พิมพ์หน้านี้ - [SF-TaoKacha] Cardiotoxin เมื่อความรักเป็นพิษต่อหัวใจ.. End! Special Part
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: KuNgWoN ที่ 20-09-2011 19:35:25
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ สรุปข้อสำคัญดังนี้ 1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด 3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ 4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม 5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 ==============================================================สารบัญ Intro เลื่อนลงข้างล่างเลยค่ะ Part I - Drunken Devil (http://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29160.msg1645193#new) Part II - Poor Prey (http://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29160.msg1653481#new) Part III - Confession (http://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29160.msg1662534#new) Part IV - Unlovable (http://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29160.msg1662575#new) Part V - Love Pain (http://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29160.msg1662784#new) Part VI - Heartache (http://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29160.msg1671675#new) Part VII - Consultant (Ton's side) (http://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29160.msg1683056#new) ============================================================== Title: Cardiotoxin Pairing : TaoKacha Genre : Drama(?), Romance, NC(?) Author: KuNgWoN A/N : เรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของคนแต่งเท่านั้นนะคะ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับศิลปินจริงแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะCardiotoxin ..รักของเราน่ะ.. มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอก.. ..ก็แค่สร้างกระแสเพื่อเพิ่มแฟนคลับเท่านั้นแหละ.. ท่ามกลางความเงียบของผู้คนที่ต่างทิ้งความคิดของตนให้จมดิ่งกับเนื้อหาในหนังสือ เดาได้ไม่ยากเลยสถานที่นี้ก็คือ.. ห้องสมุด.. ร่างโปร่งเดินมาหยุดยังชั้นวางหนังสือในหมวดที่ตนต้องการ นัยน์ตาเรียวเล็กเคลือบแคลงลังเลเนื่องด้วยหนังสือเล่มนั้นวางอยู่บนชั้นที่สูงจนอาจจะหยิบไม่ถึง เอื้อมมือไปสุดแขนแล้วหากแต่ยังห่างเพียงปลายนิ้ว ยังไม่ทันที่จะได้เขย่งปลายเท้าเพื่อเพิ่มความสูงอีกนิด เรียวมือปริศนาก็ได้เอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มนั้นให้แทนเสียแล้ว ร่างโปร่งชะงักไปทันที ไม่ใช่ว่าโกรธหรือตกใจที่อยู่ๆก็มีคนมาหยิบหนังสือตัดหน้าไป หากแต่เป็นเพราะแหวนเงินบนนิ้วนั้นต่างหาก รวมทั้งกลิ่นจางๆของน้ำหอมผู้ชายที่มาจากคนด้านหลังนี่อีกด้วย มันคุ้นเคย.. คุ้นเสียจนเขาคิดว่าอย่างไรก็ไม่มีทางเดาผิด ยิ่งน้ำเสียงที่กำลังเรียกชื่อของเขาในตอนนี้ มันยิ่งทำให้เขาแน่ใจ ..เต๋าแน่ๆ.. “ คชา.. ” เขาไม่กล้าหันไปตามเสียงเรียก เขายังไม่อยากจะเจอหน้าของคนๆนี้ในตอนนี้เลย “ ชา.. ช่วงนี้เป็นไรไปน่ะ?.. ” ฝ่ายนั้นเอ่ยถามอย่างห่วงใย สมควรอยู่หรอกที่เต๋าจะมาถามกับเขาแบบนี้ ช่วงนี้พวกเขาดูห่างๆกันไป ไม่ได้ห่างกันเพราะงานหรอก แต่ห่างเพราะคชาทำตัวเองต่างหาก คนหน้าเดียวเม้มริมฝีปากแน่น ขณะที่หันไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย “ มาหาทำไม?.. ” ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะให้เป็นปกติที่สุด หากทว่าความหวาดกลัวในแววตานั่นก็ปิดไม่มิด “ ทำไมมองกันแบบนั้นล่ะครับแอทเลิฟ? เห็นเต๋าเป็นแวมไพร์เอ็ดเวิร์ดรึไง?? ” เต๋ากล่าวแซว แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ขำด้วย กลับยิ่งจะแสดงความหวาดกลัวออกมามากกว่าเดิมซะอีก “ อ..เอ่อ.. ขอบใจนะที่หยิบให้ ต..แต่เราไม่อ่านแล้ว.. ไปก่อนนะ.. ” คนหน้าเดียวพูดรัวจนตะกุกตะกักไปหมด ก่อนจะรีบเดินออกมาจากที่ตรงนั้น แค่เห็นหน้าของเต๋าเขาก็บังคับความคิดตัวเองไม่ให้นึกถึง ‘เรื่องคืนนั้น’ ไม่ได้อีกแล้ว ขณะที่กำลังจะเดินหนี คชาได้หารู้ไม่ว่าบนใบหน้าหล่อจัดของผู้ชายอีกคนได้ปรากฏรอยยิ้มที่คาดเดายากขึ้นมา ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมาที่ทำให้เขาชะงัก “ คชา.. เต๋าว่าเรามีเรื่องจะต้องคุยกันนะ.. ” ไม่เพียงเท่านั้น เรียวมือแกร่งยังคว้าเข้าที่ข้อแขนแล้วลากร่างของคชาไม่ให้ไปไหน ก่อนจะยื่นหน้าเข้าใกล้ แววตาคมดุที่จริงจังคู่นั้นทำเอาคนมองยิ่งหวาดหวั่น..ขอร้องล่ะ.. อย่าให้เรื่องที่คุยต้องเป็น ‘เรื่องนั้น’ เลย.. TBC. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _TALK TO WRITER : คงเป็นอินโทรที่ทำร้ายจิตใจคนอ่านได้พอสมควรเลย ๕๕๕ คาดว่าเรื่องนี้คงจะไม่กี่ตอนจบนั่นแหละค่ะ (ถ้าคนอ่านไม่ยุให้มันยาวกว่านี้อ่ะนะ ฮ่าๆ) ส่วนจะมาอัพต่อเมื่อไหร่นั้น เราเองก็ยังไม่มีกำหนดเลยค่ะ เพราะอาทิตย์หน้ามีสอบค่ะ หวังว่าคงจะมีคนอ่าน+เม้นท์กันนะเออ :)
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: เต๋าคชา มาช่วย ผลักดันจ้า
กรี๊ดดดดดด !! แค่อินโทรก็สนุกแล้ว อัพต่อด้วยเถอค่ะ ทุกวันเลยนะคะ :o8: :-[ :call: ชอบมากมาย เนื้อหาคล้ายๆเค้าโครงเรื่องจริง
กรี๊ดดด ตามมาจากเพจสว่งหน้าเดียวค่า ชอบบุคลิกของเต๋ากับคชาแบบนี้มากมายอ่ะ อร๊างงงง อ่านแล้วได้กลิ่นมาม่ามาแต่ไกล แต่เราก็ชอบนะ 55555 รอๆๆๆๆๆๆๆ กรีี๊ดดดด เป็นกำลังใจค่ะ ^ ^
แค่เห็นชื่อก็รีบเข้ามากอ่านอย่ารวดเร็ว เรื่องนี้คงไม่ดราม่าแรงหรอกนะ ใช่มั้ย
ตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว คิดถึงคู่นี้ที่ซู้ดดดด อินโทรน่าสนใจมาก มาอัพไวๆน้าาาา
ดีใจที่มีฟิคคู่นี้เพิ่ม อิอิ แค่เริ่มเรื่องก็อยากรู้แล้วอ่ะค่ะ จะเป็นยังไงต่อหนอ ^^ รอด้วยคนแล้วกันค่ะ
มารอค่ะ!! ชอบจริงๆเลยอะไรแบบนี้ -..- สู้ๆนะคะ ตั้งใจในการสอบนะคะ :L2:
งุงิ อย่าดราม่ามากนะคะ เราสงสารหน้าเดียวกับเด็กชายเต๋าเอ๋อ :laugh: :laugh:
เห็นแค่ชื่อก็กดเข้ามาแบบไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น แค่อินโทรมาก็น่าติดตามแล้ว หวังว่ามันจะไม่ดราม่า(มาก)ใช่มั้ย ?? 555
คชา >O< หวังว่าจะมาต่อก่อนพี่สอบนะคะ ได้โปรดดด! แค่อินโทรก็น่าตามแล้วว อ๊ากกกกกกกกกก TT
มาต่อไวๆนะคะ
เห้ยยยย กรี๊ดดดดดดดด ด ชอบค่ะ เกิดอะไรกันขึ้น อยากรู้แล้วอ่า... มาปูฟูกรอ
เห้ยยยย กรี๊ดดดดดดดด ด ชอบค่ะ เกิดอะไรกันขึ้น อยากรู้แล้วอ่า... มาปูฟูกรอ พี่คือพี่ในบอร์ดฮูนป่ะค่ะ? คุ้นยูสมาก xD
กรี๊ดดด เต๋าชา ฟินจ้า !
มาต่อเลยน้าค้า อะไรกันนะคู่นี้ ><
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แค่อินโทรก้สนุกแล้วคร่า รักคู่นี้มากๆ รออ่านอยู่นะคะ มาต่อไวๆ เนอะ รัก at love สุดๆ ไปเลย o13 o13 :mc4: :mc4:
ชอบๆๆ แอทเลิฟๆ มาต่อไวๆน๊า
อ๊ายยยยเต๋าคชา เห็นแค่ชื่อก็ตามเข้ามาเลยค่ะ
เรื่องคืนนั้นรึป่าว?? :laugh: กลิ่นดราม่าลอยมาแต่ไกล ชอบนะ ไม่ใช่ไม่ชอบ :o12: AT LOVE :กอด1:
รอร๊อรอออออ มาต่อไวๆนะค่าา แค่อินโทก็สนุกแล้วววว
ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆ
อุ....รออ่านตอนต่อไปค่ะ^^ คู่นี้ไม่ไหวจะกรี๊ด
รักเต๋า*คชา ม๊ากก มากกก อัพเร็วๆนะคะ :impress2: :call: :call:
อืมเห็นชื่อเรื่องแล้วรอลุ้นว่าเรื่องนี้จะเป็นพิษกับตับเรารึเปล่ามาต่อไวๆนะคะ
แค่เห็นชื่อเรื่องก็น่าอ่านแล้ว แล้วมาต่อไวๆนะ
#ปูเสื่อรออออ อยากอ่านนนนนนนนนนนน ><
:mc4: :mc4: เย้ๆๆๆๆ มีคู่ เต๋าคชา อีกเรื่องแล้ว จะติดตามเรื่องต่อไปเรื่อยๆแน่นอน เพราะมันค้างคาที่สุดอ่ะ "เรื่องคืนนั้น" คืออะไรหว่า...? :z1: อย่าลืมมาอัพตอนต่อไปนะ จะรอจ้า :bye2:
Cardiotoxin (Part I) ..ทั้งที่ทุกอย่างมันควรจะไปได้ดีแล้ว.. ..แต่มันกลับถูกทำร้ายลงในเวลาข้ามคืน.. . . ผมกับเต๋าน่ะ.. เราก็สนิทกันตามประสาเพื่อนทั่วไปนั่นแหละ จริงอยู่ที่ความสนิทของเราทั้งคู่บางครั้งมันก็ทำให้ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรามันเกินกว่าคำว่า ‘เพื่อน’ คนรอบข้างเองก็ชงตามเล่นเอาแฟนคลับออกอาการ ‘ฟิน’ กันถ้วนหน้า แต่ผมก็ขอบอกได้อย่างเต็มปากเลยล่ะว่าผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยจริงๆ เต๋าเองน่ะก็มีแฟนสาวนอกวงการอยู่แล้ว ส่วนผม.. หลังจากที่เห็นว่าการสานต่อความสัมพันธ์กับยูกินั้นไม่น่าจะเป็นไปได้อีกแล้วก็ได้แต่ครองโสดอย่างนี้เรื่อยมา ..ระหว่างเราคงไม่มีทางเกินเลยคำว่าเพื่อนสนิทได้อย่างเด็ดขาด ถ้าหากว่าคืนนั้นผมไม่พลาดท่าเข้าซะเอง.. คืนวันนั้น.. เต๋าโทรมาหาผม.. น้ำเสียงสั่นเครือเหมือนกำลังร้องไห้จากปลายสายที่พูดวกไปวนมาทำให้ผมต้องทนข่มอาการปวดหัวไมเกรนที่เริ่มจะกำเริบอีกแล้วเพื่อรีบขับรถไปหาเต๋าที่คอนโด พอจะจับใจความได้ว่ามันทะเลาะกับแฟน.. เต๋าน่ะ.. แม้ว่าภายนอกจะดูเข้มแข็งและปกป้องดูแลคนอื่นๆอยู่เสมอก็ตาม แต่ที่จริงแล้วมันทั้งอารมณ์อ่อนไหวและเป็นคนคิดมากอีกต่างหาก ..ผมกลัวว่ามันจะทำอะไรบ้าๆขึ้นมา.. . . “ เต๋า.. ใจเย็นๆก่อนนะเว้ย อย่าเพิ่ง.. ” ผมรีบชิงพูดให้มันได้สติทันทีที่ได้เข้าไปในเขตห้อง คนตรงหน้าในตอนนี้ไม่เหมือนเพื่อนรักของผมคนเดิมเอาซะเลย กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งอยู่รอบตัวทำเอาผมชะงักกึก ..นี่กะจะให้เครื่องดื่มพวกนี้ย้อมใจรึไง?!.. ไม่ใช่เพียงแค่นั้นหรอกนะ กรอบรูปที่มีภาพถ่ายมันกับแฟนสาวยังถูกเขวี้ยงลงพื้น เศษกระจกกระจัดกระจาย.. “ ทำอย่างนี้ทำไมล่ะเต๋า! ทำไมทำลายข้าวของแบบนี้?! ” เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆซะด้วย ถ้าหากว่าผมมาช้ากว่านี้น่ะหรอ.. ไม่อยากจะนึกเลยจริงๆ “ มันจบแล้วชา.. ฮึก เค้าทิ้งเต๋าไปแล้ว.. ” คนตัวโตตรงหน้าโผเข้ารวบผมไว้ในอ้อมแขนอย่างแรงจนแทบจะเซ รับรู้ถึงแรงสะท้านจากไหล่กว้าง ทำเอาผมตั้งตัวแทบไม่ทัน เล่นร้องไห้ใส่กันแบบนี้จะให้ผมปลอบยังไงดีล่ะ? “ คืนนี้อยู่เป็นเพื่อนเต๋าก่อนได้มั๊ย?? ” ใครมันจะปฏิเสธล่ะครับทีนี้ เวลาที่คนเรามีปัญหาอะไรในใจก็ย่อมต้องการที่จะหาแหล่งพึ่งพิงอยู่แล้ว “ ได้สิๆ อยู่ด้วยทั้งคืนเลยก็ได้ ” ผมกล่าวพลางลอบยิ้ม ไม่ได้พูดเล่นนะ จะให้อยู่จริงๆก็ยังได้ แค่ขอให้มันไม่คิดมากไปกว่านี้เท่านั้นเอง “ ไหนเต๋าเล่ามาซิว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงได้ทะเลาะกัน? ” “ เค้าบอกว่าเต๋าไม่มีเวลาให้ เต๋ามันแย่.. เต๋าดูแลเค้าไม่ดี.. ” ฝ่ายนั้นเอ่ยคำพูดตัดพ้อทั้งยังจิกทึ้งผมตัวเองจนผมต้องร้องห้าม “ เห้ย! อย่าทำร้ายตัวเองดิว่ะเต๋า! ” ผมเข้าไปกอดปลอบให้มันใจเย็นลงอีกครั้ง จะว่าไปก็น่าเห็นใจเต๋ามันนะ เกือบจะร้องไห้ตามมันด้วยซ้ำ ทั้งๆที่มันก็คบกับผู้หญิงคนนี้มานานหลายปีแล้ว กลับต้องมาจบกันด้วยเหตุผลเดิมๆของความรักระหว่างดารากับคนนอกวงการ ..ไม่มีเวลา.. เห็นทีผมคงต้องอยู่ปลอบมันทั้งคืนเหมือนอย่างที่ผมพูดไว้ซะแล้วล่ะ “ เต๋าใจเย็นๆก่อนนะ.. ให้เราไปอาบน้ำก่อนได้มั๊ย? พอเสร็จงานเราก็รีบมาหาเต๋าเนี่ยแหละ ยังไม่ได้อาบเลย.. เดี๋ยวจะมานั่งคุยด้วยอีกทีนะ.. ” ไม่ต้องรอคำอนุญาตจากมันหรอก ชุดนอนอะไรก็ค่อยเอาของผมมาใส่นั่นแหละ ยังไงผมก็ชอบมานั่งเล่นที่คอนโดเต๋าบ่อยๆจนแทบจะกลายเป็นบ้านอีกหลังไปซะแล้ว.. “ แล้วอย่าเพิ่งวู่วามทำอะไรไม่ดีนะเต๋า.. ” . . ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยความรวดเร็ว ผมเผ้าก็ไม่ต้องไดร์มันก่อนแล้ว ก็ผมเป็นห่วงเต๋ามันนิครับ กลัวจริงๆเลยล่ะเวลามันอยู่คนเดียวแล้วคิดมากอย่างนี้ ขณะเดียวกันอาการปวดหัวไมเกรนของผมก็ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลงเลย ให้ตายสิ ขออย่าให้มันปวดไปมากกว่านี้ก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าใครจะดูแลใครล่ะทีนี้ ผมเดินกลับมายังส่วนของห้องรับแขกที่นั่งคุยกับเต๋าเมื่อครู่ ก่อนจะพบว่าอีกคนนั้นเฝ้าพระอินทร์อยู่บนโซฟาไปซะแล้ว พร้อมๆกับปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภาชนะที่ลดลง.. ไอ่คุณสว่าง! ดื่มเพิ่มเข้าไปอีกแล้วล่ะสิ!? ทำไมไม่ห่วงตัวเองบ้างเลย! “ ต๋าวว.. ไปอาบน้ำแล้วนอนได้แล้วไป อย่ามานอนเมาแอ๋อยู่อย่างนี้นะเว้ย ” ว่าพลางก็ฉุดแขนของอีกคนให้ลุกขึ้นไปด้วย ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยแฮะ ถ้าจะให้ผมแบกไปอาบน้ำตอนนี้ล่ะก็อย่าหวังเลย ก็ตัวมันหนักออกขนาดนี้ “ ต๋าวว.. ตื่นดิ ” หมับ! ทันใดนั้นเอง มืออีกข้างของไอ่คนที่ผมพยายามปลุกก็เข้าคว้าแล้วดึงแขนจนทั้งตัวผมล้มลงไปทับมัน “ ไอ่บ้า! เล่นไรเนี่ย!? เจ็บนะเว้ยย!! ” ผมพยายามดิ้นขัดขืนให้หลุดออก แต่กลายเป็นว่าคนตรงหน้ากลับรวบตัวผมไว้แน่นยิ่งกว่า “ ต๋าวววว ป..ปล่อย ปล่อยสิ.. ” ผมเริ่มโวยวาย ในตอนแรกก็นึกว่ามันหาเรื่องแกล้งผมซะอีก ทว่าอะไรบางอย่างที่สะท้อนในแววตาคู่นั้นก็บ่งบอกได้ดี เพื่อนรักของผมตรงหน้านี้ถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำจนกลายเป็นปีศาจตนนึงเสียแล้ว สาบานได้ว่าหลังจากนี้ถ้ามันเมาผมจะไม่มาอยู่กับมันสองต่อสองอีกแล้ว! “ เต๋า! ตั้งสติหน่อยสิ! เต๋าจะทำแบบนี้กับชาไม่ได้นะ!! ” ผมทั้งจิกทั้งข่วนเข้าที่แขนขาวจัดเต็มแรงจนหลุดออกมาได้ ไม่อยากทำแบบนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง.. เกือบจะหนีได้สำเร็จแล้วครับ ถ้าหากว่ามันไม่ได้ตรงเข้ามารวบขาผมแล้วอุ้มขึ้นพาดบ่าไปยังห้องนอน ผมดิ้นขัดขืนเพราะเริ่มรู้ชะตากรรม ก่อนจะถูกเหวี่ยงลงบนลานเตียงอย่างแรงจนจุกไปทั้งตัว อีกฝ่ายถาโถมขึ้นคร่อมทันที “ จะรีบไปไหนล่ะ หืม?? ” ร่างสูงกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะจับข้อมือผมตรึงร่างไว้ แรงที่บีบมานั้นก็แน่นราวกับว่าจะทำให้ข้อมือผมแหลกซะให้ได้ “ จ..เจ็บ..” ตอนนี้ผมตระหนักดีว่าคงไม่มีคำอ้อนวอนใดที่จะหยุดปีศาจตรงหน้านี่ได้อีกแล้ว เรียวขาที่พอจะเป็นอิสระอยู่บ้างพยายามถีบดันร่างข้างบนนี่ออกไป กำปั้นหลุนๆทุบเข้ามาที่ต้นขาทำเอาผมถึงกับนิ่งไป ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกให้เพื่อนรักมาทำร้ายผมอย่างนี้นะ? ปกติก็สู้แรงมันไม่ค่อยได้อยู่แล้ว ยิ่งในขณะนี้ที่ผมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ อีกทั้งอาการปวดหัวที่เล่นงานจนแทบจะหมดแรงนี่ด้วย ความหวังที่จะรอดหรอ? ..แทบจะเป็นศูนย์ ยิ่งคิดได้ดังนั้นผมยิ่งกลัว.. รู้ตัวอีกทีหยาดน้ำก็ร่วงหยดลงจากปลายหางตาเสียแล้ว..ช่วยด้วย.. ได้โปรด.. กางเกงขาสั้นถูกร่นลงไปกองที่ปลายเท้า ขณะเดียวกันที่เสื้อยืดตัวบางถูกเลิกขึ้น ทั้งตัวผมสั่นเทาราวกับลูกนกด้วยความหวาดกลัว เรียวปากโค้งหยุ่นกดจูบหนักๆสร้างรอยแดงจางๆทั่ว ลมหายใจอุ่นร้อนเคล้าคลอเคลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ ผมกลัว.. กลัวจนหลุดเสียงสะอื้นออกมา “ ฮึก.. ขอร้องล่ะ.. อย่าทำ.. ” ตอนนั้นเองที่ร่างข้างบนชะงักไปชั่วครู่ เต๋าเงยหน้าขึ้นมามองผม แต่เพราะหยาดน้ำที่อาบเคลือบทั้งนัยน์ตาจนทุกอย่างที่ผมเห็นมันพร่าเบลอจนทำให้ผมไม่รู้ว่าเต๋ากำลังมองกันอยู่ด้วยสายตาเช่นใด ..หื่นกาม.. หรือสงสารกัน?.. ผมได้รับคำตอบว่ามันเป็นสายตาแบบแรกทันทีเพราะถ้าหากว่าสงสารกัน.. เต๋าก็คงจะหยุดไปแล้ว ..แต่นี่เปล่าเลย.. “ อื้อออ.. อ๊ะ.. ” เมื่อถูกเรียวปากของอีกฝ่ายรุกรานหนักเข้า ผมรีบกัดปากตัวเองทนข่มเสียงคราง แต่เต๋าก็เหมือนจะยิ่งแกล้งกัน ระดมจูบย้ำซ้ำๆไปทั่วหน้าท้องจนผมทนต่อไปไม่ได้.. “ อย่า... ” ผมสะอึกสะอื้น เต๋าใช้กำลังบังคับให้ผมหนีไปไหนไม่ได้ ดุนดันความต้องการของตัวเองเข้ามา ผมอึดอัดจนร้องไม่ออก ราวกับทั้งร่างจะแหลกเป็นเสี่ยงๆ ผมร้องไห้.. จนไม่เหลือน้ำตาอีกแล้ว.. เต๋าขืนใจผมจนไร้เรี่ยวแรงที่จะหนีรอด หวังให้ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาค่อยๆบั่นทอนสติให้หมดลงไปเอง แต่เปล่าเลย.. ทุกสัมผัสกลับแจ่มชัดอยู่เสมอ.. ทั้งอ้อนวอนทั้งร้องขอจนเสียงแหบพร่า แทนที่จะหยุดในครั้งเดียว ฝ่ายนั้นกลับลงมือขืนใจซ้ำอีกครั้ง เจ็บปวดจนทรมาน.. ..ผมได้หวังในใจว่าหลังจากนี้.. ..เรื่องราวโสมมบนจะจบลงเพียงแค่คืนนี้เท่านั้นพอ.. TBC. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _TALK TO WRITER: เพิ่งสอบเสร็จวันแรก รีบกลับบ้านมาอัพเลย *กราบ* ขอโทษจริงๆนะค่ะที่เรามาอัพช้า หลายคนที่เข้ามาอ่านคงค้างและรอจนเบื่อจะรอไปซะแล้ว ๕๕๕ เอ็นซีอาจไม่ถึงใจและดราม่ามันก็อาจไม่ถึงอารมณ์เท่าที่ควรนะค่ะ คือปั่นไปพลางแล้วอ่านหนังสือสอบไปด้วย มันเลยมั่วๆอ่ะค่ะ TAT *วิ่งหนีคนอ่าน*
มาจิ้มตูดก่อน :m20: เอิ่มมมม มาต่ออย่างด่วนเลยด้ายม๊ายยยยยยยยยยยยย
:oo1: ค้างมาก ต่ออย่างด่วนเลย
โอ้----- ทำไมทิ้งค้างไว้แค่นี้ล่ะค๊าาาาาาาาา มาปูเสื่อรออีก 76.7% (คิดถูกป่าวหว่า) ชวนติดตามมากๆ (จริงๆ ก็น่าอ่านตั้งแต่เป็นเต๋าคชาแล้วล่ะ) เพราะงั้นเป็นกำลังใจให้คนเขียนรีบๆ มาต่อไวๆ นะคะ
ค้างสุดๆจ้าา รอที่เหลือเน้อออ ตั้งใจสอบจ้า สู้ๆ :กอด1: :กอด1:
ค้างงคามากกก รอตอนต่อไปอัพเลยได้ๆไหมอะ ฮ่าๆ
น่านนน ต่อจากนี้ต้องเป็นสิ่งที่รอคอย อิอิ คชานี่รักเพื่อนจังเลยน้าาาา ส่วนเรื่องแฟน ขอให้เป็นจริงๆได้ป่าวว (อุ๊บบส์) 555555 รอตอนต่อไปน้าาาา เป็นกำลังใจค่า ^ ^
ค้างคามากกก
มาต่ออย่างด่วนเลยค่ะ ค้างมากกกกกกกก
ค้างคามากค่ะ ชอบมากค่ะ เก็บรายละเอียดดีนะคะ มาต่อไวๆ นะคะ รอคร่าาาาาา
:sad4: ค้างอ่ะ!!!! "เรื่องคืนนั้น" เริ่มเปิดเผยแล้ว อยากรู้จริงๆมันมีอะไร คงไม่ใช่อย่างที่เราคิดใช่ป่ะ :z1: จะรออ่านตอนนี้ครบ 100% นะ
:serius2: อ๊ากกกก มาต่อ มาต่อ nc nc nc nc nc nc ฮ่าๆๆๆๆ
อ่าว เฮ้ยยยยยยย ตัดฉับเฉยเลย ค้างมากค่าาาาาาาาาาา อยากอ่านต่อๆๆๆ มาต่อไวนะค้า อินโทรมาสนุกมาก ลุ้นๆๆ
คนแต่งหนิ!!! มาทำให้อยาก แล้วก็จากไป ฮ่วยยยย
นั่นไง แล้วก็ค้างเติ่งอยู่แบบนี้ :z3: เต๋าให้อยู่เป็นเพื่อน หรืออยู่เป็นอย่างอื่นอ่ะ :m25:
โหดร้ายยยยยยยย :a5: ค้างแบบนี้ใจร้ายเกินไปแล้วนะ :z13:
เต๋าจะทำอะไรคชาของเค้า
o22 ค้างได้อีก :z3: ทำไมถึงทามกะฉันได้ :dont2:
ค้างเกิ๊นนนนน
คะ...ค้างมากกกกกกกก T___T ทำไมคนเขียนทำแบบนี้ ??? ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รีบๆมาต่อน้าาาา :-))
อินโทรยังขนาด แล้วท่อนฮุคจะขนาดไหน แล้วคืนนั้นมีอะไรอ๊ากกกกกก
กรี๊ดดดดดดดดดดด น่ารักอ่ะ ชอบคู่นี้มากๆๆๆๆค่า เขียนยาวๆน้า..........
at love ต๋าววววจะทำรัยคชาละเนี่ย ชอบๆ จะติดตามนะจ๊ะ^^
อร๊ายยยยยยยย คืนนั้น ตัวโต ทำไรตัวเล็กเนี่ย
ค้างมากมายอะ
คนเขียนอย่าทำร้ายกันอย่างนี้....... ค้างๆ
ท่าทางจะดราม่า รอนักเขียนมาอัพต่อนะคะ
รอ ร๊อ รอ อยากอ่านต่อมากมาย ค้างงงงงงงงงงงง อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก :serius2: :serius2:
รอต่อนะคะ กลิ้นดราม่าลอยมา แล่วแล่วแล่วแล้ว555555.
