

“ ปวดหัวทำไม มึงไม่รู้อะไร ใคร ๆ ก็อยากเป็นเมียกูทั้งนั้นแหละ  แต่มึงเนี่ย กูเต็มใจ” ไอ้นี่ก็บ้า ตอนเด็กๆ มันก็หวงผมแบบนี้นะ แต่ตอนนี้ มันเยอะกว่าเมื่อก่อน แต่ก่อน มันแค่หวงผมไม่ให้ไปสนิทกะใครมากกว่ามัน ต้องเป็น “พวกมัน” คนเดียว แต่พอผมไปเล่นกับคนอื่น มันก็ไม่ว่าอะไร มากไปกว่า แค่บ่นนิดหน่อย  แต่ตอนนี้ มันเริ่มเฝ้าผมแล้วด้วย

“ อ้าวๆ มึงสองตัว ฟัดกันที่บ้านไม่พอ หรือ งัย มาต่อภาคสองอะไรกันตรงนี้ เสียลูกกะตาชะมัด” โห เพื่อนหน่า มาได้เวลาพอดี แต่เพื่อนปากแบบนี้  ไม่ต้องมาจะดีกว่านะ

“ หน่าๆ มึงดูเพื่อนมึงนะ เอาใหญ่แล้วเดี๋ยวนี้ มีคนมารับกินข้าวถึงคณะ “ อะ อะ มึงฟ้องเข้าไปไอ้ฉาน มึงจะรอให้ครบก่อนมั้ย แล้วให้พวกมันรุมกูทีเดียว

“ ชัดช้า  เดี๊ยวนี้ โตเป็นสาว ตัวผู้หรือตัวเมียละมึง แบบนี้ พ่อมึงก็เหนื่อยแย่สิ ต้องกำจัด เห็บไรที่ตั้งใจมาดูดมึงเนี่ย” โฮยย
อะไรกันนักหนาเนี่ย ปกติ ไอ้หน่ามันจะกัดไอ้ฉานไม่ใช่เหรอ วันนี้ทำไมมากัดผมได้

“ กำจัดทำไม เค้าเป็นผู้ชาย เดี๋ยวเค้ามาที่นี่ มึงก็เห็น มึงสนใจป่ะหละ กูติดต่อให้” ถ้ามันบอกว่าเอา นี่ พี่เมฆกลุ้มใจเลยนะครับ สงสารพี่เต้ ไอ้หน่ามันก็หน้าตาดี แต่ที่ไม่ดี คือมันห้าว และก๋ากั่น อย่างที่เห็นนี่แหละครับ
 
“ยิ่งผู้ชายนี่แหละ ยิ่งตัวดี  จริงมั้ย ไอ้พี่ฉาน” แล้วมันก็หันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้ไอ้ฉาน เออ มึงไปกัดกะไอ้บ้านั่นมั่งเหอะ กูปวดหัว

“ อืม มึงว่า กูจ้างยามเฝ้าเมียกูดีมั้ยวะหน่า เดี๊ยวท้องไม่มีพ่อขึ้นมา กูขี้เกียจให้เป็นปัญหาสังคมหวะ” แล้วมันสองตัวก็หัวเราะครับ ปล่อยให้พี่เมฆคนนี้นั่งน้ำตาตกในไปคนเดียว

“ กูผู้ชาย พวกมึงเข้าใจมั้ย ถ้ายัดเยียดให้กูเป็นเกย์เมื่อไหร่ กูจะอยู่บน อย่างเดียว เข้าใจป่ะ เป็นเมียพี่เมฆ ไม่ต้องทำอะไร
ร้องครางเพราะๆ ให้พี่เมฆชื่นใจก็พอ”

“ถุย ไอ้เมฆ มึงก็กล้าพูด ข่าวว่าวันนั้น กับสาวไซด์ มึ่งก็นั่งจ้องตา แล้วคิดว่านั่นคือเซ็กส์อันร้อนแรงไม่ใช่เหรอ “ ใช่ที่ไหน ถ้าไอ้ฉานไม่มา ก็กะว่าจะคลุกวงในแหละเว้ย แต่เก็บไว้ดีกว่าครับ สุภาพบุรุษ ไม่ควร พูดเรื่องอย่างว่าต่อหน้าสตรีเพศ

ผมว่าผมเองชาติที่แล้วคงทำบุญไว้บ้างเหมือนกัน
เพราะหันไปเห็นพี่เต้ ระฆังช่วยชีวิตไม่ให้ท่านเมฆเป็นเก้ง เดินเข้ามาพอดี พี่เต้มาถูกจริงๆด้วยครับ มาถูกมหาลัย และถูกคณะด้วย

ไม่รู้พี่เต้เก่ง หรือท่านเมฆคนนี้ ไม่มีอะไรที่สืบยากนะครับ
แต่จะยังงัยก็เถอะ ถือว่าพี่เต้มีความดีความชอบ ที่หยุดปากไอ้หน่าได้ ไม่งั้นท่านเมฆคนนี้จะต้องเป็นตัวอะไรอีกสักอย่างสองอย่าง ที่ไอ้หน่ามันสรรหามายัดเยียดให้ได้แหละครับ

“สัวสดีครับพี่เต้ มาถูกจริงๆ ด้วย ผมนับถือเลยนะเนี่ย” พี่เมฆนั้นทุกคนล้วนออกจากใจครับ
“ สวัสดีครับ สวัสดีครับทุกคน “ หน้าตาไม่ถึงกับดี แต่บุคลิคและมารยาทดีได้ถ้วยครับ

“พี่เต้ครับ นี่ฉาน กับหน่า เพื่อนผมครับ พวกมึง นี่พี่เต้ “ รวมท่านเมฆเข้าสู่สุภาพบุรุษมารยาทงามไปอีกคนนะครับ

“งั้นเชิญทุกคนด้วยเลยนะครับ ผมกับเมฆจะไปทานข้าวเที่ยงกัน” นี่ถ้าพี่เต้เป็นผู้หญิง พี่เมฆจะรีบติดป้าย”จอง” เลยครับ

“ปกติ ผมก็ต้องไปด้วยอยู่แล้วครับ เราต้องใช้รถคันเดียวกัน” รู้สึกหมั่นไส้ไอ้คนตอบ แต่รู้สึกดีนิดหน่อยที่มันใช้คำว่า “เรา” ให้อภัยมัน ก็ได้ ชิส์

“ไปรถพี่เต้ก็ได้นะครับ ประหยัดทานเสร็จแล้วพี่เต้กลับมาส่ง “ ทำงัยดี น้องพลับอยากได้ทั้งสองคน

“ เอางั้นก็ได้ หน่า มึงไปนั่งหน้าปะ กูกะไอ้เมฆ นั่งหลัง” ผมเริ่มร็สึกว่ามีลางสังหรณ์อะไรในใจอะไรบางอย่างว่าไอ้ฉานมันตีรวนพี่เต้อยู่หรือเปล่า
ตามมารยาท ผมต้องนั่งหน้า เนื่องจากรู้จักพี่เต้ นี่ไอ้ฉานมันยัดเยียด ไอ้หน่าไปนั่งแทนแบบนี้ ทางที่ดีประสบการณ์สอนพี่เมฆไว้ว่า ต่อไปนี้ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว ว่าง่ายต่อผู้กำกับแห่งชาติซะแล้ว

ตลอดทางพี่เต้ชวนพวกเราคุยตลอดครับ พี่เต้เป็นคนอัธยาศัยดีทีเดียว เราคุยกันเหมือนสนิทกันมานาน ขนาดไอ้หน่า ยังไหลคุยเนียนไปกับพี่เต้ซะงั้น

แต่มีอยู่คนนึงครับ ที่มันนั่งเงียบมาตลอดทาง แล้วมันก็หันมาบอกผมว่ามันง่วง แล้วก็หลับซบไหล่ผมไปเลย ไอ้ห่าเอ้ย
หนักชิบหาย แถมยังทิ้งน้ำหนักลงมาแบบไม่เกรงใจคนรับภาระในครั้งนี้เลย แถมมันรู้งานมันตื่นตอนที่พี่เต้ขับรถมาจอดที่หน้าร้านพอดี

แต่ ตอนที่ไอ้ฉานมันซบไหล่ผมหลับมาตลอดทางนั้น  ทำไมผมเห็นพี่เต้ เหลือบมองมาทางกระจกหลังบ่อยๆ หรือว่า พี่เต้จะคิดว่าผมกับไอ้ฉานเป็นคู่เกย์จริงๆ อย่างที่ใครเค้าแซวกัน

ก็แล้วทำไมท่านเมฆคนนี้จะต้องแคร์

ไม่รู้สิครับ ความรู้สึกของผมในตอนนี้ พี่เต้ยังเป็นคนนอก ผมกับเค้าเรารู้จักกันแบบผิวเผินมาก ถ้าเค้าเข้าใจผิดคิดว่าผมกับไอ้ฉานเป็นอะไรกัน ก็คงรู้สึกเซ็งนิดๆ ที่พี่เต้ก็มองผมตามสายตาคนภายนอก ตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ที่เค้าแซวกัน
สำหรับพวกเพื่อนๆ ในคณะผมหรือคณะไอ้ฉาน หรือคนในมหาลัย ผมเฉยๆมาก เพราะผมรู้ว่า พวกเค้าแค่แซวเล่นเท่านั้น
แต่
ถ้าถามว่า แล้วถ้าผมต้องเป็นคู่เกย์กับไอ้ฉานจริงๆ ผมจะรู้สึกอะไรมั้ย
ผมตอบไม่ถูกครับ
เพราะทุกวันนี้ ผมกับไอ้ฉาน ความรู้สึกมันเหมือนคู่ชีวิตไปแล้วนะครับ
เราอยู่บ้านติดกัน
มันยัดเยียดผมเป็นเพื่อนเล่น
เราเรียนโรงเรียนเดียวกัน ถึงจะคนละห้อง
แต่ทุกครั้งเราก็กลับบ้านพร้อมกัน
ชีวิตผมกับมัน ก็เหมือนปาท่องโก๋
ผมสุข มันก็สุขด้วยเสมอ
ผมทุกข์ มันยังเคยนั่งร้องไห้เป็นเพื่อนผมบ่อยๆ
เวลาไม่สบายก็ได้มันนี่แหละคอยดูแล ป้อนข้าวป้อนน้ำ ถ้าไม่นับแม่นิ่ม
แม้แต่เวลาเรียน เวลาสอบ มันก็ยังต้องนั่งจ้ำจี้จำไช ให้ผมผ่านมาได้เสมอ

ถ้าถามว่า หากวันนึง เราต้องแยกจากกัน
ผมเองก็ไม่รู้ว่า “ผมจะใช้ชีวิตอย่างไรถ้าไม่มีมัน”
เราห่วงกันและกัน อันนี้ผมรู้ เพราะผมก็ห่วงมัน ไม่น้อยกว่าที่มันห่วงผมหรอก
ต่างกันตรงที่ มันแสดงออกตลอดเวลา แต่ผมไม่ได้แสดงมันออกมาก็แค่นั้น
แล้วถ้าถามอีกว่า ผมรักมันมั้ย
ผมก็กล้าพูดได้เลยว่า “ผมรักมันมาก”
แต่อย่าถามว่าผม “รัก” มันแบบไหน
จำได้ว่าเคยบอกไปแล้วว่า “ไม่รู้”
แต่ถ้าอะไรที่ผมกับมันแสดงออกมา
กลั่นกรองด้วยชั้นที่ละเอียดที่สุดออกมาแล้วได้ว่า
“ผมกับมันรักกันแบบคู่เกย์”
ไอ้เมฆคนนี้ มันก็พร้อมที่จะยืดอกบอกกับทุกคนว่า “เออ กูเป็นเกย์ “


วันนั้นในร้านอาหาร ไอ้ฉานมันก็ผูกขาดตัวผมเอาไว้กับมัน มันคุยกับผม มันคุยกับไอ้หน่า
แต่ว่ากับพี่เต้ ถ้าไม่จี้ถามมันจริงๆ มันก็ไม่คุย แถมบางที มันยังเสนอหน้าตัดบททำลายบรรยากาศ ระหว่างการคุยของผมกับพี่เต้อีกต่างหาก อย่างเช่นตอนนี้
“น้องเมฆ มาเรียนไกลขนาดนี้ ปกติกลับบ้านยังงัยเหรอครับ”
“ก็กลับกับฉานครับ พอดีผมกับมันอยู่บ้านติดกัน เลยกลับด้วยกันอะครับ” แต่ไม่ได้บอกนะว่าผมกับไอ้ฉานเป็นเจ้าของรถร่วมกันด้วย เดี๋ยวพี่เต้ จะอึ้งไปกว่านี้

“แต่น้องเมฆกับน้องฉาน อยู่คนละคณะกันไม่ใช่เหรอครับ ก็ต้องมีบ้างที่ว่างไม่ตรงกันใช่มั้ย”
“ครับ ก็ถ้าสัปดาห์ไหน ที่ใครคนใดคนนึงไม่ว่าง ก็ไม่กลับอะครับ” เพราะอีกคนจะต้องอยู่ช่วยกันปั่นงานนรกส่งอาจารย์ให้กัน อันนี้ผมก็ไม่ได้บอก 555

“เอาแบบนี้มั้ยครับ วันไหนที่น้องฉานไม่ว่างกลับบ้าน พี่มารับน้องเมฆก็ได้นะ พี่เต้ปี 4 แล้ว นอกจากปริญญานิพนธ์ แล้วก็ไม่มีอะไร”

“ไม่ดีมั้งค่ะพี่ ไอ้นี่พ่อมันหวงจะตาย ทั้งๆที่ไอ้นี่หน้าตาดี แต่สันดานแย่ แต่พ่อมันหวงยังกะจงอาง” ไอ้หน่า เสนอหน้าแบบข้าวแทบสำลักออกทางจมูก ถึงมันไม่เสนอหน้า ผมก็จะปฎิเสธ พี่เต้อยู่แล้ว ก็พี่เมฆหนะ นิสัยดีขี้เกรงใจ

มีแค่เพื่อนกับไอ้ฉานเท่านั้นและที่พี่เมฆอาศัยความหน้าด้าน ไม่มีคำว่าเกรงใจ ในกฎกติกาของพี่เมฆระหว่างเพื่อนและไอ้ฉานอยู่แล้ว

“ไม่เป็นไรครับ พี่เต้จะได้รู้จักกับที่บ้านของน้องเมฆด้วยไง คุณพ่อชอบต้นไม้มั้ย” ชอบครับ มัน เอ้ย คุณพ่อชอบต้นไม้มาก แต่หันไปสบสายตาแล้วคาดว่า อย่าดีกว่า

“พี่ก็ถามพ่อมันสิคะ พ่อมันนั่งอยู่ข้าง คอยจ้องจะงับหัวมันอยู่นั่นอะค่ะ” ดูพี่เต้งงกับไอ้หน่ามากครับ สงสารพี่เต้เหมือนกันที่เหมือนหลุดออกมาอีกโลกนึง ซึ่งไม่รู้เค้าคุยอะไรกัน ที่สำคัญ ดันรู้กันแค่ในกลุ่ม

“ขอบคุณพี่มากนะครับ ที่มีน้ำใจกับเมฆมัน แต่เรื่องนี้มันหน้าที่ผม คนของผม ผมคิดว่าผมดูแลได้นะ” ไอ้ฉานมันตอบฉะฉานสมชื่อมันแหละครับ ที่สำคัญ มันพูดแบบตาจ้องตา สบเป็นสบ ไม่มีหลบอีกต่างหาก
==========================
แล้วเจอกันตอนต่อไปนะคะ คนโพสรักทุกคนที่เม้นท์  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ๋JEFF ที่ 30-03-2010 20:12:52
เจิมค่ะ เจิมม


มีหึงหวงกันบ้างง อิอิ ..

รักฉาน รัก เมฆ นะ

นังเต้ อย่าแส่

ย๊ากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 30-03-2010 20:33:23
^
^
^
^

จิ้มทะลุ ทะลวง ได้ม๊ายยย

ยิ่งอ่านยิ่งมัน อิพี่เต้ นี่ จ้องจะจีบกันโต้งๆเลย

แต่ไม่สำเร็จหรอก พ่อ (ทูนหัว) ฉาน จ้องจะงับแล้วว


ชอบเว่ยย  ไอคู่นี้นี่   มันน่ารัก

แต่ชอบฉานมากกว่า มักแสดงออกดี   :laugh:

 :กอด1: คนโพสต์ แรงๆๆๆๆ

 :L2: คนเขียน  ขอเยอะๆๆ ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 30-03-2010 20:38:49
 o13 o13 คนโพสน่ารัก

ฮ่าๆๆๆๆ  มาจิ้มก่อน เด๋วไปอ่าน :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 30-03-2010 20:45:13
โอ้ววว "คนของผม" ประกาศความเป็นเจ้าของชัดเจนได้อีก

เอาใจพี่ไปเลยน้องฉานแสงแรงกล้า  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 30-03-2010 20:48:04


ตอนที่ 13


ถ้าถามว่า หากวันนึง เราต้องแยกจากกัน
ผมเองก็ไม่รู้ว่า “ผมจะใช้ชีวิตอย่างไรถ้าไม่มีมัน”
เราห่วงกันและกัน อันนี้ผมรู้ เพราะผมก็ห่วงมัน ไม่น้อยกว่าที่มันห่วงผมหรอก
ต่างกันตรงที่ มันแสดงออกตลอดเวลา แต่ผมไม่ได้แสดงมันออกมาก็แค่นั้น
แล้วถ้าถามอีกว่า ผมรักมันมั้ย
ผมก็กล้าพูดได้เลยว่า “ผมรักมันมาก”
แต่อย่าถามว่าผม “รัก” มันแบบไหน
จำได้ว่าเคยบอกไปแล้วว่า “ไม่รู้”
แต่ถ้าอะไรที่ผมกับมันแสดงออกมา
กลั่นกรองด้วยชั้นที่ละเอียดที่สุดออกมาแล้วได้ว่า
“ผมกับมันรักกันแบบคู่เกย์”
ไอ้เมฆคนนี้ มันก็พร้อมที่จะยืดอกบอกกับทุกคนว่า “เออ กูเป็นเกย์ “



ประทับใจจัง.. :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 30-03-2010 21:52:44
 :z13: จิ้มข้าว อิอิ

หุหุ  น้องเมฆเสน่ห์แรงเจงๆ
มิน่า  ไอ้พี่ฉานหลงหัวปักหัวปำ อิอิ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Kwawaic ที่ 30-03-2010 22:07:36
เพิ่ง อ่าน จบ ค่ะ
 ชอบ เวอร์ ๆๆ เลย

ประโยคนี้ ...“ขอบคุณพี่มากนะครับ ที่มีน้ำใจกับเมฆมัน แต่เรื่องนี้มันหน้าที่ผม คนของผม ผมคิดว่าผมดูแลได้นะ”
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

เมฆ จ้า ถ้ารัก ก็บอกไปเลยสิ (55+)

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 30-03-2010 22:45:03
แรงได้อีกนะค่ะคุณน้อง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 30-03-2010 23:05:53
ตามทันแล้วววว น่ารักสุดๆเลย สิ่งแรกที่สะดุดคงเป้นชื่อเรื่องค่ะ ลึกซึ้งดี

วันนี้พี่เมฆ อิอิ พูดให้น้ำตาคลออีกแล้ว

อย่าถามว่าผม “รัก” มันแบบไหน
จำได้ว่าเคยบอกไปแล้วว่า “ไม่รู้”
แต่ ถ้าอะไรที่ผมกับมันแสดงออกมา
กลั่นกรองด้วยชั้นที่ละเอียดที่สุดออกมา แล้วได้ว่า
“ผมกับมันรักกันแบบคู่เกย์”
ไอ้เมฆคนนี้ มันก็พร้อมที่จะยืดอกบอกกับทุกคนว่า “เออ กูเป็นเกย์ “

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 30-03-2010 23:06:49
+1 ให้นายฉาน สุดยอด  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 30-03-2010 23:09:52
ประโยคเด็ดโดนใจ"คนของผม ผมคิดว่าผมดูแลได้นะ”
ถูกใจน้องฉานจริง ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 30-03-2010 23:12:23
ฉานหวงจริ๊งงงงงง ตามไปเฝ้าเลยทีเดียว

ชอบๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 30-03-2010 23:21:50
แหม่ ฉานออกอาการซะขนาดนี้ อิจฉาเมฆจริงจริ๊งงง

แล้วเมื่อไหร่จะจับกดก้อนเมฆล่ะจ๊ะ  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 30-03-2010 23:27:28
ฉานหึงเมฆ

ชอบหน่าอะกัดได้ใจ  :L2: :L1:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 31-03-2010 03:45:08
ถ้าถามว่า แล้วถ้าผมต้องเป็นคู่เกย์กับไอ้ฉานจริงๆ ผมจะรู้สึกอะไรมั้ย
ผมตอบไม่ถูกครับ
เพราะทุกวันนี้ ผมกับไอ้ฉาน ความรู้สึกมันเหมือนคู่ชีวิตไปแล้วนะครับ
เราอยู่บ้านติดกัน
มันยัดเยียดผมเป็นเพื่อนเล่น
เราเรียนโรงเรียนเดียวกัน ถึงจะคนละห้อง
แต่ทุกครั้งเราก็กลับบ้านพร้อมกัน
ชีวิตผมกับมัน ก็เหมือนปาท่องโก๋
ผมสุข มันก็สุขด้วยเสมอ
ผมทุกข์ มันยังเคยนั่งร้องไห้เป็นเพื่อนผมบ่อยๆ
เวลาไม่สบายก็ได้มันนี่แหละคอยดูแล ป้อนข้าวป้อนน้ำ ถ้าไม่นับแม่นิ่ม
แม้แต่เวลาเรียน เวลาสอบ มันก็ยังต้องนั่งจ้ำจี้จำไช ให้ผมผ่านมาได้เสมอ

ถ้าถามว่า หากวันนึง เราต้องแยกจากกัน
ผมเองก็ไม่รู้ว่า “ผมจะใช้ชีวิตอย่างไรถ้าไม่มีมัน”
เราห่วงกันและกัน อันนี้ผมรู้ เพราะผมก็ห่วงมัน ไม่น้อยกว่าที่มันห่วงผมหรอก
ต่างกันตรงที่ มันแสดงออกตลอดเวลา แต่ผมไม่ได้แสดงมันออกมาก็แค่นั้น
แล้วถ้าถามอีกว่า ผมรักมันมั้ย
ผมก็กล้าพูดได้เลยว่า “ผมรักมันมาก”
แต่อย่าถามว่าผม “รัก” มันแบบไหน
จำได้ว่าเคยบอกไปแล้วว่า “ไม่รู้”
แต่ถ้าอะไรที่ผมกับมันแสดงออกมา
กลั่นกรองด้วยชั้นที่ละเอียดที่สุดออกมาแล้วได้ว่า
“ผมกับมันรักกันแบบคู่เกย์”
ไอ้เมฆคนนี้ มันก็พร้อมที่จะยืดอกบอกกับทุกคนว่า “เออ กูเป็นเกย์ “
ประทับใจเนอะ  :m3:


 :laugh:  พอน้องเมฆโทรรายงานผู้ปกครองปุ๊ป พ่อ(ทูนหัว)คนนี้ก็โผล่มาปั๊ป

โอ๊ยยยยยยยยยย ฉานแม่งโคตรหน้าด้านเลย ถ้าโดนพูดแบบนั้นต้องมีเขินกันบ้างแหละ  :o8:

ส่วนพี่เต้แกรู้ได้ไงวะเนี่ยยย :o ตอนนั้นรู้แค่ชื่อเล่นกะเบอร์โทรไม่ใช่เหรอ ถ้าสืบได้ขนาดนั้น ก็น่าจะรู้ถึงการประกาศตัวอันโด่งดังของผัวเมียคู่นี้ด้วยสิ  o3
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 31-03-2010 12:09:51
เมฆรอความชัดเจนจากฉาน
คนอ่านรอตอน :oo1:จากคนแต่ง
ฉานหวงเมฆแต่เมฆจะรู้ได้ไงว่าหวงในฐานะไร เมฆยิ่งคิดช้าๆอยู่
วานคนโพสเอาโอเมก้าทรีให้คนแต่งกินหน่อยนะ
เผื่อเมฆจะคิดไรเร็วขึ้น อิอิ:oni1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เซ็งเป็ด ที่ 31-03-2010 21:43:50
 o13 จขกท สต๊อกหมดแล้วรึ คนอ่านเขาอยากอ่านต่อแล้วนะเว้ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 31-03-2010 21:55:42
^
^
^
 :z13: จิ้มตูดเซ็งเป็ด :laugh:





คือจริงๆ ถ้าฉานเดินมาบอกเมฆว่ารักแบบคนรัก

เมฆก็คงตกลงใช่ป่ะ

อันนี้คือไม่รู้ใจตัวเองหรือว่ารอเวลา

แต่ฉานมันหึงเหวี่ยงแบบเงียบๆๆเนาะ
แต่เมฆนี่ไม่ไหว โง่เปิดเผยตลอด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 13 ,30 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 31-03-2010 22:27:18
พี่เมฆแม่งโคตรเหมือนตัวเองเลย 555 ไอเรื่องแบบนี้ละความรู้สึกช้าตลอดๆ

นะ ไม่น่าโทรหาฉานเลยเว้ยเมฆ ไม่งั้นได้ไปกินข้าวสบายๆแล้ว 555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 31-03-2010 22:54:58
ขอบคุณคนใหม่ๆที่เข้ามานะจ๊ะ และก็ยังขอบคุณคนเก่าๆมากมายเช่นกันที่ยังไม่ทิ้งนุ้งเมฆกะนายฉาน(หวานใจคนโพส)  :laugh:
===============================================================

ตอนที่ 14
สรุปว่าข้าวเที่ยงมื้อนั้น พี่เต้น่าสงสารมาก  ที่มาเจอไอ้ฉาน ที่มีไอ้หน่าเป็นลูกคู่ ผมคิดว่า อาจจะเป็นดวงชะตาของพี่เต้เองที่ดาวอังคาร หมุนมาทับกับองค์ราหู ทั้งหมดที่เล่ามานี้ พี่เมฆมั่วเอาทั้งนั้นแหละครับ เรื่องดาว เรื่องฤกษ์อะไร พี่เมฆไม่ค่อยรู้หรอก แต่ที่รู้คือ
ทำไมไอ้ฉานมันคอยจะกีดกันผม ไม่ให้มีเพื่อนใหม่ๆเลยนะ มันคิดอะไรมันอยู่ก็ไม่รู้ มันคิดของมันคนเดียว แล้วก็ไม่บอกผม
เจ้าวางแผน แต่ไม่เคยบอกแผนกับผม
เจ้าโมโห แต่ทำไม เรื่องนี้มันชอบลงที่ผมจังวะ
แล้วเพราะเราอยู่กันมานาน ผมรู้ดีว่าไอ้ฉาน ไม่ได้ชอบพี่เต้สักเท่าไหร่ มันคอยแต่จะขัดคอเขาอยู่เรื่อย
ถ้าคนไหนที่ไอ้ฉานถูกชะตา มันจะปล่อยมุขฮา บ้าๆๆของมัน แล้วสนุกสนาน
ไม่ใช่เก็กขรึมแบบนี้ และตีรวนพี่เต้ทุกที ที่มีโอกาส

วันนั้น พี่เต้ มาส่งพวกเรา ที่คณะ ก่อนจะแยกย้าย ทางใครทางมัน ความจริงเท่าที่ดู พี่เต้ก็ไม่ได้แย่อะไร
ออกจะดีเสียด้วยซ้ำ พูดดี มีน้ำใจดี และก็มารยาทดี
แต่ที่ไม่ดี คือ ไอ้ฉานมันไม่ชอบ
ก็แล้วถ้าไอ้ฉานไม่ชอบ มันเลยดูจะยากที่ผมกับพี่เต้ จะเป็นมิตรที่ดีต่อกันได้ในอนาคต
วันนั้น ตอนเรานั่งรถกลับหอ
“ ฉาน มึงไม่ชอบพี่เต้เหรอวะ” ผมเป็นคนตรงไปตรงมาครับ ยิ่งกับไอ้ฉาน ยิ่งไม่ต้องคิดมาก ทีจะถาม
“เปล่านี่  “ เปล่าอะไรของมัน จ้องจะตีทัพหน้าอยู่ตลอดเวลาขนาดนั้น
“แต่ดูเหมือนมึงไม่ชอบเค้าอ่ะ กวนตีนใส่เค้าตลอดเลย สันดานแย่” แหย่มันซะหน่อย ไม่ได้แหย่จริงจังอะไร
“ ใช่สิ ใครจะสันดานดีเหมือนเมียพี่ฉานหละ พี่เต้อย่างนู้น พี่เต้อย่างนี้ พี่เต้ใจดีจังนะครับ” โห นี่มึงจดแลคเชอร์ทุกคำพูดกูเลยปะ
“หึงกูละสิ ที่พี่เต้เค้ามาสนใจกูอ่ะ มึงว่ากูไปทำนมดีป่ะ” ถ้าได้สามีแบบพี่เต้ พี่เมฆคนนี้ก็ยอมเดินหลังค่อมละครับ
“ เออ หึง ครั้งหน้ากูว่าจะลองหึงโหดดูแระ ไม่ไหว เมียแรดเกินไป กูสะเทือนใจ” ถ้ามันตอบโต้แบบนี้ แสดงว่าอารมณ์มันดีอยู่ครับ

“ฉาน อาทิตย์นี้มึงมีงานอะไรต้องส่งปะ”
“ไม่มี ทำไมวะ”
“งั้นกลับบ้านมั้ย อาทิตย์ที่แล้ว ไม่ได้กลับ พอดี คนขับรถกูงอน อะมึง” ชวนมันกลับบ้านครับ ไม่ได้กลับบ้านนานๆ เดี๋ยวก็แห่ตามกันมาหาถึงมหาลัยแน่
“ เหรอ ไม่ใช่เพราะหมา มันไม่สบายเหรอ “ ไม่รู้สิ พอดี ไม่มีหมา
“เออ เมฆ มึงรู้ยัง ปิดเทอมหน้า พ่อกูจะพาไปล่องใต้นะ” จะไปรู้ตอนไหนละครับ รู้ตอนนี้พี่บอกนี่แหละครับ
“ไปทำไมวะ “ นั่นสิครับไปทำไม พ่อไอ้ฉานทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง หรือว่าได้งานรับเหมาที่ใต้ แล้วพวกเราจะไปด้วยทำไม คนงานก็ไม่ใช่
“ ลงไปช่วยเค้าปราบโจรใต้ที่บันนังสตา มั้ง “ อ้าว เหรอ แล้วหน้าของพี่เมฆออกแนวทหารตะเข็บชายแดนเหรอ
“กูขอหยุดแค่ตัวเมืองยะลาได้มั้ย” ผมยักคิ้ว หลิ่วตาให้มันด้วยครับ
ป๊าบ!!!! เข้าให้ครับ ไอ้ฉานมันเถียงสู้ไม่ได้ มันก็ใช้กำลังกับผมทุกที
“ ดีเหมือนกันหวะ แม่นิ่มจะได้ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง “ อยู่แต่กับบ้านนี่ครับแม่ผม
ตั้งแต่ผมมาอยู่กับแม่นิ่มที่บ้าน ตั้งแต่วันนั้น วันที่ผู้ให้กำเนิดจริงๆทิ้งผมไป
ผมไม่รู้อะไรมากไปกว่า แม่นิ่มทำงานอยู่กับบ้าน เป็นงานแปลหนังสือ
และแม่ก็แต่งนิยายสั้นๆ ส่งสำนักพิมพ์ทั่วไป
ลำพังงานของแม่นิ่ม ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้อะไรมากมายหรอกครับ
คงได้พอแค่ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
แต่รายจ่ายอันมากมายมหาศาล ที่แม่นิ่มเลี้ยงผมมา
ให้การศึกษากับผม ไม่รู้เหมือนกันครับว่ามันมาจากไหน
ผมอยากรู้ แต่ไม่อยากถาม
ครับ ไอ้เมฆคนนี้มันกลัวคำตอบ
และคำตอบที่คิดก็อาจจะตรงกับที่หลายคนคิดเอาไว้แล้วก็ได้
ใช่ครับ ผมกลัวคำตอบที่ว่า
เงินนั้นมาจากผู้ให้กำเนิดผม คนใดคนนึง
เค้าให้เงินเลี้ยงดู ให้ความรู้
แต่สิ่งเดียวที่เค้าไม่ได้ให้
คือความรัก ที่ลูกคนนึงอยากได้จากแม่และพ่อบ้าง
ผมไม่ปฎิเสธว่า ที่ผ่านมา แม่นิ่มไม่เคยบกพร่องหน้าที่แม่เลยสักนิดเดียว
และผมก็รักแม่นิ่ม เหมือนแม่จริงๆ
แต่มันไม่เหมือนความรักที่สายเลือดมีต่อผู้ให้กำเนิดหรอกครับ
ผมจึงไม่ถามที่มาที่ไปของความสุขสบายภายนอกเหล่านี้
แต่ก็ไม่ปฎิเสธอีกเช่นกัน ว่าสักวัน จะได้เจอพวกเขาอีก
ผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ถาม ว่าทำไมทิ้งผมไป
ขอแค่กอดสักครั้งเท่านั้น อยากรู้แค่ว่า อ้อมกอดจากพ่อแม่ เป็นอย่างไร
ถึงแม้ครั้งนึงผมอาจจะเคยกอดเค้าทั้งสอง และเค้าทั้งสองเองก้เคยกอดผม
แต่ตอนนั้นผมยังเล็กมากนี่ครับ จำไม่ได้ด้วยซ้ำ
ว่าตอนนั้นความอบอุ่นของอ้อมกอดเป็นอย่างไร
ทุกวันนี้ ผมกอดแม่นิ่ม ก้รู้สึกอุ่นใจและอิ่มใจ
ผมรัก เทอดทูลแม่นิ่ม และจะไม่มีวันทิ้งแม่นิ่มไปไหนแน่นอน
แต่ผมก็ไม่ปฎิเสธว่า โหยหาความอบอุ่นใจ จากคนที่ให้กำเนิดผมเช่นกัน
เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องเดียวที่คิดถึงทีไร ความหมองหม่นในใจต้องเข้ามาเล่นงานผมทุกที
เวลาเกิดช่วงเวลาแบบนี้ ผมมักจะเดินเข้าไปหาแม่นิ่ม กอดให้เต็มวงแขน
หอมแก้มทั้งสองสูดเอาความหอมให้เต็มปอด
แล้วซบไหล่เอากำลังใจจากแม่กลับคืนมา

แต่ตอนนี้
บนรถคันนี้
มีเพียงแค่มือใครคนนึง
ใครคนนั้นที่อยู่ข้างผมมาตลอด
เค้าแค่เอามือมาลูบหัวผม
และแค่โยกมันไปมา
แล้วผมก็แค่สูดลมหายใจเข้าไปให้เต็มปอด ยืดอกสูงๆ
ไอ้ตะกอนแห่งความหมองเศร้า ที่เผลอไปกวนให้มันขุ่นขึ้นมาเมื่อสักครู่นี้
ก็แน่นิ่งไปตามเดิม
“เป็นอะไรไปอีกละวะ เมียพี่ฉาน เดียวนี้อารมณ์แปรปรวน กินยาคุมบ้างรึเปล่านี่”
เห็นมั้ยครับ แค่ไอ้ฉานมันพูดแค่นี้
เป็นคำพูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่คำปลอบใจ ไม่ใช่คำปลอบโยน
เรียกเป็นภาษาไทยง่ายๆ ว่า “กวนตีน” นั่นแหละครับ
แต่ผม นายสยมภู ก็ต้องยิ้มออกมาจนได้
“ เชี่ยรัยของมึงไอ้ฉาน ขยี้ผมกูจนยุ่งไปหมดแล้ว นี่ถ้าไม่ว่าอยู่ในสภาพไหนกูก็หล่อ กูซัดเบ้าตามึงจริงๆนะสาด”
ขอถอนคำพูดหน่อยเถอะครับ ที่บอกไปว่า
ไอ้ห่าฉานมันเอามือลูบหัว ความจริงเมื่อผมส่องกระจกแล้ว
มันคือการขยี้เลยต่างหาก

ไอ้
ไอ้
ไอ้
ไอ้หน้าดี ไอ้กูปรีนิสัยแย่

“ แล้วทำไมต้องตาแดงๆ ไหนมาดูสิว่าเป็นอะไร” มันตบหัวแล้วลูบหลังใช่มั้ยครับ

พี่เมฆบอกแล้ว ว่าอยู่กะมันมาตั้งแต่เด็ก รู้จักสันดานมันดี
คราวนี้ เรารู้ทัน
ขงเบ้งบอกว่า
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง
เพราะฉะนั้น เราจะต้อง

ยื่นหน้ายื่นตาไปให้ไอ้ฉานดูครับ

อย่าเพิ่งผิดหวังกันได้มั้ยเล่า
ก็มันเขิลเหมือนกันนี่หน่า ที่ไม่เคยปิดความรู้สึกอะไรกับไอ้ฉานได้สักที
อ้อนกลบเกลื่อนอะอ้อนกลบเกลื่อนมันซะหน่อย

“สงสัยลมแอร์มันตีอะฉาน แล้วฝุ่นในช่องแอร์รถมันตีเข้ามาในลูกกะตากู “ แหม ท่าน สยมภูคนนี้ แหลขั้นเทพ
ฟู่วววววว!!!!!!
“กูขอโทษนะ ที่ดูแลไม่ดี ปล่อยให้มีฝุ่น หายแล้วนะ ตาเลิกแดงได้แล้ว “ ไอ้ฉานมันเอาสองมือมันจับหน้าผมให้หันไปใกล้ๆ
แล้วค่อยๆเป่าลมใส่นัยย์ตาผม
แล้วเสียงมันจะอ่อนโยนไปไหนครับเนี่ย
มันจะนุ่มไปไหน แววตามันจะแฝงความกังวลไปกับผมทำไม ดีกับพี่เมฆขนาดนี้

เดี๊ยวพี่เมฆทำตามมติส่วนส่วนใหญ่
เป็นเกย์มันจริงๆ ซะเลยดีไหม
ไม่ต้องมองหาคู่ขาจากที่ไหน
เราเอาไอ้ฉานนี่แหละ ยัดเยียดความเป็นเมียให้มัน
แล้วทุกท่าน คิดว่ายังงัยดีครับ

===========================
แล้วเจอกันตอนหน้านะจ๊ะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 31-03-2010 23:04:30
ล่องใต้

ต้องแอบมีไรแน่นอน

เลยใช่ไหมคนโพส รึ ว่าเมฆกับฉานจะ.....กัน :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 31-03-2010 23:11:54
น่ารักมากกกก เมียพี่ฉาน
 :laugh:
ชอบจังเลยอะ น่ารักจังคู่นี้  :-[
ล่องใต้คราวนี้เอาให้เป็นสามีภรรยากัยจริงๆเลยเท๊อ
สาทู๊ !!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 31-03-2010 23:15:41
“ เออ หึง ครั้งหน้ากูว่าจะลองหึงโหดดูแระ ไม่ไหว เมียแรดเกินไป กูสะเทือนใจ”

จัดไปให้หนักเลยพี่ฉาน  กร๊ากกกก




เป็นเกย์มันจริงๆ ซะเลยดีไหม
ไม่ต้องมองหาคู่ขาจากที่ไหน
เราเอาไอ้ ฉานนี่แหละ ยัดเยียดความเป็นเมียให้มัน



ไม่ใช่โดนมันยัดเยียดความเป็นเมียให้เหรอ...  555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 31-03-2010 23:38:56
อยากอ่านฉาก หึง โหด
น้องเมฆ คนอ่านเค้าลุ้นมาตั้งแต่ตอนแรกแล้ว
มัวแต่ชักช้า เดี๋ยวนายฉานเปลี่ยนใจ
 :laugh: :z1:
+1 ให้นายฉาน รักอดทน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 31-03-2010 23:42:50
ไปเอาความคิดต๊อง ๆ แบบนี้มาจากที่หนายยยย
จะจับไอ่ฉานทำเมีย กล้าเนอะคนเรา :m14:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 01-04-2010 01:05:53
นะ เรามันต้องจับเค้ากดอย่างเดียว 5555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 01-04-2010 01:15:03
น้องเมฆที่พูดเกี่ยวกะแม่นิ่มง่ะ สุดยอด  o13 o13 o13

PS. เป็นเมียพี่ฉานไปเหอะ ไม่ต้องคิดมาก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 01-04-2010 01:48:38
เพิ่งได้อ่านค่ะ น่ารักมากๆเลยท่านเมฆเนี่ย
ท่านฉานก้อทำตัวเป็นสามีที่ดีเริ่ดเลยน๊า  :o8:
เป็นเรื่องที่น่ารักละมุนละไมมากเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 01-04-2010 02:37:34
น่ารักจังฉานหวงซะ


รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 01-04-2010 03:19:26
ระทวยกับผู้ชายอ่อนโยน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 01-04-2010 06:50:11
 :o8:  อบอุ่นมากมายอะ ไอ้คุณฉาน  :impress2:
อย่างงี้ นายเมฆอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนแน่นอน  เอิ๊กๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 01-04-2010 09:36:10
เดี๊ยวพี่เมฆทำตามมติส่วนส่วนใหญ่
เป็นเกย์มันจริงๆ ซะเลยดีไหม
ไม่ต้องมองหาคู่ขาจากที่ไหน
เราเอาไอ้ฉานนี่แหละ ยัดเยียดความเป็นเมียให้มัน
แล้วทุกท่าน คิดว่ายังงัยดีครับ


ดีๆ สนับสนุน
แต่น้องเมฆคงโดนทำเมียมากกว่าอ่ะจ๊ะ
 :oo1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 01-04-2010 10:25:50
จะยัดเยียดให้เค้า มีปัญญาไหมนั่น  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 01-04-2010 10:38:25
สปอยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!

อีกสองวันนุ้งเมฆโดนกดชัวร์  :oo1: คนโพสรับรอง ถ้าคนโพสไม่ลืมนะ   :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Kwawaic ที่ 01-04-2010 11:51:01
สปอยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!

อีกสองวันนุ้งเมฆโดนกดชัวร์  :oo1: คนโพสรับรอง ถ้าคนโพสไม่ลืมนะ   :z1:

ฮึ ๆๆๆ ถ้าคนโพสต์ ลืม เราจะเตือนเอง


พี่เมฆฆฆฆฆฆฆ ทำตามมติ ส่วนใหญ่ เถอะ (555+)
สนับสนุน~~
ถ้าพี่ฉาน หึงโหด จะเป็นเช่นไร ??

 :L2:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 01-04-2010 11:55:19
น้องเมฆเป็นเกย์เพื่อพี่ฉาน
แล้วพี่ฉานจะรอไรอยู่ อ้อ..รอคนแต่งกะคนโพส
ถ้าคนโพสลืม คนอ่านจะกดคนโพสแทน(กดดัน) :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-04-2010 12:11:14
ีพี่เต้ คุงพี่เมฆจะยอมเป็นเมีย  แต่ทีเจ้าฉานคุงพี่เมฆจะจับทำเมียซะงั้น

แค่คิดก็ผิดแล้ว :laugh: :laugh: :laugh:

คนโพสต์มาสปอยแบบนี้ อยากหมุนเวลาให้เร็วๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 14 ,31 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 01-04-2010 12:42:43
อืมม.. ก้อนเมฆ เหมาะ เป็น เมีย

พี่ฉาน ดีกว่ามั้ย 

 รออ่าน น้องเมฆ โดน กด


 :pigha2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 01-04-2010 20:00:39
มาแล้ว วันนี้จะโกหกไรดีหว่า  :m20: แอร๊ยยยส์เค้าเริ่มกันแล้วค่า  :oo1:
======================================

ตอนที่ 15

นาฬิกาดิจิตอลแบบคลาสสิคติดผนัง บอกให้รู้ว่าวันใหม่ได้ล่วงเลยมานานจนใกล้เที่ยงแล้ว
เสียงนกร้องยังมีให้ได้ยินอยู่บ้างประปราย
แต่แสงแดดไม่ได้แทรกเข้ามาทำลายบรรยากาศการนอนได้เลย
ในเมื่อมีผ้าม่านอย่างดีที่มีแบคเอาท์กรองแสง ไว้ได้แทบจะทั้งหมด
ผมกับไอ้ฉานกลับบ้านมาตั้งแต่เย็นของเมื่อวานหลังจากส่งโปรเจคสอบไฟนอลอันมหาโหดเสร็จ
สอบไฟนอลของคณะผมและไอ้ฉาน มีวิชาหลักไม่กี่วิชา จึงไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเท่าไหร่ในการสอบ
แต่สิ่งที่สูบพลังวิญญาณของท่านเมฆและไอ้ฉาน จนต้องรีบหอบสังขารกลับบ้านทันที ที่ภาระกิจเสร็จ
คือโปรเจคของแต่ละคนที่ต้องส่งก่อนปิดเทอมนี่แหละครับ ต้องใช้ไอเดียล้วนๆ ในการปั้นงานขึ้นมา
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ว่า เวลาผมกับไอ้ฉานกลับบ้าน เราจะได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ไม่มีใครกล้ารบกวน
แต่ตอนนี้  วินาทีนี้ พี่เมฆนอนจนเกินพอแล้ว ความหิวเริ่มเข้ามาทำลายเนื้อเยื่อบางส่วนของกระเพาะอาหาร
ให้พี่เมฆต้องทรมาน เดินหัวฟู ออกจากห้องเพื่อลงไปหาอะไรกินสักที ป่านนี้แม่นิ่มคงเตรียมไว้จนเอามาอุ่นเพื่อให้มันเย็นชืดไปรอบเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ก้าวกระโดดลงบันไดมาด้วยความเร็ว สองขั้นต่อหนึ่งวินาที
และขาข้างหนึ่งกำลังจะแตะพื้น แล้วนั้น ก้ต้องผงะไปกับสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน
และผมก็คิดว่า ต้นเสียงเองก็ไม่ได้ต้องการให้ผมได้ยินเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้ มันเป็นความบังเอิญของผมเอง

“ฉานจะลงใต้ วันไหนเหรอลูก” เสี้ยงนี้ผมคุ้นเคยดีครับ แม่นิ่มนั่นเอง
“วันเสาร์ที่จะถึงนี้แหละครับแม่ มีอะไรหรือเปล่าครับ” เสียงนี้ผมก็โครตจะคุ้นเคยดีเหมือนกันครับ
ฉานแสง สามีในนามของผมเอง
ไม่สิ ผมกับมันจูบกันแล้ว
แบบนี้เรียกว่าผมตกเป็นของมันได้หรือยัง
“ดีเลยๆ แล้วฉานไปกี่วัน แม่จะได้เคลียร์ทางนี้ให้จบก่อนฉานกลับมา” เอ๊ะ แม่นิ่มมีอะไรจะต้องเคลียร์ครับเนี่ย
“ผมกลับจากจากแม่เคลียร์เรื่องจบก่อนก้ได้ครับ ผมไม่ได้บอกเมฆไว้ ว่าเราจะไปกันกี่วัน” เอ๋ เรื่องนี้มันจะเกี่ยวกับผมรึเปล่านะ
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันฉาน ว่าครั้งนี้แม่จะต้านทานไว้ได้แค่ไหน แต่ฉานเข้าใจแม่ใช่มั้ย ถึงเค้าบอกแม่ว่า เค้าแค่ฝากแม่ไว้
แต่แม่เลี้ยงของแม่มาตั้ง 15 ปีนะฉาน ถึงเค้าจะอุ้มท้องของเค้ามา แต่แม่หนะเลี้ยงของแม่มามากกว่าที่เค้าอุ้มท้องแล้วเลี้ยงมาอีกนะ “
“แม่นิ่มใจเย็นๆนะครับ ผมเชื่อว่า คราวนี้เราก็ต้องผ่านมันไปได้ เหมือนทุกครั้งที่เราผ่านมาได้ ผมรู้ว่าแม่ไม่อยากเสียเมฆไป
ผมเองก้ไม่อยากเสียมันไป ไกลขนาดนั้น “
“ฉาน ฉานพาเมฆเที่ยวให้สบายใจนะลูก เรียนหนักกันมาทั้งเทอม ทางนี้ แม่จะเคลียร์ไว้ รอลูกกลับมา เรียนต่อในเทอมหน้านะฉาน แม่ฝากฉานด้วยนะ เข้าใจแม่ใช่มั้ยฉาน ฉานเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่คนนี้ ที่มีเค้าเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจเพียงสิ่งเดียวด้วยเถอะนะ ฉานจะโทษจะที่แม่เห็นแก่ตัวที่จะเก็บเมฆไว้เป็นของแม่คนเดียวก็ได้ แต่ขออย่างเดียว ถ้าเมฆยังอยู่กับแม่
แม่ก็ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ต่อให้เค้าจะตัดน้ำหล่อเลี้ยงแม่ แม่ก็จะหาของแม่เอง “
“ไม่เลยครับแม่ ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย เพราะถ้านั่นคือการเห็นแก่ตัว ผมเองก็ไม่ได้ต่างอะไรจากแม่เลย”

ขาข้างที่กำลังจะส่งถึงตัวพื้น ถูกดึงกลับมาทันที เรี่ยวแรงที่มากมายมหาศาลเมื่อกี้หายไปไหนหมดไม่รู้
ผมรู้สึกเหมือนมีใครเอาปั้นจั่นขนาดใหญ่ดึงสูงขึ้นไปเสียดฟ้าแล้วปล่อยลงมากระแทกใส่หัว
มันเจ็บก่อนในตอนแรก แล้วค่อยๆกลายเป็นความรู้สึกชา เล่นริ้วไปทั่วร่างกาย
หัวใจของผมปวดหนึบไปหมด จนผมต้องกำมือจนเล็บจิกผ่านเนื้อเข้าไป
เพื่อผ่อนคลายอาหารบีบรัดของก้อนเนื้อก้อนนั้น
สมองของผมว่างเปล่า กำแพงหนาของบ้านกลายเป็นสิ่งๆ เดียวที่รับร่างที่อ่อนล้าของผมได้ในตอนนี้
ผมหอบหายใจหนัก ถี่ เพื่อให้อากาศไหลเวียนในร่างกายให้ใกล้เคียงปกติอย่างที่สุด
แต่มันยากเหลือเกินครับ กับสิ่งที่ผ่านหูผมไปเมื่อครู่นี้
กระบอกตามันร้อนผ่าวของมันเอง และน้ำตาบ้าๆนี่มันไหลออกมาเองตอนไหนผมก้ไม่รู้ได้
ร่างกายและความรู้สึกนี้ เป็นของผม แต่ ผมควบคุมมันไม่ได้เลย
มันน่าดีใจไม่ใช่เหรอครับ ที่บทสนนาเมื่อครู่นี้ บอกชัดเจนว่า ทุกคนกำลังวางแผนเพื่อเก็บผมเอาไว้
มันชัดเจนทุกคำพูดว่าผมเป็นที่ต้องการของทุกคน
แล้วไอ้อาการปวดหนึบจนแทบอยากจะหยุดหายใจนี่หมายความว่าอะไร
แล้วไอ้ที่สมองกลวงๆของผม มันประมวลได้ว่า
ผมกำลังถูกปิดบังและหลอกลวง
มันคืออะไร ใครจะอธิบายผมได้
“เมฆ ๆ เป็นอะไรเมฆ มึงไม่สบายรึเปล่า มึงเป็นอะไร ลุกไหวไหม”
ผมไม่มีแรงจะตอบคำถามไหนสักหนึ่งคำถามหรอกครับ
แค่ให้ตัวเองยังมีลมหายใจต่อไปยังลำบาก
ไอ้ฉานพยายามพยุงผมขึ้นมาถึงห้องอย่างทุกลักทุเลเต็มที
จะเรียกว่าพยุงคงไม่ถูก เรียกว่ามันคงอยากจะอุ้มผมขึ้นมานั่นแหละ
ถึงแม้ผมจะตัวไม่โตเท่ามัน แต่ผมก็ไม่ได้ตัวเล็กอะไรมากมาย
ถึงแม้ผมไม่ได้กำยำล่ำสันอย่างชายไทยหุ่นนักกีฬาที่ไหน
แต่ด้วยสรีระของผู้ชาย มันก็ไม่ได้ง่ายกับการอุ้มเท่าไหร่นัก
เรียกว่าไอ้ฉานมันกึ่งลากกึ่งถูผมมาได้ โดยที่ร่างกายผมไม่ได้สนองตอบอะไรมันเลยสักนิดเดียว
“เมฆ ร้องไห้ทำไมเมฆ มึงเป็นอะไร บอกกูสิเมฆ “ ผมเองก็ไม่รู้ว่า สภาพร่างกายของผมที่แสดงออกมาในสายตามันตอนนี้เป็นยังงัย
แต่มันพยายามตบแก้มผม พร้อมร้องเรียกอยู่อย่างนั้น ด้วยแววตาที่เรียกได้ว่ามากกว่าความตกใจ
“มึงมีอะไรจะเล่าให้กูฟังมั้ยฉาน” ผมพยายามได้มากสุดก็แค่เอ่ยประโยคนี้ออกไป
แล้วเสียงที่ผมคิดว่าได้ตะโกนออกไป มันคงดังกว่าการกระซิบแค่นิดเดียว
“ได้สิเมฆ มึงใจเย็นๆนะ มึงสงบสติก่อน กูอธิบายได้ทุกอย่างเมฆ” ผมคิดว่า ผมกำลังคลี่ยิ้มออกมาท่ามกลางม่านน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่ขาดสาย สองมือผมปะป่ายดึงรั้งไอ้ฉานเข้ามาใกล้
เวลานี้ถึงแม้ผมจะรู้สึกอ้างว้างและสับสนอย่างที่สุดขนาดไหน
แต่ผมก็ยังอยากมีใครสักคนอย่างข้างๆกายผมอยู่ดี
ถึงแม้ว่า คน คนนั้นจะเป็นหนึ่งคนที่ทำให้หัวใจของผมอ่อนล้าอยู่ในขณะนี้ก็ตาม
สองมือผมคว้าร่างของไอ้ฉานเอาไว้ได้ พร้อมๆกับที่มันวาดแขนมาโอบกอดผมไว้
สองมือมันพยามลูบหลังผมไปมา สลับกับถอยห่างออกมามองหน้าผม
สองมือมันประคองใบหน้าผม ให้หันมาประจันหน้ามัน ก่อนที่จะค่อยๆโน้มหน้าผมเข้ามาใกล้ๆ
มันเอาปลายจมูกมันไล้ไปมาที่ข้างแก้ม ปัดเป่าไปมาเบาๆที่ขมับทั้งสองข้าง
มันใช้มือข้างนึงเกลี่ยปอยผมที่เริ่มหลุดมาปรกหน้าเหน็บไว้กับใบหู
ชายเสื้อข้างนึงของมันโดนแปรสภาพเป็นทั้งผ้าเช็ดน้ำตาและน้ำมูกไปพร้อมกัน
ชั่วระยะเวลานึงที่ร่างกายและจิตใจผมสงบลงบ้างแล้ว
“เค้ากำลังจะกลับมาใช่มั้ย ไม่ใช่สิ ตลอดเวลาที่ผ่านมา มึงและแม่รู้ใช่มั้ยว่าเค้าไม่ได้ไปไหนไกลกูเลย”
มันไม่ได้ตอบอะไร แต่มันดึงผมกลับเข้าไปกอดพร้อมกับที่มือมันกดหัวผมไว้กับไหล่ ของมัน ผมยอมที่จะซบหน้าไว้อย่างนั้น
ผมรู้ว่ามันพยักหน้าแทนคำถามที่ผมอยากรู้ เพราะปลายคางมันกระทบกับหัวผม
“แล้วทำไมทุกคนต้องปิดบังกู เรื่องนี้เป็นเรื่องของกูไม่ใช่เหรอ เรื่องของกู กูตัดสินใจเองได้”
ผมรับรู้ถึงแรงรัดที่รัดตัวผมแน่นขึ้น ความรู้สึกเจ็บมันหายไปจนชาแล้วครับ
แรงกอดรัดในครั้งนี้ มันจึงรู้สึกว่าร้อนวูบวาบเข้ามาแทนที่ ไอ้ฉานรัดผมจนแน่น
มันกดจมูกลงมาบนหัวผม สูดลมหายใจอย่างแรง จนผมคิดว่า
หัวผมเป็นบ่อแห่งพลังงานเรียกความมั่นใจหรืออย่างไร มันถึงได้สูดเอาๆแบบนั้น
ก่อนที่มันจะผละออกมาสบตากับผม ผมเองก็สบตาตอบมัน เราอ่านความจริงทุกสิ่งอย่างกันทางสายตาอีกครั้ง
“พวกเราไม่มีใครอยากเสียมึงไปงัยเมฆ ขอโทษนะ ที่เห็นแก่ตัวแบบนี้”
“มึงรู้ได้งัยว่ากูจะไป มึงดูถูกน้ำใจกูได้ขนาดนี้เลยเหรอ”
“กูขอโทษเมฆ กูขอโทษนะ” มันเอ่ยคำว่าขอโทษกับผมทั้งทางวาจาและทางสายตา
ผมค่อยๆกอดรัดมันกลับไปบ้าง มือผมที่ขยำชายเสื้อมันไว้ในตอนแรก ตอนนี้ได้คลายลงไปโอบหลังมันไว้แทน
หน้าผมซบอยู่กับอกมันสักพัก จนคิดว่าหัวใจตัวเองพร้อมแล้วตอนนี้ที่จะบอกมันว่า
“ไม่ว่ามึงหรือแม่ กุก็ไม่มีวันทิ้งใครหรอกฉาน ไม่มีวันจริงๆ” ผมไม่รู้ว่าคำพูดผมจะเป็นที่เชื่อถือของมันได้มั้ย
ผมผละตัวออกมองมองหน้ามันนิดนึง มันนิ่งไปเมื่อได้ฟังประโยคนั้นกับผม
และนั่นก็ทำให้ผมอึดอัดใจอย่างที่สุด ไม่รู้ว่าประโยคที่ผมพูดออกไปนั้น มีปฎิกริยาอย่างไรกับจิตใจมันบ้าง
ผมไม่อยากให้มันเงียบ จึงเสือกร่างเข้าไปเข้าใกล้มันอีกครั้ง ผมพยามแหงนหน้าเพื่อหาคำตอบในสายตามัน
ก่อนที่จะได้คำตอบจากสายตาคู่นั้นกลับมา ริมฝีปากผมก็ถูกครอบครองจากกลีบปากของมันซะแล้ว
กำลังจะอ้าปากประท้วงเค้นเอาคำตอบที่อยากได้ กลายเป็นเปิดทางให้ลิ้นมันเข้าควานหาปลายลิ้นของผม
ดวงตาที่เบิกโพรงกับสิ่งที่รุกล้ำเข้ามาในตอนแรก กลายเป็นต้องหรี่ปรือลงทันที่ ที่ปลายลิ้นของมันควานหาปลายลิ้นผมเจอ
มันดุดกลืนรสชาติจากลิ้นผมจนพอใจ ก่อนที่จะตวัดหารสชาติต่อไปรอบๆโพรงปากผม ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มถูกลืมเลือน
กลายเป้นความอยากรู้อยากลอง
จากตอนแรกที่แผ่วเบา อ่อนหวาน
โดนกระตุ้นจากบางอย่างภายในร่างกายที่มันเริ่มโหมกระพือขึ้น กลายเป็นความเร่าร้อน สองมือของมันเริ่มปะป่ายเข้ามาทางชายเสื้อของผม ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง เร่งเร้าให้ผมต้องทำแบบนั้นกลับไป เพื่อบรรเทาความร้อนรุ่มข้างในกายผมบ้าง
ไม่รู้ว่าต้องเรียกว่าสัญชาตญาณ หรือสันดานดิบภายใน ที่เริ่มสั่งสอนให้ผมส่งปลายลิ้นเข้าไปสำรวจในปากมันบ้าง
นั่นกลายเป็นว่าผมไปกระตุ้นให้มันกลายเป็นจูบที่รุนแรงยิ่งขึ้น ลิ้นร้อนชื้นของไอ้ฉานถึงได้ดูดกลืน บดเบียด และรุกรานโพรงปากผมได้อย่างเอาแต่ใจ
เมื่อผมขยับปลายลิ้นหนี มันก็ตวัดรุกไร่ตามมา ลิ้นต่อลิ้นแลกกันอย่างเร่าร้อน
ปากของเราสองคนแลกจูบกันแบบไม่รู้จักอิ่ม เหมือนบางที่สิ่งเราซ่อนมันไว้นานแสนนาน เมื่อตามหากันจนเจอ
สิ่งนั้นจึงกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่เราต้องตักตวงไว้ให้มากที่สุด สองแขนของผมตวัดรอบคอไอ้ฉานเมื่อไหร่ไม่รู้
และตัวผมขึ้นมาอยู่บนตักไอ้ฉานด้วยตัวของผมเองหรือว่าด้วยมือมารของมันนั่นก้ไม่ทราบได้
ในเมื่อร่งกายของผมมันวูบโหวงไปขนาดนี้ และมือไอ้ฉานเริ่มรุกรานส่วนอื่นในร่างกายให้ผมต้องหวั่นไหวเบียดกายเข้ารับความรู้สึกแปลกใหม่มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเหมือนกระตุ้นพายุที่มันพร้อมจะโหมออกมาได้ทุกเมื่อ
ก่อนที่อะไรๆ มันจะล่วงเลยมากไปกว่าวันวานนี้
ก่อนที่สมองและหัวใจผมจะต้องทำงานหนักมากไปกว่านี้
และก่อนที่ทุกอย่างจะยุ่งยากมากขึ้น
“ฉานพอเถอะนะ”
“ฮือออออออออ” มันเหมือนเสียงสัตว์ร้ายที่ถูกนายพรานยิงธนูเข้าใส่ โดยไม่ทันได้ตั้งตัว
ปวดร้าว ทรมาน ไปทั้งร่างกาย
==========================================
 :o8: อายมากมาย

ฉาน อย่าาา อย่าช้า  :jul3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 01-04-2010 20:27:17
 :z13:คนโพส
สงสารเมฆกับแม่นิ่มจังแม่ตัวจริงปรากฏ จะตัดสินใจไงดี
มาถึงขั้นนี้เมฆจะยอมฉานมั้ย ค้างอ่ะ :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 01-04-2010 20:35:44
กี๊ตตตกำลังเข้าได้เขาเข็ม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 01-04-2010 20:41:21
แบบนี้อย่าเล่าจะดีกว่า  ค้างงงงงง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 01-04-2010 20:42:27
ค้าง... อย่างแรง

 :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 01-04-2010 20:46:44
 :m31:  กัดหัว คนแต่ง....


ใจเย็นๆนะนู๋เมฆ ปัญฆาทุกอย่างมีทางออก... :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 01-04-2010 21:06:22
อ้างถึง
“ฉานพอเถอะนะ”
“ฮือออออออออ” มันเหมือนเสียงสัตว์ร้ายที่ถูกนายพรานยิงธนูเข้าใส่ โดยไม่ทันได้ตั้งตัว
ปวด ร้าว ทรมาน ไปทั้งร่างกาย

ทำอย่างงี้ได้ยังไง อ๊ากกกก  :serius2:
ขอสงบใจก่อน ...
โอเค..ได้ล่ะ  ลืมไปเมฆยังมีปัญหาให้เคลียร์ ไม่ใช่เวลามาหื่น
เคลียร์เสร็จ ค่อยว่ากันอีกทีใช่ป่ะๆ ฮ่าๆๆ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 01-04-2010 21:31:39
สงสารก้อนเมฆจัง  :m15: :m15: :m15:

แต่ตะวันกำลังเคลื่อนตัวเข้าบดบังก้อนเมฆแล้วววววว อย่าหยุดแค่น้านนนน บังให้มิดไปเลย  :z1: :z1: :z1:

PS. ยังขอยืนยันคำเดิมมมมม พี่เมฆเป็นเมียพี่ฉานไปเหอะ ไม่ต้องคิดมาก  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 01-04-2010 22:03:37
อ่านแรกๆ กำลังสงสารน้องเมฆ ดราม่าอยู่ดีๆ :monkeysad:
กลายเป็นฉากโรแมนติก ซะง้านนน :-[

ว่าแต่ มันค้างงงงงงงงงงง  อยากอ่านต่อแล้ว :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 01-04-2010 22:51:40
ค้าง จริง จริง ด้วย

 :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-04-2010 23:10:45
แอร๊ยยยยย อ๊ากกกก ทำกันแบบนี้ได้ไง  :serius2:

ตัดตอนค้างกลางอากาศเลยอะ   :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 01-04-2010 23:23:41
โดนยัดเยียดความเป็นเมียแน่ละนะเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 01-04-2010 23:30:13
น้องเมฆไม่มีทางจะทิ้งพี่ฉานไปได้หรอก
เพราะเราคู่กันชิมิ :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 01-04-2010 23:42:36
อ่านแล้วเศร้า
แต่ !

ตอนสุดท้ายนี่มันอะไรก๊านนน
ทำไมถึงตัดฉึบ ! เยี่ยงนี้
ค้างคาขอรับ
มาต่อด่วนนน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 02-04-2010 01:35:59
ขอตอนต่อไปอย่างด่วน :haun4:

พักเรื่อง แม่ ของเมฆไว้ก่อนก็ได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 02-04-2010 04:20:21
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย  :serius2:  จะเครียดเรื่องคุณแม่ดีหรือจะเครียดเรื่องที่ตัดฉับค้างงงงเติ้งงงงงงอยู่แบบนี้ดี
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 02-04-2010 05:47:34
อ่าน comment แล้วทำใจก่อน
ค่อยอ่านทีหลังดีกว่า   :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 02-04-2010 06:48:19
 :serius2: อ๊าคคคคค   ค้างแต่เช้าแบบนี้  ม่ายยอมๆๆๆๆๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 02-04-2010 07:03:32
เออนะ เราก็อุตส่าห์นั่งลุ้น

กระซิก ๆ

คนเขียนทำร้ายจิตใจเค้า

 :a5:  :z13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 02-04-2010 16:01:41
 :m16: ค้างๆๆๆ

ไม่ไหวจะเคลียร์   อ่านแล้วตุ๊มๆต่อมๆ หัวใจเต้นน

เมฆ จะเสร็จฉานนมั้ยย นั้นแหละที่อยากรู้  555


 :z13: จิ้มคนแต่งและคนโพสต์ มาลงต่อได้แล้ววว

อยากอ่านแล้วๆ แง่วๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 02-04-2010 22:02:18
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 03-04-2010 08:22:48
อ๊ากกก!! พ่อเจ้าประคุณรุนช่งเอ้ย!!
ช่างกล้าปล่อยให้พวกกระผมค้างได้ดีจริงเทียว
เดี๋ยวกระผมก็กระโดดจูบปากด้วยความหื่นกระหายซะนี่  :z2:
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 03-04-2010 08:35:14
เพิ่งได้มาอ่าน สนุกมากๆ เลยครับ ภาษาก็ดี ชอบๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 03-04-2010 17:53:46
ค้างนาน นุ้งเซ


มะไหร่จะมาเฉลยว่าตกใคร พี่ฉานขี่น้องเมฆ หรือน้องเมฆที่ลุกขึ้นขี่พี่ฉานกันแน่

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 15 ,1 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 03-04-2010 18:04:11
 :oni3: :oni3:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 03-04-2010 20:37:09
มาแล้ว NC แบบเด็กๆ  :haun4: อ่านแล้วติชมด้วยนะตอนนี้ อยากได้แบบไหนบอกได้จ้า

===============================================

ตอนที่ 16

“เมฆ กูไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ มึงกะกูจะเกิดอะไรขึ้น แต่ให้กูหยุดตอนนี้ ไม่ได้จริงๆ”

เสียงกระซิบร้องขอพร่าสั่น ราวสัตว์ร้ายของไอ้ฉาน ยากที่ผมจะต้านทานจริงๆ
ในห้วงอารมณ์แห่งปรารถนาที่ผมเพิ่งเข้ามาทำความรู้จักกับมันในครั้งนี้
มันเสียวซ่าน และร้อนแรง สุขซ่านและทรมานสลับกันไป
พายุแห่งราคะ มันพัดโหมเอาอารมณ์ผมฟุ้งซ่านไปถึงไหนต่อไหน
ทั้งน่ากลัวแต่ว่า  ..............     มันก็น่าลองไปพร้อมๆกัน
ทุกอย่างดำเนินไปตามครรลองที่มันควรจะเป็น
เสื้อผ้าผมและมันเริ่มหลุดหายไปจากร่างกายเราทั้งสอง 
เตียงกว้างที่เคยทำเพียงหน้าที่รองรับร่างเพื่อที่จะพักผ่อน
ในตอนนี้กลับกลายเป็นสนามแห่งอารมณ์ ที่ผมกับไอ้ฉานช่วยกันสร้างขึ้น
ร่างกายผมที่เคยภูมิใจนักหนาว่ามีผมเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
บัดนี้ กำลังถูกสำรวจด้วยมือของคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตอีกคนนึง
จากมือที่เคยให้ความอบอุ่นกับผมตลอดมา
ตอนนี้ไม่ว่ามันลากผ่านไปจุดไหนของตัวผม ร้อนแทบไหม้
แล้วผมก็รับรู้ได้ตอนนี้เองว่า จะหลอมละลายมันเป็นยังงัย
ผมแอ่นทุกจุดที่ได้รับสำผัสจากมือคู่นั้น ราวกับต้องการให้มันแนบชิดมากกว่านี้
ลิ้นร้อนแตะแต้มเล็มไล้ไปทุกส่วนของร่างกาย ลมหายใจที่เป่ารดไล่จากใบหน้า
ใบหูและซอกคอ ก่อนจะมาหยุดกวาดต้อนทุกอย่างไว้ด้วยปลายลิ้นตรงยอดอกผม
ความหวาบหวามเหมือนกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย
ทุกครั้งที่ปลายลิ้นแตะแต้มตวัดดูดกลืน มันวูบโหวงล่องลอย เหมือนโดนกระชากไปที่ไกลแสนไกล
มือผมไขว่คว้าได้แค่ท้ายทอยที่เต็มไปด้วยร่องรอยความชื้นของเหงือที่จับกับปอยผมนิ่ม
ผมพยามยามเกาะบ่าไอ้ฉานไว้ยามที่ลิ้นร้อนมันผ่านมาวนอยู่แอ่งชีพจรตรงสะดือ
ที่นำพาความหฤหรรษ์ ในรสรักครั้งนี้มาให้ผมต้องครางฮึมในลำคอ 
เพียงแค่นั้น มันก็ผละจากตรงนั้นมามอบจูบที่เร่าร้อนให้ผมอีกครั้ง
และอีกหลายๆครั้งที่ผมพยายามบดเบียดร่างกายเข้าหาสัมผัสของมัน
เพียงแค่คิดว่า การกระทำนั้นจะลดอาการเสียวซ่าน
ที่เกิดขึ้นทุกขณะที่มีการสัมผัสจากปลายลิ้น ตรงท้องน้อยนั่นได้
เรามาไกลจนยากที่จะกู่กลับแล้วจริงๆ
ใบหน้าผมแหงนเริ่ดขึ้น เมื่อมือนั้นครอบครองตรงส่วนที่อ่อนไหวที่สุดในร่างกายผม
เสียงครางผะแผ่วที่ผมพยายามกลั้นไว้ ไม่ให้เปล่งออกมาเพราะเรื่องที่น่าอายนี้
ถูกจับกระแสเสียงแห่งอารมณ์ได้จากคนที่ก่อมันขึ้นมาเองกับมือ
“ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะเมฆ กูอยากได้ยิน นะ” เสียงนั้นพร่าสั่น ร้องขอ
ผมปล่อยเสียงออกมาจากความอัดอั้นที่กำลังปั่นป่วนจากข้างใน ที่พร้อมจะปลดปล่อยในเวลาอันใกล้
แรงบดเบียดที่ร่างกายผมตอบโต้กับสัมผัสนั้นกลับคืนไป เรียกเสียงครางฮึมในลำคอไอ้ฉานด้วยเหมือนกัน
แต่แล้วผมก็ต้องส่งเสียงที่บ่งบอกชัดว่าได้รับการขัดใจอีกครั้ง
เมื่อมือที่ควรจะทำหน้าที่ของมันส่งผมถึงอีกฝั่งหนึ่งของความสุขนั้นหยุดลง
ผมแหงนหน้าขึ้นมอง สายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ส่งผ่านไปยังนัยย์ตาของอีกคน
“เราจะไปพร้อมกันเมฆ” เพียงแค่นั้นผมก็รู้แล้วว่า เราต้องทำอะไรต่อไป
ไม่ใช่เรื่องยาก ในเมื่อองค์ประกอบของร่างกายของเราทั้งสองทุกอย่างเหมือนกัน
การปลดปล่อยอารมณ์เป็นรื่องธรรมชาติ ที่ผมเองก็เคยผ่านตรงจุดนั้นมาแล้ว
แต่นั่น มันเป็นเพียงการกระทำลำพังฝ่ายเดียวของผม
แต่ครั้งนี้ ไอ้ฉานกลับดึงมือของผมไปจับส่วนใหญ่โตที่คับแน่นไปทั้งมือของมันไว้
ส่วนมือของมันก็จับตรงส่วนที่คับแน่นและมีร่องรอยที่บ่งบอกว่าอยากจะปล่อยความอัดอั้นในร่างกายเต็มที่แล้วของผมเช่นกัน
เราสองคนช่วยทำในสิ่งเดียวกัน ด้วยท่วงท่าและจังหวะเดียวกัน
ผมต้องกัดริมฝีปากจนเจ็บแปลบ และแหงนหน้าเริ่ดขึ้นทุกครั้งที่สัมผัสนั้นเร่งเร้าด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น ถี่ขึ้น
เสียงของคนสองคนที่ร้องออกมาเยี่ยงสัตว์ร้าย ดังประสานไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใครไปทั้งห้อง
ก่อนทุกอย่างจะถึงจุดที่มันควรจะต้องเป็น ความเสียวซ่านกำลังเล่นริ้วตามไขสันหลัง
จนถึงจุดที่จะต้องปลดปล่อย
ไอ้ฉานปล่อยมือจากส่วนนั้นของผม ก่อนที่จะครอบครองมันอีกครั้งด้วยปากร้อน
ปากนั้นห่อรัดกับส่วนนั้นของผม ดูดกลืนไปหมดสิ้นทุกหยาดหยดแห่งความสุขสม
เสียงร้องครางสั้นและยาวสลับการผ่อนเสียงลมหายใจของเราทั้งสอง
บ่งบอกชัดว่าเวลาแห่งความทรมาน ที่นำพามาซึ่งความสุขสมอันยาวนานนั้น
จบลงแล้ว
เหนื่อยหนักหนา และทว่ามันก็สุขมากมาย
เราทั้งสองล้มแผ่ไปบนเตียงกว้างของผม ต่างหอบหายใจ จ้วงเอาอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด
พายุร้อนแห่งอารมณ์เริ่มสงบ
แต่ในใจยังร้อน
ผมกับไอ้ฉานเพิ่งผ่านช่วงเวลาที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นระหว่างเพื่อน
และเราทั้งคู่ต่างเป็นผู้ชายด้วยกัน
ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะช่วงอารมณ์อันอ่อนไหวของผม
หรือเป็นความพลาด ของอารมณ์ใคร่ที่มันพาเราไป
มือข้างนึงของผมที่ยกขึ้นก่ายหน้าผาก พร้อมเสียงถอดถอนหายใจเฮือกใหญ่
ทำให้มืออีกข้างนึงของคนที่ล้มตัวนอนลงข้างๆผมเมื่อครู่
เอามือผมอีกข้างของผมไปจับเอาไว้
ก่อนจะออกแรงดึงตัวผมเข้าไปซุกในอ้อมกอด
“มึงเสียใจมั้ย เรื่องที่เราทำมันไปเมื่อกี้ “
ผมเงียบ ไม่รู้จะตอบออกไปว่ายังไงดี มันไม่ใช่ความเสียใจ ทุกอย่างดำเนินมาจนจบได้
เพราะเรายินยอมพร้อมใจ แต่ความถูกต้องตามธรรมชาติต่างหากที่มารบกวนจิตใจผม
“มึงจะรังเกียจมั้ย ที่มีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน โดยเฉพาะกับกู” ผมส่ายหน้าไปกับ อกมัน
ถ้านั่นคือสิ่งที่เรียกว่ารังเกียจ มันจะจบลงสวยงามแบบเมื่อสักครู่มั้ย
ผมรู้แค่ว่าไม่เสียใจ ไม่รังเกียจ
แต่แค่ยังสับสน
ในใจลึกๆ ยอมรับว่า มีความสุขและยิ่งสุขเป็นทบทวีเมื่อคนนั้นเป็นไอ้ฉาน ดวงตะวันของผมคนนี้
แต่ผมจะบอกยังไงดี จะบอกยังไงดี
ในเมื่อตอนนี้ผมรู้สึกว่าเลือดทุกหยดในร่างกายมันกำลังรวมตัวกันที่แก้มทั้งสองข้าง
ตอนที่ไอ้ฉานเอามือมาประคองหน้า ไปสบกับตามัน
“มากกว่าที่เป็นอยู่ได้มั้ยเมฆ มากกว่าเพื่อน ได้มั้ย เป็นคนรักของฉานเลยได้มั้ย”มันร้องขอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย
“แต่มึงกับกูเป็นผู้ชาย” คำพูดผมเท่านั้นที่ต่อต้าน แต่ใบหน้าหนะ พยักหงึกๆตอบรับมันไปแล้ว
“แล้วยังไงหละ ผู้ชายกับผู้ชายรักกันไม่ได้เหรอ ก็แค่คนสองคนรักกัน มันจะอะไรนักหนา เราเลือกเกิดไม่ได้นี่”
นั่นสินะ สังคมนี้มันจะอะไรนักหนา ทำไมต้องสร้างบรรทัดฐานขึ้นมาว่า
ผู้ชายต้องรักกับผู้หญิงเท่านั้น
แล้วที่ผมกับไอ้ฉานรู้สึกกันอยู่นี้หละ สังคมจะตอบความรู้สึกนี้ของเรายังไง
“แล้วมึงไม่กลัวคนมองเหรอ ผู้ชายรักกันเค้าเรียกว่าเกย์นะมึง แค่ทุกวันนี้คนก็มองจะแย่”
นี่ขนาดก่อนหน้านี้ คนยังแซวผมกับไอ้ฉานซะทั่วทั้งมหาลัย
แล้ววันนี้ วันที่เราเป็นมากกว่าวันวาน
มากกว่าเพื่อนสนิท มากกว่าเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก
ถ้าข่าวนี้ยืนยันออกไปว่าจริงเมื่อไหร่ ผมไม่อยากจะคิดเลย
ว่าอะไรจะตามมาในรั้วมหาลัยอีกสองปีของผม และอีกสามปีของไอ้ฉาน
“มึงแคร์คนมองเหรอ  มึงแคร์สังคม แคร์คนมอง แต่แปลกนะ ที่กูอะ แคร์แค่มึง”
ผมเงยหน้าสบตากับมัน ก่อนที่จะผลุบตาลงต่ำ ซุกหน้ากับอกมันอีกครั้ง
 เมื่อพบกับแววตาพร่างพราวแบบนั้นของมัน ยังไม่ชินนี่นา แววตาที่บอกว่ามีแต่ผมอ่ะ
“เอาหละ ทีนี้มึงเป็นของกูแล้ว ไม่ว่าใครก็เอามึงไปไม่ได้แล้ว มีสามีแล้ว เอาไปก็ไร้ความหมาย”
มันพูดได้หน้าตาเฉย แถมยังเอาจมูกมาซุกไปมากับซอกคอผมอีกต่างหาก
ยังไม่ทันจะย่นคอหนี ริมฝีปากของไอ้วายร้ายก็ดูดตอดเน้นย้ำหนักบ้างเบาบ้าง ตรงซอกคอผมทันที

เสียวแล้วก็เจ็บจี๊ด
“เชี่ยฉาน เดี๊ยวเป็นรอย กูอายคน แล้วกูเป็นเมียมึงตอนไหน มึงอย่ามั่วสิ กูไม่โง่นะที่จะไม่รู้ว่า ตอนไหนที่เค้าจะเรียกว่าผัวเมียกันหนะ” ก็นะ ช่วงล่างแถวๆบั้นท้ายผมยังอยู่ดีนี่น่า ยังไม่เจ็บจนต้องร้องซี๊ดขึ้นมาสักหน่อย
ผ้าปูที่นอนก้ไม่ได้ด่างพร้อย เป็นด้วยร่องรอยอารยธรรมสีแดง
ถ้าจะมีรอยด่าง ก็คงเป็นจากของมัน ไม่ใช่ของผมแน่ เพราะของผม มันเก็บกลืนไปหมดแล้ว
“ก็ครั้งแรก กูกลัวมึงเจ็บ ไว้ครั้งหน้า เราก็ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปสิ” มันพูดเหมือนเล่มเกมส์อะไรกันสักอย่างที่ใครแพ้แล้วจะโดนดีดนิ้ว

“เมฆ กูเคยบอกมึงยัง”
“หือ บอกอะไร”
“กูรักมึงจัง” ฮื่อ แล้วแบบนี้ผมต้องตอบโต้มันว่าอะไรดี
แล้วเลือดเมื่อไหร่มันจะหยุดรวมตัวกันที่แก้มประจานผมให้อายสักที
แล้วไอ้ฉานมันก็หัวเราะกับท่าทีที่ผมช้อนตาขึ้นค้อนมันยังกะผู้หญิง และซบหน้าซ่อนอายกัยอกมันอีก
แบบนี้รึเปล่า ที่เค้าเรียกกันว่า “สาวแตก”

เราสองคนกอดกันอยู่แบบนั้น เนิ่นนาน


“ฉาน เล่าเรื่องแม่ให้กูฟังหน่อย” ผมยังไม่ลืมเรื่องนี้หรอกครับ แค่รอเวลา
ไอ้ฉานมันเกร็งตัวขึ้นทันทีจนผมรู้สึกได้
“นะ แล้วกูจะตัดสินใจเองว่าจะเอายังไง” ผมยืดตัวขึ้น หอมปลายคางสากๆ ของมันเพื่อเอาใจและให้กำลังใจมัน สักหน่อย
เพราะตอนนี้ กำลังถึงช่วงที่ผมจะต้องเค้นเอาเรื่องสำคัญออกจากปากมัน ให้ได้

=======================================
หวังว่าคงไม่ค้างกันนะ เจอกันตอนหน้าจ้า  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 03-04-2010 20:44:32
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย      :-[

ในที่สุด.....  พี่เมฆ กะ ดวงตะวัน ก็ ก้าวข้ามผ่านความรู้สึกของตนเองมาอีกขั้น..

เฝ้ามองการเติบโต ของความรักของสอนคนนี้แล้ว....มีความสุขจริง  :L2: :L2:


NC ภาษา สวยดีจ๊ะ  อ่านแล้วเคลิ้ม......   :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 03-04-2010 20:57:09
ขอให้ผานไปอีกขั้น

และ..อีกขั้น

นะจ๊ะ


 :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 03-04-2010 21:13:30
 :impress2: NC หวานละมุน อิอิ เมฆเสร็จฉานจนได้ อิอิ  :กอด1:  น่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 03-04-2010 21:38:57
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เสียตัวแบบซอฟท์ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 03-04-2010 22:01:10
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย  :z1: :z1: :z1:

“มากกว่าที่เป็นอยู่ได้มั้ยเมฆ มากกว่าเพื่อน ได้มั้ย เป็นคนรักของฉานเลยได้มั้ย”

“มึงแคร์คนมองเหรอ  มึงแคร์สังคม แคร์คนมอง แต่แปลกนะ ที่กูอะ แคร์แค่มึง”

เอาใจพี่ไปเต็มๆอีกครั้งเลยน้องฉานนนนนนนนน ดวงตะวันของก้อนเมฆ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 03-04-2010 22:47:13
กรี้ดดดดดดดดดดด!!
น้องเมฆ "สาวแตก" :m20:

รอตอนเสียตัวแบบสมบูรณ์แบบอยู่นะจ๊ะ  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 03-04-2010 22:48:43
อ๊ายยย ตอนนี้พี่ฉานน่ารักสุดๆ

น้องมฆเป็นของพี่ฉานแล้วนะ

 :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 03-04-2010 23:00:01
อ๊ายยยยยยย
 :กอด1:
หวานจริงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 03-04-2010 23:06:01
 :o8: น่ารักกกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 03-04-2010 23:20:01
เซ็ง แอร์เสีย กว่าจะอ่านได้จบตอน 

แต่นะ ทำไมกุไม่มีแบบนี้บ้างวะ 5555 เขิลลลล
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 03-04-2010 23:25:20
สวีท หวานนน  เป็นคู่ที่น่ารักจังเลย
มาหวานกันแบบนี้เค้าเขินนะตัวเอง  :-[

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 03-04-2010 23:26:22
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย      :-[

ในที่สุด.....  พี่เมฆ กะ ดวงตะวัน ก็ ก้าวข้ามผ่านความรู้สึกของตนเองมาอีกขั้น..

เฝ้ามองการเติบโต ของความรักของสอนคนนี้แล้ว....มีความสุขจริง  :L2: :L2:


NC ภาษา สวยดีจ๊ะ  อ่านแล้วเคลิ้ม......   :o8:

เห็นด้วยค่ะ! ชอบคู่นี้จริงๆเลยน๊าาาา  :m3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 03-04-2010 23:31:42
หวานอะเมฆกับฉาน

แต่ก็นะ อยากรู้เรื่องแม่ของเมฆแล้วอ่า

มาต่อไวๆนะครับ มันค้างนิดๆๆ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 04-04-2010 00:53:54
ชอบคู่นี้จังเลย :o8:

พัฒนากันไปอีกก้าวแล้วสินะ

รอลุ้นก้าวต่อไปจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 04-04-2010 01:34:21
อุ๊ยๆๆๆ...ในที่สุดก็.......ชุดเล็กไปแล้ว รอชุดใหญ่จากฉานจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 04-04-2010 12:17:39
หลัง ๆ นี่ไม่รู้ว่าใครจะหลงกลใครล่ะนะ

 :jul3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 04-04-2010 13:56:40
เมฆกะฉานผ่านชั้นอนุบาล เอ๊ะหรือชั้นประถมนะ
ฉานบอกเมฆให้ค่อยๆทำไป คนอ่านก็ค่อยๆลุ้นกันไป
อยากรู้จังทำไมแม่ทิ้งเมฆไปตอนเด็กๆพอโตจะมาเอาคืน
แล้วแม่เมฆกะแม่นิ่มเกี่ยวข้องกันยังไง
รอคนแต่งเฉลย รอคนโพสมาลง
ว่าแต่ตอนต่อไปแต่งเสร็จยังเนี่ย  o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 04-04-2010 14:02:23
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่าน เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลยค่ะ

ครบทุกอารมณ์  ตอนนี้หลงรักพี่ฉานกะพี่เมฆมากๆ  :-[ :-[

ตอนต่อไปจะเป็นยังไงน้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Kwawaic ที่ 04-04-2010 14:02:48
เมฆ กะ ฉาน
ชอบ อ่ะ น่ารัก ดีค่ะ

ลุ้น ตอนต่อไป ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-04-2010 19:53:44
คู่นี้น่ารักไม่เกรงใจอากาศร้อนมหาโหดตับแตกเลยอะ  :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 04-04-2010 21:54:05
 :o8: มากกกก

555  หวานได้อีก
น่ารักอ่ะ

ดวงตะวัน กับก้อนเมฆ ต้องอยู่คู่กันตลอดไป

กิ๊วๆ  ยิ่งอ่านกะยิ่งหลงรักก พี่ฉานนนนน

อ๊ากกกกกกกกก

 :กอด1: คนโพสต์แรงๆ  :L2: คนแต่งง ขอบคุณมากมายยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 05-04-2010 12:15:32
แบบนี้เรียกว่าสามีภรรยา50 เปอร์เซ็นต์ก็แล้วกัน :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ๋JEFF ที่ 05-04-2010 12:52:19
เอ็นซี ภาษาดี   o13


น่ารักจังเลย ย

เอ็นซีเด็กๆๆ..  :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 05-04-2010 15:12:28
น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 05-04-2010 17:23:17
นุ้งเมฆคะ ไม่ท้วงไปว่า อยากได้ตำแหน่งสามีบ้างล่ะเออ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 05-04-2010 20:28:15
มีการไต่ระดับนะเนี้ยพี่ฉาน  :m12:
แอบค้างเรื่องเเม่ รีบมาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 05-04-2010 21:23:57
มาได้แล้วครับ คิดถึง  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 16 ,3 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 05-04-2010 22:17:13
มารออ่ะะะ

 :oni3: :oni3:

คิดถึงพี่ฉานนนจะแย่แล้ว


V
V
V
จิ้มบนไม่ได้จิ้มล่างกะได้ ชอบมาลงหลังเราเม้นทุ๊กกกที

55
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 05-04-2010 22:29:11
มาแล้วจ้าขอโทษที่ให้คอยนาน   :seng2ped: เรื่องราวหลังเสร็จกิจ  :z1:

======================================

ตอนที่ 17

เมื่อเสร็จสิ้นจากศึกสงคราม สิ่งที่ตามมาคือร่องรอยของความเสียหาย และความเงียบสงบแห่งสนามรบนั้น

เหมือนตอนนี้ที่ห้องทั้งห้อง มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำหน้าที่ของมันตามปกติ

แต่ที่ไม่ปกติ คือ ไอ้คนที่มันนอนอยู่ข้างๆ แขนข้างนึงเป็นหมอนอย่างดีให้ผมหนุน

แต่แขนอีกข้าง กับก่ายเกยอยู่บนหน้าผากของมันเอง

มีเสียงประกอบฉาก

เป็นเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่เคล้าคลอเสียงแอร์ไปตลอดเวลา

นั่นทำให้ อารมณ์ของผมเริ่มจะครุกกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง

ท่านเมฆเป็นคนที่ทนทุกอย่างได้  แต่ ไม่นาน

เมื่อผมอยากรู้ นั่นคือผมต้องรู้ เรียกว่าเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองก็คงจะไม่ถูกนัก

เพราะเรื่องที่ผมอยากรู้ เป็นเรื่องที่ค้างคาใจผมมาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา

มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ไม่มีวันที่จะเข้าใจ หากไม่ได้มาอยู่จุดนี้ด้วยตัวเอง

ผมพลิกตัวเข้าหา คนที่อยู่กับผมมาแทบจะตลอดเวลาทั้ง 15 ปี

มึงกลายเป็นคนติดสำผัสตั้งแต่เมื่อไหร่วะเมฆ.....


จุดประสงค์คือต้องการอยากจะซักถามไอ้คนข้างๆ ว่า อมดอกพิกุลไว้หรือไง

กูถามไปตั้งนานแล้ว มึงยังเงียบใส่อยู่ได้ ต้องให้กูง้างปากมึงใช่มั้ย...กูถึงจะรู้อะไรเป็นอะไร
เดี๊ยวปั๊ด !!! เจอท่านเมฆ  ง้างปากหมาฉาน ด้วยปาก ซะเลยนี่

ฮึ่ม!!!

ผมได้แต่ฮึดฮัดอยู่ในลำคอนั่นแหละครับ

เพราะในความจริงกับความฝันมันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เพราะตอนนี้ สิ่งที่เป็นอยู่คือ

ผมพลิกตัวมากอด “เพื่อนสนิท” เอ่อ เรียกว่าคนสำคัญก็ได้

จะให้เรียกสามี-ภรรยา ก็คงจะกระดากปาก เนื่องจากยังไม่รู้ว่าเกมส์นี้ ใครจับได้ไม้สั้นหรือไม้ยาว

ถึงแม้ความสัมพันธ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปของเราทั้งคู่ จะมากกว่าที่เพื่อนสนิทตามปกติเค้าทำกัน

แต่จะให้เรียกความสัมพันธ์นี้ว่าอะไรนั้น ผมเองก็สุดจะรู้

“คนรักของฉาน” คำนี้ลอยเข้ามาในหัวผม ไอ้ฉานมันบอกไว้แบบนี้
ทันที่ที่นึกถึง ขนมันก็ลุกซู่ ที่ผ่านมาวาจาที่ผมกับไอ้ฉานสนทนากันนั้น เรียกได้ว่า

มากกว่าคำว่าสถุล คำหยาบออกจากปากเรา มากพอกับเม็ดข้าวที่เรากินเข้าไปได้มั้ง

แต่ตอนนี้ ไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาซาบซึ้ง กับถ้อยคำที่แสนจะอบอุ่นใจนั้น

หากคำว่า “คนรักของฉาน” มีผลบังคับใช้ไปตลอด ผมก็ยังมีเวลาซาบซึ้งกับมันได้ตลอดชีวิต

หากมันต้องการนะ

“ฉาน” ผมแหงนหน้าขึ้นไปมองตามัน..

“ หือ”

“กูอยากฟังเรื่องแม่ เล่าให้กูฟังหน่อยสิ นะ” ไม่ลืมที่จะเอาใจมันด้วยการกดริมฝีปากไปที่แก้มนั้น เร็วๆ

สาวแตกเข้าไปทุกทีแล้วนะมึง ไอ้เมฆ ที่ผ่านมา ออกจะแมน นี่ขนาดไอ้ฉานมันล่อลวงแค่ภายนอก มึงยังเป็นขนาดนี้

แล้วถ้ามากกว่านี้ มึงต้องแต่งหญิง แล้วลุกขึ้นมาพับเพียบร้อยมาลัยเลยมั้ยวะ

ผมคงช้อนตามองไอ้ห่านี่นานไป มันเลยหลิ่วตาใส่มาแบบนี้ ก่อนที่มันจะเอาปลายตีน

เออ....มือมันนั่นแหละ เฮ้ออ!!! มาหนีบปลายจมูกผม มันยิ่มร่า แถมส่งสายตากวนตีน

“ถ้ารู้ว่า เป็นเมียพี่ฉานแล้วน่ารักแบบนี้ กูปล้ำมึงไปก่อนหน้านี้นานแล้วเมฆ”

“ถ้ากูรู้ว่า มึงจะกวนตีนกูแบบนี้ กูก็จะกระทืบหน้ามึงไปนานแล้วเหมือนกัน ตอบได้ยัง “ เริ่มไม่ขำแล้วนะโว้ย

พี่เมฆเริ่มอยากใช้กำลัง

“ดุจริงๆ เมียกู ยังไม่ทันไร เริ่มใช้อำนาจ “

“ฉาน” ใช้ไม้แข็งไม่ได้ เริ่มใช้สายตาอ้อนวอน มารยาพี่เมฆมีเยอะ เอามาใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดหรอกน่า

“ กูไม่ค่อยรู้อะไรนักหรอก”

“มึงรู้” ไม่จริงหรอก มันยืนปรึกษากับแม่นิ่มซะขนาดนั้น จะมาบอกว่าไม่รู้อะไร ใครจะไปเชื่อ

ผมไม่ได้รู้จักมันเมื่อวานนะ รู้อยู่หรอกว่าเรื่องที่ถามไป ทำให้มันลำบากใจ

ปกติหากผมถามเรื่องอะไรที่มันไม่สำคัญ ไอ้ฉานมันจะหาทางเลี่ยง ไม่ตอบคำถามผม ด้วยอาการเนียนของมันตามสันดาน

แต่ถ้าเรื่องอะไรที่มันลำบากใจแบบนี้ มันจะอึกอักและติดขัดไปหมด อย่างที่เป็นอยู่นี่แหละครับ

แต่นั่น มันก็ยิ่งทำให้ผมอยากเค้นถามให้ต้องรู้ให้ได้

“มึงไม่สงสารกูเหรอฉาน” ต้องออกแนวดรามานิดๆครับ เรียกความสนใจจากมันดีนักแหละ

ไอ้ฉานมันอ่อนไหวและอ่อนโยนนะครับ เพียงแต่นานๆ มันจะเอาออกมาให้ผมได้เห็น เนื่องจาก นิสัยนี้ ต้องแลกมาด้วยอาการสาวแตกขั้นพื้นฐาน อย่างที่ผมเพิ่งทำไปนั่นแหละ

อนาถชีวิตตัวเองอีกสักที

“ ก็แค่รู้ว่า หลังจากที่แม่มึงหายไปนานหลายปี เค้าก็ติดต่อแม่นิ่มกลับมา” ปากมันตอบผม แต่ตามองฝ้าเพดาน
ที่ไม่มีอะไรมากไปกว่า ไฟดาวไลท์ 1 ดวงถ้วน

ไอ้ดร๊วกกกกกกกก!!! หน้ากูมีทำไมไม่มอง แถมเรียกได้ว่าหน้าตาดีด้วยนะมึง

“แค่นี้ “ บอกได้เลยว่าพี่เมฆหาได้พอใจในคำตอบไม่


“ เค้ามีสามีใหม่เป็นชาวตะวันออกกลาง แต่ไม่รู้ว่าประเทศไหนนะ “ มันเริ่มเหล่มามองหน้าผมบ้างแล้ว

กูโครตจะดีใจ.....ที่หน้ากูเริ่มมีความหมายกว่าไฟดาวไลท์ดวงนั้น

ผมพยักหน้าหงึกหงักใส่มันให้รู้ว่า ผมตั้งใจฟังอยู่

“ แม่มึงอะอยู่ในไทยนี่แหละ แต่พ่อเลี้ยงมึงไปๆ มาๆ “ ชิส์ ถึงกูไม่รู้ว่าพ่อกูอยากมีกูเป็นลูกมั้ย แต่ยังงัยพ่อกูก็มีคนเดียวเว้ย
ผมย่นจมูกใส่มัน เลยต้องเสียแก้มให้มันแก้หมั่นไส้ไปที....ไอ้เชี่ยนี่ โครตฉวยโอกาส

“แล้วงัยต่อ” จ่ายค่าเปิดปากเป็นแก้มไปแล้วต้องเอาให้คุ้ม

“เค้าทำธุรกิจส่วนตัวอยู่แถวๆทางใต้ ทำรีสอร์ทหรือโรงแรมกูไม่แน่ใจ มีลูกกับพ่อใหม่มึง 1คน

ติดต่อกับแม่นิ่มมาตลอด เกือบสามปีที่แล้ว แล้วเค้าก็บอกว่าตอนนี้เค้าพร้อมแล้ว” นี่ขนาดมันบอกมันไม่ค่อยรู้นะ

“พร้อมอะไร”

“พร้อมแล้วที่จะเอามึงกลับไปดูแลบ้าง”
“ทั้งๆ ที่ทิ้งกูมาได้ ตั้ง 15 ปี นี่นะ”

“ อือ”

“ มึงตอบได้แค่นี้เหรอฉาน มึงจะปลอบใจกูบ้าง กูก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ “ ดูสิมันสิครับ ตอบมาแค่นี้ เลยเจอเหวี่ยง

“แล้วมึงคิดว่างัยหละ” กลายเป็นผมเองแหละครับทีนี้ ที่ต้องเงียบไป

ผมรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้นะเหรอ ไม่รู้ครับ รู้แต่ว่าผมสับสนมากในตอนนี้

ผมไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วผมต้องการอะไร

ผมโหยหาสิ่งไหน

ความรัก หรือแค่พบหน้า หรือมากกว่านั้น

ก่อนหน้านี้ผมอยากเจอแม่  อยากรู้ข่าวคราวสารพัด

อยากรู้ว่าแม่อยู่ไหน ทำอะไรอยู่ จะคิดถึงผมมั้ย คิดถึงลูกอย่างผมบ้างหรือปล่าว

แล้วตอนนี้หละ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า

แม่อยู่เมืองไทย

แม่คงคิดถึงผมอยู่บ้างละนะ ไม่งั้นคงไม่ติดต่อมา

ผมรู้สึกตื่นเต้นมากตอนรอฟังข่าวแม่จากไอ้ฉาน

ผมรู้สึกเต็มตื้นในใจตอนที่รู้ว่าแม่ยังอยู่แผ่นดินเดียวกับผม

แม่คงมีความสุขดี กับครอบครัวใหม่ของแม่ จนมีเวลามาคิดถึงผมบ้าง

ความหวังที่จะได้เจอแม่ของผมอีกครั้ง ดูจะสว่างไสวขึ้นมาทันทีทันใด

“ คิดอะไรอยู่” กำลังคิดอะไรเพลินๆ

“อ้าว เฮ้ยยยยยยยย”

อยู่ๆ ไอ้ (เดร) ฉาน มันขึ้นคร่อมผมอยู่ตอนไหน ตอนนี้มันยื่นหน้าลงมา จนปลายจมูกชนกันแล้ว

มันเลื่อนปลายจมูกปัดไปมากับปลายจมูกผมอีกครั้ง ก่อนจะ ฟัดแก้มผมไป เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ววะ

เดี๋ยวกูคิดราคาทั้งต้นทั้งดอกเลย เชี่ยนี่

“ยิ้มอะไร บอกกูบ้างสิ มึงนี่หลายอารมณ์ จริงๆนะ ตอนมึงช็อคตาตั้งอยู่ที่บันได กูตกใจแทบสิ้นสติ”

อันนี้ผมรู้แล้ว ผมยังจำแววตาของมันตอนนั้นได้ดี แล้วยังกระแทกใจผมมาถึงตอนนี้เลยเถอะ

พูดถึงตอนนั้นขึ้นมาทำไมวะ กูกำลังจะลืมความรู้สึกนั้นอยู่แล้ว

“ก็มึงกะแม่นิ่ม ปิดบังกูมาตลอด ทั้งๆที่รู้ว่าเรื่องนี้สำคัญกับกูที่สุด” ผมขอตัดพ้อเรื่องนี้หน่อยเถอะครับ

“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่างมึงไม่รู้อะไรหรอกน่า” ชิส์..ไอ้ผู้ใหญ่ ข่าวว่ามึงกะกูอายุเท่ากัน แล้วอีกอย่าง มึงจะว่าอะไรกู มึงดูซะบ้าง ว่ามึงกอดกูอยู่นะ สาดดดดด ได้แต่กัดฟันด่ามันในใจ

“แล้วเมื่อกี้ เมียใครไม่รู้ ร้องเรียกพี่ฉานตลอดเวลา แถมทำตาเคลิ้มอีก ใครจะไปทนไหววะ” มันหอมแก้มผมอีกแล้วครับ

ครั้งที่เท่าไหร่ ช่วยกันจดไว้ด้วย ท่านเมฆไม่อยากขาดทุน

“กูเรียกมึงตอนไหน มึงอย่ามาใส่ความกู” ผมจำได้ครับว่าไม่ได้เรียกมันแน่ จะเอาเวลาไหนไปเรียก แค่สะกดจิตใจ ไม่ให้ครางออกมา ก็ลำบากแล้ว ถึงกระนั้น ผมก็ยังหลุดเสียงน่าอาย ให้มันเอามาล้อจนได้สิ



“ตอนไหน เดี๊ยวกูจำลองตอนนั้นให้มึงดูใหม่เอาป่ะ” มันไม่พูดปล่าวครับ มันพร้อมทำจริงๆ

“พอก่อน ตอนนี้มึงเลิกหื่นก่อน กูขอร้อง กูกำลังใช้ความคิด” กูเพิ่งผ่านอารมณ์เศร้าหมองมาเมื่อกี้เองนะ สาดนี่ไม่คิดมั่ง

“งั้นกูขอรางวัล ที่กูจะต้องเงียบรอคุณมึงใช้ความคิดด้วยครับ” ผมหันขวับไปจ้องไอ้ตัวดี เห็นมันลอยหน้ารอรางวัล จากผมอย่างเต็มที่ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันทำดีอะไรไว้
“ถ้ากูไม่ได้รางวัลปลอบใจ กูจะทำอย่างอื่นแล้วนะ ไม่ต้องคงต้องคิดมันแล้ว” แล้วมันเป็นความรับผิดชอบของกูตรงไหนเนี่ยไอ้ฟาย ผมกับมันนี่ใครสาวแตกมากกว่ากันวะเนี่ย ขี้งอนฉิบหาย

แต่ว่าทำไม มันทำหน้าเจ้าเลห์จังวะ

เอาเป็นว่า สิ่งที่จะทำต่อไปนี้ ผมไม่ได้เต็มใจนะครับ เสียค่าน้ำร้อนน้ำชา เพื่อเรียกเวลาส่วนตัวกลับมานิดหน่อย

“ตกลงเอาไง กูจะได้มั้ยรางวัล นี่รอรับเต็มที่เลยนะเนี่ย” อยากจะกระโดดเอานิ้วตะกายหน้ามันมากครับ

สีหน้ามันตอนนี้ เป็นต่อผมอยู่ชัดๆ ไอ้หมาป่าเจ้าเลห์

ผมจะทำยังไงได้ละครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมา

ก้อนเมฆที่ลอยกระจายอยู่เต็มฟ้า เคยบดบังแสงสว่างจ้าของดวงอาทิตย์ ได้เสียที่ไหนละครับ

ผมเลยต้องจำใจ ยื่นจมูกออกไป สูดกลิ่นแก้มมันเบาๆ ก็ว่าจะทำลายสถิติโลก ให้ชนะความเร็วแสง

แต่

“หอมแก้ม มึงได้เปรียบอยู่คนเดียวอะเมฆ “ ไอ้กูปรีหนีน้ำ มึงเอาที่ไหนมาพูด ว่ากูได้เปรียบ
ตอนนี้หน้าผมกำลังร้อนฉ่าครับ แต่ไม่ใช่มาจากการเขิลอายแต่อย่างใด
แต่มันร้อนเพราะว่าไอ้หมาป่าเจ้าเลห์ ที่มันจ้องจะงับลูกแกะแสนเทห์อย่างผม

งับปากมันให้ขาดเลยจะดีมั้ยครับ ไอ้คนที่ไม่รู้จักพอเนี่ย

“จูบดีกว่าไหม จะได้ยุติธรรมต่อกันทั้งสองฝ่าย” มีมันคนเดียวแหละครับในประเทศโลกนี้ ที่คิดตรรกะความยุติธรรมนี้ขึ้นมา

ผมถอนหายใจ ส่ายหน้าใส่มันด้วยความระอา ก่อนที่จะค่อยๆก้มหน้าลงไปหามัน

แต่จะทันใจ วัยรุ่นไทยอย่างไอ้ฉานเหรอครับ

มันฉกปากมันมาถึงปากผม ก่อนที่ผมจะตั้งสติอีกครับ รอยยิ้มที่บอกผมว่า มันเหนือกว่าผมทุกอย่างนั้น

ทำให้ผมแบบจะรัวเท้าหน้าไปตามลำตัวมันให้สาแกใจ

แต่ก็ต้องพ่ายแพ้แก่สายตารู้ทันอีกจนได้

เอาวะ จูบก็จูบ ให้ความร่วมมือกับมันก็ได้

แล้วเราสองคนก็ทำสงครามกัน ในโพรงปาก

ลิ้นผมและลิ้นมันพัวพันกันแทบไหม้

กว่าที่เราจะปล่อยให้ความหอมหวานดับร้อนของสงครามครั้งนี้ได้

ก็เล่นเอาแทบหายใจไม่ทันครับ

มันยอมแพ้ ออกมาโกยอากาศหายใจก่อนผมที่ยังลุกไล่ไม่ยอมแพ้

อืม......แพ้ด้วยก้ได้ เริ่มหายใจไม่ทัน

“ อะ กูให้มึงคิดเต็มที่ ขออย่างเดียว อย่าคิดไปจากกู ไม่งั้นตายหมู่แน่มึง” มันข่มขู่ก่อนที่จะเอาฟันงับปลายจมูกผม

ก่อนล้มลงไปนอนแผ่ ข้างๆอีกครั้ง

ไปจากมันงั้นเหรอ น่าแปลก ที่ไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในสมองผมเลย

จริงที่ว่าผมอยากเจอแม่
จริงที่ว่าผมคิดถึงเค้า
แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องอยู่ด้วยกัน
15 ปีที่ห่างกัน มันทำให้มีความห่างเหินเกิดขึ้นระหว่างผมกับผู้ให้กำเนิดมากพอ
เราผูกพันธ์กันด้วยความสัมพันธ์ทางสายเลือดเท่านั้น
ผมสนิทใจกับแม่นิ่มมากกว่าผู้ให้กำเนิดผมมาแน่ๆ อันนี้ผมแน่ใจ

หรือว่า สิ่งที่แม่นิ่มกับไอ้ฉานกลัวก็คือ

“แม่อยากเอาตัวผมคืน” อย่างนั้นเหรอ

ผมว่าก่อนที่อะไรๆ จะบานปลายไปกันใหญ่มากกว่านี้

ผมเองก็ควรจะชัดเจน กับตัวเองเสียที

“ ฉาน เราไม่ไปกันแล้วได้มั้ย ทางใต้อ่ะ”
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 05-04-2010 22:40:59
สะ  สะ  สวีท กันเกินไปแล้ว  :angry2:


ตาร้อนๆๆๆ อย่างแรง.... :fire:


เรื่องแม่ก็คิดให้ดีดี เน้อพี่เมฆ สายเลือดกับความผูกพันธ์ บางทีมันก็ ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

แต่ก็น่ะ ถึงแม้จะเจอแม่แท้ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องกลับไปอยู่ด้วยกันนี่


 :L2:  ให้คนเขียน เช่นเคย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 05-04-2010 22:52:39
 :o8: เอิ่มมม หวานไปมั้ยย 55

จะขาดใจ ยิ้มจนปากจะฉีกแล้วว

สงสารคนอ่านบ้างอะไรบ้าง

พี่ฉาน แม่ง เจ้าเล่ห์

55 

เราว่าถ้าจะให้ดียุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายมากๆก็

น้องเมฆ ยอมพี่ฉาน พี่ฉานยอมน้องเมฆ ดีม่ะ

 :L2: คนโพสต์ แรงๆ สะกดจิต ที มาลงเลย เย้ววว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 05-04-2010 22:58:03
หวานมากมาก

ตาร้อนเป็นไฟเลยอ่ะ

 :man1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 05-04-2010 23:36:58
พี่ฉานเป็นผู้นำที่น่ารัก และน่าพักพิงให้แก่น้องเมฆ
ส่วนน้องเมฆ นั้นดูจะเข้มแข็งขึ้นเมื่ออยู่กะพี่ฉาน
ขอ :กอด1: ทั้งสองคนแน่น ๆ สักทีเพื่อเป็นกำลังใจให้คับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 06-04-2010 00:19:18
หว๊าน หวาน น่ารักอ่ะ ปลื้มคู่นี้จริงๆเลย
ทั้งรักทั้งเข้าใจ เรื่องที่เหมือนๆจะยากก้อคงไม่ยากอย่างที่คิด
อย่าลืมดูแลแม่นิ่มด้วยน๊า แม่นิ่มกำลัง ใจเสียอยู่

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 06-04-2010 00:47:50
อิจนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 06-04-2010 02:33:55
เฮ้อ  เริ่มไม่อยากอ่านละ อิจฉา 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 06-04-2010 02:48:27
 :เฮ้อ:  เข็มแข็งไว้นะ

ฉานก็ดูแลเมียตัวเองดีๆ เด๋วก้อนเมฆลอยหายไปจะทำไง  :man1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 06-04-2010 08:07:14
ชีวิตน้องเมฆนี่ดรามาแท้

เฮ้อ!!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 06-04-2010 08:58:20
นับวันน้องเมฆรั้งตำแหน่งเมียอย่างเป้นทางการ  :laugh:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 06-04-2010 10:57:22
อยากอ่านตอนต่อไปไวๆแล้ว

ไม่รู้ว่าเมฆจะตัดสินใจอะไรอะ

เมฆกับฉาน หวานได้อีก  :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 06-04-2010 11:56:44
น่ารักกันจริงๆเลยย
มดขึ้นเต็มหน้าจอแล้วมั้งเนี่ยะ
 :laugh:
แล้วเมฆจะเอาไงหว่า
มาต่อเร็วๆนะคะ สู้ต่อไป  :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 06-04-2010 11:59:57
ตอนแรกได้ข่าวว่า......พระเอกจะกะล่อนเถื่อนๆ ไม่ใช่เรอะ  :angry2:

แล้วทำไมตอนนี้  มันหวานจะขึ้นขี่กันตลอดเวละเนี่ย

แล้วมะไหร่จะขี่กันจริงๆๆเหรอ... o3
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 06-04-2010 12:31:30
รักดวงตะวัน รักก้อนเมฆ  :L1: :L1: :L1:

คืนนี้ขออีกตอนนะครับ  o13 o13 o13

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Kwawaic ที่ 06-04-2010 12:50:30
 :กอด1: ท่านเมฆ

น่ารัก สวีท กันได้อีก
ติดใจ ตรงประโยค สุดท้ายของเมฆ
(เมฆจะอยู่ กับพี่ฉาน ??)

มาต่อเร็วๆ นะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 06-04-2010 13:05:40
 :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-04-2010 13:27:52
ถ้า เมฆ ได้เจอแม่จะเศร้าใจแค่ไหนเนี่ย  แต่ไม่เป็นมี สามี คอยดูแลอยู่ข้างๆ แล้วนี่น่า  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 06-04-2010 19:50:16
ดึกแล้ว ดวงตะวันขึ้นมาทอแสงให้ก้อนเมฆได้แล้วคร้าบ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 17 ,5 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 06-04-2010 20:13:49
น่ารักอ่ะ  :-[

เวลาเครียดก็ยังคงสวีทกันได้อีก มดไต่ๆ

เมฆอย่าไปเลยน้า  อยู่กะพี่ฉานแหละดีแล้ว 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 06-04-2010 21:45:19
(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/thank1.jpg)

แทนคำขอบคุณ : Mode โดนแซว


Seiki-->ถ้าไม่มีน้องหนูคนนี้ ก็ไม่มีเรื่องนี้อ่านนะเออ ทวงก็ทวงที่นุ้งเซ(มากูเตะ) เลยนะ

Poes-->รักป้าคนนี้จัง

mecon-->ป้าคนนี้เป็นพริตตี้นิยาย ป้าไปเรื่องไหน เรื่องนั้นเกิด :กอด1:

Pa Pao-->คนนี้มาเรียกขวัญและกำลังใจ :กอด1:

jigsaw44-->ขนาดไม่ชอบนิยายที่ต้องรอคอย ก็ยังตามอ่าน ขอบคุณมากนะคะพี่

assassin-->คนนี้มาตามอ่านเพราะหวังลูกชายใครแถวนี้รึเปล่า
ระวังติดเมฆกะฉานจนไม่สนใจเด็กปากห้อยแถวนี้นะ

Solar cell-->เจอกันตั้งแต่ตอนแรกเลยนะ ^____^ :pig4:

nOn†ღ-->คนนี้เหนียวแน่นหนึบอีกคน ขอบคุณคะ :pig4:

สุดโฉด-->ชอบลอคอินนี้ ชัดเจนดี อิอิ

chocolate-->เด็กคนนี้หน้าตาดี แต่ไม่มีแฟนแหละ :laugh:

เกริด้า(๐-*-๐)v -->คนนี้ก็มาตั้งแต่ตอนแรกเลย ^_____^  :pig4:

dahlia-->มาตอน 2 แต่เฝ้ามองพี่เมฆพี่ฉานมาตลอดเลยใช่มั้ย

anterosz--->คนนี้ไม่ได้มาตอนแรก แต่ออกตัวแรง แอบปลื้มคุณอยู่นะ เป็นคนแรกที่มาทวงถาม
แล้วก็เป็นคนแรกที่บอกรักดวงตะวันกับก้อนเมฆแบบจริงจัง  :กอด1:

เซ็งเป็ด--->คนนี้โดนเอามีดจี้ ให้เข้ามาดัน ก็เข้ามาเนาะ ใจง่าย จริง จริง

n_sugar_t-->เข้ามาตอนที่ 3 แต่ก็ติดตามกันมาตลอดเลย

rakza-->คนนี้ก็มาตอนที่ 3 แล้วก็ตามมาตลอดเหมือนกัน ติดพี่เมฆหรือติดพี่ฉานเนี่ย

W@LnUt?-->ลุงอ่านตอนแรกมานานแระ คิดว่าลุงคงถามมาตอนสุดท้ายทีเดียว

at_point-->คนนี้ก็โดนมีดจี้ให้มาอีกคน ทำไป ทำไป อย่าบ่น

iiดาวพระศุกร์ii-->ชอบ Signature คุณมากๆเลย มองผ่านทีไร ยิ้มทุกที


๐แล้วก็ขอบคุณเด็กเล้าเป็ดเหล่านี้ ถ้าไม่มีคุณ เมฆกับฉานคงไม่มาถึงตอนนี้นะ๐

ราชบุตร  กว่าจะไร้เดียงส  [N]€ẃÿ{k}uñĢ  OhJa  Little Devil  C2U  JJHJJH  

samsoon@doll  Ak@tsuKII  kei_kakura  zeazaiz  OT  M@nfaNG  StopLove

@aOoM&jAe@  TONG  patee  namngern  Wisdom  ๋JEFF  Flower night

Kwawaic  astral  Ayame  pattybluet  fannan  ifwedo  nidnoi  pattybluet

+S+  insomniac  zeazaiz  •MojiKung•  Horizon

 ๐ระวังครั้งหน้าพวกคุณ อาจจะโดนแซว  :laugh3:๐

๐ขอบคุณทุกคน อีกครั้งคะ  :pig4:----->  :กอด1:๐



=======================================================

แซวคนอื่นนะมีเวลา สต๊อกจะหมดแระ  :beat:
ปล.ทวงเซ เซก็เขียนให้ไม่ได้นะคะ แต่เซไปจิกไรท์เตอร์ได้แบบไม่จำกัดเวลาค่ะ  :m20:

=======================================================

ตอนที่ 18

“ ฉาน เราไม่ไปกันแล้วได้มั้ย ทางใต้อ่ะ”

ผมตัดสินใจแล้วครับ มันควรจะต้องยุติปัญหาเรื่องเด็กขาดความอบอุ่นของผมเสียที

ไม่ว่าสิ่งที่ผมคิดจะทำต่อไปนี้ ผลลัพธ์จะออกมาดี หรือบางทีอาจจะจบลงตรงความเสียใจ

แต่

ถ้าผมไม่คิดจะทำอะไรเลย  ทั้งๆที่ผมรู้เรื่องนี้ แล้วเลือกที่จะทำตัวปกติ ลงใต้ไปเที่ยวกับไอ้ฉานอย่างที่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรก คนที่จะรู้สึกผิด และไม่มีความสุขในเรื่องนี้ มันก็คือผมอีกนั่นแหละ

ในเมื่อต้นเหตุแห่งทุกข์คือก้อนเมฆ เหตุใดก้อนเมฆถึงไม่ยอมดับเหตุแห่งทุกข์นั้นด้วยตัวเอง

ในเมื่อ  ดวงตะวัน มันก็ทอแสงสว่าง เป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ เหมือนตอนนี้
ถึงแม้จะแสดงท่าทีที่นิ่งเฉยออกมาก็เถอะ แต่ทำไมผมจะไม่รู้ ว่าในดวงตามันหนะ

มีแต่ความกังวลใจเต็มไปหมด


ผมเอื้อมมือไปกุมมือคนข้างๆเอาไว้ บีบมือของมันไว้นิดๆ แบ่งปันความมั่นใจของผมไปให้มันหน่อย

มารยาเล่มที่ร้อยเท่าไหร่ไม่รู้ของผม เริ่มมีความหมาย เมื่อไอ้ฉานมันหันหน้ามาสบตากับผมแล้ว

“มึงไม่เชื่อใจกูเหรอฉาน มึงเคยเห็นกูทำอะไรพลาดเหรอ มึงถึงต้องทำหน้าลำบากใจใส่กูขนาดนี้”

“เยอะอะเมฆ เรื่องพลาดของมึงอ่ะ ให้นับเรื่องที่มึงไม่พลาด กูว่าง่ายกว่าเยอะ”

ไอ้ (เดร)ฉานนนนนนนน!!!!! ไอ้ ไอ้ ไอ้ อะไรดีวะ คิดคำด่าต่อไปไม่เป็นเลยกู

คนเค้าอุตส่าห์ทำซึ้ง  !!!!!

ผมไม่เข้าใจ ทำไมที่ผ่านมา มีคนชอบไอ้ฉานเยอะแยะมากมาย ไอ้ฉานอะโง่จะตาย

ถ้าไม่มีท่านเมฆคนนี้นะ ไอ้ฉานมันจะได้ดิบได้ดี้มั้ย หาาาา

ผมได้แต่ทำหน้าบึ้งใส่มัน หันหน้าไปมองทางอื่น ไม่ได้หนีออกไปไหนนะ เดี๊ยวมันจะเหนื่อยจนล้มเลิกที่จะง้อ

อีกอย่าง ผมว่า ความสาวแตกของผม มันควรจะเริ่มแบบพอดีๆ แค่นี้ก็เสียความเป็นตัวของตัวเองแล้วมั้ย

“แต่แม่มึง เค้า เค้า อยากเอามึงไปอยู่ด้วยนะ” ที่มันเงียบไป ไม่ใช่มันวางแผนง้อผมอยู่หรอกครับ

ผมเข้าใจมันดี พอๆกับที่ผมคิดว่ามันรู้ว่าผมกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ มันถึงคิดอยู่นานก่อนตัดใจถามผมแบบนี้

“ แล้วใจคอมึงจะให้กูหนีหน้าแม่ ทั้งๆที่ความจริง คือกูอยากเจอเค้ามาตลอดอะเหรอฉาน มึงไม่เห็นใจกูบ้างเหรอ”

“แล้วแม่นิ่มหละ แล้ว เอ่อ เอ่อ แล้วกูหละ เมฆ มึงไม่คิดถึงกู มึงก็นึกถึงแม่นิ่มบ้างสิ”

ถ้าเป็นเวลาปกติ ผมคงหัวเราะกับท่าที ที่มีไม่บ่อยแบบนี้ของไอ้ฉานอยู่หรอกครับ

แต่เวลาที่มันขาดความมั่นใจในตัวเองสุดๆแบบนี้ ผมก็แกล้งมันไม่ลงเหมือนกัน

“เพราะกูคิดถึงใจแม่นิ่ม ใจมึงงัยฉาน กูถึงตัดสินใจที่จะอยู่เจอแม่ มึงเข้าใจกูมั้ย หืมม” ผมพยายามมองตามันตอนที่พูดประโยคนี้ทุกคำ ไม่รู้มันจะเข้าใจภาษาที่ผมสื่อออกมาทางสายตาได้แค่ไหน

แต่

ผมเคยบอกพวกคุณแล้วใช่ไหม ว่าไอ้ฉานมันโง่

ผมอุตส่าห์จ้องตา สื่อภาษาใจกับมัน

แต่มันกลับดึงผมเข้าไปกอดแทน ไอ้งั่งเอ้ยยยย ที่แท้ มึงก็เก่งแต่ภาษากายละว๊า

แต่อย่าให้มันได้ใจไปครับ ผละออกมาจากอ้อมกอดนั้นก่อน

เพราะผมรู้สึกว่า มันเริ่มอุ่น จนอยากจะบดเอียดให้มันอุ่นกว่านี้

แต่คิดอีกที เพื่อความปลอดภัยในอาณานิคมทางประตูหลัง

ผมควรจะเคลียร์เรื่องจริงจังกับมันก่อน

แล้วเรื่องนั้น เราค่อยมาจับไม้สั้นไม้ยาวกัน ว่าประตูเมืองนั้น ใครจะเป็นคนนำทัพเข้ายึดครอง

(ผมหวังว่าเป็นผมนะ พวกคุณก็คิดเหมือนผมแน่ๆใช่ป่ะ)

“แล้วมึงจะบอกแม่นิ่มเรื่องไม่ไปใต้ยังงัย คนเก่งของพี่ฉาน ไหนบอกพี่ฉานสิ” คุณว่า อย่างมันจะพูดหวานใส่ผมจริงๆอะเหรอครับ

ปล่าวเลย ไอ้ฉานตัวจริงหนะ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดเลย

ผมจะเฉลยให้

ตอนนี้ไอ้ฉานมันไม่ได้กอดผมแล้ว เพราะผมผละออกมา แต่ว่าผมไม่ได้สะบัดให้หลุดแบบละครไทยนี่

แขนมันเลยยังจับอยู่ที่ไหล่ผม แล้วมันก็ใช้แรงกระตุก ย้ำ แค่กระตุกไม่ต้องกระชาก

ระยะห่างระหว่างผมกับมันจึงน้อยนิดมาก

ถ้าผมรู้ว่าการใกล้ชิดเกินคำว่าเพื่อนสนิทของเรา ทำให้ผมต้องสูญเสียความมั่นใจขนาดนี้

ผมว่า ผมคงเลือกที่จะยุติความสัมพันธ์นั้นไว้จะดีกว่า

บอกตรงๆ ก็ผมยังอยากแมนอยู่นี่นา

แต่ตอนนี้ขออนุญาติหลบสายตาซึ้งๆ กะมันก่อน

ไม่ไหวครับ เขิลจนจะละลาย

“ก็จะบอกแม่นิ่มตรงๆว่ากูรู้เรื่องแล้ว และจะอยู่เคลียร์เรื่องนี้เอง” ผมตัดสินใจแล้วจริงๆครับ

“แล้วมึงไม่คิดว่าแม่นิ่มจะตกใจ เป็นลมใส่มึงซะก่อนที่มึงจะพูดจบเหรอ” ไม่มีให้กำลังใจเมียมึงเลยนะ ไอ้ห่านี่

“มึงอย่าขู่กูแบบนี้ดิฉาน มึงก็อยู่คุยกะแม่นิ่มเป็นเพื่อนกูด้วยดิ นะฉานนะ จะได้ช่วยกูพูดกะแม่นิ่มอีกแรง”
นี่ถ้าเป็นเวลาที่ดีดีหน่อยนะ ผมจะแถมโปรโมชั่นเอาหัวไปถูไหล่มันด้วยเลย  เอ้า ท่านเมฆใจป๋าอยู่แล้ว

“ก็แค่นี้แหละเมฆ ที่กูอยากได้ยินจากปากมึง ก็แค่มึงบอกว่าอยากให้กูอยู่ข้างๆมึง แค่นี้แหละ  ถ้ารู้ว่าเสียน้ำให้กูแล้วฉลาดขึ้น กูจัดให้ไปนานแล้วเมฆ ไม่ปล่อยให้มึง หน้าซื่อตาใส อยู่ได้นานขนาดนี้หรอก”

เอา เอาเข้าไป ไอ้ห่าฉาน ขยันทำให้เลือดกูมารวมกันอยู่ที่หน้าได้นี่มึงเล่นกูจังเลยนะ

แล้วไอ้บ้านี่ มันไม่เคยดูละครไทย หรืออ่านการ์ตูนตาใส หรืองัยวะ

ปกติเวลาพระเอกเค้าทำซึ้งกะนางเอก เอ้ยยยยยยยยยย นายเอก เค้าต้องดึงเข้ามาใกล้ๆแล้วหอมหน้าผาก เปลือกตา หรือไรผม ไม่ใช่หรือวะ

แล้วตำราบทละคร ประเทศไหน ให้ไอ้ห้านี่ เอานิ้วดีดหน้าผากท่านเมฆหละวะ

“โอ้ย เจ็บนะมึง ดีดเข้ามาได้ หน้าผากกูอ่ะ ถ้ากูเสียหล่อขึ้นมา กูจะดีดลูกกะตามึงคืน” ผมก็ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันทำปากดีใส่มันไปงั้นแหละครับ

ทำไมผมจะไม่รู้ ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมแพ้ทางมันตลอด
“ไหน มาให้กูดูสิ เจ็บตรงไหน กูว่ากูดีดเบาๆแล้วนะ มึงเจ็บเกินจริงไปรึเปล่า” ดีดกูมาซะกลางหน้าผากเสียงดังฟังชัดขนาดนั้น กูคงเจ็บที่ตาปลามั้งหละไอ้หน้าปลาบู่

“มึงไปส่องกระจกสิเมฆ ว่าตอนนี้มึงทำหน้าแบบไหนอยู่ “ มันหัวเราะกับหน้าผม หาองค์การนาซ่ามันเหรอครับ มันรู้มั้ย
กำลังลบหลู่อะไรท่านเมฆอยู่

ยังไม่ทันที่ผมจะชักสีหน้าใส่มัน จนผมเองก็กลัวว่า   ถ้าไม่หยุดตอนนี้ มันต้องกลายเป็นสันนิบาตชักกระตุกในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าแน่

มันก็เริ่มดึงไหล่ผมกลับไปใกล้มันอีกครั้ง ทีนี้ สิ่งที่ผมคิดว่ารอคอยมันอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้ ได้เกิดขึ้นสักที

นั่นคือมันหอมลงไปที่หน้าผากผม สูดลมหายใจซะจนผมกลัวว่า หนังกำพร้าจะหลุดเข้าไปในจมูกมัน

นั่นยังไม่พอสำหรับอาการที่เรียกได้ว่าไม่รู้จะเก็บไม้เก็บมือไว้ตรงไหนดีของผม

มันก็ดึงผมออกมา พร้อมๆกับเกลี่ยผมที่ปรกหน้าอยู่ออกไปเหน็บไว้ที่หูให้ ผมก็ไม่ได้ยาวมากมายอะไรที่พอจะเกี่ยวหูได้ขนาดนั้น เมื่อมันเกี่ยว ลมพัดนิดหน่อยก็หลุดออกมา เรียกรอยยิ้มไอ้คนช่างแกล้งตรงหน้านี้ได้อยู่ไม่น้อย
เวลามันอารมณ์ดีมันก็ขยันแจกยิ้มให้ผมใจสั่นอยู่แบบนี้เสมอๆแหละ ไอ้ฉาน ไอ้นิสัยไม่ดี

“กูจะอยู่ใกล้ๆมึงแหละเมฆ กูรู้ว่ามึงทำได้ กูเชื่อใจมึงนะ”

กลายเป็นผมนี่แหละครับ ที่ขยับเข้าหามันมากขึ้น แขนที่ผมเองก็กังวลอยู่ว่า จะเอาไปวางไว้ตรงไหนดี

ผมก็กลับเอามันไปกอดไอ้ฉานไว้ รัดมันให้ชิดกันอีกหน่อย ฝังหน้าไปกับอกมัน

อืม หัวใจมันเต้นสม่ำเสมอดีนะ ไม่เห็นจะเต้นโครมครามเหมือนใจท่านเมฆเลย

ไอ้บ้านี่ ชอบพูดอะไรที่ทำให้ผมตื้นตันใจอยู่เรื่อย พูดออกมาได้หน้าตาย

ไม่เห็นจะโรแมนติกเล้ยยยยย ไม่รู้สาวที่เคยหลงเสน่ห์มัน คิดอะไรกันอยู่ ถึงมาหลงกลมันได้

แต่มันก็เป็นเหมือนแรงผลักดันให้ผมกล้าที่จะทำสิ่งที่สำคัญในวันข้างหน้าจริงๆนะ

ไม่รู้ทำไมแค่ผมรู้ว่า ไอ้ฉานมันจะอยู่ข้างๆผม

ไม่ว่าวันข้างหน้า มันจะหนักหนาแค่ไหน ผมก็มีแรงที่จะฟันฝ่ามันไปได้ ก็ไม่รู้

จริงๆผมกลัวแทบตายกันการเผชิญหน้า ไม่ว่าจะเป็นกับแม่บังเกิดเกล้าที่รอคอยมาตลอด
หรือกับการเดินไปบอกแม่นิ่มว่า ผมจะอยู่เจอหน้าแม่ และจะตัดสินใจเองว่า ผมจะทำยังไงกับชีวิตผมต่อไป


:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


การตัดสินใจเดินเข้าไปบอกแม่นิ่มเรื่องที่ผมจะอยู่เจอแม่ด้วยตัวเอง เป็นไปตามที่ไอ้ฉานคาด

ผมพูดยังไม่ทันจบ แม่นิ่มก็ร่ำๆ จะเป็นลมใส่ไปก็หลายรอบ กว่าจะปลอบให้แม่นิ่มสงบและเข้าใจได้

เล่นเอาผมและไอ้ฉานเหนื่อยใจไปเหมือนกัน ดีที่ว่าไอ้ฉานมันไปเกริ่นๆ เรื่องผมให้น้าพิมกับน้าชาติ พ่อแม่ของมันฟัง

ท่านทั้งสองก็เห็นด้วย ที่ผมตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แล้วก็ยังมีน้ำใจ มาช่วยเกลี้ยกล่อมแม่นิ่มให้ว่า

ยังไงผมเองก็คงไม่ตัดสินใจอะไร โดยที่ไม่คิดถึงจิตใจแม่นิ่มหรอก คนที่อยู่ด้วยกันมาเป็นสิบๆปี

เลี้ยงดูอุ้มชูกันมาตลอด ให้ความรักกับผมแบบไม่เคยขาดตกบกพร่อง จะกลัวไปทำไม ว่าผมจะตัดสินใจอะไรโดยไม่คิด

ผมซาบซึ้งในน้ำใจของน้าพิมกับน้าชาติมากครับ

แต่ถ้าน้าทั้งสองรู้ ว่าผมกับลูกน้า ตอนนี้เราไม่ได้เป็นแค่เพื่อนสนิทที่ใกล้ชิดกันมาตั้งแต่เด็ก
เราอัพเลเวลขึ้นมาอยู่ในฐานะที่ไอ้ฉานบอกผมเองว่า “คนรัก”
น้าทั้งสองจะรักและเอ็นดูผมอยู่แบบนี้มั้ย
ผมเองก็กลัวใจที่จะรับรู้



หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่แม่จะมาตกลงกับแม่นิ่ม

ผมพยายามใช้ชีวิตทุกวันเสมือนว่าเป็นเรื่องปกติ

ทั้งๆที่ในใจผมกังวลไปสารพัด

แต่ถ้าผมแสดงอาการวิตกออกมาให้แม่นิ่มเห็น

ผมคิดว่าบาปที่ทำให้คนที่รักเป็นทุกข์ คงเกาะตัวผมไปในทุกชาติแน่ๆ

ผมจึงต้องแสดงอาการร่าเริงแจ่มใจ ทั้งๆที่ในใจผมเต้นแปลกๆทุกครั้งที่รู้ว่า

ใกล้ถึงวันที่แม่จะมาแล้ว

มีเพียงคนเดียวเท่านั้นแหละครับที่รู้ว่า อารมณ์ผมตอนนี้ อยู่ในโหมดโซบลูขนาดไหน

ถึงมันเองจะพยายามวุ่นวายกับชีวิตผมตามปกติ

กวนอารมณ์ให้อยากออกกำลังกับหนังหน้ามันตามปกติ

แต่ผมก็แอบสังเกตุว่า เวลาที่มันเผลอ มันก็แอบเหม่อ

คิดกังวลเรื่องผมอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

ถึงแม้มันจะบอกว่า มันเชื่อใจผม แต่ลึกๆ ผมคิดว่ามันเองก็กังวลใจกับการตัดสินใจในวันหน้าของผมอยู่นั่นแหละ





แล้ววันที่ผมรอคอยมันก็เดินทางมาถึง

คืนที่ผ่านมาไอ้ฉานมันมานอนเป็นเพื่อนผมและแม่นิ่ม
เราสามคนนอนห้องเดียวกัน

แต่ไม่มีใครหลับเลยสักคน

ไม่มีการพูดคุย แต่การเคลื่อนไหวและเสียงถอนหายใจบอกชัด

ว่าทุกคนตื่นเต้นและกังวลกับวันที่กำลังจะมาถึงมากแค่ไหน

ผมนอนตรงกลางระหว่างแม่นิ่มและไอ้ฉาน

ในห้องที่มืดมิด

ผมนอนคว่ำหันหน้าไปหาแม่นิ่มและกอดเอาไว้  

ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็เอื้อมไปกุมมือให้กำลังใจคนข้างๆไว้เหมือนกัน

แปลก คนที่ควรได้รับกำลังใจมันต้องผมไม่ใช่เหรอ

แต่ทำไมกลายเป็นว่าผมต้องมาให้กำลังใจคนที่ผมรักทั้งสองคนแทนได้

หลายคนอาจคิดไปว่า ผมคงนอนน้ำตาไหลท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมแบบนี้

แต่เปล่าเลยครับ

คืนนี้มันทำให้ผมยิ้มได้ และรู้ใจตัวเองว่า วันพรุ่งนี้ ผมจะเลือกอะไรให้ชีวิตตัวเอง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 06-04-2010 21:51:33
assassin-->คนนี้มาตามอ่านเพราะหวังลูกชายใครแถวนี้รึเปล่า
ระวังติดเมฆกะฉานจนไม่สนใจเด็กปากห้อยแถวนี้นะ

อะแฮ่ม  ขอแก้ผ้า เอ้ย :eiei1:  แก้ข่าวซักหน่อยนะครับ  ที่ตามมาอ่านก็เพราะความน่ารักของน้องเมฆกะนายฉานเท่านั้น
 ไม่ได้มาเพราะสาเหตุอื่นเลยจริงจริ๊งงงงงง  ไม่เชื่อมองตาเค้าจิ  :impress:  จริงจริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง   :laugh:


ปล. รูปสวยมากมาย แถมมีชื่อของเราอยู่ด้วย  ขออนุญาตจิ๊กไปเป็นที่ระทึกนะคร๊าบบบบ   :m32:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 06-04-2010 21:52:42
วันหลังไม่ต้องมองเค้าผ่านๆน๊า....

ยอมให้มองแบบลึกซึ้ง   :o8:   กร๊ากกกกก




นายเมฆ ต้องผ่านไปได้แน่นอน กำลังใจดีขนาดนี้...   o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 06-04-2010 21:53:40
อ่านแล้วมีความสุขแบบแปลก ๆ

สุขปนเศร้า แต่ก็มีความสุขมากกว่ากันครับบ

ซินเพิ่งมาตอน 16 ตอนรวดดด (แต่แรดเพิ่งมาเม้นท์ตอนที่ 18  :z1:)

แล้วก็มาอ่านตอนที่ 17, 18

ก็รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ ,,, ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะครับบ

 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 06-04-2010 21:55:04
ชอบอวาตาร์ คุณ assassin   :z1: อยากมีแบบนี้มั้งจัง
คุณ assassin  กับคุณ iiดาวพระศุกร์ii  ไวมากกก ขอบคุณนะคะที่ติดตาม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 06-04-2010 22:03:45
มาเม้นไว้ก่อน เด๋วมาอ่าน อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 06-04-2010 22:04:47
การตัดสินใจครั้งใหญ่สินะ แต่ก้พอจะทราบผลแล้วละ เป็นกำลังใจให้นะค่ะคุณนักเชียน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 06-04-2010 22:09:58
ยังคงความน่ารักและอบอุ่นได้เสมอต้นเสมอปลายเลยะนะดวงตะวันกะก้อนเมฆเนี่ย  o13 o13 o13

PS. ขอบคุณ Seiki กับ TRomance สำหรับเรื่องราวของดวงตะวันกับก้อนเมฆเรื่องนี้ ที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น และแอบแฝงด้วยความหื่น ขอบคุณเน้อ  :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 06-04-2010 22:11:49
ทั้งน่ารักและอบอุ่นกินใจ

อยากอ่านตอนต่อไปไวๆอยากรู้ว่า

เมฆจะตัดสินใจยังไง มาต่อไวๆนะครับ :pig4:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 06-04-2010 22:41:13
อิอิ~ มีชื่อไอด้วยอ่ะ  :z1:

เรื่องนี้น่ารักค่ะ ก็เลยติดตามมาตลอดเลย ขอบคุณแต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านนะ ไอก็ยังติดตามต่อไปนั่นแหละเคอะ  o13

ตอนนี้น่าร๊ากกกกกกกกดีอีกเช่นเคย มีแต่คำพูดให้ชวนเขินนนนนน  :laugh:

ท่าทางตอนหน้าจะดราม่าน่าดู อย่าลืมแจกทิชชู่นะ :m12:

มามะ~ กอดที จุ๊ฟที... :กอด1: :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 06-04-2010 23:32:29
ความรักของแม่นี่ยิ่งใหญ่จริงๆนะครับ
ส่วนพี่สองคนก็สวีทกันเข้าไป
น้ำตาลเกาะขอบเตียงหมดเเล้วครับพี่  :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 07-04-2010 09:17:19
+1 เป็นกำลังใจให้น้องเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 07-04-2010 10:16:33
ตามมาให้กำลังใจน้องเมฆด้วยคนค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 07-04-2010 12:09:41
ขอบคุณคนแต่งกะคนโพสอีกครั้งจ้ะ
คนแต่งหัวศิลป์จริงๆขนาดคำขอบคุณคนอ่านยังทำซะสวย นับถือ
รอลุ้นอนาคตของเมฆว่าแม่ผู้ให้กำเนิดจะยอมให้อยู่กะแม่นิ่มมั้ย
แล้วจะตัดเงินค่าเลี้ยงดูเปล่า เมฆยังเรียนไม่จบเนอะ
แต่...ชิงสุกก่อนห่ามซะแล้ว :-[

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-04-2010 13:08:18
ตอนแรกคิดว่า เมฆ จะอาการหนัก ดูไปดูมา ไอ้พี่ฉาน ถ้าจะหนักกว่านะนั่น กลัวเมียทิ้งว่างั้นเหอะ  :laugh:   :laugh:

ปล. รูปสวยนะ เข้าใจคิดเนอะ ว่าแต่มีแซวเราด้วยอะ  :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 07-04-2010 13:14:16
สงสารแม่นิ่มเนอะ เห็นใจแม่ในไส้ด้วยคงอยากได้ลูกคือ
แต่......น้องเมฆอย่าไปไหนนะ
อยู่กะแม่นิ่ม อยู่กะพี่ฉาน
ถ้าน้องเมฆไม่ไปอยู่กะแม่ เค้าจะยอมให้น้องเมฆเป็นคน :oo1: พี่ฉาน :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 07-04-2010 13:26:52
 o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 07-04-2010 13:35:55
มาเป็นกำลังใจให้น้องเมฆอีกคน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ๋JEFF ที่ 07-04-2010 17:14:54
   เมฆจะเลืออกกอะร๊า ยยย อ่ะ? TT^TT

มีชื่อ เราด้วย ย  ^^


ขอบคุณคนแต่งนะ ฮ้าา ที่มีเรื่องดีๆแบบนี้มาให้เราอ่าน ^^   o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 07-04-2010 19:18:34
อืมม.. เราก็รู้และว่าเมฆจะเลือกอะไร

แม่นิ่มน่ารักมากๆอ่ะ ดูรักเมฆมากๆเลย

อ่านตอนนี้แล้วอบอุ่นใจดีจริง

พี่ฉานก็ คงจะกลัว ว่าเมฆจะทิ้งไป ฮึฮึ

 :pig4: ไรเตอร์ ดีใจ มีชื่อเฮาด้วยยย

 :กอด1: คนโพสต์ ขอบคุณมากมาย

อ่ะๆ   :L2: ให้กำลังใจพี่ฉานน (เพื่อ?)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 07-04-2010 20:23:25
อ๊าก มีชื่อเราใน Hall of Frame ด้วย ปลื้มจัง
เนื้อเรื่องก็น่ารัก คนแต่งก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 07-04-2010 20:38:42
 :-[ มีชื่อเราด้วยยย
เมฆกับแม่นิ่มอย่าคิดมากเลยนะ
เราเชื่อว่าเมฆต้องไม่ทำให้ทั้งสองคนเสียใจหรอก ?
ใช่ไหม ใช่ม๊ายยยย ?   :sad4:
(บอกคนอื่นว่าอย่าคิดมาก ตัวเองก็วิตกจริตอยู่เหมือนกัน)
เป็นกำลังใจให้นะคะคนแต่ง  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 07-04-2010 22:49:42
คืนนี้ก้อนเมฆไม่มาเคลียร์ปัญหาคาใจหรอคร้าบบบบ คิดถึงเน้อ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 08-04-2010 00:41:03
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เชื่อว่าเมฆกับฉานคงไม่ทำให้เราผิดหวังแน่ๆ
ชอบเรื่องนี้ค่ะ อ่านแล้วสบายใจดี

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 08-04-2010 09:31:05
แอบปลื้มรูปที่ทำถึงคนอ่านจังเลยจ้ะ ขอบคุณทั้งคนเขียน คนโพสนะจ้ะ  :กอด1:

ไม่เครียด ไม่ฮา แถมน่ารักขนาดนี้ รับรองตามอ่านกันจนจบแน่นอนจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 08-04-2010 18:39:08
นุ้งเซ อยู่ไหน แวอายู  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 08-04-2010 19:44:46
เชื่อใจเมฆ 

รักเรื่องนี้จังเลย 

ปล. ตอนนี้แอบซึ้ง  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 08-04-2010 20:37:37
มารอเมฆกับฉาน :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เซ็งเป็ด ที่ 08-04-2010 22:00:05
แวะมาดันให้อีกรอบ กลัวนักเขียนมาเยี่ยวใส่ล้อรถ :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 08-04-2010 22:05:00
 :z13:  จิ้มคุณเซ็งเป็ด อิอิ  คิดถึงนะคร๊าบบบ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 09-04-2010 00:12:12
ช่างเงียบเหงา เมื่อไร้ซึ่งแสงแห่ง ดวงตะวัน  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 09-04-2010 21:11:54
 :undecided:







 :amen: จงลงจงลงจงลง     รอตอนต่อไปอยู่นะ  จงลงจงลงจงลงจงลง  :amen:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 18 ,6 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 09-04-2010 21:36:09
เซมากูเตะไปหนายยยยยยยยยยย :o12:

ไม่มาลงท่านเมฆน้อ

สงสัยปรนนิบัตสะมีแน่ๆๆเลย กรี๊ดดด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 09-04-2010 22:11:57
๐ MODE  นี้ เห็นทีต้องขอ แซว ๐


assassin <<<<<<<>>>>>>>>เชื่อดีมั้ยเนี่ย ตาพราวระยับขนาดนี้ หืม...จริงๆท่านเมฆกะพี่ฉาน น่ารักกว่าเด็กปากห้อยอีกนะ อิอิ  :laugh3:

iiดาวพระศุกร์ii  <<<<<<<>>>>>>>>จริงอย่าเรียกว่ามองผ่านๆเลย เรียกว่า ลากมากก็กระแทกหน้ากันเลยทีเดียว

Zhenelle[♥]  <<<<<<<>>>>>>>>พี่ว่ามันแปลกมาตั้งแต่คนแต่งแล้วละจ๊ะ แต่สุขแบบแปลก เหมือนสุขแต่สุขไม่สุด อะไรแบบนี้ป่าว  :confuse:

Seiki <<<<<<<>>>>>>>>นุ้งเซ อวาตาร์หนูก็แก่แดดแก่ลมแล้วนะค่ะลูก เอิ๊กก

chocolate  <<<<<<<>>>>>>>>เดี๊ยวอยู่นาน จนเค้าลงตอนใหม่แล้วนะ  :z6:

TONG <<<<<<<>>>>>>>> ทราบผลแล้ว อิอิ ไม่กลัวคนเขียนสับขาหลอกเหรอ คนเขียนกะล่อนกว่าท่านเมฆอีกนะ :z2:

anterosz <<<<<<<>>>>>>>>หวานไปเหรอ จริงๆแล้วอยากให้ฮาน๊า หวานไปจริงอ่ะ อยากให้พี่ฉานเถื่อนๆๆนะเนี่ย o7

rakza <<<<<<<>>>>>>>> ลุ้นแทนท่านเมฆหรือพี่ฉานเนี่ย

mecon  <<<<<<<>>>>>>>> เซเลปที่รัก กลัวว่าจะไม่เรียกน้ำตา แต่ป้าจะฮาจนน้ำหมากกระจายแทนอะดิ  :laugh:

เกริด้า(๐-*-๐)v <<<<<<<>>>>>>>> เรื่องนี้น่ารักเหรอค่ะ จริงๆวางไว้ให้เถื่อนนะ ออกมาแบบนี้ไดงัย  :z3:

+S+ <<<<<<<>>>>>>>> หวานจริงๆเหรอ งั้นเดี๊ยวให้พี่ฉาน โหดบ้างอะไรบ้าง ให้น้องเมฆโดนจับไปล่ามไว้ที่กระท่อมปลายนา ดีมั้ย :o9:

Little Devil  <<<<<<<>>>>>>>> บวกคืนเช่นกัน อ้าว!!! กดบวกให้นุ้งเซ (มากูเตะ) หรอกเหรอ  :z3:

M@nfaNG <<<<<<<>>>>>>>> ตามกันต่อไปนะคะพี่ ขอบคุณค่ะ :pig4:

jigsaw44  <<<<<<<>>>>>>>> แหมๆๆ เดี๊ยวนี้เค้าบ่มแก๊สงัยค่ะพี่ เลยสุกเร็วอะไรเร็ว เลยกินกันเร็ว เอิ๊กก :laugh:

dahlia   <<<<<<<>>>>>>>> จริงๆ พี่ฉานมันกลัวเป็นหม้ายตั้งแต่ยังไม่ได้เสียบ เอร้ยยยยย  o3

Solar cell <<<<<<<>>>>>>>> สงสารแม่ท่านเมฆ แต่ไม่ให้ท่านเมฆไป ว่าแต่ถ้าท่านเมฆไม่ไป แล้วฉานจะยอมท่านเมฆเหรอ ที่สำคัญ ท่านเมฆมานจะทำเป็นหม้ายยยย :serius2:

Horizon  <<<<<<<>>>>>>>> :o9:

patee  <<<<<<<>>>>>>>> อันนี้กอดคนแต่ง นุ้งเซมากูเตะ หรือกอดใครค่ะ เอาให้เคลียร์ๆ นะ เอิ๊กก จะได้ระทวยถูก :-[

๋JEFF  <<<<<<<>>>>>>>> นั่นสิ หรือเปลี่ยนเป็นให้เลือกพี่เต้ดีน้อ :laugh:

Flower night  <<<<<<<>>>>>>>> ให้ท่านเมฆเลือกใครดีน้อ แม่ หรือคนรัก แต่ไอ้พี่ฉานมันกวนตีนนะ เลือกมันจะดีเหรอ :try2:

insomniac  <<<<<<<>>>>>>>> ถูกใจตรงคนแต่งน่ารักนี่แหละ ยังกะตาเห็นนะเนี่ย  :-[
namngern  <<<<<<<>>>>>>>> อย่าวิตก อย่าเครียด แต่ให้ซีเรียสเข้าไว้นะ  ล้อเล่นๆ เรื่องนี้ฮาๆใสๆ :laugh:
pattybluet <<<<<<<>>>>>>>> ดีค่ะที่สบายใจ ที่เรื่องนี้เป็นที่พักพิงใจแล้วกันนะ (เน่าเนอะ) 55
nOn†ღ  <<<<<<<>>>>>>>> จริงๆ ฮานี่คือประเด็นหลักเลยนะ ไม่ฮาจริงเหรอ  :o12:
•MojiKung•  <<<<<<<>>>>>>>> ซึ้งแบบเปิดเผยได้เลย น้อยคนจะบอกว่าซึ้ง
เซ็งเป็ด  <<<<<<<>>>>>>>> เยี่ยวใส่ล้อรถ นี่ “กระต่าย” ก็ทำได้ใช่มั้ย   o12
rakza anterosz <<<<<<<>>>>>>>> มารอเมฆกะฉาน  :กอด1: แต่อีตาคนนี้ assassin <<<<<<<>>>>>>>> มาจิ้มเซ็งเป็ด  :z3: ไม่พอ ยังมาบอกคิดถึงกันด้วย :o12:

๐ ยินดีต้อนรับ เด็กเล้า หน้าใหม่ ที่หลงเข้ามาด้วยนะจ๊ะ ๐


๐แล้วก็ขอบคุณเด็กเล้าเป็ดเหล่านี้ ถ้าไม่มีคุณ เมฆกับฉานคงไม่มาถึงตอนนี้นะ๐

Seiki  Poes  mecon  Pa Pao  jigsaw44  assassin  Solar cell  nOn†ღ
สุดโฉด  chocolate  เกริด้า(๐-*-๐)v  dahlia  anterosz  เซ็งเป็ด  n_sugar_t  rakza
W@LnUt?  at_point  iiดาวพระศุกร์ii   ราชบุตร  กว่าจะไร้เดียงส  [N]€ẃÿ{k}uñĢ
 OhJa  Little Devil  C2U  JJHJJH  samsoon@doll  Ak@tsuKII   
kei_kakura  zeazaiz  OT  M@nfaNG  StopLove  @aOoM&jAe@  TONG 

patee  namngern  Wisdom  ๋JEFF  Flower night   Kwawaic  astral 

Ayame  pattybluet  fannan  ifwedo  nidnoi  pattybluet

+S+  insomniac  zeazaiz  •MojiKung•  Horizon


==============================================

ตอนที่ 19

เช้านี้อากาศสดใส ท้องฟ้าโปรดโปร่ง และพระอาทิตย์ ก็ส่องแสงไม่ถึงกับร้อนแรงจนเกินไป

เรียกได้ว่า อากาศดี ผมสูดหายใจเรียกกำลังใจเสียเต็มปอด

มองไปรอบๆกาย ไม่มีร่างของคนสองคนที่ผมนอนกอดไว้เมื่อคืนแล้ว

แม่นิ่มคงตื่นเช้า ไปดูแลบ้าน  จัดหาอาหารให้ผมตามปกติ

หรืออาจจะเกินคำว่าปกติ เนื่องจากวันนี้เราจะมีแขกพิเศษ

ไม่รู้ใช้คำว่า “เรา” กับแขกพิเศษ คนนี้ได้หรือเปล่านะ

มันอาจจะเป็นเพียงแค่ แขกพิเศษ สำหรับผมคนเดียว
เมื่อคืนแม่นิ่มนอนไม่หลับ

ไอ้ฉานเองก็นอนไม่หลับ

ส่วนผม ไม่ต้องแปลกใจกันไปหรอกครับ

เพราะผมเองก็นอนไม่หลับ

แต่ความรู้สึกผม  คงจะต่างจากสองคนนั้นออกไป

เสียงเลื่อนประตูระเบียงดังมาหยุดความคิดผมไว้

กลิ่นที่ตามเข้ามาในห้องด้วยนี้ ไม่ต้องเดาเลยว่าต้นเหตุของเสียงนั้นใครทำ

“ ฉานดูดบุหรี่ในบ้านอีกแล้วเหรอ สันดานเสียใหญ่แล้วนะมึง” ครั้งที่สองที่เห็นมันดูดบุหรี่ที่บ้าน

มันไม่พูดอะไร นอกจากดึงผมไปกอด แล้วไซร้จมูกไปมาที่ซอกคอ ก่อนมาหยุดตรงที่แก้ม

“ทำอะไร” ผมตั้งใจดุมันเลยครับ ถึงแม้จะอยากเอาใจมันสักแค่ไหน แต่ที่มันทำไปเมื่อครู่นี้

ถ้าใครมาเห็นเข้า
ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะเข้าใจกันไปถึงไหนต่อไหน

“หอมแก้มไง ถ้ามึงไม่ขัดจังหวะ กูว่าจะจูบแถมให้ด้วยนะนี่” มันใช่เวลาเล่นซะที่ไหนหละครับตอนนี้

“ไม้ให้จูบหรอก เหม็นบุหรี่ จูบไปก็หวานแบบเฝื่อนๆ กูไม่ชอบ” มันอธิบายไม่ถุกครับว่ารสชาติเป็นยังงัย

แต่ผมชอบแบบที่ไม่มีรสบุหรี่มากกว่านะ

ไอ้ฉานไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไร นอกจากกอดผมเอาไว้ แล้วมือมันก็ลูบหัวผมเบาๆ

“ Are you Readyyyyyy” ไอ้สันดานฉาน มึงตะโกนซะขนาดนี้ บ้านมึงไฟไหม้หรือไง

ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ผมคงรับมุขตอบมันไปว่า Yehhhhhhhhhhhhhh!!

เราแทคทีมกันปัญญาอ่อนแบบนี้เสมอๆ

แต่ตอนนี้

“มึงเป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็คลุ่มคลั่งขึ้นมา” แถมแมร่งเสือกบ้าแบบไม่ส่งสัญญาณให้กูเตรียมพร้อมก่อน

“เรียกกำลังใจให้มึงงัย”

“ให้มึงก่อนดีกว่ามั้ย ไอ้บ้า “ รู้มั้ยครับ ผมกล้าตบหัวมันไปด้วยทีนึง

สถานการณ์แบบนี้ ไอ้ฉานมันไม่กล้าขัดใจ หรือทำอะไรผมอยู่แล้ว

“ไหน ให้กูกอดทีสิ” ให้ทายครับว่าใครพูด

หน้ามึนขอแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากพี่เมฆเอง

เอิ๊กกกกกกกกก...........

ผมไม่ได้ใจง่าย แต่ที่ขอกอดไปนี่มีเหตุผลนะครับ

หนึ่ง อยากให้กำลังใจไอ้ฉาน มันเป๋ไปกับเรื่องนี้ของผมไม่น้อยครับ
อยากจะบอกมันแทบจะขาดใจ ว่าไม่มีอะไรซีเรียสแบบนั้นหรอก
ทุกคนคิดมากเรื่องผมกันไปเอง
แต่เก็บไว้แกล้งคนแถวนี้ก่อนก็ดีครับ

สอง ผมอยากชาร์ตกำลังใจให้ตัวเอง

ผมกอดรัดมันแน่น เสมือนว่าแรงทั้งหมดที่ผมส่งไปนั้น เป็นไดโว สูบพลังใจชั้นดีมาจากไอ้ฉาน

ก่อนตอบแทนมันด้วยการกดปลายจมูกลงไปแก้มสากของมัน ย้ำๆสักสองสามที

ก่อนที่เราจะต้องผละออกจากกันเพราะแรงเคาะประตูที่บ่งบอกว่า

ไม่น่าจะใช่แม่นิ่ม

“คุณเมฆ แขกมาถึงแล้วค่ะ” แม่บ้านนั่นเองครับ

ผมสูดหายใจเข้าปอดครั้งใหญ่ ก่อนที่จะคว้ามือคนข้างๆออกไปด้วยกัน

แล้วเมื่อเราออกจากห้อง มือนั้นก็ควรจะต้องปล่อยออกจากกันทันที

ผมไม่ได้จะประกาศความสัมพันธ์นี้ให้ใครรู้นี่ครับ

เมื่อกี้ แค่เสริมสร้างความมั่นใจ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผู้หญิงที่น่าจะใช่ผู้ให้กำเนิดผม เธอนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยว ข้างแม่นิ่ม เธอมองมาทางผมอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

ไม่มีผู้ติดตามมาด้วย เนื่องจากห้องรับแขกมีเพียงเธอเพียงคนเดียวที่นั่งเคียงข้างแม่นิ่ม

ดูจากภายนอก เธอแต่งตัวดูดีทีเดียวครับ ผมถูกเกล้าเรียบตึงมัดไว้ด้านหลัง

แว่นกันแดดสีดำอันใหญ่วางอยู่บนโต๊ะกลาง บ่งบอกรสนิยมสาวสมัยใหม่ของเธอเป็นอย่างดี

นั่นไม่ได้ทำให้สะดุดใจ เท่าใบหน้า ถ้าผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองมากไป

ใบหน้านั้น มองยังงัย ก็มีส่วนคล้ายผมอยู่มากทีเดียว

เธอเหยียดริมฝีปากที่ผมเดาได้ว่า คงตั้งใจจะส่งยิ้มมาให้

แต่เพียงยังประหม่ากับท่าทีเรียบเฉยของผม

“สวัสดีครับ” ไม่ใช่ผมหรอกครับที่เอ่ยประโยคนี้ นอกจากคนที่เดินมาพร้อมผม

ไอ้ฉานเดินไปนั่งโซฟาตัวเดียวกับแม่นิ่ม

นั่นหมายความว่าผมต้องนั่งโซฟาเดี่ยว ตรงข้ามเธอ

“สวัสดีครับ คุณแม่” ผมยกมือไหว้พร้อมคำทักทาย ก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟาตัวที่ว่างอยู่นั้น

คนที่ผมเรียกว่า “คุณแม่” ยิ้มส่งมาให้ผม เป็นรอยยิ้มที่ผมเห็นแล้วว่าสดใส กว่ารอยยิ้มแรกที่ส่งมาให้ผมมากมายนัก

“เมฆใช่มั้ยจ๊ะ  โตขึ้นมาก จนแม่แทบจำไม่ได้” เธอบอกว่าแทบจำไม่ได้ นั่นแสดงว่ายังจำได้

แต่ผม บอกตรงๆเลยว่า ถ้าไม่ใช่เพราะเลือดเนื้อเชื้อไข ที่ทำให้เราหน้าตาคล้ายกัน

ผมจำหน้าแม่ไม่ได้เลย

“เดินทางมาจากที่ไหนครับ” ผมรู้สึกได้ว่า ตอบโต้กับคนตรงหน้า ไม่ต่างอะไรกับโรบอทที่ถูกป้อนโปรแกรมสำเร็จรูปไว้

ไม่มีอีโมชั่นจากหน้าตาที่แสดงอารมณ์ใดๆ ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ผมคิดอะไรอยู่

นอกจากคนข้างๆ ที่มันกล้ายื่นมือมากุมมือผมไว้

ไม่รู้ว่ามือผมเย็นเฉียบ หรือมือไอ้ฉานร้อน

เมื่อมือประสานกัน ผมถึงรู้สึกว่า อบอุ่นจนเริ่มร้อนตามมือคู่นั้นไปด้วย

“แม่เพิ่งบินขึ้นมาจากกระบี่เมื่อเช้านี้เองจ๊ะ”

“ครับผม มาธุระเหรอครับ” ไม่ได้ตั้งใจจะให้ห่างเหิน แต่ผมไม่รู้ว่า

ช่องว่างช่องนี้ มันต้องถมด้วยอะไรถึงจะเจอกับความพอดีอะครับ

“ก็ด้วยส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่ง รู้จากคุณนิ่มว่าเมฆปิดเทอมแล้ว จะชวนลงไปกระบี่ด้วยกันนะจ๊ะ”

“ครับ ตอนแรกผมกับครอบครัวก็ว่าจะลงใต้ แต่พอดีคุณจะมา เลยรอพบคุณก่อนอะครับ” ผมเน้นคำว่าครอบครัวชัดมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะคนตรงข้ามผมหน้าเริ่มถอดสีเมื่อผมพูดประโยคนี้จบเลยทีเดียว

แรงบบีบมือที่เยอะขึ้นไอ้คนข้างๆ เป็นสัญญาณให้ผมมองกลับไปที่มัน และเผื่อแผ่ไปมองแม่นิ่มที่อยู่ข้างๆมัน

ก่อนที่ผมจะหันมาคุยต่อ ผมไม่ลืมที่จะยิ้มให้กำลังใจแม่นิ่มครับ


โครกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!

เสียงอุบาทว์ๆ แบบนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้ครับว่ามาจากใคร แมร่ง ทำลายบรรยาอึมครึมจนกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้

ตอนนี้พิ่งจะ สิบเอ็ดโมง ยังไม่ทันจะเที่ยง ท้องไอ้บ้านี่ก็ร้องฟ้องความตะกละตะกรามของมันทันที

รอยยิ้มที่ติดออกจะขันของคนตรงหน้าผม ก็พลอยทำให้ผมอดปล่อยเสียงหัวเราะออกมาด้วยไม่ได้ครับ

“เอ่อ ขอโทษครับ แม่นิ่ม คุณน้า แต่ฉานว่า ก่อนที่เราจะคุยอะไรกันไปมากกว่านี้ กินข้าวกันก่อนดีกว่ามั้ยครับ”

มันยังมีหน้ายิ้ม แหะ แหะ พร้อมเอามือลูบท้ายทอยแก้เขิน

ทั้งๆที่ระดับมัน ไม่น่าจะเขิลเป็น


บนโต๊ะอาหาร คนที่ยึดบทสนทนากับคนพิเศษของผมไว้ กลายเป็นไอ้ฉาน สลับกับแม่นิ่มบ้างเป็นบางครั้ง

ผมเองก็ยังสงสัยอยู่ ว่าตกลงแล้ว ในวงสนทนานี้ ผมเป็นตัวแถมใช่หรือไม่

แล้วตกลงนี่แม่เค้าตั้งใจมาพบใคร เพราะไม่เห็นแม่จะตื่นเต้นดีใจเหมือนในละครที่ผมเคยดู

ที่ว่า เมื่อแม่พบกับลูกที่พลัดพรากกันมานาน เมื่อเจอหน้ากัน จะต้องถลาเข้าไปกอดกันพร้อมกับร้องไห้น้ำตาไหล

“ดาวพระศุกร์ ลูกแม่” อะไรประมาณนี้

เหตุการณ์นี้ ไม่เห็นจะเกิดขึ้นกับท่านเมฆเลย เราสองคนทักทายกันเหมือนคนเพิ่งรู้จักกันตามปกติ

โอเค...ก่อนเจอหน้ากันผมยอมรับว่าตื่นเต้นมาก และยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เมื่อพบว่า ผมหน้าคล้ายแม่

แต่ไอ้อาการอยากเข้าไปกอด ไปทำอะไรแบบที่เคยหวังไว้ในใจตอนเด็กๆ ไม่ได้มีอยู่ในใจอีกแล้ว

หรือว่าความห่างเหิน เป็นตัวกั้นกลางความรู้สึกนั้น ผมเองก็ไม่รู้ มันอาจจะเป็นความรู้สึกเด็กๆในตอนนั้นของผมก็ได้

ที่ว่ายังไงผมก็อยากได้ความรักจากแม่จริงๆ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

จากความรู้สึกที่เรียกว่า “โหยหา” กลายเป็นความรู้สึกว่า “แค่อยากเจอ”

ผมรู้สึกว่า ความรักระหว่างแม่กับลูก ผมมีให้แม่นิ่มมากกว่า

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า “ผมจะไม่สำนึกในบุญคุณของผู้ให้กำเนิด”นะ

ปลายเท้าของใครบางคนกระแทกมาที่ขาผม มองไปที่คนข้างๆ พบว่า มันหันมาจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว

ผมเลิกคิ้วใส่มันแทนคำถามที่ว่า “มึงเตะขากูทำไม”

“ชาติที่แล้ว มึงเกิดเป็นไก่เหรอ เขี่ยข้าวอยู่ได้ “ มันตั้งใจจะพูดให้ผมได้ยินคนเดียวแหละครับ แต่ โต๊ะอาหารสำหรับ 6ที่นั่ง

ที่ตอนนี้ มีสมาชิกแค่ 4 คน เพราะฉะนั้น เสียงไอ้ห่าฉาน ผ่านเข้าหูครบทุกคนครับ อันนี้พี่เมฆมั่นใจ

เพราะแม่นิ่มและคนตรงหน้าผมยังยิ้มให้ เอ่อ......คิดว่าน่าจะเป็นยิ้มที่เอ็นดูผมนะ

“กินเข้าไป กินเข้าไปเยอะๆ มึงนี่นะกินยากกินเย็น เลือกกินได้อีก ....เอ่อ ขอโทษครับที่เสียมารยาท พูดจาไม่เหมาะสม”

มันคงเพิ่งจะนึกได้ว่า ในวงสนทนานี้ไม่ได้มีเพียงเราสอง ถึงแม้ต่อหน้าแม่นิ่ม มันจะพูดมึงกูกับผมตามปกติ แต่ตอนนี้เรามี
แขก มันคงลืมตัว แต่ก็ยังดีที่ยังมีความสำนึกได้

“ไม่เป็นไรจ๊ะ ทำตัวตามสบายเลย คุณนิ่มเล่าให้ฟังว่า ฉานกับเมฆสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ ขอบใจมากนะจ๊ะที่ช่วยดูแลเมฆ”

ไปขอบคุณมันทำไมครับ ถามพี่เมฆหรือยังว่าพี่เมฆอยากให้มันมาดูแลหรือเปล่า

ผมว่าบางทีแม่นิ่มอาจจะสื่อสารผิด แม่นิ่มคงอยากจะบอกว่า ไอ้ฉานมัน “รังแก” ผมมากกว่า

แต่อย่างว่าแหละครับ

ระยะทางระหว่างคำพูดมันคงยาวไกล กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เลยเพี้ยนไปเป็น “ดูแล”

ถือว่าพี่เมฆยกผลประโยชน์ให้จำเลย

“ คุณมีลูกอีกคนใช่มั้ยครับ ทำไมไม่ชวนมาด้วยละครับ” ผมไม่ได้อยากจะตีรวนนะ ไม่ได้รู้สึกน้อยใจ เพื่อที่ประชดประชันอะไร

เวลาที่ผ่านไป ทำให้ผมโตขึ้น เพื่อที่จะรู้ว่า ผมควรจะอยู่กับความจริง ไม่ใช่สิ่งที่ฝังใจ

ในเมื่อไอ้ฉานบอกว่า ผมมีน้องต่างพ่ออีกคน ผมก็อยากเห็นเป็นธรรมดา

“น้องยังสอบไม่เสร็จนะจ๊ะ พอดีแม่รีบขึ้นมาทำธุระ เลยบอกน้องว่า ถ้าพี่เมฆสะดวก จะพาลงไปหา เค้าเองก็อยากเห็นหน้าพี่ชายนะ” สถานการณ์ เริ่มเป็นกันเองมากขึ้นครับ

“แม่นิ่ม ต้องส่งงานอะไรมั้ย ไหนๆ เราก็วางแผนไปเที่ยวกัน ไปกะบี่พร้อมกับคุณแม่ ก็ได้ แม่นิ่มว่างัยครับ”

ผมไม่ลืมหันไปขอความเห็น จาก “คุณแม่” อีกคนของผมครับ ถ้าผมจะไปนั่นคือ ผมอยากให้แม่นิ่มไปด้วย ผมไม่อยากให้
แม่นิ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน ยังไง สำหรับผม แม่นิ่ม ก็คือแม่ของผม อยู่วันยังค่ำแหละครับ

“แม่มีเรื่องสั้น ส่งสำนักพิมพ์นิดหน่อย ถ้าเมฆสัญญาว่า วาดรูปประกอบให้แม่ทัน ก็ไม่มีปัญหาจ๊ะ” แม่นิ่มบอกผมพร้อม
กับยิ้มส่งมาให้ เป็นยิ้มแรกที่สดใสที่สุดของแม่นิ่มวันนี้เลยก็ว่าได้

“ไม่ทราบคุณกลับกระบี่อีกทีวันไหนครับ” ต้องถามเจ้าของสถานที่ด้วยครับ

“อีกสองสามวันแหละจ๊ะ ยังไงแม่รอลงไปพร้อมเมฆได้นะ”

ผมต้องหันหน้าไปขอความเห็นจากแม่นิ่มอีกนั่นแหละครับว่าจะเอายังไง เพราะตอนนี้ติดอยู่ที่งานแม่นิ่มอย่างเดียว

“ได้จ๊ะ ฉานไม่ติดอะไรใช่มั้ยจ๊ะ”

“ไม่ติดครับไม่ติดอะไร เดี๊ยววาดรูปประกอบหนังสือแม่อ่ะ ฉานช่วยด้วย เอารถตู้บริษัทพ่อฉานลงไปนะครับ”

ผมว่าไอ้บ้านี่มันหลั่นล้าดีใจกว่าผมอีกนะ เหมือนเด็กที่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน พอได้ไปแล้วก็ดีใจตื่นเต้น

ไอ้เด็กโข่งฉานเอ้ยยยยยยยยยยยยยย....ดีใจเป็นเด็กๆได้เที่ยวเขาดินไปได้

ที่มันเงียบไปไม่ใช่เพราะมารยาทดีอะไรหรอกนะครับ มันกินไปแล้วก็วางแผนการเที่ยวไปด้วยแน่ๆ นิสัยไอ้บ้านี่ ผมว่าผมรู้จักดีนะ





ผมนอนกลิ้งเล่นไปมาอยู่บนเตียงระหว่างที่คิดไอเดียวาดรูปประกอบเรื่องสั้นให้แม่นิ่ม

หลังจากที่ แม่ผู้ให้กำเนิด ขอตัวกลับไปเมื่อตอนบ่ายๆ พร้อมกับนัดหมายการไปเที่ยวกันเป็นที่เรียบร้อย
การพบกันครั้งถือว่าผ่านไปด้วยดีครับ ถึงแม้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
สายใยแห่งความสัมพันธ์ยังอยู่ แต่อาจจะต้องใช้เวลา ปรับตัวเข้าหากันบ้าง
เนื่องจากช่วงของเวลาที่เราห่างกัน มันกั้นเอาไว้เสียแน่นหนา
ผมพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ที่เข้ามาในชีวิต
นอกจากแม่นิ่มและไอ้ฉาน หรือเพื่อนๆ แล้ว
ผมยังมีครอบครัวใหม่ ที่กำลังจะได้เข้าไปทำความรู้จัก

เสียงลูกบิดประตู ดังแบบไร้การเคาะประตูก่อน อย่างไร้มารยาทแบบนี้

ไม่ต้องสงสัย คุณก็รู้ว่าใครครับ หลังมือเที่ยง มันขอตัวกลับไปทำธุระที่บ้านมัน

ก่อนที่จะกลับมา กวนประสาทผมต่อเหมือนตอนนี้

“ทำอะไรอยู่จ๊ะ เมียรักของพี่ “ เห็นมั้ยครับ พี่เมฆเดาผิดเสียที่ไหน มันตั้งใจมากวนประสาทชัดๆ

“ช่วยตัวเองอยู่” ตอบสนองความต้องการมันหน่อยครับ มันจะได้ไม่คลุ้มคลั่ง

“ หูย เมียพี่พูดแบบนี้ สามีสะเทือนใจแย่ดิครับ มาครับมา ของแบบนี้สามีอยากช่วย”

ผมรีบเอาเท้ายันมันไว้ก่อนที่มันจะถลาลงมาคลุกวงในกับผมครับ

มันไม่ได้จริงจัง แต่มันไม่ได้พูดเล่นเหมือนกันครับ มุขเผื่อฟลุคของมัน มีแต่ผมเท่านั้นที่รู้ดี

“ไหนๆ ดูสิ ทำอะไร นี่มึงแอบเขียนจดหมายหาชายหนุ่มลับหลังกูปะเนี่ย” ขอเอามือยันหน้ามันสักทีเถอะครับ

ถ้าไม่ใช่มันจะมีใครคิดได้แบบนี้มั้ย
มันเอามือลูบหน้าตัวเองป้อยๆ หลังจากได้รับฝ่ามือแห่งองค์อิศวรลงโทษ

ก่อนที่มันจะล้มตัวลงนอนใกล้ๆผม แล้วยื่นหน้าเข้ามามองกระดาษสเก็ต ที่ผมร่างๆงานไว้ครับ


“ไหนมึงว่าจะช่วยกูทำไง จะได้เสร็จเร็วๆ เนื้อหาแม่เค้าทำเสร็จแล้ว เหลือแต่รูปประกอบอย่างเดียว”
ไม่ลืมทวงสัญญามันครับ

“ไหน ไหน อ้อนสามีดีๆก่อน....เร็วๆ กูต้องการ แรงบันดาลใจ” แรงบันดาลใจบ้านป้ามันสิครับ

“เปลืองตัวขนาดนี้ กูทำเองดีกว่ามั้ย” นี่ขนาดผมยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรมันไป มันยังยื่นหน้ามาฉกแรงบันดาลใจไปจากแก้มผมอย่างหน้าด้านๆ เลยเถอะ

ไอ้ห่านี่......ไว้ใจอะไรไม่เคยได้

“ต้องลงสีมั้ย” มันเริ่มปฎิบัติตัวเป็นคนดี ด้วยการเอางานผมไปพิจารณา

“ไม่ต้องๆ กูอยากให้มันเป็นลายเส้นแบบดราฟๆ แบบนี้แหละ...มึงว่าลงหมึกเส้นสีรัยดี”

เรื่องสั้นเรื่องนี้อขงแม่ ออกแนวเรื่องเล่าทั่วไปแบบตลกโปกฮาอะครับ ผมเลยกะว่า วาดลายเส้นง่ายๆ

ประกอบเนื้อหาที่น่าสนใจลงไป เอาออกแนวกราฟฟิคหน่อยๆ แล้วก็อยากให้มันเป็นโมโนโทน แบบเส้นสีเดียว

เด่นๆไปเลยครับ แบบสีน้ำเงิน หรือสีน้ำตาล อะไรประมาณนี้ เพราะถ้าใช้เส้นสีดำ มันคงตีกับตัวหนังสือแย่เลยครับ

ผมกับมันช่วยกันทำงานไปจนกระทั่ง


{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRR}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}


มีสายเรียกเข้า “พี่เต้”
==============================
กรี๊ดดดดดดด นุ้งเมฆงานเข้า ตอนหน้าเจอหึงโหดแน่ๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 09-04-2010 22:15:42
^
^
^

จิ้มก่อน   :z2:

.
.
.

โถโท้โท่~~ คิดว่าจะมีดราม่าเรียกน้ำตาสักอี๊กกกกกกกกก  :impress3:

กลายเป็นเครียดไปได้นิส เสียงท้องร้องอันดังสนั่นของพี่ฉาน ก็ทำให้บรรยากาศพิษๆนั้นหมดไป  :laugh:

ตอนนี้ก็น่าร๊ากกกกกกกกกกกอีกแล้ววววววว หวานนนนนนนนนนนนนได้อีกอ่ะ  :-[

รอดูตอนหน้าสิ~! พี่ฉานจะหึงโหดๆได้แค่ไหนนนนน แล้วจะงอนนนนนนนแค่ไหน คอยดูเมฆง้อสามีด้วย อิอิ  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-04-2010 22:25:32
อีพี่เต้...อย่ามาเป็นยาดำสร้างความร้าวฉานให้กับครอบครัวชาวบ้านนะ
เค้ากำลังจะช่วยเหลือกันและกันอยู่ โทรมาไมเนี่ย...อารมณ์เสีย  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 09-04-2010 22:28:07
อ่านกี่ตอนกี่ตอนก็ยังรู้สึกถึงความรัก ความอบอุ่น
อ่านไป ยิ้มไป ฮ่าๆๆๆ เป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ  o13 o13 o13

PS. คืนนี้เอาดวงตะวันมาส่องแสงให้ก้อนเมฆอีกซักตอนซิคร้าบบบบบบ
 :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 09-04-2010 22:40:58
อ่ะนะ..พี่ฉานหว่านเผื่อฟลุ๊คตลอดดดดด
ไอเราก้ออ่านหวังฟลุ๊คตลอดเหมือนกัน (อร๊ายยย  :-[)
ท่าทางจะไปด้วยดีนะกับครอบครัวคุณแม่

รอไปเที่ยวกระบี่ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 09-04-2010 22:44:14
ครอบครัวน้อยๆ ช่วยกันทำมาหากิน
แต่รู้สึกพี่ฉานจะขยันหาแรงบันดาลใจจากน้องเมฆบ่อยเนอะ  
เอะอะกอด เอะอะจูบ (คนอ่านอยากได้มากกว่านี้อ่ะ) :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 09-04-2010 22:55:31
assassin <<<<<<<>>>>>>>>เชื่อดีมั้ยเนี่ย ตาพราวระยับขนาดนี้ หืม...จริงๆท่านเมฆกะพี่ฉาน น่ารักกว่าเด็กปากห้อยอีกนะ อิอิ   
ถึงเมฆกะฉานจะน่ารัก  แต่สำหรับผมแล้ว  ยังไงเด็กปากห้อยน่ารักกว่านะครับ  :man1:   (ยุงบินหึ่งเลยอะ.....ตบยุงๆๆ)
แถมคุณแม่ยายยังใจดีแถมข้าวสารให้อีก 3 กระสอบแหนะ   น่ารักเจงๆ  เอิ๊กๆๆ  :jul3:



ตอนแรกนึกว่าจะมีฉากเรียกน้ำตาซะอีกนะ  แต่ก็ อิอิ  ถ้าเจอกะตัวจริงๆ   ก็คงประมาณนี้หละมั้ง
 
ว่าแต่ สปอยตอนต่อไปนี่สิ  น่าคิด  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-04-2010 23:43:19
เมื่อไหร่มันจะกดกันจริงๆซะทีเนี่ย อยากอ่านแระ ช่วงนี้ NCขาดตลาด  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 10-04-2010 00:13:04
รอตอนต่อไปจ้า  :pig4:
ขอหวานๆ  :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 10-04-2010 00:21:11
ว่าแต่หึงโหดอะ จะโหดจริงปะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 10-04-2010 05:16:10
เมฆงานเข้า

แต่ก็นะมีฉานทั้งคน อิอิ :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nurofen ที่ 10-04-2010 05:41:24
ระวังโดนพี่ฉานทำโทษนะ

 :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 10-04-2010 11:13:50
โล่งอก การพบกันครั้งแรกของเมฆกับแม่ผ่านไปด้วยดี o13
ฉานเป็นกำลังใจที่ดีของเมฆอยู่เคียงข้างไม่ห่างหายหาโอกาสทำกำไรตลอด แต่เมื่อไรจะกดซะที ทำเป็นเปล่าเนี่ย  :oo1:
เมฆชวนอิพี่เต้ไปป่วนที่กระบี่ด้วยดิ อาจเป็นตัวเร่งปฏิกริยาเคมีของฉานที่มีต่อเมฆ  o18
ปล.ถึงคนแต่งผ่านคนโพส ขอบคุณที่เตือนให้รู้ว่าสมัยนี้บ่มแก๊ส มิน่าเด็กเดี๋ยวนี้โตไวจัง o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 10-04-2010 11:30:38
จะโดนอะไรไหมเนี่ย อิฉันละลุ้นจริงๆค่ะ ลงโทษก่อนไปกระบี่ซักทีก็ดีเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 10-04-2010 12:05:48
อะไรเนี่ย ไม่ชอบเอาซะเลยฉากเรื่องครอบครัว  อ่านแล้วคิดถึงแม่ ฮือๆ

ว่าแล้วก็อยากไปเที่ยว ทะเล 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 10-04-2010 12:20:54
เป็นตอนที่รู้สึกว่า อบอุ่น มากๆ

ดีใจกับเมฆที่ มีคุณแม่ที่น่ารัก แม่นิ่มที่แสนดี....

ดีใจที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี....


รอตอนต่อไป   ที่เมฆงานเข้า  5555   o18

 :L2:  ให้คนแต่งจ้า.....



ปอลิง. ขอยืมพื้นที่นิดนุง...

อะไรเนี่ย ไม่ชอบเอาซะเลยฉากเรื่องครอบครัว  อ่านแล้วคิดถึงแม่ ฮือๆ

ว่าแล้วก็อยากไปเที่ยว ทะเล 

ก็บ้านช่องไม่กลับ อยู่มันแต่หอ....



เมื่อไหร่มันจะกดกันจริงๆซะทีเนี่ย อยากอ่านแระ ช่วงนี้ NCขาดตลาด  :laugh:


แนะนำให้ไป อ่านเรื่อง พัฟ&พาย ตอนล่าสุดค่ะ เหอะๆๆ


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Kwawaic ที่ 10-04-2010 13:21:25
งานเข้าพี่เมฆแล้ว กิ๊ก โทรมา
(55+)

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 10-04-2010 14:58:26
อยากเห็นคนหึงโหดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 10-04-2010 16:22:37
ดูเหมือนว่าจะไปได้ดีนะ

แต่ดูเหมือนว่าจะมีอะไรให้ปวดหัวอีก

 :z13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 10-04-2010 18:39:38
พี่เมฆงานเข้าแล้วเว้ยยยยยย
อยากเห็นคนหึงโหดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อยากเห็นด้วยคน  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 11-04-2010 10:26:19
ก็แล้วพี่เต้ จะโทรมาทำม๊ายยยย

กลัวฉานหึง แต่ไม่โหด  :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 11-04-2010 10:44:31
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 11-04-2010 22:24:45
มาดันประจำวันค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 11-04-2010 23:35:15
อ้าว นุ้งเซเริ่มขี้เกียจเระ ไม่ยอมต่อ งั้นมาช่วยดัน

อึ๊บ อึ๊บ อ๊า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 19 ,9 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 12-04-2010 01:53:05
รอดูอาการหึง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 12-04-2010 08:47:28
ต้องขอโทษด้วย พิดีเซต้องไป ตจว กระทันหันไม่ได้เอาคอมฯไป  :m23:

=====================================

ตอนที่ 20

เสียงขว้างปากกาด้วยพลังอันมหาศาล ถ้าเทียบแรงสั่นสะเทือนที่เคลื่นตัวเป็นลูปๆแล้ว

พี่เมฆจะอธิบายให้มันลำบากตัวเองทำไมครับเนี่ย

เอาเป็นว่า มันแรงพอที่จะทำให้ผมสะดุ้งตกใจ

ในการกระทำของไอ้คนที่นอนช่วยทำงานอยู่ข้างๆนั่นแหละครับ


พระเจ้าโกหก !!!!!!!!!!!!!!!!!


ไหนใครบอกว่า “ฟ้าหลังฝน” ย่อมสดใสเสมอยังงัยหละ

แล้วนี่อะไร บรรยากาศที่เริ่มจะมาคุ นี่เรียกว่าอะไร

ใครที่คิดทฤษฎี ฟ้าหลังฝนนี่ขึ้นมา พี่เมฆฝากไปบอกด้วยว่า “ว่างๆ มาตัวต่อตัวกันหน่อย”

ผมมองหน้าจอโทรศัพท์ ที่มีชื่อพี่เต้ เป็นสายเรียกเข้า จนมันดับไปและดังขึ้นใหม่เป็นครั้งที่ 3

สลับกับการมองหน้าหมาฉาน ที่ตอนแรกมันนอนคว่ำเคียงข้างผม ช่วยลงสีทำงานให้แม่ไป

จนตอนนี้ มันนอนหงาย มองหน้าผม ว่าจะจัดการ ไอ้โทรศัพท์เครื่องนี้อย่างไร


ก็แล้วทำไมพี่เมฆจะต้องกลัวลนลานละวะครับ


ก็แค่พี่เต้โทรมา  เค้าอาจจะมีธุระอะไรก็ได้ แล้วเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่เต้เค้ามาแนวเพื่อนธรรมดา

แล้วไอ้หมาบ้าที่นอนน้ำลายฟูมปาก หน้าเหี้ยม เตรียมพร้อมจะฉีกร่างผมออกมาเป็นเสี่ยงๆ แล้วเขวี้ยงเล่น

นี่หมายความว่ายังไง

อยากยักคิ้วหลิ่วตา แล้วถามมันว่า “ อา ยู หึง เหรอวะ    ห๊ะ !!!!!”

คิดว่าพี่เมฆกล้าเหรอครับ


คุณคิดผิด เรียนกันตามตรงว่าผมกลัวมันมาก จนไม่กล้าเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ มากดรับเลยละครับ

แย่ แย่ พี่เมฆ แพ้ทางมันเสียแล้วครับ  แล้วอย่างนี้ เวลาจับไม้สั้นไม้ยาว บ๊วบกันอีกที

พี่เมฆจะขึ้นขี่ไอ้ฉานได้งัยครับเนี่ย

“มึงไม่รับโทรศัพท์หละ” ไอ้บ้าข้างๆ มันทนสงครามเงียบไม่ไหวก่อนครับ

นัดนี้พี่เมฆชนะ  แต่อย่าเพิ่งโห่ร้องดีใจครับ ดูเหมือนว่าสงครามยังไม่จบ

“มึงให้กูรับได้เหรอ” แหะ แหะ มันยังทำหน้าเหี้ยมอยู่เลย

“กูเอาตีนยันมือมึงไว้เหรอไง จะรับก็รับกูไม่ว่า แต่ถ้าลุกขึ้นไปคุยที่อื่น นี่มึงกะกูเคลียร์กันยาวแน่เมฆ”
ครับ ครับ ท่านฉานแสง มึงไม่ว่ากูด้วยวาจาครับ แต่สายตามึงหนะ รู้สึกว่า เหมือนเตรียมพร้อมจะฆ่ากูเลย

ผมหันไปจะคว้าโทรศัพท์ รอบที่ 4 ของพี่เต้ มารับ ก็กลายเป็นว่า เสียงโทรศัพท์รอบนั้นดับไปแล้ว
ผมชายตาไปมองท่าทีของไอ้หมีโคอาล่าหน้าร้อน ที่คุมเชิงผมอยู่ข้างๆ
มันเลื่อนตัวเองไปนอนพิงหัวเตียงมองผมอยู่ก่อนแล้ว
เรียกง่ายๆว่า มันจ้องผมอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ จะถูกกว่า

“โทรกลับไปสิ เร็วๆเมฆ มึงจะหวานเย็นรออะไรนักหนา กูอยากรู้ว่า ไอ้ห่าเต้นั่น มันโทรหาเมียกูทำไม”

ผมอยากจะเถียงใจจะขาดว่า เรียกท่านเมฆคนนี้ว่าเมียได้อย่างไร เมื่อครั้งต่อไป ท่านเมฆคนนี้จะขึ้นขี่ท่านฉานเป็นแน่แท้

แต่มันไม่ใช่เวลาแสดงพาวเวอร์อะไรทั้งนั้นแหละครับ

เพราะบรรยากาศไม่เป็นใจ

ผมเลยต้องกดโทรศัพท์กลับไป หาปลายทางที่โทรมา

“ฮัลโหล น้องเมฆ น้องเมฆอยู่ที่ไหนครับ พี่เต้โทรไปไม่รับสาย นี่พยายามหาเบอร์เพื่อนน้องเมฆ โทรไปถามอยู่เลยว่าบ้านน้องเมฆอยู่ไหน พี่เต้เป็นห่วง” ครับ คนที่กดโทรออกไปคือผมเอง แต่มันก็แค่นั้นแหละครับ เพราะยังไม่ทันจะพูดอะไรออกไป เสียงพี่เต้ก็แทรกมาอย่างกะน้ำที่โดนปิดวาล์วไว้ พอหมุนเปิดมันเมื่อไหร่ มันก็ทะลักไหลออกมาแบบนี้

ก่อนอื่น ผมอยากมอบตำแหน่ง “อย่างเยอะ” ให้พี่เต้เสียจริงครับ แต่ติดอยู่ที่ว่าน้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงอย่างจริงใจนั้น มันทำให้พี่เมฆ เป็นคนเลว ไม่ลง

“อยู่บ้านครับ พอดีเมฆทำงานให้แม่อยู่ เลยไม่ได้ยิน พี่เต้มีอะไรหรือเปล่าครับ” แถกันแบบสดๆเลยครับ ยังอุดมไปด้วยวิตามินเลยเนี่ย สดจริงอะไรจริง

“ปิดเทอมแล้วใช่มั้ยครับ “ ผมเชื่อแน่ครับว่าก่อนถามแบบนี้ พี่เต้คงสืบมาอย่างดีแล้ว

“พอดีบ้านพี่เต้ เราจัดทัวร์ภายในครอบครัวนะครับ ไปทิเบตกัน เป็นทริปลุยๆ เลยอยากชวนน้องเมฆไปด้วย สนใจมั้ยครับ”
เอ่อ แล้วไหนว่า เป็นทริปครอบครัว แล้วมาชวนคนนอกอย่างพี่เมฆทำไมละครับเนี่ย ชั่วขณะที่กำลังคิดปฎิเสธคำตอบอย่างนุ่มนวลชวนเคลิ้มอยู่

เผลอครับเผลอ

พี่เมฆเผลอไปสบตากับไอ้หมาบ้าฉานอยู่พอดี  สีหน้ามันจ้องผมเต็มไปด้วยคำถาม ที่สามารถเขียนออกมาได้ประมาณ 3 หน้ากระดาษ A4

เฮ้ออออออออ!!!!!!! เวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย

มีแม่ ก็มีทันทีถึง 2 คน
มีผัว เอร้ยยยยยยยยยยยยย ตอนนี้ยังไม่ใช่ ถึงแม้จะใกล้เคียง
ก็กำกับชีวิตกูจัง

ขอไว้อาลัยด้วยความอนาถใจ สองวินาที

“ขอบคุณครับพี่เต้  พอดีเมฆก็มีทริปลงใต้กับครอบครัวเหมือนกันครับ ไว้โอกาสหน้านะครับ”
ท่านเมฆสามารถหาคำปฎิเสธดีที่สุดได้แค่นี้แหละครับ

“เหรอครับ เสียดายจัง นี่บอกที่บ้านไว้ ว่าจะพาเมฆมาแนะนำให้รู้จัก” ดูเหมือนน้ำเสียงพี่เต้จะสลดลงเล็กน้อย
แต่นั่นมันไม่ทำให้ผมสนใจเท่ากับที่จะพาท่านเมฆไปแนะนำกับที่บ้านหรอกนะครับ
เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง เอาไปแนะนำถึงที่บ้านทำไม แล้วแถมไปเป็นกรุ๊ปครอบครัวอีก

ไม่อยากจะคิด กลัวคำตอบจะเป็นไปอย่างที่ใจคิด

“ถ้างั้นน้องเมฆลงใต้วันไหนครับ ถ้าไงพี่เต้ขอไปรับมากินข้าวกะที่บ้านสักมือได้มั้ย ยังไงจะได้รู้จักกัน ถึงจะไปเที่ยวด้วยกันรอบนี้ไม่ได้” ถามแบบนี้ พี่เมฆจะตอบว่างัยดีละครับ แถมรู้สึกว่าข้างๆตัวจะร้อนวูบวาบด้วยรังสีอะไรสักอย่างจากคนข้างๆอยู่ด้วยแล้วเนี่ย

“ครับ ของเมฆยังไม่แน่ใจเรื่องวันครับ ต้องรอให้งานแม่เสร็จก่อน ในช่วงวันสองวันนี้พี่เต้สะดวกวันไหนละครับ”
ขอสาบานว่า ทุกอย่างที่พี่เมฆทำนี่ เพื่อมารยาทนะครับ อีกอย่างเกรงใจพี่เต้ด้วย อุตส่าห์มีน้ำใจมาชวน
 
“งั้นเย็นนี้นะครับ พี่เต้จะได้บอกที่บ้านไว้ แล้วบ้านน้องเมฆอยู่ไหนครับ เดียวพี่เต้เข้าไปรับ”

“ครับ อยู่หมู่บ้าน …………ครับ พี่เต้รู้จักมั้ย”

“รู้จักครับ หมู่บ้านใหญ่ หกโมงเย็นเจอกันนะครับ พี่เต้ไปถึงหน้าหมู่บ้านแล้วจะโทรหาอีกที”

“ครับผมพี่เต้ สวัสดีครับ”

พี่เต้วางสายไปแล้ว แต่พี่เมฆนี่สิครับ เอายังไงต่อไปดี ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองไอ้บ้าฉานเลย
“เมฆ”   สะดุ้งสิครับ รู้แล้วว่าชื่อเมฆ แต่น้ำเสียงช่วยลดระดับความโหดลงนิดนึงจะได้มั้ยเล่า

“หือ พี่เต้จะมารับไปกินข้าวเย็นนี้” แบบนี้หรือเปล่าครับที่เค้าเรียกกันว่ากินปูนร้อนท้อง

“กูรู้แล้ว ฟังอยู่ ก็พอจะรู้ว่าชู้จะมาพาเมียกูหนี” เค้าบอกว่าจะมารับถึงบ้านหรอกโว้ย พาหนงพาหนีที่ไหน

“ไปด้วยกันมั้ย” ชวนมันหน่อย เผื่อความผิดจะน้อยลง

“เค้าชวนมึงคนเดียวไม่ใช่เหรอไง มึงอยากไปมึงก็ไปสิ ตัวไม่ได้ติดกันนี่ “ เอาแล้วงัย ประชดประชันกูแล้วงัย

“ก็เค้าชวนไปเที่ยวกะครอบครัวเค้า แล้วเรามีโปรแกรมล่องใต้แล้วไง เลยไปกินข้าวกับเขาเสียหน่อย จะได้ไม่เสียมารยาท”

“อืมก็ดีนะไอ้พี่เต้เหี้ยนั่นของมึง แมร่งบ้านอยู่ไกล ยังจะหาเรื่อง แล้วนี่มันคิดยังไง จะเอามึงไปเปิดตัวรึงัย โธ่เว้ยเมฆ ตอนแรกกูคิดว่ามึงไร้เดียงสา มึงคงไม่น่าจะรู้ ว่าอะไรเป็นอะไร แต่นี่มึงกะกูถึงไหนต่อไหนกันแล้ว มึงยังจะไม่รู้อีกเหรอว่าแบบนี้ไอ้เหี้ยพี่เต้มันคิดอะไร “

ไอ้หมาบ้ามันอาละวาดอะไรของมัน มันตั้งใจจะสื่อบอกผมว่าอะไร ว่าพี่เต้จีบผมงั้นเหรอ ไม่นะ มันจะบ้าหรือไง

ถึงแม้บางทีผมจะรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของพี่เต้  แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าพี่เค้าจะมาจีบผมนะ เค้าก็ปกติดีนี่

แล้วผมจะต้องทำยังไง ไอ้หมาบ้ามันกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องผมไปแล้ว  และคิดว่ามันคงจะหายหน้าไปสงบสติอารมณ์บ้าคลั่งของมันนั่นแหละมั้ง
แต่ที่ผมไม่รู้คือ  มันจะหายหน้าไปจากผมนานแค่ไหน เท่านั้นเอง

ผมทำธุระส่วนตัวไปพร้อมกับความมึนงง ชีวิตผมมันยังสับสนไม่พออีกเหรอ

ไหนใครว่ามีแฟนแล้วโลกสดใสเป็นสีชมพูงัย แล้วรักของผมหละตอนนี้มันเป็นสีอะไร

ผมไม่เคยมีแฟน ทั้งผู้หญิงผู้ชายนั่นแหละ ใครเข้ามาใกล้ผมไม่ว่าอยากจะเข้ามาในฐานะอะไร

ถ้าไม่ผ่านการไว้วางใจกับไอ้ฉาน ก็เข้าถึงตัวผมไม่ได้

ผมไม่รู้ว่าไอ้ฉานมันคิดกับผมมากกว่าเพื่อนสนิทตอนไหน ก็ว่าสบโอกาสเมื่อไหร่

จะเอาตัวเข้าแลกแล้วหรอกถามมันดูสักที

แต่ในส่วนของความรู้สึกผม ผมยกให้ไอ้ฉานเป็นทฤษบททุกอย่างของชีวิตมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ผมอาจจะรู้สึกกับไอ้ฉานมากกว่าเพื่อนสนิทมาเป็นเวลาพอๆ กับที่ไอ้ฉานรู้สึกกับผมเลยก็ได้
เพียงแต่มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเกินไป  มันจึงแยกได้ยากนัก เมื่อเทียบกับความรักของหนุ่มสาวปกติ
พี่เมฆขออธิบายแบบนี้
สารประกอบทางเคมีเกิดจากการรวมตัวของธาติสองชนิดขึ้นไป------------------เอ่อ มันจะเข้าใจยากไปเหรอ

งั้นเอาง่ายๆกว่านี้แล้วกัน

ถ้าพี่เมฆให้ผู้หญิงเป็นสี เหลือง แล้วให้ผู้ชายเป็นสีน้ำเงิน

เมื่อสีน้ำเงินและสีเหลืองถูกผสมเข้าด้วยกัน มันจะค่อยๆ กลายเป็นสีเขียว

ซึ่งหากเปรียบสิ่งนั้นเป็นความรักของผู้ชายและผู้หญิง เราจะค่อยๆมองเห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นใช่มั้ย

แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่สีน้ำเงินและสีน้ำเงิน มาผสมกันเองแล้วนั้น

เราจะไม่มีวันมองเห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นนั้น จนกว่า

ปริมาณสีที่โดนผสมเข้าด้วยกัน จะเพิ่มมากขึ้นจนเห็นได้ชัดขึ้นมาเองในวันหนึ่ง

และนั่นคือนิยามของความรักที่คิดว่าพี่เมฆและไอ้ฉานกำลังเป็นอยู่นะ

คือค่อยๆ เพิ่มระดับความรู้สึกโดยที่เราไม่รู้ตัว

มีตัวแปรที่สำคัญคือเวลา

แต่ตอนนี้ผมว่านะ มันมีตัวแปรอีกตัวหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาแล้วทำให้รู้สึกว่า

ผมไม่ต้องการตัวแปรนี้เลย ให้ตายเถอะ ตัวแปรที่ทำให้ หมาบ้ามัน “หึง” เนี่ย

เวลาหมาบ้ามันหึง มันไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ มารองรับอาการหึงของมันเลยครับ

เหมือนเมื่อสักครูนี้ ที่มันทิ้งระเบิดไว้ แล้วปลิวหายไปกับสายลม

เกิดเป็นคนหน้าตาดีอย่างพี่เมฆ  แท้จริงเป็นสิ่งลำบากครับ

ช่วงก่อนเวลานัดกับพี่เต้ในเย็นวันนั้น ไอ้ฉานไม่โผล่หน้ามาให้ผมเห็นอีกเลย
ผมเองก็ยุ่งๆกับหลายๆเรื่อง

จนเวลามันล่วงเลยมาจนใกล้ๆเวลานัดนั่นแหละครับ

ที่ผมเห็นไอ้ฉานแว่บไปแว่บมา ในกรอบสายตาบ้าง

แต่มันก็ไม่ได้เข้ามาหาผม เพียงแต่เป็นวิญญาณลอยไปลอยมาเท่านั้นเอง

พี่เต้เป็นคนตรงต่อเวลามาก หกโมงเย็นไม่ขาดไม่เกิน ที่ผมลงมาเห็นพี่เต้
นั่งคุยอยู่กับแม่นิ่มที่ห้องรับแขกแล้ว

ผมพูดคุยกะแม่นิ่มนิดหน่อย ก่อนออกไปกับพี่เต้

บ้านพี่เต้อยู่แถวๆพุทธมณฑลสายห้าครับ คิดดูว่า มันไกลกับถนนรามคำแหงแค่ไหน

ผมละไม่เข้าใจความต้องการของพี่เต้จริงๆเลยครับ ว่าตกลงพี่แก คิดกับผมอย่างที่ไอ้ฉานมันว่าไว้จริงหรือเปล่า

บ้านพี่เต้ กินอาณาบริเวณกว้างขวางมากครับ เป็นบ้านทรงยุโรป แลดูขลังๆ เพราะความใหญ่โตโอ่อ่าของมัน
ผมกำลังทวนความจำอยู่ว่า เคยเห็นบ้านหลังนี้ในทีวีเรื่องไหนหรือเปล่าอยู่พอดี

“มากันแล้วเหรอค่ะ คุณเต้ เชิญห้องอาหารได้เลยค่ะ”  คนที่มาเป็นหญิงสาววัยกลางคนคนหนึ่งครับ

นั่นไม่แปลก แต่ที่แปลกคือ คนทำงานบ้านที่มียูนิฟอร์มเป็นของตัวเองที่เราเห็นทางทีวีนั้น

มีจริงครับ มันมีอยู่จริง  นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมประหม่ามากที่สุด
 ไม่รู้ต้องทำหน้ายังงัย เอามือวางไว้ตรงไหน และที่สำคัญ ผมมาในฐานะอะไรครับเนี่ย

ครอบครัวพี่เต้เป็นครอบครัวใหญ่มากครับ มีไม่ต่ำกว่าสิบชีวิตบนโต๊ะอาหาร
ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่รวมกัน และคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะนั้น น่าจะเป็นพ่อพี่เต้

ท่านพี่เมฆตอนนี้ เกร็งเหี้ยๆ เลยครับ

“สวัสดีครับ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้กราดให้ครบทุกคนบนโต๊ะอาหาร กินพลังงานไปหลายแคลลอรี่อยู่ครับ
“นี่อาป๊าพี่ นี่มาหม่าใหญ่ มาหม่าที่สอง นี่หม่าม้าสาม ที่ถัดไปนั้นเป็นพี่ชายคนโตพี่ชื่อเปา ถัดไปคือแฟนพี่เปาชื่อเจ้
บลาๆๆ” พี่เต้แนะนำคนบนโต๊ะทุกคนนั่นแหละครับ แต่ผมมึน ความจำผมจบไปตั้งแต่พี่เต้แนะนำจนถึงคุณแม่คนไหนสักคนนั่นแหละครับ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็ครึกครื้นดี  ทุกคนเป็นกันเองกับผมดีครับ

แต่ที่ไม่ดีคือที่นี่กินข้าวกับตะเกียบ ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่เมฆคนนี้ ไม่ถนัดเอามากๆ ถึงมากที่สุด

วันนี้เลยเรียบร้อยมีมารยาททางสังคมเป็นพิเศษครับ เพราะกลัวว่าจะปล่อยความเสร่อออกมาให้เป็นที่ประจักษ์ต่อคนในบ้านพี่เต้ ให้เจ้าตัวต้องเสียหน้า ปกติพี่เมฆก็ไม่นิยมทำร้ายใครทางอ้อมอยู่แล้วครับ

สิ้นสุดความทรมานบนโต๊ะอาหารได้ ผมก็มาทรมานต่อในห้องที่น่าจะเรียกว่า ห้องนั่งเล่นครับ
เนื่องจากบ้านนี้กินข้าวเสร็จ เค้ามีจิบน้ำชากันอีกครับ

คนรวยนี่อะไรนักหนาวะเนี่ย   บนโต๊ะอาหารเมื่อกี้ยังไม่พอกันอีกเหรอ กับข้าวบนโต๊ะเท่าที่ดูด้วยสายตา
ผมว่ามันสามารถเลี้ยงคนได้ครึ่งตำบลเลยนะนั่น จะเยอะอย่างไปไหน พี่เมฆกินไปแค่รัศมีมือเอื้อมถึงเองครับ

จะว่าไปครอบครัวใหญ่ของพี่เต้ก็ดูอบอุ่นดี   ดูจากเด็กๆที่แปรสภาพโถงหน้าทีวีเป็นเสมือนสวนสนุกอะไรสักแห่ง
ที่เอาลูกบอลสีๆลูกเล็กๆมาเท แล้วก็เขวี้ยงเล่น ผมมองความวุ่นวายของเด็กๆตรงหน้าด้วยแววตาแบบไหนไม่รู้ครับ
มันทำให้ผมยิ้มได้ และคิดไปถึงตอนเด็กๆ ที่เวลาจะเล่นอะไร ผมก็ต้องไปกับไอ้ฉาน วิวัฒนาการในการเล่นก็ไม่เหมือนกัน
เด็กๆสมัยนี้ มีอุปกรณ์เครื่องเล่น ไว้ให้เต็มบ้าน แต่สมัยผมกับไอ้ฉาน เรานิยมเล่นอะไรแบบลุยๆ วีรกรรมผมกับมัน
เล่าสามวันก็ไม่จบครับ กำลังมองเด็กๆเล่นกันเพลินๆ

“เป็นไงบ้างละวันนี้ หืม เห็นไม่ค่อยคุย ลำบากใจอะไรอยู่หรือเปล่า” สะดุ้งสุดตัวเลยครับ คุณป๋าของพี่เต้มายืนข้างผมตอนไหนละเนี่ย เมื่อกี้ยังเห็นนั่งอยู่บนโซฟารับแขกฝังมุขระยับไปทั้งตัวอยู่เลย
“ ครับ ไม่มีครับ ไม่ลำบากใจอะไรครับ แต่ผมเกรงใจ” รู้สึกแบบไหนก็บอกไปแบบนั้นครับ อย่างพี่เมฆ ไม่นิยมปิดบัง ถ้าไม่จำเป็น

“หน้าตาแบบนี่ นี่เองนะ ที่เจ้าเต้มันมาเพ้อให้เหล่าๆหม่าม้าฟัง แล้วรู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว” เอางัยดีวะครับ แต่กับผู้ใหญ่ไม่ควรโกหก ว่าแต่ เอาตามจริงผมเองก็ไม่รู้ ว่าผมกับพี่เต้รู้จักกันมานานแค่ไหน

แต่ตอนนี้พี่เมฆกำลังครั่นเนื้อครั่นตัวและอึดอัดมากมายครับ ก็คุณป๋า ถามเหมือนว่ากำลังสอบถามประวัติลูกสะใภ้อยู่เลยนะสิ อยากตบหน้าผากตัวเองสักป๊าบ จริงๆ เวลานี้พี่เมฆอยากได้ตัวช่วย ไอ้พี่เต้ไปไหนเนี่ย มันบอกจะไปส่งหลานเข้านอน
แต่มันหายไปนานประมาณว่า ไปช่วยทำคลอดหลานเสียมากกว่านะนั่น

“ อ้าวอยู่คุยกับอาป๊าเองเหรอครับ พี่เต้หาตั้งนาน อาป๊าครับ เต้ขอตัวน้องเมฆก่อนนะ มีอะไรจะให้น้องดู” ตัวช่วยผมมาจากไหนไม่รู้ครับ มาทันเวลาพอดี ผมค้อมตัวให้สัญญาณขอตัวกับผู้ใหญ่ แล้วแทบจะติดเกียร์หมาตามตูดพี่เต้ไปเลยครับ

ผมเดินตามพี่เต้มาถึงโถงบันได ที่อุว่าแม้เจ้า มันเป็นบันไดเลื้อยแบบหางมังกรครับ ที่สำคัญ มันมีสองด้านซ้ายขวา
แลดูว่าถ้ามาคนเดียวเนี่ย พี่เมฆหลงในบ้านนี้แน่ๆ ใหญ่ขนาดนี้ ควรเดินทางภายในบ้านด้วยรถกอล์ฟนะเนี่ย
พี่เต้ลากจูงผมขึ้นบันไดไปฝั่งซ้ายครับ เพราะฝั่งขวา เป็นห้องพักของอาป๊า และบรรดาหม่าม้าทั้งหลาย
พวกเด็กๆรุ่นลูก ก็อยู่ฝั่งซ้ายไป ก็เป็นสัดเป็นส่วนดี พี่เต้พาผมเข้ามาที่ห้องมุมสุดท้ายของตัวบ้านครับ

เข้าไปข้างในแทบจะกรีดร้องออกไปเป็นภาษาบาลี  ห้องเหรอวะนี่ มันเหมือนบ้านอีกหลังนึงเลยครับ กว้างมาก แยกได้เป็นสัดส่วน  ตั้งแต่มีแพนทรี มีห้องนั่งเล่น ห้องดูหนัง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องเก็บของสะสม ห้องหนังสือ ห้องทำงาน
ถ้านอนตายอยู่ในห้องนี้ ผมว่า อืดอีกทีนู่นแหละครับถึงจะมีคนรู้
ผมคงด้อมๆมองๆในห้องพี่เต้อยู่นาน จึงไม่เห็นว่าพี่เต้ยืนพิงกรอบประตูห้องมองผมอยู่ตั้งแต่ตอนไหน

“ชอบมั้ยครับ”

“ชะ ชอบ ชอบอะไรครับ” ขยายความนิดนึงครับพี่ ว่าชอบอะไร วลีแบบนี้พี่เมฆตอบผิดขึ้นมาจะยุ่ง

“ห้องพี่งัยครับ เห็นมองอยู่นาน ไม่สนใจพี่เต้เลย” ก็นะ มองนิดนึง ว่าห้องของคนรวยผิดปกตินี่เป็นยังไง

“ก็ดีครับพี่เต้ สวยดี  ตกแต่งแบบนี้ วัยรุ่นชอบเลยครับ” นี่พี่เมฆก็ตอบไปตามตรงนะครับ ถึงห้องพี่เต้จะตกแต่งแบบโมเดิร์นตามสมัย ขัดแย้งกับรูปแบบของตัวบ้านมากมาย แต่ในเมื่อมันเป็นแอเรียที่แยกมาส่วนตัวแบบนี้ เราจะตกแต่งแบบไหนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกครับ

“เหรอครับ วัยรุ่นชอบนี่พี่เต้รู้สึกธรรมดาครับ แต่พี่เต้อยากรู้ว่า น้องเมฆชอบหรือเปล่า” พี่เต้ไม่ได้พูดเปล่าๆนะครับ
แต่พี่เต้ย้ายร่างจากกรอปประตูห้องมาใกล้ๆตัวผมแล้วครับ

ตอนนี้ผมรู้สึกอึดอัดใจเข้าใกล้ขีดแดงแล้ว
มันแปลก ความรู้สึกมันบอกผมว่า พี่เต้ปฎิบัติกับผมแบบแปลกๆ
พี่เต้เริ่มคุยกับผมแบบแปลกๆ เริ่มมองผมด้วยแววตาแปลกๆ
นั่นทำให้ผม อยากไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
เพราะกลัวว่าถ้าความรู้สึกที่กำลังสับสนที่ตีกันอยู่ในใจตอนนี้
ยังไม่ถูกเฉลย  ผมก็ไม่อยากจ้องตาอยู่กับพี่เต้แบบสองต่อสองแบบนี้
มันทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง
มันเริ่มรู้สึกกำลังโดนคุกคามความรู้สึกมากกว่า ความผ่อนคลาย
มันไม่เหมือนเวลาที่ผมอยู่กับไอ้ฉาน ที่ผมจะทำอะไรก็ได้ เป็นตัวของตัวเองแบบไหนก็ได้
แล้วเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ คนที่ผมคิดถึงมากที่สุด ก็คือคนที่มันหึงงอนผมอย่างไร้เหตุผลที่สุดเหมือนกัน

แต่ผมก็ยังคิดถึงมันเป็นคนแรก  เวลาที่ผมอยากมีใครสักคนเป็นที่ปรึกษาอยู่ข้างๆ

พี่เต้เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผม พร้อมทั้งเอามือมาจับมือผมเอาไว้ ก่อนที่พี่เต้จะลากผมไปไหนสักที่

{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{{RRRRRRRRRRRRRRR}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}}
มีสายเข้า
“ครอบจักรวาล ล้านแปด”
ผมรู้สึกโล่งใจยังไงก็ไม่รู้ครับ ไอ้ฉานโทรมาตอนนี้ ผมรีบสลัดมือออกจากมือพี่เต้ แล้วกดรับสายไอ้คนที่ผมอยากเจอมันสุดหัวใจตอนนี้ทันที

“ครับ ว่าไง” ตอบเรียบง่าย แต่ใจเต้นโครมครามเลยครับ

“หมดเวลาสนุกบนความทุกข์ของกูแล้วเมฆ ให้เวลาร่ำลากันห้านาที แล้วรีบลงมากูที่หน้าบ้านนี่ ก่อนที่กูจะลงไปอาละวาด
โทษฐานที่ไอ้ห่านั่น กักตัวเมียกูนานไป เข้าใจแล้วก็เร็วๆ กูรออยู่”

=====================================

กรี๊ดดดดดดดดดด ตอนหน้านุ้งเมฆเสียเลือดแน่เลย  :z1: พี่ฉานหึงโหด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 12-04-2010 09:00:41
กรี๊ดดดดดด รอดูพี่ฉานหึงโหด   :haun4:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 12-04-2010 09:26:33
พี่ฉานของหนู

เิลิศศศ!!!

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 12-04-2010 09:28:34
วันนี้อัพแต่เช้าเลยแฮะ  นึกว่าจะอัพดึกๆซะอีก


วู้วๆๆๆ  ไอ้คุณพี่ฉานนี่  ได้ใจเจงๆ  ตามเมียมาถึงบ้านกิ๊ก(หรือเปล่า) เลย   o13 o13

กลับบ้านไปก็ลงโทษชุดใหญ่เลยนะ   อยากเสียเลือดมากมาย  เอิ๊กๆๆๆ :haun4: :pighaun:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 12-04-2010 09:32:13
อร๊ายยยยยย หึงขนาดเน่~
คืนนี้จะมีเลือดตกยางออกไหมเนี่ย  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Kwawaic ที่ 12-04-2010 09:41:08
โอ้ พี่ฉาน มาแล้ววววววววว 555+

พี่เมฆไม่รู้จริงๆๆ หรือ ว่าเขาจีบ อ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 12-04-2010 09:46:30
น้องเมฆ รู้ทั้งรู้ ยังมากะเค้า
งานเข้าเลย
รีบเคลียร์ ทอร์นาโดมา
+1 เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nurofen ที่ 12-04-2010 09:48:48
พี่ฉานนน

โหด

 :z1: :haun4: :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ๋JEFF ที่ 12-04-2010 09:54:13
     

อิ เต้ อย่ามา ..    :z6:     

ฉานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน   หึงงงงงงงงงงงง   



 :fire:       เมฆ อินโนเซ้นจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 12-04-2010 10:14:12
เมฆน่ารักอ่ะ เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานยังมีอารมณ์มาตลก 
ท่านฉานก้อเหมือนรู้เนอะ ว่าแฟนตัวกำลังต้องการตัวช่วย
ตายแล้วๆๆๆ กลับบ้านไปเมฆจะเจออะไรน๊า~ หุหุ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 12-04-2010 10:27:37
ตอนนี้เอาโล่ให้พี่ฉานนนนนนนนนนน

กะจังหวะได้ถูกมาก เราต้องปกป้อง (ว่าที่) เมียเราเอาไ้ว้

 :z2:

ป้อล้อ : 

อ่าน ๆ ไปดันจิ้นหน้าฉาน เป็น โตโน่  หน้าน้องเมฆ เป็น ริท ขึ้นมาวะเนี้ย  ด้วยเกียรติว่า ไม่เคยจิ้นคู่นี่ จะจิ้นเพราะเรื่องนี่หละ บทส่ง จริง ๆ  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 12-04-2010 10:47:39
พี่เมฆ ค่ะ...

แบ้วไปแล้วนะคะ   :z6:  แบ้วจนน่า    :beat:   นะคะ



ต้องโดนพี่ฉาน ลงโทษนะคะ...

คนเราถ้าไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาในชีวิตเราเป็นคนยังไง  หวังอะไรจากเรานี่ ใช้ชีวิต ลำบากนะคะ....   o18

อ่านแล้วหงุดหงิดพี่เมฆนะคะ....

 :L2:  ให้คนเขียนอย่างเคยค่ะ... o13




หงุดหงิดไปลงกะไอวุฒิดีกว่า...ย๊ากกก   :z6: :a5:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 12-04-2010 11:28:11
น้องเมฆช้ายังไงก็โดนปล้ำแน่ๆ ไม่พี่เต้ ก็ฉาน :jul3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 12-04-2010 11:39:47
น้องเมฆยังคงซื่อได้คงเส้นคงวา...เห็นทีพี่ฉานคงต้องจัดการซะเเล้ว
ปล. เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 12-04-2010 11:53:00
พี่ฉานหึงโหดแท้

ว่าแต่ตอนหน้าน้องเมฆเสียเลือดโอ้  :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 12-04-2010 12:07:03
พี่ฉานมาทวงพี่เมฆคืนแล้ว 
ตอนหน้าพี่เมฆจะ่โดนอะไรมั่งรึเปล่าน้า   :z1:
ปล.ชอบเห็นเวลาพี่ฉานหึง  อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 12-04-2010 12:16:00
ฉานนี่สุดยอดสามีสะกดรอยตามไปช่วยภรรยาทันเวลา
ท่านเมฆของเราก็นะทั้งซื่อทั้งบื้อจะโดนกินอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก :laugh3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ice99 ที่ 12-04-2010 12:59:34
 :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 12-04-2010 13:13:14
รอดูคนหึงโหดแผลงฤทธิ์  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 12-04-2010 13:37:24
พี่ฉานเอาพี่เมฆตายแน่ๆ หายไปนาน แรงหึงของสามีมนแรงนะเคอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 12-04-2010 15:18:25
มารอดูฉาก พี่ฉานหึงโหด
 :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 12-04-2010 19:51:52
พี่เมฆยังคงความฮาและน่ารักได้สม่ำเสมอเจงๆ ว่าแต่เมื่อไหร่จะได้ขี่พี่ฉานล่ะจ้า รอพี่ฉานโดนขี่อยู่นะเนี่ย  :m20: :m20: :m20:

ชอบนิยามความรักสีน้ำเงินของเมฆมาก ลึกซึ้งดี  o13 o13 o13

PS. น้องเซคร้าบ ไหนๆก็หายไปซะหลายวัน คืนนี้เอามาลงอีกซะตอนซิ นะนะนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 12-04-2010 22:03:55
แบบนี้มันต้องโดนกด!!!!!

ปล.ชอบใจชื่อเมมโทรศัพท์จัง "ครอบจักรวาลล้านแปด" แบบว่าเห็นภาพเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 12-04-2010 22:29:11
แหมๆๆๆ นึกว่าจะงอนจนไม่สนใจซะแล้ว  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 12-04-2010 23:47:39
โห พี่ฉานหึงโหด แต่ก็น่ารักดี
เมมชื่อเค้าไว้ว่าครอบจักวาล คราวนี้คงสมใจ เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งพ่อ เดี๋ยวคงพ่วงตำแหน่งพั๋วด้วยอีกอันนึง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 13-04-2010 00:11:40
นั่งนับเวลารอว่าฉานจะปล่อยเมียไปให้ชายอื่นเชยชมได้นานแค่ไหน  :laugh:
คึคึ เตรียมเลือดรอตอนหน้าเลยจ้า หึงโหด ๆ จัดมาอย่าให้เสียนะจ้ะ  :z1:


ปล. ส่วนเม้นท์ที่แล้วพิมพ์ผิด อย่าน้อยใจไปน้า เรื่องนี้ฮามั่ก ๆ อ่านไปยิ้มไปเลยจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 13-04-2010 21:15:34
มันจะหนังไทยไปไหม ต้องมีอะไรมากกว่าแค่สะกดรอยตามแน่ๆใช่ป่ะ

เอร้ยยยยย

อิพี่ฉาน ขอให้โหดจริงอะไรจริง

 :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 13-04-2010 21:20:14
 :laugh: สนุกสนานเลย 55  ไม่ได้อ่านตั้ง 5 วัน คิดถึง พี่ฉานเสียจริงๆ

อ่ะๆ พี่เมฆด้วย  อ่านไปก็ขำไป พี่ฉาน แม่ง แสดงออกได้ตลอดเวลา หึงงง ๆ

นี่ขนาดมาตามถึงบ้าน

หุหุ รอตอนหน้า วันไหนหว่า เสียเลือดแบบไหน  :haun4:

จะได้เตรียมทิชชู่รอ 555

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 13-04-2010 22:12:41
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 14-04-2010 23:30:38
เออนะ ยังกะพ่อหวงลูกสาว

 :m31:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 15-04-2010 00:04:05
เมฆกับฉานไปเล่นสงกรานต์ที่ไหนครับ :L1:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 15-04-2010 00:29:43
เข้ามานั่งรอ นอนรอ ก้อนเมฆกะดวงตะวัน

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: almighty-aikki ที่ 15-04-2010 03:18:14
อ่านทัน ละ อยากอ่านต่อ

ชอบสำนวน มากๆๆๆๆๆๆ เลยครับ

ชื่อเรื่องดูอบอุ่น มาก เนื้อเรื่อง ก็อบอุ๊นอบอุ่น

อิจฉา เมฆ จังเลย

ของสมัครเข้าชมรมรักเมฆ กะ ฉาน ด้วยนะ :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 15-04-2010 07:20:04
 :m22:



 :oni1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 15-04-2010 10:10:37
มาเจาะใข่น้องใหม่ กรู๊วววววววววววววววว

 :กอด1:

อยากใช้อีโมสาดน้ำ มะเหงมี

 :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 15-04-2010 10:57:41
 :z13: ว่าที่คุณแม่ยายที่รัก  เอิ๊กๆๆๆๆ  :z2:

มีเรื่องจะฟ้องด้วยหละ   สูกสาว เอ้ย ลูกชายคุณแม่  ตะลอนๆทัวร์ทั้งคืน  กว่าจะกลับห้องก็เช้าพอดี
อย่างงี้ไม่ดีนะครับ  อันตราย(ต่อผู้อื่น) คุญแม่ยายรีบจับยัดใส่กล่องไปรษณีย์ส่งมาให้ผมโดยด่วนนะครับ   เด๋วผมจะดูแลให้เอง   :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 20 ,12 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 15-04-2010 11:15:39
มองซ้าย แลขวา

กรู๊ววววว.....ว่าที่ลูกเขย เม้นไม่เกี่ยวกะนิยาย ระวังเจ้สองมายืนข้างหลัง

หรือเจ้พี่หนึ่งมาตามลบนะ กรั่กๆ

ส่วนลูกชายนั้น คุณแม่ยายจะเอาไปส่งให้ถึงที่ พีเอ็มแผนที่บ้านมาเหอะ

ส่งไปรษณีย์ เดีียวมานจะเน่า เพราะตอนนี้มันบุบสลายไปมากแล้ว กร๊ากก

ปล. เซมากูเตะ ไม่มาต่อง่ายๆหรอก เพราะ เพราะ ไม่รู้เหมือนกัน กรี๊ดๆๆ.....(ซุบซิบๆ ชีดูแลสามีและลูก  (คนอื่น))
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 15-04-2010 14:21:46
 :haun4:   :oo1: :oo1:  :m25:

=======================

ตอนที่ 21

หลังจากสัญญาณเตือนภัย ที่ทำให้ผมโล่งใจ จบลง

ตอนนี้ สมองผมได้แต่ประมวลผลว่า

จะเอาตัวรอดไปจากพี่เต้ยังไงดี

คิดหาเหตุผลไปจากใครสักคน ทำไมมันยากอย่างนี้วะ

ที่สำคัญ จะบอกยังไง ว่าไอ้ฉานมันรอรับอยู่ข้างล่าง

ถึงแม้ไม่ต้องกลัวมันโดนข้อหาบุกรุก แต่การที่มันมารอรับผมอยู่แบบนี้

ไม่ใช่เรื่องที่น่าคิดไปในทางที่ดีแน่ๆ เหมือนนางเอกในนิยาย


แต่โธ่เว้ย!!!!...พี่เมฆเป็นผู้ชาย น่าภูมิใจตรงไหน มีผู้ชายมารอรับ


โชคชะตา ก็ตอกย้ำความสาวแตกของกูเข้าไปนะ เอาให้เยอะๆ

ว่าแต่ แล้วใครจะสน ในเมื่อตอนนี้ ถ้าผมไม่ออกจากที่นี่ไปหาไอ้คนที่มันรออยู่ข้างล่างให้เร็วที่สุด

คนที่จะไม่เหลือรอดชีวิตกลับไป มันต้องใช่องค์อิศวร อย่างท่านเมฆคนนี้แน่ๆ

“พี่เต้ครับ  เห็นทีเมฆต้องขอตัวกลับก่อน พอดีฉานผ่านมาทางนี้พอดี มันเลยแวะรับหนะครับ พี่เต้จะได้ไม่ต้องไปส่งเมฆด้วย มันไกล แค่นี้ก็เกรงใจแล้ว สำหรับข้าวเย็นวันนี้ อร่อยแล้วก็ขอบคุณมากครับ”

ไม่มีแม้เวลาที่จะร่ำลามากกว่านี้

ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะต้องคิดว่า ประโยคเอาตัวรอดเมื่อกี้ สมเหตุสมผลแล้วหรือยัง

ผมพาร่างตัวเอง แทบจะเรียกได้ว่า  วิ่งเดี่ยว 200 เมตรชาย ตะกายสู่โอลิมปิค ยังไงยังงั้น

ผมมองหารถมินิคู่ใจ ก็เห็นมันจอดอยู่ มุมรั้วบ้านพี่เต้ ทำเลที่มืดมิด เหมาะแก่การค้าขายสิ่งเสพย์ติดอย่างมาก
ก้าวขาขึ้นนั่งคู่คนขับได้ รถก็กระชากตัวออกไป แบบไม่รอให้ผมคาดเข็มขัดนิรภัยเลยด้วยซ้ำ

ไม่มีบทสนทนาใด ใด เกิดขึ้นระหว่างผมกับคนข้างๆ

ท่ามกลางไฟถนนที่ส่องผ่านเข้ามาเพียงเงาสลัวๆ นั้น ผมมองเห็นคนที่ผมคุ้นหน้า


แต่ว่าไม่คุ้นเคย



ใบหน้าที่คอยส่งยิ้ม ให้เสียงหัวเราะ หรือแม้ยามกวนอารมณ์ผม ไม่มีให้เห็นเหมือนเคย

ใบหน้าไอ้ฉานตอนนี้แข็งกร้าว กรามขบกันจนเป็นสันนูน มือทั้งสองข้างเกร็งกำพวงมาลัยไว้แน่น สายตาจ้องไปแค่ทางตรงหน้า


ความหนาวยะเยือก เกาะกุมหัวใจผมทันที


เมื่อสักครู่นี้ ผมลืมคิดไปว่า น้ำเสียงของมันที่ผ่านทางโทรศัพท์ ไม่ได้ปกติเหมือนทุกที
น้ำเสียงนั่น ไม่ใช่คำขอ แต่เป็นคำสั่งขั้นเด็ดขาด ไม่มีแววหยอกล้อในน้ำเสียงเหมือนยามปกติที่เรามักใช้ล้อเล่นต่อกันเสมอ

ทั้งๆที่อุณหภูมิในรถก็ปกติ อย่างที่เคยนั่งทุกครั้ง

แต่ครั้งนี้ ผมกลับห่อตัวเข้ามุมนึงของรถ พยายามให้กรอบสายตา มีเพียงวิวทิวทัศน์ข้างหน้าเท่านั้น
ลางสังหรณ์บอกผมว่า ตอนนี้ไอ้ฉานไม่ปกติ และผมเองไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ไม่อยากจะคิดว่า เป็นเพราะผมมาทานข้าวเย็นกับพี่เต้ เพราะเหตุผลนี้ มันดูไร้สาระเกินไปกับท่าทางที่มันแสดงออกมาอยู่

ตอนนี้ ผมยอมรับว่า ไม่เคยเห็นไอ้ฉานน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน

ผมรู้แค่ว่า ที่มันเงียบอยู่ตอนนี้ มันพยายามควบคุมสติอารมณ์ตัวเองให้ปกติที่สุด

แต่เหมือนลิมิตเข้าใกล้ศูนย์ 

ไอ้ฉานเลือกที่จะจอดรถที่บ้านตัวเอง แทนบ้านผม

นั่นหมายความว่า ครั้งนี้ สถานที่พักผ่อนยามนิทราของเราคือห้องไอ้ฉานเอง
ไม่แปลก เรานอนห้องเดียวกันเสมอเมื่อกลับมาบ้าน แล้วแต่ว่าจะเป็นห้องใครก็เท่านั้น


ในบ้านเงียบเชียบ ไม่มีแสงไฟดวงใด เล็ดลอดให้ความสว่างเลย
ไม่ได้ดึกมากสักเท่าไหร่ ทำไมน้าพิมและน้าชาติ หรือแม้แต่เด็กในบ้านถึงได้นอนกันเร็วขนาดนี้

ไม่ทันจะได้ถามไถ่ถึงความผิดปกติในบ้าน

มือของคนที่เดินผ่านผมเข้ามาก่อนตั้งแต่จอดรถเข้าที่ดีแล้ว จับมือข้างนึงของผมไว้กระชากสุดแรงรั้ง

เหมือนผมทำอะไรได้ไม่ทันใจมัน พยายามที่จะดิ้นรนขัดขืน อยากรู้อยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่ก็สู้แรงคนที่กำลังโกรธดั่งเพลิงพายุตรงหน้าไม่ได้อยู่ดี

ความงุนงน บวกกับความสับสนและไม่เข้าใจอะไรในหลายๆอย่าง

สติกลับเข้าร่างอีกครั้ง เมื่อผ่านเข้าห้องที่คุ้นเคย ทันทีที่บานประตูกระแทกปิดลง

แผ่นหลังผมก็ตามติดบานประตูบานนั้นเช่นกัน

มือทั้งสองข้างโดนคนตรงหน้ายึดเอาไว้ กับบานประตู

ทั้งจมูกและปากยึดครองซอกคอผมในทันที ริมฝีปากมันกดเม้มไปทั่วทั้งซอกคอ ใบหน้าแล้วไล่มาที่ใบหู

ไม่มีความอ่อนโยน ไม่มีแม้กระทั่งอารมณ์อ่อนหวาน ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยอารมณ์โกรธจากคนตรงหน้าทั้งสิ้น

บางเวลาที่ริ้มฝีปากลากผ่านฐานไหล่ ไอ้ฉานมันกดเน้นย้ำลงไปเหมือนให้ผมได้จดจำเวลาตอนนี้ไว้ให้ดี

ฟันคมขบสลับดูดเม้ม ไม่มีเวลาต้องมากลัวว่าร่องรอยนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่…ทุกรอยเน้นย้ำแสดงความเป็นเจ้าของ

ความเจ็บผสมความน้อยใจเสียใจ ผลักดันให้น้ำตาลูกผู้ชายมันไหลออกมา

เจ็บกายก็ไม่เท่าเจ็บใจ ที่อยากป้องกันตัวเองสักเท่าไหร่

กลายเป็นว่าไม่รู้จะเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาต่อสู้กับคนตรงหน้าได้สักที

มันไม่ใช่ เพื่อนสนิท หรือคนรัก หมาดๆ ของผมอีกต่อไปแล้ว

การกระทำของคนตรงหน้า ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ป่าดุร้าย ที่ต้องการข่มคู่ต่อสู้เพื่อที่จะเป็นจ่าฝูง

แต่ไอ้เมฆคนนี้มันไม่ใช่ มันไม่เคยคิดจะเอาชนะใคร ....

ที่ผ่านมามีใจให้คนตรงหน้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ใจตัวเองว่าเป็นแบบไหน

ผมเม้มริมฝีปาก กัดฟันปิดทุกช่องทางไม่ให้ลิ้นของคนตรงหน้าเข้ามารุกราน โดยที่ผมไม่เต็มใจได้
แต่ในเมื่อนี่ไม่ใช่การร้องขอความเต็มใจ มันเลยใช้ฟันขบเม้มริมฝีปากเพื่อเปิดช่องทางนั้นโดยไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย

รสชาติของลิ้นร้อนผสมรสชาติปร่า ของกลิ่นคาวเลือด มันทำให้จูบครั้งนี้เต็มไปด้วยความทรมาน

เสียงร้องจากปากผม ไม่ใช่เสียงที่มาจากความเสียวซ่านสุขสม แต่มันเป็นไปตามกลไกธรรมชาติ

ร่างกายผมโดนวิยญาณร้ายในร่างไอ้ฉาน สำรวจไปทุกที่ ที่ลิ้นและริมฝีปากคู่นั้นพาดผ่านได้

มันหยุดเน้นย้ำตรงยอดอกผมอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน

ม่านน้ำตาไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของคนตรงหน้าเย็นลงเลยแม้แต่นิด

มันยังคงรุกหน้าสำรวจร่างกายผมพร้อมเสียงพร่ำร้องแสดงความพอใจ

ที่ไม่ว่ายังงัย ร่างกายผมก็ทรยศมันไม่ได้อยู่ดี ต่อให้มันรุนแรงสักแค่ไหน

บังคับขืนใจผมเท่าไหร่ แต่ร่างกายผมก็แอ่นรับ สนองทุกสัมผัสกลับไปร้อนแรงเท่ากัน

ความสับสนของจิตใจตีกันมั่วไปหมดกับความต้องการตามธรรมชาติของร่างกาย

รสชาติเค็มปร่าของน้ำตา ไหลเข้าปากทุกครั้ง ที่ผมร่ำร้องขอให้ความทรมานนี้สิ้นสุดลงสักที
ยิ่งร้องขอ ยิ่งเร่งเร้า รุกราน ในเมื่ออารมณ์ทุกอย่างถูกปลุกให้พร้อมรับกับความปลดปล่อยครั้งสุดท้าย

ไม่มีตัวช่วยใด ใด นำทาง มีเพียงหยาดหยดแห่งความใคร่ ที่ไอ้คนตรงหน้า มันเอามาชโลมความอ่อนไหวของเราเอาไว้

ปากและลิ้นพยายามหลอกล่อให้ผมเคลิ้มและลืมว่า มีสิ่งแปลกปลอมบางอย่างล่วงเกินเข้ามาที่ช่องทางด้านหลัง

ความเจ็บแล่นริ้วไปทั้งร่างกาย...เพียงแค่นิ้วที่ถูกใส่เข้าไปเพื่อเปิดช่องทาง ยังเจ็บแทบลืมหายใจขนาดนี้

แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นส่วนอ่อนไหวอันใหญ่โต ที่เต็มไปด้วยความต้องการ ที่มันยัดใส่มือผมเมื่อสักครู่นี้ แทนที่เข้าไป


“ฉาน ไม่นะฉาน กูเจ็บ มึงจะไม่ทำแบบนั้นใช่มั้ย” คำร้องขอพร้อมม่านน้ำตา

ไม่เป็นผลเมื่อคนตรงหน้าขบกรามแน่นเป็นสันนูน พร้อมพลิกตัวผมให้หันหน้าแนบประตูเอาไว้


“เป็นของกูซะเมฆ มึงเป็นของกู เหี้ยหน้าไหนมันก็ไม่มีสิทธิ์ “ ผมไม่รู้ว่ามันพูดอะไร ในเมื่อความเจ็บที่โดนยัดเยียดใส่ทางช่องทางข้างหลังนี้ มันกลบทุกความรู้สึกนึกคิด ร่างจะแตกเป็นเสี่ยงๆเป็นอย่างไร ผมก็เพิ่งรู้ในวันนี้ มันเจ็บจนชา มันแสบจนไม่รู้ว่า ความสุขสมข้างหน้ามันอยู่ตรงไหน

“หายใจลึกๆ อย่าเกร็งสิเมฆ ปล่อยตัวสบายๆนะคนดี
ถ้าในยามปกติ ผมอยากจะโต้ออกไปเหลือเกินว่า “สบายบ้านพ่อมึงสิ ยัดเข้ามาขนาดนี้...มันไม่ฉีกเลือดกระเด็นใส่หน้า มึงกูก็ว่าปาฎิหารย์แล้ว

ไอ้ฉานมันสับขาหลอก ด้วยปากและลิ้นกับผมอีกครั้ง ครั้งนี้มันอ่อนโยนกับผมมากขึ้น ไม่มีฟันคมมาขบกัดให้รู้สึกเจ็บอีกต่อไป จุดไหนที่ไวต่อความรู้สึกผมเท่าไหร่ ไอ้ฉานมันรู้หมด มันรู้ยิ่งกว่าตัวผมที่รู้ ผมเริ่มปฎิบัติตามคำแนะนำอยากตั้งใจ

ค่อยๆหายใจเข้าและหายใจออก ผ่อนคลายความอึดอัดที่สุมกันอยู่ตรงท้องน้อยของผมตอนนี้

มันเริ่มขยับตัวตอนไหนผมเองก็ไม่รู้ มันค่อยขยับเข้าออกเป็นจังหวะช้า ๆ พร้อมๆกับช่วยส่วนอ่อนไหวข้างหน้าของผมไปด้วย

อาาาา...เมื่อความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่เจ็บปวดที่เพิ่งผ่านพ้นนี้ จังหวะที่เนิบนาบค่อยๆเปลี่ยนเป็นเร่งถี่ขึ้น ร้อนแรงขึ้น

ยิ่งจังหวะเร่งเร้าขึ้นมากเท่าไหร่ เสียงร้องครางแห่งความสุขสมก็ดังขึ้นตามไปเท่านั้น...

ถึงแม้การเริ่มต้นมันเริ่มมาจากความขัดขืนใจ....แต่บทลงท้าย ไม่ว่ายังไง กลไกทางธรรมชาติ ได้ถูกบังคับไว้แล้ว


ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะจบสิ้นลง

“กูรู้ว่าคำขอโทษไม่มีความหมายอะไร กับสิ่งที่เพิ่งทำลงไป แต่มึงรับรู้ไว้ได้มั้ย กูทำไปเพราะรักมึง อย่างเดียวเท่านั้นเมฆ”


น้ำเสียงพร่าสั่นพร่ำบอกชิดริมหูผม ก่อนที่หน้ามันจะซบลงกับแผ่นหลัง เสียงครวญครางครั้งสุดท้ายของเราสองคนดังขึ้นพร้อมกัน เมื่อมันเร่งจังหวะส่วนอ่อนไหวด้านหน้า พร้อมกับที่มันเร่งกระแทกส่วนอ่อนไหวด้านหลัง ถี่รัว ก่อนจะกระแทกจังหวะหนักหน่วงครั้งสุดท้าย ปล่อดปล่อยหยาดหยดความใคร่ไว้ข้างในช่องทางด้านหลัง รวมถึงการปลดปล่อยของส่วนอ่อนไหวด้านหน้าผมเช่นกัน


จบสิ้นแล้ว ความสุขสมที่ทรมาน ....ความสุขที่แลกมาด้วยความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ


น้ำตาที่แห้งเหือดไปตอนไหนไม่รู้ เริ่มไหลมาฟ้องอาการสาวแตกขั้นมาตรฐานของผมอีกครั้ง

ร่างที่ไร้เรี่ยวแรง โดนไอ้ตัวต้นเหตุมันพยุงมาได้ถึงเตียงนอน ผมทิ้งตัวลงนอนโดยที่ไม่มองด้วยซ้ำ

ว่าไอ้ตัวร้ายมันหายไปไหน      มันจะไปไหน  ไปทำอะไรก็ช่างหัวมันเถอะ
 

ชีวิตผมยิ่งกว่านิยาย

จะมีผู้ชายคนไหน ที่ผ่านการมีอะไรกับที่ผู้ชาย ที่เรียกได้ว่า “คนรัก” ด้วยความไม่เต็มใจอย่างผม

จะเรียกว่าข่มขืนใจ ก็ดูจะเลวร้ายมากไป ในเมื่อ ผมแทบไม่ได้ออกแรงต้านทานความบ้าคลั่งของไอ้ฉานเลยแม้แต่น้อย

แถมในตอนท้ายของช่วงอารมณ์ใคร่ ผมสนองตอบมันไปทุกท่วงท่า ที่มันจะชักนำพาอารมณ์ผมไปเสียด้วยซ้ำ

แต่ถึงกระนั้น.......ผมก็ยังอดเสียใจไม่ได้อยู่ดี ผมไม่ใช่สิ่งของ ที่จะมาทำอะไรกับผมก็ได้ โดยที่ไม่คิดถึงใจผม

ถ้าการเป็นคนรัก มีความเชื่อใจเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบ ทำไมผมกับมันถึงขาดตรงจุดนี้

เราเคยสัญญากันไว้ตั้งแต่ยังเป็นได้แค่เพื่อนกันว่า มีอะไรเราจะคุยกันทุกเรื่อง อยู่เคียงข้างกัน

แล้วที่ผ่านมาเรียกว่าอะไร ทำไมทุกครั้งที่เกิดปัญหา เราไม่หันหน้ามาคุยกัน

ทำไมต้องปล่อยให้เหตุการร์เลวร้าย มาทำให้เราไม่เข้าใจ จนต้องทะเลาะกันได้ทุกครั้ง

ไอ้อาการสาวแตกขั้นมาตรฐานของผมผ่านไปแล้ว ไม่มีไอ้เมฆที่นอนซบหน้ากับหมอนแล้วร้องไห้

ให้เสียดายความแมนอีกแล้ว ผมกัดฟันข่มความเจ็บปวดตรงช่วงบั้นท้าย เหมือนกระดูกในร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

เพียงแค่ผมพยุงตัวเองลุกขึ้น ไม่อยากคร่ำครวญกับความเจ็บปวดให้มากนัก ความเข้มแข็งของลูกผู้ชาย ได้บอกผมเอาไว้อย่างนั้น



เริ่มเข้าใจไอ้ฉานขึ้นมาบ้าง เวลาที่มันแอบหลบมายืนดูดบุหรี่ระบายความเครียดที่ระเบียง เพราะผมเองก็ทำไม่ต่างจากมัน

ผมปล่อยควันบุหรี่ออกไปพร้อมๆกับปล่อยความรู้สึกสมเพชตัวเอง ได้เจอแม่ ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี

“เมฆ” เสียงเรียกที่ตะโกนก้องออกมาจากภายในห้อง ทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากความคิด บุหรี่ถูกปล่อยลงพื้น ก่อนจะบี้ดับด้วยปลายเท้า

“มึงออกมาทำไม กลัวคนไม่รู้หรือไง ว่าเราทำอะไรกันมา” น้ำเสียงมันกราดเกรี้ยว ผมประคองร่างตัวเองออกมาด้วยสภาพไหนผมไม่รู้หรอก รู้แค่เพียงกัดฟันข่มความเจ็บไว้ได้ แล้วควานหากางเกงที่โดนกระชากทิ้งๆไว้แถวนั้นมาใส่ ก็ออกมาเลย

ไม่สนใจจะหาเสื้อมาใส่ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถอดเสื้อเล่นกีฬาก็บ่อยไป

แต่ผมก็ลืมนึกไปว่า ไม่ใช่กับตอนนี้ หลังจากที่ก้มสำรวจร่างกายตามที่ไอ้ฉานว่าไป ใจผมก็ต้องกระตุกวูบ

เนื้อตัวที่ผมพอสำรวจด้วยสายตาได้ เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งอารมณ์เดือดดาลของไอ้บ้าฉานแทบทั้งสิ้น

ทั้งรอยดูดทั้งรอยฟันขบเม้ม ยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป บางจุดยังมีร่องรอยของเลือดไหลซิบๆ

นี่ที่ผ่านมา กูหลงเข้าไปในฝูงหมาป่าหรือไงวะ ....แต่ว่าไม่น่าใช่ฝูง น่าจะเป็นหมาบ้าเพียงตัวเดียวมากกว่า

มันไม่ได้สำนึกสักนิด ว่าที่ผ่านมามันทำอะไรลงไปกับผม
ไม่มีคำว่าขอโทษ หรือเสียใจหลุดจากปากมัน

หลังจากที่ดึงผมเข้ามาในห้องได้ มันก็พาผมไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ ก่อนที่จะใช้ผ้าชุบน้ำ ที่มันคงจะไปหามาตอนที่มันหายหัวไป เช็ดไปตามร่างกายผม

“อาบน้ำเถอะ เลอะไปทั้งตัว” มันเช็ดไปได้สักพัก คงคิดว่าแค่เช็ดตัวคงไม่ไหว หลังจากเสร็จสิ้นสงครามความใคร่ไป

ผมก็ไม่ได้ทำอะไร กับร่องรอยที่เกิดขึ้นทั้งนั้น ไม่ว่าจะเกิดจากของมัน หรือของผมเอง

“ ไม่ ทำไมกูจะต้องอาบ กูไม่ได้ทำอะไร ใครทำอะไรไว้ มันก็จัดการเองสิ” ไม่ได้หมายความว่าจะตั้งแง่ให้มันอาบน้ำให้

แต่ความหมายมันก็แปลไปในทิศทางอื่นไม่ได้เหมือนกัน

แต่จะให้ลุกขึ้นไปทำเองก็ไม่ไหว แค่ขยับความเจ็บก็แล่นริ้วไปทั้งตัว นี่ไม่นับเวลาที่ส่วนนั้นโดนน้ำ

เจ็บ ก็ไม่เท่ากับความแสบที่เกิดขึ้น ......

“พอจะลุกไหวมั้ย หรือให้ฉานอุ้มไป” แสดงว่ามันยังคงสำนึกถึงความผิดติดตัวอยู่ ไม่งั้นมันคงไม่แทนตัวเองว่า “ฉาน” แน่

“มึงพยุงก็พอ กูลุกเองได้ แค่เจ็บ แต่ไม่ได้เป็นง่อย “ปากดีไปงั้นแหละครับ จริงๆถ้ามันอุ้มไปก็ดีเหมือนกัน เพราะแค่ผมขยับตัวที ก็ต้องห่อปากร้องซี๊ดด้วยความเจ็บแสบทุกที แต่ผมจะเสียฟอร์มตอนนี้ไม่ได้ ผมโกรธมันอยู่ ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ น้อยใจ


“ อวดดีตลอดเลยนะ นี่ขนาดว่าเฝ้าแล้ว ยังเกือบโดนเค้าเอาไปกินจนได้ “ ผมเบือนหน้าหนี ไม่อยากจ้องตาต่อปากต่อคำกับมัน ทั้งๆที่กำลังสงสัยเหมือนกันว่า มันพูดถึงเรื่องอะไร ใครจะกินใคร แล้วใครโดนกิน


มันจัดแจงทำความสะอาดตัวผมยากลำบากพอสมควร เพราะผมไม่ได้ให้ความร่วมมือใดๆ กับมันเลย


กลับมาถึงเตียงได้ ก็ทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง ไม่ลืมจะตอกย้ำความสะเทือนใจ ด้วยการหันหลังให้มัน

โกรธโว้ยโกรธ  เสียใจเว้ยเสียใจ แล้วนี่อะไร กูแสดงออกว่าแค้นเคืองขนาดนี้ มันยังเฉยใส่

ไม่ขอโทษไม่ว่า แต่ง้อกูนะเป็นมั้ย

มันรักพี่เมฆจริงรึเปล่าเนี่ย.......ไอ้ดร๊วกกกกกกกกกกกหมาบ้าฉาน

ไม่ได้ตะโกนออกไปหรอกครับ ด่ามันในใจเฉยๆ

“เมฆ” มันเรียก แต่เรื่องอะไรจะหันไป

“มึงไม่อยากรู้เหรอว่ากูโกรธอะไร” อยากรู้แต่กูไม่อยากถาม มีรัยมั้ย...อีกอย่าง มึงโกรธแต่มึงก็มาลงกะกูมันถูกแล้วใช่มั้ย

“ กูขอโทษที่โกรธจนหน้ามืดแล้วทำมึงเจ็บ แต่มึงไม่คิดบ้างเหรอว่ามันต้องมีเหตุ หืม แล้วเหตุนั้นมันก็มาจากมึง”

ผมยอมหันหน้า มาสบตากะมัน ยังไม่ทันที่ปากผมจะเอ่ยถามอะไรออกไป ไอ้ผู้ร้ายตรงหน้า ก็ยื่นโทรศัพท์ ที่เป็นของมันมาให้

“อะไร”

“โทรศัพท์” ไอ้ฟายยยยยยยยยย กูรู้แล้วว่าโทรศัพท์ แต่จะยื่นมาทำเกลืออะไร

“เอาไปดู” ผมรับมาทั้งๆที่ตายังถลึงใส่มัน

โทรศัพท์ถูกเปิดค้างไว้ที่ กล่องจดหมายเข้า ความทันสมัยของเทคโนโลยีสมัยนี้ ทำให้อะไรๆ มันมากกว่าแค่โทรข้าโทรออก
หน้าจอโชว์ข้อความเข้า จากเบอร์ที่ผมไม่คุ้นเคย หลายข้อความ

และหนึ่งในข้อความนั้น เป็น รูปผม ที่อยู่ในบ้านพี่เต้ เป็นรูปที่ผมกำลังยิ้ม

และข้อความใต้ภาพ ก็ต้องทำให้ผมตกใจ เมื่อพบว่า

“รอยยิ้มนี้ และคน คนนี้ คืนนี้เค้าจะต้องเป็นของกูด้วยความเต็มใจ”
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 15-04-2010 14:41:51
พี่ฉานหึงโหดมากกก เหอะๆๆๆ

จริงๆพี่ฉานนี่น่าจะบุกเข้าไปกระทืบไอ้เต้ซะทีสองทีนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

 o13 o13 o13

PS. แอบหวังนะเนี่ยว่าครั้งแรกของดวงตะวันกะก้อนเมฆจะหวานซึ้งจนมดขึ้นง่ะครับ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-04-2010 14:46:46
 :m25: ตอนที่รอคอย
เม้นท์ให้เข้าเนื้อหานะ ไม่งั้นจะไปอัญเชิญอิเจ้มา  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: almighty-aikki ที่ 15-04-2010 14:58:21
 :m25: และแล้วก็โดน พังประตู อิอิ :oo1:

ย๊าก ไอ้พี่เต้ เลวมากมาย เมฆ เกลียดมันไปเลย

ฉานนายแน่มั่กๆ :กอด1: รักกันๆ

ดีใจนะเนี่ยเปิดมาได้อ่านเลย อิอิ รอตอนต่อไป อร๊างงงงงงงงงงงงงง o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 15-04-2010 15:04:32


พี่เต้มึงอะโง่ ยังไม่ทันได้ทำไรเลยก็ ส่งข้อความมาอวดซะก่อน

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 15-04-2010 15:13:35
ตามอ่านอยู่นะคะ
น้องฉาน...ถนอมน้องเมฆหน่อย...
อย่าเอาแต่ใช้อารมณ์นัก....เดี๋ยวน้องเมฆไม่เห็นตะวันแล้วจะยุ่ง  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 15-04-2010 16:04:39
อ๊ากกกกกกกกกก  :serius2: :serius2:

 เอ็นซีนี่ หื่น ก็จริง แต่ ก็ แอบ เสียใจแทน เมฆน่ะ พี่ฉาน อ่ะ แม่งงงงงง

 :beat: ที  ทำอะไร ไม่เคยคิดถึงจิตใจหรอก ชิ

แต่ ก็พอเข้าใจน่ะ เป็นใคร ก็ต้องโกรธ อิพี่เต้ เล่น บอกซะอย่างนั้น

 :z6: อิพี่เต้ คิดจะรวบหัวรวบหาง พี่เมฆ เรอะ ฝันไปเถอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 15-04-2010 16:43:09
พี่ฉานช่างรุนแรงยิ่งนัก ความจริงน่าจะไปกระทืบอิพี่เต้ด้วยก็ดีนะ   :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 15-04-2010 17:08:37
 :impress3: :impress3:

สงสาร พี่เมฆ

 :z6: :z6:

กระทืบพี่ฉาน!!!~

 :haun4: :haun4: :haun4

มอบโล่พี่ฉาน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 15-04-2010 18:08:40
ฉานใจร้าย โกรธเต้แล้วไมไปลงที่เมฆ
ครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจ สงสารเมฆจัง
คนแต่งใจร้าย :monkeysad:
เต้นิสัยแย่มาก น่า :beat:
รอฉานขอโทษเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 15-04-2010 18:20:37
อยากฆ่าไอ่พี่เต้  มีส่งข้อความมาเย้ยด้วย   :z6:

แต่พี่ฉานก็ทำเกินไปอ่ะ  ทำพี่เมฆเจ็บ   :m16:

พี่ฉานครั้งหน้านุ่มนวลหน่อยนะจ๊ะ



หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 15-04-2010 19:17:37
เต้รีบส่งข้อความไปป่าว ช่างไม่รู้จักท่านฉานซะเลย
แฟนเค้าทั้งคน เค้าคงยอมให้งาบได้ง่ายๆหรอก แหม
เมฆเลยซวยไป ครั้งแรกทั้งทีไม่น่าประทับใจเล้ยยยยย

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: SPSJ ที่ 15-04-2010 19:28:01
เมฆทำไมดูไร้เดียงสา


ไม่รู้เหรอว่าเต้จะทำอะไร








 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 15-04-2010 19:45:02
โอ้ยยยยย จะหาคนแบบพี่เต้ได้ที่ไหนวะ เลวได้ใจโคตรชอบเลย อ้ายยยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 15-04-2010 19:56:22
ฉานครับมารับโล่เกรียรติคุณได้เลย

หึงโหดจริงๆ ยอมรับเลย แต่ก็ชอบนะ :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 15-04-2010 20:22:21
เพราะนายเต้เเท้ๆ น้องเมฆถึงได้เป็นอย่างนี้ สงสารน้องเมฆอ่ะใสซื่อได้ตลอด  รอตอนต่อไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 15-04-2010 20:25:52
ไอ้พี่เต้ เลวอ่ะ
ฉานจัดให้ไปเลย ชุดใหญ่
หึงโหดเนอะ
น้องเมฆรู้ความจริงแล้วอึ้ง
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 15-04-2010 21:08:31
:m25: ตอนที่รอคอย
เม้นท์ให้เข้าเนื้อหานะ ไม่งั้นจะไปอัญเชิญอิเจ้มา  :laugh:
เง้อออ   ผมผิดไปแล้วคร๊าบบบบบบ  คราวหลังจะไม่ทำอีกแล้วคร๊าบบ  
อย่าอัญเชิญเจ้มานะ พี่หนึ่งคนสวยใจดี นะครับ  :impress: พรีสสส


คราวนี้เสียเลือดกันไปหลายคนเลย  ทั้งเมฆทั้งคนอ่าน  แต่ว่า  ตอนหน้าคนที่จะเสียเลือดต้องเป็นอีพี่เต้แน่นอน :fire: (ตื้บมานๆๆ)


ปล. นิยายเรื่องนี้ มีทุก 3 วันช่ายมะ  อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 15-04-2010 21:14:08
พี่ฉานหึงโหดมาก

โหดจนได้เลือด

 :haun4:
 :pighaun: :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 15-04-2010 21:40:17
อีพี่เต้ก็อวดยังไม่ได้แดกเสือกอวดซะก่อน แดกแห้วกระป๋องไปก่อนละกัน 5555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 15-04-2010 21:43:45
ไม่รู้จะสงสารหรือแสดงความยินดีกับนุ้งเมฆดี  :z2:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 15-04-2010 22:24:50
ไอ้เต้ !!!!! :angry2: :angry2:
คิดจะทำอะไรเมฆห๊ะ !
ให้ตายเหอะ ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ฉานทำอย่างนี้
แต่ก็ยังดีที่คนแรกของเมฆคือฉาน  :เฮ้อ:
ยังไงก็ถนอมเมฆหน่อยนะฉาน
ถึงทำเพราะรัก  แต่เมฆเค้าไม่รุ้อะไร
เพราะฉะนั้นขอโทษเมฆแต่โดยดี
เป้ฯกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 15-04-2010 23:10:22
อิพี่เต้แม่ง่ากระทืบว่ะ
ยังมีหน้ามาส่งข้อความอีกนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 15-04-2010 23:15:26
พี่ฉาน.....หึงโหดอ่ะ...

ครั้งแรกแทนที่จะ  หวานๆ หน่อย....

แต่ก็นะ....เจอแบบนั้นไปใครจะทนไหว....

