พิมพ์หน้านี้ - Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: akazu ที่ 07-05-2011 21:58:23

หัวข้อ: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 07-05-2011 21:58:23
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับเล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบกรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
                                             
พีเอสซึ.ได้รับการอนุญาติจาก คุณหยดน้ำผึ้งเรียบร้อยแล้วน่ะค่ะ

สารบัญนิยาย
บทนำ แนะนำตัวละคร  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1454378.html#msg1454378)
ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1455569.html#msg1455569)
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1457586.html#msg1457586)
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1459248.html#msg1459248)
ตอนที่ 4  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1463507.html#msg1463507)
ตอนที่ 5  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1466183.html#msg1466183)
ตอนที่ 6  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1469284.html#msg1469284)
ตอนที่ 7  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1471764.html#msg1471764)
ตอนที่ 7.5 nc น้อยๆ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1479637.html#msg1479637)
ตอนที่ 8  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1489524.html#msg1489524)
ตอนที่ 9  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1491132.html#msg1491132)
ตอนที่ 10  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,25045.msg1491163.html#msg1491163)
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง บทนำ และนำนำตัวละคร [up 07.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 07-05-2011 22:11:10
บทนำ
คุณเคยแอบรักใครซักคนมั๊ย ?
คนที่เปล่งรัศมีเจิดจรัส...
คนที่เป็นที่หมายปองของทุก ๆ คน...
คนที่ไม่เคยแม้แต่จะเหลียวแลคุณ…
ถึงอย่างนั้นแล้ว… คุณจะยังชอบเขาอยู่อีกเหรอ ?
 
   ผมเป็นหนุ่มน้อยในโลกกว้างที่อาศัยอยู่กับคุณลุงคุณป้า และตัวแสบอีก 3 คน คือ แบล็ค บลู แล้วก็บราวน์ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น พ่อกับแม่ของผมอาศัยอยู่ต่างประเทศกับน้องสาวฝาแฝด ส่วนน้องชายอีกคนของผมอาศัยอยู่ในบ้านใหญ่ที่เปรียบเสมือนจุดนัดพบของทุกคนในครอบครัว

   นาน ๆ ครั้ง ครอบครัวเราถึงจะได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แม้ผมจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกแปลกแยก หรือตะขิดตะขวงใจอะไรเลย เพราะครอบครัวของคุณลุงกับคุณป้าเข้ากับผมได้เป็นอย่างดี ท่านทั้ง 2 รักผมเหมือนลูกคนหนึ่ง ผมสนิทกับทุกคนมากโดยเฉพาะบลู ที่มีอายุพอ ๆ กับผม

   แต่แน่ล่ะ ชีวิตของชายหนุ่มวัยรุ่นจะมีอะไร นอกจากหาแฟนซักคน และเล่นเกมส์ออนไลน์..หรือว่าคุณไม่ใช่ ??

   “โอ๊ย!! ๆๆๆๆๆ!! เบา ๆ หน่อยสิวะ ไอ้บลู!” ผมร้องท้วง ชกกำปั้นบนไหล่กว้างเต็มแรง

   “ฮึ! ทีอย่างนี้ล่ะเจ็บ กลับมาร้องครวญครางอย่างกับหมา ทีหลังเอ็งก็หัดยอมคนอื่นบ้างสิวะ! มีเรื่องอะไรก็ท้าชนลูกเดียว ถ้าข้าไม่ไปช่วยไว้ เอ็งก็คงถูกรุมกระทืบนอนตายอยู่ตรงนั้นแล้ว” ไอ้บลู ญาติตัวโตเอ็ดผมพลางแปะพลาสเตอร์ลงบนใบหน้าของผมอย่างเบามือ ส่งท้ายด้วยการกดคลึงแผลหนัก ๆ

   “จ๊าก!!!” ผมทุบไหล่มันอั่ก ๆ มองไอ้คนที่หัวเราะชอบใจตาเขียว ชีวิตของผมก็แค่นี้ล่ะครับ เรียน เล่นเกมส์ มีเรื่อง และจบลงที่โดนซ้ำเติมจากไอ้บลู เหอะ ๆ

   ตอนนี้ผมกับมันเรียนอยู่คนละที่กันครับ ผมเรียนอยู่ในโรงเรียนที่มีแต่เด็กเทพ ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมพี่แบล็คเข้าไปด้วย ขอบอกตรง ๆ เลยครับว่าสมองผมน่ะไม่ถึง แต่สาเหตุที่ทำให้ผมต้องกระเสือกกระสนหนีจากไอ้วายร้ายบลูมาอยู่ในอ้อมอกของโรงเรียนเด็กเทพนี่ ก็เพราะ ……คน ๆ นึง……

   เขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะ…. ฟังไม่ผิดหรอกครับ ‘เขา’ ไงล่ะ
   อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยปลื้มคนที่มีเพศเดียวกัน ??
   ไม่จริงน่า! ผมไม่ใช่เกย์นะ!
   มีผู้ชายที่ปลื้มเขาออกเยอะแยะ
   แล้วทำไมผมถึงชอบเขาน่ะเหรอ ??

   คุณลุงคุณป้าพาพวกผมไปดูคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิกที่จัดขึ้นอย่างใหญ่โต ท่านทั้ง 2 ชอบฟังเพลงคลาสสิกมาก แต่สำหรับผมนั้น มันเป็นอะไรที่น่าเคลิ้มหลับมาก~~~!!

   “เป็นอะไรอ่ะกัณฐ์ ง่วงเหรอ ?” เสียงทุ้มนุ่มของพี่แบล็คถามเบา ๆ

   ผมพยักหน้าหงึกหงัก พี่แบล็คเอื้อมมือ ดันศีรษะผมพิงบนไหล่ลาด  ภายในเวลาไม่ถึงนาที ดวงตาผมก็ปิดสนิท…

   ขณะที่ผมเคลิ้ม ๆ อยู่นั้น… ผมก็ได้ยินเสียงเปียโน ….เสียงของแต่ละตัวโน้ต ใส กังวานราวเสียงกระดิ่ง จังหวะดนตรีครื้นเครงจนผมอดที่จะเคาะเท้าตามไม่ได้ เสียงดนตรีของเขาทำให้ผมหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง

   ไม่นานนักจังหวะของเพลงก็แปรเปลี่ยน จากบรรยากาศที่สดใส กลับกลายเป็นอึมครึม เศร้าหมองจนรู้สึกได้    เสียงของแต่ละโน้ตที่ดังขึ้นนั้น ราวกับจะแทรกซึมเข้าไปถึงอณูวิญญาณของผู้ฟัง

   ผมลืมตาขึ้น หวังจะได้เห็นเจ้าของบทเพลงนี้ ผมเห็นชายหนุ่มที่กำลังกดนิ้วลงบนแป้นเปียโนไกล ๆ ผมขยับแว่นเพื่อปรับโฟกัสให้มองเห็นเขาได้อย่างแจ่มชัดขึ้น

   ใบหน้าคมคายนั้นดูเศร้าหมองตามเสียงดนตรีของเขา…
   ผมเหมือนถูกมนต์สะกด….
   เหมือนถูกสาป ….ตรึงให้ไม่สามารถละสายตาไปจากเขาได้…..
   หรือว่าดนตรีบรรเลงแบบนี้จะเจ๋งจริง ๆ อย่างที่คุณลุงว่า ??
   ….ผมก็ไม่รู้….
   ผมไม่แน่ใจ...

   รู้เพียงแต่หลังจากวันนั้น ผมก็ติดตามผมงานของเขามาตลอด… โชคดีจริง ๆ ที่เขาอยู่ภายในจังหวัดเดียวกับผม ผมจึงพยายามไปดูงานที่เขาได้ออกแสดงบ่อย ๆ

   พอผมได้ข่าวว่าเขาอยากจะเข้ามัธยมปลายที่ไหนต่อ ผมก็วิ่งเต้นหาทางเข้าโรงเรียนเดียวกันกับเขาทันที ผมไม่ได้สอบเข้าที่นี่หรอก โรงเรียนชื่อดังที่มีแต่เด็กหัวดี ๆ ชิงกันสอบเข้า ผมแค่อาศัยคุณป้าที่พอจะรู้จักคนใหญ่คนโตนิดหน่อย    แค่นี้ผมก็ได้อยู่ห้องเดียวกับเขาสมใจอยากแล้ว
 
   แต่ปัญหาของผมมันต่อจากนี้ต่างหาก!!!
   ก็บอกแล้วว่าที่นี่น่ะมีแต่เด็กเทพ! มันจะเรียนอะไรกันนักหนาวะ!!
   สัญลักษณ์อะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นรู้เรื่องเลยซักตัว!!
   จะให้ผมเข้าไปถามเพื่อน ๆ ก็ดูเหมือนพวกเขาหวาด ๆ ไม่อยากคุยกับผมยังไงอย่างงั้น??
   จะว่าไป…. ผมก็คุยกับ ‘เขา’ นับครั้งได้
   นี่ก็ปาเข้าไปปีกว่าแล้วนะ!!
   …….ผมแค่อยากใกล้ชิดกับเขาจริง ๆ…….

แนะนำตัวละคร - Look @t Profile -
Look @t Kan
ชื่อจริง : ฐาปเดช   กัณฐเมธา
ชื่อเล่น : กัณฐ์
วันเกิด : 18 กันยายน
ราศี : กันย์
สายตาสั้น : 700
พี่น้อง : 4 คน เป็นคนโต
ส่วนสูง / น้ำหนัก : 174 cm /  54 kg
กรุ๊ปเลือด : O
นิสัยส่วนตัว : นั่งอยู่เฉย ๆ แต่ในสมองคิดเรื่องนั่นนี่ตลอดเวลา
ไม่ชอบยอมแพ้ใคร เข้ากับเด็ก ๆ ได้ดี
เพื่อนสนิท : บลู
ความสามารถพิเศษ : เล่นเกมส์ติดต่อกัน 24 ชั่วโมง
งานอดิเรก : เล่นเกมส์ , ฟังเพลง
ของสะสม : แผ่นเพลงเก่าแก่ พี่พ่อส่งมาให้จากอังกฤษ,
อัลบั้มที่มีเพลงที่เธียรบรรเลง
กีฬาที่ชอบ : ไม่ชอบเล่นกีฬา
อาหารจานโปรด : ข้าวเหนียวไก่ย่าง, คุกกี้มาติเน่ รสช็อคโกแลตชิพ
น้องกัณฐ์มีต้นแบบมาจากผู้หญิงค่ะ

Look @t Tien
ชื่อจริง : ธรณินทร์ ศุกะศุภางค์
ชื่อเล่น : เธียร
วันเกิด : 21 สิงหาคม
ราศี : สิงห์
พี่น้อง : 3  คน คนละแม่ เป็นคนกลาง
ส่วนสูง / น้ำหนัก : 182 cm /  72 kg
กรุ๊ปเลือด : AB
นิสัยส่วนตัว : ดูจากภายนอกเหมือนจะเป็นคน สุขุม เยือกเย็น แต่จริง ๆ
แล้วใจร้อน โมโหง่าย
เพื่อนสนิท : ภีม, เอล (เพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกัน)
ความสามารถพิเศษ : เล่นเปียโน
งานอดิเรก : ซ้อมเปียโน
ของสะสม : ของขวัญจากแฟน ๆ โดยเฉพาะจดหมาย...
กีฬาที่ชอบ : เวท, จ๊อกกิ้ง
อาหารจานโปรด : ส้มตำ, พาสต้าทุกชนิด
เธียรอยากมีหุ่นล่ำ ๆ แบบพี่ธีร์เลยเล่นเวทค่ะ แต่อยากบอกว่าอย่าดีกว่า- -*
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-05-2011 22:36:25
รีแรก  :laugh: แล้วจะติดตามนะ ชื่อเรื่องอยากพูดกับหนุ่มหล่อๆมั้ง  Look at me  :z2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 07-05-2011 22:56:37
 :mc4: :call:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 07-05-2011 23:31:11
บวกเป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-05-2011 23:54:20

ไม่ยักกะมีบอกไว้ตรงไหนว่า ขออนุญาต จขร. แล้วก่อนนำเรื่องมาลง
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 08-05-2011 00:01:50
จะรอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 08-05-2011 00:03:43

ไม่ยักกะมีบอกไว้ตรงไหนว่า ขออนุญาต จขร. แล้วก่อนนำเรื่องมาลง

 :z3:ขอโทษที่บกพร่องค่ะ นำไปไว้ที่กระทู้แรกแล้วน่ะค่ะ ไม่รู้ใช้คำถูกไหม รบกวนดูให้ด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ มือใหม่หัดลอง
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 08-05-2011 00:06:57
 :z13: :mc4:


หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 08-05-2011 00:41:33
รอด้วยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทนำ]
เริ่มหัวข้อโดย: nigiri-sushi ที่ 08-05-2011 11:36:13
เรื่องของคุณหยด!!! กอดต้อนรับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 1 [up 08.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 08-05-2011 15:25:36
ตอนที่ 1

“อ…เอ่อ…พี่สาวฮะ” ผมแอบย่องมาเรียกพี่ผู้หญิงที่เฝ้าหน้าเคาเตอร์

“อะไรจ๊ะหนุ่มน้อย ?” เธอเลิกคิ้วอย่างฉงน ก็ยังไม่จบการแสดงเลยนี่นา…

“ค…คือ….ผม…ผมอยากจะฝากโน้ตให้คนที่เล่นเปียโนในงานนี้ได้มั้ยฮะ ?” ผมเม้มริมฝีปากแน่นอย่างเขินอาย

“…เอ….ใครล่ะจ๊ะ ??… คุณสตีฟ ออกซ์แวนด์,  คุณเอวา เมโลดี้, คุณโจเซฟีน เอช แมคคาสัน, คุณสาโรช  อจรอุดมการณ์, คุณธรณินทร์ ศุกะศุภางค์….” ผมรีบขัดก่อนที่เธอจะร่ายยาวไปกว่านี้

“คนที่อายุพอ ๆ กับผมน่ะฮะ!” ผมปั้นหน้ายาก ผมไม่รู้แม้แต่ชื่อแซ่ของเขาเลยด้วยซ้ำ

“งั้นก็คงเป็น คุณธรณินทร์ ศุกะศุภางค์ ล่ะจ๊ะ…. เขาชื่อเธียร เธอจะฝากของอะไรให้เขามั๊ย ??” พี่สาวยิ้มสวยถามอมยิ้ม

“ม..ไม่ฮะ” ผมปฏิเสธเบา ๆ หยิบซองจดหมายที่แอบเก็บไว้อย่างดีขึ้นมา

“จะว่าไป เด็กคนนั้นเสน่ห์แรงใช่เล่นนะ มีแฟน ๆ ตั้งแต่รุ่นเด็ก ยันรุ่นแม่…. เอ๊ะ! นั่น!” พี่สาวท่าทางตื่นเต้น ชี้ข้ามหลังของผมไป

“เธียรนี่นา! เธอวิ่งเอาไปให้เขาเลยสิไอ้หนู!”  ผมทำหน้าเหรอหรา หันไปตามที่พี่สาวชี้…ใช่เขาจริง ๆ ด้วย!! แต่ขาเจ้ากรรมของผมดันไม่ขยับ ร่างกายมันแข็งทื่อไปหมด เดือดร้อนจนพี่สาวอดรนทนไม่ไหวออกมาจากเคาท์เตอร์ ฉุดกระชากลากแขนให้ผมวิ่งตาม

“คุณธรณินทร์!” เสียง 180 เดซิเบลของพี่สาวทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นรถชะงักค้าง ใบหน้าใสหมดจดนั้นหันกลับมามองอย่างนึกสงสัย

แว๊กกกกกกกกกกกกก!!! ยิ่งอยู่ใกล้ ๆ ใจของผมยิ่งเต้นตึกตัก ดวงตาของผมต้องรีบหลบใบหน้าที่ยิ่งมองใกล้ ๆ ก็ยิ่งคิดว่าหล่อ ระดับสายตาของผมอยู่เพียงแค่ช่วงอกของเขาเอง

“อ…เอ่อ…เอ่อ…” ผมติดอ่างขึ้นมาซะอย่างนั้น พอเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาคม ๆ นั่น ก็ทำให้ผมแทบเข่าอ่อน ใบหน้าของผมร้อนจัด ผมไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไง

สุดท้าย ผมก็ทำได้แค่หลบสายตา แล้วยื่นจดหมายด้วยมือสั่น ๆ ไปให้เขา น่าอายจังเลยง๊า!!!  นานมาก ๆ ในความคิดของผม กว่าเขาจะรับจดหมายในมือของผมไป

“ขอบใจ…” เสียงทุ้มเพิ่งเริ่มแตกหนุ่มกระซิบบอกข้างหูผมเบา ๆ …

เพียงเท่านี้….เพียงแค่นี้ผมก็แทบล้มลงไปพับกับพื้นแล้ววววววววววววววววว~~~~~~!!!!!!!

“กัณฐ์ ๆ” ….ใครมันบังอาจมาเขย่าตัวผมเนี่ย!

“กัณฐ์ฮะ!” ผมสะดุ้งตื่นเมื่อเสียงตะโกนดังเข้าหู

“อะไร!!!” ผมเผลอตะโกนเสียงดังอย่างหัวเสีย กว่าจะรู้ตัวว่าเผลอทำเสียงดังมาก ก็ตอนที่เพื่อน ๆ ในห้องหันมามองผมเป็นตาเดียวซะแล้ว

“เขาแบ่งกลุ่มฟิสิกส์กันแล้ว นายน่ะมีกลุ่มรึยัง ?” ชายหนุ่มคนที่ปลุกผมเป็นคนถาม คน ๆ นี้เป็นหัวหน้าห้องของผมเองครับ เทพสุด ๆ ไม่ว่าจะวิชาอะไรหมอนี่รู้หมด ตัวของเขาเล็ก ๆ หน้าตาก็จิ้มลิ้ม น่ารัก ผิวสีน้ำผึ้ง ใส่แว่นกรอบบาง… เขามักจะคอยเป็นห่วงเป็นใยผมเสมอ ไม่รู้อุปปาทานหรืออย่างไร ที่ผมมักจะรู้สึกว่าบางทีเขาก็จ้องผมแปลก ๆ

“ไปชวนหมอนั่นทำไมน่ะรอน” เสียงแจ๋น ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งขัด เธอชื่อหมิง ครับ เป็นสาวเปรี้ยวหัวดี ที่ชอบตามตอแยเธียรของผม(??) เธอมีเพื่อสนิทชื่อฝ้าย… ซึ่งแรงพอ ๆ กัน แต่ความโหดนี่รับประกันได้เลยว่าฝ้ายมือหนัก ตีนหนักกว่ามาก

“พูดอะไรอย่างนั้นน่ะหมิง” หัวหน้าห้องหันกลับไปเอ็ดลูกน้องของเขา

ผมนึกดีใจ ที่อย่างน้อยโชคก็เข้าข้างผม…ถึงแม้ผมจะไม่ได้เข้าไปคุยกับเธียร แต่สุดท้ายแล้ว หัวหน้าก็มักจะดึงผมไปอยู่กลุ่มเดียวกับเขาเสมอ…เธียรกับหัวหน้าสนิทกันในระดับหนึ่ง ผมได้ยินแว่ว ๆ ว่าทั้งสองต้องซ้อมดนตรีด้วยกันหรืออะไรเทือกนั้น

“มาตกลงกันก่อน ว่าจะทำอะไรนะ” หัวหน้ารวบรวมเพื่อน ๆ ในกลุ่มเดียวกันมาประชุม ผมแอบเหลือบมองเธียรที่นั่งทำหน้าหล่ออยู่ข้าง ๆ หมิงและเพื่อนสนิทของเขา

“กัณฐ์มีเรื่องมาอีกแล้วเหรอ ? หน้าช้ำเชียว” ภีมทักเบา ๆ ไอ้หมอนี่คือเพื่อนซี้ของเธียร นิสัยกวน ๆ ชอบทำผมผิดระเบียบ แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ยังเรียนเก่งกว่าผม..

“ไม่เกี่ยวกับนาย” ผมตอบปัด

“เอ๊ะ! นาย 2 คนนี่ เค้าให้มาช่วยคิดกันนะ ไม่ใช่มานั่งคุยข้ามโต๊ะกัน” ฝ้ายแหว ตีแขนผมดังเผียะ… อยู่ใกล้หน่อยไม่ได้เลยแม่คุณ.. ใช้กำลังตลอด

ถ้าเธอทำได้ เธอคงยกเท้าขึ้นถีบยอดอกผมด้วย…. สวยโหดจริง ๆ ผมนั่งกระดิกเท้าเบา ๆ เรื่องที่เพื่อน ๆ คุยกันนั้นเข้าหูซ้ายทะลุหัวขวา…ทั้งที่ผมอยู่ใกล้เขาขนาดนี้….. เขายังไม่มีแม้แต่เหลือบตามามองผมบ้างเลย ป่ะฉิธ่อ!

“เอ้า… งั้นตกลงเอากระดานไม้มหัศจรรย์นะ มีใครมีความคิดเห็นอื่นอีกมั้ย ?” หัวหน้ากวาดตามองทุกคนในกลุ่ม ผมอยากค้านเหลือเกิน ไม่มีชื่อที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง - -“

“โอเค งั้นเดี๋ยววันนี้เราจะไปซื้ออุปกรณ์เลย พรุ่งนี้ไปทำงานกันนะ”

“ทำที่ไหนเหรอ?” หมิงยกมือถาม แต่ดูตาเธอก็รู้แล้วว่าเธออยากจะไปเหยียบบ้านใคร

“บ้านใครว่างบ้าง ?” หัวหน้าถาม

“บ้านเราก็ได้” เสียงของเธียร ทำเอาใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ แถมพรุ่งนี้ผมยังได้เข้าบ้านของเขาอีกด้วย!!

“เยส!!” เสียงนี้ดังเล็ดลอดออกจาก ริมฝีปากแดง ๆ ของหมิง… เหอ ๆ ผมก็อยากพูดเหมือนกันว่า.. เธอไม่ได้แอ้มเขาหรอก!!

“ผมไปด้วยมะ ?” ผมถามหัวหน้าเบา ๆ

“หือ ?” หัวหน้าทำหน้างง ๆ น่ารักดีแฮะ

“ไปซื้อของไม่ใช่เหรอ ?”

“อ้อ..”

“นายไม่ต้อง.. ฉันไปกับเขาเอง” เธียรขัดล็อกลำคอเล็ก ๆ ของหัวหน้า… ท่าทางสนิทกันดีจัง …..

ง่า…… เขาสบตามองผมด้วย!  แค่ส่งสายตามา ใจก็ละลายโล๊วววววว!!!!!!

“ให้ไปส่งมั๊ยกัณฐ์?” ผมหันไปมองคนถามตาขวาง….

“ส่งหอกอะไร !?” เง้อ! ผมเผลอหลุดปากไป.. ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะ… ผมกลบเกลื่อนโดนการหยิบกระเป๋าแบน ๆ แล้วก้าวฉับ ๆ ออกไปจากห้อง ภีมมองตามหลังคนที่เพิ่งตวาดใส่เขาอึ้ง ๆ

“สงสัยมันอารมณ์ไม่ดีที่เราขัด ไม่ให้ไปกับรอนมั๊ง” เธียรตบบ่าเพื่อน

“เออ… คนอะไร อารมณ์ร้ายฉิบ” ภีมบ่นเบา ๆ อดส่งสายตาทอดมองร่างบาง ๆ นั้นอย่างเป็นห่วงไม่ได้

ทั้งที่ผอมแห้งขนาดนั้น… เขาไม่เข้าใจว่าทำไมกัณฐ์ถึงชอบมีเรื่องให้ได้แผลบ่อย ๆ ด้วย ผมก้าวเร็ว ๆ มาด้วยใบหน้าร้อนผ่าว..
ผมเผลอตวาดใส่เพื่อนอีกแล้ว   คิดแล้วมันอดเสียใจไม่ได้…แต่เวลาที่ผมรู้สึกเขินจัดทีไร ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกที ธ่อ….
หมอนั่นจะโกรธผมรึเปล่าเนี่ย ?

“อ้าว! จะกลับบ้านเหรอกัณฐ์” ชายหนุ่มร่างสูง หน้ากระเดียดไปสไตล์เกาหลีทักผม

“เปล่าฮะ จะไปร้านเกมส์” ผมบอกพี่แบล็ค

“เล่นเกมส์อีกแล้ว ไม่เสียดายเงินบ้างรึไง ?” พี่แบล็คเดินขนาบข้างไปกับผม ดูเหมือนพี่ท่านต้องการหว่านล้อมให้ผมกลับบ้านด้วยนะ

“…ก็เสียดายฮะ แต่มันอยากเล่นนี่นา” ผมบอก

“อดไม่ได้ ว่างั้น”

“แฮะ..” ผมทำได้เพียงแค่หัวเราะกลบเกลื่อน

_____________________________
 :pig4:ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ค่ะ ฝากผลงานของคุณหยดไว้ด้วยน่ะค่ะ มาติดตามความรักของน้องกัณฐ์กับเธียร ว่าจะลงเอยกันได้ไหม เป็นกำลังใจให้กัณฐ์กันเถอะ จะพยายามมาลงให้ทุกวันเลยค่ะ  มืดใหม่หัดลงเนอะ อ่ะ อ่ะ เรื่องนี้มีให้ลุ้นอีกคู่น่ะ แต่ยังไม่เปิดตัว ติดตามกันต่อไปน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 1]up 08.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 08-05-2011 17:28:08
อ๊าาาา จิ้มๆๆ

ชอบเรื่องนี้นะ *-* ขอติดตามค่ะ!

หุๆ รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 1]up 08.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: tantalize ที่ 08-05-2011 18:43:52
เข้ามาลงชื่อรอติดตาม  :mc4:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 1]up 08.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: YenOh ที่ 08-05-2011 20:39:29
แอบมาดันเบา ๆ ค่ะ

เขิน (กระมิดกระเมี้ยน)
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 2 [up 09.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 09-05-2011 17:23:25
ตอนที่ 2

พี่แบล็คจ้างให้ผมไปเดินเที่ยวกับบลู แทนที่จะเข้าร้านเกมส์จนดึกดื่น

“โอย! กินไม่ไหวแล้วนะไอ้กัณฐ์” ไอ้บลูโอดครวญ แต่ผมรึจะสน ลากแขนมันไปซื้อโรตีมากินต่อ

“ตัวโตซะเปล่านะเอ็ง” ผมบอกขณะเคี้ยวโรตีในปากตุ้ย ๆ

“ใครจะกินเก่งเหมือนเอ็งวะ ในท้องมีหลุมดำอยู่รึไง ?” บลูจับศีรษะผมโยกเบา ๆ

ระหว่างนั้น สายตาของผมก็พลันเหลือบไปเห็น….แย๊กกกกกกกก!! เธียรกับหมิงเดินคุยกันหนุงหนิง (แต่รู้สึกหมิงจะคุยฝ่ายเดียวเสียมากกว่านะ) พ่วงด้วยหัวหน้าห้องที่เดินตามทั้งคู่ต้อย ๆ ผมรีบทำเนียนเดินไปกินไป     โฉบบบบบบบบ

“อ้าวกัณฐ์!” ฮึ ๆ ๆ  ๆ

“เอ่อ… หวัดดีหัวหน้า” ผมฉีกยิ้มทักทาย

“แล้วนี่ ?” หัวหน้าหันไปมองคนตัวโตข้างผม

“อ้อ.. นี่ญาติผม ชื่อบลู” ผมบอก.. ผมแอบเห็นยัยหมิงหน้าแดงด้วยนะ… ไม่เบานี่หว่าไอ้เสือ…

“บลู นี่เพื่อนที่โรงเรียน หัวหน้า เธียร หมิง” ผมแนะนำเพื่อน ๆ

“ชื่อหัวหน้าเหรอ ?” บลูถามงง ๆ

“อ้อ เปล่าครับ ผมชื่อรอน สงสัยเขาติดปากน่ะครับ” หัวหน้ายิ้มบอก ดูเหมือนเขามีความสุข อมยิ้มตลอดเวลา แต่เธียรดูทำหน้าถมึงทึงยังไงชอบกล

“เธียรนี่ ผมว่าหน้าคุ้น ๆ นะ” บลูพึมพำ

“ก็แน่สิคะ เธียรเขาเป็นนักเปียโนอัจฉ..” หมิงสะดุ้ง เมื่อเธียรคว้าข้อมือเธอกำแน่น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจ….มาก

“ถ้าฉันไม่ได้พูด เธอไม่ต้องมาแส่” เธียรบอกเสียงเข้ม จนหมิงเริ่มหน้าซีด

“ใจเย็น ๆ เธียร” หัวหน้าแตะแขนของเธียรเบา ๆ… และเขาก็ดูใจเย็นขึ้นทันตา ในใจของผมรู้สึกปั่นป่วน… หัวหน้ามีอิทธิพลต่อเธียรมากขนาดนี้เชียวเหรอ ? . หรือว่า…หรือว่าเธียร .. ไม่หน่า …… ผมอาจจะคิดมากไปเอง

“เอ๊ะ ?  อ๊ะ!  อ๋อออออ…..” บลูลากเสียงยาว เหล่ตามองผม ส่วนผมนั้นได้แต่อายญาติตัวเองก้มหน้างุด ๆ

“ไอ้หมอนี่ปลื้ม เธีย…อั่ก!” ผมศอกใส่ท้องของไอ้บลูเต็มแรง

“ไม่มีอะไร ๆ บลูมันคงหิวข้าวแล้วน่ะ” ผมบอกตัด ยิ้มเจื่อน… หมอนี่รู้อยู่แล้วว่าผมปลื้มนายธรณินทร์  ศุกะศุภางค์ขนาดไหน!!

“ทั้ง 2 คนกำลังจะไปไหนเหรอ ?” หัวหน้ายิ้มจนตาปิดถามผม

“ไม่รู้อ่ะ เดินไปเรื่อย ๆ” ผมบอก

“เดินกินไปเรื่อย ๆ น่ะสิ” ไอ้บลูขัด ผมหันไปจ้องหน้ามันเขม็ง

“เอ่อ..” หัวหน้าหันไปมองหน้าเธียร ซักครู่เธียรก็พยักหน้าให้เขาเชิงอนุญาต

“ถ้าไม่รังเกียจ ไปบ้านเธียรกับพวกเรามั้ย ?” หัวหน้าถามผม ผมหน้าเหวอ…. นี่ผม…. ผมจะได้ …….. ผมจะได้เหยียบบ้านของคนที่ผมแอบปลื้มมมมมม

“เอ้อ… ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะ ผมไม่ได้บังคับ” หัวหน้ากระวีกระวาด ยกมือขึ้นโบกไปมาจนผมแอบขำ

“ไปสิ!” บลูตอบ ยิ้มกว้าง มือหนา ๆ นั่นคว้าผมไปล็อคคอแล้วขยิบตาให้

“นายนี่ไม่รู้จักคว้าโอกาสเลยนะ! ยืนบื้ออยู่ได้” ไอ้บลูกระซิบ ทำเอาผมฉุน เหวี่ยงเท้าเตะหน้าแข้งจนมันร้องจ๊ากไปครั้งนึง
บ้านของเธียรใหญ่โตหรูหราอลังการตามฐานะของเขา ตัวบ้านใหญ่ ๆ นี้ทำให้หัวหน้าที่ตัวเล็กอยู่แล้ว ดูยิ่งตัวเล็กลงไปอีก ระหว่างทางผมแอบเห็นรูปของนักเปียโนที่มีชื่อเสียงหลายท่านประดับอยู่ตามผนังด้วย เธียรเดินนำพวกเรามายังห้องที่เต็มไปด้วยมัลติมีเดียนำสมัย

“ฉันจะออกไปรับภีม พวกนายรออยู่นี่นะ จะเล่นอะไรก็ตามใจ” เธียรบอก แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้พวกเรา 4 คนนั่งจ๋อง

บลูทำตัวอย่างกับบ้านของมันเอง หยิบ PS2 ขึ้นมาเล่นพร้อมกวักมือชวนผู้หญิงคนเดียวในห้องไปนั่งเล่นด้วย ผมเดินมองสำรวจของภายในห้องนี้ จนไปสะดุดกับโล่รางวัลในตู้โชว์ที่วางประดับไว้มากมาย

“ว้าว! รางวัล The Best of Music ของ Babel ที่เพิ่งจัดไปเมื่อปีที่แล้วนี่นา” นิ้วมือเล็ก ๆ ชี้ถ้วยรางวัลที่เป็นปีกสีทองอย่างชื่นชม

“หัวหน้ารู้เรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ ?” ผมถามเบา ๆ …. จริงสิ …. ผมลืมไปซะสนิทว่าทั้งคู่ซ้อมดนตรีด้วยกัน

“ก็พอรู้บ้างน่ะ เพราะว่าผมเป็นนักร้อง” หัวหน้ายิ้มกว้างบอกอย่างภาคภูมิใจ

“นักร้อง!? ตัวเล็ก ๆ แบบนี้น่ะเหรอ ?” ผมถามอย่างทึ่ง ๆ

“อย่าดูถูกผมเชียวนะ ผมเข้าประกวดตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว พอเข้าช่วง ม. ปลายก็เพลา ๆ ลง แต่ได้ร้องเดี่ยวคู่กับเปียโนของเธียรในฐานะตัวแทนของโรงเรียน พวกเราก็เลยดูสนิทกันนิดหน่อยน่ะ” หัวหน้ายิ้มอธิบายอย่างภาคภูมิใจ… ผมรู้สึกทึ่งในตัวหัวหน้าห้องตัวเล็กคนนี้มาก และไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าเธียรจะเล่นเปียโนให้ใครร้องเพลง ผมอยากรู้จริง ๆ เวลาที่เขาดีดแป้นเปียโนให้สอดประสานกับเสียงร้องของหัวหน้านั้น จะฟังดูไพเราะขนาดไหน

“พลาสเตอร์จะหลุดแล้ว” หัวหน้าบอก เอื้อมมือมาปิดมันลงบนใบหน้าของผมเบา ๆ นิ้วมือเล็ก ๆ นั้นลูบไล้พลาสเตอร์บนใบหน้าของผมเบา ๆ ราวกับกลัวว่าผมจะเจ็บ ผมเหลือบมองสีหน้าของหัวหน้าที่ตอนนี้ดูเศร้าหมองยังไงชอบกล

“บลูกับหมิงเล่นเกมส์กันสนุกเลยเนอะ” ผมชวนคุย ผมไม่อยากเห็นหัวหน้าทำหน้าแบบนี้ซักเท่าไหร่

“เอ้อ…. อืม….” หัวหน้ารีบชักมือออก แก้มที่ปกติสีน้ำผึ้งนั้นดูเจือด้วยสีชมพูอ่อน ๆ จนผมนึกเอ็นดู

“ผ…ผมไปเล่นกับพวกเขาดีกว่า” หัวหน้าบอกแล้วเดินหนีไป

ผมเหลียวซ้าย แลขวาไม่เห็นห้องน้ำ ตัดสินใจเดินออกไปนอกห้อง และเดินย้อนกลับไปทางเดิม… แต่….ยิ่งเดินก็รู้สึกว่าหนทางมันยิ่งแปลกตาไป…. ตอนนี้ผมอยู่ตรงทางเดินส่วนไหนของคฤหาสน์แล้วก็ม่ายรู้!!!

แย๊กกกกกกก!! ใครก็ไม่รู้เดินมาเป็นกลุ่มใหญ่เลย… ใส่สูทดูท่าทางมีกะตังเสียด้วย สงสัยจะเป็นแขกของบ้านนี้… ผมขอหลบก่อนดีฝ่า!!! ผมเปิดประตูบานที่ใกล้ที่สุดแล้วเข้าไปยืนจ๋องอยู่ข้างใน หน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ทำให้แสงสลัว ๆ …. ง่า…. คฤหาสน์แบบนี้…. ง่า ….. ผมรีบกดสวิชต์ไฟ เมื่อแสงสีนวลกระทบวัตถุในห้องปรากฎสู่สายตา ผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก… เฮ้ออออ…

ห้องนี่ เป็นห้องนอนใหญ่ประมาณสี่เท่าของห้องนั่งเล่นบ้านผม เตียงคิงส์ไซต์วางแหมะอยู่ใกล้หน้าต่างบานใหญ่ ห้องตกแต่งด้วยสีนวลตา และในนี้มีห้องน้ำ!!ผมรีบวิ่งเร็วจี๋เข้าไปฉิ้งฉ่อง

พอผมออกมาจากห้องน้ำ และได้สังเกตสิ่งของในห้อง… ก็เพิ่งตระหนักว่า นี่มันห้องของเธียรนี่หว่า!!! ใจจริงผมก็อยากสำรวจอะนะ ว่าในห้องนี้มีอะไรบ้าง แต่มันไม่ค่อยน่ายินดีซักเท่าไหร่ ที่มีคนอื่นมายุ่มย่ามกับห้องส่วนตัวเองเราเอง

ผมแอบมองกองของขวัญที่เขาได้รับจากแฟน ๆ เผื่อจะมีจดหมายของผมบ้าง แต่ก็ไม่เห็นเจอ เขาคงไม่ได้รับจดหมายของผม ผมถอนหายใจ รีบปิดไฟแล้วเปิดประตูด้วยความเร็วแสง ผลั่ก!! เหมือนจะโดนอะไรบางอย่างแฮะ?

“Oops!!” ชายหนุ่มตัวใหญ่ใส่ชุดสูท ..ดูเหมือนจะเป็นฝรั่งร้องโอดโอยเอามือปิดจมูก ผมสะดุ้ง รีบวิ่งแจ้น หนีออกไปจากตรงนั้น
ผมวิ่ง ๆ ๆ ๆ อย่างไม่คิดชีวิต ทางเดินนี่มันจะไปสุดที่ตรงไหนวะ!?

“เจอตัวแล้ว!” เธียรคว้าข้อมือผมไว้แน่น นายโผล่มาจากหน๊ายยยยยยยยยย!!!!!! เลือดของผมสูบฉีดแรง ตัวออกอาการสั่นจนห้ามไม่อยู่แล้วววววว

“ไปไหนมา!!” เขาตะคอกอย่างหัวเสีย

“ห..ห้องน้ำ!!” และผมก็เผลอตะโกนใส่เขา… ดูเหมือนเขาจะยิ่งโมโหมากขึ้นนะ - -* แง~!!! ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ น้า~~~~~~!!!!!

“ไอ้เธียร” ภีมลากเพื่อนที่กำลังจะแยกเขี้ยวกินหัวของผมออกห่าง ฮือ ๆ ๆ

“กัณฐ์ก็เหมือนกัน อย่าขึ้นเสียงตอบสิ เดี๋ยวก็ได้ต่อยกันจริง ๆ หรอก” ภีมบอกอย่างหงุดหงิด จนผมรู้สึกละอายใจที่เมื่อเย็นที่ผ่านมา ผมก็ตวาดใส่เขาด้วย

“ข…ขอโทษ..” ผมช้อนตามองทั้งคู่อย่างสำนึกผิด

“ร…เราจะกลับ” ผมบอกเบา ๆ อย่างเจี๋ยมเจี๊ยม รีบสาวเท้าเดินแล้วก็หยุดลง…

“….ไปทางไหนเหรอ ?….แฮะ….”

___________________________
แอบมาดันเบา ๆ ค่ะ

เขิน (กระมิดกระเมี้ยน)
:m22:ตะเอ้..ใครเอ๋ย อิอิ มายลผลงานตัวเองรึเปล่าน้า
มาต่อตอน 2 แล้วค่ะ  :sad4: ยังอ่านกันอยู่ไหมมม
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 2]up 09.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-05-2011 18:27:29
 :really2:


 :L1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 2]up 09.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 09-05-2011 18:28:38
หัวหน้าน่ารักดีอ่ะ เหมือนเธียรจะชอบหัวหน้านะ งั้นณัฐก็อกหักสิ ม่ายๆๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 2]up 09.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 09-05-2011 20:31:59
อ่า เหมือนรอนจะชอบกัณฐ์นะ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า ส่วนเธียร เอ่อ ...

 /me ไม่ขอออกความคิดเห็น

สู้ๆน่า กัณฐ์ คิดจะรักก็ต้องสู้สิ ^^''

หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 2]up 09.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 09-05-2011 20:57:58
จะรอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 2]up 09.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 09-05-2011 21:04:45
ติดตามค่าน่าสนุกดี รออ่านต่อไป
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 2]up 09.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: ovam ที่ 09-05-2011 22:17:07
เรื่องนี้ลง อยู่ในเว็บเด็กดีนี่ค่ะ

จบไปแล้วด้วยไม่ใช่หร ??

แต่ก้อจะติดตามใหม่อยู่ดีค่ะ

สนุกมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^'

 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 2]up 09.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 09-05-2011 22:21:33
เคยอ่านเรื่องนี้ในเด็กดี น่ารัก  ชอบมากเลย ดีจัง
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 2]up 09.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: YenOh ที่ 10-05-2011 11:29:38
มาดันงานตัวเองค่ะ อิอิ

เป็นผีบอร์ดมานาน
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 3 [up 10.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 10-05-2011 17:26:39
ตอนที่ 3

ผมกำลังนั่งจ๋องอยู่ในคฤหาสน์หลังโต๊โตของท่านชายเธียรด้วยร่างกายที่ปวดเมื่อย

เมื่อคืน ผมไปฉลองโค้กต่อกับไอ้บลู ได้กลับบ้านกันจริง ๆ ก็เกือบเที่ยงคืน พี่แบล็คที่รอต้อนรับ ดูเหมือนอยากจะเอ็ดน้อง แต่ก็เอ็ดไม่ได้เพราะเป็นคนใช้ให้ผมออกไปเที่ยวกับไอ้บลูเอง พี่ท่านเลยลงโทษโดยการสั่งให้ผมไปนอนกับบลูในข้อหา ‘รักกันมาก’
บราวน์นอนห้องของคุณลุงกับคุณป้า ส่วนพวกผมนั้นมีห้องกันคนละห้อง โดยผมกับพี่แบล็คกั้นห้องกัน ส่วนห้องของบลูนั้นหรือ….

“แย๊กกกกกกกก!!!” ผมกระโดดดีดตัว 180 องศา เมื่อเจอไอ้ดำตัวเขื่องคลานต้วมเตี๊ยมอยู่บนพื้นห้อง (ที่แทบจะหาพื้นห้องไม่เจอเพราะมีของวางระเนระนาดเต็มไปหมด)

“กลัวอะไรวะ! มานี่ซิ ปีเตอร์ลูกพ่อ” ไอ้บลูกวักมือเรียกลูกชายมัน ทั้ง ๆ ที่ยังกอดเอวผม ไม่ให้หนีไปไหน

“ม่ายอ๊าวววววววว!!” ผมโวยวายตะกุยเท้าหวังจะหลุดออกจากวงแขนบึก ๆ ของมัน

แมลงสาปเป็นหนึ่งในสัตว์โลกน่ารัก ที่อัปลักษณ์ อั๊กลี่ น่าเกลียด น่ากลัว 2 ตัว 5 บาท อุบาทว์ไม่มีใครเกิน น่าขยะแขยงเป็นที่สุดเท่าที่ผมเคยประสบพบเจอ!!!

ยิ่งถ้ามันบินได้ คุณไม่ต้องหวังเลยว่าคุณจะเป็นผู้รอดชีวิต เพราะมันพร้อมจะบินมาเกาะบนใบหน้าและดูดวิญญาณของคุณได้ทุกเมื่อ!!

“ฮือ ๆ พี่แบล็ค! พี่แบล็คคร้าบบบบ~! ผมจะไม่กลับบ้านดึกอีกแล้ว แง๊~~!!!”

เมื่อคืนผมเลยต้องนอนเกร็งตัวระแวดระวัง มีอะไรดุ๊กดิ๊กอยู่บนตัวนิดหน่อยผมก็นอย แทบไม่ได้นอนหลับเลยทั้งคืน ต่างจากไอ้บลูที่พอหัวถึงหมอนก็กรนคร่อก ๆ

“เป็นอะไรอ่ะ ดูซึม ๆ“ หัวหน้าเข้ามาถามไถ่อย่างเป็นห่วงเป็นใย ผมเพียงยิ้มบาง ๆ ส่งไปให้

“โห! ขอบตาดำปี๋เลย ฮะ ๆ” หัวหน้าหัวเราะคิกคัก… จะน่ารักปายหนายค้าบบบบบ

“รอน! มาดูตรงนี้ให้เราหน่อย!” เสียงเรียกของเธียรทำให้หัวหน้าผละไป

“…ดูท่าหมอนั่นจะหึงนายนะ” ผมสะดุ้งโหยงเมื่อภีมห้อยหัวลงมาจากโซฟา ทักทายผม

“อะไร!!” ผมเผลอหลุดปากตะโกนเสียงดัง รีบเอามือปิดปากตัวเอง

“ฮะ ๆ! นายนี่ตลกชะมัด เวลาตะโกนแล้วชอบทำหน้าตื่น ๆ บางทีก็หน้าแดง บางทีก็ตาขวาง ตามอารมณ์ไม่ทันเลย” ภีมขำกับท่าทีของผม ยิ่งทำให้ผมรู้สึกอายมากขึ้น

“ก่อนหน้านี้นายหมายความว่ายังไง ?” อะไรหึง ๆ นะ

“…ก็นายไม่สังเกตบ้างเหรอ ไอ้เธียรน่ะ มันชอบรอนจะตาย แต่รอนดันชอบมาเกาะแกะกับนายซะได้ มันก็เลยไม่ค่อยพอใจนายเท่าไหร่” ภีมบอก ทำเอาผมหน้าเหวอ….

ไม่!!!  ไม่จริงน่า!!!! เธียร….!! เธียรเป็นเกย์!!! แว๊กกกกกกกกกกกก!!!!

แถมยังชอบหัวหน้าห้องซะอีก  แง๊!!!  คนที่ผมแอบปลื้ม~!! หัวหน้าก็เทพซะขนาดน้าน ผมจะเอาอะไรไปสู้ค๊าบ~~!! (<<ว่าแต่เอ็งสู้เพื่อ ??) ม่ายน้า~

….ว่าแต่….ทำไมในใจของผมต้องรู้สึกแปล๊บ ๆ ด้วย…… ผมอาจจะเสียใจ เพราะคนที่ผมปลื้ม ดันเป็นเกย์ก็ได้
อืม…ๆ  …ผมพยายามยกเหตุผลให้ตัวเอง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า …..ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง ผมก็ยังชอบเขา…..

“ฮะ ๆ นายนี่ท่าจะบ้าแฮะ คิดอะไรออกมาทางหน้าหมดเลย ตลกจริง ๆ” ภีมเอื้อมมือมาลูบหัวผม ผมปัดมือเขาออกทันที แล้วจัดทรงผมตัวเองหน้ามุ่ย

“นายกำลังคิดว่า เธียรเป็นเกย์ใช่มั๊ย ?” ไอ้ภีมยื่นหน้ามาใกล้ มันรู้ได้ไงฟระ!

“ปะ…เปล่า” ผมปฏิเสธกุกกัก

“นี่! นาย 2 คนน่ะ กำลังจีบกันจริง ๆ ใช่มั๊ยฮะ!!” ฝ้าย สาวสวยหมวยโหด ถามอย่างอารมณ์เสีย ท้าวสะเอวมองผมที่นั่งคุดคู้อยู่ใต้โซฟากับไอ้ภีมที่นั่งอยู่บนโซฟา

“ปะ..”

“ใช่!!ถูกเผงเลย ใช่มั๊ยครับที่รัก” ภีมหัวเราะร่า ดึงแขนผมขึ้นไปนั่งใกล้ ๆ

“ใช่ที่ไหนล่ะ!” ผมเผลอตบกบาลมันไป 1 ที  เอฟเฟคมันกระจุยกระจาย ทำท่าบิดตัวร้องโอดครวญ กลิ้งตกจากโซฟาลงไปกุมหัว จนผมหมั่นไส้ อดที่จะเหยียบซ้ำไม่ได้

“นายทำอะไรเพื่อนเราน่ะ!” เธียรถามโกรธ ๆ ดูเหมือนเขาจะยิ่งติดลบผมนะ ฮือ ๆ… จากตอนแรกเป็นศูนย์ ตอนนี้ก็ยิ่งติดลบลงมาเรื่อย ๆ แล้วววว

“เฮ้ย ไอ้เธียร จริงจังไปป่ะวะ” ฝ้ายถามงง ๆ

“ขำ ๆ น่ะ ไม่ได้เจ็บจริง ๆ หรอก” ภีมลุกขึ้นบอกแก้ตัวให้ผม

ส่วนผมนี่แทบน้ำตาร่วง ถ้าพูดกันตามตรง ผมว่าผมกับเขาต้องวางมวยกัน ไม่วันใดก็วันหนึ่งแน่นอน…. เขาไม่เคยมองผมในแง่ดีเลย ให้ตายเหอะ!!

“หัวหน้า เจอกันพรุ่งนี้นะ” ผมหยิบกระเป๋า แล้วรีบสาวเท้าเดินออกจากห้อง

“นายจะไปไหน ฉันยังไม่เห็นว่านายจะช่วยอะไรเลย” เสียงเข้ม ๆ ที่ทำให้ผมเริ่มรู้สึกใจเต้นผิดจังหวะดังขึ้นขัด

“…แล้วนายคิดว่าไอ้โง่อย่างฉัน ทำอะไรได้บ้างล่ะ” ผมหันไปสบตามองเขาตรง ๆ เป็นครั้งแรก

“นายรอช่วยฉันเก็บของแล้วกัน” เธียรพ่นลมหายใจออก แล้วกลับไปนั่งดูชิ้นส่วนของงานต่อ ผมยืนนิ่งอย่างงงงัน… ในใจลึก ๆ ของผมก็แอบดีใจ ที่เขารั้งตัวผมไว้…

“กัณฐ์ แล้ววันนี้บลูไม่มาเหรอ ?” หมิงถาม ….หึย….. ยัยนี่เอนเอียงจากเธียรมาหาบลูแล้วแน่ ๆ เลย

ผมหรี่ตามองไปที่วีดีโอเกมส์ที่เปิดค้างอยู่หน้าจอทีวี ยัยบ้านี่ก็นั่งเล่นเกมส์ ไม่เห็นเขาจะว่าอะไรเลย! สงสัยที่เขาหึงผมมันจะจริง
ขี้โกงชัด ๆ!! ผมวางกระเป๋า เดินปึงปังออกไปนอกห้อง

“นายจะไปไหน ?” ภีมถาม

“ขี้!!” ผมตอบอย่างอารมณ์เสีย

_________________
จบไปอีก 1 ตอนค่ะ ยังไม่ค่อยมีอะไรคืบหน้าเท่าไหร่ สำหรับกัณฐ์ มีแต่ความเปิ่นที่เสนอหน้ามาให้เห็น ถึงวาระขอบคุณทุกเม้นที่เป็นกำลังใจให้กันค่ะ +1 ให้ทุกคนเลย o13
-Poes = แต้งยูจูจุ๊ปส์ จ๊ะ ห้ามหลอกเค้าน่ะ อุตส่าห์ได้หน้าม้ามาล่ะ คิคิ
-โจ๊กกุ้ง = ขอบคุณสำหรับการติดตามเสมอมาน่ะค่ะ ลุ้นไปเรื่อย ๆ น่ะค่ะ เธียรน่ะหนีไม่พ้นพรอก หึหึ สำหรับหัวหน้าน่ะ อ่านไปเรื่อย ๆ แล้วจะรู้เหตุผลที่เธียรปฏิบัติตัวแบบนี้น่ะค่ะ
-JJHJJH = ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ อยู่ด้วยกันยันจบน่ะค่ะ
-qq_oo = อย่าลืมติดตามกันไปเรื่อย ๆน่ะค่ะ กำลังใจสำคัญ
-samsoon@doll = ขอบคุณค่ะที่รอติดตามตอนต่อไป
-nigiri-sushi = อุ้ยน้องแพร์ ไม่ต้องเลย เจ้รอกุ๊กพฤกษอยู่น่ะ ได้ข่าววันนี้จะต่อตอน 3 น่ะเออ
-Zurruz =  จิ้มๆๆ คืนค่ะ ติดตามกันไปเรื่อย ๆ น่ะค่ะ หัวหน้าน่ะ ก็ตามประสา คนมีน้ำใจ ขั้ว + เหมือนกัน จูนกันไม่ได้น้า อิอิ
-tantalize = เก็บชื่อไว้ในลิสเลยน่ะ ห้ามถอนตัวด้วยเหอะ
-roseen = ขอบคุณค่ะ สำหรับการติดตามตั้งแต่บทนำ จนปัจจุบัน (แฮ่ะ ๆ ได้ข่าวเพิ่งลงได้ 2 ตอน พูดเหมือนเยอะ)
-O[]OVampire = ติดตามไปเรี่อย ๆน่ะค่ะ อันนี้ แค่น้ำจิ้ม ยังเปิดตัวไม่หมดเลย มีอีกคู่ให้เซอร์ไพรส์
-ovam = ใช่เลยค่ะ ไปขอคุณหยดมาลงที่นี่บ้าง ก็เนื้อเรื่องมันน่าสนใจไม่หยอก ช่ายไหมล่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจน่ะค่ะ ฮิ้วส์..
-kny = มาติดตามที่เล้าต่อด้วยน่ะค่ะ มาลุ้นไปด้วยกัน เนอะ
-YenOh = ในที่สุดก็เผยตัวสะทีน่ะค่ะ คุณหยด อิอิ ผลงานฮอตฮิตในบ้านเราแล้วน่ะค่ะ มีแฟนคลับตามมาด้วยน่ะเออ มาร่วมตื่นเต้นไปด้วยกันอีกครั้งนึงเนอะ

เฮ้อ.... มาทีเดียวตอบหมดทุกคนเลย อยากโค้งงาม ๆ สำหรับการติดตามและกำลังใจของทุกคนค่ะ เรื่องของคุณหยดไม่ได้แรง แต่มันอ่านแล้วยิ้มได้น่ะเออ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 3]up 10.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 10-05-2011 18:15:14
ชอบภีม เรื่องนี้ ภีมจะเป็นพระเอกมั้ยเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 3]up 10.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 10-05-2011 18:16:54
เดี๋ยวเราก็จะจิ้มคืน หุหุ เม้นก่อนค่อยอ่าน ฮา  :m23:

อ๋อ ที่จูนกันไม่ได้เพราะเป็น 'เคะ' เหมือนกันใช่ม๊า!!!  o18

/me  :haun4:

---------------------------------

ยังบวกไม่ได้ T^T ไม่เป็นไร จะรอมาบวกเนืองๆจนกว่ามันจะบวกได้  :m5:

อ่านแล้ว สงสารกัณฐ์นิดนึง แบบว่า ไม่ได้ชอบก็ไม่ว่า ยังจะมาเกลียดกันอีก เป็นเราเจ็บเเย่เเน่ๆ  :sad11:

รอตอนต่อไปนะจ๊ะ ให้กำลังใจทั้งคนเเต่งเเละคนโพสเลย
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 3]up 10.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 10-05-2011 19:39:08
เชียร์ภีมจ้า

ภีมสู้ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 3]up 10.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: YenOh ที่ 10-05-2011 20:15:52
อ่านรอบแรก กัณฐ์น่ารำคาญมาก

อ่านรอบที่สอง กัณฐ์ขี้โวยวายมาก

อ่านรอบที่สาม นังกัณฐ์มันอะไรเนี่ย!!!

๕๕๕

อยากจิ้ม + ได้บ้างแต่ระดับของหยดนั้นยังทำไม่ได้

ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ดีใจจริง ๆ ค่ะ :)
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 3]up 10.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 12-05-2011 17:59:41
เป็นกำลังใจให้ทั้งคนเขียนและคนโพสนะคะ

เรื่องนี้รักกี่เส้าคะเนี่ย เฮ้อ... หวังว่าคงไม่เศร้านะคะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 3]up 10.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 12-05-2011 19:52:41
มาเป็น fc เรื่องนี้อีกคนจร้า     สนุกมาเลย  :L1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 4 [up 10.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 12-05-2011 22:41:52
ตอนที่ 4

ผลั่ก!! ผมเดินชนกับใครซักคนเต็มแรง จนคอนเทคเลนส์หลุด แถมได้ยินเสียงดัง ‘แกร๊บ’ ส่งท้าย อันเป็นสัญญาณยืนยันว่า มันไปสู่สวรรค์แล้ว

“นี่!! นาย!!” ผมเอื้อมมือ ดึงคอเสื้อเชิ้ตของเขาอย่างอารมณ์เสีย แต่ดูจากหุ่นแล้ว นี่มันยักษ์ชัด ๆ เลยนี่หว่า!! หาเรื่องผิดคนแล้วมั๊ยล่ะตู

“เธอ…เธอนี่เอง!!” เสียงทุ้มนั้นดูตกใจนิด ๆ

“มาทงมาเธออะไร! นายเพิ่งเหยียบคอนเทคเลนส์ของผมแตกเลยนะ!!” ผมกระทืบเท้าเร่า ๆ แกจะต้องจ่ายค่าเสียหาย ไอ้หุ่นปลาบึก!!

“อ้อ… จำฉันไม่ได้ล่ะสิ” ฟังดูสำเนียงมันออกตัว th เหมือนฝรั่ง ดูผู้ดียังไงไม่รู้

“จำได้อะไร! ฉันไม่รู้จักนาย!”

“แต่เมื่อวานเธอแอบเข้าไปในห้องน้องชายฉัน” ผมหน้าเหวอ เอื้อมมือไปจับใบหน้าของปลาบึกนี่มาดูชัด ๆ แง!! ไม่เห็นเหมือนเธียรเลย!! หมอนี่โกหกแหงม ๆ!!

“นายโกหก!!” ผมตะโกนแล้วรีบวิ่งหนี แต่เจ้ากรรมนายเวรคงไม่เห็นใจ ดลให้ผมวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือไปชนกับขอบโต๊ะ …จุกจนร้องไม่ออก ได้แต่งอตัวเป็นกุ้งกุมกัณฐ์จูเนียร์ไว้

ฮือ ๆ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยได้ใช้มันเลยนะ อย่าตายนะลูกพ่อ!! หรือผมจะต้องผ่าตัดแปลงเพศเป็นกะเทย!! ม่ายยย~~~!!!!!

ในหัวสมองผมผุดภาพตัวเองมีนม ผมยาว ใส่รองเท้าส้นสูงเดินไขว้ขาอย่างกับนางแบบ พร้อมคุยหัวเราะระริกระรี้ชี้ชมหนุ่ม ๆ กับเพื่อนสาว

“ไม่เป็นไรนะ ?” มือหนาเอื้อมมาสัมผัสไหล่ผมเบา ๆ

ไม่เป็นไรก็บ้าแล้ว!!! ผมหน้าเขียวหน้าเหลืองหัวควับไปมองหน้าคนถาม….เอ่อ….ไม่เห็นว่ะ….

“นายต้องรับผิดชอบ!! พาฉันกลับไปห้องนั้นเดี๋ยวนี้นะ!” ผมตะครุบมือที่จับไหล่ไว้แน่น

“ฮะ ๆ ที่ไหนล่ะ ?” เสียงเขาถามกลั้วหัวเราะ

“เอ่อ…. ห้องที่มีเกมส์เยอะ ๆ อ่ะ” ผมเกาหัวเบา ๆ นั่นมันห้องอะไรวะ ?

“ห้องของเธียรน่ะเหรอ ? …..โอเค ฉันจะพาเธอไป ว่าแต่….. เธอชื่ออะไร ? ฉันชื่อ ธานินทร์… ธีร์ ….แล้วเธอ”

“ผมชื่อกัณฐ์” ผมบอกเบา ๆ

ผมเดินตามเขาต้อย ๆ แอบเอื้อมมือไปจับชายเสื้อเชิ้ต แต่มือหนา ๆ นั่นคว้าหมับที่มือของผมแล้วพาเดินไปเรื่อย ก๊อก ๆ…. เขาเคาะประตูไม้เบา ๆ ก่อนเปิด ดูมีมารยาทจังเว้ยเฮ้ย!

“เธียร พี่พาเพื่อนเธอมาส่ง” พี่ธีร์ ดึงมือผมไปนั่งโซฟาเงียบ ๆ

“หมอนี่หลงทางอีกเหรอฮะ ?” เสียงของเธียรทำให้ใจผมเต้นตึกตักอีกแล้ว…โธ่! ไอ้หัวใจไม่รักดี… เอ็งเพิ่งทะเลาะกับเขามานะ….

“อ้อ! เปล่าหรอก พี่ทำคอนเทคเลนส์ของเขาแตกน่ะ เลยพามาส่ง… เอ้าค่าเสียหาย พี่ไปแล้วนะ” ผมคว้ามือของเขาแล้วยัดเงินกลับคืน

“ข… ขอบคุณมากนะฮะ” ผมบอกเบา ๆ

“เอาไปเถอะ ฉันทำให้เธอลำบากนี่”

“ไม่เป็นไรฮะ… พี่ธีร์ค่อยเลี้ยงข้าวผมซักมื้อแล้วกัน” แต่ต้องเป็นอาหารโคตรหรูที่ขายชุดละพันนะ…

“ได้ครับ” พี่ธีร์ตอบรับแล้วเดินออกไป

“ว้าย เท่ห์จังเลย” … ยัยหมิงอีกแล้ว….

“เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้…” ฝ้ายพูดได้ถูกใจผมมากมาย แล้วเธอกับยัยหมิงก็ทะเลาะกันตามประสาเพื่อน

“กัณฐ์สายตาสั้นเหรอเนี่ย ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย” หัวหน้าทักเสียงใส

“จริงด้วย ดูไม่ออกเลยแฮะ” ภีมว่า

ผมบุ้ยปาก ความจริงตอนเด็ก ๆ ผมก็ไม่ได้สายตาสั้นหรอก แต่เล่นเกมส์คอมฯ นั่นแหละ ทำให้มันสั้น และสั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้เห็นเป็นภาพเละ ๆ หมดแล้ว

“ผมให้ยืมนะ” แว่นกรอบบางที่ผมมักจะเห็นมันอยู่บนใบหน้าของหัวหน้าบ่อย ๆ ตอนนี้มันมาอยู่กับผม และทำให้ผมเห็นสถาพรอบ ๆ ตัวดีขึ้นมาก

“หัวหน้าก็สั้นเยอะใช้ได้เลยนะ” ผมยิ้มบอก ดันแว่นให้เข้าที่

“โอ้โห! หรือว่าแว่นนี่มีเวทมนต์อ่ะรอน ดูกัณฐ์บอบบางน่ารักขึ้นมาทันตา” ไอ้ภีมคว้าคอผมไปกอด ถ่ายรูปลงมือถือของมันแชะ ๆ จนผมต้องร้องโวยวาย

ประมาณ 2 ทุ่ม ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ผมพยายามจะให้ความช่วยเหลือเธียรเต็มความสามารถ แต่ดูเหมือนตอนนี้ผมจะกลายเป็นตัวยุ่ง ที่ทำให้งานเยอะกว่าเดิมมากกว่า

“แล้วนายจะกลับยังไง” เธียรถาม

“ผมโทรให้บลูมารับแล้ว” ผมบอก ……. อยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 อ้ะ ผมเขินจะตายอยู่แล้ววววว

“…. ผมช่วยอะไรไม่ได้เลย” ได้แต่นั่งทำหน้าจ๋อย

“นายช่วยออกไปจากบ้านฉันได้” เธียรว่า  หง่ะ! เขารังเกียจผมขนาดน้าน…

“ผมไปก็ได้” ผมลุกขึ้นพรวดพราดด้วยความน้อยใจ แต่ดันสะดุดขี้มด(??) หน้าคว่ำลงไปกับพื้น

“โอย..” ผมร้องคราง ลูบหน้าตัวเองป้อย ๆ หวังว่าคงจะไม่มีอะไรในบ้านแตกหักนะ

“โอ๊ย..” เสียงอะไรฟระ?

“..ธ… เธียรเหรอ? นายเป็นอะไร?” ผมถามตื่น ๆ ลูบ ๆ คลำ ๆ ไปตามตัวเขา

“ไอ้!… เรียกพ่อบ้านมาที… เฮ้ย! นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น! นั่งอยู่ตรงนี้เฉย ๆ ฉันจัดการเอง!” เขาบอกอารมณ์เสีย

“เธียร! นายเป็นอะไร ? ผม…ผม” ผมละล่ำละลักถาม ดูเหมือนเขาจะเจ็บที่มือ…

มือ!!!!!! สิ่งสำคัญที่ใช้ในการเล่นดนตรีของเขา!! แว๊กกกกกกกกก!!

ผมกลับบ้านจ๋อย ๆ เมื่อเขาออกไปโรงพยาบาลแล้ว บลูเอาแว่นสมัยก่อนมาให้ใส่ มันช่วยได้ไม่มาก แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ใส่อะไรเลยล่ะนะ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมได้คิดว่า ถึงเขาจะดูใจร้ายกับผมไปซักหน่อย ทำท่ารังเกียจผมนิด ๆ แต่เขาก็ยังช่วยเหลือผม….. และเป็นตัวผมเอง ที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อเขาได้เลย…วันต่อมาผมไปโรงเรียนด้วยสภาพที่ดูเป็นเด็กเรียนที่สุดในชีวิต

“ข่าวใหญ่! ธรณินทร์  ศุกะศุภางค์ นิ้วซ้น!!” เน่งน้อยนางหนึ่งตะโกนโหวกเหวกในห้องเรียนของผม

แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!! หรือว่าาาา!!!!! เมื่อคืนนี้!!!!! เพราะว่าผม!!!! ม่ายจริงน๊าาาาาาา!!!!
 
…….T^T ผมขอโทษครับ……

____________________________________
 :m5:ขอโทษจริง ๆ คร้าบบบ สำหรับความล่าช้า งานรุมเป็นไฟ เพื่อนใจร้ายไม่ให้ยืมเครื่อง ชริ มาเล่นเครื่องบ้านก็ได้ มาเร็วเคลมเร็ว ไว้ตอนหน้ามาเม้าส์กันเนอะ รอบนี้ มาหย่ิอน ๆ ก่อน คิคิ ขอบคุณสำหรับการติดตามอย่างต่อเนื่องค่ะ มันจะข้นขึ้นเรื่อย ๆ เชื่อจิ

หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 4]up 12.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 12-05-2011 23:22:16
จิ้มๆๆ

โอ๋เอ๋ๆ อยากอ่านต่อ! อ๊ากกก
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 4]up 12.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 13-05-2011 15:37:52
กัณฐ์นี่ซุ่มซ่ามจริงๆๆ

จะเชียร์ใครดีน้า ธีร์ หรือ ภีม
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 4]up 12.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 13-05-2011 15:59:33
ว๊าวววว  เรื่องน่าติดตามค่ะ ดูท่าทางแล้วจะมีหลายคู่ ชิมิ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 4]up 12.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 13-05-2011 18:05:51
เพิ่งมาอ่าน หนุกมากอ่า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 4]up 12.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 13-05-2011 18:19:50
อยากอ่านต่อ
สนุกมากเลยค่า
นายเอกของเราซึนๆ รั่วๆ เนอะ
แต่ที่แน่ๆ พระเอกซึนยิ่งกว่า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 5 [up 14.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 14-05-2011 15:46:00
ตอนที่ 5

“เอ่อ…” ผมอยากจะพูดกับเขาหลายครั้งแต่ก็มีสาว ๆ และหนุ่ม ๆ(??) มายืนล้อมหน้าล้อมหลังจนเข้าไปแทรกไม่ได้

“พี่เธียรค้าาาาาา..” เธอเป็นบ้ารึไง ลากเสียงซะยาว กลัวใครเขาไม่ได้ยินเหรอ

“เธียร~~~!” เสียงดังไปถึงไหน ห้องก็มีแค่นี้เองเจ๊!!!

“น้องเธียรรรรรรรรร” โอ๊ยยยยยยย ปวดตับ!!

“โว๊ยยยยยยยยย!!!!!!!!” ผมยกโต๊ะตัวเองอย่างอารมณ์เสีย

“เงียบ ๆ หน่อยได้มั๊ยฮะ!!” ….. เงียบกริบ…… สาว ๆ ที่มุงอยู่จนล้นห้องจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!! หนุ่มแว่น เท่ห์จัง!!! ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย!”

“เท่ห์ระเบิดระเบ้อไปเลยค่า!”

“หยุดนะ เขาคือสามีของฉันนนน~”

แย๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก~!!!!!!!!!!!! สาว ๆ สมัยนี้ทำไมน่ากลัวขนาดนี้คร้าบบบบบบบบ!!!!!!! ผมส่ายหัวด๊อกแด๊ก รีบหาทางหนีทีไล่ แต่มีมือหนึ่งคว้าหมับลากผมเซหลุน ๆ แล้ววิ่งหนีสาว ๆ นับสิบที่วิ่งกรูตามกันมา

“ข…ข…ขอบ!!” เขาใช้มืออีกข้างปิดปากผมไว้แน่น เมื่อเราวิ่งกันจนหอบเหนื่อย แถมแอบในซอกใต้บันไดเบียดกายแย่งอากาศหายใจ

“ฉันรู้แล้วน่า! นายไม่ต้องตะโกน” เขากระซิบเสียงลอดไรฟัน ผมจับมือที่กำลังปิดริมฝีปากของผมออก พอเห็นมือที่มีผ้ากอซพันอยู่ก็ได้แต่ทำหน้าจ๋อย

“นายไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย! รู้มั๊ยว่าฉันลำบากขนาดไหน!” ถ้าทำได้ ผมก็อยากตัดมือของผมยกให้เขาอะนะ T^T

“ผ..ผมขอโทษจริง ๆ… ทำยังไงนายถึงจะยกโทษให้ ?” ผมแอบบีบมือตัวเอง กระมิดกระเมี้ยน หลุบตาต่ำ รู้สึกเสียใจก็มาก แต่อายมันมากกว่านี่นา

ผมไม่เคยอยู่ใกล้ใครจนแทบหายใจด้วยรูจมูกเดียวกันแบบนี้มาก่อน~~!! รู้ตัวอีกที เขาก็จับมือของผมไปบีบไว้แน่นแล้ว ง่า…. ผมรู้อ่ะนะ ว่าคุณโกรธ แต่ว่าการเจ็บมือทั้ง 2 ฝ่ายนี่… มันจะดูยุติธรรมเกินไปมั๊ย ? ผมกับเขาตกอยู่ในความเงียบนานจนน่าอึดอัด

“นาย..”

“เจ็บ!” ผมบอกเขาเมื่อหมดความอดทน เธียรสะดุ้ง รีบปล่อยมือออก

“ท..โทษที” เขาบอกเบา ๆ ผมบีบนวดมือตัวเองคลายความเจ็บ คนบ้าอะไรแรงเยอะชิบ

“… วันนี้นายมาทำคานไม้นั่นแล้วกัน” เขาบอกเสยผมอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

“ผมคำนวณอะไรไม่เป็นหรอกนะ” ผมบอกหงอย ๆ

“แล้วเธอจะรับผิดชอบเรื่องนี้ยังไง อาทิตย์ที่จะถึงนี้ฉันต้องออกงาน ถ้ามันหายไม่ทัน…”

“โอเค ๆ” ผมบอกตัดเสียงอ่อย พอได้ยินว่าจะออกงานแล้วก็ใจอ่อน เพราะผมแท้ ๆ ที่ทำให้เขาไม่สามารถบรรเลงเพลงที่แสนไพเราะให้ผู้ชมฟังได้…..เฮ้อ….ถึงจะไม่ชอบ แต่ก็ขอให้อย่าติดลบผม แล้วกันน๊า…

“วันนี้ไม่มีใครมาเหรอ ?” ผมถาม ขณะนั่งเล่นอยู่บนโซฟาตัวเก่ง

“อืม…. นายไปหยิบคานไม้นั่นมาซิ” เธียรชี้ให้ผมไปหยิบอุปกรณ์ที่ทำค้างไว้

“ใกล้จะเสร็จแล้วยัง ?” ผมวางมันลงบนโต๊ะ ดูจากงานแล้ว ก็น่าจะเสร็จไปเกินครึ่ง

“เหลืออีกนิดหน่อย เอ้า! ช่วยเจาะแล้วก็ ไขน็อตลงตรงที่ทำเครื่องหมายไว้ด้วยนะ” เขาโยนถุงพลาสติกเล็ก ๆ ที่บรรจุน็อตขนาดกลางมาให้ผม แล้วเขาก็ทิ้งตัวนอนลงบนโซฟา ปล่อยให้ผมเข่นเขี้ยว นั่งทำงานให้เขา

ให้ตายสิ! ผมไม่ได้เล่นเกมส์มาหลายวันแล้วนะ คิดถึงเพื่อน ๆ ในเกมส์จะแย่ ป่านนี้พวกมันคงเลเวลทิ้งห่างผมไปไกลแล้ว
แต่ไม่ถึงชั่วโมง งานของผมก็เสร็จสมบูรณ์ เอ…. แต่ดูเหมือนมันขาดอะไรบางอย่างนะ ใช่เลย!

ผมหยิบสีเมจิกในกระเป๋ามาขีดเขียนลงบนเนื้อไม้ แต่มันดูไม่ค่อยสวยซักเท่าไหร่แฮะ.. เอาไว้วันหลังค่อยเอาสีอะคิลิกมาลงทับให้แล้วกัน จริงสิ วันนี้ผมคิดว่าจะไปทำคอนเทคเลนส์นี่นา ผมเก็บของใส่กระเป๋า หันไปมองคนที่นอนหลับสบายใจเฉิบ…

คนบ้าอะไรวะ หล่อชะมัด.. ผมเดินเข้าไปหาเขา จับมือที่มีผ้ากอซนั้นขึ้นจูบเบา ๆ เขาจะรู้ตัวบ้างมั๊ยว่ามีคนที่ชอบเขาอยู่ตรงนี้อีกคน …. นี่ถ้าเขารู้ว่าผมชื่นชมเขา เขาจะดีใจบ้างมั๊ย ? ….แต่ให้ตายเถอะ เขาเคยเห็นหน้าผมแล้วนี่นา.. หรือว่าเขาจะจำผมไม่ได้ ? …..ผม อาจไม่ได้อยู่ แม้แต่ในความทรงจำของเขา….. เจ้ย!

ผมทำอะไรเนี่ย!!! ผมรีบวางมือของเขาลง แล้วหยิบกระเป๋า วิ่งออกไปจากห้อง ผมแวะซื้อน้ำข้างทาง เดินอีกหน่อยเดียวก็ถึงร้านแว่นแล้ว  จู่ ๆ ก็มีควาย 2 ตัวยืนบังทางของผม ผมพยายามเดินหลีกให้ แต่มันก็เข้ามาผลักไหล่ผมจนเซถอยหลัง

“เห้ย! ไอ้แว่น!!” เอาแล้วไงเมิง…..

“ไรวะ!!” ผมจ้องตอบอย่างหาเรื่อง

หน้าตาของผมมันกวนอวัยวะเบื้องล่างหรือยังไงกัน ?? ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเข้าไปหาเรื่องใครก่อนเลยซักครั้ง! มันก็ต้องมีเรื่องมาหาผมทุกทีซิน่า… ผมแลกหมัดกับพวกมันอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงหุ่นผมจะไม่ให้ แต่ใจผมสู้นะเว้ย!!!!! พวกมันหมัดหนักไม่เบา เล่นเอาผมปวดเนื้อปวดตัวไปหมด แต่จู่ ๆ ก็มีคนมายืนบังตัวผมไว้

“……” เสียงทุ้มของชายร่างยักษ์กระซิบพูดอะไรซักอย่าง ดูเหมือนพวกมันคงจะกลัวหุ่นของเขา พากันวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง

“…” ผมก้มลง คลานหาแว่น มือหนา ๆ นั้นก็สวมแว่นแตก ๆ ให้ผม แว่นของผมหล่นกระแทกพื้นจนเลนส์หลุด แถมถูกเหยียบซ้ำจนขาเบี้ยวผิดรูป ทำเอาเซ็งไปเลยทีเดียว ผมมองผู้ช่วยชีวิตผ่านเลนส์ส่วนที่เหลืออยู่

“เธอนี่ ไม่ดูตัวเองเลยนะ…” สำเนียงของเขาฟังดูคุ้น ๆ ชอบกล

“….พี่ธีร์”

“ว่าไงเรา” เขายิ้มจนเห็นฟันขาวส่งมาให้

_________________________
กลับมาพร้อมความคืบหน้าอีกนึดนึง ลุ้นกันอยู่ใ่ช่ป่ะค่ะ ว่าจะกดเลือกใครให้กัณฐ์ดี ระหว่าง
1.เธียร..ชายหนุ่มฝังใจของกัณฐ์
2.ภีม..ผู้ซึ่งกะลังทำตัวเหมือนหมาหยอกไ่ก่กัณฐ์ คิคิ
3.พี่ธีร์...เค้ากะลังมาเป็นเทพบุตรในสายตากัณฐ์น่ะ ขอบอก
4.รอน...หัวหน้าห้องผู้ซึ่งยังสงสัยในความเคะและเมะ
 :เฮ้อ:แค่ 4 คนก็ปวดหัวแล้ว ขอบอกว่าเข้มจริง อะไรจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างมีสาเหตุ และที่มาค่ะ ติดตามกันต่อไปน่ะจ๊ะ nc คงอีกไม่นาน ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 5]up 14.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 14-05-2011 16:04:05
มาติดตามอ่านแล้วจ้า
อิอิอิ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 5]up 14.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 14-05-2011 16:06:06
นั่นซีนะ ลุ้นอยู่เหมือนกัน แต่ดิฉันน่ะใจเอนเอียงไปที่พี่ธีร์ล่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 5]up 14.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-05-2011 17:24:21
ชอบภีมนะ แต่พี่ธีร์ก็น่าสน ว้ายยยยยยยเลือกไม่ถูก  :-[

แต่ว่า ขอ NC มาอ่านก่อนได้มะ  :jul3:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 5]up 14.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 14-05-2011 18:14:52
เราขอกดให้พี่ธีร์ค่ะ ไม่เอาเธียร 555
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 5]up 14.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 14-05-2011 18:21:05
ส่วนตัวนี่ชอบรอนนะครับน่ารักดี  
แต่ดูแล้วนะ มีแต่รอนคนเดียวนะที่ กัณฐ์มีสิทธิ์จิ้ม  555+
แต่คนอื่นนั้นกัณฐ์โดนแน่ :-[
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 5]up 14.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: saylmya ที่ 14-05-2011 21:34:22
ว๊าย!!! เลือกไม่ถูกเลยอ่า  :-[

แต่ลึกๆแอบเชียร์หนุ่มภีม

ชอบค่ะ หมาหยอกกัณฐ์ อิ อิ  :z1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 6 [up 16.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 16-05-2011 08:36:01
ตอนที่ 6

พี่ธีร์ตัดแว่นใหม่พร้อมคอนเทคเลนส์ให้ผม!! พี่เขาบอกว่าจะรอให้ผมเลี้ยงข้าว เหอ ๆ แล้วยังจะพาผมไปหาหมอเพื่อทำแผลอีกต่างหาก

“ไม่เป็นไรครับ ผมชินแล้ว เดี๋ยวญาติผมทำแผลให้” ผมพยายามปฏิเสธจนพี่เขาอ่อนใจ พาผมไปส่งที่บ้าน ….ดีจังตังค์อยู่ครบ!!  พอถึงบ้านก็โดนไอ้บลูบ่นตามปกติ

“ของเก่าหาย ของใหม่ก็มา” ผมทำได้เพียงยิ้มแหย ๆ ส่งไปให้มัน

“พรุ่งนี้เอ็งจะหยุดเรียนมั๊ย ?” มันถาม อืม… หยุดไปเล่นเกมส์ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ~

“…พอเลย เอ็งคิดจะไปเล่นเกมส์ล่ะสิ” มันมองอย่างรู้ทัน

“เกลียดจริง ๆ เลย ไอ้คนรู้ทันเนี่ย” ผมยิ้ม

“พี่กัณฐ์ มีเรื่องมาอีกแล้วเหรอฮะ!?” บราวน์ ไอ้เด็กที่เจริญเติบโตตามผมจนมันจะเกินหน้าผมไปแล้วกระโดดขึ้นมานั่งตัก
ปวดแปล๊บ ๆ เลย ให้ตายเหอะ!! ตัวมันก็จะเท่าผมอยู่แล้ว แถมยังอ้วนกว่าผมอีก (ของเอ็งเรียกแห้งแล้ว)

“ไอ้บราวน์ ตัวเท่าควายแล้ว สงสารไอ้กัณฐ์บ้าง มันยิ่งผอมแห้งอยู่ เดี๋ยวกระดูกเดาะขึ้นมาจะได้เรื่อง”

“โธ่ พี่บลูอ่ะ บ่นไปเรื่อย พี่กัณฐ์ยังไม่เห็นว่าอะไรเลย” บราวน์บอกทำหน้าแบ๊ว ไม่เข้ากับเอ็งอย่างแรง!!

“ไอ้บราวน์ ลุก ๆ ตัวหนักว่ะ” ผมท้วง ดันหลังมัน

“ชิส์” มันกระเถิบตัวมานั่งข้าง ๆ ผม

“สมน้ำหน้า” ไอ้บลูพึมพำใส่น้องชาย

วันถัดมา ผมนั่งเล่นเกมส์จนเด็กอนุบาลเลิกเรียน แล้วจึงตัดสินใจไปบ้านของเธียร ดูเหมือนยามบ้านเขาจะจำหน้าผมได้ รีบเปิดประตูต้อนรับทันที

“คุณหนูเธียรกำลังฝึกซ้อมเปียโนอยู่ครับ” พ่อบ้านบอก ผมทำหน้าเหรอหรา นิ้วซ้นอยู่ไม่ใช่รึไงฟะ!

“เชิญตามกระผมมาเลยครับ” พ่อบ้านค้อมตัวลงอย่างนอบน้อม และเดินนำผมไป

เสียงเปียโนดังแว่ว ๆ แล้วหยุดลง … ฟังดูมันไม่เป็นเพลงซักเท่าไหร่นา ผมให้พ่อบ้านกลับไปทำหน้าที่ ส่วนตัวผมนั้นแอบมองเขาอยู่หน้าประตูห้อง (ทำตัวแอบจิตได้อีก) ผมมอง เธียรถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า

“โธ่เว๊ย!!” เขาคำรามและทุบมือลงบนแป้นคีย์อย่างแรงจนเกิดเสียงสะท้อน …ง่า… ดูเหมือนว่าผมจะทำให้เขาหงุดหงิดมากเลยนะเนี่ย

“ใจเย็นหน่าเธียร เดี๋ยวนายก็หายแล้ว ไม่น่ารีบซ้อมตอนนี้เลย” ภีมเดินเข้าไปตบบ่าเพื่อน ไอ้หมอนี่อยู่ด้วยเหรอฟะ!!

“ถ้าไม่เป็นเพราะหมอนั่น!! ฮึ่ม!”  …ง่า…

“อ…เอ่อ…” ผมส่งเสียงแทรก แง้มประตูให้กว้างขึ้น แอบหักนิ้วตัวเองดัง ‘เป๊าะ’ เบา ๆ

“อ้าว!”

“นายมาทำไม ?” เธียรถามอย่างหัวเสีย

“ผมมาทำคานนั่น” ผมบอก

“เขานัดกันมาพรุ่งนี้” โอย.. อย่าทำเสียงหล่อได้มั๊ย หัวใจผมจะหลุดออกมาแล้วนะ!!

“..ร…เหรอ..” ผมเม้มปาก เกาศีรษะแก้เขิน

“มานี่สิ นายจะมาทำงานจริง ๆ เหรอ ?” ภีมเดินมากอดคอผมออกไปจากห้องนั้น

“อืม…” ผมตอบเบา ๆ

“ฉันอยากดูจัง ว่านายจะทำอะไรได้บ้าง” ภีมยิ้ม พาผมไปยังห้องที่เริ่มจะคุ้นตา…เพราะมาบ่อย อิอิ วันนี้ผมเอาสีอะคิลิกมา พร้อมที่จะระบายสีลงบนเนื้อไม้แล้ว โย่ว!

“วันนี้ทำไมนายไม่ไปโรงเรียน” ภีมถามขึ้นขณะที่ผมตั้งใจลงสี ….. ผมเงียบ

“นายไปมีเรื่องมีอีกแล้วใช่มั๊ย ?” เขาถาม

“เกี่ยวอะไรกับนาย ?”

“เกี่ยวสิ! ทำไมถึงชอบไปมีเรื่องให้เจ็บตัวด้วยฮะ! พ่อแม่นายเขา…”

“อย่ามายุ่ง!!” ผมตวาดหัวเสีย ใช่ว่าคุณลุงคุณป้าจะให้ผมมีเรื่องชกต่อยหรอก แต่ผมก็อธิบายแล้วทุกครั้ง ว่าพวกมันมาหาเรื่องผมก่อน!!!

“เฮอะ! นายนี่มันน่า…” ภีมเอาแขนมาล็อคคอผม

“ทำไรวะ ภีม” ผมขมวดคิ้ว ไม่ละมือจากงานตรงหน้า

“ทำไมนายตัวเล็กงี้อ่ะ กินอะไรบ้างรึเปล่า ?” มันถามเสียงนุ่มข้างหูผม เล่นเอาขนลุกเกลียว แล้วยังเอื้อมมืออีกข้างมาโอบรอบเอวผมอีก

“เอามือของแกออกไป” ผมบอกเมื่อเริ่มรู้สึกว่ามันชักจะโบร๊คแบล๊ค เข้าไปทุกที

“ฮึ” มันปล่อยมือออกจากตัวผมช้า ๆ เฮ้อ โล่งใจ… ระหว่างที่ผมทำงาน ไอ้ภีมก็ชอบเข้ามายุ่ง โอบบ้าง หยอกบ้าง จนผมรำคาญ ส่วนมันก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ โรคจิตรึไงฟะ !!

“ยังไม่กลับกันอีกเหรอ ?” เธียรเดินเข้ามาถาม ดูเหมือนเขาจะจงใจถามผมนะ - -*

“อีกนิดนึง” ผมบอก ดูผลงานในมือตัวเองอย่างชื่นใจ ถึงผมจะทำอะไรไม่ได้เรื่อง แต่เรื่องวาด ๆ เขียน ๆ เนี่ย ผมมั่นจาย~!

“ภีม นายรู้จักที่ไหน ขายกระดาษสวย ๆ บ้างมั๊ย ?” เธียรถามเพื่อนซี้ของเขา

“ไม่อ่ะ ทำไมเหรอ ?”

“เราจะเขียนจดหมาย”

“ก็ใช้ A4 ดิ”

“อยากได้แบบ ที่มีสีโทนนุ่ม ๆ หน่อย หามาหลายร้านแล้ว ไม่ค่อยมีแบบที่อยากได้เลย” …ยืมของผมไปใช้ก็ได้นะ

“กัณฐ์พอจะรู้จักป่าว ?” ภีมถาม ผมพยักหน้าหงึกหงัก

“นี่ไง! ก็ให้กัณฐ์พาไปซื้อดิ ว่าแต่จะเขียนให้ใครวะ ??”

“ยุ่งหน่า… พรุ่งนี้แล้วกัน โอเคมะ” รู้สึกว่าท้ายประโยคเขาจะคุยกับผมนะ… ผมพยักหน้าเบา ๆ

“ฮั่นแหน่!!” ภีมหยอกล้อกับเพื่อนของเขา ผมลงชื่อย่อตัวเองลงบนงาน เสร็จแล้ว!!

“ผมกลับละนะ” ผมบอกขณะเก็บอุปกรณ์

“ฉันไปส่ง” ภีมพูดขึ้น ผมขมวดคิ้ว แต่ก็พยักหน้าให้ ผมแอบเหลือบมองนิ้วมือของเธียรอย่างเป็นห่วง

“… นิ้วบวมกว่าเดิมอีก …. ถ้านายอยากจะหายก็น่าจะพักก่อนนะ” ผมบอกเขาเบา ๆ ถึงแม้จะรู้ว่า เขาไม่ได้ใส่ใจคำพูดของผมเลยก็ตาม….. ผมเดินกลับบ้านกับภีมด้วยความเงียบกริบ

“กัณฐ์” ภีมเรียกชื่อผมเบา ๆ ผมหันไปเลิกคิ้วให้เขา

“เปล่า” เขาบอกอมยิ้ม  บ้าป่าววะ…

“แล้วนายจะกลับยังไง ?” ผมถาม

“เดี๋ยวเรานั่งแท็กซี่กลับ”

“บ้านอยู่ไหนอ่ะ เดี๋ยวเราขับมอไซค์ไปส่ง”

“ไม่ต้องหรอกน่า …ส่งกันไป ส่งกันมา ไม่ได้กลับบ้านพอดี” ภีมลูบหัวผมเบา ๆ คิดว่าตัวเองสูงกว่ารึไงฟะ!

_______________________
 :z3:จากที่จะลงทุกวัน กลา่ยเป็นลงวันเว้นวันไปสะงั้น หึ หึ แต่ก็โอเคเนอะ บอกได้คำเดียวว่ามันข้น และข้นไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะตอนต่อไป กร๊ากกกกก อืม ๆ ลืม ที่บอกออกไป เชียร์กันหลายคนเลยง่ะ แต่ไม่ต้องห่วง ผู้ที่พลาดชิงกัณฐ์ ทางผู้แต่งก็ใจงาม หาคู่ให้ด้วยน่ะเออ..รอบนี้ มีแอบแนะนำตัวละครนำให้ด้วย อยู่ที่หน้าแรกเลยน่ะ อย่าลืมไปดู คงไม่ต้องเดาล่ะ ว่าใครจะได้กะใคร อ่าห์.
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 6]up 16.05.54 พร้อมแนะนำตัวละคร
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 16-05-2011 09:27:12

หลงรักกันฐ์ง่ะ 55555
ทำไมน้องดูน่ารักจัง ไม่เห็นน่ากลัวเลย
เธียรนี่ตกลงชอบคุณหัวหน้าจริงๆหรอเนี่ยะ เฮ้อออ
แต่เราจะเชียร์ เธียรกัณฐ์ต่อไป ก๊ากกก 55

+1 จ้าาาา รออ่านตอนต่อไปอยู่น้า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 6]up 16.05.54 พร้อมแนะนำตัวละคร
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 16-05-2011 10:38:58
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ...น่ารักอย่างแรง
ว่าแต่ไม่ค่อยบรรยายลักษณะตัวละครเลยอ่ะ อ่านตอนแรก ๆ นึกว่าน้องกัณฐ์ใส่แว่นหนาเตอะซะด้วยซ้ำ
มาต่อเร็ว ๆ นะคะ :กอด1:

เหมือนเธียรจะไม่ค่อยชอบกัณฐ์เอาซะเลย...ตรงข้ามกับภีมที่ชอบมายุ่งด้วยตลอด เปลี่ยนพระเอกเลยดีมะ?
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 6]up 16.05.54 พร้อมแนะนำตัวละคร
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 16-05-2011 14:36:25
เย้ๆๆๆๆๆๆ ตอนต่อไปมาแล้ว

เข้มข้นจริงๆๆๆๆ ค่ะ
สนุกมากด้วย
จะคอยติมตามผลงานค่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 6]up 16.05.54 พร้อมแนะนำตัวละคร
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 16-05-2011 14:46:36
เอาพี่ธีร์เลยมะๆ เบื่อเธียร

เเต่ดูท่าเเล้ว ไม่พี่ธีร์ ก็ ภีมล่ะวะ *-*
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 6]up 16.05.54 พร้อมแนะนำตัวละคร
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 16-05-2011 16:41:41
เนื้อหาเยอะ ลงวันละสองตอนไม่ได้หรอ  :impress: อยากรู้นิว่าพระเอกคือใคร แม่งนัวเนียกันไปหมด  :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 6]up 16.05.54 พร้อมแนะนำตัวละคร
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 16-05-2011 20:41:49
^
^
^
เห็นด้วยเลยครับวันละ 2 ตอนท่าจะดี  555
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 6]up 16.05.54 พร้อมแนะนำตัวละคร
เริ่มหัวข้อโดย: Chatcha ที่ 16-05-2011 21:08:04
เหมือนเขาจะเคยอ่านในเด็กดีเลยอะ

ว่าแล้วก็กลับไปดูดีกว่าว่าใช่อะป่าว

หึหึหึ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 7 [up 17.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 17-05-2011 15:22:34
ตอนที่ 7

“อ้าว! เชิญเลยจ๊ะ น้อง” พี่บี พี่เจ้าของร้านที่ผมมักจะมาซื้อกระดาษทักทาย ผมยิ้มแหย ๆ เดินนำเธียรเข้ามาในร้านที่บรรยากาศดี๊ดี เปิดแอร์เย็นฉ่ำชุ่มปอด

เขาเดินเลือกอยู่นานพอสมควร และไปหยุดที่ ๆ หนึ่ง ซึ่งผมคลับคล้ายคลับคลาว่า ตรงนั้น… กระดาษตรงนั้นมัน… เป็นลายที่ผมใช้เขียนให้เขาเป็นประจำนี่นา…. เขาอาจจะชอบลายเดียวกับผม หรืออาจจะจำลายจดหมายของผมได้ คิดแล้วก็ใจเต้นตึกตัก
แต่ให้ตายเถอะ …ขนาดผมที่เป็นคนให้จดหมายเขายังจำกันไม่ได้เลย เธียรเลือกกระดาษมา 2-3 แบบ ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นลายที่ผมใช้เป็นประจำ

“เอ่อ… พี่ครับ มีคนที่มาซื้อกระดาษลายนี้ไปใช้บ่อย ๆ พี่พอจะจำหน้าเขาได้มั๊ยครับ..”

“แหม! พี่จำไม่ได้หรอกจ๊ะ ว่าลูกค้าซื้อลายแบบไหน แต่พี่จำหน้าลูกค้าได้หมดทุกคนเลยนะ” พี่บียิ้มบอก

“งั้น.. พี่เคยเห็นผู้ชายตัวเล็ก ๆ ผิวขาว ๆ ใส่แว่นตา เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อนมั๊ยครับ ?”

“เอ… เมื่อ 2-3 ปีก่อนเลยเหรอ ? พี่คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นนะ…เอ….ก็น้องคนนี้ไงจ๊ะ” พี่บีชี้มาที่ผมที่ทำหน้าเอ๋อ ๆ

“…” เธียรมองหน้าผมเซ็ง ๆ…

“ที่ไม่ใช่หมอนี่ล่ะครับ ?” เขาถามพี่บีอีกครั้ง

“อืม… นอกจากน้องคนนี้เหรอ… ก็มีอีกคนนะคะ ที่ลักษณะตามที่น้องว่ามา แต่เขาไม่ค่อยเข้ามาที่นี่บ่อย”

“แล้ว… พี่พอจะรู้มั๊ยครับ ว่าเขาชื่ออะไร ?” สีหน้าของเขาดูดีขึ้น

“แหม! พี่ไม่รู้ถึงขนาดนั้นหรอกจ๊ะ ..เอาไว้วันหน้าถ้าพี่เจอเขาพี่จะถามให้นะ” พี่บียิ้มหวาน

“..ขอบคุณครับ”….เธียรบอกเสียงเบา……ดูเหมือนเขาจะตามหาใครซักคนอยู่… ใครกันนะ ที่ทำให้เขาทำหน้าแบบนี้ได้…. คน ๆ นั้นทำให้ผมรู้สึกอิจฉาจริง ๆ ผมกลับมานั่งบนโซฟา ซึมซับอากาศเย็น ๆ หลังจากออกนอกบ้านตากแดดร้อนเกือบชั่วโมง

“นี่ฝีมือกัณฐ์หมดเลยเหรอ ?” หัวหน้าถามอย่างตื่นเต้น เขย่ามือผม

“ใช่เลยรอน ฉันนี่ดูหมอนี่ลงสีตลอด” ภีมบอก

“อเมซิ่งมาก ๆ !“ ฝ้ายยิ้ม ตีไหล่จนผมรู้สึกปวด

“เก่งเหมือนกันนี่นา” หมิงกล่าวชม อดทำให้ผมปลื้มในตัวเองไม่ได้ แล้วทุกคนก็แบ่งหน้าที่กันอภิปรายและจัดแสดงคานไม้นี่ ยกเว้นผมอ่ะนะ

“เอ๊ะ นายลงลายเซ็นไว้ด้วยเหรอ ?” หมิงถาม ผมพยักหน้าเบา ๆ

“นี่ไม่ใช่งานนายคนเดียวนะยะ ฉันลงชื่อบ้างสิ” ฝ้ายบอกแล้วเพื่อน ๆ ก็กรูกันลงชื่อบนงานกลุ่ม เธียรถอนหายใจและส่ายหน้าไปมา ราวกับมันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากมาย

“มือของนายโอเครึยัง” ผมถามเธียรเบา ๆ

“โอเคหรือไม่ ยังไงฉันก็จะเล่นเปียโน” เขาบอกผมเรียบ ๆ

ผมแอบรู้สึกหน้าร้อน ๆ…..เท่ห์ชะมัด!!!… ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ที่ได้มาอยู่ใกล้เขาขนาดนี้ ได้ยินเสียงของเขา ได้พูดคุยกับเขา ถ้าหากผมนั่งฟังเขาเล่นเปียโนด้วยความชื่นชมเพียงอย่างเดียว ผมก็อาจเป็นได้แค่ผู้ชมที่เขาไม่เคยรู้จัก

“กัณฐ์! ไม่สบายเหรอ ? หน้าแดงอ่ะ” ภีมทัก เอามือมาจับหน้าผาก แต่ผมปัดแขนเขาออกอย่างรวดเร็ว

“ป..เปล่า!” ผมเผลอส่งเสียงดังอีกแล้ว ม่ายยยยย~~!

“ฮะ ๆ อายเหรอ ? อายใช่มั๊ย ? ฉันเริ่มดูนายออกแล้วนะ” ภีมหัวเราะร่า ล็อกคอผม อ๊ากกกกกก!!!

“เฮ้ย!! ปล่อย!! ไม่เล่น ๆ” ผมรีบก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงจัด สะบัดไอ้ภีมออกจากตัว

วันอาทิตย์ ผมฝากจดหมายให้คนในโรงแรมเอาไปให้เขา ผมไม่กล้าเข้าไปภายในงาน กลัวเขาจะเจอผม…. แต่ว่า….อุตส่าห์มาทั้งที….  ผมอดที่จะแอบด้อม ๆ มอง ๆ ในงานเลี้ยงหรูนี่ไม่ได้

ผมได้ยินเสียงประกาศชื่อของเขา… เสียงปรบมือ… ตามมาด้วยเสียงเปียโนแสนไพเราะ… ตอนนี้ผมอยากเห็นหน้าเขา …… ผมอยากเห็นนิ้วมือเรียวสัมผัสแป้นเปียโนใกล้ ๆ…..

“ทำอะไรน่ะกัณฐ์” แย๊กกกกกก!!! ผมหัวควับไปมองหน้าคนถาม…ธ่อ… พี่ธีร์นี่เอง…

“ค…คือ..”

“ไม่ใส่แว่นแล้วเหรอ ?” พี่ธีร์ถามยิ้ม ๆ ….ง่า…เวลายิ้มนี่ คล้าย ๆ เธียรเลยน้า….

“มันเกะกะน่ะฮะ” ผมอ้อมแอ้มบอก

“แล้วไม่เข้าไปในงานล่ะ ?” ผมรีบส่ายหัวพรืด

“ฮะ ๆ งั้นไปเดินเล่นกับพี่ที่สวนข้างบนนี่แล้วกัน” พี่ธีร์จูงมือผมผ่านสาว ๆ กลุ่มใหญ่ พวกเธอมองผมแล้วหัวเราะคิกคักจนผมรู้สึกเสียความมั่นใจ

ซิบก็รูดแล้วนี่หว่า…..บรรยากาศสวนลอยฟ้านี่ดีมากมาย มีคนใส่ชุดราตรีสวย ๆ เดินอยู่เบาบาง แถมยังมีน้ำพุที่เปิดแสงไฟอยู่ด้วย ผมยิ้มกว้างกับบรรยากาศดี ๆ มีต้นไม้เยอะ ๆ ที่หาได้ยากนี้

“ชอบมั๊ย ?” พี่ธีร์ถามเบา ๆ ผมพยักหน้าแรง ๆ แล้วเดินไปนั่งบนม้านั่งที่เขาจัดเตรียมไว้ให้

“อากาศดีจังเลยนะฮะ ไม่เหมือนตอนกลางวันเลย” ผมชวนคุย

“อืม…” พี่ธีร์ยิ้ม นั่งลงข้างผม เราคุยกันเรื่องสัพเพเหระ พอผมรู้สึกตัวอีกทีมันก็เริ่มจะดึกมากแล้ว

“เอ่อ… พี่ธีร์ ผมต้องขอตัวก่อนนะฮะ” ผมขออนุญาต

“เธออายุเท่าไหร่แล้วล่ะปีนี้” พี่ธีร์ถามขัด ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นยืน

“17 ฮะ ทำไมเหรอ ??”

“เปล่า… เธอจำได้รึเปล่าว่าฉันเคยเจอกับเธอมาก่อน” พี่ธีร์ยิ้มอีกครั้ง

“หา ??”

“ตอนนั้นเธออายุประมาณ 15 มั้ง เราเจอกันในงานคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิกที่xxxฮอล์ไง” ผมหน้าเหวอ เอา 2 มือกุมหัว จำไม่เห็นได้เลยเว้ยเฮ้ย!! -*-

“จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ฮะ ๆ ฉันแค่อยากจะบอกว่า ตอนนั้นฉันติดใจในความน่ารักของเธอ” ผมรู้สึกหน้าร้อน… พี่ธีร์พูดอย่างกับสารภาพรักยังไงอย่างงั้น…

“ผ…ผม..ผมขอตัวก่อน” มือหนา ๆ นั้นจับข้อมือของผมไว้แน่น

“….ฉันชอบเธอ…กัณฐ์” ….บรรยากาศโรแมนติกมาก พี่ธีร์สบสายตามองผมอย่างลึกซึ้ง อย่างกับพระเอกนางเอกในละครน้ำเน่าเลยโว๊โฮ่!!

“..ผ…ผมไม่ใช่เกย์นะฮะ!!” แย๊กกกกกกกกกกกก!!!!!! ผมเผลอทำเสียงดังอีกแล้ววววว!!!!!!!!!!! ผมอายมาก แกะมือของพี่ธีร์ออกแล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปภายในโรงแรม

“เอ้อ.. ฉันหมายถึงถูกชะตาน่ะ” ผมไม่ทันได้เห็นพี่ธีร์เกาหัวอย่างงง ๆ เพราะการใช้คำศัพท์ผิดความหมายไปหน่อยนึง… และทำให้ผมเข้าใจผิดไปเสียใหญ่โต ผมเดินกลับเข้ามาตามทางเดิม…. ผู้หญิงในชุดเกาะอกสีชมพูกำลังแบกเพื่อนชายของเธออย่างทุลักทุเล

“..ให้ผมช่วยมั๊ยครับ” ผมถามเธอเบา ๆ

“เอ๊ะ! ขอบคุณมากค่ะ คุณ ?” เธอหันมายิ้มกว้างให้ผม ผู้หญิงคนนี้ดูเด็ก ๆ ยิ้มสวย มีลักยิ้มที่แก้มซ้าย ผมเป็นลอนสีน้ำตาลถูกม้วนเป็นมวยอย่างเป็นระเบียบ ปล่อยให้ไรผมตกลงมาเล็กน้อย

“ผมกัณฐ์ครับ” ผมบอก ช่วยเธอพยุงแขนเขาอีกข้าง

“ฉันธาค่ะ ฉันไม่เห็นคุณในงานเลย” เธอส่งยิ้มหวานให้ผม

“..ผมไม่ได้เข้าไปในงานนี่ครับ” ผมบอก

“พี่ชายฉันเขาเป็นแบบนี้ประจำเลยค่ะ เวลาออกงาน ต้องให้ฉันกำจัดสาว ๆ ที่จะฉุดไปเข้าห้องทุกทีสิน่า” เธอบอกเหมือนรำพึงกับตัวเอง

“อ้อ…ตายแล้ว! ฉันฝากพี่ชายฉันด้วยนะคะ ฉันขอไปหยิบกระเป๋าก่อน” เธอบอกแล้ววิ่งกลับไป ให้กุญแจห้องกับผม…นี่ถ้าผมเป็นโจร บ้านเธอคงไม่เหลืออะไรแล้วล่ะ - -*

“ท…” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบพึมพำแผ่วเบา…

ผมเหลือบมองหน้าพี่ชายของเธอ… แย๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!  เธียรรรรรรรรร~~!!! ผมพาเธียรไปถึงห้องนอนของเขาก็หอบแฮ่ก ตลอดทางเขาพึมพำคนเดียวเหมือนคนบ้า เธียรนอนบนเตียง…ลืมตาขึ้นมองผมหวานเยิ้ม

“มองอะไร! นายนะนาย! กินอะไรมาเนี่ย เมาหมดสภาพเลย” ผมบอกหงุดหงิดจัดเสื้อผ้าตัวเอง ตั้งใจจะออกไปจากห้องใหญ่โตแสนหรูนี่เสียที

จู่ ๆ แขนใหญ่ ๆ ก็คว้าหมับเข้าที่คอ   แย๊กกกกกกกกกกกกก!!!!! คอ!!! คอ คอ ค๊อ คอ.. ทำไมต้องจับคอของโผมมมมมมม~~~

“ทอร์… อย่าไปจากฉันนะ…” เสียงแหบพร่าบอกเบา ๆ ที่ใบหูผม แถมยังงับเบา ๆ อีกต่างหาก!! ผมสะบัดตัวอย่างแรงด้วยความตกใจปนความอาย แต่ปัญหาคือมันไม่หลุดนี่สิ!!

“ปล่อย! นายบ้าไปแล้วเธียร!” ผมรู้สึกใบหน้าร้อนฉ่า พยายามเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู

แกร๊ก! เวร! ใครคล้องโซ่ไว้วะ!! จู่ ๆ ตัวของผมก็ลอยหวือ เธียรใช้เท้าปิดประตูเสียงดัง เขาพาผมกลับเข้าไปภายในห้อง โยนผมลงบนเตียงนุ่ม แอ่กกกกกกก!!!!! นายจะทับผมทำม๊ายยยยยยยยยยยย

“เธียร!! เล่นบ้าอะไร! ผมกัณฐ์น๊าาาาา~~~~~!” ผมร้องพยายามดันตัวเขาออกห่าง

“ท..ทอร์..” ทอร์เตี่ยแกเซ่!!!!!!!

_______________________
ตัดฉับ......... 555555 (ค้าง nc ไว้ก่อนเนอะ ไม่รีบกัน)ไว้ตามกันตอนต่อไปน่ะจ๊ะเด็ก ๆ คิคิ มาทิ้งทวนก่อนเปิดงาน วู้ววววว และอีกครั้ง..ขอบคุณสำหรับการติดตามเสมอมาคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 7]up 17.05.54 เปิดเวทีปลุกปล้ำกันล่ะ..
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 17-05-2011 15:39:44
เอ่อ ... ถ้ามีอะไรกันจริงๆอ่ะนะ ถ้าเธียรเป็นพระเอกก็ดีไป

เเต่ถ้าไม่ เรามันโรคจิต ออกแนวอยากให้นายเอกมีอะไรกะพระเอกคนเดียวพอ เหอๆ

อ๊ะๆ รอๆ เธียรเป็นพระเอกก็ได้น่ะนะ เเต่ ..


เค้าไม่ปลื้ม!!
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 7]up 17.05.54 เปิดเวทีปลุกปล้ำกันล่ะ..
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 17-05-2011 15:58:21
อิอิอิ จะรอจ้า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 7]up 17.05.54 เปิดเวทีปลุกปล้ำกันล่ะ..
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 17-05-2011 16:11:28
จำใว้เลย  ค้างตอนใหนไม่ค้าง
แต่ดูแล้วกันฐ์ต้องค้างอยู่แล้วใช่เปล่าครับ  หึหึ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 7]up 17.05.54 เปิดเวทีปลุกปล้ำกันล่ะ..
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 17-05-2011 18:11:55

-,- ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ
ค้างงงงง โอ้วไม่นะ น้องกัณฐ์จะเสร็จเธียรแล้วหรอเนี่ยะ โฮะๆๆ
55555555.