มาอัพต่อเป็น 100% แล้วนะค่ะคนอ่าน :)
หรือว่าต๋าวววจำเรื่องคืนนั้นไม่ได้ ชาน้อยเลยต้องทรมาณ
:jul1: และแล้วมันก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย แต่ไม่นึกว่าจะถึงขนาดที่คชาโดนเต๋าขืนใจเลยนะเนี่ย (แอบคิดว่าอาจสมยอมบ้าง อิอิ) :เฮ้อ: คชาน่าสงสารมากๆเลย ว่าแต่เต๋าพลั้งจริง หรือว่าวางแผนไว้เนี่ย
ฮือๆๆๆ สงสารคชาอ้ะ เต๋า...รับผิดชอบเลยนะ อัพไวๆหน่อยน้าาา คิดถึงสวดๆ +1 ให้จ้าาา
มาผลักดันและกดดันให้คนเขียนมาอัพต่อ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
อะไรกันเนี่ย!!เต๋าทำไมทำกับคชาแบบนี้ใจร้ายเกินไปแล้ว
ต๋าววววววววววววววววววววว ต๋าวๆ ทำไมทำงี้อ่ะ สงสารคชามาก จะมาเมาแล้วมั่วนิ่มแบบนี้ไม่ได้นะ รับผิดชอบด่วนเลย ไม่งั้นนะ..... จะรับคชาไปดูแลเอง ฟิ้วววววววว (วิ่งหลบอาวุธจากบรรดาแฟนคลับ)
ต๋าวววววววว :z6: คชาเค้า น่าสงสารที่สุดเลยยย มาม่ะกอดที :กอด1: สู้ๆกับการสอบนะค่า (เราก็สอบเหมือนกัน ฮ่าๆๆ) สอบเสร็จแล้วมาอัพต่อน้าาาา า รอจ้ะรอ > <
ต๋าวววววววว ว! ได้ชาแล้วต้องรับผิดชอบชานะ ไม่งั้นเราจะ :z6:
อ่านแล้วอดไม่ได้ ^^ รู้สึกแต่แรกว่าเต๋าเจ้าเล่ห์ แต่แบบนี้มันเกินไปนะ เล่นกับความรู้สึกอ่ะ เริ่มอยากรู้ว่าเต๋าจะทำไงต่อไป... จะได้ทั้งตัวทั้งใจรึจะเสียไปทั้งสองอย่างหนอ...
มาต่อแล้ว เย้ๆๆๆๆ แอบสงสัยค่ะ ว่าที่เต๋าทำไปเพราะ"เหล้า"หรือเป็น"แผน"กันแน่นะ แต่เราก็เดาว่าน่าจะเป็นอย่างแรกนะ เพราะปกติเต๋าไม่น่าจะใช่คนที่ทำอะไรวู่วามและรุนแรงแบบนี้ แต่สงสารคชา ท่าจะเจ็บน่าดู จะรอดูว่าเต๋าจะเคลียร์เรื่องนี้กับคชายังไง รออ่านต่อนะคะ สู้ๆกับการสอบค่า
้เราชอบมากเลยค่ะ ทุกบท โดยเฉพาะ การเขียนฉากที่บรรยายความรู้สึก ของตัวละคร ไม่้้ต้องมี ฉากประกอบ ใดใด มันลึกซึ้ง จนแอบน้ำตาคลอไปด้วยๆไม่ได้ รู้สึกถึงความเสียใจ ผิดหวัง ของตัวเล็กเลยอ้ะ รอตอนต่อไปน้า
สงสารตัวเล็กอ่า T^T
ด้วยความที่เป็นห่วง กลัวว่าเพื่อนจะคิดสั้น เลยรีบมาดูทันที ทั้งๆที่ตัวเองก็ไมเกรนกิน แต่เต๋ากลับทำลายสถานะของคำว่าเพื่อน โดยยัดเยียดความเป็นสามีให้ (ตั้ง ๒ รอบ -*-) มันถูกต้องแล้วหรือ? สงสารตัวเล็กจังเลย กับครั้งแรกที่ไม่เต็มใจ เจ็บมากไหมคะ? :o12: *กอดปลอบ* :กอด1: ปล. สว่างแวมไพร์ ถ้าไม่รับผิดชอบตัวเล็กของฉัน :angry2: เอ็งตาย :fire: :z6: :beat:
รอดูว่าไอ้พี่เต๋าจะเคลียยังไง เคลียไม่ดีมีเฮอ่ะงานนี้ :m16:
:serius2: :serius2: :serius2: ตัวเล็ก ฮือๆๆๆๆ
คชาเสร็จเต๋าแล้ว555 มันค้าง มาต่อด้วยนะค้า
ต๋าววว ทำแบบนี้เก็นใจคชามั่งป่ะ?? โอ้ยยย เป็นฟิคที่ชอบมากเลยค่ะไรเตอร์ขาา อย่าทิ้งไว้นานน้าา กำลังเข้มข้นนนน กรี๊ดดดด ชอบค่ะ ชอบคาแรกเตอร์แบบเน้! ชอบเต๋าแบบนี้ ชอบคชาแบบนี้ ชอบเคะไม่สู้คน! อ่านแล้วสงสารรร อร๊างงงง 5555 เป็นกำลังใจนะค่ะ > <
แบบว่า เต๋าแกเมาแล้วกามหรอ?? หรือว่าอะไร แบบว่า มันแลดูมึนเบาๆ ถ้าเพ้อหาแฟนแล้วปล้ำชานี้มันยังแลมีที่มาที่ไป แต่นี้เมาแล้วหื่นกามเลยอ้อ?? เหมือนจงใจเลยอะอันนี้อิพี่ต๋าวววว ไม่ว่าจะเมาแล้วกาม หรือกามโดยสันดาน ได้ชาแล้วรับผิดชอบเลยนะ!!
:o12: โอ้ย สงสารคชา เต๋าทำอย่างนี้ได้อย่างไร มาต่อด่วนเลยค่ะ
อ๊ากกกกกพี่เต๋าาา ทำอะไรของแก๊! โถ่ พี่คชาน่าสงสาร TT ปล.อ่านเรื่องนี้แล้วแบบรู้สึกว่ามันใช่พี่คชาจริงอ่ะ คำพูดแบบนี้มันพี่คชาชัดๆ คนเขียนเขียนได้ดีมากค่าาา ชอบบบบบ +1 นะอิอิ
:z3: :z3: อ๊ากกกกกกกกกกกก รอตอนต่อไปอย่างบ้าคลั่ง สนุกมากค่ะ เราติดเรื่องนี้ไปแล้ว :serius2: :serius2: :serius2:
Cardiotoxin ..ผมถูกปีศาจร้ายกลืนกิน.. ..แล้วผมจะทำอย่างไร?.. ..ก็ในเมื่อปีศาจตนนั้นเป็นคนเดียวกันกับเพื่อนรักของผมเอง.. . . ผมตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวัน รู้สึกอ่อนล้าไปทั้งร่าง แม้แต่เปลือกตาที่จะขยับเพื่อลืมยังทำได้ลำบาก ความเจ็บปวดกำลังกลืนกินทั่วสรรพางค์กาย ผมทนข่มมันเพื่อยันให้ตัวเองลุกขึ้นนั่งให้ได้ หันมองพื้นที่ด้านข้างของเตียง ก่อนจะพบว่าอีกคนนั้นยังคงหลับอยู่ ดีแล้วล่ะครับ.. ดีกว่าให้มันตื่นขึ้นมาแล้วรับรู้ว่ามันเผลอทำร้ายผมโดยไม่ได้ตั้งใจแบบนี้ ผมฝืนตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน อาการปวดหัวที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อคืนเป็นทวีคูณทำเอาผมหน้ามืดไปชั่วครู่จนล้มลงไปกองอยู่ข้างเตียง ผมรู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาดื้อๆ ..ล้มลงเสียงดังขนาดนี้เดี๋ยวไอ่เต๋ามันก็ตื่นหรอกคชา! พยายามเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ห่างจากตรงนี้เท่าไหร่ โดยไม่ลืมที่จะคว้าชุดที่ใส่เมื่อวานติดมาด้วย .. . ผมมองภาพเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกบานกว้างตรงหน้า นัยน์ตาบวมแดงเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ทั้งยังรอยรักสีกุหลาบที่กระจายทั่วแผ่นอกเหมือนจะยิ่งตอกย้ำเหตุการณ์เมื่อคืน ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ.. ผมกุมขมับแน่น ..เวียนหัวชะมัดเลย ทั้งเวียนหัวทั้งคลื่นไส้ จนผมต้องโก่งคออาเจียนเอาน้ำย่อยใสๆออกมา รู้สึกขมเฝื่อนไปทั้งปาก.. น้ำเย็นถูกวักขึ้นเพื่อล้างหน้าลวกๆ น้ำตาเผลอไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวอีกครั้ง ผมได้แต่ปลอบใจตัวเอง ..ไม่เป็นไรหรอกนะ.. คิดซะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นเป็นเพราะผมพลาดท่าไปเอง.. ยิ่งคิดแบบนั้นก็ยิ่งร้องไห้หนัก.. ผมปิดปากตัวเองแน่นไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดรอดออกมาจนอีกคนตื่น ..ไม่งั้นเรื่องยาวแน่ๆ.. เรียวมือเกาะขอบอ่างจนแทบจะจิกลงไปในเนื้อสุขภัณฑ์ ...ทำไมต้องเกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้ขึ้นด้วยนะ??.. ผมเดินกลับมายังที่เตียงนอน คนที่ยังนอนอยู่บนเตียงทำให้ผมรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา แค่ได้เห็นหน้าก็ยังรู้สึกกลัวขนาดนี้แล้ว.. แล้วถ้าต่อไป ถ้ายังต้องทำงานร่วมกันอยู่.. ผมจะทำยังไง?? ตอนนี้รู้เพียงเรื่องเดียว....จะให้เต๋ารู้เรื่องเมื่อคืนไม่ได้เด็ดขาด.. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ผมซบหน้าลงกับพวงมาลัยหน้ารถอย่างคนหมดแรง ยังดีที่เวลาเช้าตรู่อย่างนี้ลานจอดรถจึงยังไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนัก ความเมื่อยล้ากลืนกินทั่วร่าง ผมหลับตาลง.. ปวดหัวจนอยากจะอาเจียนออกมาอีกรอบ ถ้าจะให้ขับรถกลับเองอย่างนี้เห็นทีคงมีแต่ตายกับตายแน่ๆ เรียกแท๊กซี่กลับน่าจะเวิร์คกว่า ส่วนรถคันนี้ค่อยกลับมาเอาวันหลังก็แล้วกัน.. .. . สายลมอ่อนๆยามเช้าพัดมาแตะผิวเพียงนิดเดียวก็เล่นเอาหนาวสั่นทั้งที่เม็ดเหงื่อผุดพรายจนชุ่มแผ่นหลัง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพิษไข้กำลังเล่นงานผมอยู่แน่ๆ ขณะที่ผมจะก้าวข้ามไปยังอีกฝั่งของลานจอดรถ พลันนั้นเองที่ความวิงเวียนประเดประดังเข้ามาจนสองขาไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวต่อ โดยที่เพิ่งได้สังเกตว่ารถสปอร์ตคันหรูกำลังแล่นมาทางผมพอดี! ผมเห็นนะว่ารถคันนั้นแล่นเข้ามาใกล้แล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีแรงที่จะเดินหนีเลย.. ปี๊นนนนนนนนนนนนน!!!!! เสียงบีบแตรดังลั่นเสียดแทงเข้าไปในโสตประสาท อยากจะก้าวเท้าหนีออกจากตรงนี้แต่ก็ทำไม่ได้ ไม่ทันเสียแล้ว.. รถคันนั้นอยู่ในระยะประชิดเกินไป ทุกอย่างในความนึกคิดอื้ออึงไปหมด ตอนนี้รู้เพียงแค่ว่าร่างของผมล้มลงกระแทกพื้น พาหนะคันหรูชะงักกึกก่อนที่จะถึงตัวผม ดูท่าว่าเจ้าตัวคนขับเองก็คงจะตกใจไม่ใช่น้อย ดีไม่ดีอาจจะเตรียมตัวลงจากรถมาด่าผมด้วยซ้ำ ประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออกพร้อมกับร่างๆหนึ่งที่ก้าวลงมา เป็นบุคคล..ที่ผมไม่คิดว่าจะมาเจอกันในเวลานี้ได้ “ ต..ต้น! ” “ เห้ย! ชา.. แกเป็นไงมั่งว่ะ?! ” ฝ่ายนั้นตรงเข้ามาประคองผม ลนลานทำอะไรไม่ถูก ขณะที่ผมเองก็กำลังตกอยู่ในภวังค์ตกใจ “ ว.. ไหวป่ะแก? หน้าซีดจัง.. ” “ ช..ช่วย.. ” ตอนนี้อย่าว่าแม้แต่จะลุกขึ้นเองเลย แรงจะขยับปากพูดยังไม่มีด้วยซ้ำ พยายามสะบัดไล่ความวิงเวียนออกไปจากหัว เข้มแข็งหน่อยสิว่ะคชา.. “ ว่าไงนะแก? ” “ ช่วยด้วย.. ” ผมเค้นคำพูดออกมาเพียงเท่านั้น รู้สึกเหมือนโลกหมุนเคว้ง ใบหน้าของต้นที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนจะพร่าเบลอไปในสายตา จนท้ายที่สุด ทุกอย่างก็ดับวูบไป.. “ ชา! ชา! คชา!! ” _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ กลิ่นหอมเย็นของยาดมอบอวลปลายจมูก ผมค่อยๆลืมตาขึ้นเพื่อปรับโฟกัสภาพตรงหน้า อาการวิงเวียนค่อยทุเลาลงบ้างแล้ว ผมหันไปมองหาคนด้านข้าง แต่คงเพราะหันเร็วเกินไป จึงได้รู้สึกปวดจี๊ดไปจนถึงสมอง ผมกุมขมับพร้อมด้วยหลับตาแน่น “ ค่อยๆสิว่ะแก เดี๋ยวก็วูบไปอีกหรอก ” เสียงของต้นดังอยู่ไม่ห่างกัน ผมนั่งเรียงลำดับความคิด ตอนนี้ผมคงจะอยู่บนรถของต้นสินะ ยังจอดที่เดิมอยู่เลย แสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาที่ผมวูบไปนั้นก็คงจะไม่นาน สายตาของผมสะดุดเข้าที่หน้าเหวอๆของอีกคน เห็นแล้วอยากจะหลุดขำชะมัด ถ้าหากไม่ติดว่าตัวเองยังรู้สึกป่วยๆอยู่อย่างนี้ “ ไม่ต้องมามองฉันอย่างนั้นเลยนะ ก็คนมันตกใจนิ อยู่ๆแกก็มาเป็นลมใส่ฉันอย่างนี้อ่ะ! ” นั่นแน่ะ.. ยังจะมารู้ทันความคิดผมซะอีก ผมคว้าหลอดยาดมมาจากมือของอีกคน ก่อนจะสูดเอากลิ่นจางๆจนฉ่ำปอด ต้นเหลือบมามองผมเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถาม “ ให้ไปส่งป่ะ? สภาพแกอย่างนี้ขับรถกลับเองไม่น่ารอดว่ะ ” “ ไม่ต้องหรอก กลับแท๊กซี่ก็ได้ ลำบากต้นเปล่าๆ ” ไม่อยากรบกวนมันหรอกครับ แล้วมันก็เพิ่งขับรถมาถึงที่นี่ไม่นานเอง “ ลำบากอะไรกันล่ะ! เพื่อนกันทั้งนั้น ถ้าแกกลับเองแล้วอยู่ๆเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะรู้สึกผิดนะ.. ” ผมรู้สึกซึ้งกับน้ำใจของเพื่อนคนนี้จริงๆ ต้นน่ะ.. ถึงบุคลิกจะไม่ใช่ แต่นิสัยแมนมากนะครับ เหมือนได้พบกับแหล่งพักพิงหลังจากที่ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมา ..เรื่องราวที่เลวร้ายเกินกว่าจะรับไหว.. ผมก็เลยตอบตกลงให้ต้นเป็นสารถีไปส่งให้ “ แปลกเนอะที่วันนี้รถไม่ติด ฉันก็อุตส่าห์รีบเอาของที่ไอ่เต๋ามันลืมไว้มาฝากที่ป้อมยาม ไม่อยากไปเรียกมันหน้าห้อง รายนั้นน่ะตื่นยากตายห่า.. ” คงเป็นเพราะบรรยากาศในรถมันเงียบเกินไป คนที่ไม่ชอบอยู่นิ่งอย่างต้นก็เลยหาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาบ่น แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากว่าเรื่องที่ต้นพูดถึงมันไม่เกี่ยวกับ ..เต๋า “ แล้ว..แกมาหาเต๋าทำไมว่ะ? แอทเลิฟๆ ” เหมือนต้นจะชงผิดเวลา แค่ได้ยินชื่อนั้น ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก็ย้อนมาอีกครั้ง ความหวาดกลัวเกาะกุมจิตใจจนหยาดน้ำรื้นขอบตา ผมรีบหันออกนอกหน้าต่าง ไม่กล้าสบตากับคนข้างๆ “ ว่าไงล่ะแก? ยังไม่ตอบฉันเลยนะ ” ต้นหันมาเพียงแวบเดียว ผมหลบไม่พ้น อีกคนจึงทันได้เห็นน้ำตาของผมก่อนจะได้กลับไปใช้สมาธิในการขับรถอีกครั้ง “ เห้ยย!! ไอ่คชา! แกร้องไห้ทำไมว่ะ?! ” “ อ..เอ่อ.. ” ผมรีบปาดน้ำตาลวกๆ จะให้ตอบไปว่ายังไงดีล่ะคชา? ถ้าต้นรู้เรื่องนี้ขึ้นมา.. ผมจะทำยังไง? “ แค่นึกถึงฝันร้ายเมื่อคืนน่ะ.. ” โกหกออกไปคำโต นึกอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆ “ แน่ใจหรอ?.. ” น้ำเสียงเย็นเฉียบทำให้ผมสะดุ้งได้โดยไม่ต้องตวาดใส่กัน นัยน์ตาคมโตทอประกายดุจนน่ากลัว ราวกับจะคาดคั้นความจริงจากผมด้วยสายตา มืออีกข้างละจากการประคองพวงมาลับมากระชากที่ข้อมือผม ผมรีบขืนตัวกลับ น้ำตายิ่งไหลอย่างห้ามไม่ได้ “ ปล่อยนะต้น! ” ต้นจำใจปล่อยมือจากผมเพราะต้องขับรถไปต่อ คงเป็นความโชคร้ายของผมที่ติดไฟแดงพอดี.. ผมถูกกระชากแขนอีกครั้ง ปลายนิ้วจากอีกคนที่สัมผัสลงบนรอยแดงที่ข้อมือทำให้ผมเผลอกัดปากแน่นเพราะความเจ็บ “ เบาๆหน่อย.. ร..เราเจ็บ ” “ บอกความจริงมาได้มั๊ยคชา? ” รอยแดงรอบข้อมือประจักษ์แก่สายตา คงเป็นรอยตอนที่เต๋าบีบไว้เพื่อตรึงร่างผมในตอนนั้น ..ผมหลบสายตา ไม่กล้าพูดความจริงออกไป “ อธิบายมาสิว่ารอยพวกนี้มันมาได้ยังไง? ” ยิ่งถูกคาดคั้นหนักก็ยิ่งรู้สึกกดดัน ผมเม้มปากแน่น ขณะที่นัยน์ตาก็เหลือบมองสัญญาณไฟจราจร ตัวเลขสีแดงนับถอยหลังลงอย่างเชื่องช้า ทำไมเวลาแค่นาทีกว่าๆถึงได้ยาวนานขนาดนี้นะ? “ บอกฉันมาสิ! ” ต้นเริ่มขึ้นเสียง ไม่เพียงเท่านั้น ยังกระชากเสื้อผมลงเผยให้เห็นรอยต่างๆตามผิวเนื้อที่ถูกซุกซ่อนอยู่ ผมตกใจ รีบขืนกลับทันที น้ำตาร่วงหยดลงมาอัตโนมัติโดยไร้เสียงสะอื้น ก่อนจะหอบหายใจแรง ..ทั้งกลัว.. ทั้งตกใจ.. “ ไอ่เต๋าใช่มั๊ย?! ” ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด และแน่นอน.. ต้นไม่มีทางเชื่อเป็นอันขาด “ แกอย่าโกหกฉันนะคชา! ” ต้นเริ่มโมโหที่ผมปิดบังความจริง และเริ่มระบายอารมณ์ไม่พอใจลงบนคันเร่ง ขับปาดหน้ารถอีกคันด้วยความรวดเร็วจนผมตกใจ “ ไอ่เต๋ามันใช้กำลังกับแก.. ทำร้ายแก.. ใช่มั๊ย? ” “ บอกตามตรงนะคชา ตอนแรกฉันอยากจะนึกให้เป็นพวกแกทะเลาะกัน แต่จากที่ฉันเห็นน่ะ.. ” ต้นเว้นคำพูดไว้ชั่วครู่ “ เต๋ามัน.. เอ่อ.. ขืนใจแกใช่มั๊ย? ” ฝ่ายนั้นเม้มปากแน่น ดูท่าว่าเจ้าตัวก็คงไม่อยากจะพูดคำนั้นออกมา ผมรู้สึกเหมือนตัวเองดำดิ่งสู่เหวลึก “ ม..ไม่ใช่นะต้น! ฮึก.. เต๋ามันเมา.. ล..แล้วมันก็ไม่รู้ตัวด้วย.. ” ผมละล่ำละลักบอกความจริงทั้งน้ำตา ในเมื่อยังไงก็ไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป แล้วก็.. ไม่อยากให้ต้นต้องมามองเต๋าในทางไม่ดีแบบนั้นด้วย “ เต๋าไม่ผิดหรอก.. อย่าไปโกรธมันเลย.. ” ยิ่งพูดก็เหมือนจะยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่ตนเองสูญเสียไป “ แม่งเอ้ย! ” ต้นสบถ ไม่รู้ว่ากำลังด่าไอ่รถคันนั้นที่ปาดหน้าเอาคืนหรือว่ากำลังสบถด่าในสิ่งเลวร้ายที่เต๋าทำไว้ให้กับผม ใบหน้าคมเข้มนั่นบ่งบอกว่าไม่พอใจเอามากๆที่ผมยังคงอภัยให้ทั้งที่ตัวเองมีแต่เสียกับเสีย “ แล้วไม่คิดจะเรียกร้องความรับผิดชอบกับมันหน่อยหรอว่ะ?! ยังไงมันก็ทำร้ายแกไปแล้วนะ! ” ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ น้ำตาจากไหนไม่รู้มากมายเต็มไปหมด สองมือยกขึ้นมาปิดปากแน่น ก่อนจะสะอื้นไห้จนตัวโยน ..รับผิดชอบงั้นหรอ? ก็นั่นมันเพื่อนผม.. แล้วเราก็เป็นผู้ชายด้วยกันอีกต่างหาก จะให้ทำยังไงล่ะ??.. ขณะที่ฝ่ายคนขับหันมามองด้วยสายตาที่แสดงถึงความสงสารจับใจ ต้นทำได้เพียงยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้อย่างคนทำอะไรไม่ถูก “ เช็ดหน้าเช็ดตาซะเถอะ แล้วก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว เดี๋ยวก็ปวดหัวหนักกว่าเดิม.. ” ต้นก็เป็นแบบนี้แหละครับ.. ถึงภายนอกจะดูเป็นคนแรงๆแต่ที่จริงแล้วจิตใจก็ดีมากเลยทีเดียว “ ขอบใจนะ.. ” ผมกล่าวเสียงแผ่ว รู้สึกว่าอาการปวดหัวที่เพิ่งทุเลาลงได้กำเริบกลับมาอีกครั้ง จึงเอนเบาะลงปล่อยให้ตัวเองจมสู่ห้วงนิทรา แค่งีบเดียวก็ยังดี.....ขอแค่ได้อยู่ในความฝันแสนหวานเพียงชั่วครู่.. ..ก็ยังดีกว่าตื่นมาเจอกับความจริงอันโหดร้าย.. TBC. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _TALK TO WRITER: อย่านะ! อย่าเพิ่งตามมาฆ่าเราที่แต่งฟิคทำร้ายชาน้อยขนาดนี้ ๕๕๕ อยากเห็นฟิคเต๋าคชาแนวๆนี้ แต่ไม่ค่อยมีใครแต่ง ก็เลยแต่งเองซะเลย น้ำตาของเคะน้อยๆคือความสุขของเราค่ะ กร๊ากกกก วันนี้เพิ่งสอบเสร็จวันสุดท้ายค่ะคุณผู้อ่าน วิชาสุดท้ายสาหัสมากเหอะ TAT กลับบ้านมาถึงก็เร่งปั่นทันทีเลยค่ะ นึกว่าจะไม่เสร็จซะแล้ว ปล.เดือนต.ค.นี้เราย้ายหออ่ะค่ะ ซึ่งหอนั้นมันไม่มี wi-fi อ่ะค่ะ TAT เดี๋ยวจะพยายามหาทางอัพให้ได้นะค่ะ
T-T โฮๆๆๆ คชาสุดที่ร้ากกกกก ต๋าวววว แกทำคชาน้อยร้องไห้ รับรู้ด้วยนะเว้ยยย
drama!!!