ต้อง  :oo1:  ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นของใคร... 5555

“เป็นของกูซะเมฆ มึงเป็นของกู เหี้ยหน้าไหนมันก็ไม่มีสิทธิ์ “   >>>>  ชอบประโยคนี้จัง...   :-[


โหด ถูกจวย จริงๆ  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 16-04-2010 00:04:56
โกดดดดดดพี่ฉานอ่า รุนแรงกับน้องเมฆ :m16:
ดูแลน้องดีๆเลยนะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 16-04-2010 01:02:56
คราวต่อๆไปขอแบบหวานๆหน่อยเหอะ โหดบ่อยๆพี่เมฆช้ำในตาย  :laugh: 
ส่วนอิพี่เต้เนี่ย  ต้องโดน  :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 16-04-2010 01:07:42
ไอ้พี่เต้ไปกระตุ้นต่อมหึงโหดคุณชายฉานเข้า อดรับประทานเลยคับท่าน อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 16-04-2010 01:26:50
เป็นกำลังใจให้รักครั้งนี้จ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 16-04-2010 03:53:53
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย มีอะไรๆกันแล้ววววววววว  :-[

พี่ฉานหึงโหดจริงๆ ถูกใจจจจจ อดคิดไม่ได้ว่าครั้งแรกจะหวานๆกันสักอีก แต่เอาเหอะ ทุกวันนี้ก็แทบจะเป็นผัวเมียกันอยู่แล๊ะ  :laugh:

แล้วงี้จะบอกคนที่บ้านกะที่มหาลัยว่างายยยยยจ๊ะ  :z1:

ว่าแต่... ไอ้พี่เต้นี่ใช่เล่นนนนนนนน มาถูกใจเมฆไงเนี่ยยยยยยย  :really2:


 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 16-04-2010 12:01:48
กระทืบพี่ฉาน สถานเดียว  :z6:

พี่เต้นี่ัยังไงกันน้อ กระทืบด้วย  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 16-04-2010 13:39:12
มารอโน๊ะ   

รีบๆมาต่อเลยจ้าาา คิดถึงงงงงง เมฆ กะฉานน

 : 222222:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 16-04-2010 21:56:59
เข้ามาดันครับ อึ๊บ อึ๊บ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 17-04-2010 09:23:55
พี่เต้นี่ออกแนวร้ายเงียบๆ นะเนี่ย ตอนแรกนึกว่าจีบเพราะชอบแบบจริงใจซะอีก ผิดหวังกับพี่เต้จริงๆ  :z6:
ขอให้เมฆฉานกลับมาคืนดีกันไวๆ อยากอ่านตอนหวานๆ ไม่เอาโหดๆ อ่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 17-04-2010 22:22:07
หายไปไสน้ออ ดัน ดัน ดัน

สงสัยต้องจุด ธูปเรียก  :call:
 :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 18-04-2010 00:30:14
จุดให้ธูปคลุ้งเรียกคนโพสมาต่อไวๆ   :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-04-2010 08:49:56
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 21 ,15 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 18-04-2010 09:39:25
น้องเมฆหายไปหนาย มาต่อด่วน
คนอ่านคิดถึงงงงงงงงงงง :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 18-04-2010 12:27:50
ตอนที่ 22

ข้อความเสียงหลายๆข้อความ มันเป็นเสียงของผมทั้งสิ้น

แม้กระทั่งรูปทุกรูป ยังเป็นรูปผม ในอิริยาบทต่างๆ ที่อยู่ในบ้านพี่เต้ หรือแม้แต่ในรถ

ความสับสนเกิดขึ้นอีกครั้ง เหมือนมีใคร เอาฆ้อนปอนด์ขนาดใหญ่ รัวใส่หัวผมแบบไม่ยั้ง

“น้องเมฆเวลายิ้ม น่ารักแบบนี้นี่เองเหรอ”

“หัวเราะที โลกสดใสเลยนี่นะ”

“น้องเมฆ เวลาก้มแล้วไม่ระวังตัว น่ารัก เนียนมาก ไม่มีขนหน้าอกเลยสักเส้น”

“มติของที่บ้าน เด็กคนนี้ผ่านตลอด”

“ปากแดงๆ คงจะหวาน น่าดูเลยนะ ชักจะอยากชิม”
ทุกข้อความ ทำให้ผมรู้สึกขนหัวลุก นี่มันโรคจิตชัดๆ

ไฟล์เสียงแต่ละไฟล์ เป็นการตัดประโยคมาแบบสั้นๆ ซึ่งเท่าที่ฟัง ตั้งใจครอปมาเฉพาะข้อความที่ชวนให้คิดทั้งหมด

เช่น ชอบมากเลยครับ  ดีใจจังที่เป็นแบบนี้  รักสิครับถ้าไม่รักจะอยู่ด้วยแบบนี้เหรอ

ผมเองก็ลางเลือนว่า พี่เต้ถามผมว่าอะไร ทำไมจึงมีประโยคแบบนี้ออกจากปากผม

แต่ไม่ใช่เรื่องเชิงจีบกันแน่ น่าจะเป็นเรื่องทั่วไปมากกว่า

ผมจำได้ว่า ในรถ เราคุยถึงชีวิตวัยเด็ก ผมคิดว่า บางประโยคอาจจะตัดมาจากตอนนั้น

จากข้อความและจากรูปที่เห็น ตัวการผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากพี่เต้


คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ

คนที่สุภาพ และอัธยาศรัยดี ไม่มีพิษมีภัยอะไรอย่างพี่เต้ จะกลายเป็นแบบนี้ไปได้

ผมเริ่มเข้าใจเรื่องที่ไอ้ฉานโกรธ ในทางกลับกัน ถ้าผมเป็นไอ้ฉาน แล้วได้รับข้อความอะไรแบบนี้
เป็นผม ผมก็คิด

ผมไม่ทันสังเกตุว่าพี่เต้ถ่ายรูปผมตอนไหน เรื่องอัดเสียง พี่เต้อาจจะแอบเปิดอัดไว้ตลอดเวลา

รูปที่ถ่ายมาส่วนใหญ่ น่าจะถ่ายตอนที่พี่เต้ขอตัวไปทำธุระ หรือตอนที่ผมเผลอ

แต่รูปที่อยู่ในรถ ทำไมผมถึงไม่รู้สึกเลยตอนแอบถ่าย

อาจจะเป็นเพราะ  ระหว่างที่เรานั่งคุยกันในรถ พี่เต้ชอบมองผมแล้วยิ้มแบบแปลกๆ

มันเป็นยิ้มที่ผมรู้สึกว่า ไม่ควรมอง เลยทำเป็นมองวิวทิวทัศน์ด้านนอกไป

หรือว่า ผมไม่ค่อยระวังตัวจริงๆอย่างที่ไอ้ฉานบอก

ว่าแต่.....ท่านเมฆ มีอะไร ที่ทำให้พี่เต้ติดอกติดใจ จนเข้าใกล้คำว่าโรคจิตแบบนี้ครับ

เราไม่ได้เจอกันบ่อยมากมายอะไร

เค้าไม่ได้มีทีท่าอะไรว่าชอบผมแบบนั้น

อีกอย่าง...ผมรับได้ที่จะเป็นคู่ตุนาหงัน กะไอ้ผู้กำกับแห่งชาติฉานแสงคนเดียว

คนอื่น ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้ด้วยเลย ผมแน่ใจ และแน่ใจมากว่า แมนเสียยิ่งกว่าแมน ไม่ได้มีทีท่าออกว่าเป็นเกย์อะไรทำนองนั้น เวลาไปไหนมาไหน ผมก็ยังสนใจมองแต่ผู้หญิงนะ ไม่ได้มีสายตามองหาผู้ชายแต่อย่างใด

แล้วพี่เมฆคนนี้.......ไปกระแทกต่อมหมวกไต ตรงไหนของพี่เต้วะครับ

โอ้ยยยยยยยย..........ถ้ารู้ว่ากูจะโตมาหล่อนะ กูจะไม่โต


“มึงเป็นอะไร อยู่ดีๆ คลุ้มคลั่ง น้ำหวานกูไหลย้อนขึ้นสู่สมองมึงรึไง ทึ้งหัวตัวเองอยู่ได้” ผมหันขวับไปจ้องหน้าอาฆาตไอ้คนพูดทันที

แมร่ง ทำมาเป็นพูดดี คิดว่ากูจะอภัยง่ายๆ กะอีแค่หลักฐานที่มึงเอามาแสดงให้กูเห็นว่า ปล้ำกูเพราะโกรธไอ้พี่เต้ หรืองัย

ไอ้กูปรี.....ถึงตอนนี้กูจะเปลี่ยนมากลุ้มใจเรื่องพี่เต้ชั่วคราว แต่เรื่องที่มึงทำเอาไว้ ยังไงกูก็ยังไม่ลืมง่ายๆหรอกเว้ย

“ค้อนอะไร เดี๋ยวนี้ หัดค้อนนะมึง แต่ก็น่ารักดี แต่อย่าทำแบบนี้ให้เค้าถ่ายรูป มาตอกหน้ากูได้อีกหละ” เชี่ยเหอะครับ
กูไม่ได้ค้อน กูโกรธเว้ย ไอ้บ้า ห่านี่ กวนอารมณ์กูให้ได้ตลอดนะมึง เอาให้เยอะเข้าไว้ เดี๋ยวตีนกูจะรีแอคชั่นกลับไปกระแทกหน้ามึงแน่

“ยังเจ็บอยู่รึเปล่า ไหนมาดูหน่อยสิ กูจะใจดีทายาให้ ” หูย มีบุญคุณกะกูอย่างสูงเลยนะไอ้หมาบ้า

“มึงจะล้วงเข้าไปทาได้เหรอ “ ได้ผลครับ ไอ้บ้าฉานมันมองผมตาเหลือกลาน ดีครับ ให้มันคิดเยอะๆเข้าไว้

“กูเจ็บตรงใจอ่ะ มึงจะล้วงเข้าไปทายาให้กูยังไง “ มันถึงกะถอนหายใจเฮือกใหญ่เลยครับ

“ เอาดี ดี สิ ตรงไหล่มึงที่โดนกูกัดมันเริ่มม่วงๆแล้วนะ จะเป็นแผลเป็นรึเปล่านี่ แต่ก็ดี คิดซะว่า กูประทับตราจองแล้วกัน”
ไอ้ห่า.....กูไม่ใช่หมูที่จะโดนส่งเข้าโรงเชือดนะ ที่จะมีประทับตรา เล้าหมู

“แล้วมึงไปบ้านพี่เต้ถูกได้งัย ถ้ามึงตอบว่า มึงเก่ง กูยันหน้ามึงแน่” เอาสิครับ พี่เมฆยินดีฟาดหน้าด้วยฝ่าเท้า

“ จะยากอะไร กูก็ขับรถตามไปสิ ไม่เห็นจะยาก

บิงโกเลยครับ

ผมว่าครั้งนี้อะพี่เต้ ตั้งใจจะยั่วโมโห เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างกะไอ้ฉานแน่ๆ ผมยังสงสัยเลยว่า
ถ้าพี่เต้วางแผนได้แนบเนียนออกโรคจิตคิดจะฟันผมขนาดนี้  ทำไมต้อนผมลาออกมาหาไอ้ฉาน
พี่เต้ถึงยอมปล่อยออกมาง่ายๆ ไม่เห็นกระชากผมเข้าไปกอดปล้ำ เหมือนละครที่เคยดูกะแม่นิ่มเลย
ถ้านี่เป็นแผนเหยียบใบตองแห้งให้หมาตื่น  พี่เต้ทำสำเร็จครับ
แล้วก็สำเร็จอย่างสวยงามเสียด้วย เพราะไอ้หมาบ้ามันคลุ้มคลั่งสมดังใจ อาจจะเยอะกว่าที่พี่เต้วางไว้ก็ได้
แต่คนที่ซวยมันใครครับ พี่เต้จะรู้มั้ย ว่าผลการพิสูจน์อะไรก็ไม่รู้ของพี่เต้ ทำให้พี่เมฆต้องสูญเสียความเป็นชาย
แต่จะว่าไป ก็ขำไอ้ฉานนะครับ เต้นแร้งเต้นกาตามน้ำซะงั้น....กูควรต้องหัวเราะหรือร้องไห้ดีวะครับ

“มึงยิ้มอะไร “ โอ้ย งั้นกูหัวเราะเลยแล้วกัน 55555555

“ไอ้โง่ มึงคิดว่าว่ามึงขับรถโตโยต้า ลิโม หรือไง ที่จะมีทั่วไปกราดเกลื่อนตามท้องถนนเหมือนแท็กซี่ จะได้ไม่เป็นที่สังเกตุ
โง่จริงๆ เลยมึงเนี่ย ทีหลังปรึกษากูสิ กูเนี่ย สุดยอดนักวางแผน โอ้ย กูขำ มึงนี่โง่เรื่องไร้สาระเนอะ” คิดดูสิครับ รถที่มันขับ ถึงแม่ไม่ใช่ ลิมิเต็ดอะไร แต่มันก็เป็นที่สังเกตุง่ายอยู่ดีแหละ แล้วขับตามพี่เต้ไปแบบนั้น เป็นใคร ใครก็รู้ครับว่าตั้งใจตาม

ไอ้บ้านี่ บทมันจะโง่ มันก็โง่เกินความคาดหมายจริงๆ

“ ก็กู ห่วง เห็นมึงเชื่องๆ ใจง่าย กลัวจะตกหลุมใครเข้าอะดิ”

“หืออออออออ ห่วง หรือ หวง มึงเอาให้แน่ กูไม่ใช่เมื่อก่อนนะที่มึงห่วงเพราะกลัวกูจะโดนใครแกล้ง แต่นี่กูโตแล้ว คงไม่มีใครแกล้งแล้วมั้ง “ ผมยักคิ้วหลิ่วตาใส่ แน่ใจกว่ารู้ทันมันแน่
 
“ เออ หวง แล้วจะทำไม “ มันตอบไปพร้อมเบือนหน้าไปทางอื่น กลบความอาย โอ้ยย อยากให้ใครมาเห็น ฉานแสงโหมดนี้จริง ไอ้หน่า หรือว่าไอ้แกละลูกคู่มัน คงลงไปล้มกลิ้งนอนหงาย กระชากเสียงหัวเราะใส่มันแน่ๆ แหมน่าจะถ่ายรูปหรืออัดวีดีโอไว้

“โอ้ย “ เผลอหัวเราะโอเว่อแอคชั่นมากไปหน่อย รู้สึกเจ็บปวดตรงบั้นท้ายช่วงล่าง

“เฮ้ย เป็นไร มึงมารยาใส่กูป่ะเนี่ย” มันมองผมด้วยแววตาหวาดระแวงเต็มที่

“มารยาบ้านป้ามึงสิ กูไม่ใช่ผู้หญิง นะไอ้เชี่ย”

“เออ ไม่ใช่ผู้หญิง ก็ไม่ใช่ผู้หญิง ไม่เถียง แต่มึงก็ยังอยู่ในข่ายเมีย กูนะ “
“มึงจะย้ำกูทำขี้เกลืออะไรหละสัด ไม่ลงไทยรัฐสัก 7 วันเลยหละ” เชี่ยนี่ มันชอบพูดอะไรแล้วทำหน้าตาย เหมือนเรืองนั้นปกติธรรมดา แต่ผมสิ ฟังแล้วหน้าชา จะลุกขึ้นเถียงมันก็ไม่ได้ เพราะขยับทีไร หลักฐานก็ฟ้องจนผมต้องซี๊ดปากตอกย้ำความเจ็บมันทุกครั้งไป

“ไม่อะ ลงไทยรัฐ เดี๋ยวแมร่งเอากรอบประกาศกูไปเคียงคู่กะกรอบงานศพ ไม่ดี กูถือ”

“นี่ที่มึงเงียบไป มึงไปคิดทบทวนว่าเห็นด้วยกะกูหรือไม่อยู่เหรอ สาดด” ผมจะทำยังไงกับความซื่อบื้อ ที่ไร้ประโยชน์ของมันดีเนี่ย

“แต่ไอ้ห่าเต้ มันชอบมึงจริงๆนะ แล้วแมร่ง พวกเหี้ยนี่ก็ชอบจังเลยนะเมียคนอื่นเนี่ย”

“ อือ กูหล่องัยฉาน มึงเห็นกูมานานลืมจุดนี้เลยสิ”

“อย่ามากวนตีนเมฆ นี่กูสัญญากะตัวเองแล้วว่า เจอมันครั้งหน้า กูจะกระโดดถีบขาคู่มันแน่ “

“มึงนี่นะ ถนัดใช้แต่กำลัง เรื่องแผนการนี่โครตโง่” ผมขอตอกย้ำมันอีกสักทีเถอะครับ

ไม่รู้จริงๆ ว่าพี่เต้จะชอบผมอย่างที่ไอ้ฉานบอกตรงไหน คิดยังไงก็คิดไม่ออก อย่างไอ้ฉาน ผมพอจะรู้ว่าเราผูกพันธ์กันมานาน มันก็ต้องมีความรู้สึกนั้นบ้าง อย่างตอนที่มันสารภาพว่ารู้สึกยังไง ผมเองก็ไม่ได้ตกใจอะไร
มันเหมือนเป็นกุญแจไขนำทางมากกว่า ว่าไอ้ความรู้สึกที่ติดอยู่ในใจผมตลอดมา มันเรียกว่า “ความรัก”
ถึงแม้ว่ามันก็ผู้ชาย ผมก็ผู้ชายเหมือนกัน
แต่รังสีอะไรในตัวผม ที่ไปกระแทกสายตาพี่เต้ ให้คิดเท่าไหร่ ก็คิดไม่ออก เหมือนถอดค่าสมการไม่ได้
คงมีแต่พี่เต้หละมั้ง ที่ตอบคำถามนี้ได้

“ นี่ตกลงจะให้กูดูแผลมึงได้ยัง เล่นตัวจัง ทั้งๆที่โดนกูกินมาทั้งตัวแล้ว”

เออ ลืมไปเลย กำลังจะไปทะเล ถ้าร่องรอยเต็มตัวแบบนี้ พี่เมฆจะใส่กางเกงเท่ห์ๆ ถอดเสื้ออวดมัดกล้ามตามแบบชายไทย
เล่นน้ำได้งัยวะ ยังไม่อยากเป็นผู้ชายร้อนแรงในสายตาใครนะเว้ย

แต่จะว่าไปนะ คนที่ไม่รู้ ก็อาจจะเข้าใจไปว่า พี่เมฆสเตปเทพร้อนแรง สาวๆถึงได้ฝากรอยรักไว้ขนาดนี้

แต่ก็ไม่ดีอีกนั่นแหละ....

เพราะในใจก็รู้ดี ว่ารอยนี้ เกิดจากใคร คิดไปพาใจหมองเศร้าครับ แต่บอกได้ว่า แมร่ง เจ็บบั้นท้ายฉิบหาย
ทั้งเจ็บทั้งแสบ แมร่ง คิดแล้วก็กลับไปโกรธไอ้ห่าฉานต่อ

ผมนิ่งไม่ตอบสนองคำถามไอ้คนตรงหน้า จนมันทนไม่ได้ ขยับเข้ามาหาผมเอง แต่โทษเถอะครับ จะกระชากกูทำไมเนี่ย
กูเจ็บเหอะ ว่าแล้วก็ ซี๊ดปากทีนึง มันเอาอะไรมาแต้มๆ ตามแผลผมไม่รู้ โครตจะแสบ

“โอ้ย ไอ้เหี้ยฉาน มึงเอาอะไรมาใส่กูเนี่ย แสบอ่ะ อูย “ แสบๆๆคันๆ แล่นเป็นริ้วๆๆไปทั่วทั้งตัวเลยเหอะ

“ยารัยไม่รู้ ที่ราดแล้วเป็นฟองๆ ฆ่าเชื้ออ่ะ” เออ กูก็ไม่รู้ หวังว่าไม่ใช่น้ำยาล้างห้องน้ำนะ กูเห็นราดแล้วขึ้นฟองเหมือนกัน
“เออ ถ้าไม่แสบนะ กูจะให้มึงราดเยอะๆ ใส่ท่อน้ำแล้วอาบเลยยิ่งดี มีแต่เชื่อหมาบ้า” ต้องทำตัวสั่นๆ ตอกย้ำความขยะแขยงไปด้วยครับ จะได้สมจริงสมจัง

“ทำมาเป็นปากดี แล้วใครหละ ที่ครางบอกกูว่า อะ อะ ฉาน กูไม่ไหวแลว อะอะ ฉานกูเสียวอ่ะ อือ อือ “ เชี่ย ทำเหมือนซะกูอาย

“เชี่ย มึงจะทายาก็รีบๆทาสิ ดึกขนาดนี้แล้วกูจะนอน “ ตอนแรกก็ไม่ดึกหรอกครับ แต่ตอนนี้มันจะเช้าแล้ว ผมง่วง
อยากนอน พรุ่งนี้ยังมีอะไรอีกเยอะแยะให้ผมต้องสะสาง

“ ฉาน มึงว่ากูถามพี่เต้ ดีมั้ย ว่าชอบอะไรในตัวกู เผลอๆ กูว่านะ พี่เต้เค้าใช้กูเป็นสะพาน ทอดหามึงรึเปล่า” อันนี้คิดเล่นๆนะ

“ โอ้ยยยยยยยยยยยยยย” ไอ้หมาบ้ามันตบกบาลผมครับ กำลังจะบอกอยู่ว่ากูพูดเล่น ไอ้นี่ แมร่งใช้กำลังหละอย่างไว

“มึงคิดอะไร กูไม่ได้เป็นเกย์นะ”

“แล้วที่มึงยัดเยียดความเป็นเมียให้กูนี่เรียกว่าอะไร ในเมื่อกูเป็นผู้ชาย”

“ก็ถ้ากูจะเป็นเกย์ กูเป็นกะมึงคนเดียวพอเหอะ กะคนอื่น แค่คิดขนกูก็ลุกแล้ว แต่น้องกูอะหด” เออ จะว่าไปไอ้ฉานนี่ก็โครตแมนเลยเถอะ เอาเป็นว่าเดินไปไหนไม่มีใครรู้อ่ะ มันออกจะกร่างและกวนตีน แถมนิ่งขรึม ไม่งั้นสาวๆจะตามทึ้งมันขนาดนี้เหรอ

มี เนื้อ นม ไข่  มาเสริฟให้ดี ๆ ไม่ชอบ ไอ้เชี่ยนี่ชอบของแปลก
แต่กระนั้น......แปลกแต่หน้าตาดีแบบนี้ ไอ้อภัยไอ้ห่านี่ไปเถอะครับ

“อะ อะ เมฆ ยกแขนขึ้นใส่เสื้อ มึงยกแขนไหวมั้ย”

“ไหว กูเจ็บบั้นท้าย ไม่ใช่เจ็บแขน มึงบ้าปะเนี่ยฉาน “ ไอ้นี่ท่าจะบ้า มึงตะบี้ตะบันกระแทกแขนกูตั้งแต่เมื่อไหร่หละ ไอ้บ้า

“เออๆ กูขอโทษ เห็นมึงทำท่าเหมือนว่าเจ็บไปทั้งตัว แล้วตรงนั้นต้องใส่ยามั้ย ต้องใส่งัยวะ “

“มึงกระแทกน้องมึงเข้าไปยังไงหละ มึงก็ทายาให้กูแบบนั้นดิ”  ไอ้โง่ ทีแบบนี้มาถาม บ้านอาม่าที่ไหนเค้าใส่ยา กันตรงนั้น

“อ้าวเหรอ มึงไหวแน่นะ งั้นเดี๋ยวตอนเอาเข้าไป กูจะได้ทายาไว้ตรงปลายๆมันก่อน”


ห๊ะ.....ผมสะอึกน้ำตาแทบพุ่ง มันคิดได้งัยวะ ไอ้เชี่ยนี่โครตหื่น นี่พี่เมฆประชดประชัน มันยังไม่เข้าใจ

อูย กูอยากจะขอลาตาย.....ผมเอามือตบหน้าผากตัวเองตอกย้ำอาการอยากลาโลกด้วยอีกที

“ พอก่อนฉาน กูเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่ามึงตั้งใจโง่ หรือมึงกะล่อน แต่ถ้ามึงทำอย่างที่ปากว่าตอนนี้ กูตายแน่”
มันแอบอมยิ้ม ผมเห็นนะว่ามันหลุดขำ ถึงมันจะพยายามหันหน้าไปทางอื่นไม่ให้ผมเห็นก็เถอะ
ไม่บ้าตามตอนนี้นะเว้ย กูเจ็บอยู่ ขอพักยาวๆ

“ อะ งั้นมึงกินยานี่ซะ แล้วมึงส่งยาลงไปก่อนนะ แล้วค่อยกินน้ำ ไม่ใช่ กินน้ำไปก่อนสามแก้ว แล้วค่อยหย่อนยา”

อ่านะ ได้โอกาส สั่งกูเชียวนะ แล้วมีปัญหาอะไรกะอีแค่กูกินน้ำไปก่อนสักสองสามแก้ว แล้วค่อยหย่อนเม็ดยา

โธ่ ทีนายกแมร่งจะไปไหน ยังต้องมีรถขบวนนำทางเลยอ่ะ แล้วทำไมพี่เมฆจะกินน้ำนำทางไปก่อนยาไม่ได้

“เร็วๆดิ จะมองหน้ากูหาลายแทงสมบัติทำไม อย่ามาลีลานะเมฆ ไอ้ที่กินน้ำแล้วอ้างว่าอืดว่าจุก นี่กูเบื่อแล้ว มึงเปลี่ยนมุขบ้างเหอะ กูรู้ทางมุขมึงมาตั้งแต่ป.5 แต่ว่ากูก็ขี้เกียจพูด แต่มึงก็ยังหน้าด้านใช้มาได้จนตอนนี้นะ”

โอเคครับ ตอนแรกผมมีมันเป็นเพื่อน จนต่อมา ผมรู้สึกว่าผมมีพ่อ   จนตอนนี้ผมมีสามี (แต่อย่าให้ถึงทีกูขึ้นขี่บ้าง)

แล้วนี่มันยังหันกลับมาดำรงตำแหน่งผู้กำกับวิถีชีวิตกูอีก ผมได้แต่รับยามากล้ำกลืนฝืนหย่อนมันเข้าไปในคออย่างยากลำบาก ก่อนจะกินน้ำตามเข้าไปให้มากที่สุด

พี่เมฆเกลียดการกินยาหวะครับ.....ถ้าเลือกได้ ขอไม่กินจะดีกว่า ยาบ้าแมร่งโครตขม
เคยมั้ยครับ ที่เราอยากกลืนลงไปเท่าไหร่ มันก็มาติดอยู่ที่ตรงคอจนได้ ผมเกลียดการกินยาก็เพราะอย่างนี้แหละครับ
ไอ้ฉานมันบังคับให้ผมกินยาได้ มันก็บังคับให้ผมนอนต่อเป็นสเตปถัดไป ....ห่า ไม่ป้อนนมแล้วร้องเพลงกล่อมกูด้วยซะเลยหละ

 ก่อนที่มันจะหายไปทำอะไรของมันต่อ......อย่าได้เอามาใส่ใจ


แล้วความสบายก็เข้ามาครอบงำผมอีกครั้ง

กำลังเคลิ้มๆ เหมือนจะหลับ ก็ได้ยินเสียงข้อความโทรศัพท์ดังเข้ามา

ผมเอื้อมมือคว้าไปที่หัวเตียงมาดูก็ต้องพบว่า
“มี 1 ข้อความเสียง” จากพี่เต้

ผมลุกขึ้นพิงกับหัวเตียง ก่อนที่จะกด โอเค เข้าไปฟังข้อความนั้น

“ พี่เต้เองนะครับ ขอโทษที่ต้องทำอะไรให้น้องเมฆเดือดร้อน แต่พี่เต้ไม่ได้อยากให้มันร้ายแรงอะไรจริงๆ ถ้าน้องเมฆจะยังอยากรู้อยู่บ้าง ว่าพี่ทำไป ทำไม พี่ก็บอกได้เลยว่า เพราะพี่ชอบน้องเมฆ ชอบจริงๆ นะครับ ทุกคนบอกพี่ว่า ความรักของพี่เป็นเหมือนแสงไฟจากตะเกียงอะครับ ไม่มีทางสู้แสงตะวันได้หรอก พี่ไม่เคยเชื่อ แต่วันนี้คงต้องยอมรับ พี่สู้ตะวันไม่ได้จริงๆ....แต่ถ้าวันข้างหน้าก็ไม่แน่นะครับ ตอนนี้พี่คงทำได้เพียงรักน้องเมฆแบบน้องชาย ขอโทษอีกครั้งครับ “

ฉันเป็นแค่ไฟตะเกียง
มีเพียงแค่แสงร่ำไร
อาจดับลงทุกเวลา
ที่ลมพัดพาผ่านไป
เป็นแค่ไฟตะเกียง
อย่าเสี่ยงกับฉัน
ออกจากฉันไป
ทิ้งฉันคนนี้เอาไว้
และกลับไปที่ของเธอ.. ที่มีตะวัน


มันน่าจะเป็นท่อนใด ท่อนนึงของเพลงไหนสักเพลงหนึ่ง แต่เป็นเสียงร้องของพี่เต้เอง
ไม่มีดนตรีประกอบ มีแต่เสียงร้องที่ฟังแล้วได้ทำนองเศร้าๆ เท่านั้น
ผมไม่รู้จะปลอบใจพี่เต้ว่ายังไงดี ในเมื่อผมเองก็เป็นต้นเหตุ ที่ตอบสนองความรู้สึกนั้นไปให้ไม่ได้
“มันเป็นแค่ลมที่พัดเอาขี้ฝุ่นมาบังตาพี่นิดนึงเท่านั้นแหละครับ สักวัน มันก็จะหลุดไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
ผมบอกกับโทรศัพท์เบาๆ โดยไม่ได้ต่อสายออกไป
ผมทำได้แค่นี้จริง ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 18-04-2010 13:00:32
 :z13:คนโพสเลยไปถึงคนแต่ง
ทันสมัยจังมีตัดต่อคลิปด้วย
เมฆหายโกรธฉานเร็วจังแล้วจะมีตอนง้อมั้ยเนี่ย
พี่เต้เลวได้ตบจริงๆ :beat:
แสงไรก็สู้แสงฉานไม่ได้อยู่แล้วเนอะเมฆ o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 18-04-2010 13:06:47
นายฉาน ดูแลน้องเมฆดีๆ นะ
พี่เต้น่ากลัวอ่ะ
+1 เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 18-04-2010 13:33:47
เออ หมดเคราะห์หมดโศกไปอีกยกละนะ

รอศึกใหม่อีกที ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 18-04-2010 14:17:21
พี่เต้แค่แหย่? จริงดิ ?!? เปิดตัวซะจิต แค่แกล้ง? ฮ่าๆๆ เหมือนเกิ๊นนน
พี่เมฆก้อรับไปละกัน (หุหุ) แต่จะว่าไป เมฆน่ารักเนอะ
เป็นคนมองโลกในแง่ดีอ่ะ เค้าชอบ :-[

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-04-2010 14:24:21
หวานขึ้นมานิดนึงล่ะ  :m1: :m1: :m1:

แต่พี่เต้เนี่ยพูดเหมือนกับว่ารู้จักกับพี่เมฆพี่ฉานมาก่อนหน้านี้รึป่าวง่ะ

เพราะพี่เต้บอกว่าทุกคนพูดว่าแสงตะเกียงของพี่เต้สู้แสงตะวันของพี่ฉานไม่ได้ เหมือนกะมันไม่ใช่เจอกันแค่ครั้งสองครั้งเองนะเนี่ย

ฮืมมมม น่าคิด น่าคิด หรือว่ากรูคิดมากไปเองหว่า เหอๆๆๆ

ยังไงก็  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 18-04-2010 14:26:30
อ่านตอนนี้สงสารพี่เต้
 :monkeysad:
ฉานดูแลเมฆดีๆนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 18-04-2010 14:34:35
แต่บางที ไฟตะวัน มันก็ร้อนเกินไปนะ....    อุอุ....

ยิ่งได้เห็นบทสนทนา..ตอนนี้ก็รู้ได้เลย ว่าไม่มีใครสามารถแทรกกลางสองคนนี้ได้แน่  ถ้าฝ่ายใดฝ่านหนึ่งไม่เดินออกมาเอง....

 :L2:  ให้คนเเต่งจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Natavishi ที่ 18-04-2010 17:30:57
 :o8: :o8:

จะ บอกว่า  ชอบน่ะ นิยาย เรื่องนี้อ่ะ

เป็น อี แอบตั้งนาน กว่าจะได้เม้นน่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 18-04-2010 18:00:45
มาดันให้ทั้ง ฉาน เมฆ และเต้ จ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 18-04-2010 18:34:58
ตะวันที่คอยเผาไหม้ศัตรูที่กล้าย่ำกลาย เหอะๆๆๆ

หนุกมากมายจร๊า o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 18-04-2010 20:01:42
พี่เต้รักจริงหวังแต่ง......แต่ก้อวางแผนส่งพี่เมฆเข้าเรือนหอกะน้องฉานซะงั้น  :o9:
รอติดตามต่อไปค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-04-2010 20:45:03
แวะมาลงชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวสิ้นเดือนจะมาอ่านเน้อ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 18-04-2010 20:47:06
ก่อนอื่น  :กอด1: แรงๆเลย คิดถึงง หายไปนานมากกกกกก

และก็ ชอบมากกกก “ก็ถ้ากูจะเป็นเกย์ กูเป็นกะมึงคนเดียวพอเหอะ กะคนอื่น แค่คิดขนกูก็ลุกแล้ว แต่น้องกูอะหด”  พี่ฉาน แม่งสุดยอดอ่ะ 5555555555

แต่ว่าๆ พี่เต้ ก็แมนพอกัน มีขอโทษด้วย คงจะรุ้ตัวว่า สู้ไม่ได้ ก็น่ะ แสงจากตะเกียง รึ จะสู้ แสงตะวันนนน

อ่อ พี่ฉานนน อย่าว่ะงั้นงี้เลยน่ะ ถ้าก้อนเมฆมันดื้อมาก ก็จัด .. ไป ล่ะกัน จะได้ไม่ดื้อ ไปหาคนอื่นอีก 55

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 18-04-2010 21:20:38
หวานอะน่ารักจังเลยคู่นี้

มีทายาให้กันด้วยอร๊ายยยยย อิจฉา :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 18-04-2010 21:22:04
พี่เต้ มันประหลาดแท้

 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 18-04-2010 21:36:54
พี่เต้มานรู้ได้ไงว่าน้องเมฆเดือดร้อน หรือว่า....นายฉานส่งคลิปกลับไปให้ดูคะ  :jul3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 18-04-2010 22:33:24
พอพี่เต้พูดแบบนี้ก็สงสารพี่เต้นิดหน่อย แต่ก็นะไม่ใช่คู่ของตัวทำอย่างไรมันก็ไม่ได้คู่กันหรอก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 18-04-2010 22:39:38
พี่เต้น้ำเน่ามากกกกก

ไม่ฮึดสู้เลย  ความจิตอยู่ในระดับสูงมากเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 19-04-2010 01:24:00
อ้ายยยยย พี่เต้ มารักเค้าดีกว่ามา  อย่าไปรักพี่เมฆเลย 5555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 19-04-2010 07:13:25
พี่เต้ อาการหนักนะเนี่ย หุหุ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 19-04-2010 09:35:44
อ่านแล้วงง เหมือนจะไม่เข้าใจพี่เต้

แต่น้องฉานกับเมฆ ในที่สุด ก็สมหวังดังใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 19-04-2010 10:16:43
ท่านฉานนี่เข้าตำรา ยามดีใช้ยามป่วยไข่ช่วยรักษา
แบบนี้ซินะ พี่เมฆถึงได้โงหัวไม่ขึ้นสักที  :give2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-04-2010 15:20:48
อิพี่เต้เนี่ย เป็นไรมากปะ  :5779:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 19-04-2010 20:07:48
คืนนี้พี่เมฆกะพี่ฉานมากันอีกป่าวน้องเซ คิดถึ๊ง คิดถึง  :m5: :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 20-04-2010 09:39:14
ตกลงพี่เต้ นี่มานดี หรือไม่ดีอ่ะ.......เหมือนจะร้าย เหมือนจะดี
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 20-04-2010 14:39:47
ผู้แพ้ต้องหลีกทางอ่ะเนอะ วันหน้าต้องเป็นของเราบ้างเเหละพี่เต้
สู้ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nurofen ที่ 20-04-2010 14:58:38
ตามอารมณืท่านตะวัน ไม่ทัน

T_T
 o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 20-04-2010 18:50:03
ตกลงอิพี่เต้มันยังไงกันแน่

แต่ดูท่ามันเหมือนคนโรคจิต

พี่ฉานดูแลพี่เมฆดีๆน้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 20-04-2010 19:15:27
ก็แค่ คิดถึง  แม้ จะยังไม่อัพ มาดู หน้าต่าง บ้าน ของพี่ฉานกับ เมฆ ก็ยังดี   :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 20-04-2010 21:21:29
เดินเข้ามารออย่างมีความหวัง เมื่อไรน้องเมฆกับฉานจะมา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Natavishi ที่ 20-04-2010 21:24:34
 :call: :call: :call:

เข้ามาดัน อิอิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 21-04-2010 00:32:23
ดวงตะวันหายไปไหน ไม่มาส่องแสงอันอบอุ่นให้กับก้อนเมฆ  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 21-04-2010 16:15:40
มาอัพเถอะน้าา    คิดถึงพี่ฉานน :m13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 22 ,18 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 21-04-2010 19:54:56
:call: ครบสามวันแล้วนะ  มาต่อเร๊วววว   อยากอ่านแว้วววววว  :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 21-04-2010 22:23:26
ตอนที่ 23

เสียงล้งเล้ง โหวกเหวกโวยวายจากข้างนอก รบกวนเวลานอนที่เพิ่งได้สัมผัสกับมันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

จนต้องซุกหน้าลงใต้หมอน หวังให้มันเป็นด่านปราการที่สำคัญ ที่ช่วยทำให้เสียงที่เล็ดลอดมานั้นเบาบางลง

แต่ไม่ใช่เลย

เสียงดังรบกวนโสตประสาทนั้น ยังดังกึกก้องเหมือนมันมาจ่อที่รูหูนี่เอง

โว้ยยยยยย!!!  แบบนี้ก็ไม่ไหวนะโว้ย


ผมสะบัดตัวลุกขึ้น แหวกตัวออกไปที่ระเบียง หวังจะตะโกนด่าให้ไอ้ต้นเสียงที่โวยวายอยู่นั่นเงียบไป

ที่ไหนได้

แค่พี่เมฆกวาดสายตามองหา ก็ต้องเจอสายตาที่สบมองจ้อง

อ่อย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ตามองตา
สายตาเมื่อจ้องมองกัน
รู้สึกเสียวซ่านทรวงใน

นิ้วชี้ดัชนีพิฆาต ของไอ้คนที่ยืนจ้องสบตา มันชี้มาที่ตัวผม ทำปากขมุบขมิบ พร้อมกับโบกมือไล่

อะไรกันวะ ทำเสียงดังจนกูนอนไม่ได้ แถมพอกูออกมาเรียกร้องสิทธิ์ แมร่งเสือกออกมาไล่อีก

พี่เมฆกำลังจะแปลงร่างเต้นเร่า กระทืบเท้า ให้รู้ว่ากูไม่พอใจ มันก็เดินเข้ามาใกล้

“มึงออกมาทำไมเมฆ มึงกลับเข้าไปเดี๊ยวนี้เลยนะ ไอ้บ้า รถแมร่งจอดมองกันเต็มหน้าบ้านแล้วมั้งหนะ แล้วไม่ต้องนอนต่อเลยนะ อาบน้ำแต่งตัว เก็บเสื้อผ้า แล้วรีบลงมา รถจะออกสิบโมงนี้อยู่แล้ว”

อ้าว ใส่กูมาเป็นชุดเลย มองไปรอบๆอย่างที่ไอ้ฉานว่า เพื่อนบ้านที่เดินผ่านไปมาก็หยุดมอง พร้อมชี้มาที่ผม

ไม่พอ กระซิบหัวเราะ ด้วย

อะไรกันวะ ไม่เคยเห็นพี่เมฆสุดหล่อแห่งประเทศไทยหรือไงกัน

ชักจะหงุดหงิด ก็เลยต้องก้มมองสารรูปตัวเอง

อิโธ่

กะอีแค่พี่เมฆใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ไม่ใส่รองเท้า ไม่ใส่เสื้อ หน้ามัน หัวฟู ก็แค่นี้

จะอะไรกันนักหนา เดี๊ยวพี่เมฆกลับไปอาบน้ำออกมาก็หล่อเหมือนเดิม เฮอะ

ตกใจอะไรกัน ไอ้บ้าฉานนี่ก็อีกคน มันจะอะไรกันนักหนา กำกับชีวิตกูแต่เช้า ร่ายยาวมาเป็นชุด

กำลังหงุดหงิดอะไรหลายๆอย่าง พลันสายตาก็ต้องหยุดลงตรงที่ ตำแหน่งติดตั้งเมฆน้อย

แฮ่!!

ก็พี่เมฆเพิ่งตื่น อะไร อะไร มันก็เลยลุกขึ้นยืนเคารพธงชาติ ก็แค่นี้ แล้วเวลานอน ใครมันจะใส่กางเกงใน

ให้อึดอัดเล่า ว่าแล้วก็ต้องเอามือที่ลูบท้ายทอยแก้เก้อ เอามืออีกข้างมาปิดบังอำพรางความเป็นชาย

พร้อมกับตะแคงตัวกลับเข้าไปในห้องเหมือนเดิม

ปิดประตูบานเลื่อนระเบียง พร้อมถอนหายใจหนีอายเสียเฮือกใหญ่

“ เฮ้ยยยยยยย ขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย กูตกใจหมด”

“คิดยังงัยถึงได้ออกไปตรงระเบียง มึงจะออกไปเดินแบบโชว์ร่องรอยเสียตัวเรอะ”
“กูไม่ได้คิดอะไร ก็ข้างล่างเสียงดังจะตาย กูนอนไม่หลับนี่”

“เค้ากำลังขนของใส่รถ จะไปกระบี่กันนะสิ มีแต่มึงที่นอนไม่ยอมตื่น ขี้เซาจริง”

น่าน บ่นไม่พอ มีท่าส่ายหัวประกอบ ชิส์ ไอ้คุณชาย ก็ลองมานอนคิดมากเหมือนกูมั้ยเล่า

แล้วกูจะดู ว่ามึงจะนอนตื่นเหมือนกูมั้ย เวร

“ รีบๆไปอาบน้ำได้เลยเมฆ เสื้อผ้า เดี๊ยวกูเตรียมให้ แล้วอย่านาน แม่มึงรออยู่ข้างล่างแต่เช้าแล้ว”

มือที่กระตุกผ้าเช็ดตัว ชะงักลงทันที แม่มารอแต่เช้า

ฟังเท่าไหร่ก็ไม่ชินสักที เหมือนฝัน ผมได้เจอแม่ตัวจริงเป็นๆแล้ว

ไม่ต้องโหยหา ไม่ต้องจินตนาการ แล้วตอนนี้ เรากำลังจะไปเที่ยวบ้านแม่ที่กระบี่กัน

แค่คิด ในใจก็ฟูฟ่องไปด้วยความสุข

ผมเดินฮัมเพลงยิ้มกริ่ม กระแทกใหล่ไอ้ฉานจะไปอาบน้ำ

พลันขาก็ต้องสะดุดลง เพราะมีท่อนขาของใครอีกคนมาขวางไว้

ผมมองหน้าไอ้คนขวางทางด้วยแววตาหาเรื่อง

แต่ไอ้ฉานก็ได้แต่ยักคิ้วให้

“งัย มีความสุขจริงนะมึง กูก็มีความสุขจังวะ ไหนๆ ตูดหายระบมหรือยัง” แถมจับก้นพิสูจน์ความจริงทางกายภาพอีกนะ

ไอ้เชี่ย แล้วมึงจะพูดถึงเรื่องนี้ให้กูอายทำไม

ไอ้นิสัยไม่ดี เห็นกูมีความสุขเป็นไม่ได้

“อะไร หลบไปสิจะอาบน้ำ มึงรีบไม่ใช่หรืองัย แม่รออยู่ไม่ใช้เหรอ ปล่อยสิ”

“หืมม อะไรๆ จะสู้ก็มองหน้าสิ แล้วนี่จะหลบตาทำไม หือ “ แล้วใครมันจะไปกล้ามองไอ้คนตรงหน้าเล่า

ก็มันทำสายตากรุ้มกริ่มตลอดเวลา แล้วไอ้สายตาพราวระยับนั่น

ถ้าพี่เมฆไม่อ่อนเดียงสาจนเกินไป ก็แปลได้ว่า มันมีความต้องการไม่ใช่หรือไง

ไม่ได้นะเว้ย ตูดยังไม่หายระบม ขืนทำอะไรประเจิดประเจ้อตอนนี้

เสียงร้องของพี่เมฆ คงทำให้คนในบ้านได้แห่ขึ้นมาชมมหรสพ หนังสดกันถ้วนหน้าแน่

“ฉาน เมฆจะไปอาบน้ำ ปล่อยก่อนเถอะนะ “ เสียงอ่อนเสียงหวาน พร้อมส่งสายตาวับวาวแถมให้

แล้วมารยาร้อยที่เท่าไหร่ อย่าไปสนใจก็ได้ผล

ไอ้ฉานมันปล่อยมือผม พร้อมส่งสายตาที่มีความหมายแฝงมาอย่างลึกซึ้ง

“ เฮ้ย เมฆ เดี๊ยวมึงเจอพ่อมึงแน่ ไอ้ลูกหมา” แฮ่ๆ ก่อนที่พี่เมฆจะเสียท่า เราก็ต้อง ชิงตัดหน้าไปก่อน

ด้วยกระบวนท่า กระตุก ฉานน้อยห้อยต่องแต่ง  แล้วใส่เกียร์หมา วิ่งเข้าห้องน้ำไป

อาบน้ำ ฮัมเพลงสบายใจ อย่าได้สะทกสะท้านกับเสียงรอดไรฟันจากคนข้างนอก ให้เสียขวัญและกำลังใจ


เสียงตะกุกตะกักด้านนอก เงียบไปสักพักแล้ว ก่อนที่ผมจะอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็กินเวลาไปอีกนานพอดู

ไม่ใช่อะไรหรอกครับ  ผมประหม่า หนทางข้างหน้าบอกผมว่า ผมกำลังเปิดตัวเองออกจากกะลาไปหาทุ่งหญ้ากว้าง

เลยจมอยู่กับการสร้างความเชื่อมั่นในห้องน้ำนานไป ออกมาอีกที จึงพบว่า คู่กรณี นอนหลับรอผมอยู่บนเตียงแล้วเรียบร้อย


ที่เรียบร้อยไปกว่านั้นคือ ไอ้ฉานเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าให้ แถมเตรียมเสื้อผ้าสำหรับวันนี้ให้ด้วย
โอ้ว พระเจ้า ถ้าพี่เมฆ จะถลาลงไปคลุกเคล้าใบหน้ากับอกกว้างจะเป็นไรไหม

จะดูเป็นการไม่รักนวลสงวนตัวรึเปล่า

แต่จะทำไงได้เล่า ก็มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนี่นา ไอ้ฉานนอนหลับตาพริ้มเชียว

แพขนตาเรียงเป็นระเบียบ ปากเหยียดเป็นเส้นตรง จมูกโด่งรั้น หน้าเนียนใสเชียว ชิส์

โอ้ยยย อยากกัดปลายจมูกนั้นด้วยความหมั่นไส้ แล้วเอาไรหนวดที่เพิ่งโกน มีแต่โคนสากๆ

ไปไซร้ๆ ซอกคอมันเสียจริง มันคงสยิวจนร้องคราง วะ ฮ่า ฮ่า

แต่พี่เมฆไม่กล้าหรอกครับ แหะ แหะ แรกๆอาจจะเป็นผู้นำ แต่พอไม่นาน ไอ้ฉานมันอาจขึ้นนำอย่างที่เคยเป็น

เห็นจะไม่คุ้ม ผมสู้แรงควายมันไม่ได้หรอก

พี่เมฆเป็นนายเอก บอบบ๊าง บอบบาง

“ เอ้า มึงจะยืนยิ้มอยู่อีกนานมั้ยเมฆ เดียวนี้เพี้ยนๆ นะเนี่ย “ หงะ ไอ้ฉานมันตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ว๊า อายมันชะมัด
แล้วนี่คิดในใจเฉยๆ แล้วกูยิ้มตอนไหนวะครับเนี่ย ไม่เนียนๆ

“ เหนื่อยเหรอ เห็นหลับ “ มันคงตื่นเช้ามากๆอะครับวันนี้ จะสงสารก็สงสารนะ แต่นึกที่มันทำผมไว้  เจ็บมาสองสามวันแล้วยังหายไม่สนิทเท่าไหร่ แล้วอยากจะสมน้ำหน้า

“ อืม ตื่นเช้ามาเตรียมของ แล้วไปรับแม่ยายที่โรงแรม แล้วต้องมาจัดการเมียอีก แมร่ง เยอะอย่าง รู้งี้ หาเมียไกลๆตัวก็ดีอ่ะ”

“เอาดิ ใครห้ามอ่ะ นี่คือที่เป็นอยู่นี่กูยอมงั้นดิ อ้าขารอ เอาหมอนหนุนตูดรอเลยดิ” แมร่ง โกรธมันครับ พูดออกมาได้ ถึงมันจะพูดเล่นก็เหอะ แต่จะรู้มั้ย ว่าใจผมหายลงตาตุ่มเลย น้ำหูน้ำตาไหล

“อ้าว พูดเล่น แล้วนี่ร้องไห้ทำไมหืม มาแต่งตัวสิ เนี่ย เตรียมไว้ให้ทุกอย่างแล้ว” มันกุลีกุจอ หยิบเสื้อผ้า มาให้ผมครับ
ส่วนผมนั้น ทำอะไรอะเหรอ ก็ยื่นนิ่งๆ เอามือปาดน้ำตา รอมันบริการไปสิครับ มันเสือกหาเรื่องให้พี่เมฆ อารมณ์ไม่ดีเอง

ช่วยไม่ได้


มันจะใส่เสื้อให้ ผมก็แค่ยกมือเหยียดตรงทั้งสองข้าง

มันใส่กางเกงให้ ผมก็แค่ยกขาขึ้นนิดหน่อย

แล้วก็นั่งลง ให้มันดรายผม ทำนู่นนี่นั่นให้ แล้วแต่มันจะทำเหอะครับ

วันนี้ พี่เมฆจะเป็นตุ๊กตายาง เอ้ยย ตุ๊กตาบลายด์ให้วันนึง
“นี่มึงเนียน แกล้งงอนให้กูทำให้ป่ะเนี่ยเมฆ ดูมีพิรุธนะเนี่ย แล้วดูสิ เมียที่ไหน ให้สามีทำให้ทุกอย่าง ปกติอ่ะ เสื้อผ้า ยาสีฟัน มึงต้องเตรียมให้สามีคนนี้นะเว้ย  นี่อะไร กลายเป็นกูต้องทำให้ซะงั้น” มันร่ายยาวเลยครับ อักอั้นตันใจรัยป่าววะเนี่ย

อยากปล้ำกูทำเมียเองช่วยไม่ได้

“มึงจะหาใหม่อยู่แล้วนิ” งอนมันครับ ไม่ได้จริงจังอะไร แต่อยากให้ง้อ นี่เค้าเรียกสาวแตกหรือยังครับ

ป๊าบ เสียงไอ้ฉานมันระเบิดกบาลผม อูย เจ็บ แอบลอบค้อนมันไป หนึ่งจึ๊ก

“ยังจะปากดีอีก แล้วเมื่อกี้ใครร้องไห้ ถ้ากูหาใหม่ หรือหาคนอื่น กูมีไปนานแล้วมั้ยเมฆ จะมาคอยเฝ้ามึงแบบนี้เหรอ หือ”

มันลงมือกับหัวผมอีก ป๊าบ ไอ้เชี่ยนี่ แต่ก็จริงของมัน

มีคนมาชอบมันเยอะครับ ตั้งแต่เด็ก ยันสาวแก่แม่หม้าย กระเทยควายทั้งหลายยังส่งตัวเองเข้าประกวด

แต่ไอ้ฉาน ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ ทั้งสาว ทั้งเกย์ หรือแม้แต่กระเทย

นอกจากมาให้กินแบบจานด่วน แล้วก็เลิกแล้วกันไป ส่วนใหญ่ มันไม่ให้ผมรู้ แต่อย่างว่า เพื่อนมันกะเพื่อนผม

แทบจะเป็นก๊วนเดียวกัน เพราะฉะนั้น เวลามันแซวกันในวงเหล้า มีเหรอจะผ่านหูผม

ตอนที่รู้คือ ใจมันปวดแปล๊บๆ แค่รู้สึกหงุดงิด ไม่ชอบ พาลจะไม่อยากคุยกะมัน มันถามคำผมตอบคำ
ตอนนั้นคิดว่าผมแค่ไม่ชอบพฤติกรรมมันเฉยๆ เพิ่งมารู้ตอนมันหลั่งน้ำแสดงความเป็นเจ้าของผมว่า

ไอ้อาการแบบนั้น เรียกว่า “หึง” และ “หวง” ฉิบหาย นี่พี่เมฆก็แอบชอบมันแบบคู่เกย์มานานแล้วสิ

มิน่า พวกเพื่อนมันถึงได้แซวกันสนุกปาก นี่เริ่มคิดว่า ตกลงที่มันแซว นี่เล่นๆ หรือมันรู้อะไรแบบจริงจังวะ
เปิดเทอม ต้องแอบหาคำตอบให้ได้ พี่เมฆ เสียเชิงชายหมดเลย แมร่ง


“อ้าว เสร็จแล้ว ลงไปได้แล้วครับคุณชาย แมร่ง เค้ารอมึงอยู่คนเดียวเลยครับ คิดว่าเป็นพระเอกหรือไง ออกไปเป็นคนสุดท้ายเลย” มันดันหลังให้ผมเดินออกไปครับ

แต่

“เอร้ยยยย ฉาน กูออกไปไม่ได้อ่ะ” แหะ แหะ

“มัยอีก มีอะไรอีก เยอะอย่างนะมึง”

“ก็ กูเป็นคุณชายไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ไม่มีพรมแดงปูเลยอ่ะ กูเดินไม่ได้”

“สาด กูนึกว่าอะไร ให้กูอุ้มมั้ยหละ แต่ว่า ไม่ไปข้างล่างนะ กูอุ้มไปเตียงเป็นอย่างเดียว”

“พอเหอะ เลิกเล่น เข้าตัวหวะ เดียวนี้ลามกนะมึง”


กว่าจะรวมตัวกันในรถตู้สุดหรู TOYOTA ALPHAD ได้ ก็โล้งเล้งกันอยู่อีกนานเลยครับ

แหม รถตู้บริษัทพ่อไอ้ฉาน นี่มันดีจริงๆครับ พี่เมฆขึ้นรถมาได้ ตามสไตล์ วัยรุ่น จองเบานั่งหลังสุดเลยครับ

กับไอ้ฉานสองคน จากนั้น เราก็ตีตั๋วศพ ทันทีครับ จนแม่ๆ ป้าๆ แซวกันว่า มาเที่ยวนะไม่ใช่มานอน

ก็นะครับ นี่ขนาดตีตั๋วศพกันแล้ว ยังไม่วายต้องหลับๆ ตื่นๆ

เพราะแม่ๆ ทั้งหลาย แวะมันตลอดทางเลยครับ

นี่ยังสงสัยอยู่ว่า คนที่น่าสนุกตื่นเต้น นี่มันต้องผมไม่ใช่เหรอ

แต่ทำไมกลายเป็นสมาคมแม่บ้านไปได้เนี่ย พี่เมฆละไม่เข้าใจ

แม่ๆ แวะมันทุกที่ ที่สามารถแวะได้ครับ แวะมาตั้งแต่ สมุทรสาคร

ยันเพชรบุรี ประจวบ โอ้ยยยยยยยย จะถึงกระบี่เมื่อไหร่วะเนี่ย

นี่อาจจะเป็นทริปที่เราอาจจะต้องอยู่บนรถ สามวันสองคืนก็ได้นะครับ

แค่ข้างทางมีของประจำถิ่นตั้งแผงขาย แม่ๆก็แวะกัน จะตื่นเต้นอะไรกันเนี่ย

ผมก็หงุดหงิดไปเรื่อยครับ เนื่องจากทุกครั้งที่จอดแวะ แม่ๆจะเรียกผมลงไปเดินเล่นด้วยทุกครั้ง

จะมีคนที่ถูกปลุกแล้วยังร่าเริงอยู่ได้ ก็คือไอ้คนข้างๆผมนี่แหละครับ

ปล่อยไป ไอ้บ้านี่มันเข้ากะผู้ใหญ่เก่ง ให้มันทำคะแนน ให้หนำใจ ชิส์ พี่เมฆก็น่างอต่อไปสิครับ

“เป็นอะไร หืม หงุดหงิดง่ายจังเลย นี่อยากกินอะไรเปรี้ยวๆมั่งป่าว” มันถามผมตอนที่แม่ๆ ลงไปซื้อผลไม้ข้างทางครับ
ผมไม่ลงตามระเบียบ อยากจะนอน แต่ก็ยังนอนไม่หลับ

“ ป่าว อยากนอนอ่ะ แต่พอจะหลับโดนปลุกตลอด แม่ๆ แกล้งกูปะเนี่ย ว่าแต่เกี่ยวอะไรกะของเปรี้ยววะ”
ยังงงอยู่ ผมหงุดหงิด แต่ของเปรี้ยวมาเกี่ยวไรวะ ตรรกไหนของมัน

“อ้าวก็ไม่รู้ เค้าว่าคนท้องอ่ะ จะหงุดหงิดง่าย แต่กินของเปรี้ยวแล้วก็หาย”

“อ๋อ” ถึงบางอ้อ ไอ้นี่ แมร่ง เล่นกูทุกทาง ผมเอาเท้ายันมันไปโครมนึงครับ โทษฐาน กัดผมเรื่องนี้ตลอด

รู้ทั้งรู้ ว่าเอาเรื่องนี้มาเล่น ผมชนะมันไม่ได้ ก็นะ มันมีหลักฐานนี่นา

ฮึ่ยยยยยยยยยยยยยย.........หมั่นไส้มาน

ผมพลิกตัวหันหลังให้มันครับ ขอหลับหนีอาย อีกอย่างสู้ไปก็แพ้ครับ เกมส์นี้มันชนะใสๆ

“เดี๊ยวสิ มาคุยกันก่อน เฮ้ยเมฆ อย่าแกล้งหลับดิ” โอยย กูจะนอน ทั้งเรียกทั้งเขย่าตัวกูแบบนี้ กูจะได้นอนมั้ย

“ ว่ามาสิ ฟังอยู่ ” เสียงทอแรให้มันรู้ว่า กูง่วงมากแล้วนะ

“ฮื่อ มึงมีมารยาทนิดนึง แม่ก็สอนมาดี สามีมึงก็มีมารยาทนะ ว่าเวลาคุย ต้องมองหน้าคนที่คุยด้วย”

ผมดีดตัวลุกขึ้นมานั่งตัวตรง หันหน้าไปหามัน แบบตาจ้องตา ปลายจมูกชี้ปลายจมูกเลยครับ

เอาเลย เอาให้มันสุดๆครับ ไหนๆ วันนี้ผมคงไม่ได้นอนเต็มที่แน่ๆแล้ว

“ดีมาก อย่าทำหน้าหมาง่วงใส่ผัวสิ สดชื่นนิดนึง ยิ้มด้วย”

“เชี่ยยยยยฉาน กูไม่ใช่หุ่นกระบอกนะมึง แล้วมีอะไรจะคุยเนี่ย หือ เร็วๆ นี่กูหันมามองหน้า สบตาปิ๊งๆเลยนะ “
ผมฉีกยิ้มใส่มันแบบจริงใจมากครับ เห็นฟันครบทุกซี่ ถ้ามีหินปูน ก็คงชัดเจนแบบไม่ต้องง้างปากกันเลยทีเดียว

“ไม่มีอะไร อยากจะสวีตกะเมียเฉยๆ มาฮันนีมูนทั้งที เมียเอาแต่นอน”

“อย่ามาลีลาน่าฉาน มึงมีอะไรก็คุยมา มึงจะกลบเกลื่อนใครได้กูไม่ว่า แต่กะกูคือมันไม่เนียนอ่ะ เข้าใจปะน้อง” ตบไหล่มันไปเบาๆ ตบแรงไม่กล้า เดี๊ยวหมาบ้ามันสวน

ผมเริ่มจับทางมันได้ครับว่า ดูเหมือนมันมีเรื่องอยากคุยกับผม มาสองสามวันตั้งแต่เกิดเรื่องแล้วหละ แต่คงไม่มีโอกาส

แล้วมันเองก็คงจะอึดอัดกับเรื่องนี้ไม่น้อย เพียงแต่ผมไม่รู้ว่า เรื่องที่คาใจมันอยู่คือเรื่องอะไร

เรื่องที่มันขืนใจผม แบบที่ผมเองก็สมยอมหน่อยๆ (เฮ้อออออ)

หรือว่า เรื่องของพี่เต้ เพราะตั้งแต่มันยื่นเอาหลักฐานให้ผมดู เรายังไม่เคยคุยกันแบบจริงจังเลยครับ

ผมเองก็มัวแต่ระบม แถมยังต้องปั่นงานให้แม่ ไหนจะงอนไอ้ฉาน

โอ้ย แค่นี้ก็หมดเวลา หมดโอกาสให้เราต้องคุยกันแล้วครับ

“หือว่าไง ต้องให้ทวงสัญญา มั้ย ว่าเราจะคุย.........”

“มันส่งข้อความมาหามึงไม่ใช่หรือไง” อ๋อ สงสัยเรื่องนี้นี่เอง

“ อืม เค้าส่งมาขอโทษ มึงแอบอ่านของกูแล้วนี่ “ แมร่งกำลังจะอธิบาย แต่มันก็แอบอ่านของผมไปก่อนหน้านี่แล้ว
แน่ๆ ไม่งั้นมันจะรู้เหรอ

“ตกลงเค้าชอบมึงจริงๆด้วย เหอะ กูน่าจะตัดไฟแต่ต้นลม เสียตั้งแต่ไอ้พวกนั่นบอกซะก็ดี” หือ นี่มีอะไรที่กูไม่รู้หลังแผนการณ์อีกเนี่ย

“พวกนั้น พวกไหน แล้วจัดการอะไร”

“ เหอะ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่มึงอะรู้รึยัง ว่าทำหน้าโง่เซ่อๆ ก็ไปกระแทกใจใครๆเค้าได้ กูหละ อยากให้เค้ามารู้จริงๆว่ามึงหนะ ร้อยเล่ห์แค่ไหน เก่งทุกเรื่อง แต่โง่เรื่องนี้ กูเหนื่อยทั้งกายทั้งใจทุกทีเลยแมร่ง”

“ก็ไม่มีอะไรนี่ ต่อไปนี้จะระวังตัวเองก็แล้วกันนะ แล้วมึงก็ไม่ต้องไปจัดการอะไรพี่เค้าลับหลังกูหละ ให้อภัยเค้าซะ เค้าคงอยากพิสูจน์ ความโง่มึงเหมือนกันอะฉาน”

“ความโง่อะไร หือ โหย ลองใจกูแรงไปมั้ย เรื่องไหนกูไม่ว่าหรอก แต่เรื่องนี้กูถือ”

“เพราะแบบนี้ไงฉาน เพราะมึงเผยจุดอ่อนให้ใครรู้แบบนี้ไง เค้าถึงเล่นมึงได้ถูกจุด”

“ก็ทำไงได้ ตอนนั้นอะไรๆ มันไม่เหมือนตอนนี้นี่ ถ้ากูบอกมึงไปตรงๆ แล้วมึงรับไม่ได้ มึงหายไป กูจะทำไงหละ”

“เว่อร์ๆ แล้วสุดท้ายเป็นไง กูก็รับได้นี่ แล้วอะไร ครั้งแรก ปล้ำกู จนกูกลัว ครั้งต่อไป มึงอดแน่ฉาน”

ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกไอ้ฉานขึ้นมาบ้างแล้วครับ ว่าที่ผ่านมา มันเองก็รุ้สึกสับสนเรื่องตัวมันเองกับผม อยู่มากแน่ๆ

มันถึงคิดล่วงหน้าไปสารพัด กลัวเรื่องที่ยังไม่เกิด จะว่าไป มันไม่ได้กระโตกกระตากอะไร ทุกอย่างมันค่อยๆไปค่อยไป มันสะสมมาตั้งแต่เรายังเป็นเด็กๆ มันผูกพันธ์

“ฉาน แล้วเปิดเทอม มึงจะบอกเพื่อนๆว่างัยดี ปิดดีมั้ยวะ กูว่านะ ดังไปทั่วมหาลัยแน่ๆ”

แค่ตอนที่โดนแซว ทั้งๆที่ยังไม่เป็นอะไรกัน ยังดังไกลขนาดนั้น

แล้วตอนนี้ ทุกอย่างเริ่มจริงจัง ไอ้ฉานเองก็เริ่มชัดเจน ไม่ต้องปิดบังความรู้สึกกับผมอีกต่อไป

แล้วจะยังไงวะเนี่ย มีสามีเป็นผู้ชายนี่มันลำบากจริงๆ โว้ย

“กลัวไร ก็บอกแค่เพื่อนสนิทๆ เราไปตามตรงนั่นแหละ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ช่างแมร่ง”

“หือ เพื่อนนะเว้ย ถ้ามันรับขึ้นมาไม่ได้จริงๆ” ผมคอตกเลยครับ ถ้าเพื่อนรู้ว่าที่มันแซวกันสนุกปาก
เป็นเรื่องจริงแล้วรับไม่ได้ ฮืออ ผมไม่อยากเสียเพื่อนนี่นา

“เอาน่า อย่าคิดมาก ไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่มึงกังวลหรอก ไม่เชื่อใจกูหรือไง กูจัดการได้นะ”
“อืมๆ “ เพลินครับไอ้ฉานมันพูดไปลูบหัวผมไป ผมเองก็เอาหัวถูๆกะหน้าอกมัน เพลิ๊นเพลิน

อ้อนเข้าไป สาวแตกได้ใจครับ

“อูย ร้อนจริงๆเลยนะคะ ดีนะเนี่ยที่เอาหมวกลงไป” แม่นิ่มครับ หูย กลับกันมาแล้ว หายกันไปอย่างนาน

ผมกับไอ้ฉาน ดีดตัวออกจากกันแทบไม่ทัน แล้วก็นะ ทุกร้านขายเหมือนกันหมดแหละครับ แต่แม่ๆผมก็ยังลงไป

ไม่เข้าใจจริงๆ แล้วพวกผู้หญิงนี่ยังไง รู้ทั้งรู้ว่าร้อน แต่ก็ยังลงไป แล้วก็กลับมาบ่น เฮ้ออ

“ น้องเมฆกับฉาน หิวกันหรือยังลูก เมฆตื่นยังลูก มาเที่ยวนะลูกนะ ดูสองข้างทางสิ สวยนะ แม่ชอบมากเลย”

“ครับ หิวนิดหน่อย ตื่นแล้วครับ แต่อยากนอนต่อแล้วหละ แม่ได้อะไรกันมาครับเนี่ย”

เอาเถอะครับ ถึงจะหงุดหงิดเรื่องนอนน้อย แต่เห็นแม่นิ่มดูมีความสุขดี ผมก็ดีใจ

“สละ หนะลูก แล้วก็ผลไม้อื่นๆอีกนิดหน่อย ซื้อเยอะไม่ได้ คุณแม่น้องเมฆบอกว่า ที่รีสอร์ทมีเยอะ ให้ซื้อแค่กินเล่นๆระหว่างทางก็พอ” หูย นี่ขนาดซื้อเล่นๆ ยังเต็มหลังรถขนาดนี้ ถ้าจริงจังขึ้นมา ผมกะไอ้ฉานอาจจะถูกผูกติดอยู่หลังรถได้
เกือบลืมเลยครับ ว่าทริปนี้ มีแม่ผมมาด้วย ไม่ได้ดูแลอะไรแม่เลยผม บกพร่องหน้าที่จริงๆ มัวแต่จะนอน

“คุณแม่ละครับ สนุกมั้ยครับ ทำใจแม่กับป้าเค้าหน่อยนะครับนานๆเค้าได้เปิดหูเปิดตาจาก จากพารากอนสักที เลยตื่นเต้นหนะครับ” กัดแม่ตัวเองนิด กัดแม่ไอ้ฉานหน่อย นี่อารมณ์ดีครับ อิอิ

“ไม่เป็นไรค่ะลูก สนุกดี แม่เองก็อยากมีเพื่อนเที่ยวแบบนี้มานานแล้ว” แม่เค้ายิ้มให้ผมครับ แม่ยิ้มแล้วสวยแบบนี้นี่เอง

ผมเลยออกมาหล่อ ล่อใจหมาบ้าแถวนี้ เหอะ เหอะ 

ทริปนี้ก็สนุกดีครับ แวะนู่นนี่นั่นกันตลอดทาง ผมเองก็ตื่นเต็มที่แล้ว ก็สนุกกะเค้าไปด้วย กินกันไปตลอดทริปครับ ไอ้ฉานก็ขยันปล่อยมุข ฮาบ้างแป๊กบ้างกันไปตลอดทาง จนกระทั่ง

มีโทรศัพท์เข้ามาอีกทีนั่นแหละครับ

คนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใคร “พีเต้” คนเดิม
คราวนี้ก่อนที่ผมจะทำอะไรลงไป ผมลอบมองหน้าไอ้ฉาน ดูอารมณ์มันก่อนครับว่าเป็นยังงัย และขออนุญาติมันไปในตัวด้วย

บอกตรงๆ ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้ไอ้ฉานหงุดหงิดใจในตอนนี้

หมาบ้ามันก็ยังเป็นหมาบ้าวันยังค่ำ ผมกลัวมันจะอาละวาดต่อหน้าแม่ๆทั้งหลายอะครับ

มันพยักหน้าน้อยๆ เป็นสัญญาณเชิงบอกับผมว่าให้รับได้

“ครับพี่เต้"
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 21-04-2010 22:33:50
^
^
^
จิ้มนุ้งเซ จึก จึก   :oo1: :oo1: ทลวงออกทางปาก

ไปอ่านก่อน ค่อยมาทลวงพี่ฉานต่อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 21-04-2010 23:11:57
แวบมาอ่านต่อค่า ช่วงหลังๆนี้น้องเมฆสาวแตกบ่อยจัง แต่ก็น่ารักดีนะ 5555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 21-04-2010 23:18:21
ค้างอะ พี่เต้โทรมาทำไมอะ :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 21-04-2010 23:21:16
โอ้ว พระเจ้า ถ้าพี่เมฆ จะถลาลงไปคลุกเคล้าใบหน้ากับอกกว้างจะเป็นไรไหม    <<   ไม่ได้นะ....   ขอเค้าก่อน    กร๊ากกก


พี่เมฆ สาวแตกขึ้นทุกวัน...55  
ส่วนเรื่องเพื่อน พี่เมฆอย่าไปซีเรียส เค้ารู้กันทั่วนะแหละ.  555  

 :L2:  คนแต่งจ้า...
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 21-04-2010 23:22:59
 :m1: :m1: :m1:
ดวงตะวันกับก้อนเมฆกลับมาหวานกันแบบเดิมแล้ว  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 21-04-2010 23:26:20
โดนข่มขืนแบบสมยอม  น้องเมฆนี่ร้ายนะเนี่ยะ :jul3:

หวานกันจริงๆนะ  อิจฉาอย่างรุนแรงงงงงง  :fire:
อยากมีแฟนอ่า ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆ  :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 21-04-2010 23:42:05
น้องเมฆน่ารัก  จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาติสามีก่อน อิอิ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 21-04-2010 23:50:27
"หลั่งน้ำแสดงความเป็นเจ้าของ"
ถามจริง จริ๊งงงงงงงง คำนี้คิดได้งัยอ่ะ :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 22-04-2010 00:00:01
เอาดิ ใครห้ามอ่ะ นี่คือที่เป็นอยู่นี่กูยอมงั้นดิ อ้าขารอ เอาหมอนหนุนตูดรอเลยดิ” แมร่ง โกรธมันครับ พูดออกมาได้ ถึงมันจะพูดเล่นก็เหอะ แต่จะรู้มั้ย ว่าใจผมหายลงตาตุ่มเลย น้ำหูน้ำตาไหล

ฮะๆๆๆ  เมฆ ยอกย้อนฉานได้ดี ฮากระจาย
ปากดี.... ต่อปากต่อคำดีนักนะเมฆ เด๋วยุฉานปิดปากด้วยปากซะเลย  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 22-04-2010 00:05:52
เมฆทั้งฮาทั้งน่ารัก ขนาดตอนประชดยังน่ารักเลย  
พี่ฉานจะไม่รักไม่หลงได้ไงเนี่ย

้เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 22-04-2010 01:31:02
รับโทรศัพท์แล้ว ต้องโดนพี่ฉานจัดอีกทีเป่าคิกๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 22-04-2010 06:59:22
การเดินทางกำลังราบรื่น
มีเรื่องให้นายฉานหงุดหงิดอีกนะไอ้พี่เต้
คราวนี้เมฆจะโดนไรมั้ยนะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 22-04-2010 07:25:32
กลับมาสู่บรรยากาศน่ารัก ๆ ของสองหนุ่มอ่านแล้วสบายใจจ้ะ

ท่านเมฆน่ารักขึ้นทุกวันเลยนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 22-04-2010 09:34:52
 :z3: :z3:

อิพี่เต้ !!!~
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 22-04-2010 10:17:05
ปั้มไว้ก่อน  o13  เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมจ๊ะ  :กอด1:  เด๋วไอกลับมาแล้วจะมาอ่านนะ (หวังว่าจะมีตอนใหม่มาอัฟเดทแล้วด้วยเนอะ)  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 22-04-2010 12:20:30
 :o8: คู่นี้จังง รักกันดี โดยไม่ต้องบเอ่ยปากบอก
รู้สึกถึงกันได้ลึกๆ ในใจ

ว่าแต่ พี่เต้ โทรมาอีกไมเนี่ยย  :z3:

งานจะเข้าพี่เมฆ อีกเปล่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 22-04-2010 12:39:45
อยากได้แฟนแบบฉานจัง ทำอะไรให้ทุกอย่างเลย  :impress2: อิจฉาเมฆอ่ะ เก็บฉานไว้ดีๆ นะ ระวังโดนแย่ง อิอิ  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-04-2010 20:13:44
อิพี่เต้ อีกแล้ว คราวนี้จะมาทำอะไรอีก  :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 22-04-2010 21:53:50
ดูท่าพี่เมฆจะเเอ๊บเเมนไม่อยู่เเล้วล่ะครับ 555
ว่าแต่พี่เต้มีเรื่องอะไร หวังว่าคงไม่แอบไปเซอร์ไพร์ที่กระบี่หรอกนะ 55
รออ่านตอนต่อไป  :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 23-04-2010 00:11:26
^
^
^
^
น่าสนๆ ไม่แน่ พี่เต้ อาจตามไปกระบี่อย่างรีบนว่าจริงๆ

ไอ้พี่ฉาน มันจะได้ข่มขืนเมียตัวเองอีกครั้ง
อร๊ายยยยยยย

 :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 23-04-2010 00:20:49
อยากให้ฉานจัดการกับอิพี่เต้ให้จบๆซะที

ตื้บมันเลย!!

 :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 23-04-2010 19:22:51
คืนนี้ดวงตะวันขึ้นมาฉานแสงแรงกล้าด้วยเถอะน้าาาาาา  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 23-04-2010 21:11:08
มารออออ โอมม จงมาๆ

 :call:

 :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 23-04-2010 21:32:28
อิพี่เต้  มันจะมาไม้ไหนอีกน้า
พี่ฉานดูแลภรรยาดีๆน้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 24-04-2010 11:26:08
แอบเห็นชื่อเรื่องแล้วสนใจ

เลยตามมาอ่านขอรับ

รอๆๆอ่านตอนต่อไป :m7:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 24-04-2010 15:35:59
:call:  ได้เวลาลงแล้ว  จงลงจงลงจงลง  :call:


ปล.   :z13: จิ้มเจาะไข่รีบน (อวาตาร์น่ารักจิงๆ)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 24-04-2010 20:38:58
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 25-04-2010 01:43:50
 :L2: :L2:
รอ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 25-04-2010 17:43:47
ตกหน้าแล้วง่ะ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 25-04-2010 23:49:12
ช่วยดันด้วยคนน

 :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 26-04-2010 20:18:59
ยังไม่มาอีกหรอครับ หรือว่าดวงตะวันกับก้อนเมฆนั่งรถเลยกระบี่ไปแล้วง่ะ

ตกมาหน้า 2 อีกแล้วง่ะ ตกแล้วตกอีกง่ะ

รีบๆมาเน้อ คิดถึง  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 23 ,21 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 26-04-2010 20:30:30
มารอด้วยคน

 :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 26-04-2010 21:58:00
ตอนที่ 24

ผมกำลังจะขยับตัวไปนั่งอีกฟากนึงของตัวรถ แต่ไอ้ฉานมันเอาท่อนขาที่โตกว่าท่อนซุงดักเอาไว้

แถมส่งสายตาปราม ไม่ให้ผมไปไหนไกลจากตัวมันอีกต่างหาก

แล้วกูจะกล้าออกเสียงคุยไหม

รู้งี้ มึงจะอนุญาติให้กูรับทำขี้เกลือสินเธาว์ ทำไมละเฮ้ย

ตอนกดรับโทรศัพท์ เสียงผมเป็นปกติอย่างที่สุด หากมันจะสั่น หรือมันจะผิดธรรมชาติบ้าง ก็เพราะไอ้คนข้างๆมันจ้องนี่แหละ ...

แต่ทำไม ปลายสายถึงได้เงียบไป แต่ผมยังรู้สึกได้ว่า เค้าเงียบแต่ไม่ได้วางสาย เหมือนชั่งใจอะไรสักอย่าง

ไอ้ฉานเองก็เห็นผมเงียบไป มันก็คอยเอาเท้ามาสะกิดขาผม ด้วยความอยากรู้ ไอ้ผมเองนั้น ก็ได้แต่ส่ายหน้าปฎิเสธมันไป

ก็เค้าไม่ได้พูดอะไรนี่เว้ยยยยย.......ผมส่งภาษาคาราโอเกะบอกมัน


แมร่ง ทางนู้นเงียบ ทางนี้เร่ง

ผมเริ่มเซ็ง หงุดหงิด และเริ่มจะพาล (คนข้างๆ)

มันมีไม่กี่ช่วงหรอกครับ ที่คนอารมณ์ดีอย่างผมจะหงุดหงิด แต่ครั้งนี้ มันมีปฎิกริยาเร้าจากหลายทาง ไหนจะนอนน้อย

ไหนจะเครียด ที่ไม่รู้จะคุยโทรศัพท์กับปลายสายยังไง แถมไอ้ฉานเองมันก็จ้องกดดันผมตลอดเวลาแบบนี้แล้วด้วย

ผมควรยุติทุกอย่างไว้ท่ามกลางความเงียบ หรือ ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ทุกอย่างมันเคลียร์ดีเนี่ย

สมองสองส่วนของผมกำลังประสานงานกันทางความคิดอย่างหนักหน่วง คิ้วผมคงขมวดจนเส้นเลือดปูดโปน

ไอ้คนข้างๆถึงได้ส่งปลายนิ้วโป้งมาคลึงคลายให้

“ พี่เต้ครับ ได้ยินเสียงเมฆมั้ยครับ ถ้าไม่ได้ยิน เมฆขออนุญาติวางนะครับพี่ สวัสดีครับ”

ผมพูดจบ ก็ไม่ลืมที่จะเว้นช่วงระยะเวลาสักครู เพื่อรอดูปฎิกริยาตอบกลับ

“อะ ได้ ยินครับ เอ่อ น้องเมฆ เอ่อ “ ปายสายตอบรับ แต่พูดตะกุกตะกักแบบคนกำลังประหม่าอย่างเต็มที่

เอาละครับพี่เมฆไม่ใช่คนใจร้ายอะไร

“ครับพี่เต้ “ ผมพูดประโยคนี้มาสองครั้งแล้ว และคิดว่า คงไม่ต้องพูดแบบนี้ไปจนจบบทสนทนาหรอกนะ

“พี่เต้ขอโทษนะครับ ถึงจะส่งข้อความมาขอโทษแล้ว แต่พี่ก็อยากพูดด้วยตัวเองมากกว่า”

“อ่าครับ ไม่เป็นไรครับ คิดว่าพี่เต้คงมีเหตุผลของพี่เต้ เมฆไม่ได้โกรธอะไรครับ” พูดกันตามตรง คนที่ผมควรจะโกรธ คือไอ้หมาบ้าข้างๆผมมากว่า เพราะถือว่าพี่เต้ยังไม่ได้ทำอะไรผมเลย

“น้องเมฆไม่โกรธจริงๆ เหรอครับ พี่เต้ยังอยากเจอน้องเมฆอยู่นะ แต่คิดว่าคงไม่มีหน้าไปเจอ “ ไม่โกรธแต่ข้องใจแต่ก็ไม่ถามหรอกนะครับพี่ (อันนี้คิดในใจ)

“ไม่เป็นไรนี่ครับ ไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอกครับพี่ เมฆไม่ได้ซีเรียสอะไร แค่ตกใจนิดหน่อย แต่วิธีการทันสมัยดีอะครับ เนียนด้วยอ่ะ” เอ๊ะ! นี่พี่เมฆนิสัยไม่ดีนิดหน่อยเหรอ แอบกัดพี่เต้ไปด้วย ติดมาจากไอ้ฉานนะครับนิสัยนี้

“ขอโทษครับ พี่เต้ขอโทษจริงๆ” น้ำเสียงพี่เต้ กระตุกใจผมวูบเลยครับ มันเต็มไปด้วยความเศร้า นี่ขนาดได้ยินแค่เสียง ผมยังจินตนาการหน้าพี่เค้าออกเลยว่า เป็นยังไง 

“เลิกโทษตัวเองเถอะครับ เมฆโอเคแล้วจริงๆ นะ   พี่เต้ไม่ไปเที่ยวไหนเหรอครับ”  พี่เต้ก็น่าจะปิดเทอมเหมือนนะ หรือจบแล้วก็ไม่รู้ ปีสี่แล้วนี่นา ชวนพี่เค้าคุยครับ บอกตรงๆ ผมคิดว่า คนเราถ้าจะคบกันต่อควรลืมเรื่องที่ต้องเสียความรู้สึกออกไป

แล้วก็เปิดโอกาสมองกันใหม่ อย่างน้อยๆ เราอาจจะได้เพื่อนที่ดีเพิ่มขึ้นมาอีกคนนึงก้ได้ ใครจะไปรู้

“ไปทิเบตไงครับ แต่ไปอาทิตย์หน้าอะครับ น้องเมฆลงใต้เมื่อไหร่ครับเนี่ย” นั่นสินะ พี่เต้จะไปทริปครอบครัวนี่นา แต่ว่าเสียงพี่เต้ก็ยังดูไม่โอเคเท่าไหร่ แต่ครั้นผมจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ไอ้คนข้างๆก้เริ่มเอาเท้าสะกิดทำหน้าเป็นหมาอยากรู้อีกแล้ว

สมน้ำหน้ามันครับ ผมคุยกะพี่เต้ เรียกได้ว่า น้องๆจากกระซิบ ก็ทุกคนอยู่กันเต็มรถนี่ครับ จะโหวกเหวกโวยวายก็ใช่ที่ เดี๋ยวเค้ารู้กันหมด ไอ้ฉานก็ได้แต่ทำหน้าตาส่งสัญญาณว่าฝากไว้ก่อน

ผมกะพี่เต้คุยกันอีกนิดหน่อยก็วางสายไป ผมเองก็สับสนมากมายกับเรื่องอะไรแบบนี้ ทุกเรื่องมันถาโถมมาหาผมรวดเร็วเกินไป

ผมเอาหัวพิงเบาะแล้วหลับตา ไม่อยากตอบคำถามอะไรในตอนนี้ เพราะตัวเองยังตอบคำถามอะไรมันไม่ได้เหมือนกัน

ใครจะไปคิดว่าในชีวิตนี้ คนอย่างพี่เมฆ จะเป็นที่ช่วงชิงของผู้ชายกันเอง คิดแล้วกูก็จะบ้า

ตั้งแต่เกิดมาจนโตเป็นหนุ่ม ไม่มีเสน่ห์ต่อสตรีเพศ ก็น่าอนาถใจแล้ว

พอจะมีเสน่ห์เข้าหน่อยก็เสือกมีกับผู้ชายด้วยกันอีก

ไอ้เรื่องมีแฟน ก็ไม่เคยจะคิด ว่าจะมามีแฟนเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง

แถมมัน ยังเป็นผู้ชาย

นี่ผมต้องยอมรับแล้วใช่มั้ยว่า “เป็นเกย์” ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ผมกับไอ้ฉานก็มีอะไรกันแล้ว

และผมเองก็ไม่ได้นึกรังเกียจความสัมพันธ์ ที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับมันเสียด้วยซ้ำ

พี่เมฆไม่รู้หรอกว่าการมีอะไรกับผู้หญิง มันสุขแบบไหน

แต่การมีอะไรกับผู้ชาย มันสุขมากมายจนอธิบายได้ยากจริงๆ ถึงแม้ครั้งแรกมันจะเกิดจากการฝืนใจ

แต่มันก็ยังดีว่าเกิดกับคนที่เรารัก ไม่ว่าจะรักแบบไหน ไม่ว่าก่อนหน้านี้ที่ผมกับมันยังเป็นแค่เพื่อนกัน

แต่ถ้าใครมาถามผมว่า ผมรักไอ้ฉานมั้ย ผมก็ตอบได้ว่า “รัก” แต่รักแบบไหน มันก็ค่อยๆชัดเจนไปตามกาลเวลาแหละครับ


ผมคงจมอยู่กับความคิดตัวเองนานมากไป จนคนข้างๆต้องออกแรงดึงผม ให้นอนสบายๆบนตักมัน
ไม่มีคำอธิบายใดๆ มากไปกว่า

“นอนแบบนี้ดีกว่า ไม่เมื่อย” แล้วมันก็หันกลับไปมองวิทิวทัศน์ด้านนอก ปล่อยให้ผมพักสายตาไปกับความสบายต่อไป

มันขยับตัวเองไปชิดริมหน้าต่างฝั่งนึง แล้วปล่อยให้ผมได้นอนเหยียดยาวตามสบาย มีมันนี่ผมอุ่นใจตลอดเวลาจริงๆ

ถ้าไม่นับเวลาที่มันโกรธและอาละวาดเป็นหมาบ้านะ

“ตายแล้วเมฆ นอนหนุนฉานสบายแต่ตัวเองแบบนั้น ฉานไม่ปวดเมื่อยจนชาไปแล้วเหรอ ทำไมทำแบบนี้ละลูก ฉานก็ยอมเมฆมากไปนะ ไม่ไหวๆ” เสียงแม่นิ่มโวยวายครับ บังเอิญว่าผมยัดเยียดความลำบากให้ฉานแสงสุดที่รักของแม่มากไป เลยแหวใส่ผมซะขนาดนั้น


ผมจะทำอะไรได้ นอกจากงัวเงียลุกขึ้นนั่ง สองข้างทางมืดแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้รถแล่นมาถึงส่วนไหนของประเทศไทย

นี่ผมนอนหลับไปนานแค่ไหนครับนี่

“ ก็มันให้เมฆนอนเองอะครับแม่ก็ เมฆไม่ได้บังคับมันสักหน่อย มึงก็นะ ให้แม่ว่ากูอยู่ได้” มันไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มๆใส่ผม

“ แล้วเป็นอะไร ทำหน้าเหมือนคนปวดท้องห้องน้ำ หืม มืดขนาดนี้ ไม่น่าจะมีปั๊มนะเว้ย” ผมรู้ครับว่ามันคงเมื่อย แต่ถ้าจะให้ถามดีๆ ถามหวานๆ พี่เมฆก็ทำไม่เป็นนี่ครับ

“ไม่เป็นอะไร แค่เหน็บกินอะ อูยยยยยย” เหอะ สมน้ำหน้า มึงอยากเป็นพระเอกนัก พี่เมฆเลยจัดให้ เต็มที่

ผมเอามือนวดๆ บีบๆ แถวต้นขามันครับ แบบนี้เนี่ยเค้าว่า ปากว่าตาขยิบป่าวหว่า ก็ถือว่าตอบแทนที่มันเสียสละตักให้ผมหนุนนะครับ

วิวสองข้างทางมืดมากครับ ถึงจะมีไฟส่องถนนเป็นระยะๆ แต่ว่ามันก็มืดอยู่ดี นานๆจะมีบ้านคนสักหลัง แถมต้นไม้ก็ใหญ่โตออกแนวน่ากลัวมากครับ

“ใกล้ถึงแล้วนะลูก นี่ใกล้เข้าเขตรีสอร์ทแล้ว มาถึงกันดึกดื่น คงยังไม่ได้เที่ยวชมอะไรนะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันนะ” แม่ครับ แต่เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดผมนะ แม่ยิ้มให้ผมทั้งปากทั้งนัยย์ตาเลยละครับ มันอุ่นขึ้นมาถึงในอกเลยทีเดียว

“ครับไม่เป็นไรครับ ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ เรามากันตั้งหลายวันนี่นา” คืนนี้พักเอาแรงก่อน พรุ่งนี้ค่อยตลุยกับทุกเรื่อง

“หิวกันมั้ยลูก แม่ให้ที่บ้านเค้าเตรียมข้าวต้มเอาไว้ให้ กินร้อนๆ ก่อนนอนดีมั้ย กลางวันที่นี่จะร้อน ถ้าออกไปทะเลนะ แต่กลางคืนจะเย็น ไม่หนาวแต่จะเย็นชื้นๆนะลูก กินอะไรร้อนๆจะได้หลับสบาย”


“ครับ ก็ดีครับ ขอบคุณมากครับแม่ครับ” ผมยกมือไหว้แม่ตัวเองครับ จริงๆแล้วแม่คงรู้ว่าวันนี้นอกจากนอนและปะทะคารมกะไอ้ฉานแล้ว ผมแทบจะไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย คงจะรู้ ว่าผมหิวแน่ๆ

“ดีขึ้นยังอ่ะ เหน็บอ่ะ หืม “ มันยิ้มครับ ส่ายหน้าไม่พูดอะไร แหม หมั่นไส้ มันเป็นพระเอกได้ตลอดเวลาจริงๆ ไม่มีหลุดบทเลยนะมึง ถ้าไม่ถามเดี๋ยวจะว่าพี่เมฆใจร้าย เนรคุณ เลยต้องเอาใจใส่กันนิดหน่อย เหอ เหอ

“ อืม นั่นสิ ฉาน ดีขึ้นหรือยังลูก เมฆอ่ะ หนักจะตาย เดี๋ยวกินอะไรร้อนๆ ก็คงดีขึ้นนะลูกนะ แม่เค้าบอกว่าใกล้ถึงแล้ว”

ฮือ ฮือ แม่นิ่มคร๊าบบบ ถึงเมฆจะเจอแม่ผู้ให้กำเนิดแล้ว แต่ลูกแม่นิ่มก็ยังชื่อเมฆอยู่นะครับ เป็นห่วงลูกเขยให้น้อยๆลงหน่อยก็ได้ ตัวพี่เมฆไม่ได้หนักมากมายอะไร มันอยากเป็นพระเอกเองช่วยไม่ได้นะครับ

“เมฆ ทำปากขมุบขมิบอะไรใส่แม่ นิสัยแย่ใหญ่แล้วนะเราอ่ะ หืม “ สลดเลยสิครับ เอาใจไอ้ฉาน แล้วมาพาลใส่พี่เมฆ อูย

ไอ้คนข้างๆมันค่อยๆยิ้มก่อนหลุดหัวเราะสะใจผมออกมาแบบเบาๆครับ ฝากไว้ก่อนเหอะมึง

รถเคลื่อนตัวมาจอดหน้าบ้านไม้ หลังใหญ่มากหลังนึงครับ มองฝ่าความมืดไป เหมือนบ้านไม้ในป่าครับ ตอนกลางวันต้องสวยมากแน่ๆ เลย แต่ว่า ผมไม่เห็นรีสอร์ทที่ว่าเลยนะเนี่ย มีแต่บ้านหลังนี้หลังเดียวเลย

“ ถึงแล้วละจ๊ะ ลงกันมาได้เลยนะ คนในบ้านคงจะหลับกันหมดแล้ว”

ผมมองดูนาฬิกา นี่มัน ห้าทุ่มกว่าแล้วนะครับ มีป้าคนนึงรอรับพวกเราอยู่หน้าบ้าน สักพักมีผู้ชายวัยกลางคนวิ่งมาสมทบครับ

หน้าบ้าน มีแผ่นไม้แผ่นใหญ่ แกะสลักไว้ว่า
 
“บ้านสยาวดี” ใช่ครับ มันคือชื่อแม่ผมเอง

เข้ามาในบ้านได้ บ้านสวยมากครับ เหมือนในสารคดี หรือหนังสือที่ผมเคยดูเลย เป็นบ้านไม้จริงทั้งหลัง มีสองชั้น รวมชั้นลอยครับ มีเทอเรซมองลงมาสู่ชั้นล่าง สวยมากครับ แม่ผมอยู่สบายใช่เล่นเลยนะเนี่ย บ้านหลังนี้ใหญ่กว่าบ้านผมสักสองสามเท่าได้ ผมไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า รู้ว่าแม่เค้าอยู่สบายไม่ลำบากจริงๆนะครับ ไม่ได้คิดว่า แม่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร แล้วทำไม วันนั้นถึงได้ทิ้งผมไว้ ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นจริงๆ แต่วูบนึงในความคิด น้ำตาผมมันก็ปริ่มๆจะไหล

จนไอ้ฉานมันมาตบบ่าผมเบาๆนั่นแหละครับ ถึงได้เก็บกลืนก้อนสะอื้นนั้นลงไป

เรารวมตัวกันที่โต๊ะกินข้าว เป็นข้าวต้มปลาทะเลสดๆ ร้อนๆ อร่อยมาก ผมฟาดไปหลายชามเลยทีเดียว

ก่อนจะแยกย้ายกันไปห้องใครห้องมัน ผมเองก็ต้องนอนกับไอ้ฉานตามระเบียบ

คิดแล้วก็สยิวในท้องน้อย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันครับ

กำลังจะเปิดประตูเข้าไป

“พี่เมฆ พรุ่งนี้ แม่จะแนะนำน้องสาวให้รู้จักนะลูกคืนนี้น้องนอนที่รีสอร์ท เดี๋ยวให้น้องพาไปเที่ยวรีสอร์ท อยากเที่ยวที่ไหน ก็บอกน้องไปนะลูกนะ

วันนี้พักผ่อนก่อน “ แม่นั่นเองครับ ผมคิดว่าน้องสาวคนละพ่อ จะอยู่บ้านนี้ด้วยกัน ถึงว่าตอนเข้าบ้านมา มีแต่คนดูแลบ้าน
ภายในบ้านดูอบอุ่นแต่เงียบเหงาเหลือเกิน

“ครับผม” สองเสียงประสานกันเลยครับ แม่ยิ้มให้เราทั้งคู่ ก่อนจะเดินไปห้องใกล้ๆกันที่แม่นิ่ม อยู่

ไอ้ฉานเข้าห้องมาได้ก็กระโดดขึ้นเตียงก่อนเลย ไอ้นี่ ตัวก็สกปรกโสโครก เดินทางมาทั้งวัน น้ำก็ยังไม่ได้อาบ

กระโดดขึ้นเตียงสีขาวสะอาด น่ากระทืบให้ไส้ใหลจริงๆ

“เฮ้ยๆ ไปอาบน้ำ อย่าเนียนๆ มึงนี่สกปรกจริงเลยนะไอ้ฉาน ทะเล่อทะล่าขึ้นไปได้ ใครจะกล้านอนวะนั่น”

“น้อยๆหน่อยจ๊ะเมียจ๋า มามะ มามะ มาให้พี่ฉานกอดหน่อย “ ผมยกนิ้วกลางส่งให้มันไปครับ หมั่นไส้มัน ยิ้มทั้งหน้ายิ้มทั้งขา แถวกางแขนรออีก ฝันไปเหอะมึง

“โอ้โห ท้าทาย ท้า ทาย เดี๊ยวจัดให้ ชุดใหญ่ เอาให้เดินไม่ได้เลยดีมั้ย หือ อาบด้วยกันเลย นะ ดีมั้ย ไม่เสียเวลา”

เห็นมั้ยครับ ไอ้ฉานมันก็เป็นเทพบุตรต่อหน้าผู้ใหญ่เท่านั้นแหละ

อยู่กับผมอะ มันเป็นซาตาน

“อะไร อะไร มึงอย่ามาทะลึ่งนะเว้ยฉาน ไม่ใช่บ้านเรา มึงอายเจ้าที่เจ้าทางบ้าง กูกลัวเค้าแอบมอง”

แก้เก้อไปงั้นแหละครับ จริงๆเวลาไอ้ฉานพูดเรื่องสองแง่สองง่ามทีไร ผมอายจะตาย

พี่เมฆอายเป็นนะครับ

“ฉาน มึงว่า ถ้าวันนึง อะไร อะไร มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราหวังไว้ เราจะเป็นยังไงวะ”

ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมถามมันไปแบบนี้ครับ อยากตีปากตัวเองเหมือนกัน

เพราะไอ้ฉานมันขมวดคิ้วฉับเลยครับ

“อะไร อะไร ที่มึงว่า มันคืออะไรวะ หรือว่าวันนี้มึงกะไอ้พี่เต้ เหี้ยนั่น ให้ความหวังอะไรกันไว้”

“ไปกันใหญ่แล้ว พี่เต้เกี่ยวอะไรวะ ไม่เอาๆ กูพูดขึ้นมาเฉยๆ เอง มึงนี่นะคิดไปไกลเกิน”

“อย่าให้รู้ ว่ามีอะไรบิดบังอยู่นะเมฆ “ มันมองหน้าเอาเรื่องเลยครับ แมร่ง ไม่น่าปากพล่อยทำเสียบรรยากาศดีๆเลย

“ไม่มีอะไร อยู่ดีๆ มันคิดขึ้นมาเองเฉยๆ กูขอโทษนะ ตกลงจะอาบมั้ยน้ำอ่ะ เร็วๆดิ ดึกแล้วหนาวนะเว้ย นี่ก็รู้สึกหนาวๆแล้ว”

“เออ ๆ อาบด้วยกัน เดี๊ยวมึงเข้าไปแช่น้ำนาน ไม่สบายอีก กูเองก็ขี้เกียจรอ ง่วงแล้ว”

มันลุกขึ้นลงมาถอดเสื้อถอดกางเกงเดี๋ยวนั้นเลยครับ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราจะอาบน้ำด้วยกัน

แต่ทำไมครั้งนี้ ผมมองไอ้ฉานแล้วรู้สึกใจเต้น และ อายๆมันยังไงไม่รู้

ในสมองก็คิดไปแต่เรื่องคืนนั้น พาลให้วูบวาบในท้องน้อย

“อ้าว เป็นอะไร ยืนนิ่งอยู่ได้ ถอดเสื้อผ้าสิ”

เหมือนเสียงมัจจุราชมากระชากสติให้เข้าเนื้อเข้าตัวอีกครั้งครับ ผมค่อยๆถอดเสื้อผ้า ออกทีละชิ้น ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่รู้สึกอายกับการทำอะไรแบบนี้ ไอ้ฉานมันเดินโทง โทง ไร้ยางอาย ไปหยิบผ้าขนหนูมาพันตัว

ก่อนที่จะหยิบอีกผืนนึงเดินมาทางผม มันปกติธรรมดา เป็นไอ้ฉานคนเดิม

แต่พี่เมฆคนนี้ไม่เหมือนเดิมอ่ะ ไอ้ฉานมันมีไรขนอ่อนๆขึ้นมาถึงสะดือเลยนะ แต่พี่เมฆอะไม่มี

ขนตามเนื้อตามตัวก็ไม่ค่อยมี ถ้าจะมีก็เป็นแค่ขนอ่อนๆเท่านั้น ไม่ได้เป็นขนแบบที่ไอ้ฉานมี

บางทีเวลามันเข้าใกล้ตัวผม บ่อยครั้งที่ขนมันมาสีแขนผมแล้วต้องสะดุ้ง เหมือนโดนกระแสไฟฟ้า

“คิดลามกอะไรอยู่ หืม หน้าแดงเลยนะมึง”

“ อะไร ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย” ต่อยหน้าท้องกลบเกลื่อน ความอายที่เลเวลสามครับ

“รอยหายไปเยอะแล้วนี่ เหลือไม่กี่รอย ที่เป็นรอยฟันอ่ะ ยังเหลืออยู่บ้าง เจ็บเหรอ”
ผมสะดุ้ง ไม่ใช่เพราะความเจ็บครับ แต่เป็นเพราะความร้อนที่นิ้วไอ้ฉานมันแตะโดนแผล

มันรู้สึกแปลกๆ อ่า

มันลูบๆที่แผล แล้วค่อยๆฝังหน้าลงไปที่ซอกคอผมครับ ปลายลิ้นชื้นๆ แตะลงตรงฐานคอเล่นเอาผมสะดุ้ง

“แหวะ เค็มอะ” อ้าวนะ ก็กูยังไม่ได้อาบน้ำ สมน้ำหน้า ใครบอกให้มึงเลียละวะไอ้บ้า

“สมน้ำหน้า” ผมทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปครับ

ในอ่างอาบน้ำ มีน้ำรออยู่ในอ่างแล้ว แม่คงให้คนเตรียมไว้ให้ ลองเอามือแตะๆดู น้ำกำลังอุ่นพอดี มีกลิ่นหอมแบบไทยๆ

เหมือนกลิ่นดอกไม้อะไรสักอย่าง รู้สึกผ่อนคลายดีครับ ในห้องน้ำบรรยากาศเป็นใจมากสำหรับคู่รัก แสงไฟสีส้ม ในห้องน้ำที่เป็นไม้ๆ บรรยากาศโรแมนติก จนพี่เมฆเสียวตรงบ้นท้ายช่วงล่างเลยครับ

ฮึ่ยยยยยย นี่กูคิดอะไรอยู่ว๊า

กำลังเอามือวักน้ำเล่น คิดอะไรเพลินๆ ก็มีมือมากอดจากข้างหลัง ไม่ได้สะดุ้งเพราะตกใจ ก็รู้อยู่แล้วว่าใคร

แต่ที่สะดุ้งคือ มันไม่ได้กอดปล่าว มันฝังจมูกฝังปากลงมาที่แถวคอผมด้วย

สะดุ้งเพราะสยิวอะครับ แฮ่ แฮ่

“ฉานมึงจะทำอะไร เค็มไม่ใช่เหรอ ไหนว่าจะอาบน้ำ “ รีบดักทางมันไว้ก่อนครับ ทั้งๆที่น้องชายมันเริ่มผงกหัวแบบกึ่มๆ

เอ่อ........เมฆน้อยมันกำลังจะพยศกับพ่อมันแล้วค๊าบบ T_T

“ก็อาบน้ำไง แต่ก็ขอชื่นใจมึงก่อน ทำไม  ทำไม หือๆ” มันพูดไปเริ่มฟัดแก้มผมไปแล้วครับ

แล้วพี่เมฆเองก็รู้สึกว่า มีของกึ่งแข็งกึ่งนิ่มจากคนข้างหลัง สะกิดไปมาแถวๆต้นขาอยู่นา

“ ฉาน ฉาน มึงจะแช่น้ำด้วยกันป่าว” เสียงเริ่มสั่นแล้วอะนะ

“อืม แช่สิ มันก็พอแช่สองคนนี่ ถึงไม่พอก็แช่ได้ มันซ้อนกันได้” แหมพูดหน้าตายเลยนะไอ้กูปรี

เราสองคนแช่น้ำในอ่างเดียวกันครับ กำลังจะหลับตาผ่อนคลายได้ที่

“เมฆ รุ้ป่ะ ว่าคนเป็นเมียอ่ะ เค้าต้องเตรียมตัวแบบไหนให้สามี”

“หือ มึงพูดถึงอะไรวะ เตรียมตัว เตรียมตัวอะไรอ่ะ”

“อ้าว ก็เตรียมตัว อ่ะ เตรียมพร้อม ฮึ่ย จะบอกงัยดีว่า มึงทำไมเข้าใจอะไรยากนักวะเมฆ”

“ห่ะ แล้วมึงทำไมไม่พูดให้มันเข้าใจอะไรง่ายๆ หละ มึงพูดยากๆ กูไม่เข้าใจแล้วมันแปลกตรงไหน”

“โอยย .. เอาวะ คือ มึงฟังดีๆนะ เวลาอาบน้ำอ่ะ ปกติมึงล้างแต่ข้างนอกใช่ป่ะ แต่ทีนี้พอมีสามีแล้วอ่ะ ต้องล้างข้างในด้วย เข้าใจยัง” มันพูดไปเขิลไปครับ นานๆ มันถึงจะเขิลนะเนี่ย ของแปลก เลย

“ยังไงวะ ล้างข้างในที่มึงว่า กูไม่ใช่ศรีธนญชัยนะ ที่จะต้องถอดใส้ออกมาล้าง”

“ ฮึ่ย เมฆอ่ะ มึงช่วยเข้าใจอะไรง่ายๆหน่อยดิว๊า ไม่ใช่ล้างแบบนั้น”

“แล้วล้างแบบไหน หละ มึงอย่ามาลีลาสิ อะไรของมึงเนี่ย ขยุกขยิกไปมาอยู่ได้”

“ก็ล้างตรงนั้นอ่ะ ล้างเข้าไปข้างใน”

“ในไหน” เอาละครับ ในเมื่อมันไม่เคลียร์ ผมเองก็พร้อมจะเล่นยี่สิบคำถามกับมัน

“พูดครั้งเดียวนะเว้ย ล้างก้นอ่ะเมฆ มึงต้องล้างเข้าไปในก้น เข้าใจมั้ย ต่อไปนี้อ่ะ”

“ เออ ก็ แค่นี้ ไม ไม่พูดแบบนี้แต่แรกอ่ะ อ้ำอึ้งอยู่ได้”



เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย! หลังจากมีสติคิดได้ รู้สึกว่าเลือดทุกหยดในร่างกาย มารวมกันที่แก้มเลยครับ
ร้อนวูบวาบ

“มึงว่าอะไรนะ เฮ้ย ไม่เอา กูทำไม่เป็น” เขินครับเขิน เริ่มเอามือตีน้ำ เริ่มหาหนทางรอดเอาชีวิตกลับไป

“ก็ไม่รู้อ่ะ แต่ว่าต้องทำอะ ไม่งั้น กูก็จะได้ อะไร อะไร ที่ไม่อยากได้ของมึงมาอ่ะ”

เอาละครับ เราควรจะไร้เดียงสาแค่พองาม ผมเริ่มเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร


แต่ให้ตายเหอะครับ

ถ้าเป็นเกย์ พี่เมฆก็เป็น “มือใหม่หัดเกย์” ไม่ใช่ บอร์นทูบีเกย์ มาจากไหน

เพราะฉะนั้น ไอ้เรื่องแบบนี้ บอกตามตรงว่า มาเรียนรู้กับไอ้ฉานนี่แหละครับ

“แล้ววันนั้น ทำไม ไม่มี หละ”

“ไม่รู้สิ มันเป็นช่วงที่ มึงว่างเว้นจากศึกสงครามก้อนทองมั้ง” ห่ะ มีงี้ด้วยเหรอวะ


“แล้วมึงต้องล้างป่ะ “ แหม ความเท่าเทียมกันเท่านั้นครับ ที่พี่เมฆต้องการ

“ล้างสิ เดี๊ยวสอนให้นะ ว่ากูล้างไว้ให้มึงทำอะไร” แหม พูดไป ทำสายตาหลุกหลิกน่าสงสัยนะมึง
กูยิ่งกลัวๆ อยู่

“ฉาน เอ่อ เรารักกัน เป็นแฟนกัน โดยไม่ต้องมีเรื่องอย่างว่าไม่ได้เหรอวะ”

“อืม แล้วมึงไม่ว่าวให้ตัวเองได้มั้ยหละ” หงะ เชี่ย แมร่ง ถามคำถามยากไปไหม

“เฮ้ย นั่นมันเรื่องธรรมชาตินะเว้ย มันก็ต้องเอาออกบ้าง เดี๋ยวมันอัดอั้น แล้วล้นออกมาจากจมูกทางปากให้ทำไง สาด อายเค้าตายเลย”

“นี่ก็ธรรมชาติไง มึงต้องการ กูก็ต้องการ เราต้องการ ก็ต้องช่วยกัน เข้าใจป่าว”

“แล้วกูทำแบบที่ มึงทำด้วยได้ป่าว มันเจ็บอะฉาน มากเลยนะเว้ย โครตๆเลยกูขอบอก”

“ กูก็เจ็บ แต่อาจจะไม่มากแบบมึง แต่เดียวมีตัวช่วย บ่อยๆก็ไม่เจ็บหรอก “
หงะ พูดง่าย เหมือนถูสบู่รอบหัวนมเลยนะมึง แค่คิด พี่เมฆก็เกร็งส่วนนั้นแบบสัญชาตญาณพาไปแล้วครับ

“ทะลึ่ง อย่าไปพูดแบบนี้กะใครหละ” มันเอานิ้วดีดหูผมแล้วหัวเราะอะครับ

“อ้าว ทำไมอ่ะ ทีมึงยังพูดกะกูได้เลย แล้วจะห้ามทำไม” หงะ หน้ามันเริ่มโหด รู้สึกหูมันเริ่มจะมีควันจางๆออกมาแล้วนะ

“ กูพูดเล่นหรอกน่า บ้า น่าอายจะตาย จะให้ไปพูดกับใคร” ไม่ได้อ้อนนะครับ แค่เอาตัวรอด

“เอาเหอะ แล้วจะหาวิธีล้างมาให้ แล้วมึงก็ทำตามที่เค้าสอนแหละ วันนี้ก็ใช้ตัวช่วยไปก่อน


ห๊ะ อะไรนะ ถ้าพี่เมฆฟังไม่ผิด ไอ้หมาบ้ามันบอกวันนี้     

โอย....... อยากจะเป็นลม มานพูดอะไรของมาน

“นะ “ มันเอาจมูก มาถูๆไซร้ แถวซอกคอผมด้วย โอยยยย สยิว


“อ่า คือ มันไม่ดีมั้ง ไม่ใช่บ้านเราอ่ะ แล้วนี่ น้ำเย็นหมดแล้วอ่ะ หนาว แล้ว เราเลิกเล่นกันเหอะ นอนได้แล้วเนาะ พรุ่งนี้ตื่นเช้าอ่ะ ไปเที่ยวกัน นะๆ” แหม พูดไปลิ้นพันกันรัวเลยครับ ไอ้คนข้างๆ ยิ่งหัวเราะ ผมก็ยิ่งพูดรัวๆ ยิ่งมือมันลูบไล้แถวๆเอวผมแล้ว

แข้งขาพากันอ่อนเรี่ยวแรงเลยครับ

ก่อนที่จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ขอตัดไปที่ขอบอ่างได้มั้ย







ไม่ได้เหรอ


เอาเป็นว่า ปากไอ้หมาบ้า ประกบปากผมอะครับ

พี่เมฆเองกำลังจะอ้าปากประท้วง แต่ก็ไม่ทันจะเปล่งเสียงอะไร

มันก็ส่งลิ้นเข้ามาทักทายลิ้นผมอ่ะ แล้วมันก็เกี่ยวพันลิ้นกันไปมา

เคลิ้ม ทั้งนุ่มทั้งหวาน เลยต้องควานลิ้น ไปเกี่ยวลิ้นมันบ้าง

เอียงมุมปากไปมาสักนิด มันจะได้แนบชิดว่านี้

อืม ..... มันไล่ต้อนด้วยปลายลิ้น ก่อนที่จะเกี่ยวพันไปมา สลับกับควานไปทั่วโพรงปากผม

บางครั้งมันก็ผละออกมาขบเม้มเบาๆที่เปลือกปาก ทำให้ต้องส่งลิ้นออกมาเรียกปลายลิ้น

กลับเข้าไปหาความหวานกันใหม่ในปาก เดี๊ยวนี้ ไอ้ฉานมันไม่ได้แค่จูบแบบพันลิ้นไล่ต้อนกันไปมาในปากอย่างเดียว

มันมีดูดกลืนปลายลิ้น ให้ต้องครางฮึมฮัมในลำคออีกด้วย

มือมันเริ่มวนเวียนที่หน้าท้อง ไล่วนลงมาที่แอ่งสะดือ ก่อนลูบไล้ไปที่เอวและบั้นท้าย

ในน้ำ เราสัมผัสกันและกันในน้ำ

น้ำที่คิดว่าคลายความร้อนแล้ว กลับมาร้อนอีกครั้ง แต่เป็นความร้อนที่เกิดจากความต้องการพาไป


อ่อนไหว อ่อนหวาน เคลิบเคลิ้ม ล่องลอย

ครั้งนี้กับครั้งนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ก่อนที่อารมณ์จะไปไกลเกินเรียกกลับแบบนี้




“ เมฆ ฉานไม่ถนัดอ่ะ ไปที่เตียงเถอะนะ”


ไม่รู้ว่าพยักหน้าอนุญาตไปตอนไหน แต่ตอนนี้ ร่างผมลอยละลิ่วสู้อ้อมอกไอ้ฉาน
พี่เมฆสาบานนะครับ ว่าไม่ได้ใจง่าย แต่อารมณ์วูบไหว มันพาไปจริงๆ
==========================================

ตอนหน้าอีกแล้วคับท่าน  :haun4:

 :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Natavishi ที่ 26-04-2010 21:59:42
มาแล้วววว

 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 26-04-2010 22:13:53
 :z3:  อ๊ากกกกกก   รอตอนหน้า....


มือใหม่หัดเกย์เลยเหรอพี่เมฆ แนะนำให้เข้าเล้าเป็ดนะฮะ....  กูรูเยอะมาก  555     o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 26-04-2010 22:16:49
แหมๆๆ สองคนนี้หวานไม่แคร์สื่อ เราชอบๆ  :impress2:
ฉานทฤษฎีแน่นนนน งั้นขอดูภาคปฏิบัติอีกซักทีว่าผ่านป่าวววว  :z1:

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 26-04-2010 22:29:08
 :m1: :m1: :m1: ครั้งสองหวานกว่าครั้งแรงง่ะ  :L2: :L2: :L2:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 26-04-2010 22:30:43
โฮกกก  :pighaun:  ไม่ไหวแล้ววว
ตอนหน้า ขอด่วนๆเลยได้ไหมมมมม  :z1:
ใจจะขาดด ตัดฉับ ได้น่า ....มากกกกกกกก ค้างง จริงจัง

รอตอนหน้าๆ ตอนสำคัญ หุหุ
หวานไม่แคร์สื่อเจงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 26-04-2010 22:31:22
 :m25:
ค้างงง :serius2:
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 26-04-2010 22:33:20
อย่างนี้เค้าเรียกว่าใจง่ายชัดๆค่ะหนูเมฆ 55555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 26-04-2010 22:39:53
รอตอนหน้า  :haun4:

ท่าทางฉานจะศึกษามาเยอะ เป็นสามีที่ดีจริงๆ  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 26-04-2010 23:57:47
เมฆ + ฉาน ยังน่ารักเหมือนเดิม.... :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 27-04-2010 00:30:42
น้องเมฆไม่ได้ใจง่ายเลย  เเค่พี่ฉานขออะไร น้องเมฆก็ say yes ตลอดเลย  รอตอนต่อไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 27-04-2010 00:41:21
ตอนหน้าลากเลือดแน่ :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 27-04-2010 00:43:49
น้องเมฆช่างไร้เดียงสานัก ส่วนพี่ฉานก็รอบรู้ไปซะทุกเรื่อง
รู้ดีนักและรู้กระทั่งเรื่องล่างตู้ ...  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 27-04-2010 05:22:19
แล้วจะได้อาบน้ำไหมน๊าฮิๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 27-04-2010 07:56:19
ว้าว! คราวนี้เต็มใจทั้งคู่ :o8:
เมฆกับฉานหวานได้อีก ชอบชอบ
ขอบคุณคนแต่งกะคนโพส
ตอนหน้ามาไวไวน้า :z1:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 27-04-2010 08:59:28
พี่เมฆน่ารักจังเลยน้า 

มานั่งเกาะขอบเตียงรอตอนหน้าจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 27-04-2010 10:23:56
 :m25:  ตอนต่อไป เสียเลือดแน่เลย  เอิ๊กๆๆๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-04-2010 11:06:03
 :haun4: ตอนหน้าเตรียมสำลีอุดจมูกชิมิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 27-04-2010 11:14:51
 :pighaun: เพิ่งมาถึงวันแรก ก็...ซะแล้ว เอิ้กๆ ^..^
ว่าแต่คุณน้องสาวจะมาสร้างความร้าวฉานรึเปล่าเนี่ย  o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-04-2010 11:44:23
สงสัยตอนหน้า เลือดกำลังจะขาดแคลนแล้ว   :z1:   :z1:
ว่าแต่อิพี่ฉานรอบรู้จริงๆๆเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 27-04-2010 11:58:48
กรี๊ดดดดดดดดดด

มาทีค้างทีหนูไม่ยอมมมมมม :z3: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 27-04-2010 19:17:35
พี่ฉานทำไมรู้ดีจริงเนี่ย
พี่เมฆมาวันแรกก็โดนสะแล้ว   :haun4:
เอาตอนหน้ามาด่วนจ้า อยากเสียเลือด  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 27-04-2010 23:59:54
ขอดันดวงตะวันกะก้อนเมฆหน่อยนา จะตกไปหน้าสองแล้ว

ดวงตะวันรีบๆขึ้นมาน่ะ รออยู่คร้าบ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 28-04-2010 01:29:39
ตอนนี้เลือดออกจมูกเเล้วครับ
ตอนต่อไปคงออกหูออกตา (ออกเเนวน่ากลัวเล็กน้อย)
รอเมฆกับตะวันฉากต่อไปนะค๊าบบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 28-04-2010 04:58:32
คนเป็นเมีย.........  :laugh:  แล้วพี่ฉานรู้ได้ไง รึเคยเป็น (อุ๊ย ล้อเล่นนะเคอะ) :z1:

รอตอนหน้า มาต่อเร็วไวๆๆๆเน้ออออ  :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 28-04-2010 19:58:51
นุ้งเซ คืนนี้จะเอาเลือดมาเสริฟรึเปล่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 28-04-2010 21:38:12
 :pighaun: จัดให้หนักเลย ไรท์เตอร์  เตรียมสำลีแล้ว o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 29-04-2010 19:09:32
อึ๊บ อึ๊บ อึ๊บ อ๊าาา ซี๊ดดดด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 29-04-2010 19:19:08
มาฝากตัวเป็นแฟนคลับคนใหม่คร้าบ เรื่องสนุกมาก ชอบๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 29-04-2010 23:39:16
มาต่อสักทีจิ เค้าคิดถึงพี่ฉานกะน้องเมฆจนจะทนไม่ไหวแย้ววววววววว :z10:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 30-04-2010 00:32:40
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 30-04-2010 05:44:31
ค้างมาก  :serius2:
พี่จะมาสร้างความร้าวฉานหรือเปล่าหว้า  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 30-04-2010 12:46:09
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ น่ารักกันทั้งคู่จริงๆๆค่ะ
น้องเมฆก็แอบฮาได้ใจจริงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 30-04-2010 19:42:17

ตามอ่านทันแล้วสนุกดี

แต่กำลังคิดว่า อุปสรรคต่อไปจะใช่ น้องสาวของ เมฆ หรือเปล่าน้า?

เจ้สอง  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 01-05-2010 08:16:33
ขอเข้ามาดันดวงตะวันกะก้อนเมฆซักนิดนึง ตกไปหน้าสองอีกแร๊ะ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 01-05-2010 16:08:40
คิดถึงดวงตะวันกะก้อนเมฆจังจ๊ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 01-05-2010 21:17:14
อืม
โปรดอย่าเศร้า
เพราะเค้าไม่อยากเสียน้ำตา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 24 ,26 เมษา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 01-05-2010 22:01:28
แวบมาดูความคืบหน้าค่ะ เมื่อไรจะมานะตัวเอง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 01-05-2010 23:41:28
ตอนที่ 25

ร่างผมโดนไอ้หมาบ้า มันอุ้มจนตัวลอย ทั้งๆที่น้ำและฟองสบู่ ยังเกาะพราวไปทั้งตัว

แถมยังหยดมาตลอดทาง ยังหวั่นใจว่าใครจะตามเช็ด (ว่ะ)

จนมาหยุดที่เก้าอี้ไม้ หน้าโต๊ะเครื่องแป้งนั่นแหละ

มันถึงวางผมลงได้ ไอ้ฉานมันกุลีกุจอ ไปหยิบผ้าขนหนู ก่อนจะมาซับๆ ตามตัวผมและตัวมันเอง

ด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวกัน

“ ฉาน ควายที่บ้าน ยังไม่ได้เจอหนองน้ำเหรอ มึงจะรีบเพื่อ”

ไม่มีคำตอบอะไรออกจากปาก “อดีต เพื่อนสนิทผม” นอกจากแววตาตัดพ้อ พร้อมทั้งส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา

ผมรู้ ว่ามันต้องการจะบอกว่า “พี่เมฆกวนตีนไม่ดูเวลา”

แต่ให้ ฟ้าเป็นพยานเถอะครับว่า พี่เมฆกำลังประหม่า และรู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเกิดอะไร

“หนาวมั้ย” ไอ้คนตรงหน้า มันยังมีน้ำใจมาเป็นห่วง คนที่โดนผ้าขนหนูห่อตัว คลับคล้ายคับคลากับคำว่า”ดักแด้”

ทั้งๆ ที่ตัวมันเอง แก้ผ้าเดินโทง โทง ไปมา อยู่แท้ๆ

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

“จ้องหน้ากู ทำมะเขืออะไรอ่ะ” มันเล่นมายืนจ้องหน้าผม จ้องแล้วก็ไม่พูดอะไร แต่ก็ไม่ยอมขยับไปไหน


“อยากจูบมึงอะ”

“โอ้ย นี่ตอนรถตกหลุม มึงทำอะไรหล่นไปตอนนั้นป่ะ เชี่ย มีหน้ามาบอกว่าอยากจูบ  พอทีตอนนั้นละปล้ำกู”

พี่เมฆไม่ใช่คนที่คิดแค้นอะไรหรอกนะครับ แต่เรื่องนี้ มันฝังใจจริงๆ

“ก็นะ แล้วมันได้มั้ยเล่า จูบอ่ะ”

“แล้วกูเอาฝ่าตีน ยันหน้ามึงไว้รึไง” อยากจูบก็จูบดิวะ ที่ตอนมึงปล้ำ กูยังทำอะไรมึงไม่ได้เล้ย

ไอ้ห่าฉาน ไอ้กูปปรี ไอ้ ไอ้ ไอ้ ไอ้ .......คิดไม่ออกแล้วช่างแมร่ง
ถึงด่ามันได้ แต่ก็แค่ในใจทุกที โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย

“ เมฆ กูขอมากกว่าจูบด้วยได้ป่ะ เฮ้ยยยย มึงอย่าทำหน้างี้ดิ “

ผมทำหน้าแบบไหนอยู่เหรอครับ ก็คิดว่าไม่มีอะไร นอกจาก ช็อคจนตาค้างละมั้งนะ

มันพูด เหมือนขอกิน ขนมที่อยู่ในมือผมงั้นแหละ

แมร่ง ไร้ยางอายจริงๆ
“กูจะใส่ถุงยาง”

“ ไอ้ดร๊วกกกกกก มันใช่เรื่องนั้นเสียที่ไหนละเฮ้ย กูกลัวเจ็บอ่ะ” ประโยคสุดท้าย ผมพูดอ้อมแอ้ม ไม่สบตากับหมาบ้า

แถมยังเอาคางชิดอก เอาให้รู้กันไปเลยว่า กูกลัวตายแค่ไหน

อยากมั้ย มันก็อยาก

มันเหมือนกับการกินทุเรียนละมั้งครับ กว่าจะกินเนื้อที่หอมหวานข้างในได้

ทรมานแทบตายกับหนามแหลมคม

“กรู ก็ กลัวมึงเจ็บ” อ้าว ควาย แล้วผู้หญิงมากมายที่มึงเก็บได้ข้างทางหละ

มึงกลืนกินเข้าไปได้ยังไงวะไอ้หมาบ้า นี่ตกลงมึงสเตปเทฟ อย่างที่ใครๆ เค้าว่าจริงป่าววะ

ทำไมอยู่ต่อหน้ากูเนี่ย มันอ่อนเดียงสาจัง

แต่จูบกูแต่ละที เอาลิ้นมาพันแทบจะไม่ซ้ำท่า

เมื่อยลิ้นที่ต้องรุกตอบโต้จะแย่

“งั้นก็ใส่เสื้อผ้านอน เรียนตามตรง กูช่วยอะไรมากกว่านี้ไม่ได้อ่ะ “

“เฮ้ย ได้ไงอ่ะ บรรยากาศเป็นใจขนาดนี้ เมื่อกี้ในห้องน้ำ น้องมึงก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ผงกขึ้นทักทายมือกูแล้วด้วย”

“อ้าว ก็มึงไซร้คอกูบ้าง เม้มติ่งหูกูบ้าง ดูดคอกูอีก ล้วงนู่นควักนี่ น้องกูจะนอนนิ่งๆให้มึงลวนลามฟรีได้งัย มันก็ต้องยกหัวขึ้นขู่ดิวะ”

“เอางี้ๆ นะ ถ้ามึงเจ็บ กูจะหยุด ดีมั้ย “ แหม มันต่อรองยังกะไปกินข้าวเที่ยงยังงัยอย่างงั้นเลย

ถ้าไม่อยากกินข้าวหมกไก่ เราไปกินก๋วยเตี๋ยวกันดีมั้ย มึงว่าไง อะไรประมาณนั้น

แต่นี่มันไม่ใช่นะ มันไม่ใช่ เรากำลังจะ “ร่วมรัก” กำลังจะทำในสิ่งที่คนรักทั่วโลกเค้าทำกัน

ถึงมันจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาสำหรับคนไร้เดียงสาอย่างพี่เมฆนะเว้ย มึงลงมานอนให้กูเสียบมั้ยหละไอ้บ้า

“ เฮ้อ มึงจะทำอะไรก็ทำเหอะ แต่ถ้ากูเจ็บ กูเอามึงตายแน่ฉาน กูยังอยากเที่ยว อยากสนุก แต่กูก็อยากเป็นของมึงเหมือนกัน”


เฮ้ย แล้วนี่กูพูดอะไรออกไป


ผมได้แต่ยกมือขึ้นมาตบปากตัวเองซ้ำๆ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรหรอก รักตัวเองเหมือนกัน ใครจะยอมเจ็บ

ผมเห็นไอ้คนตรงหน้า มันยิ้ม

นี่แหละครับ สิ่งที่ทำให้พี่เมฆ เลิกกลัวความเจ็บ

เพราะรางวัลคือรอยยิ้มจากมันนี่แหละ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา มันทำอะไรให้ผมตั้งมากมาย แล้วทำไม พี่เมฆคนนี้จะตอบแทนมันบ้างไม่ได้

มันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร กับอีแค่ ร่วมกัน “ทำรัก”
แต่




แต่








แต่





มันต้องเริ่มนะ


เพราะท่านเมฆ ยังไร้เดียงสา เรื่องอย่างว่าอยู่

ถ้าผมและไอ้ฉานเป็นแม่เหล็ก เราก็คงเป็นแม่เหล็กคนละขั้วกัน

เพราะทันที ที่เราใกล้กัน เหมือนมีแรงดึงดูด อย่างมหาศาล ให้เราต้องเข้าไปใกล้กันมากขึ้น

สัมผัสกันมากขึ้น ผมไม่รู้ว่า แรงของใคร แรงของมัน หรือของผม

ที่เหวี่ยงร่างเราทั้งคู่ มาอยู่บนเตียงเดียวกัน ทั้งๆที่ปากเรายังจูบกันอยู่

มือมันยังเกาะเกี่ยวที่เอวผม แต่เราก็มานอนกอดกันบนเตียงเรียบร้อยแล้ว

ลิ้นของไอ้ฉาน กวาดต้อนทุกอย่างบนตัวผม ก่อนจะหยุดดูดดุน ขมเม้ม ซ้ำๆ ที่ยอดอก

ผมต้องแอ่นรับสัมผัสนั้นมากขึ้น พร้อมส่งเสียงเร่งเร้าให้คนตรงหน้า ทำอะไรที่มันมากกว่านี้

ลึกซึ้งกว่านี้ ให้มันร้อนแรงเทียบเท่ากับความต้องการ ที่มันลุกกระพือเหมือนพายุโหมอย่างรวดเร็วแบบนี้

ไม่ว่ามันลากลิ้นไปตรงไหน ก็เรียกความเสียวซ่านให้ผมได้ทุกที่ หน้าท้อง ผมหดเกร็งจนมันเป็นลอน

ให้ไอ้ฉานลากลิ้นไปมาสนุกปาก แอ่งสะดือ ที่มันคอยแต่จะฉกลิ้นลงไปเลาะเล็ม จนผมต้องส่งเสียงน่าอายออกมาอย่างกลั้นไม่ได้.....จะมีอะไรที่สุขซ่านและทรมานไปพร้อมกันแบบนี้อีกไหม
ทุกความเคลื่อนไหวของไอ้ฉาน ทำให้ความร้อนในร่างกายผมลุกฮือขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

ในใจมันบอกว่าต้องการ ยังอยากได้ อยากให้มันมากกว่านี้

แต่สองขาผมกับคอยแต่จะถอยหนี แรงถีบของสองเท้า

ทำเอาผ้าปูที่นอนยับย่น ลิ้นร้อนของไอ้ฉาน ตวัดผ่านไปมาแถวส่วนอ่อนไหวต้องห้าม....

 มันโกรธ จนต้องลุกขึ้นชี้หน้าไอ้ตัวต้นเหตุ พร้อมปล่อยน้ำเหนียวใส ขู่ออกมาไม่ขาดสาย

ให้รู้กันไปเลยว่า ตอนนี้ พี่เมฆ โกรธแค่ไหน หากไอ้คนตรงหน้ามันยังไม่รีบทำอะไรให้พี่เมฆได้ปลดปล่อยในตอนนี้
ได้มีอันเห็นดีกันแน่

“ ฉาน สักทีเหอะ ฉาน กูทรมานจะแย่อยู่แล้ว อูยย อือ “ เมื่อกี้ สองขายังต่อต้าน ซะผ้าปูที่นอนแทบหลุด

แต่ตอนนี้ ปากได้ร้องขอในสิ่งที่น่าอายออกไปอีกแล้ว

ไม่มีคำเยาะเย้ยใดๆ จากคนตรงหน้า นอกจากทำตามคำขอ


ไอ้ฉานอ้าปากว้างจนครอบครองส่วนอ่อนไหวที่แข็งแกร่งตรงหน้าของผมเอาไว้ทั้งหมด
มันถอนปากเข้าออกช้าๆ แต่เป็นจังหวะ จนเอวผมเรื่มลอยละลิ่วรับจังหวะนั้นเช่นกัน

ผมส่งเสียงครางยาว เมื่อมันผละทางแห่งนั้นของผม มาอมสองลูกที่อยู่ถัดไป มันเดาะลิ้นย้ำๆ เบาๆ แต่หนักแน่น

เร่าร้อนแต่ไม่รุนแรง มือผมจิกบ่าไอ้ฉานไว้แน่น เกร็งทุกส่วนในร่างกาย

เหมือนไอ้ฉานมันจะรู้ ว่าผมใกล้จุดสุดท้ายของความสุขสม มันถึงได้ครอบครองตรงนั้นอีกครั้ง

ครั้งนี้มันทั้งดูด ทั้งเลีย สลับกันไปมาซ้ำๆ ก่อนจะดูดเน้นๆ เป็นจังหวะรัว

แล้ว......พายุก็กลืนหายเข้าไปในปากไอ้ฉาน

ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ทำไมมันเหนื่อยถึงเพียงนี้

ตัวผมเรียบลื่นไปด้วยเหงื่อ ทั้งๆที่อุณหภูมิภายในห้อง เย็นเต็มที่

ไอ้ฉานแหงนหน้าเริ่ดขึ้น เหงื่อเกาะเป็นหยด ทั่วทั้งตัว ไหลลงมาตามหน้าลงมาถึงต้นคอ

วะ....น่ามองเป็นบ้า

ผมสุขแล้ว แต่ก็รู้ว่าไอ้คนตรงหน้ายังไม่ถึงฝั่งฝัน

ผมค่อยๆขยับตัวไปหามันอย่างช้าๆ ความประหม่าไม่เข้าใครออกใคร แต่จะมาเป็นช่วงเวลานี้ไม่ได้
“เราจะเดินไปด้วยกัน” เพราะฉะนั้น ในเมื่อคนตรงหน้ายังมีความต้องการ แล้วพี่เมฆคนนี้จะนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร

ผมประคองท่อนเนื้อ ที่มหึมากว่าของผม (เล็กน้อย) ไม่รู้จะเริ่มจากไหนดี สัญชาตญาณบอกว่า

ก็คงต้องทำเหมือนตอนที่เราปลดปล่อยตัวเองนั่นแหละมั้ง

ไอ้ฉานก้มลงมอง พร้อมย่นคิ้วสงสัยน้อยๆ มันคงอยากรู้ว่า ผมจะทำอะไรกับมันละมั้ง


โฮะ โฮะ ไอ้หน้ากูปรี มึงเสร็จกุแน่คราวนี้ ......ผมก้มหน้าลงไปครอบครองท่อนเนื้อแท่งนั้น แทนการลูบคลำด้วยมือ

พยายามเม้มริมฝีปาก ไม่ให้โดนฟัน กลิ่นพิเศษ ที่ลอยเข้าจมูก กระตุ้นความอยากรู้อยากลองให้ผมต้องเร่งจังหวะมากขึ้น

คนตรงหน้าเริ่มส่งเสียงครางฮึมฮา ให้ผมรู้สึกหึกเหิม ไม่ใช่แค่การ เคลื่อนไหว เข้าออกด้วยริมฝีปากแต่เพียงอย่างเดียว

ผมเริ่มใช้ลิ้น เลาะเล็ม “ของส่วนตัวของผม” อย่างย่ามใจ ยิ่งคนตรงหน้า ส่งเสียงว่าทรมานเท่าไหร่ ผมยิ่งเร่งจังหวะมากขึ้นเท่านั้น


“ มะ มะ ไม่ไหวแล้วเมฆ ไปเรียนรู้มาจากไหนเนี่ย อูย” ปากไม่ว่างจะตอบออกไป กล้วยยังคาอยู่เต็มปาก

ไอ้แค่ร้องอู้อี้อยู่ในปาก ตอบมันไปในใจว่า “จากมึงนั่นแหละไอ้บ้า สเตปพวกนี้ กูลอกมาจากมึงทั้งนั้น
ไอ้ฉานมันดันหน้าผมออกมาจากท่อนเนื้อตรงหน้า ก่อนจะจับให้พี่เมฆหนอนหงาย

อุวะ......มันเอาหมอนมาร้องก้นจริงๆด้วย โอย

ผมต้องรีบเอาหมอนมาปิดหน้าบดบังความอาย เมื่อ ท่อนเนื้อที่คับปากผมเมื่อสักครู่นี้ บัดนี้ มันชี้หน้าผมตลอดเวลา อย่างอาฆาตแค้น

ไอ้ฉานมันเงียบไปสักอึดใจ ก็ก้มลงมา ครอบครองริมฝีปากผมใหม่ มันเริ่มไล้ลิ้นไปตามตัวผมอีกครั้ง

อารมรณ์คุกครุ่นเริ่มร้อน เมื่อมันลากลิ้นลงไปหา เมฆน้อย ที่ตอนนี้ คงจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

คราวนี้ มันเริ่มลงลิ้นไปไกล แถวๆส่วนอ่อนไหวมีหูรุด ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเสียวแค่ไหน

แต่ที่รู้ ตอนนี้ หากก้นพี่เมฆมันลอยได้ และมันก็ร่อนไปร่อนมาตามจังหวะลิ้นร้อนนั่นแหละ

จนต้องรู้สึกสะดุ้งสุดตัวอีกครั้ง เมื่อไอ้ฉาน มันเริ่มส่งลิ้นเข้าไปสำรวจช่องทางด้านใน มันตวัดลิ้นไล้รอบๆๆปากทาง ก่อนแหย่เข้าแหย่ออก มือที่ลูบไล้ตามตัวผม เริ่มจับประคองเมฆน้อย เร่งจังหวะอีกครั้ง

ความเสียวมันพลุ่งพล่าน

ไอ้คนตรงหน้า มันลุกขึ้นคุงเข่า พร้อมบีบอะไรใส ๆ ออกมาจากหลอด ก่อนชโลมไปที่ท่อนเนื้อ

ที่ผมเพิ่งเห็นว่า มีปลอกใส่ตั้งแต่เมื่อไหร่(วะ) ไอ้ห่านี่ แมร่งเตรียมพร้อมล่วงหน้า
“ปล่อยตัวตามสบายนะ” มันบอกไว้ ก่อนจับแท่งใหญ่โตของมันมาจ่อปากทางด้านล่างของผม

ผมกระถดตัวหนีตามสัณชาตญาณการป้องกันตัว แต่ไอ้คนตรงหน้าก็ยังจับมาตามติด

ก่อนค่อยหมุนวนแท่งตรงหน้าเข้ามาด้านใน

“ โอ้ยยยยยยยยย พอก่อน ฉาน กูเจ็บอ่ะ” ผมสังเกตุว่าไอ้คนตรงหน้าเริ่มหน้าถอดสี แต่ความเจ็บที่แล่นริ้วขึ้นมา

มันต่อต้านทันทีที่แท่งนั้นเริ่มเคลื่อนที่เข้าด้านใน

มันเริ่มจูบปลอบใจผมอีกครั้ง พร้อมทั้งล่อหลอกด้วยความเสียวซ่านขั้นแม็ก เมื่อมือนั้นประคองส่วนอ่อนไหวของผม พร้อมเร่งจังหวะมือไปด้วย

“เอร้ยยยยยยยยย มันเข้ามาแล้ว โอยยย ฉาน มันจุก มันเสียด มันแสบอ่ะ”

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนตรงหน้า นอกจากใบหน้าที่แหงนเริด ขึ้น พร้อมผ่อนลมหายใจครั้งยิ่งใหญ่

“เมฆ มันแน่นแล้วเสียวมาก มึงอย่าเกร็ง สิ อูย”

รู้สึกได้เลยว่าไอ้คนตรงหน้าผม มันกำลังประคองอารมณ์ ไม่ให้ปลดปล่อยอย่างเต็มที่

ใบหน้าที่ใครๆต่างหลงใหลตอนนี้เหยเก ตาปิดจนหยี เหงื่อหยดไม่ต่างจากเม็ดฝน
ผมเริ่มรู้สึกดีขึ้นกว่าตอนที่แท่งนั้นเข้ามาใหม่ๆ มาก เมื่อทุกอย่างเริ่มผ่อนคลาย

ไอ้คนตรงหน้า เริ่มขยับจังหวะร่างกายเข้าออกช้าๆ จนผมเลิกบ่นว่า “ช้าก่อน” นั่นแหละ

จังหวะถึงเริ่มเร็ว และแรงขึ้นเรื่อยๆ จากความรู้สึก อึดอัดกับสิ่งแปลกใหม่ที่เข้ามาในตอนแรก

กลายเป็นความรู้สึกหวาบหวามในใจ.....เริ่มแอ่นรับความรู้สึกใหม่ที่ไอ้ฉานมอบให้

ตอนนี้ ในมือของคนตรงหน้า ประคองส่วนอ่อนไหวของผม ให้ไปในจังหวะเดียวกันกับการขยับร่างกายเข้าออก

จากที่เราทั้งสอง แค่จ้องตากัน จนโผขึ้นมากอดกัน และมอบจูบเร่าร้อนให้แก่กัน

จนมันมาถึงที่สุดของอารมณ์

เสียงครางยาว......บ่งบอกปลายทางที่สุขสมนั้น

สุขสม และอ่อนหวาน.......เนิ่นนาน ที่เราทั้งคองยังประคองกอดกันอยู่อย่างนั้น

จนฉานน้อยเริ่มอ่อนแรงลง และหลุดออกมาเองนั่นแหละ ถึงจะผละออกจากกัน

หยาดหยดแห่งความสุขสม ต่างไหลออกมาเป็นพยานแห่งการ “ร่วมรัก” ในครั้งนี้

ผมล้มตัวลงไปนอนนิ่งๆ พร้อมกับไอ้ฉานที่ล้มลงมานอนลงมาข้างๆกัน

มันกอดผมไว้ .....เรากอดกัน

“ ฉาน” ผมมองหน้า จ้องตามัน

“หืม” เสียงตอบรับแค่เพียงในลำคอ แต่วงแขนกลับกอดรัดให้กระชับขึ้น

“มันเหนอะหนะอ่ะ เหนียวไปทั้งตัว” มันหลั่งน้ำแสดงความเป็นเจ้าของเข้ามาในตัวผม

“อาบน้ำมั้ย” ผมพยักหน้าให้มันอย่างว่าง่าย หนาวแค่ไหนกูสู้วะ

แล้วเราก็ได้อาบน้ำกันอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่ผม ไม่ต้องทำอะไรเลย ในเมื่อไอ้คนตรงหน้า

มันกำกับทุกขั้นตอนด้วยมือของมัน ตามนิสัยผู้กำกับแห่งชาติของมันนั่นแหละ


เสียงหรีดหริ่งเรไร ร้องแข่งกับเสียงนก....พร้อมอากาสเย้นชื้น ที่ไม่คุ้นเคย

ปลกให้ผมต้องตื่นแต่เช้า ทั้งๆที่ได้นอนไปได้ไม่นาน.......

ไอ้ตัวต้นเหตุ ที่สูบพลังงานผมไป ตอนนี้หายไปไหนแล้วไม่รู้
ที่ ที่ เคยเป็นที่นอนของไอ้ฉาน เย็นเยียบ แสดงว่ามันคงตื่นได้สักพักแล้ว

ผมสะบัดหน้า สลัดความง่วง งุนออกจากตัวได้ ก็เข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายอีกครั้ง

ก่อนที่จะไปเตรียมตัวกับสิ่งใหม่ๆ

ครอบครัวใหม่ พ่อใหม่ น้องใหม่


หวังว่าทริปนี้......คงมีแต่ความสุข


พระเจ้า ..... ใจร้ายกับผมมามากแล้ว....ประทานความสุขให้ผมบ้างเถอะนะ


ผมลงมาด้านล่างตัวบ้าน ความเงียบปกคลุมไปทั่วบริเวณ

มองนาฬิกา โบราณ ที่ตั้งวางตระหง่าน ตรงเสาไม้ต้นใหญ่ของบ้าน

11 โมง.....ใกล้เที่ยงแล้วนี่หว่า

เค้าคงออกไปเที่ยวแถวๆนี้ หรือคงไปรีสอร์ท ที่แม่บอกไว้เมื่อคืนละมั้ง

ไม่มีใครรอพี่เมฆสักคน แม้แต่ไอ้ตัว ที่มันดูดวิญญาณพี่เมฆไปจนหมด

ไอ้ห่าฉานมันเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนา เมื่อคืน มันฟัดผมไป 1 รอบบนเตียง

และอีก  1 รอบในห้องน้ำ

แต่มันก็ตื่นเช้า แล้วมันก็หายหัวไป

ท้องเริ่มร้องประท้วง ให้ผมต้องมองหาใครสักคน

เฮ้อ.....ท่านเมฆ มึงนอนตื่นตะวันสายโด่งขนาดนี้ ใครเค้าจะหิ้วท้องรอมึง

ในขณะที่ผมเดินไปรอบตัวบ้าน เพื่อหาใครสักคน แม่บ้านก็ได้ หรือใครก็ได้

บอกพี่เมฆที.......ว่าหาอะไรกินได้จากไหนบ้าง

ผมเดินวนไปมา จนมาทะลุ ส่วนที่คิดว่าสวนหลังบ้าน

มีเสียงพูดคุย สลับเสียงหัวเราะ แว่วมาจากส่วนนั้น

เสียงหนึ่งเป็นเสียงใสใสที่ผมไม่คุ้นเคย

น่าจะเป็นผู้หญิง วัยแรกรุ่น เผลอๆอาจจะเป็นวัยเดียวกับผม

แต่อีกเสียง เป็นเสียงที่ผมคุ้นเคยดีมากว่าครึ่งชีวิต

ไอ้ฉานกำลังคุยอยู่กับใครสักคน จากน้ำเสียงที่หยอกล้อกันบอกผมว่า

เหมือนเค้าสนิทกันมายาวนานมากแล้ว

ผมเดินตามหาต้นเสียง จนมาเจอลานกว้างตรงหน้า ที่มองออำกไปเจอทะเลสุดลูกหูลูกตา

ท้องฟ้าและท้องฟ้า กลืนกันอย่างน่ามอง

แต่มันไม่ได้ทำให้ ผมสนใจอะไรมากไปกว่า

ภาพของคนตรงหน้า ....ที่กำลังพูดคุยหยอกล้อต่อกัน

หัวใจผมกระตุกแรง ขาผมหยุดนิ่งสนิทอยู่กับที่ มันจะไม่เป็นอะไรเลย

ถ้า ผู้ชายที่ ค่อยๆ เกลี่ยผม ออกจากใบหน้าผู้หญิงคนนั้น สายตาที่เค้ามองกัน

มันไม่เหมือนที่เคยมองผม แต่มันก็มองเห็นว่า “อ่อนโยนไม่แพ้กัน”

ผู้ชายคนนั้น มันใช่คนเดียวกับคนที่นอนกอดและมอบความรักกับผมเมื่อคืน

มันใช่ดวงตะวันดวงนั้น

แต่ผู้หญิงคนนั้น คือใคร
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 01-05-2010 23:47:17
ผู้หญิงคนนั้น คือใคร

มาต่อด่วน อยากรู้ๆๆๆอะ :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 01-05-2010 23:59:32
น้องเซมาแล้วว

เอาเลือดมาเสริฟแล้ว

 :z1:

แล้วก็ค้าง ตามเดิม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 02-05-2010 00:08:29
ซีนเรียกเลือดทำเราฮาได้ พี่เมฆนี่สุดยอดจริงๆ
ขำๆฮาๆมาอยู่ดีๆ ต้องมาขำค้างตอนเกือบจบนี่แหละค่ะ
ไรท์เตอร์บิ้วท์ซะเราใจกระตุกเลย ผู้หญิงคนนั้น น้องสาว?
 :serius2: ค้างงงงงง รอตอนหน้านะคะ มาไวๆน๊า

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 02-05-2010 00:11:23
จะมีอะไรกันทั้งที่ยังฮาได้ใจ  o13 &  :laugh: :jul3:

มีอะไรได้............. :m10: :m25:  “ของส่วนตัวของผม”  :m20: พูดได้เต็มปากเต็มคำ


แต่มาจบได้คาใจมากๆ! :m16: ผู้หญิงคนนั้นคือใครๆๆๆๆ  :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 02-05-2010 00:12:19
อะไรก๊านนนนนนน
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
มาทำให้พี่เมฆเสียใจแบบนี้ได้ไง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 02-05-2010 00:13:42
น้องของเมฆชัวร์ง่ะ

เฮ้ออออ... เศร้า...

แต่ก็ยังเชื่อที่คนโพสกะคนแต่งบอกไว้อยู่ดีว่า เรื่องนี้ไม่มีเศร้า มีแต่สุข สนุกสนาน เฮฮา

รอตอนต่อไปคร้าบบบบ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 02-05-2010 00:25:35
อ่านตอนแรก หวานบวกฮา น่ารักกันจริง บรรยากาศความสุขกรุ่นเชียว
พอมาอ่านตอนท้าย  เอาแล้วไง.... งานเข้า ฉานแอบคุยกับใคร อธิบายให้พี่เมฆ ฟังด่วนๆ  :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 02-05-2010 04:48:04
ค้างมากคับ เจ้ 
 รีบมาต่อด้วยเน้อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 02-05-2010 08:11:02
 :z3: ค้างง
ถึงตอนนี้จะ  :pighaun:ก็เถอะ ชอบ นี่อ่ะ“ของส่วนตัวของผม” หุหุ พี่เมฆ เต็มปากเต็มคำเลยนะเออ

แต่พอมาถึงตอนหลังๆ เริ่มเครียดดด หัวใจกระตุกตามเลยอ่ะ  :serius2: ผู็ หญิงคนนั้นคือใคร?

น้องสาวเมฆหรือเปล่า แต่ที่ทำให้เครียดมากกว่าเดิมนี่ คงจะเป็น สายตาที่เค้ามองกัน

มันไม่เหมือนที่เคยมองผม แต่มันก็มองเห็นว่า “อ่อนโยนไม่แพ้กัน”
เจ็บจี๊ดดดดๆ

พี่ฉานว่าไง อธิบายด่วน o18  อย่าให้ชะนีน้องนางมาเป็นปัญหา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 02-05-2010 08:18:12
ค้างๆ มารีบผิดชอบด้วยนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 02-05-2010 08:47:44
โอ้ววว  อย่าบอกนะว่านายฉาน ยังอยากจะ "ได้หน้า" อีกอะ  งานนี้มีเคลียร์  :m16:
น้องเมฆจัดการเลยลูก  :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 02-05-2010 08:58:18
มาถึงยังไม่ทันไรก็ไปให้ความสนิทสนมกับคนอื่นแล้วหรอไอ้พี่ฉาน เข้ากับคนง่ายเกินไปหน่อยมั๊ย แถมเป็นชะนีอีกต่างหาก หรือแกคิดจะนอกใจพี่เมฆ :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 02-05-2010 09:36:02
เมฆหึง+หิวจนตาลาย
หญิงคนนั้นคงเป็นน้องเมียฉานแหละ
เมฆอย่าคิดมาก รีบเดินไปเคลียร์เลย
รอคนแต่งคนโพสมาเฉลย
เร็วๆนะอยาก.....รู้อ่ะเรื่องชาวบ้าน :m28:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 02-05-2010 11:19:31
ฉาน เคลียร์ตัวเองด่วน  :m16:

ไม่งั้นจะยุให้น้องเมฆ   :beat:  o18

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 02-05-2010 11:46:56
เอาแล้วๆ  พายุเข้าแล้วเว้ย

ผู้หญิงคนนั้นคือใคร

พี่ฉานรีบเคลียร์ด่วนจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: scouser ที่ 02-05-2010 12:26:45
ใครเนี่ยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 02-05-2010 12:43:38
ผู้หญิงที่ไหนมาทำให้พี่เมฆเคืองง  :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-05-2010 14:06:34
แปะพิกัด ตอนนี้อ่านถึงหน้า 4
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 02-05-2010 18:22:35
ตอนหน้ามีงอลกันอีกแหง๋มๆๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 02-05-2010 18:24:41
พี่ชายกะน้องสาวแย่งปู้จายคนเดียวกัน
แบบนั้น..ไม่อาว :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 02-05-2010 20:38:06
ฉานทำอะไรอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 02-05-2010 21:03:05
น้องสาวหรือเปล่าเนี่ย คุณฉานก็ชอบทำให้เมฆหึงตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 03-05-2010 00:00:36
สงสัยเมฆจะปีชง หวานๆแล้วงานเข้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 03-05-2010 00:01:39
() ต้องเป็นน้องสาวแน่เลย

มารอ ตอนต่อไป คับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-05-2010 00:07:12
อิพี่ฉานก็นะ จะรีบลุกไปไหน จะนอนรอหน่อยก็ไม่ได้ เมฆเดินเข้าไปดึงหูเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 03-05-2010 00:39:05
ลุ้นต่อๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 03-05-2010 09:49:57
อย่านะ  :z3: ฉานทามอาาาาาาาารายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


ไม่อยากจิ้นเอง รอ ผู้แต่งมาแถลงการณ์  :z2:  ไม่อยากจิ้นเอง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 03-05-2010 11:50:56
อ่านต้นๆ ถึงกลาง อ่านไปยิ้มไป เขินไป...555
พี่เมฆก็ยังคงเป็นพี่เมฆ...  ได้ดีจริงๆ แม้แต่ตอน...   :oo1:   ก็ตาม 555

อ่านมาถึงท้ายๆ ใจหายวาบเล็กน้อย...
เข้าใจความรู้สึกนะ เวลาเราเห็นคนที่เรารัก ทอดมองคนอื่นด้วยสายตาเฉกเช่นเดียวกับที่เคยทอดมองเรา....

แต่...พี่เมฆจงมั่นจในดวงตะวันเถอะ...
ออกจะรักพี่เมฆขนาดนี้ คงไม่เขวไปง่ายๆ หรอกมั้ง...555   

 :L2:  ให้คนแต่งจ้า..
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 03-05-2010 18:39:30
ฉานรีบมาเคลียเลยน้า
เดี๋ยวงอนไมรู้ด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 03-05-2010 20:52:27
มั่นใจว่าฉานไม่ปันใจให้ใครแน่นอน เพราะฉานรักพี่เมฆที่สุดดดดดด

พี่เมฆอย่าเพิ่งงอนใจเย็นๆๆ  :กอด1:

+1 ค่ะ รอตอนต่อไป..ผู้หญิงคนนั้นคือใคร   :really2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 03-05-2010 21:04:51
พี่เมฆหนักแน่นเข้าไว้นะคะ
ตาฉานแกไม่กล้าทำร้ายจิตใจพี่เมฆหรอก... :teach:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 03-05-2010 22:07:07
มายังง่าาาาาาา

รออยู่เน้ออออออ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 04-05-2010 03:19:08
คนแต่งเมา คนโพสมึน มาช่วยดัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 04-05-2010 19:01:39
ช่วยดันด้วยคน

ตกหน้าอีกแร๊ะ
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-05-2010 22:57:55
ขอหวานๆหน่อยจิค่ะ อยากให้พี่เมฆหึงโหดพี่ฉานมั้งจัง มันจะเป็นงัยหว่า  :laugh:
ข่วนหน้า ตัดจู๋(อันนี้มะได้เดี๋ยวไม่มีใช้) รอๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 05-05-2010 22:18:28
ดันๆๆๆ

จงมาๆ

 :oni3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 06-05-2010 09:48:48
เซมากูเตะ แว อา ยู
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 06-05-2010 13:29:55
^
^
^
ป้า  มาถามหาใคร

ไปเที่ยวมา  ไหวกัน ม่ะนั่น  55
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 06-05-2010 20:47:16
ยังไม่มาอีกหรอครับ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 06-05-2010 23:19:16
เข้ามารอเมฆกับฉาน :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 07-05-2010 07:22:14
 :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 07-05-2010 15:13:23
อ่านทันแล้ว...
คนแต่งบอกเรื่องนี้ไม่เศร้า เอาฮาอย่างเดียว

แต่คนอ่านว่า  คนแต่งแอบสอดไส้ความเศร้าของเมฆน้อยมาเป็นระยะๆ แต่ความความฮาเข้ามากลบเกลื่อน

น้องเมฆโชคดีนะ ที่มีดวงตะวันดวงนี้อยู่เคียงข้างมาตลอดเลยไม่เศร้ามาก  ไม่งั้นเมฆก้อนนี้ ก็คงเป็นก้อนสีหม่นๆ ไม่สดใสเช่นนี้เป็นแน่ แม้จะแอบมีสีเทาๆซ่อนไว้ข้างในก็เถอะนะ แต่ก็เชื่อว่าความอบอุ่นของดวงตะวันจะช่วยให้เมฆก้อนนี้ก้าวเดินต่อไปได้แน่ๆ

เอาละ มาเม้นต์ตอนล่าสุดดีกว่า   ให้เดาว่าชะนีน้อยนางนั้น น่าจะเป็นน้องสาวต่างพ่อของเมฆแน่ๆ  และฉานก็คงนึกเอ็นดูว่าเป็นน้องของคนที่รัก  แต่!!! กระนั้นก็เข้าใจความรู้สึกของเมฆที่เห็นคนที่รัก มาอ่อนโยนกับใครแม้คนนั้นจะเป็นน้องก็เถอะมันต้องรู้สึกแปล๊บๆในอกมั่งแหละตามสัญชาตญาณของมนุษย์


ท้ายสุด วิงวอนให้ เอาตอนต่อไปมาลงได้แล้วจ้า  ลุ้นจน....แน่นอกไปหมดแล้ว  แหะๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 25 ,1 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 08-05-2010 15:08:35
ดันจนจะหมดแรงแล้วนาาาาา

เอ้าาา อึ๊บๆๆ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 08-05-2010 15:55:02
ตอนที่ 26

นานเท่าไหร่ไม่รู้ ที่ผมมองภาพของคนสองคนตรงหน้า

ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ลำคอผมตีบตัน แล้วรู้สึกรื้นๆในหน่วยตา

มันเป็นความรู้สึกที่จู่โจมมาอย่างกระทันหัน ผมเองก็ควบคุมความรู้สึกนั้นไม่ได้

ภาพของคนสองคนตรงหน้า มันทำให้ผมอดรู้สึกวูบโหวงในใจไม่ได้ กับความรู้สึกที่หลอกตัวเองมาตลอด

และกลบมันฝังลึกไปลึกสุดของจิตใจ “ตั้งแต่เราเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนสนิท เป็นคนรักกัน”


ว่า

โดยธรรมชาติแล้ว ผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชาย
ภาพตรงหน้า ตอกย้ำความจริง ที่ผมแกล้งลืมไปได้ดี

มันคือ ความจริงของธรรมชาติอย่างที่สุด

ไม่ใช่ สิ่งที่ฝืนธรรมชาติ อย่างที่ผมกับไอ้ฉานเป็น

ไม่ใช่ผมคนเดียว ที่มันยิ้มให้ทั้งปากทั้งนัยย์ตา

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมคิดมาตลอดว่า มันมอบให้ ผม “เพียงคนเดียว” นั้น ผมคิดไปเอง

ผมกำลังจะหันหลังกลับไปยังจุดที่ผมจากมา

“ อ้าว คุณเมฆตื่นแล้วเหรอค่ะ ไปคะ ไปรวมตัวกับคุณอันดา คุณฉาน เดี๋ยวป้ายกอะไรออกไปให้ทานนะคะ”


“ป้า” ที่เรียกสติผมกลับคืนมา น่าจะเป็นแม่บ้านของที่นี่ เมื่อคืนผมไม่ได้เจอ แต่คิดว่า แม่คงแนะนำผมไว้ก่อนแล้วนั่นแหละ ถึงได้ทักแบบไม่มีพลาดแบบนี้

“เจอกันหรือยังคะนี่  แต่คงยังไม่เจอคุณหนูอันดานะ เมื่อคืนเธอค้างที่รีสอร์ท เพิ่งมาเช้านี้ “

ระหว่างที่ปล่อยให้ป้าวิเคราะห์เหตุการณ์ไปนั้น ผมก็พอจะนึกออกรางๆ ว่า คุณอันดา หรือผู้หญิงที่ยืนคุยสนิทสนมกับไอ้ฉานตรงหน้า คือน้องสาว ต่างพ่อของผม

น้องสาวผม โตเป็นสาวแรกรุ่น  ผิวสวย ใบหน้าสวยคม ผิวสีน้ำผึ้ง เนียน ใบหน้าบ่งบอกว่าเป็นลูกครึ่งอย่างเห็นได้ชัด ร่าเริง สดใส สมวัย น่าจะคุยเก่ง เพราะสนิทสนมกับไอ้ฉานอย่างเร็ว จนผมเอง ยังแปลกใจ

“ อ้าวเมฆ ตื่นได้แล้วเหรอ มานี่ๆ” จะมีใครละครับ ถ้าไม่ใช่ไอ้ผู้กำกับแห่งชาติ

มันคงได้ยินเสียงของป้าแม่บ้านที่คุยกับผม พอดี มันถึงได้เรียกผมซะเสียงดังขนาดนี้

แถมยังวิ่งหน้าตั้ง ฉีกปากยิ้มเห็นฟันครบทุกซี่ มาดึงผมเข้าไปร่วมวงด้วยอีกต่างหาก

ผมจะทำยังไงได้นอกจากปลิวไปตามแรงมือมัน

“โอ๊ย “ ไอ้ฉานดึงไม่แรงเท่าไหร่  แต่เมื่อคืนผมเพิ่งผ่านอะไรๆ มา ความระบมมันยังอยู่

แรงกระชากเพียงนิด ก็ทำให้ผมเจ็บจี๊ดถึงไขสันหลัง แถมออกตัวโดยไม่ทันระวังแบบนี้ด้วยแล้ว

“เป็นอะไรอ่ะ หืม ยังเจ็บอยู่อีกเหรอ” ไอ้คนดึง มันหยุดตามเสียงประท้วง แถมยังมีหน้ามาถามว่ายังเจ็บเหรอ

โดนทะลวงหัวเมืองตั้งสองครั้งสองครา จะให้ผมปกติก็คงจะเกินธรรมดาไปหน่อยละมั้ง

“เออสิ เชี่ย มึงอย่าดึงดิ น้องเค้ามองอ่ะ “

“อ๋อ เออ กูลืม” มันทิ้งมือผมลงทันที

แปลก ปกติคนหน้าด้านอย่างมัน ถ้าผมท้วงแบบนี้

คำตอบที่ได้ ไม่น่าจะผิดไปจาก

“จะสนใจทำไมละวะ ผัวจูงมือเมีย ปกติธรรมดาจะตาย ใครๆเค้าก็ทำกัน”

หรือ

“จะทำไมอ่ะ ก็กูกลัวเมียกูหลุดหาย”

“กูจะจับอะ ใครจะทำไม เกิดมึงระเหิดไปแบบลูกเหม็น กูจะหาเมียแบบมึงได้จากไหน”

ประมาณนี้ ที่ผ่านมา ไอ้ฉานน่าจะตอบประมาณนี้

แต่วันนี้ ไม่มีคำคัดค้าน นอกจากปล่อยมือผมให้เป็นอิสระทันที แล้วเดินนำหน้าผมไปหา

“น้องสาว” ของผม ปล่อยให้ผมเดินตามไปด้วยความรู้สึกเดียวดายสุดชีวิต

“อันดา ได้เวลาพระเอก ปรากฎตัวแล้วนะ พี่บอกไว้ก่อนว่า ห้ามกรี๊ดใส่หูพี่เด็ดขาด เป็นไง หล่อกว่าในรูปมั้ย” มันพูดอะไรอีกยืดยาว ล้วนแล้วแต่ทำให้ผม งง แทบทั้งสิ้น

“ เมฆ นี่ น้องอันดา น้องสาวคนละพ่อของมึงไง มึงอ่ะ ตื่นสาย น้องเค้ามารอ พาเที่ยวตั้งแต่เช้าแล้วรู้มั้ย กูจะไปปลุกก็ไม่ยอม อยากให้มึงนอนสบายๆ จนภาคใต้ของประเทศไทยหายไปครึ่งนึงแระ”

ถ้าเป็นเวลาปกติธรรมดา กูคงหัวเราะให้กับมุขที่มึงหน้าด้านเล่นอยู่หรอกนะ

แต่ตอนนี้กูไม่มีอารมณ์ฮา

คนที่ไอ้ฉานแนะนำว่า “น้องสาวผม กำลังยืนยิ้มส่งมาให้ แววตาสดใสบอกผมว่า ผมไม่ควรเอาเรื่องบ้าๆมาคิดให้รกสมอง

“ เอ่อ คือ พี่ชื่อพี่เมฆนะ น้องอันดาใช่มั้ย “ ผมเกาหัวแกรกๆ ให้กับความเสร่อ ขั้นอนาถของตัวเอง

มีหนังสือเล่มไหนมั้ย ที่เขียนสอนไว้ว่า เวลาเราเจอน้องสาวที่พลัดพรากจากกันมาตั้งแต่เกิดครั้งแรก
ต้องทักทายยังไง ถึงจะถูกหลักไวยกรณ์ ไม่แห้งแล้งแบบที่ผมทักไป
แล้วผมต้องปฎิบัติตัวยังไง ไม่ให้ความประหม่า มาแทนที่ความหน้าด้านที่มีตลอดเวลามาแต่เก่าก่อนของผมไป
วันนี้ผมคงเป็นนิวลุคในสายตาไอ้หมาบ้าเป็นแน่ มันเลยส่งยิ้มล้อเลียนมาให้ผมได้

เออ ฝากเอาไว้ก่อน

“พี่เมฆดีมาก หล่อมาก น่ารักมาก มากกว่าในรูป มากกว่าคำบอกเล่า มากกว่าคำพูด ทุกอย่างมันยืนยันด้วยตาอันดาแล้วหละ พี่เมฆหิวมั้ย เดี๊ยวป้าบัวยกมาให้ นี่อุ่นจนเย็นจนอุ่นใหม่ไปหลายรอบแล้ว อันดาเอามาจากครัวรีสอร์ท เป็นเมนูแนะนำเลยนะคะ คุณลุงคุณป้า ตอนนี้ แม่เค้าคงพาเที่ยวอยู่ แต่พี่เมฆกะพี่ฉาน แม่ยกให้เป็นหน้าที่อันดา เค้าว่า วัยรุ่นคงเที่ยวสไตล์คนแก่ไม่สนุก อันดาก็ว่างั้นแหละเนอะ”

ผมเริ่มเชื่ออย่างสนิทใจแล้ว ว่า อันดา เป็นน้องผมจริงๆ ดูจากการพูดจาที่ฉะฉานแล้ว เอ่อ ผมว่าโครโมโซมตัวที่บ่งบอกถึงความ “เยอะ” คงจะถ่ายทอดกันไปในสายเลือดแหละนะ

“ โห พี่เมฆของอันดา นี่ “เยอะ” ทุกอย่างเลยนะ” ผมตวัดสายตาไปมองหน้าไอ้คนแซว ผมรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ไอ้นิสัยไม่ดี มันหลอกด่าผม แถมยังมีหน้ามาหัวเราะอีกนะ

“วันนี้ มึงพูดน้อยเป็นพิเศษนะ สร้างภาพพระเอกป่าวเนี่ย แหม เจอน้องครั้งแรก ดีใจแต่แกล้งเก็กใช่มั้ยเนี่ย”

ไอ้ห่านี่ ชอบทำเสียเรื่องตลอด มันอ่ะไม่เข้าใจความรู้สึกผมหรอก ว่าคนที่กำลังอึดอัด ไม่รู้จะวางตัวยังไง

ในสถานการณ์แบบนี้ มันเป็นยังไง ใครจะเข้ากับทุกสถานการณ์แบบมันหละ

“ไม่สนุกเหรอค่ะ”

“ ป่าวครับ คือพี่ .....เอ่อ พี่”

“ทำตัวตามสบายเถอะค่ะพี่เมฆ เราไม่ใช่คนอื่นนะคะ ตอนนี้เราอาจจะยังไม่คุ้นเคยกัน แต่อีกหน่อยถ้าเราได้อยู่ด้วยกัน เราจะคุ้นเคยกันกว่านี้”


เอ๊ะ อีกหน่อยถ้าเราอยู่ด้วยกัน ......นี่

“หืม อันดา หมายถึงอะไรครับ อยู่ด้วยกัน ใครอยู่ด้วยกันกับใครอะครับ”
ถึงใจผมอยากจะถามคำถามเมื่อสักครู่นี้ขนาดไหน แต่ก็ช้ากว่าอีกคนที่อยู่ข้างๆผมอยู่ดี

“เอ่อ ไม่มีอะไรค่ะ อันดา หมายถึง อีกหน่อยเราก็ต้องเจอกันบ่อยๆไงค่ะ คงจะสนิทกันกว่านี้

ป้าบัวยกกับข้าวมาแล้ว เราไปกินข้าวกันเถอะค่ะ นั่งกินข้าวในสวนอ่ะ เจริญอาหารที่สุดเลยนะคะ”

คิ้วที่ไอ้ฉานมันตั้งใจขมวดไว้เป็นปมที่หน้าผาก คลายลงบ้างแล้ว แต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกใจคอไม่ดีกับคำพูดเมื่อกี้นักนะ

อาหารถูกจัดวางบนโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ ในสวน ส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นเมืองและอาหารทะเล
เรามีกันอยู่สามชีวิต แต่อาหารที่ป้าบัวยกมา ผมว่าเลี้ยงคนได้ครึ่งตำบลเลยทีเดียว

“ พี่ฉานค่ะ พี่เมฆ ค่ะ นี่คือใบเหลียงผัดใข่ อร่อยมาก กินกับแกงส้มปลาอินทรีย์ใส่ยอดมะพร้าว ส่วนนี้ปลาสำลีแดดเดียวค่ะ ที่รีสอร์ททำเอง อร่อยที่สุด อันนี้สะตอผัดกุ้ง ขึ้นชื่ออีกเช่นกัน ส่วนนั่นคือหลนไตปลา
ปูทะเลเผาก็เนื้อหวานมากนะค่ะ น้ำจิ้มฝีมือแม่ครัวที่นี่ ซี๊ดค่ะซี๊ด อธิบายได้ด้วยคำนี้คำเดียว “


นี่คือส่วนนึงที่อันดาแนะนำ บอกได้เลยว่าถ้าเป็นเวลาปกตินี่ผมคงฟังไปน้ำลายไหลไป

แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกฝืดคอ อาหารตรงหน้า น่ากินทุกอย่าง แต่ผมกลับไม่อยากกินอะไรเลย นอกจากยกน้ำขึ้นมาจิบ  ขนาดน้ำ ผมยังรู้สึกฝืดคอเลย ผมคงคิดมากไป

ใช่แน่ๆ ผมคิดมากไป


น้องสาวผมน่ารักและเป็นกันเองดี มีแต่ผมเสียอีกที่ทำตัวนิ่งเฉย


“เป็นอะไร ทำไมไม่กินอ่ะ “ ไอ้ฉาน มันต้องเสือกให้ครบทุกเรื่องสิน่า

“เพิ่งตื่น เลยยังไม่หิวเท่าไหร่” จริงๆ ในใจไม่อยากโกหก เพราะถึงมันจะแนบเนียนต่อหน้าอันดา


แต่ผมก็รู้ว่าไม่เนียนต่อหน้าไอ้ฉาน


ช่างมันประไร


ผมก็เป็นของผมแบบนี้ มันรับมาได้ตั้ง สิบห้าสิบหกปี ถ้ามันจะรับผมไม่ได้ปีนี้



ก็ปล่อยมันไป.................................................................




เหรอ




แล้วทำไมตอนนึกถึงการจากลา มันรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ในลำคอ
จนต้องยกน้ำขึ้นมาจิบไล่มันไป......


บรรยากาศตรงหน้าเต็มไปด้วยความสดใส อันดาตักนู่นตักนี่ให้ผมจนเต็มจาน

หันไปมองที่คนข้างๆ ก็ได้รับไม่ต่างกัน

ผมได้แต่เขี่ยอาหารตรงหน้าไปมา....

ฟ้าคราม สวยงาม ตัดกับแดดอ่อนๆ รำไรๆ ที่ลอดผ่านใบไม้ต้นใหญ่....บรรยากาศเรียกได้ว่าดีมากมาย

แต่ทำไมผมรู้สึกรอบๆตัวมันเป็นสีเทา

“เมฆ เป็นอะไร ไม่กิน อย่าเขี่ย อย่ามานิสัยแบบนี้สิ” เสียงไอ้ฉาน ครั้งแรกในรอบกี่ปีไม่รู้

ที่มันส่งเสียงดุผมแบบจริงจัง น้ำเสียงขึ้งเครียดนั้น ทำให้ใจผมกระตุกวูบ

แววตาที่มองผม คือใครก็ไม่รู้ แต่ ไม่ใช่ “ดวงตะวัน” ดวงนั้นแน่ๆ


ผมเงียบ
รู้แค่ว่าความเงียบ น่าจะดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ตอนนี้

ในสถานการณ์ที่ผมคิดว่า ในไม่ช้า น้ำตาผมคงต้องไหล

อย่าถามว่ามันเกิดจากอะไร

เพราะผมเองก็ให้คำตอบไม่ได้เหมือนกัน ผมคงต้องโทษ “สัณชาตญาณ”





เสียงริงโทน ที่คุ้นเคย ผมตั้งไว้สำหรับเพื่อนๆที่มหาลัย

เหมือนระฆัง ช่วยกู้สถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนคนไหนโทรมา

ผมอยากจะกระโดดจูบปากมันมาก เรียกได้ว่ามีบุญคุณ กับผมโดยไม่รู้ตัว

“อันดา เดี๋ยวพี่ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ” ผมบอกน้อง ที่ทำสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ทำกริยาไม่ดีออกไป น้องไม่ได้ทำอะไรเลย

นี่ผมเป็นคนพาลตั้งแต่เมื่อไหร่

ส่วนคนข้างๆ ผมไม่ได้สนใจว่ามันจะทำหน้ายังไง

พูดจบ ผมก็ลุกขึ้นออกไปทันที.......ผมว่าถ้าจะให้เดาตอนนี้

ไอ้กูปรีคงทำหน้าเครียด แล้วถ้าผมยังกล้าหันไปสบตา

อาจจะโดนหมาบ้า งับหัวเอาได้

“วู๊วววววว ยิปปี้ กรู๊ววววว สบายดีมั้ยค่ะเพื่อน” อ๋อ ล้นๆแบบนี้  ไม่มีใครนอกจากไอ้หน่า

“เออ มีอะไร” ปิดเทอมแบบนี้ คนอื่นเค้ากลับบ้าน หรือไปเที่ยวกัน เปิดเทอมนู่นแหละครับ ถึงจะมา

กระจายข่าวตอนปิดเทอมที่ผ่านมากันอีกที ก็มีแต่ไอ้หน่านี่แหละ ที่มันมีเวลา อัพเดทข่าวชาวบ้านเค้าตลอด

ไม่อยากจะบอกว่า “ไอ้หน่า นี่เจ้าแม่ทันเหตุการณ์ ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่มีใครต้องการ”

“เฮ้ยๆ คู่แต่งงานใหม่ที่ไหน เค้าทำเสียงส้นตรีนใส่เพื่อนเจ้าสาวแบบนี้วะ มึงไม่สนุกเหรอ หรือไอ้ฉานสะกิดมึงทั้งคืน นี่มึงหงุดหงิ ด เพราะไม่ได้นอน หรืออะไร ไหนบอกกูสิ ....ไอ้ฉานมันจัดขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ เอา เอาเข้าไป มึงเดามาแบบนี้กูว่า มึงไปเขียนนิยายเล่ม 12 บาทขายไป๊” เหอะ เหอะ มันไม่ได้สะกิดกูทั้งคืน กูไม่ใช่ม้าแข่งมาจากไหน แค่ 2 ครั้งเองเพื่อน แต่เรื่องไรจะบอกมึง กูอยากเห็นมึงอกแตกตาย

“อ้าวแล้วเป็นอะไร ไปเที่ยว แต่มึงไม่แฮปปี้ แม่มึงไม่ดีกะมึงเหรอ รึพ่อเลี้ยงเค้าไม่ยอมรับมึง เดี๊ยวกูไปหานะ ว่าแต่บ้านแม่มึงอยู่ไหนนะ”

“หน่า มึงพอก่อนเหอะกูว่า เริ่มออกทะเล แม่ดีกะกูมาก ส่วนพ่อเลี้ยงยังไม่เจอกัน กูเพิ่งมาถึงเมื่อคืน “

“อ้าว เห็นทำเสียงเป็นหมาหงอย แล้วตกลงเป็นอะไร เมนส์ไม่มา หรือว่าไอ้ฉานเอาแรง เลยไม่มีแรงคุย”

“เฮ้ออออออออออออออ.....ไม่รู้จะบอกยังไงหวะ กูก็ไม่เข้าใจตัวเอง แล้วก็รู้สึกเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ แล้วนี่มึงอยู่ไหน”

“กูอยู่บ้านอาม่า ที่ไทเป มึงมีอะไรรึเปล่า บอกกูได้นะเว้ย ถึงไม่ใช่สามี แต่กูเป็นผู้ฟังที่ดีได้ รับรองไม่มีแพร่งพราย แต่ทั่วถึง”

“เชี่ย กูจะไม่เล่าก็เพราะแบบนี้แหละ แล้วนี่มึงคิดว่าอยู่ อยุธยารึไง มึงจะโทรข้ามประเทศมาทำขี้เกลืออะไรเนี่ย เปลืองเงิน เดี๊ยวไม่กี่วันก็เจอกันแล้ว “

“ทำไมอ่ะ เออ อย่าห่วงน่า เงินอาม่ากู ใช้ๆซะบ้าง เดี๊ยวปลวกกิน อีกอย่าง กูคิดถึง นี่กลัวมึงสำลักความสุขตาย เลยโทรมาหา แต่ดันเจอเสียงหมาหงอยเข้าไป กูไปไม่เป็นเลย”

“สาบาน ว่านี่คือมึงไปไม่เป็น กูเห็นขี้หูกูสั่น ถึงขั้นแด๊นซ์เป็นเพลงแล้วมั้ง” ผมก็ต่อว่ามันไปงั้นแหละครับ

จริงๆ มันโทรมา ผมดีใจจะตาย ตอนปิดเทอมที่แล้ว มันก็อยู่บ้านอ่าม่า แล้วมันก็โทรมาแบบนี้แหละ
แต่ครั้งนั้นไม่เหมือนครั้งนี้ เพราะตอนนี้ ผมอยากมีใครทำให้สีเทารอบๆตัวผมหายไปสักทีเหมือนกัน
ผมไม่อยากรำคาญตัวเอง

“ อะ อะ ว่าไง มีอะไรไม่สบายใจก็บอกมา...”จะคอยเป็นกำลังใจให้เธอหายเหนื่อย จะเป็นดังสายลมพัดมาห่วงใย
และเธอจะได้รู้ทุกวินาทีหัวใจ ว่ายังมีฉันเข้าใจเสมอ”


“เชี่ยยยยยยยยยย เล่นมาเป็นเพลง แล้วที่สำคัญ กูเกิดไม่ทันเพลงนี้เข้าใจมั้ย 555 “ ผมขำให้กับความล้นของมัน อย่างน้อย มันก็ทำให้ผมผ่อนคลายไปได้เยอะ

“หงะ มึงไม่รู้จักพี่เจมส์เหรอ ถุย ไอ้เมฆ มึงอย่ามาตอแหล กูว่านะเว้ย ช่วงนึงของชีวิต มึงต้องเคยเป็นเด็ก RS สักช่วงนึงแหละ “

“หน่า เอ่อ มึงจะว่าอะไรไหม ถ้าเอ่อ กูกับไอ้ฉานจะ เอ่อ เฮ้ยยยยยยยย กูจะพูดไงดีวะ”

“มึงจะอ้ำอึ้งทำไมวะ กะอีแค่บอกกูว่า มึงกะไอ้ฉาน เป็นอย่างที่ใครๆ เค้าแซวจริง แค่นี้ ยากตรงไหน ทีอย่าง
อื่นมึงใจกล้าหน้าด้าน ทีเรื่องนี้มึงไม่กล้า “


“ เออ ตามนั้นแหละ แต่ เฮ้ยยยย!!!! มึงรู้ได้ไงวะ” ผมตกใจและเริ่มลนลานครับ มันรู้ได้งัย รู้ตอนไหน
ผมแสดงออกอะไรมากไปหรือเปล่า

“ก็ไอ้ฉาน มันไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนมึงนี่    เออ รู้มานานแล้วแต่ ไอ้ฉานแมร่งไม่อยากให้กระโตกกระตาก ทั้งๆที่กูคันปากฉิบหาย”


“แล้วใครรู้อีกบ้าง” ผมเริ่มเสียวสันหลังเลยครับ กลัวจริงๆกับคำตอบ ผมสูดลมหายใจ ยาวๆ แรงๆ
เอาวะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

“เพื่อนเราและเพื่อนมัน รู้กันทุกคน” ฉิบหาย ตายโหง ....อึ้ง!!

“เฮ้ยยยยยย ทุกคนเลยเหรอ แล้วพวกมึงไม่รังเกียจเหรอ กู เอ่อ กูมีแฟน เป็นผู้ชาย”


“แล้วไงวะ ผู้ชายเป็นแฟนกับผู้ชายแล้วไงวะ กูจะรังเกียจ ก็เพราะมึงไม่ให้เกียรติ์ความรักของตัวเองแบบนี้แหละ” จุกเลยกู ไม่น่าเชื่อว่าไอ้หน่ามันกวนตีนแบบนี้ พอมีสาระมาที เล่นเอาจุกถึงลิ้นปี่ไปเหมือนกัน

“เมฆ กูรุ้นะว่ามึงสับสัน มึงคิดว่าความรักของมึงเป็นเรื่องประหลาดของสังคม แต่กูเป็นเพื่อนมึง ทุกคนเป็นเพื่อนมึง ไม่มีใครรังเกียจมึงหรอก ถ้าเป็นไอ้ฉาน ไม่มีใครคัดค้านมึงแน่”

“นี่มีอะไรที่กูยังไม่รู้อีกรึเปล่าวะ “ ผมเริ่มรู้สึกว่า ชีวิตผมนี่โครตน้ำเน่า มีอะไรประดังประเดเข้ามาตลอด จนแทบตั้งตัวไม่ทัน

“มึงไม่ต้องรู้อะไรมากหรอก รู้แค่ว่า ไอ้ฉานมันห่วงความรู้สึกมึงมาก นั่นแหละที่กูอยากจะบอก มันยอมรับกับพวกกูมานานแล้ว ว่ารู้สึกกับมึงเกินเพื่อนกัน มันอยากจะประกาศติดบอร์ดมหาลัยจะตาย ว่ามึงเป็นของมัน แต่มันก็ไม่ทำ เพราะมันกลัวมึงรับไม่ได้ มันกลัวมึงอาย อีกอย่าง มันกลัวว่ามึงไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับมัน ทีนี้ ถ้ามึงสองคนเข้าใจกันดีแล้ว ก็ตักตวงความสุขให้มากๆ อุปสรรคมันมีไว้ให้เราเติบโตนะเว้ย”

“ อืม ขอบใจมึงหวะ แต่ว่า งั้นแสดงว่าที่ผ่านมา พวกมึงรู้กันมาตลอดเลยสิ ว่ากูกับไอ้ฉาน” ผมพูดไม่ทันจะจบหรอกครับ แต่เลือดมันมารวมตัวกันที่หน้าจนรู้สึกชา ก็นะ ถ้ามันรู้ขนาดนี้แล้ว มันจะไม่รู้เลยเหรอ ว่าผมกับไอ้ฉาน ถึงไหนต่อไหนกันแล้ว

“ว่ามึงกับมัน บ๊วบกันจนลูกขจะเข้าอนุบาลแล้วอะเหรอ มึงคิดว่ากูเป็นใครเมฆ กูอะ น้อยหน่านะเว้ย”

“เออ กูรู้แล้ว ว่ามึงอ่ะ ชื่อน้อยหน่า แล้วยังไงวะ”

“อ้าวไอ้กร๊วก คนรักกัน มันจะขึ้นขี่กันเป็นเรื่องธรรมดาเว้ย แหม ที่ผ่านมา ไอ้ฉานมันได้แค่ตอดเล็กตอดน้อยไม่ใช่รึไง แล้วถ้าเปิดเผยความรู้สึกกันแล้ว ไอ้ฉานมันยังปล่อยมึงไว้ให้ยังพรมแดงอยู่ กูก็ว่ามันควายไปแระ”

“ เออๆ มึงนี่กูเปิดช่องทางให้ไม่ได้เลยนะ....ไอ้ฉานไม่ใช่ควายเว้ย ควายอะกู ไอ้เชี่ยนั่นอ่ะกูปรี” ใช่ครับ ควายอะเหมาะกะผมมากๆเลยตอนนี้ ตอนที่รู้ความจริงเป็นคนสุดท้าย

“ แหมๆ รู้ตัวนี่มึง กว่าจะเจอหญ้าที่มีวิตามินต่อสมองมึงได้ ก็ใช้เวลาอยู่นะ”

“จะแดกกูอีกนานมั้ย เชี่ย นี่อุตส่าโทรข้ามประเทศมา เพราะเรื่องนี้เหรอ โอ้ย ไอ้ฉานอ่ะ มันไม่ได้ดีอย่างที่มึงคิดหรอก” ไม่อยากจะเหลา ว่าคนดีของไอ้หน่าอ่ะ กว่าจะได้ผมมา มันต้องข่มขืน เหอะ เหอะ

“ป๊าว กูโทรมา เพราะก่อนที่มึงจะมานี่ ไอ้ฉานมันโทรมาปรึกษากูแล้ว ว่ามึงเกร็ง มึงเครียด มึงประหม่า มึงไม่เป็นตัวของตัวเอง กูเป็นห่วง กลัวมึงเฉาตาย เลยโทรมางั้นแหละ เผื่อมึงบ๊วบกันอยู่ กูจะได้ขัดจังหวะ”

“ อืม ขอบใจมึงมากนะหน่า โทรมาเวลาที่กูต้องการพอดี”

“มึงมีอะไรไม่สบายใจใช่มั้ยวะ”


“อือ แต่กูไม่รู้จะบอกยังไงดี”
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 08-05-2010 16:06:50
สงสารน้องเมฆ
นายฉานใส่ใจหน่อยดิ  :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Kwawaic ที่ 08-05-2010 16:10:07
เฮ้อ อย่าคิดมาก ท่านเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 08-05-2010 16:23:43
อารมณ์อ่อนไหวของสาวน้อย  :กอด1:  อย่างงี้ต้องให้ไอ้พี่ฉานจับกดบ่อยๆ  :oo1: จะได้หายเครียด :jul3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 08-05-2010 16:51:50
ฉานมีไรกับยัยอันดารึเปล่าไม่รู้ แต่ตอนนี้เคืองเว้ย  :m16:
น้องเมฆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 08-05-2010 16:52:10
เพื่อนหน่าอย่างฮาง่ะ ฮ่าๆๆ ดีๆ เอามาช่วยทำให้เนื้อเรื่องช่วงนี้ไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่

ขอบคุณน้อง Seiki และ TRomance มากๆเน้อ

 o13 o13 o13

PS> มาต่อบ่อยๆเน้อ  :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 08-05-2010 16:53:59
ฉานจะรู้ตัวมั้ยว่าทำให้ก้อนเมฆไม่สบายใจ   :monkeysad:

ตอนนี้น้อยหน่าเยี่ยมมาก  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-05-2010 17:04:12
แอบเคืองอิพี่ฉานนะเนี่ย อี๋ยยยยย หงุดหงิดดดดดดดดดดดด  :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 08-05-2010 18:02:59
ไอ้พี่ฉาน...ปล่อยพี่เมฆไปซะ ถ้าแกยังไม่สามารถหยุดบริหารเสน่ห์ตัวเอง แกอาจไม่คิดมากอะไร แค่คิดว่าหยิบยื่นมิตรภาพให้ก็เท่านั้น แต่อีกฝ่ายอย่างอันดาคิดชัวร์ ๆ และพี่เมฆก็คิด...คิดเยอะด้วย :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 08-05-2010 18:04:58
ถ้าฉานยิ้นให้อันดาเพราะคิดว่นี้คือน้องสาวของเมฆ ฉานก็เปลี่ยนรอยยิ้มเถอะ
เพราะถึงแม้ฉานจะไม่คิดอะไร แต่อันดาคิดแน่ๆ

เดวไม่เชียร์ฉานซะเลยนี่! ทำพี่เมฆของเราเสียใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 08-05-2010 18:21:17
อ่าว ตัดฉับเลยทีเดียว ค้างเลยอ่ะครับ

เมฆอย่าคิดมากนะ ยังไงฉานไม่ทำอะไรให้เมฆเสียใจหรอก แค่ร้องให้ยังทนไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 08-05-2010 19:00:38
ไม่อยากคิดเอง  ไม่อยากคิดเอง คิดเองแล้ว มันจะเกินเลย  :z2:

รอติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 08-05-2010 20:34:29
พี่เมฆมีอารมณ์อ่อนไหวเกินไป...หรือว่า.....
ไอ้คุณชายฉานมันหน้ามึนไปหน่อยหว่า......
เล่นเอาพี่เมฆซึมเศร้าไปเลย.........
ขนาดน้อยหน่าช่วยกระชากอารมณ์...ยังไม่หาย...
ไอ้คุณชายฉานเคลียร์ด่วน!   :m16:


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 08-05-2010 20:38:57
สงสารเมฆจังเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 08-05-2010 21:14:16
อ้างถึง
“แล้วไงวะ ผู้ชายเป็นแฟนกับผู้ชายแล้วไงวะ กูจะรังเกียจ ก็เพราะมึงไม่ให้เกียรติ์ความรักของตัวเองแบบนี้แหละ”
  หน่า  o13 มากกอ่ะ

อ่านแล้ว แอบ ใจเสีย นิดนึงง รุ้สึกว่าบรรยากาศ มันอึมครึมมาก
ไม่อยากโทษฉาน ที่ทำให้เมฆรู้สึกแบบนี้   :เฮ้อ: เครียดดด

ไหน ไรเตอร์ บอกไม่เครียด ไม่เศร้างายย อยากจะวิ่งหนีไปร้องไห้ด้วยคน
อึดอัดใจแทน เหมือนฉานเปลี่ยนไป .. รึคิดไปเองง
แต่ยังไงก็แล้วแต่ อยากให้คุยกันให้รู้เรื่องไปเลย
ความรู้สึกที่เมฆรู้สึกอยู่ .. คือกลัวการโดนทิ้งรึเปล่า .. โอียยย อึดอัดดด
มาต่อตอนเดียวรู้สึกไม่พอซะงั้น แต่ ยังไงก็เชื่อว่าฉาน คง ไม่ ทำให้เมฆเสียใจหรอก ... (มั้ง)
ก็เห็นพี่ฉานแกออกจะรักของแกขนาดนี้ 

ปล. แอบเริ่มระแวง น้องสาว เมฆ นามว่า อันดาา
ปล..  :กอด1: คนโพสต์ +1 จ้า ให้กำลังใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 08-05-2010 21:45:47
เพื่อนหน่าน่ารักมาก มาถูกเวลาจริงๆ   เรื่องที่เมฆยังไม่รู้ก็รู้จากหน่าเนี่ยล่ะ  o13
ฉานจะรู้มั๊ย ว่าที่พี่เมฆอาการแบบนี้ เป็นเพราะฉานนั่นล่ะ  :sad11:

   :pig4:+1 ค่ะ ตอนหน้าฉานรีบเคลียร์เลย ด่วนๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: posshiza ที่ 08-05-2010 21:54:00
พี่เมฆคิดมากไปปะเนี่ย
ที่ฉานยิ้มแบบนั้นเพราะว่าคุณน้องอันดาถามเกี่ยวกับพี่เมฆมั้ง
คิดบวกเข้าไว้ ฉานเค้ารักพี่เมฆคนเดียวนั่นละ
รอตอนต่อไปคะ เป็นกำลังใจให้จ๊า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 08-05-2010 22:33:59
 :เฮ้อ: อึมครึมมากกกก อ่านตอนนี้ ยิ่งอ่านยิ่งอึดอัด
เข้าใจว่าไม่มีอะไร แต่ทำไมอ่านๆไปแล้วรำคาญน้องอันดา  :serius2:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 09-05-2010 00:39:04
รอนายฉานมาปรับความเข้าใจ  เพราะน่าจะเห็นความผิดปกติของเมฆแล้ว

รอตอนต่อไป

ปล หนูหน่านี่สุดยอดจริงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-05-2010 01:37:39
น้องสาวกะพี่ชายจะแย่งผะชายคนเดียวกันมั้ย แอร๊ยยยส์  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 09-05-2010 03:52:34
ไม่รู้สาวเมฆคิดไปเอง รึว่าอิพี่ฉานเป็นอย่างที่เมฆคิดกันนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 09-05-2010 10:53:05
ฉานเจออันดาแป๊บเดียวทำไมทำให้เมฆเห็นภาพสะเทือนใจได้
หรือว่าน้องเมฆของเราคิดมากไปเอง
ความรักทำให้คนเราหน้ามืดและตามัว
คนอ่านเชื่อใจฉานแต่ไม่แน่ใจอันดา o16
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: scouser ที่ 09-05-2010 13:26:02
สู้สู้เนอะ พี่เมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 09-05-2010 13:30:56
พี่ฉานมาเคลียร์ด่วน  :angry2:

เดี๋ยวพี่เมฆจะคิดมากไปใหญ่

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 09-05-2010 15:44:33
พี่เมฆคิดมากนะเนี้ย ต่อมสาวเเตกเเล้วคิดเยอะอ่ะ
ท่านฉานกับน้องสาวท่านไม่ได้เป็นไรกันหรอกค๊าบบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 09-05-2010 16:08:01
เมฆอย่าคิดมาก ฉานดูแลมาเป็นสิบปี แค่เจอน้องอันดาไม่นาน แล้วเปลี่ยนใจ ฉานก็ไม่มั่นคงพอที่เมฆจะรักหรอก
แต่เชื่อว่าฉานมั่นคงพอ นะ เมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 09-05-2010 21:58:52
เมฆคิดไปเองแน่ๆ ฉานอาจจะเอ็นดูแบบน้องก้ได้ ไม่มีอะไรหรอกนะ อย่าคิดมาก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 10-05-2010 00:03:26
มารอตอนต่อไป จ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 10-05-2010 10:38:34
ฉานบังอาจปล่อยมือพี่เมฆหรอ  :beat: สั่งสอนซะ

อ่านตอนล่าสุดแล้วเหงาเลย

ขอฮาๆ ด่วนๆ นะจ้ะ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-05-2010 11:13:50
 :mc3: ตามอ่านทันแว้ววว ... สงสัยว่าจะยังมีอะไรที่เมฆยังไม่รู้อีกแน่เลย
อย่างน้อยก็ความสนิทสนมของน้องสาวกับคุณสามีอ่ะ  :เฮ้อ:
ขอบคุณค่อ รออ่านตอนต่อไปน๊า :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ๋JEFF ที่ 10-05-2010 11:45:44
 อี สุริยคราส     อะไรของเมิงง ดุทำไม เขี่ยของก็ไม่อยากกิน มีปัญหารึ 
จเขี่ยๆ

ใส่หน้ามึงง

- - *

นังนั่นก็ด้วย ร่าเริงนักหรอ ห๊ะเมิงง  :z6:

   เมฆ     เคลื่อนตัว ช้าๆ เกาะกุมพวกมัีนน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 26 ,8 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 10-05-2010 20:48:59
น้องเมฆอ่อนไหว อย่าคิดว่าพี่ฉานไม่รู้
แต่อยู่ต่อหน้าบุคคลที่สามพี่ฉานเลยไม่กล้าแสดงออก
เด๋วรออยู่กันฉองต่อฉองเมื่อไหร่พี่ฉานคงได้ปลอบน้องเมฆสุดฝีมือแน่ :oo1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 10-05-2010 23:35:22
ตอนที่ 27

“มึงมีอะไรไม่สบายใจใช่มั้ยวะ”


“อือ แต่กูไม่รู้จะบอกยังไงดี”

ผมกำลังรวบรวมลมปราณทั้งหมดทั้งมวล ที่มีอยู่ในตัวผม

เรียงลำดับเรื่องราว  เพื่อถ่ายทอดให้ไอ้หน่าเข้าใจ

ถึงความรู้สึกงี่เง่าๆ ที่ตามมารบกวน ความรู้สึกนึกคิดของผมตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมานี้

เผื่อว่า ไอ้หน่ามันจะคลี่คลายปมความรู้สึกผมได้

อย่างน้อย ก็ตอบผมทีเถอะว่า

ไอ้ความรู้สึกที่บั่นทอนเรี่ยวแรงความสดใสทั้งหมดที่มีในตัวผมอยู่นี้ เรียกว่าอะไร

“ หน่า คือว่า มึงจะเข้าใจมั้ยวะ  ถ้ากูจะบอกว่า”

ชั่วขณะที่ผมกำลังเรียบเรียงคำพูด อยู่นั้น

ผมได้ยินเสียงฝีเท้าที่ เหยียบบนใบไม้แห้ง เสียงนั้นดังใกล้เข้ามาที่ตัวผมอยู่เรื่อยๆ

ก่อนจะหยุดลงในตำแหน่งที่ผม ต้องหนาวยะเยือก

ตำแหน่งนั้น ไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากหลังผมเท่าไหร่หรอก


“คุยกับใคร” เสียงกดต่ำ เอนไปทางโกรธๆ นั้นไม่ใช่ใคร หากเป็นไอ้คนที่มันเพิ่งจะดุผมกลางโต๊ะอาหารเมื่อกี้นั่นแหละ

ผมชายตาไปมองมัน กล้าส่งไปแต่เพียงหางตาครับ สบกันตรงๆคงไม่กล้า

มันเหมือนโกระผม ทั้งๆที่ผมเองก็รู้สึกหงุดหงิดกับมัน อาจจะถึงขั้นโกรธๆด้วยมั้ง

ไม่แน่ใจ ผมไม่ค่อยโกรธใครสักเท่าไหร่

“กับหน่า “ ตลอดเวลาที่ผมอยู่ด้วยกันกับมันมา สอนผมว่า ช่วงเวลาที่ไอ้ฉานไม่ปกติ

การประหยัดคำพูด ดูจะเป็นหนทางเอาตัวรอดที่ดีที่สุด
ที่ผมคิดได้

“วาง เดี๋ยวนี้ มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกัน” อะไรของมันวะ มาถึงก็จิกตาสั่ง

“หน่า มึงได้ยินหมาเห่าแล้วใช่ป่ะ มันหิวข้าว กูไปคลุกข้าวให้มันก่อน ไว้คุยกันเว้ย”

“เออๆ มึงคุยกะมันดีๆ อย่าไปกวนตีนมันสิ แล้วกูจะโทรมาใหม่ มึงรีบไปเหอะ เดี๊ยวมันน้ำลายฟูมปาก”

“มึงก็แบบนี้ทุกที กัดกับมัน แต่ก็เข้าข้างมัน เพื่อนกูจริงป่าวนี่ แต่ก็ เออ แค่นี้ก่อน บายเว้ย”


ผมเดินตามไอ้หมาบ้า เข้ามา ที่ม้านั่ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นนึง ไอ้ฉานนั่งรอผมอยู่ก่อนแล้ว

จากการสังเกตุสีหน้า อารมณ์มันไม่ดีเท่าไหร่ เรียกได้ว่าไม่ดีเอามากๆเลยก็ว่าได้

เป็นอะไรของมันวะ ยิ่งนานวัน มันยิ่งเข้าใจยาก มากกกกกกกกกก

“มีอะไรอ่ะ แล้วอิ่มแล้วเหรอ” ผมยืนคุยตรงหน้ามันนั่นแหละครับ ส่วนมัน นั่งบนม้านั่ง

สงสัยกำลังสงบสติอารมณ์

“ยัง แต่กินไม่ลง”

“อ้าว ทำไมอ่ะ ไม่อร่อย หรือว่ายังไง “

“ป่าว อร่อยดี แต่มีคนนิสัยไม่ดี”



อ่า......ฝนเริ่มตั้งเค้า ความหายนะ เริ่มส่งกลิ่นเข้ามาแบบจางๆ



“อะไรอีก จัดมาตรงๆเจ็บๆๆเลยเหอะ มึงอย่าอ้อมค้อม กูคิดตามไม่ทัน “


ผมเริ่มจะหัวเสีย มันก็เป็นเสียแบบนี้ ชอบอ้อมค้อม ชอบพูดให้คิด ให้หงุดหงิดใจ

“เมื่อไหร่จะโตสักทีอะเมฆ เมื่อไหร่ ที่มึงจะแสดงให้เห็นว่า เป็นผู้นำได้ โตสักที”

เอ่อ......ผมขอนับหนึ่งถึง.............n ในใจ

เกิดอะไรขึ้น ผมไปเหยียบต่อมอะไรของมัน แล้วทำไมผมต้องมานั่งให้มันด่า

ไม่เข้าใจ ตั้งแต่เจอหน้ากันวันนี้ มันพูดดีกับผมนับคำได้

ที่เหลือคือดุ คือว่า แล้วตอนนี่เป็นอะไร

อยู่ๆก็มาหลอกด่า.....ผมควรต้องทนเหรอ

“แล้วมึงเป็นอะไร กูจะเด็กกูจะโตมันเกี่ยวอะไรกับมึง มึงเบื่อที่ต้องมาคอยตามล้างตามเช็ดกู มึงบอกได้
ฉาน แต่อย่ามาทำแบบนี้ พูดใส่กูแบบนี้ กูไม่ชอบ และกูจะไม่ทน”

“มึงรู้ปะ ทุกคนดีใจขนาดไหน ที่มึงไม่อาละวาดใส่แม่มึงตอนที่เจอกัน แม่นิ่มบอกว่ามึงโตแล้ว รู้จักปรับตัวให้เข้ากับความเป็นไปของชีวิต แล้วนี่อะไร วันนี้มึงเป็นอะไร อันดามารอมึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง มารอมึง อยากเจอพี่ อยากพาพี่ไปเที่ยว มีรายการยาวเป็นหางว่าว แต่มึง มึงเย็นชาใส่น้อง ทำนิสัยที่ไม่ใช่ตัวมึงเลยใส่น้อง มึงเล่นแง่กะน้องมึง มึงคิดว่านี่คือสิ่งที่มึงควรทำเหรอ”


อ๋อ...............ผมก็นึกว่าอะไร ที่แท้ ก็โกรธแทนอันดา

ถ้ามันเป็นไอ้ฉานคนเดิมนะ มันต้องรู้สิว่า ผมไม่ได้ตั้งใจตั้งแง่ใส่อันดา

ผมแค่รู้สึกไม่สบายใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่สนใจอันดา

สิ่งที่มันต้องการคืออะไร

คือครั้งแรกที่เราพบหน้ากัน

ผมต้องวิ่งเข้าไปหา แล้วยกตัวอันดาขึ้นมาแล้วหมุนไปรอบๆตัวเหรอ



ให้นางวันทองได้เสียเป็นเมียพระอภัยมณีเถอะ



มันก็รู้ดีว่านั่นไม่ใช่นิสัยผม ....ผมก็เป็นของผมแบบนี้

เป็นคนปกติธรรมดา และแน่นอน ผมมีเลือดเนื้อ มีจิตใจ มีความรู้สึก

และตอนนี้

ผมรู้สึกมากกว่าคำว่าเสียใจ

ใช่.....ผมรู้สึกแปลกๆที่ออกมาแล้วเห็นว่า อันดากับไอ้ฉานพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม

มีเกลี่ยไรผมให้กันด้วยเถอะ

แล้วในทางกลับกัน ถ้านั่นคือสิ่งที่ผมกับพี่เต้ทำกันหละ

ผมอยากรู้ว่า ไอ้ฉานมันจะนิ่ง อย่างที่ผมเป็นไหม

มันไม่โมโห เป็นฟืนเป็นไฟมากระชากใหล่พี่เต้ แล้วต่อยปากไปแล้วรึไง

มันอาจจะดูแย่ หากสิ่งที่ผมทำ มันตีความได้ว่า

“ผมกำลังหึงน้องตัวเองกับคนรัก”

แต่มันช่วยไม่ได้นี่......ผมไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ แต่มันห้ามไม่ได้

ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้

มันหึงเป็น แล้ว ผมหึงไม่เป็นหรือไง

“มึงไปขอโทษ น้องมึงซะ สิ่งที่มึงทำวันนี้ ความเฉยชาของมึงในวันนี้ ทำให้น้องมึงร้องไห้”

“ อืม มีอะไรอีกมั้ย กูต้องทำอะไรอีก มึงบอกกูมาเลยฉาน บงการกูให้พอ ก่อนที่กูจะคิดว่า มันหมดเวลาลงแล้ว ตอนนั้น กูอาจจะไม่ทำตามที่มึงสั่งอีก”



มันรู้ว่า ความเฉยชาของผม ทำน้องผมร้องไห้ มันรู้ว่าน้องผมเสียใจ
แต่มันลืมไปแล้วหรือไง ว่าคนที่มันควรจะเข้าใจที่สุดคือ “ผม”
แล้วมันจะรู้มั้ย ว่าตอนนี้ ผมเองก็อยากจะร้องไห้ แต่น้ำตามันตกใน
และไม่ว่าจะยังไงก็ตาม น้ำตาของผมครั้งนี้ จะไหลออกมาให้มันเห็นไม่ได้

“มึงเป็นอะไร “ มันถามผมช้าไปหรือเปล่า

“กูถามว่ามึงเป็นอะไร” น้ำเสียงมันเริ่มเย็น และมันเป็นเสียงที่ลอดออกมาจากลำคอ

“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร “

“มึงโกหก มึงโกหกใครได้ แต่มึงโกหกกูได้เหรอเมฆ มึงเก่งขนาดโกหกกูได้เหรอ”

โอเค......พอกันสักทีดีไหม

“กูไม่ได้เป็นอะไร มึงได้ยินชัดมั้ย และกูกำลังจะเดินไปขอโทษน้อง อย่างที่มึงต้องการ มีอะไรที่มึงไม่พอใจอีกมั้ย”

“เมฆ กูพูดให้มึงคิดนะ กูหวังดี ไม่ใช่ให้มึงมาประชดกู ถ้ามึงขอโทษเพราะกู ก็อย่าเลย ถ้าทำเพราะเสียไม่ได้ก็อย่าทำ มันไม่มีความหมาย”


สุดท้าย......ผมทำอะไรก็ผิดสินะ


มือผมกำแน่น ลมหายใจถูกสูดเข้าปอดเร็ว และแรง ก่อนที่จะเดินจากไปจากตรงนี้

ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้าย

ในเมื่อตอนนี้ มีแต่ไฟ ไม่มีใครยอมเป็นน้ำ
ผมเดินมาเรื่อยๆ ไร้จุดหมายปลายทาง จนมาทะลุหาดทรายขาว ไม่กว้างเท่าไหร่

ฝั่งอันดามันก็แบบนี้ ไม่ค่อยมีหน้าหาดแบบฝั่งอ่าวไทย

เพิ่งเข้าใจแจ่มแจ้งว่า บ้านแม่น่าจะอยู่ปลายหาดติดกับภูเขา ตอนเข้ามาเราจึงเจอป่าก่อน

พอเดินทะลุออกมาถึงเจอฝั่งหาด

แต่บอกตามตรงว่า ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ชื่นชมบรรยากาศอะไรเลย

ม่านน้ำตามันไหลมาบดบัง ทัศนียภาพความสวยงามไปหมดแล้ว


ผมทรุดตัวลงนั่งหมดแรงอยู่ริมโขดหินใต้ต้นไม้

ไม่มีแรงเดินต่อ เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ

ตอนเป็นเพื่อนกัน เวลาทะเลาะกันหรือไม่เข้าใจกัน

ทำไมไม่รู้สึกอ่อนล้าขนาดนี้วะ

ทะเลาะก็แค่ ไม่คุยกัน จนกว่าจะมีใครทนไม่ได้นั่นแหละ

แต่ไม่เห็นจะมีความรู้สึกน้อยใจเสียใจ แล้วมานั่งสาวแตกน้ำตาไหลอยู่อย่างตอนนี้เลย

ผมรู้สึกเบื่อตัวเอง สมเพชตัวเอง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ถ้าเป็นคนรักกันแล้วต้องเป็นแบบนี้

ผมเองก็อยากกลับไปตรงจุดเดิม จุดที่มีแค่คำว่าเพื่อน ที่สนิทที่สุดเหมือนเดิม


เป็นแบบนี้เองสินะ ความรอ้นของดวงตะวัน

เคยมีคนบอกผมว่า ดวงตะวันนั้นร้อนแรง คอยแต่จะแผดเผาเราให้ร้อน

พระจันทร์ต่างหากที่ทอแสงให้ความอบอุ่น


แต่ผมก็เถียง


ว่าจริงๆแล้วดวงตะวันก็ให้ความอบอุ่นไม่แพ้พระจันทร์หรอก

ไม่เห็นจะร้อนแรงเลย



“นั่นเพราะชีวิตมึงหมุนรอบดวงตะวันนะสิเมฆ มึงถึงไม่เห็นความอบอุ่นของพระจันทร์”

มันก็คงจะจริง

เพราะตอนนี้ ผมเริ่มเชื่อแล้วว่า



“ดวงตะวันนั้นร้อนแรง”

ผมล้มตัวลงนอน เอามือก่ายหน้าผาก กันแสงแดดไว้ ให้ใบไม้แห้งๆนั่นแหละรองรับตัวผมไว้

หลับตา ลงปล่อยให้ความคิดไหลไปเรื่อยๆ

อะไรที่ทำให้ไอ้ฉานมีอิทธิพลกับผมได้ขนาดนี้นะ......คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
เลยคิดไปจนหลับ.....

“หน่อง หน่อง ไซมานอนอยู่ตรงนี้ ไม่ร้อนเห้อ” (น้องๆ ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ไม่ร้อนเหรอ)
เป็นเสียงที่ผมไม่คุ้นเคย และฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่นั่นทำให้ผมสะดุ้งตัวขึ้นนั่งทันทีเหมือนกัน
“พูดกับผมเหรอครับ” ผมชี้มาที่ตัวเอง มองไปรอบๆก็ไม่มีใคร

“แหลงกับหน่องนั้นแหละ เป็นไหรกับคุณหยาม้าย นี่พื้นที่ส่วนตัว “ (เป็นอะไรกับคุณหยาหรือเปล่า นี่พื้นที่ส่วนตัว)

“อะไรนะครับ ขอโทษครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจ” แอ๊ดว๊านไป งง ครับ

“คือว่าน้องนั้น เป็นญาติหรือเป็นแขกรีสอร์ท” (คือว่าน้องนั้น เป็นญาติหรือเป็นแขกของรีสอร์ท)

“อ๋อ ครับ เป็นญาติ ครับ “

“ งือ งือ แล้วไปๆ ไม่ใช่ไหร เห็นเดินมาไกลถึงนี้ นึกว่าแขกหลงทาง” (แล้วไปไม่ใช่อะไร เห็นเดินมาไกลถึงนี่ คิดว่าแขกหลงทาง)

“แหะ แหะ พี่ครับ ถึงผมเป็นญาติ ผมก็คงหลงทางแหละครับ เพราะตอนเดินมา ผมจำไม่ได้ว่าเดินมาจากไหน แล้วตอนนี้ คงกลับบ้านไม่ถูก” ผมเห็นพี่คนนั้นเค้าหัวเราะ ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ เกาหัวแกรกๆ แก้เก้อไปสิครับ อารมณ์นั้น ตอนเดินหนีมาก็ลืมโปรยก้อนหินหรือกิ่งไม้ไว้ตามทางเดินด้วยสิ

“ตามผมมาครับ” เค้าพูดใต้เหมือนเดิม แต่คำนี้ไม่ต้องมีซับก็เข้าใจกันใช่มั้ย

ระหว่างทางพอจะรู้ว่าพี่เค้าเป็นคนสวนของรีสอร์ทครับ แล้วก็ของที่บ้านด้วย

พี่เค้าบอกว่าถ้าผมเดินไปต่ออีกนิดก็จะเข้าเขตรีสอร์ทแล้ว แต่ปกติเค้าจะไม่ค่อยเดินไปรีสอร์ททางชายหาดกัน เพราะมันค่อนข้างเปลี่ยวและส่วนตัวมาก เค้าจะไปทางถนนที่ตัดจากบ้านผ่านสวน เข้ารีสอร์ทมากกว่า

แปลกมั้ยครับ ที่ผมมารู้ประวัติแม่ตัวเอง จากปากคนอื่น .....แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ

พี่เค้าบอกว่าทำงานให้แม่ผมมาตั้งแต่เพิ่งสร้างรีสอร์ท เมื่อก่อนแม่เป็นพนักงานโรงแรม อีกหาดนึง

แล้วมาพบรักกับพ่อเลี้ยง ที่เป็นเจ้าของธุรกิจแปรรูป ปาล์มน้ำมัน  ชวนแม่ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านเกิด แต่แม่ไม่
ยอม เลยต้องมีธุรกิจเป็นหลักแหล่งให้แม่ทำที่นี่ ส่วนตัวเองก็ไปๆมาๆ รวมทั้งแม่เองก็ไปๆมาๆเหมือนกัน


ผมรับฟังด้วยความรู้สึกหลากหลาย แม่ผมอาจจะไม่ได้สบายอย่างที่ผมคิด

กว่าแม่จะสบายอาจจะลำบากมาก่อนก็ได้ ผมเริ่มมองแม่ในเชิงลึกขึ้น และเข้าใจแม่มากขึ้น

เพิ่งรู้ว่าตัวเองเดินมาไกลมากเหมือนกัน เพราะกว่าจะถึงบ้าน เหงื่อเต็มตัว แถมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนจนจะไหม้ได้แล้ว นี่ขนาดบ่ายแก่ๆ แดดยังแรงได้ขนาดนี้   ถ้าเป็นช่วงเที่ยงนี่ไม่อยากจะคิด ดูจากสีผิวของคนที่นำทางผมแล้วก็พอจะเข้าใจอยู่ ผิวเดิมเค้าอาจจะดำอยู่แล้ว ยิ่งพอเจอแดดไปนี่เรียกได้ว่าเกรียม

ค่อยรู้สึกเย็นขึ้น ลมโกรก มากขึ้น เมื่อเข้าเขตสวนของบ้าน

ที่นี่อากาศแปลกมาก กลางวันร้อน กลางคืนเย็นแบบชื้นๆ ตอนกลางวันนี่อยู่ทะเลไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ในป่าคงเย็นสบาย ...

ผมมองเห็นคนนั่งกันอยู่ ตรงเทอเรซหน้าบ้าน ในกลุ่มนั้น มีแม่นิ่ม ไอ้ฉาน และพ่อกับแม่ไอ้ฉานรวมอยู่ด้วย

คงกลับมาจากเที่ยว แล้วรอกินข้าวเย็นละมั้ง

“อ้าวพี่เมฆ หายไปไหนมา นี่ให้คนตามหาจนทั่วเลย แล้วนี่มากับใข่นุ้ยได้งัย” แม่ครับ

“ อ๋อ เมฆเดินเล่นๆ อะครับ ทะลุไปชายหาดนู่นแหละครับ เจอพี่เค้าพอดี พี่เค้าเลยพามาส่งบ้าน เดินเพลินเลยจำทางกลับไม่ได้” ปากผมตอบแม่ครับ แต่สายตาผมกวาดดูปฎิกริยา แม่นิ่ม รวมทั้ง เอ่อ ไอ้หมาบ้าด้วยครับ
แม่นิ่มยิ้มให้.......โล่งใจ
ส่วนไอ้ฉาน.........สีหน้าเรียบเฉย เดาไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่

“อ๋อ ค่ะ ลูก ขอบใจใข่นุ้ยมากนะ ไปๆ ลูก รอพี่เมฆอยู่ พอดีคืนนี้เราจะไปนอนรีสอร์ทกันนะลูก แต่เดี๊ยวรอทานข้าวเย็นเสร็จแล้วค่อยไปนะลูกนะ พี่เมฆไปอาบน้ำ พักผ่อนก่อนก็ได้ เดี๊ยวถึงเวลาอาหาร แม่จะให้เด็กไปเรียก “

“ครับ” ผมลอบมองอันดานิดนึง เห็นน้องทำหน้าละห้อย ไม่ค่อยกล้าสบตากับผม นี่ผมเป็นคนไม่ดีจริงๆหรือนี่ ทำให้น้องไม่กล้าเข้าหา

ผมเดินไปที่อันดา ไม่ลืมปรายหางตาไปมองไอ้หมาบ้าด้วยครับ ดีที่ว่าอันดา แยกตัวนั่งออกมาจากกลุ่มแม่ๆพอสมควร ดูน้องเบิกตาตกใจเล็กน้อยที่ผมเดินมาหา
“อันดา พี่ขอโทษนะ ที่แสดงกริยาที่ไม่ดีออกไป  เอ่อ พี่อาจจะยังไม่ชินอ่ะ แล้วเพิ่งตื่นเลยยังเบลอ ไว้พรุ่งนี้พาพี่เที่ยวใหม่นะ ได้มั้ย “ ผมกล้าที่จะลองใจน้องด้วยการเอามือไปยีผมหยักศกมันขลับนั้นด้วยครับ

อันดาฉีกยิ้มใส่ผม พร้อมพยักหน้ารัวๆ ดูอันดาสดใส จนผมอดรังเกียจตัวเองไม่ได้ ที่เคยรู้สึกแย่ๆ และทำตัวแย่ๆใส่น้องไป

“พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ เหงื่อเต็มตัวเลย ร้อนมาก เจอกันที่โต๊ะอาหารนะครับผม “ ตะเบ๊ะแบบเท่ๆ หล่อๆ ให้ด้วยครับ

“คะ แล้วอันดาจะบอกทริปทัวร์ของเราบนโต๊ะอาหารนะคะ”

ผมเดินมาถึงห้องได้ ก็ล้มตัวลงนอนแช่แอร์ ตรงเดย์เบดริมระเบียงเลยครับ กะว่าแค่พอหายเมาแดดจะไปอาบน้ำล้างตัวให้สดชื่น ก็ได้ยินเสียง ประตูเปิดอีกครั้ง

ผมหลับตา........แต่ก็รู้ว่า มีคนมายืนอยู่ข้างๆ ตัว

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร แต่เรื่องอะไรที่ผมจะต้องสนใจ

“ไปไหนมา” ไอ้คนไม่มีมารยาท พี่เมฆหลับตาอยู่แท้ๆ ดูไม่รู้เหรอว่าเค้าหลับอยู่ ยังจะมาถาม

“ไม่ต้องแกล้งหลับ หายไปไหนมา” มันก็รู้ดีแบบนี้ทุกที

“ก็บอกไปแล้ว ไม่ได้ยินหรือไง” แล้วกูก็จะไม่ฉายรอบสองด้วย

“ได้ยิน แต่อยากรู้เรื่องจริง ว่าเตลิดไปไหนมา” 

ผมเปิดเปลือกตา แล้วมองหน้ามัน ให้รู้ว่า คนเริ่มบรรยากาศเลวร้ายรอบใหม่ คือมัน

“มาทำแผลให้หน่อย” หงะ อารมณ์ไหนของมันวะ ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ในความหลากหลายของไอ้ฉาน มันคงรู้ตัว มันจึงยกฝ่าเท้าข้างนึงให้ผมดู รอยแผลที่ฝ่าเท้า เป็นรอยบาดลึกเหมือนกัน มองเห็นเนื้อ
ขาวๆแดงๆ แลดูสยองไม่น้อย

“ วิ่งหามึงแล้วโดนหินบาดมา”


เอ๊ะ นี่เค้าเรียกง้อหรือเปล่าวะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 10-05-2010 23:58:15
เฮ้อ ก็ยังไม่เข้าใจกันอยู่ดีเน้อ

รีบๆเคลียกันซะทีนะ

ดวงตะวันจะได้กลับมาให้ความอบอุ่นกับก้อนเมฆอีกครั้ง

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 11-05-2010 00:02:57
เฮ้อ!!!!!!!!!!!!!!!

อ่านแลวอยากถอนหายใจดังๆ  ไม่รู้ทำไม....   
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 11-05-2010 00:27:10
 :เฮ้อ:ค้างอีกละ

เมฆกับฉานน่าจะคุยเปิดอกกันไปเลย :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 11-05-2010 00:29:28
รู้ใจกันมาตั้งนาน แล้วทำไมไอ้พี่ฉานดันมาตกม้าตายเดาอารมณ์คราวนี้ของพี่เมฆไม่ถูกเนี่ย o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 11-05-2010 00:30:58
นี้พี่เมฆ ถ้าไม่รักก็คงไม่เจ็บถูกไหม ^^
ที่พี่เมฆเจ็บมากเพราะรักมาก เข้าใจพี่เมฆนะ เพราะเคยเจ็บแบบนี้เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 11-05-2010 00:40:35
อย่าว่างั้นงี้เลย ขอ :z6: พี่ฉานซักทีเหอะ
อึดอัดและขัดใจเป็นที่สุด !!!

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 11-05-2010 01:04:57
พี่ฉาน นะ พี่ฉาน  ทำเหมือนไม่รู้ใจพี่เมฆ รู้จักกันก็นานแล้วนะ   :m16:
รีบง้อพี่เมฆด่วน เปิดอกกันคุยกันไปเล้ยย...

+1 ค่ะ  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 11-05-2010 01:05:51
ค้างจริงๆๆแหละ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 11-05-2010 04:31:22
ขอตอนต่อไป อย่างด่วน คร้าบบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 11-05-2010 07:28:11
เมื่อเพื่อนเปลี่ยนเป็นคนรักความหึงหวงก็ตามมา
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของความรักคือการหวาดระแวง
เมฆกับฉานอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก
เรียนรู้กันและกันมากกว่าคนรักคู่อื่น
รีบปรับความเข้าใจกันก่อนที่จะมีมือที่สามตัวจริงปรากฏ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 11-05-2010 09:23:26
ค้างอะ  :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 11-05-2010 12:24:15
เฮ้อ!!!!!!!!!!!!!!!

อ่านแลวอยากถอนหายใจดังๆ  ไม่รู้ทำไม....   

เห็นด้วยคะ  ในอกมันแน่นๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 11-05-2010 12:36:48
พี่เมฆน่าสงสารอ่าาา :monkeysad:
กับพี่ฉานนี่ก็ไม่รู้จะยังไง งงกะพี่แก
ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าา :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 11-05-2010 12:47:35
สงสารพี่เมฆ......
ทำไมคุณชายฉานต้องดุด้วย :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: scouser ที่ 11-05-2010 12:53:26
อืม อืม
แน่นในอกจัง
ยังแน่นอยุเลย
มาต่อไวไวนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-05-2010 13:18:34
ลึกๆ อิพี่ฉานก็คงรู้สึกอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกันมั้ง 
แต่ตอนนี้ ขอสักทีเถอะ  :beat:  หมั่นไส้และเคืองอิพี่ฉานมากกกกก  :beat:  :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 11-05-2010 13:27:04
ฉานเอ่ยยยยยยยยย รับ ถูกเสมอ อย่ามาเรียกร้องความสนใจ  :jul3:

อ่านแล้วก็อึดอัดเหมือนเดิม

รอติดตามตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 11-05-2010 18:39:50
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เมื่อไหร่จะเคลียร์กันให้กระจ่างสักที

อิคนอ่านจะบ้าตายอยู่แล้วจ้า  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 11-05-2010 19:11:12
ท่าทางจะง้อกันตัวต่อตัว เสื้อผ้าไม่เกี่ยวแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 11-05-2010 21:53:31
 :เฮ้อ:  เครียดดดด ปวดหัวจวยจริงๆ ...
มานั่งคุยกันดีๆดิ คู่นี้นี่ รักกันมากก จนเป็นแบบนี้เลย นี่แหละนะ แอบคิดเหมือนเมฆว่าถ้าเป็นแฟนกัน แล้วรู้สึกแบบนี้ เป็นเพื่อนสนิท กันเหมือนเดิมดีกว่ามั้ย ไม่ต้องมาคอยหึง มาคอยหวงให้ลำบากกก  อ๊ากกกก :serius2:
ผมรู้สึกมากกว่าคำว่าเสียใจ ถึงท่อนนี้ แล้วสะอึกเลยอะ เจ็บปวด
มันรู้ว่า ความเฉยชาของผม ทำน้องผมร้องไห้ มันรู้ว่าน้องผมเสียใจ
แต่มันลืมไปแล้วหรือไง ว่าคนที่มันควรจะเข้าใจที่สุดคือ “ผม”
แล้วมันจะรู้มั้ย ว่าตอนนี้ ผมเองก็อยากจะร้องไห้ แต่น้ำตามันตกใน
และไม่ว่าจะยังไงก็ตาม น้ำตาของผมครั้งนี้ จะไหลออกมาให้มันเห็นไม่ได้  เห้ออ เครียดดด
และนี่ก็ “นั่นเพราะชีวิตมึงหมุนรอบดวงตะวันนะสิเมฆ มึงถึงไม่เห็นความอบอุ่นของพระจันทร์”
 o13 คมสุดอ่ะ
เมื่อไหร่บรรยากาศ ทะมึน อึมทึมๆๆ มันจะหายไปซักที
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 11-05-2010 22:08:03
555555555
เฮ้อ
ค้างและอยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 11-05-2010 22:42:54
มานั่งรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 12-05-2010 09:56:34
:เฮ้อ:  ความรักบังตาทั้งคู่เลยอะ  :sad4:

ว่าแต่  คราวนี้ไม่ต้องรอนาน มาต่อเร็วมากมาย  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 12-05-2010 10:36:52
เข้าใจความรู้สึกของเมฆนะเพราะเราก็เคยเป็น

แม้แต่กับเพื่อนฝูงเองบางครั้งมันก็จะเกิดแบบ...ความรู้สึกแปลกแยกแบบแปลกๆ
มันไม่ได้ตั้งใจ  แต่มันเป็นไปเอง
เหมือนไม่มั่นใจในความสัมพันธ์
แต่ถ้าปล่อยไปสักพัก ปรับตัวได้ และคิดอะไรให้น้อยลง
เดี๋ยวมันก็หายไปเอง

ส่วนฉานก็เข้าใจน่ะนะว่าอยากให้เมฆเข้าได้กับครอบครัวใหม่
แต่ก็ใจเย็นๆหน่อยนะ
รอเมฆอีกสักนิด

ทีเรื่องอื่นยังรอได้มาตั้งหลายปี

ยังไงก็ปรับความเข้าใจกันให้เร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 12-05-2010 20:53:02
มาเคลียกันได้แล้วเน้อออ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 27 ,10 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 13-05-2010 17:21:38
มารอนุ้งเซ เอาเพ่ฉานมาขึ้นเขียง  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 13-05-2010 17:35:31
(http://image.ohozaa.com/is/banercom.gif)

ตอนที่ 28

บรรยากาศในห้องเงียบกริบ มีเพียงเสียงลมและเสียงหรีดหริ่งเรไร จากในสวนเท่านั้น ที่ลอดผ่านให้ได้ยิน
แต่เสียงนั้น ก็ยังเบาหวิว จนผมอึดอัด ไอ้ฉานไม่พูดอะไรอีกเลย นอกจากยื่นเท้า ที่มีบาดแผลให้ผมดู บาดแผลนั้น ไกลหัวใจมากก็จริง แต่ความน่ากลัวของมัน อดทำให้ผมใจหายไม่ได้ กลางฝ่าเท้าเป็นรอยแยก ลึก ยาว เกือบถึงปลานส้นเท้า เลือดยังปริ่มๆอยู่ตรงบาดแผล

มองลึกลงไปเห็นชั้นเนื้อแดง แยกออกจากเนื้อสีขาวชัดเจน จนมือผมสั่น

มันทนได้ยังไงกันนะ มันไม่ใช่แค่แผลหินบาดเล็กน้อย มันไม่ถึงกับฉกรรจ์ แต่เรียกได้เต็มปากว่าใกล้เคียง
เลือดที่ซึมออกมา ไม้ข้นเท่าไหร่ ออกจะใสขึ้น


“ เจ็บมั้ย แล้วก่อนหน้านี้ใครห้ามเลือดให้มึง” ผมดูแล้วแผลสะอาด ก่อนหน้านี้่าจะมีการห้ามเลือดและทำความสะอาดแล้ว

“ อันดา”

“อืม” ผมได้แต่พยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรต่อ ในหัวผมไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกตอนนี้ รู้แต่ใจสั่น มือสั่น หน้าชา คิดว่าเลือดคงไปเลี้ยงไม่พอ รู้สึกหน้ามืด ตาลาย......ผมสะบัดหัวสองสามครั้ง ก่อนลุกขึ้นยืน กำลังจะก้าวขาเดิน

“จะไปไหน” เสียงเรียก ดังพอแค่ได้ยิน แต่ในน้ำเสียงดูเจือความผิดหวังหรือน้อยใจผมเองก็ยากจะเดา ไม่แน่ใจว่ามีความโกรธหลงเหลืออยู่บ้างมั้ย

แต่ผมยังโกรธ ไม่ได้โกรธมัน แต่ โกรธตัวเอง ที่ไม่เคยใจแข็งได้สักที แค่เห็นมันตีหน้าเศร้า เอาแผลมาโชว์ ผมรู้สึกเหมือนมันลงใต้ไปเหยียบกับระเบิดก็ไม่ปาน

“ ไปบอกพี่เอกให้เอารถออก” พี่เอกคือคนขับรถของพ่อไอ้ฉาน ที่ขับพาพวกเรามาเที่ยวครั้งนี้

“ มึงจะไปไหนอีก “ น้ำเสียงกดต่ำ ไม่บอกก็รู้ว่าคราวนี้มันโกรธ หันไปมอง เห็นมันก้มหน้า กรามขบกันจนเป็นสันนูน น่าถ่ายรูปเก็บไว้ ...... ว่าเวลามันโกรธ หน้าตาหล่อๆของมัน น่ากลัวขนาดไหน


แต่ช่างเถอะ .....นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่น ไอ้ฉานมันหน้าซีด ผมคิดว่าแผลมันคงจะอักเสบ มากแล้ว
ไม่รู้ว่า ก่อนหน้านี้ มันวิ่งจนแผลแผลโดนกดซ้ำๆ ระบมมากขนาดไหน


ครั้งแรกที่เห็นมันพยายามเข้มแข็ง...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ยังแสดงความเจ็บปวดออกมาทางสายตา

เอาเถอะ ... ให้มันหายก่อน แล้วค่อยมาตีกันก็คงจะยังไม่สายเกินไป (มั้ง)

“ พามึงส่งโรงบาล “ ผมหันไปบอก ก่อนที่จะหันหลังกลับไปดึงลูกบิดประตู ก็ได้เห็นตามันเบิกขึ้น ปากอ้ากว้างกว่าปกติ....มันกำลังตกใจ

มันเองก็กลัวการไปโรงพยาบาล ไม่แพ้ผมหรอก ...
แต่มันถึกกว่า บึกบึนกว่า และแข็งแรงกว่า ก็เท่านั้น
โอกาสที่ผมจะเห็นมันต้องเข้าโรงบาลจึงน้อยมาก เมื่อเทียบกับผม


“ เฮ้ย กูไม่ได้เป็นอะไรมากนะเว้ย...มึงแค่ใส่ยา แล้วพันแผล เดี๊ยวก็หาย” มันต่อรอง เหมือนตัวเองแค่โดนมีดบาด....แต่ครั้งนี้ ผมไม่ตามใจมันหรอก

“ไม่ได้ แผลลึกมาก แล้วยาว มันเริ่มอักเสบแล้ว ต้องเย็บ เป็นบาดทะยักหรือเปล่าก็ไม่รู้ “

“กูโดนหินบาด ไม่ได้โดนตะปูตำ ทำไมต้องเป็นบาดทะยัก”


“มึงเป็นหมอเหรอ กูจะฟังแค่หมอนะฉาน ตอนนี้อ่ะ ถ้ามึงไม่ไปหาหมอ ก็อย่ามาคุยกะกูอีก กูเองก็จะเลิกสนใจมึงเหมือนกัน”

“มึงขู่กูเหรอ” มันก้มหน้าถามผมเสียงอ่อย คงแปลกใจไม่น้อยหรอก ที่เห็นผมแข็งใส่มัน ตลอดเวลาผมยอมมันมาตลอดนี่นา พอเห็นผมเป็นแบบนี้ มันเองก็ดูจะอ่อนลงไปเหมือนกัน

“ กูพูดจริง มึงจะลองดูก็ได้ ถ้าไม่ไปโรงบาล ก็ตามใจ กูจะไปตามอันดามาให้ อันดาทำแผลให้มึงรอบนึงแล้ว ทำให้อีกคงไม่เป็นไร แต่ไม่ใช่กูแน่ กูทำไม่เป็น และไม่ทำ รอนี่แหละ เดี๊ยวมา”

มือกำลูกบิดประตูเป็นรอบที่สอง บานประตูเปิดออก แต่ตัวผมพ้นบานประตูไปได้แค่ครึ่งตัวเท่านั้น

เมื่อไอ้ฉาน มันโผมาเกาะขาผมไว้

ไอ้คนอวดดี เจ็บแผลจนลุกขึ้นไม่ไหว ยังจะมีหน้ามาบอกว่าไม่เป็นไร

สภาพไอ้ฉานที่เกาะขาผมอยู่ตอนนี้ ทำใจผมวูบลง ใจผมสั่น มันไม่เคยอ่อนแอขนาดนี้มาก่อน

มันลุกขึ้นไม่ไหว แต่มันก็ยังเอาตัวไถพื้น จนมือมันเกาะขาผมไว้จนได้ มันก้มหน้าข่มความเจ็บไว้

มันเงียบไปสักพัก มือที่เกาะขาผมสั่น จนใจผมอ่อนยวบ แทบทรุดลงไปประคองตัวมัน
แต่ก็นั่นแหละ ผมบอกตัวเองให้ใจแข็งไว้

“ บอกพี่เอก ว่ากูจะไปโรงบาล แต่มึงห้ามไปไหนนะ อยู่กะกู ถ้ามึงหายไปจากสายตากูแค่นิดเดียว กูจะทิ้งให้แผล เน่า ให้หมอแม่งตัดขา ให้กูพิการไปเลย”


มันไม่เห็นหรอก ว่า ผมกลั้นยิ้มไว้สุดกำลังขนาดไหน

ถ้าหลับตา ไม่มองสรีระกำยำสมชายไทยแท้ของมัน ผมก็คิดว่า กำลังคุยอยู่กับ เด็กชาย ฉานแสง ตัวน้อย
ที่กำลังต่อรอง ขอให้ผมอยู่เป็นเพื่อนมัน .....สิ่งที่มันเอามาต่อรองก็น่ารักสุดใจ...จนผมต้องฉีกยิ้ม
ใครจะไปคิดว่า ผมจะมีโอกาสได้เห็นภาพนี้ เพราะที่ผ่านมา ภาพแบบนี้ มีแต่ผมที่แสดงออกกับมันมากกว่า
ถ่ายวีดีโอ เก็บไว้ตอนนี้.....ผมจะดูเลวเกินไปมั้ยว๊า


“เรื่องของมึงสิ ขาของมึง” ตอนนี้ผมอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย ต่อปากต่อคำกะคนดื้อด้านบางคน ก็สนุกดีอยู่หรอกนะ

“แต่กูเป็นสามีมึงนะ มึงรู้สึกดีเหรอที่มีสามีพิการหนะ” มันตัดพ้อผมแววตาละห้อยเชียว ถ้าเป็นเวลาปกติ ผมคงซาบซึ้งกับมันอยู่หรอกนะ แต่ตอนนี้ผมโกรธ ไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไรก็ตาม จะให้ผมใจอ่อนง่ายๆ คงยาก ไอ้ฉานมันมีผมอยู่ในอาณัติมันมานานแล้ว ถึงเวลาที่ผมควรจะเอาคืนบ้าง แค่ชั่วคราวก็ยังดี


อย่างน้อย มันก็ทำให้ผมรู้สึกว่า......ผมเองยังมีค่าสำหรับมันอยู่บ้าง
อย่างน้อยมันก็ยังแคร์ผม ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่า.....ตอนนี้ ผมเป็นที่เท่าไหร่ในใจมันก็ตาม


“ ก็พอรับได้นะ ถ้าจะให้ดี ให้เค้าตัดปากมึงออกด้วย กูจะขอบคุณหมอมากอะ” เคยเห็นหมาบ้า หน้างอปากยื่นมั้ยครับ ถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เลวร้าย ผมจะถ่ายรูปไว้ให้ดู

“แล้วมึงจะยังดูแลกูป่ะ มึงจะทิ้งกูมั้ย ถ้ากูพิการอ่ะ” มันเริ่มดราม่าไปนะผมว่า แต่เล่นกับมันหน่อยแล้วกัน

“ ก็คงไม่ถึงกะทิ้งหรอก อย่างดี กูก็แค่หาใครสักคน มาช่วยดูแลมึง ก็แค่นั้น”


ตั้งใจจะแหย่เฉยๆ
แต่

“ ไม่มีทางอะเมฆ มึงฝันไปได้เลยนะ แต่ถ้ามันมีวันนั้น ตายทั้งคู่” เสียงมันเหี้ยมเกรียมไม่แพ้หน้า ไอ้ห่านี่ ยุเรื่องไหน ไม่ขึ้นเท่าเรื่องนี้ เลยจริงๆ

“มึงไปตามพี่เอกมาสักที จะได้รีบรักษาให้มันหายๆ จะได้เอาไว้กระทืบเมีย ถ้ามันคบชู้”

ผมส่ายหน้ากับความบ้าของมันสองสามที ก่อนจะไปตามพี่เอกมาช่วย กว่าพี่เอกจะพยุงมันได้ ก็กินเวลาไปพอสมควร เพราะผมไม่ได้ช่วยพี่เอกพยุง เพราะพี่เอกบอกว่า หลายคนจะเกะกะมากกว่า สะดวก ผมเลยปล่อยให้พี่เอก แกพยุงไอ้ฉานคนเดียว ส่วนผมเดินรั้งท้าย เผื่อพี่เอกแกจะให้ช่วยเหลืออะไร

แต่ทฤษฎีพยุงคนเดียวง่ายกว่าของพี่เอก ใช้ไม่ได้กับหมาบ้า ที่มันพร้อมอาละวาดตลอดเวลาอย่างไอ้ฉาน


“ คุณฉานอย่าเกร็งสิครับ เจ็บมากเหรอครับ ทำตัวตามสบาย อย่าทิ้งน้ำหนักแบบนั้นสิครับ”


ผมแอบสงสารพี่เอกอยู่ในใจ

ไอ้ฉานมันเจ็บก็ส่วนหนึ่ง

แต่ที่มันเกร็งนั้น เพราะมันคอยแต่จะหันหลังมามองผมอะครับ

คนอย่างมันก็กลัวการโดนทิ้งเหมือนกันนะเนี่ย

ผมแกล้งไม่สนใจมัน ลอบมองไปทางอื่นบ้าง หรือแกล้งเดินช้าๆ บ้าง


ดี หันมองให้คอเคล็ดไปอีกอย่างนะมึง จะได้แอดมิท ครบวงจรท่องเที่ยวไทยไปทุกโรงบาล

กว่าจะลงมาถึงชั้นล่างได้นี่เรียกว่าทุลักทุเลเป็นที่สุด ผมหนะไม่เท่าไหร่ แต่พี่เอกสิ เหงื่อผุดเต็มหน้า
ทั้งๆที่อากาศเย็นสบาย ปกติไอ้ฉานก็ตัวใกล้เคียงควายอยู่แล้ว ยิ่งมันไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร
พี่เอกเลยเหนื่อยเป็นพิเศษ


“พี่ฉาน เกิดอะไรขึ้นค่ะ “ อันดาและคนอื่นๆ นั่งเล่นกันอยู่พอดี เลยรีบถลากันมาดูของแปลกกันใหญ่

“ฉาน เป็นอะไรมากรึเปล่าลูก ไปโรงบาลๆ เอกๆ ไปเอารถไป เดี๊ยวชั้นพยุงไว้ให้ก่อน” แม่ผมเองครับ

แม่ไอ้ฉานกะพ่อ คงขึ้นไปพักผ่อน แม่กับอันดา เลยไปช่วยหิ้วปีกไอ้ฉานกันคนละปีก

ผมเลยถอยออกมาจากวง ยิ่งคลุกวงในเท่าไหร่ จะยิ่งเกะกะครับ

พี่เอกเอารถตู้มาเทียบท่าหน้าบ้าน แม่ อันดา พี่เอก รวมทั้งคนงานในบ้าน ต่างช่วยมามารุมทึ้ง พยุงหมาบ้าเข้ารถกันใหญ่

แค่หินบาดเท้า ทำเหมือนกับว่าไอ้ฉานอาการสาหัส รอเข้า ไอซียู ยังไงยังงั้น

ผมหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน มีคนดูแลมันเยอะแล้ว ผมเองทำอะไรไม่ค่อยจะได้เรื่องสักเท่าไหร่ อยู่ไปก็เกะกะ ....... รู้สึกเจ็บหน้าอก และหายใจติดขัดกระทันหันอีกแล้ว

พ้นเขตประตู้บ้านได้ ผมรีบวิ่งขึ้นห้อง ก่อนที่ใครจะมองเห็น รอยแดงกล่ำในดวงตา ที่เริ่มจะมีน้ำเอ่อล้นออกมาเล็กน้อย รีบเอาหลังมือป้าย ก่อนที่มันจะไหลออกมา ให้ผมได้เกย์แตกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ในชีวิตผู้ชายแมนๆอย่างพี่เมฆ ที่ผ่านมา มันมากเกินพอแล้ว ... จะอ่อนแออะไรนักหนา

ได้ยินเสียงยินไอ้ฉานโหวกเหวกโวยวายอยู่ไกลๆ สงสัยมันคงพยศไม่อยากไปโรงบาลนั่นแหละ




ห้องที่ไม่มีไอ้ฉานคอยกวนประสาท นี่มันเหงาจริงๆนะ ผมก็เพิ่งรู้ ระเบียงหน้าห้องที่เมื่อคืน ผมกับไอ้ฉานยังเล่นเตะกันไปมา ก็คิดว่าแคบไป แต่ทำไมวันนี้ มันดูกว้างเกินความจำเป็น


ผมนั่งกอดเข่ามองฟ้า มองตะวันไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ไอ้ตัวดีมันจะกลับมาทันมื้อเย็นรึเปล่า


ไม่รู้มันจะให้ความร่วมมือกะหมอแค่ไหน ตอนมันออกไปตัวก็เริ่มร้อนๆ สงสัยแผลจะอักเสบ ยิ่งคนแข็งแรง ทั้งถึกทั้งอึดแบบไอ้ฉานด้วยแล้ว ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาสักครั้งนี่จะเป็นหนักกว่าชาวบ้านเค้า เห็นทีเรื่องนี้จะเป็นจริง  เวลาผมไม่สบายก็จะเป็นแค่ไม่นานก็หาย ไม่หนักหนาอะไร บางครั้งแค่ทานยาแล้วนอนพักผ่อนก็หาย แต่ที่ต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะไอ้หมาบ้ามันตื่นตูมเกินความจำเป็นแค่นั้นเอง





ผมนั่งตรงระเบียง จนตะวันเริ่มตกดิน แม่บ้านมาเรียกไปทานข้าวเย็นสองรอบแล้ว จนต้องบอกว่ารอทานพร้อมไอ้ฉานนั่นแหละ เค้าถึงได้หยุดตาม

ผมนั่งจมอยู่กับความเหงาที่อยู่ดีๆก็เกิดขึ้นมา จากที่ตะวันยังส่องแสงจ้า ตอนนี้มันเริ่มคล้อยตัวลงต่ำ

สักพัก มันคงจมหายลับไป พระจันทร์ ก็คงจะขึ้นมาทำหน้าที่แทน



นี่มันนานเกินไปแล้ว ทำไมไอ้ฉานยังไม่กลับ มันเป็นอะไรมากหรือเปล่า หรือว่ามันอาละวาดไม่ยอมเข้าพบหมอ จนนคนอื่นๆต้องอ่อนใจหรือเปล่า

ไม่รู้ตัวเลยว่าหลากหลายความคิดที่วนเวียนเข้ามาในหัวผมตลอดเวลาที่ผ่านมานี้
มีแต่เรื่องไอ้ฉาน ไอ้ฉาน และไอ้ฉาน
เป็นห่วงมันจัง
มันจะคิดยังไง ที่อยู่ๆผมก้หายไปแบบนี้ ทั้งๆที่มันสั่งแล้วแท้ๆว่าให้ไปกับมัน

“แค่ภาพที่อันดาพยุงไอ้ฉานออกไป มันบั่นทอนจิตฝ่ายต่ำของผมขนาดนี้เลยเหรอ
ทั้งๆที่ไอ้ฉานกำลังเจ็บอยู่
แล้วที่ผ่านมา.......ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันอยู่กับผมตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แล้วเราจะมากังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดทำไม
ผมยกหลังมาขึ้นมาป้ายน้ำตาลวกๆ มือควานหาโทรศัพท์ ตอนนี้ผมอยากไปโรงพยาบาล
เป็นห่วงไอ้ฉาน จนรู้สึกกระวนกระวาย


“แม่นิ่มครับ แม่อยู่ไหนอะครับ อ๋อๆ ครับๆ ไปครับ ครับ ได้ครับ จะรีบครับ”


ผมกดวางสายด้วยใจเบาหวิว

แม่นิ่มบอกว่าไอ้ฉานต้องนอนโรงพยาบาล ไข้ขึ้นสูง แผลติดเชื้อ

มันวิ่งจนแผลระบมยังไม่พอ ช่วงเวลาที่มันวิ่ง เชื้อโรคก็พร้อมใจกันเข้าแผลที่เป็นสนุกสนาน

มันอาละวาดที่ไม่เห็นผม จนหมอกับพยาบาลอ่อนใจ ที่มันไม่ให้ความร่วมมือ

แม่นิ่มบอกให้ผมรีบไป เพราะแม่ได้โทรมาสั่งที่บ้านไว้แล้วว่า ถ้าผมลงมาให้พาผมไปโรงบาล

ใจผมตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลตั้งนานแล้ว

ผมวิ่งตัวปลิวลงมาหารถที่จะพาผมไปโรงพยาบาล พี่แม่บ้านก็ดี เค้านั่งรอผมอยู่ก่อนแล้ว

ก่อนจะบอกว่า รถจอดอยู่หน้าบ้าน ไปได้เลย




ผมมาถึงโรงบาลได้รีบวิ่งไปตามที่พี่คนขับรถบอกทันที ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ผมเพิ่งมาครั้งแรก

แต่ห้อง วีไอพี ชั้นบนสุดของโรงพยาบาล คงหาไม่ยากนักหรอก


ผมหาห้องพักไอ้ฉานได้ ก็แทบลืมมารยาททุกสิ่งอย่าง ผมผลักประตูเข้าไป ก็เห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า
ห้องพักผู้ป่วยแยกเป็นสัดส่วน มีห้องพักญาติ ห้องรับแขก แพนทรี ใหญ่โต สะดวกสบาย



“มาแล้วเหรอลูก ตกลงฉานต้องนอนโรงพยาบาลนะ เมฆก็อยู่เฝ้าฉานแล้วกัน เดี๊ยวแม่ น้อง แล้วก็น้าพิมพ์น้าชาติ เค้าจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน ข้าวปลาก็ยังไม่ได้กินกัน” แม่นิ่ม รายคิวงานผมยาวเลยครับ ได้แต่พยักหน้าและยิ้มทางการค้าส่งไป ตอนนี้ผมอยากเข้าไปดูไอ้ฉานแล้ว

“น้าฝากไอ้ตัวดีด้วยนะเมฆ ไม่ไหว นึกว่าคุยอยู่กับเด็ก 2 ขวบ เอะอะมันจะอาละวาด”น้าพิมพ์แม่แท้ๆไอ้ฉานครับ ผมก็ได้แต่ยิ้มแหะๆ แบบเข้าใจและมองเห็นภาพที่น้าพิมพ์อธิบาย

“ให้อันดาอยู่ช่วยมั้ยค่ะพี่เมฆ” ผมผงะ นิดนึง กำลังหาคำปฎิเสธที่ดูดีที่สุด

“ไม่ต้องหรอกจ๊ะ เราค่อยมาเยี่ยมตอนกลางวันดีกว่า เมฆกับฉาน เค้าอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก สถานการณ์แบบนี้ มีแต่เมฆคนเดียวที่เอาฉานอยู่ “ อันดาทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย แต่ผมนี่แทบจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกเลยทีเดียว ขอบคุณน้าพิมพ์มากนะครับ

“แม่กับทุกคนกลับก่อนนะ แม่สั่งกับข้าวจากรีสอร์ทไว้ให้แล้วเดี๊ยวคงมาถึง ดึกๆ แผลอาจจะอักเสบมาก มีอะไรเมฆก็เรียกพยาบาลเลยนะลูก” แม่ผมเองครับปิดท้ายรายการ ผมพยักหน้าไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ขอบคุณที่จัดการให้ผมทุกเรื่อง


ผมเดินเข้ามาในส่วนที่ไอ้ฉานนอนอยู่ มันกำลังหลับสนิท คงเหนื่อยและเพลีย ไหนจะเจ็บแผลอีก

ผมเห้นมันนอนสิ้นฤทธิ์ไร้พิษสง จมูกโด่งรั้น แพขนตาไอ้ฉานหนา เรียงกันเป็นระเบียบ และยาวงอน มิน่า มันถึงได้ดื้อด้านขนาดนี้ ริมฝีปากได้รูป ที่เคยปะทะคารมกับผมไม่เว้นแต่ละวัน วันนี้แห้งผาก ผมเอานิ้วเกลี่ยลูกผมเหนือหน้าผากมันเล่น ตอนที่มันนอนนิ่งๆไม่กวนประสาทผมมแบบนี้ มันหล่อมากเลยครับ
หล่อจนผมรู้สึกหวง อยากเก็บมันไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครมาเห็นมัน ไม่ว่าผู้หญิง หรือผู้ชาย อยากให้มันดูแลแต่ผม เอาใจแต่ใส่ผมคนเดียว และถึงมันจะชอบดุชอบว่า แต่ถ้าเป็นแค่กับองค์อิศวรคนนี้ ผมก็ยินดีครับ
มองไล่ลงมาเจอหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นเป็นจังหวะ สม่ำเสมอ แล้วก็อดยิ้มกว้างไม่ได้

“พักผ่อนนะมึง กูขอโทษ ที่ปล่อยให้มึงมาโรงบาลคนเดียว แต่ตอนนี้กูก็มาอยู่กะมึงแล้วนะ ตื่นขึ้นมาก็อย่าดุกูนักหละ ไม่อยากร้องไห้ให้มึงปลอบหรอกนะ มันไม่แมน”


ผมแอบเอานิ้วไปบีบจมูกมันก่อนที่จะออกไปรับลมที่ระเบียง ก็ได้ยินเสียงกริ่งเรียก สงสัยจะเป็นพยาบาลหรือไม่ก็ คนที่รีสอร์ทเอาอาหารมาให้  ผมเลี่ยงตัวไปทางฝั่งประตูห้อง ปรากฎว่าเป็นพยาบาลที่นำปิ่นโตมาให้ สงสัยจากคนของรีสอร์ทนั่นแหละครับ

เอาอาหารมาแยกจัดใส่จานรอไว้ในส่วนของห้องเตรียมอาหาร ไม่รู้ไอ้ฉานจะตื่นเมื่อไหร่ ถ้ามันนอนนานๆก็ค่อยเอาออกมาอุ่นก็แล้วกัน

โทรไปหาแม่นิ่ม บอกว่าพรุ่งนี้ตอนมาโรงพยาบาลให้เอาเสื้อผ้ามาให้ด้วย วันนี้ผมรีบเลยไม่ได้คิดถึงจุดนี้

พอรู้ว่าเป็นห่วงไอ้ฉานมาก ก็ตัวปลิวออกมาเลย

กลับเข้ามาที่ห้องไอ้ฉานอีกที ก็เห็นว่าไอ้ตัวดีลืมตาแล้ว แต่มันคงมึนยา หรือคงยังงัวเงียอยู่ก็ไม่รู้

ผมเห็นมันมองเพดานกรอกตาไปมา ผมพิงขอบผนังมองมันด้วยรอยยิ้ม ขำกับท่าทางที่มันกำลังทำอยู่

แต่ก็หุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อมันหันหน้ามาทางผม


“หิวน้ำหรือเปล่า” มันพยักหน้า

ผมเอาน้ำเปล่าใส่แก้ว ก่อนจะใส่หลอด กดปุ่มปรับระดับเตียงให้ยกขึ้นนิดหน่อย ก่อนจ่อปลายหลอดไปที่ริมฝีปากมัน มันดูดได้นิดหน่อยก็หยุดแล้วมองหน้าผม

“น้ำไม่เย็นอ่ะ”

“ก็เออสิ มึงเป็นคนไข้ จะกินน้ำเย็นได้ไง มึงไม่เคยนอนโรงบาลเหรอ”

“ไม่เคยอ่ะ แต่กูเป็นแผลที่เท้าไม่ใช่เหรอ ทำไมกินน้ำเย็นไม่ได้”

“ก็มึงมีไข้อ่ะ แผลมันอักเสบ เดียวคืนนี้ได้สั่นตายอะมึง” มีไข้กับแผลอักเสบนี่ใช่ครับ แต่สั่นตายนี่ผมมั่ว

“แล้วมึงหายไปไหนมา ทิ้งกูให้มาคนเดียว” มันจ้องหน้าผมแบบรอคำตอบ ไม่ให้เวลาผมคิดเลยครับ

“กูลืมโทรศัพท์ พอลงมารถก็ออกมาแล้วอะ คนมากันเต็มรถ มึงพูดมาได้ว่ามาคนเดียว”

“แล้วไหนหละโทรศัพท์”

“นี่ไง” ผมควักโทรศัพท์จากกางเกงได้ ก็เอาไปจ่อหน้ายืนยันกันเลยครับ

“นั่นมันโทรศัพท์กูนี่” อ้าวฉิบหาย ที่กูโทรเข้าโทรออก โทรหาคนนู้นคนนี้คนนั้น ไม่ใช่โทรศัพท์ตัวเองงั้นเหรอ

ผมพลิกโทรศัพท์มาดู ปรากฎว่าภาพพักหน้าจอ เป็นรูปที่ผมทำหน้าทะเล้น แล้วมีข้อความประกอบรูป เป็นประโยคที่หน้าอายว่า

“อาณานิคมของฉานแสง” ไอ้บ้า กูเป็นเมืองขึ้นของมึงตั้งแต่ตอนไหน แล้วใครเห็นบ้างมั้ยเนี่ย
ไอ้ฉานมันยิ้มก่อนจะหลุดขำออกมานิดหน่อย


“ก็ถูกแล้วมึง  โทรศัพท์ “เมีย” ถือ ก็ถูกแล้ว” มันพูดจบมันก็หัวเราะครับ

“แล้วโทรศัพท์กูหละ เฮ้ย โทรศัพท์กูหายอะฉาน”

“อยู่นี่”

“อ้าวไปอยู่ที่มึงได้ไง หรือว่ามึงก็อยากเป็นเมียกูเหมือนกัน” คราวนี้ทีของผมครับ ผมขอหัวเราะบ้าง

“ทะลึ่งแล้วเมฆ กูหิวแล้ว คืนนี้มึงนอนเฝ้ากูเปล่า”

“เปล่า เดียวมีคนมารับ แม่เค้าจ้างพยาบาลเฝ้ามึงแล้ว”

“เฮ้ยได้ไง กูบอกแม่แล้วว่าให้มึงมาเฝ้า กูจะเข้าห้องน้ำยังไง” มันโวยวายทันทีเลยครับ แกล้งมันนี่ก็สนุกดี

“เดียวพยาบาลเค้าจะมาสวมท่อฉี่ให้มึงอ่ะ แต่อึนี่กูไม่รู้ กูอาจจะสวนเปิดทางให้ก่อน ที่เหลือคงสะดวกมั้ง”

ผมตอบมันแววตากรุ้มกริ่มเชียวครับ เริ่มมีความสุขที่เห็นมันลนลาน ไอ้ฉานมันเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรเลยครับ

“แม่นิ่มครับ ไหนว่าให้เมฆมันมาเฝ้าอ่ะ ฉานไม่สะดวกอ่ะครับถ้าเป็นพยาบาล อ้าวเหรอครับ มันหลอกผมเหรอครับ ครับ ครับ เดียวจัดการมันก่อน” โห มันเล่นโทรฟ้องแม่นิ่มเลยอ่ะ ไอ้นี่แสบ

“เมฆมึงมานี่ดิ๊ เอาใหญ่แล้วนะมึง เดี๋ยวจะโดน อยากเดินไม่ได้สักสามวันป่ะ”

“อะไร อะไร เดี้ยงอยู่ยังจะปากดี มึงอยู่นิ่งๆเลย กูไปเอาข้าวมาให้ คลุกปลาทูใช่มั้ย หรือจะเนื้อบดดีอ่ะ เลือกเอา กูจะได้ทำถูก”


ไอ้ตัวดีมันเอาหมอนกลมที่พยาบาลเอามาหนุนแขนให้มัน เขวี้ยงใส่ผมครับ อย่างพี่เมฆ มีเหรอแค่นี้จะโดน
ผมเดินไปห้องเตรียมอาหาร พร้อมระเบิดหัวเราะเสียงดังไปตลอดทางเลยครับ

=================
ต้องขออภัยในความล่าช้านะ แบบเซเดินทางบ่อยช่วงนี้ เจอกันพาทหน้าค่ะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 13-05-2010 17:52:10
กลับมายิ้มได้อีกครั้ง....

เด็กชายฉานกลัวการกลับไปโรงพยาบาลเหรอ...  กิ๊วๆๆๆ 

อ้างถึง
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แล้วเราจะมากังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดทำไม
   นั่นสิ....อะไรที่มันยังไม่มาถึงอย่าไปกลัวมันเลยนะ....วันนี้ ตอนนี้อยู่ข้างๆ กันแค่นั้นก็พอแล้ว.....   


 :กอด1:    :กอด1:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 13-05-2010 18:11:35
บอกตามตรงไม่ค่อยชอบอันดาเลย
แบบว่ายังไงดี ชอบฉานแน่ๆ

แล้วพี่เมฆก็ต้องเสียใจ อ่านี้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 13-05-2010 18:28:53
ก็ยังไม่เคลียอยู่ดีง่ะ

เมื่อไหร่จะเคลียเรื่องของอันดาจบซะทีเนี่ย

สงสารเมฆ สงสารฉาน :เฮ้อ:

 o13 o13 o13

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 13-05-2010 18:41:42
รออ่านตอนความคิดของฉานบ้าง
พี่่เมฆอาจอยู่ในช่วงสับสน :t3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 13-05-2010 19:44:12
อันดา หนูไม่ผิดหรอกที่จะมีความรัก
แต่ช่วยไปรักที่เรื่องอื่นเหอะ อย่ามาจุ้นเรื่องนี้เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 13-05-2010 20:14:26
เห้ออ ค่อยยิ้มได้หน่อย   คุยกันให้มันเข้าใจไปเลยน่ะ ทั้งคู่อะ ลุ้นจนไม่รุ้จะว่าไงแล้ว
สงสัยเมฆกะฉานมันไม่รู้ตัวกันว่า รักกันและกันมากแค่ไหน
อันดา .. ก็แค่บททดสอบคนนึง ที่มาทำให้เกิดปัญหา และเรื่องราว มีเหตุให้ทั้งสองคนขัดแย้งกัน
แต่ก็หวังว่า อันดา จะไม่ยุ่งไปมากกว่านี้ ยุ่งจริงๆ ให้เมฆเค้าดูแลไปอะดีแล้ว
มาอยุ่ใกล้ๆรังแต่จะทำให้ทั้งคู่ผิดใจกันนนน
มารอบทต่อไป หวังว่าจะเคลียร์นะะะ

อ้างถึง
ผมหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน มีคนดูแลมันเยอะแล้ว ผมเองทำอะไรไม่ค่อยจะได้เรื่องสักเท่าไหร่ อยู่ไปก็เกะกะ ....... รู้สึกเจ็บหน้าอก และหายใจติดขัดกระทันหันอีกแล้ว
เจ็บปวดดด มันก็แค่รู้สึกเหมือนน้อยใจกับเป็นส่วนเกินอ่ะ

 :กอด1: คนโพสต์กะนักเขียน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 13-05-2010 20:18:31
ความหวังดีที่มาไม่ถูกที่ถูกเวลา ก้อทำให้ลำบากใจได้เหมือนกันเนอะ  :เฮ้อ:
พี่เมฆกับพี่ฉานได้เวลาต้องเคลียร์กันแล้วมั้ง? FC ไม่สบายใจอ่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 13-05-2010 20:19:39
เมฆกับฉานเริ่มดีกันละ เป็นการพักรบชั่วคราว
ในวิกฤตมีโอกาส โอกาสของเมฆหรืออันดากันนะ
ออกจากโรงบาลจะเกิดไรอีก มองต่างมุมอีกสิ
หวังว่าเมฆกับฉานจะเคลียร์กันได้ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 13-05-2010 20:28:19
มีเวลาอยู่กันแค่สองคนก็เคลียร์กันให้เข้าใจซะนะค่ะ  :L1:พี่ฉาน & พี่เมฆ :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 13-05-2010 20:39:49
เมฆดูแลฉานดีๆนะ

แล้วอย่าทำอะไรกันที่โรงพยาบาลละ :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-05-2010 21:19:28

น้อยหน่า เธอ  o13 มาก


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 13-05-2010 22:04:27
อันดาคงเข้ามามีบทบาทกับความรักของพี่เมฆฉานอีกแน่ๆ  :เฮ้อ:
แต่ว่าตอนนี้พี่เมฆกะฉานจะคุยกันเรื่องที่ค้างๆ คาๆ ในใจกันอยู่เปล่า..
มีโอกาสแล้วก็คุยเถอะ ไม่อยากให้พี่เมฆมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน
เพราะยังไง สำหรับฉาน เมฆเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว  :กอด1:

+1 จ้ะ  :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 13-05-2010 22:10:36
สงสารเมฆ หวังว่าจะเข้าใจกันเร็วๆ

อันดาอาจจะกลายมาเป็นมือที่3โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะดูท่าทางเหมือนมีใจให้ฉาน

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 13-05-2010 23:38:11
ฮู้ยยยยย  น้องเมฆจ๋า โดน  :oo1: ไปสองสามทีรู้สึกสาวแตกแบบผู้หญิงยังอายเลยนะเนี่ยะ  :m20:
นายฉานมันจะตามทันมะอะ  :jul3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-05-2010 23:54:30
มีโอกาสได้อยู่กันแค่สองคนแล้ว คงไม่เปลี่ยนโอกาสให้เป็นวิกฤตหนักกว่าเดิมนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 14-05-2010 00:26:13
จะคลุกข้าวให้แมวกินรึ พี่เมฆ :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 14-05-2010 00:33:29
อ่านคู่นี้ ช่วยละความปวดตับในชีวิตได้บ้าง
ฉานน่ารักจริงๆ  ยังไงก็เข้าใจกันไวไวนะ
หนูเมฆอย่าคิดมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 14-05-2010 01:22:08
ต้องจัดการน้องอันดาเลยจ๊ะ "ใครแย่งของเราไป ชั้นไม่ยอม" ตามนั้น
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 14-05-2010 03:50:25
เคลียกันนะจ๊ะ

รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n_sugar_t ที่ 14-05-2010 08:45:36
เคลียร์กันให้รู้เรื่องเหอะ อย่าปล่อยค้างๆคาๆเลย
ปล. ไม่ชอบอันดาเหมือนกัน  o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 14-05-2010 10:10:45
อ่านแล้วกลับมายิ้มๆ ได้อีกนิด

แต่จะให้ดีตอนหน้าขอแบบอ่านแล้วยิ้มแก้มแตกเลยนะจ้ะ ไรท์เตอร์

ขอบคุณน้องคนโพสด้วยจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 14-05-2010 19:35:10
ตอนหน้า เมฆจะโดนบ๊วบ ที่โรงบาลเหรออออออ  :impress2:

 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 14-05-2010 20:58:38
เรื่องนี้ โหด มันส์ ฮา ของจริง  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 15-05-2010 00:46:37
พี่เมฆอยู่ในภาวะสับสน....กลัวจะเสียคนที่ตนรัก....
ไอ้คุณชายฉานเข้าใจหน่อย........
และตอนนี้พี่เมฆเริ่มสงสัยแระว่า....
ตนเป็นคนสำคัญลำดับที่เท่าไหร๋สำหรับฉาน....
มีเคลียร์นะ...ไอ้คุณชายฉาน...จะรู้ตัวไหมเนี่ยยย.. :m16:

 :L2: :pig4:
 กด + ให้สำหรับพี่เมฆค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 15-05-2010 07:59:18
ดันๆ รอๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 15-05-2010 11:17:24
แวะมาอ่านต่อ... เป็นกำลังใจให้คนเขียนขอรับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 15-05-2010 16:19:13
อย่าใหเถงกะ ที่โรงบาล เลย

หึหึ กลับไป โจ๊ะกันที่บ้าน ดีม่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 15-05-2010 17:59:35
หนูอันดาจะมาเป็นมือที่สามอ่ะเปล่าหว่า??