รออ่านตอนต่อไปจ้าา
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 7]up 17.05.54 เปิดเวทีปลุกปล้ำกันล่ะ..
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 17-05-2011 19:04:54
ถ้าจะมีอะไรกันจริง ๆ กรุณารับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำลงไปด้วยนะ(ถึงจะจำไม่ได้ก็เถอะ)
แล้วกัณฐ์จะทำยังไงล่ะ...สงสารอ่ะ :m16:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง [บทที่ 7]up 17.05.54 เปิดเวทีปลุกปล้ำกันล่ะ..
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 17-05-2011 19:14:46
เรื่องนี้สนุก และน่ารักมากค่ะ
เคยติดตามผลงานในเด็กดี
การันตีได้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 7.5 [up 21.05.54] nc เล็กๆ
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 21-05-2011 23:54:20
ตอนที่ 7.5

ผมพาเธียรไปถึงห้องนอนของเขาก็หอบแฮ่ก ตลอดทางเขาพึมพำคนเดียวเหมือนคนบ้า เธียรนอนบนเตียง…ลืมตาขึ้นมองผมหวานเยิ้ม

“มองอะไร! นายนะนาย! กินอะไรมาเนี่ย เมาหมดสภาพเลย” ผมบอกหงุดหงิดจัดเสื้อผ้าตัวเอง ตั้งใจจะออกไปจากห้องใหญ่ๆ แสนหรูนี่เสียที จู่ๆ แขนใหญ่ๆ ก็คว้าหมับเข้าที่คอ คอ!!! คอ คอ ค๊อ คอ.. ทำไมต้องจับคอของโผมมมมมมม~~~

“ทอร์… อย่าไปจากฉันนะ…” แย๊กกกกกกกกกกกกก!!!!! เสียงแหบพร่าบอกเบา ๆ ที่ใบหูผม แถมยังงับเบา ๆ อีก ผมสะบัดตัวอย่างแรงด้วยความตกใจปนความอาย แต่ปัญหาคือมันไม่หลุดนี่สิ!!

“ปล่อย! นายบ้าไปแล้วเธียร!” ผมรู้สึกใบหน้าร้อนฉ่า พยายามเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู แกร๊ก! เวร! ใครคล้องโซ่ไว้วะ!!

จู่ ๆ ตัวของผมก็ลอยหวือ เธียรใช้เท้าปิดประตูเสียงดัง เขาพาผมกลับเข้าไปในห้อง โยนผมลงบนเตียงนุ่ม แอ่กกกกกกก!!!!! นายจะทับผมทำม๊ายยยยยยยยยยยย

“เธียร!! เล่นบ้าอะไร! ผมกัณฐ์น๊าาาาา~~~~~!” ผมร้องพยายามดันตัวเขาออกห่าง

“ท..ทอร์..” ทอร์เตี่ยแกเซ่!!!!!!!

“เธียร!!!!!” ผมจับหน้าเขามองหน้าตัวเองตรง ๆ

“..กัณฐ์..” โอว…บุดดา… ใช่แล้ว! ฉันคือเพื่อนร่วมห้องที่นายเกลียดขี้หน้าไง!

“ไม่ใช่!” แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกก~~~~~!!!!!! ผมร้องโหยหวน ตะกุยแขน แถมทุบไหล่เขาดังอั่ก ๆ ผมไม่อยากชกหน้าให้เขาเสียหล่อนี่นา - -*

“โอ๊ย!!” มือของผมถูกรวบไปตรึงไว้เหนือศีรษะ เธียรมองหน้าผมตรง ๆ ก่อนจะก้มลงประกบปากช้า ๆ เหมือนกับตัวของผมจะลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศ เล่นรถไฟเหาะตีลังกา สมองของผมถูกหมุน ๆ ๆ แล้วส่งแรงเหวี่ยงออกไปนอกโลก

“อ..อือ…” แล้วจู่ ๆ ก็มีอะไรไม่รู้เข้ามาในปากผม มันนุ่ม ๆ เปียก ๆ …….. ผมต้อง…….ต้อง…….. นิ้วมือสากจากการฝึกซ้อมเปียโนของเขาลูบไล้ไปตามตัวของผม… ว่าแต่เขาถอดชุดของผมเมื่อไหร่เนี่ย!!!!!!

“ธ..เธียร!!อ..” ผมถูกเขาประกบจูบอีกครั้ง…ลิ้นนุ่ม ๆ ของเขาซอกซอนเกี่ยวกระหวัดภายในโพรงปากของผม…. ราวกับว่าถูกดูดพลังชีวิตออกไปยังไงอย่างงั้น ผมหมดแรงที่จะต่อต้านเขาแล้ว….. เมื่อมือของผมถูกปลดปล่อย ผมก็สอดมือเข้าสู่ไรผมสีนิล และสนองตอบจูบของเขา

“ทอร์..” เขากระซิบเสียงแหบพร่า นิ้วมือสากลากคลึงยอดอกของผม

“โอย…ผ..ผมไม่…” ริมฝีปากของผมถูกปิดอีกครั้ง มือร้อน ๆ นั่นลูบไล้ไปทั่วตัวของผม ผมรู้สึกร้อนเหมือนถูกไฟแผดเผา แอร์ที่เปิดไม่ช่วยให้ผมรู้สึกเย็นขึ้นแม้แต่น้อย

เธียรระดมจูบบนใบหน้าของผม มืออุ่นร้อนของเขาลูบสัมผัสทั่วร่างกายของผม และกดคลึงกลางลำตัว ฝ่ามือส่งความร้อนผ่านผ้าหนา ๆ จนตัวของผมรู้สึกร้อนตาม ความรู้สึกของผมราวกับตกสู่เพลิงไฟที่เขาปลุกเร้าขึ้น….โดยที่ผมเต็มใจ ผมได้ยินเสียงกระซิบแหบพร่า…เรียกชื่อใครซักคน…ที่ไม่ใช่ผม……………..… ไม่ใช่ผม …..

“..ธ ….เธียร….เธียร!!” ผมเรียกเขาเสียงดัง พยายามดิ้นหนี

“อย่า!!! อย่าหนีผมไป! อย่าทิ้งผม…” เธียรร้องเสียงหลง เขากอดรัดตัวผมแน่น จนน่าอึดอัด

“อ….ฮะ…” ผมร้องครางเมื่อมือร้อน ๆ หันมาปรนเปรอให้ผม

“ธ…เธียร! …นายจำ….ผิดคน!!…ฉัน..ฉันไม่…อ๊ะ…” ผมเหยียดขาเกาะไหล่เขาแน่น

เขาขยับมือเร็วขึ้น จนร่างกายผมเกร็งสะท้าน  ผมหายใจเหนื่อยหอบ ทิ้งตัวลงนอนอย่างอ่อนล้า ผมมองเธียรปลดกระดุมเสื้อออกช้า ๆ… เซ็กซี่จังเลยน๊า… โอ๊ย!! ผมกำลังคิดอะไรเนี่ย!! ผมทึ้งหัวตัวเองอย่างอารมณ์เสีย ตอนนี้ผมควรรีบหนีออกไปเซ่!! หรือไม่ก็พยายามเตือนสติเขา!!

“เธียร! นาย..อุ๊บ!” พอผมเปิดปากเท่านั้นแหละ พ่อคุณก็ตรงเข้ามาจู่โจมผม.. อ๊ากกกกก!! อย่าเอาลิ้นเข้ามาด้ายม้ายยยยยย~~~!!

“อึ๊….อืม….” ผมตอบรับจูบอ่อนหวานที่เขามอบให้ และขยับตัวอย่างอึดอัด

“..ท..ทำอะไร ?” ผมถามเบา ๆ เมื่อรู้สึกในกายคับแน่น …เขายิ้มดวงตาหวานเยิ้ม ซุกไซร้ซอกคอของผม เธียรขยับมือช้า ๆ แล้วเร่งขึ้น… ผมร้องไม่ออก……เจ็บจะตายหองงงงงงง~!!!!! จนเมื่อผมรู้สึกดีขึ้น…..เขาก็เพิ่มจำนวนนิ้ว….

“เจ็บนะ!” ผมส่งเสียงประท้วง แต่เขาเพียงส่งยิ้มหวานให้ผม …ดวงตาคม ๆ นั้นมองผมหวานเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์….. ทำไมเขาต้องยิ้มแบบนี้ด้วยเนี่ย!!

“ทอร์เทอร์เรอ (torturer)… มอง..ผมไว้นะ… ผม..คือ..เจ้าของคุณ..”  เขากระซิบบอกเสียงสั่นพร่า จับขาผมแยกกว้างโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของผม…ไม่กี่วินาทีต่อมา ผมก็กรีดร้องเต็มเสียง จิกนิ้วลงบนไหล่ของเขาเต็มแรง รู้สึกว่าในตัวผมแน่นจนแทบปริแตก

“ชู่ว์ กัดไหล่ผม… กัดไหล่ผมนะ” ผมน้ำตาร่วง พยักหน้าแรง ๆ

“อึ..อ…อื้อออออออ!!” เธียรเบียดตัวแนบกับผมจนแทบเป็นเนื้อเดียวกัน

“.อ….อืม….ท..ทอร์…” เสียงของเขากระเส่า….แต่ผมไม่ใช่ทอร์!! น้ำตาของผมยิ่งร่วงผล็อยมากกว่าเดิมจนสะอึกสะอื้น

“ชู่ว์.. อืม….” ดูเหมือนเขาพยายามจะปลอบผม แต่ร่างกายของเขากลับขยับเคลื่อน จนผมรู้สึกเจ็บเจียนตาย

“ฮ..ย…อย่าเกร็ง…” เสียงทุ้มกระซิบบอกติดขัด… เขาหยุดการเคลื่อนไหวพยายามทำให้ผมผ่อนคลายขึ้น

“อ..อึก..ฮือ..” ผมดึงทึ้งผ้าปูเตียงจนมันยับยู่ยี่ เมื่อเขาค่อย ๆ เคลื่อนกายเบา ๆ จนผมเริ่มรู้สึกดีขึ้น

“ฮ..อ…” เธียรจูบผมอย่างเร่าร้อนแล้วค่อย ๆ ขยับกายถาโถม ผมร้องอู้อี้ในลำคอ เอื้อมมือคล้องลำคอเขา แอ่นกายรับสัมผัสตามสัญชาตญาณ

ก๊อก ๆ ๆ

“พี่เธียร!” เสียงหวานของผู้หญิงเรียก แต่ไร้การตอบรับจากคนภายในห้อง

…..ชายหนุ่มหอบหายใจแรง ประกบจูบริมฝีปากแดงช้ำอีกครั้ง มือหนาจับเนื้อบั้นท้ายแยก แล้วกระแทกกายซ้ำ…ร่างบางกดเล็บลงบนหลังของเขาเพื่อระบายความรู้สึก

ก๊อก ๆ ๆ

“พี่เธียร ๆ!” คนในห้องไม่มีวี่แววจะตอบเธอกลับมาซักครั้ง…… เธอฝากกุญแจให้คนแปลกหน้า ที่รู้จักแค่ชื่อเพราะความรีบร้อนและสะเพร่าแท้ ๆ เชียว….. หรือจะถูกยกเค้าไปทั้งห้องแล้วนะ ..ชายหนุ่มกัดฟันกรอด จับตัวร่างบอบบางพลิกแล้วถาโถมกายใส่

“โอ๊ะ!!..อ…ฮ.…อ๊า!…..” กัณฐ์ร้องเสียงหลง ซุกหน้าลงในหมอน

ก๊อก ๆ ๆ

“พี่เธียร ๆ!” เสียงหวานเรียกอีกครั้ง เธอยืนอย่างกระสับกระส่าย …

“เอ๊ะ…ก็ไม่ได้ล็อกนี่นา…” หญิงสาวเปิดประตูออก แต่มันติดกับโซ่คล้องประตู ดวงตากลมส่องมองเข้าไปภายในห้อง และเธอได้ยินเสียง….ธารีบปิดประตูห้องกลับ หญิงสาวเอามือปิดปาก ใบหน้าแดงซ่าน…

พี่เธียร!! ….พี่ชายของเธอ….กับ…ผู้หญิง ?? แต่ใครกันที่เข้าห้องพี่เธียรได้ ??…..หรือว่าผู้ชายคนนั้น…..ไม่หน่า….หญิงสาวเลิกคิด.. วิ่งกลับไปหาญาติผู้ใหญ่…

“..อ…จ…จะเสร็จแล้ว…ทอร์….ฮ….” เธียรกระซิบบอกเสียงพร่า โอบรั้งเอวบอบบางเข้ารับแรงกระแทกหนักหน่วง ชายหนุ่มรู้สึกถึงแรงบีบรัดมากขึ้น

กัณฐ์แอ่นกายหยัด เมื่อคลื่นโถมเข้ากระทบฝั่ง มือเล็กบางจิกทึ้งผ้าปูที่นอนแน่นรู้สึกซ่านเกษม ร่างบอบบางได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่

“อ…” กัณฐ์หอบหายใจทิ้งตัวลงนอน ….รู้สึกถึงแรงกดทับจากด้านหลัง

“ผมรักคุณ….” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วข้างใบหู…..กัณฐ์รู้สึกพูดไม่ออก… เขามีความสัมพันธ์กับคนที่คิดว่าเขา …….ไม่ใช่เขา…..

“..ค…คุณร้องไห้เหรอ?… ทอร์ …..” เธียรถามเสียงอ่อนโยน ชายหนุ่มประทับจูบปลอบประโลมบนหลังคอขาวนวล สูดดมกลิ่นกายหอมหวาน… พลันความรู้สึกของเขาก็พลุ้งพล่านขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มสังเกตเห็นรอยฟกช้ำบางแห่งบนร่างกายของร่างบอบบาง แต่ก็ไม่ได้สนใจ… ตอนนี้ภารกิจตรงหน้าเขาสำคัญกว่า

เธียรนำพาคนใต้ร่างเข้าสู่ช่วงเวลาหฤหรรษ์อีกครั้ง…. ชายหนุ่มเก็บเกี่ยวความหอมหวานที่น่าลิ้มรสจากร่างตรงหน้าอย่างไม่รู้เหนื่อย

เธียรตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนสาย….. ชายหนุ่มได้กลิ่นกายหอมกรุ่น แต่เมื่อเอื้อมมือคว้า กลับพบเพียงความเย็นชืด และว่างเปล่า
ชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตาขึ้น กลิ่นคาวของกามกิจอบอวลภายในห้อง เขาเลิกผ้าห่มขึ้นพบร่องรอยของการร่วมรักและคราบเลือด…..
กระดาษใบเล็ก ๆ ถูกเขียนทิ้งไว้ด้วยลายมือที่เขาคุ้นตา

‘ผมจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน…TK..’ ชายหนุ่มน้ำตารื้อ…… นี่เขาได้กอดคน ๆ นั้นจริง ๆ เหรอ….. เขาได้กอดคนที่เขารักจริง ๆ ใช่มั๊ย ??…..

_______________________________
 :o12:หายไปนาน กระทู้ตกไปเลยง่ะ แต่มะเป็นไร อย่าได้แคร์ อิอิ เอา nc มาฝาก สุดท้าย กัณฐ์ก็ไม่รอดเงี้อมมือเธียร รู้กันแล้วใช่ป่ะล่ะ ว่าเธียรน่ะรักครายยยยย ฮี่ๆ ดูต่อไปน่ะ อาจจะพลิกกกก ก็ได้ วันนี้เอาเบื้องหลังฉาก nc จากหยดมาฝากด้วยน่ะค่ะ
------ เบื้องหลัง 7.5 -----
ในตอนแรกกะให้กัณฐ์เป็นฝ่ายรุกค่ะ…. เพราะเธียรท่าทางจะเมาหนัก ลุกขึ้นมาต่อต้านไม่ไหวหรอก ฮึ ๆ ๆ …..แต่เมื่อคิดดู แล้ว…….เอิ่ม…….ขอบอกตามตรงว่า….ไอ้กัณฐ์….. รุกไม่รอดค่ะ!!…..กัณฐ์ไม่กล้าทำอะไรน้องเธียรหรอกค่ะ…อย่างดีก็แค่ด้อม ๆ มอง ๆ คิดนั่นคิดนี่ ล่วงเกินเล็กน้อย แอบจิตได้อีกนิดหน่อย…เฮ้อ!…...เพราะฉะนั้น…ฮึ ๆ ๆ ๆ……ทำให้เธียรแปลงกลายเป็นหมาป่าซะ ว่ะฮ่ะฮ่ะ ฮ่ะฮ่า!!!!!!! เท่านี้ก็สำเร็จ ^O^ ยิปปี้~!! มีความสุขกับการอ่านนะคะท่านผู้่อ่าน…….
แล้วพบกัน... :bye2: โอ่ะ ลืมค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและการติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อความจริงเปิดเผย[บทที่ 7.5]up 22.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 22-05-2011 00:04:34
 :z3:   ทำไมเธียรถึงทำอย่างนี้หล่ะ     
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อความจริงเปิดเผย[บทที่ 7.5]up 22.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Ainsley ที่ 22-05-2011 01:41:09
 :impress2: กรี๊ดดดดดดดดดดด ชอบเรื่องนี้มาก
แต่ในเด็กดีมันอ่านไม่ได้แล้วอ่า T.T
เธียร์กำลังจะรู้ึความจริงแล้ว โว้วววววววววว~
ลงต่อไวๆ นะ ชอบมากค่ะ ฮิๆ

อดใจไม่ไหวจะอ่านคู่พี่แบล็คแล้วนะ อิอิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อความจริงเปิดเผย[บทที่ 7.5]up 22.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 27-05-2011 09:19:51
จะรอตอนต่อไปนะค้า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อความจริงเปิดเผย[บทที่ 7.5]up 22.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 27-05-2011 09:37:45
ต่างคนต่างเข้าใจไปคนละทาง...จะโทษใครดี
ทำไมอ่านแล้วเศร้ามากกว่าหื่นฟะ :o12:

....................

มาอัพเร็ว ๆ นะคะ...ชอบเรื่องนี้มากกกกก~ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อความจริงเปิดเผย[บทที่ 7.5]up 22.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 27-05-2011 20:48:08
น่ารักดีจ้า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อความจริงเปิดเผย[บทที่ 7.5]up 22.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-05-2011 21:08:33
สงสารนายเอกเราจริงๆ ได้เลือดเลย  :z1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อความจริงเปิดเผย[บทที่ 7.5]up 22.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 27-05-2011 22:06:13
ทอร์ คือใครเนี้ยยยยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อความจริงเปิดเผย[บทที่ 7.5]up 22.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: namwaan1992 ที่ 28-05-2011 00:56:03
คนเขียนคร้าบๆ  0//o  จุ้บๆ ^^

เธียร์กับผม  เกิดวันเดียวกันด้วย  ดีใจ!!~?
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อความจริงเปิดเผย[บทที่ 7.5]up 22.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 28-05-2011 04:49:35
โอวววว
จะบอกว่า เรื่องนี้ผมจำได้ๆๆๆ ในเด็กดีเคยอ่าน ชอบมากกก
แว้กกก ดีใจที่ได้อ่านอีก ><
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 8 [up 28.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 28-05-2011 08:15:08
ตอนที่ 8

ผมตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ของอีกวัน… นี่มันวันจันทร์นี่นา! ผมเด้งตัวแล้วก็รู้สึกเจ็บช่วงล่าง….. นี่มันไม่ใช่ห้องนอนของผม… ผมก้มลงมองคนที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ …… เธียร……

ผมจำเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ทันที…. น้ำตาผมปริ่มขอบตา …. มองดูชายหนุ่มที่นอนหลับเหมือนเด็ก ๆ ผมเอื้อมมือไปลูบศีรษะเขาเบา ๆ… แล้วก้มลงจูบขมับ….

ผมทนเจ็บ ลุกขึ้นหยิบเครื่องแต่งกายมาใส่ ....ต้องรีบกลับบ้าน….มองคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวอยู่บนเตียง… ผม…..ผมจะดูเป็นคนเห็นแก่ตัวไปมั๊ย ?…… ถ้า..อยากให้เขารู้ว่าคือคนที่ชื่อกัณฐ์…….ผมไม่ใช่ตัวแทนของใคร…….

ผมตัดสินใจเขียนข้อความมากมาย ลงในกระดาษ และเกือบทุกอันถูกขยำทิ้งลงในถังขยะ จนสุดท้าย ผมก็ตัดสินใจเลือกข้อความนี้ ก่อนที่เขาจะตื่นขึ้นมา….แล้วผมก็มุ่งตรงกลับสู่บ้าน

พี่แบล็คดูโมโหมาก ที่ผมกลับมาตอนเช้า  คุณลุงกับคุณป้าก็เป็นห่วงผมมาก ท่านเพิ่งเข้านอนก่อนที่ผมจะกลับมา พอพี่แบล็คเห็นอาการของผม เขาก็ดูเย็นลง และพยักเพยิดให้ไอ้บลูเข้ามาปลอบผม

“เฮ้ย เป็นอะไรวะกัณฐ์” บลูถามผมอย่างห่วงใย จนผมน้ำตารื้อ

“ฮ…บลู….ฮือ…ร…เราเจ็บ…..เจ็บเหลือเกิน…” ผมบอกเสียงเครือจับมือของมันไว้แน่น

“เจ็บตรงไหนกัณฐ์ ใครทำให้เอ็งเจ็บ ?” บลูถามอย่างเป็นห่วง มองสำรวจร่างกายของผม ..จะให้บอกว่าเจ็บตูดรึไงเล่า!!!

“วันนี้ไม่ต้องไปโรงเรียนแล้วกัน บลูอยู่ดูแลกัณฐ์นะ” พี่แบล็คบอก แล้วลูบหัวผมเบา ๆ ทำให้ผมร้องไห้สะอึกสะอื้น บลูนั่งอยู่เป็นเพื่อนผมจนผมรู้สึกดีขึ้น

“… เกิดอะไรขึ้นกับเอ็ง ? ….” บลูถามเบา ๆ

“….” ผมมีเพียงความเงียบเป็นคำตอบ

“รอยพวกเนี้ย… เอ็งไปมีอะไรกับผู้หญิงมางั้นเหรอ ?” บลูถามด้วยความไม่แน่ใจ….. กลับกันเลยว่ะไอ้เพื่อนยาก….

“บ้าเอ๊ย” ผมพึมพำเบา ๆ จะลุกหนี แต่รู้สึกเจ็บช่วงล่างจนต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่

“…ข้าว่ามันชักแปลก ๆ แล้วนะ เอ็งไปทำอะไรมา” ไอ้บลูถามเสียงเครียด มันช่วยพยุงตัวพาไปยังห้องของผม

“…ปวดท้องอ่ะ บลู” ผมบอกอ้อน ๆ ไล่ให้มันออกไปซื้อของกิน แล้วจัดการชำระล้างร่างกายของตัวเองให้สะอาด

ชายหนุ่มไปโรงเรียนด้วยความเร่งรีบ เขาก้าวเข้าห้องเรียนด้วยความร้อนรุ่มในหัวใจ มือหนาคว้าหมับที่ข้อมือของร่างเล็ก ๆ …หัวหน้าห้องของเขา…

“อ้าว หวัดดีเธียร” รอนทักทายเพื่อนร่วมห้องที่เพิ่งมาอย่างเป็นมิตร

“เรามีเรื่องต้องคุยกัน รอน” ชายหนุ่มบอกเสียงขรึม

“เอ้า! มีเรื่องอะไรเหรอ ?” รอนถามงง ๆ

“เมื่อวานนายอยู่ที่ไหน ?”

“หืม ? ก็อยู่บ้านน่ะสิ” ชายหนุ่มร่างเล็กบอก

“โกหก!!” เธียรตวาดเสียงดัง

“เธียรเป็นอะไร ?? เมื่อคืนผมอยู่ที่บ้านจริง ๆ นะ” รอนคิ้วขมวดอย่างงงงัน

“บอกผมมาเดี๋ยวนี้ เมื่อคืนคุณไปงานของคุณหญิงเพตรา ใช่มั๊ย !?” เธียรตวาด จับไหล่ร่างบางเขย่าแรง จนผู้หญิงคนหนึ่งช่วยขัด

“เอ้อ… รอนอยู่ที่บ้านจริง ๆ ฉันโทรหาเขาตอนเที่ยงคืน เพราะดูหนังเกาหลีเรื่องเดียวกันน่ะ..” ชลบอก ขยับแว่นหนาบนดั้งจมูกเบา ๆ

“…ข..ขอโทษ….” เธียรบอกเบา ๆ รอนทำหน้างง ๆ มองเขาที่อารมณ์แปรปรวนอย่างไม่เข้าใจ

…เขารู้อยู่แล้วว่ารอนไม่ใช่….. แล้วใคร … ใครกันล่ะ ??

“เอ่อสวัสดีฮะ” ภีมและเพื่อนสนิทของเขาไหว้ผู้ใหญ่ที่อยู่ในบ้าน

“อ้าว! มาเยี่ยมกัณฐ์เหรอลูก” หญิงวัยกลางคนเอ่ยอย่างเป็นมิตร

“พ่อหนุ่มคนนั้นหน้าคุ้น ๆ นะแม่” ชายวัยกลางคนทัก เด็กหนุ่มที่รู้สึกคุ้นหน้าเป็นพิเศษ

“.. พ่อ นี่เธียรไง คนที่พ่อเคยไปดูคอนเสิร์ตน่ะ” บลูบอก

“อ้อ!! แหม ไอ้หนูคนที่ไอ้กัณฐ์ติดตามผลงานน่ะเหรอ ?” บลูหน้าเบ้พยายามส่งซิกให้พ่อของตัวเอง ที่ไม่มีท่าทีรับรู้เล้ยยย

“เธอรู้มั๊ยว่าไอ้กัณฐ์มันชอบเพลงบรรเลงได้ เพราะเธอเลยนะ เมื่อก่อนน่ะไม่เคยเห็นมันสนใจฝักใฝ่ พอได้ยินเสียงเปียโนของเธอเท่านั้นแหละ ตามหามาฟังตั้งแต่สมัยโบราณเลย” ชายวัยกลางคนกล่าวกลั้วหัวเราะ

“เหรอครับ… ผมไม่เคยรู้เลย” เธียรบอก ยิ้มบาง

“เอ้อ ๆ ไปดูอาการไอ้กัณฐ์มันเถอะ เดี๋ยวป้าเตรียมน้ำเตรียมท่าให้” ชายหนุ่มทั้งสองยกมือไหว้ขอตัวไปดูอาการของเพื่อนร่วมห้อง

“กัณฐ์เป็นอะไรเหรอบลู” ภีมถาม

“ไม่รู้ดิ จู่ ๆ ก็ไข้ขึ้นเฉยเลย” บลูเปิดประตูห้องให้เพื่อนทั้ง 2 เข้าไป ห้องของกัณฐ์ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ เจ้าของห้องนอนหลับตาพริ้ม หน้าผากมีผ้าชุบน้ำวางไว้

“เฮ้ย ไอ้กัณฐ์ เพื่อนเอ็งมาหา” บลูบอกญาติตัวเองเบา ๆ

“ไม่ต้องปลุกก็ได้ บลู” ภีมบอกอย่างเกรงใจ

“อือ…” ดวงตาสีนิลกลม ลืมตาโพลง เมื่อเห็นว่าใครมา

“พ..พวกนายมาได้ไง” เสียงของกัณฐ์แหบแห้งถามอย่างตระหนก

“ก็ฉันเคยมาบ้านนายครั้งนึงแล้วนี่นา เห็นขาดบ่อย ๆ ก็เลยมาเยี่ยม นึกว่าจะป่วยการเมืองซะอีก” ภีมหยอก

“ความจริงฉันก็ไม่มีอะไรหรอก แต่ไอ้หมอนี่มันมีเรื่องจะถามน่ะ” ภีมชี้นิ้วโป้งไปที่ข้างหลัง กัณฐ์เห็นหน้าของเขาแล้วรู้สึกไข้กลับ ใบหน้าซีด ๆ เริ่มมีสีเลือด

“….ฉันมีเรื่องจะถามนาย..” เธียรถามเสียงเรียบจนกัณฐ์เริ่มกลัว

“…ท…ทำไมเหรอ ?” ร่างที่นอนซมแกล้งถามอย่างสงสัย

“…เมื่อคืน… ญาติของฉันบอกว่าคนชื่อกัณฐ์ เป็นคนพาฉันไปส่งที่ห้องพักของโรงแรม….” กัณฐ์รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง

“ใช่นายรึเปล่า ?” เธียรถามอย่างไม่แน่ใจ

“….ใช่” เสียงของร่างบางเอ่ยแผ่วเบา

“…แล้วนายเห็นใครที่อยู่ในห้องหลังจากนั้นมั๊ย ?” เธียรถามอย่างตื่นเต้น

“….ไม่มี” กัณฐ์เม้มริมฝีปาก….. เธียรไม่รู้….เขาไม่รู้…..

“….งั้นเหรอ” แล้วในห้องก็ตกสู่ความเงียบ

ภีมหยิบสมุดที่รอนฝากการบ้านมาให้เขาลอกและอยู่คุยอะไรด้วยพักหนึ่ง จึงขอตัวลากลับไปพร้อมเธียร บลูยืนกอดอก หรี่ตามองญาติของตนแปลก ๆ

“ทำไม ?” กัณฐ์มองญาติตัวโตที่ยืนเก๊ก

“….นายคงไม่ได้มีอะไรกับเธียรหรอกใช่มั๊ย ?” ชายหนุ่มเข้าไปถามใกล้ ๆ

“……” มีเพียงความเงียบส่งกลับมา

“เฮ้อ..” บลูถอนหายใจ กอดตัวที่ผอมแห้งของญาติตน

“..ฮ..ฮึก…..เขา..เขามีอะไรกับคนที่…ไม่ใช่ฉัน……เขาคิดว่าไม่ใช่ฉัน” กัณฐ์กอดชายหนุ่มร่างใหญ่แน่น น้ำตารื้อด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

สุดท้าย เขาก็เป็นเพียงตัวแทนของใครก็ไม่รู้…..ภีมเดินพลางทำสีหน้าครุ่นคิด

“เมื่อคืน เกิดอะไรขึ้นรึไง ?” ภีมถามเพื่อนซี้ของเขา

“อืม…. จะว่าไงดีล่ะ …. ฉันเมาน่ะ ….. แล้วก็เจอกับคนที่ตามหามานาน” เธียรบอกเพื่อน

“คนที่ตามหามานาน ? ไม่เคยเห็นนายพูดเรื่องนี้มาก่อน” ภีมบอกกลั้วยิ้ม

“ฉันน่ะ ไม่เคยได้เจอเขา… แต่เขากลับเห็นฉัน รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน…. แต่ไม่เคยปรากฎตัวออกมา” ชายหนุ่มเสียงสลดลง

“……ฉันว่านาย…คิดว่าเขาไม่ปรากฎตัวออกมามากกว่า” ภีมพึมพำเบา ๆ

___________________________________
กรี้ดดดด เธียรมันก็ยังคงโง่อยู่เหมือนเดิม ทน ๆ อ่านกันไปก่อนน่ะค่ะ ช่วง ตอน สองตอน นี้จะเป็นช่วงแห่งความมืดมนเชียวล่ะ หึหึ แอ่ะ หายไปนาน กลับมาแย้วววว...
พีเอสซึ.ใครๆ ก็เคยอ่านในเด็กดี ก็เรื่องนี้เค้าแรงจริง อะไรจริงน่ะเทอ ช่ายมะล่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ..โง่ไม่เสื่อมคลาย[บทที่ 8]up 28.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 28-05-2011 09:04:05
แว่บไปอ่านที่เด็กดีมาอ่ะ...อาจหายหน้าไปจากรี  :sad4:
แต่พอรู้เหตุผลของเธียรที่เย็นชากับกัณฐ์ก็พอรับได้...ปลื้มพี่แบล็ค :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ..โง่ไม่เสื่อมคลาย[บทที่ 8]up 28.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 28-05-2011 09:20:36
ง่ะ ในนี้ยังไม่ถึงไหนเลย ไม่เห็นรู้เหตุผลอะไร เธียรกับธีรจะทะเลาะกันหรือเปล่าเนี่ย ถ้ารู้ความจริง
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ..โง่ไม่เสื่อมคลาย[บทที่ 8]up 28.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 28-05-2011 17:36:18
อยากอ่านต่ออ่า
ลงยาวๆไม่ได้เหรอจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 9 [up 29.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 29-05-2011 06:08:45
ตอนที่ 9

วันถัดมาผมก็กลับมาแต๊ดแต๋ได้เหมือนเดิม ผมหลบเลี่ยงที่จะพบปะหน้ากับเขา พยายามทำตัวลีบเมื่ออยู่โรงเรียน แต่ไอ้ภีมก็ชอบมายุ่งวุ่นวาย แถมมันยังเป็นเพื่อนซี้ของเขาอีก แบบนี้ผมจะหนีเขาไปหนายด๊าย!!!!!

“กัณฐ์ช่วงนี้หยุดบ่อยแล้วนะ ถ้ากัณฐ์จะหยุดเรียนก็ส่งใบลามาด้วยนะ เดี๋ยวติด มส.” หัวหน้าดูเป็นห่วงเป็นใยผมเหมือนเดิม และดูเหมือนเธียรจะเป็นห่วงเป็นใยหัวหน้ามากขึ้นเท่าตัว

“รอน ไปกินข้าวกันเถอะ” เธียรชักชวนพลางโอบไหล่หัวหน้าที่ยิ้มแหย ๆ ให้ผม ส่วนผมก็ต้องทนดูภาพบาดตาบาดใจทุกวันแบบเนี๊ย

“ดูเหมือนไอ้เธียรมันจะหวงรอนมากขึ้นนะ ว่ามั๊ย ?” ภีมนั่งบนโต๊ะของผม ชวนคุย

“มาบอกเราทำไม ?” ผมมองมันเซ็ง ๆ

“ก็เผื่อ…. นายจะตัดใจจากมันได้” ภีมกระซิบบอกเบา ๆ ผมสะดุ้งตัวดันเก้าอี้ ถอยห่างจากมัน

“หมายความว่ายังไง ?”

“นาย… แอบชอบเธียรใช่มั๊ย ?” ภีมถามยิ้ม ๆ

“…” ผมเม้มริมฝีปาก ลุกจากเก้าอี้เดินจ้ำหนี

“หนีทำไมล่ะ ? ว่าไง ?” ภีมตามมาติด ๆ จนผมชักรำคาญ

“ไม่เกี่ยวกับนาย!” ผมตวาดอย่างโมโห

“ไม่เกี่ยวงั้นเหรอ ?? ไม่เกี่ยวได้ยังไง… ในเมื่อ..ฉัน…….เป็นเพื่อนรักของเขา”

“….” ผมเม้มริมฝีปากแน่น มองตาเขาอย่างนึกสงสัย

“นายต้องการอะไร ?” ผมถามเบา ๆ

“อืม… ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อยากบอกนายว่า เธียรมันไม่มีวันมองนายหรอก เพราะมันมีคนที่มันรักอยู่แล้ว” เรื่องนั้นทำไมผมจะไม่รู้!! ผมรีบก้าวหนีจากไอ้ภีม

ผมโดดเรียนมาเล่นเกมส์แถวหน้าโรงเรียน มีลูกค้าเป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนผมนิดหน่อย… นึกว่าทั้งโรงเรียน จะมีผมคนเดียวเสียอีก ที่ไม่ตั้งใจเรียน

ผมนั่งเล่นจนถึงเวลาเลิกเรียน จู่ ๆ ไอ้ควาย 2 ตัวที่เจอวันก่อนก็พาพวกเดินมาเป็นสิบ มาทำม๊ายยยยยยย!! แถบนี้มีแต่คุณหนู ๆ ทั้งน้านนนน มาทำมายค้าบบบบบบ!!! ผมทำตัวลีบ ก้มหน้าก้มตา เดินเนียน ๆ หวังจะผ่านไอ้กลุ่มนี้ไปอย่างสันติสุข……

“เฮ้ย! นั่นมันไอ้แว่นคราวก่อนใช่ป่าววะ!” เวร!! อะไรมันจะซวยปานน้านนนนน!!!

ผมรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ไอ้พวกนั้นก็ยังคงไล่ตามผมอยู่ ผมไปทำอะไรให้พวกแก๊~~~~~!!!!! โชคดีนะที่มันมาเจอผมหลังจากผมผ่านช่วงวิกฤตไปแล้ว ไม่อย่างนั้นไม่มีแรงวิ่งแน่ ๆ!!!  แอ๊กกกก!! ในเวลาแบบนี้ผมมาคิดไอ้เรื่องพรรณนี้ทำไมเนี่ย!!!
ผมเตลิดวิ่งเข้าซอกซอยซับซ้อนจนมาถึงทางตัน ….พวกมันไล่ตามมาทันแค่…1….2…….3 คน

“เสร็จแน่ไอ้แห้ง! คราวก่อนดีนะ ที่มีปืนมาช่วย! แต่วันนี้เอ็งตายอย่างหมาแน่!” ไอ้ควายที่เจอครั้งที่แล้วตะโกนก้อง ก่อนพวกของมันจะกรูกันมาทำร้ายผม

ส่วนผมนั้นสู้สุดใจขาดดิ้นสิครับ มีมือมีตีนเหมือนกัน ยอมให้มันทำฝ่ายเดียวได้ยังไง ผมควงกำปั้นตะบันหน้าควายตัวนึงเข้าเต็มแรง แต่ก็โดนเท้าถีบสวนมาจนจุก… หนอยยยย!! สู้ว้อยยยยยย~!!

พวกมันมาเพิ่มขึ้นจาก 3 เป็น 5…6……7….. เฮ้ย! เท่าไหร่แล้วเนี่ย!!  ผมนอนคุดคู้ใช้แขนปกป้องใบหน้าหล่อ ๆ (??) ของตัวเองจากเท้าของพวกมัน เจ็บใจจริง ๆ ว๊อยยย!!! …ขณะที่ผมรู้สึกหน้าช้ำตัวช้ำได้ที่

“หยุดนะ!!” จู่ ๆ ไอ้ภีมก็เป็นอัศวินขี่ม้าม่วง(??) มาจากไหนไม่รู้เข้ามาขวางตัวผมไว้ แต่เอ็งท่าทางจะไม่ไหวนะ - -* หอบมาอย่างหมาเลย ตัวของมันใหญ่กว่าผมเล็กน้อย มันโอบตัวผมไว้แน่น

“เฮ้ย! ทำเอี๊ยอะไรเนี่ย!!” ผมพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนของมัน ปวดตัวแปล๊บ ๆ

“ไอ้ภีม! ปล่อยนะเว้ย! ไอ้โง่!!” ผมตวาดอย่างหัวเสีย เมื่อมันเป็นคนรับแรงกระแทกจากเท้าของไอ้พวกระ ยำแทนผม แถมยังไม่มีการโต้ตอบกลับให้หายแค้นอีก ผมรู้สึกโมโหมันมาก ๆ

“แม่งดูดิ มันเป็นเกย์ว่ะ! กอดไว้ไม่ปล่อยเลย ถอดเสื้อแม่งให้ปล้ำกันเลยดีมะ” ผมหน้าซีดพยายามดีดตัวออกจากอ้อมแขนไอ้ภีม

“อยู่นิ่ง ๆ” เสียงของมันพูดเบา ๆ ทำให้ผมน้ำตารื้อ… ทำไมมึงต้องทำแบบนี้ด้วยวะ เอี้ยเหอะ!!

“ถ้าแตะมัน พวกมึงเตรียมตัวตายได้เลย” เสียงเย็น ๆ ที่ผมจำได้ว่าเป็นเสียงของเธียรดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าของคนอีกหลายคน

พอพวกมันเห็นกลุ่มคนมากกว่าก็พากันวิ่งหนีชุลมุน  เอ่อ…แต่…ผมไม่อยากบอกเลย…ว่าไอ้หน้าเถื่อนที่พามาแต่ละคน…มันเป็นกระเทยแอ๊บแมนที่แอบมาชอบเธียร - -…. เธียรเข้ามาดูเพื่อนของเขาอย่างเป็นห่วง

“เฮ้ย! ยังไม่ตายใช่มั๊ย” เธียรก้มลงถามเพื่อนตัวเอง เขารีบเรียกคนอื่น ๆ มาช่วยพาภีมไปโรงพยาบาล ซึ่งผมก็ตามพวกเขาไปด้วย… แขนปวดแปล๊บ ๆ เลยเว้ยเฮ้ย!!

ภีมถูกหามส่งโรงพยาบาล ดูเหมือนร่างกายของเขาจะบอบช้ำ ผมทำได้เพียงนั่งรอเงียบ ๆ เพื่อนหลายคนมองผมอย่างหวาด ๆ …พวกเขารู้ว่าผมมีเรื่องเป็นประจำ แต่คงไม่เคยเห็นกันจะ ๆ แบบนี้… เธียรหันมาสบตามองผมด้วยความโมโห

“เพราะนาย! เพราะนายคนเดียว!” เขาตวาดใส่หน้าผมเสียงดัง มือหนาที่เคยสัมผัสกายผม จับคอเสื้อนักเรียนของผมยกขึ้น
ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะใจเต้น แต่มันก็ห้ามไม่ได้จริง ๆ ...อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ได้ม้ายยยยย!!

“ฉันไม่ได้ขอให้เพื่อนนายมาช่วยเลยนะ!!” ผมบอกเขา… แต่ผมคิดว่าเสียงของผมเหมือนการตะคอกมากกว่านะ…. ผมไม่ได้ตั้งใจง่ะ….T^T

“เธียร” หัวหน้ารีบเข้ามาห้าม มือเล็ก ๆ บอบบางนั่นจับมือของเธียรไว้เบา ๆ

“รอน นายไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้!” ดูเหมือนเขาพยายามข่มอารมณ์โกรธ

ผมเพียงแค่หันไปส่งยิ้มบางให้หัวหน้า แล้วก็รู้สึกหน้าชา… ตัวของผมล้มลงกระแทกพื้น เจ็บว๊อยยยยย!!! เพื่อน ๆ ที่มาเฝ้าไอ้ภีมหันมามองผมที่นั่ง งง ๆ อยู่เป็นตาเดียว

ท้องของผมปั่นป่วน รู้สึกอยากอ้วก …..ของเหลวข้นดันขึ้นมาในหลอดคอของผม จนต้องไอสำลักมันออกมา …เกิดอะไรขึ้น ?? …นี่…นี่เขาชกผม……..แล้วเลือดนี่ล่ะ ??….

ผมคงไม่ได้เป็นโรค สไปโน ซีรีเบลล่า รีเจเนอเรชั่นหรอกนะ!!?? (<<<เกี่ยวไรเนี่ย!! ปล.ช่วงนี้บ้าวันลิตเตอร์ออฟเทียร์ค่ะ ^^” อิอิ)

สมองของผมมึนงงไปหลายวินาที …….คงเพราะอวัยวะภายในของผมถูกกระแทกแรง ๆ หลายครั้งก็ได้…. ผมกลืนเลือดคาว ๆ ลงคอ…..แล้วเช็ดมุมปากราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดา….. ผมเคยคิดไว้แล้วว่าซักวันจะต้องเป็นแบบนี้…..แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเจ็บปวดในใจได้ถึงขนาดนี้มาก่อนเลย…….

“กัณฐ์!! เป็นอะไรน่ะ…….ทำไมเธียรทำแบบนี้ล่ะ!” รอนรีบวิ่งเข้ามาดูผมด้วยความเป็นห่วง ดวงตาหลังกรอบแว่นของเขามีน้ำตาคลอ

“รอน… นายชอบกัณฐ์ใช่มั๊ย! ชอบหมอนี่มากใช่มั๊ย!!” เขาตวาดอย่างหัวเสีย

“ใช่! ผมชอบกัณฐ์! ชอบกัณฐ์มากกว่าคนอารมณ์ร้ายอย่างคุณเสียอีกเธียร!!” ดูเหมือนหัวหน้าจะโกรธเหมือนกัน เขาตวาดกลับอย่างเหลืออด

“ไปกันเถอะกัณฐ์ อย่าอยู่ตรงนี้เลย” เสียงของหัวหน้าสั่น ๆ พยายามพยุงตัวผมลุกขึ้น

“รอน! รอน…ฉ..ฉันขอโทษ…” เสียงของเธียรดังไล่หลังขึ้นมา

“คนที่นายควรขอโทษไม่ใช่ผม แต่เป็นกัณฐ์ต่างหาก!” รอนบอกเสียงแหลม ลากตัวผมไปนั่งหลบมุมพร้อมสะอื้นฮัก…….เจ็บจังเลย…. ผมเพิ่งรู้สึก….เจ็บไปหมดทั้งกาย….และใจ…..

“ฮะ ๆ…แค่ก…” ผมหัวเราะเบา ๆ… รู้สึกสมเพศตัวเอง

ผมเพิ่งรู้สึกตัว …….ว่าตัวเองนั้นหวังลม ๆ แล้ง ๆ …. แค่นี้ก็ชัดเจนแค่ไหนแล้ว …….เธียรรักหัวหน้า…….ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงเกลียดผม….เพราะหัวหน้ามักจะเข้าข้างผม… หัวหน้าอยู่ฝ่ายผมเสมอ…

“หัวหน้า..ร้องไห้….” ผมเอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเบา ๆ ไม่ว่าจะอิริยาบทไหน หัวหน้าก็ดูน่ารัก น่าทะนุถนอม… นี่อาจเป็นสาเหตุนึงที่เขาชอบหัวหน้าก็ได้

“ฮึก…ผ..ผม…ผมกำลัง…โกรธมากเลย” หัวหน้าพยายามกลั้นสะอื้นบอกผม

“ก…กัณฐ์…กัณฐ์เหมือน…คนที่ผมรัก…” ตากลม ๆ ของหัวหน้าจ้องมาที่ผม ผมทำหน้างง ๆ ….หัวหน้าไม่ได้ชอบเธียรงั้นเหรอ….. อืมม์ …… มันจะกลายเป็นรักกี่เศร้าละเนี่ย ??

“…ผม…เคยชอบผู้หญิงคนนึง…เธอ…เธอชอบทำตัวแปลกแยก…. แล้วผมก็หลงไหลในความโดดเด่นของเธอ.. เธอมีในสิ่งที่ผมไม่มี……………. เธอกล้าบอกตรง ๆ ว่ารักผม…. แต่ผมไม่เคยกล้าอะไรเลยซักอย่าง….มันเลยทำให้ผมเสียเธอไป” หัวหน้าบอกเบา ๆ เช็ดน้ำตาป้อย ๆ

“พอผมเจอกัณฐ์… ผมก็เห็นกัณฐ์ซ้อนทับกับเธอ….กัณฐ์…”

“ผมไม่เหมือนกับเธอหรอก….” ผมบอกเบา ๆ ….

“ไม่นะ กัณฐ์เหมือนกับเธอจริง ๆ …ไม่ใช่ที่นิสัยใจคอหรอก แต่เป็นอะไรบางอย่างในตัวกัณฐ์” หัวหน้าบอกผมพร้อมยิ้มกว้าง

“เขาเรียกกันว่าอะไรนะ…รัศมีเหรอ ?…..อืม….กัณฐ์มีรัศมีเหมือนกับเธอ แถมยังเรียกผมว่าหัวหน้าเหมือนกับเธอ ชอบแอบนอนหลับในห้องเหมือนกับเธอ เธอก็เล่นเกมส์ด้วยนะ……อืม….” หัวหน้าพยายามนึกต่อ

“……พอแล้วล่ะมั้ง ไม่เห็นมีอะไรดี ๆ เลย” ผมยิ้ม หัวหน้าหัวเราะเบา ๆ เช็ดคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนตามใบหน้าให้ผม

“ร…รอน..” เธียรเดินมาหยุดยืนหน้า หัวหน้า …..โดยไม่คิดจะมองมาที่ผมเลยด้วยซ้ำ…….

_____________________
 :o12:มาต่อกันอย่างต่อเนื่อง จะได้เห็นความเลวของเธียรกันเยอะ ๆ คิคิ ส่วนพระเอกตัวจริงอย่างภีม ได้ใจไปเลย
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 10 [up 29.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 29-05-2011 07:41:47
ตอนที่ 10

ผมนั่งอยู่ในห้องผู้ป่วยแสนหรู หลังจากวันนั้นผมก็ปวดไปทั้งตัว โดนเฉพาะแขน กระแทกอะไรก็เจ็บไปหมด… หัวหน้าพาผมไปตรวจร่างกาย …ได้ยามาเป็นถุง ๆ แล้วผมยังต้องกินน้ำใบบัวบกของคุณป้าตลอดทั้งอาทิตย์ เหอะ ๆ…. ร่างกายของคนเรานี่มันช่างเปราะบางจริง ๆ…..

“นายนี่ มานั่งปอกผลไม้ให้ฉันไม่ดีกว่ารึไงกัน” ภีมส่งเสียงประท้วงเมื่อผมกำลังนั่งลอกการบ้านให้เขายิก ๆ นี่ก็เป็นวันที่ 3 แล้วที่ผมต้องมาเฝ้ามัน

“หุบปากไปน่า ฉันทำการบ้านให้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว” ผมบอกเขาอารมณ์เสีย

ภีมเส้นประสาท แล้วก็กระดูกกับอวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือน ร่างกายฟกช้ำหลายจุด หลับไปวันกว่า ๆ แต่อีกไม่กี่วันเขาก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ผมตวัดมือเขียนอย่างหงุดหงิด เกมส์ก็ไม่ได้เล่น แถมยังต้องมาดูแลปรนนิบัติพัดวีไอ้คนที่น่ารำคาญนี่อีก

“พรุ่งนี้ซื้อไส้กรอกมาให้ด้วยนะ”

“เออ” ผมตอบเบา ๆ

“นี่กัณฐ์ มานี่หน่อยดิ”

“อะไรอีกฟะ” ผมวางปากกา เดินไปหามัน

“หน้าแกเขียวแล้วนี่หว่า เมื่อไหร่รอยนี้จะหายเนี่ย น่าเกลียดเป็นบ้า” ไอ้ภีมชี้มาตรงรอยที่เธียรชกผม ผมลูบใบหน้าตัวเองอย่างเซ็ง ๆ

เธียรมาขอโทษหัวหน้า แต่หัวหน้าบอกว่าต้องขอโทษผมก่อน …หมอนั่นเลยจำใจขอโทษผม ทั้ง ๆ ที่มองมาตาเขียวปั๊ด หลังจากนั้นผมกับเขาก็ไม่เคยได้คุยกันอีก

“ผมจะกลับละ” ผมบอก เดินไปหยิบกระเป๋า

“อย่าเพิ่งไปดิ” ไอ้ภีมเอื้อมมือมาจับแขนผมไว้

“อะไรอีกวะ” ผมถามงง ๆ ไอ้ภีมดึงตัวผมลงไปนั่งข้างมัน

“แขนแมร่งก็เขียวหมดเลย…. ไม่เจ็บบ้างหรือไง ?” มันลูบไปตามแขนผมเบา ๆ สยองว่ะ!

“ขยะแขยง!” ผมดึงมือหนี แต่ไอ้ภีมไม่ปล่อย มันเอี้ยวตัวคร่อมผม

“ท ..ทำ!!” เสียงของผมถูกปิดด้วยริมฝีปากของมัน ลิ้นร้อน ๆ ควานลึกเข้ามาในโพรงปากของผมเล่นเอาผมขนลุกซู่!!!!!

“อู๊!!..อ…อึก.” ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าภีมแรงเยอะถึงขนาดนี้เขาจับแขนผมไว้แน่น บดเบียดริมฝีปากอย่างจาบจ้วง

ในสมองของผมสั่งให้กัดลิ้นหมอนี่ให้ขาด แต่ขากรรไกรค้าง….กลัวเธียรจะเกลียดผมมากกว่าเดิมอีก…โธ่!! ทำไมผมต้องมานึกถึงเขาตอนนี้ด้วยนะ!! โป๊ก!!

ผมสะดุ้งเมื่อหัวของผมโขกกับหัวเตียงคนไข้ แต่ไอ้ภีมไม่มีท่าทีจะสนใจ ดันตัวผมจนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงมัน  แมร่ง กรูไม่สนแล้ว ลิ้นขาดซะเถอะเมิง!! มันละจากริมฝีปากตอนที่ผมกัดฟันตัวเองเต็มแรงพอดี! ….ดวงดีจริงนะ…! มันใช้จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอของผมจนรู้สึกจั๊กกะจี้

“ไอ้ภีม!!!” ผมตะโกนโหวกเหวก พยายามดิ้นหนีออกจากวงแขนของมัน

แกร๊ก….

“…. พวกนายทำอะไรกัน ?” เธียรถามเพื่อนเขาคิ้วขมวด ผมรีบมุดหนีออกจากวงแขนนั่นวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อบ้วนปาก แหวะ!!

“เป็นอะไรกัณฐ์ จะอ้วกเหรอ ?” หัวหน้าชะเง้อคอเข้ามาถามผม

“..ผมไม่เป็นไร!” ผมเช็ดริมฝีปากอย่างแรง …ปวดฟันก็ปวด…แต่ไม่อยากมองหน้ามันมากกว่า…..ผมก้มหน้าออกมาหยิบกระเป๋านักเรียน และเดินออกไปอย่างเร่งรีบ

“กลับดี ๆ นะ” เสียงของไอ้คนที่ผมไม่อยากมองหน้าตะโกนไล่หลัง

“ไอ้ห่ะ!!” ผมแอบคำรามในใจ ไอ้ภีม!! ไอ้เพื่อนสารเลว!!!!! นี่ถ้ามันไม่ได้นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล มันได้กินตีนผมแน่!!

“พ…พี่ธีร์!!” พี่ธีร์หันมาตามเสียงเรียกของผม… เขาอยู่โรงพยาบาลได้ไงเนี่ย!… ผมรู้สึกอายโดยไร้สาเหตุ การพบกันครั้งที่แล้วของผมกับเขา ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่

“กัณฐ์” พี่ธีร์ยิ้มโชว์ฟันขาว

“อ้าว กัณฐ์คนนั้นใช่มั๊ยคะ” ผู้หญิงอีกคนทักผม เธอเป็นคนเดียวกันกับที่ใส่ชุดราตรีสีชมพู ที่ผมเจอในโรงแรม

“ฉันธาไงคะ” เธอบอก ผมพยักหน้าให้เธอเบา ๆ

“นี่รู้จักกันเหรอ ?” พี่ธีร์ถาม

“กัณฐ์เป็นคนพาพี่เธียรไปส่งห้องแทนธาน่ะค่ะ” ธายิ้มบอก….

“พอวันถัดมาพี่เธียรอาละวาดแต่เช้า ธานึกว่ากัณฐ์ขโมยของในห้องไปซะอีก แต่ปรากฎว่าคนหาย” เธอบอกกลั้วหัวเราะ

“คน ??” พี่ธีร์ถามงง ๆ

“อ้าว! ก็คืนนั้นพี่เธียร..” ธายิ้มเหล่ตามองผม ผมรู้สึกหน้าซีดจะเป็นลม

“ผ…ผมขอตัวก่อน” ผมรีบจ้ำหนี แต่ถูกมือใหญ่ ๆ ดึงไว้ก่อน ทำไมต้องมีคนคอยยื้อไม่ให้ผมไปไหนด้วยนะ!!!

“หมายความว่าไง ?” พี่ธีร์ถามเสียงเข้ม

“ผมไม่รู้!” ผมบอก รู้สึกหน้าร้อนจัด

“…เธอ….เธอเป็นแฟนของเธียร ?” พี่ธีร์ถามเสียงแผ่ว ผมพยายามแกะมือเขาออก แต่พี่ธีร์ไม่ปล่อย กลับยิ่งกำแน่นมากขึ้นจนผมรู้สึกเจ็บ

“ผม..ผมไม่ใช่แฟนของเขา..พอใจรึยังล่ะ!” ผมไม่ใช่ทอร์อะไรนั่น! ผมสะบัดแขนรีบเดินหนี

“ธาขึ้นไปหาเธียรนะ พี่ขอตามไปดูกัณฐ์หน่อย” ชายหนุ่มเอ่ยสั่งน้องสาว

…..ธายืนนิ่ง…. เอ๊ะ ? ทำไมกัณฐ์ต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วย ?? แล้วพี่ธีร์ก็อีกคน………เธอนึกว่ากัณฐ์รู้เสียอีก ว่าคืนนั้นเธียรมีเซ็กซ์กับใครคนหนึ่ง….แต่ว่าท่าทางแบบนั้นมัน…เหมือนกับว่า…………….. ไม่จริงหน่า……

ผมวิ่งหนีเต็มกำลัง อายที่สุดในชีวิตก็ครั้งนี้แหละ จู่ ๆ ก็มีมือหนา ๆ คว้าหมับเข้าที่แขนของผมอีกแล้ว!!

“ปล่อย!” ผมบอก สะบัดแขนแรง สะบัดเท่าไหร่มันก็ไม่หลุด… ร่างกายของผมตกสู่วงแขนแข็งแกร่งของพี่ธีร์

“พ..พี่ธีร์!” ผมร้องเสียงหลง

“…เธอจะหนีทำไม ? มีเรื่องอะไรน่าอาย ?” พี่ธีร์ถามเบา ๆ

“แล้วพี่วิ่งตามผมมาทำไมเล่า!” ผมพยายามสะบัดตัวออก แต่เขากลับกอดรัดแน่นขึ้น

“เฮ้อ… เธอนี่เป็นเด็กที่เข้าใจยากจริง ๆ เลยนะ เธอสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวพี่ใช่มั๊ย ?” พี่ธีร์ลูบหัวผมเบา ๆ

“ผมพาไปเลี้ยงก็ได้ ปล่อยซักทีเถอะ!” ผมดันตัวเขาออกห่าง หน้าบึ้ง

ทำไมวันนี้ผมต้องเจอโบร๊คแบล๊คซ้ำซ้อนด้วย!!!ผมพาพี่ธีร์มาทานอาหารที่ร้านอาหารตามสั่งเล็ก ๆ ในย่านการค้าแหล่งใหญ่

“หมี่ผัดวิญญาณหมู…” ผมบ่นเบา ๆ ทำเอาพี่ธีร์หัวเราะดังลั่น…อาหารที่ผมสั่งได้หมูชิ้นใหญ่มา 1 ชิ้น และที่เหลือคือซากหมูชิ้นเล็ก ๆ ที่แทบละลายหายไปในเส้นหมี่

“กัณฐ์ชื่อจริง ฐาปเดช  กัณฐเมธาเหรอ ?” พี่ธีร์ถาม ดูที่ชื่อที่ปักษ์ตรงอกผม

“ถูกแล้วฮะ” ผมยิ้มบอก

“ชื่อย่อ TG ?”

“TK ฮะ ผมว่าตัว K มันออกเสียงน่าอ่านกว่า” ผมบอกยิ้ม ๆ มองสีหน้าของพี่ธีร์ที่เปลี่ยนไป

“เธอ….ใช่มั๊ย ?” เสียงของพี่ธีร์เบาจนผมต้องถามซ้ำอีกครั้ง

“อะไรนะฮะ ??”

“….เธอ….เธอนอนกับเธียรแล้วใช่มั๊ย ?” พี่ธีร์ถามลุกขึ้นบีบไหล่ผมแรง

ผมรู้สึกหน้าร้อนไปหมด มองพี่ธีร์อย่างอึ้ง ๆ… พี่ธีร์คงไม่ได้อ่านกระดาษนั่นหรอกใช่มั๊ย ??……ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมเธียรถึงไม่รู้ว่าเป็นผมล่ะ ???

“อ…เอ่อ….โทษที” พี่ธีร์ปรับสีหน้าแล้วนั่งลงตามเดิม

“….” ผมอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่หมุนซ้อมในมือเล่น

“เธอคือเจ้าของจดหมายสีเหลืองอ่อนนั่นใช่มั๊ย ?” เขาสบมองผมอย่างจริงจัง

“เอ่อ….ถ้าหมายถึงจดหมายที่ส่งให้เธียรทุกครั้งที่มีงานแล้วล่ะก็… ใช่ฮะ” ผมอ้อมแอ้มบอก ไม่คิดว่าพี่ธีร์จะรู้เรื่องจดหมายของผมด้วย

“เหรอ…” พี่ธีร์สบตามองผมอีกครั้ง

“เธอรู้รึเปล่า…ว่าเธียร….ไม่เคยอ่านจดหมายของแฟน ๆ เลย ….รวมทั้งของเธอด้วย” พี่ธีร์บอกเบา ๆ

ผมมองเขานิ่ง… เธียร… เป็นคนแบบนั้นเหรอ ?? ….ผมเห็นของแฟน ๆ มากมายวางกองอยู่ในห้องเขานี่นา ??

“โดยเฉพาะจดหมายเฉพาะของเธอน่ะ…ถูกเผาทุกฉบับ… เขาบอกว่าเขารำคาญเธอที่ชอบมาตื้อ ตามติดเขาเหมือนโรคจิต” ผมหน้าซีด … เธียรมองผมเป็นคนแบบนั้นจริง ๆ เหรอ ??? …มิน่าล่ะ ถึงไม่มีจดหมายของผมซักฉบับในกองของขวัญจากแฟน ๆ ในห้องนั้น…

แล้วถ้าเขารู้ว่าผมเขียนจดหมายนั่นให้เขา…… เขาจะไม่ยิ่งเกลียดผมไปกันใหญ่รึไง ????ม่ายน๊าาาาาา~!!!! ผมดันลงชื่อไว้ในโน้ตที่ทิ้งให้เขาคืนนั้นด้วยยยยย อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!!!!

________________________
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก พี่ธีร์ใจร้ายง่ะ เบี่ยงประเด็นอีกแล้ว ป่วยใจ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 11[up 29.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 29-05-2011 07:45:50
ตอนที่ 11

สุดท้ายแล้วเมื่อวานผมก็ไม่ได้เลี้ยงข้าวพี่ธีร์ตามที่สัญญา เพราะพี่ธีร์ออกตัวจ่ายให้หมด ทั้ง ๆ ที่ผมอยากจะหมดหนี้สินจะแย่.. แต่พี่ท่านให้ผมเลี้ยงข้าวคราวหน้าแทน …….เฮ้อ….

“ไง” ผมทักทายไอ้คนที่นอนอยู่บนเตียง

“เออ” ดูมันเย็นชายังไงไม่รู้ ผมนึกถึงเมื่อวานแล้วก็จะอ้วก

“ไหนไส้กรอกอ่ะ ?” มันถาม

“ลืม…แฮะ…” ผมตอบเบา ๆ เกาศีรษะแก้เขิน เฮ้ย! ไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาเป็นลูกไล่มันนะ!! ต้องเข้มสิ เข้มไว้สิตู!!

“เมื่อวาน! ผมไม่ยกโทษให้หรอกนะ!” ผมเผลอตวาดเสียงดัง ง่า… นายไม่โกรธฉันนะภีม…

“ฮึ … ฉันก็ไม่ได้อยากให้นายยกโทษให้ ในเมื่อไม่เห็นมันจะผิดอะไร” ภีมบอกยิ้ม ๆ ไอ้หน้าด้านนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!

“ไอ้ภีม!” ผมส่งเสียงขู่ฟ่อ แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้มัน กลัวมันฉุดอ้ะ!

“โอ๊ย! ช่างแม่ง!” ผมพึมพำ หยิบการบ้านในกระเป๋ามาทำให้มันต่อ

“อืม.. ออกจากโรงพยาบาลแล้วไปเที่ยวกันมั๊ย ?” ภีมถามยิ้ม ๆ

“เที่ยวไหนอ่ะ ??” ผมหันไปถาม

“อืม… ไปทะเลดีกว่า …. ฉันอยากไปทะเล”

“แต่ผมเกลียดทะเล” ผมพึมพำเบา ๆ

“แล้วนายอยากไปไหนล่ะ ?” มันลงมาจากเตียงมานั่งข้าง ๆ

“เฮ้ย!” ผมสะดุ้งตัวหนีมัน แต่ถูกมันโอบเอวไว้

“กลัวอะไรนักหนา” มันบ่นเบา ๆ …ไม่ให้กลัวได้ไงวะ!! ผีเข้าผีออก!!

“นายต้องสัญญามาก่อนว่าจะไม่ทำอะไรบ้า ๆ” ผมยื่นนิ้วก้อยให้มัน

“คร๊าบ” มันตอบรับแข็งขัน ยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยว ผมถึงยอมนั่งลงตามเดิม

“วันนี้เรารีบกลับนะ” ผมบอกมัน

“เออ.. รอยใกล้หายแล้วนะ ทีหลังอย่าไปมีเรื่องกับใครอีกล่ะ” มันบอกอย่างกะพ่อ ผมหันไปมองหน้าไอ้ภีมตาเขียว ..ไม่ใช่เพราะนายที่เข้ามายุ่งรึไง …ทำให้ผมทะเลาะจนเลิกพูดกับเธียรไปแล้ว

“ทีหลังนายไม่ต้องมาแส่อีก ผมเอาตัวรอดได้” ผมบอก เลิกสนใจมัน นั่งทำงานต่อ

ผมมองนาฬิกาอีกครั้ง ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว…ผมลุกขึ้นเก็บของใส่กระเป๋า

“กลับเร็วจัง… ไปเล่นเกมส์รึไง ?” ภีมยักคิ้วถาม ……. รู้ทันอีกเว้ยเฮ้ย…ผมพยักหน้าเบา ๆ

“อยู่นี่แหละ ไปแล้วก็เปลืองเงินเปลืองทองเปล่า ๆ” มันรั้งเอวผมเข้าไปใกล้

“อย่ายุ่งหน่า ปล่อย ๆ” ไม่รู้มันโรคจิตหรือขาดความอบอุ่น ต้องลากผมเข้าไปนัวเนียทุกทีสิน่า… ผมพยายามแกะมือตุ๊กแกของมันออก พอมือมันหลุดปุ๊บก็รีบเดินหนี

“โอ๊ย!” เดินไปไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงไอ้ภีมร้องโอดโอย ยกมือกุมท้องตัวเอง  .ผมถอนหายใจเดินเข้าไปหามันแล้วช่วยพยุงมันกลับขึ้นไปบนเตียง

“ยังไม่หายก็อย่าซ่าส์เด่ะ นอนเนี๊ยะ ….ไปละ” ผมจัดการห่มผ้าห่มให้มัน ยกกระเป๋าขึ้นพาดบ่า

“กัณฐ์… นาย…… ……..ไม่มีอะไร” ผมขมวดคิ้ว

ประตูเปิดออกก่อนที่ผมจะแตะ เธียรและเพื่อน ๆ ในห้องอีก 4-5 คนส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว อยู่หน้าห้องพักผู้ป่วย ผมเดินผ่านพวกเขาไป

“เดี๋ยว! ฉันมีเรื่องจะคุย” เสียงของเธียรทำให้ผมใจเต้นอีกแล้ว… โธ่… ไอ้หัวใจไม่รักดี…

“มีเรื่องไรอ่ะ ?” เธียรพาผมมาคุยในที่ลับตา จะฉุดตรงนี้ผมก็ยอมนา….ผมกำลังคิดอะไรเนี่ย !!

“เอ่อ….ขอโทษเรื่องที่ต่อยนาย” เขาบอกเบา ๆ ทำให้ผมรู้สึกดีใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน… เขาเป็นฝ่ายขอโทษผมก่อน….แสดงว่าผมกับเขา จะกลายเป็นเพื่อนกันอย่างเดิมได้ใช่มั๊ย ??

“ไม่เป็นไร” ผมบอกเบา ๆ รู้สึกว่ามันตื้อ ๆ ในอก… ได้แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว…..

“ขอโทษนะ… ทุกเรื่อง….. ทุก ๆ อย่างที่ทำให้นายเสียใจ”…..ทำไมเขาถึงทำหน้าตาแบบนี้กับผม…..

“…..ไม่เป็นไร…” เสียงแผ่วเบาหลุดออกจากริมฝีปากของผม ลำคอของผมแห้งผาก…..น้ำตามันจะร่วงออกมาจากเบ้าตาแล้วนะ!! ….เธียรพูดอะไรแบบนี้กับผมเป็นด้วยเหรอ ??….

“……..นาย..…นายใช่มั๊ยที่เขียนจดหมายนั่นให้ฉัน ?” เธียรถามอย่างไม่แน่ใจ

ผมตาโต…. แย่ล่ะสิ….. ถ้าเขารู้ว่าผมเป็นคนเขียน….. ถ้าเขารู้ล่ะก็……

“ฐาปเดช  กัณฐเมธา…TK..”

“ไม่…..ไม่ใช่….” ผมบอกด้วยเสียงแผ่วเบา

… ผม…..ผมมันขี้ขลาด…..หัวหน้าเคยเปรียบเทียบว่าผมเหมือนกับผู้หญิงคนนั้น……ผู้หญิงที่หัวหน้าชอบ….แต่เปล่าเลย….. ผมไม่เหมือนกับเธอเลยซักนิด……….ผมอ่อนแอ….

“ผมไม่เคยเขียนจดหมายให้ใคร” ผมบอกแล้วรีบก้าวเดินออกจากตรงนั้น

“.… แล้ว….ทำไมนายถึงซื้อกระดาษจดหมายที่ร้านนั้นเป็นประจำ ?? ทำไมลุงของนายบอกว่านายไปงานที่ฉันแสดงทุกครั้ง ??” เขาเดินตามผม จับแขนผมไว้แน่น

“…ปล่อย!…” ผมเม้มริมฝีปากแน่น ทำไมเขาต้องตามตื้อผมด้วย ? … เพื่อให้แน่ใจว่าผมเป็นโรคจิตที่เขาเกลียดนัก เกลียดหนา น่ะเหรอ ???

“แล้วทำไมนายต้องเดินหนีฉันไปด้วย ?? ทำไม…”

“หยุดพล่ามซักที! ผมซื้อกระดาษจดหมายเขียนให้ครอบครัวของผม ผมชอบฟังเพลงมันแปลกนักรึไง ?? ..ที่ผมเดินมานี่ เพราะผมคุยจบแล้ว แล้วก็อีกอย่างนึง ชื่อย่อผมคือ TG ไม่ใช่ TK!!” ผมตวาดเสียงดัง สบตาเขา พยายามกลบเกลื่อนทุกข้อหาที่เขาสงสัย

“แล้วคืนนั้น… คือนายใช่มั๊ย ?” เขาถามเสียงสั่น แววตาระริก

“อ…อะไร..ผม..” ผมรู้สึกว่าเลือดสูบฉีดแรง ลิ้นพันกันไปหมด แทบจะมุดลงไปในพื้นแล้ว! ผมพยายามสะบัดมือของเขาออก มองหน้าหล่อ ๆ นั่นแล้วก็ใจสั่น ไม่กล้าสบตา

“เป็นอะไร ?? …หรือว่านาย……กำลังเขิน ??” น้ำเสียงของเขาดูเหมือนจะกลั้วหัวเราะ เขายิ้มบางให้ผม

“ไม่ใช่!!” ผมตวาด พยายามแกะมือของเขาออก ร้อนผิวหน้าแทบจะระเบิดแล้วนะ!!

“นายคือเจ้าของจดหมายนั่น…”

“โธ่เว๊ย! บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า!!” ผมตวาดกัดแขนของเขาเต็มแรง

“โอ๊ย!!” ผมได้โอกาสรีบวิ่งออกห่างตัวเขา

“ผมไม่เคยส่งอะไรให้นายทั้งนั้นแหละ!!” ผมตะโกนบอกแล้วออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต

ทั้ง ๆ ที่พี่ธีร์บอกว่าเขาเกลียดไอ้โรคจิตที่ส่งจดหมายให้ แต่ทำไมเขาพูดเหมือนกับดีใจที่จะได้เจอ ดีใจที่หาจนพบ… ท่าทางของเขาราวกับดีใจ ….หรือเป็นแผนหลอกล่อให้ผมปรากฎตัว ??? ใช่! มันต้องเป็นแผนหลอกล่อให้ผมตายใจแน่ ๆ!!

ผมไปเล่นเกมส์ขณะที่สมองของผมกำลังคิดหาเหตุผล ว่าทำไมทุกอย่างมันถึงอีรุงตุงนังกันแบบนี้

“โว๊ยยยยยยย!!!” ผมร้องตะโกนทึ้งผมตัวเอง รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

__________________________________
อิอิ หลังจากอ่านจากมุมมองของกัณฐ์มาตลอด พาร์ทหน้า ก็จะมารับรู้ความรู้สึกของเธียรกันบ้างน่ะค่ะ ติดตามต่อกันน่ะค่ะ ขอบคุณทุกคนและทุกกำลังใจค่ะ :z2: วันนี้ จัดหนักให้เลย 3 ตอน คิคิ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง กรี้ดดด..คึกค่ะ 3 ตอนรวด.[บทที่ 11]up 29.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Loveunomore ที่ 29-05-2011 09:47:01
^
^
^
^
^
^

จิ้มมมม จ้าาาาา แสนฟิตจริงๆ ฮิฮิ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง กรี้ดดด..คึกค่ะ 3 ตอนรวด.[บทที่ 11]up 29.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 30-05-2011 17:04:41
นั่นน เธียรรู้ความจริงแล้ววว
จะทำยังไงต่อไปละเนี่ยะ

ทำไมรอบตัวของกัณฐ์ ต้องมีคนเห็นแก่ตัวด้วยนะ
ไม่เข้าใจจริงๆเลย เห้อออ

รออ่านตอนต่อไปนะคะ สุ้ๆคะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง กรี้ดดด..คึกค่ะ 3 ตอนรวด.[บทที่ 11]up 29.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 30-05-2011 17:28:33
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 11.5 [up 30.05.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 30-05-2011 18:14:22
ตอนที่ 11.5

(http://image.free.in.th/z/ik/8peno.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=c83afb0a339651a6c33e299a56fae2f6) เธียร..

รอนบังคับให้ผมขอโทษไอ้หมอนั่น!! ทั้ง ๆ ที่ใคร ๆ ก็เห็นว่ามันผิด!!!!!! ชอบไปมีเรื่องกับใคร ๆ จนคนอื่นเดือดร้อน! ไอ้ภีมก็เหมือนกัน อยู่ดีไม่ว่าดีดันวิ่งตามไอ้หมอนั่นไปซะได้!!

ผมมองมือที่ใช้กระแทกใบหน้านั้น… ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ต้องการจะให้เป็นแบบนี้….. เพียงแค่ผมเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่เขายิ้มให้กับรอน มือของผมมันก็ขยับไปเอง… ผมไม่แน่ใจว่าเพราะผมหวงรอน หรือว่าผม……

ผมรู้สึกใจร่วงไปที่ตาตุ่ม เมื่อจู่ ๆ หมอนั่นก็ไอเอาเลือดออกมา…. หมัดของผมหนักถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ?? ผมแอบเป็นห่วงเขา.. แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจ…

ที่จริงแล้ว…..ผมไม่ชอบสายตาของหมอนั่นที่มองมาที่ผม…. ไม่ชอบสายตาห่วงหาอาทรที่เขามีให้…. ไม่ชอบกิริยาที่กระโดกกระเดกดูเหมือนเขินอายเวลาอยู่ต่อหน้าผม…. ผมไม่ชอบ!!…..ผม…….…………………………..

……โชคยังเข้าข้างไอ้ภีม เพื่อนของผม ถึงเส้นประสาทมันจะกระทบกระเทือน ร่างกายฟกช้ำหลายจุด กระดูกกับอวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือน แต่ก็ไม่หนักหนาสาหัสมากมาย ….นอนเล่นอยู่ที่โรงบาลไม่กี่วันก็หาย

พอผมไปโรงพยาบาลก็รู้สึกเบื่อขี้หน้ามันอีกครั้ง หมอนั่นมานั่งลอกการบ้านให้เพื่อนรักของผม นายคิดว่าการกระทำแค่นี้จะชดใช้ความผิดให้ได้งั้นเหรอ ??

“นี่รูปใครน่ะ ?” ผมถามไอ้ภีม เมื่อเห็นรูปในโทรศัพท์มันถ่ายคู่กับเด็กผู้ชายที่คล้ายคลึงกับคนที่ผมตามหา

“นู่น” ภีมบุ้ยปากไปยังคนที่กำลังนั่งทำการบ้านให้มันอยู่

ผมมองหุ่นเขาแล้วก็ถอนหายใจอีกที เฮ้อ! ผมจำครั้งสุดท้ายที่พบกันได้…เขาตัวเล็ก หน้าตาน่ารัก…ดูมีเนื้อมีหนัง มีน้ำมีนวล ….จะไปเป็นไอ้คนที่ตัวสูงโปร่งท่าทางผอมแห้งนี่ได้ยังไง

แต่บางทีหมอนี่ก็ทำให้ผมเขวได้เหมือนกัน…..เพราะฉะนั้น…..ผมถึงได้ไม่ชอบไงล่ะ! ตอนที่ผมอยู่ใกล้จนได้กลิ่นกายของมัน ผมก็เห็นภาพเด็กคนนั้นซ้อนขึ้นมาทันที

เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ท่าทางขี้อาย ใบหน้าแดงไปจนถึงใบหู กับดวงตากลมโตที่หลุบลงต่ำ… วันนั้นอาจเป็นเพราะว่าหมอนั่นใส่แว่นก็ได้ จะว่าไปเด็กคนนั้นก็คล้าย ๆ รอนนะ.. แต่เขากลับไม่ใช่ซะนี่

ผมนั่งมองคานไม้ งานกลุ่มที่จะต้องนำออกแสดงในอีกไม่กี่วันแล้วนึกขึ้นได้ ผมต้องเตรียมการทดลองคานไม้นี่….สายตาของผมสะดุดกับลายเซ็นของเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่พากันลงชื่อไว้…

TK.

ลายเซ็นของใครซักคนทำให้ใจผมเต้นสั่นไหว ผมรีบหยิบกระดาษจดหมายสีเหลืองอ่อนที่ผมเก็บไว้ทุกฉบับขึ้นมาดู พลันทุก ๆ อย่างก็มาปะติดปะต่อในหัวสมอง

…..ฐาปเดช  กัณฐเมธา…..

“เอ่อ… พี่ครับ มีคนที่มาซื้อกระดาษลายนี้บ่อย ๆ..”

“แหม! พี่จำไม่ได้หรอกจ๊ะ ว่าลูกค้าซื้อลายแบบไหน แต่พี่จำหน้าลูกค้าได้หมดทุกคนเลยนะ” พี่เจ้าของร้านยิ้มบอก

“งั้น.. พี่เคยเห็นผู้ชายตัวเล็ก ๆ ผิวขาว ๆ ใส่แว่นตา เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อนมั๊ยครับ ?”

“เอ… เมื่อ 2-3 ปีก่อนเลยเหรอ ? พี่คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นนะ…เอ….ก็น้องคนนี้ไงจ๊ะ” พี่เจ้าของร้านชี้มาที่กัณฐ์ที่ทำหน้าเอ๋อ ๆ

“.... พ่อ นี่เธียรไง คนที่พ่อเคยไปดูคอนเสิร์ตน่ะ” บลูบอก

“อ้อ!! แหม ไอ้หนูคนที่ไอ้กัณฐ์ติดตามผลงานน่ะเหรอ ?”

“เธอรู้มั๊ยว่าไอ้กัณฐ์มันชอบเพลงบรรเลงได้ เพราะเธอเลยนะ เมื่อก่อนน่ะไม่เคยเห็นมันสนใจฝักใฝ่ พอได้ยินเสียงเปียโนของเธอเท่านั้นแหละ ตามหามาฟังตั้งแต่สมัยโบราณเลย” ชายวัยกลางคนกล่าวกลั้วหัวเราะ

“เหรอครับ… ผมไม่เคยรู้เลย” ………ผมให้พ่อบ้านขับรถไปที่โรงพยาบาลกลางดึก สมุดบันทึกของภีม……ใช่…..มันถูกเขียนด้วยลายมือที่ผมจำขึ้นใจ

“เป็นอะไร เธียร ??” ภีมถามงง ๆ เมื่อผมมาหามันตอนกลางคืน และยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เปิดสมุดของมัน

“ภีม… ฉันเจอคนที่ตามหามานานแล้ว…” ผมยิ้มกว้างบอก……

ทำไม……ทำไมกันนะ………..ทั้ง ๆ ที่ผมพยายามค้นหา…….มองหาอย่างเอาเป็นเอาตาย…….สุดท้าย…….เขาก็อยู่นี่…เป็นคนที่ผมมองข้ามมาตลอด…….… อยู่ใกล้ผมแค่นี้……..

ผมเจอทอร์ที่ผมตามหามานานแล้ว…..ผมไปโรงเรียนด้วยใจกระสับกระส่าย  แต่เขาไม่มา… สงสัยจะไปเฝ้าไอ้ภีม ..พอเลิกเรียนผมก็รีบไปโรงพยาบาล ภาพที่เห็นคือ ภีมกำลังคร่อมร่างของกัณฐ์……นั่นทำให้ผมโกรธ

หมอนั่นรีบมุดหนีภีมไปเข้าห้องน้ำ ผมสังเกตเห็นเขาเช็ดริมฝีปากตัวเองหลายครั้ง และรีบร้อนออกไป ผมอยากจะกระชากแขนบาง ๆ นั้นมาถามให้รู้เรื่อง มากอดให้หายคิดถึง แต่….

“…นายจูบกัณฐ์ ?” ผมถามเพื่อนซี้เบา ๆ

“…อืม..” ภีมตอบรับสบาย ๆ ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อน

“…ห้ามแตะต้องเขาอีก….…” ผมกระซิบบอกแล้วหุนหันไปจากห้อง

ผมเห็นเขายืนคุยอยู่กับญาติของผม พี่ธีร์กับธาไกล ๆ พี่ธีร์จับแขนของเขาไว้ แล้วดูเหมือนเขาจะสะบัดออก แล้วเขาก็ออกวิ่งอีก..โดยมีพี่ธีร์ตามไป

“นี่มันเรื่องอะไรกันคะ ?” ธา…น้องสาวของผมเดินมาถามงง ๆ…

“….พี่เธียรคงไม่ได้มีอะไรกับคนที่ชื่อกัณฐ์ใช่มั๊ยคะ ?” ธาถามสีหน้าเคร่งเครียด

ผมสะดุ้งโหยง….ใช่…คืนนั้น……….แสดงว่าในคืนนั้นก็ต้องเป็นเขาด้วย…..ทั้ง ๆ ที่เขาอยู่ใกล้ผมขนาดนี้……แต่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย…..

….สายตาที่ผมเคยรังเกียจจนแทบไม่อยากมอง… ความห่วงใยที่ผมเคยผลักไส….. ทุก ๆ อย่าง….. ทุก ๆ อย่างที่ผมเคยปฏิเสธจากเขา…….. ตอนนี้ผมกลับอยากได้มัน……. อยากได้รับจากเขาอีกครั้ง…………ผมทำอะไรไม่ดีกับเขาเอาไว้ตั้งมากมาย………

วันถัดมาผมต้องการจะคุยกับเขา …แต่ดูเหมือนเขาพยายามหลบหน้าผมตลอด….. พอเลิกเรียนผมก็ถูกอาจารย์ใช้งานต่อ ทำให้คลาดกับเขาที่รีบร้อนไปโรงพยาบาล….. ผมรีบเคลียร์งานเพื่อจะตามเขาไปให้ทัน

“เดี๋ยว! ฉันมีเรื่องจะคุย” ผมส่งเสียงเรียกเขา เมื่อเขามีทีท่าว่าจะหนีผมไปอีกครั้ง…

“มีเรื่องไรอ่ะ ?” เขาเลิกคิ้วถามงง ๆ แต่ก็ตามผมมาพูดคุยโดยดี

ผมสังเกตทุกๆ อย่างของเขา… ตัวของเขาสูงไล่ตามจนถึงจมูกของผมแล้ว…. ทั้ง ๆ ที่ผมจำได้ว่าตอนนั้นเขาตัวเล็กมากแท้ ๆ… ตัวของเขาผอมบางจนผมกลัวว่าเขาจะปลิวไปตามกระแสลมแรง…..ผิวที่ผมเคยคิดว่าขาวเหมือนหยวกกล้วยของเขาดูคล้ำขึ้นมากแต่ก็ดูนวลเนียนเหมาะกับเขาดี….แขนและใบหน้าปรากฎรอยเขียวช้ำ…..รอยบนใบหน้านั่น………ผมอยากเอื้อมมือไปสัมผัส แต่ต้องยั้งใจเอาไว้..…...

หน้าตาของเขาแทบไม่เปลี่ยนไปเลย… ดวงตากลมรีล้อมกรอบด้วยขนตางอนยาว ริมฝีปากบางที่ชอบเม้มจนเป็นเส้นตรง…..เขาชอบหลบสายตาของผม…โดยการหลุบตาลงต่ำ…พวงแก้มสีเรื่อเมื่อเขินอาย…….ใช่เขาทุกอย่าง……ทำไมผมไม่เคยสังเกตมาก่อน…..

“เอ่อ….ขอโทษเรื่องที่ต่อยนาย” ผมบอกเบา ๆ มองสีหน้าที่เริ่มดีขึ้นของเขา

“ไม่เป็นไร” เขาตอบกลับเบา ๆ

“ขอโทษนะ… ทุกเรื่อง….. ทุก ๆ อย่างที่ทำให้นายเสียใจ” ผมรู้สึกผิด…..รู้สึกว่าตัวเองนั้นทำเรื่องเลวร้ายกับเขา….รู้สึกเกลียดตัวเอง….

“…..ไม่เป็นไร…” เสียงแผ่วเบาหลุดออกจากริมฝีปากของเขา …. เขาเบือนหน้าหนีผม…..เขากำลังจะร้องไห้ ??

…..ผม….ผมรู้ว่าผมมันเห็นแก่ตัว…..แต่….แต่เพราะผม…เพราะผม..ไม่อาจให้ใครมาแทนที่เขาได้……. จึงพยายามผลักไส….คนที่ทำให้ใจของผมปั่นป่วน….

“………นาย..…นายใช่มั๊ยที่เขียนจดหมายนั่นให้ฉัน ?” ผมถาม …ดูเหมือนเขาจะตกใจ ดวงตากลมรีเบิกกว้างขึ้น

“ฐาปเดช  กัณฐเมธา…TK..” ผมย้ำ

“ไม่…..ไม่ใช่….” เขาปฏิเสธเบา ๆ ก้มหน้านิ่ง

“ผมไม่เคยเขียนจดหมายให้ใคร” แล้วเขาก็เดินหนีไปจากผม…..

“แล้ว…..ทำไมนายถึงซื้อกระดาษจดหมายที่ร้านนั้นเป็นประจำ ?? ทำไมลุงของนายบอกว่านายไปงานที่ฉันแสดงทุกครั้ง ??” ผมรีบเดินตามเขา….. ผมไม่อยากให้เขาหนีจากผมไปอีก

“…ปล่อย!…” เขาตวาด ริมฝีปากแดงเม้มแน่น

“แล้วทำไมนายต้องเดินหนีฉันไปด้วย ?? ทำไม…”

“หยุดพล่ามซักที! ผมซื้อกระดาษจดหมายเขียนให้ครอบครัวของผม ผมชอบฟังเพลงมันแปลกนักรึไง ?? ..ที่ผมเดินมานี่ เพราะผมคุยจบแล้ว แล้วก็อีกอย่างนึง ชื่อย่อผมคือ TG ไม่ใช่ TK!!” เขาตวาดเสียงดัง สบตาผมนิ่ง… แต่แววตาของเขา ไม่สามารถปกปิดอะไรผมได้เลย…. ปิดอะไรไว้ไม่ได้เลย…..

“แล้วคืนนั้น… คือนายใช่มั๊ย ?” ผมถามเสียงสั่นอย่างอดดีใจไว้ไม่อยู่

“อ…อะไร..ผม..” เขาตะกุกตะกัก หน้าแดงไปจนถึงใบหู………… น่ารักจริง ๆ เลย ให้ตายเถอะ!! เขาพยายามสะบัดมือผมออก ผมมองท่าทางของเขาด้วยความขบขัน

“เป็นอะไร ?? …หรือว่านาย……กำลังเขิน ??” ผมถามยิ้ม ๆ

“ไม่ใช่!!” เขาตวาดอีกครั้ง….. แต่มันไม่ทำให้ผมรู้สึกแย่อีกแล้ว

“นายคือเจ้าของจดหมายนั่น…”

“โธ่เว๊ย! บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า!!” เขาตวาดกัดแขนของผมเต็มแรง

“โอ๊ย!!” ผมเผลอปล่อยมือ ทำให้เขาผละออกห่างจากตัวผม

“ผมไม่เคยส่งอะไรให้นายทั้งนั้นแหละ!!” เขาตะโกนบอกแล้วออกวิ่งไปจากผมอย่างรวดเร็ว…..

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมพบเขา….. ผมก็เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด…. เขาหลอกให้ผมควานหาตัว… หลอกให้ผมรอแล้ว รอเล่า…… หลอกให้ผมคิดว่า..เป็นผมเพียงแค่ฝ่ายเดียว…… ที่อยากเจอ…. อยากอยู่ใกล้ ๆ….ในที่สุดผมก็เจอเขาแล้ว……. ผมหาเขาเจอแล้ว………….

_____________________________________________
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ในที่สุด เธียรก็มาเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองแล้วน่ะจ๊ะ อย่าไปโกรธเธียรเลย เค้ารักมั่นน่ะเออ ส่วนพี่ธีร์ เฮ้อ.... เริ่มต้นความร้าย คอยดูกันต่อไปจ๊ะ พาร์ทหน้า จะมาเป็นบทความรู้สึกของกัณฐ์ กันบ้างล่ะ ถ้าคืนนี้ไหว พบกันค่ะ มันเข้มขึ้นละ o13
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ความรู้สึกของเธียร อิอิ[บทที่ 11.5]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 30-05-2011 18:15:30
มาเฉลยอีกนิดสิคะกำลังสนุกเลยเรื่องนี้ิ จะติดตามอ่านต่อไป :o8: :-[
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ความรู้สึกของเธียร อิอิ[บทที่ 11.5]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 30-05-2011 18:58:30
สนุก  แต่เธียรไม่อยากให้เป็นพระเอกเลยอะ  คนอะไรไม่รู้
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ความรู้สึกของเธียร อิอิ[บทที่ 11.5]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 30-05-2011 19:34:29
ถ้าหาเจอแล้วเธียรจะทำยังไงต่อล้ะ
อ้อออ แล้วก็อย่ามาทำให้กัณฐ์เสียใจอีกนะ
-___________________-ll
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ความรู้สึกของเธียร อิอิ[บทที่ 11.5]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 30-05-2011 20:52:56
เรื่องนี้ตามตั้งแต่อยู่ใน เด็กดีแล้ว

ว่าแต่ว่า คู่"กาแฟดำ" ไปถึงไหนแล้วคะ ???

แต่ถึงยังไงก็ยังรออ่านอยู่นะ

ทั้ง 2 คู่เลย =]
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ความรู้สึกของเธียร อิอิ[บทที่ 11.5]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: arun do d ที่ 30-05-2011 22:47:56
ในที่สุดก็รู้ซะทีนะ ปล่อยให้ลุ้นตั้งนาน
อยากบอกว่าชอบมากกกกกกกกกกกก
+1ให้คนเขียน  :pig4:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ความรู้สึกของเธียร อิอิ[บทที่ 11.5]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 30-05-2011 22:51:58
รอตอนต่อไปๆๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ภาคความรู้สึกกัณฐ์[บทที่ 12]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 31-05-2011 00:11:09
-12-
(http://uppic.kikuza.com/images/kan.jpg)[Kan Part]
หลังจากวันนั้นเหตุการณ์ทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ... เธียรเป็นปกติกับผม...
ผมรู้สึกโล่งใจ... ที่เขาไม่ได้ติดใจเรื่องที่ผมเป็นเจ้าของจดหมายนั่น...
และเสียใจ... ที่ผมทำตัวน่ารังเกียจ... หลอกลวงเพื่อให้ได้สถานะที่ไม่สมควรจะได้...
“เสาร์นี้กัณฐ์จะไม่ไปด้วยจริง ๆ เหรอ ??” หัวหน้ายิ้มถามผม
เขาหมายถึงเรื่องที่ไอ้ภีมชวนไปทะเล หมอนั่นชวนคนในห้องไปหลายคน และหนึ่งในนั้นรวมผมด้วย
“ไม่อยากไปอ่ะ ไม่สนิทกะใคร” ผมบอก
“น่าเสียดายจัง ไม่เปลี่ยนใจแล้วเหรอ ?” หัวหน้าพยายามพูดหว่านล้อมผม ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือก ๆ
มีเวลาว่างทั้งที ผมก็อยากเล่นเกมส์นาน ๆ บ้างเหมือนกันนะ
“หน่านะ นาน ๆ จะได้ไปเที่ยวทั้งที ผมก็อยากไปเที่ยวกับกัณฐ์ด้วย” หัวหน้าฟุบลงบนโต๊ะผม ทำให้ผมใจอ่อน
“อืม” ผมส่งเสียงเบา ๆ
“หืม ?? กัณฐ์เปลี่ยนใจแล้วเหรอ ??” หัวหน้ายิ้มร่า เงยหน้าขึ้นถามอย่างดีใจ
“หัวหน้าทำท่าเหมือนอยากให้ผมไปนี่นา” ผมบอก
“ว้าว! ทีนี้ก็มีผม มีกัณฐ์ ภีม เธียร หมิง ฝ้าย ชล บีม …” เขานับนิ้ว
“เยอะไปแล้วมั้ง”
“เยอะ ๆ สิ จะได้สนุก” หัวหน้ายิ้ม... ถ้าผมน่ารักได้ซักครึ่งหนึ่งของหัวหน้าก็คงจะดี....
“วันเสาร์นี้กัณฐ์ไม่อยู่บ้านเหรอ ?” พี่แบล็คถาม ผมพยักหน้าตอบ
“ไปทะเลกับเพื่อนน่ะฮะ” ผมบอก
“แล้วจะค้างคืนมั๊ย ?”
“วันอาทิตย์กลับฮะ”
“อืม… ไปพักผ่อนซะบ้างก็ดีนะ”
“พี่กัณฐ์มีเรื่องมาอีกแล้วววว” บราวน์สับไพ่ เดินมานั่งบนตักผม
โอ๊ย!… ไอ้เด็กโข่ง….
“บราวน์.. ไม่กลัวกัณฐ์จะไส้ทะลักตายเหรอ..ลงมา!” พี่แบล็คลากน้องชายของเขาลงจากตักผม
เฮ้อ โล่ง…!
“พี่แบล็คกับพี่บลูนี่พอกันเลยอ่ะ” ไอ้บราวน์บ่น ส่งสายตาอ้อนให้ผม
“พี่กัณฐ์เล่นสลาพกันเหอะ” มันยิ้มชวน
“มาเลย ไอ้เสือ”
“สงสัยวันหลังผมต้องให้พี่กัณฐ์นั่งตักซะแล้วละมั้ง” มันบ่นเบา ๆ
“อ้อ! เกือบลืม วันเสาร์นี้อาเฟ้ยกับพี่เมย จะมาพอดีเลย” พี่แบล็คบอกผม
“อาเล็กมาเหรอฮะ!” ผมยิ้มกว้าง อยากเจอเร็ว ๆ จัง~~
“อืม…. กัณฐ์ไม่ไปทะเลได้มั๊ย ? อาเล็กกับพี่เมยมาไม่กี่วันเอง” พี่แบล็คถามด้วยสีหน้าลำบากใจ
“….แต่ผม….” …หัวหน้าอุตส่าห์คะยั้นคะยอจนผมตอบตกลงไปแล้วนา…..
“เฮ้อ! ช่างเถอะ……งั้นให้อาเฟ้ยใช้ห้องกัณฐ์นะ” พี่แบล๊คลูบหัวผมเบา ๆ
“ตามสบายเลยฮะ” ผมอมยิ้ม นึกถึงคุณอาสุดน่ารักของตัวเอง
อาเฟ้ยเป็นน้องของคุณพ่อที่อายุค่อนข้างห่างกัน เขาอายุเท่ากับน้องชายของผม แต่หน้าตาน่ารักยังกะเด็กผู้หญิง ส่วนพี่เมย เป็นญาติผู้พี่ของพวกผม ….และพี่เมยก็หวงอาเล็กราวกับจงอางหวงไข่!
พวกเรามาพักกันที่บ้านริมชายหาดของไอ้ภีม แถว ๆ นี้ไม่ค่อยมีผู้คน คาดว่าน่าจะเป็นหาดส่วนบุคคลนะ..
แล้วสิ่งที่ผมคิดไว้ก็เป็นจริงดังคาด มาทะเลแล้วเซ็งสนิท อากาศร้อนอบอ้าว ลมพัดฝุ่น พัดทรายมา เต็มตัว
“ไอ้กัณฐ์! มาทะเลไม่ลงน้ำ จะสนุกป่าววะ” ฝ้ายตะโกนเย้ว ๆ ชวนผมลงน้ำ
“ไม่เอาอ่ะ” ผมบอกส่ายหัวพรืด น้ำทะเลเค็ม ๆ เหนียวตัวเหนอะหนะ แถมยังมีสิ่งปฏิกูลของมนุษย์ลอยละล่องไปมา ผมไม่เข้าใจจริง ๆ เวลาที่พวกมันกลืนน้ำทะเลเข้าปากแล้วรู้สึกยังไง
ผมแอบมองเธียรกำลังเล่นน้ำกะหนุงกะหนิงกับหัวหน้า…….เฮ้อ…
ดูเข้ากันจังเลยน้า… ถ้าหัวหน้าน่ารักน้อยกว่านี้อีกซักนิด ผมคงไม่ลำบากใจที่จะแย่งเขามาหรอก (??)
“นั่งทำอะไรอ่ะ ?” ภีมมานั่งข้างผม ชะเง้อดูสมุดสเก็ตที่ผมหยิบติดตัวมาด้วย
“ไม่เห็นรึไง” ผมบอกแต่ยังคงนั่งวาดรูป ไม่ได้ใส่ใจมัน
“ฝีมือดีนะเนี่ย”
“ไม่ต้องประชดเหอะ” ผมเหล่ตามองไอ้ภีม
“มีเรื่องมาอีกแล้วอ่ะดิ ดูปากแตกซะ” มันเชยคางผมขึ้น แล้วหยิบตลับยาอะไรไม่รู้ขึ้นมาขึ้นมา
“ทายาแล้ว” ผมสะบัดหน้าหนี
“ทาที่ไหน เนี๊ย! ไม่เห็นมีอะไร” มันจับริมฝีปากผมเบา ๆ ผมจะขยับตัวออกห่างมัน แต่มันโอบคอผมเข้าไปหา
“ทาแล้วเมื่อวานซืน!” ผมวางสมุดดันตัวมันออกห่าง
“เฉย ๆ ได้มั๊ยฮะ! ทำไมไม่ทำตัวน่ารัก ๆ บ้าง” นิ้วเรียวนั่นกดคลึงบนริมฝีปากของผม
“แล้วทำไมต้องทำให้น่ารักด้วยเล่า!” ผมปัดแขนมันออก เม้มริมฝีปากแน่น
ไอ้ภีมเลยช้อนศรีษะผมขึ้นและออกแรงกดเพิ่มขึ้นบนริมฝีปากที่ผมเม้มจนเป็นเส้นตรง
ผมพยายามดันตัวมันไปห่าง ๆ ก็แล้ว ทุบไหล่มันก็แล้ว แต่มันก็หัวเราะชอบใจ แมร่งเหอะ! ไอ้โรคจิต!!
“เฮ้ย! ไอ้ภีม ทำอะไรวะนั่น” บีม เพื่อนหญิงต่างห้องของไอ้ภีมตะโกนถาม
ยิ่งผมผลักไสไอ้ภีม มันก็ยิ่งออกแรงมากขึ้นจนผมรู้สึกเจ็บ
“ภีม อย่าแกล้งกัณฐ์ดิ” เธียรยืนมองเราทั้งคู่ ผมสะดุ้งโหยง..….เขาอยู่ใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
“ไม่ได้แกล้ง …. ทายาให้เฉย ๆ” ไอ้ภีมยอมปล่อยมือจากผมเสียที
ผมมองมันตาขุ่น ใช้มือเช็ดคราบเจลที่เลอะอยู่รอบปากตัวเอง
“เอ้า เลือดออกเลย” ไอ้ภีมท่าทางตกใจ รีบขอโทษขอโพยผม
ยุ่งจนได้เรื่องประจำ!!
“จะไถ่โทษให้แล้วกัน” มันยิ้มโชว์ฟันขาวแล้วอุ้มผมขึ้นพาดบ่า
“เฮ้ย! ไอ้ภีม!! เล่นไรเนี่ย!! ไอ้!@##$” มันรีบวิ่งพาผมลงไปในทะเล แล้วปล่อยผมตกลงในน้ำดังตู๊ม
ผมโผล่ศีรษะขึ้นเหนือน้ำ
“ไอ้ภีม! ไอ้เพื่อนสารเลว! ไอ้$#^%$” ผมตะโกนคำด่าสารพัด แต่มันก็ยังหัวเราะเริงร่าพร้อมเพื่อน ๆ ทั้งหลาย ไม่เว้นแม้แต่หัวหน้า
ผมโมโหตีน้ำใส่ไอ้ภีม แล้วถูกมันวักน้ำกลับจนเกิดเป็นสงครามย่อย ๆ จากนั้นก็มีแต่เสียงหัวเราะ…
จะว่าไปมันก็เป็นการมาพักผ่อนที่ไม่เลวเหมือนกันนะ…
เราเล่นน้ำกันจนถึงตอนเย็น ผมหิวโซท้องร้องเสียงดัง
เพิ่งรู้ว่าตัวเองเสียพลังงานไปมากขนาดไหนก็ตอนที่ขึ้นมาจากทะเลแล้วนั่นแหละ
บ้านพักของไอ้ภีมมี 4 ห้องนอน แบ่งกันห้องละ 2 คนพอดี ผมได้นอนห้องเดียวกับหัวหน้า แต่ห้องของผู้ชายดั๊นไม่มีห้องน้ำน่ะสิ ผมเลยต้องมารออาบที่ห้องน้ำข้างล่าง
ระหว่างรอหัวหน้าผมก็ออกไปนอกบ้านฉีดน้ำจากสายยางใส่ตัวเอง…โคตรคันเลย
ผมล้างศีรษะและถอดเสื้อออก.. ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากถอดกางเกงในออกด้วยอ่ะนะ
“ขี้ก้างว่ะกัณฐ์ มีแต่รอยช้ำเขียว ๆ เต็มไปหมด” ผมทำหน้าเบื่อหน่าย มันจะมาวิจารณ์หุ่นผมทำไมเนี๊ย!
“ดูนี่ดิ” ไอ้ภีมเบ่งแขนที่ดูมีกล้ามเนื้อของมันอวด
“เออ” ผมเลิกสนใจแล้วฉีดน้ำใส่หน้าตัวเองต่อ
“ถ้าจับแรง ๆ ตัวนายจะหักเป็น 2 ท่อนมั๊ยเนี่ย ?” ไอ้ภีมทำท่าจะมาแต๊ะอั๋งผม ผมเลยฉีดน้ำใส่หน้าของมันเต็ม ๆ
“นี่แน่ะ! ไอ้โรคจิต!” ผมหัวเราะ …แหม! การรังแกคนอื่นนี่มันสนุกแบบนี้นี่เอง
ผมรีบวิ่งเข้าบ้าน เมื่อมันทำท่าทางจะแตะต้องตัวผมอีก
แย๊กกกกกกกกกกก!!
เท้าเปียก ๆ ของผมมีฟิกชั่น(friction : แรงเสียดทาน)น้อยเมื่อเจอกับพื้นเรียบ ๆ ราคาแพง
“เซฟ~!” ไอ้ภีมหัวเราะชอบใจเมื่อมันคว้าตัวผมไว้ทัน ก่อนที่หน้าของผมจะจูบกับพื้น
“ใจหายหมดเลย” ผมถอนหายใจโล่งอก เท้า ?? เท้าใครเนี่ย ?? ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“…..” เธียรมองผมด้วยสายตาอ่านไม่ออก... ผมหลบตาเขา
ผมขยับตัวหนีจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด ...พยายามอยู่ให้ห่างมือไอ้ภีม
“เดี๋ยวก็…”
“อ้าว! หัวหน้าออกมาแล้ว” ผมพูดขัดเธียร รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ 
เมื่อผมอาบน้ำเสร็จ ผมก็เพิ่งตระหนักว่า……
“…ภีม! ช่วยหยิบผ้าขนหนูให้ผมที!” ฮือ ๆ.. น่าอายอีกแล้วววว!!!!!
ผมโดนไอ้ภีมแกล้งเหวี่ยงผ้าขนหนูไปมา จนเธียรต้องเข้ามากระชากผ้าขนหนูจากมือของไอ้ภีมส่งให้ผม….
“..ข…ขอบคุณ…” …ผมพึมพำเบา ๆ ..... แปลกอีกแล้ว .....
…. เธียรอาจจะเมาแดดก็ได้……
_________________________________________
อิอ๊างงงง มาต่อให้ตามสัญญา แถมกด + แจกทุกคนเลยค่ะ ปลื้มใจ ที่ทุกคนชื่นชอบกัน ยังค่ะยัง ถึงเธียรจะรู้แล้วว่าคนที่เค้าเฝ้ารัก เฝ้าตามหาคือใคร แต่กัณฐ์สิค่ะ เข้าใจไปอีกแบบ ลุ้นกันอีกสักนิดเนอะ พบกันพรุ่งนี้จ๊ะ คึกคัก ลงมันเช้าเย็นเลยดีป่ะ และขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ปลื้มใจแทนหยดจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ภาคความรู้สึกกัณฐ์[บทที่ 12]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 31-05-2011 00:20:05
เธียรเร่งทำคะแนนเข้าเดี๋ยวโดนภีมงาบไปหรอก
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ภาคความรู้สึกกัณฐ์[บทที่ 12]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 31-05-2011 01:36:09
ชอบมาก
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ภาคความรู้สึกกัณฐ์[บทที่ 12]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 31-05-2011 02:52:14
โห เธียร กว่าจะได้ใจ เกือบเซง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ภาคความรู้สึกกัณฐ์[บทที่ 12]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 31-05-2011 20:10:39
 :jul3: :jul3: :jul3: :jul3: :jul3: :jul3: :jul3:

ฮูเร่!!!!

มาแล้วๆๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ภาคความรู้สึกกัณฐ์[บทที่ 12]up 30.05.54
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 01-06-2011 12:34:49
ไหนบอกว่าจะมาลงทุกวันงายยยยยยยย รออยู่นะ :)
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เมื่อกัณฐ์ต้องเสียเลือด[บทที่ 13]up 1.06.54
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 01-06-2011 22:13:28
-13-
หลังจากทำภารกิจกันเสร็จแล้ว ผมก็ได้แต่นั่งมองเพื่อน ๆ อย่างเอ๋อ ๆ
“คลื่นตรงนี้เป็นแอนตี้โนท (Antinode) นะ ก็แทนสูตรแล้วก็ได้คำตอบเลย ลองดูดี ๆ” หัวหน้าอธิบายชล ที่กำลังนั่งขยับแว่นหนา ๆ ของเธออยู่
“กัณฐ์มีอะไรจะถามมั๊ย ?” หัวหน้าเข้ามาคุยกับผม
ผมส่ายหัวอย่างไม่ต้องคิด
“นี่ก็ใกล้จะสอบแล้วนะ เริ่มอ่านได้แล้วล่ะ” หัวหน้าบอกผม
ผมได้แต่พยักหน้าหงอย ๆ ....แล้วหัวหน้าก็ส่งหนังสือชีวะเล่มหนามาให้ผม.... - -* .... เพื่ออะไรค้าบบบบ!!
“รอน ๆ ทางนี้หน่อย” ฝ้ายส่งเสียงเรียก
“อ๊ะ เดี๋ยวมานะ” พอหัวหน้าไปผมก็นั่งจ๋อย เหลือบไปมองไอ้ภีมกับหญิงบีมที่นั่งจิบโค้กชมวิวอ่านหนังสือกันอยู่ริมระเบียงก็รู้สึกหยอง ๆ ไงพิกล
“ไง.. ไม่อ่านเหรอ ?” เธียรถามผมเบา ๆ
“ทำไม!” ผมตอบเสียงแข็งกลบเกลื่อนความอาย
“ฉันสอนให้เอามั๊ย ?” เธียรถามยิ้ม ๆ เอื้อมมาจับมือของผม
ผมสะดุ้งรีบดึงมือกลับ… แต่นิ้วสาก ๆ ของเขาเหนียวแน่นหนึบ ไม่มีการปล่อยให้หลุดออกมา
“มือเล็กจัง… อืม…ฝ่ามือตรงนี้เป็นข้อต่อกระดูกแบบสไลด์ (Gliding Joint) มันจะขยับได้นิดหน่อย” เขาบอกกดลงบนฝ่ามือผมเบา ๆ ….ผมได้แต่ฟังเขาอย่างเอ๋อ ๆ และรู้สึกว่าหน้าตัวเองกำลังจะไหม้เกรียม
“นิ้วแต่ละข้อกับศอกของนายเป็นข้อต่อแบบบานพับ (Hinge Joint) มันก็หักลงมาได้แต่หมุนไม่ได้..คล้าย ๆ บานประตูนั่นแหละ …..ไหล่กับขาของนายเป็นข้อต่อแบบลูกกลมในเบ้ากระดูก (Ball and shocket Joint) เห็นมั๊ยว่ามันหมุนได้ไม่ว่านายจะขยับไปทิศไหน…ส่วนคอของนาย…” เธียรอธิบายเรื่อย ๆ และใช้มือสากร้อนของเขาสัมผัสและขยับร่างกายของผม แต่พอมาถึงคอผมก็รีบขยับหนี…
เล่นอะไรของเขาเนี่ย!!!!! …ผมอายจะตายอยู่แล้วนะ!!!
บังเอิญโทรศัพท์ของผมดังขึ้น …ชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
ผมรีบปลีกตัวออกไปรับโทรศัพท์
“หวัดดีฮะ อาเล็ก” ผมส่งเสียงทักทายอย่างยินดี
“กัณฐ์บู้! ทำไมไม่อยู่รออาเฟ้ยอ่ะ” เสียงปลายสายสะบัดอย่างไม่พอใจ
“กลัวพี่เมยกินหัวอ่ะ” ผมหัวเราะ
“โอ๊ยย! คิดถึงกัณฐ์จะตายอยู่แล้ววว เก๋อกะหวังก็ฝากคิดถึงมาด้วยน๊า” เก๋อคือน้องชายของผมครับ ส่วนหวังคือญาติ เป็นลูกของคุณลุง
“อื้ม! แล้วมาถึงกี่โมงเหรอ ?”
“ตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว กัณฐ์กลับเมื่อไหร่อ่ะ อาเฟ้ยจะรอรับ”
“พรุ่งนี้เที่ยง … แล้วเจอกันนะฮะ”
“ค้าบโผม ฝันดีน๊าค๊าบ”
“ฝันดีฮะ” ผมยิ้มวางโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี
“ใคร ?” เสียงของเธียรถามอย่างเย็นชา ผมเหลือบมองเขางง ๆ …นายอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อหร๊ายยยย!!
“นายมีเพื่อนชื่ออเล็กซ์ด้วยหรือไง ??” เขาถามเสียงเครียด ผมกอดอกมองเขาใจเต้นโครมคราม… คงเพราะผมเรียกอาเล็กเร็ว ๆ หมอนี่เลยได้ยินผิดเป็นอเล็กซ์ไป
“เกี่ยวกับนายหรือไง ?”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อนาย….เป็นเมียฉัน” ท้ายเสียงของเขากระซิบแผ่วเบา ...ผมอ้าปากเหวอหน้าร้อนไปหมด
“น..นาย!!” เขาใช้มือปิดปากผมไว้แน่น
“จะเสียงดังทำไมเล่า” เขาถามยิ้ม ๆ รั้งเอวผมเข้าไปใกล้ โอยยย~~~~~~
ยิ่งเห็นหน้าเขาใกล้ ๆ ผมก็ยิ่งเข่าอ่อน จะเป็นลมล้มพับลงไปแล้ววววววววว
“ป..ปล่อย” ผมบอกเบา ๆ จนแทบไม่ได้ยินเสียง
“กัณฐ์ นาย….. ” ผมตาลายไปหมดเมื่อเห็นริมฝีปากของเขากำลังขยับอยู่ใกล้ ๆ
“เลือดกำเดาไหล” ผมสะดุ้ง เช็ดของเหลวสีแดงที่ไหลออกมาจากรูจมูกงง ๆ
โธ่!! น่าอายจริง ๆ ทำไมผมต้องเลือดกำเดาไหลด้วย!!
“เงยหน้าขึ้นนะ ฉันจะพาเข้าไปในบ้าน” เธียรบอกเบา ๆ อย่างห่วงใย เขาใช้แขนโอบไหล่ประคองผม
แว๊กกกกกกกกก!!! มืออุ่น ๆ ของเขาทำเอาใจผมเต้นเหมือนกลองระรัว ผมจะตายมั๊ย!! ผมจะตายรึเปล่า ?
ผมรู้สึกมึนไปหมด หน้าร้อน สมองหมุนติ้ว …โอย….ไม่ไหวแล้ว…
“กัณฐ์!” ผมได้ยินเสียงเรียกของเขา ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบ
“อือ…” ผมครางเบา ๆ รู้สึกดีเมื่อมีอะไรเย็น ๆ มาสัมผัส
ผมคว้าจับสิ่งที่คิดว่าเป็นผ้าเย็น ๆ นั้นมาไว้ตรงซอกคอ
“เป็นไงบ้างกัณฐ์” เสียงคุ้นหูถามเบา ๆ ผมขยับลืมตาขึ้นมอง
“หัวหน้า?” ผมถามงง ๆ รีบปล่อยมือตัวเองที่จับมือของหัวหน้าออก
“นายเป็นลม แล้วก็เลือดกำเดาไหลอ่ะ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นรึเปล่า ?” หัวหน้ายิ้มถาม
ผ้าที่เปียกหมาด ๆ วางแหมะเข้าตรงหน้าผากของผม
“ร่างกายอ่อนแอจริง ๆ เลย ถ้าเธียรไม่ไปดูนาย ป่านนี้นายนอนตายอยู่ข้างนอกแน่ ๆ” ไอ้ภีมบ่น ผมหน้าร้อน เมื่อได้ยินชื่อของเขา… หรือว่าผมฝันไป…ผมต้องคิดไปเองคนเดียวแน่ ๆ เลย…
ผมเหลือบไปมองเขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว… และไม่มีทีท่าจะสนใจผมซักกะติ๊ด
……เฮ้อ……
ประมาณเที่ยงคืน ทุกคนก็พากันขึ้นไปยังห้องนอนของตนเอง ผมเดินรั้งท้าย กำลังคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะเป็นลมนั้นคือเรื่องจริงหรือผมแค่ฝันไป…
“ไม่เป็นไรนะ” เสียงทุ้มกระซิบถามเบา ๆ ที่ข้างหู  ...ผมผวา! รีบก้มหน้าหลบงุด ๆ
นิ้วมือสากลากคลึงฝ่ามือของผมเบา ๆ ราวกับต้องการปลอบประโลม ….หรือว่าอย่างอื่นวะ…?
“นายทำให้ฉันตกใจแทบแย่” ผมหันควับไปมองหน้าเขา
“….ฉันจะจำไว้ว่านายขี้อายขนาดไหน” เขามองผมยิ้ม ๆ …..ทำไมยิ้มแบบนี้ ? ……
………………………………………………………………..….ผมไม่ได้ฝันไปหรอกเรอะ!!
ผมเหงื่อแตกพลั่ก รีบวิ่งเข้าไปในห้องของตัวเอง
“กัณฐ์เป็นอะไร ?” หัวหน้าหันมาถามงง ๆ
“ป..เปล่า” ผมปฏิเสธเบา ๆ
……..นี่มันเกิดอาเพศอะไรขึ้นกับชีวิตของผมกันเนี่ย!!!!!!!
ผมนอนแทบไม่หลับทั้งคืน พยายามคิดเรื่องที่เกิดขึ้น …ความเปลี่ยนแปลงของเธียร….
หรือว่าเธียรเริ่มจะหลงเสน่ห์ผม... คนมันหล่อน่ะ ทำไงได้... เฮ้ย! จะบ้ารึไง~!!!
อ๊ากกกกกกกกกกกกก~~!!!
จะปล่อยให้มันคาราคาซังแบบนี้ไม่ได้!! ผมต้องคุยกับเขา!!
ผมตัดสินใจลุกขึ้นเมื่อเห็นแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา และเดินตรงไปยังห้องของเขา
ก๊อก ๆ ๆ
“…” ผมยืนรออย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ยังไม่เห็นมีใครเปิด
ก๊อก ๆ ๆ
สงสัยว่าจะยังไม่ตื่นกันแฮะ….
ผมตัดสินใจเดินกลับ แต่เสียงเปิดประตูดังขึ้นเสียก่อน
“อืม… มีอะไรกัณฐ์” ไอ้ภีมเปิดประตูถาม ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตาเพิ่งตื่นนอนของมันสุดตรีนจริง ๆ
“อุ๊บ!” ผมแอบหัวเราะเบา ๆ
“หัวเราะอะไร ?” มันเลิกคิ้ว เกาก้นตัวเอง
“น่าเกลียดจริง ๆ เลย” ผมบ่นเบา ๆ
“อ๊ะ.. อยากดมเหรอ ?” มันถาม ...ผมไหวตัวแต่หลบไม่พ้นรัศมีมืออสูรของมัน
“ไอ้ภีม!!” ผมร้องโหยหวนเมื่อมันล็อกคอ แล้วเอามือที่เกาก้นเมื่อกี้มาป้ายหน้า
กรี๊ดดดดดดดดดดดด~~!! ผมกรีดเสียงร้องในใจ ไอ้อุบาทว์เอ๊ย!!
มันหัวเราะชอบใจ แมร่งโรคจิตโคตร ๆ
“โอ๊ย!!” มันร้องเสียงหลงเมื่อผมเผลอใช้กำปั้นทุบหลังของมัน
“ป..เป็นอะไรรึเปล่า ?” ผมถามอย่างตกใจ รีบเลิกเสื้อมันขึ้น
“อย่า!” ไอ้ภีมรีบห้าม ดึงเสื้อลง…แต่ผมเห็นรอยฟกช้ำบนตัวมันแล้วก็หัวเราะไม่ออก… ไม่น่าล่ะ มันถึงใส่เสื้อตลอด… รอยฟกช้ำบนหลังของมันยังไม่หายดี ปรากฎเป็นรอยเขียว ๆ ม่วง ๆ บนแผ่นหลังกว้าง
“ข… ขอโทษนะ” ผมบอกเบา ๆ…..ด้วยความสำนึกผิด
“ฮึ…ฮะ ๆ…นายนี่มัน…” ภีมหัวเราะเบา ๆ โอบกอดตัวผมแน่น
“หยึย!” ขยะแขยง!! …ท้ายประโยคผมคิดต่อในใจง่ะนะ…..
“ภีม ..ปล่อย” เสียงเย็น ๆ ดังขึ้นจากข้างหลัง ไอ้ภีมทำหน้างง ๆ แต่ก็ปล่อยผมโดยดี
“ธ..เธียร” ผมเรียกชื่อเขาเบา ๆ รีบก้าวไปหา
“ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ” ผมบอกเสียงเครียด….. ตายเป็นตายวะ!
….. ถึงเขาจะไม่ชอบผม………..ถึงเขาจะเกลียดผม
……แต่มันก็ยังดีกว่าให้เขาเสแสร้ง ทำให้ผมตายใจ…..
แบบนั้นมันเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่า……
_____________________________________
กรี้ดดดด อย่าเพิ่งทวงเค้าน่ะตะเอง คิคิ กลับบ้านดึก แรดลืมตัวง่ะ เค้าชดเชยให้ 2 ตอนเลย คิคิ เป็นไง กัณฐ์เสียเลือดสาดดด เลย  :laugh:กร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ในที่สุดเค้าสองคนก็....ล่ะ [บทที่ 14]up 1.06.54
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 01-06-2011 22:17:59
-14-
ผมเดินนำหน้าเขามายังชายทะเล อากาศตอนเช้านี่มันแจ๋วจริง ๆ
“ผมต้องพูดกับคุณให้รู้เรื่อง” ผมพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ไม่ให้ตื่นเต้นจนเกินไป
“แล้วตอนนี้นายพูดกับฉันไม่รู้เรื่องรึไง ?” เขาเลิกคิ้ว ขยี้ตาเบา ๆ แถมหาวอีกทีหนึ่ง
“นี่ผมจริงจังนะ เธียร!” ผมพยายามสบสายตาให้เขารู้ว่าผมจริงจังมากแค่ไหน!!
“แล้วมีอะไรล่ะ ?” เขาถาม ดูเหมือนจะเริ่มเครียดตามผมแล้ว
“ทำไมคุณต้องทำแบบนั้นด้วย ?”
“แบบไหน ??” เขาถามงง ๆ
“ก…ก็….ก็แบบเมื่อวาน” ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มสั่น… ม่ายยยยย!! สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อย่ากลัวไอ้เสือ!!
“อืม… ไม่ชอบเหรอ ?” เขาถามยิ้ม ๆ
“ไม่ใช่นะ! ..เอ่อ…” ผมบอกกุกกัก พยายามเรียบเรียงคำพูด
“งั้นก็ชอบ..” เขายิ้มกว้าง
“ง่า… คือผมหมายความว่าทำไมถึงต้องทำแบบนั้น” ผมเริ่มอยากซับเหงื่อ เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นคนที่เข้าใจอะไรยาก
“ก็นายเป็นเมียฉัน” เขาบอกหน้าตาย
“อ๊ะ อย่าเป็นลมนะ” เธียรรีบเอื้อมมือมาคว้าตัวผมที่เริ่มจะทรงตัวไม่อยู่
“ล..ล…แล้วมันเกี่ยวอะไรกันเล่า!!” ผมตะโกนเสียงดังด้วยความอับอาย
“ฉันขอถามอีกครั้งนะ……… นายคือเจ้าของจดหมายสีเหลืองอ่อนที่ใช้ชื่อว่า TK ใช่มั๊ย ?……..ห้ามโกหก” เขาก้มลงสบตาผม …..เอาหน้าของนายไปไกล ๆ หน่อยได้ม้ายยยยยยยยย!!
“…ช..ใช่” ผมบอกเบา ๆ หลุบตาต่ำ….
….เขาจะเกลียดผมใช่ไหม ??…. ผมเหงื่อแตกพลั่ก ๆ เมื่อเขานิ่งไปหลายวินาที…
“……ก็แค่นั้น” เขาบอกเบา ๆ กอดรัดตัวผมแน่นจนผมรู้สึกอึดอัด
อุ๊ก……...เริ่มนานไปแล้วนะ เธียรจะทำให้ผมสำลักความสุขตายรึไง!
“เธียรจะฆ่าผมให้ตายใช่มั๊ยเนี่ย!” ผมดันไหล่เขาเบา ๆ เมื่อรู้สึกหายใจไม่ออก
“เงียบหน่า… รู้มั๊ยว่าฉันตามหาเธอมานานเท่าไหร่… รู้มั๊ยว่าฉันฝันถึงเธอทุกครั้งที่หลับตา ทอร์….” เขากระซิบบอกเบา ๆ ซุกหน้าลงบนบ่าผม
อะไรทอร์ ๆ นะ… กอดผมอยู่เห็น ๆ ยังมาทงมาทอร์อะไรอีกเนี่ย!!
“ปล่อยผมเลยนะ! ผมไม่ใช่ทอร์อะไรนั่นของคุณ!” ผมทึ้งหัวของเขาด้วยความโมโห
“โอ๊ย! โอ๊ย! เจ็บนะ.. ฉันหมายถึงเธอนั่นแหละ… ทอร์….ทอร์เทอร์เรอ…. คนที่ทำให้ฉันทรมาน..” เขายิ้มซุกซน หอมแก้มผมแรง ๆ ทั้ง 2 ข้างจนผมรู้สึกสมองหมุน
“อ..อะไรนะ!” ผมถามเขาเสียงดัง ตอนนี้ผมรู้สึกว่าใจเต้นแรงจนจะหลุดออกมาแล้วนะ!!
“ฐาปเดช กัณฐเมธา… ทำไมฉันถึงไม่เคยนึกมาก่อนเลย” เขาพึมพำเบา ๆ ซุกหน้าลงบนไหล่ผม
“เอ่อ… เธียร… ผมว่านายปล่อยก่อนดีกว่านะ” ผมพยายามดันตัวเขาออกห่าง เขาจะได้ยินเสียงหัวใจของผมเต้นมั๊ยเนี่ย… ฮือ ๆ น่าอายที่สุดเลย…..
“นี่… เจ็บไหม ? ที่ฉันต่อยหน้าเธอ … ฉันขอโทษนะ  ขอโทษจริง ๆ” เธียรลูบใบหน้าที่เคยปรากฎรอยช้ำของผมเบา ๆ แล้วกดจูบลงไป
ผมรู้สึกเหมือนตัวล่องลอยขึ้นไปบนอากาศ เขาเมาอีกแล้วใช่มั๊ย??
หรือผมตื่นเต้นจนสลบลงไปกลางทาง ??
ผมฝันไปใช่มั๊ยครับ ??
“ผ..ผมฝันไปงั้นเหรอ ?” ผมถามเบา ๆ
“ฝันที่ไหนกัน….” มือหนาช้อนศีรษะผมขึ้นรับจุมพิตแสนอ่อนโยน
ง่า… ไม่อยากเล่าต่อเลย…. ง่า……
อย่าทำให้ผมหนักใจได้มั๊ยฮะผู้อ่าน!!!
ตัดจบ!!
 
โอ๊ย! โอ๊ย! ยัยอ้วน~! ตีผมทำไมเนี่ย! ก็ผมอายนี่นา T^T
….เธียรบอกว่าเขาปิ๊งผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน… ก็ไอ้วันที่ผมเอาจดหมายไปให้เขานั่นแหละครับ.. เขาก็รอผมโผล่หน้าไปหาเขาทุกงาน แต่ก็ไม่เคยเจอ … เขาได้รับเพียงแค่จดหมายของผม…. เขาเลยตั้งชื่อให้เจ้าของจดหมายจากอักษรตัว T ของผมว่า ทอร์เทอร์เรอ (torturer : คนที่ชอบทรมานคนอื่น) ยิ่งนานวันเข้า สรีระของผมก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา ผมตัวสูงขึ้นเยอะ แต่น้ำหนักคงที่ ก็เลยกลายเป็นไอ้แห้งไปในบัดดล แถมยังเลิกใส่แว่น ทำเอาเขาจำไม่ได้กันเลยทีเดียว…. เขาบอกว่าเขาใจเต้นช่วงที่ผมใส่แว่นเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะผมคล้าย….เขาเลยต้องอยู่ห่างผมไว้ไม่อยากนอกใจทอร์ (ก็คือผมนั่นเอง)….แต่เขาเริ่มมาเอะใจตอนที่เห็นรูปผมใส่แว่นในมือถือของไอ้ภีม… ตอนที่มันนอนอยู่โรงพยาบาลนั่นแหละ… เขาเลยนึกได้ว่าทุก ๆ อย่างของผมมันลงล็อกไปหมด… ไม่ว่าจะลายกระดาษจดหมาย… เรื่องที่ชอบฟังเพลง… ลายมือ …และสำคัญที่สุด…..คือลายเซ็นบนคานไม้นั่นของผม…ถ้าไม่มีลายเซ็นนี่รับรองว่าเขายังคงเย็นชากับผมเช่นเดิม!!  อ๊ากกกกกกก!!!
รู้อย่างงี้ผมน่าจะบอกเขาไปตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว ว่าผมนี่แหละคือเจ้าของจดหมายนั่น!!!
…..แต่ผมยังติดใจอยู่เรื่องหนึ่ง…….
……ทำไม…..พี่ธีร์ต้องโกหกผม ???
“นายห้ามให้ไอ้ภีมกอดอีกเข้าใจมั๊ย ?” ผมพยักหน้าหงึกหงัก
“แล้วกับคนที่ชื่ออเล็กซ์ก็ห้ามมีอะไรเกินเลยเข้าใจมั๊ย ?” ผมพยักหน้าหงึกหงัก
“กับรอนก็ห้ามเอนเอียงไปหา เข้าใจมั๊ย ?” ผมขมวดคิ้ว แต่ก็พยักหน้าหงึกหงัก
“แล้วกับญาติที่ชื่อบลู..”
“เอ๊ะ!” ผมหัวขวับไปมองหน้าเขา
“ฉันหวงเธอ ผิดด้วยรึไง” เขาเลิกคิ้ว
“ทีเมื่อก่อนไม่เห็นมีอะไรแบบนี้เลย” ผมบ่นหน้าบึ้ง
“ก็เมื่อก่อนมันไม่เหมือนตอนนี้นี่นา” เขายิ้ม… ผมรู้สึกหน้าร้อน.. เขาไม่เคยยิ้มแบบนี้ให้ผมมาก่อน… ไม่เคยเลย… ไม่มีซักครั้ง…
“เวลาที่นายอายเนี่ย… น่ารักสุด ๆ ไปเลย” เขายิ้มบอก กระชับมือผมกุมแน่น
“ต่อไปนี้เรียกฉันว่าเธียรนะ ….แล้วต้องแทนชื่อตัวเองว่ากัณฐ์ด้วย”
“หา ?”
“เข้าใจมั๊ยครับ กัณฐ์ของเธียร…” เขายิ้มบาง สบตาผม …..ผมรีบหลบสายตาเขา…. ได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบา ๆ ด้วย…… เขาจูงมือผมเดินกลับเข้าไปในบ้านพัก
“ไปไหนกันมา 2 คนน่ะ ?” ฝ้ายทักนั่งกินขนมอยู่หน้าระเบียง เธอจ้องเขม็งมาที่มือของเธียรที่กุมมือผมอยู่
ผมรีบดึงมือออก ก้มหน้างุด ๆ วิ่งเข้าไปในบ้าน
“อ้าว! กัณฐ์รีบไปเตรียมของเถอะ เดี๋ยวเราจะกลับกันแล้ว” หัวหน้าบอกผม ผมพยักหน้าให้เบา ๆ
“ทำไมหน้าแดงงี้อ่ะกัณฐ์ เลือดกำเดาจะไหลรึเปล่า ?” หัวหน้าแซวยิ้ม ๆ
ผมเกาหัวแก้เขินแล้วรีบวิ่งกลับขึ้นไปบนห้อง
เฮ้อ~!! ……มีความสุขจริง ๆ เลยน๊า……
_________________________________________
ตอนนี้ มาแบบสั้น ๆ แต่ก็เข้าใจกันสะทีเนอะ สองคน ว่าแต่สงสัยกันช่ายป่ะ ว่าทำไมพี่ธีร์ ถึงทำแบบนี้ อิอิ สงสัยกันต่อไป พบกันคราวหน้ากับ ตอนพิเศษของ หัวหน้ารอนกันค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามกันมา รักน่ะม๊วฟๆๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ชดเชยที่ขาดไป มากัน 2 ตอนเลย[บทที่ 14]up 1.06.54
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 01-06-2011 22:22:46
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ ---- RUN & RON [up 2.06.54 ]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 02-06-2011 11:58:57
เตือนเล็กน้อย... มันไม่ y นะคะ ..ยังไงก็ช่วยอ่านคำชี้แจงข้างล่างด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ตอนพิเศษ ---- RUN & RON
ถ้าหากว่าเป็นไปได้ละก็….. ผมอยากย้อนเวลากลับไป …… อยากทำอะไรดี ๆ ให้เธอบ้าง ……..
เสียงบรรเลงของเครื่องดนตรี ดังพร้อมกับเสียงร้องทรงพลังของ David Tao ผมแอบร้องคลอตามเบา ๆ…. คิดถึงคนที่เคยร่วมบรรเลงเพลงนี้พร้อมกับผม…..
“หัวหน้า…” ผมปลดหูฟังออก มองหน้าคนที่เรียกงง ๆ ……
ตอนนี้เรากำลังอยู่บนรถเพื่อเดินทางกลับ…. ผมนั่งคู่กับกัณฐ์…และน่าแปลกที่เขาเป็นคนเลือกนั่งกับผมเอง…..
“RUN เนี่ย น้องของหัวหน้าเหรอ ? …โค่นไม่ได้ซักที” กัณฐ์บอกทำหน้ามุ่ย…
เขายืมโทรศัพท์มือถือของผมไปเล่นเกมส์ด้วยเหตุผลที่ว่าเกมส์ในเครื่องของผมสนุกกว่า….
“เปล่า” ผมบอกเบา ๆ ชะโงกหน้าไปดู Rank ที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ…
TOP 5
1                     16560                     RUN
2                     9810                       KAN
3                     8235                       KAN
4                     8165                       RUN
5                     7910                       KAN
ผมแอบยิ้ม…..มองดูเขาทำแก้มป่องกดเริ่มเกมส์ใหม่อีกครั้ง……..…….ทำไม…..พระเจ้า….ต้องส่งคนที่คล้ายเธอมาให้ผมปวดใจเล่น ๆ ด้วยนะ ??……………………
“นี่แน่ะ! นังบ้า!! แกไม่มีปัญญาหาผัวรึไง! ถึงมาแย่งผัวชาวบ้านเค้า!!” เสียงตวาดแหลมดังขึ้นจนผมต้องปิดหู… นี่มันโรงเรียนนะพวกเธอ!
ผมกลับบ้านเย็นมากเพราะต้องซ้อมการออกเสียง….เพลงที่ผมจะร้องในการประกวดครั้งต่อไปเป็นเพลงภาษาอังกฤษ…ซึ่งยากมากสำหรับผม….
“เหอะ!” ผมได้ยินเสียงทะเลาะตบตีกันของพวกนักเรียนหญิงดังมาไม่ขาดสาย แย่ล่ะ! ผมต้องรีบไปแจ้งอาจารย์ที่หมวดอังกฤษ!
ผมชะงัก แอบมองเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ผู้หญิงร่างสูงโปร่งคนนั้น….กำลังถูกผู้หญิงที่เทียบกับเธอแล้วดูเตี้ยไปถนัดตา 2 - 3 คน จิกทึ้งเส้นผมดำยาวที่ถูกปล่อยสยาย
“ตายซะ!” เสียงตวาดของเธอดังขึ้น แล้วร่างเตี้ยม่อต้อของผู้หญิงคนหนึ่งก็ฟาดลงกับพื้น ยัยนี่เล่นศิลปะป้องกันตัวอะไรซักอย่างแหง ๆ! พวกเธอพากันส่งเสียงกรีดร้อง สะบัดตัวเร่า ๆ เมื่อรู้ว่าไม่มีทางสู้ยัยโย่งนี่ได้เลย
“Sh_t!!” ยัยนั่นชูนิ้วกลางไล่หลัง ให้ยัยเตี้ยกลุ่มนั้นที่กำลังลากเพื่อนของเธอที่ร้องไห้เหมือนเขื่อนแตก
“มองอะไร!” เธอตวาดกอดอก … หรี่ตามองมาที่ผม ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ…. หันซ้ายแลขวา…ไม่มีใครเลยนี่นา….เธอพูดกับผมน่ะสิ!
“เอ่อ…ไง รัชนีกร” ผมทักทายเธอเบา ๆ ขยับแว่นตัวเองอย่างประหม่า…
รัชนีกรเป็นผู้หญิงแบบที่ผมไม่อยากเข้าใกล้มากที่สุด….เธออยู่ห้องเดียวกับผมตั้งแต่ ม.1 แต่ผมไม่เคยคุยกับเธอเลย….รัชนีกรเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวยสุด ๆ ….แต่ก็น่ากลัวสุด ๆ เหมือนกัน…..เธอดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเพื่อน ๆ ในห้องมากแถมยังสูงชะลูดเกินหน้าเกินตาเด็กผู้ชายบางคน รวมทั้งผมด้วย T_T
“…ทำไมนายมาอยู่ที่นี่… พ่อคนเก่ง …ป่านนี้น่าจะกลับบ้านไปอ่านหนังสือนอนได้แล้วนะ”เธอมองนาฬิกาสแตนเลทบนข้อมือเล็ก ๆ กล่าวด้วยคำพูดถากถาง
“เอ่อ… สวัสดี” ผมรีบวิ่งหนีเธอด้วยความไวแสง…. ฮือ ๆ ๆ ….น่ากลัวจังเลยครับพ่อ~~~
นั่นเป็นการพูดคุยกันครั้งแรกของผมกับเธอ… และหลังจากนั้น ก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลกให้ผมต้องมาเจอะ เจอ กับเธอทู๊กวัน!!
“อ…เอ่อ..” ผมปาดเหงื่อเบา ๆ เมื่อเห็นหน้าของผู้หญิงที่ไม่อยากเจอในเวลาฝึกซ้อมแบบนี้….ผมต้องซ้อมร้องเพลงกับครูเหมยทุกวัน…แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่จากทางโรงเรียนที่ผมไม่สามารถขัดได้ T_T
“น้องรอน.. นี่รัน…จะมาเป็นพาร์ทเนอร์ให้เธอแทนครูนะจ๊ะ… อีก 3 เดือนจะมีการแข่งครั้งใหญ่ ช่วงหลัง ๆ นี้ครูก็ไม่ค่อยว่างเลยพารันมาช่วยเธอแทน” ผมสะดุ้ง… เฮ้ย!!
ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเธอเรียนอิเล็กโทนกับครูเหมยแบบตัวต่อตัวมาตั้งแต่ประถม…จึงไม่แปลกเลยที่ทั้งคู่มีท่าทีสนิทสนมกันขนาดนี้
“รันรู้จักน้องรอนไว้สิจ๊ะ อ้าว! น้องรอนมาทำความรู้จักกับพี่เขาสิลูก”
“เอ่อ…”
“เราอยู่ห้องเดียวกันค่ะ” รัชนีกรยิ้มหวานบอกครูเหมย
“อ้อ! แหม ครูก็นึกว่ารันอายุมากกว่าน้องรอนซะอีก” ผมทำหน้าปั้นยาก….
“น้องรอนลองให้รันเล่นอิเล็กโทนดูนะ ว่าโอเคมั๊ย”
“เพลงอะไรล่ะ ?” เธอถามผมเสียงห้วน
“A Whole New World”
“ไม่รู้จัก เอาหนูมาลี แล้วกัน” โธ่ แล้วมาถามผมทำไม!!
หลังจากนั้นผมก็ซ้อมร้องเพลงกับเธอทุกวัน…. เวลาอยู่ในห้องเรียน เธอดูจะไม่ค่อยสนใจผมซักเท่าไหร่… ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง…ยกเว้นก็แต่....ตอนเลิกเรียนที่ผมต้องอยู่ซ้อมกับเธอทุกวัน นานวันเข้า....ก็ยิ่งทำให้ผมรู้จักเธอมากขึ้น
“นี่ ทำไมรันถึงชอบทำท่าทางเฉยชาเวลาอยู่ในห้องด้วยอ่ะ” ผมถามอย่างสงสัย…. ผมคิดว่าผมกับเธอสนิทกันในระดับหนึ่งแล้วนะ…
เธอต่างจากที่ผมคิดไว้มาก… รันเป็นคนพูดน้อย ยิ้มสวย …เวลาเธอหัวเราะจะอมยิ้มเล็ก ๆ ดวงตาเป็นประกาย… แถมยังเป็นผู้หญิงที่ไม่เรื่องมากอีก… ไม่น่าล่ะ พวกผู้ชายที่มารุมชอบเธอเพราะเธอสวยแถมยังนิสัยดีแบบนี้นี่เอง
“ไม่ดีมั้ง..” เธอบอกเบา ๆ กดนิ้วเรียวไล่เสียงอิเล็กโทน
“ไม่ดี ?” ผมถามงง ๆ
“ก็นายเป็นหัวหน้าห้องนี่นา แถมยังเรียนดี เป็นที่รักของอาจารย์ มาสนิทสนมกับฉันที่ชอบหนีโรงเรียนจนติดบัญชีดำ คงไม่ดีมั้ง” เธอบอกยิ้มๆ …ผมถอนหายใจนั่งลงข้าง ๆ เธอ…. เธอคิดในสิ่งที่ผมไม่เคยได้นึกถึง…
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย หลัง ๆ นี่รันก็มาเรียนทุกวันเลยนี่นา….แล้วผมก็ชื่อรอนนะ ทำไมรันถึงไม่ยอมเรียกชื่อผมซักที” ผมบอกอมลม จิ้มนิ้วลงบนแป้นบ้าง
“ฮะ ๆ … นายนี่น่าหมั่นไส้ชะมัด ….ฉันจะเลื่อนระดับนายเป็นหัวหน้าแล้วกัน” เธออมยิ้มบอกผม นิ้วมือเรียวสวยดึงแก้มผมเบา ๆ
“ทำไมถึงเป็นหัวหน้าอ่ะ ?” ผมถามคิ้วขมวด ปัดมือของเธอออก
“ไม่มีอะไรนี่ หัวหน้าก็คือหัวหน้าห้องน่ะสิ” เธอยิ้มบอก…. บางครั้งผมก็นึกอยากให้เธอทำหน้าอย่างอื่นบ้างเหมือนที่เจอกันครั้งแรก….
อยู่ในห้องเธออาจทำหน้าเฉยชา…ดูไม่อยากเรียนเท่าไหร่….แต่เวลาเธออยู่กับผม…เธอยิ้ม…ยิ้ม …. แล้วก็ยิ้มจนผมชักจะใจสั่นความสัมพันธ์ของผมกับเธอเป็นแบบนั้นมาเรื่อย ๆ
ผมไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ของเราเรียกว่าอะไร…
จะเรียกเพื่อนก็ไม่ใช่….
จะคู่ซ้อมดนตรีเฉย ๆ ก็ไม่เชิง…..
เธอเป็นผู้หญิงที่ดูภายนอกแข็งกระด้าง…
แต่แท้จริงแล้วภายในเป็นคนอ่อนละมุน….
มีความคิดละเมียดละไม…จนบางครั้งผมก็คิดตามเธอไม่ทันเหมือนกัน…..
จนกระทั่งถึง ม.3 … ความสูงของผมก็ยังคงไม่กระเตื้อง T_T
“รัน! ทำไมเป็นแบบนี้อ่ะ” ผมถามอย่างตกใจรีบเดินเข้าไปประคอง… ผมกำลังคิดว่าทำไมวันนี้เธอถึงมาซ้อมสาย….
ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ…..รันเนื้อตัวสะบักสะบอม ผมเผ้ายุ่งเหยิง ผมประคองใบหน้าที่มีรอยฟกช้ำอย่างเบามือ…
“นิดหน่อยอ่ะ ถูกดักตบ” เธอยิ้มบอก สัมผัสมือของผมบนแก้มที่บวมช้ำเบา ๆ
“ผมทำแผลให้นะ” ผมบอกรีบเดินหมายจะไปห้องพยาบาลแต่เธอหยุดผมไว้เสียก่อน
“ไม่เป็นไร หัวหน้าใกล้จะประกวดแล้วไม่ใช่เหรอ ? มาซ้อมต่อสิ” เธอจับมือผมเดินไปที่ประจำของเรา…. ทำไมเธอต้องคิดแต่เรื่องของผม ??
…..ทำไมเธอไม่รู้จักห่วงตัวเองซะบ้าง!!
“….ประกวดน่ะจะซักกี่รอบก็ได้ แต่รันน่ะ มีแค่คนเดียวนะ…..” ผมดึงมือเธอเดินตรงไปห้องพยาบาล
ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำจนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้ม…ภายในอาคารเรียนเงียบสงัด ร้างผู้คน… มีเพียงเสียงฝีเท้าของเรา 2
คนดังก้องไปตามทางเท่านั้น…. ระหว่างทางเธอพึมพำให้ผมได้ยิน….
“..หัวหน้าน่ะ…. ชอบทำเป็นห่วงคนอื่นอยู่เรื่อยเลย…..ไม่ว่าจะเพื่อนคนไหน…..หัวหน้าก็เป็นห่วง คอยดูแลไปซะหมด….”
ผมบีบกระชับมือเรียวเบา ๆ ก้าวเท้าเดินเหมือนไม่ใส่ใจคำพูดของเธอ
“แต่รู้มั๊ย…ว่ามันทำให้ฉันรู้สึกสับสน…แม้แต่พ่อฉันยังไม่เคยดูแลเอาใจใส่ถึงขนาดนี้มาก่อน…..หัวหน้าอย่าทำให้ฉันเคยตัวได้มั๊ย ?? อย่าทำให้ฉันอยากอยู่ใกล้ ๆ….อย่าทำให้ฉันดีใจ….” ผมหยุดนิ่งอยู่กับที่ และหันกลับไปมองเธอ……
“แล้วทำไมรันไม่ทำอย่างที่ต้องการล่ะ ?” ผมถามเธอเบา ๆ….
เราทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบ …..
“หัวหน้านี่…ต้องให้ฉันเป็นฝ่ายยอมแพ้ทุกทีสิน่า….”
เธออมยิ้มกอดตัวผมแน่น… อึ๋ย!! มัน…มันโดนหน้าอกนะ!! อ๊ากกกกก~~!!
“ฉันรักหัวหน้านะ”……………
ผมกับเธอคบกันแบบเงียบ ๆ … เธอยังคงปฏิบัติเช่นเดิม…… ผมอยากจะพูดคุย ทำตัวสนิทสนมกับเธอเวลาอยู่ในห้องเรียน… แต่ผมก็ไม่กล้า….หลังจากคบกัน… เธอปฏิเสธผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้…และมักจะแอบส่งยิ้มให้ผมใจสั่นเล่นเสมอ…
….ช่วงเทอม 2 นักเรียน ม.3
ทุกคนต่างก็ตื่นตัวเรื่องการหาที่เรียนต่อ….ผมสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด ความจริงผมก็ไม่ได้อยากเดินทางไปสอบซักเท่าไหร่…
เพียงแต่คุณแม่ของผมอยากให้ไปลองสอบวัดความรู้ …รันดูหงุดหงิดมาก ช่วงที่ผมกำลังเตรียมตัว…
“หัวหน้า! ไม่ไปไม่ได้เหรอ ?” เธอส่งเสียงอ้อนไซร้แขนของผม
ขณะที่ผมกำลังอ่านหนังสือในห้องซ้อมดนตรี… เราทั้งคู่มักจะอยู่ด้วยกันในเวลาเลิกเรียนของทุกวัน จนมันเป็นเรื่องปกติ….
แต่บางครั้งผมก็สงสัย..…ว่าทำไมรันไม่เคยเรียกชื่อผมเลยซักครั้ง…และผมก็ไม่ได้ทักท้วงให้เธอเรียกชื่อของผม…..
คงอาจเพราะผมชินที่เธอเรียกผมแบบนี้มากกว่า
“เป็นอะไร ? คุณแม่อยากให้ผมไปลองสอบเท่านั้นแหละ” ผมบอกขยี้ศีรษะเธอเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว… เธอตัดผมซอยสั้นดูซน ๆ เหมาะกับเธอ
“ไม่รู้แหละ รันอยากเรียนต่อกับหัวหน้านี่นา” เธอยิ้มกอดเอวผม..
ระยะหลังดูเธอตั้งใจเรียนจนผมสังเกตได้ บอกตามตรงว่าเธอนั้นหัวดีกว่าผมมาก เพียงแต่เธอขี้เกียจ ไม่ชอบอ่านหนังสือ
สอบทีไรเธอเป็นต้องขุดความรู้เท่าที่มีอยู่ในสมองมาใช้
…และคะแนนที่ได้แต่ละครั้งนั้น ถือว่าอยู่ในกลุ่มค่อนข้างดีของห้อง….
ถ้าเธออ่านหนังสือล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะแซงผมไปเลยก็ได้….
“งั้นรันก็เตรียมตัวสอบให้ดี ๆ ล่ะ” ผมบอกบีบจมูกเล็ก ๆ ของเธอเบา ๆ รันพยายามจนกระทั่งสอบได้อันดับกลาง ๆ ของการสอบเข้าต่อม.ปลายในโรงเรียนเดิม ส่วนผมติดโควต้า เลยนอนอยู่บ้าน สบายใจแฮ
… เธอโทรมาหาผมทุกวัน…
บางครั้ง..ผมก็รู้สึกว่าน้ำเสียงของเธอนั้นแปลก ๆ..
“รอน.. ผลสอบของโรงเรียนรัฐบาลออกแล้วนะลูก” คุณแม่ยิ้มบอกผม ในมือท่านถือโทรศัพท์.. คงจะมีใครส่งข่าวมาบอกแล้ว
“ฮะ..” ผมตอบ ไม่ค่อยใส่ใจ… ในเมื่อผมมีเป้าหมายของการเรียนต่ออยู่แล้ว
“ลูกติดที่โน่นนะรอน” คุณแม่ยิ้มบอก
“หา ?.. ติดด้วยเหรอฮะ ??” ผมถามงง ๆ… ข้อสอบยากมหาโหดแบบนั้น…. เป็นไปได้ไงเนี่ย…. ผมจำได้ว่าข้ามไปตั้งหลายข้อ
คุณแม่บังคับให้ผมเรียนต่อที่โรงเรียนชื่อดังนั้น….ผมพยายามปฏิเสธและบอกปัดไปหลายครั้ง แต่ดูเหมือนท่านจะต้องการให้ผมเรียนต่อที่นั่น
“ไม่ดีเหรอรอน ลูกอยากเป็นหมอก็น่าจะไปเรียนที่นั่นนะลูก…อุตส่าห์สอบได้ทั้งที…ฯลฯ” คุณแม่พยายามหว่านล้อมผมจนในที่สุดท่านก็งัดไม้ตายขึ้นมาใช้
ผมอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ปฏิเสธก็ไม่ได้… ตอบรับก็ไม่อยาก…
โอ๊ย เครียด~!!!!!
“รัน….. ผมคงเรียนต่อกับรันไม่ได้แล้วล่ะ…” ผมบอกเธอเบา ๆ…
“หมายความว่าไง!!” เสียงแหลมของเธอดังขึ้นจนผมต้องเอามือถือออกห่าง
“คือ…”
“ก็ไหนหัวหน้าสัญญาแล้วไง ว่าจะเรียนต่อกับฉัน…”เธอถามเสียงเครือจนผมใจหาย
“รัน….” เธอตัดสายโทรศัพท์ไป และไม่ยอมรับสายของผม…..
ผมพยายามติดต่อเธอหลายครั้ง… มองมือถือตัวเองทุก 10 นาที…. เธอไม่รับสาย ไม่โทรมา… เราขาดการติดต่อกันไปหลายวัน จนผมชักหวั่น…อีกไม่กี่วันผมก็จะต้องย้ายไปแล้วนะ….บางครั้งผมก็เครียดจนร้องไห้ ผมกลัวว่าเมื่อเราห่างกัน…..
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ผมก็เธอจะต้องเปลี่ยนแปลงไป…
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง…..
“ฮัลโหล…” ผมรับสายโทรศัพท์ในกลางดึกคืนหนึ่ง
“หัวหน้า…. ออกมาหาฉันหน่อย…..” เสียงของรันดูแหบแห้ง ไม่สดใสเหมือนที่แล้ว ๆ มา
“รัน เป็นอะไร ?” ผมถามอย่างตกใจ
เธอขาดการติดต่อกับผมไปหลายวัน
…..พอมาคุยกันอีกครั้งเธอก็เปลี่ยนแปลงไปจนน่าใจหาย……
“ออกมาหาฉันหน่อยนะ ฉันรออยู่หน้าโรงเรียน” รันพยายามทำเสียงให้ดูสดใสเหมือนเดิม…
“พูดอะไรน่ะรัน! รันเป็นผู้หญิงนะ ดึกขนาดนี้แล้วด้วย กลับบ้านไปซะ” ผมบอกเสียงเครียด… ผู้หญิงสวยอย่างเธอ
กลางดึกแบบนี้ถือว่าอันตรายเลยทีเดียว
“ฉันอยากเจอหัวหน้า…ฉันอยากเห็นหน้า…รอน….ฮึก…ออกมาหาฉันหน่อย….รอนออกมาหาฉันที” เสียงของเธอปนสะอื้น… ผมรู้สึกใจหายวาบ…..
เกิดอะไรขึ้น….?…..นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกชื่อผม……. ทั้ง ๆที่ผมคิดอยากจะได้ยินเธอเรียกชื่อผมออกจากปาก…..แต่ผมไม่รู้สึกดีใจเลยซักนิด….
“รัน…” ผมมองนาฬิกาที่ชี้เวลา 5 ทุ่ม…เวลาดึกขนาดนี้…ทางแถวนั้นต้องเปลี่ยวแน่ ๆ เลย… แล้วจะมีรถรึเปล่า
ผมชะเง้อมองประตูบ้านตัวเองอย่างเคร่งเครียด…… ถ้าเปิดประตูละก็ คุณแม่ต้องรู้แน่ ๆ ว่าผมออกไปข้างนอก
“ฉันจะรอนะ… ฉันจะรอ” สายโทรศัพท์ตัดไป ผมมองมือถือในมือนิ่งงัน…..
ผมควรจะทำยังไง?………….
ผมเดินลงไปหยิบรองเท้าข้างล่าง… ถ้าผมจะออก
ผมต้องออกทางอื่นที่ไม่ใช่ประตูบ้าน….
ถ้าคุณแม่รู้ ผมต้องถูกตีแน่ ๆ …..ผมเหงื่อออกท่วมตัว…
ผมไม่เคยทำอะไรผิดกฎเกณฑ์มาก่อน… ทุกอย่างของผมต้องอยู่ในกรอบ….
ผมเปิดหน้าต่างในห้องนอน ชั่งใจอยู่นาน…..และผมตัดสินใจ……
……………………..
ปิดหน้าต่างลง……..
ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียง พยายามติดต่อหาเธอหลายครั้ง…….. นานนับชั่วโมง..
ผมทำได้เพียงฝากข้อความให้เธอ...
เพราะเธอปิดโทรศัพท์หนีตั้งแต่คุยกับผมเสร็จแล้ว….
ยิ่งผมคิดนาน …ผมก็ยิ่งเสียเวลา …เธอก็ยิ่งรอนาน…..
แล้วนี่มันก็ดึกเกินไปแล้ว……
ผมตัดสินใจเปิดหน้าต่างอีกครั้ง…..มองลงไปด้านล่างที่เป็นพุ่มไม้หนา…..
ผมเคยบอกกับเธอว่าให้เธอทำอย่างที่ต้องการ…… แต่ตัวผมนั้น…..
ไม่เคยเลย…… ไม่มีซักครั้ง……
แม้แต่ในห้องเรียนผมก็ยังไม่กล้าพูดคุยกับเธอ… ไม่กล้าบอกกับคนอื่น ๆ
ว่าผมคือแฟนของเธอ….. ไม่กล้าจับมือเธอเวลาอยู่ท่ามกลางผู้คน…..
ผมชั่งใจโน้มตัวไปข้างหน้า มองระยะห่างประมาณ 3 เมตร
...แล้วก็ต้องเอนกายกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง……
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่….
เหงื่อไหลอาบจนผมเหนียวตัว…..ผม……ผมควรจะทำยังไงดี…..
ผมอยากออกไปหาเธอเหลือเกิน……
สุดท้ายแล้ว…… ผมก็ทำได้เพียงแค่ล้มตัวลงนอน
แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลด้วยความอัดอั้น….โดยไม่มีเสียงร้อง……
นี่อาจเป็นโจทย์ที่ยากมากสำหรับผมในขณะนั้น…..
แต่ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็….. ผมจะไม่มีวันลังเลใจแบบนั้นเด็ดขาด…..
หลังจากวันนั้น…..เบอร์โทรศัพท์ของรันถูกระงับใช้และไม่มีการติดต่อมาหาผมอีก….
ผมตัดสินใจหาที่อยู่ของเธอและไปที่บ้าน บ้านของเธอเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีคนมาแวะเวียนไม่ขาดสาย
ผมเข้าไปทักผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเฒ่าแก่ของที่นี่
“เอ่อ…ขอโทษนะฮะ….คือ…ผมมาหารันฮะ” ผมบอกเบา ๆ
“ออกไปซะ!! บ้านนี้ไม่มีเด็กที่ชื่อรัน!!!” เขาโกรธจนหน้าแดง ตวาดเสียงดังจนผมสะดุ้ง
ผู้หญิงวัยกลางคนรีบเข้ามาดึงตัวผู้ชายน่ากลัวคนนี้ออกห่างจากผม และผู้ชายอีกคนหนึ่งรีบพาผมปลีกออกมาจากร้าน
“ไปคุยกันที่อื่น” เขาบอกและพาผมไปร้านคอฟฟี่ข้าง ๆ
“นายเป็น…เพื่อนของรันเหรอ ?” เขาถาม…ดูจากลักษณะภายนอกแล้วเขาน่าจะอายุมากกว่าผม 1 - 2 ปี
“….ผมเป็นแฟนของรันฮะ” ผมบอกเบา ๆ ……มันเป็นคำที่ผมไม่เคยใช้มาก่อน…….
“หา ?… ยัยนั่นเปลี่ยนรสนิยมแล้วเหรอเนี่ย …” เขาทำหน้าเหรอหรา แล้วกระแอมเบา ๆ
“พี่ชื่อเรย์ เป็นพี่ชายของรัน…..ยัยนั่นย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วล่ะ”
“อะไรนะฮะ !?” ผมถามอย่างตกใจ
“รันเพิ่งไปเมื่อวันก่อนนี่เอง…” เขาเล่าทุกอย่างที่พอจะรู้ให้ผม
รันย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกับแม่และพ่อเลี้ยง… แม่ของเธอทิ้งครอบครัวไป
ตอนเธอยังเด็ก… เมื่อรันโตขึ้น เธอมีใบหน้าคล้ายแม่…นั่นจึงทำให้พ่อของเธอดูจะรังเกียจ…
และเขาคิดจะไม่ส่งเสียเธอให้เรียนต่อในระดับ ม.ปลาย…
รันพยายามอย่างยิ่งเพื่อจะได้เข้าเรียนต่อได้…. เธอโกงอายุและทำงานเล็กๆ น้อย ๆ เพื่อเก็บหอมรอมริบเงิน..ตั้งแต่ช่วง ม.2 นั่นจึงทำให้เธอแอบหลับในห้องเรียนบ่อย
และบางครั้งยังต้องทำล่วงเวลาจนไม่ได้นอน..ทำให้เธอขาดเรียน ผมไม่เข้าใจความคิดของผู้ใหญ่เลย…บางครั้ง
พวกเขาก็ทำอะไรที่ดูไร้เหตุผลและดูเหมือนเด็กยิ่งกว่าพวกเรา…
…แม่ของรันแอบติดต่อกับเธอและพี่เรย์ พวกเขานัดพบกันหลายครั้ง…โดยที่พ่อของรันไม่รู้…. จนพ่อของรันเริ่มระแคะระคาย
และทะเลาะกับเธอเสียใหญ่โต ….ไม่กี่วันก่อน
รันตัดสินใจจะไปอยู่กับแม่…..นั่นเป็นเหตุการณ์หลังจากที่เธอรู้ว่าผมจะต้องย้ายไปไม่กี่วัน……
ผมไม่เคยรู้เลยว่าเธอต้องแบกรับอะไรต่าง ๆ มากมายไว้คนเดียว…..เวลาเธอเศร้าหรือเสียใจ
ถึงผมจะรู้แต่ผมก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้นอกจากนั่งเป็นเพื่อนเธอเงียบๆ….. การที่เธอไปอยู่กับแม่นั่นอาจเป็นทางที่ดีที่สุดของเธอแล้วก็ได้……
สุดท้ายแล้วผมก็ฝากฝังความทรงจำที่ไม่น่าประทับใจให้กับเธอก่อนจากกัน……………โดยไม่เคยตระหนักว่า…..ผม…คงไม่มีโอกาสได้พบเธออีกต่อไปแล้ว….
“รอน!” ผมสะดุ้งโหยง มองหน้าคนเรียกงง ๆ
“ห…หืม ?” ผมทำหน้าสงสัยเมื่อเห็นชลยิ้มแปลก ๆ…
“เหม่ออะไรจ๊ะ ?” ชลถามกลั้วหัวเราะ
“เปล่านี่… แล้วทำไมชลมานั่งตรงนี้อ่ะ ?” ผมถามอย่างสงสัย ……เมื่อกี้กัณฐ์นั่งข้างผมนี่นา….
“วิวดีน่ะ ฮิ ๆ” เธอบอกหัวเราะเบา ๆ …ผมหันซ้ายหันขวาหาคนที่เคยนั่งอยู่ข้าง ๆ …..
ด้านข้างผมเห็นภีมนอนหลับอยู่ที่เดิม แต่ข้าง ๆ เขาคือบีม...สาวห้าวที่นั่งอ่านนิยายโรแมนติก....
ส่วนตรงที่ ๆ ผมจำได้ว่าชลกับบีมเคยนั่งอยู่….ถูกแทนที่ด้วย…..กัณฐ์กำลังหลับซบไหล่ของเธียร…
ผมเหลือบมองมือที่สอดประสานกันของทั้งคู่ยิ้ม ๆ
เธียรสบตากับผม… เขายิ้มและใช้นิ้วชี้แตะริมฝีปากเบา ๆ
‘ชู่ว์……..’
…….ถ้าหากว่าเป็นไปได้ละก็….. ผมอยากย้อนเวลากลับไป …… อยากทำอะไรดี ๆให้เธอบ้าง ……..
………ถ้าหากมันเป็นไปได้……….

----------------------------------------
คำแถลงการณ์จากผู้แต่ง
เรื่องนี้เคยคิดจะทำเป็นเรื่องยาว ก่อนจะแต่ง Look at me อีกค่ะ
ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เรื่องของคุณ ขวด -น้ำ ค่ะ
_______________________________________________
 :sad4:เศร้าเนอะ วันนี้มีแต่เรื่องเศร้า ๆ รู้กันแล้วใช่ป่ะ กับฉายารอน "หัวหน้า" เฮ้อ...ไว้ตอนหน้า กลับมาลัลล้ากับกัณฐ์กันต่อจ๊ะ
สุดท้ายขอความร่วมมือกับเป็ดน้อยทุกคน ที่ได้เข้ามาอ่าน มาช่วยกันให้กำลังใจโมและทีมงานเล้าทุกคนด้วยน่ะค่ะ
ขอเสียงและกำลังใจของเป็ดน้อยให้โมและทีมงานบอร์ดเล้า(เ้พื่อเจ้หนึ่งและเจ้สอง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=26314.0)
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษที่จัดหนักและขอความร่วมมือจากเป็ด up 2.06.54
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 02-06-2011 13:14:58
กรี๊ดดดด หวานกันจริงๆๆๆ
ชอบมากๆๆๆ รออ่านกันต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษที่จัดหนักและขอความร่วมมือจากเป็ด up 2.06.54
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 02-06-2011 13:23:49
อยากให้รอนกับรันมีโอกาสได้พบกันอีกครั้งอ่ะ...อ่านจบแล้วอารมณ์ของคู่นี้ไม่จบตาม
หรือจะให้รันตาย...แล้วรอนโดนใครซักคนกดไปเลยดีหว่า o22
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษที่จัดหนักและขอความร่วมมือจากเป็ด up 2.06.54
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 02-06-2011 22:08:01
+1
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เค้าหวานกันค่ะคุณ บทที่ 15 [up 3.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 03-06-2011 22:10:51
-15-
“กัณฐ์~~~~~!!” ร่างเล็ก ๆ ของอาเล็กวิ่งเข้ามากอดผมจนตัวผมเซถอยหลัง
“อ๊า~ คิดถึงอาเล็กที่สุดเลยค๊าบ~” ผมกระชับอ้อมกอด หอมแก้มนุ่มของร่างเล็ก ๆ ในวงแขนเบา ๆ
“อาเฟ้ยก็คิดถึงหลานกัณฐ์ที่สุดเลยครับ” อาเล็กซุกหน้าลงบนอกของผม
ผมเหลือบตามองสายตาคม ๆ ของพี่เมยที่มองมาอย่างไม่ชอบใจซักเท่าไหร่
แล้วเหลือบมองเพื่อน ๆ ที่มองผมอย่างอึ้ง ๆ
“ว้าย! กัณฐ์! เธอนิยมกินเด็กเหรอเนี่ย!” ยัยหมิงหวีดเสียงร้องอย่างตกใจ
“กัณฐ์! ทำไมแกเป็นคนแบบนี้!” เสียงฝ้ายพูดอย่างสลดหดหู่พร้อมกุมหน้าผากตัวเอง
“…” หัวหน้า ชล และบีมมองผมอย่างอึ้ง ๆ
“น่ารักจังเลยอ่ะ” ไอ้ภีมมองอาเล็กของผมไม่วางตา จนพี่เมยหันไปมองมันส่งสายตาดุ ๆ
…..แล้วก็เธียรกำลังมองผมหน้าบึ้ง… แฮะ….
“ขอบคุณนะฮะ ที่ช่วยกันดูแลหลานของผม” อาเล็กพูดเหมือนกับตัวเองเป็นผู้ใหญ่ พร้อมโปรยยิ้มหวานจนไอ้ภีมเคลิ้ม… นี่มันเด็กผู้ชายนะเฟ้ย!!
“อาเล็ก” พี่เมยส่งเสียงดุ ดึงตัวอาเล็กออกห่างจากผม
“เอ่อ … ผมกลับก่อนนะ บาย” ผมบอกลารวม ๆ หลบสายตาของเธียร แล้วเดินตามญาติ ๆ ของผมไป
อาเล็กยิ้มแฉ่งควงแขนของผม
บลูมารับผมครับ… แต่อาเล็กอยากมาด้วย ก็เลยพ่วงพี่เมยตามมาอีกคน - -“ เฮ้อ… พี่เมยเรียนเพิ่งจบครับ….ว่าแต่พี่เป็นผู้ใหญ่จริง ๆ ใช่มั๊ยครับ ?…
“สวัสดีครับพี่เมย” ผมยิ้มทักทายญาติผู้ใหญ่
“ไง” พี่เมยทักเบา ๆ เหลือบมองมือของอาเล็กที่เกาะแขนผม….. พรากผู้เยาว์นะครับพี่……
“อาเฟ้ยซื้อช็อคโกแลตยี่ห้อโปรดกัณฐ์มาเยอะแยะเลยน๊ะ” อาเล็กยิ้มหวานชวนผมคุย โดยไม่มีทีท่ารับรู้เลยว่าผมกำลังถูกคุกคามจากบอดี้การ์ดของอาเล็กอยู่นะค้าบบบบบบ
 
อาเล็กชอบนั่งตักผม ทำให้บราวน์มองผมด้วยสายตาค้อน ๆ เพราะมันก็ชอบนั่งตักผมเช่นกัน(แต่ขนาดตัวของมันเกินมาตรฐานไปแล้ว) ส่วนพี่เมยมองผมอย่างกับจะกิน ….ผมหยุดเรียนไม่ได้ทำให้อาเล็กงอน แต่ก็แค่ไม่กี่นาที..
“อาเฟ้ย! แย่งไก่ของผมไปทำไมอ่ะ!” บราวน์บ่นกระปอดกระแปด เมื่อคุณอาตัวเล็กหยิบน่องไก่ของโปรดของบราวน์ไปกิน
“…ฮึก…” อาเล็กเบ้ปาก ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“เอ่อ.. บราวน์เอาของกัณฐ์ไปก็ได้” ผมบอกเบา ๆ ตักน่องไก่ที่ถูกแทะเล็กน้อยในจาน
“ไม่ต้อง กัณฐ์… อาเล็ก!” พี่เมยบอกผม แล้วส่งสายตาดุ ๆ ไปมองคุณอาของผม
“ชิ!” อาเล็กส่งเสียงในลำคอ …ค้อนหน้าใส่พี่เมย แล้วตักน่องไก่คืนให้บราวน์
“บราวน์ไม่ต้องคิดมากนะ ให้อาเล็กยอมเสียสละบ้าง ไม่เป็นไรหรอก” พี่เมยบอกกับบราวน์…. พี่ท่านเป็นคนที่เลี้ยงอาเล็กตั้งแต่อาเล็ก 5 ขวบ เลยดูเหมือนคุณพ่ออยู่บ้าง
ไอ้เด็กโข่งเหลือบมองใบหน้าหวานพองแก้มตุ๊บป่อง ไม่ยอมกินข้าวต่อ มันเลยตักน่องไก่คืนไป
ผมมองญาติตัวเองแล้วแอบยิ้ม ….. น่ารักจังเลยน๊า…..
อาเล็กกับพี่เมย มาอยู่ไม่กี่วันก็เดินทางกลับพร้อมของกินที่เอาไปฝากบ้านใหญ่มากมาย น้องชายของผมฝากที่ห้อยโทรศัพท์มือถือทำเองมาให้… ส่วนผมนั้นก็ส่งโปสการ์ดที่ทำเองคืนไปเช่นกัน
ส่วนผมกับเธียรน่ะเหรอ…. ง่า …..
“มานั่งนี่ดิ” เธียรกวักมือชวนผมไม่นั่งข้าง ๆ แต่ผมส่ายหัวโดยไม่ต้องคิด
ธ่อ!! ….. เมื่อก่อนผมนึกว่าเขาเป็นคนเงียบขรึม ดุดัน ดูเป็นผู้ใหญ่
แต่เอาเข้าจริงแล้ว เขาก็ไม่ต่างจากเพื่อนซี้ซักเท่าไหร่!! มือไวจริง ๆ!!
“กัณฐ์…” ส่งเสียงอ้อนมาอีกแน่ะ…
“กัณฐ์ครับ…” โอ๊ย! อย่าทำตาละห้อยได้มั๊ยเล่า!!!
ผมลุกขึ้น เดินฉับ ๆ ทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา
“ไอ้ภีมไปนั่งนู่นดิ๊” เธียรไล่เพื่อนซี้ของเขาไปนั่งที่ของผม
“เฮ้ย! อะไรวะ!” มันทำหน้าบึ้งแต่ก็ยอมแลกที่กับผมโดยดี
จากที่ผมเรียนไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ก็ยิ่งเรียนไม่รู้เรื่องมากกว่าเดิมอีก เมื่อตลอดเวลามีมืออุ่น ๆ ของเธียรกุมมือของผมไว้ใต้โต๊ะ โอ๊ยยยยยย~~~~~~~~!!!!! จะทำให้ผมเขินจนตายไปเลยใช่มั๊ยเนี่ย!!
 
“เล่นอะไรน่ะ ?” ผมถามอย่างสนใจ มองกล่องสี่เหลี่ยมที่หมุน ๆ อยู่ในมือของไอ้ภีม
ผมมานั่งเล่นอยู่ที่บ้านเธียรกับมันครับ… ส่วนเธียรออกไปหาอะไรมาให้เรากินเล่น
“นี่น่ะ เรียกว่ารูบิกส์ ลองมั๊ย ?” มันยื่นกล่องสี่เหลี่ยม นั้นมาให้ผม ผมรับมาถืออย่างงง ๆ
“ก็หมุนให้ด้านนี้มีสีแดงไง ด้านนึงสีนึงอ่ะ ลองดิ” มันอธิบาย แล้วทำไมต้องเอาหน้ามาใกล้ ๆ ด้วยวะเนี่ย..
ผมนั่งหมุน ๆ อยู่หลายนาที แต่มันก็ไม่ได้ซักที… จนผมเริ่มเซ็ง
“อาของนายชื่ออะไรเหรอ ?” ภีมถามด้วยความอยากรู้
“ชื่อเฟ้ยน่ะ เป็นน้องของพ่อ… ตอนนี้อายุประมาณ 13 ปี” ผมบอก
“น่ารักโคตรเลยอ่ะ ติดต่อให้หน่อยดิ” ผมมองมันตาขวาง
“ชะ! ขี้หวงว่ะ” มันถอนหายใจ แล้วเบือนหน้าไปทางอื่น… โตยังกะควายแล้ว ทำเป็นงอนอีก…
ท่ามกลางความเงียบที่น่าอึดอัด จู่ ๆ มันก็โพล่งขึ้นมา
“……………….นายกำลัง…คบกับเธียรอยู่เหรอ…?” ภีมถาม
“เอ๊ะ………ก็คบกันนี่ เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ?" ผมเฉไฉ
"อย่าแกล้งโง่หน่า....ฉันเป็นเพื่อนรักของเธียรนะ" มันพ่นลมหายใจเสียงดัง
"แล้วทำไมไม่ถามเธียรเองละฟะ" ผมบ่นเบา ๆ
"ว่าไง...." ภีมทวงคำตอบ
"…....….อืม…” ผมตอบรับเบา ๆ หมุนก้อนสี่เหลี่ยมในมืออย่างเขิน ๆ
“….งั้นเหรอ….” เสียงของเขาเงียบหายไป
“……บอกมานะว่านายทำยังไงไอ้เธียรมันถึงได้เปลี่ยนความคิด ถึงขนาดนั้น” ไอ้ภีมถามผมเสียงแปร่ง
“….แล้วแต่นายจะคิด” ผมขมวดคิ้วมองมัน ..แล้วเล่นของเล่นในมือต่อ ...บางทีมันอาจจะโกรธผมที่ทำให้เพื่อนมันวิปริตผิดเพศก็ได้... นึกแล้วก็รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ....
“…ทั้ง ๆ ที่เราสนใจนายก่อน …เคยช่วยนาย แต่นายกลับไม่เคยเหลียวแลเราเลย” มันบอกเสียงสั่น
“…ภีม…” ผมเรียกชื่อมันอย่างไม่เชื่อหู ของเล่นร่วงหล่นจากมือ
“…ทำไม…นาย.…..“ เขากระซิบเสียงแผ่วข้าง ๆ หู
ผมรีบลุกขึ้น ไอ้ภีมแปลก ๆ อีกแล้ว!! เดี๋ยวมันจะทำอะไรพิเรนท์เหมือนคราวก่อน ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ!!
“ขอฉัน…กอดหน่อยนะ…” เขาบอกเบา ๆ ตัวสั่นเทิ้ม… ถึงจะไม่ได้ยินเสียงสะอื้น..แต่ผมก็รู้…….ว่าเขากำลังร้องไห้…
“น..นายร้องทำไม…ผมปลอบคนไม่เป็นนะ” ผมบอกกลัว ๆ เอื้อมมือไปลูบผมของเขาเบา ๆ…
ภีมดึงผมเข้าสู่อ้อมแขนของมัน กอดรัดตัวผมแน่นจนรู้สึกอึดอัด…..
โธ่!! ผมสัญญากับเธียรไว้แล้วว่าจะไม่ให้หมอนี่กอดอีก!!!
“…….ภีม….” ผม.. เอื้อมมือไปลูบหลังมันเบา ๆ…
“ข..ขอโทษ…” เขาปล่อยตัวผม ….ตาแดง ๆ ของเขาทำให้ผมรู้สึกสงสารไม่ได้
พอได้ยินเสียงประตู ไอ้ภีมก็รีบผละตัวออก
“ทำอะไร ?” เธียรหรี่ตามองผมที่ยืนอึ้ง ๆ อยู่
“ขอตัวกลับก่อนนะ” ไอ้ภีมบอกแล้วรีบเดินหนีออกไป
เธียรมองตามเพื่อนจนออกไปจากห้อง แล้วเขาก็หันมาทำตาดุใส่ผม
“เกิดอะไรขึ้น ?” เธียรถามผม ผมรีบหลบตา
“เอ่อ…คือ…ภีม…เอ่อ…” ผมไม่กล้าบอกว่าภีมร้องไห้แถมผมยังกอดกับภีมอีก แต่ไม่รู้จะให้เหตุผลว่าอะไรดี
“เฮ้อ… ฉันยกให้นายครั้งนึงแล้วกัน” เธียรพึมพำเบา ๆ
“เธียรไม่โกรธกัณฐ์นะ” ผมช้อนตามองเขา
“ใครจะโกรธกัณฐ์ลงล่ะ หืม ?” เขาโอบเอวเข้าเข้าไปใกล้
“เอ่อ..” ผมเริ่มรู้สึกตาลายอีกแล้ว~ อย่าทำแบบนี้บ่อย ๆ ได้ม้ายยยยยย
“เมื่อไหร่จะเลิกอายซักที แบบนี้กัณฐ์กับเธียรจะคืบหน้ากันมั๊ยล่ะครับ” เขาถามยิ้ม ๆ จูบหน้าผากผมเบา ๆ
“ไม่ต้องคืบหน้ากันเลยนั่นแหละดีแล้ว” ผมพึมพำเบา ๆ
“อะไรนะ ? อยากคืบหน้าคืนนี้เลยเหรอ ?” เขาถามอมยิ้ม ซุกหน้าลงในซอกคอของผม
“เอ้ย!” ผมดันหน้าผากของเขาออกห่างตัว
“ตอนนั้นมันก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วนี่นา” เขาบอกทำปากยื่น
ไม่ว่าจะครั้งนั้นหรือครั้งไหน ๆ ก็ไม่สมควรทั้งน้านนนนนน~~~~~!
“ต..แต่กัณฐ์เพิ่งอายุ 17 …เราเพิ่งอยู่ ม.5 ..ล..แล้ว..”
“แล้วก็เป็นเมียของเธียร” เขายิ้มหน้าบานช้อนตัวผมขึ้น
“ปล่อยนะ!! กัณฐ์ไม่เล่นนะเธียร!!” ผมบอกเขาอย่างตกใจ
“แล้วใครบอกว่าเธียรเล่นล่ะ หืม ?” เขาก้มลงหอมแก้มผมเบา ๆ…. โอย… จะเป็นลม…
_______________________________________________
งดสนทนา มาตามหัวใจเรียกร้อง วู้วววว ลุ้นกัน ว่ากัณฐ์จะเสียเลือดแบบเต็มใจป่ะ คิคิ :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เค้าหวานกันค่ะคุณ EP.15 up 3.06.54
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 03-06-2011 22:18:59
มารอฉากเสียเลือดแบบเต็มใจขอกัณฐ์ค่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เค้าหวานกันค่ะคุณ EP.15 up 3.06.54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 03-06-2011 22:39:39
อ่านสะใจมากๆๆๆๆๆ  ขอบคุณครับพี่นักเขียน
แต่อ่านๆไปความรู้สึกว่าเธียรไม่ใช่พระเอกตัวจริงยังไงไม่รู้
แต่เฟ้ยน่ารัก
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เค้าหวานกันค่ะคุณ EP.15 up 3.06.54
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 03-06-2011 23:45:06
คุณอาน่ารักจังเลย
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ใครคือคู่ของพี่ธีร์ บทที่ 16 [up 4.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 04-06-2011 00:21:02
-16-
“พี่ธีร์! พี่ธีร์ฮะ” ผมรีบเดินตามผู้ชายร่างใหญ่
ตอนนี้ผมอยู่ภายในคฤหาสน์ของคุณชายเธียร ผมไม่ค่อยได้เล่นเกมส์ และแวะมาที่นี่บ่อยจนมันจะกลายเป็นบ้านหลังที่ 2 ของผมไปแล้ว
“อ้าว กัณฐ์” พี่ธีร์ยิ้มสวยตอบกลับมา
“ค..คือ….ผมมีเรื่องจะถามพี่มานานแล้ว….."
"ทำไมพี่ต้องโกหกผมเรื่องจดหมายนั่นด้วย ?” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ สบตาพี่ธีร์...
“….เธอรู้เรื่องแล้วงั้นเหรอ ??” พี่ธีร์ถาม ….ผมพยักหน้าเบา ๆ
“ตอนนี้…ผมคบกับเธียรแล้วฮะ” ผมอ้อมแอ้มบอกเบา ๆ
“ฮึ… ในที่สุด……” แววตาของพี่ธีร์เปลี่ยนแปลงไปจนผมเริ่มกลัว
“พ..พี่ธีร์ ?” ผมเรียกเขาอย่างไม่แน่ใจ... ผู้ชายคนนี้คือพี่ธีร์คนที่ผมรู้จักจริง ๆ เหรอ....
พี่ธีร์จับข้อมือผมบีบแรงจนรู้สึกเจ็บ
“โอ๊ย!! เจ็บ!!” ผมร้อง
“….ฉัน…อาจไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอคิดไว้ก็ได้…” พี่ธีร์ผลักผมจนชิดฝาผนังแล้วก้มลงซุกไซร้ซอกคอ
ผมพยายามดิ้นสุดแรง ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยรู้สึกรังเกียจอะไรขนาดนี้มาก่อน ผมผลักตัวเขาเต็มแรง แล้วรีบมุดตัวหนีออกจากมุมอับ
“ท..ทำไมพี่ธีร์ต้องทำแบบนี้ด้วย!!” ผมตวาด น้ำตาซึม ไม่รอให้เขาตอบ …รีบวิ่งหนีเข้าไปในห้องของเธียร..… ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเป็นคนแบบนี้…หลังจากนี้ไป ผมคงจะเข็ดขยาดพี่ธีร์ไปอีกนาน….
“เป็นอะไร กัณฐ์ ?” เธียรถามตื่น ๆ เมื่อจู่ ๆ ผมก็เข้ามากอดเขาแน่น
“…เธียรกอดกัณฐ์แน่น ๆ นะ” ผมบอกเบา ๆ ซุกหน้ากับอกของเขา…..
เธียรลูบหัวของผมเบา ๆ
ในขณะที่สมองของผมสับสน…. พี่ธีร์เป็นสุภาพบุรุษมาตลอด…
…….แล้วทำไมพี่ธีร์ถึงทำแบบนี้ ?…..
……………….
………………………
……เอ่อ.....แต่มันชักจะนานไปแล้วนะ……
ผมพยายามขยับตัวออกห่างจากเธียรเมื่ออ้อมอกอุ่น ๆ เมื่อซักครู่ มันชักจะร้อน แต่เขากลับกอดตัวผมซะแน่น…
ผมเงยหน้าสบตาเขา…..ง่า….. ทำไมทำหน้าหื่นแบบเน้~~!!!
….ถึงอย่างงั้นก็เถอะ…ผมก็สามารถเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของเธียรอย่างหวุดหวิดหลายครั้ง….. เฮ้อ…..
เอ๊ะ! บอกว่า 'รอด' ไงเล่า!!
ทำไมเมื่อก่อนผมดูไม่ออกนะ ...ว่าเขาเป็นผู้ชายหื่นกาม~!!!!!!!
จนเมื่อถึงวันจัดแสดงนิทรรศการ คานไม้ของกลุ่มผมก็ได้ขึ้นแสดง โดยมีเพื่อน ๆ ทุกคนเป็นวิทยากร…ยกเว้นผมอ่ะนะ….
ผมถูกเธียรกักบริเวณ…แต่คนอย่างผมน่ะเหรอจะยอมอยู่เฉย ๆ แอบดอดออกมาแต๊ดแต๋โต๋เต๋ไปเรื่อย ๆ
…ขอโทษนะเธียร กัณฐ์จะกลับไปให้เร็วที่สุดนะค๊าบ~….
อะไรกันเนี่ย!! มีแต่งานวิชาการ นิทรรศการแสดงโครงงานอะไรก็ไม่รู้!! ให้ตายเถอะ!! ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยเว้ยเฮ้ย!!
รู้อย่างงี้ผมโดดเรียนไม่ดีกว่าเรอะ!!
ผมมองเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังสั่งงานเพื่อน ๆ ของเขาก็รีบแถเข้าไปหา
“พี่แบล็คทำอะไรฮะ ?” ผมยิ้มถาม
“อ้าว! กัณฐ์ไม่มีงานเหรอ ? ม.5 ไม่ใช่เหรอเราน่ะ” พี่แบล็คถามงง ๆ …. พี่แกเป็นนักเรียนดีเด่นครับ … แตกต่างจากผมโดยสิ้นเชิง….เหอ ๆ ๆ
“ท่าทางพี่แบล็คจะงานเยอะนะฮะ” ผมมองเอกสารตารางงานในมือของพี่แบล็ค
“นิดหน่อยอ่ะ เดี๋ยวแอบโดดไปดูด้วยกันมั๊ย ?” พี่เขายิ้มถาม
ผมรีบพยักหน้าหงึกหงัก….. ถ้าผมไปกับพี่แบล็คล่ะก็…ได้รับสิทธิพิเศษเสมอ~ ว่ะฮ่า~!!
“เจ ๆ ฝากหน่อย เราจะไปเดินกับน้อง…แป๊บนึงนะ” พี่แบล็คโยนงานให้เพื่อนแล้วเดินนำผมไป
งานในโรงเรียนเราไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็พวกผลงานนักเรียนอะไรเงี๊ยะ น่าเบื่อจะตาย…
แต่ที่น่าสนใจก็คงจะเป็นพวกสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ อย่างที่กลุ่มผมทำนั่นแหละครับ
“พี่แบล็คมากับใครน่ะคะ” กลุ่มเด็กผู้หญิง ม.ต้น ทักทายพี่ชายผมอย่างสนใจ
“น้องชายครับ” พี่แบล็คบอกยิ้ม ๆ
“น้องชายเหรอคะ! ไม่เหมือนกันเลย” …เหมือนกันได้ไงล่ะแม่คุณ…ผมเป็นญาติผู้น้อง ไม่ใช่น้องชายแท้ ๆ อย่างไอ้บลู กับไอ้บราวน์นา…
“ถ่ายรูปหน่อย ๆ” สาว ๆ พากันขอถ่ายรูปพี่แบล็ค พี่แกก็ไม่มีทีท่าจะปฏิเสธ ยิ้มรับลูกเดียว….. ปฏิเสธเป็นมั๊ยเพ่!!
“กัณฐ์มานี่ดิ” พี่แบล็คคว้ามือผมไปยืนข้าง ๆ ..แต่จู่ ๆ สาว ๆ ก็พากันกรี๊ดกร๊าด…..บ้ารึเปล่าพวกเธอ ??
“เอาหน้าชิดกันด้วยค่ะ” …สั่งจังโว๊ย!!!
“น้องของพี่แบล็คยิ้มหน่อยได้มั๊ยคะ ?” ผมส่งยิ้มชืด ๆ ให้เธอ…..เอ๊ะ ?.. ทำไมผมต้องทำตามคำสั่งเธอด้วยเนี่ย??
“ว้าย! ถ่ายรูปแล้วดูดีมากเลย” กลุ่มสาว ๆ พากันดูรูปที่พวกเธอถ่ายเก็บไว้
"หล่อม๊ากมาก!!" ผมชะเง้อชะแง๊คอด้วยความสนใจ…. อยากเห็นมั่งง่ะว่าตัวเองหล่อมากจริง ๆ มั๊ย คิ ๆ
“กรี๊ด~! ตาเถรตกใต้ถุน!” เน่งน้อยนางหนึ่งตะโกนโหวกเหวก ผมหันไปเจอพี่แบล็คร้องตกใจเซผวามาหาผมพอดิบ พอดี!
แชะ!
เวร! ไอ้พวกเด็กบ้า! ผมเข่นเคี้ยวในใจ
พวกเธอส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเมื่อสามารถถ่ายช็อตเด็ดที่ผมหอมแก้มพี่แบล็คได้พอดี! ดีนะที่พี่แกหันหน้าไปทางอื่น ไม่เช่นนั้นอาจมีรูปอุจาดกว่านี้ปรากฎสู่สายตาคนในโรงเรียนก็ได้
พี่แบล็คต่อว่ารุ่นน้องอย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนพวกเธอจะชอบใจนะครับ…. เฮ้อ!
ผู้หญิงสมัยนี้มันน่ากลัวจริง ๆ!!
จู่ ๆ ก็มีมือหนา ๆ มาคว้าข้อมือผมกระชากไปตามแรง
“ผมขอยืมตัวกัณฐ์หน่อยนะ....ครับ” ผู้ชายร่างใหญ่บอกกับพี่แบล็คอย่าง....สุภาพ
ชะเฮ้ย! ผมหันไปมองหน้าพี่แบล็คอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ก็โดนลากไปตามแรงควาย ๆ ของพี่ธีร์
พี่ธีร์พาผมไปในซอกหลืบของโรงเรียน….. ง่า….. ผมจะโดนฆ่าหมกศพมั๊ยเนี่ย ทำไมแถวนี้ไม่มีใครเดินมาเลยว๊ะ!
“ม…มีอะไรฮะพี่ธีร์” ผมถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ …ครั้งที่แล้วผมยังไม่ชำระหนี้เลยนา
“หมายความว่ายังไง ?” พี่ธีร์ถามเสียงกระด้าง
“เอ๊ะ ?” ผมเลิกคิ้วงง ๆ
“ฉันถามว่าหมายความว่ายังไง ที่เธอทำท่าทางสนิทชิดเชื้อกับผู้ชายคนนั้น ?!” พี่ธีร์ตวาดจนผมเริ่มกลัว…โอว บุดดา…. เหนือฟ้า ยังมีฟ้า… ผมว่าเธียรน่ากลัวแล้ว…เจอออริจินัล โคตรน่ากลัวเลย!!
“ค..คือ” เขาเป็นพี่ผมค้าบบบบ….บ……บ
“ทั้ง ๆ ที่เธอมีเธียรอยู่แล้ว! ทำไมถึงได้ทำตัว…” เขาบีบข้อมือผมแรงจนรู้สึกปวดร้าวเข้าไปถึงกระดูก… ง่า….ฟังผมก่อนด้ายม้ายยยย!!!
“…ร่านนักนะ” พี่ธีร์กระซิบเสียงลอดไรฟัน
กรี๊ดดดดดดด!! จะทำอะไรโผมมมมมมม ผมยังไม่อยากตาย!! พ่อจ๋าแม่จ๋า~!!!
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงสวรรค์!! ขอบคุณพระเจ้า!!
พี่แบล็คดึงตัวผมออกจากกรงเล็บมัจจุราช.. ส่วนผมนั้นไม่ต้องถามเหอะ รีบไปหลบอยู่หลังพี่เขาทันที
….ฮือ ๆ …ผมรักพี่แบล๊คมากครับ!
“คุณจะทำอะไรน้องชายของผม ?” พี่แบล็คถามเสียงเครียด จ้องพี่ธีร์เขม็ง….
….เอ่อ….พี่แบล็คค้าบบบ….. ดูแค่หุ่น….. พี่ธีร์ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วค้าบ……
________________________________
มาแต่หัววัน เพื่อเปิดตัวคู่แค้นของพี่ธีร์โดยเฉพาะ :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ใครคือคู่ของพี่ธีร์. EP.16 [up 4.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 04-06-2011 12:00:07
โอ้ พี่แบล็คคือคู่ของพี่ธีหรือนี่!
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ใครคือคู่ของพี่ธีร์. EP.16 [up 4.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 04-06-2011 14:13:45
กีสสสสสสสสสสสสสพี่แบล๊คเท่ห์มากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ใครคือคู่ของพี่ธีร์. EP.16 [up 4.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 04-06-2011 16:31:25
พี่แบล็คเป็นคู่ของพี่ธีร์น่ะเอง
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ใครคือคู่ของพี่ธีร์. EP.16 [up 4.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 04-06-2011 17:29:39
อ๊ากกกกก เน็ต 3BB~ เอาเรื่องเราอ่ะ!!~ โดนตัดซะงั้น บิลไม่ส่งมาตูจะจ่ายยังไง - -*

พอส่งมา ก็ชาร์ตค่าห่าเหวอะไรอีก เรื่องอะไรจะจ่ายวะ!

จาก 2000 กลายเป็น 7000 มาจากไปอีก 5000?

เอ่เถอะๆ นั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้เราไม่ได้อ่าน T^T ดีนะ วันนี้มาทำงานร้านเน็ต เลยเเวะเข้าบอร์ดซะเลย -.-

สนุกมากจ้า!~ จะติดตามต่อไป อุวะฮะฮ่า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ใครคือคู่ของพี่ธีร์. EP.16 [up 4.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 04-06-2011 22:24:28
คู่แค้นหรือคู่อะไรกันแน่ครับ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ใครคือคู่ของพี่ธีร์. EP.16 [up 4.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 04-06-2011 22:47:33
เรื่องนี้เคยอ่านในเด็กดีชอบมากเลยย แต่ชอบอีกเรื่องมากกว่า

เรื่องผีเสื้อเริงรักชอบโครตๆๆ(เรื่องนี้อ่านไปหลายรอบมาก)
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง เกือบมีได้เสีย คิคิ บทที่17 [up 5.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 05-06-2011 18:26:58
-17-
“แอบไปเที่ยวที่ไหนมา ห๊ะ!” เธียรถามหน้าบึ้งตึง
“เอ่อ… ไปเดินดูงานกับพี่แบล็คมาน่ะ” ผมอ้อมแอ้มบอก เหลือบมองกลุ่มผู้หญิงและผู้ชาย(??) กำลังยืนออเพื่อถ่ายรูปเขาหลังจากที่เขาเพิ่งแสดงเดี่ยวเปียโนไปเมื่อซักครู่….
ผมรอดตัวจากเงื้อมมือมัจจุราชได้เพราะการช่วยเหลือของพี่แบล็คแท้ ๆ … ถ้าไม่มีพี่แบล็คช่วย…ผมอาจถูกฆ่าหมกศพไม่ได้มาเจอกับเธียรแล้วก็ได้นา….
“พี่แบล็ค ?” เขาเลิกคิ้ว
“พี่ของบลูอ่ะ” ผมบอกเบา ๆ ทำหน้าหงอย ๆ… ไม่โกรธผมน้าา…
“เฮ้อ! เธียรอยากให้กัณฐ์ดูเธียรเล่นเปียโน… แต่ดันไม่อยู่ซะอีก” เขาบอกงอน ๆ
“ก็…ก็มัน….” ผมคิดจะหาข้ออ้าง… แต่ก็คิดอะไรไม่ออก
“ช่างมัน แต่คืนนี้ต้องอยู่กับเธียรนะ เข้าใจมั๊ย ?” ผมมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
“ไม่ทำอะไรหรอกหน่า” อย่างงี้ตลอดแหละ…
“ทำไมทำหน้าแบบนี้ห๊ะ!” เขาถาม
“ก็เธียรพูดแบบนี้ตลอดเลยอ่ะ” แต่ก็มิได้นำพา….…ท้ายประโยคผมแอบต่อในใจ
“ก็ไม่ได้ทำอะไรจริง ๆ ใช่มั๊ยล่ะ หืม ?” เขาบอกยิ้ม ๆ ทำหน้าเจ้าเล่ห์…….ชิส์! ให้มันจริงเถอะ!!
“Canon in D” ผมตอบชื่อเพลงที่เขากำลังบรรเลง.. ได้ยินตัวโน้ตไม่กี่ตัวก็เดาได้แล้ว ไม่มีเพลงอื่นให้ทายรึไง
เธียรยิ้ม กดนิ้วลงบนคีย์อีกครั้ง
“On The Beautiful Blue Danube” ผมตอบอีกครั้ง
“เอ๊ะ! อะไรจะเก่งปานนั้น” เธียรถามกลั้วหัวเราะ แต่ผมไม่หัวเราะด้วย
“ก็เธียรเล่นแต่เพลงดัง ๆ อ่ะ ไม่รู้ได้ไง” ผมบอกหน้ามุ่ย มองแกรนด์เปียโนหลังใหญ่อย่างหลงไหล แกนี่เท่ห์เหมือนเจ้าของเลยน๊า….
“Moonlight Sonata” ผมตอบเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู เขาจึงเปลี่ยนเพลงอีกครั้ง เสียงโน้ตใสกังวานที่ผมเคยได้ยินและหลงไหลมันเป็นครั้งแรกดังขึ้นในระยะใกล้เพียงเอื้อมมือ…..
“เพลงอะไรอ่ะ ?” ผมถามเบา ๆ ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจแล้วก็ตาม
“เพลงที่เล่นวันที่เราเจอกันครั้งแรกไง” เธียรยิ้มบอกหันหลังให้แกรนด์เปียโน …ดึงตัวผมเข้าไปชิด โอ๊ะ ๆ… ใกล้กันเกินไปแล้วววววว!!  …ผมรู้สึกได้ว่าหัวใจของเรากำลังเต้นแรง…..ไม่ใช่เพียงของผมคนเดียวอีกแล้ว….
“วันแรกของเธียร กับวันแรกของกัณฐ์มันคนละวันกันนี่นา” ผมบอกเขิน ๆ
“แต่ก็เพลงเดียวกันนั่นแหละหน่า” เขาบอกยิ้ม ๆ ….แต่มือนี่….
“เธียร!” ผมแหว แต่เขาหัวเราะร่า.. ลุกขึ้นอุ้มผมนั่งลงบนแกรนด์เปียโนผิวเรียบเย็น
“ทำไมตัวเบางี้อ่ะ.. ข้างในกรวงเหรอ หืม ?” เขาถามเบา ๆ
“….ไม่กรวงเนอะ ข้างในตัวกัณฐ์อุ่นจะตาย..” ผมหน้าหวอ พูดอะไรเนี่ย!!! ….พ่อคุณถามเองตอบเองเสร็จสรรพ แถมยิ้มหวานให้ผมซะอีก
“กัณฐ์น่ารักจังเลย..” เขาจับมือ 2 ข้างของผมไว้แน่นแล้วโน้มตัวขึ้นแนบริมฝีปากเบา ๆ… ริมฝีปากของเขานุ่มละมุน… ทำให้ผมคิดถึงสายไหม… นี่ถ้าเกิดผมเผลอกินเข้าไปมันจะละลายหายไปในปากมั๊ยน๊า… เขาละจากริมฝีปาก สบตาผมเนิ่นนาน
“เธียรขอนะ…” เขากระซิบเสียงแผ่ว แต่ผมผวา!
“ก..ก็ไหนเธียร!” ผมเริ่มสั่น ไม่รักษาสัญญาเลยเว้ยเฮ้ย!!
เขาไม่สนใจฟังเสียงผมโต้แย้ง ดึงตัวผมลงประทับจูบ
….เง่อ….. คัต! คัต!
ผมเดินตามเขาต้อย ๆ มองมือที่กอบกุมมือผมไว้แล้วหลุบตาลงต่ำ… ก็คนมันเขินนี่นา!
“นี่… ทำไมกัณฐ์ไม่เคยเจอธาเลยล่ะ ?” ผมถามเบา ๆ …. หรือว่าบ้านหลังนี้หลังใหญ่เกินไปกันนะ… ผมเลยเจอแต่พี่ธีร์ บรื๋อย์!! คิดแล้วยิ่งขนลุก!
“เจอได้ไง… ธากับพี่ธีร์อยู่คนละบ้านกับเธียร” เขาบอกเปิดประตูห้องนอน
ผมมองเขาด้วยความสงสัย
“กัณฐ์เจอพี่ธีร์ตั้งหลายครั้งนี่นา” ผมบอกเบา ๆ
“ก็แค่ยืมใช้สถานที่เท่านั้นแหละ…. เธียรไม่ใช่ลูกของเขาไง เข้าใจมั๊ย ?” เขาบอกพลางถอดเสื้อออก…. จะยั่วผมรึงาย~!!
“อ…อืม…” ผมไม่รู้จะพูดอะไร …ผมไม่เคยรู้มาก่อน… บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้มีเธียรอยู่แค่คนเดียวรึไงกัน ?
“ไม่อาบน้ำเหรอ ? ไม่เหนียวตัว ?” เขายิ้มบาง เดินเข้ามาหาผม… แต่ผมถอยหลังหนีจนชิดประตู
ฮือ ๆ ….. กลับไปใส่เสื้อเดี๋ยวนี้เลยน๊าาาา!!!
“สนใจประวัติเธียรเหรอ หืม?” เขาถามยิ้ม ๆ คว้าตัวผมไปกอดแน่น
โอยยยย…. ผมเริ่มรู้สึกหน้ามืด… ได้กลิ่นตัวของเขาจาง ๆ… อ๊ากก!!
“ด…เดี๋ยว!…เมื่อกี้…ก็..” ผมพยายามโต้แย้ง เมื่อพ่อคุณเริ่มจะถอดเสื้อของผม
“ดูสิ เลอะหมดแล้ว…..เมื่อกี้เธียรก็รักษาสัญญาแล้วนี่… กัณฐ์อาบน้ำกับเธียรนะ.. เธียรจะบอกทุกอย่างที่กัณฐ์อยากรู้เลย” เธียรบอกอ้อน ๆ …. เขารู้อยู่แล้ว ว่าผมปฏิเสธไม่ได้…
เธียรเป็นลูกต่างแม่ของธากับพี่ธีร์….ตอนเด็ก ๆ เขาเรียนอ่อนมากจนต้องซ้ำชั้น….พออายุ 6 ขวบเธียรก็ได้จับเปียโนและเริ่มฝึกเล่นจนกลายเป็นที่ยอมรับในไม่กี่ปีต่อมา…. แต่พอ 11 ขวบแม่ของเธียรเสียชีวิต เขาเลยได้ย้ายไปอยู่กับพ่อ… และภรรยาของพ่อ…ไม่ชอบเขา
….ขึ้น ม.1 เธียรเลยต้องย้ายมาพึ่งบ้านหลังนี้จากพ่อของเขาแทนจนกว่าจะเรียนจบ…
….ผมได้รู้เรื่องของเขาเยอะแยะ…. แต่การที่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวนี่…. มันไม่คุ้มกันเลยนะ!!
“ไม่แต่งตัวเดี๋ยวเธียรก็ทนไม่ไหวหรอก” เธียรกระซิบบอกเบา ๆ ผมเด้งตัวลุกผึงขึ้นมาใส่เสื้อตัวใหญ่ของเขาทันที
เขาหัวเราะเบา ๆ … กับปฏิกิริยาของผม….
“เอ้า! จดหมายที่เธียรเขียนถึงกัณฐ์” เขาเดินไปหยิบกล่องโลหะที่ตั้งไว้บนหัวเตียง….ภายในมีซองจดหมายเรียงอยู่จนแทบล้นออกมา
“หา ? เธียรเขียนถึงกัณฐ์ ?” ผมมองอย่างตื่น ๆ ….ไม่น่าเชื่อว่าจดหมายที่แทบล้นออกมาจากกล่องนั้นคือจดหมายสีเหลืองอ่อนของผมทั้งสิ้น…..ผมนึกว่าเขาไม่ได้เก็บไว้ซะอีก……คิดแล้วก็อดอายไม่ได้….นี่ผมเขียนพร่ำเพ้อถึงเขามากมายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!!
“ไม่ใช่หมดนี่หรอกหน่า เอ้า! เธียรพยายามส่งให้กัณฐ์ แต่มันก็ไม่เคยถึงมือกัณฐ์เลยซักครั้ง” เขาหยิบจดหมาย 3 - 4 ฉบับขึ้นมาให้ผม…มีลายที่ผมพาเขาไปซื้อด้วย …..เขาดึงตัวผมเข้าไปกอด
“หอมจังเลย” เขาซุกไซร้ลำคอของผม ผมพยายามดันศีรษะเขาออก… ยังไม่ทันได้อ่านจดหมายของนายเลยนะ!
“ไม่เล่นนะ เธียร” ผมบอกเสียงสั่น เมื่อเขาดันตัวผมนอนราบลงบนเตียง…. เสียววาบ ๆ เลยตู
“เรียกเธียรอีกซิ กัณฐ์” เสียงของเขาแหบพร่า… ม่ายยยยยยยยยยยย~~~~~!!
“ไม่เอาแล้ว!! เธียร“ ผมพยายามร้องขอ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ ลูบมือร้อน ๆ ไปตามเรียวขาของผม
ฮือ ๆ ๆ…เธียร! นายเป็นผู้ชายที่หื่นที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ!! (<<<ว่าแต่เอ็งเจอผู้ชายมาแล้วกี่คนวะ ?)
…..เธียรรักษาสัญญานั่นแหละครับ!! แต่มัน!! แต่ว่ามัน!! ฮึ้ย! ผมเข่นเคี้ยวตักคอนแฟลกซ์เข้าปาก เคี้ยวหงับ ๆ
“เป็นอะไร ?” เธียรถามยิ้ม ๆ เท้าคางมองผมที่อยู่อีกมุมโต๊ะ
“เปล่า!” ผมตอบสะบัด … ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบ … ทำไมผมต้องเป็นฝ่าย …. อ๊ากกกกกก!! คิดอะไรในเวลากินเนี่ย!!
“เดี๋ยวไปอ่านหนังสือกันนะ จันทร์นี้ก็สอบแล้ว” เขาชวนผมทำเรื่องดี ๆ… ชิส์ ทีเมื่อวานทำไมไม่คิดจะทำแบบนี้บ้าง!!
“ไฮ พี่เธียร กัณฐ์” เสียงผู้หญิงสดใสร่าเริงทักทายพวกผม
ธายิ้มกว้าง จนเห็นรอยบุ๋มที่แก้มซ้าย เธอมากับผมทรงใหม่ ตัดบ๊อบ ผมสีน้ำตาลหยิกเป็นลอนเข้ากับการแต่งหน้า แต่งตัวสไตล์หวาน ๆ ของเธอ
“มาไงอ่ะธา” เธียรยิ้มให้น้องสาวของเขา ผมชะเง้อ ชะแง๊คอ ฟู่!! โล่งใจ~ ไม่มียักษ์ตามเจ้าหญิงมาด้วย
“แหม นั่งรถมาซิคะ …ว่าแต่ทำไมกัณฐ์อยู่นี่ล่ะ ?” ธาหลี่ตามองพี่ชายของเธอ
“พี่จะไปอ่านหนังสือ” เธียรกลบเกลื่อนเดินหนีออกไปทิ้งให้ผมอยู่กับเธอ 2 คนซะงั้น
“เอ่อ…กินมั๊ย ?” ผมไม่รู้จะพูดอะไร ชวนเธอกินคอนแฟลกซ์คำสุดท้าย… ทุเรศจริง ๆ ตู
ธายิ้ม ส่ายหน้าจนผมเส้นเล็ก ๆ สะบัดไปมา.. ฮู้… เจริญตาจริง ๆ เลยน๊า……
“กัณฐ์คบกับพี่เธียรอยู่เหรอคะ ?” ผมสำลักนมไอค่อกแค่ก… เธอถามผมทำม๊ายยยยยยยยยยยย~~~!!!
____________________________
คิคิ เกือบจะ Nc กันอีกล่ะ นิดหน่อยพอเป็นกระสัยเนอะ ช่วงนี้ให้เค้าหวานกันบ้าง ขมมาหลายล่ะ
 
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง อะไรในรถง่ะ บทที่18 [up 5.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 05-06-2011 18:31:03
-18-
ผมได้ข้อมูลใหม่มาจากธา….. ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า …….. เรื่องของพี่ธีร์ชักแหม่ง ๆ
พี่ธีร์เป็นลูกคนโตของครอบครัวศุกะศุภางค์.. แถมเป็นลูกที่ถูกต้องตามกฎหมายเสียด้วย… แน่นอนว่าสมบัติต้องตกอยู่กับพี่ธีร์ แต่ว่าคุณพ่อดันแบ่งมรดกให้เธียรพอ ๆ กับพี่ธีร์ อืม……. มันเลยอาจจะทำให้พี่ธีร์อิจฉาเธียรอยู่ก็ได้
แต่ธาบอกว่าพี่ธีร์รักและเอ็นดูเธียรมาก….. เชื่อเถอะว่ามันต้องเป็นแผนบังหน้าเพื่อที่จะวางแผนฆาตกรรมเธียรของผมแน่ ๆ….. โอ๊ว!! ตอนนี้เธียรตกอยู่ในอันตรายซินะ! …… ไม่เป็นไร กัณฐ์จะปกป้องเธียรเอง!!
หลังจากคิดเอาเองเสร็จสรรพ ผมก็หันหน้าไปมองคนที่ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร
“เธียร…” ผมเรียกเบา ๆ ….. แต่เขาก็ไม่ยักกะสน มุ่งมั่นตั้งใจอ่านหนังสือเกินไปแล้วนะ!
“นี่…” ผมใช้ฝ่ามือปิดตัวอักษรที่เขากำลังก้มอ่าน….. เขาจึงเงยหน้ามองผมอมยิ้ม
“หัดเรียกร้องความสนใจแล้วเหรอ ?” เขาถามผมกลั้วหัวเราะ ผมช้อนตามองใบหน้าคมคายของเขา
“กัณฐ์จะปกป้องเธียรเองนะ” ผมบอกเบา ๆ
“พูดอะไรน่ะ ?” เขาถามงง ๆ จับมือผมขึ้นจูบบนหลังมือเบา ๆ
“ก็กัณฐ์จะดูแลเธียรเองไงเล่า” ผมบอกปากเบ้… ชิส์ เข้าใจอะไรยากเหมือนเดิม
“ครับ ๆ” เขาตอบรับขำ ๆ คว้าตัวผมไปกอด
“กัณฐ์ทำให้เวลาอ่านหนังสือของเธียรลดลงอีกแล้วรู้มั๊ย…” เขากระซิบบอกเบา ๆ…..
ผมกลับบ้านเมื่อรู้สึกว่ามันชักจะดึกไปหน่อยแล้ว….
รถสีดำคันหรูจอดอยู่หน้าปากซอยบ้านของผม… เห้ย…. คุ้น ๆ เหมือนเคยเห็น….. รถใครฟะ ?
แย๊กกกกกกกกกกก!!
รถเขย่า!!!
แสด!! ที่อื่นก็มี ทำไมต้องมาจอดหน้าซอยนี้ด้วยยยย!!!
ผมรีบหลบในมุมของตึก รู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก ถึงผมจะโง่ แต่ไม่ได้ซื่อบื้อนะ!!!!!!!
ผมใจเต้นกระหน่ำ… จะเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีมั๊ยเนี่ย หรือว่าจะยืนรออยู่ตรงนี้จนกว่าไอ้รถบ้านี่จะขับไปดี...
แอ๊กกกกกกกกกกก!!! เครียดดดด!!
ผมมัวแต่คิดว่าจะทำยังไงจนเวลาผ่านไปพักใหญ่
“อ…อ๊าา!” …เสียงบ่งบอกว่าคนในรถคงจะไปสู่จุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว…….. ผมชะเง้อมองดูรถคันนั้นอีกที… ว่าแต่..เสียงเมื่อกี้มันคุ้นหูชอบกล…
รถคันนั้นกลับมาสู่สภาพปกติ…
ผมเดินออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ พอมองเข้าไปในรถก็เห็นคนกำลังนั่งอยู่
ผมเปล่าสอดรู้สอดเห็นนา... ก็แค่เผลอมองเข้าไปเท่าน้านนนน~
ผมพยายามโฟกัสว่าคนในรถกำลังทำอะไร… แต่เอ… รูปร่าง 2 คนนี้มันคุ้น ๆ นา…… ยิ่งตัวใหญ่ ๆ แบบนี้แล้ว.. ไม่น่าจะมีใครได้อีก……………..ส่วนอีกคนก็คุ้นมาก ๆ……รูปร่างแบบนี้มันเป็นอะไรที่ผมโคตรจะคุ้นตา....
........................
..................................
…พี่ธีร์….กับ……….พี่แบล็ค…?.
ไม่ผิดแน่ ๆ ผมมองเข้าไปข้างในอีกครั้ง….ใช่จริง ๆ…
เหงื่อกาฬของผมไหลพลั่ก.... ไอ้ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี่....อย่าบอกนะ......
รถเคลื่อนตัวเข้าไปในซอยบ้านผมช้า ๆ ….. ผมรีบเดินตามไป
รถไปถึงหน้าบ้านของผมก่อนไม่กี่นาที…..พอมาถึงหน้าบ้านก็เห็นพี่แบล็คลงมาจากรถ พี่ท่านปิดประตูรถเสียงดังลั่น แล้วตวัดเท้าเตะข้างรถโคตรหรูนั่นเต็มแรง…..เหลือเชื่อ!…..ใช่พี่แบล็คจริง ๆ เหรอเนี่ย!!
“อ๊ะ!” พี่แบล็คดูตกใจมาก เมื่อเห็นผมยืนมองอยู่
“ม…มาได้ไงกัณฐ์ ?” พี่ท่านถามเสียงสั่น ๆ….ซึ่งไม่ใช่วิสัยของพี่ท่าน
“ว่าไงกัณฐ์” เสียงทุ้มนุ่มของพี่ธีร์ดังขึ้นลอดจากหน้าต่างรถ……หึยยยย…..
“หวัดดีฮะ พี่ธีร์” ผมทักอย่างหวาด ๆ … อย่าฆ่าผมเลยน๊า…… ผมแค่บังเอิญรู้ความลับระหว่างพี่ทั้งสองคนเท่านั้นเอ๊งงงงง!!!
“พี่ไปก่อนนะ… แล้วเจอกัน….แบล็ค…” ท้ายประโยคของพี่ธีร์ฟังดูขนหัวลุกยังไงชอบกล
“.....พี่แบล็คเป็นอะไรฮะ…. ว่าแต่สนิทกับพี่ธีร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?” ผมแสร้งถามอย่างไม่รู้เรื่อง....ผมไม่รู้อะไรเล๊ย! ไม่รู้จริง ๆ สาบานได้ !! 
รถเคลื่อนตัวออกแรงจนเสียงล้อบดพื้นถนนดังลั่น….
“…ไม่มีอะไรหรอก…เข้าบ้านเถอะ” พี่แบล็คดันหลังผมให้เดินเข้าไปในรั้วบ้าน
ผมหันกลับไปมองพี่แบล็คอีกครั้ง… แสงสว่างจากไฟหน้าบ้านทำให้ผมเห็นดวงตาแดงช้ำ…น้ำที่สะท้อนแสงบนพวงแก้มนั่น….น้ำตาแหง ๆ….. ริมฝีปากบวมเจ่อ…ที่เหมือนผ่านการจูบ….เสื้อผ้ายับยู่ยี่ ใส่ไม่เรียบร้อย แล้วยังไอ้ท่าเดินเก้ ๆ กัง ๆ นี่อีก……
ขออย่าให้เป็นอย่างที่ผมคิดเลยนะ….
“พี่แบล็คมีเซ็กส์กับพี่ธีร์เหรอ ?” ผมถาม
“…..” และไม่มีคำตอบ…..
ผมไปสอบด้วยจิตใจว้าวุ่น… เมื่อคืนผมนอนไม่หลับ… ผมพยายามคิด ว่าพี่ธีร์ทำไปเพื่ออะไร ?…. หรือพี่ธีร์แอบชอบพี่แบล็ค…… แต่ดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่….. …..หรือว่าพี่ธีร์จะ SM ?? โน๊ว~!!
เสียงพี่แบล็คสะอื้นเบา ๆ ผมยังจำได้ติดหู… ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา..ผมไม่เคยเห็นพี่แบล็คร้องไห้เลยซักครั้ง……แต่นี่..ถึงเขาจะพยายามไม่ให้ผมเห็น..…. แต่ผมก็รู้สึกได้ …..ว่ากำลังเจ็บปวด….
ตอนเช้าก็ไม่มีใครเจอพี่แบล็ค เพราะพี่ท่านเตรียมอาหารเช้าให้น้อง ๆ แล้วก็ไปโรงเรียนก่อนคนอื่น…
ผมฝนข้อสอบแบบผ่าน ๆ …… วันนี้ผมคิดจะไปหาพี่ธีร์……
ผมจะต้องรู้เรื่องให้ได้…. ว่าทำไมพี่ธีร์ถึงทำแบบนี้กับพี่ชายของผม…
“ทำได้มั๊ย ?” เธียรส่งยิ้มถาม แต่พอผมเห็นหน้าเขาแล้วก็คิดถึงพี่ชายของเขา ทำให้ผมรู้สึกไม่อยากคุยด้วยขึ้นมาซะอย่างงั้น
“อืม…” ผมตอบเบา ๆ
“เธียร… รู้รึเปล่าว่าพี่ธีร์อยู่ที่ไหน ?” ผมถาม
“ถามทำไม ?” เขาขมวดคิ้ว มองผมอย่างไม่ค่อยชอบใจ… โธ่… ผมไม่ได้นอกใจนะ
“กัณฐ์อยากเลี้ยงข้าวพี่ธีร์น่ะ ติดไว้นานแล้ว” ผมยกเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง…
“….วันจันทร์พี่ธีร์ทำงานที่บริษัทเดี๋ยวเธียรนัดมาที่บ้านให้เอามั๊ย ?” ผมพยักหน้าหงึกหงัก… เอ….แต่การอยู่บ้านของเธียร อาจทำให้พี่ธีร์เล่นงานเธียรก็ได้… คิดแล้วก็รีบเปลี่ยนใจ
“เอ่อ..ไม่ต้อง…. เดี๋ยวกัณฐ์ไปหาพี่ธีร์ที่บริษัทเอง” ผมบอกเขา… ถึงใจจริงอยากให้เขาไปด้วย… แต่ผมก็อยากจะให้เขาปลอดภัยไว้ก่อน
“ไม่ต้องเลย….” เขาหน้าบึ้ง
“งั้นเดี๋ยวกัณฐ์โทรนัดพี่ธีร์ไปที่ร้านอาหารเอง” ผมยื่นข้อเสนอ.. เธียรพยักหน้าและส่งโทรศัพท์ให้ผม…
ผมโทรศัพท์นัดพี่ธีร์ไปทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งหลังจากสอบเสร็จ โดยทุ่มเงินเก็บเกือบปีที่ผมเก็บไว้…. ถึงผมจะเล่นเกมส์แต่ก็พอจะมีเงินเก็บนะฮะ!
พี่แบล็คมีอาการเหม่อลอย.. และเก็บตัวเงียบจนคุณลุงคุณป้าสังเกตได้
“กัณฐ์ไปไหนเหรอลูก” คุณป้าถามผมอย่างห่วงใย
“ไปทานข้าวเย็นข้างนอกฮะ” ผมบอก
“เหรอ… งั้นก็รีบไปรีบกลับนะ… ป้ากลัวลูกจะซึมเหมือนแบล็คไปอีกคน… ข้าวปลาก็ไม่ยอมทาน อยู่แต่ในห้อง เมื่อวันก่อนเพื่อนเขาก็มาชวนไปเที่ยว แต่ตาแบล็คนี่สิ หัวดื้อ ไม่ยอมไปท่าเดียว” คุณป้ามองไปยังทิศที่ห้องลูกชายคนโตของเธอตั้งอยู่ แล้วถอนหายใจ
“ไม่ต้องห่วงฮะ พี่แบล็คอาจไม่สบาย ไม่กี่วันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเองละฮะ” ผมยิ้ม ปลอบคุณป้า ..แอบสัมผัสเงินในกระเป๋ากางเกง…. เพื่อพี่แบล็ค!! สู้ว้อยยยยยยยยย~~!!!
_________________________________
คู่รักคู่ร้าย กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่ตอนข้างหน้า ตอนนี้ก็เอาใจช่วยให้กัณฐ์ช่วยพี่แบล๊คไปก่อนล่ะกันน่ะ พี่ธีร์ ยังมีอะไรอีกเยอะ แล้วพบกันจ๊ะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ชดเชยล่วงหน้า 2 ตอนจ๊ะ บทที่17-18 [up 5.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 05-06-2011 21:37:40
 :bye2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ชดเชยล่วงหน้า 2 ตอนจ๊ะ บทที่17-18 [up 5.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 05-06-2011 23:07:09
โอเคค่ะ รอลุ้นคู่นี้ อยากรู้เรื่องราวพี่ธีร์อ่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ชดเชยล่วงหน้า 2 ตอนจ๊ะ บทที่17-18 [up 5.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 06-06-2011 20:17:07
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่า
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ชดเชยล่วงหน้า 2 ตอนจ๊ะ บทที่17-18 [up 5.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 06-06-2011 20:31:54
 :L2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง ชดเชยล่วงหน้า 2 ตอนจ๊ะ บทที่17-18 [up 5.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ainsley ที่ 06-06-2011 23:02:17
 :sad4: พี่ธีร์ เลวววววววววววว!
ไม่ชอบพี่ธีร์ แงงงง ทำไรพี่แบล็คอ้ะ
เหยยยยยยยยยย แบบนี้มาต่อยกันเลยดีกว่ามั้ย
แค่ไม่พอใจที่โดนขวางใช่ปะพี่ธีร์ แบล็คแค่ปกป้องน้องนะเว่ย
รออ่านนะคะ :oo1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง พี่ธีร์กับเธียรแตกคอกันง่ะ บทที่19 [up 7.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 07-06-2011 08:17:30
-19-
ผมมาถึงภัตตาคารนี่สายนิดหน่อย สภาพดูไม่ได้เลยทีเดียว
ผมบังเอิญเจอโจทก์เก่าที่เป็นลูกคนรวย….… เป็นจิ๊กโก๋แต่กลับมาอยู่ในถิ่นที่มีแต่ไฮโซได้นะเมิง…. กว่าจะหนีได้ก็เล่นเอาหอบเหมือนกัน
ผมจัดเสื้อตัวเองแล้วรีบวิ่งเข้าไปในภัตตาคาร… ตายละวา! เลยมาตั้งหลายนาทีแล้วด้วยซิ!
“เอ่อ.. คุณธานินทร์ ครับ” ผมบอกบริกรเบา ๆ …. เขาเดินนำผมไปยังโต๊ะที่มีชายร่างใหญ่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
ผมมองบรรยากาศรอบร้าน… ทำไมไม่ค่อยมีคนเลยวะ... บรรยากาศน่าขนลุกจิ๊บเป๋ง!
“ส…สวัสดีฮะ” ผมทักทายพี่ชายของแฟนตัวเองเบา ๆ
พี่ธีร์ยิ้มรับ ผายมือให้ผมนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขา
“เธอคิดยังไง ถึงพาฉันมาทานอาหารแพงแบบนี้ ?” พี่ธีร์ถามยิ้ม ๆ …. อ่ะโด่! ถ้าเอ็งไม่ทำเรื่องเลวร้ายไว้ ข้าก็ไม่อยากพามาเคลียร์ที่แบบนี้หลอกนะเฟ้ย!
“สั่งอะไรรึยังฮะ” …เรื่องที่คิดกับเรื่องที่พูด มันไปกันคนละทางกันเลยนะเว้ย!!
“อืม….”
“คือ… ผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่ธีร์น่ะฮะ” ผมเริ่มเปิดประเด็น… พี่ธีร์เลิกคิ้วเล็กน้อย ยกแก้วไวท์ขึ้นมาเขย่าวนเป็นวงเบา ๆ
“เรื่องพี่แบล็ค…” พี่ธีร์ไม่มีสีหน้าเปลี่ยนแปลง เขายิ้มเอื่อย ๆ ราวกับไม่ยี่หระ
“เมื่อคืนนั้นพี่ธีร์…”
“ฉันชอบพี่ชายของเธอมันแปลกงั้นเหรอ ?” พี่ธีร์เลิกคิ้วถาม จิบไวท์ในแก้วทรงสูง
“…..แล้วทำไม...พี่แบล็คถึงร้องไห้…” ผมถามเบา ๆ มองเขาค่อย ๆ ดื่มไวท์แดงจนหมดแก้วอย่างใจเย็น
“...สงสัยฉันจะเล่น 'รุนแรง' ไปหน่อยน่ะ…” พี่ธีร์ยิ้มหวาน วางแก้วที่ว่างเปล่าลงบนโต๊ะ
“ทำไมพี่ธีร์..ต้องทำแบบนั้นกับพี่แบล็ค ?” ผมถามเสียงสั่น… ด้วยความโกรธ....ผมคิดว่าพี่ธีร์น่าจะเป็นคนที่มีจิตสำนึกมากกว่านี้...แต่นี่เขากลับท่าทางราวกับเป็นเรื่องธรรมดา ๆ ทั้ง ๆ ที่พี่แบล็คต้องร้องไห้
“……เพราะอะไรกัน…..นั่นสิ……” พี่ธีร์ยิ้มบาง ๆ บริกรเสิร์ฟอาหาร 2 – 3 อย่างลงบนโต๊ะของพวกเรา…กลิ่นหอมโชยแตะจมูก… แต่ผมไม่มีเวลามาคิดเรื่องของกินพวกนี้แล้ว
“แล้ว…แล้วทำไมต้อง..”
"เอาล่ะ ๆ ...หยุดคำถามไว้แค่นี้ก่อน เจ้าหนูน้อย...เธอสนใจอาหารตรงหน้าเธอก่อนดีกว่า" พี่ธีร์ยิ้มชวนผมให้กินอะไรรองท้อง....
ผมทำแก้มป่องอย่างอารมณ์เสีย แต่ก็จิ้มอาหารเข้าปากอย่างเสียมิได้
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ?" พี่ธีร์ถามกลั้วหัวเราะ
"ผมอยากรู้จริง ๆ นี่ ว่าคืนนั้นพี่ธีร์มีอะไรกับพี่แบล็คจริงรึเปล่า" ผมโพล่งถามออกไปตรง ๆ ...พี่ธีร์ดูเหมือนจะอึ้ง ๆ อยู่หลายวินาที ก่อนจะปรับสีหน้าให้เรียบเฉย
"แบล็คบอกเธออย่างงั้นเหรอ ?" เสียงของพี่ท่านเริ่มราบเรียบจนผมรู้สึกกลัว
"ป...เปล่า....แต่ผมเห็น....เอ่อ...." ผมเริ่มพูดตะกุกตะกัก...ทำไมมันน่ากลัวอย่างงี้ว้า.....
"......" นานมากในความรู้สึกของผม ที่โต๊ะของเราตกอยู่ในความเงียบ....
“กินต่อเถอะ..." หลังจากจบประโยค ผมก็จำใจตักอาหารที่กลิ่นน่าทานเข้าปาก แต่ลิ้นของผมกลับไม่รับรู้รสชาติใด ๆ.... เกี๋ยวเตี๋ยวข้างทางยังจะคุ้มกว่าอาหารที่ราคาแพงลิบลิ่วของที่นี่ซะอีก
"เธอยังจำได้มั๊ย... ว่าฉันเคยบอกว่าชอบเธอ..." ผมเบนสายตาไปสบมองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามงง ๆ
"แต่ว่าตอนนี้....ทุกอย่าง....ทุก ๆ อย่าง....มันเปลี่ยนแปลงไปหมด..." เสียงของพี่ธีร์ฟังดูแหบแห้ง... ไม่น่ากลัวอย่างเมื่อซักครู่
"เห ?" ผมส่งเสียงงง ๆ ออกไป...ให้รู้ว่าผมโคตรจะงง พี่ธีร์ยิ้มบาง ๆ แต่ดวงตากลับดูเศร้าจนน่าใจหาย
"ตอนนี้..เธอเป็นคนที่ฉันเกลียดที่สุดในชีวิตเลยล่ะ...." เสียงพูดอย่างราบเรียบของพี่ธีร์ทำให้ผมสะดุ้ง....
"ฉันอยากจะทำลายเธอ.... ทำให้เธอหายไป.... แต่ก็...ทำไม่ได้....."
"เพราะฉะนั้นฉันจึงต้องทำลายสิ่งที่เธอรักและหวงแหน......" ผมนิ่งอึ้งไปหลายวินาที... เหมือนสมองของผมจะชา.....ผมแทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่ผมเคยเคารพจะคิดกับผมแบบนี้
“…แล้วทำไมพี่ธีร์ถึงทำอะไรผมไม่ได้....ทั้ง ๆ ที่ผมมันก็แค่แมลงตัวกะจิดริดที่พี่สามารถจะขยี้ให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้" ผมถามเสียงสั่นน้ำตาแทบร่วง มองดูชายหนุ่มเลือดเย็นตรงหน้า….. ผมไม่เคยรู้เลย…..ว่าผมทำอะไรให้พี่ธีร์เกลียดผมได้ถึงขนาดนี้
“…..เพราะว่า…….เธียร…รักเธอน่ะสิ….” เสียงทุ้มนั้นบอกแผ่วเบา
“…..” พี่ธีร์ลุกขึ้นเดินเข้าหาผมอย่างคุกคาม ผมทำได้เพียงนั่งตัวแข็งรอเขาเข้ามาใกล้เท่านั้น
“เธียรรักเธอ…” มือหนาของพี่ธีร์โอบรัดลำคอของผม… มันอึดอัด…. หายใจไม่ออก….. แต่ผม…ไม่อยากหนี…..
เขาเพิ่มแรงกดจนผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะขาดอากาศตาย
“อ…อึ๊ก….” ผมพยายามแกะมือหนา ๆ ที่บีบรอบลำคอของผมออก..
“ปล่อย!” เสียงคุ้นหูของใครคนหนึ่งดังขึ้น และมือของพี่ธีร์ยอมปล่อยให้ก๊าซเข้าสู่ปอดของผม
ผมไอโขลก หอบหายใจแรง… อากาศ….ออกซิเจน….ไนโตรเจน…..คาร์บอนไดออกไซด์……โอวววว…..ขอบคุณที่โลกนี้มีอากาศ!!
“พี่ธีร์ทำบ้าอะไรน่ะ” เธียรตวาดถามอย่างโมโห ผมมองพี่ธีร์ล้มลงไปกองกับพื้น แล้วยังมีภีมอยู่ที่นี่ด้วยอีกคน
ดูจากสถานการณ์แล้วไอ้ภีมคงจะเอาเก้าอี้ฟาดตัวของพี่ธีร์จนเขาล้มไปกอง ส่วนเธียรคงจะเป็นคนต่อยหน้าพี่แกนะ..
"...หึ..." พี่ธีร์ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่แค่นหัวเราะในลำคอมือหนาของพี่ธีร์ยกขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากของเขา….
อะไรกัน.......รอยยิ้มเหยียดหยันแบบนั้น….กับแววตาแบบนั้นอีก…
ผมมองไปยังคนที่พี่ธีร์กำลังจ้องมองอยู่...................เธียร.....
…..จริงสิ…..ผมไม่เคยเห็นพี่ธีร์อยู่กับเธียร….ไม่เคยเห็นพี่ธีร์พูดคุยกับเธียร……
ผมไม่รู้ว่าทั้งคู่เคยอยู่ด้วยกันยังไง…
เรื่องที่ธาบอกว่าพี่ธีร์ดูแลเอาใจใส่เธียรเป็นพิเศษ… เรื่องที่พี่ธีร์โกหกผม…ไม่ให้ผมได้มีความสุขกับเธียร…. เรื่องที่เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อเห็นผมสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นทั้ง ๆ ที่คบกับเธียร…..ตอนนี้ทุกอย่างในสมองผมเริ่มปะติดปะต่อ…
และสรุปมันได้แล้ว….
………………..ว่า..พี่ธีร์..รักเธียร…
“กัณฐ์เป็นอะไรรึเปล่า ?” เธียรถามผมอย่างห่วงใย มองรอยบนลำคอของผม
“ม…ไม่เป็นไร…” บอกกับเธียรเบา ๆ ด้วยเสียงที่แหบพร่า
ผมหันไปมองพี่ธีร์ที่ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง…
ผมอยากก้าวเดินเข้าไปขอโทษ.. แต่ถูกเธียรรั้งแขนไว้…
“ข…ขอโทษนะฮะ….ขอโทษนะฮะพี่ธีร์…..ผมเข้าใจดี ว่าพี่ธีร์รู้สึกยังไง....แต่ผมก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว” ผมก้มหน้าบอกเบา ๆ… ผมเข้าใจพี่ธีร์…….. เข้าใจความรู้สึกของพี่ธีร์ทุกอย่าง…. ความเจ็บปวดที่ต้องคอยมองไอ้หมอนี่…. แต่ไม่เคยได้รับการมองตอบกลับมา…แต่…แต่ว่า……
"กัณฐ์!" เธียรพยายามดึงตัวของผมให้ออกห่างจากเขา
“หึ……. เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้งั้นเหรอ....ฮะ ๆ...งั้นบอกไว้เลยนะ ว่าฉันจะไม่ปล่อย'เขา'…..ถ้าหากเธอ……..ยังไม่'เปลี่ยนแปลง'…..” เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูนั้นทำให้ผมนิ่งอึ้ง……
……………………………..
…………………….
………………
…..แล้ว……แล้วผม…….จะต้อง….
“…กัณฐ์” ผมมองคนที่เรียกงง ๆ…. ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม…. และไม่มีพี่ธีร์แล้ว…..
“……..ภีมล่ะ ?” ผมถามเบา ๆ…
“นึกว่าเป็นอะไรไปแล้วซะอีก” เธียรโอบกระชับตัวผมแน่น…...................................อุ่น……อุ่นจังเลย…..
……ผมไม่อยากจากอ้อมแขนนี้ไป….จะให้ผมปล่อยมือจากเธียรทั้ง ๆ ที่เราอุตส่าห์ได้รักกันน่ะเหรอ ??
……กว่าที่ผมกับเขาจะมาถึงจุดนี้ได้…..ผมต้องเจ็บปวดมานานแค่ไหน…….ผมต้องอดทนเท่าไหร่……..
ผมโอบกอดตัวของเขาไว้แน่น… กลิ่นกายของเขา….. สัมผัสของเขา…..
ไอ้น้ำตาบ้า!! อย่าไหลออกมาเชียวนะ!
…..ผมไม่อยากเสียเขาไป……ไม่อยากแยกจากเขา…….
……….ผมจะดูเห็นแก่ตัวไปมั๊ย ???……
………ถ้าหากผม'ไม่เปลี่ยนแปลง'……….
________________________
 :sad4:เลวเนอะพี่ธีร์ แต่ยังเลวได้อีกสำหรับคนนี้ หรือคิดว่าไงกันล่ะ หึหึ .....เคยคิดกันบ้างป่ะ ทำไม โจทย์กัณฐ์ถึงเยอะนัก มันมีปริศนาอยู่น่ะเออ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง พี่ธีร์กับเธียรแตกคอกันง่ะ บทที่19 [up 7.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 07-06-2011 13:13:37
สงสารพี่ธีร์ อยากรู้เหตุผลทั้งหมดเร็วๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง พี่ธีร์กับเธียรแตกคอกันง่ะ บทที่19 [up 7.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 07-06-2011 14:57:48
ชักเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆๆๆๆแล้ว

สู้ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง พี่ธีร์กับเธียรแตกคอกันง่ะ บทที่19 [up 7.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 09-06-2011 00:33:17
จำได้เมื่อนานมาแล้วเฝ้ารอลุ้นกัณฐ์  พี่ธีณ์กับพี่แบล็ค อ่านซ้ำอีก ก็หลาย แต่มันก็ยังน่าลุ้นเหมือนเดิม  ตอนอ่านตอนแรกๆ  มันก็ธรรมดานะ ดูไม่แน่น แต่เผลอไปเมื่อไร่ ไม่รู้ กลับติดไปซะได้  :o8:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง บทที่20 [up 20.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 18-06-2011 20:56:25
-20-
ผมนั่งเงียบ ๆ มองต่ำไปยังพื้นถนน ...ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ริมฟุตบาทกับใครอีกคนหนึ่ง มือของเขากอบกุมมือของผมไว้จนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งใจ ...ทั้ง ๆ ที่เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนนี้เราเพิ่งมีปากเสียงกันน่ะนะ
“....” ไม่มีบทสนทนา มีเพียงแววตาของเขาที่มองอย่างรู้สึกผิด... ผมรู้ว่าเขาง้อคนไม่เก่ง ยิ่งเห็นเขาทำท่าทางอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ จะพูดก็ไม่กล้าพูด ยิ่งทำให้ผมรู้สึกตลก
“ฮึ..” ผมหลุดหัวเราะเบา ๆ 
“หัวเราะอะไร ?” เขาถามงง ๆ
“เปล่า..” ผมส่งยิ้มหวานให้เขา เขาถึงดูมีสีหน้าดีขึ้น
“กลับกันเถอะ” เขาดึงมือผมให้ลุกขึ้นตาม
“เดี๋ยว!” ผมรีบดึงมือเขาไว้
“กัณฐ์ขอโทษ.....” ผมบอกเบา ๆ
“ทำไมต้องขอโทษ เธียรต่างหากที่ต้องขอโทษกัณฐ์..” เขาสบตาผมนิ่ง.... ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น
“ทีหลังเธียรจะพูดดี ๆ เธียรจะควบคุมอารมณ์ให้ได้ ....กัณฐ์....อย่าโกรธเธียรนะ....” เขากระซิบบอก ผมพยักหน้าแรง ๆ... ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีแท้ ๆ ..... กำลังไปได้ด้วยดี ......
“ขอโทษ...ฮึก....ข...ขอโทษนะ.....ฮือ..” ทำไม... ผมถึงเป็นคนที่เห็นแก่ตัว... เป็นคนที่เห็นแก่ตัวได้ถึงขนาดนี้....
....ผมบอกกับเขาเรื่องที่พี่ธีร์ทำกับพี่แบล็ค แต่เขาก็ออกตัวปกป้องพี่ชาย.... ทั้ง ๆ ที่เขาก็รู้ว่าพี่ธีร์ไม่ได้คิดกับเขาเพียงแค่น้องชาย.... ทั้ง ๆ ที่พี่ธีร์เป็นคนบอกให้ผมเลิกกับเขา! .....ผมก็เลยพลั้งปากไป...
‘ถ้าเธียรรู้จักพี่ธีร์มากขนาดนั้นทำไมไม่เลิกกับผมไปอยู่กับพี่ธีร์เลยล่ะ!’ ผมบอกเม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าของเขาเหมือนกับตกใจ...ตกตะลึงกับคำพูดของผม
’กัณฐ์!! ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ! นี่เรากำลังคบกันอยู่นะ! เรากำลังคบกันอยู่  เธียรไม่คบกับคนที่เธียรไม่ได้รักเด็ดขาด เข้าใจมั๊ย !?’ มือใหญ่ ๆ ของเขาออกแรงบีบไหล่ทั้ง 2 ข้างของผมจนรู้สึกเจ็บ ผมเบือนหน้าหนีดวงตาดุ ๆ ของเขา
‘เธียรถามว่าเข้าใจมั๊ย !?’ เขาตวาดเสียงดังเมื่อเห็นผมนิ่งเงียบ
’เจ็บ!’ ผมร้องบอกเขา เหมือนเขาเพิ่งจะรู้ตัว รีบผละมือจากผม ...
.......ในเสี้ยววินาทีนั้น ผมเผลอคิดว่า... คนที่เขารักคือผมจริง ๆ น่ะเหรอ ?? คือผมคนนี้แน่เหรอ ??..... ไม่ใช่เด็กผู้ชายที่เขาเพ้อฝันว่าตัวเล็ก ๆ ใส่แว่น คนนั้นน่ะเหรอ ???? .....ในเมื่อตอนนี้กาลเวลามันทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว.... ไม่แน่ในอนาคต ผมกับเขาก็จะต้องเลิกกัน.....สู้ให้เลิกกันเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อแลกกับข้อเสนอที่พี่ธีร์ให้มาเลยไม่ดีกว่าเหรอ ???....................
“ขอโทษ...ฮึก....ข...ขอโทษนะ.....ฮือ..” ทำไม... ผมถึงเป็นคนที่เห็นแก่ตัว... เป็นคนที่เห็นแก่ตัวได้ถึงขนาดนี้....
 
 
ในที่สุดก็ถึงช่วงปิดเทอม ผมและคนในบ้านเดินทางไปรวมตัวพบปะญาติ ๆ ที่บ้านใหญ่ ในต่างจังหวัด
แต่ปีนี้พี่แบล็คขอไม่ไปเพราะพี่ท่านต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย และเรียนพิเศษเกือบ 24 ชั่วโมง .... ถ้าอยู่ ม.6 แล้วต้องเรียนขนาดนั้นผมไม่เอาหรอกด้วยนะ!
“กาน กาน..” ผมสะดุ้งมองใบหน้ากลม ๆ ของเด็กผู้หญิงในอ้อมแขน เธอมองผมด้วยดวงตากลมโตที่ฉายแววสงสัย
“อะไรครับ ฮาน่า” ผมถามเบา ๆ โน้มใบหน้าลงหอมแก้มนุ่ม ๆ ของฮาน่า ...เธอเป็นลูกบุญธรรมของป้าอีกคนครับ และเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดในครอบครัวเรา
“อย่าเพิ่งสวีทกันนะ ตาพี่กัณฐ์ลงแล้วอ่ะ” เก๋อ น้องชายของผมรีบตัดบทก่อนที่ผมและฮาน่าจะเข้าสู่โลกส่วนตัว ตอนนี้พวกเรากำลังตั้งวงเล่นสลาพกัน โดยมีผม เป็นแกนนำ (สอนน้องเล่นตั้งแต่เด็กเลย ไม่ดีนะครับ)
“อ้อ..” ผมวางคางไว้บนศีรษะทุยของเด็กหญิงตัวน้อยและทิ้งไพ่ลงใบหนึ่ง
แปลกแฮะ... ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา.... ทั้ง ๆ ที่ผมน่าจะรู้สึกแจ่มใสเหมือนทุกครั้งที่มาที่นี่.....
.....นี่ผมเป็นอะไรไปนะ..... ผมกำลังกังวลใจ ........ ผม ...เป็นห่วงพี่แบล็ค.............
___________________________
ตอนนี้ไปพบ SP พี่แบล๊ค น่ะค่ะ.... :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง พี่ธีร์กับเธียรแตกคอกันง่ะ บทที่19 [up 7.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ainsley ที่ 19-06-2011 00:11:04
 :call: เรียกมาโพสต่อได้แล้วจ้าาาาาา
คนอ่านอย่างผมรออยู่นะคร้าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง พี่ธีร์กับเธียรแตกคอกันง่ะ บทที่19 [up 7.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 19-06-2011 00:32:48
ปูเสื่อ+กินสายไหม

นั่งรอคนแต่งมาโพส
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง Black Part[up 20.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 20-06-2011 21:21:57
Black Part
But you put on quite a show. Really had me goin. But now it's time to go. Curtain's finally closing…
“ครับ...”
“ฮัลโหล.. เมื่อกี้แบล็คโทรมาเหรอ ?” เสียงหวานของเธอ ที่ผ่านเข้าสู่สมองไม่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น...
“อ...อืม... แคนดี้กำลังยุ่งอยู่เหรอ ?” ผมกลั้นใจถาม ทั้ง ๆ ที่ในใจก็รู้ดีอยู่แล้ว
“จ๊า ทำงานยุ่งมากเลย... อ๊ะ แค่นี้ก่อนนะ....ติ๊ด....” ผมยืนนิ่ง.... ออกแรงบีบโทรศัพท์มือถือในมือจนรู้สึกเจ็บ.....
.....เธอโกหกผม.......
ผมจำภาพที่เธอเดินกอดเอวของหมอนั่นได้ดี... ทั้งคู่หัวเราะต่อซิก ดวงตาของเธอเป็นประกายเหมือนผู้หญิงแรกรัก แต่เมื่อผมโทรไป เธอเพียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอ แล้ววางมันไว้ในกระเป๋า......
บางที... ผมควรจะเดินเข้าไปหาพวกเขา..... ควรจะพูดคุยให้ทุกอย่างมันจบ..... แต่ผมก็ไม่กล้า..... ผมกลัว......
ผมเป็นผู้ชายที่จัดได้ว่าอ่อนแอ ปวกเปียก ไม่เข้มแข็ง แต่ผมถูกพ่อกับแม่ปลูกฝังไว้ในสมอง ท่านย้ำผมทุกครั้งที่ผมงอแงว่าผมเป็นพี่ชายคนโต ผมต้องรับผิดชอบ  ต้องดูแล และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง..... และคำพูดพวกนี้จะแวบเข้ามาในสมองทุกครั้งที่ผมเห็นหน้าพวกเขา
แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา
 
แกร๊ก...
‘1 ...’
 
แกร๊ก...
‘2 ....’
 
แกร๊ก...
‘3 ......’
 
แกร๊ก...
‘4 ........’
 
ไม่พอ...... ยังไม่พอ......
หมดอีกแล้ว.... ต้องไปซื้อมาเพิ่ม....
20/2
ผมนั่งมองกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่พากันมาสังสรรค์ ...เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกยกออกไปเสิร์ฟโต๊ะแล้ว โต๊ะเล่า... บางคนที่อยู่ที่นี่อายุน้อยกว่าผมด้วยซ้ำ ถ้าพ่อแม่ของพวกเขารู้ว่าลูกของตัวเองทำตัวสำมะเลเทเมาแบบนี้จะว่ายังไงนะ ?
“มาทำไมวะเนี่ย! เกะกะฉิบ...” เสียงบ่นรำคาญคุ้นหู ทำให้ผมหันไปมองหน้า ’มัน’
“งี้แหละ คนมีเมียแล้วก็ทิ้งเพื่อน” ผมบอกประชด และรีบก้มหัวหลบตามสัญชาตญาณ
“ไวนะมึง” มันชี้หน้าผม เมื่อมือหนา ๆ ที่หมายจะฟาดลงบนหัวทุยสวยได้รูปของผมมีอันวืดไป .......มันที่ผมเรียกก็คือไอ้ไทม์ เป็นเพื่อนข้างบ้านสมัยเด็ก ๆ ของผม มันอายุมากกว่าผม 5 ปี พอผมขึ้น ม.ต้น มันก็หนีออกจากบ้านด้วยการมาขอยืมเงินที่ผมอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบ ผมก็ไม่น่าจะโง่ให้มันยืม... พอแม่รู้ว่าผมเป็นคนให้เงินมัน แม่ก็ว่าผมยกใหญ่ และลากตัวผมไปขอโทษป้าสายแม่ของมัน มันขาดการติดต่อกับทางบ้าน แต่กลับติดต่อมาหาผมแทบทุกเดือน
ผมเคยถามมันหลังจากมันหายหน้าไปเกือบปีว่าทำไมมันถึงออกจากบ้าน แล้วมันก็ตอบกลับมาว่า ไปหาเมีย.... เหอะ ๆ.... แฟนมันเป็นผู้หญิงที่อายุมากกว่า..........มาก... รุ่นน้องแม่ของมันเลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้มันกลับมาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของผับใหญ่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเมืองที่ผมอยู่
“ทำไมช่วงนี้มาบ่อยจังวะ กูยุ่งทุกวันเห็นมั๊ยเนี่ย ?!” มันนั่งลงตรงข้ามผม พร้อมขยี้ศีรษะอย่างหัวเสีย
“ลูกค้าเยอะเนอะ” ผมยิ้มบอก
“เปลี่ยนเรื่อง ไอ้นี่! เฮ้ย! ไอ้เฟิร์สเอาชุดนึง” มันตะโกนสั่งลูกน้องคนหนึ่ง ที่ดูลุกลี้ลุกลนตลอดเวลา
“แบล็ค” มันเรียกผมพร้อมทำหน้าจริงจัง
“หือ ?” ผมเลิกคิ้ว นาน ๆ ทีจะเห็นไอ้หมอนี่ทำหน้าตาดูเป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง
“อย่ามาบ่อยได้ป่ะวะ”
“ทำไม ?” ผมแค่อยากมานั่งมองดูคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง... ไม่เห็นจะผิดซักหน่อย
“ไม่เห็นรึไงว่าโต๊ะนู้นจ้องมึงตาเป็นมัน” มันพยายามเหล่ตาไปมองโต๊ะที่อยู่มุมอับของร้าน
“แล้วไง ?” ผมเกาศีรษะเบา ๆ อาจเป็นเพราะชินจากการถูกมองจากรุ่นน้องที่โรงเรียนแล้วก็ได้
“ไอ้นี่หนิ! กวนประสาท!! ข้ากำลังเตือนนะเว้ย ไอ้นั่นน่ะเส้นใหญ่”
“ไอ้นั่น ? ผู้ชาย ??” ผมแอบหัวเราะเบา ๆ ผู้ชายกับผู้ชายมันจะไปมีอะไรกันได้ยังไง
“มึงนี่โง่หรือแกล้งโง่วะ แมร่งเอ๊ย! มันเป็นเกย์สิวะ!” ไอ้ไทม์พยายามพูดเสียงลอดไรฟันบอกผม
“หมายความว่า เอ่อ...ข้างหลัง ??” ผมกับมันพร้อมกันทำหน้าผะอืดผะอม... โธ่.. ทำไมพระเจ้าสร้างให้มาคู่ผู้หญิงดี ๆ แล้วถึงไม่ชอบนะ ? ผมเดินมาส่งเธอที่บ้านด้วยความเงียบ....
“แบล็คสอบเสร็จแล้วไปเที่ยวกันมั๊ย ?” แคนดี้ยิ้มถาม หลังจากผมรู้สึกอึดอัดมาหลายนาที
“อืม... ไปสิ”
“แคนดี้มีที่ที่อยากจะไปด้วยกันเยอะแยะเลย” เธอควงแขนผมเบียดเนื้อนิ่ม.....เฮ้ ๆ...หยุดฟุ้งซ่านซักที
“แบล็ค..?” เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับผม.... ตัวตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตางอนยาว... จมูกเล็ก ๆ กับริมฝีปากอิ่มสีชมพู... ผมเห็นดวงตาของเธอชัดขึ้น..ราวกับต้องมนต์สะกด..
แต่ที่นี่มันกลางถนนนะ!
จิตใจฝ่ายดีของผมรีบหักห้ามไม่ให้ผมทำเรื่องไม่ดี
“เฮะ ?” เธอเอาฝ่ามือเล็ก ๆ ทั้ง 2 ข้างปิดใบหน้าแดงก่ำเอาไว้
ผมหัวเราะเบา ๆ แล้วดันไหล่ของเธอให้เดินต่อ...
บางทีผมอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้.... ผู้ชายคนนั้นอาจเป็นพี่น้อง เป็นญาติ หรือเป็นเพื่อนของเธอ... แต่ก็นั่นแหละ ...ด้วยความขี้ขลาดของผม...ทำให้ผมไม่ได้ถามเธอออกไปตรง ๆ
เธอชวนผมเข้าไปในบ้าน ตอนแรกผมรู้สึกเกรงใจ แต่เมื่อรู้ว่าที่บ้านของเธอไม่มีใครแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าไม่ควรจะเข้าไปข้างในมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก
แต่สุดท้าย... ผมก็มานั่งมองหยดน้ำที่เกาะอยู่ข้างแก้วที่เธอยกมาให้ผม
“แบล็ค ..เราคบกันมานานเท่าไหร่แล้ว ?” แคนดี้นั่งข้าง ๆ และถามผมเบา ๆ...
“เอ่อ... เกือบ 2 ปีมั้ง” ผมพยายามนึก... เอ..ผมเจอเธอครั้งแรกเมื่อไหร่นะ ?
“ตาบ๊องนี่! 2 ปีที่ไหนกัน 1 ปี 10 เดือนต่างหาก” เธอบอกหน้ามุ่ย แต่ผมเกาศีรษะงง ๆ ...
“ก็ไม่เห็นจะสำคัญอะไรนี่” ผมพึมพำเบา ๆ
“เอ๊ะ!” เธอขมวดคิ้วจ้องหน้าผมอย่างหาเรื่อง
“แค่มีแคนดี้วันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้แล้วก็ตลอดไปก็พอแล้ว” ผมบอกยิ้ม ๆ ...เธอเอามือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาปิดหน้าอีกแล้ว...
ผมเขี่ยนิ้วเบา ๆ บนใบหูที่แดงก่ำ ... น่ารักชะมัด...
เธอสะดุ้งหนี เหลือบดวงตากลมขึ้นสบตากับผม.. ผมเพียงแค่ส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอ...
... ผมกลั้นใจเอื้อมมือไปคว้าตัวเธอมาแนบกาย...
ในตัวของผมรู้สึกปั่นป่วนไปหมด... เหตุผลและความรู้สึกตีกันวุ่นวาย..
ริมฝีปากของเราสัมผัสกัน... ร่างกายของเราร้อนไปหมด... เธอตอบสนองสัมผัสอย่างเย้ายวน
ผมอยากจะเป็นเจ้าของเธอ... อยากสัมผัสเธอทุกสัดส่วน...
แต่....แต่ว่า.......มันยังไม่ถึงเวลา....
ผมรีบผละออกจากเธอก่อนทีทุกอย่างจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
“ท..ทำไม?” เสียงหวานครางถามอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่ได้... ผมทำไม่ได้” ผมบอกเบา ๆ และเอื้อมมือเกลี่ยผมบนใบหน้าของเธอเบา ๆ
“ทำไมล่ะ..??...แบล็คไม่รักแคนดี้เหรอ ?..” เมื่อจบคำถาม...ผมก็ลุกขึ้นและเดินหนีจากเธอไป....
......รัก...?....  
“มึงมาทำไมอีกเนี่ย... จะสอบแล้วไม่ใช่เหรอ ?” ไอ้ไทม์ถามอย่างหงุดหงิด ทำไมนะ ทุกครั้งที่ผมมาหามัน มันต้องทำท่าทางไม่พอใจ... ผมแค่อยากได้ที่พึ่งเท่านั้นเอง...
“อ้าว! เงียบ ... เครียดอีกรึไง ?...” ผมฝืนยิ้มให้มัน....
การมีอะไรกับคนที่รัก .... กับการไม่มีอะไรกับคนที่รัก ......อย่างไหนยากกว่ากันนะ ??
“ขอยาหน่อยได้มั๊ย ?” มันสะดุ้ง มองหน้าผม
“เฮ้ย! อย่าบอกนะ ว่าหมดแล้ว” ผมพยักหน้าเบา ๆ
“กินทีละกี่เม็ดวะ! ยานี่ถึงจะกินได้ แต่ถ้ากินเยอะ ๆ ก็ไม่ดีนะเว้ย มันออกฤทธิ์กับประสาท” ถึงมันจะบ่นอย่างนู้นอย่างนี้แต่มันก็หยิบมาให้ผมอยู่ดีนั่นแหละ
“นี่เป็นครั้งสุดท้ายนะ กูเริ่มเป็นห่วงมึงแล้วเนี่ย” มันบ่นพึมพำ
ผมมองเม็ดยาขนาดเล็กถูกบรรจุในซองสีใส... หวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรให้ปวดหัวอีกนะ....
“กลับแล้วนะ” ผมบอก ... แอบมองสีหน้ามัน..ก่อนจะเดินเข้าไปกอดเบา ๆ...
“ไม่ต้องเป็นห่วง” ผมกระซิบบอก ก่อนจะเดินออกมาจากร้าน
ถนนเต็มไปด้วยแสงเสียงดังคึกโครม ผู้คนเดินผ่านไปมา พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน...
พรุ่งนี้ต้องสอบแล้ว... ผมมาทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย...
ชีวะผมขาดสอบไปครั้งหนึ่ง ต้องรีบไปขอสอบนอกเวลา....
ก่อนที่ผมจะทันได้นึกอะไรไปมากกว่านั้น จู่ ๆ ทุกอย่างก็ดับวูบไป.....
ผมรู้สึกเหมือนกับได้ยินเสียงของใครคนหนึ่ง....เสียงแหบทุ้ม........เสียงของผู้ชาย ??

.....................................“.....เธอ... เป็นของฉัน.....”
___________________________
วะว้ายยยยยย พี่แบล๊คคค เกิดอะไรขึ้นง่ะ  ใครกันน่ะ เจ้าของประโยคปิดท้าย หึหึ ลุ้นกันอยู่ใช่ป่ะล่ะ คืนนี้ ยาวว .... :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง บทที่ 21 [up 20.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 20-06-2011 21:24:56
-21-
………………….
เสียงอะไร... หนวกหูชะมัด.....
...ผมได้กลิ่นหอม ๆ ....กลิ่นของกำยาน... กับกลิ่นบุหรี่ ?...
มันมาอยู่ในห้องผมได้ไงเนี่ย... ไอ้บลูแอบเข้ามาสูบงั้นเหรอ ? ผมห้ามเด็ดขาดไม่ให้มันมาสูบในห้องผมแล้วนะ ไอ้น้องเวร...
.........................
.........................
.........................
“จะนอนไปถึงเมื่อไหร่น่ะ ?” ใคร..?.. เสียงไม่คุ้นหูผมเอาซะเลย...
ผมรู้สึกจั๊กกะจี้ที่คอ ต้องเป็นไอ้ตัวไหนซักตัวที่อยู่ไม่เป็นสุขแล้วเข้ามากวนผมแน่ ๆ
ผมบ่นงึมงำ พยายามดันศีรษะไอ้ตัวที่เข้ามากวนอย่างรำคาญ.. เอ๊ะ! มีการรวบมือผมเอาไว้ด้วย ฤทธิ์เยอะแบบนี้ต้องเป็นไอ้บลูแน่นอน!!
เฮ้ย! ไอ้บลูเพิ่งไปตัดสกินเฮดมานี่หว่า.. หรือว่าจะเป็นไอ้บราวน์..... แต่มันคงไม่กล้าหือกับผม...
หรือว่ากัณฐ์..
“กัณฐ์!” ผมพยายามบ่งบอกในน้ำเสียงว่าผมเริ่มจะอารมณ์ไม่ดี กลิ่นที่ว่าหอม ๆ เริ่มฉุนขึ้นจมูกจนผมรู้สึกอยากซุกหน้าลงกับหมอนซะ
“หือ ?” เสียงครางตอบแสนซุกซนในลำคอของคนตรงหน้า ทำให้ผมลืมตาขึ้นทันที... ดวงตาพร่าเลือนของผมพยายามปรับโฟกัสให้มองเห็นหน้าเขาชัด ๆ
“ค....ใคร” ผมนึกในใจแท้ ๆ แต่ปากดันเผลอถามออกไป ดาวตารีสีน้ำตาลไหม้ กับใบหน้าตี๋แกมกะล่อนแบบนี้ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“ใจร้ายจัง... จำเราไม่ได้เหรอ ?” เขาทำหน้าตาบ๊องแบ๊ว ปากจู๋ใกล้ ๆ หน้าผม เดี๋ยวก็ถีบหงายหลังเลย ขนลุกชะมัด
“จำอะไรได้ ผมไม่เคยรู้จักคุณ” ผมขมวดคิ้วมุ่น พยายามดึงมือออก แต่ไอ้หมอนี่กลับรัดแน่นขึ้น ให้ตาย.. ผมกวาดตามองห้องที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นใช้สีโทนน้ำตาลครีมและจัดวางของอย่างเป็นระเบียบ ...นี่ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย!! แถมยังอยู่ในท่าที่ดูไม่ค่อยดีซะด้วย
“ขนาดหน้าเราก็ยังไม่คุ้นเลยเหรอ ?” มันเอียงคอพยายามทำหน้าแบ๊วใส่ผม.. ไอ้บ้านี่มันเป็นกระเทยป่าววะ เหมือนสัญญาณเตือนในสมองมันจะสั่งให้ผมออกห่างจากไอ้หมอนี่มากที่สุด
“ช่วยลุกออกไปก่อนได้มั๊ย!” ผมบอกเสียงลอดไรฟัน.. ทำไมผมถึงมาอยู่กับไอ้บ้านี่ได้! ผมจำได้ว่ากำลังจะกลับบ้านไปอ่านหนังสือ!!..
“ดุซะด้วย” เขาพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะปล่อยมือของผม และในเสี้ยววินาทีนั้นจู่ ๆ ผมก็ถูกผู้ชายจูบครั้งแรกในชีวิต
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!
ผมพยายามดิ้นสุดแรงเกิด ฮือ ๆ ๆ ทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย!!!
ผมพลิกตัวดันไอ้หมอนั่นออกได้สำเร็จและกำลังจะกระโดดลงจากเตียง แต่ถูกดึงเสื้อไว้จนกระดุมแทบหลุด
“ปล่อยนะเว้ยยยยยยยย!!” แล้วไอ้บ้านั่นก็ปล่อยมือจริง ๆ ครับ ... เมื่อแรงกระทำจากตัวผมที่ดันไปข้างหน้ามีมากกว่าแรงที่ช่วยดึงรั้งผมเอาไว้ ก็ทำให้ผมตีลังกาหงายหลังลงไปกับพื้นตามหลักฟิสิกส์
ผมรู้สึกเห็นดาวระยิบระยับไปหมด ... ให้ตายเถอะ
ส่วนไอ้กระเทยนั่นก็นั่งขำผมจนตัวงอ..
“ฮะ ๆ .. เราไม่คิดว่าเธอจะตกใจขนาดนั้น โทษที ๆ” ไอ้หมวย(?)ปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นเหมือนจะตรงมาหาผม เหอ ๆ
ผมรีบลุกขึ้นก่อนเขาจะเดินมาถึง
“อย่าเพิ่งไปสิ คุยกับเราก่อน” เสียงเรียกทำให้ผมหันกลับไปมองเขาอีกครั้ง
“...ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่” ผมตั้งคำถาม
“ไม่เอาหน่า อย่าซีเรียส” นิ้วมือเรียวของเขาเอื้อมหมายจะแตะใบหน้าหล่อ ๆ ของผม ..แต่โทษที ผมหลบทันซะก่อน
เขาตัวสูงเกือบเท่ากับผม เป็นผู้ชายที่จัดได้ว่าธรรมดามาก แต่บนใบหน้ามีรอยยิ้มตลอดเวลาทำให้ดูขี้เล่น น่ารัก อายุน่าจะราวเดียวกับผม ดวงตารีที่แทบจะปิดลงไปนั้นดูเป็นประกายแปลก ๆ ชวนให้ขนลุกชอบกล แถมบรรยากาศรอบตัวยังมีออร่าสีม่วงแผ่ออกมา เหอ ๆ ๆ
“มันดึกแล้ว ผมต้องขอตัว” ผมบอกเขา เมื่อเริ่มรู้สึกว่าสาเหตุที่ผมมาอยู่ที่นี่มันแปลก ๆ
“ถ้าเธอคิดว่าจะออกไปได้ก็ตามใจ” อาหมวยยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ รอยยิ้มที่มีเมื่อครู่เริ่มจะจางหายเพราะความดื้อรั้นของผม
“หมายความว่าไง ?” ผมหันไปมองเขางง ๆ ท่าทางของเขาราวกับเด็กเอาแต่ใจที่กำลังโมโหเพราะไม่ได้ของเล่นที่อยากจะได้
“เราให้การ์ดเฝ้าอยู่หน้าห้องแล้วก็สั่งไว้ว่า ถ้าไม่ใช่เราเป็นคนสั่งห้ามเปิดประตูเด็ดขาด”
“งั้นก็สั่งซะสิ” ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ...เมื่อไหร่จะได้กลับบ้านเนี่ย..
“ง่ายไปละมั้ง... ฮึ” เขาเดินกลับไปนั่งไขว่ห้างที่ปลายเตียง และจุดบุหรี่ขึ้นสูบอย่างใจเย็น..
“จะให้ผมทำยังไง ?” ผมกอดอกถามอย่างรำคาญเต็มทน
“...” เขาปลายตามองผมเล็กน้อยก่อนเลื่อนระดับสายตาลงไปยังส่วนล่างอย่างเย้ายวน... เอ่อ...
“ให้ตาย” ผมกุมหน้าผากแล้วเดินตรงไปยังประตูห้องอย่างไม่ต้องคิด.. โรคจิตชะมัด…
ลูกบิดประตูไม่ได้ถูกล็อก แต่กลอนประตูข้างนอกต่างหากที่เป็นปัญหา ผมกำหมัดทุบลงบนไม้เนื้อหนาอย่างแรง
“เฮ้! มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง!” ผมรัวกำปั้นจนเจ็บมือ แต่ไม่ยักกะมีอะไรเกิดขึ้น
“ใครอยู่ข้างนอกบ้าง ช่วยเปิดประตูให้ที!” ผมลองตะโกนอีกครั้ง... และก็เหมือนเดิม
กลิ่นฉุนของกำยานเริ่มทำให้ผมรู้สึกอยากจะอ้วก ผมเดินกลับเข้าไปในตัวห้องอีกครั้งเพื่อเปิดหน้าต่าง
“นี่มันชั้น 19 นะ” เสียงทุ้มของเขาบอกอย่างหงุดหงิด
“รู้แล้วหน่า! ใครจะกล้าออกไปทางนี้เล่า” ผมเกาหน้าผากเซ็ง ๆ
“นาฬิกาผมอยู่ไหน” ผมเดินไปถามตรงหน้าเขา เริ่มรู้สึกหนัก ๆ หัว ไม่รู้สาเหตุมาจากไอ้กลิ่นบ้านี่ หรือใกล้จะถึงเวลานอนของผมแล้ว
“อยู่ตรงหัวเตียงนู่น” เขาพยักเพยิดไปยังโต๊ะตั้งโคมไฟที่แกะสลักอย่างสวยงาม
ผมเดินไปหยิบนาฬิกากับกระเป๋าสตางค์... นี่มันสามทุ่มครึ่งแล้ว ผมหลับไปราวชั่วโมงครึ่ง
“มือถือผมล่ะ ?” ผมหันไปถามอาหมวย
“ไม่มีนี่ นายไม่ได้เอามาด้วยรึเปล่า” อาหมวยบอกก่อนเดินไปยังโต๊ะเล็ก ๆ และขยี้บุหรี่ส่วนที่เหลือลงบนที่เขี่ยบุหรี่
“แต่ไม่นึกว่าเธอจะมีไอ้นี่ด้วยนะ” เขาหยิบซองยาสีใสที่ผมเพิ่งจะได้จากไอ้ไทม์เมื่อตอนเย็นขึ้นมา
“ทำไม ?” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนแบมือขอของ ๆ ผมคืน
“โอ๊ะโอ.. แสดงว่าใช้ไม่เป็นล่ะสิ” เขายิ้มขำ ๆ ดวงตาเป็นประกายแปลก ๆ อีกแล้ว
เขาแกะซองออกและหยิบเม็ดยาสีม่วงเข้มขึ้นมาเม็ดหนึ่ง
“เอาคืนมา” ผมย้ำเขาอีกครั้ง เขากลับยิ้มหวานและส่งเม็ดยาเข้าปาก ก่อนที่จะจู่โจมผม
แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ให้ตายสิ!! อาหมวยนี่แรงเยอะมาก ผลักผมทีเดียวหงายหลังลงไปนอนกับเตียง ผมเหงื่อไหลพลั่ก ๆ เอาไงดีฟะ ออกทางประตูก็ไม่ได้ จะกระโดดอกไปทางหน้าต่างก็ใช่ที
เขารีบกระโดดขึ้นมานั่งทับบนตัวผมดังอั๊ก ! น้ำหนักตัวก็ไม่ใช่น้อย ๆ ทำเอาผมจุกไปหมด
“เปิดปากเร็วเข้า จะคืนให้” เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าครับคุณ!! อาหมวยบีบกรามผมซะแทบหัก ก่อนจะประกบปากส่งน้ำลายกับเม็ดยาขม ๆ ผ่านลงคอผม
ผมดิ้นพล่าน หายใจแทบไม่ออก อึดอัดไปหมด กลิ่นกำยานเหม็น ๆ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมปวดหัวและกำลังจะอ้วก
ผมผลักไอ้หมวยออกแล้วหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดทั้งทางปากและจมูก โอย.. กลิ่นฉุนผ่านเข้าลำคอของผม ทำเอาน้ำย่อยแทบจะไหลย้อนออกมา..
“เป็นอะไรเหรอ ??” หมวยถามงง ๆ เมื่อเห็นผมทำหน้าผะอืดผะอม
ผมส่งสายตาขวางให้ก่อนจะพยายามลุกขึ้น แต่ดันติดไอ้หมวยที่นั่งทับอยู่
“ลุกขึ้น!” ผมสั่ง แต่ไอ้หมวยก็ยังคงนั่งทำหน้าบ๊องอยู่
“ผมบอกให้ลุกขึ้น อุ๊บ!” ผมรีบปิดปากเมื่อรู้สึกเหมือนน้ำย่อยขึ้นมาจนถึงคอ
“แป๊บนึงนะ” ไอ้หมวยรีบกระโดดลงไปหยิบกระป๋องน้ำอัดลมในตู้เย็น และเปิดกรอกให้ถึงปากผม
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่อัดลงในน้ำเพื่อให้เกิดฟองบาดคอผมจนไม่รู้จะขอบคุณหรือจะฆ่าไอ้หมวยนี่ดี... น้ำเปล่ามีทำไมไม่หยิบมาฟระ!!
“ดีขึ้นป่าว ?” หมวยถามยิ้ม ๆ
“นายจะบ้ารึไง! นี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะ!” ผมเช็ดริมฝีปากตัวเองอย่างโกรธ ๆ
“ครั้งที่สอง ?” ไอ้หมวยทำหน้างง ไอ้บ้านี่มันโง่หรือแกล้งโง่เนี่ยยยยย~
“ก็จูบไง!!” ผมกัดฟันพูด... ฮือ ๆ ๆ ผมจูบกับผู้ชาย 2 ครั้งภายในวันเดียว!!
“ฮึ ๆ... ไม่ต้องนับหรอก เราได้จูบกันนับครั้งไม่ถ้วนแน่” ไอ้หมวยหัวเราะเบา ๆ แต่ผมไม่ขำด้วย
“ใครจะจูบกับนายฟระ” แค่คิดก็จะอ้วกแล้ว
“ก็เธอไง” หมวยส่งยิ้มหวานให้ผมอีกครั้ง โอย.. บ้าเอ้ย! ทำไมครั้งนี้ผมเห็นว่ามันเริ่มดูดีขึ้นนะ ผมเคาะศีรษะตัวเองเพื่อให้หายจากอาการเบลอ
“อย่าทำร้ายตัวเองสิ” เขาคว้าข้อมือผม และให้ตายเหอะ ผมกำลังเมาใช่มั๊ย ผมเห็นผู้ชายเป็นสิ่งสวยงาม... พระเจ้า!!
“พระเจ้า~~!!” ผมปิดหน้าตัวเองอย่างที่แคนดี้ชอบทำบ่อย ๆ เวลาเขิน... ใช่แล้ว... ผมต้องคิดถึงแคนดี้สิ...
“ฮะ ๆ เป็นอะไรน่ะ ?” ไอ้หมวยถามปนขำ เมื่อเห็นท่าทางของผม
ผมตะกายเข้าไปหลบในผ้าห่มเงียบ ๆ ผมรู้สึกว่าสมองมันหนักจริง ๆ... น่านอนชะมัด... สงสัยเพราะฤทธิ์ยาแน่เลย
ไม่ใช่สิ! ผมต้องหาทางกลับบ้านต่างหาก!!
“นี่... จำเราไม่ได้จริง ๆ เหรอ ?” จู่ ๆ มันก็กอดผมผ่านผ้าห่มแล้วกระซิบถาม
ผมส่ายหัวพยายามดันหน้ามันออกไปห่าง ๆ
“เสียใจจริง ๆ นะเนี่ย” ไม่พูดเปล่าแถมยังรัดผมแน่นแทบไส้ทะลักออกมา
มันนิ่งไปซักพักก่อนเริ่มปฏิบัติการใหม่ ... คือลูบมือไปตามลำตัวของผมผ่านผ้าห่ม เหอ ๆ
“ทำบ้าอะไรเนี่ย!” ผ้าโผล่หัวออกจากผ้าห่ม ตั้งท่าจะด่าแต่ถูกมันโถมตัวเข้าใส่เป็นรอบที่สอง
“อึก..” ผมพยายามดิ้นหนี... ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่าว่าเรี่ยวแรงของผมมันเหือดหาย... หรือว่าแรงมันเยอะมากขึ้นกว่าเดิมฟระ!
“ปล่อย! ปล่อยนะ! โธ่เว้ย!!” ผมคำรามอย่างหัวเสีย เมื่อมือมันเริ่มอยู่ไม่สุข และร่างกายผมก็หักหน้ากันเห็น ๆ
......ถ้ามันยอมเป็นเมียผม ผมจะพยายามไม่คิดมาก แต่ถ้ามันจะเอาผมเป็นเมีย... อย่าแม้แต่จะคิด!!
“ฮะ ๆ ...เราจะบอกอะไรให้นะ......” ไอ้หมวยเลียริมฝีปาก...เหยียดยิ้มและสบตาผม...
“อัลพราโซแลม ถ้ากินเปล่า ๆ มันก็เป็นยาคลายเครียด แก้นอนไม่หลับ .....แต่ถ้าผสมกับน้ำอัดลมล่ะก็...” ท้ายเสียงของมันขาดหาย... ผมขมวดคิ้วมุ่นจนผูกกันเป็นโบว์
.............................
...................................
...........................................
.....ผมเพิ่งนึกออกตอนนี้นี่เอง...ว่าไอ้ไทม์เคยห้ามไม่ให้กินยากับน้ำอัดลม ....แต่ผมเพิ่งจะรู้ว่าทำไม...
______________________________
กรี้ดดดดด ชีวิตพี่แบล๊ค มืดมนมาก ๆ สรุปแล้วพี่เธียรจะช่วย หรือจะซ้ำกันน่ะ :beat:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง บทที่ 22 [up 20.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 20-06-2011 21:28:41
- 22 -
ผมลืมตาขึ้นมองภายในห้องน้ำปูกระเบื้องสีฟ้าอ่อนคุ้นตา... แสงสว่างจากหลอดไฟนีออนทำให้ผมตาพร่ามัว ผมเปิดไฟในห้องน้ำทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่..
โอย... มึนหัวชะมัด...
ผมลุกขึ้น แต่ขาทั้งสองข้างกลับไร้เรี่ยวแรงลงไปนั่งกองในอ่างกระเบื้องเคลือบ มวลของร่างกายผมทำให้น้ำภายในอ่างเอ่อล้นออกจากขอบอ่าง
“โอย...” ผมครางเบา ๆ เมื่อรู้สึกปวดไปทั้งตัว เกิดอะไรขึ้น...
เสียงน้ำเอ่อล้นจากอ่างดัง ขึ้นไม่ขาดสาย.. ทำไมผมถึงเป็นคนขี้ลืมแบบนี้ เปิดน้ำทิ้งไว้แล้วดันหลับในอ่างอาบน้ำด้วยเหรอเนี่ย..
ผมพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง.. ผ้าขนหนูหนานุ่มถูกหยิบขึ้นมาซับหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามร่างกายผม
เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาที่เช้าเกินกว่าใคร ๆ จะตื่นนอน เมื่อนึกดูดี ๆ แล้ว....วันนี้มันวันสอบนี่หว่า...
เมื่อวานผมก็ไม่ได้... เมื่อวาน ??
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
เมื่อวาน...ผม.....ผมกับไอ้หมวยนั่น.... ..........ไม่น๊า~~~!!!
ผมจำอะไรต่อจากตอนนั้นไม่ได้เลย ดูเหมือนมันเลือนรางจนแทบกลายเป็นความฝัน
ม่ายยยยยยยย~~~~~!!
แล้วผมกลับมาได้ยังไง ในสภาพแบบไหน ??
ให้ตายเถอะ!!
ผมยกมือกุมขมับ ทำไมผมจำอะไรไม่ได้เลย โถ่โว๊ย!!
เสื้อชุดเก่าที่ผมเพิ่งใส่เมื่อวานถูกขุดคุ้ยขึ้นมาจากตะกร้า...
พระเจ้า…….!!!
กางเกงและเสื้อของผมเต็มไปด้วยคราบ.... ของใครต่อใครก็ไม่รู้ ได้โปรดเถอะ ขอให้มันเป็นของผมแค่คนเดียว แค่คนเดียวก็พอ ..ฮือ ๆ ๆ ๆ !!
แล้วตอนที่เข้ามาในบ้านจะมีใครสังเกตเห็นรึเปล่า มีใครในบ้านที่เจอผมตอนที่ยังมึน ๆ อยู่บ้างมั๊ย
พระเจ้าจ๊อดดดดดดดดดดดด!!!!
 
“หน้าตาดูไม่ดีเลย อ่านหนังสือดึกเหรอ?” เจ เพื่อนกลุ่มเดียวกันกับผมถาม มันมาโรงเรียนเช้ากว่าชาวบ้านเขาเป็นปกติ.. แต่วันนี้ผมมาตั้งแต่ประตูโรงเรียนยังไม่เปิด จึงได้เจอกับมันเป็นคนแรก
“อือ..” อ่านเมื่อตะกี้นี่เอง
“อ่านจบรึยัง ?” ผมทำหน้าซังกะตายแล้วชูหนังสือชีวะเล่มหนาที่ไม่ได้แตะต้องเลยตลอดคืน
“ระบบนิเวศเข้าไปนั่งฝนมั่ว ๆ เลย อ่านอังกฤษดีกว่าเหอะ” มันแนะนำ
“อังกฤษนั่นแหละที่ต้องเข้าไปฝนมั่ว” ผมบอกหน้ามุ่ย ...ผมอ่อนภาษาที่สุดเลยครับ
“เลขพื้นฐานแล้วกัน” เจย่นคิ้วแล้วหยิบหนังสือแบบเรียนคณิตศาสตร์เล่มหนาขึ้นมาตั้งไว้บนโต๊ะ
“อ่าว.. ไม่ได้ทำแบบฝึกตั้งเยอะ เอามาลอกหน่อยดิ” ผมถอนหายใจก่อนหยิบหนังสือในกระเป๋าส่งให้มัน ไอ้บ้านี่ไม่เคยทำเองเลย แต่ทำไมมันเก่งจังฟระ...
สวรรค์ไม่ยุติธรรม ให้ความฉลาดมาไม่เท่ากัน!!
ผมพยายามปัดความกังวลใจเรื่องเมื่อคืนออกแล้วทำข้อสอบทุกวิชาผ่านไปได้แบบพอถูไถ..
เพื่อนที่อ่านหนังสือมาและมีราศีจับเนื่องจากเข้าใจในบทเรียน พอหมดเวลาปุ๊บก็ออกมายืนคุยพร้อมวิเคราะห์หาข้อที่ถูกปั๊บ ส่วนผมได้แต่นั่งถอนหายใจเฮือก ๆ ด้วยความเซ็ง
“เป็นไรป่าวแบล็ค ไม่มั่นใจหลายข้อเหรอ ?” ผมฝืนยิ้มให้เพื่อนที่เป็นห่วง ...เรื่องที่ผมกำลังคิด ไม่ใช่เรื่องนี้เฟร้ย...
“เปล่า.. มี่เป็นไงมั่ง”
“ทำไม่ทันอ่ะ เดาไปหลายข้อ เฮ้อ...” เธอถอนหายใจเบา ๆ
“เออ ไปสอบชีวะยัง ?” ผมส่ายหัว
“ไปชวนไอ้คนที่โดดวันนั้นมาให้หมด เดี๋ยวเราไปติดต่ออาจารย์ให้” ผมเกาหัวเซ็ง ๆ... ทำไมมันวุ่นวายแบบนี้วะ!
โชคดีที่ข้อสอบย้อนหลังหลุดโพยมาจากเพื่อนที่สอบไปแล้ว ผมจึงไม่ต้องคิดอะไรมาก และผ่านพ้นไปได้อย่างสบาย
ติดก็แต่ตอนที่กลับบ้านนี่แหละ...
ความกลัวของผมมันลุกลามเข้ามาเกาะกุมจิตใจ จนรู้สึกกังวลไปหมด...
พอถึงที่บ้านผมก็รีบทำความเคารพผู้ใหญ่แล้ววิ่งขึ้นห้อง ไม่ต้องรอให้ถูกยิงคำถาม
ผมหยิบหนังสือรุ่นสมัยม.ต้น ขึ้นมาเปิดดูเผื่อจะเจอหน้าไอ้หมวยนั่น เพราะมันทำท่าทางอย่างกับรู้จักผมมาก่อน... และผมต้องการจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนบ้าง... แต่ก็ไม่มีหน้ายิ้ม ๆ ของมันโผล่ขึ้นมาให้เห็น
โทรศัพท์มือถือก็หาย สงสัยผมจะทำหล่นก่อนจะเจอไอ้หมวยนั่นแน่ ๆ... ซวยจริง ๆ
ผมพยายามจะอ่านหนังสือ แต่กลับอ่านไม่รู้เรื่องแม้แต่นิดเดียว
พอจะนอนก็นอนไม่หลับ ฮ่วย!!
แม่เคาะประตูเรียกไปกินข้าว แต่ผมก็ปฏิเสธเพราะไม่กล้าออกไป ทำไมผมถึงเป็นลูกไม่รักดีแบบนี้นะ...
 
ก๊อก ๆ ๆ
“.....ใคร ?” ผมส่งเสียงถาม
“บราวน์เองพี่แบล็ค แฟนพี่โทรมาตวาดแว๊ด ๆ ใส่หูผมเนี่ย” มันบอกเสียงหงุดหงิด
ผมรีบเปิดประตูแล้วดึงโทรศัพท์จากมือมัน
“ขอบใจนะ” ผมยิ้มบอกมันก่อนปิดประตูห้องโดยไม่สนใจน้องชายคนเล็กอีก
“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงลงในโทรศัพท์ ด้วยจิตใจที่เริ่มจะเบิกบาน
“อารมณ์ดีจริง ๆ นะ... วันนี้แคนดี้อุตส่าห์วิ่งเต้น ติดต่อหาแบล็คจนไม่เป็นอันทำอะไร” เสียงของเธอบ่งบอกว่าหงุดหงิดไม่แพ้น้องชายที่โผล่หน้ามาให้ผมเห็นเมื่อตะกี้เลย
“ขอโทษ ๆ โทรศัพท์แบล็คหายอ่ะ” ผมบอกยิ้ม ๆ... ก็คนมันอารมณ์ดีนี่นา...
“เมื่อวาน.. ทำไมแคนดี้โทรไปแล้วไม่รับสาย!” เสียงของเธอแหลมมากจนผมรู้สึกหูชา
“ก็โทรศัพท์หาย” อารมณ์ที่เพิ่งจะดีของผมเริ่มเปลี่ยนเป็นบูด
“หมายความว่ายังไง ?! เมื่อคืนแบล็คเป็นคนโทรมาหาแคนดี้ก่อนเองนะ!!”
“หือ ? โทรไปเมื่อไหร่ ?” ผมเกาหัวงง ๆ... อะไรวะเนี่ยยยย~!!
“มันยังโชว์หราอยู่ในเครื่องแคนดี้อยู่เลย!! ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่อง!! ออกมาคุยกับแคนดี้ให้รู้เรื่องเลยนะ!” เสียงของเธอฟังดูแข็งกร้าวและไม่พอใจเป็นอย่างมาก... นี่ผมไปทำอะไรให้แม่เสือสาวโกรธอีกวะเนี่ย!!
“แคนดี้ใจเย็นหน่อยสิ ผมไม่รู้เรื่องเลยนะ” ผมพยายามข่มความโมโหนับหนึ่งถึงร้อยในใจ...
“แล้วเมื่อคืนทำอะไร ?” เธอถาม
“เอ่อ... เมื่อคืน...” ผมอึกอัก... ควรจะพูดว่ายังไงดีนะ... จู่ ๆ ก็ไปโผล่อยู่ในโรงแรมกับผู้ชายสองต่อสองงั้นเหรอ ??
“เห็นมั๊ย ?! แบล็คก็ตอบแคนดี้ไม่ได้! ...” เสียงแหลมตวาดจนผมต้องดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหู
“แบล็คอยู่กับเพื่อน” ...แต่มันชื่ออะไรผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ…
“เฮอะ.. เพื่อนหรืออะไรกันแน่! แล้วตอนที่โทรมาน่ะทำอะไรอยู่!”
“หา ?” ผมส่งเสียงให้รู้ว่า ‘ผมไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ นะ’
“ฮือ...น....ไหนแบล็ค....เคยบอก... ว่า....รัก..... ฮึก.......” เสียงของเธอขาดหาย ปนด้วยเสียงสะอื้น ....ผมแทบหยุดหายใจ....ในอกของผมรู้สึกเจ็บไปหมด....
“...ความจริงแล้ว......แบล็ค.....ไม่เคย....ฮือ....ไม่เคย....รักแคนดี้.....ใช่มั๊ย.................. ใช่มั๊ย!!?” เธอตวาดก่อนตัดสายทิ้งไป... ปล่อยให้ผมรู้สึกสับสนและงุนงง...
มันเกิดอะไรขึ้น... กับชีวิตของผมวะเนี่ย....!!??
ผมนวดขมับตัวเอง.....ปวดหัวชะมัด... ไอ้หมวยนั่นนำพาความซวยเข้ามาในชีวิตผมแท้ ๆ .... แถมยาที่เพิ่งได้มาจากไอ้ไทม์ก็หายไปทั้งถุงอีก... ปวดหัวโว๊ยยยยยย!!!
 
“อ้าว! ทำไมวันนี้มาดึกจัง” เสียงทักทายอย่างเป็นมิตรดังขึ้นจากพนักงานในร้านของไอ้ไทม์ที่เริ่มจะคุ้นหน้าผม
ผมเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อยตอบ และเดินเบียดผู้คนที่มาสังสรรค์กันจนแน่นร้าน...
“เฮ้ย!” ไอ้ไทม์ดูตกใจที่เห็นหน้าผม..
“...” ผมเลิกคิ้วเป็นคำถาม ‘มีปัญหาอะไร ?’
“มึงออกมาได้ไงเนี่ย! เที่ยงคืน!!” มันชี้หน้าผม ทำหน้าเหวอ ๆ อย่างกับเห็นผี
“......กูมีปัญหา….” ผมบอกมันเบา ๆ
มันทำหน้าจริงจังก่อนจะพาผมไปคุยในห้องส่วนตัวของมัน
ผมค่อย ๆ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้มันฟัง…
“เ_ดเข้!! แล้วมึงเสร็จมันไปรึยัง ?” มันตะโกนถามเสียงดังพร้อมจับไหล่ผมแน่น พอผมส่ายหัวมันก็ทำหน้าโล่งใจ
“...ไม่รู้”
“อะไรนะ!! ไอ้_ตว์!!” พอผมบอกไม่รู้เท่านั้นแหละ มันก็ตะโกนโหวกเหวกอีกรอบ..
“น้องกู.. ” มันตบหน้าผากตัวเองก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง
“แล้วมึงจำหน้ามันได้รึเปล่า ?” ผมพยักหน้า
“เออ.. ดี ...อย่าให้รู้นะว่าใคร กูจะเฉือนเนื้อสับ ๆ ๆ เอาไปให้จระเข้กิน” มันทำหน้าเหมือนกับจะทำแบบนั้นจริง ๆ.. แต่ผมรู้ว่ามันพูดให้ผมรู้สึกดีขึ้นเท่านั้นเอง
“แล้ววันนี้...” ก่อนที่ผมจะได้พูดถึงปัญหาหนักอกที่เพิ่งเจอมาวันนี้..ก็ถูกแทรก
“ไทม์! คุณสิตานัน ต้องการพบเธอน่ะ” พี่(?)ตาล แฟนของมันก็โผล่ศีรษะเข้ามาบอก พร้อมส่งยิ้มแปลก ๆ ให้ผม.. ...
“อีกแล้วเหรอวะ!” มันเกาหัวตัวเองแบบเซ็ง ๆ
“แบล็คมึงนั่งรออยู่ในนี้นะ” ผมนั่งลงอย่างว่าง่าย มองมันทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนเดินออกไป
ผมนั่งเงียบ ๆ มองดูนาฬิกาแขวนลายโดเรม่อนที่ผมเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดมันเมื่อปีที่แล้ว....
คิดถึงวันเวลาดี ๆ ที่เคยได้ใช้ร่วมกับผู้หญิงคนหนึ่ง.... คิดถึงครั้งแรกที่เราได้เจอกัน....
ผมเป็นฝ่ายเริ่มเข้าหาเธอก่อน เพราะรอยยิ้มของเธอ... ความน่ารักสดใส...
“….ไง” ผมหันไปมองเจ้าของเสียงที่ทำลายความเงียบ....
....อ....ไอ้.....ไอ้หมวยตัวซวย!!!
“ท...ทำไมนายมาอยู่ที่นี่!!”
_____________________________________
ตัวแปรสำคัญ ของคู่รักหนักหน่วง เริ่มปราำกฎกายล่ะ  หึหึ ยังมีอีกเยอะ... :m15:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง บทที่ 23 [up 20.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 20-06-2011 21:31:58
- 23 -
“ท...ทำไมนายมาอยู่ที่นี่!!” ผมชี้หน้าไอ้คนที่จู่ ๆ ก็เข้ามาทำให้ชีวิตผมแปรปวนไปหมด
“นั่นเป็นคำทักทายของคนที่มีอะไรกันเมื่อคืนงั้นเหรอ ?” รอยยิ้มสวยขัดกับคำพูดถากถาง...ราวกับจะตอกย้ำผม...รู้สึกเหมือนสมองถูกบีบเมื่อได้รู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้
“ม...หมายความว่าไง ?” ผมถามกลบเกลื่อน...
“ก็อย่างที่พูด... แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ ?” ผู้ชาย ? อะไร ?...
“....” ผมพยายามนิ่งเฉย.. ทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะถามว่าเขากำลังพูดถึงอะไรอยู่
“จำไม่ได้ล่ะสิ” เสียงพูดปนขำ ราวกับจะประชดผม..
“อย่าเข้ามา!” ผมรีบพูดดัก เมื่อเห็นเขาทำท่าราวกับจะเดินล้ำเข้ามาใกล้... แต่เขากลับไม่สนใจฟังผม
“ฉันบอกว่าอย่าเข้ามา!!” ผมย้ำอีกครั้ง กวาดสายตาหาอะไรซักอย่างที่จะหยุดไอ้หมอนั่นได้
“......เราแค่เอานี่มาคืน...” ไอ้หมวยวางถุงยาไว้บนโต๊ะห่างจากผมออกไปประมาณเมตรหนึ่ง
“...” ทั้งห้องอยู่ในความเงียบ.. ผมมองมันหันหลังกลับ และค่อย ๆ ออกตัวเดินจากไป...
“เดี๋ยว! นาย...นายเป็นใคร ?” โธ่เว๊ย! จะไปถามทำไมเนี่ย! ..ปล่อยให้มันไปก็ดีแล้ว... ถึงผมจะคิดแบบนั้นแต่อีกใจนึงก็อยากจะรู้ว่าไอ้หมอนี่เป็นใครกันแน่
“ฮึ.. เราชื่อนัน..” ไอ้หมวยหันมาเหยียดยิ้มให้ผม.. นัน... ผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้แฮะ....
“ไม่รู้จักล่ะสิ... ฮะ ๆ.. เธอจะรู้จักเราได้ยังไง... ในเมื่อเธอไม่เคยสนใจเรา... มีแต่เราฝ่ายเดียว ที่รู้จักเธอ... เฝ้ามองเธอ...” ไม่รู้ว่าทำไม.. ผมรู้สึกกลัวจนต้องหลบสายตาตี่ ๆ ของเขา
“แล้วเจอกันใหม่...” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวภายในห้อง…
ไม่นานนักจู่ ๆ ประตูก็เปิดผลัวะออกมา
ไอ้ไทม์สภาพหอบเหมือนหมากวาดตามองในห้องด้วยความรวดเร็ว
“..แฮ่ก...ไอ้แบล็ค!..ม...เมื่อกี้..มีคนเข้ามารึเปล่า ?” มันถามรัวทั้ง ๆ ที่ก็แทบจะหายใจไม่ทัน
“...อือ...ทำไม ?” ผมรับคำงง ๆ
“มัน...ทำอะไรมึงรึเปล่า? ...ไอ้นั่นน่ะ! สิตานัน มึงระวังไว้นะ..” ...ช้าไปแล้วล่ะ....ขอบใจมากนะไอ้ไทม์
“ก็คุณสิตานันเค้าบอกว่ารู้จักแบล็ค แล้วก็อยากคุยเป็นการส่วนตัวนี่” พี่ตาลยิ้มชืดให้ไอ้ไทม์ ก่อนโค้งศีรษะให้ผมเชิงขอโทษ
“แล้วตาลก็ให้มันเข้ามาในห้องไทม์เนี่ยนะ! โห.. เมียกู” ไอ้ไทม์พูดเป็นเชิงล้อกับแฟนของมัน... ผมแอบขำเบา ๆ... ถ้าผมกับแคนดี้คุยกันเข้าใจอย่างคู่นี้ก็ดีสิ
“ระวังไอ้นี่ไว้ให้ดีนะเว้ย นิสัยโคตรคุณหนูเลย มาทีไรกูปวดหัวจนแทบบ้า แถมยังซอกแซกล้วงข้อมูลเก่งเป็นที่หนึ่ง” มันเตือน…
“ถูกล้วงข้อมูล ?” ผมตั้งคำถาม..
“..เอ่อ.... คือ...มันมาถามเรื่องของมึงตั้งแต่ช่วงที่เปิดร้านใหม่ ๆ แล้วอ่ะ” ไอ้ไทม์ทำหน้าปุเลี่ยน ๆ เหมือนจะทำผิดอะไรเอาไว้
“แล้วก็บอก ?” ผมเริ่มจะเห็นเค้าลางอะไรบางอย่าง...
“ฮุ ๆ... คือตอนนั้นมันเผลอน่ะ” มันเกาหัวเขิน ๆ ....น่ารักตายละ...
“....บอกอะไรไปบ้าง ?” ตอนนี้ผมจ้องมันเขม็ง
“ก็...เรื่องทั่ว ๆ ไป” มันพยายามบ่ายเบี่ยง
“...อะ...ไร...บ้าง...” ผมย้ำทีละพยางค์ เผื่อมันจะเข้าใจอะไรมากขึ้น
“ก็...เรื่องคนที่มึงคบอยู่ ...ครอบครัว ...ของที่มึงชอบอะไรประมาณนั้น”
“ให้ตาย..” ผมกุมขมับตัวเอง...
“ทำไมทำท่าแบบนั้นวะ ?”
“ไอ้คนที่เล่าให้ฟังเมื่อกี้น่ะ คือไอ้หมอนี่แหละ...”
 
การสอบผ่านไปได้อย่างเรียบร้อย.. โดยที่ผมไม่ได้ติดต่อกับแคนดี้อีก และวันนี้ผมกำลังคิดว่าจะไปหาเธอ...
ผมปฏิเสธที่จะไปเที่ยวหลังการสอบของไอ้คุณเพื่อนทั้งหลาย เพราะผมอยากใช้เวลาที่ว่างไม่กี่วันนี้กับแฟนของผมก่อน.. แต่ผมไม่รู้ว่าเธอจะยังรอผมอยู่รึเปล่า..
ติ๊งต่อง~…
ผมยืนอยู่หน้าบ้านของเธอร่วมสิบนาที... ไม่มีการตอบรับจากคนในบ้าน
หรือว่าเธอจะไปเที่ยวกับเพื่อนนะ ?...
ผมตัดสินใจรออยู่หน้าบ้านเธอ... ไม่สนใจว่าแสงอาทิตย์ในประเทศไทยจะสาดแสงร้อนแรงแค่ไหน
“แบล็ค....” ไม่รู้ว่าผมรออยู่นานขนาดไหน...กว่าจะได้ยินเสียงหวานคุ้นหูเรียกชื่อผมอย่างแผ่วเบา.. ผมหันกลับไปตามเสียงเรียกก็พบว่าเธอกำลังยืนอยู่... กับผู้ชายอีกคน....
ผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวกันกับที่ผมเห็นในวันนั้น... สายตาของเขามองมาอย่างไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“...กลับช้าจัง...” ผมส่งยิ้มชืด ๆ ให้เธอ
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ.. ทำไมไม่บอกแคนดี้ก่อน ?” เธอพยายามวางน้ำเสียงให้ดูห่างเหิน... ต่างจากปกติ
“ตั้งแต่สอบเสร็จน่ะ... ไปเที่ยวมาเหรอ ?” ผมพยายามยิ้ม แม้จะรู้ว่ามันดูฝืดฝืนเต็มที
“อืม... จีนกลับไปก่อนนะ แคนดี้จะคุยกับแบล็ค” ประโยคหลังเธอหันไปบอกผู้ชายคนนั้น
เขาปรายตามองมาที่ผม ก่อนจะพยักหน้าอย่างเสียมิได้
“...ใคร ?” ผมพยายามควบคุมน้ำเสียงตัวเองไม่ให้สั่น และเป็นฝ่ายเริ่มเปิดประเด็น หลังจากที่เหลือเพียงเรา 2 คนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าบ้านของเธอ
“...แบล็คสนใจด้วยเหรอ ว่าแคนดี้จะทำอะไร ไปกับใคร ?” เธอถามกลับ.. แสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้า เปลี่ยนดวงตากลมโตสีนิลคู่ที่ผมเห็นเป็นประจำกลายเป็นสีน้ำตาล
ทุกอย่างมันกำลังจะเปลี่ยนไป... ผมรู้สึกได้... ถ้าผม...ถ้าผมยังคงฝืนอยู่ละก็...
“ช่างเถอะ...”
“ช่างได้ยังไง! ทำไมแบล็คถึงเป็นแบบนี้ทุกที!! ไม่ห่วงบ้างเหรอ ? ไม่สนใจกันเลยรึไง !?” เธอตวาดเสียงแหลม.. แล้วจะให้ผม... ฝืนพูดไปอีกทำไม.. คนเดินผ่านไปมาก็ดูออก ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันแบบไหน
“...ขอโทษ” ผมพูดออกไปเบา ๆ
“ฮึก..แคนดี้ไม่อยากได้ยินคำนี้ซักหน่อย!.. ขอโทษทำไม! ฮือ...ขอโทษอะไรกัน!!” เธอร้องไห้ฟูมฟาย กำมือทุบไหล่ผมหลายครั้ง...
..........ผม...เป็นคนรักที่แย่มาก...
ผมชั่งใจอยู่นาน...ก่อนที่จะเอื้อมมือทั้งสองข้างโอบตัวเธอไว้
แต่ไม่ทันที่ผมจะได้สัมผัสกลิ่นกายของเธอ ผมก็ถูกผลักออกห่าง
“ทำบ้าอะไร !?” ผู้ชายคนที่ชื่อจีนถามอย่างโกรธ ๆ ....
“จีน!” แคนดี้เรียกชื่อเขาอย่างตกใจ
หมอนี่แกล้งทำเป็นกลับไปแล้ว .. แต่ที่จริงกำลังแอบดูเราอยู่งั้นเหรอ ?
“นายจะทำอะไรแฟนฉัน !?” คำพูดแสดงความเป็นเจ้าของ ของเขาเสียดแทงเข้าสู่ภายในใจของผม
“จีน!!” แคนดี้เรียกเขาอีกครั้งหนึ่ง
“ทำไม ?.. หรือเธอจะปฏิเสธ..” คำถามของเขาทำให้เธอเงียบไป
เราทั้งสามคนตกอยู่ในความเงียบงัน... ท้องฟ้าสีส้มเริ่มจะเปลี่ยนเป็นความมืดเข้ามาแทนที่
“...งั้นก็...โชคดีนะ...” ผมเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน... พยายามจะไม่ให้เธอรู้ว่าผมเจ็บปวดแค่ไหน... ผมรีบเดินหนี...ไม่ให้เธอรู้ว่าผมกำลังจะร้องไห้
“เดี๋ยว!...... จะไม่..จะไม่ถามเหตุผลเลยเหรอ ...?” เสียงเรียกของเธอทำให้ผมหยุดชะงัก... ก่อนตัดสินใจเดินต่อ..
“...แบล็ค!....กลับมาเดี๋ยวนี้นะ......กลับ....มา....” ...เสียงของเธอกำลังจะหายไป.... ทุก ๆ อย่างกำลังจะจบลง...
__________________________________
 :monkeysad:ช้ำใจ มีอะไรช้ำใจไปกว่านี้อีกไหม ใครจะเป็นฮีโร่มาช่วยดามใจพี่แบล๊คดีหนอ  :laugh:ครบ 5 ตอนพอดี คิคิ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! by หยดน้ำผึ้ง คิคิ คืนนี้พบกัน 5 ตอนรวด[up 20.06.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 20-06-2011 22:15:54
แบล็คคคคคคคคคค

มาคบกะเราก็ได้น๊า

นายไม่ได้เป็นคนรักที่แย่ขนาดนั้นหรอก
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 24 แบล๊ค [up 02.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 02-10-2011 08:26:50
- 24 -

แบล๊ค

แม่ของผมชวนไปบ้านใหญ่ แต่ผมต้องปฏิเสธเพราะติดเรียนพิเศษ ทั้ง ๆ ที่ในใจของผมอยากจะไปพักบ้าง.. แต่ก็ทำไม่ได้เพราะอีกไม่กี่เดือนผมต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว หนังสือเตรียมสอบวางอยู่ในห้องเป็นปึก ๆ ถ้าเอามาวางเรียงกัน คงจะถึงเอวของผม
กึง! เสียงประตูห้องของผมเปิดผลัวะ พร้อมกับร่างใหญ่ ๆ ของไอ้น้องชายตัวแสบ...

“ทำไมไม่หัดเคาะประตูก่อน” ผมถามอย่างเซ็งจัด.. เพิ่งจะบอกเลิกกะแฟนแล้วยังจะต้องมาทะเลาะกับน้องอีก  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไอ้บลูใช้ความรุนแรงกับประตูห้องผม ทั้ง ๆ ที่ล็อกเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่มันก็ยังเตะจนกลอนมันหลุดได้สิน่า..

“พี่แบล็คชักช้า” มันบ่นงึมงำก่อนล็อกประตูห้องแล้วเดินไปเปิดหน้าต่างยังกับเป็นห้องของมัน

“ใครให้เข้ามาสูบในห้อง!” ผมถามมันอย่างเหลืออด

มันยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ... ผมสงสัยเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่กัณฐ์ออกจะน่ารักและเป็นเด็กเรียบร้อย แต่ทำไมกลับมีเรื่องบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ไอ้บลูหน้าตากวนอวัยวะเบื้องล่างกว่าเยอะ สัมมาคารวะต่อรุ่นพี่ก็ไม่เคยมี แต่ไม่ยักจะมีเรื่องกับใครซักคน

ผมพอจะรู้สาเหตุที่มันมาสูบบุหรี่ในห้องผม เพราะห้องของมันไม่มีหน้าต่าง ส่วนกัณฐ์ก็ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ และอีกอย่างหนึ่งก็คือมันกลัวพ่อกับแม่รู้...

มันทำหน้างง ๆ เมื่อเห็นผมแบมือขอบุหรี่
ผมจึงเป็นฝ่ายดึงบุหรี่ที่มันคาบอยู่โยนออกไปนอกหน้าต่าง.. พอมันเห็นผมทำแบบนั้นก็ทำหน้าถมึงทึงและทำท่าจะหยิบบุหรี่มวนใหม่ขึ้นมาสูบต่อ แต่ผมรวบมาถือไว้หมดทั้งซอง ไอ้บลูท่าทางจะอารมณ์เสีย มันเดินปึงปังจะออกไปจากห้องผม..

“เกิดมาเป็นแกนี่สบายชะมัดเลยบลู ไม่เห็นกลุ้มใจอะไร ทำอะไรก็ไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง... ไม่มีใครฝากความหวังไว้ให้” เสียงรำพึงเบา ๆ ของผมทำให้มันหยุดชะงัก แล้วหันกลับมาตอบบ้าง

“พี่แบล็คนั่นแหละ... อย่าเอาความคาดหวังของคนอื่นมาตั้งไว้กับตัวเองดิ ปล่อย ๆ ไปซะบ้าง”

“แกก็พูดได้นี่หว่า” ผมเม้มปากแน่น... ในเมื่อมันไม่ได้ถูกคาดหวังอย่างผม... มันจะเข้าใจได้ยังไง...

“พี่แบล็คก็ทำได้ แต่อยู่ที่ว่าจะทำหรือเปล่า.. จะสนใจสายตาคนอื่นอีกรึเปล่า ?” ....

“...คนเรามันไม่เหมือนกัน.. ผมไม่แคร์ ไม่สนใจว่าใครจะมองผมยังไง นอกจากคนที่ผมรัก...และรักผม... แต่พี่แบล็คไม่ใช่ พี่จะต้องดูดีในสายตา ‘คนอื่น’ เสมอ จริงมั๊ย ?” เมื่อพูดจนจบประโยค มันก็เดินออกไป... ปล่อยให้ผมได้คิด...

ผมเคยมองว่ามันเป็นเด็กบ้า ๆ บอ ๆ เที่ยวเล่นไปวัน ๆ แต่คำพูดที่แสดงความคิดเห็นของมันในครั้งนี้ทำให้ผมต้องเริ่มมองทุกสิ่งใหม่... ไม่ใช่ผมคนเดียวที่โตขึ้น.. น้อง ๆ ของผมก็เหมือนกัน... บ้างครั้งคนที่เติบโตช้าที่สุดอาจจะเป็นผมก็ได้...
 
ไม่กี่วันถัดมาผมก็ต้องบอกลาทุกคนแล้วอยู่บ้านอย่างโดดเดี่ยว.. พอผมบอกว่ามือถือหายพ่อก็เจ้ากี้เจ้าการให้ไปซื้อใหม่เพื่อจะได้ติดต่อสะดวก แต่ผมไม่มีเวลาว่าง.... ผมต้องเรียน ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วก็เรียน.... เหมือนไม่ได้ปิดเทอม เพื่อนที่เคยเจอหน้าบ่อย ๆ ที่โรงเรียนก็ต้องกลับมาเจอกันอีกที่เรียนพิเศษ

ผมพยายามลืมเรื่องของเธอ ทำตัวตามปกติแม้จะเจอกันบ้างตามที่เรียนพิเศษ... ผมก็พยายามหลบหน้าเธอ...
พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ผมควรจะพักผ่อนแท้ ๆ แต่ก็มีเรียนชดอีก!! จะบ้าตาย...ช่วงหลัง ๆ นี้ผมกลายเป็นคนหลับยาก หากไม่พึ่งยา... แต่มันก็เป็นข้อดีนิดหน่อยที่ผมจะได้อ่านหนังสือเพิ่มขึ้นเพียงแต่มันไม่ค่อยเข้าหัวซักเท่าไหร่
....หืม ?...รถของใครจอดอยู่หน้าบ้านผม ?….เพื่อนในห้องมีไม่กี่คนที่ขับรถแพง ๆ แบบนี้... แต่มันไม่ใช่สีนี้นี่หว่า..

“เฮ้.. เธอกลับบ้านช้ามากเลย” เจ้าของรถคันหรูนั้นยื่นหน้าออกมาทักทายผม...

ผมขมวดคิ้วมุ่น... ใครอีกวะเนี่ย.... อ...อ๋อ...ผมจำได้แล้ว!...ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ลากกัณฐ์ไปในวันงานโรงเรียนนั่นเอง...แต่วันนี้เขาไม่ได้ทำหน้าดุเหมือนหมาบ้ามา...ผมก็เลยรู้สึกว่าเขาดูดีขึ้นเยอะ...

“หวัดดีครับ…” ผมยกมือไหว้.. ท่าทางเขาจะแก่กว่าผมหลายปี หรืออาจจะเป็นเพราะสูทที่เขาใส่ทำให้ดูภูมิฐานขึ้นเยอะ พอเขาออกมายืนเทียบขนาดตัวกับผมแล้ว กลายเป็นว่าผมดูตัวเล็กไปถนัดตา... เหอะ ๆ

“ฉันมีเรื่องจะต้องเคลียร์กับเธอ” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย.. ผมไปมีเรื่องกับเขาเมื่อไหร่ ?

“..เข้ามาข้างในก่อนสิครับ” ผมเอ่ยปากเชิญเขาอย่างเสียมิได้.. เมื่อสภาพแวดล้อมหน้าบ้านผมค่อนข้างมืดสลัว และไม่เหมาะที่จะพูดคุยซักเท่าไหร่

“เดี๋ยวผมไปรินน้ำมาให้”

“ไม่ต้อง...”

“ฉันมีเรื่องจะถาม...” เสียงทุ้มของเขาฟังดูกระด้างขึ้นถนัดตา
ผมมองเขาอย่างคลางแคลง.. และพยายามนั่งออกห่าง ถ้าเขาเกิดคลั่งเหมือนวันนั้นขึ้นมาล่ะก็จะได้มีทางหนีทีไล่

“...เธอ...บอกอะไรกับน้องเธอ ?” เขาข่มอารมณ์เอาไว้อย่างมิดชิด จนผมไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังพูดด้วยความรู้สึกแบบไหน

“ฮะ ?” เขาพูดอะไร ? น้องที่พูดนี่คงจะเป็นกัณฐ์สินะ

“ฉันกำลังถามว่า...เธอไปพูดอะไรกับน้องชายของเธอ!”

“ผมพูดอะไร ?” ผมถามกลับอย่างตื่น ๆ

“เธอบอกว่าฉันมีเซ็กซ์กับเธอ!” เสียงตวาดของเขาทำเอาผมผวา

“ห๊ะ !?” ผมส่งเสียงงง ๆ ผมไปมีอะไรกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?? ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก็เจอกันที่งานโรงเรียนไม่ใช่เหรอ ??

“ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่อง! ฉันไม่น่างี่เง่าเข้าไปยุ่งกับเธอ!” ดูเหมือนเขาจะระงับความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ ส่งสายตาฉุนเฉียวและท่าทางไม่พอใจออกมา

“ผมไม่เข้าใจ คุณพูดอะไร ?” ผมพยายามทำสีหน้าเรียบเฉย แม้ในใจจะหวั่น ๆ ว่าเขาจะลุกขึ้นมาทำร้ายผม

“อย่าทำเป็นแกล้งลืม วันนั้นเธอยังร้องครวญครางอยู่ใต้ตัวฉันอยู่เลย” คำพูดของเขาราวกับน้ำเย็นสาดใส่หน้าผม...ผมรู้สึก ‘ปรี๊ด’ ขึ้นมาบ้าง

“คุณหมายความว่ายังไง !?” ผมเป็นฝ่ายเริ่มขึ้นเสียงบ้าง ...คำพูดของเขามันทุเรศเกินกว่าจะรับไหว

“....เธอ...จะให้ฉันรื้อฟื้นความทรงจำให้มั๊ย ?” ดวงตาสีสนิมนั่นกราดมองผมอย่างรังเกียจ

“ความทรงจำบ้าอะไร !?” ผมตวาดเสียงดังและเริ่มรู้สึกกลัวสายตาของเขา

“เชิญคุณออกไปได้แล้ว ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่อง...” ไม่ทันจะจบประโยคร่างกายหนา ๆ นั่นก็เข้าประชิดตัวผม ....ผมรู้สึกกลัวเขาอย่างบอกไม่ถูก เหงื่อซึมออกตามผ่ามือ  และใบหน้า ผมตั้งใจจะลุกหนี แต่เขาใช้แขนค้ำพนักเก้าอี้กั้นทางหนีของผมไว้

“มาพิสูจน์กันหน่อยมั๊ย ว่าเธอจำได้แค่ไหน...” เสียงทุ้มนั้นดังอยู่ข้างหูผม ลมหายใจของเขามีกลิ่นหอมอ่อน ๆ.. พระเจ้า.. หรือว่าการมีอะไรกับผู้ชายเพียงคนเดียวทำให้ผมเกิดอาการเบี่ยงเบนทางเพศวะ!!

ไม่จริงหน่า!! ผมแค่รู้สึกจั๊กกะจี๋เท่านั้นเอง ..ไอ้หมอนี่น่ากลัวจะตายชัก ..อย่าว่าแต่ผมเลย ผู้หญิงที่ไหนจะชอบเขาลง

“หลีกไป…” ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าเสียงของผมสั่น ๆ

“ฮึ.. จะว่าไปเธอก็.. หน้าตาใช้ได้นะ ....แต่ไม่น่า...” เขาเว้นระยะไว้

“ไม่น่าอะไร ?” ผมถามอย่างไม่ชอบใจ..

“ไม่น่าเป็นพวกผิดเพศเลย” จบประโยคผมผลักเขาออกด้วยแรงโทสะและตวาดเสียงกร้าว

“ผมจะเป็นอะไร มันก็เรื่องของผม!! เชิญคุณออกไปได้แล้ว!!” ผมชี้นิ้วไปทางประตูบ้าน ..และขบฟันแน่น.. ไม่เคยมีใครดูถูกผมแบบนี้มาก่อน.... และไม่เคยที่ผมจะรู้สึกรังเกียจใครมากขนาดนี้มาก่อนเช่นกัน....

“ไม่ปฏิเสธงั้นเหรอ ? ..เรื่องจริงสินะ บ้านนี้คงเป็นกันทั้งบ้าน..” ผมปล่อยหมัดใส่ใบหน้าของเขาสุดแรง... อาการแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมมาก่อน... แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่าโกรธจนเลือดขึ้นหน้า... ถ้าหากเขาว่าผมคนเดียว ผมจะไม่แคร์เลย

แต่นี่เขากลับเหมารวมหมด... ซึ่งแน่นอนว่าผมจะยอมให้เขาดูถูกศักดิ์ศรีคนในบ้านของผมไม่ได้!! ดูเขาเหมือนจะอึ้ง ๆ ที่ผมกล้าทำแบบนี้ ดวงหน้าคมคายนั่นหันกลับมามองผมอย่างกินเลือดกินเนื้อ

“...เธอ.... นี่เธอ.... กล้าลองดีกับฉันงั้นเหรอ !?” เขาพูดเสียงเย็นเยียบ... ผมเริ่มรู้สึกหวั่น ๆ แต่ทำเป็นใจกล้าเชิดหน้าใส่เขา

“ฤทธิ์มากนักใช่มั๊ย ห๊ะ!?” เขาคว้าตัวผมประทับจูบรุนแรงและหยาบคาย ผมได้รสคาวของเลือดภายในโพรงปากรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างบอกไม่ถูก.. ผมเคยกล่าวหานางเอกในละครหลังข่าวว่าถูกลวนลามแล้วทำไมไม่ต่อสู้ แต่เพิ่งสำเหนียกได้บัดนี้เองว่าขนาดแรงผู้ชายด้วยกันยังสู้ไม่ไหวเลย

ผมทั้งผลักทั้งดิ้นจนเหนื่อย เขาไม่มีทีท่าว่าจะยอมละริมฝีปากแถมยังดูเชี่ยวสะจนผมเริ่มเคลิ้ม แต่พอเขาเริ่ม ‘ล้วง’ สติที่กระเจิดกระเจิงเมื่อกี้กลับมาหมด และครั้งนี้ผมหลุดจากเขาสำเร็จและรีบวิ่งหนีเข้าไปในห้องนอน

หวังว่าเขาคงไม่ขโมยอะไรในบ้านผมนะ... อืม... ออกจะรวยปานนั้น...

ผมปาดเหงื่อที่ไหลซึมตามใบหน้าอย่างอ่อนล้า... มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผมวะเนี่ย.... เรื่องไอ้หมวยก็ทีนึงแล้ว แถมยังมีหมอนี่อีก นี่มันเกิดวินาศสันตะโรอะไรขึ้นกับชีวิตของผม!? บางทีปีนี้อาจเป็นปีที่ผมดวงตกที่สุดในชีวิต... ผมคงต้องไปสะเดาะเคราะห์ปล่อยนก ปล่อยปลาที่วัดหลังจากที่ไม่ได้เข้าไปเหยียบเกือบปีซักหน่อยแล้ว ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านั้นจู่ ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนถูกกระแทก

“เฮ้ย!!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อหมอนั่นผลักประตูห้องผมจนกลอนหลุด แถมบานประตูยังมากระแทกตัวผมจนเซไปหลายฟุต
ไอ้...ไอ้บลู!!! ชื่อของน้องชายสุดที่รักที่มันสร้างวีรกรรมไว้มากมายกับประตูห้องผมมันผุดขึ้นมาในหัว!!!

‘ห้องน้ำ!!!’ ในใจของผมตะโกนโหวกเหวกให้ผมเข้าไปหลบในห้องน้ำแต่ความยาวขาของผมดันเสียเปรียบน่ะสิ!!

“ฮึ..” เสียงหัวเราะในลำคอของเขาโคตรหลอน เขาคงรู้สึกเป็นต่อเมื่อคว้าแขนผมได้ข้างหนึ่ง ....ผมรีบหยิบหนังสือสังคมรวม 15 พ.ศ. บนโต๊ะอ่านหนังสือขึ้นมาหวังเป็นที่พึ่ง

“อย่า!! นะ! ผมสู้นะคุณ!!” ผมโชว์ความหนาของสันหนังสือประมาณ 2 นิ้วกว่า ๆ ขึ้นมาเพื่อหลอกล่อให้เขากลัว... แต่..มันไม่ช่วยอะไรเลย.....

“วันนั้น.. ฉันไม่ถือว่ามันคือเซ็กซ์หรอกนะ... ต่อจากนี้ไปต่างหากคือของจริง...” รอยยิ้มเหี้ยม ๆ กับคำพูดประโยคเดียวของเขาทำเอาผมเสียวก้นวาบ ๆ .... หวังว่าเขาคงจะไม่...ไม่คิด...แบบผม

+++ อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้เป็นฝ่ายอยู่ข้างบนเถอะนะ T^T
................................................................
 :m22: ไม่ค้างกันใช่ป่ะคะ่ ขอโทษมิตรรักแฟนคลับเรื่องนี้ด้วยน่ะค่ะ(มีหรอว่ะ) ที่ห่างหายไปนาน จนคุณหยดผู้แต่ง ต้องเมล์ตามกันเลยทีเดียว คึคึ ขอโทษคร้าบบบ กระผมจะมาลงต่อเนื่องจนจบอย่างแน่นอน มีำคำผิดใด แนะนำด้วยเน้อ โปรดติดตามตอนต่อไป เอิ๊กกก..
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 24 แบล๊ค[up 02.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 03-10-2011 13:21:45
เหมือนจะเคยอ่านจบไปแล้วรอบนึง...เรื่องนี้พี่แบล็คน่าสงสารที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 24 แบล๊ค[up 02.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pklove ที่ 03-10-2011 19:35:16
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 24 แบล๊ค[up 02.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 03-10-2011 20:55:23
จะรอจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 24 แบล๊ค[up 02.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: MiU ที่ 03-10-2011 21:01:59
สนุกมากเลยค่า เป็นกำลังใจให้นะคะ +1   :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 24.5 nc เล็กๆ[up 03.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 03-10-2011 23:11:27
Warning : ตอนนี้เป็นตอนที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถอ่านข้ามไปได้เลยค่ะ

- 24.5 -

เรานัวเนียกันอยู่พักใหญ่ ผมทั้งกัดทั้งถีบแต่เขาก็ไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน แถมยิ่งรุนแรงจนผมรู้สึกเหมือนกระดูกแขนข้างที่เขาจับอยู่กำลังจะลั่นเป๊าะ และหักเป็น 2 ท่อนไปในที่สุด

“เธอคิดจะยั่วฉันรึไง ..พามาถึงห้องนอน” เขากระซิบถามเสียงเยาะหยัน

“อ..ไอ้...ไอ้โรคจิต!!...หื่นกาม!!” ผมด่าว่าเขาพลางใช้สันหนังสือฟาดใส่ตัวเขา.. แต่ดูเหมือนจะทำให้เขาโกรธยิ่งขึ้นนะ ...

“..ถ้าคุณทำอะไร...ผมร้องให้คนช่วยแน่..” ผมขู่... หวังในใจว่าถ้าร้องเสียงดังมาก ๆ ป้าข้างบ้านอาจจะมาถามด้วยความห่วงใย.. ผมหวังว่าอย่างงั้น...

“ฮึ.. คิดว่าฉันไม่รู้รึไง ว่าคนในบ้านเธอไปต่างจังหวัดกันน่ะ” ผมรู้สึกเหงื่อแตกพลั่ก ผมจะอ้างอะไรอีกดี.. คิดสิ คิด ๆ ๆ...
....................สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้.. เขาจับผมให้อยู่ในท่าคลานเข่าแล้วดึงกางเกงของผมลง

“อย่า!!” ผมบอกเสียงเครือด้วยความหวาดกลัวสุดใจ
มือทั้งสองข้างของผมถูกจับไพล่หลัง ลิ้นเปียกชื้นเล็มเลียใบหูของผมอย่างแผ่วเบา เข่าของผมถูกดันให้แยกออก ผิวเนื้อร้อนของเขาสัมผัสร่างกายของผมอย่างจาบจ้วง

“....โอ๊ย!!” ผมร้องเสียงหลงพยายามดีดดิ้นเมื่อเขาดันส่วนที่ร้อนรุ่มเข้ามา โดยไม่ได้บอกกล่าว

“..อืมม์....อย่าดิ้นสิ....ยังไม่ได้เข้าไปเลย” เขากระซิบบอก กัดคอผมอย่างหมั่นเขี้ยว มืออุ่นร้อนพยายามกระตุ้นให้ผมผ่อนคลายลง

“อ..ฮึก!” ผมซุกหน้าลงกับหมอน มือข้างหนึ่งที่หลุดจากการจับกุมพยายามดันหน้าขาของเขาเอาไว้ แต่มันไม่ได้ผล เสียงหอบหายใจของเราสองคนดังไม่ขาด ร่างกายของผมถูกบังคับให้เปิดรับเขาด้วยสารหล่อลื่น

“เจ็บ! พอแล้ว!” สุดท้ายผมก็ต้องเปิดปากขอร้อง เมื่อรู้สึกจุกในท้องน้อยและร่างกายเหมือนจะขาดออก

“ฉันไม่แคร์..” เขากระซิบบอก และดันร่างกายของเขาเข้ามาอีก

ผมครางเสียงหลง ตะกุยที่นอนจนผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ไปหมด ผมแทบจะโห่ร้องเมื่อเขาถอนตัวออกจากร่างกายผมแต่ต้องสะดุดเพราะเขาดันสวนมันกลับเข้ามาอีกครั้ง.. และอีกครั้ง

ผมไม่เข้าใจเลยว่าพวกตุ๊ดมันยอมให้เอาทางนี้ได้ยังไง ....โคตรเจ็บ!! เจ็บจนน้ำตาผมไหลเหมือนเขื่อนแตก เขาเริ่มจากช้า ๆ แล้วเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นและแรงขึ้น แค่นี้ผมก็เจ็บจะตายอยู่แล้ว!!

..ผมกำลังถูกข่มขืน โดยผู้ชายที่ไม่รู้จักชื่อ และเคยพบกันเพียงแค่ครั้งเดียว ร่างกายของผมสั่นคลอนตามแรงกระทำ ในหัวก็คิดแต่ว่าเมื่อไหร่เขาจะเสร็จเสียทีและรีบ ๆ ออกไปจากตัวผม เขาใช้ระยะเวลาไปเกินกว่ามาตรฐานโข บวกกับลีลาและขนาดผมให้คะแนนเกินร้อย แต่ช่วยออกไปจากตัวผมทีเถอะ!!
..................................................
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แบล๊คผู้น่าสงสาร :z3: ขอบคุณมิตรรักแฟนๆ ที่ยังต้อนรับเรื่องนี้กันอยู่น่ะค่ะ น่ารักทุกคนเลย บทอัศจรรย์ไม่ค่อยรุนแรงมากช่ายป่ะ มาแบบสั้น ๆ แล้วพบกันตอนต่อไปแบบเต็มรูปแบบค่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 25 กดดัน[up 04.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 04-10-2011 22:50:44
- 25 -

ผมกลั้นเสียงสะอื้น ซุกตัวกับผ้าห่ม พยายามทำตัวให้ลีบเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามตัวของผมมีแต่รอยช้ำ
....เขาไม่ปราณีผมเลยซักนิด.. ปวดไปหมดทั้งตัวให้ตายเถอะ แรงยวบของพื้นเตียงทำให้ผมสั่นไหวนิด ๆ และหวังจะให้ตัวเองกลืนหายไปกับผ้าห่ม...

“....” ผมแอบถอนหายใจ เมื่อเขาผละออกไป ในใจของผมภาวนาให้เขาออกไปจากบ้านให้เร็วที่สุด แค่หายใจร่วมกันภายในห้อง ผมก็แทบจะอาเจียนแล้ว…

...เขารู้การเคลื่อนไหวของคนในบ้านผม.. รู้ว่าไม่มีใครอยู่ ...บางทีเขาอาจจะเป็นพวกเดียวกันกับไอ้หมวยบ้านั่น แต่ขณะนี้ผมไม่อยากจะถามหรือพูดคุยอะไรกับเขาทั้งสิ้น ถ้าเป็นไปได้ผมอยากวิ่งไปหยิบมีดในห้องครัวมากระซวกไส้เขาเสียมากกว่า...
ไม่นาน... ผมก็ผล็อยหลับไปทั้งอย่างงั้นด้วยความเหนื่อยอ่อน
 
ผมตื่นขึ้นมาตอนสายด้วยความครั่นเนื้อครั่นตัว และพบเพียงความว่างเปล่า... ผมโทรไปหาไอ้เจสั่งให้มันช่วยจดหนังสือให้เป็นระเบียบ เพื่อผมจะได้ลอกการบ้านอย่างสบายตา

“เสียงฟังดูไม่ดีเลยว่ะ” มันบอกผ่านโทรศัพท์เบา ๆ ..คงจะเกรงใจคนอื่นที่ตั้งใจเรียนอยู่

“ไม่เป็นไร.. ขอบใจมากนะ” ผมบอก

“เออ ๆ คุยกับคนอื่นมั้ย ?”

“ไม่อ่ะ ขอนอนต่ออีกหน่อย”

“..พักผ่อนเยอะ ๆ นะเว้ย ดูแลตัวเองดี ๆ ยิ่งช่วงใกล้สอบนี่อย่าเป็นอะไรขึ้นมาเชียว ไม่งั้นได้รอสอบใหม่ปีหน้าแน่” มันบอก.. แต่ผมคิดว่าคงจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกแล้วละมั้ง.. ผมควรจะพกคัตเตอร์ติดตัวไว้ตลอด...ถ้ามีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกผมขอยอมตายก่อนดีกว่า...

“อืม...” ผมตอบในลำคอเบา ๆ ผมค้นโบชัวร์แนะนำร้านของไอ้ไทม์ตอนที่มันเริ่มเปิดใหม่ ๆ เพื่อโทรศัพท์หามัน

“เออ..รายวะ” มันทักเสียงยานเหมือนเพิ่งตื่นนอน

“แบล็คนะ.. ช่วยซื้อข้าวต้มแถวนั้นมาให้หน่อยดิ”

“โหย~ รายวะ มาเองไม่ได้รึไง” มันงอแง ดูท่าจะนอนไม่เต็มอิ่ม

“ช่วยมาหาหน่อย”

“เป็นไร ?” มันถามงง ๆ

“...”

“เรื่องไอ้นันเหรอ ?” ไม่ใช่เลยว่ะ สงสัยจะเป็นคู่ขาของมัน..

“..ไม่”

“แล้วเรื่องไรอีกวะ ?” มันถามอย่างหัวเสีย ผมรู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่มันดูออกจะรำคาญผม แต่ทำยังไงได้ ตอนนี้ผมอยากคุยกับมันนี่นา

“ช่วยมาหาหน่อยนะ” ผมอ้อน

“เออ ๆ เดี๋ยวไป รอแป๊บนึง” สุดท้ายมันก็ใจอ่อน ยอมมาหาผม..

ผมกลับขึ้นไปบนห้องและมองเห็นภายในถังขยะ ....ถุงยางอนามัย... ร่องรอยต่าง ๆ ภายในห้องทำให้ความทรงจำเมื่อคืนมันย้อนกลับมา  ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำและอาเจียน.. กรดที่ถูกสำรอกออกมาทำให้ผมรู้สึกแสบคอไปหมด ขณะนี้ผมรู้สึกแย่เหลือเกิน... ผมหวังจะพึ่งใครซักคน

...แล้วชื่อของเธอก็ลอยขึ้นมาในหัว…แต่ผมไม่มีหน้าจะไปพบเธอซะด้วยซ้ำ ....เสียงกดออดทำให้ผมรีบลงไปเปิดประตูด้วยความยินดี แต่ต้องพบกับ…. .. . ความวิบัติ

“....” ผมผงะ รีบดันประตูปิด แต่มือหนา ๆ นั่นจับบานประตูไว้ทันและดันให้เปิดอ้าออก

“ฉันจะมารับเธอไปโรงพยาบาล” เสียงทุ้มนั้นบอกด้วยแววตาคล้ายลังเลใจ... ผมรู้สึกโมโหทุบประตูไม้ให้ปิด แต่มันติดไอ้คนตัวใหญ่นี่น่ะสิ

“เธอเลือดออกเมื่อคืน..“ ผมพยายามไม่สนใจฟังและยอมปล่อยประตู

“ฉันมีทิฐิ... แต่วันนี้ฉันเปลี่ยนใจ” ผมก้มหน้ามองรองเท้าหนังคู่แพงที่ลุกล้ำเข้ามาในบ้าน ....ไม่อยากได้ยินเสียงเขา ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากพูดคุย แม้แต่หายใจร่วมกันก็ไม่อยาก มือของผมสั่นจนควบคุมไม่อยู่

“ออกไป!.. ออกไปเดี๋ยวนี้!!” ผมตวาด แต่เท้าของเขากลับยืนนิ่ง ผมจึงเป็นฝ่ายเดินกลับเข้าไปภายในบ้าน และเริ่มออกวิ่ง ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บแผลอยู่บ้างแต่ก็ยังดีกว่าอยู่ใกล้ ๆ เขา

“เดี๋ยว!!” เขารีบคว้าแขนผมเอาไว้.. ผมร้องเบา ๆ เมื่อรอยช้ำจากน้ำมือเขาเมื่อวานมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงและรีบสลัดแขนออกจากการเกาะกุมอย่างรังเกียจ ดูเหมือนเขาจะตกใจนิด ๆ และรีบคว้ามือผมอีกครั้ง

“ปล่อย..” ผมพยายามบิดมือออกจากการเกาะกุม

“ทำไม ?!” เสียงของเขาเริ่มแข็ง แต่ผมไม่สน อยากหายไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

“รังเกียจงั้นเหรอ ? …ได้….” จบคำเขารวบตัวผมเขาไปกอด และซุกไซร้ซอกคอ ...ผมโมโหมาก...ถึงมากที่สุด.....ผมรู้สึกน้ำตาปริ่ม ๆ... อะไรกันวะเนี่ย... กูเป็นผู้ชายนะเว้ย ทำไมกูต้องมาเจออะไรเหี้ย ๆ แบบนี้ด้วย.... น้ำตาผมเริ่มไหลด้วยความคับแค้นใจ... ผมตัดสินใจกัดคอเขาเต็มแรง และไม่ปล่อย.. คิดว่าจะให้เนื้อหลุดออกมาเลยด้วย

“โอ๊ย!!” ก่อนที่ผมจะทันได้สะใจก็มีเสียงแทรกเข้ามาก่อน

“เฮ้ย!!” ผมหันไปหาต้นเสียงคุ้นหูนั่น

“มึงมีรสนิยมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!!” ไอ้ไทม์ถามอย่างไม่เชื่อสายตา

“..ไทม์...” ผมเรียกมันเสียงเครือ แอบเช็ดน้ำตาและรีบวิ่งไปหามัน

“เอ้ย! อย่าเข้ามาใกล้!” ผมทำหน้าหงอยเมื่อมันทำท่ารังเกียจผม

“ทำไมมือสั่นแบบนั้นวะ เป็นไรป่าว ?” มันถาม

“อยากอ้วก” ผมบอกเบา ๆ ...ไม่รู้ว่าอยากอ้วกเพราะถูกสัมผัส หรือว่าเพราะอะไรกันแน่ มันเดินนำหน้าผมเข้าไปในห้องครัว ผมรีบเกาะติดมันเหนียวหนึบ ไม่มองแม้แต่เงาของอีกคนที่บุกรุกเข้ามาในบ้าน

“.... แฟนใหม่มึงเหรอวะ ?” มันกระซิบถาม แต่ผมทำหน้าไม่สบอารมณ์ตอบ

“ก็แมร่งจ้องกูอย่างกับจะฆ่า” มันบ่นพร้อมแกะข้าวต้มใส่ชาม

“มันจะฆ่าทุกคนที่ขวางหน้านั่นแหละ” ผมบอกเบา ๆ

“แล้วมันเข้ามาได้ไงวะ น้าอรให้ลูกเขยเข้ามาเหรอ ?” มันถามยิ้ม ๆ

“ไปบ้านใหญ่กันหมดน่ะ”

“อ๋อ.. เหงาล่ะสิ ชวนมาซะเต็มบ้าน” มันหัวเราะ และตบหัวผมเบา ๆ

“ไม่ได้ชวนหมอนั่นมา” แต่มันบุกเข้ามาเลย

“โหดู ...หลักฐาน เข้ามาตะกี้ก็ฟัดกันนัวเนีย” มันจิ้มมาที่รอยฟันตรงหลังคอของผม...

“...กูเต็มใจที่ไหน” ผมพึมพำเบา ๆ....  ไอ้ไทม์หันกลับมาจ้องหน้าผมเขม็งทันที...

“...มันข่มขืนกู” พอจบประโยคผมน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ร่วงเผาะ... นี่ผมกลายเป็นผู้ชายขี้แงตั้งแต่เมื่อไหร่... เวลาผมอยู่ใกล้ ๆ ไอ้ไทม์แล้วผมรู้สึกปลอดภัยเท่านั้นเอง รู้ว่ามันจะต้องปกป้องผม...

“มึงว่าอะไรนะ!!” ผมสะอื้นเบา ๆ

“ไอ้เหี้ย อีกแล้วเหรอ แล้วมึงอยู่ยังไง.... โว๊ย!!” มันเกาศีรษะอย่างหัวเสีย เสียงโวยวายของมันทำให้อีกคนหนึ่งเข้ามา

“มีอะไรรึเปล่า ?” เสียงทุ้มที่ถามอย่างห่วงใยทำเอาผมอยากจะหาอะไรซักอย่าง... อะไรซักอย่าง....

“ยืนอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ!” ผมตวาดคว้ามีดขึ้นมาถือไว้

“...เธอ....กล้างั้นเหรอ ?” เขาไม่ถามเปล่า ขยับเข้ามาใกล้ผม

“เฮ้ย! มึงบ้าป่าววะเนี่ย!!” ไอ้ไทม์ถามอย่างตกใจ รีบดึงมีดออกจากมือผม ผมมองมันตาขุ่น

“มันต้องแบบนี้เว้ย!!” ไอ้ไทม์วิ่งเข้าไปชกเขา... ผมมองดูความโกลาหลที่เกินขึ้นด้วยดวงตาพร่าเลือน... ผม...เป็นอะไร ?.... หายใจไม่ออกเลย....

“...ท...ทา....ไทม์...” ผมพยายามเรียกชื่อผมเมื่อรู้สึกว่าเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมปวดหัวเหมือนสมองจะระเบิด อยากอาเจียน....  ..ในความฝันผมได้ยิน เสียงคุ้นหูที่สบถอย่างแหบแห้ง
 
ร่างกายของผมหนักอึ้งราวกับถูกถ่วงเอาไว้ใต้มหาสมุทร.....
---------------------------------------------
 o22 กดดันจริงๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 25 กดดัน [up 04.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 05-10-2011 01:56:33
แอ๊~ค้างอ่ะ คนเขียน

มาต่อไวๆ รอจ้า

อยากอ่านคู่เธียรกับกัณฐ์อ่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 25 กดดัน [up 04.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: love_y ที่ 15-10-2011 00:35:37
อั้ญีะ เพิ่งมาอ่านวันแรกก็ค้างตอนสำคัญเล้ยย รีบๆมาต่อนะค้งเกินจะทน
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ซ่อมตอนที่หายไปถึงปัจจุบัน [up 16.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 16-10-2011 10:00:18
Special Chapter*[Valentine’s day]-- 1
[Tien Part]

ผมมองหน้ากระดานอย่างเบื่อหน่าย... พลางเอาดินสอเคาะโต๊ะเบา ๆ ก๊อก ๆ ๆ ๆ...

“เฮ้ย ไอ้เธียร เงียบหน่อยได้มะ กูกำลังตั้งใจเรียน” ไอ้ภีมมันบ่น ผมก็ทำหน้าเซ็ง ๆ ใส่มัน จะอะไรซะอีกละครับ..ก็เรื่องกัณฐ์น่ะสิ..พอเข้าเทอม 2 กัณฐ์ก็มีติวศิลปะแทบทุกวัน ตั้งแต่ 5 โมงครึ่งจนถึงสามทุ่ม ผมบอกให้มาค้างบ้านผม กัณฐ์ก็มาเฉพาะวันเสาร์
แถมบางทียังแบกกระดานแผ่นใหญ่มานั่งขีด ๆ เขียน ๆ ไม่ยอมสนใจผม ยิ่งช่วงหลังปีใหม่นี่ไม่ต้องพูดถึงเถอะ กัณฐ์ไม่ยอมให้ผมแตะต้องตัวเลยซักนิด แถมยังมีลับลมคมนัยกับไอ้ตัวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

“หนิ ถามจริงเหอะ ..ทำไมเวลากัณฐ์เจอแกแล้วต้องหน้าแดงด้วยวะ” ผมเคยถามมัน แต่มันก็เพียงแค่มองผมด้วยหางตา แสยะยิ้มอย่างเหนือกว่า และพูดว่า

“ก็กูหล่อ” ไอเลว... หรือเมียกูกำลังมีชู้วะ... ไม่น่าจะใช่... ลีลาผมมัดใจขนาดนั้น(?) แต่จะว่าไปหลังจากเราคบกันแล้ว ผมก็รู้สึกได้ว่ากัณฐ์น่ารักขึ้น..แถมอัธยาศัยดีขึ้นอีกต่างหาก..จากการบำรุงของป้าอิ่ม ทำให้เจ้าแมวผอมโซที่ผมเจอในวันแรกกลายเป็นลูกแมวน้อยจ้าวเสน่ห์ มีเนื้อมีหนังกอดแล้วนุ่มมือเป็นที่สุด ทั้งเอวเล็กคอด แขนขากลมกลึง สะโพก....

“โอ๊ย!!” ผมมองหน้าคนที่ทำร้ายฉุน ๆ ..กำลังมองคนที่นั่งอีกฝั่งของห้องเพลิน ๆ ก็มีอันต้องถูกขัดจังหวะซะงั้น

“ขนาดอยู่ในห้องเรียนนะมึง มองซะอย่างกับจะกิน” ไอ้ภีมหัวเราะฮึ ๆ ยักคิ้วกวน ๆ ใส่ผม

“ทำไมต้องมีไอ้นี่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยวะเนี่ย..” ผมพึมพำเบา ๆ เซ็งชะมัด.. ทำไมกัณฐ์ไม่ยอมนั่งข้าง ๆ ผมนะ... หรือว่าผมทำอะไรผิด ?? .. ไม่มีนี่นา.. หรือว่ากัณฐ์โกรธผมเมื่อตอนปีใหม่.. เอ๊.. ตอนนั้นก็ให้ความร่วมมือดีนี่... ตอนเช้ามาก็ไม่ว่าอะไร คิดไม่ออกจริง ๆ แฮะ...

“เธียร ดูนี่สิ มีแข่งคัดเลือกระดับจังหวัดอ่ะ ไปป่าว ?” รอน เด็กผู้ชายตัวเล็กกะทัดรัดเอาใบประกาศรายการแข่งขันเปียโนมาให้ผมดู

“ไปดิ มีร้องเพลงป่าว ?” ผมดูข้อมูลการรับสมัครคร่าว ๆ ก่อนจะถามไอ้ตัวเล็ก

“อื้ม.. เราขอแม่จนเกือบทะเลาะกัน กว่าจะได้” รอนพูดด้วยสีหน้าเศร้า ๆ เพราะเขาตั้งใจจะสอบแพทย์จึงต้องเรียนหนัก ทำให้แทบไม่มีเวลาฝึกซ้อมร้องเพลง ผมรู้สึกใจหายเหมือนกันที่เห็นทุกคนมีทางเดินของตัวเอง และเลือกเดินไปอย่างมุ่งมั่น ..ต่าง จากผม ผมเอื้อมมือไปตบไหล่รอนเบา ๆ

“ครั้งสุดท้ายแล้วทำให้ดีที่สุดเลยนะ” รอนยิ้มคืนให้ผมนิด ๆ ก่อนจะเดินออกไปหาคนอื่น พอมองหาสุดที่รัก ก็หายแล้วซะงั้น เพิ่งจะสี่โมงเอง รีบไปเรียนอะไรนักหนา เฮ้อ... ไอ้ภีมก็หายไปอีกตัว ไม่เคยบอก เซ็ง!

ผมกดนิ้วลงบนคีย์เรื่อย ๆ ...ถึงเล่นมาแล้ว 7 ปี แต่เสียงดนตรีจากแป้นนี้ก็ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกเบื่อ.. ยิ่งฟังเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันมีอะไรที่น่าค้นหา.. แต่ผมยังลังเลใจ.. เมื่อคะแนนในสายที่ผมเรียน ผมก็ทำได้ในระดับดี เกือบดีมากซะด้วย หรือผมควรจะหันไปเรียนทางด้านนี้อย่างที่เขาว่านะ

“ไอ้งานเล่นดนตรีแบบนี้ มันไปได้ไม่ดีหรอก มีชื่อเสียงแป๊บเดียว เดี๋ยวเดียวคนก็ลืม สู้งานที่มั่นคงไม่ได้” ..ก็จริงแฮะ..

“คุณหนูครับ คุณหนูเอลโทรมาครับ” ผมละมือ รับโทรศัพท์จากลุงชัย

“อือ” ผมกรอกเสียงลงในโทรศัพท์

“Oh my god!! I thinking of you any more!” ผมรีบดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหู.. อะไรของยัยนี่เนี่ย เอลเป็นเพื่อนสนิทในสมัยเด็กของผม แต่ตอนนี้เธอเรียนอยู่ที่อเมริกาและเป็นนักไวโอลินอายุน้อยที่สุดในวงซิมโฟนีที่มีชื่อเสียงของที่นั่น นาน ๆ ครั้งเธอจะติดต่อมาหาผม

“ฮะ ๆ ๆ คิดถึงไอมั๊ย ?” เสียงหัวเราะสดใสจากปลายสายทำให้ผมยิ้มออก..ยัยนี่บ้าไม่เคยเปลี่ยน

“เป็นไงบ้างล่ะ ?” ผมถาม..

“พระจันทร์สวยจัง!!” ..ตอบไม่ตรงคำถาม..แต่ก็พอจะทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่อีกซีกโลกหนึ่งแล้ว

“อยู่ไทยเหรอ ?” ผมถาม

“อื้อ! ที่นี่เปลี่ยนไปมาก ๆ เลย”

“ก็ไปตั้งหลายปี แล้วจะกลับวันไหนอ่ะ ?”

“หลังวาเลนไทน์มั้ง ตอนนี้เจ็ทเลทอยู่ นอนซมเลย เดี๋ยวหายเมื่อไหร่แล้วอย่าลืมพาไปเที่ยวนะ”

“งั้นก็ดีเลย..”

“ทำไมเหรอ ?”

“ความลับ” ผมกระหยิ่มยิ้มย่อง..

วันศุกร์ ผมเป็นฝ่ายรีบไปรับกัณฐ์จากบ้านพี่ติวตอนสามทุ่ม กัณฐ์เจอผมก็ผงะหน่อย ๆ

“เธียรมาทำอะไรที่นี่ ?” กัณฐ์ถามอย่างตกใจ  เดินถอยเบียดเพื่อนที่มาติวไม่ให้ออกมา

“ทำไมอ่ะ มารับไม่ได้เหรอ ?” ผมถามงง ๆ ปกติมาก็ไม่เห็นว่าอะไรนี่หว่า?... หรือว่ากิ๊กของกัณฐ์คือ 1 ในนั้นฟระ !? ผมชะเง้อชะเง้อคอมองเข้าไปในบ้าน กัณฐ์ก็รีบกระโดดเหยง ๆ เอากระดานดันตัวผมให้เดินนำ แล้วบอกลาเพื่อนคนอื่น ๆ ผมรีบชะเง้อคอมอง มีแต่สาว ๆ น่ารักแฮะ..แต่ผู้ชายที่ออกมาคนสุดท้ายนี่สิที่ทำให้ผมติดใจบางอย่าง.. ไอ้โย่งหน้าจืดนั่นหันมายิ้มให้กัณฐ์ แถมโบกไม้โบกมืออีกต่างหาก หึงเว้ย!! หึง!!

“ไอ้นั่นมันเป็นใครอ่ะ ?” ผมถามหน้าบึ้ง

“เพื่อนกันหมดนั่นแหละ” กัณฐ์บอกเบา ๆ พวงแก้มเริ่มมีสีชมพูระรื่อ.. ชะเห้ย!! แปลก ๆ ว่ะ!! มันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ ๆ เชื่อผมสิ!!

“เพื่อนแล้วหน้าแดงทำไม” ผมถามฉุน ๆ อย่าเพิ่งขึ้นนะ ยุบหนอ... พองหนอ...

“เปล่านี่... ไปกันเถอะ” กัณฐ์ตอบปัด ๆ จูงมือผมขึ้นรถ... โอเค..ถือว่าเจ๊าไปแล้วกัน..

“อย่า! เธียร ห้ามก็ฟังบ้างสิ!” กัณฐ์พยายามปัดป่ายมือปลาหมึกของผม.. ดูสิครับ ขนาดกลับมาบ้านแล้วยังมีแก่ใจยกกระดานมาวาดรูปต่อ..ปล่อยให้ผมนั่งหง่าวอยู่คนเดียว

“ข้างนอกก็ได้ นะ ๆ.. กัณฐ์ไม่ยอมเลยอ่ะ ตั้งแต่ปีใหม่” ผมอ้อนเสียงกระเส่า ขบเม้มใบหูแดง ๆ อย่างเป็นต่อ

“เดี๋ยว! เดี๋ยว! อุ๊บ..” ผมรีบประกบริมฝีปาก

ผลั่ก! หมัดเสยคางทำเอาผมจอด รู้สึกเห็นดาวปลิ่วว่อนบนหัวเลย ให้ตายเถอะ!

“ข..ขอโทษ..” กัณฐ์บอกอย่างตกใจ.. เคืองอ่ะ

“ทำไม ? กัณฐ์มีคนอื่นเหรอ ?” ผมถามเสียงเครือ กัณฐ์ไม่เคยปฏิเสธผมขนาดนี้มาก่อน

“ไม่! ไม่ใช่!!” กัณฐ์รีบปฏิเสธพัลวัน แล้วเข้ามาดูแผลให้ผม ผมปัดมือออกอย่างน้อยใจ

“แล้วทำไมล่ะ ?”

“คือ..กัณฐ์ยังไม่พร้อมน่ะ...เธียรช่วยรออีกนิดได้มั๊ย ?” กัณฐ์บอก สีหน้าลำบากใจ

“รอ ?.. รออะไร ? รอกัณฐ์ไปมีคนใหม่เหรอ ?” ผมถามอย่างน้อยอกน้อยใจ

“กัณฐ์ไม่มีใครทั้งนั้นแหละ.. เธียรไม่เชื่อเหรอ ?” ฮุ ๆ เขารีบเข้ามากอดเอาใจผม.. กลิ่นหอมชื่นจาย~

“..ไม่เชื่อ”

“เธียร!” กัณฐ์แหว จ้องหน้าผม

“กัณฐ์ต้องช่วยเธียรก่อน” ผมยิ้มหวาน จับมือกัณฐ์มาวางไว้บนกลางลำตัว กัณฐ์หน้าแดงแจ๋ ก้มหน้าหนีงุด ๆ ผมรีบจูบลงบนแก้มแดง ๆ นั้นอย่างรวดเร็ว และกระซิบบอก

“ใช้ปากนะครับ” ...ฮุ ๆ กำไรเหนอะ ๆ...

“แฟนยูเป็นคนยังไงล่ะ ?” เสียงแหลมซักถามดังขึ้นจากสาวน้อยย้อมผมสีน้ำตาลอ่อน หน้าตาจิ้มลิ้มตรงหน้าทำให้ผมนึกถึงคนที่เรียกว่าแฟน..

“ก็ไม่ขาวมาก หุ่นน่าฟัด ขี้อายหมัดหนัก” ..แถมยังอมเก่งด้วย ผมแอบต่อท้ายในใจ

“เฮ้! ไอหมายถึงนิสัย! Sh_t..” ท้ายเสียงนั้นเธอส่งเสียงเบา ๆ จนผมไม่รู้ว่าออกเสียงว่า ชิ หรือว่า ชิด

“อ่าว เหรอ.. ก็เงียบ ๆ ขี้อาย อืม... มีเรื่องบ่อย” ..เวลาอายแก้มแดงๆ แล้วยิ่งน่ากอด

“หา ? เงียบ ๆ ขี้อาย ? แล้วทำไมมีเรื่องบ่อย ?” ผมยักไหล่ ก็ไม่รู้เหมือนกัน.. แต่ช่วงหลัง ๆ นี่เพลาลงจะแทบไม่มีแล้ว

“อืม... ไอไม่รู้อ่ะ.. ยูคิดเอาเองสิ” เธอเอานิ้วเคาะโต๊ะอยู่นานก่อนจะบอก แล้วหยิบน้ำแตงโมปั่นขึ้นดูดต่อ

“.. ไม่ช่วยอะไรเลย” ผมพึมพำเบา ๆ

“เอ๊ะ! ยูนี่! ไอมาช่วยคิดก็ดีเท่าไหร่แล้ว!” เอลบอกเสียงแหลม

“มาช่วยกินล่ะสิไม่ว่า” ผมบ่นเบา ๆ

“หมาเธียร!” …

“...ใครเป็นคนสอนภาษาไทยให้เธอเนี่ย”

“ไง” เสียงไอภีมทัก ขัดจังหวะ.. มาก็ดี ผมขี้เกียดฉะปากกับยัยนี่อยู่เหมือนกัน

“มาซักที! ตารางเรียนแน่นเอี๊ยดเลยนะ” ผมบ่น

“เออ ๆ โทษ ๆ อีก 2 ชั่วโมงมีเรียนต่อ ...นี่ใครอ่ะ ?” มันวางเป้แล้วถามผม

“ยูไม่มีมารยาท! ชี้หน้าไอแบบนี้ได้ยังไง” ยัยเอลแหว.. ยัยนี่เหมือนหมาพันธ์เล็กที่ชอบกัดคนอื่นไปทั่วเลยแฮะ...

“เอ่อ.. นี่เอล เพื่อนสมัยเด็กน่ะ เอลนี่ภีมนะ” ผมแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน

“นัดมาทำไมกัน ไอไม่อยากรู้จัก!” เอลกอดอก พูดเสียงแหลม

“อ้าว! นี่เธอ!” ไอ้ภีมเริ่มลุกขึ้นสู้

“เอ้อ~ ขอเมนูด่วนครับ” ผมรีบเรียกพี่พนักงานมาขัดสงครามฝีปากก่อนที่ไอ้สองตัวนี้จะเริ่มทะเลาะกัน

“แล้วนัดมานี่มีรัยวะ ?” พอสั่งเสร็จมันก็ถามต่อ

“กำลังคิดจะซื้อของขวัญวาเลนไทน์ให้กัณฐ์อ่ะ” ผมบอก

“อ้อ”

“ว่าแต่แฟนยูเล่นดนตรีด้วยรึเปล่า ?” เอลถาม หน้าตาเธอดูตื่นเต้นมากมาย

“ไม่นะ.. อ้อ.. แต่วาดภาพ.. ใช่! วาดภาพไง!!” ในที่สุดผมก็นึกออก!!

“วาดภาพ ?” เธอทวนคำ เราไปร้านเครื่องเขียน ช่วยกันคิดว่าจะซื้ออะไร มีทั้งสี กระดาษ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผมเคยเห็นกัณฐ์ถือ...
แต่มันเยอะแยะมากมายจนเลือกไม่ถูก สุดท้ายผมตัดสินใจจะซื้อพู่กัน

แต่ว่าพระเจ้าจ๊อด...พู่กันราคาเหยียบหมื่น - -“ เอ่อ...

“เซ็ทนี้เลยค่ะน้อง พู่กันขนสัตว์ เป็นขนของ Kolinsky sable มาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใน genus Mustela....” ผมได้แต่ยืนนิ่ง ๆ
มองพี่คนขายพูดหูดับตับไหม้โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ....

“ผมเอาชุดนั้นแล้วกันครับ” ผมเลือกเอาอันที่คิดว่าสวยที่สุดมาทั้งชุดเลยครับ เหอ ๆ

“18,670 บาทค่ะ” .....
................................................................
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ซ่อมตอนที่หายไปถึงปัจจุบัน [up 16.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 16-10-2011 10:11:20
Special Chapter*[Valentine’s day]—2 (end)

ค่าพู่กันสามารถแลกกับค่าอาหารผมได้ครึ่งปี ได้มาแค่ 7 ด้าม ตกอันละ 2,700 อยากร้องไห้...

‘น้องคะเวลาถือหรือเก็บ ให้เอาปลายพู่กันลงพื้นนะคะ ไม่อย่างงั้นแปรงมันจะเสีย’

….ป้าแกสำทับโดยไม่รอฟังเสียงทัดทานจากผม...[เลื่อนขั้นจากพี่เป็นป้าอย่างรวดเร็ว] เอาก็เอาวะ ให้แฟนตัวเองทั้งที.. ผมได้แต่นึกแบบนั้นอยู่ในใจ

พอไอ้สองคนที่เหลือรู้ราคาก็พากันตกใจหน้าเหวอโดยเฉพาะยัยบ้าที่หาว่าผมโง่...เคือง…

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 13 แล้ว!! ผมมองห่อของขวัญที่ผมลงมือห่อเองอย่าพึงพอใจ แต่จู่ ๆ ก็มีเบอร์ปริศนาโทรเข้าเครื่องผมซะก่อน...

“ฮัลโหล ๆ เธียรเหรอ ?”

“ครับ ?”

“ทะเลาะอะไรกับไอ้กัณฐ์รึเปล่า ?” ผมเดาได้ทันทีว่าสายสืบของผมโทรมารายงานเรื่องด่วน

“ไม่มีนี่ครับ” ผมตอบเบา ๆ พยายามวิเคราะห์ความหมางเมินที่กัณฐ์มีให้ผมตั้งแต่ต้นสัปดาห์.. แต่ก็นึกไม่ออกซักทีว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไร

“คือ 2-3 วันนี้มันน่ะบอกว่าไม่ต้องให้ใครไปรับ แถมยังมีผู้ชายอีกคนมาส่งถึงบ้าน”

“อะไรนะ!?” ในหัวผมเริ่มเดือดปุด สิ่งที่ผมคิดไว้เป็นจริงเหรอเนี่ย!!

“ไม่ต้องเป็นห่วง ข้ากันให้เต็มที่ ว่าแต่เอ็งเหอะไปทำอีท่าไหน ?”

“วันนี้ผมไปรับกัณฐ์นะ” ผมรีบบึ่งไปบ้านพี่ติวทันทีที่วางสาย รู้สึกโกรธนิด ๆ ที่กัณฐ์ไม่ยอมให้ผมไปรับไปส่งแต่กลับยอมให้คนอื่นพาไปส่งถึงบ้านซะงั้น ..แถมยังทำตัวหมางเมินกับผมทั้ง ๆ ที่จะถึงวันแห่งความรักอยู่แล้วเชียว!!

พอมาถึงผมก็เห็นกัณฐ์กำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ ไอหน้าจืดนั่น.. แถมหยอกล้อต่อซิกกันอย่างกะคู่รัก ...บ้านของพี่ติวของกัณฐ์เป็นกระจกทึบครับ ฝั่งที่มีแสงน้อยกว่าจะสามารถมองเห็นฝั่งที่มีแสงมากกว่าได้ และวันนี้คงเป็นโชคดีของผมที่พี่เขาไม่ได้ปิดผ้าม่านจึงทำให้ผมเห็นเหตุการณ์ข้างในได้อย่างชัดเจน

..ดูเหมือนจะยังเหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนจะหมดเวลาเรียน แต่ผมชักจะทนรอไม่ไหวแล้ว เมื่อเห็นไอ้จืดนั่นขยี้หัวกัณฐ์อย่างสนิทสนม อ๊ากกกกก~~!!

ก๊อก ๆ ..ผมเคาะประตูบ้านเบา ๆ กลัวว่าถ้าทุบแล้วจะเสียมารยาทกับเพื่อนๆ เขา สาวสวยคนหนึ่งเปิดประตูบ้านให้ผม ใบหน้าหวานนั้นส่งยิ้มให้ผมงง ๆ ก่อนจะทำท่านึกออก

“เพื่อนกัณฐ์มารับแล้วอ่ะ” เธอบอกคนในบ้าน แต่พอกัณฐ์เห็นผมปุ๊บก็ชะงัก

“ธ...เธียร” ครับ ผมเอง กัณฐ์กุลีกุจอเก็บของกระซิบกระซาบอะไรกับไอ้จืดนั่น ก่อนจะไหว้พี่ติวและบอกลาเพื่อน ๆ ออกจากบ้าน

“ทำไมมาเร็วจัง ?”

“เรียนเสร็จแล้วเหรอ ?”

“อื้อ..” ตลอดทางมีแต่ความอึดอัด กัณฐ์ลอบมองผมเป็นระยะ ๆ แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจสายตาของเขา ยิ่งคิดยิ่งแค้น ว้อยยยยย!! ไอ้หมอนั่นมันมีดีกว่าผมตรงไหนกัน!! โมโห!! โมโห!!

“...เมื่อวานใครไปส่ง ?” สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดก่อน กัณฐ์นิ่ง ก่อนจะบ่นงุบงิบเหมือนจะรู้ว่าใครเป็นคนส่งข่าวให้ผม

“เพื่อนน่ะ”

“เพื่อนหรืออะไรกันแน่ !?” ผมถามซ้ำ

“กัณฐ์บอกว่าเพื่อนก็เพื่อนสิ!” ผมตกใจนิดหน่อยที่เขาขึ้นเสียง ..น้อยใจอ่ะ

“วันอาทิตย์เธียรไปไหนมา ?” กัณฐ์ตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงอ่อนขึ้น เหมือนเริ่มจะรู้ว่าผมจิตตก

“ไป.. ไปเที่ยวกับเพื่อน” เกือบหลุดไปแล้วว่าไปซื้อของขวัญมา

“เพื่อนอะไร ? ทำไมถึงจูบกัน ?”

“...หึงเหรอ ?” น้ำเสียงหงุดหงิดของเขาทำให้ผมเริ่มยิ้มออก..ที่แท้เขาก็กำลังหึงผมกับยัยเอลหมาบ้านี่เอง โธ่เอ๊ย! ปล่อยให้ผมเป็นกังวลตั้งนาน

“ป..เปล่าซักหน่อย” แน่ะ! รีบหลบตาเลยนะ

“ฮึ ๆ..” ผมหัวเราะในลำคออย่างเหนือกว่า... และเดินเข้าหากัณฐ์ที่พยายามเดินถอยหลังเพื่อออกห่างจากผม สุดท้ายเขาก็ไปติดกับขอบเตียง และตกอยู่ในอ้อมแขนของผม

“..เดี๋ยว... ปล่อย..”

“แล้วไปทำอะไรที่นั่น ?” ผมถาม พยายามดันตัวกัณฐ์ให้นอนลงบนเตียง แต่เขาขืนตัวไว้พยายามผลักผมออกซะนี่

“ไป.. เอ่อ.. ไปดูหนัง”

“กับใคร !?”

“กับเต็ม..” เต็มคือชื่อของไอ้หน้าจืดนั่นครับ ผมรู้สึกจี๊ด ๆ ในเมื่อกัณฐ์ไม่เคยชวนผมไปดูหนังด้วยเลย เชอะ! แต่ก็ต้องเก็บ ๆ
อาการไว้เดี๋ยวอด ฮุ ๆ..

“แล้วทำไมไม่บอกเธียร”

“เธียรก็ไม่ได้บอกกัณฐ์” ง่ะ.. มีต่อปากต่อคำด้วย

“ทีหลังไปไหนต้องบอกนะ ..ไม่งั้นโกรธจริง ๆ ด้วย” ผมทำหน้างอน ๆ กอดกระชับคนในอ้อมแขน

“เอ่อ.. อืม..”

“ทำไมทำหน้าแบบนั้น ?” ผมถามเบา ๆ เมื่อเห็นเขาทำหน้าเหมือนลำบากใจ

“เปล่า”

“มีอะไรที่ยังไม่บอกเธียร หื้ม ?”

“ม.. ไม่มี” คำพูดตะกุกตะกักของเขายิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากแกล้ง..

“จะบอกหรือไม่บอก ?” ผมโถมตัวทับคนในอ้อมกอด รุกเร้าเขาด้วยจูบแสนหวาน

“ไม่...” กัณฐ์ครางในลำคอเบา ๆ พยายามเบี่ยงหนี แต่ผมรึจะยอม

“..บอกมาเร็ว” ผมเร่ง มือเริ่มล้วงเข้าไปในเสื้อนักเรียนของเขา

“เธียร!” กัณฐ์จับมือผมไว้ หน้าตาตกอกตกใจ ผมได้แต่มองเขางง ๆ..

“คือ.. ที่จริงแล้ว..”

“คือ...”

“ก..กัณฐ์.. คือกัณฐ์”

“กัณฐ์น้ำหนักเพิ่ม..” กว่าเขาจะเปิดปากพูดทำเอาผมลุ้นแทบตาย ปัดโธ่!!

“แล้วไง ?” ..หุ่นกำลังน่ากอดเลย

“กัณฐ์ก็เลยไปฟิตเนส”

“อาฮะ”

“ไปกับภีม..”

“....” ไอ้เพื่อนเวร ไม่บอกกูเลยนะ.. นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้กัณฐ์ดูเขิน ๆ เวลาเจอหน้าภีมละมั้ง

“อย่าโกรธภีมเลยนะ! กัณฐ์เป็นคนสั่งไม่ให้เขาบอกใครเองแหละ” อย่างกับเขาจะอ่านใจผมออก รีบแก้ต่างให้เพื่อนผมซะงั้น

“...อืม”

“แล้วลดไปกี่กิโล ?”

“..คือ...พอออกกำลังกายเสร็จแล้วก็หิวอ่ะ.. ก็เลยกินอีก”

“สรุปแล้วก็เลยไม่ลดเลย” กัณฐ์บอกอย่างอาย ๆ

“อืม.. ว่าแต่ขึ้นมากี่กิโลอ่ะ ?”

“...ส...” ดูเหมือนเขาไม่ค่อยอยากตอบ ขดตัวหนีผม แต่ผมรีบโอบเอวเข้ามาใกล้

“ห๊ะ ? อะไรนะ ?” ผมถามหยอก

“..ส..”

“ไม่ได้ยินอ่ะ สี่เหรอ ?” ผมกลั้นหัวเราะ จูบลงบนลำคอหอมเบา ๆ

“......ส.....สิบ” เขาทำหน้าเหมือนจะร้องให้ ตาแดงจมูกแดงไปหมด

“...” ผมโอบตัวเขาโยกเบา ๆ ... ไม่น่าเค้นมาก ๆ เลย ก็รู้อยู่ว่าเขาไม่อยากบอกผมยังจะบังคับให้เขาต้องพูดอีก

“..ก็...มันขึ้นมา..เยอะอ่ะ.. กัณฐ์กลัว...เธียรไม่ชอบ....ถ้ากัณฐ์อ้วน” กัณฐ์ก้มหน้าบอกเสียงเบามาก จนผมต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้

“ติ๊งต๊องจริง ๆ” ผมหัวเราะเบา ๆ

“กัณฐ์เครียดนะ!” เขาบอกน้ำตาคลอทุบไหล่ผมอั๊ก ๆ ผมโคตรเจ็บเลย แต่ต้องเก๊กไว้

“ถึงกัณฐ์จะอ้วนเป็นตุ่มเธียรก็ชอบน่า.. เจ้าเด็กซื่อบื้อ”

วันรุ่งขึ้นกัณฐ์ก็หายตัวไปตั้งแต่เช้า ผมก็ได้แต่อารมณ์เสียไม่น่าปล่อยไปเลยเมื่อคืน.. ผมอุตส่าห์วางแผนไว้แล้วว่าจะ’นอนคุย’กันตอนเช้าก่อนจะเอาดอกไม้และของขวัญมาเซอร์ไพรส์ให้กัณฐ์ แต่ต้องมีอันยกเลิกไป พอโทรหาก็บอกว่าเดี๋ยวเข้าไปเพราะลืมของไว้ที่บ้านพี่ติว

“มานั่งเหี่ยวทำอะไรตรงนี้ น้ำท่าก็ไม่อาบ” เสียงแหลมทักทายพร้อมเจ้าตัวที่โถมกายใส่จนผมหน้าคะมำ

“อะไรเนี่ย!” ผมตวาดอย่างหัวเสีย อะไร ๆ ที่คิดว่าจะเป็นไปได้ด้วยดีต้องมีอันผิดที่ผิดทางไปหมด แล้วยังถูกยัยบ้านี่มากวนใจอีก
ผมมองลุงชัย พ่อบ้านที่ปล่อยให้ยัยนี่เข้ามาโดยไม่บอกอย่างคาดโทษ

“ไอมีของขวัญวาเลนไทน์มาให้ยูด้วย” ยัยนั่นบอกแล้วชูถุงกระดาษใบใหญ่ พร้อมเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ.. น่าหมั่นไส้ว่ะ

“อะไรอ่ะ ?” ผมถาม มองอย่างไม่ชอบมาพากล

“ช็อกโกแลต ส่วนกล่องนี้เอาให้แฟนยูด้วยนะ” เธอบอกชี้กล่องเล็ก อีกล่องหนึ่งในถุง

“เอ๊ะ อย่าเพิ่งแกะสิ เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์นะ!!” ผมปัดมือของยัยบ้านี่ออก พยายามสังเกตดูว่ามีอาวุธอันตรายติดมาด้วยรึเปล่า

“ตุกติกอะไรใช่มั๊ย ฮะ!!”

“โน๊วววว~!!” ยัยเอลบอกพร้อมทำหน้าไม่รู้สุดฤทธิ์ โคตรเว่อร์เลยเหอะ! ผมพยายามสลัดยัยบ้าที่จู่ ๆ ก็กระโดดล็อกคอผมแล้วหัวเราะร่า..สภาพของผมตอนนี้ดูแย่สุด ๆ.. นี่ถ้าผมเผลอทำร้ายผู้หญิงขึ้นมาจะเป็นอะไรมั๊ยเนี่ย

“เอ่อ.. กัณฐ์รอในห้องนะ” ผมผงะเมื่อเห็นกัณฐ์ทำหน้าปุเลี่ยนอยู่หน้าห้อง แล้วเดินจากไป..อ๊าก!! ทำไมเขาต้องมาเห็นผมอยู่ในสภาพทุเรศ ๆ ด้วยวะเนี่ย!!

“แฟนยูเหรอ ?” ผมพยักหน้าตอบ

“ฮีอีสคิ้วท์!!”

“กลับไปได้แล้ว!” ผมรีบไล่ยัยบ้านี่ไปทันทีเมื่อเธอออกอาการมีประกายในดวงตาวิ้ง ๆ ทำท่าจะไล่ตามคนรักของผมเข้าไปถึงในห้องนอน..

“เฮ้~!! คัมเฮีย ไอว้อนทูมี้ทยู~~!!” กัณฐ์หันมาทำหน้างง ๆ เมื่อเห็นยัยตัวเล็กนี่กวักมือเรียกหยอย ๆ แต่ผมโบกมือไล่ให้ออกห่างยัยบ้านี่ไว้

“เฮ้~!! คิ้วท์ตี้บอย~~!!” เอลตะโกนเสียงแหลมอีกครั้งเมื่อเห็นกัณฐ์เดินเกาหัวไปอย่างงงงัน ถ้าให้ผมทายผมจะทายว่าเขากำลังงงว่ายัยนี่เป็นบ้าอะไร..

“ยัยกระเทยจิตแตก! ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว!” ผมกระซิบลอดไรฟัน

“Tw_t!! ใครกระเทย!!”

“โอ๊ย ๆ ๆ!! ขอโทษ ๆ” ผมรีบขอโทษขอโพยเมื่อยัยบ้านี่เอาเล็บที่ตะไบเป็นเหลี่ยมจิกข่วนกับแขนผมจนบางแห่งมีเลือดซิบ

“แล้วยูจะต้องเสียใจที่ว่าไอ เชอะ!” พอจิกผมจนพอใจแล้ว เธอก็ค้อนใส่แล้วสะบัดก้นเดินจากไป ผมรีบตามกัณฐ์เข้าไปในห้องนอน เห็นเขาก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ข้างโต๊ะอ่านหนังสือ

“ทำอะไรครับ ?” ผมกระซิบถาม กอดเขาไว้เบา ๆ จากด้านหลัง

“.. ผู้หญิงคนนั้นเหมาะกับเธียรนะ”

“อย่าพูดอะไรแบบนั้นอีกนะ! สาบานเลยว่าเธียรไม่เคยคิดอะไรกับยัยนั่น” ผมบอกอย่างหงุดหงิด

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ..บอกว่าเหมาะจะเป็นเพื่อนกันดี” ผมหน้าเหวอ

..เดี๋ยวนี้มีเล่นลิ้นด้วยอ่ะ กัณฐ์หันมายิ้มให้ผม ก่อนจะยื่นกระดาษม้วนหนึ่งให้อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

“อ..เอ่อ... ของขวัญ...” ผมยิ้มรับม้วนกระดาษนั้นมาเปิดออก มันเป็นภาพของผู้ชายคนหนึ่งกำลังเล่นเปียโน... ภาพสีน้ำดูด่าง ๆ
แต่ผมสามารถเดาได้ทันทีว่าคนในภาพคือใคร...ผมรู้สึกเต็มตื้อในหัวใจจนน้ำตาไหล..ไม่เคยที่ผมจะรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อนของที่ผมพยายามหามาให้ไม่สามารถเทียบได้กับภาพเพียงภาพเดียวของเขาเลย... เทียบกันไม่ได้เลย

“ร้องให้ทำไม.. อย่าร้องนะ.. กัณฐ์วาดไม่สวย กัณฐ์ขอโทษ...” เขาบอกอย่างตกใจ รีบเอื้อมมือปาดน้ำตาให้ผม

ผมกอดเขาไว้แน่น.. ผมโชคดีจริง ๆ ที่ได้เจอเขา ตั้งแต่เจอคนมากหน้าหลายตา ไม่เคยมีใครที่ทำให้ผมประทับใจได้เท่าเขา...
กัณฐ์เป็นเพียงคนเดียวที่ผมรัก..และอยากเป็นคู่ชีวิตของเขาตราบจนวันสุดท้ายของลมหายใจ “ตัวจริงหล่อกว่าตั้งเยอะ” ผมยิ้มบอกเขา

“หลงตัวเอง..” เขาแอบพึมพำ

“ว่าไงนะ ? อยากจูบเหรอ ?” ผมทำปากจู๋ เขาหัวเราะและไล่ให้ผมไปอาบน้ำ --“

“อะไรน่ะ ?” กัณฐ์ถามมองถุงกระดาษใบใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเตียง


“ของขวัญจากยัยหมาบ้านั่นไง” ผมบอกก่อนเดินเข้าห้องน้ำ

“อ้อ ..แล้วทำไมเรียกเขาแบบนั้นล่ะ!” กัณฐ์ต่อว่าไล่หลังผม แต่ผมทำเป็นไม่สนใจ พอออกมาอีกทีก็เจอกัณฐ์นั่งหน้าแดงอยู่บนเตียง

“เป็นไร ?” ผมถามงง ๆ กัณฐ์รีบหลบตาผม ...หรือเขาเห็นหุ่นผมแล้วอายหว่า

“คือ.. เอ่อ.. ไม่มีอะไร” กัณฐ์กุลีกุจอซุกถุงกระดาษไว้ใต้เตียง แต่ผมรีบเข้าไปดึงกลับ พอผมเห็นของข้างในแล้วก็อดอายแทนยัยโรคจิตนั่นไม่ได้.. ซื้ออะไรมาให้แฟนผมวะเนี่ย!!

“เอ่อ..” ผมไม่รู้จะอธิบายว่ายังไง เลยเดินหนีไปเช็ดศีรษะหน้ากระจก

“ดาร์กช็อกโกแลต กลิ่นขม ๆ น่ากินจัง” เสียงงึมงำของเขาทำให้ผมหันไปมองอีกครั้ง กัณฐ์ทำจมูกฟุดฟิด ดูช็อคโกแลตหลากหลายสีสันในกล่อง

“เธียรว่ากัณฐ์อย่าเพิ่งดีกว่า” ผมเตือน

“ทำไมล่ะ ?”

“ยัยบ้านั่นอาจจะใส่อะไรมาด้วย”

“ฮะ ๆ.. เธียรนี่คิดมากแฮะ” กัณฐ์หัวเราะเบา ๆ ก่อนหยิบเข้าปาก

“ข้างในมันเป็นน้ำอ่ะ  ..ขมมาก” กัณฐ์บอก ทำหน้าพิลึก

“เหล้าเหรอ ?” ผมถาม

“อืม..” เขาพยักหน้าเบา ๆ แล้วยิ้มให้ผม

“กัณฐ์เมาป่าว ?”

“ไม่นี่.. อร่อยดีออก”

“ชิ้นเดียวก็พอแล้ว” ผมบอก

“งกอ่ะ” กัณฐ์ทำหน้ามุ่ย แต่ก็หยิบช็อคโกแลตขึ้นมาแทะเล่น

“อันนี้ไม่มีเหล้านะ กินป่าว ?” ปากเขาถามอย่างงั้นแต่เจ้าตัวก็งับช็อคโกแลตอีกชิ้นเข้าไปทั้งก้อน... ไม่อ้วนได้ยังไงล่ะทีนี้
ผมเดินเข้าไปจับคอเขา แล้วโน้มตัวลงจูบ ลิ้นควานหาช็อคโกแลตก้อนกลมในโพรงปากหวาน แล้วฉกขโมยมากินซะเอง..
มีรสขมและกลิ่นของเหล้าผสมอยู่ด้วยแฮะ..

“อืม..” กัณฐ์ปรือตามองผมหวานเยิ้ม

“เมาแน่ ๆ เลย ใช่มั๊ยเนี่ย” ผมยิ้มถาม ลูบศีรษะเขาเบา ๆ ..ถ้าปกติเขาต้องหลบตาผมแล้วสิเนี่ย

“คิก ๆ”

“ไม่เมาซักหน่อย” …ผมสรุปในใจตัวเองทันทีว่าเขาเมา ผมโน้มตัวลงประกบปากเขาซ้ำ บดเบียดริมฝีปากนิ่มของเขา ..ผิวเย็น ๆ
ของผมเมื่อสัมผัสกับผิวร้อน ๆ ของเขาก็ยิ่งรู้สึกดี

“อยากลองของขวัญจากเพื่อนเธียรก่อนมั้ย ?” ผมกระซิบถาม หวังจะให้กัณฐ์อาย แต่คำตอบของเขาทำให้ผมอายยิ่งกว่า

“ไม่เอาอ่ะ ...เอาเธียรดีกว่า” เขายิ้มหวาน ปรือตามองผม.. โคตรยั่วเลย..

ถ้าเมาแล้วรู้ว่าเป็นแบบนี้คงจะต้องมอมเหล้าบ่อย ๆ ซะแล้ว...

“อือ... อ๊ะ..” กัณฐ์ครางเบา ๆ เมื่อผมสอดแทรกกายเข้าสู่ร่างกายเขา หน้าท้องเขาเกร็งจนเห็นกล้ามเนื้อ.. แบบเก่าผมก็ชอบนะเพราะว่านุ่มมือดี แต่แบบนี้โคตรเซ็กซี่เลยอ่ะ

“โอย.. เธียร.. ฮึก..ร..แรงอีก..” ผมเร่งกระแทกกายแรงขึ้น ขบกรามแน่นเมื่อคนในอ้อมแขนกัดไหล่ของผมเต็มแรง พอเมาแล้วยังซาดิสม์ขึ้นอีกด้วย... ผมครางเบา ๆ ในลำคอ เมื่อกัณฐ์เกร็งตัว.. เขากำลังจะเสร็จ ผมจึงรีบเร่งมือเพื่อจะถึงฝั่งพร้อมเขา
...แปลกแฮะ.. ทั้ง ๆ ที่เสร็จไปแล้วแต่น้องชายผมมันยังไม่ยอมลงเลย กัณฐ์เลยเสร็จผมไปอีกรอบ... และอีกรอบ พอจะขอต่ออีก กัณฐ์ก็รีบกลิ้งหนีผมแทบตกเตียง ดีนะที่ผมคว้าเอวไว้ทัน..และแน่นอน ว่าเสร็จผม ฮุ ๆ

ร่างอ่อนปวกเปียกของกัณฐ์ก็ดิ้นรนขัดขืนผมไม่ไหว จนเขาหมดสติไปคาอกนั่นแหละผมถึงได้รู้ตัวว่ามันมากเกินไปหน่อย ผมจึงนึกขึ้นได้ว่าคงเป็นเพราะยัยบ้านั่นใส่อะไรลงไปในช็อคโกแลตแน่ ๆ ผมถึงได้คึกคักขนาดนี้.. แต่กัณฐ์ไม่เห็นคึกคักกับผมน่ะสิ..
กัณฐ์ตื่นมาพร้อมผมตอนเย็น ...เขา ‘ฟ้าเหลือง’ เลยครับ เหอ ๆ ๆ  ผมหยิบของขวัญที่เตรียมมาให้เขา

“ชอบป่าว ?” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ พอเขาแกะแล้วก็เงียบไปซะงั้น

“กัณฐ์..ชอบมากเลย” กัณฐ์ยิ้ม

“เธียรก็ชอบมากเหมือนกัน”

..เขาคงจะรู้ว่าผมหมายถึงอะไรใบหน้าของเขาจึงเริ่มแดง

..แต่จะให้ต่อกันอีกรอบเขาคงไม่ไหวแล้วละมั้ง..

--------------------

จบเลี้ยวววว~~~~~!!!

ขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามตอนพิเศษคั่นเวลาค่ะ - -" (2 ตัวนี้มันคู่หลักจริงป่าวเนี่ย)

ปล. อยากจะบอกว่าพู่กันอันละหมื่นมีจริง ๆ นะคะ -_-"

ปล2. มอบความรักให้ทุกคนที่อ่านค่ะ ^O^  :3123:

หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ซ่อมตอนที่หายไปถึงปัจจุบัน [up 16.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-10-2011 16:55:04
 :L2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ซ่อมตอนที่หายไปถึงปัจจุบัน [up 16.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 16-10-2011 17:52:58
- 26 -
[Black Part]

“โอย...” ผมครางเบา ๆ ปวดหัวชะมัด... ตามตัวก็ปวดไปหมด ไม่สบายใช่มั๊ยเนี่ย..

“เฮ้ย.. ตื่นยังวะ ?” ผมพยักหน้าทั้งที่ยังไม่ได้ลืมตา..

“ตื่นแล้วก็ลืมตาสิเว้ย! ขี้เกียจอีก” มันโยกหัวผมเบา ๆ ..คำพูดของมันทำให้ผมจำใจลืมตาขึ้นมองไปรอบ ๆ ตัว ...ก็พบกับห้องสีขาว.. ไม่คุ้นตา …โรงพยาบาล ??

“อะไรเนี่ย...” เสียงแหบแห้งของผมถามมันเบา ๆ มีให้น้ำเกลือด้วย ท่าทางจะอาการหนัก

“นอนไปเว้ย ไข้ตั้ง 40 องศา” มันดันไหล่ผมให้นอนลงเหมือนเดิม มันเห็นผมมองหน้า ก็ช่วยชี้แจงแถลงไข.. รู้ใจมากมาย

“มึงชักตาเหลือก.. กูโคตรตกใจเลย” ผมไม่รู้ว่ามันทำท่าทางเกินจริงรึเปล่า แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้กับคำว่าชักตาเหลือกของมัน..

“น่าหัวเราะตรงไหน ? มึงมีไข้ด้วย หมอให้นอนดูอาการไปก่อน”

“เฮ้ย! แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย.....” ผมถามอย่างตกใจ.. เงินที่มีอยู่ตอนนี้ก็ไม่มาก แต่ห้องที่ผมพักอยู่นี่ท่าทางจะแพงเอาเรื่องเหมือนกัน

“ไอ้หมอนั่นออกให้แล้ว” ผมเดาได้ทันทีเลยว่าหมอนั่นหมายถึงใคร..

“.. ทำไมไม่ปฏิเสธไป” ผมเม้มปากรู้สึกไม่ดีเมื่อต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาอีก

“ช่วงนั้นมันชุลมุน เดี๋ยวกูค่อยจ่ายคืนให้ ...มึงพักผ่อนมาก ๆ เหอะ...” ท้ายประโยคเสียงมันแผ่วเบาจนผมรู้สึกผิดสังเกต

“เป็นอะไร ?” ผมถามมันเบา ๆ... ท่าทางของมันเปลี่ยนไปจนผมรู้สึกได้

“เปล่า...” มันยิ้มฝืน ๆ ให้ผม

“โกหกไม่เนียนเลย” ผมบอกยิ้ม ๆ

“..กูขอโทษ” จู่ ๆ มันก็โพล่งขอโทษขึ้นมาซะงั้น ผมได้แต่มองมันงง ๆ

“..เพราะกูเองแหละ ที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้”

“มึงพูดอะไร ?” ผมถามมันอย่างไม่เข้าใจ

“....มึงติดยาว่ะ” มันบอก ทำหน้าจริงจัง

“...ไม่ตลกนะไทม์” ผมขมวดคิ้วมุ่น.. มันจะมาอำผมอะไรตอนนี้วะเนี่ย

“...กูพูดจริง...” มันสบตาผมนิ่ง... จนผมรู้สึกกลัว...

“ไม่จริงหน่า กูจะติดยาได้ไง...ในเมื่อ....” แล้วความคิดของผมก็หยุดชะงัก...

“..ยาที่กูให้มึงนั่นแหละ” ไอ้ไทม์บอกเบา ๆ ผมนั่งนิ่ง.. นิ่งจนมันคงจะเริ่มรู้สึกอึดอัด

“กูขอโทษนะเว้ย.. ไม่คิดว่า..”

“อย่าโทษตัวเองเลย ...กูขอ...อยู่คนเดียว” ผมบอกตัดมันเบา ๆ สบตามันนิดหน่อย..... ผมรู้อยู่แล้ว ว่าสาเหตุที่แท้จริง... เป็นเพราะตัวผมเอง...

“...เออ แล้วกูจะมาใหม่” ผมทำได้เพียงยิ้มฝืน ๆ ให้มันส่งท้าย... ก่อนจะนั่งย้อนไปถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มันประดังประเดเข้าหาผมทีเดียวจนผมตั้งรับแทบไม่ไหว...ผมนั่งเหม่อไม่กี่นาทีต่อมาก็มีพี่พยาบาลกับลุงหมอเข้ามาเช็คอาการผม

“อยู่ในช่วงเตรียมสอบตรงด้วยสินะคะ มาป่วยเอาช่วงแบบนี้ก็แย่เลย” ผมพยักหน้าให้พี่พยาบาลเบา ๆ

“ผมอยากจะถามเรื่อง...ยา”

“หือ ?” ลุงหมอส่งเสียงงง ๆ ขณะที่กำลังง่วนอยู่กับเครื่องมือทางการแพทย์

“ผมติดยา จริงเหรอฮะ ?”

“อ้อ.. เรียกว่าติดยาก็ไม่ถูกนะ มันเป็นภาวะพึ่งพายามากกว่า.. ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ทานยาตามที่หมอสั่งอีกซักพักก็หยุดยาได้เอง” เขายิ้ม รีบอธิบายไม่ให้ผมเข้าใจผิด

“พึ่งพา ??” ชะ.. ไอ้ไทม์พูดซะผมใจเสียเลย...

“ช่าย.. สังเกตรึเปล่าว่าเธอไม่มีอาการอยากยา ..เพราะเธอรับประทานเบนโซไดอะซีปีนเป็นประจำ พอหยุดทานแบบปุ๊บปั๊บมันก็เลยมีอาการถอนยา” ลุงหมอขยายความให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น..

“เอ้อ... อธิบายยังไงดีละจ๊ะ เอาเป็นว่าเธออย่าเครียดดีกว่า ทำใจให้สบาย”

“....”

“ไม่ต้องกังวลหรอกจ๊ะ สภาพร่างกายของเธอตอนนี้กำลังอ่อนเพลีย พักผ่อนให้มาก ๆ ดูแลตัวเองก่อนดีกว่า”ผมยิ้มรับพี่พยาบาล ก่อนจะหลับอีกครั้งด้วยความเพลีย
 
เสียงอะไร ?... มีคนกำลังคุยกันในห้องของผม

“พี่เขาหลับอยู่ เดี๋ยวพอพี่เค้าตื่นแล้วเธียรค่อยโทรหานะ”  เสียงใคร ?.. เธียร ?? ไม่รู้จัก..

“ก็อยู่โรงพยาบาลแล้วไง กัณฐ์อย่าดื้อสิครับ” กัณฐ์ ? กลับมากันแล้วเหรอ ?

“ครับ ถ้ามีอะไรก็โทรเข้าเบอร์นั้นเลย” ผมปรับสายตามองเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลัยคุยโทรศัพท์เบา ๆ อยู่มุมห้อง

“ครับ... ครับ” เขาตัดสายโทรศัพท์และถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอหันมาเจอสายตาของผมก็ชะงัก...

ผู้ชายคนนี้.. ผมคุ้นหน้าแฮะ.. คุ้นมาก ๆ.. ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน  อ้อ.. ผมจำได้แล้ว.. เขาเคยมาบ้านผมเมื่อประมาณ 2- 3 เดือนก่อน

“เอ่อ.. ผมทำให้พี่ตื่นรึเปล่า ?” เขาถามอย่างเกรงใจ ผมยิ้มน้อย ๆ และส่ายหน้าปฏิเสธ

“สวัสดีครับ ผมชื่อเธียร เป็น..เพื่อนกับกัณฐ์” ผมยิ้มและพยักหน้า รู้สึกใจชื้นขึ้นที่มีคนรู้จักกับน้องมาอยู่ใกล้ ๆ

“เธอ..รู้ได้ยังไง ?” ผมถามเบา ๆ ด้วยเสียงแหบแห้ง..

“อ้อ พี่ชายผมเป็นคนพามาที่นี่ครับ.. พี่เขาบอกว่าบังเอิญเจอพี่ก็เลยพามาส่งโรงพยาบาล” ใคร ? อย่าบอกนะว่าพี่ของเด็กคนนี้...

“นี่มือถือไว้ใช้นะครับ เห็นทางโน้นบอกว่าระดมโทรไปที่บ้านกันจ้าละหวั่นก็ไม่มีคนรับ” ผมรู้สึกขอบคุณเขามาก รีบใช้มือถือที่เขาให้โทรไปหาแม่ ..แล้วก็ถูกบ่นชุดใหญ่ แต่เสียงทักทายจากคนที่อยู่ที่โน่นก็ทำให้ผมยิ้มได้..

“เอ่อ.. พี่แบล็ค ผมมีเรื่องอยากจะถาม” เขาเอ่ยขึ้นหลังจากผมวางสายโทรศัพท์ แววตาของเขามีแต่ความลังเล สงสัย แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรออกมาก็มีคนเคาะประตู
 
ก๊อก ๆ
 
“เข้ามาทำไม!” ผมตวาดเสียงแห้งไอ้คนที่เข้ามาใหม่ ถึงแม้จะรู้ว่าห้องพิเศษที่ผมกำลังใช้อยู่นี่เป็นเงินของมัน แต่ก็ไม่คุ้มค่ากับบางอย่างที่ผมเสียไป

“ดุจัง” เสียงทุ้มของเธียรพึมพำเบา ๆ แต่ผมได้ยิน

“ฉันมีสิทธิ์”

“ทำไมพี่ธีร์พูดงั้นอ่ะ” ..พี่ธีร์งั้นเหรอ ?.. เขาชื่อธีร์...

“พี่ขอโทษ” น้ำเสียงและแววตาที่เขามองเด็กอีกคนที่อยู่ในห้องช่างนุ่มนวลและสุภาพ แตกต่างจากที่ผมได้รับเหลือเกิน ...

“ไม่ยกโทษอ่ะ พี่ธีร์ต้องสัญญามาก่อนว่าจะดูแลพี่แบล็คดี ๆ”

“เอ้ย..” ลากผมเข้าไปเกี่ยวด้วยทำไมเนี๊ยะ!

“..พี่ไม่รับปาก” เขาปรายตามามองผมนิด ๆ ..ชะ! เป็นกิริยาที่ไม่สุภาพเอาซะเลย

“พี่แบล็คมีอะไรก็บอกผมได้นะครับ” เธียรไม่สนใจการต่อปากต่อคำของพี่ชาย ..พูดเข้าข้างผมซะด้วย

“เธอกลับบ้านไปได้แล้ว” ฝ่ามือหนานั้นลูบศีรษะทุยของเธียรเบา ๆ สายตาของเขา... สายตาแบบนั้น... ผมสาบานได้ว่าผมไม่เคยมองน้องชายตัวเองตาหวานเยิ้มขนาดนั้น...

“งั้นผมไปนะครับ หวัดดีครับพี่แบล็ค พี่ธีร์”
 
หลังจากเด็กคนนั้นออกจากห้อง ทั้งผมและเขาก็เงียบกริบ เขานั่งเปิดแลปทอปพิมพ์อะไรก็ไม่รู้ก๊อกแก๊ก ๆ ..ผมจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากไล่เขาออกไปก็กระไรอยู่ หรือว่าจะเดินออกไปเองดีฟะ... ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวไปชักตาเหลือกนอนตายอยู่ข้างนอก ขอให้ผมหายดีกว่านี้ก่อนเถอะ...

เวลาผมจะขยับแต่ละทีนี่รู้สึกอัดอึดไปหมด.. จึงได้แต่กึ่งนั่งกึ่งนอนมองดูโทรทัศน์ที่เปิดอยู่ตรงหน้า แม้มันจะไม่ได้เข้าไปในสมองผมเลยก็ตาม.. จู่ ๆ ผมก็นึกถึงสายตาของเขาที่ใช้มองเด็กที่ชื่อเธียร..

...ผิดปกติ...
ใช้สายตาแบบนั้นกับน้องชายเขาเรียกว่าผิดปกติแน่ ๆ ถ้าตัดเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ออกแน่นอนว่าผมจะนึกว่าเขามอง ‘คนรัก’

“ฮึ”

“ฮะ ๆ” ผมหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ดวงตาคม ๆ นั้นจึงจ้องมายังผมอย่างสงสัย

“หลงรักน้องชายตัวเองงั้นเหรอ ?” ผมถามพร้อมเหยียดยิ้ม.. เป็นรอยยิ้มเหยียดหยามคนอื่นที่ผมไม่เคยคิดจะใช้มาก่อน

“น่าสมเพชชะมัด”

“เธอ!” เขาเริ่มจะขึ้นเสียง

“อ๊ะ ๆ เดี๋ยวผมฟ้องน้องเธียรนะครับ” ผมเริ่มขู่เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้

“ถ้าเธอคิดเอาเขามาขู่ ฉันขอเตือนว่าเธอทำไม่สำเร็จ” เขากอดอกยิ้มเหยียด มองผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสุด ๆ

“เขาไม่เคยสนใจฉัน.. เขาแคร์น้องชายเธอยิ่งกว่าอะไร”

“น้องชายผมมาเกี่ยวอะไร” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ

“เธอโง่จริง ๆ หรือแกล้งโง่กันแน่” เขาปรายตาเหยียดยิ้ม.. และหัวเราะในลำคอนิด ๆ นี่เป็นบุคลิกที่ผมเกลียดที่สุดของเขา.. เห็นแล้วอยากลุกขึ้นมากระโดดถีบขาคู่ชะมัด

“...”

“น้องชายเธอ เป็นแฟนกับน้องชายฉัน”

“ม...ไม่จริง” ผมปฏิเสธ

“จริง!” เขาขึ้นเสียงสวนกลับทันที

“คุณโกหก! กัณฐ์เล่นเกมส์ทุกวันแล้ว....”

“ฮึ...เล่นเกมส์ที่บ้านน้องชายฉันนี่ไง” อะไรกันวะเนี่ย!!

“คุณอย่ามาใส่ร้ายน้องชายผมแบบนี้!”

“ฉันไม่ได้ใส่ร้าย” เขากล่าวย้ำ

“..ไม่มีทาง ผมไม่เชื่อคุณ”
 
ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูขัดจังหวะทำให้การปะทะคารมระหว่างผมและเขาเป็นอันต้องหยุดลงชั่วคราว

“พี่ขอวัดไข้หน่อยนะคะ” พี่พยาบาลกุลีกุจอเข้ามาวัดไข้ให้ผม

“อืม.. ไม่ลดลงเลย ทานยารึยังคะ ?” ผมพยักหน้าเบา ๆ

“งั้นเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้นะ”

“เอ่อ..” จู่ ๆ ผมก็รู้สึกอายขึ้นมาซะงั้น .. ผมขอเช็ดตัวเองดีกว่าครับพี่..

“เดี๋ยวผมเช็ดให้เอง” เสียงทุ้มของอีกคนบอกตัด

“ค่ะ ญาติเช็ดให้นะคะ” พี่พยาบาลยิ้มรับ และเดินออกไปจากห้อง ผมได้แต่ทำหน้างง ๆ พอเห็นเขายืนหน้านิ่งแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมาซะงั้น

“อย่ามายุ่งกับผม! ถ้าคุณแตะผมอีกผมจะบอกกัณฐ์” เมื่อฟ้องเธียรไม่ได้ผล ก็ต้องฟ้องแฟนเธียรละวะ! เฮ้ย!! ผมไม่ได้ยอมรับว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันหรอกนะ!

“บอกว่าอะไรดีล่ะ ? บอกว่ามีอะไรกับฉันแล้วงั้นเหรอ ?” เขาเหยียดยิ้มแบบนี้อีกแล้ว ..ผมเกลียดจริง ๆ ให้ตาย!

“ผมไม่เคยพูด!! โธ่เว้ย!!” ผมตวาดอย่างหัวเสีย แต่พอขยับช่วงล่างนิดนึงก็ปวดแปล็บจนต้องนิ่วหน้า

“โอเค ๆ มาเช็ดตัวกันก่อนดีกว่า” ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าผมเจ็บ จึงเป็นฝ่ายขอสงบศึก

“เอ้ย! ไม่ต้อง!!” ผมรีบปฏิเสธ ปัดมือของเขาออก

“อย่าดื้อได้มั๊ยฮะ! ฉันเหนื่อยกับเธอมาทั้งวันแล้วนะ” มือหนากุมศีรษะอย่างหัวเสีย

“ไม่ได้ขอ” ผมสวนกลับ

“แต่น้องชายฉันขอ”

“คุณไม่จำเป็นต้องทำ”

“...เอาเป็นว่าหยุดต่อปากต่อคำแล้วนอนนิ่ง ๆ ซะ” สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้ผมอีกจนได้...แต่ไม่มีทางที่เขาจะได้แตะต้องผมหรอก สาบาน!!

“หยุดงี่เง่าได้แล้ว! อย่าทำให้ฉันโมโหบ่อย ๆ” เขาบอกเสียงดุ แต่ขอโทษเถอะ ผมไม่กลัว!! จนสุดท้ายเขาเป็นฝ่ายยอมแพ้ กลับไปนั่งทำงานของเขาหน้าแลปทอปต่อไป...

ส่วนผมเดินกระฟัดกระเฟียดลากสังขารตัวเองเข้าห้องน้ำเพื่อเช็ดตัว ฮือ ๆ.. แล้วสิ่งที่พบทำให้ผมรู้สึกเซ็งเป็ดมากคือก้นผมยังมีเลือดไหลอยู่.. คอยดูนะ.. ถ้าผมตาย ผมจะมาหลอกไอ้คนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้เป็นคนแรกเลย!!
 
“...อือ..” ผมครางเบา ๆ รู้สึกดีจัง.. มีอะไรเย็น ๆ มาถูกตัวผม ผมเบียดตัวเข้าหาความเย็นชื้นนั้น ผมลืมตาขึ้นเห็นเงาพร่ามัวของคนที่กำลังเช็ดตัวให้ผมอยู่

ใคร ?... ไหนเขาบอกว่าจะไม่เช็ดตัวให้ผมแล้วไง.. ขี้โกหกชะมัด และผมก็ปิดตาลงอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย...
 
พอตื่นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองตื่นเสียสายโด่ง และมีใครอีกคนนั่งอยู่ในห้อง

“..ตื่นแล้วเหรอ ?” ไอ้หมวยนั่นฉีกยิ้มให้ผม ผมได้แต่ทำหน้าปุเลี่ยน.. ไอ้บ้านั่นคงจะไปทำงานแล้วละมั้ง

“อือ..” ผมตอบเบา ๆ

“เมื่อคืนเรานอนแทบไม่หลับเลย พอหาเจอว่าเธออยู่ที่ไหนก็รีบมาตั้งแต่เช้า” เขายิ้มบอก.. ไอ้หมอนี่มันเหมือนวิญญาณไม่มีผิด นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป.. แถมโผล่มาแต่ละครั้งทำเอาผมงงเต๊กทุกครั้งเลยด้วย

“ตัวยังรุม ๆ อยู่เลย กินข้าวก่อนนะ” เขาจับหน้าผากผม พูดเองเสร็จสรรพ พร้อมยกข้าวต้มทำท่าจะป้อน.. แต่ผมรีบฉกมาตักกินเอง ..รู้สึกสบายใจกว่า..

ตลอดเวลาไอ้หมอนี่ก็เอาแต่จ้องหน้าผมแล้วก็ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่.. บ้าป่าววะ ? แล้วผมก็เกิดสงสัย..

“นายเช็ดตัวให้งั้นเหรอ ?” ผมถาม ..ก็ตอนนั้นมันรู้สึกดีมากเลยนี่นา

“เอ๊ะ.. อืม” ไอ้หมวยรับ แล้วจู่ ๆ ก็เกิดหน้าแดงขึ้นมา.. อะไรวะ ไอ้บ้านี่...

“ขอบคุณ” ผมยิ้มกับตัวเอง ..โง่จริง ๆ หลงคิดว่าเป็นไอ้หมอนั่นได้ไงกัน

“กินผลไม้มั๊ย ?” ผมพยักหน้า.. หมอนั่นก็หยิบแอ๊ปเปิ้ลในตะกร้ามาปอก.. เขารู้ด้วยว่าผมชอบกินแอ๊ปเปิ้ลเขียว..

“ว่าแต่.. นายเอ่อ.. อายุเท่าไหร่ ?” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ..

“..21 ทำไม ?” เขายิ้มเลิกคิ้วงง ๆ ..อายุมากกว่าผม 3 ปีเลยนี่หว่า.. หน้าเด็กชะมัด

“แล้วไม่ไปเรียนรึไง ?”

“ปิดเทอมแล้ว เอ้า” เขาบอกและยื่นแอ๊ปเปิ้ลน้องกระต่ายให้ผม.. เป็นผู้ชายที่โคตรโนเนะเลย ให้ตายเถอะ!

จะว่าไปไอ้หมอนี่ก็คุยสนุกดี .. เป็นเพื่อนคุยแก้เหงาผมได้ ผมโทรไปส่งข่าวให้ไอ้เจ.. มันเป็นคนเดียวที่ผมจำเบอร์ได้เพราะเบอร์มันท่องง่ายสุด ๆ พอตกเย็นก็มีเพื่อน ๆ มาเยี่ยมผม.. 1 ในนั้นคือ ‘เธอ’

ไอ้หมวยเห็นเพื่อน ๆ ผมมาเยี่ยมหลายคนเลยขอตัวกลับไปก่อน พวกเขาก็มาส่งข่าวคราวเรื่องการรับสมัครสอบของที่อื่น ๆ และเรื่องการเรียน เพื่อนในกลุ่มผมช่วยกันจดอย่างละเอียดและย่อมาให้ผมอ่านฆ่าเวลาเล่น ... ผมขาดเรียนพิเศษติด ๆ กันหลายวันแล้ว ..ไม่รู้ว่ากลับไปเรียนแล้วจะทันเพื่อนอีกไหม พอคนอื่น ๆ ทยอยกันกลับ ก็เหลือเพียงแค่ผมกับเธอในห้อง...

“ทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ ?” แคนดี้เอ่ยถามประโยคแรก หลังจากไม่ได้คุยกันเกือบสัปดาห์ ...เธอมีน้ำตาคลอด้วย..... ทำไมเธอถึงมีท่าทางห่วงใยผมมากมายขนาดนั้น ? ....แล้วผมควรตอบว่ายังไงดี ?..

“แคนดี้รักแบล็คนะ ...รัก..”

“พอเถอะ..” ผมตัดบท.. ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกแย่...

“ทำไมแบล็คถึงไม่รักแคนดี้เลย!” เธอตวาดถามเสียงเครือ ..ผมมองเธอราวกับเป็นคนแปลกหน้า... ก่อนจะตอบ..

“ผมไม่ได้.. ไม่รัก...” …สรรพนามที่ผมใช้ถูกเปลี่ยนเพื่อให้ฟังดูห่างเหินกันยิ่งขึ้น...

“แล้ววันนั้นมันหมายความว่ายังไง แบล็คมีอะไรกับคนอื่น.. ใช่มั๊ย ?” เธอถามเสียงสั่น และปล่อยให้น้ำตาไหล.. ...อีกแล้ว.... ผมทำให้เธอร้องไห้อีกแล้ว.....

“ทำไมไม่ปฏิเสธล่ะ ?” เธอถามพร้อมเขย่าตัวผม ..ให้ตายเถอะ! ผมเจ็บนะเนี่ย!

“แบล็คใจร้าย ทำไมต้องโทรมาหาแคนดี้ตอนกำลังมีความสุขอยู่ด้วย อยากให้แคนดี้ตายทั้งเป็นใช่มั๊ย ?” จบคำเธอก็วิ่งออกไปจากห้อง..

“...หมายความว่าไง ?” ผมรีบลงจากเตียง ลากเสาน้ำเกลือตามเธอไป

“แคนดี้! ผมไม่เคยทำแบบนั้นเลยนะ” ผมพยายามตะโกนบอก แต่เหมือนว่าเธอจะไม่ต้องการฟังคำแก้ตัวจากผม  ผมไล่ตามเธอไม่ทัน ไม่อยากบอกเลยว่าเจ็บก้น ...โธ่เว้ย!!
 
ตกดึกเขาก็มานั่งเฝ้าผมอีก.. ไอ้หมอนี่ก็ประหลาด.. ต้องทำตามที่น้องตัวเองสั่งทุกอย่างเลยรึไงนะ...

“นายโทรศัพท์ตอนที่เรามีอะไรกันรึเปล่า” ผมเป็นฝ่ายเอ่ยถามเขาอย่างเสียมิได้..

“..ถามทำไม ?” เขาถามกลับ ขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่หน้าจอเล็ก ๆ นั่น

“..มีรึเปล่า ?” ผมถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่สบอารมณ์ คนอะไร โคตรจะไร้มารยาทเลย...

“ไม่นี่”

“เฮ้อ...” พอได้ยินคำตอบ ผมก็ได้แต่ถอนหายใจเบื่อ ๆ..  โทรศัพท์ของผมหายไปตั้งนานแล้วนี่นา แคนดี้อาจจะเบลอก็ได้.. ผมต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง...

“นายจำเรื่องคืนนั้นได้รึเปล่า ?” จู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นมา

“คืนไหน ?” ผมถามงง ๆ

“บนรถ” ความเงียบของผม ทำให้เขาสรุปเอาเอง

“โอเค.. แล้วจำได้มั๊ยว่าตัวเองถูกลักพาตัวไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง”

“จำได้ นายรู้ได้ยังไง ?” ผมถามกลับอีกครั้ง.. ไอ้หมอนี่รู้อะไรที่ผมไม่รู้...

“แล้วต่อจากนั้นล่ะ ?” เขาถามต่อ

“ก็.. อยู่กับผู้ชายคนนึง..”

“อือฮึ” เขาทำเสียงตอบรับในลำคอ

“จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้”

“...งั้นเหรอ ?”

“นายรู้อะไรมากกว่านั้นรึไง ?” ผมถาม... มั่นใจว่าเขารู้มากกว่าผม..

“เธออยากรู้รึไง ?” เขาหันมามองผมเป็นครั้งแรกของวัน.. และผมพยักหน้าให้..

“ฉันเห็นเธอถูกอุ้มเข้าไปที่นั่น..” เขาเริ่มอธิบาย

“..ก็เลยตามไป”

“แล้วรู้มั๊ยว่าฉันเจอกับอะไร ?” จะไปรู้รึไง..

“เด็กผู้ชาย 2 คนกำลังเมคเลิฟกัน ให้ตายสิ” เขาบอกแล้วหัวเราะเบา ๆ

“1 ในนั้นคือเธอนั่นแหละ”

“แล้วผมกับเขา..” ผมถามขัด ทำหน้าปุเลี่ยน..

“เรียบร้อย” ผมมีอะไรกับไอ้หมวยจริง ๆ เหรอเนี่ยยยยย ...พระเจ้า...!!

ผมตีหน้านิ่งทั้ง ๆ ที่ในใจมันร้องโหยหวน.. นี่ผมไม่ได้มีอะไรกับไอ้หมอนี่คนเดียว... แต่ดันมีอะไรกับไอ้หมวยด้วยจริงเหรอเนี่ยยย .. ผมกำลังจะกลายเป็นเกย์จริง ๆ ใช่ม้ายยยยยยยย~~~~~

“ฉันเป็นคนลากเธอออกมาจากที่นั่นเองแหละ …ในสภาพไม่ค่อยดีซะด้วย”

“งั้นเหรอ...” ผมตอบรับอย่างซังกะตาย

“เธออยากรู้ไปทำไม ?”

“เปล่า”

“แล้วยังมีไข้อีกมั้ย ?”

“เมื่อไหร่ผมจะกลับบ้านได้ ?” เปลี่ยนเรื่องดีกว่า... ตอนนี้จิตใจของผมรู้สึกหดหู่...

“2-3 วันมั้ง เห็นเขาบอกว่าต้องจัดยาให้เธอด้วย”

“....”

“ฉันว่าเธอน่าจะไปคุยกับเพื่อนคนนั้นของเธอหน่อย” ...เพื่อนของผมที่เขารู้จัก..ก็มีแต่...

“..ไทม์น่ะเหรอ ?”

“เขาดูเครียดมากตอนพาเธอมาโรงพยาบาล” …ในสมองของผมขณะนี้มันมีปัญหาต่าง ๆ มากมายมารุมอัดในเวลาเดียวกันจนไม่มีเวลาจะคิดถึงจิตใจของมันเลย... ความจริงเมื่อวานนี้ผมไม่น่าไล่มันไปแบบนั้น..... ผมควรจะเริ่มแก้อะไรในชีวิตก่อนดีเนี่ย!! โธ่เว้ยยยยย~~!!!
 
“เป็นอะไร ? นอนไม่หลับเหรอ ?”

“อืม..” คงเพราะปริมาณยาที่จำเป็นต้องลดลง แต่ปัญหาที่ผมเจอมันมากขึ้น ...จึงทำให้ผมไม่สามารถนอนหลับลงได้เลย....

“จะให้ฉันเล่านิทานให้ฟังมั๊ย ?” เขาถามอย่างอารมณ์ดี.. แต่ผมไม่ดีด้วย..

“ประสาท..” ผมด่าเขาเบา ๆ แล้วลุกขึ้นจากเตียง

“จะไปไหน ?”

“เยี่ยว” ผมตอบปัด.. น่าเบื่อชะมัด.. ต้องมีไอ้เสาน้ำเกลือนี่ตามไปด้วยทุกที่ พอออกจากก็เจอไอ้คนตัวใหญ่ฮัมเพลงสบายใจ.. วันนี้มันอารมณ์ดีมาจากไหนเนี่ย ?

“เธอจะเล่นเกมส์มั้ย ?”

“เล่นไม่เป็น” ผมตอบปัด

“มานี่ นั่งตรงนี้!” เขาชวนตบโซฟาข้าง ๆ ... ตอนนั้นผมไม่รู้นึกยังไงเดินไปนั่งข้าง ๆ เขา ....แล้วเล่นเกมส์ Bubble Bobble …แพ้ตลอดเลยว่ะ ...เซ็ง

“หน้าตาไม่น่าโง่นะ..” สุดท้ายก็โดนไอ้หมอนี่ตอกมาอีกดอกหนึ่ง.. เบื่อว่ะ!!

ผมนั่งเล่นเกมส์ในแลปทอปเขาจนถึงตี 3 .. ส่วนเขาน็อคนอนหลับบนโซฟาไปตั้งแต่ตี 1 แล้ว ในวันนั้นผมฝัน… ฝันเห็นงู...
...ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นลางดีรึเปล่า ในฝันนั้น…
"ผมกระโดดเหยียบ และย่ำ ๆ ขยำขยี้หัวมันจนสมองเละ ตายคาตีน....."

.......ทู บี คอนตินิ๊ววว...

หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ซ่อมตอนที่หายไปถึงปัจจุบัน(หมดล่ะ) [up 16.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 17-10-2011 04:18:31
ตามมาเม้น  ชอบเรื่องนี้ รอน้องแบล็คต่อไป
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ซ่อมตอนที่หายไปถึงปัจจุบัน(หมดล่ะ) [up 16.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: →Yakuza★ ที่ 17-10-2011 14:32:46
อ่านทันแล้ว เย้!!! สนุกมากเลยจ้าาา

ตอนแรกคิดว่าเธียร์มันจะแอบคิดอะไรกับธีร์ แต่พออ่านตอนพิเศษแล้วคิดว่าคงไม่แล้วละ

เหลือแต่แบล็ก น่าสงสารจริงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 ความจริงเล็ก ๆ ที่ได้รู้ [up 17.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 17-10-2011 23:38:43
- 27 -

วันนี้ผมถอดสายน้ำเกลือแล้ว รู้สึกดีใจเป็นที่สุด~! ผมอยากไปหาไอ้ไทม์ใจจะขาด จะโทรเรียกให้มันมาหาก็ดันจำเบอร์ไม่ได้ โว๊ย~~!!

“แลปทอปของใครเหรอ ?” ไอ้หมวยถาม .. 

มันมานั่งมองผมตั้งแต่ผมยังไม่ตื่น ..เฮ่อ... บางทีผมก็อึดอัดและอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมชีวิตผมมันถึงอีรุงตุงนังแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ผมแสดงเจตนาชัดเจนว่าไม่ได้ชอบ และไม่อยากจะได้แฟนที่เป็นผู้ชายซักเท่าไหร่ ...หรือผมควรจะทำตัวน่ารังเกียจให้เขารับไม่ได้แล้วตีห่างออกไปเอง ?.. แต่ให้ตายเถอะ ผมเป็นสุภาพบุรุษออกปานนี้จะให้ทำตัวยังไงล่ะ ? หรอทำตัวสาวแตกดีวะ ? เห้ย! มันอาจเข้าทางเขาก็ได้...

“ของใครไม่รู้ สงสัยตั้งลืมไว้มั้ง” ผมบอก.. ในใจกระหวัดนึกถึงไอ้ผู้ชายอีกคนนึงซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาที่วางแหมะอยู่ ...หมอนั่นบ้ารึไง เครื่องก็ไม่ได้เล็กมากมายยังตั้งลืมไว้ได้อีก..

“…แล้วผู้หญิงคนที่มาเมื่อวาน..เอ่อ..” ..ผมเลิกคิ้วมองไอ้หมวย.. สงสัยอะไรมากมายเนี่ย

“เพื่อนน่ะ” ผมตอบเบา ๆ ..แล้วเขาก็ทำหน้าเหมือนโล่งอก..

พอเห็นท่าทางแบบนั้นของเขาแล้วผมก็รู้สึกอยากจะกลับไปคืนดีกับแคนดี้อีกครั้ง แต่กลับมาคิดดี ๆ แล้ว... บางทีนี่อาจเป็นหนทางที่ดีสำหรับเธอก็ได้... คบกับผู้ชายอย่างผมคงไม่สามารถทำให้เธอมีความสุขได้หรอก...ผมเคยได้ยินว่า ชายเอาชายคือยอดชาย แล้วผู้ชายที่ถูกเอาก็ต้องกลายเป็นเศษชาย เหอะ ๆ.. ตอนนี้ผมคงกลายเป็นแค่เศษชายแล้วละมั้ง ? ก็เหมือนเมื่อวานละครับ เขาชวนผมคุยไปเรื่อย ๆ.. อยู่เป็นเพื่อนแก้เซ็ง

“นันเจอผมตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ ?”

“เอ.. ก็เกือบ ๆ ปีมั้ง ไม่แน่ใจ” ไอ้หมวยพยายามทำท่านึก.. ถ้าเขาเป็นผู้หญิงผมคงบอกว่าน่ารัก... แต่ติดตรงที่เขาไม่ใช่ผู้หญิงนี่น่ะสิ..

“เจอที่ร้านไอ้ไทม์น่ะเหรอ ?” ผมถามอีกครั้ง

“อื้อ” ไอ้หมวยอมยิ้มพยักหน้า ...เฮ้อ..

ผมเบนหน้าหนีไปทางหน้าต่าง.. จู่ ๆ ผมก็นึกอะไรออก ทำไมผมถึงโง่นั่งแกร่วอยู่ในโรงพยาบาลนี่ทุกวันวะ!!

“นัน.. ช่วยพาผมไปหาไอ้ไทม์ทีดิ”

“เอ๊ะ?... อืม..” เขาทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ตอบรับผมยิ้ม ๆ

ใจผมโห่ร้องอย่างลิงโลด~~ ทำไมนั่งโง่นอนโง่อยู่ในโรงพยาบาลตั้งนานวะ! ไอ้หมอนี่มันก็มีประโยชน์เหมือนกันแฮะ ผมแต่งตัวและเดินเนียนออกจากโรงพยาบาลไปพร้อมกับนัน ฮุ ๆ ๆ.. มีการ์ดของเขายืนรออยู่หน้าประตูห้องด้วยผมไม่เคยรู้มาก่อน... ชักสงสัยแล้วแฮะว่าบ้านหมอนี่ทำธุรกิจอะไร ทำไมถึงคุ้มกันซะหนาแน่นขนาดนี้..

“ต้องมีคนคอยตามตลอดแบบนี้เลยเหรอ ?” ผมกระซิบถามเบา ๆ เหลือบตามองผู้ชายตัวโตที่เดินตามหลังต้อย ๆ

“อืม..” ไอ้หมวยตอบรับราวกับโดนยิงคำถามนี้มาเป็นรอบที่ร้อยแล้ว

“บ้านนายนี่หวงลูกเนอะ”

“ฮึ..” เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ

ร้านของไอ้ไทม์ยังปิดอยู่ ผมเกาหัวแกรก ๆ.. แล้วจะเข้าไปหามันยังไงละเนี่ย ท้ายที่สุดผมต้องทำใจกลับไปก่อน จะให้รอจนถึงเวลาเปิดร้านก็คงไม่ไหว..

“เฮ่ย.. ทางนี้มันไม่ใช่แล้วนี่” ผมแย้งเบา ๆ เมื่อคนขับรถพาผมไปทางอื่น

“ไปนั่งเล่นที่บ้านเราก่อนก็ได้” ไอ้หมวยยิ้มบาง ๆ แต่ผมเริ่มระแวง..  ไม่น่าขอให้มันพามาเลย.. เอาแล้วไงกรู..

“จอดรถตรงนี้แหละ ผมจะลง!” ผมรีบโวยวายเมื่อเห็นท่าไม่ดี

“ไปบ้านเรามีอะไรน่ากลัวรึไง ?” นันหัวเราะยิ้ม ๆ กับท่าทางของผม

“แล้วทำไมไม่กลับโรงพยาบาล ?” ผมถามกลับ.. และตะโกนตอบในใจว่า ไอ้ที่น่ากลัวน่ะ คือคนที่นั่นอยู่ข้าง ๆ ผมตอนนี้ยังไงเล่า!!

“เหอะน่า” ผมทำได้เพียงปิดปากนิ่งเงียบ มองดูเส้นทางวกวนจนเริ่มจะสับสน ผมถูกพามายังบ้านในป่าที่อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปมากโข..

“ลงมาสิ” ผมเดินตัวลีบตามเขาต้อย ๆ  บ้านหลังนี้อยู่ลึกกว่าที่ผมคาดไว้ แถมมีน้ำตกใกล้ ๆ อากาศเย็นสบาย

“นี่บ้านนายเหรอ ?” ผมถาม.. มันผิดความคาดหมายของผมไปมากโข

“เปล่า.. แต่เป็นที่ ๆ เราชอบมาที่สุดน่ะ” เขาบอกพร้อมยิ้ม.. นี่เป็นครั้งแรกละมั้งที่ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของเขาเป็น ‘ยิ้ม’ จริง ๆ..

ผมเดินชมนกชมไม้แถว ๆ นั้นไปเรื่อย ๆ ส่วนไอ้นันหายวับเข้าไปในบ้าน บอกตามตรงว่าผมไม่กล้าเหยียบเข้าไปข้างใน เพราะกลัวไอ้หมวยนั่นจู่โจม เหอ ๆ ๆ บรรยากาศนอกบ้านก็ไม่ได้เลวร้ายซักเท่าไหร่ด้วย.. อีกไม่นานก็คงได้กลับ... ผมคิดถึงบ้านจัง....

“เอ่อ.. ผมขอเข้าไปได้มั๊ย ?” ผมถามการ์ดที่ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่หน้าบ้านเบา ๆ ก็แบบ.. คนมันอยากเข้าห้องน้ำอ่ะ ทั้ง ๆ ที่คิดไว้แล้วเชียวว่าจะไม่เหยียบเข้าบ้าน แต่ตอนนี้ผมทนไม่ไหวแล้วววว~!! เขาหลีกทางให้ผมเดินเข้าไปในตัวบ้าน

..ข้างในอากาศก็เย็นแฮะ.. ถ้าปลูกบ้านแถว ๆ นี้ได้ คงไม่ต้องใช้แอร์เลย เมื่อทำภารกิจเสร็จ ผมก็เดินสำรวจทั่วบ้าน เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ประกอบด้วยไม้ ...ผมรู้สึกชอบตู้ไม้ของเขาเป็นพิเศษ อยากได้ตู้นี้ไปไว้ในห้องจัง.. ดีไซน์สวยชะมัด.. ...หือ ??..

กล้องวีดีโอ ?.. ผมถือวิสาสะเปิดกล้องดู.... มีแค่ไฟล์เดียวเองแฮะ... แล้วผมเปิดไฟล์ดูภาพบนหน้าจอเคลื่อนไหว..  อะไรวะ ??

ขา...

มือ ....

แขน.....

ใบหน้านี่....คุ้น ๆ แฮะ.. เหมือนเคยเห็นที่ไหน...

เฮ้ย!! เดี๋ยวก่อน!! ..นี่....นี่มัน..... นี่มันตัวผมเองนี่หว่า!!!

ผมกดเร่งจนภาพเคลื่อนไหวเร็วจนบิดเบือน มุมภาพของกล้องเปลี่ยนไป.. มันถูกวางอยู่มุมสูงของห้องและมองเห็นร่างของคนทั้งคู่ที่อยู่ภายในห้อง

ผมเห็นผู้ชาย 2 คนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนเตียง.. อะไร....มันมีอะไรแปลก ๆ...ผมกลอวีดีโอกลับไปอีกครั้ง...ดูเหมือน ...ผู้ชายคนนึงกำลังโทรศัพท์.. ถ้าผมดูไม่พลาดโทรศัพท์นั่น... มันของผม..ร่างกายของผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงค่อย ๆ ถูกปลดเครื่องแต่งกายออก ตัวผมในนั้นครางเรียกชื่อเธอออกมา.. และพยายามขยับหนี

“ไม่!.. ไม่ได้.. อืออ..” ผมได้ยินเสียงตัวเองไม่ชัดนักแต่น่าจะประมาณนี้ ผมมองดูตัวเองพยายามสะบัดคนที่ขึ้นคล่อมออก แล้วจู่ ๆ ไอ้นันก็หยิบขวดยาขึ้นมาให้ผมสูดหายใจเข้าไป.. ราวกับตัวของผมในนั้นหมดแรงดื้อ ๆ ยอมให้ไอ้หมวยจับต้องตามต้องการ
ผมมองภาพที่ถูกบันทึกด้วยหัวใจเต้นระรัว...

ไม่นะ.. ไม่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ม่ายยยยยยยยย~~~~~~~~!!!

ภาพร่างกายของผมเกร็งกระตุก ร้องครางออกมาเบา ๆ ...อย่าบอกนะว่า..ผม.....ผม..... พระเจ้า ......แล้วเขาก็ขึ้นคล่อมร่างของผมในสภาพเปลือยเปล่า

ผมแทบทนดูไม่ไหว อยากจะขว้างกล้องทิ้งแต่จู่ ๆ ก็มีเสียงปังเหมือนประตูถูกกระแทกเปิดขึ้น ผมหันไปมองทางประตูด้วยความตกใจ.. แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น... สิ่งที่เกิดขึ้นคือในวีดีโอนี่ต่างหาก..

“แกเข้ามาได้ยังไง!” เสียงไอ้นันตวาดถาม

“เธอทำอะไรเขา ?” เสียงนี่มัน... พี่ธีร์นี่... ใช่.. เขาบอกว่าเป็นคนพาผมออกมาจากโรงแรมในวันนั้น ร่างสูงใหญ่ของไอ้พี่ธีร์ปรากฎขึ้นในจอภาพ.. ดูเหมือนเขาจะเหลือบมองร่างเปลือยเปล่าของผม แล้วทำไมผมต้องรู้สึกอายเอาป่านนี้ด้วยวะ!!  ร่างหนานั่นตรงรี่ไปหยิบขวดยาที่หล่นอยู่ข้างเตียงขึ้นมาเปิดดู

“เธอมอมยาเขา..”

“เอาคืนมา แล้วออกไปซะ!!”

“ฉันจะบอกจันทิรา”

“รู้จักเรางั้นเหรอ ?”

“ยิ่งกว่ารู้จักอีก นันสิตา.. รับรองว่าเรื่องนี้ถึงหูพี่เธอแน่”

“หยุดนะ!” ร่างของนันตรงรี่ไปยื้อแย่งขวดยาในมือของไอ้พี่ธีร์ จนน้ำในขวดนั้นกระเด็นสาดใส่หน้าเขา

“บ้าเอ๊ย!” พี่ธีร์สบถเบา ๆ ก่อนจะถีบท้องของนันจนหงายหลังแล้วหยิบเสื้อผ้าที่เกลื่อนพื้นพร้อมกับยกตัวผมพาดบ่าวิ่งออกมาจากห้องนั้น

ไอ้บ้าเอ๊ย!! เขาวิ่งออกไปทั้ง ๆ ที่ตัวผมไม่มีอะไรปิดซักอย่างได้ยังไงกัน!! อายนะโว๊ยยยยย~~!!! เรื่องราวทั้งหลายมันเริ่มปะติดปะต่อข้างในหัวของผม

ไหนไอ้บ้านั่นบอกว่าเรียบร้อยแล้วไงวะ! ไอ้นันก็บอกว่าผมมีอะไรกับมัน ไหงในนี้มันไม่เห็นจะมีอะไรเลยนอกจาก.... โว๊ยย!!!
แล้วเรื่องมือถือบ้านั่นอีก... แคนดี้อาจจะไม่เลิกกับผมถ้ารู้เรื่องนี้...แต่... เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับไอ้ตัวใหญ่นั่นล่ะ.. โอ๊ยยยย!! อะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย~!!!

“แอบรื้อของตอนเจ้าของบ้านไม่อยู่นี่.. ไม่ดีนะ” เสียงกระซิบข้างใบหูทำเอาผมขนลุกซู่ พร้อม ๆ กับแขนเรียวของเขาที่ตวัดโอบรอบตัวผม ผมสะดุ้งพยายามดึงแขนที่เกาะออก

“ไอ้บ้า! ทำอะไรเนี่ย!!” ผมร้องตื่น ๆ เผลอทำกล้องวีดีโอตกลงพื้น..

“เห็นหมดแล้วสิเนี่ย.. แย่จัง” เหมือนไอ้หมวยมันจะบ่นกับตัวเองซะมากกว่า

“ปล่อยนะเว้ย!”

“.. ไม่ต้องห่วงนะ คราวนี้ไม่มีใครมาขัดคออีกแน่ ๆ”

ผมตะโกนโหวกเหวกโวยวายจนไอ้การ์ดหน้าบ้านคิดว่าเจ้านายเขาโดนทำร้ายเปิดประตูเข้ามา พอเห็นสภาพผมกำลังถูกทึ้งเสื้อผ้า เขาก็มีท่าทีเลิ่กลัก ไม่รู้จะเข้ามาช่วยผมหรือเจ้านายของเขาก่อนดี

“ช่วยผมด้วยยยยยยย~~~~!!” ผมร้องขอความช่วยเหลือบิดตัวหนีมือไอ้หมวย ยังโชคดีที่วันนี้ผมมีเรี่ยวแรงพอที่จะต่อกรกับเขาได้..  ทั้ง ๆ ที่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนั้นแล้วแท้ ๆ ก็ยังไม่รู้จักจำ ..ผมไม่น่าโง่ออกมากับเขาเลย ..อยู่ดี ๆ ไม่ชอบต้องหาเรื่องใส่ตัวได้ทุกทีสิน่า!!

“ออกไป..” ไอ้หมวยจิกตาไล่ลูกน้องของเขาออกจากบ้าน ผมอาศัยจังหวะนั้นพุ่งเข้าใส่
 
โป๊ก!!

“โอ๊ยยยย!!” สิ้นเสียงไอ้หมวยร้อง การ์ดร่างใหญ่ก็รีบวิ่งเข้ามาประคองเจ้านายของเขาทันที

ผมนั่งลงกุมศีรษะแน่น.. ไม่คิดว่ามันจะเจ็บแบบนี้ ..สาเหตุเพราะผมตัดสินใจใช้หัวโหม่งหน้าไอ้หมวย แต่ดันเล็งพลาดไปโดนคางแหลม ๆ ของเขาน่ะสิ เจ็บจนน้ำตาเล็ด!!

“เราเจ็บนะ!!” ไอ้หมวยวีนเสียงสะบัด มือกุมปลายคางมองมาที่ผมอย่างเคืองๆ

“แล้วนายจะทำบ้าอะไรล่ะ!” ผมบอกเสียงเขียว สบตามองอย่างเคืองไม่แพ้กัน

“ไม่รู้ล่ะ! ยังไงวันนี้เธอต้องเป็นของเรา!!” เสียงทุ้มนั้นพูดอย่างเอาแต่ใจจนผมคิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนเดียวกันกับคนที่คุยกับผมเมื่อวาน ..หรือว่าแท้จริงแล้วตัวตนของเขาคือชายหนุ่มแสนเอาแต่ใจที่ผมเจอในวันนั้น....

“บ้ารึไง!! ฉันเป็นผู้ชาย!! นายก็เป็นผู้ชาย!! แบบนี้มันผิดธรรมชาติ!!” ผมตะโกนบอกอย่างหัวเสีย รู้สึกปวดหัวแปล๊บ ๆ อยากจะเข้าไปต่อยหน้าเขาให้ได้สติซักทีว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ถูกต้อง!!

“เราอยากได้อะไร ..ก็ต้องได้!! ชัชจับเขาไว้!” การ์ดตัวใหญ่ที่ชื่อชัชมีท่าทีลังเล แต่ผมไม่รอให้เขาตัดสินใจเสร็จ รีบปล่อยตัวสุดฝีเท้า หมายจะวิ่งไปยังประตูบ้าน ...แต่ความซวยยังมาเคาะประตูบ้านไม่หยุดเมื่อผมกะพลาด(อีกครั้ง)เท้าไปเตะขอบโต๊ะไม้พอดี...

“โอ๊ยยยยยยยยยยย!!” ความเจ็บปวดตรงศีรษะมลายหายไปทันทีเมื่อได้แผลใหม่ ผมกระโดดเหยง ๆ ยกเท้าขึ้นมากุมแน่น

.....ถุย! ชีวิต!!

“เป็นอะไรมากรึเปล่าแบล็ค! เราดูแผลให้!” ไอ้หมวยรีบเข้ามาหาผม แต่ผมรู้สึกผวายังไงไม่รู้

“หยุด! ไม่ต้อง ๆ” ผมรีบโบกมือปฏิเสธ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมฟังกันเลยซักนิด ลากผมไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ ผมได้แต่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่ ..เอาแต่ใจชะมัด!

“เล็บแตกเลยนี่นา.. หวังว่าคงไม่โดนเสี้ยนไม้ตำนะ” ไอ้หมวยบ่นพึมพำคนเดียว มองเท้าของผม แถมยังจับสำรวจ...

แปลก ๆ แฮะ.. ถึงเป็นเพื่อนก็คงไม่ดูให้ถึงขนาดนี้ละมั้ง... แผลแค่นี้เอง...ผมรู้สึกบอกไม่ถูก.. จู่ ๆ เขาก็จู่โจม จู่ ๆ เขาก็ดูเป็นห่วงเป็นใย.. ปรับตัวไม่ทันยังไงก็ไม่รู้

“มองอะไร! ไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาสิ!” ไอ้หมวยหันไปว่าลูกน้องเขาที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่... อย่าว่าแต่เขาเลย.. แม้แต่ตัวผมเองก็ยังปรับตัวไม่ทันอารมณ์ของคุณหนูคนนี้

“ไปล้างเลือดออกก่อนดีกว่า” เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะช่วยประคองผม แต่ผมรีบปัดมือเขาออก.. พอเห็นเขาทำหน้าเสียแล้วผมก็รู้สึกบอกไม่ถูก

“ผมเดินเองได้” ผมบอกเบา ๆ เดินกะเผลก ๆ ไปในห้องน้ำ เหลือบตามองคนที่เดินคอตกอยู่ข้าง ๆ...แปลกชะมัด.. ไอ้เรื่องที่ไม่เห็นจะต้องเสียใจกลับมาเสียใจ.. แต่ไอ้เรื่องที่สมควรจะเสียใจกลับไม่เสียใจ

“... ขอโทษ” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องเป็นฝ่ายขอโทษเขาด้วยทั้ง ๆ ที่เขาควรเป็นฝ่ายขอโทษผมที่ล่วงเกินตั้งหลายครั้งหลายครามากกว่า.. แต่ทำยังไงได้ ผมรู้สึกผิดเวลาเห็นเขาทำหน้าแบบนั้น

“ไม่เป็นไร” เขาพึมพำตอบเบา ๆ ..ผิวแก้มขาว ๆ ที่บ่งบอกเชื้อสายของเขาเป็นสีชมพูระเรื่อ ...ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจผมทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเขาก็น่ารักเหมือนกันนะ ...

ม่ายยยยยยยยยย!! ผมจะคิดแบบนั้นไม่ด้ายยยยยยยยย~~~!!

ผมมองสภาพเล็บนิ้วก้อยที่ฉีกขาด ส่วนอีกนิ้วนางเป็นรอยแตกเห็นเป็นฝ้าสีขาว.. ทำไมกันนะ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเฟอะฟะ ซุ่มซ่ามกลับมาตายในวันนี้ซะได้ ถ้าเกิดเขียนกราฟชีวิตขึ้นมาล่ะก็ นี่คงเป็นช่วงที่ดวงของผมตกต่ำถึงขั้นติดลบดิ่งทะลุขอบกระดาษเลยทีเดียว...หนังสือก็ไม่ได้เรียนทั้ง ๆ ที่ใกล้จะสอบเข้าไปทุกที เข้าโรงพยาบาลอีก ถูกไอ้หมอนี่ไล่ปล้ำถึง 2 ครั้ง แล้วยังไอ้พี่ธีร์นั่น.....

“อึ๋ย” ผมทำหน้าแหย สูดปากเบา ๆ ยาที่เขาใส่ให้มันแสบน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ

“เจ็บเหรอ ?” ไอ้นันเงยหน้าขึ้นถาม

“แสบน่ะ เบา ๆ หน่อยดิ” ผมบอกเสียงค่อย ลอบสังเกตใบหน้าเขาไปด้วย.. ไอ้หมอนี่น่ารักจริง ๆ ด้วยสิ ทำไมไม่เป็นผู้หญิงนะ.. โอ๊ย! ผมกำลังคิดอะไรเนี่ย!! ผมโบกมือไล่ความคิดประหลาดนั้นออกไปจากสมอง.. คงเพราะว่างจากการอ่านหนังสือทำให้ผมเริ่มคิดฟุ้งซ่าน

“ค..คุณจันครับ ใจเย็น ๆ ก่อน....” เสียงของนายชัชออกจากปากให้ผมได้ยินเป็นครั้งแรกพร้อมกับร่างเล็ก ๆ ของหญิงสาวหน้าหมวย รูปร่างอวบอัดในชุดสูทสีครีมเรียบร้อย ทำหน้าถมึงทึงเดินเข้ามา

“ไอ้นัน!! แกพาผู้ชายมาทำอะไรในบ้านนี้ห๊ะ!! ชั้นบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามพาผู้ชายมาที่นี่!!” เสียงตวาดแหลมทำให้ผมสะดุ้งสุดตัว.. แต่คงไม่ตกใจเท่าไอ้หมวยที่จู่ ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้ามาดึงหูเขาลากออกห่างไปจากผม

“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย!! เจ๊!! เจ็บนะ!” ไอ้หมวยร้องโอดครวญ ศีรษะเอียงไปตามแรงดึงของสาวร่างเล็กคนนั้น

“ชั้นบอกแกแล้วใช่มั้ยห๊ะว่าห้ามคบกับผู้ชาย!! ถ้าป๊ารู้ขึ้นมาจะเป็นยังไงห๊ะ!!” เธอตวาดเสียงแหลม บิดใบหูของน้องชายจนแดงเถือก เสียงร้องโวยวายของเขาทำให้ผมรู้สึกว่าควรจะทำอะไรซักอย่างให้สถานการณ์มันดีขึ้น

“อ..เอ่อ.. ใจเย็นก่อนครับ...” ผมเอ่ยปาก อยากจะช่วยไกล่เกลี่ยให้เขาแต่ถูกเจ๊ของไอ้หมวยจิกสายตาเหมือนจะเตือนเป็นนัย ๆ ว่า ’เธอไม่เกี่ยว!!’

“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ?” เสียงทุ้มกับสำเนียงคุ้นหูของคนที่ผมไม่อยากนึกถึงดังสอดขึ้นมา ผมหันไปมองเขาตาค้าง... ผู้ชายตัวใหญ่คนนั้น... หน้าตาแบบนั้นมัน... ไอ้พี่ธีร์ ...มาอยู่นี่ได้ยังไง!!

“ท..ทำไม ?” ผมมองเขาอย่างตกใจ

“ฉันน่าจะถามเธอมากกว่านะ” เขาปรายตามองมาที่ผม.. ไอ้ท่าทีแบบนี้นั่นแหละ ที่ผมเกลียดนัก

“เด็กคนนี้เหรอคะ ธีร์” เจ๊หมวยปิดปากตา(พยายามจะ)โต ทำทีเหมือนตกใจมากมาย.. ให้ตายเถอะบ้านนี้นี่เค้าเข้าคอร์สแอ๊บแบ๊วกันทั้งบ้านเลยใช่มั๊ย ?

“เอ่อ.. ครับ..” พี่ธีร์ตอบรับ แล้วส่งยิ้มหวานให้เธอ

“พี่ชื่อจันนะคะ น้องแบล็คสินะคะ..” เจ๊จันพูดพลางจับตัวไอ้หมวยที่พยายามแกะนิ้วมือของเธอออกจากใบหู.. พอหลุดปุ๊บเธอก็ล็อคคอน้องชายเอาไว้ทัน ก่อนที่เขาจะวิ่งหนี ...ผมมองพี่น้องคู่นี้ด้วยความหวาดหวั่น... บ้านนี้เขาเลี้ยงกันมายังไงเนี่ย...

“พี่ต้องขอโทษแทนเด็กคนนี้ด้วยจริง ๆ ที่ทำให้น้องรู้สึกไม่ดี น้องคงอึดอัดมากใช่มั๊ยคะ ที่มีคนติดตาม ถ่ายรูปเหมือนสโต๊กเกอร์..” เจ๊จันพูดราวกับเห็นใจผมเสียเต็มประดา แต่ดวงตาหยี ๆ นั้นกลับให้ความรู้สึกต่างจากที่พูด..บางทีผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้

“เจ๊!!” ไอ้หมวยเรียกพี่สาวตัวเองตื่น ๆ

“เอ๊ะ?..”

“เดี๋ยวพี่จะไปจัดการเรื่องนักเลงที่ส่งไปด้วย” พี่จันยิ้มหวานให้ผม มือเล็ก ๆ นั้นปิดปากน้องตัวเองแน่น

“นักเลง ?” ผมทวนคำงง ๆ สบตามองไอ้หมวย แต่เขากลับเบือนหน้าหนีไป.. ราวกับเด็กถูกจับได้ว่าทำผิด...

“เอ๋ ? ..ก็นักเลงที่นันส่งไปรุมน้องกัณฐ์ตั้งหลายครั้งหลายคราไงละคะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พี่จะจัดการเรื่องทั้งหมดให้” พี่จันพูดเรื่อย ๆ สบตามองผมนิ่ง.. ผมไม่ได้รู้สึกไปเอง ยัยเจ๊นี่ไม่ชอบผม..

“นี่มันเรื่องอะไรกัน ?!” ผมตวาดถามเสียงดัง.. ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย... ว่าเด็กผู้ชายที่ผมเอ็นดูเหมือนกับน้องชายคนหนึ่งต้องสะบักสะบอมกลับมาที่บ้านบ่อย ๆ มีสาเหตุเพราะตัวผมนี่เอง...

“คะ ?” ยัยเจ๊ทำหน้าบ๊องแบ๊ว เอียงคอมองผมงง ๆ

“สงสัยเขาคงจะเบลอ ๆ น่ะครับ ผมขอพาเขากลับไปที่โรงพยาบาลก่อนดีกว่า” พี่ธีร์รีบตัดบท ดึงตัวผมลุกขึ้น.. แต่ผมทรุดตัวแทบล้มลงไปกับพื้นเพราะดันลงน้ำหนักเท้าข้างที่เจ็บมากไปหน่อย

“เป็นอะไร ?” เขาถามงง ๆ ..ผมไม่ตอบคำถามพยายามดึงข้อมือตัวเองออกจากฝ่ามืออุ่นร้อนของเขา แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

“.. แล้วฉันจะจัดการเรื่องที่เด็กคนนี้ทำไว้ให้เร็วที่สุดนะคะ” เจ๊จันกล่าวขัด ก่อนที่ผมกับไอ้พี่ธีร์จะได้ปะทะคารมณ์กัน

“ครับ.. ขอบคุณมากครับจัน” เขาหันไปคุยกับหญิงสาวคนเดียวในบ้านด้วยน้ำเสียงอบอุ่น อ่อนโยน จนผมแทบอยากอาเจียน

“ไม่เป็นไรค่ะ.. แต่ถ้าไม่รังเกียจ..ไปทานอาหารค่ำกันซักมื้อ...” ผมมองยัยเจ๊จันพูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้เขา.. ช่างเหมาะสมกันเสียจริง ๆ...

“ครับ แล้วผมจะติดต่อไป..” พี่ธีร์ตอบรับพลางดึงตัวผมให้เดินตามเขาออกจากบ้าน

“เดี๋ยว! นี่มัน...”

“เงียบได้แล้ว! ฉันจะอธิบายเธอเอง” เขากระซิบบอกลอดไรฟัน.. ผมมองกลับไปเห็นนายชัชทำหน้าเป็นหมาหงอยอยู่หน้าประตูบ้าน พร้อมกับเสียงแหลม ๆ ตวาดแว๊ดมาไม่ขาดสายก็ได้แต่สับสน..

ความคิดในสมองของผมตีกันวุ่นวาย...จริง ๆ แล้วนันต้องการอะไรจากผมกันแน่ ?... แล้วเขาทำเรื่องแบบนั้นจริง ๆ เหรอ ?....
 
“ทำไมเธอถึงไปอยู่บ้านนั่นได้!?” ไอ้พี่ธีร์เริ่มเปิดประเด็นขณะขับรถ

“แล้วทำไมคุณถึงไปอยู่บ้านนั่นได้ล่ะ ?” ผมถามกลับ.. จ้องมองสายตาคมที่สบมาอย่างไม่ลดละ.. จนสุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีไปมองท้องถนน..

“ฉันถามให้เธอตอบ! ไม่ใช่ให้เธอถามกลับ”

“เฮอะ” ผมส่งเสียงในลำคอ หันหน้ากลับไปยังท้องถนนข้างหน้าเช่นกัน

“เด็กอวดดี” เสียงทุ้มของเขาพึมพำให้ผมได้ยิน

“คุณหมายถึงใคร ?” ผมถามกลับ ขมวดคิ้วมองเขาอย่างต้องการคำตอบ...

“ใครอยากรับ ก็รับไปซิ” เขากลับไม่ตอบ แถมยังผิวปากอารมณ์ดี ..

“คนอะไร ปากจัดยิ่งกว่าผู้หญิง” ผมพึมพำให้เขาได้ยินบ้าง..

“เธอ!”

“ทำไม ? อยากรับก็รับไปซิ” พอได้ยินผมตอบกลับแบบนั้นเขาก็นิ่ง พร้อมกับถอนหายใจราวกับยอมแพ้...

“..เฮ้อ...เอาล่ะ ๆ เธอมีอะไรจะถามบ้างล่ะ ?” เขาเป็นฝ่ายยอมให้ผมถามก่อนแต่โดยดี

“ดี... คำถามแรก คุณรู้จักกับเขางั้นเหรอ ?”

“ก็พอจะรู้จักบ้าง.. ฉันรู้จักจันทิรา.. เธอเป็นลูกค้าที่ดีทีเดียว..” ผมเบ้ปากพึมพำ ‘เธอเป็นลูกค้าที่ดีทีเดียว’ เฮอะ!.. เมื่อตะกี้มองกันซะหวานหยด.. ถ้าเป็นปลากัดล่ะก็รับร้องว่าท้องไปแล้ว!!

“เธอกำลังคิดเรื่องไม่ดีอยู่ หน้าเธอมันฟ้อง” จู่ ๆ เสียงทุ้มก็พูดเหมือนจะเตือนผม ..ผมทำหน้าเบื่อ ๆ ใส่เขาก่อนจะยิงคำถามใหม่

“แล้วคุณไปที่นั่นได้ยังไง ?”

“..ฉันอยากจะคุยกับนันสิตาเรื่องของครอบครัวเธอตั้งหลายวันแล้ว.. บังเอิญที่วันนี้จันว่าง ก็เลยพาฉันมา แต่ไม่คิดว่าเธอ...” เขาเว้นช่วง ส่งสายตาคมมองมาที่ผม

“..ผมแค่อยากออกไปหาไทม์” ..ผมบอกเสียงอ่อย ก้มหน้ามองมือตัวเอง.. ที่เกือบซวยก็เพราะตัวผมเองแท้ ๆ

“แล้วทำไมไม่บอกฉัน” ...

“ก็คุณไม่อยู่นี่!” ผมแก้ตัวไปน้ำขุ่นคลั่ก

“ยังไงฉันก็ผิดสินะ..” เขาถอนหายใจเฮือก ๆ ไม่ต่อความอะไรอีก..

“....ขอโทษ” ผมเอ่ยคำนี้เป็นรอบที่ 2 ของวัน.. นี่ผมเป็นบ้าอะไรกัน... ถ้าให้เทียบกันแล้วทั้ง 2 คนที่ผมพูดคำนี้ด้วยไม่ต่างอะไรกันเลยจากสิ่งที่กระทำกับผม คนข้าง ๆ นี้อาจเลวร้ายมากกว่าด้วยซ้ำ... แต่ผมกลับรู้สึกว่าเขาไว้ใจได้มากกว่าไอ้หมวยเสียอีก... เฮ่อ...

“จริงสิ! คุณบอกว่าผมกับเขาเรียบร้อยไปแล้ว!” ผมบอกเสียงเขียว อยากยื่นมือไปบีบคอเขาเขย่า ให้รู้สึกเสียบ้างว่าผมรู้สึกยังไงตอนที่ได้ยินเรื่องนี้

“เอ๊ะ ?.. ฉันพูดแบบนั้นเหรอ ?” เขาทำหน้าเหรอหราราวกับไม่รู้เรื่อง!! ผมรู้สึกโมโหเขาขึ้นมาจริง ๆ ถ้าไม่ติดว่าเขากำลังขับรถอยู่ ผมอาจจะขึ้นไปขี่คอเขาแล้วดึงศีรษะให้หักดังกร๊อบแล้วก็ได้...

“ตอนนั้นคุณบอกว่าเรียบร้อย!” ผมย้ำอีกครั้ง.. วันนั้นผมได้ยินเขาพูดแบบนี้เต็มสองรูหู

“ฉันบอกว่าเรียบร้อย” เขาเลิกคิ้วมองผม.... ผมพอจะเข้าใจแล้ว... เขาบอกแค่ว่า ’เรียบร้อย’ จริง ๆ ....นอกจากปากจัดแล้วยังเจ้าเล่ห์อีก...

“...” ไม่มีอะไรจะเถียง...

“ก็เธอร้องซะดังขนาดนั้น ฉันก็ต้องรู้ซิว่าเรียบร้อย แต่กับใครหรือยังไงฉันไม่รู้” เขาขยายความให้ผม.. ผมควรจะรู้สึกขอบคุณเขาดีมั๊ยนะ ที่ทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนจนอยากจะมุดเข้าไปใต้ท้องรถได้ขนาดนี้...

“ว่าแต่เธอจำเรื่องวันนั้นขึ้นมาได้รึไง ?”

“อืม...” ผมตอบรับในลำคอเบา ๆ นึกย้อนกลับไปตอนที่ได้ดูวีดีโออีกครั้ง... จริงซิ... โทรศัพท์.... โทรศัพท์มือถือของผม....
....หรือว่าความจริงแล้ว... นันเป็นคนที่ทำให้แคนดี้เข้าใจผมผิด........ เป็นสาเหตุที่ทำให้เราเลิกกัน....

“แล้วจำเรื่องบนรถคันนี้ได้มั๊ย ?” เขาถามเสียงค่อย เหมือนไม่แน่ใจ

“มีเรื่องอะไรอีกรึไง ?” ผมถามอย่างเบื่อ ๆ ...แค่นี้ก็มีเรื่องให้ผมคิดมากพออยู่แล้ว..

“เปล่า..” เขาบอกเบา ๆ หันกลับไปมองถนนใหญ่ข้างหน้าต่อ..

เราทั้งคู่นั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบ ..ผมมองวิวจากกระจกด้านข้างที่เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว..
....................................
..........................
ผมต้องถามความจริงเรื่องโทรศัพท์นั่นให้ได้....

..........................ทูบีคอนตินิววววว

 :กอด1:ขอบคุณทุกเม้นต์ของแฟนคลับน้องแบล็คและพี่ธีร์น่ะค่ะ คู่นี้เค้ายังต้องเจออะไรด้วยกันอีกเยอะ ไ่ม่เหมือนคู่เธียรกะกัณฐ์ ออกมาแต่ละตอน ก็จะหวาน ๆ น่ารัก ๆ ล่ะ อย่าลืมตามความเข้มข้นของพี่ธีร์ต่อไปน่ะค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 ความจริงเล็ก ๆ ที่ได้รู้ [up 17.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 18-10-2011 00:23:57
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 ความจริงเล็ก ๆ ที่ได้รู้ [up 17.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 18-10-2011 23:22:52
พี่ธีร์เริ่มดูดีแระ
รักคนโพสต์  มาต่อเน๊าะ  รัก ๆ~
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 ความจริงเล็ก ๆ ที่ได้รู้ [up 17.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 19-10-2011 09:48:23
- 28 -

พี่ธีร์เงียบ ผมก็เงียบ เราต่างคนต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง.. เส้นทางบนถนนที่ผ่านก็เริ่มคุ้นตา เขาพาผมมาหยุดที่ร้านของไอ้ไทม์

“คุณรู้จักที่นี่ด้วย ?” ผมถามเขาอย่างไม่คาดคิด.. แต่เขาก็ไม่ตอบ ปลดล็อกประตูรถข้างที่ผมนั่งอยู่เป็นการไล่กลาย ๆ ...เวลาเขารู้อะไร เขามักจะปิดเงียบไว้.. หรือเป็นเพราะผมไม่เคยถามเองวะเฮ้ย ? เสียงประตูรถดังขึ้นซ้ำ ผมหันหลังคิ้วขมวดมองร่างสูงใหญ่ที่เดินตามมาติด ๆ

“ลงมาทำไม ?” ผมถามงง ๆ

“เธอจะกลับเองงั้นเหรอ ?” เขาไม่ตอบ แต่ถามกลับราวกับผมจำเป็นต้องให้เขาไปรับส่งยังไงอย่างงั้น

“ผมกลับเองได้”

“แต่ฉันจะรอ” ผมปิดปากเงียบ รู้ว่าเถียงไปก็เปล่าประโยชน์ เดินนำเข้าไปในร้านด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ตอนนี้เพิ่งเริ่มเย็น ลูกน้องของไทม์พากันเตรียมร้านจ้าละหวั่น ผมยืนหน้าร้านเก้ ๆ กัง ๆ มองหาคนที่พอจะคุ้นหน้าคุ้นตา

“อ้าว! ..พี่ไทม์ยังยุ่งอยู่เลยครับ ทำไมมาเร็วจัง” เด็กผู้ชายที่ผมคลับคล้ายคลับคราว่าชื่อเฟิร์สเอ่ยทัก

“เขาอยู่ที่ไหนเหรอ ?” ผมถาม ยิ้มชืด ๆ ส่งให้

“ตรวจวัตถุดิบอยู่ในครัวมั้งฮะ เข้าไปข้างในได้เลย ..เฮ้ยไอ้ขิงพาพี่คนนี้ไปหาเฮียหลังร้านหน่อย” ผู้ชายอีกคนที่ชื่อขิงผงกศีรษะให้ผมเล็กน้อย แต่ถ้าให้ทายเขาอายุน่าจะมากกว่าผม.. ความจริงผมพอจะรู้เส้นทางภายในร้าน แต่จะให้เอ่ยปฏิเสธก็ดูจะเสียน้ำใจเขาเปล่า ๆ..

ผมหันกลับไปมองพี่ธีร์ที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอก ดูเหมือนเขาจะหัวเสียนิด ๆ แต่พยายามใจเย็น คุยดี ๆ กับปลายสาย.. เฮอะ.. ที่กับผมล่ะก็ใส่ได้ใส่ไม่ยั้ง อยากรู้จริง ๆ ว่าผมไปทำอะไรให้

ระหว่างที่เดินไปหาไอ้ไทม์ผมก็ครุ่นคิด ว่าควรจะทำหน้ายังไงดี ?.. มันโกรธผมรึเปล่า ?.. มันจะดีใจมั๊ยที่ได้เห็นหน้าผม ?.. ถ้ามันนิ่ง ๆ ขึ้นมาผมจะทำยังไงดี ?

ความคิดของผมหยุดกึกเมื่อเข้าไปเห็นภายในห้องครัว ..มีคนอยู่ 2-3 คน ซึ่งผมคาดว่าน่าจะเป็นกุ๊กของที่นี่กับลูกมือ บางคนกำลังล้างผัก บางคนก็หั่นเนื้ออย่างขะมักเขม้น..ผมเห็นไอ้ไทม์กำลังดูขวดเครื่องปรุง แล้วจดขยุกขยิกลงในสมุด.. นี่เป็นอีกมุมหนึ่งของมันที่ผมไม่เคยเห็น..

“ไทม์...” ผมส่งเสียงเรียกเบา ๆ ...พอมันเห็นผมก็ทำหน้าหงอ ๆ ยังไงไม่รู้ ..ทั้ง ๆ ที่ปกติมันจะยิ้มแฉ่ง สวนทางกับปากที่พูดเหมือนจะไล่ผมออกจากร้าน ผมจึงเป็นฝ่ายฉีกยิ้มให้มัน.. เหมือนที่ทำเป็นปกติ แล้วสีหน้ามันก็ดีขึ้นตามมาทันที

“เป็นไงบ้าง ?” ผมทักทาย.. สังเกตเห็นรอยช้ำม่วงที่มุมปาก.. สงสัยลูกค้ามีเรื่องกันในร้านให้มันเคลียร์ละมั้ง..

“ก็เรื่อย ๆ ว่ะ ไม่เจอหน้าไม่กี่วันรีบมาหา คิดถึงเหรอวะ ?” มันพูดติดตลก และคงไม่คิดว่าผมจะตอบ

“อือ” ผมพยักหน้าเบา ๆ

“เออ..” เหมือนว่ามันจะเขิน ๆ อึ้ง ๆ เหมือนกันที่ผมยอมรับตรง ๆ

“ขอโทษที่ไล่มึงไป วันนั้น” ผมบอกเบา ๆ

“เฮ้ย! คิดมากทำไมวะ ถึงมึงไม่อยากให้กูไปหาเดี๋ยวกูก็ไปเยี่ยมเองแหละ” มันยิ้มชกไหล่ผม.. ผมรู้สึกใจชื้น.. มันยังคงเป็นเพื่อน.. เป็นพี่ที่ดีที่สุดสำหรับผม...

“แต่มึงก็ไม่มา” ผมบอกหน้ามุ่ย

“ก็กูไม่ว่าง”

“ไม่ว่างหรือตื่นตอนเช้าไม่ไหว”

“มันก็คล้าย ๆ กัน” ผมยิ้ม ๆ ฟังมันแถสีข้างถลอก

“เห็นเวลานอนสำคัญกว่าเหรอ ?”

“แมร่ง ขี้น้อยใจ..” มันบ่น.. ไอ้ไทม์กอดคอผมหลวม ๆ แล้วกระซิบถาม

“แล้วเรื่องไอ้พี่ธีร์นั่นเป็นไงบ้างวะ ? มีอะไรคืบหน้ามั่งป่ะ ?”

“เชี่ย!” ผมด่ามันตอบ ขมวดคิ้วมองอย่างหัวเสีย.. ไอ้บ้านี่ไปเข้าพวกกับพี่ธีร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

“อ้าว.. เขาไม่ได้ชอบมึงเหรอ ดูเป็นห่วงเป็นใยดีนะ” มันทำหน้าเหรอหรา เหมือนกับว่าความสัมพันธ์ของผมกับพี่ธีร์น่าจะไปได้ด้วยดี.. ดีบ้าอะไรล่ะ ?!

“ชอบบ้าอะไร ชอบปรายตาจิก ..ปากก็กัดจนเลือดซิบ ๆ ล่ะสิไม่ว่า”

“มีกัดด้วยเหรอ ? ซาดิสม์ว่ะ..” มันพึมพำ

“หมายถึงโดนด่า” ผมบอกฉุน ๆ นี่มันโง่จริงหรือแกล้งโง่ให้ผมอารมณ์เสียเนี่ย..

“อ่าว..” ผมหัวเราะและหยอกล้อกับไอ้ไทม์อีกนิดหน่อย.. จึงแยกตัวออกมาให้มันทำงานก่อน นั่งรออยู่ซักพักคนตัวใหญ่ก็เดินทำหน้าถมึงทึงเข้ามา

“แบล็ค วันนี้เธอกินยารึยัง ?” ผมส่ายหัวดิกเป็นคำตอบ ดูเหมือนเขาจะยิ่งอารมณ์เสียลากผมเดินออกมา ผมข่มความเจ็บที่ปลายเท้า.. ท่อง 1 ถึง 10 ในใจ

“อะไรอีกล่ะ ?” ผมถามอย่างไม่ค่อยพอใจ

“เธอคิดว่าตัวเองหายดีแล้วงั้นสิ ?” เขามองผมเหยียด ๆ ..มาต่อยกันเลยดีกว่า..

“…..ขอเข้าไปลาไอ้ไทม์ก่อน” สุดท้ายผมก็ได้แต่แอบด่าเงียบ ๆ ในใจ ..ก็ดูตัวเขาสิ ใหญ่อย่างกับตึก แถมหน้ายังดุอีก.. ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าผมถูกเขาชกหน้าขึ้นมาแล้วฟันจะหักไปซักกี่ซี่ ..บรื๋อย์!
 
ไอ้ไทม์สัญญาว่าพรุ่งนี้มันจะมาเยี่ยมผม แต่ช่วงเวลาที่ต้องรอมันมาหาน่ะสิ แสนจะน่าเบื่อ...  เล็บเท้าของผมกลายเป็นสีม่วง.. เห็นแล้วอยากจะร้องไห้ น่าเกลียดชิบเป๋งเลย เหมือนเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นเลยถามขึ้นมา

“เท้าไปโดนอะไร ?” เขาถามทั้ง ๆ ที่ใบหน้ายังมองแฟ้มเอกสารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ.. ก็ยังคงไร้มารยาทเหมือนเดิม..

“ชนโต๊ะ”

“ซุ่มซ่าม” เสียงทุ้มตำหนิ ตอกกลับผมแทบจะทันที..

“....” ไม่โดนมั่งก็แล้วไป..

“คุณไม่คิดจะกลับไปนอนที่บ้านรึไง ?”

“คิด” เขาตอบเสียงเรียบ

“แล้วทำไมไม่ไป” ความเงียบของเขาคือคำตอบ.. ผมลอบถอนหายใจเบา ๆ ..กดรีโมทเปลี่ยนช่องไปมา เสียงกลอนประตูเปิดออกพร้อมกับร่างบางของคนที่ผมไม่คิดว่าจะเจออีก

“นายเข้ามาได้ยังไง ?” ผมถามงง ๆ เอี้ยวตัวไปมองประตูห้อง.. ลืมล็อคห้องเหรอวะเนี่ย..

“หมอนั่น.. เป็นอะไรกับเธอ ?” ไอ้หมวยไม่ตอบ ชี้ไปทางไอ้พี่ธีร์ที่นั่งมองเอกสารอย่างขะมักเขม้นอยู่

“คนรู้จั....”

“ทำไม ?” เสียงทุ้มของไอ้พี่ธีร์ตัดผมก่อนพูดจบ

“เราไม่รู้หรอกนะว่าเธอทำยังไงถึงสั่งเจ๊จันได้ แต่ถ้ายังมายุ่งอีกเราไม่ปล่อยเธอไว้แน่” ไอ้หมวยบอกเสียงห้วน ดูเหมือนเขาไม่พอใจที่ถูกพี่สาวบิดหูเมื่อบ่ายที่ผ่านมา..ละมั้ง ?

“เธอจะทำยังไงกับฉัน ?” ไอ้พี่ธีร์เลิกคิ้วหันมามองคู่สนทนา.. คุยแบบนี้เป็นด้วยเหรอฟะ ?!.. ไอ้หมวยไม่ตอบส่งค้อนงาม ๆ พร้อมเสียงในลำคอว่า ‘ฮึ’ ออกมา

“นัน..” ผมเอ่ยขัดบทสนทนาของพวกเขา.. ด้วยเพราะอยากรู้เรื่องที่มันค้างคาอยู่ในหัวตอนนี้ใจจะขาด!

“หือ ?” ไอ้หมวยส่งเสียงตอบรับเบา ๆ

“นาย.. เป็นคนโทรศัพท์ไปหาแคนดี้ใช่มั้ย ?” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ ..ในใจนั้นลุ้นคำตอบที่ออกจากริมฝีปากบางนั้น

“........เธอพูดเรื่องอะไร.. เราไม่รู้เรื่อง” ไอ้หมวยตีหน้านิ่ง ตอบเรียบ ๆ.. หรือว่าผมคิดมากไปเองจนหลอนวะ ?.. เฮ้อ... เรื่องนี้ช่างมันเถอะ.. ยังไงผมกับแคนดี้ก็คงไม่สามารถกลับมาคบกันเหมือนเดิมได้...

“งั้น... เรื่องนักเลงนั่น นายจะว่ายังไง ?” ผมยกอีกเรื่องที่เจ๊จันของไอ้หมวยพูดขึ้นมาเป็นประเด็นใหม่...

“เราไม่รู้เรื่อง” ไอ้หมวยยืนยันคำเดิมอีกครั้ง ...ผมรู้สึกสับสนไปหมด..

“อืม.. ฉันได้ยินว่าเด็กพวกนั้นถูกคู่ขาของเธอจ้างมาอีกที” พอผมนิ่งเงียบ พี่ธีร์ก็เอ่ยขึ้นมาเบา ๆ มองเอกสารในแฟ้มสีดำราวกับมันมีอะไรน่าสนใจมากมาย..

“เธอบอกว่ากัณฐ์ไปก้อร่อก้อติกกับเธอก่อน” เขาปรายตาคม ๆ มองอีกร่างที่อยู่ในห้อง ...ผมมองตามสายตาของเขามาหยุดที่ไอ้หมวย.... เด็กพวกนั้น ?? เขาหมายถึงใคร ?? กัณฐ์รู้จักกับไอ้หมวยด้วยงั้นเหรอ ?? หวังว่า ‘เด็กพวกนั้น’ ที่เขาพูดถึงคงไม่ใช่....

“เธอเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหน.. เราไม่รู้เรื่อง” ไอ้หมวยตอบเสียงสะบัด ท่าทางไม่พอใจมากจนผมรู้สึกได้..

“หรือจะให้ฉันโทรเรียกจิน” เสียงพี่ธีร์ถามขึ้นลอย ๆ ...จิน? ใคร?.. ผมเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่นึกไม่ออก..

“...”

“เธออย่าคิดว่าไม่มีใครรู้” เมื่อเห็นไอ้หมวยเงียบไป ..พี่ธีร์ก็เปรยเบา ๆ

“หมายความว่ายังไง ?...” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ..

“แบล็คอย่าไปเชื่อมัน! เราไม่รู้เรื่องเลยนะ”

“เธอก็รู้ว่าเด็กคนนี้มีคนรักอยู่แล้ว...” เสียงทุ้มกล่าวเรื่อย ๆ แต่ดวงตาคมนั้นมองไอ้หมวยอย่างตำหนิชัดเจน

“หุบปาก!” ไอ้นันขึ้นเสียงจนผมสะดุ้งโหยง

“ออกไปตกลงกันหน่อยมั้ย ?” พี่ธีร์ยื่นข้อเสนอ.. และไอ้หมวยเม้มปากก่อนพยักหน้าเบา ๆ ...ผมรู้สึกราวกับตัวเองเป็นคนนอกที่ถูกปล่อยให้นั่งงงกับบทสนทนาที่เหมือนโค้ดลับ เข้าใจกันแค่ 2 คน

“อย่า! ..ได้โปรด.. บอกความจริงกับผม” ผมขอร้องให้พี่ธีร์ไขความจริงให้กระจ่าง ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่เหลือทน...

“...” เขาไม่กล่าวอะไรอีก... ไม่แม้จะเหลือบมองมาที่ผม.. แต่เดินนำอีกร่างออกไป.. ผมผุดลุกขึ้นจากเตียงเดินตามพวกเขาไป

“คุณรู้อะไร ? ทำไมไม่บอกผม ?” ไอ้หมวยหันกลับมามองผมด้วยแววตาแปลก ๆ ... แต่อีกคนไม่หันกลับมามองผมด้วยซ้ำ.. มีเพียงสิ่งเดียวที่ทั้งคู่ทำเหมือนกันคือไม่ตอบคำถาม..

“นัน! บอกมาสิว่ามันอะไรกัน ฉันจะไม่ว่านายเลย.. แค่นายพูดออกมา” ผมพยายามหว่านล้อมอีกคนแทน

ไอ้พี่ธีร์คุยกับพยาบาลหน้าเคาท์เตอร์เบา ๆ แล้วจู่ ๆ พี่พยาบาลก็พากันมาลากผมกลับเข้าห้อง อะไรกันวะ ?... ผมไม่เข้าใจ... ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ไม่นานเขาก็กลับเข้ามาในห้อง แต่อีกคนหนึ่งหายไป...

“คุณกำลังปิดบังอะไรผม ?” ผมถามเสียงขุ่นมัว ..ผมคาดว่าเรื่องที่เขาคุยกันเกี่ยวข้องกับแคนดี้.. ผู้ชายที่ชื่อจินกำลังคบกับแคนดี้อยู่.. หรืออาจจะไม่ใช่... มันอาจจะบังเอิญชื่อเหมือนกันก็ได้...

“เปล่านี่” เขาเลิกคิ้วตอบ... โกหกได้แนบเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..

“คนที่ชื่อจินใช่คนที่คบกับแฟนเก่าผมรึเปล่า ?” และเขาก็เงียบเป็นคำตอบตามสเต็ป...

“ทำไมคุณไม่บอกผม!” ผมตวาดอย่างหัวเสีย

“..ซักวันเธอก็จะรู้”

“ผม..ต้องการ รู้ ตอน นี้!” ผมย้ำทีละคำให้เข้าใจว่าผมต้องการรู้มากถึงมากที่สุด

“รู้อะไรล่ะ ? อืม.. เรื่องระหว่างเราดีมั้ย ?”

“ค..คุณจะทำอะไร ?” ผมถามอย่างตกใจ เมื่อเขาดันตัวผมจนติดขอบเตียง พอเห็นผมตั้งท่าจะโวยวายเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ผมเลยหุบปากฉับ..เม้มแน่นจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีริมฝีปากเผยให้เขาได้สัมผัส..

เขาหัวเราะเบา ๆ กดจูบลงบนปลายจมูกของผม ..รู้สึกว่าตัวเองกำลังเขิน.. บ้าหน่า กับผู้ชายด้วยกันนี่นะ ? ผมพยายามดันตัวเขาออกและตั้งมั่นในใจว่าจะไม่หันก้นให้เขาเด็ดขาด เหอ ๆ... เขารวบมือทั้งสองข้างของผมไว้แนบอก มืออีกข้างประคองหลังผมไว้ สายตาของเขาจ้องมาที่ดวงตาของผม.. พอเห็นใบหน้าตลก ๆ ของตัวเองในดวงตาสีสนิมคู่นั้นก็อดหัวเราะไม่ได้

“ฮะ..อุ๊บ!” แต่พอเปิดปากปุ๊บเท่านั้นแหละก็ถูกประกบปากปั๊บ ผมร้องอู้อี้ พยายามถอยหนีจากเขาจนแผ่นหลังสัมผัสกับพื้นเตียงนุ่ม ลิ้นนิ่ม ๆ สอดเข้ามากระหวัดหยอกเย้ากับลิ้นของผมแล้วควานไปทั่วโพรงปาก ..ถึงแม้ผมจะเคยจูบกับเขาแล้ว แต่ไม่เคยถูกเขาจูบแบบนี้มาก่อน.. มันไม่ได้หยาบกระด้าง ไม่จาบจ้วง แต่กลับสุภาพนุ่มนวลราวกับเป็นคนละคนกับไอ้พี่ธีร์ที่ผมรู้จัก

ผมเริ่มรู้สึกเบลอ ๆ ไม่รู้ว่าการไม่หันหลังให้เขาดีหรือไม่ดีกันแน่.. เพราะกลางลำตัวของเรากำลังเสียดสีกันจนร้อน... ผมเผลอครางในลำคอเบา ๆ ตอบรับจูบของเขา นึกดีใจที่เขารวบมือของผมเอาไว้ ไม่อย่างงั้นผมอาจจะเป็นฝ่ายสวมกอดเขา

ริมฝีปากของเขาบดจูบหนักขึ้นจนผมเริ่มหายใจไม่ทัน ..พอฝ่ามืออุ่นร้อนล้วงเข้ามาในเสื้อก็เริ่มรู้สึกตัวว่าชักจะเลยเถิด.. รีบผลักเขาออกห่าง เช็ดริมฝีปากตัวเองตื่น ๆ

“ออกไปห่างจากผม 3 เมตร!!” ผมหอบหายใจเบา ๆ ชี้ให้เขาไปอยู่ไกล ๆ ...เขาเพียงแค่หัวเราะเบา ๆ แล้วฮัมเพลงเดินไปหยิบแลปทอปออกไปจากห้อง...

ทิ้งให้ผมนอนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมด้วยคิดอะไรไม่ออก... และเพิ่งตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้ว.. เขาเจ้าเล่ห์มาก ๆ.. ....เขาเบี่ยงความสนใจเรื่องไอ้หมวยด้วยการทำลามก!! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!

ผมได้แต่เจ็บใจ.. ถ้าผมจูบได้เก่งกว่านี้คอยดูเหอะเขาจะต้องอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของผม อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!

ผมกำลังคิดอะไรเนี่ยยยยยยย!!! ผมขยำเส้นผมตัวเองจนยุ่งเหยิงโมโหในความคิดวิปริตที่เกิดขึ้นในสมองเมื่อกี้นี้และโยนให้เป็นความผิดของเขา... ไอ้พี่ธีร์!!

หรือว่าเขาตั้งใจวะ ?... ผมแตะริมฝีปากตัวเองเบา ๆ ซุกหน้าตัวเองกับผ้าห่ม... คิดอะไรบ้า ๆ..
 
เช้าวันถัดมาผมก็ต้องตกใจเมื่อมีผู้หญิงน่ารักราวกับนางฟ้าตัวน้อยนั่งอยู่ในห้อง พอรู้ว่าถูกจับจ้อง เธอก็ส่งยิ้มให้ผม.. มีลักยิ้มด้วย ...โอย.. ใจละลาย...

“พี่แบล็คตื่นแล้วเหรอครับ” ผมหันไปมองต้นเสียงที่ขัดจังหวะ.. เธียร.. เขามองผมดุ ๆ สงสัยเพราะผมจ้องเด็กผู้หญิงน่ารักคนนั้นเพลินไปหน่อย

“นั่นน้องสาวผมครับ ชื่อธา” เธียรแนะนำเสียงเรียบ ๆ หวงน้องสาวว่ะ! ทีผมยังไม่หวงกัณฐ์เลย!

“สวัสดีค่ะ” ธายิ้มหวานไหว้งาม ๆ ให้ผม.. โอย.. นางฟ้า.. เธอคือนางฟ้า~~~

แต่!.. น้องของเธียร.... ก็แสดงว่า... เธอเป็นน้องของไอ้พี่ธีร์ด้วยน่ะสิ....อ๊ากกกกกกกกกกกก!!! ผมเอาหัวโขกหมอนเบา ๆ ทำไมสวรรค์ช่างกลั่นแกล้งส่งไอ้ยักษ์นั่นมาคุ้มกันนางฟ้า!! เสียงหัวเราะหวาน ๆ ทำให้ผมเริ่มรู้สึกอาย.. ไม่น่าทำอะไรแปลก ๆ เลยตู..

“พี่แบล็คกับกัณฐ์นี่สมกับเป็นพี่น้องกันเลยนะคะ” ธายิ้มหวานหันไปพยักพเยิดกับเธียร... ปล่อยให้ผมคิดไม่ตกว่านั่นเป็นคำชมหรือเปล่า ?

ธาเป็นผู้หญิงคุยเก่งเธอชวนผมคุยได้เรื่อย ๆ บางทีเธียรก็แทรกบ้าง ..การมีผู้หญิงน่ารัก ๆ อยู่ใกล้ ๆ ทำให้อารมณ์ผมดีขึ้นมิใช่น้อย..  ผมเหลือบมองนาฬิกา.. มันจะเที่ยงแล้ว ไอ้ไทม์ก็ยังไม่โผล่หน้ามา.. ดีแล้ว... มันจะได้ไม่ต้องมาเจอกับธา..

“ว่าไงไอ้หมาน้อย กูมาเยี่ยมมึงแล้ว!!” ไม่ทันขาดคำมันก็โผล่หน้าเข้ามา มันชะงักกึกเมื่อเห็นคนแปลกหน้า 2 คนอยู่ในห้อง …ผมรู้สึกไม่อยากเจอหน้ามันซะดื้อ ๆ

“เห้ย ใครวะ.. โคตรน่ารัก” มันกระซิบกระซาบถามผม ไม่แคร์สายตาถมึงทึงของเธียรที่ดูเหมือนจะรู้ว่าเรากำลังพูดถึงใครอยู่..

“น้องเธียร น้องธา นี่เพื่อนพี่ชื่อไทม์” ผมแนะนำอย่างเสียมิได้ ไอ้ไทม์จ้องนางฟ้าของผมจนเธอคงรู้สึกอึดอัด ขอตัวออกไปข้างนอก พอเห็นไอ้ไทม์จะเดินตามผมก็หยิกมันจนมันร้อง

“จะฟ้องพี่ตาล” ผมพูดขึ้นลอย ๆ ..มันก็เลยได้แต่ทำหน้าเป็นหมาหงอย เบ้ปากใส่ผม.. สะบัดก้นไปนั่งที่ธานั่งเมื่อซักครู่ ...แต่เห็นแววตาวิบวับของไอ้ไทม์แล้ว ผมรู้สึกไม่ไว้ใจมันเลย เหอ ๆ.. ถ้าธาเกิดเสียท่าขึ้นมาแล้วรู้ไปถึงหูไอ้พี่ธีร์ มันจะเล่นงานผมที่เป็นเพื่อนไอ้บ้านี่มั๊ยเนี่ย...?

ธาโทรมาบอกพี่ชายเธอว่าขอตัวกลับก่อน ไอ้ไทม์ที่หูผึ่งรอฟังพอรู้ว่าสาวน้อยน่ารักจากไปเสียแล้วก็กลายเป็นหมาหูลู่.. มันคิดจะมาเยี่ยมผมจริง ๆ รึเปล่าเนี่ย ?!

จากนั้นไม่นานไอ้ไทม์ก็กลับไป ส่วนเธียรคุยโทรศัพท์กระหนุงกระหนิงเงียบ ๆ ตรงมุมห้อง ปล่อยให้ผมนั่งเหี่ยวอยู่คนเดียว... พอว่างมาก ๆ เข้าเลยตัดสินใจอ่านหนังสือซะ...ผมไม่รู้ว่าเธียรวางสายเมื่อไหร่ และทั้งห้องอยู่ในความเงียบนานขนาดไหนจนได้ยินเสียงเรียกชื่อของผม...

“พี่แบล็ค..” ผมเบนสายตาไปจับจ้องเด็กหนุ่มที่เรียกชื่อ …เขาดูลังเล อ้าปากแล้วก็หุบ แบบนั้นอยู่หลายครั้ง ...ก่อนตัดสินใจเอ่ยต่อ...

“...พี่เต็มใจรึเปล่า ?”

“เต็มใจ ?” คำถามของเขาทำเอาผมงง.. เต็มใจอะไรวะ ?

“กับพี่ธีร์.. คือ...กัณฐ์ยืนยันว่าเห็นพี่ร้องไห้ตอนลงจากรถพี่ธีร์” เขาพูดตะกุกตะกัก เหมือนจะกลัวคำตอบของผม..

“....” ผมรู้สึกงุนงง.. กัณฐ์เห็นผมลงจากรถไอ้พี่ธีร์ร้องไห้ ?? เมื่อไหร่ ?? ...จริงสิ.. วันนั้น...ที่เขาพาผมออกมาจากโรงแรม.. ต้องเป็นวันนั้นแน่ ๆ

“พี่กับพี่ธีร์..เอ่อ...”

“พี่ไม่ได้มีอะไรกับพี่ธีร์” ผมบอกพยายามเผยยิ้มจริงใจ..

“กัณฐ์คงจะเข้าใจผิด.. เธียรไปบอกกัณฐ์ด้วยนะ ว่าพี่ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ธีร์”

“เฮ้อ! ผมก็คิดแล้ว ว่าพี่ธีร์ไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก” สีหน้าโล่งใจของเธียรทำให้ผมรู้สึกหม่น ๆ... ถ้าบอกความจริงว่าผมถูกพี่ชายเขาจับกดในอาทิตย์ถัดมาเขาจะทำหน้ายังไงนะ ?...

“กัณฐ์ก็ไม่ยอมเชื่อ… โล่งอกชะมัด” เขามีสีหน้าดีขึ้น แอบหัวเราะเบา ๆ แล้วส่งยิ้มให้ผม

“ขอบคุณนะครับพี่แบล็ค” ...ผมไม่รู้ว่าเขาขอบคุณทำไม ?... ขอบคุณที่โกหกเพื่อรักษาหน้าตัวเอง หรือขอบคุณที่โกหกเพื่อทำให้กัณฐ์สบายใจขึ้น...

เสียงเคาะประตูเบา ๆ พร้อมกับร่างหนาที่เดินอาด ๆ เข้ามา เธียรส่งยิ้มให้พี่ชายของเขา แต่ผมกลับไม่อยากเห็นหน้าเขาเลยตอนนี้..

“เธียรกินอะไรรึยัง ?” เขาถามน้องชายตัวเองด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล.. ผมล่ะเบื่อชะมัดเวลาไอ้หมอนี่มองน้องตัวเองอย่างกับจะกินเข้าไป

“ยังเลยฮะ พี่แบล็คก็ยังไม่ได้ทานอะไร เดี๋ยวผมออกไปซื้อให้”

“ไปกับพี่แล้วกัน” เขาเสนอตัว

“พี่แบล็คเอาอะไรป่าว ?” ผมยิ้ม ส่ายศีรษะเบา ๆ ปล่อยให้ทั้งคู่เดินออกไปจากห้อง หลังอาหารมื้อเย็น เธียรก็ขอตัวกลับปล่อยให้ผมอยู่กับเขาต่อเงียบ ๆ...

“ทำไมเธอไม่บอกเขา ?” บทสนทนาแรกของวันนี้เริ่มออกมาจากริมฝีปากบางของเขา..

“หือ ??” ผมส่งเสียงถามในลำคอ ขณะกัดมะละกอที่หั่นเป็นชิ้นยาวที่เธียรซื้อมาฝาก

“เรื่องที่ฉัน...” …ผมพอจะเดาออกเลา ๆ ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร..

“…..ผมจำไม่ได้” ผมบอกเสียงเบา ทั้ง ๆ ที่ผลไม้เต็มปาก..

“....” แล้วเขาก็เป็นฝ่ายเงียบไป...

“ขอบใจ..” ผมเลิกคิ้ว.. งงกับพี่น้องคู่นี้จริง ๆ มาขอบจงขอบใจอะไรผม... แต่ถ้าจะให้เดา... เขาคงดีใจที่น้องชายสุดที่รักไม่รู้ว่าเขาไปทำเรื่องบัดสีอะไรไว้.. คิดแล้วยิ่งเจ็บใจ...

“พรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่มั้ย ?” ผมพยักหน้าเป็นคำตอบ

“ฉันอยากให้เธอไปพักที่คอนโดฉัน” คำพูดของเขาทำให้ผมแทบสำลัก

“ทำไม ?”

“มันปลอดภัย”

“บ้านผมก็ปลอดภัย” ผมเถียงสุดใจ จะให้ไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง ไม่เอาด้วยหรอก!!

“ไม่ปลอดภัย..”

“ปลอดภัย!” ผมขึ้นเสียงจนเขาทำตาดุใส่

“ไม่...” เมื่อเห็นเขายืนกรานแบบนั้นผมเลยขี้เกียจจะเถียงด้วย

“คุณพูดเหมือนมีใครตามฆ่าผม” ผมเบี่ยงประเด็นแต่คำตอบของเขาคือความเงียบ..

“...”ตีความได้ว่ามี ...หรืออาจไม่มี..

“....ใคร ?”

“ฉันจะพาเธอกลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้า.. แล้วค่อยไปที่คอนโด” เขาเลี่ยงคำตอบ อธิบายแผนที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้

“ทำไมผมต้องไปที่นั่น ?”

“มันปลอดภัยกว่า มีการป้องกันดีกว่า เข้าใจบ้างมั๊ย ?” ดูเหมือนว่าเขาเริ่มจะอารมณ์เสียในความดื้อรั้นของผม

“...ฉันต้องขอให้เธออยู่ที่นั่นซักระยะ จนกว่าจะเคลียร์เรื่องนี้เสร็จ”

“คุณหมายถึงสิตานัน ?”

“...” เงียบอีกแล้ว.. ใช่แหง ๆ

“พวกคุณมีเรื่องอะไรปิดบังผม!” ผมขึ้นเสียงถามอย่างไม่ค่อยพอใจ.. มันจะอะไรนักหนาวะเนี่ย!

“ฉันกำลังรอให้เขามาพูดกับเธออยู่!” เขาบอกเสียงดุ แววตามองผมอย่างตำหนิในความใจร้อน

“แต่ถ้าเขาไม่พูด.. ฉันจะเป็นคนบอกเธอเอง” พี่ธีร์บอกเสียงอ่อนลง

“ยังไงผมก็ไม่ไปที่นั่น ผมจะอยู่บ้าน” ผมยืนยันคำเดิม วางถุงผลไม้ไว้ข้าง ๆ ...กินต่อไม่ลงเลย เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เธออย่าดื้อได้มั๊ย ? ฉันเหนื่อย”

“คุณอย่าบังคับผมสิ” ผมตอบกลับ

“อ้อ.. ชอบแบบนิ่มนวลงั้นสิ” เขาเหยียดยิ้ม มองผมด้วยแววตาประหลาด..

“....” ผมรู้สึกหน้าร้อนฉ่า.. เขาหมายถึงอะไร ?? ...หวังว่าเขาคงไม่ได้คิดถึงเรื่องใต้สะดืออย่างที่ผมกำลังคิดนะ

“แบล็ค.. ไปอยู่ที่คอนโดนะ” เขาพูดเสียงนุ่ม จนผมสัมผัสได้ถึงความไม่จริงใจจนต้องเบ้ปาก

“ไม่! ถึงคุณจะอ้อนวอนยังไงผมก็ไม่ไป!!” ผมยืนยันคำเดิม... แถมกอดอกเชิดหน้า

“จริงเหรอ ?.. แล้วถ้าฉันทำแบบนี้ล่ะ ?” เอาแล้วไงกรู.. จู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้นย่างสามขุมมาหา..

“จ..จะทำอะไร!? อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้นะ! ผมจะ..” ผมชี้หน้าเขาพอรู้ตัวอีกทีเขาก็เข้ามาประชิดขอบเตียงแล้ว.. ขายาวไปไหนเนี่ย..

“จะอะไร ?” เขาถามล้อ ๆ ผมเห็นท่าไม่ดีรีบส่งเสียงหาตัวช่วย

“พี่พะ!! อื้อ~” มือหนา ๆ ของเขาปิดปากของผมไว้ทันที ผมดิ้นขลุกขลักส่งเสียงร้องในลำคอ

“อย่าเสียงดังสิ เฮ้!!” เขาหัวเราะเบา ๆ พยายามจับผมให้อยู่นิ่ง ๆ

“ฉันแค่ล้อเล่น” เขาบอกยิ้ม ๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้..

อ๊ากกกกกกกก!!

“ตอบมาว่าจะย้ายไปไหม ?” ผมส่ายศีรษะ หลบสายตาแพรวพราวของเขา ..เวลาหมอนี่ยิ้มน่ากลัวกว่าทำหน้าดุอีก.... รอยยิ้มที่อยู่ใกล้ ๆ ของเขาทำเอาใจของผมเต้นผิดจังหวะ ผมไม่อยากเห็นเขายิ้ม!!

“เปลี่ยนใจได้นะ” ผมก็ยังคงส่ายศีรษะ หวังในใจว่าหน้าผมคงไม่แดง

“เปลี่ยนใจรึเปล่า ?” ผมส่ายศีรษะอีกครั้งจนเขาถอนหายใจแรง

“ดื้อ!!” เขาบอกยกมือที่ปิดปากผมมาบีบจมูกโยกเบา ๆ แทน..ผมมองเขาหน้าง้ำ.. เขาทำเหมือนผมเป็นเด็ก ๆ

“ตามใจเธอแล้วกัน แต่ฉันขอไปค้างด้วย” เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เดินกลับไปนั่งที่เดิม

“อะไรนะ!!” ผมถามซ้ำอย่างไม่เชื่อหู..

“ทำไม ?” เขาเลิกคิ้วมองงง ๆ

“คุณก็ไปนอนบ้านคุณเซ่!!”

“ฉันอยู่คอนโด” เขายังมีแก่ใจบอกว่าตัวเองพักที่ไหน

“ก็ไปค้างคอนโดคุณ”

“อืม.. พอดีห้องฉันกำลังต่อเติม”

“ก็ไปอยู่บ้านซิครับ!!”

“บ้านเธอเหรอ ? แปลว่าอนุญาตใช่มั๊ย ?” เขาพูดเองเออเอง ทิ้งให้ผมนั่งอึ้งกับการเข้าข้างตัวเองอย่างกู่ไม่กลับของเขา

...... อะ ไร กัน วะ เนี่ย !!!!!!!!!!!!!!!!

..........................................................ทูบีคอนตินิววว คืนนี้จ้า..
 :m1:น่ารักง่ะ พี่ธีร์ ช่ายป่ะทุกคน ช่วงนี้ คงยังไม่มีึคู่หลักมาหวานแหวว ปรากฏ สูบคู่รอง พี่ธีร์น้องแบล๊ค กันไปก่อนน่ะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 28 ตามติดเป็นปาท่องโก๋คู่[up 19.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 19-10-2011 14:04:43
อย่าว่าแต่แบล็คงงเลย คนอ่านมันก็งงอ่ะ แต่อิพี่ธีร์นี่ เผด็จการนะเนี่ย   :เฮ้อ: รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 28 ตามติดเป็นปาท่องโก๋คู่[up 19.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: →Yakuza★ ที่ 19-10-2011 19:02:21
สงสารแบล็กจริงๆแหะ โอ๋ๆ :กอด1:

อัพบ่อยๆแบบนี้โครตรักเลย~!!! :L2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 29 ตามติดชีวิตแบล๊ค[up 19.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 19-10-2011 22:21:11
- 29 -

ผมได้กลับมาสูดอากาศที่บ้านสมใจอยาก แต่พอแต่งตัวจะออกไปเรียนเท่านั้นแหละ ร่างใหญ่ก็มายืนขวางทางตีสีหน้าเรียบใส่
“เธอต้องอยู่ที่นี่! ห้ามออกไปไหน!” เขาบอกเสียงหงุดหงิด ...ผมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ...เข็มยาวชี้เลขสิบใกล้จะถึงเวลาเรียนเต็มทีแล้ว..

“จะบ้ารึไง!? ผมกำลังจะสอบตรงนะ!” ผมบอกกลับเสียงหงุดหงิดไม่แพ้กัน.. พอได้ยินว่าผมใกล้จะสอบเขาก็นิ่งไป เหมือนกำลังคิดว่าควรจะปล่อยให้ผมออกจากบ้านดีมั๊ย...

“ผมขาดเรียนตั้งหลายวัน แค่นี้ก็จะตามไม่ทันอยู่แล้ว!!” ผมให้เหตุผลสมทบว่าสมควรไปเรียนพิเศษมากถึงมากที่สุดเผื่อเขาจะสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น

“แล้วถ้าเธอหายตัวไปจะทำยังไง” เขาถามเสียงแผ่ว ขมวดคิ้วยุ่ง

“หายไปก็หาเซ่! เก่งนักไม่ใช่รึไง ?” ผมบอกอย่างหงุดหงิด เวลามันกระชั้นชิดเข้ามาทุกทีแล้ว

“...” เห็นเขายืนนิ่งไม่ตอบโต้ ผมก็รีบแทรกตัวเดินหนีออกไปจากประตูบ้าน

“ล็อคบ้านให้ด้วย กุญแจแขวนอยู่ตรงนั้น หวัดดีครับ” ผมชี้ไปที่แขวนกุญแจบ้าน ยกมือไหว้เขาแล้วจ้ำเดินอย่างรวดเร็ว ...กลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจซะก่อน แล้วเขาก็คว้าแขนผมเอาไว้จริง ๆ แต่คนละจุดประสงค์กับที่ผมคิด

“เดี๋ยว! .....ฉันไปส่ง” ไม่น่าเชื่อ! พักหลัง ๆ ดูเขาจะอ่อนลงกับผมเยอะเหมือนกัน ...ว่ามั๊ย ?

“ไม่เอาอ่ะ ผมไปเองได้” ผมส่ายหน้าหวือ ปฏิเสธเสียงแข็ง พยายามเดินต่อทั้ง ๆ ที่เขาจับแขนและเดินตามมาติด ๆ

“เธอเรียนแถวไหน ?” เขาถามแบบไม่สนใจคำปฏิเสธที่เพิ่งออกจากปากผม

“ผมบอกว่าไปเอง”

“เลิกกี่โมง ?” เขาเปลี่ยนคำถาม แต่ยังคงคอนเซ็ปเดิม

“ผมไปเองได้” ผมย้ำอีกครั้งว่าผมไปเองได้จริง ๆ

“ฉันจะไปส่ง” เขาก็ยังคงยืนยันเหมือนเดิม

“แต่ผมจะไปเอง!” ผมขอถอนความคิดที่ว่าเขาอ่อนลงเมื่อตะกี้ออก!! เขาแข็งขึ้นอย่างมีชั้นเชิงต่างหาก!!

ไอ้พี่ธีร์คงรู้ว่าผมกำลังรีบ ยื้อจนผมอยากจะกรี๊ดใส่หู บอกว่าไปเองได้ ๆ ๆๆ ๆ ๆ!!! ทำไมพระเจ้าต้องส่งผมให้รู้จักกับคนแบบเขาด้วย!!

“ดูเหมือนจะรีบนี่.. ว่าไง” เขาเหยียดยิ้มมองดูผมเดินวนไปวนมาเหมือนหนูติดจั่น.. ว๊อยยยยยยย!!!

...ท้ายที่สุด... ผมก็ต้องติดรถเขาไปที่เรียนพิเศษ.. เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดี แต่ผมกดเปลี่ยนคลื่นวิทยุในรถเขาอย่างอารมณ์เสีย ....ยกนี้ผมจำเป็นต้องยอม แต่ยกหน้าผมต้องชนะ!!

พอจะลงจากรถก็ยังมาถามว่าเลิกกี่โมง จะมารับ ผมหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่และรีบบึ่งลงมาจากรถวิ่งเข้าไปในอาคารที่เปิดสอนพิเศษเรียงราย
 
ผมมาสายไป 5 นาที.. ถือว่าไม่มาก ยังมีเด็กนักเรียนระดับชั้นเดียวกับผมยืนคุยกันอยู่ชั้นล่าง

“เฮ้ย! หายดีแล้วเหรอวะ ?” เสียงไอ้ลิ้มเพื่อนต่างห้องทักทาย ผมผงกหัวส่งยิ้มให้มัน ...สายการเรียนของผมค่อนข้างสนิทกัน เพราะมีจำนวนห้องน้อยทำให้รู้จักกันอย่างทั่วถึงราวกับเป็นห้องเดียวกัน.. และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมรู้จักกับ ‘เธอ’ ด้วย

“หายไปหลายม้วนเลย ไม่รู้ตามทันป่าว” ผมบอกเซ็ง ๆ คว้าหนังสือเล่มหนาในกระเป๋าขึ้นมาพลิกดูหน้าที่ไม่มีรอยขีดเขียน

“เดี๋ยวค่อยเอาของไอ้มลไปลอกดิ เรารอไอ้ตามอยู่ มาช้าจริง ๆ” มันแนะนำให้ผมลอกสมุดของเพื่อนผู้หญิงแสนห้าวแต่จดหนังสือเรียบร้อยเกินตัว แถมแอบบ่นแฟนตัวเองเบา ๆ ...ผมยิ้ม ๆ คุยสัพเพเหระกับมันนิดหน่อย  แล้วมันก็ยิ้มหน้าบาน มองไปทางประตูกระจก ผมหันไปมองตามมันก็เห็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ส่งยิ้มให้

“มาสายทุกวันเลยตาม” ดูคำแรกที่เพื่อนผมทักแฟนสาวน่ารักของตัวเองสิครับ...

“ก็ที่นู่นมันเลิกช้าอ่ะลิ้ม..” เสียงใส ๆ ของตามแก้ตัว

“ตอนลงบอกแล้วให้รีบ ๆ เห็นป่าวก็ไม่เชื่อ”

“แล้วใครจะคิดว่ามันจะเต็มเร็วขนาดนั้นเล่า” เธออมลมทำหน้างอใส่แฟน ก่อนหันมาทักทายผม

“ว่าแต่แบล็ค พ่อมาส่งเหรอ ปกติมาเองนี่” ผมอดสะดุ้งเล็ก ๆ ไม่ได้... ‘พ่อ’ เหรอ ?....จะว่าไปตอนนี้เขาก็ทำตัวยิ่งกว่าพ่อผมเสียอีก...

“...อืม” ผมหงกหัวเบา ๆ

“โรลส์-รอยซ์ด้วย อยากนั่งบ้างจัง” ตามพูดเสียงเพ้อ ๆ แต่ถูกตัดความฝันด้วยเสียงห้าว ๆ ของแฟน

“ตามนั่งแอร์กี่ของเราก็พอแล้ว”

“ย่ะ! แต่เท่ห์จริง ๆ นะ ลิ้มซื้อมาขับบ้างสิ” เธอตอบเสียงสะบัด แต่อดตั้งความหวังไว้เล็ก ๆ ไม่ได้

“เรียนให้จบก่อนเหอะ” ผมหัวเราะขำ ๆ กับเพื่อนทั้ง 2 คน.. อดคิดถึงวันเก่า ๆ ที่เคยมีร่วมกับผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้...
 
หลังเลิกเรียนผมเดินเตร็ดเตร่กับเพื่อนในกลุ่มแถวย่านนั้น ยังเหลืออีก 1 วิชาเลิกตอนค่ำ ๆ พอดี กลุ่มของเรายืนออกันอยู่ข้างร้านน้ำปั่น  ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อน ๆ ถึงชอบกินนักมันหวาน ๆ เลี่ยน ๆ ยังไงไม่รู้.. ไอ้ปุ้นยื่นนมสดโอริโอ้ให้ผม แต่ผมส่ายหน้าหวือ

...ผมเหล่ตามองกลุ่มสาว ๆ หัวเราะคิกคักเดินผ่านหน้าร้าน แล้วต้องสะดุดกับสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องมา... ‘เธอ’ นั่นเอง ผมทำหน้าไม่ถูก จะส่งยิ้มให้ดีมั๊ย ?.. หรือจะอยู่เฉย ๆ ดี...

แคนดี้หยุดอยู่กับที่มองตรงมาที่ผม.. เพื่อน ๆ ของเธอพากันกระซิบกระซาบเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาใกล้ผม

“หายดีแล้วเหรอ ?” เธอถามเบา ๆ ..คงจะมาทักทายตามมารยาท

“...อืม” ผมพยักหน้าตอบ แล้วยิงคำถามกลับ

“เป็นยังไงบ้าง ?”

“ก็ดี.. เรื่อย ๆ แหละ”

“แล้ว.. เอ่อ..”

“เราไปก่อนนะ เดี๋ยวสาย” คำถามยังไม่ทันออกจากปากผม เธอก็กล่าวตัดบทแล้วเดินหนีไป... ทิ้งให้ผมยืนนิ่งอึ้ง..

“...อืม” ผมตอบรับในลำคอเบา ๆ ถึงแม้จะรู้ว่าเธอไม่ได้ยินแล้วก็ตาม...ไอ้หยางกอดคอผมแล้วพูดขึ้นลอย ๆ

“ดูยังมีเยื่อใย”

“แล้วเลิกทำไมวะ ?” ไอเจถามต่อเป็นลูกคู่.. เสียบทะลุเข้ากลางใจผม

“ยุ่งน่า” ผมตอบปัด ดึงแขนไอ้หยางที่วางบนไหล่ออก

“ถ้าชอบก็ขอคืนดีดิ” ไอ้ปุ้นทำตัวเป็นผู้ให้คำแนะนำ ตบไหล่ผมเบา ๆ

“เค้ามีแฟนใหม่แล้ว” ผมบอกอย่างเหนื่อยหน่าย.. ทำไมพวกมันชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของผมกันจังวะ..

“คนดีจริงจริ๊ง” เสียงดัดแหลมของไอ้เพื่อนคนใดคนหนึ่งดังตามหลัง ผมเดินเบื่อ ๆ ไปได้ไม่กี่ก้าว ก็มีร่างหนา แถมสูงยังกะตึกมายืนขวาง .. ใส่สูททั้งที่โคตรจะร้อนมาเดินแถว ๆ นี้ อย่าบอกนะว่า....

“เลิกแล้วเหรอ ?” ผมอ้าปากค้าง เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา.. นี่เขายังไม่ไปอีกเหรอเนี่ย!!

“ย...ยัง” ผมตอบงง ๆ

“ยังไม่ไปทำงานเหรอ ?” ผมถามเบา ๆ.. ไหนเขาบอกว่าลาครึ่งวัน.. พาผมออกจากโรงพยาบาลแล้วจะกลับไปทำงานต่อไง

“3 ชั่วโมง..” เขาไม่ตอบแต่พูดขึ้นมาลอย ๆ

“อะไร ?” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ อะไรวะ 3 ชั่วโมง ??

“อีก 3 ชั่วโมงใช่มั๊ย ?” ผมผงกหัวเบา ๆ

“แล้วฉันจะมารับ” เขาบอกเสียงเอื่อย ๆ แล้วเดินผ่านผมไป ...ผมได้กลิ่นกาแฟสดติดสูทของเขา ....หรือว่าเขานั่งรอผมที่ร้านกาแฟตั้งแต่บ่าย.. ไม่หน่า ไอ้หมอนี่อ่ะนะ..... อย่าคิดมากดีกว่า..

พวกเพื่อนของผมรุมถามกันใหญ่ว่าเขาเป็นใคร.. ผมลังเลว่าจะตอบ พ่อ หรือ พี่ดี.. แต่อายุเขาดูไม่ห่างจากผมมากขนาดนั้น ขืนตอบไปว่าเป็นพ่อคงโดนซักอีกยาว

“เป็นญาติห่าง ๆ” ผมเลยตอบไปแบบนั้น

“มึงมีญาติเป็นฝรั่งด้วยเหรอวะ ? ไม่ยักรู้” ไอ้เจเลิกคิ้วมองเหมือนจับผิด

“ห่างแบบมาก ๆ เลยไง” ห่างจนแทบไม่เคยรู้จักเลยด้วยซ้ำ.... ผมขยายความเพิ่ม.. แอบต่อท้ายในใจ

“โคตรเท่ห์เลย” ไอ้ปุ้นเพ้อ..... มันคงใฝ่ฝันอยากมีหุ่นหนาปึ๊กแบบพี่ธีร์... ละมั้ง ??

“บำรุงยังไงวะ ?” ไอ้หยางพึมพำ มองจนเหลียวหลัง  ..ผมรีบออกเดินให้ห่างจากเขาเร็ว ๆ ได้ยินเสียงเพื่อน ๆ ออกปากชมแล้วอารมณ์เสีย...
 
เลิกเรียนผมสองจิตสองใจว่าควรจะรอเขาดีไหม ?.. สุดท้ายก็ใจอ่อน ยืนรออยู่แถวนั้น หญิงสาวร่างบางคนหนึ่งเดินมาเจอกับผม เธอสะดุ้งเล็กน้อย... แถวนี้ทำไมมันแคบนักวะ!!

“อ้าว... แคนดี้เพิ่งเลิกเหรอ ?” ผมเป็นฝ่ายเอ่ยปากทักเธอก่อน พยายามปรับสีหน้าให้ธรรมชาติที่สุด

“อ..อื้ม.. แบล็คเพิ่งเรียนเคมีเสร็จเหรอ ?” ผมพยักหน้าเบา ๆ

“แล้วกลับยังไงล่ะ ?” ผมเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอกลับบ้านเองเป็นปกติ แต่ว่า ‘เขา’ น่าจะมารับนี่นา ดึกขนาดนี้ให้ผู้หญิงกลับคนเดียวอันตราย..

“เอ้อ... เดี๋ยว... ขึ้นรถเมล์น่ะ” แคนดี้บอกเสียงเบา

“แล้วไม่มีเพื่อนไปทางเดียวกันเลยเหรอ ?” ผมถาม และพอจะเดาคำตอบได้ แต่เธอกลับส่ายศีรษะ ...ผมรู้สึกงง ๆ เล็กน้อย... ไอ้หมอนั่นไม่ห่วงแฟนตัวเองเลยรึไงนะ ?!

“อ้าว.. แล้ว... ดึกขนาดนี้...... เดี๋ยวเราไปส่งแล้วกัน” ผมเสนอตัว .. เมื่อเห็นเธอไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ผมจึงคว้ามือเธอให้เดินตาม .....แต่เธอกลับยื้อผมเอาไว้

“เอ่อ... แบล็ค... คือ...” เสียงหวาน ๆ เธอเว้นช่วง ติดขัด..

“ทำไม ?” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ.. หรือเธอจะอยากกลับบ้านคนเดียวมากกว่านะ ?

“จริงรึเปล่าที่เธอ...มีคนใหม่....” ผมสะดุ้ง ...เธอขบเม้มริมฝีปาก แววตามองผมอย่างตัดพ้อ...

“ได้ยินมาจากไหนน่ะ ?” ผมถามงง ๆ..

“จินบอกว่าเธอ...มีคนใหม่......เป็นผู้ชาย” เธอบอกเสียงเครือ ...ไม่แน่ใจว่าเสียใจที่ผมมีคนใหม่ หรือเสียใจที่ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย...

“เฮ้ย!..” ผมขมวดคิ้วยุ่ง.. ไอ้หมอนั่นเอาเรื่องบ้าอะไรมากรอกหูเธอ...

“เราไม่เคยมี!! ....เราไม่เคยมีใคร..... นอกจาก...” ผมปฏิเสธ และกำลังจะหยอด แต่มีอันสะดุดไปเพราะเสียงตวาดแข็ง ๆ มาขัดจังหวะ..

“แคนดี้!!” ชายหนุ่มร่างสูงถอดหมวกกันน็อค ใบหน้าถมึงทึง คว้ามือแคนดี้ออกจากการเกาะกุมของผม..

“จินบอกให้รอไง ทำไมถึงเดินมากับหมอนี่!!” ท้ายเสียงของเขาตวัดสายตามามองผมอย่างไม่ชอบใจ.. ผมมองผู้หญิงที่เคยรู้สึกผูกพันด้วยอย่างฉงน.. เมื่อกี้เธอบอกว่าจะกลับรถเมล์นี่ หรือผมฟังผิดวะ ?..

“จินบอกว่าเขามีคนใหม่แล้วไง!?” แคนดี้ถามเสียงแหลม ..ทำให้เขาชะงัก

“จินโกหกแคนดี้ทำไม ?!”

“มีเรื่องอะไรกัน.. ?” เสียงทุ้มที่เริ่มจะคุ้นหูผมเอ่ยถามอย่างสงสัย ผมแอบเห็นแววตาแปลก ๆ ของผู้ชายที่ชื่อจิน ตอนที่เขามองไปหาเจ้าของเสียง.. แล้วรีบกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว...

“หมอนี่ไง!” เขาบอกแล้วชี้ไปหาไอ้พี่ธีร์ที่ยืนนิ่ง

“ผู้ชายคนนี้เป็นแฟนเขา!” ผมอ้าปากค้าง.. ไอ้หมอนี่เอาอะไรมาพูดเนี่ย!!!

“ไม่ใช่นะ!” ผมรีบปฏิเสธเมื่อแคนดี้มองมาที่ผมอย่างคาดคั้น

“หรือนายจะปฏิเสธว่าไม่มีอะไรกัน ?” ผมอ้าปากค้างอีกรอบ ไอ้หมอนี่!! มันหมายถึงอะไรวะ!! หรือว่ามันรู้เรื่องที่ผมกับเขา...
ผมหันไปมองพี่ธีร์ที่ขมวดคิ้วนิด ๆ .....ไม่ใช่แล้ว!! หมอนี่ป้ายสีผมแหงม ๆ!! ....เธอมองมาที่ผมอย่างสับสน น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะวิ่งหนีไปโดยไม่ฟังคำอธิบายใด ๆ ทั้งสิ้น

“เดี๋ยว! ไม่ใช่นะ! …แคนดี้!” ผมอยากจะวิ่งตาม แต่ไอ้จินมายืนขวางหน้าผม ทำตาขวางใส่เหมือนกับจะประกาศสงครามกัน

“ทำไมนายถึงทำแบบนี้!?” ผมคว้าคอเสื้อของจิน แต่หมอนั่นสะบัดตัวหนี มองผมอย่างรังเกียจ และออกวิ่งตามแคนดี้โดยไม่สนใจผมอีก..

 “ปล่อย! ปล่อยผมนะ! โธ่เว๊ย!!” พอผมจะออกวิ่งตาม ก็ถูกวงแขนแกร่งล็อคคอเอาไว้และลากผมไปยังรถของเขา ผมโวยวายยังไงเขาก็ไม่ยอมปล่อย จนสุดท้ายผมทำได้เพียงนั่งเงียบ ๆ
 
รถออกตัวได้ซักพัก ผมก็รู้สึกอึดอัดจนทนไม่ไหว ต้องเอ่ยออกมา

“ทำไมคุณไม่ปฏิเสธ!!” ผมเริ่มพาล... โยนความผิดให้คนอื่น ....แต่เขาไม่ตอบอะไร มองไปยังถนนข้างหน้า..

“หยุดขับ! แล้วหันมาคุยกับผมก่อน!” เขาก็ยังคงทำกิริยาเช่นเดิม จนผมรู้สึกโมโห เอื้อมตัวไปเขย่าแขนของเขา

“ธีร์! ไอ้พี่ธีร์!!” เขาขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน เหมือนจะเก็บอารมณ์ที่ผมก่อกวนการขับรถของเขา สุดท้ายเขาก็เบรคเอี๊ยดข้างทางแล้วหันมาตวาดผมเสียงดัง

“หยุดโวยวายซักทีได้มั๊ย!!” ผมสะดุ้ง.. รู้สึกกลัวเขาอย่างบอกไม่ถูก ..แล้วจู่ ๆ น้ำตาก็เอ่อขึ้นมา..

“....ฮึก....ฮึก...” ผมพยายามป้ายน้ำตาออก ...อี๋ย์ มีน้ำมูกด้วย.. ผมแอบเช็ดข้างเบาะ หวังว่าเขาคงไม่เห็นนะ..

“คุณ..มัน...ฮือ..ไอ้คนใจร้าย!!” ผมพึมพำเบา ๆ กลัวเขาตวาดซ้ำ

“ช่วยใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่” เขาทำหน้าเมื่อย แล้วบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนลง..

“ทำไมคุณต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตผมด้วย!” ผมบ่นเหลือบมองเขาที่นั่งสงบสติอารมณ์อยู่ข้าง ๆ

“...” พอเห็นเขาไม่ตอบ ผมก็เลยใส่ความให้เขาอีก

“เพราะคุณทุกอย่างมันเลยยุ่งเหยิงไปหมด! ผมเกลียดคุณชะมัดเลย!!”

“...ถ้าเธียรไม่ขอ ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับเธอนักหรอก!!” เขาตอบกลับ ถอนหายใจเหนื่อย ๆ เอื้อมมือไปปรับแอร์ให้แรงขึ้น ..ความจริงผมก็รู้สึกว่าเขาก็รำคาญผมมิใช่น้อย แต่ก็อดแขวะไม่ได้..

“งั้นก็กลับไปหายอดรักของคุณเซ่!!” เขาหันมามองหน้าผมคิ้วขมวด.. แตะต้องไม่ได้เลยนะ

“แบล็ค!! หยุดบ้าซักที!!”

“ใช่สิ ผมมันบ้า!! ใครมันจะไปดีได้เหมือนน้องชายคุณล่ะ” ผมพูดประชด ..ส่วนเขาส่ายหน้าระอากับความพาลไม่เลือกของผม

“เงียบได้รึยัง” เขาถอนหายใจเบา ๆ ...คงจะเบื่อที่ต้องต่อกรกับเด็กผู้ชายบ้า ๆ อย่างผม

“อ๊ากกกกกกกกกกก” ผมส่งเสียงดังหวังจะกวนอารมณ์เขาให้ขุ่นมัว ซึ่งมันก็สำเร็จ..

“แบล็ค!!” เขาเรียกชื่อผมอย่างไม่ชอบใจ

“อุ๊บบ” พอเห็นว่าผมไม่หยุด เขาก็เอื้อมมือมาปิดปากผม แต่ผมไม่ยอมอ้าปากกัดนิ้วเรียวของเขาเต็มแรง

“โอ๊ย!! ไอ้เด็กบ้า” ดูท่าเขาจะโมโห สบถคำด่าให้ได้ยินเป็นครั้งแรก ก่อนจะบีบกรามผมจนเจ็บ แต่ไม่เป็นไร ผมยังคงเปล่งเสียงได้....

“อ๊า~~~~~~~~~~~~~~~!!!!!!” แล้วเขาก็หมดความอดทน ปล่อยมือออกจากใบหน้าผม และปลดล็อคประตูออกปากไล่ผมลงจากรถ

“พอกันที!! ลงไปจากรถฉันซะ!!” ผมแบะปากมองหน้าเขา

“ไม่ลง! ผมจะกวนคุณอยู่ในนี้จนกว่าคุณจะขาดใจตาย!!”

“เธอทำตัวเป็นเด็กยิ่งกว่าน้องฉันอีก” ไอ้พี่ธีร์บ่นเบา ๆ ..พอผมรู้ตัวว่าถูกเปรียบเทียบก็หุบปากฉับ ขี้เกียจพูด

“ฉันให้เวลา 10 วิฯ”

“สิบ”
.
.
.
“หนึ่ง”

“....ศูนย์” ผมนั่งนิ่ง ไม่ขยับเขยื้อนฟังเสียงเขานับถอยหลังเรื่อย ๆ ...จนได้ยินเสียงล็อคประตูรถอีกครั้งหนึ่ง

“..จะทำอะไร” ผมถามงง ๆ เมื่อเขาปลดเข็มขัดนิรภัยออก

“ฉัน จะ ‘ปล้ำ’ เธอ” เขาบอกช้า ๆ ชัด ๆ เน้นเสียงคำว่า ปล้ำ..

“เฮ้ย! ผมจะลงจากรถ” ผมบอกอย่างตื่น ๆ เอื้อมมือเปิดประตูรถ แต่เปิดไม่ออก

“เสียใจด้วย หมดเวลาแล้วเด็กน้อย” เขาบอกเสียงเรียบ

“อย่ามาล้อเล่น”

“ฉันไม่ได้ล้อเล่น”

“ทำอะไร ? ฉันมีคอนดอม” เขาบอกกลั้วหัวเราะ เมื่อเห็นผมล้วงกุก ๆ กัก ๆ ในกระเป๋าบอดี้โกลฟ.. ผมกำลังหาคัตเตอร์มาต่อกรกับเขาต่างหาก!! ไส้ทะลักแน่วันนี้!!

“ไอ้บ้า!! ตาแก่โรคจิต” ผมด่าเขาเบา ๆ ..แต่ดันได้ยินซะนี่..

“เธอว่าใครแก่!” เขาถามเสียงไม่สบอารมณ์

“คุณนั่นแหละ!” ผมตอบกลับแทบจะทันที มองหน้าเขานิ่ง

“ฉันเพิ่ง 26” เขาพูดเหมือนจะบอกเป็นนัย ๆ ว่า ‘ฉันยังไม่แก่!’

“ผม 18 ..ห่างกันเกือบ 10 ปี!” ผมบอก

“เธออายุเท่าน้องชายฉัน แต่ทำไม... อย่างกับเด็ก” เขามองผมเหยียด ๆ ไล่สายตาตั้งแต่หัวจรดเท้า

“หมายถึงอะไร!!” ผมถามอย่างโมโห ...เขาหมายถึงสมอง อีคิว หรือแบล็คจูเนียร์ฟระ!!

“...ก็รู้ ๆ กันอยู่” เขาเหยียดยิ้มให้ผม ..รู้สึกเหมือนแบล็คจูเนียร์โดนดูถูก!! ผมยอมไม่ได้!!

“ไอ้พี่ธีร์!!” ผมตวาดหน้าแดง พุ่งตัวยืดมือออกสุดแขนคว้าคอหนา ๆ ของเขาทั้ง 2 มือและออกแรงบีบสุดความสามารถ!... กระดูกหนาแบบนี้ไม่ตายหรอกหน่า... ผมเข้าข้างตัวเองในใจ

“อ่อก!! แบล็ค!!” เขาพยายามดึงมือผมออก แต่เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมปล่อยก็รวบตัวผมเข้าไปหา

“เฮ้ย!” ผมร้องอย่างตกใจเมื่อตัวลอยหวือข้ามเบาะ ผมมองสำรวจเกียร์รถว่าเคลื่อนที่รึเปล่า

“เฮ้ ๆ ..ห่วงตัวเองก่อนดีกว่ามั๊ย ?” เขาบอกเสียงแห้ง ก่อนกระแอมเบา ๆ ..

“ปล่อยดิ! อึดอัด! ตัวใหญ่ยังกะยักษ์!!” ผมบอก ทำหน้าบึ้ง ดันตัวจะกลับไปนั่งที่เดิม แต่เขาคว้าเอวผมเอาไว้แน่นจนกระดิกไม่ได้

“เฮ้ย! ปล่อย!!” ผมบอกเสียงหงุดหงิด ข่มความรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องมานั่งตักผู้ชายด้วยกันแบบนี้

“ฉันยังไม่ได้เอาคืน” เขาบอกเสียงเขียว จับใบหน้าของผมให้หันไปเผชิญหน้าจับดวงตาคมคู่สวยของเขา แต่ผมพยายามเบือนหนีจนเขาต้องล็อคคอผมเอาไว้แน่น จนแน่ใจว่าผมหันหนีไม่ได้แล้ว ..มือหนาจึงเอื้อมมาเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าให้ผมเบา ๆ ...ดวงตาสีสนิมของเขาทอดมองอย่างอ่อนโยน ....ทำไมผมรู้สึกแปลก ๆ แบบนี้ ?..

พอผมเริ่มเคลิ้ม เขาก็กระชากคอผมลงจนริมฝีปากสัมผัสกัน แถมฟันกระทบกันดึงกึก! ผมขอถอนความคิดที่ว่าเขาอ่อนโยนเมื่อตะกี้ออก!!

ผมร้องอู้อี้ในลำคอทุบไหล่เขาแรง ๆ เขารุกเร้าดันตัวผมจนติดมุมเบาะ หัวโขกกับกระจก ฝ่ามืออุ่นนั้นสัมผัสลูบไล้หน้าท้องและเอวใต้เสื้อยืดของผมเบา ๆ

เขาจูบริมฝีปากบน ..ขบกัดริมฝีปากล่าง และสอดลิ้นเข้าเกี่ยวกระหวัดลิ้นของผม ...เขาจูบเก่งจริง ๆ ให้ตาย ผมครางแผ่วเมื่ออุ้งมือหนานั้นค่อย ๆ ลูบไล้ผิวใต้เนื้อผ้าสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนหยุดหมุนวนที่ยอดอก ทำให้ผมสะดุ้งวาบ

“หยุด..” ผมพยายามดันคางสาก ๆ ของเขาออก แต่รู้สึกราวกับถูกดูดพลังงานออกทางปาก ..ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน ผมกำลังรู้สึก... รู้สึก......

ร่างของผมไหลลงต่ำเรื่อย ๆ ตามความหนักหน่วงของแรงบดจูบ แขนข้างหนึ่งของเขาโอบเอวผมเอาไว้ไม่ให้กลิ้งตกลงไปใต้คอนโทรล ....ยังดีที่มันไม่ไหลลงต่ำไปกว่านี้ เพราะเท้าของผมติดประตูของอีกฝั่ง... เหอะ ๆ

พี่ธีร์ ละริมฝีปากมองผมยิ้ม ๆ

“เก่งขึ้นรึเปล่า ?” ผมร้อนวูบบนใบหน้า อ้าปากจะด่า แต่เขาไม่รอให้ผมปล่อยตัวอะไรออกมาเพ่นพ่านให้เสียบรรยากาศ รีบประกบปากซ้ำ โอบตัวผมขึ้นนั่งคร่อมบนหน้าตักของเขา
 
ปี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!

เราทั้งคู่สะดุ้ง ผมหอบหายใจหนักมองศอกตัวเองที่เผลอไปจิ้มแตรรถ หันมามองหน้าเขางง ๆ ....ก่อนตะเกียดตะกายกลับไปนั่งที่เดิมเงียบ ๆ ...เขาส่งเสื้อยืดคืนให้ผม...

ผมรับคืนมางง ๆ ก่อนสวมกลับ ...ถึงว่าทำไมมันเย็น ๆ ....ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาถอดเสื้อของผมออกตั้งแต่เมื่อไหร่ ......ถ้าไม่เผลอกดแตร ผมกับเขาจะเลยเถิดไปถึงขั้นไหนวะเนี่ย!! ไม่อยากจะคิดเลยว่าผมรู้สึกดีกับสัมผัสของเขาจนยอมให้เขาทำถึงขนาดนี้

เราทั้งคู่นั่งเงียบ ๆ ... ไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นอีก....
 
ถ้าผมยอมให้เขาจูบอีกละก็ ครั้งต่อไปผมต้องเป็นฝ่ายถูกจับกดอย่างสมบูรณ์แบบแน่ ๆ !!!

.......................................อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ทูบีคอนตินิว..........
 :เฮ้อ:ตอนนี้ก็เรื่อย ๆน่ะ ยังไม่คืบหน้ามากมาย มาลุ้นตอนหน้าน่ะค่ะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกะแบล๊ค ที่พี่ธีร์คอยตามประกบทุกฝีก้าว..
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 29 ตามติดชีวิตแบล๊ค[up 19.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 19-10-2011 22:59:38
ยอมโดนกด เถอะ แบล็ค ยังไงก็ ไม่รอด อ่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 28 ตามติดเป็นปาท่องโก๋คู่[up 19.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 19-10-2011 23:06:15
 :L2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 29 ตามติดชีวิตแบล๊ค[up 19.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 20-10-2011 07:59:55
น้องแบล็คยอมไปเต๊อะ 555
พี่ธีร์นี่เท่ห์จริงๆ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 29 ตามติดชีวิตแบล๊ค[up 19.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 20-10-2011 18:00:41
 :-[
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 30 แบล๊ค....[up 20.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 20-10-2011 23:39:54
- 30 -

ทำไมในหัวของผมตอนนี้ถึงมีแต่เรื่องตอนที่อยู่ในรถ ในรถ และในรถ!! ทั้ง ๆ ที่สมควรจะกลุ้มใจเรื่องที่แคนดี้เข้าใจผิดมากกว่า! แคนดี้กำลังเข้าใจผมผิดนะ! ผมเป็นอะไรไปเนี่ย!

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!

ผมตีอกชกหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ...สมองผมกระทบกระเทือนแน่ ๆ เลย ผมจับดินสอขีดเป็นรูปวงกลมหลายขนาดเต็มไปทั้งหน้ากระดาษ ...เวร! ดันไปเขียนใส่สมุดไอ้ปุ้น!! มันจะฆ่าผมมั๊ยเนี่ย! ถ้าลบออกตัวหนังสือที่มันจดไว้ไปหมดแน่ ๆ

ผมซบหน้าลงกับกองหนังสืออย่างหมดอาลัยตายอยาก ทำไมผมไม่โทรไปหาแคนดี้นะ! พอหยิบมือถือขึ้นมาก็นึกได้ว่าเครื่องนี้มันของเธียรนี่หว่า.. แถมผมก็จำเบอร์แคนดี้ไม่ได้ด้วย ผมถอนหายใจเบา ๆ แล้วซุกหน้าลงกับกองหนังสืออีกครั้ง แล้วหยิบสมุดชีวะเล่มหนาปึ๊กเปิดวางทับหัว หวังให้เนื้อหาทั้งหมดออสโมซิสเข้าสู่สมองโดยเร็ว

ตัวหนังสือจะมีการแพร่มั๊ยนะ ? มันจะลอยเข้ามาในสมองของผมได้รึเปล่า ? .. ตอนนี้ความหนาแน่นของความรู้ในสมองของผมมีน้อยจะตายอยู่แล้ว ช่วยซึมเข้ามาหน่อยเถอะ... จะได้ช่วยย่นระยะเวลาในการอ่าน พอปิดตาปุ๊บก็มีภาพสายตาของเขาแวบเข้ามาในหัว โอย~…. ลืมตาดีกว่า

“นั่นเธอทำอะไร ?” มีเสียงตามมาหลอนด้วย ฮือ ๆ ๆ ๆ...

“ออสโมซิส” ผมตอบเสียงในสมองไปเบา ๆ

“ออสโมซิส ??” เขาทำเสียงงง ๆ มีสงสัยด้วยแฮะ ไอ้เสียงในจินตนาการเนี่ย โง่จริงรึเปล่าเนี่ย... หรือว่า... ไม่หน่า.... ผมหันควับไปมองต้นเสียง หนังสือเล่มหนาบนหัวหล่นลงไปกองอยู่ข้างโต๊ะ เง้ออออ! ตัวจริงนี่หว่า!!.. ทำไมผมไม่ได้ยินเสียงประตูเลยวะ!

“ค...คุณเข้ามาทำไม ?” ผมถามเสียงรัวซ่อนความอาย รีบก้มเก็บหนังสือขึ้นมา ...เขาเข้ามาตอนผมทำอะไรแปลก ๆ อยู่ด้วยซิ ฮือ ๆ ๆ

“ฉันจะมาขอดูหน้าต่าง” เขาเดินปรี่เข้ามาอย่างกับบ้านตัวเอง.. พี่ธีร์ใส่เสื้อยืดตัวใหญ่มียี่ห้อกับกางเกงขาสั้นผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่จัดทรง ...ใส่ชุดสบาย ๆ แบบนี้แล้วรู้สึกเขาดูเด็กลงนิดหน่อย

“ข้างล่างซิครับ หน้าต่างเยอะแยะ” ผมบอกมองแขกไม่ได้รับเชิญเปิดหน้าต่างปล่อยให้ลมตีเข้ามา ...เขาทอดสายตามองออกไปยังความมืดข้างนอก

“ฉันหมายถึงหน้าต่างห้องเธอ” เขาบอกทั้ง ๆ ที่กำลังสอดส่องสายตาออกไปภายนอก ไม่ได้สนใจคู่สนทนาด้วยเล้ย..

“แล้วทำไมต้องห้องผม ??” ผมถามอย่างสงสัย

“เถอะหน่า” …พอได้ยินอย่างนั้นผมก็ขี้เกียจถามอะไรอีก หันมาสนใจหนังสือเล่มหนาบนโต๊ะต่อ..แล้วเขาก็พูดแทรกขึ้นมาเบา ๆ

“เธอน่าจะติดเหล็กดัด”

“ทำไมอีกอ่ะ ?” ผมเลิกคิ้วหันไปถามเขาที่ตอนนี้เปลี่ยนไปนั่งบนที่นอนของผม... อี๊!! เขากล้าดียังไงไปนั่งบนที่นอนของผม!! ถ้าผมโวยวายออกไปเขาจะหาว่าผมคิดเล็กคิดน้อยเหมือนผู้หญิงมั๊ยเนี่ย...

“มันปลอดภัย” คำตอบของเขาทำเอาผมขมวดคิ้วมุ่น..

“ปลอดภัยอีกละ” ผมอยู่ห้องนี้มาตั้งกี่ปี ไม่เห็นว่ามันจะไม่ปลอดภัยตรงไหน ไอ้การไม่มีเหล็กดัดเนี่ย!!

“ไม่สำคัญงั้นเหรอ ?” เขาถามงง ๆ ..และผมก็สวนตอบแทบจะทันที

“ไม่!”

ผมเลิกให้ความสนใจเขาหันกลับมานั่งขีดเขียนต่อ... เวลาล่วงเลยไปจากสี่ทุ่ม.. ห้าทุ่ม.. เป็นเที่ยงคืน ผมแอบหาวเบา ๆ มองตัวเลขกับตัวแปรตรงหน้าที่ออกอาการพร่าเลือน

“โอย ไม่ไหวแล้ว แคลคูลัส!! ลิมิตกลับหัวววว~” ผมบ่นเบา ๆ ปิดหนังสือทิ้ง ลุกขึ้นตั้งใจจะนอนหลับแล้วต้องชะงักกับภาพตรงหน้า

“ไอ้พี่ธีร์! นี่มันที่นอนผม!!” ผมโวยวายดึงร่างสูงใหญ่ที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียง แล้วปัดที่นอนเบา ๆ เหมือนกับมันจะสกปรก

“อืม...” เขาล้มตัวลงไปนอนอีกครั้งโดยไม่สนใจผม ปล่อยให้ผมหายใจฟึดฟัดด้วยความโมโห

“ไอ้พี่ธีร์~~~!!” ผมป้องปากตะโกนเรียกชื่อเขาใส่หูดัง ๆ เจ้าตัวแค่ยกมือขึ้นปัด ๆ ราวกับผมเป็นแมลงน่ารำคาญ!

“ไปนอนข้างล่างดิ นี่มันที่นอนผม!” ผมพยายามดึงแขนใหญ่ ๆ ของเขาลงจากเตียง แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหน จนผมรู้สึกโมโห ออกแรงลากเขาจนหล่นจากเตียงดังตุ๊บ!

“โอ๊ย! เธอ..ทำอะไรเนี่ย ?”เขาถามทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตา คลำหาทางแล้วกลับขึ้นไปเหมือนจะนอนต่อ แต่ผมรั้งเขาเอาไว้ทัน!

“พี่ธีร์ไปนอนข้างล่าง! เดี๋ยวผมจัดที่นอนให้!” ผมบอกอย่างอารมณ์เสีย ไม่เคยเจอใครนอนขี้เซาแบบนี้มาก่อน

“ไม่เป็นราย..”

“ไม่เป็นไรได้ไงเล่า! ลงมาเดี๋ยวนี้เลย!!” เขานอนอืดครางตอบอื้อ ๆ อ้า ๆ ไม่ยอมลุกขึ้นมาซักที สุดท้ายผมก็จนใจ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนดึงเอาผ้าห่มที่ยับยู่ยี่จากการนอนทับของเขาออกมา เห็นทีผมคงต้องนอนห้องกัณฐ์ ห้องไอ้บลูคงไม่ไหว รกเกินจะกล่าว..

ผมเป็นคนติดผ้าห่มครับ ต้องใช้ผ้าห่มตัวเอง .... เอาผ้าห่มกัณฐ์ไปให้เขาใช้...กัณฐ์ไม่ว่าผมหรอกหน่า...พอเห็นเขานอนอย่างสบายใจแล้วก็หงุดหงิด เขวี้ยงผ้าห่มกัณฐ์ใส่หน้าเขาอย่างอดไม่ได้.. แต่ด้วยจิตสำนึกดี ทำให้ต้องหันกลับไปจัดผ้าห่มให้เขาอีกรอบ

“..เธียร...” ได้ยินเสียงทุ้มละเมอเรียกชื่อน้องชายตัวเองแล้วหงุดหงิด

“โว๊ย! ผมใช่เธียรที่ไหนล่ะ!” ผมตะโกนใส่หูเขาด้วยความหมั่นไส้ เจ้าตัวทำตาสะลึมสะลือเหมือนยังไม่ตื่นมองมาที่ผมงง ๆ.. พอเห็นแบบนั้นผมเลยถอยทัพแต่เขาเอื้อมมือมาคว้าแขนหมับไว้เสียก่อน

“เธอ.. จะไปไหน ?” เขาถามเสียงงัวเงีย ดูเหมือนยังตื่นไม่เต็มร้อย

“ไปนอนห้องกัณฐ์” ผมตอบ

“นอนด้วยกันก็ได้หนิ” เขาล้มตัวลงนอนอีกครั้งแต่ยังไม่ปล่อยมือผม..

“ประสาท! เตียงนิดเดียว ..เอ๊ย!” จู่ ๆ เขาก็ดึงตัวผมเข้าหา คว้าเอวไปกอด ทำให้ผมเสียหลักลงไปนั่งปุอยู่ข้างเขา

“ตอนนั้นยังนอนได้เลย” เขาบอกเสียงงึมงำ ผมไม่ได้เอะใจว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร...

“ไอ้พี่ธีร์!!!” ผมตวาดอย่างไม่พอใจที่ดึงตัวผมไว้ ดิ้นขลุกขลัก พยายามแงะมือหนา ๆ ของเขาออก

“ยังโกรธอยู่เหรอ ?” เขาถามเบา ๆ ออกแรงกอดแน่นขึ้นจนผมรู้สึกอึดอัด

“เออ!” ผมตอบอย่างหัวเสีย และคิดว่าถ้าเขายังไม่ปล่อย ผมจะกระโดดทับท้องเขาให้จุกจนร้องไม่ออก

“....ขอโทษ” คำพูดแผ่วเบาของเขาทำให้ผมนิ่งงัน... เขาขอโทษเรื่องอะไร ?...พอหันไปมอง..เจ้าตัวก็หลับตาพริ้ม ไม่ได้สนใจอะไร ทำไม... ? ผมเพิ่งจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง....

ทำไมผมถึงไม่รู้สึกรังเกียจเขาเลย ?? เกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่!?

...ถ้าเป็นเมื่อไม่กี่วันก่อน แค่อยู่ร่วมห้องด้วยกันผมก็แทบอยากอาเจียนแล้ว ...แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมผมถึงไม่ขัดขืน ? ...หรือว่าผมกำลังจะชอบเขา ?? ความรู้สึกของคนมันเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วถึงขนาดนั้นจริงเหรอ ?? ไม่หน่า... ผมนึกภาพตอนเขาเปลือยแล้วรู้สึกหยึย ๆ แต่จะว่าไปผมไม่เคยเห็นเขาเปลือยแหะ...

เอาเป็นว่า.. ความรู้สึกของผม จากเริ่มแรกที่ติดลบ มันค่อย ๆ บวกเพิ่มขึ้นทีละนิดจนตอนนี้เริ่มสนิทใจกับเขาในระดับหนึ่งแล้วดีกว่า ผมพยักหน้ากับบทสรุปของตัวเองในความมืด ก่อนจะค่อย ๆ ดึงมือหนา ๆ ที่สวมกอดรอบเอวของผมออก ดูเหมือนว่าเขาจะหลับแล้ว.. มีเสียงหายใจสม่ำเสมอดังออกมาเบา ๆ ... ผมกลับไปนอนคลุมโปงในห้องกัณฐ์ ใช่.. ผมก็แค่หวั่นไหวกับเขานิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย

...แต่ว่าทำไม..... ผิวหนังส่วนที่โดนเขาสัมผัสยังคงรู้สึกอุ่นร้อนแบบนี้ก็ไม่รู้ เกิดอะไรขึ้นกับผม ????
 
พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็สายโด่ง!! ผมตื่นสาย!!! เพราะไอ้พี่ธีร์! ...ไอ้พี่ธีร์!!

พอกลับเข้ามาในห้องก็ไม่เจอคนตัวใหญ่ที่นอนบนเตียงผมแล้ว ไอ้บ้านั่นไม่เก็บที่นอนให้ผม!! ไม่ ๆ ๆ! ผมจะมาเสียเวลาเก็บที่นอนไม่ได้ ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อน

พอลงมาข้างล่างก็เจอเขาแต่งตัวเนี๊ยบใส่สูทพร้อมทำงาน นั่งอ่านหนังสือพิมพ์จิบกาแฟสบายอารมณ์ อย่างกับบ้านตัวเอง! มันจะสบาย ๆ ไปไหนวะ!!

“อ้าว.. ลงมาพอดี” ผมเดินผลุนผลันออกจากบ้าน ไม่รอฟังเสียงเขา

“เฮ้! เธอจะไปเรียนงั้นเหรอ ?” ผมพยักหน้าเบา ๆ พยายามทำหน้าให้เขารู้ว่าผมรีบมาก ไม่ต้องมาถามอะไรอีก!

“เธอเรียนวันละกี่ชั่วโมงเนี่ย ?” เขาถามอย่างทึ่ง ๆ เดินตามผมออกมา

“ผมกำลังจะสาย อย่ากวนได้มั๊ย ?” ผมส่งเสียงจิ๊จ๊ะ เมื่อเขาพยายามยื้อให้ผมคุยด้วย

“แต่เธอยังไม่กินข้าวเช้า” ผมขมวดคิ้วมุ่น ..มันจะอะไรกันนักกันหนา~

“ผมซื้อขนมแถวนั้นก็ได้ ตอนนี้ไม่ทันแล้ว”

“เฮ้ ๆ ..เธอลืมอะไรไปรึเปล่า ว่าฉันไปส่งเธอได้” ผมชะงัก หันกลับไปมองเขาอย่างมีความหวัง เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนเอ่ยถาม

“เอาล่ะ มีเรียนกี่โมง”

“แปดโมงครึ่ง” พี่ธีร์ก้มดูนาฬิกาก่อนพยักหน้าและเดินกลับไปปิดประตูบ้าน เขาพาผมแวะซื้อของกินจากเซเว่นมากินบนรถ

“อย่าเลอะนะ” เขาย้ำเป็นรอบที่ 3 ...หมั่นไส้ว่ะ ...ผมแอบเอาถุงขนมปังพับเรียบร้อยสอดไว้ที่เบาะในมุมที่คิดว่าเขามองไม่เห็น
แล้วก็แอบเอาหลอดนมที่เพิ่งดูดสอดไว้บนที่บังแดด ฮ่า ๆ ๆ !!

คอยดูเถอะไอ้พี่ธีร์ ถ้ามีสาวคนไหนดึงมันลงมา รับรองว่าลงหล่นใส่หัวหล่อนแน่ ๆ ...แต่ถ้าโดนธาล่ะก็ผมต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคร้าบ ฮุ ๆ

“เธอกำลังวางแผนอะไรอยู่ ?” ผมสะดุ้งนิด ๆ ที่ดูเหมือนเขาจะรู้ทัน

“ไม่มีอะไรนี่” ผมตอบเบา ๆ ซุกหน้ากับคอนโทรล แอบหัวเราะคิกคัก

“ไม่สบายรึเปล่า ?” เขาถามเหมือนจะกวน.. แต่น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย

“ทำไมคิดงั้น ?” ผมเลิกคิ้วหันไปถามงง ๆ

“เวลาอยู่กับฉัน เธอไม่เคยยิ้ม” พอเขาบอกผมก็เพิ่งจะรู้ตัว ..ว่าไม่เคยอารมณ์ดีเวลาที่อยู่กับเขาเลยซักครั้ง.. มิน่าเขาถึงชอบทำท่าบึ้งตึง ตีหน้าเรียบเฉยใส่ผมบ่อย ๆ แถมติดจะรำคาญนิด ๆ... ต่อไปผมจะยิ้มให้เขาบ่อย ๆ เขาจะได้ยิ้มให้ผมมากขึ้น... ผมคิดกับตัวเองในใจ....

“ขอบคุณคร้าบ~” ผมยกมือไหว้ยิ้มให้พี่ธีร์ลงจากรถอย่างอารมณ์ดี สายนิดหน่อยแต่ก็โอเค ผมโดนไอ้ปุ้นสวดยกใหญ่เรื่องที่ขีดหนังสือมันจนเละไปหมด ได้แต่ทำหน้าแหย ๆ ให้มันเห็นใจ

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย กูไม่สงสารเมิงหรอก” ไอ้ปุ้นบ่นเอามือตบหัวผมเต็มแรงจนหน้าหัน.. หนอย...

“ให้ทำหน้ายังไงอ่ะปุ้น ?” ผมถามอ้อน ๆ เกาะแขนมัน.. เหอ ๆ ผมไม่กล้าทำร้ายเพื่อนรักหรอกค้าบ...

“อี๋ย์ ขนลุก!” ไอ้ปุ้นรีบสะบัดแขนผมทิ้ง ผมหัวเราะเบา ๆ

“เพื่อนปุ้นอย่าใจร้ายสิครับ น้องแบล็คแค่อ่านย้อนหลังก็ไม่ทันแล้ว” ไอ้หยางพยายามพูดเข้าข้างผม

“งั้นมึงจงจดให้กูใหม่แทนไอ้แบล็ค” ไอ้ปุ้นชี้หน้าหยาง พอมันได้ยินแบบนั้นก็รีบกลับลำ

“งั้นให้น้องแบล็คทำไปเถอะเพื่อนรัก” …ขอบใจว่ะ หยาง.... ผมทำหน้าเบื่อ ๆ รับสมุดไอ้ปุ้นมา ...สุดท้ายก็มีอันต้องจดใหม่ให้มันทั้งหน้า

“แบล็ค...” ผมไม่ได้ยินเสียงหวานของเธอเรียกจนกระทั่งไอ้เจสะกิดเบา ๆ แล้วชี้ไปด้านหลัง แคนดี้ยืนมองมาที่ผม พอผมเดินไปหา เธอก็มองเพื่อน ๆ ของผมเหมือนกับจะไล่กลาย ๆ ผมจึงพยักเพยิดให้พวกมันเดินไปโดนไม่ต้องรอ

ผมแยกกับเพื่อน ไปกับแคนดี้ 2 คน ...เธอพาผมเดินไปที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่อยู่ใกล้ ๆ ..ชวนผมกินข้าวเที่ยง และทานไอศครีมต่อ

“แบล็ค ...แคนดี้ถามจริง ๆ เถอะว่าเรายังรักกันอยู่ใช่ไหม ?” ในที่สุดเธอก็เป็นฝ่ายเริ่มเปิดประเด็นหลังจากนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระชวนอึดอัดใจเล่นกันมาพักใหญ่ ผมนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนตอบในลำคอออกไป.. ผมยังรักเธอ...

“..........อืม...”

“แล้วทำไม ?....”

“...เป็นเรื่องเข้าใจผิด” ผมกล่าวตัดบท มองดูไอศครีมวานิลาที่เริ่มละลายเป็นของเหลว

“เข้าใจผิดงั้นเหรอ ?” เธอถามเสียงสูงก่อนกล่าวต่อ

“จูบกันดูดดื่มขนาดนั้นน่ะนะ” คำพูดของเธอทำเอาผมสะดุ้ง.. เธอไปเห็นผมจูบกับเขาเมื่อไหร่ ?

“…..แคนดี้” ผมเรียกชื่อเธอเบา ๆ อย่างไม่เชื่อหู... แล้วเธอก็เบือนหน้าหนีผม ริมฝีปากแดง ๆ นั้นเม้มแน่น.. ผมรู้ว่าเธอกำลังโกรธ กำลังเสียใจ ...

“...เราจะกลับมาคบกันเหมือนเดิมได้อีกรึเปล่า ?” เธอถามเบา ๆ

“.....” คำถามของเธอทำให้ผมเงียบ.. ทำไมจู่ ๆ เธอกลับมาขอคบกับผม.. ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นฝ่ายบอกเลิกกับผม เป็นคนที่ไปมีคนอื่นก่อน... แน่นอนว่าผมให้อภัยเธอ...

“...ตอบหน่อยสิแบล็ค” เสียงของเธอเร่งเร้าและอ้อนวอน ....แต่ว่าผม....

“...ไม่ได้.....” …ผมสกปรกเกินกว่าที่จะแตะต้องเธอได้อีกแล้วละมั้ง... ผมไม่รู้ว่าเธอจะรับได้รึเปล่าที่ผมเคยมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน.. ผมไม่อยากให้เธอเสียใจอีก... 

“โอเค...” แคนดี้บอกเสียงแผ่ว มือเล็ก ๆ ของเธอสั่นน้อย ๆ ตักคนไอศกรีมที่เหลวละลายราวกับจะทำให้มันกลับมาแข็งได้อีกครั้ง ...ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่สามารถกลับมาเป็นก้อนอย่างเดิมได้แล้ว.....

“แคนดี้ก็มีเขาอยู่แล้วนี่” ผมอดพูดประชดออกไปไม่ได้ ..เธอสบตาผมและคำตอบกลับทำเอาผมนิ่งอึ้ง

“ใช่... และแบล็คก็มี ‘เขา’” เธอเน้นเสียงคำว่า ‘เขา’ พร้อมสบตากับผม ...ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายหลบตาเธอ...

“....” ผมนั่งเงียบ ๆ มองดูเธอตักไอศกรีมเหลว ๆ เทกลับลงแก้ว.. และคนไปมา เราตัดสินใจจ่ายเงินและเดินออกมาเงียบ ๆ ก่อนที่เธอจะเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง

“แบล็คคบกับเขามานานเท่าไหร่แล้ว ?” ผมเหลือบสายตามองคนที่เดินข้าง ๆ ก่อนตอบไปตามความจริง

“...ไม่เคยคบ”

“ทำไมยังต้องโกหกอีก” เธอหันมาถามผมเสียงสูง ...เริ่มออกอาการไม่พอใจ

“ไม่ได้โกหก” ผมลอบถอนหายใจเบา ๆ… ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เธอเชื่อได้ยังไง...

“อ๋อ.. เป็นพวกที่มีอะไรกับผู้ชายคนไหนก็ได้ใช่มั๊ย ?” ผมอึ้งกับการสรุปเอาเองของเธอ พอเห็นผมไม่ปฏิเสธเธอก็พูดต่อ

“เพราะแบบนี้ใช่มั๊ย แบล็คเลยไม่ยอมมีอะไรกับเรา ?”

“แคนดี้...” ผมเรียกชื่อเธอเสียงแผ่ว.. ทั้ง ๆ ที่ผมให้เกียรติเธอมาตลอด.. แต่เธอพูดทำลายตัวเองเสียย่อยยับ

“ทำไมแบล็คไม่บอกตั้งแต่แรกว่าแบล็คเป็นเกย์!!” เธอตวาดก่อนตบหน้าผมฉาดใหญ่... ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองชาไปครึ่งซีก... เธอเดินหนีผมไปโดยไม่หันกลับมามองอีก...

ผมมองนาฬิกาเบื่อ ๆ ..คนรอบข้างต่างมองมาที่ผมเป็นจุดเดียวบางคนก็หัวเราะกระซิบกระซาบกับเพื่อน เซ็งเป็ด.. ไม่รงไม่เรียนแล้ว ผมขอโดดชั่วโมงนึง.. พอล้วงมือถือออกมาก็นึกได้ว่าน่าจะซื้อมือถือใหม่ซักที...ผมเดินเอื่อย ๆ ไม่สนใจว่ามีใครมอง เดินเข้าไปในห้องน้ำชายอย่างเซ็ง ๆ

กำลังยืนอยู่ดี ๆ ก็มีคนมายืนโถข้าง ๆ เหล่ตามอง ...พอรู้ว่าผมจับได้ยังฉีกยิ้มหวานส่งให้อีก อารมณ์เสียโว๊ย!!! ผมรีบเดินหนีก่อนทำมือส่งสัญลักษณ์แห่งความรักให้ไอ้คนที่ยืนโถข้าง ๆ เล่นเอาเขาหน้าม้านไปเหมือนกัน 555+

“เดี๋ยว! เฮ้!” ผมหันไปมองคนที่เรียก เหอะ ๆ.. ไอ้โรคจิตนั่นตามมารังควาญนี่เอง

“เรียกผมเหรอ ?” ผมถามทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาเรียกผมนั่นแหละ

“อืม.. ชื่ออะไรเหรอ ?” เขาพยักหน้าและส่งยิ้มหวานให้ผม เหอะ ๆ ....เขาเป็นผู้ชายผิวค่อนข้างขาวจัด ดูค่อนข้างสุภาพ ต่างจากกิริยาที่เพิ่งทำในห้องน้ำ เหอะ ๆ ๆ ๆ...

“แบล็ค” ผมตอบเสียงห้วน

“พี่ชื่ออาร์นะ มีเบอร์รึเปล่า ?”

“ไม่มี” ผมตอบปัดทำหน้ารำคาญ และคิดว่าควรจะเดินหนีไอ้หมอนี่

“ว้า.. งั้นเหรอ ?” เขาพึมพำยิ้ม ๆ แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงหัวเราะใส ๆ เข้ามาแทรก

“ฮะ ๆ ๆ หนูก็บอกแล้วว่าพี่เขาไม่ใช่เกย์” พอผมเห็นร่างบอบบางของผู้หญิงแสนน่ารัก ขี้เล่นคนนี้แล้วก็ตกใจ

“ธา..” ..ทำไมจู่ ๆ เธอถึงเขามาเกาะแขนสนิทสนมกับไอ้โรคจิตคนนี้ได้เนี่ย

“เฉลยไวจัง นี่ถ้าพี่ตื้ออีกนิดอาจจะเห็นผล” ผู้ชายที่ชื่ออาร์บอกยิ้ม ๆ มือหนาขยี้ผมสีน้ำตาลหยิกเบา ๆ อย่างรักใคร่

“เล่นอะไรกัน ?” ผมมองดูภาพตรงหน้างง ๆ ...พวกเขาเล่นตลกอะไรกับผมเนี่ย...

“ก็พี่อาร์สงสารผู้หญิงที่เลิกกับพี่แบล็คเมื่อกี้น่ะค่ะ หนูก็คิดอยู่แล้วว่าเค้าคงเข้าใจผิด” ธาอธิบาย...  ไอ้หมอนี่เลยต้องมาทดสอบว่าผมเป็นเกย์รึเปล่าอ่ะนะ ?... ผมเหลือบตามองผู้ชายร่างสูงอย่างไม่ชอบใจ

“พี่ขอโทษด้วยแล้วกันนะ” เขาส่งยิ้มแหย ๆ ให้... คงจะรู้ว่าผมไม่ได้พอใจนัก

“...ผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ” ผมบอกเบา ๆ ....ดันส่งสัญลักษณ์แห่งความรักไปให้ด้วยสิ...

“พี่อาร์นี่ ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย” ธาบ่นเสียงงุ้งงิ้ง พอคนถูกว่าได้ยินก็หยิกแก้มของเธอเบา ๆ

“ใครจะมีเสน่ห์เท่าน้องธาละคะ หื้มมมมมมม ?” ท้ายประโยคของเขาลากยาว พร้อมกับโยกมือไปมา ..ธาปัดมือเขาออกทำหน้าบึ้ง... พอเห็นท่าทางสนิทสนมกันแบบนั้นแล้วทำให้ผมอดถามไม่ได้...

“เอ้อ.. แฟนธาเหรอครับ ?” ผมกระซิบถามเธอเสียงเบา ..พอเธอได้ยินแบบนั้นก็สะดุ้งรีบปฏิเสธ

“อ๊ะ! ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ ๆ” เธอส่ายศีรษะรัว ..แต่ใบหน้ากลับแดงจัด...

“อ้อ....” ..พอเห็นท่าทางแบบนั้นของธาก็พอจะเดาออก... ผมแอบยิ้มให้เธอนิด ๆ อย่างรู้ทัน... งานนี้ไอ้ไทม์ชวดแหง ๆ

“งั้นผมขอตัวนะครับ ไปแล้วนะธา หวัดดีฮะ” ผมโบกมือยิ้ม ๆ ...ถ้าอยู่นานกว่านี้อาจจะขัดขวางเวลาแห่งความสุขของเธอก็เป็นได้...

“เดี๋ยว! เดี๋ยวค่ะพี่แบล็ค” ผมเลิกคิ้วมองเธอ

“คือ.. ธาสังเกตมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ...มีผู้ชายอีกคนแอบตามพี่แบล็คมาด้วยค่ะ” ธากระซิบกระซาบกับผม

“หา ?” ผมเกาหัวแกรก ๆ ...หรือจะมีคนมาทดสอบว่าผมเป็นเกย์อีกวะเนี่ย...

“อยู่ทางทิศสิบนาฬิกา ข้างร้านรองเท้าน่ะค่ะ เสื้อสีน้ำเงิน” ธากระซิบเบา ๆ ผมมองไปตามทิศที่เธอบอก ...ก็คนธรรมดานี่หว่า...

“บังเอิญละมั้ง” ผมบอกเธอยิ้ม ๆ ก่อนจะบอกลากันอีกรอบ พอเหลือตัวคนเดียวแล้วผมก็รู้สึกเบื่อ ๆ อีกครั้ง คิดว่าควรจะซื้อมือถือใหม่ในเวลาที่เหลืออยู่ซักที...

แต่เริ่มรู้สึกได้ว่าผู้ชายเสื้อน้ำเงินนั่นตามผมไปทุกที่อย่างที่ธาบอกจริง ๆ แถมใส่หมวกปิดหน้าปิดตา.. หรือว่ามันเป็นโรคจิตฟระ ?! ...

ตอนนี้ผมเลยเริ่มนอย.. หรือว่าผมควรจะวิ่งหนี หรือว่าทำเป็นไม่สนใจ หรือว่ายังไงดี ว๊อยยย~~!! ยิ่งคิดยิ่งเครียด!!

จู่ ๆ ก็มีมือมาปิดปากผมจากด้านหลังและลากเข้าสู่ซอกหลืบ... ทั้ง ๆ ที่คนเดินอยู่เต็มห้างเนี่ยอ่ะน่ะ! ผมดิ้นพยายามกลั้นหายใจเมื่อได้กลิ่นฉุนติดจมูก

ใคร ???!!

ไม่ใช่ไอ้เสื้อน้ำเงินตะกี้ด้วย! ...ถ้าจะให้ผมเดา.. คนของไอ้หมวยแหงม ๆ!!

ผมพยายามส่งเสียงร้อง ง้างมือหนา ๆ ที่อุดปากอุดจมูกของผมออกแต่ก็ไม่กระดิก

ไม่น๊า~~!! ..

ใครก็ได้ช่วยผมด้วยยยยยยยยย~!!!

..................................................................ทูบีคอนตินิว..คึคึ
หวังว่าคงถูกใจและชื่นชอบน่ะค่ะและที่สำคัญขาดไม่ได้ ขอบคุณมิตรรักนักอ่านทุกท่านด้วยใจจริง พรุ่งนี้พบกันกับตอนหน้า ที่แสนเครียด และกดดัน :m31:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 30 แบล๊ค....[up 20.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 21-10-2011 00:00:59
อุ๊ย  เครียดเร้อ  รอต่อ~  พี่ธีร์อยู่ไหนน้องแบล็คเกิดเรื่องแล้ว
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 30 แบล๊ค....[up 20.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 21-10-2011 00:06:18
พี่ธีร์ ปล่อยให้คลาดสายตาได้ไงเนี่ย งานเข้า งานงอก
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 30 แบล๊ค....[up 20.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: the_pupae ที่ 22-10-2011 01:57:34
ซันซ้อนซ่อนเงื่อนจริงๆ o13
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 31 งานเข้าพี่ธีร์ +18[up 22.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 22-10-2011 22:22:56
- 31 -
 
พี่ธีร์..

ผมกำลังนั่งพิจารณาเอกสารตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย หมุนควงปากกาในมือไปมา มือถือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะสั่นกระทบพื้นผิวดังครืดคราด. ผมเดาะปากเบา ๆ เมื่อเห็นเบอร์ที่ไม่ปรากฏบนหน้าจอโทรเข้ามา.. งานเข้าอีกแล้วสิเนี่ย

“ว่าไง..” แล้วผมก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อปลายสายน้ำเสียงร้อนรน และพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ให้ผมฟังอย่างรวดเร็ว
แบล็คหายตัวไปอีกแล้ว. น่าปวดหัวชะมัด. คนเรานี่ก็แปลก วิธีเข้าหาง่าย ๆ เยอะแยะดันไม่ทำ เลือกใช้วิธีแปลก ๆ ซะนี่

ความจริง ผมคิดอยู่แล้วว่าเด็กคนนั้นไม่ล้มเลิกเรื่องแบล็คง่าย ๆ แน่.แต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ ผมวางสายโทรศัพท์และเดินออกไปหน้าห้องที่มีเลขาคนสนิทนั่งพิมพ์ก๊อกแก๊กอยู่หน้าจอคอมฯ พร้อมสั่งงานเธอ

“กิ่งช่วยเคลียร์ตารางทีเลื่อนนัดไปให้หมดเลยนะ”

“ช่วงนี้คุณธีร์ยุ่งจังเลยนะคะ” เลขาสาวที่แสนจะมุ่งมั่นทำงานดันแว่นกรอบบาง สบมองผม

“อืม.. ติดต่อจันให้ฉันด้วย” ผมบอกต่อ ไม่สนใจทีท่าเหมือนจะจับผิดของเธอ

“จันไหนคะ ?” กิ่งเอียงคอถาม เธอพูดเหมือนกับว่าผมรู้จักผู้หญิงชื่อจันหลายคน ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่าผมแอบตำหนิในใจ จึงเอ่ยชื่อของผู้หญิงที่มีชื่อเล่นว่า ‘จัน’ ให้ผมเลือก “สิริขวัญ พิมพ์จันทร์ วรางคณา....”
 
“จันทิรา” ผมบอกตัด เพิ่งรู้ว่าตัวว่าผมรู้จักผู้หญิงที่ชื่อจันหลายคนเหมือนกัน

“คุณจันทิรานี่... ไม่เห็นนานแล้วนะคะ” เธอบอกพร้อมทำท่านึก...

“อืม” ผมตอบรับในลำคอเบา ๆ มองเลขาสาวที่จัดตารางเวลาแทบทุกเรื่องให้ผมแล้วส่ายศีรษะเบา ๆ บางทีการมีคนที่รู้เรื่องของผมมากเกินไปอยู่ใกล้ ๆ ก็ทำให้ผมหงุดหงิดได้เหมือนกัน
 
“คุณอยู่ไหน ?” ผมกรอกเสียงลงในโทรศัพท์

“มีอะไรเหรอคะ ?” น้ำเสียงของอีกฝ่ายฟังดูประหลาดใจที่ผมโทรหาเธออีก

“น้องคุณมีปัญหาอีกแล้ว” ผมพ่นลมหายใจออกเบา ๆ พอเธอได้ยินแบบนั้นก็ร้อนรนและโทรเช็คว่าน้องชายของเธอกำลังไปเที่ยวเล่นอยู่ที่ไหน.. แต่สถานที่ ๆ เขาอยู่ทำให้ผมสะดุดใจ

“เดี๋ยวจัน ที่ที่สายของผมบอก มันคนละทางกับที่คุณพูดนะ”

“เอ๋ ? นันอยู่ที่นั่นนี่คะ” น้ำเสียงเธอบอกอย่างประหลาดใจไม่แพ้กัน.. ผมตัดสินใจไปตามที่ ๆ จันบอก.. พบนันสิตาอยู่กับเพื่อนของเขา ไม่มีแม้แต่เงาของคนที่ผมตามหา...ผมตรงเข้าไปกระชากแขนเล็ก ๆ ขาวซีดของเขา ..เขามีท่าทีตกใจนิดหน่อย แต่ก็เดินตามผมมาโดยดี

“เธอพาเขาไปซ่อนไว้ที่ไหน ?” ผมถามเสียงเรียบ

“เราไม่ได้เจอกับแบล็คเลยตั้งแต่วันนั้น” นันสิตากอดอกตอบ พอเห็นผมทำตาดุ ๆ ใส่เลยอธิบายเพิ่ม

“เราคิดจะบอกความจริงทั้งหมด เหมือนอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ...” เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนเสยเส้นผมที่ปรกหน้า

“เขาหายไปงั้นเหรอ ?” ผมพยักหน้าเบา ๆ

“เราสาบานได้ว่าครั้งนี้เราไม่เกี่ยวจริง ๆ” ...ถ้าไม่ใช่เด็กคนนี้...แล้วใครกัน..? ..ใครอีกที่อยากจะได้ตัวเขา.. ?

สายของผมรายงานอีกครั้งว่ารถที่ติดตามคลาดสายตาไปได้ ผมกำมือแน่น ....

ครั้งแรก... ผมแค่บังเอิญอยู่ที่โรงแรมนั่น
ส่วนครั้งที่สองผมก็ตั้งใจจะไปคุยกับนันสิตาเฉย ๆ ไม่คิดว่าจะเจอเขา
...แต่ครั้งนี้มันไม่โชคดีเหมือนที่ผ่านมาทั้ง ๆ ที่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกว่าครั้งไหน ๆ....

ทางสุดท้ายที่ผมคิดออกคือ ไอศวรรย์.. เอ็กซ์เป็นผู้หญิงที่อยู่ตระกูลใหญ่และกว้างขวาง เธอถนัดนักล่ะเรื่องที่ผู้หญิงไม่ควรจะทำ มีประสบการณ์โดนลักพาตัวมากกว่า 10 ครั้งในวัยไม่ถึง 10 ขวบ เหอะ ๆ...

เธอเป็นรักแรกของผมเลยก็ว่าได้.. จำได้ว่าตอนพบเธอครั้งแรก เธอก็ทำลายฝันของผมย่อยยับโดยการกระโดดถีบกลางหลังผมที่กำลังเล่นกับน้องชายของเธอ.. เวลาผมกลับมาไทย พ่อก็หมั่นพาผมไปบ้านโมกขบริสุทธิ์เพื่อสานสัมพันธ์กับเธอนักล่ะ.. แต่ไม่เคยเลยที่เธอจะคุยกับผมดี ๆ เจอทีไรก็กันท่าขู่ผมตลอด ......และผมก็เข้าใจจิตใจของเธอเมื่อผ่านไปเกือบ 15 ปี...

....เราทั้งคู่แอบรักน้องชายของตัวเอง เสียแต่ว่าเธอเป็นผู้หญิงเท่านั้นแหละ... ช่วงแรกที่ผมเริ่มรู้ตัว ก็ได้เธอเป็นเพื่อนคุยเข้ากับผมได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย...

“จะให้ฉันหาคนน่ะนะ ?” เธอส่งเสียงแหลมอย่างไม่เชื่อหูมาจากปลายสาย

“ฉันจำได้ว่าเธอมีเครื่องอะไรซักอย่างที่เอาไว้ติดตามน้องชายเธอ” ผมพยายามนึกถึงเรื่องที่เธอเคยนำมาโอ้อวด..

“แกรู้เรื่องนี้ได้ยังไง๊!!” แต่เจ้าตัวกลับลืม...

“ฉันรู้แล้วกัน”

“จะบ้าเหรอนั่นมันเครื่องติดตาม จะหาคนไม่รู้จักได้ยังไงเล่า! ฉันไม่ใช่นางฟ้านะว้อย!” เธอส่งเสียงโวยวายและดูเหมือนว่าถ้าผมไม่รีบหาข้อเสนอ เธอคงจะตัดสายผมทิ้งอย่างไม่ใยดี....

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่นางฟ้า แต่ถ้าไม่ช่วยหา รับรองว่าคืนนี้น้องชายเธอไม่ได้กลับบ้าน”

“อะไรนะ!!” ผมดึงมือถือออกห่างจากใบหู...

“อาร์อยู่กับน้องสาวฉัน ว่าไง ?”

“อี๋!!! นังเด็กนั่น!!” ผมรีบแยกมือถือออกห่าง ไม่อยากฟังเสียงกรีดร้องพร้อมกับคำผรุสวาทซักเท่าไหร่..

“เร็วเข้า ฉันมีเวลาตัดสินใจไม่มาก” ผมเร่งเธอ มองดูนาฬิกาข้อมือ.. ดูเหมือนว่าผมจะใช้เวลาหมดไปกับการคว้าน้ำเหลวเสียเยอะ

“ก็ได้! เอาข้อมูลของคนที่นายจะหามา” ผมถอนหายใจโล่งอก.. โชคดีจริง ๆ ที่วันนี้ธามีนัดเดทกับน้องชายของยัยนี่.. ไม่อย่างนั้นไม่ต้องหวังเลยว่าเธอจะช่วยเหลือใครโดยไม่รับสิ่งตอบแทน...
ผมบอกรายละเอียดคร่าว ๆ ตามที่สายรายงานให้

“รู้มั๊ยว่าเวลาชั่วโมงนึงของฉันสามารถทำเงินได้เท่าไหร่ ?”

“เธออย่าบ่นได้มั๊ย ?”

“สายของนายโดนจับได้เหรอ ?” ผมถอนหายใจตัดสายโทรศัพท์รอข่าวจากเธอ ...
 
ผมไม่รู้จะทำยังไง รู้สึกเป็นห่วงจนกระวนกระวาย ได้แต่เดินไปเดินมารอสายโทรศัพท์เข้า.. นี่มันกินเวลาไปหลายชั่วโมงแล้ว.. ถ้าเขาถูกฆ่าปิดปากป่านนี้เรียบร้อยไปนานแล้ว...

ผมแทบจะโห่ร้องเมื่อมีสายของ ‘ไอศวรรย์’ โทรเข้ามา เธอบ่นเบา ๆ ว่ารถที่ผมบอกเป็นรถรับจ้างที่ถูกสั่งมาอีกทอดหนึ่ง และเธอต้องล้วงข้อมูลมากว่าจะรู้ว่ามีเด็กผู้ชายตามที่ผมระบุถูกส่งไปที่ไหน... ผมอยากจะบอกเธอว่าผมไม่เคยพัวพันกับไอ้เรื่องโดนลักพาตัวแบบนี้มาก่อน... จะไปรู้ได้ยังไง

ประมาณทุ่มหนึ่ง ผมก็เดินทางมาถึงสถานที่นัดพบหลังเธอเล็กน้อย.. ที่นี่เป็นบ้านโทรม ไม่มีคนอาศัย.. แต่ภายในกลับมีเฟอร์นิเจอร์และไฟฟ้าเหมือนมีคนมาใช้บ่อย ๆ

“น่าจะเป็นพวกวัยรุ่นแถวนี้ มาสูบยากันนะครับ” ลูกน้องของเธอบอก มองดูสภาพในบ้าน …เธอพาลูกน้องคนสนิทมาแค่ 2 คน.. คงมั่นใจในฝีมือพวกเขาได้.. ผมเห็น 2 คนนี้มาก่อนเวลาไปบ้านของเธอ จำได้ว่าผู้ชายชื่อ ‘เหยี่ยว’ ส่วนผู้หญิงชื่อ ‘ซี’

“ไม่เห็นมีใครเลย” ผมพึมพำเบา ๆ ... แถมตอนนี้ก็มืดแล้วด้วย...

“ยังไม่ได้ขึ้นไปดูข้างบนเลย” เอ็กซ์แหวและเดินนำหน้าพวกเราขึ้นไป ห้องแล้วห้องเล่าที่ถูกเปิดไม่มีวี่แววของคนพักอาศัย

“เอ.. แปลกจัง” ซีเดินกลับเข้าไปในห้องที่เราเข้าไปแล้วก่อนตะโกนออกมา

“คุณเอ็กซ์คะ ห้องนี้มีห้องลับ” ผมรีบตามเข้าไปดูด้วยความหวัง..

เธอพาผมเปิดเข้าไปในห้องน้ำ และในห้องน้ำนั้นมีประตูห้องที่แอบอย่างแนบเนียนอีกที ทันทีที่เปิดผมได้กลิ่นอับและคาวคลุ้ง.. รีบเอื้อมมือคลำหาสวิตซ์ไฟ...

เศษผ้าที่ฉีกขาดเกลื่อนบนพื้นห้อง ....ผมแทบไม่เชื่อสายตา.. เมื่อเห็นร่างโปร่งเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยบาดแผลนอนคุดคู้อยู่มุมเตียงเล็ก ขาข้างหนึ่งของเขาถูกล่ามโซ่ติดกับเตียงนั่น... ทำไมถึงทำเหมือนเขาเป็นสัตว์แบบนี้....ผมรีบตรงไปหาเขา พอเจ้าตัวรู้ว่ามีความเคลื่อนไหวในห้องก็สะดุ้ง

“อย่าเข้ามานะ!” เสียงแหบแห้งที่ผมเริ่มจะชินหูตวาดไล่ ..ไม่รู้ทำไมผมถึงร้อน ๆ นัยน์ตา... ทั้ง ๆ ที่เจอเขาแล้วก็น่าจะจบเรื่อง

“แบล็ค…” ผมคว้าใบหน้าของเขามองดูลิ่มเลือดที่จับเป็นก้อนตรงมุมปากบาง แก้มของเขาแดงช้ำ.. เส้นผมสีดำสนิทชุ่มเหงื่อยุ่งเหยิง...

...เขาสบตามองผมนิ่ง ...ดวงตาสีดำขลับมีน้ำตาเอ่อคลอก่อนจะเอ่อไหลล้นอาบแก้ม นิ้วมือเย็นเฉียบเอื้อมมือแตะใบหน้าผมเบา ๆ

“ฮึก..ผม..นึกว่า...คุณ...จะไม่...มา” เขาบอกเสียงขาดห้วงปาดน้ำตาเบา ๆ ผมโอบเขาไว้ในอ้อนแขน ...ทั้ง ๆ ที่ปกติออกจะทำตัวอวดเก่ง แต่ตอนนี้เขากลับดูเปราะบางเหลือเกิน

ตัวของเขามีกลิ่นคาวที่ผมไม่คุ้นจมูกติดตัว.. และผมก็พบสาเหตุ... ถุงยางอนามัยเปรอะคราบเลือดถูกวางทิ้งไว้หลายชิ้น
เห็นเลือดผสมน้ำสีขุ่นเปื้อนตามเรียวขาของเขายิ่งทำให้ผมรู้สึกปวดใจ... นี่ไม่ใช่ครั้งแรก.... เขาเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งที่สอง... และหนึ่งในนั้นผมเป็นคนทำร้ายเขาเอง.... ถ้าพูดกันตามตรง ผมก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่ทำแบบนี้ซักเท่าไหร่...

“ชู่ว์... แบล็ค...ไม่เป็นไร...” ผมกระซิบบอกเขาเบา ๆ ปาดน้ำตาที่ไหลซึม.. ร่างกายของเขาสั่นเทา...เหมือนกับวันนั้น...

“ไม่มีใคร.... ผมไม่มีใครเลย” เขาพึมพำเสียงเครือ ซุกหน้าบนอกของผม ..

“เธอมีฉัน.. เธอยังมีฉัน” ผมบอกเบา ๆ สำรวจร่างกายเขา มีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด บางแห่งมีเลือดซึม.. ผมกดจูบตามรอยเชือกบาดบนข้อมือเล็ก ๆ ของเขา..

“หลีก” เอ็กซ์กล่าวเสียงเรียบ เหนี่ยวไกยิงสายโซ่เส้นเล็กจนขาดสะบั้นด้วยปืนเก็บเสียง ..ผมอยากจะต่อว่าเธอเรื่องความใจร้อน แต่สายตาดุ ๆ ของเธอเบือนไปทางอื่นทำให้ผมเข้าใจว่าเขายังเปลือยอยู่ และเธอคงจะอายนิดหน่อย...ผมรีบถอดสูทคลุมร่างที่จะละลายหายไปในอากาศของเขา และอุ้มออกมาจากห้องเล็ก ๆ อับ ๆ นั่น

“ทำไมคุณเอ็กซ์ทำแบบนั้นละครับ ไม่รอให้ผมเป็นคนสะเดาะ ถ้าเกิดพลาดขึ้นมา...” ..ลูกน้องคนสนิทของเธอบ่นกระปอดกระแปด

“แกอย่าพล่ามมากได้มั๊ยห๊ะ!” จบคำ เธอก็หน้าแดงดึงทึ้งผมของผู้ชายคนนั้น.. ไม่รู้ว่าเธอโกรธหรืออายอะไร ...

“ใครพาเธอมาที่นี่ ?” ผมถาม ...เขาส่ายหัว ส่งเสียงสะอื้น กระชับสูทคลุมปิดร่างกาย ..เดินเป๋ ๆ ..ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงจะหัวเราะเยาะเขา แต่ตอนนี้ผมหัวเราะไม่ออก

“จำได้มั๊ยว่ามีกี่คน” ผมถามอีกครั้ง ...เขาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ก่อนตอบ

“...พวกมันปิดตาผม” ...ไม่มีข้อมูลอะไรเลย

“ฉันจัดการให้” เอ็กซ์บอกเสียงดังก่อนเดินนำออกไป... ผมประหลาดใจเล็กน้อยที่เธอเสนอตัวทำเรื่องแบบนี้เอง...เหลือบมองเธอเพียงแวบเดียว.. ก็พอจะเข้าใจว่าเธอรู้สึกไม่ดีนักที่เห็นภาพอะไรแบบนี้…

“ขึ้นมาสิ” ผมมองเขายืนอยู่หน้าประตูรถ แต่เขากลับส่ายศีรษะ

“ทำไม ?” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ มองดูริมฝีปากบางเม้มแน่น...

“เดี๋ยวมันสกปรกนะ” ในที่สุดเขาก็ตอบ มองดูเบาะรถที่ผมหวงแหน..

“บ้า.. ขึ้นมา” ผมเอื้อมตัวดึงเขาขึ้นมาบนรถและปิดประตู....
 
ผมไปส่งเขาที่บ้าน ..ตอนแรกผมตั้งใจจะพาเขาไปส่งโรงพยาบาล แต่เขาไม่ยอมท่าเดียว ผมเลยต้องแวะซื้อยาแถว ๆ นั้นให้เขา
เสียงตึงตังของบันไดบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังตามลงมา

“.. ไปไหน ?” เขารีบวิ่งออกจากห้องน้ำในสภาพเปียกปอนกับผ้าขนหนูผืนเดียว.. เส้นผมสีดำเปียกลู่แนบตัดกับผิวขาวเนียนของเขา

“ฉันจะไปเคลียร์เรื่องนี้” ผมบอก มองดูรอยเขียวช้ำที่อยู่บนร่างกายเขา

“อย่าไป.. อย่าทิ้งผม” เขาอ้อน จับมือผมบีบไว้แน่น... ผมดูเขางง ๆ ...

“แบล็ค..” ผมย้ำชื่อเขาให้แน่ใจว่านี่คือแบล็คที่ผมรู้จักจริง ๆ ใช่มั๊ย ?

“อย่าทิ้งผมนะ” เขาช้อนตามองผมอย่างอ้อนวอน... ผมมองกิริยาของเขาด้วยความรู้สึกผสมปนเป.. เผลอโน้มตัวลงกดจูบลงบนริมฝีปากแดงช้ำ แต่เขาสะดุ้งหนี

“โดนอะไร ?” ผมถามแตะริมฝีปากเขาเบา ๆ ...สังเกตดี ๆ แล้วมีแต่รอยบาดเล็ก ๆ เต็มไปหมด

“กัดเชือก” เขาตอบ

“เชือก ?” ผมขมวดคิ้วงง ๆ

“ฮื่อ.. เชือกที่แขน.. ผมไม่อยากรอให้คุณมาช่วยฝ่ายเดียว...” ..พอได้ฟังแบบนั้นแล้วไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกแน่นหน้าอก.. ผมมองว่าเขาเป็นภาระมาตลอด...

ผมก้มลงประทับจูบเบา ๆ ที่ข้อมือของเขาทั้ง 2 ข้างของเขา ..และไล่ตามใบหน้า...ตั้งแต่หน้าผาก คิ้ว เปลือกตา จมูก แก้ม คาง และริมฝีปาก

“Deep kiss ไหวมั๊ย ?” ผมถามทั้ง ๆ ที่ริมฝีปากเราเบียดชิดกัน.. ไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมอยากจูบเขา..

“ถามทำไม ?” แบล็คขมวดคิ้วมุ่น... ผมหัวเราะเบา ๆ ก่อนส่งลิ้นสำรวจไปทั่วโพรงปาก ...เขาตอบรับจูบของผมแต่โดยดี
มือของผมสัมผัสร่างที่เย็นชื้นของเขาแผ่วเบา … จากอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน เขาไม่ขัดขืนผมเลยซักนิด ผมจูบไซร้ไปตามซอกคอ.. กกหู แบล็คตัวสั่นน้อย ๆ.. สบมองผมตาปรือ.. เวลาเขาทำตัวว่าง่ายแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน

“ฉันจะอยู่ข้าง ๆ” ..จนกว่าเธอจะหลับ

 
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 31 งานเข้าพี่ธีร์ +18[up 22.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 22-10-2011 22:25:33
.. เขานอนคว่ำอยู่บนเตียง สะดุ้งเป็นพัก ๆ เมื่อผมกดคลึงนิ้วมือเคลือบเนื้อยาบนผิวช้ำ ๆ ของเขา บางแห่งเป็นสีเขียวและเริ่มจะออกม่วง

“รอยอะไร ?” ผมถามมองดูรอยไหม้เล็ก ๆ บนผิวขาวเนียนบริเวณไหล่ด้านหลังของเขา

“บุหรี่” เขาตอบเบา ๆ ..ผมชะงักมือ.. พอเขาเห็นแบบนั้นก็พูดต่อ...

“ตอนโดนมันเย็น ๆ นะไม่เจ็บเลย” ..ไม่เจ็บจริงเหรอ ?.. หรือเขาพูดให้ผมสบายใจ..?

“เธอเป็นพวก Masochism เหรอ ?” ผมถามและกดคลึงหนักขึ้น

“โอ๊ย!” เขาสะดุ้ง เอื้อมมือมาทุบแขนผมเบา ๆ ........ขี้โกหกนักนะ ....ผมแกล้งกดหนัก ๆ ลงไปอีกครั้ง

“เจ็บนะ!!” เขาพยายามขยับหนี มองผมตาขุ่น ก่อนค้อนให้วงใหญ่ ....ผมหัวเราะเบา ๆ แล้วจับตัวเขานอนลงเหมือนเดิม

“มือของพี่ธีร์อุ่นจัง” ..จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาลอย ๆ

“เหรอ…”

“ฮื่อ.. ผมชอบ”

“จริงสิ” ผมถามยิ้ม ๆ

“อื้อ” เขาพยักหน้าแรง ๆ ให้ผมมั่นใจ..

“นี่...”

“หืม ?” ผมครางในลำคอตอบ

“....ขอกอดหน่อยได้มั๊ย ?” ผมเลิกคิ้ว.. แปลกแฮะ..

“อืม...” ผมไม่ปฏิเสธ ...เขาขยับแขนโอบรอบคอผม.. ได้กลิ่นแชมพูหอมอ่อน ๆ จากไรผมชื้น.. คิดไปเองรึเปล่าว่าเขาตั้งใจยั่วผม.. แถมสำเร็จด้วยสิ..ผมไล้มือตามแนวสันหลังของเขาเบา ๆ จูบต้นคอ..คาง แก้ม จมูก.. และกลับมายังริมฝีปาก..

“ฉันยังทายาไม่เสร็จเลย” ผมบอกเบา ๆ

“ทา..ให้หน่อยสิ” ...ผมไม่ได้คิดไปเองแฮะ....เขากำลังยั่วผมอยู่จริง ๆ... พอรู้แบบนั้นแล้ว ..ผมก็เริ่มหายใจแรง ชาหนึบบนหน้าขา.. ทุเรศชะมัดเขาเจ็บแบบนี้ยังมามีอารมณ์อะไรอีก

ผ้าขนหนูถูกถกร่นเผยให้เห็นปลีน่องขาวที่มีรอยฟกช้ำ และรอยกัด.. ผมลูบมือเบา ๆ ไปตามรอยซี่ฟันบนผิวเนื้อของเขา

“พี่ธีร์รังเกียจผมมั๊ย ?” เขาถามอย่างไม่แน่ใจ จ้องหน้าผม

“ทำไม ?”

“ผมสกปรก”

“สกปรกตรงไหน ?” เขานิ่งเงียบ..

“คิดมากจัง..” ผมลูบหัวเขาเบา ๆ และจูบหน้าผาก... ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาต้องการความรักมากกว่าปกติ... จนถึงขนาดมาขอความรักจากผู้ชายที่เขาไม่ชอบหน้าอย่างผม

“รังเกียจผมรึเปล่า ?”

“ไม่” ผมตอบ

“..” แบล็คเอื้อมมือคว้าคอผมโน้มเข้าหา.. อะไร ?... ริมฝีปากของเขาทาบทับริมฝีปากผม ลิ้นเล็ก ๆ เป็นฝ่ายเริ่มชอนไชเข้าสู่โพรงปากผมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ....เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายเริ่มต้น.... เขาพยายามทำเหมือนกับที่ผมเคยทำกับเขา.. แต่ก็ยังอ่อนประสบการณ์...

ผมจึงเป็นฝ่ายขึ้นนำแทน...ผมคร่อมทับร่างของเขา หยิบหลอดยาขึ้นบีบชโลมนิ้วมือช่องทางคับแคบของเขาบวมแดง ผมปาดเนื้อยาลงไปเบา ๆ และกดคลึงรอบ ๆ

...พยายามสอดนิ้วแทรกเข้าสู่ร่างกายเขาอย่างนุ่มนวลที่สุด แต่แบล็คก็กัดฟันกรอด และตอดรัดนิ้วผมจนแทบขยับไม่ได้.. ยังฟิตอยู่แฮะ.. บ้าเอ๊ย..แล้วผมมาคิดอะไรต่ำ ๆ ตอนนี้เนี่ย...

“เจ็บรึเปล่า ?” ผมถามเสียงสั่น ..เขาพยักหน้าเบา ๆ ..ผมจึงกดแช่นิ้วเอาไว้ซักพัก และเริ่มหมุนควง

“อ๊ะ..อ๊ะ….อย่าแกล้งดิ พี่ธีร์...” เขาช้อนตามองผมอาย ๆ เมื่อกลางลำตัวเริ่มมีปฏิกิริยา.. ผมหัวเราะเบา ๆ เสียดสีกลางลำตัวร้อนกับท่อนขาของเขาให้รู้ว่าผมก็รู้สึกไม่ต่างกัน

“เชื่อรึเปล่าว่าผมมีอารมณ์กับผู้ชายแบบไม่พึ่งยาเป็นครั้งแรก” เขาบอกหน้าแดง ..ผมยิ้ม ประกบจูบกับเขา ชั่งใจอยู่นานว่าจะทำแบบนี้ดีไหม...

สุดท้ายก็ตัดสินใจ Blow job ให้เขา.. ผมไม่เคยทำแบบนี้กับผู้ชายด้วยกันมาก่อน.. และไม่คิดว่าวิชาที่เคยฝึกไว้จะได้ใช้จริง ๆ ...แต่ผิดเป้าหมายไปหน่อย...

ใช้เวลาไม่นานเขาก็ถึงจุด.. ผมกลืนกินทุกหยาดหยดของเขาลงคอ รสชาติมันแปลก ๆ.. ปะแล่ม ๆ ผมปลุกเร้าอารมณ์ของเขาอีกครั้ง.. ทุกอย่างเป็นไปด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยนจนผมเองยังแปลกใจ... ผมถอดเสื้อและกางเกงออก เขามองหุ่นผมใบหน้าแดงซ่าน กลืนน้ำลายอึกใหญ่

“หุ่นดีอ่ะ” เขาออกปากชม ลากนิ้วมือผ่านกล้ามเนื้อหน้าท้องของผม..

“รู้มั๊ยว่าเธอลืมอะไรบางอย่าง” เขาทำหน้างง ๆ... ผมเพิ่งรู้ตอนที่พาเขาส่งโรงพยาบาลว่าเขากินยาซึ่งมีผลข้างเคียง.. ทำให้ความทรงจำหายไปในบางครั้ง ...ทำให้ผมเข้าใจผิด...

“ครั้งแรกของเราบนรถไง” ผมจับขาทั้งสองข้างของเขาไว้แน่น และสอดร่างกายเข้าไประหว่างขาหนีบ ผิวเนื้อเย็นช่ำของเขาสัมผัสกับแก่นกายอันร้อนขึงยิ่งทำให้อารมณ์ของผมลุกโชน

“มีด้วยเหรอ ?” เขาร้องเสียงหลง ผมยิ้มขยับเอวเบา ๆ จูบข้อเท้าของเขา และลากลิ้นไปตามฝ่าเท้า เขาหัวเราะและพยายามดิ้นหนี.. แต่ผมไม่ปล่อยหรอก..

“ฮะ ๆ อย่า! พี่ธีร์!!” เขาสะดุ้งเมื่อผมเอื้อมมืออีกข้างกุมแก่นกายเขารูดเบา ๆ ...แล้วก็มีแต่เสียงหอบหายใจ กับเสียงกระทบเนื้อ

“..พี่...พี่ธีร์...” ผมเลิกคิ้วมองเขา

“เข้ามา...ในตัวผม” เขาบอกเสียงขาดห้วง พยายามหยุดมือของผมที่เร่งจังหวะเขา

“..เธอเจ็บอยู่” ผมปฏิเสธ       

“ผมเจ็บยิ่งกว่าถ้าคุณไม่แตะต้องผม” เขาบอกเสียงเครือ..

“ถ้ามีใครทำแบบนั้นกับผม.. ผมอยากให้คน ๆ นั้นเป็นคุณ... แค่คุณคนเดียว” ผมสบตาเขานิ่ง ลังเลใจ...ผมควรจะทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอ ?...

“นะครับ..” พอเห็นเขาอ้อนแบบนั้นแล้ว สติของผมก็ขาดผึงเก็บกวาดความยับยั้งชั่งใจไว้ทีหลัง... ปล่อยให้ความหื่นเข้าครอบงำ...ผมดึงหมอนมาหนุนสะโพกของเขาให้สูงขึ้น ยกเรียวขาของเขาขึ้นพาดบ่า

“แบล็ค.. ลืมตาสิ” ผมจูบเปลือกตาของเขาเบา ๆ ...แกะมือที่กำแน่นจนสั่นของเขาประสานกับมือของผมไว้

“มองฉันไว้นะ” ...ฉันเป็นเจ้าของเธอ....ผมโน้มตัวลงจนขาของเขาแนบชิดกับลำตัว ...สบตามองเขา.. พอรู้ว่าเขาผ่อนลมหายใจก็ดันตัวแทรกเข้าไปทีละนิด ทีละนิด...จนรู้สึกถึงความอุ่นนุ่มที่บีบรัดแทบจะทุกส่วน .. รู้สึกดีกว่าใส่ถุงยางอีก ....

“โอย..” แบล็คคราง ..ดูเหมือนว่าเขาจะเจ็บ.. ผมจึงแช่ตัวเอาไว้นิ่ง.. รู้สึกถึงผิวเนื้อตอดตุบ ๆ... จนห้ามใจเบียดเนื้อแทรกเข้าไปต่อไม่ไหว..

เขากัดฟันแน่น กำมือแน่นจนผมรู้สึกเจ็บนิ้ว.. ดวงตาสีนิลของเขาไม่ละสายตาไปจากผมเลยซักเสี้ยววินาที...เมื่อหน้าท้องของผมแนบสนิทกับเนื้อนิ่มของเขา.. ผมผ่อนลมหายใจยาว ...ส่ายเอวเบียดหวังให้เขาผ่อนคลาย..

“จะขยับแล้วนะ” ผมกระซิบบอกเสียงสั่น จูบปลายจมูกชื้นเหงื่อก่อนเลื่อนมาประกบริมฝีปาก และเริ่มขยับเอว ...ทุกครั้งที่ผิวของเรากระทบกัน จะมีเสียงสั่นกระทบของโลหะเบา ๆ ... โซ่ที่เท้าของเขา....ผม ใช้ลิ้นดุนดันริมฝีปากเขาให้เผยอออกเปล่งเสียงร้อง

“...จุก..” เขาพึมพำ แต่ผมกลับเร่งเร้าหนักหน่วงขึ้น ....จนเขาร้องและเริ่มจะเปลี่ยนเป็นเสียงคราง เวลาแบล็คครางเรียกชื่อผมเสียงกระเส่า ผมแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมา.. ไม่มีใครเซ็กซี่ได้เท่าเขาแล้ว ให้ตาย... แบล็คขยับกายตอบรับผมด้วยจังหวะที่กระชั้นขึ้น ไม่กี่นาทีถัดมาเขาก็เกร็งตัว จิกเล็บลงบนหลังมือของผมที่ประสานอยู่ และบีบรัดร่างกายของผม ...จนผมกระตุกวาบฉีดพ่นความสุขเข้าสู่ช่องท้องของเขาอย่างท่วมท้น

แบล็คครางเบา ๆ ทุกครั้งที่ผมเกร็งกระตุก ร่างกายของเขาตอดรัดราวกับจะกลืนกินทุกหยาดหยดแห่งความสุขจากผม ...ดวงตากลมสีดำสนิทปรือลงเหมือนจะหลับ ผมขยับกายเบา ๆ รีดเร้นทุกหยดเข้าสู่ร่างกายของเขา รู้สึกอายนิดหน่อยที่เสร็จก่อนปกติ...หวังว่าเขาคงไม่รู้นะ...

“เป็นยังไงบ้าง ?” ผมกระซิบถาม ข้างใบหูและขบกัดเบา ๆ ..อยากจะตักตวงความหอมหวานนี้อีก แต่กลัวว่าเขาจะเจ็บไปมากกว่านี้ ..ต้องจำใจถอดถอนร่างกายที่ยังไม่อ่อนตัวดีออกจากร่างของเขาพลิกตัวนอนข้าง ๆ

“เมื่อย...” เขาบอกเสียงแผ่ว หายใจเหนื่อยอ่อน ใบหน้าแดงชื้นเหงื่อ.. ผมอดใจไม่ไหวก้มลงหอมแก้มนิ่ม ๆ ของเขาฟอดใหญ่และดึงตัวเขามากอด... หน้าท้องของผมและเขาเหนอะหนะด้วยของเหลวขุ่นข้น ...ผมลืมนึกไปเสียสนิท ว่าเขาเพิ่งผ่านอายุ 15 มาไม่กี่ปีแล้วดันมาเสียเด็กเพราะผม...

“อาบน้ำอีกรอบมั๊ย ?” ผมถามซุกจมูกตามผิวเนื้อชื้นเหงื่อของเขา.. มีกลิ่นยาผสมด้วย หอมดีเหมือนกัน...

“เดี๋ยวก็ต้องทายาใหม่....” เขาบอกท้ายเสียงแผ่ว ดวงตาดำขลับที่คอยมองผมตลอดตอนนี้ปิดลงแล้ว

“อยากทายาอีกรอบรึเปล่า ?” ..ผมถามกลั้นยิ้ม.. ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจความหมายที่ผมแฝงไว้รึเปล่า.. แต่เขาไม่ตอบ...ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับไปแล้ว..

ผมลูบใบหน้าที่เริ่มจะบวมจากการถูกทำร้ายของเขา.. กดจูบหน้าผากมนเบา ๆ ....ผมไม่รู้ว่าผลที่จะตามมาเป็นยังไง... แต่ผมรู้สึกดีที่เขาเลือกผม...
 
ไม่รู้เวลาเท่าไหร่แต่ยังมืดอยู่เลย จู่ ๆ มือถือของผมก็ส่งเสียงร้อง.. ผมคลำหาแสงไฟจากหน้าจอเล็กจิ๋ว.. ไอศวรรย์โทรมา..

“ได้ตัวแล้ว” เสียงปลายสายบอกเรียบ ๆ

“ใคร ?” ผมถามเบา ๆ มองดูอีกคนที่ยังคงหลับตาพริ้ม..

“มาดูหน้าเองดีกว่า” เธอบอกแล้วตัดสายไป

ผมดูเวลาเพิ่งจะตี 5 เธอทำงานเร็วอะไรขนาดนี้.. ยังไม่ถึง 12 ชั่วโมงก็ได้ตัวแล้ว... ผมอดทึ่งในความสามารถของเธอไม่ได้จริง ๆ
ผมจูบขมับแบล็คเบา ๆ ลงไปใช้ห้องน้ำข้างล่างอาบน้ำและรีบแต่งตัวไปบ้านของเธอ...

พอผมมาถึงบ้านโมกขบริสุทธิ์ ก็สว่างพอดี ...ซีเปิดประตูบ้านให้ผมและนำผมไปยังเรือนเล็กที่แยกออกไป..เอ็กซ์ยืนรอผมกับเหยี่ยวอยู่ก่อนหน้าแล้ว.. ผมมองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตัวเดียวในห้อง...

“จัน...” ผมครางเรียกชื่อเธอเสียงเบา....ใบหน้าหมวยนั้นหันกลับมามองผม... ใช่จริง ๆ ...จันทิรา...

“ผมไม่นึกว่าคุณจะทำถึงขนาดนี้” ผมบอกเสียงเครียด เมื่อนึกถึงสภาพที่ผมพบเจอเขาเมื่อวาน

“ฉันเกลียดมัน! คุณไม่เคยให้ความสนใจใครขนาดนั้นมาก่อน” ผมนวดขมับ.. เพราะว่าผมให้ความสนใจเด็กคนนั้น... เพราะแค่นั้นเองเหรอ.... ต้องทำกับเขาขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่เขายังเด็ก...

“ฉันคิดกับเขาแค่...”

“เธอจะพูดอะไรก็ให้มันระวังหน่อยนะ คู่หมั้นเขายืนอยู่ตรงนี้” เอ็กซ์กอดอกพูดแทรก เธอปรายตามองผมอย่างสมเพชเล็กน้อย.. ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอมองผมแบบนั้น...

“แกว่าไงนะ!” จันตวาดถามเสียงแหลม

“ฉันบอกว่าฉันเป็นคู่หมั้นของเขา” เธอย้ำอีกครั้งหนึ่ง พร้อมยิ้มให้อย่างท้าทาย

“จริงหรือคะ คุณธีร์ ?” จันทิราหันมาถามผม …ผมพยักหน้าส่ง ๆ ...ถึงแม้จะเป็นคู่หมั้นแค่ในนามก็เถอะ... แต่เรื่องที่พ่อของผมกับย่าของเธอพยายามจับคู่ให้เราเป็นเรื่องจริง...

“แก๊... แกมันนังมารร้าย!!” จันทิรากรีดเสียงร้องราวกับคนสติแตก

“ใครกันแน่ นังมารร้าย ?” เอ็กซ์ถามเบา ๆ เดินเข้าไปหาเธอ

“คนที่ทำกับคนได้ถึงขนาดนั้น คงจะไม่ใช่มนุษย์แล้วละมั้ง... ขอดูเลือดของเธอหน่อยซิว่าสีอะไร” เธอหยิบมีดขึ้นมา ไล้ปลายแหลม ๆ ไปตามรูปหน้าของจัน

“คุณเอ็กซ์ครับ” ลูกน้องหนุ่มของเธอเอ่ยเตือนเบา ๆ

“ไม่ตายหรอกหน่า… คิดว่านะ” เธอหัวเราะคิกคัก ออกแรงกดลงไปเบา ๆ

“พอแล้วเอ็กซ์” ผมเตือนเสียงดุ เอ็กซ์หันกลับมามองผมฉุน ๆ โยนมีดทิ้งและเดินกลับมายืนที่เดิม

“มาตกลงดี ๆ ดีกว่าจันทิรา..” ผมเอ่ยปากยื่นข้อเสนอ แต่เธอทำหูทวนลม

“คุยดี ๆ มันไม่รู้เรื่องหรอก” เอ็กซ์พูดเบา ๆ

“แกจะเอายังไง หรือต้องให้ครอบครัวแกล้มละลายก่อน”

“ล้มละลายงั้นเหรอ ? อย่างแกจะทำอะไรได้ ?” จันเยาะเย้ย.. เธอคงไม่รู้ว่าเอ็กซ์อยู่ในตระกูลที่มั่งคั่งยิ่งกว่าเธอ

“ฮึ” เอ็กซ์เหยียดยิ้ม หัวเราะในลำคอ

“ทำให้แกเลิกยุ่งกับชีวิตคนอื่น ไสหัวออกไปจากประเทศนี้ไปเลยเป็นไง ?”

“เอ็กซ์” ผมปรามเธอเบา ๆ ..

“งั้นแกลองไปลงนรกก่อนเป็นไง!” จันโผตัวหยิบมีดที่เอ็กซ์ทิ้งไว้ใกล้ ๆ ปาใส่เธอ.. ในเสี้ยววินาทีนั้นไม่รู้ว่าผมคิดยังไงเอาตัวเข้าไปขวาง บ้าเอ๊ย... ผลก็คือมีดปักเข้าเนื้อผมนี่ไง... ดูเหมือนจะไม่ลึกมาก... คิดว่านะ...

“เหยี่ยวจับอีบ้านั่นเอาไว้!” เอ็กซ์ออกคำสั่งลูกน้อง ประคองตัวผมไม่ให้ล้ม เพียงชั่วครู่เขาก็จับตัวจันทิราไว้ได้

“ดูเหมือนเธอจะสะเดาะกุญแจได้ค่ะ” ซีบอกเบา ๆ ...ไม่มีใครสนใจผมเลย ให้ตาย

“ไปเอาเชือกมามัดขาติดเก้าอี้ แล้วมัดแขนติดกับขา” เอ็กซ์บอกอารมณ์เสีย มองดูผมที่เริ่มจะลงน้ำหนักให้เธอเพื่อให้รู้ว่าผมยังมีชีวิตอยู่

“หนัก!” เธอบ่นเบา ๆ ค่อย ๆ ประคองตัวผมนั่งลง ผมรู้สึกเสียวแปลบตรงหน้าท้อง

“ตายแล้ว! ไส้ทะลัก! ยัดกลับเข้าไปเร็ว!” ผมหน้าซีดเผือด พอเอ็กซ์เห็นแบบนั้นเลยรีบแก้

“ฉันล้อเล่น เลือดออกเยอะเลย ทนนิดนึงนะ” ..ยัยบ้าเอ๊ย ผมก็ดันโง่หลงเชื่อเพราะตกใจอยู่ บ้าจริง ๆ เลย

“ฮึ ๆ ...นายน่ะ...รู้ทันคนอื่น แต่ไม่ค่อยรู้ทันตัวเองซักเท่าไหร่เลยนะ” เอ็กซ์หัวเราะเบา ๆ.. ผมไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเบลอ ๆ สงสัยเสียเลือดมากไปหน่อย.ไม่รู้ทำไมภาพสุดท้ายที่ผมเห็น คือรอยยิ้มของ ‘เขา’

....................ทูบีคอนตินิววววววว
 :m15: ไม่ลงรายละเอียดตอนน้องแบล๊คโดนทำร้ายน่ะค่ะ มันอาจจะดูรุนแรงและโหดร้ายเกินไป ไปจิ้นกันเอาเองล่ะกันเนอะ ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายล่ะ รึเปล่า คึคึ ขอบคุณที่ยังติดตามกันน่ะค่ะ ตอนนี้มันยาวจริง ๆ โพสอันเดียวไม่พอเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 31 งานเข้าพี่ธีร์ +18[up 22.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 22-10-2011 22:59:19
กรี๊ดดดดดดด
สนุกอ่ะ มีเรื่องสนุกทำไมไม่เรียกกันบ้าง อิอิ
ติดตามๆ บวกๆๆ^^
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 31 งานเข้าพี่ธีร์ +18[up 22.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: →Yakuza★ ที่ 22-10-2011 23:06:17
แบล็กซวยขึ้นทุกวัน ทุกวันแหะ พี่ธีจะเลิกชอบน้องตัวเองแล้วมารักแบล็กได้ป่ะ

ปล. ฮาเอ็กซ์  :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 31 งานเข้าพี่ธีร์ +18[up 22.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 22-10-2011 23:28:20
โอ๊ย เครียด อยากจร้องไห้ สงสารน้องแบล็คมาก อีบ้าจัน อิเลว เหี้-ยได้อีก
พี่ธีร์อย่าเป็นไรนะ ดูแลน้องดีๆ หน่อย
ขอบคุณนะครับสำหรับนิยายดีๆ และขอบคุณที่ไม่ลงตอนน้องแบล็คโดนทำร้ายให้อ่าน  ไม่อย่างนั้นผมคงเครียดหนักกว่านี้
ตอนหน้าขอหวาน ๆ ได้ป่าวครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 31 งานเข้าพี่ธีร์ +18[up 22.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: the_pupae ที่ 23-10-2011 00:39:40
 :z6: :z6: :beat: :beat: :beat: :z6: :z6: :beat:นังจัน...นังเลววววววว :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat:

ปล.น้องแบล็คน่าสงสารโดนกระทำตลอด
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 31 งานเข้าพี่ธีร์ +18[up 22.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 23-10-2011 01:13:09
 :sad11: แบล็คน่าสงสารจัง   :sad4:กลับต้องมาเจอสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตเป็นเพราะนางชะนีจันหลอนสมควรตายทุกอย่างของหลอนต้องพังลงให้หมดทั้งธุรกิจของแกด้วย ถ้าพี่ธีร์เป็นอะไรมากนะหลอนคงจะได้ไปเกิด :z6:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 23-10-2011 21:52:19
- 32 -
แบล๊ค..

.... เขาหายไป.... หายไปไหน ?....

ผมสัมผัสกับพื้นเตียงเย็นชืดและความว่างเปล่า... ลืมตามองหาใครอีกคน แต่ก็ไม่เจอ อยากจะลุกแต่ก็ปวดตัวไปหมด... ขยับนิดขยับหน่อยก็ปวดร้าวไปถึงกระดูก ...แถมไข้กลับอีก...

พอเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่บอกเวลาสายโด่ง เลยคิดได้ว่าสมควรลุกเสียที ...ผมพยายามลุกขึ้นพยุงตัวได้ไม่กี่ก้าว ก็มีอันล้มลงไปกองกับพื้น.. รู้สึกเหนอะ ๆ ระหว่างขา พอมองดูถึงได้รู้ว่าสิ่งที่ตกค้างจากกิจกรรมเมื่อคืนไหลย้อนออกมา ...รู้สึกร้อน ๆ ตามใบหน้า ....น่าอายชะมัด...

ผมพยายามรวบรวมกำลังอีกครั้ง ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำและแช่ตัวลงในอ่าง รองสายน้ำเย็นจากก๊อกมาล้างหน้า... รู้สึกว่าแก้มมันบวมกว่าปกติ... มองดูร่องรอยต่าง ๆ ที่ปรากฏบนร่างกายแล้วถอนหายใจ.. ไอ้โซ่บ้านี่อีก.. แกะยังไงเนี่ย... ค่อยคิดดีกว่า.....

ความทรงจำอันเลวร้ายของผมถูกกลบทับด้วยความรู้สึกมีความสุขเปี่ยมล้นที่ผมได้รับจากเขา.....ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้.. ความรู้สึกตอนที่ถูกเขากอด... แทบจะสำลักความสุขตาย... แต่ว่าตอนนี้แสบชะมัด

ผมสวมชุดมิดชิดปิดรอยแผลน่าเกลียด ลงมาข้างล่างก็พบโจ๊กหมูพร้อมกับยาแก้ปวดแผงใหญ่.. ผมแอบยี้เล็กน้อย เพราะยาที่ต้องกินมันเริ่มจะมีหลายเม็ด ...เขาคงจะซื้อไว้ให้ผมก่อนออกไปทำงาน มีกระดาษโน้ตวางไว้ข้าง ๆ ผมแอบขำเบา ๆ เมื่อเห็นลายมือของเขา... ลายมือโย้เย้อย่างกับเด็ก... นึกว่าจะเก่งไปเสียทุกอย่างเชียว

ผมนอนตีพุงอยู่กับบ้าน เทน้ำแข็งจากช่องฟรีชออกมาประคบใบหน้า นั่งดูทีวีเปลี่ยนช่องไปมา อยากให้ถึงเวลาเลิกงานของเขาเร็ว ๆ หามีดมาแกะ ๆ แงะ ๆ สายโซ่.. มันก็ยังไม่ออก จนต้องเอาหินก้อนใหญ่จากหน้าบ้านมาทุบ ๆ จนมันหลุดออกเป็นชิ้น ๆ
เผลอหลับไปได้แป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงประตูบ้านเปิด ผมรีบวิ่งไปดู.. แต่ลืมไปว่าวันนี้...

“อ้าว! แบล็ค! ทำไมอยู่กับบ้านล่ะ ไม่มีเรียนเหรอ ?” แม่ทักผมอย่างตกใจ.. ส่วนผมก็ตกใจไม่แพ้กัน.. นี่พวกเขากลับมาจากบ้านใหญ่กันแล้วเหรอ ?... ทำไมมันเร็วแบบนี้

“ไม่ค่อยสบายน่ะแม่ ..ผมช่วยนะ” ผมบอกเบา ๆ และเดินออกไปช่วยยกลังกระดาษที่บรรจุทั้งอาหารสดและอาหารแห้งจากต่างถิ่น ..แต่น้ำหนักของมันทำเอาผมแทบทรุด.. ใส่อะไรมาเนี่ย...

“พี่แบล็คไม่มีเรียนเหรอ ???” ไอ้บราวน์ส่งเสียงถามมาจากในรถ

“เออ” ผมตะโกนตอบ.. นึกในใจว่าไม่ควรเลือกลังนี้เลย..

“ทำไมเดินแปลก ๆ” ไอ้บลูถือกล่องเดินมาขนาบข้างถามอย่างสงสัย..

“พี่แบล็คเดินเหมือนเป็ดเลย” ไอ้บราวน์ส่งเสียงตะโกนมาเป็นลูกคู่ ทำให้ผมยิ่งอาย

“มะ.. ไม่มีอะไร เจ็บขาน่ะ” ผมตอบ ก้มหน้าหลบ.. โชคดีที่ผมใส่เสื้อแขนยาว ทำให้ไม่เห็นร่องรอยอะไรมาก ไม่อย่างนั้นคงโดนซักอีกนาน นึกโมโหว่าทำไมพวกมันถึงช่างสังเกต และยิงคำถามกันนัก..

ผมแอบสำรวจว่ามีของใช้ของเขาหลงเหลืออยู่ในบ้านหรือไม่ แต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากผ้าขนหนูที่ให้เขายืมใช้ผืนเดียว...
บ้านของผมกลับมาคึกคักเหมือนเดิม.. ผมรู้สึกใจหาย... ถ้าทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว... เขาจะหายไปรึเปล่า ?

“พี่แบล็ค ทำไมผ้าห่มพี่ถึงมาอยู่ห้องผม” กัณฐ์จะโกนถามก่อนวิ่งลงมาจากบนบ้าน... ผมชะงักมือที่ล้วงมาร์ชเมลโลจากถุงขนมของบราวน์ ลืมเสียสนิทว่าตัวเองลากผ้าห่มไปแลกกับของกัณฐ์

“เอ้อ... พี่ขอแลกผ้าห่มกับกัณฐ์ได้มั๊ย ?” ผมถาม.. ความจริงแล้วผ้าห่มกัณฐ์อยู่บนเตียงผมเมื่อคืนนี้ และแน่นอนว่ามันเลอะ..

“เห ?.. พี่แบล็คติดผ้าห่มนี้นิฮะ ทำไมจู่ ๆ ถึงขอแลกกับผมล่ะ ?” เขาถามอย่างประหลาดใจ

“หน่า” ผมตอบปัดและดูเหมือนกัณฐ์ก็ไม่ติดใจอะไร

“ได้อยู่แล้วล่ะฮะ ถ้าไอ้บลูขอแลกนะ ไม่มีทางหรอก” เขาหันไปกัดน้องชายของผมที่นั่งเปิดขวดไวน์ผลไม้กลิ่นหอมหวานของพ่อที่ซื้อมาเป็นลังใหญ่ …และผมเป็นคนยก

“เกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ” ไอ้บลูบ่นฉุน ๆ เขย่าของเหลวในแก้วให้เข้ากับน้ำแข็ง..

“เอ็งเป็นไรวะ งอนไอ้บราวน์อยู่เหรอ ?” กัณฐ์ถามวางแขนบนไหล่ไอ้บลู

“งอนมันทำไม ?” บลูถามอย่างสงสัย ยกแก้วที่มีน้ำสีหวานขึ้นจิบ

“อ้าว! ก็มันแย่งสโมกกี้ไบท์เอ็งไปชิ้นนึง” ....

“งี่เง่า” …ใช่.. ผมก็คิดว่ามันเป็นเรื่องงี่เง่าและไร้สาระ...

“พี่แบล็คใส่แขนยาวขายาวงี้ไม่ร้อนเหรอ ?” ไอ้บราวน์ถาม ในปากเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ

“กินให้เสร็จแล้วค่อยพูด” ผมไม่ตอบแต่เตือนมันแทน ตั้งใจจะกดเปลี่ยนช่อง แต่ไอ้บราวน์คว้ารีโมทไปถือครองเอาไว้

“บลู แม่ให้กินแค่แก้วเดียวนะ!” แม่เตือนไอ้บลู..

“คร้าบ~” ทั้ง ๆ ที่มันตอบแบบนั้นแต่ก็เทไวน์ใส่แก้วที่เพิ่งกินหมด.. นิสัยเสียจริง ๆ เลย

“ไข้ขึ้นแล้วมานั่งตากแอร์ เด็กคนนี้นี่” แม่หวีดเสียง

“แฮะ ๆ” ผมหัวเราะแก้เก้อ เดินหนีแม่เพราะกลัวโดนหยิก..

“โหยพี่แบล็ค ห้ามปิดแอร์นะ ไปอยู่ข้างบนเลย” ไอ้บราวน์ไล่ผม.. เห็นแอร์ดีกว่าพี่ ไอ้เด็กบ้านี่...

“ใครเป็นพี่กันแน่เนี่ย” ผมบ่นเบา ๆ แต่ก็เดินขึ้นห้องไปโดยดี...นั่งเหม่อในห้องได้ซักพักประตูก็เปิดผลัวะ!..

“ไอ้บลู!” ผมตะโกนเรียกชื่อมันอารมณ์เสีย.. คอยดูเถอะผมจะให้พ่อซ่อมไอ้กลอนประตูบ้านี่ แบบทุบยังไงก็เปิดไม่ออก
มันไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินไปเกาะขอบหน้าต่างควักบุหรี่ขึ้นสูบ... ที่มันดูหงุดหงิดคงเพราะอยากสูบบุหรี่จัด หลังจากห่างหายไปหลายวัน …ผมพยายามทำตัวตามปกติ ...ภาวนาให้มันไม่เห็นรอยบนเตียง แต่ดูเหมือนว่าคำภาวนาจะไม่เป็นผล

“พี่แบล็ค รอยอะไร ?” มันถามมองสีด่าง ๆ บนพื้นเตียงสีอ่อนของผม

“อะ.. เอ่อ...” ผมอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ จะบอกว่าอะไรดี ? ...เอาขนมมากินแล้วมันบังเอิญหกดีไหม ? ...ทำไมผมถึงไม่เปลี่ยนผ้าปูไปซักซะตั้งแต่ตอนเช้าเนี่ย!!

“พี่กับแฟนเพิ่งเคยมีอะไรกันเหรอ ?” ดูเหมือนว่ามันจะเข้าใจว่ารอยเลือดที่เห็นเป็นการเปิดบริสุทธิ์แฟนสาวของผม.. แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ ..ผมได้แต่พยักหน้าส่ง ๆ

“มีเรื่องที่ผมชนะอีกเรื่องนึงแล้ว” ไอ้บลูกระหยิ่มยิ้มย่อง... ไม่เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้จะมาแข่งกันเพื่ออะไร

“เย้พี่แบล็ค~!” กัณฐ์ใช้เท้าถีบประตูที่เปิดคาไว้วิ่งเข้ามาในห้องผมพร้อมกับไอ้บราวน์
“อี๋ย์! ไอ้บลู!! แอบสูบตอนเช้าแบบนี้...” กัณฐ์ชี้หน้าไอ้บลูอย่างขยะแขยง มืออีกข้างบีบจมูกแน่นเพราะเขาไม่ชอบกลิ่นบุหรี่

“ชู่ว์!! เดี๋ยวก็ได้ยินกันหมดทั้งบ้านหรอก!” ไอ้บลูจุ๊ปากให้กัณฐ์หรี่เสียงลงแล้วเดินไปล็อกคอน้องเล็กของบ้าน

“ไอ้บราวน์ เอ็งห้ามฟ้องแม่เด็ดขาด ถ้าเรื่องแดงขึ้นมาล่ะก็..คอยดู” มันขู่สำทับแล้วขยี้ส่วนที่เหลือลงในตลับเหล็กที่เอาไว้เก็บก้นบุหรี่โดยเฉพาะ

“อันนี้ของฝากจากพี่เมยกับพี่เนย” กัณฐ์บอกเสียงใสเรียกความสนใจจากผม ยกเสื้อถักเนื้อดีสีขาวออกหม่น ๆ ขึ้นมาให้ผม

“อันนี้ของอาเพียว” เขาวางคุกกี้ที่จัดใส่บรรจุภัณฑ์รูปทรงสวยให้ผม

“อาเพียวเปิดร้านแล้วเหรอ ?” ผมถาม มองดูฉลากสีหวานที่ติดอยู่ข้าง ๆ บรรจุภัณฑ์นั้น กัณฐ์ฉีกยิ้มกว้าง พยักหน้าให้

“อันนี้ของเก๋อกับอาเล็ก” กัณฐ์หยิบสมุดบันทึกเล่มหนาที่ออกแบบปกสีฉูดฉาดจนไม่รู้ว่าจะเรียกว่าสร้างสรรค์หรือยังไงดี.. มั่นใจเลยว่าเก๋อเป็นคนเลือกให้ผม.. เด็กคนนี้ชอบอะไรประหลาด ๆ ...

“ชอบป่าวพี่” กัณฐ์ถามอย่างตื่นเต้น

“อื้ม” ผมยิ้ม พยักหน้า.. แล้วเราก็นั่งคุยเจ๊าะแจ๊ะกันอีกนิดหน่อยก่อนที่กัณฐ์จะขอตัวออกไปพร้อมกับบราวน์.. โชคดีที่ไอ้บลูนั่งบังรอยนั่นอยู่บนเตียง ทั้งคู่เลยไม่เห็นอะไร...

“.. แล้วไม่ใช้ถุงยางเหรอ ?” ผมสะดุ้งเล็ก ๆ ...มันจะสังเกตอะไรนักหนา...

“ท้องขึ้นมาล่ะได้เรื่อง” มันพึมพำเบา ๆ แล้วจุดบุหรี่มวนใหม่ขึ้นสูบ...... ผมมีลูกได้ที่ไหนกัน...

หลังจากคืนนั้นผมก็ไม่เจอเขาอีกเลย... ผมไม่รู้จะติดต่อเขายังไง ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย ความรู้สึกมีความสุขของผมค่อย ๆ กลับกลายเป็นความทุกข์เมื่อไม่ได้เจอเขา.. ผมกำลังจะกลายเป็นไอ้โรคจิต ที่มองดูร่องรอยของการร่วมรักบนเตียงทั้งวัน
.................................พี่ธีร์หายไป.........................................
 
ผ่านไปร่วมเดือน แผลของผมค่อย ๆ จางหายไปในไม่กี่สัปดาห์ ร่างกายของผมกลับมาแข็งแรงเหมือนเก่า ...เวลาสอบก็กระชั้นชิดเข้ามาทุกที แต่ผมไม่มีกะจิตกะใจจะอ่านหนังสือ ผมไม่กล้าถามกัณฐ์ตรง ๆ ว่าพี่ธีร์เป็นยังไงบ้าง หรือจะฝากติดต่อพี่ธีร์ได้ไหม

“กัณฐ์นัดเธียรให้หน่อยสิ” ในที่สุดผมก็ตัดสินใจให้กัณฐ์ช่วยนัดเธียรมาพบ..

“ทำไมเหรอฮะ ?” กัณฐ์ถามอย่างสงสัย

“พี่มีเรื่องจะคุยนิดหน่อย”

“ได้สิฮะ” กัณฐ์พยักหน้าอย่างแข็งขันแล้วผมก็บอกช่วงเวลาที่สามารถนัดเจอได้ …แต่ผมก็อดถามไม่ได้อยู่ดีว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ที่ไหน

“ว่าแต่.. เธียร...เอ่อ..”

“เขาพูดถึงพี่ธีร์บ้างรึเปล่า ?” พอกัณฐ์ได้ยินชื่อเขาก็มีท่าทีไม่ชอบใจอย่างเห็นได้ชัด กัณฐ์คงจะไม่ค่อยถูกกับเขาซักเท่าไหร่

“พี่แบล็คอย่าไปยุ่งกับพี่ธีร์เลยฮะ”

“เขาเป็นผู้ชายขี้โกหก”

“นั่นสิ” ผมหัวเราะเยาะตัวเองเบา ๆ ...ผู้ชายขี้โกหก... ไหนว่าจะอยู่ข้าง ๆ ผมไง...
 
“นี่เงินค่ามือถือที่เธียรให้พี่นะ” ผมยื่นธนบัตรสีเทาหลายใบชดใช้ให้เขา

“เอ๊ย! ไม่เป็นไรหรอกครับ” เธียรรีบปฏิเสธ ดันมือผมกลับ

“ไม่ได้หรอก พี่ทำมันพังไปแล้ว ต้องรับผิดชอบ”

“ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับ พี่แบล็ค” เขาทำหน้ายุ่งเมื่อผมไม่ยอม จนสุดท้ายก็ต้องรับมันเอาไว้ เขาทำท่านึกอะไรออก และหยิบซองสีหวานขึ้นมาจากกระเป๋ายื่นให้ผม...

“จริงสิครับ นี่ของพี่แบล็คเพิ่งออกจากโรงพิมพ์ใหม่ ๆ เลย” ผมมองดูหน้าซองที่มีชื่อของผมติดอยู่...

“ช่วงนี้พี่ธีร์ยุ่ง ๆ เพราะเรื่องนี้แหละครับ อาทิตย์หน้า จัดที่โรงแรมxxx” เธียรบอกต่อ ...ผมแกะการ์ดเชิญด้วยมือสั่นเทา.. ชื่อที่ผมไม่รู้จัก เขียนอยู่ข้างชื่อของเขาด้วยรอยพิมพ์สีทองนูนต่ำ... การ์ดเชิญงานหมั้น ??

“พี่ธีร์บอกให้เลื่อนออกไปก่อนทางฝ่ายหญิงเค้าก็ไม่ยอม ผู้ใหญ่ฝ่ายนู้นเขี้ยวมากเลย”

“พ่อก็เห็นดีเห็นงามรีบสั่งให้พี่ธีร์เตรียม... ” ..ผมไม่รู้ว่าเธียรขยายความว่ายังไงต่อ รู้เพียงแต่ในสมองตอนนี้ว่างเปล่า.. ประสาทรับรู้ของผมเหมือนดับวูบไปชั่วขณะ..

“เอ่อ... พี่... พี่แบล็ค ?”

“...ครับ ?” ผมตอบรับงง ๆ

“เป็นอะไรรึเปล่าครับ ?” เขาถามอย่างสงสัย

“เอ่อ.. พี่.. ขอโทษที..” ผมบอกเบา ๆ ....รู้สึกตั้งตัวไม่ทัน... เขามีคนรักอยู่แล้วงั้นเหรอ ? ….แล้วทำไม ?.... ทำไมผมถึง…เจ็บ... ผม..หลงรักพี่ธีร์ตั้งแต่เมื่อไหร่...?
                                                             
ผมรู้สึกต้องการที่พึ่ง.. แน่นอนว่าที่ ๆ ผมไปคือไปร้านของไอ้ไทม์ ร้านของมันวุ่นวายเหมือนทุกวัน ผมจึงต้องนั่งรอเงียบ ๆ จนกว่าลูกค้าจะบางตาลง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งดึกคนยิ่งเยอะ

สายตาของผมสบเข้ากับดวงตาตี่ ๆ และดูเหมือนเขาจะเดินเข้ามาหาผม ..ทำให้ผมชะงัก..ตอนแรกผมรู้สึกกลัวเขา.. แต่มาคิดดูอีกที เขาก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร... สิ่งที่เขาทำกับผมออกจะดูน่ารักตามฉบับเด็กเอาแต่ใจ

“ว่าไง” เขานั่งลงตรงข้ามผม โปรยยิ้มตามฉบับ

“ไง..” ผมทักตอบ ใช้นิ้วเขี่ยหยดน้ำที่เกาะแก้วจนมันรวมตัวเป็นหยดใหญ่ และไหลลงมา

“เรานึกว่าเธอไม่อยากเจอหน้าเราแล้วซะอีก” เขาบอกด้วยรอยยิ้มที่เศร้าลง

“ทำไมล่ะ ?” ผมถามอย่างสงสัย

“เรื่องที่พี่สาวเราเอ่อ...” ดูเขาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ .. แต่ผมก็ไม่รู้ว่าพี่สาวของเขามาเกี่ยวอะไรกับผม..

“....” ได้แต่นั่งเงียบ ๆ มองว่าเขาจะพูดเรื่องอะไร..

“แต่ตอนนี้พี่จันถูกคุณพ่อสั่งย้ายไปที่สาขาหลักที่ต่างประเทศแล้ว” เขาบอกเบา ๆ ด้วยสีหน้าไม่ดีนัก

“งั้นเหรอ ?” ผมได้แต่งงว่าเขาจะมาบอกผมเพื่ออะไร.. แล้วโต๊ะเราก็ตกอยู่ในความเงียบ...

“คือ.. เรามีเรื่องจะบอก…”

เขาสารภาพกับผมตามตรงว่าเคยทำเรื่องอะไรกับคนใกล้ ๆ ตัวผมเอาไว้บ้าง.. แม้บางเรื่องผมไม่เคยรู้ แต่มันก็เป็นอดีตที่ผ่านไปพ้นไปแล้ว.. ถ้าหากเขาบอกผมก่อนที่ผมจะรู้ตัวว่าผมรักพี่ธีร์.. ถ้าเป็นตอนนั้นผมอาจจะโกรธจนให้อภัยเขาไม่ได้.. แต่ตอนนี้...ทุก ๆ อย่างมันเปลี่ยนไป... แน่นอนว่าผมให้อภัยเขา และตอบรับเขาได้เพียงเพื่อนที่ดี...
 
“กูว่า... กูคงชอบพี่เขา” ผมบอกเบา ๆ หลังจากอวดการ์ดสีหวานให้ไอ้ไทม์ดู

“หา ??” มันตาโตอ้าปากกว้าง ทำหน้าไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน

“หูหนวกรึไง ?” ผมถามเซ็ง ๆ..                             

“มึง.. มึงจะบ้าเหรอ มันเป็นผู้ชาย แถมกำลังจะหมั้นกับผู้หญิงแล้วนะโว๊ย” มันบอกยกการ์ดนั่นเข้าใกล้หน้าผม ...คงอยากให้ผมเห็นชัด ๆ

“...อืม...” ผมตอบรับในลำคอ

“เฮ้อ! ไอ้แบล็คเอ๊ย! ดวงความรักมึงไม่รุ่งเลยว่ะ.. เชื่อกูเหอะหาใหม่ดีกว่า” มันแนะนำ แต่ผมรู้สึกฉุน

“มึงพูดเหมือนง่ายนี่” มันก็เลยเงียบไป.. แล้วเริ่มคำถามใหม่

“.. มึงชอบเขาจริง ๆ เหรอ ?” ผมเม้มริมฝีปาก พยักหน้าเบา ๆ

“มาก ๆ รึเปล่า ?” มันถามซ้ำอีกครั้ง ผมก็พยักหน้าอีกครั้ง...

“งั้น... มึงก็น่าจะสารภาพดู เขาก็แค่หมั้นหมายไว้ ยังไม่แต่งซักหน่อย” มันแนะนำใหม่ ..ผมขมวดคิ้วยุ่ง ไอ้บ้านี่บทจะกล้าก็กล้าเกินไป... นี่ถ้าพี่ตาลมีสามีแล้วมันคงกลายเป็นชู้ของพี่เขาแน่ ๆ

“กูไม่กล้าหรอก...” ผมปฏิเสธเบา ๆ มันจึงตบไหล่ผม

“วะ! ไอ้ไก่อ่อนนี่! มึงเป็นเมียมันแล้วนะเว้ย!”

“ไอ้!...” ผมไม่รู้จะด่ามันยังไง ในเมื่อที่มันพูดก็จริง.. แต่ผู้ชายอย่างผมไม่เสียหายอะไร..

“ว่าแต่มีแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวเหรอวะ เห็นช่วงนั้นตามติดอย่างกับตังเม” คำถามของมันทำให้ผมอ้าปากเหวอ... 

“…มึงคิดแต่เรื่องแบบเนี๊ยะ” ผมบ่นอุบ ..ไม่กล้าบอกมันว่าเคยเกิดอะไรขึ้นกับผม

“ฮั่นแน่!” มันทำท่าจับผิดผม.. ผมจึงรีบหนีมันออกจากร้าน...

...เรื่องที่แย่กว่านี้ผมก็เคยเจอมาแล้วและผ่านพ้นมันไปได้.. ทำไมเรื่องแค่นี้ผมจะผ่านไปไม่ได้.... ผมนึกให้กำลังใจตัวเอง
.....แต่ผมกลับลืมไปว่าที่ผมผ่านพ้นมาได้นั้น... เพราะมีเขาอยู่ข้าง ๆ....
 
ผู้หญิงคนนั้นสวยจริง ๆ ... เส้นผมตรงสีดำขลับถูกม้วนเป็นมวยสูงแซมดอกไม้พวงเล็กสีขาวกระจุ๋มกระจิ๋ม.. ดวงตาคมดุจมูกโด่งสวย ริมฝีปากแดงอิ่ม.. ชุดสีขาวขับผิวขาวของเธอให้ยิ่งขาวผ่อง.. เธอยืนอยู่เคียงข้างเขา... นามสกุลที่มีชื่อเสียงของเธอยิ่งทำให้ดูเหมาะสมกันจนผมอดสมเพชตัวเองไม่ได้...

ขณะที่ผมคิดถึงเขา เขาก็มีคนอื่นอยู่เคียงข้าง... แต่จะให้ผมหวังอะไร ในเมื่อผมรู้ว่าเขารักคนอื่นมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว....ผมไม่รู้จักใครเลยที่มาในงานนี้ นอกจากกัณฐ์และพี่น้องของเขา.. นั่งเงียบ ๆ มองดูผู้ใหญ่ยิ้มแย้มพูดคุยกันขวักไขว่ ผมรู้สึกเหมือนถูกมอง พอหันไปก็เห็นเขากำลังมองตรงมาหาผม และยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องโถง ผมรีบปลีกตัวและเดินตามเขาออกไป ผมอยากคุยกับเขา...

“พี่.. พี่ธีร์” ผมเรียกไล่หลังเบา ๆ

“ว่าไง..” เขาทักตอบ หันกลับมาหาผม...

“ทำไมจู่ ๆ ถึงหายไปล่ะ ?” ผมถามเบา ๆ มองสำรวจเขาในชุดสูทสีขาว...

“ฉันยุ่ง ๆ น่ะ...”

“ผมคุยกับนันแล้วนะ”

“อืม...” ...เขาระบายยิ้มน้อย ๆ ให้ผม..

“แล้วพี่จะแต่งงานเมื่อไหร่ ?” ..เขามองผมแวบหนึ่ง.. ฝ่ามือใหญ่ของเขาประคองท้ายทอยของผมให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา

“ไม่รู้สิ... ไม่ได้คิดเรื่องนั้นไว้เลย..ว่าแต่คิดยังไงมาเรียกฉันว่าพี่” เขาถามยิ้ม ๆ โน้มหน้าลงมาใกล้ผม.. และผมค่อย ๆ ปิดตาลงเมื่อริมฝีปากเราสัมผัสกัน เขายังคงรักษาระดับมาตรฐานไว้ได้เหมือนเดิม และผมเริ่มเรียนรู้ที่จะตอบรับเขา.. ฝ่ามืออุ่น ๆ ของเขาลูบผ่านต้นคอ แผ่นหลัง และหยุดอยู่ตรงเอวของผม ....ไม่รู้ว่ามีใครเห็นเราหรือเปล่า.. ผมไม่ได้สนใจ..

....รู้สึกราวกับได้รับหยดน้ำรดพรมจิตใจอันแห้งผาก ผมหอบหายใจเบา ๆ เมื่อเขาละริมฝีปากออก และกดจูบลงอีกครั้ง ...เขากะจะให้ผมขาดอากาศตายเลยรึไง

“…ไม่กลัว...คนมาเห็นรึไง ?” ผมถามหายใจติดขัด ทำทีเป็นมองซ้ายมองขวา.. ทั้งที่จริงผมรู้สึกอาย และไม่กล้าสู้สายตากับเขา

“กลัวทำไม ? คิดถึงนี่...” เขาบอกเบา ๆ โอบตัวผมไว้หลวม ๆ ...คำพูดของเขาทำเอาหัวใจของผมพองโต... เขาก็คิดถึงผมเหมือนกัน...

“ผมคิดว่าจะไม่พูดแล้วเชียว..” เขาเลิกคิ้วมองผมอย่างสงสัย

“ผม....คิดว่า .....ผมรักพี่” ผมบอกตะกุกตะกัก.. สุดท้ายผมก็ทำตามคำแนะนำไอ้ไทม์....

“...งั้นเหรอ” …พี่ธีร์นิ่ง ก่อนตอบเสียงแผ่ว..

“ฮื่อ..” ผมพยักหน้าย้ำ

“...” แล้วเขาก็เงียบเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง....

“พี่เคยรักผมบ้างมั้ย ?..” เขานิ่งเงียบ... เขาคงไม่คิดว่าผมจะถาม.... แต่ผมอยากรู้ความรู้สึกของเขา...

“ฉันคิดว่า... มันเป็นแค่ความใคร่.. ไม่สิ.. แค่อารมณ์ชั่ววูบ.. เธอแค่หลงมันเท่านั้นเอง... อีกไม่นานเธอก็จะเข้าใจ...” ผมสบมองเขานิ่ง.. เมื่อเขาตอบไม่ตรงคำถาม... เขาคงรู้ว่าผมอึดอัด... และผมรู้สึกเสียใจกับคำพูดที่เพิ่งออกจากปากเขาเมื่อกี้... เขามองความรักของผมเป็นเพียงความลุ่มหลง ....ความใคร่... และอารมณ์ชั่ววูบ....

“........ฉันขอโทษ....” คำตอบของเขาออกมาจากปากแล้ว... ก็แค่นี้เอง.... สั้น ๆ....

“ตัดใจซะ...” เขาบอกเบา ๆ และเดินห่างออกไป ทิ้งให้ผมมองแผ่นหลังใหญ่ของเขาเล็กลงเรื่อย ๆ ...น้ำตาของผมเอ่อล้นแทบจะทันที ผมพยายามเก็บความรู้สึก... ผมไม่อยากทำตัวอ่อนแอ ออดอ้อนให้เขาสงสารเห็นใจอีก.... เพราะความรู้สึกนี้มันไม่ใช่ความรักสินะ......

ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่ความรัก... แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงเจ็บ จุกแน่น... ร้าวเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยง ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเจ็บขนาดนี้... ทั้ง ๆ ที่ผมคบกับแคนดี้มานานกว่าได้รู้จักกับเขาเสียอีก...

ผมเช็ดริมฝีปากหลายครั้ง หวังจะให้สัมผัสของเขาหายไป... แต่มันกลับติดแน่น เช็ดยังไงก็รู้สึกเหมือนมันยังคงอยู่บนริมฝีปาก.... รีบออกจากโรงแรมนั้นและร้องไห้เสียงดังข้าง ๆ ถนน... มีคนชวนผมคุยแต่ผมก็ไม่ตอบ เอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น...
ผมเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของคนถูกปฏิเสธก็ตอนนี้นี่เอง... ผู้หญิงที่โดนผมปฏิเสธคงจะรู้สึกเหมือนกันสินะ....

การเรียนของผมต่ำลงอย่างรู้สึกได้.. คณะที่ผมเลือกไว้ไม่ไหวแน่ ๆ ... ผมได้แต่ปลงกับชีวิตของตัวเอง ท้ายที่สุดผมติดในคณะวิศวะกรรมศาสตร์ที่เลือกเอาไว้เป็นอันดับสาม.. และผมไม่คิดจะเลือกใหม่อีกแล้ว....ผมรู้ว่าทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง.. เพราะผมหัวดีที่สุดในหมู่พี่น้องด้วยกันเลยก็ว่าได้.... แต่กลับไม่มีใครว่าผม....

ความฝันที่ผมตั้งไว้พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี.. ม.6 เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของผม.... ทุกสิ่งทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาหาผมซ้ำ ๆ ในช่วงเวลาใกล้เคียง ราวกับว่าจะทำให้ผมยอมแพ้เสียให้ได้....

ไอ้บลูมันเอาเกมส์ในห้องของมันมาวางไว้ในห้องผม.. ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าห้องผมไม่มีทีวี เล่นไม่ได้... ผมรู้ว่ามันเป็นน้องที่ไม่ค่อยแสดงออกตรง ๆ ว่าเป็นห่วง.. แถมยังนิสัยแย่ แต่มันก็เป็นน้องชายผม...

...เขาทำให้ผมกลายเป็นเด็กขี้แย ...ต้องกลั้นเสียงร้องไห้ทุกคืนกลัวว่ากัณฐ์จะได้ยิน เตียงของผมมีกลิ่นของเขาติดอยู่.. ถึงแม้จะบางเบาแต่ผมก็รู้สึกได้

สายโซ่เส้นนั้นแปรสภาพเป็นสร้อยข้อมือที่อัดแน่นด้วยความทรงจำติดตัวผมตลอดเวลา....ผมเคยคิดว่าจะทิ้งมันให้หมด จะซักให้สะอาด แต่พอมานึกอีกที.. เป็นต้องเก็บมันเอาไว้ที่เดิม ...ผมคิดว่าคงต้องรอจนกว่ามันจะจางหายไปเอง เหมือนกับบาดแผลที่เคยเกิดขึ้น มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
 
หวังว่าซักวันภาพของเขา ดวงตาของเขา กลิ่นของเขา สัมผัสของเขาคงจะค่อย ๆ ถูกลบออกไปจากความทรงจำของผมด้วยกาลเวลา...

......................................ทูบีคอนตินิว.
 :o12:รันทดกันไปไหม อกหัก รักคุด ชีวิตสิ้นหวัง ยังต้องเจออะไรแย่กว่านี้อีกไหมแบล๊ค ใกล้จบเข้าไปทุกที เห้อ... แล้วพบกันค่ะ และสิ่งสำคัญ ขอบคุณมิตรรักนักอ่านทุกคนค่ะ เ่ช่นเดิม :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 23-10-2011 23:11:48
แบล็คลูก ไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้น้อ
ชีวิตมันซวยอะไรขนาดนี้
ตัดใจซะ! วันนึงเราจะดีขึ้น
ทำชีวิตเราให้ดีดีกว่า จะแคร์อะไรกับผู้ชายคนเดียว พ่อก็ไม่ใช่ ชริส์!!
ถ้าวันนึงมันเลิกคลั่งน้องตัวเองแล้วมาขอให้เรารัก
ก็ไม่ต้องไปสนใจมัน เราหล่อเลือกได้เฟ้ย
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: dolphins ที่ 23-10-2011 23:37:14
โอ๊ย ทำไมมันเศร้าอย่างงี้อ่ะ  :monkeysad: ได้แต่หวังว่าจะจบแบบแฮปปี้นะคะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 23-10-2011 23:48:52
สงสารแบล็ค อ่ะ ไอ้ห่าพี่ธีร์ ไม่เสียใจที่ทำแบบนี้มั่งรึไง ไอ้@#$#$%@$^^%^%^%^@$
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 24-10-2011 00:42:13
พี่ธีร์ทำไมทำแบบนี้วะครับ :sad4:
อ่านแล้ววูบตามน้องแบล็คเลย น้ำตาไหลด้วย สงสารมาก  :m15:

ขอให้จบแบบน้องแบล็คแฮปปี้นะครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: →Yakuza★ ที่ 24-10-2011 01:42:19
อยากให้แบล็ก แฮบปี้ TAT
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: the_pupae ที่ 24-10-2011 02:18:06
ไม่เข้าใจจจจจจจจจจจ :angry2:ไอ้พี่ธีร์เลยยยยยยย :m31:ทำงี้กับแบล๊คได้ไงงงงง :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 24-10-2011 02:53:45
ทำไมทำกับแบล็กอย่างนี้เนี่ยยย ไอ้พี่ธีร์   
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 24-10-2011 10:48:47
ไม่เป็นไรเดี๋ยวเจ้ หาคนไม่ให้แบ็ลคต้องเข้มแข็งนะสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 24-10-2011 15:03:41
กรี๊ด.................!! กำลังหนุกเลย ชอบคุ๋นี้จัง ฮุฮิ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 32 แบล๊ค โดนทิ้ง?[up 23.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: mister ที่ 24-10-2011 15:48:43
เรื่องนี้ก็ลงในเด็กดีใช่ป่าว 

ไปเจอมา
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 33 กัณฐ์-เธียร[up 24.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 24-10-2011 18:08:33
- 33 -

กัณฐ์..

“ยังไม่มีน้ำหนักเข้มสุดนะ ..แต่โครงสร้างใช้ได้แล้วล่ะ” ผมบอกรุ่นน้องที่นั่งฟังตาแป๋วยิ้ม ๆ.. ถึงแม้นี่จะเป็นภาพที่ 3 และมันมีจุดผิดพลาดอยู่ที่เดิมก็ตาม...

“ลงให้หนักไปเลย ไม่ต้องกลัว” ผมย้ำกับเธออีกครั้ง และเธอก็พยักหน้าเบา ๆ

ตอนนี้ผมอยู่ปี 3 แล้ว... ผมสอบเข้าได้มหาวิทยาที่มีชื่อทางด้านศิลปะสมใจอยาก ส่วนเธียรได้ที่เดียวกับผม.. แต่คนละคณะ คนละวิทยาเขต.. แน่นอนว่าตอนนี้เราอยู่ด้วยกัน.... ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเราเป็นอะไรกันนอกจากเพื่อนที่ซี้จริง ๆ …คิดว่านะ...

...เมื่อก่อนผมมั่นใจว่าไม่มีใครรู้ แต่เต็มเปรยกับผมลอย ๆ ว่า.. ‘ใครไม่รู้ว่าพวกนายเป็นแฟนกันน่ะสิ...แปลก!!’ ทำให้ความคิดของผมรวนเรเล็กน้อย..

เพื่อนในห้องแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปคนละทาง หัวหน้าได้เป็นนักศึกษาแพทย์ตามที่ตั้งใจ ไอ้ภีมได้เทคนิคการแพทย์ ส่วนบลูเรียนถา’ปัตย์ ไอ้บราวน์เรียนนิติศาสตร์ ..อีกอย่างหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้คือเรื่องไอ้บลูเป็นแฟนกับหมิง.. เพื่อนเก่าสุดแสนแวร๊ง! ของผมนั่นเอง ผมไม่รู้เหมือนกันว่า 2 คนนี้แอบไปสปาร์คกันตอนไหน แต่ก็คบกันมาได้นานพอดู

“ไอ้กัณฐ์ ไปกรึ๊บมะคืนนี้” เสียงเพื่อนในคณะตะโกนถาม

“ไม่ว้อย คืนนี้ต้องไปส่งพี่ที่สนามบิน” ผมตะโกนตอบ

“พี่เค้าต่อที่ไหนวะ ?”

“เมกา..” ..พี่ที่ผมพูดถึง เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พี่แบล็ค... พี่ท่านมาค้างบ้านผมได้ 3 วันแล้ว เนื่องจากผมยื้อเอาไว้ให้อยู่พักผ่อนที่นี่ก่อนออกเดินทาง พามาเดินเล่นในมหาลัยแค่ไม่กี่วันสาว ๆ งี้ตอมหึ่ง วนเวียนมาพูดคุยไม่ขาดสาย แถมมีแลกบงแลกเบอร์กันด้วย!!!

....พี่แบล็คที่ผมสรรเสริญพอเข้ามหาลัยก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตรีน!!!

พี่เขาเที่ยวเก่ง ดื่มเก่ง หลีหญิงเก่ง และอะไรก็เก่ง ๆ ๆ ยิ่งกว่าไอ้บลูซะอีก!! สมกับเป็นสายเลือดเดียวกันจริง ๆ ให้ตาย!
ผู้หญิงที่ผมเห็นพี่แบล็คควงแทบไม่ซ้ำหน้ากัน ผมเคยถามว่าทำไมพี่แกก็ตอบมาสั้น ๆ ว่า ‘ก็เขามาสารภาพรัก’ ...แค่นั้น ?? พอเห็นผมทำหน้าแปลก ๆ พี่เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วขยี้หัวผมบอกว่าผมไม่เข้าใจหรอก.. ก็จริง... ผมไม่เข้าใจ!

เป็นห่วงก็แต่ไอ้บราวน์ หวังว่ามันคงไม่เจริญรอยตามพี่ ๆ ของมันนะ…แต่วันนี้พี่ท่านพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พี่เขายังคงระดับเทพเหมือนเดิม ด้วยการเรียนจบด้วยเกียรตินิยมและสอบชิงทุนต่อโทที่อเมริกาทันที ...บร๊ะเจ้า....! ขอโทษครับที่ผมมองพี่แบล็คผิดไปชั่วขณะหนึ่ง… ...ได้ยินเสียงเปียโนคุ้นหูเรียกเข้าผมก็กดรับทันที.. ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร...

“กัณฐ์คืนนี้ท่าจะว่างแล้วล่ะ” เสียงทุ้มปลายสายบอกอารมณ์ดี

“อ้าว! ทำไมล่ะ ?” ผมถามงง ๆ

“ดูเหมือนพี่แบล็คคงต้องเลื่อนเดินทางไปอีกน่ะ”

“อ้าว! ทำไมพี่เขาไม่โทรบอกกัณฐ์อ่ะ”

“โทรไม่ติดมั้ง คืนนี้ไปเที่ยวกับไอ้จ้อยเหอะ” เธียรบอก... เขารู้อยู่แล้วว่าเพื่อนผมจะชวนกันไปเลี้ยงแทบทุกอาทิตย์.. ซึ่งเขาก็มักจะตามติดไปด้วยจนรู้จักคนในคณะมากกว่าผมเสียอีก...

“งั้นโทรชวนพี่แบล็คไปด้วยดีกว่า”

“เธียรชวนแล้ว พี่เขาบอกว่าไม่อยากดื่มอ่ะ”

“งั้นเหรอ.. แล้วเธียรไปด้วยป่าว ?”

“ไปสิ แถวนั้นเห็บไรมันเยอะ”

“ขี้หึงจังเลยน้อ...” ผมส่งเสียงล้อ

“ที่เดิมใช่มั้ย ?” ..เขาเปลี่ยนเรื่องทันที..

“อาฮะ แล้วเจอกันนะครับ” ผมใช้มือป้องปากแอบส่งเสียงจูบ แต่ดูเหมือนจะดังไปหน่อย เพราะน้องติวหันมามองผมเป็นตาเดียว... ผมหัวเราะแฮะ ๆ แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
 
คนมาเที่ยวเยอะจนยืนล้นออกไปนอกร้าน เสียงเพลงชวนโยกตัวดังกระหึ่ม กลิ่นแอลกอฮอล์ กลิ่นบุหรี่... ผมเริ่มจะชินกับมันเสียแล้ว เหลือบมองเส้นผมที่ถักเป็นเกรียวอย่างไม่วางตา... อา... ช่างงดงามอะไรอย่างนี้.....

ผมเคยคิดจะทำผมทรงเดทร็อค แต่เธียรไม่ยอมท่าเดียว... เลยคิดว่าจะทำแอฟโฟร เธียรก็ไม่ยอมอีก ...ตอนนี้เลยทำได้แค่เพียงเลี้ยงผมให้ยาว และรอโอกาส... แต่ดูเหมือนเธียรจะรู้ หมั่นเล็มผมให้เหลือเกิน เขาบอกว่าชอบผมสั้น ๆ มันดูสะอาดดี.. แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ไว้ผมทรงอื่นมันดูไม่สะอาดตรงไหน ??

“เข้าห้องน้ำแป๊บนะ” ผมตะโกนแทรกเสียงดนตรีใกล้ ๆ หูคนข้าง ๆ ...เขาพยักหน้าเบา ๆ

กำลังจะรูดซิปลง จู่ ๆ ก็มีมือหนาปิดปากและลากผมเข้าไปในห้องน้ำ ผมพยายามขัดขืน ร้องเสียงอู้อี้แต่ก็หยุดนิ่งเมื่อรู้สึกถึงกลิ่นกายคุ้นเคยของเขา ..เอื้อมมือไปล็อคประตู

“มองคนอื่นอยู่ได้ หึงนะ” เสียงทุ้มกระซิบบอกเบา ๆ กอดผมจากด้านหลัง...

“ก็ผมเขาเท่ห์อ่ะ” ผมเพ้อ.. พอเห็นเธียรหน้าง้ำก็รีบยิ้มประจบแล้วพูดเสริม

“เธียรก็เท่ห์นะ..” เขายิ้มขำ ๆ และก้มลงประกบปากผม ..มีกลิ่นแอลกอฮอล์เล็กน้อย

“อืม..” เขาครางในลำคอเบา ๆ มือก็อยู่ไม่นิ่งจนผมต้องจับไว้ให้อยู่กับที่

“อือ.. เดี๋ยวไอ้แหวนรอนาน” ผมบอกเสียงกระเส่า แต่แกล้งเบียดก้นเข้าหากลางลำตัวของเขา

“ไม่มีใครสนหรอก” เขาบอกเสียงแหบพร่า.. กอดรัดผมแน่นขึ้น

“ที่บ้านดีกว่า.. อะ..” จะทำอะไรไม่อายชาวบ้านเลย ให้ตายเถอะ...

“พี่แบล็คอยู่ ..อดมา 3 วันแล้วนะ” เขาพึมพำ.. ผมกลั้นเสียงหัวเราะ ฟันกระทบกันกึก ๆ ..นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่พาพี่แบล็คมาค้างด้วย.. ผมครางเบา ๆ เมื่อเขาไล้ลิ้นตามใบหูและฉกเข้าไป

“อยากสักมั้ย ?” ผมพยักหน้าเบา ๆ กลั้นหายใจเมื่อเขาไล้ริมฝีปากไปยังลำคอ.. นี่เป็นอีกความต้องการหนึ่งที่ถูกเขาขัด...

“ต้องสักตรงคอนะ” เขาบอกยิ้ม ๆ จูบตรงลำคอผมเบา ๆ

“เหอะ ๆ” ผมหัวเราะเซ็ง ๆ ...เขารู้ทั้งรู้ว่าคอของผมแตะไม่ได้.. โดนทีไรสะดุ้งทุกที... แต่ไม่เป็นไร.. ซักวันผมจะแอบไปสักกลางหลังแล้วก็เจาะคิ้ว.. ฮึ ๆ ๆ ๆ ....ผมวางแผนในใจอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง เธียรจับใบหน้าผมให้หันกลับไปประกบปากกับเขาต่อ....
 
ผมกลับมาถึงบ้านตอนเกือบตีหนึ่ง มองดูรองเท้าหนังหน้าบ้านด้วยความฉงน.. ของเธียรก็ไม่ใช่.. ส่วนพี่แบล็คเท้าก็ไม่ใหญ่ขนาดนี้.... แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจมัน

หัวเราะคิกคักหยอกล้อกับเขา แต่พอผ่านหน้าห้องตัวเองเท่านั้นแหละ...เสียงอะไร ?...

ผมแนบหูลงกับประตูห้อง ...เสียงครางกระเส่า เสียงของพี่แบล็คกับใครอีกคนและดูเหมือนจะไม่ใช่ผู้หญิง... พอยกมือขึ้นเตรียมทุบก็ถูกคว้าเอาไว้

“ชู่ว์…”

“ทำไม...?” ผมมองหน้าเธียรด้วยความงุนงง... ดูเหมือนว่าเขาจะรู้... ผมเดาออกทันทีว่าอีกคนที่อยู่ในห้องคือใคร... คนที่ผมไม่อยากให้เข้าใกล้พี่แบล็คมากที่สุด.. ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่คืบหน้าไปถึงไหน แต่ที่รู้ ๆ พี่แบล็คเคยเจ็บเพราะเขา.. และผมจะไม่ยอมให้พี่ชายตัวเองเป็นแบบนั้นอีก

“เธียรรู้อยู่แล้วงั้นเหรอ ?”

“นิดหน่อย” ผมมองเขาด้วยความโมโห... นี่เขาแยกผมกับพี่แบล็คเพื่อเปิดทางให้พี่ชายตัวเองเข้าใกล้งั้นสิ เขาวางแผนเพื่อที่จะให้พี่ชายตัวเองเผด็จศึกพี่ชายของผม! ส่งเนื้อให้จระเข้แท้ ๆ !!!

“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!!” ผมพยายามจะถีบประตู เสียงร้องของคนในห้องราวกับจะขาดใจ จนผมนึกสงสาร ...ไม่น่าชวนมาที่บ้านเลย!!

“กัณฐ์!!” เธียรรีบกอดตัวผมวิ่งออกห่างจากประตูห้อง เสียงร้องของพี่แบล็คแผ่วลงจนแทบไม่ได้ยิน

“เชื่อเธียรนะ..” เขาทำหน้าอ้อนวอน.. ผมเม้มริมฝีปากแน่น... ผมไม่รู้ว่าพี่เขามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในเมื่อพี่ธีร์ก็หมั้นหมายไปตั้งนานแล้ว ทำไมเธียรถึงยังเข้าข้างเขาอีก.... ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ...สะบัดแขนทิ้งเดินเข้าห้องของเขา แล้วปิดประตูดังปัง!!

“คืนนี้ห้ามเข้าห้อง!” ผมประกาศกร้าว.. เข้าข้างกันดีนัก...

“อะไรอ่ะ ?” เขาถามงง ๆ

“ห้ามเข้าห้อง!! ไปนอนข้างล่าง!” ผมย้ำเสียงดังอีกครั้ง

“ยังค้างอยู่เลยนะ” เธียรบอกเสียงหงอย ขูดเล็บกับประตูห้องดังแกรกกราก

“ถ้ามีวันนี้งดเดือนนึง” ผมยื่นคำต่อรอง...

“อะไรอ่ะ กัณฐ์.. ไม่สงสารเธียรเหรอ ?”

“ไม่!!”

“นะ ๆ” ..พอได้ยินเธียรอ้อนผมก็เริ่มใจอ่อน.. ความจริงแล้วผมเองก็ค้างอยู่ไม่น้อย.. ถ้างดไปอีกเดือนนึงไม่ผมก็เขานั่นแหละที่ตบะแตก ....คงต้องหาข้อเสนออื่น

“งั้นเธียรต้องให้กัณฐ์ทำแอฟโฟร” ผมบอกเสียงเจ้าเล่ห์

“ไม่เกี่ยวกันเลย” เขาบอกเสียงฉุน ๆ

“งั้นก็เดทร็อค”

“กัณฐ์!!”

“งั้นก็..ห้ามเข้าห้อง!!” ผมบอกครั้งสุดท้าย ก่อนละความสนใจจากเขา ล้มลงนอนบนเตียงนุ่ม.. น่าโมโหจริง ๆ พรุ่งนี้ผมต้องต่อยหน้าพี่ธีร์ให้ได้ซักหมัด.. เรื่องวันที่ผมพาเขาไปเคลียร์นั่นก็เหมือนกัน พี่ธีร์บอกพร้อมยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ..ว่าเขาเห็นเธียรก็เลยอยากแกล้งเล่น ๆ แต่บีบคอผมเกือบตาย!! ผมยังไม่ได้ชำระหนี้นี้เลย!!

ก๊อก ๆ .... เสียงเคาะประตูเรียกความสนใจจากผม

“กัณฐ์...” เขาเรียกชื่อผมหงอย ๆ

ก๊อก ๆ

“กัณฐ์.....” …ฟัง ๆ ไปแล้วก็น่าสงสารเหมือนกันแฮะ.. ไม่! ผมจะใจอ่อนไม่ได้!!

“เปิดประตูเหอะน้า...” เธียรส่งเสียงอ้อนจนผมกลั้นหัวเราะ เมื่อนึกถึงเวลาที่เขาทำหน้าเหมือนหมาหงอย..

“งั้น.. เธียรให้ทำก็ได้ ..เดทร็อคน่ะ”

“จริงรึเปล่า ?” ผมทวนถามซ้ำเสียงดัง ดีใจแบบปิดไว้ไม่อยู่

“ฮื่อ”

“สัญญานะ”

“อืม.. เปิดประตูก่อน” ความดีใจของผมลบเรื่องขุ่นมัวเมื่อซักครู่ออกไปหมด รีบหากระดาษในห้องกับ EE เปิดประตูให้เขาเข้ามา

“ทำจดหมายสัญญาก่อน” ผมบอกเสียงใส ก้มลงเขียนตัวอักษรขนาดใหญ่บนร้อยปอนด์ 24 นิ้ว

“กระผม.. นายธรณินทร์ ศุกะศุภางค์ ...ขอสัญญาว่า...” ผมทวนคำพูด.. เขียนไปพลาง

“จะรัก... และดูแลนายฐาปเดช กัณฐเมธา.. ตลอดไป.......” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบบอก เอื้อมมือจับให้เขียนตามที่เขาบอก...

ผมรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผะผ่าว... เมื่อเขากุมมือผมเซ็นชื่อตัวเองลงไปท้ายกระดาษ ยิ้มให้ผม... ผมรู้สึกว่าใจตัวเองเต้นถี่รัว.. ในหัวสมองว่างเปล่า.. มีเพียงใบหน้าของเขาที่ขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ.................เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ค่อยว่ากันก็ได้....

........................................end............................
จบล่ะ คู่เอกก็สุขสมหวัง ตามประสา เหลือแต่น้องแบล๊ค ซึ่งคู่กะพี่ธีร์ รึเปล่า ทำไมไ่ม่ได้อยู่ด้วยกันว่ะ หึหึ อยากรู้ก็รออ่านตอนพิเศษคู่เฉพาะกิจ ธีร์-แบล๊ค น่ะคร้าบบบบ จะได้รู้มุมมองของพี่ธีร์กันบ้าง ขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่านเช่นเคย :3123:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 33 กัณฐ์-เธียร[up 24.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 24-10-2011 20:32:54
คู่น้อง นี่ หว่า เวอร์ เนาะ ว่า แต่ คู่พี่ ถ้า เหตุผลไม่ดีพอ คน อ่านจะเคืองนะคนแต่ง
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 33 กัณฐ์-เธียร[up 24.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 24-10-2011 20:49:18
เพิ่งจะมีโอกาสได้อ่านค่าาา  ยาวมากกกก

เดี๋ยวขอตัวไปตามอ่านให้ทันก่อนล่ะกันนะคะ

+1 ให้ก่อนน้าาา
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 33 กัณฐ์-เธียร[up 24.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: →Yakuza★ ที่ 24-10-2011 20:56:15
แฮบปี้ไปแล้วคู่เล็ก คู่ใหญ่ขอดีๆนะ รักแบล็กอะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 33 กัณฐ์-เธียร[up 24.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 24-10-2011 21:14:13
มีเธียรเป็นไส้ศึกอย่างนี้ กัณฐ์รักษาอธิไตยให้เฮียแบล็คยากนะ พี่ธีร์เข้าคุมเกมส์เก่ง
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 33 กัณฐ์-เธียร[up 24.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Nuk ที่ 24-10-2011 21:23:32
เกลียดพี่ธีร์อ่ะ  ละดีละร้าย

เชื่อเลย  ว่ากันย์ไม่ได้ทำเดกร๊อกอะไรนั้นแน่นอน หุหุ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 33 กัณฐ์-เธียร[up 24.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 24-10-2011 21:44:15
สงสารพี่แบล๊คอ่ะ หวังว่าพี่แกจะเจอคนรักจริงซักที
แต่อิจฉากัณฐ์กับเธียรยังหวานตลอด ^^
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 33 กัณฐ์-เธียร[up 24.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 25-10-2011 00:43:35
รอตอนพิเศษอย่างใจจดใจจ่อ ^^
ขอแบบสมหวังนะคะ
 + 1 ให้นะคะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนที่ 33 กัณฐ์-เธียร[up 24.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: rimdadfa ที่ 25-10-2011 10:46:07
สงสารแบล็ค ถ้าชีวิตจะเศร้าขนาดนี้ :m15:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~[up 25.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 25-10-2011 21:50:51
SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~

พี่ธีร์..

ความรักของเราสวนทางกัน.. ตอนที่เขาไล่ตามผม ผมเป็นฝ่ายหนี ...ตีห่างออกมา..แต่เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะหันหลังกลับ.. ผมกลับเป็นฝ่ายเข้าหาเขา... ทุกอย่างมันเลยดูยุ่งเหยิงไปหมด..
 
“ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ ไอ้เด็กนั่นมันกำลังแย่งน้องชายฉันไป!!” เธอบอกพร้อมกำหมัดทั้ง 2 ข้างทุบโต๊ะดังปึง ๆ ๆ!!

“เด็กที่ไหน ?” ผมเลิกคิ้วถาม.. ความจริงเธอก็ระแวงเด็กทุกคนที่เข้าใกล้น้องชายเธอนั่นแหละ...

“เด็กที่ไหนก็ไม่รู้ อาร์บอกว่ารู้จักมันในงานแต่งของกิตเมื่อ 2 ปีก่อน!!”

“งั้นเหรอ ?.. ก็ดีนี่ น้องเธอก็โตแล้วนะ”

“ดีบ้าอะไร! รู้มั๊ยว่ามันเป็นผู้ชาย!!”

“ผู้ชาย ??” ผมยิ้มนิด ๆ... และคิดว่าถ้าหากตัวเองเป็นอาร์และมีพี่สาวอย่างเธอ ผมก็คงเข็ดขยาดกับผู้หญิงเหมือนกัน..

“ใช่!! แปลว่าน้องของชั้นจะเป็นเกย์!!”

“อื้ม...”

“น้องชายฉันแอบคบกับผู้ชายตั้งแต่ 2 ปีก่อน...” เอ็กซ์ครางซุกหน้าลงกับโต๊ะ..ผมยาวสีดำแผ่ขยาย.. เล็บยาว ๆ ขูดขีดกับพื้นโต๊ะจนน่าหนวกหู...

ผมพ่นลมหายใจออกเบา ๆ.. นี่ผมต้องมาฟังยัยบ้านี่บ่นทุกอาทิตย์เลยรึไงกัน.. เรื่องที่พูดก็ไม่ไปไหนไกลจากอาร์ น้องชายสุดสวาทของเธอ...

ผมหมั้นกับเธอมาได้เกือบ 5 ปีแล้ว และดูเหมือนความสัมพันธ์ของเราจะไม่คืบหน้า... และไม่มีทางคืบหน้า...ผมรำคาญเหลือเกินกับคำถามที่ว่าจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ ?... อยากให้คนที่ถาม ลองมาอยู่กับยัยนี่ทั้งวันอย่างผมแล้วอาจจะได้ตั้งคำถามใหม่ว่า แล้วจะเลิกกันเมื่อไหร่ ?

มีหลายครั้งที่เราเห็นตรงกันว่าสมควรยกเลิกหมั้นแต่พ่อของผมและย่าของเธอไม่ยินยอม.. ท่านทั้ง 2 ต่างตักตวงผลประโยชน์ซึ่งกันและกันโดยผ่านทางพวกผม..

วันนั้นเมื่อย่าของเธอรู้ว่าผมอยู่บ้านเธอและถูกส่งโรงพยาบาลในตอนเช้า ก็สั่งให้ผมรับผิดชอบเธอเพราะผมเป็นผู้ชายและมันดูไม่งาม ผมก็ไม่เข้าใจว่าอะไรมันไม่งาม ทั้ง ๆ ที่ผมถูกหามส่งไปโรงพยาบาล คุณย่าพร่ำบอกกับผมว่าต้องรับผิดชอบน้องเอ็กซ์..
พอเอ็กซ์รู้เข้าเธอก็โวยวายและปฏิเสธท่าเดียว จนคุณพ่อของผมเปรยเรื่องที่ผมช่วยเธอขึ้นมาอ้าง เธอจึงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ และยอมรับได้เพียงแค่การหมั้นหมาย.. ซึ่งผมก็ต้องทำตามที่พ่อต้องการ ...ผมรู้ว่าพ่อรอโอกาสนี้มานานแล้ว.. และเอ็กซ์ก็คงจะดูออก แต่เธอก็ไม่เคยพูดถึงมันเพราะเธอก็ได้ผลประโยชน์เช่นกัน..

“นายดูนี่สิ มีปาปารัซซี่ส่งมาให้ฉัน” เธอยื่นซองกระดาษให้ผม.. ผมหยิบมันขึ้นมาเปิดออก มองดูภาพที่ถูกแอบถ่าย.. สวยซะด้วย.. ฝีมือดีใช้ได้... เป็นรูปตอนที่ผมกับเขาจูงมือกัน หอมแก้มกัน และจูบกัน...

“ฉันเตือนนายแล้วตั้งแต่ในงานหมั้น อย่าไปยุ่งกับเด็กคนนี้มากเดี๋ยวจะเกิดเรื่อง” เอ็กซ์แหว ในงานหมั้นก็เหมือนกัน มีคนเห็นผมจูบกับเขาซะได้ แต่เธอก็กลบข่าวซะมิดด้วยการจูบผมโชว์ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่... เหอะ ๆๆ

“ฉันก็ไปพบเขานาน ๆ ทีแล้วนี่” ผมบอก เก็บภาพใส่ซอง และคิดว่าจะขอเธออัดภาพพวกนี้ไปเก็บไว้ที่บ้าน...

“นาน ๆ ที!!” เธอหวีดเสียงแหลมปรี๊ดจนผมเริ่มรู้สึกว่าหูชา..

“ฉันหมายถึงเลิกยุ่งไปเลยซักปี 2 ปี ไม่ใช่เดือนนึงไปหาครั้งนึงแบบนี้!!” เธอพูดซะโอเวอร์.. ความจริงหลังจากวันนั้นผมไม่ได้เจอเขาเกือบ 2 ปี.. ตอนเจอหน้าเขาครั้งแรก ผมไม่ได้คิดว่าจะเริ่มสานสัมพันธ์กันใหม่ ..แต่ทำยังไงไม่รู้ดันไปจับเขากดก่อนไปเรียนต่อ.. เลยโดนกัณฐ์ต่อยซะหน้าเขียว.. แต่ถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองรู้สึกว่าเขาจะสมยอมนะ ....มันก็เลยมีครั้งต่อ ๆ ไปตามมา...

“ก็ฉันอยากเจอเขา” แถมผมยังเป็นฝ่ายหาเวลาว่างบินไปหาเขาเองด้วย... แปลว่าผมกำลังเป็นฝ่ายหลงเขารึเปล่า ?

“อยากเจอก็ต้องเก็บเอาไว้! รู้มั้ยว่าฉันเหนื่อยที่จะต้องตามแก้ข่าวตลอด!! ตอนนี้เป็นช่วงที่ดี เด็กคนนั้นไปต่อเมืองนอกนายก็ไม่ต้องติดต่อเขาอีก!” เธอยกมือเท้าสะเอวเอานิ้วจิ้มอกผมจนรู้สึกเจ็บ

“มีคนพุ่งเป้ามาที่ฉันด้วยนี่! เห็นรึเปล่า!” แล้วเธอก็เปลี่ยนเรื่องคุย ด้วยการโชว์แผลที่ข้อศอก..

“ถ้าฉันรู้ตัวว่าใคร คอยดูนะจะทำให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด!”

“อาร์ก็ไม่มาดูดำดูดีชั้นเลย... เฮ้อ..” สุดท้ายก็วกกลับเข้าหาน้องชายเธอ... แล้วก็ซุกหน้าลงกับโต๊ะตามเดิม... ถ้าผมฟังยัยนี่บ่นต่ออีกซัก 2 – 3 อาทิตย์ต้องเป็นโรคประสาทแน่ ๆ
 
ผมควงเอ็กซ์ออกงานสังสรรค์ ถอนหายใจเบื่อ ๆ ปั้นหน้ายิ้มมาราว ๆ ครึ่งชั่วโมงเพื่อสานสัมพันธ์กับนักธุรกิจคนอื่น ๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย.. แล้วความคิดของผมก็แปรเปลี่ยนเมื่อเหลือบไปเห็นเขา...แวบแรกผมคิดว่าไม่ใช่.. หากแต่มองดูกี่ครั้ง.. ผมก็ว่าใช่แน่ ๆ..

“สวัสดี” ผมเดินเข้าไปทักยิ้ม ๆ... มีคำถามในใจว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

“เอ่อ.. สวัสดีครับ” แบล็คยกมือไหว้ผม … ผมเลิกคิ้วเชิงคำถาม เหมือนกับเขาจะรู้ว่าผมกำลังต้องการถามอะไร...

“ผมทำงานให้คุณพิพัฒน์น่ะครับ.. เขาเรียกตัวมาช่วงปิดเทอม..” แบล็คบอกเบา ๆ ในสมองผมนึกถึงคนที่ชื่อพิพัฒน์... เป็นตาแก่ท่าทางตัณหาจัด ไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้...

“แล้วมาที่นี่นานรึยัง ?” จบคำถามเขาทำหน้ายุ่ง.. เหมือนกับไม่อยากบอก...

“หลายวันแล้วใช่มั๊ย ?.. ทำไมไม่บอกฉัน ?”

“พี่อยู่กับแฟน..” แบล็คตอบ หลบสายตาผม..

“ใครแฟน ?”

“..คู่หมั้น” เขาแก้ใหม่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น...

“ฮึ ๆ.. เธอเลยไม่กล้าโทรมาหาฉันเหรอ ?” ผมเหยียดยิ้ม.. อยากรู้จริง ๆ ว่าถ้าเขาเห็นเวลาที่ผมอยู่กับเธอแล้วจะคิดยังไง..

“ไม่เอาน่าแบล็ค ฉันบอกแล้วว่าเราไม่ได้มีอะไรกัน…”

“มันเป็นธุรกิจ.. คุณย้ำกับผมหลายรอบแล้ว” แบล็คบอกตัดใช้สรรพนามห่างเหินและเดินหนีผมไปยังริมระเบียง.. ผมหยิบแก้วไวน์และเดินตามเขาไป....

“เฮ้.. อย่าเพิ่งงอนเลยหน่า ฉันคิดถึงเธอจะแย่” ผมยืนซ้อนหลังเขา และกระซิบบอก พร้อมขบกัดใบหูเขาเบา ๆ

“ผมก็คิดถึง..” เขาบอกเสียงเรียบ...

“เปิดซักห้องมั๊ย ?” จบคำถาม แบล็คเงียบไปอึดใจหนึ่ง.. หรือว่าเขาจะไม่พอใจ ?... ผมเริ่มกังวล......

“.....รำลึกความหลังกันดีกว่า..” เขาเหลือบไปมองยังรถที่จอดเรียงราย ก่อนยักคิ้วให้ผม.. ช่วงเวลาที่ขาดหายไปทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะ จนบางครั้งผมก็ตามไม่ทัน.. ดูจะเจ้าเล่ห์ขึ้นจนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าผมหรือเขากันแน่ที่เป็นฝ่ายหลงรัก...

เราทั้งคู่แอบปลีกตัวออกจากงาน โดยผมเป็นฝ่ายออกมารอเขาก่อนซัก 5 นาทีแล้วเขาก็ตามมา..ผมเปิดเบาะหลัง แล้วผลักเขาเข้าไปก่อนจะเข้าตาม และปิดประตูรถ.. หวังว่าคงไม่มีใครเห็นนะ...

แบล็คหน้าแดงเมื่อเห็นผมถอดสูทออก ผมยิ้มให้เขานิด ๆ ก่อนขยับเข้าไปจูบริมฝีปากบางนั้นอย่างโหยหา ผมสัมผัสผิวเนื้ออุ่นใต้สูทหนาของเขา เขาตัวโตขึ้นนิดหน่อย หุ่นดีขึ้น... บริโภคแต่เนื้อ นม ไข่แล้วไม่ออกกำลังกายบ้างมีหวังอ้วนกลับมาแน่ ๆ...
ผมซุกไซร้ซอกคอเขา.. กลิ่นกายของเขา ผมคิดถึงแทบใจจะขาดพรมจูบ ซอกคอ ใบหู.. ส่งลิ้นเล็มเลียผิวเนื้อหอมหวาน..

“พี่ธีร์ ผมขอนะ” คำพูดของเขาทำเอาผมสะดุดกึก...

“ไม่” ผมปฏิเสธทันที ขมวดคิ้วแทบชนกัน.. เขาไม่ล้มเลิกความคิดที่จะเป็นฝ่ายรุกอีกเหรอ

“อะไรอ่ะ ผมยอมแล้วตั้งหลายครั้ง” เขาอ้อน ทำตาปริบ ๆ ส่งให้ แต่ผมไม่ใจอ่อนหรอก..

“ไม่”

“ของผมอันจิ๊ดเดียวเอง ไม่เจ็บหรอกนะพี่ธีร์” แบล็คพยายามหว่านล้อม.. แต่ผมไม่หลงกลเขาหรอก....

“จิ๊ดเดียวงั้นเหรอ ?” ผมทวนคำพูด เลื่อนมือสัมผัสกลางลำตัวร้อนผะผ่าวของเขา

“เล็กกว่าของพี่อ่ะ ..โดนแล้วเดินไม่ตรงไปหลายวัน” เขาบอกหน้ามุ่ย.. ผมหัวเราะเบา ๆ.. ผมชอบเวลาเขาทำหน้าแบบนี้...

“แล้วไม่ชอบเหรอ ?”

“.......ไม่...ชอบ” แบล็คตอบตะกุกตะกัก เว้นระยะระหว่างคำว่าง ‘ไม่’ กับ ‘ชอบ’ ..ไม่รู้ว่าไม่ชอบจริงหรือเปล่า..

“โดนบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชอบ” ผมแนะนำ แต่เขายิ้มกวน ๆ เอื้อมมือมาคล้องคอผม

“บ่อย ๆ แล้วพี่ไหวเร้อ ?” สบประมาทผมด้วย...

“ดูถูกจัง” ผมยิ้ม หอมแก้มเขา

“แก่ไปแล้วม้าง”

“เด็กปากเสีย” ผมบ่น และระดมจูบทั่วใบหน้าเขา... มือแกะเนคไทด์เขาพลาง

“เบา ๆ นะครับ” แบล็คกระซิบข้างใบหูของผมก่อนขบกัดเบา ๆ...
 
“อือ...” เขาครางเบา ๆ เอื้อมมือไปเกาะเบาะ กดนิ้วจิกลงจนมันยุบยวบลงไป

“แคบจัง” เสียงห้าวของเขาพึมพำ

“อืม.. ทั้งคับ ...ทั้งแคบ” ผมบอกเสียงสั่น

“หมายถึงรถ!!” เขาเอื้อมมือจะทุบไหล่ผม แต่ผมไหวตัวทัน กดลำตัวเข้าหาเขาเสียก่อน

“โอ๊ยย!!”

“อย่าดื้อสิ” ผมเสียงกระเส่า ส่งยิ้มอย่างเหนือกว่าให้เขา

“อึก..” เขาผ่อนลมหายใจเบา ๆ เบือนหน้าหลบสายตาผมคิ้วขมวดยุ่ง

“เก่งจัง เด็กดี” ผมออกปากชมเสียงแหบพร่า โน้มกายลงบดจูบเขา ลากมือเค้นคลึงลำตัวที่มีกล้ามเนื้อพอประมาณของเขา
เรียวขาของแบล็คข้างหนึ่งพาดอยู่บนบ่าของผม เขาครางเครือเมื่อผมขยับเอวเบา ๆ

“ห้าม...อะ...”

“ฮึ...” ผมหัวเราะในลำคอเบา ๆ แต่แบล็คหน้าซีดเผือด

“อือ...เบา...โอย...” เขาร้องไม่เป็นภาษาเมื่อผมขยับเร็วขึ้น...

จะว่าผมซาดิสม์ก็ได้ แต่ผมชอบและถึงจุดทุกครั้งเวลาที่เห็นเขาน้ำตาไหลจากการตกเป็นของผม... เรื่องนี้เจ้าตัวคงไม่รู้หรอก ว่าเวลาเขาร้องเรียกชื่อผมน้ำตาคลอ ๆ เนี่ยเซ็กซี่ขนาดไหน แบล็คครางไม่ได้ศัพท์ ร่างกายเขาตอดรัดผมเป็นจังหวะ จนผมค่อย ๆ ผ่อนความเร็วและแรงลง

“เจ็บรึเปล่า ?” ผมถามลูบหน้าผากชื้นเหงื่อของเขาเบา ๆ แบล็คปรือตามองผม ริมฝีปากแดงเผยอหอบหายใจ

“ไม่.. ไม่เจ็บ” ผมไม่รู้ว่าเขาตอบเอาใจผมรึเปล่า... แต่ผมจะทำให้เขารู้ ว่าแบบไหนทรมานกว่ากัน ระหว่างถี่และหนักหน่วง กับช้า ๆ เนิบนาบแบบนี้

“พ..พี่ธีร์...”

“หืม ?” ผมครางตอบในลำคอ

“โอย.. ขยับหน่อยได้มั๊ย ?”

“ทำไมล่ะ ?” ผมถามยิ้ม ๆ...

“อยากให้เบา ๆ ไม่ใช่เหรอ ?”

“แต่นี่มัน!...”

“ว้า.. แบบนั้นแบล็คต้องทำเองแล้วล่ะ” ผมอุ้มเขานั่งบนหน้าตักทั้ง ๆ ที่ร่างกายเรายังเชื่อมต่อกันอยู่ เขาครางเสียงแผ่วกอดคอผมแน่น แบล็คขยับตัวอย่างเก้ ๆ กัง ๆ พอผมขยับสวนร่างกายเขาก็เกร็ง ตอดรัดผมจนแทบทนไม่ไหว

“ฮึ ๆ” ผมหัวเราะในลำคอเบา ๆ เมื่อเขาจิกไหล่ผมแน่น ทุกครั้งที่ผมขยับสวนกลับ

เขาค่อย ๆ ขยับเร็วขึ้นจนปลดปล่อยออกมาและซบลงบนไหล่ผม หอบหายใจแรง… เขาใช้เวลามากขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าเร็วสำหรับผมอยู่ดี...

“ไม่ได้เอาออกนานสิเนี่ย..” ผมแซว เล็มเลียของเหลวที่เลอะจนถึงคางเขา ก่อนดันให้นอนลงตามเดิม และกระแทกกายใส่

“โอ๊ย!! พี่!!” แบล็คดิ้นเร่า ๆ พยายามขยับกายหนีผม ..ไม่รู้ว่าเขาเสียวหรือเจ็บ แต่ผมกอดรัดร่างกายเขาเอาไว้แน่น
ซักพักแบล็คก็กลับมาครางอีกครั้ง ผมดันเข่าทั้ง 2 ข้างของเขาชิดหน้าอก และกายเน้นเข้าสู่ร่างกายเขา แบล็คพยายามเอื้อมมือดันหน้าขาของผมเพื่อให้ผมผ่อนแรงลง..

ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ฟันขาวขบกัดริมฝีปากแดงบางกลั้นเสียงร้อง ดวงตาสีดำขลับเป็นประกายด้วยน้ำใสเอ่อคลอ ผมเหยียดยิ้มมองดูภาพตรงหน้า ก่อนก้มลงกัดจมูกเขาอย่างหมั่นเขี้ยว

“พี่ธีร์.. เจ็บ” แบล็คร้องบอกเบา ๆ ไม่รู้ว่าเขาเจ็บจมูกหรืออย่างอื่น..

“อีกนิดนึงนะครับ คนดี” ผมบอกเสียงกระเส่า ก่อนโถมกายเข้าหาจนเขาสะดุ้ง กรีดเสียงร้อง จนเมื่อทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ ผมนอนหอบหายใจหนัก ทับบนตัวเขา

“หนัก” แบล็คบอกเบา ๆ ดันตัวผมนอนตะแคงข้าง ๆ ลุกขึ้นเอื้อมมือหยิบกระดาษทิชชู่ตรงเบาะหน้า ...ผมมองเรียวขาของเขาที่มีน้ำสีขุ่นไหลเลอะออกมา

“แบล็คมีอะไรกับใครบ้างรึเปล่า ?”

“ทำไมถามงั้นอ่ะ ?” เขาหันหน้ามาถามกลับ

“เปล่า”

“ผมป้องกันทุกครั้งแหละหน่า” เหมือนเขาจะบ่นกับตัวเอง แต่ผมได้ยิน... ป้องกันทุกครั้ง...

“เธอมีอะไรกับคนอื่นงั้นเหรอ ?” ผมถามซ้ำ มองเขานิ่ง

“ก็..มีบ้าง” แบล็คตอบเบา ๆ ซับของเหลวขุ่นบนตัวไม่สนใจผม...

“ใคร ?”

“จะรู้ไปทำไม ?” เขาเลิกคิ้วมองผม.. นี่เขากำลังห้ามผมยุ่งวุ่นวายกับเขา ..... ทำไมผมถึงรู้สึกไม่พอใจแบบนี้...

“ผู้ชายหรือผู้หญิง ?”

“ก็มีทั้งผู้ชายแล้วก็ผู้หญิง”

“ใคร!?” และผมเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่อยู่.. เผลอขึ้นเสียงใส่เขา ..เขาอึ้งไปหลายวินาทีก่อนตะโกนตอบ

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ!” ….ผมรวบตัวเขามากอดและคร่อมทับ...

“อ๊ะ!.. ไอ้พี่ธีร์!!” เขาเรียกผมแบบที่ใช้เมื่อหลายปีก่อนเวลาไม่พอใจ...

“บอกฉันมา”

“บ้ารึไง!! ต้องรีบกลับเข้าไป..”

“ฉัน ไม่ แคร์”

“ไอ้พี่ธีร์!!” แบล็คพยายามขัดขืนผม.. แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะผมปราบพยศเขามาหลายครั้งหลายคราแล้ว ผมเล่นงานจนเขานอนหมดเรี่ยวแรงอยู่บนเบาะด้านหลัง และพาเขาไปต่อที่คอนโด.. จะไม่ให้เหลือแรงไปต่อที่ไหนกับคนอื่นเลย....

ผมมองดูร่างไร้เรี่ยวแรงของเขานอนขดตัวกลมเหมือนทุกครั้งเวลาที่เขาเสียใจ ..ดูจากปริมาณน้ำเชื้อที่ไหลย้อนออกมาตามเรียวขาของเขาแล้ว ถ้าเขาเป็นผู้หญิงและสเปิร์มของผมไม่ผิดปกติ ผมบอกได้เลยว่าวันนี้เขาต้องท้อง
 
วันถัดมา.. จวนจะบ่ายแล้วเขาก็ยังไม่ตื่น...

ผมลูบเส้นผมสีดำสนิทของเขาเบา ๆ ดวงตาบวมช้ำของเขาปิดสนิท หายใจสม่ำเสมอ... คงจะเหนื่อยมาก... ทำไมกันนะ... ตอนนั้นผมถึงไม่ยอมคว้าเขามาเป็นของตัวเอง...

ในตอนนั้นผมอยากให้เขาเปิดโอกาสตัวเอง เพราะอายุยังน้อย...พอถึงวันที่เขาตีจาก ผมกลับอยากดึงรั้งเขาเอาไว้....กรรมคงจะตามสนองผม เพราะเขาไม่เคยพูดคำว่ารักกับผมอีกเลย...ผมมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์

‘ไอศวรรย์’ งั้นเหรอ ?

................................................ทูบีคอนตินิว..
คึคึ ถูกใจกันบ้างไหมค่ะ สำหรับตอนพิเศษ คู่พิเศษ หื่นกันกระจาย  :เฮ้อ:แต่ก็แอบไม่พอใจพี่ธีร์อยู่น่ะ ไม่เคลียร์สักเรื่อง ฮ่วย.. แบล๊คก็ช่างอึด อด และ ทน จริง ๆ ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้แบล๊คผู้น่าสงสารน่ะค่ะ อย่าลืมเป็นกำลังใจให้น้องต่อไป เพราะทุกอย่างยังไม่กระจ่าง และไม่เคลียร์ กีซซซซซซซ

+++++++++++++++

เรียกร้องกันมามากมาย.. หยดจัดห้ายคร่า~~~!!!

ปล. รู้สึกว่าภาคของพี่ธีร์นี่จะมีแต่อะไรหื่น ๆ ไม่ไหว ๆ -__-"
++ อันนี้ผู้แต่งเค้าบอกไว้น่ะเออ..
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~[up 25.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 25-10-2011 22:09:55
เอ่อออ แบบว่า หื่นก็ดีแต่ จะดีกว่า นี้ ถ้าเคลียร์เนื้อเรื่องก่อนอ่ะนะ

ว่าแล้วก็ ไอ้เวรพี่ธีร์ แกเองไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้น้องแบล็คที่แสนดีและใส่ซื่อเป็นแบบนี้หน่ะ

ไม่ได้ดั่งใจเลยเอ็ง โธ่เว้ยยยยย
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~[up 25.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 25-10-2011 22:42:27
หื่นได้ใจ แต่คู่นี้ก็ยังคงคอนเซปอึมครึม เครียดขึงเหมือนเดิม
ชอบเรื่องนี้มากกกกก  มีรวมเล่มรึเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~[up 25.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 25-10-2011 22:48:05
แบล็คช่างอึดจิงๆ  o13
รออ่านต่อนะคะ สนุกทุกตอน ตามติดหนึบเลยค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~[up 25.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 25-10-2011 23:07:51
มันเป็นเวรกรรม แต่อ่านตอนนี้กี่รอบก็แอบสะใจลึกๆ เฮียธีร์ก็กลุ้มซะบ้างก็ดี
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~[up 25.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 26-10-2011 02:37:15
อ่านๆไปแล้วชอบคู่พี่ธีร์กับแบล็คมากกว่าคู่เอกอีกนะเนี่ย  :กอด1:
พี่ธีร์แอบน่ารำคาญ ทำตัวงี่เง่าไม่สมอายุเลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~[up 25.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 26-10-2011 03:31:35
สมน้ำหน้าพี่ธีร์
ตอนแรกล่ะทำปากหนัก มาตอนนี้เหอะๆ

หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 2[up 26.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 26-10-2011 21:16:01
SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* [2]

แบล๊ค..

มือของพี่ธีร์อุ่นร้อน.. ผมชอบสัมผัสจากฝ่ามืออุ่น ๆ ของเขา การจะลบเขาออกจากความทรงจำ ยากกว่าที่ผมคิด.. เพราะเขาหมั่นกลับมาสะกิดแผลที่กำลังตกสะเก็ดให้เลือดไหลซิบอยู่เสมอ.. เวลาที่ผมเริ่มจะรู้สึกว่าหายดีแล้ว เขาก็จะกลับมาทำให้มันเจ็บเหมือนเดิม... บางครั้งอาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ...

และผมก็คงเป็นพวก Masochism อย่างที่เขาว่าจริง ๆ.. เพราะผมอยากเจอเขา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันจะต้องเจ็บอีก.. ..เขาไม่เคยมีทีท่าจะสนใจผมเลย ..ยังดีที่เธียรให้ความร่วมมือชวนเขามาที่บ้าน ก่อนที่ผมจะออกเดินทาง แล้วก็โป๊ะเช๊ะ..เข้าทางผมเลยน่ะสิ..

..ถ้าผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองนัก.. เขาก็คงมีใจให้ผมบ้างแหละน่า... ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่เครื่องติดง่ายขนาดนั้นหรอก...
ผมลืมตาตื่นขึ้นเพราะเสียงดังโวยวาย น่าหนวกหู.. ร่างกายของผมบอบช้ำไปหมด ..ไอ้พี่ธีร์เป็นพวกซาดิสม์.. ไม่เคยเลยที่จะทะนุถนอม.. มีเท่าไหร่ใส่มาไม่ยั้ง.. คอยดูเถอะ ผมจะต้องเอาคืนเขาให้ได้ซักวัน!!

เสียงที่ปลุกผมแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น.. ผมแอบมองผู้หญิงผมยาวคนนั้นมีปากเสียงกับเขา..ไม่ใช่สิเรียกว่าเธอด่าว่าเขาฝ่ายเดียวเสียมากกว่า ...เธอกรีดเสียงแหลมและทุบไหล่หนาอย่างแค้นเคือง ...ก่อนจะซบศีรษะลงบนบ่าของเขาเงียบ ๆ ....กริยาขัดกันชะมัด.... ดูเหมือนเธอเพิ่งจะเจอเรื่องที่ทำให้เสียใจมา...

ผมยังจำผู้หญิงคนนี้ได้ติดตา.. เพราะเธอสวย.. สวยมาก... ในงานหมั้นของพวกเขา...เธอคือคู่หมั้นของเขา....พี่เอ็กซ์...

แวบหนึ่งผมกลัวว่าเธอจะไม่พอใจที่ผมนอนอยู่ในห้องเขา... กลัวว่าเธอจะสั่งให้เขาเลิกยุ่งกับผม... กลัวว่าพี่ธีร์จะรักเธอมากกว่า.... และยอมปล่อยผมเพื่อคว้าเธอเอาไว้....

แต่เหมือนเธอจะรู้ว่าผมกับเขามีความสัมพันธ์กันยังไง ...และเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ยังคงส่งยิ้มไมตรีให้ผม... แม้แววตาที่ส่งให้จะไม่ได้ยิ้มตาม.. แต่ผมก็รู้ว่าเธอไม่ใช่ศัตรู...

ผมมองฝ่ามือหนาของเขา แตะสัมผัสเส้นผมสีดำสลวยนั้นแผ่วเบา... อ่อนโยน... รู้สึกตื้อ ๆ ในอก.. เมื่อฝ่ามืออุ่น ๆ ของเขาไม่ได้เป็นของผมเพียงแค่คนเดียว....

ผมอิจฉาเธอ......ทั้ง ๆ ที่ผมคิดว่าได้เขามาเป็นของตนเองแล้ว แต่หากทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์ที่ผมไม่สามารถก้าวเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้...
 
“เธอไม่กินเหรอ ?” พี่ธีร์เอ่ยถาม ตักกุ้งในจานพี่เอ็กซ์มากินเสียเอง.. ผมได้แต่นั่งเงียบ ๆ มองดูบรรยากาศอึมครึมที่แผ่ออกมาจากผู้หญิงคนเดียวในห้องนี้ ...

“เอาไปดิ อ้วนตายชัก อายุก็ตั้งเท่าไหร่แล้วกินแบบนี้มีหวังแผละ” พี่เอ็กซ์บอกเบ้ปาก และเขี่ยมันไว้ขอบจานอย่างขยะแขยง

“หุ่นฉันยังดีอยู่ ห่วงตัวเองเถอะ... ยัยสาวทึนทึก”

“แกว่าใคร ?” เธอถามเสียงเรียบ เหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ

“ใครนะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีแฟนเลยซักคน...”

“เฮ้ย!” พี่ธีร์ร้องเบา ๆ เมื่อพี่เอ็กซ์คว้าจานและเทเส้นสปาเก็ตตี้ที่เหลือใส่เขาและเดินสะบัดก้นหนีไป.. ไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมามอง... เขาถอนหายใจเบื่อ ๆ และลุกออกไปอีกคน...

ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่... บางทีการรับมือกับเธออาจจะเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาสำหรับชายทั้งโลกก็ได้…แล้วผมก็ได้แต่นั่งขบคิด ว่าทำไมเขาถึงไม่มีทีท่าโกรธเธอเลย.. ถ้าผมทำแบบนั้นรับรองว่าต้องถูกต่อว่าแรง ๆ หรือไม่ก็เอาคืนหนัก ๆ ไปแล้ว... หรือเขาจะรักเธอถึงขนาดให้ยอมได้ทุกอย่างเลยจริง ๆ....

เมื่อกินเสร็จ ผมก็รีบแต่งตัวและตั้งใจจะออกจากที่นี่ แต่เขาก็ไม่ยอม ยื้อยุดเอาไว้ จะให้ผมอยู่ต่อเสียให้ได้ ผมมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ สับสน... เมื่อคืนก็ไม่ได้เข้าไปลาใครเลยซักคน วันนี้ก็ดันตื่นซะเกือบเย็น ...โดนสวดยับแน่ ๆ แล้วยังจะมาอะไรกับผมอีก..

“ผมมีเวลาอีกไม่กี่วัน พี่อย่าทำแบบนี้ได้มั๊ย ? ...ผมกลับมาทำงานนะ” ผมบอกอย่างหงุดหงิด.. ทั้ง ๆ ที่น่าจะมีความสุขเมื่ออยู่ใกล้ ๆ เขา แต่ผมหงุดหงิดจริง ๆ เพราะคิดไม่ตกเรื่องพี่เอ็กซ์..

“ถ้าฉันให้เธอไป สัญญาได้มั๊ยว่าจะเป็นของฉันคนเดียว ?” คำถามของเขาทำให้ผมอึ้ง และเม้มริมฝีปากแน่น... ให้ผมมีแค่เขาคนเดียว ?... ทั้ง ๆ ที่เขาก็มีคนอื่นน่ะเหรอ ?? ฝันไปเถอะ!!

“ไม่!” ผมตอบน้ำเสียงเด็ดขาด และเดินจากเขามา.. ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดี เพราะหลังจากนั้นเขาก็ไม่ติดต่อมาหาผมอีก...
 
แต่ก็นั่นแหละ... ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็เลิกกับทุกคนที่คบอยู่.. เพียงแต่ไม่บอกเขา... ไม่อยากเสียฟอร์ม...
ผมทุ่มเวลากับการเรียนช่วงเทอมสุดท้ายหนักมาก เพราะตั้งใจจะเรียนให้จบก่อน จะได้กลับเมืองไทยไว ๆ ... จะได้อยู่ใกล้ ๆ เขาเร็ว ๆ.. อยากรู้จังว่าเขาจะทำหน้ายังไง ถ้ารู้ว่าผมกำลังจะไปอยู่ใกล้ ๆ เขาแล้ว....สายโทรศัพท์ที่โทรข้ามประเทศมาหาทำให้ผมคลี่ยิ้ม.. เขาโทรมาหาผม...

แต่ประโยคแรกที่ทักทายทำให้รอยยิ้มของผมหุบลงแทบจะทันที...

“..ฉันจะแต่งงาน...” ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของผมแทบดับวูบ...

...เขากำลังจะทิ้งผมไป...อีกครั้ง.........

“ทำไม .....?” ผมถามเบา ๆ พยายามเค้นน้ำเสียงเรียบไม่ให้เขารู้ว่าผมใจสลาย..

“ฉันหมั้นกับเอ็กซ์มานานแล้ว...”

“แล้วผมล่ะ ?”

“....” แล้วเขาก็เงียบเป็นคำตอบ... ก่อนจะเอื้อนเอ่ยราวกับประชด...

“ยังไงเธอก็ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวอยู่แล้วนี่...” คำพูดของเขาเสียดแทงจิตใจผม... มันเป็นเพราะผมมีคนอื่นหรือไง ?.. ขี้โกงนี่.. ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้มีแค่ผมเพียงคนเดียว...

“....พี่อยากให้ผมมีแต่พี่คนเดียว ?”

“…..แล้วสุดท้าย...พี่ก็...ทิ้งผม...” น้ำเสียงของผมสั่นเครือจนควบคุมไม่อยู่...

“.....” เขาไม่ตอบโต้.. ไม่พูดอะไรเลย..

“ธานินทร์.. คุณมันคนเห็นแก่ตัว!” ผมสำทับก่อนตัดสายทิ้ง... พอกันทีกับความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ของผม.. ครั้งนี้ผมต้องตัดเขาให้ขาดให้ได้!!

ผมคิดว่าจะหาแฟนใหม่อีกหลาย ๆ คนให้เขารู้สึกเสียดายที่ไม่เลือกผม ...แต่ผมก็ทำไม่ได้.... คงเพราะผมรู้ดีว่าฝ่ายที่ไม่ได้ถูกรักอย่างเต็มหัวใจนั้น เจ็บปวดแค่ไหน... ผมเลยไม่อยากทำให้คนอื่นเจ็บอย่างผม ..ได้แต่กลับไปที่หอและนั่งร้องไห้เงียบ ๆ.....สุดท้ายแล้วผมก็เหลืออยู่ตัวคนเดียวอีกครั้ง.. ...
 
ไม่กี่สัปดาห์ถัดมา ผมก็เรียนจบแล้วกลับมาทำงานต่อ ...พ่อกับแม่ยิ้มแฉ่งเวลาท่านเห็นหน้าผม ส่วนเธียรกับกัณฐ์ย้ายไปอยู่ยุโรประยะหนึ่งแล้ว... ที่บ้านผมเลยไม่ค่อยจะครื้นเครงซักเท่าไหร่ เพราะต่างคนต่างแยกย้ายกันไป.. ผมคิดว่าบางทีน่าจะกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่บ้าง แต่ตารางงานแน่นเอี๊ยดจนไม่ได้กระดิกไปไหนเลย...

แล้วก็เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง ...ผมไม่อยากไปเลย แต่คุณพิพัฒน์บังคับให้ผมมาร่วมฉลองก่อนแต่งอะไรก็ไม่รู้ ผมได้แต่งง เลี้ยงก่อนแต่ง... มันมีแต่งก่อนแล้วค่อยเลี้ยงกันไม่ใช่รึไง ?? ..ไม่ต้องสงสัยหรอกว่างานของใคร... เหอะ ๆ

....เหมือนเดิมตามสเต็ป ..ผมแทบไม่รู้จักใครเลยซักคน ...แถมคนที่มามีแต่ระดับอาวุโสทั้งนั้น...ผมเหลือบมองหญิงสาวเจ้าของงานที่คุยจ้อไม่หยุด ราวกับมีเรื่องอะไรน่าสนใจเยอะแยะมากมาย ....พี่เอ็กซ์หั่นผมดำสวยของเธอเสียสั้นกุด ผมแอบเสียดายเส้นผมดำสลวยที่ยาวเกือบถึงสะโพก ท่าทางจะไว้มานาน ...แต่ลุคนี้ก็ดูสวยเฉี่ยวดี.. เธอหันมายิ้มกว้างให้ผม ถึงแม้ดวงตาจะดูหม่นเศร้าอย่างประหลาด.. ผมได้แต่แปลกใจ ...ตอนนี้เธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่กำลังดีใจอย่างที่สุดสิ...

“พี่นึกว่าแบล็คจะไม่มาซะแล้ว..” ผมสะดุ้งนิด ๆ ...ไม่คิดว่าเธอจะเป็นฝ่ายเดินมาหาและชวนผมคุยก่อน...

“ต้องมาซิครับ..” ผมคลี่ยิ้มนิด ๆ ให้เธอ... มองหาคนที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าว...

“เขากำลังยุ่งอยู่น่ะ..” เหมือนเธอจะรู้ว่าผมกำลังมองหาใคร..

“ครับ...” ผมตอบรับเบา ๆ..

“พี่ขอโทษด้วยที่ทำให้แบล็คต้องลำบาก..”

“ลำบากอะไรกันครับ ?” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ... แล้วจู่ ๆ เธอก็โอบตัวผมไปกอด.. ผมได้แต่ยืนนิ่งค้างหน้าเหวอ... ได้กลิ่นหอมนิด ๆ ลอยมาแตะจมูก...

“แบล็คคงจะเสียใจมากสินะ” พี่เอ็กซ์พึมพำ แล้วยัดสิ่งของใส่ในมือผม..

“พี่อยากให้เธออดทนอีกนิด....โชคดีนะจ๊ะ” เธอยิ้มบอกก่อนหอมแก้มผม แล้วก็โบกมือให้.... ผมยืนค้างอยู่อย่างนั้นหลายนาที...
พอได้สติก็ได้แต่งง ...ว่าเธอให้กุญแจห้องมาทำไม ? หรือมีอะไรอยากคุยกับผมหลังเลิกงานเลี้ยง.. ?

พอเลิกงานปุ๊บผมก็ไปยังห้องที่ได้กุญแจมาด้วยความสงสัย.. แต่เปิดเข้าไปก็ไม่เจอใครเลย....หันกลับไปอีกทีก็เจอคนที่ไม่อยากเจอหน้ายืนตีหน้าขรึมอยู่

“มีอะไร ?” …ผมถามเสียงนิ่ง... ทั้ง ๆ ที่หัวใจเต้นแรงแทบจะระเบิดออกมา.. .ผมเคยคิดว่าจะตัดใจจากเขา.. แต่แค่เห็นหน้าก็แทบจะวิ่งเข้าไปกอดให้หายคิดถึงแล้ว.. บ้าจริง ๆ เลย...

“เธอรักฉันไหม ?” คำแรกที่เอ่ยออกจากริมฝีปากบางหลังจากไม่เจอหน้ากันนาน ทำเอาผมชะงักนิ่ง..

“...พี่ถามผมเพื่ออะไรในเมื่อพี่กำลังจะแต่งงาน ?” ผมถามเขากลับอย่างไม่พอใจ...

“ไม่รู้สิ...” เขาตอบเบา ๆ แววตาเลื่อนลอย...

“..ฉันแค่อยากรู้..ว่าเธอยังรักฉันอยู่รึเปล่า ?” พี่ธีร์เอ่ยถามอีกครั้ง และจับจ้องผม.. จนรู้สึกอึดอัด.. พี่เอ็กซ์ให้ผมมาที่นี่ทำไม ?? ...หรือจะให้ผมตัดขาดกับเขาไปเลย ??...

“ผมไม่รู้...” ผมตอบเบา ๆ ...เขากำลังบีบบังคับผม ต้อนให้ผมเป็นฝ่ายจนมุม ....ผมได้แต่กลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้ว เขาจะหันหลังให้ผมอีก.. เขาจะมองว่ามันเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบและความลุ่มหลง ....ผมกลัว....

.."งั้นเหรอ.?.." เขาถอนหายใจหนัก และเบือนหน้าหนี ....

“..” มีแต่ความเงียบงันภายในห้อง.. ทั้ง ๆ ที่เปิดแอร์แต่ผมรู้สึกว่าเหงื่อตัวเองไหลซึม.. ทำไมมันอึดอัดแบบนี้...? แล้วเขาก็หมุนตัว เตรียมที่จะจากไป..

“ผม...” ผมพยายามคิดหาคำพูดเอ่ยขัดเพื่อรั้งเขาเอาไว้.. ทำให้เขาชะงักเล็กน้อย ก่อนเดินต่อ...

“...” ...ผมมองแผ่นหลังกว้างของเขาตกลู่ลง.. เหมือนเขาจะเสียใจ.. แต่เสียใจเรื่องอะไร ??...

แต่ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ไอ้เหตุการณ์บ้า ๆ นั่น... ที่เขาเดินห่างออกไปเรื่อย ๆ โดยที่ผมได้แต่ยืนมองนิ่ง ๆ..ผมเป็นฝ่ายเดินตามเขา และโอบกอดร่างสูงใหญ่นั่นไว้... ก่อนเอ่ยเบา ๆ

“ย..อย่าทิ้งผมอีกนะ...”

“ผม...รัก....รักพี่ธีร์...” ผมบอกเสียงสั่น.. กลัวเขาจะปฏิเสธอีก... แล้วเขาก็แกะแขนของผมที่โอบรอบตัวเขาออก ก่อนจะเดินทิ้งห่างไป.... ปล่อยให้ผมยืนอยู่ที่เดิม

ราวกับโลกทั้งโลกดับมืดลง ....ผมก้มหน้าลงไม่อยากเห็นอะไรอีกแล้ว ...เม้มริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้น ..ขอบตารู้สึกร้อนผ่าว เขากำลังจะทิ้งผมไปอีกแล้ว ..ผมปล่อยให้หยดน้ำตาไหลลงมาเงียบ ๆ ....แต่แล้วจู่ ๆ ความอุ่นวาบของอ้อมกอดที่ผมโหยหาก็โอบประคองรอบตัวผม..

“ฉันไปล็อกประตู..” เขากระซิบบอกเบา ๆ ก่อนประคองใบหน้าผมเงยขึ้นรับรสจูบอ่อนโยน ที่ไม่ได้สัมผัสมานาน...ความผิดชอบชั่วดีของผมหายไปหมดตั้งแต่ถูกเขาสัมผัสกาย ..เรามอบสัมผัสให้กันอย่างหิวกระหาย..

“แบล็ค.. เรียกชื่อฉัน….” เขากระซิบบอกเสียงแหบพร่า

“..อือ..พ..พี่ธีร์...พี่...อ๊ะ...” ผมครางเบา ๆ ไม่รู้ว่าน้ำตาทำไมถึงไหลออกมาอีก.. หรือนี่จะเป็นความรู้สึกของคนที่มีความสุขมากจนร้องไห้ ....รู้สึกราวกับร่างกายตัวเองล่องลอย..

เขาไม่ได้ปฏิเสธผม ?...แปลว่าเขาจะไม่ทิ้งผมไปใช่ไหม ???..... ผมคิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่ากำลังมีความสุข.. มีความสุขยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด..

ร่างกายเบาโหวงเหมือนลอยขึ้นไปบนฟ้า แล้วตกลงมาด้วยแรงดึงดูดอย่างรวดเร็ว...เมื่อทุกอย่างสิ้นสุด สติของผมก็ทำให้รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเก่า... ผมหักหลังคนอื่น ๆ.. ผมหักหลังทุกคนที่อยู่รอบกายเขา..ผมกำลังเล่นชู้กับผู้ชายที่กำลังจะเป็นสามีคนอื่น... ทำไมชีวิตกูบัดซบแบบนี้วะ!..

“…..พี่ธีร์.. ยกเลิกงานแต่งได้มั๊ย ?” ผมช้อนตาสบมองเขา.. แต่เขาไม่ตอบ... ไม่พูดอะไรเลย...

“ผมสัญญาว่าจะมีพี่คนเดียว..”

“จะยอมเป็นฝ่ายรับตลอดเลยก็ได้” ผมพยายามหว่านล้อม หวังให้เขาล้มเลิกงานวันพรุ่งนี้เสีย..

เขาถอนหายใจเบา ๆ และกอดผม......ผมเอื้อมมือโอบตัวเขาไว้แน่นก่อนจะร้องไห้ สะอึกสะอื้นอย่างกับเด็ก... น่าอายชะมัด...

“แบล็ค.. ไม่เอาน่า..อย่าร้อง” เขาพยายามปลอบประโลมผม พร้อมเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ..

“..พี่ธีร์..ยกเลิกการแต่งงานได้มั๊ย ?” ผมถามซ้ำอีกครั้ง.. ทำไมผมถึงชั่วแบบนี้... ในตอนนั้นผมไม่ทันได้ฉุกคิดถึงจิตใจของพี่เอ็กซ์เลย..

“....ไม่ได้...” เขานิ่งไปซักพักและตอบเบา ๆ ..คำตอบของเขาออกมาแล้ว ....ผมทำได้เพียงแค่ปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบ ๆ... ท้ายที่สุดแล้วพี่ธีร์ก็เลือกพี่เอ็กซ์ ...ไม่ได้เลือกผม.... ผมเป็นได้แค่เพียงคนที่สนองอารมณ์ให้เขา.... ไม่ได้เป็นคนที่เขารักมากที่สุด...

“.. เราคบกันแบบเงียบ ๆ ก็ได้นี่..” ในใจของผมผุดคำด่าเขาขึ้นมาทันทีว่า ‘หน้าไม่อาย’ …แต่ผมยั้งปากไว้ได้ทันเสียก่อน..เพราะไม่รู้ว่าคนที่หน้าไม่อายจริง ๆ คือผมหรือเขากันแน่...

“ผมไม่อยากแย่งสามีใคร” ผมบอกเบา ๆ.. ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่ทำอยู่มันก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก

“งั้นเธอก็ไม่ต้องแย่งกับใคร... เหลือเวลาอีก 7 ชั่วโมงก่อนที่ฉันจะแต่งงาน...” เขาบอกพร้อมดันตัวผมให้นอนราบลงบนพื้นเตียงนุ่ม ทั้ง ๆ ที่ผมควรจะขัดขืน... แต่ร่างกายผมกลับตอบสนองทุกอย่างที่เขาต้องการ....

.........สุดท้ายแล้วก็เป็นตัวผมเอง.... เป็นตัวผมเองที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้.....

เมียเก็บเต็มรูปแบบ...

.......................................................ทูบีคอนตินิววว
 :เฮ้อ:เครียดเนอะ มันจะลงเอยไงเนี่ย ชาดำคู่เนี้ย สงสารแบล๊คง่ะ ยอมตลอด ตลอด ใกล้วันแต่งเข้ามาทุกที งวดมาทุกขณะ ตอนหน้า เป็นตอนจบของคู่นี้ และเรื่องนี้แล้วน่ะค่ะ อย่าลืมเป็นกำลังใจและส่งเสียงเชียร์แบล๊คกันอีกสักครั้งน่ะค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ :o12:
พีเอสซึ.ที่ถามเรื่องการรวมเล่มเรื่องนี้ แง่ะ ไม่เห็นคุณหยดพูดถึงเลย เด๋วเค้าลองถามดูก่อนเนอะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 2[up 26.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: dolphins ที่ 26-10-2011 21:45:56
ถ้าสุดท้ายแล้วเหตุผลของธีร์ฟังไม่ขึ้น... แบล็คตัดใจเหอะ ถึงจะได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่มีความสุขใช่ไหมล่ะ เจ็บแต่จบดีกว่า (กำลังฮิต 55) คอยแต่วิ่งตามความรู้สึกของธีร์ตลอด ...ไมไม่เหมือนคู่โน้นหว่าหวานซะ
 :pig4: อินไปป่าวไม่รู้ แต่อ่านแล้วรู้สึกปวดตับ :laugh:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 2[up 26.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 26-10-2011 22:20:34
อารมณ์เมียน้อยยังไงไม่รู้ 
แต่ดูท่าทางพี่เอ็กซ์ต้องมีแผนดีๆแน่เลยครับ
รอต่อ~ๆ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 2[up 26.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 26-10-2011 22:30:39
รีบๆแต่ง รีบๆหย่า รีบๆเลิกกันซะ คนอ่านเครียด  :เฮ้อ:


น้องแบล็คไม่มีใครรักมาอยู่กับพี่มั้ย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 2[up 26.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 26-10-2011 22:50:42
กร๊าซซซซ  โมโหทั้งคู่เลยยยยยย

โกรธพี่ธีร์  โกรธแบล็คที่คอยยอมเรื่อยยยย

แต่ไม่โกรธคนเขียนน้าาาาา  อิอิ

+1 ให้จ้าาา
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 2[up 26.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 26-10-2011 23:04:49
กร๊าซซซซ  โมโหทั้งคู่เลยยยย

พี่ธีร์ทำไมใจร้ายอย่างเน้.,.ถึงจะมีแผนอะไรก้อตามเถอะ(จะมีมั้ยเนี่ย)...แต่ก็น่าจะคิดถึงใจน้องบ้างงง

แบล็ค....ทำไมหนูไม่เล่นตัวให้เยอะๆล่ะลูก  ยอมเขาทำม้ายยยยย

......
...
.
เอ่อ...อินไปนิดค่ะ  555

+1  ให้คนโพสจ้าาา  ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

======edit======

อ่าว กรรม = =''  ตอนแรกคิดว่าโพสไม่ติด  อุตส่าห์นั่งพิมในโทรศัพท์โพสใหม่  ติดทั้งสองอันซะงั้น
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 2[up 26.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: rimdadfa ที่ 26-10-2011 23:24:29
ทำไมถึงยอมได้ขนาดนี้!!!!!!!!
เหนื่อยใจแทน   :เฮ้อ:

ดูเหมือนพี่ธีร์จะมีแผน
แต่ก็สงสารแบล็ค  :o12:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 2[up 26.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 27-10-2011 00:45:25
ก็ว่ากลิ่นเมียน้อยหึ่งมาแต่ไกลเชียว เพราะการกระทำของพี่ธีร์ที่ผ่านมามันบ่งบอกมาตลอด  :sad4:
แบบว่าอยากได้ก็มา ได้เสร็จแล้วก็หายหน้าไป แบบว่า โอ้ว ใช่เลย เมียน้อยชัดๆ
พี่ธีร์เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวและใจร้ายมากในความรู้สึกเรา ไม่เคยบอกรักไม่พอ
ยังเหยียบย่ำความรู้สึกคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำเหมือนอีกฝ่ายไม่มีหัวใจ(แต่ดันอยากฟังคำรัก)
อารมณ์แบบว่า ยังไงแบล็คก็ของตาย เพราะยังไงแบล็กก็รัก  :angry2:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 2[up 26.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 27-10-2011 17:35:27
แต่ถ้าไม่มีแผนอะไร...ขอบอกคำเดียวว่าแย่มากสำหรับผู้ชายที่เห็นแก่ตัว แต่ถ้ามีแผนก็จะดีมาก :o12:
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 3[up 27.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 27-10-2011 23:40:09
SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* [3]

ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงแสงสว่างที่กระทบเปลือกตา… จมูกได้กลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วห้อง... นี่ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?... หลับไปนานแค่ไหนแล้ว ?...

เมื่อกวาดสายตาหาอีกคนหนึ่งก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า... ความสุขที่ผมได้รับนั้น เมื่อเทียบกับความทุกข์ที่ถาโถมตามมาหลังจากได้รับมันแล้วราวกับหยดน้ำผึ้งบนใบมีดโกน... ความหวานเพียงปลายลิ้นเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บของคมมีดที่กรีดเข้าสู่เนื้อของผม...

เกือบจะสิบโมงแล้ว... ใกล้ถึงพิธีแต่งงานเต็มทน... ไม่อยากไปเลย... ยังไม่ผ่านเวลานั้นไปอีกเหรอเนี่ย ?....ผมนอนซุกศีรษะลงบนหมอนอย่างขี้เกียจ... ก่อนเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะโคมไฟ... ลายมือตวัดเขียนด้วยภาษาอังกฤษ... ลายมือเขาอ่านยากมาก ให้ตาย... จะรีบเขียนไปไหน

I’ll come back, If you wait for me.

เฮอะ! ..จะกลับมาทำไมอีกเล่า...

ผมถอนหายใจ ตัดสินใจรีบอาบน้ำและเดินทางไปโบสถ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้... หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมกับเขาจะได้พบหน้ากัน....

เมื่อมาถึงโบสถ์สีขาวสะอาดตา ..ภายนอกประดับตกแต่งดอกช่อดอกไม้หลากหลายพันธุ์ถูกจัดวางเป็นซุ้มอย่างสวยงาม
แขกที่มาร่วมพิธีก็เข้าไปข้างในกันหมดแล้วเหลือเพียงแต่นักข่าวกับคนประสานงานไม่กี่คนที่วิ่งวุ่นเพื่อให้พิธีดำเนินไปตามที่ได้วางแผนไว้ ผมชั่งใจอยู่นานว่าควรจะเข้าไปดีหรือไม่.. จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไปภายในตัวโบสถ์

.. ที่นี่เป็นโบสถ์ที่สวยมาก... หน้าต่างฉลุรายละเอียดเล็กยิบย่อยราวกับผ้าลูกไม้โปร่งบางที่ปล่อยให้แสงส่องผ่านเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับสถานที่ ....คนที่ได้เข้าพิธีวิวาห์ที่นี่คงจะเป็นความทรงจำที่ดีไม่น้อย...

เพิ่งจะเริ่มพิธีจุดเทียน.. แผ่นหลังของผู้ร่วมงานนับร้อยดูลายตาไปหมด ผมไม่รู้ว่าตนเองสมควรจะอยู่ส่วนไหนของงาน แต่โชคยังดีที่สายตาของผมปะทะกับทรงผมอันโดดเด่นของผู้ชายคนหนึ่ง...

“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?” ผมกระซิบถาม เมื่อเดินมานั่งลงยังที่หมาย.. ผมนั่งอยู่เยื้องข้างหลังกัณฐ์ แอบมองเส้นผมที่ชี้ฟูเป็นเกลียวยุ่งเหยิง มันดูเหมือนฟองน้ำสีดำพอง ๆ ครอบศีรษะของเขาไว้ ถ้าอยู่ต่างชาติผมอาจมองมันเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่ออยู่เมืองไทยแล้วมันกลับดูแปลกตา... แต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่ผมกลัว...

“เพิ่งมาถึงไม่กี่วันนี่เองฮะ เธียรบอกว่าจะมาเล่นเปียโนในงานนี้ให้ได้ เลยต้องกลับมาซ้อม ...ผมเลยถือโอกาสทำทรงนี้ซะเลย” กัณฐ์ยิ้มกว้างบอก แถมยักคิ้วจัดทรงผมที่ชี้ฟูของตนอย่างแสนภาคภูมิใจ ...ผมมองคนที่กำลังดีดเปียโนอย่างคุ้นตา... นึกภาพออกทันที ว่าตอนที่เขาเจอหน้าคนรักที่มาพร้อมกับทรงผมใหม่แล้วจะรู้สึกเช่นไร....

“แล้วทำไมวันนี้พี่แบล็คถึงมาสายได้ล่ะฮะ ?” กัณฐ์เอียงคอถามผมอย่างสงสัย

“...ตื่นสายน่ะ”

“พี่แบล็คอ่ะนะ ตื่นสาย ?” เขาขึ้นเสียงสูงถามด้วยหน้าตาตื่น

“ทำไมเหรอ ?” ผมถามงง ๆ

“แปลกน่ะสิฮะ พี่แบล็คเคยตื่นสายเสียที่ไหน ถ้าเป็นไอ้บลูกับไอ้บราวน์ล่ะก็ว่าไปอย่าง” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างกัณฐ์เหลือบมามองผม.. เขาอาจรำคาญที่เราคุยกันในระหว่างพิธี แต่เปล่า ..ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้ผมนิดหนึ่งก่อนยกมือไหว้..

“สวัสดีค่ะพี่แบล็ค” พอได้ยินเสียงใส ๆ บวกกับท่าไหว้อันแสนงดงามแล้ว ผมนึกออกทันทีว่าเธอคือน้องสาวของพี่ธีร์นี่เอง ...

“สวัสดีครับน้องธา..”

“ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”

“ครับ.. น้องธาสวยขึ้นนะครับ”

“ฮะ ๆ พี่แบล็คก็พูดเกินไปค่ะ” ธาหัวเราะเขิน ๆ ก่อนหันไปมองชายวัยกลางคนที่นั่งข้างและแนะนำผมให้กับเขา..

“อ่า.. พ่อคะ นี่พี่แบล็คค่ะ พี่ชายของกัณฐ์” ผมยิ้มฝืดเฝื่อน.. รีบยกมือไหว้และกล่าวคำทักทายกับญาติผู้ใหญ่ของธา...ดันพูดจาแบบนั้นต่อหน้าพ่อของเธอระยะเผาขน...เขาจะมองผมยังไงล่ะเนี่ย ?

ผู้ชายวัยกลางคนหันมารับไหว้ ดวงตาสีสนิมมองสำรวจผมชั่วขณะหนึ่งก่อนหันกลับ... ผมพอจะเดาออกแล้วว่าทำไมครอบครัวนี้ถึงดูดีเอาเสียมาก ๆ เพราะพ่อของเขาเป็นลูกครึ่งตะวันตกที่ดูแสนจะเจ้าระเบียบ เสื้อผ้าเนี้ยบ จีบคมกริบ.. ถึงแม้จะสูงวัยแล้วแต่ก็ยังมีเค้าความคมคายให้เห็น..

เมื่อเจ้าบ่าว.. เดินมาที่แท่นพิธี ผมมองดูเขาทุกย่างก้าว... สูทสีขาวดูไม่เข้ากับเขาเสียเลย เขาเหมาะกับสีเข้ม ๆ มากกว่า..
ไม่รู้เพราะอะไร คนที่นั่งอยู่ก็มีตั้งมากมายแต่เขาดันหันมาสบตากับผมพอดิบพอดี.. ผมเป็นฝ่ายหลบตาเขา... ดูเหมือนเขามีท่าทีแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นผมนั่งอยู่ในที่นี้ด้วย..

เมื่อเธียรเริ่มบรรเลงเพลง ผู้ร่วมงานต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาว ...อดชื่นชมความไพเราะและสมบูรณ์แบบของบทเพลงที่เขาบรรเลงขับกล่อมไม่ได้..

....ใกล้จะถึงเวลาที่ผมต้องตัดขาดจากเขาจริง ๆ เสียที...

แล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย.. เด็กผู้หญิงโปรยดอกไม้ตามทางเดินเข้ามาภายในโบสถ์ ตามด้วยเด็กผู้ชายที่ถือหมอนรองแหวน เพื่อนเจ้าสาวและชายสูงวัยที่คล้องแขนเจ้าหญิงของงานที่สวมชุดสีขาวฟูฟ่อง.. ทุกย่างก้าวของเธอราวกับจะสะกดลมหายใจของคนรอบข้างเอาไว้...

พี่เอ็กซ์เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ.. ริมฝีปากอิ่มถูกทาเคลือบด้วยสีพีชหวาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบกันบนใบหน้าเธอนั้นช่างงดงามเหมาะเจาะ...

ผู้ปกครองของฝ่ายหญิงส่งตัวเจ้าสาวให้กับเจ้าบ่าวได้ยืนเคียงข้างกัน.. คงเพราะสถานที่ ที่แสนสวยงามด้วยล่ะมั้ง จึงทำให้ใครหลายคนต่างมองภาพนั้นด้วยความปลื้มปิติ.. ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นไม่ใช่ผม...

ผมได้แต่นั่งเหี่ยวเป็นสักขีพยานให้กับความรักของพวกเขา... แอบเช็ดของเหลวใสที่ออกจากจมูก ...น้ำมูกของผมไหลออกมาก่อนน้ำตาเสียอีก.. แย่ชะมัด...

บาทหลวงผู้ประกอบพิธีอ่านข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวฟัง ก่อนจะเอ่ยถามคำปฏิญาณ

“ท่านจะรับนายธานินทร์ ศุกะศุภางค์เป็นสามี ไม่ว่าจะยามสุข หรือทุกข์ มั่งมีหรือยากจน สบายดีหรือเจ็บป่วย จนกว่าจะตายจากกันหรือไม่”

“...ฉ...ฉัน...” เสียงของพี่เอ็กซ์แผ่วเบาและลังเล... เธอสบตามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่เคียงข้าง ...สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเต็มเสียง

“ฉัน ไม่...”

“....ผมขอคัดค้านการแต่งงานครับ” เสียงทุ้มของผู้ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นอย่างนิ่มนวล ...จบคำก็ตามมาด้วยเสียงฮือฮา ผมที่น้ำตากำลังจะเริ่มไหลได้แต่เบิกตาชะงักนิ่งราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น..

ผมหันไปมองผู้ชายผิวขาวจัดที่ยืนอยู่ฝั่งญาติของเจ้าสาว... ผมคุ้นหน้าเขา เหมือนจะเคยเห็นแต่ก็นึกไม่ออก... คิดอยากสวดขอบคุณพระเจ้าของศาสนาคริสต์ที่ทำให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น...

พี่เอ็กซ์หันกลับมามองเจ้าของเสียง ปล่อยให้น้ำตาไหลพราก.. มาสคาร่าสีดำไหลลงมาพร้อมกับหยดน้ำตาจนดูเหมือนน้ำตาของพี่เอ็กซ์เป็นสีดำ ...เธอยิ้มและหัวเราะเบา ๆ ให้กับผู้ชายคนนั้น ...น่ากลัวพิลึก...

“เธอประสาทเสียไปแล้วรึ อาร์!” เสียงแข็งตวาดถามจากหญิงชราคนหนึ่งที่เป็นญาติของพี่เอ็กซ์... นึกออกแล้ว! ผู้ชายคนนั้นคือน้องชายของพี่เอ็กซ์

“อย่าว่าอาร์เลยค่ะ ...หนูผิดเองค่ะ...”

“เอ็กซ์ นี่แกก็บ้าตามมันไปด้วยเรอะ!!”

“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ คุณย่า.. หนูแต่งงานกับคนที่ไม่รักไม่ได้” พี่เอ็กซ์บอกกับหญิงชราที่นั่งตัวแข็ง

ย่าของพี่เอ็กซ์เริ่มทรงตัวไม่อยู่ ร่างบอบบางนั้นโอนเอียงจนคนอื่น ๆ ต้องรีบเข้ามาช่วยประคอง... เสียงโวยวายตามมาด้วยเสียงประตูของโบสถ์เปิดออกพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งยืนหอบแฮ่ก ก่อนตะโกนดังลั่น

“ผมขอคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ครับ!!” ภายในโบสถ์เงียบกริบ... ผมมองหน้าผู้ชายคนนั้นไม่ชัดนัก เนื่องจากแสงสว่างค่อนข้างจัดที่สาดส่องเข้ามาทางด้านหลังของเขา แต่การแต่งกายนั้นดูเหมือนจะไม่เหมาะกับงานพิธีแบบนี้ซักเท่าไร..

“แกมาสายไปแล้ว ไอ้เด็กบ้า!!” พี่เอ็กซ์หน้าแดงตวาดเสียงแหลม... ปาดอกไม้ช่อใหญ่แต่มันตกลงกลางโบสถ์ ไปไม่ถึงผู้ชายคนนั้น

“..ฉัน..นึกว่าแก...จะไม่มาซะอีก...” เธอร้องไห้ วิ่งเข้าไปกอดผู้ชายคนนั้นแน่น...

ในความคิดของผมแล้ว...นี่เป็นภาพที่ดูสวยงามยิ่งกว่าตอนที่พี่ธีร์กับพี่เอ็กซ์ยืนคู่กันเสียอีก ผมได้แต่มองพวกเขาเงียบ ๆ .......ที่แท้พี่เอ็กซ์ก็มีคนรักอยู่แล้ว... ถึงได้ชอบทำหน้าหมอง ๆ เวลาพูดถึงเรื่องแต่งงาน.... ....พวกเขาไม่ได้รักกัน....

นักข่าวพากันกรูเข้ามาถ่ายภาพของทั้งคู่ พวกเขาหัวเราะสดใส รีบจับมือวิ่งเคียงคู่กัน... จนหายลับไปจากบริเวณพิธี....ผมนั่งสมองเบลอได้ไม่นานนัก ก็ถูกมือเรียวเล็กของน้องธาลากออกมาบริเวณลานจอดรถ.. ไอ้พี่ธีร์เปลี่ยนชุดยังกะเตรียมการมาแล้วล่วงหน้ายังไงอย่างงั้น...

“ยืมรถด้วยสิ” ธายื่นกุญแจรถของเธอให้พี่ชายอย่างว่าง่าย

“ขอบใจมาก” พี่ธีร์พยักพเยิดให้น้องสาว ก่อนดึงตัวผมเข้าไปใกล้

“สบายมากค่ะ เดี๋ยวหนูไปเคลียร์ข้างในก่อน” ธาทำมือตะเบ๊ะ ขยิบตาให้ผม

ผมได้แต่ยืนงง... พี่ธีร์เปิดประตูรถและดันผมเข้าไปนั่งข้างใน....เสียงล็อคประตูดังขึ้นเบา ๆ... ผมทำอะไรไม่ถูก ตามเหตุการณ์ไม่ทัน เหมือนถูกเขาเหวี่ยงขึ้นไปบนอากาศแล้วปล่อยให้ตกลงมาโดยไม่มีอะไรรองรับ กระแทกพื้นจนสมองไหล...

“นี่มันอะไรกัน..?” ผมถามเขาเบา ๆ

“ฉันไม่นึกว่าเธอจะมาไหว” พี่ธีร์ตอบไม่ตรงคำถาม มองกระจกขับเคลื่อนรถออกจากโบสถ์... ไม่สนใจผมที่นั่งอยู่ข้าง ๆ...

“นี่...มัน....อะ....ไร....กัน....!” ผมถามย้ำอีกครั้ง โดยพยายามย้ำทุกคำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น... เผื่อเขาจะหูตึง...

“งานแต่งงานไง” พี่ธีร์ยิ้มบอก... รู้สึกเหมือนเลือดในกายของผมจะเดือดปุด ๆ อยากจะระเบิดออกมา...

“คุณธานินทร์! คุณกำลังกวนประสาทผม!”

“.. ฉันกวนประสาทเธอเหรอ ?”

“ทั้ง ๆ ที่คุณก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้แต่คุณก็ไม่บอกผม!” ผมอดโมโหไม่ได้ นึกอยากฆ่าเขาให้ตายเสียตรงนี้.. ปล่อยให้ผมร้องไห้ฟูมฟายโดยเปล่าประโยชน์... โคตรน่าอาย...

“ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ซักหน่อย... ใครจะไปรู้อนาคตได้” พี่ธีร์ก็ยังเถียงไปได้เรื่อย ๆ ตามสไตล์ขี้ตอแหลของเขา ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าพ่อแม่ของเขาเลี้ยงมาได้ยังไง..

“คุณนี่มัน!” เขาเป็นแบบนี้ทุกที.. มีอะไรก็ไม่เคยบอก...

“เธออยากไปทะเล ภูเขาหรือว่าน้ำตก ?”

“ไปทำไม ?”

“ฉันต้องการพักร้อนเลียแผลใจ”

“เลียแผลใจบ้าอะไร ?”

“เธอก็เห็น ฉันถูกปฏิเสธในงานแต่ง”

“สมน้ำหน้า” ผมเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้เต็มทน..

“เฮ้อ..! ใครกันน้า ที่บอกว่ารักฉัน... รักนักรักหนา...”

“อ...ไอ้....” ผมพยายามสรรหาคำจะด่าเขา.. แต่เปลี่ยนใจนั่งเงียบ ๆ ดีกว่า... บอกตามตรงว่าตอนนี้ผมอยากมุดลงไปใต้คอนโทรลรถ ผมไม่น่าโง่หลงกลเขาหลายต่อหลายครั้ง..

ผมผ่อนลมหายใจ พิงเบาะ.. พลางนึกว่าถ้าหากเขาต้องเป็นฝ่ายรับคำปฏิญาณก่อนล่ะก็ เขาจะตอบว่าอย่างไร...? แท้จริงแล้วเขาเคยเห็นผมอยู่ในสายตาบ้างหรือเปล่า ?....ความปลอดโปร่งในสมอง ผสมกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อคืนทำให้ผมผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว....

ธีร์ยิ้ม มองดูผู้ชายที่ไม่กี่ปีก่อนยังเป็นแค่เด็กงี่เง่าที่ชอบดื้อกับเขาไม่รู้จักเวล่ำเวลา.. เมื่อคืนเขาเกือบใจอ่อนไปแล้ว... แต่เขาวางแผนรองรับไว้แล้วหลายชั้น... จะให้มันเหลวไม่เป็นท่าก็กระไรอยู่ ต้องยอมหักหาญน้ำใจคนตรงหน้า... แต่ถ้าจะให้พูดจริง ๆ คือ เขาอยากเห็นแบล็คร้องไห้... เท่านั้นเอง...

เขารู้ว่าแบล็คเจ็บเพราะเขามามากมายแค่ไหน ...แต่ถึงแม้เด็กผู้ชายคนนี้จะโกรธและหนีเขาไปจนสุดปลายฟ้า เขาก็จะตามกลับมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาให้จงได้....

ผมรู้สึกรำคาญ เหมือนมีตัวอะไรไต่ตามร่างกาย พยายามปัดออกไปแล้วหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ยอมไปไหน...

“แบล็ค ..” เสียงทุ้มเรียกเบา ๆ ข้างใบหูของผม มือหนาเขย่าตัวของผมซ้ำอีกหลายครั้ง...

“หือ... ?” ผมครางตอบในลำคอ... กระพริบตาหลายครั้งเพื่อปรับแสง ก่อนมองดูรอบตัว.. ยังอยู่ในรถอยู่เลยนี่... เพียงแต่ที่นั่งของผมถูกปรับให้นอนลง...

“..ที่ไหนอ่ะ...คุณธานินทร์..” ผมลุกขึ้นถามงัวเงีย.. เขาบอกว่านี่เป็นบ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนี้มีดีไซน์ที่ประหลาดดี.. เขาเลยอยากพาผมมาดู...ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลงไปสูดบรรยากาศธรรมชาติ มือปลาหมึกของเขาก็เริ่มทำงาน

“..อย่าแตะต้องผม” ผมส่งเสียงหงุดหงิด ตีเนื้อแน่น ๆ ของเขาไปหลายที แต่เขาไม่รู้จักหลาบจำ.. เคลื่อนตัวใหญ่ ๆ มาคร่อมทับตัวผมจนได้..แถมยังยิ้มแบบกวนประสาทให้อีก... ตัวเราสองคนก็ไม่ได้เล็ก ๆ พอมาอยู่เบาะเดียวกันก็ยิ่งอึดอัด ขยับตัวแทบไม่ได้

“เรียกฉันเหมือนเดิมสิ..” ดูคำเรียกร้องของเขาสิ.. ในหัวมีแต่เรื่องไร้สาระ ยังกับเด็ก...

“หยุดได้มั้ย.. นี่มันในรถ แค่คุณเดินลงไปไม่กี่ก้าวก็ถึงบ้านแล้ว” ผมพยายามพูดกับเขาดี ๆ

“สนใจไหมล่ะ ?”

“ผมสนใจ!”

“นี่! ไอ้คุณธานินทร์!!” ผมเริ่มหมดความอดทนเมื่อมือของเขารุกรานเข้าสู่พื้นผิวใต้ร่มผ้าของผม

“จะยอมเรียกฉันเหมือนเดิม ...หรืออยากให้ฉันรื้อฟื้นความหลัง ?” ทางเลือกของเขาทำให้ผมต้องถอนหายใจอย่างยอมจำนน...

“โอเค ๆ .....พี่ธีร์” เขายิ้มนิด ๆ อย่างผู้ชนะ ...กดจูบเบา ๆ ลงบนริมฝีปากของผม แต่ผมก็ยกมือขึ้นเช็ดอย่างรวดเร็ว.. เขาจึงโน้มตัวลงมาอีกครั้งหนึ่งด้วยจูบที่หนักหน่วงขึ้นพร้อมสำทับเสียงเข้ม..

“ห้ามเช็ด!” แต่ผมก็ยกมือขึ้นเช็ดอีกนั่นแหละ สุดท้ายเรื่องก็จบลงเช่นเดิม.. ผมไม่รู้ว่าถูกเขาจูบอีกกี่ครั้ง จนเจ็บริมฝีปากไปหมด มันถูกเขารุกรานจนบวมเจ่อและแดงช้ำ.. จนผมอดบ่นไม่ได้

“พี่ธีร์ชอบทำแรง ๆ อ่ะ ผมเจ็บนะ ..ถนอมกันมั่งดิ”

“ก็ฉันหมั่นเขี้ยวเธอ”

“หมั่นเขี้ยว ?”

“อืม... เวลาเธอร้องไห้น่ารัก”

“ซาดิสม์ที่สุด...” แก้มของผมรู้สึกร้อน มันถือเป็นคำชมหรือเปล่า ? ...แต่ถ้าต้องถูกทำให้ร้องไห้บ่อย ๆ ด้วยวิธีของเขาล่ะก็ผมคงไม่ยินดีซักเท่าไหร่หรอก....

ผมเดินสำรวจในตัวบ้าน.. ที่นี่ไม่มีใครอยู่เลยแต่ยังคงสะอาด เขาบอกว่ามีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์... ดีไซน์ของสถาปัตยกรรมและของตกแต่งในบ้านประหลาดอย่างที่เขาพูดจริง ๆ แต่มันก็ดูลงตัวและทันสมัย ตัวบ้านถ้าหากดูภายนอกเหมือนกันเป็นอะไรที่บิดเบี้ยวและผิดส่วน แต่เมื่อเข้ามาข้างในแล้วก็รู้เหตุผลว่าทุกอย่างนั้นถูกทำให้สอดรับกับของตกแต่งภายในบ้าน...

พอเขาอาบน้ำเสร็จก็ยื่นผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าของเขาส่งให้ผมแล้วไล่ไปอาบน้ำ...เสื้อของเขามีกลิ่นตัวของเขาติดอยู่นิด ๆ ... พอผมใส่แล้วมันหลวมโพรก... ไม่เหมาะกับผมเอาเสียเลย... เมื่อผมจัดการธุระของตัวเองเสร็จก็พบว่าเขาจัดเตรียมอาหารเรียบร้อยแล้ว

“เอามาจากไหน ?” ผมถามอย่างสงสัย

“ก็อาหารกระป๋องน่ะ ซื้อตอนแวะปั๊ม” เขาตอบเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่ง ก่อนจะเดินไปฝั่งตรงข้าม ผมนั่งลงรับประทานอย่างว่าง่าย... ความจริงผมก็หิวอยู่เหมือนกัน... ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าแล้ว...

“แต่งงานกันมั้ย ?”

“ค...คุณว่าอะไรนะ ?” ผมสำลักข้าว ย้ำถามเขาอย่างไม่แน่ใจ...

“ฉันถามว่าแกงอร่อยมั้ย ?” เขาตอบยิ้ม ๆ แอบหัวเราะเบา ๆ

“..ไอ้คนขี้โกหก” ผมหรี่ตามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ...

“ฉันเคยโกหกเธอเหรอ ?” เขาทำหน้าเหรอหรา.. เหมือนจะบอกว่าไม่เคยโกหกเลยจริง ๆ นะ...

“เคย!!”

“เรื่องอะไร ?” ผมพยายามนึก แต่กลับไม่มีซักครั้งเลยที่เขาพูดปดกับผม.. มีแต่พูดจาไม่เคยเคลียร์หรือพูดให้เข้าใจผิดไปอีกทางหนึ่ง... เป็นไปได้ไง มันต้องมีซิหน่า... เพียงแต่ตอนนี้ผมยังนึกไม่ออก

“เมื่อกี้นี่ไง!”

“ก็เมื่อกี้คุณไม่ได้ถามว่าแกงอร่อยมั้ย”

“แต่ถามว่า.. แต่งงานกันมั้ย ?”

“...เอาสิ” เขายิ้มหวาน ตอบรับคำพูดของผมอย่างหน้าตาเฉย...

“อ...ไอ้...ไอ้พี่ธีร์!!...” ผมรู้สึกร้อนหน้าไปหมด รู้เลยว่าหน้าตัวเองกำลังแดงเถือก... ผมหลงกลเขาอีกแล้วใช่มั้ย ?? เขาหัวเราะชอบใจลุกขึ้นดึงตัวผมเข้าไปกอด

“...” เสียงกระซิบบอกแผ่วเบาข้างใบหู ...คำพูดที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน ...ออกมาจากปากของเขา.. ผมได้แต่นิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น...

“เป็นอะไร ?”

“เมื่อกี้... อะไรนะ ?” ผมถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจตัวเองนัก... พี่ธีร์ยิ้ม ก่อนเอ่ยอีกครั้ง

“...ฉันรักเธอ”

“...โกหก” คำพูดของผมแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ... ร้อนขอบตาไปหมด นี่เขาตั้งใจจะแกล้งให้ผมร้องไห้อีกแล้วใช่มั้ย ?...... แถมมันยังได้ผลดีเสียด้วยสิ....

“ฉันเคยโกหกเธอเหรอ ?” เขาเลิกคิ้ว เอ่ยคำถามเดิมซ้ำ ...ผมปล่อยให้หยดน้ำตากลิ้งไหลออกจากดวงตาทั้ง 2 ข้างอย่างควบคุมไม่อยู่... ส่งเสียงสะอึกสะอื้น กอดตัวโต ๆ ของเขาไว้แน่น... แต่จู่ ๆ พี่ธีร์ก็อุ้มตัวผมวางลงบนโต๊ะหน้าตาเฉย..

“...อยากลอง..บนโต๊ะอาหารมั้ย ?” เขาถามเสียงกระเส่าข้างใบหู... ขอผมซึ้งซักนาทีไม่ได้เลยรึไง ? คิดถึงแต่เรื่องใต้สะดือตลอด....

“...ตรงไหนก็ได้.. ที่มีพี่ธีร์” แต่ปากของผมดันตอบไปแบบนั้น... โคตรน่าอาย.....ผมช้อนตาขึ้นสบตากับเขา คล้องแขนรอบลำคอหนา...

...ผมได้แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโต๊ะตัวนี้จะแข็งแรงพอรับน้ำหนักของผมและแรงจากเขาได้.. โดยไม่หักไปเสียก่อน...

+++++++++++++++++++++++++++++ จบบริบูรณ์

 :m3:อ๊าาาา จบล่ะน่ะค่ะ ถูกใจไหม สำหรับเหตุผลของพี่ธีร์ ที่ทำมาทั้งหมด สุภาพบุรุษก็เงี้ย อย่าโกรธเค้าเลย หมดพันธะ พี่แกก็จัดเต็มไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว คึคึ

พีเอสซึ.สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ poes, โจ๊กกุ้ง, JJHJJH, oaw_eang(ผู้ท้วงติงเรื่องการขออนุญาติ), qq_oo, roseen, samsoon@doll, nigiri-sushi, Zurruz,tantalize, O[]OVampire, ovam, kny, ๛NaaribuS๛, akera, หมวยลำเค็ญ, sangsom, rellachulla, yayee2, som, saylmya, namngern, SuSaya, chatcha, winndy, Ainsley, drasil, t2007, monoo, namwaan1992, chae, litilttledragon, drasil, loveunomore, k00_eng^^, mamaUM, arun do d, sorso, nam-nueng, momo9476, monoo, pklove, MiU, ลิงน้อยสุดเอ๋อ, KaT@MiCkY, mini_bilieber, →Yakuza★, Still_140C, the_pupae, ChCh13, anuruk97, dolphins, shockoBB, agava1313, mister, silverphoenix, Nuk, pochu52, heaven13, rimdadfa, mana_ai, FiZZ, cocoaharry, rimdadfa, และขาดไม่ได้คือ คุณ YenOh (ผู้แต่ง) พร้อมทั้งผู้ที่ไม่ได้เอ๋ยนามทั้งหลาย ที่ติดตามและอยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนสุดท้าย กราบขอบพระคุณงาม ๆ พร้อมกด +1 แจกให้ทุกท่าน พร้อม แจกเป็ดให้ทุกคนด้วยน่ะค่ะ  :m1:ปลาบปลื้มที่สุด แล้วพบกันค่ะ
หัวข้อ: Re: Look @t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* 3[up 27.10.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 28-10-2011 00:01:24
ขอบอกว่ารวมที่นี่ด้วยเป็นรอบที่  4  แล้ว  :impress3: อยากอ่าน A Smoky Love Affair   จนจบจัง และขอถามจี๊ดเดียว ผีเสื้อเริงรัก จบอย่างนั้นแน่ๆ ช่ายยม้ายยย ตอนพิเศษโคตรจี๊ดอะ :z3: :z3: :z3:  ปล.การคอมเมนต์ครั้งนี้โปรดอย่าได้กังวลใจ บ่นๆไปนั่นเอง
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 28-10-2011 03:00:10
สับสนชีวิต จะเขิล รึจะหื่นดี ไอ้พี่ธีร์แม่งบ้า ว่าจะจบเรื่อง แบล็คร้องไห้ น้ำตาล้านลิตร
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 28-10-2011 05:26:44
จบได้หื่นถูกใจมากมายครับ พี่ธีร์น้องแบล็คขอกอดที
ขอบคุณคนแต่งคนโพสมากครับ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: →Yakuza★ ที่ 28-10-2011 12:02:42
เลิศศศศ แฮบปี้ทุกฝ่าย นี้มันดีจริงๆ

ขอบคุณทั้งคนแต่งคนโพสที่โพสได้กระหน่ำจุใจ i love u มาก  :กอด1:

เห็นคอมเม้นมีเรื่องๆอื่นๆอีกเหรอ อยากอ่านจัง เดี๋ยไวปตามดุ  :L2:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: the_pupae ที่ 28-10-2011 12:40:32
 :m4:กรี๊สสสสสสลบ  จบได้สวยงามมากๆสำหรับคู่นี่  นึกว่าจะมาม่าเสียแล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 28-10-2011 16:21:04
ไอ้พี่ธีร์มันเป็นอย่างงี้ต้องแต่ต้นยันจบซาดิส อีกคนน้องแบล๊คก็มาโซ ดันเข้าคู่กันได้พอดี รักกันไปนานแล้วกันชาดำ ~~
กัณฐ์ แกทำผมทรงนั้นจริงจิ เธียรยอมได้ไง  ถ้าเป็นเธียรนะจะจับกร่อนผมซะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-10-2011 18:27:32
แฮปปี้ทุกคู่
แต่กว่าจะจบคู่ชาดำนี่มันช่างรันทดซะนี่กะไร
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 28-10-2011 19:36:22
พี่ธีร์....น่ารักก็เป็นนะเนี่ยยย

อยากอ่านตอนพิเศษคู่นี้อีกจังเลยยยย

+1 ให้นะค้าาา
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 28-10-2011 20:46:20
ตอนแรกคิดว่าจะแต่งแล้วหย่าซะอีก ที่ไหนได้ล้มงานแต่งซะงั้น ฮาๆๆๆ
ตอนจบแล้วหวานได้อีก อิอิ
ธีร์ก็อย่าแกล้งแบล๊คบ่อยนักสิ
แฮปปี้แอนดิ้งจริงๆ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 28-10-2011 21:16:13
 :o12:
จบเร็วไปหนายยยยยย
จะเอาภาคสองงงงงงงงง
น่ารักมากอ่ะค่ะ ชอบพี่แบล็คที่ซู๊ดดด  :man1:
แต่เดี๋ยวก่อน! ไอ้ผู้ชายที่โผล่มาฉกเจ้าสาวไปเป็นใครอ่ะ
นี่เราอ่านพลาดอะไรไปรึปล่าว เจ๊เอ็กซ์ไม่ได้ชอบน้องอาร์หรอกเรอะ o22
มีตอนพิเศ๊ษพิเศษกว่านี้อีกมั้ยคะ อยากอ่านอีกเยอะ แหะๆ
สุดท้ายขอขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์นะคะ :จุ๊บๆ:
บวกให้คนโพสต์ ฝากกอดคนแต่ง :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: dolphins ที่ 28-10-2011 23:06:26
ไอ้พีธีร์ซาดิสอ่ะ ... ทำใจอย่างเดียวแบล็ค มีสามีเป็นโรคจิต :laugh:
 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 29-10-2011 15:47:22
 ขอบคุณที่เอามาโพสให้อ่านนะคะ สนุกมากจริงๆ ดีแล้วที่ทุกอย่างจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ^ ^;;;
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 29-10-2011 20:45:00
พี่ธีร์ จัดเต็ม !!!!  :oo1:
อยากให้มีตอนพิเศษจังเรยอ่าาาา  :z3:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 30-10-2011 15:27:30
 :กอด1: ละโต๊ะพังมะเนี่ย???  :z1:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 30-10-2011 18:22:44
ในที่สุด... พี่ธีร์ก็เลิกเก๊กแล้วยอมบอกรักซะที  :sad4:
แบล็คนี่ สมควรจะได้โล่อดทนเป็นเลิศ  :เฮ้อ:
ว่าแต่ ตกลงเจ้าชายขี่ม้าขาวที่มาชิงตัวเจ้าสาวนี่ใครหว่า อยู่ดีๆก็มา แล้วก็ไปเฉยเลย  o22
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: tokun ที่ 31-10-2011 00:51:21
อ่านคู่ของกัณฐ์กับเธียรยังไม่ลุ้นเท่าคู่ของพี่ธีร์กับแบล็ค

น้ำตาร่วง ฮือๆ สงสารแบล็คอ่ะโดนตลอดเลย :sad11:

พี่ธีร์ก้อซาดิสต์ ชอบเห็นแบล็คร้องไห้

รักกันนานๆนะทั้งสองคู่เลย

ขอบคุณคนเขียนค่ะ สำหรับเรื่องราวดีๆ :L2:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 31-10-2011 07:28:37
 :angry2:  ไอ้พี่ธีร์...ทำหนูแบล็กช้ำใจสะหลายปี......มันน่า :z6:

แต่ยังดีที่สุดท้ายได้สำนึก  :เฮ้อ:

ปล.รักน้องแบล็กจัง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: beamJ ที่ 31-10-2011 13:03:40
แปะไว้ก่อน

เดี๋ยวไปอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 31-10-2011 16:46:54
สนุกมากทั้งสองคู่ คิดว่าจะเศร้าซะแล้ว o13
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 31-10-2011 20:44:22
สงสารแบล็กจังเลยอ่า
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 31-10-2011 23:20:06
สนุึกมากๆทั้งสองคู่เลย  แอบสงสารแบล๊คอ่ะกว่าจะลงเอยกันได้พี่ธีร์เนี่ยไม่น่าแกล้งให้น้องเสียใจเลย
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 01-11-2011 10:55:18
มาทำตัวน่ารักเอาตอนสุดท้ายนี่แหละไอ้พี่ธีร์

ผ่านเรื่องราวมาเยอะแยะ คู่นี้น่ารักกว่าคู่หลักอีกนะเนี่ย

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะค่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 01-11-2011 21:27:42
แบล๊คชอกช้ำมากอ่ะ ผ่านอะไรมาเยอะมากในขณะที่คนในครอบครัวไม่รู้เรื่องเลย สงสารง่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 02-11-2011 10:01:26
พี่ธีร์แมร่งหื่นหว่ะ :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 03-11-2011 10:10:12
สงสารแบล๊ค....ส่วนพี่ธีร์หื่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก   :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 03-11-2011 12:19:44
อร๊าย ชอบเรื่องนี้ๆ  :-[
สนุกมากเลยฮับ ^^
 :bye2:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Ishuka ที่ 03-11-2011 17:10:16
อร้ากก สนุกสนานมากมายเลยค่ะ

เรื่องของกัณฑ์นี่ก็เศร้าเบา ๆ อ่านตอนแรกนี่อยากจะเข้าไปทึ้งเธียรมากมาย

คนอาร้ายยยยย ทำไมถึงได้ไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้

คนที่รอก็อยู่ใกล้แค่นี้ยังจะไปมองคนอื่นอยู่ได้

แต่พี่แบล็คนี่เศร้าสุด ๆ โคตรของความน่าสงสาร

พี่ธีร์นี่ก็โรคจิตใช้ได้ เป็นคนเข้าใจยากอะไรแบบนี้ เหอ ๆๆ

กว่าจะเข้าใจกันได้ แบล็คร้องไห้เป็นตุ่มไปแล้วจุดนี้

แต่ยังไงก็จบแบบแฮปปี้ โอ้เย

ขอบคุณมาก ๆ ค่าสำหรับนิยาย ^^

 o13
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 06-11-2011 22:33:41
อย่างน้อยมันก็แฮปปี้

ชอบคู่ของพี่ธีร์กับแบล็คนะ

พี่ธีร์กับเธียรนิเหมือนกันเลยอะ คล้ายกับพวกรู้ตัวช้า 555
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 07-11-2011 16:11:29
 :3123:เป็นอีกเรื่องที่น่ารักดี น้องแต่งได้เก่งนะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: faareeyong ที่ 09-11-2011 08:08:04
จบแล้ว..... เย้!!  :z1: หุหุหุ พี่ธีร์กับน้องแบล็ค ไม่ไหวแล้ว...

พูกได้คำเดียวเลยว่า   เยี่ยม!! o13
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 09-11-2011 12:07:07
ชอบเรื่องของเเบล็คมากอ่ะ  :L2:

มันทรมานมากเลย ร้องไห้เสียน้ำตาเป็นปี๊บ  :z3:

ชอบตอนสุดท้ายมาก อ่านเเล้วเขิน  :-[

สนุกมากๆเลยค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: prettypearl ที่ 09-11-2011 14:53:56
ความรักหนอความรัก ครอบครัวนี้ชอบทำคนรักเสียใจก่อนที่จะคบกันใช่ม้ายยยยยย (ยังโมโหอยู่)

คู่หลัก  กัณฐ์น่ารักมากเลย รั่วและฮา เธียร์เนี่ยพอรู้ตัวแล้วหวานไม่แคร์สื่อจริง

คู่ชาดำ เฮ้ออออ...หนักๆให้แบล็ค มืดมนสมชื่อตัว ยินดีที่จบอย่างแฮปปี้ น้องผ่านอะไรมาเยอะมาก อ่านหลายๆตอนแล้วปวดตับกับพี่ธีร์ ทำน้องเสียใจ  :angry2:

สำหรับคู่นี้รู้สึกสั้นไไปหน่อย แล้วรู้สึกว่าแบล็คเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองมากไป ไม่ปรึกษา หรือมีส่วนร่วมกับใครเลย ดูโดดเดี่ยวอ่ะค่ะ เฮ้ออออออออ...แต่ตอนนี้มีความสุขแล้ว ^^ แอบอยากเห็นพี่ธีร์เผลอ ให้แบล็ครุกดูบ้าง  o18
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 09-11-2011 16:36:03
อ่านตอนแรกก็สงสาร กัณฐ์
ต่อมาก็สงสารพี่ธีร์
สุดท้ายแล้ว น่าสงสารที่สุดก็ น้องแบล็คของทุกคน
สนุกอ่ะ แต่ดราม่าไปนิด
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 10-11-2011 10:42:25
ขอบอกว่ารวมที่นี่ด้วยเป็นรอบที่  4  แล้ว  :impress3: อยากอ่าน A Smoky Love Affair   จนจบจัง และขอถามจี๊ดเดียว ผีเสื้อเริงรัก จบอย่างนั้นแน่ๆ ช่ายยม้ายยย ตอนพิเศษโคตรจี๊ดอะ :z3: :z3: :z3:  ปล.การคอมเมนต์ครั้งนี้โปรดอย่าได้กังวลใจ บ่นๆไปนั่นเอง
ตอบก่อน ฮี่ๆ ดีใจแทนผู้แต่งจริง ๆ ที่ชื่นชอบผลงานขนาดนี้ ส่วน A Smoky รอกันไปก่อนน่ะค่ะ คนแต่งยังแต่งไม่จบเลย ส่วนผีเสื้อเริงรัก ผู้แต่งตอบได้คำเดียวว่า จบอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ แน่นอน ฝากผลงานด้วยน่ะค่ะ กำลังรอลุ้นให้ผู้แต่งรวมเล่มเรื่องนี้อยู่ ถ้ามีความคืบหน้าจะรีบมาแจ้ง ระหว่างนั้น ไปอ่านผีเสื้ออีกสักรอบดีป่ะค่ะ กะลังจะลงเป็นเรื่องต่อไป

:3123:แวะเข้ามาเซไฮ ทุกคน พร้อมกด +1 แจกจ่าย สำหรับทุกความคิดเห็นที่อ่านมา ซาบซึงแทนคุณหยดจริง ๆ ที่แฟนคลับเข้าถึงตัวละครเช่นนี้ คึคึ ตอนนี้ กะลังอยากอ้อนวอนให้คุณน้องแต่งตอนพิเศษ ชาดำ อีกสักตอน สองตอนจัง ดีไหมค่ะทุกคน ฮิ้วส์สสส
พีเอสซึ.อย่าลืมติดตามผลงานเรื่องต่อไปของน้องด้วยน่ะค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 17-11-2011 22:07:32
โอ๊ยยย น่าจะให้แบล็คหนีหายไปหลายเดือน ให้ธีร์ตามหาสักหน่อยน๊าาาา
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: mixmix ที่ 25-11-2011 22:34:00
เรื่องนี้เคยอ่านจากในเด็กดีแล้ว แต่อ่านกี่ทีๆก็สนุกอ่า
จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวด้วยมั้งที่เราชอบคู่รอง(คู่ชาดำ)มากกว่าคู่หลัก 555+
แล้วก็อ่านกี่ทีๆก็ยังสงสัย+งงไม่หาย เขาคือใคร?คนที่มาพาพี่เอ็กซ์ไปน่ะ - -?
คือเราว่าเราไม่ได้อ่านตกหล่นไปนะ พี่เอ็กซ์แกชอบน้องตัวเองก็คืออาร์ไม่ใช่เหรอ?
แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครมาจากไหนเนี่ย งงค่า ใครรู้ได้โปรดมาเล่าสู่กันฟังทีเถอะ คาใจมานานแล้ว  :z3:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: mameaw_1926 ที่ 06-12-2011 20:05:44
อ่านจนจบ แต่คิดว่าคู่รองเนื้อหามากกว่าคู่หลักสะอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-12-2011 21:14:01
กว่าจะจบเรื่องได้กินมาม่าอิ่มมากกกกกกก :z2:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 21-12-2011 08:29:01
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 14-02-2012 08:57:34
ชอบแบล็คอ่ะ น่าร้าก น่ารัก
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 17-02-2012 01:45:34
ไม่อยากบอกว่าโกรธพี่ธีร์มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
"รักนะแต่ทำให้เสียใจ"
ไม่ปลื้มค่ะ!!!
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย อ่ะนะ แต่ก็แอบชอบพี่ธีร์เหมือนกัน
รู้สึกแมนดี แต่ก็บางทีเหมือนจะไม่ยอมเปิดเผยความนายยยยจายยยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: oop ที่ 17-02-2012 20:48:18
กี่เศร้า?  ง่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Goingunder ที่ 18-02-2012 23:30:06
สงสารแบล็คอ่า กว่าจะมีความสุขก็เจอแต่เรื่องร้ายๆ :sad4:
ส่วนอิพี่ธีร์จิตไปหน่อยมั้ย :angry2:
ขอตอนพิเศษแบบแบล็คเอาคืนมั่งได้ไหมค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 10-04-2012 12:59:42
สนุกมากๆๆๆๆเลย
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 14-04-2012 16:09:05
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 15-04-2012 07:37:47
ในที่สุดก็อ่านจบ สนุกมากจริงๆ ขอบคุณที่มีเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 15-04-2012 08:37:02
เรื่องนี้น่ารัก~♥
คู่รองหื่นดีอ่ะ ชอบ 555555
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 16-04-2012 00:58:54
ชอบคู่แบล๊คกับพี่ธีร์มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก >///<  :-[ :impress2:
น่ารักสุดยอดๆ o13 o13
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 17-04-2012 01:44:00
อ่านจบแล้ว เรื่องนี้สนุกนะติดเลย ชอบมากด้วย
แต่ขอนิดนึง มันอ่านยากอะบางทีงงว่า ตัวละครตัวไหนเป็นคนพูด ทำให้อ่านแล้วสะดุด
แต่ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 17-04-2012 21:41:34
โอ๊ววววววว เรื่องนี้เด็ดมากครับ สนุกมากกกกกกกกกก

แต่จะบอกว่าคู่รองเด่นกว่าคู่หลักมากเลยครับ

สงสารแบล็คอ่า โดนไรซ้ำซาก สงสาร แถมทำร้ายตัวเองอีก

แล้วอีกหลายมุมยังไม่ได้เปิดเลยอ่าครับจบซะแล้ว

ถึงยังไงก็สนุกมากๆเลยหล่ะครับ

ขอบคุณมากนะครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 02-05-2012 09:53:22
คู่นี้ซาดิสนิดๆนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 02-05-2012 19:29:24
เคยอ่านมาจากในเด็กดีแล้ว 1 รอบ ชอบเธียร์กับกันต์อ่ะครับ โดยเฉพาะในตอนพิเศษน่ารักมากจริง ๆ >,,<"
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: kt_ktjj ที่ 25-10-2012 16:52:37
เพิ่งได้มาอ่านเองค่ะ สนุกดีค่ะ  ไว้จะทยอยอ่านนะคะ ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 04-01-2013 12:50:22
อ่านแล้วโคตรลุ้นอ่ะ มาม่าซะอิ่มเลย 5555...
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: icetim ที่ 05-01-2013 14:37:35
อ่านแล้วหยุดไม่ได้ !!!!
กรี๊ดดดดดดด สุดท้ายก็แฮปปี้ แบบเลือดพุ่ง และแบบหวานๆ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: minminmin ที่ 05-01-2013 16:12:07
สนุกมากเลยค่ะ

ติดตามอ่านมาตั้งแต่อยู่ในเว็บเด็กดีแล้ว

นี่ก็อ่านมาเป็นรอบที่สามแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 06-01-2013 17:20:27
 o13
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: timtam ที่ 08-01-2013 17:30:39
โห เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ พลาดเรื่องนี้ไปได้ไงเนี่ย อยากจะบอกว่าโดยส่วนตัวชอบเรื่อง แบล๊คกับธีร์มาก มันซับซ้อนมัน ชวนปวดหนึบที่ใจ อ่านไปปวดอารมณ์ไป เป็นความรู้สึกแบบว่าอินจะตายแล้ว ชอบมากๆเลยค่ะ แต่บางอารมณ์ก็รู้สึกว่าพี่ธีร์น่าจะโดนหนักๆ โดนทำโทษซะบ้างอะไรแบบนี้ ขอบคุณคนแต่งน่ะค่ะที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้อ่านกัน ขอบคุณค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: nichytaec ที่ 05-07-2014 21:46:53
อ่านจบอย่างรวดเร็วค่ะ เรารู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันตัดฉับไปหน่อย เหมือนอารมณ์ไม่สุดโดยเฉพาะคู่หลัก เธีนรกัณฑ์ ยังไม่สมเหตุสมผลพออ่ะค่ะ จากความไม่ชอบกลายมาเป๋นความรัดแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือแบบเฉียบพลันเกิน เราเลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เพราะเธียรไม่ชอบหน้ากัณฑ์หลายตอนมาก ขนาดได้กันแล้วความไม่ชอบก็ดูแทบไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ยิ่งมีเรื่องของภีมอีก คือไม่มีก็ได้นะเหมือนไม่มีบทบาทเท่าไหร่นอกจากหื่นใส่กัณฑ์ และตอนหลังๆ ก็หายไปเลย เราว่าคู่คนพี่อ่านเพลินกว่านะ หรือเพราะเราจะมาโซคล้ายๆ แบล็คก็ไม่รู้ ชอบเสพความเจ็บปวด 555+ อ่านเพลินค่ะถึงจะดึงอารมณ์เราไม่สุดแต่ก็ทำให้เราติดตามจนจบได้ ขอบคุณนะคะ อย่าเคืองกันนะ แหะๆ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 27-01-2015 22:59:47
ขอบคุณค่ะ กว่าจะจบเสียน้ำตาไปหลายหยด  T_T
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: minminmin ที่ 28-01-2015 21:36:24
ชอบมากเลยค่ะ ตืดตามมาตั้งแต่เห็นในเด็กดี พอเห็นในเล้าก็อ่านอีกรอบ สองรอบ สามรอบ 555555  สนุกมากจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 11-02-2016 22:45:38
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 12-04-2016 11:47:41
โอ๊ย กว่าคู่ชาดำจะลงเอยกัน
เล่นเอาน้ำตาแบล็คหมดเป็นลิตร
พี่ธีร์โคตรซาดิสม์เลย
ปล่อยแบล็คไป แล้วพอจะไปจริงๆก็ไปลากกลับมาอีก
โคตรหวงแบล็คเลย น่าหมั่นไส้พี่น้องคู่นี้จริงๆ
เธียรก็เคยทำร้ายจิตใจกัณฐ์แบบนี้เหมือนกัน
หมั่นพี่น้องคู่นี้จริง
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 11-05-2016 20:14:03
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 07-06-2016 14:57:07
ลุ้นคู่รองตัวโก่งเลย  :o11: :o11: :o11:
หัวข้อ: Re: Look@t Me!! โดย หยดน้ำผึ้ง SP ChapterTea & Black ชาดำ~* 3[up 27.10.54]จบบริบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 10-12-2016 20:59:24
 o13  ขอบคุณครับ