ติดเรื่องนี้แล้ววววว ได็โปรดมาแต่งต่อเร็วๆ
เต๋ามารับผิดชอบคชาเดี๋ยวนี้เลยนะ
อาร๊ายยยยยยยยยยยย :z3: สงสารคชา :m15:
เฮ้ออออ เต๋าจะรู้เมื่อไหร่?? หรือที่ทำไปน่ะ รู้ตัวอยู่แล้ว...ตั้งใจมั้ย?? ท่าทางว่าต้นน่าจะเป็นคนคลี่คลาย?? เพราะรู้ความจริงเลยเดินหน้าลุยเพื่อเพื่อน แต่โกรธขนาดนี้...เต๋าจะได้รู้อะไรแน่เร้ออออ โดนกันท่าน่าจะสะใจกว่า ฮี่ๆ ^^ รอตอนต่อไปด้วยความลุ้นค่าาาา
คชาๆๆๆๆๆ โอ๊ย มามะเดี๊ยวเราจะกอดปลอบเอง( :laugh:)
เจ้าแวมไพร์ยังนอนสบาย แกรู้ไหม? ว่าทำตัวเล็กฉันร้องไห้หนักขนาดนี้ :o12: เรื่องถึง คนต. แบบนี้เต๋าโดนเชือดแน่ๆ :beat: ตัวเล็กอ่า... น่าสงสารจับใจ :z3:
ตกลงว่าเต๋าไม่รู้เรื่องคืนนั้นอ่ะดิ เอ๊ะ หรือรู้เลยทำล่ะเนี่ย แต่สงสารคชามากเลยอ่ะ คชาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาอย่าร้องไห้้้้้้้้้้้้ :m15:
เพื่อนส่งลิ้งค์มาให้บอกเรื่องนี้มีแววสนุก เลยลงทุนสมัครเล้าเป็ดเพื่ออ่านเลย แล้วก็ไม่ผิดหวัง คนเขียนสื่อภาษาได้เห็นภาพมากค่ะ แทบจะร้องไห้ตามคชา และแทบจะถลาไปตบเต๋า *โดนFCเต๋าถีบบ* ชอบเรื่องนี้มากเลย ขอบคุณมากเลยนะคะที่แต่งเรื่องดี ๆ แบบนี้มาให้อ่าน ^^
เราก็ชอบแนวนี้นะ ชอบมากกกกก คาแร็คเตอร์เป๊ะมากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ รออ่านอยู่ทุกวันเลยค่ะ อ๊ากกกกกก ชอบๆ
อยากบอกว่าชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ มาต่อบ่อยๆนะ
สนุกมากกกกกค่ะ มาต่อบ่อยๆนะ หายไปทีนานอยู่ ฮ่าๆๆ
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ แนวนี่แหละค่ะที่รอมานาน กั่กๆๆๆ ,, ดีใจค่ะที่มีคนแต่ง สงสารตัวเล็ก ต้นคอยช่วยดูแลคชาด้วยนะจ้ะ แมนมากเลยต้นอ่า ชอบๆ เต๋าก็ ... :เฮ้อ: ไม่เครียดเนื้อเรื่องฟิค แต่เครียดเรื่องที่เดือนตุลา คนเขียนไม่มีเน็ตเนี้ยแหละ!!!! โฮกกกกก :serius2: :a5: o22
เง้อออออ พี่คชาอย่ามาคนดีไม่ถูกเวลาได้ป่ะ! 555555555 คณต~~ จัดการพี่เต๋าเลยๆ!
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮอ สงสารคชา ทั้งๆ ที่เปราะบางขนาดนี้เต๋ายังทำได้ลง ชริส์ (ถลกแขนเสื้อ) เรามาเคลียร์กันตัวๆ เลยดีกว่าเต๋า ปล. แอบเห็นด้วยว่าน้ำตาเคะเป็นความสุขสุดยอด ที่สำคัญแอบจิตนิดๆ ชอบตอนคชาร้องไห้ มันเป็นโมเมนท์ที่โมเอะมากๆ
กรี๊สสส อัพแล้ววว ขอไลค์แรงๆเลย น้ำตาเคะ คือความสุขของเหล่าป้าๆ 5555555 โอ้ยยย คิดภาพคชาร้องไห้แล้วจี๊ดดดมากกก เห็นแล้วอยากให้เต๋าปาดน้ำตา อร๊างงงง ชอบคุณนายจังเลยอ้ะะ เหมือนเป็นแม่พระมาโปรดดด คุณนายแมนมากกก เป็นกำลังใจน้าาา สู้ๆๆ > <
คนต เพื่อนรักของชามาช่วยชาเร๊วววว เต๋าเอ๊ย :z6: ชั้นเกลียดแก(สองวิ) ทำร้ายชาขนาดนั้นได้ยังไง! รีบมาง้อ + สารภาพรักเลยนะ :laugh:
แนะนำให้ลงในเด็กดีด้วยจะดีมากเลยค่ะ เผื่ออัพๆเยอะๆแล้ว ในเล้าเป็ดมันหาตอนยากอ่า -------------- สงสารคชามาก แต่ฟิคสนุกม๊ากกกกกกกกกกกกก เห็นด้วยกับไรเตอร์ น้ำตาเคะมันช่างน่ารัก กร๊ากกกกกกกกกกก น่ารักน่าทะนุถนอมมาก ถึงจะน่าสงสารก็เถอะ = =; เต๋าไม่รู้เรื่องอะไรเลยสิเนี่ย ต้นสมเป็นต้นจริงๆ นึกภาพออกเลยอ่ะ ชงๆ แล้วก็วิธีเค้นเอาความจริงเนี่ย 5555 ฉันอยากรู้ฉันต้องรู้ให้ด๊ายยยยยย
คนเขียนทำร้ายคชาของเค้าอ่ะ ถ้าตาเต๋ามันใจร้ายนัก เดี๋ยวเค้าจะลุ้นต้นชาแล้วนะ แต่ว่ามันจะได้หร๊ออออ ><
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด สงสารคชา โกรธเต๋าแล้วโป้งง :m16:
พี่ต๋าววววววววววว ตื่น เดี๋ยวนี้เลย :z3: at love แย่แล้ว ยังนอนอยู่อีก :z6: ที่ ต๋าวววว ทำไป :oo1: นั้น จำไม่ได้ :serius2: เจงๆ เหรอ
เอิ๊ก...มาติดตาม สนุกมากกกกค่ะ น้อยนักเขียนที่จะเขียนคู่นี้
คุณนายต้นแมนมากอ่ะ! รีบตื่นมารับผิดชอบชาเลยนะเต๋า
มาต่อ ไว ๆ เลยนะ กะลัง ฟิน กะคู่นี้มากกกกกกกกกกกกกก อิ อิ
สงสารคชาอ่า :( พี่เต๋าใจร้ายยยยยยยยยยยยย
มาต่ออีกนะค่ะ :) พี่เต๋าจะรับผิดชบไหม???????? คริคริ
ชอบจังงง สนุกอ่า มาอัพอีกนะคะ ^^
โถ่ ชาน้อย อิต๋าว แกตายยย!!!!!
ถ้าคชาท้องขึ้นมาเต๋าจะรับผิดชอบมั๊ย :pigha2:
มารอตอนต่อไปจ้า
ต๋าวววว ออกมาสารภาพผิดซะดีๆเลยนะ!!! ทำกับชาอย่างนี้ได้ไง T_T
คอยยยยยยยยยจ้าาาา
ชอบมาก ภาวะหน่วงๆ แบบนี้ รอตอนต่อไปอยู่นะจ๊ะ
ต้นแมนมากกกก พออ่านแล้วคิดถึงตอนชาร้องไห้แล้วแทนที่จะคิดว่าน่าสงสารกลับคิดว่า ทำไมมันน่ารักจังว้าาา ฮ่าๆ :laugh: เต๋าตื่นมาจะจำอะไรได้รึเปล่าก็ไม่รู้ ชิ :o12: แอบเชียร์ ต้นชา ต้นชา ต้นชา ฮ่าๆ ล้อเล่น แต่คู่นี้น่ารักไปอีกแบบ >_< :z2: :z2:
ฟิค หาย รอคนเขียนมาต่อใหม่อยู่นะคะ
Cardiotoxin ..แอบชอบเพื่อนตัวเองน่ะหรอ?.. ..จะชอบมันลงไปได้ยังไงว่ะ?!.. . . อุณหภูมิในห้องที่เริ่มสูงขึ้นเพราะการทำงานของเครื่องปรับอากาศหยุดตามเวลาที่ตั้งไปแล้ว มันปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาอย่างง่ายดาย รู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อที่ชื้นแผ่นหลัง ผมค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะสะบัดไล่อาการมึนๆออกไปจากหัว คงเป็นเพราะแฮงค์จากแอลกอฮอล์ที่ซัดไปเมื่อคืนแน่ๆ ผมก้มมองตัวเอง เสื้อผ้าก็ยังครบถ้วนเป็นปกติอยู่ มันทำให้ผมแปลกใจ แต่ก็ช่างมันเหอะ.. ผมคว้าเอาเครื่องมือสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะลิ้นชักข้างเตียงมาเพื่อดูเวลา ยังดีที่วันนี้ไม่มีงาน ไม่งั้นถ้าตื่นสายอย่างนี้มีหวังซวยแน่ๆ.. หากทว่าสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอยิ่งทำให้ผมประหลาดใจ เพราะมันเป็นมิสคอลล์ราวสิบกว่าสายจากคนที่ผมคุ้นเคยดี ..พี่ต้นนั่นเอง.. ผมตัดสินใจติดต่อกลับ โทรจิกมาอย่างนี้ถ้าไม่ใช่งานด่วนก็ต้องมีเรื่องสำคัญ.. “ มีอะไรหร.. ” ยังไม่ทันพูดได้จบประโยค น้ำเสียงเกรี้ยวกราดจากปลายสายก็สวนกลับมาทันที “ แกทำอะไรว่ะเต๋า?! ” ผมชะงัก ไม่ใช่ว่าจะจำไม่ได้หรอกนะว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง แต่เพียงแค่ไม่คาดคิดว่าคนที่ไม่ควรรู้เรื่องนี้กลับมารับรู้เข้าจนได้ “ ผมน่าจะทำให้คชารู้ผม ‘แกล้งเมา’ แล้วก็ขู่ปิดปากซะ จะได้ไม่ต้องมีใครมารู้เรื่องนี้ ” “ เต๋า!!! นี่แก!.. ทำคชาลงไปได้ยังไง.. ” น้ำเสียงปลายสายสั่นเครือเพราะอารมณ์โกรธ ยังดีนะที่เราแค่คุยกันผ่านทางโทรศัพท์ ถ้าเจอหน้ากันตรงๆพี่ต้นคงไม่แค่ตวาดใส่กันแบบนี้หรอก ถึงขั้นลงไม้ลงมือแน่.. “ แกก็รู้ว่าคชาเป็นคนคิดมาก สู้แรงแกก็ไม่ได้ แล้วแกยังจะ.. ทำร้ายมันอย่างนี้น่ะหรอ?! ” “ ถ้าคชามันเป็นอะไรมากกว่านี้ขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้เป็นแก.. เราได้เห็นดีกันแน่! ” คราวนี้เป็นผมที่อารมณ์คุกรุ่นเริ่มเดือดดาลขึ้นมาบ้าง ไม่เคยคาดคิดเลยว่าคนที่ผมไว้ใจทุกอย่าง ให้เป็นพี่ชายอย่างต้น จะพูดจาเหมือนผลักไสไล่ส่งกับผมอย่างนี้ ทั้งๆที่พี่ต้นน่ะ.. เขาจะเคยเข้าใจความรู้สึกของผมจริงๆบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ “ ก็เอาสิ! ‘แอบชอบเพื่อนตัวเอง’ มันเจ็บแค่ไหน พี่ไม่มีทางเข้าใจผมหรอก!! ” ผมกดตัดสายก่อนที่อีกคนจะได้โวยวายต่อจากผม รู้ดีว่ายังไงพี่ต้นก็ไม่กล้าทำอะไรผมหรอก แค่พูดโวยวายไปตามอารมณ์อย่างนั้นแหละ ก่อนจะเขวี้ยงเจ้าเครื่องมือสื่อสารไปที่โซฟา ใครจะโทรมาก็ช่างแม่งมัน.. ผมกลับมาตั้งสติกับตัวเองให้โทสะอารมณ์ที่มีนั้นได้พอจะลดลงบ้าง ก่อนจะเสยผมที่ชื้นเหงื่อขึ้นลวกๆ ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มันก็ยิ่งเจ็บร้าวทั้งใจ รู้ตัวดีว่าเมื่อคืนผมทำอะไรคชา แต่ก็เพราะคชานั่นแหละที่ทำให้ผมไม่เหมือนเดิม กลายเป็นคนวู่วาม ขาดสติในการกระทำได้ถึงขนาดนี้ ทั้งที่ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนด้วยซ้ำ..ผมชอบคชา.. แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก.. ผมจำไม่ได้ว่าความรู้สึกนี้มันเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็มีแต่คนๆนี้เข้ามาวนเวียนอยู่ในความคิด จริงอยู่ที่เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าการแอบชอบเพื่อนตัวเองเป็นอะไรที่งี่เง่าที่สุด แล้วก็ไม่เคยเข้าใจไอ่พวกที่มีความคิดแบบนี้ด้วย แอบชอบเพื่อนตัวเองที่เรารู้นิสัยถึงแก่นแท้นั่นน่ะหรอ?.. หึ! บ้าชะมัด… แต่ตอนนี้ผมจึงได้ตระหนักดีว่าผมคงต้องเปลี่ยนความคิดตัวเองซะแล้ว ความรู้สึกที่มีนี้มันเยอะจนล้น.. ล้นจนบางครั้งผมเผลอกับถลำลึกกับการกระทำมากเกินไป คชาน่ะอาจจะแค่ชงตัวเองเล่นเพื่อเซอร์วิสแฟนคลับ แต่ผมน่ะ.. คิดไปไกลกว่านั้น “ ถ้าพี่ต้นแอบชอบเพื่อนตัวเองขึ้นมา พี่ว่า.. ผมควรจะบอกเขารึเปล่า? ” ผมเลือกที่จะเปิดประเด็นนี้กับพี่ต้น ยังไงซะพี่เค้าก็อายุมากกว่าผม แม้ว่ารายนี้จะไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่เท่าที่ผมรู้ พี่ต้นเองก็ผ่านการแอบรักและคงจะเข้าใจมันเป็นอย่างดี ฝ่ายนั้นหลุบตาลง ก่อนจะเอ่ยคำแนะนำ “ เอาจริงๆนะ.. พี่ว่าไม่ควรบอกออกไปหรอก แกจะรับได้หรอถ้าบอกไปแล้วมันเสียเพื่อนน่ะ ” ผมครุ่นคิดถึงเนื้อหาในประโยคนั้น “ ว่าแต่ว่า.. แอบชอบใครอยู่อ่ะแก~ ” “ พี่ต้น ผม.. ผมชอบคชา.. ” “ แหม.. จะให้ฉันช่วยชงป่ะแก? ” “ ผมพูดจริง.. ” ผมตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับคนที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด พี่ต้นเองก็ตกใจไม่น้อยหลังจากที่ได้ยินความจริงจากผม “ แล้วพี่ว่า.. ผมควรจะทำยังไงล่ะ? ” “ ให้ตายสิว่ะ.. ” พี่ต้นสบถ เพราะรู้ว่าเรื่องนี้ยังไงก็ยากอยู่แล้ว คนอื่นน่ะมองว่าเรื่องชงนี้เราแค่เล่นๆกัน มีแต่ผมสินะที่จริงจังอยู่ “ ห้ามบอกเด็ดขาดนะแก ถึงคชาจะคิดเหมือนกับแก แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก แล้วเราก็อยู่ในวงการด้วยนะแก.. คิดดูดีๆก็แล้วกัน ” “ ทำตัวให้เป็นเหมือนเพื่อนต่อไปเหอะ เรื่องอย่างนี้น่ะ.. ใครแสดงได้ดีก็ได้รับรางวัลไป.. ” มันเป็นคำแนะนำที่ทำเอาผมเถียงไม่ออกแม้ว่าจะอยากค้านใจจะขาด ให้ผมเก็บมันต่อไปจนอึดอัดอย่างนี้น่ะหรอ? ทั้งที่ทุกวันนี้ผมก็ยังต้องเข้าใกล้คชาแล้วผมเองก็ไม่ใช่คนที่เก็บอะไรในใจไว้ได้ดีมากนัก ยิ่งพบเจอกันความรู้สึกนี้มันก็ยิ่งตัดออกได้ยาก แล้ว..อีกนานแค่ไหนที่ผมจะทนต่อไปได้ล่ะ? แน่นอนผมทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว คืนนั้นที่ผมตัดสินใจกระทำบางอย่าง ที่จะแปรเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคชาไปตลอดกาล.. ผม.. ‘ขืนใจ’ คชา.. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ เพล้ง! กรอบรูปที่มีภาพของผมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสถานะเป็นแฟนเก่าของผมไปแล้ว ถูกเหวี่ยงไปกระทบกับฝาผนังอย่างแรง เศษกระจกแหลกละเอียด ร่วงกราวลงพื้นกระจัดกระจาย สภาพของมันไม่ต่างจากเศษใจของผมที่แหลกสลายไปตั้งนานแล้ว… คชารีบตรงเข้ามาห้ามผมไว้ “ อย่านะเต๋า! ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ?! ” เมื่อคืนที่ผมแอบวางแผนแกล้งว่าตัวเองอกหักแล้วเมา ทั้งที่เป็นผมเองต่างหากที่บอกเลิกผู้หญิงคนนี้ ..สิ่งที่คชาทำให้ผม ทั้งปลอบทั้งเฝ้าเพราะกลัวว่าผมจะคิดสั้น.. มันเกือบทำให้ผมแทบจะล้มเลิกความคิดชั่วร้ายในใจนั้นลงไปอยู่หลายรอบ แต่ไม่มีทางหรอก.. ผมจะไม่มีทางทรมานเพราะความรู้สึกของตัวเองอีกแล้ว..รู้ว่าเธอไม่รัก.. ไม่มีใจให้ฉัน.. ..แต่เธอรู้มั๊ย? หัวใจไม่มีเหตุผล.. “ อย่านะเต๋า! ปล่อย! ปล่อยสิ.. ” ผมใช้กำลังรวบตัวไว้ก่อนที่อีกฝ่ายนั้นจะรีบหนีไปได้ทัน คนในอ้อมแขนทั้งจิกทั้งข่วนจนผมเจ็บไปหมด แต่ผมไม่สนหรอก.. ผมเหวี่ยงคนตัวเล็กนั้นลงบนลานเตียงก่อนจะบีบข้อมือเพื่อตรึงร่างไว้ ความโกรธที่มีในใจทำให้ผมเผลอลงแรงบีบมากไปราวกับจะทำให้ข้อมือเปราะบางคู่นี้แหลกหักคามือ “ จ..เจ็บ.. ” “ ฮึก.. ขอร้องล่ะ.. อย่าทำ.. ” หลากหลายคำร้องขอเคล้าเสียงสะอื้นอ้อนวอนดังวนผ่านโสตซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมชะงักไปครู่หนึ่ง ..คชาร้องไห้.. ร้องไห้หนักอย่างที่ผมไม่เคยเห็น มันทำให้ผมอยากจะหยุดตัวเองแล้วเข้าไปปลอบในตอนนั้น อย่าทำให้ต้องใจอ่อนเลยได้มั๊ยคชา.. และแน่นอน.. ว่าผมไม่มีทางจะหยุดตัวเองแน่ๆ ผมพลั้งมือชกเข้าที่ต้นขาของอีกฝ่ายด้วยความที่เริ่มรำคาญ ก็เพราะร่างข้างใต้ยังดิ้นไม่ยอมหยุดสักที ผมลงมือขืนใจคชา.. ทำให้เขาตกเป็นของผมโดยสมบูรณ์ ทั้งที่อีกฝ่ายร้องขอให้หยุดทั้งน้ำตา แต่มันคงจะไม่ทันเสียแล้ว มีหรือที่ผมจะปล่อยให้สวรรค์ที่มองเห็นอยู่ร่ำไรจะหลุดลอยหายไป ก่อนจะขืนใจซ้ำอีกครั้งให้เจ้าคนหน้าเดียวนี่หมดแรง สุดสิ้นซึ่งทางหนี....ความรักสำหรับผมน่ะ.. แม้ไม่ได้หัวใจเขามา.. ..ได้เพียงร่างกายเขามาก็ยังดี.. TBC. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
Cardiotoxin ..คนบางคนน่ะแทบไม่ต้องพยายามอะไร ก็รักกันง่ายดาย.. ..แต่ทำไมกับบางคน.. ไม่ว่าจะทุ่มใจแค่ไหน ก็รักไม่ได้ซะที.. . . ผมรู้สึกได้ว่าคชาเปลี่ยนไปนับตั้งแต่วันที่ผมก่อเรื่องขึ้นมา ก็ไม่เชิงว่าจะเปลี่ยนไปมากขนาดนั้นหรอก ในเมื่อเรายังคงต้องทำงานร่วมกันอยู่อย่างนี้ จะให้หลบหน้าหรือว่าไม่พูดไม่จากันเลยมันก็กระไรอยู่ เพียงแต่ผมรู้สึกว่าการกระทำของคชาที่มีต่อผมในช่วงนี้น่ะ.. ดูก็รู้ว่าเจ้าตัว ‘พยายามทำ’ มันมากแค่ไหน ผมยอมรับว่าใจหนึ่งก็รู้สึกโมโหไม่น้อยที่เจ้าคนหน้าเดียวเอาแต่หลบหลีกกันอย่างนี้ จนบางครั้งผมยังแอบคิดว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะพี่ต้นเข้าไปบอกความจริงเรื่องคืนนั้นกับคชาบ้างรึเปล่า.. แต่ไม่หรอก ผมเองก็สนิทและไว้ใจกับพี่ต้นถึงขนาดนี้ ยังไงรายนั้นก็ไม่บอกให้คชาต้องเสียความรู้สึกไปมากกว่านี้หรอก แต่ถ้าขืนยังปล่อยให้ทุกอย่างยังคงค้างคากันอยู่อย่างนี้ ผมว่าสักวันหนึ่งคชากับผมจากที่เคยสนิทกันมากอาจจะกลายเป็นคนแปลกหน้าระหว่างกันไปได้.. แน่นอนว่าผมไม่มีทางยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ๆ ยังไงก็ต้องเคลียร์กันให้เข้าใจ ผมตัดสินใจไปหาคชาด้วยตัวเอง.. สะกดรอยและแอบตามไป.. การกระทำเหล่านั้นทำให้ผมถึงกับแอบขำตัวเองขึ้นมา ทำไมต้องทำตัวเหมือนเป็นสตอล์กเกอร์ขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ แค่คุยกันเหมือนอย่างที่เคยคุยปกติก็เป็นพอ.. . . ผมแอบตามฝ่ายนั้นเข้าไปในห้องสมุด โดยที่เจ้าตัวคงจะไม่รู้เลย ภาพของคนตัวเล็กที่พยายามจะคว้าเอาหนังสือที่ตนเองสนใจบนชั้นสูงๆนั่นทำให้ผมเผลอยิ้มแล้วส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหยิบให้ คนหน้าเดียวนี่ชะงักไปโดยที่ยังไม่หันมามองหน้ากัน ..หรือว่าจะรู้แล้วว่าเป็นผม.. “ คชา.. ” ผมลองเรียกชื่ออีกฝ่ายดู ทักทายอย่างเป็นปกติ หากทว่าอีกคนยังไม่ยอมหันหน้ามาเผชิญกันซะที “ ชา.. ช่วงนี้เป็นไรไปน่ะ?.. ” ผมมั่นใจนะว่าผมทักไม่ผิดคนแน่ ยิ่งเห็นเจ้าหน้าเดียวเป็นอย่างนี้ผมยิ่งกระวนกระวายในใจ ขอร้องล่ะคชา.. อย่าทำให้เรื่องราวที่ผมทำลงไปมันต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปเลย “ มาหาทำไม?.. ” คชาค่อยๆหันหน้ามาคุยกัน ประโยคที่กล่าวออกมาแลดูเย็นชาเหมือนจะเห็นผมเป็นคนอื่นไป ผิดกับแววตาที่สั่นระริกคู่นั้น มันบ่งบอกถึงความหวาดกลัวที่มีอยู่เต็มเปี่ยม “ ทำไมมองกันแบบนั้นล่ะครับแอทเลิฟ? เห็นเต๋าเป็นแวมไพร์เอ็ดเวิร์ดรึไง?? ” ผมกล่าวแซว พยายามทำให้ทุกอย่างดูเหมือนเป็นปกติ ผมว่าคชาก็คงจะพยายามแล้ว แต่ความหวาดกลัวที่มีต่อผมคงจะมากกว่า จึงได้ทำหน้าเหมือนคนที่ใกล้ร้องไห้เต็มทน “ อ..เอ่อ.. ขอบใจนะที่หยิบให้ ต..แต่เราไม่อ่านแล้ว.. ไปก่อนนะ.. ” คนตรงหน้าพูดรัวจนเสียงตะกุกตะกัก ก่อนจะปัดหนังสือที่ผมหยิบยื่นให้ออก รีบเดินหนีไปให้พ้นทาง ในเมื่อมีโอกาสได้คุยกันอย่างนี้แล้ว ผมไม่มีทางจะปล่อยไปง่ายๆหรอก ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นมาในห้วงคำนึง ความคิดนั้นทำให้ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างง่ายดาย ก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของอีกคน คชาตกใจจนสะดุ้ง คราวนี้จะไม่ยอมให้หนีไปไหนได้อีกแล้ว “ เราว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ.. ” _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ใช้เวลาอยู่ค่อนข้างนานพอสมควรกว่าที่ผมจะลากอีกคนนี่มานั่งบนเบาะรถได้ ท่าทีฮึดฮัดที่แสดงออกในบางครั้งบ่งบอกถึงความจำใจที่มากับผม ตลอดระยะทางบนรถนี่คชาก็แทบไม่ได้พูดคุยอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เอาแต่นั่งกัดเล็บ.. ท่าประจำของคชาเวลามีเรื่องให้คิดมากหรือเวลาที่เครียดนั่นแหละครับ หากทว่าผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปตีเบาๆ จนอีกคนสะดุ้งตัวโยน “ !!! ” “ อย่ากัดเล็บสิคชา.. ” แน่นอนว่าอีกฝ่ายเลิกการกระทำอย่างง่ายดาย แบบนี้ค่อยดีหน่อย นี่ถ้าผมบอกไปว่าคืนนั้นผมแกล้งเมา จำอะไรได้ทุกอย่าง คชาจะยังว่าง่ายอยู่อย่างนี้รึเปล่า.. “ ล.. แล้วเราจะไปไหนกันหรอเต๋า? ” “ ที่คอนโดเต๋าเอง.. ” เพียงเท่านั้นความตกใจก็ปรากฏบนหน้าหวาน ใครว่าคชาหน้าเดียวล่ะครับ เวลาทำหน้าตกใจแบบนี้มันน่าหมั่นเขี้ยวไม่หยอกเลยทีเดียว “ ท.. ทำไม!! ทำไมต้องเป็นที่นั่นล่ะ?! ” “ ก็แล้วทำไมล่ะ? ” ผมยังคงทำตัวเหมือนจำเรื่องราวระหว่างผมกับคชาที่เกิดขึ้นที่ห้องนอนตัวเองไม่ได้ คชาเองก็เหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ ก็เลยพยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด “ ก็เปล่าหรอก.. ” คนตัวเล็กเสหน้ามองออกนอกหน้าต่าง “ เต๋าอยากคุยเรื่องของ‘เรา’.. ถ้าหากว่านักข่าวหรือแฟนคลับมาเห็นมาได้ยินก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่หรอก ” ผมกล่าวอีกเหตุผลนึงเสริม ไม่ได้ต้องการชักแม่น้ำทั้งห้านะครับ ขณะที่แววตาของอีกคนเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับรู้อย่างเถียงไม่ได้ ทันใดนั้นเองที่เครื่องมือสื่อสารของเจ้าคนหน้าเดียวมีสายเข้ามา เจ้าตัวมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลอบมองหน้าผมเล็กน้อยอย่างชั่งใจ มันทำให้ผมอยากรู้ใจจะขาดว่าปลายสายนั่นจะเป็นใครกัน.. พี่ต้นรึไง? แต่แล้วคำตอบก็กระจ่างเมื่อคนตรงหน้าของผมกดรับสายมัน “ ฮัลโหล อ้น ” เพียงได้ยินชื่อนั้น มือที่จับพวงมาลัยอยู่ก็กำแน่นเพราะอารมณ์เคืองขุ่นที่เข้ามารบกวนในใจ ไอ่อ้นอีกแล้วหรอ?!! “ อื้ม.. หายไข้แล้ว ไม่ได้ปวดหัวแล้วด้วย ” ผมนึกหมั่นไส้.. แค่คุยกับมันนิดเดียว ทำไมต้องแย้มยิ้มให้มากมายขนาดนี้ ทีเวลาคุยกับผมไม่เห็นเป็นอย่างนี้บ้างเลย “ ขอบใจที่เป็นห่วงนะเว้.. เห้ยย! ต๋าววว!!! ” ความอดทนในการรับฟังบทสนทนาของทั้งคู่มาถึงขีดสุด ผมกระชากโทรศัพท์มือถือมาจากอีกคนอย่างรวดเร็ว กรอกน้ำเสียงที่แสดงถึงความเกรี้ยวกราดเต็มทีใส่ปลายสาย “ ไม่ต้องโทรมาแล้วนะ!! ” ก่อนจะกดตัดสายแล้วโยนมือถือไปยังเบาะหลังทันที แน่นอนว่าอีกคนที่กำลังจะโมโหตามไปด้วยก็คือคนข้างๆผม.. คชานั่นแหละครับ “ ทำไมทำอย่างนี้ล่ะเต๋า!!! ” คนตัวเล็กตวาดใส่หน้าผม ทั้งที่เขาไม่เคยทำอย่างนี้ไม่ก่อนเลย.. ก่อนจะพยายามปลดเบลท์เพื่อจะไปหยิบมือถือของตัวเองกลับมา หึ.. แคร์ไอ่คนปลายสายนั่นมากสินะ “ อย่านะคชา.. ” ผมขึ้นเสียงดุ ตวัดสายตามองขู่ คนหน้าเดียวฮึดฮัดกลับมานั่งตามเดิมอย่างเสียไม่ได้ เจ้าตัวตั้งใจจะกัดเล็บอีกครั้ง แต่คงเพราะนึกถึงคำขู่ของผมในก่อนหน้านี้ได้ จึงได้ชะงักก่อนจะกัดปากตัวเองแทน เรียวมือจิกลงบนชายเสื้อจนยับยู่ยี่ไปหมด ผมกลับมาใช้สมาธิในการขับรถดังเดิม ไม่อยากจะดุใส่อีกคนให้มากกว่านี้แล้ว เพราะแค่เท่านี้ไอ่คนหน้าเดียวก็คงกลัวจนไม่กล้าจะทำอะไรอีกแล้วล่ะ.. ผมนึกถึงไอ่คนปลายสายของคชาก่อนหน้านี้ นึกถึงแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด ถ้าหากเป็นคนอื่นโทรมาคงไม่ทำให้ผมโมโหได้ขนาดนี้หรอก ก็ไอ่อ้นน่ะ.. มองตาก็รู้ว่ามันคิดยังไงกับคชา.. ความรู้สึกของมันก็ไม่ต่างอะไรจากความรู้สึกของผมที่มีให้คนหน้าเดียวนี่หรอกครับ แล้วไอ่เรื่องอย่างนี้น่ะ.. ผมไม่มีทางยอมแพ้ให้มันหรอก! _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _Kacha’s side ผมมองแผ่นหลังของอีกคนที่เดินนำหน้าไปยังห้องพักของเจ้าตัว ทั้งโกรธทั้งกลัว.. โกรธที่เต๋าตวาดใส่อ้นแล้วโยนมือถือผมทิ้งไปที่เบาะหลังอย่างนั้น แต่ผมก็กลัว.. กลัวว่าถ้าทำอะไรที่ขัดใจเต๋าไปแล้วเขาจะทำกับผมเหมือนอย่างคืนนั้น ซึ่งถ้าหากเป็นอย่างนั้นแล้ว.. สู้ให้ผมตายไปเลยยังดีกว่า ผมหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้อง จนบัดนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจคำว่า ‘เรื่องของเรา’ ที่เต๋าได้กล่าวถึงจะหมายถึงเรื่องอะไร หรือว่าหมายถึงเรื่องคืนนั้น??.. นี่เต๋ารู้แล้วงั้นหรอ?!.. เอาเหอะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นยังไงผมกับเต๋าก็เคลียร์กันได้อยู่แล้ว ขอแค่ให้เต๋ามีสติดีอยู่อย่างนี้ ไม่เมาเหมือนคืนนั้น ผมก้าวเท้าเข้าไปในเขตห้อง ภาพเหตุการณ์ที่ตัวผมเองถูกทำร้ายในคืนนั้นก็ย้อนทะลักเข้ามา ราวกับผ้าม่านผืนดำที่ปิดบังฉากสยองขวัญไว้ได้ถูกกระชากออกมา ผมกลัวจนแทบจะก้าวต่อไม่ออก กดดันจนเกือบจะกัดเล็บตามความเคยชิน แต่ก็นึกถึงคำขู่ของเต๋าขึ้นมา ปกติแค่ดุกันธรรมดาผมก็กลัวอยู่แล้ว แล้วยิ่งมาเป็นตอนนี้.. ..