เป็นกำลังใจให้คนเขียน สู้ๆ ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 15-05-2010 23:52:19
ฉานมาเคลียกะเมฆได้แล้วมั้ง

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: scouser ที่ 16-05-2010 11:34:46
จ่ะ จ่ะ รออยุจ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 28 ,13 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 16-05-2010 16:16:25
ตามทันแว้ววววว เย่ๆๆ..

เป็นกำลังใจให้น้องเมฆน้า เปิดใจคุยกันซะนะ  :))))
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 16-05-2010 16:23:13
ตอนที่ 29 หมดสต๊อกแว้ว  :z10:

อาหารมากมาย ถูกนำมาวางเรียงรายตรงหน้า ผู้(ที่คิดว่า) ป่วย

ล้วนแล้วแต่เป็นของที่ผมกับไอ้ฉานชอบทั้งนั้น

ผมแอบเห็นมันกลืนน้ำลาย และมีสีหน้าสดชื่นขึ้นกว่าตอนตื่นใหม่ๆมาก

ดูก็รู้ว่ามันหิวจัด แต่มันวางฟอร์ม

ไอ้คนเย่อหยิ่งมันยกถ้วยอาหารขึ้นดู ทีละอย่าง ด้วยความพอใจ

เมื่อก่อนตอนที่ผมป่วย อย่าหวังว่าผมจะยอมกินอาหารโรงพยาบาล

ต่อให้มีแม่ช้อยนางรำ มายืนยันว่าอร่อยล้ำแค่ไหน นั่นก็ไม่ทำให้ผมใจอ่อนได้

มันเป็นความฝังใจ ของผมที่คิดว่า อาหารโรงพยาบาลไม่อร่อย...และไม่เจริญอาหาร

แม่นิ่มจึงมักจะสรรหาของชอบมาเอาใจลูกชายคนเดียวยามเจ็บป่วย มันจึงเป็นความเคยชินไปแล้ว

แน่นอน ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมนอนโรงพยาบาล นั่นหมายถึง คนที่มาเฝ้าผู้ป่วยเอาแต่ใจอย่างผม ก็คือ ไอ้คุณฉานแสง ซึ่งมันก็จะได้รับอานิสงฆ์จากการเอาใจขั้นเทพ ของแม่นิ่มเช่นกัน

ผมเลื่อนถ้วยซุปที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ ไปตรงหน้ามัน

คิ้วมันขมวดฉับทันที ที่เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ในเมื่อมันเป็นซุปสำหรับผู้ป่วย ที่พยาบาลให้เพิ่มมากับโจ๊ก เผื่อโจ๊กนั้นข้นเกินไป แต่ผมดูแล้ว เป็นโจ๊กที่ไอ้ตัวดีมันไม่ชอบ ผมจึงไม่ยกออกมาให้หนักมือ แต่เอาน้ำซุปมาแกล้งคนป่วยที่ทำผมเสียน้ำตาแทน



ไม่ว่ายังไง มันก็สำคัญที่สุดสำหรับผมอยู่ดี ….ขนาดจะแกล้งมันแก้แค้น ผมยังคิดถึงจิตใจมันเลย คิดดู


“เมฆ นี่อะไรอะ เดี๊ยวนี้เค้าไม่กินน้ำเปล่ากับแก้วแล้วเหรอ” มันพูดเหมือนตอนมันหลับไป มันข้ามไปใช้ชีวิตมาอีกภพนึงงั้นแหละ ไอ้เว่อร์

“ซุปไง”

“แล้วซุปนี่ มันเป็นญาติห่างๆกับน้ำเปล่า เหรอ” มันยกถ้วยน้ำซุป หมุนไปมายังกะควงแก้วไวน์ พิจารณาถึงการจัดเรียงตัวของโมเลกุลในน้ำซุป

“กูเดาว่ามันเป็นญาติสนิทกันวะ เพราะมันใกล้เคียงกันมาก” ผมตอบ แล้วก้มลงจัดการข้าวตรงหน้าต่อ แบบไม่ได้สนใจมัน

“เมฆ กูอยากกินแบบที่มึงกินอ่ะ “ ผมกำลังตักใข่พะโล้เข้าปากพอดี

“มึงป่วยอยู่ เค้าให้กินแค่นั้น เดี๋ียวช็อค” เริ่มรู้สึกดีใจแทนเพื่อนมนุษย์กันมั้ย ที่ผมไม่เลือกเรียนแพทย์

“เมฆ กูเป็นแผลที่เท้านะ ไม่ได้ผ่าตัดใหญ่ ยังไม่กินอะไรเลยรู้ป่ะวันนี้อ่ะ”

“แล้วทำไมไม่กินอ่ะ “

“เฮ้ออ นี่กูพูดอยู่กะนักศึกษามหาลัย หรือพูดอยู่กะ เด็กขี้แย ขี้มูกเกรอะกรังวะ” เชี่ย อดีตมันผ่านไปแล้ว ชอบพูดถึง

“แล้วนี่หายโกรธกูยัง” มันเปลี่ยนเรื่อง

“ใครโกรธมึง” ไม่รู้ไม่ชี้ ฟาดใข่พะโล้ต่อ มีปลาทอดด้วยนะ ปลาหมึกยัดไส้ก็มี มีกระปล่ำปลีทอดน้ำปลาด้วย น้ำพริกกุ้งเสียบอีก อูยยยย ซี๊ดดด

“มึงไง โกรธกู หรือไม่ใช่ เอ๊ะ หรือมึงรู้สึกมากกว่านั้น” มันเอามือมาลูบหัวผม แล้วโยกไปมา กะจะเคลิ้มสักหน่อย

“ ไม่ได้โกรธมึงสักหน่อย มึงคิดมากไปเอง”

“กูยอมรับว่าคิดมาก คิดเยอะ โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องมึง แต่มึงอ่ะ คิดไปเองคนเดียว”



อุวะ!! ชักจะเริ่มอิ่ม ผมวางช้อน หันไปเห็นมันจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว สายตาที่มันมองแน่วแน่มาที่ผม ไม่มีแววตาล้อเล่นแบบนี้ เล่นเอาเขิลไม่เป็นท่าไปเหมือนกัน

“มึงดุกู มึงขู่กูด้วยนะ” ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขุดมาตัดพ้อมันให้หมด นี่ยังไม่ได้เพิ่มออฟชั่นเป็ดปากยื่นเข้าไปด้วยนะ แค่นี้ไอ้หมาบ้ามันก็สลดแล้ว

“ ก็พูด ดี ดี แล้วมึงชอบคิดว่าพูดเล่น “

“แต่มึงตะคอกกูต่อหน้าอันดา “ มันเสียใจเว้ย เสียหน้าด้วย ข้อหลังนี่เพิ่งคิดได้ ตอนนั้นเสียใจมีความเข้มข้นมากกว่า

“ขอโทษครับ” มันเอามือผมไปกุมไว้ พอพูดจบ มันก็เอามือผมไปกดจูบ ย้ำๆ จนผมต้องดึงกลับมานั่นแหละมันถึงหยุด......รู้งี้ เข้าห้องน้ำมาก่อนก็ดีอะ

เห็นมั้ย โบราณว่าไว้ไม่มีผิด เล่นกับหมา หมาดูดปาก

“มึงรู้สึกไม่ดีกะน้องเหรอ “ เหมือนโดนต่อยหน้า แบบไม่ทันได้ตั้งตัว อึ้ง และ จุก

“เปล่า กูเป็นบ้าไปเอง ไม่มีอะไรหรอก “

“หึงกูเหรอ” ฉึก!!! แทงใจดำ เกร็งตัวอัตโนมัติ โดยไม่ได้ตั้งใจ ไอ้ฉานมันเริ่มยิ้มกริ่ม


“จริงอ่ะ มึงหึงจริงอ่ะ หวงกูอะดิ” มันเริ่มเอานิ้วมาเขี่ยๆตัวผม

“ไม่เอาไม้เขี่ย กูเลยหละ แล้วกูไม่ได้หึงเว้ย ไอ้เชี่ย มึงอย่ามาเนียน” ผมหน้างอ พยายามเบี่ยงตัวหลบในทุกทิศทาง มันยังเอานิ้วตามมาเขี่ย กูไม่ใช่หมาเน่านะไอ้บ้า

“มึงคิดยังไงกะอันดาอ่ะ มึงดูเกร็งๆ ไม่ชิน หรือไม่ชอบ”

“ไม่รู้หวะ แต่ไม่ได้ไม่ชอบนะ อาจจะยังไม่ชิน” ผมตอบไปก็จัดการตักข้าวให้มันไป ไม่แกล้งมันแล้ว เดี๊ยวมันหายช้า คนที่เดือดร้อน คือผม

“แต่อันดาเค้าดีใจที่มีมึงเป็นพี่นะ เค้าเหงา พอรู้ว่ามึงมา นี่เค้าตื่นเต้นดีใจ” มือที่กำลังจะตักใข่ที่ตั้งใจผ่าครึ่งอย่างเท่าเทียมที่สุด ชะงักลงทันที

“ดูมึงสนิทกับอันดาดีนะ ตกลงน้องกูหรือน้องมึงกันแน่” ผมแค่มองหน้ามันแว่บนึง แล้วก็หลบหน้ามันต่อ

ครับ ไม่อยากให้มัน มองตาผมตอนนี้ มันต้องรู้แน่ๆว่าผมคิดอะไรอยู่

“นี่มึงน้อยใจน้อง หรือ หึงกู” มันลอยหน้าลอยตาถามผมหน้าระรื่น ยิ่งผมหน้าบูดมากเท่าไหร่ รู้สึกปากมันจะฉีกยิ้มกว้างขึ้นเท่านั้น ......เริ่ม รู้สึกอยากอาละวาด

“กูเปล่า” เปล่าน้อยใจ แต่ไม่ปฎิเสธว่าหึง อันนี้ผมอุบอิบกับตัวเองในใจ

“ หือ ตกลง ว่าไง น้อยใจหรือหึง หืม เมื่อก่อนตอนมึงงอนกู ทำไมกูไม่สังเกตุวะ ว่ามึงน่ารัก 555 “ ไอ้เหี้ย หน้าแดงเลยครับพี่เมฆ กำลังโกรธๆกันอยู่ เหมือนกำลังจะง้อ หรือทำความเข้าใจกัน ยังไม่ทันจะรู้เรื่อง มึงก็เกี้ยวเมียตัวเองซะอย่างงั้น

“ไม่แกล้งมึงแล้วก็ได้ มึงแค่เมนส์มา ไม่ได้งอนกู อ่ะ พอใจยัง กูแค่อยากจะบอกมึงว่า กูสนิทกับอันดานี่กูหวังผลหวะ”


ห๊ะ!! นี่ผมไม่ได้หูฝาดนะ ผมรู้สึกตกใจครับที่ไอ้ฉานพูดแบบนี้ ถึงผมกับน้องไม่ได้สนิทกันมากมาย แต่ผมก็รู้สึกไม่ดี ที่มีคนมาบอกว่า สนิทกับน้องผมเพื่อหวังผลตอบแทน โดยเฉพาะคำพูดนั้น มาจากไอ้ฉาน

“เฮ้ย มึงอย่ามองหน้ากูแบบที่นางเอกมองตัวโกงดิวะ กูยังพูดไม่จบ มึงจะตาเหลือกใส่กูเพื่อ “

“ก็มึงพูดจากำกวม กูจะรู้เหรอ “

“กูอ่ะจะเอาพี่ชายเค้าทำเมีย กูก็ต้องทำตัวเป็นพี่เขยที่ดีสิ น้องเมียจะได้รักกู “ เหี้ย ตบมุขซะกู ตาเหลือกอีกรอบ

“อันดาเค้าอยากสนิทกับมึงให้มากกว่านี้ เพราะไม่ได้โตมาด้วยกัน เค้าอยากชดเชยเวลาที่หายไป แล้วพอดีกับที่กูดูเป็นคนอัธยาศรัยดี เห็นมึงเดินตามตูดกูต้อยๆ เลยมาถามเรื่องของมึงกะกู แล้วก็ขอให้กูช่วยเป็นสื่อกลางให้ แต่มึงไม่ให้ความร่วมมือ กูเลยโมโห แต่พอรู้ว่า เพราะมึงหึง กูก็ยกโทษให้นะ แต่มึงต้องมีอะไรตอบแทนกูบ้างนะ หายากนะจ๊ะเมียจ๋า สามีดีๆ แบบนี้” ปากมันพูด ตามันกรุ้มกริ่ม มือมันโยกหัวผม


คนกำลังซึ้งๆ และกำลังรู้สึกผิด ที่คิดอกุศลกับน้องตัวเอง แต่พอมาเจอประโยคหลังๆ ของมันเข้าไป ไอ้ที่กินไปเมื่อกี้ มันแทบจะสำรอกออกมาพ่นใส่หน้ามันเลยครับ


“เมฆ เป็นอะไร ทำไมมึงเงียบไป กูพูดอะไรไม่ดีเหรอ แต่คนเรานะมึง ชีวิตจะยืนยาวแค่ไหนไม่รู้ โลกก็หมุนเร็วขึ้นทุกวัน บางครั้ง เราก็ต้องปล่อยวางเรื่องในอดีตไปบ้าง ถ้าฝังใจกับมันแล้วมึงเจ็บปวด แต่อะไรที่เป็นความทรงจำดีๆ ก็ให้เก็บไว้ แล้วมึงก็คิดถึงแต่อนาคตข้างหน้า เราเดินไปชนกับอนาคตข้างหน้า ดีกว่าย้อนกลับไปจมอยู่กับเรื่องในอดีตที่แก้ไขไม่ได้นะมึง แต่อนาคตอ่ะ เราวางแผนล่วงหน้าได้” แหม นี่ถ้าผมไม่อยู่กับมันมานาน ผมก็คิดว่า กำลังสนธนาธรรมอยู่กับหลวงพี่ที่สอบเปรียญธรรมขั้นที่ 9 ได้ตั้งแต่อายุยังน้อยนะเนี่ย


“ความทรงจำที่ดีๆ ที่มึงว่านี่อะไรเหรอ” ผมอยากรู้จริงๆนะครับ ไม่ได้กวนตีนมันแต่อย่างใด ดูจากสายตาบ๊องแบ้วที่ผมส่งไปก็น่าจะรู้

“ก็ตอนที่กูพามึงไปเล่นซ่อนหาในห้องน้ำงัย ไม่มีใครคิดได้แบบกูนะจะบอกให้ หรือจะเป็นเรื่อง ที่เราเล่นน้ำฝนด้วยกัน แล้วปีนไปแช่ให้ถังเก็บน้ำหลังโรงเรียน แต่มึงกะกูปวดฉี่ เลยฉี่ฝากไว้ไง ไม่รู้มีใครได้กินน้ำอัมฤทธ์ของเราบ้างเนอะมึงว่าป่ะ หรือเรื่องที่มึงร้องครางคืนนั้นก็ไม่เลวนะ เซ็กซี่ดี แต่พอได้ยินแบบนี้มันไม่ค่อยดีกะกูมึงรู้ป่ะ เพราะว่ากูจะไม่อึดเท่าที่ตั้งใจ จากที่กะไว้ว่าจะเล่นสักสิบห้าท่า ก็ลดลงมาเหลือสามรัยงี้
หรือไม่ก็”

“พอๆ มึงนี่นะ กูคุยดีๆด้วยไม่ค่อยได้หรอก ชอบวกมาเรื่องนี้ แล้วอย่าพูดแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนๆ โดยเฉพาะไอ้หน่าหละ มึงมันปากเสียพอๆกับสันดาน “ ผมปรามมันพร้อมๆกับเอามืออุดปากมันไว้ ยิ่งมันจะพยายามเอามือมาแกะมือผมออกเมื่อไหร่ ผมก็ยิ่งกดแรงลงไปหนักๆ


ผมเริ่มไม่แน่ใจว่ามันใช่คนเดียวกับที่ใครๆในมหาลัยบอกว่า หยิ่ง จองหอง เข้าถึงตัวได้ยาก หรือเปล่า เพราะสำหรับผมแล้ว ไอ้ฉานมันเรียกว่าล้นครับ ล้นในทุกเรื่อง

“แล้วกูต้องทำยังไง” คำถามนี้ผมกลั้นใจถามมันเลยนะครับ จริงๆกำลังคิดอยู่ว่าจะถามมันดีมั้ย แต่ถ้าไม่ถามมัน ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีใคร ที่รู้จักผมได้เท่ามันอีกแล้วครับ

“อะไร เป็นเมียที่ดีของกูอะเหรอ “ เห็นมั้ย ผมบอกแล้ว มันคุยดีด้วยได้ซะที่ไหน

“ไม่ใช่โว้ยยยยยย ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยย กูหมายถึง กูจะเริ่มต้นยังไง กับอันดาดีอ่ะ จะต้องทำยังไงถึงจะลบล้างความผิดที่กูทำไว้กะน้องดี” ผมเห้นมันชงัก ก่อนที่จะคลี่ยิ้ม โชว์รอยบุ๋มตรงแก้ม ให้ผมได้ใจละลายกับความหล่อของสามีตัวเอง อย่าเพิ่งอ๊วกครับ ผมคิดในใจ ไม่ได้พูดออกมา

“มึงไม่ต้องทำอะไรเลยเมฆ มึงไม่ต้องประดิษฐ์อะไร มึงแค่เป็นตัวของมึงเอง แค่นี้ กูมั่นใจว่า มึงจะเป็นพี่ชายที่น่ารักของน้องได้ไม่ยากหรอก” มันแสดงความมั่นใจด้วยการยกช้อนชูขึ้นครับ ก่อนจะลดลงมาเข้าปากแล้วดูด อุบาทว์ฉิบหาย เสือกรู้สึกเสียดายน้ำพะโล้

“กูรู้สึกไม่มั่นใจเลยหวะ มันเกร็งๆอ่ะ มันคล้ายกับการออกไปพรีเซ็นต์โปรเจคหน้าห้อง แต่มันไม่เหมือนซะทีเดียว โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย กูรู้แล้วว่าอะไรที่ยากกว่าการทำโปรเจคส่ง” ช่วงขณะเวลาที่ผมหัวเสียอยู่นั้น ก็มีวัตถุของแข็งชนิดนึงเคาะลงบนกบาล ไม่หนักมาก แต่ก็รู้สึกมึนๆ พอมองไปที่ต้นเหตุ มันคือช้อนที่ไอ้ฉานกินข้าว

ไอ้โสโครก

ลูบหัวตัวเองป้อยๆ ปากก็ขมุบขมิบด่ามัน

“มั่นใจในตัวเองหน่อยเมฆ แค่มึงเป็นมึง แค่นี้ ใครๆก็พร้อมใจกันถวายความรักให้แล้ว โดยพาะไอ้เหี้ยพี่เต้ของมึงไง กูพูดแล้วกูก็แค้น แมร่งเอ้ยยย ผู้ชายผู้หญิง แมร่งมีล้นโลก ไม่ชอบ มาชอบเมียกูเนี่ย “

เอ่อ ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ มันเปิดประเด็นของมันเอง แล้วมันก็หงุดหงิดเอง อันนี้ผมไม่เกี่ยว

“มึงป้อนข้าวกูหน่อย กูไม่มีอารมณ์กินเองแระแมร่ง หน้าไอ้เหี้ยเต้ลอยมากระแทกหน้า “

“อ้าว แล้วกูเกี่ยวอะไรเนี่ย มึงหงุดหงิดของมึงเองนะ มือก็ไม่ได้ง่อย กูยังไม่อิ่มเลย “

“อะ อะ กูอนุโลมให้ มึงป้อนกูคำนึง แล้วกินเองคำนึง ดีปะ หรือไม่นะ กูมีข้อเสนอพิเศษคือ มึงป้อนกูใช่มั้ย กูเคี้ยวให้ แล้วป้อนกลับใส่ปากมึง เอาป่าว บริการสุดๆ มีออฟชั่นเสริม คือเอาลิ้นควาญส่งตรงถึงหลอดอาหารเลยเป็นไง สนใจป่าว” อุแหวะ มันนำเสนอเหมือนเป็นอะไรที่น่าประทับใจ จนผมต้องอยากได้จนตัวสั่นยังไงยังงั้นเลย นี่ผมยังไม่หายโกรธมันนะเนี่ย


แต่ตอนนี้ ผมสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ต่างกับความรู้สึกก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับเหว
ผมจะอยู่กับวันนี้
ผมจะยิ้มรับกับวันพรุ่งนี้
ผมพร้อมที่จะเรียนรู้ชีวิตที่เติบโตขึ้น
เพราะผม.... มีมันคอยกวนประสาทนี่แหละครับ




“ฉาน พรุ่งนี้ตีนมึงจะหายมั้ย”

“หือ มึงพูดเป็นหนังการ์ตูนไปได้ ตีนกูแยกออกจากกันเป็นถนนสองเลน มีร่องน้ำกั้นขนาดนี้ พรุ่งนี้จะหายได้ไง อย่ามาเพ้อ”

“เหรอ งั้นไม่เป็นไร เดียวรอมึงซ่าไหวก่อนก็ได้ แล้วเราค่อยไปเที่ยวกันสามคนเนอะ กูอยู่ได้อีกหลายวัน แม่นิ่มก็คงอยู่ได้ ดีแล้วทำงานหนักมาตลอดจะได้พักนานๆ ส่วนพ่อกะแม่มึงหละเอาไง แม่มึงอยู่ได้แต่พ่อมึงสิ คงต้องไปทำงาน แต่จริงๆพ่อมึงก็รวยอยู่แล้วนะ ไม่ต้องทำอะไรก็ไม่อดตายแล้วชาตินี้”

“มึงเพ้ออะไร อยู่ได้หลายวันเนี่ย มึงถามแม่มึงหรือยังว่าเค้าอยากให้มึงอยู่หรือเปล่า อ้าวๆ ทำหน้าสลดทำไม กูพุดเล่น เดี๊ยวนี้อารมณ์อ่อนไหวนะแมร่ง แม่กูอะอยู่ได้ แต่พ่อคงกลับไปทำงานก่อน ลูกน้องเป็นร้อย แต่วันหยุดก็บินมาใหม่ได้ไม่เป็นไร จะได้สนิทๆกันไว้ ยังไงก็ต้องดองกันอยู่แล้ว”

“อะไรๆ ดองกันอะไรของมึง อย่ามาเฉไฉ กูปล่อยช่องไม่ได้เลยนะ “ ผมรีบเอาช้อนที่มีข้าวพูนๆ ยัดปากมันอย่างไว หมั่นไส้มันขั้นแม็กซ์

“แล้วมึงจะบอกน้องมั้ยว่าเราเป็นอะไรกัน”

“มึงจะบ้าเหรอ จะบอกทำไม “ มันบ้าไปแล้วครับ สงสัยเชื้อโรคคงขึ้นถึงสมองมันแล้ว

“อ้าวทำไมอ่ะ เป็นเมียกูไม่ดีตรงไหน กูหน้าตาดี ฐานะก็พอเลี้ยงดูมึงได้สบายๆไปตลอดชีวิต อยู่มหาลัยมีแต่คนแย่งกันอยากได้กูเป็นแฟน มีแต่มึงนี่แหละ ที่มองไม่เห็น จนกูต้องหาทางลัดเอาเอง”

มันต่อว่าเหมือนเรื่องที่ผมจะไม่บอกอันดาว่าเราเป็นอะไรกัน เป็นปัญหาสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่งั้นประเทศอาจจะไม่ปลอดภัย อะไรประมาณนั้นเลย

“ เอาไว้ มึงตกเป็นเมียกูเมื่อไหร่ แล้วกูจะบอกอันดานะ คงต้องให้เวลาน้องทำใจที่จะต้องมีพี่สะใภ้ อย่างมึง” ผมตบบ่าให้กำลังใจมันแบบเน้นๆ อย่างเต็มอกเต็มใจ

“เดี๊ยววันไหนอากาศดีๆ จะชวนอันดามาฟังเสียงพี่ชายร้องคราง ดูสิ ว่ามันจะน่าฟังกว่าตอนที่มึงพล่ามแค่ไหน กูละติดใจ๊ ติดใจ เสียงนี้จริงๆ”

ผมรวบช้อนเก็บถ้วยเก็บจานแบบไม่ตอบโต้อะไร ปล่อยให้มันหัวเราะไปก่อน เพราะไม่ว่ามันจะบิ้วผมยังไง แต่มันเดี้ยงอยู่อย่างนี้ มันก็ได้แต่พล่ามไปแหละครับ คงทำอะไรผมไม่ได้


เอ๊ะ
หรือว่า


ผมจะจับมัน มัดมือ มัดเท้า แล้วเราก็จัดการกับน้องชายมัน พอมันเคลิ้มถึงจุดสูงสุดของแดนสยาม
เราก็ปล่อยมันให้ค้างเล่นๆ


หรือ ไม่ผม ก็อาจจะลงทุนเปลื้องผ้า เต้นยั่วมันดู ดีนะ จะได้รู้ว่า บนฟ้าไม่ได้มีแต่ดวงตะวันนะเว้ย ที่เสนอหน้าลอยเด่น ไม่เชื่อลองวิ่งออกไปมองท้องฟ้าสิ ว่าดวงตะวันกับก้อนเมฆหนะ ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของท้องฟ้า
==================================
เจอกันเมื่อทวงต้นฉบับได้ก่อนนะ จะพยายามให้สุดความสามารถ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 16-05-2010 16:41:19
 :m20:  ฮาจริงๆ พี่ฉานแซวน้องเมฆด๊ายยยยยยยย..... อ่ะนะ :impress2:

 ความคิดนู๋เมฆในตอนท้ายนี่ก็น่าสนเนอะ  :haun4:  &  เชิบๆๆๆ~  :z2:


>> หมดสต๊อกแล้วก็ปั้มใหม่สิคะ รออยู่นะ มาต่อไวๆ :m12:

>> พยายามทวงเข้านะคะ ส่งแรงใจให้ :m4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 16-05-2010 16:43:29
เดี๋ยวเอาไม้เขี่ยเลย น่ารักดีนัก  :laugh:
ค่อยสมกับเป็นพี่เมฆกับท่านฉานหน่อย เฮ้อ~ โล่งอก
 :oni1: ขอแค่เข้าใจและรักกันอย่างงี้ เรื่องอะไรๆไม่น่ากลัวอีกแล้ว ว่ะฮ่าๆ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 16-05-2010 16:46:55
อ่านตอนนี้แล้วอารมณ์ดี
เมื่อไหร่จะเปิดตัวกะที่บ้านซะที
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 16-05-2010 17:31:33
ถึงฉานจะบอกว่าสนิทกะอันดาหวังผล แล้วถ้าอันดาไม่คิดแบบนั้นหล่ะ
ถ้าอันนดารักฉานรัก พี่เมฆต้องยอมน้องใช่หรือป่าว

หรือว่าอันดาจะเป็นสาววาย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 16-05-2010 17:41:03
ฉานกับเมฆเข้าใจกันได้สักที
เมฆ ทำไปในฐานะพี่เขยที่แสนดี แต่ทำให้เมฆเข้าใจผิด หึงซะได้
นึกว่าฉานต้องง้อยาว แต่เจ็บนี่เนาะ เลยง้อยาวลำบาก  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-05-2010 18:07:35
เฮียฉานนี่ฮามากอ่ะ คิดแต่ละอย่าง :jul3:
ดีจังที่เข้าใจกันแล้ว ผัวเมียมีไรต้องคุยกัน กร๊ากๆๆ :haun4:
หวานแบบฮาๆ คู่เค้าน่ารักเกินห้ามใจ
+1 ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 16-05-2010 19:09:30
โอ้ววววว ในที่สุดก็ดีกันแล้ว   ตอนต่อไป  ขอซักยกได้มะ  ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เสียเลือดเลยอะ  :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 16-05-2010 19:24:12
เคลียร์ซะที


 โล่ง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 16-05-2010 19:31:15
กลับมาหวาวแล้วววว

อ่านไปยิ้มไป เมฆนี่ฮาได้อีก  :m20:

“มึงป้อนข้าวกูหน่อย กูไม่มีอารมณ์กินเองแระแมร่ง หน้าไอ้เหี้ยเต้ลอยมากระแทกหน้า “ อ่านอันนี้แล้ว ดวงตะวันนี่อย่างฮา  :m20:

"ผมจะจับมัน มัดมือ มัดเท้า แล้วเราก็จัดการกับน้องชายมัน พอมันเคลิ้มถึงจุดสูงสุดของแดนสยาม
เราก็ปล่อยมันให้ค้างเล่นๆ" อันนี้สนับสนุนให้เมฆทำเลย ซะใจดี  :m20:

หรือ ไม่ผม ก็อาจจะลงทุนเปลื้องผ้า เต้นยั่วมันดู ดีนะ จะได้รู้ว่า บนฟ้าไม่ได้มีแต่ดวงตะวันนะเว้ย ที่เสนอหน้าลอยเด่น ไม่เชื่อลองวิ่งออกไปมองท้องฟ้าสิ ว่าดวงตะวันกับก้อนเมฆหนะ ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของท้องฟ้า  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 16-05-2010 20:54:17
555 มีความสุข เคลียร์กันได้ซักที หุหุ

อ่านไปยิ้มไป หวานมากกกก

แหมๆ ที่แท้ก็หวังผลที่เอง หุหุ แถมยังขี้หึงด้วยยย

น่ารักสุดๆๆๆๆๆๆๆ

 :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 16-05-2010 21:10:29
น่ารักกันจริง ๆ เข้าใจกันได้ซะทีพี่ฉานกับพี่เมฆ :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 16-05-2010 21:17:49
น่ารักจริง ๆ เลยพี่เมฆ...ปรนนิบัติสามีอย่างดี....
ความจริงให้น้องอันดารู้ซะก้อน่าจะดี.....
กลัวความหล่อของไอ้คุณชายฉานไปกระแทกใจน้องอันดา...
ถึงตอนนั้น.....พี่เมฆจะ...พูดไม่ออกเอานา.....  :teach:

คงต้องรอลุ้นต่อไป...... :L2: :pig4:

กด + ให้กับพี่เมฆ กะ ไอ้คุณชายฉาน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 16-05-2010 21:36:44
เย้ๆๆๆคืนดีกันแล้ว :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 16-05-2010 21:45:44
เฮ้อ....
เข้าใจกันซะทีนะ...
เมฆอย่าคิดมานะลูก  ไอ้คุณฉานมันทั้งรัก ทั้งหลงเมียไม่รู้จะยังไงแล้ว....555

ยิ่งอ่านแล้วยิ่งรู้สึกว่า สองคนนี้ เติมเต็มซึ้งกันและกันจริงๆ



อ้างถึง
“อ้าวทำไมอ่ะ เป็นเมียกูไม่ดีตรงไหน กูหน้าตาดี ฐานะก็พอเลี้ยงดูมึงได้สบายๆไปตลอดชีวิต อยู่มหาลัยมีแต่คนแย่งกันอยากได้กูเป็นแฟน มีแต่มึงนี่แหละ ที่มองไม่เห็น จนกูต้องหาทางลัดเอาเอง”  
 


อ่านแล้วขำ ปน สงสารพี่ฉาน   เออนะ ถ้าไม่บอกไปนี่ ณ ตอนนี้ จะได้หวาน สวีทกันแบบนี้ป่าววะเนี่ย...555

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 16-05-2010 21:57:35
แผนเต้นยั่วนี่ก็ไม่เลว จะมีวันได้เห็นไหมเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 16-05-2010 23:56:25
จัดให้รู้กันไปเลยท่านพี่เมฆ ว่าใครเเน่กว่ากัน 55
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-05-2010 00:43:34
นึกว่าจะได้เปลี่ยนบรรยากาศที่โรงบาล ตื่นเต้นดีนะ ลองจิ  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 17-05-2010 00:50:23
ฮ้าดีใจ เมฆกับฉานกลับมาบ้าเหมือนเดิมแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 17-05-2010 00:51:59
แหม๋ๆๆ อ่านตอนท้ายไป ความคิดน้องเมฆ
อร๊ากกก เลิศค่ะๆๆๆ จัดไปซะหนึ่งดอกดีไหม
ให้ฉานเรา อกแตกตายเล่นๆคริคริ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 17-05-2010 01:27:01
รอเปิดตัวเลยอะฮิๆๆ น่าร้ากกกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 17-05-2010 09:45:51
ดีกันแล้วเนาะ.... :impress2:

อยากเห็นท่าเต้นของเมฆ ว่าจะยั่ว ได้แค่ไหน ว่าแต่ยั่วอารมณ์ไหนอ่ะ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-05-2010 11:05:43
อิพี่ฉาน เท้าหายแล้ว ก็รีบไปเปิดตัวสู่ขอเลยดีกว่า ญาติผู้ใหญ่อยู่กันครบแล้วนี่ จัดการเลย อย่าช้า  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 17-05-2010 11:21:16
คืนดีกันแล้ว :m3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 17-05-2010 13:38:55
 คิด และ ทำท่าเหมือนรีนแป๊ะ  อิอิ

เจ้สอง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 17-05-2010 15:30:34
เย้...เมฆกับฉานดีกันแล้ว
รอเมฆกดฉานตอนฉานขาเจ็บ :oo1:
แต่จะสำเร็จมั้ยนะ :เฮ้อ:
ขอบคุณคนแต่งกับคนโพส :L2:
คนแต่งรีบส่งต้นฉบับนะคนอ่านรออยู่จ้ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 17-05-2010 18:24:36
เย้ๆ  คืนดีกันสักที

แต่ช่วยเอาหนูอันดามาเคลียร์อีกคนได้เปล่าจ๊ะ จะได้สบายใจกว่านี้

เป็นกำลังใจให้รอตอนต่อไปจ้า ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 17-05-2010 21:28:20
น่ารักอ่ะชอบๆๆ รอคอยตอนต่อไปอย่างติดขอบจอจร๊า++++ :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 17-05-2010 21:59:57
ชอบเรื่องนี้จัง อ่านแล้วรู้สึกดี
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: somsom ที่ 18-05-2010 06:34:10
อ่านไป ยิ้มไป น่ารักจังเลยคู่นี้่
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: rero ที่ 18-05-2010 19:10:14
เข้ามาอ่านเรื่องนี้ทันแล้ว
น่ารักทั้งคู่
ลูกเล่นกันแพรวพราว
ชีวิต...ไม่วังเวงแน่

รอตอนต่อไป....
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-05-2010 21:24:37
น้องเซทวงต้นฉบับได้ยังคร้าบบบ อยากรู้เรื่องราวต่อไปของดวงตะวันกับก้อนเมฆแล้วง่ะครับ  :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 29 ,16 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 18-05-2010 22:10:11
คืนนี้ คงจะมานะ ถ้าเห็น นุ้งเซออนแว่บ แว่บ นี่มีหวัง

เมฆมันจะกล้าเต้นยั่วเหรอ

ยั่วแล้วอารมณ์จะเกิด หรือจะดับหละ

 :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 18-05-2010 23:51:51
 คุยกันก่อนเข้าเรื่อง

สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน ... ลงเรื่องมาถึงตอนที่ 30 แล้วเราแทบจะไม่ได้คุยกันเลย
น้องเซมา (เจอกู) เตะ คนลงเรื่อง เธอก็คุยไม่เก่ง แต่รักหมดใจ (กล้าเล่น ทั้งๆที่เชยโครตๆ)
สอง-สาม ตอนที่ผ่านมาอยู่ในสภาวะอึมครึม เหมือนยืนอยู่ตรงแยกราชประสงค์เลยเนอะ
พ่อแม่พี่น้องที่รักน้องเมฆทั้งหลาย...บ่นกันขรม เชียว กลัวอันดาจะมาแย่งไอ้ฉานกันเป็นแถว
ว่าแต่.......ไอ้ฉานมันน่าแย่งตรงไหนเหรอ ????
อย่าคิดมากนะพ่อแม่พี่น้อง......จริงๆนิยายเรื่องนี้ไม่มีอะไร (และไร้สาระ)
ตั้งใจว่าแต่งเรื่องแรก อยากให้เป็น นิยายฮาๆ ใสๆ แบบรักกันไปวันๆ อะนะ
บางครั้งอยากให้ พี่ฉานโหด ลงไม้ลงมือกะน้องเมฆบ้าง ก็ดันสงสารน้องเมฆอีก.... :z3:
หรือบางครั้งเกิดอยากให้พี่ฉาน กดน้องเมฆให้สะใจ ในฐานะที่เมฆโครตน่าหมั่นไส้
ก็กลัวในเรื่องจะมีเสียงครางมากไป เมฆ ไม่เป็นกุลเกย์อีก..... :เฮ้อ:
อ่านตอนต่อไปบางคนอาจจะโล่งใจแต่บางคนอาจจะผิดหวัง
ที่มันน่าจะน้ำเน่าแบบน้องแย่งแฟนพี่สิหน่า....ใช่มะ มีบางคนคิดงี้ใช่มะ
เอาน่า แค่นี้ก็เห็นเงาจันทร์พอแล้ว...อย่าให้ยุงชุมไปกว่านี้เลย
แล้วก็ห้ามทิ้งกันจนกว่าจะจบนะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณ   anterosz  ที่ออกตัวรัก เมฆกับฉานอย่างจริงจัง และแวะมาดันให้เสมอเลย
ขอบคุณค่ะ...... o1
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ..... o14  o15



(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 30

ไอ้ฉานนอนโรงบาลอยู่แค่ สองวันกับหนึ่งคืน ก็กลับมาอยู่บ้าน แต่ก็ต้องไปทำความสะอาดแผลทุกวัน
จนกว่าแผลที่เย็บจะติดกันจนสนิท ซึ่งถึกและบึกบึนแบบมัน ใช้เวลาไม่กี่วันก็หาย
พ่อไอ้ฉานต้องกลับไปทำงานก่อน ส่วนแม่ไอ้ฉานก็กลับไปดูแลด้วย คู่นี้เค้าไม่เคยห่างกันเลย
ส่วนแม่นิ่มนะเหรอ เห็นเพื่อนบ้านที่แสนสนิทกลับกันหมด แม่ก็กลับด้วยครับ

แต่ให้ผมกับไอ้ฉานอยู่ต่อ เนื่องจากไอ้ฉานยังไม่ได้เที่ยว
(ถ้าผู้อ่านจะลืม ลูกแม่นิ่มคือพี่เมฆนะครับ กลัวจะลืม คิดว่าเป็นไอ้ฉาน ชิส์)


ผมเองในเมื่อแม่กลับ ก็อยากกลับด้วย รู้สึกว่าเกรงใจและไม่อยากเป็นภาระ
แต่แม่และอันดาอยากให้อยู่ต่อ แม่นิ่มเองก็เห็นด้วย เพราะว่า มหาลัยยังไม่เปิดเทอม

ผมกับอันดา เราคุยกันมากขึ้น และเริ่มสนิทกันมากขึ้น
ก็มีตัวประสานล้นๆแบบไอ้ฉานนั่นแหละช่วย
มันบอกว่า นี่มันยอมเจ็บ เพื่อให้ผมกับน้องเข้าใจกัน
มันก็เอาความดีใส่ตัวได้อีก

แต่ผมก็ไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วอันดาชอบไอ้ฉานมั้ย แล้วถ้าชอบ ผมจะทำยังไงดี
บางครั้งผมก็อยากบอกให้อันดารู้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้ฉาน
แต่ก็ไม่รู้ว่า อันดาจะรับได้แค่ไหน ถ้ารับไม่ได้ เรื่องจะถึงหูผู้ใหญ่มั้ย
หรือบางครั้ง ผมเองก็กังวลว่าอันดา
จะสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้ฉาน จนไม่เป็นตัวของตัวเอง
ไอ้ฉานมันไม่เคยแคร์เรื่องการแสดงออกที่มากกว่า คำว่า เพื่อนสนิท กับผมอยู่แล้ว
ยิ่งมันเจ็บตัวอยู่แบบนี้ มันจะยิ่งอยากให้ผมเอาใจมันเป็นพิเศษ
ผมเองไม่อยากจะมาเถียงกับมันจะให้อับอายญาติพี่น้อง เลยต้องตามใจมันไป(ก่อน)


สามวันสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ เราสามคนสุดเหวี่ยงกันมากครับ
ส่วนใหญ่ เราจะดำน้ำ ดูปะการัง ขึ้นเขา ลงห้วย ไปมันทุกที่ ที่แนะนำของกระบี่
จริงๆไอ้ฉานอยากลองเที่ยวผับในเมือง แต่อันดายังเด็กเกินไป อีกอย่างเป็นผู้หญิงด้วย คงจะไม่เหมาะ

อันดาไม่เคยพูดถึงพ่อให้ผมได้ยิน พอๆกับที่ผมเองก็สงสัยว่า การมาของผมครั้งนี้
พ่อของอันดารู้หรือเปล่า หรือว่า แม่ให้ผมมาตอนที่พ่ออันดาไม่อยู่
และผมเองก็ไม่อยากเป็นตัวปัญหา ที่ทำให้ใครต้องมาทะเลาะหรือรู้สึกไม่ดีต่อกัน


ไอ้ฉาน นอนยกขาสบายใจเฉิบอยู่บนที่นอน ผมเลือกที่จะมานอนรีสอร์ท
เพราะบ้านมันกว้างและเงียบเหงาเกินไป
รีสอร์ทยังมีนักท่องเที่ยวให้ดูครึกครื้นบ้าง

“ฉาน มึงสงสัยเหมือนที่กูสงสัยปะ”
“อะไรวะ”
“ก็ ทำไม แม่หรืออันดา ไม่เห็นพูดถึงพ่ออันดาเลยวะ หรือว่า เค้าแอบพบกูแบบไม่ให้ทางนู้นรู้”
“มึงน่าจะไปแต่งนิยายนะ น้ำเน่าได้อีก คิดมาก”
มันลุกขึ้นมาลากผม เพื่อล้มตัวไปนอนกอดกับมัน
“ ฉาน กูไม่เล่นนะ ไม่เอานะ พรุ่งนี้กลับกรุงเทพแล้ว”
“กลับกรุงเทพเกี่ยวไร” เออ ผมก็อ้างไปโง่ๆ
“ไม่รู้แหละ แต่วันนี้ นอนดีๆ นะ มึงอย่าหื่นนะ วันนี้กูขอเลย”
“ไม่สบายใจเรื่องพ่ออันดาอยู่อะดิ” ไม่เคยแปลกใจเรื่องที่มันจับอารมณ์ผมได้
“ อืม กูรู้สึกว่า แม่ มีครอบครัวใหม่ที่สมบูรณ์ดีแล้ว กูไม่อยากให้ตัวกูมาทำให้ครอบครัวแม่แตกแยก”
“ไม่มีอะไรหรอก มึงไม่คิดบ้างหละ ว่าที่แม่กับอันดาไม่พูดถึง เพราะกลัวมึงรู้สึก ไม่ดีเหมือนกัน”
“บางครั้งนะ เราก็คิดในส่วนที่เรามอง เค้าเองก็อาจจะคิดในส่วนที่เค้ามอง แต่ในสองส่วนนั้น กลับเป็นความคิดที่เป็นห่วงความรู้สึกของอีกฝ่ายทั้งนั้นแหละ “ อืม ก็จริงของมัน
“ฉาน แล้วถ้าเกิดอันดาชอบมึงขึ้นมา จะทำไง” ไหนๆแล้ว ผมขอเคลียร์ทุกประเด็นร้อนเลยแล้วกัน
“ อันนั้นกูก็ห้ามไม่ได้นะ ถ้าอันดารู้สึกแบบนั้นขึ้นมา แต่สิ่งที่มึงควรจะต้องรู้ก็คือว่า กูชอบผู้ชาย ซึ่งก็คือมึง”
“แต่กูไม่อยากให้น้องเสียใจ”
“แล้วมึงจะยกกูให้อันดารึไง กูไม่ใช่สิ่งของนะ”
“เปล่า คือมึงกูก็ไม่ให้ใครงัย แต่ก็ไม่อยากให้น้องเสียใจเรื่องนี้เหมือนกัน” เข้าใจความรู้สึกพี่เมฆมั้ยครับ คือหวงไอ้ฉานก็ห่วงแต่ความรู้สึกน้อง ก็ห่วงอะครับ
“มันอาจจะเป็นแค่ความประทับใจ ไม่ใช่ความรัก ก็ได้นะ น้องไม่เคยมีพี่ พอมีก็เห่อเป็นธรรมดา อีกอย่างนะ พี่ก็หล่อ มึงอย่าคิดมาก ยังไงมันต้องช่วยกันแก้อยุ่แล้ว ปัญหาแบบนี้อ่ะ กูเคยปล่อยให้มึงแก้ปัญหาคนเดียวเหรอ “
“ เปล่า”  มันพูดถูก ผมเป็นคนที่ชอบคิดมาก คิดไปเองก่อนเสมอ เรื่องยุ่งยากทั้งหลายถึงได้ตามมา ผมควรเชื่อไอ้ฉาน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
“งั้นก็นอน ถ้ามึงยังขยุกขยิก ไม่นอน กูจะทำอย่างอื่น “ มันเริ่มจะขึ้นคร่อมผมแล้ว แต่ผมพลิกตัวทัน วันนี้ขอเอาแรงก่อน
เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว



แม่กับอันดามาส่งผมกลับกรุงเทพ ที่สนามบิน ก่อนเข้าเกท ผมแอบเห็นอันดาหน้าสลดลงนิดหน่อย
คงเหงา ที่มีเพื่อนมาหลายวัน ตอนนี้ต้องกลับมาเป็นลูกคนเดียวอีกครั้ง
“พี่ไปก่อนนะ แล้วจะลงมาหาบ่อยๆ ถ้ามีวันหยุด ตั้งใจเรียนหละ “ ผมยีหัวอันดา ที่ตอนนี้ตาเริ่มจะแดงๆมีน้ำตาคลอเบ้า
“ผมกลับก่อนนะครับแม่ ขอบคุณครับ มารบกวนนานเลย” ผมกับไอ้ฉาน ยกมือไหว้แม่พร้อมกัน
“มาอีกนะลูก เสาร์อาทิตย์ก็มาได้นะ พาเพื่อนๆมา แม่กับอันดาจะได้ไม่เหงา” ผมยิ้มไม่ได้ตอบรับหรือปฎิเสธ
“อันดา อย่าทำหน้าเศร้าสิ ยิ้มหน่อย ไว้อันดาปิดหลายๆวัน ขึ้นกรุงเทพสิ พวกพี่จะพาเที่ยว” ไอ้ฉานครับ มันอยากมีบทบาทเป็นพี่เขยที่ดี ผมแอบเห็นอันดายิ้มนิดนึง ก่อนที่จะสลดลงอีกเมื่อได้ยินเสียงประกาศถึงเที่ยวบินที่ผมจะต้องไป
ผมยกมือไหว้แม่และยิ้มให้อันดาอีกครั้ง ก่อนหันหลังเดินเข้าเกท

“พี่เมฆ” เสียงอันดาเรียกผมไว้
“ หืม ครับ มีอะไร” อันดาทำมือให้รู้ว่าเอียงหูมา
“ อันดารู้นะว่า พี่เมฆกะพี่ฉานเป็นมากกว่าเพื่อนสนิทใช่มั้ย” หลังสิ้นเสียงอันดา ผมอ้าปากค้าง ตาโต มือสั่น บอร์ดดิ้งพาสแทบร่วง
“ รู้ได้งัย “ เสียงผมเบาหวิว น่าจะดังกว่ากระซิบนิดเดียว ไอ้ฉานยังยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรกูเลย
“ เอาน่า อันดาไม่บอกใครหรอก แล้วไม่ต้องตกใจว่าทำไมอันดารู้ พี่ฉานเค้าบอกอ่ะ พี่เมฆไม่ได้แสดงออกอะไรหรอกไม่ต้องตกใจ แต่ถ้าพี่เมฆ เบื่อพี่ฉานวันไหน บอกนะ อันดาเซ้งต่อเอง” เลือดมันข้นกว่าน้ำจริงๆด้วยสินะครับ ขนาดเพิ่งเจอกันไม่นาน อันดายังรู้ ว่าผมกังวลเรื่องอะไร
“ทะลึ่งแล้วนะเราอ่ะ ติดนิสัยไอ้ฉานมาละสิ” ผมยีหัวอันดาอีกครั้ง ..โล่งใจ ที่อันดารู้จากไอ้ฉาน ไม่ใช่เพราะ อาการที่พวกผมแสดงออก ก็ต้องยอมรับว่า คนเป็นแฟนกัน บางครั้งคิดว่าระวังตัวเองดีแล้ว แต่ก็ต้องมีหลุดบ้าง เราไม่รู้ตัวเองหรอก แต่คนนอกมักมองออกเสมอ






ถนนสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ สลับกับทางเข้าหมู่บ้านจัดสรร  ผมนั่งฮัมเพลงอารมณ์ดี
พอเข้าเขตมหาลัยมาได้หน่อย ความวิบัติของการเดินทางเริ่มมาเยือน
ถนนทางเข้ามหาลัยไม่ได้กว้างใหญ่เท่าถนนหลัก
แต่เมื่อทุกคนมุ่งหน้าไปทางเดียวกันแล้ว ภาวะล้มเหลวทางการจราจรจึงเกิดขึ้นทันที
“ติดอะไรนักหนาวะฉาน” ให้เดินทางไกลแต่ไหนผมไม่หวั่น แต่ผมเกลียดการอยู่กับที่เป็นที่สุด
“ข่าวว่ากูมาพร้อมมึง เปิดเทอมก็งี้แหละ “ มันตัดบทผม พอดีกับที่รถเคลื่อนที่ได้


รถจอดเทียบท่าที่คณะผมเหมือนเช่นเคย วันนี้คณะผมดูพลุกพล่านจอแจเป็นพิเศษ
เพราะรถที่มาคณะสถาปัตย์บางส่วนต้องมาจอดที่คณะผม เพราะสถาปัตย์เป็นคณะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ไม่อนุญาติให้เอารถเข้าไปจอดในคณะ ศิลปกรรมและคณะใกล้เคียงก็เลยแบ่งรับกันไป
น้องๆ ปีหนึ่ง มาใหม่แต่ละคนหน้าใสกิ๊ก บางคนยังหัวเกรียนกันอยู่เลย น้องผู้หญิงบางคนก็ยังเป็นผมทรงนักเรียนอยู่
น้องผู้หญิงที่มาจากต่างจังหวัดส่วนใหญ่ ทำให้ผมได้กลิ่นอายของการเป็นนักเรียนจริงๆ น้องๆเหล่านี้บางคนตัดผมสั้นทรงนักเรียนยาวเสมอหู ถูกระเบียบดูน่ารักสมวัย บางคนที่ผมยาวก็มัดรวบตึง มีโบว์ผูกข้างหลัง ผมด้านหน้าก็โดนเก็บติ๊กกิ๊บเรียบร้อย แต่น่าเสียดาย ที่วันเวลาผ่านไป ชีวิตนักศึกษามหาลัยและความอิสระทั้งหลาย ได้ละลายพฤติกรรม จากความสดใส กลายเป็นแต่งแต้ม เติมแต่ง จนดูผิดธรรมชาติของวัยไป

ผมมองเพลินจนมาถึงที่ประจำของพวกผม เดคไม้ใต้ต้นจิกน้ำข้างคณะ
กลายเป็นแหล่งรวมพลของเพื่อนผมและเพื่อนไอ้ฉานเหมือนเคย
ตอนนี้ มันมารวมตัวกันเกือบครบทีม 
คงขาดแต่พวกบ้านต่างจังหวัด ที่คงรอมาเปิดตัวทีหลัง
กะจะเป็นพระเอก ชิส์ ชิส์ ข้ามศพพี่เมฆไปก่อน

 “หลบหน่อยเว้ย พระเอกมา” เสียงไอ้แกละ
สมุนหัวเกรียนของไอ้ฉาน หัวมันเกรียนเหมือนเดิม และมันก็มีปอยหางเต่าปั่นเดทล็อคไว้เหมือนเดิม ผมเริ่มสงสัยว่า ตกลงมันปั่นเดทล็อค หรือมันเป็นสังกะตังบนหัวกันแน่
ผมปั้นหน้าขรึมใส่ไอ้แกละ ไม่ได้โกรธอะไรมัน แต่ตอนนี้มีน้องปีหนึ่งอยู่เยอะ พี่เมฆต้องรักษาภาพครับ
เพื่อนๆ แหวกที่ให้ผมนั่ง ผมเลือกนั่งข้างไอ้ยอน มันดูปกติสุดแล้วในกลุ่มเพื่อนผม นอกนั้น ไม่ขาดผมก็ว่าล้น

“เป็นไงพวกมึง คณะตัวเองก็มี มาขลุกอยู่ทำไมคณะนี้” ไอ้ฉานมันนั่งเบียดผมได้ มันก็ยิงคำถามใส่เพื่อนมันเลยครับ

ไอ้ไผ่ ไอ้ไม้ และ ไอ้ปาย เพื่อนไอ้ฉานครับ มันอยู่ถาปัตย์ แต่ชีวิตส่วนใหญ่มันอาศัยอยู่ที่ศิลปกรรมนี่แหละครับ
นี่ขาดไอ้นที สงสัยแม่ยังให้กรีดยางอยู่ เริ่มสัปดาห์การเรียนการสอนนู่นแหละครับถึงจะเห็นหน้ามัน

“รอมึงไงครับควาย ขาดมึงไป มันก็ไม่ครบจตุรเทพสิวะ กูขี้เกียจตอบคำถามสื่อ” เพื่อนแกละ แลดูไม่อยากแก่ตายเอง

“ไม่จริงหรอกหวะ กูว่ามันกลัวถ้าขาดไอ้ฉานไป ไม่มีเสียงกรี๊ดจากสาวๆ มันจะเสียหน้ามากกว่า” ไอ้หวานครับ มันคงรอเวลาออกตัวนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาส

“ จตุรเทพ นี่เค้านับหล่อเทพแบบเมพขิงๆ ชั้นปีละคนไม่ใช่เหรอวะ แล้วทำไมห่าคณะมึง ถึงกระจุกแต่ชั้นปีพวกมึงเนี่ย
แล้วคณะพวกมึง เค้าเรียนกันห้าปีไม่ใช่รึไง ทำไมเรียก จตุรเทพ” ไอ้ดิวครับ
 ดูท่าทางมันจะงงจริงจัง จะเล่นมุขอะไร ควรแจ้งไอ้นี่ล่วงหน้าครับ เพราะความสามารถในการแยกแยะของมันเป็นศูนย์
“แล้วมึงเคยเห็นที่ไหน เค้ามี เบญจเทพ เหรอไอ้เชี่ยดิว ห๊า จ๊าดง่าวตั๋ว” ไอ้แกละครับ ขอให้มันได้ออกสเตปปากหมา

ผมเองยังสงสัยว่า เราสนิทและอยู่ด้วยกันมาได้งัย เพื่อนผม เพื่อนไอ้ฉาน มาตั้งสองสามปี ทั้งๆที่เจอหน้าก็กัดกันจะเป็นจะตาย แต่เราก็อยู่ด้วยกันมาได้จนถึงตอนนี้

“พอๆ แล้วนี่ไอ้หน่า มันยังไม่มาเหรอ เห็นว่ามันกลับจากไทเปแล้วนี่” ผมอดไม่ได้ที่จะถามถึง หญิงสาวคนเดียวของกลุ่มครับ บางทีผมก็ลืมไป นึกว่ามันเป็นผู้ชาย

“นู่นนนนนน ไง ไอ้หน่ามันแพ้พนัน มันเลยต้องไปซื้อน้ำ มันมาก่อนชาวบ้านเลยนะเว้ย กูว่า มันมาก่อนพี่สมานภารโรงอีก”

ไอ้หวานมันทำปากจู๋ ไปทางไอ้หน่า ที่วันนี้มันมาด้วย ชุดนักศึกษาเต็มยศ กระโปรงพลีท ยาวหุ้มข้อเท้า ด้านในน่าจะเป็นคอนเวิร์สหุ้มข้อถึงหน้าแข้ง  คู่เก่งของมัน  มือนึงถือถังน้ำแข็ง มืออีกข้างถือเป๊ปซี่ขวดใหญ่ ปากคาบหลอดและแก้วพลาสติกเปล่า มาหลายใบ น้องๆปีหนึ่ง แหวกทางให้มันเป็นแถว เพราะดูจากสีหน้ามันแล้ว ถ้าใครขวาง มันคงคายไอ้ของที่คาอยู่ในปาก งับหัวใครเป็นแน่
“ วี๊ดดดดดวิ๊วววว เฮ้ยยยย เดียวนี้ คณะเรามีกุลสตรีไทยด้วยเหรอวะ” ผมผิวปากแซวไอ้หน้า ที่ตอนนี้มันปั้นหน้าเป็นนางผีเสื้อสมุทรได้คล้ายที่สุด
“โอ้ยยย เหนื่อยและหนักฉิบหาย แมร่ง ไม่มีหมาตัวไหนไปช่วยกูสักตัวเล้ย เพื่อนแบบนี้ กูอยากจะมีอีกสักโหล”
“อ้าว หน่า มึงชอบเพื่อนแบบนี้ หาได้ไม่ยากหรอก ค่อยๆหา เดี๊ยวมันก็มาเอง “ ไอ้ฉานครับ จริงๆไอ้ฉานกับไอ้หน่า นี่มันก็ต่อปากต่อคำกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ ตอนที่ผมรู้ว่าไอ้ฉานมันปรึกษาเรื่องผมกับไอ้หน่า ผมเองยังแปลกใจ
“มึงเก็บปากไว้สั่งสอนเมียมึงเหอะฉาน ยังกะเมียมึงปากดีนักนี่”
“ อ้าวๆ ไอ้หน่า มึงด่าไอ้ฉาน แล้วมันมากระทบกูได้ไง แล้ววันนี้มึงแต่งซะหญิงเชียว ทำตัวให้สมกะเป็นผู้หญิงหน่อยสิวะเผื่อกูมีบุญวาสนา ได้เห็นหน้าเพื่อนเขยกะเค้าบ้างอะไรบ้าง ”
“พ่อมึงสิ กูบอกแล้วไงว่ากูจะหาเมีย นี่แหละ ที่ทำให้กูเซ็ง กูเกลียดสัปดาห์แรกของการเปิดเทอมที่สุด แมร่ง ยุ่งยากลำบาก กูจริงๆ หวาน มึงจะนั่งเฉยให้น้ำมันรินใส่แก้วเองรึไง จัดการสิ” เห็นมั้ยครับ ว่ามันหนะ ทั้งบ้าทั้งพาล

ปกติพวกผมและไอ้ฉาน จะใส่ชอปกันมาเรียนเป็นส่วนใหญ่ครับ ยกเว้น น้องปีหนึ่ง ที่ยังต้องใส่ชุดนักศึกษาพร้อมผูกไทด์คณะให้เรียบร้อย แต่สัปดาห์ของการเปิดเทอม เป็นสัปดาห์ที่ไม่มีการเรียนการสอนครับ ส่วนใหญ่เน้นทำกิจกรรมรับน้อง หรือไม่ก็ เข้าเรียนบางวิชาที่ต้องเรียนร่วมกับคณะอื่น ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าแนะนำวิชาเรียนและอาจารย์ผู้สอน

สัปดาห์นี้ ทุกคนจึงต้องใส่ชุดนักศึกษาครับ อีกอย่างเพื่อพลางตาน้องๆปีหนึ่ง ไม่ให้รู้ว่าพี่คนไหนอยู่ปีอะไรด้วยครับมันเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมรับน้อง
ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีใครหน้าตาทรยศอายุให้น้องจับได้ อันนั้นก็แล้วแต่บุญกรรมของแต่ละคนไป สัปดาห์นี้จึงเป็นนรกของไอ้หน่าโดยแท้จริงครับ เพราะมันต้องใส่กระโปรง ที่มันเกลียดนักเกลียดหนา
“แล้วตกลง มึงแพ้พนันอะไร ถึงต้องไปซื้อน้ำเองคนเดียวเนี่ย”
คิดดูนะครับ ข้างคณะฝั่งที่เป็นคลองกั้นระหว่างคณะผมกับสถาปัตย์นั้น โดนแบ่งด้วยทางเดินปูด้วยแผ่นหินธรรมชาติ ถัดมาเป็นเดคไม้  เดคไม้คือพื้นยกระดับที่ปูแผ่นไม้จริงยาวตลอดแนวท่าน้ำขนานกับตัวอาคาร
ซึ่งเดคไม้นี้จะมีพื้นบางส่วนยื่นออกไปในน้ำ  พื้นที่โดนแบ่งเป็น โต๊ะม้านั่งไม้ และ กะบะปลูกต้นจิกน้ำขนาดใหญ่  กะบะนี้อยู่สูงจากระดับพื้นประมาณ 15 ซม. มีทางน้ำ เหมือนรางระบายน้ำเชื่อมต่อกับคลองให้น้ำเข้ามาขังในกะบะต้นจิกครับ ที่นั่งส่วนนี้จึงเป็นที่นิยมของเด็กศิลปกรรมเป็นอย่างมาก  และเพื่อไม่ให้สูญเสียมุมมองของธรรมชาติ  ทางคณะจึงไม่อนุญาติให้มีซุ้มขายของในบริเวณนี้ ซุ้มโค๊ก ซุ๊มขายขนมและอาหารจึงอยู่อีกฟากหนึ่งของคณะ ใกล้กับลานจอดรถ ไกลกับที่พวกผมนั่งอยู่เหมือนกัน ถ้าไอ้หน่ามันไม่หมดทางจริงๆ ยากมากครับที่มันจะอาสาไปซื้อน้ำเองคนเดียวง่ายๆ มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ
“ก็ตอนที่กูกับไอ้แกละอ่ะ ออกไปดูดบุหรีที่ท่าน้ำ กูเห็นฝั่งถาปัตย์ แมร่งมีผู้หญิงคนนึงเว้ย ผมยาว ขาว หุ่นดี เดินเฉิดฉายไปมาอยู่ตรงท่าน้ำฝั่งนู้น กูก็คลับคล้ายคลับคลาว่าน่าจะใช่น้องฟาง กิ๊ก เอ้ยยยยย ลูกศิษย์ไอ้ฉาน กูเลยเรียกไอ้หน่ามาดู

ทีนี้ ไอ้ห่านี่มันก็สายตาไม่ดี แต่มันปากดีบอกกูว่า น้องฟางดูท่าทางคุณหนูขนาดนั้น เค้าจะมาเรียนที่นี่ให้ดินแดงติดตีนทำไม กูเลยพนันกับมันว่า ถ้าใช่ เย็นนี้มันเลี้ยงเหล้า แล้วก็ต้องมัดจำด้วยการไปซื้อน้ำมาให้พวกกูด้วย” ไอ้หวานมันอธิบายเป็นฉากๆครับ ส่วนไอ้ฉานมันเริ่มขมวดคิ้วสงสัย สลับกับมองหน้าผม ว่าผิดปกติอะไรใส่มันหรือเปล่า มันร้อนตัว
“แล้วไงต่อ “ถึงแม้ ชื่อ “น้องฟาง” จะมาทำให้คิ้วผมกระตุก นิดนึง แต่ผมก็ยังอยากรู้ว่าไอ้หน่าแพ้พนันได้ไงอยู่ดีครับ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน เรื่องเพื่อนเสียหน้า น่ามุงมากกว่าในตอนนี้

“ก็พอดีกับที่น้องเค้าเดินข้ามสะพานมาฝั่งนี้ สงสัยมารับเพื่อนอ่ะ ก็เลยเฉลยว่าใช่น้องฟางจริงๆ กูอะมั่นใจตั้งแต่น้องเค้าอยู่ฝั่งโน้นแล้ว นี่ขนาดมีคลองกั้นนะ กูยั่งมั่นใจเลยอ่ะว่าใช่แน่ๆ เย็นนี้เหล้าฟรีเข้าปากกูแน่” ไอ้หวานมันเล่าไปทำปากยิ้มกริ่มเชียวครับ

“อะไรทำมึงมั่นใจขนาดนั้นวะหวาน” ไอ้ฉานเองมันก็อยากรู้ครับ เพราะไอ้แกละกับไอ้หวาน มันดูภูมิใจมาก กับความถูกต้องในครั้งนี้

“ก็หน้าอกน้องเค้าไง โอเวอร์สเกลมาตรฐานหญิงไทยขนาดนั้น ต่อให้อยู่ไกลถึงสุไหงปาดี กูก็จำได้” ไอ้แกละมันยืนกอดอกเฉลยด้วยความภาคภูมิประหนึ่งได้เหรียญทองโอลิมปิคด้วยหมัดต่อยใต้เข็มขัดยังไงยังงั้น

“ไอ้เหี้ย โครตจัญไร” ไม่ใช่ผมคนเดียวนะครับ ทั้งก๊วนที่นั่งฟังกันอย่างสามัคคี พร้อมใจกับบริภาษสรรเสริญให้มันทั้งสองตัวโดยมิได้นัดหมาย

“ขอบคุณ ไม่ต้องสรรเสริญกูขนาดนั้นก็ได้ แต่คราวนี้กูไม่เห็นเพื่อนน้องฟางคนนั้นนะเว้ย ที่มาด้วยกันตอนเรียนติวอ่ะ เห็นน้องเค้าเดินกับผู้ชายคนนึง ไม่รู้เด็กคณะไหน แต่ขาวหล่อ ปากแดงเชียวมึง” ไอ้แกละมันพล่ามต่อครับ

“ก็ดีแล้ว น้องมันมีผู้ชายควงเป็นของตัวเองก็ดีแล้ว จะได้ไม่มายุ่งกับสามีหลุดหล่อ แต่ปากหมา ของไอ้เมฆมันไง พวกมึงๆ รวมถึงกู จะได้ไม่ต้องเหนื่อยหาวิธี เอาชะนีไปปล่อยป่า ให้ไปล่าเอาเองตามธรรมชาติ”
ไอ้หน่ามันจีบปากจีบคอออกความเห็นประกอบท่าทางที่ผมดูแล้ว ขัดลูกกะตามากครับ เคยเห็นทอมใส่กระโปรงแต่กระเดียดท่าไปทางผู้หญิงมั้ยครับ มันก็ใช่อะนะ แต่มันแข็งเกินไป ดูคล้ายผู้ชายหัดกระเทยอะครับ

“เฮ้ย แต่กูว่าไม่นะ กูดูแล้วเหมือนว่า ไอ้ผู้ชายที่น้องฟางควงอ่ะ เหมือนไอ้เมฆมากกว่า” เสียงนี้จะดูไร้คุณค่ามากครับ ถ้าออกมาจากปากของไอ้หวาน หรือไอ้แกละ แต่นี่ออกมาจากปากของไอ้ปายเลยนะครับ มันเลยทำให้ทุกคนต้องนิ่งประมวลผลด้วยสติปัญญา

แต่ว่า

“เชี่ยแระ ไอ้ปาย มึงจะมีสาระกูไม่ว่า แต่ทำไมต้องพาดพิงกูไม่ทราบ เดียวเจอนาบด้วยฝ่าตืน”

“ไอ้เมฆ มึงอย่าเพิ่งเปรี้ยว ฉาน ฉาน มึงเอาปากมึงอ่ะ อุดปากเมียมึงไว้ก่อน แต่ห้ามลามปามเอาลิ้นพันกันนะมึง เสียงจ๊วบจ๊าบมันทำลายสมาธิ อีกอย่างน้ำลายมันจะหยดมุมปาก อุบาทว์ตากู” หน้าไอ้หน่าจ้องตากับไอ้ปายอย่างค้นคว้าหาคำตอบ แต่มือมันชี้หน้าผม ปากมันสั่งไอ้ฉาน ผมควรจัดการมันตอนนี้เลยดีมั้ยครับเนี่ย

“พวกมึงอย่าเพิ่งตีกัน ฟังไอ้ปายก่อน ว่างัยปาย ผู้ชายคนนั้นเหมือนไอ้เมฆตรงไหน “ ไอ้ดิวมันห้ามทัพครับ ผมเองก็พยักหน้าอยากรู้

“ก็เป็นเกย์เหมือนไอ้เมฆไง”

“ไอ้เหี้ย กูไม่ได้เป็นเกย์” ผมเถียง พี่เมฆแมนนะครับทุกคน

“ไอ้ฉานมันก็เป็นเกย์ เพราะมันเป็นผัวไอ้เมฆ แล้วทำไม เด็กคนนั้นไม่เหมือนไอ้ฉาน” ไอ้ไผ่มันขอมีส่วนร่วมบ้างครับ มันกลัวไม่ได้ค่าตัว

“มึงดูสิ มันอรชรอ้อนแอ้นซะขนาดนั้น หน้าเด้งแบบตบทีเดียวอยู่ขนาดนี้ ปากแดงยังกะแดกเลือดไก่มาจากบ้าน มึงจะไม่ให้มันจัดอยู่ใน สปีชีย์นอนครางอยู่ข้างล่างแบบไอ้เมฆได้ไง”ไอ้ปายมันสรุปได้สะเทือนหัวใจพี่เมฆมากครับ ดูไอ้ฉานมันจะไม่สะทกสะท้านแก้ตัวแทนผมเลยอะ หัดกูศักดิ์ศรีเมียมึงกลับมาบ้างเซ่ ไอ้นี่ คืนนี้เดี๊ยวกูให้นอนนอกห้อง
“เออ จริง” เหยดดดดดดดดดด ทุกคนเสือกลงความเห็นด้วยกันกับไอ้ปายอีกด้วยอะครับ

ไม่นะไม่ อันที่จริงแล้วอ่ะ พี่เมฆแมนจะตาย ไม่ได้เป็นเกย์ด้วยเหอะ เอ่อ ถึงถ้าจะเป็น แต่พี่เมฆไม่อรชรอ้อนแอ้นออกสาวแบบที่พวกมันวิจารณ์กันนะเว้ย แมร่ง ขัดใจ แค่กูหุ่นแมนพอเป็นพิธี มีกล้ามประดับบารมีนิดหน่อย

“ไอ้พวกเชี่ยยยยยยยย กูสาวแตกแบบนั้นตั้งแต่ตอนไหน มึงอย่าหาความ กูแมน มึงเข้าใจมั้ย กว่ากูแมน “ พี่เมฆออกเสียงแมนแบบย้ำชัดๆเน้นๆ นิ้วชี้มาจิ้มจนจะทะลุอกออกทางสันหลังเชียวนะครับ
“เออ มึงแมนมากเมฆ ต่อหน้าสาวๆและพวกกู มึงแม๊น แมน แต่มึงสาวแตกตอนไหน สงสัยต้องถามไอ้ฉานหวะ ใช่มั้ยวะฉาน” ไอ้หน่าครับ มันหาแนวร่วม

“ไร้สาระหน่าพวกมึง ไปเว้ย ไปคณะได้แล้ว ป่านนี้เค้าเรียกรวมน้องปีหนึ่งเสร็จแล้วมั้ง พระเอกไปเปิดตัวได้แล้ว” เห็นมั้ยครับว่าไอ้ฉานหนะ คนของใคร  หึ ให้มันรู้ซะบ้าง ว่าฉานแสงหนะ ใครคุม

ไอ้แกละ ไอ้ปาย ไอ้นที และไอ้ไผ่ มันลุกขึ้นเก็บของได้ กำลังจะเดินออกไปกับไอ้ฉาน
แต่ไอ้ฉานสิครับ

“ เออ หน่า แต่ว่ากูก็ลืมบอกไป ว่าเพื่อนมึงก็ไม่ได้อยู่ล่างเสมอไปนะเว้ย วันไหนฤกษ์ดี มันก็ขึ้นอยู่ข้างบนบ้างเหมือนกัน”

ไอ้ ไอ้ ไอ้ ห่า ไอ้หน้ากูปปรี พี่เมฆกำลังจบอย่างสวยงามแล้วเชียว  ทำไม  ไอ้ฉานมันต้องหักหน้าให้พี่เมฆต้องอับอายด้วยเนี่ย  เรื่องแบบนี้มันสมควรให้คนอย่างไอ้หน่ารู้ซะที่ไหน  เห็นมั้ย  ว่ามันอ้าปากค้างตาโตเท่าใข่ไดโนเสาร์แล้ว ไม่วายไอ้ฉานกลับคณะไป  พี่เมฆต้องโดนไอ้หน่าซักฟอกแน่ๆ........ :z3: :z3:

ยังไม่ทันที่ไอ้ฉานจะก้าวเดินออกไปจาก ม้านั่ง ก็มีผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง วิ่งหน้าตั้งมาทางโต๊ะพวกผมพอดี ข้างหลังเธอมีผู้ชายหน้าตาดี วิ่งตามมาด้วย เมื่อสังเกตุใกล้ๆ ปรากฎว่าไม่ใช่ใครที่ไหนครับ น้องฟาง หญิงสาวผู้ทำให้ไอ้หน่าแพ้พนันอย่างหมดท่านั่นเอง น้องฟางวิ่งมาหยุดหอบอยู่ตรงหน้าไอ้ฉาน
“สวัสดีค่ะพี่ฉาน พี่เมฆ พี่ๆ ทุกๆคน ฟางค่ะ สถาปัตย์ อินทีเรียดีไซน์ ปีหนึ่ง ฝากตัวด้วยนะคะ” น้องฟางกระหืดกระหอบแนะนำตัวเองกับพวกไอ้ฉานครับ พูดจบ น้องฟางยังคำนับแบบสาวญี่ปุ่น ใสๆ น่ารักเกินห้ามใจจริงครับ

“สวัสดีครับ ดีใจด้วย แล้วก็ยินดีต้อนรับ น้องใหม่ 5 ปีต่อไปข้างหน้านี้ก็ขอให้ตั้งใจนะครับผม” พี่เมฆอยากจะกรี๊ดๆ อะครับ ไอ้ฉานมันจะพระเอกไปไหน จะหล่อไปไหนอะครับ มึงทักทายเค้าทางการได้อีก พ่อสามีมหาจำเริญ

“แล้วปีหนึ่งเค้าให้รวมตัวกันใต้คณะไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไมตอนนี้ น้องถึงยังอยู่นี่อะครับ” ไอ้ไผ่ครับ แลดูมันหมั่นไส้น้องฟางอย่างออกนอกหน้ามาก แต่พี่เมฆว่ามันอิจฉาน้องเค้าหวะ เอิ๊กๆ หรือไม่นะ ผมว่ามันเป็นเกย์แหงๆ

“อ๋อ พอดีจะพาเพื่อนมาฝากพวกพี่เมฆอะค่ะ นี่กราฟ เพื่อนฟางเอง มันติดศิลปกรรมออกแบบโฆษณา อะค่ะ”

“สวัสดีครับ ผมกราฟ ครับ คณะศิลปกรรมออกแบบโฆษณา จบมาจาก ......”

“ โอเคครับน้อง เดี๊ยวน้องได้แนะนำตัวยาวแน่นอน แล้วปีหนึ่งเค้าปฐมนิเทศคณะกันไม่ใช่เหรอ ทำไมมาอยู่ตรงนี้อ่ะ” ไอ้หน่าครับ ออกแนวเดียวกับไอ้ไผ่เลย

“ผมไปร้านค้ามหาลัยมาครับ ไปซื้อไทด์คณะ” น้องกราฟละล่ำละลักตอบ ดูท่าทางจะกลัวโดนไอ้หน่าแดกหัวมาก นี่ถ้าพวกผมยังอยู่ปีสอง รับรอง น้องกราฟต้องโดนไอ้หน่าว๊ากแน่ๆ เป็นบุญของน้องนะ ที่ไอ้หน่า อยู่ปีสามแล้ว แต่น้องรหัสมันนี่สิ
แดกน้ำลายมันเต็มๆ สืบทอดตำนานว๊ากเกอร์สาวห้าวอย่างไอ้หน่า หวังว่า พระคงคุ้มครองนะน้องนะ ผมอวยพรให้น้องอยู่ในใจ

“โอเคๆ แยกย้ายๆ ตอนเย็นมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อกินเหล้าฟรีเงินไอ้หน่า โอเคนะ” ไอ้แกละตัดบท ไม่งั้นวันนี้พวกมันข้ามไปไม่ถึงคณะตัวเองแน่ๆ
“ หน่า มึงโทรจองร้านเดิมเลยแล้วกันนะ เย็นนี้กูจะเอาน้องๆที่เรียนติวกะกูที่สอบติดไปเลี้ยงด้วยซะเลย” ไอ้ฉานได้ทีมันสั่งเชียวครับ ผมเหลือบมองน้องฟางดู ดีใจ เพราะเย็นนี้น้องเค้าก็จะได้ไปกินกับพวกผมด้วย ก็น้องเค้าอ่ะ เด็กปั้นไอ้ฉานเลยนี่ครับ

แต่ผมนี่สิครับ สลดใจขึ้นมาทันนี่ นี่ไม่ใช่กูต้องมาต่อสู้ เพื่อปกป้องสามีกับชะนีหรอกนะ เฮ้อ.....มีสามีเป็นผู้ชายก็แย่พออยู่แล้ว นี่ต้องมาระวังแฟนตัวเองกับผู้หญิงอีก  ฟ้าไม่คิดจะเหลือศักดิ์ศรีไว้ประดับบารมีท่านเมฆบ้างเหรอครับ.. :เฮ้อ:

“เมฆ โทรศัพท์มึงอยู่ไหน เวลากูโทรมานี่อย่าให้ดังเกินสามครั้ง มึงต้องรับสาย เข้าใจ๋ “ อ้าว นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอครับ แล้วก็คิดว่า มันจะลืมบทบาทผู้กำกับแห่งชาติไปแล้ว ที่ไหนได้ แมร่งอยู่ในสายเลือด ผมพยักหน้าช้า พร้อมตบไปที่กระเป๋ากางเกงว่าโทรศัพท์อยู่ในนี้ มันดูจนแน่ใจนั่นแหละครับ ถึงเดินกลับคณะมันไป

เฮ้ออออออ!!! กรรมอะไรของกูวะเนี่ย มีสามีก็เหมือนมีพ่อ ซื้อหนึ่ง แมร่งแถมสอง บรรลัยแท้ๆ ชีวิตองค์อิศวรเยี่ยงกู

๐ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม๐
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 19-05-2010 00:18:28
ในเมื่อพี่ฉานซึ่งเป็นสามีกลับทำตัวเหมือนเป็นพ่ออีกคนของพี่เมฆ แบบซื้อหนึ่งแถมสองแบบนี้ พี่เมฆก็ต้องปรับเปลี่ยนเพิ่มสถานะตัวเองเข้าไปบ้าง นอกจากเป็นภรรยาที่ดี ก็ต้องทำตัวเหมือนเป็นแม่ (ดูแลเอาใจใส่ ดุด่าว่ากล่าว ตักเตือนบ้าง) เป็นผู้คุม (เด๋วมันจะทำเหมือนว่าตัวเองโสด) เป็นนักสืบ (เผื่อมีการนอกใจ) เป็นทนาย (สอบสวน) เป็นผู้พิพากษา (ตัดสิน) และอื่น ๆ อีกมากมาย แบบซื้อหนึ่งแถมเป็นร้อยบ้างซิค่ะ สามีที่อยู่ในโอวาทภรรยา...ก้าวหน้าแทบทุกคน :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 19-05-2010 00:21:09
เฮอะๆๆ ศัตรูตัวใหม่ เอ๊ยยย คนเดิม กลับมาอีกครั้ง

ทำไงดีจ๊ะก้อนเมฆ จะเก็บตะวันยังไงเอ๋ย

 o13 o13 o13

PS. ขอบคุณน้องเซ กะน้อง TRomance ครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 19-05-2010 00:26:25
ตัวร้ายกลับมาแล้ว

น้องเมฆสู้ๆนะครับเป็นแรงใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 19-05-2010 00:29:37
สงสารน้องเมฆ
หมั่นไส้นายฉาน  :m16:
ตามจองล้างไม่เลิกนะ
ขัดใจ ขัดใจ ยัยฟาง  :beat:
มีแผนไรเนี่ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-05-2010 00:31:59
อ่านตอนนี้จบ รู้สึกเหมือนได้ อิพี่ฉาน กับ ท่านเมฆ ของแท้กลับมาหน่อย ไอ้ 2-3 ตอนที่ไปอ่านแล้วปวดไส้ปวดม้ามไปเลย ไม่ไหวๆๆ
ว่าแต่คุณน้องฟางกลับมาคราวนี้ ดูท่าจะมีกองหนุนตามมาด้วยนะนั่น
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 19-05-2010 00:56:33
อ่านตอนนี้แล้วก้อได้แต่ขำพี่เมฆ ปากดีเกิ๊นนน~
แอบอยากเห็นน้องกราฟคลอเคลียพี่เมฆ 555+

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-05-2010 01:05:38
กลัวว่าเพื่อนคุณน้องฟางคนนี้ที่นายปายเค้าบอกว่าสปีชี่ย์เดียวกะนุ้งเมฆ
จะมาแนวเพื่อนฆ่าเพื่อน แย่งผะชายคนเดียวกะเพื่อนป่าวหว่า  :laugh:
งานนี้บางทีนุ้งเมฆอาจจะไม่ต้องลงมือ แต่อาจจะปวดหัวนิดหน่อย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 19-05-2010 01:15:51
เย้ๆๆๆมาอ่านแล้วววว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 19-05-2010 01:19:17
 o13 น่ารักมาก คู่นี่
นึกว่าอันดา จะแย่ง ซะอีก เหอๆๆ เจ๋งมากน้อง
แต่ น้องฟางนี่สิ มาอีกและ ตัวปัญหา นึกว่าจะไปๆ แล้วซะอีก

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 19-05-2010 01:35:44
ป้ายขอบคณ เมพมาก สุดยอดดดดดดดดดดดดดด ><!!!! :mc4: :mc4:
น้องฟางเอ้ยย ทำให้เครียดแล้วเครียดตั้งนานสองนานเล่นเกมไปเครียดไป T^T แต่ก็ไม่มีอะไรอ่ะดีแล้ว
แต่ตอนนี้มาติดยัยนองฟางอีกแล้วไง ส่วนเพื่อนฟางก็คงไม่แคล้วเอามาทำลายพี่เมฆชิมิล่ะ รู้นะ!!(หรือเปล่า?)

ในเมื่อพี่ฉานซึ่งเป็นสามีกลับทำตัวเหมือนเป็นพ่ออีกคนของพี่เมฆ แบบซื้อหนึ่งแถมสองแบบนี้ พี่เมฆก็ต้องปรับเปลี่ยนเพิ่มสถานะตัวเองเข้าไปบ้าง นอกจากเป็นภรรยาที่ดี ก็ต้องทำตัวเหมือนเป็นแม่ (ดูแลเอาใจใส่ ดุด่าว่ากล่าว ตักเตือนบ้าง) เป็นผู้คุม (เด๋วมันจะทำเหมือนว่าตัวเองโสด) เป็นนักสืบ (เผื่อมีการนอกใจ) เป็นทนาย (สอบสวน) เป็นผู้พิพากษา (ตัดสิน) และอื่น ๆ อีกมากมาย แบบซื้อหนึ่งแถมเป็นร้อยบ้างซิค่ะ สามีที่อยู่ในโอวาทภรรยา...ก้าวหน้าแทบทุกคน :laugh:

เมพสุดยอดดด เห็นด้วยอย่างถึงที่สุด!!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 19-05-2010 01:48:16
ก่อนจะไปยังสั่งได้อีกเนอะคนเรา เหอะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: +S+ ที่ 19-05-2010 02:46:07
ความสามารถกกับขั้นซุปเปอร์ :a5:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 19-05-2010 09:32:23
สุดยอดสามีในฝันนน

รักฉานนน นนน 

 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 19-05-2010 09:52:32
ฉานกล้าหาญมากที่บอกความจริงกับอันดา o13
อุปสรรคในชีวิตรักของท่านเมฆไม่หมดง่ายๆ
น้องฟางกะน้องกราฟจึงผ่านเข้ามา
แล้วทั้งคู่ก็ตบตีแย่งชิงพี่ฉาน :beat:
ท่านเมฆยืนมองแล้วหัวเราะอย่างสบายใจ
คนอ่านจิ้นล่วงหน้า :pigha2:
ปล.ทำกรอบสี่เหลี่ยมขอบคุณคนอ่านได้จ๊าบมาก
    ขอบคุณคนแต่งกับคนโพสต์นะจ๊ะ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 19-05-2010 10:04:57
ขนาดยังเรียนไม่จบยังมีงานทำหลายอาชิพนะนายฉาน
เนื้อหอมนะยะ หมั่นใส้  :z6: << ส่วนตัวนิ้ดดดดดดด

น้องเมฆยังน่ารักเหมือนเดิม  :กอด1: (รวมคนแต่งกับคนโพสต์ด้วย)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 19-05-2010 10:20:29
เห็นปัญหารำไรละ 555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 19-05-2010 11:20:38
ในเมื่อพี่ฉานซึ่งเป็นสามีกลับทำตัวเหมือนเป็นพ่ออีกคนของพี่เมฆ แบบซื้อหนึ่งแถมสองแบบนี้ พี่เมฆก็ต้องปรับเปลี่ยนเพิ่มสถานะตัวเองเข้าไปบ้าง นอกจากเป็นภรรยาที่ดี ก็ต้องทำตัวเหมือนเป็นแม่ (ดูแลเอาใจใส่ ดุด่าว่ากล่าว ตักเตือนบ้าง) เป็นผู้คุม (เด๋วมันจะทำเหมือนว่าตัวเองโสด) เป็นนักสืบ (เผื่อมีการนอกใจ) เป็นทนาย (สอบสวน) เป็นผู้พิพากษา (ตัดสิน) และอื่น ๆ อีกมากมาย แบบซื้อหนึ่งแถมเป็นร้อยบ้างซิค่ะ สามีที่อยู่ในโอวาทภรรยา...ก้าวหน้าแทบทุกคน :laugh:

อร๊ายยยยยย   ชอบๆๆ  ถูกจวยมากๆ   :L2:

พี่เมฆอย่าไปกลัวเกรง....
พี่ฉาน และ ผองเพื่อน ปกป้องหนูเมฆ อย่างเต็มตรีน แน่นอน  o13

ว่าแต่น้องฟาง......นู๋เลิกล้มความคิดแย่งของชาวบ้านรึยังจ๊ะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 19-05-2010 13:04:08
พี่เมฆกับฉานกลับมาเหมือนเดิมแล้ว เย้...
ฉานยังครองตำแหน่งผู้กำกับดีเด่นเหมือนเดิม  o13

ฟางกับกราฟ จะมาทำให้เรื่องยุ่งบากอีกรึเปล่า??
แต่ยังไงฉานก็ไม่สนใจใครอีกแล้วล่ะ นอกจากพี่เมฆคนเดียวเท่านั้นนน
เชื่อใจฉานสุดๆเลย..

ปล. +1  จะติดตามพี่เมฆกะฉานตลอดไปเลย  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 19-05-2010 17:30:38
คิดว่า ฟางนี่ต้องร้ายลึกเเน่  อยากได้เวอร์ชั่นน้องเมฆโหดๆ มั่ง อย่ายอมให้ใครมาข่ม สามีออกจะหล่อ รวย อย่างนี้
ปล. รอตอนต่อไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 19-05-2010 19:08:41
เอาน่า คิดซะว่าได้ ควีๆ ไม่เสียตังค์  :laugh:
ไว้ค่อยมากลุ้มกับชะนีทีหลังดีกว่า????? :z3:



เป็นกำลังใจให้ต่อๆไปละกัน..... :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: scouser ที่ 19-05-2010 19:35:24
เอาน่า เอาน่า
พี่เมฆสู้สู้
ไปแดกฟรีก่อนเหอะ ค่อยคิดมาก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 19-05-2010 19:55:31
น้องฟางเธอกลับมาอีกแล้วหรอเนี่ย

พี่เมฆไม่ต้องกังวล ยังไงพี่ฉานก็รักมั่นอยู่กับพี่เมฆอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 19-05-2010 20:30:37
ฟางฟางจะกลับมาสร้างความร้าวอะไรอีก
โอ้วววว พี่เมฆเข้มแข็งไว้นะคะ เอาใจช่วยๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 19-05-2010 20:52:12
คุมพี่ฉานไว้ดีๆนะพี่เมฆ เกรงว่ายัยฟางและเพื่อนชีจะมีแผนการอะไรไม่ดีๆอ่าดิ
แต่เดอะแก๊งพี่เมฆต้องคอยช่วยอยู่แล้วเนอะ  :z1:
ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าา :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 19-05-2010 22:41:13
สงสัยตอนหน้าจะชื่อตอนว่า  "สามีข้า  ใครอย่าแตะ"   ภาค แตะได้ ถ้าไม่กลัวโลกแตก   :laugh:
รออ่านตอนต่อไปเช่นเดิมคร๊าบบบบบบบ  อิอิ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 19-05-2010 22:51:00
อ้าวแล้วพี่เต้ไปไหนน  เค้าอยากได้พี่เต้้   นุ้งเซ พี่เต้ของเค้าอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 20-05-2010 14:03:09
ยังไงก็หยุดยาว  ของตอนต่อไปเร็ว นะคับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 20-05-2010 19:02:59
ฟางเริ่มแย้งสามีเมฆแล้วสิ

มาต่อเร็วๆจ้า
รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: katarena ที่ 21-05-2010 16:38:39
เพิ่งมีโอกาสได้แวะเข้ามาอ่าน
หลงหูหลงตาไปได้ไงเนี่ย
น่ารักมากมายค่า ชอบมากๆเลย
แล้วจะคอยติดตามนะคะ
พี่เมฆกับท่านฉาน 555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 21-05-2010 20:55:54
คืนนี้ดวงตะวันจะโผล่ขึ้นมารึป่าวครับน้องเซ  :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 22-05-2010 01:27:40
เข้ามาอ่านนน เรื่องนี้น่ารักดี
พี่เมฆน่ารัก  :-[
ชั่งเริ่มเห็นแวว เรื่องปวดหัว  มือที่สาม สี่
ในแต่เมื่อพี่ฉานกะพี่เมฆ เป็นสารมีภรรเมียกันเรียบร้อย  อย่าได้แคร์นะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 22-05-2010 16:27:31
รออ่านต่อขอรับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 22-05-2010 18:52:49
อิอิ ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน มีทำป้ายขอบคุณกันด้วย ^^

น้องฉาน เอ้ย ชีวิตก็แบบนี้แหละ ราบเรียบนักก็ไม่สนุกสิโน๊ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 30 ,18 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 22-05-2010 19:57:43
เริ่มรู้สึกหนักใจแทนพี่เมฆด้วยแล้วละ......
คิดว่าฟางแรงงงงง.....พอตัว....
แล้วไอ้คุณชายฉานน่ะ....มักตามชีไม่ค่อยทัน...
ยังไงก้อสู้ ๆ น้า....พี่เมฆ.... :a2:
ส่วนน้องกราฟ...จะมีบทบาทแบบไหนน้า....

 :L2:  :pig4:

กด + ให้กำลังใจน้องเมฆกะคนแต่งกะคนโพสค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 23-05-2010 00:18:13
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 31

เย็นวันนั้น ที่นั่งประจำของผมก็ต้องคราคร่ำไปด้วย น้องปีหนึ่ง ที่ผ่านการ Entrance เข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
ด้วยฝีมือการติวของ อาจารย์ฉานแสง แรงกล้า (แต่ว่า น้องคณะมึง มันมามั่วสุมกันทำไมที่คณะกูวะ)
มีน้องประมาณ 5 คนที่อยู่ในกลุ่มสอนของไอ้ฉาน และแน่นอนว่า มีน้องฟางรวมอยู่ด้วย
พวกผมมาสบทบกับเพื่อนๆ ไอ้ฉาน ที่ตอนนี้กำลังจับปูใส่กระด้งอยู่ โดยมีน้องฟางเป็นผู้ช่วยหลักอย่างขยันขันแข็ง

“ ทำไมพวกมึงเพิ่งลงมากันวะ” ไอ้ไผ่ ถามผม หลังจากที่มันให้น้องนั่งรอตรงเคดไม้

“พอดีมีแนะนำตัวแล้วก็ทำกิจกรรมกะน้องนิดหน่อย แล้วนี่คือน้องที่จะไปด้วยกันปะ”

“เออ นี่ลูกศิษย์ไอ้ห่าฉานหมดเลยแมร่ง ผัวมึงเก่งจริงๆ “ ผม ถลึงตาใส่ไอ้ไผ่ เพราะเคยบอกแล้วว่า ต่อหน้าคนอื่น

ห้ามแซวเรื่องผัวๆ เมีย ๆ ระหว่างผมกับมัน เดี๊ยวคนเข้าใจผิด แล้วพี่เมฆเรตติ้งตกจะทำไง

“น้องๆ เค้าเก่งอยู่แล้วด้วยรึเปล่า แล้วนี่มันไปไหน” ผมจะถล่มตัวแทนไอ้ฉานทำไม ไม่เข้าใจ จริงๆไอ้ฉานมันเก่งแหละผมรู้ แต่เรื่องอะไรจะชมมันหละ
“มันหารถ พาน้องๆไปร้านอะดิ “ ผมพยักหน้ารับรู้ ว่าไอ้ตัวดี มันไปหารถเพื่อจะมารับน้อง ไปเลี้ยงเย็นนี้

“ มันลงทุนเว้ยเฮ้ย  สวัสดีครับน้องๆ พี่ชื่อเมฆ อยู่คณะ ที่พวกพี่ๆของน้องมาอาศัยอยู่นี่แหละครับ “ ผมทักทายน้องๆไอ้ฉาน แต่ก็ไม่วาย แอบกัดมันสักหน่อยเหอะ เอะอะก็มาคณะกู

“ โถ เมฆ มึงไม่รู้อะไร ไอ้แกละมันแนะนำไปเรียบร้อยแล้วว่า ให้น้องมารวมตัวกันที่คณะพี่สะใภ้” ไอ้ปายมันเฉลยครับ

ผมก็คิดไว้แล้วหละ ว่าเรื่องอ่ะไร ที่เสี่ยงต่อความบรรลัยของผม มักจะมาจากเพื่อนคนไหน ให้หลับตาจิ้ม พี่เมฆยังจิ้มถูกเล้ย

“นั่นไงมันมากันแล้ว” ผมมองตามนิ้วมือที่ไอ้ไผ่มันชี้ไป เห็นไอ้ฉานกับไอ้หวาน เดินมุ่งมาที่พวกผมนั่งกันอยู่


จากตอนเช้าที่แต่งชุดนักศึกษาเต็มยศ มาตอนนี้  ไอ้ฉานมันถอด ไทด์คณะออก เอาเสื้อออกมานอกกางเกง ปลดกระดุมบนอีกสองเม็ด ...... โห ฉานแสง มึงจะเซ็กซี่ไปไหน

“เฮ้ยยยยย นี่พวกมึงอย่าบอกนะ ว่าจะไปถล่มร้านเค้ากันหมดนี่ “ ไอ้หน่า ไอ้หวาน ไอ้ยอน และไอ้ดิว มันมาพอดี มาถึงกุลสตรีหนึ่งเดียวในกลุ่ม มันโวยวายทันที

“มึงไม่ต้องตกใจไปหน่า วันนี้ไอ้ฉานเลี้ยง ที่มึงแพ้พนัน กูยกยอดให้เป็นวันหลัง “ ไอ้แกละพูดด้วยความใจดี ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องมันเล้ย ไอ้หน่าที่ทำท่าแหยงๆ ในตอนแรก ก็ดูมีสีหน้าดีขึ้นทันที ไอ้นี่ก็งกครับ

“พวกพี่ๆ พนันอะไรกันเหรอค่ะ น่ารักจัง ดูพวกพี่สนิทกันดี” ไม่ต้องเดาครับว่าใคร คนที่คุณก็รู้ว่าใครนั่นแหละ

“พี่ๆปี 2 ที่คณะ ไม่สอนเหรอค่ะน้อง ว่าอย่าสอดในตอนที่พี่เค้าคุยกันอยู่ “ ไอ้หน่าครับ มันโกรธแค้นน้องฟางมาจากไหนไม่รู้ แต่ที่รู้คือ มันจ้องจะงับหัวน้องเค้าตลอดเวลา ผมเห็นน้องฟางสลดลงนิดนึง ก็สงสารนะ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องอะไรของผม


“ อ้าวน้องๆ ขึ้นรถได้แล้วนะครับ บอกพี่คนขับด้วยว่า อยู่หอไหน ตอนกลับพี่เค้าจะได้ไปส่งถูก บอกตอนนี้เลยนะครับ ตอนที่ยังมีสติกันอยู่นะ “ ไอ้แกละ ครับ มันกลัวไอ้หน่าจะก่อดราม่าใส่รุ่นน้องมัน มันจึงรีบไล่ต้อนน้องๆ ขึ้นรถ


ไอ้ฉานแมร่งก็ทุ่มทุนสร้าง มันลงทุนไปเช่ารถตู้มาเพื่อรับส่งน้องๆ ลูกศิษย์มัน เพื่อไปกินเลี้ยงต้อนรับและแสดงความยินดี ที่น้องๆสอบติดครั้งนี้ เพื่อนๆ เลยได้อานิสงฆ์นั่งรถไปด้วย ส่วนใหญ่ ถ้าพวกผมไปเมากันที่ไหน จะไม่เอารถไปกันครับ จอดไว้ตามหอเพื่อน หรือที่คณะ เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่า พวกเราจะเมากันในระดับไหน กันไว้ดีกว่าแก้ ผมกำลังเก็บสัมภาระเดินตามคนอื่นๆไปขึ้นรถ แต่มีมือมาดึงชายเสื้อผมเอาไว้

ไม่ใช่ใครที่ไหนอีกนั่นแหละ

“มีอะไรวะ” ผมเลิกคิ้วถามมัน เพราะมันดึงแล้วมันไม่พูด

“เอารถไปเก็บกับกูก่อน เดี๊ยวค่อยนั่งแท็กซี่ตามไป” มันรอให้น้องๆ เดินไปขึ้นรถก่อนครับ ถึงได้ตอบคำถามผม

“มึงเอาไปเก็บคนเดียวไม่ได้เหรอ กูขี้เกียจย้อนไปย้อนมาอ่ะ” ผมต่อรองมันครับ คือผมคิดว่า มันไปคนเดียวน่าจะง่ายกว่าเพราะผมไปก็ใช่ว่าจะมีประโยชน์อะไร สู้ผมขึ้นไปเฮฮากะน้องๆบนรถคงจะสนุกกว่า

“ไม่เอา มึงไปกะกู อย่าเรื่องมากน่า” มันออกคำสั่งพร้อมชักสีหน้า ให้ผมรู้ว่า คำต่อรองที่ออกจากปากไปเมื่อครู่นั้น เลวร้ายต่อความรู้สึกมันมาก

“เออ ไปก็ไป “ พี่เมฆไม่อยากมีเรื่องครับ เดี๊ยวงานกร่อย ไม่สนุก

“เฮ้ยๆ ไอ้สองคนผัวเมียคู่นั้นหนะ มึงจะเอาไง ทำไมไม่ขึ้นรถ” ไอ้หน่าขึ้นรถไปแล้ว ยังอุตส่าห์ชะโงกหน้าออกมาสอดรู้สอดเห็นได้

“เฮ้ย ไปกันก่อนเลย เดี๊ยวกูกะเมฆเอารถไปเก็บก่อน เดี๊ยวตามไป หน่า มึงให้น้องสั่งกันตามสบายเลยนะ กูฝากด้วย”

“ เออ ๆ แล้วพวกกูหละ ตามสบายด้วยมั้ย กูจะได้เต็มที่กะชีวิต แล้วมึงสองตัว กูเรียนให้ทราบว่า ไอ้ห่าฉาน มึงเป็นเจ้าของงาน ขอให้รีบมา อย่ามัวแต่อาบน้ำปะแป้ง ติ๊ดชึ่งตะละล้ากันอยู่นะมึง “ ไอ้หน่ามันกำชับสั่งเสีย เสียงดังมาก จนพี่เมฆต้องหันหน้าไปมองอย่างอื่น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ รักษาภาพ ถึงจะเย็นมากแล้ว แต่ยังมีคนเดินผ่านไปมาอยู่ ไม่ดีๆ เรื่องแบบนี้พี่เมฆต้องระวังตัว

“เออ มึงอยากทำอะไรก็ทำ อยากสั่งอะไรก็สั่ง เดี๊ยวตามไป ไปกันได้แล้ว” ไอ้ฉานได้โอกาส เบิกฤกษ์รถเคลื่อนขบวน


ผมนั่งรถของเราสองคนมาจอดไว้ใต้หอพัก พอดีกับที่มีโทรศัพท์ไอ้ฉานเข้ามา ผมเห็นมันรับแล้วพูดสองสามคำ ก็ล็อครถแล้วเดินตามผมมา

“ ไอ้แกละ โทรมาบอกว่า เห็นรุ่นน้องมึง ที่เป็นเพื่อนน้องฟางอ่ะ เดินอยู่ข้างทาง เลยรับไปด้วย มันเลยโทรมาถามว่ากูขัดข้องอะไรหรือเปล่า “

“ อืม มึงเลยรับเละเลยดิงานนี้ ไหนจะเพื่อนมึง เพื่อนกู ลูกศิษย์มึงอีก แล้วนี่มีน้องคณะกูอีก “

“เป็นไรไปหละ เลี้ยงน้องเมีย ขนหน้าแข้งกูไม่ร่วงหรอก คิดมาก” มันตอบผมไป ปากก็ฉีกยิ้มไป มือก็ลูบหัวผมไป
นี่ก็ว่าถ้าเดินผ่านร้านขายของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ว่าจะร้องขอให้มันซื้อเจอไฮ ให้ผมนะเนี่ย วันนี้เกิดอยากเชื่อง



ไหน ไหน ผมกับไอ้ฉานก็มาถึงหอแล้ว เราสองคนเลยถือโอกาส อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันซะเลย ก็ไม่ได้อะไรมาก เที่ยวแถวมหาลัย เราก็แค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ นี่แหละครับ

มาถึงร้าน มองเห็นโต๊ะพวกผมแต่ไกล ร้านประจำของพวกเรา เป็นร้านบรรยากาศดี มีแบรนด์สดเล่นทุกวัน ส่วนใหญ่ก็พวกเด็กในมหาลัยนั่นแหละครับ มาเล่นดนตรีหาค่าขนม ร้านนี้เป็นร้านกลางแจ้ง มีสระน้ำตรงกลาง ช่วงค่ำจะเล่นเพลงฟังสบายๆ เน้นให้พวกเราคุยกันมากกว่า ส่วนดึกๆ นั้นเรียกได้ว่า เปิดเวทีคอนเสิร์ต ให้แด๊นซ์กันมันไปเลยครับ เรียกว่าช่วงเวลา เมา-มันส์

“ท่านประธานมาแล้วเว้ย มีอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาใหม่ด้วย แต่ถือว่าทำเวลาได้ดีนะ” ไอ้หวาน มันแซวตั้งแต่ผมเดินเข้ามา ยังไม่ทันจะถึงโต๊ะเลยครับ ดีนะว่ายังเป็นช่วงหัวค่ำอยู่ คนยังมาไม่กี่โต๊ะ
 
“เชี่ยแระไอ้หวาน เดี๊ยวกูจัดให้เต็มรักซะเลยนี่ “ ผมชูรองเท้าขึ้นเป็นสัญญาณให้ไอ้หวานรู้ว่า ความรักของผม แสดงออกด้วยอะไร เรียกเสียงหัวเราะให้น้องๆ กันไป


ไอ้ฉานมันต้องนั่งหัวโต๊ะ ตำแหน่งกิตติมศักดิ์ที่ไอ้พวกนี้มันจัดเตรียมไว้ให้ ส่วนผมนั่งใกล้ๆมันฝั่งขวามือ ฝั่งซ้ายทั้งแถบ เป็นน้องๆลูกศิษย์มัน เริ่มหัวโต๊ะด้วยน้องฟาง เพื่อนน้องฟาง และน้องคนอื่นๆ

ส่วนฝั่งผมก็มี ผม ไอ้ไม้ ไอ้หน่า ไอ้แกละ ไอ้หวาน ไอ้ดิว ไอ้ไผ่ ไอ้ยอน และไอ้ปายครับ เห็นบนโต๊ะมีอาหารวางอยู่บ้างแล้ว
และก็เห็นเครื่องดื่ม เตรียมมาพร้อมแล้วเช่นกัน


“ อ้าวๆ ไหนๆ ท่านประธานมาแล้วก็ให้มันพูดอะไรเสียหน่อย ก่อนที่มันจะเมาจนพูดไม่ได้” ไอ้หน่ามันปรบมือ เรียกร้องความสนใจ เพื่อให้ทุกคนฟังไอ้ฉานพูดครับ มึงจะทางการกันไปไหน แมร่ง แต่ละคน ล้นๆทั้งนั้น

“ สำหรับวันนี้ ก็ไม่มีอะไร นอกจากพี่อยากพาน้องๆ ที่เรียนติวกับพี่แล้วสอบผ่านเข้ามาได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะน้องๆมีความสามารถกันเองอยู่แล้ว หรือจากที่พี่เพิ่มเติมให้ไปบ้าง แต่ก็อยากจะบอกว่า ยินดีกับน้องๆด้วยนะครับ ยังไงต่อจากนี้ไปก็หวังว่าน้องๆ จะให้ความร่วมมือเข้าร่วมกิจกรรมกับทางคณะต่อไปนะ “ เสียงน้องๆที่ปรบมือให้กับไอ้ฉาน ทำให้ผมอดดีใจไปด้วยไม่ได้ ที่อย่างน้อย มันก็ก้าวข้ามมาได้อีกขั้นนึงอย่างสวยงาม

ผมแอบเห็นน้องฟางและน้องกราฟ เฝ้ามองไอ้ฉานตอนพูดอย่างตั้งใจ ประหนึ่งว่า พรุ่งนี้ สิ่งที่ไอ้ฉานพูดจะเป็น เทสย่อยวัดระดับพื้นฐานความรู้ ยังไงยังงั้น โดยเฉพาะในดวงตาของน้องฟาง เปิดเผยความภูมิใจในตัวไอ้ฉานอย่างเห็นได้ชัด

ผมอาจจะคิดมากไปก็ได้ แต่ก็รู้สึกหงุดหงิดในจิตใจยังไงก็ไม่รู้

พวกเพื่อนๆ ผมก็เริ่มชงเหล้าแจกจ่ายน้องๆ สำหรับคณะผมและคณะไอ้ฉาน ถือว่าการเข้าสังคมโดยมีเหล้าเป็นตัวประสานนี้ เป็นเรื่องธรรมดามากครับ คณะอื่นๆก็คงไม่ต่างจากนี้สักเท่าไหร่ แต่สำหรับน้องๆ เรามักจะเริ่มชงให้บางๆก่อน เพื่อดูปฎิกริยาของแต่ละคนว่า ใครที่กินเป็น และ น้องคนไหนที่ยังไม่เคย ก็ต้องค่อยๆเรียนรู้กันไป สำหรับการกินเหล้าเข้าสังคม


ผมยกเหล้าขึ้นจิบด้วยความกระหาย เนื่องจากปิดเทอมไปก็ไม่ได้สังสรรค์อะไรแบบนี้เลย เรียกได้ว่ามาเจอกันครบทีมเพื่อนแบบนี้ พี่เมฆก็เลยมีอาการเปรี้ยวปาก ยกแล้ววางเลยครับ


“เมฆ เดี๊ยวกินข้าวก่อน เข้าใจป่ะ กูสั่งให้แล้ว เดี๋ยวจะเมาไม่รู้เรื่อง” ไอ้ฉานมันสั่งทันที ที่ขอบแก้วที่มีแต่น้ำแข็งของผมสัมผัสกับโต๊ะ ผมพยักหน้าให้มันอย่างว่าง่าย ไม่อยากให้มีปัญหาอะไร อีกอย่าง ไม่อยากให้มันมาคอยกังวลกับผมมากเพราะว่ามันเป็นเจ้าของงาน ก็อยากให้มันคุยกะน้องๆมันมากกว่า เดี๊ยวจะกลายเป็นว่า งานกร่อย เพราะมันต้องคอยมาดูแลผม

น้องๆ เอง เมื่อเริ่มคุ้นชิ้นกับน้ำเมาแล้ว ก็เริ่มกล้าที่มาชนแก้วกับรุ่นพี่ ธรรมเนียมของสถาปัตย์และศิลปกรรม เหมือนกันอยู่อย่างนึงก็คือ ถ้ารุ่นน้องมาชนแก้ว นั่นหมายถึงพี่ต้องยกหมด แต่น้องไม่จำเป็นต้องหมดก็ได้ แค่จิบๆก็พอ เพราะพวกพี่ๆ กินกันจนชินแล้ว น้องๆมาใหม่ ถ้าหมดแก้ว หมดแก้ว ตลอด สงสัยคงต้องเก็บศพกันไม่ได้นอนแน่ๆ

ไอ้หน่า ไอ้หวาน และไอ้แกละ ดูจะเป็นที่นิยมชนแก้ว ของน้องๆมาก เพราะไอ้พวกนี้ ยิ่งเมาก็ยิ่งปากหมา ยิ่งเหล้าเข้าปากก็ยิ่งฮา ไม่เหมือนคนอื่นๆที่ ปกติดูขรึมอยู่แล้ว พอกินเหล้าเข้าไป เรียกได้ว่าพูดไม่เป็นกันเลยทีเดียว

ส่วนคนที่ป๊อบปูล่าที่สุด เห็นจะไม่พ้นพระเอกของงานอย่างไอ้ฉาน เรื่องนี้ไอ้แกละคนชงมันรู้งานอยู่แล้ว ผมเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ ถ้าเป็นงานที่กินร่วมกับรุ่นน้องแบบนี้ คนชงต้องรู้ว่า ควรชงบางๆ ให้ ไม่งั้น ตายสถานเดียว

“พี่เมฆครับ กราฟขอชนพี่คณะ ครับผม” น้องกราฟ เอาแก้วยื่นมาตรงหน้าผม น้ำเสียงเริ่มอ้อแอ้แล้ว ตาเริ่มเยิ้มหวาน

อะไรวะ นี่มันคออ่อนขนาดนี้เลยเหรอ กรำของเวร

“ ครับๆ เบาๆนะครับน้อง” ผมเอาแก้วไปแตะแก้วน้องกราฟ แต่รู้สึกว่า แรงส่งแก้วจากฝั่งน้องกราฟ จะเข้าสู่โหมดการกระแทกแก้วแล้วเล็กน้อย ผมยกหมดแก้ว ก่อนที่จะเห็นว่า น้องกราฟเองก็หมดแก้วเหมือนกัน

เมื่อมีคนเริ่ม ก็ต้องมีคนตามครับ         น้องๆไอ้ฉาน เริ่มถือแก้วเรียงหน้าเข้ามาชนแก้วผม

“หยุดก่อนครับน้องๆ ใครที่จะมาชนแก้วกับพี่ ช่วยส่งตัวแทนมาครับ มันเปลืองนะครับน้อง ชนกันต่อเนื่องแบบนี้” พี่เมฆปากดีไปงั้นแหละครับ จริงๆแล้วกลัวเมามากกว่า คิดดูนะครับว่า พี่หนึ่งคน ต่อน้องห้าคน ต่อให้น้องยกหมดแล้ว น้องก็รับผิดชอบกันแค่คนละแก้ว แต่พี่เมฆสิครับ ต้องยกห้าแก้วในครั้งเดียว ไม่เมานี่ เอาพี่เมฆไปกราบไหว้บูชาเถอะครับ

พวกเราดื่มกินกันสนุกสนาน ยิ่งเหล้าเข้าปาก ความเป็นกันเองจะเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว ทำให้พวกเรากล้าคุย กล้าเล่นมุขกันอย่างเมามันส์ ผมเองก็กินเรื่อยๆ จิบบ้างยกบ้าง แล้วแต่ ยิ่งดึก คนยิ่งเริ่มเยอะ เพลงก็เริ่มเร่งจังหวะ บางคนเริ่มขยับตัวไปตามจังหวะเพลง บางคนก็ร้องคลอไปตามเพลง

ผมเองก็เฮฮาไปตามเรื่อง จนเริ่มสะดุดเมื่อรู้สึกว่ามีคนมองมาทางนี้ตลอดเวลา

ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร คงจะเป็นเพราะว่า โต๊ะเรามากันเยอะ เสียงดัง เลยเป็นเป้าสายตา

แต่ยิ่งนานเข้าก็เริ่มรู้สึกว่า เค้าคนนั้นยังไม่เลิกมองมาทางนี้ ผมหันไปดู เป็นโต๊ะผู้ชายล้วน มากันสี่ห้าคน หน้าตาก็พอคุ้นเคยอยู่บ้าง ถ้าพี่เมฆจำไม่ผิด น่าจะเป็นพวกวิศวะโยธา ที่ส่วนใหญ่นิยมมาร้านนี้เหมือนกัน แต่คนทีมองมาทางโต๊ะนี้บ่อยๆ เป็นคนที่ผมไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย ไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่ว่าจากในร้านนี้ หรือในมหาลัย

เค้าอาจจะมองน้องฟาง ที่เรียกได้ว่าเป็นดาวของโต๊ะผมเลยก็ว่าได้ น้องฟางผมยาว สวย หุ่นดี และเมื่อดื่มเหล้าเข้าไปแบบนี้ จากที่ยิ้มง่ายคุยเก่งอยู่แล้ว ก็ยิ่งคุยเก่งยิ้มง่ายมากกว่าปกติ อาจจะมีถึงเนื้อถึงตัวเพิ่มมาอีกอย่าง

“พี่เมฆครับ พี่ฉานบอกกราฟว่า ถ้าพี่เมฆไม่เปิดฟลอร์ พี่ฉานจะไม่เต้นให้ดูเป็นบุญตาอะครับ” น้องกราฟนี่เรียกได้ว่าเมาเต็มรูปแบบแล้วครับ ตาเยิ้ม และเริ่มเลื้อยไปทางนู้นทางนี้ เริ่มหมุนตัวไปชนแก้วโต๊ะข้างๆ

และเริ่มเข้าถึงเนื้อถึงตัวไอ้ฉานมากขึ้น ..... ถึงขนาดอ้อนให้ไอ้ฉานเต้นให้ดู นี่เรียกว่าถ้าไม่เมาคงไม่กล้า


“เฮ้ย แล้วพี่เกี่ยวอะไรด้วยหละ ถ้าขาพี่ผูกติดกับขามันก็ว่าไปอย่าง ถ้าพี่ไม่เต้นมันเต้นไม่ได้ ไม่เอาๆ” ผมไม่ได้โวยวายจริงจังอะไรหรอกครับ แต่ไอ้ตัวดี ดูมันจะสนุกไม่น้อยที่แกล้งผมได้

ผมเห็นไอ้ฉานจะหันมาคุยทางผมหลายรอบแล้ว แต่ยังไม่ทันจะได้คุยกัน ก็มีน้องคนอื่นๆ เรียกไปซะก่อน เห็นมันแอบมองผมทำหน้าละห้อย สมน้ำหน้า อยากเป็นพระเอกนักนะมึง

“อีกราฟ มึงเมาแล้วมึงแรดให้น้อยลงหน่อยนะ พอเมาแล้วเลิกเก็กแมนเลยนะมึง นู่นโต๊ะนู่นเค้ามองมึงอ่ะ”

น้องฟางแซวเพื่อนซะแรงเลยนะครับเนี่ย จากที่ไม่รู้นี่รู้เลยว่าน้องกราฟเป็น

“เค้ามองมึงต่างหากหละอีฟาง ก็มึงเล่นร่อน ซะขนาดนี้” น้องกราฟเองก็แรงพอกันครับ เรียกได้ว่าสมน้ำสมเนื้อ


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 23-05-2010 00:18:38
เพราะน้องฟางเองก็ไม่ได้ ผิดไปจากที่น้องกราฟว่าสักเท่าไหร่ น้องฟางเดินชนแก้วพี่ๆทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ไอ้หน่า ที่มันถลึงตาใส่ น้องฟางยังไม่กลัว ไอ้หน่าเลยต้องยกแก้วไปด้วยความจำใจ  น้องฟางดูจะขี้อ้อนเป็นพิเศษเมื่อผมเห็นน้องพูดจาอ่อนหวานใส่เพื่อนไอ้ฉานทุกคน ไม่เว้นแต่ไอ้แกละ และ ยังเผื่อแผ่มาถึงเพื่อนๆผม พวกเพื่อนผมก็ชอบสิครับ ผู้หญิงมาคลอเคลีย ออดอ้อน เอาใจ เป็นใครจะไม่ชอบ ยกเว้นไอ้ไผ่ ที่มันทำท่าแสดงออกมาแบบชัดเจนว่า ไม่ปลื้มอาการออดอ้อนของน้องฟางในครั้งนี้ ผมว่าไอ้ไผ่นี่มันเป็นเก้งแน่ๆ

“เมฆ กูว่า สั่งเก็บอีน้องฟางกันเหอะหวะ แมร่ง มึงดูดิ๊ มันจะเอานมไปสีแขนผัวมึงอยู่แล้ว” ไอ้หน่ามันข้ามหัวไอ้ไม้มาคุยกับผมครับ

“เฮ้ยๆ กูฟังด้วย อย่าข้ามหัวกูสิ แก้วสามดวง” ไอ้ไม้เองมันก็ไม่ยอม อยู่นอกเขตให้บริการครับ ตามสันดาน คือต้องสอดรู้


“เออ กูละขัดใจ แมร่ง ชะนีนางนี้พอเมา แล้วร่อนไปทั่ว กรูละมึน” ไอ้หน่ามันทนไม่ไหว มันลุกขึ้นมานั่งยองๆระหว่างผมกับไอ้ไม้

“มึงอย่าคิดมากน่า สนุกๆ น้องเค้าเมาแล้วก็งี้ เราก็ช่วยกันดูแล้วกัน ว่าอย่าให้ใครสอยน้องเค้าไปได้” ถึงแม้ผมจะสะอึก กับคำพูดที่ว่า น้องฟางเอาหน้าอกมาสีแขนไอ้ฉาน แต่มาเที่ยวแบบนี้ ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา  เหล้ามักจะทำให้กล้า

“กูดูให้อะได้ แต่ถ้าน้องเค้าเต็มใจให้ใครหิ้วไปเอง นี่กูไม่รู้นะ” ไอ้หน่า มันย้ำจุดยืนชัดเจนครับ

“เออ แล้วถ้ามันกะหิ้วสามีมึงคืนนี้ละเมฆ มึงจะทำยังไง” ฉึก!!!! ผมไม่คิดว่าจะมีคำถามนี้เกิดขึ้นครับ เลยคิดไม่ออก

“ก็คง เอ่อ เฮ้ยยยยย ใครจะยอมวะ “ นั่นสิครับ พี่เมฆจะคิดมากไปทำไม ใครจะมาสอยไปเรื่องอะไรจะยอมละครับ

“เออ แล้วไป กูคิดว่าจะเป็นพระเอก ยอมคนขึ้นมาเหมือนละครช่องเจ็ด” ไอ้หน้ามันถอนหายใจโล่งอก เหมือนมันพอใจกับคำตอบของผม

“ตกลงมึงว่าเค้ามองใคร” เสียงน้องกราฟกับน้องฟางครับ ผม ไอ้หน่าไอ้ไม้ เลยมองตามเสียงไป ว่าน้องเค้าถกถึงรื่องอะไรกัน

“เค้ามองมึงมั้ง อีสวย ยิ้มการค้าซะขนาดนี้ “ น้องกราฟตอบประชดน้องฟางไปเต็มๆ ไอ้หน่าเริ่มเอามือกุมขมับ

“เค้ามองกระเทยแปลกอย่างมึงต่างหากละกราฟ “น้องฟางเองก็ไม่ยอมแพ้ครับ

“แต่เราว่านะ เค้ามองพี่เมฆอ่ะ “ ตึงโป๊ะ !! น้องคนนึง มาขอร่วมวงสนทนาด้วยอย่างอดไม่ได้

แต่พี่เมฆสิครับ ตะลึงงันไปแล้ว มองไปที่ต้นเหตุ ที่น้องๆเค้ากำลังถกกันอย่างออกรสชาติ ก็ปรากฎว่า เป็นผู้ชายคนเดิมที่พี่เมฆ รู้สึกว่าเค้ามองมาตั้งแต่แรกนั่นแหละครับ แต่ไม่เคยคิดว่า เค้าจะมองผมอ่ะ

“เฮ้ย น้องว่าอะไรนะ” ไอ้หน่า ถลาไปจับแขนน้องคนนั้น เขย่าถาม เหมือนกับว่าเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติยังไงยังงั้นแหละครับ

“ คือผมคิดว่า คนนั้นเค้ามองพี่เมฆอะครับ เห็นเค้ามาทางเราอยู่นานแล้ว ผมสังเกตุว่าเค้ามองพี่เมฆเป็นส่วนใหญ่ครับ นานๆจะมองไปที่ ฟางกับกราฟบ้าง” ตกลงพี่เมฆไม่ได้คิดไปเองคนเดียวใช่มั้ยครับ ว่าเค้ามอง เพราะน้องก็บอกอยู่ว่าสังเกตุเหมือนกัน

ไอ้หน่าเดินมาจับผมที่ทำหน้างง มือนึงถือแก้วเหล้า แล้วหมุนๆ ตัวผมไปมา เหมือนกรรมการกำลังพิจารณา หนุ่มคลีโออะครับ

“มึงจะหมุนหาขี้เกลืออะไรวะหน่า เดี๊ยวกูอ๊วกใส่ ไอ้นี่” ผมเริ่มมึนจริงๆนะครับ ก็ไอ้หน่าเล่นหมุนยังกะผมเป็น ม้าหมุนเด็กเล่น กำลังกรึ่มๆ เดี๊ยวได้อ๊วกสาดหน้ากันบ้าง

“จะดูว่าตัวมึงมีทองติดรึเปล่า ทำไมมีเสน่ห์ต่อเพศเดียวกันวะมึง” ผมตบหัวมันไปทีนึง แค่ไม่มีผู้หญิงมาสนใจก็ช้ำใจพอแล้ว นี่มันยังมาตอกย้ำ เรื่องเป็นที่สนใจของผู้ชายด้วยกันอีก

“มีอะไรกันวะพวกมึง เมฆเมาเหรอ ไหนมาดูดิ๊” ไอ้ฉานครับ ไม่รู้สะบัดหลุดจากหนวดปลาหมึกอย่างน้องกราฟกะน้องฟางมาได้ไง

“เปล่า กูยังไม่เมา จิบๆ เอง” พี่เมฆไม่ได้โกหกนะครับ หมายถึง หลังๆมานี้ น้องเค้าชนกันครบคนแล้ว พี่เมฆเลยได้แต่จิบๆอะครับ


“อืม แล้วไป ถ้าเมาก็บอกนะ จะพากลับ” ไอ้ฉานมันกำชับผม มือมันก็จับข้อมือผมไว้ ผมรุ้สึกว่า ไอ้คนโต๊ะนั้น ก็กำลังมองอยู่เหมือนกัน

“พอดีกราฟกันฟางเค้าเถียงกันอะครับ ว่าผู้ชายโต๊ะนู้นมองใคร ผมเลยบอกว่ามองพี่เมฆ ไม่งั้นคงเถียงกันไม่จบอะครับ”

“ไอ้คิม มึงไม่พูดก็ไม่มีใครว่ามึงเป็นใบ้นะเว้ย” อ๊อ น้องผู้สังเกตุการณ์ชื่อคิมนี่เองครับ เพราะไอ้หวาน ที่มันกำลังโยกย้าย ตามน้องฟางกับน้องกราฟอยู่ ถึงกะออกจากวงมาตบหัวน้องเค้าทันที

“อะไรนะ ใครมองใคร” ไอ้ฉานซักทันทีครับ น้องคิมเริ่มหน้าถอดสี หลังจากเอามือลูบหัวตัวเองป้อยๆ

“ไอ้ห่านี่มันเริ่มเมาแล้วเพ้ออะฉาน ไม่มีอะไรหรอก มึงไปเต้นต่อได้แล้วไป น้องๆมองหามึงแล้ว อย่าปล่อยให้ไอ้แกละแย่งซีนดิวะ มึงดูมันเต้นท่าประหลาดอะไรของมันวะนั่น นึกว่าเท่ห์ตายหละไอ้บ้า” ผมรู้สึกขอบคุณไอ้หวานอยู่ในใจครับ ที่เบี่ยงเบนประเด็นความสนใจไอ้ฉานไปได้ ไม่งั้น คืนนี้ได้มีเรื่องกลางร้านแน่ๆ

ไอ้ฉานเดินไปสมทบกับน้องๆ และไอ้แกละ แต่ก็ไม่วาย มองมาทางผมอยู่เป็นระยะๆ ดูก็รู้ว่ามันเองไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่

ผม ไอ้หน่า ไอ้ไม้ เริ่มหมดสนุกลงไป นิดหน่อยครับ แต่เหล้าก้ช่วยได้เยอะ เมื่อพวกผมรู้สึกไม่สนุก ก็กินไปให้มันสนุกครับ

ผมเริ่มกลับมาโยกตามจังหวะเพลงอีกครั้ง ไอ้หน่ามันเห็นผม ไม่ได้กังวลอะไร มันก็พลอยโล่งใจขยับเข้าจังหวะเพลงตามผมไปด้วย

ยึ่งดึก ยิ่งคึก ยิ่งเมา ยิ่งมันส์

เหล้าหมดไปกี่ขวดแล้วไม่รู้ แต่ที่รู้คือเริ่มมีน้องๆบางคน ร่วงกันเป็นแถว

บ้างก็หลบไปอ๊วกในห้องน้ำ แล้วมาฟุบลงบนโต๊ะ

น้องฟาง น้องกราฟ ไอ้ฉาน ไอ้แกละ และน้องๆคนอื่น ยืนเต้นกันหน้าเวทีครับ น้องๆเมาแต่ไม่ได้ดื่มกันแล้ว ออกไปเต้นกันแทน ไอ้ฉานออกมาลากผมไปเต้นด้วยอยู่สองสามเพลง ผมก็ต้องยอมแพ้ เนื่องจาก คนเบียดกันเยอะ แถมไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เต้นเยอะก็ปวดเมื่อย เลยกลับมานั่งจิบเหล้า เป็นเพื่อนไอ้ยอน ไอ้ไม้ ไอ้ดิว ที่มันยังสแตนบาย รินเหล้ากันต่อไป

“ เฮ้ย อย่าเยอะๆ เดี๊ยวเมา “ ไอ้ฉานมันออกมาตอนไหนไม่รู้ แต่ตอนนี้มันดึงแก้วในมือผม ไปกินแทนน้ำแบบหมดแก้วก่อนจะส่งให้ไอ้ดิวชงใหม่ ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะ มีไอ้ฉานยืนอยู่หลังผม มือมันจับหัวผมโยกไปโยกมา

“ไงวะ หมดแรงแล้วเหรอมึง แก่แล้วก็งี้ เต้นสู้เด็กไม่ได้” ไอ้ไม้มันวางแก้ว เพื่อแซวไอ้ฉานโดยเฉพาะครับ

“ใครว่า กูออกมาจะเอาน้องไปส่ง เมากันหมดแล้วเนี่ย ไอ้แกละ แมร่งเริ่มคลานแระ “ ผมหันไปดูไอ้แกละแล้วอดหัวเราะไม่ได้ครับ มันเมามาก แล้วมันก็สนุกมาก จนตอนนี้มันคงหมดแรงแต่ยังอยากสนุกอยู่ ถึงได้เกาะขอบโต๊ะแล้วโยกตามเพลง

“แล้วเป็นไงวะมึง กระเทยกับผู้หญิง อะไรเร้าใจกว่าวะ กูเห็นสีมึงจนแขนไหม้แล้วมั้ง ไหนเอาแขนมาดูสิ” ผมแกล้งล้อไอ้ฉานเล่น เอาแขนมันมาพลิกดู

“ปากดีจริงๆ เมียกู ใครเร้าใจกูไม่รู้ แต่ที่รู้ กูว่าคืนนี้มีคนไม่ได้นอนอ่ะ” ผมปล่อยแขนมันทันที ที่เรื่องชักเริ่มเข้าตัวผม

ไอ้ดิว ไอ้ไม้ รวมถึงไอ้ยอน มันหัวเราะผมใหญ่เลยครับ ที่โดนไอ้ฉานย้อนแบบนี้ พวกมันรู้ว่า ผมเถียงชนะทุกเรื่องยกเว้นเรื่องแบบนี้ ที่พูดกี่ที พี่เมฆก็แพ้ กูอาย กูอายที่จะพูดเรื่องบนเตียงของตัวเองนี่วะครับ

“แล้วนี่พวกมึงเอาไงวะ กลับพร้อมกันเลย หรือยังไง” ไอ้ฉานมันหันมาถามความเห็น ไอ้สามคนนี้ครับ ส่วนพี่เมฆ มันไม่ต้องถาม เพราะยังไง มันก็กำกับได้อยู่แล้ว พี่เมฆเลยนั่งฟังแบบหล่อๆไป

“มึงขนบางส่วนไปส่งก่อนก็ได้ เพื่อนกับน้องบางคนยังสนุกกันอยู่เลย” ไอ้ดิวมันออกความเห็นครับ

“เอางั้นเหรอ งั้นกูคงต้องเอาน้องๆไปส่งก่อน ฝากมันด้วยนะ “ ไอ้ฉานมันเป็นคนที่รับฟังความเห็นเพื่อนทุกคนเสมอครับ ยกเว้น ผม

“ กูดูแลตัวเองได้น่า มึงบ้าปะ ร้านนี้มาจนนอนแทนบ้านได้แล้วมั้ง” จะมาฝากฝังพี่เมฆทำไมวะครับ พี่เมฆแมนจะตาย ยังไงก็ดูแลตัวเองได้

“เออ มึงรีบไปรีบมาเหอะ เดียวเมียมึง กูดูให้ แต่ไม่ดูอย่างเดียวได้มั้ย ไอ้เมฆแมร่งๆนั่งใกล้ กูคิดว่าหอมอะไร ที่ไหนได้ หอมออกมาจากตัวมันนี่เองหวะ” ไอ้ไม้มันตั้งใจจะแกล้งไอ้ฉานแหละครับ มันแกล้งเอาจมูกมาใกล้ๆ คอผม กำลังจะเข้าใกล้ต้นคอ ก็โดนไอ้ฉานดึงคอเสื้อออกไปซะก่อน

“วอนตีนกูแระไอ้เชี้ยไม้ กูวางใจให้ดูมัน มึงจะมาเชี่ยเอง เดี๊ยวเจอตีนกู” ไอ้ฉานกำคอเสื้อไอ้ไม้แน่น กัดฟันพูดน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม (แต่มันแกล้งทำ)

“ค๊าบๆ ผมกลัวแล้วค๊าบพี่ค๊าบ ไว้ชีวิตผม ไถ่โคไถ่กระบือเถอะค๊าบ “ ไอ้ไม้แกล้งยกมือขึ้นไหว้ประหลกๆ ทำเสียงร้องขอชีวิต แบบอ้อนตีนสุดขีด นี่กะว่าถ้าไอ้ฉานไม่จัด พี่เมฆจะจัดให้แล้ว เล่นซะเว่อร์เกิ๊น

“เออ เดี๊ยวกูมา” ไอ้ฉานมันปล่อยคอเสื้อไอ้ไม้ ก่อนจะไปปลุกแต่ละชีวิตที่นิ่งเป็นศพให้กลับบ้าน

“ผัวมึงแมร่ง ดุฉิบหาย จะหวงอะไรหนักหนา มึงมีดีอะไรวะเมฆ” ไอ้ไม้ มันยังไม่วายบ่นพึมพำตามหลังไอ้ฉานไปครับ

“ไม่บอก มึงไม่ต้องรู้หรอก ไม่มีบุญเห็นเองก็ไม่ต้องรู้” ผมยักคิ้วให้

“เออๆ ท้องขึ้นมา อย่ามาร้องหาของรับขวัญหลาน นะมึง” ไอ้ไม้มันตบกบาลผม แล้วหันไปชนแก้วกับไอ้ดิว ไอ้ยอนต่อ

ปล่อยให้ผมนั่งมองบรรยากาศในร้านไป จิบเหล้าไป เห็นไอ้หน่าเข้าไปร่วมวงเต้นแร้งเต้นกากับน้องๆแล้ว น้องกราฟกับน้องฟางนี่แรงดีไม่มีตกเลยทีเดียว มองเพลินไปถึงโต๊ะ ที่แอบมองมาที่โต๊ะผมบ่อยๆ ไม่เห็นไอ้คนแปลกหน้าที่ชอบมองมาทางนี้แล้ว แต่คนอื่นๆ ยังอยู่ มีหายไปบ้าง มาเพิ่มบ้าง ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไร

เดี๊ยวไอ้ฉานกลับมา ก็คงจะเช็คบิล แล้วก็คงจะกลับ ผมขอตัวเดินออกมาเข้าห้องน้ำ

อยากจะล้างหน้าล้างตา ให้มันหายมึนๆ ไม่ได้เมาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มีสติครบถ้วนอะไร

เดินลัดเลาะมาทางเดินโรยกรวด ถึงบริเวณที่จัดไว้สำหรับดูดบุหรี่ เป็นลานกรวดใต้ต้นไม้ใหญ่  ผมเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงตามความเคยชิน ก็เจอกับซองบุหรี่ ของไอ้ฉาน มันมักจะฝากผมไว้เสมอ เมื่อเรามากินเหล้า ผม ไอ้ฉาน และเพื่อนๆ ไม่มีใครติดบุหรี่ แต่จะดูดเวลาเรามากินเหล้ากัน ผมนั้นบางครั้งก็ดูด บางครั้งก็ไม่ดูดแล้วแต่อารมณ์

ไอ้ฉานเวลากินเหล้า มันมักจะดูดบุหรี่จัด เรียกได้ว่ามวนต่อมวน ถ้ามีบุหรี่วางอยู่ตรงหน้า มันเลยให้ผมเก็บไว้ เพื่อที่มันจะได้ดูดไม่จัดเท่าไหร่ คนส่วนใหญ่ชอบไปดูดบุหรี่ในห้องน้ำ ที่ลานใต้ต้นไม้ จึงไม่มีคนมายืนดูดกันมากนัก ผมนึกเปรี้ยวปากจึงหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ที่ปาก ก่อนกดไฟแช็คจุดบุหรี่ จนมันมีแสงวาบขึ้นมานั่นแหละ ผมถึงได้สูดควันเข้าปอดแล้วปล่อยออกมา กำลังสบายอารมณ์ เดินชมต้นไม้ (กลางคืน)


อยู่ๆมีมือนึงมาจับแขนผมไว้แล้วอีกมือนึงอ้อมมาอุดปากผม ก่อนที่มันจะกระชากตัวผมไปหลังต้นไม้ใหญ่

“เฮ้ย จะทำอะไรวะ” ผมโวยวาย ทันที่ ที่ปากเป็นอิสระ แต่ข้อมือยังโดนดึงไว้ ผมตัวเกร็ง แต่ก็ยังสู้ นี่มันในร้านประจำที่ปลอดภัยเสมอ เลยไม่คิดว่ามีอะไรที่จะต้องกลัว ถึงแม้ใจจะเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว

“เงียบๆ อยากให้คนอื่นเค้าแตกตื่นแห่กันมารึไง” มันสั่งผมพร้อมๆกับที่มันอ้อมมาประจันหน้ากับผม

“นะ นาย” มันคือไอ้คนที่มองมาทางโต๊ะผมบ่อยๆ มองไปครั้งสุดท้าย ไม่เห็นมัน ก็คิดว่ากลับไปแล้ว

“บอกว่าเงียบ” มันยกนิ้วขึ้นมาแตะปากตัวเอง พร้อมกับที่มือมันรัดมือผมไว้จนแน่น

“ปล่อย นายมีอะไรกับผม” ผมพยายามมีสติและพูดกับมัน ถึงแม้ไม่รู้ว่ามันมีจุดประสงค์อะไร

“ดูดบุหรี่ด้วยเหรอ” มันเปลี่ยนเรื่องคุยหน้าด้านๆ

“ผมถามคุณว่า มีอะไรกับผม ถ้าไม่มี ผมขอตัว” ผมกัดฟันพูด พยายามสร้างช่องว่างให้รู้ว่า เราไม่ได้รู้จักกัน


มันปล่อยมือผม ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋า ผิวปากแบบสบายใจ ในขณะที่ผมต้องลูบข้อมือตัวเองไปมาด้วยความเจ็บ และรู้สึกโกรธ มันเป็นใคร อยู่ๆกระชากผมมาโดยไม่มีธุระอะไร ถามอะไรก็ไม่ตอบ กำลังจะก้าวเดินออกไปจากตรงนั้น ก็โดนกระชากแขนกลับไปอีก

“จะไปไหน โมโหง่ายจัง ทั้งๆที่ยิ้มง่ายอยู่แท้ๆ  ขอดูดบุหรี่ด้วยคนสิ” มันพูดเสียงเรียบง่าย ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆ

“เอาไป” ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าอีกครั้ง ดึงออกมาทั้งบุหรี่และไฟแช็ค ยื่นให้มันแบบฟูลออฟชั่น จะได้จบๆไป ผมเองก็ได้ไปจากที่นี่สักที เผื่อบางที ตอนนี้ไอ้ฉานจะกลับมาแล้ว

“ไม่เอาแบบนี้สิ” มันเริ่มตีรวน ผมเริ่มมองหน้ามันแบบไม่ยอม ผมโกรธ และกำลังจะหมดความอดทน ผมกำมือแน่นจนปลายเล็บเริ่มจิกเข้าไปในเนื้อ

“แบบนี้” มันกระชากผมกลับเข้าไปหาตัวมันอีกที ก่อนจะประกบปากลงมาที่ปากผม มันพยายามจะส่งลิ้นเข้ามาในโพรงปาก

แต่เสียใจ ผมกัดฟันแน่น มองหน้ามันอย่างโกรธแค้น มันเรื่องอะไร กูไม่ใช่ผู้หญิง แล้วก็ไม่ใช่ใครที่มันจะมาทำแบบนี้ด้วยได้


“ทำไมต้องเล่นตัว เมื่อกี้ยังให้ไอ้เหี้ยนั่นจับได้นี่ แค่นี้ทำไมไม่ได้หละ” ผมกำหมัดแน่น โกรธจนตัวสั่นเป็นยังไง วันนี้ก็เพิ่งรู้

“นี่ขนาดแต่เอาปากแตะ ยังหอมขนาดนี้ หอมจนแทบจะไม่รู้เลยนะว่า นายดูดมาร์ไลท์ “ พอกันที ไม่จำเป็นต้องมีความอดทนกับคนพรรค์นี้อีกต่อไป  ผมปล่อยหมัดแรกไปที่ปลายคางมันแบบตั้งใจ มันคงไม่ทันจะระวังตัว หรือไม่ มันคงคิดว่าผมกลัวจนไม่กล้าจะทำอะไรมัน มันเอามือลูบปลายคาง และก้าวย่างเข้ามาหาผม ปลายขาผมส่งไปโดนหน้าแข้งมันแบบเต็มๆ มันทรุดตัวลงกับพื้น มองมาที่ผมแบบคาดไม่ถึง หรือกำลังคิดอะไรในใจอยู่ผมไม่รู้ แล้วไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาสนใจ

“หมัดนั้น สำหรับที่มึงจาบจ้วงกูนะ แล้วตีนที่กูฝากไว้นั้น สำหรับความกล้าที่มึงเรียกแฟนกูว่าเหี้ย จำเอาไว้มึงกับกูไม่รู้จักกัน กูไม่ใช่เพื่อนเล่น” ผมทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ไม่เข้าแล้วห้องน้ำ หน้าตาก็ไม่ต้องล้างแมร่งแล้ว

ตอนนี้ผมอยากกลับห้อง อยากเจอไอ้ฉาน อยากไปจากร้านนี้ วันนี้มันวันไม่ดีสำหรับพี่เมฆ

ผมเดินออกมา เจอเพื่อนๆ นั่งกันอยู่ที่โต๊ะแล้ว แบรนด์เลิกเล่น กลายเป็นเปิดแผ่นเพลงช้า บอกให้รู้ว่าเป็นเวลาปิดร้านแล้ว

“ไปไหนมาวะเมฆ” ไอ้ดิว มันถามผม จากสายตาตอนนี้ คงไม่มีใครมีสติพอที่จะสังเกตุว่าผมหายไปไหน ไปทำอะไร และไปเจออะไรมา

“ไปดูดบุหรี่ ไอ้ฉานมายัง” ผมตอบไป สายตาก็มองหาคนของผมไป

“มาแล้ว ไปเคลียร์บิลอยู่ นั่นไงมันมาพอดี”

ไอ้ฉานเดินยิ่มร่า กลับมาที่โต๊ะ

ตอนนี้ไอ้ฉานยิ้มโครตจะสดใส ผมน่าจะดีใจ

แต่ทำไม ผมอยากร้องไห้จังครับ

 ๐ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณค่ะ...... o1
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ ๐..... o14  o15


(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 23-05-2010 00:20:38
กว่าจะโพสได้  :เฮ้อ: รอบนี้เน้อหาเหมือนจะเยอะ
ใครว่ะมาจูบนุ้งเมฆ ของพี่ฉานได้ อยากรู้  :serius2:
อยากให้มันเจอ สหบาทา จริงๆ  :m16:

ตอนต่อไป รอหน่อยนะ จะไปทวงต่อ

 :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 23-05-2010 00:35:48
ศัตรูหัวใจของพี่ฉานโผล่มาอีกแล้ววววว

แต่มันน่าโดนตื้บจริงๆ อยู่ดีๆมาจูบน้องเมฆได้ไง   :z6:

นังฟางกะนังกราฟนี่ก็จะแรดไปถึงไหนยะ มาออเซาะผะ-อัวคนอื่นเขาอยู่นั่นแหละ   :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 23-05-2010 00:42:23
ศัตรูตัวใหม่ของฉานมาแล้วหรอ ฮ่าๆๆๆ  :m20:

แล้วคืนนี้ก้อนเมฆจะไม่ได้นอนจริงรึป่าวง่ะ ที่ไม่ได้นอนคงเพราะดวงตะวันคงนอนปลอบทั้งคืนมั้ง กำลังจะร้องไห้นิ แต่จะปลอบยังไงนั้นก็....  :z1:

รอตอนต่อไปคร้าบบบบ  o13 o13 o13

PS. ตอนนี้ยาวซะใจจริงๆ ขอแบบนี้เยอะๆเน้อน้องเซ น้อง TRomance  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจū
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 23-05-2010 00:48:48
น่าจะเอาให้หนักกว่านี้นะเมฆ

ฉานจ๋าศัตรูคู่อาฆาตฉานปรากฎแล้ว

 :z6:มันเลยอย่าไปกลัว พวกเรามีมากกว่า :fire:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 23-05-2010 00:57:21
มานเป็นคร๊ายยยย
มาทำกับพี่เมฆของป๋มแบบนี้ได้ยังไง

แหมดูกี่ทีกี่ทีก็ชอบป้ายขอบคุณที่สุด สุดยอดดดด ><
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 23-05-2010 01:12:34
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :z6:
ไอ้เวร  บังอาจมาจูบพี่เมฆของกรู......(เอ่อ..ของพี่ฉานด้วย)
โดนตีน พี่ฉานแน่เมิง  5555

ปอลิง.  พี่เมฆอย่าลืมให้พี่ฉานล้างพิษนะค๊าบบบบ   :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 23-05-2010 01:21:07
เฮ้ยยยย !! ใครเนี่ย กล้ามากมาขโมยจุ๊บพี่เมฆ แถมยังมาแบบเถื่อนๆอีก
ทีแรกยังคิดขำๆให้แค่มองๆให้ฉานหึงเล่นๆ แต่นี่แรงไปแล้ว หวงนะเฟร้ยยย!!!
(ทำหน้าที่เป็น FC ที่ดีของพี่เมฆกับฉานค่ะ ต้องปกป้องพี่เมฆ.. หุหุ)
แต่พี่เมฆสอยตาคนนั้นไปแล้ว แุถมยังประกาศชัดเจนว่าฉานเป็นแฟน อร๊ายย สะใจ

รอปลอบพี่เมฆในตอนต่อไป  เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ปล. น่าสงสารน้องฟางกับน้องกราฟ สีจนแขนฉานจะไหม้แล้วยังไม่ได้แอ้มเลย 555+

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 23-05-2010 01:37:38
บอสตัวใหม่ปรากฏตัวแล้ว (ใช้ศัพท์เกมส์มาเลย) ฆ่ามานนนนนนนนนนนนน  :z6: :z6:
ดีใจแทนนายฉานจัง นู้งเมฆเรียกแฟนเต็มปากเต็มคำ  :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 23-05-2010 01:40:52
เลววววววมากกกก ไอ้นี่มาจูบท่านเมฆได้ยังไง
แล้วยังมาหาว่าเล่นตัวอีก ฮึ่มๆๆๆ โดนแค่นี้ยังน้อยไป
อยากให้ฉานไปจัดการ เอาให้หนักๆได้ไหม???
ไม่ชอบเลย คนประเภทนี้ โกรธๆๆๆๆๆๆๆ
หวงท่านเมฆไว้ให้ฉานคนเดียวพอ ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 23-05-2010 02:12:28
เสน่ห์แรงจิงๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 23-05-2010 03:03:49
หมาตัวไหนมันมาปิ๊งน้องเมฆอย่างเถื่อนๆโดยการกระชากเข้าจ๊วบวะ!?  :m31:

เรื่องนี้พี่ฉานเถื่อน+หื่นได้คนเดียวเว้ย! ให้มันรู้ซะมั่งๆ :angry2:

น้องเมฆรีบวิ่งเข้าไปอ้อนพี่ฉานเร็วววววววว .. โอ๋ๆๆๆ~ไม่ต้องร้องไห้นะจ๊ะ โดนลวนลามนิดเดียวเองเนอะ :กอด1:

พี่ฉาน! จัดการจัดหนัก!!  :z4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 23-05-2010 05:39:52
อาวตัวสร้างเรื่องร้าวฉานมาอีกแหละ
เลวมากวะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 23-05-2010 13:01:09
ร้องเลยๆ ให้พี่ฉานปลอบ  อิ้วๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 23-05-2010 14:01:56
ศัตรูหัวใจเพิ่มมาอีกหนึ่ง

อะไรพี่เมฆจะเสน่ห์แรงปานนั้น

พี่ฉานดูแลดีดีเน้อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 23-05-2010 14:11:26
ไอ้(สาดดดดดดดดดดดดดดดด บก )  คนที่จูบพี่เมฆ น่าโดนรุมจริงจัง เอาเท้าพี่ฉานยัดปากเลย  มาว่าพี่ฉานด้วยอ่า

ถึงพี่เมฆ ไม่บอกว่ เกิดไรขึ้น แต่คิดว่า พี่ฉานก็ต้องดูออกอยู่ดี 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 23-05-2010 14:26:57
พี่เมฆ.....เก่งมากค่ะ......
คนเก่ง.....ไม่ต้องร้องนะคะ......
เดี๋ยวให้ไอ้คุณชายฉานไป  :z6: ซ้ำ
บังอาจมาจุ๊บพี่เมฆได้....... :angry2:

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 23-05-2010 18:36:36
พี่เมฆต้องบอกพี่ฉานนะ ฟ้องเลย เดี๋ยวมารู้ทีหลังว่าเมียโดนประกบปากจะหึงเอาได้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 23-05-2010 20:54:24
คนนั้นมันเป็นใครกัน ถึงได้มาจุ๊บพี่เมฆได้  :m31: :m31:
โกรธแทน พี่เมฆเป็นของฉานเท่านั้นนะ เครียดดด

โอ๋ๆ กอดพี่เมฆ :กอด1:

+1 ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-05-2010 00:07:00
อิพี่ฉานมัวแต่เทคแคร์รุ่นน้องนะแก ไม่ดูแลเมียเลย  :beat:
รีบไปจัดการเลย จัดชุดใหญ่คอมโบเซตไปเลย  :fire:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 24-05-2010 00:25:10
พี่เมฆก็อย่าปล่อยรอยยิ้มบนใบหน้าสวย ๆ ออกมากระตุ้นผู้ชายในที่สาธารณะบ่อยนักซิค่ะ เนี่ยเห็นมิโดนคนแปลกหน้าล่วงเกินเลย เกือบถูกล่วงล้ำด้วยแล้วมิล่ะ น่ากัว :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 24-05-2010 00:49:48
ไอ้นรกหน้าไหนมัีนมาจูบน้องเมฆของพี่ฉานเค้า

เมฆจ๋าบอกพี่ฉานไปเลย จะได้ไปกระทืบไอ้เวรนรกนั้น มันน่านักชริ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 24-05-2010 02:45:05
ฟ้องพี่ฉานเลยน้องเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 24-05-2010 03:27:38
อยากโดนจูบแบบนั้นบ้างง อ้ายยยยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 24-05-2010 13:37:03
พี่เมฆมีเสน่ห์ต่อเพศเดียวกัน.....ตลอด :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: katarena ที่ 24-05-2010 17:08:38
ไอ้หมอนั่นมันเป็นไผ บังอาจเกินไปแล้วว๊อย..
พี่ฉาน มาปลอบพี่เมฆให้ไวเลย ใจเสียหมดแล้วนี่ */- -
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 24-05-2010 19:02:02
พี่เมฆเท่ห์โคตร ๆๆๆๆๆๆๆ อ่ะ นอกจากปกป้องตัวเองแล้ว
ยังปกป้องสามีสุดที่รักด้วย เอาใจพี่ไปเลยคับ
ส่วนไอ่เลวนั่นเด๋วให้พี่ฉานจัดให้มันหนัก ๆ สักดอก :3125:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: b_hihi ที่ 24-05-2010 21:33:10
มาต่อเร็วนะ

อยากอ่านแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 25-05-2010 00:50:59
เอามาต่อได้แล้ว (คนแงไปไหน)

อยากได้ NC เลือดกระจาย อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 25-05-2010 10:54:44
เข้ามาอ่านใหม่ครับ

สนุกดีครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 25-05-2010 12:49:35
คู่แข่งเปิดตัวแรงงงงงงง!!!!!!
 :z6:แม่งเลยฉาน
เมฆน่าจะให้หนักกว่านี้นะ :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 25-05-2010 15:06:48
ใครช่างกล้ามาแหยมกะพี่เมฆ ต้องให้ฉานจัดการด่วนนน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 25-05-2010 17:23:42
บังอาจหยามน้องเมฆ  จัดไปเลยชุดใหญ่  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 25-05-2010 18:39:41
คืนนี้เหมือนกับฝนจะตก ดวงตะวันขึ้นมาฉานแสงแรงกล้าให้ก้อนเมฆหน่อยน่ะครับ  :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 25-05-2010 20:48:08
อ่านแล้วลืมเม้นอะ  ไม่ว่ากันนะ  เอิ๊กๆๆ  :z2:

อยากรู้จังไอ้นั่นเป็นใคร  ทำไมไม่มาจูบกะตู :z1:  ไปจูบกะน้องเมฆทามมายยยยยยยย  :m16:
งานนี้นายฉานต้องปกป้องภรรยาสุดที่รักนะ  ตื้บมานนนนน  :angry2: :z6: :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 31 ,23 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 26-05-2010 20:15:02
ตามทันแล้วเจ้าค่ะ :-[

พี่ฉาน กะ พี่เมฆ น่ารักมากมาย เง้อๆๆๆ น่าร๊ากกกกกกกได้อีก :กอด1: :L2:

รีบๆๆมาต่อๆเร็วๆๆนะเจ้าค่ะ รออย่ามีความหวัง  :call:

 :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 27-05-2010 00:01:50
มาแล้ว  :oo1:
============================================

(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)
ตอนที่ 32

ผมเดินตามเพื่อนๆมาขึ้นรถกลับหอแบบเงียบๆ

นั่งเงียบๆ มองข้างทางเรื่อยๆ ไม่ไกลเท่าไหร่สำหรับระยะทางจากร้านไปหอผม

แต่กว่าจะจัดส่งทุกชีวิต ตามหอพักของพวกมันและน้องๆบางส่วนเสร็จ

ก็คงใช้เวลาไม่น้อยอยู่เหมือนกัน  เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของไอ้คนข้างๆ

ผมเลยต้องแอบเอาหัวหนักๆ ไปพิงไหล่มันเอาไว้ ตอแหลไปว่ากูเมามาก

ความจริงแล้วช่วงเวลาแบบนี้ คงไม่มีใครมาสนใจใครหรอก ว่าทำไม ผมจึงเงียบไป

ก็สภาพแต่ละคน หมดสิ้นไร้ซึ่งสติและวิญญาณกันแล้วทั้งนั้น

ผมไม่ได้กลัวพวกมันผิดสังเกตุ คนที่ผมควรจะต้องกลัว คือไอ้คนข้างๆต่างหาก


ไอ้ฉานเอามือลูบหัวผมเบาๆ อย่างที่มันทำบ่อยๆ ความมืดในห้องโดยสาร ทำให้มันกล้าพอที่จะฝังจมูกลงมาบนหัวผม ที่ตอนนี้คงเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่ และกลิ่นน้ำลายใครบ้างก็ไม่รู้ ก็ตอนนั่งกินหนะ คุยข้ามหัวกันไปมา ขนาดนั้น มันคงมีกลิ่นติดมาพอเป็นพิธีบ้างแหละมั้งนะ

“ ไง ไอ้ตัวดี เมาสุดตรีนเลยสิมึง ” มันลูบหัวผมพร้อมเอาจมูกลงมาพิสูจน์กลิ่นอีกที

“ไม่เหม็นเหรอ” หอมหัวกูอยู่ได้ แน่จริงลงมาดูดปากเลยดิว๊า กูยิ่งอยากลบรอยมลทินอยู่

“เหม็นดิ มีแต่กลิ่นบุหรี่” เชี่ย พี่ชายมึงเป็นไม้บรรทัดป่ะ ตรงได้อีก

“สมน้ำหน้า ใครใช้ให้มึงหอมหละ” มารยาครับมารยา อย่าถือสาพี่เมฆเลยนะท่านผู้อ่าน

“ก็อยากหอมอ่ะ เอาน่า หัวเมียกู เป็นสังกะตัง กูก็หอมของกู” โห.....มันพูดซึ้งซะพี่เมฆน้ำตาแทบเล็ด

“พวกมึงสองตัวนี่นะ ใช้เวลาคุ้มค่าทุกนาทีจริงๆ คิดว่าพวกกูไม่มีสติกันแล้วดิ ถึงได้จีบกันหวานฉ่ำขนาดนั้น”

อย่าคิดนะครับ ว่าแค่เสียงสาวห้าวอย่างไอ้หน่าแซวมาจะทำให้ผมกับไอ้ฉานสะดุ้งผละออกจากกันด้วยความขวยเขิล มันไม่เคยมีอยู่ในจิตสำนึกของเราสองคนอยู่แล้วครับ

มีแต่ไอ้ฉานที่มันชะโงกหัวไปดูปฎิกริยารุ่นน้องเท่านั้น ลำพังเพื่อนๆผมและเพื่อนมัน คงไม่ต้องมานั่งแคร์อะไรแล้วมั้ง ไอ้หน่ารู้คนเดียวก็คงรู้กันหมดทั้งแกงค์นั่นแหละ


“มึงนอนตายแบบเดียวดายไปอ่ะ ดีแล้วหน่า ฟื้นสติขึ้นมาแล้วเดี๋ยวมึงกระชากอ๊วก” ผมตอบโต้มันจบ ก็ซบไหล่ไอ้ฉาน แสร้งทำเป็นเมาต่อไป คนข้างๆก็ดีใจหาย มันอุตส่าห์กระชับอ้อมกอดและขยับท่าทางให้ผมพิงมันได้สบายขึ้น


มันอ่อนโยนกับผมขนาดนี้ จะไม่ให้ผมโกรธไอ้เหี้ยนั่นได้ยังไง

ผมกำลังจะใช้ความเมาเป็นข้ออ้างให้ตัวเองเพื่อลืมไอ้เหตุการณ์อัปยศ ที่พบเจอมาหมาดๆ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงหน้าไอ้สารเลวตัวนั้น ยิ่งไอ้ฉานมันทำดีกับผมเท่าไหร่ ผมยิ่งเกลียดไอ้เลวนั่น แล้วก็พาลโกรธตัวเองด้วยเหมือนกัน ที่กว่าจะทำอะไรได้ ก็เหมือนจะสายไป

ผมไม่ใช่ผู้หญิงที่จะต้องมานั่งร้องไห้ ฟูมฟายเสียใจ เรื่องเสียจูบให้ชายอื่น มันไม่ได้เสียหายอะไรขนาดนั้น

เพียงแต่ผมโกรธ มันเหมือนผมโดนหยาม เหมือนเป็นไอ้ไก่อ่อน ที่ใครจะมาทำอะไรก็ได้

ผมไม่คิดหรอกว่ามันจะรู้ เรื่องระหว่างผมกับไอ้ฉาน ที่มันจาบจ้วง ปล้ำจูบผมแบบนั้นคงเกิดจากความเมาหรือนึกสนุกชั่วครู่ชั่วยามนั่นแหละ

แต่ไม่ว่ามันจะเป็นใคร โรคจิต หรือมีปมปัญหาในชีวิตมาจากไหน
และต่อให้ผมไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้ฉาน มันก็ไม่มีสิทธิ์มาทำอย่างนั้นกับผม

ปากผม ตัวผม ความรู้สึก ทุกอย่างของผม มันจะตกเป็นของใคร จะต้องเกิดจากความเต็มใจของผมเท่านั้น




“เอ้า ถึงแล้ว มึงนั่งตรงนี้ก่อน ไหวมั้ยวะ กูเคลียร์ค่ารถแป๊บ” มันจับผมนั่งตัวตรง ก่อนประคอหัวผมไปวางไว้กับพนักพิงข้างๆ

“ไหวๆ มึงไปจัดการธุระให้เสร็จเหอะ” ผมโบกไม้โบกมือตอบมัน ให้รู้ว่า เรื่องแค่นี้สบายมาก


ผมพยายามเดินขึ้นห้องด้วยตัวเอง โดยบังคับร่างกายให้คล้ายๆคนเมามากที่สุด เริ่มไม่เข้าใจว่าเวลาคนเค้าสร้างภาพกันมันสนุกตรงไหน เพราะว่าการที่คนไม่เมา แต่แกล้งทำเหมือนตัวเองเมาเชี่ยๆ เพื่อกลบเกลื่อนอะไรบางอย่าง มันโครตจะยากลำบากสำหรับผม
ผมสามารถเดินแบบคนปกติธรรมดาได้ถึงแม้จะมึนอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เมาถึงขนาดเดินไม่ตรงทาง พี่เมฆคงจะมีความสามารถทางการละครอยู่บ้างแสดงได้สมจริงสมจัง จนไอ้ฉานมันจะเข้ามาประคองเดิน หรือแทบจะจับผมอุ้มพาดบ่าอยู่หลายครั้ง แต่ผมก็ต้องฝืนความต้องการของมัน เพราะว่ายังมียางอาย เดียวใครมาเห็นนี่คงจะเป็นเรื่องให้ต้องหาอะไรมาคลุมหัวเดิน แบบนั้นพี่เมฆก็ไม่เอาหรอกครับ บอกแล้วว่าไม่อยากเรตติ้งตก

ระหว่างทางผมพยายามใช้ความคิดอย่างหนัก ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา มีอิทธิพลมารบกวนความคิดผมแทบจะตลอดเวลา ทั้งๆที่ผมอยากให้มันผ่านไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่อยากรู้ว่ามันเป็นใคร ไม่อยากใส่ใจ แต่เหมือนมันยังมีอะไรมาสะกิดความรู้สึกทางจิตใจผมอยู่เสมอ



มีหนทางเดียว ที่ผมคิดว่า (จะ) ทำให้ก้าวผ่านความรู้สึกนี้ได้



ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยคนที่มีสติมากที่สุดในวันนี้ ไอ้ฉานโดนชนแก้วและดื่มเยอะกว่าผมมาก แต่มันไม่เคยแสดงให้เห็นว่ามันเมาเลยสักครั้ง โดยเฉพาะเวลาที่มีผมร่วมวงอยู่ด้วย วันนี้ทั้งผมและมัน สนุกกันสุดๆ ผมไม่ยั้ง มันเองก็ไม่ยั้ง แต่มันก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวมันเองเป็นภาระกับผม ในทางกลับกัน ผมเองนี่แหละที่เป็นภาระให้มันทุกครั้งที่ผมเมา

“ทำอะไรอ่ะ” ไอ้ฉานมันก้มลงปลดเชือกผูกรองเท้าให้ แต่ผมดึงกลับมาทัน

“ไม่ต้องหรอก” ผมดึงไหล่มันขึ้นมา แล้วค่อยๆเอามือทั้งสองข้างประคองหน้ามัน มาประจันหน้ากับผม

มันทำหน้างงได้โครตหล่อกระแทกสายตา แต่ว่าผมมีเวลามองแค่อึดใจเดียว
ก่อนที่จะประกบปากตัวเองเข้ากับปากมัน ผมไล้ปลายลิ้นไปกันริมฝีปากมันช้าๆ จนมันเผยอปากให้ผมได้รุกล้ำเข้าไปข้างในผมไล่ต้อนปลายลิ้นเข้าไปสำรวจโพรงปาก ลิ้นเราสองกัดเกี่ยวกระหวัดดูดกลืนกันไปมาจนมันเองเริ่มจะทนไม่ไหว ส่งเสียงออกมาให้ผมมีกำลังใจรุกไล่มันมากขึ้น คนตรงหน้าจูบตอบผมมาจนหวาบหวิวแทบขาดใจ จากที่เริ่มรุกล้ำก่อนอย่างอาจหาญ กลายเป็นว่าตอนนี้เป็นได้แค่ลูกไล่ ในเมื่อคนตรงหน้าผมมันมีเทคนิคชั้นเชิงเหนือกว่ามากนัก เสียงครางฮึมออกมาจากปากผมอย่างหน้าไม่อาย

“หือ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย เมาจริงป่ะเนี่ย” ช่วงวินาทีที่ผมเริ่มจะขาดอาการหายใจ มันยอมปล่อยให้ผมได้มีโอกาสจ้วงเอาอากาศเข้าปอดอีกครั้ง ก่อนจะยิงคำถามที่ทำให้ผมต้องหรุบตาต่ำ เป็นคำถามที่ผมไม่มีคำตอบอะไรให้ทั้งนั้น

“อ้าว อย่าเขิลสิ เมื่อกี้ทำอะไร หืม “ มันยังไล่ต้อนเอาคำตอบจากผมไม่เลิก สายตาเจ้าเล่ห์ของมันทำเอาผมหายใจไม่ทั่วท้อง

หาเรื่องเองแท้ๆไอ้เมฆ 




ในใจต้องการแค่จะลบรอยมลทิน อย่างน้อย ผมก็อยากให้เจ้าของริมฝีปากผมเป็นไอ้ฉานคนเดียว

แต่ก็ลืมคิดไปว่า ถ้าทำแบบนี้ คนที่รนหาที่คือตัวผมเอง หากคืนนี้ผมจะไม่ได้นอน ก็คงจะไม่ต้องไปโทษใครนอกจากตัวเอง

“ไม่ได้จะทำอะไร แค่อยากจะขอบใจมึงเฉยๆ ที่ดูแลกูอะ” น้ำจะขุ่นก็ขุ่นไป ใครจะสน

“เป็นวิธีการขอบคุณที่ดี แต่เมื่อกี้มันไม่น้อยไปหน่อยเหรอ หืม” มันหลิ่วตาถาม เหมือนเป็นเรื่องปกติ ที่ไม่ต้องใช้ความกล้าอะไรแลกมา

แต่มันไม่ใช่กับผมแน่ จูบที่ผ่านมา ผมรวบรวมความกล้าตลอดทางที่เดินกลับห้องเลยนะเว้ย

“แล้วอย่างไหน ถึงจะพอใจมึงหละ” กลั้นหายใจถามไป คำตอบคงไม่ไกลไปจากตัวผมสักเท่าไหร่นักหรอก

“อย่างที่เมฆอยากทำอะ วันนี้เป็นวันของเมฆ” ไอ้เอี้ยยยยยย พูดแบบนี้กูขนลุก

“งั้นมึงเตรียมตัวเป็นเมียกูได้เลยฉาน กูพร้อมมาก เต็มที่เลยวันนี้ ล้างก้นเพื่อพี่ดี ดี นะน้อง” พี่เมฆรอเวลานี้มานานแล้วครับ

“อย่าทำเป็นเล่นสิ เมื่อกี้ที่มึงทำ กูดีใจจริงๆนะ มากๆเลยอะ มึงรู้ปล่าว ทุกครั้งที่กูเริ่มก่อน มันเหมือนกูต้องการมึงแค่ฝ่ายเดียว แต่พอเมื่อกี้ มันเหมือนกับว่า กูเป็นที่ต้องการของมึงอ่ะ กูนี่แน่นหน้าอกขึ้นมาทันทีเลยนะ หัวใจมันพองโต” โห.....นี่มันเสี่ยวไปมั้ยเนี่ย แต่ถ้าผมมองข้ามความเสี่ยว มันก็ซึ้งดีนะผมว่า

“มึงคิดเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ”

“คิดสิ เรื่องมึงกูคิดทุกเรื่องแหละ”


ปากไม่รักดีประกบเข้าครอบครองริมฝีปากเจ้าของคำพูดเสี่ยวๆอีกครั้ง ไม่ต้องรอให้ปลายลิ้นแตะไล้ร้องขอริมฝีปากของอีกฝ่ายก็เผยอรออยู่แล้วอย่างหยามใจ

ไม่มีรสชาติใดหวานได้เท่ากับรสจูบของเราสองคนอีกแล้วในเวลานี้
เตียงนอนที่เคยเดินไปไม่เท่าไหร่ก็ถึง กลายเป็นไกลเกินไปสำหรับอารมณ์หวามไหวดังเช่นตอนนี้
 ร่างของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำแห่งองค์อิศวร โดนผลักให้นั่งลงบนโซฟาอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
สองมือของเราทั้งสอง ช่วยกันถอดปราการที่น่ารำคาญออกไปจนหมดสิ้น
ความร้อนแรงที่เกิดขึ้นนี้ ขอยกความดีให้กับเหล้าสี ที่ดื่มไปแทนน้ำ ปากและมือของผมร่วมกันทำหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่อง เสียงอืออา ที่ส่งออกมาจากปากไอ้ฉาน โดนผมจูบซับเสียงจนกลายเป็นรุกไล่เกี่ยวพันกันด้วยปลายลิ้น สำรวจไปทั่วโพรงปากของกันและกัน
มือร้อนของคนตรงหน้า สำรวจไปทั่วร่างผมจนต้องแอ่นหนี แต่ยิ่งหนีก็ยิ่งไล่ แตะต้องตรงไหน  ก็หวาบหวามไปถึงไขสันหลัง
ไม่มีสิ่งหล่อลื่นใด จะเร็วทันใจอารมณ์ร้อนรุ่มที่เฝ้ารอเวลาปลดปล่อยได้เท่ากับ หยาดหยดจากส่วนปลายแท่งอ่อนไหว น้ำใสเหนียวของผมและมัน ถูกชโลมลงบนส่วนที่อ่อนไหวแต่แข็งแรงที่สุดของไอ้ฉาน ก่อนที่มันจะยกตัวผมขึ้นขึ้นช้าๆ แล้วค่อยๆส่งลงมาครอบครอง ส่วนนั้นของมันช้าๆ เสียงร้องประสานกันดังลั่นห้องแยกไม่ออกว่าเสียงไหนเป็นของใคร เมื่อตัวผมรับเอาส่วนนั้นเข้าไปจนมิดโคน

ตัวผมโดนยกขึ้นและกดลงครอบครองส่วนนั้นช้าๆ แต่ว่ามันก็ยังช้าเกินไปสำหรับช่วงเวลาที่ต้องการปลดปล่อยความทรมานที่เสียวซ่านนี้
หลังจากที่รู้ท่วงท่าและจังหวะที่จะนำพาไปสู่การปลดปล่อยที่ลึกล้ำ กลายเป็นผมเองที่ทนไม่ไหวจนต้องควบคุมจังหวะการครอบครองส่วนนั้นของไอ้ฉานเสียเอง เสียงร้องครางที่เกิดจากแรงสัมผัสจากการเสียดสีของส่วนอ่อนไหวกับช่องทางภายใน ที่เร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆนั้น ดำเนินมาจนสุดปลายทางที่ต้องปลดปล่อย

ส่วนนั้นของผมถูกสาวเร่งจังหวะตามแรงกระแทกที่ผมส่งลงไป เสียงร้องครางปลุกเร้า ให้เร่งจังหวะสุดท้ายเพื่อการปลดปล่อยดังขึ้น ผมและมันเกร็งสุดตัวก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทางพร้อมๆกัน 
ผมซบหน้าลงไปกับซอกคอชื้นเหงื่อนั้น เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เหือดหายไปกับภารกิจลลบรอยมลทินนี้จนหมดสิ้น


“ เมฆลุกขึ้นไหวมั้ย ”

“หือ ทำไมอ่ะ หนักเหรอ”

“ปล่าว แต่อยากให้ลุกไปอาบน้ำ จะได้ไปนอนให้ดีๆ ไง “

“อืมๆ ลุกได้ๆ แต่ขออีกแป๊บนะ ตอนนี้ยังไม่มีแรง ขาสั่น”

ผมได้ยินเสียงไอ้ฉานหัวเราะเบาๆ มือของมันลูบหัวผมไปมา ถ้าไม่ตะหงิดกับเสียงหัวเราะของมัน

มือที่ลูบหัวเบาๆอาจจะทำให้ผมเคลิ้ม

“มึงขำอะไรนักหนา กูบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้ากูลุกเมื่อไหร่ มึงห้ามล้อ ห้ามพูดอะไรทั้งนั้น เข้าใจมั้ย”

ผมไม่อยากลุกขึ้นมาเผชิญหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และแววตากรุ้มกริ่มที่มีนัยยแอบแฝงให้ผมต้องอายหรอกนะ ผมเลยต้องดักทางมันไว้ก่อน

“อือ สัญญาเลยว่าจะไม่ล้อ แต่ขอแบบนี้อีกนะ” มันยื่นข้อต่อรองได้น่าตบกบาลมาก


“มากไปๆ ฉาน ของดีไม่มีบ่อยหรอกโว้ย”









เสียงอึกทึกครึกโครมที่ตอนแรกรู้สึกว่ามันจะอยู่ไกลแสนไกล สุดท้ายเสียงนั้นก็ดังเหมือนอยู่ใกล้หูนิดเดียว
ผมจิ๊ปาก กับเสียงโครมคราม ที่เหมือนจะดังอยู่หน้าห้องผม
ปัง!!!! ปัง!!!!
ปัง!!!!
ปัง!!!!
ปัง!!!!
เฮ้ยยยยยยยยย.....อะไรวะ คนเพิ่งได้นอนไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมง ไฟไหม้ ภูเขาไฟที่ไหนจะมาระเบิดเอาวันนี้

ผมใช้ปลายเท้า เขี่ยสิ่งมีชีวิต ที่กอดผมเอาไว้แทนหมอนข้าง ขาข้างนึงพาดอยู่บนตัวผมแบบไม่คิดจะเกรงใจเจ้าของ ความหมั่นไส้ ทำให้ผมต้องดึงขนแขนมันแรงๆ

.....ผลเป็นที่น่าพอใจ

“ โอ้ยยยยย.....เมฆเล่นไรแต่เช้าวะ” มันบ่นงึมงัมก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น จนผมรู้สึกอัดอัดมากกว่าอบอุ่น

“ฉาน มึงไปดูดิ๊ว่าใครมาพังประตูอยู่หน้าห้องอ่ะ เสียงดัง กูรำคาญ นอนไม่หลับ”

“เสียงอะไรอ่ะ ไม่เห็นจะได้ยิน” เสียงดังยังกะแผ่นดินไหว นี่มันนอนหรือมันตายวะ ที่บอกว่าไม่ได้ยิน

“เออๆ ไหนๆกูก็นอนไม่หลับแล้ว กูลุกไปดูเองก็ได้วะ” ผมยังไม่ทันจะลุกขึ้นจะที่นอน ไอ้คนที่หลับเป็นตายมันก็กระเด้งตัวขึ้น ทำหน้าเหรอหรา

“ เฮ้ย อะไรของมึงเนี่ย อยู่ๆก็สะดุ้งขึ้นมา ชาติที่แล้วมึงเป็นกุ้งเหรอ” ตกใจหมดเลย แสรดดด

“มึงไม่ต้อง ไปอาบน้ำแต่งตัวไป เดี๊ยวกูออกไปดูเอง”

“ทำไมอ่ะ “ บทจะว่าง่าย ก็ง่ายเกินจะตั้งรับได้ทัน

“มึงก็ดูตามเนื้อตามตัวมึงก่อน ออกไปได้ซะที่ไหนหละ”

ผมก้มมองดูสภาพตัวเองที่ตอนนี้ใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวนอน ก็ไม่แปลกอะไร ผู้ชายใส่บ็อกเซอร์นอน

ไอ้ฉานก็ไม่เห็นจะมีอะไรต่างจากผมเท่าไหร่ มันก็ใส่บอกเซอร์นอนเหมือนกัน แต่พอมองสำรวจไปตามเนื้อตัวแล้ว สิ่งที่ผมมีไม่เหมือนมันคือ รอยจ้ำสีแดงเข้ม ตามตัว แขน และหน้าอก หรือส่วนที่ผมพอจะมองเห็นโดยไม่ส่องกระจก มีร่องรอยที่ตอกย้ำความร้อนแรงของเมื่อคืนอยู่เต็มไปหมด

“ทีนี้รู้ยังว่าทำไม มึงถึงออกไปไม่ได้ รออยู่นี่แหละ อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย กูว่าไม่ใช่ใครหรอก เพื่อนคนไหนของมึงหรือกูสักคนนึงนั่นแหละ” ไอ้ฉานลุกขึ้นใส่เสื้อ สวมกางเกงขาสั้นทับกางเกงนอน แล้วเปิดประตูออกไป



“เฮ้ยย พวกมึงฟักใข่กันอยู่หรือไง ห๊า หรือว่าจะรอให้ประตูพังก่อนถึงจะออกมาเปิดเนี่ย ไอ้ฉาน ไอ้เมฆ เร๊วๆ แม่มึงมีเรื่องมาบอก  ปัง!! ปัง

 
--->ถึงตอนนี้ สั้นได้อีก :laugh:
๐ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณค่ะ...... o1
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ ๐..... o14  o15


(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจū
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 27-05-2010 00:22:19
มาจิ้มๆ ไว้ก่อน :z13:

กลับมาอีดิท อินั่นมันเป็นใครหว้าๆๆ จะไปขอบคุณสักหน่อยที่ทำให้พี่เมฆร้อนแรงได้ถึงขนาดนี้!!
แต่โดนแบบนี้บ่อยๆก็ไม่ไหว เดวจิตใจของพี่เมฆจะยิ่งโกรธตัวเองมากขึ้นไปอีก
อิพี่ฉานแสงแรงกล้า!! ดูแลพี่เมฆดีนะเฟ้ยย มีหมาจ้องจะคาบไปแด_ก แล้วว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 27-05-2010 00:54:11
เย้มาแล้ววว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 27-05-2010 01:02:38
มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอ่า

ทั้งสั้น ทั้งค้าง ครั้งหน้าขอไม่ค้างนะครับ :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 27-05-2010 01:57:38
ภารกิจลุล่วง !!! ต้องขอบใจตาคนนั้นรึป่าวน๊า  :laugh:
ฟังเสียงเคาะประตูแล้ว มีเรื่องไรหว่า ?

รอลุ้นตอนหน้าค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 27-05-2010 02:02:23
 :m25:  ร้อนแรงเนอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 27-05-2010 02:20:22
มาแย้ว :mc4:

แต่ว่า...ใครมีเรื่อง o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 27-05-2010 02:23:03
โอ้วววววววววววววววววววววววว   :haun4:
ภารกิจลบรอยมลทิน สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
แต่ว่า เรื่องที่โดตนจูบพี่เมฆ จะบอกฉานมั๊ยอ่ะ
ทำไมรู้สึกเหมิอนจะมีเรื่องตามมาอีก  แล้วเรื่องอะไร ล่ะนี่
เอาเป็นว่า อย่าได้แคร์นะ ฉานแสงกับพี่เมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 27-05-2010 02:59:27
โอ้ววว  อยากให้มีภารกิจ ลบรอยมลทิน บ่อยๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 27-05-2010 03:14:42
อร๊ายยยยยยยย

พี่เมฆสุดยอด....เราต้องเริ่มก่อนบ้างอะไรบ้าง เพื่อเป็นฝ่าย รุก(หรือลุก หว่า)   5555
จะไม่เล่าเรื่องนั้นให้พี่ฉานฟังเหรอ....
ระวังรู้ทีหลังแล้วจะ....   :m31:


“อย่าทำเป็นเล่นสิ เมื่อกี้ที่มึงทำ กูดีใจจริงๆนะ มากๆเลยอะ มึงรู้ปล่าว ทุกครั้งที่กูเริ่มก่อน มันเหมือนกูต้องการมึงแค่ฝ่ายเดียว แต่พอเมื่อกี้ มันเหมือนกับว่า กูเป็นที่ต้องการของมึงอ่ะ กูนี่แน่นหน้าอกขึ้นมาทันทีเลยนะ หัวใจมันพองโต”    ยิ้มแก้มปริ...กับพี่ฉานด้วยคน....  คึคึ


 :L2:
ก่อนประคอ(ง)หัวผม
ไม่ต้องรอให้ปลายลิ้นแตะไล้ร้องขอริมฝีปากของอีกฝ่ายก็เผยอรออยู่แล้วอย่าง หยามใจ       (ย่าม รึเปล่า..หรือพี่เข้าใจผิดไปเอง...)
หือดหายไปกับภารกิจลลบรอยมลทินนี้จนหมดสิ้น
และแววตากรุ้มกริ่มที่มีนัยยแอบแฝงให้ผมต้องอายหรอกนะ
พวกมึงฟัก(ไ)ข่กันอยู่หรือไง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 27-05-2010 05:02:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 27-05-2010 07:49:06
พี่ฉานกับพี่เมฆกำลังดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุขหลังผ่านค่ำคืนอันร้อนแรง ใครมันมากวนแต่เช้าเนี่ย เดี๋ยวปั๊ด... :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 27-05-2010 08:14:37
หวานกันได้ไม่เท่าไหร่

งานจะเข้าอีกแล้วหรอจ้ะ

มาต่อไวๆ นะจ้ะ รออ่านอยู่จ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 27-05-2010 08:15:11
โอ๊ย ตอนนี้ทั้งหวานทั้งเสียวเลย อิอิอิ
แต่ว่าใครมาขัดความสุขยามเช้าของดวงตะวันกับก้อนเมฆง่ะ สงสัยจะเป็นหน่า แต่มีเรื่องไรหรอ
รอตอนต่อไปคร้าบ :D
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 27-05-2010 09:13:57
โอ่ยยยย น้องเมฆร้อนแรงจัง 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 27-05-2010 09:17:36
มีภารกิจบ่อย ๆ น่าาาาาาา ภารกิจร้อนแรง :z2:

มานั่งรอติดตามเรื่อง มีเรื่องอะไรหว่า รอรอรอ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 27-05-2010 09:48:10
ใครมาขัดจังหวะเนี่ย พี่ฉานกับพี่เมฆกำลังจะเริ่มแสดงความรักต่อกันอย่างลึกซึ้งรอบสองเลยนะเนี่ย :o8: :m25:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: katarena ที่ 27-05-2010 10:06:17
กรี๊ด ^//////^
ตอนนี้พี่เมฆน่ารักเจงๆ
ว่าแต่.. ไม่คิดจะสารภาพซักหน่อยเหรอคะ? เกิดไปรู้ทีหลัง ระวังจะเป็นเรื่องนะคะ เหอๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 27-05-2010 10:36:41
ไอ้เวรนั้นทำให้น้องเมฆต้องคิดมากถึงเพียงนี้ ชริ ๆ

แล้วน้องเมฆจะบอกพี่ฉานหรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น

ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์มาม่าขึ้นทีหลังอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 27-05-2010 11:00:13
 :pigha2:  โอ้วววว  วันนี้น้องเมฆลุก(ขึ้น....)ซะหมดแรงเลย  :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 27-05-2010 11:15:26
ภารกิจลบรอย   :m25:

ทำให้น้องเมฆเสียใจ แต่คนอ่านอมยิ้ม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 27-05-2010 11:16:40
โอ้ยยยย อยากจะกรี๊ดตายยยย พี่เมฆขา
ร้อนแรงซะจริงๆ ทำเอาเค้าจะตายคาออฟฟิศแล้วเนี่ย
ฮ่าๆๆ อ่านไปก็อมยิ้มไป เขิลมากกกกค่ะ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 27-05-2010 13:05:48
น้องเมฆไม่บอกพี่ฉานก่อน
งานจะเข้าไม่รู้ตัวนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 27-05-2010 13:11:05
พี่เมฆ....ล้างพิษซะร้อนแรงงงง.......
แบบนี้......ไอ้คุณชายฉานช๊อบบบบ....... :m10:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-05-2010 14:28:01
เรื่องไอ้ตัวเชี้ยนั่นหรือเปล่า ถ้าใช่ อิพี่ฉานไปจัดการเอาให้เละ  :interest:
ว่าแต่วิธีล้างรอยมลทินของพี่เมฆอะ แรงใช้ได้  :m25:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 27-05-2010 15:32:08
 :m25:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 27-05-2010 16:28:23
ของดี นานๆทีจริงอ่ะเปล่า เมฆ กิ้วๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 27-05-2010 16:29:00
ฮ้าๆ มาต่ออีกน้า
ไอ้มือที่สามนั้นน่าฆ่าดีแท้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 27-05-2010 19:14:37
พี่ฉานไปฆ่าไอ่คนที่ทำให้พี่เมฆคิดมากเลย

แต่ถ้าพี่เมฆคิดมากบ่อยๆพี่ฉานคงจะชอบเนอะ  :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 27-05-2010 21:54:55
วิธีการลบรอยมลทินของพี่เมฆช่างร้อนแรงซะเหลือเกิน  :m25:

ถูกใจฉานเค้าล่ะแบบนี้อ่ะ   :-[

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 27-05-2010 21:58:52
ตอนนี้พี่เมฆน้อยร้อนแรงได้ใจ
พี่ฉานดูแลทนุถนอมเมฆน้อย ให้เราอิจฉา เหอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-05-2010 22:17:19
ท่าทางโจรขโมยจูบมันจะมีบทบาทอีก (หรือเปล่า)
แบบว่าความฟาย เอ๊ย ฟางยังไม่ทันหาย ความไอ้โจรขโมยจูบก็เข้ามาแทรกกะทันหัน 55+
แต่ร้อนแรงอ่ะพี่เมฆ เริ่มก่อนแบบนี้ก็ดีเนอะ พี่ฉานเค้าชอบ...คนอ่านก็ชอบ  :haun4:
ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 27-05-2010 23:13:54
 :-เขินอะอยากบอกว่าอ่านทันแล้ว มขอเป็นแฟนคลับเมฆกับฉานนะ :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 28-05-2010 01:35:45
น้องเมฆน่าร้ากกกกอ่ะ
ก่อนอื่นขอสารภาพก่อนเลยว่า เห็นเรื่องนี้นานล่ะแต่ไม่เข้ามาอ่าน ไม่ใช่ว่าไม่สนใจนะ
แต่พอดีไปอ่านเรื่องนึงที่ ตัวเอกชื่อตะวันฉายมาไม่นานอ่ะ (เรื่องนึงในบร์อดนี้อ่ะ ไม่รู้ว่าจะคุ้นๆป่าว) แล้วเรารู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้
เจ้าของเค้าเขียนดีนะ แต่เรารับเนื้อเรื่องเค้าไม่ได้อ่ะโดยส่วนตัวแล้วอ่ะนะ so มันทำเรานอยด์มากกกกกก รู้สึกแย่ไปหลายวัน
พอมาเห็นชื่อเรื่องๆนี้อ่ะ เลยเบรคไว้ไม่กล้าอ่าน อะไรที่มัน"ตะวันๆ" อารายแบบเนี้ย ซึ้งจริงๆแล้วมันทำให้เรา พลาด
เรื่องที่ดีอย่างนี้ไป น่าเสียดายมากที่มาอ่านช้าไป น่าจะได้รู้จักกับน้องเมฆ นานแล้ว :เฮ้อ:

เรื่องนี้ทำให้เรายิ้มแบบแพนด้า เพราะอ่านรวดเดียวจบเลยนอนดึกเลย กร๊ากๆ เราชอบตัวละครแบบน้องเมฆนะ เป็นอะไรที่กลางๆแบบตรงใจอ่ะ
รู้สึกยังไงอะไร ทำเลย อยากจูบก็ขอให้เค้าจูบ จะงอล เค้าใจผิด คิดมากตามนิสัยตัวเองก็ทำ ยอมรับความรู้สึกตัวเองแบบง่ายๆ
จะสับสนคิดซับซ้อนยังไงขนาดไหน แต่ที่สุดก็ยังไม่ลืมคิดถึงใจของคนที่รักกัน อิอิ :กอด1: ที่สำคัญ เอ๋อด้วย กร๊ากๆๆ อันนี้ชอบโดยส่วนตัว
ดูใสๆ สบายๆ

ขอบคุณนะที่เขียนเรื่องดีๆมาให้อ่าน ทำให้เรื่องนี้กลายมาเป็นเรื่องที่ชอบอันดับต้นๆ แล้วต้องเช็คว่าอัพแล้วรึยังเวลาเข้ามาในบร์อดนี้เลย
เป็นกำลังใจให้นะ มาต่อไวๆอ่ะ อยากรู้ว่าอีบร้านั่นมันจะตามราวีน้องเมฆของพี่อีกมั้ย น้องตะวันจะรู้รึป่าว กลัวน้องเมฆโดนหึงโหดอีกอ่ะ
แบบว่าชอบ กร๊ากๆซาดิสนิดๆ ชีวิตจะได้มีสีสัน คริคริ o18
บ้าย บาย ไปนอนก่อนนะ

p.sรักนะจุ๊บ จุ๊บ :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 28-05-2010 02:16:28
อ่ะนะ วิธีการลบลอย หึๆๆ :m25:
ของดีไม่ได้มีบ่อยๆจริงๆด้วยแหละ อิๆๆๆๆ  :impress2:


แม่บอกเรื่ออะไร????????? อยากอ่านเร็วๆ
รอคอยๆ....
ตื่นเต้นๆๆๆ.... :serius2:

 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 28-05-2010 22:31:35
น้องเมฆ......ออนทอป  :z1: :pighaun: :haun4: :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 29-05-2010 03:36:26
ออนทอป หึหึ 

ขอบ่อยๆ นะเจ้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 29-05-2010 19:09:29
มาต่อเร็วๆๆนะจ้า :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 29-05-2010 22:02:03
สงสัยเมฆลุกซะหมดแรง  เลยมาต่อไม่ได้เลย  :m20: :jul3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 29-05-2010 22:33:42
เข้ามารอร๊อรอก้อนเมฆกับดวงตะวันคร้าบ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 30-05-2010 23:45:34
ขออนุญาติดันก้อนเมฆกับดวงตะวันนะครับ
หล่นมาหน้า ๒ แล้วง่ะ
อึ๊บ อึ๊บ อึ๊บ รีบๆมาเน้อ
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 31-05-2010 11:23:47
มาขอเป็นแฟนเรื่องนี้ด้วยคน
สนุกมาก ๆ ค่ะ

+1 ให้เลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 32 ,26 พฤษภา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 01-06-2010 00:47:01
น้องเมฆน่าร๊ากกกกกกกกกก
เป็นคนน่ารักที่ชอบคิดว่าตัวเองแมน555+
แต่คนที่เท่ห์ที่สุดคงหนีไม่พ้นพี่ฉานแสงแรงกล้าน่ารักมากกกกกกกกกกกกกก
เห็นแล้วอยากเป็นแฟนมากๆดูแลพี่เมฆได้ดีจนน่าอิจฉาจิงๆ
รออ่านตอนต่อไปอยู่น่าค่า
+1เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 01-06-2010 17:55:42
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)
 
ตอนที่ 33
 
เฮ้ยย พวกมึงฟักไข่กันอยู่หรือไง ห๊า หรือว่าจะรอให้ประตูพังก่อนถึงจะออกมาเปิดเนี่ย ไอ้ฉาน ไอ้เมฆ เร๊วๆ แม่มึงมีเรื่องมาบอก  ปัง!! ปัง

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)
 
คล้อยหลังที่ไอ้ฉานออกจากห้องไปไม่เท่าไหร่ ผมคุ้ยหาเสื้อผ้าที่มิดชิดพอที่จะปกปิดสายตาแสนรู้ของไอ้หน่า อย่างว่องไว
ความอยากรู้ ไม่เข้าใครออกใคร และตอนนี้ ผมก็อยู่ในสภาวะนั้น ความอยากรู้อยากเห็นมันตีตื้นขึ้นมาแทบจะล้นอก
 



เสียงทุบประตูไม่มีให้ได้ยินแล้ว สงสัย ศอส.(ศูนย์อำนวยการเสือก)ไม่เลือกเวลาและสถานที่อย่างไอ้หน่า
ถูกอัญเชิญเข้ามาในห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 



"เฮ้ยยยย!! มึงว่าไงนะหน่า" เสียงไอ้ฉานดังกว่าปกติ ยี่สิบสามส่วนสี่เท่า ทำเอาผมสะดุ้งโหยง
 


ปัง!!! เสียงบานประตูกระทบผนัง ให้ไอ้สองตัวนั่นต้องสะดุ้งขึ้นมาบ้าง
 


 
 
 
"เฮ้ย!!! ออกมาทำไม" เสียงไอ้ฉานโวยวาย
 
"เฮ้ยยย ไอ้เมฆ มึงจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนได้มั้ย อุจาดลูกกะตากูฉิบ ไอ้บ้า ถ้ารูม่านตากูสูญเสียการมองเห็น กูจะฆ่ามึง "
 
เสียงไอ้หน่า ดังขึ้นพร้อมเสียงไอ้ฉานนั่นแหละครับ ไอ้ฉานหนะมัวแต่ตกใจตาค้าง อ้าปากกว้างยืนนิ่งอยู่กับที่ แต่ไอ้ทอมห้าวอย่างไอ้หน่านี่สิครับ มันมีพรสวรรค์ ด่าผมได้ภายในเสี้ยววินาที ที่พี่เมฆพลาด บอกแล้ว ไอ้นี่มันเทพ
 
ประตูห้องถูกผมกระชากปิดเข้ามาอีกครั้ง ผมรีบเร่งใส่เสื้อผ้า สองแขนสองขาแทบจะพันกัน
 
" เฮ้ยๆ รอกูก่อน เกิดอะไรขึ้นวะ แป๊บๆ จะเสร็จแล้ว" ผมไม่ยอมพลาดเหตุการณ์ระทึกขวัญหรอกนะครับ ทุกเหตุการณ์ต้องมีพี่เมฆเป็นพยานเสมอ
 



ผมเปิดประตูออกมาเห็นไอ้หน่าทำสีหน้าตื่น ปากสั่นฟันกระทบกันดังกึกกัก ตัวมัน กระโดดขึ้นลง เหมือนยืนหนาวอยู่ท่ามกลางเมืองหิมะ  เป็นภาพที่น่าสมเพชพร้อมๆกับน่าขันไปในคราวเดียวกัน  เหมือนคนที่กำลังจะพรั่งพรูอะไรออกมา แล้วโดนกดปุ่มหยุดแบบกระทันหัน นั่นแหละครับ
 



" เอ้า พร้อมแล้ว มึงมีอะไรวะหน่า มาแต่เช้า เล่าช้าๆ ใจเย็นๆ อย่ามาเป็นลมบ้าหมูในห้องกูนะมึง "  ไอ้ฉานเปิดปากให้สัญญาณไอ้หน่า หลังจากที่มันสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าผมแล้วว่า ไม่มีอะไรเล็ดลอด ออกมากระชากสายตาไอ้หน่า ให้มันไปโพนทะนาบอกต่อในหมู่เพื่อนฝูง
 


" ก็ไอ้ ไอ้ ไอ้ " มันพูดติดอ่างอยู่อย่างนั้น จนผมเองชักทนไม่ไหว
 
"ไอ้อะไรวะมึง เฮ้ย ตั้งสติ " ผมเอาปลายนิ้วโป้งทั้งสองกดลงที่ขมับมันทั้งสองข้าง นวดคลึงไปมา ครู่เดียว อาการตื่นเต้นไอ้หน่าค่อยสงบลง
 
"ไอ้ไม้อะดิ มันมีเรื่อง หลังจากกลับจากกินกันเมื่อคืนอ่ะ ตอนนี้อยู่โรงบาล"
 
" ห๊า.......ห๊า มึงว่าอะไรนะ แล้วทำไมมึงเพิ่งมาบอกวะ" ห๊า หนะ ผมกับไอ้ฉาน ตะโกนขึ้นพร้อมกันครับ แต่ประโยคยาวยืดข้างหลังอ่ะ ไอ้ฉานโซโล่
 
"พวกกูก็เพิ่งรู้ เมื่อเช้าเนี่ย โทรมาไม่มีหมาตัวไหนเปิดเครื่อง จนกูต้องมาเคาะห้องพวกมึงเนี่ย แล้วเสือกเปิดช้า ให้ข้างห้องออกมาใช้สายตาด่ากูอีก" ไอ้หน่าเป็นคนที่ อันตรายมากครับ ถ้าเราเผลอเปิดช่องให้มันย้อนด่า มันจะใส่มาเป็นชุด
 
"เออๆ พวกกูขอโทษนะครับ คุณน้อยหน่า คนดี ใครจะไปรู้ว่าเช้าๆแบบนี้จะมีคนมาเคาะห้องหละ เมื่อคืนฟาดไม่ยั้งกันขนาดนั้น น่าจะยังแฮงค์กันอยู่ไม่ใช่เหรอ " ผมส่งสายตาอ้อนมันไป ดุจลูกเสื้อน้อย กะว่าต้องน่าเอ็นดูหนักหนาในสายตาไอ้หน่าแน่ๆ
 
"เออ กูก็แฮงค์ พวกแม่งทุกตัวก็แฮงค์ แต่ตอนนี้ แมร่งหายเป็นปลิดทิ้ง"
 
"แล้วมันเป็นไงบ้างวะ ไปมีเรื่องกะใครได้ไงวะเนี่ย" เมื่อคืน ไอ้ไม้ก็เป็นหนึ่งในซากศพ ที่ผมเอาไปส่งถึงหอ แล้วมันไปมีเรื่องกะใครตอนไหน ผมเองก็จนปัญญา
 
"กู ก็ไม่รู้ ตำรวจเพิ่งติดต่อไอ้หวานได้เป็นคนแรกเนี่ย เจ็บเยอะ แต่ปลอดภัยแล้ว " ได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งขึ้นมาเปราะนึงครับ
 
" แล้วที่บ้านมันรู้ยังวะ " ไอ้ฉานดูมันร้อนใจมาก เพราะพ่อไอ้ไม้ ค่อนข้างดุและเจ้าระเบียบมาก
ไอ้ไม้เองไม่ค่อยถูกกับพ่อซักเท่าไหร่ เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด
ถ้าพ่อมันรู้เรื่องนี้เข้า ไม่ใช่คู่กรณีนะครับที่จะตาย แต่เป็นไอ้ไม้นี่แหละที่มันต้องตายคาเท้าพ่อมันแน่ๆ
สำหรับพ่อไอ้ไม้แล้ว อารมณ์มาก่อน เหตุผลนั้นค่อยว่ากันหลังออกแรงแล้ว
 


"น่าจะยังไม่รู้หรอกวะ เพราะตำรวจเค้าติดต่อได้แค่ไอ้หวาน ถ้าตำรวจไม่โทรไป ก็คงยังไม่รู้ เพราะไอ้หวานมันรู้งานอยู่" พวกเราทุกคนรู้เรื่องนี้ของไอ้ไม้ดีครับ
 
“แล้วเพื่อนคนอื่นๆ รู้เรื่องกันหมดแล้วใช่มั้ยหน่า” ผมถาม เพราะตอนนี้เพื่อนๆกระจัดกระจายกันอยู่ครับ สัปดาห์ที่ไม่เรียนก็เป็นแบบนี้  ไม่เป็นกลุ่มเป็นก้อนเหมือนตอนมีเรียน
 
“น่าจะรู้กันหมดแล้วละหวะ เพราะตอนที่กูมาหามึง กูก็โทรบอก ไอ้ดิว ไอ้ยอนแล้ว ไอ้ไผ่พอดีเมื่อคืนมันนอนกับไอ้หวาน
มันเลยรู้เรื่องก่อนใครๆ ป่านนี้คงกระจายข่าวถึงเพื่อนทุกคนแล้วหละ
“ เออ งั้น มึงรอกูกะเมฆ แป๊บนะหน่า เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ไปดูไอ้ไม้กัน ” ตอนนี้สีหน้าไอ้ฉานไม่สู้ดีเท่าไหร่ ผมเดาว่าใจมันคงไปถึงโรงพยาบาลนานแล้ว ไอ้ฉานมันรักเพื่อนมากครับ ผมว่าที่มันอบอุ่นได้ขนาดนี้ เพราะมันจิตใจดี รักเพื่อน รักครอบครัว ถึงมันจะเป็นคนที่เข้าถึงยากในสายตาใครๆ หยิ่งยโส ขนาดไหน แต่ในกลุ่มเพื่อน ทุกคนรู้ดีครับ ว่าไอ้ฉานเอาใจใส่ไม่แพ้ใครเลย
 

จากหอผมถึงโรงพยาบาลใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน เพราะโรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่นักตลอดเวลาในการเดินทาง ไอ้ฉานไม่ปริปากพูดอะไรกับพวกผมแม้แต่สักคำเดียว ไอ้หน่าหรือแม้กระทั่งผมเองก็ไม่กล้าคุยกับมันสักเท่าไหร่ ไอ้ฉานมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่บ่งบอกอารมณ์อะไรก็จริง แต่ผมรู้ว่าตอนนี้มันเครียด ยิ่งตอนที่อยู่ในรถเมื่อกี้ ไม่รู้ว่าเพื่อนคนไหนสักคนโทรมาหามัน หลังจากมันวางสายไป ผมรับรู้ได้ในทันที ว่าเรื่องนี้ไอ้ฉานและเพื่อนๆผม ต้องไม่ปล่อยไว้แน่ๆ ผมกุมมือไอ้หน่า เดินตามแผ่นหลังไอ้ฉานแบบห่างๆ เวลาปกติ มันมักจะเดินรอผมเสมอ บ่อยครั้งที่มันหันมารีบเร่ง แต่นั่นเป็นอารมณ์กวนประสาทของมันมากกว่า ผมใช้วิธีสื่อสารความรู้สึกกับไอ้หน่าทางสายตา และให้กำลังใจกัน ผ่านการแรงบีบจากมือที่กอบกุมกันไว้ .....ผลัดกันบีบ ผลัดกันให้กำลังใจ  มือผมและไอ้หน่าชุ่มไปด้วยเหงื่อ ที่ไม่สามารถบอกได้ว่า เหงื่อหยดไหนเป็นของใคร

ผมเดินมาทันไอ้ฉานที่หน้าโถงลิฟท์ ของอาคารผู้ป่วยใน มันกดปุ่มบอกชั้นที่ต้องการ ก่อนหันมาสบตากับผมและไอ้หน่า
แต่ว่ามันไม่พูดอะไร
 
“ ฉานมึงรู้เหรอว่าไอ้ไม้ อยู่ห้องไหน “ ผมถามตัดความเงียบออกไป
“ รู้ เมื่อกี้ไอ้แกละโทรมาบอกแล้ว “ มันตอบ ลิฟท์ก็มาถึงพอดี

 

มีแค่เราสามคนในห้องโดยสารขนาดเล็ก มีเพียงเสียงหายใจ และเสียงอิเลคโทรนิคบอกตำแหน่งชั้นที่ลิฟท์ผ่านเท่านั้น     ผมกระชากยางอายแปะๆทิ้งไว้ข้างผนังลิฟท์ (อารมณ์ประมาณ คายหมากฝรั่งแล้วแปะไว้ใต้เก้าอี้) ผมยื่นมือ ไปแตะแขนไอ้ฉาน ที่ตอนนี้ มันสอดสองมือไว้ในกระเป๋ากางเกง สายตาเพ่งมองไปที่ตัวเลขบอกชั้น ผมลงแรงกดไปที่แขนมันเบาๆ แค่พอรู้สึกตัว ไอ้ฉานหันมามอง ยกคิ้วข้างเดียวแทนคำถาม

“ มึงใจเย็นๆ นะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจอะไรหละ ” ผมช้อนสายตามองมันเพื่อให้รู้ว่า ตอนนี้ผมเป็นห่วงความรู้สึกมันมากแค่ไหน และผมก็กลัวมันจะใจร้อนทำอะไรลงไปโดยไม่ได้คิด
“รู้แล้วน่า แล้วทำไมต้องทำตาละห้อย “ มันเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากผม ริมผีปากค่อยเหยียดตรง ก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้มน้อยๆ
“ ก็กูกลัว มึงจะไปเอาคืนให้ไอ้ไม้นี่นา” ผมไม่อยากให้ใคร แก้แค้นให้ไอ้ไม้ โดยการเอาตัวเข้าไปเสี่ยง ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าคนที่ทำร้ายไอ้ไม้เป็นใคร แล้วเค้าทำแบบนั้นทำไม นอกจากจะเจ็บตัวแล้ว ยังอันตรายต่อสถานภาพนักศึกษาอีกต่างหาก
“ เอาคืนอ่ะ เอาคืนแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอก “ มันไม่ได้ทำให้ผมกังวลใจน้อยลงสักเท่าไหร่เลยนะ
 

ห้องพักไอ้ไม้ เป็นห้องพักผู้ป่วยแบบเตียงเดี่ยวอยู่ริมสุดของอาคารโรงพยาบาล เงียบ สงบ จนน่าใจหาย

ผมไม่ชอบการมาโรงพยาบาลสักเท่าไหร่ ก็เพราะบรรยากาศชวนเศร้าใจแบบนี้แหละ  ไอ้หน่าเดินเข้าห้องไปก่อน ตามด้วยไอ้ฉาน แล้วรั้งท้ายด้วยผม ที่กำชายเสื้อไอ้ฉานเสียแน่น ในห้อง มีไอ้แกละกับไอ้ยอน นั่งกันอยู่ตรงโซฟา ข้างเตียงคนไข้

พวกเราแค่ยกมือทักทายกันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร สภาพไอ้ไม้ตอนนี้ มีผ้าพันรอบหัว ตาข้างนึงบวมช้ำ เริ่มมีสีเขียวอมม่วงเข้ม แขนด้านนึงมีสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยาง มีขวดห้อยอยู่บนเสาน้ำเกลือ ถึง สองขวด ข้างลำตัว มีสายยาง สองสาย สายหนึ่งเป็นสายฉี่สังเกตุจากถุงที่มีน้ำสีเหลืองเข้มอมแดงอยู่บ้างแล้วเล็กน้อย แต่อีกสายหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกัน ทำเอาผมเข่าอ่อน มือไม้สั่น มือที่กำชายเสื้อไอ้ฉานแน่นอยู่แล้ว ถูกผมลงแรงให้มันแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ตลอดแนวสายยาง เป็นเลือดสีแดงใส ไม่เข้มข้นเท่าเลือดปกติที่เคยเห็นสักเท่าไหร่

ผมยืนนิ่งให้ร่างกายและจิตใจปรับสภาพกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าอยู่ครู่ใหญ่ ร่างกายจึงค่อยๆผ่อนคลายลง ไอ้ยอน ขยับที่ให้ผมนั่ง ก่อนยื่นยาดม ที่ผมเห็นจะๆ คาตาเมื่อกี้นี้ว่า มันยัดเข้าไปในรู้จมูก เกือบมิดหลอด แต่วินาทีวิกฤตแบบนี้ ผมไม่มีทางเลือกมากมายอะไรหรอกครับ

“ แล้วคนอื่นๆละวะ ยังมากันไม่ถึงเหรอ “ ไอ้ฉานเปิดเวที ก่อนใคร
“ ไอ้ดิวกับไอ้ปาย ไปเอาเสื้อผ้า คืนนี้มันอาสาเฝ้าไอ้ไม้อ่ะ “ ไอ้แกละรายงานลูกพี่มันครับ ไอ้ฉานพยักหน้ารับรู้
“ ส่วนไอ้ไผ่ ไปเป็นเพื่อนไอ้หวานให้ปากคำที่โรงพัก ไอ้นทีมันกำลังนั่งรถมาจากบ้านนอก น่าจะถึงเย็นๆ นี้ ส่วนกูกับไอ้ยอน  ไอ้ปายมันสั่งให้เฝ้าไอ้ไม้ แล้วก็รอพวกมึงอยู่ที่นี่อ่ะ” มันรายงานจนครบทุกคนเลยครับ
“ ดีนะ พวกมึงแบ่งหน้าที่กันไปเป็นคู่ๆ อย่าลืมนะมึง ความรักมักเกิดจากความใกล้ชิด” ผมแค่อยากสร้างบรรยากาศ ที่มันตึงเครียดให้ผ่อนคลายขึ้นอะครับ
“ เหมือนมึงกะไอ้ฉานอะเหรอเมฆ ใกล้ชิดกันไปถึงไหนต่อไหนแล้วหละ” ไอ้แกละ สงสัยมันอยากตาย ผมยื่นมืออ้อมตัวไอ้ยอน ไปฟาดกบาลไอ้แกละให้มันหายซ่า ไม่ใช่เวลานะมึง เดี๊ยวเจอพ่อมึงงับหัว กูไม่ช่วยนะเว้ย
“ แล้วเรื่องไอ้ไม้สรุปว่าไง “ ไอ้ฉานมันส่งสายตาปรามมาทางผมกับไอ้แกละ ก่อนจะหันไปเปิดโลกส่วนตัวกับไอ้ยอน
“ มันเพิ่งออกจากไอซียู ก่อนพวกมึงมาไม่เท่าไหร่หรอก ตอนที่ให้แกละโทรไปแหละ “ ไอ้ฉานพยักหน้ารับรู้ มันนี้มันพยักหน้ามากกว่าใช้คำพูดเสียอีก
“แล้วตำรวจเค้ารู้ยัง ว่าใครเป็นคนทำ” ผมกับไอ้หน่า สบตากัน ก่อนหันมารอคำตอบจากไอ้ยอนด้วยความอยากรู้
“เท่าที่โทรคุยกะไอ้ไผ่ ตำรวจเค้ารู้แล้วว่าใครทำ แต่ยังกั๊กๆ ไว้ไม่บอกว่าเป็นใคร แต่ตำรวจบอกว่าเป็นเหตุทะเลาะวิวาทธรรมดา น่าจะเข้าใจผิดกัน  จากที่สอบปากคำคนเห็นเหตุการณ์ เค้าบอกว่า คู่กรณีมากันสี่ห้าคน แล้วไอ้ไม้อ่ะ มันไปจ้องหญิงที่ไอ้หัวโจกมันควงมาด้วย ไอ้เหี้ยนั่นไม่พอใจ มีปากเสียงกันนิดหน่อย ก่อนลากไอ้ไม้ ไปรุมยำ แล้วตำรวจไปเจอนั่นแหละ”
“ ระยำเอ้ย ไอ้ไม้เมาขนาดนั้น แค่เดินมันยังจะเดินไม่ไหว จะมีแก่ใจไปจ้องเมียใครเนี่ยนะ ชาติชั่วเท่านั้นแหละที่คิดได้” ไอ้ฉานสบถ เสียงรอดไรฟัน มือมันกำเข้าหากันแน่น ผมรู้ว่าตอนนี้ไอ้ฉาน มันต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการข่มอารมณ์
“ไอ้ไม้ มันไปมองเมียเค้าที่ไหนวะยอน” ผมรับไม้ผลัดมาเป็นพิธีกรแทนครับ
“ที่หน้าร้านต้มเลือดหมู ตอนออกจากร้าน มันก็บ่นอยู่ว่าเมาฉิบหาย อยากกินอะไรร้อนๆ มันก็ชวนกู แต่อารมณ์นั้น มันไม่ไหวจริงๆ หวะ กูนึกได้แค่ว่ากูอยากนอน ถ้ากูไปกับมันนะ มันก็ไม่ต้องเจ็บแบบนี้หรอกวะ” ไอ้ยอนมันหรุบตาต่ำ บอกเสียงเศร้า มันคงเสียใจที่ปฎิเสธเพื่อน แล้วเพื่อนต้องไปเจอแบบนี้
“มึงอย่าโทษตัวเองเลยยอน ไม่มีใครผิดหรอก ไอ้คนที่ผิดอ่ะ คือไอ้สารเลวนั่นต่างหาก ถ้าไอ้ไม้ ไม่เมานะ มันไม่เจ็บขนาดนี้หรอก” ผมเองก็อารมณ์ชักขึ้นครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 01-06-2010 17:56:25
ไอ้ไม้หน้าตาดี  พวกแกงค์ถาปัตย์ฝั่งเพื่อนไอ้ฉาน หน้าตาดีทุกคนครับ ถ้าไม่นับไอ้แกละ  แล้วหน้าตาอย่างไอ้ไม้ มันไม่จำเป็นต้องมองเมียใครหรอกครับ เพราะปกติ มีแต่คนมาเสนอให้แบบไม่ผูกมัดเยอะแยะไป แต่ไอ้ไม้ มันเลือกกินครับ เหมือนไอ้ฉานนั่นแหละ เลือกกินแต่ของดีๆ ถ้าเปรียบกับผลไม้ ไอ้ไม้มันก็จะเลือกกินเฉพาะลูกที่สุกบนต้นเท่านั้นแหละครับ ลูกที่ร่วงๆ ปล่อยให้เป็นอาหารนกอาหารกระรอกไปตามเรื่อง

 
“แล้วนี่มันเจ็บตรงไหนบ้าง” ไอ้ฉานมันถาม สายตามันมองแต่ไอ้ไม้ ที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงคนไข้ สีหน้าตอนนี้ถ้ามองผ่านบาดแผลฟกช้ำไป ก็เหมือนกับว่า มันนอนหลับสบายนั่นแหละครับ ไม่รู้ตื่นขึ้นมาจะเจ็บปวดทรมานแค่ไหน
“ ก็ฟกช้ำ อย่างที่พวกมึงเห็น หมอให้น้ำเกลือ อีกขวดนั่น ยาแก้อักเสบหรือยาฆ่าเชื้อ กูจำไม่ได้ แล้วก็มีเลือดคั่ง ในช่องท้อง หมอเจาะท้องระบายออกอยู่ ที่เหลือก็ต้องรอผลเอ็กเรย์ เย็นนี้หวะ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้ว “  นี่ว่าไม่มีอะไร ผมเองฟังแล้วเจ็บแทนไอ้ไม้ขึ้นมาทันที
“แล้วที่หัวโดนอะไร” ผมเองก็อยากรู้ เพราะรอบหัวมันโดนพันด้วยผ้าพันแผล
“ก็หัวแตกแล้วก็มีรอยถลอกอะ เห็นว่ามันโดนต่อยก่อน แล้วล้ม แล้วพวกมันก็รุมกันอ่ะนะ หมอบอกคงจะกระแทกกับขอบทางเท้า แต่ไม่เป็นไรมาก” ผมฟังที่ไอ้ยอนเล่าแล้ว รู้สึก โกรธ เกลียด ไอ้พวกสารเลวหมาหมู่ขึ้นมาแบบทันทีทันใด มันทำได้ยังไง มันรุมทำร้ายคนเมาไม่มีทางสู้ได้ยังไง ผมนึกภาพตามที่ไอ้ยอนเล่าแล้ว ความเจ็บแล่นริ้วจับขั้วหัวใจ กว่ามันจะถึงมือหมอ มันเจ็บมันทรมานสักแค่ไหน ช่วงเวลาไม่กี่นาทีนั้น คงจะยาวนานชัวกัลป์ สำหรับไอ้ไม้
“ระยำ ชาติชั่วเอ้ย หมาหมู่ได้จัญไรคนมากๆ “ ผมเห็นไอ้ฉานคิ้วขมวด มือกำแน่น เส้นเลือดที่ขมับปูดโปน หน้าตาไอ้ฉานตอนนี้ น่ากลัว ไม่ต่างจากตอนที่มันโดนลองใจจากพี่เต้สักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ มันยังรู้จักระงับสติ คงจะเห็นว่าเพื่อนอยู่กันเยอะ และมันคงรอข่าวจากไอ้หวาน ที่ไปโรงพักด้วยนั่นแหละ

 

 

ห้องกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง เมื่อไม่มีใครพูดอะไร เวลาผ่านไปสักพัก ไอ้ฉานที่ผมคิดว่า อารมณ์มันเย็นขึ้นเล็กน้อยแล้วนั้น มันลุกขึ้นเดินไปทางฝั่งประตูห้องคนไข้ ผมรีบลุกไปคว้าแขนมันไว้ เวลาแบบนี้ ผมไม่อยากให้มันคลาดสายตาแม้แต่สักวินาที ไอ้ฉานเวลามันโกรธ มันอารมณ์ร้อน แต่มันไม่โวยวาย ไม่อาละวาด ทำตัวนิ่งเงียบแบบนี้ น่ากลัวกว่าตอนมันอาละวาดเป็นไหนๆ เพราะไม่มีใครเดาได้ ว่าตอนนี้มันคิดอะไรอยู่

“ ฉาน จะไปไหนอ่ะ “ ผมดึงข้อมือมันเอาไว้ ก่อนที่มันจะจับลูกบิดประตูเพียงเสี้ยววินาที
“ ไปซื้อบุหรี่ “ มันเครียดมากจริงๆ ครับ ถ้าถึงกับต้องพึ่งพาบุหรี่ แสดงว่า มันกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
“แต่นี่โรงพยาบาลนะ อย่าดูดเลยนะ กูขอนะ แค่นี้กูก็ไม่สบายใจแล้ว มานั่งรอไอ้แกละ ข้างในดีกว่านะ “ น้ำเสียงผมเว้าวอนสุดๆแล้วครับ วัดใจกันไปเลยว่า ผมส่งน้ำเสียงออดอ้อน หน้าซื่อตาใส ไปให้ขนาดนี้แล้ว ถ้ามันยังยืนยันจะไป ผมก็คงจะรั้งอะไรไว้ไม่ได้ นอกจากเดินคอตกไปนั่งใกล้ๆ ไอ้ยอนเหมือนเดิม
 

แต่ผิดคาด......เอ๊ะ !!! หรือเป็นไปตามคาด ผมเองก็ไม่ค่อยจะแน่ใจ ไม่อยากคิดอะไรเข้าข้างตัวเองหรอกนะ  แต่ไอ้ฉานอ่ะ มันเดินกลับไปนั่งข้างเตียงคนไข้ ฝั่งตรงข้ามกับไอ้หน่า ถึงแม้ว่าก่อนมันจะเดินกลับไป มันถอนหายใจทิ้งเสียเฮือกใหญ่ก็เถอะ ..... ไม่ว่าจะเกิดจากอะไร ก็เรียกรอยยิ้มน้อยๆจากผมได้อยู่ดี

 

พยาบาลเข้ามาดูไอ้ไม้สองรอบแล้ว รอบแรกมาวัดความดัน ตรวจดูนู่นนั่นนี่ โดยมีไอ้หน่าคอยสัมภาษณ์อย่างใกล้ชิด ประหนึ่งเป็นภรรยาที่ถูกต้องถามกฎหมายของไอ้ไม้ซะอย่างนั้น ถ้าไม่ติดที่มันมีบุคลิคห้าวหาญเยี่ยงผู้ชาย ผมว่ามองนานๆ ไป พอเริ่มจะตาลาย ไอ้หน่าจะดูหน้าตาน่ารักขึ้นมากับเขาเหมือนกัน

รอบสอง พยาบาลมาเปลี่ยนน้ำเกลือเป็นขวดใหม่ ไอ้คนที่พวกเรารอคอยก็ยังไม่มา ผมร้อนใจ จนปรับได้เป็นอุณหภูมิปกติ แต่ไอ้ฉาน ยังหน้าขึ้งเครียดตลอดเวลารักษามาตรฐาน ไอ้แกละเริ่มเลื้อยลงนอนหนุนตักไอ้ยอน โดยที่เจ้าตัวไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ แต่โวยวายอะไรไม่ได้ ไอ้หน่าเริ่มฟุบหน้าลงซบกับเตียงคนไข้ ส่วนผม จะเรียกว่าสบายบนความอนาถก็ว่าได้ เพราะผมแย่งหมอนอิงมาจากไอ้ยอน แล้วล้มตัวลงนอนบนพื้น ระหว่างโซฟา กับเตียงคนไข้นั่นแหละ  ไม่นานเท่าไหร่ไอ้ปายกับไอ้ดิวก็เข้ามา จากห้องที่ดูลงตัวพอดีในตอนแรก กลายเป็นแคบลงไปถนัดตา นี่ขนาดยังมากันไม่ครบ ถ้ามากันครบแล้ว ไม่รู้ว่า จะต้องนั่งขี่คอกันหรือเปล่า ขนาดอยู่กันแค่ห้าคนเมื่อกี้ พยาบาลยังค้อนแล้วค้อนอีก ไม่อยากคิดถึงเวลาที่มากันครบองค์ประชุม

 

ไอ้ฉานลุกออกไปที่ระเบียง ผมเห็นมันเอาโทรศัพท์ ออกมาโทรหาใครก็ไม่รู้ มันคุยไม่นาน ก็กลับเข้ามานั่งที่เดิม15นาทีถัดมา ไม่น่าจะเกินจากนั้น มีพยาบาลมาแจ้งว่าให้ญาติคนไข้ ขึ้นไปรอที่ห้อง VIP ชั้นที่ 12 ผมมองหน้าไอ้ฉานหาคำตอบที่ต้องการทันที

“ คนมากันเยอะ เดี๊ยวเสียงดังโวยวาย ไอ้ไม้จะไม่ได้พักผ่อน เลยโทรให้พ่อจัดการให้หนะ “ ผมพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ ไอ้ฉานมันเอาใจใส่เรื่องเล็กน้อยเสมอ เป็นข้อดีของมัน ที่ทำให้ผมเองก็รู้สึกดีไปด้วย
 

ไม่นานบุรุษพยาบาลก็มาเตรียมเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ไอ้หน่ามันดูเป็นห่วงคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง กลัวว่าการเคลื่อนย้ายจะรบกวนการพักผ่อนของคนไข้ จนพยาบาลต้องอธิบายว่า ไอ้ไม้ได้ยานอนหลับเข้าไป คงไม่ตื่นง่ายๆ ไม่ต้องกังวล ไอ้หน่าถึงได้เดินตามพวกผม ไปรอที่ห้องใหม่

               

ห้องใหม่ของไอ้ไม้ เป็นห้อง VIP สองห้องติดกันมีประตูเชื่อมเข้าหากันได้ ห้องทั้งสองส่วนถูกแบ่งฟังก์ชั่นกันอย่างชัดเจน ห้องนึงเป็นห้องพักผู้ป่วย ที่มีเครื่องมือช่วยชีวิตเบื้องต้นทุกประเภททันสมัย ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่หัวเตียง หน้าจอแสดงค่าต่างๆ ที่จำเป็นต่อการวินิจฉัยของแพทย์ ถ้าเลื่อนผนังหัวเตียงตกแต่งออกไป ก็จะเห็นช่องมากมาย มีปุ่มไฟ แสดงสัญลักษณ์ภาษาอังกฤษเอาไว้ ไอ้ฉานบอกว่า มันคือ ท่อแก๊สทางการแพทย์ทั้งหลาย เวลาจะใช้อะไร ก็แค่เสียบปลายด้านนึงของสายยาง เข้ากับช่องที่ต้องการ และปลายของอีกสายนึงต่อเข้ากับผู้ป่วย ห้องนี้ไฮเทคมากมาย

ผมเลื่อนผนังตกแต่งปิดแผงหัวเตียงไว้เหมือนเดิม ก่อนเดินมารวมตัวกับคนอื่นๆ อีกห้องนึง ซึ่งตกแต่งสวยงาม เป็นห้องพักสำหรับญาติโดยเฉพาะ  มีเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร ตู้เย็น ห้องนอนแยกจากห้องพักผ่อน ที่มีโซฟาชุดใหญ่ มีโฮมเธียเตอร์ครบชุด ที่เปิดเสียงดังสนั่นแค่ไหน ก็ไม่รบกวนคนไข้ห้องติดกันแม้แต่น้อย ปกติในห้องพักคนไข้ จะมีพยาบาลพิเศษ เฝ้าไว้ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่สำหรับอาการแบบไอ้ไม้ ไม่จำเป็นต้องมีพยาบาลตลอดเวลาก็ได้  ถ้าคนไข้ตื่นและต้องการอะไร แค่กดกริ่ง ก็จะดังไปที่พยาบาลและห้องพักญาติด้วย สะดวกดี

บ่ายแก่ๆ คนที่พวกเราเฝ้าคอยก็มาถึง ไอ้ไผ่เดินเข้ามาก่อน สีหน้ามันไม่สู้ดีเท่าไหร่ มันไม่พูดอะไร นอกจากยกแขนขึ้นสองข้าง แสดงอาการยอมแพ้ แล้วชายหางตาไปหาคนที่เดินตามมาด้านหลัง ไอ้หวาน ที่หน้าตามันไม่ได้หวานสมชื่อ ทุกอย่างที่ประกอบกันบนหน้าไอ้หวาน มีลิมิตเข้าใกล้ผู้ก่อการร้าย 3 จังหวัดชายแดนใต้ แบบไม่มีข้อโต้แย้ง ยิ่งตอนนี้ ที่มันแสดงสีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่า อารมณ์ไม่ดีเอามากๆ ขนาดไอ้ไผ่ยังยกมือยอมแพ้ พวกผมก็ได้แต่นั่งถอนหายใจ ไม่มีใครเอาไอ้หวานเวลาที่มันโกรธถึงขีดสุดอยู่สักราย นอกจากไอ้ฉาน ความหวังเดียวของพวกผม ฝากไว้ที่ไอ้ดวงตะวันเพียงคนเดียว

 

ไอ้หวานมันทรุดนั่งลงใกล้ๆ ไอ้ฉาน ผมขยับไปอีกฟากนึงของโซฟา ให้มันได้นั่งสบายๆ ให้เวลามันพักหายเหนื่อยและสงบจิตสงบใจอยู่ครู่ใหญ่ ๆ ไอ้ฉานยื่นมือไปตบบ่าปลอบใจมันเบาๆ ไอ้หวานถอดหายใจทิ้งอีกเฮือกใหญ่ๆ

“แย่หวะแม่ง กูโกรธตำรวจท้องที่นี้ฉิบหาย แมร่ง ลองวันไหนเกิดกับเพื่อนร้อยเวรเชี่ยนั่นบ้างนะ กูจะฮาให้ฟันร่วง”
“ใจเย็นๆ เกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมมาช้า มีปัญหาอะไรรึเปล่า” ไอ้ฉานมันใช้เสียงราบเรียบเข้าลูบ หวังให้ไอ้หวานลดอารมณ์ครุกกรุ่นลง
“ก็ร้อยเวรแมร่ง หวานเย็นฉิบหาย มันรู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าใครทำ แต่ไม่กล้า ไอ้ระยำหัวโจกอ่ะ เป็นลูกผุ้มีอิทธิพลแถวนี้ แมร่งกลัวตำแหน่งจะกระเด็นรึไงวะ ไม่ต้องมีหรอกความถูกต้องอะแมร่ง บอกกูมาแค่ว่ามันเข้าใจผิด ทั้งๆที่กูได้ยินเต็มสองหูแท้ๆ ที่ร้อยเวรพูดกับเพื่อนว่า      “ไอ้เหี้ยนั่น มันกระทืบผิดคน”
“ ยังไงวะ หมายความว่า มันตั้งใจจะกระทืบใครสักคน แต่ผิดตัวมาโดนไอ้ไม้เหรอวะ มีเรื่องบัดซบขนาดนี้ด้วยเหรอ”
ไอ้ฉานเองดูจะมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกันครับ
“ กูไม่รู้ พอกูซัก แมร่งก็บ่ายเบี่ยงกู บอกแค่ว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน เข้าใจผิดบ้านพ่อมันสิ กระทืบไอ้ไม้จมตีนซะขนาดนี้ “
ไอ้หวานใส่อารมณ์ระบายเต็มที่
“แล้วตกลง คือตำรวจทำอะไรไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ตัวว่าคนร้ายคือใครอะเหรอวะ “ เป็นไอ้ยอนครับที่เปิดปากถามด้วยความสงสัย
“ เห็นร้อยเวรบอกว่า พ่อไอ้เหี้ยนั่น โทรมาเคลียร์กับสารวัตร ว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมด แล้วเสนอเงินปลอบขวัญ กูไม่ได้สนใจตัวเงินไรนั่นหรอกแมร่ง ควันออกหูกู จนไม่รับรู้อะไรแมร่งแล้ว” ไอ้หวานเหวี่ยงไม่เลิก
“ จัญไรคน ทั้งพ่อทั้งลูกเลยเว้ย กูไม่แปลกใจที่ลูกมันระยำได้ขนาดนี้ “ ไอ้แกละมันสบถขึ้นมาอย่างเหลืออด
“ กูบอกว่ายังไงกูก็ไม่ยอม กูจะเอาเรื่องไอ้เหี้ยนั่นให้ถึงที่สุด ข้อหาพยายามฆ่า ให้มันหมดอนาคตไปเลยแมร่ง เรียนปีหนึ่งมา 3 ปี สามที่แล้ว ปี1 รอบที่ 4 แจ็กพอต มาลงที่ มหาลัยเราพอดี ข่าวว่ากร่างเต็มที่เลยแมร่ง พ่อมันยัดเงินก้อนใหญ่ เลยเข้ามาได้ กูไม่แปลกใจหรอก แต่ไอ้ร้อยเวรสิ เอียงข้างทางนั้นเห็นๆ บอกกูว่า เอาเรื่องไปก็เหนื่อยฟรี แถมเสี่ยงต่อสถานภาพนักศึกษาอีก โดนมหาลัยสอบสวนขึ้นมาเป็นเรื่องใหญ่ เชี่ย กูกลัวซะที่ไหนหละสัด” ไอ้หวานมันนั่งไม่ติดที่แล้วครับ มันลุกขึ้นพูดแบบใส่อารมณ์เข้าไปเต็มที่ ไอ้ฉานนั่งกำมือตัวเองแน่น แต่ไม่ได้ลุกขึ้นโวยวายอะไร
“มันอยู่คณะอะไรวะ” ไอ้ฉานมันกัดฟันถาม กรามขึ้นเป็นสันนูน ตาไอ้ฉานตอนนี้ น่ากลัวชนิดที่ว่า ถ้าเผลอสบตา อาจตายได้
“ วิศวะ โยธา ตั้งแต่เปิดเทอมมา ไม่เคยเข้าเรียน ใช้ชีวิตอยู่ในร้านเหล้าตอนกลางคืน แล้วผู้หญิงที่มันอ้างว่าไอ้ไม้ไปมองของมันอ่ะ เป็นสาวบริหาร ปี 3 สวยไม่แพ้ดาวคณะ เพิ่งคั่วได้ไม่กี่วัน เพราะเพิ่งกำจัดแฟนเก่ายัยนั่นได้สำเร็จ” ไม่ใช่ไอ้หวานหรอกครับที่ตอบ แต่เป็นไอ้ไผ่ ตอนนี้ไอ้หวาน มันพยายามตั้งสติ สงบสติอารมณ์อยู่
“เลวบริสุทธิ์ จริงๆเลยแมร่ง กูอยากเห็นหนังหน้ามันจริงๆ ฉาน มึงจะเอาไงกับเรื่องนี้วะ “
“ พวกมึงได้เห็นมันแน่ๆ เพราะเย็นนี้ พ่อมันจะลากมาเยี่ยมแล้วก็ขอโทษไอ้ไม้ “ ไอ้ไผ่รายงานอีกที
“งั้นดี กูจะรอดูหนังหน้ามันที่นี่ พวกมึงเองก็รู้กันอยู่แล้วว่า ไม่น่าจะใช่เรื่องเข้าใจผิด ไว้ไอ้ไม้แข็งแรงกว่านี้ค่อยถามมันอีกที แต่ตอนนี้เราต้องใจเย็นๆ เฝ้าดูสถานการณ์ไปก่อน ดูทีท่าสองพ่อลูกนั่น คราวนี้เราจะไม่เข้าชนแบบซึ่งๆหน้า ในเมื่อมันหมาหมู่ กูก็จะสู้ด้วยกองโจร ดัดสันดานมันใจร้อนตอนนี้มันเสี่ยงไป รอให้พวกมันตายใจก่อน” ไอ้ฉานพูดด้วยความแค้น แววตามันมุ่งมั่นว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่ มันดูจะเอาจริงเอาจังมาก ต่อให้เอาช้างมาฉุดไอ้ฉานตอนนี้ก็คงเอาไม่อยู่
“ เอาไงเอากันอยู่แล้วฉาน มึงบอกมาเถอะว่าต้องทำยังไง กูเต็มที่ “ ไอ้ปาย คนที่ขรึมและเยือกเย็นที่สุดของกลุ่ม เห็นด้วยกับไอ้ฉานทันที ไม่ต้องสงสัยว่าคนอื่นๆจะเอายังไง ในเมื่อไม่ว่าผมจะกวาดตามองไปตรงไหน ก็เห็นทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้ปาย ไม่เว้นแม้แต่ไอ้หน่า

ส่วนผมนั้น ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ผมเชื่ออยู่อย่างนึงว่า ก่อนที่จะทำอะไรลงไป ไอ้ฉานมันคิดตรึกตรองก่อนเสมอ เพราะถ้าไม่ตั้งสติ ป่านนี้ไอ้ฉานคงถลาไปอาละวาดโรงพักแตกตั้งแต่ไอ้หวานมันพูดจบแล้ว ที่มันสงบได้ขนาดนี้ แสดงว่ามันคงมีแผนอะไรในใจอยู่แล้วแน่ๆ

 

 

ในเมื่อผมเกิดมา เพื่อที่จะคอยเฝ้ามองแต่ดวงตะวันแล้ว ไม่ว่าตะวันดวงนั้นจะโคจรไปทางไหน ก้อนเมฆก้อนนี้ ก็จะต้องเคลื่อนตามไปทุกที่อยู่แล้ว .....

ผมไม่รู้ว่า บทพิสูจน์ของทฤษฎีบทที่ว่า “ในระบบสุริยจักรวาล มีดวงดาว และดวงจันทร์ เป็นบริวารมากมายมหาศาล แต่ระบบสุริยจักรวาล มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง เพียงดวงเดียว หากดาวดวงไหน มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เหมือนดาวโลก ทุกชีวิตในระบบสุริยจักรวาลนี้ ต่างอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ ดวงเดียวกัน” ...

แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ต้องมีทฤษฎีบท จากไหนมาพิสูจน์ ผมก็ยืนยันได้ว่า  “องค์อิศวรเดินดิน อย่างไอ้เมฆก้อนนี้ เป็นบริวารของ ดวงตะวันฉานแสง แค่เพียงดวงเดียว ถึงมันจะเป็นเพียงแค่ศูนย์กลางของระบบจักรวาลเล็กๆ ของผม ในสายตาใครๆ  แต่ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา มันทำให้ผมรู้ซึ้งได้ว่า ความยิ่งใหญ่ มันขึ้นอยู่ที่ใจเราเท่านั้น .... ...

 

ผมไม่รู้หรอกว่า หนทางข้างหน้าต่อไปนี้จะต้องพบเจอกับอะไร แต่ผมก็ยินดีที่จะเดินร่วมทางไปกับมัน

แต่ตอนนี้  ลางสังหรณ์บอกผมว่า เรื่องร้ายๆกำลังจะตามมา ยังไงก็ไม่รู้ ........ ผมไม่สบายใจเลยจริงๆ

 
---à>ถึงตอนนี้ คงจะยาวพอ สำหรับการหายไปหลายวันกันเนาะ  กำลังเข้มข้น แต่ไม่สปอยหรอกว่าเรื่องอะไร:laugh:
๐>>>  ก่อนอื่น ขอบคุณ iiดาวพระศุกร์ii …..ที่ช่วยแนะนำเรื่องคำผิดให้ในตอนที่แล้ว ... :กอด1:.... :pig4:
 
๐>>>  ขอบคุณ   anterosz .....ที่ตามมาดันให้อย่างสม่ำเสมอ แม้จะตกไปอยู่หน้าสอง ยังไม่งมดันกลับมาจนได้ ... :กอด1:.... :pig4:
๐ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณค่ะ...... o1
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ ๐.....TRomance

 
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 01-06-2010 18:31:19
ยาวสะใจจริงๆ ตอนนี้ไร้ซึ่งความหวาน เต็มไปด้วยความเครียด  :เฮ้อ:
แต่ก็ยังสามารถมองเห็นความรักความอบอุ่นที่ดวงตะวันดวงนั้นมีให้กับก้อนเมฆ  :L2:
และก็ก้อนเมฆที่คอยติดตามให้ความรักและกำลังใจกับดวงตะวัน  :L2:

ไอ้คนที่ยำตีนไม้นี่ คงไม่ใช่คนที่จูบเมฆนะ  :m31:

ขอบคุณน้องเซกับ TRomance สำหรับเรื่องราวดีๆของดวงตะวันกับก้อนเมฆครับ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 01-06-2010 18:43:43
ก่อนอื่นขอบคุณคนแต่งกับคนโพส ที่นำเรื่องราวดี ๆ มาให้อ่าน

พ่อแม่รังแกฉันอีกเรื่องแล้วววว โตเป็นคว.... แต่สมองเท่าหอยมด  :เฮ้อ:
ตอนหน้าท่าจะแดงเดือด หรือ แค่วางแผน เขารอติดตามตอนต่อไปนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-06-2010 19:10:42
กรี๊ดดดดด พี่ฉานจะเป็นเด็กช่างอะป่าว ไปยกพวกตีมันเลย  :m16:
คนเขียน หาคู่ให้พี่ไม้สักคน อยากอ่านคู่พี่ไม้  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 01-06-2010 19:14:05
^
^
^
เอาเข้าไปนะป้าคนนี้ เห็นพี่ไม้ หน้าตาหน่อยไม่ได้  :laugh:......

อ่านไปๆๆ นี่ไอ้ฉานมันเรียน ถาปัตย์ อุเทนถวายป่ะวะ

แบบว่า เป็นหัวหน้ายกพวกตีกันซะงั้น.... :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 01-06-2010 19:17:09
แฮ๋ๆ พอจะรู้แล้วว่าใคร
ไอ้ห่านั่นแน่ๆเลยที่ไปจูบกับพี่เมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 01-06-2010 19:24:04
อ่านตอนนี้จบ นึกไปถึงตอนหน้า ว่าฉานจะไปจัดการกับพวกที่ทำร้ายไม้แบบไหน??

ทำไรอะไรนึกถึงพี่เมฆด้วยนะ แค่นี้พี่เมฆเค้าก็ห่วงฉานจะแย่แล้ว  :man1:

 o13
โค๊ด: [เลือก]
ในเมื่อผมเกิดมา เพื่อที่จะคอยเฝ้ามองแต่ดวงตะวันแล้ว ไม่ว่าตะวันดวงนั้นจะโคจรไปทางไหน ก้อนเมฆก้อนนี้ ก็จะต้องเคลื่อนตามไปทุกที่อยู่แล้ว .....

+1 เป็นกำลังใจ ขอบคุณจ้ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 01-06-2010 19:55:26
เครียดและก้อห่วง....พี่เมฆไปด้วย.....
งานนี้จะเกี่ยวกับพี่เมฆไหมน้า.......
ขอให้....พี่เมฆคนเก่งปลอดภัยนะ.. :call:
รอลุ้นต่อไปค่ะ.....

 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 01-06-2010 20:26:59
ไม่ค้าง แต่เหมือนจะทนรอไม่ไหว :serius2:

พี่ฉานจะเอาไง...พี่เมฆ.และ รวมทั้งพวกเรา เริ่มเข้าโหมดเครียดอีกครั้ง :z3:

ขอต่อแบบถี่ๆๆเลยนะจ้ะ o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 01-06-2010 20:31:06
โห!! ช่างเลวจริงๆ ซิ่วไปอีกปีเลยป่ะ นิสัย!!!
อ่านแล้วอยากเห็นหน้าเลยเนี่ย  :m16:
แต่ก้อแอบคิดเหมือนรีอื่นๆค่ะ ว่าน่าจะเป็นไอ้ที่ขโมยจูบเมฆนั่นแหละ

รอเฉลยตอนหน้านะคะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 01-06-2010 20:45:07
เลวมากกกกก ถึงกับต้องรุมตรีนด้วยอ่ะ
งานนี้ แอบขอเชียร์ให้ฉานอย่ายอมนะ
ในเมื่อบนดินจัดการอะไรไม่ได้ งั้นก็คง
จะต้องจัดการด้วยวิธีใต้ดินละเนอะ เหอๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 01-06-2010 20:48:15
 :m15: สงสารไม้อ่ะ ตืบผิดคนเหี้ยไรของมันหว่ะ เอาซะเกือบตาย :angry2:

เอามันให้ตายเลยฉาน :fire:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 01-06-2010 21:04:40
อ้างถึง
แต่ตอนนี้  ลางสังหรณ์บอกผมว่า เรื่องร้ายๆกำลังจะตามมา ยังไงก็ไม่รู้ ........ ผมไม่สบายใจเลยจริงๆ

คนอ่านก็รู้สึกว่าจะมีลางร้ายตามมาเหมือนกัน  :sad4:
ไอ้เอี้ยนั่น ต้องเป็นคนเดียวที่ขโมยจุ๊บพี่เมฆของชั้น  เอ้ย ของพี่ฉานแน่นอน....
 :z6: :z6: :z6:   มันให้ตายคาตรีนเลยนะ.....

ไม่ว่าเรื่องร้ายจะเข้ามาแค่ไหน....แต่ถ้าเรามีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีใจที่รักและพร้อมจะปกป้องกัน มันต้องผ่านไปได้แน่นอน น๊ะจีะ พี่เมฆ and the gang   o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 01-06-2010 21:40:52
แก็งค์ศิลปกรรมกะสถาปัตย์ กำลังจะลุยวิศวะแล้ว ตาต่อตา ตรีนต่อตรีน อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-06-2010 21:57:53
ง่ะ ท่าทางลางร้ายจะเริ่มเล่นงานคนอ่านด้วยเหมือนกัน เพิ่งจะหายเครียดมาได้แค่ตอนสองตอน มันจะกลับมาอีกแล้วเหรอ :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 01-06-2010 22:03:50
 :fire:  มานเป็นครายยยยย  ต้องตื้บมานนนนนนนน  :z6: :beat: :z6: :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 01-06-2010 22:13:55
ผมว่าไอ้คนนั้น ต้องเป็นคนที่ ผมพอจะรู้แล้วหละว่าใคร

ดราม่าเรื่องนี้ จะจบแบบแฮปปี้จริงอ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: thomaskung ที่ 01-06-2010 22:35:31
รู้สึกเหมือนเดาเรื่องได้เลา ๆ อิอิ

ลุ้นนนนนนนนน >.,<
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 01-06-2010 22:35:51
ง่า กังวลกับตอนหน้าจังเลยอะ

คงจะไม่มีอะไรร้ายแรงมากใช่มั้ยเอ่ย  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 01-06-2010 22:38:11
มันต้องเป็นไอ้ สาดดดดดดดดดดดดดดดดดด บก ที่จูบ พี่เมฆ แน่ๆเลยอ่ะ
แล้วถ้ามาเจอพี่เมฆตอนมาเยี่ยมไม้ล่ะ  :serius2:
พี่ฉาน ตั้งสติดีๆนะ
หวังว่าอย่ได้เกิดเรื่องร้ายแรงเลยนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 02-06-2010 00:09:40
รุมคนเมาตัวคนเดียวที่ไม่มีทางสู้ เลวได้อีกนะไอ่พวกเว...ร
ตอนหน้าพี่ฉานจัดมันให้หนัก
ถ้าพี่ฉานคนไม่พอ โทรบอกเน้อ
เด๋วจัดพวกน้อง ๆ ช่างกลไปช่วย :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 02-06-2010 00:17:47
พี่หวาน นี่ โจรใต้ หรอเจ้

อยากเห็นคู่โจรใต้ เหมือนกัน อิอิ :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 02-06-2010 00:33:53
สันดานแบบนี้ ท่าจะเป็นไอ้โจรที่ขโมยจูบพี่เมฆแน่ ๆ เลย บทบาทของมันออกจะเลว+เจ้าชู้ ตั้งแต่มาเอาเปรียบพี่เมฆล่ะ o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 02-06-2010 00:43:43
เลว :m16: ไปหากระโปรงมานุ่งซะนะค่ะ พี่ไม้ตัวคนเดียวยังมีหมาหมู่อีก ตัวผู้จริงป่าวว่ะพวกเมิงอ่ะ สงสัยพวกเมิงตอนยืนเป็นตัวผู้ ตอนนอนเป็นตัวเมีย (สาวแตกแน่ ๆ เลย) ดูได้จากการกระทำ :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 02-06-2010 00:49:29
ยาวสะใจได้โล่

ฉานแก้แค้นให้ไม้ด้วย

และแอบหวังว่าหน้อยหน่าจะคู่กับไม้

ถ้าคิดไม่ผิดไอ้คนที่ซ้อมไม้ต้องเป็นคนที่จูบเมฆแน่ๆเลยใช่ไหม

ถ้าใช้ฉานเอามันให้ตายเลย อย่าได้ยั้งมือเป็นอันคาด ไม่ต้องกลัวว่าพ่อมันเป็นใครมาจากไหน

พิมพ์ไปแค้นไปอยากเข้าไปในนิยาย ไป :z6:ไอ้เลวคนนั้นให้ตายคา....เลย อยากให้ถึงตอนหน้าไวๆจังอยากรู้จะจะมีไรเกิดขึ้น

ปอลิง. ไรท์เตอร์ครับขอเขียนตอนที่ไอ้เลวนั้นโดนซ้อมแบบสะใจโคตรๆได้ไหมครับ แค้นแทน  :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 02-06-2010 01:40:49
วิศวะโยธา  อย่าบอกนะว่าคือไอ่คนที่จูบเมฆน่ะ
ลางสังหารมันบอกงั้นเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 02-06-2010 01:42:35
มาลุ้นช่วยนายฉาน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 02-06-2010 01:56:26
คนแต่งทำให้คนอ่านเครียดไปถึงตอนหน้าเลย
หรืออาจจะหลายตอนต่อจากนี้
เฮ้อแต่หวังว่า เมฆและฉานไม่เกิดอะไรร้ายแรงก็พอ

รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 02-06-2010 02:08:12
ผมไม่รู้ว่า บทพิสูจน์ของทฤษฎีบทที่ว่า “ในระบบสุริยจักรวาล มีดวงดาว และดวงจันทร์ เป็นบริวารมากมายมหาศาล แต่ระบบสุริยจักรวาล มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง เพียงดวงเดียว หากดาวดวงไหน มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เหมือนดาวโลก ทุกชีวิตในระบบสุริยจักรวาลนี้ ต่างอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ ดวงเดียวกัน” ...

แต่ สำหรับผมแล้ว ไม่ต้องมีทฤษฎีบท จากไหนมาพิสูจน์ ผมก็ยืนยันได้ว่า  “องค์อิศวรเดินดิน อย่างไอ้เมฆก้อนนี้ เป็นบริวารของ ดวงตะวันฉานแสง แค่เพียงดวงเดียว ถึงมันจะเป็นเพียงแค่ศูนย์กลางของระบบจักรวาลเล็กๆ ของผม ในสายตาใครๆ  แต่ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา มันทำให้ผมรู้ซึ้งได้ว่า ความยิ่งใหญ่ มันขึ้นอยู่ที่ใจเราเท่านั้น .... ...


แบบว่าชอบมากเลยค่ะ o13



เป็นกำลังใจให้ต่อไปจ๊ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 02-06-2010 02:16:16
อ่านแล้วเครียด
เหมือนงานจะเข้าน้องเมฆ
+1 เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-06-2010 04:41:50
กระทืบผิดตัว o22 ไม้ซวยเลย
แล้วไอ้ชั่ววววนั่นอยากกระทืบใครล่ะเนี่ย :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 02-06-2010 04:56:11
กลัวว่าคนที่ทำจะคือคนที่จูบเมฆ รึไม่ฉานแก้แค้นคนที่กระทืบโดยไปจีบแฟนมันแล้ว เมฆนอย อุแม่เจ้าไม่รู้รอต่อจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 02-06-2010 10:37:31
ไม่ใช่ความยุติธรรมไม่มีในโลก
แต่ความอยุติธรรมมันมีอยู่ทั่วไปต่างหาก
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในทุกที่จริงๆ
สนับสนุนให้เอาคืน
แต่ทำแต่พอดีนะฉาน
นึกถึงเมฆเยอะๆ
เดี๋ยวจะพลอยติดรากแหไปด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 02-06-2010 13:30:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 02-06-2010 22:52:31
มาต่อที รออยู่จ้า :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 02-06-2010 23:36:40
แวะเข้ามาคิดถึงก้อนเมฆกับดวงตะวัน  :L2:

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 03-06-2010 03:14:52
มาม่ะ เอามาต่อ

มารอ พี่เมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 03-06-2010 16:43:39
รอๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 04-06-2010 01:38:21
งานเข้า!
สงสัยว่าจะงานเข้าน้องเมฆแน่นอนไอวิศวะโยธาคนนั้นต้องเป็นไอโจรขโมยจูบน้องเมฆชัวร์
อย่าบอกนะที่มันมากระทืบผิดคนแล้วจิงๆคือพี่ฉานโห้มันชั่วจิงๆเลย
จิตใจแม่งอำมหิตแท้สงสารน้องไม้อ่ะพี่ฉานเอาคืนให้สาสมนะ
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าค่า
+1เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 04-06-2010 07:43:28
โหไอ้คนทำมันเลวได้ใจมากอะ ตืบคนไม่มีทางสู้ แล้วหาว่าเข้าใจผิด งานนี้อิเจ๊ก็ว่า แม่งตำรวจไทยเป็นไงกลัวไอ้ผู้มอทธิพลพวกนี้จัง
ใครจะตายยังไงไม่สนอะนะ ก็อย่างบอกว่า ความจริก็เกลียดตรใสด เพราะเรื่องจริง เพื่อนเจ๊เคยเจอแบไม้อะ แต่ไอ้ลูกท่านผู้มีอิทธิพล คงกร่างมากไป ตายด้วยมือใครหาได้ สม
แต่อยากให้ใจเย็นนะฉาน อย่ามีเรื่อง ปล่อยมันไป คนเกลียดมันคงเยอะอะ เดี๋ยวก็เจอคนจริงกว่าเองแหละ
ไม่อยากให้มีเรื่องกันอะ สงสารเมฆกลัวเป็นกำพร้าสามี แต่ไอ้ตัวที่ว่าตืบไม้อะ ไม่ใช้ไอ้เลวคนเดียวกับที่ ขโมยจูบน้องเมฆที่หน้าห้อง้ำนะ
เพราะมีฌอกว่ามาก เพราะแรงหึงของฉาน เพราะอาจเอาอาก้า ไปถลมมันอะ เพราะฐานที่มาทำตัวชั่วกับเมียฉานอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 04-06-2010 14:18:21
มาแบบยาวๆ ก็ดีนะ แต่ไม่เอาแบบค้างๆ อ่ะ เค้าไม่ชอบ บ บ บ  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 04-06-2010 21:55:34
มานนานไปละนะ เจ้าคะ จะรอมะหวายปย้ว เง้อ จายร้าย :z3:

คิดถีง พี่เมฆ & พี่ฉาย ว่าจะเกิดไรต่อไปง่ะ :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 05-06-2010 13:29:48
เข้ามาดันและมารอครับ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 06-06-2010 12:42:23
พี่ฉานมันไปกระชับวงล้อมถึงไหนวะเนี่ย เอร้ยยยยย ไหนว่าจะใจเย็นๆๆไง
 :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 06-06-2010 16:40:56
กว่าจะตามหากระทู้เจอ :o12:

รออ่านต่อไปขอรับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 06-06-2010 17:16:57
ไอ่กร่างนั่นมันเป็รใคร มาหมาหมู่งี้พี่ฉานไม่ยอมง่ายๆหรอกนะ
ชิชิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 07-06-2010 00:12:12
ดูท่างานจะเข้าเมฆ หนักก็คราวนี้ เหอะๆๆ ขอให้หลุดพ้นไปด้วยดี........
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 07-06-2010 00:29:11
ยังคงเฝ้ารอก้อนเมฆกับดวงตะวันต่อไป

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 07-06-2010 09:06:30
เมื่อไรจะมา เค้ารออยู่นะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 07-06-2010 14:02:53
 :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 07-06-2010 18:25:34
วะฮิ้ววววว  อ่านทันแล้ว สนุกมากอ่ะ ชอบนายเมฆ ฮาดี ^^

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-06-2010 20:53:18
มารอพี่เมฆและเฮียฉาน :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 08-06-2010 07:02:55
คนแต่งยังคิดแผนต่อไปไม่ออกเหรอคนโพส
พาเมฆกับฉานกลับมาได้ละ คนอ่านรออยู่จ้ะ o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 33 ,1 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-06-2010 17:36:01
รอจนนานข้ามชาติแระนะตัว ให้ไว วัยรุ่นแถวนี้เค้าร้อนใจ  :m20:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 08-06-2010 21:00:45
(http://image.ohozaa.com/ih/749untitled1.jpg)

(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 34
 
สภาพห้องพักญาติผู้ป่วย ที่สามารถจุคนได้มากกว่าครึ่งตำบลตอนนี้ มีมีนุษย์หลายชีวิต นั่งหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ ทิ้งเล่น เสียอย่างนั้น  ความสามัคคีในการรับส่งเสียงถอนหายใจ มีพลังมากมายกว่าที่คิด เมื่อคนนึงถอนหายใจทิ้ง เว้นช่วงไปไม่นาน ก็จะมีใครคนใดคนนึง ถอนรับ เป็นจังหวะ พร้อมเพรียงกันได้ ขนาดนี้

ไอ้ไม้ฟื้นแล้ว .... พวกผมหัวใจพองโต ไอ้ฉาน ไอ้แกละ ไอ้หวาน ไอ้ยอน ไอ้ ดิว ไอ้ไผ่ รวมทั้งผม และหญิงหน่า รีบกรูกันไปล้อมเตียงไอ้ไม้ไว้ เหมือนพม่าล้อมประตูเมืองอะครับ ทุกคนลุ้นมากว่า  ปฎิกริยาแรกที่ไอ้ไม้ เห็นเพื่อนๆ ล้อมเตียงมองมันด้วยสายตาห่วงใย และรอคอย จะเป็นยังไง มันฟื้นแล้วมันจะจำหน้าได้มั้ย....แล้วนี่ผมกังวลมากไปรึเปล่า

ไอ้หน่า เอามือไอ้ไม้มากุมไว้  มองดูคนบนเตียงด้วยสายตาเปี่ยมแห่งความหวัง มันทำยังกะภรรยารอคอยการกลับมาของสามี ทุกคนดูมีสีหน้าร้อนรน ที่ไอ้ไม้ ได้แต่กรอกตามองไปมา สลับกับมองฝ้าเพดาน มีแต่ไอ้ฉานที่ยังคงยืนมองไอ้ไม้ ด้วยท่าทีที่สงบ และดูเป็นผู้เป็นคนที่สุด   และแล้วการรอคอยที่เปี่ยมล้นไปด้วยความหวังของพวกผม ก็สิ้นสุดลง เมื่อไอ้ไม้ เริ่มขยับปาก บอกความต้องการ สายตาทุกคู่จ้องไปที่มัน เหมือนมันเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล
“น้ำ....หิวน้ำ” ประโยคแรก หลังการฟื้นคืนชีพ ของอนาคตสถาปนิกหนุ่มหน้าตาดี
หัวใจพวกผมที่สูบฉีด เร็วแรงเมื่อสักครู่ เริ่มลดลง จนเหี่ยวแห้งในที่สุด ไอ้ไม้ มันเอ่ยแค่นั้น ไอ้ดิวอยู่ใกล้น้ำมากที่สุด มันจึงเป็นคนทำหน้าที่ ส่งน้ำถึงหลอดอาหารผู้ป่วย
ไม่ต้องตกใจครับ ไอ้ดิวมันเอาหลอด ขึ้นมาดูดน้ำ แล้วปล่อยผ่านริมฝีปากแห้งผาก ที่เผยอได้เพียงเล็กน้อย เมื่อไอ้ไม้ ได้น้ำจนเป็นที่พอใจแล้ว มันก็ปิดเปลือกตา หลับต่อเสียอย่างนั้น

เพราะฤทธิ์ยา พยาบาลพร่ำบอกพวกผมแบบนั้น เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แต่พวกผมก็ยังไม่ชินกันอยู่ดีนั่นแหละ ถึงแม้พวกเราจะย้ายจากเตียงไอ้ไม้ มารวมตัวที่ห้องติดกันแล้ว แต่ก็ยังมี บางคน ผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปดูไอ้ไม้ ในอีกห้องนึงเสมอ

พวกเรารวมตัวกันถอนหายใจเล่นกันทำไมหนะเหรอครับ.....
คำตอบมีเพียงอย่างเดียว คืออยากอยู่เจอหน้าไอ้เหี้ย....ตัวนั้น
ไอ้ตัวที่มันกระทืบเพื่อนผมจนจมตีน พร้อมสมุนของมัน
....แล้วสุดท้าย ได้บทสรุปจากผู้รักษากฎหมายของบ้านเมืองว่า
“เข้าใจผิดกัน” คนนั้นแหละครับ

มันเป็นความอึดอัดภายใต้ความตึงเครียด ที่พวกผมไม่เคยประสบมาก่อน สัญลักษณ์ประจำกลุ่มผม คือเสียงหัวเราะ การหยอกเย้าจิกกัดกันเองในกลุ่ม รอยยิ้มเหมือนที่เคยเป็นๆมา ตอนนี้สิ่งเหล่านั้น โดนพรากออกจากกลุ่มผมไปด้วย อมนุษย์ ที่หน้าด้านจัดตัวเองให้อยู่ในกลุ่มของ “คน” นั่นแหละครับ

“หวาน ไอ้เชี่ยนั่นมันจะมากี่โมงวะ นี่มันจะ ห้าโมงเย็นแล้วนะ “ ผมถามฝ่าเสียงถอนหายใจ ครั้งที่ 100ของไอ้ฉานออกไป

“กูจะรู้มั้ยละวะ ตำรวจบอกว่า พ่อมันจะพามากราบตีนไอ้ไม้ แต่เวลาเท่าไหร่ มันไม่ได้บอกนี่หว่า”

“กูเริ่มหงุดหงิด เพราะต้องรอ จนเริ่มจะอาละวาดเพราะหิวแล้วนะเว้ย “ พี่เมฆไม่รู้ครับ ว่า ระหว่างหิวกับรอ อะไรน่าหงุดหงิดกว่ากัน แต่ตอนนี้มันผสมผสานกันอย่างลงตัว

“มึงหิว ก็แทะเล็บขบนิ้วตีนผัวมึงไปก่อนแล้วกัน รองท้องไปก่อน ถ้าอยากได้โปรตีนเข้มข้นหวานมัน ห้องน้ำยังว่าง เชิญมึงทั้งสองผัวเมีย ป้อนกันได้ตามสะดวก ปิดประตูกันเสียงให้สนิทแล้วกัน “ ไอ้หวานมันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้ากวนตีน จนผมแทบจะกระโดดขาคู่ ประเคนให้มันก่อนใคร

“พวกมึงนี่นะ สถานการณ์ควรสามัคคี ก็ยังหาเรื่องตีกันได้ กูละสรรเสริญจริงๆ เมฆ มึงหิวก็ลงไปหาอะไรกินก่อนสิ เผื่อพวกกูด้วย ไปกะไอ้หน่า คู่ขามึงก็ได้ ไป” ไอ้ดิวออกความเห็นครับ

 แต่ไอ้ดิวมันจะไปรู้อะไร ไอ้เรื่องออกไปหาอะไรกินนั้น ผมจะออกไปตั้งแต่เมื่อสามชั่วโมงที่แล้วได้มั้ง  แต่ไอ้คนที่รั้งผมทั้งทางมือคว้า ทางสายตาปรามหนะ นั่งจ้องจะงับหัวผม อยู่บนโซฟานู่น ไอ้ฉานมันไม่ให้ผมไปไหนไกลตัวมัน แต่จะให้ผมไปกับมัน ก็กลัวไอ้เชี่ยนั่นมาแล้วคลาดกัน ....ผมเลยต้องมานั่งอาละวาด ฟาดงวงฟาดงา ใส่กลุ่มเพื่อนฝูงอยู่แบบนี้ไงเล่า


“ไอ้เมฆ มันออกไปไหนไม่ได้ ผัวไม่อนุญาติ  ไม่รู้จะห่วงอะไรนักหนา ไอ้เมฆก็หน้าตาบ้านๆ แถมยังเสร่อขนาดนั้น “ ไอ้หน่ามันยอมสลัดวิญญาณ นางเอกสุดโศกออก เพื่อมาจิกกัดผมทันที ไอ้นี่ชาติที่แล้ว มันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับไก่แน่ๆ

“ ดิว มึงนั่นแหละออกไป โทษฐานที่มึงก่อชนวนให้ผัวเมียเค้าตีกัน “ ไอ้แกละออกความเห็นครับ ลูกสมุนไอ้ฉานมันทำหน้าที่ปกป้องลูกพี่ทุกครั้งที่โดนพาดพิงแหละครับ ไอ้ฉาน มันก็นั่งขรึมเป็นพระเอก หล่อๆ อยู่บนโซฟาต่อไป

ช่วงเวลาที่ ไอ้ดิวกับไอ้แกละ กำลังส่งสายตาประหัตประหารกัน อยู่นั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้น ขัดจังหวะมันสองตัวงับหัวกันพอดี สายตาทุกคู่ เปลี่ยนไปที่ประตูห้องโดยพร้อมเพรียงกัน

“ อ้าว ไอ้นทีนี่หว่า “ ไอ้ไผ่ ที่มันรีบถลาไปเปิดประตู อุทานออกมาอย่างผิดหวัง  คนที่ก้าวเข้ามาในห้องนี้ ไม่ใช่คนที่พวกเรารอคอย ไอ้นทีเดินหอบหิ้วของพะรุงพะรังเข้าห้องเข้ามาด้วยสีหน้างงๆ ที่เพื่อนๆ มีสีหน้าผิดหวังกันถ้วนหน้า ที่เห็นมัน

“ มีอะไรกันเหรอวะ แทนที่กูกลับมาจะดีใจ นี่อะไร ทำหน้ายังกะแพ้พนันบอล” ไอ้นที มันร้องถาม

“ป่าว ไม่มีอะไร แล้วนั่นมึงพาใครมาด้วย “ ไอ้ฉานร้องตอบ พอดีกับที่เห็นผู้ชายอีกคนนึงเปิดประตูเข้ามา สีหน้าประหม่าไม่น้อยที่เจอพวกผมอัดรวมกันอยู่หลายชีวิตขนาดนี้
“ เฮ้ย กูมาคนเดียว จะให้มากับใครหละ มึงอย่ามาพูดบ้าๆนะเว้ย ไอ้เหี้ย โบราณเค้าถือ กูขนลุกหมดเลย” ไอ้นทีมันโวยวายครับ ที่ไอ้ฉานมันทักว่าพาใครมาด้วย จนไอ้ฉานมันชี้นิ้วเป็นสัญญาณให้หันกลับไปมองนั่นแหละ มันถึงสงบปากสงบคำได้

“ผู้ชาย” ที่เดินตามไอ้นทีเข้ามา  น่าจะเป็นเด็กผู้ชาย ม.ปลาย เพราะน้องคนนี้เล่นมาทั้งชุดนักศึกษาวิชาทหารเลยทีเดียว  หั่นผมซะสั้นเกรียนขนาดนี้ แต่ผิวขาว หน้าใส พิจารณามุมไหน ผมก็มองว่าเด็กคนนี้หน้าตาดี หน้าหวานๆ ตาคมๆ แพขนตาหนาขนาดนั้น ดูขัดกับบุคลิคทะมัดแทมง เยี่ยงเด็กผู้ชายทโมน ที่จะเศึกษาวิชาทหารอยู่มาก

“มาหาใครครับน้อง “ พี่เมฆ จัดอยู่ในประเภท เอ็นดูคนหน้าตาดี มีความแมน  เหมือนตัวเองอยู่แล้วครับ

“ เอ่อ ไม่ทราบห้องนี้ คนไข้คือ กัณตพล ป่าวครับ “ น้องเค้าตอบออกมา มีร่องรอยประหม่าอยู่ในน้ำเสียงอยู่มาก

“ถ้า กัณตพล ชื่อเล่นว่า ไม้ ก็ใช่ครับน้อง” เสียงไอ้ฉานครับ ไม่ใช่พี่เมฆหรอก พี่เมฆกำลังพิจารณา เลือดฝาดในสีหน้า เด็กผู้ชายหน้าตาดีอยู่อะครับ

“ เฮ้อออ ผมหาตั้งนานแหนะ ผมชื่อ ปลื้ม ครับ อยู่บ้านข้างๆพี่ไม้ “ น้องเค้าดูโล่งใจ เมื่อรู้ว่า ใช่ห้องคนไข้ที่น้องเค้าตามหาอยู่พอดี

“แล้วน้องรู้เรื่องไอ้ไม้ได้ไง พ่อมันรู้รึเปล่า” ไอ้ฉานดูร้อนรนนิดหน่อยครับ ที่ข่าวไปถึงหูน้องข้างบ้านไอ้ไม้แล้ว”

“พอดี ผมโทรหาพี่ไม้ แล้วตำรวจรับหนะครับ พ่อพี่ไม้ไม่รู้หรอกครับ ผมไม่กล้าบอก “ น้องเค้าตอบแบบกลัวๆๆไอ้ฉาน

“ไอ้หวาน ไอ้ไผ่ พวกมึงไปโรงพัก ทำไมไม่ขอโทรศัพท์ไอ้ไม้มาเก็บไว้วะ ถ้าพ่อมันโทรมา จะว่ายังไง” ไอ้ฉานมันกลับไปโวยวายกับไอ้สองตัวที่ไปเดินเรื่องที่โรงพักครับ
“ เอ่อ โทรศัพท์พี่ไม้ อยู่กับผมครับ พ่อพี่ไม้ไม่โทรมาหรอกครับ ล่าสุดเค้าเพิ่งทะเลาะกันมา” น้องปลื้มตอบพร้อมชูโทรศัพท์ไอ้ไม้ ให้ดูเป็นหลักฐานครับ พายุในตัวไอ้ฉานดูสงบลงมาก หลังจากได้คำตอบที่หน้าพอใจ

“พอดีผมแวะไปถามเรื่องที่สถานี เลยขอตำรวจออกมาด้วยนะครับ   แล้วผมเข้าไปดูพี่ไม้ได้ป่าวครับ” น้องปลื้มถาม ท่าทางยังเกรงๆ อยู่  น่าสงสาร มาเจอมาเฟีย หน้าตาดีแต่นิสัยแย่แบบไอ้ฉานไป

“ไอ้ไม้ มันยังไม่ฟื้นยานอนหลับเลย แต่จะเข้าไปดูก็ได้นะ “ ไอ้ฉานบอกน้องด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงมาก มันคงเริ่มรู้ตัวแล้วว่าทำให้เด็กกลัว น้องปลื้มเดินค้อมๆตัว ไปทางฝั่งห้องไอ้ไม้ ด้วยความเกรงใจ

ลับหลังน้องปลื้มเดินเข้าห้องไอ้ไม้ไป

พวกผม มองหน้า กันโดยไม่ได้นัดหมาย ไอ้หน่า ชี้นิ้วมาที่ผมสลับกับไอ้ฉาน ก่อนที่จะเอานิ้วทั้งสองมาคู่กันเป็นสัญญาณบอกเล่าบางสิ่งบางอย่างที่มันคิด คนอื่นๆ ทำตาโต เมื่อรู้ว่าไอ้หน่าหมายถึงอะไร

“พวกมึงว่า น้องคนนั้นใช่เด็กไอ้ไม้ มั้ย” ไอ้หน่าขยับปาก แต่ไม่มีเสียงออกมา

ทุกคนพร้อมใจกันส่ายหน้า.........