ผมกลัวว่าเต๋าจะกลายเป็นปีศาจร้ายเหมือนในคืนนั้น.. “ ทำไมยังหยุดอยู่ตรงนั้นล่ะ? มานี่สิ ” เสียงเรียกของอีกคนทำเอาผมหลุดจากความคิดอย่างง่ายดาย “ แค่นี้ก็ไม่มีใครได้ยินหรอก มีเรื่องอะไรล่ะ?? ” ผมไม่กล้าเดินเข้าไปในตัวห้องมากกว่านี้ กลัวว่าถ้าหากเต๋าคิดจะทำกับผมเหมือนอย่างคืนนั้นอย่างน้อยก็ได้หนีออกทางประตู ..มันอาจจะทันแหละมั๊ง.. “ งั้นเราไม่อ้อมค้อมนะคชา.. ” ร่างสูงย่างกรายมาทางผม “ คืนนั้นน่ะ.. เราทำอะไรชาหรอ? ” ก่อนจะยื่นใบหน้าขาวจัดเข้าใกล้เพื่อคาดคั้นความจริง เพียงได้ยินคำถามนั้น ก็รู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านจนชาวาบไปทั้งร่าง ตกใจจนพูดไม่ออก คืนนั้น.. เต๋าทำอะไรผม.. ถามกันแบบนี้ก็หมายความว่าเต๋าก็ได้รู้อะไรมาบางอย่างแล้วล่ะ “ ค..คืนไหนล่ะเต๋า? เรามาที่ห้องเต๋าบ่อยออก ” “ จะคืนไหนซะอีกล่ะ ก็คืนนั้นที่เต๋าอกหักไง.. ” ผมเผลอกัดปากตัวเองเพราะเริ่มรู้สึกกดดัน อย่าคิดมากสิว่ะคชา.. คงไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นหรอกหน่า.. “ อ๋อออ.. ก็ เต๋าเมาไง เต๋าอ่ะเวลาอกหักแล้วโคตรคิดมากเลย ชาเป็นห่วงก็เลยมาอยู่ด้วยไง เต๋าจำไม่ได้หรอ? ” “ เต๋าจำได้.. ” ผมชะงักไปอีกครั้ง คำว่า ‘จำได้’ ของเต๋าน่ะ จะหมายถึงเรื่องอะไรกันแน่ “ จำได้แล้วมาถามชาอีกทำไมล่ะ? ” “ เต๋าถามว่าคืนนั้นเต๋าทำอะไรชา?! ” คนตรงหน้าสาวเท้าเข้ามาใกล้กว่าเดิม เรียวมือหนาบีบเข้าที่ต้นแขนอย่างแรง มันเจ็บจนผมสะดุ้ง แววตาคู่นั้นแข็งกร้าวที่ผมเห็นแล้วต้องเสหน้าหลบเพราะความหวาดกลัว “ ป.. เปล่า.. อั่ก! ” ผมละล่ำละลักปฏิเสธ ขอร้องล่ะ ถ้ารู้แล้วก็อย่ามาคาดคั้นกันอย่างนี้เลย ยิ่งนึกถึงมันทีไรก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น.. ขณะที่อีกคนผลักร่างผมจนแผ่นหลังชนกับบานประตู เจ็บจนจุกไปหมด.. ก่อนจะกางแขนกั้นไว้ไม่ให้ผมหนี ไม่รู้ว่าความหวาดกลัวจากไหนเข้าครอบงำจิตใจได้ถึงขนาดนี้ ตอนนี้กัดปากจนเจ็บไปหมดแล้ว ยิ่งอีกคนเริ่มขึ้นเสียงก็ยิ่งอยากจะร้องไห้ออกมา “ มีอะไรทำไมไม่บอกเต๋าล่ะชา?!! ” “ ไหนว่าเราเป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่หรอ?! แล้วทำไมไม่บอกกันล่ะ ” เพื่อนรัก.. อย่างนั้นหรอ?? เต๋าเองก็น่าจะรู้ว่าผมน่ะ ต่อให้เค้นความจริงแค่ไหนถ้าไม่คิดจะบอกก็ไม่มีทางบอกออกไปเด็ดขาดหรอก “ เพื่อนรักงั้นหรอเต๋า? อันที่จริงน่ะ.. เราไม่เห็นต้องตัวติดกัน ไม่จำเป็นต้องบอกทุกเรื่องให้อีกคนรู้หรอกนะ.. ” ผมตัดสินใจผลักอีกคนออกไปเต็มแรง คิดว่าจะใช้กำลังขู่บังคับกันได้แค่ฝ่ายเดียวงั้นหรอ? คชาคนนี้ก็สู้คนเหมือนกันนะเว้ย! “ ชาไม่อยากเป็นเพื่อนเต๋าแล้ว! เข้า ใจ มั๊ย!! ” “ คชา!!! ” และตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าผมคิดผิด.. ที่ทำให้อีกคนโมโหได้ถึงขนาดนี้ สัมผัสโค้งหยุ่นตรงเข้าขบเม้มที่ซอกคออย่างไม่ทันตั้งตัว ความรู้สึกทั้งกลัวทั้งตกใจเททะลักเข้ามา.. ในหัวตอนนี้ว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออกเลย แม้จะพยายามตั้งสติเรียงลำดับเหตุการณ์ให้ถูกแล้วก็ยังลำบาก ความกลัวที่มีมันทำให้ตื้อไปหมด “ ถ้าไม่อยากเป็นเพื่อนกัน งั้นก็จะทำให้เป็นอย่างอื่น.. ” “ ปล่อยนะเต๋า!! ” ผมตวาดใส่ทั้งน้ำตา ทำแบบนี้มันเกินไปแล้วนะ เกินไปแล้วจริงๆ..TBC. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
พี่เต๋าา ถ้าจะหล่อเลวขนาดนี้นะ คชาจ๋า ฮึก ฮึก
Cardiotoxin .. ความรักน่ะควรจะเป็นสิ่งที่น่าทะนุถนอมมากที่สุด.. ..แต่จะทำยังไง.. ในเมื่อผมได้ทำร้ายมันจนแหลกคามือไปซะแล้ว.. . . “ ชาไม่อยากเป็นเพื่อนเต๋าแล้ว! เข้า ใจ มั๊ย!! ” ประโยคนั้นดังวนอยู่ในห้วงคำนึงของผมย้ำๆซ้ำราวกับเทปที่เปิดกรอไปมาอยู่อย่างนั้น พูดกันอย่างนี้ก็ไม่ต่างกับการทำให้ความรู้สึกของผมแหลกเป็นเศษ แล้วก็เหยียบซ้ำให้จมดิน ..ไม่อยากเป็นเพื่อนกันแล้วอย่างนั้นหรอ?.. คิดจะตัดความสัมพันธ์กันดื้อๆอย่างนี้น่ะหรอ?.. ถ้าอย่างนั้นผมก็จะตัดความเป็นเพื่อนกันแบบดื้อๆได้เหมือนกัน! “ ถ้าไม่อยากเป็นเพื่อนกัน งั้นก็จะทำให้เป็นอย่างอื่น.. ” ผมพูดประโยคนี้ออกไปด้วยหลากความรู้สึก ..ทั้งโกรธทั้งเสียใจ.. รู้ตัวอีกก็กระชากแขนของอีกคนมาอย่างแรง ดึงให้ร่างนั้นเข้าใกล้อ้อมแขนอีกครั้งก่อนจะขบเม้มเข้าที่ลำคอระหง คนในอาณัติเบือนหน้าหนีขัดขืนปลายจมูกที่พยายามซุกไซร้ “ ปล่อยนะเต๋า!! ” อีกคนตวาดใส่พร้อมทั้งพยายามจะผลักออก ผมรวบเรียวแขนที่ปัดป่ายอยู่นี้ไว้ในรอบกำมือ ..รังเกียจกันขนาดนี้เลยใช่มั๊ย?! “ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!! ” ไม่ปล่อยซะหรอก! คชาไม่รู้รึไงว่าทำให้ผมเสียใจถึงขนาดไหน.. แรงดิ้นที่ผมเข้าใจว่าอีกคนคงจะพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่สำหรับผมมันเป็นเพียงเรี่ยวแรงขัดขืนเล็กๆน้อยๆที่กำลังทำให้อารมณ์บางอย่างคุกรุ่นขึ้นมา ผมยิ่งรุกหนัก.. เรียวมือละลาบละล้วงใต้สาบเสื้อจนอีกคนตัวสั่นเทา “ ถ้าเต๋าบอกว่าพี่ต้นเล่าให้เต๋าฟังหมดแล้วล่ะ.. ” คชาเบิกตากว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่คาดคิด ขณะที่ผมเลื่อนปลายลิ้นมาลามเลียขอบเอวบาง เข้าขบจนเป็นรอยฟันก่อนจะกดจูบซ้ำ คนตรงหน้าหลุดเสียงครางแผ่วเบาด้วยความเจ็บ “ แล้วถ้าเต๋าบอกว่า.. เต๋าอยากทำแบบคืนนั้นอีกล่ะชา.. ” ผิวเนื้อเนียนนิ่มยิ่งทำให้ผมแทบคลั่ง ปีศาจราคะเข้าครอบงำจิตใจจนแทบไม่รับรู้อะไร “ ปล่อยชาเถอะนะ.. ” “ บอกให้ปล่อย.. ฮึก.. ไง.. ” ผมผละจากอีกฝ่ายทันทีที่ได้ยินเสียงสะอื้น ก่อนที่จะเตลิดไปกว่านี้ คนตัวเล็กหล่นร่วงลงกองกับพื้นแทบจะในวินาทีนั้น บ้าจริง!.. นี่ผมลืมไปแล้วรึไง.. คืนนั้นที่ผมทำร้ายคนตรงหน้าลงไปน่ะ คชายังพอจะเข้าใจว่าผมเมา แต่ตอนนี้.. ตอนที่ผมยังมีสติดีอยู่อย่างนี้.. ผมกลับเผลอทำมันลงไป.. “ ชา.. เต๋าขอโทษ.. ” ผมทรุดลงข้างกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจิตใจของคนตรงหน้าบอบช้ำจากเหตุการณ์เมื่อครู่ไปมากแค่ไหน.. เอื้อมมือไปหมายจะแตะลงบนไหล่บางที่กำลังไหวสะท้าน หากทว่ากลับถูกปัดออกแทบจะทันที ..ผมคงถูกเกลียดเข้าจริงๆซะแล้วสินะ “ ทำไม.. ฮึก.. ทำไมเต๋าเปลี่ยนไปขนาดนี้ล่ะ??.. ” ฝ่ายนั้นนั่งชันเข่ากอดตัวเองแน่น ก่อนจะสะอื้นออกมาอย่างหนัก “ เต๋าไม่เคยเป็นแบบนี้.. แม้จะเคยขู่กันบ้าง.. ต..แต่ก็ไม่เคยตวาดใส่เราแบบนี้.. ” “ เต๋าน่ะ.. ออกจะเป็นเพื่อนที่ดีขนาดนั้น.. มีอะไรก็คุยกันได้ตลอด.. ไม่เคยวู่วามขนาดนี้.. ” “ ฮึก.. เราไม่เข้าใจ.. เต๋าคนนั้นน่ะ.. หายไปไหนกัน?.. ” หน้าหวานเงยขึ้นมาราวกับต้องการคำตอบจากกัน นัยน์ตาเรียวเล็กคู่นั้นเปี่ยมด้วยน้ำตาสะท้อนตรงหน้าผม เพียงเท่านั้นความรู้สึกผิดก็ถาโถมเข้ามา.. แล้วจะให้ผมทำยังไง.. จะให้เราบอกไปว่าเราเปลี่ยนไปเพราะแอบรักงั้นหรอคชา?.. “ ทำไมล่ะชา?.. ” ผมเอ่ยขึ้น “ ทั้งที่ตัวเองก็เสียหายตั้งขนาดนี้.. แล้วเราก็เป็นคนทำนะ.. ทำไมถึงยังไม่ยอมเรียกร้องอะไร ทำไมยังให้อภัยกันอย่างนี้ล่ะ?! ” นี่คือสิ่งที่ผมยังไม่เคยเข้าใจ ผมทั้งทำร้ายทั้งขืนใจคชาขนาดนั้น ทำไมยังนิ่งเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาเลย ขอแค่เพียงเรียกร้องความรับผิดชอบมา ..ผมก็ยินดีนะ.. “ ก็เพราะ.. ชาเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเราไงเต๋า.. ล..แล้วคืนนั้นเต๋าก็เมาด้วย เรารู้.. เต๋าไม่ได้ตั้งใจหรอก.. ” ประโยคเหล่านั้นทำเอาผมหน้าชา.. มันยิ่งกว่าละอายใจ ทั้งที่คชาทั้งแสนดีแล้วก็เปราะบางขนาดนี้.. นี่ผมทำร้ายเขาไปถึงขนาดนี้ได้ยังไง.. คชายังเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเรา.. แต่ผมกลับทำอะไรโดยไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย.. ..ไม่เห็นแก่ความเป็นเพื่อน เพราะผมไม่เคยคิดกับคนๆนี้เป็นเพียงแค่เพื่อนกัน.. “ ต.. เต๋าขอโทษ.. ” รู้ตัวอีกทีหยาดน้ำจากนัยน์ตาก็ร่วงสู่พื้น ยังร้องไห้ง่ายๆเหมือนเดิมสินะไอ่เต๋าเอ้ย! ..ไม่รู้ว่าคชาจะเข้าใจคำว่า ‘ขอโทษ’ ของผมบ้างไหม.. ไม่ใช่เพียงแค่ขอโทษเรื่องที่ผมเผลอทำร้ายเขาในคืนนั้นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างที่คชานั้นเข้าใจ แต่ขอโทษ.. ที่ผมวางแผนบ้าบอแบบนี้ขึ้นมา “ เต๋าคนเดิมน่ะ.. อยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนหรอก.. ” ผมเคลื่อนตัวเข้าใกล้อีกคน นั่งลงพิงบานประตูอยู่ข้างกัน พยายามโอบร่างคนตัวเล็กนั้นเข้ามาในอ้อมแขนเพียงข้างเดียว ฝ่ายนั้นมีท่าทีเหมือนจะขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนิ่งแล้วยอมให้ผมกอดไว้ “ รู้มั๊ยว่าชากลัวแค่ไหน!.. กลัวจนแทบบ้า เมื่อกี้เต๋าน่ากลัวจะตายไป.. ” ไม่ใช่เพียงแต่คนในอ้อมกอดที่ยิ่งสะอื้นหนัก ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าน้ำตาของตัวเองจากไหนที่มันมากมายถึงขนาดนี้ “ ชากลัวว่าเต๋าจะทำร้ายชาเหมือนคืนนั้นอีก.. ถ้าเป็นอย่างนั้นอีกล่ะก็.. ชาคงไม่รู้จะมีชีวิตต่อยังไงแล้ว.. ”..บอบบางชะมัด.. บอบบางเกินไปจริงๆ แต่ผมก็ยังทำร้ายได้ลง.. “ ขอโทษนะที่ตวาดใส่ แต่เต๋าไม่รู้จริงๆ.. ว่าทำไมชาถึงทำอะไรโดยไม่ห่วงตัวเองแบบนี้ ” ผมตระกองร่างนี้ไว้ด้วยความทะนุถนอมอย่างถึงที่สุด เจ้าคนหน้าเดียวนี่ยังสะอื้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ปลายนิ้วละไล้เรือนผมเพื่อปลอบโยนอีกฝ่าย เพียงครู่หนึ่ง.. ใบหน้านั้นก็ซบลงบนลาดไหล่ ก่อนที่เรียวแขนแบบบางจะโอบเข้ามาที่เอวของผม “ ไอ่เด็กขี้แยเอ้ย! เลิกร้องไห้ได้แล้ว ฮึก.. ยิ่งร้องเต๋ายิ่งรู้สึกผิดนะ.. ” ผมปล่อยให้อีกฝ่ายได้ร้องไห้ต่อซักพัก ก่อนจะเลื่อนปลายนิ้วมาปาดน้ำตาบนแก้มเนียน ..ก็เพราะทั้งน่าปกป้องน่าดูแลอย่างนี้ไง ผมถึงได้รัก.. รักจนไม่รู้ว่าจะถอนตัวยังไง.. เจ้าคนหน้าเดียวแหงนหน้ามาหาผม ก่อนจะคลี่ยิ้มให้กัน “ เต๋าเองก็เหมือนกันแหละ หยุดร้องได้แล้ว ขี้แยกว่าชาซะอีก ” ฝ่ายนั้นเลื่อนปลายนิ้วมาปาดน้ำตาให้ผมบ้าง ความรู้สึกวางใจกันอย่างสนิทของคนตรงหน้าเหมือนจะยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่ผมได้วางแผนกระทำไปนั้นมันเลวระยำมากแค่ไหน.. ผมยังเคยคิดจะบอกให้คชารู้เรื่องที่ผม ‘ตั้งใจ’ นี้ ขู่ปิดปากกัน แล้วก็ทำให้อีกคนนี้มาเป็นของผมโดยใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง ..แต่สิ่งที่คชาทำให้… มันดีเกินกว่าที่จะทำให้ผมเลวได้ขนาดนั้น ผมทนฝืนกลืนก้อนสะอื้นที่จุกลำคอ กล่าวคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา “ ขอโทษนะชา.. เต๋าขอโทษ.. ”..ไม่วิงวอนให้เธอสงสาร อ้อนวอนให้เธอมีใจ.. ..แต่อย่าใจร้าย อย่าเกลียดกันก็พอ.. “ ลุกขึ้นมาดีกว่า เราสองคนนั่งอยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้ว ” ผมกล่าวกับอีกคน ก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วยื่นมือให้อีกคนหวังจะช่วยฉุดขึ้นมา ฝ่ายนั้นก็ยื่นมือมาจับกันไว้ แต่ไม่ทันได้ลุกขึ้นดีก็ทรุดลงไปอีกรอบจนผมต้องใช้แขนอีกข้างประคองกันไว้ “ ชา! เป็นไรไปน่ะ?! ” คนหน้าเดียวกุมขมับแน่น ก่อนจะเลื่อนปลายนิ้วมานวดที่หว่างคิ้ว แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว “ น..หน้ามืดน่ะ.. ” ผมรู้สึกโล่งใจที่อย่างน้อยคนตรงหน้าก็เป็นแค่อาการประจำเวลาที่เจ้าตัวเจอเรื่องเครียดมาอย่างหนัก ไม่ได้เป็นอะไรที่น่ากลัวกว่านั้น.. ผมค่อยๆประคองร่างนั้นให้นั่งลงบนโซฟาอย่างแผ่วเบา แล้วนั่งลงข้างกันคอยดูแลอาการ “ ก็ร้องไห้หนักขนาดนี้ ไม่ปวดหัวด้วยก็บ้าแล้ว ” ผมบอกให้อีกฝ่ายนอนลงเพื่อที่ผมจะให้ทำหน้าที่ประจำ.. หมอนวดประจำตัวคชานั่นแหละครับ แต่ดูเหมือนอีกคนจะแสดงท่าทีขลาดๆ นี่คงกลัวว่าผมจะทำอะไรอีกล่ะสิ “ นอนไปเหอะหน่า แค่นวด ไม่ใช่นาบ ” ว่าจบจึงค่อยดันให้หัวทุยๆนั่นนอนหนุนลงบนหน้าตัก กดน้ำหนักจากปลายฝ่ามือลงบนใบหน้าเพื่อให้อีกคนได้คลายความเมื่อยล้า หลับตาพริ้มเชียวนะไอ่ตัวเล็ก.. ปล่อยให้เวลาได้ล่วงเลยไปสักพัก ก่อนจะพบว่าลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของคนตัวเล็กบ่งบอกว่าเจ้าตัวได้เข้าสู้ห่วงนิทราไปเสียแล้ว ผมสบมองหน้าหวานของคนบนตักแล้วลอบยิ้ม จินตนาการถึงรอยยิ้มของเจ้าคนหน้าเดียวที่ทำให้โลก ‘สว่าง’ ขึ้นมา ..อย่าน่ารักไปกว่านี้เลยได้มั๊ยคชา.. แค่นี้ผมเองก็รักจนไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรแล้ว จากตอนที่เจอกันแล้วเคยคิดไปเองว่าเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ ยิ่งนานวันที่หวังว่าความรักที่มีให้มันจะลดน้อยลงไปจนเป็นเพื่อนกันได้อย่างปกติ ..แต่มันไม่ใช่เลยสักนิด… ความรู้สึกที่ผมมีมันกลับยิ่งเพิ่มพูน อยากจะบอกกล่าวกันออกไป แต่ในเมื่อ ‘ความเป็นเพื่อน’ ระหว่างเราคือสิ่งที่คชาอยากจะรักษาไว้มากที่สุด รักษาเอาไว้จนแม้แต่จะต้องทำร้ายตัวเอง เพราะฉะนั้นแล้ว.. ผมเองก็ควรจะเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ภายในใจ ไม่พูดมันออกมาให้ต้องทำร้ายอีกฝ่ายไปมากกว่านี้จะดีกว่า.. ..ต่อให้ตัวผมเองจำต้องทนทรมานไปอีกสักแค่ไหนก็ตาม…..อะไรที่ควรจะเป็นความลับน่ะ.. ..ปล่อยให้มันเป็นเพียงความลับไปอย่างนั้นมันคงจะดีกว่า.. . . ทันใดนั้นเอง เสียงเครื่องมือสื่อสารที่สั่นรัวท่ามกลางความเงียบงันก็ปลุกผมขึ้นจากภวังค์ความคิด นึกขึ้นได้ว่ามือถือของคชานั้นยังอยู่ที่หลังเบาะรถ.. ยังไม่ได้หยิบออกมาเลยด้วยซ้ำ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นเครื่องของผมแล้วสินะ.. ผมลอบมองชื่อคนโทรเข้าบนหน้าจอก่อนจะขมวดคิ้ว เพราะมันคือไอ่อ้นนั่นเอง.. ตื้อไม่เลิกจริงๆเหอะแม่ง! ผมค่อยๆเคลื่อนตัวออกมาอย่างแผ่วเบา จัดแจงหมอนให้คนตัวเล็กได้หนุน ก่อนจะเดินไปรับสายคุยที่ระเบียงเพื่อไม่เป็นการรบกวนคนที่หลับอยู่ “ กูบอกมึงแล้วใช่มั๊ยไอ่อ้นว่าไม่ต้องโทรมาแล้ว ” “ ตอนที่มึงพูดกับกูน่ะ.. มันของเครื่องคชา มึงไม่ได้บอกนี่ว่าห้ามกูโทรหามึงน่ะ ” ผมกำหมัดแน่น ไอ่นี่มันวอนโดนส้นชะมัด! “ มีอะไรก็รีบๆพูดมาเลยดีกว่า! แม่งกวนตีนชิบหายอ่ะมึง” “ คชาอยู่กับมึงใช่มั๊ย? มึงทำอะไรเค้า?! ” น้ำเสียงร้อนรนทำให้ผมลอบยิ้มด้วยความสะใจ เป็นห่วงมากนักสินะ หึ! มึงควรจะรู้ได้แล้วว่าคชาน่ะ.. ‘ของใคร’ “ อยู่กับกูเอง สบายใจได้.. หึหึ แต่ถ้าถามว่ากูจะทำอะไรรึเปล่าน่ะ.. ไม่แน่หรอกนะ.. ” ผมแกล้งกวนตีนกลับให้มันประสาทเสียเล่น ทั้งที่ในใจผมเองก็ไม่คิดจะทำอะไรอย่างนั้นอีกแล้วล่ะครับ “ ไอ่เต๋า!!!.. ” ผมรีบกดตัดสายก่อนที่เจ้าหนุ่มผมยาวนั่นจะได้โวยวายต่อ คุยกับมันเรื่องคชาแล้วแม่งรู้สึกรำคาญใจชะมัด มันน่ะ.. ศัตรูหมายเลขของผมเลยล่ะครับ แต่จะไปใส่ใจอะไรกับมัน ปล่อยให้มันหัวเสียไปอย่างนั้นแหละครับ เพราะตอนนี้คนที่ผมควรจะโทรหาแล้วบอกเรื่องที่ว่าผมเคลียร์กับคชาได้เรียบร้อยแล้วนี่ก็มีเพียงคนเดียว.. ..คนที่เป็นที่ปรึกษาของผม ..พี่ต้นยังไงล่ะครับ..TBC. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _TALK TO WRITER: ไม่คาดคิดเลยว่าเล้าเป็ดจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้อ่ะค่ะ TAT เสียดายมากเลย.. เรายังไม่ได้อ่านเม้นท์ของตอนที่เพิ่งลงไปเลยอ่ะค่ะ *ร้องไห้โฮ* แอบไม่มั่นใจกับตอนนี้อีกแล้วล่ะค่ะ ปรู๊ฟเองยังรู้สึกแปลกๆ คำผิดอะไรก็ช่วยบอกกันหน่อยนะค่ะ ปล. ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วอ่ะค่ะ ;D
เฮ้ออออ ต๋าวววว เคลียร์กะเขาแน่แล้วเหรออออ - -" ยังไม่ทันพูดอะไรให้ชัดเลยก้าบบบบ พี่น้องก้าบบบบ พอได้สติแล้วก็น่าสงสารนะ ทั้งคชา ทั้งเต๋า รู้สึกว่าคชาน่าจะรู้ แต่ใช้คำว่าเพื่อนมาอ้างอ่ะ แบบว่า...เพื่อนมันอยู่ได้นานกว่า ยังไงก็ไม่เลิกกัน ก็รักน่ะ...รักจนไม่อยากเสียไป คงสถานะเดิมไว้ดีกว่า ^^ รอลุ้นตอนจบว่าจะไปทางไหน อิอิ ^^V
สนุกมากกกกก สงสารคชาบอบบางที่สวด *กอดปลอบ* :กอด1:
at love น่ารักมากมาย
เห็นมั้ยเต๋า คชาบอบบางขนาดไหน แกยังจะไปร้ายใส่เค้าอีกแน่ะ แล้วทีนี้พอรู้สึกตัวจะทำยังไงต่อไปล่ะนั่นน?? คชาน้อยน่าสงสารเกิ้นน ดูแลดีๆนะต๋าววว รอตอนต่อไปนะค่าาา :กอด1:
เข้าเม้นให้กำลังใจ เรื่องนี้สนุกมากเลยนะคะ เรารอให้คุณมาลงตลอดเลย แล้วเมื่อไหร่ชาจะเริ่มมองเต๋าเป็นมากกว่าเพื่อนล่ะ เค้ารอฉากฟิน ฮ่าๆๆ
มาต่อแล้ว ดีใจจังค่า และแล้วเต๋าก็แกล้งเมา แผนร้ายจริงๆเลย แล้วแน่ใจแล้วเหรอว่าเคลียร์แล้วน่ะ? จะไม่บอกไปจริงๆน่ะเหรอว่าแอบรักคชาอยู่ บอกไปเถอะ ถึงจะเสี่ยงแต่มันก็ต้องลองดูสักตั้งน่ะ ดีกว่าทนเก็บไว้ให้ปวดใจตัวเอง รออ่านตอนจบนะค้า ต่อไวๆน้า
ขอจบแบบ happy นะค๊ะ ขอบคุณค่ะ
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
เต๋า!!!!! &)*%$#@*^@# :fire: เต๋าร้ายใส่น้องทำม้ายยยยยยยย น้องร้องไห้น่าสงสารอ่ะ :m15: มาต่ออีกนะคะ สนุกมาก ^^
แล้วมันจะเป็นไงต่อไป จะได้รักกันไหมหนิ ว่าแต่ภาษาของคนเขียนดีมากเลยนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ><V
จะจบแล้วเหรอยังมองไม่เห็นจุดจบเลยอ่ะหรือว่าต้นชาจะงอกเงยเพราะไม่มีสว่าง(ได้เอ๋อออ55+)
อ๊ายยยย มาตามอ่านค่ะ ชอบๆๆแนวนี้มากเลย นายเอกต้องดีเลย์เคล้าน้ำตา เปลี่ยนเป็นลองฟิคได้มั้ยคะ^^ ได้อ่านแล้วดาร์คไซด์ของเด็กชายต๋าวววเอ๋อออ55+ รออ่านตอนต่อไปค่ะ
:serius2: ไม่น่าตอนหน้าจะจบแล้วหรือ สั้่นเกิ๊น...บ้าไปแล้ว เรื่องราวกำลังเริ่มเอง ทำไมรีบจบจัง ยังไม่รู้เลยว่า คชา จะ อะไร ยังไง ส่วนอิเพ่ต๋าวววววว ตี๋ใหญ่อ่ะ เหมือนตัวจริงมั่กมาก :z3: ของ 23 ตอนล่ะก๊านนนน เลขทำลังดี
สนุกจริงๆจ้า ติดตามต่อน๊าา
อ่านสามตอนรวดหนุกมาก มันค้างอ่ะ มาต่อเร็วน้า
:serius2: :serius2: จบแล้วเหรอคะ ไม่สั้นไปเหรอ แสดงว่าจบแบบเศร้าอ่ะจิ เง้อ............ เขียนต่ออีกได้ป่าวคะ :sad4: :sad4: ชอบพล๊อตเรื่องค่ะ เอ..หรือว่าเราซาดิส 555 แต่ว่าขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะคะ ชอบคู่นี้มากๆเลยค่ะ
อ๊ากกก จะจบแล้วแล้วหรอ ... ยังอยากอ่านต่ออยู่เลยอ่า ..... อยากได้ตอนพิเศษบ้าง อะไรบ้าง ปล.เค้าพูดลอยๆน้าา 555+
ดััน กระทู้รอจ้า ถ้าจะจบจริงๆ ก็อย่าลืมเขียนเรื่องใหม่มาให้่อ่านอีกน้าา ติดตามจ้าา
จะจบแล้วหรอ
จะจบแล้วอ่อ?? แล้วมันจะจบยังงัยหนอ ยังงัยก็จะติดตามนะคะ^^
เจอพิษรักเข้าไป เจ็บเจียนตาย โคตรทรมานเลย บ้าเอ้ย! เต๋าเจอคู่แข่งอย่างอ้นอีก บ้าแล้ว!
ขออนุญาติ ดััน กระทู้ อีกทีจ้าา อิอิ
ต๋าวเอ๋ออออออออ ทำอะไรลงไปน่ะหึ! :z3: บ้าเอ๊ยยย บีบคั้นหัวใจซะจริง อยากอ่านต่อจะเเย่อยู่แล้วว :serius2:
เด็กชายเต๋าเอ๋อทำอะไรกับเด็กชายคชาหัวเห็ด :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:
Cardiotoxin ..มันยากนะ.. ที่ต้องแกล้งทำว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม.. ..ทั้งที่ในใจก็รู้ดีว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว.. . . ผมค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างหวาดระแวง พยายามยันกายลุกขึ้นนั่งให้แผ่วเบาที่สุด อันที่จริงเมื่อครู่ก็เกือบจะเคลิ้มหลับไปกับการนวดของอีกคนอยู่แล้วเชียว.. ชะโงกหน้ามองไปยังด้านระเบียงเพื่อให้แน่ใจว่าอีกคนยังคงยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงนั้น ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่ออย่างโล่งใจ เห็นจากสีหน้าที่ดูไม่เคร่งเครียดของร่างสูงแล้วคาดว่าบทสนทนาคงไม่ได้เลวร้ายจนน่าเป็นห่วงนัก ก็ผมกลัวนี่.. คนที่รู้เรื่องในคืนนั้นน่ะ นอกจากเต๋ากับผมก็มี ‘ต้น’ นั่นแหละ ผมไม่อยากจะคิดเลยถ้าหากว่าปลายสายนั้นเป็นต้น.. เวลาที่คนๆนั้นโมโหน่ะ รุนแรงไม่ไว้หน้าใครหรอกครับ แล้วคนที่จะโดนด่าจนเละหรือไม่ก็อาจจะถูกเกลียดถึงขั้นมองหน้าไม่ติดเลยก็คือเต๋า.. ทั้งที่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นจากความไม่ได้ตั้งใจ แล้วจะให้ผมเอาผิดจากเต๋างั้นหรอ? ในเมื่อเต๋าบอกว่าเรื่องนั้นเขาได้รู้มันมาจากต้น ก่อนหน้านี้ก็คงไม่รู้ว่าจะโดนใส่ไฟไปตั้งเท่าไหร่แล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล.. กังวลจนอยากจะโทรไปห้ามปรามต้นแล้วเคลียร์กันให้เข้าใจโดยที่ไม่รู้ว่ายังจะทันอยู่รึเปล่า แต่ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามือถือของผมถูกโยนไปที่เบาะหลังตั้งแต่ตอนที่อยู่บนรถแล้วก็ยังไม่ได้หยิบเอาออกมาอีกด้วย! “ ไอ่บ้าเอ้ยย.. ” ผมขยี้หัวอย่างนึกขัดใจ จะว่าไป.. นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่อยู่บนรถก็ยังรู้สึกสะท้านในใจ ท่าทีเกรี้ยวกราดของอีกฝ่ายยังคงติดตาอยู่อย่างนั้น ผมไม่เข้าใจ.. ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมเต๋าต้องโมโหร้ายใส่กันถึงขนาดนี้ เพียงเพราะผมคุยกับอ้นงั้นหรอ? บ้าหน่า!.. แบบนั้นเต๋าก็คงไม่มีเหตุผลมากเกินไปแล้ว หรือว่าไอ่สองหนุ่มคลีโอนั่นมันจะทะเลาะกันเอง? อันนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่เต๋าก็น่ากลัวจนเกินไป ทั้งที่เราทั้งสามคน.. ก็ต่างสนิทกันมากแท้ๆ.. ไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่.. รู้สึกได้ว่าความสนิทสนมที่เคยมีนับวันมันก็เริ่มแตกร้าวกันออกไป ไม่ใช่ว่าจะความสนิทมันจะลดลงเพราะห่างๆกันอย่างนั้น แต่ทุกครั้งที่นัดมาเจอกัน ผมรู้สึกได้.. สายตาที่ทั้งเต๋าและอ้นมองกันมันไม่ได้เหมือนเพื่อนที่รู้จักกัน แต่มันเหมือน.. ศัตรู.. ผมรู้สึกไม่ดี.. ก็ทั้งสองคนนั้นน่ะต่างก็เป็นเพื่อนรักผม ถ้าถามว่าสนิทกับใครมากกว่ากันก็คงตอบได้ยาก อ้นน่ะทั้งสุภาพทั้งอบอุ่น เวลาที่ผมปัญหาในใจ แม้ไม่ต้องบอกกันเขาก็รู้ จนบางครั้งผมก็ยังเผลอนึกไปว่าอยากมีพี่ชายแบบนี้บ้างจัง.. ส่วนเต๋าน่ะ คงเป็นเพราะเราชอบอะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน ก็เลยสนิทกันง่าย แต่ผมกลับรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเต๋ามันไม่ใช่อย่างนั้น ใช่ว่าจะไม่เคยมีเพื่อนสนิทหรอกนะ แต่กับคนๆนี้ ผมบอกมันไม่ได้เลยจริงๆ.. จะให้ผมเรียกมันว่า.. ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก ก็คงจะใช่.. . . ครืด! เสียงเลื่อนของบานกระจกที่กั้นระหว่างเขตห้องกับระเบียงดังขึ้นทำเอาผมหลุดจากความคิด รับรู้ว่าเจ้าของผิวขาวจัดนั่นกำลังเคลื่อนกายใกล้เข้ามา ผมรีบแสร้งว่าหลับไปแล้วเหมือนอย่างในตอนแรก ทว่ามีหรือที่อีกคนจะไม่รู้ คนๆนี้น่ะรู้ทันผมตลอดเลย “ ไม่ต้องแกล้งหลับหรอกหน่า.. เต๋าเห็นแล้ว ” “ โถ่.. เต๋าอ่ะ.. ” ผมแกล้งพองลมที่แก้มอย่างงอนๆเมื่ออีกคนนั้นจับได้ “ คุยเสร็จแล้วหรอ? ทำไมแปบเดียวเองล่ะ? ” มีเพียงเรียวนิ้วของร่างขาวจัดที่ชี้ให้เห็นถึงสภาพอากาศภายนอกแทนคำตอบ ผมชะโงกมองตามออกไป มวลเมฆหนาทึบท่ามกลางท้องฟ้าสีควันบุหรี่ขมุกขมัวพร้อมด้วยเสียงเปาะแปะบ่งบอกว่าไม่อีกนานก็จะถึงเวลาที่สายฝนร่วงลงมาหนักกว่าเดิม เพียงเท่านั้นผมก็เข้าใจเหตุผล.. “ ทอมเอ้ยยย.. ” เจ้าของผิวขาวจัดคงนึกหมั่นเขี้ยวที่เห็นผมทำแก้มพองลมแบบนั้น จึงมาเล่นขยี้หัวผมยกใหญ่ มาทำอย่างนี้ได้ไงเนี่ยเต๋า! ผมรีบปัดมือหนานั่นออกก่อนจะจัดทรงให้เข้าที่ “ หยุดนะเต๋าเอ๋อ! ” ผมแกล้งขึ้นเสียง ก่อนจะคว้าหมอนหนุนใบเล็กบนโซฟาโยนใส่หน้าอีกคนที่สามารถรับไว้ได้ทัน เจ้าของเรียวมือแกร่งโยนกลับมาทางผมอีกครั้ง ผมลุกขึ้นแล้ววิ่งไล่เป็นเด็กๆ เพียงไม่นานสงครามเล็กๆก็เกิดขึ้นพื้นที่ห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้ “ เป็ดเหลือเกินอ่ะ! ” “ เอ๋อเหลือเกินอ่ะ! ” แต่แล้วเหมือนว่าเวลาสนุกสนานของพวกเรามีเพียงไม่นานเท่านั้น ออด.. ออด.. เสียงกดกริ่งที่ดังขึ้นหยุดการกระทำของเราทั้งสองคนให้ชะงักอย่างง่ายดาย ผมกับเต๋ามองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่งอย่างนึกสงสัยว่าจะเป็นใครกันนะที่มาหากันในเวลานี้ ก่อนที่จะเป็นผมที่ออกปากว่าจะไปดูด้วยตัวเอง หากทว่าบุคคลที่ยืนอยู่เบื้องหลังประตูกลับเป็นคนที่ผมไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะมา..“ อ..เอมี่.. ” เพราะนั่นคือ.. ผู้หญิงที่เป็นแฟนเก่าของเต๋านั่นเอง “ ใครหรอชา? ” ไม่ใช่เพียงแต่ผมเท่านั้น เจ้าของห้องเองเมื่อได้เห็นใบหน้าของผู้มาเยือนก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน “ เอมี่! ” “ เต๋า.. ” หญิงสาวรีบแทรกตัวผ่านผมที่ตอนนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นเพียงอากาศธาตุในสายตาของใครๆ ก่อนที่เธอจะโผเข้ากอดร่างสูงที่ยังยืนตะลึง “ เออยากคุยกับเต๋า.. ” “ ปล่อยเต๋า.. ” น้ำเสียงนิ่งติดจะเย็นชาที่ออกคำสั่งนั่นทำเอาผมหวั่นใจขึ้นมาแทน ร่างสูงพยายามจะสะบัดแล้วผลักร่างของหญิงสาวออกไป หากแต่เธอกลับยังไม่ยอมปล่อย เต๋าเองก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาก็ไม่อยากจะใช้กำลังกับผู้หญิงมากนักหรอก “ เต๋าบอกให้ปล่อยไง!!! ” เต๋าตวาดเกรี้ยวจนผมเองยังสะดุ้ง เอมี่เองก็ตกใจไม่แพ้กันจนต้องยอมผละออกมา หญิงสาวเม้มปากแน่น ใบหน้าของเธอมันเหมือนกับ.. คนที่กำลังใจสลาย.. “ เต๋าอย่าโกรธเอสิ ” “ กลับไปเถอะเอมี่ แล้วก็ไม่ต้องมาหากันอีกแล้ว ” “ เต๋า!.. ” หญิงสาวร้องชื่อฝ่ายนั้นทั้งน้ำตา ผมไม่เข้าใจ.. ทั้งที่ในคืนนั้นเต๋าบอกว่าเธอคนนี้เป็นคนบอกเลิก แต่ทำไมสถานการณ์ที่ผมเห็นในตอนนี้ มันเหมือนกับว่าคนที่หมดรักในตัวอีกคนกลับเป็น.. เต๋าซะเอง สายตาคมทอดมองมายังตัวผมท่ามกลางห้วงแห่งความสับสน ผมทำได้เพียงส่งยิ้มเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร ผมเองก็ไม่อยากจะอยู่ขัดสักเท่าไหร่หรอก “ ถ้างั้น.. เดี๋ยวชามานะ ” “ คชา.. ” ฝ่ายนั้นเอ่ยเรียกชื่อผมเสียงแผ่วหวิวรากับจะห้ามไม่ให้ผมไป แต่ผมไม่อยากได้ยินอะไรอีกแล้ว ยิ่งยังอยู่เป็นส่วนเกินอย่างนี้ก็ยิ่งอึดอัด สู้เดินออกไปให้ไกลๆซะยังดีกว่า _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ทันทีที่เสียงบานประตูปิดลงพร้อมกับเจ้าของร่างโปร่งบางที่เดินออกไป ร่างสูงก็เอาแต่มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างคาดโทษจะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ? ..ก็คนที่มันหมดรักแล้วน่ะ จะให้ยังคบกันต่อไปเพื่ออะไร? ยิ่งฝืนทนก็ยิ่งมีแต่คำว่าเจ็บกับทั้งสองฝ่าย “ ทำไมมาหาไม่บอกไม่กล่าว.. ถ้านักข่าวมาเห็นล่ะเอมี่? เราจะเสียกันทั้งคู่นะ! ” หญิงสาวเอาแต่ก้มหน้ารับผิด เพราะเธอเอาแต่เป็นห่วงความสัมพันธ์ที่กำลังจะเปลี่ยนไปกับอีกคน ถึงได้ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ตัวเธอเองก็เป็นแค่สาวนอกวงการ.. “ เอแค่อยากเจอเต๋า.. ก่อนที่เราจะกลายเป็นคนอื่น.. ” “ เราเองก็คบกันมานาน เอก็เสียดายเวลาดีๆ.. ” “ มีอะไรก็รีบๆพูดมาดีกว่า อย่ามัวแต่อ้อมอยู่เลย ” ที่พูดไปใช่ว่าจะรำคาญ เข้าใจว่าคนเคยรักยังไงก็ต้องผูกพัน “ เลิกกันทำไม?.. ” ร่างสูงถึงกับชะงักเมื่ออีกคนร้องขอเหตุผล เพราะถ้าบอกไปว่าเป็นเพราะคชา อีกฝ่ายจะรับได้หรอ? “ เอมี่.. ” ว่าพลางจึงคว้าเรียวมือแบบบางของอีกคนขึ้นมา พร้อมกับกล่าวเหตุผล “ เต๋าว่าเราก็คุยกันเข้าใจแล้วนะ.. เต๋าเองก็ต้องทำงาน ยังไงเราก็ต้องห่างกันอยู่ดี.. ” “ เราจบกันตรงนี้น่ะดีแล้ว.. ” จากการที่เคยคบกันเป็นปีๆจนรู้นิสัย ชายหนุ่มมั่นใจว่ายังไงอดีตแฟนสาวของเขาเป็นคนมีเหตุผลพอที่จะเข้าใจกัน “ แล้วอีกอย่าง.. เอก็รู้นี่ว่าเต๋าติดเพื่อน แบบนั้นเต๋าก็จะยิ่งไม่มีเวลาให้เลยนะ ” หญิงสาวพยายามจะนึกที่อีกคนพูด เหตุผลหลังนี่มันเป็นความจริงที่เธอรู้อย่างเถียงไม่ได้ เธอแค่นยิ้มขมขื่น “ โอเค.. เอเข้าใจแล้วล่ะ ” ก่อนจะโผเข้ากอดร่างตรงหน้าอีกครั้ง เศรษฐพงษ์เผยยิ้ม.. ยังดีที่เอมี่ไม่วีนแตกหรือเข้ามาโวยวายกับเขา อย่างน้อยในที่สุดความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จบลงอย่างเข้าใจกัน “ งั้นก็รีบไปหาเพื่อนของเต๋าสิ.. ป่านนี้คงเดินไปไหนซะไกลแล้วมั๊ง ” เอมี่ผละตัวออกมาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้กัน เต๋าชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าเธอเองก็แคร์เพื่อนสนิทของเขาคนนี้ด้วย “ เอ้า! มัวแต่นิ่งอยู่นั่นแหละ รีบไปสิแอทเลิฟ ฮ่าๆ ” เธอแกล้งแซว จนเต๋าอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามไปด้วย แล้วอีกอย่าง.. มันก็ดีที่เอมี่ไม่ได้รู้เรื่องความรู้สึกที่เขามีให้กับคชา แล้วก็ไม่ได้เข้าใจคำว่า ‘ติดเพื่อน’ ที่เขาได้พูดออกไป เพื่อนคนนั้นที่เขาติดน่ะ.. ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ ติดจนถอนตัวไม่ได้.. ติดจนต้องล้มเลิกความรักที่เคยมีกับผู้หญิงคนนี้ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ผมไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกห่างจากบานประตูห้องนั้นมาได้ไกลขนาดไหน คิดไปว่าบางทีที่เอมี่มาหานี่ก็คงเป็นผลดีต่อเต๋าเหมือนกัน ทั้งสองนั่นก็คงจะเคลียร์กันได้แล้วกลับมาคบกันเหมือนเดิม ส่วนเต๋าโมโหนั้น.. คงเป็นเพราะเอมี่นั่นแหละ บอกเลิกเองแท้ๆทำให้อีกคนเสียใจแทบบ้าไปแล้วแท้ๆ แต่กลับมาง้อซะเอง เมื่อถึงคราวที่ทุกอย่างจะจบลงด้วยดีแล้ว.. แล้วเรื่องคืนนั้นที่ผมต้องเผชิญล่ะ? พอถึงคราวนั้นแล้วใครยังจะมาสนใจเรื่องนี้ แล้วสิ่งที่ผมรักผมหวงแหนที่สูญเสียไปล่ะ?.. ผมจะเรียกร้องเอาความรับผิดชอบมาจากใครกัน.. ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งปวดร้าวในอก ความเสียใจถูกกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว หล่นร่วงตามแรงโน้มถ่วง ยิ่งพยายามปาดมันออกมากเท่าไหร่ ความเสียใจที่มีอยู่นี้ก็ยิ่งเอ่อล้นจนพรั่งพรูอย่างห้ามไม่อยู่.. ท่ามกลางความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งโกรธทั้งน้อยใจ.. ผมโกรธ.. โกรธเอมี่ที่เป็นต้นเหตุทุกอย่าง ถ้าหากว่าวันนั้นเธอไม่ได้โทรมาบอกเลิกกับเต๋า ไม่ทำให้เต๋าเสียใจจนต้องพึ่งแอลกอฮอล์แล้วขาดสติแบบนั้น.. ผมก็คงไม่ต้องมาจมจ่อมกับฝันร้ายที่กลายเป็นตราบาปไปทั้งชีวิตอย่างนี้หรอก ..ตราบาปที่ถูกเพื่อนรักของตัวเอง ‘ขืนใจ’.. ผมเดินตรงออกไปอย่างเลื่อนลอย รู้ตัวอีกทีว่าเดินออกมาถึงนอนระเบียงของชั้นก็ตอนที่ความชื้นแฉะรอบกายประเดประดังเข้ามา ผมได้แต่ยืนนิ่งรอรับสายฝนเหล่านั้นโดยไม่คิดจะเดินหนีไปไหน อยากจะให้มันได้พัดพาเอาความเจ็บปวดที่เคยมีทั้งหมดให้หายไปทั้งที่รู้ว่ามันก็เป็นไปไม่ได้.. “ ฮึก.. บ้าชะมัด! ฮืออ.. ” ผมซบหน้าลงกับฝ่ามือสะอื้นไห้อย่างห้ามไม่อยู่ สายฝนกับน้ำตาไหลรวมกันจนแทบแยกไม่ออก ก็ใช่สินะ.. ผมน่ะผิดเองที่มันพลาด ถ้าสองคนนั้นจะกลับมารักกันแล้วพวกเขาจะมาทุกข์ร้อนอะไรกับผมที่เป็นอยู่อย่างนี้ ขณะนั้นเองที่คิดไปว่าคงต้องถูกไว้ตามลำพัง กลายเป็นคนที่ไม่มีใครแยแส.. เรียวแขนอันอบอุ่นก็เข้ามาประคองลาดไหล่ ก่อนที่หยาดน้ำฟ้าจะถูกกั้นออกด้วยรัศมีร่ม ผมมองตามไปด้วยความไม่คาดคิด.. แล้วก็เป็นคนๆนั้น.. คนที่ผมคิดว่าเขาจะทิ้งกันไป ไม่ดูแลกันต่อไปแล้ว “ ต.. เต๋า! ” “ มานั่งตากฝนทำไมว่ะคชา เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก! ” ฝ่ายนั้นตะโกนแข่งกับเสียงสายฝน ก่อนจะลากผมกลับเข้ามายังเขตที่สายฝนยังสาดไม่ถึง “ ต..เต๋า.. ตามชามาทำไม? ล..แล้วเอมี่ล่ะ? ” “ เคลียร์กันแล้ว ” “ ห๊ะ?! ” ผมไม่เข้าใจคำว่าเคลียร์กันแล้วของเต๋า มันหมายความว่ายังไง? คืนดีกันแล้วกลับไปคบกันอีกครั้งอย่างนั้นหรอ? “ เต๋ากับเอมี่จบกันด้วยดีแล้ว.. ” คนตรงหน้าตรงเข้ามาขยี้ผมที่ชื้นน้ำเพราะไม่อยากให้คิดมาก หากทว่าน้ำตากลับยิ่งไหลออกมาจนหยุดไม่อยู่ “ เห้ย! แล้วนี่ร้องไห้ทำไมว่ะตัวเล็ก เป็นไรรึเปล่า?! ” ผมรีบส่ายหน้ารัวๆ ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องมากังวลไปด้วย “ ป..เปล่าหรอก ” ก่อนจะรับรู้ถึงแรงกระชากจนเซไปปะทะแผ่นอกของอีกฝ่าย วงแขนแกร่งจึงค่อยโอบล้อมไว้อีกที “ ยังไงเต๋าก็ไม่ลืมเรื่องของชาหรอก.. เต๋าเลือกเพื่อนมาก่อนแฟนอยู่แล้ว ” ยิ่งรู้ว่าตัวเองยังมีค่าพอที่อีกคนยังให้ความสำคัญก็ยิ่งตื้นตัน.. รู้สึกโหยหาจนไม่อยากจะจากไปไหน.. “ อย่าร้องไห้เลยนะไอ่ตัวเล็ก ” เรียวนิ้วปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน “ ป่ะ! กลับไปที่ห้องกันเถอะ เดี๋ยวหวัดก็กินเอาหรอก ” ก่อนที่เรียวมือหนาแกร่งจะกอบกุมไว้เดินจูงไปด้วยกัน ผมลอบมองแผ่นหลังกว้างของอีกคนด้วยรอยยิ้ม ท่ามกลางความหนาวเหน็บที่มีเพียงคนนี้ที่ยังไม่ทิ้งไปจากกัน.. ขณะนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าความอุ่นซ่านจากปลายนิ้วของฝ่ายนั้นที่กอบกุมกันทำให้ความรู้สึกบางอย่างไม่แน่ชัด.. ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจ.. แค่รู้สึกว่า.. เสียงหัวใจตัวเอง.. กลับเต้นผิดไปอย่างไม่เคยเป็นกับเพื่อนคนนี้ซะแล้ว..THE END หรอ?? ยังไม่จบหรอก ๕๕ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _TALK TO WRITER: เกิดความผิดพลาดขณะลง ข้อความขึ้นไม่ครบซะงั้น = = คุณหลอกดาวซะงั้น ฮ่าๆๆ จะให้บอกว่านี่คือตอนจบจริงๆมันคงไม่ใช่ อันที่จริงมันยังมีตอนหน้านะค่ะ แต่เป็นพาร์ทความคิดของคุณนายต้น แล้วก็คงมีตอนพิเศษอีกนิดๆหน่อยๆ ^^ ไม่จบง่ายๆหรอกค่ะ ฮ่าๆๆ มีใครเข้าใจอารมณ์ของเอมี่ในตอนนี้รึเปล่าค่ะ? คือประมาณว่าเป็นแค่คนรักเก่าที่ยังคาใจกับเต๋าก็ยังอยากรู้เหตุผลว่าทำไมต้องเลิกกันอ่ะค่ะ ไม่มีอะไรเลยจริงๆ >< ปล. คอมเม้นท์กันหน่อยนะเออ เม้นท์มันน้อยจนเราแอบน้อยใจอ่ะค่ะ TAT
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ค้างงงงงงงงงงงงงงง เอมี่ ตัวจริงเสียงจริงกันเลยทีเดียว เรียลมากเรื่องนี้ :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
โอ้แม่เจ้า O[]o ~ คุณพระ(ไม่่ช่วย) -,.- จบตอนเอมี่ปรากฎตัว แบบนี้มีค้างสิคะ เคลียร์กันให้ลงตัวก็แล้วกัน ผญ.นางนี้จะเอาระเบิดมาวางที่คอนโดนายเต๋าเอ๋อหรือไม่? หรือจะเข้าไปด่าทอคชาที่ทำให้เต๋าทิ้งหล่อนหรือไม่? โปรดติดตามตอนต่อไป :a5:
มาล๊ะ อิตัวปัญหา
โฮกกกกก...ถ่านไฟเก่า...มาทำม๊ายยยยยยยยยย รอที่เหลือค่าาาาา^^
เอาแล่วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะเป็นไงต่อเนี่ย เริ่มเข้มข้นแล้วว
อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย ค้างคาอย่างร้ายกาจจจจจจจจจจจจจจ เหมือนความรู้สึกกำลังจะดีขึนเหมือน ชากำลังทบทววนตัวเอง แต่แล้วววววววววววววววววววว โอยยย รอ ร้อยเปอเซ็นเจ้าค่ะ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด !! เล่นจริงอะไรจริง :sad4:
มาแล้วจ้า......ของเรื่องนี้ รอดูความ......ของแม่นาง >*<
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ค้างงงง เอมี่.............. :fire: รอรอรอรอ :sad4:
ก็มันคาใจ....ข้างในลึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ... มันจะจบได้ไงจ๊ะ ตัวปัญหามาแล้วจ้า :sad4:
คชาตอนงอนพี่เต๋าน่ารักอ่ะ 55555555555555 มีเขวี้ยงหมอน ยังกะคู่แต่งงานใหม่ กำลังจะไปด้วยดีแล้วแท้ๆ ต้องมีคนโผล่มาอีกละ T_T เห็นชื่อตอนแรกถึงกับสะดุ้งเฮือก ให้ตายเถอะคุณพร๊ะะะะะะะะะ :z3: :z3:
ไม่ต้องโผล่มา ไม่ได้หรือ รีบมาแล้วรีบจากไปจะดีที่สุด คนเค้ากำลังจะดีกันอยู่แล้ว นางมารร้ายโผล่มาซะงั้น กำลังสนุกเลยค่ะ ว่างแล้วรีบมาต่อนะคะ รออยู่ค้าาา :serius2:
มาอัพครบร้อยเปอร์แล้วนะค่ะ
กรี๊ด..ค้างอ่ะตัวเล็กอย่าร้องเลยนะรอฟังเหตุผลของตัวโตก่อน
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
สงสารเอมี่เหอะ คนที่ทำร้ายให้คนอื่นต้องเสียใจและคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดคือเต๋า
เอ่อ ดราม่าแท้T^T ยังไงเราก็เชียร์เต๋าคชา สว่างหน้าเดียวนะT^T คนเขียนสู้ๆ><