“แล้วพวกมึงคิดว่า น้องเค้าเป็นเหมือนไอ้เมฆหรือไอ้ฉาน” มันยังทำปากพะงาบๆๆถามพวกผมต่อไป แต่เริ่มทนไม่ไหว ปล่อยเสียงออกมาเล็กน้อยแล้ว

“ไม่รู้โว้ยยยยย ไอ้บ้า มึงหนะ คิดมาก “ ผมโวยวาย เพราะว่าไม่มีคำตอบอะไรจะให้มันครับ ผมไม่ได้เกิดมาแล้วรู้ตัวเองว่าชอบผู้ชายเลยสักหน่อย ระหว่างผมกับไอ้ฉาน มันมีที่มาที่ไป มันมีอะไรมากกว่า ความรักแบบชายรักชายทั่วไป ผมก็ยังยืนยันนะว่าผมแมน ผมเป็นผู้ชาย ผมไม่ใช่เกย์ ถึงตอนนี้ผมจะรักผู้ชายด้วยกัน แต่ถ้าไม่ใช่ไอ้ฉาน ผมก็แน่ใจว่า ผมไม่มีความรู้สึกแบบนี้ให้ใครอีกแน่ๆ


ผมเลี่ยงตัวเองออกมาที่ระเบียงห้อง เพราะว่ามีโทรศัพท์จากแม่เข้ามาพอดี
“ครับแม่”

“พี่เมฆ แม่เองนะลูก โทรไปที่บ้านคุณนิ่มบอกว่า พี่เมฆอยู่หอที่มหาลัย แม่โทรมารบกวนรึเปล่า”

“เปล่าครับ คุยได้ เมฆมาเฝ้าเพื่อนที่โรงพยาบาลอะครับ พอดีเพื่อนไม่สบาย”

“เหรอลูก แล้วฉานหละ “ นี่โทรมาหาลูกยังไม่วายถามหาไอ้หน้ากูปรีนั่นอีกนะ ไม่เข้าใจมันมีอะไรดี

“มันอยู่ข้างในกับเพื่อนๆครับ นี่เมฆออกมาคุยที่ระเบียง”

“พี่เมฆ แม่ปรึกษาหน่อย ว่าแม่ต้องทำยังไงดี อันดาร่ำร้องจะไปติวที่กรุงเทพอะลูก นี่แม่ต่อรองว่าให้เรียนที่หาดใหญ่ แต่เจ้าตัวไม่ยอม จะขึ้นกรุงเทพให้ได้ แม่เป็นห่วงน้อง “

“เรียนที่กรุงเทพก็ดีนะครับ เรียนสด ไม่เข้าใจยกมือถามได้ เรียนที่หาดใหญ่ เรียนด้วยวีดีโอไม่ใช่เหรอครับ”

“แม่รู้ว่าที่กรุงเทพน่าเรียนกว่า แต่ว่าแม่เป็นห่วงน้องมาก ไม่เคยอยู่ไกลแม่เลย เรื่องนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ที่แม่ไม่สบายใจ คือ แม่รู้มาว่าอันดาเริ่มมีแฟน” ผมฟังจากน้ำเสียงแม่ ดูแม่ร้อนใจและเป็นกังวลมาก แม่จะรู้มั้ยว่า ในน้ำเสียงแห่งความห่วงใยในตัวอันดา ที่แม่พูดออกมานั้น ลึกๆ แล้วผมน้อยใจ อันดาไม่เคยห่างแม่เลย แต่ผม ไม่เคยเจอแม่ เลยมากว่า 15 ปี

แต่ไม่ควรต้องมาน้อยใจเวลานี้ไม่ใช่เหรอครับ!!!!

“ถ้าอันดาจะเรียนที่กรุงเทพ ให้มาอยู่ที่บ้านเมฆก็ได้นี่ครับ ปกติวันธรรมดา แม่นิ่มอยู่คนเดียวอยู่แล้วครับ เมฆกลับบ้าน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุด เมฆไปรับส่งน้องเองก็ได้ หรือถ้าแม่ว่าง แม่ขึ้นมาดูน้องสะดวกดีนะครับ”

“แม่ขอบใจพี่เมฆมากนะลูก ที่จะช่วยดูแลน้องให้ ที่แม่กังวล เพราะกลัวว่า อันดาจะมาเฝ้าแฟนมากกว่าเรียนนะสิลูกมีแฟนแม่ไม่ว่าหรอก อันดาเป็นสาวแล้ว มันเรื่องธรรมดา  ถ้ามีแฟนแล้วช่วยกันเรียนแม่ไม่กลุ้มใจหรอกนะ แต่นี่แม่รู้มาว่า คนที่อันดาคบอยู่ เกเร  นี่เห็นว่าเพิ่งเข้ามหาลัยที่กรุงเทพ แล้วอันดาก็มาขอไปเรียนพอดี แม่นอนไม่หลับเลยนะลูก”

“อย่าคิดมากเลยครับ อันดาโตแล้ว เดี๊ยวเมฆช่วยดูให้ห่างๆนะครับ ถ้าอันดาไม่อยากเรียนที่หาดใหญ่ ก็อย่าบังคับเลยครับ เดี๊ยวน้องจะเตลิดแล้วแย่กว่านี้ “ ผมแนะนำแม่ไปตามความรู้สึก คนเราถ้ายิ่งห้ามในสิ่งที่เค้าตั้งใจไว้แล้ว มันจะยิ่งเกิดการต่อต้าน อันดาเองก็อยู่ในวัยนั้น

“พี่เมฆ แม่ขออะไรอีกอย่างได้มั้ย ช่วยสืบให้แม่หน่อยนะ ว่าแฟนอันดา เป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีประวัติยังไง นะลูกนะ”

“ เอ่อ จะดีเหรอครับ “ ผมไม่ได้สนิทกับอันดาขนาดที่ว่า อันดาจะพูดคุยด้วยทุกเรื่องนะครับ เพราะเรื่องน้องมีแฟนนี่ผมไม่รู้จริงๆ พูดกันตามตรงคือ ไอ้ฉานสนิทกับอันดามากกว่าผมอีกนะ แล้วเรื่องจะให้ไปสืบประวัติใครนี่ไม่ใช่ทางผมจริงๆ ครับ มันเป็นเรื่องที่ลำบากใจ

“ครับ แล้วเมฆจะพยายามนะครับแม่ ครับ สวัสดีครับ” แม่ขอบคุณแล้วพูดกับผมอีกสองสามคำ ไม่พ้นถามถึงสุขทุกข์ของไอ้ปากหวาน หน้ากูปรี ที่ป่านนี้มันคงหน้าหงิกหน้างอแล้วแน่ๆ ที่ผมออกมาคุยโทรศัพท์นานขนาดนี้  ก่อนออกก็ลืมรายงานพ่อด้วยดิ ว่าใครโทรมา

ผมคว้ามือจับประตูบานเลื่อนระเบียง ประตูเลื่อนออกจากกันเพียงเล็กน้อย ทำเอาผมสะดุ้งกับเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากภายในห้อง นี่ผมออกมาคุยโทรศัพท์นานแค่ไหนแล้ว มันคงนานจนผมไม่รู้ว่า ภายในห้องนั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง

ภาพประตูที่เลื่อนออกจากกันกว้างมากพอที่ ผมจะมองเห็นภาพคนแปลกหน้าที่อยู่ภายใน ไอ้ไผ่กับไอ้ดิว หิ้วปีกน้องปลื้มเอาไว้จนตัวลอย ขาน้องสะเปะสะปะไปในอากาศ ปากตวาดกร้าว ต่อว่าคนสองคนที่ยืนหันหลังให้ผม
“ ไม่ยอม ยังไงผมก็ไม่ยอม ลูกคุณมันหน้าตัวเมีย มันหมาหมู่ คุณมันก็ผู้ใหญ่เฮงซวย “ เสียงตะโกนกร้าวของปลื้ม ทำให้ผมตกใจมาก
 
คนที่ยืนหันหลังให้ผม สองคนนั้น ดูก็รู้ว่าคนนึงต้องมีอายุมากแล้ว ร่างท้วมนั้นยืนนิ่งไม่ไหวติง ไม่มีอารมณ์ใดๆ จากการที่มีเด็กมาตะโกนด่าอยู่ตรงหน้า ผมยืนอึ้ง จับต้นชนปลายกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ถูก แน่ชัดแล้วว่า สองคนตรงหน้าผมนี้ คือพ่อลูก ที่พวกผมเฝ้ารอเจอหน้า ว่าไอ้สารเลวที่มันทำกับเพื่อนผมได้ขนาดนี้ หน้าตาเป็นแบบไหน

แล้วก่อนหน้าที่น้องปลื้มจะมาตะคอกเป็นเด็กก้าวร้าว อยู่ตอนนี้ มันเกิดอะไรขึ้น มันมีอะไรเกี่ยวข้องกับไอ้ไม้เพื่อนผม แล้วทำไมน้องปลื้มถึงโกรธได้ขนาดนั้น

ผมกวาดตามองหาคนคุ้นเคย ที่มักอยู่ในกรอบสายตาผมเสมอ ไอ้ฉานยืนอยู่ไม่ไกลจาก ร่างน้องปลื้ม ที่ตอนนี้โดนเพื่อนผมสองคนนั้นจับล่ามเอาไว้ มีไอ้นทียืน เป็นตัวช่วยเผื่อฉุกเฉินอยู่ข้างๆอีกแรง น้องปลื้มดูโกระเกรี้ยว ต่างจากภาพแรกที่ผมเจอมากนัก

ผมสบตาหาคำตอบของเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผมพลาดไปกับไอ้ฉาน แวบแรกที่หน่วยตาของเราทั้งสองคนสบกัน ผมรู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งร่าง สายตาคู่นั้นไม่ใช่ฉานแสงคนเดิม ดวงตามันดูโกรธแค้น กราดเกรี้ยว ผมหลบสายตาคมกล้าคู่นั้น เลี่ยงมองไปที่อื่น ร่างไอ้ฉานสั่นเทา มือกำแน่นจนเกร็ง ไอ้ฉานกำลังโกรธ ถึงขั้นโกรธมาก แต่มันก็ยังรู้สักสงบสติอารมณ์
ผมอยากรู้ และผมกำลังงงและสับสน  แต่ดูเหมือนว่า สถานการณ์ตอนนี้
คงไม่มีใครคนไหน กระชากสติกลับมาให้คำตอบผมได้
นอกจากตัวผมจะหาคำตอบนั้นด้วยตัวของตัวเอง

“เกิดอะไรขึ้นครับ “ สิ้นเสียงของผม คนร่างท้วมดูเหมือนจะสะดุ้งตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ควบคุมตัวเองให้เป็นปกติในเวลาไม่นานนัก คงอาจจะแปลกใจที่อยู่ๆมีผมโผล่มาทางด้านหลัง คนร่างท้วมหันหน้ามาทางผมช้าๆ พร้อมกับอีกคน ที่ผมรอพบเจอ

“ถามเพื่อนเธอดูเอาเถอะ ฉันพูดได้แค่นี้  ไป อาท กลับกันเถอะลูก  วันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่อง ชั้นไม่อยากทำร้ายเด็ก”

ผมไม่ได้สนใจ ชายคนนั้นพูดอะไรออกไปบ้าง

ผมสะดุดลมหายใจตัวเองตั้งแต่เห็นหน้าไอ้คน ที่ถูกเรียกว่า “อาท” แล้ว

โลกมันกลม ผมเชื่อแล้วว่าทฤษฎีนี้ มันมีอยู่จริง
แต่ทำไม โลกมันถึง โคจรพาคนที่ผม ไม่อยากเจอที่สุด มาพบกันอีก
คนที่ผมเตือนตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นแล้วว่า ครั้งเดียว มันก็เกินพอแล้ว สำหรับการเจอะเจอ

เลือดทุกหยดในร่างกายผม มันหยุดไหลเวียนหรือไงวะ
 ทำไมผมถึงรู้สึกตัวช้า ใจสั่น และที่สำคัญคือ ผมรู้สึกตัวเองยืนนิ่งไม่ต่างจากรูปปั้น 
ไม่มีแรงแม้แต่จะพูดอะไรตอบโต้ผู้ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าแม้สักคำ

“ว่าไง เจอกันอีกแล้วนะนายมาร์โบโลไลท์ “


นรกขุมที่เจ็ดช่วยเป็นพยาน
ผีห่าซาตานในนรกขุมไหน ให้ไอ้สารเลว ทักผมได้ สนิทสนมขนาดนี้
ไหนจะท่าทียียวน และรอยยิ้ม เจ้าเลห์ที่ส่งให้ผมอีกหละ
ผมไม่ได้สนใจ เรื่องการทักทายของคนตรงหน้า
เท่ากับที่ผมจะตอบคำถามคนข้างกายผมยังไงมากกว่า


“แล้วเจอกันนะ มาร์โบโล่ไลท์ วันนี้ต้องไปแล้ว “


จะไปตายที่ไหนก็ไป ในใจผมคิดได้แบบนั้นจริงๆ
ไม่เกี่ยวกับคำทักทายและคำบอกลา ที่บอกเป็นนัยว่า ผมกับมันเราเคยเจอกันมาก่อน

แต่ผมแช่ง ผมบริภาษ กับท่าทางที่มันไร้จิตสำนึก มันเป็นคนเดียวกับคน ที่ทำร้ายเพื่อนผมปางตาย โดยไร้เหตุผล
ต่อหน้าเพื่อนผมทุกคน  ความตึงเครียดกับเรื่องราวที่มันก่อขึ้น  แต่คำพูดที่มันทักทายผม บ่งบอกชัด มันไม่ได้สำนึกผิดกับเรื่องที่มันก่อเลย มันยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า กับท่าทียียวนที่มันส่งให้ผมนั้น ดูยังไงก็นักเลงอันธพาลชัดๆ

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า มันไปกระตุ้นอารมณ์ร้าย ในร่างกายพวกเพื่อนผมขนาดไหน


“มึงจะไปตายที่ไหนก็ไปเลยนะไอ้ห่า ทั้งพ่อทั้งลูก” ผมลืมสนใจไปว่า มันเป็นเสียงที่เกิดจากใคร


ในเมื่อผมตอนนี้ ต้องตอบคำถามของคนที่มันเดินมาประชิดตัวผม ตั้งแต่ไอ้บ้านั่นมันทักทาย
แล้วผม จะเอาคำตอบไหนให้ไอ้ฉานดี........ผมจะต้องทำยังไงให้มันรู้ว่า ผมไม่ได้รู้จักไอ้เหี้ยนั่น
และหวังว่า คงไม่มีใครเข้าใจผิด คิดว่าผมเป็นต้นเหตุทำให้ไอ้ไม้เจ็บหรอกนะ

 
๐ขอโทษเป็นร้อยครั้งพันครั้ง ที่ห่างหายไปหลายวัน ภารกิจรัดตัวแน่นขยับขยายมาอู้ปั่นนิยายไม่ได้เลย  :o12:๐
๐ส่วนน้องที่ลงทุน แอด FB เข้ามาตามตอนต่อไปอ่ะนะ จะบอกว่าพี่ตกใจ แต่แอบดีใจปนๆกันไปด้วยจ๊ะ.. :-[
ส่วนพาดหัวข่าว พี่แซวเล่นขำๆ....จะบอกว่าตามทวงกันได้ แต่เขียนมาลงได้มั้ยนั้น อีกเรื่อง  :laugh: จะบอกว่าบางครั้ง
ก็งานยุ่ง บางทีก็คิดไม่ออก ไม่ว่ากันเนาะ...... :กอด1:
เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นทุกทีแล้วนะ (รึเปล่า) ....
เมฆกับฉานอาจจะห่างหายจากความหวานกันไปหน่อย....แต่ก็ยังมีความอบอุ่นวาบๆ ที่ทั้งสองคนมอบให้กันอยู่ตลอด
แล้วเจอกันตอนหน้านะค่ะ ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
และยินดีต้อนรับแฟนคลับ พี่เมฆกับนายฉานคนใหม่ๆด้วยค่ะ......
TRomance
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Lunaeve ที่ 08-06-2010 21:05:53
มาอัพแล้วววววววววว :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-06-2010 21:16:50
งานเข้าพี่เมฆอย่างจัง...แล้วถ้าเฮียฉานเค้ารู้ว่ามีจุ๊บๆ กันด้วยนี่โลกแตกแหงๆ :z3:
เข้มข้นมั่กมากกก...อยากอ่านต่ออีกแว้วววว :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 08-06-2010 21:21:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 08-06-2010 21:24:14
เป็นไอ้บ้านั่นจริง ๆ......  :z6:
สงสารไม้.....ห่วงพี่เมฆ...... :monkeysad:

 :pig4: :pig4: กด + ให้ค่ะ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 08-06-2010 21:24:20
อย่างนี้บอกได้อย่างเดียวว่า

น้องเมฆ งานเข้า อย่างแรง

 :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 08-06-2010 21:28:34
มาแล้วววว ตอนนี้ยังคงความเครียดได้คงเส้นคงวาดี  :เฮ้อ:
แล้วก็เป็นไปตามที่หลายๆคนคาดเอาไว้ ไอ้เลวนั้นคือคนที่ลวนลามก้อนเมฆนี่เอง  :m31:
สงสัยที่มันจะกระทืบนี่ก็คงจะกระทืบนายฉานแสงแรงกล้าแน่ๆ แต่ดันจำผิดตัว(รึป่าว) ไม้เลยซวยไป  :m15:

เฮ้ออออ ไอ้สองพ่อลูกนี่มันน่าจะโดนสั่งสอนซะบ้างนะ เลวดีแท้ง่ะ  :m16:

กำลังเข้มข้น (ไม่ใช่โปรตีนเข้มข้นหวานมันของพี่ฉานนะ) น่าติดตามเลย
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 08-06-2010 21:45:21
 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 08-06-2010 21:52:46
เริ่มรู้สึกสงสารพี่เมฆ ทำไมเวลาจะซวย........ถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้เนี่ย!!!!! :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 08-06-2010 22:09:28
งานเข้าอย่างแรง

โลกเรานี่ก็กลมจนน่ากลัวเนอะ  เผลอๆแฟนอันดาจจะเป็นนายอาทนี่ด้วย   :try2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 08-06-2010 22:27:25
บอกได้คำเดียว  :13223:  :beat:  :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 08-06-2010 22:33:24
ก่อนอื่น ขอ :กอด1: พี่เมฆกับฉานแน่นๆก่อน คิดถึงจัง  :laugh:

และแล้วก็ใช่จริงๆด้วย แถมยังดูจงใจไงไม่รู้ อืม.. รึอยากจะเอาชนะพี่เมฆ?
เกิดมาหน้าตาดีก้องี้แหละ ( เอิ่ม.. เหมือนจะไม่ใช่เวลามาชมพี่เมฆ แหะๆ)
แต่ที่แน่ๆคงต้องเคลียร์กันยาวววว

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 08-06-2010 22:35:31
มาเกาะติดข้างสนามอย่างเหนียวแน่น :angry2:

ใจร้ายปล่อยให้รอทุกวัน กาซิกๆ o18

รู้สึกว่า งานจะเข้าพี่เมฆ อย่างแรง :z3: :เฮ้อ:

ต้องไม่เกิดไรขึ้นนะ :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 08-06-2010 22:53:56
งานเข้าอย่างแรง

โลกเรานี่ก็กลมจนน่ากลัวเนอะ  เผลอๆแฟนอันดาจจะเป็นนายอาทนี่ด้วย   :try2:

เอ่อออ  งานช้างเลยนะนั่น
พี่ฉานอย่ารุนแรงกับพี่เมฆมากนะ  พี่เมฆไม่รู้เรื่องงงง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 08-06-2010 22:57:58
งานเข้าพี่เมฆอย่างแรง สงสารไม้ด้วย    :monkeysad:
พี่เมฆเตรียมคำตอบไว้ให้ฉานได้เลย คาดว่าต้องเคลียร์กันยาวแน่
ไม่อยากจะคิดว่าฉานจะโกรธแค่ไหน  :serius2:

+ จ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 08-06-2010 23:25:09
พี่เมฆ น้องว่าบอกพี่ฉานดีกว่ามั๊ยอ่ะ  งานเข้าอย่างจังๆ เลยอ่ะ  คุยให้เข้าใจซะนะ อย่าค้างคา 
เห็นพี่ฉานโกรธแบบนี้แล้วไม่อยากจะคิดเลยอ่ะ
งื่ออออออออออออออออออออออออ
ไอ้ สาดดดดดดดดดดดดดดด อาท  มารผจญจริงๆเลย 

น้องปลื้ม  :กอด1: 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 08-06-2010 23:43:49
ไอ้เวร..ไอ้อาท ไบกอนเขียว.... ไอ้  :angry2:

ก่อเรื่องไว้แล้วยังมาสร้างงานให้พี่เมฆของชั้นอีก.....   :beat:
พี่ฉานใจเย็นๆ นะจ๊ะ ฟังพี่เมฆ แก้ตัว เอ้ย อธิบายหน่อยเน้อ...

เรื่องราวกำลังตึงเครียด..... :fire:
รอวันที่ฟ้าสดใสอีกครั้ง.... :กอด1:

ปอลิง.   วันหน้าต้องไปตามถึงที่ FB บ้าง  คึคึ   o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 08-06-2010 23:54:43
ศึกหนักรอบด้านเลย น้องเมฆ

 :serius2:

 :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 09-06-2010 00:09:40
อ่าน cm พาลไม่อยากอ่านเลย
สงสารน้องเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 09-06-2010 00:32:13
 +1เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์คับ
และนั่งรอตอนต่อไปอย่างจดจ่อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 09-06-2010 00:34:10
น้องเมฆจ๋าจะโดนสามีงับหัวแว๊วววว
พี่ฉานจะทำไรก็คิดดีๆนะน้องเมฆเค้ามะได้เต็มใจจะรู้จักกับไอนั้นเน้อใจร่มๆ
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าค่า
+1เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 09-06-2010 01:55:23
เหอๆๆ  :m31:  ลอบฆ่าแม่งเลยยยยยยยย  :z4:


ปล.เป็นกำลังใจให้เสมอเคอะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 09-06-2010 04:07:53
ตาเถรมันเเกดขึ้นแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 09-06-2010 04:07:59
ว่าแล้วไม่ผิดต้องเป็นที่จูบเมฆแน่ๆ

โลกมันกลมจริงๆ :เฮ้อ:ว่าแต่ฉานจะจัดการ

ยังไงต่อไปอะ มาต่อไวๆนะครับ ไรท์เตอร์ :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 09-06-2010 06:37:12
หืม.. ว่าแล้ว ทำไมซื้อหวยไม่ถูกกก
โลกมันกลมมากกก กะไว้แล้วเชียวว
ไอหน้าสารเลว ทำเค้าแล้วรู้จักสำนึกมั้ย มานั่งยิ้มอยุ่นั่นนน
กร๊าซซซซซ โมโหหห :m31:
 ทีนี้งานก็เข้าพี่เมฆแล้วแน่แท้
หวังว่าพี่ฉาน จะเข้าใจน่ะะะ
รู้สึกว่า แฟนใหม่ อันดานี่มัน ไอ .... อาท แน่เลย
เลว ครบสูตร อย่างงี้ ไปกระทืบ คน แล้วมาเสือกบอกเข้าใจผิดด

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 09-06-2010 07:08:38
ในที่สุดก็ได้อ่าน ถึงจะเครียดก็เหอะ
 :pig4:ขอบคุณคนแต่งกับคนโพส
เมฆเสน่ห์แรงจัง ตกลงอาทติดใจกลิ่นบุหรี่จากปากเมฆใช่ป่ะ
ไม่ยาก ฉานช่วยซื้อยัดปากอาทแล้วถีบมันไปไกลๆ :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 09-06-2010 07:52:06
กรรมของเวร เมฆอย่างซวยอ่ะ
แล้วทีนี้จะตอบคำถามฉานกับเพื่อนๆ ยังไงล่ะเนี่ย

อ๊ากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 09-06-2010 08:34:26
แล้วมัน จะเป็นอย่างไรต่อไปเนี่ย แอบห่วงเล็กๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 09-06-2010 10:15:08
อร้ายยยยย ไอ้นรกนั้นจริง ๆ ด้วย เวรกรรม

ถ้าพี่ฉานรู้ว่ามันทำอะไรกับพี่เมฆจะทำไงดีอ่า

งานเข้าขั้นนรกของจริงแน่ ๆ เลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 09-06-2010 11:03:12
เวงกำ...เจอมันอีกจนได้ ไอ้เชี่ยอาท ไอ้โจรขโมยจูบ โลกมันกลมเกินนะเนี่ย ยิ่งถ้าไอ้เชี่ยอาทมันคือแฟนอันดาน้องพี่เมฆ โลกยิ่งกลมกลิ้งเข้าไปใหญ่ ซวยมาก ๆ หายนะชัด ๆ o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 09-06-2010 11:14:20
 :mc4: งานนี้ต้องมีรุมตื้บ   :m31:
 :z6: ตื้บมานๆๆๆๆๆๆ  เฮ้อ  ลุ้นจนเหนื่อยเลย




ว่าแต่  ใครไปทวงต้นฉบับผ่าน FB หรอคร๊าบบบบ  เอิ๊กๆๆๆ 

:z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 09-06-2010 14:07:51
จบตอนแบบนี้ ฆ่ากันเลยดีกว่า  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: b_hihi ที่ 09-06-2010 15:47:18
สนุกลุ้นตามเลยอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 09-06-2010 18:44:59
คนเดียวกันจริงๆด้วย

พี่ฉานฆ่ามัน อย่าเอาไว้ๆ  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 09-06-2010 19:02:43
อิบ้าน้านนนนนนนนนนนนน
มานตามมาระรานแล้วว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 09-06-2010 21:12:36
....... :fire:

นั่งรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 09-06-2010 22:35:06
มาอัพแล้วววววว คิดถึงพี่เมฆมากจริงๆๆค่ะ
และแล้วตอนนี้ก็เฉลยสักที คนที่ทำร้ายไม้ก็คือ
ไอ้นั่น.. นี่เอง ดูท่างานนี้ไม่แน่ว่า อาจจะเกี่ยว?
กับพี่เมฆรึเปล่านะ เหอๆๆ แต่ที่แน่ๆๆ เค้าว่านะ
ตอนนี้ ฉานคงกำลังลุกเป็นไฟแน่ๆๆ บรึ๋ยยยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 09-06-2010 23:07:50
บอกความจริงทั้งหมดนั้นแหละเมฆ
เพราะมันไม่ได้เกิดจากเมฆเลย
จะได้กันช่วยแก้ปัญหา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 34 ,8 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 10-06-2010 10:16:54
โห เครียดอะ  :z3:
อิพี่ฉาน แกช่วยตั้งสติ ก่อนสตาร์ทด้วยนะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 10-06-2010 16:24:44
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 35
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)
“ เมฆ ระหว่างเรา ยังมีเรื่องที่กูไม่รู้อีกมั้ย หึ๊” เสียงซาตาน กระชากวิญญาณครั้งที่หนึ่ง ทำเอาสะดุ้งตกใจ

“ หืมม ว่าไง มีอะไรปิดบังกูอยู่รึเปล่า”  หูยย แยะแยะ แต่ไม่ใช่เรื่องที่มึงอยากรู้หรอกเชื่อองค์อิศวรสิ  ผมคิดในใจ ตอบอะไรไม่ได้ ตอนนี้ผวาอยู่....ตัวสั่นด้วย

“พี่เมฆรู้จักไอ้ฆาตกรคนนั้นด้วยเหรอครับ” สะดุ้งตกใจครั้งที่สอง จากน้องข้างบ้านไอ้ไม้ เห็นเงียบๆที่ไหนได้ ร้ายไม่เบานะเนี่ย

“เออ มึงไปรู้จักบักห่านั่นตอนไหนวะ ทำไมมึงทั่วถึงขนาดนี้” สะดุ้งตกใจอีกที ไอ้ห่านที แมร่ง มาช้าที่สุด รู้เรื่องหลังสุด แต่เสนอหน้า แขวะกูก่อนใครเลยนะมึง แล้วข่าวว่ามึงคนใต้ บักห่า เค้าใช้กันที่อีสานไม่ใช่เรอะ

“ เฮ้ย หรือว่า ที่ไอ้เหี้ยนั่นบอกกระทืบคนผิด จริงๆแล้ว คือมันต้องการจะกระทืบไอ้เมฆ กูว่าใช่แน่ๆอ่ะ  เมฆ มึงยิ่งเสร่อๆ อยู่ด้วย  คงไปขัดหูขัดตามันอ่ะ “ เหยดดดดเป็ด ไอ้ไผ่ กูตกใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วมึงรู้มั้ย สงสารกูกันบ้างเถอะครับฟาย

คำตอบที่พวกมันทุกคนได้รับจากผมคือ “ส่ายหน้า” ใช่ครับ ผมทำแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้กวนตีน แต่อย่างใด แต่ผมยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่ ยิ่งแรงกดดันรอบข้างทั้งหลาย โดยเฉพาะ สายตาที่ไอ้ฉานมองมาด้วยแล้ว หนาวสั่นไปถึงขั้วหัวใจเลยครับ ..... ตาย คราวนี้กูต้องอวตารใหม่แน่ๆ

“ อ้าว เฮ้ยยย ไอ้ห่าเมฆ มึงมัวแต่ส่ายหน้า แล้วกูจะรู้คำตอบมั้ยหา” ไอ้หวาน มันโพล่งขึ้นมา แน่นอนครับ สะดุ้งตกใจอีกแล้วผม วินาทีนี้ ขวัญอ่อนถี่ยิบ .....กูแมนนะกูแมน ขวัญขนาดนี้ สาวแตกเท่านั้น ท่องไว้ พี่เมฆแมนนนน...

“เมฆ กูว่าเรากลับไปคุยกันหน่อยมั้ย หืม “ คราวนี้ ผมไม่ได้ส่ายหน้าแล้วครับ แต่ผมเปลี่ยนเป็น “มองหน้า” คนถามแทน ไอ้ฉานรอคำตอบด้วยสายตาแบบไหนคงไม่ต้องบอก มันมีอะไรที่เจ็บกว่า สายตา ที่มันมองผมครับ เพราะตอนนี้ มันขยับเข้ามาประชิดตัวผม มือมันจับแขนผมไว้ข้างนึง สิ่งที่ทำให้ผมร้องซี๊ดจนต้องนิ่วหน้าคือ แรงที่มือไอ้ฉานกดลงบนแขนผมสิครับ มันเจ็บจนบอกไม่ถูก ..... กูน้ำตาไหลตอนนี้ เพื่อนล้อยันลูกบวชแน่มึง...

มันโกรธ มันรอคำตอบ แล้วมันก็หงุดหงิด ที่ผมไม่มีคำตอบอะไรให้มัน....เพราะผมกำลังรวบรวมความกล้า และเรียบเรียงคำตอบอยู่....เหมือนเตรียมตัวสอบ ออรัลเทส...แต่มันแย่กว่านั้นตรงที่หน้าอาจารย์กับหน้าไอ้ฉาน ให้ความรู้สึกกดดันต่างกันมาก

“ เฮ้ยๆ พวกมึงจะรุมอะไรไอ้เมฆมันมากมาย เป็นกู กูก็ไม่มีคำตอบให้ แมร่ง รัวถามกันมาขนาดนี้ กูไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี แล้วเมื่อกี้ ถ้าพวกมึงสังเกตุ ตอนไอ้เมฆเห็นหน้าไอ้เชี่ยนั่น มันก็หน้าซีดตัวสั่นแล้วมั้ย “ เสียงสวรรค์จากไอ้หน่าครับ ผมแทบถลาไปกอดมันไว้ ครั้งนี้มันช่วยชีวิตผมไว้จริงๆ

“เออ กูว่ามึงใจเย็นก่อนเหอะหวะฉาน พวกเรายังต้องร่วมกันจัดการอะไรอีกเยอะ จะมาตีกันตอนนี้ทำไมวะ เมฆมึงก็เคลียร์กับผัวมึงซะนะ มึงก็รู้ว่า ไม่มีอะไรมากวนใจไอ้ฉานเท่าเรื่องมึงอีกแล้ว ถ้ามันไม่สบายใจ เรื่องที่เราจะทำอาจพลาดได้นะมึง “ ไอ้หวาน  กูก็อยากถลาไปซบหน้ากับอกมึงอยู่หรอกนะ ถ้าประโยคท้ายๆ ไม่ส่งกูไปตายหนะ

ผมมองหน้าไอ้ฉานแล้วก็ต้องหลบวูบ มันจ้องผมอยู่ตลอดเวลา แล้วเหมือนกับว่า มันรอคอยคำตอบอยู่...

“กูไม่ได้รู้จักกับไอ้เหียกนั่นหรอก คืนนั้นที่ร้านอ่ะ มันอยู่ร้านเดียวกับเรา แล้วตอนกูไปเข้าห้องน้ำ มันก็มาขอบุหรี่กะไฟแชคกู ก็แค่นั้น “ ผมเล่าความจริง (ที่ไม่หมด) ให้พวกมันฟังครับ
“แค่นั้น” น้ำเสียงไอ้คนซัก เหมือนมันยังไม่ปักใจเชื่อว่าวันนั้น จะมีเรื่องระหว่างผมกับไอ้บ้าอาทนั่น แค่นั้น

สำหรับผมแล้ว ไอ้ฉาน ก็ยังเป็นไอ้ฉานอยู่วันยังค่ำ คนที่รู้จักตัวผมดียิ่งกว่าผมเอง.....

แต่เรื่องนี้ เป็นตายยังไง ผมก็ต้องปิดบัง ไม่ใช่ว่าเรื่องเสียจูบคืนนั้น ผมเต็มใจ แต่ที่ไม่อยากให้ไอ้ฉานรู้ เพราะแค่เรื่องไอ้ไม้ ไอ้ฉานมันยังโกรธแค้นขนาดนั้น ถ้ามันรู้ว่า นอกจากมันจะกระทืบไอ้ไม้แล้ว มันยังกระชากจูบรสชาติแย่ไปจากผมอีก
มีหวังไอ้ที่มันพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อาละวาดจนโรงพยาบาลพัง จะแตกกระเจิงก็คราวนี้
ถ้าไอ้ฉานผลีผลาม วู่วามทำอะไรลงไป ด้วยอารมณ์ มันคงต้องแย่แน่ๆ เท่าที่ผมเห็น ไอ้บ้าอาทมันมีพ่อที่ป้องปีกช่วยเหลือลูกชั่วแบบผิดๆอยู่ แล้วก็ดูว่าฝ่ายนั้นมีอิทธิพลไม่น้อย เค้าถือไพ่เหนือกว่าเราเยอะ แล้วเรื่องอะไรที่ผมจะส่งแมงเม่าไปเข้ากองไฟหละ

“แค่นั้นจริงๆ ถ้ามากกว่านั้น มันคงเรียกชื่อกู แทนมาโบโล่ไลท์ อย่างที่พวกมึงได้ยินกันไปแล้ว”

“แล้วมึงไปกวนตีนอะไรมันรึเปล่า “ ไอ้หวานยังซักต่อ แค่นี้กูก็หงอแล้วนะเว้ย

“ ปล่าว กูจะไปกวนตีนมันทำไม ไม่ได้รู้จักกัน กูไม่โง่ทำแบบนั้นหรอก” ผมยืนยัน

“ มันก็ไม่แน่ มึงยิ่งโก๊ะๆ อยู่” อ้าวไอ้หน่า เมื่อกี้หมาตัวไหน มันยังเข้าข้างกูอยู่เลยวะ
“ใช่คนที่น้องฟางกับน้องกราฟเถียงกันป่าววะ...ที่ว่ามองมาทางโต๊ะเราตลอดอ่ะ..” โห เพื่อนยอน กูว่าให้มันจบเห๊อะ
“ที่สุดท้ายกลายเป็นว่า มันมองไอ้เมฆอะเหรอ...” ดิว มีดปอกผลไม้อ่ะ มึงเอามาเสียบกูเลยนะ เอาตรงๆ ตัดขั้วหัวใจ ให้กูตายไปเลย ไม่ต้องทรมาน แค่นี้ก็สุดๆแล้ว
“จริงเหรอเมฆ ไอ้เหี้ยนั่นมองมึงเหรอคืนนั้น ทำไมกูไม่รู้ ทำไมไม่มีใครบอกกู มันมองมึงแบบไหน” ไอ้ฉานมันโวยวายเลยสิครับ สายตามันหนะ แข็งกร้าวราวกับหมาบ้า...ผมหวาดผวาตัวสั่น กลัวมันมากเลยนะ เวลามันโกรธหนะ..ช้างที่ชนะสงครามยุทธหัตถี ยังเอาไอ้ฉานไม่อยู่เลยนะผมว่า.....
“ว่าไงเมฆ หรือต้องให้กู เดินไปเอาคำตอบจากไอ้เหี้ยนั่นเอง...” ไอ้ฉานรุกคืบผมเข้ามาเรื่อยๆ ผมก็ถอยร่นเรื่อยๆเหมือนกัน
“ กูไม่รู้ มึงอย่ากดดันกูได้มั้ยฉาน มันมองกูรึเปล่ายังไม่รู้เลย ไม่ใช่กูจะบิดบังอะไรนะ แต่กูไม่รู้จริงๆ” ผมเค้นคำตอบได้แค่นี้ อยู่ที่มันแล้วหละ ว่าจะตัดสินผมยังไง ผมมันเป็นบริวารของไอ้ดวงตะวันอยู่แล้วนี่

“อะๆ กูว่าเรื่องนี้พอได้แล้ว มันจะมองใครก็ช่างแม่งมันจะตั้งใจกระทืบ หรือกระทืบผิดคน หรือห่าเหวอะไรกูไม่สนใจ ที่กูอยากรู้คือ เราจะเอาไงต่อ ฉานกูขอร้อง ตอนนี้พวกมึงอย่าตีกันเลยหวะ มึงแค้นมัน กูเอาคืนมันรวบยอดไปเลยแล้วกัน  ”
ไอ้ดิวรีบตัดบทก่อนที่พวกผมจะตีกันหนักกว่านี้....กูขอบใจมึงจริงๆหวะดิว ผมเหลืบมองไอ้ฉาน เห็นมันสงบลงบ้างแล้วนิดหน่อย มันนั่งลงที่โซฟาเหมือนเดิมแล้ว...แต่สีหน้าและท่าทางที่มันเอามือเสยผมแรงๆนั้น ทำให้ผมไม่ได้สบายใจขึ้นเลย

“ผมเอาด้วยนะครับพี่ๆ มีอะไรให้ช่วยบอกผมมาเลย อาป๊าผมซ่อนปืนไว้ตรงไหน ผมรู้” โห ไอ้น้องข้างบ้านไอ้ไม้ นี่มันได้ใจพวกผมอย่างแรง

“อย่าเลย เด็กอยู่ พวกที่จัดการกันเองดีกว่า แต่ว่าต้องวางแผนเล่นงานมันดีๆ เอาให้เจ็บจนจุก “ ไอ้หวานทิ้งท้ายได้น่าขนลุกมาก

“แล้วเราอ่ะ เย็นมากแล้วไม่กลับบ้านรึไง เดี๊ยวที่บ้านเป็นห่วง” ไอ้ไผ่น้องชายปริศนาข้างบ้านไอ้ไม้ครับ ดูน้องมันเป็นห่วงไอ้ไม้มากมาย แต่ผมจำได้ว่าไอ้ไม้ไม่เคยพูดถึงนะ เอ๊ะ!! หรือว่ามันมีอะไรปิดบังพวกผมอยู่

“โอ้ย ผมเป็นผู้ชายนะพี่ ไม่ต้องมีใครมาเป็นห่วงหรอก คืนนี้ผมก็ว่าจะนอนเฝ้าพี่ไม้ นี่ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย”

“เซี้ยวนะเราอ่ะ จะนอนเฝ้าทั้งชุดทหาร ทั้งคอมแบท อย่างงี้อะเหรอ” ไอ้หน่ามันไม่ได้ถามอย่างเดียวนะครับ มันนิ่วหน้าอยด้วย ไอ้หน่าไม่เคยเก็บอาการเล้ยยยย
“หูยยย ชุดนี้นะ หนักแล้วก็อึดอัดจะตาย ใครจะใส่นอนได้พี่ ผมมีชุดเตรียมไว้ในเป้ ผมตะลอนนอนบ้านเพื่อนบ่อยอยู่แล้ว มีติดเป้ไว้ตลอดแหละ” น้องปลื้มบรรยายซะไอ้หน่าไปไม่ถูกเลยครับ

“ร้ายนะเราเนี่ย ตอนแรกเห็นเงียบๆ เรียบร้อย ไม่คิดว่าจะซ่าขนาดนี้ จริงๆแล้วคืนนี้มีพี่ๆเค้านอนเฝ้าพี่ไม้อยู่แล้ว แต่ถ้าเราอยากนอนด้วย พี่จะไปเอาถุงนอนในรถมาให้ จะได้ไม่ต้องไปเบียดกับไอ้หมีควายพวกนี้ “ ผมเสนอด้วยความใจดี รู้สึกถูกชะตาในความสดใสของเด็กข้างบ้านคนนี้ของไอ้ไม้อยู่ไม่น้อย

“ขอบคุณครับพี่เมฆ รักกับพี่ฉานไปนานๆนะครับ” เอ้าไอ้นี่ ชมอยู่แหมบๆ ลามปามแล้วมั้ยหละ ผมอยากเอานิ้วดีดปากแดงๆที่ พล่ามออกมาตอนนี้ชะมัด

“รู้เยอะนะเราอะไร รู้อะไรแค่ไหนเนี่ย” ผมซักไอ้เด็กกะล่อนนี่ต่อ

“ก็รู้เท่าที่พี่ไม้รู้แหละมั้ง ไม่แน่ใจ ไว้พี่ถามพี่ไม้แล้วกัน แต่เห็นที่พี่ฉานซักพี่เมื่อกี้แล้ว ผมก็เข้าใจ ว่าพี่ไม้เล่าไม่เกินไปจริงๆ”

โห ไอ้ไม้ มึงฟื้นขึ้นมาตอนไหนนะ กูจะกระทืบให้สลบต่อเลยมึง เอาเรื่องเพื่อนไปขาย

“ยังไงวะที่ว่าไอ้ไม้เล่าไม่เกินไปหนะ” ไม่ใช่เสียงพี่เมฆนะครับ เป็นเสียงไอ้ฉานต่างหากหละ

“ก็ตรงที่ว่า พี่ฉานขี้หึง ขี้หวง ขี้ห่วง พี่เมฆมาก ทั้งๆที่พี่เมฆก็ธรรมดาจะตาย แต่พี่ไม้มันพูดผิดอยู่เรื่องนึงนะครับ ที่ว่าพี่เมฆธรรมดา ผมว่าพี่เมฆอ่ะ หล่อแล้วก็น่ารักมากกกเลยนะครับ พอมาเจอตัวจริงเลยไม่แปลกใจ” ไอ้ฉานไม่ได้พูดอะไรต่อ หลังจากที่น้องปลื้มตอบคำถามจบ นอกจากยักคิ้วกวนตีนผม......ยักคิ้วใส่กูทำไม กริ้วกูอยู่ไม่ใช่เหรอ เป็นไงหละมึง น้องบอกว่ากูหล่อมากเชียวนะ ผมยักคิ้วยียวนกวนตีนมันกลับ....ไม่ใช่ไม่กลัวมันนะครับ แต่เพื่อนอยู่กันเยอะ ไอ้ฉานไม่กล้าทำอะไรผมหรอก...แต่กลับห้องผมต้องอยู่ในสภาพไหน อย่าไปคิดต่อนะครับ...อนาคตยังมาไม่ถึง...T_T

“เฮ้อ ถ้าน้องรู้จักมันไปนานๆ น้องก็จะรู้ว่า ไอ้เมฆมันมีดีที่หล่ออย่างเดียวแหละครับ” อ้าวไอ้แกละ มึงพูดแบบนี้ มึงด่าลูกพี่มึงว่าตาต่ำเลยดีกว่า

“แกละๆ พอๆ ชักเยอะแระ เมียกู กูวิจารณ์ได้คนเดียว เข้าใจ๋” ไอ้ฉานมันเดินไปจิ้มหน้าผากไอ้แกละแค่เบาๆนะครับ แต่ไอ้แกละมันโอเวอร์แอคเอาใจลูกพี่ หงายหลังหัวแทบคะมำ สมน้ำหน้า.....!!!!   ก่อนที่ไอ้ฉาน จะเดินมาโอบไหล่ผม ตกใจเบี่ยงตัวหนีสิครับ มีน้องข้างบ้านไอ้ไม้ยืนมองพวกผมตาแป๋วอยากรู้อยากเห็นอยู่ด้วยขนาดนั้น   ถ้ามันเล่นพิเรนท์หอมแก้มโชว์น้องข้างบ้านไอ้ไม้นะ ผมนี่แหละจะกระทืบไอ้ฉานโชว์

“เอากุญแจรถมา กูจะไปเอาถุงนอนให้น้อง” ผมศอกพุงแน่นๆของมันไปทีนึง หมั่นไส้

“มึงปล่อยเมียให้ไปผจญโลกภายนอกได้แล้วเหรอวะฉาน ระวังเทศบาลเก็บผิดไปนะมึง” ไอ้หน่ากับไอ้แกละมันแตะมือกันทันทีที่แขวะไอ้ฉานจบครับ ลูกสมุนไอ้ฉานแปรพักต์กันเห็นๆ

“เออ ไปได้แล้ว ไม่มีอะไรแล้วนี่ ซื้ออะไรมากินด้วยก็ดีนะเมฆ กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะเว้ยที่รัก” ไอ้ฉานมันยังไม่วายหันมากวนตีนสั่งนู่นวั่งนี่กับผม

“ไม่ลงไปกินเป็นเรื่องเป็นราวเลยวะ ซื้อมานี่กูไม่ต้องเหมา เซเว่นมาเลยเหรอวะ พวกมึงอยู่กันตั้งกี่ชีวิต” ผมโวยครับ อยู่กันเยอะขนาดนี้ ซื้อมาให้ทุกคนนี่แขนพี่เมฆหย่อนถึงพื้นแน่ๆ

“เฮ้ย เดียวไอ้ไม้ตื่นมาไม่เจอใคร กูว่าสั่งพิซซ่า หรือสั่งอะไรง่ายๆมากินก็ได้มั้ง เค้าให้มาส่งในโรงบาลมั้ยหละ” ไอ้ยอนออกความเห็นที่ดูจะเป็นประโยชน์ขึ้นมา

“งั้นก็ตามนั้นนะ สั่งเผื่อกูด้วย เดี๊ยวกูมา”

ระหว่างทางไปที่จอดรถผมเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ผมคิดตามคำพูดไอ้ไผ่ ว่าจริงๆแล้ว ไอ้สารเลวอาทอะไรนั่น มันจ้องจะกระทืบผม แต่พลาดท่าไปโดนไอ้ไม้ ที่วันนั้นผมกล้าขัดขืนเรื่องที่มันวิปริตมากระชากจูบจากผมไปแล้วผมไม่ให้มันดีๆ มันเลยแค้นใจ แต่จะว่าไปมันก็รู้จักหน้าผมแล้วนี่ เป็นไปได้ยังไงที่มันจะกระทืบผิดคน ผมเดินออกจากลิฟท์ เลี้ยวไปที่จอดรถ กำลังคิดอะไรเพลินๆ

“จะไปไหน รู้มั้ย ว่ารอตั้งนาน” มีมือปริศนา มาดึงแทนผมจากทางข้างหลัง

แต่แค่ได้ยินเสียงผมก็รู้แล้วว่าใคร ผมสะบัดแขนอย่างแรงจนหลุดจากการจับกุมของไอ้อาทได้ในที่สุด
ผมลูบแขนตรงรอยที่มันจับ แสดงออกให้รู้ว่ารังเกียจสัมผัสนั้นจนเข้าใกล้ขยะแขยง

“อะไร แค่นี้รังเกียจเหรอ จูบก็รังเกียจ นี่จับมือเฉยๆก็รังเกียจเหรอ รู้มั้ยว่ารอนายอยู่ตั้งนาน” กูไม่ได้รังเกียจ แต่กูขยะแขยง

“รอกูทำไม กูคงไม่มีอะไรให้มึงต้องรอหรอกมั้ง หรือเกิดสำนึกว่าอยากกราบตีนเพื่อนกูขึ้นมา เอามั้ยหละ กูจะพาไป”

“ไม่เอาสิ พูดกับอาทเพราะๆหน่อย อุตส่าห์มายืนเมื่อยขารอ อยากเห็นหน้า แล้วมาเจอตัดเยื่อใยแบบนี้เหรอ” มันแกล้งทำสายตาละห้อยพูดกับผมทอดเสียงอ่อย แต่ผมไม่หลงกลมันหรอกครับ

“ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย กูไปแล้วนะ รีบ” ผมหาทางปลีกตัวออกมาจากคนตรงหน้า ไปจากที่นี่เร็วที่สุดเท่าไหร่ยิ่งดี

“เดี๋ยวสิ” ไอ้เชี่ยอาท จับแขนผมเอาไว้ (อีกแล้วนะมึง) ผมมองหน้ามัน ไม่พอใจ

“ปล่อย” ผมกัดฟันพูด เริ่มจะอดทนต่อไปไม่ไหว
“ถ้าเรื่องเพื่อนนาย อาทขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นายยกโทษให้อาทได้มั้ย” มันปล่อยมือผม พร้อมกับอ้อนวอนขอความเห็นใจกันง่ายๆ

“เห็นทีว่ากูจะให้มึงไม่ได้หรอกวะ เพื่อนกูปางตายขนาดนั้น มึงบอกว่าไม่ตั้งใจ ถ้าตั้งใจ เพื่อนกูไม่ตายไปแล้วเหรอ”

“แล้วอาทต้องทำยังไง นายถึงจะพูดด้วยดีๆ เหมือนที่นายพูดกับเพื่อนนายคนนั้น”

“เพื่อนคนไหน กูพูดดีกับเพื่อนทุกคน ที่พูดไม่ดีด้วยอ่ะมีแต่คนที่กูเกลียดมากๆเท่านั้นแหละ ส่วนเรื่องต้องทำยังไง กูไม่รู้หรอก คนที่ให้คำตอบมึงได้ คือเพื่อนกูที่นอนเจ็บอยู่บนเตียง แต่ทางที่ดี มึงกะกูต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ”

จะว่าผมตัดเยื่อใย ผมก็ยอมรับนะครับ แต่คนใจดำขนาดนี้ มาเป็นเพื่อนเป็นคนรู้จักผมไม่ได้หรอกครับ

“อาทพูดดีๆกะนายแล้วนะ อย่าบีบบังคับให้ต้องใช้ความรุนแรงได้มั้ย มันจะพินาศกันทุกฝ่ายนะ”

“มึงพูดเรื่องอะไรของมึง กูไม่เข้าใจ “ ผมสงสัย แล้วผมก็ต้องได้คำตอบ

ขู่อะไรมา อย่าคิดว่าคนอย่างพี่เมฆจะกลัว ตาต่อตา ฟันต่อฟัน  ก็เหมาะกันดีแล้ว

ยังไม่ทันที่ไอ้บ้ากวนประสาทนั่นมันจะตอบคำถามอะไรให้ผมหายสงสัยมันก็ต้องปลีกตัวไปรับโทรศัพท์ที่ฟังจากเสียงเรียกเข้าแล้ว คนโทรมาต้องเป็นผู้หญิงในฮาเร็มของมันแน่ๆ ผมเลิกสนใจจะอยากรู้คำตอบ สำหรับผมแล้ว ยังไงก็ได้ ผมเดินไปเอาของท้ายรถ ที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ก็ต้องชะงักมือไว้แค่นั้น



“ครับ ครับ อันดาพี่อาทรับช้าที่ไหนครับ นี่พอโทรศัพท์ดัง พี่อาทก็รีบรับเลยนะ ดีใจแค่ไหนรู้มั้ย ที่ ที่รักโทรมาอ่ะ คิดถึงอันดาจะตายอยู่แล้ว”

เอ๊ะ เสียงรับโทรศัพท์ ของไอ้บ้านั่นที่ผมได้ยินแว่วๆ ว่าผู้หญิงที่โทรมา ชื่ออันดา
โลกคงไม่กลมไปกว่านี้แล้วใช่มั้ย...คนชื่ออันดาคงไม่ได้มีคนเดียวในประเทศไทยแน่
หวังว่า พระเจ้าคงไม่เล่นตลก ทำร้ายชีวิตผมมากไปกว่านี้แล้วนะครับ
พระเจ้าครับ ผมขอร้อง!!!!!!
 
 
------> กลุ้มใจคนอ่านรู้ทันไปหม๊ดดดดดด..... :z3: :z3: :z3:
------>พี่ยู แม่ยกเมฆ-ฉาน หายไปนานกลับมาแล้ว ปรบมือต้อนรับ  :mc4: :mc4:
------>ส่วนคนกันเองที่แอด FB มา ตอนแรกคิดว่าเป็นหนุ่มน้อยวัยใส หัวใจหลั่นหลั่นล้า ที่ไหนได้ กลายเป็น หนุ่มใหญ่วัยใกล้ฝั่งเสียนี่....หน้าแตกเรียกน้องไปแล้ว แว๊กกกก!!!! สุดแสนอับอาย  :sad4: :sad4:
------> นี่รีบปั่นตอนตอไปมือสั่นเลยนะ เดี๋ยว anterosz จุดธูปเรียกมากไป ไฟจะไหม้เล้า...แอดมินเอาระเบิดมาปาบ้านคนเขียนแน่ๆ

๐ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้เหมือนเดิมนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณค่ะ...... o1
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ ๐..... o14  o15

๐ใครที่มองไม่เห็นชื่อตัวเอง ในป้ายขอบคุณดิ้นได้ ยกมือลงชื่อไว้นะ....จะได้แอดใหม่ให้ค่ะ คนเขียนจะเก็บแฟนคลับเมฆฉานไว้เป็นที่ละลึก๐  :กอด1:

(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
=====================
 :z3: งานเข้าพี่เมฆชุดใหญ่เลย น้องสาวคนงาม อยาก :beat: ช่างหาเรื่องดีแท้ คบใครไม่คบ
อย่าบอกนะว่างานนี้ พี่เมฆจะปิดพี่ฉานแล้วยอมใอ้เชี้ยนิ

 :beat: คนแต่งไม่ชอบฉากแบบนี้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 10-06-2010 16:45:36
ไรท์เตอร์ครับช่วยจัดการไอ้อาทออกไปสักทีได้ไหมครับ

เห็นแล้วอยาก :z6:และเข้าไป :beat:ใหมันตายคาที สาระเลวได้ที่
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 10-06-2010 16:52:48
รู้ไหม...ความลับไม่มีในโลกนะ เหอๆๆ


และหวังว่าน้องสาวคงไม่โง่นะ  :z3:


งานเข้าหลายต่อจังเนาะ แล้วอย่าคิดว่าจะปิดพี่ฉานได้นะจ๊ะน้องเมฆ o3


เป็นกำลังใจให้เคอะ  :กอด1: :จุ๊บๆ:


ปล.จะมองรู้เรื่องไหมคะนี่ว่ามีชื่อไออยู่ไหม ทั้งทับซ้อนกันทั้งตัววิ่งเร็วปานนั้น  :try2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 10-06-2010 17:00:35
คึคึ สุดท้ายงานก็เข้าอีกจนได้นะพี่เมฆ  :serius2:

ไหนจะเรื่องของ พี่ไม้ ตัวเอง แถม อันดาอีก :a5: o22

อาทคงไม่บังเอิญรู้ว่า อันดาเปนน้องของพี่เมฆหรอกนะ :z3:

ว่าไปแล้ว พี่เมฆเสน่ห์แรงใช่ย่อยกับเพศเดียวกานอะ คิคิ :mc4: :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 10-06-2010 17:10:41
กรูว่าแล้วววววววววววววววววววววววววววว
ว่ามันต้องเป็นคนเดียวกันกับแฟนน้องอันดา
แล้วนี่เมฆจะรอดเงื้อมมือมันมั๊ยเนี่ยะ  มาคนเดียวด้วย
พี่ฉานสังหรณ์ใจหน่อยเร๊ววววว  รีบ ๆ มาตามเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 10-06-2010 17:19:25
เมฆ แย่แน่

 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 10-06-2010 17:52:05
ฆ่ามานนนนนนนนนนน  :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 10-06-2010 17:54:29
งานช้าง จะเข้าน้องเมฆ อย่างไม่ทันตั้งตัวมั้ยเนี่ย

 :serius2:

ป๋อล๋อ ... เหมือนจะยังไม่มีชื่ออยู่ในตัววิ่งอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 10-06-2010 18:10:01
 o22 ตกกะใจ งวดนี้มาต่อเร็วจัง
ว่าแต่น้องอันดาทำไมถึงไปคบผู้ชายแบบอิตาอาทได้ล่ะเนี่ย ย ย ย (ความรักทำให้คนตาบอดจริงๆ  :z3:) หวังว่าพี่เมฆจะไม่ซวยไปมากกว่านี้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 10-06-2010 18:18:33
ถือว่าเป็นบทพิสูจน์รักครั้งใหญ่ของพี่ฉานกับพี่เมฆแล้วกันนะ   
แต่พี่เมฆน่าจะรูว่า เป็นพี่ฉานไป ถ้าพี่ฉานมารู้ทีหลังอ่ะ   แล้วไอ้อาทคงต้องทำอะไรกับพี่เมฆ แน่ๆ
ไอ้สาดดดดดดดดบก อาท ก็แรง  ส่วนพี่ฉานก็ร้อนอีก  ฮ่วยยยยยยยยยยยยยยยย
เป็นพี่เมฆนี่ลำบากจริง  ยังเรื่องน้องอันดาอีก 
 :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 10-06-2010 18:40:59
ไม่นะ อันดา
อิพี่เมฆเอ๋ย ถ้าพี่ฉานมาเห็นตอนนี้จะทำยังไง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 10-06-2010 18:57:24
เรื่องชักจะยุ่งอิลุงตุงนัง เพราะนายอาทคนเดียวนะเนี่ย

ปล.น้องข้างบ้านไม้ชื่ออะไรนะคะ???
ปล.๒ มองไม่ทันคะว่ามีชื่อด้วยรึเปล่า มันเล็ก และวิ่งเร็วมากๆ แต่หลังจากเพ่งหลายที คิดว่าไม่มีนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 10-06-2010 19:16:56
สวรรค์ลงทัณฑ์ หนักไปหน่อยไหม?? สงสารเมฆ เฮ้อ!!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 10-06-2010 19:32:09
 :serius2: :serius2: ทำไมโลกมันกลมแบบนี้
นายอาทนี้ จะมายุ่งทั้งอันดาทั้งพี่เมฆเลยใช่มั๊ย  :m16:

ฉาน ฉานอยู่ไหน รีบมาช่วยพี่เมฆเร็วเข้า
+ ค่ะ เรื่องชักจะยุ่งกันใหญ่ รอลุ้นตอนต่อไปนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 10-06-2010 19:32:48
โห๋ งานนี้พี่เมฆเครียดตายแน่ ไหนจะเรื่องสามีสุดที่รัก  :L2:
น้องสาวสุดที่รัก  :L2:
แล้วก็ยังมีศัตรูคู่แค้นตัวใหม่ที่พยายามจะยัดเยียดตัวเองเข้ามาตลอดเวลาแบบนี้ เฮ้ออออ  :เฮ้อ:

พี่ฉานแสงแรงกล้าจะทำไงดีเนี่ย เผามันด้วยแสงอาทิตย์เลยดีกว่ามั๊ย  :m28:

ไม่ดีกว่า เอาแบบนี้ดีกว่า ให้พี่ฉานไปเกณฑ์คนงานก่อสร้างที่บ้านมารุมโทรมไอ้ยาฆ่าแมลงสาบดีกว่า สะใจกว่าเยอะ  :m20:

รอตอนต่อไปคร้าบบบบ  o13 o13 o13

PS. ขอบคุณ TRomance ที่รีบปั่น แล้วก็น้องเซ ที่รีบเอามาลงครับ  :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 10-06-2010 19:38:41
พันกันได้อีก คู่ไหนอารายยังไงสับสนไปหมดแล้ว :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-06-2010 20:28:13
เอิ่ม ไอ้อาท...แกจะทำไรของแกเนี่ย :serius2:
ลุ้นอ่าาา...พี่เมฆจะทำยังไงต่อไป ถ้าอันดาของไอ้อาท คืออันดาของพี่เมฆ o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 10-06-2010 20:33:34
ตาอาทนี่ขยันหางานมาให้พี่เมฆซะจริง  :m16:
เห็นแล้วมันน่า..  :z6:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 10-06-2010 20:50:06
ตกลงว่าเมิงวางแผนมาตั้งแต่ต้นแล้วใช่ป่ะไอ้เชี่ยอาท :angry2: แปลว่าพี่เมฆเป็นเป้าหมายของเมิงมาตั้งแต่ต้น อันดาเป็นแค่ทางผ่านพาเมิงให้ได้เข้าใกล้พี่เมฆมากขึ้นแค่นั้น ตกลงเมิงไปตกหลุมรักแรกพบพี่เมฆตอนไหนเนี่ย ท่าจะลงทุนกับเรื่องนี้แบบทุ่มสุดตัวเลยนะเมิง งานซุปเปอร์ช้างเข้าพี่เมฆแหล่ะ งานหนักของพี่ฉานด้วย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 10-06-2010 21:48:09
เข้ามาให้กำลังใจพี่เมฆกะสามี
และนอนรอตอนต่อปายยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 10-06-2010 22:21:46
น้องเมฆงานเข้าอย่างต่อเนื่อง  เป็นกำลังใจให้พี่ฉานกับน้องเมฆ 
ปล. รักษาสุขภาพค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 10-06-2010 22:34:48
เริ่มเครียดหนักกว่าเดิมแหละ แค่ไอ้นรกนั้นมาจูบพี่เมฆ แต่พี่เมฆไม่ได้บอกพี่ฉาน

ก็เครียดอยู่แล้ว ดั๊นมาเป็นแฟนกับน้องพี่เมฆได้ โอ้ยยยยย ฆ่าเราซะเหอะ

 :m31: แต่ก่อนอื่น เอาไอ้นรกอาร์ทนั้นออกไปจากเรื่องนี้โดยด่วนนนน  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 10-06-2010 23:02:18
อันดา ท่าทางจะหาเรื่องให้พี่เมฆอีกแล้ว
โอ้ยยย ไม่ชอบคนที่ชื่ออาทนี่จริงๆๆๆๆ
นิสัยเสียสุดๆไปเลยค่ะ ชิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 10-06-2010 23:36:17
เพิ่งตามมาอ่านจ้า  พลาดได้ไงฟ่ะเนี่ย

น้องฉานเนี่ย ขึ้หึง ขี้หวงที่สุด  แต่เป็นพระเอกในอุดมคติเค้าเลย 

ชอบๆๆ พระเอกขึ้หึงเนี่ย กร๊ากกกกกกกกกก

น้องเมฆเอ้ย  อ่านตอน 35 แล้ว 

ทฤษฎีโลกกลมแน่ๆเลย  อันดาคนเดียวกันนั่นล่ะ

กลุ้มใจแทนน้องเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 11-06-2010 01:05:00
สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 11-06-2010 02:01:16
งานเข้าพี่เมฆ
โห้โลกกลมมากกกกกกกกไอคุณอาทมันจะมาไม้ไหนเนี้ยไม่ชอบผู้ชายร้ายๆแบบนี้เลยน่ากลัว
น้องอันดาจ๋าอย่าไปหลงคารมคนเลวนะไอนี้มันชั่วมาก
ฉานมาตามเมียเร็วๆจะโดนฉุดแว้ว
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าค่า
มายกมือว่าเป็นคนอ่านหน้าใหม่ค่า\^0^/
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 11-06-2010 07:20:01
มาไวเซอร์ไพร้ส์แม่ยกนะคนแต่ง ไวแบบนี้คนอ่านชอบ
ขอบคุณคนแต่งคนโพสจ้ะ :L2:
อาทจะเป็นพระยาเทครัวยุคใหม่เหรอเนี่ยกะรวบทั้งพี่ทั้งน้องเลย :m16:
นายฉานรีบมาช่วยตะเภาแก้วตะเภาทองเร็วผิดเรื่องเมฆกะอันดานิ:เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 11-06-2010 09:10:29
 :z13:  จิ้มพี่ยูด้วยฟามคิดถึง   :กอด1:

โหยๆๆ งานนี้ต้องเอาให้หนัก  อย่าให้ไอ้เชี่ยอาทรอดไปได้นะ  ตื้บมันให้ฟามจำเสื่อมเลย  :z6:




ปล .  :m31: :m31: :m31: พ่นไฟใส่ไรท์เตอร์  :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 11-06-2010 13:02:37
พี่เมฆคิดผิดนะที่ปิดไอ้คุณชายฉาน......
เพราะถ้าคุณชายฉานรู้อย่างดีก้อทำพิธีล้างพิษเท่านั้น.....
โลกมันกลมอยู่แล้ว.....ใคร ๆ ก้อรู้.....พี่เมฆทำใจเหอะ... :เฮ้อ:

กด+ ให้พี่เมฆ กะ ไอ้คุณชายฉานค่ะ 
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-06-2010 15:52:21
เฮ้อ เมฆเอ๋ยเมฆ เจ้ากรรมนายเวรแกนี่ เฮี้ยน มากจริงๆๆ
บอกอิพี่ฉานดีกว่านะ ยิ่งแก้ปัญหาเองดูจะยิ่งยุ่งมากขึ้นนะนั่น
นี่ถ้าอิพี่ฉานมันรู้เรื่องนะ อิศวรก็อิศวรเหอะ อวตารใหม่แน่ๆๆ  :freeze:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 11-06-2010 17:36:24
งานเข้าเลยน้องเมฆ
นี่ยังมาทำให้น้องอันดารักหลงอีก
ยังต้องเจอไปอีกนาน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 11-06-2010 19:14:05
เกลียดไอ่อาท

พี่เมฆงานเข้าอีกแล้ว คราวนี้มีหนูอันดามาเกี่ยวด้วยหละสิ

อันดาน้องพี่เมฆแน่ๆเลย

ถ้าพี่ฉานรู้เรื่อง คงไม่เอาไอ่อาทไว้แน่ 

อยากให้พี่ฉานมาฆ่ามันเร็วๆ  ฆ่ามันๆ  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 12-06-2010 10:43:27
เข้ามารอดูดวงตะวันแผดเผายาฆ่าแมลงสาบ อิอิอิ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 12-06-2010 17:15:41
รอๆต่อไปขอรับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 12-06-2010 22:21:06
 :z3: กะแล้วเชียว งวดนี้
ไออาท แฟน อันดาาา
ทำม๊ายย ทำมาย อันดา มันไม่หัดเลือกคบแฟนฟ่ะ
เครียดแทนพี่เมฆ
งานเข้าทั้งตัวเอง ทั้ง น้องง เวร ของกรรม
 :fire: โกรธ

ไอหมา บ้า อาทททททท


 :กอด1: คนแต่ง คนโพสต์

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 13-06-2010 11:20:22
ไปกันใหญ่แล้ว เอาไงเนี่ย

ว่าแต่ ไม้นี่ตกลงแอบซุกเด็กไว้ไม่บอกใครใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 35 ,10 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 14-06-2010 00:03:58
หล่นหน้าแล้ววว ขอดันนะคร้าบบบ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 14-06-2010 19:56:40
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 36
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)
ผมแหงนหน้ามองฟ้า สูดหายใจลึก หวังให้อากาศบริสุทธิ์เข้าไปแทนที่ช่องว่างในปอด

อะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด ความจริงข้อนี้ ผมน่าจะรู้ดีและชินกับมันมาตั้งนานแล้ว
ผมรีบคว้าของที่ต้องการท้ายรถเร็วๆ หวังจะพาตัวเองไปให้ถึงห้องวีไอพีของโรงบาลให้เร็วที่สุด

โอกาสดีของผมยังมีอยู่บ้าง

ที่ร่างของไอ้บ้านั่นค่อยๆ ห่างออกไปจากที่ผมยืนอยู่เรื่อยๆ พร้อมโทรศัพท์ที่ยังแนบหู
ต่อให้อยากรู้แค่ไหน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมควรรู้ การเดินตามเพื่อไปดักฟังคนคุยโทรศัพท์นั้น
ไม่ใช่พื้นฐานนิสัยของผมแน่ แล้วอีกอย่าง คนที่ผมอยากจะเดินตามเพื่อถามความจริงนั้น
เสือกเป็นบุคคลที่ควรประทับตรา WARNNING ซะด้วยสิ



“ เป็นอะไรไอ้เมฆ ทำหน้ายังกะโดนใครดูดวิญญาณมา” เสียงไอ้ไผ่ที่ง่วนอยู่กับการเตรียมของกินตรงเคาน์เตอร์แพนทรีถามผม

“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร กูเหนื่อยเฉยๆ” ผมตอบไอ้ไผ่ ก่อนจะวางถุงนอนพิงไว้ใต้เคาน์เตอร์

“แนะนำว่า ให้มึงเข้าไปล้างหน้าล้างตาก่อนไปพบหน้าสามีมึงนะเมฆ กูจะบอกว่าไม่เนียนอย่างมากกับคำตอบเมื่อกี้ ผัวมึงซักยาวแน่ ถ้าเจอมึงสภาพนี้อ่ะ “ คำก็สามีสองคำก็ผัว ถึงผมอยากจะเข้าไปดีดปากแค่ไหน แต่ก็ยังสำนึกได้ว่ามันเตือนด้วยความหวังดี

ผมทำตามที่ไอ้ไผ่แนะนำแบบเชื่องๆ ในเมื่อมันบอกว่าล้างหน้าล้างตาแล้วจะปิดบังความกังวลในใจผมให้เนียนขึ้น
ผมก็ยินดีทำ ไอ้ไผ่พูดถูกทุกอย่าง ถ้าไอ้ฉานมันจับได้ แล้วเอาผมไปซักไซร้ไล่เรียง ผมเองก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ว่า เรื่องทุกอย่างที่มันอัดอั้นอยู่ในใจผมจะพรั่งพรูออกไปทุกเรื่องไม่มียั้งอย่างแน่นอน

แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น........นรกแตกโดยไม่ต้องสงสัยแน่ๆ

ผมเดินออกมาเห็นไอ้ไผ่ จัดหมวดหมู่อาหารได้น่าปวดหัวมาก นี่มันมีงานจัดเลี้ยงหรือไงวะ อะไรมันจะมากมายขนาดนี้

“ไผ่ สั่งอะไรมากินกันวะ ไมมันแยะแยะ แล้วปนกันสับสนไปหมดงี้อ่ะ” ผมถามหลังจากที่กวาดตาไปทั่วทุกอณูพื้นที่เคาน์เตอร์ ไม่มีที่ว่างนอกจากเป็นที่วางของกินทั้งหมด

“ก็จะอะไรหละ พอมึงออกความเห็นว่าให้โทรสั่งอะไรง่ายๆมากิน ไอ้ยอนมันก็อาสาจะโทรสั่งแล้วลงไปเอาให้ใช่มั้ย”

ผมพยักหน้า ให้มันรู้ว่าผมฟังมันอยู่อย่างตั้งใจ
“แล้วทีนี้ก็ถามว่าจะให้สั่งอะไร พิซซ่า แมค เคเอฟซี MK คือกูก็ร่ายมาทุกยี่ห้อที่มันส่งให้อะนะ แล้วมึงก็รู้ว่าพวกเพื่อนๆเราแมร่งไม่ปกติคนกันอยู่แล้ว ไม่มีใครสรุปได้ว่าจะสั่งอะไรใช่ป่ะ พอมีคนเสนอว่าให้สั่งพิซซ่า อีกคนก็บอกว่า ไก่ก็อยากกิน แฮมเบอร์เกอร์ก็อยากกิน เถียงกันไม่จบไม่สิ้น บทสรุปเลยออกมาอย่างที่มึงเห็นเนี่ยแหละ” ไอ้ไผ่อธิบายเสียจนผมเห็นภาพความวุ่นวายในเวลานั้นเลยครับ บรึ๋ยยย!!!

“พวกมึงเลยสั่งมันมาทุกอย่างเนี่ยนะครับ ควาย “ ผมอดไม่ไหวที่จะชื่นชมมันด้วยถ้วยคำเสียดสีเล็กน้อยตามนิสัยที่ติดมาแต่กำเนิด
“เออ มึงจะโทษใครก็ไปโทษผัวมึงเลยนะ ผัวมึงนั่นแหละเป็นคนตัดสินใจว่าในเมื่อสรุปไม่ได้ก็สั่งมาทุกอย่างเลยแล้วกัน พวกกูจะไปเถียงอะไรได้ ทั้งหมดเนี่ย เงินมัน พวกกูอ่ะมากันแบบรีบๆ ไม่มีใครพกเงินมาเยอะขนาดสั่งพวกนี้ได้สักคน”
ไอ้ไผ่ มันสมควรกินน้ำตาแทนข้าวจริงๆนะ หลอกให้ผมแอบค่อนด่าไอ้ตัวต้นคิดเรื่องสั่งทุกอย่างอยู่ได้ ทำไมไม่บอกแต่แรกว่าความคิดไอ้ฉาน ไอ้ไผ่นี่มันสันดานจริงๆ
“มึงนี่โชคดีนะเมฆ ไอ้ฉาน นอกจากเรียนเก่ง หน้าตาดี กีฬาเยี่ยม เปี่ยมอุดมการณ์ แล้วยังใจป๋า ด้วยนะ เสียอย่างเดียว ตาต่ำมาเลือกมึงเนี่ยแหละหวะ” ผมกำลังพับแขนเสื้อ เข้าคลุกวงในสั่งสอนไอ้ไผ่ ที่มันปากเสีย แต่ฟ้ายังปราณีไอ้ไผ่อยู่บ้างที่ส่งกรรมการห้ามมวย เป็นคนที่พวกผมกำลังพูดถึงอยู่พอดี
“อะไรไอ้เชี่ยไผ่ เอะอะโวยวายนินทาอะไรกู ไอ้มาจัดของกินแค่นี้ อ้าวเมฆ กำลังจะลงไปตามอยู่พอดี ไปเอาถุงนอนแค่นี้มึงไปทำไมตั้งนานวะ” ไอ้ฉานมันใส่ไอ้ไผ่เป็นชุดไม่เท่าไหร่ แต่พอหันมาแล้วพบว่ามีผมอยู่ด้วย มันเลยเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ผมแทนนี่สิ

แย่ แย่ แพ้สายตาคมคู่นั้นทุกที จะมองสำรวจอะไรกูหนักหนา ตั้งแต่หัวจดเท้า ทำยังกะไม่เคยเห็นไปได้ ไอ้หน้ากูปรีหนีน้ำ


“ทำปากขมุบขมิบอะไร แล้วทำไมหน้าซีดๆ ไหนมาดูดิ๊” ไอ้ฉานสาวเท้ามาประชิดตัวผมในชั่วเวลาแค่ได้หายใจเข้าแต่ยังไม่ทันได้หายใจออก มือมันก็จับข้อมือผมแล้วอะ แล้วตัวผมก็ต้องปลิวตามแรงดึงของไอ้บ้าพลังตรงหน้า มาที่โซฟามุมห้อง

ไอ้ห้องรับรองญาติของโรงพยาบาลนี้ อะไรก็ดีหมดยกเว้น ห้องนี้มันกว้างเกินไปสำหรับผม สำหรับนาทีวิกฤติแบบนี้ แล้วก็จะมีเฟอร์นิเจอร์เยอะไปไหน โซฟาตั้งสองชุดสามชุด ไอ้ฉานพาผมมาจับจองโซฟาคู่มุมห้องด้านซ้ายติดระเบียง จะว่าเป็นมุมส่วนตัวก็ส่วนตัว เพราะตอนนี้ ไอ้ฉานมันเอาตัวมันเองบังสายตาผมจากเหล่าเพื่อนฝูงเสียมิดชิด อยู่ในบริเวณเดียวกันแต่ไอ้ฉานก็สามารถสร้างบรรยากาศให้เสมือนโลกนี้มีแต่ผมกับมันแค่สองคนได้ ผมชื่นชมมันจากใจจริงๆนะเนี่ย

เพื่อนฝูงลิงทั้งหลายก็ดูจะเป็นใจ แย่งชิงของกินกันแบบไม่สนใจเลยว่า มุมห้องกำลังจะมีเพื่อนอีกคนตกอยู่ในอันตรายขนาดไหน พวกมันดูจะเต็มใจที่จะสนใจของกินตรงหน้า แล้วทำเหมือนกับว่าผมและไอ้ฉานเป็นอากาศธาตุสำหรับพวกมันเสียอย่างนั้น จะมีที่สนใจอยู่บ้างก็แค่เด็กข้างบ้านไอ้ไม้ ที่สนิทกับพวกผมอย่างรวดเร็วมองมาด้วยความสงสัยเป็นระยะ ไม่นานน้องปลื้มก็ปรับตัวได้ สนใจของกินต่อไป ไม่สนใจผมกับไอ้ฉานอีกเลย

“เมฆเป็นอะไร หน้าตามึงดูไม่ดีเลยนะ” คำถามแรกผมต้องตอบแบบไหนถึงจะดีนะ

“ไม่ดียังไงเหรอ” มันเป็นเทคนิคยืดเวลา ที่ผมงัดเอามาใช้ ในช่วงที่ต้องเรียบเรียงคำพูดอย่างหนัก

“ก็ดูออกว่ามึงกำลังมีเรื่องหนักใจอยู่ก็แล้วกันอ่ะ มีอะไรบอกมา” มันก็ยังเป็นไอ้ฉานที่ยังไงก็อ่านผมออกอยู่วันยังค่ำ
“หน้ากูบอกขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ผมเอามือลูบหน้าตัวเอง เหมือนกับว่า ใบหน้าผมมีฉลุลายอักษรเบลล์ยังไงยังงั้น
“กับคนอื่นกูไม่รู้ แต่กูดูออกตั้งแต่แรกเห็นเลยอ่ะ” มึงจะอัจฉริยะเรื่องของกูมากไปแล้วฉาน แมร่ง
“เร็วดิเมฆ” มันเร่งเอาคำตอบจากผม มือมันก็คว้ามือที่ผมยกขึนลูบหน้ามากุมไว้ เหมือนยึดของกลางไว้ก่อน แต่กูไม่ใช่นักโทษนะไอ้บ้า

“วันนี้แม่โทรมาอ่ะ ตอนที่เอ่อ ไอ้เชี่ยนั่นกับพ่อมันมาอ่ะ” ผมเริ่มเล่า ไอ้ฉานได้แต่พยักหน้าตามที่ผมพูด

“เอ่อ แล้วมึงไม่หิวเหรอฉาน” ดูไอ้ฉานมันจะขัดใจมากที่ผมเล่นตัว แต่ กูไม่ได้อยากเล่นตัวเว้ย กูแค่กลัวหลุดเล่าเรื่องที่ไม่ควรเล่าเข้าใจกูหม้ายย.....สาด อนาถใจตัวเอง

“ตอนนี้ไม่ แล้วถ้ามึงยังยึกยักนะเมฆ กูสัญญาเลยว่ากูจะกินมึงต่อหน้าเพื่อนแทนข้าว จะเล่าได้ยัง”
“มึงขู่”
“กูไม่ได้ขู่ หรือมึงอยากลอง หืมม์ โอเคนะ พร้อมมั้ย” มันทำตากะล่อนวับวาวใส่ ผมรู้ว่ามันกล้า แล้วมันรู้มั้ยว่าผมโครตอาย

“กูเล่าแล้ว มึงตั้งใจฟังดีดี มือมึงอยู่นิ่งๆดิฉาน” ผมดุมันครับ เพราะมือมันเริ่มเลื้อย ผมไม่ไว้ใจมันแน่ ไอ้ฉานมันไม่ขู่อย่างเดียวอยู่แล้ว มันเอาจริง ฮึ่ยยย....

“ว่ามาเมฆ เร็วๆดิ มึงอย่ามาลีลาเหมือนเด็กๆนะ ชอบเห็นความห่วงใยของกูเป็นเรื่องล้อเล่นชอบเห็นตอนกูบ้าเหรอ หา” มันเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ตะคอกใส่ผมแล้วอ่ะ กูกลัวนะเว้ยไอ้หมาบ้า

“เฮ้ยๆ ไอ้ผัวเมียคู่นั้นอ่ะ มึงเคลียร์เรื่องภายในครอบครัวกันเบาๆหน่อยได้มั้ย พวกกูกินไปลุ้นชิบฉาย กระดูกไก่แมร่งจะไหลลงคออยู่แล้วเนี่ย” ไม่ต้องเดาครับพี่เมฆเฉลยให้ ปากแบบนี้มีไอ้หน่าคนเดียวครับ

ไอ้ฉานมันแค่หันไปมองปรามเพื่อนๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป นอกจากหันมาทำตาขวางกับผมต่อ

“แม่เค้าโทรมาบอกว่า อันดาร่ำร้องจะมาติวที่กรุงเทพอ่ะ แต่แม่เค้าไม่อยากให้มา ไม่อยากให้ไกลหูไกลตา เค้าเลยต่อรองแค่ที่หาดใหญ่ กูเลยเสนอไปว่า ถ้าน้องอยากมาก็ให้มา มาอยู่กับแม่นิ่ม เสาร์อาทิตย์กูกลับบ้านจะช่วยดูแลให้” ไอ้ฉานมันหยุดการระรานผมในทุกทาง แล้วตั้งใจฟัง

“มึงก็เสนอแม่มึงในทางที่ถูกแล้ว แล้วจะมาคิดมากเรื่องอะไรวะ หืมม” ครั้งแรกของวันที่ผมเห็นไอ้ฉานมันยิ้ม ถึงมันจะเป็นเพียงแค่ยิ้มสั้นๆ แต่ผมก็ว่ามันยิ้มนะ ใจชื้นขึ้นมาเป็นกองเลยครับผม

“พอดีอันดามีแฟน แม่เค้าเลยกลัวว่าเอาเรียนมาอ้าง จริงๆแล้วคงอยากมาอยู่ใกล้แฟนอ่ะ” สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ว่าแน่ พี่เมฆว่าแพ้สิ่งที่เห็นตรงหน้าครับ ไอ้ฉานมันหัวเราะ ก่อนจะเอามือมายีหัวผม โยกไปโยกมา เอาเป็นว่าผมเริ่มเคลิ้ม เอ้ย ไม่ใช่ ผมเริ่มมึน ไอ้ฉานมันเลยอาศัยช่วงชุลมุน ดึงผมไปกอดแล้วฝังจูบมาบนขมับผมทีนึง แค่พอสะดุ้ง ผมเริ่มลนลานแล้ว ที่นี่ไม่ใช่ห้องส่วนตัวนะครับ เพื่อนอยู่กันเต็มห้อง ถึงพวกมันจะสนใจของกินตรงหน้ามากกว่าผมสองคน แต่ถ้ามีเพื่อนคนไหนเผลอหันมาหละ ผมไม่ต้องโดนล้อไปยันศตวรรษหน้าเลยเหรอครับ

“ฉาน มึงเล่นอะไรเนี่ย กูเครียดนะเรื่องนี้อ่ะ” มันยิ้มอีกแล้ว เอาเลยฉาน มึงยิ้มเลย เอาให้เยอะๆ เอาให้กูเคลิ้ม ให้กูละลาย เอาให้กูสลายไปตรงหน้ามึงเลยนะครับเชี่ยยยย!!!

“ก็มึงอะ เครียดได้น่ารักเกิ๊นนนน” มันประชดครับ อย่าไปหลงกลมัน

“กูยังเล่าไม่จบ ตอนกูลงไป กูเจอไอ้เชี่ยนั่น”

“มันยังอยู่ทำเหี้ยอะไร แล้วมันมาหาเรื่องมึงเปล่า” ไอ้หน้ากูปรีมันไร้มารยาท มันโพล่งขึ้นมาทั้งที่ผมยังเล่าไม่จบ ไอ้บ้านี่ มันจะรู้มั้ยว่า กว่าผมจะลากเรื่องมาถึงตรงนี้ได้ ผมต้องกลั้นหายใจไปเท่าไหร่ รวบรวมความกล้านานแค่ไหน พอทำใจได้ กะว่าจะเล่ารวดเดียวจบแบบไม่มีพิรุธให้มันจับได้ในน้ำเสียง แต่เจอมันขัดจังหวะแบบนี้ พี่เมฆก็แย่สิครับ หลบตามันเป็นพัลวัลเลยทีเดียว จะจ้องอะไรกูหนักหนา

“ไม่ใช่หนังการ์ตูนนะฉาน คนตั้งมากมายมันจะทำอะไรกูได้ (แค่โดนจับมือนิดหน่อยพี่เมฆไม่ถือว่าโดนรังแก พี่เมฆนะครับไม่ใช่ดาวพระศุกร์ จับมือพี่เมฆไม่ถือว่าคือการเสียตัว) ก็แค่มองหน้ากันนิดหน่อย แล้วพอดีโทรศัพท์มันมาแล้วมันก็รับโทรศัพท์ กูไม่ได้แอบฟังนะ แต่มันพูดเสียงดังเองอ่ะ กูเลยรู้ว่ามีผู้หญิงโทรหามัน แล้วผู้หญิงคนนั้นชื่ออันดา” ผมกลั้นใจเล่ามันจนจบครับ ถึงรายละเอียดบางเรื่องจะไม่ครบ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เล่าเลยละนะ

ไอ้คนตรงหน้าผมพอมันฟังจบ มันก็ระเบิดเสียงหัวเราะมากกว่าเมื่อกี้ให้ผมต้องตาโต ไม่ใช่ผมคนเดียวนะครับที่แปลกใจกับเสียงหัวเราะไอ้ฉาน เพื่อนๆที่ผมคิดว่ามันสนใจของกินตรงหน้ามากกว่า ยังหันมามองเลยครับ ไอ้แกละกับไอ้หวาน พิซซ่ายังคาปาก ไอ้ยอนนั้นน่องไก่ยังคามือ คนอื่นๆก็มีสภาพไม่ต่างกัน
“พวกมึงมองอะไรวะ กินไปสิ ผัวเมียเค้าเคลียร์กันอยู่ สอดเข้ามาเดี๊ยวกูคว่ำโต๊ะซะดีมั้ย” ไอ้ฉานหันไปขู่ครับ เดอะแกงค์เลยก้มหน้าก้มตา ทำกิจกรรมฟาดของฟรีกันต่อ ผมรู้ว่าพวกมันแกล้งตกใจ ตอนนี้พวกมันทำทีเป็นสนใจอาหารตรงหน้า แต่ว่าหูพวกมันอ่ะ เรดาห์ดีๆนี่เอง

“มึงเลยหลอนว่า จะเป็นอันดาน้องมึงเหรอเมฆ ชีวิตคนนะเว้ยไม่ใช่ละคร แต่ถ้ามันเป็นอย่างที่มึงกลัวจริงๆ อันดาจะโกรธพี่เขยมั้ยวะ ถ้าเกิดวันไหนกูสั่งฆ่าแฟนอันดาขึ้นมา “ ไอ้ฉานยิ้มเต็มหน้า สองมือมันประคองหน้าผมไปประจันหน้ากับมันก่อนจะโยกไปโยกมา ผมหมั่นไส้เลยได้โอกาสต่อยท้องมันไป เอาแค่พอรู้สึกครับ ไม่ได้ลงแรงอะไรมากมาย

“โอ้ย ใช้กำลังกับสามีเหรอมึง เอาน่ายิ้มให้กูดูก่อน อย่าคิดมากนะ ยังไงมึงก็ไม่ต้องเผชิญอะไรๆ คนเดียวอยู่แล้วหละ จริงมั้ยจ๊ะเมียจ๋า” พี่เมฆขอยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ มันรวดเร็วจนพี่เมฆไม่ทันได้ตั้งตัวจริงๆนะครับ

ช่วงเวลาเสี้ยววินาที ที่พี่เมฆกำลังคิดหาวิธีเอาคืนไอ้ฉานด้วยความหมั่นไส้อยู่นั้น ไอ้ฉานมันก็แค่โน้มหน้าพี่เมฆเข้าไปหา แล้วมันก็เอาปากมาประกบปากพี่เมฆ ก็แค่นั้น ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป้าหมายไปงับเบาๆที่ปลายจมูก แล้วผละออกมามองด้วยสายตามีความหมาย แล้วพี่เมฆจะทำอะไรได้  นอกจากช็อคและอึ้ง!!!!!! ไอ้ห่าฉานมันไม่อายแต่กูอายหวะครับ ไอ้บ้า ต่อหน้าเพื่อนเลยนะเว้ย ถึงมันจะรวดเร็วมากจนพี่เมฆตั้งรับไม่ทันก็เถอะ

“ไอ้บ้า พูดเหมือนมึงกับกูเป็นคู่รักยม” ผมรู้ว่ามันเป็นมุขที่ห่วยที่สุดที่สรรหามาได้ แต่จะให้ทำยังไงละครับ ตอนนี้พี่เมฆกำลังเขิน เลยว่าไอ้ฉานแก้เก้อไปได้แค่นั้น

“กูรักมึงนะเมฆ รักมาก (มันเน้นคำว่ามาก) เพราะฉะนั้น มึงเชื่อใจกูได้มั้ยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูจะอยู่กับมึง” คำพูดมันทุกคำ หนักแน่น มั่นคง ผมรับรู้ทั้งหมดนั้น จากสายตาที่มันจ้องมองผม แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากพยักหน้าให้มัน ผมตอบรับคำสัญญามันด้วยการแตะริมฝีปากไปกับปลายคางสากๆนั้นเร็วๆ แค่นี้ฉาน สำหรับวันนี้ กูจะยอมสาวแตก เพื่อแลกกับรอยยิ้มแรกของวันจากมึงเพียงแค่นี้  แล้วมันก็ช่วยไม่ได้ที่ผมจะอายกับความกล้าแค่ชั่ววูบของตัวเอง แล้วซบหน้ากับหน้าอกมันหนีอาย

มันช่วยไม่ได้จริงๆนะครับ......ผมสาบานได้ ว่าไม่ใช่มารยา
ว่าแต่ว่าไอ้ฉานมันจะยิ้มเริงร่าอะไรนักหนาวะครับ

โอเคครับ กาแลคซี่ช่วยเป็นพยาน ผมเชื่อแล้วว่า ดวงตะวัน เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาลจริงๆครับ

“พี่ๆคร๊าบบบบบ พี่ๆ พี่ฉาน พี่เมฆ พี่หน่า พี่ไผ่ พี่แกละ พี่หวาน พี่ยอน พี่นที พี่ดิวคร๊าบ พี่ไม้ตื่นแล้ว เร็วๆครับ พี่ไม้ตื่นแล้ว” ไอ้น้องปลื้มมันคลุ้มคลั่งเรียกชื่อพวกผมทุกคนครบแบบไม่มีตกหล่น วิ่งไปวนหน้าวนหลังคนนู้นทีคนนี้ที

วงแตก! โดยไม่ต้องสงสัย

กำลังเคลิ้มๆ ผมต้องดีดออกจากอกไอ้ฉานด้วยความไวเสียง  น้องปลื้มไอ้เด็กวายร้ายข้างบ้านไอ้ไม้ มันผลุบหายไปในห้องไอ้ไม้ตอนไหน ผมไม่รู้ แต่ตอนนี้ มันหน้าตาตื่น มากระโดดร้องดีใจ ว่าไอ้ไม้ฟื้นแล้ว ผมกับไอ้ฉานและเพื่อนๆทั้งโขยงกรูเข้าไปหาไอ้ไม้ โดยพร้อมเพรียงกัน

“ยินดีต้อนรับกลับโลกมนุษย์อีกครั้งนะเพื่อนไม้ มึงหลับไปเกือบครบ 24 ชั่วโมงแล้วนะเว้ย” เสียงร่าเริงของพี่เมฆเองครับ กูร่าเริงกลบฉากเมื่อกี้ มีใครข้องใจอะไรมั้ย ถ้าข้องใจ เคลียร์กันได้กับฉานแสงแฟนผมเลยครับ กูจะเชียร์ให้กำลังใจเฉย

ผมผิวปากยักคิ้วให้ไอ้หน่า เพราะผมรู้ว่ามันจะพูดอะไร .....ช้าไปหวะเพื่อน อย่าริอาจจะแซวกูให้อายตอนนี้
 
อยากจะบอกว่า เห็นทุกคนเครียดแล้วกลุ้มใจ เลยเข็นตอนนี้มาให้ระบายอารมณ์ นิยายเรื่องนี้ นอกจากไม่เศร้าแล้วก็คงจะไม่ดราม่าเลือดนอง น้ำตาไหล อะไรขนาดนั้นนะ เป็นฟิคที่รักกันไปวันๆสนองอารมณ์คนแต่งและคนลงเรื่อง อาจจะมีเครียดบ้าง ที่นายเอกแสนห่ามของเรา ความแมนแบบโก๊ะๆ จะไปสะดุดตาใครต่อใคร
ส่วนเรื่องป้ายชื่อขอบคุณดิ้นได้ ขอลงของเก่าไปก่อนนะ อันใหม่กำลังดีไซน์และปั่นอยู่จ้า ศิลปะมักจะมาจากอารมณ์
องค์อาร์ตไม่ประทับทรง เลยไม่มีอะไรมาให้ชม อย่าว่ากันนะ.....
๐ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณค่ะ...... o1
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ ๐.....  


(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
===================================
ดีนะที่คลี่คลาย ไม่งั้นคนเขียนจิโดนมิใช่น้อยๆ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-06-2010 20:06:12
 :z13: จิ้มก่อน นานๆทีจะมีโอกาส อิอิ
ความจริงน้องว่าพี่เมฆสาวแตกมาตั้งแต่ได้กะพี่ฉานเค้าแล้วนะ :laugh:
แต่ว่าบอกรักกันสวี๊ต สวีต น่าร๊ากกกกกกก
เรื่องอันดากับไอ้บ้าอาทก็ขอให้เป็นอย่างที่พี่ฉานพูดนะ
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 14-06-2010 20:09:57
ยังยิ้มได้แบบนี้เพราะหนูเมฆเค้าเล่าไม่หมด เอิ๊กๆ ลองได้ฟังฉบับออริจินอลเซ่ แล้วจะยิ้มไม่ออก :m31:
ตามลุ้นต่อไปว่าไอ้นั่นมันจะทำไรอีก เฮ้อ! กังวลใจกลัวทั้งสองคนทะเลาะกัน :n1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 14-06-2010 20:21:04
เมฆเอ้ยยยยยยยยย เพิ่งรู้ตัวเหรอว่าสาวแตก  :jul3:

ขอเครียดบ้างแต่เครียดมากไม่เอาน่า   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 14-06-2010 20:25:07
พี่เมฆสาวแตกเพราะพี่ฉานใช่ม้า เค้ารู้นะ   :laugh:

มารอลุ้นว่าชีวิตรักของทั้งคู่จะโดนไอ้อาทก่อกวนอย่างไร   :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 14-06-2010 20:26:04
ตอนนี้มัน หวานซ่อนเครียด ยังไงไม่รู้

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 14-06-2010 20:29:40
อูยยย  วันนี้ค่อยนอนได้อย่างสบายใจหน่อย
พี่ฉานน่ะ  รักพี่เมฆมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ซะจนคนอ่านอย่างดั๊นตาร้อนผ่าวเลย
.......
คลี่คลาย  สบายใจไปหนึ่งเปลาะ  รับไป +1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 14-06-2010 20:38:45
อ่านทันซักที แต่คิดว่านายอาทคงต้องมาสร้างเรื่องใหญ่ให้ฉานกับเมฆต้องมีรอยร้าวแน่นอน
รอตอนหน้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 14-06-2010 21:03:18
จะคลี่คลายไปได้นานเท่าใด   :เฮ้อ:
หวานนะตอนนี้ เคลิ้มไปกับพี่ฉานเลยอ่ะ
แต่ก็ยินดีด้วยที่ไม้ฟื้นแล้ว เตรียมรีบมือกับอิอาทแล้วกัน
ปอลิง แอบรีเควสไม้กับน้องปลื้มค่ะ   :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 14-06-2010 21:04:41
ตอนนี้พี่เมฆอ้อนแฟนน่ารักได้โล่ห์จริง ๆ o13
+1  ให้ให้กับตอนที่ทำให้นั่งอมยิ้มได้ตลอดเวลาในการอ่านคับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 14-06-2010 21:06:21
แอบหวั่นใจ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 14-06-2010 21:12:02
นั่งรอตอนต่อไปขอรับ
อยากรู้ตอนต่อไปอ่า ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 14-06-2010 21:30:35
 
อ้างถึง
“กูรักมึงนะเมฆ รักมาก (มันเน้นคำว่ามาก) เพราะฉะนั้น มึงเชื่อใจกูได้มั้ยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูจะอยู่กับมึง”
อ่านมาถึงตอนนี้แล้วยิ้มเลยทีเดียว  ปลื้มฉานมากๆอ่ะ  :m1:
แอบมีกุ๊กกิ๊กน่ารักๆกันด้วย ทั้งพี่เมฆทั้งฉานเลย ชอบๆ  :-[
(ไม่อยากจะคิดตอนที่ฉานรู้เรื่องที่เมฆแอบปิดไว้ T_T)

+1 ค่ะ ลุ้นตอนต่อไป ขอบคุณมากๆ คนแต่ง+คนโพสต์ :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 14-06-2010 21:38:39
รักกัน :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 14-06-2010 21:50:30
เข้ามาติดตามเรื่องนี้ด้วยคน :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 14-06-2010 21:53:31
แหม พี่ฉานรักมากขนาดนี้ สาวแตกบ่อย ๆ ก็ได้นะจ๊ะพี่เมฆ หุหุ  :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 14-06-2010 22:08:41
“กูรักมึงนะเมฆ รักมาก (มันเน้นคำว่ามาก) เพราะฉะนั้น มึงเชื่อใจกูได้มั้ยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูจะอยู่กับมึง”

พี่ก็รักน้องเมฆกับน้องฉานเหมือนกัน แล้วก็จะอยู่กับน้องเมฆ น้องฉาน ไปจนกว่าคนแต่งกับคนโพสเลิกทำหน้าที่ด้วยคร้าบบบ

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 14-06-2010 22:12:53
หวานไม่แคร์สื่อ !!!  เค้าชอบจังเลย   :z1:
ยิ่งฉานออกตัวเคียงข้างพี่เมฆขนาดนี้ ไอ้เราที่เป็น FC ก็สบายใจ  :laugh:

รอน้องอันดามาเมืองหลวงค่ะ แล้วก็เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 14-06-2010 22:51:49
ถ้ารู้ความจริงจากปากพี่เมฆทั้งหมด ระวังจะหัวเราะไม่ออกนะคับพี่ฉาน :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 14-06-2010 22:52:07
แหม่! ได้ใจจริงๆตอนนี้  :a9:


หวานนนนนนนนนนนนนไม่แคร์สิ่งใดๆจริงๆ :laugh:


อยากกินบ้างจัง ไม่เคยกินรวดเดียวหลายๆอย่าง(แบนด์)แบบนี้เลย (ก็ไม่มีตังค์ง่ะ)  o9


รอคอยจ้าาาาาาาาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 14-06-2010 22:58:20
ขนาดซีเรียวยังจะหานกันได้อีก
อู้วววววววว เป็นกำลังจายให้ แต่นะพี่ฉานถ้ามันเกิดเป็นละครขึ้นมาล่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 15-06-2010 00:20:17
พี่ฉานมันหน้าด้านนนนนน แอบจุ๊บน้องเมฆต่อหน้าประชาชี  :angry2:  :z6:

พอดีรักพี่เมฆ 55555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 15-06-2010 01:31:39
ยังยิ้มได้แบบนี้เพราะหนูเมฆเค้าเล่าไม่หมด เอิ๊กๆ ลองได้ฟังฉบับออริจินอลเซ่ แล้วจะยิ้มไม่ออก :m31:
ตามลุ้นต่อไปว่าไอ้นั่นมันจะทำไรอีก เฮ้อ! กังวลใจกลัวทั้งสองคนทะเลาะกัน :n1:
^
ใช่เลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 15-06-2010 02:06:54
เฮ้ออออโล่งอกนึกว่างานจะเข้าสะละเกือบไปๆ
แต่ทางที่ดีอย่ามีงานมาเข้าพี่เมฆดีกว่าพี่ฉานยิ่งอารมน่ากลัวอยู่ด้วย
แค่คิดก็สยองแว้วววววแต่อารมจะหวานก็น่าอิชชี่ที่ซู๊ดดดดดดดน่ารักมากกกกก :m3:
พี่ฉานดูพี่เมฆดีๆนะมีคนมันจ้องจะมาฉุดพี่เมฆอ่ะไอวายร้ายอาทททท!
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าค่า  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 15-06-2010 03:19:45
จิ้มมมม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 15-06-2010 07:22:41
ขอบคุณคนแต่งกะคนโพสที่ทำให้คนอ่านไม่รอนาน :L2:
หนูเมฆทำถูกแล้วที่เล่าให้สามีฟังถึงจะเล่าไม่หมดก็ตาม
ฉานเท่มากที่บอกจะอยู่เคียงข้างเมฆแล้วยังกล้าทำไรเปิดเผยในกลุ่มเพื่อน
ใครว่าฉานหน้าด้านจุ๊บเมฆต่อหน้าประชาชีน้า คนแต่งกล้าแต่งฉานก็กล้าจุ๊บล่ะว้า
ความจริงไม่ถึงกับต่อหน้านะเพราะหันหลังให้เพื่อนที่กำลังกินพร้อมหูที่กางออก :laugh3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 15-06-2010 07:50:31
+1 ให้เมฆกะฉาน ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆ :z6: อย่าจบเศร้า อย่ามีตอนเศน้า ไม่งั้นไรเตอร์ :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 15-06-2010 08:48:55
พี่ฉานเป็นแฟนที่น่ารักมากกกกกกกกกกกกก
ไม่ปล่อยให้แฟนเผชิญปัญหาคนเดียว
ให้มันได้งี้สิ!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 15-06-2010 09:44:58
อยากมีแฟนแบบฉาน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 15-06-2010 10:19:38
หวานมากกก อร๊ากก รักพี่ฉานแสงจริงๆ
คู่นี้ทำเอาเค้ามีความสุขมากๆๆเลยล่ะคะ...
ตอนแรกก็แอบลุ้นๆกลัวพี่ฉานงานจะเข้าอีกครั้ง
แต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรงมากมาย...
งื้อออ ขอบคุณสำหรับเรื่องของพี่ฉานและพี่เมฆนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: veevee ที่ 15-06-2010 10:52:07
พี่ฉานหวานได้อีกอ่ะ ต่อหน้าเพื่อนยังไม่เว้น

ชอบที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 15-06-2010 11:44:46
พี่ฉานออกจะเสนอตัวเทพขนาดนี้ แล้วท่านพี่เมฆจะคิดให้ปวดหัวทำไม มีไรก็บอกๆๆ ไปเหอะ ดีกว่ามารู้ความจริงทีหลัง  :a5:

อ้างถึง
นิยายเรื่องนี้ นอกจากไม่เศร้าแล้วก็คงจะไม่ดราม่าเลือดนอง น้ำตาไหล อะไรขนาดนั้นนะ
เก็บไว้เป็นหลักฐาน เวลาคนแต่งทำให้คนอ่านเครียดลงตับไตไส้พุงม้ามกระเพาะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 15-06-2010 12:09:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 15-06-2010 13:01:38
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่ฉานก้อจะอยู่ข้างพี่เมฆตลอดไป.....
รู้สึกประทับใจมากค้า....... :o8:

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: a1 ที่ 15-06-2010 14:32:02
อ่านทันแล้วครับ  เป็นเรื่องที่มีครบทุกรสเลย  แล้วก็ยังรออ่านอยู่นะครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-06-2010 21:15:30
เมื่อไหร่จะมาต่ออีก ช่วงนี้ขาดความหื่นของพี่ฉานไปนะ  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 36 ,14 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 15-06-2010 23:38:16
^
^
^
ป้าคนนี้ แย่ง เรปที่ 1000 เค้าไปอ่ะ  :serius2: :serius2: :serius2:

เค้าเฝ้าพี่ฉานมาตั้งนานนะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 16-06-2010 00:01:21
สวัสดีค่ะ แปลกใจกันใช่มะ ว่าทำไมวันนี้ ท่านฉานกะพี่เมฆ มาไวกว่าที่คิด
แปลกใจกับการมาไวได้ค่ะ แต่อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด
:laugh: :laugh: :laugh:
ก่อนจะไปลุ้น (กันหรือเปล่า) กับเรื่องจะหวานดีมั้ย หรือจะเครียดเกินไปหรือเปล่า
แลดูจะอีรุงตุงนังกันอยู่ไม่น้อยระหว่างท่านฉานกับนายเมฆ
เราเลยคั่นอารมณ์ด้วยการจัดตอนพิเศษตามคำขอ มาคั่นรายการ
จะได้เรื่องได้ราวยังไง ก็ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ
TRomance ขอบคุณทุกคนเหมือนเดิมค่ะ





(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนพิเศษ         “ซุกเด็ก” ซะที่ไหน บังเอิญอยู่ในช่วงทดลองใช้แต่ยังไม่ใช่โปรโมชั่น”

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)


มันก็แค่บังเอิญ......ที่ริมฝีปากเราชนกันโดยไม่ได้ตั้งใจ “มันก็แค่จูบแรกของผู้ชายสองคน”
มันก็แค่บังเอิญ.....ที่ผมกับใครคนนั้นบ้านเราดันอยู่ใกล้กัน
มันก็แค่บังเอิญ......ที่วันหนึ่งผมต้องกลายมาเป็น “แฟนทดลองใช้แต่ยังไม่ใช่ช่วงโปรโมชั่น”
.
.
.
.
.
.


“ผมซุกเด็ก” ตรงไหน ที่ยังไม่ได้บอกใคร เพราะไม่ได้ตั้งใจ “มันก็แค่บังเอิญ”
.......




 “ตี่ตี้ ม๊าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำแบบนั้น ถ้าป๊ารู้ม๊าช่วยอะไรไม่ได้น๊า แล้วม๊าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่งแบบนั้น ตี่ตี้ ได้ยินที่ม๊าพูดมั้ย ”
“ม๊า จะอะไรหนักหนา ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ดูแลตัวเองได้”

โครม เพล้ง!!!!![/]

“โอ้ยยย แม่งเอ้ย ใครเอาแก้วมาวางไว้ตรงนี้วะ”
“ตี่ตี้ อาตี้ๆ เป็นอะไรลูก เกิดอะไรขึ้น เจ็บตรงไหนหรือเปล่า ม๊าดูสิ”

“ไม่มีอะไรหรอกม๊า แก้วแตก แล้วบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกตี่ตี้ เรียกปลื้มสิเมื่อไหร่จะชินสักที”

“ทำไมอ่ะ ชื่อที่ม๊าตั้งให้ไม่ดีตรงไหน ลื้อเป็นน้องชายคนเล็ก ชื่อตี่ตี้ ก็ถูกแล้วไง “

“มันไม่ใช่ไม่ดีนะม๊า แต่ว่ามันไม่แมน เข้าใจมั้ยม๊า ผมไปแล้วนะ”

“อ้าว ว่าไงพี่ไม้กลับมาเมื่อไหร่ ทำหน้าเซ็งสังคมเหมือนเดิมไม่เบื่อรึไงห๊ะ แล้ววันนี้ไม่ทะเลาะกับพ่อเหรอ เงียบเชียว”

ไอ้คนที่ทักทายกวนประสาทผมตั้งแต่เช้าของวันปิดเทอมวันแรกของผม เป็นเด็ก ม.ปลาย ปีที่สอง
อยู่ร้านขายผ้า ติดกับร้านผมนี่เอง

“ใครจะโหวกเหวกโวยวายแต่ไก่โห่เหมือนนายหละ เป็นไงโล้งเล้งแต่เช้าเลยนะตี่ตี้” ผมจงใจเน้าคำว่า “ตี่ตี้” เป็นพิเศษ

“โหยพี่ไม้อะ หายไปนานคิดว่าจะดีขึ้น ที่ไหนได้ ยังกวนเหมือนเดิมเลยนะ ผมบอกว่าให้เรียกว่า”ปลื้ม” ไม่ใช่ “ตี่ตี้”

ผมขำกับท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจทุกครั้ง ที่มีใครเรียกด้วยชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ “ตี่ตี้” จะว่าไปก็เหมาะกับเด็กชายตรงหน้าดี
ผิวขาว ตาคม หน้าใส ปากแดง สไตล์เกาหลี กำลังเป็นที่นิยมตอนนี้ เสียอย่างเดียวที่ทรงผม ไม่ได้อินเทรนด์เหมือนใบหน้าและบุคคลิค เพราะมันเป็นทรงนักเรียนแบบเกรียนๆ ที่กำลังเข้าศึกษาวิชาทหารอยู่พอดี 

“แล้วนี่ยังไม่ปิดเทอมอีกเหรอ” ที่จริงผมกับปลื้มก็สนิทกันพอประมาณ แต่เรื่องสนิทกันได้ยังไงนั้น มันก็ยังคลุมเครือ ปลื้มเป็นเด็กที่คุยเก่ง ช่างสงสัย ต่างกับผมมากมาย ที่ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร สิ่งที่เราเหมือนกันคงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยกินเส้นกับพ่อตัวเองสักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่า มันมาจากคนละเหตุผล คงเป็นเพราะความเหมือนในเรื่องนี้ละมั้งที่ทำให้เราสองคนสนิทกัน

“ปิดแล้วพี่ แต่พอดีเรียน รด.ไม่เสร็จไง เป็นไง ผมเรียน รด. เท่ห์ป่ะ” เด็กชายตรงหน้าผม ยืดตัวตรง ทำท่าตะเบ๊ะแบบทหารแล้วหมุนไปรอบๆ ดูท่าทางสดใสร่าเริงนั้นแล้วก็รู้ว่า ไอ้คนถามมันต้องการคำตอบแบบไหน ดูท่าจะภูมิใจมาก

“ก็ดี แล้วนี่คิดไงถึงได้เรียน” ผมได้แต่ตอบไปแบบแกนๆ ถ้าเอาคำตอบตามความรู้สึกจริงๆ คงต้องบอกว่า มันดูน่ารัก มากกว่าเทห์ ก็เด็กตรงหน้าผมสูงแค่ร้อยหกสิบกว่าๆ ยืนเทียบกันคงได้แค่บ่าผม รูปร่างบอบบาง ไม่ได้ดูกำยำแบบนักกีฬาอะไร แต่ก็ไม่ได้ถึงกับดูอ่อนแอ

“ก็ไม่อยากเป็นทหารไงพี่ เสียเวลาดีๆหมด พี่ไม้ไม่คิดเหรอ ว่าตอนนั้นผมควรจะเอาเวลาไปหาแฟนมากกว่าไปเซ็งจิตฝึกแบกปืนอยู่กลางแดดหนะ เป็นไงผมดูแมนขึ้นมะ นี่คล้ำแดดไปเยอะดูเข้มเลยใช่ป่าว”

ผมไม่ได้ตอบอะไร นอกจากส่งยิ้มไปให้ ผมกับน้องปลื้มเราเข้าใจกันดีว่า ผมเป็นของผมแบบนี้  ถ้าผมไม่มีอะไรจะพูด ผมก็ไม่พูด ส่วนน้องปลื้มเองก็ไม่ได้ใส่ใจจะเอาคำตอบอะไรมากไปกว่าการชวนคุยกันธรรมดาๆ

“ผมไปก่อนนะพี่ แล้วคืนนี้ไปนอนด้วยได้ป่ะ เบื่อป๊าด่า พอๆกับเบื่อม๊าบ่นอ่ะ นะพี่ไม้นะ ผมมีการ์ตูนเรื่องใหม่จะให้พี่อ่านด้วยนะ รับรองพี่ต้องชอบ เรื่องนี้ผมคัดมาเองกับมือ” น้องปลื้มโบกมือร่ำลาผม พร้อมๆกับที่รถรับจ้างประจำทางสั้นๆภายในซอยมาเทียบท่าพอดี


ตอนผมอยู่บ้าน น้องปลื้มมาขลุกอยู่กับผมอยู่บ่อยๆ แล้วก็มีไม่น้อยที่จะอยู่ค้างกับผม
แต่ใครจะไปรู้ว่าคืนนี้ มันจะไม่เหมือนคืนอื่นๆที่ผ่านมา



ใครจะไปรู้ว่า คืนนั้น จะเป็นคืนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผมครั้งสำคัญคืนหนึ่ง.......


To Be Continue เร็วๆนี้  Coming soon ......

(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)

===============
ตอนหน้ามีลุ้นเสียเลือดป่าวหว่า  :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-06-2010 00:07:02
โหยยยยยย  ใจร้ายอ่ะ  ทำอะไรค้าง ๆ คา ๆ ไม่เห็นใจคนอ่านเล๊ยยยยยยยยยยยยยย

คิดถึงพี่เมฆกับท่านฉาน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 16-06-2010 00:10:00
เข้ามาตามอ่านจนทัน (จำไม่ได้ว่าตัวเองเม้นท์ไปยัง แง้ว  :laugh:) รออีกคู่ ขอเลือดดดด :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 16-06-2010 00:18:03
 :mc4: :mc4: :mc4:

ตอนพิเศษ  มาต่อด้วยครับ มันค้าง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 16-06-2010 00:20:58
 :mc4: :mc4:

ร่วมฉลองด้วย

จะมาบอกด้วยอ่ะ

ว่า "ค้าง"

 :L2: :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 16-06-2010 00:24:27
ชื่อก็บอกแล้วว่าตอนพิเศษ ใส่เลือดกับน้ำตาลเยอะๆน้าส์ เอ๊กๆๆๆ
 :jul1: :jul1: :jul1:
ฝันดีจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 16-06-2010 00:38:42
ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีตอนพิเศษ

ตอนพิเศษตอนหน้ามาไวๆน๊า จะรอคร๊าบบบ  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 16-06-2010 00:47:11
ท่าความสัมพันธ์จะเกินพี่เกินน้องนะนั่น พี่ไม้กับน้องปลื้ม o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 16-06-2010 01:03:14
คิดถงพี่เมฆ พี่ฉาน มาต่อเร็วๆๆนะคะ :z2: :z13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 16-06-2010 01:35:38
เอาแล้วววววววววว นึกแล้วเชียวว่าคู่นี้ต้องมีsomethingกัน :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 16-06-2010 01:49:24
ตอนพิเศษน่ารักจังอ่ะ
น้องตี่ตี้น่ารักอ่ะเรียนรด.ด้วยปลื้มมมมมชอบเด็กน้อยอิอิ
รออ่านพี่เมฆพี่ฉานอยู่น๊าค่ากำลังลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 16-06-2010 02:08:38
กรี๊ตตคู่นี้จะหวานแซง คู่ ฉานกะเมฆไหมน๊า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 16-06-2010 02:37:09
มาสั้น ๆ ให้อยากแล้วจากไป :z13: ไรเตอร์
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 16-06-2010 03:18:53
ตอนพิเศษน่ารัก แต่
ค้างงงงงงงง  :serius2:
ทั้งสองเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 16-06-2010 03:57:17
ดีใจจัง มีตอนพิเศษด้วย ขอบคุณมากๆค่ะ
คืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น แอบค้างงงง ..

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 16-06-2010 06:36:50
คู่นี้น่ารักมาก
ทีแรกอ่านไปก็งงว่าเป็นตอนพิเศษยังไง
อ่านจบถึงรู้ว่าค้างเป็น"พิเศษ" อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 16-06-2010 06:49:53
ขอบคุณคนแต่งกะคนโพสมากๆ :กอด1:
เรื่องน่ารักจังท่าทางจะหวานกว่าเมฆกะฉานซะละมั้ง
แต่นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่ควรปล่อยหนุ่มให้อยุ่ค้างคืนด้วยกันฉองต่อฉอง
มาต่อเรื่องราวในคืนนั้นไวไวน้า :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-06-2010 07:05:41
ไหนๆก็ไหนๆแระ จัดมาให้ครบตอนเหอะ อยากเสียเลือดด้วยอ่า :o8:
ว่าแล้วๆๆๆ น้องปลื้มกับพี่ไม้ แอบมีซัมธิง รองกันนี่เอง กิ๊วๆๆ :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 16-06-2010 07:14:03
ตอนพิเศษ ตอนนี้จะชี้แจงตอนที่มาของไอ้คุณน้องปลื้ม
และความสัมพันธ์ของไม้กะไอ้น้องปลื้ม มาต่อช่วงแรก แต่ทิ้งให้ค้างซะงั้น
แล้วไอ้คืนที่ไม่เหมือนเดิม คือ NCกระจาย เลือดท่วมบล็อคหรือเปล่า
แต่ก็มารอลุ้นอะนะ ตอนต่อไปขอครึ่งหลัง และรื่องราวของฉานกะหนูเมฆนะ ขอเดือด อย่าดราม่าอะนะ กลัวเสีย :monkeysad:
และอยากฝากบอกอิหนูเมฆ มีอะไรก็บอกพี่ฉานตรงๆอย่าหมกเม็ด
เดี๋ยวทีหลังจะเข้าตัวไปมากกว่านี้ และกลัวแบบไอ้อาทขอข้อแลกเปลี่ยนหากอันดาที่มันคบ คือ น้องพี่เมฆ และจะเลิกคบ
คือให้น้องเมฆ ประมาณคบมั หรือกระทืบพี่ฉาน เพราะเป็นแบบนั้นอิเจ๊ว่ารับไม่ได้ และจะขอประกาศเป็นศัตรูกับมัน อิอาท
และรักฉาน เชียร์หนูเมฆ เป็นกำลังใจคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 16-06-2010 07:39:44
กรี๊ดดดด ครบพันเม้นต์แล้วในกระทู้นี้
ตอนพิเศษฉลองทั้งที... จัดมาหนักๆเลยได้ไหมคะ
แฮะๆ..กำลังอยากเสียเลือดอยู่พอดี อร๊ากกก
+1 ให้ค่ะ เจ๋งมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 16-06-2010 07:54:58
+1เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ พาพี่ไม้ กับ น้องตี๋ตี่กลับมาไวๆ :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 16-06-2010 10:00:44
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก  :m31:

ค้างอย่างแรง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: zingiber ที่ 16-06-2010 10:07:29
แล้วคืนนี้พี่ไม้กะน้องตี่ตี้จะเป็นยังไงบ้างน๊า :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 16-06-2010 10:47:12
อั๊ยๆๆๆๆๆ เพิ่งตามอ่านทันค่ะ  :mc4:
ชอบพี่เมฆจัง แมนแบบโก๊ะๆ น่ารักดีค่ะ
มาทันตอนพิเศษคู่ไม้-ปลื้มพอดีเลย แอบลุ้นๆ รอตอนเค้าจุ๊บๆๆกัน อั๊ยๆๆๆ  :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: veevee ที่ 16-06-2010 11:32:38
อ้า ๆๆๆๆๆๆ ข้างอ่ะ รีบมาต่อเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 16-06-2010 12:27:10
ขอให้มีเอ็นซีเรียกเลือด เพี้ยง   :call:555+
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 16-06-2010 12:45:28
ค้างมากๆ แอบลุ้นไม้ให้เสียตัวให้น้องปลื้มในคืนหนึ่งคืนนั้น อิอิอิ  :z1: :z1: :z1:
แล้วก็ยังคิดถึงก้อนเมฆกับดวงตะวันอยู่นา รีบมาต่อนะครับผม  :m1: :m1: :m1:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 16-06-2010 13:52:13
ไม่พูดพร่ำทำเพลง   o19  นอนพักเอาแรงรอตอนต่อไปเลยแล้วกัน   :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 16-06-2010 15:11:30
ค้างคา รอๆๆ..... :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 16-06-2010 15:38:05
ช่วงทดลองใช้ พูดให้ชวนคิดนะคะ  :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 16-06-2010 15:59:46
มาอ่านสองตอนอย่างจุใจ....

555 ถ้าพี่ฉานรู้ "ความจริง"  ทั้งหมดจะเป็นยังไงเนี่ย เหอะๆ 
เห็นเค้าความยุ่งยากมาแต่ไกล  :serius2:

น้องปลื้มกะพี่ไม้   :-[    เป็นอย่างที่หลายๆคนคิดมั้ยน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 16-06-2010 16:38:28
 :mc3: :mc2:ร่วมฉลองด้วยคน ตอนพิเศษจัดมาติดเรทเยอะ เอาให้แตกเลือดตายไปเลยคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 16-06-2010 19:27:34
 :mc4:
พี่ไม้และน้องตี่ตี้   :oo1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 16-06-2010 20:36:31
มารอแบบยาวๆค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 16-06-2010 21:20:02
มารอตอนต่อไป  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 17-06-2010 00:44:48
ใจร้าย เข้ามาแหย่ให้อยาก(อ่าน)แล้วก็จากไป

 :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 17-06-2010 09:54:28
โห พี่ไม้ มันเจริญรอยตามพี่ฉาน หรือพี่เมฆละเนี่ย  :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 17-06-2010 12:30:15
อ่านตอนเดียวทันแระ 

+1 เป็นกำลังใจคนแต่งค่ะ


รอตอนหน้า และพร้อมที่จะเสียเลือดแล้ว     :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 17-06-2010 12:59:53
น่ารักค่ะ......
ฉลองด้วยคน...... :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 17-06-2010 15:22:49
 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 17-06-2010 17:31:48
อร๊ายยยยย คู่นี้..
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 17-06-2010 21:40:50
ค้างกับตอนพิเศษอ่ะ

คืนนั้น เกิดไรขึ้นเหรอ อยากรู้อ่ะ 

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-06-2010 00:36:34
เข้ามารอร๊อรอ ก้อนเมฆกับดวงตะวัน

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [-ตอนพิเศษ- ฉลองเรปครบพัน ,15 มิถุนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 18-06-2010 00:52:23
^
^
^
รีบน รอหน่อยนะ เราไปตบตีนุ้งเซให้ไปทวงต้นฉบับมาแล้ว

นุ้งเซเธอกอดต้นฉบับอยู่แล้วตอนนี้ เดีียวเธอเสร็จธุระ

จะเอามาลงให้ รอหน่อยเน้อ (รออยู่เหมือนกัน)

เซอย่าช้านะ ถ้าเซไม่มา เจอ (ป้า) เตะ  :z6:และ :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]17 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 18-06-2010 01:14:53
 มาแล้วนะพ่อแม่พี่น้อง รอกันนานมั้ย!!!! ค้างกันจนลืมเลยรึเปล่า
วันนี้จัดให้แบบไม่ค้างแน่ๆ ..... ตรงไหนที่มี space เยอะๆ ก็ลองๆเอาเมาท์ลากดูหน่อยนะ
เผื่อว่ามันจะมีอะไรต่ออะไร......บอกใบ้ให้ขนาดนี้กันเลย  :z2: :z2:

(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

จัดให้เป็นพิเศษ ’’ซุกเด็ก’’ ซะที่ไหน บังเอิญอยู่ในช่วงทดลองใช้แต่ยังไม่ใช่โปรโมชั่น”


(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)


ปิดเทอมสำหรับใครหลายๆ คน คงเป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าสวรรค์ ดูอย่างไอ้คู่รักกันแบบไม่เกรงใจสังคม
ชื่อดังสะท้านมหาลัยอย่างเพื่อนเมฆและเพื่อนฉานนั่นปะไร ปิดเทอมทั้งที มันไปหวานกันไกลถึงกระบี่นู่น
ชาวบ้านร้านตลาดเค้ารู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ว่าไอ้เมฆกับไอ้ฉานเป็นอะไรกัน ผมละแปลกใจ ว่าทำไมที่บ้านมันทั้งคู่ถึงไม่รู้เรื่องนี้
แต่อย่างว่าแหละครับ มันทั้งคู่อยู่กันมาตั้งแต่อายุ ห้าหกปี เรียกว่ารักกันแบบเนียนๆ

ปิดเทอมสำหรับผม มันก็แค่ช่วงเวลาที่ต้องทำหน้าที่แทนพ่อ บริหารร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่แสนจะวุ่นวาย
ถ้าเลือกได้ ผมอยากเป็นนักศึกษาตลอดเวลามากกว่า


เสียงคนวิ่งขึ้นบันไดตึงตังโครมคราม ดังสนั่นหวั่นไหวเข้าโสตประสาทผมพอดี เสียงวิ่งแบบนี้ ไม่ใช่คนที่บ้านผมแน่ๆ
ผมวางหนังสือการ์ตูนที่เพิ่งจะเปิดไปได้แค่ไม่กี่หน้า วางลงข้างตัว พอดีกับไอ้เจ้าของเสียงเท้าเขย่าโครงสร้างบ้านผม มันยืนเสนอหน้าเข้ามาในห้องผมพอดี ปากที่กำลังจะง้างเพื่อต่อว่าความไร้มารยาทของไอ้ตัวแสบต้องหุบลงทันที เมื่อไอ้ตัวดีมันส่งยิ้มกว้างแทบจะเห็นฟันทุกซี่ อยู่ตรงหน้า นี่ผมอ่อนโยนเอ็นดูเด็กตั้งแต่ตอนไหนกัน

“พี่ไม้ ผมกลับมาแล้ว” ไอ้ตัวแสบมันเอาตัวเข้ามาในห้องผมแบบเต็มตัว ก่อนจะปิดประตูเบาๆ อย่างคนรักษามารยาท ทั้งๆที่เมื่อกี้ คนที่จะถล่มบ้านผมก็คือมันแท้ๆ

“รู้แล้ว ได้ยินเสียงขึ้นบันไดก็รู้ว่าต้องเป็นนายแน่ๆ ถ้าเป็นบ้านไม้ ป่านนี้พี่คงทรุดไปอยู่ใต้ดินแล้วมั้ง ดีนะที่พ่อไม่ออกมาด่า” ผมก็พูดไปอย่างนั้นแหละ พ่อผมเคยด่าลูกใครซะที่ไหน เค้าก็ด่าได้แค่ลูกตัวเองแหละ

“พ่อพี่ไม้ไม่อยู่หรอก สวนกันที่หน้าบ้านเมื่อตะกี้ แต่งตัวซะหล่อ หวีผมเรียบแปล้ สงสัยจะออกเดท” ไอ้เด็กแสบมันออกความเห็นอย่างกับรู้ดี ถึงแม้สิ่งที่มันคิดจะเป็นสิ่งที่ถูกก็เถอะ แต่สำหรับผมแล้ว มันเป็นเด็กเปรตที่แก่แดดเอามากๆในสายตาผม

“แล้วนี่พี่ไม้กินอะไรหรือยัง ผมยังไม่เข้าบ้านเลยนะ กลับมาปุ๊บแว่บมานี่เลยนะรู้มั้ย” ถ้าเป็นคนอื่นๆ คงคิดว่านี่เป็นคำพูดที่ฟังแล้วดูดี แต่มันไม่ใช่ไอ้แสบตรงหน้านี้แน่ๆครับ ไม่ใช่ว่ามันอยากเห็นหน้าผม หรือเห็นผมสำคัญอะไร พอกลับมาถึงได้มุ่งหน้ามาหาผมก่อน
ความจริงมันมีอยู่ว่า ไอ้แสบตรงหน้า น่าจะเลิกฝึก รด.ตั้งแต่บ่ายแก่ๆ แล้ว แต่มันโผล่หน้ามาตอนสามทุ่มแบบนี้
ถ้าขืนมันเข้าบ้านตัวเอง หายนะต้องเกิดขึ้นกับมันแน่ๆ คงหนีไม่พ้นโดนป๊าว่า แล้วหม่าม้ามาแก้ตัวช่วยจนกลายเป็นเรื่องทะเลาะของป๊ากับม๊ามันแทน เรื่องแบบนี้วนเวียนจนผมคุ้นหูและชินตามาสักระยะแล้ว น่าจะเรียกว่าเห็นมาตั้งแต่มันเริ่มโตเป็นหนุ่มนั่นแหละ แสบสันต์ไม่มีใครเกิน

ป๊า อยากให้ลูกตัวเองแมนสมเด็กผู้ชายทั่วไป และอยากให้มีระเบียบวินัยมีความรับผิดชอบ ตามแบบฉบับของผู้นำครอบครัวทั่วไป
ม๊า เลี้ยงลูกแบบตามใจไม่ขัด เพราะไอ้แสบมันเป็นลูกคนสุดท้อง หรือจะเรียกให้ถูก ต้องเรียกว่าเป็นลูกหลงนั่นแหละ ไอ้ตัวดีมันห่างกับพี่คนที่ติดกันถึง 13 ปี แถมเกิดมาไม่ได้สมบูรณ์แข็งแรงอย่างใครๆ แม่ถึงได้ประคบประหงมอย่างกับไข่ในหิน

“กินแล้ว นี่มันสามทุ่มแล้วใครจะหิ้วท้องเหมือนอย่างนาย ถ้าหิวก็ลงไปบอกแม่บ้านให้เค้าทำอะไรง่ายๆให้ได้ แต่อย่าเกินสี่ทุ่มนะ นั่นเวลาพักผ่อนเค้า” ผมบอกไอ้เด็กแสบที่เห็นมันทำหน้าสลดตอนที่ผมบอกว่ากินข้าวเรียบร้อยแล้ว ดูมันยิ้มเจื่อนๆที่ไม่มีพรรคพวกร่วมชะตากรรม

“งั้นเดี๋ยวผมมานะ” มันลุกขึ้นรวดเร็วจนผมแทบจะดึงมือไว้ไม่ทัน ไวยังกับลิง

“ไม่อาบน้ำก่อนหละ จะลงไปกินข้าวทั้งอย่างนี้นะเหรอ” ผมมองดูไอ้ตัวแสบตรงหน้าแล้วอดไม่ไหว ก็สภาพมันทั้งชุดนักศึกษาวิชาทหารตอนนี้ แทบจะดูไม่ได้ ถึงจะไม่เต็มยศอย่างที่เจอเมื่อตอนเช้า แต่สภาพที่เด็กผู้ชายที่ตัวเล็กบอบบางแบบมันเวลาเอาเสื้อออกนอกกางเกงแล้ว ดูรุ่มร่ามในสายตายังไงก็ไม่รู้ แถมวันนี้ทั้งวันมันไปคลุกดินคลุกทรายมา ทั้งกลิ่นตัวทั้งหน้าตา แทบจะไม่เหลือเค้าเด็กหน้าตาดีสไตล์เกาหลีเมื่อเช้าเอาซะเลย

“แก่แล้วเหมือนกันนะพี่ไม้ นี่กำลังจะเข้าปี 4ไม่ใช่เหรอ ทำไมทำตัวแก่แบบนี้หละ ลิมิตความขี้บ่นใกล้เคียงป๊าผมแล้วนะ”
เจ็บมั้ยหละครับ ห่างกันแค่สี่ห้าปี โดนเด็กหลอกด่าว่าแก่ ไม่ใช่สิ มันด่าผมแบบตรงๆนี่แหละ

“นี่หวังดีนะ เห็นว่าผจญอะไรมาทั้งวัน ถ้าอาบน้ำให้สบายตัวก่อนคงจะกินข้าวอร่อยกว่านะ”

“อาบน้ำนะพี่ไม้ เกี่ยวอะไรกับผงชูรส อาบน้ำแล้วกินข้าวอร่อย ผมก็เพิ่งได้ยินนี่แหละมหาลัยทำให้คนเปลี่ยนไปจริงๆด้วยนะ ผมอาบก่อนก็ได้ ให้เกียรติ์เจ้าของบ้านนะเนี่ย แล้วชุดนอนกับผ้าเช็ดตัวละพี่” ผมส่ายหน้า ไม่ได้ระอาหรือว่ารำคาญ ผมชินแล้วที่ไอ้ตัวแสบมันเป็นแบบนี้ มันจะเถียงหรือแย้งผมทุกครั้ง แต่สุดท้ายแล้วก็ทำตาม

“ไม่มีที่นี่ไม่ใช่โรงแรมนะ นายจะไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านนายก่อนก็ได้” ผมไม่ได้ใจร้าย แต่ผมอยากแกล้งเด็กเฉยๆ ทำไงได้ ผมมันไม่มีน้องชายนี่ ผมเป็นลูกคนเดียว

“ได้ไงหละพี่ไม้ ที่ผมมานี่เลยก็เพราะไม่อยากโดนป๊าด่าพี่ไม้ก็รู้ ถ้าผมเข้าบ้านไปจะเหลืออะไรหละ เอาของพี่ไม้ก็ได้ ผมไม่รังเกียจหรอก” ไอ้ตัวแสบมันโวยวายที่ผมบังอาจขัดใจ

“แล้วไม่ถามพี่บ้างหละว่าพี่รังเกียจนายรึเปล่า แล้วนี่หม่าม๊านายรู้มั้ยว่ามานอนบ้านพี่ ไม่ใช่ไม่รู้แล้วไปแจ้งความคนหาย กลายเป็นพี่กักขังหน่วงเหนี่ยวนายนะ” ไอ้ตัวแสบมันทำหน้าเหวอ ตลกดี คงไม่คิดว่าจะเจอสวนกลับแบบนี้มั้ง

“รังเกียจผมได้ไงพี่ไม้ ผมไม่ได้เป็นกลากเกลื้อนหรือโรคติดต่ออะไรนะ พิสูจน์ได้ “ ผมขำพรืดกับความไร้เดียงสาของเด็กตรงหน้าเลยครับ มันยังเด็กจริงๆนะเนี่ย

“ผ้าขนหนูอยู่ในตู้ฝั่งซ้าย ชุดนอนก็หาๆเอานะ ไม่รู้นายจะใส่ได้รึเปล่า คนละไซส์กันเลย” ผมสูงใหญ่กว่าปลื้มไม่น้อยเลยนะครับ คงจะออกมาตลกน่าดูนะ ปกติมาค้างกับผม ปลื้มจะเรียบร้อยมาจากบ้าน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้นอนด้วยกันเท่าไหร่หรอก กี่ครั้งๆก็เห็นนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ข้างล่าง จนต่างคนต่างหลับ เช้านู่นแหละ ผมถึงจะรู้ว่าปล่อยให้แขกนอนข้างล่าง เพราะผมจะเข้าห้องน้ำ ก็ต้องผ่านร่างบางๆของปลื้มไปก่อน ผมยังเคยคิดว่า ถ้าเผลอเหยียบขึ้นมา ไอ้แสบคงหักครึ่ง

ผมนอนอ่านการ์ตูนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ที่พื้นหน้าทีวีอยู่พักใหญ่ ก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีตัวอะไรอะไรกลิ่นหอมอ่อนๆ ไถลมานอนข้างๆ ชุดนอนผมดูจะใหญ่ไปเมื่อมาอยู่บนร่างของไอ้ตัวดี รุ่มร่ามพิลึก

แต่......
แปลกมั้ย!!! สบู่ก็สบู่ผม แป้งก็แป้งผม ทุกอย่างที่ปลื้มใช้เป็นของผม ทำไมผมไม่เคยได้กลิ่นตัวเอง แต่กลับได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากไอ้ตัวแสบที่อยู่ข้างๆ มันชะโงกมาดูว่าผมอ่านเรื่องอะไร ตามประสาเด็กอยากรู้อยากเห็น

“ดูอะไร ชะโงกทำไมมาใกล้ขนาดนั้น “ผมยันหน้าไอ้ตัวแสบออกไปห่างๆ ยิ่งมันเข้ามาชิด กลิ่นหอมอ่อนๆนั้นยิ่งชัดขึ้นจนต้องเผลอสูดเข้าไปเสียเต็มปอด

“ก็อยากรู้ว่าอ่านถึงตอนไหน ทำไมถึงตั้งใจขนาดนั้น “ ผมต้องลอบถอนหายใจด้วยความโล่ง เมื่อตัวต้นเหตุของกลิ่นหอมที่ยั่วจมูกให้ผมหวั่นไหว มันหยิบหนังสือการ์ตูนที่ผมวางทิ้งไว้แล้วล้มตัวลงนอนไม่ห่างจากผมเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ใกล้จนผมต้องใจสั่นแบบเมื่อกี้อย่างเมื่อกี้ มันไม่เหมือนกลิ่นผู้หญิงแต่มันก็อ่อนหวานกว่ากลิ่นผู้ชายทั่วไปที่ผมเคยเข้าใกล้

กลิ่นหอมของไอ้ตัวดี ทำให้ผมคิดถึงแฟนของเพื่อนสนิทที่มหาลัยอย่างไอ้เมฆ ที่ตอนนี้สนิทกันจนกลายว่ากลุ่มผมและกลุ่มมันรวมเป็นกลุ่มเดียวกันไปแล้ว ผมเคยอยู่ใกล้เมฆแล้วได้กลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นกลิ่นที่ผมเคยคิดว่า อยู่ใกล้แล้วสบายใจ

มันไม่เหมือนกลิ่นผู้หญิงมากมายที่ผมเคยเจอและเคยผ่าน กลิ่นของพวกเธอเหล่านั้น ล้วนเป็นกลิ่นปรุงแต่งที่ฉีดพ่นตัวอย่างกับชโลม เป็นกลิ่นหอมที่ชวนแสบจมูกเมื่อเข้าใกล้ ก่อนมีอะไรด้วย ผมเลยต้องให้เธอเหล่านั้นอาบน้ำก่อนทุกครั้ง ไม่งั้นคงจะไม่ไหว คงไปไม่ถึงสวรรค์แน่ๆ

“พี่ไม้ พี่เมฆกับพี่ฉานเป็นยังไงบ้าง” ผมสะดุ้งตกใจ กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ๆไอ้ตัวดีมันก็ขยับเข้ามาใกล้จนตัวจะชิด แถมถามถึงคนที่ผมเพิ่งนึกถึงไปเมื่อกี้ด้วยแล้ว อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น…….ว่ามั้ย!!!!

“มันไปฮันนีมูนกันไกลถึงกระบี่ รักกันแบบเถื่อนๆดี ตามประสาแหละ ว่าแต่ทำไมอยู่ๆถึงถาม” ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร ที่ไอ้ตัวแสบมันถามถึงคู่รักคู่ดังประจำคณะผม และคณะข้างๆ

เพราะเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนไอ้ตัวดีคนหนึ่งมาสารภาพว่าเป็นเกย์ และมีแฟนผู้ชายต่างโรงเรียนกัน เพื่อนๆในกลุ่มเลยสับสนกึ่งรับได้กึ่งตกใจ กับความเปลี่ยนไปแบบไม่ทันตั้งตัวของเพื่อน เลยมาปรึกษากับผมว่า ถ้าเพื่อนสนิทในกลุ่มเป็นเกย์ แล้วผมจะทำยังไง จะเลิกคบกับเพื่อนมั้ย จะอายใครหรือเปล่าที่มีเพื่อนเป็นแบบนั้น ผมเลยต้องบอกไปว่า เราคบเพื่อนที่ตรงไหน ที่นิสัยใจคอ คบกันเพราะความรัก ความหวังดี ห่วงใยเอาใจใส่กันไม่ใช่เหรอ แล้วการที่เพื่อนเป็นเกย์ มันลบล้างมิตรภาพดีๆ ไปเลยเหรอ เพื่อนเป็นเกย์ไม่ได้เดือดร้อนใครที่ไหน ความรักบางครั้งมันออกแบบไม่ได้ มันเลือกไม่ได้ ผมไม่ได้ตกใจอะไรที่ เมฆกับฉานเป็นแฟนกัน ตราบใดที่มันทั้งสองคนยังเป็นเพื่อนคนเดิมของผม ไม่ว่ามันจะเป็นกระเทยหรือสักวันมันจะไปแปลงเพศ มันก็ยังเป็นเพื่อนผมอยู่ดี ผมเลยเอาคู่รักตัวอย่าง ที่รักกันไปทะเลาะกันไปแทบจะทุกวัน แต่มันก็รักใคร่ห่วงใย เอาใจใส่กันดี ที่ตัดสินใจเล่าให้ปลื้มฟัง เผื่อบางที ไอ้ตัวดีจะดวงตาเห็นธรรมกับเขาบ้าง หรือไม่ ก็คงจะเป็นเหตุให้มันตัดสินใจอะไรสักอย่าง นั่นก็ขอให้อยู่ที่เวรกรรมที่ทำมาก็แล้วกัน

“ก็วันนี้อ่ะ แฟนทศมารับที่ศูนย์ฝึกด้วยอ่ะ ดูทศมันมีความสุขดี ไม่เหมือนตอนมันคบแอนนะ ตอนนั้นทศมันเหมือนคนโดนของ ใครเข้าหน้าก็ไม่ติด แทบจะทะเลาะกันตาย เพราะมันทะเลาะกับแอนแล้วพาลเพื่อนๆ”

“อืม ก็ดีแล้ว” ผมกลับมาสนใจหนังสือการ์ตูนต่อ

“พี่ไม้ ตอนนี้พี่ไม้คบใครอยู่ป่าวอ่ะ” ผมต้องละสายตาจากการ์ตูนตรงหน้าอีกครั้ง เมื่อไอ้ตัวแสบมันถามอะไรที่ทำให้ผมหวั่นใจอยู่ลึกๆ
“ยัง ทำไมอ่ะ ยังอยากเป็นพ่อพวงมาลัยอยู่” ผมตอบมันเล่นๆ แต่ผมก็คิดแบบนั้นอยู่จริงๆ ตอนนี้ยังไม่เจอใครที่ถูกใจ เลยลอยไปลอยมา หาคนเต็มใจแบบชั่วคราวไปเรื่อยๆ

“งั้นมาเป็นแฟนผมมั้ย ผมอยากมีแฟนเป็นผู้ชายดูบ้าง” ไอ้ตัวแสบมันมองผมด้วยสายตาแน่วแน่จริงจัง จนหนังสือผมแทบจะร่วงจากมือ ไม่มีแววตายียวนกวนประสาทที่ผมคุ้นเคยส่งมาเลย

“เฮ้ย ไม่ใช่เล่นขายของนะเว้ย อะไรเนี่ย เมาป่ะ เมาก็นอนๆ “ผมรู้ครับว่าไอ้ตัวแสบไม่ได้เมา มันไม่ได้กินอะไรที่มีแอลกอฮอลล์ด้วยซ้ำ แต่ผมยังตกใจแค่นั้นเอง

“ทำไมหละ ก็พี่ไม้ยังไม่มีใคร ทำไมจะคบกับผมไม่ได้หละ นะพี่ไม้ เอางี้มั้ย คบกับผมแต่พี่ก็ยังเป็นพ่อพวงมาลัยเหมือนเดิมได้ เอาป่ะ” แหม มันยื่นข้อเสนอประมาณว่า ถ้าผมตกลงภายในสามนาทีนี้ ผมจะได้อั้ม พัชราภา มากอดฟรีๆ ยังงั้นแหละ

“เฮ้ย เรารู้ปะเนี่ย ว่าแฟนคืออะไร แล้วเค้าทำอะไรกันบ้าง มันไม่ใช่ตกลงเป็นแฟนกันแล้วจบนะ มันต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แล้วอีกอย่างพี่ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย” ผมอธิบายปากคอสั่น ตอนนี้หนังสือการ์ตูนกระเด็นหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

“ไม่เคย ก็นี่ไง ครั้งแรก นะ พี่ไม้นะ เป็นแฟนผมนะพี่ไม้ ผมจะไม่งี่เง่า จะไม่ขี้หึง จะไม่จู้จี้ จะไม่อะไรให้พี่รำคาญ แต่เป็นแฟนกับผมหน่อยนะ “ มันร้องเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น แล้วพ่อแม่ไม่ซื้อให้อะครับ แถมมือไม้ทั้งสองของมัน มาเกาะแขนผมแล้วเขย่าๆ เหมือนเด็กเอาแต่ใจที่อยากได้อะไรแล้วต้องได้

ไอ้ตัวแสบจับแขนผมแล้วเขย่า
ผมป้องกันตัวเองด้วยการเอามือยันหน้าผากมั้นไว้ ให้มันปล่อย
มนุษย์ผู้ชายสองคนกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันโดยไม่มีใครยอมใคร แล้วไม่มีใครรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิด

ผมเองก็เคยบอกพวกคุณแล้ว ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ ผมไม่ได้ตั้งใจ

มันบังเอิญว่าผมเริ่มจะสู้แรงเด็กไม่ไหว เลยต้องหาหนทางหยุด แต่จะหยุดไอ้เด็กแสบที่มันประทุษร้ายต่อแขนผมนี้ได้ยังไง
ไม่รู้สมองฝ่ายต่ำส่วนไหน ที่สั่งให้ผม ดึงไอ้ตัวแสบเข้ามาปะทะกับแผ่นอก ดูมันตกใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
แต่ทำไมมือมันยังสั่นแขนผม ผมไม่รู้จะทำยังไง มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ผมไม่ได้ตั้งใจ
ผมไม่ได้ตั้งใจจะประกบปากแดงๆนั่นเอาไว้ แต่แล้วใครใช้ให้มันพร่ำพูดแต่ว่า “เป็นแฟนผมนะพี่ไม้นะ” หละ
ใครใช้ให้มันตัวนุ่มนิ่ม หอมกลิ่นแป้งเจือด้วยกลิ่นสบูอ่อนๆ มันทำให้จมูกผมอดที่จะสูดดมไม่ไหว
ไอ้ตัวแสบนี่เนื้อตัวมันนิ่มไม่พอ ลูบแล้วยังลื่นมือด้วยนะ แล้วกลิ่นที่โชยอยู่ใกล้ๆ ก็ว่าหอมแล้ว ยังเทียบไม่ได้กับที่ผมลองฝังจมูกลงไปที่ต้นคอนั่นเลย ลองเอาลิ้นแตะๆ เลียๆ ดู ไม่ใช่แค่กลิ่นหอม แต่รสยังหวานด้วยนะ ไอ้ตัวแสบเกร็งตัวเอง แต่ผมไม่สงสาร อีกอย่างมันไม่ได้ขัดขืนคัดค้านอะไร ถ้าผมจะหากำไรเล็กๆน้อย ก็คงจะไม่เป็นไรหรอกนะ



 มือผมล้วงเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังมันเมื่อไหร่ไม่รู้ แผ่นหลังเรียบลื่น ผมจับมือไอ้ตัวแสบมาเกาะบ่าเอาไว้ มันก็วางไว้แบบนั้น
“คล้องคอพี่เอาไว้สิ”
“อืม” แค่นั้น ไอ้ตัวแสบมันตอบแค่นั้น แล้วก็ทำตามที่ผมบอก ผมไซร้ซอกคอ สลับกับไล้ลิ้นเลีย มือผมลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง ก่อนจะมาหยุดที่เม็ดองุ่นสองข้างด้านหน้า ใช้ปลายนิ้วเขี่ยเล่นแล้ววนไปรอบๆ เสียงไอ้ตัวแสบเริ่มครางอืออา จนผมต้องเผลอดูดซอกคอขาวนั่นด้วยอารมณ์หวามไหวเต็มที่ ผมต้องผละจากซอกคอทั้งสองข้าง มาปิดปากเด็กแก่แดดก่อนที่เสียงครางแหบแห้งแต่หวานหูนั้นจะดังไปกว่านี้ ใช้ลิ้นเลียไปตามริมฝีปาก จนเด็กน้อยเคลิ้มได้ที่ก็ค่อยส่งปลายลิ้นเข้าไปควานหาลิ้นของอีกคน ท่าทางตอบสนองแบบไร้เดียงสา ทำให้ผมต้องกวาดต้อนลิ้นนั้นอีกครั้งและอีกหลายๆครั้ง จนอีกฝ่ายเริ่มส่งลิ้นมารุกไล่ตอบสนอง ผมดึงเสื้อที่เกะกะรุ่มร่ามออกโดยไม่คิดจะปลดกระดุมให้เสียเวลา ก่อนจะดันร่างเด็กน้อยให้ล้มลงบนผ้านวมผืนหนา จมูกและลิ้นผมทำหาที่ไล่ล่าหาความหอมหวานอีกครั้ง จูบไล่ไปทั่วทั้งหน้า ลากลิ้นไล้ไปทั่วทั้งซอกคอ ยิ่งไอ้ตัวดีส่งเสียงครางประท้วงเมื่อไหร่ ปากผมยิ่งดูดเม้มเนื้ออ่อนที่ผมลากไล้ไปถึงเมื่อนั้น ฐานคอและไหล่เกิดรอยแดงหลายจุด ก็สวยดี ดูมีศิลปะ
ปลายลิ้นผมซุกซนไล่หาความหอมหวานมาจนเจอเม็ดองุ่นที่ตอนนี้เริ่มแข็งเป็นไต ยิ่งผมใช้ปลายลิ้นแตะลงไป ไอ้ตัวแสบยิ่งแอ่นตัวตอบสนองผมมากขึ้น ปากส่งเสียงให้รู้ว่าทรมานกับความเสียวซ่านมากแค่ไหน ลิ้นผมจมูกผมก็จะยิ่งเลาะเล็มไล่ชิมผิวเนื้อที่ต่ำลงไป ต่ำลงไป กางเกงนอนหูรูดตัวบางเบา ไม่ได้ครณามือผม เมื่อมันโดนเกี่ยวจนร่นไป ก่อนที่จะใช้ปลายเท้าเขี่ยไปให้พ้นๆทาง ตี่ตี้น้อยยืนตรงทำความเคารพทันที ที่ผมกำจัดด่านปราการสุดท้ายจนพ้นตัวเจ้าแสบได้ น้ำที่กลั่นออกมาจากความเสียวซ่าน ปลิ่มปลายยอดจนจะหยดไหล เหมือนปากและลิ้นผมจะเสียดายน้ำหยดนั้นจนทนไม่ไหว
ปลายลิ้นจึงได้ตวัดเก็บกลับเข้าปากไป.......หวานขนาดนี้ ปล่อยให้หยดไป เสียดายแย่
“อืม พี่ไม้ อือ ไม่ไหว จะทำอะไรก็ทำเถอะ ผมจะไม่ไหวแล้วนะ มัน มัน อูยยย” ผมไม่รู้ว่าไอ้ตัวดีมันจะบอกว่าอะไร ปากผมก็อมตี่ตี้น้อยเอาไว้ทั้งลำ ก่อนจะรูดเข้ารูดออกเป็นจังหวะ บางครั้งก็เปลี่ยนมาเป็นวนไล้ไปรอบๆ ปลายยอดที่ตอนนี้เป็นสีแดงและบวมเป่ง ปลอกเนื้ออ่อนนุ่มที่เคยปกป้องปลายยอดอ่อนของตี่ตี้น้อยเอาไว้ ก็โดนผมปอกลอกจะจนเห็นเนื้อในสีชมพูอมแดง ผมเลียไปรอบๆก่อนจะดูดกลืนมันเข้าไปในโพรงปากอีกครั้ง มืออีกข้างที่ลูบไล้ไปทั่วตัวไอ้ตัวดี ตอนนี้มันต้องมาคอยทำหน้าที่ ที่สำคัญไม่แพ้กัน ปากผมดูดกลืนตี่ตี้น้อย มือผมต้องคอยช่วยไม่ให้ตัวเองต้องปวดหนึบกับความหวามไหวและอารมณ์ร้อนรุ่ม ด้วยเสียงครางกระตุ้นของเด็กน้อยที่อยากรู้อยากเห็นจนเป็นเรื่อง มันมาไกลจนกู่ไม่กลับแล้ว เมื่อผมเร่งมือตัวเอง พร้อมกับเร่งปากดูดเม้ม รูดสลับเข้าออก เด็กน้อยเริ่มร้องครางไม่เป็นภาษา มือเริ่มจึกหัวไหล่ผมจนแสบไปหมด เสียงอืออาซี๊ดซ๊าด ยิ่งเร่งอยากให้ผมไปถึง จุดนั้นให้เร็วที่สุด จุดที่ผมเองไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องไปให้ถึงให้ได้แล้วตอนนี้
“พี่ไม้ ไม่ไหวแล้วนะ ผมจะถึงแล้ว พี่ไม้ มันจะออกแล้ว พี่ไม้ ปล่อย ปล่อย พี่ไม้ ผมกลั้นไม่ได้แล้ว “เสียงร้องห้ามครั้งแรกตั้งแต่เริ่มเกมส์ ไม่ได้ทำให้ผมสะเทือนอะไรตรงไหน ยิ่งไอ้ตัวดีเอามือดันตัวผมออกห่างเท่าไหร่ ผมยิ่งเร่งความเร็ว ปลายลิ้นเริ่มรัวแรง ก่อนจะดูดเม้มจนสุดท้าย ผมก็ดูดกลืนความหวานนั้นไว้ ไม่ได้รังเกียจ ไม่เคยรังเกียจ ใครจะรังเกียจรสหวานตามธรรมชาติของความไร้เดียงสาได้หละ ผมดูดกลืนหมดจนหยดสุดท้าย ร่างไอ้ตัวดีกระตุกสุดแรงพร้อมเสียงครางแหบยาว ก่อนที่มันจะปล่อยมือจากไหล่ผม ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง นอนหอบครางอยู่ตรงนั้น
ส่วนผมก็ต้องหาทางพาตัวเองไปถึงจุดนั้นด้วยเหมือนกัน ผมเร่งมือรูดเข้ารูดออกช้าๆ ก่อนจะเร่งจังหวะขึ้น เสียงหอบหายใจเริ่มติดขัด เมื่อทุกอย่างเริ่มได้ที่ ผมทำอย่างที่ตัวเองทำมาตลอด จนมันใกล้ จนผมเริ่มจะทนไม่ไหว เมื่อหยาดหยดแห่งความสุขสมของผมกำลังเดินทางอย่างบ้าคลั่ง

แต่แล้ว

“พี่ไม้ ผมทำให้ ผมทำให้พี่บ้าง” ไอ้คนที่ผมคิดว่าหมดแรงนอนหอบครางอยู่ข้างๆ มันลุกขึ้นมองมาที่น้องชาย และมือที่ผมผมกำลังชักให้น้ำรักวิ่งมาถึงปลายทางสักที
“ไม่ต้อง ไม่เป็นไร พี่จะเสร็จแล้ว” ตัวผมเริ่มเกร็ง เลยตอบไปแบบเสียงสั่นๆ สลับหายใจหนักหน่วง ผมเริ่มจะไม่ไหวแล้ว มันเดินทางมาถึงป้ายสุดท้าย
“ไม่เป็นไรพี่ ผมทำได้ ทำแบบเมื่อกี้ใช่มั้ย ผมทำให้” ยังไม่ทันจะห้ามปรามอะไร  ไอ้ตัวแสบมันก็เอาปากตัวเองมาทำหน้าที่แทนมือผมที่ตอนนี้ เกร็งจนปวด ไม่ต้องเล้าโลมอะไร เพราะตอนนี้มันใกล้เต็มที ไอ้ตัวดีเลยได้แต่ดูดเอาๆ เด็กหนอเด็ก มันจะรู้บ้างมั้ย ว่าไอ้ก้มหน้าก้มตาทำแบบนั้นโดยไม่คิดอะไร มันทำให้ปลายทางที่ว่าไกล มันใกล้ขึ้น ใกล้จนปลดปล่อย มันคงเยอะไม่ใช่น้อยเมื่อไอ้ตัวดี เริ่มกระตุกปาก ก่อนถอนออกมาแล้วอมไว้

มันจ้องหน้าผมทั้งๆที่ยังพองแก้มไว้ทั้งสองข้าง ตาโตพยายามมองผมแบบขอความเห็น

“ไปคายทิ้งสิ ไปคายทิ้งที่ห้องน้ำ” ผมดึงให้ไอ้ตัวดีมันลุกขึ้น หน้าแดง น้ำตาเริ่มปริ่มจะไหลนั้น ทำให้ผมสงสาร ครั้งแรกก็เป็นแบบนี้ คนไม่เคยก็คงจะรู้สึกแปลก กับรสหวานตามธรรมชาติของน้ำรัก แต่ไอ้ตัวดีมันฝืนตัวเอาไว้ ก่อนจะกลืนกินให้สิ่งที่อมเอาไว้จนแก้มตอบ
“เฮ้อออออออ “ ไอ้เด็กแก่แดดมันถอนหายใจยาว ผมยื่นน้ำ ที่มีติดห้องเอาไว้อยู่แล้วให้ รู้สึกสงสาร คงจะทรมานน่าดู ไอ้ตัวดีซดน้ำอึก อึก จนหมดขวด ก่อนจะใช้หลังมือป้ายปาก จนผมรู้สึกสลดใจ  นี่ผมทำอะไรลงไป ท่าทีของคนตรงหน้า ทั้งเด็กทั้งไร้เดียงสา จนผมแทบจะต่อยหน้าตัวเอง ที่ไม่ยอมระงับจิตใจฝ่ายต่ำ แค่เนื้อนุ่มนิ่ม แค่กลิ่นหอมหวาน ก็พาผมมาไกลได้ขนาดนี้
“ เป็นไงบ้าง ผมอดถามด้วยความห่วงใยไม่ได้ แม่น้ำตาที่เห็นว่ารื้นๆจะไหลๆ จะหยุดแล้ว แต่หน้ายังแดงปลั่งอยู่เลย
“ไม่เป็นไรแล้ว ผมเห็นพี่ไม้ ดูดเอาๆ นึกว่าจะอร่อย ที่ไหนได้ “ ไอ้ตัวดีมันทำหน้าแหยงๆ เหมือนจะร้องไห้ ผมเริ่มใจไม่ดี
ก็ต้นเหตุมันมาจาก น้ำรักของผมนี่นา

“มันแย่มากเหรอ แต่ของนายมันหวานดีนะ โอเคมันอาจจะเวอร์ไปที่บอกว่าหวาน แต่มันรสชาติดีจริงๆ” ผมเห็นไอ้เด็กตรงหน้า มันเริ่มหลบตา ผมก็พอจะดูออกด้วยประสบการณ์ว่า มันเขิน

“มันก็ไม่ได้แย่ แต่ผมไม่กินกินอะไรรสชาติแบบนี้ มันเลยไม่ชิน ไว้ครั้งต่อไป ผมจะแก้ตัวใหม่นะ บ่อยๆไปมันก็อร่อยเองแหละน่า” ผมอดใจไม่ไหวที่จะดึงคนตรงหน้ามางับปากดูดดุดกลืนกิน ถ้าผมกลืนปากแดงๆช่างพูดช่างกวนประสาทนี้ได้ ผมทำไปแล้ว  เด็กแก่แดดมันจะรู้มั้ยว่าคำพูดมันน่ารักสุดใจแค่ไหน มันจะทำให้ผมบ้าตายเพราะความไร้เดียงสาของมันนี่แหละนะ



“รู้มั้ยว่าพูดอะไรออกมา” ผมปล่อยให้เด็กแสบเป็นอิสระ ปากแดงๆเริ่มเจ่อ ก็แน่หละ โดนผมดูดกลืนมาเท่าไหร่ต่อ เท่าไหร่ แล้ว

“รู้สิ ผมรู้ว่าผมพูดอะไร แล้วพี่ไม้รู้มั้ยว่าตัวเองทำอะไรลงไป รับผิดชอบด้วยนะ ตอบตกลงเป็นแฟนผมเลยด้วย ผมไม่ได้ขัดใจอะไรพี่เลยนะ เห็นมั้ย” ไอ้ตัวดีมันจะน่ารักใส่ผมอย่างนี้อีกนานมั้ย ถ้าผมห้ามใจตัวเองอีกไม่ได้ จับลูกเค้ากดอีกสักรอบขึ้นมา แล้วจะทำยังไง

“พี่ไม้ ตกลงจะเอาไง จะเป็นแฟนผมได้รึยัง “ ข้อเรียกร้องพร้อมปากยื่นๆหน้างอนๆนั้น น่ารัก จนผมไม่รู้จะทำยังไง

“ก็ ก็ ก็ได้ มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับแหละนะ” ผมจะทำยังไงได้ นอกจากตอบตกลงมันไปก็เท่านั้น

ทำไงได้ ก็ผมกินลูกเค้าไปแล้วทั้งตัวขนาดนั้น .....

เลยต้องยอมเป็นแฟนเด็กไปโดยปริยาย แต่ยังบอกใครไม่ได้นะ เดี๋ยวโดนล้อตายเลย ยิ่งไอ้คู่รักปากหมาระดับชาติอย่างไอ้สองตัวนั้น ถ้ามันรู้ มันคงถล่มหัวเราะใส่ผมแน่ๆ

มันก็แค่บังเอิญ....ผมบอกแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ.....ไม่ได้ตั้งใจจะ “ซุกเด็ก” เอาไว้ จริงๆนะ


ขอบคุณสำหรับการติดตาม คู่รักอีกคู่ของแกงค์พี่เมฆกับท่านฉานค่ะ
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)

===============
 :m25: อยากได้แบบฟูลคอร์ส เมื่อไหร่เนี่ย เดี๋ยวไปตบตีนังคนเขียนให้นะ  :z1: ไอ้เรานึกว่าจะได้ฟูลคอร์ส
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]17 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 18-06-2010 01:36:04
 :pighaun:ไม้กับปลื้ม :haun4:

ชอบตัวหนังสือสีขาวที่สุด :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]17 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 18-06-2010 01:46:15
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด   :m25:

พี่ไม้เคอะ.....วันแรกก็....เลยนะเค๊อะ....   :-[
อย่างนี้ต้อง "รับผิดชอบ"  อย่างเดียวแล้วล่ะค่ะ    o13

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 18-06-2010 02:12:56
น่ารักอีกคู่
รอนายฉานกะน้องเมฆ
ดราม่า ไม่เอานะ writer
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 18-06-2010 02:13:47
 :laugh:  ไวไฟกว่าคู่รักปากหมาอีกเคอะ  กว่าพี่ฉานจะได้แอ้มพี่เมฆก็หลายปีอยู่นะ  :jul3:

แต่คุณพี่ไม้นี่.... :z1: และก็นะ คุณน้องปลื้มก็จะขี้อ้อนไปไหน รู้ไหมมีคนเขาคิดไปไกลลลลลลล :haun5:


 :haun4:


รอพี่ฉาน&น้องเมฆมาอะจะปะเฮ้ยแบบเต็มบทอยู่นะจ๊ะ :m1:


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 18-06-2010 03:35:53
วัยรุ่นสมัยนี้แอร๊ยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 18-06-2010 04:00:22
 :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 18-06-2010 06:46:03
 o13   คู่นี้ เป็นอีกคู่ ที่ น่ารักวะค้าบบบบ ติดตามมม อยากอ่าน แบบ เต็มๆจังเลยยย

แค่ตอนพิเศษ ก็เสีย เลือดแล้วว  :jul1: ฮ่าๆ

พี่เมฆ กับพี่ฉานสองคนนี้ นี่ จะ น่ารัก รักกันไปไหน 555

พี่ฉาน แม่ง โคตร แมนได้ใจจจจจจ 

ปล.  :mc1: เอาไรเตอร์ แบกกลับบ้านดีกว่าาา

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 18-06-2010 06:48:00
ขอบคุณคนแต่งคนโพสจ้า
มาไวเสร็จไวทันใจวัยรุ่นจริงๆ
ไม้กับปลื้มความหวานแซงหน้าเมฆกะฉานซะละ
กินเด็กมันก็อร่อยแบบนี้จริงมั้ยคนแต่ง :impress2:
ตอนหน้าขอฟูลคอร์สแบบไม่ค้างนะจ๊ะ :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 18-06-2010 07:24:45
 :m20: :m20:

 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 18-06-2010 08:23:19
พี่ไม้ไวไฟอะ กินเด็ก เพราะเด็กก็ดันแก่แดด มาทำให้หัวใจของชายไทยอย่างไม้หลงกล
แต่ก็ชอบอะนะไอ้น้องปลื้มที่มัน กล้าดี
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 18-06-2010 08:40:07
 คุคุ  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-06-2010 09:49:15
สุดยอด!! ไม้นี่หื่นใช่ย่อย ไม่แพ้นายฉานแสงแรงกล้าเลยจริงๆ มิน่าล่ะ ถึงเป็นเพื่อนรักกัน  o13

แต่ว่าถ้าคู่รักแห่งปีรู้เรื่องนี้ ไม้กับตีตี๊จะโดนล้อป่าวนา อิอิอิ   :m20:

น่ารักดีครับผม! น่าจะแยกเรื่องคืนหนึ่งคืนนั้นของไม้กับปลื้มออกมาเป็นอีก 1 เรื่องเลยนะเนี่ย เพราะเป็นคู่ที่น่าติดตามไม่แพ้ก้อนเมฆกับดวงตะวันเลยจริงๆ  o13

แอบเข้ามาปลื้มกับนายไม้  :L2:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 18-06-2010 10:14:30
อยากได้ฟูลคอร์สอะ อยากได้ ๆ 55+  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-06-2010 11:15:01
พี่ไม้คะ  มีใครเคยบอกพี่มั๊ยว่า  พี่น่ะ  ไวไฟที่สุดเลยอ่ะ
เขินอ่ะ....
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 18-06-2010 11:34:28
ไม้กับฉานสมแล้วที่อยูแก๊งเดียวกัน  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Kwawaic ที่ 18-06-2010 15:21:41
อ๊ายยยยยยยยยยยยย เลยทีเดียว

รอพี่เมฆค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 18-06-2010 16:02:10
น้องปลื้มน่ารักจะเอาๆๆๆๆๆๆอยากได้น่ารักๆแบบน้องปลื้มอ่ะ :m1:
อิชชี่พี่ไม้มากกกกกกกกกมีเด้กน่ารักๆอย่างนี้โห้ยเป็นเค้าหลงตายเลย
อยากมีแฟนเด็กกกกกกกอิอิ :m1:
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าค่า
+1เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 18-06-2010 16:24:34
ไม้แกเตรียมร้องเพลงนี้ไว้เลยะนะ เอ้า สาม สี่พร้อม
มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกาย... :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 18-06-2010 16:35:20
อยากมีแฟนเด็กๆ แบบนี้บ้างอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 18-06-2010 17:44:45
รักเกิดขึ้นเพราะความอยากรู้อยากลองของเด็ก
ไม้แพ้เด็กนะนั้น
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 18-06-2010 19:16:49
พี่ไม้ทำเค้าแทบหมดเลือดเลยจริงๆๆๆๆ
โอ้ยยย น่ารักเหมือนกันนะคะเนี่ยคู่นี้...
ถ้าเค้ามีเด็กน่ารักๆแบบนี้ข้างๆกาย แบบว่า
เค้าก็คงอยากจะซุกไว้เหมือนกันแหละนะ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 18-06-2010 19:40:11
หญ้าอ่อนนี่มัน หอม และ หวาน อย่างนี้นี่เอง

 :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-06-2010 19:49:34
ซุกเด็กจะติดคุกหมือนซุกหุ้นมั้ยนี่ :laugh:
น่ารักจริงๆคู่นี้ :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 18-06-2010 20:21:52
 :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 18-06-2010 20:28:40
+1 ค่ะ พี่ไม้กินเด็กๆ ๆ  :-[ :-[
น้องปลื้มน่ารักจัง แบบนี้สงสัยพี่ไม้จะหลงเอานะ อิอิ
พี่ไม้ก็รับผิดชอบเลยนะ กินลูกเค้าไปแล้วนิ  :z1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 18-06-2010 20:45:52
ไม้กินเด็ก :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 18-06-2010 21:26:47
พี่ไม้งาบเด็ก

รอๆเมฆกับฉานต่อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 18-06-2010 21:47:41
ตี่ตี้น่ารักอ่ะ
ไร้เดียงสาซะจริง
เอานะพี่ไม้ กินเด็ก หรือซุกเด็ก ก็ดีออก หวานๆกลมกล่อม รสอูมามิ   :laugh:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 18-06-2010 22:07:56
พี่ไม้+ปลื้ม...เกินเลยกันไปเรียบร้อย :o8: ไงก็ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปนะคับ คู่รักมือใหม่ :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-06-2010 22:28:45
เข้าตำราก็เด็กมันยั่วเลยเนอะ  :z1:  แต่น่ารักอะ
ปกติไม่ค่อยชอบสีขาวเท่าไร แต่เพิ่งจะรู้ว่า สีขาวมันเวิร์คก็คราวนี้เอง กรี๊ดดดดดด  :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 18-06-2010 23:02:22
ตามมาทันคนอื่นแระ
ขอชอบเมฆกับฉานด้วยคนคะ หวานน่ารักดี :o8:
คงจะไม่มีรันทดหดหู่นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: b_hihi ที่ 18-06-2010 23:05:49
ยกซดเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 19-06-2010 01:55:57
 :haun4: เห่อๆๆๆ คู่รักคู่ใหม่ :mc4: :bye2: o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: zingiber ที่ 19-06-2010 09:13:57
กรี๊ดดดดดดดดดดด เด็กพี่ไม้น่ารักจังเลย :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 19-06-2010 12:38:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 19-06-2010 23:02:54
ดันพี่ไม้กินเด็กต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 20-06-2010 00:40:03
น้องตี่ตี้น่ารักดี พูดจาน่าฟัดมากกกกกกกก
พี่ไม้ก็นะ สมกับเป็นเพื่อนกับพี่ฉานจริงๆ   :z1:

น่ารักมากเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ"ซุกเด็ก"]18 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 20-06-2010 11:01:09
คู่นี้น่ารักจริงๆ

ชอบน้องปลื้มน่ารักมากมายเลยจ้า

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 20-06-2010 20:52:22
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 37
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)
 

ลุ้น!!!! ให้ตาย ผมเพิ่งเข้าใจความหมายของมันอย่างถ่องแท้ก็ตอนนี้เอง


ภายในห้องพักผู้ป่วยวีไอพีที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลใกล้มหาลัย
มีสิ่งมีชีวิตหน้าตาดีบ้างแย่บ้างสลับกันไป ล้อมรอบเตียงผู้ป่วย ที่บัดนี้ ใบหน้าซีดขาวนั้น
มีรอยซับเลือดสีสดเข้ามาแทนที่ให้เห็นบ้างแล้ว ดวงตาที่ปิดสนิทยาวนานมาหลายชั่วโมง
ตอนนี้กลับลืมขึ้นมา พร้อมกลอกหน่วยตาไปมา เหมือนพยายามจับจุดการมองเห็นให้แน่ใจ

ผมบรรยายเว่อร์ไปใช่ไหม !!!

ก็แค่อยากจะบอกว่า ตอนนี้ไอ้ไม้ฟื้นแล้ว อย่างที่ไอ้เด็กข้างบ้านกระโดดโห่ร้องด้วยความดีใจ
และผมก็ได้เอ่ยปากยินดีต้อนรับมันไปแล้วเมื่อหลายนาทีที่ผ่านมา

แต่ว่า ........ ไอ้ไม้มันยังเงียบ

จากที่พวกผมโห่ร้องจนไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร กลายเป็นสงบปากกันไปโดยปริยาย
ไม่มีเสียงตอบรับจากเพื่อนไม้ นอกจากมองมันกรอกตาไปมามองฝ้าเพดาน
พวกผมเองก็มองมันด้วยอาการลุ้นๆ เมื่อมันเริ่มหักสายตามองมารอบๆเตียงตัวเองที่พวกผมยืนเสนอหน้าอยู่

“เฮ้ย ตี่ตี้ มาอยู่นี่ได้ไง” เสียงแรก ที่ผมรอลุ้นกันมาทั้งวัน

“ให้ขั้วโลกเหนือร้อนเถอะครับควาย เพื่อนยืนลุ้นกันตั้งมากมาย คนแรกที่มึงทักทายคือเด็กแสบข้างบ้าน” ขอโทษครับผมรู้ว่าเพื่อนป่วย แต่มันน่าหมั่นไส้จนช่วยไม่ได้จริงๆ

“พวกมึงมารุมล้อมซุปเปอร์สตาร์กันทำไม ว่าไงตี่ตี้ พี่ถามว่ามาอยู่นี่ได้ไง” ผมว่าตอนมันโดนรุมกระทืบ สมองมันต้องได้รับความระทบกระเทือนอย่างแรงแน่ๆ ผมลอบมองไอ้เด็กแสบข้างบ้านมัน ที่ตอนแรกนั้นยิ้มเริ่งร่าสดใส ตอนนี้หน้าตาน่ารักๆนั้นเจื่อนลงจนเห็นได้ชัดเจน

“ผมนั่งรถเมล์มา” ไอ้เด็กแสบมันกระมิดกระเมี้ยนตอบแบบสงวนท่าที

“ไม่ใช่ พี่หมายถึง นายรู้เรื่องได้ไง” มึงถามผิดเองนะไม้ แล้วไปดุเด็กมันทำไมวะครับ

“ก็ผมโทรหาพี่แล้วตำรวจรับ ผมเลยรู้เรื่อง ก็มาอยู่นี่แหละ แต่ผมบอกพี่แล้วใช่มั้ย ให้เรียกผมว่าปลื้ม” มันหงอแต่มันก็ยังไม่วายเรียกร้องข้อตกลง ที่ไม่รู้มันไปทำกันตอนไหน ไม่เป็นไร ผมนี่แหละจะงัดแงะความลับนั้นออกมาให้ได้

“เฮ้ยๆ มึงสนใจพวกกูหน่อยได้มั้ย โลกนี้ไม่ได้มีมึงแค่สองตัวนะครับเพื่อนไม้ สนใจพวกกูบ้างก็ได้” ไอ้แกละครับ มันโพล่งออกมาอย่างทนไม่ได้
“เออๆ กูแค่แปลกใจ ที่ไอ้ตัวแสบข้างบ้านมาอยู่ที่นี่ได้ กูไม่เป็นไรแล้วหละ ตอนนี้แค่ปวดเมื่อย แล้วเจ็บแผลนิดหน่อย ขอบใจพวกมึงมาก” มันร่ายยาวหลังจากตั้งสติได้

“ไม่เจ็บได้ไง มึงมีเลือดคั่ง นี่เค้าเพิ่งถอดสายออกไป แล้วหัวมึง หน้ามึง เยินอย่างนี้ มึงบอกไม่เป็นไรได้ไง” ผมรู้ว่ามันเจ็บอยู่ แต่อยากให้พวกผมสบายใจ จะให้ผมลืมภาพแรกที่เจอมันง่ายๆได้ยังไง

“เมฆ กูไม่เป็นไรแล้วจริงๆ มึงสบายใจได้ อย่าทำหน้างั้นดิ” ผมไม่สนใจว่าตัวเองทำหน้าแบบไหน ผมสนใจไอ้คนตรงหน้านี้มากกว่า

“ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงมายังไงวะ” ไอ้หวานถือโอกาสถามขึ้น พวกผมก็พยักหน้าพร้อมกันด้วยความอยากรู้

“ก็ไม่มีอะไร กูเมา แล้วกูก็อยากกินต้มเลือดหมู กูก็ไปซื้อ แล้วทีนี้พวกนั้นมันก็เดินมาแต่ผู้หญิงที่มันควงมาอะคลับคล้ายคลับคลาว่าจะใช่ ผู้หญิงที่กูเคยแอบชอบตอน ม.ปลาย ทีนี้กูคงตั้งใจมองมากไป มันถึงได้กรูกันมายำตีนกูอย่างที่พวกมึงรู้นี่แหละ” ไอ้ไม้มันเฉลยนาทีชีวิต แต่ผมแอบเห็นนะว่า ตอนพูดถึงผู้หญิงที่ชอบตอนม.ปลาย มันแอบชำเลืองไปทางไอ้ตัวแสบ แถมยังพูดคำนั้นเบาซะจนพวกผมต้องฟังอย่างตั้งใจ

“งั้นที่ฝ่ายนู้นบอกว่า มึงมองเมียมันก็จริงอะดิวะ แต่แมร่งก็ทำแรงไป แค่มองนะ ไม่ได้กระชากมาเอาต่อหน้าซะที่ไหน” ไอ้ไผ่โวยวาย ผมแอบเห็นด้วยกับไอ้ไผ่นะ ถึงไอ้ไม้จะมอง แต่มันเมา มันไม่ได้ตั้งใจมองลวนลามอะไร

“ก็คงผิดกันทั้งสองฝ่ายแหละหวะ กูก็ผิดที่ไปมองคนของมัน เข้าใจผิดกันจริงๆนั่นแหละ”

“ไม่เป็นไร เรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว แต่ที่มันทำกับมึงไว้ กูทำใจยอมรับไม่ได้หวะไม้ ยังไงก็คงมีเคลียร์” ไอ้ฉานเปิดประเด็นที่ทุกคนรอคอย ยกเว้นผม ไอ้ฉานมันเอาจริงแน่ ถ้าแค่ไอ้ไม้ยอมตามใจ แต่ช่วยไม่ได้ ผมเป็นห่วงมันนี่ ฝ่ายนู้นมีอิทธิพลขนาดไหน แค่เมื่อตอนเย็นก็รู้แล้วว่า ฝ่ายนู้นพร้อมปกป้องคนของตัวเองตลอดเวลา

“ฉาน กูรู้ว่ามึงหวังดี กูรู้ว่ามึงรักกู แต่มึงเชื่อกูนะฉาน เอาคืนกันมันไม่จบหรอกหวะ มีแต่จะเสียหายทั้งคู่ แค่กูไม่เป็นอะไรมาก ไม่พิการ ไม่สาหัสอะไร  กูพอใจแล้ว แก้แค้นมันไม่จบไม่สิ้นหรอกหวะ กูไม่รู้ว่าที่สุดมันอยู่ที่ตรงไหน ถ้าต้องถึงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคนตาย กูไม่ดีใจแน่ฉาน ครั้งนี้ขอให้แล้วกันไปนะ กูขอร้อง กูไม่อยากให้พวกมึงเสี่ยง” ผมรู้สึกอยากเข้าไปโอบกอดไอ้ไม้ แล้วบอกมันว่าขอบใจหลายๆครั้ง ไม่ใช่ผมไม่เจ็บไม่แค้น ผมเจ็บ ผมแค้น ผมโกรธ แต่ผมก็เห็นด้วยที่ว่า การเอาคืนไม่ใช่หนทางที่ดีในการแก้ปัญหา

“มึงจะเอาแบบนั้นจริงๆเหรอวะไม้ กูเคารพการตัดสินใจของมึง” นี่แหละครับอีกข้อดีของไอ้ฉานที่ผมรัก มันเป็นคนมีเหตุผลและรับฟังคนอื่นเสมอ ถ้ามันจะบงการชีวิตใครก็คงมีแค่ผมนี่แหละครับ

“พวกกูก็คิดแบบไอ้ฉานหวะไม้ พวกกูพร้อมอยู่ข้างมึง แล้วก็พร้อมที่จะรับฟังมึง” ไอ้หน่ามันเป็นตัวแทนพูดอะไรซึ้งๆแบบนี้ได้ไงเนี่ย ผมแปลกใจ แต่ก็ประทับใจมันนะ ผมเห็นเพื่อนๆคนอื่นๆก็คล้อยตามมัน

“แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ววะ ดึกแล้วใช่มั้ย แล้วทำไมตี่..........เอ้ย ปลื้มยังไม่กลับบ้าน” อ้าว ไอ้เวรไม้ พวกกูกำลังซึ้งกันอยู่แท้ๆ มึงกลับมาสร้างโลกส่วนตัวกับไอ้เด็กแสบอีกแล้วเรอะ นี่มันชักจะยังไงแล้วนะเนี่ย

“ผมจะนอนเฝ้าพี่ไม้ที่นี่อ่ะ เอาเสื้อผ้ามาแล้ว หม่าม๊ารู้แล้ว” ไอ้เด็กแสบมันเริ่มประท้วง ผมว่าผมมองเห็นอะไรในตัวปลื้ม ที่คิดว่าคล้ายๆผมนะ โดยเฉพาะแววตาเอาเรื่องนั่น ดูมันมุ่งมั่นไม่น้อย

“หม่าม๊ารู้ว่าอะไร หม่าม๊ารู้แล้วป๊ารู้ด้วยรึเปล่า กลับไปบ้านแตกพี่ช่วยไม่ได้นะ” เพื่อนคนอื่นๆคงเล็งเห็นถึงสงครามย่อยๆระหว่างพี่น้องบ้านข้างๆ นี่แน่ๆ ถึงกับส่ายหน้าด้วยความระอา แล้วออกไปจากห้องนี้กันทีละคนสองคน เหลือแค่ผมที่ยังสนุกกับการได้จับผิด เอ้ย ได้เฝ้าดูไอ้คู่พี่น้องตรงหน้ามันตีกัน เรียกกันภาษาบ้านๆว่า “เสือก” นั่นแหละครับ 

“หม่าม๊ารู้ว่าผมจะนอนบ้านทศ ส่วนป๊า ก็รู้จากม๊าเองแหละ แต่ผมจะเฝ้าพี่ไม้ ยังไงผมก็ไม่กลับหรอกนะ” ผมยิ้ม ยิ้มเพราะว่าถึงแม้ปลื้มจะดื้อ แต่มันก็ดื้อแบบน่ารัก เค้าเรียกว่า ดื้อด้วยความปราภนาดี

“จะนอนได้ไง มีเพื่อนพี่อยู่กันหลายคนแบบนี้   เมฆ!! คืนนี้ใครนอนเป็นเพื่อนกูวะ” ผมสะดุ้ง ไม่ได้ตกใจ แค่ไม่คิดว่าจะมีผมเข้าไปอยู่ในโลกครอบครัว เอร้ยยยย โลกส่วนตัวของพวกมันเร็วขนาดนี้
“ไอ้ดิวกับไอ้ยอน พรุ่งนี้คงเป็นไอ้หวานกับไอ้ไผ่ คืนต่อไปคงเป็นกูกับไอ้นาน วันนู้นก็คง.......”
“พอๆ พรุ่งนี้หมอก็คงให้กูกลับบ้านแล้ว พวกมึงจะเว่อร์ไปไหน เห็นมั้ยว่าเพื่อนพี่เฝ้าแล้ว เราจะนอนตรงไหน” ผมเริ่มสงสัยแล้วว่า มันไม่อยากให้ปลื้มนอนเฝ้า หรือมันห่วงอะไรกันแน่

“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ก่อนพี่ไม้จะฟื้น ผมรู้จักเพื่อนพี่ไม้ทุกคนแล้ว เนอะพี่เมฆเนอะ แล้วห้องนู้นก็กว้างอ่ะ ที่นอนเยอะแยะ นี่พี่เมฆเค้าก็เอาถุงนอนให้ปลื้มแล้ว “ น้องปลื้มครับ อย่ายอมแพ้ครับน้อง พี่เชียร์น้อง ครับ เพราะพี่รู้สึกว่ามีอะไรสนุกๆให้พี่ดู

“งั้นนายมานอนห้องนี้ ให้เพื่อนพี่นอนห้องนู้นก็แล้วกัน  ไปอาบน้ำได้แล้ว ไม่อึดอัดรึไง ใส่ชุด รด.อยู่ได้ทั้งวัน”

“คร๊าบบบบบบบพ่อ พี่ไม้ขี้บ่นชะมัด แก่ตัวไป จะขนาดไหนเนี่ย” น้องปลื้มส่ายหน้ากำลังจะเดินทะลุไปอีกห้อง

“เดี๊ยวปลื้ม  ไปเอาเสื้อผ้านายมาอาบห้องนี้” ไอ้ไม้มันหมายถึงห้องน้ำอีกห้องที่อยู่ในห้องพักมันอะครับ

“ครับ ผมรู้แล้ว แค่จะออกไปเอาเป้เฉยๆ” ไอ้เด็กแสบมันก็เชื่องเว้ย ไอ้ไม้ชี้นกเป็นกระต่าย ชี้ไม้เป็นลิงกันเลยทีเดียว เพื่อนไม้ไม่ใช่ธรรมดาอีกต่อไปแล้วครับพี่น้อง

“เมฆมึงยิ้มกรุ้มกริ่มอะไร กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรๆ ไม่เหมือนชาวบ้านเค้าอยู่ใช่มั้ยหละ

“ เปล๊า กูไม่ได้คิดอะไรเลย กูแค่ยิ้มเฉยๆ ดีใจ ที่ดูมึงไม่เป็นอะไรมาก” ผมแบมือเสมอไหล่ พร้อมส่งยิ้มยียวนกวนประสาทไอ้ไม้อย่างตั้งใจ กำลังจะปล่อยให้ห้องนี้เป็นโลกส่วนตัวของพี่น้องข้างบ้าน เมื่อเห็นไอ้เด็กแสบมันหอบเป้เดินยิ้มแผล่เข้ามาข้างใน ก่อนจะเดินหายไปในห้องน้ำ

“เดี๊ยวเมฆ อย่าเพิ่งไป กุมีเรื่องจะคุยด้วย” รอยยิ้มเต็มใบหน้าของไอ้ไม้ที่ผมเห็นเมื่อกี้หายไป กลายเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความกังวลใจเข้ามาแทน

“มีอะไรหรือเปล่า” สัญชาตญาณบอกว่าไม่น่าจะใช่เรื่องดี ผมเข้าไปใกล้ไอ้ไม้ และพูดคุยกันให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้

“มึงกับไอ้เหี้ยนั่นรู้จักกันมาก่อนใช่มั้ยวะ” ผมนิ่ง ผมอึ้ง ผมงง แต่ผมคงต้องตั้งสติ

“มันพูดอะไรกับมึงเหรอ กูกับมันไม่ได้รู้จักกัน แต่มันอยู่ในร้านเดียวกับเรา ก่อนออกมา มันเข้ามาหากูแล้วขอบุหรี่กับไฟแช็ค” ผมใจไม่ดี แต่ก็ตอบไอ้ไม้ไป

“มันไม่ใช่แค่นั้นใช่มั้ย” ไอ้ไม้เริ่มรุก ผมเองเริ่มอึดอัดใจ

“บอกกูเหอะ จะได้ช่วยกันแก้ไข กูรู้ว่าเรื่องนี้ไอ้ฉานไม่รู้ แล้วก็รู้ว่ามึงกลัวไอ้ฉานรู้” สมแล้วที่มึงเป็นเพื่อนที่รู้ใจไอ้ฉาน เพราะไอ้ไม้ มันอ่านเกมส์ออก มันอ่านใจผมออก

“มัน กูไม่รู้จะบอก จะเล่ายังไงหวะ มัน” ผมไม่รู้จะเริ่มยังไง มันกระดาก ที่จะบอกให้ใครฟังว่า ผม พี่เมฆผู้มาดแมน โดนผู้ชายมาปล้ำจูบกลางร้านเหล้า

“งั้นกุเล่าก่อนก็ได้ เผื่อมึงจะพูดได้ง่ายขึ้น ตอนที่มันชี้หน้าด่าว่ากูตั้งใจมองเมียมันนั้น กูก็เสือกมารยาทดี ขอโทษมันไป แต่มึงรู้มั้ย มันบอกกูว่าไง มันบอกกูว่า มันจะยกโทษให้ ถ้ามันได้ชิมปากมึงอีกที มันให้กูติดต่อมึงให้มัน  แต่ไอ้นรกเอ้ย มันให้กูติดต่อผู้ชายให้มัน ต่อหน้าผู้หญิงของมัน ไอ้เหี้ยเอ้ย มันยังเป็นคนอยู่มั้ย ต่อให้คนที่มันอยากได้ไม่ใช่มึง กูก็ไม่มีวันทำแบบนั้นได้ สันดาน ชาติชั่วจนกูไม่รู้จะว่ายังไง” กรามไอ้ไม้บดเข้าหากันแน่น ผมรู้ว่ามันกำลังข่มอารมณ์โกรธ แล้วก็ควบคุมน้ำเสียงไม่ให้เล็ดลอดไปยังเด็กน้อยที่อาบน้ำ หรือเพื่อนคนไหนที่ยังอยู่ข้างนอก

“มันไม่ได้กระทืบที่มึงมองเมียมันใช่มั้ย มันทำร้ายมึงเพราะมึงปฎิเสธเรื่องกูใช่มั้ย โธ่เอ้ยยไม้ ใครใช้ให้มึงทำแบบนี้ มึงเอาตัวเข้าแลกทำไม ถ้ามึงเป็นอะไรไปจะทำยังไง มึงโง่มากนะรู้มั้ย” ผมโกรธ ผมโกรธที่มันไม่รักตัวเอง ไอ้ไม้เสี่ยงเกินไป ไม่ว่าเพื่อนคนไหน ผมก็ไม่อยากให้มันคิดอะไรแบบนี้
“มึงอย่าโกรธกูเลยเมฆ ไม่ใช่แค่เพราะว่าเป็นมึง ต่อให้เป็นใครที่กูไม่รู้จักสนิทด้วย กูก็ทำแบบนั้นไม่ได้ กูทำจัญไรแบบนั้นไม่ได้ “ แววตาไอ้ไม้ดูอ่อนระโหย ผมรู้ว่ามันล้า ผมรู้ว่ามันกังวล ผมไม่น่าไปซ้ำเติมมันเลย

“มึงรับปากมันไปก่อนก็ได้ มึงเอาตัวเองให้รอดก่อน แล้วค่อยมาปรึกษากันว่าจะเอาไง ไม่ใช่เอาตัวเข้าแลกแบบนี้ ถึงเราจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันโดยตรง แต่ตอนนี้มันก็เหมือนใช่ เพื่อนกู กูรักนะไม้ สัญญากับกูก่อนว่ามึงจะไม่ทำแบบนี้” ผมอยากให้มันสาบานเลยด้วยซ้ำ ผมรับไม่ได้ถ้าจะมีเพื่อนคนไหนเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อผม ทุกคนมีค่าต่อพ่อแม่แค่ไหน รักเพื่อนรักได้ แต่ก่อนจะตัดสินใจทำอะไร คิดถึงพ่อแม่บ้างสักนิดก็ดี

“ตอนนั้นกูเมา จะให้กูคิดละเอียดอะไรได้มากมายหละเมฆ แล้วถ้ากูรับปากมันไปว่าจะติดต่อมึงให้ แล้วเอามาปรึกษากัน มึงคิดว่าจะไม่เกิดเรื่องใหญ่เหรอ มึงคิดว่าไอ้ฉานมันจะไม่รู้เหรอ ไอ้ฉานมันรู้จักมึงดีกว่าใครๆ แล้วเรื่องนี้ถึงหูมันเมื่อไหร่ ฉิบหายเกิดขึ้นแน่ ไอ้ฉานมันไม่ปล่อยไอ้เหี้ยนั่นแน่ “ ผมเริ่มสงบจิตสงบใจ คิดตามที่ไอ้ไม้พูด มันเป็นเรื่องจริงที่ไอ้ไม้บอกว่า การเอาเรื่องนี้มาปรึกษา รอดหูรอดตาไอ้ฉานยาก เพื่อนๆอาจจะตบตาไอ้ฉานได้แนบเนียน แต่คนที่จะหลุดให้เสียแผนก็คงเป็นผมนี่แหละ

“งั้นที่มึงขอไม่ให้ไอ้ฉานไปเอาเรื่องมัน ก็เพราะแบบนี้ใช่มั้ย “ ไอ้ไม้พยักหน้ารับ ผมเริ่มเข้าใจ

“กูยอมรับนะเมฆ ว่ากูเป็นคน กูเจ็บ กูโกรธ  กูแค้น   อารมณ์พวกนี้กูมีได้ แต่กูก็ต้องควบคุมมันให้ได้ ถ้าไอ้ฉานบุกไป หรือไปทำอะไรฝ่ายนั้น เรื่องมึงไอ้ฉานต้องได้รู้จากปากไอ้เหี้ยนั่นแน่ แล้วตอนนั้นไม่ใช่แค่ไอ้เหี้ยนั่นที่จะโดนนะเมฆ มึงก็ด้วย โทษฐานที่ปิดบังมันเรื่องใหญ่ขนาดนี้ “ ผมเถียงอะไรไม่ได้ ไอ้ไม้พูดถูกทุกอย่าง

“ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกันหรอกหวะ ถ้าไอ้ฉานรู้ กูก็ต้องตายเหมือนกัน” ผมทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง สีหน้าหมาหงอยของผม คงทำให้ไอ้ไม้สงสาร มันเลยเอามือลูบหัวผมอย่างต้องการจะปลอบใจ

“ก็ไม่เป็นไร มึงใจเย็นๆนะเมฆ ถึงมันจะดูเลวร้าย แต่กูว่าเรื่องนี้ ถ้าไอ้ฉานรู้จากปากมึง มันก็จะโกรธน้อยกว่าไปรู้จากปากไอ้เหี้ยนั่น หรือจากคนอื่น มึงเข้าใจมั้ย ไอ้ฉานมันรักมึงมาก มากจนกูไม่รู้จะเปรียบกับอะไร มึงเองก็มารยาน้อยเสียที่ไหน เอาตัวเข้าแลกนิดๆหน่อย อ้อนๆๆมันเข้าไว้ มันอารมณ์ดีเมื่อไหร่ ก็ค่อยๆเล่า มึงเข้าใจป่าววะ “
“Understand but can’t หวะ เข้าใจ แต่กูทำไม่ได้ กูไม่กล้าพอที่บอกมันอะดิวะ ไม่ใช่กูอยากปิดมันซะที่ไหน”ผมหนักใจ ต้องทำยังไงดีวะเนี่ย แมร่งเอ้ยยย ภูมิใจดีมั้ย เป็นผู้ชาย แต่โดนหึงโดนหวงยังกะผู้หญิง

“ไม่เห็นจะยากอะไรเลยเมฆ ง่ายๆเลยนะง่ายๆ ตอนที่มึงกับมัน “ตรั่บๆ” กันเมื่อไหร่ พอถึงตอนนั้นอ่ะ ตอนที่ประตูสวรรค์ส่องแสงเจิดจ้ารำไรๆ มึงเอาตอนนั้นเลย มึงบอกมันตอนนั้น แต่ก่อนเล่ามึงต้องบอกมันว่าจะต้องไม่โกรธนะ เชื่อกูสิ เวลาแบบนั้น ต่อให้มึงอยากได้ ดาวบนฟากฟ้า หรือเด็ดดอกหญ้ามาร้อยมาลัย ไอ้ฉานมันก็ต้องรับปากจะทำให้”

“ไอ้เหี้ยไม้ มึงนอนตายด้านไปเลยนะ เชี่ย กูอุตส่าตั้งใจฟัง แนะนำมาได้” ผมเริ่มโวยวายเสียงดังแล้วครับ รู้สึกเลือดจะมารวมกันที่ใบหน้า  ไอ้ไม้หัวเราะเร็วไป เลยได้แต่ไอโขลกๆ     สมน้ำหน้า!!!

เด็กน้อยไร้เดียงสาแต่ว่าโครตแสบ ออกมาจากห้องน้ำหน้าตาตื่น สงสัยจะตกใจเสียงผมโวยวาย ผมโบกมือ ให้รู้ว่าไม่มีอะไร เล่นกันเฉยๆ ปลื้มถึงได้กลับเข้าไปในห้องน้ำต่อ

“เฮ้ยเมฆ อย่าเครียดหน่า กูรู้ว่ามึงทำได้” ไอ้ไม้มันหยุดไอ แล้วก็จัดมาให้ผมอีกดอก ผมชี้หน้ามันบอกว่าให้หยุด มันยังมีหน้ามาส่งยิ้มร้าย

“แนะนำกูดีนักนะมึง เรื่องของมึงยังไม่เคลียร์เลยนะ อยู่ๆมีนายเอกโผล่หน้ามาดูใจตอนพระเอกไม่สบาย จะให้กูคิดยังไงวะ หรือว่า ที่ผ่านมา ทั้งๆที่มึงบอกกูว่าไม่ถูกกับพ่อ แต่ก็ขยันกลับบ้านทุกอาทิตย์ แถมปิดเทอมมึงก็ยังไม่อิดออดที่จะกลับบ้านเหมือนทุกครั้ง หรือว่า “มึงซุกเด็ก” เอาไว้ใช่มั้ยไอ้ไม้” ผมว่าผมสงสัยไม่ผิดนะ ไอ้ไม้มันหน้าแดง แล้วหลบตา แสดงว่ามันเขิล

“อะไรๆ มึงกล่าวหากูอยู่นะเมฆ กูซุกเด็กอะไรที่ไหน มึงอย่าๆ เดี๋ยวพวกแมร่งก็กรูเข้ามา กูเสียเลยนะมึง กูเครดิตดีนะเว้ย”

“แต่มึงห่วงหวงเด็กมึงแบบแปลกๆนะ แบบที่ แบบที่ “

“แบบที่ไอ้ฉานสามีมึง หวงมึงนะเหรอเมฆ กูว่าไม่หวะ  เรื่องนี้กูว่าไอ้ฉานชนะเลิศ เชี่ย เมียก็หน้าตาธรรมดาๆ ไม่รู้จะหวงไปไหน” ผมชี้หน้าด่ามัน พร้อมอ้าปากด่ามันแบบไม่ออกเสียงว่า “ หน้าตาธรรมดาแต่ก็ทำให้มึงเกือบโดนกระทืบตายละนะไอ้ห่า”   ไอ้ไม้มันไม่โกรธครับ มันยิ่งระเบิดเสียงหัวเราะแบบไม่เจียมสังขาร น้องปลื้มเข้ามาร่วมวงแบบงงๆ ไม่รู้จะอยู่ส่วนไหนของวงสนทนา

“อะไรๆ เสียงดังเอะอะโวยวายไปถึงห้องนู้น เมฆ จะกลับห้องกันได้หรือยัง “ ไอ้ฉานเดินเข้ามาพอดีที่ผมกำลังจะเดินไปทำร้ายร่างกายผู้ป่วย ฝากไว้ก่อนนะไอ้ไม้

“มึงมาเอามันกลับไปซักทีฉาน มันมากวนประสาทกูอยู่ได้ กูจะพักผ่อน ไป๊ ไป ชิ่วๆ” ไอ้ไม้มันยิ้มไล่

“เออ กูกลับก็ได้ น้องมึงอาบน้ำเสร็จแล้วนี่ กลับห้องกันเหอะฉาน กูมีเรื่องดีๆ จะเล่าให้ฟัง พี่กลับแล้วนะน้องปลื้ม พรุ่งนี้เจอกัน กูกลับแล้วนะไม้ ให้กูล็อคประตูเชื่อมห้องเลยมั้ย เดี๊ยวเพื่อนคนอื่นๆกูบอกให้ มันคงเข้าใจ หรือให้กูเดินไปบอกพยาบาลด้วยก็ได้นะ ว่ามึงต้องการ ไพรเวทตี้อย่างสูง ไม่ต้องมาตรวจความดัน ไม่ต้องเปลี่ยนขวดน้ำเกลือ รอเช็คน้ำตาลในเลือดพรุ่งนี้ทีเดียวเลยดีกว่า ดีมั้ย จะได้ล็อคประตูหน้าห้องมึงด้วยเลย” ผมเสนอให้มันทั้งรอยยิ้มทั้งเสียงหัวเราะครับ รอยยิ้มกวนประสาท ที่ผมบรรจงส่งไปให้ ได้รับนิ้วกลางตอบแทนจากไอ้ไม้มาแค่พอสบายใจ

“มึงอย่านะไอ้เมฆ ไม่ต้องเลย “ ผมโบกไม้โบกมือบ๊ายๆ พร้อมยิ้มร้ายๆ


เอาน่าเพื่อนไม้ กูรู้ว่ามึงเขิน กูให้อภัย แต่เรื่องบอกต่อเนี่ย กูไม่ได้คิดจะบอกใครมากมาย กูบอกแค่ไอ้หน่าคนเดียวก็ได้




รถมาจอดที่ตำแหน่งประจำตั้งแต่ตอนไหน ผมเองก็ไม่รู้ ไม่ได้สนใจ ผมนั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่โรงพยาบาลถึงหอ
ต่อหน้าใครๆ ผมยิ้มได้ ผมหัวเราะได้ แต่ลึกๆเข้าไปในใจ ผมกังวลใจ แล้วก็ไม่สบายใจสุดๆ

“เป็นอะไร เห็นนั่งเงียบมาตลอดทาง” น้ำเสียงของไอ้ฉานคนเดิม อ่อนโยนเหมือนเดิม แล้วก็เต็มไปด้วยความห่วงใยเหมือนเดิม

น้ำตา เหมือนจะรื้นไหลออกมาฟ้องที่หน่วยตา แต่ทว่า ผมรีบเก็บกลืนมันกลับเข้าไปได้ทัน

“ไม่มีอะไร กูแค่ลุ้นเรื่องไอ้ไม้จนเหนื่อย แบตเลยหมดนะ” ผมหันไปตอบไอ้ฉาน ยิ้มน้อยๆ ให้มันสบายใจ

มือแกร่งยื่นมาลูบหัวผมอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ อบอุ่นและรู้สึกดี จนต้องไถหัวไปมากับฝ่ามือนั้น อ้อนเหมือนลูกแมว

“อะไรกัน เหนื่อยเสียแล้วเหรอ ว๊า งั้นคืนนี้กูก็อดสิ แล้วก็มาใจร้ายยั่วกันแบบนี้ ฆ่ากันให้ตาย ง่ายกว่า” ไอ้ฉานจ้องมองกลับมาด้วยแววตาสื่อความหมาย เป็นแววตาที่ผมกับมันรู้กันแค่สองคนว่าต้องการอะไร

“เหนื่อย แต่ก็ ยังพอไหวอ่ะนะ” ผมตอบแบบเก็บกลั้นความอายไว้ลึกสุดใจ

อะไรๆ มันอาจจะดีขึ้นมาก็ได้ ถ้าผม เชื่อที่ไอ้ไม้แนะนำ

(http://image.ohozaa.com/i7/ht4ga.gif)

  คนเขียนเล่นง่ายเอาหน้าที่การงานประจำวันมาเป็นโลเคชั่นในนิยาย  :laugh: :laugh: :laugh:  ห้องนี้เป็นห้อง president ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งจริงๆนะคะ จิ้นกันตามนี้ง่ายดี ตอนนี้ห้องน้กำลังจะตกแต่งใหม่อยู่พอดี






 
๐ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณค่ะ...... o1
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ ๐..... 


(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 20-06-2010 21:12:29
 :z13: :z13:

เซมากูเตะ มาแล้ว จุ๊ฟๆๆ จิ้มๆ  :กอด1:

พี่เมฆ เอ่อ ยังกวนตีนนะ แข่งกันกะเด็กพี่ไม้เลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-06-2010 21:14:11
ห้องพักโรงพยาบาลอย่างก๊ะโรงแรม o22 พี่ไม้อยากอยู่ตลอดไปหรือเปล่านะ 555
เชื่อเพื่อนไม้นะพี่เมฆ เอาเลยคืนนี้อ่ะ สารภาพออกมาให้หมดเปลือก เสื้อผ้าไม่ต้องใส่ แอร๊ยยย เกี่ยวไรเนี่ย :laugh:
ขอบคุณค่า รอลุ้นคืนนี้ (ในเรื่องนะ) ต่อไป หุหุ :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 20-06-2010 21:20:38
ห้องพักผู้ป่วยหรูดีจริงๆ  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 20-06-2010 21:32:09
เข้ามารอ

อยากรู้ว่าพี่เมฆจะสารภาพกับพี่ฉานตอน "ตรั่บๆ" รึเปล่า

 :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 20-06-2010 21:35:09
โห  ห้องพักน่า admit จริง ๆ จะคิดซะว่ามานอนโรงแรมซะก็แล้วกัน

เข้าเรื่องดีกว่า ....
ไอ่อาทมันเป็นคนเลวของแท้  ไม่ต้องเข้าเครื่องตรวจเลยแฮะ
อย่างนี้แสดงว่ามันต้องลุยต่อแน่
และถ้าพี่เมฆจะทำตามคำแนะนำของพี่ไม้ล่ะก็ ...
แสดงว่าตอนต่อไป  ก็จะเป็นตอนที่เรารอคอยน่ะสิ  อิ อิ   :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 20-06-2010 21:41:30
พี่เมฆ......เหมือนจะงานเข้าระยะยาว.... :z3:
แน่ใจนะว่าที่พี่ไมแนะนำมันจะได้ผล..........
ไม่ใช่ว่า.....
บอกตอน   ตรั่บๆ  แล้วจะกลายเป็น SM ไปทันใด....   :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 20-06-2010 21:44:31
รอลุ้นด้วยคน แอบเครียดตามพี่เมฆ ... :serius2:
ไอนั่น มันเลว จริงๆ .. กลัว พี่ฉานจะโกรธพี่เมฆจัง
อยากรุ้ว่า ถ้า สารภาพ ตอน ตุ๊บๆ.. ตรั่บๆ :z1:

มันจะดี ขึ้น ..หรือเปล่า
เอาใจช่วยพี่เมฆสุดพลังงง

น้องปลื้ม กะพี่ไม้ น่ารักได้อีกกก

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 20-06-2010 21:52:35

ไม่ใช่ว่า.....
บอกตอน   ตรั่บๆ แล้วจะกลายเป็น SM ไปทันใด....   :laugh:

>>>>>>ดาวพระศุกร์ พูดจามีเหตุผล น่าสนับสนุน :laugh::laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 20-06-2010 21:56:00
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :serius2:

รีบมาต่อโดยด่วนด้วนคร้าบบบ อยากรู้ว่าเมฆจะใช้วิธีที่ไม้แนะนำรึป่าว อิอิอิ

แต่ดูๆแล้วคงใช้แหล่ะ  o13 o13 o13

PS. พาปลื้มกับไม้มาบ่อยๆเน้อ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 20-06-2010 21:56:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 20-06-2010 22:01:36
พี่เมฆ ใช้ วิธีของ ไม้ บอกความจริงพี่ฉาน นั่นแหละ
เริศสุดค่ะ  ปลอดภัยหายห่วง  :z1:

แต่. . ก็อดห่วงไม่ได้ มันคงไม่จบแค่นี้หรอก ทั้งเรื่องอันด้วย ด้วย
ฮ่วยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 20-06-2010 22:06:50
เลวดีแท้อิอาท แต่เลดี้เห็นด้วยกะไม้ เมฆบอกฉานตรงๆๆๆดีกว่าไหม เพราะว่าถ้าฉานรู้จากคนอื่นเดี๋ยวจะเป็นเรื่องนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 20-06-2010 22:34:41
พี่เมฆจะรอดมั๊ยเนี่ยงานนี้ ถ้าพี่ฉานโกรธขึ้นมา...ฟ้าเหลืองแน่ ๆ เลยนะคับพี่เมฆ แถมอาจมีซาดิสต์หน่อย ๆ แถมมาด้วย :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 20-06-2010 22:36:04
คำแนะนำของไม้ที่ให้พี่เมฆ อร๊ากกกกกก
เจ๋งสะบัดไปเลย.. หวังว่าคืนนี้? พี่เมฆจะืำืทำได้
สำเร็จนะ เค้าไม่อยากให้ฉานโกรธพี่เมฆยังไงก็ไม่รู้
รักกันไว้เถิดดดดดดด ชอบอ่านตอนหวานๆจริงๆ
นะคะนะ... อย่าใจร้ายกับพี่เมฆและฉานเลยเนอะ
+1 ให้ค่ะ เจ๋งสุดๆไปเลย
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 20-06-2010 22:48:25
ไม้.. ขนาดว่าเจ็บตัวอยู่นะเนี่ย  :laugh:
พี่เมฆน่ารักตลอดๆ อ่านแล้วเข้าใจเลย ว่าทำไมฉานถึงได้ทั้งรักทั้งห่วง&หวงขนาดนี้

แล้วก็ชอบจริง.. จริ๊ง ไอ้ 'ตรั่บๆ' เนี่ย  :z1:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 20-06-2010 23:02:57
คู่พี่ไม้กับน้องปลื้มนี่ น่ารักดีนะ ต่อไปจะมีหวานๆกัน ให้ได้อ่านบ้างมั๊ยค่ะ  :o8:

แต่คู่พี่เมฆกะฉานนี่ลุ้นกว่า ว่าคืนนี้จะเปนยังไง
พี่เมฆจะได้บอกความจริงรึเปล่า หรือว่าจะหมดแรงไปซะก่อน  :z1:
แต่อย่างน้อยก็อยากให้ฉานรู้เรื่องจากปากพี่เมฆนะ (โทษหนักอาจจะกลายเป็นเบา รึเปล่า???)

+1 จ้ะ ขอบคุณคนโพสต์ และคนแต่ง  :man1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 20-06-2010 23:08:19
มาแล้ว เย้ๆๆๆๆ  :mc4:
กรี๊ดๆๆ อยากอ่านตอนหน้า ส่งสัยจะเป็นซีนสารภาพความจริงสีเลือด :z1:
อิอิ  รักนะ จุ๊บุ จุ๊บุ  :กอด1:
คู่ไม้กะน้องปลื้มก็น่ารัก มาทั้งชุด รด เลย

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 20-06-2010 23:11:52
พี่ไม้ก้อเข้าใจคิดวิธีเนอะ คิคิ  :oo1:

แต่กลัวว่า เรื่องจะไม่ง่ายอย่างนั้นอะสิ พี่เมฆ :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 21-06-2010 02:21:11
ลุ้นน้องเมฆ จะบอกยังไง
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 21-06-2010 07:14:23
ดีจังตอนนี้มาเร็ว ขอบคุณคนแต่งคนโพสจ้ะ
ไม้รักเพื่อนจังขนาดยอมเจ็บตัวเลยนะ o13
เพื่อนยังรักมากแล้วน้องปลื้มพี่ไม้ไม่ยิ่งกว่าเหรอนี่ทั้งรักทั้งหวง
รอเมฆเล่าให้ฉานฟังหวังว่าความรักจะทำให้อภัยได้เพราะงานนี้เมฆไม่ผิด
ฉานเคยรุนแรงกับเมฆในครั้งแรกแล้วจะมีครั้งที่สองสามอีกหรือ
เค้ารณรงค์ไม่ให้ใช้ความรุนแรงในครอบครัวไม่ใช่เหรอจ๊ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 21-06-2010 07:51:49
พี่ไม้แนะนำดีมากเลย  เอไว้ใช้กับตัวเองมั่งก็ได้นะจ๊ะ    :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 21-06-2010 08:15:27
ถ้าเลือกได้ขอนอนซบอกคนป่วยได้มั้ยจ๊ะตี่ตี๋ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 21-06-2010 11:10:10
นั้นนะสิ ถ้าพี่ฉานรู้เข้าทีหลังละก็งานเข้าอย่างยักษ์แน่ ๆ เลย

น้องเมฆหาวิธีบอกแบบที่พี่ไม้แนะนำเลยนะ อิอิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: veevee ที่ 21-06-2010 11:10:47
พี่เมฆสู้ เป็นกำลังใจให้นะ

แสดงว่าตอนหน้า :pighaun: :pighaun: อะสิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 21-06-2010 11:38:21
 ขออภัย ไม่ได้เข้ามาหลายวัน แต่พอเข้ามาก็เสียเลือดเลย อิอิ  :pighaun:
งานนี้น้องเมฆต้องใช้มารยาหนักๆเลยนะ  จัดการพี่ฉานให้อยู่หมัด แล้วค่อยวางแผนจัดการไอ้เชี่ยอาท 
จับมันไปตอนเลยยิ่งดี  สะจายยยย   o18




ปล.   :m31: :m31: :m31: พ่นไฟใส่ ไรท์เตอร์อีกรอบ 55555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 21-06-2010 11:41:50
พึ่งได้มาอ่าน แล้วเริ่มรู้สึกว่า เอิ่ม...กุพลาดไปได้ไงฟร่ะ

หลังจากเป็นเงาอยู่หลายปีดีดัก ขอเม้มให้กำลังใจ

สนุกมากค่ะ  จะติดตามต่อไป :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 21-06-2010 11:44:23
ไม่อยากให้มีคนเจ็บคนตายจากการกระทำชั่วๆ ของไอ้เลวคนนึง
แต่ก็ยังอยากจะให้มันและคนที่คุ้มกะลาหัวมันได้รับบทเรียนบ้าง
คนพวกนี้มีอยู่เกลื่อนเมือ พูดแล้วของขึ้นอยาก:z6: ให้มันสำนึก
รบกวนท่านฉานจัดการให้ด้วยเน้อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-06-2010 11:49:19
คำแนะนำของไม้จะเวิร์คเหรอ ไม่ใช่ว่า สารภาพตอนกำลังขึ้นสวรรค์เสร็จปุ๊บ ไอ้คุณพี่ฉานฉุดองค์อิศวรลงนรกปั๊บเลยนะ  :m2:  แค่คิดก็สยองแทน
ว่าแต่เริ่มจะเห็นแววไอ้พี่ฉานเบอร์ 2 แหละ จริงปะอิพี่ไม้  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 21-06-2010 11:54:05
ห้องพักผู่ป่วยหรูมาก
อิคนทำร้ายไม้มันบ้าจริงๆ
เมฆมีไรก็รีบๆ บอกฉานมันนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 21-06-2010 16:37:38
เมฆบอกฉานให้รู้เอง ดีกว่าให้รู้จากคนอื่นอย่างที่ไม้บอกอ่ะ ถูกต้องที่สุด

ส่วนจะใช้วิธีไหน ในการบอก จะเป็นวิธีที่ไม้แนะนำหรือเปล่า อันนี้ให้เมฆใช้วิจารณญาณเอาเอง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 21-06-2010 21:31:12
ไม่ใช่บอกพี่ฉานไปเเล้ว  จะต้องติดอยู่บนเตียงอีกหลายวันเลย  รอตอนต่อไปค่ะ
ปล. รักษาสุขภาพนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 22-06-2010 00:19:31
บอกความจริงพี่ฉานไปเถอะค่ะพี่เมฆ รู้จากปากพี่เมฆเองพี่ฉานจะเสียความรู้สึกน้อยกว่ารู้จากปากคนอื่นนะค่ะ :monkeysad: แต่ถ้ารู้ความจริงทั้งหมดแล้วพี่ฉานอย่ารุนแรงกับพี่เมฆมากนักนะค่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: satanakie ที่ 22-06-2010 03:44:19
เพิ่งเคยเข้ามาิ่อ่านค่ะ

สนุกมากกกก-////////-

มาต่อไวๆนะคะ

Mizz
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 22-06-2010 19:40:33
เมฆกะฉานไปเล่นซ่อนแอบที่ไหน
มาปรากฎตัวได้ละตกหน้าสองแล้วนะ
เอาไม้กะน้องปลื้มก็ได้เพราะหวานกว่า :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 22-06-2010 20:28:29
รอตอนหน้า ขอรับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 22-06-2010 21:55:12
เจ้ ๆ ๆ ขอตอนแบบ ซุกเด็กอีกได้ป่าว คร้าบบบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 22-06-2010 23:48:18
เข้ามารอดวงตะวันมาฉานแสงแรงกล้าให้ความอบอุ่นกับก้อนเมฆคร้าบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 23-06-2010 03:37:44
เข้ามาดันนนน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 23-06-2010 11:42:41
ถ้าฉานรู้เรื่องเข้าจะเกิดไรขึ้นอ่า มาต่อไวๆน๊ากำลังเข้มข้น
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 23-06-2010 18:42:37
ฝากตัวเป็น FC เรื่องนี้ด้วยคนค่ะ

สารภาพเลยว่าเสียดายที่ไม่ได้ ตามอ่านแต่แรก จะกด ๆ อยู่หลายทีแระ แต่มันติดอ่ะ
ไม่ใช่ไรหรอกค่ะ
ชื่อ ตะวัน มันไปพ้องกะ อีกเรื่อง ในเล้า
ซึ่งเรื่องนั้นอ่านแล้วมันแนวออกรักข้างเดียวไม่สมหวัง อ่านแล้วปวดหนึบ ๆ

กับเรื่องนี้เลย กลัว กะชื่อตะวัน แต่ดีที่เป็น ฉาน ตะวัน

รู้สึกเสียดายที่เพิ่งค้นพบ
แต่ก็ยังไม่สายเกินไปเน๊อะ

....


ตอนแรกนึกว่าจะออกแนวเศร้า ที่ไหนได้ ฮาแตก ฮานายเอกและเพื่อนพ้องมากๆ เลย

ตอนล่าสุดเนี่ย เนื้อเรื่องเริ่มเข้ม ตัวละครเริ่มมีบทบาทกับความรักของสองคนนี้มากขึ้น
รออ่านวิธีการ สารภาพเรื่องนี้ ของพี่เมฆนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 23-06-2010 18:49:39
ห้องพักพี่ไม้ไฮโซโคตรอ่ะ

พี่เมฆบอกพี่ฉานไปเถอะค่ะ ถ้าพี่ฉานรู้เองจะเรื่องใหญ่กว่านี้

เป็นกำลังใจให้พี่เมฆ และคนแต่งนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 23-06-2010 18:54:41
เข้ามารอตอนพี่เมฆบอกความจริงกับฉาน  :o8: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-06-2010 19:27:49
เมื่อไหร่จะมาต่อ ขอเมฆกะฉานเด็ดๆหน่อยนะ  :z1: ช่วงนี้ขาดความหื่น
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-06-2010 23:23:52
เจ้ช่วยดันนะ  รอท่านฉานกับพี่เมฆ "ตรั่บ ๆ " อิ อิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 24-06-2010 04:26:45
เย้ในที่สุดก็ตามอ่านจนทันจนได้ พอดีเพิ่งได้ลองมาอ่านอะครับ เขียนได้สนุกมากๆเลย อ่านแล้วฮาทุกมุขเลยครับ
ทำใจหยุดอ่านไม่ได้ เลยต้องอ่านรวดเดียวตั้งแต่ตอนแรก ถึงตอนล่าสุดเลย
ดีนะเนี่ยพรุ่งนี้เรียนบ่าย ไม่งั้นผมสลบแหง  :z10:

ขอบคุณคนแต่งแล้วก็ คุณเซคนโพสมากๆเลยนะครับสำหรับนิยายอารมณ์ขันเรื่องนี้  :pig4:
มาต่อไวๆนะครับ ผมจะติดตามรอ(ฉาก"ตรั่บๆ")อย่างใจจดใจจ่อเลยครับ  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 25-06-2010 00:04:52
เมฆกับฉานยังขับรถไม่ถึงบ้านกันอีกหรอครับ

คิดถึงแล้วง่ะครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 25-06-2010 22:14:39
ขอดันหน่อยนะครับ ตกไปไกลแล้วง่ะ กลัวเมฆกับฉานหาทางกลับบ้านไม่เจอ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 37] 20 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 25-06-2010 23:49:40
มารอด้วยคน จงมา จงมา  :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 26-06-2010 00:14:04
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 38
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

ป๊าบบบบบบบบบ!!!!......(ไม่ใช่เสียง ผับ ผับ หรือ ตรั่บ ตรั่บ ...อย่างที่รอคอยกันอยู่หรอกนะ)

มันคือเสียงฝ่ามือไอ้ฉานที่บรรจงลงแรงมาที่กบาลผมอย่างเต็มที่

“ โอ้ยย!!!!!” (เจ็บจริง ไม่ได้มารยา เหมือนหลายๆทีที่ผ่านมา ถนอมเมียมึงหน่อยเซ่ สาดเอ้ยย ตบมาได้)

“เป็นอะไรอ่ะ เหม่อตลอดเวลา ทั้งแต่กลับจากโรงบาลแล้วนะ เหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ” น้ำเสียงช่างอ่อนโยน ห่วงใย แตกต่างจากการกระทำเมื่อกี้มากมาย

“กูเหม่อเหรอ” ผมเอานิ้วชี้หน้าตัวเอง ผมถึงกับเหม่อเลยเหรอ ไม่ได้เหม่อนะ แค่ประหม่า ไม่สิ ผมนะเครียดเลยหละ

“เออ ขนาดเหม่อมึงยังไม่รู้ตัว กูให้มึงมาเตรียมตัวอาบน้ำ จนกูทำนู่นนี่นั่น เสร็จ มึงยังอยู่สภาพไร้วิญญาณอย่างเดิมเลย”

“ขี้บ่นจังวะ ตาแก่ หอมอะไรอ่ะ” ได้กลิ่นหอมอ่อน รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมานิดนึง

“กล้าดียังไงมาเรียกกูตาแก่ มึงอยากรู้มั้ยว่าตาแก่มันยังเตะปี๊บดังรึเปล่า กลิ่นน้ำมันหอมระเหย กูจุดเอง เห็นมึงเหนื่อยๆ “



ช้าก่อนท่านผู้อ่าน !! ผมไม่เถียงว่าไอ้ฉานมันเอาใจใส่ผม แต่ที่มันโรแมนติกขนาดนี้ มันคิดว่าผมไม่รู้รึไงว่ามันต้องการอะไร
ลงทุนบิ้วอารมณ์ขนาดนี้ มันกะเอาผมแน่ใช่มั้ยเนี่ย......ฮื่อ!!!!!!!


“ตาแก่ นอกจากมึงจะขี้บ่นแล้ว มึงยังหื่นด้วยนะ น่ากลัวหวะ” ผมคงทำท่าน่ากลัวได้นาหมั่นไส้ในสายตาคนมอง มะเหงกจึงเป็นรางวัลที่ผมต้องภาคภูมิใจใช่มั้ย

“ฮึ่ย!!! กูเจ็บนะ มึงนี่ยังไง ชอบใช้กำลัง ตบหัวกู เขกกบาลกู กูถึงโง่ลงๆ ทุกวัน ซาดิตส์นะมึงเนี่ย” ผมทำปากยื่น เอามือลูบหัวตัวเอง กำลังใช้ความคิดอย่างหนักหน่วงอยู่ เจอเข้าไปแบบนี้ สติปัญญาผมหายหมดเลย

“เมฆ แค่มึงเลือกกูเป็นแฟน นั่นก็หมายความว่ามึงฉลาดมากแล้ว ต่อไปนี้ ถ้าจะโง่ลงเพราะน้ำมือกูก็ไม่เป็นไรหรอก” มันยื่นมือมาช่วยลูบหัวผมอีกแรง ตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆเลยนะไอ้หน้ากูปรี

“มึงแน่ใจเหรอว่ากูเลือก ถ้ากูจำไม่ผิด ฐานะนี้มึงยัดเยียดให้กูนะ มึงอะชอบใช้กำลังในทางที่ผิดๆ “ ทำแกล้งทำปากยื่นต่อว่ามัน ไม่ได้ต้องการให้มันสำนึกหรอกครับ สิบห้าปีที่ผ่านมา บอกให้ผมรู้ว่า “มันไม่มี”

 “งั้นไปใช้กำลังในทางที่ถูกกัน” ไอ้คนพูดมันดันแผ่นหลังผมไปทางห้องน้ำ

“เฮ้ย จะทำอะไรอะฉาน” ผมโวยวายครับ เสียงดังข่มมันไว้ก่อน อย่างอื่นสู้ไม่ได้

“อาบน้ำไง “ มันดันผมเข้ามาในห้องน้ำแล้ว



แต่


“เฮ้ย แล้วมึงจะเข้ามาด้วยทำเกลืออะไรวะ” มันไม่ใช่ผมคนเดียว ในสถานที่ส่วนตัวมากกกกกกก ขนาดนี้ นะสิครับ แต่มีไอ้หน้ากูปรีหนีน้ำเดินตามเข้ามาด้วย ที่สำคัญคือมันพยายามปล้ำถอดเสื้อผ้าผมนี่แหละ

“อาบน้ำไง นี่กูยังไม่ได้บอกมึงเหรอว่า เราจะอาบน้ำด้วยกัน อยู่นิ่งๆสิ กูถอดไม่ถนัด” มันพูดน้ำเสียงราบเรียบธรรมดา เหมือนกับว่าเรียกผมให้กินข้าวอะครับ แล้วผมขอให้มันช่วยแก้ผ้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย ปล้ำถอดกูเองแท้ๆ

“ทีหลังมึงหัดใส่อะไรที่มันถอดง่ายๆนะ เฮ้ออออ เหนื่อยฉิบหาย” มีบ่นๆ ถ้ากูรู้ว่ามึงจะบริการให้ ครั้งต่อไปกูจะใส่เสื้อผ้าแบบที่มีกุญแจล็อคซิบกางเกงนะสาด ผมยืนนิ่งๆ เมื่อมันถอดเสื้อผมออกไปได้ และกำลังจะก้มลงไปถอดกางเกง ในเมื่อมันอยากบริการขนาดนี้ ก็เอาเลยเต็มที่ ตามสบาย ไม่รู้จะดิ้นรนขัดขืนให้เหนื่อยทำไม ผมกับมันถึงไหนๆ กันแล้ว

รู้ทั้งรู้ว่าที่มันทำแบบนี้ ไอ้ตัวดีมันต้องการอะไร ทำให้ผมนึกถึงคำแนะนำไอ้ไม้ ไอ้โลลิค่อนนั่น มันก็เสือกแนะนำมาได้ มันทำให้ผมต้องมานั่งกลุ้มใจคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเวลา..........ติดอยู่ที่ว่า มันจะได้ผลจริงๆเหรอวะ มีรายงานฉบับไหนวิจัยเรื่องนี้ไว้บ้างมั้ย ผมจะได้ไปศึกษา ผมคิดไปตาก็มองรอบๆห้องน้ำไป ผิวปากให้กระจก ต้นไม้ ยาสีฟัน โฟมล้างหน้าไปอะไรไป

แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อพบว่า ในอ่างอาบน้ำที่ร้อยวันพันปี ไม่เคยได้ใช้ มีไว้ประดับบารมีเฉยๆ บัดนี้ ในอ่างน้ำมีควันจางๆลอยขึ้นมาเหนือน้ำ มีฟองหนานุ่ม แลดูละเอียดน่าสัมผัสต่างจากฟองสบู่ทั่วไป นี่ไอ้ฉานมันเตรียมการขนาดนี้เลยเหรอ ผมกลืนน้ำลายลงคอได้ยากเย็น น้ำลายเจ้ากรรมก็หนืดเหนียวเหมือนจะรู้เห็นเป็นใจ

“ฉาน มึงทำอะไรกับอ่างอาบน้ำวะ” ผมถามโง่ๆโดยไม่ได้ตั้งใจ กลืนน้ำลายรอบสอง สถานการณ์ไม่สู้ดีเท่าไหร่

“อ๋อ กูเตรียมผงซักฟอกไว้แช่ผ้าซักหนะ “ สบายใจจริงนะมึง มีอารมณ์มาเล่นมุขใส่กู ผมแกล้งทำเสียง “อืม”ในลำคอแล้วพยักหน้ารับ ด้วยความรักหรือหมั่นไส้ ไอ้ผมก็ก้ไม่แน่ใจ หลังจากที่มันถอดกางเกงในผมหลุดออกไปได้ มันก็จัดการเอาปลายนิ้วทำร้อย เมฆน้อยกลอยใจสุดรักสุดหวงของผมทันที



สะดุ้งสุดตัวโดยไม่ต้องสงสัย กล่องดวงใจโดนบุกรุก!!!!


“เมฆ มึงอย่าแกล้งโง่ได้มั้ย กูอุตส่าห์เตรียมให้ เห็นมึงบ่นเหนื่อยๆ กว่ากูจะหาเจอว่าไอ้โฟมสบู่เชี่ยนี่อยู่ที่ไหน สูญเสียพลังงานโดยไม่จำเป็นไปตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ให้มันรู้บ้าง” ไอ้หมาบ้าแสดงสีหน้าน้อยใจ ที่ผมมองไม่เห็นความหวังดี (ที่จ้องจะประทุษร้าย) ต่อร่างกายผม

อาจจะเป็นเพราะ ปากผมกวนตีนไอ้ฉานไป แต่ตากำลังสนใจฟองสบู่ตรงหน้า ลองยื่นมือออกไปแตะๆดู ก็รู้สึกถึงความละเอียดของเนื้อฟองสบู่ ผมเพลินจนถึงขั้นลองเอามือจุ่มลงไปในน้ำเลยทีเดียว น้ำในอ่างกำลังอุ่นแบบพอดีๆ ไอความร้อนที่กรุ่นอยู่เหนือฟองสบู่ ช่วยขับให้กลิ่นของสบูเด่นชัดขึ้น น่าจะเป็นกลิ่นธรรมชาติบำบัดกลิ่นอะไรสักกลิ่น ที่ผมไม่รู้

ช่วงเวลาที่ผมกำลังซึบซับกับอามรมณ์ผ่อนคลาย และกลิ่นอายที่ทำให้รู้สึกสมองปลอดโปร่งขึ้นนั้น ผมไม่ได้ยินเสียงเลยว่า ไอ้หมาบ้าข้างตัวผม มันลอกคราบตัวเองตั้งแต่ตอนไหน หันไปอีกที พ่อตัวดีก็กลายร่างเป็นไอ้ชีเปลือย ไม่มีอาภรณ์ใดๆพันกายเลยสักชิ้น ยืนยิ้มยิงฟันให้ผมอยู่ก่อนแล้ว

เลือดทุกเส้นสายในร่างกายผม วิ่งพล่านมารวมตัวกันที่ใบหน้าโดยไม่ได้นัดหมาย

ตื่นเต้น!!!!! ตกใจ


ครับผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้เวอร์ ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเรา ก้าวข้ามความลึกซึ้งหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ผิดจากครั้งไหนๆ ผมไม่เคยเห็นร่างปล่าวเปลือยของไอ้ฉานชัดเจนขนาดนี้ ตั้งแต่เราผ่านพ้นช่วงประถมมาด้วยกัน หลังจากนั้นถึงแม้เราสองคนจะมีเหตุการณ์ให้ต้องอาบน้ำด้วยกันบ้าง แต่นั่นมันก็ยังมีเซ็นเตอร์ตัวจิ๋วบังอำพราง จนวันนี้ วันที่เราสองคนมีความสันพันธ์กันมากกว่าวันวาน แล้วช่วงเวลาแบบนั้นบนเตียง คงไม่มีใครมัวแต่มาชื่นชมอยู่กับสรีระร่างกายกันหรอกครับ เวลาแบบนั้นสิ่งที่น่าสนใจคงไม่ไกลไปจากประตูสวรรค์สักเท่าไหร่หรอกนะ

ผมสำรวจร่างเปลื่อยปล่าวของไอ้ฉานอยู่นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ กว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อสบสายตากับเจ้าตัวขึ้นมา  เลือดที่มันยึดหน้าผมเป็นที่อาศัยถึงได้พากันเดือดพล่านจนร้อนไปหมด จนต้องหลบสายตาที่มองมาอย่างมีความหมายนั้น

ก่อนร่างที่ดูเหมือนจะไร้น้ำหนักขึ้นมาฉับพลันของผม จะลอยไปปะทะกับอกกว้างของคนตรงหน้า ริมฝีปากอุ่นชื้นประทับลงมาที่หน้าผากผม ปลายจมูกไกล่เกลี่ยไปมากับไรผมอ่อนๆข้างแก้ม ก่อนจะกดลงที่สูดกลิ่นที่ข้างแก้มผม ทั้งจมูกทั้งปาก สำรวจไปทั่วใบหน้า ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก ผมเผยอรอสัมผัสนั้นอย่างรู้ใจ ก้อนเนื้อนิ่มสองก้อนกำลังไล่ต้อนกันในโพรงปากอย่างดูดดื่ม ขาผมเริ่มสั่น เมื่อความอ่อนโยนที่มอบให้กันค่อยๆเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนรุนแรง
กว่าริมฝีปากผมจะเป็นอิสระ ก็เล่นเอาเข่าอ่อนจนพยุงร่างตัวเองแทบไม่ไหว เดือดร้อนไอ้ตัวการต้องช่วยพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงของผมลงไปแช่ในอ่าง ก่อนจะเบียดตัวเองลงมาแช่น้ำด้วยกัน ตัวผมกลายเป็นบุคคลไร้น้ำหนักโดยสมบูรณ์ ไอ้ฉานดันตัวผมให้ลุกขึ้น แล้วเอาตัวเองลงไปนั่งแช่ ก่อนจะดึงตัวผมให้ลงมานั่งซ้อนกัน แขบมันโอบกอดด้านหลังผมเอาไว้หลวมๆ แล้วเอาคางมาเกยก่ายไว้บนไหล่ผม

รู้สึกอาย!!!  ถึงไม่ใช่ครั้งแรกที่ใกล้ชิดกันแบบนี้ เราใกล้ชิดกันมากกว่านี้ก็มีมานักต่อนักแล้ว ถึงผมเป็นผู้ชาย แต่ก็พูดได้เต็มปากว่ายังไม่ชิน บรรยากาศเปลี่ยน มันให้อารมณ์ตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอ....

“เป็นไง รู้สึกดีมั้ย” เสียงอ่อนโยนพูดชิดริมหูผม ก่อนจะขมเม้มเบาๆที่ใบหู รู้สึกวาบหวามไปทั่วสรรพางค์กาย

ขนลุกซู่!!!!

“หืม ถามแล้วทำไมไม่ตอบ” จะให้กูตอบตอนไหนวะครับ ทั้งหน้าทั้งคอผมโดนจมูกกับปากไอ้ผู้กำกับมันซุกไซร้อยู่แบบนี้

“หมายถึงอะไรหละที่ว่าดีมั้ย” กว่าผมจะหักหาญอารมณ์หวิวไหวเค้นเสียงออกมาได้  ใจก็บอกตัวเองว่าอายฉิบหาย แต่ร่างกายนี่สิทรยศ ผมกลับเหยียดคอขึ้น แล้วปรับองศาให้ปากและจมูกไอ้ฉาน จูบไซร้ได้ถนัดมากขึ้น ...........มึงมันน่าไม่อายเมฆ

ไม่ใช่!!!!!!......กูกำลังทำตามแผนที่ไอ้ไม้บอกต่างหาก  อย่างน้อยปีศาจฝ่ายดีในตัวผมก็ยังปลอบใจ

ความร้อนแรงของดวงตะวัน กำลังเผาไหม้ผมละลายรวมกันกับน้ำในอ่าง




เมื่อคนตรงหน้าผมเชยปลายคางให้แหงนตอบรับจูบที่ประทับลงมาอย่างเร่าร้อน  และเพราะสัมผัสที่ได้รับทำให้รู้สึกดี ผมจึงตอบสนองจูบนั้นกลับไปเร่าร้อนเสมอกัน เสียงครางยาวจากไอ้ฉานเป็นสิ่งยืนยัน ว่าจูบที่เราสองคนพร้อมใจมอบให้กันนั้นมันดีแค่ไหน สองมือผมคล้องรอบคอไอ้ฉานไว้ สอดปลายนิ้วคลอเคลียกับกลุ่มผมท้ายทอยเล่นระบายอารมณ์ที่โดนปลุกเร้า  ปล่อยร่างเปลือยเปล่า ให้คนตรงหน้าสำรวจได้เต็มที่ สองมือแกร่งปะป่ายไปทั่วร่างกายผม อุณหภูมิที่คิดว่ากำลังอุ่นแบบพอดีๆของน้ำในอ่าง กลับทำให้ผมรู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ใบหูผมโดนปลุกเร้าอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า และลมหายใจกรุ่นร้อนที่ลอยออกมาพร้อมความต้องการที่ไอ้ฉานกระซิบบอก

“ช่วยกันหน่อยสิ” ซุ้มเสียงแหบพร่าทำให้ผมต้องสั่นสะท้าน ผมเข้าใจความหมายของสิ่งที่มันต้องการให้ “ช่วย” ดี มือผมเริ่มทำหน้าที่ของตัวเอง รอยยิ้มแสดงความพึงพอใจปรากฎบนใบหน้าของคนข้างกาย  เมื่อผมเดาความหมายของสิ่งที่ไอ้ฉานต้องการให้ช่วยได้ไม่ผิดเพี้ยน เสียงครางยาว ดังสลับเสียงหอบกระเส่าของเราทั้งสองคนดังขึ้นไม่รู้ว่าเสียงไหนเป็นเสียงใคร  เมื่อเราสองคนผลัดกันปรนเปรอจุดเร้าให้กันและกันอย่างถึงใจ  

อารมณ์ความต้องการทะยานขึ้นสูง จนแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่าต้องทำอะไร
สมองขาวโพลนเสียจนไม่รู้ว่า เวลาที่เหมาะต่อการสารภาพ (บาป) ของคนอื่นต้องทำเวลาไหน


น้องชายไอ้ฉานอยู่ในกำมือผม ส่วนน้องชายของผม ไม่ต้องสงสัยว่ามันจะหายไปไหน ในเมื่อโดนไอ้ฉานปลุกเร้าจนจวนเจียนจะร้องไห้อยู่หลายครั้ง มันจะทรมานผมไปถึงไหน ซอกคอ ใบหูลามมาจนถึงหน้าอก ไม่มีส่วนไหนที่ไม่โดนไอ้ตัวดีมันลากลิ้นผ่าน จุดไหนที่ไวต่อความรู้สึกผม ไอ้ฉานจะลากลิ้นวนไล่เล็มอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน บ้างก็ขบเม้ม บ้างก็ดูดดุนจนผมหวั่นใจว่ามันตั้งใจจะทิ้งรอยไว้บนตัวผมเป็นแน่แท้

“ เมฆ พร้อมแล้วใช่มั้ย ” ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่เสียงไอ้ฉานทำเอาผมสะท้านขนลุกซู่ มึงถามกูช้าไปไหม กูพร้อมจนไม่รู้จะพร้อมยังไงแล้ว

“อะ อืม พะ พร้อม เอ้ยยยยยย ไม่ ไม่พร้อมนะฉาน”  ผมขยับตัวหนีเมื่อรู้สึกถึงนิ้วที่ไล่วนรุกรานใกล้ๆประตูสวรรค์

ผมต้องการตอนนี้และเดียวนี้ แต่มันยังไม่ได้ ถึงอารมณ์จะถูกปลุกเร้าจนเดินทางจวนเจียนจะถึงจุดหมาย แต่จะเดินทางต่อได้ยังไง ในเมื่อหยาดหยดแห่งความใคร่ ที่เคยใช้เป็นตัวช่วยนำทางในยามขับขัน ได้ละลายสลายไปกับน้ำในอ่างหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 26-06-2010 00:14:24
ผู้ชายไม่เหมือนผู้หญิง ถ้าไม่มีตัวช่วยให้ฉานน้อยได้ขับเคลื่อนเข้าไป ไอ้ฉานอาจจะถึงสวรรค์ แต่ผมสิอาจจะถึกับกระอักเลือดตายได้

“หืม ทำไมเหรอ ฉานไม่ไหวแล้วนะ” ถ้วยคำเว้าวอนน่ารักขาดใจ แต่ผมก็กลัวเจ็บตายเหมือนกันนะ

“มันไม่ลื่น กูเจ็บ แค่นิ้วมันยังเจ็บ แล้วถ้าของมึงเข้าไป กูชิงขาดใจตายก่อนดีกว่า” ผมเห็นมันยิ้ม ก่อนจะฉกชิมริมฝีปากผมไปต่อหน้าต่อตา แล้วไม่มีที่ท่าว่าจะปล่อยเมื่อมันยังคงดูดกลืนริมฝีปากผมแล้วค่อยๆส่งลิ้นมากวาดต้อนกันให้เร่าร้อนในโพรงปากอีกครั้ง ถึงจะแอบหมั่นไส้ แต่อารมณ์ที่พาไปทำให้ผมต้องส่งลิ้นออกไปลุกไล่โต้ตอบ.....

มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือแผนการที่ไอ้ฉานวางไว้ ผมก็ไม่รู้ได้

ชั้นวางเครื่องใช้ในห้องน้ำ เหนืออ่างมีสิ่งที่ไม่น่าจะมีได้อย่างเจลหล่อลื่น โดนไอ้ฉานหยิบมาใช้

“ทีนี้พร้อมแล้วนะ สัญญาว่าจะไม่รุนแรงมาก” แล้วสัญญาก็เป็นสัญญา

ทุกช่วงจังหวะเต็มไปด้วยความอ่อนหวานและอ่อนโยน  แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ อารมณ์อยากไปถึงจุดสิ้นสุดนั้นเร่งเร้าให้ผมลืมความกระดากอาย ตัดสินใจอ้อนวอนคนตรงหน้าแบบที่รู้ดีว่า ถ้าไม่ใช่อารมณ์แบบนี้ คำเหล่านี้จะไม่มีวันหลุดออกจากปากผมเป็นอันขาด
“ฉาน แรงแล้วก็เร็วกว่านี้ก็ได้ “ มันกัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บ หลังจากหลุดคำพูดเว้าวอนน่าอายออกไป คำตอบที่ผมได้รับไม่ใช่คำพูด แต่เป็นจูบแสนหวานจากไอ้ฉานที่มันผละจากจุดอ่อนไหวที่ยอดอกขึ้นมามอบให้

น้ำในอ่างโดนปล่อยทิ้งไป ขอบอ่างกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้ายที่ผมจับมี แรงกระแทกที่เข้ามาเป็นจังหวะเร็วช้าสลับกัน ทำผมจวนเจียนจะขาดใจตาย เสียงครางถูกปล่อยออกไปแบบไม่กลัวว่ามันจะทะลุไปถึงไหนต่อไหน ในเมื่อตอนนี้ไม่มีอะไรที่จะฉุดกระชากความปรารถนานี้ได้อีกต่อไปแล้ว นอกจากจะรอให้พายุรักมันพัดผ่านไป สถานที่คับแคบและไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนเตียงนอนอย่างที่เคย  ส่งผลให้ผมต้องขอเปลี่ยนเป็นท่าที่สุดแสนจะน่าอาย  ขอบอ่างถูกใช้เป็นที่วางขา ผมโค้งลำตัวลงมาเพื่อให้ง่ายต่อการสอดใส่ ผนังห้องน้ำและฉากกั้นอาบน้ำกระจกใส โดนมือผมยึดเหยี่ยวเอาไว้ ยามที่ไอ้ฉานนำพาน้องชายถาโถมเข้าใส่ เสียงครางแหบพร่าดังประสานกัน เมื่อมาถึงจุดสุดท้ายที่จะต้องปลดปล่อย จังหวะโดนเร่งขึ้นเหมือนคนตรงหน้าเองก็รู้ใจ ก่อนทุกอย่างจะถึงที่สุดของจุดหมาย

สติสุดท้ายที่เกือบลืมเลือนไป

“ ฉาน อะ ฉาน ดะ เดี๋ยวก่อน ฉาน อย่าเพิ่งไป” ไม่ทันแล้ว มันสายเกินไป สิ้นเสียงสุดท้ายพร้อมหยาดหยดที่ผมปลดปล่อยให้มันไหล และของคนข้างกายที่ฉีดเข้ามาจนรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อน ผนังกั้นอ่างอาบน้ำโดนมือผมลากเป็นทางยาว ผมทรุดตัวลงนั่งอ่างอย่างหมดแรง และอ่อนใจ คำแนะนำของไอ้ไม้ ไม่ได้ผล

คำแนะนำไอ้ไม้ใช้ไม่ได้ หรือเป็นผมเองที่ไม่เอาไหน !!!!!!

ไอ้ฉานเปิดน้ำจากฝักบัวก่อนช่วยอาบน้ำชำระร่างกายให้ทั้งผมและของตัวมันเอง ผ้าเช็ดตัวโดนไอ้คุณชายมันเอามาห่อตัวผมไว้ ช่วงเวลาที่เดินผ่านแล้วลอบมองตัวเองในกระจก ไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ดักแด้ ชุดนอนกางเกงผ้าพร้อมเสื้อยืดแบบง่ายๆ โดนไอ้ฉานจับใส่ก่อนพาผมไปนอนบนเตียงในห้องมัน .......

ไฟในห้องถูกปิด ไม่นานไอ้ฉานก็ล้มตัวมานอนกอดผมไว้ ก่อนจะสอดแขนมาให้หนุน ผมพลิกตัวเข้าหาเหมือนอย่างที่เคยทำจนเป็นความเคยชิน ถูจมูกไปมากับหน้าอกไอ้ฉาน ก่อนจะวาดแขนไปโอบกอดมันไว้ กำลังจะตัดใจหลับ ในเมื่อวันนี้พลาด วันหน้าก็ยังมี ปีศาจฝ่ายดีบอกผมไว้แบบนั้น
“เมฆ หลับยัง” ให้ตายสิ!!! คนอย่างผมจะมีแต่ปีศาจฝ่ายดี มันคงจะธรรมดาเกินไป ปิศาจฝ่ายร้ายมันคงจะยอมไม่ได้

“ยัง แต่ก็ใกล้จะหลับแล้ว เหนื่อย” ผมผละออกมาตอบคำถามแค่ชั่วอึดใจเดียว ก่อนจะซุกตัวเข้าไปแล้วกระชับอ้อมแขนไว้แน่นเหมือนเดิม

“เหนื่อยหรือไม่สบายใจ คิดว่าจะรอให้มึงเล่าเอง คงรอไม่ไหว มีเรื่องอึดอัดใจอยู่ใช่มั้ย” ไอ้ฉานมันดึงตัวผมออกห่าง ก่อนมองเข้ามาในดวงตาผม จะหลบก็ไม่ได้!!!