ต้องขอโทษนะค่ะที่ข้อความในฟิคมันขึ้นมาไม่ครบ เน็ตกากขนาดแท้ค่ะ = = ตอนนี้อัพใหม่แล้วหวังว่ามันคงขึ้นครบนะค่ะ
โอ๊ะ เอมี่ของจริงเลยทีเดียว อ่านมาหลายเรื่องละ ไม่มีใครกล้าเล่นชื่อนี้เลยนะเนี่ย 555 สุดยอดมากฮ้ะ! กำลังดราม่าได้อารมณ์สุดๆ สู้นะค่ะคนเขียน ม๊วบบบบ > 3 <
ตกใจ นึกว่าเธอจะมาทำไม เฮ้อออ โล่ง
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เข้มข้นมากมายจ้า สนุกมาก รอตอนต่อไปอยู่นะคะ สารภาพว่าเข้ามาดูทุกวันเลยจ้า o13 o13
แค่อินโทรก็ทำให้เรากรี๊ดแล้ว >////<
http://www.pleng.com/song.php?song_id=000002 << อย่าลืมจิ้มเพลงนี้ฟังด้วยนะค่ะCardiotoxin ..ฟ้าหลังฝนที่ใครเขาว่ามี.. ..มันอยู่ที่ไหนล่ะ? ทำไมมีแต่ฝนที่ยังไม่ยอมหยุดตกซะที?.. . . ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ ณ มุมหนึ่งของร้านเบเกอรี่เล็กๆ เบือนสายตามองออกไปยังทัศนียภาพขุ่นมัวภายนอกอย่างเลื่อนลอย โดยแทบจะไม่ได้ใส่ใจกับม่านนควันขาวที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ตรงหน้า เพราะถึงอย่างไรความร้อนจากเครื่องดื่มในถ้วยกระเบื้องนี่ก็ไม่สามารถสร้างความอุ่นซ่านให้ตัวเขาได้เลย ‘ต้น’ เลื่อนสายตากลับเข้ามาในตัวร้านอีกครั้งเมื่อพนักงานเสิร์ฟสาววางจานขนมหวานมาไว้ตรงหน้า เขายิ้มขอบคุณให้เล็กน้อย ก่อนจะคว้าช้อนเงินคันเล็กขึ้นมา ที่ยังไม่ยอมแตะต้องช๊อคโกแลตร้อนในแก้วนั่นน่ะก็เพราะเขากำลังรอเวลานี้ต่างหาก เค้กสตรอเบอร์รี่กับช๊อคโกแลตร้อน.. แม้ใครจะว่ามันไม่ค่อยเข้า แต่เขาว่ามันเข้ากันได้ดีที่สุดแล้ว.. ..ช๊อคโกแลตกับสตรอเบอร์นี่งั้นหรอ?.. ต้นยกยิ้มในเสี้ยววินาที่เมื่อความคิดนั้นแล่นเข้ามา หากทว่าเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้บ่งบอกถึงความสุขเลยสักนิด.. เห็นของหวานตรงหน้าแล้วมันนึกถึงไอ่เต๋ากับเจ้าคชาชะมัด สองคนนั้นน่ะเหมาะสมกันดีอยู่แล้ว แล้วคนที่ทำได้เพียงแค่มองความเป็นไปอยู่ห่างๆอย่างเขาล่ะ แม้แต่ความคิดที่จะไปคู่ควรกับหนึ่งในสองคนนั้นยังเป็นไปไม่ได้ แล้วจะมีสิทธิ์อะไรที่จะไปแยกทั้งคู่ออกมา.. ภายใต้นัยน์ตาคมโตที่ไม่เคยมีใครหยั่งรู้ถึงความคิดในนั้นซ่อนเอาความขมขื่นไว้ เป็นเพราะความสัมพันธ์บางอย่างสินะ.. เพราะเต๋าทั้งไว้ใจและให้ความเคารพกับเขาเป็นดั่งพี่ชายคนหนึ่ง ในขณะที่ตัวเขาเองกลับคิดกับคนๆนี้ไปไกลกว่านั้น แต่แน่นอนว่าไม่มีทางใดที่ต้นจะสามารถบอกมันออกไปได้เลย..ได้แค่ปลอบ เธอมีฉันไว้แค่ปลอบ.. ..เข้าใจเธอ ก่อนที่เขาไม่เข้าใจ.. ท่ามกลางเสียงอื้ออึงของหยาดพิรุณที่เริงระบำอยู่ภายนอก เสียงเพลงที่เปิดคลอภายในตัวร้านกลับได้ยินชัดเจนในโสต เพียงเนื้อหาของเพลงนั้นก็ทำให้เรียวมือที่จับช้อนเงินกำแน่นจนสั่นสะท้านอย่างง่ายดาย มันเจ็บ.. ไม่ใช่แค่ที่มือเท่านั้น แต่เป็นกับที่ใจดวงนี้ด้วย และตอนนี้.. หัวใจของเขาก็กำลังร้องไห้ไปพร้อมๆกับท้องฟ้าสีหม่น..พูดแล้วเจ็บ แต่ก็คงต้องยอมเจ็บ ฝืนใจบอก.. บอกว่าเขายังรักเธอ.. ต้นเคยยินดีที่ได้ยืนอยู่ตรงจุดนี้ เป็นทั้งพี่ชาย.. เป็นทั้งที่ปรึกษาให้อีกคนไว้ใจและพร้อมที่จะระบายเรื่องราวทุกข์ร้อนในใจให้ได้ฟัง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเต๋าเป็นได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว แม้ว่าความหวังที่มีมันจะน้อยนิด แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีความหวังเลยไม่ใช่หรือ? แต่แล้วความหวังที่มีน้อยนิดกลับถูกทำร้ายจนไม่เหลือ.. เมื่อในวันนั้น.. ที่เต๋ามาบอกกัน.. . . “ ถ้าพี่ต้นแอบชอบเพื่อนตัวเองขึ้นมา พี่ว่า.. ผมควรจะบอกเขารึเปล่า? ” คำถามนั้นทำเอาคนฟังที่คิดไกลนั้นสั่นไหวไปทั้งใจ ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้มาถามคำถามแบบนี้กัน “ เอาจริงๆนะ.. พี่ว่าไม่ควรบอกออกไปหรอก แกจะรับได้หรอถ้าบอกไปแล้วมันเสียเพื่อนน่ะ ” ต้นตอบไปตามอย่างที่คิด ขณะที่ในใจก็ยังร้อนรน กลัวไปว่าเต๋าจะแอบชอบใครเข้าซะแล้ว “ ว่าแต่ว่า.. แอบชอบใครอยู่อ่ะแก~ ” ..บอกไปแล้วก็สั่น อีกใจก็สั่น เธอคงไม่เข้าใจ ไม่มีวันรู้เลย.. “ พี่ต้น ผม.. ผมชอบคชา.. ” มันเหมือนฟ้าฝ่าตรงกลางหัว ไม่รู้ว่าอีกคนนั้นพูดเล่นหรือพูดจริง ถึงกระนั้นก็คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน ไอ่คู่นี้มันชอบชงตัวเอง! “ แหม.. จะให้ฉันช่วยชงป่ะแก? ” “ ผมพูดจริง.. ” ไม่ใช่เพียงน้ำเสียงที่กล่าวมา สีหน้าที่จริงจังนั่นก็บ่งบอกด้วยว่าสิ่งที่พูดไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย คนฟังชะงัก มันเหมือนคนที่กำลังจะขึ้นสวรรค์ แต่กลับถูกกระชากลงนรกอย่างไม่ทันตั้งตัว “ แล้วพี่ว่า.. ผมควรจะทำยังไงล่ะ? ”..มันบีบหัวใจ สั่นๆ จากข้างใน ที่ต้องเป็นที่ปรึกษา แก้ปัญหา เรื่องเธอรักใคร เธอเพียงไว้ใจ โดยไม่เคยจะสนใจ ว่าคนเป็นที่ปรึกษาเกิดปัญหา.. “ ให้ตายสิว่ะ.. ” แม้ว่าจะเจ็บไปทั้งใจ แต่เพื่อให้คนที่ตัวเองรักมีความสุข เขาก็พร้อมยินดีจะช่วย แต่มันติดอยู่ตรงที่.. ความเป็นไปได้มันแทบจะเป็นศูนย์ เรื่องความรักมันอยู่ที่จิตใจของคน.. แล้วจะให้ช่วยยังไงล่ะ? “ ห้ามบอกเด็ดขาดนะแก ถึงคชาจะคิดเหมือนกับแก แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก แล้วเราก็อยู่ในวงการด้วยนะแก.. คิดดูดีๆก็แล้วกัน ” “ ทำตัวให้เป็นเหมือนเพื่อนต่อไปเหอะ เรื่องอย่างนี้น่ะ.. ใครแสดงได้ดีก็ได้รับรางวัลไป.. ” . . เขาคิดว่าเรื่องราวทุกอย่างมันจะจบลงเพียงเท่านั้น คิดว่าเต๋าจะกลั้นเก็บเอาความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ภายในใจเหมือนอย่างที่เขาทำ แต่เปล่าเลย.. สิ่งที่เต๋าทำลงไปนั้น ทั้งวางแผน.. ทั้งขืนใจ.. ทำให้คชาต้องถูกผูกมัดไว้ด้วยฝันร้ายอันโสมมเหล่านั้น มันเลวร้ายเกินกว่าจะให้อภัยกัน....หัวใจที่แหลกสลาย มันเหมือนถูกเหยียบซ้ำจนไร้ค่า.. แน่นอนว่าคนที่เจออย่างนี้ยังไงมันก็โกรธ ต้นโกรธ.. ทั้งโกรธทั้งเจ็บที่เต๋ากล้าทำเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ แค่ทำลายหัวใจของเขาก็ยังไม่พอรึไง? ถึงได้ต้องมาทำร้ายคชาทั้งร่างกายและจิตใจจนบอบช้ำได้ลงคอ โกรธจนอยากจะเช้าไปตบลงบนใบหน้าขาวจัดสักฉาดสองฉาด ให้มันรู้ถึงความเจ็บปวดที่ทั้งเขาและคชาเป็นซะบ้าง แต่เขาทำไม่ลง.. เพราะต้นรักคนๆนี้เกินกว่าจะทำร้ายกันได้แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำความผิดมหันต์แค่ไหนก็ตาม....ได้แต่ยิ้มให้เธอ ยินดีให้เธอ แต่ว่าในหัวใจ ต้องพูดไปร้องไป เธอคงไม่รู้เลย.. คิดแล้วมันก็ยิ่งโมโหตัวเอง เรียวมือคว้าช้อนเงินตักขนมหวานเข้าปากคำโตดับโมโห ความหวานของมันไม่มีทางซึมซาบสู่อณูจิตที่มีแต่ความขมขื่นของเขาได้เลย ต้นนึกน้อยใจ.. ทำไมกันนะ? ทั้งชีวิตถึงต้องเจอกับการแอบรักอยู่ร่ำไป.. ก่อนจะรีบจัดการกับของหวานตรงหน้า ไม่อยากจะคิดอะไรให้มันเจ็บช้ำใจไปกว่านี้อีกแล้ว หากทว่าตอนนี้ควรจะคิดถึงเรื่องสภาพอากาศภายนอกนี่มากกว่า ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับฟ้าฝน ก่อนจะรีบคว้าร่มสีเข้มแล้วเดินออกจากตัวร้านไป ขณะที่ในใจก็ได้แต่นึกหวังไปว่า ‘ฟ้าหลังฝน’ คงปรากฏขึ้นมาในสักวัน แต่ตอนนี้คงต้องทนกับสายฝนแห่งความขมขื่นที่เปียกปอนไปทั้งใจนี่เสียก่อน.. สุดท้ายแล้วความรักได้หลงเหลืออะไรไว้ให้เราบ้างล่ะ? ..ทั้งเต๋าที่ต้องทนกับการแอบรักเพื่อน สุดท้ายก็กลับทำร้ายคนที่ตัวเองรักซะเอง ..ทั้งคชาที่ถูกพิษรักของอีกคนทำร้ายจนบอบช้ำ ต้องเก็บเอาความเศร้าโศกไว้กับตัว บอกใครไม่ได้เพราะกลัวว่าจะต้องสูญเสียความรู้สึกดีๆที่เคยมีกันไป รวมทั้งตัวของเขาเอง.. ที่ไม่ได้เจ็บเพียงเพราะแอบรัก แต่ต้องเจ็บยิ่งกว่า.. เพราะต้องเป็นที่ปรึกษาปัญหาความรักให้กับฝ่ายนั้น..ก็ความรักน่ะ.. เป็นพิษต่อหัวใจ.. THE END. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _TALK TO WRITER: จบแล้วค่ะคุณผู้อ่าน ๕๕๕ มันจบอย่างนี้แหละ ใครไม่จบแต่เราว่านี่คือตอนจบที่ดีที่สุดแล้วอ่ะค่ะ คือเราเองชอบแต่งตอนจบแบบประมาณให้คิดต่อเอาอ่ะค่ะ เรื่องนี้ถ้าจบแบบสุดมันก็แปลกๆเนอะ แหะๆ เดี๋ยวยังไงก็ยังมีตอนพิเศษค่ะ รออีกแปบนึงนะค่ะ >< ขอบคุณทุกคนจริงๆที่ติดตามเรื่องนี้ค่ะ <3
มาหักมุมที่คุณต้นได้ไงเนี่ย กลายเป็นคนที่โดนพิษหนักสุดเลย ขอยาแก้พิษให้คุณต้นอีกสักตอนครึ่งตอนได้มั้ยค้า
โอ้ว...หักมุมตอนจบแฮะ คนตโดนพิษรักหนักเอาการแต่อ่านจบแล้วรู้สึกหน่วงๆไงไม่รู้ เฮ้อ...
เป้นเรื่องสั้นที่แอบยาว (รอยาว ฮ่าๆๆ) แต่จบแบบนี้ก็ดีนะคะ รอตอนพิเศษจ้า
รู้สึกไม่เคลียร์นะ
:z3: แค่...เพืือน...ได้เหรอ มันมาไกล เกินเพื่อนไปแล้ว อยากกลับไปหลับซักคืน
ขอมอบเพลงนี้ให้คนเขียน พลิกล็อคกันน่าดู ถล่มทลาย พลิกล็อคกันมากมาย แบบเทกระเป๋า พลิกล็อคกันอย่างงี้ ฉันเสียจนเต็มเปา จะให้ฉัน นั้นเอาคืน ที่ใคร 55555 +1 จ้าา
ว่าแล้วเชียวว่าระหว่างต้นกับเต๋า มันต้องมีอะไร แล้วมันก็มีแบบที่คิดจริงๆ รออ่านตอนพิเศษต่อไปคร่า แต่มันก็แอบค้างๆ คาๆ ในใจนิดๆ แฮ่ๆ ยังไงซะก็ยังชอบเรื่องนี้นะคะ
จบแบบนี้จริงๆเหรอคะ ได้เหรออออออ ปล. รอตอนพิเศษนะคะ
เหมือนค้างๆ นะครับ ^^
สนุก o13 เต้นรอตอนพิเศษ :a11:
มาต่อนะคะ คนเขียนน้ำท่วมป่าว ดูแลตัวเองด้วยนะคะ
Title : Under the MistletoePairing : TaoTon สว่างคุณนาย(?)Genre : Romance(?)Author : KuNgWoNUnder the Mistletoe Newport Beach, California ท่ามกลางความหนาวเหน็บที่อวลกระจายทั่วทุกอณูของอากาศ ปุยสีขาวของหิมะปลิวกระจายว่อนทั่วอาณาบริเวณ ร้านรวงทั้งสองข้างทางต่างตกแต่งด้วยแสงไฟและของประดับเพื่อให้เข้ากับเทศกาลสำคัญ บรรดาเด็กน้อยกำลังสนุกสนานกับการเล่นปาหิมะ มวลความสุขที่อื้ออึงราบกายทำให้ชายหนุ่มเผลอลอบยิ้มออกมาIt's the most beautiful time of the year, มันคือช่วงเวลางดงามมากที่สุดแห่งปี Lights fill the streets spreading so much cheer, แสงไฟส่องสว่างแผ่กระจายไปตามท้องถนน “ ยิ้มอะไรอยู่คนเดียวน่ะ? ” แต่ก็ต้องสะดุ้งแทบจะทันที เมื่ออีกคนยื่นกระป๋องเบียร์ร้อนๆมาแตะที่ข้างแก้ม “ โอ๊ย! มันร้อนนะเว้ย! ” ‘ต้น’ แกล้งขึ้นเสียงดุก่อนจะตีไปที่แขนของอีกคนเบาๆ ‘เต๋า’แกล้งร้องโอดโอยเหมือนว่าจะเจ็บมาก ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นแย้มยิ้มอย่างรวดเร็วI should be playing in the winter snow, ฉันควรจะเล่นหิมะในยามฤดูหนาวนะ But I'm a be under the mistletoe. แต่ฉันจะยืนอยู่ใต้ดอกมิสเซิ่ลโทล “ อย่าดุกันสิครับ แกล้งเล่นนิดเดียวเอง ” ว่าพลางก็ทำหน้ายู่ลง ท่าทีแบ๊วๆที่มันไม่ค่อยเข้ากับขนาดตัวของฝ่ายนั้นเห็นแล้วมันน่าหมั่นไส้จนอยากจะเข้าไปตีซ้ำซะจริงๆ กระนั้นเองเรียวมือก็ยังรับกระป๋องเบียร์นั่นมา รสหวานปร่าของแอลกอฮอล์ที่ไหลผ่านลำคอสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ขณะที่เต๋ากำลังเสียบหูฟังพลางเลื่อนหน้าจอบนสมาร์ทโฟนคู่กายเพื่อฟังเพลง จมดิ่งอยู่กับโลกส่วนตัวของตนโดยไม่ใส่ใจกับสิ่งรอบข้าง.. ต้นมองตามแผ่นหลังของอีกคนที่กำลังเดินห่างออกไปก่อนจะลอบอมยิ้ม ในใจกำลังนึกอะไรสนุกๆขึ้นมา ไวเท่าความคิด ชายหนุ่มก้มลงคว้าเอาหิมะข้างทาง วิ่งไปหาอีกคน ก่อนจะกระชากเสื้อโค้ตตัวหนาแล้วใส่เจ้าก้อนหิมะนั่นลงไปอย่างรวดเร็ว เจ้าของผิวขาวจัดสะดุ้งเมื่อความเย็นเยือกเคลื่อนผ่านแผ่นหลัง เต๋าหันมาแยกเขี้ยวใส่เจ้าคนขี้แกล้งที่ยืนยิ้มร่าอยู่ด้านหลัง ..อย่าให้เอาคืนได้บ้างล่ะ! โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ร่างสูงเข้าประชิดก่อนจะแตะริมฝีปากลงบนแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาคมโตนั่นเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่ทั้งร่างจะยืนนิ่งไปขยับไปไหน ห้วงความคิดว่างเปล่าอย่างไปไม่เป็นกับการกระทำเมื่อครู่ แต่เมื่อสบกับใบหน้าหล่อจัดที่ประดับด้วยรอยยิ้มแห่งความสะใจกว่านั่นแล้ว ธนษิตกลับรู้สึกว่าใบหน้าของตนยิ่งเห่อร้อนI don't wanna miss out on the holiday, ฉันไม่อยากจะทำอะไรในวันหยุด But I can't stop staring at your face, แต่ฉันก็ไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าของคุณได้ “ ไอ่.. ” ไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือโกรธ ในหัวที่อื้ออึงสรรหาคำด่าออกมาไม่ได้มันก็ยิ่งหงุดหงิดใจ “ ไอ่บ้าเอ๊ยยย!!! ” สุดท้ายก็ลงเอยด้วยคำด่าธรรมดาๆ(?) ที่คนฟังแล้วแทบจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ กลับยิ่งหัวเราะร่าอย่างเอ็นดูกับท่าทีเหวี่ยงๆนั่น “ หัวเราะอะไร ห๊า! ” เมื่อจอมเหวี่ยงมาขู่กันอย่างนี้ เต๋าพยายามจะกลั้นขำอย่างสุดฤทธิ์จนใบหน้าซับสีเลือดไปหมดI should be playing in the winter snow, ฉันควรจะเล่นหิมะในยามฤดูหนาวนะ But I'm a be under the mistletoe. แต่ฉันจะยืนอยู่ใต้ดอกมิสเซิ่ลโทล หน้าเหวี่ยงอย่างนี้น่ะ.. มันทำให้นึกถึง.. ตอนที่เจอกันครั้งแรก.. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ วันนั้นเป็นช่วงแรกๆของการมาใช้ชีวิตที่ต่างประเทศของเขา การอยู่คนเดียวในดินแดนต่างบ้านต่างเมืองอีกทั้งเขาก็ยังปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ คนเรามันก็ต้องมีอารมณ์เปลี่ยวเหงากันขึ้นมาบ้าง เขาก็แค่ออกมานั่งเล่นกีต้าร์แก้เซ็งริมระเบียงก็เท่านั้น และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้พบกับ..ต้น “ There’s a fire starting in my heart. ” เสียงเพลงที่ดังจากระเบียงห้องด้านข้างทำเอาร่างสูงชะงักมือจากการดีดกีต้าร์ ชะโงกหน้ามองตามไป ก่อนจะพบกับชายหนุ่มที่หน้าตาบ่งบอกว่าเป็นชาวเอเชีย เต๋าลอบยิ้ม.. อย่างน้อยเราก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้นะ “ Reaching a fever pitch and it’s bringing out the dark. ” เศรษฐพงษ์เกากีต้าร์พลางร้องคลอตาม เพียงครู่หนึ่ง ฝ่ายคนข้างห้องนั่นก็หันกลับมามองทางเขา นัยน์ตาคมโตที่แสนโดดเด่นคู่นั้นฉายแววประหลาดใจ เต๋าส่งยิ้มไปให้หวังจะผูกมิตร แต่กลับกลายเป็นเจอกับใบหน้าเหวี่ยงๆของอีกคน เขาถึงกับเหวอเมื่อฝ่ายนั้นเดินกลับเข้าห้องตัวเองไปซะเฉยๆ แต่แทนที่จะรู้สึกว่าอีกคนนั้นหยิ่ง .. เขากลับรู้สึกว่าคนนั้นช่างดื้อรั้นจนทำให้ยิ่งน่าเข้าหา.. โดยไม่มีใครรู้.. ว่าเบื้องหลังคนหน้าเหวี่ยงเมื่อเดินกลับมาจากระเบียงเข้ามาในตัวห้องนั้นจะเป็นอย่างไร ธนษิตล้มตัวลงบนลานเตียงก่อนจะเกลือกกลิ้งอย่างเขินอาย แม้ว่าไอ่คนข้างห้องนั่นเกือบจะพาเขาร้องเพี้ยนก็เถอะ แต่เมื่อนึกถึงรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อจัดนั่นแล้ว เขาแทบอยากจะคลั่ง!! ไอ่ต้นฟินว่ะ.. >< แต่แย่หน่อยก็ตรงที่เขาเผลอทำหน้าเหวี่ยงใส่ไปนั่นแหละ ก็..มันทำอะไรไม่ถูกนี่หว่า.. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ “ โอ๊ยย! ” เสียงร้องโอดโอยจากอีกคนหยุดความคิดเหล่านั้นอย่างง่ายดาย คงจะเดินสะดุดอีกแล้วล่ะสิ เต๋าหันหลังไปหมายจะเอ็ดเจ้าคนซุ่มซ่ามนั่น แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่ามีไอ่หนุ่มฝรั่งที่ไหนไม่รู้มาช่วยประคองจอมเหวี่ยงของเขา พี่ต้นนะพี่ต้น.. ไม่เห็นจะต้องยิ้มขอบคุณให้มันถึงขนาดนั้นเลย! “ มานี่มา ” เศรษฐพงษ์ตรงเข้าไปฉุดร่างของอีกคนให้เดินมาตามกัน ใบหน้าหล่อจัดแสดงถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “ หึงหรอเต๋า? ” ต้นแกล้งว่าพลางยื่นหน้าเข้าใกล้ หารู้ไม่ว่ากำลังทำให้ใจดวงน้อยของใครบางคนสั่นระรัว “ เปล่าซะหน่อย กลัวพี่จะซุ่มซ่ามไปเดินชนใครเค้าอีกต่างหากล่ะ ” “ แต่จะว่าไปนะ ไอ่ฝรั่งคนนั้นก็ดูดีเนอะ ” แล้วก็พูดอะไรออกไปให้อีกฝ่ายนั้นพาลจะยิ่งหงุดหงิดหนักกว่าเดิม “ นอกจากจะซุ่มซ่ามแล้วยังจะตาถั่วอีกหรอ? ผมหล่อกว่ามันตั้งเยอะ ”..ไอ่คนหลงตัวเองเอ๊ยยย!!.. ธนษิตลอบมองเสี้ยวหน้าของอีกคนอย่างนึกหมั่นไส้ แต่ก็อยากจะปฏิเสธหรอก ..ว่ามันน่ะ ‘โคตรหล่อ’ เลยครับพี่น้อง! . . “ เอาเกาลัดป่ะ? ” เจ้าของผิวขาวจัดเอ่ยถามเมื่อเราทั้งสองคนกำลังเดินมาถึงย่านไชน่าทาวน์ ต้นรีบตอบตกลงโดยแทบไม่ต้องคิด ถึงกระนั้นเองเต๋าก็ไม่จำเป็นต้องถาม เพราะรู้ดีว่านั่นคือของชอบของคนตรงหน้า “ งั้นรอตรงนี้แปบนะ อย่าเพิ่งไปไหน ” ร่างโปร่งพยักหน้าตอบ แต่ไม่ทันไรนั้นเอง เสียงกึกก้องของพลุก็ดังปะทุขึ้น แสงไฟหลากสีกระจัดกระจายทั่วเวหาเรียกให้ทุกสายตาต่างแหงนขึ้นเพื่อชื่นชมความสวยงามของมัน แม้ว่าใครต่อใคจะต่างพากันชื่นชอบ แต่ไอ่ต้นคนนี้ไม่ได้มีความสุขไปด้วยหรอกนะ! เขาน่ะโคตรเกลียดไอ่เสียงดังๆแบบนี้ที่สุดเลย! “ เต๋า!! เดี๋ยวก่อน! ” เรียวมือรีบคว้าตัวอีกคนเอาไว้ก่อน ฝ่ายเต๋าเองนั้นก็เหมือนจะรู้ก็เลยยังไม่เดินห่างไปไกล “ ไปด้วยกันเหอะนะ ฉ..ฉันกลัวเสียงพลุ ” พูดไปก็แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายให้รู้แล้วรู้รอด มันน่าอายนะ.. ที่ต้องบอกไปว่าตัวเองกลัวอะไรเป็นเด็กๆอย่างนี้น่ะ “ พลุสวยดีออก นี่..เงยหน้าขึ้นมาสิ ” “ มันก็สวยอยู่หรอก แต่เสียงมันดังว่ะ ” เจ้าของผิวขาวจัดลอบยิ้มพลางส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดูเมื่อต้นสะดุ้งอีกครั้งเพราะเสียงดังปังของพลุ ..เด็กน้อยเอ้ย! “ โอเคๆ งั้นพี่ต้นไปกับด้วยก็ได้ ”Everyone's gathering around the fire, ทุกๆคนมาพบกันที่รอบกองไฟ Chestnuts roasting like a hot July, เกาลัดคั่วร้อนๆเหมือนเดือนกรกฎาคมอันอบอ้าว ธนษิตลอบยิ้มขึ้นมา.. ถึงแม้ว่าเต๋าจะค่อนข้างเผด็จการแล้วก็แอบดุไปบ้างก็เถอะ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผู้ชายคนนี้ทั้งอบอุ่นและเป็นสุภาพบุรุษที่ดีเลยทีเดียว ดูแลเอาใจใส่ตัวของต้นเป็นอย่างดี ทั้งความคิดเป็นผู้ใหญ่นั่นทำให้เขาแทบจะลืมไปเลยว่าที่จริงแล้วน่ะ.. เขาอายุเยอะกว่าเต๋าอีกต่างหาก I should be chillin' with my folks, I know, ฉันควรจะรื่นเริงอยู่กับครอบครัว, ฉันรู้หรอกหน่า But I'm a be under the mistletoe. แต่ฉันจะยืนอยู่ใต้ดอกมิสเซิ่ลโทล แต่จะว่าไป.. ไม่ใช่เพราะเสียงดังๆอย่างนี้น่ะหรอ? ที่ทำให้เราสนิทกันได้... _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องราวกับทั้งแผ่นนภาจะถล่มลงมาพร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายอย่างบ้าคลั่ง แสงฟ้าแปลบปลาบแลดูน่ากลัว สภาพอากาศเลวร้ายทำเอาคนที่ใกล้จะเคลิ้มหลับนั้นเป็นต้องสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ ก็ต้นน่ะ.. ทั้งเกลียดทั้งกลัวเสียงฟ้าร้องเป็นไหนๆ ยิ่งอยู่คนเดียวอย่างนี้ด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งกลัว.. “ มาตกอะไรป่านนี้ว่ะเนี่ย? ” ต้นรีบไปเปิดไฟ ถ้าหากว่าฝนตกฟ้าร้องเคล้ากับความมืดสลัวปนเปเข้าไปมันจะยิ่งชวนให้นึกถึงบรรยากาศในภาพยนตร์สยองขวัญ พลอยจะทำให้สติเตลิดไปกันใหญ่ ยอมนอนไปทั้งสว่างอย่างนี้ ดีกว่าทนกลัวไปจนถึงเช้า หากทว่าความสว่างภายในตัวห้องก็ปรากฏอยู่ได้เพียงไม่นาน เมื่อเสียงฟ้าร้องครืนดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง คนที่นอนหวาดกลัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาเอามือปิดหูแน่น เพียงชั่วขณะ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืดโดยพลัน ต้นถึงกับร้องลั่น “ เห้ยยยยยยย!!!!! ” ก่อนจะลนลานคว้าเอาเครื่องมือสื่อสารข้างเตียง เพื่อให้แสงสว่างจากหน้าจอนำทางไปรอบห้อง ทำไมฟ้าฝนถึงได้ใจร้ายขนาดนี้นะ? เขาอยู่คนเดียวนะเว้ย! แค่นี้ก็กลัวจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว ในใจของต้นเริ่มจะคิดหนัก เขาควรจะทนอยู่ไปคนเดียวหรือว่าควรจะไปเคาะเรียกห้องข้างๆในเวลาดึกดื่นป่านนี้มาช่วยดูไฟดีนะ? แต่จะว่าไป.. ไอ่หน้าเอ๋อห้องข้างๆนี่ก็ดูเป็นคนใจดีออก คงไม่ทำอันตรายกับเขาหรอก . . เมื่อความกลัวสามารถเอาชนะความอายที่มีอยู่ เรียวมือจึงตัดสินใจเคาะไปที่บานประตูห้องนั้น เพียงไม่นาน ก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ใบหน้าหล่อจัดนั่นฉายแววประหลาดใจเมื่อพบกับร่างของคนที่ทำหน้าเหวี่ยงใส่ที่ระเบียงเมื่อวานซืน ขณะที่ต้นเหลือบมองในตัวห้อง ไฟบนโต๊ะหนังสือยังคงสว่างอยู่ นั่นก็หมายความว่าไฟห้องเขาดับเพียงห้องเดียวสินะ... พระเจ้าแม่มลำเอียงว่ะ!! “ Excuse me, There was blackout in my room. Could you give me some help? ” เต๋านึกลังเล ไอ่ช่วยมันก็อยากจะช่วยอยู่หรอก เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนๆนี้จะมาดีหรือมาร้าย มาอยู่ในประเทศที่มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติแบบนี้ ยิ่งเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกัน จะให้ไว้ใจได้อย่างไรล่ะ? “ I’m sorry. I’m afraid I can’t. ” “ แม่งใจดำว่ะ! ขอแค่นี้ก็ไม่ได้ใช่มั๊ย?! ” บางครั้งความกลัวที่เกินพอดีก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธได้เหมือนกัน ต้นที่เริ่มของขึ้นนั้นเผลอขึ้นเสียงไปด้วยภาษาบ้านเกิด ประกายตาของเต๋าวาววับขึ้นมา ..คนไทยด้วยกันหรอกหรอเนี่ย? “ กลับห้องก็ได้ว่ะ! ชิ! ” แต่ใครกันล่ะที่จะใจร้ายกับคนบ้านเดียวกันได้ลงคอ “ เห้ย! เดี๋ยวสิคุณ! ” ต้นที่กำลังจะเดินจากไปแล้วถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ ไอ่เอ๋อนั่นเป็นคนไทยเหมือนเขางั้นหรอ?! ถ้าอย่างนั้นไอ่ที่เขาด่าแม่งไปเมื่อครู่มันก็ฟังออกน่ะสิ ชิบหายแล้วไอ่ต้น! “ อ..อ้าว เป็นคนไทยหรอกหรอ? ” ต้นทำได้เพียงแต่ยิ้มอย่างขลาดเขิน ก็แหม.. คนมันไม่รู้นี่หว่า! _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ยิ่งนึกถึงเรื่องนั้นแล้วก็ยิ่งขำตัวเองไม่หาย จำได้ว่าต้นเผลอกระโดดเกาะร่างของอีกฝ่ายเป็นปลิงเมื่อเสียงฟ้าผ่าร้องมาอีกครั้ง เต๋าน่ะ.. นอกจากจะไปช่วยดูไฟที่ห้องแล้ว ยังมานั่งคุยอยู่กันทั้งคืนอีกต่างหาก เล่นเอาต้นหลับไม่ลง ไม่ใช่ว่าเต๋าจะมารบกวนจนน่ารำคาญหรอกนะ แต่เพราะใบหน้าหล่อจัดนั่น.. มันรบกวนหัวใจเขาทั้งคืน.. “ ป่ะพี่ต้น! เกาลัดได้แล้ว ” ถุงเกาลัดร้อนๆถูกยื่นมาให้ตรงหน้า ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกมาจากบริเวณนั้น.. ต้นล้วงหยิบเอาเจ้าของโปรดนั่นขึ้นมา ฟันกระต่ายกะเทาะเปลือกด้านนอกก่อนจะลิ้มรสหวานมันภายใน แม้ว่าจะสู้รสชาติเหมือนเจ้าประจำที่เมืองไทยไม่ได้ แต่ก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับประเทศที่หาทานได้ยากขนาดนี้ เกาลัดร้อนๆกับอากาศหนาวๆ.. แค่นี้ก็ความสุขก็ล้นเอ่อแล้ว.. หากแต่ขาดอยู่ก็อย่างเดียว.. คือการที่มีคนรักมาเดินอยู่ข้างกัน..Word on the streets "Santa's coming tonight, ถ้อยคำที่คนพูดตลอดเส้นทาง "ซานต้าครอสจะมาในคืนนี้ Reindeer flying thru the sky so high", กวางเรนเดียร์วิ่งผ่านบนท้องฟ้าสูงลิบลิ่ว" “ แกะเปลือกให้หน่อยสิ ” เมื่อถูกใช้งานกันอย่างนี้ ความสุขที่เคยมีเมื่อครู่ก็เหมือนพังถล่มลงมาตรงหน้า ไอ่นี่มันชอบขัดเขาตลอด! “ ทำไมแกไม่แกะเองล่ะว่ะ?! ” “ ก็ไม่ได้เป็นกระต่ายเหมือนบางคนนี่ ” ยังคงพูดลอยหน้าลอยตาโดยไม่สนใจอะไร อีกทั้งยังมียักคิ้วกวนๆแถมมาด้วย มันน่านัก! คนขี้เหวี่ยงเองก็อยากจะวีนให้ถึงที่สุดเหมือนอย่างที่เคยทำกับคนอื่นบ้าง ทั้งใช้สายตาจิกกัดที่มันได้ผลกับคนอื่นมาตลอด แต่กับเต๋าแล้ว.. รายนี้กลับไม่มีกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย กลายเป็นตัวเขาเองต่างหากที่ต้องไปกลัวมัน “ เออ! ก็ได้ว่ะ!! ” ถ้าไม่รักกันจริง ไอ่ต้นไม่ยอมถึงขนาดนี้หรอกนะเว้ย! . .Hey love, the Wise Men followed a star, ที่รัก, นักปราชญ์เดินทางตามทิศของดาว The way I followed my heart, ฉันก็จะเดินทางตามเส้นทางของหัวใจ ใช้เวลาเพียงไม่นานทั้งสองร่างก็เดินทางมาถึง ณ ลานกว้างแห่งหนึ่ง ผู้คนมีจำนวนประปราย เรียวมือกางกระดาษแผ่นเล็กอันเป็นบัตรเชิญเพื่อตรวจสอบว่าเป็นสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน เมื่อมั่นใจแล้วจึงเดินเข้าไปในบริเวณนั้น และคงเป็นเพราะทั้งคู่มาที่งานกันเร็วเกินไปนัก ผู้คนจึงยังไม่ค่อยเยอะ แต่นั่นก็ดีแล้วล่ะ.. “ Merry Christmas!! ” คำทักทายนี้ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งสองต่างยิ้มขอบคุณพร้อมกับกล่าวตอบกลับด้วยคำเดียวกันออกไปAnd it led me to a miracle. และมันก็นำพาให้ฉันพบกับความอัศจรรย์ Aye love, don't you buy me nothing, ที่รัก.. คุณไม่ต้องซื้อของขวัญอะไรให้ฉันหรอก 'Cause I am feeling one thing, เพราะตอนนี้ฉันรู้เพียงอย่างเดียว... “ ดูต้นมิสเซิลโทลนั่นสิ ” เรียวมือที่ปกคลุมด้วยถุงมือไหมพรมลากจูงร่างเล็กกว่ามายังสถานที่ที่ไม่ห่างจากตรงนั้นมากนัก “ ต้นมิสเซิลโทลมันก็มีทั่วงานนี่ ” ต้นบ่นใส่อีกคนเพราะไม่รู้ว่าจะตื่นเต้นอะไรนักหนา ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวใต้เสาไฟฟ้าต้นสูง “ แล้ว..เคยนั่งใต้ต้นมิสเซิลโทลกับใครบ้างรึเปล่า? ” แต่เมื่อเจอคำถามนี้ไปก็เล่นเอาซะต้นแทบจะไปไม่เป็น “ ก็เคยสิ.. ” ใบหน้าเคลิบเคลิ้มราวกับว่าได้ปลดปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปแสนไกลกับประกายชวนฝันในแววตาคมนั่นแล้ว ทำเอาเต๋าน้อยใจ ..ใครกันนะที่พี่ต้นนึกถึง? “ ที่ว่าเคยน่ะคือเคยได้แต่คิด แกก็รู้นี่ว่าฉันไม่เคยมีแฟน ” “ แล้วคนนั้นน่ะ.. ใครหรอพี่? ” ต้นชะงัก ความร้อนกองรวมบนผิวแก้มโดยไม่ทันตั้งตัว ถามกันแบบนี้ฆ่ากันเลยยังจะดีกว่าเหอะ จะให้บอกไปรึไง ว่าเจ้าของหัวใจนั่นน่ะ.. ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเต๋าเองต่างหาก.. ธนษิตก้มหน้างุด “ ฉันไม่บอกแกซะหรอก ” “ ไม่บอกงั้นหรอ?.. ” เต๋าก้มตัวลงมานั่งข้างกัน ใช้เวลาเพียงเสี้ยวไม่ให้อีกคนตั้งตัวปราดใบหน้าเข้าใกล้ “ อืม.. ใครกันนะที่เป็นคนนั้น น่าอิจฉาจังเลยเนอะ ” “ ก..แก ถอยออกไปนะเว้ย! ” ต้นแกล้งวีนกลบเกลื่อน รีบถอยออกมาจนแผ่นหลังติดกับพนักวางแขน รู้สึกเหมือนหัวใจจะเต้นไม่เป็นระส่ำ ..เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ? “ พี่ต้น.. ” คนอายุน้อยกว่าเรียกเขาให้หันไปหาอีกครั้ง “ พี่รู้ใช่มั๊ยว่าใต้ต้นมิสเซิลโทลน่ะควรจะทำอะไร? ” ใบหน้าของธนษิตซ่านสีเลือดอย่างห้ามไม่อยู่อีกครั้ง แน่นอนว่าเขารู้ว่าใต้ต้นมิสเซิลโทลน่ะจะทำอะไรกัน.. แต่ว่าไม่รู้ว่าเต๋าจะแกล้งเล่นหรือว่าจริงจัง.. Your lips on my lips, เพียงแค่เรียวปากของคุณประทับจุมพิตลงบนเรียวปากของฉัน That's a Merry Merry Christmas. แค่นั้นก็เป็นของขวัญคริสต์สมาสที่แสนสุขสันต์แล้ว! แน่นอนว่าเต๋าอาศัยจังหวะและความเร็วเข้าประชิดตัวอีกครั้ง ยื่นหน้าเข้าใกล้จนเรียวปากเกือบจะประทับลงไป หากทว่าคนที่ไวกว่าอย่างต้นกลับเอามือปิดกั้นก่อนไว้ได้ทัน เล่นเอาเศรษฐพงษ์หน้ายู่ “ ขอเป็นของขวัญวันคริสต์มาสนะครับ ” ไม่รู้ว่าความดีใจมาจากไหนมากมายถึงขนาดนี้ ต้นแย้มยิ้มกว้าง สบลึกลงไปในแววตาคมของอีกคนที่ฉายความจริงจังจนทำให้แน่ใจแล้วว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอย่างแน่นอน ก่อนที่จะเป็นฝ่ายตัวของเขาเอง.. ที่ยื่นใบหน้าเข้าใกล้ ประทับจุมพิตลงไปอย่างแผ่วเบาท่ามกลางแสงไฟสลัวที่สาดส่องลงมา เวลาสั้นๆหากแต่เหมือนเนิ่นนานในความรู้สึก เต๋าผละออกก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่าย “ แล้วพี่ต้นล่ะ? อยากได้อะไรเป็นของขวัญวันคริสต์มาสหรอครับ? ” สายลมแห่งเหมันตฤดูโชยผ่าน ปลายใบเรียวแหลมของใบมิสเซิลโทลเอนระริก ไม่ต่างอะไรจากใจดวงน้อยที่สั่นรัว ก่อนที่ต้นจะกระซิบข้างหูอีกคนแผ่วเบา “ Just your kiss, babe ”Kiss me underneath the mistletoe, จูบฉันภายใต้ดอกมิสเซิ่ลโทล Show me baby that you love me so, แสดงให้ฉันดูสิที่รัก ว่าคุณรักฉันแค่ไหน THE END. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _TALK TO WRITER : เรื่องสั้นนี้ก็เคยเอาลงเด็กดีแล้วเนอะ บางคนก็คงจะเคยอ่านกันแล้วล่ะค่ะ ฟินบ้างป่ะค่ะ? เผอิญเราชอบคู่นี้ก็เลยแอบฟิน ๕๕ เอาเป็นว่าไว้อ่านแก้ดราม่าแล้วกัน อิอิ เราหายไปนานชาติเศษ ๕๕๕ บ้านเราไม่ได้น้ำท่วมหรืออะไรทั้งสิ้นนะค่ะ แต่ว่าหายไปแต่งฟิคเรื่องนี้แต่เป็นอีกเวอร์ชั่นนึงในเด็กดีมาค่ะ ถ้ายังไงก็ลองเข้าไปอ่านดูได้ค่ะ เดี๋ยวยังไงก็คงมีสเปเพิ่มมาอีกนั่นสักตอนแล้วก็จบบริบูรณ์ค่ะ ยังไงก็ไม่ทิ้งเต๋าคชา ><
ThankS
นิยายเรื่องนี้ชอบมาก พึ่งรู้ว่าคุณ Kungwon แต่ง เป็นเรื่องที่ผมอ่านและติดตามมาก ๆ อ่ะ ตอนออกจากบ้านใหม่ ๆ รู้สึกคนเขียนชอบเหมือนเราเลยนะ รักเต๋าคชา แต่แอบอยากให้นอกใจ เบา ๆ โอ๊ยยยย มันได้อารมณ์อีกแบบ(โรคจิต?) เต๋าต้นเคยแอบเห็นโมเมนท์นิด ๆ แต่จินตนาการได้แบบสามโลก สไตล์การเขียนถือว่าโอเคมาก ๆ อ่านแล้วอารมณ์บรรเจิดดี ถ้าได้ประสบการณ์การอ่านอย่างโชกโชน? แล้วนำทริคต่าง ๆ มาใช้ด้วย จะทำให้งานเขียนมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก สู้ ๆ นะ ปอลอ . แต่งเรื่องใหม่ให้อ่านหน่อยดิ เขาชอบพล็อตเรื่องของคนแต่งมาก ๆ อ่า >*<
จบแล้วจริงหรอ? T-T
ว่าแล้วว่าต้นต้องมีอะไร แต่นึกว่าจะกับคชาซะอีก เห็นในบ้านคู่นี้ก็แอบซัมติงกันเล็กๆ แต่เราไม่จิ้น เอิ๊กๆ จริงๆเราก็ว่าจบไม่ค่อยเคลียร์ แต่ก็พอจะเดาถึงความสัมพันธ์ในอนาคตของทั้งคู่ได้นะคะ เพราะมันค่อนข้างจะ"ชัดเจน"เลยทีเดียว ไว้จะรออ่านสเปของเต๋าคชานะคะ ลุ้นคู่นี้มากมาย ส่วนของคู่เต๋าต้น ขออนุญาตไม่อ่านนะคะ เราไม่สามารถจิ้นคู่นี้ได้ เหมือนนอกใจคชา ขอโทษด้วยค่า><
สนุกมากกกก แต่งต่อเร็วๆนะคะ ไรท์เตอร์สู้ๆ
อ่านเจอในเด็กดีแล้วชอบมากค่ะ อย่าลืมคู่เต๋าคชาน้าาาา
มาตามอ่านจากคำเชียร์เพื่อนสาว 55 ขอแอบแปะเม้นไว้ก่อนนะคะ ช่วงนี้ใกล้สอบเหมือนกัน ,สอบเสร็จเคลียร์งานเรียบร้อยจะรีบมาอ่านมาเม้นโดยไวค่ะ
Cardiotoxin ..ถ้าวิ่งตามคนข้างหน้าไม่ทันจนเหนื่อยแล้ว.. ..ก็ช่วยชะลอให้คนข้างหลังตามทันหน่อยได้ไหม?.. . . เสียงเพลงแนวโซลที่ดังมาจากเครื่องเล่นชั้นดีราวจะขับกล่อมให้ผู้โดยสารเคลิบเคลิ้มไปกับท่วงทำนองเหล่านี้ หากแต่น่าประหลาดนักที่ฝ่ายเจ้าของรถซึ่งชื่นชอบแนวเพลงนี้นักหนาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวนั้น กลับแสดงสีหน้าที่เบื่อหน่ายโลกนี้เสียเหลือเกิน เด็กหนุ่มที่นั่งมาเป็นเพื่อนหลังจากฝ่ายเจ้าของรถเพิ่งไปหาหมอมาเพียงแต่ปรายตามอง เจมส์เห็นสีหน้าของอีกคนเป็นอย่างนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบ รู้ดีว่าถ้าหากถามอะไรไม่ถูกใจออกไปคงได้โดนวีนกลับมาเป็นแน่ ก็เวลาที่พี่ต้นเหวี่ยงน่ะน่ากลัวอย่างกับอะไรดี.. อันที่จริงทั้งตัวรถคงจะได้มีแต่เสียงเพลงดังคลออย่างนั้นไปจนถึงจุดหมายเป็นแน่ ถ้าหากไม่ได้ปลายสายของใครบางคนที่มาเป็นเสียงสวรรค์ช่วยชีวิตไว้ล่ะก็.. บางทีเจมส์อาจต้องอึดอัดจนเฉาตายในตัวรถคนนี้ก็เป็นได้ ส่วนฝ่ายสารถีที่นั่งหน้ายู่มาตลอดทางนั้นก็เหมือนจะยิ่งขัดใจ เรียวมือเอื้อมไปหรี่เสี่ยงจากเครื่องเล่น “ มีอะไรว่ะแก? ” “ .... ” “ หืม? เต๋ามันไปหัวหินหรอ? ฉันไม่เห็นจะรู้เลย ” ทันทีที่ได้ยินชื่อของเต๋า ใบหน้าของคนอายุมากกว่าที่แสดงแต่ความไม่พอใจมาตลอดทางนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นคาดเดาอารมณ์ได้ยาก “ งั้นหรอ? นี่คชา.. ถ้าเจอเต๋าแล้วฝากดูแลมันด้วยล่ะกัน ฉันเป็นห่วง.. ” เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงเบาะข้างเพียงแต่รับฟังบทสนทนาเหล่านั้นอย่างนิ่งงัน พลันนั้นเองที่ประโยคสุดท้ายของการติดต่อได้สร้างความรู้สึกหนึ่งให้เอ่อล้นขึ้นมาอย่างประหลาด คำว่า ‘เป็นห่วง’ จากต้น.. จะมีสักครั้งไหมที่เจมส์จะได้รับมันบ้าง? แล้วเมื่อไหร่ที่คนตรงหน้าจะเลิกมองว่าเขาเป็นเด็กน้อยที่เอาแต่ร้องหาความสนใจเสียที?.. “ เต๋ามันไปหัวหินไม่บอกใครเลยว่ะ! ปกติมันต้องบอกพี่ทุกเรื่องนะเนี่ย ” ธนษิตคงเห็นว่าบรรยากาศในตัวรถมันวังเวงเกินไป จึงหยิบเอาประเด็นที่เพิ่งได้กล่าวกับปลายสายเมื่อครู่ขึ้นมาพูดคุย โดยที่ไม่ได้จะสนใจเลยว่าเขาอยากจะฟังมันบ้างหรือเปล่า? ทำไมทีกับเขาที่โทรบอกเรื่องราวทุกอย่างให้ต้นฟังเสมอกลับกลายเป็นรำคาญใจ? ทีกับคนอื่นแค่ไม่รู้อะไรเล็กน้อยทำไมต้องเสียงเศร้าขนาดนั้น? “ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลแท้ๆ อยู่ๆก็ดอดไปอย่างนั้น พี่ล่ะเป็นห่วงมัน.. ” เอาอีกแล้ว.. คำว่าเป็นห่วงคำนั้น มันวกกลับมาตอกย้ำความเจ็บปวดในห้วงใจของเด็กหนุ่มอีกแล้ว.. เจมส์เองก็ได้แต่ตั้งคำถามในใจ.. ถ้าหากวันหนึ่งเขาจะหายไปโดยไม่บอกไม่กล่าวกันบ้างล่ะ? ต้นจะยังห่วงหาเขาอยู่หรือไม่?.. ยิ่งครุ่นคิด.. ก็ยิ่งมีแต่ความน้อยใจ.. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ “ อ่ะพี่ กินซะ.. รับรองติดใจ! ” ปูเล่ผัดน้ำมันหอยที่เพิ่งพ้นจากกระทะไม่นานถูกเสิร์ฟมาวางไว้ตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งหน้านิ่งเหมือนคนเหม่อลอยมาตลอดทางจนน่าเป็นห่วง เรียกว่าขับรถมาถึงที่นี่ได้ก็นับว่าบุญ.. นัยน์ตาคมโตคู่นั้นปรายมองกับข้าวจานร้อนก่อนจะยิ้มขอบคุณให้กับอีกคน แต่ก็ยังไม่วายเอ่ยแซว “ จะกินได้แน่หรอ? ” น่าประหลาดนักที่เจมส์รู้สึกว่าดีใจที่ได้ยินคำแซวจากคนเป็นพี่ มันยังดีกว่าการนิ่งเงียบจนผิดวิสัยของเจ้าตัว “ ไม่เชื่อใจผมหรอ? ” “ ถ้ากินไปแล้วฉันจะตายป่ะ? ” ว่าพลางก็ใช้ส้อมเขี่ยเจ้าผักสีเขียวในจานไปมา “ ไอ่เจมส์รับรองเลยพี่! ฮ่าๆ ” เด็กหนุ่มที่อาสาเป็นพ่อครัวประจำมื้อการันตีนักหนาก่อนที่เรียวมือจะเลื่อนจานข้าวสวยสองใบวางบนโต๊ะ รับประทานเจ้าผัดปูเล่.. ต้นพืชที่มีลักษณะเป็นกลีบซ้อนๆกันเหมือนดอกช่อกุหลาบช่อโต หากแต่รสชาติกลับคล้ายคลึงคะน้า มันถูกปลูกไว้ที่ริมระเบียงห้องของต้นมาในระยะหนึ่งแล้ว หากแต่เจ้าตัวก็กลับไม่รู้ว่ามันชื่อ ‘ปูเล่’ ด้วยซ้ำไป อันที่จริงมื้อเย็นในวันนี้ควรจะดำเนินไปอย่างเป็นสุขด้วยซ้ำ หากไม่ใช่เพราะอะไรบางอย่าง.. ธนษิตก้มมองเด็กหนุ่มที่ตักผักสีเขียวใส่ในจานของเขาให้ พลันนั้นเอง.. จิตใจที่เคยคิดว่าจะแข็งแกร่งได้ดังเดิมกลับอ่อนยวบดั่งขี้ผึ้งลนไฟเพราะใบหน้าและการกระทำของใครบางคนที่ซ้อนทับเข้ามา ตะกอนแห่งอดีตซึ่งควรจะอยู่ในเบื้องลึกแห่งความทรงจำกลับลอยคลุ้งขึ้นมา เคร้ง! ช้อนส้อมสีเงินในมือร่วงลงกระทบจานกระเบื้องท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของคนอายุน้อยกว่า ก่อนที่ร่างของธนษิตจะเดินห่างออกไปจากโต๊ะในห้องครัว เจมส์นึกอยากจะทักท้วงเสียเหลือเกินว่าทำไมอีกคนถึงได้ผลีผลามเดินหนีไปอย่างนี้ แต่ก็เกิดอาการน้ำท่วมปากขึ้นมาเสียดื้อๆ..