มึงมันแย่เมฆ เก่งเรื่องอื่นแยะแยะมากมาย แต่มึงก็ต้องมาตกม้าตายเพราะสายตาไอ้ฉานทุกที

“ทำไมมึงรู้” เสียงผมคงดังไปกว่ากระซิบไม่เท่าไหร่

“ทำไมจะไม่รู้ เวลามึงไม่สบายใจดูง่าย เอาเป็นว่าเล่าได้มั้ย กูสัญญาว่าจะตั้งใจฟังอย่างมีสติ” คำสัญญามาพร้อมกับการชูสามนิ้วยืนยัน

“สัญญาอีกอย่างนึงได้ไหม” ผมต่อรอง ไอ้ไม้มันสอนไว้ ว่าให้ต่อรอง ถึงแผนนั้นมันจะใช้ไม่ได้ ผมก็ต้องงัดอีกแผนมาใช้ละนะ

“บอกมาก่อนว่าอะไร อาจจะสัญญาไม่ได้ แต่กูจะพยายามควมคุมสติโอเคมั้ย” ผมพยักหน้ากับอกมันอย่างจำยอม ผมรู้นิสัยไอ้ฉานดี มันจะไม่สัญญาโดยที่ไม่รู้ว่าพันธะสัญญาคืออะไร อะไรที่มันไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ ไอ้ฉานจะไม่หลุดรับปากส่งๆไปเด็ดขาด

“สัญญาว่าจะใจเย็นและไม่โกรธกู” ผมกระชับอ้อมกอดจนแน่น กลัว แต่ไม่รู้กลัวอะไร ในเมื่อคนตรงหน้ายังเหมือนเดิม ยังคอยรับฟังผมทุกอย่างเหมือนเดิม ผมคงกลัวในสิ่งที่มันมาไม่ถึงสินะ
“เล่ามา จะพยายามฟังอย่างตั้งใจ” ไอ้ฉานลูบหัวผมเพื่อปลอบใจ

“ก่อนไอ้ไม้จะถูกทำร้าย ไอ้อาทมันอยู่ร้านเดียวกับเรา โต๊ะข้างๆกับเรา แล้วตอนมึงออกไปส่งน้องๆ กูจะไปเข้าห้องน้ำ แต่เกิดอยากดูดบุหรี่ ทีนี้ไอ้อาทก็เข้ามา แล้วแกล้งทำเป็นขอบุหรี่กับกู” ผมหยุดหายใจแล้วลอบมองปฎิกริยาไอ้ฉาน มันยังเงียบ สีหน้าที่เห็นลางๆในความมืด ยังไม่มีอะไร

“แกล้งขอบุหรี่!!!! ยังไง แล้วยังไงต่อ” ไอ้ฉานเร่ง เมื่อเห็นผมเงียบไป ผมสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอ

“ฟังให้จบก่อนได้ไหม” ผมยื่นคำขาด ไอ้ฉานพยักหน้าตอบรับเบาๆ

“แล้วไอ้อาทมันก็เอ่อ มาจับมือแล้วดึงกูเข้าไปจะจูบเอ่อ แต่โดนแบบแตะๆนะ แต่กูตกใจเลยต่อยมันไป มันอาจจะโกรธกูก็ได้ ไอ้ไม้เลยโดนลูกหลง” ผมกลั้นหายใจบอกออกไปรวดเดียว อะไรมันจะเกิดก็ให้มันเกิด อย่างน้อยถ้าไอ้ฉานมันจะโกรธ ผมก็ยังทีใจที่มันได้รู้จากปากผม ไม่ใช่จากปากใครๆ

ไอ้ฉานไม่มีปฎิกริยาอะไรหลังจากที่ผมพูดจบ นอกจากมันจะเกร็งตัวจนผมรับรู้ได้ แต่อาการเงียบจนเกินไปก็ทำให้ผม วุ่นวายใจเหมือนกัน ผมกระชับอ้อมกอดไอ้ฉานแน่นยิ่งขึ้น แน่นจนคนกอดเองยังรู้สึกเจ็บ แล้วคนโดนกอดหละ ทำไมมันยังนิ่ง ไม่มีเสียงใดๆหลุดจากปากไอ้ฉาน ผมดันตัวเองออกมาเพื่อมองหน้ามัน กรามไอ้ฉานขบกันเป็นสันนูน แววตากร้าวน่ากลัว มือทั้งสองข้างขยุ้มผ้าปูที่นอนจนยับย่น

ผม ผมทำอะไรไม่ถูก นอกจากโผเข้ากอดมันเอาไว้ น้ำตาแร่นรื้นขึ้นมาคลอเต็มหน่วยตา

“ฉานมึงจะตบจะเตะจะต่อยกูก็ได้ แต่อย่าเงียบแบบนี้ได้มั้ยแล้วอย่าโกรธกูได้มั้ย กูไม่ได้อยากให้มันเกิด แต่มันผ่านไปแล้ว” ผมจับตัวไอ้ฉานเขย่าไปมา น้ำตาไหลก็ปล่อยให้มันไหลอย่างไม่อาย ไอ้เมฆมึงมันน่าสมเพช!! มือนึงจับคนตรงหน้าเขย่า อีกมือนึงก็ต้องคอยมาปาดน้ำหูน้ำตา
“ร้องไห้ทำไม กูยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ มึงผิดซะที่ไหน คนผิดไม่ใช่มึง ไม่เป็นไรนะ กูแค่สงบสติตัวเองไม่ให้พาลระบายอารมณ์ร้ายๆใส่มึง” ไอ้ฉานดึงตัวผมออกมาเช็ดน้ำตา คำพูดราวเขื่อนแตกที่พรั่งพรู เรียกรอยยิ้มฝ่าม่านน้ำตาของผมได้

“กูขอโทษนะ ที่ไม่กล้าบอกมึง นอกจากกลัวมึงโกรธแล้ว กูยังกลัวมึงทำอะไรโง่ๆ แค่ไอ้ไม้เจ็บคนเดียวกูเห็นยังรู้สึกใจหาย แล้วถ้าเป็นมึง กูไม่แน่ใจว่าจะตายทันทีไหม ถ้าเห็นสภาพมึงเหมือนที่เห็นไอ้ไม้” ผมสะอื้นฮัก บอกความในใจ ความแมนอยู่ที่ไหนผมลืมไปหมดแล้ว ตรงนี้มีแต่ผม ไอ้เมฆตาขาวที่กลัวแฟนตัวเองจะเป็นอะไรไปก็แค่นั้น

ไอ้ฉานมีแค่คนเดียว ถ้าไม่มีมัน แล้วผมจะอยู่ได้ยังไง

“กูจะไม่พูดว่าไม่เป็นอะไร กูไม่โกหกว่าโกรธไอ้เหี้ยนั่น แต่กูสัญญาได้ว่าจะไม่ใจร้อนทำอะไรโดยที่ไม่คิดนะ ต่อไปนี้ถ้ามัน ไม่มายุ่งอะไรกับพวกเราและมึงอีก กูจะถือว่าให้มันแล้วไป แต่ถ้ามันแม้แต่จะเดินเข้ามาใกล้มึงเมื่อไหร่ กูไม่รับปากหรอกนะว่าจะควบคุมตัวเองไม่ให้กระทืบมันได้ ถ้ามึงรักกู เป็นห่วงกู มึงก็ต้องช่วยอยู่ให้ห่างมันที่สุดเข้าใจมั้ย แล้วห้ามไปไหนมาไหนโดยไม่มีกูเด็ดขาด “ มันยื่นข้อเสนอที่ดูแล้วยากแสนยาก แต่ผมก็ต้องรับไว้ แค่ไอ้ฉานสงบได้ขนาดนี้ ผมก็ถือว่ามันทำเพื่อผมมากมายแล้ว ถ้าผมต้องพยายามเพื่อมันบ้างจะเป็นไรไป

“หยุดร้องไห้แล้วก็นอนได้แล้ว พรุ่งนี้มึงโทรมไปโรงบาล มึงจะตอบคำถามเพื่อนว่าไง ว่ากูจับกดไม่ได้นอนทั้งคืนเหรอ” มันต้องกลั้นอารมณ์ตัวเองแค่ไหนแต่ก็ยังไม่วาย หาเรื่องแหย่ผม

“มึงจะให้กุตอบแบบนั้นได้ไง ไอ้พวกนั้นเหมือนคนอื่นซะที่ไหน มีหวังกูโดนมันล้อถึงในมหาลัยแน่” แค่คิดถึงพวกเพื่อนๆ ผมก็สยองแล้ว

“ก็ไม่แน่นะ อาจจะมีคนโทรมเป็นเพื่อนมึงก็ได้ เด็กข้างบ้านไอ้ไม้นั่นไง ดูไอ้ไม้มันมองเด็กนั่นแบบแปลก” ไอ้ฉานมันตั้งข้อสงสัยได้ตรงใจผมมาก

“มึงคิดเหมือนกูเลยฉานแน่นั่นมันโรงบาลนะไอ้บ้า  น้องปลื้มกับไอ้ไม้ มันต้องมีอะไรมากกว่าพี่น้องข้างบ้านกันแน่ๆ มึงคิดว่าไอ้ไม้จะ” ปากผมโดนปิดด้วยปากของไอ้ฉานทันที ไอ้เหี้ยนี่เผลอไม่ได้ เผลอเมื่อไหร่หาเรื่องงับปากกูทุกที

“แล้วยังไง ถ้าไอ้ไม้จะเป็นเหมือนเราสองคนแล้วทำไมเหรอ ไม่ดีรึไง” ไอ้ฉานบีบจมูกผมเล่น กูเจ็บนะครับควาย บีบมาได้

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร น้องปลื้มก็น่ารักดี แต่ที่ไม่ดีคือมันซุกเด็กเอาไว้แล้วไม่บอกกู คอยดูนะ พรุ่งนี้กุจะต้องเค้นเอาคำตอบให้ได้ อ๊ะ ฉาน ได้ยินเหมือนเสียงโทรศัพท์” ไอ้ฉานมันเป็นคนดีอาสาจะไปหาโทรศัพท์ผมมาให้ แน่สิ ถ้าให้ผมไปหาเองไม่รู้จะเจอมั้ย โทรศัพท์ตัวเองอยู่ไหนผมยังไม่รู้เลย ไม่นานไอ้ฉานก็เดินเข้าห้องมาพร้อมโทรศัพท์ในมือ

“อันดา” ผมเลิกคิ้วสูง ทำไมอันดาโทรมาดึกดื่นป่านนี้ ผมรีบกดรับโทรศัพท์ โดยไม่ลืมจะถามไอ้ฉานแบบไม่ออกเสียงว่า รู้ว่าเป็นอันดาทำไมไม่รับ  ไอ้หมาบ้ามันแบมือสองข้างแล้วส่ายหน้า ชี้มาที่ผมและโทรศัพท์ กวนตีนกูจริง

“อันดา มีอะไรรึเปล่าโทรมาซะดึกดื่นป่านนี้” ผมส่งเสียงที่ติดจะร้อนรนไปหน่อย ปลายสายจึงส่งเสียงตอบกลับมาอย่างสำนึกผิด

“ขอโทษค่ะพี่เมฆ อันดาคุยกับเพื่อนเพลินไปหน่อย พอดูนาฬิกาอีกที ก็ดึกแล้ว แต่ถ้าไม่โทรมาคืนนี้ ก็ไม่ทันนะสิค่ะ” เสียงอันอาจ๋อยสนิท

“ไม่เป็นไรพี่ยังไม่นอนหรอก แค่ตกใจคิดว่ามีใครเป็นอะไรหนะ แล้วตกลงมีอะไรเหรอ” ผมปรับน้ำเสียงให้ปกติที่สุด รู้สึกสงสารน้อง นี่ผมจะกลายเป็นที่ชายที่ตามใจน้องเกินไปรึเปล่านะ

“พี่ฉานอยู่มั้ยค่ะ” อันดาถามหาไอ้หมาบ้าที่ตอนนี้มันนอนพิงหัวเตียงมองผมคุยโทรศัพท์อยู่ สีหน้าอยากรู้อยากเห็นจนปิดไม่มิด แถมยังสั่งให้ผมเปิดโฟน แต่เรื่องอะไรหละ  อยากรู้ต่อไปนั่นแหละดีแล้ว

“อ้าว โทรมาเครื่องพี่ แต่ถามถึงไอ้ฉาน” ผมใส่น้ำเสียงน้อยใจไปเต็มที่ เอาวะ อ้อนน้องตัวเองนี่แหละปลอดภัยต่อประตูหลังที่สุดแล้ว
“โอ๋ๆ อันดาล้อเล่น จะถามว่าพรุ่งนี้พี่เมฆว่างมั้ยค่ะ”
“พรุ่งนี้ ว่างสิ พี่ว่างทุกวันช่วงนี้ยังไม่มีเรียน ทำไมเหรอ”
“งั้นมารับอันดาหน่อยได้มั้ยค่ะ อันดาจะไปสมัครเรียนติว จะไปดูที่เรียนด้วย “
“ได้สิ มาไฟล์ทไหน กี่โมงหละ “ไปรับน้องแค่นี้ พี่ที่แสนดีอย่างผมทำไมจะทำไม่ได้

“สิบเอ็ดโมงค่ะ พาพี่ฉานมาด้วยนะ อันดาคิดถึง” เสียงสดใสบอกผ่านมาตามสายให้ผมต้องย่นจมูกด้วยความหมั่นไส้

ไอ้ฉานมันคงรู้ว่าเกี่ยวกับมัน ถึงได้ทำหน้าเหรอหราขนาดนั้น

“อ้าว งั้นให้พี่ฉานไปรับคนเดียวดีมั้ย ในเมื่ออันดาคิดถึงพี่ฉาน “ อันนี้เริ่มน้อยใจจริงจัง
“อันดาล้อเล่น คิดถึงพี่เมฆจะตาย มีเรื่องจะเล่าให้ฟังแยะแยะ พรุ่งนี้เจอกันนะ รักพี่เมฆค่ะ”
“ครับผม รักอันดาเหมือนกันครับ  พรุ่งนี้เจอกันนะคนสวยของพี่ “ เสียงหัวเราะสดใสส่งมาตามสายก่อนวางไป
“พรุ่งนี้อันดาจะมาสมัครเรียน ให้ไปรับ เจาะจงว่าต้องพาพี่ฉานไปด้วย น่าหมั่นไส้ฉิบหาย “
“ของมันแน่อยู่แล้ว มีพี่เมฆไม่มีพี่ฉานได้ไง จริงมั้ย ไหนว่าเหนื่อย เหนื่อยก็นอนได้แล้ว ถ้าเหนื่อยไม่จริงกูจะทำอย่างอื่น มึงว่าไง กูให้ตอบภายในเวลาที่กูนับหนึ่งถึงสาม” ไอ้ฉานทำหน้าเจ้าเลห์ เอามือจะมาขย้ำคอผม ผมถอยหนีไอ้กูปรีหนีน้ำลงไปนอนก่อนเอาผ้าห่มมาพันตัว หนีมือปลาหมึกจากหมาบ้า กูเหนือ่ยจะตายห่าอยู่แล้วมึงจะเล่นอีกรอบ ฝันไปเถอะ

 สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ทิ้งไปหลายวัน
กว่าจะเข็นตอนนี้ออกมาได้ แทบตาย :z3: :z3:
การเขียนต้องใช้ศาสตร์และศิลป์จริงๆนะคะ
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่งานเข้ายุ่งเหยิงแบบนี้
แล้วต้องมาแต่งตอนนี้สมองแทบระเบิดตาย.....ไอ้สองคนนั่นไม่ตรั่บๆกันในตอนนี้ คนเขียนอาจตายได้
มันอาอจะยังไม่ดีเท่าไหร่แต่ก็พยายามเต็มที่แล้วนะ o6
แล้วยิ่งงานที่ทำอยู่ต้องใช้จินตนาการสูงไปแล้ว ไหนยังต้องมาจินตนาการกับนิยายอีก:sad2:
ยังไงก็ติดตามกันต่อไปเหมือนเดิมนะ
อยากต่อไวไว เกรงใจ anterosz ที่มาทั้งผลักทั้งดัน รวมถึงคนอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยถึงด้วยนะ
๐ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้เหมือนเดิมนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณค่ะ...... o1
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ ๐.....
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
============================
ตอนหน้าขอฉากพี่ไม้กะน้องตี่ตี้ ให้โรงพยาบาลด้วย  :z1: ถ้าจะเหมือนพี่ฉานกะนุ้งเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 26-06-2010 00:24:32
จิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

รู้สึกอ่านไป ก็แอบลุ้นไปจริงๆ ตอนนี้เป็น NC ที่เค้าอ่านแล้วเกร็งมากก
ใจนึกก็คิดอยู่ว่า พี่เมฆจะสามารถบอกเรื่องที่โดนขโมยจุ๊บได้ไหม????
แล้วฉานจะโกรธจนทำให้ทะเลาะกับพี่เมฆไหม? เห้อออ แต่พออ่านจบแล้ว
รู้สึกโล่งใจจริงๆค่ะ ที่ทุกอย่าง ยังลงเอยได้ด้วยดี? ^^
 +1 ให้นะคะ o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 26-06-2010 00:38:48
ู^
^
^
จิ้มทะลุ  :m25: :m25:

รอตอนต่อไปขอรับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 26-06-2010 00:44:08
 :เฮ้อ: โล่งแล้วใช่มั๊ยค่ะพี่เมฆ ได้พูดออกไปซะที ดีนะเนี่ยที่พี่ฉานแมนโคตร ๆ เลยไม่ถือสาหาความอะไร :m4:
แต่...คงโล่งได้ไม่นานหรอกค่ะ อันดามาแล้ว แฟนอันดาต้องเป็นไอ้อาทเดียวกันแหง ๆ เหมือนมันวางแผนเตรียมไว้ล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้แล้วเรื่องใช้อันดาเพื่อเข้าหาพี่เมฆ ร้ายนักนะแกไอ้อาท :beat:
พี่ฉานอย่ายอมให้ไอ้อาทมันกำเริบมากไปกว่านี้นะค่ะ สั่งสอนมันเลยค่ะ พี่ฉานสู้ ๆ :m13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 26-06-2010 00:44:31
ขอเลือดด่วน  :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 26-06-2010 00:46:51
 :เฮ้อ: โล่งอกไปหนึ่งเรื่อง
แต่ทว่าตอนหน้าน้องอันดามาแล้ว จะมีไรยุ่งๆ มั๊ยนิ  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 26-06-2010 00:47:57
บอกไปแล้ว  ถึงจะไม่ทั้งหมดแต่อย่างน้อยฉานก็รู้แล้วว่าไอ่อาทจะตีท้ายครัว
แค่นี้ยังโกรธซะ  ถ้ารู้ว่าไม้โดนรุมเพราะอะไร  ท่าทางจะไปลุยทันที
...  โล่งอกแทนเมฆไปเปลาะนึง
แต่พรุ่งนี้สิ  ไปรับอันดา  เราว่าไอ่อาทก็ต้องไปด้วยแน่เลย
และฉานจะทำอะไรก็คงลำบาก  เพราะอันดาไม่รู้เรื่องด้วย  หวังว่านะ  

+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 26-06-2010 01:09:24
โอ๋~ มามะๆ :กอด1: เติมพลังให้เนอะ ^^ เป็นกำลังใจให้จ้าาาา :L1:

.
.
.

ตอนนี้พี่ฉานเทคแคร์เมฆดีจัง หวานแหววได้อีกกกกกกกก :m3:


และยังมีคำโดนๆถูกใจๆไออย่าง....

“ตาแก่ นอกจากมึงจะขี้บ่นแล้ว มึงยังหื่นด้วยนะ น่ากลัวหวะ”

“เมฆ แค่มึงเลือกกูเป็นแฟน นั่นก็หมายความว่ามึงฉลาดมากแล้ว ต่อไปนี้ ถ้าจะโง่ลงเพราะน้ำมือกูก็ไม่เป็นไรหรอก”

 :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 26-06-2010 02:02:52
เรื่องหนักใจเรื่องที่สองกำลังมากับอันดา :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 26-06-2010 02:02:52
นายฉานน่ารักมาก
น้องเมษรอดไป
เบื่ออันดา
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 26-06-2010 02:41:23
 :z1: :z1: :z1:

ทั้งหวานทั้งหื่น สุดยอด!!!!  :m3:

"ไอ้ฉานมีแค่คนเดียว ถ้าไม่มีมัน แล้วผมจะอยู่ได้ยังไง"  o13 o13 o13

PS>อยากอ่านน้องปลื้มกับไม้ที่โรงพยาบาลเหมือนกัน อิอิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 26-06-2010 03:38:42
รอดแล้วพี่เมฆ !!  :laugh:

แล้วเรื่องของน้องอันดาล่ะ จะรอดมั้ย?
แต่.. ช่างมันก่อน ตอนนี้อยากแอบย่องไปดูพี่ไม้กับคุณน้องข้างบ้านเค้าดูแลกันอ่ะ  :-[

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: posshiza ที่ 26-06-2010 07:54:57
พี่เมฆก็เคลียดคนเดียวอยู่ได้ มีอะไรก็บอกฉานไป
เกิดปัญหาอะไรขึ้นมาจะได้ช่วยกันแก้ไข
หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้นนะ
รอตอนต่อไปคะ :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-06-2010 08:19:42
เคลียร์แล้วนะพี่เมฆ ดีจังเลยที่เฮียฉานไม่โกรธ คนดี๊คนดี
ดีใจแทนพี่เมฆที่มีสามีดีๆ กร๊ากกกกก :laugh:
คราวนี้แหละ ที่สงสัยว่าแฟนไอ่อาทที่ชื่ออันดา ใช่คนเดียวกับคนสวยของพี่เมฆอ๊ะป่าว
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าาาา :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 26-06-2010 08:19:49
มาแล้ว  ๆ ถึงงานเยอะก็อุตส่าห์แต่งมาให้อ่าน
ขอบคุณค่ะ


บอกไปแล้ว..ไม่ได้บอกตอนตรั่บๆๆด้วย
ก็คิดอยู่แล้ว ว่าเมฆไม่สามารถหรอก เฮ่อๆๆๆ

คาดว่าพรุ่งนี้ที่สนามบิน ไ้อ้ อาท มันต้องโผล่มาด้วยแน่ ๆ
กรรม จริง ๆ โผล่มาให้ ฉานมันลงไม้มือมือ

โหวต ให้ตอนหน้า่ ไม้กะน้องปลื้ม
ช๊อบ ๆ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 26-06-2010 09:05:52
ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างพ่อฉานจะโรแมนติคเป็นกับเค้าด้วย แต่แอบฮาตรงที่เจลหล่อลื่นไปอยู่ในห้องน้ำเนี่ยแหละ
แสดงว่าจำเลยได้กระทำการโดยไตร่ตรองไว้ก่อน :laugh:

จะรออ่านตอนต่อไปนะครับผม ขอบคุณทั้งคนโพสทั้งคนแต่งเลยคร้าบ :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 26-06-2010 09:41:45
ขอบคุณคนแต่งกับคนโพส :L2:
ฉานมีความเป็นผู้ใหญ่เหมาะจะเป็นผู้นำของเมฆจริงๆ
อันดาจะเป็นเพียงของเล่นของอาทมั้ยน่าสงสารจัง
วานฉานสั่งสอนอาทหน่อยหลายกระทงนะอาท
รอความหวานตอนปลื้มดูแลไม้คู่นี้น่ารักน่าจิ้น :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 26-06-2010 10:07:26
ขอบคุณ คนแต่งค้า สนุกมากๆ รักตะวัน รักก้อนเมฆ คู่นี้จัง +1 เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 26-06-2010 10:23:06
อ้างถึง
ไอ้ฉานมีแค่คนเดียว ถ้าไม่มีมัน แล้วผมจะอยู่ได้ยังไง
ยังไงทั้งฉานและเมฆ ก็ต้องมีกันและกันตลอดไปอยู่แล้ว  :กอด1:
บอกฉานไปแล้ว พี่เมฆคงจะสบายใจขึ้นนะ ^^

แต่พรุ่งนี้ที่ไปรับอันดาที่สนามบิน หวังว่าคงไม่ได้เจอ นายอาทตัวยุ่งหรอกนะ
+1  ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ Seiki และ TRomance ค่ะ   :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 26-06-2010 13:27:17
ยังน่ารักกวนๆ เหมือนเดิม คู่นี้

รอตอนต่อไปค่า :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 26-06-2010 13:47:32
ตอนหน้าก็คงจะได้รู้กันแล้วสินะเนี่ย

ว่าอันดานี้ หรืออันดาไหนกันแน่ ที่ไอ้อาทมันคุยด้วย

ตอนแรกนึกว่าพี่ฉานจะโกรธมากกว่านี้สะอีก

พี่ฉานน่ารักที่สู๊ดดด ตอนนี้อ่ะนะ อิอิ

รอตอนหน้าจ้า อยากรู้จังจะเป็นยังไงต่อไป

สู้ๆนะคะคนแต่ง  รักพี่เมฆกะพี่ฉานที่สู๊ดดด  :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 26-06-2010 13:59:39
เฮ้อ โล่งอกแทนน้องเมฆจริงๆ  

ในที่สุดก็ได้เล่าความจริงออกไปซักที

ห่างๆมานน่ะ ไม่งั้นน้องฉานได้ไล่เตะคนแน่ๆๆ

น้องอันดามา จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่าเนี่ย

แต่ที่แน่ๆๆ  ได้เห็นน้องเมฆหึงน้องฉานแน่ๆล่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 26-06-2010 14:04:35
 :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 26-06-2010 14:19:09
ตอนหน้างานเข้าแน่เลย

อีนดามาแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 26-06-2010 14:25:15
รึว่า จริงๆ แล้วจะเป็นแผนของ ฉาน ที่จะรีดเร้น? ความจริงจากเมฆ
 :laugh:
บวหนึ่งค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 26-06-2010 14:49:03
 :เฮ้อ: โล่งอกนะเมฆนะ ดีแล้วที่บอดฉานเอง
ฉานนะเป็นคนมีเหตุผล แล้วก็รักเมฆจะตายไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 26-06-2010 15:43:30
มองเห็นเรื่องนี้มาสักพักแต่ยังไม่ได้เข้ามาอ่าน..เพียงเพราะชื่อฟังดูเศร้า เหมือนคล้ายกับบางเรื่องที่ได้เข้าไปอ่าน..ส่วนตัวชอบอ่านที่อ่านไปแล้วยิ้มไปมีความสุข ดราม่าบ้างพอกระตุ้นต่อมน้ำตา มากไปก็ไม่ไหว...ไม่ผิดหวังที่สุดท้ายตัดสินใจเข้ามาอ่าน..หายเหนื่อยเลยจากภาระกิจรอบตัว...รักดวงตะวันนี้มากมาย...เป็นกำลังใจให้ให้ค่ะ..นั่งอ่านรวดเดียวไม่ไปไหนเลย..จะบอกว่าผิดนัดบางคนไปแล้ววันนี้เพราะอยากเป็นก้อนเมฆ ฮ่าๆๆๆ   ไปแหล่ะ..ป่านนี้พ่อดวงตะวันรอแย่แล้ว...มาต่อเร็วๆนะคะ..
มอบให้คนแต่งคร๊าฟฟฟฟ.... :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 26-06-2010 15:46:51
 :เฮ้อ:

บอกไปแล้วววววววววววววววววววววว
ดีแล้วที่ฉานระงับความโกรธได้  แต่มันจะนานเท่าไหร่กันล่ะ
แล้วอันดาก็กำลังจะมา

เอาใจช่วยนะ ทั้งพี่เมฆ พี่ฉาน  และคนแต่งค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 26-06-2010 16:12:47
ฉานนี่หื่นได้ตลอดเลยนะนี่ แต่อยู่ใกล้เมฆเป็นใครก็ต้องหื่นอันนี้เลดี้คิดเอง
แต่ที่เมฆตัดสินใจบอกฉานก็ดีแล้ว เพราะถ้ารู้ทีหลังก็เกิดเรื่องยาวขึ้นแน่ๆๆ
แต่แค่ที่ฉานที่รักเมฆมากระงับโกรธไม่พาลใส่เมฆ ก็รักอีแหละ
แต่เราว่าพายุเมฆฝนกำลังจะตกมาทำลายฉานกับเมฆ เพราะการมาของน้องอันดานี่แหละ และก็การที่ห้ามเมฆไม่ให้ใกล้ไอ้อาท
เราว่าก็เพราะอันดา อาจทำให้คำสั่งของฉาน เกิดเป็นปัฆาแน่นอน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 26-06-2010 17:05:56
เอาน่า...ใจเย็นๆค่อยๆเป็นค่อยๆไปละกันนะ อิๆๆ

คราวนี้งานเข้าครั้งยิ่งใหญ่อีกรอบ เฮ้อ!!! คิดแล้วเหนื่อยแทน เหอะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-06-2010 17:07:31
ดีแล้วมีไรก็บอกอิพี่ฉานไปให้หมดไม่ต้องกั๊กไว้หรอก
ว่าแต่ อันดา เนี่ย ส่งกลับไปกระบี่เลยได้มะ มาทำไมกระบี่ไม่มีที่เรียนพิเศษหรือไง  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 26-06-2010 22:21:43
 o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 26-06-2010 22:52:41
จะมีเรื่องอะไรตามมากับอันดาหรือเปล่า :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 27-06-2010 03:24:32
ตามอ่านเรื่องนี้มาสองวันเต็มๆเลย สนุกมากมายก่ายกอง
ต้องขอยอมรับเลยว่าไม่ได้อ่านนิยายในเล้าเรื่องอื่นนอกจากเรื่องที่
ตามอ่านจนทันมานานมากแล้ว แต่มีเรื่องนี้แหละที่อ่านไปได้แค่สี่ตอนแรก
แล้วบอกกับตัวเองเลยว่าต้องรีบอ่านให้ทันปัจจุบันทันด่วนอย่างแรง
แอบเสียดายมากมายที่ไม่ได้ตามเรื่องมาตั้งแต่ตอนแรก จนวันนี้แหละ
ยอมสละเวลาทำการบ้านมาอ่านเลย เพราะทนอ่านที่ละตอนสองตอนไม่ไหว

เพราะเนื้อเรื่องน่ารักทั้งพระเอกนายเอกและผองเพื่อน อ่านแล้วยิ้มได้
มีความสุขรู้สึกอยากจะอ่านต่อไปเรื่อยๆ ขอฝากตัวเป็นFCพี่เมฆนายฉานและผองเพื่อน
ด้วยนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้ทั้งคนเขียน และคนโพสถ์เลยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 27-06-2010 04:58:41

ว่าแต่ อันดา เนี่ย ส่งกลับไปกระบี่เลยได้มะ มาทำไมกระบี่ไม่มีที่เรียนพิเศษหรือไง  :laugh:
ู^
เห็นด้วยที่สุด รับบวกไปเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 27-06-2010 14:57:42
 :oo1: :oo1:------------->>> :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 27-06-2010 20:39:48
 :pighaun:
เหมือนอยู่ในเหตุการณ์...เป็นพยานรัก..
 :pig4: :pig4: คนแต่ง & คนโพส

กด + ให้ความหวานหื่น...เอ้ย...หวานชื่น
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 27-06-2010 21:30:59
น้องอันดา จะพา "เรื่อง" มาให้พี่เมฆมั้ยเนี่ย   :m16:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 27-06-2010 21:56:02
ก๊ากกกกก           

ยังสนุกเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 27-06-2010 22:41:04
คิดถึงดวงตะวันจัง..เมื่อไหร่จะมา :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 27-06-2010 22:47:05
น่าจะมีอีกซักรอบ นะ เจ้

หึหึ ก่อนนอน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 28-06-2010 00:30:50
อร๊ากกกกกกกกกก
ปลื้มฉานมากเลยค่ะ อะไรจะแมนเกิน 100 แบบนี้เนี่ย
โอยยยยย ถ้ามีแฟนแบบนี้คงปลื้มนะ รักหลงเมียเหลือเกิน
ขอเปน FC คู่นี้อีกคนค่า

ฉาน+เมฆ

น่ารักๆๆๆๆ   :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 28-06-2010 09:31:13
โอ้ ..สุดยอด
ดีแล้วที่บอกพี่ฉานไป
อันดามาแล้ว ส่อแววว่าจะได้เจอกะอาทอีกในเร็ววัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 28-06-2010 13:00:25
และแล้วก็เป็นไปตามคาด :a2:
ท่านเมฆทำสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
รอตอนน้องอันดาเปิดตัวแฟนอีกทีจะมีไรเกิดขึ้นอีกบ้าง
รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 28-06-2010 13:04:15
 :m25: 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 28-06-2010 21:38:43
ไอ้อาทยังไม่มาอีกเรอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 28-06-2010 23:04:27
เข้ามา รอ ร้อ รอ ก้อนเมฆกับดวงตะวัน เน้อออ
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 29-06-2010 22:31:09
วันนี้มาดันคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 30-06-2010 00:49:06
ดันด้วยคนครับ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 38] 26 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 30-06-2010 09:46:32
มาต่อเร็วๆหน่อยจ๊า
คิดถึงพี่เมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 30-06-2010 18:38:54
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 39
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

สนามบินดอนเมืองที่เคยพลุกพล่านเมื่อหลายปีก่อน บัดนี้กลับเงียบลงอย่างน่าใจหาย ร้านรวงหลายร้านโดนปิดไปทางเดินที่เคยคิดว่าคับแคบกับกว้างขึ้นถนัดตา สิบเอ็ดโมงเช้าในอดีตสนามบินนานาชาติของเมืองหลวง มีผู้คนเดินผ่านไปมาบางตา บรรยากาศสีเทาทำให้ผมต้องเดินเบียดตัวเข้าชิดไอ้คนที่เดินไปหาวไปน้ำตาไหลไปอย่างไอ้ฉาน
ผมละอยากจะสมน้ำหน้ามัน ที่เมื่อคืนมันทำอะไรกับผมเอาไว้ กรรมสมัยนี้เดลิเวอรี่แบบ EMS เมื่อคืนผมกับมันกว่าจะได้เข้านอนก็ต่อเมื่อดวงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่เข้ามาทักทายแล้ว เวลาแค่สามชั่วโมงสำหรับการนอนของไอ้คนตรงหน้าดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอ ร่างไอ้ฉานวันนี้จึงมีแต่ร่างกายแต่ไร้สติ ดีที่มันยังบังคับรถมาถึงสนามบินจนได้

ผมมองไปยังสองฝั่งทางเดิน ตามเคาน์เตอร์ที่เปิดให้บริการ มีแต่สีเหลือง เหลือง และเหลืองเต็มไปหมด

ใช่ครับ สนามบินดอนเมืองโดนยึดครองโดยสารการบินนกแอร์โดยสมบูรณ์แบบ ผมมาถึงตรงเกททางออกพร้อมมองหาคนที่มารอรับ โถงที่เคยคิดว่าแคบแสนแคบหนักหนากับกว้างขึ้นสุดลูกหูลูกตา เมื่อผมกวาดสายตามองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอคนที่มารอรับเลยสักที

“อยู่ไหนวะ เมื่อกี้ที่จอก็ขึ้นสเตตัสว่าแลนด์ดิ้งแล้วนี่หว่า “ ผมบ่นแต่สายตายังมองหาน้อง

“ฉานมึงช่วยกันมองหาอันดาหน่อย ทำไมยังไม่ออกมาอีกวะ” ผมร้องขอความช่วยเหลือจากคนข้างกาย แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา หันไปมองอีกทีก็เห็นว่าไอ้หมาบ้ามันเกาะขอบเคาน์เตอร์ร้านกาแฟสดอยู่นั่นแล้ว

“มึงจะมาซื้อกาแฟก็ไม่บอก ปล่อยกูพูดคนเดียวอยู่ได้” ผมไม่วายบ่น แต่ก็สั่งกาแฟให้ตัวเองบ้าง นอนน้อยเหมือนกัน ถึงแม่ไม่เข้าขั้นไร้สติอย่างไอ้หมาบ้าข้างๆนี่

“พี่เมฆพี่ฉาน มาอยู่นี่เอง เฮ้อ หาตั้งนาน” เสียงใสๆของอันดา ดังเข้ามาเรียกสติที่มีแบบเบาบางให้กลับมา

“สวัสดีค่ะ” กำลังจะทักทายน้องสาวตัวดี ก็ต้องกลายมาเป็นยกมือรับไหว้ เพื่อนๆน้องอีกสี่ห้าคน ผมศอกกระทุ้งเรียกไอ้ฉานที่มันยังเกาะขอบเคาน์เตอร์รอคอยกาแฟอย่างมีความหวัง

“พี่ฉานหวัดดีค่ะ เป็นไรอ่ะ นอนไม่พอเหรอ “ ไอ้ฉานยิ้มพร้อมกับยักคิ้วตอบแววตาล้อเลียนแก่แดดของอันดา ก่อนจะยกมือรับไหว้เพื่อนๆน้องพร้อมยิ้มหวานทางการค้าอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

“ไปอยู่ไหนกันมา พี่มองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ” ผมชวนน้องคุยหลังจากออกมาจากร้านกาแฟแล้ว ไอ้หมาบ้ามันก็เดินตามมาอย่างแสนเชื่อง

“ไปรอกระเป๋าค่ะ พอดีขวัญเค้าจะมาอยู่ยาวจนถึงวันเรียนเลยขนกระเป๋ามาเลย” ผมพยักหน้ารับรู้ เมื่ออันดาพูดถึงสาเหตุที่ทำให้ช้า ผมถอนหายใจกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ อันดามากับเพื่อนอีกห้า แต่ผมกับไอ้ฉานเอาแค่มินิคันเก่งของเรามา เมื่อคืนผมก็อับปัญญาเกินกว่าจะถามว่าน้องมากันกี่คน

“พี่ลืมถามว่าจะมากันกี่คนเลยเอารถคันเล็กมา เอาไงดีวะฉาน” ผมหันไปขอความเห็นไอ้คนที่มันขรึมเพราะง่วงมาตลอดทาง
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เมฆ เดียวน้าขวัญจะมารับนะค่ะ” เพื่อนคนนึงของอันดาไขข้อข้องใจพร้อมยิ้มหวานๆให้ ว่าแต่ปากน้องยิ้มแต่สายตาที่น้องมองพี่ไม่เข้าใจ ว่ามองพี่หรือมองไอ้ฉานกันแน่ แล้วไอ้หล่อก็เสือกไม่รู้ตัว ว่าโดนเพื่อนๆอันดาจ้อง ผมเห็นน้องบางคนมองไอ้ฉานแล้วหันไปกระซิบกระซาบกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆกัน
นี่ถ้าไม่ใชเพื่อนน้อง ผมเองก็ไม่รับรองความปลอดภัยของผู้หญิงพวกนี้แน่ๆ.....เมื่อคืนกูดูดต้นคอมันแทนการเติม ‘s ซะก็ดี

“เฮ้ยๆๆ พวกแกยิ้มอะไรอ่ะ แล้วจะมองพี่ฉานเอาโล่ห์รึไง มองได้แต่ห้ามจ้องนาน คนนี้พี่เขยชั้นเว้ย” อันดาโวยวายไปคล้องแขนไอ้ฉานไว้ ไอ้คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ยังส่งยิ้มให้ทุกคนด้วยไมตรีจิตเหมือนเดิม

ผมสะดุ้งสุดตัว รีบสะกิดอันดา ว่าพูดมากไปแล้ว ดีที่เพื่อนอันดายังสนอกสนใจจ้องหน้าไอ้ฉานอยู่เลยไม่ได้ตั้งใจฟังเสียงต่อว่าของอันดา ผมเอามือตบหน้าผากตัวเอง เริ่มมองเห็นเค้าความวุ่นวายต่อไปข้างหน้า

“พี่เมฆหนะ หัดหึงหวงพี่ฉานซะบ้าง ไม่รู้เลยเหรอว่าพี่ฉานเค้าหล่อ เห็นมั้ยเพื่อนอันดายังมองตาเป็นมันเลย” อันดาป้องปากกระซิบกระซาบกับผม อยากจะบอกออกไปเหมือนกันว่าโครตหึงและโครตหวง แต่สถานภาพที่มันบีบบังคับทำให้ผมทำอย่างที่ใจต้องการไม่ได้

ไม่แน่ถ้าผมเป็นผู้หญิง ไอ้ที่เพื่อนอันดาทำไปเมื่อกี้ อาจจะเจอผมในโหมดกรี๊ดแหกปากกระทืบเท้าแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของไอ้ฉานแน่ๆ

“ไร้สาระหนะเรา” ผมตัดปัญหา ก่อนจะขยี้หัวอันดาไปมาอย่างเอ็นดู เดินกันมาจนถึงลานจอดรถอันดาก็หันไปร่ำลาเพื่อนๆที่ยกโขยงกันออกมาส่งด้วยความเต็มใจ เอ่อ เต็มใจที่จะเดินตามมองไอ้ฉานจนวินาทีสุดท้าย

“ไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกันที่สยามเลยนะ” อันดาโบกมือลาเพื่อนๆ ก่อนจะเดินตามผมกับไอ้ฉานมาขึ้นรถ

“น่าอิจฉาพี่เมฆจังเลยน๊า เกิดมามีแฟนแสนจะหล่อ ดูสิเพื่อนอันดาติดใจถึงกับมาส่งถึงที่เลยนะเนี่ย” อันดาพูดล้อผม แต่ไอ้คนข้างๆนี่สิครับกลับเห็นดีเห็นงามด้วย มีการส่งยิ้มยักคิ้วให้กันแบบเข้าขากันสุดๆจนผมหมั่นไส้
“พี่เมฆ อันดาล้อเล่น ก็ไม่เห็นพี่เมฆจะมีปฎิกริยาอะไร ไม่หึงบ้างหรือไง เป็นอันดานี่ไม่ได้หรอกนะ ถ้าแฟนอันดานอกใจอ่ะต้องตายกันไปข้างนึง” อันดาตอบด้วยน้ำเสียงที่แสนจะมุ่งมั่น จนผมต้องส่ายหน้า น้องสาวผมนี่แก่แดดเกินไปมั้ยนะ

“งี้แหละอันดา สำหรับพี่ชายอันดาแล้วอ่ะ พี่มันของตาย อันดาไม่รู้อะไรคนที่เสน่แรงอ่ะไม่ใช่พี่หรอก แต่เป็นพี่ชายอันดาต่างหาก พี่ต้องตามคุมมันจนจะเหมือนคนบ้าอยู่แล้วรู้มั้ย” เสียงหัวเราะสดใสของน้องสาวผมดังลั่นรถดูจะถูกอกถูกใจกับคำพูดจิกกัดผมจากไอ้ฉาน ผมได้แต่ส่งแววตาเคียดแค้นไปให้ เข้าขากันดีจริงๆเลยนะมึง

“พอๆ เข้าขากันดีจริงๆเลยนะสองคนนี้ ว่าแต่พี่ได้ข่าวมาว่าเราก็เสน่แรงไม่ใช่รึไง ไม่คิดจะพามาแนะนำให้รู้จักบ้างเลยเหรอ” พอผมเริ่มแหย่เข้าบ้าง อันดาเลยสงบปากสงบคำแถมหน้าแดงเรื่อๆนั้นบอกผมว่า อันดากำลังเขิน

“อะไรกันพี่เมฆ นี่แม่แอบโทรมาฟ้องใช่มั้ย แม่พูดอะไรบ้างหละ” อันดาทำปากยื่นหน้างอง้ำเหมือนจะงอน เมื่อผมพูดแทงใจดำ อดจะยิ้มขำไม่ได้ วัยแบบนี้มีแฟนปกติจะตายไป

“แม่ก้ไม่ได้ว่าอะไรนี่ แค่บอกว่าอันดามีคนมาชอบก็แค่นั้น หืม ตกลงว่าไง” ผมส่งยิ้มล้อเลียนให้คนด้านหลังที่ตอนนี้อันดาทำหน้างออย่างสมบูรณ์แบบนังพิงเบาะหลัง สายตามองไปที่วิวข้างทาง

“ก็อย่างที่แม่บอกแหละ มีคนมาชอบอันดา แต่แม่ไม่ชอบเค้าหละพี่เมฆ อันดาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร” เสียงอันดาดูเศร้าไปจนผมเองอดใจหหายไม่ได้ นี่ผมคงไม่พูดจาอะไรกระทบกระเทือนจิตใจน้องหรอกนะ

“แล้วเค้าดีกับน้องพี่มั้ยหละ” ผมดึงอันดาให้ขยับเข้ามานั่งตรงเบาะหลังช่วงกลางระหว่างผมกับไอ้ฉานเหมือนเดิม

“ดีสิ เค้าดีกับอันดาทุกอย่างเลย แต่แม่ก็ไม่ชอบ” อันดายังทำปากยื่นเหมือนเดิม น้ำเสียงใสมีร่องรอยของความน้อยใจบุพการีไว้แบบปิดไม่มิด อันดาสดใสและไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ ความรักมันมักจะมีอานุภาพร้ายแรงแบบนี้เสมอ

“ไม่มีอะไรหรอก แม่เค้าแค่เป็นห่วง อย่าคิดมากนะ จะเที่ยงแล้วเดี๊ยวไปกินข้าวกับเพื่อนๆพี่กันนะ พวกมันคงรออยู่แล้วหละ” อาจจะถึงขั้นโหวกเหวกโวยวายแล้วด้วย เมื่อผมมองนาฬิกาเข็มยาวเลยเลขสิบสองมาจนถึงเลข 6 เข้าไปแล้ว

“ค่ะ ดีจังได้รู้จักเพื่อนพี่เมฆพี่ฉานด้วย นัดกันกินที่ไหนเหรอค่ะ”

“ที่โรงพยาบาล”

“ห๊า กินข้าวที่โรงพยาบาลเนี่ยนะ” อันดาทำตาโตตกใจ เมื่อผมบอกโลเคชั่นอาหารเที่ยงได้แปลกประหลาดที่สุด ไอ้ฉานส่งเสียงหัวเราะออกมาลั่นรถเมื่อมันหันมาเจอสีหน้าอันดาตอนนี้

“พอดีเพื่อนพี่เข้าโรงบาลหนะ ทุกคนเลยไปรวมตัวกันที่นั่น “ อันดาพยักหน้าเข้าใจ แต่สีหน้ายังไม่หายตกใจเท่าไหร่

“จะดีเหรอที่เมฆ กินข้าวโรงบาล เค้าไม่คิดว่าเราไปแย่งอาหารคนป่วยเหรอ แล้วอาหารโรงบาลมันจะอร่อยเหรอ” อันดาดูมีสีหน้ากังวลเมื่อคิดว่าต้องกินอาหารคนไข้ ผมยิ้มให้น้องด้วยความเอ็นดู

“ใช่ที่ไหนกันเล่า เพื่อนพี่มันสั่งอาหารเหลาให้มาส่งเลยนะ ไม่มีเสียหละที่อาหารโรงบาลจะได้สัมผัสปากพวกมันหนะ” ผมลูบหัวอันดา เพิ่งรู้ว่าการลูบหัวใครสักคน นอกจากคนถูกลูบจะรู้สึกอบอุ่นใจแล้ว คนลูบเองก็รู้สึกดีไม่ต่างกัน ถึงว่า ไอ้ฉานมันถึงได้ชอบลูบหัวผมนัก

“ค่อยยังชั่วหน่อย แล้วเพื่อนพี่เมฆเค้าไม่ว่าอะไรเหรอที่มีอันดาไปร่วมวงด้วยนะ” อันโล่งใจแต่ก็ไม่หายข้องใจ เป็นเจ้าหญิงจำไมได้สมวัยจริงๆ
“ไม่ว่าอะไรหรอก นานๆจะมีสาวๆมาร่วมวงให้ชุ่มชื่นหัวใจสักที ทุกวันนี้เบื่อขี้หน้าไอ้หน่าจะแย่ แล้วอีกอย่างพวกเราหารเท่ากันอะนะ ไม่มีปัญหาหรอก พี่ฉานเค้ายิ่งใหญ่ จัดการได้ จริงมั้ยไอ้พี่ฉาน” ผมหันไปยิ้มร้ายๆกับไอ้คนข้างๆ ผมรู้นะว่าสายตามันมองแต่ถนนตรงหน้าก็จริง แต่หนูมันหนะกระดิกจับผิดผมอยู่ชัดๆ
“ฝากตัวด้วยนะค่ะป๋าขา ไม่ต้องรักหนูเท่าพี่เมฆก็ได้ แต่อย่าใจร้ายกับหนูเลยนะค่ะ” อันดาทำท่าเหมือนลูกแมวออดอ้อนไอ้ฉาน 
“ด้วยความเต็มใจอยู่แล้วครับ” ซิส์ ไอ้ใจป๋า กูเริ่มหมั่นไส้มึงขึ้นมาบ้างแล้วหละ
“พี่เมฆแล้ววันนี้อันดาต้องนอนที่ไหน อย่าบอกนะว่าไปนอนที่เรือนหอของพี่ อันดาได้ใจแตกกันพอดี” แนะ อยากรู้แต่ยังไม่วายแซวผมเนี่ยนะ
“กลับบ้านสิ เย็นๆก็จะกลับบ้านกัน ขืนนอนที่นี่นะ แม่นิ่มได้ฆ่าพี่ตายอ่ะ “ แม่นิ่มดีใจมากครับที่จะมีอันดามาอยู่ด้วย แม้จะช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ทำให้แม่หายเหงา เพราะผมเองก็กลับบ้านแค่สุดสัปดาห์เท่านั้น

เมื่อประตูห้องพักญาติถูกผมเปิดเข้าไป เสียงแซงแซ่ โหวกเหวกโวยวาย ที่ได้ยินเข้าหูตลอดทางเดิน เงียบลงเหมือนโดนปิดสวิซส์ คนที่ติดตามมาด้วยอย่างอันดา ตัวเกร็งและหวาดผวาทำตัวไม่ถูกทันที เมื่อพบว่าสายตาทุกคู่จ้องมองมาที่อันดา เหมือนน้องผมเป็นจุดศูนย์กลางของจักวาลก็ไม่ปาน ผมคงจะไม่ส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่ายขนาดนี้ ถ้าเพื่อนๆ จิตล้นๆของผมไม่สร้างสถานการณ์ต้อนรับอันดา ด้วยสายตาเย็นชา น้องผมหน้าซีดไม่เหลือดี กลายเป็นสัตว์ประหลาด ในหมู่เพื่อนฝูงผมแบบไม่ต้องสงสัย ชายเสื้อผมยับย่น เพราะต้องเป็นที่พึ่งให้มือของอันดา

“พอได้แล้ว แกล้งน้องกูแค่พอเป็นพิธี นับ 1-3 ถ้าน้ำตาน้องกูไหล ต้องมีใครสักคนได้ตายเซ่นไหว้กูแน่ๆ”

เสียงปรบมือชื่นชมยินดี ประหนึ่งผมเป็นตัวแทนไปสร้างชื่อเสียงปะเทศไทยให้ชาวโลกได้รู้จัก บรรยากาศประมาณ สมรักษ์  คำสิงห์ ได้เหรียญทองโอลิมปิกแล้วกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยครั้งแรก.....เว่อร์ไปไหม !!

“ ปกป้องน้อง ช่างเป็นพี่ที่ประเสริฐซะจริงๆ น่าปลื้มใจเป็นที่สุด สวัสดีน้องอันดา พี่ชื่อพี่หน่า จ๊ะ” บรรยากาศสดใสเว่อๆ ดูจะกลับมาอีกครั้งเมื่อทุกคนเปิดรอยยิ้มต้อนรับอันดา น้องผมดูเหมือนจะเข้าใจผสมงงๆ ปรับอารมณ์ไม่ทัน การต้อนรับแสนประหลาดนี้ คงไม่มีที่ไหนเค้าทำกัน ไม่นาน อันดาก็ถูกกลืนไปกับแกงค์เพื่อนผมอย่างง่ายดาย

บรรยากาศอาหารเที่ยงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ มุขเสี่ยวๆมีเท่าไหร่ ถูกปล่อยออกมาแบบไม่มีใครยอมใคร เพียงเพราะว่า เบื่อสาวห้าวเพียงคนเดียวของกลุ่มอย่างไอ้หน่ากันแล้ว เมื่อมีของใหม่อย่างอันดาเข้ามา เพื่อนๆผมเลยกระชุ่มกระชวยเป็นพิเศษ
“เฮ้ยไม้ เด็กมึงไปไหนวะ “ ผมถามไอ้คนที่นั่งกินองุ่นกระดิกขาสบายใจอยู่บนเตียง

“ อะไรไอ้เมฆ เด็กกูอะไรที่ไหน เค้าลูกมีพ่อมีแม่ เค้ากลับบ้านเค้าไปแล้วสิ “ ไอ้ไม้ตั้งแต่มันถูกรุมกระทืบนี่กวนตีนผมขึ้นมากมาย แล้วคิดว่าผมจะยอมได้เหรอครับ

“เหรอครับเพื่อนไม้ น้องเค้ามีพ่อมีแม่ แล้วอีกอย่างที่น้องเค้ามีนี่ไม่ทราบว่าผัวหรือเมียอะครับ” องุ่นพุ่งพรวดออกจากปากของคนที่บอกว่าไม่มีอะไร แต่ทำไมมันถึงลุกลี้ลุกลนขนาดนี้

“ซุกเด็กไม่บอกใคร อันนี้กูให้อภัยได้ แต่ไปทำอะไรลูกเค้าไว้แล้วไม่รับผิดชอบนี่เค้าเรียกว่าอะไรวะ” ผมหันไปขอความเห็นจากเพื่อนคนอื่นๆ ที่ตอนนี้ นั่งยิ้มเชียร์มวยคู่ที่สมศักดิ์ศรีที่สุดในรอบปี ผมแอบเห็นไอ้แกละกับไอ้หวาน หันไปกระซิบพนันกันบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าผมเป็นต่อหรือเป็นรอง แต่ผมจะแพ้ยังไง ศึกนัดนี้น่าสนุกจะตายไป ที่ได้เห็นไอ้ไม้ หลุกหลิกลนลาน เมื่อผมจี้เข้าถูกจุด

“อะไรๆ กูไม่รับผิดชอบตรงไหน มาขลุกอยู่นี่เดี๊ยวป๊ากับม๊า  มันด่า ก็เลยให้มันกลับไป เดี๊ยวเย็นนี้มันก็มาแล้ว พรุ่งนี้กูออกจากโรงบาลแล้วนี่ “ ผมหันไปสบสายตากับไอ้ฉาน กลั้นหัวเราะแทบตาย ไม่คิดว่าผมแค่ตะล่อมแบบเบาๆ ไอ้ไม้จะคายออกมาขนาดนี้

“ยอมรับแล้วละสิ ว่ามีแฟนเด็กอ่ะ แถมเเป็นเด็กหัวเกรียนตัวแสบด้วยนะ ว่าแต่กูต้องเลี้ยงต้อนรับน้องเขยหรือน้องสะใภ้หละ” ไอ้แกละกับไอ้หวานหันไปแทคมือกันทันที ที่ผมถามคำถามนี้ออกไป ไอ้ไม้หลบสายตา ไอ้ห่าตัวยังกะควาย เขินได้น่าทุเรศมากเลยเหอะ

“กูเพื่อนใครหละเมฆ ทีนี้ห้ามถามแล้วนะ ว่าใครอยู่ในสถานะไหน” เพื่อนๆผมตาโตด้วยความประหลาดใจ ไอ้ไม้จับไอ้เด็กแสบนั่นกดตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ มิน่าถึงแม้ปลื้มจะเถียงไอ้ไม้ฉอดๆ แต่สุดท้ายก็ยอมให้ทุกที

“ร้ายนี่หว่าไอ้ไม้ ยินดีต้อนรับเข้าชมรมคนมีครอบครัวเว้ย” ไอ้ฉานเข้าไปแทคมือกับไอ้ไม้ แสดงตัวเป็นคนหัวอกเดียวกับแบบน่าเสยปลายคางให้ ด้วยความหมั่นไส้




“มาทำไม”

“พ่อให้มาเยี่ยมอีกที พอดีโรงพยาบาลโทรไปบอกว่า ฟื้นแล้ว กลับบ้านได้พรุ่งนี้นี่”

“ถ้าไม่มีจิตสำนึกว่าจะต้องมาเยี่ยมด้วยตัวของตัวเอง แบบไม่ต้องมีใครคอยจูงจมูกบอกให้ ไม่ต้องมาก็ได้นะ”

“ มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ แต่ช่างเถอะ กูไม่คิดจะมีเรื่องกับผู้หญิง ขอทางด้วย”

เสียงบทสนทนาของชายหญิง ที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า สถานการณ์ไม่ดีเท่าไหร่ ดังมาจากห้องติดกันที่อยู่ข้างๆ เสียงผู้หญิงที่ผมคุ้นเคยดีว่าคือหนึ่งเดียวในแกงค์ผม  แต่อีกคนนึงไม่รู้ว่าใคร พวกผมรีบถลาออกไปดู แต่ก็ต้องให้ไอ้ดิวอยู่เป้นเพื่อนไอ้ไม้

“มีอะไรกัน มึงมาอีกทำไม” ประโยคแรกมาจากปากไอ้ฉาน ส่วนประโยคกราดเกรี้ยวที่ตามมาเป็นของไอ้หวาน

สถานการณ์ไม่สู้ดีเท่าไหร่ ผมดึงไอ้หน่ามาไว้ใกล้ๆตัว ถึงมันจะห้าวและดูแลตัวเองได้ แต่เพื่อนผมก็เป็นผู้หญิง สัญชาตญาณของการปกป้อง ของผู้ชายที่พึงมีต่อผู้หญิงเกิดขึ้นทันทีโดยอัตโนมัติ

“พี่อาท” เสียงใสๆ ของอันดา ดังเข้ามากระทบหูผม ก่อนที่ร่างกายคนพูดจะผ่านหน้าไปหา คนที่ถูกเรียกชื่อนั้น

ตัวผมชาวาบ ตั้งแต่ได้ยินเสียงอันดาเรียกไอ้เหี้ยนั่นว่าพี่อาท ทั้งๆที่ยังไม่มีใครเอ่ยชื่อไอ้ชาติหมานั่นขึ้นมาเลยสักคน แล้วน้องผมจะเรียกชื่อมันได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่รู้จักกันมาก่อน

ผมกำมือไอ้หน่าไว้แน่น ในหัวผมขาวโพลน สิ่งที่ผมกลัวที่สุด และภาวนาว่าขอให้ไม่ใช่ ได้เกิดขึ้นแล้ว ตัวผมที่ยังยืนหยัดอยู่ได้ ไม่ได้เกิดจากขาของตัวเองแต่มันมาจากแรงพยุงจากไอ้หน่า

“อันดา มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หรือที่บอกพี่ว่ามาหาพี่ชาย อย่าบอกนะว่า” ยังไม่ทันที่ไอ้เหี้ยนั่นมันจะพล่ามอะไรต่อไป หมัดลุ่นๆจากไอ้ฉานก็พุ่งสู่หน้าไอ้อาททันที แล้วหมัดต่อไปก็ถูกส่งซ้ำ ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ ร่างไอ้อาทรุดลงกับพื้น เลือดสดๆ ไหลออกมาจากมุมปาก สายตามองไอ้ฉานด้วยแววตาเคียดแค้นจนผมเสียวสันหลังวาบ

“เฮ้ย!!!! “ เสียงร้องของเพื่อนผม เมื่อไอ้ฉานกำลังยกเท้าขึ้นมาจะกระทืบลงไปยังร่างที่ยังทรุดอยู่ที่พื้น ไอ้แกละกับไอ้ไผ่รีบรุดไปหิ้วปีกไอ้ฉานไว้คนละข้าง

“ไอ้ไผ่ หวาน มึงปล่อย จับกูไว้ทำไม” ไอ้ฉานยื้อยุดตัวเองออกจากพันธนการของไอ้หวานกับไอ้ไผ่ ปลายเท้าถูกยื่นส่งไปหวังจะให้ถึงร่างไอ้อาทให้ได้

“ฉานมึงใจเย็นๆก่อน อันดาเข้าไปห้องพี่ไม้ก่อนนะครับ ยอนมึงช่วยพาอันดาเข้าไปข้างในก่อนไป ฉานใจเย็นๆ นี่โรงพยาบาลนะเว้ย อย่าวู่วามไป แล้วไอ้หวานก็กระซิบอะไรที่ข้างหูไอ้ฉาน ผมก็ไม่รู้ แต่มันก็ทำให้ไอ้ฉาน สงบลงได้บ้าง


ผมอยากจะไปอยู่ข้างๆไอ้ฉาน แต่ติดที่ไอ้หน่ามันเอาเรี่ยวแรงจากหนักหนาก็ไม่รู้ กันตัวผมไว้ สิ่งที่ทำได้มีเพียงส่งสายตามองไปที่มันด้วยความกังวลใจก็เท่านั้นเอง
“ส่วนมึง ก็กลับไปได้แล้ว พวกกูอยู่กันหลายคน มึงสู้ไม่ได้หรอก แล้วพวกกูก็ไม่ได้มีสันดานหมาหมู่อย่างที่มึงเคยทำ “ไอ้หวานเค้นเสียงสั่งไอ้อาทอยู่ในลำคอ ผมรู้ว่าไอ้หวานเองก็อยากจะทำร้ายไอ้อาทไม่น้อยไปกว่าไอ้ฉาน แต่สถานที่แล้วอะไรหลายๆอย่าง ไม่เหมาะจริงๆ

“มึงคิดว่า เรื่องมันจะจบแค่นี้เหรอ “ ไอ้อาทตอกกลับ ทั้งๆที่เลือดยังกลบปาก ทำให้ไอ้ฉานฮึดฮัดจะพุ่งเข้าใส่ไอ้จัญไรคนนี่อีกรอบ

“สำหรับคนอับปรีย์แบบมึง เมื่อไหร่ก็ได้ กูยินดีเสมอ ที่มึงเพิ่งได้ไปเมื่อกี้ มันยังน้อยไปที่มึงบังอาจมาลามปามเมียกู แล้วเรื่องที่มึงคบกับน้องเมียกู ให้เลิกซะ ถ้าเมียกูต้องกังวลใจเพราะเรื่องมึงเมื่อไหร่ กูก็ไม่แน่ใจว่าจะไม่เอามึงถึงตาย มึงจะวิ่งโร่ไปฟ้องพ่อมึงก็ได้นะ น้ำหน้าอย่างมึงกูเชื่อว่าทำได้ แต่ลูกผู้ชายเค้าต้องสู้กันยังไง กูหวังว่ามึงคงพอจะคิดได้นะ” น้ำเสียงไอ้ฉานครั้งนี้ น่ากลัวกว่าครั้งไหนๆ มันมากกว่าเคียดแค้นชิงชัง น้ำเสียงแข็งกร้าวที่กดลึกอยยู่ในลำคอกับแววตาที่มองไอ้อาทนั้น ตั้งแต่ผมอยู่กับมันมา ยังไม่เคยเห็นว่าไอ้ฉานได้ใช้สายตาแบบนี้กับใคร

พายุร้ายผ่านพ้นไปแล้ว หรือ มันเป็นเพียงสัญญาณเตือนหายนะครั้งใหญ่ที่กำลังจะตามมากันแน่ !! มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ล่วงรู้


“ฉานเดี๋ยวกูให้ไอ้ไผ่ไปส่งนะ มึงขับไปเองมันอันตรายพวกกูเป็นห่วง ส่วนรถมึง เดี๋ยวกูขับตามไปให้ มึงโอเคใช่มั้ย” ไอ้หวานตบบ่าไอ้ฉานเบาๆด้วยความเป็นห่วง เสียงไอ้ดิวและไอ้ยอนที่ร้องห้ามไอ้ไม้ ไม่ให้ลุกมาจากเตียงเงียบลงไปแล้ว

“อืม กูโอเคแล้ว แต่ไอ้นั่น ไม่รู้ว่ามันจะโอเคหรือเปล่า ขอบใจมากนะหวาน กูขอกลับไปตั้งหลักก่อน มีอะไรคืบหน้า แล้วค่อยว่ากันนะ กูไปบอกไอ้ไม้ก่อน เดี๋ยวมันคลุ้มคลั่ง พวกมึงจะจัดการกันไม่ไหว” ไอ้ฉานตบบ่าไอ้หวานคืนไปเบาๆ ก่อนจะหายเข้าไปอีกห้องที่ทะลุถึงกัน ผมเดินตามมันไปห่างๆ ไม่ได้พูดอะไร ........ สมองผมตอนนี้มันตื้อตันเสียจนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป

 จะต้องทำยังไงกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ดี

“ไอ้ฉานมึงเป็นยังไงบ้าง ไอ้พวกนี้มันจับกูล่ามไว้ กูจะออกไปหามึง พวกมันแม่งไม่ยอมให้กูออกไป” ไอ้ไม้โวยวายทันทีที่เห็นหน้าไอ้ไม้ย่างกรายเข้ามาในห้อง

“กูยังสบายดีอยู่ไม้ มึงก็ดูแลตัวเองให้ดี พรุ่งนี้กูมีธุระต้องไปส่งน้องกับไอ้เมฆ คงมารับมึงออกจากโรงบาลไม่ได้นะ แล้วคุยกันเว้ย อันดากลับบ้านเถอะ” ไอ้ฉานบอกลาไอ้ไม้ ก่อนเรียกอันดาให้เดินตามออกไป สายตาอันดาที่มองผมสลับกับไอ้ฉานเต็มไปด้วยความสงสัย แต่อันดาก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่า อารมณ์ได้ฉานและผมตอนนี้ ยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไร

ในรถไอ้ไผ่ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและรายงานจราจรจาก จส.100 เท่านั้น ไอ้ฉานนั่งหน้าคู่ไอ้ไผ่ ผมนั่งตอนหลังคู่กับอันดา ยึดครองกระจกมองวิวข้างทางกันคนละข้าง ผมไม่รู้ว่าอันดากำลังคิดอะไร แต่คงแตกต่างจากสิ่งที่ผมคิดจะทำอยู่แน่ๆ


เพราะสิ่งที่ผมคิดจะทำ ถ้ามันจบลงด้วยดี นั่นหมายถึง ผมเดินมาถูกทาง แต่ถ้ามันจบลงด้วยความเลวร้าย
บางที....อะไรๆในชีวิตผมคงเปลี่ยนแปลงไป ตลอดกาล


 
ช่วงนี้เหมือนทิ้งช่วงไปนานนนะ กว่าจะได้ต่อในแต่ละตอน
จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจนะค่ะ แต่งานก็ยุ่งแทบจะขาดใจจริงๆ
จะบอกว่า อีกไม่นาน ปาร์ตี้เรื่องราวระหว่างเมฆกับฉาน จะปิดม่านแล้วนะ
จะว่าไปก็ใจหาย รู้สึกผูกพันธ์กับสองคนนี้ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ...
๐ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้เหมือนเดิมนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณค่ะ...... o1
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ ๐.....
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
==================
ข่าวมาว่าใกล้จะถึงกาลอวสานแล้วนะเรื่องนี้  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 30-06-2010 19:02:28
กำลังมันส์จะจบแล้วเหรอ

ไม่จริงใช่มั้ยคนแต่งคนโพส :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 30-06-2010 19:03:14
ง่าส์ใจหายอะไม่อยากให้จบเลย :sad4:

ว่าแต่มันจะเกิดอะไรขึ้นอีกอะน่ากลัวจัง :เฮ้อ:


กำๆๆโดนปาดหน้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 30-06-2010 19:27:48
พายุร้ายกำลังจะพัดเข้ามาในชีวิตของฉานและเมฆใช่ไหมคะนี่ เท่าที่เลดี้คิดไว้นะ
เรื่องที่กำลังจะวุ่นวายมาจากอิอาท และการปกป้องน้องของเมฆ
และที่แน่ๆการเดิมพันอะไรบางอย่างของเมฆ มันต้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเมฆและฉาน ชิมิ
ใครช่วยตอบเลดี้ที ซึ่งตอนนี้ฟุ้งซ่านไปหมดแล้ว
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 30-06-2010 19:28:41
ลืม+1พิธีที่ทำได้ของเลดี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ท่านwriter
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 30-06-2010 19:35:51
พายุแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท คือ

1. พายุฝนฟ้าคะนอง
2. พายุหมุนเขตร้อนต่าง ๆ เช่น พายุดีเปรสชัน เฮอร์ริเคน ไต้ฝุ่น และไซโคลน  
3. พายุทอร์นาโด

พี่ฉานจะเป็นแบบไหน บุญรักษา นะฉานนะน้องเมฆ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 30-06-2010 19:39:08
ว้าาาา จะจบแล้วเหรอ ผูกพันกะสองคนนี้ รวมถึงเพือนมาก ๆเลย






รอดูไอ้อาทมันจะมาไม้ไหน

หน้าตัวเมียยยยยย อย่าให้เจอนะ จะเอาส้นสูงเหยียบยอดหน้าเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 30-06-2010 19:40:37
สะใจสุดๆไปเลยกับคำที่ฉาน ด่าไอ้อาทเนี่ย
ขอให้พระเจ้าคุ้มครองฉานเมฆ ด้วยนะจ๊ะ อย่าให้ไอ้อาทมันทำอะไรได้นะ
แล้วเรื่องอันดากับไอ้อาทก็ขอให้จบลงด้วยดีนะ

เพิ่งจะได้เข้ามาติดตามเรื่องไม่เท่าไหร่
คนเขียนบอกว่าใกล้จะจบแล้ว น่าเสียดายจังเลย
แต่ไม่เป็นไรอย่างน้อยเราก็ดีใจที่ได้ตามตอนใกล้จบอิอิ

เป็นกำลังใจให้ทั้งไรเตอร์และคนอัพนะจ๊ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 30-06-2010 19:42:16
สุดท้ายก้อเรื่องร้ายก้อๆได้เกิดขึ้น :z3:

แต่...ไม่อยากให้จบเลยอะจ้ะ :z10:

มีภาค 2 มั้ยจร้า ช่วยเก็บไปพิจารณาที :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 30-06-2010 19:50:11
ในที่สุดก็โคจรมาเจอกันจนได้  :z3:

แต่เชื่อว่าอันดาน่าเข้าใจ ถ้าได้รู้เรื่องความร้ายกาจของอาท (หวังว่าเป็นเช่นนั้น)

ตอนหน้าจะมีเหตุการณอะไรเกิดขึ้นอีกรึเปล่าน๊อ..

แต่..ใกล้จะจบแล้วเหรอค่ะ เร็วจัง  คิดถึงพี่เมฆกะฉาน  :กอด1:

จิ้มบวกจ้า  :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 30-06-2010 19:53:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 30-06-2010 20:06:20
ทิ้งท้ายแบบปวดตับมากอ่ะ

หวังว่าคงไม่อวสานแบบนำ้ตาท่วมจอนะคะ

เค้าจำได้นะว่าสัญญาไว้แล้ว ว่าเรื่องนี้แฮปปี้

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 30-06-2010 20:16:24
หวังว่าน้องอันดาจะเข้าใจไม่ทำให้พี่เมฆเหนื่อยใจ......
คุณชายฉานประกาศศึกแล้ว......ไอ้อาทมันต้องลอบกัดชัวร์ ระวังตัวเน้อ...
ใกล้จบแล้ว.....คุณชายฉานจะขอพี่เมฆจากแม่ ๆ ไหมนะ..
รักและผูกพันกันมากจริง ๆ เลย คู่นี้  :o8:

กด + ให้กำลังใจคนแต่ง กะ คนโพสค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 30-06-2010 20:39:52
กังวลใจกับพาร์ทหน้าจังเลยอ่า

แต่ตอนนี้สะใจพี่ฉานมาก น่าจะถีบหน้ามันด้วยอีกทีนึงนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 30-06-2010 20:53:39
เอาแล้วไง แฟนอันดาคือไอ่อาทสารเลวนี่เอง
งานเข้าพี่เมฆแระล่ะคราวนี้....
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 30-06-2010 21:01:57
หวังว่า เรื่องร้าย จะกลาย เป็นดี

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 30-06-2010 21:05:25
เมื่อไหร่คนอย่างไอ่เห้อาทจะหมดไปจากโลกนี้ซะที
เกลียดจริง ๆ ไม่รู้จะเกิดมาทำไมถ้าพวกมันตายๆ ไปซะบ้างคงลดโลกร้อนได้เยอะ
แยะเชียวและก็คิดเหมือนเพื่อนๆ นักอ่านคนอื่น ๆ ที่ยังไม่อยากให้เมฆกะฉานจบเลย
ยังอยากอ่านต่อไปๆๆๆๆๆๆๆ อีกนานนนนนนนนนนนนนนนนนน

+1เพื่อติดสินบนให้ไรเตอร์เก็บคำขอไปพิฯณาคับ :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 30-06-2010 21:08:00
เหมือนเรื่องใหญ่กำลังจะเกิดแต่ทำมั้ยคนแต่งบอกใกล้จะจบแล้ว   ใจหายเหมือนกันติดตามอ่านมานาน  ผูกพันธ์เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 30-06-2010 21:12:30
พายุแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท คือ

1. พายุฝนฟ้าคะนอง
2. พายุหมุนเขตร้อนต่าง ๆ เช่น พายุดีเปรสชัน เฮอร์ริเคน ไต้ฝุ่น และไซโคลน  
3. พายุทอร์นาโด

พี่ฉานจะเป็นแบบไหน บุญรักษา นะฉานนะน้องเมฆ  :z2:
เค้าว่า "พายุเกย์" มากกว่านะค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 30-06-2010 22:08:02
ขอตอนพิเศษเยอะๆ อิๆๆๆ

เรื่องบางอย่าง เราตัดสินใจเพียงแค่คนเดียวไม่ได้
จะต้องมีอะไร....ที่เราต้องเข้าใจอีกเยอะ


รักดวงตะวัน...ที่ส่องประกาย บนก้องเมฆ
ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ไม่เห็นเมฆ....

แต่ก็รู้่ว่าเมฆนั้นอยู่ที่ไหน.....
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-06-2010 22:11:45
จะจบแล้วเหรอ  เร็วจัง
พี่ฉานยังงัยก็ต้องระวังตัวแล้วนะ  กลัวแต่มันจะมาจับพี่เมฆไปน่ะสิ
แบบนี้เหมือนยิงปืนนัดเดียว  ได้นกสองตัวเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 30-06-2010 22:26:10
แสงของดวงตะวันช่างร้อนแรงยิ่งนัก

แต่ก็สะใจที่ไอ้ยาฆ่าแมลงสาบมันโดนแบบนั้น  :m20:

ฉานแสงแรงกล้าสุดยอด!  o13 o13 o13

ว้าา จะจบแล้วจริงๆหรอ ขาดน้องเมฆ น้องฉาน ไปแล้ว พี่จะอยู่ยังไง  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 30-06-2010 22:32:19
จะมีอะไรวุ่นๆอีกวะ :serius2: ยัยอันดาน้องเลิฟนี่จะเชื่อฟังแค่ไหนกันเชียว :เฮ้อ:



ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อย่าจบน๊าาาาาาาาาาาาาาาา :serius2: :z3: :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 30-06-2010 22:35:09
ใกล้จบแล้วเหรอคะ ใจหายเน้อ  :เฮ้อ: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 30-06-2010 22:36:05
หวังว่าไอ้นายอาร์ทจะแมนพอ คงไม่วิ่งโร่ไปฟ้องพ่อนะ :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 30-06-2010 22:37:02
ไม่เป็นไรจ้านานแค่ไหนก็รอได้ แล้วอย่ามัวแต่ทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเองนะ
อยากบอกว่าเป็นห่วงจ้า  :L2:
ใจหายจังเรื่องนี้ใกล้จะจบแล้ว :z3: คงอดคิดถึงหนุ่งแก๊งค์นี้ไม่ได้แน่ๆ
แล้วจะมีเรื่องใหม่อีกมั้ยอ่ะ ชอบสไตน์การเขียนของคุณจัง

ฝันดีค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 30-06-2010 23:00:47
จะรีบจบไปไหน กำลังสนุก
+1 เป็นกำลังใจนายฉาน น้องเมฆ และ writer
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 30-06-2010 23:17:20
ไม่อยากให้จบไวเลยอ่ะเรื่องนี้สนุกอ่ะชอบ
โห้โลกกลมจิงๆไอพี่อาทเป็นแฟนอันดาจิงด้วยอ่ะกลัวน้องอันดากับเมฆผิดใจกันอ่ะ
สงสารทั้งคู่เลยคนที่ผิดคือไออาทเลววะ
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 01-07-2010 00:07:56
จะจบเเล้วเหรอเนี่ย...ถ้าไงขอตอนพิเศษเยอะๆ นะ  พี่ฉานกับน้องเมฆน่ารักมากมาย  รักษาสุขภาพค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 01-07-2010 08:46:28
ช่วยพี่ฉานกระทืบอิอาทค่ะ

ย้ากส์    :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 01-07-2010 10:00:08
ไม่อยากให้จบเลยค่ะคนแต่ง ชอบนิยายเรื่องนี้มากอ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 01-07-2010 10:19:03
กรี๊ดดดดด
พี่ฉานพุ่งใส่เลยทันที
งานนี้มันแค่เพิ่งเริ่ม!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 01-07-2010 11:00:55
อ่านไปอ่านมา ตอนนี้รู้สึกสงสารอันดา :เฮ้อ:
แต่ตอนหน้า ไรเตอร์อย่าพลิกบทอันดากลับให้เป็นร้ายนะขอรับ

ปอลิง รอตอนต่อไปขอรับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 01-07-2010 11:32:04
พี่ฉาน รุงแรงจัง

ชอบๆๆ วิธีต้อนรับน้องอันดาอ่ะ ...จิตได้อีก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: rero ที่ 01-07-2010 13:03:16
แวะเข้ามาอ่าน เรื่องนี้ยังสนุกเหมือนเดินน๊า

ขอบคุณที่แต่งเรื่องดี ดี มาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 01-07-2010 13:13:13
อันดาน่าจะเดาอะไรได้บ้างจากเสียงทะเลาะน่ะ
ไม่ใช่ถูกลอกเอาง่ายๆ เพียงน้ำคำของผู้ชาย
แล้วไม่เชื่อพี่ชายของตัวเอง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 01-07-2010 19:12:34
พี่ฉานฆ่ามานนนนนนนนนนนนนน  :z6: :z6:

จะเป็นยังไงต่อหละเนี่ย ดูท่าไอ่อาทมันไม่จบง่ายๆแน่

พายุลูกใหญ่กำลังจะมาแล้วววว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 01-07-2010 19:47:20
แอบกลัวความคิดพี่เมฆ  คิดจะทำไรกัน 
พี่ฉานต้องดูแลพี่เมฆดีด้วยนะ
น้องอันดา ถ้าเป็นไปได้ก็เลิกกับไอ้นั่นเถอะ งื่อออออออออออออออออออ
ให้กำลังใจพี่เมฆ พี่ฉาน   :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 01-07-2010 20:29:00
ยิ่งอ่านก็ยิ่งรักดวงตะวัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: posshiza ที่ 01-07-2010 21:08:10
เฮ้อออออ
หนักใจแทนพี่เมฆ มันชักจะยุ่งไปกันใหญ่
อันดารู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแฟนตัวเองบ้างมั้ยเนี่ย
แต่ว่าพี่ฉานที่โหดได้อีกเนอะ
รออ่านตอนต่อไปค่ะเป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 01-07-2010 21:22:37
อย่าเพิ่งรีบจบเลยนะๆๆๆๆๆๆๆ
เค้าทนความคิดถึงพี่เัมฆไม่ได้แน่ๆๆค่ะ
ฉานนี่....คำก็เมีย สองคำก็เมีย
โอ้ยยย คนอะไร รักเมียสุดๆๆอ่ะ
+1 ให้นะคร๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 01-07-2010 21:43:24
อาทร้ายมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 01-07-2010 22:33:24
เพิ่งตามอ่านทัน

มาถึงตอนเครียดพอดีเรยยย,,

บวกหนึ่งให้ไรเตอร์นะค้าบบ

หนุกมากเรยเรื่องนี้  :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 01-07-2010 23:25:07
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก อย่าเพิ่งพูดเรื่องจบซิคะ รู้แล้วใจหายแว๊บเลย  :monkeysad:
พี่เมฆกับพี่ฉานสู้ๆนะคะ FC เอาใจช่วยอยู่

 :กอด1: เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 02-07-2010 10:26:58
อิพี่ฉานเก่ง เราไม่หวั่น พายุใหญ่แค่ไหนเจอฤทธิ์อิพี่ฉานเข้าไปก็กลายเป็นฝนตกพรำๆๆ ใช่มั้ย พี่ฉานนนนนนน ชั้นไว้ใจแกนะ อย่าทำให้ผิดหวัง  :sad4:

ไอ้อาท แกทำเรื่องมากนัก จะเปลี่ยนไปใช้ ไบกอนจริงๆด้วย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 02-07-2010 21:50:05
ยุ่งเหยิง อิรุงตุงนังกันได้อีก  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 03-07-2010 01:15:56


พึ่งตามอ่านทันอะ

เรื่องขักเข้มข้นขั้นแระ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 39] 30 มิถุนา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 03-07-2010 12:19:34
โหย ล่อทั้งเมีย+น้องเมียเลยนะไอ้อาท มันจะมากเกินไปแล้ว ไอ้ฉานกระทืบมานนนนนน  :fire: :fire:

ขอบคุณมากครับ มาต่อไวๆนะครับผม  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 03-07-2010 15:45:09
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 40

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

รถไอ้ไผ่จอดเทียบหน้าบ้านที่ผมคุ้นเคยมาทั้งชีวิต พอดีกับที่ไอ้หวานขับรถไอ้ฉานมาจอดต่อท้าย ผมกับไอ้ฉานร่ำลา ขอบใจกับความช่วยเหลือของเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะแยกตัวเข้าไปด้านใน

“เมฆ มึงพาอันดาไปพักผ่อนนะ เดี๋ยวกูเข้าบ้านไปหาพ่อกับแม่ก่อน แล้วกูจะไปหา แล้วเจอกันนะครับอันดา”

ไอ้ฉานเดินแยกตัวเข้าบ้านมันไปแล้ว หน้าบ้านมีเพียงผมกับอันดา ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมเลือกที่จะเดินนำน้องเข้าไปในบ้าน

แต่แล้ว.......ส่วนลึกสุดของจิตใจสั่งให้ผมต้องหยุดตัวเองแบบกระทันหัน จนคนที่เดินตามมา ใบหน้าชนเข้าจังๆกับแผ่นหลังผม

“ อันดา เลิกกับไอ้อาทซะ พี่ขอร้อง “  แววตาที่มองกลับมาหาผมไหวระริก จนผมเองรู้สึกวูบโหวงในใจ น้ำตาที่ค่อยๆเอ่อล้นออกมาเริ่มรินไหลเหมือนทำนบเขื่อนที่โดนกดดันมานานจนถึงวันที่ต้องแตก ผมรู้ว่าน้องผิดหวังและเสียใจ การถูกสั่งให้ลาจากคนที่รัก ปวดร้าวแค่ไหน ผมรับรู้มันได้จากสีหน้าอันดาในตอนนี้

ถ้าวันนึงผมต้องถูกสั่งห้ามให้เลิกรักไอ้ฉาน ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะร้าวรานได้ขนาดนี้มั้ย

“ก่อนที่พี่เมฆจะให้อันดาทำอะไร บอกเหตุผลมาได้มั้ย ว่ามันเกิดอะไรขึ้น “ น้ำเสียงสั่นเครือร้องถาม ผมรู้ว่ามันดูจะใจร้ายที่ผมสั่งอันดาให้ทำอะไรแบบไร้เหตุผล แต่สาเหตุที่ผมไม่ได้บอกไปนั่นเพราะว่า ผมกลัว กลัวว่าน้องจะรับความจริงไม่ได้

รักครั้งแรก เหมือนดอกไม้ ความรักของอันดาเหมือนดอกกุหลาบ อันดาเจอแต่กลิ่นหอมหวานและสีสันสวยงามของกุหลาบ แต่ทว่าวันไหนที่อันดาพลาดพลั้งไปโดนหนามแหลมคมของมันขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าน้องจะทนได้มั้ย

เพราะถ้าผมเอง ต้องเจอกับความเจ็บปวดจากความรัก แค่คิดว่าจะต้องพบเจอ ผมเองยังทนไม่ได้

“ถ้าพี่เมฆให้คำตอบอันดาไม่ได้ พี่เมฆก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามให้อันดาเลิกกับพี่อาท “ ผมชะงัก กึก กับเสียงเฉียบขาดที่ออกมาจากปากของอันดา ตาคมบอกถึงความดื้อดึงจนผมเองยังรู้สึกได้ถึงความมั่นคงในน้ำเสียงนั้นชัดเจนทุกคำพูด


ถึงเราจะต่างพ่อกัน แต่สายเลือดของแม่ที่เรามีร่วมกัน ทำให้รู้ว่า สิ่งที่ผมกับอันดามีเหมือนกันคือความมั่นคงในจิตใจ
หากเราทุ่มใจรักใครสักคนไปแล้ว......เหตุผลของการจากลา คงไม่ได้เกิดจากการขอร้องของใครสักคนแน่ๆ
เราจะไม่มีวันเดินออกมาจากชีวิตของคนที่รัก หากเขาไม่เดินออกไปด้วยตัวเอง


นับตั้งแต่นี้ต่อไป พี่ชายที่เคยแสนดีคนนี้ อาจจะเป็นพี่ที่ชั่วช้าที่สุดในสายตาน้องก็เป็นได้



“มันไม่ใช่คนดี แล้วก็ไม่มีอะไรที่คู่ควรกับอันดาเลยสักนิด เชื่อพี่เถอะนะ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีไปกว่านี้ได้ ผมตาขาวเกินไปใช่ไหม

เพียงเพราะผมไม่กล้า กับอีแค่บอกน้องไปว่า คนที่น้องรัก มันชั่วช้าเกินกว่าที่จะได้รับความรักบริสุทธิ์ไป
แค่นี้......ก็แค่พูดความจริงออกไปแค่นี้
คนขี้ขลาดอย่างผม ทำไม่ได้ ผมพูดมันออกไปไม่ได้.......มึงจะปากหนักเอาโล่ห์ให้ได้เลยใช่มั้ยเมฆ


“แล้วพี่อาทไม่ดียังไงค่ะ ถ้าพี่เมฆไม่บอก อันดาก็ไม่รู้ แล้วก็ไม่มีวันที่จะยอมรับได้ เพราะตลอดเวลาพี่อาทดีกับอันดา ดีมากจนอันดานึกภาพไม่ออกว่า ไม่ดีมันเป็นยังไง ถึงแม้ที่ผ่านไปวันนี้ อันดาก็ไม่เห็นว่าพี่อาทจะทำอะไร นอกจากจะโดนเพื่อนพี่เมฆไม่ต้อนรับแล้ว ยังโดนพี่ฉานทำร้ายไปอีก แล้วแบบนี้พี่เมฆจะให้อันดาเลิกกับพี่อาทได้ยังไงค่ะ” ผมจำภาพที่อันดาเดินจากไปด้วยน้ำตานองหน้าได้ดี ความผิดหวังฉายชัดแม้สองหน่วยตาจะโดนม่านน้ำตาบดบัง

สุดท้ายแล้ว ผมก็เป็นพี่ที่ไม่ดีของน้องจนได้นะ.....
ผมมันแย่ ทำให้น้องต้องร้องไห้


เสียงอันดาทักทายแม่นิ่มลอยเข้ามากระทบโสตประสาทให้ผมต้องเรียกสติตัวเองกลับมา
สาเหตุที่ร้องไห้ อันดาบอกแม่นิ่มว่า เพราะฝุ่นผงพัดเข้าตา
แม่นิ่มผ่านมากี่ร้อนหนาวแล้ว
ทำไมจะไม่รู้ว่า
ไม่มีใครเค้าสะอื้นฮัก ร้องไห้จนตัวโยน เพียงเพราะฝุ่นผงเข้าตากันหรอกนะ


สายตาคาดคั้นความจริงโดนส่งมาที่ผม จนหลบแทบไม่ทัน
ในความโชคร้ายของอิศวรองค์นี้ยังพอมีความโชคดีหลงเหลืออยู่บ้าง!!!

แม่นิ่มไปขลุกอยู่บ้านไอ้ฉาน เพราะร่วมมือกับน้าพิมพ์ทำกับข้าวต้อนรับสมาชิกใหม่
คงเจอกับไอ้ฉานแล้ว ถึงได้มาตามอันดาไปทักทายน้าพิมพ์....... คงจะทำอะไรไว้อวดลูกสาวคนใหม่
ถึงได้พยักเพยิด เร่งรีบลากกันออกไปบ้านนู้นซะขนาดนั้น
แม่นิ่มจูงมืออันดา.........แต่สายตาคาดโทษผมไว้แล้วว่า งานนี้ถ้าไม่เคลียร์


มึงได้ตำแหน่งลูกชั่ว มาครองได้อีกตำแหน่งนึงแน่ๆเมฆ
ผมเคยบอกแล้วใช่มั้ยครับ ว่าเกิดเป็นผม ไม่ง่ายเลยจริงๆ



ผมควานหาเบอร์โทรศัพท์ของไอ้อาทจากทุกช่องทางที่ทำได้
เวลาเพียงไม่นาน เบอร์โทรศัพท์ไอ้นรกนั่นก็มาอยู่ในมือผมจนได้
หนทางที่ได้มา ไม่ได้ยากเย็นบุกน้ำลุยไฟที่ไหน ทำให้รู้ว่า ไอ้อาท ก็เป็นที่รู้จักไม่น้อยเหมือนกัน
เรียกว่าดังเลยก็คงจะได้ แต่ดังในเรื่องไหน นี่ผมก็ไม่รู้  และไม่ได้อยากจะรู้.....

ผมมองตัวเลข 10 หลักในมือจนท่องได้ครบทุกตัว
สูดหายใจลึก ก่อนกดโทรออกไปยังปลายสาย
เสียงริงโทนเพลงฮิปพ็อพ ที่ผมไม่เคยชอบฟัง ดังแหวกโสตประสาทรูหูจนผมต้องนิ่วหน้าหนี
ดีหน่อยที่ริงโทนสั่นประสาทยังไม่วนกลับมาให้ผมต้องปวดกบาลดังขึ้นอีกรอบ

“สวัสดีครับ” เสียงตอบรับดูสุภาพจนผมต้องเงียบไปชั่วอึดใจ นี่มึงคงไม่ได้เบอร์มาผิดคนหรอกนะเมฆ

“เมฆ โทรมาทำไมไม่พูดละครับ “ ผมอึ้ง มันรู้ได้ยังไง ว่าเป็นผมที่โทรไปหา

สาบานได้ว่า ระหว่างผมกับไอ้นรกนั่น เราพึ่งติดต่อกันทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรก

“ทำไมมึงมีเบอร์กู” ไม่ใช่คนที่ต้องได้รับมารยาทจากผม เสียงทักทายถึงได้ป่าเถื่อนสมความแมนแบบนี้แหละ

“เบอร์เมฆ ก็ไม่ได้หายากอะไรนี่ เหมือนที่เมฆตามหาเบอร์อาทอยู่แค่ไม่กี่นาทีนั่นแหละ” น้ำเสียงปลายสายดูอารมณ์ดีจนผมหงุดหงิดใจ

“เอองั้นช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยแล้วกัน เลิกกับอันดาซะ เข้าใจมั้ย น้องกูยังเด็ก ยังไม่ควรมีแฟนตอนนี้”

“น้องนายยังเด็กเหรอ แล้วถ้าเด็กที่มีสามีแล้วยังเรียกว่าเด็กอยู่อีกมั้ย” กรามผมบดกันแน่นจนคิดว่าเสียงฟันที่มันกระทบกันคงดังให้อีกฝ่ายได้ยิน มือผมกำเข้าหากันแน่น เจ็บที่จิกลงบนฝ่ามือให้ความรู้สึกเจ็บจนชา


ไอ้อาทพูดแบบนี้ หมายความว่า มันกับอันดาลึกซึ้งเกินกว่าจะเรียกว่าปั๊บปี้เลิฟอย่างนั้นเหรอ



“มึงหมายความว่าไง” ผมข่มอารมณ์ให้อยู่ในระดับปกติที่สุด แต่น้ำเสียงแข็งกร้าวที่ตั้งใจส่งไปก็ยังสั่นไหว

“หึ หึ นายรู้ดีเมฆ ว่าเราหมายถึงอะไร นายจะให้เราเลิกกับอันดาถ้านายขอร้อง เราทำให้ได้ แต่น้องนายจะเลิกกับเราเหรอ”

“ยังไง” ผมรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการตีรวน แต่ที่ผมอยากรู้คือมันต้องการจะบอกอะไรผมต่างหาก

“อาทไม่ได้ทำผิดอะไร อยู่ๆจะให้อาทไปบอกเลิกอันดา มันจะไม่ดูแปลกๆไปเหรอ ถ้าวันนึงคนที่ทำดีมาตลอดเดินไปบอกแฟนตัวเองว่า เราเลิกกันเถอะ แล้วน้องนายจะรับได้เหรอ” ไอ้อาทมันพล่ามมาอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า มันรู้ดีว่าอันดามีสติและมีเหตุผลพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ......

“ที่อันดาเห็นว่ามึงดี เพราะน้องกูยังไม่เห็นสันดานที่แท้จริงมึงมากกว่า เลิกใส่หน้ากาก หลอกน้องกูสักที อย่าคิดว่าไม่รู้นะ ว่ามึงไม่ได้มีน้องกูแค่คนเดียว” ผมเริ่มจะเหลืออด เริ่มจะทนไม่ไหว อีกฝ่ายดูจะไม่สะเทือนที่ผมสั่งให้มันเลิกยุ่งกับน้องผม

เหมือนกับว่าน้องผม “ไม่ได้มีความสำคัญอะไร” ให้มันต้องใส่ใจขนาดนั้น

ไม่มีคนรักที่ไหนเค้าจะเฉยชากับการถูกสั่งห้ามไอ้คบกันได้เหมือนไอ้เดรัจฉานนี่แน่ๆ ไม่มีใครบังคับตัวเองให้โต้ตอบเหมือนพูดคุยกันตามปกติได้ ถ้ารู้ว่ากำลังจะเสียคนรักไปตลอดกาล

แล้วตอนที่ผมขอร้องอันดาหละ แววตาปวดร้าว เสียงสะอื้นร้องไห้ กับคำพูดที่พร่ำร้องขอเหตุผลที่ให้น้องต้องแยกออกมาจากคนรัก มันบอกชัดว่า น้องผมรักมันขนาดไหน แล้วผลตอบแทนจากคนที่น้องผมรัก จากที่ผมยื่นคำขาดคำเดียวกันมันคุ้มกันไหม.......ใครก็ได้ตอบผมที...ว่าที่ผมทำอยู่นี้มันถูกต้องแล้วใช่ไหม ที่ผมแยกเค้าสองคนออกจากกัน ผมทำถูกแล้วใช่ไหม  ผมคิดว่า ผมทำดีที่สุดแล้ว สำหรับการเป็นพี่ชายที่ต้องการจะปกป้องน้องสาวคนนึง


“เรื่องนั้นมันก็ช่วยไม่ได้อ่ะนะ เราอยู่ไกลกัน แล้วอาทก็ขาดความรักไม่ได้ คนที่ไม่เคยขาดคนรัก ไม่เคยเหงา อยู่ๆต้องมาเจอสภาพนั้น ถ้าเมฆเป็นอาท เมฆก็ต้องหาใคร มาทดแทนส่วนที่หายไปใช่มั้ย” น้ำเสียงยียวนส่งมาให้ระดับปรอทในการควบคุมสติของผมเข้าใกล้ขีดแดงเข้าไปทุกที

“ไม่มีทาง กูไม่คิดอะไรที่เห็นแก่ตัวแบบมึงแน่ๆ มันไม่ใช่เพราะความไกล แต่มันเป็นเพราะมึงไม่เคยพอต่างหาก อย่าโทษความห่างไกลความเหงาห่าเหวอะไรเลย กูฟังแล้วชวนคลื่นไส้” ผมเป็นคนตรงไหตรงมา รับไม่ได้กับคำพูดที่ฟังแล้วดูดีของอีกฝ่าย

“นั่นสินะ ในเมื่ออาทเป็นคนที่ไม่เคยพอ แล้วทำไมอาทต้องเลิกกับอันดาหละ ในเมื่ออันดา ยังน่ารักเสมอในสายตาอาท ถ้าอาทคิดจะทิ้งของมีค่าสักชิ้นไป อาทก็ต้องได้ของที่คุ้มค่าเสมอกันมาทดแทน เมฆว่าจริงมั้ย “

“มึงอย่าอ้อมค้อม มีงว่ามาเลยว่าต้องการอะไรแลกเปลี่ยนกับการออกไปจากชีวิตน้องกู”

“อะไรดีนะ อะไรที่มีค่าไม่แพ้การมีอันดาอยู่ข้างๆกันนะ ถ้าเลิกกับอันดา ก็จะไม่มีเสียงใสๆมาคอยไต่ถามด้วยความห่วงใย ไม่มีใครออดอ้อนเอาใจ แล้วก็ไม่มีใคร.......(มันเงียบไป)......ให้รัก      ถ้าไม่มีอันดาแล้ว อาทก็ต้องเศร้าต้องเสียใจ แล้วอันดาเองก็คงจะเสียใจ ถึงตอนนั้นเมฆจะทำยังไง แล้วอาทจะทำยังไง”

“เรื่องน้องกู มึงไม่ต้องแส่ น้องกู กูดูแลเองได้ ส่วนเรื่องของมึง ผู้หญิงหาได้มากมาย คนที่พร้อมจะรองรับความต้องการมึงแบบไม่คิดจะผูกมัดก็มีมาให้เลือกแทบจะกินไม่ไหว มันก็ไม่น่าจะมีอะไรให้มึงต้องมานั่งเศร้าเสียใจไม่ใช่เหรอ หรือมึงจะบอกกูว่า มึงไม่อยากเลิกกับอันดา เพราะว่ามึง”รัก” หละ ถ้ามึงเป็นลูกผู้ชายมึงกล้าพูดกับกูมั้ยว่ามึงรักอันดา รักแบบคนรักไม่ใช่ รักแต่ปาก.....มึงกล้ามั้ย”

บางทีนะบางที ถ้ามันรักน้องผมจริงๆ รักด้วยความปราถนาดี แล้วถ้ามันกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้ ผมนี่แหละจะสนับสนุนให้ทั้งสองคนรักกันเอง

“นั่นสินะ กับอันดานี่อาทจะเรียกว่ามันคือรัก ได้มั้ยน๊า แต่เราก็เคยร่วมด้วยช่วยกัน “รัก” มาก็หลายครั้งแล้วนะ ไม่รู้สิ อาทไม่รับปากว่าจำทำตามที่เมฆขอได้มั้ย ในเมื่ออันดาทั้งน่ารักทั้งแสนดีแบบนี้ “

“มึงอย่าโยกโย้ได้มั้ย ในเมื่อมึงไม่ได้รักอันดา มึงมีใครอีกตั้งมากมาย กูถามครั้งสุดท้าย มึงต้องการอะไรกับการออกไปจากชีวิตน้องกู” ผมโพล่งทะลุคำพร่าม ที่ถ้าปล่อยให้มันพูดต่อไป ปรอทความอดทนผมคงระเบิดแน่ๆ

พี่เมฆมีความอดทนนะครับ......แต่น้อย!!! ขึ้นอยู่กับความเกรียนของปัจจัยเร้า

“คนปลอบใจ อาทต้องการคนปลอบใจ “ ไอ้อาทโต้ตอบกลับมารวดเร็วพอกัน

“งั้นสำหรับมึงคงหาได้ไม่ยากเท่าไหร่ จริงมั้ย คนที่อยากจะปลอบใจมึงมีเยอะแยกมากมาย พรุ่งนี้กูจะพาอันดาไปสมัครเรียน ถ้าเป็นไปได้ มึงช่วยบังเอิญพาเด็กในสังกัดมึง คนไหนก็ได้สักคน มาด้วย มันจะได้ง่ายกับการตัดใจของอันดา กุพูดแบบนี้หวังว่ามึงจะเข้าใจ” ผมตัดบทพร้อมวางแผนให้เสร็จสรรพ ผมไม่ได้จัดฉาก ผมรู้ว่าไอ้อาทมีคนอื่นนอกจากอันดา แล้วคิดว่าคงจะมีเยอะกว่า ผู้หญิงที่ไอ้ไม้เห็นมันควงมาในคืนเกิดเรื่องด้วย ผมเชื่อว่า วันนึงเรื่องเลวทรามพวกนี้ของไอ้อาทก็ต้องเฉลยออกมา ผมก็แค่เร่งวันเวลาให้มันเกิดเร็วขึ้นเท่านั้นเอง ผมยอมเป็นพี่ที่ใจร้าย ทนเห็นน้องเจ็บตอนนี้

ดีกว่าทนเห็นน้องต้องเจ็บไปตลอดชีวิต

“เดี๋ยวสิเมฆ อย่าลืมสิ อาทบอกแล้วว่า สำหรับอาทอันดาคือของมีค่า เพราะฉะนั้น คนปลอบใจ ก็ต้องเป็นคนที่มีค่าเท่าเทียมกันอันดา ไม่ใช่ใครก็ได้ เมฆเข้าใจใช่มั้ย”

“แล้วยังไง มึงก็หาของมึงไปสิ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา มึงมีเวลาทั้งชีวิต มึงก็หาไปสิ” ผมแนะนำออกไปอย่างรำคาญเต็มที ไอ้เหี้ย เล่นลิ้นอยู่ได้

“ไม่ต้องหาหรอก อาทเจอคนที่มีค่าเท่าเทียมอันดาแล้ว เมฆอยากรู้มั้ยว่าใคร”

“ไม่อยากรู้ แต่ก็ยินดีด้วย ต่อไปนี้เราต่างคนต่างอยู่นะ เรื่องพรุ่งนี้ตกลงตามนั้น มีอะไรสงสัยอีกมั้ย”

“ถึงเมฆไม่อยากรู้ เมฆก็ต้องรู้ เพราะคนนั้นที่อาทพูดถึง “คือเมฆ” ถ้าอยากให้อาทเลิกกับอันดา เมฆต้องคอยปลอบใจอาทนะ ถ้าไม่ใช่เมฆ อาทก็เลิกกับอันดาไม่ได้หรอก มันสิ้นคิดเกินไป....คนโง่เท่านั้นที่ทำได้”

“มึง มึงบ้าไปแล้วเหรอ กูให้มึงเลิกกับอันดา เพราะว่าครอบครัวกูต้องไม่การยุ่งเกี่ยวกับมึง แล้วมึงคิดออกมาได้ยังไงว่าจะให้กูอยู่ปลอบใจมึง” มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ มันต้องโรคจิต มันต้องไม่ปกติ ไม่มีคนปกติที่ไหนเค้าคิดแบบนี้ได้หรอก

“งั้นเหรอ งั้นก็ช่วยไม่ได้นะ ทำไงดีหละ ตอนอันดามาเรียนเมฆก็คงจะมารับส่งทุกวันไม่ได้สินะ งั้นอาทก็ต้องทำหน้าที่แฟนที่ดีใช่มะ ไม่เจอกับอันดามาก็นานเหมือนกันนะ เป็นเดือน เจอกันคราวนี้ ความรักของเราจะร้อนแรงแค่ไหนน๊า (มันเน้นคำว่าร้อนแรง) แล้ววันนี้จริงๆอาทอารมณ์ไม่ดี  รู้มั้ยว่าเพราะอะไร เพราะมีไอ้สัตว์ตัวนึงมันมาต่อยปากอาท(มือผมกำโทรศัพท์แน่น มันมีสิทธิ์อะไรถึงเรียกไอ้ฉานแบบนั้น ) สองหมัดเลยนะรู้มั้ย เกิดมาป๊าอาทยังไม่เคยทำอาทเจ็บขนาดนี้มาก่อน ป๊าโกรธมากเลย อาทได้ยินป๊าบอกว่า จะทำให้มันเป็นบุคคลสาบสูญแบบที่ไม่มีใครสงสัย เค้าเป็นเพื่อนสนิทเมฆนี่ใช่มั้ย นี่อาทเห็นเมฆโทรมา เลยอารมณ์ดี เลยจะห้ามป๊าให้ เห็นแก่เมฆหรอกนะ แต่ตอนนี้ อาทเริ่มอารมณ์ไม่ดีอีกแล้วหละ อาทก็บ่นไปแบบนั้นแหละ เมฆอย่าใส่ใจเลยนะ”


ริมฝีปากผมบดเข้าหากันรุนแรงจนเลือดไหลซิบ หมัดที่กำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ตอนนี้โดนปล่อยออกไปกระแทกผนังระบายความอัดอั้นที่ระเบิดออกมาเกินที่จะกลั้นต่อไปไหว ความเจ็บที่แล่นริ้วขึ้นมาตามเส้นเลือด ยังเทียบไม่ได้กับความเจ็บที่บีบอัดอยู่ในใจ “ไอ้สัตว์นรกนั่น”  มันถือไพ่เหนือกว่าพูดจาบีบบังคับผม มันเอาคนที่ผมรัก มาต่อรองถึงสองคน คนนึงคือน้องร่วมสายเลือด อีกคนหนึ่งคือแสงสว่างในชีวิตผม ความมืดมิดที่เข้ามาบดบังความสุขสดใสของเด็กชายคนนึง ตอนอายุห้าขวบ ตอนที่ผู้ให้กำเนิดแท้ๆของผมทั้งสองคนไม่มีใครสามารถดูแลผมได้ เด็กบ้านแตกที่ถูกพรากความร่าเริงสดใส ในวัยที่ควรจะต้องได้รับความรักความเอาใจใส่อย่างที่สุด ต้องมาเจอกับความหม่นหมองอย่างที่เด็กคนนึงไม่ควรจะได้รับ  ถ้าไม่นับแม่นิ่มแล้ว

แสงสว่างที่นำพาความสดใส เหมือนกับที่ท้องฟ้าที่ทำให้รู้ว่ามีก้อนเมฆลอยอยู่เพราะมีแสงสว่างของพระอาทิตย์ฉันใด
ชีวิตผมมีความหมายและสว่างสดใสอยู่ได้ เพราะดวงตะวันของผมเองเช่นกัน


เด็กคนเดียวที่อ่อนแอและได้รับการปกป้องมาทั้งชีวิต เมื่อวันนึง มีน้องให้ตัวเองรู้สึกต้องปกป้องดูแล มันทำให้ชีวิตที่คิดว่าไร้ค่า มีความหมายขึ้นมามากมาย จากที่คิดว่าไม่รู้จะอยู่เพื่อใคร ความสุขที่เกิดจากก้อนเนื้อหัวใจบีบอัดจนเจ็บซี่โครงหน้าอกนั้นบอกได้ชัด การมีแม่ทั้งสอง มีน้อง และมีไอ้ฉาน ความสุขที่หมุนรอบตัวผม  แค่นี้ผมก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว

แล้วไอ้สัตว์เดรัจฉาน อย่างไอ้อาทมันเป็นใคร มันมีสิทธิ์อะไรถึงได้เอาคนที่ผมรักมาต่อรองสนองความเอาแต่ใจของมัน
หรือเพราะว่ามันรู้  มันรู้ว่าผมไม่กล้าเสี่ยงกับอนาคตและชีวิตของคนที่ผมรัก


นำเสียงแห่งชัยชนะของคนที่ผมเกลียดสุดหัวใจถึงได้หลอกหลอนผมตลอดเวลาแบบนี้

“แล้วถ้ากูต้องเป็นคนปลอบใจมึง กูต้องทำยังไง”
“เริ่มจากง่ายๆเลยนะ พรุ่งนี้อาทจะแวะไปรับกินข้าวตอนเย็น” นั่นหมายถึงหลังจากดำเนินแผนการให้อันดากับมันเลิกกันสินะ
“มะ ไม่ได้ กูไปหามึงเองสะดวกกว่า บอกมาว่าให้ไปหาที่ไหน” ผมอาจจะเป็นพี่ที่ใจร้าย แต่ผมไม่อยากเป็นพี่ที่เลวทรามแบบนั้นนะ

“เมฆ หัดพูดง่ายๆนะ แล้วอาทจะทำตามที่เมฆต้องการทุกอย่าง หกโมงเย็นมารออาทที่ริมรั้วข้างบ้าน เข้าใจมั้ย”


ผมหวังว่า “หน้าที่คนคอยปลอบใจ” จะมีคนมาแทนที่ได้ในเร็ววันนะ



 
๐ สวัสดีค่ะ อ่านรีพลายแต่ละคนแล้ว ตื้นตันใจ....
ตอนแรกที่ตัดสินใจแต่งเรื่อง เพราะว่าเป็นนักอ่านมานานแต่ไม่เคยเป็นนักเขียนเลย
โดยนิสัยเป็นคนที่อยู่นิ่งไม่ได้ ชอบหาอะไรทำตลอด วันนึงว่างๆเลยคิดหาอะไรทำ
แต่งนิยาย......เป็นอะไรที่ไม่เคยทำแต่เคยคิดว่า คนที่แต่งเค้าต้องทำยังไงนะถึงแต่งออกมาได้
มันมีโปรแกรมสำเร็จรูปอะไรมั้ย กว่าจะได้นิยายสักเรื่อง แต่ละคนมีเอกลักษณ์การเขียนเป็นของตัวเอง
ยิ่งทำให้อยากรู้ว่า ถ้าวันนึงเราแต่งนิยาย มันจะออกมายังไงนะ
แล้ววันเบิกฤกษ์ก็มาถึง ไม่รู้ว่าการเริ่มนิยายสักเรื่อง ต้องเริ่มนับ 1 ที่ไหน วางพล็อต วางตัวละคร หรืออะไร
แต่นิยายเรา เริ่มจาก ได้ชื่อเรื่องค่ะ มันลอยขึ้นมาเอง เลยไปเคาะ M บอกพี่คนนึงว่า
เรา:  พี่.......ๆ(นักเขียนชื่อดังคนนึงที่ทุกคนรู้จักกันดี) อยากแต่งนิยายหวะ ตอนนี้มีชื่อพระเอกนายเอกกับชื่อเรื่องแล้ว
พี่คนนั้น : แล้วอะไรที่ยังไม่มี
เรา: พล็อตเรื่อง
พี่คนนั้น : ไปกระโดดน้ำตายซะ!!
แต่ก็นั่นแหละ เรื่องนี้ก็ออกมาจนได้ ตามความป่วงของเรา คุยกะนุ้งเซว่า ไม่คิดว่าตัวเองจะทำมาได้ถึงตอนนี้
ยิ่งเขียนก็ยิ่งผูกพันธ์ เราเองก็ใจหายที่คิดว่า อีกไม่น่าจะเกิน 5 ตอนจะให้จบแล้ว กลัวว่าทุกคนจะเบื่อ แต่พอมาเจอรีพลายเข้าไป ยอมรับเลยว่าเราดีใจมาก ที่หลายคนบอกว่ายังไม่อยากให้จบ รู้สึกตรงกันว่าดันผูกพันธ์กับพี่เมฆท่านฉาน
ก็เลยคิดว่า ถ้างั้น เมื่อจบเนื้อเรื่องหลักที่เราวางไว้แล้ว จะส่งตอนพิเศษมดแดงแฝงพวงมะม่วงอย่างพี่ฉานมาสักสองสามตอน แล้วมีน้องที่สนิทกันคนนึงบอกว่าอยากอ่านความป่วนของโลลิคอนถาปัตย์กับเด็กเกรียนปลื้ม เราว่านะกว่าเรื่องนี้จะโดนย้ายไปนิยายจบแล้ว สาวกพี่เมฆทั้งหลาย คงเบื่อกันไปซะก่อนนั่นแหละ
จากเริ่มที่เราไม่เคยวางพล็อตอะไรเลย ก็ค่อยๆวางมากขึ้น ทำไมเมฆกับฉานต้องเป็นเด็กถาปัตย์และศิลปกรรม (ซึ่งนิยายนี่เด็กถาปัตย์เกลื่อนมาก) เราก็เรียนตามตรงว่า เรื่องแรกเราไม่ได้วางอะไรไว้ ไม่ได้หาข้อมูลอะไร สองคณะนี้เป็นอะไรที่ใกล้ตัวเราที่สุดแล้ว ข้อมูลอยู่ในหัว  ยังไงก็ต้องขอบคุณสาวกพี่เมฆพี่ฉานทุกคนนะค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะอีกเรื่องคือหลังๆมานี้ต่อช้ากว่าเมื่อก่อน เพราะว่าตอนแรกนั้นเรามีสต็อกไว้ให้นุ้งเซ ประมาณห้าตอนค่ะเลยลงตรงเวลา หลังๆมาสมองปั่นไม่ทันบวกกับยุ่งเหยิงกับงานเลยกลายเป็นว่ามันต้องลงแบบตอนต่อตอนเลยช้าแบบนี้นะ ขอโทษนะคะ ๐.....

(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 03-07-2010 15:58:10
:z2: :z2: :z2:
มาแล้วๆ คิดถึงน้องเมฆกะน้องฉานจังเลย
ใกล้จะจบแล้วใจหายเหมือนเดิม แต่ดีใจนะที่บอกจะส่งตอนพิเศษมาให้อ่านเรื่อยๆ
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่อยากให้ทำเป็นหนังสือไว้เก็บ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 03-07-2010 16:20:54
ที่จิงยังไม่อยากให้จบ นะเจ้

แต่ยังไงถ้าจะจบ ขอแบบ อย่าเกินความคาดหมาย นะ หึหึ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 03-07-2010 16:30:12
เมฆทำอะไรสิ้นคิดอีกแล้ว
ถ้าเมฆทำอย่างนั้นไปนะ  เมฆอาจจะต้องสูญเสียทั้งอันดา ทั้งฉานไป

เรื่องง่ายๆทำให้ยากไปซะงั้น

แค่เมฆบอกอันดาไปซิว่าเพื่อนที่นอนเจ็บอยู่โรงพยาบาลเป็นฝีมือใคร และ สาเหตุจากอะไร  อันดาไม่ใช่คนโง่  ฉานก็อยู่ ฉานก็ช่วยได้

เมฆแก้ปัญหาแบบนี้ น้ำเน่า นะ :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 03-07-2010 16:35:58
อ่านตอนนี้แล้วอยาก :m15:สงสารเมฆที่อยากทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดี แต่สิ่งที่ต้องทำอันดาจะเข้าใจไหมนะ หรือจะมองพี่
กำลังหักหลังตัวเองหรือเปล่านะ แต่อันดาจงเข้าใจการทำหน้าที่ของเมฆก็ทำเพื่อปกป้องอันดาจากคนชั่วนะ
แต่อีกทีก็สงสารฉานด้วย ที่จะถูกไอ้เลวอาทมาทำลายความรัก ทำลายเฆที่อยู่ของแสงสว่าง ตอนนี้อ่านแล้วสงสารแน และเมฆ กับอุปสรรคที่เกิดจากเมฆอยากปกป้องคนที่รัก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 03-07-2010 16:37:30
+1 :m15: :monkeysad:ของตอนนี้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 03-07-2010 16:54:35
อาไรเนี่ย ทำไมพี่เมฆต้องยอม เป็นคนดีเกินไปหรือป่าว วิธีอื่นมีตั้งมากมาย

ที่จะไม่ต้องทำให้ใครเจ็บ  :m31: o13 :bye2:


ต่อๆๆๆ และอย่าเพิ่งจบนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจū
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 03-07-2010 17:04:47
จิ้มๆก่อนอ่านขอรับ  :กอด1:

_______________________

เหอะๆ ตอนต่อไปเฮียฉานรู้ เมฆงานเข้าแน่
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-07-2010 17:16:21
เมฆมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว
ไอ่อาทมันไม่อยากได้คนปลอบใจ  มันอยากได้เมฆต่างหาก
พี่ฉานรู้เข้าล่ะ  โลกแตกแน่
เล่าให้พี่ฉานฟังเถอะ  เพื่อนคนไหนก็ได้ นะ ซักคน
อย่าให้มันบานปลายไปกว่านี้เลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 03-07-2010 17:22:39
ตอนนี้เมฆครึ้มมึดมาเชียว :serius2:
เรื่องวุ่นวายกะลังจะมาอีกแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 03-07-2010 18:28:02
เฮ้อออ อ่านตอนนี้แล้วเครียดมากกกกกก  :serius2: :serius2:

ก้อนเมฆแน่ใจแล้วหรอ ที่ตัดสินใจแบบนั้นง่ะ  :เฮ้อ:

โดนดวงตะวันกระทืบตายแน่ๆง่ะ แต่ไม่ใช่เมฆนะที่จะโดน แต่เป็นไอ้ยาฆ่าแมลงนั่น  :m20:
ส่วนเมฆก็คงโดน.....  :z1: :z1:

แต่คิดว่าป่านนี้อันดาคงรู้เรื่องแล้วหละ โดนแม่นิ่มลากไปบ้านโน้นแล้วนิ ป่านนี้พี่เขยตัวดีคงเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะ  o13 o13 o13

พีเอส> ขอบคุณคนแต่งกับคนโพสนะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 03-07-2010 18:32:04
แม่น้องสาว

อีกแล้วนะยะหล่อน

 :beat: :beat:

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Ayame ที่ 03-07-2010 18:32:48
เริ่มเห็นเค้าลางของความวุ่นวาย

เอาใจช่วยให้เมฆผ่านพ้นเรื่องนี้ไปด้วยดี

ปล.แต่ไอ้อาทนี่มันเลวจริงๆ  :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 03-07-2010 18:35:20
 :fire: :fire: เหมือนเมฆจะหลงกลไอ้อาทแล้วว.............ฉานนนมาเร็วๆๆนะ:fire: :fire:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 03-07-2010 18:49:52
มีสามี เอ้ย! มีคู่ชีวิตไว้ทำอะไรคะ ปรึกษาสิปรึกษา~~ หรือถ้าไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ เพื่อนน่ะมีไว้ทำไม ปรึกษาสิ - -+++
ความ'อยากได้'ของคนเราไม่มีที่สิ้นสุดหรอก คิดว่าตามใจเขาแล้วจะได้อะไร อย่ามาน้ำเน่าๆ
เฮ้อออ~ การที่เมฆทำแบบนี้คิดว่ามันดีต่อทุกๆคนแล้วหรือไง? เมฆโดนฉานปกป้องจนมองโลกในแง่ดีเกินไปสินะ
ที่จริง .. อันดาโตพอที่จะรับฟังเรื่องแรงๆแบบนี้แล้วนะ ให้รับรู้ในวันนี้ดีกว่าไปรับรู้ในวันที่สายไม่ใช่เหรอ
ก็น่าจะรู้ว่ามนุษย์เราน่ะยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ตัดไฟแต่ต้นลมน่ะรู้จักไหม
....หวังว่าเมฆจะคิดได้ :กอด1:


>> ขอบคุณที่จะมีตอนพิเศษต่อค่ะ(ไม่ใช่จบตลอดกาล) :L2: <<
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 03-07-2010 18:54:47
อ่านตอนนี้แล้วเครียดแทนพี่เมฆเลยค่ะ

พี่เมฆอย่าไปยุ่งกะไอ่อาทมันเลยนะ

เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่โตอีก แค่คิดก็เครียดแล้ว พี่เมฆเปลี่ยนใจด่วนจ้า

ได้โปรด   :sad11: :sad11:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: SPSJ ที่ 03-07-2010 19:36:26
นึกแล้วว่าเรื่องต้องออกมาแบบนี้
พี่ชายที่เสียสละ
คนที่ต้องปกป้องคนรัก
และจะมีใครเข้าใจเมฆใหม
ถ้าไม่มีใครเข้าใจ ขอแค่ฉานคนเดียวที่เข้าใจก็พอ :fire:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 03-07-2010 19:40:34
ใครก็ได้เอาปืนไปยิงไอ้อาทที

อันดาก็หลง.....ไม่ลืมหูลืมตาต้องมาลำบากเมฆอีก :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 03-07-2010 20:01:16
เข้าใจพี่เมฆนะ มันอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ
คันปากอยากบ่นน้องอันดาคนงามจริงๆ แต่แบบคนมันไม่รู้เรื่องอ่ะ น้องเค้าไม่ได้ผิดอะไร ไอ่อาทชั่วแหละผิดเต็มๆ :beat:
แต่อยากบอกพี่เมฆว่า...จะมีเฮียฉานไว้เป็นสามีทำไมคะ รีบไปบอกเฮียฉานซะ แล้วให้เฮียช่วยจัดการให้ พลีสส :z3:
อย่าทำอะไรบ้าๆคนเดียวนะพี่เมฆ :serius2:
+1 ขอบคุณค่ะ แล้วก็ฝาก Seiki กอดไรเตอร์ 10 ทีที่ยังไม่จบเรื่องนี้เร็วๆนะคะ
ให้เค้าเรียนจบก่อนนะ แล้วค่อยย้ายไปอยู่ห้องจบแล้ว  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 03-07-2010 20:14:32
ชักไม่สนุกแฮะตอนนี้
เครียด
เกลียดไอ้อาท
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 03-07-2010 20:15:36
เมฆเอ้ย คิดง่ายไปนะ
ยังไงฉานมันรู้แน่ ๆ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 03-07-2010 20:25:08
ผมหวังว่า “หน้าที่คนคอยปลอบใจ” จะมีคนมาแทนที่ได้ในเร็ววันนะ
คงจะยากนะค่ะพี่เมฆ จะทำอะไรก็คิดดี ๆ ก่อนนะค่ะพี่เมฆ ปรึกษาพี่ฉานดีกว่านะค่ะ Please :amen:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 03-07-2010 20:26:12
 :z3:  สงสัย น้องอันดาคงจะเข้าใจว่า สาเหตุที่พี่ชายไม่ยอมให้คบกับพี่อาท

ก็เพราะเจ้าตัวจะเก็บไว้เองหรือเปล่าเนี่ยยยยย..... :z3:

ปรึกษาพี่ฉาน แม่นิ่ม สิ หลายหัวดีกว่าหัวเดียว เนอะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 03-07-2010 20:42:49

 :z3:
สงสารพี่เมฆจัง พี่ชายที่แสนดี อยากปกป้องน้อง
แต่น้องดันมาดื้อซะนี่  :เฮ้อ:

เหนือสิ่งอื่นใด พี่เมฆบอกฉานไปเถอะ
คิดเองแบบนี้ไม่ดีนา.. เครียดแทน

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 03-07-2010 20:49:20
เมฆจ๊ะ หนูมีพี่ฉานไว้ทำไมกัน

่น่าจะรู้นิสัยพี่ฉานนะว่าเป็นยังไง ทำอะไรไม่ปรึกษากันเลย

โอ้ยเครียดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :z3:  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: posshiza ที่ 03-07-2010 20:55:40
ม่ายยยยยยย
พี่เมฆจะทำอะไร อย่านะอย่าทำแบบนี้
คุยกับฉานก่อนได้ไหม ก่อนตัดสินใจทำอะไร
มันชักจะยุ่งไปกันใหญ่แล้วนะเนี่ย
อันดานะอันดา พี่เตือนก็ไม่ยอมฟัง
ความรักทำให้คนตาบอดจริง ๆ
เป็นกำลังใจให้พี่เมฆผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 03-07-2010 21:33:17
OMG


NOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: blackboy ที่ 04-07-2010 00:03:51
อ่านตามทันสักที ชอบการบรรยายเรื่อง
ชอบพี่เมฆบรรยายเรื่องด้วย ดูแปลก ๆแต่ก็ฮา ๆ
ชอบฉาน รักพี่เมฆจนน่าอิจฉา 55555

พี่เมฆทำตามอาททำไม มันหลอกเห็น ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 04-07-2010 01:27:15


 :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 04-07-2010 02:39:04
โอ๊ย เรื่องนี้สนุกมากกก อ่านวันเดียวเลยยยยยยยย

ว่าแต่ว่าจะจบแล้วหรอค่ะ :(
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 04-07-2010 02:54:38
น้องเมฆ คิดอะไรไม่สร้างสรรค์เลย
คุยกะพี่ฉานก่อน
ขัดใจ .....
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 04-07-2010 04:57:20
ทำไมไม่อัดเสียงตอนที่คุยกับมัน ไปเปิดให้อันดาฟังก็หมดเรื่องแล้ว  :seng2ped:
เมฆจะยอมโดนคนอื่นรังแกไปถึงเมื่อไหร่เนี่ยยยย จะนางเอกไปถึงหนายยยย :m31:
ยิ่งอ่านยิ่งไม่ชอบไอ้อาทขึ้นมาเรื่อยๆแล้วแฮะ ฉานเอามันไปเก็บที  :fcuk:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 04-07-2010 08:39:11
 :fire: ไอ้เชี่ยอาท เลวระยำ น้องเมฆซ้อนแผนเปิดโปงมันเลย  อย่าให้มันมีโอกาศทำชั่วอีก  :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 04-07-2010 09:17:02
จากนี้ไปคือของจริงแล้วสินะ

เอิ่มคือว่า จะดราม่ากันไปไหนเนี๊ยะ   :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 04-07-2010 09:35:47
อาทเลวมาก :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 04-07-2010 11:47:08
โอ้ยยยย อ่านแล้วปรี๊ดดดมากกกกค่ะ
เกลียดไอ้อาทอะไรนี่จริงๆ เลวมากกเหอะ
บอกตามตรง เค้าไม่อยากให้พี่เมฆต้องมา
ทำหน้าที่ปลอบใจไอ้ห่าอาทนี่จริงๆนะคะ
แบบเค้ากลัวว่า ถ้าพี่ฉานรู้เรื่องแล้วมันจะ..
ยิ่งไปกันใหญ่จริงๆๆๆ ฮึ่มๆๆๆๆๆๆๆ
ปล. เห็นไรท์เตอร์บอกว่า เรื่องนี้จะจบแล้ว
โอ้วววว ม่ายยยยย เค้าคงคิดถึงพี่เมฆกับฉาน
มากแน่ๆๆเลยค่ะ ถ้าถึงวันนั้นอ่ะ ;________;
+1 ให้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 04-07-2010 16:56:46
:fire: ไอ้เชี่ยอาท เลวระยำ น้องเมฆซ้อนแผนเปิดโปงมันเลย  อย่าให้มันมีโอกาศทำชั่วอีก  :z6:

งั้นเรายกพวกไปถล่มมันเลยดีมั้ยเพ่!!!!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 04-07-2010 17:17:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 04-07-2010 17:49:26
ไออาทเลวจริงๆคนแต่งคิดได้ไงเนี่ย :z6:
เมฆอย่าทำตัวฉลาดน้อยเหมือนนางเอกในทีวีบ้านเรานะ
รีบไปปรึกษาฉานความคิดสองหัวคงดีกว่าหัวเดียว
จะบอกให้ปรึกษาผู้ใหญ่เด็กรุ่นนี้คงไม่เชื่อมั้ง
ไออาทนี่ผู้ร้ายตัวจริงเลยขอ :beat:อีกหลายๆที
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-07-2010 21:03:19
ผิดหวังกับเมฆอีกแล้ว เฮ้อออออออ แก้ปัญหาให้ปัญหายิ่งยุ่งยากกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 04-07-2010 22:21:01
 :fcuk: ตาอาท หนอย !!! สนุกเกินไปแระ
พี่เมฆต้องซ้อนแผนนะ อย่าคิดทำอะไรคนเดียวเด็ดขาด
รอลุ้นตอนหน้านะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ปล. เป็นหนึ่งในหลายๆเสียงที่แอบใจหายถ้าเรื่องนี้จบ
แต่.. แต่เรายังมีความหวังกับตอนพิเศษ และเรื่องใหม่ของไรท์เตอร์ค่ะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 04-07-2010 22:43:16
:fire: ไอ้เชี่ยอาท เลวระยำ น้องเมฆซ้อนแผนเปิดโปงมันเลย  อย่าให้มันมีโอกาศทำชั่วอีก  :z6:

งั้นเรายกพวกไปถล่มมันเลยดีมั้ยเพ่!!!!!
  พวกเรา ลุยยยยยยยยย  :angry2: :beat: :z6:

ปล. ฝากเตือนไร้ท์เตอร์  :m26: อย่าปล่อยให้น้องเมฆเป็นอะไรไปนะ  ม่ายงั้น ไร้ทเตอร์อาจโดนแม่ยกของน้องเมฆฆาตกรรมอำพราง  :sad3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 05-07-2010 02:03:49
ไอ้อาท เลวมากมายเลย  :z6: ขอสักทีเถอะ
ไรเตอร์คุ้มครองน้องเมฆด้วยนะจ๊ะ
ถ้าไม่ละก็จะให้ฉานจัดการเลย คอยดู
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 05-07-2010 08:29:25
คนแต่งมาเครียด่วน ๆๆ ไม่ไหว ๆ ตอนนี้อยากกระทืบนังอาทททททท  :z6: :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 05-07-2010 13:34:54
ไม่นะพี่เมฆ...อย่าคิดอะไรง่าย ๆ ซิ
ไอ้อาทน่ะมันไว้ใจไม่ได้อยู่แล้ว.....
รึพี่เมฆจะซ้อนแผนให้น้องอันดาเห็นความชั่วของมัน????
แต่ระวังคุณชายฉานหน่อยนะ...ขานั้นแรงงงงของจริง
พี่เมฆ...คนอ่านรู้สึก  o6 :amen: o9 ในเวลาเดียวกัน

 :pig4: :L1: คนแต่ง กะ คนโพสค่ะ
กด +  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 05-07-2010 14:20:27
รอตอนต่อไปว่าท่านเมฆจะดัดหลังไอ่อาทได้เจ็บแสบแค่ไหน
เพราะเราแน่ใจว่าท่านเมฆจะไม่หลงกลใครง่าย ๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 05-07-2010 14:45:04
มันเข้มข้นแบบนี้นี่เองงง น่าติดตามมาก +1 เจ้า อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 05-07-2010 19:19:47
คืนนี้ดวงตะวันจะขึ้นมาฉานแสงรึป่าวน้าาาา

 :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-07-2010 19:25:02
สงสัยอาทิตย์นี้ไม่ได้อ่านแน่เลย  :m31:
เซงเมฆ ทำไรให้ฉานเป้นห่วงอยู่เรื่อย แต่ยังไม่เซงเท่าคนเขียน เขียนอะไรมาเนี่ย  :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 05-07-2010 20:47:57
อยากอ่านตอนที่41ไวๆๆจังอะ :call: :call: :call: :z13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 06-07-2010 02:23:38
เมฆ อย่าวางแผนนานอะไรนานสิ วางไปเท่าไหร่ สุดท้าย ฉานมันก้รู้อยู่ดี   :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 06-07-2010 23:44:16
หลุดมาหน้า 2 อีกแล้ววว ขอดันนะคร้าบ

อึ๊บ อึ๊บ อึ๊บ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 07-07-2010 01:12:00
เมฆ.....วางแผนนานขนาดนี้ บอกพี่ฉานไปง่ายกว่ามั้ย  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 07-07-2010 01:27:09
สาดดดดดดดดดดดดดด อาท   :z6:
พี่เมฆนะพี่เมฆ   :เฮ้อ:
บอกพี่ฉานด้วยดิ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 07-07-2010 08:30:59
+1กำลังใจ สำหรับวันที่สดใสจากเลดี้ เพื่อให้ไรเตอร์มีกำลังใจ สู้และเขียนตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 08-07-2010 09:54:45
 :z2:

ดันๆๆเมฆกับฉานไปอยู่หน้าสองได้ไงเอ๊า :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 40] 3 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 08-07-2010 20:37:05
พี่ฉานมาช่วยพี่เมฆได้แล้ววววว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 09-07-2010 01:32:16
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 41
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

จะมีตัวแปรตัวไหนในโลกที่ทำให้คนที่เก่งกาจที่สุดในทุกๆ เรื่อง
โง่ลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจที่สุด .....ถ้าตัวแปรนั้นไม่ใช่ “ความรัก”



ผมจำได้เลือนลาง ว่าทฤษฎีกระชากอ๊วกแบบนี้ได้มาจากไหน
ร้านข้าว เสาไฟฟ้า หรือว่าในบทละครของแม่นิ่ม ที่บางทีผมต้องวาดรูปประกอบให้
อาจจะนิตยสารที่เผลออ่านในร้านอะไรสักร้าน.....แต่มันก็นานจนจำแทบไม่ได้
หรือไม่ก็อาจจะบนถุงใส่กล้วยทอด ที่บังเอิญน้ำมันเยิ้มเป็นวงกว้าง
ทำให้ตัวหนังสือ ที่ผมไม่เคยคิดจะสนใจ เด่นชัดขึ้นมากระแทกสายตาพอดี

แล้วทำไมไอ้ทฤษฎีที่ผมควรจำได้แบบเลือนลาง จนมันควรจะจางหายไปสักที
ถึงได้เด่นชัดจนผมท่องจำจนขึ้นใจได้เอาตอนนี้หละ
มือที่ก่ายเกยบนหน้าผากดังสลับกับเสียงถอนหายใจที่ดังขึ้นแทบจะทุกๆนาที
แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความสับสนในจิตใจลดน้อยลงไปได้เลย
ถ้าผมยังนอนลืมตาปรึกษากับฝ้าเพดานอยู่แบบนี้
นับถอยหลัง จากห้าคงไม่ต้องรอให้ถึงสี่.....สมองผมระเบิดเวลาตัวเองไม่เหลือดีแน่ๆ


ประโยคคำถามสองสามประโยค ที่ผมส่งไปโต้ตอบกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
คนหน้าตาดีที่ยืนตรงหน้าผม ไม่โต้ตอบอะไรกลับคืนมา นอกจากสายตากังวลใจที่ปิดยังไงก็ไม่มิด
ผมพรูลมหายใจทิ้งเสียเฮือกใหญ่ ....


ถามตัวเองในกระจกมันจะไปได้อะไรวะไอ้เมฆ...ปัญญาอ่อนไปมั้ย


ไม่แปลกหรอกครับ......ถ้าช่วงที่จิตใจอยู่ในสภาวะย่ำแย่อย่างที่สุด จะส่งผลให้คนหน้าตาดี  ทำอะไรที่ไม่เข้าท่าไปบ้าง



โทรศัพท์มือถือที่ผมกำแน่นอยู่ในมือ ถูกยกขึ้นมามองเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ปลายนิ้วเกลี่ยไล่รอยชื้นของเหงื่อที่ไหลจากมือ ให้ค่อยๆ หายไปจากหน้าจอ เบอร์โทรเร่งด่วนโดนผมแตะเลื่อนขึ้นลงอย่างเบามือ

01.”แม่นิ่ม “        ชื่อนี้โดนผมแตะเลื่อนลงไป ไม่มีลูกกตัญญูที่ไหน เอาเรื่องร้อนใจไปให้แม่กันหรอก ใช่มะ ยิ่งรูปใบหน้าที่โชว์รอยยิ้มหราอยู่บนหน้าจอ อดทำให้ผมต้องอมยิ้มกับตัวเองไม่ได้ รูปรอยยิ้มที่ธรรมชาติที่สุดในโลกรูปนี้ ผมถ่ายด้วยมือตัวเอง

02.”ครอบจักรวาลล้านแปด” ผมยู่หน้าพ่นลมใส่ไอ้คนที่ทำหน้ากวนประสาทบนหน้าจอ เพราะมึงแท้ๆเลยนะไอ้หน้ากูปรี กูถึงต้องมาเครียดอยู่แบบนี้ ......หมายเลขนี้เป็นหมายเลขอันตรายที่ยังบอกให้รู้ไม่ได้


“ถึงพี่เมฆจะเก่งแค่ไหน แต่ก็กลัวตายนะครับ”


03.”น้อยหน่ายาหยี” อย่าเพิ่งคลื่นไส้กันไปนะครับ ชื่อนี้ไอ้เจ้าของเบอร์ตัวดีมันแย่งจากมือผมไปเมมของมันเองนะครับ มันเยอะทุกอย่าง มันจะต้องเป็นนัมเบอร์วันของกลุ่มเพื่อนทุกคน ลามปามไปถึงกลุ่มเพื่อนไอ้ฉานด้วยเถอะ!!

รูปที่โชว์อยู่บนหน้าจอนี้ทำให้ผมหลอนทุกครั้ง ทั้งๆที่หลอนแสนหลอน แต่ตอนส่งบลูธูสรูปกัน เพื่อนทุกคนใจตรงกันเลือกรูปนี้เป็นรูปโชว์เบอร์บนหน้าจอ......รูปนี้ของไอ้หน่ามีอะไรที่น่าสนใจอะเหรอครับ ก็ไม่มีอะไรนะผมว่า ก็แค่ไอ้หน่ามันแต่งหน้าทำผม แอคท่าเป็นกุลสตรีศรีสยามได้กระโดกกระเดกที่สุดแค่นั้นเองครับ.........พวกผมชอบสะสมของแปลก

“สมองมึงประกอบกันขึ้นมาจากอะมีบาหรือพารามีเซียมวะ ไม่ใช่มึงนี่คิดสั้นขนาดนี้ไม่ได้นะเนี่ย ถ้ามึงไม่อยากตาย กูบอกได้แค่ว่า “ห้ามเด็ดขาด” เข้าใจมั้ย ที่เก่าแต่เวลาของใครของมันเว้ย ไอ้ห่า”


ผมยกโทรศัพท์ห่างจากหูแต่ไม่วาย แอคโค่ อ่าอ่า ยังลอยเข้ามาถึงกระดูกทั่งกระดูกโกณกันเลยทีเดียว ปกติไอ้หน่ามันไม่คุยสั้นแบบนี้หรอกนะครับ แต่ผมเดาว่า มันคงตั้งใจจะจดแลคเชอร์เอาไว้ กะพ่นใส่ผมทีเดียว

ผมไล่ชื่อเพื่อนคนต่อไป เป็นไอ้หวานครับ ไม่ต้องรอฟังเสียงรอสาย มันกดรับแบบไม่เปิดโอกาสให้ผมยิงเลย..
 

 “เฮ้ย ไอ้ห่าเมฆ มึงคิดได้ไงเนี่ย ฉลาดฉิบหาย กูขอบูชา ชาบู ชาบู มึงเลยนะเนี่ยไอ้ฟายยยย....มึงจะดึงเพื่อนไปเป็นแนวร่วมกล้าตายกับมึงแล้วมั้ยหละ เออๆ ไปเจอกันเหมือนที่ไอ้หน่าว่า ไอ้เชี่ยเอ้ย” ผมรีบตัดจบบทสนทนาไม่ไหวครับ เหมือนมันนัดกันกับไอ้หน่า ด่าผมชนิดกอปปี้คอนเซปกันมาเลยทีเดียว


ความจริงผมไม่น่าบั่นทอนความเชื่อมั่นของตัวเองด้วยการโทรไปปรึกษาพวกมันสองตัวก่อนเลยให้ตายสิ

รู้ทั้งรู้ว่าแนวคำตอบน่าจะออกมายังไง ผมไล่หาเบอร์ไอ้ยอนเป็นรายต่อไป ไอ้นี่มันตามใจผมยังกับอะไรดี อย่างน้อยมันคงเข้าใจและคงจะให้กำลังใจผมกลับมาบ้าง


“ยอน” ผมส่งเสียงออกไปเมื่อเสียงริงโทนโดนตัดสัญญาณ

“ว่างัย ฟังจากเสียงแล้ว กำลังทำหน้าเป็นหมาหงอยคอยนายอยู่ใช่มั้ย นี่กูอยู่กับไอ้ดิว มันมายืมจานสี แล้วตกลงมึงมีอะไร ทะเลาะกับฉานเหรอ” ได้ยินเสียงไอ้ยอนแล้วน้ำตาผมจะไหล คิดผิดจริงๆด้วยที่โทรหาไอ้หน่าก่อน บั่นทอนกำลังใจฉิบหาย

....เฮ้อออ

ผมบอกจุดประสงค์ที่โทรไปหา ได้ยินเสียงไอ้ยอนร้อง “เฮ้ย” แล้วมันก็เงียบไป
“เรื่องใหญ่นะเมฆ  หน่ารู้เรื่องยัง “ หึหึ ผมหัวเราะขมขื่นให้ชะตาชีวิตตัวเองอีกที รายงานไอ้ยอนไปน้ำตาตกในไป

“ว่าแล้ว ว่าหน่าต้องรู้ก่อนใคร ไปคุยกันก่อนก็ดีนะ เดี๋ยวกูบอกไอ้ดิวเอง มึงอย่าคิดมาก  แล้วเจอกัน”


ผมกำลังชั่งใจว่าระหว่างไอ้แกละกับไอ้ไม้ ผมต้องโทรหาใครก่อนดี สามสายที่ผ่านมาทำให้ผมรู้ว่า โทรไปหาใครก่อนก็ได้ เรื่องใหญ่เท่ากัน นิ้วแตะโทรออกไปที่ชื่อไอ้ไม้ ไม่มีคนรับสาย ผมลืมไป มันเพิ่งออกจากโรงพยาบาลอาจจะพักผ่อนหรือว่าอาจจะ.อยู่กับเด็กมันก็ได้ ..... ผมตัดสินใจจะโทรหาไอ้แกละ ให้มันติดต่อเพื่อนคนอื่นๆให้ แล้วนัดไปคุยกันทีเดียวเลย

แต่วันนี้ไอ้แกละคงไม่มีบุญได้ยินเสียงสวรรค์ของคนหน้าตาดีอย่างพี่เมฆ ขนาดปลายนิ้วกำลังจะสัมผัสกับสัญลักษณ์โทรออกอยู่แล้วเชียว......แต่กลายเป็นสายไอ้ไม้โทรกลับมาซะงั้น

“อารมณ์เปลี่ยวหรือไง ไอ้ฉานไม่อยู่เหรอ  “ เจอไอ้ไม้มุขนี้เล่นเอาผมไปไม่เป็นเหมือนกันนะ ตั้งแต่มันซุกเด็กข้างบ้านไว้ มันจะร่าเริงสดใสเกินหน้าเกินตา

“เออดิ ใครจะเหมือนมึงหละ มีหญ้าอ่อนให้เคี้ยวเล่นตลอดเวลา เย็นนี้ว่างมั้ย”

“ไม่ว่างได้ไงเรื่องใหญ่ขนาดนี้”

“แสดงว่ามึงรู้เรื่องแล้วเหรอ”

“ก็เออสิ ไอ้หน่ามันเวิลวาย มึงไม่ต้องห่วง มึงห่วงตัวเองก็พอเมฆ“ตั้งแต่กินเด็ก ไอ้ไม้มันปากดีขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย

“เออ ขอบใจ แล้วเจอกันนะ เออ ไม้ๆ” ผมนึกอะไรขึ้นได้

“อะไร”


“มึงอย่าหักโหมให้มากนักนะ เค้าว่าการเสพย์เด็กเกินขนาดทำให้สมรรถภาพการประมวลผลในสมองต่ำลง แล้วเจอกันเว้ย” 55555555 เห็นมั้ยครับพี่เมฆ แม้จะอยู่ในสภาวะน้ำตาตกในแค่ไหน ก็ต้องหาเรื่องเพื่อนให้ได้ เอร้ยยย ต้องยิ้มให้ได้ครับ

“ทะลึ่งแล้วนะสาด เดี๊ยวกูไม่ช่วยระดมความคิดเลยนี่ ปล่อยให้มึงคิดสั้น ให้ไอ้ฉานกระทืบเล่นซะก็ดี”
“กูน่ารักขนาดนี้มึงทำไม่ลงหรอกไม้ แค่นี้นะแค่นี้ เหี่ยวหมดแล้วมั้ย เสียเวลาน้องเค้าต้องมานั่งปั่นให้ใหม่นะมึง”
“ไอ้เมฆ ไอ้........” ผมปิดโอกาสการบริภาษผมทางวาจาแต่เพียงเท่านี้












ทำไมการจะปกป้องคนที่เรารักเอาไว้ ถึงดูจะยุ่งยากขนาดนี้นะ หรือเป็นเพราะว่า คนที่จะปกป้องคือ “ผม”

ความน้อยใจก่อตัวมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ดีดีก็ตีตื้นขึ้นมา ทำให้รู้สึกว่าลำคอเริ่มตีบตัน เดี๊ยวนี้อ่อนไหวโครตจะง่าย
ทั้งๆที่กูก็ออกจะแมน ....ผมไม่ได้อยากจะเป็นฮีโร่หรืออะไร ก็แค่อยากจะเป็นผู้ให้บ้าง อยากจะเป็นคนปกป้องบ้าง ถึงแม้ความสัมพันธ์ทางพฤตินัยผมจะเป็นผู้รับมาโดยตลอด แต่ในการดำเนินชีวิตก็ควรจะต้องเจอกันครึ่งทาง มันก็ผู้ชาย ผมก็ผู้ชาย ในเมื่อมันปกป้องผมได้ ดูแลผมได้ แล้วมันก็เป็นแบบนั้นมาตลอด ก็แล้วทำไมผมจะเป็นผู้ปกป้องบ้างไม่ได้ ถึงผมจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องไอ้ฉาน แต่ผมก็ขอเป็นพี่ที่ได้ปกป้องน้องบ้างก็ยังดี

ร้านประจำร้านเดิมที่ผมคุ้นเคย และเป็นร้านเดียวกันกับสถานที่เกิดเหตุอาเพศครั้งนั้น เพียงแต่บรรยากาศภายในร้านวันนี้ เปลี่ยนไปกว่าที่เคย ที่นั่งในส่วนเอาท์ดอร์รอบๆสระน้ำ พนักงานเพิ่งจะขนโต๊ะขนเก้าอี้มาจัดวาง ทุกคนที่เดินไปมาในร้านดูวุ่นวาย แต่เป็นความวุ่นวายของพนักงานที่ต้องมาเตรียมของภายในร้าน ไม่ใช่ความวุ่นวายของลูกค้าแต่อย่างใด

เพราะ คงไม่มีร้านเหล้าร้านไหน เปิดร้านกันตอนหกโมงเย็นหรอกใช่มั้ยครับ

แล้วผมจะรีบมาหาพระแสงดาบคาบค่ายทำไม...ถ้าไม่ใช่มีคนคอยบงการชีวิตผมคนที่สอง

หลังจากที่คุยโทรศัพท์กับไอ้ไม้ ไอ้หน่าก็โทรเข้ามาเหมือนพวกมันนัดเวลากันไว้
ถ้อยคำประกาศิตสั้นๆ ที่ผมไม่มีโอกาสได้โต้แย้งหรือถามหาเหตุผลอะไร ไอ้คนสั่งมันก็วางไปเสียอย่างนั้น

“หกโมงเย็นห้ามสาย” นี่ตกลงคนร้อนใจยังเป็นผมอยู่!!!!! หรือเป็นมันกันแน่


ผมกวาดสายตามองหาไปทั่วร้าน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใคร เข้าข่ายเพื่อนผมเลยสักคน


ผมมันเชื่องเองแท้ๆ!! รู้ทั้งรู้ว่า ทุกครั้งที่นัดกัน ไอ้คำว่า “ ห้ามสาย” ไม่ได้มีความหมายมากไปว่าคำสร้อยที่เอามาห้อยไว้ในข้อความเฉยๆ กำลังจะมองหามุมเหมาะๆ นั่งรอ เด็กร้านคนนึงกวักมือผมเข้าไปหา

วันนี้เพื่อนพี่จองห้องคาราโอเกะครับ ออ!!!! ผมพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินไปทางห้องที่พนักงานคนนั้นบอก

เสียงโหยหวนดังมาจากห้องด้านในสุด คงเมามันส์กันมากจนลืมปิดประตู




ผมขอถอนคำพูดเรื่องมาสาย พี่เมฆผิดไปแล้ว แต่ยังไม่อยากตาย!!!
พันธมิตรผมนั่งเสนอหน้ากันอยู่แทบจะครบทุกชีวิต

ผมส่งรอยยิ้มที่เจื่อนที่สุดในชีวิตไปให้ มือที่แกว่งไปมาถูกยกมาเกาที่ท้ายทอยแก้เก้อ
“พวกมึงมากันนานแล้วเหรอ แล้วทำไมรีบมากันขนาดนี้อ่ะ” ผมถามทำลายความเงียบไปอย่างนั้นแหละ
ของกลางบนโต๊ะบอกให้รู้ว่า พวกมันคงล่วงหน้ากันไปสักพักแล้ว

“เออ ก็กูกลัวไอ้ฉานแมร่งมารับมึงเร็ว เลยรีบมาก่อน แต่ไอ้ไผ่มาไม่ได้นะ ติดธุระ” ไอ้หน่ารายงานตามหน้าที่แม่งาน(เสือก)เรื่องชาวบ้านที่ดี

“แล้วมันส่งวีทีอาร์มาแทนมั้ย”

“วีทีอาร์อะไรของมึงวะ” ไอ้แกละโพล่งออกมาด้วยความอยากรู้

“อ้าวกูเห็นเวลามีรายการทีวี แล้วดาราคนไหนที่มาไม่ได้ เค้าจะส่งวีทีอาร์มาแทนไม่ใช่เหรอ” ผมตอบคำถามหน้าซื่อตาใส

“ไอ้ฟายยยยยยยยย เดี๊ยวปล่อยให้ผัวซ้อมคนเดียวซะดีมั้ยไอ้เชี่ย กูนึกว่าอะไร” ก็นะ ผมผิดเองก็ได้ ปกติผมก็เครียดอยู่แล้ว มาเจอหน้าไอ้พวกนี้ ผมเครียดกว่าเดิมอีกเท่าตัว

พวกผมสุมหัวระดมสมองกันแบบตึงเครียดสุดๆ เป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีไม่รู้ ที่มิกซ์เซอร์ไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ ซัดกันแบบเพียวๆ ไม่ง้อมิกซ์เซอร์กันเลยก็ว่าได้ เครียดยิ่งกว่าเปิดคอนเซปส่งงานปลายเทอมไม่ผ่านเสียอีก

หลากหลายความคิดเห็นที่เสนอกันออกมา ทำเอาสมองผมด้านชาและตื้อตันไปในที่สุด นี่ตกลงคือผมมาเพื่อรับรู้แผนการอย่างเดียวเลยใช่มั้ย ทั้งๆที่เจ้าของโปรเจคคือผมแท้ๆ ประเด็นร้อน ถูกปรึกษากันมายาวนานจากที่ยังมองเห็นแสงอาทิตย์ของตอนกลางวันอยู่บ้าง แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด แม้แต่แสงของดวงจันทร์ แทบจะไม่ช่วยให้สว่างขึ้นสักเท่าไหร่เลย


“เฮ้ย อะไรนะ ไม่เอาอ่ะ กูไม่กล้า” ผมลุกขึ้นโวยวายทันทีที่ไอ้หน่า บอกมติความคิดเห็นในที่ประชุม
“เชื่อพวกกูเถอะเมฆ มันจะปลอดภัยกับตัวมึงเอง และพวกกูด้วย” ไอ้แกละช่วยกับสำทับความเห็นคนอื่นๆ

“ด้วยการให้กูบอกแผนนี้กับไอ้ฉานเนี่ยนะ พวกมึงคิดได้ยังง๊ายยยยยยยยยยยยยย” ขีดความโวยวายที่เข้าใกล้สาวแตกของผมพุ่งปรี๊ดประมาณขีดส้ม มันจะไม่สมจริงสมจังขนาดนี้ ถ้าไม่ได้น้ำเมาชั้นดีช่วยสนับสนุน

“เอาเหอะมึง ไอ้ฉานรู้แผน มันจะได้คอยช่วยเหลือมึงได้ พวกกูก็จะได้ช่วยได้อย่างมั่นใจ ไม่ใช่ช่วยมึงไปเสียวสันหลังไปนะมึง” ไอ้นทีปลอบไปลูบหลังผมไป ก่อนจะค่อยๆกดให้ผมนั่งลงอย่างเดิม

“แค่มันรู้ว่ากูไปทำอะไรเอาไว้ มันกระทืบกูตายตั้งแต่ยังไม่รู้แผนการณ์เลยมั้ย กูไม่กล้า กูทำไม่ได้”

“มึงทำได้ มึงก็ใช้มารยา อย่างที่มึงทำประจำนั่นแหละจะไปยากอะไร” ไอ้หน่าแมร่งรู้ดี กูเคยใช้มารยาซะที่ไหน ที่ผ่านมานี่มันหลงเสน่ห์กูเองล้วนๆ

“แต่มึงต้องบอก มันอันตรายเกินไปเมฆ มึงเสี่ยงเกินไป ไหนจะตัวมึงเอง ไหนจะน้องมึง คราวนี้นี่ตีกันตายแน่ๆ เชื่อกูเมฆ  พวกกูหาทางออกที่ดีสุดๆให้แล้ว” ไอ้หน่ามันยังขู่ผมไม่เลิก กูกลัวจนสั่นไปถึงปลายลำไส้ใหญ่แล้วสาด

“ไม่นะมึง กูทำเองก็ได้ แต่อย่าบอกไอ้ฉานตอนนี้ได้มั้ย ขอกูลองทำตามที่กูวางไว้ก่อนจะได้ไหม” ผมต่อรองแบบน่าสงสารสุดใจ ถ้านี่ผมเรียกเอฟเฟคน้ำตาไหลได้เหมือน ดารานะ ผมทำไปนานแล้ว

“ไม่ได้” ทุกเสียงประสานขึ้นพร้อมกัน ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม


กูไม่ใช่นักโทษประหาร พวกมึงอย่ามองหน้ากูแบบนั้นจะได้มั้ย!!!!!!!!!


“แต่เรื่องนี้ มึงต้องบอกไอ้ฉาน ไม่บอกไม่ได้” เป็นไอ้หน่าคนเดิม และมันก็ยังสั่งผมเหมือนเดิม




“บอกอะไร” ประตูห้องถูกเปิดออกมา พร้อมร่างของผู้ชายที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ในเมื่อห้องทั้งห้องเงียบกริบ



เงียบจนได้ยินเสียงสปาร์คของไมโครโฟน ซ่าๆ มาตามสาย คนที่ได้สติก่อนใคร ดันเป็นคนพิการชั่วคราวอย่างไอ้ไม้ ที่ลุกขึ้นเดินกระโผลกกระเผลก ไปลากไอ้ฉานมานั่งที่โซฟาได้ มือที่ไอ้แกละใช้ชงเหล้า สั่นจนมิกซ์เซอร์หกกระจายเรี่ยราด สติมันคงสั่งให้รินมิกซ์เซอร์ลงไปใหม่ แต่มือมันคงไม่สัมพันธ์กับสมองสักเท่าไหร่ สิ่งที่ลงไปแทนที่จึงเป็นน้ำสีอำพัน ไอ้นทีเปลี่ยนมือจะทำหน้าที่แทนไอ้คนที่ช็อคไป

“ไม่ต้องก็ได้ที  เอาแบบนี้ก็ได้ กูกินได้ “ ผมกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอไปอึกใหญ่ แบบนี้ที่ไอ้ฉานมัน “กินได้” ไม่ต่างอะไรกับเป๊บซี่ใส่น้ำแข็ง เพียงแต่แก้วนี้ไม่มีความซ่าของโซดาและน้ำก็สีอ่อนกว่า เหล้าเพียวถูกไอ้คนมาทีหลังสาดลงคอรวดเดียวไม่ต่างอะไรกับกินน้ำเปล่า แก้วถูกวางกระแทกลงไปยังที่เดิมที่มันเคยวาง


“ว่าไง มีใครจะบอกอะไรกู เห็นเถียงกันอยู่ตั้งนาน” ปากมันพูดเหมือนกับใครก็ได้ แต่สายตาสิครับ ล็อคสเปคมาที่ผมแบบเน้นๆ
“ก็ ......”ผมกำลังหาจุดเริ่มต้นว่าควรจะต้องตั้งต้นที่ตรงไหนดี


“::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::” เรื่องราวของผม   ย้ำ!!!!! ว่ามันคือเรื่องของผม



แต่คนที่ถ่ายทอดออกไปคือไอ้หน่า ในขณะที่ผมเองไอ้แต่ก้มมองมือตัวเองที่กำแก้วเหล้าเอาไว้แน่น หยดน้ำที่เกาะอยู่ข้างแก้ว ดูจะเป็นจุดสนใจเพียงจุดเดียว ที่สายตาของผมต้องการจะโฟกัส


ไอ้หน่าเล่าจบไปนานแล้ว แต่ทั้งห้องยังคงมีแต่ความเงียบ หยดน้ำข้างแก้วเริ่มรวมตัวกันจนกลายเป็นสายน้ำ คนที่ทนอึดอัดกับความเงียบไม่ไหวกลายเป็นผม ไม่มีอะไรในดวงตาของไอ้ฉานที่ทำให้ผมอ่านได้ว่ามันคิดอะไรอยู่ สายตาคู่นั้นว่างเปล่า

แปลกผมเคยคิดว่า สายตาเวลาที่ไอ้ฉานมันโกรธเกรี้ยว หรือเวลาที่มันโมโหอาละวาด คือสิ่งที่ผมหวาดกลัวที่จะต้องพบเจอที่สุด แต่ผมก็ยังผ่านตรงนั้นมาได้ ผมคิดว่าผมรับกับสถานการณ์ที่ไอ้ฉานเป็นแบบนั้นได้

แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่า ที่ผ่านพ้นมานั้นผมคิดผิด สิ่งที่ทำให้ผมหวาดกลัวมากที่สุด คือสายตาว่างเปล่า ที่มันส่งผ่านมาที่ผมในตอนนี้  ไม่มีร่องรอยแห่งความโกรธ ไม่มีแม้ความผิดหวัง หรือเสียใจ ไม่มีอะไรเลยสักอย่างที่บอกว่าคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่      

สิ่งที่ผมกลัวที่สุดไม่ใช่แววตาที่โกรธผมที่สุดอย่างที่เคยเข้าใจ


แต่เป็นแววตาที่ไม่มีแม้ผม อยู่เลยนั่นต่างหาก ที่มันกำลังบีบคั้นหัวใจผมจนปวดหนึบจนจะทนไม่ไหว


“ฉาน.......มึง” ไอ้ไม้เสี่ยงตายทำลายบรรยากาศ


“ก็ในเมื่อมันสิ้นคิดถึงขนาดยอมทำแบบนั้นได้ กูจะต้องพูดอะไรอีก มันบอกพวกมึงว่าเป็นเรื่องของมัน พวกมึงก็ต้องเคารพการตัดสินใจของมัน เหมือนที่เราพวกต้องเคารพการตัดสินใจของกันและกัน ในเมื่อมันต้องการอย่างนั้น ก็ปล่อยให้มันทำไป ตัวมัน มันยังไม่ห่วงตัวเองแล้วพวกมึงจะมาคิดแทนมันทำไม แค่นี้ใช่มั้ย กูเหนื่อยๆ วันนี้กูคงนั่งไม่ได้นะ กูขอตัวก่อนแล้วกันพรุ่งนี้ที่บ้านกูมีธุระตอนเช้า”.......................เสียงเรียบเรื่อยเอ่ยออกมาเป็นเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป


นี่สินะบทพิสูจน์ของทฤษฎีบท บทนั้น “สุดท้ายผมก็คือคนที่โง่ที่สุดในเรื่องของความรัก” จริง จริง

เหล้าในแก้วถูกผมสาดลงคอไปหมดแล้ว รสชาติและความร้อนที่ผ่านการหมักบ่มอย่างดี แล่นพล่านไปทั้งตัว
ไม่รู้แก้วหรือมือผมที่แกร่งกว่ากัน ถ้าแก้วไม่แตกสิ่งที่ต้องแตกก็คงจะเป็นมือผม

เสียงกระชากอะไรสักอย่าง  อย่างแรง  มันคงไม่ดังพอให้ผมต้องหันไปมอง ถ้าไม่มีเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นพร้อมกัน
ปลายคางไอ้ฉายโดนเสยไปด้วยน้ำมือเพื่อนที่พร้อมจะไปตายด้วยกันกับไอ้ฉานได้ในทุกโอกาส ก่อนที่จะถูกจับแยกจากคนที่เหลืออยู่ ไม่มีการโต้ตอบกลับเพื่อเอาคืนแต่อย่างใด ไอ้ฉานได้เพียงแต่ใช้ปลายนิ้วปาดเก็บหยดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก


ในขณะที่ผมทำอะไรไม่ได้ แม้แต่สายตาที่จะส่งไปด้วยความห่วงใย ผมยังไม่กล้ามอบให้ เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ สิ่งนั้นยังเป็นที่ต้องการอยู่มั้ย


“มึงก็รู้นะฉานว่ามันรักมึงขนาดไหน กูไม่เถียงว่าที่ไอ้เมฆมันทำ มันคิดน้อยไปหน่อย แต่มึงก็น่าจะเข้าใจในสิ่งที่มันทำ พวกกูบอกมึงเพราะต้องการให้เราช่วยกันคิดแก้ไข ไม่ใช่ให้มึงมาประชดใส่มันแบบนี้” ไอ้ไม้สะบัดตัวจากการจับกุมจากเพื่อนไว้ได้ กระชากไหล่ของคนที่กำลังจะหันหลังจากไปให้กลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง


“มันไม่ได้คิดน้อยหรอกไม้ แต่มันไม่ได้คิดอะไรเลยต่างหาก ถ้ามันคิดมันจะเอาตัวเข้าแลกแบบนั้นมั้ย มึงก็รู้ว่าไอ้เหี้ยนั่นเป็นยังไง มันก็เหมือนกับแมงเม่านั่นแหละไม้ เห็นก็เห็นอยู่ว่าข้างหน้ามีกองไฟ มันก็ยังจะบินเข้าไป แล้วกูจะทำอะไรได้ ถ้ามันต้องการความช่วยเหลือจากกู มันคงไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงทำอย่างนั้น ในเมื่อกูมันไม่มีค่าพอที่มันจะพึ่งพาได้ แล้วกูจะต้องทำยังไง มึงบอกกูมาสิไม้ ถ้าอยู่ๆเมียมึงยอมยกตัวเองให้คนอื่น ทั้งๆที่กูยังนอนอยู่ข้างๆมันแบบนั้นทุกคืน มึงจะต้องให้กูทำยังไง แค่นี้กูก็เจ็บเจียนตายแล้วไม้ กูคงไม่มีแรงไปปกป้องใครได้อย่างที่มึงเข้าใจหรอก”


“ก็เพราะแบบนี้ไงฉาน ก็เพราะว่ามันรู้ว่ามีมึงไง มันถึงกล้าตัดใจคนเดียวได้ เพราะมันรู้ว่าไม่ว่าจะยังไงมึงก็ยังอยู่ข้างๆมันมึงปกป้องดูแลมันมาตลอด มึงทนุถนอมมันจนมันเองรู้สึกอ่อนแอไม่มีค่า มึงทำเพราะมึงรักมันกูรู้ มึงดูแลมันก็เพราะรักกูก็รู้อีก แล้วในเมื่อมึงกับมันรักกัน แล้วทำไมไอ้เมฆมันจะรู้สึกอย่างนั้นบ้างไม่ได้ มึงอย่าลืมนะฉาน ยังไงไอ้เมฆมันก็เป็นผู้ชาย ต่อให้มันกับมึงเป็นอะไรกัน แต่สัญชาตญาณของผู้ชายก็ไม่ได้หายไปไหน มึงยังรู้ว่ามึงเองอยากปกป้องคนรักเอาไว้ตลอดเวลา แล้วมันจะแปลกอะไรถ้าเมฆมันจะอยากรู้สึกปกป้องคนที่มันรักบ้างเหมือนกัน ที่ผ่านมามึงปกป้องคนรักแค่คนเดียวยังจะแทบไม่ไหว แล้วนี่ไอ้เมฆมันต้องปกป้องคนที่มันรักถึงสองคน แล้วถ้ามึงไม่ช่วยมันจะเป็นยังไง ถ้ามึงคิดว่ามึงปล่อยมือไอ้เมฆได้ กูก็ไม่ว่า เมียมึงมึงตัดได้ แต่เพื่อนกู กูตัดไม่ได้หวะฉาน”

ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา นอกจากแผ่นหลังที่คุ้นเคยนั้น ค่อยๆห่างออกไปจนลับตา

เสียงไอ้ไม้ดังเข้าหูผมครบทุกคำ น้ำตาที่พยายามซ่อนปกปิดความอ่อนแอไม่ให้ไหล ผมก็ยังทำได้ไม่สำเร็จ น้ำจากทุกส่วนของร่างกายถูกส่งให้กลั่นออกมาเป็นน้ำตา ไม่มีเสียงสะอึกสะอื้นฟูมฟาย มีเพียงสายน้ำที่มันไหลออกจากหน่วยตาเท่านั้น

ผมจะต้องเดินไปข้างหน้าด้วยตัวของตัวเองเพียงคนเดียว ในเมื่อทุกอย่างเลวร้ายลงเพราะผม

ทุกอย่างมันเริ่มมาจากตัวผม แล้วจะแปลกอะไร  ถ้ามันจะจบลงที่ผมด้วยเช่นกัน

http://www.youtube.com/v/MBhRVmukl0w&amp;hl=en_US&amp;fs=1&autoplay=1

ฝืนกล้ำกลืนเก็บน้ำตา ปิดบังมันเอาไว้ แกล้งยิ้มให้เธอเข้าใจ ว่าทนได้อยู่
เก็บงำความเป็นจริงไว้ ไม่ให้เธอได้รู้ ว่าฉันจวนจะหยุดหายใจ
เพราะรักเธอจนหมดหัวใจ ให้เธอได้ทั้งนั้น ปวดร้าวที่เธอหมดรักกัน แต่ฉันจะรับไว้
ไม่ว่ากันถ้าวันนี้ เธอจะมอบใจให้ใคร ก็ให้มันเป็นไป…
.
.
.
ชีวิตที่เคยมีด้วยกัน มันคงจบตรงนี้ ถ้าเธอได้เจอทางที่ดี วันนี้จะทำใจ
ส่วนรักที่เธอให้กัน ฉันจะคิดว่าเป็นฝันไป ก็ให้มันเป็นไป…
จะขอยอม ปล่อยมือของเธอให้ไปเจอรักใหม่ (ตามแต่ใจของเธอ)
และจะไม่เรียกร้อง ฉันเกิดมาเพื่อยอมเธอเสมอ ทั้งหัวใจ
ก็คงไม่เหลือคำใดนอกจากขอให้เธอโชคดี
เมื่อเธอไม่เหลือฉันในหัวใจ จะดึงดันรั้งเธอไปก็เท่านั้น
ยอมทนเพื่อให้เธอได้พบเจอคนที่ฝัน แม้มันต้องเสียใจ ก็ไม่เป็นไร…


 
๐ ตอนนี้มาช้ามากกกกกกกกกกกก เพราะว่า “กลัวคนอ่านกระทืบหน้า” สลายตัวโดยไว :o12:
๐.....
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 09-07-2010 01:55:54
ชักจะไม่ชอบไอ้ฉานเเล้วล่ะ
สงสารเมฆอ่ะ

มาต่อเร็วๆ น๊าาา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 09-07-2010 01:56:49
http://music.gmember.com/player/html_playlist_member/swf/player_music.swf<play="true"/>


แปะเพลงให้นะ แล้วมันจะได้อารมณ์
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 09-07-2010 02:00:35
เฮ้ย!!!!! อย่าบอกนะว่าเมฆไปเสียตัวสังเวยให้ไอ่เห_รี้ยอาทมา
เพราะถ้าเมฆทำอย่างนั้นจริง................

ไรเตอร์ขอตอนใหม่ให้ไวเลยดั๊วะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 09-07-2010 02:02:37
ไม้พูดถูก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 09-07-2010 02:14:53
นอนไม่หลับ :m7:มาอ่านตอนดึ๊กดึก
แต่กรรม :z3:หนักกว่าเก่าอีก :angry2:
แต่เราเข้าใจฉานอ่ะว่าทำไม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-07-2010 02:33:52
แก้เพลงให้แล้วนะ ได้ยังเอ่ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 09-07-2010 03:14:35
อืม...................

อืม..............................

อืม........................................

อ่านแล้วก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะ....
เข้าใจในสิ่งที่เมฆพยายามทำ...
แต่ก็เห็นด้วยในสิ่งที่ ฉานพูด....
มันคงเจ็บปวด.....ที่ต้องรู้เรื่องราว ความคิดของคนที่เรารักที่สุด เป็นคนสุดท้าย.....
คงเจ็บปวด....ที่คนรักเห็นคุณค่าของตนเองน้อยกว่าที่เราเห็นเค้า.......

พี่เมฆไม่ได้โง่.....
แต่พี่เมฆ คิดไม่ลึกเท่าพี่ฉานมั้ง...เราว่านะ.... 

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด   ปวดจวย   :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 09-07-2010 04:08:16
ืขัดใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 09-07-2010 07:31:09
เข้าใจ ว่าใครจะปล่อยให้คนรักของตัวเอง ไปกลับคนอื่นได้

หาทางออกที่ดีให้กับพี่เมฆใหม่ดีกว่าครับเพื่อนๆ และพี่ฉานด้วย


แต่ถ้าเรื่องจะเป็นไปแบบที่พี่เมฆคิดไว้ ก็น่าจะสนุกดี



 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:



 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 09-07-2010 07:50:36
 :m15: :m15: :m15: :m15:

ไม่ไหวแล้วววว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 09-07-2010 08:01:19
เราว่าเราเองเข้าใจทั้งเมฆและฉานนะ ในด้านของเมฆ คือยากจะปกป้องคนที่ตัวเองรัก อยากทำแบบนี้บ้าง
เพราะตลอดเวลาได้รับการปกป้อง และทะนุดถนอมจากฉานตลอดและทุกเวลาฉานก็ไม่เคยให้เมฆต้องเสียใจ
และเขาจะเป็นผู้นำเสมอ แก้ปัญหาทุกอย่งด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้เมฆไม่สบายใจ เมฆก็อยากทำแบบที่ฉานทำบ้าง
แม้ว่าสิ่งที่ทำอาจจะไม่ฉลาดเลย แต่เพื่อคนที่รักเราก็อาจต้องยอม เพราะเมฆเชื่อว่ายังไงฉานพร้อมจะให้อภัย และจะปลอบโยนตัวเอง
ในด้านของฉาน มันเหมือนถูกตีแสกหน้าอย่างแรง การที่คนที่เรารัก ไม่เชื่อใจ การที่คนที่เรารัก ไม่แม้แต่จะปรึกษาปัญหาต่างๆที่เขาพบ
มันเหมือนกับการที่คนใกล้ตัวไม่เชื่อใจว่าเราจะเป็นที่ปรึกษาได้ และปกป้องเขาได้ สำหรับฉานคงคิดแบบนี้
ความว่างเปล่านั้น สำหรับฉาน คือการมองว่าคนรักมองตัวเองไม่มีค่า แต่ก็ชอบที่ไม้พูด เพื่อนกูตัดไม่ได้ ชอบเพื่อนกลุ่มนี้นะ เพื่อน
มีปัญหาก็ไม่เคยทิ้งกัน มิตรภาพยังคงมีไม่เสื่อมคลายเลยอะ อยากให้ฉานเข้าใจเมฆนะ และอยากให้อีกคนน้องอันดา เข้าใจเหมือนกัน
ว่าวสันดารผู้ชายเลวๆๆบ้างครั้งน่าเกลียด เชื่อที่พี่รักและห้ามนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 09-07-2010 08:16:26
ขอบคุณคนแต่งคนโพส
ตอนนี้เศร้าจนคอมเม้นท์ไม่ออก
ต่างคนต่างคิดยังรักกันอยู่หรือเปล่า
ฉานเป็นผู้นำหนักแน่นหน่อยจะมาทำใจน้อยไรตอนนี้
โกรธก็ขืนใจเมฆน้อยใจก็เดินจากไป
ฉานเห็นเมฆเป็นไรเหรอ
คนรักหรือคนรองรับอารมณ์
นี่หรือฉานแสงของเมฆ
น่าผิดหวัง :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-07-2010 08:19:12
ไรเตอร์คะ...ไหนว่าไม่เครียดไงล่ะ :monkeysad:
ฮือออ...เข้าใจพี่เมฆ แต่ก็เข้าใจเฮียฉานเหมือนกันนะ
อย่าเป็นแบบนี้เลย อึดอัด สงสารตัวเอง เอ๊ย สงสารพี่เมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 09-07-2010 08:21:44
เริ่มเครียสแล้วอะ

ไม่ชอบเลยอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 09-07-2010 08:23:55
บวกหนึ่งให้ฉานเมฆผ่านอุปสรรค
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 09-07-2010 08:41:10
ขอเวลาให้พี่ฉานหน่อยนะ  ตอนนี้พี่ฉานกำลังน้อยใจสุด ๆ ที่เรื่องสำคัญขนาดนี้พี่เมฆไม่ยอมบอก
แล้วพี่ฉานจะได้คิดเองว่าที่พี่เมฆทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ารักพี่ฉานมากนั่นเอง
....  อยากมีเพื่อนได้แบบนี้จัง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 09-07-2010 09:07:27
ฟังเพลงนี้แล้วอ่านตอนนี้ไปด้วย มันช่างเจ็บปวดจี๊ดในใจดีเหลือเกิน  :m15:

รู้สึกเจ็บแทนน้องฉาน แล้วก็เข้าใจความรู้สึกของน้องเมฆ  :m15:

เฮ้ออ ตอนนี้มันเครียดมากๆเลยง่ะ อยากเห็นดวงตะวันกลับมาให้ความอบอุ่นกับก้อนเมฆเหมือนเดิมเร็วๆจัง  :เฮ้อ:

 :L2: :L2: :L2:

แต่ตอนนี้ บทพระเอกขอยกให้น้องไม้เต็มๆ สุดยอด!

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 09-07-2010 09:10:09
ฮึก ฮึก  :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 09-07-2010 09:23:40
อยากจะบอกว่าเข้าใจทั้งสองคน....
พี่เมฆ...ยังมีสัญชาติญาณการปกป้องคนที่ตนรัก...
ส่วนคุณชายฉาน...เกิดภาวะน้อยใจคิดว่าตนไม่น่าเชื่อถือพอ
ที่คนรักจะพึ่งพาได้....
แต่สุดท้าย....ด้วยความรักผูกพันธ์ทั้งสองก็ต้องมาร่วมใจกัน
แก้ไขปัญหาในครั้งนี้ให้ผ่านไปได้....
ความจริงไอ้อาทน่ะ...มันแค่เรื่องจิ๊บ ๆ ผลัดกันกระทืบคนละที
ก็เรียบร้อยแล้ว.....ส่วนน้องอันดาก็จัดฉากให้เห็นความชั่วของมันก่อน
รับรองอันดาไม่ร่วม  :beat: :z6: ให้มันรู้ไป...

 :L1: :L2: คนแต่ง กะ คนโพส ค่ะ
กด + ให้กำลังใจนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 09-07-2010 09:44:32
ในสถานการณ์อย่างนี้เราเข้าใจพี่ฉานนะ ของของใครใครก็หวง ไม่รู้นะแต่เราคิดว่าคนที่ทรมานที่สุดตอนนี้คือพี่ฉาน
พี่เมฆอาจจะคิดว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วเพื่อปกป้องคนที่ตัวเองรัก ถ้าพี่เมฆไม่ใช่แค่คิดแต่ทำแบบนั้นจริงๆ
ผลออกมาคือการทำรายคนที่รักพี่เมฆมากให้ตายทั้งเป็น แทนที่พี่เมฆจะปกป้องใครไดด้แต่กลับทำร้ายจิตใจกัน
 :o12: :o12: :o12:อ่านตอนนี้แล้วทรมานใจจังสงสารพี่ฉานมาก

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 09-07-2010 10:11:00
สรุปแล้วพี่เมฆไปทำอะไรไว้คะเนี่ย?
อ่านแล้วก็ปวดใจทรมานจริงๆๆๆๆ
ทำไมเค้ารู้สึกสงสารฉานก็ไม่รู้ซินะ....
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 09-07-2010 11:03:31
ฆ่าชั้นซะดีกว่า อย่าทำแบบนี้กันเลย เฮ้อ  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 09-07-2010 11:08:01
 :serius2: อ๊าคคคคคค  ทำไมบีบคั้นหัวใจคนอ่านเยี่ยงนี้  แงๆๆๆๆๆๆ  :sad4: :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 09-07-2010 11:15:19
อ่านแล้วก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะ....
เข้าใจในสิ่งที่เมฆพยายามทำ...
แต่ก็เห็นด้วยในสิ่งที่ ฉานพูด....
มันคงเจ็บปวด.....ที่ต้องรู้เรื่องราว ความคิดของคนที่เรารักที่สุด เป็นคนสุดท้าย.....
คงเจ็บปวด....ที่คนรักเห็นคุณค่าของตนเองน้อยกว่าที่เราเห็นเค้า.......

พี่เมฆไม่ได้โง่.....
แต่พี่เมฆ คิดไม่ลึกเท่าพี่ฉานมั้ง...เราว่านะ.... 


กรี๊ดดดดดดดดดด....ดาวพระศุกร์หายไปไหนม๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา......... :กอด1:

มาแล้วก็เม้นซะกระแทกใจ.... :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 09-07-2010 11:29:18
คือ . . . ตอนนี้ฉานยังเป็นดวงตะวันให้พี่เมฆอยู่มั๊ย
พี่ฉานก็น่าจะรู้ดีว่าพี่เมฆทำแบบนี้เพราะอะไร
ไม่ใช่คิดน้อยไปหรือมากไป
แต่ที่ทำได้ เพราะรัก และอยากปกป้องคนที่เรารักนิ

หวังว่า ตอนหน้า พี่ฉานจะกลับมาเป็นดวงตะวันของพี่เมฆเหมือนเดิม   อยู่ข้างๆพี่เมฆ เหมือนเดิม
 :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 09-07-2010 11:39:07
ตามอ่านเรื่องนี้มาตลอด  ฉานกับเมฆ
จากเพื่อนกลายเป็นคนรัก  รักจนอยากปกป้องซึ่งกันและกัน
รักจนเหตุผลหลายๆ อย่างถูกแทนที่ด้วยอารมณ์

ความผิดพลาด  พลั้งเผลอ  ความกลัว ความไม่เข้าใจ  ขาดการไตร่ตรองในทุกแง่
เป็นรื่องจริงๆ ของคน  เมื่อใช้ความรู้สึกมาเป็นตัวตัดสิน

อยากเห็นทางออกของทั้งคู่ว่าจะเดินต่อไปยังไงนะค่ะ
 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 09-07-2010 12:09:37
เข้าใจครับว่าต้องการจะปกป้อง แต่วิธีปกป้องมันมีตั้งหลายวิธีที่ไม่ต้องเอาตัวเข้าแลกไม่ใช่หรือ
เอ๊ะ หรือยังไม่ได้แลกหว่า
แต่คาดว่าที่สถานการณ์มันออกมาเป็นแบบนี้ แสดงว่าไอ้อาทมันต้องได้ "ซาบราดาฮึ๊บ" กับเมฆมาแล้วแน่ๆเลย  :m31:
เมฆหนอเมฆทำอะไรไม่นึกถึงจิตใจพี่ฉานเล้ยยยย ถ้าผมเป็นฉานผมต้องรู้สึกว่าคนรักไม่ได้ไว้ใจผมบ้างเลย ถึงไม่ยอมเอาปัญหามาเล่าให้ฟัง  :o12:

ขอบคุณไรท์เตอร์กับคนโพสมากๆเลยครับ รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะครับผม  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 09-07-2010 13:13:03
 :เฮ้อ: เห็นใจพี่ฉานจริงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: blackboy ที่ 09-07-2010 14:27:37
สงสารทั้งพี่เมฆและก็ฉาน
แต่ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของทั้งสองคน 5555
แต่จะให้ทำไงล่ะเนอะต่างคนต่างความคิดยากที่จะอธิบายให้เข้าใจความรู้สึก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 09-07-2010 16:53:42
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 09-07-2010 17:09:29
สงสารเมฆจัง พี่ฉานก็ด้วย เพราะอิตาอาทคนเดียวเลย  :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 09-07-2010 19:05:31
อ่านแล้วก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะ....
เข้าใจในสิ่งที่เมฆพยายามทำ...
แต่ก็เห็นด้วยในสิ่งที่ ฉานพูด....
มันคงเจ็บปวด.....ที่ต้องรู้เรื่องราว ความคิดของคนที่เรารักที่สุด เป็นคนสุดท้าย.....
คงเจ็บปวด....ที่คนรักเห็นคุณค่าของตนเองน้อยกว่าที่เราเห็นเค้า.......

พี่เมฆไม่ได้โง่.....
แต่พี่เมฆ คิดไม่ลึกเท่าพี่ฉานมั้ง...เราว่านะ.... 


กรี๊ดดดดดดดดดด....ดาวพระศุกร์หายไปไหนม๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา......... :กอด1:

มาแล้วก็เม้นซะกระแทกใจ.... :monkeysad:



ไป จีน มาพี่.... 
ช่วงนี้ ชีพจรลงเท้าเดินทางไปทั่ว....   
พอกลับมาอ่าน..ก็เจอเจอ มาม่าเลย    :z3:   คุณน้อง ปวดจวยยยยยยยยยย
ขอตอนใหม่มาแก้ร้อนในกระหายน้ำด่วนเคอะ...    :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 09-07-2010 19:14:05
พี่ฉาน คงไม่ปล่อยให้พี่เมฆ เดินลำพังแน่นอน  :กอด1:

แต่ตอนนี้ เศร้า อะ ฮือๆๆๆ :L2:

ขอตอนหน้าด่วน o13 :bye2:

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: posshiza ที่ 09-07-2010 19:47:17
 o22 o22 o22
ท่านฉานใจเย็น ๆ ก่อนค่อยพูดค่อยจากันนะ
แค่นี้พี่เมฆก็เคลียดจะแย่อยู่แล้ว เฮ้อๆๆๆ
แต่ก็เชื่อว่ายังไงฉานก็ไม่ทิ้งพี่เมฆอยู่แล้ว
คงงอนที่พี่เมฆไม่มาปรึกษาตัวเองก่อนตัดสินใจจะทำไร
ก็เลยพาลโกรธไปยังงั้นล่ะ ส่วนพี่เมฆก็ใจเย็น ๆ นะ
รู้ว่าอยากปกป้องคนที่ตัวเองรัก จะทำอะไรก็คิดดูดี ๆ นะ
เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนนะ

ปล.วันนี้เฮียไม้เท่ที่สุดเลยอ่ะ ขอกอกที่ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 09-07-2010 21:49:55
ง่ะ
แบบว่าเข้าใจเมฆกะฉานนะ เำพราะต่างก็รักกันมาก คิดถึงความรู้สึกและห่วงอีกคนก่อน
แต่เราควรจะถามเค้่าด้วยไม่ใช่คิดแทน
รักกันก็ตอ้งพูดคุยให้เข้าใจกันด้วย ถึงจะรักกันยาววววว อย่างมีความสุข
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 09-07-2010 23:22:34
ง่ะ

อ่านแล้วเศร้า

ดีกันไวๆๆๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 09-07-2010 23:32:15
หวังว่า ความรักจะช่วยให้สองคนหันหน้ากลับมาคุยกันดีๆ นะ แบบนี้มันปวดใจ  :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 09-07-2010 23:42:49
จริงๆสถานการณ์ยังไม่ได้เลวร้ายมากขนาดนั้นนะ เพราะอย่างน้อยถึงพี่เมฆจะตีบตัน หาทางออกได้ไม่ดี
แต่ว่าพี่เมฆก็ไม่ได้คิดทำอะไรคนเดียวซะหน่อย ฉานจะโกรธจะน้อยใจ หรือจะอะไรก็คิดดูดีๆแล้วกัน
แต่ตอนนี้ไม้พูดได้ใจเรามาก ปลาบปลื้มจริงๆ กินเด็กแล้วสมองไบรท์นะเนี่ย  :laugh:

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 10-07-2010 01:42:26
 o13 ไม้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 10-07-2010 13:12:05
ตอนนี้มันเครียดอ่ะ

สงสารทั้งพี่เมฆ ทั้งพี่ฉาน

ขอให้ปัญหาต่างๆผ่านไปโดยไว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 10-07-2010 21:58:09
อ่านแล้วเครียดจังเลย
สงสารท่านฉาน กับเมฆมากมายเลย
ขอให้ความรักของทั้งคู่ช่วยผยุงทั้งสอง
ให้ก้าวเดินต่อไปด้วยกันดีดีนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 11-07-2010 00:42:59
เง้อ เศร้าจังเลย
เราเห็นด้วยกับไม้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 11-07-2010 11:53:11


 :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 11-07-2010 14:45:44
รอตอนต่อไปขอรับ :กอด1:
เศร้าได้อีกตอนนี้ :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: katarena ที่ 11-07-2010 17:08:12
อะ.. อึก.. โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ T^T
งานนี้ไม่มีใครผิด ทุกคนมีสิทธิคิด และเลือกทางที่ตัวเองคิดว่าถูกต้องที่สุด
เข้าใจ.. ว่าไม่มีทางใดที่ถูกต้องที่สุด
แต่.. ก็ไม่อยากให้มันเศร้าอย่างนี้นี่คะ โฮๆๆ
งานนี้เจ็บกันทุกคน ยกเว้นไอ้ตัวร้ายที่มันก่อเรื่องเอาไว้
กรี๊ด... รับมะได้
ถ้ามันมีปัญหามากนัก ก็บอกๆน้องเค้าไปเถอะ อึดอัดเหลือเกิ๊น
เฝ้ารอตอนใหม่ อย่างใจจดใจจ่อ - -
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 11-07-2010 18:51:10
ขอตอนต่อไปด่วนๆๆ เจ้

มันค้างอ่ะ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: rero ที่ 11-07-2010 18:55:19
อ่านแล้วสงสารฉานจริง ๆ เจ็บปวด
ที่เมฆไม่เห็นความสำคัญ ทั้ง ๆที่ฉานก็แสดงออก
ว่ารักมากขนาดไหน...เวลาที่ผ่านมาไม่สำคัญเลยเหรอ..

สงสาร... :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Miz ที่ 11-07-2010 21:45:56
หลังจากหายไปนาน เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เริ่มอ่าน หวังว่า ไรท์เตอร์จะรักษาคำพูดที่ว่า เน้นฮานะ  o18
ตอนล่าสุดนี่ ขอไม่นับแล้วกัน คิดซะว่าขวากหนามเล็กน้อย แล้วจะรอตอนต่อไปนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 11-07-2010 22:35:20
คนเขียนหาย คนโพสเซงค่ะ ตอนนี้คนโพสไม่อ่าน ทำใจไม่ได้ แบบว่ารักน้องฉาน  :z10:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 11-07-2010 22:37:35
 :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: www.maxdevil ที่ 11-07-2010 22:40:15
ตามทันสักที ....

เป็นตอนที่เจ็บปวดมาก ๆ สงสารเมฆจัง  ให้กำลังใจอยู่น่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 12-07-2010 06:48:18
เหนื่อย กว่าจะตามทันอ่านเรื่องนี้

สงสารใครดี เกลียดมัน สักทีกะทั้งพี่น้องเลยนะ
  :z6:

 :pig4: รอมาอ่านต่อน้าค๊าฟฟฟฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 12-07-2010 19:28:45
สงสารฉานอ่ะ คงจะเสียใจน่าดู  :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 12-07-2010 21:20:17
แล้วทำไมกรุต้องมาอ่านค้างตอนนี้ด้วยวะเนี่ย  :serius2: :serius2:
โอ๊ยยยยยยยยยย ลุ้นๆๆๆ ต่างคนต่างผิดนะงานนี้ ไม่มีตัวช่วย แง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 12-07-2010 23:20:48
เฮ้อ....เศร้าใจอ่ะ แง้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 13-07-2010 00:28:51
เครียด นอนไม่หลับมาหลายคืนล่ะ  :เฮ้อ:

เมื่อไหร่เมฆกับฉานจะมาเคลียร์กันให้รู้เรื่องซะทีง่าา  :เฮ้อ:

 :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 13-07-2010 10:00:46
^
^
เราว่านะ ถ้าคนนี้มาทวง วันนี้ต้องได้อ่านเมฆฉานแน่ๆ....ชิมินุ้งเซ  o18...
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 13-07-2010 17:43:42
เซยังไม่มีต้นฉบับมาเลย รอหน่อยนะ คนเขียนแจ้งมาแล้วว่าเขียนอยุ่ได้ครึ่งทางแระ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 13-07-2010 19:15:09
จะรอครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 13-07-2010 20:15:43
สวัสดีค่ะ

เพิ่งเริ่มอ่านเมื่อคืน และพอได้อ่านก็หยุดไม่ได้เลยยยย บรรยายได้น่ารักมากๆ ชอบเมฆบรรยายอ่ะ ตลกได้ใจดีจริงๆ แสดงอารมณ์ห่ามบวกฮาตามประสา ผช อ่ะเนอะ ส่วนฉาน เป็นชื่อแปลกแหวกแนวดีมาก ถ้า ฉาย นี่ไม่แปลก 5555 แต่ก็ชอบมากเลยค่ะ ผช อย่างฉานเนี่ย บอกตามตรง ชอบบุคลิกและสไตล์มาก (ยิ่งบอกว่า หล่อ คิ้วเข้ม หน้าคม มีลักยิ้ม โอ้ยยยย ละลายยยย อยากหาอิมเมจมากกกกกๆๆ อิอิ) นิสัยก้อเป็นคนตรงได้อีกเนอะ อย่างที่เมฆบอก ยิ่งกว่าไม้บรรทัด 5555 แต่เป็นคนที่เดาง่ายมากเลย คือ หมายถึง เป็นคนที่แสดงออกสุดๆ ชอบจัง ฉานดูรักกกก รักกกก เมฆมากๆ แต่ไอ้อาการหึง หวง สุดๆนี่ แอบน่ากลัวน ถ้าเราปนแฟนเราคงดีใจอ่ะ ที่เค้าดูรักขนาดนั้น หวงขนาดนั้นยิ่งตอนที่เมฆหายไป แล้วฉานตามหานะ สุดยอดอ่ะ ไม่คิดว่าจะมีใครรักกันได้มากขนาดนี้ แต่ตอนหึงนี่ก้อไม่ไหว มากมาย หวงนี่ไม่ต้องพูดถึง


คุณคนเขียนจ๋า ตัดจบได้ตอนที่ลุ้นสุดๆพอดี เจ็บปวดใจแทนเมฆอ่ะ เข้าใจเมฆนะ แต่ฉานอ่ะ รู้ว่าคิดมากเรื่องเมฆตลอด แต่ทำไมตอนนี้กลับคิดน้อยวะ ไม่เข้าใจ ต้องมาข่วยเมฆนะเว้ยยยยยย สงสารเมฆมากกกกกก  อิอาทก็เป็นบ้าอะไร ไปตายไป๊ แอร๊ยยยยยย อินนนนนนนนนนน



มาต่อเร็วๆนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้มากๆ คนอ่านรออ่านเพียบ!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 41] 9 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 14-07-2010 00:55:09
คำพูดฉานเชือดเฉือนใจน้องเมฆดีจริง ๆ 
แต่ก็เห็นใจฉานนะ  เราเป็นที่พึ่งพิงที่ปรึกษาของคนรักไม่ได้เชียวเหรอ
ยิ่งสิ่งที่เมฆทำ ยอมเอาตัวเข้าแลกแบบนี้  คิดดูว่าใจฉานมันจะเจ็บปวดขนาดไหน เสียใจมากขนาดไหน
ถึงจะพูดเหมือนตัดหางปล่อยวัด ไม่ดูดำดูดี แต่สุดท้ายยังไงฉานก็ทำไม่ลงหรอกต้องช่วยเมฆอยู่ดี

แต่ชอบนะที่ฉานพูดแบบนี้(เชื่อว่า ฉานก็ไม่ปล่อยให้เมฆไปเผชิญชะตากรรมคนเดียวหรอก)  ไม่รู้สิดีกว่ามาปลอบโยนเมฆตั้งเยอะ  ไม่งั้นเมฆก็จะไม่ได้เรียนรู้ ได้บทเรียนจากเรื่องราวครั้งนี้

-คนอ่านเกรียน ๆ กรากกก-
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 14-07-2010 01:07:59
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 42

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)
เสียงสวบสาบดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอเมื่อผมก้าวเท้า คนข้างหน้าเดินห่างออกไปไกลทุกที สองขาที่ทนย่ำบนกรวดหินสลับใบไม้แห้งมานานจนเริ่มอ่อนล้า แต่ทว่าคนที่เดินนำผมอยู่ข้างหน้านั้นไม่มีวี่แววว่าจะเหนื่อยล้าแต่อย่างใด สองข้างทางเป็นป่าทึบ แสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาน้อยเต็มที ผมรู้เพียงแต่ว่าจะต้องออกไปจากที่นี่ หมอกขาวและความมืดค่อยๆเข้ามาใกล้ แสงที่ส่งผ่านม่านใบหนาของต้นไม้ในป่ารกชัฎ เริ่มจางหายลงไปทุกทีๆ ความหวาดกลัวเข้ามาเกาะกุมหัวใจ สมองสั่งให้ขาก้าวตามคนที่อยู่ข้างหน้า แต่เรี่ยวแรงของสองขาแทบไม่มี


“ฉาน ฉาน รอกูด้วยฉาน อย่าทิ้งกูไว้ในนี้ กูกลัว ฉาน ฉาน “







“พี่เมฆค่ะ พี่เมฆเป็นอะไร ตื่นไหวมั้ยเนี่ย ไม่ไหวก็ต้องไหวนะ” ผมลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก เปลือกตาทั้งคู่ยังรู้สึกหนักอึ้ง สะบัดหัวสองสามครั้งไล่ไอ้อาการปวดตุบๆ ที่แล่นริ้วไปตั้งแต่ขมับถึงท้ายทอย อันดากำลังจ้องตาอยู่กับผม สายตาที่ควรจะโกรธผม กลับมองมาด้วยความห่วงใย ผมกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอด้วยความยากลำบาก

“อันดา” ผมเรียกชื่อคนตรงหน้า เรียกเพื่อให้มั่นใจ ว่าผมตื่นแล้ว ไม่ได้ฝัน

“ค่ะ อันดาเอง พี่เมฆเป็นอะไร แม่นิ่มให้มาปลุก อันดาเห็นพี่เมฆนอนกระสับกระส่าย เหงื่อก็ไหล ทั้งๆที่แอร์เย็นจะตาย”

“อันดาไม่โกรธพี่เหรอ” สีหน้าผมคงสลดจนอันดารู้สึกได้ เพราะน้องอึ้งไปตอนที่ผมถามคำถามนี้จบ

“โกรธเรื่องอะไรค่ะ เรื่องพี่อาทเหรอ โกรธสิ แต่อันดาแยกแยะได้ พี่เมฆไหวมั้ย ลุกไปอาบน้ำ ถ้าอันดาไม่ได้คอร์สเรียนสดนะ แม่บ่นหูชาแน่ๆ”

 ฉิบหายแล้วไอ้เมฆ มึงต้องพาน้องไปสมัครเรียน!!! ผมดีดตัวลุกขึ้นแบบไม่ต้องรอเครื่องร้อน ถ้ากระโดดแล้วเข้าถึงห้องน้ำได้ ผมจะไม่รีรอเลย เสียงอันดาบ่นตามหลังมา แต่วินาทีนี้ใครหละจะสนใจ

น้ำจากฝักบัวที่เปิดระดับแรงสุดเท่าที่จะแรงได้ ทำให้สมองที่ตีบตันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง นิดหน่อย เมื่อคืนผมเมา สติสุดท้ายจำไม่ได้แม้กระทั่งว่า ตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องตัวเองได้ยังไง คิดไปถึงไอ้คนใจร้าย มันเดินจากไปแบบไม่คิดจะมองกลับมาหาผมอีกเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกไอ้ฉานทิ้งไว้เบื้องหลัง มันก็คงจะสมกันแล้วกับความโง่และสิ่งที่ผมตัดสินใจทำลงไป ผมเข้าใจไอ้ฉาน และผมก็คาดหวังว่าไอ้ฉานจะเข้าใจผม....เหมือนที่เคยเข้าใจ


แต่ผมคงหวังมากเกินไป เพิ่งรู้ว่าตกจากที่สูง เจ็บได้ขนาดนี้

ออกมาจากห้องน้ำ ก็ไม่เจอกับอันดาแล้ว คงลงไปรออยู่ข้างล่าง ครีมบนโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ไม่เคยสนจะใส่ใจ ถูกผมจับมาวางเรียงกันแล้วใช้สองนิ้ว คว้านมากระปุกละปื๊ดสองปื๊ด เพื่อนแม่นิ่ม น้าพิมแม่ไอ้ฉาน หรือใครๆก็ตามมักจะซื้อมาฝากผมเสมอ ถ้ามีโอกาสได้ไปต่างประเทศ ผมเคยมองของพวกนี้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ทีไอ้ฉานมันมักจะได้อะไรๆ ที่ผู้ชายเค้าได้เป็นของฝากกัน แต่สำหรับผมแล้วไม่น้ำหอมก็เครื่องสำอาง ....เค้าจะรู้มั้ยว่าผมอึดอัดใจแค่ไหน

“อ๊ากกกกกกกกก กูเป็นผู้ชายนะเว้ย แล้วนี่อะไรวะ ครีมทาใต้ตา รกแกะพอกหน้า เฮ้ยยย กูอยากตาย” บ่อยครั้งที่ผมคลุ้มคลั่งหลังจากรับของฝากจากมือผู้ใหญ่ แรกๆไอ้ฉานก็หัวเราะจนตัวงอที่ผมได้ของฝากสาวแตกอะไรแบบนี้ นานๆไปมันก็ชินแต่ผมยังคงคลุ้มคลั่งเสมอต้นเสมอปลาย


ครีมมากกว่าสี่ห้ากระปุกซึ่งผมไม่รู้ว่าสรรพคุณมันมีดีด้านไหนบ้าง แต่จะสนใจไปทำไม ดีไม่ดีพี่เมฆก็กำลังพิสูจน์ให้ได้รู้กันอยู่นี่ไง ถ้ามันดีจริง มันต้องช่วยให้หน้าโทรมๆที่ส่งผลมาจากเหล้าเมื่อคืน ให้สดใสเด้งดึ๋งขึ้นมาได้ทันใจแน่ๆ สองฝ่ามือกำลังประสานครีมสี่ห้าชนิด ต่างที่มาและคงจะต่างส่วนผสม ให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนชโลมไปทั่วหน้า

“เชี่ย ครีมรัยวะ เหนียวฉิบหาย พวกผู้หญิงแมร่งทาเข้าไปได้ยังไง นี่ถ้าไม่เสี่ยงกับสายตาต่อว่าจากแม่นิ่ม และสายตาผิดหวังของสาวๆแถวสยามนะ จ้างให้พี่เมฆก็ไม่มีวันแตะเด็ดขาด” เซตผมให้เข้าที่ พร้อมดูความเรียบร้อยของตัวเองอีกที ปกติก็ไม่พิถีพิถันอะไรนักหรอก แต่เพราะอะไรๆมันรู้สึกได้ว่าไม่เต็มที่ เลยต้องดูแลตัวเองมากกว่าปกตินิดหน่อย

เสียงเจื้อยแจ้วของสองสาวต่างวัยดังมาจากโต๊ะกินข้าว กลิ่นข้าวต้มหอมฉุยลอยมาเตะจมูกแต่เช้า แต่จะมีความหมายอะไร ในเมื่อตอนนี้ผมแฮงค์อยู่ ถ้ากินไปนี่มีหวังกระชากอ๊วกกลางทางแน่ๆ

“อ้าวพี่เมฆ มากินข้าวก่อนลูก เหลวไหลใหญ่แล้ว เมื่อคืนกว่าจะกลับก็ค่อนเช้า แล้วนี่ขี้เซาน้องต้องไปปลุก จะกินอะไรให้เมาขนาดนั้นละลูก” ผมนั่งลงฝั่งขวามือของแม่นิ่ม ฝั่งซ้ายของแม่เป็นอันดา ที่นั่งยิ้มส่งแววตาล้อเลียนมาให้ผมอยู่

“แม่ครับ เมฆกินข้าวไม่ไหว ขอกาแฟเข้มๆแทนดีกว่านะ” ผมส่งแววตาออดอ้อนน่าสงสารไปเต็มที่ ความพยายามที่ทุ่มเทไป ได้เป็นค้อนแบบไม่จริงจังเท่าไหร่ส่งกลับมา

“ไหวมั้ยเนี่ยพี่เมฆ วันนี้พี่ฉานเค้ามีธุระนะไปไม่ได้ เราต้องควงกันไปสองคนนะ ไหวมั้ย” ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าผมรู้อยู่แล้ว แต่ทำไมเวลาได้ยินทีไร มันอดที่จะรู้สึกวูบโหวงอยู่ในช่วงอกไม่ได้สักที

มือที่วางบนหน้าตัก ค่อยๆกำขากางเกงตัวเองไว้แน่น เตือนตัวเองให้เข้มแข็งเอาไว้
ยิ้มที่ส่งไปให้อันดาแม้จะรู้ว่ามันต้องฝืน แต่ผมก็ต้องทำให้ได้ ในเมื่อผมเลือกเองของผมเอง
“ไม่เป็นไรนี่ เรานั่งแท็กซี่กันไปก็ได้ ดีซะอีกแถวนั้นหาที่จอดรถยากจะตาย”ผมส่งความมั่นใจไปให้น้อง แล้วก็ปลอบใจตัวเองไปด้วยในเวลาเดียวกัน

แก้วกาแฟส่งกลิ่นหอม แม่ต้องคั่วเมล็ดกาแฟแล้วบดชงให้ผมแบบสดใหม่แน่ๆ ความขมบาดลงไปในคอแต่กลับรู้สึกว่ากลืนง่าย รสหวานที่แม่เจือน้ำตาลลงไปนิดหน่อยทำให้ไม่ยากเกินไปที่ผมจะจัดการส่งลงคอไปแบบรวดเดียวหมดแก้ว ชาร้อนกลิ่นดอกไม้ถูกส่งตามเข้าไปล้างคอ ค่อยๆจิบ ไม่ได้เร่งรีบอะไร

“ เมฆ วันนี้น้าพิมน้าชาติ เค้าต้องอยู่ต้อนรับเพื่อนนะลูกนะ เห็นว่าเพื่อนจะทำอพาร์ทเม้นท์ให้ลูกสาว เห็นน้าชาติเค้าบอกว่าจะให้ฉานช่วยดูให้ หัดไว้ ปีสี่แล้ว จบมาน้าชาติเค้าจะได้วางมือสักที พี่ฉัตรเค้าก็ว่าจะต่อด็อกเตอร์ คงไม่มาทางนี้แล้วมั้ง เมฆไปกับน้องได้ใช่มั้ยลูก ” ผมชะงักเหมือนมีบางอย่างมาสะกิดใจ แต่ก็ต้องไล่ความรู้สึกหวิวๆนั้นออกไป

“ไม่เป็นไรครับแม่ เมฆไหว ใช่มั้ยอันดา ”  ท่าทางส่ายหน้าแบบไม่มั่นใจของอันดา ทำให้ผมอดที่จะยืดตัวข้ามโต๊ะ ไปยีหัวเด็กแก่แดดไม่ได้


แรงสั่นสะเทือนของโทรศัพท์สั่นกระทบขา ผมสะดุ้งเล็กน้อย ดีที่ว่าอันดาสนใจข้าวต้มตรงหน้ามากกว่าสนใจผม แม่นิ่มก็กำลังวุ่นวายจัดเตรียมนู่นนั่นนี่ ตามประสาคนที่กำลังเห่อกับการทำหน้าที่แม่ กิจกรรมยามเช้าบนโต๊ะอาหารของเราสองแม่ลูกยุติลงตั้งแต่ผมจบ ม.ปลาย จากที่แม่นิ่มต้องตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้ผม แปรเปลี่ยนไปเป็นอาหารเช้าง่ายๆสำหรับตัวเอง อย่างกาแฟสักแก้วและขนมปังสักก้อน เพราะผมต้องไปอยู่หอใกล้มหาลัยกับคุณชายฉาน เสาร์อาทิตย์ก็ฝากท้องบ้านไอ้ฉานเสียส่วนใหญ่ เพราะน้าพิมพ์ให้เหตุผลว่า สองคนแม่ลูกจะไปสนุกอะไร ต้องรวมกันให้เยอะๆเข้าไว้ ถึงจะเจริญอาหาร บรรยากาศเดิมๆวนกลับมาอีกครั้ง แม่นิ่มดูจะมีความสุขกับการทำหน้าที่แม่เป็นพิเศษ ยิ่งมีเสียงเจื้อยแจ้วของอันดามาเสริมด้วยแล้ว หน้าแม่นิ่มดูจะเปล่งปลั่งขึ้นอีกเป็นกอง

“บ่ายๆ จะเดินวนอยู่แถวลานกิจกรรมตรงสยาม” ข้อความสั้นๆ แต่กระตุกจังหวะหายใจจนสะดุด เลข10 หลักที่ผมจำได้จนขึ้นใจ

หมดเวลาที่ผมจะแกล้งทำเป็นลืมสิ่งสำคัญที่ผมลงมือวางแผนด้วยตัวเองแล้ว

ผมรู้ดีว่าในข้อความสั้นๆนั้นแฝงไปด้วยความหมายอะไรมากมาย


ผมกำลังกระชากน้องสาวเพียงคนเดียวขึ้นมาจากหุบเหวมืดมิด ที่มองไม่เห็นอะไร นอกจากนับวันรอให้อากาศที่ใช้ต่อลมหายใจค่อยๆหมดไป ออกมาเจอกับโลกกว้าง ถึงแม้จะยืนยันไม่ได้ว่าอนาคตข้างหน้าอันดาจะต้องพบเจอกับอะไร แต่อย่างน้อยถ้าน้องได้ยืนอยู่ในโลกที่มีแสงสว่างนำทาง อุปสรรคขวากหนามทั้งหลาย อันดาก็คงจะหลีกเลี่ยงที่จะพบเจอ หรือเดินข้ามมันไปจนได้ มันจะต้องดีกว่าหุบเหวที่มองไม่เห็นอะไรเลยแน่นอน
แสงสว่างที่เปรียบเสมือนอนาคตของน้อง ผมยินดีมอบให้
ถึงแม้ว่า ต้องแลกมาด้วยการที่ตัวผม ต้องกระโดดลงไปในหุบเหวนั้นเสียเอง


ผมยิ้มให้กับภาพที่มองเห็นตรงหน้า นิ้วแม่นิ่มที่ค่อยๆละเลียดเช็ดคราบนมที่เลอะขอบปากของอันดาออกอย่างแผ่วเบา ผมรู้ว่ามันเบามากและรู้สึกดีมาก  ภาพตรงหน้าไม่ต่างกับกระจกเงาที่สะท้อนวันเวลาในอดีตของตัวเอง มือกร้านตามวัยของแม่ค่อยๆลูบหัวอันดาอย่างเอ็นดู  น้ำคำตักเตือนจริงจังแต่อ่อนโยนนักในหูผม  รอยยิ้มที่ระบายเต็มหน้าจนตายิบหยีนั้น มันฉายชัดอยู่ในใจผม

ถ้าคุณเป็นผม แล้วมาเห็นภาพตรงหน้านี้
ผมแน่ใจว่า คุณก็ต้องทำแบบเดียวกับที่ผมทำ


การที่ผม นายสยมภู หวังว่าผู้อ่านยังจำกันได้อยู่นะ จะพาน้องสาวเพียงคนเดียวไปสมัครเรียนพิเศษ แค่นี้
แต่เชื่อมั้ยครับ ตอนนี้ผมไปได้ไม่ไกลไปกว่าหน้าบ้านเลย  แม่นิ่มสั่งนั่นสอนนี่สั่งเสียผมกับอันดาเสียมากมาย
จุดหมายปลายทางคือสยามและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งผมก็คลุกคลีกับโซนนั้นมาตั้งแต่หัวเกรียนจนถึงตอนนี้ แต่นั่นไม่มีผลต่อความกังวลของคนที่เป็นแม่ หากไม่เกรงใจว่าผมและอันดาโตพอที่จะสื่อสารกับคนทั่วไปให้เข้าใจได้ แม่คงไม่ลังเลที่จะเขียนชื่อและที่อยู่สอดในกระเป๋าหน้าอกผมไปด้วยแน่ๆ สิ่งที่แม่พร่ำสอนผมจำได้จนขึ้นใจ ฟังซ้ำๆมาตั้งแต่เล็กจนโต จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอันดาที่จะซึมซับความห่วงใยตรงนี้ไป

สายตาซุกซนของผมต้องสะดุดกึก หน้าบ้านที่ผมคุ้นเคยดี บ้านที่มีแนวรั้วต้นนีออนเตี้ยๆ แบ่งพื้นที่ระหว่างบ้านสองบ้าน บ้านที่ถ้าเพียงแต่รื้อแนวรั้วธรรมชาตินี้ออกไปก็แทบจะเรียกได้ว่าบ้านเดียวกัน สามในสี่ของคนที่หยุดคุยกันอยู่ที่หน้าประตูบ้านเป็นคนที่ผมไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย แต่ผู้ชายอีกคนที่ยืนยิ้มโชว์ฟันขาวเหมือนเรื่องราวที่กำลังคุยกันอยู่นั้นสนุกเสียหนักหนา ผู้ชายหน้าตาดีที่ต่อให้อยู่ไกลสายตาผมไปมากกว่านี้ ผมก็จำได้ คนที่ผมจดจำได้ทุกรายละเอียดในร่างกาย จำได้ดีกว่าที่ผมรู้จักตัวเอง

ใจผมบอกตัวเองว่า กำลังเดินตามอันดาไปรอเรียกแท็กซี่ที่หน้าบ้าน แต่ขาผมทำไมมันยังอยู่กับที่ ลมหายใจผมทำไมถึงได้สะดุดไม่สม่ำเสมออย่างที่ควรจะเป็น แล้วสมองผมทำอะไรอยู่? ร่างกายผมต้องบังคับกลไกการทำงานด้วยอะไร?

ไม่มีใครให้คำตอบได้ แม้แต่ตัวผมเอง

แรงกระชากมาจากผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง เสียงโวยวายที่ผมจับใจความไม่ได้ว่าคืออะไร ตัวผมยืนอยู่นอกประตูรั้วบ้านตามแรงดึงรั้ง แต่สายตายังหยุดนิ่งที่จุดเดิม ที่คน คนเดิม


“เมฆ ปิดเทอมนี้บวชสามเณรภาคฤดูร้อนมั้ยลูก”...............”ยังไงก็ได้ครับเมฆแล้วแต่ฉาน”
“เมฆวันหยุดนี้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนแม่กันมั้ย มีสวนผลไม้ ลูกต้องชอบแน่ๆ”..............”แล้วฉานจะไปด้วยมั้ยครับแม่ ถ้าฉานไปเมฆก็ไป”
“เมฆใกล้ถึงกีฬาโรงเรียนประจำปีแล้ว ปีนี้ลูกจะลงว่ายน้ำมั้ย”............”ไม่รู้สิครับ ต้องถามฉานก่อน กว่าจะเลิกมืด เดี๊ยวมันต้องรอเมฆนาน มันจะโวยวาย”
“เมฆเปิดเทอมวันที่เท่าไหร่ลูก”.................”ไม่รู้สิครับ เมฆไม่ได้สนใจ เดี๋ยวฉานมันก็จำให้ แม่นิ่มต้องไปถามฉาน”
“เมฆ จะผูกทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับฉานจนถึงเมื่อไหร่ จะตัวติดกับฉานตลอดไปไม่ได้นะ โตขึ้นต่างคนก็ต้องมีแฟน มีครอบครัว มีชีวิตของตัวเอง เมฆต้องรู้จักยืนได้ด้วยตัวเอง ต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ”

นั่นสินะ!!! ผมเองก็ไม่เคยหาคำตอบให้ตัวเองว่าจะอยู่ภายใต้ลำแสงของดวงตะวันไปจนถึงเมื่อไหร่ พอๆกับที่หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่าเป็นบริวารมันตั้งแต่ตอนไหน ....ที่รู้คือมีมันอยู่ใกล้ๆแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรตัวแปรที่มีผลให้ผมขับเคลื่อนตัวเองได้ เป็นผู้ชายที่ชื่อ ฉานแสง มันเป็นเพื่อน เป็นพี่ บางทีทำตัวเหมือนพ่อ เลวร้ายหน่อยคือมันกำกับชีวิตของผมเลยด้วยซ้ำ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมแบบค่อยๆซึมเข้ามา ไม่รู้ว่าเริ่มตอนไหน เริ่มเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดของคำว่ามีชีวิตเป็นของตัวเองจะเริ่มขึ้นตอนไหน  ไม่เคยรู้  ไม่เคยสนใจที่จะอยากรู้

จนมาวันนี้ วันที่ผมเห็นความเป็นจริงของธรรมชาติ ที่เรียกว่า ”มนุษย์ “ ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่ผายมือเชื้อเชิญให้ผู้หญิงที่มองจากระยะไกลก็มั่นใจได้ว่าสวยหวาน ผมดำขลับมันเงาตามธรรมชาติปลิวไปมาตามแรงลมพัด มือบางที่ละข้างนึงจากชายกระโปรงสีชมพูหวานไม่แพ้หน้าตาคนใส่ มาจับปอยผมที่ถูกลมพัดจนบดบังใบหน้าเอาไว้

ความบังเอิญที่มันพอดี


พอดีที่มีอีกมือแกร่งของผู้ชายยื่นมาจับปอยผมปอยเดียวกัน จุดหมายก็คงไม่พ้นใบหูขาวของเจ้าของปอยผมดุจเส้นไหมนั้น  มือที่แตะกันโดยบังเอิญ ทำให้สองคนชะงักไป  มือที่ได้ทำหน้าที่พาปอยผมเจ้าปัญหาปอยนั้นขึ้นไปทัดอยู่บนใบหูบาง จึงกลายเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษไป โดยไม่ได้ตั้งใจ

มันบังเอิญ บังเอิญทีเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นอยู่ในกรอบสายตาผมพอดี ก็ในเมื่อมันบังเอิญแล้วทำไมผมรู้สึกเจ็บที่หน้าอกข้างซ้ายได้ขนาดนี้  แล้วไอ้ความทรงจำในอดีตทั้งหลายก็พรั่งพรูกันเข้ามาในช่วงเวลานี้พอดิบพอดี
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 14-07-2010 01:08:18
กฎของธรรมชาติ ไม่ว่าใครก็ฝืนมันไม่ได้ มันก็เหมือนกับผู้ชายที่ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องคู่ควรกับผู้หญิง

ถึงแม้มันจะเป็น สิ่งเดียวที่ใครคนนั้นพร่ำบอกผมเสมอ เวลาที่ผมรู้สึกไม่มั่นใจ ว่ามันเป็นกฎที่ฝืนได้
แต่วันนี้ใครคนนั้นไม่ได้อยู่ข้างกายผมอีกแล้ว ผมจะเอาคำตอบมาจากไหน ว่าไอ้กฎบ้าๆนั่นมันยังฝืนได้อยู่
หรือว่าต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ


แรงบีบมือเป็นจังหวะหนักเบาสลับกัน มาจากคนที่ส่งสายตาห่วงใยมาให้ผม
สุดท้ายคนที่ตั้งใจจะเป็นผู้แล กลับกลายมาเป็นคนที่ต้องได้รับการดูแลเสียเอง
อันดาเรียกแท็กซี่ได้ ขณะที่ใจผมลอยไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ปลายทางที่จะไปอันดาก็จัดการ
แต่แท็กซี่จะขับไปทางไหน นั่นก็สุดแล้วแต่ จากรามคำแหงไปสถานีรถไฟฟ้าพญาไทแล้วค่อยวนไปแถวสยาม
แท็กซี่จะขับไปอ้อมวงเวียนใหญ่ ผมก็คงไม่มีปัญญาไปทำอะไรได้

แก้มผมถูกประทุษร้ายจากมือบางของคนข้างๆ มือเล็กๆแต่พิษสงเหลือร้าย ผมซี๊ดปากด้วยความเจ็บทันทีที่กล้ามเนื้อบริเวณแก้มทั้งสองถูกสองมือบิดจนเป็นเกลียว หน้าอันดากับหน้าผมตอนนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“พี่เมฆ ไม่เป็นอะไรนะ” รอยยิ้มที่ส่งมา เรียกความละอายใจห่าใหญ่มากระแทกใจผมเลยทีเดียว
ตุ๊ดชิบหายเลยพี่เมฆ!!! แทนที่มึงจะปลอบน้อง กลายเป็นน้องต้องมานั่งปลอบ แล้วไอ้ที่มึงพยายามสร้างภาพว่าแมน  ว่าเป็นสมชายจดปลายเท้ามันจะมีความหมายอะไร
ก็ในเมื่อคำนี้ควรจะเป็นคำที่ใช้พูดกับอันดาไม่ใช่เหรอ???  ประโยคเดียวกันใช้ถูกที่แต่ผิดเวลา

ผมเอื้อมมือไปยีหัวอันดาเล่น ผมเริ่มจะติดอาการนี้ซะแล้ว แก้เขิน แก้เก้อ แก้มันทุกอย่าง ส่งความอุ่นใจแบบเอนกประสงค์

“เออ พี่ไม่เป็นไรสักหน่อย” ตอแหลชิบหายไอ้เมฆ ทั้งๆที่เมื่อกี้มึงคงจะเผลอทำหน้าจะเป็นจะตายให้น้องเห็น เสียงตุบตับหยอกล้อเอาคืนกันเรียกรอยยิ้มจากพี่แท็กซี่ที่ผมลอบมองผ่านกระจก

“ดีมากค่ะคุณชาย ช่วยทำหน้าหล่อๆ ยิ้มด้วยๆ เออ อย่างนี้สิค่อยดีขึ้นมาหน่อย อุตส่าอวดเพื่อนเอาไว้ว่าพี่เมฆหล่อ”ท่าทางจัดฉากการแสดงบนใบหน้าผมของอันดา เรียกเสียงหัวเราะจากผมได้ น้ำตาที่กำลังตกใน ก็เหือดหายไปเล็กน้อย

ผมกับอันดาเป็นพี่น้อง แต่คนละพ่อกัน หน้าคมสมเป็นลูกครึ่งของอันดานั้น ไม่มีอะไรที่เหมือนผมเลย
ร้อยทั้งร้อยเจอผมกับอันดาเล่นกันแบบนี้ ถ้าไม่รู้จักเราสองคน ก็ต้องคิดว่าเป็นคู่รักกันแน่ๆ

ก็แล้วถ้าเหตุการณ์เมื่อกี้แต่เปลี่ยนจากอันดาเป็นไอ้ฉาน พี่แท็กซี่จะส่งยิ้มให้ หรือตกใจขวัญผวากันนะ!!

ถ้าเป็นไอ้ฉานมันจะไม่แค่จับมือผมแล้วบีบเอาไว้ มันต้องมากกว่านั้นถ้าเป็นฉานแสง อย่างน้อยตัวผมท่อนบนต้องอยู่ในพันธนาการของอ้อมกอดมัน จมูกคงอยู่ไม่ไกลจากหน้าผาก แก้มหรือปลายคางผมสักเท่าไหร่หรอก แล้วถ้าลองว่าไม่มีบุคคลที่สามขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมกล้าพนันแบบสิบเอาหนึ่งเลยก็ได้ว่า ลิ้นผมต้องโดนมันดูดกินเข้าไปแน่ๆ ปากผมก็คงจะมันวาวไปด้วยลิปกลอสใสๆจากน้ำลายของมัน คำปลอบโยนจะที่ได้ คงหลังจากที่มันกินลิ้นผมจนพอใจแล้วนั่นแหละ

สุดท้ายผมก็ต้องคิดถึงมันอีกจนได้.......


เมื่อมาถึงสถานีรถไฟฟ้าพญาไท ก็หมดเวลาจมอยู่กับควมคิดของตัวเองทันที
บรรยากาศรอบข้างกระตุ้นให้ผมยิ้มได้ ถึงมันไม่ได้ยิ้มออกมาจากใจ แต่ก็ดีกว่ามานั่งร้องไห้ให้เสียความแมน เพื่อนอันดาอีกสองชีวิตเข้ามาอัดอยู่ในแท็กซี่คันเดียวกันผม เสียงเจี้ยวจ๊าวเหมือนนกกระจิบแตกรังดังเข้าหูจนรู้สึกหลอน อานุภาพแห่งการคุยของผู้หญิงน่ากลัวจริงๆก็วันนี้


คาปูชิโน่แก้วใหญ่เพิมวิปครีมพิเศษเท่าหลังคาบ้าน ถูกผมตักส่งเข้าปากแบบไม่แคร์ว่าจะมีคอเรสเตอรอลมหาศาลแค่ไหน ไม่เคยต้องมาสนใจว่าวิปครีมลูกใหญ่กว่าฝาครอบแก้วนี้จะโลวแฟตหรือไม่

ผมเป็นผู้ชาย.....ไม่เคยแคร์อะไรอยู่แล้ว

เสียงจอแจวุ่นวายของเด็กม.ปลายที่มาเข้าคิวสมัครเรียนกันยังกับของฟรี ผมนั่งรอที่ม้านั่งที่ทางสถาบันติวเค้าจัดไว้ แต่คงวางไว้เป็นแค่พร็อพประดับสถานที่เฉยๆ ในเมื่อคนที่ควรจะต้องใช้งานกลับไปยืนเข้าคิวยาวไกลเป็นกิโลเห็นจะได้ อันดากับเพื่อนจัดการเรื่องของตัวเองกันไป  ปล่อยผมให้นั่งซึมซับบรรยายกาศของเด็กหัวเกรียน ม.ปลาย และเด็กผู้หญิงหางม้าไปแกล้มคาปูชิโนเย็นแก้วใหญ่ไป
ทั่วบริเวณอุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยผู้ปกครองที่มาให้กำลังใจลูกหลานเสมือนงานประเพณีประจำปีอะไรสักอย่าง มีทั้งเด็กกรุงเทพและเด็กต่างจังหวัดเดินสวนกันไปมาจนผมตาลาย เสียงในฟิล์มของแต่ละภาคมีเสน่ห์จนผมอดยิ้มไม่ได้ ผมชอบคนที่รักภาษาบ้านเกิดของตัวเอง ภาษาของทุกภาคมีเสน่ห์ และผมก็ชอบฟัง  บรรยากาศวุ่นวายชวนให้ตาลายไปบ้าง แต่โดยรวมก็สนุกดี นานๆครั้งถึงจะส่งสายตามองหาน้องสาวตัวเองบ้าง
ขนาดผมเองยังมองสาวๆที่เดินผ่านตาไปมา แล้วจะไม่มีใครมองอันดาน้องสาวผมเลยเหรอ ผมมั่นใจว่าน้องตัวเองสวยไม่แพ้ใคร แล้วสายเลือดของชาวต่างชาติที่หลอมรวมครึ่งนึงในตัวอันดา ยิ่งขับให้อันดาสวยเด่นขึ้นอีกเป็นไหนๆ อันดาไม่ได้ขาวจนส่องประกายได้ แต่ผิวเนียนเรียบลื่นไม่แพ้ใครอันนี้ผมยืนยัน
สัญชาตญาณของพี่ชายเข้ามากอบกุมหัวใจผม อาการหวงน้องทำให้หางคิ้วกระตุก เมื่อสังเกตุจริงๆถึงรู้ว่า ผู้ชายมากหน้าหลายตามองน้องกูกันตาเป็นมันเลยนะไอ้พวกเกรียนทั้งหลาย จากที่คอยสอดส่องหาอาหารตาทั่วๆไป กลายเป็นยืนส่งสายตากดดันไอ้พวกริ้นไร ที่มันแอบมองน้องผมเท่านั้น  เพื่อนอันดาเห็นอาการเหมือนหมาบ้าคาปูชิโน่ของผมก็สะกิดบอกต่อกัน หัวร่องอหงายสนุกกันไป
ไม่นานอันดาก็วิ่งมาหา พร้อมใบหน้าบูดสนิท หน้างอง้ำ ทำให้ผมซ้อมขมวดคิ้วสงสัยตั้งแต่อันดายังมาไม่ถึง เกิดอะไรขึ้นกับนางฟ้าน้อยๆของผม
“เป็นอะไรหืม หน้าบูดมาเชียว จองคอร์สไม่ได้ ห้องเต็ม รอบเต็มหรืออะไร” ปากบางที่เม้มเข้าหากันไม่มีคำตอบอะไรให้นอกจากสะบัดหน้าปฎิเสธทุกข้อสงสัย

“ก็แล้วเป็นอะไรหละ ไม่บอกพี่ไม่รู้นะ ใครทำอะไรน้องพี่บอกมา พี่จะเข้าไปจัดการมันให้เดี๊ยวนี้แหละ” ผมไม่ได้เอาจริงเอาจังแค่คำพูด แต่ผมเริ่มถลกแขนเสื้อขึ้นมารอท่าแล้วด้วย (ทั้งๆที่ไม่เคยจะเข้าใจว่าทำไมเวลาจะมีเรื่อง ต้องถกแขนเสื้อขึ้นก่อน นิ้วโป้งต้องเอามาถูจมูกไม่งั้นไม่ถูกต้องตามมาตรฐานของการมีเรื่อง ถึงไม่เข้าใจ แต่ผมก็ทำตาม T_T)

“อันดาได้รอบวันธรรมดา” ผมชะงัก ปลายเสื้อที่ถลกขึ้นไปเสมอหัวไหล่ ค่อยๆคลี่คลายออกมาเหมือนเดิม

“ว่าไงนะ” ผมไม่เข้าใจว่า การได้เรียนรอบวันธรรมดา มันทำให้นางฟ้าของผมหน้างอได้ไง ถึงพี่เมฆจะหล่อ แต่คนหล่อก็สามารถสงสัยได้นะครับ ไม่แปลกๆ

“ก็อันดาได้เรียนรอบธรรมดานะสิ พี่เมฆต้องไปเรียนใช่มั้ย ก็ไม่ได้มารับมาส่งอันดา” อ๋อ !! ที่แท้น้องก็อยากอยู่กับพี่ชาย นางฟ้าของผมน่ารักสุดหัวใจเลยใช่มั้ยครับ แต่การเรียนต้องมาก่อน เรามีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต เมื่อไหร่ก็เจอกันได้ วันหยุดผมจะชดเชยเวลาให้น้องอย่างเต็มที่ พี่เมฆขอสัญญา เอาขาหน้าแปะโป้งไว้ก่อนเลย

มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นละนะ ก็ไอ้ฉานมันไม่มาป้วนเปี้ยนบงการชีวิตผมแล้วนี่  ไม่ต้องแบ่งเวลาให้ใคร ผมยกให้น้องไปเลยเต็มที่
“เรียนวันธรรมดาก็ไม่เห็นเป็นไร นั่งแท็กซี่ไปกลับเลยก็ได้ ไม่มีปัญหา เสาร์อาทิตย์ พี่ชดเชยให้เต็มที่” น้องผมเป็นผู้หญิง เรื่องความสะดวกสบายก็ต้องเป็นเรื่องที่กังวลกันนิดหน่อยใช่มั้ยหละครับ
“ป่าว อันดาไม่ได้กังวลเรื่องนั้นสักหน่อย ก็ถ้าแม่รู้ว่าเรียนวันธรรมดาแล้วพี่เมฆมารับมาส่งอันดาไม่ได้ แม่ต้องส่งใครมารับส่งอันดาแน่ๆเลย ทีนี้ถ้าจะแว่บไปไหนก็ไม่ได้อะดิ เรื่องถึงหูแม่แน่ๆ แต่ถ้าเป็นพี่เมฆ เราคุยกันได้ใช่ม๊า” ศอกที่มากระแทกไหล่ผม พร้อมรอยยิ้มยียวนแถมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอผมก็เชื่อสนิทใจ ว่าอันดานี่ใช่น้องผมแน่ๆ ถ้าผู้หญิงใช้คำว่ากะล่อนได้แบบผู้ชาย ผมว่าอันดานี่เข้าข่ายกะล่อนตัวแม่

“โอ้ยย พี่อุตส่าห์ดีใจ คิดว่าน้องอยากจะอยู่ด้วย ที่ไหนได้ วางแผนหนีเที่ยวแบบให้พี่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดนี่เอง” ผมตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่ ถือว่าไล่ความโง่ และเขย่าขี้เลื่อยให้มันกระจายๆ เผื่อเนื้อสมองจะได้ทำงานได้คล่องขึ้น

“แหมพี่ฉาน เรามีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต แต่อันดาอ่ะเข้ามหาลัยแล้วต้องตั้งใจเรียนไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ก็ขอปลดปล่อยบ้างอะไรบ้าง” คิดดูนะครับว่ายังต้องตรวจดีเอ็นเออีกไหม ขนาดคำพูดอันดายังกอปปี้ออกมาจากความคิดผมแบบเป๊ะๆ ไม่ผิดพลาดเลยสักคำ

ผมถอนหายใจไว้อาลัยให้กับชะตาชีวิตของตัวเองเสียเฮือกใหญ่ กำลังเทคอาการเข้าปอดแทนที่อากาศที่ถ่ายออกไป สายตากำลังมองหาของสวยงามมาปลอบใจ ในกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ ตาผมกลับไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายที่สูงโดดเด่นออกมาจนเป็นจุดสนใจ เขาไม่ใช่คนที่เรียกได้ว่าหล่อ แต่ของที่เอามาประดับอยู่บนตัวทั้งเสื้อผ้าหน้าผมทั้งหลาย ทำให้เขาเป็นผู้ชายที่จัดว่าดูดี ไม่ต้องหล่อ แต่บุคลิคแบบนี้เป็นที่ต้องตาต้องใจของสาวๆได้ไม่ยาก

แค่ยืนคนเดียวก็เด่นมากพออยู่แล้ว ยิ่งโดดเด่นเข้าไปใหญ่เมื่อข้างกายมีสาวน้อยที่ผมใช้สายตามองทะลุชั้นหนาของเครื่องสำอางค์ แล้วพบว่าน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับอันดา การแต่งตัวตามสมัยของวัยรุ่นไทยใจกลางสยาม ถุงเท้าเซเลอร์มูนห่อหุ้มขาไว้ถึงเข่า กระโปรงสั้นจนผมอดหัวใจวายแทนผู้ปกครองของน้องคนนั้นไม่ได้ เสื้อกล้ามสีสดตัดกับเนินอกขาวที่โผล่ออกมาล่อตาล่อใจ ถึงแม้จะมีเสื้อคลุมตัวบางทับด้านนอกเอาไว้อีกที ก็แทบจะปกปิดอะไรไม่ได้ ไม่ต้องจินตนาการอะไรมากนักก็พอจะรู้ ว่าทรวดทรงน้องเค้าประกอบกันด้วยเลขอะไรบ้าง เห็นแบบนี้แล้วนึกถึงไอ้แกละทันที

“แต่งตัวแบบนี้ พ่อแม่ไม่ว่าเหรอจ๊ะ แต่ถ้าเป็นแฟนพี่ พี่จับเปลี่ยนสถานะเป็นเมียตั้งแต่ไม่ก้าวขาออกจากบ้านแล้วละจ๊ะ ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่ง พี่จะตีให้ลืมไปเลยว่าวันพุธสีอะไร” ประโยคล้นๆ งง ของไอ้แกละ ถูกพวกผมต่อต้านด้วยการทำร้ายกบาลมันเสมอ เมื่อเจอมันแซวสาวๆที่แต่งตัวโชว์สรีระแบบไม่ต้องให้พวกผู้ชายใช้จินตนาการ จะว่าเพื่อนผมฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ในเมื่อเธอจงใจเดินเข้ามาในฝูงหมาเอง แต่นั่นมันก็นานๆทีแหละครับ ที่อาหารตาพวกนี้จะหลุดมาแถวคณะผม ก็อย่างที่บอกถาปัตย์กับศิลปกรรมโดนเนรเทศไปอยู่สุดขอบมหาลัยขนาดนั้น นางฟ้าคนไหนจะผ่านไปนี่ต้องตั้งใจนะครับ  อ้างว่าบังเอิญนี่เชื่อไม่ได้

แล้วถ้ามาเป็นน้องผู้หญิงคนนี้ ไอ้แกละเพื่อนผมมันไม่ปรี่เข้าไปสั่งสอนน้องเขาเลยเหรอ ในเมื่อสิ่งไม่ถูกต้องไม่ใช่แค่การแต่งตัว แต่สองมือที่เกาะแขนผู้ชายที่ผมเริ่มคุ้นมาได้เมื่อไม่นาน ใบหน้าที่แทบจะเบียดเข้าหาท่อนแขนทุกทีที่มีการสนทนากัน ถ้าไม่ติดว่าอยู่ท่ามกลางประชาชี ผมก็อาจจะเข้าใจผิดไปได้ว่าไอ้ที่เค้ากระซิบกระซาบคุยกันอยู่นั้น มันมองยังไงๆ ก็ไม่ต่างจากการหอมแก้มกันสักเท่าไหร่หรอก นี่ขนาดท่ามกลางสายตาสาธารณชนยังทำขนาดนี้ แล้วลับหลังมันไม่เอาลิ้นออกมาพันเกลียวกันกลางอากาศแลกออกซิเจนกันแบบ ดูดเป็นดูด คายเป็นคาย ความ(เร่า)ร้อนกันเลยเหรอ

ไม่มีสัญญาในหมู่โจรที่สปีชีย์อยู่ในข่ายสัตว์เดรัจฉาน

ไอ้อาทส่งข้อความมาบอกผมว่า จะเดินรออยู่แถวลานกิจกรรมสยามตอนบ่ายๆไม่ใช่เหรอ แต่นี่มันเพิ่งจะสิบเอ็ดโมง ทำไมผมถึงเจอมันอยู่ที่สถาบันติวเตอร์แห่งนี้ได้หละ ผมยังปลอบใจตัวเองอยู่ตลอดเวลาที่คิดได้ว่า ยังมีเวลาให้อันดาทำใจ และตัวผมเองได้ทำใจ แต่นี่มันอะไร มันเร็วเกินไปไม่ใช่เหรอ ขนาดผมที่วางเกมส์ไว้เอง เมื่อเจอรุกฆาตอย่างนี้ผมยังช็อค แล้วอันดาหละ นางฟ้าของผมหละจะอยู่ในสภาพไหน
ผมละจากภาพที่แยกแยะไม่ออกว่ามันคือเรื่องจริงหรือการแสดงของคู่รักข้างหน้า ที่แสดงสมจริงสมจังจนผมแทบสะดุดลมหายใจหัวเองตาย คนข้างตัวที่ออดอ้อนผมอยู่เมื่อครู่ ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว แค่ผมช้อนสายตาขึ้นก็พบว่า นางฟ้าของผมปลิวถลาจนจะถึงตัวไอ้คู่รักสะท้านฟ้าตรงหน้าอยู่แล้ว แต่ความจงใจมันย่อมไม่มีอะไรเหมือนความบังเอิญ ผมแน่ใจว่าไอ้อาทมองเห็นว่าผมกับอันดาอยู่ตรงไหน แต่ทำเป็นมองไม่เห็น ผู้คนพลุกพล่านวุ่นวาย ไอ้อาทคงจงใจอาศัยช่วงชุลมุนออกมาให้อันดาเห็นตอนนี้ แล้วมันก็เนียนทำเป็นมองไม่เห็นอันดาจนผมรู้สึกทึ่ง ตอนที่อันดากำลังจะเข้าไปใกล้ มันก็คว้าแขนน้องตุ๊กตาบาร์บี้คนนั้นฝ่าฝูงชนออกไปแบบเนียนๆ ขาผมวิ่งตามอันดาไป ผมไม่รู้ว่าไอ้อาทตั้งใจจะให้อันดาเจอกันซึ่งๆหน้าตอนไหน  แต่คงไม่ใช่ตอนนี้แน่ๆ เพราะขณะที่ขาผมก้าววิ่งตามอันดาไป โทรศัพท์ในกระเป๋าก็พร้อมใจสั่นขึ้นมากระแทกหน้าขาจนรู้สึกรำคาญ ผมหยุดเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำลายตัวการแห่งความรำคาญนั้น สายตาก็มองตามแผ่นหลังอันดาไม่อยากให้น้องคลาดสายตาไปตอนนี้ 
ข้อความจากโทรศัพท์มาจากพระเอกรางวัลออสการ์ที่โชว์ผลงานออกสู่สายตาผมไปเมื่อสักครู่
ข้อความที่ส่งมาทำให้ผมต้องจิ๊ปากขึ้นมาแบบขัดใจเต็มที..
“เกมส์ใกล้จะบิงโก อย่าลืมสัญญาลูกผู้ชาย อาท รอรางวัลปลอบใจอยู่ทุกวินาที” ข้อความชวนสะอิดสะเอียดคงไม่สะใจไอ้เชี่ยนั่นมากพอ มันถึงต้องส่งท้ายด้วยอีโมชั่นเคลื่อนไหวได้ เป็นรูปหัวใจค่อยๆกลายเป็นริมฝีปากส่งจูบ ขนที่พร้อมใจกันลุกซู่โดยไม่ได้นัดหมาย ไม่ได้มาจากความเสียวซ่าน หรือวาบหวามแต่อย่างใด มันลุกขึ้นได้เพราะผมรู้สึกขยะแขยงกับข้อความที่กินความหมายมากมายนั้น

เวลาแห่งความสุขสั้นแสนจะสั้น
แต่เวลาแห่งความทุกข์นั้นมาเร็วจะเสมอ
 
๐ นับถอยหลังอีก 3 ตอนนะคะ สำหรับพี่เมฆกับไอ้กูปรีหนีน้ำอย่างฉานแสง
ตอนนี้คงจะมีหลายอารมณ์คละกันไปนะ ขอโทษที่ตอนที่แล้วทำหลายๆคนปวดใจ
เริ่มเกลียดพี่ฉานกันใหญ่ เหตุผลทุกคนมีเป็นของตัวเองนะค่ะ
แต่ว่ากว่าที่คนสองคนจะเจอกันที่ตรงกลางของเหตุผลได้ มันก็ต้องใช้เวลาเนอะ
ไม่เศร้าจริงๆนะ หลายคนมาทวงสัญญา ป้ายขอบคุณอันใหม่คงคลอดพร้อมตอนจบแน่ๆ:sad4:
อยากได้แบบยากๆแต่ทำเองไม่ได้ ขอช่วยจากคนอื่นก็ช้าแบบนี้ละนะ
พอรวบรวมรายชื่อคนที่เข้ามาอ่านแบบทิ้งคอมเม้นไว้
มันเยอะจนคาดไม่ถึงเลยค่ะ ต่อให้บางคนแค่หลงเข้ามาก็นับนะ
เรารักทุกคน นางเอกได้อีก
ขอบคุณทุกคนค่ะ ขอบคุณจริงๆ ยินดีต้อนรับแฟนๆ
พี่เมฆกับท่านฉานหน้าใหม่ทุกคนนะคะ
๐.....  :pig4:
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
====================
 :beat: ตบคนแต่งอย่างมีเหตุผล ไหนว่าไม่เศร้า ไม่กดดัน ไม่ตึงเครียด แล้วนี่อะไร  :fire: เน้นฮาไหน  :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 14-07-2010 01:35:20
กรี๊ดดดด ตอนนี้พี่ฉานหมดงบ ไม่ได้ค่าตัว กร๊ากๆๆๆๆๆ


ว่าแต่อีก 3 ตอนเรื่องจะเคลียร์ใช่มั้ยหรืออะไรยังไง อย่าเพิ่งจบนะที่รักกกกกกกก หวานให้มากๆๆๆๆๆก่อนนนนน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 14-07-2010 02:04:19
อ่านแล้ว.....
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ 1 รอบ....
แล้ว เดินออกไป นอนกอดห่อมผ้าห่ม กอดหมอนข้างหมีพูห์ ร้องไห้ กระซิกๆ บนเตียง...
รีบเข้านอน....เผื่อว่าตื่นมา...
ช่วงเวลาแห่งความน่าอึดอัดใจ....จะผ่านไปอีกวัน T_______T
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 14-07-2010 02:12:03
อ๊ากกกกกกกกกกก

พี่ฉานหายไปไหนนนนน

เมฆไปง้อที
อยากให้น้องอันดาตาสว่างเรื่องไอ้เลวนั้นสะที

น่ากลัวตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 14-07-2010 02:13:49
ขัดใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 14-07-2010 02:24:10
กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซ  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค์   :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 14-07-2010 03:16:33
อย่างพี่ฉานนะพี่แกรักใครไม่เป็นหรอกนอกจากพี่เมฆ
ต่อให้พี่เมฆทำให้พี่ฉานเจ็บปวดก็ตาม
รักพี่ฉานเอ็นดูพี่เมฆ :o8: :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 14-07-2010 04:30:58
ฉานหายไปไหน

สงสารเมฆจัง อันดาก็ไม่รู้ไรเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 14-07-2010 07:23:46
รักเมฆอ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 14-07-2010 08:15:10
อ่านตอนนี้แล้วเลดี้ปวดใจแทนน้องเมฆอะรับศึกหลายด้านจัง สาวน้อยหน้าหวานที่ฉานทำดียังกับคู่รัก
ที่เมฆเห็นละประชดกันทำไม เคลียร์ซิฉาน รู้ทั้งรู้ว่าองอิศารนะยึดติดดวงตะวันจะตาย ปกป้องเหมือนทุกทีซิฉาน
แล้วนี่อิอาทก็ทำงานมันแล้ว และยังเริ่มเดินรุกเกมส์แย่งเมียชาวบ้านอีก เรื่องทั้งหมดที่ตุงนัง ก็ไม่รู้จะโทษใคร
แต่คนที่มีเอี่ยวในงานช้างแห่งความยุ่งยากคงบอกว่าเป็นอันดา แต่จะโทษน้องก็ไม่ได้ความรักไม่เคยเข้าใครออกใคร
ก็ต้องโทษอิอาท แต่จะโทษมันที่สันดารเป็นแบบนี้ แต่คนที่ตอนนี้อยากโกรธเป็นฉาน อะทำไมไม่หมุนรอบอิศารนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 14-07-2010 08:28:25
อ่านข้อความอาทละก็ขนลุกตามเมฆเลย
น่ากลัวจริงๆ
หวังลึกๆ ว่าพี่ฉานจะไม่หนีหายไปไหน
แอบตามห่างๆ อย่างห่วงๆเนอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 14-07-2010 08:36:35
ขอบคุณคนแต่งกะคนโพส
ตอนนี้สองพี่น้องน่าสงสารจัง
น้องสาวเสียใจแต่พี่ชายกำลังจะเสียตัว
หวังว่าฉานคงไม่ปล่อยเมฆไปเพียงเพราะความน้อยใจหรอกนะ
ปล.สงสัยคนแต่งหัวล้าน อิอิ(แซวเล่นอย่าตัดแต้มเค้านะ) :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 14-07-2010 08:56:23
ไม่อยากคิดแทนเมฆ  เพราะปวดใจจริง ๆ
แต่คิดว่าพี่ฉานคงเตรียมแผนไว้แล้วเหมือนกันโดยไม่ให้เมฆรู้
คงกะดัดหลังให้เมฆช้ำใจเล่นโทษฐานที่ไม่ปรึกษา
แต่ไอ่อาทนี่สิ  ไม่รู้ว่าจะมีแผนอะไรรึเปล่า
อ่านตอนนี้แล้วช้ำใจแทนพี่เมฆนะเนี่ยะ
พี่ฉานไม่ใส่ใจก็แย่แล้ว  ยังดันมามีผู้หญิงมาเกี่ยวข้องอีก
เฮ้ออ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 14-07-2010 09:10:29
อ๊าคคคคคคคคค  :m31:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 14-07-2010 09:11:18
ไม่มีอะไรจะพูดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :z3: :serius2:


 :กอด1: คนโพส กับ คนแต่ง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 14-07-2010 09:32:53
อีก 3 ตอนจะจบแล้วหรือค่ะ :monkeysad:ไม่อยากให้จบเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 14-07-2010 09:40:14
บวกหนึ่งอย่างอารมณ์ดี เพราะงานพรีเซ้นต์เมื่อวานเย็นผ่าน เงินเพียบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 14-07-2010 09:47:45
เราอ่านตอนนี้แล้วเครียดอะ ปวดหัวตึบ ๆ เลย  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 14-07-2010 10:02:27
ชะนีหน้าหวานนั่นคือใครอ่ะ

ทะไมพี่ฉานทำแบบบนั้น

สงสารพี่เมฆ ทำไรก็ดูไม่ดี เฮ้อ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 14-07-2010 10:23:42
อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค   ปวดตับขั้นรุนแรง  :sad2:

 o12 บักฉาน  มิได้ดั่งใจเลย  บังอาจทำน้องเมฆเสียใจ   :beat:



“แหมพี่ฉาน เรามีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต แต่อันดาอ่ะเข้ามหาลัยแล้วต้องตั้งใจเรียนไม่ใช่หรือไง    << น่าจะเป็นพี่เมฆ อิอิ
รออ่านตอนต่อไปนะครับ ว่าแต่ อีก 3 ตอน  จะมีเวลาหวานรึเปล่าอะ  อย่าลืมหวานๆส่งท้ายนะจ๊ะไรท์เตอร์ อิอิ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 14-07-2010 11:26:45
อ่านแล้วเครียด

หวังว่าพี่ฉานจะมีเหตุผลที่ดีพอนะ เฮ้อ!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 14-07-2010 12:03:49
 :serius2:  อึดอัด 

 :z3:  เครียด

 :m15:  เศร้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 14-07-2010 12:40:56
อาทชิงลงมือก่อนสิเนี่ย อืมมมมม รอดูกันไป

ว่าแต่เราว่า พี่เมฆ ดูโง่ๆ นะ ความรักทำให้คนหน้าตาดีโง่ลงท่าจะจริง  :seng2ped:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: veevee ที่ 14-07-2010 12:43:28
 :angry2: :angry2: :angry2:

สงสารเมฆอะ ทำไมฉานทำแบบนี้ :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 14-07-2010 12:50:58
อยากรู้จังฉานจะใช้วิธีไหนช่วยเมฆนะ
หรือว่าสาวน้อยคนที่เห็นหน้าบ้านจะมีเอี่ยวด้วย
หึ หึ หึ นิยายรักรึสืบสวนกันแน่ชักงงแล้วซิ

p.s คิดได้ไงอ่ะ กรูปรีหนีน้ำ

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 14-07-2010 12:52:06
ไม่รู้ ความคิดขิงทั้งพี่ฉาน และก้อพี่เมฆ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร  :angry2: :serius2: :m16:

แต่เมื่อตัดสินใจทำไรลงไปแล้ว คงต้องรับผลที่จะเกิดขึ้นสินะ :bye2: :mc4: o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 14-07-2010 12:58:22
สงสารพี่เมฆมากกกก..... :monkeysad:
เหตุการณ์พาไป....เริ่มคิดมากกันไปใหญ่
อยาก.... :beat: ไอ้คุณชายฉาน..รู้นะว่ารัก....
แต่ไม่ค่อยถนอมน้ำใจกันเลย.....

 :L2: :pig4: คนแต่ง กะ คนโพส ค่ะ
กด + ให้กำลังใจนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 14-07-2010 15:12:26
นับถอยหลังอีกสามตอนเองหรอคับเนี่ย  :sad11:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 14-07-2010 15:22:25
โอ๊ยยยยยย :serius2:
อึดอัดแทนเมฆ
ไม่อยากคาดหวังว่าจะจบแบบไหน
แต่ขอไรเตอร์อย่าทำร้ายใจดวงน้อยให้บอบช้ำ
จากการต้องเห็นเมฆกับฉานต้องเจ็บปวดเลยนะ
(อ้อนสุดๆเลยนะเนี่ย)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 14-07-2010 16:01:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 14-07-2010 16:17:34
:beat: ตบคนแต่งอย่างมีเหตุผล ไหนว่าไม่เศร้า ไม่กดดัน ไม่ตึงเครียด แล้วนี่อะไร  :fire: เน้นฮาไหน  :z6:

ใช่ๆ 2-3 ตอนมานี่เศร้า แน่นในอก มาตลอดๆ ไหนๆว่าเน้นฮาไง ปั๊ดตบ.......จูบคนเขียนเลยนี่ :m31:
เมฆเอ้ย ยังจะดำเนินแผนนี้ต่อไปรึเนี่ย  ขนาดเพื่อนๆ และฉานไม่เห็นด้วยเนี่ยนะ  หวังว่าฉานจะเลิกทิฐิมาช่วยเมฆ ก่อนที่เสียเมฆไปโดยถาวร :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 14-07-2010 18:38:31
ตอนนี้พี่เมฆโป๊ะหน้าด้วยวุ้ย
ท่านฉานมันจะเห็นมั้ยหว๊า (อยากรู้จัง)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 14-07-2010 18:44:19
ฉานเอ้ย มาได้แล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-07-2010 19:11:57
กดดันแทนพี่เมฆจริงๆให้ตาย :z3:
ไอ้อาทมันเอาจริงเว้ยเฮ้ย เลวได้อีกอ่ะ :beat:
เฮ้ออ...3 ตอนที่เหลือยังคงกดดันอยู่แบบนี้ป่ะคะ...เศร้าไม่ไหวจะเคลียร์ :sad4:
ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 14-07-2010 19:44:19
 :เฮ้อ:อึดอัดจังเลย อ่านแล้วเครียดตามไปด้วยเลย
ขอให้พระคุ้มครองน้องเมฆนะจ๊ะ
ส่วนไอ้อาทเลวให้มันน้อยๆหน่อย
ท่านฉานอย่าลืมดูแลน้องเมฆนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 14-07-2010 20:45:38
อ่านตอนนี้แล้วอึดอัด  เอาเถอะ เกมส์ใกล่จะจบแล้ว
ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลเสมอ  ทั้งพี่เมฆแล้วฉาน
เชื่อว่าพี่ฉาน คงไม่ปล่อยให้พี่เมฆต้องเจออะไรที่แย่หรอก
ไรเตอร์บอกว่าไม่เศร้า เราก็จะเชื่อไรเตอร์นะ (แอบกดดัน กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก)
เหลืออีกสามตอนเองเหรอ  ง่า ขอหวานเยอะๆนะคะ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 14-07-2010 21:00:56
  :serius2:อึดอัด อึมครึม  ฉานอยู่ไหน !!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 14-07-2010 21:49:47
เฮ้อ ไม่รู้จะพูดอะไร :เฮ้อ:
รอตอนต่อไปขอรับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 14-07-2010 21:59:00
เฮ้อ  เหมือนอะไรๆก็กดดันพี่เมฆซะหมด

เกลียดอาทอ่ะ   โกรธพี่ฉานด้วย   :fire:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 14-07-2010 22:03:18
ตั้งแต่มีเรื่องนายอาทเข้ามา อ่านแล้วรู้สึกเครียด อึดอัด.. :z3:
แถมยังมาทำให้ฉานกะพี่เมฆผิดใจกันอีก  :เฮ้อ:

อีกสามตอนจะจบแล้ว แอบใจหายนิดๆ

ฉาน.... อยู่ไหน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 14-07-2010 22:18:40
กว่าจะถึง 3 ตอยคงขาดใจตายก่อนแน่ๆเลยอ่ะ แง่มๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 14-07-2010 22:19:48
ฉานคะ ทำอะไรซักอย่างเหอะ
สงสารเมฆค่ะ แล้วก็เกลียดอาทมากกกกก

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 14-07-2010 22:46:13
 :เฮ้อ: ถอนหายใจแรงๆให้อากาศหมดปอดกันไปเลย
อึดอัดจัง แต่ก็นะ แต่ละคนย่อมมีเหตุผลของตัวเองแหละ
แต่ขอ :z6: อาททีเหอะ ไม่ไหวจริงๆ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 14-07-2010 23:06:01
เฮ้ออออ อ่านแล้วปวดหัวใจยิ่งกว่าเดิมอีก  :เฮ้อ:

นอนไม่หลับมาหลายคืน คิดว่าตอนใหม่นี่จะเคลียร์กันลงตัวแล้วซะอีกง่ะ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

รอเวลาที่ดวงตะวันจะกลับมาทอแสงให้กับก้อนเมฆอย่างเดิมนะครับ  :L1: :L2: :L1:


 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 15-07-2010 05:47:30
ว้า อีกสามตอนจะจบแล้วเหรอครับเนี่ย เสียดายจังเลยง่า
อยากได้ฉากของพี่ไม้กะไอ้ตี๋น้อยอีกอะครับ  :z1:
ขอบคุณคนแต่งและคนโพสอีกครั้งนะครับ  :pig4:
มาปูเสื่อรอติดตามตอนต่อไป  :3123:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 15-07-2010 08:11:55
เน้นนนนนนนนนนน  อย่าเศร้า แค่นี้ก็ปาดนำตาจะแย่แล้ว :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 15-07-2010 13:25:21
อิเจ้  มันค้างๆ เรื่อง พี่เมฆ กับ ไอ้กรูปี อ่ะ

ม่ายยยยยยยอม เอามาต่อเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 15-07-2010 13:55:27
หง่า บีบหัวใจ ฉานอย่าทอดทิ้งพี่เมฆน้าาาาา  :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 15-07-2010 15:09:39
อึดอัด หงุดหงิด จิตตก
เบรคอ่านชั่วคราว
รอนายฉานก่อน
มาช่วยน้องเมฆได้แล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 15-07-2010 22:03:43
ตามทันแล้ว  :mc4:
เมฆ กับ ฉาน น่ารักจังเลย
เหมาะกันมาก
ยิ่งฉานเรียกเมฆว่า "เมีย" ขำกร๊ากเลยอ่ะ  :jul3:



ถึงตอนล่าสุด ฉานอย่าใจร้ายกับเมียนักเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 15-07-2010 22:15:32
นี่ใช่เรื่อง อิพี่ฉาน กะ ท่านเมฆ ที่เคยอ่านแล้วยิ้มแล้วหัวเราะฮากระจายจริงๆใช่มั้ย  :z3: 
ทำไมอ่านแล้วมันหน่วงๆ หนักๆ หัวเราะไม่ออกแล้ว :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 16-07-2010 03:03:55
เฮ้อ...หวังว่าจะมาเจอกันครึ่งทาง โดยที่ไม่มีเรื่องอะไรนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 16-07-2010 04:36:14
งานนนี้เค้าไม่ได้เคืองพี่ฉานนา เืองน้องเมฆเนี่ยแหละ
ทำเหมือนพี่ฉานพึ่งพาไม่ได้ซะงั้น เปนใครใครก็คงผิดหวัง
แทนที่จะช่วยกันแก้ปัญหา กลับคิดจะเผชินมันคนเดียวซะงั้น
ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ต้องรับไปคนเดียวเต็มๆแหละนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 16-07-2010 21:30:50
ดันๆ ตกไปอยู่หน้าสองแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 17-07-2010 00:09:46
เข้ามา รอ ร้อ รอ ครับผม

 :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 17-07-2010 13:43:39
กระแทก กระทุ้ง ให้พุ่งไปหน้าหนึ่ง  :z2:

อึมครึมถึงตอนอวสาน เลยม้ายยย  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 17-07-2010 18:11:33
ใหนบอกว่าจะทั้งฮาทั้งหวาน แล้วนี่อารายเนี่ยะ  ปวดตับสุดๆ  :m15:
 o18 ไรท์เตอร์ดูแลตัวเองดีๆนะคร๊าบบบ  เป็นห่วง  o18 (กลัวคนอ่านวิ่งเอามีดไล่จิ้มพุง)  :laugh:


ปล. เศร้าอีก 3 ตอน หลังจากนั้นขอพิเศษ หวานๆหื่นๆอีก 10 ตอนละกัล  เนอะๆๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 17-07-2010 20:16:33
งืมม
โกรธเมฆมากมาย
ทำอะไรทำไมไม่คิดว่าผลที่คตามมาจะเป็นอย่างไรบ้าง
อย่างที่ฉานบอก
เมฆไม่คิดอะไรเลยจริงงๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 17-07-2010 21:10:28
นุ้งเซไม่รู้ไปเมาอยู่ที่ไหน ..... ว่าจะอ้อนให้นุ้งเซ ขนตอนเศร้าๆ

มาเขย่าหัวใจคุณหฤษ เอก ให้ปวดตับเล่นๆอีกสักรอบ

 :laugh:



 :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 17-07-2010 21:45:33
บวกหนึ่งรอตอนที่สี่สิบสาม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 42] 14 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 17-07-2010 23:18:24
ดันรอครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 18-07-2010 14:55:42
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 43
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

 “เกมส์ใกล้จะบิงโก อย่าลืมสัญญาลูกผู้ชาย อาท รอรางวัลปลอบใจอยู่ทุกวินาที”


เพราะไอ้ประโยคชวนหัวเสียประโยคนี้ ทำเอาผมต้องคลาดสายตาจากอันดาจนได้


ไอ้เชี่ยอาท.......ไอ้เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดเป็ด


ผมเดินเตะฝุ่นเตะหินระบายอารมณ์แก้เซ็ง คนเยอะ ซอยก็แยะ แค่ช่วงเวลาที่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความ
และอึ้งผสมอารมณ์ใกล้เคียงประสาทจะแดกกบาล
เพียงช่วงระยะเวลาไม่กี่นาที ผมก็มองไม่เห็นแผ่นหลังของอันดาแล้ว
หมายเลขแรกที่โทรออกคือ อันดา
แต่ว่าให้นรกเย็นเถอะ.........ผมฟังเพลงเกาหลีตามสมัยวัยรุ่นหญิงของประเทศไทยเค้าชอบกันจนจะร้องได้อยู่แล้ว อันดาก็ไม่มีทีว่าจะรับสาย......จะปาโทรศัพท์ทิ้งระบายอารมณ์ก็ดันนึกไปถึงหน้าของไอ้คนที่มันซื้อให้ ก็ต้องยัดโทรศัพท์แทนใจนี่กลับเข้ากระเป๋าไปอย่างเดิม



เพราะมึง!!! เพราะมึงแท้ๆเลยฉาน  ถ้ามึงแค่คาดคั้นกูสักนิด ข่มขู่กูสักหน่อย แค่นี้กูก็คายแผนการอันแยบยลออกมาให้มึงฟังหมดแล้ว......แต่นี่อะไร โกรธกูแล้วก็ปล่อยกูเอาไว้ข้างหลังคนเดียวแบบนี้เหรอ

“ไหนมึงบอกว่ามึงรักกูไงไอ้หน้ากูปรี แล้วทำไม ตอนนี้มึงไม่อยู่ข้างกูวะ”



ตีอกชกหัวทำร้ายขอบฟุตบาทและแนวต้นไม้ที่ผมเดินผ่านแบบไร้จุดหมาย  ระบายอารมณ์ออกไปได้ ก็ต้องจำใจหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกอีกครั้ง หมายเลข 10 หลัก ที่ชาตินี้ผมจะไม่มีวัน เมมเอาไว้ให้ระคายเคืองเมมโมรี่ของโทรศัพท์แทนใจของผมเด็ดขาด  สูดลมหายใจลึก เตรียมพร้อมตะโกนใส่กระบอกโทรศัพท์เต็มที่

“เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ค่ะ The number you dial can not to be connect”


โธ่เว้ยยยยยยย ผมสบภออกมาแบบไม่อายใคร จะไปอายทำไมกับแค่ฝูงชนที่เจอกันครั้งเดียว
ไอ้เชี่ยอาทปิดเครื่อง ทั้งๆที่เมื่อกี้มันเพิ่งส่งข้อความมาหาผม แต่ตอนนี้มันปิดเครื่อง กะบะปลูกต้นไม้ข้างทางเดินโดนเท้าผมพิสูจน์ความแข็งแรงเข้าไปเต็มๆ โทรหาอันดาไม่รับสาย โทรหาไอ้อาทก็ปิดเครื่อง แล้วผมจะต้องทำยังไง แล้วน้องผมจะเป็นยังไง ความกังวลและความห่วงใยตีกันในอกผมจนปั่นป่วนไปหมด ทั้งๆที่คิดว่าแผนนี้ผมน่าจะควบคุมมันได้
แต่สุดท้ายกลายเป็นผมเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย

ทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งหน้าร้านกิ๊ฟชอปอะไรสักอย่าง หัวสมองยังขาวโพลน ผมไม่มีสติพอที่จะคิดอะไร สถานที่แห่งนี้ถึงไม่ได้กว้างใหญ่อะไรมากนัก แต่ร้านรวงและซอกซอย รวมทั้งคนที่เดินไปมาพลุกพล่านขวักไขว่ มันไม่เหมือนการเล่นซ่อนหา ที่อย่างน้อยคนหายังพอจะจับจุดได้ว่าตรงไหน น่าจะเป็นเป้าหมายให้หลบซ่อน สองมือกุมขมับ หน้าผมก้มต่ำจนชิดอก

ความรู้สึกปั่นป่วนจนควบคุมตัวเองไม่ได้นี้ ทำให้ร่างกายผมสั่น อย่าหวังว่าผมจะไปควบคุมอะไรใครเลย แค่ควบคุมตัวเองไม่ให้สั่น ผมยังทำไม่ได้ มันดูน่าอดสู สำหรับพี่ชายที่พยายามจะเป็นที่พึ่งของน้อง สุดท้ายการตามหาอันดาคงทำได้เพียงแค่รอคอย รอคอยเสียงโทรศัพท์เพื่อจะบอกว่า นางฟ้าของผมอยู่ที่ไหน




แขนที่ควรจะเป็นที่รองรับใบหน้าและหัวที่กำลังหนักอึ้งของผมข้างหนึ่งโดนกระชากออกไป กำลังจะตอบโต้ด้วยสัญชาตญาณลูกผู้ชายแต่ก็ต้องชะงัก นางฟ้าที่ผมกำลังตามหาจนแทบจะบ้าคลั่ง มาหยุดอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเศร้าหมองแต่ไม่มีแม้ร่องรอยของคราบน้ำตา ทำให้ผมเก็บกลืนคำพูดที่จะตั้งจะลั่นออกมากลับเข้าไปจนหมด

“พี่เมฆ เรากลับบ้านกันเถอะ”

ไม่มีเสียงตอบรับหรือคำปฎิเสธจากผม สองขาลุกขึ้นตามแรงดึง คนที่เดินนำแต่มือยังไม่ปล่อยจากแขนผมก้าวไปข้างหน้า มันไม่ได้เร็วจนผมก้าวไม่ทันแต่อย่างใด ตรงกันข้าม อันดาก้าวเดินไปข้างหน้าอย่าช้าๆ แต่ทว่ามั่นคง แผ่นหลังตรง ไหล่บอบบางที่ผมหมายมั่นนักหนาว่าจะต้องปกป้องเอาไว้ ดูแข็งแกร่งกว่าที่ผมคิดไว้อย่างไม่น่าเชื่อ มือบางที่จับท่อนแขนค่อยๆเลื่อนตำแหน่งมาประสานเอาไว้ในมือผม อันดายังเดินไปข้างหน้า แต่มือเรายังเกี่ยวกันเอาไว้
ไม่นานก็ทะลุมาถึงหน้าถนนใหญ่ ผมกวักมือเรียกแท็กซี่ที่ผ่านหน้า ตั้งแต่เราเดินจนมาหยุดเคียงข้างกันได้ อันดาก็ก้มหน้าเงียบ ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจนผมรู้สึกวุ่นวายใจ มีเพียงมือที่ยังกอบกุมมือผมเอาไว้เท่านั้น ที่พอจะยืนยันได้ว่า ผมไม่ได้ยืนอยู่ใจกลางสยามแค่เพียงคนเดียว

รามคำแหงซอย ........หมู่บ้าน......ครับ
จัดการเรื่องบอกทางแท็กซี่เสร็จ หันกลับมาอีกที อันดาก็นั่งพิงหน้ากับขอบหน้าต่างเสียแล้ว อาการเงียบหงอยของน้องทำให้ผมต้องดึงร่างบอบบางให้ขยับเข้ามาใกล้กัน  มือผมโอบไหล่บอบบางเอาไว้ อันดาพิงซบลงมาที่บ่าผม ผมไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของคนที่ทรมานแทบจะขาดใจ เมื่อเห็นคนที่เรารักร้องไห้ เพราะความรู้สึกที่เรียกว่าทรมานนั้น ผมรู้สึกได้ทั้งๆที่คนข้างๆผมไม่ได้ร้องไห้เสียด้วยซ้ำ ไม่มีเสียงสะอื้น และถ้อยคำพรรณาระบายความทุกข์ใจอะไร นอกจากใบหน้าที่เศร้าหมองและหน่วยตาคมมีน้ำตาออกมาคลอเบ้า แต่มันก็แค่นั้น มันก็แค่คลอเบ้า มันไม่ได้ไหล ถ้าหากอันดาจะร้องไห้โวยวายหรือทำร้ายร่างกายผมเพื่อให้ความอัดอั้นตันใจทุเลาเบาบางลงไปได้บ้าง  ผมก็คงจะไม่รู้สึกวูบโหวงในใจได้ขนาดนี้
อันดาเงียบ เงียบจนผมอึดอัด เงียบจนผมรู้สึกกลัวและรู้สึกเกลียดตัวเอง ทั้งๆที่คิดดีแล้วว่าผมจะต้องปลอบใจอันดาให้ได้ เมื่อเวลานั้นมาถึง แต่นั่นมันเป็นการปลอบใจที่ผมซ้อมเอาไว้ สำหรับอันดาคนที่โวยวาย ไม่ใช่อันดาที่เงียบงันอยู่ในอกผมแบบนี้

ผมรู้แล้วว่าอิทธิพลที่มีผลต่อความกลัวในใจ จากคนที่รัก ไม่ได้มาจากความโกรธหรือความใจร้อนหุนหันพลันแล่นแต่อย่างใด แต่มันมาจากความเงียบ ความเงียบที่ผมเดาไม่ได้ว่าคนๆ นั้นกำลังคิดอะไรอยู่มากกว่า


ผมลูบไหล่อันดาแต่เพียงเบามือ หวังเพียงแค่ปลอบใจและให้น้องรู้ว่ายังมีผมอยู่ใกล้ๆ ฝังจมูกลงไปในกลุ่มผมหอมและหน้าผากชื่นเหงื่อ ไรผมยุ่งเหยิงถูกผมเก็บทัดหูเอาไว้ แรงกอดรัดจากแขนที่โอบรอบตัวผมแรงขึ้น แรงสั่นจากร่างบางทำให้ผมเจ็บร้าวไปทั้งใจ อันดาไม่ร้องไห้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บ น้องผมเข้มแข็งเกินกว่าที่จะปล่อยมันออกมาให้ใครได้เห็น

“มันจบแล้วพี่เมฆ มันจบแล้ว พี่เมฆดีใจมั้ยที่อันดาเลิกกับพี่อาทแล้ว พี่เมฆอยากให้อันดาเลิกกับพี่อาทใช่มั้ย อันดาเลิกได้แล้วนะ เลิกแล้วจริงๆ” เสียงพร่าสั่นพูดซ้ำๆอยู่กับอกผม น้ำเสียงแห้งผากไร้ชีวิตชีวา มาถึงขนาดนี้ อันดายอมเปิดเผยความปวดร้าวออกมาขนาดนี้ แต่ไม่มีแม้น้ำตาสักหยดที่จะไหลออกมาให้เห็น
แล้วมึงดีใจมั้ยเมฆ ความตั้งใจจะแยกน้องออกจากไอ้คนจัญไรนั่นมึงทำสำเร็จแล้ว ความเจ็บปวดของคนตรงหน้าแม้ไม่มีน้ำตาก็บอกได้ชัด เค้าเลิกกันอย่างที่มึงต้องการแล้วเมฆ.....มึงควรจะยิ้มและหัวเราะด้วยความดีใจใช่มั้ย

แล้วทำไมน้ำตามึงถึงไหลออกมาได้หละเมฆ...........มึงมันเป็นพี่ที่ใช้ไม่ได้



ร่างบอบบางของอันดาถูกผมประคองลงมาจากแท็กซี่ ท่าทางของผมคงทุลักทุเลไม่น้อย เสียงคุ้นเคยถึงได้ร้องทักออกมาตั้งแต่ผมยังไม่ทันจะเห็นหน้าเสียด้วยซ้ำ

“เอ้า เอ้า เป็นอะไรกันมาหละพี่น้อง แล้วนั่นอันดาเป็นอะไร” น้ำเสียงคล้ายคนที่ผมคุ้นเคยแต่ทุ้มต่ำและนิ่งขรึมกว่า ผมโอบเกี่ยวไหล่อันดาเอาไว้ ก่อนจะยกหน้าขึ้นหวังจะตอบคำถามน้าชาติ แต่ทว่าเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมา คำพูดทั้งหลายที่ตระเตรียมเอาไว้ถูกกลืนกลับเข้าไปจนหมด ตรงหน้าผมไม่ได้มีแค่น้าชาติ แต่กลับมีคนที่ผมไม่รู้จักอีกสามคน รวมทั้งไอ้คนใจร้าย ที่มันประกาศเอาไว้ว่าจะไม่สนใจผม แล้วมันก็ทำได้ สายตาเฉยเมยที่ผมเผลอลอบไปสบตาด้วยความเคยชิน ทำเอาใจผมวูบโหวง ไม่มีอะไรในแววตา เหมือนครั้งสุดท้ายที่พบกัน ไม่มีน้ำเสียงทักทาย ทั้งๆที่ปกติแล้วแทบจะกระโดตบหัวผมเสียด้วยซ้ำ

“สวัสดีครับ อันดาไม่ค่อยสบายอะครับน้าชาติ ผมพาน้องไปพักผ่อนก่อนนะครับ” ผมยกมือไหว้น้าชาติและแขกที่เดินออกมาด้วยกัน บอกสาเหตุที่ต้องประคับประคองกันออกมาจากแท็กซี่ได้ ก็ขอตัวออกไปจากตรงนั้นทันที ก่อนที่ผมจะหมดแรงลงไปตรงนี้ แว่บนึงที่ปลายตาไปเห็นไอ้ฉานกับเธอคนนั้นยิ้มให้กัน ผมไม่รู้ว่าเป็นยิ้มตามมารยาท หรือเป็นยิ้มที่เต็มด้วยความหมาย แต่ไม่ว่าจะเป็นยิ้มที่มาจากอะไร ก็ทำให้ใจผมปวดหนึบขึ้นมาได้โดยไม่รู้สาเหตุทั้งนั้นแหละ

“พี่เมฆ น้องเป็นอะไรเหรอลูก ตอนเช้ายังดีๆกันอยู่เลย” เสียงแม่ที่วิ่งออกมาช่วยประคองอันดาร้องถามอย่างร้อนใจ

“คนเยอะ แดดร้อนนะครับแม่ น้องไม่ชิน เลยไม่ค่อยสบาย” อันดาปลายตามองเหมือนจะขอบคุณผมที่ออกตัวตอบแทนให้ น้องคงอึดอัดใจที่จะตอบ

“งั้นเหรอลูก ไปๆ ขึ้นไปพักผ่อนนะลูกนะ เดี๊ยวแม่เอายาขึ้นไปให้ “ แม่นิ่มผละไปหายา ส่วนผมทำหน้าที่ประคองน้องขึ้นไปบนห้อง ผมค่อยๆวางร่างบางให้ล้มตัวลงบนที่นอน ก่อนจะดึงผ้าขึ้นมาห่มให้

“เดี๋ยวแม่เอายาขึ้นมาก็กินซะนะ เดี๊ยวแม่จะสงสัย อีกอย่างดูเหมือนอันดาจะไม่สบายขึ้นมาจริงแล้วนะ “ผมลูบผมของอันดาอย่างรักใคร่ ก่อนจะกระชับผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงปลายคาง

“พี่เมฆจะไปไหน” มือที่เหนี่ยวรั้งผมเอาไว้ทำให้ต้องทรุดนั่งลงไปนเตียงอีกที สายตาเหมือนเด็กน้อยโดนผู้ใหญ่ทิ้งทำให้ผมต้องส่งยิ้มไปให้

“ไปทำธุระของตัวเองนิดหน่อย วันนี้ถ้าอันดาจะร้องไห้ พี่ให้โอกาสเต็มที่ แต่พรุ่งนี้อันดาต้องกลับมายิ้มได้เหมือนเดิม เข้าใจมั้ย” ผมพูดทีเล่นทีจริง ก่อนจะยีหัวอันดาเล่นเหมือนทุกครั้ง นางฟ้าน้อยของผมส่งยิ้มมาให้ ปากยิ้มแต่แววตาเศร้าสร้อยทำเอาผมแทบเบือนหน้าหนีเพราะความใจหาย แต่ก็ต้องฝืนย้อมตอบกลับไปให้น้องจนได้......หัวอกกลัดหนองมันเป็นแบบนี้เองสินะ อึดอัดจนทรมาน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“พี่เมฆก็เหมือนกันนะ” ขาที่กำลังจะก้าวออกห้อง ต้องชะงักจนต้องหันมาประจันหน้ากับคนที่นอนมองอยู่บนเตียงอีกครั้ง

“หือ พี่ทำไมเหรอ” ชี้มาที่ตัวเองด้วยความสงสัย ผมไม่ได้แกล้งงง แต่ผมงงจริงๆ

“ทะเลาะกับพี่ฉานอยู่ไม่ใช่รึไง ไปปรับความเข้าใจกันซะ พี่เมฆหัดง้อพี่ฉานบ้างก็ได้นะ “ในแต่ละวันพระเจ้าจะแกล้งให้ผมต้องสะดุดลมหายใจตัวเองสักกี่ครั้งกัน .......อันดารู้ได้ไงว่าผมกับไอ้ฉานทะเลาะกัน นี่กูแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ

“เรารู้ได้ไง” ถึงจะแอบรู้คำตอบแต่ก็อดที่จะถามไม่ได้

“มันยากตรงไหน ก็พี่สองคนเฉยชาใส่กันซะขนาดนั้น มองหน้าก็ทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน เป็นใครก็ต้องรู้สึกได้ว่ามันไม่ปกติ” เสียงแหบแห้งตอบกลับมาจนหน้าผมแทบชา ผมไม่ปฎิเสธ ว่าผมกับไอ้ฉานปฎิบัติตัวต่อกันอย่างที่อันดาว่ามาจริงๆ เพียงแค่ไม่คิดว่าจะเป็นที่สังเกตุ ก็เท่านั้น

“มั่วใหญ่แล้ว พี่กับไอ้ฉานไม่ได้ทะเลาะกันซะหน่อย” ผมไม่ได้ทะเลาะกับมันจริงๆนะ มีแต่มันที่โกรธผมก็เลิกสนใจผมไปเอง พูดถึงมันแล้วทำไมถึงรู้สึกว่ามีก้อนอะไรตืบตันมันขึ้นมาจุกอยู่ตรงคอ ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ผมกระพริบตาไล่หยดน้ำที่จะไหลออกมาจวนเจียนจะพ้นขอบหน่วยตา หันหลังเดินออกจากห้องยังไม่ทันจะเปิดประตู

“ปรับความเข้าใจกับพี่ฉานนะพี่เมฆ พี่เมฆกับพี่ฉานไม่เหมือนอันดากับพี่อาท อย่าให้ความไม่เข้าใจกันทำร้ายจนต้องเจ็บปวดเหมือนอันดาเลยนะ” มือที่จับลูกบิดประตูชะงักค้าง ผมหันหลังกลับไปเพื่อขอบคุณน้องไม่ได้ ผมจะให้น้องเห็นไม่ได้ว่า น้ำตาที่ผมไล่มันกลับคืนไปเท่าไหร่ กลับรินไหลออกมาจนตาพร่าไปหมดแล้ว

กลับเข้าห้องมาด้วยความรู้สึกปวดหนึบไปทั้งอก อะไรๆก็เหมือนจะถาโถมเข้ามาจนผมเองก็แปลกใจ ว่าผมทนรับมันอยู่ได้ยังไง โทรศัพท์สั่นอีกแล้ว มันจะสั่นอะไรหนักหนา ถึงผมพอรู้ว่ามาจากใคร และผมก็รู้ว่าไม่อยากจะชายตาไปแลมันขนาดไหน  แต่บางที บางทีที่ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่า ไอ้คนใจร้ายมันจะแอบส่งข้อความมาต่อว่าผมบ้างอย่างที่เคยทำประจำตอนไม่เข้าใจกัน ถึงจะเป็นข้อความที่ส่งมาต่อว่า แต่ผมก็รู้อีกนั่นแหละว่ามันคือการง้อกลายๆ

“หกโมงเย็นอาทจะรอตรงริมรั้วข้างบ้าน ห้ามผิดสัญญานะ”
“ทำไมเงียบไปหละ อย่าตุกติกกับอาทนะเมฆ”
“ถ้าไม่มีคำตอบกลับมาจะว่าอาทใจร้ายไม่ได้นะ”
“ยังไงอาทจะรอนะเมฆ อย่าคิดว่าอาทไม่กล้าเข้าไปลากเมฆออกมาจากบ้านนะ”
“อาททำสำเร็จแล้ว ลูกผู้ชายสัญญาอะไรไว้ต้องทำสิ”
“อาทจะรอ ยังไงก็จะรอนะ”
ผมข่มใจไล่อ่านถึงประโยคสุดท้าย อดชมตัวเองอยู่ในใจไม่ได้ว่า ความอดทนมึงช่างล้ำเลิศนะเมฆ หรือว่ามึงจะบรรลุธรรมเป็นองค์ศาสดาแล้ว ปกติ ความอดทนมึงทะลุขีดแดงตั้งแต่อ่านประโยคที่สองยังไม่จบเสียด้วยซ้ำ

แต่จะมีใครรู้ สาเหตุที่ผมทนอ่านจนถึงข้อความสุดท้ายได้ เพราะผมหวัง ผมหวังว่าในข้อความอัปยศนั่น จะมีข้อความไอ้ฉานแทรกเข้ามาบ้าง สักแค่ หนึ่งข้อความก็ยังดี...แต่แล้วความหวังผมก็ไม่ได้อะไร นอกจากความว่างเปล่าและข้อความเน่าๆของไอ้เชี่ยอาร์ท

โทรศัพท์สั่นอีกแล้ว ผมกดอ่านตามสัญชาติญาณที่พาไป


“เมฆ อาทจะรอนะรู้ใช่มั้ย อาทเอาจริงนะเมฆ อย่าหาว่าอาทใจร้าย”




“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้ฉิบหาย จะจิกอะไรกูนักหนา ให้เวลากูทำใจบ้างได้มั้ย แล้วตอนกูจิกโทรไปมึงติดต่อไม่ได้ไม่ใช่เหรอไอ้สันดาน พอทีตอนนี้ส่งข้อความหากูยิกๆเลยนะไอ้จัญไร โธ่เว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!



ผมโยนโทรศัพท์ไปบนเตียง ก่อนจะกระโดดตามไปซบหน้ากับหมอน ความสับสนวุ่นวายใจประเดประดังเข้ามา ตอนนี้ผมแยกไอ้อาทออกมาจากอันดาได้ น้อผมเสียใจและปวดร้าว แต่อันดาเข้มแข็งกว่าที่ผมคิดไว้ ผมเชื่อว่าน้องจะต้องผ่านความรู้สึกนี้ไปได้ และไม่นาน ผมจะต้องได้น้องสาวคนเดิมกลับมา
เชือกที่ผมเป็นคนลงมือผูกด้วยตัวเอง ผมคงไม่ตามหาว่าความผิดพลาดมันอยู่ที่ตรงไหน ความตั้งใจที่จะผูกเงื่อนที่คลายออกได้ ถึงได้พลิกมาเป็นเงื่อนตายขนาดนี้ บางทีคนเราก็ต้องโง่ในเรื่องที่ไม่น่าโง่ ปมที่ผมผูกไว้คงไม่มีใครคลายมันได้นอกจากตัวคนผูกเอง วันนี้คงจะต้องเป็นวันที่ผมต้องคลายเงื่อนตายให้ได้ .........ผมต้องทำมันได้สิน่า

เอาวะเป็นไงเป็นกัน หกโมงเห็นข้างรั้วบ้านใช่มั้ย ตรงมุมซอยสินะ ตรงนั้น ที่ตรงนั้น มันบ้านไอ้ฉานนี่หว่า ก็บ้านผมหนะเข้าซอยย่อยถัดจากบ้านไอ้ฉานมา.................หวังว่า ไอ้ฉานคงไม่เห็นและรถไฟคงไม่ชนกันใช่มั้ยครับพระเจ้า


ผมเอาหน้าซุกกับหมอนสลับกับเอาหัวโขกมันเบาๆ ถึงจุดนี้แล้ว มันเสียจนไม่มีอะไรจะเสียแล้วไอ้เมฆ


มือผมควานหาโทรศัพท์ที่โยนทิ้งไว้ ตอนนี้ไม่รู้มันจมหายไปอยู่ส่วนไหนของเตียงนอน ไอ้เตียงงี่เง่านี่ก็กว้างฉิบหาย เมื่อก่อนตอนที่ไอ้ฉานมันมาแย่งนอนด้วย ก็ยังแอบรู้สึกว่ามันแคบดิ้นได้ไม่มันส์เท่าไหร่เลย แต่ทำไมวันนี้เตียงหลังเดียวกันกลับทำให้ผมรู้สึกว่ามันกว้างจนใจหาย  โทรศัพท์กดโทรออกไปยังเบอร์ที่ส่งข้อความทำลายระบบประสาทมาให้ เหมือนปลายสายจะรอผมอยู่ทุกวินาที แค่พอกดโทรออกไป ปลายสายก็กดรับ


“หกโมงเย็น ก็โมงเย็น ไม่ต้องส่งมาซ้ำขนาดนี้ก็ได้ แล้วเจอกัน” ผมไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายโต้ตอบอะไรกลับมา ก็กดวางพร้อมทั้งปิดเครื่องไปเลยในเวลาเดียวกัน


“สู้โว้ยยยยยยยยยยพี่เมฆ จัดการไอ้อาทซะ แล้วมึงจะได้กลับมาง้อไอ้ดวงตะวันหัวล้านใจน้อย อย่างที่อันดาบอกสักที สู้ๆ”


“เมฆเสียงดังโครมครามอะไรลูก น้องไม่สบายต้องการพักผ่อน” เสียงปรามลอยมากระทบทำให้ผมต้องหยุดนิ่งไป



หยุดตะโกน แต่ผมไม่ได้หยุดยิ้ม ....... ไม่ได้อยากง้อเท่าไหร่หรอกนะไอ้ฉานหนะ แต่พอดีตอนที่หาโทรศัพท์เมื่อกี้แล้วรู้สึกว่า เตียงมันกว้าง กว้างเกินความจำเป็นแค่นั้นเองนะ พี่เมฆหนะ ไม่ได้อยากจะง้อใครเลยจริงๆ




 
2-3 ตอนสุดท้ายแต่งลำบากมาก แต่งไปก็เสียวสันหลังไป
กลัวคนอ่านขู่กระทืบ พี่ฉานก็ค่าตัวแพงจนน่าใจหาย
ออกก็น้อย แถมยังทำร้ายจิตใจพี่เมฆอีก
อีกสองตอนแล้วนะค่ะ อีกสองตอนแล้ว
พี่เมฆกับท่านฉานจะเข้าใจกันมั้ย
เข้าใจกันยังไง เข้าใจกันที่ไหน
(ใครบอกว่าเข้าใจกันบนเตียงนี่ โป้ง!! )


ขอบคุณทุกคนค่ะ ขอบคุณจริงๆ ยินดีต้อนรับแฟนๆ
พี่เมฆกับท่านฉานหน้าใหม่ทุกคนนะคะ
๐.....  :pig4:
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 18-07-2010 15:37:12
อ่า อึดอัดๆๆ พี่เมฆสู้ๆๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 18-07-2010 15:41:15
 :กอด1:คนแต่งกะคนโพส
ขอบคุณนะที่ไม่เครียดอย่างที่คิด
รอทั้งคู่ดีกันใต้เตียงละกัน o18
หวังว่าคนแต่งคงรักษาสัญญานะ
แฮปปี้เอ็นดิ้งอย่าให้คนอ่านต้อง.... o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 18-07-2010 15:43:52
 :a2:นะเมฆเป็นกำลังใจให้

อีก2-3ตอนเองหรอที่จะจบแล้วอ่า :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 18-07-2010 15:55:47
เมฆสู้ว้อยยยย!!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 18-07-2010 16:06:03
แทบจะรออีกสองตอนไม่ไหวแล้วค่ะ

อยากให้เข้าใจกันตอนหน้าเลย

พี่เมฆสู้โว้ยยยยย!!! เป็นกำลังใจให้พี่เมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 18-07-2010 16:08:43
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ เดี๋ยวจะไปเข็นไรเตอร์ให้ตอนนี้ก็ไปตบตีกันบ่อยอยู่ว่า พล๊อตแกเปลี่ยนเรอะ
ความฮาไปไหน เศร้าๆเค้าไม่อ่านกัน  :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 18-07-2010 16:11:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 18-07-2010 16:13:06
อ่านแล้ว  กลัวพี่เมฆจะเสียเปรียบอีตาอาทจัง
และกลัวพี่ฉานบอกเลิกพี่เมฆด้วย งือ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 18-07-2010 16:14:42
รอตอนต่อไปดีกว่าขอรับ เฮ้อ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 18-07-2010 16:19:42
อิพี่ฉานน้อยใจ
+55
น่าดูชะมัดเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 18-07-2010 16:27:23
ลุ้นตอนจบจังเลยค่ะ ยังไงก็ยังเชื่อว่า ท่านฉานไม่มีทางที่จะทิ้งพี่เมฆให้ลำบากอยู่คนเดียวจริงๆหรอก
แถมยังแอบหวังว่าตาอาทเนี่ยจะมีความเป็นคนดีซักเสี้ยวเล็กๆในใจ แล้วอะไรๆก็คงไม่เลวร้ายมากไปหรอกมั้ง?
(แบบว่า.. จริงๆเราก็ไม่ค่อยอยากเกลียดคนที่มาชอบพี่เมฆหรอก ฮ่าๆๆ)

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 18-07-2010 16:30:22
หวังว่า ทุกอย่างคงลงเอยได้ด้วยดีค่ะ
พี่เมฆสู้ๆๆๆนะ เค้าเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 18-07-2010 17:03:39
พี่เมฆ จัดการให้เด็ดขาดไปเลยนะ
เชื่อว่ายังไงฉานก็ไม่ปล่อยพี่เมฆไปหรอก
ไรเตอร์ ขอหวานๆ มั่งสิค่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 18-07-2010 17:05:54
พี่เมฆคิดทำไรอยู่ มันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ ไม่แน่ใจเลยอ่ะ :bye2: o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-07-2010 17:21:19
ถึงจะอึดอัด แต่ก็ต้องทนสองตอนที่เหลืออย่างใจจดจ่อ :z3:
พี่เมฆสู้ๆค่ะ เอาใจช่วยสุดชีวิต :a2:
อยากให้คืนดี (บนเตียง) ใจจะขาดแล้ววววว :o8:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 18-07-2010 17:29:46
เอาให้มันจบๆไปเลยค่ะ อย่าได้คาราคาซัง แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย คนอ่านจิทนไม่ได้
พี่เมฆกับพี่ฉานต้องคืนดีันแน่นอน  คืนดีกันที่ริมรั้วข้างบ้าน ตรงมุมซอย  เวลาหกโมงเย็น ฮ่าๆ  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 18-07-2010 17:55:32
น้องเมฆสู้ๆ น้ิงเมฆสู้ตาย ไว้ลายสู้ๆนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Miz ที่ 18-07-2010 17:56:06
นาทีสุดท้ายฉานจะช่วยเมฆมั้ยนะ ฉานจะปล่อยให้เมฆไปสู้คนเดียวได้ยังงัย  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 18-07-2010 18:01:34
อีกสองตอนเอง โธ่

ว่าแต่ ไอ้อาทจะตายคาตีนฉานไหม รึจะตายคาตีนเมฆก่อน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 18-07-2010 18:39:53
เมฆมักคิดว่าทุกอย่าง่ายดาย แต่ความจริงในความง่ายดายมักมีอะไรที่น่ากลัวเสมอ
ยังไงก็ลองคิดแง่ลบไว้บ้างนะเมฆ แต่เมฆควรง้อฉานก่อนนะ เพราะกลัวเงื่อนตายที่
เมฆผูกไว้จะกระตุกฆ่าเมฆเอาอะ อาทไม่ได้ดีอย่างฉานนะ ร้ายอะรู้ไม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-07-2010 18:43:03
โอ๊ยยยยย ยังไม่หายอึดอัดปวดใจซักทีง่ะ เฮ้ออออ  :เฮ้อ:

เอาเป็นว่าให้พี่เมฆออกไปเจอไอ้ยาฆ่าแมลงสาบตรงบ้านพี่ฉานแล้วก็ให้พี่เมฆกระทืบไอ้นั่นแล้วพี่ฉานก็มาช่วยรุมกระทืบด้วยดีป่าว

เสร็จแล้วก็ให้พี่เมฆกับพี่ฉาบปรับความเข้าใจกันแบบเคยๆนั้นแหล่ะ แต่ครั้งนี้เอาแบบว่ากลางถนนให้ไอ้อาทมันเห็นจะๆเลย ไม่ต้องกลับไปที่เตียงหรอก ดีป่ะ  :m20: :m20: :m20:

น้องเซกะน้อง TRomance หวังว่าตอนหน้าจะมาพร้อมกับมดทั้งกองทัพนะคร้าบ  :L2:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 18-07-2010 18:54:24
เพิ่งรู้ว่าพี่ฉานหัวล้านอ่ะ  อิอิ

แล้วจะรอน้องเมฆง้อพี่ฉาน  จะง้อแบบไหนเนี่ย 

ถ้าไม่ใช่บนเตียงนี่ นึกไม่ออกจิงๆน้อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: posshiza ที่ 18-07-2010 18:59:56
เฮ้อๆๆๆๆ
ปวดตับกับพี่เมฆจริง ๆ
ไอ้บ้าอาทตั้งใจนัดตรงนั้นให้ฉานเห็นใช่มั้ยล่ะ
แผนสูงจริง ๆ เชียว ฉานอย่างอนพี่เมฆนานนักเลย
เดี๋ยวจะเสียใจทีหลังนะจะบอกให้
ส่วนพี่เมฆรีบเคลียร์ให้เสร็จแล้วไปง้อท่านฉานซะทีเหอะ
คนอ่านลุ้นจนใส้ติ่งจะแตกแล้ว
เป็นกำลังใจให้พี่เมฆจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 18-07-2010 19:31:12
ถ้าเงื่อนมันพันกันยุ่งยากนักล่ะก็
ตัดแม่งทิ้งเลยหนูเมฆ ไม่ต้องประนีประนอมกับคนอย่างอาท
ไม่อย่างนั้นรักของเราคงไร้แสงตะวัน
:z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 18-07-2010 19:58:29
พี่เมฆรีบไปจัดการกับไอ่อาทให้เรียบร้อยนะ
แล้วรีบกลับมาง้อพี่ฉานเลย
พี่เมฆอะทำให้พี่ฉานเจ็บปวดมากรู้มั้ย
มีอะไรไม่ปรึกษาได้แต่คิดเอง :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 18-07-2010 20:14:08
o18 หึหึ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 18-07-2010 20:48:38
ยิ่งอ่านยิ่งอึดอัดอะ  :z3:

จะจบอยู่้แล้วทำไมมันยังไม่เคลียร์กันเลย



อย่าบอกนะว่าจะหวานตอนจบตอนเดียวง่ะ 

รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 18-07-2010 20:49:23
รอลุ้นอยู่ครับ ว่าจะเข้าใจกันยังไง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-07-2010 21:06:16
เมื่อไหร่หนอท้องฟ้าจะปลอดโปร่งซักที
พี่เมฆไปปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วงเถอะ
เดี๋ยวไอ่หน้ากรูปรีที่ว่า  ถ้าคิดได้ก็คงแอบตามไปช่วยเองแหละ
หวังว่านะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 18-07-2010 21:20:41
ในที่สุดก็ตามทันจนได้
ตอนเริ่มเรื่องมาลัลล้ามากๆเลย
เล่นเอาเพ้อพี่ฉานกับนู๋เมฆมาก
แต่ตอนท้ายๆเริ่มอึนๆน้ำตาปริ่มๆ
พี่ฉานนะพี่ฉานทำไมไม่อยู่ข้างๆนู๋เมฆนะ เคืองนะนี่
ปล.อยากจะบอกว่าคนเขียนเก่งจังเลย
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วติดหนึบเลย
ละค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 18-07-2010 21:46:54
พี่ฉานอย่าโก่งค่าตัวให้มันมากนัก รีบ ๆ ออกมาได้แล้ว

ถ้าน้องเมฆโดนไอ้เวรนั้นแตะต้องแม้แต่นิดเดียวละก็

เตรียมเจอรับคำสาปแ่ช่งไ้ด้เลย ชริ ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 18-07-2010 21:55:53
เง้อ อึดอัด เมื่อไหร่จะดีกัน เมื่อไหร่อาทจะหายๆไปซะทีเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 18-07-2010 22:03:01
คนอ่านก้อ หายใจลำบากเจ้

หึหึ ลุ้นอยู่ นะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 18-07-2010 22:05:57
 :z3:

ปวดตับ เป็นที่สุด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 18-07-2010 22:37:08
ฉานมาเร็วๆนะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: www.maxdevil ที่ 18-07-2010 23:10:46
จัดการกับอาทซักที
แล้วก็รีบ ๆ ง้อเข้าหล่ะ ...
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 18-07-2010 23:16:45



 :serius2: :serius2:

ปวดตับ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 18-07-2010 23:31:01
จำได้ว่า คนแต่งบอกนิยายเรื่องนี้ หวานแหวว เน้นฮาอย่างเดียว
แต่ ตั้งแต่อ่านมาจนจะจบเนี่ย ฮาไม่พอ 10 ตอน นอกนั้นหัวใจกระตุกตลอดๆ

อีตาฉานทิฐิไปเหอะ เสียเมฆไปจริงๆจะเสียใจ  :angry2:
อีตาเมฆนี่ก็อะไรไม่รู้เชือกที่นายผูกนอกจากมันจะเป็นเงื่อนตายแล้วมายังยุ่งจนหาต้น ปลายเชือกไม่เจอเลย :serius2:
อีก 2 ตอนจะจบแล้ว  แต่นึกไม่ออกว่ามันจะจบลงได้ยังไง

ปล.ตอนนี้สั้นจัง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 18-07-2010 23:40:36
 :z2: :z2:   เต้นให้กำลังใจพี่เมฆ....แล้วเดินไป  :sad2:  ซุกหน้าลงบนหมอน...แบบเศร้าๆ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: cmholic ที่ 19-07-2010 00:40:46
คืนดีกันบนเตียงก็ดีนะ เข้าใจอะไรๆง่ายดีออก

อาทน่าจะร้ายกว่านี้ซักหน่อย

รู้สึกว่าอาทไม่ค่อยร้ายเท่าไหร่อ่ะ อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกเกลียดอาทเท่าไหร่เลย(รึเราจะชอบแนวนี้หว่า?)

สงสารอันดาไม่น่าเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 19-07-2010 05:36:28
อิพี่ฉาน :z6: พี่เมฆเค้าเศร้าม่ะให้กำลังใจยังจะทำร้ายจิตใจกันอีก
เดี๋ยวเชียร์ให้ได้กะอิอาทซ๊ะ เรื่องจะได้จบแบบแฮปปี้ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 19-07-2010 07:19:38
เฮ่อมาเป็นกำลังใจให้เมฆอะ สู้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 19-07-2010 07:34:02
พี่ฉานหัวล้าน  กร๊ากกกกกกกกกกก    :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 19-07-2010 07:36:04
 :L2:บวกหนึ่งให้กำลังใจน้องเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 19-07-2010 11:36:47
ฮาๆๆ อะไรจะเกิดขึ้นละเนี่ยยยย  o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 19-07-2010 15:38:14
เอาใจช่วยพี่เมฆ สู้ๆ ^_^V
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 19-07-2010 15:50:12
สู้ ๆ ต่อไปนะทาเคชิพี่เมฆ :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-07-2010 16:19:07
รอดูวิธีการแก้ปัญหาของ เมฆ ต่อไป  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 19-07-2010 23:41:27
เข้ามาดัน และ มารอ น้องเมฆ น้องฉาน  :L2:

 :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 20-07-2010 12:40:11
ดัน ตอกย้ำมันเข้าไป ตอนใหม่เมื่อไหร่จะมา  :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 20-07-2010 23:22:12
หล่นมาหน้า 2 แล้วง่ะ  :serius2:

ขอดันอีกรอบนะคร้าบบบบ อึ๊บ อึ๊บ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-07-2010 11:56:05
เจ้มาดัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 21-07-2010 17:41:20
มาเป็นกำลังใจพร้อมดันคร้าบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 21-07-2010 17:46:16
มาเชียร์ มารอ เมฆ


คืนดีกันเถอะ บาดใจแทน  T^T
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 21-07-2010 19:08:58
เพิ่งตามมาอ่านเรื่องนี้ค่ะ

ขอเป็นแฟนคลับหน้าใหม่อีกคน

อ่านมาถึงตอนที่สี่สิบสามแล้ว

บีบหัวใจอย่างมาก

อยากรู้ว่าเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร

แต่ขอให้จบด้วยดีนะคะ

ไม่เอาแบบเสียน้ำตานะคะคนเขียนขา

ป.ล. จิ้มบวกเป็นรางวัลให้คนขยันโพสต์ด้วยนะคะ

เผื่ออานิสงฆ์จะออกมาเป็นตอนที่สี่สิบสี่
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 22-07-2010 00:49:46
ตอนนี้เขียนบรรยายอารมณ์เมฆได้ดีมากๆเลยครับ อ่านแล้วทำให้อึดอัดหัวใจตามเมฆเลย

ขอบคุณมากนะครับ
 :3123: :3123:
จะรออ่านตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 22-07-2010 12:53:54
อ่านแล้วเดาทางไม่ถูกจริง ๆ ....พี่เมฆจะจัดการไอ้อาทยังไง?????
แล้วถ้า...อันดามาเห็นพี่เมฆจะแก้ปัญหายังไง????
ส่วนไอ้คุณชายฉานน่ะ....เรื่องชิว ๆ ก็รักพี่เมฆมากมายต่อให้
โกรธหรือน้อยใจขนาดไหน....ก็คงคอยตามดูแลพี่เมฆอยู่ดีแหละ(มั๊ง)
เอ้อ.....ไม่รู้ว่าคนอ่านจะคาดหวังกับไอ้คุณชายฉานมากไปรึเปล่า.... :m13:
ใจหายเนอะ...ถ้าอีกสองตอนจะปิดฉากแล้ว... :เฮ้อ:

 :L1: :L2: คนแต่ง & คนโพส
กด + เป็นกำลังใจให้พี่เมฆค่ะ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 22-07-2010 18:06:48
มาดันรออีกวันคร้าบ +1 ด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 22-07-2010 20:20:09
ยังไม่มาอีกหรออออ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 22-07-2010 21:20:11
แจ้งข่าวค่ะ

ตอนนี้ไรท์เตอร์ติดงานด่วน ตอนต่อไปยังไม่เสร็จนะคะ อดใจรออีกสักวันสองวันนะ
ชีวิตชียุ่งเหยิงมาก ผุ้ชายที่รักมาตีจาก งานรุ่มเร้า ชีโทรมเป็นที่สุด  o17

ตอนนี้เซกดบวกได้แล้ว + มันให้แหลกไปเลย  :laugh3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 22-07-2010 21:24:46
รอตอนต่อไปอะ อยากรู้เรื่องต่อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 22-07-2010 21:27:51
สู้ๆนะครับ writer  :L2: o13

ขอบคุณน้องเซที่แวะมาส่งข่าว จะนั่งรอ นอนรอ ตอนต่อปายยยย  :L2: o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 23-07-2010 20:10:21
จะตกหน้า 2 แล้วง่ะ ขอดันหน่อยนะครับ

อึ๊บ อึ๊บ อึ๊บ รอ ร้อ รอ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 23-07-2010 21:09:34
เข้ามาร๊อ รอ รอ

เป็นกำลังใจให้คนแต่งแล้วก็ เมฆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 23-07-2010 22:19:02
เข้ามารอนะคะ อยากอ่านต่อค่ะ ^^
เป็นกำลังใจให้นะคะ แล้วก็ ขอบคุณที่มาบอกค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 24-07-2010 06:47:50
+1 เป็นกำลังใจให้ writer นะครับ ขอให้ผ่านเรื่องราวต่างด้วยดีครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 24-07-2010 20:38:26
ตกไปอยู่หน้าสองแล้ว ดันหน่อยๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 24-07-2010 23:03:23
อึ๊บ ๆ ๆ
เจ้มาดัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 25-07-2010 00:17:17
 :call: จุดธูปเรียกวิญญาณไรท์เตอร์  เข้าร่างโดยด่วนๆๆ  อิอิ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 25-07-2010 12:06:43
 :z13:รีบน
ขอบคุณน้องเซที่มาส่งข่าว
ไรท์เตอร์งานยุ่งเพราะมัวตามข่าวคนรักใช่ป่ะไม่มีอารมณ์แต่งต่อ :เฮ้อ:
ติดไปแล้วนิยังไงก็จะรอ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 25-07-2010 13:23:29
มาให้กำลังใจ writer  :L2:
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 25-07-2010 15:56:37


มาดันดวยคน

 :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 25-07-2010 20:53:40
มาหน่อยน้าาาา คิดถึงน้องฉาน น้องเมฆ จะแย่

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 26-07-2010 18:45:19
อึ๊บๆๆ ดันๆๆ เป็นกำลังใจให้ writer & poster คร้าบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 26-07-2010 19:53:53
 :call: :call: :call:
มารอท่านฉานกับน้องเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 26-07-2010 21:57:12
โอ๊ยยยยย คิดถึงจะแย่  :m15: :m15: :m15:

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 26-07-2010 22:17:06
จะจบแล้วเหรออ  :monkeysad:
ยืดๆไปหน่อยมิได้เหรอ คนแต่ง
แอบใจหายอ่ะ คิดถึงพี่เมฆ กับ พี่ฉาน

อ่านไปก็เครียดไป อยากให้กลับมาคืนดีกันไวๆ
อันดา เก่งมาก ที่ อดทนได้ขนาดนี้
เค้าว่า คนที่ดูอ่อนแอ ในสถานการณ์ อย่างนี้ จะเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุด  o13
แล้วก็  :z6: สักที เกลียดมันจังเลย ไออาทททท

 :L2: คนแต่งและคนโพสต์ ค้าบบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 27-07-2010 14:46:45
 :t3: :t3: :t3: :t3:



 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 27-07-2010 17:39:05
ยังไม่มาเหรอครับคุณชายฉานแสงกับท่่านสยมภู คิดถึงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 27-07-2010 18:43:54
เค้ารออยู่นะ T_T
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 27-07-2010 22:05:52
ยังคงมารอดวงตะวันกับก้อนเมฆอยู่ทุกวัน ทุกคืน นะครับ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 43] 18 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 27-07-2010 22:31:07
มารออยู่ ทุกว๊าน ทุกวัน


คิดถึง ไรเตอร์ เมฆและฉานนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 28-07-2010 06:33:40
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 44
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)


เวลาเป็นแค่คำปลอบ เวลาเป็นแค่คำหลอก ก็มีแต่เข็มหมุนวนเรื่อยไป
เวลาไม่เคยรู้หรอก ยิ่งนานยิ่งตอกย้ำหัวใจ ยิ่งช้ำยิ่งทรมาน


คลื่นวิทยุช่างรู้ใจ เปิดเพลงนี้ในช่วง หัวอกที่มันกำลังกลัดหนองแทบจะปะทุขึ้นมา
เวลาแห่งความสุขที่ใครๆต่างก็บอกว่าผ่านไปเร็วแค่ไหน ก็ยังพอทำใจได้
แต่ไอ้เวลาแห่งความทุกข์ที่มันใกล้เข้ามา ไม่ต่างอะไรกับรถไฟชินคันเซ็นที่มุ่งตรงจากโตเกียวสู่โอซาก้าใช้เวลาแค่ไม่กี่อึดใจ
ทำไมมันถึงได้วิ่งเข้าหาผมแบบไม่เหลือเวลาให้ได้ทำใจอะไรแบบนี้

ไอ้หน่าเคยตราหน้าผมไว้ว่า.....กระล่อนตัวพ่อ มารยาตัวแม่ เห็นทีเจอมันครั้งหน้า ผมคงต้องเอาทำแหน่งนี้ปาหน้าไอ้คนที่มอบให้ด้วยความเต็มใจเสียละมั้ง

ที่สุดของความจริงมีอยู่ว่า....ผมทอปฟอร์มกระล่อนมารยา........กับไอ้ฉานแค่คนเดียว

แหงนหน้าไปมองนาฬิการาวกับว่า เข็มนาฬิกามันจะหมุนทวนเข็มได้ยังไงยังงั้น  สะบัดตัวลุกขึ้นจากที่นอน พร้อมหน้าโทรมๆเหี่ยวๆไปที่ตู้เสื้อผ้า ซอกหนึ่งของตู้ที่เป็นเสมือนคลังเสื้อผ้าเก่าเก็บ ถูกผมคุ้ยหาอย่างบ้าคลั่ง การแต่งตัวเพื่อไปตามนัดสำหรับใครหลายๆคน อาจจะต้องพิถีพิถันให้ตัวเองออกมาดูดีที่สุด ผมเองก็เป็นแบบนั้น


แต่นั่นต้องไม่ใช่กับนัดครั้งนี้

ในเมื่อไอ้อาทมันอยากเจอผมนัก ผมเองก็ควรจะทำให้มันประทับใจจนลืมกันไม่ลงเลยทีเดียว

เสื้อยืดที่ครั้งนึงคาดว่า มันเคยเป็นสีดำ ตอนนี้สภาพที่เห็นตรงหน้าแทบแยกแยะไม่ออกว่าดีกว่าผ้าขี้ริ้วตรงไหน  ลายสกรีนที่ผมมั่นใจว่าครั้งหนึ่งมันต้องเท่ห์แสนเท่ห์ ตอนนี้เหลือเพียงร่องรอยจางๆลางเลือน บางส่วนมีรูระบายอากาศที่แยกแยะไม่ได้ว่ามาจากสัตว์หรือแมลง  กางเกงขาสามส่วนลายทหาร ที่ซีดจนชายขาหลุดรุ่ยโดนเลือกมาทาบกับลำตัวแบบเข้าชุดกัน หมุนซ้ายขวาหน้ากระจกเพื่อให้มั่นใจว่า ในชีวิตนี้ ไม่มีครั้งไหนที่พี่เมฆดูไม่ได้เท่ากับครั้งนี้มาก่อน ดีที่ว่าหน้าตายังช่วยให้ดูห่างไกลจากคำว่าคำบ้าหรือว่าพวกเร่ร่อนอยู่บ้าง ไรหนวดที่เริ่มครึ้มเขียวที่บ่งบอกว่าผมเลิกสนใจตัวเองไปนานแค่ไหน ก็เอามือลูบให้สากมือเล่นๆสองสามทีแล้วปล่อยเอาไว้อย่างเดิม

สายน้ำที่ไหลรดตัวทำให้สมองสดชื่นขึ้นมาบ้าง การดูแลฟื้นฟูจิตใจอันดาเป็นเรื่องที่ผมทดเอาไว้ ว่าจะต้องทำต่อไปหลังจากจัดการกับไอ้ตัวปัญหาที่ควงสาวเปลี่ยนแต่ละวันไม่ซ้ำหน้าอยู่ดีๆ ดันนึกสนุกอยากจะควงผู้ชายเพศเดียวกันออกเดทขึ้นมา

ผมร้องหึ ในลำคอประชดชะตาชีวิตตัวเอง สองมือยกขึ้นมาปาดไล่น้ำที่ไหลลู่หน้า ปากบอกว่าจัดการไอ้อาท แต่ก็ยังมืดมนจนไม่รู้ว่าจะจัดการมันยังไง เรื่องใช้กำลังแน่นอนว่าผมไม่ถนัดอยู่แล้ว ผมไม่เคยเป็นทัพหน้า เป็นได้แค่กองเชียร์อยู่เบื้องหลัง จะว่าไปไอ้ฉานมันไม่เคยให้ผมได้ใช้ชีวิตเยี่ยงเด็กผู้ชายทั่วไปเลยเถอะ ไปหาเรื่องต่อยกับใคร ก็ไม่เคยได้ใช้กำลังขาตัวเอง นี่คงเป็นเรื่องเดียวที่กัดกินหัวใจผมมาตลอด ถึงแม้การปกป้องที่ดูจะเกินความพอดีในบางครั้งของไอ้ฉานจะทำให้ผมรู้สึกดี แต่บางทีก็อดที่จะอดสูตัวเองไม่ได้ว่า นี่กูเกิดมาให้เสียชาติความเป็นชายทำไม อ่อนแอก็เท่านั้นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่ติดที่เครื่องบ่งบอกเพศชายมันชูหราแทบจะตะบันหน้าใครต่อใคร ผมคงเอากระโปรงผู้หญิงมาใส่แล้วนั่งเล่นตุ๊กตากระดาษไปนานแล้ว

ผมไม่เคยโทษโชคชะตาที่กำหนดให้มีคนรักเป็นผู้ชาย และผมไม่เคยเสียใจที่ตกอยู่ในสถานะที่ไอ้ฉานมันเรียกได้เต็มปากว่าเมีย ถึงแม้จุดเปลี่ยนครั้งแรกเกิดจากการขืนใจ แต่มันก็พูดได้ไม่เต็มปาก ในเมื่อส่วนลึกสุดของใจมันตอบออกมาว่ารู้สึกดีกับสัมผัสแปลกใหม่ที่อีกฝ่ายนึงมอบให้แค่ไหน ที่ขัดขืนในตอนแรกไม่ใช่เพราะโดนขืนใจ แต่เกิดจากตกใจมากกว่า ทุกครั้งที่มีไอ้ฉานอยู่ใกล้ๆ ผมพูดได้เต็มปากว่าอุ่นใจและไม่รู้สึกตื่นกลัวอะไร  ผมกล้าที่จะเดินไปข้างหน้าแม้จะมองเห็นว่ามีเศษแก้วหล่นอยู่เกลื่อนกลาด แค่เพียงไอ้ฉานมันส่งยิ้มและพนักหน้าแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร” ผมก็พร้อมจะเดินต่อไปแบบไม่กลัวอะไรเหมือนกัน

ในเมื่อมันเลือกที่จะมีคนรักเป็นผู้ชาย ไอ้ฉานมันก็น่าจะเข้าใจไม่ใช่เหรอ ว่าต่อให้ผมอ่อนแอควรจะต้องได้รับการปกป้องสักแค่ไหน แต่สัญชาติญาณของบุรุษเพศชาย การดูแลตัวเองและช่วยเหลือคนที่รักได้ คือความภูมิใจของลูกผู้ชายทุกคน


ความรักในแบบของมันคือการดูแลและปกป้องผม แต่ความรักในแบบของผมแค่เพียงอยากให้มันรู้ว่า ผมเข็มแข็งพอที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกันกับมัน ไม่ใช่ไอ้เมฆที่คอยที่จะอยู่ข้างหลังแล้วรั้งชายเสื้อไอ้ฉานไว้เหมือนที่ผ่านมา ผมพร้อมที่จะเป็นฝ่ายที่ต้องอ่อนหวานถ้าตอนนั้นเราอยู่ในห้องกันสองคน แล้วผมก็พร้อมที่จะบู้ล้างผลาญไม่ว่าผมหรือมันต้องเจอกับปัญหา ก็แค่นั้น ก็แค่ไม่อยากเป็นภาระตลอดไป ก็แค่อยากเป็นคนรักให้ได้สมกับที่มันแหกกฎธรรมชาติมารักผู้ชายบ้าๆอย่างผม


ครั้งสุดท้ายที่เราสองคนโกรธกันข้ามวัน


ผมจำได้ว่าเมื่อตอนที่จะสอบเข้าม.ปลาย ผมอยากเรียนสายศิลป์ที่คิดเองเออเองว่าเรียนสบายๆ จะได้มีเวลาวาดรูปอย่างที่ตัวเองชอบ
ผมเป็นคนที่มองอะไรใกล้ๆ แต่ไอ้ฉานมันมองไปไกลกว่านั้น มันมีจุดยืนชัดเจนว่าจะต้องเป็นสถาปนิกสร้างชาติในอนาคต ผมจำได้ว่าเถียงกับมันจนกลายเป็นสงครามย่อยๆ ด้วยอารมณ์และช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ทำให้ผมต่อต้านที่จะเรียนสายวิทย์เหมือนอย่างมัน ทั้งๆที่คะแนนผมผ่านฉลุย (ก็เพราะมันคอยเคี่ยวเข็ญ)

ก็ในเมื่อผมเกลียดการคำนวณ เกลียดการทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ทั้งหลาย เกลียดที่จะต้องมาซาบซึ้งกับใครสักคนที่นอนๆอยู่แอปเปิ้ลก็เสือกตกใส่กบาลจนเกิดตำนานกฏแรงโน้มถ่วงของโลก
เหตุผลไอ้ฉานในตอนนั้นก็บัดซบจนผมอยากจะประเคนหน้าแข้งหวานๆไปให้ เหตุผลที่มันยกอ้างกับผู้ใหญ่ผมไม่รู้ว่าเป็นยังไงเพราะไม่สนใจที่จะฟัง แต่ที่มันอ้างกับผมก็มีแค่ ถาปัตย์ต้องเรียนวิทย์-คณิต และผมต้องอยู่ข้างมัน ก็แค่นั้น เราทนที่จะไม่พูดและเล่นสงครามประสาทกันได้แค่เพียงข้ามวันก็กลายเป็นผมที่ต้องไปเกาะขอบเตียงแล้วบอกมันว่า ผมเรียนอย่างมันก็ได้ ถ้ามันช่วยผมทำงานส่งอาจารย์ ทำการบ้าน และติวตอนสอบ  แล้วก็แทบจะตีกันตายอีกครั้งเมื่อผมแหกกฎจะเรียนคณะที่ต่างจากมัน ดีที่ว่าคณะที่ผมต้องการอยู่ติดกับคณะมัน ตอนนั้นผมเลยรอดตายไปอย่างหวุดหวิด

ครั้งนี้ผมก็บอกกับตัวเองว่า ขอแค่ให้ผมได้พิสูจน์ตัวเองว่ายังมีความเป็นผู้ชาย ช่วยเหลือตัวเองและปกป้องคนที่รักได้ ผมเต็มใจที่จะเดินไปง้อมัน ต่อให้มันโกรธสักแค่ไหน แต่เจ้าพ่อแห่งวงการมารยา อย่างที่ไอ้หน่ามันตั้งให้ ก็จะงัดมันออกมาไม่ว่าจะต้องใช้สักกี่กระบวนท่า แต่ถ้าผลสุดท้ายคือการที่ผมได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ข้างๆมันเหมือนเดิม ผมคิดว่าผมทำได้......ไม่ใช่สิ  ผมต้องทำมันให้ได้ต่างหาก


เสียทองเท่าหัว แต่ไม่ยอมเสีย......ให้ใคร     พี่เมฆก็ขอยืมมาใช้ก่อนแล้วกัน



ท่าทางลับๆล่อๆ เหมือนผู้ร้ายแอบลักลอบส่งกัญชา

ให้ตายเถอะ !!!!!

ผมไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง เคยนั่งรถผ่านไปแถวอนุสาวรีย์ชัย ตอนที่เกิดปัญหาเผาบ้านเผาเมืองกันในตอนนั้น ผมยังเคยสงสัยตรรกะของทหารไทย ที่เอาเถาวัลย์ใบไม้ปลอมมาพันรอบป้อมตำรวจ แล้วติ๊ต่างว่ามันคือฐานทัพ ไอ้ใบไม้ที่ดูก็รู้มาแต่ไกลว่าปลอมได้ห่างไกลจากธรรมชาติมันจะช่วยลวงตาข้าศึกได้จากตรงไหน นี่พวกเขากำลังคิดว่า กำลังต่อสู้กันอยู่ในป่า ทั้งๆที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ตึกราบ้านช่องถ้ามันจะเป็นป่าให้ทำสงครามได้ ก็คงจะเป็นป่าคอนกรีตละนะ แล้วทำไมพี่ทหารถึงไม่ผสมปูนทรายโบกหน้าตัวเอง ก็ยังสงสัยและแปลกใจ แต่มันก็ต้องมาสิ้นสุดลงก็วันนี้

วันที่ผมที่กลั้นใจแต่งตัวจนเรียกได้ว่าคัฟเวอร์มาจากวณิพกพเนจรก็ว่าได้ ผมไม่หวี หนวดไม่โกน อะไรที่ดูดีก็ทำให้มันดูไม่ดีให้ได้ แล้วก็ต้องมากลุ้มใจว่ากูจะออกจากบ้านไปที่มุมรั้วโดยไม่ให้ใครสนใจได้ยังไง กิ่งไผ่ที่ปลิวลู่ลมเป็นแนวรั้วให้บ้าน ผมยังคิดจะเอามันมาใช้อำพรางใบหน้า จะเดินปกติธรรมดาก็ดูไม่มั่นใจ จะต้องเดินไปหลบมุมเกาะตามแนวรั้วไป จะเรียกว่าเป็นสัญชาตญาณก็ละอายปาก ถ้ามันสื่อออกมาได้ในทีท่าที่น่าอับอายแบบนี้


แอบลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ที่อีกไม่เกินสามก้าวก็จะพ้นมุมรั้ว ไปถึงจุดที่นัดแนะกับไอ้อาทเอาไว้ เริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของการลักลอบคบชู้ก็วันนี้ ความตื่นเต้นที่วัดจากแรงสั่นสะเทือนของอัตราการเต้นของหัวใจที่กระแรกกระดูกซี่โครงจนปวดร้าวไปทั้งหน้าอกข้างซ้าย แล้วก็เหงื่อที่ผุดพรายเต็มหน้าแล้วควบแน่นกันจนไหลไม่ต่างอะไรกับฝนก็พอจะบอกได้ ผมยืดตัวเองให้ดูมั่นใจเต็มที่


1 2 3…………ที่ท่องไว้ในใจต้องสะดุดลงเมื่อสายตาที่ก้มต่ำนับแผ่นหินปูทางเดิน มาเจอกับรองเท้าที่คุ้นเคย เวลาไล่เลี่ยกันก็มีรองเท้าอีกคู่ก้าวเข้ามาอยู่เคียงข้างกัน คำขอโทษจะไม่จุกอยู่แค่ลำคอถ้าผมไม่รู้ว่ารองเท้าผู้ชายที่คุ้นตาตรงหน้าเป็นของใคร


พระเจ้ามักจะไม่เข้าข้างคนดีที่มีความผิด......เห็นจะจริงจนเถียงไม่ได้
คนที่ไม่อยากให้เจอในสภาพตอนนี้ที่สุด.......ก็ต้องมาพบเจอกัน
ถ้ามุดลงในดินได้ผมคงไม่รอช้า แต่การหนีปัญหาก็ไม่ใช่ผมเหมือนกัน

ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเจ้าของรองเท้าทั้งสี่ข้าง หลังจากที่จ้องมันมาสักพัก แล้วดูเหมือนว่าเจ้าของรองเท้าจะจงใจให้ผมจ้องมองโดยไม่หลบสายตาผมเหมือนกัน



ปวดหนึบไปทั้งใจ!!!!!!

เจ้าของรองเท้าผู้ชาย คือ ไอ้ฉาน ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยผมก็จำมันได้ ในเมื่อผมเลือกให้มันด้วยตัวเอง แต่เจ้าของรองเท้าที่ยืนอยู่ข้างกันทำให้ผมต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย  ตอนที่ผมกลับมาพร้อมกับอันดาก็เห็นว่าน้าชาติออกมาส่งแขกที่หน้าบ้านแล้ว แต่ทำไม หนึ่งในแขกที่น่าจะกลับไปด้วยกันถึงได้ยังอยู่ แล้วก็ไม่รู้ว่าเดินกันมาจากไหน ไอ้ฉานอาจจะพาเธอออกไปเดินเล่น ตามประสาสุภาพบุรุษที่มีน้ำใจ ใบหน้าหวานถึงได้โปรยยิ้มแบบไม่กลัวว่ามันจะจืดลงไปเลยให้ตายเถอะ

เสียงบีบแตรรถอย่างไร้มารยาท ดังกลบระบบประสาทให้หยุดการรับรู้ชั่วขณะ

“รถเพื่อนพี่หรือเปล่าค่ะ นัดกันไว้มั้ย เห็นเค้ามาจอดรออยู่นานแล้ว” เสียงหวานๆที่ซักถามอย่างคนที่ต้องการผูกมิตรไมตรี
ทำให้ผมไม่ได้โต้ตอบอะไรมากไปกว่า ก้มหัวน้อยๆทักทายตามมารยาทของคนบ้านใกล้เรือนเคียง แอบเหลือบมองหมาบ้าที่ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันจะอาละวาดที่เห็นผมในสภาพนี้ และออกมาเหมือนคนมีพิรุธแบบนี้  แต่ปล่าวเลย มันมองมาที่ผมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ไม่หลบตา แต่ว่าเดาไม่ได้ว่ามันคิดอะไรอยู่ในใจ


เสียงบีบแตรถี่รัวขึ้นกว่าเดิม เร่งให้ผมต้องรีบถอยห่างจากสถานการณ์ตึงเครียด
 ที่ไม่รู้ว่าจะไปเจอเครียดกว่ารึเปล่า

“ชักช้า รู้มั้ย อาทมารอตั้งนาน แล้วมื่อกี้หยุดคุยกับใคร” ตอแหลไม่แนบเนียนเลยเหอะ ไอ้เชี่ย!! ถ้ามึงบอกว่ามึงซุ่มรออยุ่นาน แล้วจะให้เชื่อหรือไงว่า ไอ้ที่ยืนจ้องตาอยู่กะกูเมื่อกี้ มึงไม่รู้ว่าใคร

“คนข้างบ้าน” ในเมื่อมึงหน้าด้านชงมุกมา กูก็ยินดีตอบให้แบบหน้ามึนๆนั่นหละ เพราะตอนนี้ในสมองผมก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย สมองส่วนดีกับส่วนร้ายแทบจะยกพวกตีกันไม่ต่างอะไรจากอุเทนถวายกับเทคโนปทุมวัน ผมแน่ใจว่าไอ้ฉานมันรู้ว่าคนที่มาดักรอผมเป็นใคร มันจะคิดยังไงถ้ารู้ว่าผมขึ้นรถมากับคนที่ควรต้องอยู่ห่างให้มากที่สุด สิ่งที่มันทำกับไอ้ไม้ยังไม่เคยเลือนออกไปจากใจ แต่แผนการที่วางเอาไว้มันบีบบังคับ และบางทีไอ้ฉานอาจจะไม่คิดอะไรเลยก็ได้ อาจจะแกล้งทำเป็นลืมไปว่าผมเป็นอะไรกับมัน...................สุดท้ายก็คิดเอาเองแล้วก็ปวดใจเอง จะมีอะไรที่บัดซบไปกว่านี้อีกมั้ย

ที่ผ่านมาคงนั่งแต่มินิคูเปอร์จนเคยชินถึงได้รู้สึกว่าไอ้ บีเอ็มซีรี่ย์ห้ามันถึงได้กว้างใหญ่ขนาดนี้ ผมบีบตัวลีบติดกับประตู ถ้าเข้าไปสิงสู่ได้ ผมคงทำไปแล้ว ดูไอ้อาทจะไม่ตกใจกับสภาพการแต่งกายของผม การแต่งตัวของไอ้อาทดูดีเสียจนอดเสียวสันหลังไม่ได้ว่า มันจะพาไปกินอาหารในโรงแรม เสื้อเชิ้ตรีดจนเรียบกริบ ทำให้ผมกลืนน้ำลายยากลำบาก สแลคพอดีตัวโชว์หัวเข็มขัดบ่งบอกฐานะคนใส่ ตัววีกระแทกเบ้าตาซ้าย ตัวแอลลอยตามมากระเทกเบ้าตาขวา กลิ่นน้ำหอมที่มากไปจนฉุนกึก ทำให้ต้องรีบเบือนหน้าหนี แอบคิดในใจว่าพี่ชายออกจะรสนิยมดี แต่ทำไมอันดาถึงได้ชอบผู้ชายแบบนี้เข้าไปได้วะ


ทุกอย่างในตัวไอ้อาทดูเยอะจนล้น มันปรุงแต่งจนผมรู้สึกว่าเคมีของเราไม่มีวันที่จะเข้ากันได้ ต่อให้ผมเป็นเกย์แบบบอร์นทูบี ก็แน่ใจว่าไม่มีวันชอบคนที่พรีเซ็นต์ตัวเองออกมาแบบนี้แน่ ยิ่งเจอคนมากหน้าหลายตาที่แวะเวียนเข้ามาจีบทำให้ผมแน่เสียยิ่งกว่าแน่ใจว่าผมเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ไม่ว่ามนุษย์ผู้ชายคนไหนถ้าไม่ใช่ไอ้ฉาน ผมคงไม่มีวันหลับตาพริ้มเผยอริมฝีปากรับจูบเร่าร้อนได้เป็นอันขาด........แค่คิดว่าไม่ใช่ทำไมรู้สึกขยะแขยง
ถ้าเป็นริมฝีปากไอ้ฉานเมื่อไหร่ มันแค่ส่งลิ้นเข้ามา ยังไม่ทันจะลุกไล่ ผมก็ส่งลิ้นตัวเองออกไปเกี่ยวพันแล้วเถอะ มันดูดกลืนลิ้นผมไปเท่าไหร่ ผมโต้ตอบได้เร่าร้อนไม่แพ้กัน นี่ถ้ามีเครื่องวัดว่าใครส่งเสียงร้องครางได้ดังกว่าใคร ผมจะไปเปิดบิลเป็นคนแรก ซื้อสดไม่ผ่อนไม่ดาวน์กันเลย....


“น่ารักจัง” วลีที่ไม่น่าจะได้ยินลอยมาเข้าหูให้ต้องสะดุ้งตกใจ
“ กะ กะ กู เหรอ” เอานิ้วชี้จิ้มเข้าหาตัวเองว่าไม่ได้หูฝาด

“อึ้ม อยากแกล้งอาทถึงได้แต่งตัวแบบนี้สินะ เมฆก็แปลกแบบนี้แหละอาทถึงได้สนใจ ไม่เสียแรงที่คิดว่าจะชอบผู้ชายสักที แล้วคนคนนี้เป็นเมฆนะ ตอนที่อันดาพูดถึงพี่ชายก็คิดเอาไว้ว่าต้องน่ารักแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าน่ารักขนาดนี้”

สาบานได้ว่าคาปูชิโน่ที่กินเข้าไปเพียงแก้วเดียวในวันนี้ ไม่ได้ย่อยสลายไปตามกาลเวลา เพราะรู้สึกว่าทั้งกาแฟทั้งวิปครีมได้ตีขึ้นมาจุกที่คอหอยเรียบร้อยแล้ว ถ้ามันบอกว่าผมเป็นผู้ชายคนแรกที่มันสนใจ ประโยคกระชากอ๊วกเมื่อกี้ก็คงเป็นความเคยชินที่มันเคยเอาไว้ล่อเหยื่อผู้หญิงสินะ

“กูเป็นผู้ชาย แล้วคำว่าน่ารักมันควรใช้กับกูหรือไง” ให้ตายเหอะ ผมโครตเกลียดรอยยิ้มระรื่นมุมปากของมันจริงๆ จิตใจมันทำด้วยอะไรกันวะ ตอนเช้าเพิ่งจะทำให้ผู้หญิงที่มันเรียกว่าแฟนเสียน้ำตามา ตกเย็นมันกลับมานั่งม่อผู้ชายได้หน้าตาเฉย

มือผมกำแน่นรู้สึกโกรธแค้นแทนอันดา แต่สมองฝ่ายดีมันกดสติเอาไว้ว่า ดีแล้วที่กันอันดาออกมาจากมันได้

“เมฆอยู่ในข่ายที่เรียกว่าน่ารักจริงๆ” แม่ง ยืนยันด้วยคำพูดไม่พอ ยังจะหันมายิ้มทำตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มใส่หน้ากูอีก

ผมไม่ตอบโต้อะไรนอกจากยึดวิวข้างทางไว้เป็นเพื่อนตาย ถ้อยคำที่คิดว่าจะเกลี้ยกล่อมมันให้เลิกแล้วต่อกันสงสัยต้องเปลี่ยนเป้าหมายเป็นคำขู่ หรือจะลงทุนให้มันเสียบตูดดูสักครั้ง อันหลังนี่คงจะไม่ไหว ถ้ามันเล็กกว่าของไอ้ฉานผมคงจะให้อภัยได้ แต่ถ้าใหญ่กว่าขึ้นมาใครจะกล้าเสี่ยงหละ ก็พอจะรู้ว่าการร่วมรักผิดทางธรรมชาติแล้วเจ็บเป็นเรื่องธรรมดา ปล่อยไปสักพักเดี๊ยวก็ร้องอื้ออ้าออกมาแบบไม่มีใครอายใคร

แต่นั่นมันควรต้องใช้กับคนที่รักกัน เซ็กส์ที่เกิดจากความรักและการยินยอมพร้อมใจ สุดท้ายทั้งสองฝ่ายมีความสุข แต่นี่มันไม่ใช่ จะให้ผมเป็นหนูทดลองให้เด็กพ่อแม่ตามใจจนเสียนิสัยพิสูจน์ว่าการร่วมรักที่เกิดขึ้นระหว่างหญิงชายกับผู้ชายผู้ชายแตกต่างกันยังไง ต้องไม่ใช่ผมแน่ๆ แค่จะให้เอาปากแตะปากลิปคิสแบบวัยรุ่นเริ่มรักยังจะไม่ไหว
“คิดอะไรอยู่เหรอ”  

“เสือก” ผมแค่คิดแต่ไม่ได้พูดออกไป แค่ปลายตาไปมองให้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่มันจะต้องรู้

ร้านอาหารที่ไอ้อาทพามาไม่ใช่โรงแรมหรูอย่างที่คิด เป้าหมายคงเปลี่ยนไปตั้งแต่มันเห็นสภาพการแต่งกายของผมนั่นแหละ แต่ผมจะสนใจอะไร เรื่องประทับใจแรกพบไม่ใช่ความตั้งใจของผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

สุดท้ายร้านอาหารที่ไอ้อาทพามาถึงแม้ไม่หรูเหมือนโรงแรมที่ไหนแต่ก็จัดได้ว่าไม่แย่  ร้านดูเรียบๆและน่านั่งกว่าโรงแรมที่คิดว่ามันตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรกเป็นไหนๆ ผมเลือกอาหารสองสามอย่าง ถึงร้านจะดูไม่ออกว่าหรูหรายังไง แต่ราคาที่โชว์หราบนเมนูบอกได้ว่าที่นี่ไม่ธรรมดา อาหารมาเร็วทันใจไม่ต้องให้รอนาน ไอ้อาทตักนู่นผสมนี่ จนเต็มจานผมไปหมด คำพูดแว่วหวานที่ชวนคุยถ้าผมไม่ใช่ผู้ชายก็คงเคลิ้มไปไม่น้อย ไม่แปลกใจว่าทำไมสาวๆถึงหลงคารมไอ้อาทกันนัก เพราะมันพูดเพราะแถมยังเอาอกเอาใจจนมากเกินความพอดี ความเคยชินที่เคยปฎิบัติต่อผู้หญิงเมื่อถูกเอามาใช้ในจุดประสงค์เดียวกัน แต่ทาร์เก็ตเปลี่ยนไป ความแตกต่างเกิดขึ้นในใจผมทันที ผมเป็นผู้ชายการถูกเอาใจเยี่ยงสตรีไม่ได้ทำให้ผมประทับใจอะไร

ผมเริ่มรู้ว่าทำไมผมกับไอ้ฉานเราถึงคบกันได้โดยที่เพื่อนๆไม่ได้อึดอัดใจอะไร เพราะไอ้ฉานมันค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่รุกคืบให้ผมต้องหนักใจแบบที่ไอ้อาทหรือแบบที่พี่เต้ทำ ไอ้ฉานไม่เคยเอาใจผมจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นผู้หญิงเหมือนกับที่ไอ้อาททำอยู่ตอนนี้ มันปฎิบัติกับผมแบบเพื่อนปกติธรรมดาเค้าทำกัน อาจจะเยอะกว่าเพื่อนธรรมดาตรงที่มันเอาใจใส่มากกว่าใครๆ แต่ไม่เคยหวานใส่กันจนเลี่ยน ถ้าไม่ใช่เพราะมันอยากกวนตีนผม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 28-07-2010 06:34:24
 วิสกี้ถูกเสริฟคู่กับน้ำเย็น ที่ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าเข้ากับบรรยากาศและอาหารที่ผมเลือกไปตรงไหน

 เพื่อไม่ให้มันตื่นตัวว่าผมรู้ทันความคิดมัน ก็เล่นไปตามเกมส์ที่มันวางไว้ก็ไม่เสียหายอะไร ผมยกน้ำสีอำพันสาดลงคอได้ไม่ยากลำบาก เหล้าสี เหล้าขาว สาโท หรือหวาก ผมผ่านมันมาหมดแล้ว เหล้าดีๆอย่างวิสกี้ตรงหน้า จึงไม่ใช่ปัญหา ผมจิบน้ำเย็นลงคอแค่พอให้มันล้างความซ่าร้อนออกไป
ไอ้อาทมองผมแบบไม่เชื่อสายตา ว่าไก่อ่อนที่มันลงทุนหลอกมาเคี้ยวถึงได้หนังเหนียวกว่าที่มันคิดไว้ แก้วแรกผมสาดลงคอแค่ต้องการข่มขวัญคู่ต่อสู้ ไม่ได้จะท้าชนอะไรกับใคร แก้วต่อๆมาผมเลยได้แค่จิบเอาบรรยากาศ ก็แค่นั้น
แต่ไอ้อาทมันไม่ใช่ มันโชว์เหนือด้วยการกระดกหมดแก้วแบบติดๆกัน ต่อให้คอแข็งแค่ไหน แต่ผมก็พอจะรู้ว่า เวลาที่ไอ้อาทจะหลงเหลือสติพูดคุยกับผมได้ คงมีไม่นาน สิ่งที่ผมเตรียมซ้อมมาหน้ากระจกต้องถูกงัดเอามาใช้ตอนนี้แหละ

“อาท ขอบใจนะที่ยอมเลิกกับอันดา” สายตาคนตรงหน้าผมเบิกกว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเรียกชื่อมัน ผมไม่รู้ว่ามันตกใจเรื่องที่ผมเรียกชื่อมัน หรือเรื่องที่ผมขอบคุณมัน ที่มันทิ้งน้องผม

“นั่นเป็นเพราะว่าเมฆขอ แล้วเมฆก็สัญญากับอาทว่าจะ ปลอบ ปลอบใจ” น้ำเสียงเริ่มตกร่อง การเรียบเรียงประโยคเริ่มช้าลง ไม่รู้ว่ามันเริ่มเมา หรือผมรุกตรงไป

“เป็นเพราะมึงไม่ได้จริงใจกับอันดาตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ความจริงกูอยากจะกระทืบหน้ามึงให้เจียนตายกว่าที่มึงทำไอ้ไม้ แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกวะ ความสะใจมันซื้ออนาคตน้องกูไม่ได้ แต่ที่ขอบใจคือมึงไม่ทำอะไรรุนแรงกับน้องกู แค่นั้น” ผมไม่เคยบอกใครใช่มั้ยว่าผมเป็นคนดี ผมเกลียดไอ้อาทแค่ไหนผมไม่เคยลืม เพราะฉะนั้นผมถึงพูดดีกับมันได้ แต่ก็แค่แป๊บเดียว

“ ไม่ใช่นะ อาทสนใจเมฆจริงๆ “ ไอ้ที่ผมคิดว่ามันเริ่มจะเมา คงต้องคิดใหม่ เพราะตอนนี้ ไอ้อาทมีแววตาที่เรียกได้ว่าเหมือนเด็กที่กำลังถูกขัดใจ แต่ผม พี่เมฆคนนี้ รักสัตว์แต่ไม่รักเด็ก ต่อให้มันลงไปนอนดิ้นพล่านอยู่ข้างล่างผมก็ไม่ชายตาไปสนใจ เด็กนิสัยเสีย มันก็ต้องโดนดัดนิสัยเป็นเรื่องธรรมดา

“เรื่องไอ้ไม้ พวกกูจะแกล้งเข้าใจว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันจริงๆ ให้เลิกแล้วกันไป ต่างคนต่างอยู่ มึงคงไม่คิดจะซิ่วร่อนไปทั่วทั้งประเทศหรอกนะ ใช่มั้ย  ส่วนเรื่องกูกับไอ้ฉาน กูกับมันเป็นแฟนกันจริงๆอย่างที่มึงตามสืบนั่นแหละ แต่คิดว่าข้อมูลที่มึงได้มาคงไม่หนักแน่นเท่ากับที่ออกมาจากปากกูหรอกใช่มั้ย แล้วจะต้องให้กูบอกย้ำหรือเปล่า ว่ากูกับมันได้กันมากี่ครั้งแล้วท่าไหน ยังไง ที่ไหนบ้าง เอาเป็นว่ามันก็คล้ายๆกับหนังที่มึงหามาดูได้ไม่ยากนั่นแหละนะ  “  ผมตั้งใจจะพูดแค่เรื่องอันดากับเรื่องไอ้ไม้ ส่วนเรื่องหลังนี่แถมให้ เพราะความอึดอัดใจเพียวๆ

“ทำไมหละ ไอ้นั่นผู้ชาย อาทก็ผู้ชาย มันทำให้เมฆมีความสุขได้ อาทก็ทำได้ เรื่องเพื่อนเมฆ อาทขอโทษ ก็แค่ขอเบอร์แล้วถามเรื่องเมฆนิดหน่อย มันอยากจะลีลาทำไมหละ ตอนนั้นอาทเมาด้วย เลยไม่ได้คิดอะไร แต่เมฆ อย่าเพิ่งตัดทางอาทแบบนี้ได้มั้ย” ถ้อยคำที่พูดมา ผมไม่ถือว่าคือคำเว้าวอนอะไร นอกจากผมจะไม่ใช่คนดีแล้ว บางเวลาผมก็อาจจะใจร้ายได้อย่างเลือดเย็นเหมือนกัน

“มันไม่เหมือนหรอกอาท กูกับฉานเรารักกัน ส่วนมึงอ่ะ ต้องการแค่จะเอาชนะเท่านั้นแหละ มึงเคยอยากได้อะไรแล้วต้องได้ พอวันไหนที่ไม่ได้อย่างใจขึ้นมาก็อาละวาด เด็กๆที่ไหนๆเค้าก็ทำกัน แล้วมึงอ่ะให้ความสุขกูไม่ได้หรอกนะ เพราะความสุขกูอ่ะ ไอ้ฉานมันสะสมมาตั้งสิบห้าสิบหกปี ไอ้ความสุขชั่วครูชั่วยามแบบที่น้ำแตกแล้วแยกทางอ่ะ กูหาเอาจากไหนก็ได้ เหมือนที่มึงหาได้มาตลอดแหละ  แต่ความสุขที่กูพูดมาอ่ะ คือความสุขทางใจ มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่กูต้องมาอธิบายมึงเลยนะ ว่ากูกับไอ้ฉานรักกันมายังไง เอาเป็นว่าผู้ชายกับผู้ชายคู่อื่นกูไม่รู้ แต่ระหว่างกูกับไอ้ฉาน มันมีอะไรมากกว่านั้นหวะ “


“นี่เมฆจะผิดสัญญาเหรอ ไหนว่าถ้าเลิกกับอันดาแล้วเมฆจะมาหาอาทหละ”


“นี่ไงกูผิดสัญญาตรงไหน นี่กูกำลังปลอบใจมึงนะ แต่พอดีกูปลอบใจอย่างเดียวมันน้อยไปไง กูเลยเพิ่มออฟชั่นเตือนสติมึงให้ด้วย คนเราแพ้บ้างมันก็ไม่ได้เสียศักด์ศรีอะไรมากมายหรอกนะ แล้วถ้ามึงจะเอาบารมีพ่อมาขู่เหมือนที่ทำมาทุกครั้งอ่ะ กูก็อยากถามมึงเหมือนกันว่า มึงรู้จักคำว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้ามั้ยวะ มึงคิดว่าพ่อมึงยิ่งใหญ่ แล้วมึงเคยคิดมั้ยว่าต้องมีใครที่ยิ่งใหญ่กว่าพ่อมึง มึงโตแล้วนะเว้ย พ่อมึงแก่แล้ว บารมีพ่อคงคุ้มหัวมึงได้ไม่ตลอดชีวิตหรอกนะ มึงคิดว่าพ่อมึงดีใจเหรอที่ต้องวางอำนาจใส่ใครต่อใครเพื่อปกป้องลูก เค้าทำเพราะเค้ารักมึง แล้วมึงอ่ะเคยทำอะไรให้เค้ารู้สึกว่ามึงรักเค้าบ้างมั้ย ง่ายๆเลยนะ พ่อกูทิ้งไปตอนอายุห้าปี ต่อให้พ่อมายืนตรงหน้ากูตอนนี้กูก็จำไม่ได้ว่าพ่อกูหน้าเป็นยังไง กูเพิ่งเจอแม่เมื่อไม่นานมานี้ เค้าทิ้งกูไปตอนกูห้าปีเหมือนกัน กูโครตโกรธแม่เลยมึงรู้มั้ย ทิ้งกูไปได้ตั้งนาน สุดท้ายจะกลับมาหากูทำไมก็ไม่รู้
กูไม่อยากยอมรับว่าเค้าคือแม่ แต่ในใจแมร่งอยากวิ่งไปกอด กูบอกตัวเองว่ากูมีแม่ใหม่แล้ว แต่ลึกๆในใจกูก็ยังอยากเจอคนที่ให้กำเนิดกูอยู่ดี ตอนนี้กูก็อยากเจอพ่อ แต่โชคดีคงไม่มาหาคนเราบ่อยๆหรอกมึงว่ามั้ย กูได้เจอแม่ พระเจ้าก็เมตตากูมามากพอแล้ว ถ้ากูขอพระเจ้าว่ากูอยากเจอพ่ออีก พระเจ้าคงคิดว่ากูมันละโมบไม่รู้จักพอ กูเลยขอได้เท่าที่บุญกูมี ว่างๆมึงมานั่งเล่นที่คณะกูได้นะ แต่มารุ่มร่ามกับกูไม่ได้ พ่อกูหวงแล้วก็ห่วงจนเว่อร์ มึงอาจนอนตายในชุดนักศึกษา” ผมไม่รู้ว่าที่ผมร่ายยาวมาสามหน้ากระดาษเอสี่ จะซึมเข้าไปกระทบจิตใจไอ้อาทบ้างมั้ย ผมตบบ่าไอ้อาทเบาๆก่อนที่จะเดินออกมา

ผมว่าผมมองคนไม่ผิดนะ ครั้งแรกที่ผมสบสายตากับไอ้อาทในร้านวันเกิดเรื่องนั้น ผมเองก็รู้ว่ามีคนมอง แต่สายตาของไอ้อาทที่ผมเห็นวันนั้นเป็นสายตาที่เด็กคนนึงเกิดความสงสัย ในสิ่งที่ผิดแปลกไปจากที่เคยรู้มา ถึงจะสงสัยมาตลอดว่าที่มันจู่โจมจูบผมวันนั้น มันต้องการอะไร แต่วันที่มันตามพ่อมาเยี่ยมไอ้ไม้ ผมก็พอจะเข้าใจว่า ไอ้อาทคงเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ และทุกครั้งที่ทำอะไรผิดไป ก็มีพ่อคอยช่วยเหลือให้ท้ายทุกครั้ง มันเลยเกิดเป็นความเคยชินจนเสียนิสัย ไอ้อาทอาจจะขาดความอบอุ่น ถึงได้แสดงออกบางอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่หนทางที่มันเลือกแสดงเป็นหนทางที่ผิดไปก็เท่านั้น


ผมออกมาหน้าร้านเพื่อจะหาแท็กซี่กลับบ้าน หลายคันที่ไฟป้ายติดคำว่าว่างสว่างโร่ แต่ไม่มีใครจอดรับผมเลยสักคน ก้มลงมองสภาพตัวเองก็ต้องถอนใจ คงต้องเดินหาป้ายรถเมล์ แต่ก็ไม่ได้สังเกตว่าป้ายจะอยู่ตรงไหน กำลังจะเดินไปตามทาง ก็ได้ยินเสียงแตรรถกดเรียก ครั้งเดียวสั้นๆ

“อาทพาเมฆมา อาทก็ต้องพากลับไปส่งสิ” ผมเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างคนขับเหมือนขามา ไม่ใช่เพราะว่าใจง่าย แต่ถ้าอะไรมันไม่เลวร้ายจนเกินไป ผมก็คิดว่า ในไม่ช้า ผมอาจจะมีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกสักคน


ผมส่งยิ้มจากใจให้ไอ้อาทเป็นครั้งแรก วูบหนึ่งนึกไปถึงหน้าไอ้หมาบ้าฉาน มันเคยบ่นผมว่า เวลาที่ผมทำผิดทีไร ก็ชอบอ้อนมันด้วยการส่งยิ้มให้เสมอ  เหมือนจะรู้ว่า จุดอ่อนที่ทำให้ให้มันหายงอนคือรอยยิ้มอ้อนๆของผม ทั้งๆที่ผมก็แค่ยิ้ม ไม่ได้จะอ้อนอะไร แต่ไม่รู้ทำไมพอตื่นเช้าขึ้นมา ผมก็ต้องรู้สึกปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวทุกที

ถ้าไม่เกรงใจว่าผมกับไอ้อาทเพิ่งจะผ่านวินาทีสนทนาธรรมกันมา ผมก็อยากจะเสียมารยาทให้อาทเหาะพาผมไปส่งบ้าน เพราะใจผมตอนนี้ไปอยู่ที่ไอ้หน้ากูปรี ที่มันหนีไปนอนคนเดียวมาคืนนึงแล้ว ถึงแม้ผมจะชอบอ้างว่าติดหมอนข้างแค่ไหน แต่เช้าขึ้นมาทีไรหมอนก็ตกไปอยู่ข้างเตียงทุกที แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็คือ ผมหลับไปทั้งๆที่โดนไอ้ฉานกอดก่ายอยู่ยังไง ตื่นขึ้นมาก็ยังอยู่ในท่านั้นทุกที ผมไม่รู้ว่าคราวนี้จะต้องง้อไอ้คนใจแข็งขี้งอนด้วยวิธีไหน  ผมอาจจะปวดตามเนื้อตัวจนลุกขึ้นไม่ไหว แต่เมื่อไม่นานมานี้ผมเพิ่งอ่านหนังสือเจอว่า เราจะลดความเจ็บตอนที่ร่วมรักกันได้ ถ้าได้ทำมันบ่อยๆจนชิน ไม่ใช่เพราะมันจะหลวมขึ้นแต่เป็นเพราะว่าเราจะรู้จังหวะของกันและกัน จนสุดท้าย ความสุขจะเกิดทั้งสองฝ่ายจริงๆ

ไม่แน่นะ ถ้าคืนนี้ไอ้ฉานมันยอมเปิดประตูให้...................ผมอาจจะเป็นคนที่อยู่บนไอ้ฉานก็ได้ใครจะไปรู้





แต่.........


ผมอยู่บนเทียนของไอ้ฉานอีกทีนึงอะนะ........เอาน่า ยังไงก็ถือว่าได้อยู่บนอยู่ดี






 
๐ ขอโทษจากใจแบบไม่มีอะไรจะแก้ตัว.......:monkeysad:
เข้ามาทุกวันก็เกรงใจที่เห็นว่ามีหลายๆคนมาดันพี่เมฆให้ เห็นและอ่านรีพลายทุกคนนะคะ
ขอบคุณมากๆ จากใจเลย:pig4:
ไม่ได้จะยืดเรื่องให้นานเพราะว่าใกล้จะจบแล้วหรอกนะค่ะแต่เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มันวิกฤตจริง
สว่างคาออฟฟิตมาสองคืนกับสามวันและอีกครึ่งคืน ไม่ตายก็บุญแค่ไหนแล้วแต่ก้ไม่สบายจนได้เพราะเครียดและนอนน้อย
อย่างที่รู้ๆกันว่า ทำงานบนจินตนาการนั้น ถ้ารีบจะคิดอะไรไม่ออก แต่หน้างานก็รอไม่ได้เพราะกรูจะเปิดขายแล้ว
นักธุรกิจกับดีไซน์เนอร์คิดต่างกันเสมอ.....แต่ลูกค้าคือพระเจ้า เราก็ต้องชาบูๆ ไม่มีกรูคุณมึงไปจ้างบริษัทไหนอีกก็ได้
แต่ถ้าเราไม่พึ่งคุณมึงเราก็ตายเหมือนกันอะนะ.....มีลูกสอนลูกมีหลานสอนหลาน เรียนถาปัตย์ทำงานหนักมากเลยนะรู้มั้ย จะบอกตัวเองก็สายเกินไป :z3:
ตอนหน้า ตอนที่ 45  น่าจะจบได้แล้ว แต่ว่า มันจะจบที่ตอน 45 หรือ 45.1 หละ เหอๆ ตอนนี้ก็งานไม่ยุ่งแล้วอะนะ
ก็พอจะมีเวลาเข็นตอนพิเศษหวานๆฮาๆ ออกมากระแทกสายตาแม่ยกกันบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะโดนหิ้วไปห้องนิยายจบแล้วรึเปล่านะ กฎเล้ามียังไงก็ทำตามกฎเค้าเนอะ แต่ว่ายังจะตามเข้าไปหาพี่เมฆพี่ฉานกันมั้ยเนี่ย :monkeysad:ครั้งหน้าป้ายขอบคุณควรต้องเปลี่ยนสักที จะๆอยู่นานแล้วเนี่ย แล้วเจอกันนะคะ
TRomance
(ใครที่ผ่านไปเจอฟิคแก้บนก็นะ ทำใจช่วงนั้นอกหัก ที่รักบอกลาจากวงไปน้ำตาไหลพราก ตอนต่อไปจะเข็นยังไงละพ่อคู๊ณณณ เล่นออกมาตอกย้ำจุดยืนให้ต้องปวดใจขนาดนั้น ตอนต่อไปเราจะเข็นออกมา เมื่อประกาศเป็นทางการดีมั้ยว่าอคานิชิจะจากลาคัทตุน หรือว่าเป็นแผนการของลุงคนนั้นเฉยๆ เงินที่เก็บไว้ปรนเปรอผู้ชายก็ว่าจะเปลี่ยนไปฮอลแลนด์แต่ว่ายังสะสมไม่ได้ค่าตั๋วขาไปเลยอ่ะ คุณป้าเจ้าของสถานที่ถ้าเห็นจดหมายรักฉบับนี้ จะออกตั๋วให้ป่ะ :laugh:

๐.....
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
==================================
อ่านตอนนี้แล้วค่อนน่าเอาปากกระแทกไรเตอร์หน่อย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 28-07-2010 06:37:21
 :pig4:
ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะที่ช่วยกันดัน
+1 แทนคำขอบคุณค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 28-07-2010 07:11:27
 :กอด1:คนแต่งและคนโพส
เมฆพูดเก่งจังมีหลักมีการหวังว่าอาทคงเก็ทนะ
ความรักไม่อาจได้มาด้วยการบังคับให้เค้ารักเรา
ถึงครั้งแรกของเมฆมาจากการขืนใจแบบสมยอมก็เหอะ :o8:

ปล.คนแต่งเอย..กับผู้ชายที่เรารู้จักเค้าข้างเดียวจะเสียใจไปไยยังไงก็อย่าลืมคนข้างตัวล่ะถ้าเค้าน้อยใจขึ้นมาจะยุ่ง :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 28-07-2010 07:52:42
 :mc4: :mc4: ตามอ่านทันแว้วว   :a5: (ได้ข่าวว่าเค้าจะจบแล้ว) เพิ่งตามทัน ..

เฮ้ออ...รอลุ้นพี่เมฆง้อพี่ฉาน..ว่าจะน่าร๊ากกกกขนาดไหน  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 28-07-2010 07:57:36
+1 พร้อมคำขอบคุณค่ะ    :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-07-2010 09:27:10
+1  คืนให้เช่นกัน  รอนานแต่คุ้มค่าที่ได้รอ

ว่าแต่จะจบแล้วจริง ๆ เหรอ
ขอตอนพิเศษเยอะ ๆ เลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 28-07-2010 09:48:54
อาทเข้าใจแล้วใช่ไหม

 :เฮ้อ:อีกไม่กี่ตอนก็จบคิดแล้วใจหาย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 28-07-2010 10:11:45
อาทมันคงจะซึ้งกับคำพูดของพี่เมฆและกลับตัวเป็นเพื่อนกับพี่เมฆได้นะ
แล้วทีนี้พี่เมฆจะง้อพี่ฉานยังไงละ
ดูๆไปแล้วพี่ฉานกำลังเสียใจมากนะตอนนี้

ขอบคุณที่มาลงนิยายน่ารักๆให้อ่านคะ :pig4: o13
จะรออ่านตอนต่อไปคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 28-07-2010 10:13:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 28-07-2010 10:13:09
ไม่อยากให้จบจิงๆนะ รักตัวละคร2ตัวนี้มากค่ะ
เนื้อเรื่องเป็นธรรมชาติ เขียนได้ดีเลย
อย่างน้อยขอตอนพิเศษ ให้หายคิดถึงด้วยนะค่ะ
+1 ให้คนแต่งค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 28-07-2010 10:26:30
ใจหายนะ อ่านมาตั้งนาน
ตอนนี้น้องเมฆเอาใจไป 99.5 อีก 0.5 รอดูว่าเครียร์กับนายฉานอย่างไร

ส่วนอาท หวังว่าจะปรับปรุงตัว มีเพือนคนหนึ่งเหมือนอาทด้วยปัจจุบัน มันก็ยังไม่สำนึกอะไรเลย  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 28-07-2010 10:43:19
ตอนนี้ยาวได้ใจมากเลยค่ะไรท์เตอร์ แล้วก้อได้เข้าใจว่าพี่เมฆของเรากำลังคิดอะไรอยู่

จะว่าไปพี่เมฆของเราก้อแมนจริงๆๆน่ะแหละ บางต้องก้อต้องการโอกาสกันบ้างเนอะ

นึกแล้วก้อเศร้า ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอเนี่ย ว้าแย่จังแต่ขอตอนพิเศษหวานๆๆสักหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 28-07-2010 11:21:35
หง่า พี่เมฆจะปลอดภัยใช่มั๊ย อิคุณอาทจะไปส่งพี่เมฆโดยสวัสดิภาพใช่มั๊ยคะคุณไรเตอร์ (แอบระแวงอ่า  :z3:)
ปล. เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 28-07-2010 11:58:21
หวังว่าเรื่องนายอาทจะจบลงด้วยดีนะ  ช่ายมะไรท์เตอร์  o18
ต่อไปก็จะเป็นยุทธการตามง้อ  ยี่ฮี้วววววววววว  มารยาเยอะๆเลยน้องเมฆ  เอาให้คลั่งตายไปเลย
ถ้าไม่ยอมหายงอนก็ลากเข้าห้องโลด  รับรองได้ผล    (แต่ผลจะเป็นยังไง  ไม่รู้เหมือนกัล  :jul3: )
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 28-07-2010 12:05:29
ดูแล้วฉานยังไม่เข้าใจว่าพี่เมฆเข้าทำแบบนี้เพื่ออะไร
ยังโกรธพี่เมฆอยู่ แถบควงหญิงเย้ยด้วยอ่ะ
เซงแทนพี่เมฆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 28-07-2010 12:26:18
รอวันเวลาที่น้องฉานกับน้องเมฆกลับมาเข้าใจและรักกันเหมือนเดิม  :L2: :L1: :L2:

หวังว่าตอนหน้าจะไม่ผิดหวังและเสียน้ำตานะครับผม
 o13 o13 o13

พีเอส: ยังอยากรู้เรื่องของไอ้คนซุกเด็กอยู่น้า  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 28-07-2010 12:41:15
อะไรอาทมันจะเข้าใจง่ายปานนั้น

ไม่ใช่มันชวนขึ้นรถ แล้วพาไปกักขังที่บ้านนะ

แทนจะได้นั่งเทียนฉาน เมฆจะได้นั่งเฉาตายหรือป่าวเนี่ย เชื่อคนง่ายจัง

แต่ถ้าอาทมันคิดได้จริงๆ ก็เป็นบุญของเมฆละน้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 28-07-2010 12:43:40
จะโล่งอกหรือยังไงดีล่ะ ... สรุปก็คือเด็กเอาแต่ใจมันก็แค่เด็กอ่ะนะ แต่เด็กนิสัยค่อนข้างเสียแบบนี้อย่าให้เข้าใกล้อันดาจะดีที่สุด
ส่วนเมฆนะ~ดูจากคำพูด&ความคิดตอนนี้้ก็ถือว่าดูแลตัวเองได้ระดับหนึ่งล่ะ :กอด1: ส่วนพี่ฉานไม่มีบทบาทแห๊ะ :z2: รอดูตอนต่อไป~~~

เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์&คนโพสเคอะ :กอด1: :กอด1: :จุ๊บๆ: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 28-07-2010 13:42:15
ตอนหน้าขอบทพี่ฉานเเบบหวานๆ มั่งนะคะ  หายไปหลายตอน  เเต่น้องเมฆเทศน์ได้ดีมากหวังว่าอาร์ทคงสำนึกซะที
ปล. รักษาสุขภาพด้วยนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 28-07-2010 13:53:33
น้องเมฆเก่งมาก เคืองนายฉาน
ไม่ต้องง้อเลยน้องเมฆ ทำตัวน่าหมั่นไส้  :beat:
ตอนพิเศษขอสองตอนนะ
+1 เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 28-07-2010 14:37:12
ฉาน สู้ๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 28-07-2010 14:51:03
พี่เมฆจะง้อพี่ฉานได้ไหมน๊า
กลัวพี่ฉานใจแข็งง้อยากระวังนะพี่ฉานพี่เมฆจะไปหาแฟนใหม่เน้
แต่คู่พี่เมฆพี่ฉานเหมาะกันสุดๆอ่านที่ไรยิ้มตามทุกที่ก็พี่ฉานน่ารักอ่ะเนอะๆพี่เมฆอิอิ
+1เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 28-07-2010 15:24:45
คนเรามันเปลี่ยนกันได้
นะ
อาร์ท
 o13
ให้พี่เมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 28-07-2010 15:31:13
กรรม พี่เมฆ มาเเนวสวดเตือนสติกันเลยทีเดียว แต่อาทมันยอมลามือง่าย ๆเหรอ แต่อีกไม่กี่ตอนก้อจบแล้วนิ เรื่องอาทก้อให้ผ่านพ้นไป ประเด็น อยู่ที่ลีลาการ ง้อ ฉานของพี่เมฆ ว่าจะทุ่มทุนลงแรงขนาดไหน อิอิ  
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 28-07-2010 16:28:32
เป็นกำลังใจให้พี่เมฆต่อไป :impress3:
แต่นายฉานนิสัยไม่ดีควงผู้หญิงเย้ยกันทำม้าย :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 28-07-2010 18:06:51
สงสัยว่าอาทมันจะเข้าใจอะไรง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ แต่ก็ดีแล้ว รอลุ้นตอนง้อพี่ฉานดีกว่าhahaha
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-07-2010 18:40:40
เจอพี่เมฆเทศนาไป จ๋อยเลยดินายอาท :laugh:
ทีนี้ก็เหลือแต่ลุ้นให้พี่เมฆง้อเฮียฉานให้หายงอนเร็วๆแล้วล่ะ...
จะง้อกันที่ไหนน้าาา...ห้องนอนอ๊ะป่าว :haun4:
ขอบคุณค่ะ ยังไม่อยากให้จบเลยอ่าาา :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 28-07-2010 19:07:55
ตอนนี้อ่านไปก็ลุ้นไป มันจะเป็นยังไงน้า

นั่งคิดอยู่ในใจ พี่เมฆเสร็จไอ่อาทแน่หละว้า ฮ่าๆ

แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี ดีนะที่ไอ่อาทมันเข้าใจอะไรง่ายๆ (ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อเลย ฮ่าๆ)

รอตอนต่อไปนะคะ ( ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะ )
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 28-07-2010 20:18:40
เมฆพูดได้ดีนะคะ ขอให้อาทกลับตัวได้จริงๆเห้อ สาธุ ^^
ได้เวลาง้อฉานแล้วใช่มั๊ยคะ สู้ๆนะคะ เมฆ

ปล.โล่งใจมากมายที่เมฆไม่ได้เสร็จอาทแต่อย่างได้ แหะแหะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 28-07-2010 20:32:50
อ่านไปลุ้นไป ว่าพี่เมฆจะคุยกับนายอาทแบบไหน
หวังว่านายอาทจะเข้าใจจริงๆ นะ อย่ามากลับคำล่ะ  o18

ตอนต่อไปพี่เมฆก็ต้องหาวิธีง้อฉานแล้ว
ขอหวานๆ น้ำตาลเกลื่อนเลยนะคะไรเตอร์  :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 28-07-2010 20:44:49
ตอนหน้าเมฆง้อฉานขอชุดใหญ่ๆนะ  :haun4:  ฟูลออฟชั่นไปเลย ทิ้งทวน ทิ้งดาบ ทิ้งหอกไปเลย  :jul3:

----------------------
เอ่อ ได้ จม รักแระ ตั๋วมันไม่ได้แพงไปกว่าเงินที่ไปปรนเปรอผะชายนิย่ะ ทีกะผะชายแล้วกล้าทุ่ม
ชิส์ แค่นี้ทำบ่น เจ้าของที่เลี้ยงอาหารสามมื้อ ให้ที่นอน หมอน ผ้าห่ม พร้อมแต่ขาดผะชายนะ  :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 28-07-2010 21:12:09
อุ้ย ผิดคลาด 555+

รอตอนต่อไป  :z1: :haun4: :z1:

ปล.ตอนหน้าจัดชุดใหญ่ 555+
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: @Kanda@ ที่ 28-07-2010 21:19:21
อาทกลับใจ  :mc4:

เชียร์ให้ตามจีบเมฆจนฉานช้ำในไปเลยนะคะ 555+ (หมั่นไส้ฉานมานานแล้ว o18)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 28-07-2010 21:43:52
ยิ่งใกล้จบ ยิ่งลุ้นเนอะ พี่เมฆเติบโตขึ้นได้ภายในคืนเดียว ถือว่าเป็นเรื่องดีๆในเรื่องร้ายๆละกัน
อาท.. เรายังหวังความเป็นคนดีของนายอยู่นะ

ตอนหน้าพี่เมฆจะง้อท่านฉานแล้ว ฮิ้วววววววว

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 28-07-2010 22:27:09
เมฆรีบง้อ ฉานเร็วๆนะ

เดี๋ยวจะรีบไปมีกิ๊กซะก่อน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 28-07-2010 22:45:15
อาท ไปส่งพี่เมฆให้ถึงบ้านจริงๆนะเฟร้ย
พี่เมฆจะรีบกลับไปง้อพี่ฉาน
กลัวใจของอาท  แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั๊ง

พี่เมฆ  พี่สามารถปกป้องคนที่เรารักได้ดีจริงๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 28-07-2010 22:52:05
ท่าทางฉานก็คงจะไม่อยู่เฉยหรอกเนอะ
แต่อาทจะยอมง่ายๆแน่รึ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 28-07-2010 22:53:58
รอดูพี่เมฆง้อฉาน :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 28-07-2010 23:08:38
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีค่ะ
เค้าทำงานก็เหนื่อยเหมือนกัันเลย
แต่ต้องอดทนๆๆๆๆเนอะ ^ ^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 28-07-2010 23:22:26
เลิกนอนที่ทำงาน แล้วมาปั่นนิยายให้จบ ซะเจ้ อิอิ

รู้สึกตอนนี้ ท่านเจ้ อัดอั้นมานาน บรรยาย ซะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 28-07-2010 23:34:01
อ่านแล้วแบบว่า คำพูดน้องเมฆทำไมถึงได้คมเช่นนี้
อ่านแล้วเสมือนได้อ่านสามก๊ก ภาคเล้าเ็ดเลย อิอิ
หวังว่าไอ้อาทมันคงจะเข้าใจในคำพูดนะ

จะรออ่านตอนที่น้องเมฆปรับความเข้าใจกับท่านฉานนะจ๊ะ :กอด1:
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะจ๊ะ นอนออฟฟิศมีมุ้งหรือเปล่า
ระวังยุงกัดนะ อิอิ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 28-07-2010 23:42:00
โอ้ว เมฆยอดเยี่ยมไปเลยขอรับ o7
รออ่านตอนต่อไปขอรับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 29-07-2010 00:39:31
เมฆ นายแมนมากๆ  ไม่รู้นะแต่คิดว่าตอนเนี้ย ตาฉานขี้โมโห คงจะแอบมาฟังอยู่แถวๆนั้นแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 29-07-2010 04:06:42
ชอบประโยคนี้จังเลยครับ ซึ้งสุดๆเลย  :monkeysad:
"ไอ้ความสุขชั่วครูชั่วยามแบบที่น้ำแตกแล้วแยกทางอ่ะ กูหาเอาจากไหนก็ได้ เหมือนที่มึงหาได้มาตลอดแหละ  แต่ความสุขที่กูพูดมาอ่ะ คือความสุขทางใจ"
"กูกับไอ้ฉานรักกันมายังไง เอาเป็นว่าผู้ชายกับผู้ชายคู่อื่นกูไม่รู้ แต่ระหว่างกูกับไอ้ฉาน มันมีอะไรมากกว่านั้นหวะ"
อ่านปุ๊บนึกถึงเพลงนี้ปั๊บเลยครับ

http://www.youtube.com/v/3fgnEw0ln7A

"เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต ฉันใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อตามหาและรอคอยเธอมาแสนนาน...."

ขอบคุณไรท์เตอร์และคนโพสมากๆเลยครับ  :pig4: :pig4: จะรออ่านตอนจบนะครับ  :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 29-07-2010 11:04:15
หวังว่าอาทคงจะเข้าใจในสิ่งที่น้องเมฆพูดนะจ๊ะ


รอเมฆไปง้อฉาน
แต่จริงๆ ไม่อยากให้ง้อหรอก หมั่นไส้  :laugh:


ตอนหน้าจบแล้วเหรอ

ขอตอนพิเศษหวานๆ นะ



รักคนแต่้ง  :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 29-07-2010 15:56:07
อาทพูดง่ายผิดคาดวุ้ย

แต่ก็ดี ไม่ยืดเยื้อ  :mc4:

ตอนหน้าจะง้อกันบนเตียงเหรอ?????  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 29-07-2010 17:16:36
โอ๊ะ!! อาทมันยอมฟังเหตุผลด้วยหรอเนี่ย
ดีแล้วๆ เมฆกะฉานจะได้ปรับความเข้าใจกันซะที  TwT
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 29-07-2010 19:04:56
มานอนรอ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 29-07-2010 20:42:53
เข้ามานั่งรอนอนรอ เวลาที่ดวงตะวันจะขึ้นมาฉานแสงแรงกล้าให้กับก้อนเมฆน้อยๆคร้าบ
 :L2: :L2: :L1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 29-07-2010 21:59:51
รู้สึกว่าธรรมของน้องเมฆจะเข้าหูอาทบ้างนะ แต่ก็ไม่อยากคิดว่าจะมีไรตามมาบ้างอะ
แต่อย่างว่าบางทีอาทอาจเป็นแค่คนที่ขาดความอบอุ่น เลี้ยงมาอย่างตามใจ และแค่เพียง
การอยากเอาชนะ แต่อยากให้เมฆคืนดีกะฉานนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 29-07-2010 23:59:16
ค้างมากกกกกก กำลังอินสุดๆ เพิ่งได้มาอ่าน เศร้าใจจจจสงสารเมฆมากเลย TT TT
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 30-07-2010 07:20:16
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 30-07-2010 09:02:22
พี่เมฆคร๊าบบบ....ทำไมไอ้อาทเป็นเด็กดีจัง...สำคัญผิดรึเปล่า
ไอ้คุณชายฉานไม่ได้ตามมาดูเมียหน่อยเหรอ....ใจแข็งจังแฮะ
จะจบแล้ววว....ต่อสัก 45.3 หรือ 45.4 เลยก็ดีนะคะ  :impress:

 :L1: :pig4: ทั้งคนแต่ง + คนโพส เลยค่ะ
กด + ให้ด้วยใจรัก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 30-07-2010 18:03:25
บวกหนึ่งให้กำลังใจ แด่วันที่โลกนี้สดชื่น ด้วยหยาดฝน ลมทะเล  :L2: :mc4: o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 30-07-2010 22:15:50
เข้ามารอน้องเมฆ ง้อพี่ฉาน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 31-07-2010 00:15:33
เข้ามาดันรอ น้องเมฆ น้องฉาน จ้าาาาา

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 31-07-2010 20:52:33
ขอดันนะครับ อึ๊บ อึ๊บ อึ๊บ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 01-08-2010 00:47:01
รอ ร๊อ รอ คร่า ^^
ลุ้นๆ จะง้อฉานยังไง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 01-08-2010 21:45:10
เจ้มาดัน  ตอนต่อไปขอยาว ๆ นะ  อย่าเพิ่งรีบจบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 01-08-2010 21:57:08
เลดี้เข้ามาดันด้วยคนรอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 01-08-2010 22:18:11
มาเอาใจช่วยน้องเมฆ ง้อพี่ฉาน อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-08-2010 22:40:44
ปัญหาเรื่องไอ้อาทน่าจะเอาตัวได้แล้ว แต่ปัญหาเรื่องอิพี่ฉานนี่ดิ ท่าจะรอดยาก งานนี้่ท่าทางงอนตัวพ่อแล้วนะนั่น  :z10:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 02-08-2010 00:30:03
รอ ร้อ รอ ดวงตะวัน ขั้นมา ฉานแสงแรงกล้า ให้กับก้อนเมฆอีกครั้ง

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: raintear ที่ 02-08-2010 18:55:43
ไรท์เตอร์ ได้โปรดกลับมาเต้ออออออออออ พลีสสสสสสสสสสสสส
คนอ่านจะลงแดงตายแล้วววว  :z3:
คิดถึงพี่เมฆ กะ พี่ฉานอ่าา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 02-08-2010 20:20:27
 :call: :call: :call:
คิดถึงน้องเมฆกับท่านฉานเหลือเกินตอนนี้
ไรเตอร์ อยู่ไหน หลานวัยแล้วนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 02-08-2010 21:47:27
ยังคงรอคอยอยู่เสมอ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: katarena ที่ 03-08-2010 10:42:52
คิดถึงฉานกับพี่เมฆ ^ ^
กลับมาเข้าเล้าได้แล้ว ดีใจมากมาย
ตอนนี้ปูเสื่อรอบทง้อดวงตะวันของพี่เมฆอยู่นะคะ อิๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-08-2010 19:59:00
จะตกไปหน้าสองแล้วววว  อึ้บ ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 04-08-2010 00:11:36
ยังคงเฝ้ารออยู่ทุกวันทุกคืน

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: raintear ที่ 04-08-2010 00:33:38
ไรท์เตอร์จ๋าาาาาา รีบมาลงต่อเท้ออออออ  :monkeysad:
คนอ่านรอคอย   :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 04-08-2010 00:46:58
คืนนี้มาแน่นอนจ้า ขอตรวจคำผิดแป๊บนะจ๊ะ  :z2:
เป็นตอนที่ยาวมากเป็นพิเศษ  :z1: อย่าเพิ่งไปนอนกันนะ คนโพสเองยังไม่ได้นอนเลยเนี่ย  :serius2:

มาแจก + กันก่อนลงนิยาย  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 44, P.50] 28 กรกฏา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 04-08-2010 00:49:25
มานอนรอ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 04-08-2010 00:59:27
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 04-08-2010 01:14:57
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนที่ 45
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

ทิ้งตัวลงนอน เอามือก่ายหน้าผากด้วยความเหนื่อยใจ เคลียร์เรื่องไอ้อาทไปได้แต่ก็ยังหายใจไม่สบายปอดอยู่ดี
ซ้อมง้อคนบางคนไว้ ให้สมกับครั้งแรกในรอบหลายปี ที่มันงอนผมนานที่สุด
แต่บ้านไอ้ตัวดีปิดเงียบ ไฟทุกดวงในห้องนอนปิดสนิท ปกติถ้าผมจะไปนอนห้องมันจะเป็นที่รู้กันว่าประตูบานไหน
ที่จะย่องเข้าหามันได้ตอนดึกๆ โดยที่ไม่รบกวนการนอนของน้าชาติกับน้าพิม....แต่ครั้งนี้ไม่มีการนัดแนะกันไว้
ไม่มีอะไรสักอย่าง ความหวังที่คิดว่าประตูบานนั้นจะคลายล็อครอผม กลับลงกลอนจากด้านในเรียบร้อย
ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเดินคอตกกลับบ้านตัวเอง......ก็แค่นั้น

ผมไม่เคยกลัวเรื่องไอ้ฉานงอน.....อย่างที่ไอ้หน่าว่า มารยาผมเยอะ ต่อให้มันเล่นตัวแค่ไหน ผมก็ต้องง้อมันจนได้
แต่สิ่งที่ผมรู้สึกกลัวจนจับใจไม่ใช่แค่เรื่องที่มันงอน.........แต่ผมกลัวมันจะ “หมดรัก”
มันอาจจะรำคาญที่ผมดื้อด้านเกินไป
มันอาจจะเบื่อ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีผมวนเวียนอยู่รอบๆตัวมัน
ผมกลัวว่า คำว่ารัก ที่ได้ยิน จะมาจากความเคยชิน กลัวว่าพันธะสัญญา จะมาจากความผูกพันธ์
แต่ไม่ใช่  “คนรักหรือคู่ชีวิต”
“ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” มันคือเรื่องจริง ถ้าไม่ติดตรงที่ว่า มังกรหยก มีหลายตอนจนเกินไป ผมจะเอามันมาเปิดตอกย้ำความปวดใจของตัวเอง

คิดการใหญ่จะไปปลอบใจอันดา แต่ปัญหาของตัวเองยังจะเอาตัวไม่รอด......ชีวิตมึงจะดราม่าไปไหนวะพี่เมฆ



เสียงกริ่งหน้าบ้านบังอาจดังขึ้นมากลบเสียงถอนหายใจ ให้ถึงกับต้องจิ๊ปากอย่างช่วยไม่ได้
นาฬิกาบอกเวลา ตีสี่.....จะมีใครที่ไหนมากดกริ่งบ้านคนอื่นได้ตอนตีสี่ ญาติพี่น้องแม่นิ่มที่มี ก็แทบจะนับนิ้วได้ด้วยมือข้างเดียว
ลุกจากที่นอนอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้าไม่ติดว่า เวลานี้เป็นเวลาที่แม่กำลังนอน อาชีพนักเขียนอย่างแม่ คงจะเพิ่งเริ่มพักผ่อนไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้   ไม่ได้อยากจะเป็นลูกกตัญญูอะไร ตอนที่อารมณ์ใกล้เคียงภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิดอยู่ตอนนี้หรอก แต่ถ้าจะปล่อยให้กริ่งดังอยู่แบบนี้ นอกจากแม่ตื่นแล้ว บ้านผมคงได้หม้อไหและคงจะลามไปถึงร้องเท้าเป็นรางวัลเข้ามาถึงในบ้านแน่ๆ เสียงหมาในซอยก็พร้อมใจกันทั้งเห่าทั้งหอน  อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร ผมจะด่าให้เปิง ผมไม่คิดว่าคนที่จะพิเรนทร์มากดกริ่งบ้านคนอื่นตอนตีสี่จะเป็นโจร เพราะเสียงหมาเห่าขนาดนี้ โจรที่ไหนก็คงเปิดตูดแน่บไปไม่กล้าเสี่ยงหรอก แต่ถ้าเป็นพวกวัยรุ่นที่เมาแล้วเข้าบ้านผิด มึงเจอกูขวิดดับอนาถแน่ๆ

ผมเดินขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมาตลอดทางเดิน แทบจะรูดราวบันไดลงมาเหมือนตอนเด็กเสียด้วยซ้ำเมื่อพบว่ากริ่งยังดังแบบต่อเนื่อง ยังกับคนกดเอานิ้วจิ้มค้างเอาไว้ แล้วมันก็มาหยุดดังตอนผมถึงพื้นบ้านพอดี ไม่รู้คนกดเพิ่งจะคิดได้ว่ารบกวนบ้านหลังอื่น หรือเมาจนล้มหงายตายคาหน้าบ้านผมไปแล้วก็ไม่รู้


“แม่”
เสียงตะโกนที่คิดว่าดังที่สุดในชีวิตหลุดออกมาจากปากผมทันทีที่เห็นว่า คนที่ควรจะพักผ่อนอยู่ข้างบน ได้ลงมาถึงต้นเหตุก่อนผมที่วิ่งลงบันไดมาแบบขั้นเว้นสองขั้นเสียอีก
“ ทำใจดีๆนะครับ คุณฉานแสงโดนยิงอาการสาหัส ผมแจ้งไปที่ผู้ปกครองของคุณฉานแสงแล้ว แต่เค้าบอกว่าให้มาบอกที่นี่ด้วยเพราะภรรยาเค้าอยู่บ้านคนเดียวหนะครับ เค้ากลัวภรรยาเค้าจะเป็นอะไรไปอีกคน ผมเลยมาแจ้งคุณด้วย ขอโทษนะครับที่ต้องกดกริ่งแบบไร้มารยาท”

ใจผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มตั้งแต่คุณตำรวจบอกให้ทำใจดีๆแล้ว กำลังจะคว้าให้กลับมาอยู่ที่อกข้างซ้ายเหมือนเดิม แต่ก็แทบทรุดเมื่อได้ยินว่า  “ไอ้ฉานถูกยิง”


เหมือนหัวใจถูกกระชากให้ออกจากร่าง แสงสว่างเพียงดวงเดียวในชีวิตผมกำลังจะดับ แล้วผมจะอยู่ต่อไปยังไง
“กะ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” ผมไม่รู้ว่าคำถามออกมาจากตัวผมหรือวิญญาณที่ตายไปแล้วกันแน่ แขนแกร่งข้างนึงมาจับร่างของผมไว้ สมองขาวโพลนเกินกว่าที่จะเริ่มต้นอะไรต่อไป

“คุณไหวนะครับ ทำใจดีๆ คนเจ็บถึงมือหมอแล้ว “ คำพูดปลอบใจ แต่กลับกระตุกใจผมอย่างประหลาด ร่างของแม่ถูกพยุงมาวางที่โซฟา ยาดมถูกมือข้างนึงโบกไปมาที่ปลายจมูก แล้วมืออีกข้างนึงก็หยิบจับนิตยสารที่อยู่ใกล้มาพัดไปมาให้อากาศใหลเวียน

ส่วนผมเอาร่างที่ไร้วิญญาณมานั่งลงที่โซฟาตัวใกล้ๆ กันได้นับว่าเก่งยิ่งกว่าอะไรแล้ว

“คนเจ็บบุกไปบ้านผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมีปากเสียงกับเจ้าของบ้าน เรื่องแย่งแฟนผู้ชายกันหนะครับ ฝ่ายนั้นให้การว่าคนเจ็บพุ่งเข้าไปจะทำร้ายเลยป้องกันตัวเอง ตอนนี้ตำรวจกำลังสืบสวนข้อเท็จจริงกันอยู่” คำบอกเล่าของตำรวจไม่ทำให้ผมปวดหนึบในใจเท่ากับคำว่า “แย่งแฟนผู้ชาย” ไปได้เลย

“โธ่ฉาน ฮึก ฮึก ฮืออออออ” เสียงร้องปริ่มจะขาดใจ ทำให้ผมรู้ซึ้งว่าใจสลายเป็นยังไง เหมือนคนที่โดนกระชากหัวใจออกมาแล้วกระทืบซ้ำจนแหลกเหลว ผมไม่รู้ว่าแม่ร้องไห้ที่ไอ้ฉานถูกยิง หรือร้องเพราะเรื่องที่มันบุกไป “แย่งแฟนผู้ชาย” กันแน่
“แม่ครับ แม่ เมฆอยู่นี่นะครับแม่ เมฆอยู่นี่ แม่ไม่เป็นอะไรนะครับ” ผมปลอบแม่ได้ทั้งๆที่หัวใจตัวเองตายไปตั้งแต่รู้ว่าไอ้ฉานถูกยิงแล้ว สองแขนผมโอบตัวแม่เอาไว้ ซบหน้าลงกับอกให้รู้ว่าผมอยู่ข้างๆไม่ไปไหน น้ำตาไหลออกมาหมดสิ้นทุกอย่างไม่ว่าจะความแมนหรือความอาย เสียงสะอื้นที่เก็บกลืนไว้สุดกำลังยังเล็ดลอดออกมาฟ้องว่าตอนนี้ผมแกล้งเข้มแข็งแค่ไหน

“พี่เมฆ แม่นิ่ม เกิดอะไรขึ้นค่ะ คุณตำรวจเกิดอะไรขึ้นค่ะ” เสียงของอันดากระชากสติที่ใกล้ดับของผมขึ้นมาอีกครั้ง

“อันดา ฉาน ฉาน ไอ้ฉานมัน มันเหี้ย มันทำอะไรบ้าๆ แล้วมันกำลังจะทิ้งพี่ไป ฮึก ฮึก พี่ พี่ฝากดูแม่ด้วยได้มั้ย พี่ พี่จะไปสั่งสอนมัน ฮึก ฮืออออ”

“พี่เมฆใจเย็นๆ เกิดอะไรขึ้นค่ะ พี่ฉานเป็นอะไร พี่เมฆมีสติหน่อยนะ ใจเย็นๆ”

“ไอ้ฉานโดนยิง พี่จะไปหามัน อันดาพี่ฝากดูแลแม่หน่อยได้มั้ย”

“ได้ค่ะได้ แล้วพี่ฉานเป็นไงบ้าง คุณตำรวจค่ะ พี่ชายหนูเค้าเป็นยังไงบ้าง”

“คนเจ็บถึงมือหมอแล้วครับ” ถึงมือหมอแล้วไง ถึงมือหมอแล้วปลอดภัยหรือว่ายังไง ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองพร้อมที่จะรับรู้คำตอบไหนมากกว่ากันในเวลานี้  ในเมื่อตัวผมเบาโหวงและสมองขาวโพลนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก รู้แต่ว่ากระวนกระวายอยากไปหา แต่ก็ห่วงแม่จนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี ถ้าไม่เห็นอันดาลงมา ผมก็ลืมไปแล้วว่าในบ้านนี้ยังมีอันดาอีกคน

“อันดาดูแลแม่นิ่มให้ แต่พี่เมฆจะไปยังไง อันดาไม่ให้พี่เมฆไปคนเดียวนะ” น้ำเสียงเฉียบขาดจนผมรู้สึกว่า ในภายภาคหน้าหากผมยังอยู่ คงมีแม่เพิ่มขึ้นอีกคน

“น้าพิม น้าพิมหละเป็นยังไงบ้าง “ ผมสิ้นสติจนลืมคิดไปว่า ยังมีอีกคนที่ต้องเป็นห่วง น้าพิมคงรู้เรื่องแล้ว คุณตำรวจมาส่งข่าวทางนี้ แล้วน้าพิมจะอยู่ยังไง ขนาดแม่นิ่มที่เป็นเพียงคนที่ผูกพันธ์เพราะอยู่ใกล้ชิดกันมาตลอด ยังตกใจจนเป็นลมไปขนาดนี้ แล้วป่านนี้น้าพิมที่อยู่คนเดียวจะเป็นยังไงบ้าง แล้วจะรู้สึกยังไงที่ต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายเค้าเป็นตายเท่ากันแบบนี้คือผม
“ถ้าหมายถึงแม่ของคนเจ็บ ป่านนี้คงอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วครับ ตำรวจอีกคนพาไป ส่วนคุณถ้าจะไปก็ไปพร้อมกับผมได้ ผมยังต้องเดินเรื่องอีกหลายอย่างที่โรงพยาบาลเหมือนกัน” คนในเครื่องแบบเอ่ยออกมาอย่างใจดี ผมหันไปสบตากับอันดาสายตาที่มองตอบกลับมาทำให้ผมรีบลุกขึ้น ถ้าผมกระชากคุณตำรวจแล้วเหาะไปโรงพยาบาลได้ ผมจะไม่รอช้าเลยสักวินาที
 มือเย็นเฉียบบอบบางที่แตะโดนปลายแขนผม จนต้องหันไปหา ใบหน้าซีดเซียว และคราบน้ำตาที่ยังไหลรินออกจากหางตาทำผมใจหาย
ผมจะรับผิดชอบกับทุกหยดน้ำตาของแม่เอง ขอเพียงให้ผมได้ไปเห็นกับตาว่าไอ้ฉานปลอดภัยดีแล้วหรือว่าเราต้องจากลากันชั่วชีวิต แล้วหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ผมยินดีที่จะรับผิดทุกกรณี ในเมื่อความรักไม่ได้เกิดจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แล้วถ้าความรักแบบผิดๆของพวกผม ทำให้บุพการีต้องเสียน้ำตา ถึงตอนนั้นผมยินดีทีจะกราบเท้าแล้วน้อมรับโทษโดยดุษฎี
“เมฆแม่ไปด้วย แม่อยากไปหาฉาน แม่ไปด้วยนะ แม่เป็นห่วงฉาน”  น้ำตาผมไหลเหมือนทำนบเขื่อนที่พยายามต้านแรงน้ำไว้สุดชีวิต มือเย็นเฉียบที่เกี่ยวข้อมือผมเอาไว้ กระตุกรั้งสุดกำลังว่าจะไปหาไอ้ฉานด้วยกัน ผมสบตาอันดาอย่างขอคำปรึกษา ลำพังผมคนเดียวในตอนนี้ คงทำอะไรคนเดียวไม่ได้แน่ๆ ไม่มีใครที่คิดทำอะไรในสภาพที่เหมือนร่างไร้วิญญาณแบบนี้ได้หรอก

“งั้นไปกันหมดนี่แหละ เดี๊ยวอันดาจะอยู่ใกล้ๆคอยดูแลแม่นิ่มเอง พี่เมฆไม่ต้องห่วง คุณตำรวจเอารถอะไรมาค่ะ”

“ผมก็ว่าดีกว่านะครับ ไปกันให้หมดนี่แหละ ใกล้หมอด้วย ถ้ามีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ “

เสียงสะอื้นไห้ของแม่ทำเอาผมเจ็บร้าวไปทั่วทั้งอก ตัวผมเองก็คงจะไม่ต่างจากแม่เท่าไหร่  เพราะรู้สึกบางส่วนของเปลือกตาที่หนักอึ้งเริ่มมาบดบังขอบเขตการมองเห็นของผมบ้างแล้ว

ภาพวัยเด็กลอยเข้ามาเหมือนหนังที่ฉายซ้ำ เสียงคำสั่งของคนที่ผมชอบเอามาเรียกลับหลังว่า”ผู้กำกับแห่งชาติ” วนกันอยู่ในหัวไปมาซ้ำๆ คำว่ารักที่นานๆครั้งจะหลุดจากปากของไอ้หมาบ้าออกมาให้ได้ยินสักที กลับดังขึ้นริมหูเหมือนมันกำลังพูดซ้ำๆให้ผมต้องฝังลึกลงไปสุดใจ
น้ำตาต้องรื้นไหลขึ้นอีกครั้งเมื่อย้อนไปถึงวันที่ผมกับมันทะเลาะกัน บางครั้งอารมณ์ชั่ววูบก็ทำให้ผมต้องเอ่ยคำถามที่ตรงข้ามกับความรู้สึกจริงๆในใจว่า เมื่อไหร่ที่มันจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับชีวิตผมเสียที แล้วคำตอบที่เคยได้ยินเหมือนเดิมทุกครั้ง ราวกับคำตอบนั้นในอัดฝังอยู่ในสมองมันไว้แล้วว่าให้ผมเลิกหวังว่าจะมีวันนั้น มันจะยังวนเวียนอยู่ข้างตัวผมพอๆกับที่ผมเองก็จะต้องอยู่ใกล้ๆสายตามัน จนกว่ามันหรือผมจะตายจากกันนั่นแหละ

“ฉานกูไม่เคยคิดว่าวันนั้นจะมีจริงหรอกนะ กูดูแลตัวเองไม่ได้ถ้าไม่มีมึง เรื่องที่กูบอกว่ากูเข้มแข็ง กูดูแลตัวเองได้ ทั้งหมดกูโกหกมึง กูอยู่ไม่ได้จริงๆนะฉาน”  ไม้รู้ก้อนสะอื้นที่ผมเก็บกลั้นเอาไว้หลุดออกมาหรือแรงสั่นไหวที่หัวไหล่ ถึงได้ทำให้คนที่กำลังทำตามหน้าที่ ถึงได้ปล่อยมือข้างหนึ่งออกมาจากพวงมาลัยแล้วตบบ่าปลอบใจผมไว้


“ แฟนผู้ชายที่เค้าแย่งกันคือน้องเหรอ ” ถ้าเป็นเวลาปกติคำถามนี้คงทำให้ผมตกใจจนช็อคไปเลยก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ทำเอาหัวใจผมหลุดจากร่างเท่ากับแสงสว่างในชีวิตผมริบหรี่ลงไปได้อีกแล้ว

“ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นที่ตอบออกไป ผมไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ ในเมื่อตอนนี้ ไม่ได้มีแค่ผมและคุณตำรวจเท่านั้น ในตอนหลังของรถตำรวจยังมีแม่และอันดานั่งอยู่อีกสองคน  เสียงสะอื้นไม่จางของแม่บอกชัดว่า ได้ยินคำตอบผม แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าปิดบังไปทำไม ในเมื่อมันคือความจริง ผมกับไอ้ฉานรู้ดีว่าความลับไม่มีในโลก วันนึงทุกคนก็ต้องรู้ว่าผมกับมันคบกันแบบไหน เราสองคนไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง เพียงแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นบอกแบบไหนดี  ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะรับความสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาตินี้ได้ไหม ไม่เคยคิดว่าผู้ใหญ่จะมารับรู้ความสัมพันธ์ของเราเพราะเหตุการณ์แบบนี้

ผมใจไม่กล้าพอที่จะหันดูว่าแม่มีปฎิกริยายังไงเมื่อได้ยินแบบนี้


จริงๆแล้วทุกความกล้าของผม มีไอ้ฉานเป็นทั้งกำลังใจและแรงบันดาลใจเสมอ
เหมือนๆกับมัน ที่ไม่ว่าจะยังไง “ผม” ก็ยังเป็นแรงขับเคลื่อนและเป็นจุดอ่อนในชีวิตมันเสมอเหมือนกัน

ครั้งหนึ่งผมเคยตัดพ้อออกไปว่า “จริงๆแล้วก้อนเมฆเป็นเพียงแค่ตัวประกอบที่ทำให้รู้ว่าดวงตะวันส่องแสงเจิดจ้าให้กับท้องฟ้าแค่ไหนเท่านั้น เพราะตราบใดที่เรามองเห็นก้อนเมฆทั่วทั้งฟากฟ้า นั่นก็หมายความว่าเรารู้ถึงอานุภาพของดวงตะวันเหมือนกัน” แต่แล้วไอ้หมาบ้ามันก็เป็นคนเดียวที่ให้คุณค่าของก้อนเมฆมากกว่านั้น

“มึงเข้าใจผิดแล้วเมฆ ใครว่าก้อนเมฆเป็นส่วนประกอบ ก้อนเมฆเป็นส่วนหนึ่งของดวงตะวันเลยนะเว้ย ถ้าไม่มีใครมองเห็นก้อนเมฆแล้วจะรู้มั้ย ว่าบนท้องฟ้ามีดวงตะวันหนะไอ้บ้า มึงนี่ชอบเข้าใจอะไรผิดๆอยู่เรื่อย สงสัยกูคงต้องฉีดวิตามินบำรุงมึงอยู่เรื่อยๆแล้วนะ แต่สภาพน่าอนาถขนาดมึงอ่ะ กูว่าควรโดนฉีดทุกวัน “ อยู่ดีๆผมก็ยิ้มทั้งน้ำตา เรียกความสนใจจากคนที่บังคับพวงมาลัยอยู่ไม่น้อย รถถึงได้ไถลเข้าใกล้เกาะกลางถนนขนาดนั้น เหมือนเจ้าตัวจะรู้ถึงได้ส่งยิ้มแล้วก้มหัวขอโทษมาให้

ระยะทางระหว่างบ้านกับโรงพยาบาลใช้เวลานานราวกับกินเวลาชั่วกัปชั่วกัลป์
ทำไมเวลาแห่งความสุขถึงไม่ยาวนานแบบนี้บ้าง
ผมไม่เคยรู้สึกกลัวกล่องไฟ EMERGENCY สีแดง ครั้งไหนเท่าครั้งนี้มาก่อน
แสงไฟแดงฉานไม่ได้ทำให้ความหนาวเยือกที่เกาะกินทั้งตัวจนปวดร้าวไปทั่วทั้งสันหลังอบอุ่นขึ้นมาได้เลย
ไฟที่ส่องสว่างทั่วทั้งทางเดินไม่ได้ทำให้ความกลัวของผมหายไป
ยิ่งใกล้ห้องที่เจ้าหน้าที่บอกว่าไอ้ฉานอยู่ที่นั่นใกล้เข้ามาเมื่อไหร่ ขาผมก็อ่อนล้าลงจนเหมือนจะเดินต่อไปไม่ไหว
ผนังเป็นราวจับอย่างดีให้ผมไต่ไปตามทางต่อได้ ป้ายห้อง ICU ที่ขึ้นไฟหราว่ากำลังถูกใช้งานใกล้เข้ามาจนรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังสั่นแค่ไหน ภาพของผู้หญิงที่นั่งก้มหน้าร้องไห้เหมือนคนที่กำลังจะขาดใจตายทำให้น้ำตาผมรื้นไหลอีกครั้ง
ความรู้สึกของคำว่า “ฆาตกร” ทำให้ผมต้องก้าวขาถอยหลัง แต่ก็ยังมีมือมาฉุดให้ผมต้องก้าวไปข้างหน้าอีกจนได้
ไม่ว่าจะยังไง ผมก็ต้องเข้าไปเผชิญหน้ากับความจริงสินะ






 
๐ มันยาวจนจบในตอนไม่ได้ ทำยังไงดี ต่อพรุ่งนี้นะค่ะ ตอนนี้เป็นตอนจบแล้วหละแต่อาจจะยาวจนกว่าเราจะยิ้มได้อ่ะนะ
ไม่มีอะไรร้ายแรงนอกจากเสียน้ำตา :laugh:
ขอบคุณทุกคนเหมือนเดิมค่ะ
 anterosz ก็ดันได้เสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่ตอนแรกๆจนตอนท้ายๆเลยทีเดียวแต่ anterosz มีเพื่อนทั้งช่วยทวงช่วยดันแล้วนะ แต่ว่ามันใกล้จะจบแล้ว :sad4: แอบใจหาย  ขอบคุณทุกๆคนที่มาช่วยกันดันแล้วก็ทวงนะค่ะ อยากจะปริ๊นหน้าที่มีคนทวงไปปาหน้าเจ้านายอยู่เหมือนกัน 555 แต่ยังอยากได้เงินเดือนอยู่อ่ะ :z3:
behamos แปะเพลงแล้วโดนใจ จริงๆด้วยนะ พี่เมฆกะไอ้กูปรี มันเหมาะกับเพลงนี้จริงด้วย เพียงแต่พี่ฉานมันไม่ต้องตามหาพี่เมฆมันมาให้พี่ฉานยัดเยียดด้วยตัวเอง:serius2: ๐.....
(http://image.ohozaa.com/ic/fsffa.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: raintear ที่ 04-08-2010 01:16:41
ถ่างตารอ (ได้ข่าวว่าสอบพรุ่งนี้ :sad4:) แต่ไม่เป็นไร เราทนได้ เพื่อพี่ฉานกับพี่เมฆ   :laugh:
กรี๊สสสสสสสสสสสสส   :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 04-08-2010 01:21:19
ยังไม่จบเน้อ พรุ่งนี้จะมีต่ออีกหน่อย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: raintear ที่ 04-08-2010 01:26:57
พลิ๊กล๊อคอย่างแรง  o22 ช๊อกกกก  :sad3:
พี่ฉานอย่าเป็นอะไรไปเน้อ ส่งกำลังใจไปช่วย :myeye:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 04-08-2010 01:29:23
อยากอ่านต่อ
มาให้กำลังใจน้องเมฆ นายฉาน
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 04-08-2010 01:31:41
พี่ฉานทำอะไรไม่ปรึกษาใครแน่เลย
ค้างงงงงอ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 04-08-2010 02:03:45
ง่าค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง แงๆๆๆ  :o12:
ฉานจะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย
เจอข้อความซึ้งๆทุกตอนเลยนะครับ
"ตราบใดที่เรามองเห็นก้อนเมฆทั่วทั้งฟากฟ้า นั่นก็หมายความว่าเรารู้ถึงอานุภาพของดวงตะวันเหมือนกัน"
"ก้อนเมฆเป็นส่วนหนึ่งของดวงตะวันเลยนะเว้ย ถ้าไม่มีใครมองเห็นก้อนเมฆแล้วจะรู้มั้ย ว่าบนท้องฟ้ามีดวงตะวัน"


หากตะวัน..ลาลับ..ดับแสงจ้า..             หมู่เมฆา..คงสิ้นแสง..แล้งสีสัน...
จากที่เคย..ฉานแสงกล้า..ลาลับพลัน..     ดั่งภาพฝัน..เลื่อนมลาย..กับสายลม...

อ่านตอนนี้แล้วจิตตก จู่ๆกลอนมันก็แวบเข้ามาในหัวเอง  :m15:
ขอบคุณไรท์เตอร์กับคนโพสมากๆเลยครับ  :pig4: มาต่อไวๆนะครับ
ปล.อย่าจบเศร้าน้าาา ไม่งั้นมีงอนจริงๆด้วยย o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 04-08-2010 02:41:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 04-08-2010 03:03:50
ฉานนนนนนนน
ดวงตะวันมีเวลาพักผ่อนในตอนกลางคืน
พรุ่งนี้ก็กลับมาแล้ว
แต่
ก้อนเมฆ
สามารถมองเห็นได้
แม้ว่ากลางคืนหรือกลางวัน
.
.
.
.
.
.
ก้อนเมฆรอดวงตะวันอยู่นะครับ
พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะ
อย่าผิดสัญญาละ........
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 04-08-2010 04:27:32
อ่านตอนนี้แล้วจะบ้า!  :serius2: ... :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 04-08-2010 05:03:32
น้ำตาซึม...แต่เราต้องเข้มแข็งเป็นเพื่อนพี่เมฆ T^T
พี่ฉานเห็นเงียบๆ แอบทำไรเอาซะตกใจช็อกกันทั้งบาง งือออออ..
รอลุ้นต่อแบบเงียบๆ...
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 04-08-2010 05:48:59
โห...บับว่า มาอ่านทันเอาก็ตอนที่เค้าจะจบแล้วซะงั้น ><
กำลังอยู่ในโหมดดราม่าอะค่ะ แบบมีใจแป้วอ่านข้ามก็หลายตอนอยู่
เด๋วขอลุ้นฉานก่อนจะมาเม้นใหม่นะคะ ตอนนี้ไม่ไหวละปวดหัวมาก (นอนไม่หลับ TT)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 04-08-2010 06:32:32
ยังกล้ายืดตอน อีกนะเจ้ หึหึ

รอ!!!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-08-2010 06:47:20
รออ่านนะครับ :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 04-08-2010 07:04:16
ขอบคุณคนแต่งคนโพส :L2:
โอ้โห! คู่นี้ทำไรกันนี่ไม่นึกถึงใจคนอ่านบ้างเลย
ต่างคนต่างคิดต่างคนต่างทำ
ที่บอกว่าเรื่องนี้ไม่เศร้าหมายถึงตอนไหนนะ
ไม่เศร้าแต่เครียดอ่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 04-08-2010 07:27:21
ทำไมตอนนี้เศร้าแบบนี้อะ ทำไมทั้งที่คิดว่าคงเป็ตอนที่ทุกอย่างจะไปได้ดี
น้องฉานกับน้องเมฆจะได้ง้องอนคืนดีกัน ทำไมเป็นแบบนี้อะ ทำไมฉานต้องถูกยิง
ไหนว่าไอ้อาทรู้เรื่องแล้ว แล้วทำไมมันถึงยิงฉานได้อะ สงสารเมฆ ถ้าฉานเป็นไรไป
เมฆจะอยู่ได้อย่างไร วันที่ท้องฟ้าไร้ดวงอาทิตย์ เมฆจะลอยอย่างเดียวดายได้ไหม
ขอร้องฉานอย่าเป็นไรนะ ขอร้องอย่าทำให้เมฆเสียนำตามากว่านี้นะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 04-08-2010 07:36:47
ไม่เป็นไรหรอกเนอะพี่ฉานต้องไม่
เป็นอะไร แต่แอบน่ารักนะนี่ห่วง
ภรรยาที่บ้านได้อีก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 04-08-2010 08:00:10
รอลุ้นตอนหน้าทั้งน้ำตากระซิก ๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 04-08-2010 08:10:28
 +1 ให้พี่ฉานกับพี่เมฆ  รอๆ พรุ่งนี้ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 04-08-2010 08:23:52
ต้องให้เขาเตรียมทิชชูไว้ไหม
อย่าเศร้ากว่านี้นะไม่อ้าววววววววววววว  :z3:

ขอให้นายฉานปลอดภัย  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 04-08-2010 09:58:19
:o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 04-08-2010 09:59:14
แบบว่าหักมุมมากเลย ไม่คิดว่าฉานจะบ้าดีเดือดอย่างนี้ ตอนหน้าคงจบจริง ๆสินะ เสียดายจัง

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 04-08-2010 10:43:26
ก้อนเมฆต้องเคียงคู่ดวงตะวัน
 :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 04-08-2010 11:12:37
ลุ้นระทึก หัวใจเต้นแรงทุกขณะจิต  :m29:

แต่ยังเชื่อมั่นในตัว TRomance ว่า เรื่องนี้ไม่มีเศร้าแน่นอน  :m5:

“จริงๆแล้วก้อนเมฆเป็นเพียงแค่ตัวประกอบที่ทำให้รู้ว่าดวงตะวันส่องแสงเจิดจ้าให้กับท้องฟ้าแค่ไหนเท่านั้น เพราะตราบใดที่เรามองเห็นก้อนเมฆทั่วทั้งฟากฟ้า นั่นก็หมายความว่าเรารู้ถึงอานุภาพของดวงตะวันเหมือนกัน”

“มึงเข้าใจผิดแล้วเมฆ ใครว่าก้อนเมฆเป็นส่วนประกอบ ก้อนเมฆเป็นส่วนหนึ่งของดวงตะวันเลยนะเว้ย ถ้าไม่มีใครมองเห็นก้อนเมฆแล้วจะรู้มั้ย ว่าบนท้องฟ้ามีดวงตะวันหนะไอ้บ้า มึงนี่ชอบเข้าใจอะไรผิดๆอยู่เรื่อย สงสัยกูคงต้องฉีดวิตามินบำรุงมึงอยู่เรื่อยๆแล้วนะ แต่สภาพน่าอนาถขนาดมึงอ่ะ กูว่าควรโดนฉีดทุกวัน “

สุดยอด!!! ประโยคหลังๆนี่นายฉานแสงแรงกล้าแอบหื่นนะเนี่ย  :m20: :m20:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 04-08-2010 11:13:54
อ่านไปน้ำตาไหลไปเศร้าแท้ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 04-08-2010 11:32:09
ท่านฉานโดนไรท์เตอร์รังแก  :o12:
อ่านตอนนี้แล้วสงสารพี่เมฆจังเลย
เอาใจช่วยท่านฉานให้ปลอดภัย

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 04-08-2010 11:47:31
 :m15:
เข้ามาร้องด้วยคน เฮ้อพี่เมฆมีแต่เรื่องอ่าาาา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 04-08-2010 12:09:27
 :serius2: นายฉานทำเงียบๆ ยิ่มออดอ้อนกะสาวๆ แต่พอเห็นเมฆไปกะอาทสติแตกเลยดิ
บุกเข้าไปแบบบ้าดีเดือดเลยมั้งนะ  กลับมานะแสงฉาน เมฆก้อนน้อยๆรออยู่
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 04-08-2010 12:14:40
สงสัยพี่ฉานตามไปผิดที่ เค้าเคลียร์กันไปเรียบร้อยแล้ว เง้อออออ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 04-08-2010 12:59:28
ความรักที่ร้อนแรงแบบตะวัน
กับความรักที่บอบบางดูฟูนุ่มแบบก้อนเมฆ
เมื่อความรัก 2 อย่างมารวมกัน  ทำให้เป็นเรื่องที่สนุก มีสีสัน  และน่ารักเรื่องหนึ่งเลยคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 04-08-2010 13:16:11
กะรอเซทใหญ่

ดันเจอแจคพอตซะได้ :a5: o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 04-08-2010 13:28:30
เม้มไม่ออก
บอกไม่ถูก
 :a5: o22 :serius2: :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 04-08-2010 16:23:45
พี่ฉานนนนนนนนน
โฮฮฮฮฮฮฮฮ
ม่ายยยย

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 04-08-2010 16:51:34
เรื่องเป็นไงมาไงอ่ะอยากรู้ๆ ฉานอย่าเป็นไรมากนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 04-08-2010 18:06:17
กรี๊ดดดดดดดดดดดด มันเกิดอะรายขึ้นนนนนนนนนนนนนนน
ฮืออออออออ พี่ฉานนนนนนนนนนนนนนนนน
อกอิแป้นจะแตกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 04-08-2010 18:28:35
ไม่อยากเศร้าเลยยยยยยยยยยยยย :serius2: :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 04-08-2010 19:23:03
ตะวันต้องอยู่คู่ฟ้า  เพื่อฉายแสงส่องเมฆสวย ๆ ตลอดไป
พี่เมฆ....คุณชายฉานน่ะไม่กล้าทิ้งพี่เมฆไว้คนเดียวหรอก.... :กอด1:

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 04-08-2010 19:28:39
ฉานอย่าเป็นอะไรนะ ถึงมือหมอแล้วน่าจะปลอดภัย  :monkeysad:

สงสารพี่เมฆด้วยอ่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 04-08-2010 19:34:12
+1ให้ฉานกลับมาปลอดภัย อยากให้จบอย่างที่มีต่เพียงความสุขอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 04-08-2010 19:42:55
โอ้ยยยยยยย เศร้าแทนพี่เมฆมากค่ะ
อยากให้ถึงพรุ่งนี้ไวไวจริงๆๆๆๆๆ
เค้าอยากเห็นพี่เมฆกับฉานมีความสุขอ่ะ
เอาใจช่วยมากๆๆๆฮะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nbus ที่ 04-08-2010 19:49:58
รอ รอ รอ   :call:  :call:  :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 04-08-2010 20:34:32
เข้ามาต่อเร็วนะจ๊ะไรเตอร์
เศร้ากว่าหลายๆตอนที่ผ่านมากเลยอ่ะ
ท่านฉานเข้มแข็งนะจ๊ะ น้องเมฆกลังจะไปหาแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: SungJimun ที่ 04-08-2010 21:15:20
อ่านแล้ววิงเวียน จะเป็นลมค่ะ
ฮือออออออ ไอ้พี่ฉาน เมิงนี่ก็ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือเลยยยยย
โถถัง โดนยิงกลับมาซะอีก ตายแล้ววววว อกอีแป้นแหกกกกกกก
อย่าเปนอะไรไปนะ ไม่งั้นน้องเมฆจะอยู่ยังไง ฮืออออออออออออออออ  :impress3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 04-08-2010 21:22:06
อ๊ายยยย  เครียดอ่ะ

ตะวันของพี่เมฆจะเป็นไงบ้าง 

พรุ่งนี้มาลุ้นอีกทีจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 04-08-2010 21:43:01
อ่านแล้วเครียด ฉานอย่าเป็นอะไรนะ :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 04-08-2010 23:20:55
อ๊ากคนเขียนขา

ขอบจบแบบแฮปปี้นะคะ

ไม่เอาเศร้าค่ะ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 45, P.52] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 04-08-2010 23:23:33
ง่ะ

สงสารรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรเมฆกะฉาน

อย่าเป็นอะไรเลยนะ

มารอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจอ

+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 04-08-2010 23:53:51
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนอวสาน
(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

“เมฆ” แรงที่โผเข้ามากอดรั้งและร่างที่สั่นเทิ้มตลอดเวลา ทำให้ผมต้องยื่นแขนเข้าไปโอบประคองไว้
ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งทุกข์ใจได้ขนาดนี้.........จะมีใครชั่วช้าได้เท่าผมอีกมั้ย  มีรึเปล่า??


“น้าพิมครับ เมฆขอโทษนะครับ เมฆขอโทษ เป็นเพราะเมฆ ฉานถึงได้เป็นแบบนี้ เพราะเมฆเอง” ผมก้มลงกราบแทบเท้าสองมือเกาะข้อเท้าน้าพิมเอาไว้  ร้องไห้แบบไม่อาย ร้องไห้เพราะเสียใจ

“ไม่นะลูก ไม่มีใครผิดนะลูกนะ อย่าโทษตัวเอง ฉานไม่เป็นไรหรอก เค้าห่วงแม่ ห่วงเมฆ นี่ขู่เอาไว้ ถ้าฉานไม่กลับ แม่ไม่เฝ้าเมฆให้หรอกนะ เชื่อสิ ยังไงฉานต้องกลับมา “

ทุกคำพูดของน้าพิม ผมควรจะยิ้มได้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมผมถึงยังร้องไห้ยิ่งกว่าเดิม น้าพิมกอดผมแน่นขึ้น ความหนาวเหน็บที่เกาะจับไปทั่วทั้งตัวผม รู้สึก เบาบางลงไป ไม่นานแม่นิ่มก็เข้ามาร่วมวง เราสามคนกอดกันหน้าห้อง ICU

ในช่วงเวลาวิกฤตที่มีความกังวลสุดชีวิต ก็ยังมีความอบอุ่นใจ ให้ผมรู้สึกมีกำลังใจที่จะหวัง
ความเหนื่อยล้าและความกังวล ทำให้แม่นิ่มและน้าพิมนอนหลับตรงโซฟาตัวยาว

คงเหลือแต่ผม  ทั้งๆที่รู้สึกเหนื่อยและเพลีย แต่ข่มตาให้หลับลงไม่ได้เลย ถ้าไฟห้อง ICU ไม่ดับและถ้าไม่แน่ใจว่าไอ้ฉานจะปลอดภัยดี ผมคงต้องตาค้างทั้งๆที่เปลือกตายังรู้สึกหนักอึ้งอยู่แบบนี้แน่ๆ ไหล่หนักจนกลายเป็นรู้สึกชาหนึบ แต่ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย อันดานั่งหลับพิงไหล่ผมเหมือนเด็กตัวน้อยๆ ไม่รู้ว่าตอนเด็กๆ อันดาโดนเลี้ยงมาแบบไหน แต่ความเด็ดขาดเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็งเกินกว่าผู้หญิงทั่วไป ทำให้ผมนึกทึ่ง บางครั้งก็ยังรู้สึกอิจฉาน้องขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้


ผมดีดตัวลุกขึ้นทันทีที่ ไฟห้อง ICU ดับสนิท เกือบทำอันดาหัวโขกผนังไปเหมือนกัน พยาบาลชุดเขียวสีหน้าอิดโรยเดินออกมาเป็นคนแรก แต่ก็ยังมีน้ำใจแบ่งรอยยิ้มมาให้ผม คุณหมอเดินรั้งท้ายออกมาหลังสุดยังกับคอนเซ็ปเดียวกับดารา
คนสำคัญมักจะออกมาเป็นคนสุดท้ายเสมอ

 รอยยิ้มที่ส่งมาทำให้ผมใจชื้นขึ้นเป็นกอง ดูท่าอันดาจะปลุกแม่นิ้มกับน้าพิมแล้ว ทั้งสองคนถึงได้มายืนรวมตัวกับผม หมอยิ้มแต่ยังไม่พูดอะไร มันทำให้ผมร้อนรนจนอยากจะกระชากคอหมอแล้วเค้นคำตอบออกมา
แต่นั่นก็ทำได้แค่คิด

“ปลอดภัยแล้วนะครับ กระสุนเฉียดจุดสำคัญแต่ก็ไม่ได้อันตรายอะไร แต่ผู้ป่วยเสียเลือดและอ่อนแอมากก่อนมาถึงหมอ เลยต้องเฝ้าดูเผื่อผู้ป่วยช็อค อีกสักครู่พยาบาลคงย้ายไปห้องพักฟื้นธรรมดาได้นะครับ หมอขอตัวก่อน”

ลมที่เก็บกลั้นจนจวนเจียนจะล้นปอด ถูกพรูออกมาทางปากด้วยความโล่งใจ แม่นิ่มกับน้าพิมโผเข้ากอดกันด้วยรอยยิ้ม

“เมฆ ฉานไม่เป็นไรแล้วนะลูก ฉานปลอดภัยแล้ว” แม่นิ่มเข้ามาโอบกอดผมยิ้มทั้งน้ำตา น้าพิมเองก็ยังมองกลับมาด้วยรอยยิ้ม มันทำให้ผมอยากจะร้องไห้ ผมกับไอ้ฉานเลยเถิดเกินกว่าการเป็นแค่เพื่อนกัน เรื่องราวที่แม่และน้าพิมรับรู้ ผมไม่รู้ว่ามันส่งผลกระทบต่อจิตใจคนเป็นแม่แค่ไหนกับการเบี่ยงเบนทางเพศของลูกตัวเอง

“แม่ครับน้าพิมครับ คือ เมฆอยากจะขอโทษ” ผมขอโทษจากใจแต่ไม่กล้าพอที่จะสบสายตาไม่ว่าแม่หรือน้าพิม

“ขอโทษทำไม น้าบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ใช่ความผิดของเมฆ ความรักไม่ใช่ความผิดของใครหรอกลูก”

“มะ....แม่ แล้วก็น้าพิมรู้เหรอครับ” ผมไม่รู้ว่าตัวเองแค่ตกใจหรือเข้าใกล้ช็อค เหมือนทั้งสองคนจะรู้มาก่อนหน้านี้ ท่าทีเรียบเฉยดูไม่น่าจะใช่อาการของคนที่รู้ข่าวสะเทือนใจไปเมื่อคืนนี้แน่ๆ

“ฉานหนะ น้าอุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือนนะเมฆ ลูกน้าเป็นยังไงทำไมน้าจะไม่รู้ คนเป็นแม่กว่าจะเลี้ยงลูกมาได้จนโตขนาดนี้ กับอีแค่ลูกตัวเองรักใครชอบใครทำไมน้าจะไม่รู้” คอตกเลยครับได้ยินแบบนี้ น้าพิมคลอดไอ้ฉาน น้าพิมเลยรู้คงไม่แปลกสินะ แล้วแม่นิ่มหละ ไม่ได้คลอดผมแล้วรู้ได้ไง ใครบอก ที่สำคัญคือรู้ตอนไหน

“มองแม่ นี่หาตัวช่วยหรือสงสัย หืม คนรักกันเวลาเค้ามองตากันต่อให้ปกปิดหรือทำให้ปกติแค่ไหน มันก็ไม่เหมือนคนเป็นเพื่อนมองกันหรอกนะลูก “ คอตกเข้าขั้นหงอยเลยผม คิดว่าที่ผ่านมาผมกับมันกลมกลืนกันเป็นธรรมชาติจนไม่มีใครสงสัย ที่ไหนได้ทุกคนรู้แต่ไม่พูด

“เมฆขอโทษนะครับที่เราเป็นแบบนี้ ถ้าไม่มีเมฆ ฉานก็คงไม่เป็นแบบนี้ “

“แล้วเมฆกับฉานจะเลิกกันให้น้าเหรอ”

“เอ่อ.........................” ผมตกใจและเสียใจจริงๆแต่จะให้เลิกกับไอ้ฉานเหรอ ผมเลิกกับมันได้แต่คงเลิกรักมันไม่ได้แต่จะให้ผมให้คำตอบน้าพิมตอนนี้ ผมก็ทำไม่ได้อีกเหมือนกัน
.....รักไม่ง่ายเท่ากับรักษาความรัก ผมรู้ซึ้งแล้ว ผมผ่านอะไรมามากพอที่จะรู้แล้วว่า ผมรักไอ้ฉานง่ายๆ แต่ผมไม่รู้ว่าจะรักษาความรักของเราได้นานแค่ไหน โดยเฉพาะเวลานี้ ผมยังไม่รู้ว่าจะต้องสู้เพื่อความรักตัวเองไหม ในเมื่ออีกคนนึงกำลังเจ็บและเรากำลังไม่เข้าใจกัน
 ผมคงได้แต่ก้มหน้า ยอมรับว่าขี้ขลาดเกินจะสบตากับน้าพิม ผมกลัว!!!!!

“น้าพูดเล่น เห็นเมฆเอาแต่ขอโทษน้า แต่ที่ผ่านมาน้าเห็นมีแต่ลูกน้าที่เข้าไปตอแยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเมฆมาตลอดไม่ใช่เหรอ นี่คงไม่รู้ละสิว่าฉานเค้าประกาศรักมั่นคงกับเมฆไปไกลถึงอเมริกานู่น “ ผมงงมากครับไอ้ฉานประกาศรักอะไรกับใครถึงอเมริกา

“ดูทำหน้าเข้าสิ ก็ไอ้ตัวดีมันมัวแต่เล่นองค์ น้าเลยแกล้งยุให้จีบลูกสาวเพื่อนน้าชาติ ที่ไหนได้มันกลับโทรไปขอให้พี่ฉัตรช่วยพูดกับแม่แถมยอมรับเสร็จสรรพว่ามีคนรักแล้ว เรื่องสืบทอดวงศ์ตระกูล ไอ้ตัวดีมันยกให้พี่ชายมันหมดเลย แถมยุให้พี่ตัวเองมีลูกเยอะๆด้วยนะ เอากับมันสิ มันบอกมันกับแฟนจะช่วยพี่ฉัตรเลี้ยงหลานเอง”

“เอ่อ” ผมพูดไม่ออกครับ เริ่มจับเรื่องราวได้แต่ก็ไม่แน่ใจ

“ฉานเค้าบอกพี่ชายเค้าว่าเค้ามีแฟนแล้ว แต่พี่จะรับได้มั้ยถ้าแฟนเค้าเป็นผู้ชาย รายนั้นเค้ารักน้อง อีกอย่างฉัตรเองไปเรียนไกลจนห่างเหินกับฉานมาก เลยอยากจะชดเชยให้ ไม่ว่าน้องจะเป็นยังไงก็รับได้หมดแหละ เมฆ ฉานไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่เมฆคิดหรอกนะ ต่อหน้าเมฆอาจจะใช่แต่จริงๆแล้วลูกน้าเป็นคนอ่อนไหวมาก โดยเฉพาะถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวกับเมฆ เรื่องที่ฉานเจ็บน้ารู้ว่าเมฆเสียใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอกลูก ไม่มีใครผิดเลยจริงๆ ฉานก็ไม่ผิดที่รักจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉานอาจจะเก่งไปซะทุกเรื่องในสายตาใครๆ แต่กับเรื่องความรักแล้ว ฉานมักทำอะไรโดยไม่คิดเสมอ น้าว่าที่ฉานอ่อนโยนได้ขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะเมฆนะ “

“แต่ผมกับฉานเราไม่มีอะไรที่ถูกต้องเลยสักอย่างนะครับ สังคมไม่ยอมรับแล้วผมกับมันก็มีลูกกันไม่ได้” ผมก้มหน้ารับค่ำต่อว่าเต็มที่ แต่แปลก ผมควรจะโดนน้าพิมต่อว่า หรือถ้าจะโมโหจนเข้ามาทุบตีผมก็จะยื่นนิ่งๆ แต่เสียงหัวเราะอ่อนโยน ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

“เมฆ น้ากับน้าชาติใช้ชีวิตมามากกว่าชีวิตที่เหลือนะ สืบทอดวงศ์ตระกูลเป็นยังไง น้าตายไปแล้วจะได้เห็นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แล้วถ้าน้าจับเมฆกับฉานแยกออกจากกัน น้าจะต้องตกกระทะทองแดงมั้ย น้ากับน้าชาติคิดตรงกันว่าถ้าวงศ์ตระกูลจะสืบทอดเพราะหน้าที่ ไม่ใช่เพราะความรัก หลานของน้าคงจะน่าสงสารน่าดู ไม่มีพ่อแม่คนไหนมีความสุขบนความทุกข์ของลูกหรอกนะเมฆ ความสุขของลูกต่างหากที่ทำให้น้าอยากอยู่ต่อไปนานๆ “

น้าพิมรีบชักเท้ากลับก่อนก้มลงมาจับตัวผมให้ลุกขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ผมก้มลงไปกราบแทบเท้า ครั้งที่แล้วกราบเพราะอยากจะขอโทษแต่ครั้งนี้ผมอยากจะขอบคุณ จะมีใครที่โชคดีได้เท่าผม จะมีพ่อแม่คนไหนที่คิดว่าสังคมไม่มีผลอะไรในชีวิตถ้าเทียบกับความสุขของลูก
 ผมก้มลงกราบแทบเท้าแม่นิ่ม ที่ผมเป็นลูกชายแต่กลับใช้ชีวิตไม่สมกับความเป็นชายที่มีอยู่

“เมฆในชีวิตของแม่ สิ่งเดียวที่แม่ปรารถนาคือการเติบโตของลูกแล้วกำลังใจเดียวของแม่ก็คือรอยยิ้มของลูกเหมือนกัน แม่แค่เลี้ยงดูเมฆแต่ไม่ได้ให้กำเนิดเมฆขึ้นมา แม่ถึงไม่ได้หวังอะไรจากลูก มากไปกว่าการมีลูกอยู่ข้างๆเลยนะ “


ตอนเด็กๆเวลาผมเหงา ว้าเหว่หรืออ้างว้าง อ้อมกอดที่ผมรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่โอบกอดคืออ้อมกอดของแม่ มันเหมือนแหล่งพลังงานที่บอกขนาดไม่ได้ ผมรู้แค่ว่าพลังงานนี้จะไม่มีวันหมดไป นานแค่ไหนแล้วตั้งแต่เข้าสู่วัยรุ่น ผมห่างหายจากอ้อมกอดนี้ไปนานแค่ไหนแล้ว แต่ความอบอุ่นยังเหมือนครั้งสุดท้ายที่ผมได้กอด เหมือนผมได้เติมกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง

“แม่ครับเมฆรักแม่ที่สุดเลยนะครับ จะอยู่เกาะแม่ไปเรื่อยๆไม่ไปไหนเลย จะเป็นลูกแหง่ไปแบบนี้ดีมั้ย”

“แน่เหรอว่าจะติดแม่ ที่ผ่านมาแม่เห็นตัวติดแต่กับฉาน แล้วบอกว่ารักแม่ที่สุด เดี๊ยวอันดาไปฟ้องแม่ที่กระบี่ หัวเน่ากลับมาแม่ไม่เอาด้วยหรอกนะ” อ้าวนะ ผมไม่ได้ติดไอ้ฉานสักหน่อย ไอ้หมาบ้ามันบังคับผมให้ตัวติดกับมันต่างหาก

“อันดาไม่บอกแม่หรอก แบ่งแม่กันรักก็ดีนะ แต่จริงๆแล้วอันดาก็รักแม่นิ่มนะ งั้นอันดาให้พี่เมฆรักแม่ด้วยก็ได้ มีไม่เยอะหรอกคนที่มีแม่ทีละสองคนอ่ะ  รู้สึกดีจะตาย พี่เมฆว่ามั้ย” ผมเริ่มรู้สึกว่า อันดาน่ารักขึ้นเยอะก็วันนี้
“ใครบอก เมฆเค้ามีแม่สามคนต่างหาก แล้วตกลงน้าต้องรอรับขันหมาก หรือต้องยกขันหมากไปขอละทีนี้ หือ เมฆ ว่าไง” เอ่อ น้าพิมครับ ถามลูกชายน้าดีกว่ามั้ย ถ้าน้ารู้ความจริง ทรัพย์สมบัติที่มี น้าอาจจะต้องขายจนหมดตัว เพื่อมาขอพี่เมฆคนนี้ก็ได้นะครับ เพราะลูกชายน้าอ่ะ มันกินผมตลอดตัวมานานแค่ไหนแล้ว พูดไปก็มีแต่เสียกับเสีย

“มาอยู่กันตรงนี้เองเหรอ พยาบาลเค้าย้ายฉานไปห้องพักฟื้นแล้ว ไปกันเถอะ” น้าชาติมาถึงพอดีครับพวกผมเลยย้ายทีมกันเข้าไปดูไอ้วัยรุ่นใจร้อน ผมแทบจะวิ่งนำหน้าเสียด้วยซ้ำ แค่เค้ารับได้ไม่ว่าอะไร ก็บุญแค่ไหนแล้ว ถ้าจะทำตัวออกนอกหน้าคงไม่ดีเท่าไหร่

ห้องที่ไอ้ฉานพักไม่เริดหรูอลังการเท่าตอนห้องพักไอ้ไม้ แต่ก็ถือว่ากว้างในระดับหนึ่งเพียงแต่ไม่มีห้องรับรองแยกออกไป แต่ขนาดว่าห้องไม่หรูเท่าไหร่แต่ราคานี่บอกได้คำเดียวว่าขนลุก บนเตียงคนไข้มีสายระโยงระยางเหมือนตอนไอ้ไม้ แต่ผมกลับรู้สึกชิน
สภาพคนเจ็บดูดีกว่าตอนไอ้ไม้มาก หน้าตาไม่มีร่องรอยปูดบวมอะไร เพียงแต่ดูซีดเซียวลงริมฝีปากแห้งผากเริ่มมีรอบแตกเป็นแผ่นๆแล้ว เสียงเดินของพวกเรา ทำให้ไอ้กูปรีมันตื่น มันกวาดสายตามองจนทั่วทุกคน แต่รู้สึกจะค้างที่ผมนานเป็นพิเศษ นานจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก ประหม่า จะว่าเขินก็คงจะไม่ใช่ เพียงแต่มันเหมือนมีอะไรมากั้นกลางระหว่างความรู้สึกอยู่นิดหน่อย

“ไงไอ้เสือ อยากเป็นฮีโร่จนได้เรื่อง  ไหนๆ มีร่องรอยเกียรติยศตรงไหนบ้างเนี่ย ดูไม่เหมือนคนป่วยเท่าไหร่เลยนะ พรุ่งนี้ก็ซ่าได้แล้วมั้ง” แต่ไหนแต่ไรมาพ่อลูกคู่นี้เค้าก็เหมือนเพื่อนกันอยู่แล้วครับ นี่คงเป็นส่วนหนึ่งที่ผมไม่ได้รู้สึกโหยหาพ่อเหมือนที่เคยโหยหาแม่ เพราะเห็นไอ้ฉานกับน้าชาติ ก็รู้สึกดีจนเหมือนตัวเองไม่ได้ขาดอะไรอีก

“นี่พ่อบินลงมาจากเชียงใหม่ เพื่อมาทับถมผมโดยเฉพาะรึเปล่าเนี่ย”  เรียกเสียงหัวเราะได้รอบห้องไม่เว้นแม้พยาบาลที่มาดูอัตราการไหลของน้ำเกลือเลยครับ

“เปล่า พ่อกลัวเจ้าอาวาสเค้าจะจำแม่แกไม่ได้หนะ พ่อเลยมาเอง ศาลานี้ถ้าไม่รู้จักนี่จองไม่ได้นะ”น้าชาติเล่นแรงนะครับเนี่ย แต่ภาพที่เห็นตอนนี้ต่อให้แรงแค่ไหนผมก็ยิ้มได้

“งั้นพ่อจะบินกลับเลยมั้ยหละ ผมยังไม่ตายนะเนี่ย” โหย หมาบ้ามันงอนครับ ถ้ามันทำแบบนี้เมื่อสิบปีที่แล้วผมเห็นด้วย แต่ที่มันทำอยู่ตอนนี้ ผมว่ามันน่าขำนะ คนตัวโตๆแต่ทำปากยื่นเหมือนเด็กๆ

“ไม่ๆ พี่แกเค้าจะบินกลับมาจะรอเจอพี่แกก่อน อะไรวะ ตอนพ่อบอกว่าคิดถึงลูกชายคนโตไม่ยักจะกลับมา แต่บอกว่าแกโดนยิงแค่นี้ มันรีบแจ้นมาเลยเว้ย” นี่เรื่องถึงหูคนที่อยู่ไกลถึงอเมริกาเลยเหรอครับเนี่ย หวังว่าผมคงไม่โดนพี่ชายมันหมายหัวหรอกนะ ทำให้น้องชายเค้าเจ็บแบบนี้

“แน่สิผมเป็นน้องชายคนเดียวนี่” แค่มันได้เกทับพ่อตัวเองได้เหมือนมันจะภูมิใจนะครับ

“เออๆ พ่อมันคนมีลูกสองคนนี่ แต่ต่อไปคงมีสามแล้วมั้ง ใช่มั้ยเมฆ” ไม่มีคำตอบให้ครับ ผมตกใจอยู่ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดารา ข่าวกระจายเร็วจนเริ่มทำตัวไม่ถูก

“ไปๆแม่ไป คุณนิ่ม กลับไปพักผ่อนกันเถอะ ผมบอกแล้วไอ้นี่มันหนังเหนียวไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก “

“กลับก็กลับคะ แต่ฉานแม่ขอดูหน่อยได้มั้ย มันทำลูกแม่มากี่แผลกันเนี่ย” น้าพิมนั่งที่ริมขอบเตียงแล้วค่อยๆถลกเสื้อไอ้ฉานขึ้นครับ รอยเลือดแดงฉานที่ซึมออกมานอกผ้าพันแผลทำเอาผมใจหายแว่บ รุ้สึกหวิวๆโหวงยังไงไม่รู้ รอยพันผ้ามีรอบๆเหนือสะเอวขึ้นมา กับพันคาดเหมือนสไบไว้ที่หน้าอก มันโต้ตอบกับน้าชาติเหมือนไม่เป็นอะไรมาก แต่เลือดที่ไหลซึมออกมา ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่ามันทนเจ็บอยู่ได้ยังไง น้าพิมถึงกับน้ำตาไหลพรากเหมือนทำนบไหล พานให้แม่นิ่มร้องไห้ตามไปด้วย

“แม่ร้องทำไมเนี่ย ฉานไม่เจ็บแล้ว แผลแค่นี้เอง “ แค่นี้ของมันคือใต้ราวนมใกล้ๆกับจั๊กกะแร้นะครับ เฉียดหัวใจไปนิดเดียว ส่วนอีกแผลคือที่หลัง ไอ้คนที่บอกว่าไม่เจ็บถึงกับนิ่วหน้าแล้วซี๊ดปากตอนที่น้าพิมเอามือแตะต้องลงไปรอบๆบริเวณผ้าพันแผล ปากดีตลอดแหละมัน

“อ้าวๆ ถึงกับร้องไห้กับทั้งบ้าน กลับไปพักผ่อนกันดีกว่ามั้ย นี่มันใกล้จะเที่ยงแล้วนะ เย็นๆค่อยยกปิ่นโตมาปิกนิกกันที่นี่ดีกว่าคุณ เมฆอยู่เฝ้าฉานเค้าใช่มั้ย” ผมสบตากับคนไข้แล้วต้องใจหาย สีหน้ามันเรียบเฉยไม่มีคำตอบอะไรออกมา ทั้งๆที่มันนอนเจ็บอยู่แบบนี้ก็เพราะว่าแคร์ผม แต่พอผมสบตามันกลับเชยชาใส่........เจ็บปวดดีมั้ยหละเมฆ!!!


“เหมือนมันอยู่กับพยาบาลได้แฮะ เมฆงั้นเรากลับกันเถอะ ไว้ค่อยมากันใหม่” ผมหันหลังจะเดินออกไปรอน้าชาติที่หน้าห้อง รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินจนก้อนสะอื้นมันวิ่งมาจ่ออยู่ที่ลูกกระเดือกแล้ว

“ให้มันกลับทำไมหละ ก็ให้มันอยู่นี่แหละ ผมจะเข้าห้องน้ำยังไง” กลายเป็นความผิดไปซะงั้น แล้วเมื่อกี้หมาที่ไหนมันเย็นชาใส่หละ

“ไปกันเถอะแม่ นึกว่าไอ้เสือมันจะเก่ง ฮะ ฮะ “น้าชาติจูงมือน้าพิมออกไปแล้วครับ แม่นิ่มเดินรั้งท้ายมาถึงผมพอดี สายตาขอความช่วยเหลือกระพริบไปหาแม่แบบเร่งด่วน

“น้าไปก่อนนะฉาน เย็นๆจะมาใหม่ คงมากินข้าวเย็นกันที่นี่ ส่วนเมฆคงต้องอยู่เฝ้าใช่มั้ยลูกเดี๊ยวตอนเย็นแม่เอาเสื้อผ้ามาให้นะ ทนอยู่ชุดนี้ไปอีกหน่อยนะลูกนะ ไปกันเถอะอันดาลูก ไม่ได้นอนเลยไม่ใช่เหรอเราหนะ”

“อันดาไปนะพี่ฉาน เย็นๆจะมาด้วยใหม่ อย่าตีกันตายหละ ไปแล้วๆ”


ทุกคนกลับกันไปหมด ทิ้งผมให้เผชิญกับบรรยากาศขั้วโลกเหนือแต่เพียงลำพัง ห้องเงียบจนได้ยินเสียงลมแอร์ ผมนั่งลงตรงโซฟาเฝ้าไข้ ไอ้ฉานไม่พูดอะไรแต่สายตามันก็ไม่หันไปไหนนอกจากจ้องผมเหมือนกัน ตรงนี้แหละที่ทำให้อึดอัดไม่รู้มันจะมาไม้ไหน
“หิวนำมั้ย”
“หิว” คนเจ็บกระชากเสียงตอบกลับมาเลเวลน่าหมั่นไส้มากกว่าน่าสงสารแตกต่างกันจนเห็นได้ชัด

น้ำต้มสุกที่ทิ้งไว้จนเป็นอุณหภูมิห้องถูกรินใส่แก้วสแตนเลสก่อนจะเสียบหลอดเข้าไปแล้วยื่นให้ถึงริมปากคนเจ็บ

“น้ำเปล่านี่” ก็เออสิ มึงเห็นเป็น 4x100 หรือไงไอ้หน้ากูปรี เจ็บแล้วยังไม่เจียม

“เออสิ ก็มึงป่วยอย่ากินเยอะนะเอาแค่พอจิบๆ” ผมได้โอกาสเป็นผู้กำกับกับเค้าหน่อยครับ มันรู้สึกดีนะครับเนี่ย

“แต่กูอยากกินอะไรหวานๆ” พ่อมึงสิ แล้วกูจะเอาจากไหนมาให้ ไม่ใช่มาปิกนิกนะที่จะได้เตรียมมา

“ต้องถามหมอก่อนว่ากินได้มั้ย มึงเพิ่งผ่าตัดมา” ผมมั่วไปงั้นแหละครับ แต่ก็ไม่แน่ใจจริงๆว่ามันจะกินได้ ผมกดเฮดโฟนไปหาพยาบาลเจ้าของไข้ ได้ความว่ากินน้ำหวานเฮลบลูบอยอะไรประมาณนี้ได้ เป็นเรื่องปกติที่คนไข้จะอยากกินน้ำหวาน ผมสั่งน้ำหวานแล้วก็ผลไม้มาให้มัน ถ้ากินไม่ได้เดี๊ยวผมกินเอง จริงๆอยากลงไปหาซื้อเองเพราะแค่น้ำหวานผสมน้ำแก้วละเกือบร้อย แต่ก็ต้องยอมไปก่อนเป็นห่วงมัน ถ้าจะเข้าห้องน้ำตอนนั้นขึ้นมาจะทำยังไง

ผมเหลือบไปเห็นผ้าพันแผลที่มันไม่ยอมดึงเสื้อปิดไว้ให้เหมือนเดิม แต่อาจจะเผลอมองนานไปหน่อยและอาจจะเคยชินหรือสัญชาตญาณผมก็ไม่รู้ ถึงได้ยื่นมือออกไปลูบรอยเลือดแดงฉานนั้น เสียงซี๊ดและอาการหดตัวจนเกร็งบอกผมว่ามันปวดที่แผลแต่แกล้งเข้มแข็ง ผมเลยแกล้งลงแรงมากกว่าเดิมนิดหน่อย

“โอ้ย” ไม่ใช่เสียงคนเจ็บครวญคราง แต่เป็นเสียงผมที่อยู่ๆโดนไอ้ฉานกระชากแขนเข้าไปหา กำลังตกใจและงุนงงจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ชายเสื้อนอนของผมก็ถูกเลิกขึ้น ไม่พอ มันยังหมุนตัวผมไปมา ก่อนจะดึงรั้งขอบกางเกงให้ต่ำลง แล้วสำรวจแบบเมื่อกี้

“มึงทำบ้าอะไรของมึงเนี่ยไอ้ฉาน “ ท่าทางเหมือนคนโรคจิตไม่มีผิด หรือว่าเขม่าดินปืนเข้าไปทำปฎิกริยากับสมองส่วนกลางจนมันเพี้ยนวะเนี่ย

“ก็สำรวจตัวมึงไง ว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า” ห๊ะ อะไรผิดปกตินี่หมายความว่าไงวะ หรือว่ามันเสียสติจนบ้าไปแล้ว

“ก็โอเค ถึงจะมีร่องรอยจางๆแต่กูจำได้ว่าเป็นรอยที่กูทำไว้”

“ไอ้เหี้ย นี่มึงเจ็บจนจะตายมึงยังห่วงอะไรแบบนี้อยู่อีกเหรอเนี่ย มึงนี่มันลามกโรคจิตจริงๆ”

“เออ กูมันไม่มีอะไรดีหรอก น่ารำคาญ ทำตัววุ่นวาย ไว้ใจไม่ได้ เป็นที่พึงไม่ได้ ไม่เคยมีความดีอะไรสักอย่าง”



“เจ็บมั้ย แผลนี่อ่ะมึงเจ็บมั้ย” ไม่ได้เบี่ยงเบนประเด็นครับ แต่ดูเหมือนว่าเลือดยังซึมไหลตลอดเวลา สียังแดงสดอยู่เลย

“เจ็บ แต่น้อยกว่าตอนเห็นมึงเดินขึ้นรถไปกับไอ้อาทอ่ะ” โหย ไอ้บ้านี่มันแค้นฝังใจตั้งแต่เมื่อไหร่


“มึงใจร้อนเกินไปรู้มั้ยฉาน มึงคอยแต่จะต่อว่ากูว่าทำอะไรไม่ปรึกษา ไม่คิดถึงมึงแล้วที่มึงทำหละมันเสี่ยงแค่ไหนรู้มั้ย ถ้ามึงไม่ใช่แค่เจ็บ มึงคิดหรือเปล่าว่ากูแล้วก็แม่มึงจะอยู่กันยังไง” ผมไม่ได้อยากให้น้ำตามันไหลตอนนี้ แต่พอคิดว่าถ้าไอ้ฉานมันโชคไม่ดี ตอนนี้ผมจะอยู่ในสภาพไหน ถ้าไม่มีมันผมจะเป็นยังไง ไม่ได้อยากจะต่อว่า แต่สถานการณ์มันทำให้อดพูดขึ้นมาไม่ได้
“แล้วจะให้กูทำยังไง ไอ้เหี้ยนั่นมาจอดรถรอมึงอยู่ข้างบ้าน แล้วสุดท้ายมึงก็ขึ้นรถไปกับมัน อยู่เฉยๆกูก็เป็นบ้าจะคลั่งตาย ไหนๆ ปลายทางก็แค่ตายกูเลยบุกเข้าไปเลยดีกว่า”

“ไอ้โง่เอ้ยยยยยย ถ้าไอ้อาทมันจะลากกูไปทำอะไรนะ มันจะโง่ลากกูไปบ้านมันเหรอ แล้วมึงก็ใจร้อนเกิ๊น ไอ้อาทมันก็แค่เด็กขาดความอบอุ่นเสียนิสัยคนหนึ่ง มันแสดงออกแบบนั้นเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจ ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงหรอกเป็นอาการของเด็กบ้านแตกอ่ะ” ผมเอานิ้วจิ้มหน้าผากลงแรงเต็มที่เพื่อตอกย้ำความโง่เข้าขั้นบ้าคลั่งของมัน

“ก็ใครจะไปรู้หละ ก็เห็นมันเป็นลูกแหง่จะทำอะไรต้องมีพ่อช่วยขนาดนั้น กูก็คิดว่ามันจะลากเมียกูไปบ้านมันนะสิแล้วมึงอะไม่ได้พลาดท่าเสียทีอะไรมันแน่ๆนะ”

“เออ กูจะเสียท่ามันได้ไงหละไอ้ควาย กูไม่ใช่ผู้ชายใสซื่อนะมึง ผัวก็มีแล้ว ถ้ายังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรกูคงต้องกินหญ้าแทนข้าวแล้วมั้ยไอ้บ้า” ผมหมั่นไส้มันจริงๆนะครับ แต่ก็รู้สึกว่าได้ไอ้ฉานคนเดิมกลับมา คนที่ล้นในทุกๆเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องผม

“งั้นมาจูบกันก่อน”

“เฮ้ย มึงจะบ้าเหรอ อยู่ๆให้มาจูบ ถ้าเค้าเอาน้ำหวานมาส่งจะทำไง” นี่ตกลงคือผมไม่ได้กลัวที่จะจูบแต่กลัวคนเข้ามาเห็นแค่นั้นใช่มั้ย

นอกจากมึงจะแมน 100% ไม่ได้แล้ว มึงยังเป็นกุลเกย์ที่ดีไม่ได้เลยเมฆ.......ไร้ยางอายจริงๆ


“ก็เมื่อกี้กูสำรวจตัวมึงไปแล้ว เรียบร้อยดี แต่กูยังไม่สำรวจลิ้นมึงเลยนะ ว่าเรียบร้อยดีมั้ย”
“ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย นี่ถ้าไม่ใช่มึงคงคิดแบบนี้ไม่ได้หรอกนะไอ้ลามก”
“เร็วๆ จูบ เมฆ เร็วสิ” ไอ้ผู้กำกับแห่งชาติมันไม่ใช่นิสัยไอ้ฉานหรอกครับ แต่มันเป็นสันดาน


“ไม่ เดี๊ยว ใคร อะ  อื้มม” ไม่ทันจนได้

สุดท้ายโพรงปากผมก็ต้องถูกสำรวจด้วยปลายลิ้นมันจนได้ ความเคยชินที่กำลังรุกไล่กวาดต้อนทำให้ผมรู้สึกดีจนต้องกระหวัดปลายลิ้นลุกไล่กลับไป ความอุ่นร้อนที่มอบให้กันเหมือนสิ่งที่โหยหามานานเริ่มถูกรื้อฟื้นความทรงจำ มุมปากเริ่มปรับเปลี่ยนองศาให้ริมฝีปากเราแนบชิดกันมากขึ้น เสียงร้องครางถูกดูดกลืนเหมือนหวงแหนและโหยหานักหนา มือคนเจ็บเริ่มลูบไล้และรุกรานเข้ามาทางชายเสื้อผมตอนไหนก็ไม่รู้ แต่มือร้อนที่ลากผ่านทำให้ผมเสียวซ่านจนต้องแอ่นลำตัวเข้าแนบให้โดนความร้อนนั้นให้มากที่สุด ยอดอกถูกปลายนิ้วหมุนวนตรงส่วนยอดจนเริ่มแข็งเป็นไต อารมณ์คุกกรุ่นที่พาไปทำให้รู้สึกวาบหวาม รสจูบอ่อนหวานเริ่มกลายเป็นเร้าร้อนเรียกร้อง ความต้องการที่มากกว่านั้นกำลังจะมาเยือน วันเวลาที่หายไปกำลังถูกทดแทนด้วยการแสดงออกถึงความรัก เสียงครวญครางที่บ่งบอกว่ากำลังรู้สึกดี เริ่มเปลี่ยนเป็นยั่วอารมณ์อีกฝ่ายให้เตลิดไปไกลมากขึ้น ร่างกายไม่พร้อม สถานที่ไม่เหมาะ และอะไรๆไม่เอื้ออำนวย

“ อืมมมม.......ฉะ ฉานนนนน” เสียงที่รู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเองกำลังหยุดอีกฝ่ายไม่ให้ไปไกลกว่านี้

“โอ้ยยยยยย”

“เจ็บเหรอ ไหนดูสิ เป็นไงบ้าง มึงมันไม่เจียมตัวเอง เห็นมั้ย เลือดไหลเยอะเลย กูจะเรียกพยาบาล” รอยเลือดสีแดงสดขยายวงกว้างมากกว่าเดิมจนน่าตกใจ

“ไม่ต้องหรอกกูไม่เป็นไร ขออยู่แบบนี้ไปอีกหน่อยได้มั้ย เมฆกูคิดถึงมึงจัง” สองแขนไอ้ฉานโอบกอดผมไว้ แรงรัดตอกย้ำความรู้สึกทั้งหมดที่มันมีทำให้ผมต้องกอดตอบ
“กูก็คิดถึงมึง คิดถึงมาก รักมึงมากขึ้นด้วยนะ” ผมพูดชัดถ้อยชัดคำนะครับ แต่ก็ยังอาย เลยต้องซุกหน้าไว้กับอกมันหนีอาย
“อะไรกัน มึงเพิ่งรู้สึกรักมากเหรอ มึงขี้โกง กูรักมึงมากมาตั้งนาน ทำไมมึงเพิ่งมากตอนนี้ “ อ้าว ผิดอีกกู ตกลงไม่บอกแบบนั้นจะดีกว่าใช่มั้ยเนี่ย

“ก็รักมานาน แต่มันไม่หยุดอยู่กับที่ไง มันมากขึ้นเรื่อยๆมึงเข้าใจมั้ย” เห็นหรือยังครับ มารยาของพี่เมฆ นี่เพิ่งงัดแค่น้ำจิ้มออกมาใช้นะ เมนคอสยังไม่ออกมาวาดลวดลายเลยขอบอก

“อืม แบบนี้ค่อยคุยกันได้”

คุยกันได้ในความหมายของไอ้ฉานคือการประกบปากกันแล้วเอาลิ้นคุยนะครับ
ปลายลิ้นผมถูกลุกรานไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
เปลือกปากหนาขึ้นจนมองเห็นได้ชัดแล้วแน่ๆ แต่ผมก็ทำอะไรได้ไม่มากหรอกครับ
ก็มีแค่ ส่งปลายลิ้นเข้าไปลุกไล่ กับเปลี่ยนมุมแลกลิ้นกันให้มันง่ายขึ้นก็แค่นั้นแหละครับ
.......
........................................
............................................................
.............................................................................
...
.......
........................................
............................................................
.............................................................................
...
ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องโดนไอ้ฉานกินลิ้นไปอีกนานแค่ไหน
อาจจะจนกว่าพยาบาลเอาน้ำหวานมาเสริฟผมก็ไม่รู้ได้
หรือเค้าเอามาเสริฟแล้ว แต่เห็นสิ่งที่หวานกว่าแล้วหลบออกไป
ช่างมันเถอะครับ !!!!
ไอ้ฉานมันอยากจะกินลิ้นผมนานแค่ไหนให้มันกินไป
ผมสู้ตายอยู่แล้ว




“ฉาน”
“หืม”
“พอได้ยัง”
“ยังไม่หมดรสหวานเลย”
(สาดดดดดดดดดดกูไม่ใช่อ้อยหรือหมากฝรั่ง)





“ฉาน”
“หืม”
“กูหายใจไม่ออก”
“กูกำลังผายปอดให้อยู่นี่ไง”
(ควายผายปอดอะไรของมึง ทำไมกูถึงยิ่งหายใจไม่ออก)


“ฉาน”
“หืม”
“มึงไม่อยากกินน้ำหวานแล้วเหรอ”
“กินอยู่ หวานมากเลยรู้ไหม”



“ฉาน”
“อะไรอีก”
“มึงว่า กูจะยอมรับผิดเรื่องไอ้อาทกับอันดาดีมั้ย”
“ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดกันตอนนี้”






“ฉาน”
“ถ้ามึงไม่หลุดขัดจังหวะกู มึงได้ขึ้นมาขี่ม้า บนเตียงโรงบาลแน่เมฆ”



“อะ อืมมมม อืมมม ถ้ามึงไหว จะทำแบบนั้นก็ได้นะ”



จบกันได้ด้วยดี

ความรัก........ไม่มีตัวชี้วัดความถูกต้อง มันมีมาช้านานแต่ก็ยังไม่มีทฤษฎีไหนรองรับ
บ้าน..............จะออกแบบให้หรูหราใหญ่โตแค่ไหนก็ได้ เพียงมีแค่ “เงิน”
แต่ “รัก”......................ยังไม่มีใครออกแบบได้ ไม่มีเครื่องมือทุ่นแรงใดๆ นอกจากใช้ “ใจ” แลก “ใจ” ออกมา
โศกนาฏกรรมของความรัก.......................คือไม่ได้รักตอบแทน
ธรรมชาติมันสมบูรณ์ตั้งแต่มี “รัก” เกิดขึ้นแล้ว
เพราะฉะนั้น “ชายรักชาย” มันผิดธรรมชาติตรงไหน ??
ด้วยความยินดี..........TRomance
 
๐ เนื้อเรื่องหลักๆจบแล้วนะค่ะ
พบกันตอนพิเศษตอนหน้า
กับ “รัก ครั้งแรก”
ขอบคุณทุกคนจริงๆจากใจคะ ๐.....
http://www.youtube.com/v/TiLdzkFB5n4&hl=en&fs=1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 05-08-2010 00:06:50
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

จบแล้วจริงๆเหรอ.... :monkeysad:

จบแบบสมเป็นพี่ฉานกะพี่เมฆจริง ๆ  กร๊ากกก  o13 o13
อีกหนึ่งเรื่องราวที่ประทับใจ  :L2:
ขอบคุณ TRomance   สำหรับนิยายน่าร๊ากกกกก  ที่เจียดเวลางานอันยุ่งมาเขียนนะค๊าบบบบ
ขอบคุณ Seiki   สำหรับ โพส ค๊าบบบบบบ

สุดท้าย  ขอบคุณ....
ดวงตะวัน..ที่ทำให้เรายังมีกันและกันภายใต้ความอบอุ่นจ้าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 05-08-2010 00:16:52
 :m15: :m15: :m15:

สุดยอด!!!!
PERFECT!!!!

 :m1: :m1: :m1:

เป็นตอนจบที่หวานจริงๆ หวานมากกกกกกกกกกก

แถมเนื้อเรื่องยังมีเกี่ยงกับความรักของแม่ ซึ่งก็ใกล้วันแม่แล้วด้วย

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวของก้อนเมฆกับดวงตะวันนะครับ

 :L2: :L2: :L2:

 o13 o13 o13

PS. ขอไปนอนก่อน พรุ่งนี้จะมา comment ชุดใหญ่ซัก 1 ชุด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 05-08-2010 00:18:20
สุดยอด รอตอนพิเศษครับ

ขอบคุณไรท์เตอร์และคนโพสมากๆนะครับ

ที่นำนิยายดีๆแบบนี้มาให้อ่าน และจะติดตามผลงานตลอดไปครับ :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 05-08-2010 00:48:35
เป็นเรื่องที่ประทับใจอีกเรื่องตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย
รอตอนพิเศษนะคับ :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 05-08-2010 01:07:37
 :เฮ้อ:  โล่งอก  นึกว่าจะต้องไปวางระเบิดบ้านไรท์เตอร์ซะแล้ว  :laugh:
อีพี่ฉานนี่หนังเหนียวใช้ได้เนอะ 5555 ส่วนน้องเมฆก็เปิดตัวกะพ่อปู่แม่ย่าแล้วว  :z2:
ตอนหน้า ให้พี่ฉานแต่งขันหมากมาเลยเลยดีมะ  เด๋วช่วยโห่ไล่  เอ้ย  โห่ฮิ้วหน้าขบวน  :jul3:

 :กอด1: ไรท์เตอร์   :กอด1: น้องเซ :กอด1:พี่ฉาน  :กอด1:น้องเมฆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 05-08-2010 01:26:48
+1     :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: behamos ที่ 05-08-2010 01:42:06
เย้ แฮปปี้เอ็นดิ้งซักที จบได้ซึ้งมากมา้ยเลยครับ ขอบคุณมากๆนะครับ   :pig4: :pig4:
ว่าแต่ผมยังสงสัยอยู่อีกนิดนึงอ่าครับ ว่าฉานโดนใครยิง ก็ไหนเมฆไปกับอาทไง แต่ฉานไปตามที่บ้านอาท...หรือว่าโดนพ่ออาทยิง -0-

ปล.จะรออ่านตอนพิเศษนะครับ  :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: raintear ที่ 05-08-2010 02:03:38
   :mc4:   :mc4:   :mc4:
แฮปปี้ แฮปปี้ แฮปปี้ จบแบบนี้ดีใจมากมาย ถูกใจอ่ะะะะะะะะะ  o13
ขอบคุณไรท์เตอร์ค่ะที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้ให้อ่าน  :L2:
รออ่านตอนพิเศษต่อปายยย
 :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 05-08-2010 02:32:31
ไม่อยากให้จบเลย
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
ขอบคุณ writer และคนโพสท์  :L2:
รออ่านตอนพิเศษ
+1 เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 05-08-2010 02:49:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 05-08-2010 07:09:58
 :กอด1:คนแต่งกะคนโพสจ้า
ขอบคุณที่ทำให้วันนี้ยิ้มได้
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกปนเศร้าเคล้าหื่นที่แฮปปี้เอ็นดิ้ง
ขอบคุณที่ไม่ต้องเหนื่อยวางแผนจัดการคนแต่ง
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับตอนพิเศษหวานๆนะ :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-08-2010 07:14:35
 :-[จบแบบถูกใจมากๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BossZa ที่ 05-08-2010 08:25:38
     

      จบแบบสุขๆๆขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆๆให้อ่าน
 
      จะรอตอนพิเศษต่อป่ายยยยยยยยย
 
   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: somsom ที่ 05-08-2010 08:45:30
ประทับใจมากๆๆๆ เรื่องนี้

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 05-08-2010 08:50:43
จบแบบน้ำตาลเรียกพี่จิงๆเลย

(คอนเฟิร์มโดยพี่ฉาน อิอิ)  o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 05-08-2010 09:14:46
+1 
จบที่เหมือนยังไม่จบ 
คือยังไม่อยากให้จบ
เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 05-08-2010 09:21:30
 +1 ค่ะ จบแล้ว  แล้วจะรอตอนพิเศษนะค่ะ:z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 05-08-2010 10:30:29
 :L2: ขอบคุณค่ะ หนุกมากเลย:L2:
นู๋ก็อยากเห็นพี่เมฆขี่ม้านะ อิอิ :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 05-08-2010 10:37:58
ตอนจบหวานปนฮา ซึ้งด้วย  :sad4:

ขอบคุณมาก ๆ นะคะ สำหรับเืรื่องน่ารัก ๆ เรื่องนี้

จะรออ่านตอนพิเศษนะจ๊ะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 05-08-2010 11:43:17
 :กอด1:ไรเตอร์
ประทับใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
แต่รู้สึกเรื่องยังไม่เคลียร์เท่าไหร่นะเนี่ย
ตกลงเรื่องอาทจบจริงเหรอ
เล่นบุกไปบ้านเขาแถมโดนยิงออกมา
ไม่เป็นเรื่องหรือนั้น
แล้ว.....
ขอตอนพิเศษได้ป่าว?
อยากอ่านหงะ
จะรอความเมตตาจากไรเตอร์นะ :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Safina_safe ที่ 05-08-2010 12:03:31
ขอบคุนมากนะคะ สนุกมากมาย ชอบจิงๆๆ จะรอตอนพิเศษเรื่อยๆๆ o13 o13 o13

 :bye2: :bye2: :bye2: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 05-08-2010 12:13:00
จบลงด้วยความบริบูรณ์ ไม่มีนำตาให้โศกเศร้า มีเพียงรอยยิ้มและความสุข
และความขี้เล่น ฮา ของเรื่องที่ยังไม่ทิ้งคอนเซปความกวนของน้องเมฆ และตวามล้น
ของพี่ฉานที่มีอต่อน้องเมฆ และรักไม่เลือกสถานที่ปฏิบัติของฉาน รักันจนหยดเลือดสุดท้าย
ขอบคุณเรื่องดีๆๆๆและขอบอกจบแบบที่ต้องการ รักมากมาย สุดท้ายก็จบไปแล้วด้วยดี
รอเรื่องใหม่นะ จะติดตามต่อ :3123: :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 05-08-2010 12:13:28
ขอบคุณนะคะ จบแล้ว แต่ยังเหมือนไม่สุด  :-[ เอาอีกกกกกกกกก

เรื่องอันดา กับอาท ยังเหมือนติ่งที่ยังค้างคาในใจ 55

ถึงเรื่องอาทจะดูจบง่ายไปหน่อย แต่ก็ยินดีที่เมฆกับฉานเข้าใจกันได้และปลอดภัยดี

จะรอตอนพิเศษค่า  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 05-08-2010 12:19:48
กด+1 ให้ก่อนเลย สำหรับ พี่เมฆ พี่ฉาน
ไรท์เตอร์ผู้ใจดีที่เขียนนิยายที่อ่านแล้วมีความสุข
ให้ข้อคิดที่ดีในเรื่องความรักไม่ว่าจะเป็น
ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก :กอด1:
ความรักของเพื่อนๆที่มีต่อกัน
ความรักของพี่ที่มีต่อน้อง
และสุดท้ายเป็นความรักของพี่เมฆกับพี่ฉาน :o8:

 :กอด1: :L2: :pig4:
รออ่านตอนพิเศษจ้า :bye2: o13

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 05-08-2010 12:22:59
ตะวันกลับมาหาเมฆแล้ว...... :mc4:
ทุกอย่างลงตัว...พี่เมฆไม่ต้องกังวลอะไรอีก
มีความสุขไปกับ พี่เมฆ กะ คุณชายฉาน... :o8:
จะรอตอนพิเศษ...มันจะหวานไหมน้า....

 :pig4: :L1: คนแต่ง & คนโพส
กด + สำหรับความสุขที่ได้รับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 05-08-2010 13:33:20
ขอบคุณ TRomance & Seiki  :L2: :L2: ที่แบ่งบันเรื่องราวน่ารัก ๆ ความอบอุ่นของตะวันและเมฆ
รู้สึกใจหายที่มาถึงตอนจบแล้ว เรื่องนี้เหมือนยาเสพติดสำหรับเราไปแล้ว

ขอเป็นกำลังใจให้กับคนแต่งแล้วคนโพสจ๊ะ และจะติดตามผลงานต่อไป

จับกดคนโพส  :z13: +1   
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 05-08-2010 14:37:15
อ๊ายยยยยยยเป็นตอนจบที่ชอบจังยิ้มตลอดเลย :m1:
จบแล้วต้องคิดถึงคู่นี้มากๆแน่นอนเลยทุกวันต้องมาดูว่าอัพหรือยังใจหายอ่ะ
จบได้สมเป็นพี่ฉานพี่เมฆจิงๆน่ารักอ่ะหวานๆหื่นๆดี5555+
พ่อกับแม่พี่ฉานใจดีจังรักลูกมากที่คิดถึงความสุขของลูกมากกว่าเรื่องภายนอกดีจัง
พี่เมฆมีพ่อแม่สามีที่น่ารักที่สุดเลยลูกเขยแม่นิ่มก็น่ารักน๊าแม่นิ่มถึงได้วางใจไง5555+
เฮ้อจบแล้วจิงๆเหรอเนี้ยคิดถึงพี่เมฆพี่ฉานนนนนนนขอให้มีตอนพิเศษอีกเยอะๆนะค่ะไรท์เตอร์ :m13:
จะรอติดตามผลงานของไรท์เตอร์เรื่องต่อไปนะค่ะ :จุ๊บๆ:
ขอบคุณไรท์เตอร์กับคนโพสมากๆนะค่ะที่ได้เขียนเรื่องและลงเรื่องสนุกๆดีๆให้อ่านกัน :pig4:
+1เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์กับคนโพสนะค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 05-08-2010 15:38:32
ขอบคุณคุณ TRomance และน้อง Seiki ครับที่สละเวลาเขียนเรื่องน่ารักสนุกๆมาให้อ่าน ไม่ผิดหวังจริงๆครับที่ติดตามมาตลอด แล้วจะติดตามผลงานอีกต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 05-08-2010 18:17:42
โหยยย สรุปแล้วเรื่องนี้เมฆล้ำลึกสุดใช่ไหมเนี่ย แหม่ มีบอกว่าถ้าฉานไหวเมฆก็ยอมด้วย คริๆๆ จบอย่างมีความสุข ชอบมาก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 05-08-2010 18:18:41
อ่านไปอมยิ้มไป  o13
ขอบคุณคนแต่งและคนโพส ที่ทำให้ผู้อ่านมีความสุข :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 05-08-2010 18:22:32
จบแล้วหรอเนี่ย เป็นเรื่องที่เรารักอีกเรื่องเลยหละค่ะ

ชอบมากๆเลย พี่ฉานกับพี่เมฆน่ารักมากๆ  

ขอบคุณที่แต่งนิยายน่ารักๆอย่างงี้ให้ได้อ่านนะคะ

รออ่านตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 05-08-2010 19:02:26
ขอบคุณ TRomance กับ Seiki นะคะ ที่สำหรับเรื่องราวน่ารักๆ ของพี่เมฆกะฉาน  o13
ติดตามเรื่องนี้มาตลอด เป็นอีกเรื่องนึงที่ชอบมากๆๆๆ  :man1:
จบแล้วแบบแฮบปี้ อยากให้มีตอนพิเศษต่อไปเรื่อยๆ รอติดตามนะ

+ เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์กะคนโพสนะคะ  :pig4:

รักฉาน รักเมฆ  :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 05-08-2010 19:12:00
 :mc4: จบได้อย่างมีความสุขมากมายเลย
หลังจากได้อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วมีมุมมองเกี่ยวกับความรัก
เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน ชอบจ๊ะไรเตอร์เขียนได้ดีมากเลย
รอตอนพิเศษอยู่นะจ๊ะ บิ่งตอนท้ายที่ไรเตอร์เขียนชอบมากเลย
ความรักชายๆผิดธรรมชาติตรงไหม มันก็เป็นความรัก เหมือนกัน
โดนสุดๆเลยประโยคนี้ เป็นกำลังใจและขอบคุณทั้งไรเตอร์และคนโพสต์เลยนะจ๊ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 05-08-2010 20:00:37
ตามอ่านมาตั้งแต่วันแรกที่ลงเรื่องพร้อมด้วยรอยยิ้ม จนถึงวันนี้ที่เรื่องจบก็จบพร้อมด้วยรอยยิ้มอีกเช่นกัน (ถึงแม้ว่า จะปวดตับปวดม้ามเป็นช่วงๆๆ)
อยากบอกว่า ขอบคุณมากค่ะ ทั้งคุณ TRomance กับ คุณ Seiki

ขอบคุณนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 05-08-2010 20:02:21
เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น "ตะวัน"...  :L1:

เข้ามาอ่านเรื่องนี้เพราะชื่อเรื่องจริงๆ ชื่อเรื่องฟังดูแล้วอบอุ่นดี ก็แอบหวังว่าเรื่องราวมันคงจะอบอุ่นตามชื่อเรื่องง่ะ  :L2:

โห๋ เจอ 3 ตอนแรกนี่ทำต่อมน้ำตาแตกกันเลยทีเดียว มาถึงก็เจอก้อนเมฆน้อยๆโดนแม่ทิ้ง กำลังเศร้าอยู่ดีๆอารมณ์ก็โดนกระชากไปตามแรงกระชากของไอ้เด็กอ้วนที่มาลากเมฆน้อยไปเป็นนินจาฮาโตริที่ข้างหมู่บ้าน อิอิอิ  :m15: :m20:

พออ่านมาเจอตอนที่เมฆน้อยแอบได้ยินโทรศัพท์ของแม่ตัวเองกับแม่นิ่มแล้ว เดินออกจากบ้านไปหวังว่าจะเจอหน้าแม่ แล้วก็ไปนั่งร้องไห้อยู่ริมน้ำจนหาทางกลับบ้านไม่เจอ จนพระเอกของเราต้องออกตามหา แล้วก็มานั่งร้องไห้ด้วยกันริมน้ำ ตอนนี้เป็นตอนที่ประทับใจมากๆ ไอ้พระเอกของเราถึงแม้จะไม่รู้ว่าเมฆน้อยร้องไห้เพราะอะไรแต่ก็ยังร้องไห้กับเมฆน้อย ซึ้งใจเป็นยิ่งนัก  :m15:  :m1:

สำหรับ anterosz แล้ว 2 ตอนนี้เป็น 2 ตอนที่กระชากน้ำตามากที่สุด อ่านไปร้องไห้ไป เพราะสงสารและก็ประทับใจในความผูกพันธ์ของทั้งสองคน  :m13:

พอมาเจอตอนที่ 4 โอ๊ยยยย อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดังๆ (ขอสาวแตกแบบน้องเมฆบ้าง) ก็เพราะไอ้พระเอกของเรามันมาร้องเพลงลูกทุ่งจีบก้อนเมฆ บวกกับท่าเต้นประหลาดนั่น (ตอนนั้นพยายามนึกตามว่ามันเต้นออกมาเป็นยังไงฟ่ะ) และก็ตอนนั้นเอง anterosz หลงรักนายฉานแสงแรงกล้า ฮ่าๆๆๆ มันเป็นเพราะไอ้ท่าเต้นประหลาดนั่นเอง! และนั่นก็เป็นจุดที่ทำให้ทนไม่ไหวต้องเขียนเม้นให้ซักหน่อย แล้วก็ติดตามเป็นแฟนคลับอย่างเหนียวแน่นตั้งแต่นั้นมา
 :m3: :m3: :m3:

ส่วนก้อนเมฆ... หลงรักก้อนเมฆตอนไหนหรอ... บอกยากนะ มันเหมือนกับว่ามันค่อยๆซึมเข้ามาทีละนิด ทีละนิด รู้ตัวอีกทีก็หลงรักก้อนเมฆไปแล้ว อิอิอิ อาจเป็นเพราะความบ๋องๆต๋องๆบวกกับความฮาของก้อนเมฆด้วยละมั้ง เลยทำให้หลงรักก้อนเมฆ  :m17:

เฮ้ออออ จบซะแล้วง่ะ เป็นเรื่องที่ประทับใจมาก มีความรักและความหวานทุกรูปแบบจริงๆเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นความรักของคนในครอบครัว ความรักของเพื่อน ความรักของคู่รัก อ่านไป ยิ้มไป ร้องไห้ไป  :m1: :m4: :m15:

จริงๆอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆนะ ยังไงก็อยากให้ TRomance นำตอนพิเศษมาให้แฟนๆได้อ่านเรื่อยๆนะครับ แล้วก็อย่าลืมคู่รักอีกคู่ในเรื่องนี้นะครับ ยังอยากอ่านเรื่องราวของไม้กับน้องปลื้มอยู่คร้าบ  :m5:

สุดท้ายขอขอบคุณ TRomance สำหรับเรื่องราวอันแสบอบอุ่นของก้อนเมฆกับดวงตะวันนะครับ  :L2:
ขอขอบคุณ Seiki ที่นำเรื่องราวหวานๆเรื่องนี้มาโพสให้ได้อ่านครับ  :L2:

สุดยอด!!!!!!

 o13 o13 o13

PS1> ขอโหวต ฉาน - เมฆ คู่รักแห่งปี
PS2> พี่ของฉานชื่อฉายหรือฉัตรง่ะ เพราะตอนแรกๆเลยเห็นบอกว่าชื่อฉาย หรือว่าฉานมีพี่ 2 คน ขอแบ่งมาซะคนได้มะ อิอิอิ
PS3> ไม่ผิดหวังเลยที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ ขอบคุณอีกครั้งครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 05-08-2010 20:33:52
คุณanterosz คอมเม้นท์โดนใจ
ยังบวกไม่ได้มอบดอกไม้ให้แทนนะ :L2:
ปล.อยากชมคนแต่งเหมือนกันแต่ชมไม่เป็น(กัดเป็นอย่างเดียว)
เอาคำขอบคุณไปแทนละกันนะทั้งคนแต่งคนโพส :pig4:
แล้วก็ขอตอนพิเศษหวานปนหื่นด้วยนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 05-08-2010 20:35:40
ไม่อยากจะเชื่อว่าจะจบเเล้ว  ยังอ่านความหวานของพี่ฉานกับน้องเมฆไม่พอเลย  ขอตอนพิเศษด้วยค่ะ  สุดท้ายนี้ขอบคุณที่เเต่งนิยายดีๆ ให้อ่าน  เรื่องนี้น่ารักมากๆ ค่ะ
ปล.รักษาสุขภาพด้วยค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 05-08-2010 21:03:57
จบแล้วววววววววววว   :mc4:


เป็นนิยายที่สนุกมากๆ อีกเรื่องนึงเลยทีเดียว

เรื่ืองนี้มีึครบทุกอารมณ์็

สุขเศร้า หวาน ฮา และหื่น

แถมตอนจบ ฉานก็ยังหื่นได้ีอีก ทั้งๆ ที่เดี้ยงขนาดนั้น


แต่ยังแอบค้างๆ คาๆ กับอาทและอันดา

สรุปน้องจะรู้ความจริงมั้ย

หรือจะปล่้อยไปแบบนี้


ยังไงก็รอตอพิเศษนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: posshiza ที่ 05-08-2010 21:32:45
ในที่สุดก็จบแล้วพี่เมฆกับท่านฉาน
แฮปปี้กันถ้วนหน้า คริ ๆ เขิลแทนพี่เมฆอ่ะ
แต่ก็ใจหายเหมือนกันนะเนี่ยที่มันจบแล้ว
ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ทั้งคนแต่งคนโพสต์เลยนะคะ
หวังว่าคงมีผลงานชิ้นต่อไปมาให้ติดตามกันอีกนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2: :L2: :L2:


ปล.รอตอนพิเศษด้วยคนนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 05-08-2010 21:38:09
จบแล้ว :-[
ชอบเรื่องนี้มากมายขอรับ :กอด1:

ปอลิง รอตอนพิเศษ จมมี และจงมา  :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 05-08-2010 21:48:28
ขอบคุณมากเลย เป็นเรื่องที่เราประทับใจมากอีกเรื่องหนึ่ง
แต่เราแอบติดใจเรื่องอันดา กับ อาท นิดๆนะคะ
เราจะรอตอนพิเศษน้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 05-08-2010 21:59:31
เรื่องจบด้วยการที่พี่ฉานถูกยิง.... แต่มันก็คุ้มเนาะ อิอิ
คืนนั้นไม่แคล้วที่พี่เมฆจะได้ขี่ม้า ฮ่าๆ
ตอนนี้อ่านแล้วซึ้ง  ความรักของพ่แม่ยิ่งใหญ่จริงๆ
และ  ชายรักชาย  ไม่มีผิดเลย-กนิด

ขอบคุณคนแต่งที่แต่งเรื่องราวดีแบบนี้มาให้อ่านนะคะ   :L2:   
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 05-08-2010 22:20:18
 :impress2: ตอนจบน่ารักที่สุดค่ะ


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 05-08-2010 22:55:01
อ่านแล้วมีความสุขมากๆเลยค่ะ แบบนี้ค่อยสมกับเป็นท่านฉานแล้วก็พี่เมฆหน่อย
แอบเสียดายนิดๆ จบซะแล้ว แต่ยังไงจะรอตอนพิเศษนะคะ
แล้วก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ขอบคุณทั้งคนแต่งแล้วก็คนโพสเลยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 05-08-2010 23:00:34
      เอ่อเเล้วโดนใครเป่ามาอะ
อาร์ทหรือพ่อมัน หรือใครอะไรยังไง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: @Kanda@ ที่ 05-08-2010 23:57:51
กรี๊สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

ไอ้อาททททททททททททททท  :z6:

ฉานก็โง่ มีไรไม่พูดกันดีๆ เอาซะดราม่า อยากรู้ว่าแม่เมฆจะรู้สึกยีงไง

คราวนี้ไรเตอร์ค้างหลายประเด็นจริงๆค่ะ :a5:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 06-08-2010 00:22:00
เข้ามาบวกหนึ่งให้เป็นการตอบแทนคนเขียนค่ะ

ที่เขียนเรื่องที่ทำให้คนอ่านยิ้มหวานกันได้

ดีใจที่เรื่องราวของเมฆกับฉานจบลงด้วยดี

ทำเอาคนอ่านยิ้มแก้มแทบปริเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 06-08-2010 00:50:02
พึ่งได้เข้ามาอ่าน ในวันที่เรื่องเค้าจบซะแล้ว แหะๆ
เอาเป็นว่าจะติดตามตอนพิเศษต่อไปก็แล้วกันเนอะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 06-08-2010 01:38:20
คนเขียนมันมั่วแน่ๆค่ะ มันต้องเบลอแน่ๆ

พี่ชายพี่เมฆ มีคนเดียว ชื่อฉาย แต่อิคนแต่งมันมัวแต่งมแบบส่งลูกค้า

เลยไม่ได้ไปรื้อดูแน่ๆเลยว่า พี่ของเมฆชื่อฉาย  :z6: จัดการๆๆ คนแต่ง  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-08-2010 03:45:03
 :beat: เข้ามาตบคนแต่งด้วยคน
แต่ตอนพิเศษ ขอแบบครบชุดนะ อิอิ อย่าต้องให้บอกล่ะ
คู่ไม้ น้องปลื้ม ก่อนเลย นำร่อง แล้วตามด้วย คู่พระเอกนายเอก  :laugh:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 06-08-2010 12:24:51
happy ending ก็ดีแล้วล่ะเนอะ

รออ่านตอนพิเศษ นะคับ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 06-08-2010 13:49:51
+1เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ งวดหน้าขอหวานๆ เอาให้เลี่ยนกันไปเลย :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 06-08-2010 15:35:41
ชอบจัง :m1: เรียบง่ายแต่ก็ลงท้ายด้วยดีอ่ะ~!  o13

เฮ้อออ ชอบเรื่องนี้มากเลยน๊าาา เข้ามาครั้งแรกก็เพราะชื่อเรื่อง อ่านไปเรื่อยๆก็ยิ่งชอบมากขึ้นเพราะเมฆกะฉานนี่แหละ ^^

ตอนนี้เมนคอร์สใช่มะ รอของหวานปิดท้ายต่อนะจ๊ะ ^^ เอาเยอะๆเลยนะ


ปล. แงงงงงงงงงงงง....ไมไม่มีชื่อไออยู่ในspecial thxด้วยอ่ะ ไอก็ติดตามมาแต่แรกเริ่มนะ อยากมีชื่ออยู่ในlistเป็นความทรงจำกะเขามั่ง~ TT
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: SPSJ ที่ 06-08-2010 17:08:17
ขอบคุณเช่นกันค่ะ
รอตอนพิเศษ รอเรื่องใหม่นะคะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 07-08-2010 07:30:00
จบไปแล้ว ๑ เพื่อรอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 07-08-2010 15:26:50
แวะมาอ่านรอบสองขอรับ
ยังอินเหมือนเดิม  :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 07-08-2010 17:00:22
ขอกอดให้กับความรักของเมฆกับฉานซักหลายๆที
อิอิ
ว่าแต่ว่า
โรงพยาบาลนะนั่น
+5555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: raintear ที่ 07-08-2010 21:25:35
 :call:  :call:  :call:
จุดธูปรอตอนพิเศษ
มาต่อไวๆนะคร้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Soulmate ที่ 07-08-2010 23:07:40
ตามอ่านทันก็จบซะแล้ว
ขอบคุณที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 08-08-2010 22:10:30
อึ๊บ อึ๊บ อึ๊บ

ดัน รอตอนพิเศษจ้าาาา

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่รอคอย, P.54] 4 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 08-08-2010 22:22:00
เข้ามารอตอนพิเศษจ๊ะ อยากอ่านท่านฉานกับพี่เมฆหวานๆบ้าง อิิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 08-08-2010 23:21:34
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)
ตอนพิเศษ  “รัก.....ครั้งแรก”


(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)



 วันนั้น.....วันที่สดใสที่สุดวันหนึ่ง
ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ลมพัดแรงจนใบไม้ปลิวไหวท้าทายสายลม

แต่กลับเป็นวันที่ผมเซ็งสุดชีวิต!!!!!!!!!!

ทำไมนะเหรอครับ??....... ผมนายฉานแสง แรงกล้า น้องชาย นายฉายฉาน
ตอนนั้นผมเป็นเด็กชายอายุก็คงจะนับได้ว่าห้าขวบ ย่างเข้าหกขวบละมั้ง
ชีวิตวัยเด็กผมอาภัพครับ มีพี่ก็เหมือนไม่มี รายนั้นแก่กว่าผม สี่ห้าปี ช่องว่างระหว่างวัยก็ไกลโขอยู่
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

ประเด็นของผมคือเซ็งมาก เซ็งโครตๆ เซ็งสุดๆ ถ้าเป็นตอนนี้คงบอกได้ว่าว่าเซ็งเติม st นั่นแหละครับ

ผมดันมีเพื่อนเล่นอยู่อีกฝั่งหนึ่งของกำแพง ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยม บอกตามตรงว่า จะไปเล่นแต่ละทีนี่สีข้างถลอกตลอด

เพราะเดินไปดีๆ มันไม่เท่ห์นี่ครับ มาดแมนอย่างฉานแสงแล้ว ผมต้องปีนกำแพงไปเท่านั้น

ปีนคนเดียวมาก็นาน แต่ถ้าไม่ปีนข้ามไปก็ไม่รู้จะเล่นอะไรกับใคร

วันนั้นผมถือกิ่งไม้ระรานแนวรั้วธรรมชาติของต้นไม้ที่คุณนายแม่ปลูกไว้ ระบายอารมณ์เบื่อ

สายตาก็ต้องไปหยุดอยู่ที่บ้านรั้วติดกัน

บ้านน้านิ่ม น้าผู้หญิงคนสวย ใจดี แต่นัยย์ตาเศร้าคนนี้ ผมจำได้ว่าเธออยู่คนเดียว
เพราะผมเคยแอบข้ามรั้วต้นไม้ ที่สูงเพียงเทคตัวเล็กน้อยก็ผ่านไปได้ไม่ยากเท่าไหร่ อ้อนขอกินขนมอยู่บ่อยๆ
ปกติน้านิ่มอยู่คนเดียว นานๆครั้ง ที่ผมจะเห็นผู้ชายแวะเวียนมาหาบ้าง แต่ก็ไม่แปลกเท่าวันนี้
วันที่ผมเห็นในมือน้านิ่ม มีมือน้อยของเด็กผู้ชายตัวเล็ก ผอมกระหร่องดูก๊องแก๊งในมือน้านิ่ม
ตอนนั้นผู้ใหญ่บอกผมว่า เป็นเด็กดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร สนุกไปวันๆ ผมก็เชื่ออย่างนั้นมาตลอด

แล้วสิ่งที่ผมเห็นวันนั้นมันคืออะไร

ไอ้เด็กผอมแห้งคนนั้น มันทำหน้าเหมือนโลกกำลังจะพังทลาย ............นั่นไม่เท่าไหร่
แต่มันจะร้องไห้อะไรขนาดนั้นวะ ผมเกิดมาจำได้ว่าไม่เคยร้องไห้ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่ไอ้ผอมมันร้องเลยเหอะ

เด็กชายฉานแสงคนนี้เป็นหัวหน้าแกงค์ห้องน้ำตั้งแต่อายุห้าปีเชียวนะเออ

ที่สำคัญโลเคชั่นสำหรับการเล่นซ่อนหาประจำสัปดาห์ อันได้แก่ ห้องน้ำนักเรียนชายหญิง ผมก็เป็นผู้ค้นพบ แต่ภาพที่ไอ้ผอมมันร้องไห้ ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ ไม่รู้หรอกว่าสะเทือนใจมันเป็นอย่างไร แต่คิดในใจว่า ถ้าเกิดผมจะมีลูกน้องคนสนิท ที่อยู่บ้านติดกันก็คงจะควบคุมง่ายดี……..........ความคิดชั่วร้ายแต่เด็กเลยว่างั้น

เร็วเท่าความคิด  มือที่ถือกิ่งไม้ก็เขวี้ยงทิ้งไป เป้าหมายคือเด็กชายตัวผอมที่ยืนร้องไห้ตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดน้านิ่มคนนั้นต่างหาก


ได้เวลามีลูกน้องคนสนิทแล้วนะ ฉานแสง ลุย!!!!!


“นี่นาย หลานน้านิ่มใช่มั้ย พอดีเลย เรากำลังหาพวก นายช่วยมาเป็นพวกเราหน่อย” ไอ้ผอมดูจะตกใจและคงงงไม่น้อยที่อยู่ๆผมก็ไปกระชากอารมณ์สีเทาของมันออกมา แต่ใครจะสนละครับ ไม่มีมาเฟียคนไหนเค้าสนใจความรู้สึกคนอื่นกันหรอก แล้วผมก็เป็นแบบนั้น

“เต็มใจไม่ใช่สิ่งจำเป็น ถ้าเห็นว่ามันใช่ เราก็ยัดเยียดเข้าไป เท่านั้นก็จบ”

วันนั้นไอ้ผอมให้ความร่วมมือในการเล่นซ่อนหาเป็นอย่างดี และด้วยอำนาจหัวหน้าแกงค์อย่างผมก็สั่งให้เพื่อนๆทำยังไงก็ได้ที่ให้ไอ้ผอมเป็นคนซ่อนมันทุกตา ห้ามเป็นคนหาเด็ดขาด ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็มันไม่รู้จักใคร ขืนให้มันหา วันนั้นผมจะได้เล่นอย่างสนิทใจมั้ย ถ้าไอ้ผอมมันร้องไห้แล้วหนีกลับบ้านไป ผมจะหาลูกน้องที่ผอมกระหร่องอย่างนี้ได้จากที่ไหน

ผมมารู้ทีหลังว่ามันชื่อเมฆ แทบจะตบเข่าดังฉาด!!!!!

เด็กชายฉานแสง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าร้อนแรงดังดวงอาทิตย์ ส่วนไอ้ผอมชื่อเมฆ เห็นมั้ย!! ฟ้าส่งไอ้นี่มาเป็นลูกน้องของผมชัดๆ ชื่อของมันเป็นบริวารของดวงอาทิตย์แบบเห็นๆ ยิ่งน้านิ่มฝากฝังมันไว้กับผม ยิ่งหวานหมูเข้าไปใหญ่ อะไรๆที่คิดไว้ก็ง่ายขึ้น

“เมฆเลยถูกผูกติดกับดวงตะวันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้”
 
ถ้าปี 2012 โลกไม่ถล่มทลายอย่างที่นอสตราดามุสแช่ง.......เอร้ยย ทำนายเอาไว้ ผมก็คิดว่าจะเอามันผุกติดไว้กับผมจนกว่าเราจะตายจากกันไปนั่นแหละ
แล้วผมรักมันตั้งแต่ตอนไหน..........ถ้าให้ระบุจริงๆนี่ยากมากเลยครับ สอบเข้าถาปัตย์นี่เรียกว่าง่ายไปเลย
มันคงคล้ายๆกับทะเลที่ค่อยๆบีบตัวเองเข้ามาจนกลายเป็นหนองน้ำนั่นแหละครับ ผมถึงได้รู้ว่า
“หลงรัก” มันมากกว่าเพื่อนเค้ารักกัน

ตั้งแต่วันที่ผมติ๊ต่างให้เป็นลูกน้องผม วันนั้นก็เป็นเหมือนวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ของมันเหมือนกัน

มันเป็นลูกคนใหม่ของน้านิ่ม
มันเข้าโรงเรียนใหม่คือโรงเรียนผม หนำซ้ำยังอยู่ห้องเดียวกันอีกต่างหาก
ชีวิตมันเลยมีผมเป็นคนนำทาง ผมเดินซ้ายมันก็ตามมาทางซ้าย ผมไปทางขวามันก็ต้องเดินตามมาทางขวา
แรกๆ ดูมันเป็นเด็กพูดน้อย ไม่มีพิษสงอะไร เป็นเด็กที่ขาดความสดใสกว่าเด็กธรรมดาทั่วไปอยู่หลายขุม
พัฒนาการปากเสียของมันเริ่มกระเตื้อง จนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำกายมันตอนไหน ผมไม่รู้เลยครับ

รู้สึกตัวอีกที........ฉิบหาย ทำไมเมียกูปากกรรไกรได้ขนาดนี้ ผมเลยต้องขรึมรักษาภาพพจน์ต่อไป
ผมไม่ได้หยิ่งเป็นนิสัย แต่ผมเป็นคนที่เงียบจนคนคิดว่าหยิ่ง มันมีที่มาที่ไปเพราะใครบางคนแถวนี้แหละครับ
เรียกว่าเงียบข่มขวัญคู่ต่อสู้

ตอน ม.4 ผมเริ่มมีแฟน ตอนนั้นอะไรๆก็กลายเป็นสีชมพู ความรักของวัยรุ่นปั๊บปี้เลิฟมันบังตา จนลืมไปว่ามีลูกน้องคนสนิทอยู่ข้างกาย จากที่ผมไปโรงเรียนพร้อมเมฆและกลับบ้านพร้อมกัน กลายเป็นเราไปโรงเรียนพร้อมกัน ส่วนตอนเย็นผมต้องไปส่งสาวๆก่อน แน่นอนว่าไอ้เมฆต้องกลับบ้านคนเดียว มันจะไม่อะไรเลยถ้าวันนึงหลังจากที่ผมไปส่งสาวแล้วกลับบ้านเป็นปกติที่สุดที่ผมถึงบ้านแล้วจะต้องเสนอหน้าไปกวนบาทาไอ้เมฆ
แต่วันนั้น บ้านเงียบสนิท
แต่ผมสิ โวยวายบ้านแทบแตก โรงเรียนเลิก สี่โมงเย็น ผมกลับถึงบ้านหกโมงครึ่ง จากบ้านถึงโรงเรียนใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่วันนั้นไอ้เมฆยังไม่กลับบ้าน น้านิ่มไม่ได้ตกใจ เพราะคิดว่าเมฆคงเถลไถลไปกับเพื่อนๆตามประสาเด็กผู้ชาย
แต่สำหรับผมแล้วไม่ใช่ ผมรู้ว่ามันจะไม่เถลไถลถ้าไม่มีผม ตอนนั้นมันยังไม่ดื้อกับผมเท่าตอนนี้ (ไม่น่าให้มันรู้ว่าผมรัก มันเลยพยศใส่ผมบ่อยมาก แล้วผมก็ยอมมันทุกทีเลยครับ ลองมีเมียแล้วคุณจะรู้หัวอกผม ตามนั้น)

บ้านน้านิ่มถูกผมเดินวนไปมาจนใกล้เคียงกับคำว่า ปลักควาย แล้วพุทธิปัญญาก็คิดได้ว่า ทุกครั้งถ้าผมไม่บอกอะไรไว้ถ้าจะไปไหนกับใคร นั่นคือมันจะต้องรอกลับบ้านพร้อมผม วันนั้นสาวที่ผมกำลังป้ออยู่คงงอนอะไรผมสักอย่าง เลยลืมบอกเมฆไป มัวแต่สนใจที่จะง้อสาว ผมวิ่งตัวปลิวออกจากบ้าน พี่แท็กซี่จะตกใจที่ผมแทบจะกระโดดขวางรถก็ช่างมันประไร ผมสั่งให้พี่แท็กซี่มุ่งหน้าไปโรงเรียน จำได้ว่า ครั้งแรกที่เดินไปแถวที่ๆ ที่พวกผมรวมตัวกันประจำที่โรงเรียนแล้วใจหายมันเป็นอย่างไร ภาพเด็กผู้ชายที่ตอนนั้นไม่ผอมเท่าไหร่ นั่งก้มหน้าซบเข่าตัวเองอยู่ริมขอบทางเดิน ภาพนั้นทำเอาผมใจหาย อกข้างซ้ายร่วงไปรวมตัวกับตาตุ่ม

“เมฆ ทำไมมึงไม่กลับบ้าน มึงนั่งงมหอยอยู่หรือไง” ไม่เข้าใจว่าเวลาเป็นห่วงใครมากๆ แล้วต้องเหวี่ยงใส่เค้า แต่ผมเป็นแบบนั้น...ห่วงแล้วเหวี่ยงเป็นของคู่กัน
“รอมึงไง วันนี้มึงไม่ได้บอกกูนี่ว่ามึงไปไหน กูก็ทำตามสัญญาที่ให้กับมึงไว้ “ผมอึ้งเลยครับตอนนั้น ทั้งๆที่ทุกครั้งที่ผมวุ่นวายบงการชีวิตมัน มันแสดงออกโจ่งแจ้งว่ารำคาญ แต่มันก็ทำตามผมทุกครั้งเหมือนกัน มันเดินตามผมมาขึ้นรถโดยที่ไม่ว่าอะไรผมสักคำ ไม่ต่อว่าที่ผมเห็นผู้หญิงสำคัญกว่ามัน ลืมบอกมันว่าไม่ต้องรอ เกือบสามชั่วโมงที่มันต้องนั่งรอผม ผมรู้ว่ามันรู้ว่าผมหายหัวไปไหน แต่มันก็ยังรอ ทั้งๆที่ถ้ามันไม่รอมันก็ไม่ผิดอะไร มันเป็นไอ้เมฆคนเดิมของผมเสมอ ไม่เคยเปลี่ยนอะไร

แต่ตอนนั้นความรู้สึกในใจผมเปลี่ยนไปทันที

ทำไมผมต้องรู้สึกกระวนกระวายใจทุกครั้งที่มันหายไป ทั้งๆที่มันก็โตพอที่จะทำอะไรเองคนเดียวได้ ทำไมผมต้องรู้สึกวูบโหวงในหัวใจเมื่อมันตอกย้ำผมว่าทำตามสัญญา หลังจากนั้นอาการบ้าผู้หญิงของผมเริ่มห่างหาย วันเวลาเดิมๆเริ่มกลับมา เช้าไปโรงเรียนพร้อมกัน เย็นกลับบ้านด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน บ่อยครั้งที่ผมลามไปถึงนอนด้วยกันกับมัน ตอนนั้นผมเข้าใจว่ามันคือความเคยชิน
เคยชินที่ต้องมีมันอยู่ใกล้......ตามประสามาเฟียที่มีมือขวาอยู่ข้างๆกาย
เคยชินที่เวลาต้องเอาขาก่ายตัวมันไว้
เคยชินที่จะต้องอยู่ใกล้ๆกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ ที่สูดเข้าปอดทีไร แล้วผมรู้สึกว่าหายใจโล่งจมูกที่สุดแล้ว
ผมว่าผมกับมันใช้อะไรเหมือนๆกันก็บ่อย แต่ผมไม่เคยได้กลิ่นหอมจากตัวเอง เหมือนที่ได้จากเมฆ มันเป็นกลิ่นที่ผมสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ผมเข้าใจมาตลอดว่า.......การที่ต้องมีมันอยู่ข้างๆกายคือความเคยชิน
ความห่วงใยที่ผมมีต่อมัน...คือความผูกพันฉันท์หัวหน้ากับลูกน้องคนสนิท

ใครจะไปรู้ว่ามันจะมากกว่านั้น.............
ตอน ม.6 ผมมีสาวๆมาชอบมากมาย แต่นั่นไม่ทำให้ผมสนใจเท่ามีสาวๆมาชอบมันเหมือนกัน แล้วที่ผมต้องหงุดหงิดใจก็เพราะดูเหมือนมันจะชอบเค้า ตอนนั้นผมกับมันมีบ่อยครั้งที่เราต้องห่างเหินกันไป แต่ผมไม่ชอบใจเลยสักครั้ง
ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ผมติดผู้หญิงจนหลงลืมมันไป ตั้งแต่วันนั้นผมไม่เคยคิดจริงจังกับผู้หญิงคนไหน  นอกจากสนุกๆตามคำเชียร์ของเพื่อนๆตามประสาวัยรุ่นทัวไปแค่นั้น ผมจะไม่มีความสัมพันธ์กับใครที่ผมรู้สึกว่าเค้าต้องการคบผมแบบจริงใจ คบแบบดูใจ ไม่ใช่มาเพื่อสนุกกันชั่วครั้งชั่วคราวแล้วแยกกันไป ผมยังไม่พร้อมที่จะดูแลใครและผมไม่พร้อมที่จะอยู่ตัวใครตัวมันแบบที่ไม่มีไอ้เมฆอยู่ข้างกาย ผมรู้ซึ้งว่าถ้าผมมีใคร วันนั้นมันจะหายไปจากชีวิตผม จากเพื่อนสนิทอาจจะเหลือแค่คนเคยรู้จัก คิดถึงเมื่อไหร่ ไม่เคยรับความรู้สึกนั้นได้เลยสักครั้ง และผมก็พร้อมที่จะโวยวายเสมอเมื่อรู้ว่ามันไปกับสาวคนไหนแล้วไม่บอกผม
ตอนนั้นเราวัยรุ่น ใจร้อนกันทั้งคู่ ผมกับมันทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่มันทำตามใจตัวเอง ส่วนผมไม่พอใจที่มันทำตัวห่างเหิน แต่ไหนแต่ไรมา ผมไม่เคยให้เมฆต้องออกโรงต่อยตีกับใคร ในความรู้สึกผม เมฆคือคนที่ผมต้องดูแลตั้งแต่ที่น้านิ่มฝากมันไว้กับผมในวันนั้น ผมไม่รู้ว่าทำตามหน้าที่หรือผมฝังใจ ฝังใจกับภาพเด็กผู้ชายที่ยืนร้องไห้ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังถูกทิ้งไว้ให้อยู่กับใครคนอื่น คนที่ตัวเองต้องเรียกเค้าแทนคนที่เคยเรียกมาตลอดว่า “แม่”
ผมรู้ว่าเรื่องแม่ทิ้งฝังใจเมฆมาก และต่อให้น้านิ่มดูแลเมฆดีแค่ไหน ให้ความรักเมฆมากเท่าไหร่
แต่ลึกๆในใจ เมฆเรียกร้องหาแม่ผู้ให้กำเนิดตลอดเวลา อาจเป็นเพราะครอบครัวผมอบอุ่น ผมไม่เคยทุกข์ใจอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่า วันนี้จะเล่นอะไร เมื่อเกมส์เล่นซ่อนหาไม่น่าสนใจแล้ว ก็แค่นั้นเอง ไม่มีความทุกข์ไหนยิ่งใหญ่กว่าเรื่องเที่ยวเล่นอีกแล้ว แต่เมฆไม่ใช่ เมฆมีความทุกข์ที่แบกเอาไว้ใหญ่กว่าผมมากนัก แบกจนมันเป็นปม แบกไว้จนความสดใสวัยเด็กของเมฆหายไปส่วนหนึ่ง ผมรู้สึกว่าเมฆเปราะบางด้านความรู้สึกในความคิดผม การปกป้องจึงเป็นสิ่งที่ผมเลือกทำ ผมปกป้องทุกอย่าง ปกป้องตั้งแต่จิตใจไปจนถึงร่างกาย ผมรู้ว่าเมฆทำได้ ถ้าต้องต่อยตีกับใครเมฆก็ทำได้ แต่ผมไม่ให้ทำ ผมภูมิใจทุกครั้งที่ได้ทำอะไรเพื่อมัน ดูแลเอาใจใส่มัน ถึงจะโดนแขวะว่าเป็นผู้กำกับแห่งชาติผมก็ไม่สนใจ

เรื่องที่ไม่มีมันอยู่ในกรอบสายตา กลายเป็นจุดอ่อนของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่....!!!!!

รู้แต่ทุกครั้งที่มันหายไป ผมต้องวุ่นวายใจ และอีกหลายครั้งที่ผมตามหามันแล้วได้แต่คิดว่า ถ้าไม่เจอผมอาจจะคลั่งจนบ้าเลยก็ได้ เหมือนครั้งนั้น ครั้งที่น้านิ่มบอกว่าเมฆหายไป ไม่รู้ว่าไปไหน เมฆไม่ได้บอกไว้เหมือนทุกครั้งที่มันต้องบอกเพื่อไม่ให้น้านิ่มเป็นห่วง ผมจำได้ว่าวนหามันรอบหมู่บ้าน วนมันอยู่อย่างนั้น  จนเจอมันนั่งร้องไห้ มันไม่เคยร้องไห้กับเรื่องไหนถ้าไม่ใช่เรื่องแม่ ผมรู้เลยว่าเมฆไม่ได้สำคัญแค่เป็นเพื่อนหรือลูกน้องข้างกายอย่างที่เคยบอกใครๆ มันมีความหมายกับผมมากกว่านั้น

เพียงแต่ผมไม่รู้ว่านั่น.....คือ รัก
ผมไม่รู้ว่าทำไม ผมถึงได้ปัญญาอ่อนถึงขั้นตามไปรังควาญคนที่มาตามชอบไอ้เมฆ แรกๆมันก็สงสัยว่าทำไมคนที่มาชอบมันถึงได้หายไปที่ละคนสองคน ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่าไม่พอใจและไม่ชอบใจมาก ถ้าหากจะมีใครมาคั่นกลางระหว่างผมกับมัน เพราะฉะนั้นทางเดียวที่ผมจะทำให้ความสัมพันธ์เราเหมือนเดิม คือกำจัดคนกลางออกไป

ความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชายเริ่มเข้ามาในความคิด เมื่อการกระทำที่เพื่อนๆบอกว่าไร้สาระของผม กลายเป็นเรื่องที่ผมเอามาเครียดแบบจริงจัง ผมเริ่มสะดุดใจ เมื่อเพื่อนบอกผมว่า ถ้าเมฆเป็นผู้หญิง สิ่งที่ผมกำลังเป็นอยู่คือ “หึง”

ถ้าความรู้สึกที่ผมมีต่อเมฆคือ “หึง” นั่นคือผมต้องรักมันแบบ ”คนรัก” สินะ

แต่ถ้าผมไม่ได้รู้สึกกับเมฆแบบคนรัก ผมก็จะต้องไม่รู้สึกอะไร ถ้าจะมีใครมาชอบมัน หรือมันจะไปกับใคร หรือผมอาจจะแค่กลัวว่าวันนึงถ้ามันมีแฟนหรือมีใคร หรือแค่พบเพื่อนใหม่ ความสำคัญของผมที่มีต่อมันจะหมดไป

แต่เมฆก็ยังเป็นเมฆของผมเหมือนเดิม แต่มันปากเสียมากกว่าเดิมเมื่อเวลาผ่านไป เริ่มต่อต้านผม แต่สุดท้ายก็ยอมตามใจ
มันไม่เคยให้ความสำคัญกับใครเท่าที่ให้กับผม มันไม่เคยทำตามใจใครเท่าที่ตามใจผม

......แต่มันก็ยังมีเรื่องให้ผมไม่พอใจ

ผมรู้สึกอยากอาละวาดเมื่อรู้ว่าตอนปีหนึ่ง พี่รหัสบังอาจออฟสาวไซด์ไลน์ให้เมฆขึ้นครู แล้วผมจะไม่เดือดดาลมาก ถ้ามันไม่เอาผู้หญิงคนนั้นขึ้นห้อง ห้องที่เคยมีแต่ผมกับมันสองคน เตียงเล็กๆ ที่ผมไม่เคยนอนร่วมกับมันตั้งแต่เรามาอยู่หอด้วยกันที่มหาลัย แต่ก็ไม่ใช่จะว่ามีใครมานอนแทนได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถึงลึกๆในใจจะบอกผมว่าเมฆต้องไม่ทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้น ผมรู้จักนิสัยมันดี แต่ผมก็ยังบ้าคลั่งพังประตูเข้าไป ถึงแม้มุขแก้หน้าแหกจะห่วยแตกขนาดไหน แต่ผมก็โล่งใจที่เมฆไม่แปดเปื้อนเพราะน้ำมือของใคร

ไม่ใช่ผมคนเดียวที่วุ่นวายใจกับความรู้สึกครุมเครือที่หาคำตอบไม่เจอระหว่างผมกับมัน
ตอนที่ผมสับสนจนเริ่มจะรู้ใจตัวเอง.........เมฆก็สับสน

แต่มันใช้เวลาสงสัยไม่นานเท่าผม ผมใช้เวลาหาคำตอบให้ตัวเองจนกว่าจะมั่นใจ
แต่เมฆมันพิสูจน์ด้วยการกระทำ....
ครั้งแรกที่เมฆขอให้ผมจูบ.......ผมโครตตกใจ แต่ลึกๆแล้ว มันเป็นสิ่งที่ผมต้องข่มใจมาตลอดเมื่ออยูใกล้ๆมัน
บ่อยครั้งที่มันกวนประสาทผม จนคิดอยากจะงับปากเสียๆนั่นด้วยความหมั่นเขี้ยว
วันนั้นผมตอบโต้ตอบกับมันไปตามนิสัยผม แต่ในใจมันตื่นเต้นจนกลัวว่าเสียงหัวใจจะดังออกมาให้ผมได้ขายหน้าต่อหน้ามัน

แค่ปากแตะปากจะไปรู้สึกอะไร......ผมรู้ แต่ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นเมฆมันต้องการอะไร

“ ฉาน “

“หือ มีอะไร “

“จูบก็จูบให้จริงสิ” เมฆทำให้ผมใจสั่น เพียงแค่ผมเห็นแววตามุ่งมั่นคู่นั้น ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาพูดกันเล่นๆ มันเอาจริง!!
 
“แล้วเมื่อกี้ กูเปิด วีทีอาร์ ให้มึงดูหรือครับเมีย “ ผมปากดีกลบอาการใจสั่น ตอนนั้นผมรวบรวมลมปราณสุดชีวิต เทคอากาศเข้าปอดแบบไม่ให้มันจับได้ ว่าผมประหม่าแค่ไหน แต่ในใจลึกๆ ผมก็อยากรู้ ถ้าจูบเมฆอย่างที่หญิงชายจูบกันผมจะรู้สึกยังไง จะเหมือนที่ผมจูบผู้หญิงทั่วๆไปมั้ย หรือเราจะหัวเราะแล้วผละออกจากกัน หลังจากนั้นก็ไปล้วงคออ๊วกในห้องน้ำ

“ไม่ใช่ กูหมายถึงใช้ลิ้นด้วยสิ” ผมรู้ว่าเมฆเป็นคนพูดตรงๆ แต่ไม่มีครั้งไหนกระแทกใจผมได้เท่าครั้งนี้

“หืมมมม เดี๋ยวนี้เมียพี่ฉานโตเป็นสาวแล้วน๊า อยากกินลิ้นพี่ฉานก็ไม่บอก” ผมรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้าย ด้วยการปากดีใส่มันตามนิสัย

ริมฝีปากที่แนบชิดกัน มันนุ่มจนผมรู้สึกได้ ผมต้องการมากกว่านั้นแต่ไม่ใช่ความใคร่เหมือนทั่วๆไป อาการเกร็งแล้วก็ตัวสั่นน้อยๆ แต่ไม่ยอมถอยของมัน ทำให้ผมต้องส่งปลายลิ้นแตะไล้แค่เพียงริมผีปาก แต่ความอ่อนเดียงสาแทบทำให้ผมคลั่งตาย
ไม่รู้ว่าผมจะต้องขอบคุณอะไร ขอบคุณความอยากรู้อยากลองของมันจะดีมั้ย
แล้วถ้ามันตัดสินใจทำใครกับอื่นที่ไม่ใช่ผมหละ
ผมรับรองด้วยเกียรติ์ของลูกผู้ชายเลยว่า ผมสามารถฆ่าคนได้ง่ายๆด้วยมือเปล่านี่แหละ
 ผมส่งลิ้นเข้าไปทันทีที่มันเผยอปากรับ ความอุ่นร้อนในโพรงปากปะทะปลายลิ้นผมให้ต้องลุกต้อนควานหา มันคงไร้เดียงสาเกินที่จะรู้ว่า ไอ้การตวัดลิ้นหนีของมันไม่ต่างอะไรกับการยั่วยวนให้ผมต้องกวาดลิ้นไล่ต้อนมากกว่านี้ เอ็นไซม์ที่เราใช้ร่วมกันมันหวานจนอุ่นซ่านในหัวใจ ผมไล่หาความหวานจากทุกส่วนในโพรงปากมัน เหมือนคนที่เดินทางอยู่ในทะเลทรายแล้วเพิ่งพบพานกับบ่อน้ำ ผมดูดกลืนความหวานแบบที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองตระกรุมตระกรามจูบใครเท่ากับที่จูบกับมันมาก่อน อารมณ์หวามไหวทำให้อารมณ์ของผมพลุ่งพล่านไปไกล
 ยอมรับแบบไม่อายว่าผมต้องการมากกว่านั้น
ผมอยากได้มันมากกว่าจูบ
ผมอยากให้เราเป็นคนๆเดียวกัน
แต่มันต้องไม่ใช่ตอนนี้
ผมต้องหักห้ามใจครั้งใหญ่หลวง ผมอ้อยอิ่งแช่ลิ้นสลับดูดกลืนลิ้นมันอีกเนิ่นนาน ความรู้สึกบอกแค่เพียงว่า ความหวานที่เพิ่งพบเจอนี้ เท่าไหร่ก็ไม่พอ ยิ่งควานหาก็ยิ่งหวาน ยิ่งรู้ว่าหวานก็ยิ่งกวาดต้อน  อาการต่อต้านโดยการผลักไสน้อยๆ ทำให้ผมรู้ว่ามันเริ่มหายใจไม่ออก

“อือ อือ ฉาน พอก่อน” เสียงเว้าวอนน่ารักสุดใจ
 ผมต้องปล่อยให้ปากมันเป็นอิสระแบบไม่เต็มใจเท่าไหร่
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น
ผมก็ยังหาเสาหาเลยกับการเล็มไล้อยู่ที่ริมผีปากมากอีกเนิ่นนาน ปลายลิ้นที่ผมลากไปมารอบกรอบปาก คือการลงชื่อแสดงความเป็นเจ้าของมันตั้งแต่ตอนนั้น

ความเงียบหลังจากที่ผมงับปากมันทำให้ผมว้าวุ่นใจ มันกำลังคิดอะไรอยู่ แม้กระทั่งความคิดมันผมยังอยากรู้

“เมฆ กูขอโทษ มัน มัน มันทำให้มึงรู้สึกแย่หรือเปล่า เมฆ มึงอย่าเงียบสิ” ความคิดผมเร็วเท่าทันปากถึงได้ร้อนใจถามออกไป........ถ้าคำตอบของเมฆคือไม่ใช่ ทั้งๆที่ผมรู้ใจตัวเองแล้ว ผมอาจจะบ้าเพราะมันได้ง่ายๆ

“ปะ ป่าว มันรู้สึกดี แต่กูเหนื่อย แล้วเริ่มหายใจไม่ออกอะ มึง กินลิ้นกูนานไป”

ความรู้สึกผมจบตั้งแต่ตรงนั้น ผมรักมันแน่ๆแล้วไม่ต้องสงสัย เหตุผลโครตน่ารักกระแทกเข้ากลางใจผมเลย

“อ้าว กูก็นึกว่ามึงชอบ พอกูดึงลิ้นออก มึงก็ตามมาเกี่ยวกลับไปทุกที” ผมรู้ว่ามันใจกล้าแต่ว่าขี้อาย ท่าทางของมันไม่เหมือนผู้หญิง มันไม่อายแบบเอานิ้วชี้ไขว้กันแล้วม้วนตัวหนี แต่มันอายแล้วก้มหน้านิ่ง ยิ่งมันนิ่ง มันก็ยิ่งน่ารักในสายตาผม

ครั้งแรกที่รู้ว่ารัก มันมาพร้อมๆกับคำว่าหวงแหน

“เมฆ อย่าไปอยากรู้อยากเห็นแบบนี้กะใครที่ไหนอีก แค่กูคนเดียวเมฆ กูขอแค่กูคนเดียว มึงรับปากกูได้ไหม”

สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่แค่คำถามที่รอเอาคำตอบ แต่มันคือคำประกาศิต คำตอบมีแค่คำเดียวเท่านั้นที่ผมต้องการคือรับปากแล้วบอกว่าเข้าใจ ....... ผมไม่มีตัวเลือกให้ ความรักสำหรับผมเดียวคือหนึ่งเดียว
“เพราะเป็นมึงไงฉาน กูถึงกล้า และกูคิดว่า ถ้าไม่ใช่มึง กูจะไม่มีวันกล้าทำแบบนี้กะใครอีกแน่”

รักครั้งแรกของผม ไม่รู้ทำไม ความรู้สึกลึกๆมันถึงได้บอกว่า ครั้งไม่ใช่แค่รักครั้งแรก แต่มันจะยาวนานไปจนถึงครั้งครั้งสุดท้าย................กับผู้ชายคนเดียวกัน

รักในแบบฉบับของผม ไม่มีคำว่าหญิงชาย ไม่มีม่านประเพณีใดๆมาขวางกั้น ถ้าผมมั่นใจว่ารัก นั่นก็คือ ”รัก”
ผมอาจจะเจ้าชู้ในสายตาใครๆ ผมอาจจะผ่านใครต่อใครมามากมาย แต่นั่นไม่ใช่รัก
ความรักของผมอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าความรักของใครๆ ผมรับปากไม่ได้ว่ามันจะสวยงามแค่ไหน
ผมทำได้แค่เพียง ผมจะรักมันเท่าที่ผู้ชายคนนึงจะทำให้คนที่ตัวเองรักได้
ความรักของนายฉานแสง ...... ทำได้เพียงแค่นั้น

ตราบใดที่ดวงตะวันยังส่องแสง คุณก็จะมีโอกาสเห็นก้อนเมฆ
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะจับต้องมันได้
เพราะก้อนเมฆก้อนนั้น.....มันเกิดมาเพื่อดวงตะวันเพียงดวงเดียวครับ
เมฆไม่ใช่ของสาธารณชนที่ไหน......
ของๆผม คนของผม ผมหวง!!!!!!!




 สวัสดีค่ะ เอาตอนพิเศษมาเสริฟให้ ตอนแรกขอประเดิมให้กับความรักฝ่ายนายฉานแสงก่อน
ค่าตัวพระเอกมันแพงต้องเอาใจ :laugh: ส่วนความรักของคู่ปลื้มกับไม้ ต้องได้อ่านกันแน่ๆ แต่จะเป็นแบบไหนไม่รู้ 55
ส่วนใครที่รอ NC ของพี่เมฆกับท่านฉาน ในแบบฉบับที่มันแสดงออกถึงความรักที่ไม่เหมือนใคร ก็รอกันต่อไป
ขอให้ไรท์เตอร์ได้ทำใจเขียนบ้าง ออกแบบตึกสิบห้าชั้นยังไม่ยากเท่าเขียน NC เลยนะรู้มั้ย แทบจะเอาหัวโขกพื้นตาย :z3:
(จะไปยากอะไร คือมี อึก อื้อ อ้า อ๊ะ อืม คนเค้าก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร....แต่มันไม่ใช่ค่ะ ถ้าเป็นเรื่องเล่ามันโจ่งแจ้งได้ เราเองก็ชอบอ่าน :laugh:   แต่นิยาย เราอยากให้เป็น NC ที่มีบทบรรยายไม่โจ่งครึ่มเท่าไหร่ แต่ก็อยากให้ร้อนแรง มันจะยากก็อีตรงนี้แหละ......เฮ้อออ:z3: )
หลายคนยังสงสัยเรื่องใครยิงพี่ฉาน แล้วทำไมอาทมันยอมอะไรง่ายๆ จริงๆถ้าอ่านต่อไปอาจจะได้รับรู้ในตอนพิเศษนะ โปรยทางกันสุดๆ แต่เรื่องความง่ายของอาท มันเป็นความตั้งใจ เราไม่อยากให้อะไรมันซับซ้อนยุ่งยากไปกว่านิยายรักไปวันๆของเมฆกับฉาน เราต้องการสื่อให้เห็นว่า อาทเหมือนจะร้ายแต่จริงๆแล้วไม่มีอะไร เป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งที่โดนพ่อแม่ตามใจในแบบที่ผิดๆ ซึ่งมีเยอะมากในสังคม เด็กที่เสียนิสัยเพราะพ่อแม่ตามใจและเลี้ยงด้วยเงิน
 anterosz -- คนนี้แฟนพันธ์แท้พี่เมฆมากมาย จริงๆแล้วพี่ชายของฉานชื่อฉายจริงๆด้วยอ่ะ ตอนแต่งนั้นไม่ได้เปิดต้นฉบับประกอบไปด้วยไง เรียกง่ายๆว่าหลบนายมาแต่ง ทีนี้มันนึกไม่ออกว่าชื่ออะไร นึกได้ว่าฉัตร ก็ฉัตรวะ พลาดกันไป ขอโทษนะค่ะทุกคน แบบว่าพี่ชายนายฉานเป็นแขกรับเชิญไง เชิญมาตั้งหนึ่งตอน ค่าตัวฟรีก็งี้อ่ะ แถไปเรื่อยๆก็แสบสีข้างเองเหมือนกัน แต่จะบอกว่า เค้าจะมารับเชิญแบบเต็มๆ อีกครั้ง ในตอนพิเศษ ตอนไหนสักตอน แล้วอาจจะมีอะไรเซอไพรส์ ในแบบที่ผู้อ่านบางคนเดาออกก็ได้นะ คนอ่านชอบเดาพล็อตเรื่องออกหวะ ปวดกบาลในการหลบหลีกมากมาย
เกริด้า(๐-*-๐)v-- ไม่มีชื่อในป้าย เป็นไปไม่ได้ ไม่มีจริงๆเหรอเกริด้าอย่าน้อยใจนะ เค้าขอโทษ แต่ไม่น่าหายนะ เกริด้ามีชื่อในป้ายอันแรกใช่มั้ย ต้องมีในรอบสองสิ แต่ป้ายมันเบลอมาก ไม่ชัดสุดๆ ลืมๆไปเถอะนะ สัญญาว่าจะทำใหม่ ขอโทษจริงๆนะ อย่าน้อยใจนะ คนเขียนจำเกริด้าได้ไม่เคยลืม



**** หมายเหตุ
ตอนพิเศษตอนต่อไป จะเป็นยังไงเมื่อบรรดา เมีย เมีย (ในเมื่อคนเขียนโปรยว่า เมีย เมีย แสดงว่าไม่ได้มีเมียคนเดียวแน่ๆ แต่จะเป็นเมียใคร แล้วจะให้เดากระชับวงล้อมไปทำไมเนอะ ยังกะอิคนเขียนมันแต่งไว้หลายคู่งั้นแหละ ...ก็นะ ก็ว่ากันไป แล้วเมียๆเค้าจะก่อวีรกรรมอะไรกระแทกต่อมหมวกไตสามีให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ก็ต้องติดตามกันต่อไปในตอนหน้า กับ   “รักสนุก....แต่ไม่ผูกพันธ์”
http://www.youtube.com/v/gWIFCndKa8Y&amp;hl=en_US&amp;fs=1
 ขอบคุณทุกคนจากใจเหมือนเดิมค่ะ
(http://image.ohozaa.com/ie/w3ftt.gif)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 08-08-2010 23:38:35
สารภาพเลยว่าพลาดตอนจบไป
มาดูอีกที่มีตอนพิเศษแล้ว
เลยรีบย้อนกลับไปอ่านทันที
เห้อ   แฮ้ปปี้ ดีจัง แอบหื่นด้วย

พูดถึงตอนพิเศษ อยากอ่าน เรื่อง ของไม้อ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 08-08-2010 23:45:23
 :pig4:  ขอหลาย ๆ ตอนเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 08-08-2010 23:49:34
รอ“รักสนุก....แต่ไม่ผูกพันธ์” อิอิ
 รักเมฆ มากมาย น่ารักกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 09-08-2010 00:11:56
รักเมฆฉานมากมาย :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 09-08-2010 00:14:24
รักเมฆ รักฉาน น่าร้ากกกกกกกก
กรี๊ดดดดด อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้จบเลยจริงๆ T_T
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 09-08-2010 00:22:53
มาอ่านทีหลังคนอื่นก็จริง แต่เค้าก็ตามทันแล้วน้าา 5555  :-[

เป็นนิยายอีกเรื่องที่เราอ่านแล้วช๊อบชอบอะค่ะ
ชอบการบรรยาย ชอบเนื้อเรื่อง ชอบตัวละคร
ได้อ่านแล้วยิ้มได้หัวหัวเราะ อาจมีอึนบ้างเครียดบ้าง แต่สุดท้ายก็ลงเอยกันด้วยดีอะน้าา

ตอนพิเศษก็น่ารักได้อีก เราชอบจังค่ะ แล้วก็จะรอตอนพิเศษต่อๆไปด้วยนะคะ
ขอบคุณทั้งคนแต่งคนโพสต์เลยจ้าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 09-08-2010 00:40:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 09-08-2010 00:43:35
อ่านเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในมุมมองของนายฉานแล้ว รู้สึกว่า ดวงตะวันดวงนี้ช่างอบอุ่นดีจริงๆ

ถูกแล้ววว ดวงตะวันต้องคู่กับก้อนเมฆ ตลอดไป....  :L2:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 09-08-2010 00:49:36
รายงานตัวเริ่มอ่านค่ะ อ่านไปได้ตอนแรก รู้สึกจะหลงรักดวงตะวันซะแล้ว
ไอ้อ้วนฉาน น่าร้ากกกกกกกกกกกกก


แต่ที่แน่ๆ คนอ่านคนนี้หลงรักอารมณ์ขันของไรท์เตอร์ค่ะ แทรกอยู่แทบจะทุกบรรทัดเชียว ^o^
แล้วสปีดมาทันจะมารายงานตัวใหม่นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 09-08-2010 00:50:59
น่ารักอีกแล้วอ่ะ
โอยยย
เบาหวานขึ้นทันที.......
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 09-08-2010 00:57:16
รอตอนพิเศษของบรรดาเมียๆ   :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 09-08-2010 01:05:40
อ่านตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก ของฉานแล้ว  o13
 
ปลื้มฉานมากมาย  น่ารักกันทั้งสองคนเลย 

รักฉาน รักเมฆ  :L1: :m11:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 09-08-2010 03:30:09
อ่านไปยิ้มไป นึกว่านายฉานจะห้าว
ความจริงกลบเกลื่อนนี้เอง  :laugh:
อ่านทีเซอร์แล้ว มานอนรอเลย  :call:
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 09-08-2010 05:18:46
 :L2: :L2: :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-08-2010 06:22:52
 :L1:มีมาต่อเรื่อยๆละกันตอนพิเศษอ่ะชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 09-08-2010 06:30:04
 :jul1: สำลักความหวานจากนายฉานแสง   :impress2: น่ารักนะเนี่ยะ  มิน่าหละ น้องเมฆถึงได้หลงหัวปักหัวปำ อิอิ

ส่วนตอนหน้า  เหอๆๆ  :z1:  เมียๆเขาจะแอบไปมีกิ๊ก 55555  :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 09-08-2010 08:31:32
ความรักของเมฆกับฉานค่อยๆก่อตัวขึ้นตั้งแต่เด็ก
ช่างเป็นคู่สร้างคู่สมจริงๆพรหมลิขิตให้แต่เด็กเลย
ขอบคุณคนแต่งกับคนโพสสำหรับความรักที่สมหวังของเมฆกะฉาน
รอคู่ไม้กะหนูปลื้มว่าคู่ไหนจะหวานกว่ากัน
ปล.เค้าไม่เชื่อว่าตัวเองจะแต่งเอ็นซียาก เค้าเห็นสายตาตัวเองเวลามองหนุ่มคู่กันแล้วมันเห็นความคิดตัวเองอยู่บนเตียงเลยแหละ
อย่าคิดนานนะ คนอ่านน้ำลายยืดรออยู่ o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-08-2010 09:19:33
ความรักของพี่ฉานช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ :o8:
เหอๆ แต่นึกว่าจะมีเลือดกำเดาไหลอไรกันบ้างนะ งุงิ :haun4:
ดูแลพี่เมฆให้ดีๆนะจ๊ะ...แต่พออ่านมุมของเฮียฉานแล้วน่าปลื้มแทนพี่เมฆจริงๆ สามีรักสามีหลงมากอะ :laugh:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้า :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 09-08-2010 09:34:56
โอยจบแล้ว
ขอบคุณคนแต่งมากๆ นะคะ
อ่านจบละยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว

^_________________^

รออ่านตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 09-08-2010 11:05:34
ขำพี่ฉานเนอะ กว่าจะรู้ตัวว่ารัก แต่ก็ไม่นานเนอะ อิอิ  :-[

ว่าแล้วก็รอตอนหน้า บรรดาเมีย ๆ ชิมิ

ปล. เราก็ไม่มีชื่อในป้ายนะ  แต่ไม่เป็นไร มิซีเรียสจ้า  o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 09-08-2010 11:39:19
 :L2:   +1 ค่ะ  รอตอนหน้าอยู่นะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 09-08-2010 13:45:40
คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 09-08-2010 14:04:09
WOW!!!!! :L2:
ตอนพิเศษสมใจ
ตอนพิเศษไปอีกเรื่อยๆได้ป่าว
ไม่อยากให้จบเลยหงะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 09-08-2010 14:28:42
พูดถูกว่า ออกแบบตึก 15 ชั้น ยังง่ายกว่า เขียน NC
อาชีพเราคงต่อจากนี้ คิดราคาตึก 15 ชั้น ยังง่ายกว่าเขียน NC  :jul3:

รออ่าน NC ที่ยากกว่าออกแบบตึก 15 ชั้นอยู่นะ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 09-08-2010 15:23:00
 :-[

รักในแบบของนายฉานเป้นแบบนี้เอง อยากเห็นตอนฉายหึงบ่อยๆ จัง คงลำบากเมฆ แต่คนอ่านชอบอ่ะ 5555

ผูกพัน ไม่มี "ธ์" นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 09-08-2010 16:34:29
รักคู่นี้มากก ทั้งฉานและพี่เมฆ
โอ้ยยย อ่านไปเขิลไปที่สุดจริงๆๆค่ะ
ขอบคุณมากๆๆๆนะคะ สำหรับตอนพิเศษ
มีความสุขมากจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 09-08-2010 17:01:32
 :กอด1: นายฉานแทนพี่เมฆ
ตอนพิเศษมีกี่ตอนจ๊ะ จะเป็นไปได้มั้ยที่เราจะได้อ่านต่อไปเรื่อย ๆ อีกซัก10 ตอน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 09-08-2010 17:44:30
กร๊ากกกก

มีคามสุข

แบบเคลัยได้แล้ว

แต่ก็คิดไว้อยู่ว่าฉานโกรธเมฆได้ไม่นานหรอก

5555+++

ตอนพิเศษนี่ชอบมากกกกรออ่านตอนต่อไปคงสนุกมากมาย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 09-08-2010 18:24:42
รอบรรดาเมียๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 09-08-2010 18:52:15
คู่นี้ยังน่ารักคงเส้นคงวาตลอด

รักทั้งคู่ และตัวละครทุกตัวเลย

ขอบคุณไรท์เตอร์ และ คนโพสต์ด้วยนะคะ

ที่ทำให้มีความสุขกับการอ่านนิยายสนุกๆ

+ ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 09-08-2010 19:22:49
อ๊า ตอนพิเศษของท่านฉานแอบน่า่รัก  :impress2:
รอตอนพิเศษต่อไป คิคิ ขอบคุณนะคะไรเตอร์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 09-08-2010 19:33:28
 :pig4:คร๊าบแล้วจะรอ

ตอนพิเศษตอนต่อไปนะครับ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: raintear ที่ 09-08-2010 19:44:34
โอ๊ยยยยยยยย ไม่ไหวแล้วววววววววว  :-[
ชอบเรื่องนี้มากมาย กรี๊สสสสสส :m3:
ชอบอ่านมุมมองของฉานอ่าาาาาาาา น่ารักนะเนี่ย กิ๊วๆๆ :m12:
รออ่านตอนพิเศษตอนต่อไปคร่าาาา
 o13
 :pig4:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 09-08-2010 19:52:31
ตอนพิเศษตอนแรกน่ารักจังเลยค่ะ
ชอบจริงๆมาเฟียเด็กเนี่ย  :laugh:

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 09-08-2010 20:00:48
ฉานน่ารักมากเลย  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 09-08-2010 20:12:00
เย้ ได้อ่านตอนพิเศษแล้ว

พี่ฉานน่ารักมากๆ ดูแลพี่เมฆดีดีนะคะ (ไม่งั้นเค้าขโมย ฮ่าๆ)

รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 09-08-2010 20:15:19
ได้อ่านมุมมองของผู้กำกับแห่งชาติแล้วซึ้งจังเลยอ่ะ
สำหรับเรานะ โดยเฉาะท่อนสุดท้ายที่บอกว่า รักของท่านฉานไม่มีม่านประเพณีอ่ะ
โดนสุดๆเลย :กอด1: รออ่านตอนพิเศษต่อไปนะจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะจ๊ะ รออยู่นะ NC ที่ไรบอกว่าเขียนยากกว่าตึก15ชั้นอ่ะ
ขอบคุณมากมายก่ายกองเลยจ๊ธ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 09-08-2010 20:33:58
ฉานน่ารักเว่อร์ๆๆๆๆๆๆ

+1 ให้ไรเตอร์ จากใจคร้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 09-08-2010 21:52:49
แสบซ่าเซี้ยวแต่เด็กเลยนะพ่อฉาน
แต่ก็ได้เห็นพัฒนาการความรัก
น่ารักน่าหยิกดีแท้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 09-08-2010 22:52:46
ขอบคุณจากใจคนอ่าน..ชอบมากอ่ะตอนพิเศษ ชอบทั้งเรื่องเลย...เขียนต่อไปเรื่อยได้มั้ยคะ..พี่ฉานน่ารักเว่อร์อ่ะ..555
มอบให้นะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 09-08-2010 23:26:48
เริศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศ
รักครั้งแรก และ รักครั้งสุดท้าย    :-[

รอตอนพิเศษตอนหน้าค่ะ เมียและเมีย  อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 10-08-2010 03:05:34


ในที่สุดก็ลงเอย แฮ็ปปี้ เอนดิ้ง :mc4:

ปรับความเข้าใจกันได้ซ้าาาที

น่ารักจริง ๆ ผัวเมียคู่นี้ อิอิ 

ฉานเจ็บอยู่นะ  :pighaun:

------------------------------

:oni1: ไปอ่านตอนพิเ่ศษก่องงง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 10-08-2010 08:12:20
 อยากจะกรี๊ดดดดดด  :m3:

ฉานน่ารักเวอร์ รักเมีย หลงเมีย ดูแลเมียดีๆ ล่ะ


เพราะอิชั้นก็รักเมีย(แก) หลงเมีย(แก) เหมือนกัน อยากจะไปฉกตัวเมีย(แก) จริงๆ   :laugh:


รอตอนพิเศษ เมีย เมีย 


มอบ  :กอด1: ให้คนแต่ง






หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 10-08-2010 10:41:46
ปลื้มมมมมมมมมมมมมมมม

น่ารักไม่ไหวแล้วค่ะ แต่ยังไงเมฆก็เดอะเบสสำหรับเรามากกว่าอยู่ดี อิๆ

ตอนต่อไปจะมันส์สนุกขนาดไหนน้า~
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 10-08-2010 20:18:58
อารมณ์คุณชายฉาน...มันช่างเข้มข้นดีแท้
เมฆจะลอยไปไหน...ก็ไม่พ้นแสงตะวันอยู่ดี.. o13

กด + ให้คุณชายฉานจอมหวง
 :pig4: คนแต่ง กะ คนโพส นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 10-08-2010 21:22:18
" ตราบใดที่ดวงตะวันยังส่องแสง คุณก็จะมีโอกาสเห็นก้อนเมฆ
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะจับต้องมัน ได้
เพราะก้อนเมฆก้อนนั้น.....มันเกิดมาเพื่อดวงตะวันเพียงดวงเดียวครับ
เมฆ ไม่ใช่ของสาธารณชนที่ไหน......
ของๆผม คนของผม ผมหวง!!!!!!!  "

น่ารักอ่าา า ><
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 10-08-2010 22:35:24
รอคอย อย่างสุดชีวิต ฮ่าๆๆๆๆๆ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 10-08-2010 23:11:11
เข้ามา นั่งรอ นอนรอ ตอนต่อไปคร้าบบบ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 10-08-2010 23:15:09
แหมๆๆ มาเฟียหนุ่มน้อยน่ารักจริง ๆๆ 

ชอบ ๆ

ตอนเด็กฉานน่ารักจริง ๆ มีความคิดแบบนี้นี่เอง

เด็กเอ๋ยเด็กน้อยยยยยยย 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 11-08-2010 13:30:24
ขอบคุณมากมายสำหรับตอนพิเศษนะครับผมตามอ่านรวดเดียวจบแล้วแต่ไม่อยากให้จบเลยในความรู้สึกของผมอ่ะมันเป็นอะไรที่ก่อตัวแบบเล็กๆน้อยๆสะสมไปเรื่อยๆอ่ะครับขาดไม่ได้ยังไงก้ไม่รู้รู้แต่ไม่อยากให้จบเลยเรื่องนี้แล้วก็รอตอนต่อไปอยู่นะครับ ขอบคุณไรเตอร์และคนเอามาลงด้วยนะครับผมขอบคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 11-08-2010 16:54:24
ที่ขอไปเมื่อไหร่จะได้อ่าน เนี่ย  :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 12-08-2010 10:17:04
 :z13:หนึ่งด้วยความคิดถึง
คนแต่งออกแบบตึกยังไม่เสร็จเลยไม่มีเวลามาต่อ
NCมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ :angry2:
เฮ้อ..ไมไม่ถามลูกชายลูกเขยนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 12-08-2010 20:55:32
 :pig4: ขอบคุณคนแต่งและคนโพสต์มากๆเลย อ่านตอนจบแล้ว รู้สึกมีความสุขมากกก นาย ฉานแสง น่ารักเสมอ ถ้าอยู่กับพี่เมฆ ไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลยอะ พูดจริง ๆ :monkeysad: มันสนุกและก็รู้สึกผูกพันไปแล้ว อ่านไปก็ยิ่มไป พี่เมฆ น่ารัก แต่รู้สึกว่า พี่ฉาน เรา น่ารักกว่าาา ....

ตอนพิเศษ รักครั้งแรก ชอบมากๆ พี่ฉานเราน่ารักสุดๆ  อารมณ์ประมาณว่า แอบรักแบบไม่รู้ตัว ค่อยๆซึมซับไปทุกวัน  พี่เมฆนี่ก็ หืมมมมม.... จะน่ารักไปไหน
อ่านแล้วนึกย้อนไปตอนที่พี่เมฆ ขอให้ฉานจูบเลย ในตอนนี้ก็ได้รู้ความในใจพี่ฉานไปและะะ แต่อยากรู้อีกเยอะๆอะ ชอบบบบ

มารอตอนพิเศษต่อไปปปป
ช่วงนี้ เราไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านบ่อยๆ เพราะว่าไม่ว่าง แต่ดีใจที่มีชื่อในป้ายด้วยย ขอบคุณมากค้าบบบ

 :กอด1: ไรเตอร์ และ คนโพสต์ +1 จัดไป งามๆ ให้กับความน่ารักกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 12-08-2010 21:10:38
สงสัยบรรดาเมียๆ พาบรรดาแม่ๆ ไปเที่ยววันแม่รึป่าว

ยังไม่มาซะทีง่ะ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 13-08-2010 21:39:15
ขอดันหน่อยเน้อออ หล่นไปไกลมากล่ะ

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-08-2010 23:30:58
คนเขียนคนโพส ทู้นี้หายไปไหนเนี่ย  :serius2: สงสารคนอ่านจริงๆ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 14-08-2010 11:48:03
เย่ อ่านจบแล้ววววว  :mc4:

สนุกมากเลยค่ะเรื่องนี้ สารภาพว่าเคยเปิดมาดู แต่ไตเติ้ลมันเศร้ามาก เลยทำใจไม่ได้ ปิดไป รอบนี้ ลองอ่านไปตอนสองตอน เลยติดใจอ่านยาวเลย หลายวันเลยค่ะเนี่ย กว่าจะจบ หุๆ

แหม แต่ตอนจบห้วนไปหน่อยนะคะ อยากอ่านเฉลยเหมือนกันว่า ใครยิงพี่ฉาน แล้วไมอาทยอมง่ายจัง ช่วงท้ายตอนจบ  เหมือนแบบเวลาไม่พอ ละครต้องตัดจบเลย อารมณ์ประมาณนั้น หุๆ ถ้ามีบรรยายเหตุการณ์ฝั่งพี่ฉานก่อนจะไปโดนยิงจะดีมาก อิๆ

แต่ชอบตอนพิเศษจัง พี่ฉานก็มีมุมน่ารักกับเค้าเหมือนกันนะ 555


รออ่านตอนพิเศษตอนต่อไปค่ะ ว่าแต่มีใครบ้างเนี่ย เมีย เมีย เนี่ย อุๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 14-08-2010 17:12:45
เมื่อไหร่จะมาซะทีน้าา

รออยู่ค่า

 :m1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนพิเศษ รัก...ครั้งแรก, P.56] 8 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 14-08-2010 17:56:05
เอ้า พอได้อ่านตอนพิเศษของอิพี่ฉาน ก็ได้รู้ว่า จริงๆแล้วพระเอกคนเก่งก็ปอดแหกเหมือนกันละหว่า  :laugh:
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษด้วยนะคะ สนุกสนานมากมาย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 15-08-2010 00:01:28
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนพิเศษรักสนุก.....แต่ไม่ผูกพัน

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

เปิดเพลงประกอบตอน  http://www.youtube.com/v/1itOnMsh-nA?fs=1&amp;hl=en_US


เดคไม้ที่เรียงรายไปด้วยต้นจิกน้ำ ทิ้งช่อดอกแดงอร่ามไปทั่วทั้งคณะศิลปกรรม ลานด้านข้างคณะแห่งนี้ยังคราคร่ำไปด้วยนักศึกษา ที่รวมตัวกันแต่ละชั้นปี พบปะพูดคุยกันตามประสารุ่นพี่รุ่นน้อง สำหรับคณะที่ห่างไกลความเจริญ ในมหาลัยแห่งนี้
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าบ่อยครั้ง กลุ่มคณะสถาปัตย์ฝั่งคลองตรงข้าม จะข้ามสะพานมารวมกลุ่มเฮฮาสังสรรค์

ไม่ใช่สถาปัตย์ไม่น่าอยู่     ไม่ใช่สถาปัตย์ไม่สวยงาม

แต่พอดีหัวใจอยู่ที่หนุ่มศิลปกรรมไปแล้ว
ถาปัตย์จะน่าอยู่ขนาดไหน ก็ต้องข้ามคลองมายึดศิลปกรรมเสมือนเรือนตายอยู่ดี

แต่วันนี้
โต๊ะที่ครื้นเครงที่สุด เฮฮามากที่สุด และเป็นที่สนใจมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นจากรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง
ไม้เว้นแม้แต่คณะอื่นๆ ที่โฉบผ่านมาส่งสายตา ให้หนุ่มหล่อติสแตกแถวนี้  
เสียงหัวเราะเพิ่งจะสิ้นสุดไป เมื่อเป้เข้ากับสมัยนิยมลอยหวือลงมากลางโต๊ะ อย่างกับจับวาง
บรรยากาศมาคุลอยเข้ามาแบบไม่มีใครได้ดูฤกษ์ดูยามไว้ล่วงหน้า
“กินรังแตนที่ไหนมาวะฉาน หรือว่าเมียหาย” ต่อให้คนที่ส่งกระเป๋ามาให้ดูต่างหน้า จะมีสีหน้าแทบจะฆ่าคนได้ด้วยมือเปล่าแค่ไหน
แต่มันก็ยังมีคนยื่นปากเข้าไปหาเรื่องตายอยู่ดี
ถ้าไม่ใช่ไอ้หวาน หนุ่มหน้าโฉดแห่งศิลปกรรม ใครหละจะกล้ากับท่านฉานแสง
แม้หน้าตาจะปฎิเสธไม่ได้ว่า เทพบุตร มีจริงแค่ไหน แต่หน้าตาพ่อเทพบุตรแห่งสถาปัตย์ตอนนี้
ใกล้เคียงกับซาตานชนิดที่แตกต่างจากหน้าตาโดยสิ้นเชิง

วินาทีวิกฤตแบบนี้ ขนาดไอ้แกละ ที่ว่าปากเสียไม่แพ้ใครในถาปัตย์ ยังไม่กล้ายื่นปากไปแซว คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกพี่
แต่ไอ้หวานมันมีมากกว่าคำว่ากล้า ไม่ใช่แค่คำถามเท่านั้นที่ยียวน แต่มันเป๊ะทั้งหน้าตาและท่าทาง ถ้าไม่ติดว่าอารมณ์เสียอยู่ ไอ้ฉานคงเอารองเท้ายัดปากไอ้คนที่กล้าไม่ดูเวร่ำเวลาแล้ว

“เออ “ กระแทกเสียงตอบไปแบบเซ็งในชีวิตสุดๆ
มันจะฉิบหายก็อีตอน เดาสุ่มถามไปแบบไม่คิดว่ามันจะเป็นจริงนี่แหละ
ไม่ใช่แค่คนปากกล้าที่สะดุ้ง แต่มันสะดุ้งกันทั้งโต๊ะนั่นแหละ ....ทั้งตกใจทั้งแปลกใจ

มีด้วยเหรอวะ!!! ที่คนอย่างไอ้ฉาน หวงเมียยังกะจงอางหวงไข่ ปล่อยให้เมียหาย...
เรื่องแบบนี้แปลกที่สุดในสามโลกเลยเหอะ.....

ต่อให้สนใจใคร่รู้ เรื่องคู่รักคู่ดังสะท้านมหาลัยแค่ไหน.......แต่ใครหละจะกล้าลองดีกับท่านฉานแสง
ถึงจะเป็นเพียงแมลงเม่า.....แต่ไฟตอนนี้มันลุกโหมเกินกว่าจะบินเฉียดเข้าไปใกล้เลยเถอะ...แค่โดนอายความร้อนยังตายเลย...
ไอ้คนเมียหายมันฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ใช้ท่อนแขนต่างหมอน...ยังกะจะปิดบทสนทนาเรื่องเมียหายไว้แต่เพียงเท่านี้
คิดดูสิ.....ไอ้เมฆมันเพื่อนไอ้หวานแท้ๆ แต่ไอ้หวานยังไม่รู้เลยว่ามันหาย
แล้วสามีที่อยู่กันคนละฝั่งคลอง มันรู้ได้ไงวะ!!
เสียงถอนหายใจดังขึ้นรอบโต๊ะ รอยยิ้มหวานที่ดูประดิษฐ์อย่างที่สุด ถูกส่งไปให้ หญิงสาวเพียงคนเดียวของกลุ่ม

วันนี้น้อยหน่า สวยที่สุด!!!
(ความจริงมันก็สวยที่สุดทุกวัน......ก็มันเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มนี่..ถึงต้องพิจาณากันนานๆก็เหอะ)
แล้วทั้งโต๊ะก็ต้องหนาวสะท้านไปทั่วสันหลังอีกครั้ง เมื่อไอ้ห้าวของแกงค์ เขย่าแขนไอ้คนที่แกล้งตายต่อหน้าเพื่อนๆ

“เฮ้ยฉาน เป็นไรวะ เมื่อคืนนอนไม่พอเหรอ หรือไม่ได้นอน หรือว่า...เมียหาย!!!!”

ไม่รู้ว่าไอ้แกงค์ถาปัตย์และแกงค์ศิลปกรรมที่มันสมานฉันท์กันตั้งแต่เพื่อนในกลุ่มเกี่ยวดองเป็นผัวเมียกัน กลายเป็นคนขวัญอ่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ อะไรนิดอะไรหน่อยก็สะดุ้ง

ก็มันน่าสะดุ้งน้อยซะที่ไหนหละ....นี่ขนาดมากันคนละเวลา แต่คำพูดคำจาไม่กลัวตาย ยังกับกอปปี้กันมายังไงยังงั้น
วิญญาณที่ออกจากร่างไอ้ฉานไปเมื่อไม่นาน สงสัยจะกลับเข้าร่างอีกครั้ง

“อือ...เมฆมันบอกมึงบ้างป่ะ เรื่องที่จะไปสอนวาดรูปให้ไอ้แสบข้างบ้านไอ้ไม้อ่ะ”

“ไม่ได้บอก แล้วไอ้ไม้มันสอนเมียมันเองไม่ได้รึไง ถึงให้ไอ้เมฆไปสอน เมียมึงสอนคนเป็นด้วยเหรอวะฉาน “ ขอให้ได้กัดสักนิดแขวะสักหน่อย ก็สบายใจแล้วสำหรับไอ้หน่า

“ไม่รู้หวะ เห็นไอ้ไม้บอกว่าสอนกันแล้วจะตีกันตายทุกที กูก็พอจะเข้าใจ แต่ที่กูไม่เข้าใจคือ ทำไมกูติดต่อมันไม่ได้”

“อ่อ คือที่มึงมานั่งทำหน้าหมาหงอยอยู่นี่ เพราะติดต่อเมียมึงไม่ได้ว่างั้น...แล้วมันไปหาไอ้แสบน้องปลื้มนั่นยังไงวะ”

“ไอ้ไม้ไปส่ง”

“อ้าว แล้วทำไมมึงไม่ถามไอ้ไม้ละเฮ้ย....มานั่งทำตาขวางอยู่ทำไม กูก็สงสัยว่าทำไมวันนี้เดคเงียบผิดปกติ เพราะมึงนี่เอง”

“กูรอมันอยู่เนี่ย วันนี้มีพรีเซ็นต์ ยังไม่ลงมาจากตึกเลย ความจริงถ้ากูไม่ติดว่าต้องพรีเซ็นต์เป็นคนแรกๆนะ กูไปส่งเองแล้ว แมร่ง ทำตัวน่าสงสัยตั้งแต่เมื่อเช้าแระ”

“ยังไงวะ....หรือว่าเมียมึงทำตัวมีลับลมคมใน หรือว่ามันเสน่ห์แรงมีคนมาชอบอีกวะ “

“ไม่รู้หวะ แต่หลังๆมานี้ชอบมีโทรศัพท์มาดึกๆ แล้วมันชอบปลีกตัวไปคุยคนเดียว มึงว่าน่าสงสัยมั้ยหละ”

ทุกคนชินแล้ว!!
 มีอยู่เรื่องเดียวที่มีผลต่อสภาพอารมณ์เทพแห่งสถาปัตย์ได้ คือเรื่องไอ้เมฆนี่แหละ ทั้งๆที่มันก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา จะห่างกันก็แค่ตอนเรียน ทั้งๆที่มันเรียนรู้กันมาตั้งสิบห้าสิบหกปี แต่ถ้าเป็นเรื่องของไอ้เมฆ สาวห้าวที่ไม่เคยมีความรักอย่างน้อยหน่า ยังสงสัยไม่หาย ไอ้เมฆมันดื้อเงียบ หัวรั้น และปากเสียจะตาย ทำไมไอ้ฉานยังไม่ชิน!!!

ถึงจะยอมรับแต่ไม่เคยพูดให้เจ้าตัวดีใจ ว่าไอ้เมฆมันหน้าตาดี ทั้งสาวทั้งหนุ่มถึงได้แวะเวียนมาถูกอกถูกใจไข่ในหินของไอ้ฉานนักหนา แต่หลายครั้งที่น้อยหน่า ออกความเห็นว่า เค้ามาชอบไอ้เมฆก็ให้ชอบไป เดี๋ยวพอเค้ารู้ว่าไอ้นั่นมีดีแค่หน้าตาอย่างเดียว แต่ปากร้ายยังกะอะไร เค้าก็หายกันไปเอง
แผนนี้ไม่เคยได้ผล
ไอ้ฉานมันฟังซะที่ไหน ขอแค่รู้ว่ามีใครมาสนใจไอ้เมฆ แค่เพียงแสดงออกว่าสนใจ แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร ก็มีอันต้องถอยทัพกลับไปแทบไม่ทัน ทั้งชายทั้งหญิงนั่นแหละ ไอ้ฉานมันตัดไฟยังแต่เค้ายังไม่ทันจะราดน้ำมัยเลยด้วยซ้ำ..........ทุกคนชิน แต่ที่ไม่ชินคือ เวลาที่ไอ้เมฆมันออกนอกลู่นอกทางทีไร เพื่อนๆต้องลุ้นกันแทบหายใจไม่ทั่วท้องทุกทีว่าไอ้ฉาน จะระเบิดลงแบบไหน  แล้วสะเก็ดระเบิดจะกระเด็นลงที่ใครรึเปล่า

“มึงไม่เชคโทรศัพท์มันหละ ทำยังกะมึงไม่เคย”
“เชคแล้ว แต่มันรู้ทัน มันโทรเสร็จแล้วมันลบหวะ พอกูคาดคั้นก็มางอนกูอีก หาว่ากูจ้องจับผิดมัน ทั้งๆที่กูโกรธ แทนที่มันจะมาง้อ กลายเป็นกูต้องตามง้อมันซะงั้น”
ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าไอ้ฉานดี...
ความจริงแล้วใครๆก็รู้ว่าไอ้คู่นี้มันรักกันด้วยพันธะที่เหนียวแน่นที่สุด
มันไม่ใช่คู่เกย์ที่รักสนุกกันไปวันๆ ตามอารมณ์ชั่ววูบ มันไม่ได้เป็นเกย์มาเพราะว่าแฟชั่นหรือเกิดมาเป็นแบบนั้น แต่คนอื่นยัดเยียดคำว่าเกย์ให้มัน เพียงเพราะ มันสองคนเป็นผู้ชายที่รักกันแบบคนรักเท่านั้น
ไอ้ฉานก็แมนแสนจะแมน แถมเก่งและเทห์ จะว่าเพอร์เฟคเลยก็ได้
ส่วนอีกคนก็ พยายามจะแมน จริงๆแล้วมันก็แมน แต่มันเสือกไม่มั่นใจ มันเลยพยายามแสดงออกเป็นพิเศษ ไม่คิดว่าการที่มันตกอยู่ในสถานภาพรับถาวร และใครๆก็เรียกมันว่าเมียไอ้ฉาน จะทำให้มันเสียความมั่นใจขนาดนี้
แต่การแสดงออกของไอ้เมฆก็น่ารักดี...เพื่อนๆเลยขยันแซว

ไม่ใช่ไอ้ฉานคนเดียวที่หน้าบูด ไอ้คนแก่ที่กินเด็กหัวเกรียนข้างบ้านไปหมาดๆ ก็บูดไม่แพ้กัน ไอ้ไม้เดินข้ามสะพานมาฝั่งที่ทุกคนนั่งกันอยู่หน้านิ่วคิ้วขมวด รุ่นน้องที่เดินสวนไปจะยกมือไหว้ยังต้องยั้งมือแล้วเดินสวนไปแบบไม่กล้าสบตา คงกลัวรุ่นพี่อมหัว มองแล้วก็น่าสงสาร แล้วก็แปลกใจ
ทำไมเพื่อนๆที่มีครอบครัวถึงได้อารมณ์เสียพร้อมกันแบบนี้วะ แล้วนี่ไม่ใช่เอาระเบิดมาลงที่ศิลปกรรมอีกคนนึงหรอกนะ......ดีแล้วที่คนอย่างน้อยหน่าไม่อยากจะมีแฟน

“เฮ้ยฉาน กูว่ามึงมีผู้ร่วมชะตากรรมแล้วหวะ” เสียงไอ้แกละร้องบอกพร้อมส่งสายตาไปหาเป้าหมาย ที่ตอนนี้เดินมาหยุดตรงโต๊ะที่นั่งรวมกันแบบพอดิบพอดี

“ฉานมึงติดต่อเมฆได้มั้ยวะ” ไอ้คนถูกถามไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ส่ายหน้าเซ็งๆ

“มึงก็ติดต่อไอ้เมฆไม่ได้เหรอ เออ ให้มันได้แบบนี้ดิ กูติดต่อตี่ตี้ไม่ได้เหมือนกัน ทำตัวน่าสงสัย” ไอ้คนที่เมียเด็กหายก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งเชียว ตอนแรกก็ปากแข็งทำเป็นไม่ได้คิดอะไรกับไอ้เด็กเกรียน แต่ที่ไหนได้ ไม่ได้สนใจแต่ก็กินลูกเค้าไปทั้งตัวแล้ว ที่สำคัญไอ้คนที่บอกว่าไม่ได้สนใจ มันกำลังหัวเสียเพราะติดต่อไอ้แสบเกรียนข้างบ้านไม่ได้อยู่ไม่ใช่รึไง....

ถ้าไม่ติดว่ามันกำลังอารมณ์เสียอยู่ ก็อยากจะขากถุยใส่สักทีสองทีเหมือนกันนั่นแหละ

“เฮ้ยๆ....นี่เมียพวกมึงพร้อมใจกันเหลวไหลเลยเหรอวะ “ คราวนี้เป็นไอ้ไผ่ ที่เกิดความสงสัยขึ้นมา

“แล้วมึงเอาเมฆไปส่งหาเมียมึงที่ไหน” ทุกคนพร้อมใจกันเงียบแต่ขยายใบหูเพื่อการรับฟัง ปล่อยให้คนเมียหายสองคนเค้าปรึกษากันไป

“เซ็นลาด กูยังไม่ทันจะถามว่าไปสอนกันที่ไหน รถคันหลังก็เสือกกดดัน กูเลยต้องรีบออกมา กะว่าค่อยโทรถาม ที่ไหนได้ ติดต่อไม่ได้เลยแมร่ง”

“เดี๊ยวคงมีใครติดต่อกลับมาเองแหละมั้ง “ ไอ้ยอนออกความเห็นอย่างคนที่มองโลกในแง่ดี จริงๆแล้วเรื่องแบตหมดแล้วติดต่อไม่ได้เป็นเรื่องปกติจะตาย ใครๆเค้าก็เกิดภาวะแบบนี้ได้

“ติดต่อมาเอง แล้วมันตอนไหนหละ กูว่านะ เรื่องติวนี่ข้ออ้างชวนกันไปเหลวไหลแน่ๆ” เห็นมั้ยบอกแล้ว กับคนอื่น นี่อาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่มันใช้ไม่ได้กับไอ้คนเมียหายสองคนนี้แน่ๆ เพราะตอนนี้พวกมันใช้ความคิดชนิดที่ว่า รอยย่นตรงหัวคิ้วจะพันเกลียวกันได้อยู่แล้ว

“เฮ้ยยยยยยยยยย ไอ้ฉาน ฉิบหายแล้ว ใช่แน่ๆ กูว่านะ แมร่งเอ้ย”
“มึงขยายความดีๆ ไอ้ไม้ฉิบหายอะไร มึงพ่นมาแค่นี้ จะมีใครเข้าใจกะมึงมั้ย”
“ก็คืนก่อน เพื่อนตี่ตี้โทรหา แล้วคุยกันถึงผับเกย์แถวรัชดา เห็นบอกว่าเป็นผับที่รวมรวมเกย์วัยมัธยมปลายและวัยมหาลัยตอนต้น ดูท่าทางตี่ตี้จะสนใจ เห็นช่วงหลังๆชอบบ่นอยากรู้ว่าเกย์เค้าใช้ชีวิตกันยังไง จะอะไรกันนักหนาวะ จะอยากรู้ไปทำไม ก็กูบอกแล้วว่าเกย์จะใช้ชีวิตยังไงก็ช่างแม่ง แต่ให้มันใช้ชีวิตเหมือนเดิมก็พอ” แลดูไอ้ไม้จะหัวเสียไม่น้อยพอบ่นมาถึงตอนนี้

“แล้วเกี่ยวอะไรกับเมียกูวะ” นั่นสิ เพื่อนๆทุกคนในโต๊ะก็เสือกทำหน้าอยากรู้ขึ้นพร้อมกัน แล้วไอ้เมฆผู้มาดแมนเกี่ยวอะไรด้วยวะ

“เมียมึงคงอยากรู้จักชีวิตย์เกย์รับยุคใหม่ จะได้เอาไว้มัดใจมึงมั้ง “

“มึงแน่ใจเหรอไม้ ว่าอย่างไอ้เมฆมันอยากจะได้เทคนิคมัดใจ กูว่าแค่มารยาร้อยเล่มเกวียนที่มันขยันงัดออกมาใช้เนี่ย กูว่าก็ติดทอปเท็นในแดนสยามแล้วนะ” ไม่ใช่ไอ้ฉานหรอกที่พูดประโยคนี้ แต่เป็นไอ้หน่า ผู้จัดการส่วนตัวที่รู้ดียังกะอยู่ใต้เตียงต่างหากหละ

“หรือว่าเมียมึง อยากพิสูจน์อะไรอีกรึเปล่าวะฉาน เมียมึงยิ่งขยันสงสัยอยู่ คงอยากเป็นนักวิจัยหรือไม่ก็นักวิทยาศาสตร์” ไอ้หวานออกความเห็นได้น่าสนใจ

“นั่นดิ ไม่ใช่ว่ามันพิสูจน์เรื่องที่พวกเราชอบแซว ว่ามันอ่ะมีเสน่ห์ต่อเพศผู้ด้วยกันนะเว้ย พอพวกกูแซวเรื่องนี้ทีไรชอบทำหน้าประหลาดใจทุกที ทั้งๆที่ผัวมันก็เป็นผู้ชายด้วยกันแท้ๆ พอกูแซวว่ามีเสน่ห์กับพวกผู้ชาย เสือกทำหน้าแปลกใจใส่กู”
“แล้วพิสูจน์ ด้วยการพาตัวเองไปอยู่ในดงเกย์เนี่ยนะ แล้วไอ้เมฆมันรู้มั้ย ว่าเกย์อะเค้าถึงเนื้อถึงตัวกันแค่ไหน ไม่ใช่พอใครมาแตะเนื้อต้องตัว หรือมีท่าทีเข้าไปสนใจ แล้วมันโวยวายพังผับเค้านะเว้ย” เออ เจริญมากเพื่อนแต่ละคน ออกความเห็นกันแบบไม่กลัว ไอ้เมียหายสองคนจะอกแตกตายกันเลยทีเดียว

“มึงเอาไงวะฉาน มึงคิดว่าไง” ไอ้ไม้เริ่มหน้าซีดไปกับความเห็นของเพื่อนๆแล้วตอนนี้

“ก็ไม่ไง ก็รอเวลาแล้วก็ตามไปสิ หรือมึงจะปล่อยเมียมึงให้ไปเผชิญชะตากรรมเองหละ “

“ไม่ได้เว้ย เมียกูไม่ใช่ของสาธารณะนะ แล้วเห็นมันแสบๆแบบนั้น จริงๆแล้วมันรู้ไม่เท่าทันใครเท่าไอ้เมฆนะเว้ย”

“เออ งั้นมึงก็สืบมาให้ได้ ว่าร้านที่เพื่อนเมียมึงบอกชื่ออะไร”

“กูได้ยินว่าอยู่รัชดา ซอยแปด ร้านชื่อจีอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ กูได้ยินไม่ชัด ไม่แน่ใจ ไม่อยากให้มันรู้ว่ากูแอบฟัง เลยไม่ได้สนใจอะไรมาก”

“แค่นี้ก็เยอะพอแล้ว นี่ขนาดไม่ได้สนใจอะไรมากนะเนี่ย ไอ้ปากแข็ง”

“เออ แล้วมึงรู้เหรอว่าร้านไหน”

“ไม่รู้เว้ย แต่ค่อยไปถามแถวนั้นเอาก็ได้”

“แล้วถ้าแถวนั้นมันมีร้านชื่อออก จีๆ หลายร้านจะทำไงวะ”
“ก็ชวยไปสิ ทำไงได้ มึงกะกูก็ต้องฝ่าฝูงเกย์ไปตามหาเมีย เป็นไงมึง เร้าใจดีมั้ย” เพื่อนๆนี่ลุ้นกันจนตัวโก่ง แต่ไอ้ไม้ทำหน้าแหยงเมื่อรู้ว่าอาจจะต้องเปลืองตัวให้ฝูงเกย์แทะโลมทางสายตา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 15-08-2010 00:02:00
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไอ้เมฆกับไอ้เกรียนตัวแสบโดนสามีมันจัดหนักแน่ๆ.......
ขอให้โชคดีนะทั้งเพื่อนทั้งสะใภ้นั้นหละ
พวกกูไม่มีใครกล้าเสียงเอาชีวิตเข้าไปช่วย......มึงซวยด้วยตัวของตัวเองแท้ๆ

“กูต้องสแตนด์บาย ไปประกันตัวมึงกับไอ้ไม้ออกมามั้ยวะฉาน” ความหวังดีของไอ้หน่า มันน่าหาอะไรยัดปากจริงๆ
“ไม่ต้องหรอกหน่า มึงสแตนด์บายพยุงเพื่อนรักมึงมาเรียนให้ไหว จะดีกว่ามั้ย” ไม่มีมุขไหนที่เรียกเลือดมารวมตัวกันที่ใบหน้าไอ้หน่าได้ เท่ากับมุขนี้อีกแล้ว ถึงมันห้าวแค่ไหน แต่ยังไงๆ มันก็ยังอายเหมือนผู้หญิงแหละวะ

รัชดาซอยแปดที่ว่า มันมีแต่ผับตั้งอยู่ทั่วทุกตารางซอย ไอ้สองคนที่เมียหาย ถึงกับอยากจะเอามือก่ายหน้าผาก
เพราะไม่คุ้นเคยพื้นที่ จึงไม่มีใครเอารถมา ใช้บริการแท็กซี่ล้วนๆ แล้วตอนนี้ได้แต่มองตากันเอง เพราะไม่รู้จะไปพึงใคร
สายตาทั้งคู่ได้แต่มองมุมสูง หาป้ายผับที่มีคำว่าจีอยู่เท่านั้น จนมาสะดุดกับป้ายผับที่คิดว่าน่าจะใช่เป้าหมาย “จีสตาร์”
ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเป็นแหล่งรวมของอะไร กว่าจะเจอไอ้ผับที่ว่าได้ก็เล่นเอาเหงื่อท่วม เป็นผับที่น่าค้นหาจริงๆ
เพราะแมร่งเล่นตั้งอยู่ซะเกือบสุดซอยเลยไอ้ฉิบหาย!!!....
 ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเมียตัวแสบ จ้างให้ ไอ้ฉานและไอ้ไม้จะไม่มีวันมาเหยียบเด็ดขาด
ผ่านด่านตรวจบัตรประชาชนมาได้ ก็ต้องหงุดหงิด แทบอยากจะออกไปกระทืบไอ้การ์ดหน้าร้านให้หายเจ็บใจ
มันจะตรวจบัตรประชาชนหาอาม่าไปทำไม ในเมื่อพอเข้ามาข้างในได้ ไอ้หัวเกรียนๆสลับหัวตั้งๆที่เห็น
มองเท่าไหร่ๆ ก็ไม่เห็นว่าจะมีคนไหนที่อายุพอจะเข้าผับได้เลยสักคน
เสียงเพลงฮิตตามสมัยนิยม ทั้งเพลงฝรั่ง เพลงไทย เกาหลี ญี่ปุ่น ถูกเปิดแบบไร้สไตล์ คือเพลงไหนดังกูก็เปิดเพลงนั้น
ไม่ใช่ว่าไม้หรือฉานจะแก่เกินไปสำหรับเพลงพวกนี้ แต่กลุ่มพวกเขาชอบนั่งร้านที่เปิดเพลงคลอเบาๆเอาบรรยากาศมากกว่า ไอ้เสียงที่เปิดดังซะจนปวดตุบๆที่หน้าอกอยู่แบบนี้ จะพูดคุยกันแต่ละทีก็ตะโกนกันซะจนลูกกระเดือกจะกระเด็นออกมาข้างนอกอยู่แล้ว ไหนจะแสงไฟที่สาดไปมาเล่นเอาตาพร่าลาย ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าผับพวกนี้มีดีอะไร
กำลังสอดส่ายสายตามองฝ่าดงเด็กผู้ชายหน้าขาว แต่ละคนแต่งตัวยังกะเดินออกมาจากหนังสือแฟชั่น
เด็กในร้านก็มาถามว่าจะสั่งอะไรกว่าจะสื่อสารกันเข้าใจว่ามาตามหาคน ก็เล่นเอาไอ้คนใจร้อนแทบจะพังร้าน
หลายคนส่งสายตามองมาด้วยความสงสัย บางคนก็ส่งสายตาที่สื่อถึงความหมายว่าต้องการอะไร
ไอ้ห่า.....ขนลุกซู่  
รู้ว่าหล่อแต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาบริหารเสน่ห์
ไอ้ฉานและไอ้ไม้ถึงได้ปั้นหน้าให้รู้ว่าหงุดหงิดและไม่พร้อมจะเป็นมิตรกับเก้งกวางบ่างกระเทยที่ไหน ถ้าใครที่ยังไม่เข้าใจความหมายที่สื่อออกไปทางสายตานี้  ไทยรัฐหน้าหนึ่งเตรียมพาดหัวข่าวกระเทยควายดับอนาถ เพราะมาขวางทางเทพบุตรหน้าตาดีที่มาตามหาเมียในผับเกย์ แน่ๆ
ข้อศอกกระทุ้งแรงแทนคำพูด สายตาส่งไปหาเป้าหมาย โต๊ะหลบเสาอยู่ข้างเวที ถือว่าทำเลดีสำหรับคนที่หนีมาแบบที่มีอีกสองชีวิตพลิกแผ่นดินตามหากันเหมือนคนบ้าแบบนี้ ภาพที่เห็นตรงหน้าแทบจะทำให้ไฟเผาลุกไหม้ดวงอาทิตย์

โต๊ะเล็กๆที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทดสอบกำลังตับ มีผู้ชายหน้าตาดียืนโยกย้ายส่ายสเตปอยู่สามสี่คน หนึ่งคนคุ้นตากำลังชงเหล้าอย่างชำนาญ ไอ้ฉานไม่แปลกใจหรอกเรื่องเมฆชงเหล้า เรียกได้ว่าชงกันจนชำนาญ ชงเหล้าแค่นี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติของเมฆเลยก็ว่าได้ ไอ้ตัวดีมันเคยชงแบบ 4x100 มาแล้วด้วยซ้ำ
 แต่ที่ทำให้หงุดหงิดหัวใจก็เพราะคนที่ไอ้ฉานอุตส่าห์พลิกแผ่นดินตามหากำลังพูดคุยอยู่กับไอ้หน้าปลาจวดที่แน่ใจว่าไม่เคยรู้จัก ส่วนเด็กไอ้ไม้ ก็ดูจะตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศและได้ร่ำสุรา ตามประสาเด็กดีที่พ่อแม่เข้มงวด
ฟันกระทบกันดังกรอด เมื่อไอ้หน้าปลาจวด มันก้มหน้าลงไปคุยกับเมียรักไอ้ฉานจนหน้าแทบจะชิดแก้ม
แค่ยืนใกล้ก็บังอาจมากพออยู่แล้ว นี่ยังทำอะไรที่ทำให้แมกม่าในร่างกายไอ้ฉานระเบิดออกมาเป็นลาวาได้ง่ายๆ
สองเท้าแหวกฝ่าฝูงเกย์ สองมือประชิดตัวเป้าหมาย ออกแรงกระชากไม่มีการยั้งมือ สายตากราดเกี้ยวสาดไปมาทั่วทั้งโต๊ะ
สายตาที่สะกดทั้งโต๊ะให้นิ่งเหมือนถูกสาป เพราะอ่านสายตานั่นได้.......เงียบไว้ถ้าไม่อยากตาย!!!
ในเมื่ออ่านสายตาที่สื่อออกมาได้ขนาดนั้น.....แล้วใครกันมันจะกล้าเสี่ยง
สถานการณ์แบบนี้ใครๆก็ย่อมรู้ดีว่า เรื่องในครอบครัว คนนอกอย่าแส่!!

ไอ้ตัวดีถูกยัดเข้าแท็กซี่ ไอ้ฉานถึงได้ยอมปล่อยมือที่อุดปากเมียรักเอาไว้ ถึงแม้คนอย่างไอ้ฉานจะไม่สนใจใคร แต่ก็มีมารยาทพอที่จะต้องป้องกันเอาไว้ เผื่อไอ้เมฆโวยวายกลบเกลื่อนความผิด ไม่ได้สนใจว่าไอ้ไม้จะจัดการกับเด็กแสบข้างบ้านมันยังไง วิธีการนั้นไอ้ฉานไม่รู้ แต่คิดว่าขั้นตอนการจัดการ คงไม่ต่างที่จากที่เขาจะทำกับไอ้ตัวดีข้างๆสักเท่าไหร่

เงียบ!!! ทั้งคนตามและไอ้คนที่โดนจับได้
คนหนึ่งกำลังสงบสติอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
อีกคนกำลังตกใจจนไร้สติ......ที่นิ่งไม่ใช่กำลังใช้ความคิด แต่กำลังช็อค!!

ตอนไปตามก็กระชากอีกคนหนึ่งออกมา แต่พอกลับมาถึงหอ คนไปตามกลับเดินนำหน้า ส่วนไอ้คนที่ถูกจับได้ว่าหนีไปเหลวไหล ได้แต่ก้มหน้าเดินตามไปเกาะชายเสื้อ  ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็เดินตามไปทั้งๆที่มือยังเกาะชายเสื้ออีกฝ่ายนึงแน่นนั่นแหละ

ปัง!!!!



เสียงปิดประตูไม่น่าตกใจเท่าเสียงเย็นเยียบของไอ้ฉาน

“มีอะไรจะพูดมั้ย.....ให้โอกาสนะ ก่อนที่จะไม่ได้พูดเลยทั้งคืน” คำขู่ไม่น่ากลัวเท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ที่ทำให้ตัวสั่นคือสายตาที่มองมาต่างหากหละ
“ ก็ ก็ ขอโทษ งัย ขอโทษนะ”
“ขอโทษเรื่องอะไร มึงทำอะไรผิดเหรอเมฆ”
“ก็เรื่องที่ทำตัวเหลวไหล”
“อ้อ ตกลงมึงรู้ตัวนี่ ว่าเหลวไหล....แล้วคำขอโทษนี่ รวมที่มึงโกหกกูด้วยรึเปล่า”
“กูโกหกมึงเรื่องอะไร  กูไม่ได้โกหกอะไรมึงนะ แค่กูไม่ได้บอกมึงเรื่องไปที่นั่นเฉยๆ”
“เรื่องที่มึงต้องไปสอนเด็กไอ้ไม้กับเพื่อนๆไง แล้วสอนกันอีท่าไหนถึงไปยืนอมหูกันอยู่ในผับได้”
“อมหูอะไร มึงใส่ความกูนะ ก็เพื่อนน้องปลื้มมากันไม่ครบ ก็เลยยกไปไว้โอกาสหน้า ส่วนเรื่องไปร้านนั้น น้องเค้าอยากจะขอโทษที่นัดกูไปเสียเวลา ไม่มีอะไรเลยจริงๆ”นะ
“แล้วที่อื่นมันใช้ขอโทษไม่ได้หรือไง ทำไมต้องเป็นที่นั่น ทำไมต้องเป็นผับเกย์ “
“ ก็ ก็”
“ก็เพราะมึงอยากรู้ ว่าเกย์เค้าใช้ชีวิตกันยังไง”
“ก็เออ เฮ้ยยยยยยยยย ทำไมมึงรู้หละ” โดนคนรู้เท่าทันถึงกับต้องก้มหน้าหรุบตาต่ำมองพื้นกันเลยทีเดียว
“แล้วนี่ ไม่ใช่เพราะมึงอยากไปพิสูจน์ว่ามึงมีเสน่ห์กับผู้ชายด้วยกันหรอกนะ”
“ไม่ใช่ กูไม่ได้คิดอะไรบ้าๆแบบนั้น หรอกน่า ก็เห็นใครๆบอกว่า ความรักของผู้ชายกับผู้ชายหนะ เป็นเพียง รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน อะ มึงเข้าใจมั้ย กูก็เลยอยากรู้ว่าเป็นยังไง แค่นั้นเอง”
“อยากรู้แค่นี้ ทำไมไม่บอกกู แล้วหนีไปกันเองแบบนี้ ถ้าโดนลากไปทำอะไร มึงจะทำไงเนี่ย”
“บอกมึง เดียวมึงก็หาว่ากูไร้สาระหนะสิ”
“ก็ใช่ มึงนี่อยากรู้อะไรที่ไร้สาระ แล้วตกลงรู้รึยัง ว่ารักสนุกแต่ไม่ผูกพัน รักแบบเกย์ๆที่มึงได้ยินมาเป็นยังไง”
“ ก็ยังไม่ทันจะรู้ห่าอะไรทั้งนั้นแหละ โดนมึงทำหน้ายักษ์ใส่ แล้วก็ลากกูออกมาเนี่ย จะไปทันได้รู้ได้เห็นอะไรหละ”
“นึกว่ารู้แล้ว ว่าจะถามว่าเหมือนคู่เรามั้ย”
“จะไปเหมือนได้ไงหละ ก็มึงกะกูไม่ได้เป็นเกย์”
“แต่ผู้ชายกับผู้ชายรักกัน เค้าเรียกว่าเกย์ ถ้ามึงกับกูไม่ใช่ แล้วจะเรียกว่าอะไร” มันจะอะไรนักหนาวะ กะแค่คำว่าเกย์ ไม่ได้ไปลดทอนความแมนแบบห้าวๆของมันตรงไหน
“อย่างมึงกับกูเหรอ เค้าเรียกว่า “คู่ชีวิต” ไงฉาน มึงคิดว่าไง กูพูดถูกมั้ย”
“เออ มึงพูดดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพูดดีแล้วจะลบล้างความผิดที่มึงทำไววันนี้ได้นะ”
“อ้าว ตกลงนี้มึงโกรธกูจริงๆเหรอ โกรธกูลงรึไง มึงใจร้ายกะกูได้เหรอ”
“พอๆ เมฆ กูยังโกรธไม่หาย มึงเกือบจะปล่อยให้ไอ้หน้าปลาจวดนั่นอมหูต่อหน้ากูอยู่แล้วนะ”
“เพลงมันดังนี่ ถ้าไม่คุยกันใกล้ๆ ก็ไม่ได้ยิน เออๆ กูขอโทษก็ได้ เอาเป็นว่ากูผิด แล้วกูต้องชดใช้ไถ่โทษยังไง”
“ แล้วมึงคิดว่าตัวเองต้องทำไงหละ”
“จูบไถ่โทษก็ได้ โอเคมั้ย”
“แค่จูบเองเหรอ มึงลงทุนน้อยไปหรือเปล่า “
“แล้วมึงจะให้กูทำยังไงหละ ถึงจะไถ่โทษได้”
“นั่นสิ ถ้าคืนนี้ มึงไม่ได้นอนสักคืน กูยังไม่รู้เลยนะ ว่าเช้าขึ้นมากูจะหายหงุดหงิดมั้ย อาจจะต้อง”
“สงสารกูบ้างเหอะฉาน มึงทำโทษกูทีไร กูถึงกับเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหลายวัน ถ้าถึงกับกูไม่ได้นอนนี่ วันรุ่งขึ้นกูคงเดินเหมือนตอนเสียตัวครั้งแรกเลยมั้ยเนี่ย!!”
“เดินไม่ไหวก็ไม่ต้องเดินสิ”
“แล้วกูจะไปเรียนยังไง”
“นอนกอดกันอีกสักวัน ไม่ไปเรียนวันเดียว มึงคงไม่โง่ลงหรอกมั้ง หรือมึงว่าไง”
“กูจะว่าไรได้ กูแย้งมึงไป ยังกะมึงจะยอมกูงั้นแหละ”
“แสดงว่ามึงจะร่วมมือกับกู ที่กำลังจะทำโทษมึงใช่มั้ย”
“ก็เรื่องที่มึงจะทำโทษกันต้องร่วมด้วยช่วยกันถึงจะสนุกไม่ใช่รึไง”
“อืมม....ก็ฟังดูดีนะ แล้วมีอะไรพิเศษกว่านี้มั้ย เผื่อกูจะใจดีลดโทษให้”
“จริงๆนะ ถ้ากูทำตัวดี มึงต้องลดโทษให้”
“เอาเป็นว่าจะรับไว้พิจารณา แต่ว่าไม่รับปากนะ ของอย่างนี้มันต้องพิสูจน์”
“งั้นก็อยู่นิ่งๆสิ”
“ทำไมหละ”
“กูจะได้พิสูจน์สักทีไง”

ที่เงียบไปไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ ก็ปากไอ้ฉานหนะโดนผมปิดไปด้วยปากผมซะแล้ว
มือไอ้ฉานก็ไม่ว่างพอที่จะทำอะไรผมได้ มันกำลังปลุกและปั่นอาวุธของผม มาต่อสู้กับอาวุธมันที่แข็งสู้อยู่ในมือผม
ห้องเย็นเฉียบแต่อารมณ์เราทั้งคู่กำลังเร่าร้อน
 ไอ้ฉานครางลั่นบิดตัวหนีจนผ้าปูที่นอนยับย่น เมื่อผมครอบครองดาบของมันไว้ด้วยปาก ปลายลิ้นผมวนเล็มไล้ไปรอบๆปลายดาบ มันคงเสียวจนทนไม่ไหวถึงได้ปล่อยน้ำใคร่เหนียวใสออกมาไม่ขายสาย ยิ่งปล่อยออกมาเท่าไหร่ ผมก็ดูดกลืนเข้าไปทั้งหมด ยิ่งมันร้องครางพร่าสั่นเท่าไหร่ ผมก็จงใจทั้งกระหวัดปลายลิ้นเลียจากโคนถึงปลายยอด ก่อนจะอมปลายดาบไว้ แล้วดูดเป็นจังหวะ
เสียงครางลั่นบ่งบอกว่าถ้าผมยังทรมานมันให้เสียวซ่านอยู่แบบนี้ อีกไม่กี่นาทีข้างหน้ามันเสร็จคาปากผมแน่ๆ มือมันปะป่ายไปทั่วทั้งร่างกายผมเหมือนหาที่ยึดเหนี่ยว สุดท้ายมือมันก็ยึดปลายดาบผมเอาไว้ ก่อนจะปั่นให้เป็นดาบคู่ที่เหมาะสมสำหรับการฟาดฟันของศึกครั้งนี้
ผมต้องสะดุ้งเฮือกเพราะความเสียวซ่านที่มันแล่นริ้วไปทั่วทั้งไขสันหลัง เมื่อไอ้ฉานเปลี่ยนฝ่ายมาเป็นผู้นำทัพ ดาบมันยังอยู่ในปากผม คงจะเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้ มันเลยต้องกลับตัวไปอมดาบผมไว้เหมือนกัน ชั้นเชิงที่ผมใช้ทำร้ายเรียกเสียงครามย่ามใจเมื่อกี้นั้น ถูกมันเอาคืนกลับไปเกินเท่าตัว มันรัวลิ้นใส่ปลายดาบก่อนจะลากยาวจากปลายถึงโคน ความเสียวทำให้ผมเผลอดูดดาบมันแบบไม่คิดชีวิต เสียงครางปล่อยออกมาทั้งๆที่มีดาบมันขวางกั้นเอาไว้ ผมไม่รู้เลยว่ามันจะยิ่งเร่งปฎิกริยา ให้ไอ้ฉานยิ่งละเลงลิ้นกับดาบผมมากขึ้น ถี่ขึ้น ความเสียวมันพุ่งสูงจนแทบจะทนไม่ไหว มันทนได้
แต่ผมทนไม่ไหว น้ำรักถูกฉีดลงไปเต็มคอ จนไอ้ฉานต้องปล่อยดาบผมให้เป็นอิสระ ก่อนจะกลืนกินน้ำรักของผมลงไป  แววตาที่มองมาเปี่ยมความหมายจนต้องหลบเพราะว่าอาย
ตัวผมถูกไอ้ฉานดึงขึ้นมานั่งประจันหน้ากัน เสื้อถูกถอดยังไม่ทันจะพ้นจากปลายแขน ยอดอกผมโดนละเลงจนแข็งเป็นไต เสียงร้องครางสั่นพร่าเหนือการควบคุมของผมดันไปกระตุ้นให้ทั้งปลายลิ้นทังฟันสามัคคีกันทำรอยไว้ทั่วทั้งบ่ากว้าง ลามซุกไซร้ไปทั่วทั้งซอกคอและใบหู อารมณ์หวามไหวกลับเข้ามาอีกครั้ง ปากประกบแลกลิ้นกันเร่าร้อนไม่มีใครยอมใคร มือไอ้ฉานละจากการลูบไล้ไปตามตัวมาปลุกปั่นดาบผมให้พร้อมออกรบอีกครั้ง
“พร้อมรับโทษแล้วนะ” เสียงที่จะควรจะกราดเกรี้ยวดุร้ายกลับแหบพร่าสั่น
ผมถูกไอ้คนชำนาญการด้านการลงโทษ จับให้นอนคว่ำคุกเข่า
สองขาถูกจับแยกออกจากกัน จนกว้างพอที่แม่ทัพจะส่งลิ้นเข้าไปสำรวจสมรภูมิรบได้
ลิ้นชิ้นแตะรอบๆขอบสนาม บางครั้งก็ส่งปลายลิ้นลงไปทักทายกระสุนปืนใหญ่สองลูก ที่อยู่ใต้ประตูเมือง เสียงครวญครางแหบพร่า กระตุ้นให้ปลายลิ้นแหย่เข้าไปในประตูเมืองคับแคบ ริมฝีปากห่อเม้มและดูดย้ำประตูเมืองติดกันหลายครั้ง มันเสียวยิ่งกว่าอะไร มันสุขมากกว่าครั้งไหนๆ จนเรียกว่ามันคือการรอคอยว่าเมื่อไหร่ จะลงดาบเข้าไปฟาดฟันด้านในประตูเมือง ของเหลวใสถูกป้ายน้ำร่องประตูเมืองก่อนปลายดาบจะส่งเข้ามาประชิด
 มือหนึ่งส่งนิ้วมาแหวกขยายทาง อีกมือนึงเอาดาบจ่อเข้าไป ส่วนหัวหลุดเข้าไปได้ ทั้งแน่นทั้งจุกผสมผสานกับความเสียวซ่าน ทำให้ผมขยับตัวช่วยให้ความอึดอัดทรมานเบาบางลง เพียงแค่ผมขยับดาบก็กระแทกเข้ามามิดด้ามเรียกเสียงร้องลั่นไม่อายใคร แม่ทัพเริ่มคุมเกมส์สงคราม ขยับตัวบังคับเพลงดาบตามจังหวะช้าเร็ว แล้วแต่อารมณ์จะพาไป มือข้างที่ว่างกอบกุมดาบอีกด้ามเอาไว้แล้วช่วยสาวไปพร้อมๆกับกระแทกปลายดาบเข้าไปทำลายประตูเมือง ไม่นานทุกอย่างก็ราบคาบตามอารมณ์เร่าร้อนที่โหมกระพือจนควบคุมต่อไปไม่ไหว
 ความอุ่นร้อนถูกฉีดเข้ามาในร่างกายจนรู้สึกได้ เสียงครางยาว กระตุกตัวครั้งสุดท้ายหยุดลงพร้อมๆกับใบหน้าชื้นเหงื่อที่โผลงมาซบหลังผมเอาไว้ มือที่ช่วยชักดาบอาวุธประจำกายผมกระตุกรัวสองสามครั้ง ปลายดาบก็กลั้นไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ปล่อยน้ำรักออกมาเต็มฝ่ามือ ประสานเสียงหอบด้วยความเหนื่อยล้า
ล้มตัวลงนอนแผ่ หน้าอกไหวกระเพื่อมตามแรงหายใจ กำลังจะหลับตานอนพักผ่อน
“เมฆ”
“หืม”
“เหนื่อยมั้ย “
“อืม”
“อีกรอบนะ ได้มั้ย”
“แล้วถ้าบอกว่าไม่ได้”
“ไม่ทันแล้ว เมื่อกี้มึงทำหน้าเซ็กซี่ใส่กู”
นี่ตกลงมันจะทำตามที่พูดจริงๆใช่มั้ย....ถ้าพระอาทิตย์ไม่โผล่ขึ้นมาแยงตา
นั่นหมายความว่ายังไม่ถึงเวลานอนของกูสินะ .....

===============================================
ส่งตอนใหม่มาทักทายกันอีกตอน ตอนนี้คิดพล็อตเรื่องได้ เพราะช่วงนี้เปิดเพลงนี้ฟังบ่อยๆ
ความจริงแล้วแทบจะไม่เกี่ยวอะไรกันเลย สมกับเป็นนิยายที่รักกันไปวันๆของไอ้คู่นี้จริงๆ
ส่วนใครที่รอ คู่เด็กเกรียนกันอยู่พบกันตอนหน้าค่ะ
กับตอน “รัก.....ต้องรุก”
ขอบคุณสำหรับคำว่า “ผูกพัน” ที่ถูกต้องนะค่ะ
คำไหนเขียนผิดแนะนำมาได้นะ คนเขียนเรื่องนี้อ่ะ
“ภาษาอังกฤษไม่ได้ ส่วนภาษาไทยก็ไม่ชัดเจน”
อนาถตัวเองจริงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 15-08-2010 00:12:45
พี่ฉานแรงได้ตลอด  :m25: :-[
น้องเมฆก้อขยันหางานเข้า
+1 ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 15-08-2010 00:16:15
555 ขำตอนนี้กับพี่เมฆจริงๆ ช่างกล้า คืนนี้พี่เมฆจะได้นอนมั้ย อุๆ

ไรท์เตอร์เหมือนเราเลย ภาษาไทยไม่ดี ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 15-08-2010 00:22:50
พี่ฉานนนนน

ช่างร้อนแรงสมชื่อยิ่งนัก

 :pighaun:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 15-08-2010 00:27:09
“เมียมึงคงอยากรู้จักชีวิตย์เกย์รับยุคใหม่ จะได้เอาไว้มัดใจมึงมั้ง “

 :m20: :m20: :m20:

น่าสงสารเมฆเนอะ โดนทารุณง่ะ  :m20:

พวกที่ทำเมียหายนี่น่ากลัวเนอะ อิอิอิ

 o13 o13 o13

ตอนต่อไปน้องปลื้มจะรุกไม้หรอ  :m17:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 15-08-2010 00:38:06
:o8: เมฆก็....เกิดอยากรู้อะไรขึ้นมาเนี่ย ลำบากพี่ฉานต้องทำโทษเลยเห็นมั้ย อิอิ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 15-08-2010 00:41:15
เป็น เอนซีที่อ่านแล้ว หัวเราะกร๊ากเลยอ่ะ
ขอบคุณคนโพส กะคนเขียนมาก ๆเลยนะคะ
เข้าใจเปรียบ ดาบคู่ ฟาดฟันประตูเมือง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 15-08-2010 00:47:05
ความอยากรู้แต่ละอย่างของพี่เมฆทำให้ไม่ได้นอนทั้งคืน
ครั้งหน้าอยากรู้เรื่องอะไรอีกอะพี่เมฆ :m12:
แต่ถ้าเป็นครั้งหน้าพี่ฉานคงจะไม่ให้พี่เมฆนอนทั้งวันทั้งคืน :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 15-08-2010 00:48:35
พี่เมฆกล้าดีจริง ๆ  ส่วนพี่ฉานก็นะ  โหดไม่จริงนี่หว่า
เจอลูกอ้อนเข้าหน่อย  แหม  แหม   :haun4:

เอาอีกนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 15-08-2010 01:10:02


 :haun4: :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 15-08-2010 01:10:25
อ้างถึง
เออ งั้นมึงก็สืบมาให้ได้ ว่าร้านที่เพื่อนเมียมึงบอกชื่ออะไร”

“กู ได้ยินว่าอยู่รัชดา ซอยแปด ร้านชื่อจีอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ กูได้ยินไม่ชัด ไม่แน่ใจ ไม่อยากให้มันรู้ว่ากูแอบฟัง เลยไม่ได้สนใจอะไรมาก”

“แค่นี้ก็เยอะพอแล้ว นี่ขนาดไม่ได้สนใจอะไรมากนะเนี่ย ไอ้ปากแข็ง”


อ่านถึงตรงนี้แล้ว...   :m30:   กันเลยทีเดียว  5555

คิดถึง G  5555  :-[

พี่เมฆ ก็นะ อยากรู้อยากลอง เป็นไงล่ะ  รับโทษซะ  :oo1:
วันหลังไปกะเค้ามั้ย...เดี๋ยวเค้าพาหนี พี่ฉานไป   กร๊ากกกก
เป็น NC ที่อ่านเเล้ว  :m20:  ปน  :-[  
เยี่ยม  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 15-08-2010 01:29:10
เป็นตอนที่ร้อนแรงที่สุดเลย :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 15-08-2010 01:31:42
พี่เมฆจะเป็นยังไงบ้างนะ สงสัยโดนฉานลงโทษทั้งคืน  :-[ :-[
ต่อไปพี่เมฆอย่าดื้อกะฟังฉานอีกล่ะ  :z1:

 + ให้กับตอนพิเศษค่ะ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 15-08-2010 01:41:58
เข้ามาจองที่เม้นก่อนยังไม่ได้อ่าน ไม่ไหวแล้ว
เมื่อวานนอนไป2hrs. แถมพรุงนี้ต้องตื่นเช้าไปเรียนทั้งวันแต่ป่านนี้ยังไม่นอน
เหอๆๆ ยังไม่อ่านแต่เม้นว่าน่ารักอีกแล้วได้ม่ะ เพราะอ่านที่ไรก็ได้รมณ์นั้นตลอด
ของเค้าดีจริง o13

กรี๊ดๆ เพิ่งกลับมาอ่าน ถ้าเขียนขนาดนี้รู้งี้ยอมอดนอนอ่านต่อซะก็ดี
เผื่อเมื่อคืนจะฝันเห็นฉากสงคราม คอนเฟริมคำเดิมของเค้าดีจริง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 15-08-2010 01:47:21
แทบจะเลือดหมดตัวตาย
กับบทลงโทษอันแสนหวานแบบนีี้
อร๊ากกกกกกกกกกกกก
 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 15-08-2010 02:14:51
 :m20: งานนี้ไม่รู้จะสงสารใครดี

เมฆทำให้พี่ฉานโมโหสะแล้ววววววว

กร๊ากกกกกกสะใจ

พี่ฉานหึงโหดจริงๆๆๆๆ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 15-08-2010 02:41:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 15-08-2010 03:01:02
เอออ่ออออออออออ
ป่ะ
ไปจีสตาร์กัน
เผิ่อจามีคนมาตามมั่ง
อิอิ
(ว่าแต่ว่า มันเป็นไงอ่ะ อยู่นอกเมือง มะเคยไป ใครรู้เล่ามาๆ อยากไปจริงนะนี่)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 15-08-2010 03:44:09
พี่เมฆมีการอยากเรียนรู้ชีวิตด้วย น่ารักอะไรอย่างนี้
โดนทำโทษครั้งนี้คงต้องเข็ดไปอีกนานเลยนะเนี่ย
ส่วนตีตี้ สงสัยจะแย่ เฮียไม้เล่นหนัก เหมื่อนท่านฉานแน่ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 15-08-2010 04:57:04
เจ้ๆๆๆ ขอตอน รักสนุก และผูกพัน ด้วยสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-08-2010 07:13:11
รอครับรอๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 15-08-2010 08:45:05
 :z1: :z1:

หนูเมฆอยากเรียนรู้ชีวิตเกย์ เอาแต่ทฤษฎีก็พอมั้ง

ปฏิบัติก็ให้ฉานสอนดิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 15-08-2010 09:16:34

อ่านถึงตรงนี้แล้ว...   :m30:   กันเลยทีเดียว  5555

คิดถึง G  5555  :-[

พี่เมฆ ก็นะ อยากรู้อยากลอง เป็นไงล่ะ  รับโทษซะ  :oo1:
วันหลังไปกะเค้ามั้ย...เดี๋ยวเค้าพาหนี พี่ฉานไป   กร๊ากกกก
เป็น NC ที่อ่านเเล้ว  :m20:  ปน  :-[   
เยี่ยม  o13

------>>รีนี้น่ากลัวที่สุด  :laugh: เป็นรีที่รู้จัก G ดีสุดๆ พี่เมฆพลาดแระที่อยากไปจี กร๊ากกก

จีอ่ะไม่มีอะไรดีหรอก นอกจากเด็กผู้ชายหน้าตาดีมากกกกกกก ถึงมากที่สุด เมาแล้วเต้นแล้วยั่ว ก็แค่นั้น

พอดีวันก่อนเปิดทีวีผ่านๆ มีข่าวงานคัฟเวอร์หวะ เฮ้ยยยยยยยยย ไอ้น้องคนนั้น นึกอยู่ตั้งนานว่าคุ้นหน้าฉิบ

นึกไปนึกมา สมองจะระเบิดแระ ปัญญาเกิดจนได้ น้องคนนั้น คือคนที่ลุกขึ้นเต้นที่จีนี่หว่า

เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


เป็นผับที่ไม่ต่างจากสนามฝึกซ้อมของคัฟเวอร์เก้งน้อยจริงๆนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 15-08-2010 09:29:27

อ่านถึงตรงนี้แล้ว...   :m30:   กันเลยทีเดียว  5555

คิดถึง G  5555  :-[

พี่เมฆ ก็นะ อยากรู้อยากลอง เป็นไงล่ะ  รับโทษซะ  :oo1:
วันหลังไปกะเค้ามั้ย...เดี๋ยวเค้าพาหนี พี่ฉานไป   กร๊ากกกก
เป็น NC ที่อ่านเเล้ว  :m20:  ปน  :-[   
เยี่ยม  o13

------>>รีนี้น่ากลัวที่สุด  :laugh: เป็นรีที่รู้จัก G ดีสุดๆ พี่เมฆพลาดแระที่อยากไปจี กร๊ากกก

จีอ่ะไม่มีอะไรดีหรอก นอกจากเด็กผู้ชายหน้าตาดีมากกกกกกก ถึงมากที่สุด เมาแล้วเต้นแล้วยั่ว ก็แค่นั้น

พอดีวันก่อนเปิดทีวีผ่านๆ มีข่าวงานคัฟเวอร์หวะ เฮ้ยยยยยยยยย ไอ้น้องคนนั้น นึกอยู่ตั้งนานว่าคุ้นหน้าฉิบ

นึกไปนึกมา สมองจะระเบิดแระ ปัญญาเกิดจนได้ น้องคนนั้น คือคนที่ลุกขึ้นเต้นที่จีนี่หว่า

เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


เป็นผับที่ไม่ต่างจากสนามฝึกซ้อมของคัฟเวอร์เก้งน้อยจริงๆนะ  :laugh:

ช่ายๆ น่ารักมากๆ แล้วก็เต้นซะจนอยากตีหัวเอากลับบ้าน...
ส่วนน้องคนนั้นนี่คือ น้องคนเดียวกันกับที่ดาวจ้องจะเอากลับบ้านใช่มั้ยพี่.... :laugh:

(เค้าไม่ได้รู้จัก จี ดีที่สุดน๊าาาา    :o8:   เรื่องจีต้องยกให้ สมาชิกเดอะแกงค์ คนอื่น 555  )
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 15-08-2010 10:16:02
จุ๊บๆwriter ขอบคุณมากๆนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 15-08-2010 10:57:08
ขอบคุณไรเตอร์มากมาย จะว่าไรใหมถ้าจะขอคู่น้องไม้อีกคู่อ่ะ คิคิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 15-08-2010 12:23:29
ตอนนี้พี่เมฆน่ารัก

รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน ชอบมากค่ะ

รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 15-08-2010 12:49:45
+1คนแต่งกะคนโพสแทนคำขอบคุณ
ตอนนี้อ่านแล้วขำอ่ะเอาฉากรักไปเปรียบกะฉากรบ :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 15-08-2010 14:17:00
สมกับเป็นตอนพิเศษจริง ๆ  น่ารักและยาวสะใจมากกกก...
เริ่มต้นอย่างลุ้น ๆ ว่า....พี่เมฆไปทำอะไรน้า..คุณชายฉานถึงได้พิโรธ
พอเฉลย....เออ....สมควรโดนแล้วพี่เมฆ....อยากรู้ก็ต้องเหนื่อยหน่อยนะ :z1:
รออีกคู่....แค่ชื่อตอนก็...เดาไปเรื่อยเปื่อยแล้วววว.... :haun5:

กด + ให้พี่เมฆที่ต้องเหน็ดเหนื่อย...เอาใจคนอ่าน
 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 15-08-2010 14:24:56
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษขอรับ :กอด1:
แทบหาทิชชู่ซับเลือดไม่ทัน :o8:

ปอลิง อยากให้มีตอนพิเศษไปเรื่อยๆนะขอรับ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 15-08-2010 14:47:53
คู่เด็กเกรียนนี่เค้าอยู่ไหนอ่ะครับผมจะตามไปอ่านแต่หาไม่เจอ รบกวนเพื่อนๆใจดีบอกหน่อยครับ แปะ link ให้ด้วยก็ดีนะครับ อิอิ ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 15-08-2010 15:21:44
^
^
^
หมายถึงตอนพิเศษ ตอน "ซุกเด็ก" ป่ะค่ะ

ที่คนเขียนเค้าเอามาลูบหลัง ตอนกำลังเศร้าๆ อึมครึมๆอ่ะ นะ

ย้อนๆๆไปก่อนตอนจบสักสามสี่ตอนค่ะ

หน้าไหนไม่รู้อ่ะ ลองย้อนๆดูค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 15-08-2010 18:13:52
หวานกันไม่แคร์สื่อเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 15-08-2010 19:11:16
อ๊าก อ่านตอนพิเศษแล้วยิ้มแก้มแทบปริ

เป็นไงน้องเมฆอยากรู้อยากเห็นชีวิตเกย์ดีนัก

พี่ฉานเลยจัดการลงโทษซะ ... เลย

ไม่สว่างคาตาไม่เลิกใช่ไหมคะเนี่ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 15-08-2010 19:48:33
บมลงโทษต้องให้ความร่วมมือแบบนี้ซิ ถึงจะดีเนาะฉานกับพี่เมฆ   :pighaun:
แบบนี้ต้องอยากรู้อยากเห็นบ่อยๆป่ะ ถึงจะได้ลงโทษกันอีก  อิอิ

คู่ผู้ใหญ่กับเด็กเกรียน  แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย รอค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 15-08-2010 19:59:32
น้องเมฆท่าจะโดนรับโทษจนชินนะ กร้ากกกกก  :impress2:

แต่ไม่เอานะ ตอนนี้ทำให้พี่ฉานและคนอ่านเป็นห่วง  o22

ตอนหน้าไม่ทำแล้วนะ หุหุ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-08-2010 22:59:58
 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 15-08-2010 23:52:37
ประหนึ่งว่าศรีภรรยาแอบไปหา
ความรู้เสริมข้างนอก แต่เมฆอ้อน
เก่งจัง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 15-08-2010 23:53:49
ตอนนี้มันช่าง :m25:
พี่เมฆน่ารักอ่ะอยากรู้อยากเห้นจิงๆน่าเอ็นดูเชียวสามีเลยได้ลงโทษพอขำๆแทบลุกไม่ขึ้นจากเตียงเลยทีเดียว5555+
อ๊ายยยยยชอบน้องตีตี้มากมายชอบอ่ะแสบๆใสซนๆน่ารักอ่ะอยากอ่านพี่ไม้ตี่ตี้แว้ววววว :m1:
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าค่า
+1เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์กับคนโพสค๊าบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 16-08-2010 00:07:16
โห้ย...แมร่งน่ารักวะ...เฮียฉานน่ารักโคตรๆๆๆๆๆ....น้องเมฆก็น่าฟัด...ฮ่าๆๆๆๆ....หวานอ่ะ..น่ารักมากๆๆๆ
ขอบคุณคร๊าบ... :L2: :L2: รอตอนพิเศษต่อไป...
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 16-08-2010 02:15:13
ไม่รู้จะเห็นใจคนสมยอมโดนลงโทษดีรึเปล่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-08-2010 02:35:39
จบแล้ว  สนุกดีค่ะ
แต่
ยังรู้สึกค้างคาอยู่อ่ะว่าใครยิงไอ้หน้ากรูปรี
มันจบห้วนๆ ไปหน่อยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 16-08-2010 06:01:41
 :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-08-2010 08:53:59
พี่เมฆแอบซนนะเนี่ย เฮียฉานเลยต้องทำโทษบ่อยๆ :haun4:
ขนาดพี่เมฆยังเหนื่อยแบบนี้ แล้วเด็กเกรียนแสบข้างบ้านพี่ไม้จะเป็นไงน้า :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 16-08-2010 10:04:09
น่าสงสารน้องเมฆจัง
โฮะๆ
ไปไหนไม่บอกไงล่ะ โดนทำโทษซะ

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษโฮกๆ ค่า..
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 16-08-2010 10:28:06
+1 เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์  :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 16-08-2010 10:28:52
เป็นไงล่ะความอยากรุ้ของพี่เมฆ

ถึงยังไงก้อต้อนพี่เมฆไม่ได้อยู่ดี

ตกลงว่าใครถูกทำโทษกันแน่เนี่ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 16-08-2010 15:22:03
ท่านฉานยังแรงได้อีก    o13

+1 ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 16-08-2010 18:40:29
ตอนพิเศษตอนนี้พี่เมฆรับงานหนัก คาดว่าคงโดนลงโทษจนกว่า
ดวงตะวันจะขึ้นอย่างแน่นอน :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 17-08-2010 00:28:23
เข้ามารอไอ้คนซุกเด็กคร้าบบบ

 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน,P.58] 14 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 17-08-2010 00:30:50
มาดันด้วยช่วยดัน

ทำหน้าที่สอพลอคนเขียน เหอๆ

ไหนๆเค้าก็บังคับให้มาดันแล้ว ก้ต้องทำหน้าที่

 :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.59] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 17-08-2010 05:04:10
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

ตอนพิเศษ         รัก.......ต้องรุก

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)
ที่ผ่านมา.....การเป็นคนที่ถูกแอบรัก......พบเจอมาจนชิน
แล้ววันหนึ่ง.....มีผู้ชายมาบอกว่า “รัก”
เค้าไม่เคยปิดบัง หรือ แค่แอบรัก
แต่เค้าแสดงออกว่ารัก....อย่างเปิดเผย
แล้วคนที่เพิ่งจะเคยมีแฟนเป็น ผู้ชาย “ครั้งแรก” จะเป็นยังไง
“””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
ลมไม่ได้พัดแรง แต่เสียงหน้าต่างบานเลื่อนกระแทกเข้าหากันจนเกิดเสียงดังสนั่นบ้านนั้น เรียกว่าอะไร
อุตส่าห์หอบรายงานกลับมานั่งทำที่บ้านเพียงเพราะถ้าอยู่หอมีหวังไม่วันที่งานจะเสร็จทันแน่ๆ

ตกเย็นตั้งวงเหล้า สถานที่แล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต จับไม้สั้นไม้ยาว วงเหล้าถึงได้วนไปเรื่อยๆ วงเลิกเช้า สายเรียนเย็นเริ่มตั้งวงใหม่ ชีวิตนักศึกษาถาปัตยากรรม วนเวียนกันอยู่แค่นี้ จนกว่าจะถึงเวลาส่งโปรเจคนั่นแหละ ถึงจะมีพิธีเผางานกันสักครั้ง

งานนี้ถึงจะโชคดีที่เป็นงานคู่ แต่ในโชคดีก็ต้องมีความซวยเข้ามาเยือน เมื่อไอ้ฉานจับฉลากได้งานทำโมเดลอ้างอิงสถาปัตยกรรมยุโรปที่เข้ามามีบทบาทในประวัติศาสตร์ไทย

งานออกแบบ และงานทำโมเดลตัดแมสงานภาคปฎิบัติทั้งหลาย เด็กถาปัตย์ไม่เคยหวั่น
แต่ที่ต้องมานั่งกุมกบาลปวดหัวอยู่นี่ เพราะทฤษฎีอ้างอิงข้อมูลหลักฐานล้วนๆ
ถึงแม้การกลับบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์จะเป็นตัวเลือกท้ายๆของไอ้ไม้สักแค่ไหน
แต่งานที่ต้องรวบรวมสมาธิยิ่งกว่าพระสงฆ์ที่เดินธุดงค์ในป่า อย่างประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมต่างชาติที่เข้ามามีบทบาทในไทย การค้นคว้าและรวบรวมเนื้อหา กว่าจะออกมาเป็นเนื้องานได้ ทำเอาคนที่เป็นศัตรูกับห้องสมุดอย่างพวกเด็กสร้างบ้านแล้ว แทบจะกัดลิ้นตายรายคน

“พี่ไม้” การปรากฏตัวของเด็กตัวขาวปากแดง แต่หัวเกรียนเสมอต้นเสมอปลาย ทำเอาคนที่กำลังรื้อค้นข้อมูลกับกองหนังสือสะดุ้งตกใจได้ง่ายๆเหมือนกัน

“เฮ้ย ตี่ตี้ มาได้ไงเนี่ย” ไอ้อาการหน้าง้ำปากยื่น ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าไม่พอใจที่ถูกเรียกชื่อที่หม่าม้าภูมิใจตั้งให้แค่ไหน
แต่ถ้าตามใจเด็กมากไป ก็กลัวเด็กเกรียนแถวนี้มันจะเสียนิสัยเอาได้

“ปืนหน้าต่างเข้ามา”
“ประตูก็มี จะปืนหน้าต่างเข้ามาทำไม” เออนะ คนเรา เป็นคนปกติดีๆไม่ชอบ ริอาจจะเป็นนักย่องเบา
“ก็อยากรู้ว่าความรู้สึก การปืนเข้าหาผู้ชายมันจะเป็นยังไงอะดิ”
“นั่นเค้าเอาไว้ใช้กับผู้ชายลักลอบปีนเข้าหาผู้หญิง”

“ก็พี่ไม้เป็นผู้ชายนี่ มันก็ต้องเอามาประยุกต์ใช้อะดิ ลุงนี่ยังขี้บ่นเหมือนเดิมเลย” เสียงบ่นอุบอิบของไอ้ตัวแสบ ทำให้นึกไปถึงหน้าเมียรักของไอ้ฉาน ขานั้นก็ชอบทำอะไรแปลกๆ แต่เป็นความแปลกที่มาจากความเจ้าเล่ห์ แต่ไอ้เด็กหัวเกรียนที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ เรียกว่าทำไปเพราะไร้เดียงสาก็ว่าได้
“แล้วการปืนเข้าหาคนอื่นรู้สึกยังไงหละ ตกลงมาจะคุ้มมั้ยเนี่ยห๊ะ” เพราะไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย ที่สำคัญยังเป็นเด็กอยู่ด้วยแล้ว ไม่รู้ต้องเอาอกเอาใจยังไง บางครั้งการทำให้เด็กหายจากอาการปากยื่นหน้าง้ำ จึงต้องงัดเอาทฤษฎี ตบหัวแล้วลูบหลังออกมาใช้
“ก็ตื่นเต้นดี ตอนที่ปืนอ่ะ แต่พอปีนเสร็จแล้วก็เริ่มเซ็ง”
“ทำไมหละ ทำไมอารมณ์ถึงได้เปลี่ยนง่ายแบบนั้น”
“ไม่รู้สิ เพราะเจอเซอไพรส์กว่าที่ตั้งใจมั้ง”
“หือ เซอร์ไพรส์ยังไง “
“ช่างมันเถอะลุง อย่าไปสนใจเลย ไม่มีอะไรหรอก ไร้สาระ” ปากก็บอกว่าอย่าสนใจ แต่ในแววตาบอกชัดๆเลยนะว่าน้อยใจ
เด็กเอ้ยเด็ก คิดผิดคิดถูกวะเนี่ย ที่เผลอใจไปกับเด็ก

“ก็เป็นห่วง มาปีนดึกๆดื่นๆ แล้วมืดขนาดนั้น ถ้าตกลงมาจะทำยังไงหละ”

“ลุงเป็นห่วงผมเหรอ” ไอ้เด็กที่ทำหน้าสลดเพราะโดนดุเมื่อกี้หายไปไหน ถึงได้เหลือแต่เด็กผู้ชายที่ยืนยิ้มยิงฟันทั้งหน้าแบบนี้

“อืม ก็ต้องเป็นห่วงสิ ถึงได้ดุอ่ะ” ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกไอ้ฉานบ้างแล้ว ว่าทำไมมันถึงบ่นเช้าสายบ่ายเย็นกับไอ้เมฆได้ไม่เว้นแต่ละวัน

ถ้าไม่ปรารถนาดี ไม่มีใครเค้าอยากทำแบบนี้หรอก 








ฟอดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!



ปลายจมูกที่ฝังลงไปบนแก้ม แล้วสูดหายใจแบบเอาเป็นเอาตายนี้  จู่โจมเข้ามาแบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว และไม่ทันได้เตรียมใจมาก่อน


“คิดถึงพี่ไม้นะ แล้วนี่ทำอะไรอ่ะ หนังสือไม่หล่นลงมาทับตายเหรอเนี่ย น่ากลัวชะมัด” ไอ้หัวขโมย มันทำเนียนไม่สนใจว่าเมื่อกี้ มันอาจหาญทำอะไรเอาไว้




แล้วผมทำไมต้องอึ้งวะ!!



ไม่ใช่ไม่เคยถูกแสดงความคิดถึงด้วยการหอมแก้มแบบนี้  ไอ้ประเภทที่ประตูยังปิดไม่ทันสนิท ปากก็ประกบชิดแลกลมหายใจ ยังเคยมานักต่อนักแล้ว
แค่เพียงไม่ใช่กับผู้ชาย !!
แล้วตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกแปลกๆในอกแบบนี้ด้วย
โดนผู้หญิงออดอ้อน พูดจาอ่อนหวานเข้าใส่ ยังไม่รู้สึกอะไรเท่ากับโดนไอ้เด็กห้าวคนนี้จู่โจมหอมแก้มเลยเหอะให้ตาย!!
บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่ไม่ได้รังเกียจแน่ๆ มันก้ำกึ่ง แต่ก็อธิบายไม่ได้



“ทำรายงาน ต้องรีบเคลียร์ตั้งแต่อาทิตย์นี้ อาทิตย์หน้าต้องหมกตัวอยู่แต่ในสตูแน่ๆ” สตูดิโอ คือห้องทำงานของนักศึกษา อย่างตัดแมส ทำโมเดล เขียนแบบ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ เครืองพล็อตกระดาษแบบม้วนเครื่องใหญ่พล็อตได้ถึงเอ 0 เน้นให้นักศึกษาทำงานกันเป็นหมู่คณะ เป็นควายเซนเตอร์ของจริง

“อาทิตย์หน้า พี่ไม้ไม่กลับบ้านเหรอ” ยิ้มอยู่เมื่อกี้เองนะเว้ย ทำไมตอนนี้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว เด็กนี่เอาใจยากจริงๆ

“อืม ปลายปีต้องฝึกงานอ่ะ เลยต้องทำโปรเจคให้เสร็จๆ แล้วนี่เป็นอะไรอ่ะ”

“แล้วพี่ไม้ไม่คิดถึงปลื้มเหรอ” บอกตรงๆว่าผมชะงักเหมือนกันสำหรับคำถามนี้

ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันรวดเร็วเกินกว่าจะบอกความรู้สึกอะไรออกไปได้
ผมไม่ได้คิดว่าอาทิตย์หน้าถ้าไม่ได้กลับมาหาปลื้ม ผมจะคิดถึงไอ้เด็กหัวเกรียนนี้มั้ย
แต่ทำไมพอโดนถาม ผมถึงได้รู้สึกวูบโหวงในใจ รู้สึกใจหายที่เห็นหน้าหงอยๆนั่น

ที่ผ่านมาเรียกได้ว่าถ้าไม่จำเป็นผมแทบไม่กลับมาเหยียบบ้านเลยด้วยซ้ำ
ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก เกิดขึ้นตั้งแต่พ่อมีครอบครัวใหม่
ความห่างเหินเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่แม่ตาย
ตั้งแต่นั้นผมกับพ่อจึงไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่
 เงินที่ใช้จ่ายก็นอนรออยู่ในธนาคารอยู่แล้ว ผมไม่เคยถามว่าเงินนั้นใครจัดเตรียมไว้ให้ ในเมื่อมีให้ใช้ก็ใช้ แต่หลังจากที่เผลอไปงาบลูกชายร้านขายผ้าข้างบ้านเข้า ผมกลับบ้านบ่อยกว่าเดิม ไม่รู้ว่าแค่นี้พอจะบอกอะไรได้มั้ย

“อาทิตย์เดียวเอง เมื่อก่อนพี่กลับบ้านปีละสองครั้งได้มั้ง ไม่เห็นนายจะเป็นอะไรเลยนี่”
“ก็ตอนนั้นมันไม่เหมือนกับตอนนี้นี่”
“แล้วจะเอาไงดีหละ พี่ต้องทำงาน “
“ไม่เห็นจะยากเลย พี่ไม้มาไม่ได้ ปลื้มไปหาเองก็ได้”
“เฮ้ย แต่พี่ต้องทำงานนะ ไม่มีเวลามาดูแลนายหรอก อีกอย่าง ป๊านายได้ด่าบ้านแตกดิ”
“ก็ทำงานไปดิ ปลื้มแค่อยากไปอยู่ใกล้ๆ เฉยๆไม่ได้เหรอ” จะต้องตอบยังไงกับคำถามแบบนี้และสีหน้าแบบนี้ของคนถามวะ สีหน้าที่ทำให้สะดุดแล้วก็สะเทือนใจ
“ถ้าไม่กลัวเบื่อก็ตามใจ แล้วจะมายังไงหละ” บ้านปลื้มกับมหาลัยไกลกันคนละซีกเมือง อดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงจะเป็นเด็กผู้ชายก็เหอะ
“เรียนเสร็จวันศุกร์ ปลื้มจะนั่งรถเมล์ไปหาเลยนะ”
“ไม่ต้อง เลิกเรียนกี่โมง พี่ไปรับเองดีกว่า”
“จริงป่ะ เฮ้ย ดีใจ เลิกเรียนบ่ายสาม พี่ไม้มาแน่มั้ยอ่ะ ปลื้มจะได้เอาไปอวดเพื่อน” โอย อยากจะเอาขัวโขกกำแพงตาย จะเอาผมไปโชว์เพื่อนเนี่ยนะ เอาเป็นว่าผมนึกภาพไม่ออกเลยว่า เด็กผู้ชายหัวเกรียน ที่อยู่ ม.5  เดินจูงมือผมเข้าไปในหมู่เพื่อนหญิงชาย แล้วแนะนำว่าผมเป็นอะไรกับมันเนี่ย จะประหลาดสักแค่ไหน

“ไม่ดีมั้ง พี่รอรับอยู่ข้างโรงเรียนได้มั้ยอ่ะ ไม่อยากลงไปประเจิดประเจ้อ”

“เหรอ พี่ไม้อายเหรอ เอางั้นก็ได้ครับ” อ้าว นี่ผมทำเด็กทำหน้าเป็นหมาหงอยอีกแล้วเหรอเนี่ย ได้แต่เกาหัวตัวเองแกรกๆ บอกตรงๆทำตัวไม่ถูกเลย ไม่รู้ต้องทำยังไง รู้แต่ว่าไม่ชอบที่ปลื้มทำหน้าแบบนี้  รู้สึกไม่สบายใจ

ไอ้ตัวดี มันเดินไปที่เตียง สะบัดผ้านวมสองสามที แล้วล้มตัวลงนอนหันหลังให้ ไม่สนใจผมอีกเลย

“ตี่ตี้ เอ้ย ปลื้ม นอนแล้วเหรอ”
“ครับ พี่ไม้จะได้ทำงาน”
“โกรธอะไรพี่หรือเปล่า”
“เปล่าครับปลื้มไม่ได้โกรธอะไร” ปากบอกว่าไม่ได้โกรธ แล้วโต้ตอบกับผมแบบนอนหันหลังให้กันเนี่ยนะ

แล้วคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ ผมจะมีสมาธิทำงานหรือไง
ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมต้องล้มตัวลงนั่งข้างๆ ยื่นมือไปลูบหัวทุยๆ โคนผมลู่ไปกับฝ่ามือทำให้รู้สึกสากๆแต่ก็เพลินดี

“อย่าเพิ่งนอนดิ คุยกันก่อน เป็นอะไรไปฮึ เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย” ไม่มีเสียงตอบรับ นอกจากความเงียบ

ปลื้มไม่ได้หลับ ผมรู้เพราะขณะที่ผมลูบหัวปลื้มอยู่นี้ ปลื้มเกร็งตัวเหมือนต่อต้าน ผมรู้ว่าถ้าเป็นผู้หญิง อาการแบบนี้คืองอนผมแน่ๆ แต่ผมไม่แน่ใจว่าปลื้มจะมีความรู้สึกเดียวกันมั้ย  ออกแรงพลิกตัวเด็กหัวเกรียนที่ไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ ต้องใช้สองมือกว่าเด็กดื้อมันจะหันหน้ามาหาผมได้ แดงไปทั้งหน้าไม่ใช่แค่ปากแล้ว ที่สำคัญตาแดงกล่ำที่มีน้ำคลอหน่วยตา ทำเอาผมใจหาย ทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

“เป็นอะไร ทำไมเหมือนจะร้องไห้” ผมไม่ได้ตั้งใจกระตุ้นนะ แต่พอจบคำพูดผม ไอ้ที่คลอๆอยู่นั้น ก็ดันไหลพรากออกมาผมดันร่างปลื้มขึ้นมากอดเอาไว้แนบอก ไม่รู้จะพูดอะไร ตกใจ ใจหาย สองสิ่งนี้วิ่งวนไปวนมาอยู่ในหัว

ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้อยากให้ร้องไห้ และไม่คิดว่าจะได้เห็นน้ำตาลูกผู้ชาย
ทุกอย่างอยู่เหนือความคาดหมายหมดเลย

ลูบหัวลูบหลังอยู่นาน กว่าน้ำตาจะหยุดไหล ไม่มีเสียงสะอื้น ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย มีแต่ร่างที่ซบนิ่งอยู่กับอกและน้ำตาเท่านั้นที่ไหล

แต่เท่านี้ก็ทำให้ผมปวดใจได้ง่ายๆเหมือนกัน

“พี่ไม้” เด็กเกรียนมันช้อนตามองผม เส้นเสียงยังสั่นอยู่เลย
“หือ”

“พี่ไม้อึดอัดใจหรือเปล่า ถ้ามันฝืนใจพี่ไม้บอกได้นะ บอกตรงๆเลยก็ได้ ปลื้มจะได้รู้ จะได้ไม่มาคอยกวนใจไง”

“ทำไมถามพี่แบบนี้หละ” คำพูดเมื่อกี้เล่นเอาผมหัวใจชาหนึบแบบไม่รู้สาเหตุ ความรู้สึกต่อมาคือโกรธ โกรธจนเผลอบีบท่อนแขนคนในอ้อมกอด จนเสียงครางประท้วงขึ้นมาเรียกสติให้รู้ว่า ผมทำแรงเกินไป

“ทีหลังอย่าพูดแบบนี้อีกนะ เข้าใจมั้ย” ถ้าถามผมว่ามันคือคำขอหรือคำสั่ง ผมบอกได้เลยว่าผมบังคับ มันน่าโกรธน้อยซะที่ไหน เข้ามาอยู่ในชีวิตผมแล้วจะออกไปง่ายๆ แล้วคิดว่าผมจะยอมรึไง

“คิดอะไรอยู่ ทำไมไม่ตอบ ตกลงเข้าใจที่พี่พูดรึเปล่า”
“เข้าใจที่พูด แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม”
“ไม่เข้าใจเรื่องอะไร”
“ก็พี่ไม้ทำเหมือนไม่เต็มใจ เหมือนจำใจ เหมือนเป็นความรับผิดชอบ ก็ถ้าพี่ไม้รู้สึกแบบนั้น ปลื้มจะบอกว่า ไม่เป็นไร พี่ไม้ไม่ต้องคิดมากหรอก ปลื้มไม่ได้เสียหายอะไร ไม่ต้องรับผิดชอบเหมือนผู้หญิงก็ได้”
“พี่เคยบอกไว้แบบนั้นเหรอ”
“เปล่า”
“แล้วทำไมถึงคิดไปเอง เพราะพี่ไม่ยอมลงไปทำความรู้จักกับเพื่อนๆปลื้มเหรอ”

เงียบ! เปอร์เซ็นต์ใช่สูง

“แล้วพี่ปิดบังเรื่องปลื้มกับเพื่อนๆพี่รึเปล่า ตอนนั้นที่โรงพยาบาล เพื่อนพี่ก็รู้ใช่มั้ย ว่าปลื้มเป็นอะไรกับพี่”

เด็กเกรียนยังเงียบไม่พูดอะไร ได้แต่พยักหน้ากับอกผม

“ที่พี่ไม่ลงไป ไม่ใช่เพราะไม่อยากให้ใครรู้หรอกนะ แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องป่าวประกาศไม่ใช่เหรอ พี่ไม่ได้กังวลเรื่องเพื่อนๆปลื้มหรอกนะ แต่คนอื่นๆหละเค้าจะมองปลื้มยังไง โรงเรียนปลื้มพี่ก็ไปนานๆครั้ง แต่ปลื้มต้องไปที่นั่นทุกวันนะ พี่อยากให้ปลื้มใช้ชีวิตปกติธรรมดา ไม่อยากให้เดินไปไหนแล้วคนจับกลุ่มกันซุบซิบนินทา หรือว่าปลื้มชอบแบบนั้น”
“บ้าเหรอ จะมีใครที่ไหนชอบให้คนมาซุบซิบนินทาหละ”
“นั่นไง ถ้าอยากให้เพื่อนๆรู้จักพี่ วันหลัง เราค่อยนัดมากินข้าวกันก็ได้นี่ ดีกว่ามั้ย”
“อืม เอาแบบนั้นก็ได้”
“แล้วหายโกรธพี่รึยัง ไม่งั้นพี่ทำงานต่อไม่ได้นะ ไม่มีสมาธิ”
“บอกแล้วว่าไม่ได้โกรธ”
“แล้วเมื่อกี้เป็นอะไร น้อยใจพี่!!!”
“อืม ก็ใช่ แล้วก็เสียใจด้วย” ผมยิ้ม
ยิ้มกับความตรงไปตรงมาของเด็กตรงหน้า
 ความไร้เดียงสาที่คิดอะไรก็พูดออกไปแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกสบายใจ
ผมยอมรับว่าแฟนคนเก่าๆที่ผ่านมาส่วนใหญ่ มักจะไม่ยอมบอกความรู้สึกของตัวเองออกมา ได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ พอผมถาม คำตอบที่ได้จึงเป็นคำตอบที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อรักษาน้ำใจ แต่วันหนึ่งเมื่อมันสะสมนานเข้า มันก็แบกรับเอาไว้ไม่ไหว ความสัมพันธ์จึงต้องหยุดไว้แค่นั้น  ก่อนที่จะเจ็บปวดกันทุกฝ่าย
ถึงแม้การมีแฟนเป็นเด็กผู้ชายครั้งแรก
ทำให้ผมต้องเริ่มเรียนรู้อะไรๆอยู่อีกมาก แต่ผมก็เรียนรู้ด้วยความสบายใจ เพราะทุกอย่างมันสื่อออกมาแบบไม่ต้องตีความหมายอะไรให้ยุ่งยาก
ปากแดงถูกผมสำเร็จโทษไปหนึ่งครั้งโทษฐานที่ทำตาใสใส่ผม
 คงรอคอยว่าผมจะพูดอะไรเมื่อไอ้ตัวแสบยอมบอกว่าทั้งน้อยใจทั้งเสียใจ



แต่ตอนนี้บอกตรงๆว่าผมไม่อยากพูด.......แต่ผมอยากทำมากกว่า

ปากเจ่อแดง ที่น่ามาจากกัดปากข่มน้ำตาเอาไว้ ดวงตาวาวใสที่ผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ เนื้อนิ่มแต่แน่นมีมัดแขนแบบผู้ชาย ผิวเรียบลื่นตรงแขนที่ผมลูบตอนเผลอใช้แรงบีบไป
ทุกอย่างที่รวมตัวกันเป็นเด็กเกรียนตอนนี้ทำเอาผมอยากเก็บคำพูดเอาไว้ แล้วใช้แรงทำอะไรบางอย่างมากกว่า

เสียงครางฮือประท้วงเมื่อผมเริ่มจาบจ้วงมากกว่าเอาปากแตะปาก
 ริมฝีปากเจ่อถูกผมดูดแล้วเลียรอบรูปปาก ไม่นานโพรงปากบางก็เปิดอนุญาตให้ลิ้นผมเข้าไปหวานหาความหวาน
เด็กหัวไวเริ่มจูบตอบแบบไร้เดียงสา แต่ว่าเรียกความดิบเถื่อนตัวผมให้ออกมาดูดกินความหอมหวานอย่างบ้าคลั่ง
สองมือที่กำแน่นรอบท่อนแขนผมทั้งสองข้างเปลี่ยนมาเป็นประสานกันไว้รอบคอ
แรงอารมณ์ทำให้ฝ่ามือนุ่มส่งเข้ามาขยุ้มกลุ่มผมที่ท้ายทอยผมบ้าง
แรงเสียดสีระหว่างเนื้อผ้าเริ่มก่อความแสบร้อนจนต้องถอดทิ้ง
ก็พอรู้ว่านอกร่มผ้าที่คล้ำเพราะแดดเลียจากการฝึก รด. แต่ใครจะคิดว่าในร่มผ้าจะขาวใสแล้วก็เรียบเนียนได้ขนาดนี้
ยอดอกสีอ่อนเริ่มแข็งเป็นไตเมื่อผมส่งลิ้นลงไปทักทาย เรียวลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดวนไปรอบๆยอดอกทั้งสองข้างทำเอาร่างทั้งร่างส่ายไปส่ายมา เสียงอืออาขานรับทุกครั้งที่ผมขบเม้มลงไป เสียงซี๊ดซ๊าดดังขึ้นเมื่อลากลิ้นผ่านจุดสำคัญที่ไวต่ความรู้สึกทั้งหลาย หน้าท้อง สะดือ ก่อนจะวนมาที่หน้าอก แล้วซุกไซร้ไปตามซอกคอใบหู ทุกจุดที่ผมกระตุ้นปรนเปรอ ทุกรอยฟันที่ตั้งใจฝากฝังรอยเอาไว้ เรียกเสียงแหบพร่าที่ทำเอาอารมณ์ดิบในตัวผมพลุกพล่านเกินจะเรียกกลับมาได้
 ยังไงๆต้องเดินหน้า ถึงจะแก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่ายังไง แต่เรื่องนี้ยังลึกเกินไปที่เด็กเกรียนตัวแสบจะคุ้นเคย
ด่านปราการสุดท้ายถูกผมปลดออกไป พร้อมๆกับปลดเปลื้องด่านปราการทั้งหลายของตัวเอง ร่างเปลือยเปล่าเสียดสีกันเร่าร้อน ผมซุกหน้าเข้าหาเป้าหมาย ครอบครองดูดกลืนทั้งหมดเอาไว้ในปาก ลากลิ้นสร้างความรู้สึก ปลายยอดถูกลิ้นแหย่รัวแรงสลับลากไล้ไปรอบๆจากปลายถึงโคน เสียงร้องครางพร่าสั่นจวนเจียนจะถึงจุดหมาย สองเท้าเริ่มตะเกียกตะกายหนีออกจากความทรมานที่เสียวซ่านนี้
ปากและลิ้นเริ่มทำหน้าที่สร้างความคุ้นเคยให้ปากทางสำคัญ สัญชาตญาณเริ่มทำให้คนด้านล่างรู้หน้าที่ เมื่อมือบางเริ่มควานหาสิ่งที่เราสองคนต่างมีเหมือนกัน ปลุกปั่นด้วยมือ จนความต้องการที่จะปลดปล่อยจ่อคิวรอพร้อมๆกัน อีกคนอาจจะไปถึงจุดหมายก่อนได้ หากเพียงแค่ผมขยับปากเร่งจังหวะให้เร็วและแรง ช่วงแรกๆของการสร้างความคุ้นชิน ความเจ็บปวดจะบรรเทาเบาบางได้ ถ้าจังหวะและเวลาพร้อมเหมาะสม
“อย่าเกร็งนะ ถ้าเจ็บให้เกาะบ่าพี่ไว้ จิกลงไปแรงๆก็ได้ “ ใบหน้าหวาดหวั่นแต่ยังพยักรับ ทำเอาอดใจไม่ไหวต้องแจกจูบดูดดื่มให้กันและกันอีกครั้ง ตัวช่วยยามที่ไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ ชโลมลงไปยังส่วนอ่อนไหวตรงหน้า ปากทางถูกน้ำร่องด้วยนิ้วช่วยแหวกขยายเปิดทาง รสจูบเบี่ยงเบนความรู้สึกไปได้เมื่อปากทางโดนจ่อเอาไว้ด้วยของจริงหลังจากถอนนิ้วออกไป
รู้ว่าเจ็บเพราะร่างเล็กทั้งสั่นและเกร็ง แต่ไม่มีเสียงร้องอะไรออกมา มือทั้งสองข้างเกาะบ่าไว้ จิกเล็บลงไประบายความอึดอัดที่คับแน่นอยู่เต็มช่องทาง ซอกคอและใบหูถูกเล้าโลมให้รู้สึกผ่อนคลาย เมื่อร่างกายเริ่มหยุดสั่นและหายเกร็ง สองมือส่งไปช่วยปลุกปั่นท่อนลำด้านหน้า ด้านหลังเริ่มใส่จังหวะประสานสอดคล้องกัน เสียงครวญครางดังก้องไปทั้งห้อง เสียงกรีดร้องคล้ายๆจะทรมานเจ็บปวด เสียงซี๊ดซ๊าดบอกความเสียวซ่านสุขสม เสียงครางยาวและสองร่างกระตุกกอดกันครั้งสุดท้าย ทุกอย่างถูกปล่อยให้ไหล สองร่างทิ้งตัวกอดก่ายกัน

เนิ่นนานกว่าเหตุการณ์จะปกติ
ก็ไหนว่าไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย    ก็แล้วทำไมทุกอย่างถึงดำเนินไปได้ราบรื่นขนาดนี้

“เหนื่อยมั้ย”
“อืม แต่ไม่เท่าพี่ไม้หรอกมั้ง”
“เจ็บรึเปล่า”
“เจ็บสิ แต่ทนได้”

คำตอบแบบนี้ เสียอาณานิคมในโพรงปากอีกทีคงไม่ทำให้ปากเจ่อไปกว่านี้มั้ง
ช่างมันเถอะ ปากเจ่อไม่กี่วันก็หาย แต่ความสุขนึกถึงเมื่อไหร่ ก็ยังบอกได้ว่ามีความสุข

“พี่ไม้”
“หืม”
“ถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่า”
“ถ้าเพื่อนพี่ไม้ถามว่า พี่ไม้อยู่ในสถานะไหน พี่ไม้จะตอบว่าไง”
“อ่ะ แล้วเราจะให้พี่ตอบว่าไงหละ”
“รุกสิ เพราะปลื้มก็จะตอบว่ารุกเหมือนกัน”
“อ้าว แล้วใครเค้าจะเชื่อ รุกพร้อมกันสองคนเนี่ยนะ หนังการ์ตูนไปไหม”
“แล้วปลื้มผิดตรงไหน กว่าจะทำให้พี่ไม้รู้ว่าปลื้มรัก ปลื้มต้องรุกพี่ไม้ทุกวิถีทางไม่ใช่เหรอ พี่ไม้บื้อจะตาย คนเค้าชอบมานานยังไม่รู้ อะไรวะ อุตส่าห์ทำให้สนใจยังเฉยใส่เลยคนเรา ถ้ารู้ว่าต้องเปิดเผยนะ ทำไปนานแล้ว”
“นี่ไปเอาเรื่องแก่แดดแบบนี้มาจากไหน “
“ไม่ได้เอามาจากไหนหรอก ปลื้มสังเกตแล้วปรับใช้เอาเอง”
“พี่ไม้”
“หือ อะไร”
“ตกลง เราเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย”
“ไม่ใช่”
“อ้าว”
“แฟนเค้าเอาไว้ใช้สำหรับคนที่ดูใจกัน”
“แล้วเราหละเรียกว่าอะไร”
“สำหรับคนที่โดนกินไปทั้งตัวแล้วก็ตีตราแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้แบบนี้อ่ะ เค้าเรียกว่า “สามีภรรยา”
“นั่นเค้าใช้เรียกผู้หญิงผู้ชายไม่ใช่รึงัย ภรรยา ดูแต๋วไปอ่ะปลื้มไม่ชอบ”
“แล้วจะเรียกว่าอะไรหละงั้น”
“ผัวเมียไง ตรงๆดี”
“แก่แดดไปมั้ยนายอ่ะ แล้วเมียมันต่างจากภรรยาตรงไหนวะ”
“นั่นสินะ เป็นอะไรก็ช่างมันเถอะ สนใจทำไมอ่ะ พี่ไม้ว่าไง”
“ก็ว่าตามกันนั่นแหละ”

“รักพี่ไม้นะ อะ ให้รางวัล”

ไอ้รางวัลที่ว่าเนี่ย มันน่าจับกดให้ร้องอีกสักรอบดีมั้ย
 ใครสั่งใครสอนให้เด็กเกรียนหัดแก่แดดให้รางวัลผู้ใหญ่ด้วยการส่งลิ้นมาทักทายในปากคนอื่น ถึงแม้มันไม่ได้ช่ำชองเร้าร้อนดูดดื่ม แต่มันก็เรียกความหื่นในร่างกายออกมาได้อยู่ดี  ประวัติศาสตร์อะไรเลิกสนใจไปนานแล้ว ปากแดงๆหน้าใสๆมันบังตา ร่องรอยสีแดงที่ลาดไหล่ลามไปถึงหน้าอก ถูกเพิ่มรอยแบบห้ามใจไม่ไหว
รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ปากเก่งบอกไม่คิดอะไร แต่ในใจโครตจะแคร์ความรู้สึกเด็กผู้ชายเกรียนๆคนหนึ่ง ที่นับวันจะยิ่งแก่แดดแก่ลม เริ่มมองเห็นเค้าลางว่าต่อไปคงต้องจับเด็กแสบผูกติดเอาไว้ เหมือนไอ้เมฆกับไอ้ฉาน ที่มันผูกติดกันยังกะข้าวต้มมัด
เริ่มรู้สึกว่าหวงแหนเป็นยังไง ยิ่งคำพูดไร้เดียงสาที่สะกดใครต่อใครขนาดนี้ ถ้าวันหนึ่งมีคนที่เห็นว่าสิ่งเหล่านี้น่าสนใจเหมือนกัน ตอนนั้นต้องทำยังไงวะ อาจจะต้องแตะมือขอคำปรึกษาจากไอ้ฉาน แต่คงไม่ต้องไอ้ปลื้มแตะมือเรียนรู้อะไรจากไอ้เมฆ แค่นี้ก็แก่แดดจะตายอยู่แล้ว เจอไอ้เมฆเข้าไปสงสัยกลายเป็นปลาไหลใส่สเก็ตท์ แน่ๆ

.......
ตอนนี้สำหรับแม่ยกที่เรียกหาพี่ไม้กับน้องปลื้ม ไม่รู้จะถูกใจกันมั้ย แต่คนเขียนแทบจะเป็นไมเกรน
เจอกันตอนหน้าสำหรับ “รัก.....ต้องแสดงออก”
เคยคิดว่าถ้าจับพี่เมฆกับนายฉานมารวมเล่มจะมีคนซื้อมั้ย
แล้วถ้าเกิดรวมเล่มขึ้นมาจริงๆ ลงตอนพิเศษไม่ยั้งขนาดนี้ พอถึงตอนนั้น
แล้วเราจะเอาอะไรแถมให้คนอ่านดี
เอร้ยยยยย.....อย่าได้แคร์กระหน่ำลงมันเข้าไปตอนพิเศษเนี่ย
แอบกระซิบว่า นิยายเรื่องต่อไป คราวนี้นะทำตามสเตปการเขียนนิยาย
คือมีพล็อตเรื่อง ก่อนจะวางตัวพระเอกนายเอก
พล็อตเรื่องมีแล้ว พระเอก ใครๆก็เรียกเค้าว่า “คุณคนเดียว” แม้แต่ตัวมันเอง ยังเรียกตัวเองว่า”คุณคนเดียว” เลย
ส่วนนายเอก ชื่อ ขลุ่ย เนื้อเรื่องเป็นยังไง ถ้าได้อ่านตอนแรก อาจจะมีคนวางระเบิดบ้านคนเขียนได้ แล้วยังไม่มีตอนต่อไปเลยอ่ะ มีแค่ตอนแรก 555 ยังมีหน้ามาสปอยเนาะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 17-08-2010 05:13:45
 :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 17-08-2010 05:26:09
หึหึ ปลื้มตรงไปตรงมา ตรงใจคนอ่านดี  เอิ้กๆๆ

รอตอน  รัก...ต้องแสดงออก น้า เจ้  :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 17-08-2010 05:57:11
พี่ไม้กับพี่ฉานนี่ หื่นมิได้ต่างกันเล้ย
รอตอนใหม่จ้าา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 17-08-2010 07:31:30
 :กอด1:คนแต่งกะคนโพส
+1แทนคำขอบคุณ
ตอนนี้น่ารักมากมายทั้งปลื้มทั้งไม้
จะทำหนังสือจริงป่ะเอานะเชื่อฝีมือ
อยากได้เก็บไว้อ่านไว้เป็นที่ระลึก
บอกตรงๆว่าคิดไม่ถึงว่าจะแต่งเก่งขนาดนี้
 :pig4:ขอบคุณๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-08-2010 07:42:08
 :L1:น่ารัก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 17-08-2010 07:47:42
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ     :pig4:

คนอ่านปลื้มมาก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 17-08-2010 07:56:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 17-08-2010 07:58:52
 :haun4:  อิจฉานายไม้  อยากหม่ำเด็กๆมั่งจัง  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 17-08-2010 08:08:23
ปลื้มกับไม้นี่ทั้งน่ารัก ทั้งหื่น พอๆกับเมฆและฉานเลยทีเดียว  :z1: :z1: :z1:

ปล.อยากให้รวมเล่มคร้าบ ซื้อแน่นอน!  :L2:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 17-08-2010 08:11:56
+1 เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์

ตี่ตี้..มันน่ารักเนอะ

รักตี่ตี้ที่สุด  :-[ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 17-08-2010 08:35:26
ตี่ตี๋รุก  น่ารักว่ะค่ะ :impress2:

ตอนพิืเศษก็จัดมาเยอะๆ อย่าได้แคร์สื่อ  :laugh:


เรื่องต่อไปก็จัดมาอย่าให้เสีย

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-08-2010 09:05:28
รวมเล่มเหอะ  หนับหนุน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 17-08-2010 09:06:10
สปอยแค่ชื่อพระเอก นายเอกเรื่องใหม่ ก็อยากอ่านแล้ว จะรอติดตามน่ะค่ะ

ส่วนคู่นี้  น่ารักไม่หยอก  รุกเหมือนกัน แต่รุกกันคนละแบบชิมินี่ย น้องปลื้มคิดได้น่ารักเชียว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 17-08-2010 09:29:26
1. ตอนพิเศษจัดมาเลยค่ะ เชื่อว่ามีกี่ตอนคนอ่านก็ตามทุกตอน ไม่หนีกันไปไหน
2. ส่วนเรื่องใหม่ ก็ยังจะติดตามต่อ
3. เรื่องรวมเล่น ตีตราจองด้วยค่ะ ซื้ออย่างแน่นอน


แล้วนายไม้ไม่ลงโทษน้องปลื้มที่แอบหนีไปเที่ยวหรือค่ะ ?
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 17-08-2010 09:33:55
ปลื้มน่ารักกกกก  :o8:

ปลื้มรุกหนักจริงๆๆๆ กร๊ากกกกกกกกกกกก

พี่ไม้แอบหื่นนะันั่นนะ 555++
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 17-08-2010 09:42:08
พี่ไม้มาแบบแอบหื่นเงียบๆไม่กระโตกตาก :z1:
น้องตี่ตี้น่ารักมาก :m1:
จะรออ่านนิยายเรื่องใหม่จ้า
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษน่ารักๆ กด +1ให้จ้า :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-08-2010 10:02:43
พี่ไม้อะ ทำน้องตี่ตี้เจ็บเลย อิอิ
แต่ทำไมตี่ตี้น่ารักจัง ชอบบบบบ อยากด้ายยยยยย :impress2:
รอตอนพิเศษอีกนะคะ มีความสุขจังที่ได้อ่าน  :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 17-08-2010 10:33:06
ยกมือสนับสนุนเรื่องรวมเล่มค่ะ แอบรออย่างใจจดใจจ่อ อิ อิ

น้องปลื้มน่ารักอะ แล้วอย่างนี้พี่ไม้จะไปไหนรอดล่ะเนี่ย

แล้วก้ออยากอ่านเรื่องต่อไปแล้วอะ เล่นมาทิ้งไว้ให้อยากแบบนี้

อยากรุ้แล้วว่า คุณคนเดียว นี่เป็นยังไงกันนะ

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 17-08-2010 12:16:34
รวมเล่มก็จะซื้อครับ

แล้วจะติดตามเรื่องใหม่ด้วยครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 17-08-2010 12:34:49
รวมเล่มนะค๊าาาาาาาาาา เพราะเราอ่านเรื่องนี้บ่อยมากกกก

แต่ตอนนี้พี่ไม้กับตีตีีน่ารักมากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: benben ที่ 17-08-2010 12:52:40
ได้ใจแม่ยกจริงจริ๊ง ลูกปลื้ม รับสมัยใหม่ ต้องกล้ารุก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 17-08-2010 14:14:37
อ๊ายยยยน้องปลื้มน่าร๊ากกกกกกกก
ใสๆแสบๆน่ารักที่สุดอิชชี่พี่ไม้อ่ะได้แฟนน่ารักๆอย่างนี้
ตอนน้องร้องไห้น่าสงสารอ่ะพี่ไม้ดูแคร์ความรู้สึกมากๆเลยตอนแรกก็คิดว่าไม้อายแต่จิงๆแล้วเป็นห่วงน้องนี้เองคู่นี้น่ารักมากมายเลยอิอิ
และแล้วพี่ไม้ก็เข้าสมาคมเดียวกับพี่ฉานอย่างเป็นทางการ5555+
ปล.หนับหนุนให้ทำหนังสือค่าอยากได้ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 17-08-2010 14:20:17
ตีตี๋เล่นลูกตรงขนาดนี้แล้วพี่ไม้เค้าจะไปไหนรอด o13
 :z13:คิดถึงปลาไหลใส่เสก็ต
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 17-08-2010 14:24:31
 :-[

รักต้องรุก.... o13
แต่ ถ้ารักก็ต้องรับ เหมือนกันนะ   5555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 17-08-2010 14:38:29
น้องปลื้มมมมมมมมมมมมมมม น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด

(รายงานตัวตามอ่านทันแล้ว  คริคริ)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: b_hihi ที่ 17-08-2010 15:43:55
เรื่องนี้ถ้ารวมเล่มผมซื้อครับผม

รวมมาเลย





































































































จัดเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: p_pink ที่ 17-08-2010 15:59:33
รายงานตัวว่าตามอ่านมาสองวัน อ่านทันแล้วนะค๊า ...

พี่เมฆ เค้าชอบพี่เมฆอ่ะ มารยาร้อยเล่มเกวียน สรรหาสารพัดสารเพมาใช้
ปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม~~~~~~~~~~~~~~

 :กอด1: ขอบคุณทั้งไรท์เตอร์และคนโพสนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 17-08-2010 15:59:55
แบบนี้แสดงว่าพี่ไม้แพ้ทางน้องปลื้มนะเนี่ย
ช่างเหมือนกับคู่ท่านฉานที่แพ้ทางมารยาคุณเมียตลอด :impress2:
แต่ก็น่ารักดีอ่ะ ขอบคุณไรเตอร์สำหรับตอนพิเศษนะคับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 17-08-2010 16:47:17
 :o8:  :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 17-08-2010 17:33:26
^
^
^
หมายถึงตอนพิเศษ ตอน "ซุกเด็ก" ป่ะค่ะ

ที่คนเขียนเค้าเอามาลูบหลัง ตอนกำลังเศร้าๆ อึมครึมๆอ่ะ นะ

ย้อนๆๆไปก่อนตอนจบสักสามสี่ตอนค่ะ

หน้าไหนไม่รู้อ่ะ ลองย้อนๆดูค่ะ

อย่างนั้นเองเหรอครับ ขอบคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 17-08-2010 17:35:29
อ๊ายยยยย ตี่ตี้น่ารักที่สุดในสามโลก.... :m3:
ชอบมากๆเลย แบบนี้จะให้พี่ไม้ไม่รัก ไม่ห่วง ไม่แคร์ ได้ยังไงอะ น่ากอดมากมายน้องเอ๊ยยยย~

ปล. แอบมีสปอยล์เรื่องใหม่ด้วย >< จะรออ่านนะคะ
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษด้วยค่าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 17-08-2010 17:58:21
 :-[

ปล. เข้ามายกมือสนับสนุน ให้รวมเล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 17-08-2010 18:02:51
น้องปลื้มน่ารักมาก แบบนี้พี่ไม้ไปไหนไม่รอดแน่นอน  :-[ :-[
ฉาน & เมฆ  :ped149:

ปล.1 ตอนพิเศษจัดมาเลยค่ะ
ปล.2 ถ้ามีรวมเล่ม ยกมือสนับสนุนเต็มที่
ปล.3 รอเรื่องใหม่ด้วย น่าติดตามอีกแล้ว

+ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 17-08-2010 18:07:31
น้องปลื้มน่ารัก  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: veevee ที่ 17-08-2010 18:25:17
ขอบคุณที่เขียนเรื่องราวที่ดีๆ ให้ได้อ่านกัน


แล้วจะติดตามเรื่องต่อไป  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 17-08-2010 18:45:54
โฮกพี่ไม้รักพี่ไม้หลง 55
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 17-08-2010 18:54:26
บวกหนึ่ง ให้น้องปลื้ม ที่รุกได้น่ารัก ขนาดเน้
 :-[
รอเรื่องใหม่ด้วยคะ แต่จะไปวางบอมไหม ขออ่านดูก่อน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 17-08-2010 19:15:35
ไม้น่าร้ากกกกกกกก รุกเจอรุกกว่าแบบนี้งั้นเหรอ 555+

น่ารักสุด ๆ เลย   :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 17-08-2010 19:21:42
พี่ไม้กับน้องปลื้มน่ารัก

แอบมีสปอยเรื่องต่อไปด้วยหรอค่ะเนี่ย

จะรออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 17-08-2010 20:16:49
เข้ามาร้องกรี๊ด พร้อมกับบอกว่า คู่ไม้กับน้องปลื้ม

ก็หวานฉ่ำไม่แพ้คุณเมฆกับพี่ฉานเลย

อ๊ากร้อนแรงพอกัน

ทำเอาคนอ่านหน้าแดงไปหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 17-08-2010 21:41:23
ตอนนี้ พี่ไม้หวานได้อีกขอรับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 17-08-2010 21:48:10
ตอนพิเศษก็น่ารักมากกกกกกกก
อ่านไปก็แอบอมยิ้มไป ไม่ไหวทนมากกก
ถ้ารวมเล่มจริงๆก็ดีซิ...เค้าซื้อแน่นอนฮะ
^ ^
หัวข้อ: ขอบคุณ
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 17-08-2010 21:57:20
ขอบคุณมากๆนะครับไม่อยากให้จบเลย รอตอนพิเศษนะฮะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 17-08-2010 22:35:07
คู่นี้ก้อน่ารักไปอีกแบบ
อยากอ่านตอนพิเศษนายฉาน น้องเมฆ
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 17-08-2010 22:41:29
ก็น้องปลื้มใสขนาดนี้แล้วพี่ไม้จะไม่หลงไหวรึ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 17-08-2010 22:57:59
ไม้ถึงเป็นเพื่อนกับฉานได้อ่านะ  :laugh:

จะขึ้นเรื่องหน้าแล้วเหรอคะ รออ่านจ้า รวมเล่มก็น่าสนใจนะ แถมสเปเยอะๆเลยนะ 555 คิดถึงฉานกับเมฆมากเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-08-2010 23:11:10
เด็กมันยั่วจนพี่ไม้จะหลงทางรักหาทางออกไม่เจอแล้วมั้งนั่น น่ารักดีคู่นี้  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 17-08-2010 23:12:27
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ จะอ่านอ่านอีกค่ะ ^^
ปลื้มตรงได้อีก พี่ไม้ก็หื่นใช้ได้เลย อิอิ
คิดถึงฉานกับเมฆมากกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 17-08-2010 23:16:07
โอ๊ย จัดไป+1 แรงๆเลยยย ขอบคุณมากๆค้าบสำหรับตอนพิเศษ

น่ารักไม่ไหว ใจละลาย กับบทเอ็นซี ฮ่าๆ  :pighaun:

พี่ฉาน กับพี่เมฆ นี่ มันก็น่ารักกก เอาอีกๆ แต่อยากอ่านบทของพี่ฉาน บรรยายมั่งอะ

รัก ร้อง รุก  นี่แบบบหืมมม มันจะน่ารักไปไหนว่านี่ น้องปลื้มมมมม พี่ปลื้มน้องมาก 555(เพ้อและ)

น่ารัก เกรียนๆ ใสใส ดีอ่ะะ อยากได้ อีก คู่นี้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 18-08-2010 00:50:57
ไหลลื่น ไม่มีที่ติ เลยนะคะคุณไม้  นี่น้องปลื้มคนแรกจริงป่ะ  อิอิ
น่ารักกกกกกก น้องปลื้ม ใสๆ ตรงๆ แต่แอบเจ้าเล่ห์นะเราว่า  :haun4:
น้องปลื้มรุก แต่พี่ไม้เหนือรุก 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 18-08-2010 04:05:18
ซื้อค่ะ ชอบเรื่องนี้มากทำร่วมเล่มเหอะ นะๆ
กระหน่ำมาให้พอเลยตอนพิเศษอ่ะ พร้อมรับอิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 18-08-2010 16:50:25
ตอนพิเสษก็ยังน่าอ่าน อยากแนะนำเรื่องต่อไปตัดเป็นภาคต่อ ดึงไม้กับน้องปลื้มมาเป็นตัวหลักเลย
เลดี้ขอเชียร์
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 18-08-2010 17:11:22
รักฉานเมฆมากมาย
ตอนนี้เม้นต์ไม่ออก ขอไปอ่านให้ตื่นตันอีกรอบก่อนนนนจ้า

รอตอนพิเศาด้วย โอ้ยยยยยยยย มีฟามสุขจังงงงงงงงงงง รักกกกกคู่นี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 19-08-2010 00:07:29
ชื่อตี่ตี้ก็น่ารักออกน๊าาาาา  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องรุก,P.60] 17 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 19-08-2010 00:46:10
เข้ามารอ "รัก.. ต้องแสดงออก" คร้าบบบ

ถ้ารวมเล่ม อยากได้ ก้อนเมฆกับดวงตะวันเป็นของแถม อิอิอิ

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 19-08-2010 16:42:54
ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก รอก่อนนะ ได้อันนี้มาก่อนเลยเอามาลงก่อน  :z2:
=========================================

(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

 

ตอนพิเศษ    รัก....(ต้อง) ลองใจ (กันด้วยเหรอวะ)


(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

สำหรับผมแล้ว......การรักใครสักคนไม่ใช่เรื่องยาก
แต่การทำให้ผู้ชายคนนั้นแน่ใจว่าผมรัก......มันยากยิ่งกว่าอะไร
มันเหนื่อย และบางครั้งความน้อยใจก็ทำให้รู้สึกท้อ
แต่รักก็คือรัก ...... ไม่มีความเจ็บปวดไหน ทำให้เลิกรักได้เลยสักที
ถ้าการประชดและความกดดันจากรอบข้าง คือ บทพิสูจน์ความรักของผมได้
ผมก็พร้อม............

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


ผมไม่เคยเดินหันหลังให้เมฆ …
ไม่เคยแม้แต่จะคิด ถ้าสิ่งนั้นทำให้เมฆอยู่นอกกรอบสายตา
แต่ถนนยังมีจุดหมายปลายทาง
ความน้อยใจก็มีจุดสิ้นสุดของมันเหมือนกัน
ผมไม่เคยหดหู่ใจ เศร้าใจ น้ำตาลูกผู้ชายไม่เคยคลอเบ้าให้กับเรื่องไหน
ยกเว้นเรื่องนี้
จะมีใครปวดใจได้เท่าผม
ถ้าวันหนึ่งคุณรู้ว่า คนที่อยู่ซุกหน้าหลับใหลอยู่ในอ้อมกอดคุณทุกคืน
คนที่คุณอยู่ด้วยแทบจะตลอดเวลา สื่อสารกันทุกภาษาไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือทางร่างกาย
จะเป็นคนสุดท้ายที่คุณคิดถึง.......ตอนประสบปัญหาชีวิตครั้งยิ่งใหญ่
ถ้าคุณเจอแบบนี้ คุณกล้ามองตาผมแล้วพูดได้มั้ย ว่าไม่รู้สึกอะไร
ผมไม่ใช่คนดี เหมือนหน้าตาที่พ่อแม่ตั้งใจปั้นมาหรอก ผมรู้ดี
ชีวิตไม่ใช่ละครและผมก็ไม่ใช่พระเอกช่องเจ็ดที่ขอแค่ได้รัก แม้สุดท้ายเค้าไม่รักก็ไม่เป็นไร
แน่นอนว่าคนอย่างฉานแสงให้ความรักใครไป ต้องได้ความรักตอบแทนกลับมา
วางหัวใจไว้ที่ใคร  คนๆนั้นก็ต้องยื่นหัวใจมาให้ผมเหมือนกัน



วันนั้น......วันที่เดินหันหลังให้เมฆ ผมร้องไห้
อยู่ต่อหน้าผมทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ในใจเจ็บเจียนตาย
ผมเดินผ่านเหมือนคนแปลกหน้า แต่ใครจะรู้ว่าผมต้องหักห้ามใจแค่ไหน
หักห้ามใจ ที่จะไม่หันหลังกลับไปแล้วกระชากเมฆกลับมากอดเอาไว้แนบอก
ถ้ากลืนมันเก็บเข้าไปได้ ผมทำไปนานแล้ว
ความรักของผมไม่ใช่การก้าวเดินตาม แต่เราจะก้าวไปด้วยกัน
ไม่มีใครเดินนำหน้าใคร เราจะจับมือกันไว้ แล้วเดินไปแบบเรียงหน้ากระดาน
ผมยอมรับได้ถ้าเราต้องตายไปพร้อมกัน แต่ถ้าเลือกได้ ผมขอตายก่อนมัน
แต่ถ้าเลือกไม่ได้ สุดท้ายผมก็ต้องตายตามมันไปอยู่ดี



ผมไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกตอนที่รู้ว่า เมฆตัดสินใจจะเผชิญปัญหาใหญ่ขนาดนั้นคนเดียว
คำบอกเล่าทุกคำจากปากไอ้หน่า ผมจำได้ ท่องจำเรื่องราวได้ขึ้นใจ แต่หลังจากนั้นผมเป็นยังไงผมไม่รู้ตัวเลย ในสมองผมขาวโพลน ทุกอย่างว่างเปล่า จริงๆมันควรจะว่างเปล่าตั้งแต่รู้เรื่องราวจากปากคนอื่นแล้ว แต่มันก็ยังฝืนทำความเข้าใจมาได้จนจบ

ผมไม่ได้โกรธ ผมชินแล้ว เรื่องที่เมฆตัดสินใจทำอะไรโดยไม่ปรึกษาผม

แต่มันไม่เคยมีเรื่องไหนที่จะใหญ่เท่าเรื่องนี้

ความอันตรายของมันเท่ากับความเป็นความตาย

ผมไม่ได้หวงตัวมันเท่ากับห่วงชีวิตมันหรอก
ถึงแม้ว่าการที่มันยอมเอาตัวเองเข้าเสี่ยงจะทำให้ผมปวดหนึบในใจขนาดไหน
แต่สุดท้าย
ความรักมันก็เอาชนะได้หมดนั่นแหละ ตัวมันไม่ใช่ผมไม่หวง แต่ถ้าโชคชะตาทำให้มันต้องผ่านใครต่อใคร ผมแน่ใจว่าสุดท้ายผมจะรับมันได้

ผมแยกแยะความรักและความใคร่ออกจากกัน
ถ้าความรักของผมเป็นเพียงความใคร่ แล้วทำไมชีวิตผมถึงได้หมุนรอบตัวมัน
ถ้าความต้องการของผมคือความใคร่ ผมแน่ใจว่าผมไม่ต้องเสียแรงหา
แทบไม่ต้องขยิบตาเลยด้วยซ้ำ .... แค่เพียงผมยืนอยู่กับที่มันก็จะปรี่มาปะทะตัวผมเองแหละ

แต่ผมแน่ใจว่ามันคือรัก ผมถึงได้เจ็บเจียนตายขนาดนี้
ตอนมีความสุขเราแบ่งปันกัน แต่ทำไมตอนมีความทุกข์มันถึงได้เก็บไว้คนเดียว
ที่ผ่านมาผมปกป้องมันน้อยไปเหรอ ผมให้ความมั่นใจมันน้อยเกินไปรึเปล่า
มันปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนทุกคน แต่ให้ผมเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับรู้  ไม่ใช่คนแรก
ถ้าเหตุการณ์ไม่บังคับ ผมยังอดคิดไม่ได้ ว่าผมจะได้รู้มั้ย
ผมหันหลังให้มัน เพราะผมเสียใจ น้อยใจ ไม่ได้ประชด
เสียใจนะ ไม่ใช่หมดใจ ผมไม่ได้รักมันน้อยลงไปเลย
ผมแค่ขอเวลาทำใจ  แค่นั้น
เมื่อผมทำใจได้ ยังไงผมก็ต้องเดินตามมันไปห่างๆอยู่ดี
ไม่ว่ายังไง ผมก็ไม่ชินที่จะไม่มีมันอยู่ในสายตา
ถ้ามีสติผมบังคับตัวเองให้เย็นชาได้ แต่พอกลับมาเป็นตัวของตัวเองเมื่อไหร่ สายตาก็ต้องมองหามันทุกที



ขนาดข้อสอบยังมีหลายตัวเลือกให้ตัดสินใจ
บทพิสูจน์ก็ไม่ได้มีเพียงบทเดียวเหมือนกัน
แม่รู้เรื่องผมกับเมฆนานแล้ว เพียงแค่รอว่าเมื่อไหร่ ผมจะเดินไปบอกท่านเองอย่างลูกผู้ชาย
ไม่มีอะไรที่แม่ฝังลงในสมองผมเท่ากับกล้าทำก็ต้องกล้ารับอีกแล้ว
แต่ผมก็ปล่อยให้เวลาผ่านไป เพียงแค่กลัวพวกท่านจะรับไม่ได้และลึกๆแล้วผมกลัวว่าเราต้องถูกจับแยกออกจากกัน
ผมซื้อเวลาไว้ โดยไม่คิดเลยว่า ผมดูถูกความรักของพ่อกับแม่แค่ไหน
เค้าให้กำเนิดผมมา แต่ผมก็ยังคิดว่าเค้าจะเหมือนใครๆในสังคม ไม่เปิดโอกาสให้ความรักที่ผิดไปจากธรรมชาติ
สุดท้ายผมก็ต้องก้มหน้ารับกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้ แบบไม่ได้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว
พ่อผมเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ เอ่ยชื่อบริษัทไปใครๆก็ต้องรู้จัก มีลูกแค่สองคน คือผมกับพี่ฉาย
พี่ฉายเอาดีด้านการเรียน อุทิศตัวเองเป็นคนสร้างอนาคตของชาติ อนาคตของกิจการในครอบครัวก็ต้องเป็นผม
สถาปนิกคือความใฝ่ฝัน แล้วมันก็บังเอิญเอื้อต่อกิจการที่บ้านแบบไปด้วยกันได้ ผมสามารถเป็นสถาปนิกที่ดี พร้อมๆกับเป็นผู้บริหารกิจการของครอบครัว มันจึงไม่แปลกถ้าผมจะต้องวางรากฐานตัวเองก่อนใครๆ เพื่อนสนิทคนหนึ่งของพ่ออยากมอบของขวัญให้ลูกสาวที่เพิ่งเรียนจบ ด้วยการสร้างอพาร์ทเม้นต์ให้  งานนี้พ่อเชื่อใจว่าผมทำได้ และผมก็พร้อมจะสร้างความมั่นใจให้กับพ่อ
แต่ใครจะรู้หละว่า
 แม่จะใช้สถานการณ์นี้ลองใจผม น้องเพชรเป็นลูกสาวคนเดียวของลุงวิชัยเป็นแก้วตาดวงใจของบ้าน น้องเพชรอ่อนกว่าผมแค่ปีสองปี สร้างความภูมิใจให้พ่อด้วยการเทียบชั้นเข้ามหาลัยก่อนเกณฑ์คนทั่วไปแล้วจบได้ในเวลาสามปี น้องเพชรเรียบจบแล้ว แต่ผมเพิ่งขึ้นปีสี่ ผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องมากไปกว่าการขอพิสูจน์ฝีมือตัวเอง แต่กริยาเรียบร้อยอ่อนหวานเป็นกุลสตรีไทย ที่ตอนนี้คงหายากกว่าอะไรทั้งหมด ผู้ใหญ่ที่ไหนเห็นแล้วก็ต้องประทับใจชอบใจกันทั้งนั้นแหละ แม่ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น  ขนาดแม่นิ่มของไอ้เมฆยังเป็นไปกับเค้าได้เลย

ปฎิบัติการอวยน้องเพชรให้ผมสนใจ จึงเริ่มขึ้นจากการร่วมมือกันของสองแม่ ทั้งแม่ผมทั้งแม่ยาย
ถ้ารู้ว่ามันเป็นเพียงบทลองใจ
ผมคงไม่จะเป็นจะตายขนาดนี้หรอก จะปรับทุกข์กับเมฆก็ไม่ได้ อยากกอดมันแทบตาย ยังต้องเอาเล็บจิกตัวเองให้อดทนเอาไว้เลย
ที่พึ่งเดียวที่ผมคิดถึงคือพี่ชาย
เราไม่ได้สนิทกันถึงกับจะพูดอะไรกันทุกเรื่องหรอก ตั้งแต่ผมจำความได้ รอบกายพี่ฉายมีแต่กองหนังสือ เปิดเข้าไปมีแต่ตัวอักษรเรียงกันเป็นพรืด ให้ทำยังไงผมก็ทำใจให้ชอบแบบพี่ฉายไม่ได้ รอบตัวผมจึงมีแต่กระดาษเปล่าไม่มีบรรทัด มีทั้งดินสอทั้งสีกระจัดกระจายไปทั่วบ้าน มีลูกน้องร่วมอุดมการณ์ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นไอ้เด็กผู้ชายข้างบ้านที่พี่ฉายยังแอบแซวที่ผมเอามันติดตัวตลอดเวลา ยิ่งกว่ากระติกน้ำตอนเรียนอนุบาลเสียอีก
วันที่ไปส่งพี่ฉายไปเรียนไกลถึงอเมริกา ทั้งๆที่มีแต่ครอบครัวผมและญาติๆ แต่ก็ยังไม่วายมีลูกสมุนอย่างเมฆติดตัวไปส่งพี่ฉายด้วยอยู่ดี เพราะเราห่างกันมาก เราจึงมีความสัมพันธ์ในแบบน้องที่เคารพรักพี่ ไม่ได้สนิทกันแบบเพื่อนที่เล่นหัวกันได้ แต่วันที่พี่ฉายไปเรียนไกลแสนไกลผมก็ยังร้องไห้ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ร้องไห้แค่คนเดียว ผมจำได้ว่าตอนที่น้ำตาผมไหลน้ำตาเมฆก็ไหลเหมือนกัน พี่ฉายดึงผมไปกอด อกพี่ฉายปิดบังน้ำตาของผมไว้ แต่เมฆร้องไห้ต่อหน้าใครๆ  ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย ทุกคนมองเมฆด้วยความเอ็นดู แม้แต่พี่ฉายยังอดใจไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวเพื่อนสนิทที่สุดของผมตอนนั้น
ตอนที่ผมบอกพี่ฉายว่าผมรักเมฆ ไม่ได้รักแบบเพื่อนอีกแล้ว ผมรักมันแบบคนรักมีความสัมพันธ์กับมันอย่างที่คนเป็นแฟนกันเค้าทำ ทั้งๆที่ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นความสัมพันธ์ของเราจะได้เดินต่อไปไหม มันจะจบลงเพราะเราเดินหันหลังให้กันด้วยความไม่เข้าใจรึเปล่า แต่น้ำเสียงที่ผมบอกพี่ฉายไปว่าผมรักมัน ก็พูดออกไปอย่างมั่นใจ ทั้งๆที่ผมกำลังเจ็บเจียนตายแต่ผมก็ปฎิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้อยู่ดี
พี่ฉายไม่ได้แปลกใจ ออกจะเข้าใจแล้วก็รับได้ ไม่มีคำต่อว่าใดๆ บอกแค่ว่าอะไรคือความสุขก็ให้เรายึดมั่นในสิ่งนั้น ทั้งๆที่ผมเสียงสั่นบอกว่าแม่แนะนำผู้หญิงให้ แม่ชอบผู้หญิงคนนั้น พี่ฉายก็ยังคงส่งเสียงหัวเราะฝ่ากระแสเสียงที่ผมกังวลสุดหัวใจไปให้ พี่ฉายบอกว่าแม่ชอบ แต่ไม่ได้หมายความแม่จะยัดเยียดคนนี้ให้ผมสักหน่อย ถึงแม้แม่จะประทับใจแต่แม่เคยพูดมั้ยว่าฉานจีบคนนี้สิ
คำตอบคือ “ไม่” แม่แค่ชอบ แค่พูดถึง มันคือความประทับใจ ใครๆก็รู้สึกแบบนี้ได้ เหมือนเราประทับใจนักร้อง ดารา เพียงแต่ไม่ได้ออกนอกหน้าแบบแฟนคลับดาราแค่นั้นเอง ฉานจะคิดมากไปทำไม ถ้าแม่ให้จีบเมื่อไหร่ ก็ให้บอกแม่ไปว่ามีคนรักอยู่แล้ว พี่ฉายบอกว่า หน้าตาในสังคมกับลูก แม่ต้องเลือกลูกอยู่แล้ว จะมีใครที่เดินยิ้มเชิดหน้าในงานสังคมแต่ข้างหลังคือลูกนอนร้องไห้ทุกข์ใจ แล้วบอกใครต่อใครว่านั่นคือชีวิตที่สุขสมบูรณ์ คนที่มีความสุขจริงๆเค้าไม่ป่าวประกาศกันหรอกนะ คนที่มีทุกข์และมีปมในใจเท่านั้นแหละ ที่จะพยายามสร้างเกราะมาปิดบังเอาไว้แล้วบอกใครๆว่าสุขสบายดี พี่ฉายบอกว่าจะช่วยพูดกับแม่ให้ แต่ความจริงแล้วแทบจะไม่ต้องพูดอะไรเลย เพราะแม่เข้าใจลูกๆดีอยู่แล้ว พุดง่ายๆคือผมกังวลใจไปฟรีๆ ถ้าจะมีตีนกาขึ้นหน้า เอาเป็นว่าผมได้มาแบบไม่ต้องลงทุน
แม่เค้าแค่อยากลองใจว่าถ้ามีอะไรมากดดันหรือบีบบังคับ ผมจะพูดออกมามั้ยว่าผมรักใคร
กว่าผมจะรวบรวมพลังแต่ไม่มีกำลังใจเคลียร์เรื่องนี้ได้ ผมหมกตัวเครียดอยู่นาน เมื่ออะไรๆคลี่คลายผมจึงพูดคุยและแสดงออกกับน้องเพชรได้โดยไม่ต้องเกร็งหรือระวังอะไร ผมพูดคุยกับน้องเพชรเหมือนเพื่อนเหมือนน้องคนหนึ่ง แต่อาจจะไม่หยาบคายเท่าพูดคุยกับไอ้หน่า ไอ้นั่นต้องเว้นไว้ เพราะมันคือเพื่อนชายในร่างหญิง

เรื่องที่แม่ลองใจ มันไม่ได้ทำให้ผมจะเป็นจะตายเท่าเรื่องนี้หรอก

วันนั้นวันที่น้าวิชัย น้องเพชรและครอบครัวมาเยี่ยมที่บ้าน เป็นวันที่ผมไม่เป็นตัวของตัวเองที่สุดแล้ว
ต่อให้เจ็บปวดเพราะคนที่รักแค่ไหน แต่ความห่วงใยเท่าเดิม ผมใจแข็งพอที่จะให้เมฆไปส่งอันดาสมัครเรียนพิเศษคนเดียว
อาการผมแสดงออกจนน้องเพชรยังจับได้ ว่าผมเปลี่ยนไป ช่วงเช้าก่อนออกจากบ้าน ผมติดต่ออันดาได้ ผมเตรียมการณ์ทุกอย่างไว้ให้อันดาอีกทาง เผื่อเมฆมันเอ๋อๆ ทำอะไรไม่ถูก จะมีสักกี่ครั้งที่เมฆไปไหนมาไหนคนเดียว จะมีสักกี่ครั้งที่มันจำทางได้ จะมีสักกี่ครั้งที่มันจะไปไหนโดยไม่มีผม ไม่ต้องถึงนิ้วเท้าก็ได้ แค่นิ้วมือก็พอแล้ว เมฆรู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน แต่เมฆมันบอกพิกัดไม่ได้ เรื่องรถโดยสารประจำทางแล้วต่อรถไฟฟ้า ผมให้อันดาตัดออกไปเลย แท็กซี่เท่านั้น ดีที่ไอ้ตัวดีมันไม่คิดจะพาน้องไปลุยอะไรที่ไหน มันเลือกแท็กซี่เลยตั้งแต่แรก

ผมรู้ว่ามันมองมาทางนี้ แต่ผมแกล้งทำเป็นไม่เห็นไม่สนใจ แต่คนไม่สนใจที่ไหนจะจำได้ว่าคนรักตัวเองแต่งตัวยังไง โทรมแค่ไหน และล่องลอยยังไง ไอ้ท่าทางลากถูกันออกไปนั้น ทำเอาผมแทบจะขับรถตามออกไปให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าไม่ติดว่ามีผู้ใหญ่มาฟังผมพรีเซ็นต์เรื่องแบบวันนั้นด้วยแล้ว ผมไม่ปล่อยให้มันไปเผชิญชะตากรรมกันสองพี่น้องหรอก ในเมื่อมันเป็นของผม น้องมันก็เหมือนน้องผมแหละ ผมต้องหักห้ามใจไม่โทรหาอันดา ไม่งั้นมันต้องรู้แน่ๆว่าจริงๆแล้วผมตัดใจจากมันไม่ได้ ผมไม่ได้ต้องการให้มันง้อ แต่ผมต้องการให้มันคิด ให้มันรู้ว่าสิ่งที่มันทำไป ผมเสียใจแค่ไหน รับรู้ความรู้สึกผมสักนิดก่อนจะทำอะไรก็ยังดี

ทั้งๆที่ผมคิดว่า เป็นเวลาที่น่าจะโทรหาอันดาได้ แต่ผมกลับติดต่อไม่ได้
แหล่งข่าวทางเดียวที่ผมจะรู้เรื่องราวของเมฆ ถูกตัดสัญญาณการสื่อสารทุกครั้งที่โทรไป จะฝากข้อความก็ไม่ได้ ไม่มีเรื่องไหนอึดอัดใจเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว
ตอนเช้าผมเห็นอันดาลากเมฆเข้าแท็กซี่ไป ตอนบ่ายกลายเป็นเมฆพยุงร่างอันดากลับมา ผมวุ่นวายใจแค่ไหนใครจะรู้บ้าง ผมต้องแสดงท่าทีเฉยๆ ทั้งๆที่อกจะระเบิดขึ้นมาวินาทีไหนยังไม่รู้ ถึงแม้ว่าพ่อจะเหมือนอัศวินม้าขาวช่วยถามเรื่องราวให้ ก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรสักเท่าไหร่
อันดาไม่สบาย เพราะคนเยอะ อากาศร้อน นอนน้อย หรืออะไรที่เมฆเอามาอ้างกับผู้ใหญ่ ผมก็รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ใช่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จะโทรถามอันดาก็ยังไม่กล้าเลย ได้แต่ส่งแม่ไปสืบเรื่องเอากับแม่นิ่ม ฝ่ายนั้นก็รู้แค่ว่าอันดาไม่สบาย ร้องไห้ และซึมเศร้า แต่สาเหตุไม่รู้ว่ามาจากอะไร ยังไม่อยากถามอันดาตอนนี้ อยากให้อันดาพักผ่อน อยู่กับตัวเอง ให้อันดาพร้อมที่จะเล่าเรื่องราวทุกอย่างด้วยตัวเอง แม่นิ่มก็เป็นแบบนี้เสมอ ให้เกียรติ์ทุกคนรอบกาย

เดินเล่นรอบหมู่บ้าน     เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจที่น้องเพชรยกขึ้นมาเพื่อให้ผมหายจากอาการฟุ้งซ่าน หรือพูดอีกอย่างคือน้องคงเหนื่อยใจที่คุยกับผมไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้ ถามอย่างผมตอบไปอีกอย่าง เหมือนคนสติไม่อยู่กับร่องกับรอย
สีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าและเรื่องราวพูดคุยเกี่ยวกับงานที่ผมออกแบบเรียกสติผมกลับมาได้บ้าง อย่างน้อยผมก็เปิดยิ้มได้ พูดจารู้เรื่อง

ทุกอย่างเหมือนว่าจะดี

ถ้าผมไม่เดินผ่านมุมรั้วข้างบ้าน ถ้าผมไม่เห็นว่ามีรถไม่คุ้นตาคันหนึ่งจอดหลบอยู่ที่มุมรั้ว ต้นไผ่ที่มาบังทำให้ผมไม่รู้ว่ารถใคร แต่ยี่ห้อรถทำให้ผมรู้ว่าไม่มีฐานะคงขับไม่ได้ แล้วก็ไม่ใช่รถของเพื่อนบ้านคนไหนแถวนี้ ผมไม่เคยเห็น BMW Series 5 ที่ตกแต่งประมาณว่าพร้อมลงแข่งฟอร์มูล่าวันอยู่ตลอดเวลา กระจกติดฟิล์มดำธรรมดาก็แทบมองไม่เห็นอะไรอยู่แล้ว นี่มันยังติดฟิล์มแบบรีเฟลกปิดกั้นทุกการมองเห็นจากคนนอก ไม่ต้องหวังเลยว่าถ้าไอ้คนขับไม่ออกมา ผมจะรู้ว่าใครที่มันผลาญเงินพ่อแม่เอารถดีๆมาแต่งซะเสียของขนาดนี้ ถ้าเป็นเพื่อนหรือน้องคนรู้จักในหมู่บ้าน จะเรียกมาตบบ้องหูให้รู้สำนึกแน่ๆ

ในเมื่อเบื้องบนต้องการให้ผมปวดใจ


มันก็ต้องมีอะไรมาดลใจให้เจ้าของรถออกมาปรากฏโฉมจนได้  ผมเดินผ่านรถคันนั้นไปแต่บ่อยครั้งที่ผมหันมามองเพราะสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าสวนสาธารณะหมู่บ้าน เจ้าของรถคันนั้นก็ออกมายืนพิงรถดูดบุหรี่ ไอ้ใครคนนั้นปล่อยควันออกมาสบายใจ แต่ผมแปลกใจ การแต่งกายคุ้นตาแต่มองไม่เห็นหน้าเลยไม่แน่ใจว่าใคร
น้องเพชรชี้ชวนให้ดูหงส์ในทะเลสาบที่หมู่บ้านเลี้ยงไว้ หงส์อะผมไม่สนใจหรอก ผมกับเมฆเห็นพวกมันมาตั้งแต่ยังเป็ดลูกเป็ดขี้เหร่อยู่เลย แทบจะเขียนพัฒนาการ การกลายเป็นหงส์ออกมาเป็นโฟวชาร์ตได้ด้วยซ้ำ แต่ผมก็ต้องหันไปมองตามมารยาท แถมหงส์ก็ยังว่ายน้ำคู่กันให้ผมสะเทือนใจเล่นอีก
เอาเหอะกรีดมาทีเดิมซ้ำๆให้มันเป็นหนองไวๆเลยก็ดี เค้าว่าแผลฉกรรจ์แค่ไหนถ้ากลายเป็นหนอง แสดงว่าอีกไม่นานก็หาย ถึงผมจะเป็นเด็กยุดใหม่ แต่ผมก็ได้แต่ภาวนาว่าให้มันเป็นอย่างนั้น

ผู้หญิงกับการชื่นชมธรรมชาติ ผมก็เข้าใจว่าเป็นของคู่กัน ถ้าตอนที่ผมปกติก็ยอมรับว่าเป็นอะไรที่น่ามอง ลมพัดผมปลิวสยาย มือบางที่จับปอยผมไปทัดไว้ที่หู หรือรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ มันเจริญตาเจริญใจหมดแหละ

แต่มันนานไปมั้ย!!!!

 คือผมอารมณ์ไม่ปกติเลยอดที่จะพาลไม่ได้ว่า จะมองให้ดอกมันร่วงแล้วกลายเป็นผลไม้เลยรึไง ความจริงมันอาจจะไม่นาน แต่สวนสาธารณะนี้ ผมกับเมฆสำรวจจนพรุนแล้ว ต้นไหนคือต้นอะไร แม้แต่มะม่วงออกดอกตอนไหนออกลูกตอนไหน เก็บกินได้ตอนไหน ผมกับเมฆยังรู้เลย ยังกะเวลามาขโมยได้ถูก ต้นไม้ที่บ้านก็เยอะแยะ แต่น่าแปลกมันไม่หวานเท่ากับที่เราไปขโมยมาเลยนี่สิ หรือว่าความอร่อยมันอยู่ที่ความตื่นเต้นก็ไม่รู้

ผมพรูลมหายใจด้วยความโล่งอก พ่นออกมาแบบรักษามารยาท ไม่ให้คนที่มาด้วยรู้ว่า ผมรอเวลานี้มานานแค่ไหน
เวลาที่น้องเพชรบอกว่า “กลับบ้านกันเถอะ” ความรู้สึกเหมือนๆกับว่า ผมเป็นทุ่งกุลาร้องไห้ ผืนแผ่นดินแห้งผากแตกระแหงแห้งแล้งสุดๆ อยู่ๆมีฝนปรายมาให้พออายเกลือในดินมีควันพวยพุ่งออกมาตอนรับฝนห่าใหญ่ที่จะตกลงมา น้ำตาฟ้าที่ทำให้ผืนนายิ้มได้


แต่ใครจะไปรู้ว่าเวลาข้างหน้า เวลาที่ไล่เลี่ยกัน จะมีน้ำตาตามมาเหมือนกัน
แต่เป็นน้ำตาผมเอง น้ำตาที่มันไม่ได้ไหลออกมาหรอก มันคั่งอยู่ข้างใน
ลำคอผมตีบตันแห้งผากตั้งแต่มองเห็นคนที่เดินก้มหน้า แต่สายตาระแวดระวัง มองซ้ายมองขวา แล้วก้าวถอยหลังดูเหมือนกำลังหลบเลี่ยงอำพรางอะไรสักอย่าง แต่ใครคนนั้นไม่มองมาข้างหน้า เค้าเลยไม่รู้ว่าต่อให้ไกลแค่ไหน ต่อให้เห็นแค่ปลายผมที่โผล่มา ต่อให้ผมปิดตาแล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ ผมก็รู้ว่าคนนั้นคือใคร ผมแน่ใจว่าเดินเข้าไปจับได้ไม่ผิดคนแน่นอน

ดูเหมือนเมฆจะตกใจ แต่ผมกลับปวดหนึบในใจ เสียงรัวของจังหวะหัวใจตอนที่เราหยุดอยู่ตรงหน้ากัน  ทำให้ผมต้องกลั้นใจเอาไว้ ไม่อย่างนั้นไอ้คนตรงหน้ามันต้องรู้แน่ๆว่า ผมอ่อนแอแค่ไหน ไม่ได้ใจแข็งอย่างที่มันตราหน้าเอาไว้หรอก จุดอ่อนของผมที่มันไม่รู้ก็คือ ผมอ่อนไหวเสมอถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับมัน ตอนนี้ผมก็ยังยืนยันแบบนั้น

กว่าจะทำใจเดินผ่านตรงนั้นมาได้
ผมก็เข่าอ่อนจนแทบทรุด หัวใจมันเจ็บจนชา
 ความกังวลใจเดินทางมาจากไหนก็ไม่รู้ ความห่วงใยก็กรูกันเข้ามาในเวลาเดียวกัน ไอ้ความกังวลและความห่วงใยมันไม่มีมารยาทพอที่จะเข้าแถวกันเข้ามากระทบใจผมเลย มันเข้ามาพร้อมๆกัน ความอดทนผมต้องถูกเรียกมาใช้มากที่สุด อย่างน้อยก็แค่เพียงส่งลูกสาวเพื่อนพ่อให้ถึงจุดหมาย แล้วตอนนั้นผมจะบ้าผมจะคลุ้มคลั่ง ผมก็จะปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ

ลงโทษผมแล้ว ก็ทรมานผมให้สุดๆไปเลย เอาให้ผมตายไปแล้ว ผมก็ยังจำความเจ็บปวดก่อนตายได้

มีคนบอกว่าคนเราก่อนจะตาย ภาพในอดีตที่มันฝังใจจะหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำ
ไม่เกี่ยงว่าใกล้จะตายแบบไหน ขนาดผมที่กำลังจะตายทั้งเป็นมันยังย้อนมาให้เจ็บใจจนวินาทีสุดท้ายเลย เพียงแต่ย้อนอดีตไปไม่ไกลเท่าไหร่ มันย้อนไปถึงตอนที่เมฆประคองร่างบอบช้ำของอันดาลงมาจากแท็กซี่ ตอนนั้นสีหน้าอันดาดูจะเป็นไข้ใจมากกว่าไข้ทางกาย อะไรๆมันประติดประต่อจนต้องกำหมัดแน่น ตัวสั่นจนแปลกใจ ว่าตัวเองยังควบคุมร่างกายอยู่ได้ยังไง ส่งน้องเพชรถึงมือพ่อน้องเค้าได้ ผมว่ามันเหนือความคาดหมายแบบสุดๆแล้ว

เสี่ยง!!!!
เอาตัวเข้าแลก!!!
อันตราย!!!!

ผมไม่รู้ว่าอันไหนคือปฎิกริยาเร่งเร้าที่รุนแรงที่สุด ที่สามารถฉุดขาของผมให้ไปที่รถแล้วเหยียบแบบไม่คิดอะไรได้
เป้าหมาย คือบ้านไอ้จัญไรคนนั้น บ้านผู้มีอิทธิพล ผมสืบรู้มาได้สักพักแล้วว่าอยู่ที่ไหน ทางไปไม่ยุ่งยากหรอก เพียงแต่ตอนนั้นไม่มีเหตุอะไรให้ต้องไปเหมือนตอนนี้ ทำไมจุดหมายของผมถึงเป็นบ้านของไอ้สารเลวนั้นได้ เหตุผลไม่ได้มากมายอะไรหรอก ไอ้ลูกแหง่นั่นมันทำอะไรภายใต้บารมีพ่อ ส่วนพ่อมันรักลูกแต่แยกแยะไม่ได้ว่าอะไรผิดอะไรถูก ไม่ว่าสิ่งที่ลูกจะทำมันจะชั่วช้าสารเลวแค่ไหน แต่ความรักก็ต้องปกป้องลูกไว้ ต่อให้คนชี้หน้าเรียกลูกตัวเองว่าไอ้ฆาตรกร แต่ในสายตาคนเป็นพ่อยังไง ลูกก็ยังเป็นเทวดาอยู่ดี

ผมรู้ว่าเมฆไม่ใช่คนโง่ เมฆฉลาดและออกจะเจ้าเลห์ด้วยซ้ำ
ผมรู้ว่าเมฆช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ต้องเป็นการสู้แบบลูกผู้ชาย ตัวต่อตัวเท่านั้น
ผมรู้ว่าเมฆต้องไม่ยอมง่ายๆ ถ้าจะมีใครมาออกคำสั่งหรือใช้กำลังบังคับ
เมฆไม่ใช่ผู้ชายที่อ่อนหวาน ไม่ใช่คนที่เอาใจ แต่มันเป็นคนที่ใครอยู่ใกล้แล้วมีความสุข
เพราะเมฆเป็นเมฆแบบนี้  เพราะมันมีอะไรที่สะดุดทั้งตาสะดุดทั้งใจ
มันไม่รู้ตัวเองหรอกว่าอะไรคือเสน่ห์ของตัวมันเอง
แล้วอะไรที่ได้มายากๆ ใครๆก็อยากจะเอาชนะเอามาให้ได้
หลายสิ่งหลายอย่างที่รวมออกมาเป็นมันในแบบนี้ จึงทำให้ผมมุ่งหน้ามาที่นี่
ทุกอย่างมันง่าย ถ้าได้ทำในรังของตัวเอง มีพวกพ้อง มีคนกางปีกปกป้อง
แล้วจะมีที่ไหนที่จะทำชั่วได้สะดวกใจเท่าที่นี่ ไม่มีอีกแล้ว

TO BE CONTINUE next time next day next year (อันนี้สงสัยได้โดนกระทืบ)T_Tติดตามตอนต่อไปแล้วแต่น้องเซมากูเตะค่ะ (โยนกันเห็นๆ)



สวัสดีค่ะแม่ยกพี่เมฆท่านฉานพี่ไม้และเด็กแสบข้างบ้านทุกคน
อาจจะแปลกใจเพราะตอนที่แล้วโปรยไว้ว่าเป็นตอน รัก....ต้องแสดงออกแต่คนอ่านของพี่เมฆหลายคนก็สงสัยกันเหลือเกินว่าพี่ฉานมันทะเล่อทะล่าให้ใครเค้ายิงมา เลยกลายมาเป็นตอนนี้ก่อน ถือว่าเฉลยเรื่องที่หลายๆคนสงสัย ก่อนที่จะไปดูว่าเค้าแสดงออกกันยังไงในโรงพยาบาล เอร้ยยยยยยย จะเอาหัวโขกขอบโต๊ะตาย แต่ก็นะ ยังได้ เพราะตอนนี้ช่วยชีวิตไว้แท้ๆ คือมันเขียนไปแล้วเพลิน จบไม่ได้ในตอนเดียว 5555 องค์กวีประทับร่างแบบไม่ดูเวร่ำเวลา ถ้างั้นก็นะ อ่านตอนหน้ากันอีกสักตอน แล้วค่อยไปอ่าน “รัก....ต้องแสดงออก” นะ จะว่าไปลงตอนพิเศษกี่ตอนแล้วเนี่ย เริ่มหมดมุขจะเขียนแล้วมั้ย กรี๊ดดอย่างเพิ่งหวังกับเรื่องใหม่นะ มันได้แค่ตอนเดียวยังไง ก็ยังตอนเดียวอยู่อย่างนั้น 555 แต่มันก็พัฒนาขึ้นนะ จากที่มีพล็อตเรื่อง มีพระเอกมี นายเอก มีตัวอิจฉาที่เสกมาตัวแรก มีตัวประกอบ ใกล้คล้ายละครช่องหลายสีแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องน้ำเน่า ตอนนี้ยุงเริ่มแพ็คกระเป๋าแล้ว  คิดดูว่าแต่งนิยายได้หนึ่งตอน แต่ชื่อเรื่องเพิ่งคิดออกวันนี้ ตอนนั่งห้องน้ำ องค์กวีไม่ดูเวร่ำเวลาจริงๆนะ ชื่อเรื่องว่า “คุณคนเดียว แต่เราสองคน” ว่าจะให้เป็นนิยายปวดใจแต่ไม่รู้ว่าทำไปทำมามันจะกลายเป็นรักกันไปวันๆแบบสองคู่นี้มั้ยนะ เครียดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kboom ที่ 19-08-2010 17:43:07
TO BE CONTINUE next time next day next year (อันนี้สงสัยได้โดนกระทืบ)T_Tติดตามตอนต่อไปแล้วแต่น้องเซมากูเตะค่ะ (โยนกันเห็นๆ)

หมายความว่าไงครับที่รัก

กรุณามาต่อ

คริ ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 19-08-2010 17:43:49
:z13:
อัพแบบเงียบๆอีกแล้ว
เพราะรักก็เลยอยากปกป้องคนที่รัก
แต่ทำไมไม่โคกันก่อน :angry2:
เห็นมั้ยโดนยิงเลย  อร้ายยยยยยยยยยยยย
next time next day อ่ะรับได้แต่next year นี่ยังไง
 o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 19-08-2010 18:03:52
เปลี่ยนจาก next time next day next year เป็น soon ดีกว่านะคะ

+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 19-08-2010 18:05:35
กระหน่ำลงจิง ๆ
อย่างนี้ของชอบ

ฉาน นี่มันรักเมฆจนโงหัวไม่ขึ้นจริง ๆ
 บวกหนึ่งคะ
แค่เน๊กเยียร์ ไม่เอานะ
ขอเป็นคัมมิ่งซูน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 19-08-2010 18:18:05
ได้รู้ความรู้สึกของเฮียฉานตอนนั้นแ้ล้ว...น่าสงสารจัง ต่างก็กดดันกันทั้งสองฝ่าย  :sad4:
แต่ตอนหน้าก็จะคืนดีกันแล้ว จะได้รู้ซะทีว่าปรับความเข้ากาย เอ๊ย เข้าใจกันยังไง :z1:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 19-08-2010 18:21:46
โห บรรยายกันซะขนาดนั้น เรื่องนี้เครียดไปทันตาเห็นเลย เหอะๆ แต่ก็ดีค่ะ เราสงสัยเหมือนกันว่าคุณพี่ฉานทำอีท่าไหน ไปให้เค้ายิงมาได้  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-08-2010 18:30:53
 :L1:ครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 19-08-2010 18:43:23
next hour ได้มั้ยอ่ะ  555

อ่านแล้วปวดใจ...สงสารพี่ฉาน...   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 19-08-2010 19:00:18
ขอกรี๊ดดังๆให้กับดวงตะวันอันร้อนแรงที่แสนจะอบอุ่นอย่างนาย ฉานแสงแรงกล้า!!  :L2: :m1: :L2: :m1:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 19-08-2010 19:13:55
ขอบคุณคนแต่งกะคนโพสจ้ะ
เฮ้อ..ขอบ่นนิดนึง ตอนพิเศษไมเครียดและค้าง
เมฆกะฉานรักกันแต่ไม่คุยกันเรื่องเลยบานปลาย
สิ่งที่เห็นสิ่งที่ได้ยินสิ่งที่คิดเองทำให้ฉานทุกข์และเจ็บตัว
รอคนแต่งองค์ลงจะได้รู้ว่าฉานเจ็บตัวได้ไง :เฮ้อ:
ปล.เข้าห้องน้ำบ่อยๆดิคนแต่งจะได้นึกเรื่องออก :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 19-08-2010 19:28:06
เอามาอีกเยอะๆ น้าา
เค้าช้อบ ชอบ  :laugh:

พี่เมฆนี่ทำบุญด้วยอะไรฟะ
ถึงขนาดทำให้หนุ่มหล่อมาดแมนอย่างพี่ฉาน
หลงหัวปักหัวปำอย่างนี้นี่

อิจฉาวุ้ยย :impress3:

+1 ค้าา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 19-08-2010 19:42:30
มาต่อเร็วๆนะคะ พลีสสสส
น่าจะคุยกันก่อนน้า เฮ้อ...ฉานเลยโดนยิงฟรีเลยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 19-08-2010 20:52:41
TO BE CONTINUE next time next day next year = น่ากลัวมากกก next time ดีที่สุด

รออ่าน

อยากรู้เหมือนกันทำไมมมมมมมมมม

พี่รักไอ้พี่ฉานจังเลยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 19-08-2010 20:59:00
มารอ   :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 19-08-2010 21:20:00
ยังสนุกเหมือนเดิม เป็นการเล่าตอนก่อนจบผ่านุมมองฉาน
เข้าใจดีเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 19-08-2010 21:38:39
ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 19-08-2010 21:56:52
 ตัดจบฉับให้คนอ่านค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงเติ่ง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 19-08-2010 21:59:52
อ่านแล้วปวดใจ :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 19-08-2010 22:18:34
อะนะ ฉานอย่าใจร้อนไปบุกรังอย่างนี้สิ

ถ้าเป็นอะไรไปแล้วใครจะดูแลเมฆล่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 19-08-2010 22:22:01
ต่างฝ่ายต่างก็ห่วงซึ่งกันและกัน
ต่างก็ต้องการปกป้องอีกฝ่าย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 19-08-2010 22:30:28
มารออ่านครึ่งหลัง
ทำกันได้นะ  writer
ค้างงงง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 19-08-2010 22:48:02
ตัดกันอย่างนี้เลยเหรอ = =

เน็กซ์เยียร์ เลยเหรอครับ เปลี่ยนเป็นเน็กซ์เมียจะดีกว่ามั้ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 19-08-2010 22:55:44
รอครึ่งหลังนะคะ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 19-08-2010 23:11:45
อ่านไปอ่านมาแล้วเข้าใจฉานมากขึ้นขอรับ
ปอลิง รอครึ่งหลังด้วยคนขอรับ :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 19-08-2010 23:45:30
นอนไม่หลับแน่คืนนี้ :serius2:
อยากอ่านต่อหงะไรเตอร์ :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 20-08-2010 00:05:57
ตอนพิเศษ ต่อไป ขอเป็น ทูมอโร่เลยดีกว่าคะ  อิอิ

พี่ฉานเอ๊ย เจ็บปวดแบบนี้ก็อย่าทำอีกเลยนะ  ทั้งสองคนเลย

คนอ่านปวดตับตาม 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 20-08-2010 00:09:36
นั่นนินะ ทูมอโร่เลยดีกว่า  :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 20-08-2010 02:53:40
 :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 20-08-2010 04:38:57
ข้อสงสัยกำลังจะกระจ่างแล้ว
เคยคิดเหมือนกันว่าท่านฉานปทำอีท่าไหนจนโดนยิงเอา
แต่ได้อ่านตอนนี้แล้ว รู้สึกถึงความรักที่ท่านฉานมีเลย

ส่วนน้องปลื้มพี่ำไม้นี่อ่านตอนพิเศษแล้วนั่งยิ้มเลย
จะน่ารักไปไหนคู่นี้ ชอบแบบน้องปลื้มอ่ะน่ารักที่สุด :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 20-08-2010 08:43:07
ถ้าหา ผช แบบพี่ฉานได้สักคน คงจะดี....

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 20-08-2010 09:12:44
+1 รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 20-08-2010 11:37:24
อ่านจบแล้ววววววววว :mc4:
น้องปลื้มน่ารัก(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/yoyo18.gif)
เมฆเนี่ยเหมือนจะเฉยๆ แต่เจ้าเล่ห์ใช้ได้เลยทีเดียว
ฉานก้อตรงไปตรงมา
ที่ไม่น่าเชื่อเนี่ย ต้องยกให้ไม้ เพราะซุกเด็กไว้ได้ตั้งนาน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 20-08-2010 18:29:13
ยิ่งได้อ่านความคิดของฉานตอนนี้ ยิ่งทำให้รู้ว่าฉานรักและเป็นห่วงเมฆเป็นที่สุดๆๆๆ  :กอด1:

มารอตอนต่อไปจากไรเตอร์นะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 21-08-2010 00:14:50
อ่านแล้วปวด หนึบๆ ในใจ เพิ่งรู้ว่า ...พี่ฉาน ก้มีมุมอ่อนแอเหมือนกัน

โดยเฉาพ เรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับเมฆ

มารอตอนต่อไปปป ขอไวๆนะะะะ พลีสสสส
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-08-2010 00:30:39
อ่านตอนนี้แล้วปวดใจตามอิพี่ฉานเลย  :z3:
ตอนต่อไป ตอนต่อไป ตอนต่อไป ตอนต่อไป  :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 21-08-2010 13:29:12
ชอบตอนพิเศษจังค่ะ
รู้สึกว่ามันเติมเต็มจนจบบริบูรณ์ในใจคนอ่าน
แบบว่าทำให้เข้าใจที่มาและมุมมองของตัวละครมากขึ้น
ขอบคุณไรเตอร์และคนโพสท์ที่อุตส่าห์มากระหน่ำลงตอนพิเศษให้อย่างจุใจค่ะ
แอบรอตอน(พิเศษ)ต่อไปอยู่น้า ฮี่ๆๆๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ปลาทูอ้วน ที่ 21-08-2010 20:48:25
 :z2: เด็กใหม่ขอมาเสนอหน้าคะ   รักพี่เมฆกะพี่ฉานที่ซู้ดดดเล้ยยยยย  อิอิ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 21-08-2010 21:06:00
ว้าวววววว  จะได้เห็นคุณชายฉานแสดงอิทธิฤทธิ์แล้ววววว   o13

 :กอด1: ไรท์เตอร์ผู้น่ารัก  รีบมาต่อเร็วๆนะ  เอิ๊กๆๆๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 22-08-2010 02:26:09
^
^
^
^

รีบน งั้นเรามารวมหัวกันบุกบ้านนุ้งเซมั้ย

ว่าทำไมนุ้งเซไม่มาโพส  :serius2:

หรือว่าจะรอ next year จริงๆ  :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ,P.61] 19 สิงหา 10
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 22-08-2010 13:24:20
ครึ่งแรกก็ปวดใจขนาดนี้ครึ่งหลังคงไม่ให้ปวดยันเครื่องในนะครับผม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 22-08-2010 13:57:23
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

 

ตอนพิเศษ    รัก....(ต้อง) ลองใจ (กันด้วยเหรอวะ)


(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)

 ที่หมายปลายทางที่ผมตัดสินใจเหยียบคันเร่งแบบไม่คิดชีวิตนั้น ความยิ่งใหญ่ของมันไม่มากไม่น้อย แค่กินอาณาบริเวณซอยทั้งซอยแค่นั้นเอง ที่ที่ไม่ควรเรียกว่าบ้าน ผมว่า มันคล้ายพระราชวังอะไรสักอย่างเลยมากกว่า


มากกว่าคำว่ารวย แล้วเรื่องที่ใครๆบอกว่า เจ้าของบ้านหลังนี้เป็นผู้อิทธิพลนั้น ผมไม่แปลกใจ

รั้วทึบสีขาวทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ความสูงของรั้วบนบังชั้น 1 ของบ้านเสียมิด นั่นหมายถึงคนนอกไม่มีสิทธิ์รับรู้ความเคลื่อนไหวของคนในบ้านเลย มินิทูโทนคู่ใจของผมจอดไม่ไกลจากประตูบ้านสักเท่าไหร่ รถเล็กขนาดนี้มันคงไม่แปลกหรอกที่จะไม่มีใครสนใจ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเหนือรั้วสูงสีขาวผมมองด้วยตาเปล่ายังเห็นกล้องทีวีวงจรปิดติดเอาไว้ถึงสองตัว ซ้ายขวา หน้ากล้องส่งเข้าหากลางประตูรั้วบ้านพอดี แล้วแบบนี้จะให้ผมเชื่อได้เหรอว่าข้างในไม่มีใครรู้ ว่ามีคนแปลกหน้ามาจอดรถขวางหน้าบ้าน
ผมถึงจอดมันใกล้ๆประตูให้รู้กันไปเลยว่าผมมา เพราะต่อให้หลบซ่อน ระบบความปลอดภัยแน่นหนาขนาดนี้ยังไงก็ต้องโดนจับได้อยู่ดี ถึงแม้ในใจมันร้อนเป็นไฟ จนอยากจะฆ่าไอ้จัญไรนั่นขนาดไหน แต่ผมก็ไม่โง่พอที่จะทำอะไรเสี่ยงตายแบบนี้หรอก ชีวิตผมต้องรักษาไว้ปกป้องไอ้คนดื้อด้าน ที่มันทำเอาผมใจร้อน นั่งดิ้นพล่านอยู่หน้าถ้ำเสือแบบนี้อีกนาน

ผมต้องการมาเพื่อแค่จะเอาคนของผมกลับไป เท่านั้น

ส่วนบัญชีหนี้แค้นทั้งหลาย มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะปล่อยให้มันผ่านไปหรอกนะ
ผมไม่เคยบอกไช่ไหม ว่าผมเป็นคนดี แต่จะแก้แค้นทั้งที ผมขอวางแผนให้แนบเนียนกว่านี้หน่อย
แค่บุ่มบ่ามบุกถ้ำเสือมือเปล่าแบบตายเป็นตายนี่มันก็เสี่ยงมากแล้ว
เสี่ยงกันทุกฝ่าย ทั้งเมฆทั้งผม ในเมื่อมันต้องเสี่ยงแล้วให้ผมรอดูมันเฉยๆ ผมทำไม่ได้

ประตูทึบบานเล็กถูกเปิดออกโดยคนตัวใหญ่ ใส่ชุดซาฟารีสีดำ ผมเคยคิดว่าคนคุ้มกันมาเฟีย คงเป็นแค่จินตนาการของละครทีวี แต่ที่ไหนได้ มันมีอยู่จริง ไม่รู้ว่าใครกอปปี้ใคร แต่ไอ้คนหน้าเหี้ยมมันมาเคาะกระจกผมก่อนจะทำสัญญาณมือให้ลดกระจกลง
“มาพบใคร”
“ไม่ได้มาพบใคร มารอคน”
“แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่สาธารณะ”
“ผมรู้”
“งั้นคงให้จอดรอที่นี่ไม่ได้ เพราะที่นี่เป็นที่ส่วนบุคคล”
“ผมรู้ แต่คนที่ผมมารอเค้ามากับเจ้านายคุณ”
“คุณมั่วแล้ว เจ้านายผมไม่ได้พาใครมา”
“อาทอะนะ ไม่ได้พาใครมา” ผมว่าผมใจเย็นแล้วนะ ผมควบคุมอามรมณ์แล้ว แต่ไม่รู้ทำไม พอมันเริ่มตีวงแคบเข้ามาเท่าไหร่ อารมณ์ที่สะกดเอาไว้มันจะแตกพล่านทุกที ผมกัดฟันแน่น ผมไม่เคยเรียกชื่อเจ้านายมันด้วยชื่อธรรมดาหรอกนะ คุณค่ามันมากไป แต่ผมก็ไม่โง่พอที่จะเรียกว่าไอ้จัญไรเหมือนกัน

ตอนนี้ ผมหึง ผมหวง ผมโกรธ แล้วผมก็พร้อมที่จะพาล.......


“คุณอาทยังไม่กลับมา คุณชื่ออะไรครับผมจะสอบถามให้ เผื่อจะได้เข้าไปรอด้านใน” นี่ถ้าไม่ติดว่าผมมามือเปล่า คนแถวนี้ได้โดนผมโหมดพาลเสยปากเข้าให้แล้ว ผมรู้ว่าไอ้หน้าเหี้ยมนี่ตั้งใจจะรวน มันคงไม่เคยเห็นหน้าผมมาก่อน การที่จะติดต่อเจ้านายมัน ก็ถูกแล้ว แต่ไอ้คำว่า “เผื่อ” นี่ กวนตีนไปหน่อยมั้ย ไม่มีความรู้สึกอยากเข้าไปเหยียบอาณาจักรพวกมันเลยให้ตาย ผมแค่จะมาเอาคนของผมกลับบ้าน

“ไม่ต้องติดต่อหรอก แต่เมื่อกี้ว่าไงนะ อะ ไอ้ เอ่อ อาท ยังไม่กลับงั้นเหรอ”

“ยังไม่กลับ นัดไว้รึเปล่าหละ ถ้าไม่ก็คงต้องรอตรงนี้ละมั้ง” ไอ้ชุดดำหน้าเหี้ยมจะพูดอะไรผมไม่สนใจแล้ว มันหูอื้อตาลายตั้งแต่ได้คำยืนยันว่านายมันยังไม่กลับมานั่นแหละ


กังวล.....เป็นห่วง.....ฟุ้งซ่าน...ใกล้บ้า...ประเดประดังเข้ามา


ปรอทแตก....!!!..ผมกดกระจกขึ้นทันที ไม่สนใจว่ามารยาทที่ดีเป็นไง


ไอ้หน้าเหี้ยมเองก็คงหงุดหงิด แต่นอกบ้านมันจะทำอะไรได้ นอกจากกระทืบเท้าเดินเข้าอาณาจักรมันไป


ห่วงก็ห่วง น้อยใจก็น้อยใจ ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่รวมกัน แล้วเรียกว่า “ทิฐิ”
แทนที่จะต่อตรงถึงไอ้คนที่ทำให้ผมเป็นคนบ้า ผมเลือกจะกดหาเพื่อนที่คิดว่าเข้าใจ
จริงๆแล้วเพื่อนทุกคนเข้าใจ
แต่ผมคงโทรหาทุกคนไม่ได้ ไอ้ไม้เลยเป็นตัวแทนที่ผมเลือกโทรหามันในตอนนั้น
เสียงรับมันสดใส จนผมแอบสะเทือนใจขั้นสุด

“กูจะไปหามึง” คือคำพูดแรกที่ผมรายงานมันว่าผมอยู่ไหน

“เฮ้ย มึงจะมาทำไม กูแค่จะมารับเมฆเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก” ผมรู้ดีว่ามันเป็นห่วงผมมาก แต่ผมไม่ใจร้ายพอที่จะขัดขวางเวลาแห่งความสุขเพื่อนหรอกนะ ฟังดูก็รู้แล้วว่าตอนนี้ไอ้ไม้อยู่กับใคร

“มึงคงไม่ไปรับมันเพราะเหตุการณ์ปกติหรอกใช่มั้ย ครั้งสุดท้ายกูจำได้ว่ามึงโกรธมัน แล้วเดินหันหลังให้ ไอ้เมฆเมาเกือบตาย ร้องไห้โวยวายโครตน่าสงสาร แล้วทำไมตอนนี้มึงถึงอารมณ์ดีไปรับมันหละ” ไอ้ไม้มันเพื่อนผมก็จริง แต่ไอ้ที่แขวะมาทุกคำพูด เพราะผมผิด ผมก็รู้อีกเหมือนกัน ลองมันน้อยใจไอ้เด็กข้างบ้านมันวันไหน ค่อยมาเข้าใจความรู้สึกผมตอนนี้ก็ได้ ไม่เป็นไร หัวเราะทีหลังดังกว่าอยู่แล้ว แต่ที่ผมสะดุดใจคือไอ้เมฆเมาแล้วโวยวายนี่แหละ ปกติมันเมาแล้วพูดมาก ขี้อ้อนโดยไม่รู้ตัว แต่โวยวายนี่แสดงว่ามันเครียดมากใช่มั้ย

เพราะผมรึเปล่า หรือเพราะใคร..

“ฉาน ฉาน ฉาน” ผมได้ยินเสียงแว่วๆเรียกชื่อผมมาไกลๆ แต่คำสุดท้ายคล้ายกับตะคอก สะดุ้งตกใจ นี่ผมจมกับความคิดตัวเองแล้วปล่อยให้ปลายสายโวยวายมานานแค่ไหนแล้ว
“เออ ว่าไง”
“มึงทำอะไรอยู่เนี่ย กูนึกว่ามึงโดนเป่าแล้วไอ้ฉิบหาย อยู่ๆเงียบไปกูตกใจหมดเลย”
“เปล่า แค่คิดอะไรนิดหน่อย”
“มึงคิดช้าไปรู้มั้ยฉาน ใครๆก็รู้ว่ามึงสองคนรักกันแน่ๆ แต่มึงรู้มั้ยชีวิตคู่อ่ะ ใช้แค่ความรักไม่ได้นะโว้ย มันต้องเข้าใจกันด้วย มึงรู้ใจเมียมึง แต่มึงเข้าใจมันมั้ย มึงรู้รึเปล่าว่ามันคิดอะไร ต้องการอะไร มึงรู้มั้ยการเป็นผู้รับอย่างเดียวมันรู้สึกแย่แค่ไหน คนเรามันต้องผลัดกันให้ผลัดกับรับเว้ยมันถึงจะแฟร์ ไอ้เมฆมันเสี่ยงจัดการเรื่องนี้เอง ถ้ามึงไม่ควายนะ มึงก็ต้องรู้ว่ามันห่วงมึง มันกลัวเป็นหม้ายเพราะผัวมันใจร้อนจะตายห่า แล้วผิดคำพูดมันซะที่ไหน ตอนนี้มึงอยู่ชายแดนเรียบร้อยแล้วเห็นมั้ย มึงก็เป็นซะอย่างนี้ แล้วอีกอย่างนะไอ้ควาย ไอ้เมฆมันก็อยากเป็นผู้ชายให้สมกับที่พ่อแม่มันอุตส่าห์ปั้นกระปู๋ออกมาอ่ะเข้าใจมั้ย ก็มึงเล่นโอ๋ จนมันรู้สึกสาวแตกจนเสียความมั่นใจ กูเหนื่อยแล้ว หวังว่ามึงคงคิดได้ แล้วก็ขอบใจที่มีช่วงเวลาชุลมุนให้กูได้มีโอกาสด่ามึงได้ และสุดท้ายกูยืนยันว่า กูจะไปหามึง”
“กว่ามึงจะมาก็พอดีอ่ะเช้า กูจะไม่ใจร้อนไม้ กูสัญญาว่าพอเจอเมฆแล้วกูจะลากมันกลับบ้านไม่ก่อเรื่องอะไรหรอก” ผมพูดไปเอานิ้วไขว้กันไว้ข้างหลัง
ผมหน้าด้านสัญญากับไอ้ไม้ว่าจะไม่ใจร้อน ทั้งๆที่ในอกตอนนี้ร้อนเป็นไฟ เมฆกับไอ้ระยำนั่นออกกันมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่ถึงบ้าน ไปอยู่กันที่ไหน ส่วนไอ้ไม้ผมไม่อยากให้มันเป็นห่วง ไม่อยากให้มันกังวลอะไร เอาเป็นว่าเรื่องนี้ ผมไม่อยากให้เพื่อนคนไหนมาร่วมกันไม่สบายใจและเดือดร้อน ที่ผ่านมาแค่พวกมันรับได้และเป็นกำลังใจให้กับความรักของผม แค่นั้นมันก็มากมายแล้ว ผมเกลี้ยกล่อมให้มันวางใจอยู่ไม่นานก็วาง ที่หมายใหม่จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ไอ้หน่า

ถึงแม้คนที่ผมเลือกโทรจะกระแทกประโยคปวดใจมาให้ แต่สุดท้ายผมก็ได้บางสิ่งบางอย่างกลับมาให้ได้สบายใจทุกที
“มันบอกแต่แผนการณ์หวะฉาน แต่มันไม่บอกว่าจะทำเมื่อไหร่ตอนไหน นี่อย่าบอกนะ ว่าไอ้หน้าฮวกนั่นมันทำตามแผนการณ์แล้ว” คำตอบไอ้หน่าเป็นอะไรที่ผมรู้อยู่แล้ว เมฆให้ความสำคัญกับเพื่อนทุกคน มันบอกทุกเรื่องราวเท่ากันหมด ไม่มีใครรู้เยอะไปกว่าใคร แล้วท้ายประโยคไอ้หน่าก็บอกให้รู้ว่ามันตกใจ

ผมไม่ได้บอกหน่าหรอกว่าผมอยู่ไหน ผมรู้ว่าถ้าหน่ารู้ เพื่อนทุกคนก็จะต้องรู้และต้องแห่กันมา ผมรู้ว่าหน่าหวังดี แต่ตอนนี้ผมบอกไม่ได้ว่าข้างหน้ามันเสี่ยงแค่ไหน ผมไม่อยากเอาใครมาเสี่ยงร่วมกับอารมณ์ชั่ววูบผมเลยจริงๆ
“ฉานมึงอย่าไปโกรธอะไรไอ้เมฆมันให้มากเลย มันไม่มีอะไรหรอก มันก็แค่อยากเป็นคนรักที่คู่ควรกับมึง ก็แค่นั้น”
แปลก...ปกติผมกับไอ้หน่า เรามักจะต่อปากต่อคำกันเสมอยิ่งเรื่องบางเรื่องที่ผมงี่เง่าใส่เมฆมัน ปกติไอ้หน่าจะเป็นทัพหน้าออกตัวแทนเพื่อนรัก แต่วันนี้นอกจากมันไม่ด่าผมเหมือนทุกทีแล้ว มันยังบอกอะไรให้ผมรู้จากคูพูดแค่ไม่กี่คำ
“มันก็แค่อยากเป็นคนรักที่คู่ควรกับมึง” เป็นคนรักที่คู่ควรกับผมเหรอ นี่มันวางผมเอาไว้สูงแค่ไหนกันนะ

ผมก็คนธรรมดา และอยากรักมันแบบคนธรรมดาเค้ารักกันแค่นั้นแหละ ไม่ต้องมีได้มั้ย ชาย-หญิง ชาย-ชาย ไม่ต้องหาคำจำกัดความอะไร ไม่ต้องตอกย้ำอะไรกันเลยก็ได้ ขอแค่เราเป็นเราแบบนี้ อยู่กันไปแบบนี้ แค่นี้เองที่ผมต้องการ



เสียงล้อรถบดเบียดถนนมาด้วยความเร็วสูง ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้ว่าคนขับคงยังไม่พ้นวัยรุ่นหรือถ้าเลยมาแล้วก็คงไม่นานเท่าไหร่ รถคันนั้นผ่านหน้าผมไปแค่แว่บเดียว แต่แค่นั้นผมก็จำได้ รถไอ้อาทแน่ๆ
ประตูรั้วสีขาวเปิดกว้างต้อนรับทันทีที่รถถึงหน้าประตูเหมือนทุกคนจะรู้จังหวะ อย่าว่าแต่เจ้าของรถมันจะสังเกตเห็นผมเลย แค่รถเทียบประตูหน้าบ้านเท้าคนขับแทบจะไม่แตะเบรกด้วยซ้ำ ประตูกว้างก็เปิดทันที แล้วก็ปิดลงทันทีเมื่อรถผ่านไปพ้นคันแล้วเหมือนกัน
ผมรีบวิ่งไปกดกริ่งหน้าบ้าน ไอ้หน้าเหี้ยมชุดซาฟารีสีดำคนเดิมเดินออกมาจากประตูเล็กข้างป้อมยาม มันสำรวจผมทั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ได้สนใจหรอก เพราะตอนนี้ผมร้อนใจมากและกังวลใจไปสารพัด
“คุณเข้าไปไม่ได้”
“ก็ไม่ได้จะเข้าไป แต่ไปบอกคนที่นายคุณพามาด้วยหน่อยว่ามีคนมารอรับ”
“คุณอาทมาคนเดียว”
“ไม่จริง มัน เอ้ย นายคุณจะมาคนเดียวได้ยังไง ในรถคันนั้นต้องมีเพื่อนผมอยู่ด้วยสิ”
“บอกว่าคุณอาทมาคนเดียว ไม่มีใครที่คุณบอกทั้งนั้นแหละ”
“ใช่สิ พวกมึงก็ต้องปกป้องนายตัวเองอยู่แล้ว กูแค่อยากพาเพื่อนกูกลับบ้าน “
“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกว่าไม่มีใครมาด้วยทั้งนั้นแหละ”

ใช่สิ!!! ไอ้หน้าเหี้ยมนั่นมันโมโหผมแน่ๆ ผมก็ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วเหมือนกัน ในเมื่อมันไม่ให้ความร่วมมืออะไร ผมเองก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆเหมือนกัน ไอ้การ์ดมาเฟียมันหันหลังกลับเข้าไปข้างในแบบสบายๆ แต่ใจผมมันร้อนจนสามารถเผาคฤหาสหลังนี้ได้ทั้งหลัง ร่างสูงใหญ่ของไอ้ขี้ข้ามาเฟียถูกผมกระชากให้พ้นทาง ความรวดเร็วทำให้ผมพาร่างตัวเองเข้ามาข้างในได้


ปัง ปัง ปัง!!!!


เสียงดังสนั่นโสตประสาท ไม่รู้ว่ามาจากทางไหน เหมือนมันมาจากทุกทิศทาง
สติสุดท้ายบอกตัวเองว่า........ถ้าผมจะต้องตาย คงตายตาไม่หลับแน่ๆ




ลำคอแห้งผากและสายตาพร่าเลือนทำให้ผมกวาดสายตาเพื่อปรับหาจุดโฟกัส
ทุกอย่างลางเลือน สำนึกสุดท้าย ได้ยินแค่เสียงปืนดัง หลังจากนั้นผมไม่รับรู้อะไรอีกเลย
จนตอนนี้ รอบๆตัวผม มีทั้งเสียงโห่ร้องดีใจและเสียงร้องไห้

“ไงไอ้เสือ อยากเป็นฮีโร่จนได้เรื่อง  ไหนๆ มีร่องรอยเกียรติยศตรงไหนบ้างเนี่ย ดูไม่เหมือนคนป่วยเท่าไหร่เลยนะ พรุ่งนี้ก็ซ่าได้แล้วมั้ง”
เสียงนี้ผมจำได้ เสียงพ่อ ผมรู้สึกโล่งใจ ผมยังไม่ตายจริงๆ ผมยิ้มให้กับชีวิตใหม่ แต่ไม่แน่ใจว่ารอยยิ้มมันถูกส่งออกไปในรูปแบบไหน เพราะริมฝีปากผมแห้งผาก มันตึงจนรู้สึกว่าการยกริมฝีปากเพื่อทำอะไรสักอย่างไม่ต่างจากการใช้แรงยกอะไรหนักๆเลยสักนิดเดียว

“นี่พ่อบินลงมาจากเชียงใหม่ เพื่อมาทับถมผมโดยเฉพาะรึเปล่าเนี่ย” ผมต้องแสดงให้ทุกคนรู้ว่าผมไม่เป็นไร รู้สึกผิดที่ทำให้พ่อแม่และคนรอบข้างเป็นห่วง ผมสบสายตากับทุกคน และหยุดสายตาไว้กับคนที่ผมห่วงหามากที่สุด

สีหน้าอิดโรยและขอบตาบวมช้ำนั้นบอกผมว่า เมฆผ่านการร้องไห้มานานมากแค่ไหน แค่เห็นสีหน้ามันตอนนี้ ความน้อยใจเสียใจหายไปทันที ใจผมอ่อนยวบเมื่อเห็นสีหน้ามันตอนนี้ ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

ประหม่า ห่วงใย กังวล ดีใจ สับสน......
ทุกอย่างสั่นระริกอยู่ในหน่วยตา
ความรู้สึกทุกอย่างของเมฆผมยังอ่านมันได้เหมือนเดิม ผมโต้ตอบกับพ่อและแม่อีกพักใหญ่ๆ แต่สายตาผมยังมองหาเมฆอยู่ตลอดเวลา


แม่ลูบรอยเลือดที่ผ้าพันแผลแล้วร้องไห้
สะเทือนใจ.........ที่ทำให้แม่ต้องเป็นห่วงขนาดนี้
หดหู่ใจ........ที่ทำอะไรไม่คิด
อยากจะขอโทษแต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลา....
ผมอยากบอกแม่ว่าไม่เป็นไรแล้วอีกสามวันผมก็คงวิ่งได้

“แม่ร้องทำไมเนี่ย ฉานไม่เจ็บแล้ว แผลแค่นี้เอง “ ถึงแม้ข้างในผมจะต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทั่วทั้งตัวแค่ไหน แต่ก็ต้องฝืนเก็บเอาไว้ รู้ว่าหยุดความห่วงใยของพ่อกับแม่ไม่ได้ แต่ก็อยากจะบอกว่าผมไม่เป็นไรแล้ว




“เมฆอยู่เฝ้าฉานเค้าใช่มั้ย”อาการสะดุ้งของคนที่ยืนจมกับความคิดตัวเองทำให้ผมอดเอ็นดูไม่ได้


มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่มันผมก็ไม่อยากให้ใครเฝ้าหรอก

ผมเจ็บตัวครั้งนี้ก็ยอมรับว่าเพราะตัวเองใจร้อนและก็โง่
แต่อารมณ์ตอนนั้นผมเองก็คิดอะไรมากไม่ได้หรอก
เรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไป ในเมื่อครั้งนี้ถ้าพูดกันตรงๆก็คือผมบุกรุก และการที่ผมถูกยิงฝั่งโน้นก็สามารถอ้างได้ว่าป้องกันความปลอดภัย เค้ายิงผมในบ้านยามวิกาล ไม่ต้องต่อสู้อะไรให้เหนื่อย แพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันจะสู้ แค่ไม่ตายก็บุญเท่าไหร่แล้ว ถึงแม้ว่าไอ้คนที่ผมอยากจะฆ่าให้ตายจะเป็นคนสั่งให้เรียกรถพยาบาลมาช่วยชีวิตผมไว้ก็เถอะ ผมไม่รู้ว่าการ์ดคนไหนที่ยิงผมบ้าง.... ไม่ใช่สิ  ผมต้องบอกว่า การ์ดที่เฝ้าประตูทางเข้าด้านหน้าทุกคนยิง แต่ไม่รู้ว่ากระสุนที่โดนผมสองนัดมาจากการ์ดคนไหน ที่รู้ก็คือ ไม่ต้องได้รับคำสั่งจากเจ้านาย การ์ดพวกนี้สามารถยิงอารักขาได้ทันที ไม่ต้องกลัวว่าจะติดคุกมั้ย บารมีนายช่วยได้
ผมมองอากัปกริยาของคนที่ไอ้หน่าบอกว่า มันอยากจะพิสูจน์ความรัก ไม่ใช่ต้องการจะเอาชนะหรือลองใจ หรือห่าเหวอะไรที่ผมฟุ้งซ่านไปเอง ท่าทางหงอยๆ และหน้าตาเหนื่อยล้านั้นทำให้ผมอยากจะแกล้ง อยากจะลองใจคืนกลับบ้าง



ผมอยากรู้ว่าถ้าผมไม่มีปฎิกริยาอะไรตอบกลับไป เมฆจะเป็นอย่างไร
คอตก หน้าเศร้า เบ้าตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา.......ใจอ่อนยวบเหมือนลูกโป่งโดนปล่อยลม

แต่ไอ้อาการเดินคอตกออกไปแบบยอมรับสภาพ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความรักอย่างที่ไอ้หน่ามันยอเพื่อนมันเอาไว้ ไม่รู้ทำไมผมถึงได้รู้สึกแปลบๆในช่วงอก มันใจหาย ผมหายโกรธหายน้อยใจแล้ว แต่มันกำลังจะกลับมาใหม่ จากการกระทำของคนๆเดิม

เมฆยอมถอย.....แต่กลายเป็นผมที่ทนไม่ได้

“ให้มันกลับทำไมหละ ก็ให้มันอยู่นี่แหละ ผมจะเข้าห้องน้ำยังไง”ถ้อยคำเย็นชาที่ผมเอ่ยออกไป ตรงข้ามกับความรู้สึกจริงๆทุกอย่าง อยากให้มันอยู่ใกล้ๆใจจะขาด ผมไม่ได้กอดมันมานานแค่ไหนแล้ว แต่จะให้ร้องขอกันดีๆ ก็เสียฟอร์มผมเหมือนกัน

อึดอัดใจ......วางตัวไม่ถูก

คงเป็นเมฆคนเดียวที่รู้สึก มันนั่งตัวตรง ทำหน้าหงอยๆ ฟันขาวขบกัดริมฝีปากล่างเอาไว้เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ผมอยากจะดึงรั้งมันเข้ามากอด อยากฝังมันไว้ในอกให้สมกับความห่วงหาและความห่วงใยทั้งหมดที่ผมมี
ผมจ้องมองมันเพื่อตอกย้ำกับตัวเองว่า ผมโชคดีแค่ไหนที่มีชีวิตรอดมาได้ และตรงหน้าก็ยังมีมันอยู่ใกล้ๆผม


ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปสำหรับความรับของเรา
เพียงแค่ระหว่างทางมันมีหมอกบางๆมาเป็นอุปสรรคขวางเอาไว้แค่นั้น
นี่สินะ บทพิสูจน์ความรัก
ไอ้ไม้พูดถูกผมกับมันจะรักกันอย่างเดียวไม่ได้ ถ้าผมวางเมฆไว้ที่ตำแหน่งคู่ชีวิต ผมต้องเข้าใจคู่ชีวิตของตัวเอง
ผมเคยคิดว่า ผมรู้จักตัวเอง รู้จักเมฆ และรู้จักความรักของเรามากกว่าใครๆ
........แต่ความจริงคือผมเข้าใจผิดทั้งหมด
คนที่เข้าใจในตัวผมและความรักของเราที่สุดคือ เมฆ มันรู้ว่าข้อเสียของผมคืออะไร มันถึงได้จบปัญหาที่คิดว่า ถ้าเป็นผมที่เข้าไปจัดการแก้ไข.....ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นผลร้ายมากกว่าดี เพราะมันเข้าใจ มันถึงได้ทำอะไรเพื่อปกป้องคนรอบข้างและรักษาความรักของเราเอาไว้

คนที่โง่และงี่เง่าในความรักมากที่สุดกลายเป็นผม

ผมเคยคิดว่า เพราะเราสองคนเป็นผู้ชาย และเป็นผมฝ่ายเดียวที่รักเมฆก่อน ผมถึงได้ทำทุกวิถีทางให้เมฆหันมารักผู้ชายด้วยกัน ผมยึดเมฆเป็นสมบัติส่วนตัว กีดกันทุกคนที่เข้าใกล้เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ผมปกป้องเมฆเพื่อให้เมฆรู้สึกว่ามันขาดผมไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่มีใครที่ดูแลมันได้อีกแล้ว ทุกอย่างที่ผมทำและต้องการคือ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมัน


ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ.......เพียงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเมฆ ตอกย้ำให้มันมั่นใจว่าผมรัก
ทั้งๆที่คนขาดความมั่นใจ....มันกลายเป็นผมคนเดียวแท้ๆ
เพราะสำหรับเมฆแล้ว รักของเรายังมั่นคงเหมือนเดิม มันไม่เคยหายไปไหน
แม้จิตใต้สำนึกบอกผมว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนผมตายไปแล้วเกิดใหม่
ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่เมฆก็ยังอยู่ที่เดิม ยังอยู่ตรงหน้าผมเหมือนเดิม


ผมมองมันเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าจะอึดอัดกับบรรยากาศอึมครึมขนาดนี้
น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความห่วงใยตัดทำลายความเงียบ
“หิวน้ำมั้ย”
“หิว” ผมไม่ได้อยากจะกระชากเสียง หรือทำลายบรรยากาศแต่อย่างใด มันตกใจนี่ครับ กว่าจะเกิดปัญญาว่าคนตรงหน้ารักผมแค่ไหน ก็ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ถึงวิธีการจะโง่ไปหน่อย......เอ่อ โครตโง่เลยก็ว่าได้ แต่สุดท้ายมันก็คุ้มหละนะ
เพียงแค่ผมเล่นแง่กับมัน ผมก็ได้เมฆคนเดิมกลับมา คนที่แสบและไม่ยอมใคร ต่อให้มันอยากปรับความเข้าใจกับผมแค่ไหน แต่มันก็ยอมไม่ได้ เมื่อผมตีรวนกลับไปแบบนั้น
ผมได้เมียปากร้ายคนเดิมกลับมา แต่ที่ซึ้งใจไปกว่านั้นคือดวงตาที่เอ่อไปด้วยหยดน้ำ มือสั่นเทาที่กล้าๆกลัวๆแต่สุดท้ายก็แตะลงมาตามแผลผมเบาๆ น้ำเสียงสั่นเครือคล้ายจะสะอื้นไห้ เพียงแค่ได้ยินเสียงผมร้องครางเพราะความเจ็บปวด
ไม่ใช่ผมที่เจ็บคนเดียว.......เพราะสุดท้ายเจ็บต่างเจ็บปวดเท่ากัน

“เจ็บมั้ย แผลนี่อ่ะมึงเจ็บมั้ย”

แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากหาเรื่องเพื่อดึงตัวมันเข้ามากอดให้สมกับความรัก
ปากร้ายที่พร่ำพูดใส่ผมทั้งๆที่ไม่ตรงกับใจ โดนผมทำโทษไปจนบวมเจ่อ
ความกังวลใจทั้งหลายถูกพิสูจน์ได้ว่า ร่างนี้ไม่เคยมีใครได้แตะต้องนอกจากผม
สยมภูไม่เคยเป็นของใครนอกจากนายฉานแสงคนนี้
ทุกอย่างที่หลอมรวมเป็นนายสยมภูเป็นของนายฉานแสง
แล้วกะอีแค่หัวใจขนาดเท่ากำปั้น มันจะเป็นอื่นไปได้ยังไง
สุดท้ายมันก็ต้องตกเป็นของนายฉานแสงอยู่ดี

ถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่า ผมเพิ่งผ่านพ้นกับความเป็นความตาย และแผลผ่าตัดยังสดใหม่ ความเจ็บปวดยั่งแล่นริ้วไปทั่วร่างกายแบบนี้ เมฆคงไม่โดนผมแสดงความรักแค่การจูบหรอก

ผมอยากแสดงออกมากกว่านี้ อยากให้รู้ว่ารักแค่ไหน หวงและห่วงใยมันเท่าไหร่
แค่จูบมันถ่ายทอดความรู้สึกได้.......แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
ผมอยากแสดงออกมากกว่านั้น
อยากทำมากกว่าจูบ
ผมอยากทำรัก!!!!!!




 พบกันตอนหน้า กับ รัก…..ต้องแสดงออก
แต่จะแสดงออกกันแบบไหน แล้วแสดงออกกันในโรงพยาบาลเนี่ยนะ!!!
ไอ้พี่ฉานมันเจ็บจะตายมันทำได้เร๊อออออ!!!(ดูถูกกันสุดๆ 555)
หรือว่าจะมีใครใจดีทำให้....แล้วคู่รักที่คนนึงเจ็บอยู่ กับคู่รักบวมๆที่ปกติดีอีกคู่
เค้าจะยอมกันได้มั้ย ถ้าจะมีใครหวานกว่าใคร
ขอบคุณทุกคนจากใจเหมือนเดิมค่ะ
ปล. กระหน่ำตอนพิเศษขนาดนี้ เห็นทีต้องยกเรื่องใหม่ ให้เป็นเรื่องแถมในเล่ม (ถ้าได้รวมเล่มนะ)
แล้วมันต้องแบ่งเป็นสองเล่มแน่ๆเลย......จะมีใครซื้อมั้ยอ่ะ ไม่เน้นกำไรนะ เน้นความประทับใจ(ของคนทำ)
ถ้ามีอะไรคืบหน้า ค่อยมาบอกต่ออีกครั้งนะ ขอบคุณค่ะ TRomance
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 22-08-2010 14:17:35
จองชุดนึงค่ะ ถ้าจะรวมเล่มจริงๆอ่ะนะ อยากอ่านต่ออีกหลายคู่เลยอ่ะ
ถ้าไรเตอร์ใจดี กรุณาเถ๊อะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-08-2010 14:20:06
เอ้า ต้องรอกันต่อไป คริๆ :z1:
จะแสดงออกยังไงน้าาาา กดอีโมล่วงหน้าก่อน :haun4:
เชียร์รวมเล่มขาดใจสุดดิ้น อยากได้พี่เมฆมาอยู่ในอ้อมกอดบ้างไรบ้าง  :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 22-08-2010 14:22:47
รักต้องแสดงออกนี่ ขอแบบไม่ตลกนะคะ
 :jul1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 22-08-2010 14:29:33
พี่ฉานนนน   :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 22-08-2010 15:02:02
งั้นเขารออ่านตอนหน้านะ  :-[
ดีนะยังรอดชีวิตกลับมาได้นายฉาน รอดกลับมาก็รักษาดูแลความรักซะ ไม่งั้นอาจจะโดนแฟนคลับน้องเมฆรุมตืบเอาได้

ยกมือร่วมจอง 1 ชุด (ถ้ารวมเล่ม)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 22-08-2010 15:03:40
ไม่เอาแล้วนะพี่ฉาน อย่าใจร้อนแบบนี้
ไปแสดงออกความรักดีกว่าเนาะ   อิอิ
เต็มที่ไปเลยยยยยยยยยยย   :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 22-08-2010 15:08:51
พี่ฉานเท่ห์มั่กๆถึงมันจะดูเสี่ยงไปนิดนะพี่ดีนะเค้าไม่ยิงโดนจุดสำคัญ
ไม่งั้นพี่เมฆได้เป็นหม้ายแน่เลยเดียวลูกกำพร้านะอิอิ
อยากได้หนังสือค่าจะมากี่เล่มก็ได้หมดดีใจๆ
รออ่านพี่ไม้กับน้องตี่ตี้อยู่น๊าค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 22-08-2010 15:16:45
การ์ดยิงนี่เองตอนแรกเดาว่าพ่ออาท
ยิง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 22-08-2010 15:30:15
สำหรับเราไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จบแล้วนะ  เพราะฉะนั้นกระหน่ำมาเยอะ ๆ เลย  ชอบ ๆ ๆ  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: raintear ที่ 22-08-2010 15:52:32
5555 รักต้องแสดงออก แค่ชื่อตอนก็อยากอ่านแล้วววววววว
มาต่อไวๆนะคร้าาาาา
 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 22-08-2010 16:23:40
นั่งรอตอนหน้าขอรับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 22-08-2010 17:00:34
การ์ดมันยิงมั่ว  พี่ฉานเลยเจ็บตัว แถมปากแข็งอีกต่างหาก
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษที่กระหน่ำลงจ้า
รออ่านตอนหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 22-08-2010 17:47:22
รอตอนหน้า ว่าจะมีฉากนั้นไหม ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: b27072010 ที่ 22-08-2010 18:22:09
รอ NC  เต็ม ๆ  แบบที่ไม่ต้องมีอะไรมาเบรกให้ขัดใจ

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 22-08-2010 18:28:58
รัก(คนแต่ง)....   ต้องอ่าน   ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 22-08-2010 18:39:22
กรี๊ดกร๊าด

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะค่ะ
 :กอด1: + :L1:+ :pig4: ให้ไรเตอร์คร้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-08-2010 18:51:23
 :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 22-08-2010 18:53:23
กรี๊ดดดด จะเอาต่อเรื่อยๆไม่ยอมให้จบ ^^
พี่ฉานคะ ใจร้อนเกินไปแล้วน้า ใจเย็นลงหน่อยเถอะค่ะ
จะได้ไม่เกิดเรื่องอะไรอีก
รอตอนหน้านะคะ
:L1: :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 22-08-2010 18:54:41
นึกว่าไอ้อาทมันยิงซะอีก การ์ดยิงนี้เอง ชริ ๆ  :angry2:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 22-08-2010 18:55:44
คุณชายฉานสุดยอด..... o13
ทุ่มเทเพื่อพี่เมฆ.....รักพี่เมฆ....ทำทุกอย่างเพื่อพี่เมฆ....
รักนี้สุดประทับใจ...... :o8:

 :L1: คนแต่ง กะ คนโพส กด + ให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 22-08-2010 19:02:11
โห การ์ดกระหน่ำยิง...รอดมาดายก็บุญมากอะพี่ฉาน
รักกันๆนะเมฆกะฉาน ^^ รออ่านต่อค่าา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 22-08-2010 19:34:45
รวมเล่มเลยเถอะ  อยากเก็บอ่ะ

รอฉากรักตอนหน้าน่ะค่ะ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 22-08-2010 19:49:52
กรี๊ดดด ไม่ไหวละสองคนนี้ ชูป้ายฉานเมฆ แฟนคลับบบบ
กรี๊ดดดดดด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 22-08-2010 20:45:30
โหพี่ฉานรักเมฆสุดใจไปไหน

อ่านในมุมมองของพี่ฉานแล้ว

มันแต่งต่างกับของเมฆมากๆๆๆๆ

ชอบคำของหน่ากับไม้มากๆๆๆ

โดนๆๆๆๆ

รออ่านตอนหน้า รักต้องแสดงออก

ตอนของเมฆแน่เลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 22-08-2010 21:20:37
ลองกันบ่อยๆแบบนี้ไม่ดีนะค่ะ ใจหายวาบเลย
ดีใจในที่สุดก็เคลียร์ซะที แต่พอเข้าใจกันปุ๊บ พี่ฉาน
ก็(อยาก)ทำรักกันปั๊บเลยจะดีหรอ แผลยังไม่หายเลยนะ
เราว่าให้เมฆ on top ดีม่ะฉานจะได้ไม่ต้องขับเยอะ
ส่วนสถานที่ก็อย่าได้แคร์ ตื่นเต้นเร้าใจดีออก :laugh:
ม่ะช่ายล่ะ ล้อเล่น(ไปตั้งกล้องรอดีกว่า :m24:)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 22-08-2010 21:47:34
อ่านเรื่องนี้แล้วต้องบอกว่า..รักพระอาทิตย์ รักก้อนเมฆ
เห็นเค้ารักกันแล้วก็อิจฉา นู๋อยากมีบ้างงงงง :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 22-08-2010 21:50:54
รักต้องแสดงออก :z1:

แสดงเยอะๆ เลย หลายๆ รอบก็ได้ เค้าชอบ :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 22-08-2010 21:52:32
"สยมภูไม่เคยเป็นของใครนอกจากนายฉานแสงคนนี้
ทุกอย่างที่หลอมรวมเป็นนายสยมภูเป็นของนายฉานแสง
แล้วกะอีแค่หัวใจขนาดเท่ากำปั้น มันจะเป็นอื่นไปได้ยังไง
สุดท้ายมันก็ต้องตกเป็นของนายฉานแสงอยู่ดี"

ดวงตะวันย่อมต้องคู่กับก้อนเมฆอยู่แล้วว
ดวงตะวันให้ความอบอุ่น ก้อนเมฆให้ความร่มเย็น

เมฆ  :L1: ฉาน FOREVER!!!
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 22-08-2010 22:01:54
รักสองคนนี้ที่สุดดดดดดด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 22-08-2010 22:10:03
LOVE เมฆ ฉาน  :m1:

รอตอนต่อไปจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: p_pink ที่ 22-08-2010 22:13:06
ในที่สุดแล้ว "ความรักของผมไม่ใช่การก้าวเดินตาม แต่เราจะก้าวไปด้วยกัน" มันก็ต้องเป็นอย่างที่พูดไว้แหละนะพี่ฉาน

ว่าแต่ไอ้ รักต้องแสดงออก เนี่ย .. ใครจะเป็นฝ่ายแสดงกันน้า ?
ถ้าพี่เมฆเป็นคนแสดง ก็แสดงว่า on top หรือเปล่าน้า ... ?  :haun4: (ขออนุญาตไรท์เตอร์คิดล่วงหน้าไปไหลหว่าสามร้อยเมตร ครุคริ)

 :กอด1: เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 22-08-2010 22:20:39
รอตอนต่อไป  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 22-08-2010 22:30:20
 o13 ปลาบปลื้มใจสุดๆ ยังไง พี่เมฆคนนี้ ก็ต้องเป็นของพี่ฉานวันยังค่ำ
มาเต้นรอ รัก ต้องแสดงออก   :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 22-08-2010 23:13:32
รอตอนพิเศษค่ะ  ถ้าออกหนังสือมานี่ซื้อเเน่ๆ เรื่องนี้น่ารักมากมาย  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 23-08-2010 00:50:47
ฉานทำซึ้ง :monkeysad:
หลังจากฮากับพี่เมฆมาตั้งนาน มาเจอท่านฉานเข้าไปได้แต่นั่งอมยิ้ม แล้วก้อซึ้งไปซึ้งมาแทน
ชอบคู่นี้จังเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 23-08-2010 01:18:25
อ่านมุมนายฉาน แล้วน่าสงสาร
อิจฉาน้องเมฆ
อยากอ่านต่อ
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 23-08-2010 01:51:12
ชอบครับ ใช้ภาษาได้สวยและไหลลื่นมากๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 23-08-2010 01:58:56
 :monkeysad:รอกันต่อไป
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 23-08-2010 02:27:07
จะไหวเหร๊อฉานนนน 555555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 23-08-2010 07:33:27
+1แทนคำขอบคุณ
ในที่สุดเมฆกับฉานก็เข้าใจตรงกันซะที
ถ้าไม่มีเพื่อนไม่มีบุคคลที่สามเป็นบททดสอบ
เมฆกะฉานคงยังไม่รู้ใจกันมากเท่านี้
รอรวมเล่มจ้ะ :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 23-08-2010 14:26:46
แล้วก้อได้รุ้ว่าที่ฉานทำแบบนั้นเพราะอะไร
ก้อคงไม่อยากให้พี่เมฆของเราได้เห็นด้านอ่อนแอนี่เอง
แล้วก้อยกมือสนับสนุนเรื่องรวมเล่ม จะได้เตรียมเก็บรอค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 23-08-2010 15:54:15
 :z10:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 23-08-2010 18:33:33
ปลื้มฉานๆ  :man1:
ประทับใจมาก ต่างคนต่างรักและเป็นห่วงกันมากมาย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 23-08-2010 18:53:15
อยากฆ่าไอ้การ์ดนั่น

รอตอนหน้าค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 23-08-2010 21:32:56
หวานได้ใจเป็นอย่างมากค่ะ

รอลุ้นตอนหน้าต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 23-08-2010 21:46:42
เกือบจะไม่รอดแล้วนะนายฉานแสง  บ้าระห่ำโดยแท้  แต่ก็แพ้ลูกปืน  เอิ๊กๆๆๆ  :m20:

ทำรักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ    :m25:   รออ่านทำรักๆๆๆๆๆๆๆ  :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-08-2010 22:44:14
อิพี่ฉาน ว่างๆ ไปรับจ๊อบพระเอก die hard ดีกว่ามะ โห เดชะบุญจริงๆ รอดมาได้เนี่ย  :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 23-08-2010 23:03:10
พี่ฉานก็คิดไปได้  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 24-08-2010 02:15:41
รอตอนพิเศษตอนต่อปาย
และอยากให้มีตอนพิเศษต่อไปอีกหลาย ๆ ตอน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 24-08-2010 09:46:10
รวมเล่มเมื่อไหร่แจ้งด่วนนะคะ อยากมีไว้เป็นเจ้าของอะ เลดี้จะอุดหนุนเลย เพราะรักเมฆฉานอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 24-08-2010 14:08:32
รอตอนหน้านะคะ ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 24-08-2010 15:05:04
เฮ้อ
สุดท้ายก็เจ็บทั้งคู่
จะลองใจกันอีกนานไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 24-08-2010 19:47:44
ถ้ารัก... ต้องแสดงออก นะคร้าบบบ

 :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 25-08-2010 21:29:02
ขอดันหน่อยนะคร้าบ ก่อนจะตกไปหน้า 3 เอ้าาาา

อึ๊บ อึ๊บ อึ๊บ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 25-08-2010 22:35:05
ช่วยดันจ้าช่วยดัน

ข่าวว่า นุ้งเซ คอมพังละค้าาาา


 :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 26-08-2010 02:27:31
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 26-08-2010 11:27:29
ฉานมันใจร้อน แล้วเป็นไง เจ็บตัว แถมด้วยคนที่รักมันอยากเมฆร้องมาเจ็บปวดด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 27-08-2010 20:34:33
มารอค่า  :m1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 27-08-2010 20:49:39
มารอด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องลองใจ "ครึ่งหลัง",P.6
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 28-08-2010 17:33:35
เข้ามาทั้ง รอ ทั้ง ดัน คร้าบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 28-08-2010 19:06:53
(http://image.ohozaa.com/is/baner2.gif)

 ตอนพิเศษ         รัก.......ต้องแสดงออก

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/15455_95637.gif)


4 วันแล้วกับการเป็นผู้ป่วยนอนอยู่ในโรงพยาบาลของไอ้ฉาน

4 วันกับการเอาแต่ใจที่เรียกได้ว่าโครตจะฉวยโอกาส

มันป่วย ผมไม่เถียงหรอก ก็ผ้าพันแผลยังมีรอยเลือดซึมมาให้ใจหายอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน

แต่ไอ้ผ้าคาดแผลที่เปื้อนเลือดนี่แหละ ที่ไอ้คนป่วยมันเป็นข้ออ้างในการเอาแต่ใจของมัน

4 วันที่ผมไม่ได้ออกไปไกลเกินเขตโรงพยาบาล ที่สำคัญผมไม่เคยไปไกลกว่าชั้นที่ไอ้ฉานพักอยู่เลยนี่สิ

น้าพิม แม้กระทั่งแม่นิ่มเอง ยังเคยออกตัวจะผลัดเปลี่ยนกันเฝ้ากับผม
แต่คนป่วยก็ยังงอแงไม่ยอมเอาใครหน้าไหนทั้งนั้น

มันฉวยโอกาสตอนเจ็บป่วยเอาแต่ใจไม่ต่างอะไรกับเด็กอนุบาล
พยาบาลก็คงจะสงสัยว่าทำไมผมถึงได้เป็นเพื่อนที่แสนวิเศษแบบนี้
หลายครั้งที่ไอ้ฉานมันอยากจะประกาศความสัมพันธ์ขั้นกว่าให้พยาบาลเจ้าของไข้คนสวยได้รู้
แต่พี่เมฆคนนี้รู้ทันความคิดมันครับ ผมถลึงตาใส่แทนคำห้ามปราม
ยังไม่อยากเป็นของแปลกให้คนทั้งโรงพยาบาลเข้าชม!!!!!!!


โอ้ยยยยยยยยยยย!!!!
“ฉาน เป็นอะไร เจ็บแผลเหรอ หรือว่าอะไร”
“ป่าว พอดีเมียไม่สนใจอ่ะ จ้องอยู่นานแระ ไม่เห็นจะสบตาเลยสักที”
“ไอ้เชี่ย แล้วร้องซะกูตกใจ นึกว่าอยู่ดีๆ ไข่หายไปไม่ครบสองลูก”
“เหอะๆ ถ้าไข่หายจริงๆ คนที่ตกใจไม่ใช่กูหรอกมั้ง” แล้วมึงจะยิ้มทำหน้ากึ่งกรุ้มกริ่มกึ่งหื่นทำไม


ไม่เจียมตัวเลยจริงๆ


ผมเลิกสนใจไอ้คนที่แกล้งเรียกร้องความสนใจ ต่อโทรศัพท์ท่องเนตไปเรื่อยเปื่อย
ไอ้ฉานมันงอแงเอาแต่ใจ เรียกร้องความสนใจเป็นพักๆแหละครับ เดี๋ยวมันก็หลับ
แผลผ่าตัดยังไม่ประสานกันเท่าไหร่ เนื่องจากไอ้บ้าพลังมันไม่เจียมสังขาร
หมอบอกให้อยู่นิ่งๆ มันก็หาเรื่องขยับ ผมเข้าใจไอ้หมาบ้ามันนะ มันอยู่นิ่งไม่ได้

หมอเลยต้องให้ยาบางตัวที่ทำให้ไอ้คนบ้าพลังมันหลับซะบ้าง

ร่างกายจะได้เอาเวลานั้นไปซ่อมแซมส่วนสึกหรอ

ในแต่ละวันชีวิตองค์อิศวรองค์นี้อยู่ได้ด้วยความหวังและการรอคอยครับ

รอเพื่อนพ่อแม่พี่น้องมาเยี่ยม เอาข้าวปลาอาหารมาส่ง เพราะอย่างที่บอก

ผมปลีกตัวไปไหนไม่ได้ ถ้ามันตื่นมาแล้วไม่เห็นหน้าผม

เทพบุตรที่พยาบาลเรียกขานกันตาหวานเยิ้มนั้น

จะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าบ้าคลั่งทันที

มันรู้ว่าผมรักมัน แต่มันยังระแวงอยู่ครับ

มันรู้ว่าอาทเป็นเด็กบ้านแตกขาดความอบอุ่นมันรู้ว่าอาทเข้าหาผมเพราะอยากเอาชนะ แล้วยิ่งผมเป็นพี่ชายอันดาเป็นสาเหตุให้ทั้งคู่เลิกกันด้วยแล้ว ไอ้ฉานมันไม่เชื่อว่าอาทจะเข้าใจอะไรง่ายๆ อย่างที่ผมบอก

ตำรวจปิดสำนวนคดีได้รวดเร็ว เพราะไม่มีใครติดใจเอาความใคร น้าชาติขบฟันกรอดๆตอนเจรจายอมความ ถึงแม้จะโกรธแค่ไหนที่ลูกชายถูกทำร้าย แต่ฝ่ายเราก็ผิดที่วู่วามเกินไปและใจร้อนเข้าไปในถิ่นเค้าเอง

อาทอยากมาขอโทษด้วยตัวเอง และแน่นอน คนที่ไม่ยอมคือไอ้หมาบ้า
 ไอ้ฉานมันอยากให้ต่างคนต่างอยู่ มันกลัวว่าถ้ายังติดต่อกันเดี๋ยวอาทจะมาติดใจผมจริงจังในสักวันหนึ่ง มันถึงได้ระแวงเวลาที่ไม่เห็นผมอยู่ในสายตา และมันก็จะอาละวาดเพราะมันเดี้ยงอยู่ มันทำอะไรไม่ได้นอกจาก ฟาดงวงฟาดงาให้ผมอับอาย ผมเลยกลายเป็นรักยมกับมันจริงจังแบบนี้



มันไว้ใจผมแล้ว แต่มันไม่ไว้ใจใครเหมือนเดิม
ไม่รู้จะดีใจหรือร้องไห้เสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้ดี




“เมฆ”
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ ทำไมนอนไปแป๊บเดียวเองหละ ปวดหัวรึเปล่า หรือว่าเจ็บแผล”
“ป่าว แต่อยากเข้าห้องน้ำ”
“อ้าว เหรอ”


ผมโยนโทรศัพท์ไว้ผมโซฟา ก่อนจะไปพยุงคนเจ็บลงมาจากเตียง
ผมรู้สึกใจไม่ดีทุกครั้งที่ไอ้ฉาบขยับตัวเปลี่ยนท่า เพราะน้ำหนักแขนที่มันถ่ายลงมาที่แขนผม
มันทั้งหนักและรู้ว่าไอ้ฉานเกร็ง คิ้วขมวดและปากที่ซี๊ดเบาๆรู้เลยว่ามันยังปวดแผลอยู่มาก แต่พอถามมันจะบอกว่าไม่เป็นไรแค่มันตึงๆ ที่แผล

ความจริงมันน่าเป็นห่วงแค่ตอนเปลี่ยนท่าลุกขึ้นจากเตียง เพราะว่าพอมันปรับตัวได้ มันก็ค่อนข้างที่จะเดินสะดวกกว่าสองสามวันที่แล้ว ผมปลดล็อคถอดสายน้ำเกลือออกชั่วคราว เทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่ต้องลากสายน้ำเกลือไปเป็นเพื่อนตอนเข้าห้องน้ำแล้ว

ผมเปิดไฟห้องน้ำให้สว่างทั่วทั้งห้อง ยกที่รองนั่งให้ การบริการเป็นไปโดยอัตโนมัติ ทิชชู่ น้ำ ทุกอย่างเตรียมพร้อม รอแค่ไอ้กูปรีมันทำธุระของตัวเอง ผมพยุงตัวมันให้อยู่ในตำแหน่งที่เล็งเป้าหมายได้ถูกต้องพอดี แล้วจึงถอยออกมารอ

แต่ทุกอย่างยังเงียบ
 สงสัยปีนี้จะแล้งหนัก ต้นน้ำถึงยังไม่ปล่อยให้น้ำตกไหล
ผมเองก็ใจไม่ดี เพราะวันที่สองหลังจากที่มันแอดมิตเข้าเป็นผู้ป่วยใน นอกจากรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกยิงแล้ว ไอ้ฉานยังต้องรับการรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบอีกด้วย เพราะว่าตอนเอาส่งโรงพยาบาลไอ้ฉานมันหมดสติช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และไหนจะต้องผ่าตัดเอากระสุนที่ฝังในออก พยาบาลจึงต้องใส่ท่อฉี่เอาไว้ แต่ไอ้ฉานมันคงรู้สึกไม่ดีกับไอ้ท่อนั่น มันถึงไม่ยอมฉี่ จนสุดท้ายมันเลยนอนให้หมอรักษาอีกโรคเป็นของแถม พอเห็นมันเงียบแบบนี้ ผมถึงได้กลัวว่าอาการนั้นมันจะกลับมาอีก

“ฉาน เป็นอะไร ทำไมเงียบ ฉี่ไม่ออกเหรอ”
“อืม”
“ทำไมอ่ะ ปวดหน่วงๆแบบวันนั้นอีกรึเปล่า ให้เรียกหมอมั้ย”
“ไม่ต้อง เมฆมานี่หน่อยดิ”
“หือ มีอะไร” ผมรีบแทรกตัวไปยืนข้างๆมัน กางเกงผู้ป่วยยังอยู่ตามปกติ ไม่ได้ร่นลงไปเหมือนคนเตรียมตัวจะงัดกระปู๋ออกมาฉี่แต่อย่างใด ผมเลยต้องหันไปมองหน้าไอ้กูปรี อยากรู้ว่ามันเป็นอะไร ไอ้ตัวดีก็ได้แต่ส่งยิ้มแหยะๆ มาให้ ไอ้บ้านี่กูเป็นห่วงจะตายอยู่แล้วเป็นอะไรก็ไม่บอก

“มึงช่วยเอาไอ้ช่อนกูออกมาให้หน่อยดิ แหะ แหะ “ ถ้าเวลาปกติผมคงแซวไปแล้ว ถึงแม้ไอ้ช่อนจะดูเว่อร์ไปสักหน่อยแต่ถ้าจะเอามาเปรียบกันจริงๆก็คงพอได้ละวะ ไอ้ช่อนตอนโตเต็มวัย ก็ทำเอาผมกลืนน้ำลายลงคอได้ยากลำบากเหมือนกันรู้สึกจุกๆในท้องน้อยขึ้นมาแบบหาสาเหตุไม่ได้

“แล้วเป็นอะไรอ่ะ ปกติมึงก็จับลูกมึงออกมาร้องไห้เองได้นี่แล้ววันนี้เป็นอะไรขึ้นมา” ไม่ได้รังเกียจหรอกนะครับ แค่สงสัยแล้วก็เป็นห่วงมันมากด้วย ผมไม่ใช่บุรุษพยาบาลนะที่จะชาชินกับอาการแปลกๆของคนไข้ ยิ่งเป็นแฟนด้วยแล้ว ความห่วงวิ่งมาจากทุกเส้นประสาทในร่างกายเลยทีเดียว

“เอ่อน่า” นอกจากไม่บอกอะไรแล้ว มันยังทำผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่น่ารำคาญด้วยนะ ผมเอามือจับขอบกางเกงไอ้ฉานก่อนจะร่นมันลงมากองไว้เหนือเข่า

“เฮ้ยยยยยยยย” ตกใจตาลุกฮือเลยสิครับ ก็พอผมถอดปราการด่านสุดท้ายให้

 น้องชายไอ้ฉานก็ทำมุม 90 องศากับแนวดิ่ง นั่นยังไม่เท่าไหร่แต่ไอ้ขนาดที่มันบวมเป่งจนเป็นฉานน้อยแต่โตเต็มไว มันหมายความว่ายังไง ผู้ชายตอนปวดฉี่แล้วกระปู๋แข็งมันปกติอันนี้ผมโครตจะเข้าใจ แต่ไม่ใช่โตเต็มไวแบบนี้และที่สำคัญตั้งแต่มันนอนโรงบาล ไอ้ฉานน้อยมันก็ปล่อยลมจนกลายเป็นกระปู๋จำศีล เรียกว่าตกใจจนพูดไม่ออก ไอ้คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆมันเลยทนไม่ได้

“เมฆ มึงจัดการมันหน่อยได้มั้ย กูก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรอ่ะนะ อยู่ดีๆมันก็พยศขึ้นมา” วาจาไอ้กูปรีมันก็น่าสงสารอยู่หรอกนะ ถ้าในหน่วยตาไม่วาววับระริกระรี้ แล้วมุมปากยกยิ้มเจ้าเลห์แบบนั้น จะให้ผมเชื่อหรือไงว่ามันไม่รู้จริงๆว่าเพราะอะไร


เพราะมึงหื่นไม่เลือกสถานที่เลยนะสิไอ้บ้า นี่ขนาดเจ็บจนจะตาย ยังไม่วายอีกนะคนเรา



หลายคนบอกว่า กว่าจะแสดงออกว่า เรารักใครสักคนต้องใช้เวลา
ความรักต้องใช้ความรู้สึกเพื่อแลกใจของใครสักคนออกมา
แต่นิยามความรักเหล่านั้นมันเป็นนามธรรมที่จับต้องไม่ได้
บางครั้งคนเราก็มีบางเวลาที่รู้สึกว่า รักนะ แต่ว่ามันก็ไม่พอ
รูปธรรมที่จับต้องได้ จึงกลายเป็นการแสดงออกว่า “รัก” ในคู่รักหลายๆคู่


ผมไม่รู้ว่าไอ้ฉานต้องการแบบนั้นมั้ย
 ไอ้ฉานมอบความรักให้ผมเต็มที่ และมันก็เต็มอิ่มจนแทบจะขาดใจทุกครั้ง
แต่น้อยครั้งที่ผมจะแสดงความรักต่อมันผ่านการกระทำ

ผมคุกเข่าลงตรงพื้นห้องน้ำ จัดท่าทางไอ้ฉานให้สะดวกต่อการทำงานของปากผม ส่วนปลายของไอ้ช่อนมีน้ำเหนียวใสเอ่อล้น มือผมจับโคนไอ้ช่อนไว้ไม่ให้มันดิ้น รูดหนังภายนอกขึ้นลงสองสามทีเพื่อให้ส่วนที่หลบอยู่ข้างในให้ออกมารับอากาศปลายลิ้นแตะชิมน้ำเหนียวใส แรงกระตุกและเสียงพรูลมออกจากปากทำเอาผมยิ่งได้ใจ ปลายลิ้นที่ห่อแหลมเพื่อทักทายหัวไอ้ช่อนถูกแผ่กว้างให้สัมผัสกับลำตัวไอ้ช่อนมากที่สุด ก่อนจะลากขึ้นลงเป็นจังหวะแล้วลากไล้ไปมารอบๆ เสียงซี๊ดซ๊าดที่เหมือนจงใจจะเก็บกลั้นเอาไว้ แต่ยังไม่วายเล็ดลอดออกมาทำให้ผมอยากแกล้ง


อาย ...... ความรู้สึกนี้มันควรต้องเป็นผมไม่ใช่เหรอ


ผมกินไอ้ช่อนของไอ้ฉานไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยที่ได้กินไอติมแท่งโปรด ตอนเด็กๆผมจำได้ว่าเวลากินไอติมต่อหน้าเพื่อนๆผมจะลากลิ้นเลียไปทั่วทั้งแท่งแล้วค่อยอมลงไป ยิ่งไอติมกำลังทำละลายนะ เวลาลากลิ้นเลียจะได้อารมณ์มากๆเพราะมันจะมีเสียงที่ทำให้คนที่มองเราอยู่รู้สึกอยากกินจนต้องกลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ทัน
ผมก็ทำกับไอ้ฉานแบบนั้น กินไอ้ช่อนเหมือนกับการกินไอติมเพื่อยั่วใครสักคน มือไอ้ฉานข้างนึงเกาะผนังห้องน้ำเอาไว้ แต่อีกมือกดหัวผมเอาไว้ดันเข้าดันออกเป็นจังหวะสลับกับการขยุ้มกลุ่มผมเพื่อระบายอารมณ์ เสียงร้องครางยังเล็ดลอดออกมาเพราะเก็บกลั้นไว้ไม่หมด
เสียงหอบหายใจถี่แรง ตัวสั่นจนรู้สึกได้ ปลายเท้าไอ้ฉานจิกอยู่กับพื้นห้องน้ำบางครั้งก็กวาดไปมา ผมดันให้มันนั่งลงบนโถกำลังจะทำหน้าที่เมียที่ดีต่อไปก็ต้องถูกรั้งขึ้นไปรับจูบเร่าร้อน เสียงปลายลิ้นที่พันกันในโพรงปากดังจ๊วบจ๊าบเรียกอารมณ์ให้ครุกกรุ่น หลายวันแล้วที่ผมและมันห่างหายกับเรื่องอะไรแบบนี้
มือไอ้ฉานเริ่มทำหน้าที่ ที่คุ้นเคย กระดุมกางเกงผมถูกมันปลดออกอย่างคนช่ำชอง ขอบกางเกงถูกร่นถึงพื้นเมื่อไหร่ผมยังไม่ทันจะมองด้วยซ้ำ เพราะมัวแต่มองจ้องสบตากับไอ้ฉาน ผมหวงแหนสายตาของคนตรงหน้าตอนมีอารมณ์แบบนี้ที่สุด ผมเชื่อว่ามันเป็นสีหน้าที่ยังมีใครเห็น และผมก็เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะยอมแบ่งให้ใครเหมือนกัน
สายตาล่องลอยหยาดเยิ้ม ริมฝีปากได้รูปที่ห่อกระจับเข้าหากันทำให้ผมล่องลอยไปถึงไหนต่อไหน ไอ้ช่อนของไอ้ฉานกระตุกใส่มือผมเหมือนสัญญาณเตือนว่าผมยังทำภารกิจไม่เสร็จสิ้น เลยต้องผละริมฝีปากออกจากกันอย่างแสนเสียดาย น้ำลายที่แลกกันกำลังหวาน แต่ไม่เป็นไรเราค่อยแลกกันใหม่ก็ได้
ผมแยกขาไอ้ฉานออกจากกันจนกว้างพอที่จะแทรกตัวเองเข้าไปได้ เด็กน้อยกินไอติมส่วนตัวอย่างเพลินเพลินอีกครั้ง เพราะกลัวมันจะละลายเลยจะลากลิ้นเลียแบบเดิมอย่างเดียวคงจะไม่ทันใจ ผมเลยครอบครองมันเอาไว้จนเต็มปาก ดูดขึ้นลงช้าบ้างเร็วบ้างแล้วแต่จังหวะคนส่งเสียงร้องคราง
สองมือไอ้ฉานเกร็งจับบ่าผมเอาไว้ รู้ว่าจุดหมายปลายทางข้างหน้าเหลืออีกไม่ไกลเท่าไหร่ ผมเลยรีบเร่งจังหวะดูดกินเหมือนกำลังกลืนเข้าไป ไม่กี่ครั้ง ร่างทั้งร่างไอ้ฉานก็กระตุกและมือมันก็ผลักร่างผมให้ออกห่าง แต่ผมฝืนตัวเอาไว้ ตัดสินใจแล้วว่าครั้งนี้จะลองกลืนมันเข้าไปดู หลายครั้งที่ไอ้ฉานกลืนเข้าไปเหมือนมันเป็นอะไรที่อร่อยและหากินได้ยาก น้ำเหนียวอุ่นจนร้อนถูกฉีดส่งเข้าไปจนถึงคอหอย ปริมาณมันเยอะเสียจนปากทั้งปากก็รับไว้ได้ไม่หมด บางส่วนไหลออกมาข้างปากอย่างน่าเสียดาย

ไม่อร่อยเหมือนอาหารที่มีแม่ช้อยนางรำมาการันตี แต่มันก็ไม่แย่!!! ยิ่งเป็นของที่มาจากคนที่รักด้วยแล้ว

มันก็กลืนเข้าไปได้ไม่ยากเท่าไหร่ กำลังจะลุกขึ้นไปล้างปากที่น้ำรักล้นออกมาจนเริ่มจะเหนียวแก้ม แต่ก็ต้องหยุดเอาไว้แค่นั้น เมื่อไอ้ฉานดึงผมขึ้นไปเพื่อขอชิมน้ำที่มันผลิตออกมาเองบ้าง มันชิมอยู่นานจนผมรู้สึกว่ารสเฝื่อนกลายเป็นรสหวาน ความเร่าร้อนลดอุณหภูมิลงมาเหลือแค่ความอบอุ่น ลิ้นที่กระหวัดสำรวจทั่วทั้งโพรงปากเริ่มช้าลง เราละเมียดจูบกันมากขึ้น ยิ่งหวานก็ยิ่งกิน ยิ่งกินก็ยิ่งติดใจ ไอ้ช่อนเริ่มสงบ แต่ผมเริ่มร้อนแทน เมื่อส่วนล่างเริ่มถูกคนบางคนปลุกปั่นจนมันต้องการจะปลดปล่อยบ้าง ความตื้นตันตีตื้นขึ้นมาถึงคอหอย หยดน้ำร้อนผ่าวเริ่มไหลรินออกจากหางตาเหมือนควบคุมไม่ได้


ไม่ว่าเมื่อไหร่ไอ้ฉานไม่เคยมีความสุขคนเดียว
มันเจ็บอยู่ มันคงทำรักให้ผมแบบถึงใจเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้
ถึงแม้ผมจะบอกว่าไม่เป็นไร ผมเข้าใจและผมก็ไม่ใจดำพอที่จะให้คนเจ็บมาทำอะไรแบบนั้นให้ผม
ผมรอได้.........ผมยินดีเป็นผู้ให้ โดยที่มันไม่ต้องตอบแทนอะไรเลย
แต่ไม่ใช่คนรักที่ชื่อ ฉานแสงแน่ๆ

มันรู้จังหวะที่จะทำให้ผมล่องลอยและหมดแรง ขาสองข้างแทบจะทรงตัวยืนอยู่ไม่ไหว
ไอ้ฉานจับผมให้นั่งลงบนขามัน แต่ผมฝืนตัวเอาไว้ กลัวว่าผมจะคุมตัวเองไม่ได้แล้วไปโดนแผลมันเข้า
จนครั้งที่สองที่มันกระตุกให้ผมนั่งอีกครั้ง ผมถึงยอม เพราะสายตามันบอกผมว่าให้มั่นใจ
“ถ้าฉานบอกว่าได้ก็คือได้ เข้าใจมั้ย” มันพูดบ่อยจนผมรู้ บางคำพูดของไอ้ฉานผมจะบอกว่าผมรู้ ไม่ใช่จำได้เพราะความจำยังมีวันที่เราจะหลงลืมมันไป แต่ถ้าผมบอกว่าผมรู้เมื่อไหร่ มันจะไม่มีวันลืม

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

ผมค่อยๆนั่งทับขามันเอาไว้ พยายามนิ่งที่สุดเพราะกลัวจะกระทบกระเทือนแผลมัน
“เมฆมึงจะทำให้กูรักไปถึงไหน ทำออกมาแต่ละอย่างรู้มั้ยเล่นเอาโงหัวไม่ขึ้น รู้ตัวมั้ยว่าเวลาแบบนี้มึงยั่วยวนแค่ไหน กูแทบอยากให้แผลหายวันนี้พรุ่งนี้ด้วยซ้ำ”

ไม่รู้จะให้ผมรู้อะไร หน้ามันไม่ใช่กระจกนี่ ที่จะให้ผมรู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนตอนที่มันบอกว่ายั่วยวน

ผมมองไปข้างหน้าผมก็เห็นแต่หน้ามัน เราหันหน้าเข้าหากัน มีช่องว่างระหว่างตัวมันและตัวผม
แต่ปากและลิ้นเราแนบสนิทกัน มือมันปลุกปั่นบางสิ่งบางอย่างให้ผม
ความเสียวซ่านมันแล่นผ่านไขสันหลังจนอยากจะกรีดร้องให้สมกับอารมณ์ที่แตกกระเจิง
ไม่มีเสียงอะไรหลุดออกมานอกจากเสียงอืออาในลำคอ
เสียงกรีดร้องที่ตั้งใจ ถูกไอ้ฉานเก็บกลืนไปแบบไม่ปล่อยให้หลุดลอดออกมา
ไม่นานน้ำหวานขุ่นขาวก็พุ่งออกมาเหมือนน้ำพุธรรมชาติ เลอะมือคนที่ช่วยหมุนวาล์วให้
 ในเมื่อมันเกิดมาจากผม ผมก็ยินดีรับผิดชอบทำความสะอาดให้
ผมใช้ลิ้นเช็ดล้างทำความสะอาดให้ทีละนิ้ว เก็บกินจากโคนถึงปลายทำความสะอาดให้ทุกซอกทุกมุม บางครั้งยังมีน้ำใจเอานิ้วส่งให้เจ้าของเค้าได้ลิ้มลองรสชาติของผมบ้าง
คนบางคนก็อยากเอาใจเอานิ้วที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายผมเข้าปากตัวเอง ดูดกินแต่สายตาที่มองมาทำเอาคนห้าวๆอย่างผมเขินอาย ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ผมก็ไม่ชิน กว่าจะจัดการกับธุระในห้องน้ำได้ก็กินเวลานาน จูบว้าววอนแลกเปลี่ยนน้ำหวานครั้งสุดท้าย ก่อนจัดแจงตัวเองออกมาข้างนอก


ไม่รู้เวลาเท่าไหร่ จะเที่ยงหรือจะบ่ายก็ไม่รู้ ไม่รู้คิดไปเองหรือปล่าวที่รู้สึกว่าพยุงไอ้ฉานออกมาครั้งนี้เบาสบายกว่าตอนขาไปเยอะ แต่ผมกลับเข่าอ่อนยิ่งกว่าตอนนั้นเป็นไหนๆ
คนที่เดินนำไปก่อนหยุดก้าวกะทันหัน ทำให้ผมชะงักจนจมูกชนหลังไอ้หมาบ้าจนได้

กำลังจะโวยวายแต่ไอ้ฉานเอานิ้วแตะเปลือกปากเอาไว้ให้เงียบๆ
ความอยากรู้อยากเห็นเล่นเอาผมอดชะโงกหน้าไปดูไม่ได้

ภาพตรงหน้าเล่นเอาผมหน้าแดง ผิวแก้มร้อนวูบวาบเมื่อนึกขึ้นได้
ภาพตรงหน้ามีสาเหตุมาจากตัวเอง

บนโซฟาตัวนั้น มีแผ่นหลังหนาและกว้างของผู้ชายคนนึงบังอยู่
แต่เสียงบางอย่างที่เล็ดลอดออกมาทำให้ผมรู้ว่า แผ่นหลังที่ผมเห็นอยู่นั้น
ไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว แล้วร่างที่อยู่หลังแผ่นหลังที่บังจนมิดนั้นกำลังสั่นเทิ้ม

ผมไม่ต้องเห็นจะจะ ผมก็รู้ว่าเค้าทั้งคู่กำลังจูบกันอยู่



สวัสดีค่ะ หายไปหลายวันพอดีกับที่คอมนุ้งเซมากูเตะพัง
ขอบคุณทุกคนที่มาดันกันอยู่ถึงแม้ว่าตอนหลักๆจะจบลงไปแล้ว
นับไปนับมาเข็นตอนพิเศษมาได้ตั้งห้าตอนแล้วนะ เบื่อกันหรือยังอ่ะค่ะ
ตัดสินใจแล้วว่าเรื่อง ”คุณคนเดียว....แต่เราสองคน” จะเป็นเรื่องพิเศษที่จะแถมให้ในรวมเล่มพี่เมฆกันท่านฉาน
เลยจะไม่เอาลงเล้าจนกว่าหนังสือจะส่งคนอ่านที่อยากเก็บพี่เมฆกับท่านฉานไว้เป็นคอลเลคชั่นนิยายวายนะค่ะ
จะแต่งพี่เมฆท่านฉานแถมเป็นตอนพิเศษให้ ก็คงไม่ไหวแล้วมั้งก็กระหน่ำลงไม่ยั้งแบบนี้
ไม่ต้องรีบนะค่ะ คนเขียนยังมีภาระอีกมากที่ต้องทำ อาจจะหลังจากเสร็จงานวันเกิดเล้าละมั้งค่ะ
อยากจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อยก่อนเปิดจอง เพราะหลังจากปิดจองแล้วจะสั่งพิมพ์เลย จะได้ไม่รอกันนานเนาะ
ส่วนคนที่ไม่ได้ซื้อพี่เมฆพี่ฉานและยังไม่ได้อ่านเรื่อง "คุณคนเดียวแต่เราสองคน” ไม่ต้องน้อยใจนะ เพราะกำลังแต่งเรื่องใหม่อีกเรื่องอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ต้องแต่งสะสมเอาไว้เป็นสต็อก เพื่อไม่ให้นุ้งเซโดนขู่ทำร้าย 5555 เวลาหายไปหลายๆวัน” ก็คงจะลงเรื่องนั้นก่อนแต่ถ้าใครชอบแบบรักใสๆฮาๆแบบพี่เมฆกับฉานอาจจะไม่ถูกใจ เพราะเรื่องใหม่ออกแนวดราม่า  แต่เรื่องพี่เมฆกับพี่ฉานเป็นอะไรที่ตรงกับคนเขียนสุดๆแล้วฮาๆกวนตีนๆแบบนี้ แต่อยากทำอะไรที่หลากหลายดูบ้าง ไม่แน่นะ อาจจะหักมุมมาฮาเหมือนเดิมก็ได้ อนาคตไม่มีใครรู้นี่นา
ขอบคุณทุกคนค่ะ ตอนพิเศษตอนหน้า จะเขียนต่อจากตอนนี้ดีมั้ยนะ (หัวเราะชั่วร้ายก่อนเดินจากไปอย่างสงบ)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 28-08-2010 19:24:52
มาเม้นเป้นคนเเรก

ยังร้อนเเรงกันเหมือนเดิม

นะคู่นี้ ฉานยังคงหื่นไม่มีวันเปลี่ยน

แปลง แล้วเมฆก้อยังทำหน้าที่

เมียที่ดีไม่มีตกหล่น  แล้วตอนพิเศษ

ต่ออีกไป หนุกดีแต่สั้นไปหน่อย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 28-08-2010 19:34:22
พี่ฉานนี่หื่นได้ตลอด
พี่เมฆก็ช่างเป็นศรีภรรยาที่ดีซะจริง

น่ารักทั้งคู่

แล้วที่โซฟานั่นใครอ่ะ
อยากรู้อยากเห็น   :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-08-2010 19:35:19
ยังหวานเหมือนเดิม :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 28-08-2010 19:35:58
อิจฉาจริงๆเลย คู่นี้ รักเราไม่เก่าเลยจริงๆ อิอิ
รอตอนต่อไปนะจ๊ะ และเก็บเงินรอรวมเล่มด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 28-08-2010 19:39:50
แว้กกกกกกกกกกกกกกก ร้อนแรงตลอดเวท่านเมฆกะท่านฉาน
>///////////<
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: b27072010 ที่ 28-08-2010 19:51:23
5555

nc  nc  nc 

แต่อีกคู่นี่ซิ

ไม่อยากขัดจังหวะเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 28-08-2010 20:02:28
อีกคู่ต้องเป็นไม้กะัน้องตี๋ตี้ แน่เลยเนอะ มาเยี่ยมแล้วมาได้ยินเสียงในฟิลม์  :laugh:
เดาเอาจะแม่นมั้ยเนี่ย ตอนต่อไปยังไม่มาเลย  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-08-2010 20:08:50
ใครจุ๊บกันน้อ อยากรู้จัง :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 28-08-2010 20:17:26
สุดยอด.....น่ารัก.....สะใจ....สไตล์พี่เมฆ
หวาน...& .....ซี๊ดดดด.....จนเดือดร้อนคู่อื่น ๆ นะจ๊ะ :z1:

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 28-08-2010 20:27:33
กรี๊ดดด!! ทั้งหวาน ทั้งหื่น!  :z1: :m1:

ชอบคร้าบ ขอตอนพิเศษมาเรื่อยๆนะครับผม

 o13 o13 o13

แต่ไอ้ 2 คนที่จูบกันอยู่นี่ใครง่ะ พี่ฉายกับน้องอันดาป่าวง่ะ เหอะๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 28-08-2010 20:29:41
พี่เมฆเริ่มร้อนแรงแล้ววววววว

ว่าแต่ คู่ที่จูบกัน ใครอะ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 28-08-2010 20:47:23
อยากรู้ว่าอีกคู่คือใครอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 28-08-2010 20:55:48
อีกคู่ต้องเป็นไม้กะัน้องตี๋ตี้ แน่เลยเนอะ มาเยี่ยมแล้วมาได้ยินเสียงในฟิลม์  :laugh:
เดาเอาจะแม่นมั้ยเนี่ย ตอนต่อไปยังไม่มาเลย  :z1:

เราคิดแบบนี้เลยค่ะ 5555
ฉานกะเมฆน่ารักจริงจัง  :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 28-08-2010 21:00:04
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษที่เร้าร้อน :m23:
พี่เมฆ พี่ฉาน ยังคงความรักที่อบอุ่นและเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน :กอด1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 28-08-2010 21:14:49
ยังคงความหวานไม่เปลี่ยน ได้มองต่างมุม และทำให้เราเข้าใจไรมากขึ้นอะ จากที่มองแต่มุมของเมฆ
แต่ได้มองมุมของฉาน สลับกับเมฆทำให้เรารักดวงตะมัน และองอิศวรมากมาย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 28-08-2010 21:19:02
ฉานแกนี่หื่นได้ตลอดเลยนะ :oo1:

ขนาดเจ็บจะตายอยู่แล้ว  :z1:


ว่าแต่ว่าคู่ไหนล่ะนั่น  :impress2:


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 28-08-2010 21:45:28
ในที่สุด :o8: :-[ :impress2:
อีกคู่ด้วยสิ
นะนะนะนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 28-08-2010 21:54:28
ขอบคุณ ตอนพิเศษทำน้ำแข็งละลาย
อยากรู้ใครเอ่ย
+1
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 28-08-2010 22:02:52
ไม่สบายแล้วยังหื่นได้อีกนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-08-2010 22:08:26
 :haun4:

เมฆไม่ไร้เดียงสาเลยนะตั้งแต่มีสามีเนี่ยะ 
ส่วนพี่ฉานหื่นมั่ก ๆ ร้อนแรงแบบเจ็บ ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 28-08-2010 22:14:30
พี่ฉานหื่นอ่ะ ระวังแผลเปิดนะคะ

กิ้วๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 28-08-2010 22:29:51
หวานจริงหวานจัง ไม่หวั่นแม้ว่าจะกำลังป่วยอยู่เลยนะนายฉาน  :-[

อีกคู่ขอทายว่าเป็นพี่ไม้กะน้องตี่ตี้  :man1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: p_pink ที่ 28-08-2010 22:35:27
หวายยยยย พี่ฉานอ่ะ หื่นได้แม้กระทั่งนอนป่วย  :haun4:
สงสัยว่าพอหายดี ได้ออกจากโรงพยาบาล พี่เมฆจะต้องโดนแบบทบต้นทบดอกแน่ๆ

+1 ให้คู่รักที่กำลังแอบจูจุ๊บกันบนโซฟา อิอิ

 :L2: ขอบคุณน้องคนโพส และไรท์เตอร์ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 28-08-2010 22:50:38
รอลุ้นคู่ข้างนอกดีกว่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 28-08-2010 23:01:13
พี่ฉานก็ต้องหายเร็วๆนะ จะได้  :oo1: กับพี่เมฆอย่างเต็มที่  อิอิ
เอ๊ะ  แล้วที่โซฟา  ก็ร้อนแรงไม่แพ้กันนะนี่    :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 28-08-2010 23:07:25
โฮะๆพี่ฉานยังคงเจ้าเล่ห์เหมือน
เดิมแบบนี้แหล่ะพี่ฉานของแท้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 28-08-2010 23:32:24
โหย
โรงบาลนะคร้าบบบ
โปรดเข้าใจด้วย
ประเดี๋ยวคุณพยาบาลกะคุณหมอก็ได้แย่งไอติมกันกินหรอก
อิอิ
ของยิ่งมีน้อยหายากอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 28-08-2010 23:43:04
นู๋ไม้กะนู๋ตี๋ตี่รึป่าวอ่ะ คิดว่าเป็นคู่นี้ อยากให้เป็นคู่นี้ แล้วก็อยากอ่านคู่นี้ด้วย
ขอบคุณไรเตอร์ที่มาอัพนะคะ มาช้าดีกว่าไม่มานะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 28-08-2010 23:59:32
พี่เมฆยังคงฮาได้สม่ำเสมอ...
ว่าแต่ใคร..อยู่บนโซฟา
ไม้กะ ตีตี๋เปล่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 29-08-2010 00:35:04
เลือดหมดตัวววววววววว อร๊ากกกกกกกกกกกก
พี่เมฆขาาา เซ็กซี่มากกกกอ่ะ >/////<
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 29-08-2010 00:42:33
เมฆน่ารัก เซ็กซี่พอซู่ซ่า

อูววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 29-08-2010 01:31:12
 :m25:
แหล่มเลยยยอิอิ
พี่ฉานอ่ะมาโชว์หวิวคู่พี่ไม้ตี่ตี้เลยอยากทำตามสงสัยถ้ารู้ตัวได้อายม้วนหน้าม้วนหลังแน่เลยน้องปลื้ม5555
พี่เมฆสมควรได้รับรางวัลเมียดีเด่นดูแลได้ไม่ขาดตกเลยสักอยากเยี่ยมมากมายค่ะ o13
รออ่านคู่พี่ไม้น้องตี่ตี้อยู่น๊าค่า
+1เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์กับคนโพสค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 29-08-2010 02:16:27
 :m25: พี่เมฆสุดๆๆไปเลยยงานนี้เอาใจพี่ฉานไปอีก

ฮ๋าๆๆๆๆๆ

แล้วใครอีกคนละนั่นที่มานั่งสวีตกันในห้อง

ฮ๋าๆๆๆๆๆๆๆๆ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: fungfung ที่ 29-08-2010 03:11:34
แม้เจ็บป่วยก็ไม่เว้นนะฉานหื่นตลอดดีนะมีศรีภรรยาดี
แต่อีกคู่ที่หื่นไม่แพ้กันนั้นคือใครรรร
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 29-08-2010 07:21:01
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: muyong ที่ 29-08-2010 09:20:42
ไม่ทราบว่าเปิดจอง รวมเล่มเมื่อไรค่ะ

อยากเก็บพี่ฉานกับน้องเมฆไว้ในครอบครอง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 29-08-2010 09:40:17
ใช่พี่ไม้กับน้องปลื้มป่ะ :o8:
เอาไงก็ตามใจเลยฮับ เพราะไงก็หลง
จนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว เรื่องไหนๆก็ดีทั้งนั้นล่ะ
จุ๊บทีหายไปหลายวัน คิดถึง :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 29-08-2010 11:06:58
เหมือนความคิดเห็น ก่อนหน้านี้  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 29-08-2010 16:24:22
ไม่ผิดหวังกับการรอคอยตอนพิเศษขอรับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 29-08-2010 22:29:12
ฉานหื่นได้ระดับเดิมดีมาก 555555 ขนาดยังไม่หายอ่านะ

ส่วนตอนพิเศษ มีก็ยังรออ่านเสมอจ้ะ อิๆ คิดตึ๋ง

เรื่องใหม่แนวมาม่าเหรอ  o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 29-08-2010 22:42:23
เข้ามาอีกรอบพร้อมสารภาพว่าอ่านซ้ำตอนของพี่ไม้กะตี่ตี้มาอ้ะ
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักตี่ตี้มากมาย น้องมันน่ารักเวอร์ เอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :m1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 29-08-2010 22:49:17
ใครมาทำอะไรกันตรงน้านนนนน  :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 29-08-2010 23:01:19
 :o8: ร้อนแรงทุกองศาาาาา !!!!!!!!!!!!!!!!!

พี่ฉาน พี่เมฆ ในห้องน้ำ เอิ๊กกกก เอิ่ม เขิน 555555

แล้วใคร ???? มันอยู่บนโซฟา ละนี่

ขอเดาว่า เป็น ไม้ กะตีตี้ อ๊ากกกก ตื่นเต้นนน บนโซฟาา ฮิ้ววว 555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 29-08-2010 23:53:33
แล้วอีกคู่ใครเอ่ย  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: wisa ที่ 30-08-2010 00:09:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 30-08-2010 09:31:42
 :m25:  หวานซะน้ำ.......  ตาลพุ่งกระฉูดเลย 55555  :m20:
ตอนต่อไป....



4P 4P  4P   :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 30-08-2010 10:19:23
ใครกันนะที่มาขโมยซีนพี่เมฆของเราได้เนี่ย
รักกันก้อต้องแสดงออกแบบนี้แหละเนอะ
เก็บตังรอตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 30-08-2010 11:47:41
 :-[ อร๊ายยยย เขิลอ่า

แล้วใครกัน แอบมากุ๊กกิ๊กที่โซฟา

ขอบคุณค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 30-08-2010 12:20:03
:m25:  หวานซะน้ำ.......  ตาลพุ่งกระฉูดเลย 55555  :m20:
ตอนต่อไป....



4P 4P  4P   :haun4:

4P นี่เค้าทำกันยังไงอ่ะ......เอร้ยยยย อีคนล่างสุดมันไม่หลังหักตายไปเลยเหรอ  :laugh:
มันไม่ได้หุ่นเหมือนคุณลูกเขยนะ ที่จะรับภาระโหลดได้เยอะกว่าคนอื่น   กร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 30-08-2010 14:07:03
+1 ให้พี่ฉาน หื่นได้ใจมากกกกกเลย     :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 30-08-2010 21:34:24
เข้ามา ดัน ดั๊น ดัน

แล้วก็ รอ ร๊อ รอ คร้าบบบ

 :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 30-08-2010 21:41:56
หุๆๆๆ มีพฤติกรรมเลียนแบบอีกคู่หนึ่งแล้ว

ว่าแต่คู่ไหนหนอ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 30-08-2010 22:29:15
:m25:  หวานซะน้ำ.......  ตาลพุ่งกระฉูดเลย 55555  :m20:
ตอนต่อไป....



4P 4P  4P   :haun4:

4P นี่เค้าทำกันยังไงอ่ะ......เอร้ยยยย อีคนล่างสุดมันไม่หลังหักตายไปเลยเหรอ  :laugh:
มันไม่ได้หุ่นเหมือนคุณลูกเขยนะ ที่จะรับภาระโหลดได้เยอะกว่าคนอื่น   กร๊ากกกก
แหม่ นี่ขนาดไม่รู้ว่าเค้าทำกันยังไง  แต่สามารถรู้ได้ว่าคนล่างสภาพจะเป็นยังไง ก็นะ... o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: CHAREE ที่ 31-08-2010 01:36:54
โอย อะไรจะน่ารักขนาดนี้  เขียนดีมากเลยนะ writer.....
อ่านจนไม่ได้หลับได้นอน รวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ
good job
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 31-08-2010 02:12:00
น่ารักๆๆๆๆ

ขอพิเศษ อีกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 31-08-2010 05:29:18
:m25:  หวานซะน้ำ.......  ตาลพุ่งกระฉูดเลย 55555  :m20:
ตอนต่อไป....



4P 4P  4P   :haun4:

4P นี่เค้าทำกันยังไงอ่ะ......เอร้ยยยย อีคนล่างสุดมันไม่หลังหักตายไปเลยเหรอ  :laugh:
มันไม่ได้หุ่นเหมือนคุณลูกเขยนะ ที่จะรับภาระโหลดได้เยอะกว่าคนอื่น   กร๊ากกกก
4P  เฉยๆนะ  ไม่ได้บอกซะหน่อยว่ารถไฟรัก :haun4:   คุณแม่ยายเนี่ยะ  คิดไปถึงใหน   :m20: :jul3:


ชะแวฟ  หลบสหบาทาไปอย่างรวดเร็ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 31-08-2010 17:38:27
คู่ข้างนอกคงได้ยินแต่เสียง แล้วขัดใจ เลยต้องหาภาพประกอบกันเอาเอง  :m25:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 01-09-2010 21:04:15
ขอดันรอตอนพิเศษนิดนึงนะครับผม

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 02-09-2010 13:46:18
ขอบคุณมากๆนะครับไรเตอร์ รักพี่ฉานกับพี่เมฆจังเลย ตอนนี้เก็บตังค์รอซื้อรวมเล่มก่อนนะครับผมรบกวนแจ้งให้ทราบด้วยนะครับว่าสั่งจองเมื่อไรอ่ะครับผม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: กลั่นกรอง ที่ 02-09-2010 19:50:49
 :L2: :L2: :L2: :L2:

นั่งอ่านรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ 


แบบว่า   :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

รออ่านตอนพิเศษ 

หรือ ไม่ก็รอรวมเล่ม  อยู่ จ้า

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 03-09-2010 00:48:41
อ่านมาได้ครึ่งทางแล้วค่ะ
เมฆน่ารักจัง รั่วด้วย
ฉานนี่ก็แรง+ด้านได้ใจ
ฮ่าๆๆๆ

แล้วจะตามอ่านต่อนะคะ

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: QUE1 ที่ 04-09-2010 02:51:52
สนุกมากค่ะเรื่องนี้
อ่านมา 2 วันกว่าจะถึงตอนนี้
ฉานน่ารักมาก...ห่วง หวง เมฆได้สม่ำเสมอสุดๆๆ
กว่าเมฆจะรู้ตัวว่ารักฉานก็ต้องให้ฉานตามหึงอยู่บ่อยๆ
อิอิ....รอตอนพิเศษตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก,P.65]28 สิงหา
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 05-09-2010 03:57:39
ใครน้อมาจูบกันบนโซฟา ไม้กับปลื้มป่าวเนี่ย  :-[


รวมเล่มหรือค๊ะ ขอยกมือจองด้วยคน

แนวนี้เป็นหนึ่งในแนวที่ชอบค่ะ

รักเมฆอ่ะน่ารักดี ไม่คิดจะตีท้ายครัวฉานเลยจริงจริง  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 06-09-2010 18:44:41
“เรื่องพิเศษ ในเล่มพิเศษ”



“คุณคนเดียวแต่เราสองคน”

 

 

 

เพราะพ่อของผมเป็นต้นเหตุ..............ครอบครัวของเขาถึงต้องล่มสลาย

เพราะพ่อของผมเป็นต้นเหตุ...............แม่ของใครคนนั้นถึงต้องตาย

มันไม่ใช่ความผิดของใคร....................ผมรู้

เมื่อไหร่.............ที่คุณคนเดียวจะเข้าใจว่าความรักไม่ใช่ความผิดของใคร

ผลพวงจากความสูญเสียทั้งหลาย ไม่มีใครทำ

.....แต่มันเป็นวิบากกรรมที่เราทำร่วมกันมา

......จะมีวันไหนที่คุณคนเดียวจะเข้าใจบ้างมั้ยนะ

ขลุ่ย.....ต้องทำแบบไหน ต้องทำยังไง....ถึงจะได้คุณคนเดียวคนเดิมกลับมา

 

 

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/00024619_93411.gif)

 

ปัง !!!!!!........โครม!!!!

เสียงดังตึงตังโครมครามมันเกิดขึ้นทุกวัน นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

เสียงที่เกิดจากอารมณ์เกรี้ยวกราดของลูกชายเพียงคนเดียวของบ้าน

เจ้านายตัวน้อยเพียงคนเดียวที่เรียกรอยยิ้มให้ทุกคน 

บ้านหลังใหญ่ของครอบครัวเล็กๆ สามคนพ่อแม่ลูก

บ้านที่มีคนรับใช้มากกว่าเจ้านาย

บ้านที่เคยอบอุ่นยิ่งกว่าบ้านไหนๆ คุณคนเดียวที่อ่อนโยนยิ่งกว่าใครๆ

ทุกสิ่งทุกอย่างมันเลือนรางจางหายไปนานแค่ไหนแล้ว

 

 

 

 

โอ๊ยยยย!!

เสียงร้องเพียงคำเดียวสั้นๆ แต่กรีดความรู้สึกของคนที่ได้ยินจนต้องห่อไหล่ด้วยรู้สึกใจหาย

สงสาร เป็นห่วง แต่ช่วยอะไรไม่ได้

ในเมื่อมันเป็นวิบากกรรม แม่บ้านวัยกลางคนจึงได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะโบกมือไล่ให้เหล่าแม่บ้านภายใต้การควบคุมไปพักผ่อนห้องใครห้องมัน

“เรื่องของเจ้านาย” เพียงแค่ประโยคสั้นๆ กลุ่มเด็กทำงานบ้านถึงได้แยกย้ายจากไปด้วยความเสียดาย

“อดทนนะคะคุณขลุ่ย ป้าเชื่อว่า สักวันคุณคนเดียวต้องเข้าใจ” ชายเสื้อยกขึ้นซับน้ำตา ถอนหายใจทอดอาลัยด้วยความจนใจ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของเวลา

 

 

ร่างเด็กผู้ชายที่ลอยหวือไปกระแทกผนัง แรงปะทะที่ไม่ทันได้เตรียมตัวทำให้ฟันกระแทกริมฝีปากจนเลือดไหล มือทั้งสองข้างยกขึ้นขยำตามเนื้อตัว บรรเทาอาการเจ็บปวดจากบานประตูที่กระแทกเข้าไปเต็มแรง ตั่วสั่นเทาเพียงเพราะเดาไม่ได้ว่าต่อจากนี้จะเจออะไรที่ต้องเจ็บปวดกว่านี้อีกบ้าง รู้ว่าคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้กำลังโกรธ แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ถามมีหรือที่เขาจะกล้าอธิบาย แม้แต่สายตายังต้องกดต่ำมองพื้น อย่าว่าแต่จะโวยวายเลย แต่เพียงจะหายกล้าช้อนตาขึ้นสบกับอีกสายตา ขลุ่ยเองยังไม่กล้าคิดที่จะทำเลย

 

“ทำไมมาช้า” คำถามที่เป็นเหมือนเหตุของการกระทำที่ผ่านมา ถ้ามันถูกใช้ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์แบบเมื่อกี้จะเกิดขึ้นมั้ยนะ หรือว่าโอกาสมันไม่ได้มีตั้งแต่ต้นแล้ว ที่ถามไปเพราะต้องการลดกระแสความแรงของอารมณ์คนถามเท่านั้นก็ไม่รู้

 

“ทำรายงานครับ ผมต้องทำรายงานก่อน เพราะต้องส่งก่อนแปดโมงเช้า”

 

“แล้วทำไมไม่ให้ใครมาบอก หรือว่าหน้าที่ตรงนี้มันไม่สำคัญ”

 

“ตอนแรกผมคิดว่ามันจะเสร็จก่อนที่จะต้องขึ้นมาบนนี้ ไม่คิดว่ามันจะยากจนเลยเวลามาแบบนี้” ตอบความจริงทั้งๆที่หลบตาอยู่นั่นหละ ไม่กล้าสบตาคนตรงหน้าหรอก คนอย่างขลุ่ยไม่ชินกับการมองหน้าคุณคนเดียวตอนเกรี้ยวกราดแบบนี้ คุณคนเดียวที่ขลุ่ยเคยมองมีแต่รอยยิ้มของเพื่อนหรือพี่ชายที่ใจดี แต่เรื่องที่มันผ่านไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ เวลามันย้อนกลับไม่ได้เหมือนสายน้ำนั่นแหละ

 

ไม่มีเสียงใดๆ หลังจากคุณคนเดียวได้คำตอบแล้ว ไม่รู้เป็นคำตอบที่น่าพอใจแค่ไหน สายตาที่ถูกบังคับให้มองแต่พื้นห้องจึงค่อย กวาดมองไปรอบๆ ไม่มีปลายขาที่ยังมองเห็นผ่านกรอบสายตาอีกแล้ว ไม่นานคำตอบที่กำลังสงสัยก็เผยออกมาผ่านเสียงของสายน้ำจากฝักบัว

 

เสียงพรูลมหายใจดังออกมาพร้อมเสียงซี๊ดปากด้วยความเจ็บปวด ปลายนิ้วที่ไล้ไปรอบๆบริเวณที่รู้สึกเจ็บมีเลือดสีสดติดออกมาเป็นคำตอบ

 

“อาาาาาาาา อูยยยยยย” ไม่รู้ทำไม ทั้งๆที่รู้ว่าเจ็บแต่ก็ยังจะขยับปากตอกย้ำความเจ็บให้รู้ว่ามันคือเรื่องจริงไม่ใช่แค่ฝันไป เหมือนที่ใจอยากให้เป็น รู้สึกตึงๆตั้งแต่ขอบปากจนลามไปทั่วทั้งหน้า ทำอะไรไม่ได้นอกจากขยับทุกส่วนของใบหน้าให้น้อยที่สุด ถึงแม้ร่องรอยความเจ็บปวดยังเล่นริ้วทุกครั้งที่ขยับตัวก็เถอะ

 

 

เจ็บจนชิน !!! จิตใต้สำนึกบอกแบบนั้น แต่ปฎิกริยาของร่างกายกลับตรงกันข้าม

เจ็บตามเนื้อตามตัวทุกวัน จนลืมความรู้สึกของร่างกายที่ปกติเหมือนคนอื่นๆเค้าไปแล้ว

ขลุ่ยเป็นผู้ชาย ที่โตตามวัยเหมือนผู้ชายทั่วไป ไม่ได้บอบบางเก้งก้าง แต่ก็ไม่ได้บึกบึนมีมัดกล้ามเหมือนผู้ชายที่เล่นกีฬา เตะต่อยต่อสู้ได้ ช่วยเหลือตัวเองได้

 

 

แต่กับคุณคนเดียว......ขลุ่ยไม่คิดจะทำ

 

 

ยอมเจ็บ.....ถ้ามันช่วยให้คุณคนเดียวรู้สึกดีขึ้นกับความรู้สึกโกรธแค้นที่มีต่อเขา

ยอมถูกด่า........ขอเพียงแค่ไม่ก้าวล้ำไปถึงบุพการีเพียงคนเดียวที่ขลุ่ยเคยเห็นหน้า

ต่อให้ใครๆตอกย้ำว่าพ่อของขลุ่ยชั่วช้า.....แต่ในสายตาขลุ่ยแล้วพ่อก็คือทุกสิ่งทุกอย่างเสมอ

 

 

 

เสียงสายน้ำที่กระทบพื้นกระเบื้องเงียบลง เหมือนเรียกสติให้กลับมาอีกครั้ง

สลัดความเจ็บปวดที่เริ่มรุนแรงขึ้นทุกเวลาออกไปก่อน ถ้าไม่อยากเจ็บซ้ำที่เดิมมากไปกว่านี้

เสื้อผ้าที่คุณคนเดียวถอดทิ้งไว้เรี่ยราดตามพื้น ถูกเก็บเข้าที่ของมันตามหน้าที่

ชุดนอนอย่างดีถูกหยิบออกมาวางไว้ให้ที่ปลายเตียง เสื้อและกางเกงทั้งแบบแขนขาสั้นและยาวถูกวางเอาไว้เผื่อคนหยิบใช้จะเลือก ผ้าคลุมที่นอนถูกดึงออก พร้อมทั้งดึงผ้าปูให้เรียบตึง ทั้งๆที่มันก็ตึงอยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำเหมือนเป็นขั้นตอนที่บันทึกเอาไว้จนกลายเป็นความเคยชิน

 

 

ประตูห้องน้ำถูกเปิดพร้อมไอความร้อนที่ลอยตามตัวออกมา กลิ่นหอมสดชื่นของเครื่องอาบน้ำลอยกระทบจมูกทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ทุกอย่างเรียบร้อยตามขั้นตอน ที่เหลือคือรอ ถ้าคุณคนเดียวเลือกชุดนอนแขนสั้นก็หมายความว่าอุณหภูมิห้องเย็นสบายพอดีแล้ว แต่ถ้าเป็นชุดแขนยาว ขลุ่ยต้องปรับอุณหภูมิของแอร์ขึ้น แล้วก็รอจนกว่าจะมีคำสั่งอีกครั้ง

 

คุณคนเดียวเลือกใส่แขนสั้น

อาการพรูลมถอนหายใจถูกใช้เมื่อรู้สึกว่าโล่งอกจนกลายเป็นนิสัยไปแล้วสินะ ไอ้ขลุ่ย!!

 

“อาบน้ำหรือยัง”

“ยังครับ”

“สกปรก ทำไมไม่อาบ”

“ผมกลัวจะช้าไปกว่านี้ ทำงานเสร็จก็เลยรีบขึ้นมาเลยครับ” ไม่กล้ามองหน้าอีกแล้ว ได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ทีไร ขี้ขึ้นหัวทุกทีไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

“ทั้งๆที่รู้ว่าจะไม่ได้ลงไปจนกว่าจะเช้าอะนะ มีแผนอะไรหรือเปล่า”

“คะ ครับ แผนอะไรครับ”

“ช่างมันเหอะ ยังไงก็ไม่รอดอยู่ดี เอ้า..นี่” ผ้าขนหนูเปียกชื้น ลอยผ่านอากาศมาตกที่หัวขลุ่ยแบบพอดิบพอดีเหมือนจับวาง

คลี่มันออกมาพร้อมกับสะบัด ก่อนจะเดินไปที่ที่มันควรจะต้องอยู่

“ทำอะไร”

“เอาผ้าขนหนูไปตากครับ” อากาศข้างนอกระเบียงกับอากาศข้างในห้องให้ความรู้สึกเย็นจนสั่นพอกัน ถึงจะเย็นคนละแบบ แต่ก็รู้สึกปวดตามเนื้อตัวมากขึ้นกว่าเดิมพอๆกัน

 

“ตากทำไม ชั้นหมายถึงให้นายเข้าไปอาบน้ำ หรือว่าชั้นสื่อสารผิด นายเลยไม่เข้าใจ” ทั้งสองอย่างนั่นแหละ แต่ใครจะกล้าพูดออกไปหละ ถึงแม้ทุกครั้งหลังจากอาบน้ำเสร็จ คุณคนเดียวจะไม่ได้เหวี่ยงผ้าอย่างที่ทำวันนี้ นอกจากเสร็จตรงไหนก็วางไว้ตรงนั้น แล้วขลุ่ยก็จะตามเก็บไปตากให้ ใครจะไปตรัสรู้ว่าอาการแบบนี้คือคำสั่งให้ขลุ่ยเข้าไปอาบน้ำกันหละ ก็ในเมื่อครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขลุ่ยขึ้นมาทั้งๆที่ยังไม่อาบน้ำ

“ผมคิดว่า ถ้าทำตรงนี้เสร็จแล้วขออนุญาตกลับไปบ้านนู้นอะครับ”

“เดี๋ยวนี้เริ่มมีข้อเรียกร้องเหรอ ชั้นใจดีกับนายมากไปหรือเปล่า ถึงได้ลืมว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอะไร”

แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเถียงไปก็เท่านั้น มันแพ้ตั้งแต่ขยับปากออกไปแล้ว

 ริมฝีปากที่เตรียมจะยกเพื่อพูดประโยคถัดไปถึงถูกเม้มกลับไปที่เดิม ปิดประตูระเบียงเหมือนเหตุการณ์เมื่อกี้ไม่ได้เกิดขึ้น ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปแบบเสียไม่ได้

 

รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่โดนสายน้ำอุ่น ย้ำลงตรงหัวไหล่และแนวกล้ามเนื้อที่ปวดตุบๆ ถึงได้ลืมตัวอาบน้ำยาวนานไปหน่อย กลับออกมาอีกที คุณคนเดียวก็หลับปุ๋ยเฝ้าพระอินทร์ไปแล้วเรียบร้อย

ระเบียงถูกเลื่อนเปิดให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลับเข้ามาในห้องก็ต้องหันรีหันขวางว่าจะเอายังไงต่อไประหว่างไปหยิบฟูกมาวางแล้วนอนอยู่ด้านล่างของเตียง หรือหลบกลับออกไปเงียบๆดี สมองกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างสองทางเลือก มันตัดสินใจยากมากทั้งสองทางเพราะไม่รู้อย่างไหนจะทำให้คนที่หลับไปแล้วพอใจมากกว่ากัน เพราะทั้งสองทางเลือกเป็นทางที่ขลุ่ยไม่เคยทำเลยทั้งสองทาง

 

เพราะที่ผ่านมา มันไม่เคยมีทางให้เลือก นอกจากคำสั่ง

 

“หมุนตัวไปมาทำไม มานี่สิ”

ยกเลิกทั้งสองทางเลือก  คำสั่งเกิดขึ้นแล้วตอนนี้

 

“บอกว่าให้มานี่ มันจะอะไรนักหนาห๊ะ ตัวสั่นทำไม ทำเป็นไม่เคยไปได้ “

ถึงไม่ใช่ผู้หญิง แต่มันก็รู้สึกกลัวขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้ ในเมื่อรู้ว่ากำลังจะเจอกับอะไรที่ไม่อยากเจอมากที่สุด ไม่ได้อยากจะยอม แต่มันขัดขืนไม่ได้ มันฝังใจเพราะครั้งแรกที่เจอมันเลวร้ายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดมารวมกัน

แรงกระชากมากพอที่จะทำให้ร่างผู้ชายวัยสิบเก้าปีคนนึงลอยมานั่งลงบนตักแบบพอดีๆ แต่แรงกระแทกนั้นทำให้อาการปวดที่เพิ่งบรรเทาเบาบางกลับมาเด่นชัดอีกครั้ง

 

“โอ้ย” เสียงร้องถูกเก็บกลืนเอาไว้เพียงเพราะกลัวไปกระตุ้นอารมณ์ให้ใครบางคนต้องโหดร้ายอีก

แค่นี้ก็สั่นจนควบคุมอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

ทุกอย่างเป็นเหมือนทุกวันที่เคยพบเจอ ไปเรียน กลับบ้าน ทำงานรับใช้คุณคนเดียว

แล้วก็เป็นตัวอะไรก็ได้ที่คุณคนเดียวใช้ระบายอารมณ์..........บนเตียง

ซอกคอถูกฟันคมขบย้ำ ถึงแม้ไม่เกิดรอย แต่มันก็เจ็บแสบมากพอจนต้องซี๊ดปากระบายความเจ็บ

จมูกที่ฝังและลากผ่านไปมาตามใบหน้า ซอกคอและลำตัว ไม่มีส่วนไหนได้รับความอ่อนโยนทะนุถนอม มีแต่ทำตามอารมณ์ดิบเถื่อนของตัณหาที่มันพาไปเท่านั้น มันเกิดจากความใคร่ ไม่มีอะไรที่บ่งบอกขลุ่ยได้ว่ามีส่วนไหนที่รู้สึกได้ถึงความรัก น้ำตามันไม่ได้ไหลเพราะมารยาหรือความอ่อนแออะไร แต่มันไหลเพราะสมเพชตัวเอง เจ็บแต่ทำอะไรไม่ได้ อยากจะสะบัดตัวให้หลุดจากพันธนาการป่าเถื่อนดุร้าย แต่นั่นก็ได้แต่คิด ในเมื่อร่างทั้งร่างยังนิ่งให้คนตรงหน้าทำตามความพอใจ เสียงครางที่ประสานคลอกันไป มาจากความพอใจของห้วงอารมณ์ของคุณคนเดียวและมาจากความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจใครอีกคน แต่แปลก มันดันกลายเป็นเสียงเดียวกัน เพียงแค่ต่างความรู้สึกกันก็เท่านั้น

 

ทุกอย่างยาวนานในความรู้สึก

 

ร่างเปล่าเปลือยปวดหนึบทุกครั้งที่ขยับ คราบขาวขุ่นหลังจากกิจกรรมนั่นเริ่มใส และเริ่มเหนียวเกรอะกรัง แต่จะให้จัดการอะไรในตอนนี้นั้น มันก็เพลียเกินกว่าจะลุกขึ้นไปจัดการไหว

เหนื่อยและกดดันมาทั้งวัน มันยิ่งกว่าวิ่งรอบประเทศไทยอีกมั้งเนี่ย

ในเมื่ออะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด ในเมื่อเจ็บปวดมาจนชาและเริ่มชิน

หากตื่นขึ้นมาแล้วต้องเจอกับอะไร ขลุ่ยก็ขอให้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ก็แล้วกัน

 

 

 

 

เป็นผู้ชายจะร้องไห้กับทุกเรื่องจนแยกไม่ได้ว่าเรื่องไหนสำคัญกว่ากัน มันก็ไม่ใช่ผู้ชายอย่างขลุ่ย

ไม่ใช่เรื่องอะไรที่จะต้องมาอ่อนแอเอาตอนนี้

ในเมื่อตลอดชีวิตที่ผ่านมา

ขลุ่ยก็ใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชายกับพ่อมาตลอด

ถูกสอนให้เข้มแข็งตั้งแต่รู้ว่าไม่มีแม่แล้ว

ต่อสู้กับความสูญเสียและคำครหาตั้งแต่ พ่อตาย

แล้วการที่ขลุ่ยจะต่อสู้ เพื่อผู้ชายแสนดีอีกคนหนึ่งในชีวิตของขลุ่ยให้กลับมา

จะกลัวอะไร ในเมื่อในชีวิตที่เหลือ ขลุ่ยมีเพียงแค่ “คุณคนเดียว” คนนี้

ถึงแม้สิ่งที่ทำอยู่จะเป็นวิธี โง่ๆ ในสายตาใครๆ

แต่เรื่องแบบนี้ มันจะพิสูจน์ความจริงได้ ก็ต่อเมื่อใช้ ความรักเท่านั้นหละ

.

.

.

.

.

.

.

.

 

 

“ ทำไมครับพ่อ เขาดีกว่าแม่ตรงไหนครับ พ่อถึงกล้าบอกว่ารักเขา ทั้งๆที่พ่อยังมีแม่ มีผม จนวันนี้ แม่ต้องมาตายเพราะเขา แต่พ่อก็ยังบอกว่า เขาคือคนที่พ่อรัก ทั้งๆที่เขาเป็นผู้ชาย ทั้งๆที่เราเข้าใจว่าเค้าคือเพื่อนตายของพ่อ ผมกับแม่โง่มากใช่มั้ยครับ  ที่ไม่เคยรู้เลยว่าผู้ชายกับผู้ชายจะรักกันได้เกินกว่าคำว่าเพื่อน พ่อนอนกับแม่จนมีผม เค้านอนกับใครจนมีขลุ่ยออกมา แต่ว่าพวกผมไม่ได้เกิดมาด้วยความรัก ผมเกิดมาเพราะว่าหน้าที่ใช่มั้ยครับพ่อ”

“ไม่ใช่ คุณคนเดียวเป็นลูก เป็นลูกที่พ่อรัก แล้วขลุ่ยก็เป็นลูก เป็นลูกที่ลุงกรณ์รัก “

“แล้วแม่ละครับ พ่อรักแม่มั้ย พ่อรักแม่รึเปล่า”

“แม่เป็นคู่ชีวิตของพ่อ”

“แต่ไม่ใช่คนรักใช่มั้ยครับ ใช่มั้ยครับพ่อ อะไรครับที่แม่ไม่มีให้ เซ็กส์แบบถึงใจพ่อเหรอครับ เพราะผูชายด้วยกันถึงจะรู้ใช่มั้ยครับว่าต้องการอะไร เพราะอย่างนี้ใช่มั้ยครับ พ่อถึงให้เค้าอยู่ในตำแหน่ง คนรัก ใช่มั้ยพ่อ”

“ไม่ใช่ เซ็กส์ต่างจากรักนะ ลูกไม่เข้าใจ”

“ใช่ ผมไม่เข้าใจหรอก ไม่มีวันจะเข้าใจ แต่พ่อไม่ต้องกลัวหรอกนะ อีกไม่นานผมจะเข้าใจ ผมจะพิสูจน์เองว่ามันต่างกันยังไง รักระหว่างผู้หญิง และผู้ชาย”

“คุณคนเดียว ลูกอย่าทำแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ลูกต้องมาหาคำตอบ ถึงลูกหามันก็ไม่เจอถ้าลูกให้อารมณ์โกรธตามหา ให้ทุกอย่างมันเป็นอดีตเถอะนะ ในเมื่อคุณกรณ์ก็ตายไปแล้ว แม่ก็ตายไปแล้ว ตอนนี้เรามีกันแค่สามคน เราเดินไปข้างหน้าได้มั้ย “

“ผมจะไม่เดินไปไหน ถ้าผมพิสูจน์ไม่ได้ ว่าเพราะอะไรพ่อถึงรักเค้า แม่ต้องตายเพราะทนกับความอัปยศนี้ไม่ได้ ใครที่มันมีส่วนก็ต้องชดใช้”

“แล้วคุณคนเดียวจะเสียใจ”

“ผมยอมเสียใจ”

“คุณคนเดียวจะไม่มีวันรู้หรอกว่า ทำไมพ่อถึงกล้าบอกว่ารักคุณกรณ์ คุณคนเดียวจะไม่มีวันเข้าใจว่าทำไมพ่อถึงรักผู้ชายด้วยกัน ความแค้นมันพิสูจน์ความจริงไม่ได้หรอกลูก”

“แล้วผมต้องใช้อะไรพิสูจน์หละ เซ็กส์เหรอ ผมจะลองฝืนใจทำแบบนั้นก็ได้ ในเมื่อพ่อทำได้ ผมก็ทำได้เหมือนกัน”

“ไม่ใช่เซ็กส์ คุณคนเดียวจะไม่มีวันรู้ ถ้าคุณคนเดียวไม่ได้รัก ถ้าคุณคนเดียวรักผู้ชายด้วยกันขึ้นมาวันไหน วันนั้นคุณคนเดียวจะเข้าใจว่าทำไมพ่อถึงได้รักคุณกรณ์”

 

ไม่รู้ว่าวันนั้นที่พ่อบอกมันจะมีมั้ย

แต่คนที่จะพิสูจน์ ผมบอกได้คำเดียวว่ามีแล้ว

ตัวแทนของใครคนนั้น ไม่ใกล้ไม่ไกล และเขาจะไม่มีวันไปจากผม

ถ้าไม่ใช่คำสั่ง........ขลุ่ยต้องรับผิดชอบทุกอย่างแทนเค้าคนนั้น

คนที่ได้ความรักของพ่อไปจากแม่ คนที่ทำให้แม่ผมตาย[/color]

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 สวัสดีค่ะ

เรื่อง “คุณคนเดียว....แต่เราสองคน” เป็นเรื่องสั้น (ที่ไม่รู้จะเรียกว่าเรื่องสั้นได้มั้ย) ตั้งใจแถมให้ในรวมเล่ม

“เมื่อแหงนมองจันทร์.....ผมเห็นตะวัน” เป็นเรื่องที่เหมือนจะปวดใจ แต่ตามนิสัยแล้วไม่แต่งอะไรที่จบแบบเศร้าๆหรอกนะค่ะ โปรยให้อ่านกันตอนเดียวเท่านั้นนะ ถ้าใครสนใจก็รออ่านต่อในเล่มนะคะ ส่วนใครที่ไม่ได้ซื้อเมฆกับฉานเก็บไว้ ก็รออ่านหลังเสร็จเรื่องงานรวมเล่มหนังสือนะค่ะ ที่เล้าเป็ดนี่แหละค่ะ

ส่วนเรื่องเมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็นตะวัน ตอนพิเศษมันจะเยอะไปแล้วมั้ย.....(ยัดลงไปหมดรึเปล่ายังไม่รู้เล้ยย)

จริงๆมีตอนดราม่าอยู่หนึ่งตอนที่ไม่รู้ว่าจะลงดีมั้ย เคยบอกนุ้งเซมากูเตะว่า ถ้ามีคนสงสัยจะลงให้ แต่ไม่มีใครสงสัยเลยว่า แม่นิ่มไม่ได้สนิทจริงๆกับแม่ของเมฆสักเท่าไหร่ ทำไมถึงได้เลี้ยงเมฆแล้วเมฆมันเป็นหนอนไม้ไผ่เหรอ ทำไมมันไม่มีพ่อ จริงๆมีแค่พล็อตนะ ยังไม่ได้แต่ง ขอให้ไม่สงสัยกันต่อไป ส่วนไอ้คนที่เมฆมันบอกว่าจูบกันนั้น เชื่อเมฆได้แน่เหรอ 5555

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 06-09-2010 19:10:57
รอตอนต่อไปครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 06-09-2010 19:26:24
ตอนพิเศษของพี่เมฆจะดราม่าหรืออะไรก็เอามาเถอะ  อยากอ่าน
ส่วนเรื่องคุณคนเดียวนี่ตอนแรกมาก็โครตปวดตับเลย
เฮ้อออ  อยากครอบครองเล่มโดยเร็ว  ใจร้อนเนาะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 06-09-2010 19:30:55
เรื่องพิเศษ...เหมือนจะแอบเครียดอ่ะเปล่า
อยากรู้เรื่องแม่นิ่ม แอบมาแหย่แล้ว ไม่ว่าจะดราม่าขนาดไหนก็อ่านคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 06-09-2010 19:31:42
อ่า ทำให้อยากแล้วจากไป นิสัยไม่ดี  :jul3:

ตั้งหน้าตั้งตารอรวมเล่มอยู่นะ ความเป็นไปของรุ่นพ่อแม่ก็อยากรู้เหมือนกันนะ ถ้าใส่ในเล่นได้ก็จัดไปเลยค่ะ คนอ่านก็รอให้คนแต่งจัดมาเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 06-09-2010 19:33:47
 :L1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 06-09-2010 20:14:59
เมื่อไรจะรับจองอ่ะคะ อยากได้มากมาย อยากอ่านเรื่องขลุ่ยต่ออ่ะ ค้าง
ไรเตอร์ช่วยตอบหน่อยนะคะ บอกตามตรงอยากได้มากจริงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: sogato ที่ 06-09-2010 20:46:53
ขอจองเลยนะคะ อยากอ่านเรื่องขลุ่ยมากค่ะ แต่ไม่อยากให้เป็นเรื่องสั้นเลยค่ะ แต่งยาวๆแบบเมฆกับฉานนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-09-2010 20:49:13
ตอนนี้สงสารขลุ่ยอ่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 06-09-2010 20:57:11
รอ รวมเล่มค๊าบบบ  
คุณพี่สุดสวย   :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 06-09-2010 21:05:21
ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ คุณคนเดียว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 06-09-2010 21:06:58
อ๊าคคคค  ปวดตับ ขลุ่ยน้อยผู้น่าสงสาร  :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 06-09-2010 21:54:53
ขลุ่ยน่าสงสารมากๆ  :m15: เฮ้อออ  :เฮ้อ:

จะรอวันที่คุณคนเดียวหันมารักขลุ่ยคนเดียวนะครับ

 o13 o13 o13

ปล.ตั้งหน้าตั้งตารอรวมเล่ม "เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น.."ตะวัน"" ขอจองไว้ก่อนเลยได้ป่าว 1 เล่นคร้าบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 06-09-2010 22:19:28
มาม่าซะงั้น  o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 07-09-2010 00:07:45
ตอนพิเศษ มาม่ามาก :o12:

สงสารขลุ่ย ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย :m15:

ไอ้คุณคนเดียว โคตรเห็นแก่ตัว :z6:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 07-09-2010 09:30:05
แค่อ่านตัวอย่างก้อติดซะแล้ว น่าจะเป้นเรื่องยาวนะคะ
น้องขลุ่ยของเราดูรันทดเหลือเกิน คุณคนเดียวก้อใจร้ายมากมาย
ตอนพิเศษที่ว่าอยากอ่านค่ะ อยากรุ้ว่าทำไมมัวแต่สนใจพี่เมฆมากเกินไปก้อเลยลืมสงสัย
ปล.ของจองด้วย 1 ชุดค่ะ เตรียมเก็บตังรอไว้แล้ว
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-09-2010 10:16:04
จองไว้ก่อนได้มั้ยค้า...รวมเล่มๆๆๆ อยากอ่านมากๆๆ
ขอบคุณสำหรับคุณคนเดียว โหดมากอะ :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 07-09-2010 10:42:51
งื้อออออออออออ

มาม่า!

แต่ก็อยากอ่านอ่ะ T^T!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 07-09-2010 12:29:10
ขลุ่ยน่าสงสารมากเลย

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 07-09-2010 12:44:39
คุณคนเดียว :เฮ้อ:เด็กชะมัด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 07-09-2010 15:37:52
เรื่องพิเศษ ดูท่าจะดราม่ายิ่งกว่าเรื่องหลัก เง้ออออออ

ประเด็นเรื่องแม่กับพ่อของเมฆก็เคยคิดค่ะ เคยคิดว่าคุณแม่ 2 คนอาจจะเป้นเพื่อนรักกันก็ได้ แต่ยังไง เขียนเพิ่มความกระจ่างหน่อยก็ดีกว่าอยุ่แล้วเนอะ เนอะ

รอรวมเล่มๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 07-09-2010 16:02:58
คุณคนเดียว เป็นตอนที่น่าสนใจมากครับ อยากอ่านต่อจัง  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 07-09-2010 19:46:13
ขอตอนพิเศษอีกตอนได้มั๊ยค๊ะ

เรื่องของอาทหรือความในใจของเค้า ว่าทำไมเลิกเรื่องเมฆง่ายจัง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: fungfung ที่ 07-09-2010 20:22:29
มีรวมเล่มใช่ปะน่าสนใจ
ตอนพิเศษมีมาม่ามาเสริฟเยอะเปล่าอะ อย่าเยอะเดียวจุกน้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: banana49 ที่ 07-09-2010 20:30:52
เง้อ มาตอนแรกก็เครียดเลย เหอเหอ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 07-09-2010 21:42:49
ดราม่าไม่น่าจะถนัดเท่าฮาๆ อ่านะ


 :sad4:

เรื่องต่อไป เอาแบบ ดราม่าไปด้วย ฮาไปด้วยดีมั้ย

แต่จะแต่งได้ป่าวเนี่ยดินะ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 07-09-2010 23:07:14
อยากติดตามคุณคนเดียวกับขลุ่ยแล้วค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 08-09-2010 01:57:48
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 08-09-2010 08:29:26
 :pig4:   ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 08-09-2010 21:17:05
เข้ามารอ ก้อนเมฆ กับ ดวงตะวัน

แล้วก็รอ คุณคนเดียว กับ ขลุ่ยคนเดียว ด้วยครับ

 :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: CHIVAS ที่ 08-09-2010 23:50:22
แล้วคุณคนเดียวจะเสียใจ . . .

มาโปรยเรื่องแม่นิ่ม  อยากรู้เลยค่ะเนี่ย   :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 09-09-2010 11:14:25
รวมเล่มเมื่อไหร่บอกด้วยอะ ขอจองด้วยคนอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: jigsaw44 ที่ 10-09-2010 06:59:11
 :กอด1:จองหนึ่งเล่มนะไรท์เตอร์
ของแถมขอมาม่าต้มยำใส่ไข่ เอาให้น้ำหูน้ำตาร่วงกราว o22
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 10-09-2010 11:26:12
oน้องขลุ่ยน่าสงสารที่สุดเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 10-09-2010 20:22:10
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษที่มาลงนะขอรับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 12-09-2010 00:00:14
เข้ามา ดัน ดั๊น ดัน

รอ ร้อ รอ...

ก้อนเมฆ กับ ดวงตะวัน

คุณคนเดียว กับ ขลุ่ยคนเดียว

และรวมเล่มของ เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น "ตะวัน"

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 12-09-2010 10:20:44
เหมือนจะดราม่า  เเต่คิดว่าหลังๆ มันต้อง happy เเล้วน่ารัก เหมือนคู่น้องเมฆกับพี่ฉานเเน่ๆ เลย  รอรวมเล่มด้วยนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 12-09-2010 10:47:52
โหยน่าอ่านต่อมากๆ
คุณคนเดียวแอบโหด
สงสารขลุ่ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 12-09-2010 12:18:20
คุณคนเดียวมันแค้นแบบน่ากระทืบเหมือนพระเอกหนังไทยเลย

 :z6: :z6: :z6:

แล้วเอาลูกเค้าเป็นที่รองรับ sex เนี่ยนะ :angry2:

 :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 13-09-2010 17:52:39
 :really2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 14-09-2010 22:52:48
ขอดันนิดนะครับ

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 15-09-2010 02:03:51
^
^
^
มากดบวกให้รีบน  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 15-09-2010 19:49:09
มารอตอนใหม่

 :a11:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: www.maxdevil ที่ 16-09-2010 01:23:21
โหย ใจร้ายอ่า ปล่อยให้อยากแล้วจากไป

อยากอ่านคุณคนเดียว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 16-09-2010 22:03:06
แจ้งข่าวนะคะ

ตอนนี้ไรท์เตอร์กำลังทำรุปเล่มของเรื่องนี้อยู่ เลยยังไม่ว่างเขียนตอนพิเศษให้อ่าน
แต่คาดว่าไม่เกินเสาร์อาทิตย์นี้จะเข็นมาลงให้สักตอนก่อนะ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-09-2010 22:08:47
เปิดจองอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่  บอกเค้าด้วยเน้อ
อยากได้เล่มไว้ครอบครองอย่างแรง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เรื่องพิเศษ,P.67]6-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 16-09-2010 22:09:14
รอรวมเล่มครับผม

อยากเป็นเจ้าของซักเล่มนึงมากๆ

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 19-09-2010 00:53:02
(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/Untitled-1-1.jpg)

พรุ่งนี้จะมาลงตอนพิเศษตอนสุดท้ายให้นะคะ แล้วหลังจากนั้นก็ติดตามได้ในเล่มค่ะ
 :mc4: :mc4: :mc4:

ปล. ทำเรื่องไปยังโมฯแจ้งย้ายแล้วไปห้องจบแล้วนะ ถ้าหาทู้ไม่เจออาจจะอยู่ห้องนั้นแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 19-09-2010 01:08:14
รับทราบบบบบบบบบบค่าาาาาาาาา
ปูเสื่อรอตอนสุดท้าย.....
ที่เหลือ รออ่านในเล่มด้วยคน ^ ^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 19-09-2010 03:19:15
ส่งเมลล์ไปแล้วค๊า : )
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 19-09-2010 03:43:27
ส่งเมลล์ไปแล้วเหมือนกันค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 19-09-2010 06:10:18
 :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: muyong ที่ 19-09-2010 09:19:11
จอง 1 ชุด ส่งเมล์ไปแล้วนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 19-09-2010 11:36:19
ไปจองเรียบร้อย  รออ่านตอนพิเศษในเล่มด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: กลั่นกรอง ที่ 19-09-2010 12:40:44
ส่งเมล  ไปปก่อน แล้ว  อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 19-09-2010 13:01:56
มารอตอนพิเศษตอนสุดท้าย  :L1:

ส่งเมล์ไปจองแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Me_kame_nishi ที่ 19-09-2010 14:52:04
นั่งไล่อ่านตั้งแต่เ้ช้ามืด ติดใจอ่านจยแทบไม่ลุกไปไหนเลย
ประทับใจในความรักที่หลากหลาย ทั้งแม่-ลูก พี่-น้อง และ ความรักความผูกพันที่พระ-นายมีต่อกัน
ขอบคุณมากๆนะค่ะ รู้สึกโชคดีที่ได้อ่านเรื่องนี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 19-09-2010 15:37:21
จองด้วยคนค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 19-09-2010 16:09:49
ส่งเมลล์จองไปแล้วนะคะ


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 19-09-2010 18:19:53
เมลล์จองไป3-4เที่ยวแล้ว
จองไม่ได้ ขึ้น failure ตลอด
งั้นจองตรงนี้แล้วกัน  เอา 1 ชุด
padang_d3 แอทฮอทเมลล์ดอท  นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 19-09-2010 18:53:52
ส่งเมล์ไปไม่ถึงง่ะครับ เมล์โดนตีกลับ มีเมล์อื่นอีกป่าว

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: -N- ที่ 19-09-2010 18:56:46
จองแล้วนะคะ ส่งเมลไปแระ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 19-09-2010 18:59:16
ส่งเมล์ไปไม่ถึงง่ะครับ เมล์โดนตีกลับ มีเมล์อื่นอีกป่าว

 :เฮ้อ:

ที่รัก เมลมันผิดอะ ส่งไปที่เมลนี้นะ

(http://image.ohozaa.com/iw/ymail.jpg)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: sogato ที่ 19-09-2010 19:05:39
ส่งเมลไปจองแล้วนะคะ รอตอบกลับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 19-09-2010 19:14:52
www.romancefic at hotmail.co.th โดนตีกลับอีกแล้วง่ะ  :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-09-2010 19:22:29
www.romancefic at hotmail.co.th โดนตีกลับอีกแล้วง่ะ  :m15: :m15:
น่าเห็นใจ จริงๆ  :เฮ้อ:
แต่ไมพี่ส่งไปได้ฟะ  :laugh: ถ้ายังงัยลองพีเอ็มหานุ้งเซ ดูจิ ติดต่อทางพีเอ็มก็ได้มั้ง ลองดูนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 19-09-2010 22:03:16
โดนตีกลับเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 19-09-2010 23:41:49
ไหนๆ ไหนตอนพิเศษ

อย่าเพิ่งย้ายน๊าาาา

จะอ่านตอนพิเศษก่อน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 20-09-2010 08:28:01
ส่งเมลล์ไปจองแล้วเหมือนกัน

ไม่รุ้ว่าจะโดนตีกลับหรือเปล่า

รอลุ้นว่าจะตีกลับหรือว่าตอบกลับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 20-09-2010 10:20:43
รอจองคนสุดท้าย  จะมีของแถมพิเศษให้มะเนี่ยะ  เอิ๊กๆๆๆๆ   :haun4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 20-09-2010 10:51:48
www.romancefic(a)hotmail.co.th <<< โดนตีกลับเหมือนกัน ส่งตั้งแต่เมือคืน ยันตอนเช้า งง  :o12:
หรือต้องเป็น www.tromancefic(a)hotmail.co.th  :z10:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 20-09-2010 13:36:49
www.romancefic(a)hotmail.co.th <<< โดนตีกลับเหมือนกัน ส่งตั้งแต่เมือคืน ยันตอนเช้า งง  :o12:
หรือต้องเป็น www.tromancefic(a)hotmail.co.th  :z10:

>>>>PM หาน้องเซเลยค่ะ มีหลายคนส่งไม่ได้

รู้แล้วๆๆๆๆ.....คนแจ้งเมลล์มานง่าวค๊าาาาพี่น้อง  :z3: :z3: :z3: มันมี www ซะที่ไหนเล่า

มันต้อง

romancefic [at]hotmail .co.th


อะค่ะ :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 20-09-2010 13:53:26
www.romancefic(a)hotmail.co.th <<< โดนตีกลับเหมือนกัน ส่งตั้งแต่เมือคืน ยันตอนเช้า งง  :o12:
หรือต้องเป็น www.tromancefic(a)hotmail.co.th  :z10:

>>>>PM หาน้องเซเลยค่ะ มีหลายคนส่งไม่ได้

รู้แล้วๆๆๆๆ.....คนแจ้งเมลล์มานง่าวค๊าาาาพี่น้อง  :z3: :z3: :z3: มันมี www ซะที่ไหนเล่า

มันต้อง

romancefic [at]hotmail .co.th


อะค่ะ :z3: :z3:

จิ้มพี่ตูน   :z13:

กรรมของเวร.....
จะทักอยู่พอดี  ว่าแบนเนอร์ข้างล่างแปลกๆ    :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]18-9-10
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 20-09-2010 14:52:23
^
^
^
ถ้าพี่ท้อง ดาวเอาลูกพี่ไปเลี้ยงนะ ไม่งั้นพี่จะออกสื่อขอตรวจ DNA

จะดังแข่งกับฟิล์ม  :laugh:

มันไม่แปลกหรอก มันผิด กริ๊บกริ้วววว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 20-09-2010 15:15:30
รัก..........ไม่ต้องการเวลา


ภาพตรงหน้าเล่นเอาผมหน้าแดง ผิวแก้มร้อนวูบวาบเมื่อนึกขึ้นได้
ภาพตรงหน้ามีสาเหตุมาจากตัวเอง


บนโซฟาตัวนั้น มีแผ่นหลังหนาและกว้างของผู้ชายคนหนึ่งบังอยู่
เสียงบางอย่างที่เล็ดลอดออกมาทำให้รู้ว่าแผ่นหลังที่ผมเห็นอยู่นั้น
ไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว และร่างที่อยู่หลังแผ่นหลังที่บังจนมิดนั้นกำลังสั่นเทิ้ม

ไม่ต้องเห็นจะจะ ผมก็รู้ว่าเค้าทั้งคู่กำลังจูบกันอยู่
.
.
.
.
.
“ อืม”

“อูย”

“ อ่ะ อา อืออออออ ซี๊ดดดดดด”

“หนังสด” ตรงหน้ามีแผ่นหลังกว้างเป็นเซ็นเซอร์ภาพกิจกรรมส่วนตัว


แต่เสียงที่ดังออกมาทำเอาใบหน้าร้อนผ่าว เลือดทุกหยดที่ไหลวนเป็นระเบียบในร่างกาย เหมือนมันจะเดือดพล่านไหลย้อนผิดทางเสียอย่างนั้น

ไม่รู้มาก่อนเลยว่า เวลาคนรักเค้าสื่อภาษาทางร่างกายจะทำให้คนมองแล้วเขิลจนเกร็งไปทั้งตัวได้ขนาดนี้

ปลายเท้าที่จิกพื้นจนเกร็งไปหมดทั้งขา เหมือนจะยิ่งลงแรงมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อร่างทั้งสองร่างเริ่มเคลื่อนไหวไปมา และเสียงอืออาเรียบเรื่อย เปลี่ยนเป็นโทนเสียงที่ปลุกเร้าอารมณ์ให้พุ่งสูงขึ้น

ทำไมดูหนังโป๊ที่ไอ้ฉานโหลดมาไม่เห็นจะรู้สึกเขินแบบนี้เลยวะ

หรือเป็นเพราะว่า พระเอกนายเอกที่แสดงหนังสดให้ดูนั้นเป็นคนที่เรารู้จักดี

ไม่สิ.......ที่เขิลเนี่ย เพราะเสียงชวนวูบวาบตามแนวสันหลังนั่นมากกว่า

ไม่รู้เพราะแรงที่ดึงรั้งชายเสื้อจนยับย่นหรือเพราะเหงื่อที่ซึมไปโดนไอ้ฉานกันแน่

มันถึงได้หันมาสนใจคนที่เขิลได้ตุ๊ดที่สุดในสามโลกเพราะหนังสดตรงหน้า

มุมปากที่เหยียดยิ้มและคิ้วที่ยกขึ้นข้างเดียวนั้นหมายความว่าไง

ล้อเลียน ยั่วเย้า หรือว่า มันจะชวนผมไปเล่นหรรษากันในห้องน้ำอีกรอบ
แค่คิดก็เสียววาบไปทั้งบั้นท้ายจนลามมาถึงท้องน้อยเลยเถอะ

ถ้ามี CCTV ติดที่มุมห้องเพื่อดูอาการผู้ป่วย ไม่ซวยเลยเหรอวะ

ทั้งหมอทั้งพยาบาลคงได้งุ่นง่านกันทั้งตึกแน่ๆ

ผมกับไอ้ฉานนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นไอ้คู่ตรงหน้านี่หละ คงเป็นพระเอกนายเอกหนังเอ็กซ์กันแบบไม่รู้ตัวแน่ๆ

“คิดอะไรอยู่”

น้ำเสียงมึงจะอ่อนโยนไปไหนห๊ะฉาน แล้วนิ้วชี้มึงมาหมุนวนอะไรอยู่ที่หน้าผากกู จากที่กลัวมึงจะฟังเสียงสดไม่ไหวชวนกูไปหลั่นล้ากันในห้องน้ำอีกรอบ เจอมึงโหมดอนาทรเข้าไป เกรงว่าจะกลายเป็นกูที่เข่าอ่อนยอมให้มึงกดกูเน้นๆเข่งกับไอ้คู่ตรงหน้าซะดีมั้ย

“ชิส์”

 ไม่ได้โกรธที่มันมาวุ่นวายกับตัวผมนะ แต่ขัดใจที่มันส่งเสียงขัดจังหวะต่างหาก

แค่ก แค่ก!!!

ปาท่องโก๋แยกออกจากกันเหมือนโดนจับฉีก เพราะไอ้ฉาน!!!!

ข่าวว่ามึงโดนยิงมานะ แต่ไอยังกับเป็นวัณโรค

ไอ้หมาบ้า แม่งขัดจังหวะโครตจะไม่เนียนเลยเหอะ!

“โทษทีนะ ไม่ได้ตั้งใจขัดจังหวะ”

ส่งรอยยิ้มแห้งๆเสียงหัวเราะ แหะ แหะ เพื่อไถ่โทษ

ขัดจังหวะความสุขคนอื่นนี่บาปหนักขนาดไหนวะ

แล้วแบบนี้ เกิดชาติหน้ากูจะหล่อได้เท่าชาตินี้มั้ย!!!

พี่เมฆขออนุญาตเครียดตั้งแต่ยังไม่ตายเลยแล้วกัน

“ขอโทษ ที่ขัดจังหวะมึงไงไม้ กูกับไอ้ฉานไม่ได้ตั้งใจนะ”

อยากจะบอกมันว่า จุ๊บๆ ด้วย แต่ก็ละอายปาก มันดูสาวแตกมากไปหน่อย

“ขัดจังหวะ!!!”

นอกจากไอ้ไม้มันจะย้อนคำพูดผมแล้ว มันยังสามัคคีขมวดคิ้วจนหน้าผากยับย่นกับไอ้เมียเด็กข้างบ้านมันด้วยนะ

กูไม่เคลียร์ คู่รักข้าวใหม่ปลามันอย่างพวกมึงเลยสงสัยว่างั้น

ก็ได้ๆ เล่นแบบนี้กับพี่เมฆก็ได้ ในเมื่อกูอ้อมค้อมพวกมึงไม่เคลียร์

กูก็ซัดตรงๆ แบบไม่คิกลูกไซร้โค้งรักษาหน้ามึงเลยแล้วกัน

“ก็ขอโทษที่มาขัดจังหวะมึงกินลิ้นเด็กข้างบ้านมึงไง ชัดมั้ย”

ผมว่าเสียงผมน่าจะดังไปถึง nurse station เลยมั้ง แต่ไอ้สองผัวเมียตรงหน้าดูท่าจะยังไม่เคลียร์

“ที่มึงเข้าห้องน้ำไปนานขนาดนั้น มึงไปเอาหัวโขกชักโครกมาเหรอวะ ใครกินลิ้นใคร อะไรของมึงเนี่ย”

แหม!! ไอ้ไม้มันทำตัวน่าหมั่นไส้จริงๆ ตั้งแต่ฟาดเด็กมัธยมเข้าไป ดูมันจะไร้เดียงสาหน้าด้านๆ

“ก็มึงกับน้องข้างบ้านมึงบ๊วบปากกันอยู่ไม่ใช่รึไง”

“ไอ้เชี่ยฉาน มึงดูสันดานเมียมึงนะ ใครจะเป็นเหมือนมึงครับควาย ปลื้มมันเป็นร้อนในกูเลยเอายาป้ายปากให้มันอยู่เนี่ย”
“อ้าว เหรอ ใครจะไปรู้วะ กูได้ยินเสียงอื้ออ้า ซี๊ดซ๊าดกันใหญ่ ใครจะไปรู้ว่ามึงป้ายปากร้อนในกันอยู่”

“เพราะมึงคิดอกุศลไงเมฆ มึงถึงตีความไปแบบนั้น”

“ยั้ย ยั้ย ยั้ยยยย มึงถึงตีความไปแบบนั้น ”

 ไม่ใช่ภาษาต่างดาวที่ไหนนะครับ ผมกำลังทวนคำพูดไอ้ไม้ล้อเลียนมันอยู่

“โธ่ ไม้ มึงอย่ามาเป็นพระเอกแถวนี้ น้องมันยังเด็กแล้วไง มึงจะบอกกูว่า มึงยังไม่ได้งาบน้องมันงั้นดิ มึงอมปารากวัยทั้งประเทศมายืนยันกูยังไม่เชื่อเลย”

“พอๆ มึงจะเถียงกันชิงโล่ห์อะไรวะเนี่ย มึงสองตัวไม่อาย ก็สงสารน้องที่นั่งมองตาดำๆ ตรงนั้นบ้างคุยเจาะดีเทลกันขนาดนี้น้องมันจะอายมั้ย”

“ไม่อายครับ คุยได้ เวลาพี่ไม้เถียงกับพี่เมฆ เพลินดี”
อ้าวไอ้น้องปลื้ม ใครเป็นคนพาน้องทัวร์ผับเกย์น้องลืมไปแล้วหรือไง ทำไมอยู่ดีๆมาทรยศพี่เมฆแบบนี้ละเนี่ย

“ชิส์ เห็นสามีดีกว่าพี่แบบนี้เหรอวะ”

“แล้วมันแปลกตรงไหน หรือมึงจะบอกว่ามึงแคร์กูมากกว่าไอ้ฉานหละครับเพื่อนเมฆที่รัก”

“เรื่องดิ กูจะแคร์มึงมากกว่าไอ้ฉานได้ไง ไอ้ฉานมันแฟน มึงอะแค่เพื่อน เข้าใจมั้ย Just a friend you knowww!!
สำเนียงให้ใจรักเลยนะเนี่ย ว่าแต่แอบพูดผิดบ้างมั้ยวะ อายเด็กตายห่าเลยพี่เมฆ

“กูถึงบอกว่ามันไม่แปลกไง ที่ปลื้มจะเข้าข้างกู”
“อ๋ออออ!! ประเด็นคือมึงจะบอกว่าน้องปลื้มเป็นแฟนมึงว่างั้น”

“เออทำไม มึงยังมีได้เลย กูหล่อจะตายทำไมจะมีบ้างไม่ได้”

“กูก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ไม่รู้ใครบอกกูว่ารักแบบน้องข้างบ้านเฉยๆ”

“พี่ไม้บอกพี่เมฆแบบนั้นเหรอครับ ตอนไหน”
ประโยคแรกน้องปลื้มถามผมจริงครับ แต่ประโยคสุดท้าย น้องปลื้มหันไปถามไอ้ไม้ตาเขียวปั๊ด

อุ๊ย!!! ชายตามาขอความช่วยเหลือจากท่านฉาน มันเล่นส่งสายตาเดียวกันกับน้องมาให้ผม
จ๋อยสนิทเลยกู กะจะแซวเล่นๆ กลายเป็นทำครอบครัวเค้าร้าวฉานแล้วมั้ยหละ

“ต้องให้ปลื้มบอกมั้ยว่าเราได้เสียกันตอนไหน” น้องมันเค้นเสียงถามไอ้ไม้ ชิงเป็นช้างเท้าหน้าเห็นๆ

“ แล้วพี่ไม้พูดแบบนั้นกับพี่เมฆตอนไหนครับ” อูยย..พี่ไม่รู้ครับ พี่จำอะไรไม่ได้
“โปรดอย่ามองฉันด้วยแววตาอย่างนั้น รู้บ้างไหมมันทรมาน โว ฮู โววว” คิดในใจไม่ได้ร้องออกไปนะ

“น้องปลื้มแร๊งงงงงง ชัดทั่วไทย พี่เมฆไม่ได้ตั้งใจ พี่เมฆขอโทษ

“พี่แซวเล่นเฉยๆ ไอ้ไม้มันไม่เคยพูดอะไรแบบนั้นหรอก ไม่เคยพูดเลย”
ขนาดมันแอบเก็บกินน้องเอาไว้ พวกพี่ยังมารู้กันตอนมันเข้าโรงบาลตอนนั้นเลย
คิดดูว่าไอ้ไม้มันสุภาพบุรุษขนาดไหน มันกินในที่ลับมันก็เก็บเอาไว้ ไม่มีเล่าไม่มีคายถ้าเด็กมันไม่ใช่ผู้ชายนะ กว่าพวกผมจะรู้อีกทีก็คงจะเป็นตอนที่เมียมันอุ้มลูกมาเฝ้าไข้มันเลยละมั้ง

“ว่าแต่มึงเถอะเมฆ เข้าห้องน้ำไปตัดโมเดลกันอยู่รึไง กาวยู้ฮูถึงได้ติดเกรอะกรังเต็มเสื้อ”


วืดดดดดดด!! รู้สึกเหมือนของเหลววิ่งมารวมตัวกันอยู่ที่หน้า วูบๆร้อนๆชาๆ คาดว่าพี่เมฆกำลังอายครับ

“น๊านนนน หน้าแดงๆ นี่กูยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ แซวแค่นี้ร้อนตัว มึงอีกคนนะฉาน เจ็บจะตายอยู่แล้วมึงยังไม่วาย โอ้ย มึงสองตัวนัวกันมากี่ปีแล้ววะ ไม่เบื่อกันบ้างหรือไง”

ไม่มีคำตอบจากหมายเลขที่ท่านต้องการคุย กูไม่มีคำตอบให้ กูอาย เว้ยย ให้แซวคนอื่นพี่เมฆหน้าหนาอยู่หรอกนะ แต่ถ้าวกมาเข้าตัวเมื่อไหร่ เรียนตามตรงว่าอายเหมือนกันครับ

มันก็จริงอย่างที่ไอ้ไม้พูด ผมกับไอ้ฉานคบกันมานานแค่ไหนแล้ว ถ้าไม่นับเวลาที่เราตกลงเป็นแฟนกัน ก่อนหน้านั้นมันก็เสมอต้นเสมอปลาย ดูแลผมยังไง ก็ดูแลแบบนั้น บงการชีวิตผมแบบไหนมันก็ยังคงคอนเซปบังคับต่อไปแบบนั้น พอเป็นแฟนกันมันหื่นกับผมยังไงมันก็ยังหื่นแบบไม่สนอะไรทั้งนั้นเหมือนเดิม นี่ขนาดมันถูกยิงปางตาย จะเดินไปห้องน้ำยังได้ยินเสียงร้องครวญครางไปตลอดทาง มันยังไม่วายแทะโลมจับผมกินจนได้ มันออกแรงไม่ไหวก็ยังออดอ้อนให้ผมออกแทนเลยคิดดู


“รัก......ไม่ต้องการเวลา”
ไม่มีใครบอกได้ว่ารักจะเกิดขึ้นตอนไหน ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะรัก
ห้าปี สิบปี หรือครึ่งชีวิต กว่าจะรู้ว่ารัก แต่บางคนอย่างเช่นไอ้ไม้ มันเห็นไอ้เด็กแสบข้างบ้านมานานแล้วก็จริง แต่ไม่ได้สนิทผูกพันแบบผมกับไอ้ฉาน ถ้านับจริงๆมันใช้เวลาไม่นานที่จะเรียนรู้ว่านั่นคือ “รัก”

เวลาไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่งเสมอไปหรอกนะครับ และเราก็กำหนดเวลาแห่งความรักไม่ได้
แสดงออกทางการกระทำเท่านั้น ถึงจะรักษาความรักเอาไว้

ต่อหน้าใครๆ อาจจะเห็นแค่ไอ้ฉานดูแลเอาใจใส่ผม เรียกง่ายๆว่าหวานใส่นั่นแหละ
ส่วนผม ฝันไปเถอะว่าจะเห็นพี่เมฆโหมดอ้อนอ่อนหวานต่อหน้าใครๆ มันไม่แมนครับ
ท่ามกลางสาธารณชน คอนเซปพี่เมฆคือวางฟอร์มเท่านั้น....ไม่ได้เก๊กนะครับ
แต่ไม่ได้หมายความว่าเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองผมต้องเป็นแบบนั้น

หลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมเรียนรู้ที่จะเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน
ผมเรียนรู้ที่จะหันหน้าเข้าหาไอ้ฉานมากขึ้น รู้ว่ามันชอบอะไรก็จัดให้มัน ถ้าทำได้
เรื่องในห้องน้ำที่ไอ้ไม้มันจับได้ (เพราะฟลุคไม่ใช่เพราะเสียงอย่างที่ตกใจ) ผมก็ไม่ได้ฝืนใจนะที่ทำ
มันมาจากความเต็มใจ ถึงจะแซวไอ้ฉานว่ามันหื่นไม่ดูเวล่ำเวลาและสถานการณ์
แต่พอเอาเข้าจริงผมก็บริการมันซะก้นลอยไม่ติดพื้นเลยเหมือนกัน
อะไรที่เติมเต็มให้สองคนรักกลายเป็นคู่ชีวิตได้ ผมก็จะทำ
ทำในแบบฉบับขาดๆล้นๆของผมนี่แหละ
ส่วนไอ้ฉาน ถ้าวันข้างหน้าคนที่มันเรียกว่า “คู่ชีวิต” ยังเป็นผม
ผมคิดว่ามันไม่ต้องพยายามทำอะไรแล้วหละ แค่มันเป็นมัน เป็นดวงตะวันดวงเดิม


ผมก็ยังยืนยันว่า ไม่ว่าตอนไหน “เมื่อแหงนมองจันทร์ผม(ก็)เห็น(แต่)ตะวัน” เหมือนเดิม

สวัสดีค่ะ ขอจบเรื่องพี่เมฆและท่านฉานไว้แต่เพียงเท่านี้นะค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามของทุกคนๆส่วนเรื่องรวมเล่ม ยอดจองเหนือความคาดหมายมาก ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะค่ะ จะบอกว่าใครที่สั่งหนังสือจะพบกับพี่เมฆท่านฉานเวอร์ชั่นปรับปรุงสำนวนใหม่อย่างใหญ่หลวงเนื่องจากต้นฉบับใช้คำเปลืองมากกก ในเล่มเนื้อหาจะกระชับขึ้นนะค่ะ หวังว่านะ T_T สำหรับใครที่จองแล้วเมลล์ตีกลับ ช่วยตรวจสอบด้วยนะค่ะ ว่าเมลล์ถูกต้องมั้ย Hotmail.co.th นะ ไม่ใช่ .com พี่ฮอทเค้าเปลี่ยนไป หรือถ้าไม่แน่ใจจริงๆ PM หาน้องเซมากูเตะได้ค่ะ ส่วน วันปิดจองและปิดโอนเงินนั้น เป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน ศกนี้ นะค่ะ ใครที่จองมาก่อนได้รับ Code แล้วถ้าไม่สะดวกค่อยโอนได้ค่ะ แต่ภายในวันที่ 10 พ.ย. นะค่ะ หลังจากนั้นจะเคลียร์ยอดแล้วสั่งพิมพ์เลยค่ะ เพราะไฟล์เตรียมไว้แล้ว ขอเวลาตรวจสอบม็อคอัพจากโรงพิมพ์ ถ้าถูกต้องแล้วก็พิมพ์จริงเลยนะคะ เมื่อปกผ้าและหนังสือเรียบร้อยแล้วจัดส่งทันทีค่ะ คาดว่าปกผ้าและหนังสือจะเสร็จพร้อมๆกันนะคะ สำหรับการจัดส่ง จะใส่ซองพลาสติกก่อนแล้วห่อบับเบิ้ลถึงจะใส่กล่องส่งค่ะ
ปล  สำหรับคนที่ไม่ได้อุดหนุนหนังสือชุดนี้ไม่ต้องน้อยใจนะค่ะ เดียวจะมีเรื่องใหม่ให้อ่าน ส่วนเรื่องคุณคนเดียวแต่เราสองคนขอสงวนสิทธิ์ให้คนที่อุดหนุนนะค่ะ เพราะตอนพิเศษลงในเล้าครบทุกตอนแล้ว.......ถ้าเข้ามาในห้องนิยายแล้วไม่เจอพี่เมฆท่านฉาน ติดตามได้ที่ห้องนิยายจบแล้วนะค่ะ

(http://image.ohozaa.com/iw/ymail.jpg) เมลอันที่ถูก

=========================

สำหรับผู้ต้องการสั่งจองหนังสือนะคะ ถ้าส่งเมลแล้วไม่ผ่าน PM หาเซได้นะ แต่ว่า แจ้งเมลเซด้วยจะได้เมลกลับไปถูกคนนะจ๊ะ
อ๋อ อย่าพิมพ์เมลมาเป็นเป็นพรืดนะ เล้าล๊อคเมล ตรงคำว่า @ ให้ใส่เป็น [at] แบบนี้มานะคะ ไม่งั้นมองไม่เห้นเมลค่ะ

ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำเมลผิดหลายรอบมาก
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 20-09-2010 15:28:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 20-09-2010 15:33:53
ว้ายๆๆๆ เราปลาบปลื้มใจ ที่เห็นตอนพิเศษ สุดยอดจริงๆคนแต่ง  มีสมาธิแต่งมาก สุดยอดๆๆๆ 

เก่งที่สุดละ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 20-09-2010 15:42:50
ส่งไปจองใหม่แล้ว ทั้ง mail ทั้ง PM กลัวไม่ได้   :z2:
 :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: kj_blue ที่ 20-09-2010 18:56:49
แจ้งโอนแล้วคร๊าาาาาา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: nidnoi ที่ 20-09-2010 19:32:06
 :L2:
:pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 20-09-2010 19:53:41
รักน้องเมฆ น้องฉาน ตลอดไปครับ  :L1: :L1: :L1:

 o13 o13 o13

----------------------------

ส่งเมล์ไปจองอีกรอบแล้ว ยังไม่โดนตีกลับ หวังว่าคงไปถึงนะครับ ครั้งนี้ หลังจากพยายามมาเป็นสิบครั้ง

 :m4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-09-2010 19:59:45
 :L1:ยังน่ารักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 20-09-2010 22:18:15
ได้ข่าวว่าจะปรับปรุงสำนวนอย่างใหญ่หลวง
ขอบอกว่าอย่าทำอย่างนั้นเลย
มันเจ็บปวดใจ
เพราะที่ติดตามอ่านเป็นตังเมอยู่ก็เพราะสำนวนที่ใช้คำเปลืองๆนี่แหละ
มันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของนักเขียนเลยนะ
เป็นเอกลักษณ์ของนามปากกานี้
จะไปหดให้มันกระชับเป็นผ้าอนามัยทั่วๆไปรึไง
ไม่เข้าใจ
อย่าทำเลยนะ ขอร้อง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: pungplaza ที่ 21-09-2010 07:59:37
ส่งเมลล์จองไปแล้ววววว

ไม่โดนตีกลับ และขอให้ตอบกลับด้วยเท๊อออออ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-09-2010 08:49:21
อิ อิ ได้ code มาแล้ว  เดี๋ยวว่าง ๆ ก่อนจะไปโอนตังค์  อยากอ่านขลุ่ยชะมัด
...
อ่านตอนนี้แล้ว  มีคำนึงที่อยากบอกพี่เมฆมั่ก ๆ  คือ "จะเตะก้นเขามันก็เข้าก้นตัวเอง"
เป็นงัยล่ะ  คิดว่าคนอื่นเขาจะมาด๊วบ บ๊วบกันที่โรงพยาบาลเหมือนตัวเองซะงั้น
หน้าแตกหมอไม่รับเย็บไปเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 21-09-2010 22:25:00
สนับสนุนความเห็นของคุณ padang ครับ ว่าไม่ควรจะปรับปรุงสำนวนต่างๆในเรื่อง เพราะทุกอย่างรวมๆกันแล้วมันคือ ก้อนเมฆก้อนนั้น กับ ดวงตะวันดวงนั้น

 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 21-09-2010 22:50:45
ข่าวว่า คุณคนเดียวปวดใจลามไปถึงตับ แต่ตอนจบคงหายปวดนะ  :serius2: :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 22-09-2010 10:02:24
ส่งเมล์ไปทางฮอตเมล์กับทางPM จ้า  :L2:






.....
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 22-09-2010 13:33:34
ส่งเมล์ไปทางฮอตเมล์กับทางPM จ้า  :L2:


.....

ส่งโค๊ตไปให้ทางเมลแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: muyong ที่ 22-09-2010 17:54:28
โอนเงินแล้วค่ะ

แต่ส่งเมล์ไม่ได้เลยส่งให้ทาง pm แทนนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 22-09-2010 18:54:24
จบแล้วแบบมีความสุข ประทับใจฉานกะเมฆมากๆ :กอด1:
+ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่น่ารักๆ ที่นำมาให้ได้อ่านกัน
เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:

รักฉานเมฆสุดๆ :L1:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 22-09-2010 20:13:55
ปิดจองเมื่อไหร่คับ แบบว่ากำลังไม่มีตัง
T^T อยากได้จิงๆ ตามมาตั้งนานล่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 22-09-2010 22:59:09
^
^
^
ตามป้ายประกาศ คือ ปิดจองและรับโอนเงินวันที่ 10 พ.ย. จ้า

มีเวลาอีกเดือนกว่าๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 23-09-2010 09:18:56
ทำไมเรายังไม่ได้โค้ด โอนเงินหว่า  :m28:
ส่งไปแล้วมีตอบกลับนิดหน่อย แต่ไม่มีโค้ด หรือไม่ให้เขาจอง  :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 23-09-2010 10:54:29
ทำไมเรายังไม่ได้โค้ด โอนเงินหว่า  :m28:
ส่งไปแล้วมีตอบกลับนิดหน่อย แต่ไม่มีโค้ด หรือไม่ให้เขาจอง  :m15:


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

อย่าน้อยใจค่ะ ส่งไปที่ไหนค่ะ เดี๊ยวตามเรื่องให้ค่ะ เมลล์หรือ PM น้องเซค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: u4gartoon ที่ 23-09-2010 11:28:59
เพิ่งเข้ามาติดตามค่ะ เรื่องน่ารักดี :-[ เลยเมล์จองหนังสือไปให้แล้วนะคะ :L2:
รบกวนเช็คด้วยนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 23-09-2010 12:41:07
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-09-2010 13:09:14
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆๆ เรื่องนี้นะ่คะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 23-09-2010 13:17:11
ทำไมเรายังไม่ได้โค้ด โอนเงินหว่า  :m28:
ส่งไปแล้วมีตอบกลับนิดหน่อย แต่ไม่มีโค้ด หรือไม่ให้เขาจอง  :m15:


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

อย่าน้อยใจค่ะ ส่งไปที่ไหนค่ะ เดี๊ยวตามเรื่องให้ค่ะ เมลล์หรือ PM น้องเซค่ะ
ส่งไปทั้ง 2 ที่เลย อยู่ในช่วงคาใจ แต่ีรอได้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 23-09-2010 14:10:00
ทำไมเรายังไม่ได้โค้ด โอนเงินหว่า  :m28:
ส่งไปแล้วมีตอบกลับนิดหน่อย แต่ไม่มีโค้ด หรือไม่ให้เขาจอง  :m15:


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

อย่าน้อยใจค่ะ ส่งไปที่ไหนค่ะ เดี๊ยวตามเรื่องให้ค่ะ เมลล์หรือ PM น้องเซค่ะ
ส่งไปทั้ง 2 ที่เลย อยู่ในช่วงคาใจ แต่ีรอได้

ทำไมเรายังไม่ได้โค้ด โอนเงินหว่า  :m28:
ส่งไปแล้วมีตอบกลับนิดหน่อย แต่ไม่มีโค้ด หรือไม่ให้เขาจอง  :m15:


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

อย่าน้อยใจค่ะ ส่งไปที่ไหนค่ะ เดี๊ยวตามเรื่องให้ค่ะ เมลล์หรือ PM น้องเซค่ะ
ส่งไปทั้ง 2 ที่เลย อยู่ในช่วงคาใจ แต่ีรอได้

----->>โทรไปเชคให้แล้วปรากฎว่าในเมลล์ไม่มีนะค่ะ เดี๊ยวต้องรอน้องเซเชคในพีเอ็มค่ะ
หรือยังไง ลองส่งมาใหม่ ที่นี่นะคะ

(http://image.ohozaa.com/iw/ymail.jpg)


ขออภัยในความไม่สะดวกนะค่ะ  
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 24-09-2010 08:31:08
แจ้งโอนทางเมลไปหลายวันแล้ว  แต่ no respond  ไม่รู้ว่าได้รับเมลเค้าหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 24-09-2010 10:57:51
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 24-09-2010 20:36:10
แจ้งโอนทางเมลไปหลายวันแล้ว  แต่ no respond  ไม่รู้ว่าได้รับเมลเค้าหรือเปล่า

ได้รับแล้วนะค่ะ ตอบกลับแล้วค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 24-09-2010 23:29:23
ได้รับโคดการโอนเงินแล้วค่า เห็นด้วยนะคะ ไม่ต้องเกลาภาษาแล้วฮะ

แบบว่าเนื้อเรื่องใช้ได้แล้ว ขอบคุณที่แต่งเรื่องๆดีๆ และเปิดให้จองเป็นรูปเล่มนะค่ะ

หลงรักฉานแสง และก้อนเมฆค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 25-09-2010 18:08:42
ตามอ่านมาสองวันจนจบ สนุกครับ ขอบคุณกับเรื่องดีๆนะครับ o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 25-09-2010 21:10:29
+1 ค่ะ

เพิ่งตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบนะ  o13
อ่านแล้วรู้สึกชอบฉานมากมาย  :impress2:
ผู้ชายแบบนี้หาได้ที่ไหน เมฆก็น่ารักมากๆเหมือนกันเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 25-09-2010 23:12:24
มีใครที่โอนเงินแล้วยังไม่ได้รับเมลล์ตอบกลับมั้ยค่ะ

แต่มีคนโอนเงินแล้ว ยังไม่แจ้งโอนเน้ออ

 :monkeysad:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: meiji ที่ 26-09-2010 01:13:13
น่ารักมากมากเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องน่ารักอย่างนี้ให้ได้อ่านกัน
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: akanae ที่ 26-09-2010 02:47:39
อ่านจบแล้ว เรื่องนี้ ให้ครบทุกรสเลย
สนุก หัวเราะ เศร้า เฮฮา ยิ้ม
ชอบการบรรยายค่ะ ที่มีทั้งการความคิด
และลักษณะของตัวละคร
ชอบตอนพิเศษ ที่ได้รู้มุมมองความคิด
ของฉานบ้าง เจ้าตัวเค้าก็แอบมีมุมไม่มั่นใจ
และก็กว่าจะหาความรักเจอก็นานนะคะ
แต่ดีใจอย่างน้อยก็รู้ตัวเองสักที ^^

แจ้งจองหนังสือทางเมลล์แล้วนะคะ
รบกวนรายละเอียดด้วยนะคะ ^^

ขอบคุณเรื่องๆ ดี เรื่องสนุกๆ
รออ่าน คุณคนเดียว และเรื่องใหม่ๆ ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 26-09-2010 11:53:56
สนุกมากค่ะ อ่านแบบรวดเดียวจบเลย
อ่านแล้วมันรู้สึกให้คว่มผูกพันธ์อ่ะ ชอบมากลย
จองด้วยคน เดี๋ยว mail ไปนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]20 กันยา(ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 26-09-2010 18:45:24
เจ็บจนชิน !!! จิตใต้สำนึกบอกแบบนั้น แต่ปฏิกริยาของร่างกายกลับตรงกันข้าม
เจ็บตามเนื้อตามตัวทุกวัน จนลืมความรู้สึกของร่างกายที่ปกติเหมือนคนอื่นๆเค้าไปแล้ว

ยอมเจ็บ.....ถ้ามันช่วยให้คุณคนเดียวรู้สึกดีขึ้นกับความรู้สึกโกรธแค้นที่มีต่อเขา
ยอมถูกด่า........ขอเพียงแค่ไม่ก้าวล้ำไปถึงบุพการีเพียงคนเดียวที่ขลุ่ยเคยเห็นหน้า
ต่อให้ใครๆตอกย้ำว่าพ่อของขลุ่ยชั่วช้า.....แต่ในสายตาขลุ่ยแล้วพ่อก็คือทุกสิ่งทุกอย่างเสมอ

ทุกอย่างเป็นเหมือนทุกวันที่เคยพบเจอ ไปเรียน กลับบ้าน ทำงานรับใช้คุณคนเดียว
แล้วก็เป็นตัวอะไรก็ได้ที่คุณคนเดียวใช้ระบายอารมณ์..........บนเตียง

 :z3:  :monkeysad:  :o12:



หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 26-09-2010 19:35:06



อยากจะกระโดดเอาปากตบน้องเซค่ะ  :beat:

แบบนี้แถวบ้านเรียกว่า สปอยยยย!!!!

แน่จริงเอามาให้อ่านจนจบดิวะ  :angry2:

(อย่าทำจริงนะเว้ยเซ!!!...นังพอลล่ามันโอนตังคืนกันหน้ามืดแน่ๆ)

 :z3:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 26-09-2010 19:49:40
เจ็บจนชิน !!! จิตใต้สำนึกบอกแบบนั้น แต่ปฏิกริยาของร่างกายกลับตรงกันข้าม
เจ็บตามเนื้อตามตัวทุกวัน จนลืมความรู้สึกของร่างกายที่ปกติเหมือนคนอื่นๆเค้าไปแล้ว

ยอมเจ็บ.....ถ้ามันช่วยให้คุณคนเดียวรู้สึกดีขึ้นกับความรู้สึกโกรธแค้นที่มีต่อเขา
ยอมถูกด่า........ขอเพียงแค่ไม่ก้าวล้ำไปถึงบุพการีเพียงคนเดียวที่ขลุ่ยเคยเห็นหน้า
ต่อให้ใครๆตอกย้ำว่าพ่อของขลุ่ยชั่วช้า.....แต่ในสายตาขลุ่ยแล้วพ่อก็คือทุกสิ่งทุกอย่างเสมอ

ทุกอย่างเป็นเหมือนทุกวันที่เคยพบเจอ ไปเรียน กลับบ้าน ทำงานรับใช้คุณคนเดียว
แล้วก็เป็นตัวอะไรก็ได้ที่คุณคนเดียวใช้ระบายอารมณ์..........บนเตียง

 :z3:  :monkeysad:  :o12:





กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ทำไมถึงทำกับชั้นได้.... 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-09-2010 20:16:15
เขาหมดเขตจองกันยังหว่า อยากได้สักชุดอ่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 26-09-2010 20:44:38
^
^
^
ยังค่ะพี่ทิพย์ เค้าเปิดข้ามเดือนค่ะพี่


ส่วนดาวพระศุกร์ค่ะ สมน้ำหน้าค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-09-2010 20:46:27
งั้นจอง 1 ชุดหน่อยจิ  ส่งรายละเอียดการโอนเงินมาทาง PM เลยเน้อ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 26-09-2010 21:45:20
ฝากเรื่องใหม่ด้วยนะคะ

[ภูตะวัน vs เพียงดิน]เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง By TRomance (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=18569.new#new)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 26-09-2010 23:29:32
สนุกไปอีกแบบอ่ะ
ได้เห็นมุมมองความรักที่ผูกพันกันเนิ่นนานอย่างนี้ อ่านแล้วยิ้มไปด้วย
ฉานเนี่ยรักเมฆจังเลย อิจฉาได้มั้ย อยากมีพระเอกแบบนี้มารักบ้างฮ่าๆ
ตอนพิเศษก็สนุกจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: Dangerous_patz ที่ 27-09-2010 01:03:58
เรื่องนี้ อ่านแล้ว น่ารักมากๆเรยก๊าฟ



สนุกๆๆๆ




เอาตอนพิเศษมาอีก  :call: :call:




ชอบๆๆ :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: PeeYaR ที่ 27-09-2010 16:45:22
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดีนะคะ
สนุกมากมายจ้า
ปลื้มตี่ตี้เป็นพิเศษ >////<
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 27-09-2010 19:24:16
กรี๊ดๆๆๆๆๆ น่ารักอ่ะเรื่องนี้ เลิฟๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 27-09-2010 22:50:24
 :L2: :L2:  สนุกดีคร่ะ..ชอบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-09-2010 06:21:18
สนุกมากค่ะ อ่านรวดเดียวจบยันเช้าเลยค่ะ
ชอบพี่เมฆกับท่านฉานมาก
รักกันน่ารักดีค่ะ รักกันมาตั้งแต่เด็ก ก็อย่างว่าละนะ คนเขาเป็นเนื้อคู่กันนี่นา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 29-09-2010 09:57:37
ปกเสร็จแล้ว  :mc4: :mc4: แต่ยังไม่เอามาโชว์นะ ใหญ่เกิ๊น
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]26 กันยา(P.71)
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 29-09-2010 20:33:47
ฮูเร อ่านจบด้วยความสนุก และสุขใจ
พร้อมขอเป็นแฟนคลับรักสุดใจกับพี่เมฆ  :-[

โอ้ พี่เมฆจ๋า ฮาและซ่าได้น่าร๊ากกกก

ช่วงพี่เมฆวัยเยาว์เนี่ยทำเอาน้ำตาคลอไปเลย

สนุกมากๆนะคะ  o13 ไรเตอร์ยอดเยี่ยมที่ซู๊ดดดด

เดี๋ยวส่งเมลไปจอง 1 เล่มนะคะ จะได้นอนกอดพี่เมฆทุกคืน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]ปกหนังสือ(P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 30-09-2010 19:30:29
เอาปกหนังสือมาให้ชมจ้า
(http://image.ohozaa.com/iq/mekchanvol.1.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i6/mekchanvol.2.jpg)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]ปกหนังสือ(P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 01-10-2010 08:24:45
เอาปกหนังสือมาให้ชมจ้า
(http://image.ohozaa.com/iq/mekchanvol.1.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i6/mekchanvol.2.jpg)


สวย อิอิ เด๋วเก็บตังก่อนแล้วค่อยสั่ง -..-
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]ปกหนังสือ(P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: nookik ที่ 02-10-2010 23:38:45
 :o8:
ตัวละครน่ารักมากเลยค่ะ

มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว


เมฆซ่าได้น่ารักน่าหยิก


ฉานก็หึงได้โหด ((...แต่แอบหวาน))


ความสัมพันธ์ ที่แสดงออก อย่างไม่ลังเล ของฉาน และเมฆ


 :L1:


มุมมองของความรักที่ค่อยๆฟูมฝัก จนก่อตัวเป็นสาบใยบางๆ แต่เหนียวแน่น


ต่างคนต่างมุมมอง แต่เราก็สามารถสื่อถึงกันได้ โยใช้ตัวเชื่อมที่เรียกว่า "รัก"


 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]ปกหนังสือ(P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Pepor ที่ 03-10-2010 02:02:50
 :laugh:  อ่านจบแล้วค่ะ  สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  มีครบทุกรสเลยค่ะเรื่องนี้ ทั้งสนุก เศร้า  เหงา และรัก  อ่านแล้วหลงรักพี่เมฆมากเลย  คิดถึงพี่เมฆ  อยากให้กลับมาอีกจัง
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสนะคะที่แต่งและนำนิยายเรื่องนี้มาให้อ่าน   :pig4:

ช่วงนี้กำลังตามติดพี่ดินอย่างใกล้ชิดเหมือนกันค่ะ  เป็นไปได้อยากให้พี่ดินเจอพี่เมฆจัง  คงรั่วกระจายแนๆ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]ปกหนังสือ(P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 03-10-2010 02:21:32
 :mc4:  อ่านจบแล้ว

เฮ้อ...เหนื่อยสุดๆแต่มีความสุขสุดๆค่ะ

ไรเตอร์เยี่ยมมากๆ...ฉานหื๊นหื่น...เมฆแม๊นแมน :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]ปกหนังสือ(P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Flowersteel ที่ 03-10-2010 12:30:21
โห .. อ่านจบแล้วๆ

ขอบคุณน้าครับๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย ดูรายละเอียดที่,P.1]ปกหนังสือ(P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 03-10-2010 12:31:13
เพิ่งอ่านจบค่ะ เลยขอตามจองด้วยคน

คุณพี่เมฆกับท่านฉาน ควรค่าแก่การเก็บสะสมมาก

เดี๋ยวจะส่งเมล์ไปจองนะคะ ไม่รู้หมดเขตอะยัง

แต่จะขอจอง ขอจอง 5555555555+ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 03-10-2010 22:52:42
(http://www.kaweeclub.com/link/a1%20(69).gif)

UpDate รายชื่อคนโอนเงิน "เมื่อแหงนมองจันทร์ผมเห็นตะวัน"

(http://www.kaweeclub.com/link/a1%20(110).gif)


ครั้งที่ 1 [03.10.10]


hotladyanyavee
muyong
oppee
iForGive
rujaya
soel
cmholic
padang
SOGATO
กลั่นกรอง
CipheR
tsuyu
yeyong
n2
koraorni
anterosz
sumalee
Canond
jigsaw44
getto
pungplaza
i_lost in..
eddiam
มินมิน
u4gartoon
gear
nirun4
kautumn
THIP
คุณแอน
MaeMoo
chen
nameja jaja
aorpp
sakuu
Malinee
saku



****หมายเหตุ รายชื่อไม่ได้เรียงลำดับตามการโอนเงินนะคะ
๐ การสั่งซื้อหนังสือชุดนี้จะสมบูรณ์เมื่อมีการโอนเงินนะคะ
๐ ปิดจองวันที่ 10.11.10 ปิดโอน 23.00 น. ของวันที่ 10.11.10 นะคะ
๐ สั่งทำ mock up หนังสือเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของ เนื้อหา สี และอาร์ตเวิคของหนังสือ ก่อนปิดจอง 3 วัน [07.11.10]
๐ แจ้งยอดโรงพิมพ์และสั่งพิมพ์จริงวันที่ 11.11.10
๐ หากโรงพิมพ์จัดส่งหนังสือและแพ็คเกจปกผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพ็คและจัดส่งเลยค่ะ
๐ จะพยายามจัดสรรเวลาให้ปกผ้าและหนังสือเสร็จพร้อมหรือเวลาใกล้เคียงกันที่สุดคะ

หมายเหตุ: ใครที่โอนเงินแล้ว ยังไม่แจ้งโอน รบกวนช่วยแจ้งด้วยนะค่ะ เสาร์-อาทิตย์ ตรวจสอบรายการออนไลน์ไม่ได้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 04-10-2010 00:24:05
อ่านจบแล้ว
อ่านแล้วยิ้มแก้มแทบปริ
อยางฮาเลย :m20:
ขอบคุณจ้า :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 04-10-2010 03:24:30
อ่านได้นิดเดียว
เลยกะว่าจะรออ่านรวมเล่มทีเดียวเลย ^^

ส่งเมลไปแล้วนะคะ
รบกวนเรื่องรายละเอียดการโอน

ปล.ปกสวยมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 04-10-2010 05:37:01
เพิ่งตามมาอ่านค่ะ สนุกมากๆเลย
อ่านคืนเดียวจบรวด เอิ๊กส์ 555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: scottoppa ที่ 04-10-2010 14:15:31
 :impress2: พี่ฉานนนนนนนน
พี่ฉายเป็นพระเอกที่แบบ พระเอกจริงๆ เสี่ยงตายเพื่อเธอ
พี่เมฆก็ขำ น่ารัก คิดเองเออเองตลอด แต่พี่เมฆมีมุมที่น่าปลื้มมาก
เวลามีเรื่องแม่ น้อง หรือเพื่อน พี่เมฆเอาใจไปทุกทีเลย

ชอบคู่รองด้วย พี่ไม้กับเด็ก รด. ชอบบบบบบบบบ เด็กมันน่ารัก
ขอบคุณไรท์เตอร์ แล้วก็ โพสต์เตอร์ค่า สนุกมากก  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 04-10-2010 14:22:10
><
ตามอ่านจบแล้วววว
พี่ฉานน่ารักจังเลยค่ะ
ชอบอ่ะ ... ชอบที่พี่ฉานบอกว่า ไม่เคยหันหลังให้พี่เมฆ ...
ฮึกกก เขินนนนนน

^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 04-10-2010 20:43:31
อ่านนานมากเลย  ก่อนที่เรื่องนี้จะจบ เคยเห็นผ่านตาแวบๆ จะอ่านก็หลายหน (แต่ก็ไม่ยักกะอ่าน :o8:)  พอตั้งใจจะอ่านเรื่อง  [ภูตะวัน vs เพียงดิน]เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง เลยคิดว่ามันมีเรื่องนี้ด้วยนี่ 
งั้นลองอ่านเรื่องนี้ก่อนดีกว่า  ถึงค่อยเริ่มอ่าน ภูตะวัน vs เพียงดิน เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง  
แต่พอเปิดมาดูจำนวนตอน  :m15:  คืนนี้จะอ่านหมดไหม ปรากฎมันไม่หมด ถาม เกือบร่วม 3  วันกว่าจะจบ
 แต่สนุกมากเลย  เมฆเป็นคนที่ไม่เคลียร์ แอบซึม ๆ ตามอารมณ์ของเมฆนิดหน่อย
 เมฆน่ารักมากๆ เลย  ท่านฉานก็น่ารัก  ชอบจัง  มีบางประโยคซึ้ง ๆ น่ารักมาก
ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักนะ  ส่วนเรื่องของคุณคนเดียวนี้แอบแรงนะ แต่อยากให้จบไม่เศร้าจัง

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 04-10-2010 23:51:27
คิดถึง ดวงตะวัน กับ ก้อนเมฆ จัง  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: LaphaeL ที่ 07-10-2010 04:09:37
จบแล้ว สำหรับนิยายเรื่องนี้...ใช้เวลาอ่าน 2 วัน เหอๆ (ข่าวว่ามะรืนจะสอบ ยังมะได้อ่านหนังสือเลย 555)
ชอบฉานกะเมฆอ่า...ขอแบบฉานซ๊ากคนได้มั้ยเนี่ย เหอๆ... แต่ที่ชอบกว่าคือคู่ของไม้กะน้องตี่ตี้ 555+ เด็กอะไร รุกได้รุกดี
ดูซิ สุดท้ายตัวเองก็ต้อง ลุก(มานั่งเทียน) จนได้  :z1: :z1:

ปล.จะพยายามเก็บเงินให้ได้ก่อนปิดโอนแล้วจะสั่งจองนะครับ อิ๊ๆ...แบบว่าเสื้อเล้าก็จะเอา ค่าเน็ตก็ต้องจ่าย
รายจ่ายสุมหัวรอกันเป็นแถ๊ว 555+
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] อัพรายชื่อผู้ที่โอนเงินมาแล้ว P.1
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 07-10-2010 13:30:51
^
^
^
ขอบคุณค่ะ ใจเย็นๆเน้อ เดี๊ยวก็ได้ อิอิ

จะบอกให้คนเขียนมานเปิดระบบผ่อนดีมั้ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] ปกผ้าจ้า P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 07-10-2010 21:59:03
เอาปกผ้า "เสื้อของหนังสือ" มาให้ชมจ้า

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/cloth-cover1toweb.jpg)

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] ปกผ้าจ้า P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kwa ที่ 08-10-2010 07:18:01
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน น่ารักมากกกกกกกก  พี่เมฆดูเหมือนจะไม่ค่อยรู้อะไรทันสักเ่ท่าไหร่ ฉานเลยต้องออกแรงเยอะหน่อย (ฮา)

ส่งเมล์ไปขอจองหนังสือจะทันไหมหนอ *-*


อ๊าย อาย  :o8:  เห็นเป็นหมดเขตวันที่ 10 เดือน 10  เลยกลัวจะไม่ทัน มาอ่านอีกที อ้าว เดือน พ.ย.นิหน่า เอิ๊กกกกก  :o8: :o8: :o8:

V
V
V
V

AKAME is REAL  จริงยิ่งกว่าจริงเนาะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] ปกผ้าจ้า P.1
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 08-10-2010 12:28:56
AKAME IS REAL

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


จริงค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] ปกผ้าจ้า P.1
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 08-10-2010 17:26:34
สนุกมากเลยค้าบบ

ขอบคุณคับ สำหรับเนื้อหา ดีๆ

สนุกๆๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย] ปกผ้าจ้า P.1
เริ่มหัวข้อโดย: pocoyo_ohh_yho ที่ 08-10-2010 19:17:39
โอนเงินแล้วค้าาาาาา

ตอนเเรกก็จะมาอ่านเฉยๆ

แต่พออ่านแล้ววว กีสสสสส อย่างนี้ต้องสั่ง

สนุกมากๆค้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: M23 ที่ 10-10-2010 00:57:59
ตามพี่ดินมา
เรื่องนี้ก็สนุกเหมือนอีกเรื่องเลย ไรเตอร์ o13
พี่เมฆ+พี่ฉานน่ารักอ่ะ มันดูเป็นความรักที่แน่นหนึบดีจริงๆๆ
อยากได้แบบตี่ตี้มาเก็บไว้สักคน...
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: WhatLoveIs ที่ 10-10-2010 17:05:54
^^
ตามอ่านจนครบทุกตอนแล้ว
น่ารักจังเลยค่ะ

ตอนแรกนึกว่าต้องโอนภายในวันนี้ งั้นเดี๋ยวขอต่อเวลาไปอีกสักหน่อยนะคะ
ขอเก็บเงินไว้หมุนก่อน  :monkeysad: :monkeysad:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 10-10-2010 22:02:18
กำลังเก็บตังค์ค่ะ คงสั่งใกล้ๆวันปิดจองแน่ๆเลย แงๆกลัวไม่ทัน  :sad4:
ช่วงนี้กัดก้อนเกลือกินอยู่พอดีด้วย  :o12:

(ก็แกเอาตังค์ไปซื้อกระเป๋าซะหมดเกลี้ยงไงเฟ้ย  :angry2:)

ขอเวลาหยอดกระปุกหมูน้อยก่อนนะคะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 11-10-2010 03:24:13
^
^
รีบน ใจเย็นๆ ค่อยๆเก็บไป ถึงไม่ทันในช่วงเวลาก็ไม่เป็นไร ถ้าอยากได้จริงๆ จะทำเผื่อไว้รอวันเงินครบนะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 12-10-2010 00:47:36
ขอบคุณมากค่ะ  :m15:
มามะ มาให้จรุ๊ฟๆทีนึงค่ะ  :จุ๊บๆ:

(คงเก็บตังค์ได้ประมาณต้นเดือนหน้าแน่ะ  :o12: เพราะว่าจะแอบหนีไปเที่ยวตั้งแต่สัปดาห์หน้ายาวไปจนถึงสิ้นเดือนเลยอ่ะค่ะ เสียค่าห้องค่าตั๋ว ค่าบ้าบอส่วนตัว แต่ค่ากินค่าอยู่ เกาะเพื่อนกินเอาค่ะ  :laugh:)


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 12-10-2010 22:36:42
ตามมาอ่านจากเรื่องพี่ดิน  เรื่องนี้ก็สนุกเหมือนกันอ่านทีเดียวสามสิบกว่าตอนเลย  สนุกมากอ่ะ พี่คนแต่ง แต่งเก่งเว่อร์ๆ   o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13








ปล.รักพี่คนแต่งม๊ากมาก :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 13-10-2010 21:22:52
อ่านจบแล้ว เย้ๆๆ :mc4: :mc4: :mc4:
สนกมากมาย ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณที่ทำให้มีเรื่องดีๆอ่านเน้อ





ปล.รักพี่คนแต่งกะพี่คนโพสต์ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 14-10-2010 01:23:00
รบกวนคนแต่งรอก่อนนะครับ  ได้รับเมลล์ตอบกลับมาแล้ว



แต่



เงินยังเก็บไม่ครบเลยง่ะ  ฮือ ฮือ ๆๆๆๆ.....
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 14-10-2010 13:11:04
^
^
^
ใจเย็นๆคะค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะ ยังมีเวลาจ้า

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 14-10-2010 22:45:57
สวัสดีค่า

ตามมาจากเรื่องพี่ดิน อิอิ
ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลย
แต่มั่นใจในฝีมือของพี่คนแต่ง
เลยส่งเมลล์จองไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
แล้วจะรอโค้ดโอนเงินนะคะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: pinfai ที่ 18-10-2010 15:18:47
โอนเงินไปแล้วนร้าคร้า

แต่ว่าเราไม่ได้ใส่เลขที่บัญชีตามในสลิปอ่ะ เพราะไม่รู้มันคืออะไร

อย่างว่ากันเลยน่ะ แบบว่ามไค่อยได้โอนเงินเท่าไหร่อ่ะ

แล้วยังงี้จะจัดส่งเมื่อไหร่อ่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 18-10-2010 21:24:00
ตัวอย่างหนังสือ ที่โรงพิมพ์ทำมาให้ตรวจสอบ เลยเอามาให้ดูก่อนค่า

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/101017_161353.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/101017_161531.jpg)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 18-10-2010 22:14:51
โอนเงินไปแล้วนร้าคร้า

แต่ว่าเราไม่ได้ใส่เลขที่บัญชีตามในสลิปอ่ะ เพราะไม่รู้มันคืออะไร

อย่างว่ากันเลยน่ะ แบบว่ามไค่อยได้โอนเงินเท่าไหร่อ่ะ

แล้วยังงี้จะจัดส่งเมื่อไหร่อ่ะค่ะ



๐ ปิดจองวันที่ 10.11.10 ปิดโอน 23.00 น. ของวันที่ 10.11.10 นะคะ
๐ สั่งทำ mock up หนังสือเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของ เนื้อหา สี และอาร์ตเวิคของหนังสือ ก่อนปิดจอง 3 วัน [07.11.10]
๐ แจ้งยอดโรงพิมพ์และสั่งพิมพ์จริงวันที่ 11.11.10
๐ หากโรงพิมพ์จัดส่งหนังสือและแพ็คเกจปกผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพ็คและจัดส่งเลยค่ะ
๐ จะพยายามจัดสรรเวลาให้ปกผ้าและหนังสือเสร็จพร้อมหรือเวลาใกล้เคียงกันที่สุดคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 18-10-2010 23:24:47
เห็นตัวอย่างหนังสือแล้ว อยากได้ไวๆ  :m1:
เดือนหน้า อีกแปบเดียวแล้ว

คิดถึงพี่เมฆ&ฉาน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 19-10-2010 05:53:28
เสียใจที่ว่าคงสั่งซื้อไม่ได้แล้ว เง้อ...

แต่ดีใจที่เข้ามาอ่าน

ยกมือให้คุณ Tromance กับ คุณ เซ เลยนะคะ

มีบางตอนทำให้เราร้องไห้จนนอนไม่หลับ ตอนนี้ก็กำลังนั่งตาปูดตาบวมอยู่ค่ะ นอนไม่หลับจริงๆ คิดมากกับเนื้อเรื่องในนิยาย

ชอบเรื่องนี้ แล้วก็ไปชอบเรื่องของ นักเลงใหญ่ ด้วยอ่าค่ะ อันนั้นฮาไส้แข็งไปเลยอ่ะ o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 19-10-2010 16:30:49
^
^
^
ไม่เป็นไรค๊า ซื้อหนังสือไม่ได้ มาอ่านในกระทู้ได้คะ

ถ้าอ่านเรื่องนี้แล้วร้องไห้ ไปอ่านเรื่องพี่ดินชดเชยนะคะ

เพื่อจะหัวเราะได้บ้างคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 19-10-2010 18:44:54
เข้ามาบอกว่าโอนเงิน และเมล์รายละเอียดกลับไปแล้วเน้อ
ถ้าผิดพลาดอะไร ช่วยแจ้งด้วยนะก๊าบบบ (-/|\-)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: pics ที่ 19-10-2010 22:03:28
เข้ามาถามว่า ไม่ update คนโอนเงินแล้วเหรอครับ โอนไปแล้ว แจ้งไปแล้ว ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว ยังไม่ได้รับการยืนยันอะไรเลย สูญไปแล้วหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 19-10-2010 22:52:56
เข้ามาถามว่า ไม่ update คนโอนเงินแล้วเหรอครับ โอนไปแล้ว แจ้งไปแล้ว ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว ยังไม่ได้รับการยืนยันอะไรเลย สูญไปแล้วหรือเปล่า

ขอโทษจริงๆคะ ที่ยังไม่ได้ตอบกลับไป เนื่องจากบางทีคนเขียนเบลอคะ ปกติจะตอบกลับก่อนแล้วค่อยทำรายชื่อที่อยู่จัดส่ง
ทีนี้ของคุณ AutomaticLM น่าจะทำรายชื่อที่อยู่จัดส่งก่อนแล้วกลายเป็นว่าลืมตอบกลับ ต้องขออภัยจริงๆคะ แต่ได้รับเงินเรียบร้อยแล้วนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งคะ ส่วนอัพเดทรายชื่อคนโอนเงินหน้ากระทู้ คนเขียนเพิ่งได้รายการเดินบัญชีวันนี้เอง ยอมรับว่าทำไม่ทันคะ
ติดตามรายชื่ออัพเดทในกระทู้ได้วันพรุ่งนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: jincool ที่ 20-10-2010 10:05:14
เป็นคู่ที่น่ารัก

และมองเห็นสายสัมพันธ์อย่างชัดเจนเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 20-10-2010 22:45:30
ตามมาจากเรื่องพี่ภูและพี่ดิน สนุกมากเลยจร้า
หลงรักฉานกับเมฆ เลยแหละ
ขอยกนิ้วให้ไรท์เตอร์เลยค่ะ  o13
แต่งได้ดีมากเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 21-10-2010 00:17:17
สนุกมากๆ

ขอบคุณนะครับคุณ seiki
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Nabee ที่ 21-10-2010 23:19:40


นั่งอ่านมา 2 วันกะอีก 1 คืนกว่าจะจบ...ขอเวลาปาดเหงื่อหน่อย - -"


แต่ก็คุ้มค่ากับการนั่งอ่านแบบทรหดและมาราธอนแบบนี้มาก ๆ

หลงรักทั้งพี่เมฆ ท่านฉาน พี่ไม้ น้องปลื้ม น้อยหน่า ไผ่ หวาน นที แกละ ดิว แม่นิ่ม น้าพิมพ์ น้าชาติ อันดา และตัวละครอื่น ๆ ด้วย

อ่านไปก็มีความสุขไป...งานการ โปรจ่ง โปรเจคไม่เป็นอันทำ...ถ้าอ่านไม่จบมันรู้สึกค้างคา...เลยพยายามไฟท์จนจบจนได้

รู้สึกสุขจนแทบจะล้นอก...ยิ้มจนแก้มแทบจะปริ...และที่สำคัญ มันทำให้รู้ว่า...บางทีการแหงนมองดูจันทร์ มันก็ไม่เห็นแค่กระต่ายเสมอไป...คริคริ =^= b


ชอบธีมของเรื่องนี้มาก ๆ เลยนะฮะ...ที่ว่า "ความผูกพันธ์ มันสามารถก่อเกิดเป็นรักได้...แถมยังมั่นคง...โดยไม่ต้องคำนึงถึงกฏเกณฑ์ใด ๆ ทั้งสิ้น"

นี่ถ้าเกิดว่ากำลังเรียนสาขาจิตวิทยา หรือสังคมวิทยานะ...สงสัยคงได้เอาหัวข้อนี้เป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์แน่ ๆ...กร๊ากกกกกกกกกก ก กกกกกกก กกกส์


ไม่มีคำใดจะพูดได้ดีเท่ากับคำที่ว่า...ชอบเรื่องนี้มาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...เสียดายที่ไม่ได้ตามอ่านตามลุ้นไปพร้อม ๆ กับที่คุณเซทยอยเอามาลง

แต่ก็ดีแหล่ะ...ไม่ง้านคงไม่เป็นอันทำการทำงานอะไร...มัวแต่มานั่งลุ้นคู่นี้อย่างเอาเป็นเอาตายแน่ ๆ = ='


ขอบคุณสำหรับนิยายสนุก ๆ ที่ให้อะไรกะคนอ่านอย่างเค้ามาก ๆ เลยนะฮะคุณ TRomance

และก็ขอบคุณคุณเซฯ เช่นกันฮะ...ที่สละเวลามาลงให้อ่านกัน...แล้วเด่วเค้าจะตามไปจองหนังสือเรื่องนี้นะเออ...คริคริ >///////<


จากนี้จะได้ตามไปอ่านพี่ดินกะพี่ภูแบบสกรีนชอตสักที...ได้ข่าวว่าอ่านแบบผ่าน ๆ มาสักสามสี่ตอน...แถมยังไม่ได้เม้นให้เค้าอีกต่างหาก...แอบนิสัยไม่ดีนะยัยคนนี้หน่ะ -*-
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Ticha ที่ 22-10-2010 07:52:56
สวัสดีค่ะ
เข้ามาครั้งแรก
จะติดตามอ่านให้หมดเลยจ้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: 4Leafclover ที่ 22-10-2010 15:19:08
เข้ามาอ่านได้หลายตอนแล้ว

สนุกมากๆๆ พี่เมฆฮาเว่อร์ๆ ><

ท่านฉานสุโค่ยมากกกกกก

เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ อ่านแล้วทั้งฮา ทั้งซึ้ง ^^

เพื่อนๆแต่ละคนก็ใช่ย่อย ฮ่าๆ

รักเลยค่ะ รักจริงๆเรื่องนี้ อยากได้ทั้งก้อนเมฆทั้งดวงตะวันมาอยู่ใกล้ๆ หุหุ







ปล.สั่งจองตอนนี้ยังทันใช่ไม๊คะ *0*
อยากได้หนังสืออออ >0<
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 22-10-2010 18:29:08
เข้ามาอ่านได้หลายตอนแล้ว

สนุกมากๆๆ พี่เมฆฮาเว่อร์ๆ ><

ท่านฉานสุโค่ยมากกกกกก

เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ อ่านแล้วทั้งฮา ทั้งซึ้ง ^^

เพื่อนๆแต่ละคนก็ใช่ย่อย ฮ่าๆ

รักเลยค่ะ รักจริงๆเรื่องนี้ อยากได้ทั้งก้อนเมฆทั้งดวงตะวันมาอยู่ใกล้ๆ หุหุ







ปล.สั่งจองตอนนี้ยังทันใช่ไม๊คะ *0*
อยากได้หนังสืออออ >0<

>>>>>ทันค๊า เมลล์ไปจองได้เลย ดูรายละเอียดที่หน้าแรกนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: arm32505 ที่ 22-10-2010 23:28:07
อยากได้หนังสือแล้วววววววววว T0T อดใจรอไม่อ่านก่อนนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: TaroT ที่ 23-10-2010 04:42:28
อ่านถึงตอนที่ 14 แย้วววว  ครับบบบ

 :call: :call: โทดทีนะครับ ที่มาเมนต์ซ้าาาช้า..........  พอดีตั้งใจอ่านมั่กไปหน่อย  แฮ่ๆๆๆ  :z2: :z2: :z2:

เอาเป็นว่าจะติดตามอ่านจนจบในเร็ววันนะครับบบบบบ  ขอบคุณคร้าบบบบบบบ

ปล. กลัวพี่เมฆจะเสร็จพี่ฉานเอาสิจ๊ะ !!!!!!!!!!!!!!!!!  อะไรๆ ก็ขัดดวงตะวันไม่ได้ นี่ .......... :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Azitten ที่ 23-10-2010 23:11:41
มาอ่านตั้งแต่ตอนแรก จนจบเลยทีเดียว
ใช้เวลาตั้ง 2 วันเลยนะค่ะเนี่ย ^^

น่ารักมากกกอะ ฉานอะ เป็นผู้ชายที่ดีมากก เมฆก็น่ารัก

แต่จะว่าอะไรมะอะ ถ้าชอบน้องปลื้มที่สุด แหมม น้องเค้าตรงใจ
แร๊งงงงแบบไร้เดียงสาได้น่าหยิกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอะ

5555555555555555555

ตอนแรกอ่านๆๆไปก็กลัวเหมือนกัน นึกว่าจะดราม่าซะนาน
ตัวร้ายมาเร็วไปเร็วมากๆๆ 555 แต่ก็ดีแล้วอะ ไม่งันเราคงทรมาณตายเลย

เปนกำลังใจให้คนแต่งนะค่ะ รออ่านเรื่องต่อๆไปนะค่ะ

 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: fellow ที่ 25-10-2010 02:59:55
ตามอ่านมาตั้งแต่หัวค่ำเกือบถึงตี3 


ขอยกนิ้ว o13

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 25-10-2010 12:30:25
โอนเงินไปแล้วนะคะวันนี้ 25/10 เช็กเมลล์ด้วยค่ะ :really2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 25-10-2010 18:17:38
สวัสดีค่ะ~♥
อ่านเมื่อแหงนมองจันทร์ฯ จบแล้วค่ะ =]
เรื่องนี้มีครบทุกรสจริงๆค่ะ  :a5:
ติดตามแบบใจเต้นระทึกตลอดว่าจะยังไงต่อ ฮะๆ
นั่งอ่านแบบไม่ลุกไปไหนเลย จนปวดตาจนได้  :really2:
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ สู้ๆ  o13

รักเรื่องนี้จริงอะไรจริงค่ะ~♥♥
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ishiya ที่ 26-10-2010 04:23:56
กว่าจะอ่านจบ เล่นเอาตาลายกันเลยทีเดียว...สนุกมากมาย  แถมไรท์เตอร์ยังมาหย่อนระเบิดลูกใหญ่ มาสปอยเรื่องขลุ่ยไว้ตั้ง 1 ตอน ถ้าไม่ได้อ่านต่อเราคงลงเเดงตายอย่างเเน่นอน  ว่าแล้วจึงส่งเมลไปจองเรียบร้อยเเล้วนะคะ...
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ღiสุดขอบiღ ที่ 27-10-2010 14:07:08
อ้าย~~ ตะบี้ตะบันอ่านมาวันครึ่ง~~

น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วไม่เคลียดเลย เพราะคนแต่งบอกแต่แรกว่าเน้นฮา และจบแฮปปี้แน่นอน

ฉานกับเมฆเป็นคู่ตัวอย่างจริงๆ แบบว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉานก็ยังเป็นของเมฆ เมฆก็ยังเป็นของฉาน เราสองเป็นของกันและกัน~~ อ้าย~~ อิเจ๊เวิ่นเว้ออะไรออกปายยยยยยยยยยยยยยยยยยย :-[

ประทับใจมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉานกับเมฆก็จะดูแลกันและกัน จะปกป้องกันและกัน และแม้แต่ความตายก็พรากทั้งคู่จากกันไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายคงชิงตายตามไปแน่ๆ อ่า~~ อิเจ๊ซาบซึ้งใจกับสองคนนี้จริงๆ ขณะที่เมฆยอมทุกอย่างแม้เอาตัวเข้าแรก(ความจริงคือเอาน้ำลายเข้าแรก-เทศนาเด็กขาดความอบอุ่น)เพื่อปกป้องคนสำคัญ ฉานก็ทำได้ทุกอย่างแม้แต่แลกชีวิตเพื่อรักษาเมฆเอาไว้ แม้การกระทำหลายอย่างทั้งของเมฆและฉานอาจจะงี่เง่า แต่เป็นความงี่เง่าที่กระแทกใจอิเจ๊อย่างแรง!! น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

คู่ไม้กับตี่ตี๋ก็เหมือนกัน คู่โลลิค่อนเนี่ยให้คำจำกัดความ รัก...ไม่ต้องการเวลาจริงๆ ขณะที่ฉานกับเมฆค่อยๆบ่มเพาะมันขึ้นมาแบบเป็นธรรมชาติ เหมือนกับผสมสีเดียวกันจนปริมาตรล้นจาน แต่ไม้กับปลื้มเป็นประเภทจุดปุ๊บติดปั๊บ เหมือนไฟกับน้ำมันก๊าซ มันมาแบบงงๆ แล้วก็ติดแบบงงๆ แต่ทั้งสองคู่ก็น่าร๊าก~~ ไม่แพ้กัน ถึงส่วนตัวจะชอบฉาน-เมฆมากกว่า แต่ความน่ารักของหนูตี่ตี๊ก็ทำอิเจ๊อมยิ้มทู๊กที~~

นอกจากนี้ก็ชอบบรรดาพลพรรคผองเพื่อนทั้งหลาย ฮิฮิ เวลาเจ้าพวกนี้มันรวมกัน มันล้นๆ จนฮากร๊าก~~ มีความสุขจัง

บรรดาพ่อแม่ก็วิเศษที่สุด!!

มีอย่างเดียวที่อิเจ๊ขัดใจ.....



มันสั้นไปมั้ยค่ะ!!! โฮ~~~ ยังอยากรู้เรื่องราวของฉานกับเมฆมากกว่านี้
อยากสโตรกเกอร์ในมหาลัย
อยากติดกล้องไว้ในหอ
อยากแอบตอดรออยู่ใต้เตียง(ที่บ้าน)
อยากตามสองหนุ่มไปเรื่อยๆ
ไม่อยากให้มีวันจบ วันจากเลย  :o12:


แต่ยังไงงานเลี้ยงก็ต้องมีคำลา...กระซิก~~
ได้แต่อ้าปากขอบคุณไรเตอร์ สำหรับเรื่องดีๆ
แล้วก็ :กอด1:คนโพสแน่นๆอีกหนึ่งทีเป็นกำลังใจ

 o1 อาริงาโตะ โกไซมัส!!
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 27-10-2010 19:13:23
อ่านมาหลายวัน

จบซะที   ปลื้มมากเลย เรื่องนี้น่ารักสุดๆๆ ไปเลย


รักพี่ เมฆ  พี่ฉานมากเลย


แล้วปลื้ม คู่รักข้างบ้านเค้าด้วย   :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 27-10-2010 22:20:39
เข้ามาแจ้งว่าโอนเงิน + ส่งเมลล์แจ้ง
ไปให้เรียบร้อยละค่า
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: CHADMM ที่ 28-10-2010 15:03:36
อ่านจบแล้วค่ะ เนื้อเรื่องสนุกน่ารักมากๆๆๆๆ   รักนายฉานกับนายเมฆ    ^_ ^   หวานแหววกันตลอดทั้งเรื่องๆ  ดราม่านิดหน่อยกำลังดี  ฮ่าๆๆ  ชอบมากนิยายแนวนี้มากๆค่ะ  จริงๆแล้วแอบตามมาจากเรื่องของ ดินกับพี่ภูอ่ะ   เรื่องนั้นก็สนุกเรื่องนี้ก็สนุก

แต่มีที่อ่านแล้วขัดๆ ขอแนะนำนี้ดนึง<ไม่เคืองกันน้า> ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องนะคะ  คือ ตรงคำว่า "ไง" อ่ะค่ะ  คนแต่งเขียน "งัย" แบบนี้ซะเยอะเลย   คือตอนแรกก็อ่านแบบไม่ได้สนใจมากคิดว่าคงเขียนผิด แต่หลังๆเห็นเยอะเลยอ่ะจ้า   ยังไงถ้าแก้จุดนี้ จะโอเคมากๆเลยจ้า         

ขอบคุณคนแต่งมากๆๆจ้า สนุกมากๆเลย เป็นกำลังใจให้แต่งเรื่องสนุกๆต่อนะคะ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Manji+ ที่ 28-10-2010 22:02:32
มาตามอ่านครับ พลาดเรื่องสนุกอย่างนี้ไปได้ยังไงกันเนี่ย อดลุ้นไปกับเมฆและพี่ฉาน จะนั่งอ่านแล้วอดใจรอมาอ่านตอนต่อไปอีกวันก็ทำไม่ได้

ท่าทางคืนเดี๋ยวจะปิดประเดิมทั้งเรื่องเลย

สนุกมากคร้าบ ขออ่านก่อน แล้วจะมาเม้นท์ต่อนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 29-10-2010 12:26:35


แต่มีที่อ่านแล้วขัดๆ ขอแนะนำนี้ดนึง<ไม่เคืองกันน้า> ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องนะคะ  คือ ตรงคำว่า "ไง" อ่ะค่ะ  คนแต่งเขียน "งัย" แบบนี้ซะเยอะเลย   คือตอนแรกก็อ่านแบบไม่ได้สนใจมากคิดว่าคงเขียนผิด แต่หลังๆเห็นเยอะเลยอ่ะจ้า   ยังไงถ้าแก้จุดนี้ จะโอเคมากๆเลยจ้า        




>>>>คนเขียนไม่ว่าหรอกคะ ติติงได้เต็มที่คะ ไม่ใช่แค่คำนั้นคำเดียวนะคะ เรื่องนี้คำผิดมโหฬารมากๆคะ ต้องขอบคุณคนอ่านที่ช่วยกันดู ช่วยกันติงนะคะ

ขอบคุณมากคะ เรื่องคำผิดเยอะเนี่ยแหละที่เกรงใจคนอ่านว่าจะรำคาญจนพาลไม่อยากอ่านเลยมั้ย  :monkeysad: มีคำฟุ่มเฟือยอีกมโหฬารเช่นกัน :z3: :z3:


มาตามอ่านครับ พลาดเรื่องสนุกอย่างนี้ไปได้ยังไงกันเนี่ย อดลุ้นไปกับเมฆและพี่ฉาน จะนั่งอ่านแล้วอดใจรอมาอ่านตอนต่อไปอีกวันก็ทำไม่ได้

ท่าทางคืนเดี๋ยวจะปิดประเดิมทั้งเรื่องเลย

สนุกมากคร้าบ ขออ่านก่อน แล้วจะมาเม้นท์ต่อนะ

>>>>ลุ้นกับพี่ฉานไม่ทัน ไปลุ้นกับพี่ภูพี่ดินได้นะคะ  :laugh: แต่คนละแนวกับเรื่องนี้เลยอะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Manji+ ที่ 29-10-2010 16:45:44
แน่นอนครับ จะตามไปเชียร์ภูดินแทนละกัน อ่านจบไปแล้ว แล้วนี่แทบไม่ได้นอน

อ่านแล้ว ผมชอบความสัมพันธ์แบบนี้จัง มันดูอบอุ่น
ถึงเขาจะหึงโหดไปมาก แต่เอาเข้าจริง ทั้งสองก็ยังผูกพันกันอย่างมากๆ ชีวิตที่จะเจอคนแบบนี้มันคงยากแสนจะยาก

การดำเนินเรื่องสุดยอดมาก แอบนิดนึงตอนนายอาท รู้สึกว่า นายเมฆ ยอมได้ไง บอกน้องสาวไปง่ายๆก็จบ
แต่นายเอกก็คือนายเอก ดีจนใจหาย

อ่านมาราธอน ตอนนี้หัวเลยใช้การไม่ค่อยได้ แต่รับรองว่าจะเป็นขาประจำภูดิน เร็วๆนี้นะคร้าบ ไปเม้นท์ต้อในนู่น
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: £.Ma|e¥ ที่ 29-10-2010 23:55:11
เอ่ออยากจะขอ........... กรี๊ดดดดดด ให้ดังๆไปเล๊ยยยย
อ่านจบแล้วค่าาาาา 55+
พี่เมฆกับพี่ดินนี่แตกต่างกันมากเลยนะคะเนี่ย คนละแนวเลยวุ้ย
อยากบอกว่า ตอนนี้ตาหนูลึกและดำปี๋เลย กลายเป็นหมีแพนด้าไปแว้ว
บางทีนั่งอ่านจนถึง 6 โมงเช้าแล้วค่อยไปนอน
จนวันนี้ จบแล้วค่า หนุกหนานมากมาย
พี่ฉานกับพี่เมฆ สุดยอดค่าาา อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขค่ะ
จริงๆแล้ว เราเคยอ่านเรื่องนี้(ตอนแรกๆ)มาเมื่อนานมาแล้ว(ตอนนั้นยังไม่ได้สมัครสมาชิกเล้าเป็ด)
แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้เลิกอ่านไป งงตัวเองเหมือนกัน -..-
และก็ไม่รู้ทำไมอีก ถึงทำให้เรากลับมาอ่านอีกครั้ง และขอบอกไว้เลยค่ะ
ว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ได้กลับมาอ่านเรื่องของพี่เมฆกับพี่ฉานอีกครั้งจนจบ
อยากเจอคนแบบพี่เมฆพี่ฉานจังเลย เป็นความรักที่วิเศษมากเลยค่ะ
ส่วนหนังสือ อยากได้มากกกกกกกกกกก แต่ว่า ... สั่งซื้อไม่เป็นและก็ไม่มีเงิน  :sad4:
นิยายชาย-ชายเป็นเล่ม เราเคยไปซื้อ แต่ไม่เคยสั่งซื้อออนไลน์
ข้าน้อยสั่งไม่เป็นนนนนน ฮือออออออออ ไว้จะลองตะล่อมๆแอบถามพี่สาวดู
ก็ที่บ้านไม่มีใครรู้นี่คะ ว่าหนูเป็นสาววายยยย ซวยไป จะสั่งอะไรก็ไม่ได้ เซ็งๆ

รักพี่เมฆพี่ฉานจังเย๊ยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 30-10-2010 01:00:16
^
^
ใจเย็นๆจ้า ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ความจริง พี่เมฆพี่ฉานมีลงในเล้าครบทุกตอน รวมทั้งตอนพิเศษทั้งหมด

ส่วนในเล่ม จะมีเรื่องสั้นเรื่องใหม่  "คุณคนเดียวแต่เราสองคน" ที่ไม่ได้ลงเล้าจ้า....เป็นคู่ คุณคนเดียวกับขลุ่ย

ถึงไม่มีหนังสือก็ไม่ถือว่าพลาดพี่เมฆท่านฉานนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: £.Ma|e¥ ที่ 30-10-2010 16:06:00
^
^
ใจเย็นๆจ้า ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ความจริง พี่เมฆพี่ฉานมีลงในเล้าครบทุกตอน รวมทั้งตอนพิเศษทั้งหมด

ส่วนในเล่ม จะมีเรื่องสั้นเรื่องใหม่  "คุณคนเดียวแต่เราสองคน" ที่ไม่ได้ลงเล้าจ้า....เป็นคู่ คุณคนเดียวกับขลุ่ย

ถึงไม่มีหนังสือก็ไม่ถือว่าพลาดพี่เมฆท่านฉานนะ


จ้าาาา~
ยังไงก็อยากได้หนังสือ (อยากอ่านเรื่องคุณคนเดียวกับขลุ่ยด้วยง่ะ)
ไว้จะลองเก็บซื้อเงินดู ฮึ ดูซิเราจะประหยัดเก็บเงินได้แค่ไหน หุหุ
ใกล้วันเกิดแล้ว เดี๋ยวขอเบิกเงินแม่ล่วงหน้าดีก่า  :pigha2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Jaeky ที่ 30-10-2010 21:46:00
มาขออ่านเน้อ
พอดีเห็นชื่อ พระเอก  และ นายเอก ติดอันดับทั้งคู่  :o8:เลยเข้ามาดูอ่ะ
น่าสนุกมาก เดี๋ยวกำลังจะอ่านล่ะ
ฉานกะเมฆใช่มั๊ยเคอะ
 :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Jaeky ที่ 30-10-2010 21:47:21
มาขออ่านเน้อ
พอดีเห็นชื่อ พระเอก  และ นายเอก ติดอันดับทั้งคู่  :o8:เลยเข้ามาดูอ่ะ
น่าสนุกมาก เดี๋ยวกำลังจะอ่านล่ะ
ฉานกะเมฆใช่มั๊ยเคอะ
 :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: monster_narak ที่ 31-10-2010 01:43:33
ว้าวว้าว  พึ่งมาสมัครคะ

กรี้ดด เหนว่าติดโพล เรยมาอ่านดูน่ารักอะคะะ

นายเอกกะ พระเอกเรื่องนี้ น่ารักดี

คนแต่งหนุกหนานมากเรยคะ

ยังอ่านยังไม่จบเรยคะ

ขอไปอ่านต่อ

อิอิ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 31-10-2010 02:36:33

จ้าาาา~
ยังไงก็อยากได้หนังสือ (อยากอ่านเรื่องคุณคนเดียวกับขลุ่ยด้วยง่ะ)
ไว้จะลองเก็บซื้อเงินดู ฮึ ดูซิเราจะประหยัดเก็บเงินได้แค่ไหน หุหุ
ใกล้วันเกิดแล้ว เดี๋ยวขอเบิกเงินแม่ล่วงหน้าดีก่า  :pigha2:


ขอให้เก็บเงินทันนะคร้าบบบบบ
จะได้อ่านคุณคนเดียว  อิอิ
รับรอง จะชอบคุณหนูขลุ่ย กับคุณคนเดียว 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mook0007 ที่ 31-10-2010 20:38:28
สนุกจังค่ะ พระเอกขี้หึงจัง จะมีหึงโหดหรือเปล่าอ่ะ พึ่งอ่านได้ไม่มีตอนเอง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 01-11-2010 10:27:03
ขอแสดงความยินดีด้วยค่า
พี่ทีอาร์กวาดมาได้สองรางวัลเลยคะ

รางวัลนักเขียนดาวรุ่ง & พระเอกยอดเยี่ยม

 o13

ปีหน้าจะรอโหวตพี่ภูกะพี่ดินอีกนะคะ
ชอบคุ่นี้มากๆเหมือนกัน
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 02-11-2010 02:33:42
เข้ามาแสดงความยินดีกับ อิพี่เจ้ TRomance  กับ 2 รางวัล
อิอิ พี่ฉาน สุดหล่อ  ได้พระเอกด้วย
เมื่อไหร่น้อ  จะมี สเปเชี่ยล  อีกอยากอ่านตอนพี่เมฆ ตั้งท้อง :a5:
ตอนมีบ้านเป็นของตัวเอง กร๊ากกก ขอมากไปไหม :call:
ไม่ได้ อยากทำให้ เจ้คนเขียนลำบากใจนะ (แต่กูอยากอ่าน)  :m16:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 02-11-2010 02:45:52
(http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/text_1/0512/390512/8413cb170ae24982f706767707ce876b_1241465464.gif)


ขอบคุณทุกคะแนนโหวตที่มอบให้นะคะ
๐ 2 รางวัลที่ได้รับดีใจมากจริงๆคะ ปีนี้มีโล่ห์ด้วยอะคะ ตื่นเต้นมากๆ

๐ รางวัลพระเอกยอดเยี่ยม ขอบคุณนะคะ ที่พี่ฉานเป็นพระเอกในดวงใจใครหลายๆคนทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าพี่เมฆมันไม่ เปรี้ยวขนาดนี้ ความดีพี่ฉานคงไม่เด่นชัดเหมือนกันนะคะ ขอบคุณทุกคนจริงๆที่รักพี่ฉาน ขอบคุณ anterosz สำหรับเมลล์แสดงความยินดีแล้วก็ขอบคุณที่สนับสนุนมาตลอดนะคะ

๐ สำหรับรางวัลนักเขียนดาวรุ่ง ก็ต้องบอกว่าเหนือความคาดหมายมากคะ แค่มีชื่อเรื่องขึ้นโหวตบ้างก็ดีใจมากแล้ว มาถึงขนาดนี้ได้เรียกว่าดีใจมากกกกกก ขอบคุณทุกคนมากนะคะ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-11-2010 10:47:51
อ่านตั้งสามวัน กว่าจะจบ แฮะๆ
สนุกมากๆ เลยครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทรายชื่อคนโอนเงิน P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 03-11-2010 20:57:41

 :mc4:
ยินดีกับรางวัลนักเขียนดาวรุ่ง ของคุณ TRomance  o13
กับ รางวัลพระเอกยอดเยี่ยมของท่านฉานด้วยนะคะ ปลื้มมาก ^^

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(3-11-10)
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 04-11-2010 00:56:46
(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/Image.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/Image-1.jpg)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(3-11-10)
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 04-11-2010 00:58:47
เหอๆ เล็กไปใหมคะ คือป้าแก่แล้วมองไม่ค่อยเห็น กร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(3-11-10)
เริ่มหัวข้อโดย: at_point ที่ 04-11-2010 01:13:34
^
^
^
^
ป้า ไปดูหน้าแรกก็ได้ครับ อิอิ
พอ จะมองเห็นอยู่ แต่หลากสีสันเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(3-11-10)
เริ่มหัวข้อโดย: katomuen ที่ 04-11-2010 16:13:26
ส่งเมลล์ไปได้รับหรือป่าวค่ะ

ชอบเรื่องนี้มากอะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(3-11-10)
เริ่มหัวข้อโดย: fellow ที่ 04-11-2010 21:13:27
เพิ่งได้โอนเงินวันนี้ (เมื่อวานไปถึงธนาคารจำไม่ได้ว่าต้องโอนเท่าไหร่ :serius2:)

แจ้งทางเมลล์แล้ว  ผิดผลาดยังไงบอกด้วยนะจ๊ะ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: over_dust ที่ 05-11-2010 12:19:26
อ้ากก!!  เราไม่รู้ว่าจะต้องโวยวายรึเปล่า? :serius2:

เราโอนเงินไปกับส่งเมลแจ้งโอน วันที่ 3 พ.ย.

แล้วได้เมล writer ตอบกลับมาแล้วด้วย

แต่มันไม่มีชื่อ ในรายชื่อ update วันที่ 5 พ.ย

แต่ เอ๊ะ หรือเราโวยเร็วไป!! -*-

แหะๆ ยังไงก็ขอความกรุณาด้วยค่า  :กอด1:



หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 05-11-2010 12:36:17
^
^
^
ต้องโวยคะต้องโวย ถือว่าช่วยทีมงานตรวจสอบอีกแรงนึงนะคะ

ที่ให้ออกมาโวยเพื่อที่จะได้ช่วยรีเช็คอีกแรงนึงเนี่ยแหละคะ

บางท่าน มียอดเงินเข้ามาตาม code นะคะ แต่รายการที่อยู่ยังไม่มีลงเอาไว้

เลยคิดว่าท่านนั้นยังไม่แจ้งโอน

แต่จริงๆแล้วคือ พอตอบเมลล์กลับ แล้วก็ลืมลงที่อยู่ลูกค้าซะงั้น :z3: :z3:

อนุญาตให้โวยวาย ทวงถามที่หน้ากระทู้ได้เต็มที่เลยนะคะ  :monkeysad:

ส่งเมลล์ไปได้รับหรือป่าวค่ะ

ชอบเรื่องนี้มากอะ

คุณkatomuen คะ ตรวจสอบในรายการแล้ว คนเขียนเค้าส่ง code โอนเงินไปให้แล้วนะคะ
ถ้าไม่มีในเมลล์ ตรวจสอบในเมลล์ขยะด้วยนะคะ ถ้ายังไม่มี ให้ออกมาโวยวายเลยคะ
อีก 5 วันเท่านั้น ก็จะปิดบัญชีสั่งพิมพ์แล้ว ทั้งตื่นเต้นทั้งหัวหมุนเลยคะ :monkeysad:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: katomuen ที่ 05-11-2010 14:13:16
ได้รับแล้วค่ะ พร้อมทั้งโอนเงินไปวันนี้ตอน เที่ยงอะ ไม่ทราบได้รับเมลล์หรือยังค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 05-11-2010 14:50:46
^
^
^
ได้รับแล้วคะ ขอที่อยู่จัดส่งด้วยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: katomuen ที่ 05-11-2010 15:04:35
^
^
^
ได้รับแล้วคะ ขอที่อยู่จัดส่งด้วยนะคะ  :กอด1:
ส่งกลับไปแล้วค่ะ  ส่งข่าวด้วยนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: iota ที่ 05-11-2010 20:04:46
เมล์ไปจองตอนนี้ยังทันมั้ยครับ.....^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 06-11-2010 00:49:48
^
^
^
ทันจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: archi_10_001 ที่ 06-11-2010 19:32:20
ในที่สุดช้อนก็อ่านจบ ดองไว้นานมากเจ้าค่ะ แบบว่า ติดสอบนั่นสอบนี่เป็นระยะเวลานานทีเดียว ช่วงที่ผ่านมา อิอิ ไม่มีสองคนนี้แล้วก็คิดถึง แต่ชอบ คุณน้องตี่ตี้มาก ๆ หงะ น่ารักน่าเอ็นดู ที่แท้ก็เป็นว่าแอบรักพี่ไม้อยู่นานถมถืด สองคณะนี้เราว่มันซื่อบื่อกันทั้งหมดรึเปล่า แบบว่าเขารักแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่องกัน ไรงี้ อิอิ

ชอบที่ปริ้นสกีนแคดห้องพักเฮียไม้มาให้ดูแบบว่า รายละเอียดเยอะมากหงะ เป็นอินทีเรียรึเจ้าคะ อิอิ เห็นแล้วคิดถึงเลย แต่ตอนที่วนเวียนอยู่กับมันก็เครียด (กับเจ้านาย) ทำอะไรไม่ถูกใจสักอย่าง ว้ากกกกกก คิดแล้วอยากกินหัว อิอิ

มีความสุขกับงานเจ้าค่ะ นับถือมาก ๆ เป็น tect แล้วยังมีเวลามาลงนิยายให้อ่านด้วย ขอบคุณเจ้าค่ะ อิอิ ไว้เจอกันเรื่องคุณดิน หายไปล้านตอนได้แล้วเรื่องนั้น เดี๋ยวรีบตามไปอ่านเจ้าค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: over_dust ที่ 06-11-2010 22:58:05
เอ่อ...ขอรบกวนอีกครั้งนึงน่ะค่ะ  :sad4:

คือจะถามว่ามีรายชื่อเราอยู่รึเปล่า? over_dust อ่ะค่ะ

คือตอนเราทำไปมันไปแบบมึนๆน่ะค่ะ แหะๆ

เลยไม่รู้ว่าทำไรผิดไปรึเปล่า? กังวลๆ

ขอความกรุณาอีกครั้งค่าาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 07-11-2010 13:40:09
^
^
^

มีคะสบายใจได้คะ มึนๆแต่ก็มาถึงคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: crazythe ที่ 07-11-2010 18:53:02
อ่านจบซะที  :serius2:

อยากบอกว่าชอบไม้ปลื้มอ่ะ  :-[

55+
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: iGiG ที่ 07-11-2010 19:15:27
เมลล์ไปจองวันที่ 5 อ่ะค่ะ แต่ยังไม่ได้รับเมลล์ตอบเลย
ไม่แน่ใจว่าตกหล่นรึเปล่าเอ่ย ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: crista ที่ 07-11-2010 20:22:19
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านจนจบ หลังจากติดสอบอย่างหนักมาทั้งเดือน

แล้วก็ค้นพบว่า เราตกหลุมรักท่านฉานกะเมฆเข้าซะแล้ว (แถมตี่ตี้อีกคน)

โดยเฉพาะฉานแสง ถ้ามีใครสักคนแบบนายคนนี้เข้ามาในชีวิต จะไม่ยอมให้หลุดรอดไปได้เลยเชียว

ใจจริงอยากซื้อหนังสือมากมายค่ะ แต่เดือนนี้เงินหมดแล้ว ขืนสั่งนิยายไปคาดว่าคงต้องกินมาม่าเป็นมื้อเย็นสักครึ่งเดือนได้  o22

เลยต้องยอมจำนนกับเรื่องปากท้องไว้ก่อน

ท้ายสุด ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งเขียนนิยายดีๆ อ่านสนุก มาให้ได้ติดตามกันอีกนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 07-11-2010 23:08:45
เมลล์ไปจองวันที่ 5 อ่ะค่ะ แต่ยังไม่ได้รับเมลล์ตอบเลย
ไม่แน่ใจว่าตกหล่นรึเปล่าเอ่ย ^^

>>>ตรวจสอบแล้วไม่มีเมลล์เลยอะคะ รบกวนส่งมาใหม่ได้มั้ยคะ
 หรือว่าจะรับ code ทาง pm ยังไงยืนยันมาก็แล้วกันนะคะ

ใจจริงอยากซื้อหนังสือมากมายค่ะ แต่เดือนนี้เงินหมดแล้ว ขืนสั่งนิยายไปคาดว่าคงต้องกินมาม่าเป็นมื้อเย็นสักครึ่งเดือนได้  o22

เลยต้องยอมจำนนกับเรื่องปากท้องไว้ก่อน

ท้ายสุด ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งเขียนนิยายดีๆ อ่านสนุก มาให้ได้ติดตามกันอีกนะคะ  o13

>>>>ไม่เป็นไรค๊า แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจมากแล้วนะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 08-11-2010 16:19:11
โอนเงินและก็แจ้งโอนเงินทางเมลล์ไปแล้วนะค่า
ถ้าผิดผลาดยังไงบอกด้วยนะค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: iGiG ที่ 08-11-2010 18:11:45
เมลล์ไปอีกครั้งแล้วค่า ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 09-11-2010 01:30:50
ได้รับเมลล์แล้วนะค่า
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: dee-dee ที่ 09-11-2010 11:16:32
ส่งเมล์ไปแล้วนะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 09-11-2010 13:21:50
ส่งเมล์ไปแล้วนะคะ :impress2:

ยังไม่เห็นเมลล์ของคุณdee-dee เลยอะคะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: dee-dee ที่ 09-11-2010 13:44:53
ส่งเมล์ไปแล้วนะคะ :impress2:

ยังไม่เห็นเมลล์ของคุณdee-dee เลยอะคะ  :monkeysad:

ส่งใหม่แล้วนะคะ  เอ่อ...พิมพ์อีเมล์ผิดซะงั้น
อ๊ายยยยยยย  อายยยยยยยยยยย :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 09-11-2010 13:50:04
ส่งเมล์ไปแล้วนะคะ :impress2:

ยังไม่เห็นเมลล์ของคุณdee-dee เลยอะคะ  :monkeysad:

ส่งใหม่แล้วนะคะ  เอ่อ...พิมพ์อีเมล์ผิดซะงั้น
อ๊ายยยยยยย  อายยยยยยยยยยย :sad4:

>>>>>ได้รับแล้วคะ  ส่งรายละเอียดให้แล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: golfzagame4 ที่ 09-11-2010 13:53:16
โอนไปแล้ว แต่ไม่เห็นชื่อตรงที่อัพเดตอ่ะค่ะ ?
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: order66 ที่ 09-11-2010 14:08:52
อ่านจบซะที เรื่องได้ใจน่ารักมากกก
สั่งเก็บแล้วนะครับ

เดียวตามไปอ่านเรื่องใหม่อีกครับ
ขอบคุณคนแต่ง

ปล.ดีใจกับรางวัลด้วยครับผม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: dee-dee ที่ 09-11-2010 16:11:43
โอนให้แล้วนะคะ 
รายละเอียดในเมล์จ้า :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-11-2010 16:13:28
ปิดโอนวันที่ 10 นี้หรอ  :laugh:

ว้าวๆเพิ่งเห็นว่าเลขสวย  :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: Fanun ที่ 09-11-2010 16:48:27
เพิ่งอ่านจบ ชอบมากๆ เลย ทั้งฉาน กะ เมฆ น่ารักๆๆ :-[

แอบชอบคู่ของไม้ด้วย เหอๆๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 09-11-2010 19:23:04
ปิดโอนวันที่ 10 นี้หรอ  :laugh:

ว้าวๆเพิ่งเห็นว่าเลขสวย  :mc4:


ป้าแน่ใจนะว่าเพิ่งเห็น ไม่ได้นั่งจ้องอยู่ กร๊ากกกกกกกกกกกกกก :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[เปิดจองนิยาย]อัพเดทคนโอนเงิน P.1(5-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: pay-it-forward ที่ 10-11-2010 11:16:57
ตามมาอ่านเรื่องนี้เพราะเห็นได้รางวัล
ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ หวานมาก น่ารักสุดๆ
ขอบคุณนะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ปิดรับจองและโอนเงิน & ข่าวประกาศ](10-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 11-11-2010 00:27:01
(http://glitter.postjung.com/data/2010111023/5di42gl.gif)


(http://glitter.postjung.com/data/2010111100/a7kdot.gif)


๐ ปิดรับจองและรับโอนเงินแล้วนะคะ

๐ ขออนุญาตแจ้งชื่อคนที่โอนเงินแล้วพรุ่งนี้นะคะ (เหลือเวลาให้คนที่โฮนเงินมาแต่ยังไม่แจ้งคะ)

๐ คนที่โอนเงินมาแล้วยังแจ้งโอนได้เรื่อยๆจนกว่าจะจัดส่งนะคะ

 ๐ สำหรับการสั่งพิมพ์ครั้งนี้ คนเขียนสั่งเป็นจำนวนเต็มคะ เพราะฉะนั้นจะมีหนังสือเหลือจากยอดคนโอนมานิดหน่อย (ไม่ถึง 10 ชุด)
  หากคนที่มีชื่อจองแต่โอนเงินไม่ทันจะโอนเงินมาใช้สิทธิ์จำนวนที่เกินนี้ได้ภายในวันศุกร์นะคะ ถ้าครบจำนวนแล้วคนเขียนจะแจ้งให้ทราบคะ
  หากมีคนโอนมาเกินจำนวนที่เหลือ คนเขียนจะโอนคืนนะคะ หรือถ้าไม่แน่ใจเมลล์หรือโทรมาถามได้ตามเบอร์ที่แนบไว้ในเมลล์แจ้ง Code โอนเงินคะ

๐ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้นะคะ ขอบคุณจริงๆคะ :pig4:

อย่าลืม!!! มาตรวจสอบชื่อคนโอนเงินในวันพรุ่งนี้นะคะ
 

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ปิดรับจองและโอนเงิน & ข่าวประกาศ](10-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 11-11-2010 21:32:50
เข้ามาดูชื่อคนโอนอ่ะ เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ปิดรับจองและโอนเงิน & ข่าวประกาศ](10-พ.ย.)
เริ่มหัวข้อโดย: iota ที่ 11-11-2010 22:17:54
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อ่านแล้วประทับใจจริงๆ
จนต้องรีบจองและซื้อหนังสือเก็บไว้อ่าน..
ความจริงไม่ได้เข้ามาอ่านนิยายในเล้าหลายเดือนแล้วครับ
เพราะมัวแต่เล่น"เฟสบุ๊ค"จนไม่มีเวลาอ่านนิยาย :really2:
จนเมื่อไม่นานนี้ได้เข้ามาอ่าน เรื่องของพี่ดิน{ภูตะวันvsเพียงดิน}
เพียงแค่ได้อ่านแค่ตอนแรกของเรื่องเท่านั้นผมต้องเลี้ยวกลับเพื่อเข้ามาอ่าน
"เมื่อแหงนมองจันทร์ผมเ็ห็นตะวัน"และขอบอกว่าไม่ผิดหวังเลยครับ
มันมีความน่าสนใจที่ทำให้ผมอยากอ่าน อยากติดตาม อยากรู้เรื่องราว สุข เศร้า ร้องไ้ห้ไปกับมันเลยก็มี
อ่านตัวหนังสือตั้งแต่ตอนแรกยันตัวสุดท้ายของตอนจบ..แต่งได้เก่งจริงๆ
เพียงแค่ได้อ่านหนึ่งตอนของ"พี่ดิน"ทำให้เจอเรื่องที่ประทับใจอีกหนึ่งเรื่อง
อีกหนึ่งความรักที่แสนอบอุ่น :กอด1:

ขอบคุณ TRomance
ขอบคุณ Seiki คนโพสด้วยครับ

**ตอนนี้กำลังลุ้น พี่ดิน นักเลงใหญ่อยู่ครับ o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 12-11-2010 01:37:09
(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_1.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_2.jpg)  

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_3.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_4.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_5.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_6.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_7.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_8.jpg)

 (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_9.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_10.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_11.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_12.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_13.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_14.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_15.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_16.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_17.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_18.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_19.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_20.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_21.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_22.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_23.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_24.jpg)

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_25.jpg)  (http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/update_26.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/c70/update_27.jpg)


๐ สำหรับคนที่โอนเงินมาแล้ว แต่ยังไม่มีชื่อเพราะยังไม่ได้แจ้งโอน อย่าลืมแจ้งนะคะ

๐ ในรายการนี้ยังไม่มีชื่อคนที่โอนเงินมาวันนี้นะคะ [11.11.10]

๐ หนังสือและปกผ้ามาส่งเมื่อไหร่ คนเขียนจะรีบแพ็คส่งทันทีคะ น่าจะภายในสัปดาห์หน้า

๐ สำหรับคนที่โอนเงินไม่ทันแต่แจ้งคนเขียนไว้ คนเขียนสั่งเผื่อให้แล้วเรียบร้อยนะคะ

๐ สำหรับคนที่โอนมัดจำ คนเขียนขออนุญาตส่งให้หลังจากโอนส่วนที่เหลือมาแล้วนะคะ

๐ สำหรับคนที่ถามว่าสั่งมาเกินหรือเปล่า ขอแจ้งให้ทราบว่า คนเขียนสั่งให้เป็นจำนวนเต็มแบบเลขลงตัว
เพราะฉะนั้นจะเหลือเศษอยู่จำนวนหนึ่ง ตอนนี้เศษนั้นเหลือ 3 ชุด ณ.ตอนที่คนเขียนแจ้งนะคะ ไม่นับรวมคนที่ตีตราจองผ่านทางเมลล์นะ

 ๐ ช่วยกันดูชื่อของตัวเองนะคะ ถ้าตกหล่นใครไป ให้โวยวายที่หน้ากระทู้หรือทางเมลล์ได้เลยคะ จะได้ช่วยกันดูเนอะ เซมากูเตะบอกว่าตาลาย  :laugh:
ตั้งแต่ฝากรูปแล้ว

๐ ขอบคุณทุกๆคนมากคะ TRomance
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 12-11-2010 10:18:55
มีชื่อแล้วเจ้าค่ะ รอรับหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ ฮ่าๆๆๆๆ
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 12-11-2010 11:03:08
เจ๊....ชื่อหนู !!!!!!!      :serius2:














มีชื่อหนูด้วย.....อิอิ    :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 12-11-2010 12:25:19
เจ๊....ชื่อหนู !!!!!!!      :serius2:














มีชื่อหนูด้วย.....อิอิ    :-[

 :z6: :z6:

อุ๊ยยยยย  มันกระตุกคะดาว เท้าเจ้มานพลาด  :laugh: :laugh:

หึหึ ทำช๊านตกใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 12-11-2010 14:54:05
มารับทราบค๊าบมีชื่ออยู่คนแรกเลยอิอิ
จะนั่งรอรับพี่เมฆพี่ฉานอยู่ที่บ้านจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ :กอด1:
ขอบคุณน๊าค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 12-11-2010 15:01:09
นับถอยหลังรอ  อิ อิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 12-11-2010 15:07:53
มีชื่อแย้วววววว~ :sad4:
จะนั่งรอท่านฉานอยู่บ้านอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ~ :กอด1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Alen ที่ 12-11-2010 18:40:48
มีชื่อแว้วววววว   o7

ตอนนี้ก็นั่งรอ นอนรอท่านฉาน มาเร็วๆๆๆๆน้า   :m18: :m18: :m18:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 12-11-2010 23:06:39
ปูเสื้อรอค่าาาา
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: whitesariw ที่ 13-11-2010 12:54:12
หึหึ... หึหึหึหึ...

มีชื่อแว้ว   :impress2:

รอหนังสือมาส่ง  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-11-2010 15:26:36
 :impress2:

ขอบคุณครับ


 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: pocoyo_ohh_yho ที่ 13-11-2010 16:37:08
ปูเสื่อรอวันอ่านเลยค่าาาาาาาาาาา

อยากอ่านเร็วๆจัง

:)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: monster_narak ที่ 13-11-2010 16:43:44
 :laugh:

ว้ากกกก

ปูพรหมรอค้ะ  อิอิ

อิชั้นอยากกกค้ะ
อยากได้มากก

ตื่นเต้นจัง ขอบคุนนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 13-11-2010 17:06:45
 :jul1:ใกล้ได้ หนังสือมาอยู่ในครอบครองแล้วอิอิ o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจū
เริ่มหัวข้อโดย: snowfallen ที่ 14-11-2010 00:51:06
เจอแล้วววววววววววววววววววววว

ขอโทษค่ะที่ไม่เช็คให้ดี ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 14-11-2010 17:33:14
รอ ร๊ออ รอ  อยากอ่านอีกรอบ :m1:


ขอบคุณมากๆนะค๊า  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: ishiya ที่ 14-11-2010 22:21:09
รอพี่เมฆและฉานเเสงด้วยคน  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: kdragon ที่ 15-11-2010 22:07:19
ฮา~~~~~~~~ ชื่อข่อยอยู่ไส
มีหรือไม่มีหว่า ชักจะมึนแล้วเหมือนกันนะเนี้ย @-@/
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: akanae ที่ 15-11-2010 23:27:42
มีชื่อเรียบร้อย
รอหนังสือมานอนกอดที่บ้านงับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Cupcake ที่ 16-11-2010 17:28:49
เจอชื่อตัวเองแล้ววววว

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: sapphire winnie ที่ 17-11-2010 00:20:41
เสียดายไม่ได้สั่งซื้อ T^ T
แต่มาขอเริ่มตามอ่านตอนนี้นะ :D
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 17-11-2010 11:20:48
อยากได้หนังสืออ่ะ ยังพอจะทันมั้ย :serius2: :serius2: :m15: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 18-11-2010 22:24:09
สมาชิกใหม่จ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จัก คะ


เย่ๆๆๆๆๆ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 18-11-2010 23:49:06
เอารุปบรรยากาศ โรงงานนรกมาให้ดูค่ะ

(http://image.ohozaa.com/i/089/101118_222949.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/c4d/101118_222851.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/8b1/101118_222916.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/a20/101118_222838.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/c4d/101118_222851.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/9be/101118_222931.jpg)

ขออภัยในความล่าช้านะคะ ตอนนี้กำลังแพคของ แต่ติดขัดเรื่องปกผ้าที่ทางร้านส่งให้ล่าช้า
คาดว่าของคงส่งได้ราวๆวันจันทร์ ต้องขอ อภัยจริงๆค่ะ

 o1 o1 o1

ส่วนใครที่สอบถามเรื่องหนังสือ ว่ามีเหลือมั้ย ขอเช็คก่อนนะคะว่าจะมีเหลือบ้าง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: ishiya ที่ 19-11-2010 00:50:40
นับถอยหลังรอพี่เมฆกับพี่ฉาน ตื่นเต้นจะได้หนังสือมานอนกอด  :laugh:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Cupcake ที่ 19-11-2010 04:22:43
ตื่นเต้นจังเลยยยยย :impress3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 19-11-2010 09:06:29
โออออ โรงงานนรกจริงๆ ด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 19-11-2010 09:35:33
กรี๊ดดดดดดดดดดด
ยิ่งเหนแบบนี้ยิ่งตื่นเต้นค่ะ
นับวันรอที่จะได้หนังสือ
 :m3:

เอาใจช่วยให้ห่อเสร็จไวๆด้วยนะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 19-11-2010 10:39:20
ไม่ทราบว่าโรงงานอยู่แถวใหนจ๊ะ อยากไปช่วยแพ็คจริงเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: chaiiyawit ที่ 19-11-2010 12:55:54
น่าสงสารคนแพ็คจริงๆ บ้านอยู่ไกล๊ ไกล หุๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-11-2010 13:50:51
นั่งแพคกันสองคนสงสารสุดๆ  :laugh: เมื่อคืนกล้องหลุดไปก่อนเสียดายไม่ได้ดูต่อ
เมื่อคืนนอนกี่โมง ตอนตีห้ายังนั่งกันอยู่นิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: ishiya ที่ 19-11-2010 14:52:35
โรงงานนรกจริงๆ  :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: vickytale ที่ 19-11-2010 16:28:35
ยังเหลือไหมอ่าคับขอร้องอยากได้อ่า ผมเป็นเด็กไหม มาไม่ทันอ่าคับ :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: genki ที่ 19-11-2010 17:07:36
เห็นแล้ว ชื่นใจอยากได้ไว ๆ คะ ทุ่มเทจริง ๆ คะ ^^

จะรอนะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 19-11-2010 20:06:04
เห็นรูปแล้วตื่นเต้น  จะได้หนังสือแล้วววว   :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 19-11-2010 20:33:19
ตื่นเต้นจัง เตรียมตัวนับถอยหลัง รอรับหนังสือ

 :z2: 

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: pungplaza ที่ 20-11-2010 11:57:40
จะเดินไปข้างหน้า จะถอยหลัง จะหมุนซ้าย หมุนขวา

ระวังด้วยนะคะ...   :jul3:

สู้ ๆ ค่าาาาา

นอนรอพี่เมฆ กับ ท่านฉานนนนน  :กอด1:

 :กอด1: +  :L2: ให้กำลังใจค่ะ

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 20-11-2010 12:23:56
ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆนะคะ..
สนุกมากๆๆ  ชอบในความรักของพี่เมฆกับท่านฉานจริงๆ  o13

เสียดายมาตามอ่านช้าไปหน่อยอดสั่งหนังสือเลย..... :z3:


แต่แค่ได้อ่านก็สนุกมากๆจ้า  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: pocoyo_ohh_yho ที่ 20-11-2010 12:42:46
โอ้ยยยยย ตื่นเต้น

อยากได้เร็วๆจังเลยเจ๊ 

นับวันรอแล้ว

:)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie_min ที่ 20-11-2010 14:14:10
ตั้งหน้าตั้งตารอนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 20-11-2010 22:38:30
ได้อ่านเรื่องนี้เพราะ ไปอ่านเรื่องพี่ดิน มา ส่งสัยว่าพี่เมฆเป็นใคร เลยตามมาอ่านดู  แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ชื่อเรื่องก็ดี เนื้อเรื่องก็สนุก  o13แต่เสียดาย มาไม่ทันตอนจองหนังสือ  :monkeysad:อยากได้เก็บไว้อะ พอจะมีเหลือบ้างหรือเปล่า  ค่ะ แต่ยังไง ก็ฝากเนื้อฝากตัวเป็นแฟนพี่เมฆด้วยอีกคน ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 20-11-2010 22:50:22
ตอนนี้ หนังสือที่สั่งเพิ่มมาเหลืออีก 4 ชุดคะ ถ้าสนใจเมลล์มาที่ romanceficแอดhotmail.co.th นะจ๊ะ

พรุ่งนี้อย่าลืมมาดูเลขรับพัสดุกันนะจ๊ะ ส่งของกันเช้าวันอาทิตย์จ้า

ขอบคุณทุกๆคนอีกครั้งจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Cupcake ที่ 21-11-2010 01:50:55
^
^
^
เย้
ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-11-2010 13:30:29
ได้ feel โรงงานนรกจริงๆ
แต่ก็ทำให้ทางนี้ตื่นเต้นมากๆ
รอเปิดซิงฉานกับเมฆ ฉบับหนังสือ
หุหุหุ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: monster_narak ที่ 21-11-2010 18:23:48
 :monkeysad: :กอด1:
ตื่นเต้นแล้วค่ะ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เราอยากได้จัง  อิอิอิ
ไรเตอร์สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Maimai ที่ 21-11-2010 18:24:38
รออยู่น้าาาาาา :-[



หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance[ประกาศรายชื่อคนโอนเงินครั้งสุดท้าย](11-พ.ย.)P.75
เริ่มหัวข้อโดย: kj_blue ที่ 21-11-2010 19:16:57
กรี๊ดดดดดดดดดดด....รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 22-11-2010 03:19:52
๐ สวัสดีคะทุกคนมีข่าวดีมาบอกว่า ส่งของครบแล้วนะคะ ดีใจมากๆ

๐ หวังว่าทุกคนได้รับของแล้วจะดีใจเหมือนคนส่งนะ อย่าลืมมาแบ่งปันความรู้สึกด้วยนะคะ

 ๐ ใครที่ได้รับหนังสือแล้วอยากอ่านพี่เมฆอีกรอบให้อดใจไว้ก่อน ไปอ่านเรื่องสั้นที่แต่งพิเศษเพื่อการนี้โดยเฉพาะก่อนนะคะ

 ๐ ใครอ่านจบแล้วมาบอกความรู้สึกด้วยนะ ว่าคุณคนเดียวกับขลุ่ยใน คุณคนเดียว แต่ เราสองคน เป็นยังไงบ้าง คนเขียนตั้งตารอ comment เลยนะจ๊ะ

๐ สำหรับใครที่พลาดโอกาสพี่เมฆคนเขียนสั่งเพิ่มให้แล้วนะไม่ใช่ไม่เพิ่ม :sad4: แต่ถึงสั่งเพิ่มแล้วมันเหลือ 4 ชุดและตอนนี้ก็มีคนจองหมดแล้วจ้า สำหรับ4ชุดนี้พร้อมส่งเลยนะจ๊ะ

๐ ส่วนคนที่จับจอง 4 ชุดนี้ไม่ทัน และพอดีกับที่ปกผ้าทำเหลืออยู่ตอนนี้ 27 ปกคนเขียนเลยเปิดให้จองอีกครั้งแต่จำจัดจำนวนเท่าปกผ้าที่มีนะจ๊ะคือ 27 ชุดเท่านั้นจริงๆ
ภายในวันที่ 5 ธันวาคมเท่านั้น ถ้าครบจำนวนก่อน คนเขียนจะสั่งพิมพ์ก่อนจ้าแล้วในอนาคตข้างหน้าจะรีปริ๊นมั้ยค่อยว่ากันมัน ยากตรงปกผ้านี่แหละ
ไหนจะเย็บไหนจะสกรีน จำนวนน้อยๆเค้าก็ไม่ค่อยทำกัน
ถ้าใครพลาดพี่เมฆแล้วสนใจก็เมลล์มาจองได้ที่ เมลล์ด้านล่างนี้นะจ๊ะ


(http://image.ohozaa.com/iw/ymail.jpg)

๐สำหรับคนที่รอคอยพี่เมฆอยู่กับบ้านนั้น จดจำเลขรับพัสดุให้ดีนะคะ ถ้าล่าช้าเกินกว่าสามวันสำหรับกรุงเทพและปริมณฑลและ 7 วันสำหรับต่างจังหวัดให้ผู้รับโทรเชคสถานะพัสดุว่าอยู่ในขบวนการไหนแล้ว หากยังไม่ถึงสถานีปลายทางภายในวันที่คนเขียนบอกไว้นี้ ให้เมลล์มาที่คนเขียนโดยด่วนคะ จะตามจองล้างจองผลาญพี่ไปรษณีย์ให้

 ๐ อย่าลืมนะคะว่าคนเขียนรออ่าน comment หลังจากได้รับหนังสือของทุกคนอยู่ มาส่งเสียงกันเยอะๆนะคะว่ารู้สึกยังไง มีอะไรที่ต้องปรับปรุงมั้ย สำหรับคนเขียนคนนี้วิจารณ์ได้เต็มที่ไม่มีงอนจ้า

๐ ขอบคุณทุกคนมากๆเหมือนเดิมนะคะ

๐ TRomance

(http://image.ohozaa.com/i/0f9/number1.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/639/number2.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/860/number3.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/37c/untitled4.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/d8a/number5.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/414/number6.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/1c3/number7.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/ea4/number8.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/947/number9.jpg)

 :pig4: :pig4:

(http://image.ohozaa.com/i/947/number9.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/bd3/wbook.jpg)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 22-11-2010 10:48:46
เยอะมากอ่ะ เกือบหาชื่อตัวเองไม่เจอ ต้องกลับมาดูรอบสอง ฮ่าๆๆ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 22-11-2010 10:51:23
เย้ๆๆๆๆๆได้รับหนังสือแล้วนะค่า :man1:
อยากบอกว่าชอบปกผ้ามากๆน่ารักอ่ะที่คั่นหนังสือก็น่ารักมากเลยค่ะชอบทุกอย่างเลย :m3:
เดี๋ยวอ่านคุณคนเดียวจบจะมาเม้นบอกนะค่า
ขอบคุณนะค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 22-11-2010 10:57:14
พึ่งได้รับหนังสือเหมือนกันครับ

มันดูดี... จนเกือบไม่กล้าแกะเลยแฮะ (มือสั่นมากๆ)

ขอบคุณมากๆๆๆ ครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 22-11-2010 11:04:20
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
มีคนได้รับหนังสือแล้ว

คุณไปรบ้านเราทำอะไรอู่
ทำไมยังไม่มา
 :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: YYY ที่ 22-11-2010 11:57:42
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ :impress2: อืม....ปกผ้า...แปลก+สวย+ชอบค่ะ ตั้งแต่บริโภคนิยายมาไม่เคยเห็นแบบนี้ไอเดียเค้าดีจริงๆ  o13
ไว้วันหลังลองทำไว้สวมหนังสือสะสมบ้างดีกว่า(ท่าจะไม่ยาก...มั้ง :serius2:)
ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: genki ที่ 22-11-2010 11:59:15
ได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้วคะ ปกผ้างามมาก ๆ น่ารัก ^^ ชอบมากคะ

สอง-สามวันนี้จะนอนอ่านให้ชุ่มปอดเลยคะ  :-[

แล้วจะมาแจ้งให้ทราบนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: leeO5 ที่ 22-11-2010 12:03:29
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ หนังสือและปกผ้าสวยได้ใจมากๆ

อ่านเรื่อง คุณคนเดียวแต่เราสองคนแล้ว ชอบ ชอบ ชอบ

อยากอ่านเป็นเรื่องยาวอะ มีความรู้สึกว่าถ้าเป็นเรื่องยาวต้อง

สนุกมากกกกกกกกกกก เปลี่ยนเป็นเรื่องยาวเถอะนะคะอยากอ่าน

มาก มาก ขอบคุณสำหรับหนังสือสวยๆและนิยายสนุกๆค่ะ

Rattiya
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-11-2010 12:50:43
 :z3: หนังสือยังไม่มาอะ แง๊
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: arm32505 ที่ 22-11-2010 13:15:34
ได้แว้วจ้า คุคุๆๆๆ  :laugh: :laugh: :laugh:


ปล.ปกผ้าสวยมากงับ :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 22-11-2010 16:15:18
ได้รับพัสดุแล้วครับ
ยังไม่ได้แกะเลย *0*
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: ishiya ที่ 22-11-2010 16:36:06
แวะเข้ามาบอกว่า ได้รับหนังสือมานอนกอดเรียบร้อยแล้วแต่เช้ากันเลย  o18
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: tueylove ที่ 22-11-2010 16:57:13
ได้รับหนังสือแล้วค่ะเมื่อกี้เองสดๆร้อนๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: sogato ที่ 22-11-2010 17:10:51
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 22-11-2010 18:04:08
ได้รับหนังสือแล้วค่า

รูปเล่มสวยคะ มีถุงผ้าใส่อีกที ชอบๆค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: kj_blue ที่ 22-11-2010 18:41:36
กรี๊ดดดดดดดดด สุโค่ย..ชอบถุงผ้ามั่กมากกกกกกกก

ขอบคุณนะค๊ะ ^-^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 22-11-2010 19:03:11
ชอบถุงผ้ามากค่ะ   น่ารักมากกกก   ดูดีสุดๆๆๆ
รับรู้ความรักของไรเตอร์ >> ผ่านถุงผ้า >> มาหาคนอ่านนะคะ
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 22-11-2010 19:08:09
ยังไม่ได้เหมือนกัน อิจฉาคนที่ได้จริง ๆ
โอมเพี้ยง ! พรุ่งนี้จงมา ๆ ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 22-11-2010 20:33:41
ได้รับแล้วเหมือนกันค่ะ

ชอบกระเป๋าผ้า่จัง

รอบพี่ดิน  ขอกระเป๋าผ้าอีกน่ะค่ะ จะได้เข้าเซตกันอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: maymun ที่ 22-11-2010 20:35:54
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ สวยควรค่าแก่การสะสมมากๆๆๆๆ
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: sogato ที่ 22-11-2010 21:00:06
ได้อ่านเรื่องพิเศษแล้วค่ะ ชอบมากค่ะ ทั้งคุณคนเดียวและขลุ่ย แล้วก็สั้นมากค่ะ ไม่รู้สึกว่าอยากให้จบเร็วเลยค่ะ
มันยังได้อีกใช่มั้ยค่ะเรื่องราวต่อไปหลังจากนี้ อยากอ่านอีกมากๆค่ะ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Maimai ที่ 22-11-2010 21:06:02
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ


เป็นปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม :o12: :o12: :o12:


ตอนพิเศษสนุกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 22-11-2010 21:16:12
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ

ถุงผ้าน่ารักมากๆเลย

ขอบคุณนะคะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 22-11-2010 21:42:37
ได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้วค่ะ กระเป๋าผ้าดูดีมาก ที่คั่นหนังสือก็ไซส์กำลังพอดีไม่เทอะทะไป
ตอนนี้กำลังนอนอ่านอยู่ ขอตัวไปอ่านต่อละกัน พี่เมฆ พี่ฉาน อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: panpan ที่ 22-11-2010 21:46:19
ได้รับเรียบร้อยแล้ว วันนี้เลย :pig4:

แต่ยังไม่มีเวลาอ่านง่ะ  :z3: ยุ่งสุดๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: sweetener ที่ 22-11-2010 21:55:12
เข้ากระทู้นี้ด้วยความอิจฉา

ยังไม่ได้หนังสือเลยยยย  อยากอ่านแล้ว

คุณไปรษณีย์จ๋ารีบส่งหนังสือให้หนูหน่อยจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: iota ที่ 22-11-2010 22:29:43
อ่าน "คุณคนเดียวแต่เราสองคน" แล้วครับ
เป็นเรื่องสั้นที่เรียกน้ำตาและรอยยิ้มได้ในเวลาไม่กี่นาที
ชอบครับอ่านแล้วเพลินดี...
อาจจะมีคำที่เขียนผิดไปบ้างแต่ก็น้อยมากไม่เป็นปัญหาแต่อย่างไร
ไอเดียเรื่องปกผ้าสวยดีไม่ซ้ำแบบใครและก็ทำให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของผู้แต่ง
ที่ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้อ่าน
ถึงแม้ว่าการใส่หนังสือกลับเข้าไปในปกผ้าจะต้องใช้ความพยายามสักหน่อย
แต่ก็ไม่เกินความสามารถ..ทำให้รู้ซึ้งเลยว่าผู้แต่งกับทีมงานต้องใช้ความพยายาม
และอดทนแค่ไหน ในการบรรจุหีบห่อและส่งมอบ...เพื่อส่งความสุขมาให้นักอ่าน
อย่างเราๆ
 o14ต้องขอขอบคุณและขอชมเชยผู้แต่งที่ทำหนังสือชุดนี้ได้ถูกใจผมจริงๆ :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Cupcake ที่ 22-11-2010 23:23:09
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ
สวยจนไม่กล้าเปิดอ่านเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: order66 ที่ 23-11-2010 10:12:52
อ่านแล้วครับ ได้แต่ "นมอึ้ง" หึหึ
ทุกข์ สุข เศร้า เข้าจังหวะ ไม่มีขาด
เรื่องพ่อเคลียร
แต่เรื่องลูกยังอ่อนไปหน่อยครับ เลยทำให้ยังไม่รู้สึกถึงความสัมพันธ์ก่อนหน้าของคุณคนเดียวกับขลุ่ยมากนัก (แต่ได้กันก็พอใจละ ฮ่าๆๆๆ)

ติอย่าเดียวสั้นไปหน่อย(เค้าว่ามันเรื่องสั้นนิหว่า ฮ่าๆๆ)
















ป.ล.

ชอบช่วงหมอมาก ถ้าเจอกับตัวหมอบอกแบบนี้คงอายเอาหน้ามุดดินหนีไปละ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 23-11-2010 11:27:17
ได้รับของแล้ว แต่ว่าคนอ่านเดินทางออกมาซะก่อนอ่ะ
กว่าจะได้กลับบ้านไปอ่านก็อีกตั้งหลายอาทิตย์ เศร้าอ่ะ อยากอ่านนนนน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: sweetener ที่ 23-11-2010 11:32:18
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ  แต่ยังไม่ได้เริ่มอ่านเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 23-11-2010 11:43:33
ได้รับแล้วค่ะ อาร์ตเวิร์คสวยเหมือนหนังสือเครืออะเดย์ 55 ชอบไอเดียที่คั่นแม่เหล็กกับถุงผ้ามากค่ะ แต่แอบใส่ยาก กลัวพาลปกจะย่น แอบย่นไปหน่อยแล้วตอนยัดกลับหลังเอาออกมาชื่นชม กีสสสสสสสสสส

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: TaMa ที่ 23-11-2010 13:59:04
ได้รับแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: sweetiiez ที่ 23-11-2010 14:54:46
:sad4: ไม่ทันชาวบ้านเค้าแต่เรื่องนี้น่ารักมาก
ฉานแสงหื่นตัวพ่อเลยง่ะ หลงรักเมฆกับฉานสุดๆเลย
คู่ไม้กับน้องปลื้มก็น่ารัก >__<
มาช้าไป เสียดายมากเลย แถมจองหนังสือไม่ทันด้วย
เห็นหนังสือแล้วก็อยากได้บ้าง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-11-2010 14:57:26
เข้ามารายงานตัวว่าได้ท่านฉานกับท่านเมฆมาไว้ในมือแว้วววว :m1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 23-11-2010 15:40:55
ตอนนี้ ไ้ด้รับหนังสือแล้วนะคับ
หน้าปกสวยมากคร๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Cryingman ที่ 23-11-2010 16:36:59
:sad4: ไม่ทันชาวบ้านเค้าแต่เรื่องนี้น่ารักมาก
ฉานแสงหื่นตัวพ่อเลยง่ะ หลงรักเมฆกับฉานสุดๆเลย
คู่ไม้กับน้องปลื้มก็น่ารัก >__<
มาช้าไป เสียดายมากเลย แถมจองหนังสือไม่ทันด้วย
เห็นหนังสือแล้วก็อยากได้บ้าง :เฮ้อ:


เค้าเปิดจองรอบเก็บตกอยู่คะ ยังมีโอกาสอยู่นะ   :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: katomuen ที่ 23-11-2010 16:59:04
ส่งตั้งแต่วันไหนค่ะ  จะได้นับวันรับเพราะอยู่บ้านนอก

ยังไม่ได้รับเลยอ่ะ อยากอ่านเหมือนกับคนอื่นเหมือนกันอิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: sunda ที่ 23-11-2010 17:24:17
พึ่งอ่านจบอะ เค้าอยากได้หนังสืออะ  o9

ยังมีโควต้าหนังสือเหลืออยู่ป่าวเนี้ย

 :impress3: อยากอ่านตอนพิเศษด้วยอะ

ไปตามอ่านเรื่อง [ภูตะวัน vs เพียงดิน]เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง ต่อ  :oni1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 23-11-2010 19:20:03
เย้ ได้รับหนังสือแล้ว กระเป๋าผ้าใส่หนังสือน่ารัก มาแนวแปลกดี
ขอชมคนบรรจุหนังสือลงกระเป๋ามีความสามารถมาก กระเป๋าใบนิด
เดียว แต่สามารถใส่ลงไปได้คงต้องใช้ความประณีตบรรจงอย่างมาก
ขอบคุณคนคิดรูปแบบนะคะ ชอบมากค่ะ ....จะไปอ่านตอนพิเศษแล้ว
ได้มาเมื่อเช้าแต่ไม่สามารถเปิดอ่านได้ (ที่ทำงาน) กลัวถูกยืม  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 23-11-2010 19:39:17
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ
ชอบปกและกระเป๋าผ้ามากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 23-11-2010 20:45:32
ได้ดวงตะวันกับก้อนเมฆมานอนกอดแล้ว

ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-11-2010 21:09:21
แบบว่าอยู่บ้านนอก
เลยต้องตั้งหน้าตั้งตารอต่อไป
อิจฉาคนที่ได้รับหนังสือก่อน
อยากอ่านคุณคนเดียวฯ มากๆ :z3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Saffron ที่ 24-11-2010 00:04:56
เพิ่งอ่าน น้องขลุ่ยจบ



โอ๊ยย น้ำตาไหลเลยย~


สงสารขลุ่ยอ่ะ คุณคนเดียวโหดร้ายเกินไปแระ
ปากแข็งอีกต่างหาก -*-


ถ้าน้องเค้าไม่ป่วยขนาดนั้นจะไม่ยกโทษให้จริงๆ ใช่ไหม??



เฮ้อออ....แต่ตอนน่ารัก ก็น่าัรักสุดใจจริงๆ
-///////////-


5555555
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 24-11-2010 03:44:31
ได้รับหนังสือแล้วนะคะ ^^ ไอเพิ่งสังเกตว่าข้างในมีหน้าแบบเส้นตารางด้วย แล้วยังถุงผ้าอีก ไอเดียนี้เก๋ไก๋สไลเดอร์ไปเลยค่ะ!  :m4:

ไอชอบถุงผ้ามากเลย :m3:


แต่.. ถุงผ้าดูเหมือนจะคับมากเลยอ่ะค่ะ ใส่หนังสือกลับเข้าไปทีกลัวผ้าปริ&หนังสืองอมากมาย
และ เอ่อ...ที่ขั้นแม่เหล็กดูเบี้ยวๆด้วยอ่ะค่ะ แบบนี้คือปกติใช่ไหมคะ?
 :try2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 24-11-2010 09:15:36
เข้ามาบอกว่า ชื่อจอง canond ได้รับหนังสือแล้วคะ ยังไม่ได้เปิดออกจากกล่อง  :laugh: เพราะแม่บ้านเอามาให้ตอน 5 ทุ่ม ตอนเช้ารีบมาทำงาน คงต้องรอเปิดตอนเย็น ๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 24-11-2010 16:36:50
ได้รับหนังสือแล้วนะครับ แพ็คเกจ สวย ปกสวย

ถูกใจมากกกกกกกกกกก

 :L2:

ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆ มาให้อ่านนะครับ

 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: pann ที่ 24-11-2010 17:34:53
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: cipher ที่ 24-11-2010 18:29:29
ได้รับหนังสือแล้ว ดีใจมากมาย :oni2:
ชอบหมดเลยทั้งที่คั่นหนังสือและถุงผ้า
แต่ตอนเอาหนังสือใส่กลับเข้าไปในถุงผ้า
มันใส่ยากจัง กลัวหนังสือยับอ่ะ
ขอบคุณมากสำหรับเรื่องดี ๆ น๊า  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: minsunye ที่ 24-11-2010 20:08:58
ได้รับหนังสือแล้วคับ ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-11-2010 20:45:53
ได้รับหนังสือแล้วจ้า แต่ห่อผ้านี่อืมมมรู้สึกเฉยๆนะ เพราะคิดถึงในแง่การใช้งานมากกว่า คือว่ามันสวยอย่างเดียวอ่ะ แต่จะเอาไว้ห่อหนังสือรึก็กันอะไรไม่ได้ แถมเวลาใส่หนังสือคืนก็ต้องค่อยๆใส่เพราะกลัวมุมหนังสือจะยับ นิสัยพี่ก็นะใจร้อนอีกต่างหาก 
ถ้าห่อผ้ามีสายเอาไว้หิ้วหรือถือก็คงดีเนอะ

ปล.ไม่ว่ากันนะ เพราะห่อผ้านี่รู้สึกยังงี้จริงๆ ส่วนหนังสือเดี๋ยวจะค่อยๆอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-11-2010 20:59:59
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ
รู้สึกเห็นใจตอนที่แพคส่งหนังสือมาก โดยเฉพาะคนที่ต้องเอาหนังสือใส่ปกผ้า ตั้งไม่รู้กี่ร้อยเล่ม เพราะมันพอดีจริงๆ
หรือว่ามีเทคนิคพิเศษอะไรมั้ย ช่วยแนะนำด้วย กลัวปกยับ
สำหรับปกหนังสือรู้สึกเฉยๆค่ะ เพราะมันเรียบๆ แต่จะเห็นว่าในเล่มมีลูกเล่นในการจัดหน้า
หรือตัวอักษรที่หลากหลายดี  ชอบบาร์โค้ดมาก
สำหรับคุณคนเดียว อ่านแล้วสงสารขลุ่ยจริงๆ แต่ก็ดีใจทีจบแฮปปี้นะ เนี่ยถ้าขลุ่ยไม่ช็อค
คุณเค้าจะรู้ใจตัวเองมั้ยเนี่ย :angry2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-11-2010 21:30:57
 :-[

ได้รับหนังสือแล้วครับ....

ขอบคุณมากนะครับ..


 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Alen ที่ 24-11-2010 21:58:27
ได้รับหนังสือแล้วค่า  :impress2:

แต่ยังไม่กล้าอ่าน เดี๋ยวไปหาปกใสใส่ก่อน ฮิฮิ

(ถ้าใส่ปกใส แล้วมันจะยัดใส่ถุงผ้าได้ไหมนี่)

เดี๋ยวไปตามอ่านเรื่องต่อไปค่า^^

ขอบคุณค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 24-11-2010 22:26:45
ได้รับหนังสือแล้วจ้า แต่ห่อผ้านี่อืมมมรู้สึกเฉยๆนะ เพราะคิดถึงในแง่การใช้งานมากกว่า คือว่ามันสวยอย่างเดียวอ่ะ แต่จะเอาไว้ห่อหนังสือรึก็กันอะไรไม่ได้ แถมเวลาใส่หนังสือคืนก็ต้องค่อยๆใส่เพราะกลัวมุมหนังสือจะยับ นิสัยพี่ก็นะใจร้อนอีกต่างหาก 
ถ้าห่อผ้ามีสายเอาไว้หิ้วหรือถือก็คงดีเนอะ

ปล.ไม่ว่ากันนะ เพราะห่อผ้านี่รู้สึกยังงี้จริงๆ ส่วนหนังสือเดี๋ยวจะค่อยๆอ่านจ้า

พี่ทิพย์ จริงๆถุงผ้าแกะออกได้นะพี่ เพราะประเด็นคือให้เค้าอยู่ด้วยกันเฉยๆอะคะ แต่ถ้ามันคับไปก็ถอดออกได้นะคะ

***สำหรับปกผ้าของใครที่พอดีฟิตๆไปลองระเบิดไซต์
หรือดึงแรงๆให้ขยายก็ได้นะคะ เนื่องจากไม่ได้ทำจากโรงงานเลยควบคุมขนาดและคุณภาพยากมาก
อีกอย่างทางคนรับงานเค้าบริหารงานล่าช้า งานเลยรีบเลยออกมาฟิตแบบนี้อะคะ
ขออภัยสำหรับความยากลำบากนะคะทุกคน o1 o1


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกลิงแสดงตัว ที่ 25-11-2010 05:36:23
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ

คุณคนเดียวแต่เราสองคน...
ไม่ว่าใครจะว่ายังไง กิฟท์ชอบคุณคนดียวมากเลยค่ะ ชอบตั้งแต่ตอนที่เฮียแกยังเลวอยู่เลย  :laugh: จริงๆนะ
มีความรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่ารัก ถึงมันจะปากแข็งแล้วก็เลวแบบไม่มีเหตุผลก็เถอะ...
ขลุ่ยก็น่ารัก ช่างเป็นคนมีความอดทนอะไรขนาดนั้น
ที่สำคัญสุด เค้าชอบพ่อคุณคนเดียวอ่ะ พ่อรู้ว่าพ่อผิดแต่พ่อก็ยอมรับแบบแมนๆ พ่อคุณคนเดียวเท่ห์จริงๆนะ

ปอลอ...ได้หนังสือปุ๊ปแกะอ่านตอนพิเศษก่อนเลย  o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 25-11-2010 10:16:49
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ คุ้มค่าการรอคอย
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 25-11-2010 10:39:43
อ่านไปได้สักครึ่งเล่ม 1 แล้ว จะว่าอะไรเราไหม ที่อยากจะบอกคณะผู้จัดทำว่า ถ้าพิมพ์ครั้งต่อไปช่วยตรวจพิสูจน์อักษรอีกรอบด้วยคะ พิมพ์ตก + เกิน ประปราย แต่อ่านไปไมุ่ถึงกับสะดุด ส่วนปกผ้าของเราได้ขนาดพอดีนะ ใส่เข้าเอาออกสบาย ๆ ไม่ถึงกับฟิต  :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 25-11-2010 12:39:24
อ่านไปได้สักครึ่งเล่ม 1 แล้ว จะว่าอะไรเราไหม ที่อยากจะบอกคณะผู้จัดทำว่า ถ้าพิมพ์ครั้งต่อไปช่วยตรวจพิสูจน์อักษรอีกรอบด้วยคะ พิมพ์ตก + เกิน ประปราย แต่อ่านไปไมุ่ถึงกับสะดุด ส่วนปกผ้าของเราได้ขนาดพอดีนะ ใส่เข้าเอาออกสบาย ๆ ไม่ถึงกับฟิต  :z2:

>>>แล้วจะบอกน้องๆที่ช่วยพิสูจน์อักษรให้นะคะ คนเขียนมันพิมพ์ผิดมหาศาลจนอดสงสารคนพิสูจน์อักษรไม่ได้เหมือนกันอะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 25-11-2010 13:28:18
เมื่อวานได้รับหนังสือแล้วค่ะ(เด็กตจว.ค่ะ)
ชอบมาก โดยเฉพาะกระเป๋าผ้า ถูกใจสุดๆ ค่ะ
อ่านตอนพิเศษคุณคนเดียวก่อนเลย
อ่านไปเช็ดน้ำตาไป :monkeysad:
สงสารหนูขลุ่ยจัง
จะบอกไรท์เตอร์ว่าเขียนแนวนี้ก็ดีนะคะ
อยากอ่านเป็นแบบเรื่องยาวไปเลยค่ะ
จะคอยติดตามนะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: katomuen ที่ 25-11-2010 15:53:22
ได้รับหนังสือแล้ว  :L2: อ่านอย่ามีความสุข :impress3:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 25-11-2010 20:49:14
ต้องทำใจนิดกับเรื่องนี้ ก็คำผิดมันเป็นสัญลักษณ์ของคนเขียน
แต่รอบหน้า สงสัยคงต้องจ้าง คนตรวจคำผิดซะแล้ว  :m20:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 25-11-2010 21:39:11
TT ยังมาไม่ถึงเลย
ถ้าพร่งนี้ยังไม่มาจะลองโทรไปหาคุณไปรละค่ะ
อยากได้พี่เมฆานอนกอด ><
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: vickytale ที่ 25-11-2010 23:05:09
ได้รับแล้วเหมือนกันครับ ไม่อยากเอามาอ่านเลยสวยจนไม่อยากให้มีตำนิเลย..555+

เรื่อง  คุณคนเดียวอ่าสั้นอ่าอยากให้มีต่อจังคับ

ส่วนเรื่อง  ภูกับดินจะมีหนังสือหรอบอกกันด้วยนะ ต้องซื้อแน่นอน(ตอนนี้กำลังอ่านอยู่สนุกดีคับ)

ชอบคนเขียนจังไอเดียดีมากเลย...55+
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: YYY ที่ 26-11-2010 12:02:19
อ่านจบแล้วค่ะ สนุกแบบรวดเดียวจบ ฉานแสงสมแล้วที่ได้ตำแหน่งพระเอกยอดเยี่ยมแห่งปี :impress2:
ชอบเรื่องคุณคนเดียวค่ะแต่สั้นไปนิด น่าจะเอามาแต่งเป็นเรื่องยาวนะคะรับรองมีแม่ยกเพียบ :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: muyong ที่ 26-11-2010 18:45:57
 :sad4:ยังไม่ได้หนังสือเลยค่ะ

อยู่ต่างจังหวัดนะค่ะ ปกติพัสดุที่ส่งก็ไม่เคยเกิน 3วัน

ส่งให้วันอาทิตย์ใช่ไหมค่ะ จันทร์ถึงศุกร์ 5 วัน รวม 6 วัน

เช็ครหัสไปรษณีย์ ไม่ได้ค่ะPB283436114TH

อยากอ่านคุณคนเดียว.... :o12:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 26-11-2010 18:55:37
ได้รับหนังสือแล้วและก็ได้อ่านเรื่องคุณคนเดียวแล้ว

ความรู้สึกแรกของเราหลังอ่านเรื่องนี้จบคือ อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องยาวอ่ะ
เพราะตอนที่อ่านเรื่องนี้บทเศร้า ตอนที่คุณคนเดียวทำไว้กับขลุ่ย
หรือเรื่องของคุณคนเดียวกับพ่อ ความเป็นมาเป็นไปของเรื่อง
ตั้งแต่ตั้นเรื่องจนถึงตอนที่คุณคนเดียวยอมลดทิฐิ รู้ใจตัวเอง
ทำให้เราอยากรู้มากมายเลยว่าต่อไปเรื่องราวจะเป็นยังไงต่ออีก
เพราะคุณคนเดียวกับขลุ่ยแทบจะไม่ได้หวานให้เราได้ชื่นใจเลย
หลังจากที่อ่านไปเครียดไปพร้อมกับขลุ่ย แอบเสียน้ำตาตอนขลุ่ย
อยากไปอยู่กับพ่อ แต่สรุปๆโดยรวมแล้วทำให้เราได้รู้เลยว่า
ไรเตอร์เยี่ยมจริงๆเขียนเรื่องเล่าย้อนไปมาได้ดี ทำให้เราไม่รู้สึกงงเลย
ผูกเรื่องได้เยี่ยมมากเลยจ๊ะ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องคุณคนเดียวนะแต่ทุกเรื่อง อิอิ
บทจะเขียน ติ๊งต้อง ตลกโปกฮาแบบพี่เมฆ หรือ นังเลงโตก็ทำได้เยี่ยมอ่านไป
แล้วสุขไปด้วยเลย บทจะเขียนให้บีบหัวใจก็ทำได้ดีไม่มีติดขัด
สนุกจ๊ะ ชอบทุกเรื่องแหละ รอบหน้ารวมเรื่องพี่ดิน
ขอตอนพิเศษของคุณคนเดียวกับน้องขลุ่ยด้วยนะ
ชอบอ่ะ อยากรู้ว่าเวลาเค้าหวานกันจะเป็นยังไง
จะมารยาทหมื่นเล่มเกวียนเหมือนพี่เมฆมั้ย
หรือจะเป็นนักเลงใจใหญ่แบบพี่ดิน แต่อย่างนึงที่เรา
คิดว่าคุณคนเดียวคงจะเหมือนท่านฉานกับคุณเสาไฟฟ้าก็คือความหึงมั้ง
ที่ตอนนี้จิ้นได้อย่างเดียว อิอิ ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีดีมาให้อ่านนะจ๊ะ
สนุกมากมายก่ายกองทุกเรื่องเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 26-11-2010 19:41:09
สำหรับผู้ที่หนังสือยังไม่ถึงให้โทรไปถามนะคะ เพราะรหัสที่ส่งไปให้เป็น PB

PA /PB / PC นำหน้า หมายถึงส่งของใส่กล่องส่งแบบธรรมดา
(ซึ่งปกติทางไปรษณีย์จะลงทะเบียนให้พัสดุทุกชิ้นอยู่แล้ว) แต่ไม่สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเทอร์เนตได้
แต่ท่านสามารถตรวจสอบได้ที่เบอร์ 1545 ตามเวลาราชการ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Phing ที่ 26-11-2010 21:16:15
ได้รับหนังสือแล้วค่า
ได้รับตั้งแต่วันที่25นู้น แต่ยังไม่ได้อ่านคุณคนเดียวเลย :z3:
ยังไม่มีเวลาเลย :serius2:

ขอบคุณค่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 27-11-2010 09:34:04
ได้รับหนังสือตั้งแต่วันจันทร์แต่ยังไม่ได้อ่านอีกรอบเลยค่า

ชอบปกผ้าและรูปเล่มนะฮะ คิคิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: LoveAholic ที่ 27-11-2010 10:39:05
รอบเก็บตก  ส่งเมล์ไปให้แล้วนะคะ หวังว่าจะทัน  :call:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: akanae ที่ 27-11-2010 11:49:29
ขอมาเมนท์เรื่องคุณคนเดียว อยากบอกว่า ตอนหลังๆ ทำให้รีบจบค่ะ
เสียดายยยยยยยยยย มาก ถ้าเป็นเรื่องยาว คงจะดีไม่น้อยค่ะ ฮ่าๆ
เพราะทำให้คุณคนเดียวเปลี่ยนบุคลิกไปเลย ถ้าไม่ตัดจบซะก่อน คงได้เห็นความเปลี่ยนแปลง
ชอบหลายๆ ประโยค ในคำพูดที่พ่อลูกเค้าคุยกัน หรือในส่วนที่คุณคนเดียวคิดนะคะ
น่ารักและมีปนตลกด้วย คือผู้อ่านอ่านแล้วคิดต่อเอง ก็ขำเองค่ะ แหะๆ

ปล ชอบปกผ้าและหนังสือมากๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: muyong ที่ 27-11-2010 18:46:02
ได้รับหนังสือแล้วจ้า ชอบปกผ้า สวยดีค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: ishiya ที่ 27-11-2010 18:50:10
ได้รับหนังสือตั้งเเต่วันจันทร์ อ่านไป อ่านมาได้หลายรอบเเระ เเต่.....สายถุงผ้าเหมือนจะใกล้ขาดแล้วหง่ะ  :m15: เพราะเด๋วหยิบเข้า หยิบออกบ่อยมากกกกกก
 :pig4: อีกครั้งสำหรับหนังสือนะจ๊ะ.....แล้วก็กำลังติดตามพี่ดินอย่างใจจดใจจ่ออีกด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: สตางค์ ที่ 27-11-2010 18:51:14
ได้รับเรียบร้อยแล้วจ้า :-[
ปกผ้าแจ่มมากมาย :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: yylove ที่ 28-11-2010 09:44:21
ได้รับหนังสือหลายวันแล้ว
แต่ยังไม่มีเวลาอ่านเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 28-11-2010 10:25:42
เลดี้เพิ่งได้รับหนังสือเมื่อวาน บอกว่าฉันได้เป็นเจ้าของแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: aoikl ที่ 28-11-2010 21:40:20
เข้ามารายงานตัวว่าได้หนังสือแล้ว ค่ะ และอ่าน คุณคนเดียว กับ ขลุ่ย จบแล้ว กำลัง ตั้งต้นอ่านพี่เมฆ กับ ท่าฉาน อีกรอบค่ะ

สำหรับคุณคนเดียว กับ ขลุ่ย เป็นเรื่องสั้นก็ดีนะคะ
เพราะมาม่า เกิ๊น  :serius2:
พอจะมาหวานก็ดั๊น สั้นไปหน่อย

และถ้ามีโครงการจะมาต่อเป็นเรื่องยาว ก็ยิ่งดีเลยค่ะ แต่ไม่ต้องมาม่ามากไปกว่านี้ได้ไหมค่ะ  มันบีบหัวใจไปอ่ะ
อยากได้ หวานๆ บ้าง อะไรบ้าง อ่ะค่ะ
 :o8:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 29-11-2010 09:15:45
ส่งอีเมลล์ไปรอบเก็บตกตั้งแต่วันที่26ยังไม่ได้เมลล์ตอบรับเลยค่ะ
27ชุดหลังจองกันเต็มรึยังคะ
 :amen: รอคอยอย่างลุ้นระทึก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 29-11-2010 10:14:20
ส่งอีเมลล์ไปรอบเก็บตกตั้งแต่วันที่26ยังไม่ได้เมลล์ตอบรับเลยค่ะ
27ชุดหลังจองกันเต็มรึยังคะ
 :amen: รอคอยอย่างลุ้นระทึก

ส่งมาใหม่นะคะ ลองเชคดูให้แล้ว ยังไม่มีเมลล์เข้ามาเลยคะ :sad4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 30-11-2010 00:15:44
^
^
^
เขาโอนไปแล้วนะ....ต้องทำไรต่ออะ.....^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 30-11-2010 02:21:21
^
^
^
แจ้งโอนเงินไปที่เมลล์เลยจ้า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: dragonnine ที่ 30-11-2010 14:56:36
เพิ่งเข้ามาเช็คเมลล์ อะครับ เลยกำหนดโอนเงินมา 3 วันแล้ว ครับ
ไม่ทราบว่าผมยังมีสิทธิ์อยู่หรือเปล่าครับ
จะได้โอนเงินให้ ครับ

รบกวนตอบด้วยครับ โทรไปแล้วไม่ติดอ่ะครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 30-11-2010 18:08:14
^
^
^
ใช้ชื่อไหนจองมาและเมลล์อะไรคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 30-11-2010 19:42:09
ได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้วค่ะ
PMไปบอกผ่านทางพี่เซกิไปแล้วฮับ ^^
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: dragonnine ที่ 01-12-2010 08:33:47
^
^
^
ใช้ชื่อไหนจองมาและเมลล์อะไรคะ


จองชื่อนี้ Ninena-mo sornprasid ครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 01-12-2010 21:25:46
อ่านจบแล้วค่ะ สนุกสนานเฮฮากระจายของชาวก้วน ถาปัด และ สินกำ

อยากบอกว่าชอบ "คุณคนเดียว" "น้องขลุ่ย" มากๆ มีอีกมั้ยคะเรื่องนี้

รีเควสสสสสสสสสสสสสส ถ้ามีต่อสงสัยจะน่าร๊ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: dragonnine ที่ 02-12-2010 09:51:22
^
^
^
ใช้ชื่อไหนจองมาและเมลล์อะไรคะ


จองชื่อนี้ Ninena-mo sornprasid ครับ
เมล์ล toxicnineอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 03-12-2010 00:38:23
^
^
^
มีเมลล์จากทีมงานไปแล้วใช่มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 04-12-2010 09:30:50
อ่ะ จิงๆแล้วได้รับreply เมลล์ตั้งแต่วันที่26แล้วอ่ะค่ะ
ที่ไม่เห็นเพราะมันเข้าไปอยู่ในjunk mailอ่ะ
แต่โอนทันวันที่ 29พอดีเลย
แต่รอบนี้ยังไม่ไดรับเมลล์ยืนยันการแจ้งโอนนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 05-12-2010 14:06:32
^
^
ทีมงานรีบแจ้งกลับไปแล้วนะคะ ชีลืมคะ  :z6: จัดการให้แล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: YBlood ที่ 06-12-2010 11:15:04
แจ้งจองไปทางหลังไมค์ค่ะพอดีเมล์ใช้ไม่ได้
ได้รับรหัสการโอนแล้ว
และโอนเงินไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 3 ธันวาค่ะ
แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับทางหลังไมค์เลยค่ะ
เช็คให้หน่อยนะคะว่าเรียบร้อยไหม
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 07-12-2010 00:36:10
^
^
^
ได้รับเงินแล้วคะ ส่วนที่อยู่เดี๋ยวต้องรอน้องเซส่งข้อมูลมาให้

ขอบคุณมากนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: pornvrin ที่ 11-12-2010 14:24:14
ได้รับหนังสือแล้วนะคะ

ขอบคุณมากคะ

pornvrin ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 12-12-2010 09:59:44
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ....
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 12-12-2010 14:33:35
ได้รับหนังสือแล้วเช่นกัน.....^^


ปลาบปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม T^T
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 14-12-2010 22:39:16
ได้หนังสือแล้วจร้าาาา หนังสือน่ารักมากมาย  แล้วก้อชอบเรื่องของคุณคนเดียวด้วยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 16-12-2010 02:03:42
อย่าลืมไปอ่านคุณคนเดียวภาคต่อความยาวสาวความยืดกันน๊าาาาาาาาทุกคน

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: genieposh ที่ 16-12-2010 22:38:58
 อ่านจบแล้ว เพลินดี ชอบฉานที่หล่อ เท่และหวงได้น่ารักมาก ส่วนเมฆก็น่ารักดี ไม่สาวแตก
ชอบจนไม่อยากให้จบเลย

 ส่วนเรื่องคุณคนเดียวกับขลุ่ย ก็แปลกไปอีกแบบ อ่านแล้วรู้สึกว่ามันยังได้อีก
พอรู้ว่าได้กลายเป็นเรื่องยาวแล้วก็ดีใจมากๆ รออ่านและเชียร์ให้รวมเล่มอีกนะ  :man1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 18-12-2010 16:09:37
+++++ ให้คนแต่ง คนลงเลยค่ะ ได้รับหนังสือแล้ว อ่านจบแล้ว หูยยยย อย่างแรกต้องบอกเป็นล้านว่า ดีใจที่ทำคุณคนเดียวมาให้อ่านกันเน้อออ...  :o8: ชอบเมฆจัง เวลาบ่นรำพึงรำพันเรื่องสาวแตกของมัน อยากแมนแต่รักเธอ รู้ตัวก่อนเสียด้วยว่ารัก แจ่มจริง อะไรจริง อ่านไปเรื่อย ๆ ก็บีบใจไปเรื่อย ๆ แอบน้ำตาไหลตอนท้าย ๆ ด้วย ส่วนตอนพิเศษที่ให้มา น่ารักอย่าให้บอก ชอบไม้กะตี้ตี๋ น่ารักเนอะ เด็กแก่แดด ถ้าได้พี่เมฆฝึกปรืออีกสักหน่อย พี่ไม้คงไปไม่รอด ส่วนความรักของฉาน ไม่ต้องพูดถึง ยิ่งใหญ่อย่าให้บอก สมแล้วที่แหงนมองจันทร์เห็นตะวันจ้าาาา ขอบคุณสำหรับผลงานดี ๆ ค่ะ :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Sornpattra ที่ 18-12-2010 17:58:52
ชอบ ชอบ ชอบ
เข้ามาอ่านช้ากว่าชาวบ้านชาวเมือง
จองหนังสือไม่ทัน หรือยังทัน

อยากได้อ้ะ
ทำไงดี
................เป็น กองเชียร์ ตะวันฉาน(ฉานแสง) กรูปรี ..........
หาใช่ น้องเมฆ ไม่...............
อิอิ
อ่านเรื่องนี้แล้วไม่ต้องเครียด
มีแต่รอยยิ้ม บางที อ่านแล้วหัวเราะคนเดียวเลยแหล่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศเลขรับพัสดุและเปิดจองเก็บตก" [22.
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 21-12-2010 18:07:42
(http://image.ohozaa.com/i/c77/trans.gif)

มีใครที่ยังไม่ได้ Code โอนเงินบ้างมั้ยคะ เมลล์มาเตือนคนเขียนด้วยนะ

๐ ฝากข่าวประกาศ ๐

๐ สำหรับคนที่สั่งพี่ดินมาแล้วพ่วงสอบถามถึงเรื่องพี่เมฆ

คน เขียนเปิดโอกาสให้จองเรื่องพี่เมฆ  "เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น "ตะวัน"  มาได้แล้วนะคะ

แต่ครั้งนี้ไม่มีปกผ้านะคะ ราคา 600 บาท รวมค่าจัดส่งเหมือนเดิม

ปิดรับจองและรับโอนเงินพร้อมพี่ดินคือวันที่ 10 มกราคม 2554 คะ

จองมาได้ที่เมลล์เดิมคือ

(http://image.ohozaa.com/iw/ymail.jpg)

ขอบคุณคะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: zolof26 ที่ 25-12-2010 02:18:24
เย้ๆ อ่านจบแล้ววววววววว
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 25-12-2010 08:37:02
ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ครับ ขอบคุณทั้งคนแต่งคนโพสเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 29-12-2010 01:25:37
ชอบ ชอบ ชอบ
เข้ามาอ่านช้ากว่าชาวบ้านชาวเมือง
จองหนังสือไม่ทัน หรือยังทัน

อยากได้อ้ะ
ทำไงดี
................เป็น กองเชียร์ ตะวันฉาน(ฉานแสง) กรูปรี ..........
หาใช่ น้องเมฆ ไม่...............
อิอิ
อ่านเรื่องนี้แล้วไม่ต้องเครียด
มีแต่รอยยิ้ม บางที อ่านแล้วหัวเราะคนเดียวเลยแหล่ะ


มีให้จองพร้อมรอบ [เพียงดินvsภูตะวัน]เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง ค่ะ

แต่ไม่มีปกผ้าให้แล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: lunarypop ที่ 29-12-2010 07:55:23
ลงชื่อจองรอบเก็บตกค่ะ เสียดายจังไม่มีปกผ้าซะแล้ว

แล้วจะส่งเมลล์ไปแจ้งอีกครั้งนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 05-01-2011 10:47:52
^
^
^
มีคนฝากมาแจ้งข่าวดีว่า ถ้าบวกออเดอร์ตัดปกผ้าใหม่ไปในรอบพี่ดินได้ พี่เมฆพี่ฉนรอบเก็บตกก็จะยังมีปกผ้าอยู่นะคะ


หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 05-01-2011 23:02:09
 :laugh:พูดถึงปกผ้า ไม่อยากจะคุย เอามาใช้งานในปัจจุบันกันเลย พกหนังสือใส่ปกผ้า และใส่กระเป๋าแบบตามตัว ว่างเมื่อใด ก็ควักมาอ่าน ยิ่งอ่านบนรถเมล์น่ะ คนข้าง ๆ ก็มองเชียะ ก็ปกมันน่ารักนิ ต้องขอบคุณน่ะค่ะ ไอเดียแหล่มโป๊ด แต่ไม่ต้องห่วง เมฆกะฉาน เค้าขึ้นหิ้งกันไปล่ะ บูชา เดี๋ยวยับเดี๋ยวหม่น ต้องใส่ถุงบูชา :z2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 26-01-2011 09:31:34
ดันค่ะๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: pick ที่ 07-02-2011 13:19:27
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ ภาษาที่ใช้บรรยายก็อ่านแล้วเพลินดี

มีทั้งช่วงที่ฮาๆ เครียด เศร้า ทําเอาเราแอบปวดใจไปด้วยเลยตอนฉานไม่สนใจเมฆ

แต่พอได้อ่านตอนพิเศษก็รู้สึกดีมากเลย ที่ฉานไม่ได้เมินจริงๆ ถึงจะใจร้อนวู่วามไปหน่อย

ยังไงก็จะเป็นกําลังใจให้ทั้งคนแต่งและคนโพสนะคะ

ขอบคุณสําหรับเรื่องราวดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 11-02-2011 09:53:36
ตามมาเก็บงาน หลังจากห่างหายไปนาน

ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารัก ฮาๆ ค่ะ

ขอบคุณคนแต่งและคนโพส

รอติดตามผลงานชิ้นต่อ ๆ ไปค่ะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: boylove_yj ที่ 17-02-2011 13:48:57
น่ารัก

พี่ฉานสุดยอดอ่ะ

อ่านรวดเดียว จบ ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 17-02-2011 14:04:15
เพิ่งเข้ามา่อ่าน
ประทับใจพี่ฉานอย่างแรงงงง พี่แกเป็นผู้กำกับยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษเลยจริง ๆ
ฮ่า ฮ่า
หนุกมาก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 21-02-2011 21:36:12
เมื่อวานนั่งอ่านเกือบทั้งวันจนตีหนึ่งเลย
ขอบอกว่าชอบๆมากๆๆ

อยากได้แฟนแบบฉานมั้งจังเลย
แกเป็นได้ทุกแบบจริง พ่อ เพื่อน พี่ น้อง หรือแม้แต่ผู้กำกับ ฮ่าๆๆๆ
ชอบๆๆ

สั่งจองไปแล้วนะ อย่าลืมหนังเค้าละ o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 22-02-2011 15:34:53
เหอๆ  อ่านจบแล้ว  แต่อ่านแบบข้ามๆกระโดดกระโดดหลบช่วงท้ายอะนะครับ

ก็เหอๆ  เรื่องมันอัดอั้น  และรู้สึกหงุดหงิด แถมดูมันเศร้าๆ  ทรมานจิตใจ เลยอ่านแบบข้ามไปสามตอนสองตอน
 แล้วมาเจอเอาตอนแก้ปัญหาคาใจไปเลย ก็...  ตอนจบมีความสุขดี... เหอๆ   ขอบคุณมากครับที่แต่งเรื่องนี้ให้
อ่าน  ช่างเป็นเรื่องที่อ่านช่วงต้นๆแล้วแปลกดีครับ  หยาบคายกันไป ก็หยาบคายกันมา แถมใช้คำประชดประชันกันจนผมเริ่มยอมๆแพ้  เหอๆ แปลไม่ค่อยออก แต่สนุกดีได้รสชาติไปอีกแบบ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: yunjae123 ที่ 22-02-2011 22:46:45
ก่อนอื่นนะ...ขอกรี๊ดก่อน
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
พี่ฉาน!!!!!!
ชอบที่ฉานสุดๆๆๆๆๆๆ เพ้อเลยทีเดียว
ทำไมพี่ช่างเป็นคนที่แบบ...อยากมีแฟนแบบนี้อ่ะ!!!!
แต่....ลงความใจร้อนลหน่อยจะดีมาก อิอิ
สวนพี่เมฆ..บ้างทีก็ดูเอ๋อ ๆ ไปหน่อยนะ 5555555+

ชอบเรื่องนี้สุดๆๆๆๆเลย^O^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: triohero ที่ 27-02-2011 10:02:39
อ่านแล้วติดใจดีจัง

ชอบการกัดกันของสองคู่ ฉานและ เมฆ
รวมถึง เพื่อนๆแต่ละคนจริงๆ

สนุกและอากับมุกที่ สรรหามา

บางครั้งการเป้นเกย์แบบโดนยัดเยียด อย่างเมฆ เนี่ยนะ
น่าสงารสารเมฆนะเนี่ยที่โดนฉานเรียกว่า

เมีย

ตลอดแถมโดนเพื่อนล้ออีก
ท่าจะเซ็ง มิใช่น้อย

ยังไงก็ขอแสดงความยินดีกับรางวัลด้วยนะครับ

ฉาน เท่ห์ได้ใจมาก :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: K3n0 ที่ 01-03-2011 00:54:08
คุณTRomance,
มาตามอ่านตั้งแต่ต้น จนจบ มาสามวัน ชอบมากๆครับ  ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะครับ  สำนวนการแต่งทำให้อ่านและเข้าใจง่ายครับ

อิจฉา พี่เมฆ ที่มีพี่ฉานคอยดูแลและให้ความรักอยู่ใกล้ๆ ตลอดนะครับ  เป็นห่วง อาท ที่ยังเป็นเด็กเอาแต่ใจ โดนตามใจแต่เด็กเลยทำอะไรไปไม่ค่อยคิด แต่ก็ต้องขอบคุณพี่เมฆ ที่ให้กำลังใจ และปลอบใจด้วยนะครับ 

ความรัก ไม่ว่าจะแบบแฟน  แบบเพื่อน  หรือแบบครอบครัว มันก็ทำให้โลกนี้สดใสอยู่แล้วครับ

คนมี่ผิดหวังจากความรัก ก็อยากให้ลองมองรอบกาย  เรายังมี พ่อ-แม่ ครอบครัว และเพื่อนๆ ที่คอยเป็นกำลังใจให้เราตลอดนะครับ

ยังไงก็ขอบคุณ คนเขียน ที่ประพันธ์นิยายเรื่องนี้ขึ้นมาครับ

สู้ต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: nangmar ที่ 01-03-2011 12:49:25
จะจองยังไงคะ แบบว่าส่งเมลล์ไปแล้วยังไม่มีการตอบกลับมาเลยคะ
เพราะอยากได้เรื่องนี้มาก กลัวว่าจะไม่ทันปิดจองคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 02-03-2011 13:05:35
^
^
ตรวจสอบเมลล์ดีๆนะคะ hotmail.co.th นะคะ เผื่อชินกับ .com อะค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 02-03-2011 21:44:37
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
น่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 03-03-2011 18:07:03
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่านค่ะ

รู้สึกซึ้งกับความรู้สึกของฉานกับเมฆที่มีให้กันอย่างลึกซึ้งงงงงมากกกกกกกกกก   :sad11:


พูดได้คำเดียว  ขอบคุณมากๆค่ะที่มีผลงานที่น่าประทับใจแบบนี้มาให้ได้อ่านกัน

ขอบคุณจริงๆจากใจนะคะ   :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "เปิดจองเก็บตก" [21.12.10] P.80
เริ่มหัวข้อโดย: jenjad99 ที่ 05-03-2011 23:48:59
อ่านได้เกือบครึ่งทางแล้วคะ

สนุกจังเลย

หวานโหด ๆ 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ปิดจองเก็บตกแล้วจ้า" [7.3.11]P.81
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 07-03-2011 18:54:04
ประกาศค่ะ

ตอนนี้ปิดรับจองและโอนเงินรอบเก็บตกแล้วนะคะ
ทางโรงพิมพ์จะส่งหนังสือมาให้ในวันพฤหัสบดี
แล้วจะจัดส่งให้แก่คนที่สั่งมาภายในวันจันทร์หน้านะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ปิดจองเก็บตกแล้วจ้า" [7.3.11]P.81
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 10-03-2011 19:05:20
แว่บเข้ามาอ่านหลังจากเรื่องจบไปแล้ว(นานมาก ๆ)
ไม่ค่อยเครียดแต่แอบมีเสียน้ำตา...เป็นิยายที่สนุกมาก ๆ เลยค่ะ
คารวะ o15
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ปิดจองเก็บตกแล้วจ้า" [7.3.11]P.81
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 13-03-2011 14:54:02
 o13
เรื่องน่าอ่าน ตัวละครน่ารัก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "แจ้งเลขพัสดุ" [14.3.11]P.81
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 14-03-2011 21:43:19


แจ้งเลขพัสดุ

หนังสือเรื่อง [ภูตะวัน vs เพียงดิน] เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง และ เมื่อแหงนมองจันทร์ผมเห็นตะวัน

รอบเก็บตก เปิดจองเมื่อวันที่ 16.02.11 ถึง 6.03.11

หนังสือจัดส่งวันที่ 14.03.11
...



สิทธิโชค    PB    1960    87    922    TH

ณัจรีย์    PB    1960    87    936    TH

สุลกุมาลย์    PB    1960    87    940    TH

ไม่มีชื่อ มุกดาหาร    PB    1960    87    953    TH

Pastraporn    PB    1960    87    967    TH

วัชรี    PB    1960    87    975    TH

กัลปภัทร    PB    1960    87    984    TH

อมรรัตน์    PB    1960    87    998    TH

จิรสุดา    PB    1960    88    004    TH

แอม    PB    1963    56    010    TH

โชติกา    PB    1963    56    023    TH

สาวิตรี    PB    1963    56    037    TH

สุวิมล    PB    1963    56    045    TH

อัปสรพงษ์    PB    1963    56    054    TH

ฐินันตดา    PB    1963    56    068    TH

ทิตจิตรา    PB    1963    56    071    TH

เพ็ญณิกา    PB    1963    56    085    TH

ณัฐฐา    PB    1963    56    099    TH

วิลานี    PB    1963    56    108    TH

พิกุล    PB    1963    56    111    TH

พรรัตน์    PB    1963    56    125    TH

Jesale    PB    1963    56    139    TH

อรทัย    PB    1963    56    142    TH

ณัฐณี    PB    1963    56    156    TH

อินทร์ฉัตร    PB    1963    56    160    TH

นัดดา    PB    1963    56    173    TH

Sakuntala    PB    1963    56    187    TH

นิภารัตน์    PB    1963    56    195    TH

ปัทมา    PB    1963    56    200    TH

อนงค์นาฎ    PB    1963    56    213    TH

จริญญา    PB    1963    56    227    TH

อุสาห์    PB    1963    56    235    TH

ชลาลัย    PB    1963    56    244    TH

นฤมล    PB    1963    56    258    TH

อารยา    PB    1963    56    261    TH

ชฎาวรรณ    PB    1963    56    275    TH

ฉัตรวลี    PB    1963    56    289    TH

ธาริตา    PB    1963    56    292    TH

ประภาภรณ์    PB    1963    56    301    TH

ณัฎฐา    PB    1963    56    315    TH

ปิยะฉัตร    PB    1963    56    329    TH

ศันสนีย์    PB    1963    56    332    TH

ณัทธร    PB    1963    56    346    TH

มารีนา    PB    1963    56    350    TH

ธนาภรณ์    PB    1963    56    363    TH

...........................................................................................


ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนนะคะ  :pig4: : TRomance

๐ ตอนนี้หนังสือทั้งสองเรื่องมีวางขายแล้วที่ร้าน @Quartette มาบุญครอง ชั้น 7 ค่ะ
เป็นหนังสือที่ไม่มีปกผ้านะคะ

๐ ตอนนี้ที่คนเขียนมีหนังสือพร้อมจัดส่งเหลืออยู่ 4 ชุด คือเรื่องพี่ดิน [ภูตะวัน vs เพียงดิน] เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง เป็นชุดที่มีปกผ้าและของแถมเหมือนรอบเก็บตกและรอบปกติทุกอย่างค่ะ

*** หมายเหตุ เรื่อง [ภูตะวัน vs เพียงดิน] เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง มีตอนพิเศษที่ไม่ลงในเล้า 9 ตอนถ้วนค่ะ
 

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "แจ้งเลขพัสดุ" [14.3.11]P.81
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 15-03-2011 17:59:32
มาแจ้งว่าได้รับพี่เมฆกับฉานแล้วนะคะ  :pig4: :pig4: ปกผ้าพร้อมที่คั่นหนังสือชอบบบบบบบบบบบบบมาก  o13

แต่แปลกใจนิดนึงที่ปกเขียนว่าเล่ม1 แต่เนื้อเรื่องข้างในเป็นของเล่ม2 ตอนแรกตกใจนึกว่าได้เล่ม2 ทั้งสองเล่ม

สงสัยใส่ปกสลับกัน แต่ไม่เป็นไรยังไงก็ได้ครบ หุหุ

รอติดตามคุณคนเดียว กับเด็กป๋าอยู่นะคะ ยังไงก็ขออย่าดราม่ามากนักนะคะ คนอ่านสะเทือนใจ  :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "แจ้งเลขพัสดุ" [14.3.11]P.81
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 18-03-2011 15:52:55
มาแจ้งว่าได้รับหนังสือแล้วค่า
 :mc4:

แต่แบบว่ามีเรื่องอยากบอกนิดนึงค่ะ
แบบว่าพี่เมฆของเราหน้าปกมันสลับกันอ่ะค่ะ
คือปกเล่ม 1 เนื้อเรื่องเป็นเล่ม 2 ซะงั้นค่ะ

แต่เราก็ไม่คิดอะไรนะคะ
คิดซะว่าเราได้แรร์ไอเทมมาไว้ในครอบครองค่ะ
 :jul3:
ไรเตอร์ไม่ต้องกังวลใจนะคะ

ได้ทั้งพี่เมฆและพี่ดินมาคู่กันแล้ว
นั่งรอให้ถึงคิวน้องโจมเป็นรายต่อไปนะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "แจ้งเลขพัสดุ" [14.3.11]P.81
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 21-03-2011 02:46:34
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศรวมเล่มและReprint P81 29.03
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 29-03-2011 23:08:28
สวัสดีคะทุกคน...วันนี้ไม่ได้ลงเรื่องนะคะ

ตอนแรกจะประชาสัมพันธ์ในวันที่ลงตอนจบของเรื่องนี้ (คุณคนเดียวแต่เราสองคน)

แต่วันนี้เป็นวันดีวันที่ 29 ค่ะ...เลยขอลงเอาฤกษ์เอาชัยก่อนนะคะ

 :impress2: :impress2: :-[ :-[

(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line19/kuma1.gif)


ข่าวประกาศประชาสัมพันธ์นะคะ


คนเขียนเคยเล่าให้ฟังช่วงทอล์คไปแล้ว เกี่ยวกับที่มาที่ไปของเรื่องคุณคนเดียวแต่เราสองคน เพราะว่าทุกคนถึงได้มีฉบับต่อความยาวสาวความยืดนี้เกิดขึ้น ทั้งๆที่ตั้งใจให้เป็นเรื่องสั้นพิเศษแถมในเรื่องแมื่อแหงนมองฯ เพราะตอนพิเศษของเมื่อแหงนมองนั้นลงเล้าไปหมดแม็กแล้ว...

และเมื่อ ต้นปีถ้าใครได้ติดตามกิจกรรมของเล้าเรื่องประมูลเงินเพื่อทำบุญและทำกิจกรรม เล้า (มีมิตติ้งไปแล้ว) มีน้องคนหนึ่งได้รางวัลจากเซกิเป็นหนังสือรวมเล่มพี่ดินไปแต่น้องได้สั่ง ซื้อหนังสือไปก่อนหน้านี้แล้ว น้องเลยมอบหนังสือชุดนี้ให้เล้าประมูลหารายได้

มีพี่ใจดีคนหนึ่ง ประมูลหนังสือชุดพี่ดินไปในราคา 3300 บาทถ้วน ในฐานะคนเขียนทั้งดีใจและตกใจไปพร้อมๆกัน สำหรับหนังสือราคาชุดละ 700 บาท ขยับเป็น 3300 นั้น มันเกินราคาจริงไปเกือบ 5 เท่า คนเขียนเลยอยากจะทำอะไรให้พี่เค้าเป็นการตอบแทน จากที่เคยประกาศไป เลยมาสรุปที่ Boxet รวบรวมผลงานของคนเขียนเองนี่แหละ โดยจะยุบรวมแต่ละเรื่อง จากเรื่องละสองเล่ม เหลือเพียงเล่มเดียวและทำปกแข็งกระดาษจัวปัง (เหมือนแฮรี่พอตเตอร์) และเปลี่ยนรูปแบบปกใหม่ทั้งหมด และแถมเรื่องคุณคนเดียวแต่เราสองคนไปให้ด้วย ในเมื่อรวมกันได้ 3 เรื่องแล้วก็จะต้องมีแพ็คเกจตามสไตล์ TRomance จึงมาลงตัวที่ Boxet กล่องไม้ขีดกระดาษแข็งปิดผิวกระดาษอาร์ตพิมพ์ลาย 4 สี เคลือบ PVC ด้าน (เนื่องจากคนเขียนเองเคยมีส่วนร่วมในการออกแบบและจัดทำ box แบบนี้แล้วในเรื่องหรือว่าความรักของพี่ figs เลยเป็นแพ็คเกจที่ลงตัวที่สุดสำหรับงานจำนวนน้อยๆนี้ เมื่อแจ้งข่าวให้พี่ที่ประมูลได้ ว่าคนเขียนจะทำแบบนี้ขึ้นมาเพียงแค่สองชุดสำหรับตัวคนเขียนเองและพี่คน ประมูลได้ พี่ได้แนะนำคนเขียนมาว่า ในเมื่อคนเขียนปั้นคุณคนเดียวมาเป็นเล่มแล้วก็เปิดโอกาสให้คนที่อยากเก็บ เรื่องนี้ด้วยเถอะ ส่วนอีกสองเรื่องที่เปลี่ยนปกใหม่และทำเป็นปกแข็ง ก็เปิดไปด้วยเลยเผื่อมีใครที่อยากเก็บจริงๆ ด้วยคำแนะนำและกำลังใจจากหลายๆคน คนเขียนเลยตัดสินใจเปิดให้คนอ่านที่อยากเก็บผลงานเอาไว้นะคะ

****ก่อนอ่านรายละเอียดและจับจอง ให้อ่านคำอธิบายให้ละเอียดก่อนนะคะ (ขอร้องว่าอ่านก่อนนะคะ)


(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line19/kuma1.gif)



1.เรื่องคุณคนเดียวแต่เราสองคน


(http://image.ohozaa.com/i/1e7/112covers.jpg)


1 เล่มจบ จำนวน 200-250 หน้า

หนังสือขนาด 13.5*18.5 cm เล็กกว่า A5 นิดหน่อย (A5 ปกติขนาด 14.8*21 cm) ปกปีกด้านเดียว มีที่คั่นปกติและที่คั่นแม่เหล็กตามมาตรฐาน TRomance

เนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบมีให้อ่านในเล้าเป็ด และไม่ลบเรื่องออกขณะทำการเปิดขายและหลังจากนั้น ในเล่มมีตอนพิเศษให้ 3 ตอนซึ่งไม่มีลงในเล้าเป็ด เป็นตอนที่คนเขียนเพิ่มขึ้นมา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักหรือส่วนขยายเนื้อหาหลักแต่อย่างใด

ราคา 300 บาท ต่อเล่ม ค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน 50 บาท/ชุด



(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line19/kuma1.gif)



2.Boxets รวมผลงาน 3 เรื่องของ TRomance  ประกอบไปด้วย

เมื่อแหงนมองจันทร์ผมเห็นตะวัน (พี่เมฆพี่ฉาน) จากเดิม 2 เล่มจบ ยุบเหลือ 1 เล่มจบ ปกแข็งกระดาษจัวปัง เนื้อหาภายในเล่มเหมือนที่เคยรวมเล่มไปแล้วทุกประการ

อ่านเรื่องทั้งหมดได้ที่นี่ค่ะ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13928.0)

(http://image.ohozaa.com/i/24c/mekchancover.jpg)


[ภูตะวัน vs เพียงดิน] เมียคนนี้มีดีกรีเป็นนักเลง (พี่ดินกับไอ้เสาไฟฟ้า) จากเดิม 2 เล่มจบ ยุบเหลือ 1 เล่มจบ ปกแข็งกระดาษจัวปัง เนื้อหาภายในเล่มเหมือนที่เคยรวมเล่มไปแล้วทุกประการ เพิ่มตอนพิเศษวันวาเลนไทน์ที่ลงเล้าไปหลังจากรวมเล่มให้อีก 1 ตอน

อ่านเรื่องทั้งหมดได้ที่นี่ค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=18569.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=18569.0)

(http://image.ohozaa.com/i/d73/phoodincover3.jpg)

คุณคนเดียวแต่เราสองคน รายละเอียดตามที่บอกไปแล้วหัวข้อข้างบน

อ่านเรื่องทั้งหมดได้ที่นี่ค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20393.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20393.0)

(http://image.ohozaa.com/i/1e7/112covers.jpg)

๐ ราคา Boxet 1 ชุด ราคา 1,700 บาท ค่าจัดส่งชุดละ 75 บาท เป็นพัสดุลงทะเบียนนะคะ


*** Boxet นี้ทำขนาดเดียวสำหรับใส่ผลงานทั้ง 3  เพราะฉะนั้นไม่แยกขายนะคะ

*** สำหรับใครที่ต้องการแยกซื้อไม่ว่าเรื่องพี่ดินหรือพี่เมฆ ชุดละ 750 บาท ค่าจัดส่งชุดละ 65 บาท  (แยกซื้อไม่มี Boxet ให้นะคะ)



รูปแบบกล่องให้ทุกคนนึกถึงภาพกล่องไม้ขีด จะมีถาดสำหรับใส่หนังสือ (ป้องกันขอบหนังสือเวลาสอดเข้าหรือถอดออก) แล้วสวมทับด้วย Box นอกอีกทีค่ะ

ตัวอย่าง box...ลายกล่องเป็นเพียงตัวอย่างนะคะ เนื่องจากคนเขียนยังนึกแบบไม่ออก


(http://image.ohozaa.com/i/3f2/4page.jpg)


(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line19/kuma1.gif)

ครั้ง นี้เป็น Project พิเศษจริงๆ ต้องขอบคุณพี่ที่ประมูลหนังสือได้ที่สนับสนุนให้คนเขียนเปิดให้คนอ่านทุกๆคน ได้สั่งจองเข้ามา และต้นทุนในการทำในครั้งนี้ สำหรับคนเขียนแล้วเป็นต้นทุนที่สูงมากค่ะ จำนวนที่สั่งทำก็คงจะไม่เยอะเท่าที่เปิดจองรอบปกติ ดังนั้นคนเขียนจะเปิดจองแค่รอบนี้เพียงรอบเดียว ไม่มีรอบเก็บตกอีกแล้วนะคะ และในอนาคตต่อไปข้างหน้า หากจะมี Reprint อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน คนเขียนจะกลับไป Reprint เหมือนชุดปกติอย่างที่เคยทำค่ะ

เปิดจองและโอนเงิน วันนี้ ถึง 15 พฤษภาคม ศกนี้ค่ะ
 

คนที่สนใจ mail มาขอรับ Code โอนเงินที่ Mail ด้านล่างนี้นะคะ


(http://image.ohozaa.com/iw/ymail.jpg)

ตั้งชื่อเมลล์ว่า สั่งจองหนังสือ...

1.ระบุชื่อคนจองหรือ Login

2.ระบุเรื่องที่ต้องการจอง

2.1 รวมเล่มคุณคนเดียวแต่เราสองคน จำนวน.....เล่ม

2.2 Boxet ประกอบด้วย (พี่ดิน+พี่เมฆ ปกแข็ง และ คุณคนเดียวฯ) จำนวน........ชุด

2.3 แยกซื้อ พี่ดินหรือพี่เมฆ ปกแข็ง อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองเรื่อง (ไม่เอา Box) จำนวน.........เล่ม

3.
รอรับ Code โอนเงินทางเมลล์เหมือนเดิมค่ะ


ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนกันมาโดยตลอดนะคะ

 :pig4: :pig4: :pig4:


(http://image.ohozaa.com/i/91e/1untitled1.gif)

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศรวมเล่มและReprint P81 29.03
เริ่มหัวข้อโดย: dek_jun_rai ที่ 12-04-2011 09:20:11



                             o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศรวมเล่มและReprint P81 29.03
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 21-04-2011 11:14:55
เรื่องนี้ทั้งเมฆทั้งฉานต่างมีก็เสน่ห์แรงด้วยกันทั้งคู่ แต่มีแค่ฉานคนเดียวที่ชอบกำจัดคนที่มาเข้าใกล้เมฆละมั้ง
สงสารเมฆตอนเด็กๆ ต้องกลายเป็นลูกสมุนของฉานโดยไม่ตั้งใจ(แต่ฉานมันตั้งใจ) ต้องมานั่งคอยตอนมันไปกับชะนี  :monkeysad:

ชอบที่ทั้งคู่พยายามเพื่อจะเดินเคียงคู่กัน ไม่ใช่ใครคนหนึ่งเดินไปข้างหน้าแต่อีกคนทำได้แค่เดินตามหลัง
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "ประกาศรวมเล่มและReprint P81 29.03
เริ่มหัวข้อโดย: Tua_Ddream ที่ 22-04-2011 01:37:01
ประทับใจเรื่องนี้มากๆ

ขอบคุณคนแต่งสำหรับนิยายดีๆ

ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "มาแล้วลาย Box รวม 3 เรื่อง P81"
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 23-04-2011 14:52:49
ลาย Box set มาแล้วจ้าาาาาา  :mc4: :mc4: :mc4:

(http://image.free.in.th/z/iu/page333.jpg)

(http://image.free.in.th/z/if/page2222.jpg)

(http://image.free.in.th/z/ig/page4444jpg.jpg)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "มาแล้วลาย Box รวม 3 เรื่อง P81"
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 26-04-2011 22:49:27
ลาย box set สวยมากกก
นับวันรอเลยยย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "มาแล้วลาย Box รวม 3 เรื่อง P81"
เริ่มหัวข้อโดย: namwaan1992 ที่ 05-05-2011 16:53:55
เง้อ~

ไม่ว่าแต่ไหนแต่ไร  ก้ชอบเรื่องราวระหว่างอย่างนี้อยู่แล้วคับๆ ><

แต่ก้นะ "ความรักระหว่างเพื่อน  จะเกิดไม่ได้หากขาดความเอาใจใส่และกาลเวลา"

ใช่ป่ะคับๆ   ทุกคน   ^^

[ปล. ชอบฉานมากมาย~]
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "มาแล้วลาย Box รวม 3 เรื่อง P81"
เริ่มหัวข้อโดย: Cacao ที่ 08-05-2011 03:45:50
 o13 o13 o13

ไม่ต้องการคำพูดอะไรมากสำหรับฟิคชั่นเรื่องนี้ อ่านแล้วเพลินๆมากๆเลยค่ะ
ใช้เวลาอ่านอยู่ 3 วันกว่าจะจบ ใช้เวลาช่วงกลางคืน อ่านไปอ่านมาเวลามันฮามากๆ
ก็หัวเราะเสียงดังไม่ได้อีก 555 ฉานกับเมฆน่ารักมากๆเลย  :กอด1:
มีประโยคหลายประโยคมากที่อ่านแล้วรู้สึกว่าโดนใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกก  :impress2:
มีหลายช๊อตที่เรียกเสียงฮาและน้ำตาไม่แพ้กัน ส่วนเดอะแก๊งค์ถ้าขาดไป
เราอาจจะไม่ขำได้เท่านี้ 5555 เพราะหลายช๊อตเรานึกภาพตอนอ่านจบ
ยังนั่งขำค้างอยู่เลย ณ บัดนาว  :jul3: คิดว่าถ้ามีเวลาว่างๆหรือไม่มีอะไรจะ่อ่าน
เราคงได้วกกลับมาอ่านเรื่องนี้อีกแน่ๆ ด้วยความสดใส เฮฮา แล้วก็ในความไม่ีมีอะไร
มันมีอะไรมากๆๆๆที่ซ่อนอยู่ 555 หมายถึงไม่มีอะไรก็คือไม่เครียดเลย อ่านเอาขำ
เอาความน่ารักและความผุกพันของสองหนุ่มเพียวๆ ชอบค่ะ  :really2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 09-05-2011 02:20:22
สวัสดีค่ะ คนอ่านทุกคน ขอแจ้งข่าวนิดหน่อยนะคะ  :impress2:

ความจริงแล้ววันนี้จะต้องลงเรื่องใช่ไหม (ห้ามใครบอกว่าเมื่อวานต่างหากล่ะ นะ  :sad4:)

แต่เมื่อคืน คนเขียนนอน ตี4 ค่ะ (ปูทางไปหาข้อแก้ตัวกันสุดๆ) :m23:

แล้ววันนี้ดันมีนัดรับตัวอย่าง box set และ หนังสือที่ขอไว้ โปรเจคพิเศษนั่นแหละค่ะ

วันนี้เลยไร้ซึ่งสติและวิญญาณ เลยไม่ได้ปั่นเลยสักเรื่อง พรุ่งนี้จะต้องเอาตัวหนังหนังสือไปพิสูจน์อักษร
คิดว่าถ้าฟ้าไม่ใจร้ายเกินไป ไม่น้องโจมก็พี่สิงหา คงจะได้ลงเรื่องใดสักเรื่องก่อนนะคะ

ขอโทษนะคะ ที่ทำให้ต้องรอ:m5:

===================

แก้ตัวไปแล้ว เอ้ยยย  :m23: บอกเหตุผลไปแล้ว

ขออวดของหน่อยนะคะ มีหลายคนที่ตามน้องโจมหรือพี่สิงห์สั่งซื้อโปรเจคนี้กันใช่มั้ยค่ะ

เหมือนโฆษณาไปในตัวเลย.....จริงๆคนเขียนพยายามแจ้งอัพเดททางเมลล์ด้วยนะคะ

แต่คนอ่านที่ซื้อตอบกลับมาน้อยมาก ไม่รู้ว่าเมลล์ไปถึงหรือเปล่า ขออนุญาตอัพเดทหลายๆทางแล้วกัน

ตัวอย่าง box set กับหนังสือส่งมาให้ตรวจแล้วนะคะ กล่องใหญ่และหนามาก หนังสือทำออกมาดีกว่าที่คิดไว้ค่ะ
กังวลมาก เพราะคนเขียนตัดสินใจทำเป็นปกแข็งครั้งแรก แต่ออกมาดูดีดูแพงดูไฮโซ แต่ส่วนตัวแล้ว มันเหมาะที่จะเก็บมากกว่าเอาออกมาอ่านนะคะ
เล่มหนามาก (เท่าๆ แฮรี่ภาค 4 ภาคีนกฟีนิกซ์ เลยค่ะ) แต่ถ้าใครอ่านเรื่องหมาป่า ความหนาระดับนี้คงจะบ่ยั่นกันใช่มั้ยค่ะ

ใครที่ไม่ชอบอ่านหนังสือหนาๆ ก็อ่านกันในเล้านะคะ อยู่ในห้องจบแล้วทั้งสามเรื่องค่ะ  :กอด1:
แต่ใครที่หลวมตัวสั่งมาแล้วและโอนเงินแล้ว คนเขียนไม่คืนเงินนะ  :laugh: :laugh:

ปล.คนทำกล่องบอกว่า กล่องใช้เวลาทำนานกว่าหนังสือแน่ๆ (โรงพิมพ์เองก็บอกว่าใช้เวลานานค่ะเนื่องจากปกแข็ง จะนานกว่าปกนิยายธรรมดาปกติเวลาสั่งพิมพ์จริงๆ โรงพิมพ์จะใช้เวลา 5-7 วันในการพิมพ์ไม่เกินนี้ แต่ถ้าปกแข็งอาจจะต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ ค่ะ วันเวลาที่แน่นอนต้องรอหลังปิดโอนและสั่งพิมพ์จริงนะคะ)
คนเขียนเลยนับจำนวนคนที่โอนเงิน box set มาแล้ว ให้คนทำกล่องเริ่มทำไปก่อนค่ะ เผื่อว่าวันสังพิมพ์หนังสือจริง ทั้งกล่อง ทั้งหนังสือ ที่คั่นแม่เหล็ก จะเสร็จทันกันพอดี (ภาวนาว่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ)

รูปตัวอย่าง mock up box set และหนังสือค่ะ

๐ หนังสือคนอ่านใส่ปกพลาสติกใสเอาไว้นะคะ เผื่อดูรูปแล้วรู้สึกแปลกๆ

๐ ปกของพี่เมฆ ที่ดูยับๆนั้น เป็น texture ปกหนังสือจ้า คนเขียนให้พื้นหลังเป็นกระดาษยับๆ นั่นเอง

๐ ขอตัวอย่างปกคุณคนเดียวมา 2 แบบ คือแบบกระดาษปกอาร์ตการ์ดธรรมดาเหมือนปกนิยายทั่วไป กับปกกระดาษขาว texture เหมือนสมุดวาดเขียน ซึ่งออกมาแล้วให้อารมณ์ต่างกัน ส่วนตัวคนเขียนชอบกระดาษที่เหมือนกระดาษวาดเขียนนะคะ มันดิบๆอาร์ตๆดี แต่ข้อเสียที่พบคือ ตรงขอบพับ สัน เนี่ย สีมันจะถลอกจนเป็นสีขาวของกระดาษ เพราะถ้าเลือกปกแบบนี้ ทางโรงพิมพ์ไม่เคลือบให้อะคะ เดี๋ยวจะลองถามดูว่า จริงๆแล้วเคลือบมั้ย คนเขียนเลยถ่ายรูปตัวอย่างปกธรรมดามาให้ดูนะคะ

TRomance


(http://image.ohozaa.com/i/f7b/img_2954.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/0e3/img_2956.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/3f5/img_2947.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/f65/img_2950.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/27c/img_2951.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/6bc/img_2945.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/9e3/img_2946.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/f4a/img_2939.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/d6b/img_2942.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/157/img_2959.jpg)


 ๐ สำหรับคนอ่านที่เพิ่งตามมาอ่านทีหลัง ยินดีต้อนรับและขอบคุณสำหรับคำแนะนำติชมนะคะ  :pig4: TRomance
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Dakzy ที่ 17-05-2011 00:48:17
ตามอ่านจนจบแล้วค่ะ

ตามอ่านตั้งแต่แรกยันจบในคืนเดียว หยุดอ่านไม่ได้จริงๆค่ะ o13

แบบว่าชอบมากกกกกกกกกกกกกก :m11:

สนุกสุดๆเลยค่ะ

แมนกันได้ใจมากแต่ละคน แต่ละคำพูดนี่แรงกันได้อีก แต่สะใจมากอ่ะค่ะ

ถ้าให้เทียบระหว่างฉาน(ชอบคำว่า"(เดร)ฉานของเมฆมากค่ะ อย่างฮา")กับเมฆแล้ว ความถี่ในการพูดเพราะชองฝ่ายพระเอกจะบ่อยกว่านะคะ(โดยเฉพาะเวลาหวานๆเนี่ย) หาได้ยากจากพี่เมฆเหลือเกิน

ชอบคาแรคเตอร์ของทุกคนมากเลยค่ะ โดยเฉพาะฉานเนี่ย เท่มากค่า ขี้อ้อนด้วย แล้วยิ่งตรงที่ขี้หึงขี้หวงนี่ชอบเป็นพิเศษเลยค่ะ

ชอบฉากพี่เมฆปวดใจด้วย ตรงฉากที่เข้าใจผิดฉานกับน้องสาว แล้วต้องถูกฟังฉานดุใส่น่ะค่ะ แอบชอบเป็นการส่วนตัว มันจี๊ดใจดีนัก

ถ้าจะมีภาค2อีกก็ไม่เกี่ยงเลยนะคะ ชอบมากถึงมากที่สุดค่ะ

ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 23-05-2011 14:35:19
เพิ่งมีโอกาสเข้ามาอ่าน .. จะทยอย ๆ อ่านแล้วก็มาเม้นนะคะ ^^

แต่เห็นจากคอมเม้นท์แต่ละคนแล้ว .. ต้องหนุกมากแน่ ๆ เลย อิอิ ..

ขอตัวไปอ่านก่อนนะ ^^ จุ๊บุ ๆ > 3<~♥
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Ken Ken ที่ 26-05-2011 09:44:01
ชอบเรื่องนี้มากครับ บรรยายได้ฮาแล้วก็อบอุ่นมาก
ทั้งตัวฉาน-เมฆ แล้วก็เพื่อนๆทุกคน

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดีครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: JA(e)jung ที่ 28-05-2011 13:28:02
เรื่องนี้อ่านกี่รอบๆก็สนุก
ชอบมากค่ะ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องราวที่น่ารักขนาดนี้ให้พวกเราทุกคนได้อ่านกันนะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 09-06-2011 15:09:23
น้องเมฆ-น้องฉาน คู่รักบรรยากาศเฟลิลี่แมน มันให้ความรู้สึกว่า สองคนนี้ เป็นครอบครัว เป็น ทุกอย่างของกนและกัน จริง น่ารักมากๆสนุกจริๆ

อยากให้มี เรื่องของ ไม้ กับไอ้ตัวแสบ ช่วงที่ตัวแสบเรียนมหาลัย ม่าจะวุ่นวาย ได่โล่ห์  o13 :z2:  :z1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: theblink ที่ 19-06-2011 15:10:46
จอง + โอนเงินกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว 
แง....
เขาไม่รู้เรื่องเลยอ่าาาาา  ยังไม่ทันแม้แต่้ได้เก็บเงินด้วยซ้ำ  จนพิมพ์ครั้งที่ 2 แล้่วเนี่ย.... OTL
อยากมีไว้ในครอบครองมั่ง  ไม่ทราบว่ามีเหลือบ้างหรือเปล่าคะ
รบกวนช่วยตอบหน่อยนะ ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: กว่าจะไร้เดียงสา ที่ 19-06-2011 15:35:54
^
^
^
คุณ theblink คะ ถ้าสะดวกไปที่สยาม มีวางที่ร้าน @Quartette มาบุญครองชั้น 7 ค่ะ

ถ้าสะดวกทางไปรษณีย์ สั่งผ่านหน้าเวปได้ที่ utellido.com ค่ะ

utellido CLICK (http://utellido.com/utellido/index.php/shopping.html?view=ecwid#ecwid:category=1052087&mode=category&offset=0&sort=nameAs)

ทั้ง 2 ที่ มีจำนวนจำกัดนะคะ เป็นส่วนเพิ่มเติมที่สั่งมาเผื่อเท่านั้น ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: theblink ที่ 19-06-2011 16:33:13
^
^ ขอบคุณที่มาตอบนะคะ  ดีใจมากๆเลยที่ยังมีเหลืออยู่  นึกว่าเราจะพลาดนิยายที่ชอบที่สุดไปแล้ว (จริงๆนะ T-T) ถ้าพลาด ไม่ได้ซื้อไป  จะต้องรู้สึกเสียดายทีหลังมากๆแน่ๆเลย  แค่คิดก็รู้สึกเฟลแล้ว OTL
 พี่ดิน  พี่ฉาน แล้วก็คุณคนเดียว  เราอ่านไปแค่ครึ่งของครึ่งแรกเอง เพราะอยากจะอ่านที่จบแล้ว หรือถ้ามีเล่มรวมก็จะซื้อ  เห็นมีแต่คนชอบ มีแฟนๆเยอะขนาดนี้  ดีใจกับนักเขียนด้วยจริงๆค่ะ
เรายังเรียนอยู่เลยค่ะ  ยังไม่มีรายได้ แต่ก็อยากจะเก็บเซตนี้ให้ครบทุกเล่ม  ดังนั้นคงต้องทยอยซื้อ เก็บตังค์ไปเรื่อยๆ  แต่รับรองว่าต้องซื้อทุกเรื่องทุกเล่มแน่นอน
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ   ขอบคุณจริงๆที่สั่งเพิ่มเติมเอาไว้ T^T   อย่างที่บอก   ถ้าพลาดไปแล้ว คงรู้สึกเสียใจสุดๆ T^T
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: theblink ที่ 20-06-2011 14:42:21
ขออนุญาติมาสอบถามอีกรอบได้หรือเปล่าคะ TOT
คือ....จะมีเงินซื้อตอนสิ้นเดือน  ค่าขนมออก 
ตอนนั้นหนังสือจะขายหมดหรือยังคะ ? 
มันนานไปไหม   ได้ข่าวหนังสือมีจำนวนจำกัด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 23-06-2011 20:11:03
โอยยอ่านเรื่องนี้แล้วหุบยิ้มไม่ลงจริงๆๆ..ทั้งฮา ทั้งน่ารัก  :pig4:ที่เขียนเรื่องน่ารักๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ

เดี๋ยวจะตามไปอ่านเรื่องต่อๆๆไปนะคะ(อ่านมาได้ซักพักเพิ่งมีโอกาส มาร่วมเป็นสมาชิก)
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: พอลลี่ ที่ 07-07-2011 15:43:28
โห้กว่าจะอ่านจบเรื่องนี้ใช่เวลาหลายวันเลยค่ะ รักเรื่องนี้มากมายอะ
สนุกได้อีกขอบคุณน้า....  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 18-07-2011 21:09:09
เป็นอีกเรื่องที่น่ารักมากๆค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 25-07-2011 21:58:24
อ่านจบนานแล้วแต่เพิ่งมาเม้น
ชอบแนวนี้มากเลยค่ะ สนุกๆซึ้งๆ

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 07-08-2011 12:05:58
ตอนแรกว่าจะอ่านให้จบ 2 รอบ แต่รอบสองเนี้ยไปถึงตอน 30 เอง
มาก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะยาว

ในบรรดาทุกเรื่องของคุณคนเขียน เราชอบเรื่องนี้ที่สุด(ณ ขณะนี้)
มีความรู้สึกว่าอบอุ่นที่ได้อ่าน ความรักบางทีมันก็ไม่สามารถแยกแยะหรือ
ระบุได้ชัดเจนหรอกว่า ผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชาย คนแบบนี้ต้องคู่กับแบบนั้น
หรืออะไรก็ตาม รู้แค่รักนั้นก็เพียงพอ ฉานมันรักเมฆ ในฐานะคนๆ หนึ่ง
ไม่ใช่ผู้ชาย ไม่ใช่เพื่อน แต่มันคือ "ความรักและความผูกพันธ์"
ที่ไม่ใช่แค่วันเดียวแต่เกือบทั้งชีวิต ที่ทั้งคู่ผูกตัวและใจเอาไว้ด้วยกัน

ปล. อ่านๆ ไปก็รู้สึกว่า ตกเมฆใช้เสน่ห์มารยามัดฉานโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยใช่ไหมเนี้ย
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 11-08-2011 11:19:31
 :m15:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 11-08-2011 13:31:37
 :m25:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 12-08-2011 04:24:24
 :mc4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: tokun ที่ 13-08-2011 23:19:37
ปิดฉากไปอย่างสวยงาม

อ่านแล้วอยากมีคู่

อยากเห็นผู้ชายรักกัน อิอิ

ขอบคุณค่ะ o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: erng ที่ 12-09-2011 22:18:39
น่ารักมากกกกกกกกก
โอ๊ยยยยย
จะเป็นเบาหวานนนนแล้วววว

ดูแลกันขนาดนี้ ใครจะเอาเมฆไปไหนได้ๆๆๆๆ
เฮ้ออออออออ
ฉานนน่ารักมากกกกกกกกก

อาทอ่ะ ตอนแรกแอบเกลียด แต่ดีกว่าที่คิดนะเนัี่ยยยย
โอเคแหละ

น่ารักมากกกกกกกกกก

ขอบคุณนะค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 16-10-2011 00:31:11
กดไลท์ให้นายฉาน  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 23-10-2011 14:40:12
อยากจิกรี๊ดกับนายฉาน  :impress2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: nishiauey ที่ 17-11-2011 10:14:43
น่ารักมากกกกกกกกกก

ขอบคุณนะค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 26-11-2011 18:46:10
เรื่องสนุกมากเลยค่ะ
พี่เมฆกับพี่ฉานน่ารักมากๆค่ะ
ขอบคุณคนเขียนมากๆๆค่ะ
 :pig4: :pig4: :pig4:
 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: care_me ที่ 27-11-2011 08:13:32
อยากบอกว่า เรื่องนี้ สุดยอด o13

ไม่แปลกใจเลยหล่ะค่ะ ที่ฉานได้รางวัลพระเอกยอดเยี่ยมอ่ะค่ะ
ก็คุณชายเขาเล่น น่ารัก น่าชังขนาดนี้

แล้วไหนจะพี่เมฆ ที่(แอ๊บ)แมนอีก 555 น่ารักได้ใจไปทั้งคู่เลยหล่ะค่ะ

ไหนจะขบวนการแก๊ง 3 ช่า เอ๊ย!!! ไม่ใช่แระ แก๊งเพื่อนๆ
ที่ออกแนวล้นๆกันอีก  :laugh:


เข้ามาเป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: ultrasaint ที่ 28-11-2011 00:01:39
เม้นไว้ก่อนเด๋วเข้ามาอ่าน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 09-12-2011 15:09:57
อ่านมานานถึง 2 วันเต็มๆ

สนุกมากกกก  :m3: :m3:

รักฉานมาก ผู้ชายดีๆเเบบนี้หาได้ที่ไหนเนี่ย

ขอบคุณค่ะ สำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 12-02-2012 00:15:31
พ่อคุณฉานรักซึมลึกนานกว่านายเอกของเราจะรู้ตัวรู้ใจ
พี่เมฆแมนๆก้อน่ารัก พี่ชายที่แสนดี
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 13-02-2012 16:26:54
เรื่องนี้น่ารักมากครับ  :o8: :o8: :o8:

ที่ตามมาอ่านเพราะติดใจพี่ไม้กะน้องปลื้ม

แต่พออ่านแล้วชอบทุกตัวละครเลยครับ  :pig4:

หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 19-02-2012 02:25:32
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: choicep ที่ 20-02-2012 22:53:22
เป็นนิยายอีกเรื่องที่ดีมากๆ ครับผม
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 22-02-2012 15:00:45
....(((o(*゚▽゚*)o))).  พี่ฉานมาเฟียกะเมียมากพี่55555555 ชอบบบบบบบบ

....พี่เมฆโดนท่านผู้กำกับเค้าเขียนบทให้ตั้งกะแรกพบละ ยอมให้เค้ารักต่อไปเถอะ

...ขอบคุณคนเขียนคนแต่งนิยายเรื่องนี้มากคะ สนุกมากกกก ฮากระจายคลายเครียด ความรักทุกแบบพ่อแม่ คนรัก เพื่อน พี่น้องน่าประทับใจมากคะ  รักนักแสดงทุกคนในเรื่องนี้เลยคะ

...ขอบคุณคุณเซคะที่เป็นตัวแทนนักเขียนนำเรื่องดีๆมาโพสให้เราได้อ่านกัน

...จะมีรวมเล่มอีกมั้ยคะ อยากได้บ๊อกเซ็ทบ้างจังคะ :o12:เพิ่งหลงเข้าเล้ามาไม่นานเริ่มอ่านไม่ทันเค้าจองหนังสือแล้ว อยากได้อะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: express_men ที่ 04-03-2012 22:31:28
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 18-04-2012 20:49:33
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ครับ ชอบความรักของฉานที่มอบให้กับเมฆมากเลย แมนและจริงใจสุด ๆ
ตอนแรกอ่านแล้วรู้สึกงง ๆ ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าเริ่มติดและต้องอ่านต่อให้ได้ 5555
พอมากลาง ๆ เรื่องก็เริ่มคลั่งขึ้นไปอีก เมื่อเจออีกคู่ปรากฏออกมาไม้กับปลื้ม ชอบคู่นี้มากอ่ะครับ น่ารักดี โดยเฉพาะในตอนพิเศษ อ่านไปเขิลไป เล่นเอาอยากเจอผู้ชายแบบในนิยายเรื่องนี้บ้าง อิอิ
พอมาใกล้ถึงตอนจบก็แอบรู้สึกสงสารอาทขึ้นมา น่าจะได้คู่กับอันดา
ชอบความรักของเพื่อนในกลุ่มของตัวละครมาก รักและจริงใจต่อกันสุด ๆ ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะได้เจอแบบนี้กับเขาบ้างหรือเปล่า ?
ขอบคุณนะครับที่นำเรื่องราวดี ๆ แบบนี้มาแบ่งปันกัน จะติดตามผลงานต่อไปนะครับ (:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: stdvic ที่ 20-04-2012 18:07:49
อ่านแล้วประทับใจมากเลยครับสุดยอดๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 21-04-2012 01:21:20
อ่านแล้วประทับใจดี แต่ชอบน้องตี่ตี๋ดูใสซื่อไร้เดียงสาดี
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 29-04-2012 22:51:39
ฉานเมฆน่ารักดี ไม้ปลื้มก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 03-05-2012 21:52:54
เรื่องนี้สนุกมากกกก
พี่ฉานโหดอ่ะ
แถมขี้หึงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆด้วย
พี่เมฆทีแรกนึกว่าใสซื่อ  เห็นเค้าบอกว่ามารยากับเจ้าเล่ห์
แต่เราว่าก็ไม่นะ
เอ่อๆ งงๆ น่ารักดีออก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Renze ที่ 05-07-2012 13:40:59
ชอบมากกกกก อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ

พี่ฉานเท่ห์มาก ชอบที่สุดเลย
ขี้หึงมากกกก อิจฉาพี่เมฆ
อ่านแล้วรู้สึกว่า พี่ฉานรักพี่เมฆมากจริงๆ
เป็นความรักและความผูกพันแบบยาวนานมาก

เดี๋ยวจะหยอดกระปุกรออุดหนุนรีปริ้นท์นะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-08-2012 13:34:00
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 22-08-2012 00:24:11
ชอบเรื่องนี้จัง

ฉานนี่แบบว่าหวงๆได้แรงมากอ่ะนะ

ชอบคู่ไม้กับน้องปลื้มเหมือนกัน

ถ้าน้องไม่รุกนี่คงไม่รู้ตัวแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 29-08-2012 10:04:26
เมื่อแหงนมองจันทร์ ช้านเห็นแต่ เพดาน ก็เลย ตั้งหน้า ตั้ง ตา อ่าน นิยายของ ท่านผู้แต่ง  :laugh:
ไล่อ่านมาเรื่อยๆ แล้วย้อน ปาย ดู  :a5: 6 เรื่อง แล้วเหรอเนียะ ยางม่ะได้ขอบคุณ ท่านผู้แต่งเลย
ขอบพระคุณมาก ค่ะ  จะติดตามผลงาน ต่อๆ ปายน๊าค่ะ ชอบ มาก คร้า  :กอด1:

ปล.ขอบคุณท่านผู้โพสด้วยคร้า 
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: gamon ที่ 10-09-2012 19:31:40
อ่านจบแล้ว น่ารักมากกกก
เมฆ & ฉาน
อ่านแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นในใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: suryan ที่ 23-09-2012 18:58:23
ขอบคุณครับ ที่แต่งเรื่องสนุกๆมาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: carenaka ที่ 03-11-2012 04:32:03
 :m25:ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องดีๆ อ่านจนลืมวันลืมคืน ติดต่อกันมา สิบ ชม แล้ว  :haun4: สนุกมากๆๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: kimboom ที่ 03-11-2012 08:35:18
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่กำลังจะอ่าน ถึงจะช้าไปสองปีกว่าๆ จากการค้นหาแต่ละเรื่องอ่าน มาเจอเรื่องนี้

เป็นเรื่องต่อไปที่กำลังจะอ่านค่ะ...ขอบคุณผู้แต่งค่ะ... :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 13-11-2012 19:09:10
มาแปะไว้ตอนที่32
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 13-11-2012 20:33:37
โฮ๊ะ!!! ฉานเล่นจองเล่นจองเมฆไว้แต่เด็กเลยเนาะ
ถึงวิธีการตีซี้จะแปลกๆ น่าตีไปหน่อย
แต่รักเมฆขนาดนี้ก็พอให้อภัยได้ อิอิ

ขอบคุณมากค่ะทั้งคนแต่งและคนโพสต์ที่นำเรื่องสนุกๆแบบนี้มาให้อ่าน :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 14-11-2012 17:00:58
ติดตามอ่านเรื่องนี้มานานแสนนาน แต่เพิ่งมาอ่านตอนจบวันนี้นานไหมอะ
ตั้งแต่ปี 10 ณ ปัจจุบัน 12 ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่าน และวันนี้เลยตามเก็บนิยาย
ที่จบไปแล้ว เอามาอ่านต่อ อ่านไปลุ้นไปสนุกมากๆๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 27-04-2013 06:27:33
อะโหยอ่านตามจนจบคะสนุกมากกกก ฉานแบบดูห่วงใยเมฆมากกกก(อิจฉา)

ส่วนคู่ซุกเด็กนั่นก็น่ารัก ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่นำเรื่องสนุกๆดีๆแบบนี้มาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 05-05-2013 21:51:04
ไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆ กับงานเขียนของคุณ TRomance โดนทุกเรื่อง สนุกทุกเรื่อง ปิดจบด้วยความอิ่มเอมทุกเรื่อง, กับเรื่องนี้ ความประทับใจอยู่ที่การเข้าคู่ระหว่างฉาน-เมฆ ลงตัว ชอบการพัฒนาบทบาทที่ีตีเนียน ตะล่อมเข้า ผูกมัดของฉาน + ความกึ่งใสกึ่งมารยาของเมฆ + การดำเนินเรื่องเรื่อยๆที่ไม่เรื่อยๆในแง่ความสัมพันธ์ ส่วนเรื่องการเข้าทำประตูไม่ต้องพูดถึง กระชากเลือด บีบเค้นได้ทุกหยาดหยดเช่นเคย ชื่นชมสุดๆ
//อ่านของคุณไปแล้ว 5  มันส์ในอารมณ์จริงๆ เป้าหมายคือตามเก็บให้หมด ลุยต่อๆ  :katai5:
ปล.ตอนนี้เตรียมกอดไว้รอรับขวัญน้้องโลมเข้าบ้าน อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 16-05-2013 22:28:05
 :bye2: o13 o13 o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: k_roro ที่ 16-05-2013 22:50:56
ชอบมากๆเรื่องนี้

ชอบสุดๆเลย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 06-06-2013 22:05:04
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: miyuujung ที่ 24-10-2013 04:51:14
คู่ไม้กะปลื้ม น่าร้ากกก ปลื้มตี้ติ เป็นนายเอกที่ได้ใจเจ้มากกก รุกจัดหนักตั้งแต่วันแรกเลยยลูกก มันต้องอย่างงี้สิ ไอหนูของเจ้ ไม้มันซื่อจนเซ่อ ปลื้มต้องจัดเต็มแบบนี้เลยยลูกก ไปไหนไม่รอด วะฮะฮ่าา แนะนำเค้า สนับสนุนเค้า แต่ตัวเรานี่สิ ยังหาใครมารุกเอ้ยให้รุก?ไม่ดร้ายยเบยย แหะๆๆ
เมฆกะฉานก็น่าฮักกก แอบเซงนุงอาททท น่าจะโดนจัดหนักซักทีบังอาจมาซ้อมพี่ไม้ของเค้า (อุ้ย หนูปลื้มค้อนเจ้ขวับเลยอ่า แหะๆๆ) จัดนุงอาทเป็นเคะ แล้วให้เมะแนวSประกบซะเลยยน่าจะดี 55
ต่อไปก็ไปอ่านคุณคนเดียวต่อ ท่าจะดราม่าแฮะ แต่ก็ต้องอ่านน นิยายของคุณ TRomance ทุกเรื่องให้ด้ายยย
ชอบสำนวนการเปรียบเปรยและการอธิบายความรุ้สึกของตัวละครมากค่ะ ใช้คำได้เก่งมากๆจริงๆขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะคุณ TRomance
และขอบคุณคุณseiki ที่นำนิยายมาโพสต์ค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 03-11-2013 11:58:46
ไอ้พี่เต้!!!!!   :z6:


ฉาน จัดหนักสักชุด ดิ๊
 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 17-11-2013 14:40:21
 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 22-12-2013 17:42:26
ชอบมากค่ะ จริงๆเท่าที่อ่านของคุณTRomance มานี่ ชอบแทบทุกเรื่องเลย(ยังอ่านไม่หมดครบเลยค่ะ) o13
ชอบสำนวนการเล่าเรื่องอ่ะค่ะ เล่นมุขแบบมึนๆอ่ะ ขำดี แต่ไม่ถึงกับเกรียนมาก เลยรับได้ มันไม่ยืดเกิน ตอนไหนไม่ใช่สาระสำหรับก็รวบเนื้อให้เข้าใจง่าย เราเลยชอบ :impress2:
ไม่ละเอียดเกินแล้วก็ไม่หยาบเกิน มันกำลังพอดีอ่ะค่ะ ขอบคุณคุณเซที่เอาเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน ขอบคุณคุณTRomance
ที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านเช่นกันค่ะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 04-04-2014 01:09:40
 :L1: ขอบคุณสำหรับเรื่องค่ะ ชอบเรื่องของคุณอีกแล้ว  :L1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: nichytaec ที่ 10-04-2014 12:16:20
พี่เมฆกับพี่ฉานสนุกมากๆ เลยค่ะ พี่ฉานตับจองพี่เมฆมาตั้งแต่เด็กๆ เลย จากลูกสมุนกลายมาเป็นมืขวา ก่อนจะผีนตัวเป็นเพื่อนซี้สุดท้ายกลายเป็นเมียพี่ฉานซะเลย 555+ ชอบความสัมพันธ์แบบนี้นะมันยืนยาวและมั่นคงมากๆ เลย แม้จะมีอถปสรรคบ้างกว่าคนรักเขาจะเข้าใจกันก็เล่นเอาเหงื่อตกน้ำตาซึมไปบ้างแต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี อ่านไปยิ้มไปหัวเราะไปและแอบเสียน้ำตาไปมันครบทุกรสจริงๆ ค่ะ เสียดายที่เปิดจองหนังสือไปนานแล้วแต่ถ้าโอกาสหน้ามีรีเราอาจจะได้เก็บสะสมบ้าง

ขอบคุณนะคะสนุกทุกเรื่องเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: amito ที่ 11-06-2014 14:21:34
เพิ่งตามอ่านจบค่ะ ต้องบอกว่าฉานกับเมฆเป็นคู่รักที่รู้จักกันทุกรูขุมขนเลยทีเดียว เค้าจองกันมาตั้งแต่เด็กๆนี่เนอะ

เรื่องสนุกมากค่ะ  o13 ขอบคุณนะคะ แล้วจะตามอ่านผลงานเรื่องอื่นๆด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 12-06-2014 15:47:23
ไม่ได้อ่านนาน กลับมาอ่านอีกรอบก็ยังสนุกเหมือนเดิมเลยครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: S.nonsuj ที่ 04-07-2014 22:38:25
เพิ่งมาอ่านแหละ สนุกจังเลย
ชอบคนแบบฉานจัง ชอบแบบรักจนไม่รู้จะรักยังงัย
หื่นก็กับคนนี้คนเดียว
เมฆคู่ตะวันฉานแสง อิอิ
ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:  :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 04-09-2014 19:58:25
จบล้าวววว ชอบเมฆอ่ะ มึนๆดี 5555 ขอบคุณมากค่า
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: whitelove1993 ที่ 27-09-2014 21:56:24
 o13
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: green13 ที่ 04-10-2014 09:19:45
 :-[เป็นกำลังใจให้หนูเมฆสู้ๆ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 17-11-2014 20:55:01
สนุกมาก ๆ ครับเรื่องนี้ ชอบทั้ง ฉาน เมฆ และ ไม้ ปลื้ม

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 20-01-2015 22:33:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 08-02-2015 20:20:02
อ่านจบแล้ว  :m4: สนุกมากเลยค่า
พี่ฉานนี้หวงเมียสุดยอดเลย น่ารัก  :m26:
เมฆเมียพี่ฉานนี่ก็เอ๋อๆ มึนๆ ฮาดี  :m21:
ชอบเรื่องนี้จังค่า ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องสนุกๆมาให้อ่าน ขอให้มีเรื่องใหม่มาให้พวกเราอ่านเรื่อยๆนะคะ  :m5:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 10-02-2015 00:08:09
ชอบคู่นี้มาก ชอบชื่อพี่ฉานด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 30-06-2015 06:07:44
ตามมาจากเรื่องพี่ดินคะ ชอบเรื่องนี้มากๆ ไม่ม่า แต่อาจจะมีให้หน่วงเบาๆ  พี่เมฆน่ารัก มารยาเบาๆให้สามีไปไหนไม่รอด พี่ฉานก็ขี้หึง ขี้หวงมาก แต่คู่นี้เค้าสมกันจริงๆ ไม่ใช่แค่เพื่อน แฟน แต่เป็นคู่ชีวิต น่ารักอ่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ ^^
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 14-11-2015 11:33:46
ผัวเมียคู่นี้ฟินดีจริงๆ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Tequila ที่ 20-12-2015 08:09:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 27-02-2016 13:37:15
น่ารักมากคะ ชอบพระเอกขี้หวง อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 12-05-2017 14:02:07
อันดาาาาาา อี๊ยาาาาาา :hao7:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 20-11-2017 12:27:33
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 30-03-2018 19:34:58
มีคนแนะนำเรื่องนี้มาแหละครับ กำลังจะอ่านละคราบบบ5555 :hao6: :hao7: :mew1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Luxfern ที่ 28-11-2018 16:49:49
ขอบคุณมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 06-12-2018 00:59:39
ขอบคุณนะคะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 14-12-2018 16:38:12
สนุกมากๆเลยค่ะ
มีความสุขที่ได้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 24-12-2018 11:35:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: ปาลี ที่ 09-11-2019 15:26:58
แปลกดีนะแม่แบบนี้ ขอโทษที่ทิ้งไปสะกคำก็ไม่มี ใจหิน
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: ปาลี ที่ 09-11-2019 15:36:19
พูดไม่ออกอ่ะ ไม่คิดว่าเมฆจะไร้เดียงสา ไม่รู้ว่าเต้คิดยังไงกับตัวเอง ไม่รู้จริง ๆ เหรอ อ่อนมากเอาจริงจริงร่าจะให้โดนเต้ทำมากกว่านี้ จะได้ฉลาดขึ้นมาอีกนิด
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: ปาลี ที่ 09-11-2019 16:13:17
ดูเมือนทุกคนจะมีความลับกับเมฆอ่ะ แล้วฉานไปสนิทสนมอพไรกับน้องเค้าถึงขนาดนั้น งง กับความประพฤติ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: ปาลี ที่ 09-11-2019 17:19:46
โง่เต็มสูตรมาก ไม่เข้าใจว่าการบอกความจริงว่าอาร์ทเลวยังไงกังน้องมันยากตรงไหน การเอาตัวเข้าแลกอย่างนั้นมันไม่ยากกว่าเหรอ นี่สงสารพระเอกมากมีเมียโง่ มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยอ่ะงงใจ
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 13-11-2019 00:02:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 07-10-2021 12:09:06
น่ารักจริงๆครับ เรื่องนี้ชอบมากก
หัวข้อ: Re: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance [ตอนที่ 6 ,17 มีนา 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 17-10-2021 02:34:19
พล่ามมาตั้งนาน
เห็นด้วยมากที่สุด มีแต่น้ำหาเนื้อไม่เจอเลย