เดินหนีกันอีกแล้ว.. ..แล้วเมื่อไหร่คนที่เดินตามหลังอยู่อย่างเขาจะตามทันเสียที?.. . . รอยยิ้มและการกระทำของเจมส์เมื่อครู่มันเหมือนกับเต๋าไม่ผิดเพี้ยน.. ธนษิตไม่รู้ว่าตัวเองก้าวมาจากสถานที่ซึ่งทำให้ภาพอดีตลอยวนขึ้นมานั้นได้นานเท่าไหร่แล้ว จะให้หลุดพ้นจากมันได้.. เห็นทีคงต้องกำจัดอาการคุ้มดีคุ้มร้ายในตัวเสียก่อน ขณะที่ในใจก็นึกเป็นห่วงความรู้สึกของคนอายุน้อยกว่านั่น ที่อยู่ๆเขาก็นึกจะลุกหนีกลางมื้ออาหารอย่างนี้ ป่านนี้คงนั่งน้อยใจอยู่เป็นแน่.. และอีกไม่นานก็คงจะมาโวยวายเอาแต่ใจอีกตามเคย ..บางทีต้นก็นึกรำคาญกับการเวิ่นเว้อที่เกือบจะเกินพอดีของเด็กหนุ่มเหมือนกัน.. พลันนั้นเองที่ความรู้สึกเหมือนมีสายตาอีกคู่จับจ้องอยู่ได้ปรากฏขึ้น ต้นหันมองไปทางหลัง เด็กหนุ่มที่เขากำลังนึกถึงเมื่อครู่ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่มีการโวยวาย.. ไม่มีแม้กระทั่งการเข้ามาง้อ.. มีเพียงความนิ่งเงียบอันน่าอึดอัดซึ่งผิดไปจากวิสัยเดิมของฝ่ายนั้นมาก มันยิ่งก่อความรู้สึกผิดในใจของต้นขึ้นมามากมาย “ เอ่อ.. พี่ขอโทษที่อยู่ก็เดินออกมา ไม่ใช่ว่ากับข้าวที่แกทำไม่อร่อยนะเว้ย แต่พี่.. กินไม่ลงจริงๆว่ะ ” “ ผมไม่รู้หรอกว่าหมอเค้าบอกอะไรพี่มาบ้าง แต่พี่ก็ควรจะกินมันให้หมดนะ ไม่ใช่ปล่อยให้มันรอเก้ออยู่อย่างนี้ ” ต้นพยายามพับเก็บเรื่องราวอันขมขื่นลงในห้วงใจอย่างเงียบเชียบ เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ.. ทำไมตนเองถึงได้เป็นตัวสร้างปัญหานักนะ? แค่สร้างความวุ่นวายให้กับเต๋าคชายังไม่พอ.. นี่ยังจะก่อความหนักใจให้เด็กหนุ่มตรงหน้านี้ไปด้วย “ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะพี่? ยิ้มหน่อยดิพี่ ไม่มีใครตายซะหน่อย.. ” ว่าพลางก็เลื่อนมือไปจับบนใบหน้าของคนเป็นพี่ นิ้วเรียวพยายามดันมุมปากให้ยกยิ้มขึ้นมา หากแต่แทนที่ธนษิตจะยิ้มออก การกระทำของเจมส์มันเหมือนจะยิ่งตอกย้ำให้นึกถึงใครอีกคนมากเกินไป.. ต้นกำลังคิดถึงเต๋าอย่างห้ามไม่อยู่ เป็นอีกครั้งที่ความอ่อนแอถาโถมเข้ามาจนเขารับแทบไม่ไหว “ หลีกทางไปซะ พี่จะกลับไปทานข้าวต่อ ” หาได้รู้ไม่ว่าหัวใจดวงน้อยของใครอีกคนที่แสนจะบางเบาแทบจะขาดเป็นแล่นริ้วเนื่องด้วยอาการบอกปัดและท่าทีที่เหมือนเขาเป็นเพียงฝุ่นละอองที่ไม่ควรจะเฉียดกรายเข้าใกล้.. แค่ความเฉยชาที่ถูกมอบให้ในวันวานเจมส์ยังพอทนได้ แต่สายตาที่บ่งบอกถึงความรำคาญอย่างนี้.. ฆ่าเขาให้ตายไปตรงนี้กันเลยดีกว่าไหม?..เขาแค่อยากให้สายตาคู่นั้นมองเขาอย่างคนรักในสักวัน.. ..แต่ก็รู้ว่าคงเป็นได้เพียงฝันก็เท่านั้น.. _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ หลังจากที่ผ่านพ้นมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยคามเงียบเชียบ กับข้าวซึ่งฝ่ายคนเป็นพี่จำต้องกล้ำกลืนมันอย่างยากลำบาก.. หาใช่เป็นเพราะรสชาติของมันแย่หรอกนะ เรียกได้ว่าอร่อยด้วยซ้ำ.. หากแต่ก้อนสะอื้นที่ยังคั่งค้างในลำคออีกทั้งความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านทั้งอกอย่างนี้ไม่ว่าจะกินอะไรมันก็ขมเฝื่อน มันไม่ได้แย่เพียงแค่ต้นจะทานอะไรไม่ลง.. มันแย่ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อต้นพบว่าอาการเดิมๆของตัวเองกำเริบมาอีกครั้ง....insomnia.. ต้นนึกถึงอาการที่นายแพทย์เพิ่งได้กล่าวกับเขามาในวันนี้ อาการนอนไม่หลับอันเนื่องจากความเครียดจนทำให้กระสับกระส่ายเกินไปของเขามันเป็นมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว หากปล่อยให้มันเป็นไปโดยที่ไม่ยอมหาหนทางในการลิดรอนความเครียดเหล่านั้นออกไป มันอาจจะจะยิ่งหนักหนาจนกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้.. นัยน์ตาคมโตที่ไม่สามารถข่มให้เจ้าของมันเข้าสู่ห้วงนิทราได้เลยในคืนนี้ แหงนขึ้นมองเพดานว่างเปล่าท่ามกลางความมืดสลัวอย่างเหม่อลอย แผ่นดาวพลาสติกซึ่งมันเคยดารดาษในก่อนหน้านั้นถูกทิ้งลงถังขยะไปได้ในระยะหนึ่งแล้ว.. ต้นทำใจอยู่เป็นเวลานานว่าควรจะเอามันออกไปจากชีวิตดีหรือไม่? แต่เมื่อเข้าใจได้ว่าตนเองควรจะตัดใจได้แล้ว.. จึงต้องจำยอม มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย! หลังจากวันนั้นที่ต้นได้บอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองให้เต๋าได้รับรู้แล้วนั้น.. ฝ่ายนั้นเอ่ยเพียงคำขอโทษมาแค่ครั้งเดียวก่อนจะแสดงท่าทีเป็นปกติราวกับไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้นมาก่อน ..สมแล้วสินะที่เป็นเจ้าพ่อแอคติ้งแบบนั้น ผิดกับตัวเขา.. นอกจากจะพยายามตัดใจไม่ได้แล้ว ยังต้องมาเผชิญกับความเจ็บปวดไม่รู้จักจบสิ้นนี่อีก....ความรู้สึกของคนเราคงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากเกินไป.. ธนษิตพลิกร่างไปอีกทางอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเด็กหนุ่มอีกคนมากนัก อันที่จริงการมานอนเป็นเพื่อนในคืนนี้ของเจมส์เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องมีงานร่วมกันอาจทำให้เขายกเตียงให้ชั่วคราว หากแต่ไม่รู้อะไรนักหนา.. ฝ่ายเด็กหนุ่มกลับยืนยันว่าจะนอนร่วมห้องซะให้ได้เพราะอาการของเขามันน่าเป็นห่วงเกินไป! ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้นแสดงอาการเหล่านั้นมากเกินไปหรือเพราะอีกคนนั้นชอบมายุ่มย่ามกับตัวเขาเป็นประจำทุกเรื่องอยู่แล้ว.. หากแต่ใจของต้นกลับเอนเอียงไปทางสาเหตุแรกเสียมากกว่า ก็ตัวเขาน่ะ.. ไม่มีเลยสักครั้งที่จะสามารถเก็บซ่อนความลับเอาไว้ได้เลย.. ทั้งสีหน้าและแววตา.. เสียงครืนครั่นของสายฝนจากภายนอกยังคงกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย ยิ่งทำให้ทัศนียภาพขุ่นมัวลงยิ่งกว่าเดิมเมื่อทุกอย่างกลืนหายในม่านฝน ต้นรู้สึกอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก ทางข้างหน้าที่ปรากฏอยู่มันมืดมนเกินกว่าที่เขาจะกล้าก้าวออกไปเพียงลำพัง เหตุใดพระพิรุณจึงทรงลงโทษเขาในช่วงเวลาที่จิตใจกำลังดำดิ่งสู่ด้านมืดที่ไม่อาจหลุดพ้นเช่นนี้?..ต้นปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองยังไม่อาจละจากดวงดาวเหล่านั้นได้เสียที.. ชายหนุ่มผุดลุกจากที่นอนขึ้นมาในท่านั่ง ยอมแพ้ให้กับอาการนอนไม่หลับของตัวเอง.. หยาดเหงื่อชุ่มแผ่นหลังทั้งที่เครื่องปรับอากาศยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดีเยี่ยม สุดท้ายแล้วไม่ว่าอย่างไรต้นก็ไม่อาจหลุดพ้นจากเขาวงกตแห่งความเจ็บปวดเสียที ยิ่งดิ้นรนหาทางออกเท่าไหร่.. ก็ยิ่งจะหลงวนอยู่ในนั้น.. ต้นค่อยๆเดินออกจากห้องนอนอย่างเงียบเชียบ หาทางไปสงบจิตใจอันว้าวุ่นของตัวเอง.. โดยที่หารู้ไม่ว่าใครอีกคนนึงก็ยังนอนไม่หลับเช่นกัน.. เด็กหนุ่มมองผ่านความมืดไปยังบานประตูที่เพิ่งปิดตัวลงไปไม่นานนัก ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นบ้าง อันที่จริงความง่วงงุนก็ร้องเรียกให้เจมส์เข้าสู่ห้วงนิทราไปตั้งหลายครั้งหลายครา หากแต่จิตใจที่มันเป็นห่วงอีกคนนั้นกลับมีอิทธิพลมากกว่า เขาไม่สามารถหลับลงในคืนนี้หากไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นมีอะไรไม่สบายใจกันแน่ ใครกันที่ทำให้คนเป็นพี่ของเขาต้องมาเป็นทุกข์ถึงขนาดนี้?.. แล้วคนที่เฝ้าแต่ห่วงหาอยู่ห่างๆอย่างเขาก็ได้แต่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนน่ารำคาญ! ทั้งที่เจมส์ก็แค่เป็นห่วง.. เท่านั้นจริงๆ . . เปลวเพลิงที่ถูกจุดจากไฟแช๊กทอประกายในความมืด กลุ่มควันสีเทาจากปลายบุหรี่ที่เพิ่งถูกอัดเข้าปอดไปไม่นานปลดปล่อยออกมาพร้อมลมหายใจลอยล่องกระจัดกระจายไม่ต่างจากความคิดของเขาในตอนนี้เลย กรุ่นกลิ่นของมันที่ใครหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงนั้นกลับเป็นสิ่งที่ต้นหลงใหลยิ่งนัก.. ธนษิตรู้สึกเหมือนความคิดฟุ้งซ่านของตนเองเมื่อครู่นั้นค่อยๆเข้าที่เข้าทาง มันกลับสงบลงได้มากโขหลังจากที่นำเอาควันบุหรี่เข้าหาร่างกาย.. ต้นรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอกกับการทำแบบนี้ ยิ่งเขาเป็นนักร้องก็ยิ่งจะพาลให้เกิดผลเสียไปกันใหญ่ แต่มันคือเพื่อนคลายเครียดที่ดีที่สุดแล้ว.. “ นี่พี่เริ่มสูบมันตั้งแต่เมื่อไหร่? ” ต้นสะดุ้งกับการปรากฏตัวไม่บอกไม่กล่าวของเด็กหนุ่มเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมายนัก เขายังคงละเลียดกับกลุ่มควันสีเทาโดยไม่แยแสกับสายตาคาดโทษของอีกคนเลย ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะก้าวเข้าหาคนเป็นพี่ ทว่ากลับได้รับการต้อนรับด้วยกลุ่มควันพิษที่ทำให้เจมส์สำลักจนไอโขลก “ แค่ก.. พี่ต้น! พ..พี่ทำบ้าอะไร?! ” “ เรื่องของพี่.. แกอย่ามายุ่งเลยดีกว่า ” ที่กล่าวไปอย่างนั้นไม่ได้เป็นการบอกปัดเพราะความรำคาญ แต่ต้นไม่ต้องการให้ใครต้องมาวุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของเขาอีกต่อไป.. ขอให้ความวุ่นวายทุกอย่างยุติลงที่เขาก็พอ.. หากแต่เหมือนเด็กหนุ่มจะตีความในประโยคนั้นผิดไป คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ใครก็ต่างไม่สนใจ.. ไม่มีใครต้องการ.. พลันนั้นเองที่ความน้อยใจก่อตัวในห้วงอารมณ์ขึ้นมาอย่างร้ายกาจ ภูมิคุ้มกันความอดทนที่มีเพียงน้อยนิดถูกทำลายลงจนสิ้น เจมส์ต้องการ!.. ต้องการให้อีกคนนี้ล่วงรู้เสียทีว่าส่วนลึกในใจของเขากำลังคิดอะไร มวนบุหรี่ในมือถูกกระชากออกก่อนจะบี้มันกับพื้นให้ไฟดับอย่างไร้ไยดี ต้นหันมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แต่ก่อนที่จะได้ทักท้วงอะไร ร่างสูงใหญ่ก็กลับรวบร่างเขาไว้ก่อนจะเหวี่ยงลงบนโซฟาในตัวห้องรับแขกแห่งนี้ “ เจมส์! ทำอะไร?! ” ทุกอย่างมันดูรวดเร็วเกินกว่าที่ต้นจะตั้งตัวได้ทัน ไม่คิดว่าคนที่เขาเห็นเป็นน้องชายมาตลอดจะกล้าทำแบบนี้ “ เจมส์! ปล่อย!! ” เจมส์ได้ยินเสียงตะโกนร้องของต้นอยู่ตลอดเวลา หากแต่ปีศาจตัณหาที่เข้าครอบงำอยู่นี้มีอิทธิพลต่อจิตใจมากกว่า การขัดขืนอย่างเอาเป็นเอาตายของร่างข้างใต้นั้นเป็นเพียงพละกำลังอันน้อยนิดเมื่อเทียบกับเรี่ยวแรงของเด็กหนุ่ม.. มันเป็นแค่การกระทำที่ปลุกปั้นอารมณ์บางอย่างของเขาให้ลุกโชนขึ้น “ ป..ปล่อย! อื้อออ!! ” ธนษิตอยากจะกรีดร้องให้สุดเสียง หวังให้ใครสักคนมาช่วยในเวลานี้ แรงดิ้นขัดขืนก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์เพราะยิ่งจะมีแต่ทำให้เรี่ยวแรงลดน้อยลง พลันนั้นเองที่เรียวปากหนานุ่มจากร่างข้างบนตรงเข้ามากอบโกยความหวานอย่างจาบจ้วง สัมผัสโค้งหยุ่นนั่นทำให้ต้นนึกกลัวจนต้องกัดเรียวปากของอีกคนที่รุกล้ำเข้ามาเพื่อหาทางเอาตัวรอด หากแต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เจมส์ยังคงไม่ลดละ.. กลับยิ่งกดจุมพิตลงมาอย่างหนักหน่วงและรุนแรงโดยไม่ได้สนใจถึงรอยฟันที่ถูกขบไปเมื่อครู่แม้แต่น้อย ทั้งกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นบุหรี่ที่เด็กหนุ่มร่างสูงเกลียดนักหนาผสานปนเปอยู่ในโพรงปาก.. “ จ.. เจมส์.. ฮึก..ฮ..ฮือ.. ” เสียงสะอื้นของคนเป็นพี่นั้นค่อยๆพาความคิดของร่างสูงที่อยู่ในภวังค์นั้นกลับเข้าสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง ทุกอย่างอยู่ในสภาวะปกติ มวนบุหรี่ยังคงอยู่ในมือของต้น.. และฝ่ายนั้นก็ไม่ได้นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ใต้ร่างของเขาด้วย.. เจมส์นึกอยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆที่บังอาจให้เรื่องเลวร้ายเข้ามาอยู่ในห้วงคำนึงได้.. ..หากแต่เสียงสะอื้นที่ได้ยินนั้นคือเรื่องจริง.. “ พี่ต้น.. พี่เป็นอะไร? ” “ แกรู้ใช่มั๊ย?.. ว..ว่าพี่กลัว..ความมืด.. ” มวนบุหรี่ในเรียวมือค่อยๆสั่นระริก สุดท้ายแล้วแม้แต่เพื่อนคลายเครียดอย่างเจ้าสารนิโคตินนี่ก็ไม่สามารถลดความขมเฝื่อนในห้วงอารมณ์ไปได้เสียที “ พี่เกลียดกลางคืน! พี่กลัวความมืด! พี่มันคนใกล้บ้าเพราะอาการนอนไม่หลับ! พี่เกลียดตัวเอง! เกลียดทุกอย่าง!! ” ราวกับความอัดอั้นในใจที่เคยมีทั้งหมดถูกพรั่งพรูออกมาพร้อมกันกับหยาดน้ำตา “ พี่ต้น.. ” ความรู้สึกบางอย่างมันหนักหน่วงในห้วงใจเหลือเกิน ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าหาก่อนจะดึงบุหรี่ในมือของอีกคนนึงออกมา “ อย่าสูบมันอีกเลยนะ มันช่วยอะไรพี่ไม่ได้หรอก ” ครืด.. ทันใดนั้นเองเสียงสั่นของอุปกรณ์สื่อสารที่กระทบกับพื้นโต๊ะก็เบนความสนใจของคนทั้งคู่ให้หันไปมอง ต้นคว้าเอาสมาร์ทโฟนคู่ใจของตนขึ้นมา ข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอทำเอาตัวเขาสั่นสะท้านไปทั้งใจ.. เพราะเจ้าของเบอร์ที่ส่งมันมา.. คือคนที่ทำให้ต้นต้องทรมานกับความรักเจียนตาย.. เต๋านั่นเอง..ขอโทษนะที่ไปหัวหินไม่ได้บอก.. และแน่นอนว่าภายในตัวห้องที่มีเพียงแสงสลัวจากเสาไฟนีออนภายนอก ข้อความบนหน้าจอย่อมปรากฏให้อีกคนได้เห็นมันด้วยอย่างชัดเจนเช่นกัน เจมส์เงยมองใบหน้าของคนตรงหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน.. คราวนี้เขาจึงเข้าใจแล้วทุกอย่างว่าใครกันที่ทำให้ต้นต้องเป็นแบบนี้ “ นี่พี่ต้น.. ชอบพี่เต๋าหรอ? ” ยิ่งเห็นประกายหวั่นไหวที่สะท้อนจากแสงของหน้าจอมือถือก็ยิ่งทำให้เจมส์มั่นใจ.. “ เจมส์.. พ..พี่ไม่รู้ว่าพี่จะทำยังไงดี?.. ” เสียงสะอื้นอันน่าเวทนาดังระงมในตัวห้องราวกับจะค่อยๆกรีดลึกลงในห้วงใจของคนอายุน้อยกว่า เพราะยิ่งฝ่ายนั้นเจ็บปวดกับความรักมากเท่าไหร่.. เจมส์ก็เจ็บยิ่งกว่าเป็นเท่าตัว บุหรี่ที่ถูกดึงมาจากเรียวมือของอีกฝ่ายไหวระริก เด็กหนุ่มร่างสูงเลื่อนประตูกระจกริมระเบียงออกก่อนจะโยนมันทิ้งให้กลืนหายไปกับม่านฝนยามรัตติกาล ขณะนั้นเองที่สายฟ้าฟาดลงมายังพื้นดิน แสงสว่างวาบที่ปรากฏขึ้นแค่เพียงชั่วครู่ก็ทำให้ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่านัยน์ตาของทั้งคู่ก็ต่างเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำ “ พี่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นหรอก.. ” ร่างสูงใหญ่เข้าตระกองคนเป็นพี่ไว้ในอ้อมแขนอย่างแผ่วเบา อยากดูแล.. อยากทะนุถนอมคนๆนี้ไว้ให้ดีที่สุด.. “ รู้มั๊ยว่าผมอิจฉาพี่เต๋าแค่ไหน? ” “ ถ้าในความคิดของพี่มันจะมีแต่พี่เต๋าอย่างนี้.. ผมก็รู้แล้วว่าผมไม่มีสิทธิ์.. ” “ จ..เจมส์.. ” ต้นเอ่ยออกมาอย่างเชื่องช้าด้วยความตกตะลึง นัยน์ตาคมโตจับจ้องบนใบหน้าหล่อจัด ไม่คาดคิดว่าความรู้สึกของอีกคนมันจะเกินเลยกว่าคำว่าพี่น้องกัน “ นี่แก.. ” ต้นรู้ว่านั่นคือความรู้สึกดีๆที่อีกคนอยากจะมอบให้ แต่เขาไม่ได้ต้องการมันเลยสักนิด! ราวกับกำแพงแห่งความไว้วางใจที่เคยมีให้อีกคนมาโดยตลอดกลับถูกทำลายจนพังครืนลงมาด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ จากที่เคยซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเด็กหนุ่มแต่โดยดีก็กลับขืนออกมา “ ออกไปนะ.. ” “ พี่.. ” ทั้งที่ในใจของเจมส์เคยเตรียมตัวรับไว้แล้วว่าถ้าหากบอกมันออกไปบางทีอาจต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้.. หากแต่เมื่อได้เผชิญกับมันซึ่งๆหน้าแล้ว ก็ได้รู้ว่ามันทำใจยากกว่าที่คิด.. “ ผมแค่รักพี่.. ” “ แต่พี่ไม่ได้รักแก! พี่รักเต๋าได้ยินมั๊ย?!! ” แม้จะไร้การกระทำ.. แต่เด็กหนุ่มกลับรู้สึกว่ามันเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าการถูกตบหน้ากันเสียอีก! เปลี่ยนไปแล้ว.. มันเปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง ทั้งสีหน้า.. แววตาที่มองเขามาราวกับเป็นคนแปลกหน้าคนนึง.. มันเหมือนจะยิ่งกรีดลึกลงในหัวใจอันร้าวราน.. ได้โปรด.. อย่าทำแบบนี้เลย.. “ พี่ขอโทษนะ.. แต่แกก็รู้ว่าความรักไม่มีใครแทนใครได้หรอก ” ประโยคนั้นทำให้ความคิดเด็กหนุ่มร่างสูงหวนคืนสู่ปัจจุบันอีกครั้ง ไร้ซึ่งการผลักไสจากคนตรงหน้า.. ฝ่ายนั้นกลับกอดตอบพร้อมกับกระชับไว้แนบแน่นกว่าเดิมด้วยซ้ำ หากแต่เจมส์ก็รู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดยังคงคั่งค้างอยู่ในห้วงใจ.. เขาเองก็ไม่อยากให้อีกคนมารักเขาเพียงเพื่อให้เป็นตัวแทนของใครเช่นกัน “ ครับพี่.. ผมรู้ดีอยู่แล้ว คนแอบรักก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าการได้รักนี่ครับ พี่เองก็คงจะเข้าใจใช่มั๊ย? ” ไม่รู้ทำไม.. น้ำตากลับไม่ได้พรั่งพรูออกมามากมายอย่างที่คิด หรือบางทีห้วงใจอันร้าวรานของคนทั้งคู่อาจจะชาชินกับรสชาติขมเฝื่อนในรักไปเสียแล้วก็เป็นได้ คนนึงก็เป็นเพียงคนหลงทางที่จำยอมละจากแสงดาวแล้วทิ้งตัวเองไว้ในความมืดมน.. อีกคนนึงก็เป็นเพียงเปลวเทียนไหววูบที่ไม่อาจทดแทนแสงดาวเหล่านั้นได้....เพียงแค่สายลมบางเบาแผ่วพริ้วมา.. เปลวเทียนอ่อนแรงก็ดับวูบ.. เขาพอใจที่จะให้มันเป็นไปอย่างนี้.. ดีกว่าการบอกรักไปแล้วถูกตอบแทนด้วยการรังเกียจกัน แม้จะไม่ได้สมหวังในความรัก.. แม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยไม่รู้จบกับมันมากแค่ไหน.. แต่แค่เพียงให้คนหลงทางคนนึงได้พบกับแสงสว่างนิดนึงบ้าง.. แม้จะเป็นได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว....รักที่ได้รับการครอบครองอาจมั่นคง.. ..แต่รักที่เป็นอิสระน่ะ.. อาจมีค่ายิ่งกว่านั้น.. THE END _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
:pig4: :pig4: :pig4: