พิมพ์หน้านี้ - ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-09-2013 03:15:40

หัวข้อ: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-09-2013 03:15:40
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


ขออนุญาติฝาก FanPage ด้วยนะครับ จิ้มที่รูปมัสคอต Mr.กุ๊กกู๋ ติ๊งต๊องด้านล่างเลย

(http://i159.photobucket.com/albums/t128/kukzabb/Screenshot2013-07-15at41757PM_zpsb2bcb8a7.png) (https://www.facebook.com/asamar.writer)


สารบัญ
- Image ตัวละคร - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.30.msg2476649#msg2476649)
- บทนำ - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.0.msg2474265#msg2474265)
- ตอนที่1 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: จุดเริ่มต้น ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.0.msg2474407#msg2474407)
- ตอนที่2 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ไอ้เด็กนรก ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.0.msg2474933#msg2474933)
- ตอนที่3 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: หน้าที่พี่เลี้ยง ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.30.msg2475421#msg2475421)
- ตอนที่4 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: น้ำมันที่เต็มถัง ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.30.msg2476955#msg2476955)
- ตอนที่5 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ร่างที่เปลือยเปล่า ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.60.msg2478338#msg2478338)
- ตอนที่6 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: นิทานกล่อมเด็ก ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.90.msg2486564#msg2486564)
- ตอนที่7 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: บ้านเด็กกำพร้า ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.120.msg2491882#msg2491882)
- ตอนที่8 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: การหักหน้า ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.150.msg2497668#msg2497668)
- ตอนที่9 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ทะเลสีดำ ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.150.msg2500911#msg2500911)
- ตอนที่10 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: คำสั่งหม่อมย่า ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.180.msg2505199#msg2505199)
- ตอนที่11 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: หาดทรายใต้แสงจันทร์ ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.180.msg2510679#msg2510679)
- ตอนที่12 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: รุ่งอรุณ ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.210.msg2517385#msg2517385)
- ตอนที่13 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ท้องทะเลที่สดใส ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.240.msg2530572#msg2530572)
- ตอนที่14 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: เมฆทมิฬ ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.270.msg2535198#msg2535198)
- ตอนที่15 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: บทอัศจรรย์ ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.270.msg2536397#msg2536397)
- ตอนที่16 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ทิฐิงี่เง่า ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.300.msg2542359#msg2542359)
- ตอนที่17 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ขนมสุดโปรด ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.330.msg2557970#msg2557970)
- ตอนที่18 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ข้อความสุดท้าย ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.360.msg2561192#msg2561192)
- ตอนที่19 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: พี่ชาย ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.390.msg2595911#msg2595911)
- ตอนที่20 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: เรื่องริวรั้ว ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.390.msg2599121#msg2599121)
- ตอนที่21 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ความเปลี่ยนแปลง ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.420.msg2764287#msg2764287)
- ตอนที่22 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ทางที่เลือกเดิน ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.420.msg2768817#msg2768817)
- ตอนที่23 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: หวั่นไหวจริงเหรอ? ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.420.msg2770965#msg2770965)
- ตอนที่24 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: น้องชายพี่ปั๊ม ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.420.msg2771811#msg2771811)
- ตอนที่25 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: เด็กปั๊มจอมปลอม ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.450.msg2773988#msg2773988)
- ตอนที่26 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: บุคลิกที่แปลกไป ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.450.msg2775274#msg2775274)
- ตอนที่27 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ภาพลวงตา ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.450.msg2776773#msg2776773)
- ตอนที่28 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: คุณชายหายตัวไป ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.450.msg2781525#msg2781525)
- ตอนที่29 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: หากันจนเจอ ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.450.msg2786265#msg2786265)
- ตอนที่30 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: วิถีชาวบ้าน ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.480.msg2791168#msg2791168)
- ตอนที่31 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: กุญชรคลั่งสั่งงวงยาวให้ดีดดิ้น ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.480.msg2795532#msg2795532)
- ตอนที่32 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: สรรพนามที่เปลี่ยนไป ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.480.msg2800483#msg2800483)
- ตอนที่33 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: คำมั่นสัญญา ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.510.msg2804073#msg2804073)
- ตอนที่34 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: วังสุริยะวิทู ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.510.msg2806635#msg2806635)
- ตอนที่35 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: คนข้างกาย ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.540.msg2812993#msg2812993)
- ตอนที่36 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: วันที่เลยผ่าน...รักคงมั่น ::: - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.540.msg2826439#msg2826439)
- ตอนที่37-ถึงตอนจบ ::: - คลิก เรียงกันไปเลย - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.540.msg3492775#msg3492775)






ผลงานเก่าของ Mr.กุ๊กกู๋   

[url=http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=823590]- Heart never forget หัวใจไม่เคยลืมนาย -
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.540.msg3492775#msg3492775)
- Sketch Lover ร่างกายชายรัก - (http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=967971)
- Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.0)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [บทนำ] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-09-2013 03:17:02
บทนำ



   เรื่องราวของเราสองคน... มันเริ่มต้นจากความแตกต่างสุดขั้ว แตกต่างจนใครหลาย ๆ คนไม่คิดว่าครั้งหนึ่งเราจะสามารถคบกันได้ ในเมื่อคนหนึ่งเป็นแค่เด็กปั๊มฐานะยากจนที่พ่อแม่ต้องดิ้นรนจากต่างจังหวัดมาทำงานในเมืองหลวง ส่วนอีกคนก็เป็นถึงหม่อมหลวงที่มีมรดกหลายพันล้านรองรับที่ไม่ต้องทำงานอะไรก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปได้ทั้งชาติ ใครจะไปเชื่อล่ะว่าเราสองคนสามารถรักกันได้ด้วย

   วันที่เราสองคนพบกันครั้งแรก เป็นวันเดียวกับที่ผมเริ่มทำงานวันแรก...






   ย้อนกลับไปตอนนั้น... ตอนที่ผมเพิ่งอายุได้แค่ 16 ปี หลังจากเลิกเรียน ผมก็ต้องรีบกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปทำงานเป็นเด็กปั๊มที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้ ๆ บ้านเสมอ ผมจะต้องเข้างานตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นจนถึง 5 ทุ่มถึงกลับบ้านได้ ค่าจ้างต่อวันก็ได้แค่ไม่กี่ร้อยแต่ก็พอที่จะช่วยแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่

   ในวันนั้น ก่อนที่ผมจะเลิกงาน ก็มีรถเบนซ์สีดำคันหรูคันหนึ่งขับเข้ามา ผมเดินไปที่บริเวณประตูรถแล้วคนขับรถก็บอกให้ผมเติมน้ำมันจนเต็มถัง ทว่าในขณะนั้นผมได้ยินเสียงดังโหวกเหวกเล็ดลอดออกมาจากด้านใน เหมือนกับว่ามีคนกำลังทะเลาะกัน

   หลังจากที่ผมเติมน้ำมันและรับตังค์จากคนขับรถเสร็จ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...

   เด็กชายผิวขาว หน้าตาเป็นลูกคุณหนูดูดีมีตังค์ก็ได้เปิดประตูรถออกมาก่อนจะปิดประตูรถเสียงดังปั้งแล้ววิ่งออกไปนอกปั๊มทันที

   เห็นดังนั้นผมคิดว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ ด้วยความที่หวังจะได้รับรางวัลก้อนโตจากคุณหญิงไฮโซที่นั่งอยู่เบาะหลังอีกคน จึงทำให้ผมก้าวขาวิ่งตามเด็กนั่นไปตั้งแต่วินาทีแรกที่มันก้าวขาลงรถ

   ...แต่ให้ตายเถอะ เด็กเวรอะไรวิ่งเร็วอย่างกับจรวด ตัวก็เล็ก หน้าตาก็น่ารักน่าชังแต่ทำไมมันถึงได้วิ่งไวแบบนี้นะ

   ผมวิ่งตามไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเด็กนั่นโบกรถแท็กซี่ผมถึงตามทัน แต่ทว่ากว่าจะทัน ผมก็ดันขึ้นไปบนรถแท็กซี่กับมันเสียแล้ว

   “ไปสุวรรณภูมิ” ไอ้เด็กตัวแสบเอ่ยขึ้น คนขับแท็กซี่ทำหน้างง ๆ แต่พอไอ้เด็กแสบมันหยิบแบงค์พันในกระเป๋าขึ้นมาโชว์หราเท่านั้นแหละ คนขับแท็กซี่ก็รีบบึ่งรถออกไปทันที

   “น้องคิดจะทำอะไร วิ่งหนีแม่มาแบบนี้ ไม่รู้เหรอว่าแม่จะเป็นห่วงมากแค่ไหน กลับไปหาแม่เดี๋ยวนี้" ผมบ่นกับไอ้เด็กแสบ มันหันหน้ามาเหล่มองผมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าก่อนที่จะเบือนหน้าหนีอย่างไม่สนใจ "น้อง!!!”

   ผมตะคอกใส่มันอย่างเหลืออด เมื่อมันไม่โต้ตอบอะไรผมก็เลยหันไปพูดกับคนขับแท็กซี่

   “พี่... กลับรถไปจอดที่ปั๊มเมื่อกี้" ผมเอ่ยขึ้น แต่ทว่า...

   “ไหนอ่ะเงิน" คนขับแท็กซี่เอ่ยขึ้น "ไม่มีเงินผมก็ไม่กลับ"

   สิ้นเสียงของคนขับรถ ไอ้เด็กเวรตะไลก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะขึ้นมาทันควัน

   “ดีมาก... ถ้าพี่ขับไปถึงสุวรรณภูมิ ผมจะให้พี่สองพัน เน้น ๆ ไม่ต้องทอน"

   “ครับคุณหนู" คนขับแท็กซี่ตอบออกมาอย่างสุภาพ แม้ผู้ที่คุยด้วยนั้นจะเป็นเด็ก... แต่เพราะอำนาจของเงินเลยทำให้เขายอมทำตามอย่างว่าง่าย

   “ว่าแต่นายเหอะ ตามฉันมาทำไม" ไอ้เด็กแสบพูดอย่างไม่สบอารมณ์ มันไม่เจียดสายตาหันมามองผมในขณะที่คุยด้วยเลยสักนิด ...ช่างไร้มารยาทสิ้นดี ถึงผมจะจนแต่ผมก็มีมารยาทนะโว้ย

   “พี่มาตามตัวน้องกลับไปหาแม่" ผมเอ่ยขึ้น พยายามรักษาน้ำเสียงให้คงที่และดูสุภาพที่สุด ตัวที่โตแค่ประมาณหัวไหล่ของผมทำให้ผมเดาได้ว่าไอ้เด็กนี่น่าจะอายุน้อยกว่าผมประมาณ 3-4 ปี

   “เหรอ" มันตอบเสียงยียวน "ฉันนึกว่านายหวังรางวัลซะอีก ถึงวิ่งไล่จับฉันจะเป็นจะตายขนาดนี้"

   “รางวัลอะไร" ผมแกล้งถาม โดยไม่คิดว่าเด็กตัวเล็ก ๆ อย่างมันจะรู้ไต๋ผมหรอกนะ

   “ก็เด็กซอมซ่อจน ๆ อย่างนาย พอเห็นรถหรู ๆ วิ่งเข้ามาก็คงอยากจะทำดีเอาหน้า หรือไม่ก็หวังรางวัลก้อนโต พวกจน ๆ ก็เป็นแบบนี้หมดไม่ใช่เหรอ" คำพูดว่าเหยียดหยามแล้ว แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมามันยิ่งช่วยให้รู้สึกว่าโดนดูถูกหนักเข้าไปอีก

   “ไอ้เด็กเวร!" ผมด่ามัน จะเถียงก็เถียงไม่ออกเพราะผมคิดอย่างนั้นจริง ๆ ...ปัดโถ่!!!

   “ไอ้คนจนไม่เจียมต่อ" มันต่อปากต่อคำ

   เราสองคนต่อปากต่อคำกันเสียงดงัลั่น แต่ทว่าคนขับแท็กซี่ก็ไม่ได้สนใจอะไรสักนิด คงเพราะมีเงินสองพันมารออยู่ตรงหน้าก็เลยขับรถไปเงียบ ๆ ไม่ปริปากบนอะไรสักคำจนกระทั่งในที่สุด เขาก็ขับรถไปถึงจุดหมาย




จบบทนำ :pig2: ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [บทนำ] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Gongy B.Du ที่ 05-09-2013 05:13:06
อ่าว เปิดมาก็เริ่มจะกัดกันซะละ...
อิคุณหนูปากร้ายอ่ะ ท่าทางจะแสบใช่ย่อยด้ว ฮ่าๆๆ  :laugh:
...
น่าสนใจมากๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ติดตามๆ : )
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [บทนำ] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 05-09-2013 05:16:07
รอติดตามนิยายเรื่องใหม่ด้วยคนจ้า  :pig2:
ไม่รู้จะดราม่ามากไหม แต่ตอนจบคงแฮ๊ปปี้เอ็นดิ้งนะค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [บทนำ] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 05-09-2013 06:01:46
เรื่องราวจะเป็นยังไงละเนี่ย



น่าติดตามรออ่านต่อครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [บทนำ] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 05-09-2013 07:29:36
ทะเลาะกันสะแล้ววววอ :mew2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [บทนำ] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 05-09-2013 07:45:48
คุณชายนี่ปากดีจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-09-2013 12:10:56
ตอนที่1 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: จุดเริ่มต้น :::




        หลังจากที่ลงจากรถ ผมก็หันซ้ายแลขวามองดูรอบค้างแล้วก็ได้แต่อ้าปากด้วยความตกตะลึง ...นี่น่ะหรือคือสนามบินที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของมันมานานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาสัมผัสที่นี่

   ผมมัวแต่ตกตะลึงกับความกว้างใหญ่และอลังการของสนามบินแห่งนี้ กว่าจะได้สติกลับมาอีกทีไอ้เด็กแสบก็เดินไปไกลลิ่ว ๆ เสียแล้ว

   “เฮ้ย... ไอ้คุณชาย รอด้วย" ผมตะโกนร้องเรียก แต่มันไม่สนใจผมสักนิด มันเดินจ้ำอ้าวไปเรื่อย ๆ แต่ท้ายที่สุดผมก็วิ่งตามมันทัน "น้องจะไปไหน ทำไมไม่กลับบ้าน"

   “ไม่กลับ! ฉันจะไปอลาสก้า" ไอ้เด็กแสบตอบออกมา

   “ฮะ! อะไรก้า ๆ นะ" ผมเอ่ยถามด้วยความงุนงง

   “อลาสก้า เป็นรัฐรัฐหนึ่งของประเทศอเมริกาอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดายังไงล่ะ" มันตอบออกมา ยิ่งมันพูดยืดยาวเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งงงมากขึ้นไปอีกเท่านั้น

   “โอย... ช่างมันเถอะ ๆ ไม่อยากรู้แล้ว ว่าแต่น้องจะไปยังไง" ผมเอ่ยถาม เพราะมีที่ไหนที่เด็กตัวกะเปี๊ยกจะเดินทางไปยังที่ที่ไกลแสนไกลขนาดนั้น แม้ไม่รู้ว่าอลาสก้าอยู่มุมไหนของโลก แต่ฟังจากที่ไอ้เด็กแสบพูดก็น่าจะไกลใช่ย่อย

   “เครื่องบินไงล่ะ ถามไรโง่ ๆ" ไอ้เด็กแสบตอบอย่างกวนประสาท

   “เออ... พี่ไม่น่าถามเลยเนอะ" ผมพูดประชดพร้อมกับกระตุกคิ้วด้วยความเหลืออด อยากจะซัดกบาลมันซักเปรี้ยงให้หายซ่า หากไม่เห็นว่าไอ้เด็กนี่รวยผมคงจับมันทำทารุณกรรมไปแล้ว "แล้วทำไม... ไม่รอให้พ่อกับแม่พาไป ไปคนเดียวเดี๋ยวก็หลงทางหรอก"

   ผมพยายามพูดเกลี้ยกล่อม

   “โห่... ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่พาไป ฉันก็ไม่หนีมาแบบนี้หรอก" มันเถียง

   “เออ ๆ ก็ตามใจ"

   หลังจากที่คุยกันสักพัก ผมก็ยอมให้ไอ้เด็กแสบทำตามที่ใจมันต้องการ ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเด็กตัวกะเปี๊ยกจะสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วเดินทางออกนอกประเทศได้ตามลำพังจริง ๆ หรือ

   มันเดินไปถามพนักงานที่แต่งชุดยูนิฟอร์มคนแล้วคนเล่า จนในที่สุดมันก็ไปหยุดอยู่หน้าเคาร์เตอร์แห่งหนึ่งซึ่งพอผมแหงนป้ายด้านบนก็พอที่จะรู้ได้ว่านั่นคือช่องจำหน่ายตั๋ว

   ผมยืนกอดอกมองดูไอ้เด็กแสบอยู่ไกล ๆ เป็นเวลานานสองนาน จนในที่สุดมันก็เดินคอตกกลับมา... หน้าตาที่เศร้าสร้อยราวกับลูกหมาตกน้ำแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงจะซื้อตั๋วไม่สำเร็จ

   “ไหนล่ะครับ ตั๋วไปอะแลสก้าส์" ผมแกล้งทำน้ำเสียงดัจริตสุด ๆ ใส่มัน ไอ้เด็กแสบแหงนหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาเชือดเฉือนราวกับต้องการจะฆ่าผมให้ตายเสียตรงนี้

   “ไม่ไปแล้ว จะกลับบ้าน" มันเอ่ยขึ้น

   “เอ้า! กลับบ้าน" ผมทวนคำ "จะกลับก็กลับง่าย ๆ เนี่ยนะ เออ ๆ เดี๋ยวพี่พากลับ แต่บอกพี่ก่อนทำไมถึงไม่ได้ไปอะแลสก้าส์"

   ผมยังไม่วายทำเสียงดัจริตเน้นยำ้ตรงอลาสก้า

   “โอ๊ย จะถามอะไรนักหนา..." มันบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แต่ท้ายที่สุดมันก็ตอบออกมาอยู่ดี "ไม่มีพาร์สปอร์ตก็ไปอลาสก้าไม่ได้"

   “พาร์สปอร์ต?” ผมทวนคำด้วยความงุนงง คำศัพท์แปลก ๆ ที่ผมไม่เคยได้ยินหลุดออกมาจากปากของไอ้เด็กแสบอีกครั้ง "ว่าแต่ไอ้พาร์สปอร์ตมันคืออะไร เหมือนกับปอดแหกไหม"

   “หืม!! จะถามอะไรนักหนาวะ บอกให้พากลับบ้านก็พากลับบ้านดิ หุบปากได้แล้ว ถ้าพากลับไปส่งที่บ้านได้ฉันจะให้เงินนายพันนึง" มันขึ้นเสียง ...หน็อย! เป็นเด็กเป็นเล็กแต่ร้ายเป็นบ้า นี่ถ้ามาเห็นว่าเอาเงินมาล่อจะไม่ยอมหุบปากง่าย ๆ หรอกนะ

   “คร้าบ คุณชาย" ผมแกล้งทำเสียงออดอ้อนก่อนที่จะเดินนำไปยังจุดที่แท็กซี่จอดรับผู้โดยสาร

   ทันทีที่ขึ้นรถ ไอ้เด็กแสบก็เอ่ยตรอกซอกซอยที่จะกลับอย่างชำนาญ ผมล่ะอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ในเมื่อมันก็สามารถกลับบ้านเองได้แล้วมันจะให้ผมพานั่งแท็กซี่กลับทำไม

   หลังจากที่รถออกจากอาณาเขตของสนามบินอันแสนกว้างใหญ่ ไอ้เด็กแสบมันก็ชวนผมคุยเรื่อยเปื่อย

   “นายชื่ออะไร" เป็นเด็กเป็นเล็กพูดจาไม่มีหางเสียงมันน่าตบกบาลนัก

   “ข้าวครับ" ผมตอบอย่างสุภาพ แสดงให้มันดูหน่อยละกันว่ามารยาทมันเป็นอย่างไร "แล้วคุณชายล่ะครับ"

   “เป๊ก" มันตอบแค่นั้น

   “ครับ" ผมขานรับ แต่ผมคิดว่าผมไม่เรียกชื่อมันดีกว่า เรียกว่า 'คุณชาย' อย่างเดิมน่าจะเข้าท่ากว่า เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นเด็กที่ทำตัวเป็นคุณชายเอาแต่ใจแบบในละครทีวีก็ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ก็เลยอดไม่ได้ที่จะอยากเรียกมันว่าคุณชาย "ว่าแต่คุณชายทำแบบนี้ทำไม ทะเลาะกับแม่เหรอครับ"

   “ก็ไม่เชิง... ก็แค่อยากไปอลาสก้า" มันตอบออกมา "แม่ไม่ยอมพาไปก็เลยวิ่งลงจากรถมาก็แค่นั้น"

   คำตอบของมันช่างน่าโดนตบกบาลสั่งสอนยิ่งนัก ช่างเป็นเด็กที่เอาแต่ใจจนคนเป็นพ่อเป็นแม่ท่าจะปวดหัวไม่น้อย

   “ว่าแต่นายเป็นเด็กใหม่เหรอ" มันเอ่ยถามผมบ้าง

   “ฮะ! เด็กใหม่" ผมทวนถามด้วยน้ำเสียงงุนงง เพราะไม่รู้ว่ามันจะสื่อถึงอะไรกันแน่

   “ก็เด็กปั๊มไง ไม่เคยเห็นหน้าเลย" มันตอบออกมา

   “อ๋อ... ใช่ครับ ผมเป็นเด็กใหม่ เพิ่งมาทำงานวันนี้เป็นวันแรก" ผมยังแสร้งทำน้ำเสียงสุภาพกับมันทั้งที่ภายในใจเหลืออดสุด ๆ "แล้วคุณหนูล่ะครับ บ้านอยู่แถวปั๊มเหรอ ถึงได้จำหน้าคนปั๊มได้หมดและรู้ว่าผมเป็นเด็กใหม่"

   “ใช่ ฉันอยู่แถวนั้น" มันตอบออกมา ก่อนที่ประโยคถัดมาของมันจะทำให้ผมถึงกับรู้สึกเขิน... ใช่! ผมเขิน ไม่รู้ว่าเขินได้อย่างไร "จริง ๆ ก็ไม่ได้จำได้หมดหรอก แต่เด็กปั๊มหน้าตาเข้ม ๆ พอดูได้แบบนายน่ะ มันไม่ค่อยมีให้เห็น"

   “เอ๋?” แล้วไอ้หน้าตาเข้ม ๆ พอใช้ได้สำหรับไอ้เด็กแสบ มันจะหมายความว่า 'หล่อ' หรือเปล่านะ ทำไมจะชมก็ไม่ชมตรง ๆ พูดจาอ้อมค้อมอยู่ได้ "คุณชายจะบอกว่าผมหล่อเหรอครับ"

   ด้วยความอยากรู้ ผมก็เลยถามมันออกไปตรง ๆ อย่างหน้าไม่อาย พอคิดได้ก็แทบอยากจะยกมือขึ้นมาเขกกบาลตัวเองแรง ๆ เพราะดันถามอะไรที่ไม่ดูสารรูปของตัวเองเสียเลย เด็กผิวคล้ำหน้าตาธรรมดา ๆ เหมือนเด็กบ้านนอกมันจะหล่อได้อย่างไรเล่า...

   “เออ!” มันตอบกระแทกเสียง แถมยังหันหน้าหนีผมอีกต่างหาก แต่ที่ผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ คือว่าผมจะเขินทำไมเนี่ย กับไอ้แค่มันชมว่าผมหน้าตาเข้มพอใช้ได้เนี่ย

   “คุณชายก็หล่อครับ" เพื่อไม่ให้เสียมารยาทผมก็เลยต้องชมกลับบ้าง แต่ทว่าคำชมของผมมันเป็นความสัตย์จริง เพราะถ้าให้ผู้หญิงกี่คนมามอง ผมก็กล้ารับประกันเลยว่าทุกคนจะต้องชมว่าไอ้เด็กนี่หล่อ แถมยังหล่อแบบผู้ดีอีกต่างหาก และดูท่าว่าจะไฮโซเสียด้วย แม้จะยังละอ่อนอยู่แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าหมอนี่ดูดีตั้งแต่เด็ก

   “อืม เรื่องนั้นฉันรู้อยู่แล้วล่ะ ใคร ๆ ก็พูดแบบนี้ทั้งนั้น"

   แต่แหมคำคตอบกลับของมันช่างมั่นหน้าเหลือเกิน... นี่ถ้าไม่หล่อจริงผมคงเถียงขาดใจแล้ว

   “ครับ" ท้ายที่สุดก็ได้แต่ตอบรับด้วยความสุภาพไม่โต้ไม่เถียงอะไรออกไป "ว่าแต่คุณชายจะไปอลาสก้าทำไมครับ"

   “จะอยากรู้ไปทำไม สนใจด้วยเหรอ" มันตอบออกมา ผมล่ะเอือมระอาจริง ๆ กับไอ้พวกเด็กเอาแต่ใจแบบนี้

   “ครับ สนใจสิครับ" ผมตอบออกไป ความจริงก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายหรอก แต่ไม่รู้จะคุยอะไรดีก็เลยถามเรื่อยเปื่อย

   “จริงเหรอ... ทีคนอื่น ๆ ไม่เห็นมีใครสนใจแบบนี้เลย" มันยังไม่ยอมตอบแถมยังเล่นลิ้นเกินวัยอีกต่างหาก "หรือว่านายชอบฉัน"

   สิ้นเสียงของมัน โลกทั้งโลกของผมก็ตกอยู่ในสภาวะเงียบงันชั่วขณะ ...คำว่าชอบสำหรับผมถ้าหากรวยและนิสัยดี ไม่ว่าจะเป็นใครผมก็ชอบหมดนั่นแหละ แต่ไอ้เด็กแสบอย่างมันจะหมายถึงชอบแบบไหนกันแน่นะ

   “บ้าน่า จะไปชอบอะไรล่ะครับ คุณชายเป็นผู้ชายนะครับ" ผมตอบออกไป ทว่าไอ้เด็กแสบกลับหัวเราะเสียงดันลั่น

   “ฮ่า ๆ ๆ ๆ นายคิดไรอยู่วะเนี่ย ฉันหมายถึงชอบแบบพี่ชายที่เอ็นดูน้องชาย ก็ฉันมันหล่อ รวย เลือกได้ แม่ง! เป็นใครใครก็อยากมีเพื่อน มีน้อง หรือมีพี่แบบฉันทั้งนั้นแหละ"

   “เออครับ!!!” ผมตอบมัน แต่ทว่ามันยังไม่ยอมหยุดหัวเราะผมสักที ผมก็เลยต้องพูดอะไรออกไปเพื่อให้มันเงียบเสียงหัวเราะลง "ผมชอบคุณชายนั่นแหละครับ คราวนี้จะบอกผมได้หรือยังว่าอยากไปอลาสก้าทำไม"

   “หยึย อย่ามาทำหน้าแบบนั้นกับฉันนะ สยองว่ะ" มันบ่น ผมได้แต่เก็บกลั้นความรู้สึกเหลืออดทั้งหมดไว้ภายในจิตใจ พอบอกว่าไม่ชอบก็บอกเหตุผลมาเยินยอตัวเอง พอบอกว่าชอบก็มาหาว่าผมทำหน้าให้มันรู้สึกสยองอีก ตกลงมันจะเอายังไงกับชีวิตผมกันแน่เนี่ย

   “ล้อเล่น ๆ อย่าโกรธน่าพี่ชาย" มันทำน้ำเสียงล้อเลีนแถมยังเรียกผมว่าพี่ชายอีกต่างหาก หึ! ไอ้เด็กปากดี "ที่อยากไปอลาสก้าก็... จะเริ่มยังไงดีล่ะ เอาเป็นว่านายเคยมีฝันไหม ฝันว่าอยากจะไปที่ที่ไหนสักแห่ง แล้วก็คิดว่าวันหนึ่งเราจะต้องไปที่นั้นให้ได้"

   มันตอบออกมา ผมพยายามนึกตามที่มันพูด ถ้าหากจะถามถึงความฝันของผมว่าอยากไปที่ไหน... แค่ผมได้ไปทะเล มันก็วิเศษสุด ๆ แล้วล่ะ เด็กบ้านนอกอย่างผมน่ะ มันไม่มีอะไรให้เลือกมากมายหรอกนะ

   “มี" ผมตอบออกไปตรง ๆ ก็ฝันของผมมันก็คือได้ไปเที่ยวทะเลนั่นแหละ

   “อืม... ที่ฉันอยากไปอลาสก้าก็เพราะอลาสก้ามันคือดินแดนในฝัน ที่นั่นมีหิมะปกคลุมตลอดปี ฉันจะได้ใส่เสื้อกันหนาวตัวใหญ่ ๆ ออกไปเดินเล่นท่ามกลางหิมะป่าสนที่กว้างใหญ่ ที่สำคัญฉันอยากจะไปดูการแข่งขันลากเลื่อนของสุนัขพันธุ์อลาสก้า มาลามิวและไซบีเรียนฮัสกี ...ที่นั่นน่ะมันหนาวมากเลยนะ แต่พวกมันก็สามารถวิ่งลากคนในระยะทางไกล ๆ ได้อย่างสบาย ๆ แถมยังเป็นเพื่อนที่ดีกับคนอีกด้วย"

   คำตอบของไอ้เด็กแสบมันก็น่าฟังอยู่หรอกนะ แต่ผมมันเป็นคนยากจนไม่ค่อยมีความรู้อะไรเลยไม่สามารถนึกภาพจินตนาการตามที่มันพูดออกมาได้ แล้วไอ้สุนัขพันธุ์อลาสก้า มาลามิวกับไซบีเรียน ฮัสกีอะไรนั่นมันจะเหมือนกับสุนัขขี้เรื้อนข้างบ้านผมหรือเปล่านะ

   “ดูคุณชายมีความสุขดีนะครับ พอได้พูดถึงที่นั่น" ผมเอ่ยขึ้น เพราะสีหน้าเวลาที่คุณชายเป๊กพูดถึงดินแดนแห่งความฝัน มันเป็นสีหน้าที่ฟินสุดคำบรรยายเลยล่ะ

   “ก็ใช่ดิ ถ้านายมีฝัน แล้วนายจะเข้าใจ"

   “พี่เองก็มีฝันครับ" ผมเอ่ยขึ้น ยอมไม่ได้หรอกที่ไอ้เด็กแสบมากล้าดีหาว่าผมไม่มีฝัน ถึงผมจะจน จะไม่เก่งอย่างมันแต่ผมก็มีความฝันเหมือนคนทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ เพียงแต่ฝันของผมมันไม่ใช่ฝันเรื่องการไปเที่ยวอะไรแบบนั้น

   “ฝันอะไร" มันถาม

   ผมยิ้มให้มัน ยิ้มอย่างสุดความสามารถของริมฝีปากที่จะสามารถฉีกออกได้กว้างที่สุด พลางยักคิ้วให้มันกวน ๆ หนึ่งที

   “ฝันว่าจะต้องรวยครับ"

   สิ้นเสียงของผม ไอ้เด็กแสบก็หัวเราะลั่น ผมมองมันตาขวาง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งผมมอง มันก็ยิ่งขำ ...แล้วมันจะขำอะไรของมันนักหนาวะ!!! ผมไม่เข้าใจจริง ๆ





จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [บทนำ] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 05-09-2013 12:15:22
รอจ้ะรอ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Minerva ที่ 05-09-2013 15:56:08
คู่นี้น่ารักอ่ะ!!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 05-09-2013 16:13:42
เดี่ยวก็รวยยย  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [บทนำ] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 05-09-2013 16:13:55
ตบจูบเลย ปากอย่างนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 05-09-2013 16:17:47
ฝันว่าต้องรวย อิอิเด๋วได้รวยแน่ๆล่ะ คุคุ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Xipnoz ที่ 05-09-2013 16:58:32
คุยกันน่ารักดี อิอิ รอต่อไป น่าติดตามๆ  :katai2-1: :hao6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 05-09-2013 17:05:58
บรรยากาศเรื่องนี้ดูน่ารักดีอะ  หวังว่าคงไม่มีดราม่าโหดๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 05-09-2013 17:33:39
ฝันอยากรวยช่างเป็นฝันที่งดงามมาก อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 05-09-2013 18:44:47
จิ้มๆเรื่องใหม่ จ๊ากกก เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-09-2013 23:14:52
ตอนที่ 2 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ไอ้เด็กนรก :::




        “คุณชาย... ขำอะไรครับ"

   “มาเป็นลูกน้องฉันสิ... เดี๋ยวฉันจะให้เงินเดือนนายเยอะ ๆ เลย แล้วฝันของนายจะเป็นจริงแน่ ๆ" มันตอบออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

   หน็อย! มาบอกให้ผมไปเป็นลูกน้องเด็กแสบอย่างมันเนี่ยนะ ให้ตายอย่างไรผมก็ไม่มีวันยอมเป็นเด็ดขาด

   “ไม่ล่ะครับ...” ผมปฏิเสธ

   “เอ้า! ทำไมล่ะ มาเป็นลูกน้อง เดี๋ยวฉันจะบอกหม่อมแม่ให้จ้างนายมาเป็นลูกน้องส่วนตัวให้ รับรองมีกินมีใช้ไปตลอดชาติแน่ ๆ" ไอ้เด็กปากดีเอ่ยออกมา แถมน้ำเสียงของมันออกแนวขำขันจนผมคิดว่ามันกำลังดูถูกผม

   “เฮ้อ...” ผมได้แต่ถอนหายใจใส่ไม่โต้เถียงอะไร

   “เป็นไรพี่ชาย" มันแสร้งถามด้วยความเป็นห่วง น้ำเสียงของมันแสดงออกถึงความเสแสร้งชัดเจน

   “เปล่าครับคุณชาย" ผมปฏิเสธ เพราะขี้เกียจจะเถียงเรื่องไร้สาระกับเด็กแล้ว "ว่าแต่คุณชายจะบอกแม่ว่ายังไงล่ะครับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วกลับบ้านไปจะไม่โดนทำโทษเหรอครับ"

   “ไม่หรอก คุณแม่ไม่กล้าตีฉันหรอก อย่างมากก็แค่โดนบ่น" ไอ้เด็กแสบเอ่ยขึ้น... เพราะอย่างนี้สินะ มันถึงได้ทั้งแสบ ทั้งซนและเอาแต่ใจจนน่าปวดหัวแบบนี้

   “ครับ" ผมตอบ

   หลังจากที่คุยกับไอ้เด็กแสบไปสักระยะ รถแท็กซี่ก็หักเลี้ยวมาจอดในเส้นทางที่คุ้นเคยก่อนจะขับผ่านเลยปั๊มน้ำมันไปและเลี้ยวเข้าซอยที่เลยมาจากปั๊มน้ำมันที่ผมทำงานอยู่ไม่ไกลมากนัก และท้ายที่สุดไอ้เด็กแสบก็บอกให้จอด

   “จอดข้างหน้าซ้ายมือนี้แหละครับ" มันเอ่ยขึ้นพร้อมกับควักตังค์แบงค์พันในกระเป๋าออกมา และหลังจากที่รถจอดมันก็ยื่นตังค์แบงค์นั้นให้พร้อมกับพูดว่า "นี่ครับไม่ต้องทอน"

    ผมมองมันด้วยดวกตาที่เบิกโพลง ไม่ใช่เพราะอยากได้เงินนั่นหรอกนะ แต่เพราะอดหมั่นไส้ไม่ได้ที่ลูกคุณหนูอย่างไอ้เด็กแสบใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ อยากให้มันลองมาใช้ชีวิตเป็นผมสักวันจริง ๆ เผื่อมันจะได้รู้จักคุณค่าของเงินบ้าง

   หลังจากที่ลงจากรถผมก็หันไปมองบ้านหลังใหญ่ด้านซ้ายมือซึ่งเป็นฝั่งที่ไอ้เด็กแสบบอกให้แท็กซี่จอด

   บ้านของไอ้เด็กแสบมีขนาดที่ใหญ่โตโอ่อ่าราวกับคฤหาสถ์หลายร้อยล้าน รั้วบ้านก็สูงใหญ่แถมยังทำจากอิฐแข็งแรง ที่ด้านบนของรั้วก็มีโคมไฟประดับอยู่รอบ ๆ ดูสวยงามจนผมล่ะอดอิจฉามันไม่ได้จริง ๆ

   ยังไม่ทันที่ผมจะได้มองตัวบ้านให้หายตกตะลึง เสียงของไอ้เด็กแสบที่ดังขึ้นก็เรียกสติของผมให้กลับคืนมา

   “เอ้านี่... ของนาย" มันยืนเงินแบงค์พันมาให้ ผมไม่แน่ใจว่ามีกี่แบงค์เพราะมันดูหนามากเกินกว่าจะมีแค่แบงค์เดียว มันคงเห็นผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเลยเอ่ยให้ผมหายข้องใจว่า "เงินของนาย ที่ตกลงกันไว้ที่สนามบินไง"

   “แต่คุณชายบอกว่าแค่พันนึงนะครับ แต่นี่มันไม่ใช่"
 
   “รับ ๆ ไปเถอะน่า ฉันถูกใจนายว่ะ ไว้ว่าง ๆ จะแวะไปเล่นกับนายที่ปั๊มบ่อย ๆ นะกลับไปได้แล้วไป" ให้เงินเสร็จก็ถีบหัวส่งเลยเชียว ...ไอ้เด็กเวร

   “ครับ" ผมตอบรับด้วยความยินดี แม้จะรู้สึกผิดนิด ๆ เหมือนกับตัวเองหลอกเอาเงินเด็กแต่ก็ช่างประไร ผมไม่ได้ไปปล้นมาและไอ้เด็กนั่นก็เต็มใจจะจ่าย ผมก็ยินดีที่จะสนองรับมาเต็ม ๆ เหมือนกัน

   ผมเดินออกจากซอยด้วยความยินดี... ยินดีที่ได้เงินตั้งหลายพัน โดยไม่ได้สนใจเสียงที่ตะโกนให้หลังของไอ้เด็กแสบเลยว่า

   “พรุ่งนี้เลิกเรียนจะรีบไปหานะพี่ชาย"






   วันต่อมา... หลังจากที่ได้เงินจากไอ้เด็กแสบมาทั้งหมดเป็นจำนวน 5 พันบาทถ้วน ผมก็นำเงินส่วนหนึ่งไปฝากไว้ที่ธนาคารภายในห้างที่กใกล้ที่สุดหลังเลิกเรียน ทำให้เย็นวันนั้นผมต้องเข้างานช้ากว่าปกติแต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเปรียบ ผมได้ไปคุยกับผู้จัดการเรียบร้อยแล้วว่าจะขอเลิกงานช้ากว่าปกติตามเวลาที่มาเข้างานสายเช่นกัน

   ไม่รู้ทำไม... ในระหว่างที่ทำงานอยู่ พอเห็นรถเบนซ์สีดำวิ่งเข้ามาในปั๊มทีไร ผมจะรีบไปเสนอหน้าเติมน้ำมันให้กับรถคันนั้นเสมอ ๆ หรืออาจเป็นเพราะใบหน้ายียวนกวนบาทาของไอ้เด็กแสบมันลอยเข้ามาในหัวสมองผมอยู่บ่อย ๆ ก็ไม่รู้

   “เฮ้ย! ไอ้ข้าว เมื่อวานมึงขึ้นรถแท็กซี่ไปกับลูกคุณหนูเป็นไงบ้างวะ" พี่ปั๊ม... พี่ชายใจดีวัย 20ที่ดูแลและสอนผมเติมน้ำมันเอ่ยถามในระหว่างที่ปั๊มน้ำมันกำลังว่าง รถที่แล่นเข้ามาก็ไปจอดเข้าห้องสุขาหรือไม่ก็แวะร้านสะดวกซื้อกันหมด

   “ก็! เด็กโคตรกวนเลยว่ะครับพี่" ผมตอบออกไป "เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอเด็กกวนประสาทก็คราวนี้นี่แหละ"

   “เออ คุณนายที่อยู่ที่ปั๊มพอเห็นลูกชายลูกชายขึ้นแท็กซี่ปุ๊บ แกก็เป็นลมหมดสติปั๊บเลย" พี่ปั๊มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดตลก หากแต่ผมไม่ได้รู้สึกขำด้วยแต่รู้สึกเป็นห่วงคุณนายคนนั้นมากกว่า

   “อ้าว... เขาเป็นไรอ่ะพี่"

   “ก็ตกใจน่ะสิ กว่าจะฟื้นขึ้นมาก็ล่อไปหลายนาที คนขับรถก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยจะทำอะไรก็ติด ๆ ขัด ๆ ไม่กล้าทำไรสักอย่าง ขนาดจะไปหยิบยาดมในรถยังหยิบมาแล้วทำหล่นจากมือตั้งหลายที" พี่ปั๊มตอบออกมา

   “มีลูกกวนบาทาแบบนี้น่าสงสารคุณนายเนอะ" ผมส่ายศีรษะ ยิ่งพอคิดถึงใบหน้าของไอ้เด็กแสบก็ยิ่งต้องส่ายศีรษะแรง ๆ พร้อมกับถอนหายใจออกมา

   “นั่นดิ... แล้วมึงอ่ะ ตามไอ้เด็กนั่นไปถึงไหน แล้วพามันไปส่งบ้านถูกป่ะ"
 
   “ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เห็นบอกอยากไปอลาสก้าอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ แต่สุดท้ายก็จ๋อยกลับมาเพราะไม่มีเอ่อ...” ผมชะงักเพราะจำไม่ได้ว่าที่ไอ้เด็กแสบพูดเมื่อวานมันคืออะไร "ไม่มีอะไรปอร์ต ๆ สักอย่างเนี่ยแหละ สุดท้ายก็เลยต้องซมซานกลับบ้าน"

   “แล้วไอ้อลาสก้ามันคือที่ไหนวะ" พี่ปั๊มถามคิ้วขมวดมุ่น นั่นทำให้ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเพราะไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่สงสัยว่าที่นั่นมันคือที่ไหน แต่พี่ปั๊มเองก็ไม่รู้จักเหมือนกัน

   “เห็นบอกเป็นดินแดนที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี ผมก็จำไม่ค่อยได้หรอกพี่ เด็กมันก็เงี้ยเพ้อฝันเป็นบ้า" ผมตอบอย่างรำคาญ

   “เฮ้ย... อย่าไปว่าเด็กนะโว๊ย ก็เพราะมันเพ้อฝันแบบนี้นี่แหละ เลยทำให้ผู้ใหญ่หลงรักในความเพ้อฝันไร้เดียงสาแบบเด็ก ๆ เอาง่าย ๆ" พี่ปั๊มเอ่ยขึ้น

   “อะไรพี่ ผมจะไปหลงรักมันได้ยังไง ผู้ชายเหมือนกันนะโว๊ยครับ" ผมตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะนึกไปว่าที่พี่ปั๊มพูดออกมาแบบนั้นจะหมายถึงว่าผมไปหลงรักไอ้เด็กแสบนั่น

   “ก็ไม่ได้หมายถึงไอ้เด็กนั่น แต่กูหมายถึงเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ" พี่ปั๊มตอบออกมาก่อนที่จะส่งเสียงหัวเราะเสียงดังลั่นพร้อมกับตบเข่าชอบใจ "บ๊ะ! มึงนี่ก็คิดได้เนอะ กูจะหมายถึงมึงกับไอ้เด็กนั่นทำไมวะ"

   “เออครับ!!!" ผมตอบพลางเบือนหน้าหนี

   “เอ๊ะหรือว่า...” พี่ปั๊มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแบบมีเลศนัย แถมยังลากเสียงยาวอีกด้วย "มึงจะหลงรักมันจริง ๆ วะ ฮ่า ๆ ๆ"

   “บ้าน่ะพี่" ผมปฏิเสธทันควัน "ผมจะไปหลงรักมันได้ยังไงเล่า โอย... ตัวกะเปี๊ยกเดียวแถมเป็นผู้ชายเหมือนกันอีกต่างหาก"

   “เหรอ" พี่ปั๊มเอ่ย "แล้วทำไมมึงต้องหน้าแดงด้วยวะ"

   “ฮะ!! ผมเนี่ยนะหน้าแดง" พูดจบผมก็ยกมือขึ้นมาลูบใบหน้า มิน่าล่ะตอนที่โดนพี่ปั๊มแซวผมถึงรู้สึกถึงความร้อนวูบวาบบางอย่างบนใบหน้า

   “ไอ้นี่หนิยังไงของมันวะ... นั่นไง... เด็กมึงมาแล้ว ไปทำงานไป" พูดจบ พี่ปั๊มก็ชะเง้อหน้าไปทางรถหน้าปั๊มน้ำมัน ซึ่งมีรถเบนซ์สีดำคันหรูคันเดียวกับที่สร้างปัญหาเมื่อวานกำลังแล่นเข้ามาในปั๊ม

   หากแต่รถคันนั้น... ไม่ได้เลี้ยวเข้ามายังช่องเติมน้ำมัน คนขับรถขับเลยผ่านไปยังจุดจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ

   ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก... เพราะคิดว่าจะได้ไม่ต้องเจอกับคนขับรถของไอ้เด็กแสบ ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังอยากต้อนรับและอยากเจอมันอยู่แท้ ๆ แต่พอโดนพี่ปั๊มแซวเท่านั้นแหละ ผมเลยไม่อยากเจอมันอีกเลย

   แต่สงสัยผมจะคิดง่ายเกินไป เพราะการที่คนขับรถของบ้านนั้นขับไปจอดหน้าร้านสะดวกซื้อนั้นไม่ได้แปลว่าผมจะไม่ได้เจอกับไอ้เด็กแสบ เพียงแต่น้ำมันของรถคันนั้นยังไม่ใกล้หมด และที่สำคัญเสียงที่ดังขึ้นด้านหลังก็เป็นเหมือนเสียงสัญญาณอันตรายที่ทำให้ผมแทบอยากจะวิ่งหนีจากที่นี่ไปให้ไกลที่สุดแต่ผมก็ทำไม่ได้

   “พี่ชาย...  พี่ชาย!!! ฉันมาแล้ว...” ไอ้เด็กแสบมันตะโกนเสียงดังตลอดทางอย่างไม่อายฟ้าอายดินและมนุษย์มนาหน้าไหน แต่ผมนี่สิ... อายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี

   “เฮ้ย... งานเข้าแล้วไอ้ข้าว ดูท่าไอ้เด็กนั่นจะติดมึงแล้วว่ะ ฮ่า ๆ ๆ" พี่ปั๊มเอ่ยแซวก่อนที่มันจะวิ่งมาถึง... ผมพยายามไม่หันไปมองสบตากับไอ้เด็กแสบแถมยังยืนหันหลังให้มัน ในใจก็ภาวนาให้มันไปพ้น ๆ หรือละแวกนี้มี ...พี่ชาย... คนอื่นที่ไม่ใช่ผม

   แต่สงสัยพระเจ้าจะกำลังจำศีลเลยไม่ได้ยินคำภาวนาของผม ท้ายที่สุดไอ้เด็กแสบนั่นก็วิ่งมาชกบั้นท้ายผมแรง ๆ พร้อมกับตะโกนใส่ผมว่า

   “จะหลบหน้าผมทำไมฮะพี่ชาย!!!” สิ้นเสียงของไอ้เด็กแสบ เสียงหัวเราะของพนักงานคนอื่น ๆ ก็ดังขึ้นจนผมแทบอยากจะเอาหน้าไปซุกในปี๊บเพราะทนความอับอายไม่ไหว เรียกว่าพี่ชายแล้ววิ่งมาหาว่าอายแล้ว แต่ดันมาชกบั้นท้ายผมต่อหน้าคนอื่นนี่สิมันน่าอายยิ่งกว่า

   ผมได้แต่ก่นด่ามันในใจว่า ...ไอ้เด็กนรก... ก่อนที่จะหันไปเผชิญหน้ากับมันตรง ๆ





จบตอนครับ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่1] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-09-2013 23:21:32
คุยกับนักอ่านที่น่ารักครับผม ^^

คุณ Gongy B.Du  :: ^^ ขอบคุณครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ 555 แสบมาก แต่เดี๋ยวผ่านวัยนี้ใหม่จะน่ารักกว่านี้แล้วครับ คิคิ
คุณ Lily teddy  :: ง่า ไม่รับปากนะครับว่าจะจบแบบไหน ดูสถานการณ์กลางๆค่อนปลายเรื่องก่อนครับ คิคิ
คุณ fannan  :: ขอบคุณครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ ^^
คุณ nunnan  :: T^T เด็กแสบมันปากร้ายครับ ฮือๆๆ
คุณ iamnan  :: เดี๋ยวจะขัดเกลาให้เป็นคุณชายผู้เพรียบพร้อมในภายหลังครับ คิคิคิ
คุณ mentholss  :: อิอิ ถ้าไม่มารอมีงอน :P แบร่
คุณ minerva00  :: ขอบคุณครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ ^^
คุณ sang som  :: 555 เอางั้นเลยหรอครับ น่าสนๆ อิอิ
คุณ Xipnoz  :: ตอนใหม่มาเสิร์ฟแล้วครับ ฝากด้วยนะครับ ^^
คุณ dahlia  :: ขอบคุณครับ ฮ่าๆๆ ลิ้นกับฟันทะเลาะกันให้พอกรุ้มกริ่มครับ คิคิ
คุณ Palmpalm  ::  555+++ จริงๆ เป็นความฝันคนเขียนเองแหละครับ ฮือๆๆ T^T
คุณ มยอนฮวา  :: ขอบคุณคร้าบ มาจิ้มแล้วต้องตามเรื่องนี้ด้วยนะ แหะๆๆ ฝากทั้งสองเรื่องเลย ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 05-09-2013 23:47:48
ติดตามๆๆค่า :katai2-1:
ชอบแนวดอกฟ้ากะคนเดินดิน ประมานนนี้ :hao7:
มาต่อไวๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 05-09-2013 23:49:04
คุณชายติดข้าวแจเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-09-2013 00:13:00
คุณชายน่ารักอะ ต่อไปท่าทาง ข้าว คงมีเรื่องให้ปวดหัวน่าดู 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-09-2013 00:31:48
 o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 06-09-2013 01:22:08
เป็นเด็กที่แสบสันต์ดีจริงๆ
สงสารก็แต่พี่ข้าว ไม่รู้ว่าหลังจากโดนชกแล้วจะโดนอะไรอีก :really2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 06-09-2013 07:24:02
กินเด็ก เนื้อหวาน กรอบกรุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 06-09-2013 15:31:05
ง่ะ  :o ย้อนกลับไปอ่านบทนำ สะดุดกะประโยคที่บอกว่า"ใครหลาย ๆ คนไม่คิดว่าครั้งหนึ่งเราจะสามารถคบกันได้ "
แสดงว่าครั้งหนึ่งเคยคบแต่ตอนนี้ไม่ได้คบแล้วอะจิ รอลุ้นกะตอนจบแบบแฮ๊ปปี้ต่อไปละกันค่ะ
คุณชายเป๊กนี่น่ารักดีจังถึงจะดูเป็นเด็กที่กวนประสาทแต่ก็จริงใจดีนะ เรียกข้าวว่าพี่ชายดูน่ารักอะ
ตัวแค่นี้ก็พยามจะตามความฝันละ ถึงมันก็เป็นฝันที่ดูไกลไปนิด สำหรับเด็กตัวแค่นี้
แล้วคุณชายเป๊กนี่อายุเท่าไหร่ล่ะคะ จะได้จินตนาการถูก
ส่วนข้าวก็มีฝันที่ชัดเจนดีจัง ไอ่ฝันว่าต้องรวยเนี่ย ก็เป็นฝันแบบเดียวกะคนอ่านเลยค่ะ 555
แล้วจะเป็นยังไงต่อน๊าในเมื่อข้าวเริ่มไม่กล้าเจอหน้าคุณชายซะแล้ว แค่โดนแซวนิดเดียวเองนะ
น่าสงสารคุณชายอุตสาห์มาหาพี่ชายแต่ถูกพี่ชายหลบหน้าซะงั้น
อย่างงี้หลังจากโดนชกบั่นท้ายไปแล้วข้าวจะแก้ตัวว่าไงล่ะเนี่ย รอติดตามจ้า  :pig4:  :L2:

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 06-09-2013 15:43:57
ง่ะ ตัดฉับแบบค้างคา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 06-09-2013 16:09:51
มาเจิมทีเดียวครับ

อยากเป็นอมตะต้องงาบเด็กใช่ไหมครับ

อิอิ

งาบพี่ชายคนแต่งดีกว่า 55555 จ๊วฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 06-09-2013 16:33:47
กลัวโดน  :oo1: :oo1: หรอออ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 06-09-2013 17:01:20
คุณชายโตขึ้นเป็นรุกป่าวนี่ มีแววๆฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 06-09-2013 18:11:22
ตอนที่3 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: หน้าที่พี่เลี้ยง :::







         เมื่อสายตาสองคู่ปะทะกันอย่างดุเดือด ก็เหมือนกับมีประกายไฟฟ้าแลบออกมาเป็นเส้นตรงระหว่างดวงตากลมโตน่ารักน่าชังของไอ้เด็กแสบ กับดวงตาเรียวของผม

   ไอ้เด็กแสบทำหน้าบึ้งขมวดคิ้วสงสัยไม่พอใจที่ผมทำเป็นไม่สนใจและแกล้งหันหลังให้มัน ส่วนผมเองก็หน้าบึ้งไม่ต่างกันเพราะไม่พอใจที่มันบังอาจมาทำมิดีมิร้ายกับบั้นท้ายของผม

   “ไอ้พี่ชาย!!!” มันเป็นคนแหกปากออกมาก่อน "ขอโทษผมเดี๋ยวนี้"

   เสียงของมันดังก้องราวกับประกาศิตของผู้มีอำนาจเหนือหัว... แต่เด็กตัวกะเปี๊ยกอย่างมันจะมาสั่งอะไรผมได้ ทำไมผมต้องทำตามมัน ถ้าไม่มีเงินมาล่อตรงหน้าผมก็ไม่มีทางยอมมันหรอก

   “ทำไมพี่ต้องขอโทษด้วย" ผมเอ่ยขึ้น พยายามควบคุมโทนเสียงให้ฟังดูสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้

   “บอกให้ขอโทษก็ขอโทษเถอะน่า" มันพูดยียวนมิหนำซ้ำยังยักคิ้วให้ผมหนึ่งที เหมือนว่ามันจะรู้ใจว่าผมกำลังคิดอะไรเพราะมันตบกระเป๋ากางเกงตัวเองเบา ๆ สามที

   เห็นดังนั้นผมก็แสยะยิ้มออกมาพลางคิดในใจว่าจะได้เงินไปใช้ฟรี ๆ อีกแล้วสิ ผมจึงรีบทำตามที่ไอ้เด็กแสบต้องการทันที

   “ขอโทษครับคุณชาย"

   สิ้นเสียง... มันก็แสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินมาลากแขนผมแล้วพูดว่า

   “ตามฉันมานี่"

   ผมชะงักทำตัวแข็ง ...เงินล่ะอยู่ไหน... แล้วทำไมผมจะต้องเดินตามไอ้เด็กแสบมันไปด้วย เมื่อผมยืนนิ่งมันก็หันมาจ้องหน้าตาเขม็งอีกครั้ง ผมจึงบอกกับมันไปว่า "พี่ต้องทำงานครับ"

   “แป๊บเดียวเองน่า นะนะ" มันเอ่ย น้ำเสียงของมันฟังดูออดอ้อนขึ้นเล็กน้อย

   “เดี๋ยวผมมานะพี่ปั๊ม" เมื่อสุดจะทนผมก็เลยต้องหันไปบอกกับพี่ปั๊ม

   “เออ...” พี่ปั๊มตอบกลับมาเพียงเท่านั้น ผมจึงรีบเดินตามไอ้เด็กแสบไปทันที

   คุณชายเป๊กตัวกะเปี๊ยกเดินนำไปยังหน้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่คนขับรถของมันจอดรถเบนซ์คันหรูเอาไว้

   ทันทีที่เดินไปถึง ไอ้เด็กแสบก็ชะโงกหน้าส่องกระจกตรงเบาะหลัง หลังจากนั้นหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวราวกับจะไปออกงานราตรีมีเครื่องประดับเพชรนิลจินดาประดับอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายก็ก้าวขาลงมาจากรถด้วยความสง่า

   ผมมองดูรองเท้าส้นสูงของเธอที่สูงเสียดฟ้าน่าจะ 5 นิ้วได้ล่ะมั้งแล้วก็อดกลัวไม่ได้ว่าเธอจะสะดุดล้มหรือเปล่า

   “แม่... คนนี้แหละครับ" ไอ้เด็กแสบพูดพลางชี้หน้ามาทางผม คุณนายคนสวยหันมาจ้องหน้าผม... สายตาของคนรวยมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน น่ากลัวจนผมไม่กล้าสบมองกลับจนกระทั่งเธอเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา ผมถึงกล้ามองเธอตอบ

   “นายคือคนที่ช่วยพาชายเป๊กกลับมาที่วังเมื่อวานใช่ไหม" น้ำเสียงของเธออ่อนหวานไร้พิษภัยใด ๆ แฝง

   “วัง?” ผมทวนด้วยความงุนงง ถ้าไอ้บ้านคฤหาสถ์หลังมหึมาที่ไปกับไอ้เด็กแสบมาเมื่อคืนเรียกว่าวังก็คงจะไม่ผิด

   “ก็บ้านฉันไง เมื่อคืนอ่ะเมื่อคืน" ไอ้เด็กแสบช่วยไขข้อสงสัย

   “อ๋อ... ถ้าอย่างนั้นก็ใช่ครับ" ผมหันไปตอบกับคุณนายไฮโซสุดสวย

   “ถ้าอย่างนั้นฉันมีรางวัลจะให้" หญิงวัยกลางคนสุดแสนไฮโซตอบออกมาก่อนจะเหล่สายตาไปมองกับลูกชายอย่างมีเลศนัย

   “ไม่เป็นไรครับ" ผมแสร้งตอบออกไปตามแบบฉบับของคนดีเพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้าคนรวย ๆ จะให้รางวัลต่อให้ปฏิเสธอย่างไรก็ต้องให้อยู่ดี แต่ขอปฏิเสธพอเป็นพิธีสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าอยากได้ตังค์จนออกนอกนะ

   “นายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ" คนที่พูดไม่ใช่หญิงไฮไซ หากแต่เป็นไอ้เด็กแสบที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผม ผมหันไปมองหน้ามันด้วยความงุนงงพลางสายตาไปด่ามันประมาณว่า ...มึงจะเสือกทำไมไอ้เด็กเวร

   “อย่าปฏิเสธน้าเลย... พอดีชายเป๊กอยากเป็นเพื่อนกับนายน่ะ น้าเลยอยากให้นายช่วยเป็นพี่เลี้ยงของชายเป๊กให้หน่อย แต่นายไม่ต้องเป็นห่วง น้ามีค่าตอบแทนให้นายอย่างสูงจนนายสามารถเลี้ยงคนในครอบครัวได้สบาย ๆ เลยล่ะ" สิ้นเสียงของหญิงวัยกลางคนผมก็ตาเบิกโพลงทันที ถ้าให้ผมไปเป็นพี่เลี้ยงไอ้เด็กแสบนั่นผมยอมไปเป็นขอทานข้างถนนยังจะสบายใจเสียกว่า ...เด็กอะไรร้ายกาจปากเสียชะมัด

   “แต่ผมเพิ่งมาทำงานที่นี่ และผมก็ยังอยากทำงานที่นี่ต่อครับ" ผมตอบออกไป

   “ไม่เป็นไร น้าไม่ได้จ้างเธอทุกวัน พอดีเมื่อคืนน้าโทรมาคุยกับผู้จัดการของเธอแล้ว และเขาก็อนุญาติให้น้าว่าจ้างนายได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เพราะฉะนั้นทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์นายจะต้องไปดูแลชายเป๊ก...” ยังไม่ทันที่หญิงวัยกลางคนจะพูดจบ ไอ้เด็กแสบมันก็พูดต่อ

   “...ที่วังสุริยะวิทู โดยนายต้องหาวิธีเดินทางไปเองส่วนขากลับฉันจะให้คนขับรถมาส่งเข้าใจไหม และนายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธได้เพราะถ้านายปฏิเสธ" ไอ้เด็กแสบชะงักชั่วครู่ก่อนที่จะมากระซิบที่ข้างหู "นายจะต้องตกงานแน่ ๆ เพราะฉันจะทำทุกวิถีทางให้นายออกจากการเป็นเด็กปั๊ม"

   สิ้นเสียงของมัน ผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะไม่คิดว่าพวกคนรวยที่ชอบใช้เงินฟาดหัวคนอื่นเพื่อให้ทำในสิ่งที่ตนเองต้องการมันจะมีอยู่ในชีวิตจริง ปกติเคยเห็นอยู่ในละครก็ว่าโอเวอร์แอ็คติ้งแล้ว แต่ให้ตายเถอะไอ้คุณชายเป๊กเด็กแสบมันยิ่งกว่าในละครทีวีเยอะ

   “ครับ" ท้ายที่สุด ผมก็ต้องก้มหน้าตอบตกลงด้วยความจำใจ





   ผมเดินคอตกกลับไปทำงานหลังจากที่พูดคุยธุระกับคุณนายไฮโซกับไอ้เด็กแสบเสร็จ

   “เฮ้ย!! เป็นไรวะไอ้ข้าว จ๋อยเชียวนะมึง" พี่ปั๊มเอ่ยถาม

   “งานเข้าแล้วดิพี่" ผมตอบออกไป

   “ทำไมวะ"

   “ก็ไอ้เด็กเวรตะไลนั่นน่ะดิ มันไปบังคับให้แม่ของมันจ้างผมไปเป็นพี่เลี้ยง ผมก็เลยต้องไปบ้าน... เอ่อวังของมันทุกวันเสาร์และอาทิตย์"

   สิ้นเสียงของผม พี่ปั๊มก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น มันดังจนเด็กปั๊มทุกคนต้องหันมาให้ความสนใจ

   “มึงนี่โชคดีจริง ๆ กูจะมีน้องที่มีวาสนาก็คราวนี้แหละโว๊ย รวยแล้วอย่าลืมพี่นะไอ้น้องรัก" พี่ปั๊มเอ่ยขึ้นแถมยังเรียกแทนตัวเองว่า 'พี่' ทั้ง ๆ ที่ปกติจะใช้คำว่า 'กู' ไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไร

   “วาสนา? โชคดี? ตรงไหนล่ะพี่ โชคร้ายน่ะสิไม่ว่า" ผมเถียง

   “อ้าว! น้องรักไม่รู้อะไร ก็คุณชายเด็กแสบนั่นน่ะเป็นทายาทของหม่อมราชวงษ์กริชกร สุรยะวิทูเชียวนะ ถึงแม่ของเด็กนั่นจะไม่มียศถาบรรดาศักดิ์อะไร แต่ด้วยเกียรติของฝ่ายพ่อเด็กนั่นจึงเป็นหม่อมหลวงไงล่ะ" พี่ปั๊มตอบออกมาอย่างรู้ดี ซึ่งผมเองก็ได้แต่ทำหน้างุนงงเพราะไม่รู้เรื่องลำดับขั้นอะไรพวกนี้หรอก
   “แล้วพี่ปั๊มรู้ได้ไง" ผมเอ่ยถามพลางเหล่ตาไปมองอย่างมีเลศนัย

   “แหม... ก็ปั๊มเราอยู่ใกล้วังซะขนาดนี้กูก็ต้องไปศึกษาหาความรู้หน่อยดิโว๊ย เผื่อกูได้ภรรยาเป็นหม่อมเจ้าหม่อมหลวงกับเขาบ้าง" พี่ปั๊มตอบออกมา หน้าตาของเขาในยามนี้มันไม่ต่างอะไรกับลูกหมาที่กำลังเพ้อฝันในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยสักนิด

   “เออ ๆ ขอให้พี่สมหวังนะครับ" ผมพูดไปทั้งอย่างนั้นพลางเอื้อมมือไปหยิบถั่วลิสงในถุงที่แขวนอยู่ตรงเสาข้าง ๆ มากินแก้เซ็งก่อนจะวกกลับมาเข้าเรื่องไอ้เด็กแสบต่อ "แล้วมันโชคดีตรงไหนวะพี่ที่ผมต้องไปเป็นพี่เลี้ยงไอ้เด็กนั่น ผมว่าโชคร้ายมากกว่าสิไม่ว่า"

   “เอ้า! ไอ้เด็กนั่นติดมึง มึงก็ใช้โอกาสนี้หลอกล่อมันสิวะ หลอกให้มันรัก ให้มันหลง แล้วสุดท้ายก็หลอกเอาเงินมันมาใช้เยอะ ๆ ดีออก ฮ่า ๆ ๆ" พี่ปั๊มพูดไปขำไป

   “เออ... เข้าท่าดีว่ะพี่" ผมพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วยแต่ทว่า

   “ไอ้เชี่ย!” พี่ปั๊มพูดพร้อมกับฟาดฝ่ามือมากลางกบาลของผมอย่างแรง "กูล้อมึงเล่นนะโว๊ย... ที่บอกว่าโชคดีกูก็แค่หมายถึงมีเพื่อนเป็นคนรวย ยังไง ๆ ชีวิตก็ไม่อดตาย ไม่ได้คิดจะให้มึงไปหลอกมันอย่างที่พูดสักหน่อย"

   “เอ้า!!! ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ก็หน้าตาพี่มันทำให้ชวนคิดว่าพูดเรื่องจริงนี่หว่า" ผมเถียงพลางลูบศีรษะ พอพี่ปั๊มหันมามองด้วยสายตาน่าสยดสยอง ผมก็รีบยกแขนขึ้นมากันเอาไว้จนท้ายที่สุดก็มีรถวิ่งเข้ามาจอดเติมนำ้มันในช่องที่ผมกับพี่ปั๊มรับผิดชอบอยู่ ผมก็เลยรีบวิ่งไปทำงานด้วยความคล่องแคล่วพลางนึกขอบคุณคนขับรถในใจที่มาช่วยให้ผมรอดพ้นจากฝ่ามือพี่ปั๊มได้ทัน...




   เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันเสาร์... วันนั้นเป็นวันแรกที่ผมต้องไปเป็นพี่เลี้ยงไอ้คุณเด็กแสบที่... ผมยังจำวีรกรรมต่าง ๆ ที่มันก่อกวนผมจนผมแทบจะร้องไห้หนีกลับบ้านได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยเลือดใจสู้ของเด็กบ้านนอกที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ผมจึงไม่ยอมแพ้มันแล้วร้องไห้วิ่งหนีกลับบ้านง่าย ๆ หรอก

   คิดแล้วก็ตลกดี... ใครจะไปคิดล่ะว่าเด็กแสบตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารักในวันนั้นจะกลายมาเป็นเด็กหล่อที่ดูแลผมอย่างดีทุกประการในวันนี้ได้...

   ในวันนั้น... ผมตื่นแต่เช้าและรีบยืมจักรยานของคนบ้านข้างปั่นไปบ้านไอ้เด็กแสบตั้งแต่เช้ามืด ไม่รู้ว่ามันจะนัดอะไรเช้านักหน้าบอกให้ผมไปหามันให้ทันเวลา 7 โมงเช้า

   กว่าที่ผมจะตื่นก็ 6 โมง 20 นาทีแล้ว ผมจึงใช้เวลาอาบน้ำแค่ 10 นาทีแต่งตัวและทำธุระต่าง ๆ อีก 5 นาทีแล้วออกจากบ้านทันที กว่าจะไปถึงวังสุริยะวิทูของไอ้เด็กแสบ ก็เป็นเวลา 6 โมง 55 นาทีพอดีเป๊ะ ถือว่าผมมาทันนะ แต่ทว่าหลังจากที่กดออดหน้าบ้านปุ๊บ...

   ร่างของไอ้เด็กแสบที่ยืนรออยู่หน้าประตูก็ถมึงทึง มันทำเป็นพลิกแขนของตัวเองขึ้นมาดูเวลาแล้วบ่นว่า

   “ 7 โมง5นาที นายมาสายไป 5นาที" มันทำเสียงขรึมเกินวัย นี่มาทำงานวันแรกก็จะโขกสับกันให้ตายเลยหรือไงเนี่ย

   “เฮ้ย!!! ก็นาฬิกาพี่มันเพิ่ง6โมง 55นาที" ผมเถียงพลางยืนนาฬิกาให้มันดู

   “ก็ของฉันมัน7โมง5นาที" มันเถียง

   “เออครับ" เมื่อเห็นว่าเถียงไปก็เปล่าประโยชน์ ผมก็เลยยอมอ่อนข้อรับผิดกับมันอย่างว่าง่าย...

   “ดี ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครผิดใครถูก" มันพูด ...ยังมีหน้ามาพูดดีอีกนะ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เถียงอะไรออกไป มันก็รีบพาผมเดินเข้าไปในบ้าน... เอ่อจะบ้าน วัง คฤหาสถ์อะไรก็แล้วแต่ผมจะขอเรียกมันว่าบ้านละกัน ชินปากดี

   ภายในบ้านหลังนี้มีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่หรูหรา ของใช้ต่าง ๆ ก็ดูมีค่ามีราคาจนผมไม่กล้าแตะทั้งสิ้น ผมต้องเดินเขย่ง ๆ เท้าไปตามทางเพราะกว่าว่าเท้าเปื้อน ๆ ของคนจนอย่างตนเองจะทำให้บ้านหลังนี้หมอง

   “นายทำอะไรของนาย" จนกระทั่งในที่สุดไอ้เด็กแสบก็หันมาถาม "เดินอย่างกับขโมยที่่คิดจะมาปล้นบ้านงั้นแหละ เดินดี ๆ ก็ได้"

   “ก็แหม...” ผมกะจะเถียง แต่พวกคนรวยคงไม่มีวันเข้าใจเหตุผลของผมหรอกสุดท้ายผมก็เลยก้มหน้าเดินตามดี ๆ แล้วตอบออกไปว่า "คร้าบ... คุณชาย"

   มันไม่หันมาตอบผม... แต่ทว่าโสตประสาทอันดีเยี่ยมของผมทำให้ได้ยินเสียงหัวเราะของมันเบา ๆ เหมือนกำลังชอบใจที่ผมเป็นแบบนี้

   ไอ้เด็กแสบพาผมเดินขึ้นไปบนชั้นสองของตัวบ้าน ซึ่งตัวบ้านก็ใหญ่เหลือเกินขนาดชั้นสองมอง ๆ ดูแบบผ่าน ๆ คงจะมีมากกว่า 10 ห้องได้ล่ะมั้ง แล้วในที่สุดมันก็พาผมเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง

   “ห้องนอนฉันเอง" มันหันมายักคิ้วให้ ...เป็นเด็กเป็นเล็กนี่กล้าพาคนแปลกหน้าขึ้นมาบนห้องนอน หึ! เดี๋ยวเผลอเมื่อไหร่พ่อจะสอนให้รู้สำนึกว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก

   “ครับ" ผมตอบมันด้วยความสุภาพ จากนั้นมันก็เดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วค้นหาอะไรบางอย่างในนั้น ไม่นานมากนักมันก็หยิบเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีแดงอ่อน ๆ ตัดขาวกับกางยีนส์ขาเดฟสีดำออกมา ...แต่เอ๊ะ ชุดนั้นมันใหญ่กว่าตัวของมันแล้วมันจะใส่ได้ยังไงเล่า

   “ใส่ซะ" มันเอ่ยขึ้น ...อ่อที่แท้มันก็จะเอามาให้ผมใส่นั่นเอง แต่เอ๊ะ

   “ฮะ!!!” ผมร้องขึ้น "ให้ใครใส่"

   “นายนั่นแหละ ใส่ซะ" มันสั่ง

   “ทำไมผมต้องใส่" ผมหันไปเถียงกับมัน ...แหม ถึงผมจะใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นแต่ใช่ว่าผมจะตกทุกข์ได้ยากจนขนาดไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าหรู ๆ ใส่หรอกนะ ผมแค่ไม่ชอบต่างหาก ใส่แบบนั้นมันอึดอัดจะตายไปและที่สำคัญประหยัดไว้หน่อยก็น่าจะดี

   “ก็นายต้องไปเรียนพิเศษเป็นเพื่อนฉัน" มันตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยอย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรผิดกับผม

   “เรียนพิเศษ?” ผมทวนคำพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย "ไปทำไม... ฉันมาเป็นพี่เลี้ยงนาย ไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะไปเรียนพิเศษกับนาย"

   “ก็พี่เลี้ยงของฉัน ต้องตามฉันไปทุกที่ แม้กระทั่งจะเข้าห้องน้ำก็ต้องรออยู่หน้าห้องน้ำ" มันเอ่ยออกมาพลางหันมาจ้องตาผมเขม็ง "เข้าใจไหม"   
   ...แหนะไอ้เด็กเวร สั่งอย่างกับเป็นทาส เพราะไม่อยากมีเรื่องหรอกนะเลยจำใจต้องตอบออกไปว่า

   “เข้าใจครับ"

   สิ้นเสียงของผมมันก็แสยะยิ้มออกมา แล้วก็ยื่นชุดมาให้ผม ผมรับชุดนั้นมาและเปลี่ยนมันตรงนั้นนั่นแหละ ผู้ชายเหมือนกันผมไม่อายหรอก และดูท่าว่ามันก็ไม่อายแถมไม่เกรงใจผมด้วยถึงได้มองผมตั้งแต่ถอดเสื้อตั้งแต่วินาทีแรกจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายที่ดึงกางเกงยีนส์ขึ้นมาสวมใส่ ...ผมล่ะอยากจะด่ามันเหลือเกิน เป็นเด็กเป็นเล็กแต่ไหงถึงได้แก่แดดเพียงนี้

   หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ มันก็พาผมลงจากห้องนอนและเดินลงไปยังห้อง ๆ หนึ่งที่ชั้นล่าง ซึ่งห้องนั้นมีกระดานไวท์บอร์ดขนาดใหญ่และภายในห้องมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครันราวกับห้องเรียนในโรงเรียน แม้จะมีโต๊ะเก้าอี้เพียงไม่กี่ตัวแต่ขนาดห้องใหญ่กว่าห้องเรียนในโรงเรียนมากนัก

   รอบห้องเต็มไปด้วยเครื่องดนตรีและอุปกรณ์กีฬา ตรงมุมห้องจะมีกระดานไวท์บอร์ดตั้งอยู่และที่สำคัญนอกจากผมกับไอ้เด็กแสบแล้วตอนนี้ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนรออยู่บริเวณกระดานไวท์บอร์ด เธอเป็นสาวสวยตัวเล็กมีผมยาวแต่ดัดเป็นลอนแถมยังสวมแว่นตารวมกับเป็นอาจารย์ข้าราชการอย่างไรอย่างนั้น ชุดที่สวมใส่ก็เป็นชุดกระโปรงยาวจนถึงข้อเท้า ดูท่าจะเป็นคนหัวอ่อนและรักนวลสงวนตัวอยู่พอสมควร

   “นี่อาจารย์ใหม่ อาจารย์สอนพิเศษวิชาภาษาต่างประเทศฉันเอง" มันแนะนำผมให้รู้จักกับผู้หญิงคนนั้น

   “สวัสดีครับ" ผมทักทายด้วยความสุภาพ เธอแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยนกลับมาให้ผมก่อนจะยกมือสวัสดีตอบกลับเช่นกัน

   “นี่ไอ้ข้าว พี่เลี้ยงผมครับอาจารย์" มันแนะนำผมให้อาจารย์ใหม่ได้รู้จักบ้าง

   ผมหันไปจ้องมันเข็มง แนะนำอยู่โต้ง ๆ ว่าเป็น 'พี่เลี้ยง' แต่ไหงไม่เรียกพี่สักคำแถมยังเรียกผมว่า 'ไอ้ข้าว' อีกต่างหาก ...ไอ้เด็กเวรตะไลเอ๊ย

   “ทำไมไม่เรียกว่าพี่ข้าวล่ะคะคุณชาย เรียกไอ้ข้าวมันไม่สุภาพเลยนะ" อาจารย์ใหม่กล่าวแนะนำ ผมได้แต่ลอบยิ้มอย่างถูกใจ แต่ทว่า...

   “ยุ่งน่าอาจารย์ เรื่องของผม อาจารย์มีหน้าที่สอนก็สอนไปเถอะ อย่าถามมาก" ไอ้เด็กแสบตอบออกมา หน้าตาของมันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด

   “ค่ะ ๆ" อาจารย์สาวสวยขานรับอย่างเกรงกลัว ก็คงไม่แปลกหรอก ดูท่าออกจะสุภาพขนาดนั้นเจอฤทธิ์ของไอ้เด็กแสบเข้าไปแบบนี้เป็นใครก็ไม่ค่อยอยากยุ่งทั้งนั้น ขนาดผมก็ยังไม่อยากยุ่งเลยแต่ที่ต้องยุ่งก็เพราะมันจำเป็น



จบตอน ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่2] - 05/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 06-09-2013 18:16:14
คุยกับคนอ่านคร้าบบ ^^  :katai5:


คุณ toye :: ^^ อิอิ ขอบคุณครับ ฝากด้วยนะครับ
คุณ iamnan :: ติดมากด้วยครับ ^^ ฮ่าๆๆ ถึงขนาดบังคับแม่ให้ไปจ้างเป็นพี่เลี้ยงเลย
คุณ dahlia :: T^T 555 ปวดหัวสุดๆเลยแน่ๆครับ
คุณ cavalli ::  :-[
คุณ u_cosmos :: 555 โดนเยอะแน่ๆงับ
คุณ kasarus :: T^T อยากกินมั่ง ฮ่าๆๆ เราก็ได้แต่เขียนไปฝันไป ฮือๆๆๆ
คุณ Lily teddy :: *0*  ช่างสังเกตจริงๆครับ มิบอกหรอก คิคิ ปล.ฝันกะคนผมครับ กรั๊กๆ แต่รวยแบบพออยู่พอกินก็ดีใจแล้วครับ แหะๆ ส่วนเรื่องอายุ ข้าว 16 คุณชายอ่อนกว่า 3 ปีกว่าครับ แต่เขียนช่วงตอนเด็กอยู่ไว้เดี๋ยวจะวาบมาให้เป็นหนุ่มแล้วครับ ^^
คุณ mentholss :: ง่า มาต่อให้แล้วน๊า ไม่ค้างแล้วคร้าบ (หรือจะค้างตอนใหม่น๊อ)
คุณ ice_spok :: งาบเด็ก หรือ​ โดนเด็กงาบ ก็ไม่รู้ 555
คุณ nunnan :: 555 อันนี้ต้องถามข้าวเอาเองเด้อ กร๊ากๆๆๆ
คุณ Sofa :: 555 ติดตามต่อไปครับ ว่าเป็นฝ่ายไหน คิคิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 06-09-2013 18:23:03
โอ้ววว มาไวแท้

แหม๋ๆๆๆคุณพี่ข้าวก้อ นู๋เป๊กแค่ชกบั้นท้ายทำเป็นโกรธ
หรือว่าอยากให้ทำอย่างอื่นกับบั้นท้ายแทนล่ะจ๊าาาา หุหุ

ว่าแต่จะให้มาเป็นพี่เลี้ยงหรือมาเป็นอะไรแน่ มายืนรอตั้งแต่
เช้าเนี้ย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pepperpro ที่ 06-09-2013 18:31:30
น่ารักดีครับ คุณชายดูแก่นซนดีจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 06-09-2013 18:32:52
ยังกดไม่ได้ (คงอีกสามชาติ) ให้เป็ดไปก่อนนะค้า
ว่าแต่ว่าผลโพลออกมาชนะ เลยอดเกรียนเลย //อ่าวหล่อน  555

คุณชายโคตรเอาแต่ใจ 555 ถูกเสมอ
ข้าวผิดตลอด ก๊ากก ชอบเด็กแสบ :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 06-09-2013 18:37:52
เหอะ ๆ ตกเป็นทาสซะแล้วววว

หึหึ

เด็กมันจะใช้กระบวนท่าพันล้านเล่มเกวียนแน่ ๆ เพื่อจะงาบพี่เลี้ยงงงง

คิคิ จ๊วฟฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 06-09-2013 18:41:52
แก่แดด แก่ลมจริงๆ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 06-09-2013 18:54:31
แง่มๆ ทำไมข้าวหงอจริง สู้ดิ จับกดซะเลย กวนดีนัก คุคุ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-09-2013 19:05:47
คิดยึดข้าวไว้กะตัวตั้งแต่เด็กเลยสินะ ร้ายจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 06-09-2013 19:12:53
คุณชายแสบและแก่แดดมาก ปวดหัวแทนข้าวเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Xipnoz ที่ 06-09-2013 20:20:00
ท่าทางข้าวคงโดนคุณชายงาบแน่นอน  :hao6: :hao7: ไม่รอด
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 07-09-2013 14:38:01
ง่า :o เจอประโยคเด็ดอีกแล้ว "ใครจะไปคิดล่ะว่าเด็กแสบตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารักในวันนั้น
จะกลายมาเป็นเด็กหล่อที่ดูแลผมอย่างดีทุกประการในวันนี้ได้ " ในเมื่อบอกว่า "ในวันนี้"
แสดงว่ายังมีหวังว่าจะแฮ๊ปปี้สินะคะ (:mew2: แบบคนอ่านอยากให้จบแบบแฮ๊ปปี้มากจนหมกหมุ่นอะคะ 555)
ตอนนี้คุณชายเป๊กถึงกะยืมมือคุณแม่มาช่วย จัดการบังคับข้าวไปเป็นพี่เลี้ยงในวังจนได้
แต่ดูแล้วข้าวจะเป็นพี่เลี้ยงที่สั่งสอนอะไรไอ่คุณชายเป๊กได้มั่งเนี่ย เพราะพอตบกระเป๋าตังค์ทีข้าวเล่นอ่อนให้ทุกที
อย่างงี้เด็กมันก็เคยตัวแย่ ขนาดกะครูบาอาจารย์คุณชายยังไม่มีสัมมาคารวะเลย แถมจากที่เรียกพี่ชาย ดูน่ารักน่าเอ็นดู
ไหง่กลายเป็นไอ้ข้าวไปได้ล่ะเนี่ย แล้วต่อไปข้าวจะต้องเจอความเอาแต่ใจของคุณชายเป๊กอีกเยอะไหมเนี่ย
กว่าจะได้วาบไปเป็นหนุ่ม แล้วไม่รู้ยิ่งโตจะยิ่งร้ายใส่ข้าวรึเปล่าอะดิ แบบพวกชอบรังแกคนที่ชอบอะไรแบบเนี่ย
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนจ้า  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-09-2013 15:58:40
ตกลงใครพี่เลี้ยงใคร ดูคุณชายจัดการข้าวซะอยู่หมัด
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-09-2013 16:37:01
คุณชาย ไม่ค่อยสำรวมเลย กริยาวาจา ไม่เหมาะ ต้องโดนสั่งสอนน่ะ.แบบนี

 :z10:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 07-09-2013 17:00:50
สับได้สับดีนะตาคุณชาย...
จะวาปไปตอนหนุ่มเมื่อไรน้า~ (อยากเห็นอิมเมจจัง)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 07-09-2013 19:54:26
ตกลงว่าใครได้กดใครกันล่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 07-09-2013 21:23:25
; พึ่งได้มาติดตามอ่าน สนุกดี... :hao3: :hao3:

คุณชายนี่ท่าทางจะร้ายไม่เบา  :oo1: :oo1:

+  :กอด1:  o13  :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 07-09-2013 21:50:06
เดินเรื่องรวดเร็วดี สนุกแบบสั้นๆ
อยากให้มายาวๆ จุใจหน่อยครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3] - 06/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-09-2013 01:48:03
Image ตัวละคร [[**หมายเหตุ*** จิ้มที่รูปเพื่อดูภาพที่ใหญ่ขึ้น]]

ไอ้ข้าว :: นาย ต้นข้าว วสุธา
คติประจำใจ :: การรับใช้คุณชายคือหน้าที่หลักที่ต้องตระหนักถึง แม้คุณชายจะผิดก็ต้องบอกว่าถูก แม้คุณชายจะร้ายก็ต้องชื่นชม
(http://i159.photobucket.com/albums/t128/kukzabb/Screenshot2013-09-10at32959AM_zps23e24561.png)


คุณชายเป๊ก :: การัณญภาสฌ์ สุริยะวิทู
คติประจำใจ :: การกลั่นแกล้งไอ้ข้าวคือหน้าที่สำคัญ แม้มันจะถูกก็ต้องบอกว่ามันผิด แม้มันจะดีก็ต้องใส่ร้ายมันทุกเมื่อ ฮ่าๆๆ
(http://i159.photobucket.com/albums/t128/kukzabb/Screenshot2013-09-06at14804AM_zps3a7da120.png)


**หมายเหตุ** ถ้าเอ่ยถึงตัวละครหลังเพิ่มจะมาเพิ่มเติมนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3/เพิ่มเติม image ข้าว/คุณชาย] - 08/09/56 B
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 08-09-2013 11:22:47
อิมเมจตอนโตมาแล้ว  :o8:  จะมีดราม่าก่อนจบภาคเด็กรึเปล่า???   :impress3: 
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3/เพิ่มเติม image ข้าว/คุณชาย] - 08/09/56 B
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 08-09-2013 12:50:18
อิจเมจคุณชายหล่อมากกกก ส่วนข้าวก็น่าร้ากฮ่าๆราศีเคะจับมาก
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3/เพิ่มเติม image ข้าว/คุณชาย] - 08/09/56 B
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 08-09-2013 13:37:51
 o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3/เพิ่มเติม image ข้าว/คุณชาย] - 08/09/56 B
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 08-09-2013 14:13:09
 ใช่! ผมเขิน ไม่รู้ว่าเขินได้อย่างไร "จริง ๆ ก็ไม่ได้จำได้หมดหรอก แต่เด็กปั๊มหน้าตาเข้ม ๆ พอดูได้แบบนายน่ะ มันไม่ค่อยมีให้เห็น"

แต่อิมเมจข้าวในรูป โครตห่างความเข้มเลยอ่า ราศีเคะจับสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3/เพิ่มเติม image ข้าว/คุณชาย] - 08/09/56 B
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-09-2013 14:19:05
ตอนที่ 4  ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: น้ำมันที่เต็มถัง :::







        หลังจากนั้น การสอนภาษาอังกฤษก็เริ่มขึ้น ไอ้เด็กแสบมันตั้งใจเรียนอย่างมุ่งมั่นส่วนผมน่ะเหรอท่อง A ถึง Z ได้ก็บุญแล้ว อย่างอื่นช่างมันเถอะเพราะถึงอย่างไรผมก็ไม่ได้นำมันไปใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ดี

   อาจารย์ใหม่สอนไปสามชั่วโมงจากนั้นเธอก็ลากลับเพราะหมดหน้าที่แล้ว

   “ไอ้ข้าว... ทำไมนายไม่ตั้งใจเรียน" ทันทีที่อาจารย์กลับไป ไอ้เด็กแสบมันก็เปิดปากต่อว่าผมทันที

   “ก็ผมไม่รู้เรื่องนี่คุณชาย คุณชายกับอาจารย์พูดอะไรกันก็ไม่รู้ผมฟังไม่ออกด้วยหรอก" ผมบอกมันออกไปตรง ๆ

   “ฟังไม่ออกก็ต้องตั้งใจเรียน ฝึกสิวะฝึก จะได้เก่ง ๆ" มันว่า

   ผมขมวดคิ้วมุ่นอย่างขัดใจก่อนจะตอบออกไปว่า

   “ผมอ่ะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ไม่ต้องเรียนหรอก ถ้าจะใช้... ก็ให้คุณชายช่วยละกัน"

   “ไอ้โง่เอ๊ย!!!” มันด่าผมก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ไม่ลืมตะโกนให้หลังว่า "ตามมา..."

   ผมเดินตามไอ้เด็กแสบไปจนกระทั่งมันเดินขึ้นบนชั้นสองเข้าไปในห้องนอนมันอีกแล้ว คราวนี้มันถอดเสื้อผ้าโชว์ผมบ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเรือนร่างของมันชัดเจน ผมไม่ได้หื่นนะ แต่ความขาวของมันทำให้ผมจ้องมองร่างเล็ก ๆ ของมันอย่างไม่กะพริบสายตา มองดูใบหน้าหรือแขนขาด้านนอกว่าขาวแล้ว แต่หน้าท้องอ้อมอกที่ถูกเสื้อผ้าปกปิดมาตลอดมันขาวยิ่งกว่านั้นหลายเท่า ...เด็กเชี่ยไรวะขาวโคตร ๆ

   “จ้องอะไรวะ" มันเอ่ยผมพลางทำท่ายกเสื้อผ้าที่มันเพิ่งถอดมาปกปิดร่างกายราวกับกลัวว่าผมจะไปทำมิดีมิร้ายกับมัน

   “โถ่... คุณชาย อย่าทำท่ากลัวเหมือนกับว่าผมเป็นโรคจิตอย่างนั้นสิ" ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ "ผมก็แค่ไม่เคยเห็นใครขาวขนาดนี้"

   “เหรอ ขาวแล้วไงวะ ไม่เห็นดีเลย ดูไม่แมนเลย ผิวเข้ม ๆ อย่างนายอ่ะยังดูดีซะกว่า" มันพูดพลางหยิบชุดในตู้เสื้อผ้ามาเปลี่ยน คราวนี้ชุดที่มันสวมใส่เป็นว่ายน้ำกางเกงขายาวรัดติ้วแถมยังมีแว่นตากันน้ำอีกต่างหาก มิหนำซ้ำมันยังหยิบมาเผื่อผมอีกชุดด้วยต่างหาก ผมล่ะทึ่งจริง ๆ ว่าไอ้เด็กนี่มันเป็นอะไรกันแน่ ทำไมในตู้เสื้อผ้าของมันถึงได้มีเสื้อผ้าหลายไซต์นัก ทั้ง ๆ ที่ตัวมันก็เล็กนิดเดียว

   “เปลี่ยนซะ ต่อไปนายต้องไปเรียนว่ายน้ำกับฉัน" มันพูด

   ผมจะไม่ถามหรอกนะว่าทำไมผมต้องเรียนด้วย เหตุผลก็คงจะเหมือนเดิมเพราะผมเป็นพี่เลี้ยง แต่ที่ผมสงสัยก็คือ "ทำไมคุณชายถึงได้มีเสื้อผ้าที่ขนาดพอดีตัวกับผมหลายชุดจังครับ"

   ผมอดถามไม่ได้จริง ๆ เหมือนกับว่าทุกอย่างมันถูกเตรียมการพร้อมไว้หมดแล้ว

   “ถามมากน่า... ใส่ ๆ ไปซะ" มันตอบออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

   “คร้าบ...” ดังนั้นผมก็เลยได้แต่ทำตามที่มันสั่งทุกประการราวกับว่าผมเป็นลูกน้องไม่ใช่พี่เลี้ยงของมัน

   หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ มันก็เดินนำผมลงไปยังชั้นล่างและอ้อมออกทางประตูหลังของบ้านและเดินมุ่งตรงไปยังสระน้ำ

   สระน้ำของที่นี่มีสีใสสะอาดบริสุทธิ์ แถมขนาดสระยังกว้างใหญ่อีกด้วย ผมไม่แปลกใจหรอก เพราะในทีวีพวกคนรวยก็มักมีบ้านที่มีสระน้ำใหญ่ ๆ แบบนี้

   “นายนั่งรออยู่นี่นะ" มันสั่งผมพลางชี้นิ้วไปตรงม้านั่งไม้มุมสระ มันเป็นม้านั่งที่สามารถเอนตัวนอนได้ตามใจชอบ

   “ครับ" ผมตอบ จากนั้นมันก็ทำท่าจะเดินกลับไปทางเดิมทันที "เดี๋ยว!! คุณชายจะไปไหน"

   “เถอะน่า เดี๋ยวฉันมา" มันพูดเพียงแค่นั้นไม่ยอมตอบผมตรง ๆ จากนั้นมันก็เดินไปปล่อยให้คนแปลกหน้าอย่างผมต้องนั่งรออยู่บริเวณสระคนเดียว

   หลังจากนั้นไม่นานนัก... ก็มีหญิงวัยทองซึ่งน่าจะเป็นคนใช้ของบ้านหลังนี้เดินมาบริเวณสระน้ำ เธอสวมชุดแม่บ้านสีเลือดหมูมีเอี๊ยมสีขาวแบบเดียวกับคนรับใช้คนอื่น ๆ สวมใส่ ที่มือของเธอถือถาดของน้ำส้มคั้นพร้อมกับแก้วอีกสองใบมาด้วย และเธอกำลังมุ่งตรงมาทางผม

   “น้ำส้มคั้นอร่อย ๆ ฝีมือป้านุ่มค่ะ" เธอเอ่ยขึ้นอย่างเป็นมิตรก่อนจะค่อย ๆ วางเหยือกน้ำส้มคั้นพร้อมกับแก้วอีกสองใบบนโต๊ะข้าง ๆ กับม้านั่งของผม "คุณชายการัณญภาสฌ์สั่งป้าให้เอาน้ำส้มมาเสิร์ฟค่ะ แหม... คุณนี่โชคดีนะคะ ปกติคุณชายไม่ค่อยสนิทกับใครง่าย ๆ หรอกค่ะ ขนาดเสื้อผ้าของคุณหนูที่ใส่ในวันนี้ เมื่อวานหลังเลิกเรียนคุณชายก็รีบกุลีกุจอให้ไอ้แช่มคนขับรถพาไปซื้อที่ห้างมาเตรียมไว้ให้"

   “จริงเหรอครับป้า" ผมเอ่ยถามพลางลุกขึ้นมาช่วยป้านุ่มจัดโต๊ะ ...ว่าแล้วเชียว เหมือนว่าทุกอย่างมันถูกเตรียมพร้อมเอาไว้ ที่แท้คุณชายก็จัดการทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้า

   “จริงค่า ปกติคุณชายเธอขี้หงุดหงิดและเอาแต่ใจ เพื่อนกี่คน ๆ ก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะเล่นกับเธอ เธอก็เลยพาลไม่ชอบเพื่อนที่เธอคบด้วยสักคน ก็เพิ่งมีคุณหนูคนแรกเนี่ยแหละค่ะที่คุณชายเธอเอาอกเอาใจขนาดนี้" ป้านุ่มตอบออกมา

   “อะแฮ่ม..." สงสัยไอ้เด็กแสบคงจะแอบมาได้ยินหรือเห็นผมกับป้านุ่มยืนคุยกันอยู่นาน มันเลยกระแอมไอขึ้นจากทางด้านหลังซึ่งผมกับป้านุ่มก็ไม่รู้ว่ามันมาตั้งแต่เมื่อไหร่

   “อุ๊ย!! เชิญค่ะคุณชาย เดี๋ยวป้านุ่มไปก่อนนะคะ" ป้านุ่มเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ

   “เดี๋ยวป้านุ่ม...” ไอ้เด็กแสบเอ่ย มันชะงักแล้วเหล่สายตาไปมองป้านุ่มชั่วครู่ก่อนที่จะเอ่ยต่อ "คราวหลังรู้อะไรก็ไม่ต้องพูดให้คนอื่นฟัง ๆ หมดซะทุกเรื่องก็ได้นะ ป้าไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้หรอก"

   “ค่า...” ป้านุ่มตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเอ็นดู เธอไม่ได้แสดงความหวาดกลัวหรือโกรธเคืองเลยสักนิดแถมยังส่งยิ้มให้ผมก่อนจะเดินจากไปอีกต่างหาก เธอรู้ดีว่าคุณหนูของเธอเป็นคนที่ชอบแสดงออกถึงความร้ายกาจหากแต่จิตใจลึก ๆ เป็นคนที่อ่อนโยนไม่น้อย

   “เอ้านี่ ขนมไข่" มันวางจานขนมลงโดยที่ไม่มองหน้าผมสักนิด เหมือนกับหลบหน้าเพราะกระทำความผิดอะไรบางอย่าง

   ผมรู้ว่าไอ้เด็กแสบกำลังอายที่ป้านุ่มเอาเรื่องที่มันจัดการซื้อเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้ผมมาเล่า ผมก็เลยอดที่จะแซวมันไม่ได้

   “เฮ้ย... หลบหน้าทำไมคุณชาย" ผมทำเสียงยียวนกวนบาทา มันหันหน้ามาจ้องผมเขม็งราวกับรู้ว่าผมจะพูดอะไรต่อ และสายตาของมันก็สั่งให้ผมเงียบซะ อย่าริอาจพูดอะไรต่อเด็ดขาด แต่มีหรือที่ผมจะไม่พูด... หึหึ! นาน ๆ ทีได้แกล้งไอ้เด็กเวรตะไลให้อายบ้างก็สะใจดีเหมือนกัน

        "อายเหรอครับ คุณชาย แหม เรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องอายเลย อยากเป็นเพื่อนผม อยากให้ผมอยู่ใกล้ ๆ ก็บอกผมตรง ๆ ก็ได้"

   “ไอ้ข้าว!!!” มันแหกปากร้องทันทีที่ผมพูดจบ ด้วยความที่เป็นเด็กชอบเอาชนะ ขนมไข่ในจานเลยถูกหยิบขึ้นมาหนึ่งก้อนแล้วมันก็ขว้างมาใส่ศีรษะของผมอย่างแม่นยำ แต่ผมก็ไม่ได้โกรธมันหรอกนะ ผมทำสายตาเจ้าเล่ห์ใสมันอีกครั้งก่อนที่จะหยิบขนมที่มันขว้างมากินอย่างชอบใจ

   “หือ... อร่อยจริง ๆ ครับ ขนาดขนมคุณชายอยากจะป้อนผม แต่ก็อายที่จะป้อนตรง ๆ เลยต้องขว้างมาให้แบบนี้ แหม่... ช่างเป็นพระคุณของผมจริง ๆ"

   ผมชักจะสนุกเสียแล้วสิ... เกิดมาผมก็ไม่เคยมีเพื่อน พี่ น้องหรือญาติโกโหติกาเป็นคนรวยแถมยังมีเชื้อหม่อมเชื้อเจ้าแบบนี้ด้วย ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้ามีแล้วทำตัวสนิท ๆ สักคนมันจะเป็นอย่างไร

   และนับตั้งแต่วันนั้นผมก็ต้องกลายเป็นพี่เลี้ยงของคุณชายการัณญภาสฌ์ สุริยะวิทูเป็นประจำทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งผมคิดว่าการที่มันอ้างว่าจ้างผมไปเป็น 'พี่เลี้ยง' มันก็แค่คำพูดที่ทำให้ผมดูดีเสียมากกว่า เพราะความเป็นจริงผมรู้สึกว่าผมไปเป็น 'ทาส' หรือ 'ของเล่น' ที่มันอยากจะทำอะไรกับผมก็ทำได้ทุกอย่างตามใจชอบมากกว่า วันไหนมันหงุดหงิดหรือผมทำตัวไม่ถูกใจ ผมก็ต้องกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของมันซะอย่างนั้น

   และเพราะเหตุการณ์นั้นแหละ เลยทำให้ผมกับไอ้เด็กแสบก็กลายเป็นคู่กัดกันมาตราบจนปัจจุบัน ทุกครั้งที่ทะเลาะกันไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมจะชนะมันเลย ก็แหม... ทั้งฐานะ ทั้งหน้าตา และความรู้มันก็เหนือผมทุกอย่าง ผมจะเอาอะไรไปสู้มันได้ล่ะ แต่โชคดีหน่อยตรงที่ว่าหลังจากที่มันเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ กิริยามารยาทของมันก็อ่อนโนยและนุ่มนวลมากขึ้น แม้จะมีบางครั้งที่ยังเอาแต่ใจแต่ก็ดีกว่าสมัยตอนที่มันสูงเท่าหัวไหล่ผมเยอะเลย










   5 ปีต่อมา...
   ผมทำงานที่ปั๊มเหมือนเดิมตามปกติหลังเลิกเรียนทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์ผมก็ต้องไปเป็น 'พี่เลี้ยง' ให้กับคุณชายเป๊กไอ้เด็กแสบของผม แม้มันจะโตจนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว แต่มันก็ยังใช้อำนาจของเงินฟาดหัวผมให้ไปเป็นพี่เลี้ยงของมัน

   ...แต่ถึงมันไม่ใช้เงินฟาด ไม่บังคับขู่เข็ญ ผมก็ยินดีที่จะไปเป็นพี่เลี้ยงให้มันทุกสัปดาห์อยู่แล้วล่ะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน...

   “เฮ้ย... มานู่นแล้ว" พี่ปั๊มเอ่ยขึ้น... เมื่อเห็นรถเบนซ์สีดำคันหรูทะเบียนคุ้นตาขับเข้ามาในปั๊ม ผมยิ้มกริ่มทันทีพลางยืนรออยู่ที่หัวจ่ายน้ำมันตัวประจำ

   “ระริกระรี้เชียวนะมึง" พี่ปั๊มเอ่ยแซวพลางหยิบเมล็ดถั่วลิสงมาแกะกิน "ทีเมื่อก่อน... เห็นบ่นนักบ่นหนาว่าอยากจะหนีไปให้พ้น ๆ ไอ้เด็กนี้ แต่ไหงตอนนี้กูไล่มึงให้ไปแทบตายมึงก็ไม่ยอมไปสักทีวะ"

   “เออน่า... เงียบเลยไอ้พี่ปั๊ม กินถั่วไปเลยไป" ผมหันไปต่อล้อต่อเถียงกับพี่ปั๊มก่อนที่รถเบนซ์คันหรูของไอ้เด็กแสบจะขับมาหยุดยังจุดที่ผมยืนรอ

   กระจกรถคุณชายค่อย ๆ เลื่อนลงก่อนที่จะปรากฏรอยยิ้มแห่งมิตรภาพให้เห็น

   “เต็มถังเหมือนเดิมนะข้าว" คุณชายสั่ง... จะผ่านมากี่ปีมันก็ไม่เคยเรียกผมว่า 'พี่ข้าว' สักครั้ง อย่างดีก็เรียกว่า 'พี่ชาย' เมื่อตอนอยู่ต่อหน้าคุณหญิง ซึ่งผมก็ไม่ถือมันหรอก

   “คร้าบ...” ผมเอ่ยตอบก่อนที่จะจัดการเติมน้ำมันให้คุณชายด้วยความเต็มใจ ...เด็กอะไรไม่รู้เมื่อก่อนตัวกะเปี๊ยกเดียวแต่เผลอแป๊บเดียวทั้งหล่อทั้งสูงเลยผมไปตั้งหลายเซนติเมตรแล้ว

   ความจริงเวลาต้องไปทำหน้าที่พี่เลี้ยงผมเองก็รู้สึกเอือมระอากับนิสัยของคุณชายเหมือนกันนะ แต่พอวันปกติที่ไม่ต้องไปบ้านคุณชาย ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงอยากเจอ... อยากให้คุณชายแวะมาเติมน้ำมันบ่อย ๆ พอเห็นรถของคุณชายเลี้ยวเข้ามาทีไร ริมฝีปากก็จะฉีกยิ้มขึ้นมาทันทีจนไอ้พี่ปั๊มต้องแซวบ่อย ๆ

   พอเติมน้ำมันเสร็จปุ๊บ คุณชายก็จ่ายตังค์ตามราคาที่โชว์อยู่ตู้จ่ายน้ำมัน ในขณะที่ผมหยิบตังค์ทอนมาให้ ผมก็ยิ้มให้คุณชายจนแก้มแทบฉีกแล้วเอ่ยว่า

   “คุณชายจะรับอะไรเพิ่มไหมครับเดี๋ยวผมไปซื้อให้" ที่ต้องถามออกไปแบบนั้นเพราะเป็นปกติที่คุณชายขับรถมา คุณชายจะชอบสั่งผมซื้อขนมหรืออาหารที่ร้านสะดวกซื้อ หรือไม่ก็ร้านรถเข็นที่ขอเข้ามาเช่าที่ขายภายในปั๊มน้ำมันมาไปให้กินเสมอ ๆ

   ทว่าคำตอบของคุณชายก็ทำให้สติของผมหลุดกระเจิงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

   “รับคนถามแทนได้ไหมล่ะ" เสียงหวานไม่พอยังยิ้มซะผมใจแทบละลายอีกต่างหาก ...เอ่อ ผมก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าผมกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอโดนคุณชายพูดจายั่วยวนหรือแกล้งเล่นบ่อย ๆ ก็มักจะคิดไปไกลจนสติไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเสมอ

   “เฮ้ย! ล้อเล่นน่ะข้าว ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยวะ พอดีวันนี้มีนัด เดี๋ยวต้องรีบไปแล้ว" ไอ้เด็กแสบของผมเอ่ยขึ้น ...ว่าแต่เอ๊ะ! มันเป็นของผมตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า มโนไปเองทั้งนั้น

   “ครับ... นัดกับใคร ที่ไหนครับ" ผมเผลอถามออกไป พอนึกได้ว่าถามอะไรไปก็อยากจะตบปากตัวเองแรง ๆ เหลือเกิน คุณชายจะไปไหน กับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ

   “กับสาว... ที่ผับ... ไปด้วยกันไหมล่ะ" คุณชายเป๊กตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ แถมยังยักคิ้วให้ผมอีกต่างหาก

   “ผมต้องทำงาน เชิญคุณชายตามสบายเถอะครับ" ผมตอบ

   “เออ งั้นฉันไปแล้วนะ" คุณชายบอก ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเลื่อนกระจกขึ้น คำพูดส่งท้ายของคุณชายก็ทำเอาผมเคลิ้มไปซะอย่างนั้น "เลิกงานแล้วก็รีบ ๆ กลับบ้านนะข้าว อย่าไปเถลไถลที่ไหน พรุ่งนี้เจอกัน ฝันดี"

   ผมพยักหน้ารับถี่ยิบก่อนที่คุณชายของผมจะขับรถออกไปจากปั๊มน้ำมัน...

   “ไปแล้ว..." เสียงของพี่ปั๊มเรียกสติของผมให้คืนกลับมา "มานั่งได้แล้ว ยืนตัวแข็งไปได้นะมึง เจอคุณชายทีไรเป็นงี้ตลอดเดี๋ยวพ่อปั๊ดเหนี่ยวให้"

   “อะไรพี่ปั๊ม" ผมเดินก้มหน้างุด ๆ ไปนั่งตรงเก้าอี้พลาสติกตัวประจำของผมโดยที่ไม่สบตามองหน้าพี่ปั๊มเพราะเดี๋ยวโดนมันจับผิดอีก "พูดมากจริง"

   “อ้าวไอ้นี่... ทำไม มีปัญหาอะไร" พี่ปั๊มเอ่ยด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะขว้างเปลือกเมล็ดถั่วมาใส่ผม
   ผมไม่ถือสาพี่ปั๊มหรอก ก็พี่ปั๊มน่ะถึงมันจะพูดมากขี้บ่น แต่มันก็เป็นพี่ชายที่แสนดีของผมเลยล่ะครับ ไม่ว่าผมจะมีปัญหาอะไร คนแรกที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยก็คือพี่ปั๊ม ส่วนคนต่อมาก็คือคุณชาย เพราะไอ้พี่ปั๊มมักปากดีเอาปัญหาของผมไปเล่าให้คุณชายฟังเวลาที่คุณชายแวะมาที่ปั๊มเสมอ ๆ






จบตอน....
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่3/เพิ่มเติม image ข้าว/คุณชาย] - 08/09/56 B
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-09-2013 14:19:26
คุยกับคนอ่านคร้าบบ  :-[

คุณ mentholss :: 555 นิดนึงครับ มาเรียกคะแนนให้ข้าวกับคุณชายบ้าง จะได้ไม่เบื่อมิวส์กับไม้ด้วยครับ
คุณ pepperpro :: แก่นมากครับ โตมาก็ยังชอบแกล้งข้าว ^^
คุณ WednesdayAugust :: อิอิ ใช่แล้วงับ คุณชายต้องถูกเสมอ 5555 ขอบคุณครับ ^^ ว่าแต่กดไม่ได้คืออะไรอ่าครับ T^T แหะๆ
คุณ ice_spok :: 555 ใครจะงาบใครกันแน่ 555 ผลัดกันงาบดีไหม
คุณ nunnan :: T^T สุดๆแล้วครับ อยากเขียนให้คุณชายออกมาในลุกซน ๆ กะล่อน ๆ แสบ ๆ แบบไม่คิดว่านิสัยงี้จะเป็นคุณชายได้
คุณ sang som :: 555 เกรงว่าข้าวจะโดนจับกดซะเอง คิคิ
คุณ iamnan :: นั่นสิครับ ไม่รู้ไปถูกใจอะไรข้าว ^^
คุณ Sofa :: ^^ ราศีเมะหรือเคะ ทายจากรูปเลยครับ เอิ๊กๆๆ ฝากติดตามด้วยนะครับ ^^
คุณ Xipnoz :: คุณชายฝากมาบอกว่าไม่งาบธรรมดา ๆ นะ เขมือบเลย *0*
คุณ Lily teddy :: คิคิ อาจจะหักมุมก็ได้น๊า หรือไม่หัก โอ๊ะๆ ติดตามได้เลยครับ
คุณ dahlia :: ผมก็ว่าอย่างงั้นล่ะครับ - - ข้าวจ๋อยเลย ฮ่าๆ
คุณ cavalli :: 555 ไว้ให้ข้าวปะทุถึงขีดสุด ค่อยจัดการเนอะ คิคิ
คุณ BlueHoney :: วาปมาแล้วครับ อิมเมจก็มีแล้วน๊า T^T แต่กลัวไม่ถูกใจหรือตรงกะที่คิดอ่าซี๊
คุณ kasarus :: โปรดติดตามตอนต่อไปครับ  ^^ คิคิ
คุณ NJnobu :: แม่นแล้ว ร้ายหนักๆสุดท้ายทำให้ข้าวเสียใจเลยสะใจดี  :katai1: เหวอออ ไม่ใช่แล้ว อันนี้คนเขียนคิดพิเรนท์ๆเองครับ
คุณ insomniac :: ขอบคุณคร้าบ T^T จะพยายามลงบ่อยๆนะครับ แหะๆ พอดีติดอีกเรื่องด้วยแต่งใกล้จบแล้วครับ เลยมาเปิดเรื่องใหม่รอไว้ ^^
คุณ Satang_P ::  :mew1:
คุณ wutwit ::  555 T^T ข้าวอาจจะหยุดการเติมโตก็ได้ครับ ราศีเคะจับเลย แหะๆ ให้คิดกันไปว่าตอนเด็กอาจคุณชายมันตัวเล็กพอมองคนที่อายุมากกว่าผิวเข้มกว่าหน้าตาสำสะอาดสะอ้านก็เลยกลายเป็นเข้มก็ได้ แฮ่ๆ T^T ขออภัยด้วยงับ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 08-09-2013 14:33:37
5 ปีผ่านไปไวสุด ๆ อิอิ
ว่าแต่เราไม่พลาดแฮะว่าใครเมะใครเคะ อิอิ


ป.ล.หมายถึงกดให้คะแนนชื่นชมไม่ได้อะค่ะ รู้สึกจะต้องคอมเมนต์เกิน 250 ถึงจะกดได้
ตอนนี้กดได้แต่ + ตรงถูกใจให้เป็ด (หรือเปล่า? งง ๆ กับระบบเหมือนกันค่ะเพิ่งสมัครสมาชิกได้ไม่นาน)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 08-09-2013 14:35:59
เริ่มหวาน ๆ หน่วง ๆ นิด ๆ บอกไม่ถูก
ข้าวนี่คงหลงคุณชายไปแบบไม่รู้ตัวแล้วสินะ แต่คุณชายยังดูเหมือนกั๊ก ๆ แต่ก็หวงข้าวอยู่หล่ะมั้ง หาอะไรมากระตุ้นความหวงของคุณชายมากกว่านี้ก็คงดี อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 08-09-2013 14:38:46
ป.ล.หมายถึงกดให้คะแนนชื่นชมไม่ได้อะค่ะ รู้สึกจะต้องคอมเมนต์เกิน 250 ถึงจะกดได้
ตอนนี้กดได้แต่ + ตรงถูกใจให้เป็ด (หรือเปล่า? งง ๆ กับระบบเหมือนกันค่ะเพิ่งสมัครสมาชิกได้ไม่นาน)

ใช่ค่ะ คอมเม้นท์กิน 250 ถึงจะกด + คะแนนชื่นชมได้จ้า แต่ถ้าคอมเม้นท์ไม่ถึงก็สามารถกดถูกใจให้เป็ด บวก(เป็ดเหลือง)หรือกดลบ(เป็ดดำ) ได้นะคะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 08-09-2013 14:59:19
วาปเร็วทันใจ โตกันแล้ว!... จากนี้ก็เรื่องของหนุ่มๆ แล้วสินะ ><
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 08-09-2013 15:16:06
ข้าวหลงคุณชายแล้วอะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 08-09-2013 16:24:54
เด็กแก่แดดโตแล้ววว  :mew3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pepperpro ที่ 08-09-2013 16:40:40
ทำตัวยั่วชาวบ้านนะคุณชายเนี่ย เดี๋ยวก็เจอดีหรอก 5555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 08-09-2013 16:46:42
โอ้วววว 5ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 08-09-2013 16:48:46
ข้าวเทใจไปหมดแล้ว แต่คุณชายนี่สิเหมือนจะยังกั๊กๆ อยู่นะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 08-09-2013 16:54:59
เรื่องราวผ่านไปด้วยความไวแสง ....

ใกล้ละอยากเห็น NC ครับ 5555

ผลัดกันงาบถ้าจะเวิร์ค

ให้เดาคุณชายได้งาบเยอะกว่า ชัวร์!!!

ฟอดดดด!! คนแต่งน่ารัก ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 08-09-2013 17:03:29
 5 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ตอนแรกนึกว่าคุณชายจะไปเรียนต่อเมืองนอก พอโตก็กลับมาเจอกันอีกครั้งแบบในหนัง 555
แต่นี่ตลอด 5 ปี ข้าวกะคุณชายก็ได้เจอกันตลอดอะดิ แล้วข้าวค่อย ๆหวั่นไหวไปกะคุณชายตอนไหนน๊า
มันน่าจะต้องมีความประทับใจอะไรระหว่างกันบ้างสิ หรือที่คุณชายดูแลใส่ใจเรื่องต่าง ๆของข้าว ถึงจะดูน่าหมั่นไส้
แล้วยังคอยหยอดคอยแกล้ง  แบบทีเล่นทีจริงกะข้าวบ่อย ๆ ข้าวเลยรู้สึกผูกพันกะคุณชายเรื่อย ๆ
แต่ไม่รู้คุณชายจะคิดอะไรกะข้าวรึเปล่า หรือแค่อยากแกล้งเล่นไม่รู้แต่ดูข้าวจะเผลอเพ้อไปกะไอ้เด็กแสบนี่ซะแล้ว
แล้วพี่ปั้มก็คอยดูแลข้าวเหมือนกัน เป็นอันดับหนึ่งก่อนคุณชายด้วย ข้าวไม่สนพี่ปั้มมั่งเหรอ 555
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:  :L2:
อิมเมจคุณชายกะข้าวก็โอเคนะค่ะ แต่ดูไม่ออกเลยว่าข้าวแก่กว่าตั้ง 3 ปีกว่า ๆ
แล้วไม่มีอิมเมจพี่ปั้มบ้างเหรอคะ สงสัยพี่แกจะเป็นแค่ตัวประกอบจริง ๆ 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 08-09-2013 17:13:38
เรื่องนี้น่าสน  แต่ดูเหมือนข้าวจะไม่รู้ตัวว่าหลงรักเข้าให้แล้ว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 08-09-2013 17:17:22
ติดตามทุกเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-09-2013 17:23:36
กลัวข้าวเสียใจจังเลยอะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 08-09-2013 19:00:09
เรื่องนี้เป็นแนวที่ชอบเลย มาลงทุกวันนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Gongy B.Du ที่ 08-09-2013 20:06:20
เหยย หายไปแปปเดียว พี่ข้าวกับอิคุณชายก็โตๆ กันซะละ  :laugh:
แหมๆๆ พี่ข้าวแอบเผลอใจให้อิคุณชายซะแล้วหรอเนี่ย~~  o18

ว่าแต่คุณชาย...ทำไมไม่ยอมเรียกพี่ข้าวว่าพี่ล่ะคะ
แค่ไม่อยาก...หรือมีจุดประสงค์แอบแฝง  :hao7: (//...โปรดอย่าใส่ใจความฟุ้งซ่านของเรา เหอๆ)

Ps. ผิดคาด...ท่าทางบทรุกรับจะสลับกันซะแล้วล่ะมั๊งเนี่ย -*-;;
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 08-09-2013 21:05:57
; 5 ปีผ่านไป เร็วจริงๆ...  :hao4:

แต่เดินเรื่องแบบนี้รวบรัดดี ไม่ต้องรอนาน อ่านสนุกไปอีกแบบ  o13

+  :กอด1:  :bye2:

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 08-09-2013 22:21:41
ใครเคะ ใครเมะ?555555555555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 09-09-2013 23:03:50
ตอนที่ 5    ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ร่างที่เปลือยเปล่า :::







          วันรุ่งขึ้น ผมรีบปั่นจักรยานไปบ้านคุณชายตั้งแต่เช้าตรู่ ทว่าผู้ที่ลงมาเปิดประตูต้อนรับกลับเป็นลุงแช่ม คนขับรถส่วนตัวของคุณหญิงวลีลาวัลย์แม่ของคุณชาย

   “เชิญครับคุณข้าว" เมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าประตู ลุงแช่มก็เอ่ยต้อนรับด้วยอย่างสุภาพ เนื่องจากผมเป็นพี่เลี้ยงคนสนิทของคุณชายทุกคนในบ้านจึงให้เกียรติผมไปด้วย ไม่ถือสักนิดว่าผมเป็นแค่เด็กปั๊ม

   “ครับ" ผมพยักหน้ารับพลางชะโงกหน้าหาคุณชายของผม ...ก็ปกติน่ะ คุณชายจะเป็นคนลงมาเปิดประตูต้อนรับผมด้วยตนเองเสมอ ยกเว้นวันไหนที่คุณชายติดธุระคุณชายจะโทรบอกผมล่วงหน้าว่าไม่ต้องมา

   “คุณชายยังไม่ตื่นเลยครับ สงสัยเมื่อคืนจะเมาแอ๋ กว่าจะกลับมาก็ตีสองแล้ว" ลุงแช่มเอ่ยออกมา สงสัยเพราะผมมัวแต่กวาดสายตามองหาคุณชายจนออกนอกหน้าเกินไป

   “ตีสองเลยเหรอครับ" ผมทวนถามด้วยความตกใจ ลุงแช่มพยักหน้า "แล้วคุณชายกลับมายังไงครับ เมาขนาดนั้นกลับรถไหวเหรอ"

   “อ่อ... คุณชายกลับรถแท็กซี่ครับ ส่วนรถของคุณชายผมเพิ่งสั่งไอ้ช้างไปขับกลับมา" ลุงแช่มตอบ ...ไอ้ช้างเป็นลูกชายของลุงแช่ม อายุเท่าผม ช้างอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ที่ลุงแช่มเข้ามาทำงาน อาจเป็นเพราะนิสัยที่เงียบขรึมไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาสักเท่าไหร่เลยทำให้คุณชายมักบ่นบ่อย ๆ ว่าไม่ชอบหน้าไอ้ช้าง

   “เดี๋ยวคุณข้าวขึ้นไปบนห้องของคุณชายเลยนะครับ พอดีว่าเมื่อคืนคุณชายสั่งไว้ว่าถ้าคุณข้าวมาให้ขึ้นไปหาบนห้องนอนได้เลย" ลุงแช่มสั่งในขณะที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน

   “ครับ" ผมพยักหน้ารับจากนั้นก็รีบก้าวขาขึ้นไปบนห้องนอนทันที อยากรู้เหมือนกันเวลาคุณชายเมาแล้วจะเป็นอย่างไร จะมีพิษสงมากแค่ไหน

   โชคดีที่คุณชายเป๊กเป็นลูกคนเดียว บ้านเลยไม่มีคนอยู่อาศัยมากมาย ส่วนหม่อมราชวงษ์กริชกรคุณพ่อของคุณชายก็งานยุ่งต้องออกไปทำงานแต่เช้ามืดและกลับดึกทุกวัน ส่วนคุณหญิงวลีลาวัลย์ก็ไม่ค่อยวุ่นวายกับผมสักเท่าไหร่ เลยทำให้ผมไม่ต้องเคอะเขินเวลามาบ้านหลังนี้

   หลังจากที่เปิดประตูห้องเข้าไป สภาพภายในห้องก็ทำให้ผมถึงกับส่ายหัวด้วยความเอือมระอา

   เสื้อเชิ้ตสีชมพูที่คุณชายใส่เมื่อคืน และกางเกงยีนส์เดฟสีดำถูกถอดทิ้งไว้ระเกะระกะรอบเตียง พอเหลือบสายตาขึ้นไปมองบนเตียงก็พบกับร่างที่ขาวนวลเนียน ที่ไร้อาภรณ์ปกปิดมีเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวเท่านั้นกำลังนอนไร้สติอยู่ ...แหม มองแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ คุณชายคงจะเข้าฟิตเนตทุกวันเลยทำให้หน้าท้องของคุณชายปรากฏร่องกล้ามเป็นช่อง ๆ 6 ร่องอย่างชัดเจน

   ผมเดินไปเก็บเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ของคุณชายลงตะกร้าก่อนที่จะถือวิสาสะไปนั่งขอบเตียง

   “คุณชาย ๆ ตื่นได้แล้วครับ สายแล้ว" เมื่อคืนนอนดึกนักใช่ไหม เพราะฉะนั้นวันนี้คุณชายจงทำใจไว้ซะเลยเพราะผมไม่มีวันยอมให้คุณชายได้นอนเต็มอิ่มหรอก

   เมื่อคุณชายยังไม่รู้สึกตัวผมก็เอื้อมมือไปเขย่าร่างของคุณชาย "คุณชาย ตื่น ๆ สายแล้ว"

   “ข้าวเหรอ...” ได้ผล... คุณชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงงัวเงียก่อนจะลืมตาด้วยความสะลึมสะลือแล้วหันมาจ้องผม

   “ครับ... ผมเอง" ผมตอบกลับ

   “โหย... ข้าว จะปลุกทำไมยังง่วงอยู่เลย" คุณชายบ่น

   “ก็เช้านี้คุณชายต้องไปสอนเทควันโดไม่ใช่เหรอครับ" ...ใช่ครับ! คุณชายต้องไปสอนเทควันโด เพราะคุณชายเริ่มเรียนเทควันโดตั้งแต่อายุ 13 หลังจากที่รู้จักกับผมแค่หนึ่งปี พออายุ 16 คุณชายก็สอบสายดำได้สำเร็จ และด้วยฝีมือที่เก่งกาจก็เลยทำให้คุณชายถูกทาบทามให้ไปสอนเทควันโดที่ยิมซึ่งคุณชายก็ไปออกกำลังกายที่นั่นเป็นประจำอยู่แล้ว

   ส่วนผมน่ะหรือ ถูกคุณชายบังคับขู่เข็ญสารพัดให้เรียนด้วย แต่ผมไม่ชอบการต่อสู้ที่เป็นทางการแบบนั้น ถ้าจะมีเรื่องกับใครก็ชกต่อยไปซึ่ง ๆ หน้าเลยดีกว่า ไม่ต้องลีลาท่ามาก ผมก็เลยทำทุกวิถีทางให้ผมไม่ต้องเรียนเทควันโดกับคุณชาย แต่สุดท้ายก็ต้องไปนั่งดูคุณชายเรียนทุกวันอยู่ดี ...ซึ่งมันก็สนุกดีเหมือนกัน

   “ไม่ได้สอน ฉันลืมบอกนายไปไว้วันนี้ยิมปิดเพราะเจ้าของยิมต้องการจะไปทำบุญที่บ้านเด็กกำพร้าตอนบ่ายโมง" คุณชายตอบออกมา
   รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้ไม่ต้องรีบออกไปข้างนอกตอนเช้าแล้วจะรีบนัดมาทำไมเนี่ย... ถึงแม้ตอนนี้คุณชายจะไม่แสบเพราะคำพูด แต่ก็ดันเจ้าเล่ห์ด้วยการวางแผนหาทางกลั่นแกล้งผมตลอด

   “อ้าว! แล้วงี้จะให้ผมรีบมาแต่เช้าทำไม" ผมแกล้งบ่น

   “มานอนกับฉันไง" คุณชายตอบออกมาก่อนจะเขยิบร่างไปชิดอีกฝั่ง แถมยังตบที่นอนแล้วทำสายตาเจ้าเล่ห์ยั่วผมอีกต่างหาก "นอนสิ เร็ว ๆ"

   “คุณชายนอนไปเถอะครับ...  เดี๋ยวผมไปช่วยลุงแช่มทำสวนข้างล่างดีกว่า" ผมตอบออกไป... นอกจากลุงแช่มจะเป็นคนขับรถส่วนตัวของคุณหญิงวลีลาวัลย์แล้ว หน้าที่ยามว่างของลุงแช่มก็คือดูแลสวน ลุงแช่มต้องคอยตัดหญ้าและตกแต่งกิ่งไม้ภายในเขตรั้วบ้านให้สวยงามเสมอ ๆ

   “ไอ้ข้าว!” คุณชายเริ่มขึ้นเสียง สงสัยจะไม่พอใจผม

        "ครับ"

   “นายกล้าขัดคำสั่งฉันเหรอ" คุณชายเอ่ยขึ้น

   “ผมก็ขัดคุณชายมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ครับ" ผมโต้กลับอย่างไม่เกรงกลัว อย่างคุณชายน่ะนอกจากขู่ก็ไม่เคยทำอะไรผมรุนแรงสักครั้ง ผมโดนขู่จนชินและกล้าหือกับคุณชายแล้วล่ะ

   แต่เหมือนกับว่าครั้งนี้มันจะไม่ใช่ เพราะทันทีที่ผมพูดจบ คุณชายก็ดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วตรงเข้ามาล็อกคอผมทันที เท่านั้นยังไม่พอคุณชายยังทิ้งร่างของตัวเองแล้วออกแรงให้ผมเอนนอนลงบนเตียงนอน แถมขาทั้งสองข้างของคุณชายก็ยกมาล็อกเกี่ยวขาของผมไว้อีกต่างหาก

   ด้วยความที่ผมไม่ได้ตั้งท่าป้องกันเพราะไม่รู้ว่าคุณชายจะจู่โจมมาแบบนี้ เลยทำให้ผมตกอยู่ในพันธนาการของคุณชายอย่างง่ายดาย

   “คุณชาย ปล่อย" แม้ผมจะพยายามจะดิ้นและออกแรงสักเท่าไหร่ แต่คุณชายก็ทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ผมลุกไปไหนได้สำเร็จ ไม่ใช่ว่าผมอ่อนแอกว่าหรอกนะ แต่เพราะโดนโจมตีทีเผลอและทุกส่วนของร่างกายก็ถูกล็อกไว้เลยทำให้การต่อสู้ในครั้งนี้ผมต้องพ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบ ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้เลย

   “ปล่อยแน่ถ้ายอมนอนดี ๆ" คุณชายเอ่ยขึ้น... “แต่เอ๊ะ ทำไมหัวใจเต้นแรงจังวะไอ้ข้าว"

   อาจเป็นเพราะแขนข้างที่ล็อกตัวผมเอาไว้ถูกทาบทับผ่านบริเวณอกซ้ายของผม เลยทำให้คุณชายสัมผัสได้ถึงแรงเต้นของหัวใจ

   “กลัวเหรอ หึหึ" คุณชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มีเลศนัยพลางคลายวงแขนให้หลวมกว่าเดิม

   ผมใช้โอกาสนี้ปัดแขนของคุณชายออกและเขยิบออกจากการพันธนาการทันที

   “ไม่ได้กลัวครับ" ผมปฏิเสธ... ผมก็แค่ตกใจที่คุณชายทำอะไรแบบนี้เท่านั้น มิหนำซ้ำทำไมผมถึงรู้สึกว่ากลิ่นตัวของคุณชายที่คละคลุ้งผสมไปกับกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่มันถึงหอมมากกว่าปกตินะ

   “อ่ะเหรอ ๆ" ไอ้เด็กแสบของผมมันเริ่มกวนประสาทอีกแล้วสิ "อยากไปไหนก็ไปเถอะ ฉันจะนอนแล้ว 11 โมงปลุกด้วยละกัน"

   พูดจบก็หลับตาและทำท่าว่าจะนอนต่อทันที ผมล่ะได้แต่กุมขมับเพราะไม่เคยตามอารมณ์ของคุณชายได้ทันสักครั้ง เมื่อกี้รั้งให้นอนด้วยแทบตาย แต่คราวนี้ดันไล่ไปง่าย ๆ ซะอย่างนั้น

   “เออครับ!!!” ผมตอบอย่างเหลืออดก่อนที่จะเดินออกจากห้องของคุณชายตัวแสบทันที ...หน็อย ตัวโตตัวสูงกว่านิดหน่อยทำเป็นได้ใจใช้กำลังข่มขู่นะ ทีเมื่อก่อนใช้แต่ปาก ไอ้ผมก็อุตส่าห์ลับฝีปากมาสู้ด้วยแล้วแท้ ๆ สงสัยต่อไปต้องไปเรียนวิชาป้องกันตัวเพิ่มแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นมีหวังโดนไอ้คุณชายทารุณกรรมเป็นว่าเล่นแน่ ๆ

   ผมไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่ที่ไม่ค่อยทำอะไรรุนแรงเพราะไม่อยากมีปัญหากับคุณชายผู้สูงศักดิ์ ...ไอ้ผมมันก็แค่เด็กปั๊มจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นนี่นา





   หลังจากที่ออกจากห้องคุณชายเป๊ก ผมก็เดินไปยังสวนหน้าบ้าน เวลานั้นไอ้ช้างกำลังขับรถของคุณชายเข้ามาพอดี ผมเลยเข้าไปทักทายสักหน่อย

   “หวัดดีช้าง เป็นไงบ้าง คุณชายไปจอดรถไว้ที่ไหนล่ะ" ผมเอ่ยถาม

   “หวัดดีครับคุณข้าว" ช้างโค้งศีรษะเล็กน้อยให้ผม ผมรู้สึกเกร็งจริง ๆ เวลาที่มีคนอายุเท่ากันหรือมากกว่ามาให้เกียรติผมจนเกินไปแบบนี้ แม้จะเคยบอกแล้วว่าไม่ต้องเรียกผมว่าคุณ หรือเคารพผมมากมายแบบนี้ แต่ทุกคนก็เอาแต่อ้างว่าผมเป็นคนสนิทของคุณชาย ก็เลยไม่มีใครกล้าแหยม "คุณชายไปจอดรถไว้ที่ผับแถวรังสิตนู่นครับ"

   “โห... รังสิตเลยเหรอ" ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจเพราะรังสิตมันก็ไกลจากที่นี่ใช่ย่อย แต่โชคดีหน่อยที่วันนี้เป็นวันเสาร์เลยทำให้การจราจรไม่ติดขัดสักเท่าไหร่

   “ครับ" ช้างตอบออกมาก่อนจะยื่นกุญแจรถมาให้ผม "เดี๋ยวรบกวนฝากคุณข้าวไปคืนคุณชายด้วยนะครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปช่วยพ่อทำสวนก่อนครับ"

   “ได้ ๆ เดี๋ยวลงมาช่วยทำนะ" ผมรับกุญแจรถมา ช้างยิ้มให้ผมเหมือนเกรงใจ จากนั้นผมก็เลยหันหลังกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งเพื่อที่จะเอากุญแจรถไปเก็บไว้ให้กับคุณชาย

   ...แต่เดี๋ยว ก่อนที่ผมจะเปิดประตูห้องเข้าไป ผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคราวนี้คุณชายจะไม่เล่นอะไรแผลง ๆ อีก ผมยืนขั่งใจอยู่นานสองนานว่าจะเข้าไปในห้องดีหรือไม่ เพราะเดี๋ยว 11 โมงก็ต้องขึ้นมาปลุกคุณชายอยู่ดี

   'ค่อยเอามาให้ตอนคุณชายสั่งให้ปลุกละกัน' คิดดังนั้นผมก็หันหลังกลับ ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวขาพ้นรัศมีเขตหน้าประตูห้อง คุณชายสุดแสบของผมก็ดันเปิดประตูออกมาพอดิบพอดี ผมหันกลับไปมองร่างนั้นทันที แล้วลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีมันก็ประเดประดังเข้ามา เพราะสายตาเจ้าเล่ห์ของคุณชายบนเรือนร่างที่เปลือยกายครึ่งท่อนบนกำลังมองมาทางผมด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยเลศนัย







จบตอน ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่4] - 08/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 09-09-2013 23:14:17
คุยกับคนอ่านครับผม ^^


คุณ WednesdayAugust :: ^^ ไวนิดนึงครับ ตอนเด็กเป็นแค่เกริ่นเรื่องเพราะฉากเด็ดอยู่ช่วงนี้ทั้งนั้น เอ๊ยย ไม่ใช่ละ ^^ แหะๆ T^T อยากได้ + บ้างจังกว่าจะถึง 250 อีกนานเลยเรา
คุณ iamnan :: ง่า... ผมว่าหวานแล้วน๊า ^^ คุณชายขี้ยั่วครับเรื่องนี้ ฮ่าๆ
คุณ BlueHoney :: แม่นแล้วครับ ปล่อยโชตะมานาน มาหนุ่มๆดีกว่าได้อารมณ์กว่า เย๊อออ... *0*
คุณ -west- :: T^T คนแต่งก็หลงครับ ฮ่าๆๆ อยากมีคุณชายมายั่วบ้าง... กรั๊กๆ
คุณ nunnan :: โตแล้วคร้าบ ไม่แก่แดดแล้ว เอ๊ะหรือแก่แดดอยู่หว่า แหะๆ T^T
คุณ pepperpro :: 555 คุณชายขี้ยั่วครับ คิคิ
คุณ mentholss :: T^T แค่เหมือน แต่ไม่ได้โกหกน๊า
คุณ  kasarus :: กั๊กไว้เล่นๆ กั๊กไปกั๊กมาเดี๋ยวก็รักเองแหล๊ะ (มั้ง!!!) คิคิ
คุณ ice_spok :: นี่ก็มารอฉากหื่นท่าเดียว 5555 ไอซ์เอ๊ย!!!
คุณ Lily teddy :: ให้อยู่ด้วยกันนี่แหละครับ 555 มันจะได้ดูสนิทสนมกันจะได้บรรยายกัดกันง่ายๆหน่อยคู่นี้ ^^ เผื่อได้แต่งฉากย้อนอดีตพอให้หอมปากหอมคอ แหะๆ
คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: ขอบคุณครับ ฝากติดตามด้วยนะงับ ^^ อย่าทิ้งกันเด้อ
คุณ loveaaa_somsak :: ^^ น่ารักที่สุดเลยครับ ฮ่าๆๆ ให้ไรเป็นรางวัลดีหนอ  :3123:
คุณ dahlia :: ^^ กลัวเสียใจเรื่องอะไรคร้าบ เดี๋ยวให้คุณชายปลอบ คิคิ
คุณ Gongy B.Du :: 555 คุณชายปากดีคร้าบบ กดข้าวได้ละต้องกดให้อยุ่มัน คุณชายไม่เคยมองข้าวเป็นพี่หรอก 555
คุณ NJnobu :: ขอบคุณครับ ^^ แต่หลังจากนี้อาจจะไม่รวบรัดแล้ว แฮ่ๆ
คุณ Satang_P :: ไม่บอก คิคิ ติดตามกันต่อไปครับ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 09-09-2013 23:22:15
ตัดจบได้ปวดใจมากค่ะ 555
คุณชายนี่แผนใช่มะ ตั้งใจล่อลวงข้าวอ่ะดิ๊
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 09-09-2013 23:36:11
; ตัดจบตอนแบบนี้ก็เกิดอาการ ค้าง......... :hao7: :hao7:

เปลือยท่อนบน ทำตามีเลศนัย แหม ๆ ๆ คุณชาย แบบนี้เค้าเรียกว่าไรอ่ะ  :hao6: :hao6:

+  :กอด1:  o13  :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 09-09-2013 23:36:28
คุณชายจะแกล้งไรนาาาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 09-09-2013 23:47:52
คุณชายหม่อมนี่หยอกเด็กปั้มเหมือนหมาหยอกไก่เลย หึหึ ที่จริงรอตะคลุบใช่ไหมเวลาไก่เผลอ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: khuan ที่ 10-09-2013 00:14:04
แง แง ตัดจบแบบนี้   :ling1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 10-09-2013 00:30:48
ตัดจบได้แบบว่า.................

อ๊าย  ค้างจุงเบย


ไอ้เราก็นึกว่าคุณชายเห็นฉากเด็ดที่ข้าวส่งยิ้มให้ช้างแล้วหึงแล้วกระชากข้าวเข้าห้องอะไรอย่างงี้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 10-09-2013 01:29:54
แอร๊ย นึกว่าข้าวจะเสร็จคุณชายซะละ
รอฉากเด็ดที่ว่านะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-09-2013 01:53:58
 :hao7:


ค้าง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 10-09-2013 03:39:57
** ขออนุญาติ คั่นนิดนึง **

ขออนุญาติเปลี่ยน Image ข้าวนะครับ T^T ให้ดูแมน ดูเข้ม ดูสมกับเป็นเด็กปั๊มขึ้นอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรก
Image ก่อนหน้านี้ดูบางไป ปกป้องไรคุณชายไม่ได้หรอก ...
และที่สำคัญ เพื่อให้ยากต่อการคาดเดา ว่าใครจะเป็นฝ่ายไหน

(http://i159.photobucket.com/albums/t128/kukzabb/Screenshot2013-09-10at33642AM_zpsd8545cf8.png)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 10-09-2013 06:08:38
ค้างเลย



คุณชายเอาแต่ใจสุดๆ



รฉ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 10-09-2013 08:18:11
สถานการณ์ล่อแหลมสุดๆ บอกเซอร์ตัวเดียวพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์ เช้านี้คุณชายจะ 'กิน' ข้าวรึเปล่าน๊า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 10-09-2013 09:27:01
คุณชาย จะทำอะไรอีกแล้วอะ โตขึ้นมานี่ดูเป็นคุณชายนิสัยไม่ค่อยดีเลยนะ  o12
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 10-09-2013 10:41:09
คุณชายจะทำอะไรเด็กปั้มอ่ะ

ถ้าทำอย่างที่คนอ่านคิด ช่วยรับผิดชอบ

และอย่าทำให้เด็กปั๊มเสียใจด้วย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: took-ta_naka ที่ 10-09-2013 11:28:48
 :z1:  อยากให้คุณชายเป็นรุกอ่ะ  แล้วให้ข้าวรับจัง   :hao6: :hao6: :hao6:  รอติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 10-09-2013 12:38:56
เจ้าแผนการอ่ะ คุณชาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Xipnoz ที่ 10-09-2013 18:35:26
คนเขียนอยากให้ สลับกันรุกรับ เหรอ อิอิ  :hao7:

น่าสนๆ รอติดตามนะครับ คุณชายหยอดตลอดๆเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 10-09-2013 21:26:08
มารอตอนใหม่
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 10-09-2013 21:29:08
ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยเลศนัย... แล้วก็ค้างกลางอากาศ -.-"  ตอนหน้าจะมีฉากหวานๆ มั้ยน่า~ ><
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 10-09-2013 23:44:36
ชื่อตอนก็ฟินเวอร์แล้วค่ะ อิอิ ป่าวหื่นน๊า  :hao6:
คุณชายนี่แอบคิดอะไรก็ข้าวรึป่าวเนี่ย พูดจา2 แง่ 3 ง่าม มีการชวนให้ข้าวมานอนร่วมเตียงด้วยอะ
พอข้าวไม่เล่นด้วยยังจู่โจมให้ข้าวใจเต้นตึกตั๊กอีก ก็แหมเป็นใครเจอแบบนี้ไม่ใจเต้นก็ไม่รู้ว่าไงละ
อยู่ดี ๆ ถูกกดลงเตียงแบบไม่ทันตั้งตัวแถมคนที่ทำยังเป็นเด็กแสบที่ข้าวเริ่มจะแอบเพ้อถึงซะแล้วด้วย
นี่ดีว่าข้าวอาศัยความเคยชิน แล้วเก็บอารมณ์ไว้ได้ แต่ไอ่ตอนท้ายนี่สิแค่ร่างที่เปลือยครึ่งท่อนข้าวก็จะแย่แล้ว
นี่ยังทำสายตาเจ้าเล่ห์มีเลศนัยอีก ตกลงคุณชายคิดจะแกล้งอะไรข้าวอีกเนี่ย
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปจ้า  :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 11-09-2013 00:48:39
เปลี่ยนอิจเมจใหม่ดูข้าวน่าจะเป็นรุกนะนั่น เข้มมาก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 11-09-2013 09:05:55
คุณชายแกล้งข้าว หึหึ รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 11-09-2013 18:08:11
ฮั่นแน่ คุณชายคิดอะไรอยู่!!!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: wishes ที่ 12-09-2013 18:19:41
 :really2: กะลังลุ้นเลย ค้างอ่ะ  :a5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 13-09-2013 08:10:43
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมากก
แรงสนับสนุนครับให้คุณชายเป็นลุก ให้ ข้าว เป็นรับ บรรเจิดมากก
แต่ทางที่ดีมาต่อด้วยเลย
อยารู้คุณชายแกล้งข้าวด้วยการจับกดหรือเปล่า เอิ๊ก (ไม่ได้หื่นนะ นิดเดียว)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 15-09-2013 02:19:29
พี่ข้าวจะโดนอะไรหนอ ยิ่งบอบบางอยู่ด้วย >///<
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Wereena ที่ 15-09-2013 10:42:06
อิอิ  ชอบๆ :hao6: :hao6: :z1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 15-09-2013 14:58:49
น่าสนุกน่ะครับ

รอติดตามน่ะครับ

 :katai4: :katai2-1: :katai4: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 15-09-2013 15:09:47
รีบมาลงไวไวนะ รออ่านทั้ง 2 เรื่อง

 :pig2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 15-09-2013 19:47:30
ตามติด อ่านรวดเดียว 5 ตอน แถมให้ +1
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 19-09-2013 16:08:02
ตอนที่ 6 ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: นิทานกล่อมเด็ก :::




         “มีอะไร" คุณชายถาม ...สายตาเจ้าเล่ห์ก็จริง แต่ทำไมต้องแกล้งทำน้ำเสียงให้ดุด้วยนะคุณชาย ผมไม่กลัวหรอกน่า "คิดถึงฉันเหรอข้าว"

   “เปล่าครับ" ผมตอบ

   “อย่ามาปฏิเสธ มีอะไรก็ว่ามา" คุณชายเอ่ยขึ้น "ฉันได้ยินเสียงนายถอนหายใจอยู่นานสองนานก็เลยออกมาดู"

   ผมล่ะอยากตบกบาลของตัวเองแรง ๆ สักทีนัก เพราะไม่รู้เลยว่าตัวเองเผลอถอนหายใจเสียงดังไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เลยทำให้คุณชายลุกออกมาเปิดประตู ในเมื่อคุณชายลุกมาต้อนรับแบบนี้แล้ว ผมก็ควรจะทำธุระให้เสร็จสิ้นซะ

   “นี่ครับ" ผมยื่นกุญแจรถไปให้

   “อ่อ ขอบใจ" คุณชายตอบ แต่แทนที่มันจะรับกุญแจไปเฉย ๆ ไอ้เด็กแสบกลับเอื้อมมือมาลากแขนผมแล้วออกแรงดันให้เข้าไปในห้อง ผมก็เลยต้องก้าวขาตามไป

   “คุณชายมีไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ" ผมเอ่ยถามขณะก้าวเข้าไปในห้อง คุณชายไม่ตอบอะไรจนกระทั่งเดินไปหยุดอยู่หน้าเตียง

   “ฉันปวดหัว" คุณชายตอบออกมา "เวลาปวดหัวคุณแม่จะชอบอ่านนิทานให้ฟังฉันถึงจะนอนหลับ"

   “หือ?” ผมทำหน้าสงสัยก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น ไม่น่าเชื่อว่าเด็กกวนประสาทอย่างคุณชายจะชอบฟังนิทานก่อนนอนด้วย

   “ขำอะไร!” คุณชายทำเสียงไม่พอใจ "ก็แค่ตอนปวดหัวเท่านั้นล่ะน่า"

   “คร้าบ ๆ" ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ...ก็แหม เพิ่งมีครั้งนี้แหละที่คุณชายทำตัวเป็นเด็กน่ารัก ๆ เหมือนคนอื่น ๆ

   “ข้าว"

   “ครับ"

   “เล่านิทานให้ฟังสักเรื่องหน่อยดิ เอาเรื่องอะไรก็ได้ นะนะ" คุณชายขอร้อง ...พอเห็นสายตาบ้องแบ๊วของคุณชายในยามนี้ผมก็อดที่จะคิดอะไรแผลง ๆ ไม่ได้เสียแล้วสิ

   “ได้สิครับ... แต่...” ผมแบมือก่อนจะยื่นมันออกไปบ้างหน้า เป็นสัญญาณประมาณว่า ...ตังค์อ่ะอยู่ไหน? ก็แค่แกล้งยื่นมือไปอย่างนั้นแหละ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าได้ก็ถือว่าเป็นโบนัสพิเศษแล้วกัน เพราะนี่ก็ทิ้งช่วงมานานแล้วที่ไม่ได้หลอกเอาตังค์คุณชายไปใช้ฟรี ๆ

   “อะไร" คุณชายถาม

   “ไม่มีอะไร ไม่ให้ผมก็ไม่เล่า" ผมแสร้งทำน้ำเสียงขรึมราวกับว่าตอนนี้ผมถือไพ่เหนือกว่า

   “ไอ้งก!” คุณชายพูดออกมาก่อนที่ยื่นหน้ามาใกล้ ๆ แล้วทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด "พอใจยัง"

   ผมยืนตัวแข็งชั่วขณะเพราะไม่คิดว่าคุณชายจะกล้าทำแบบนี้กับผม ...ทั้ง ๆ ที่ผมควรจะรังเกียจเพราะเราต่างกันเป็นผู้ชายเหมือนกันทั้งคู่ แต่ทำไมผมถึงไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิดเลยนะ

   “คุณชาย!!!” ผมเอ่ยเสียงดัง ก็เล่นมาหอมแก้มผมแบบนี้จะให้ผมอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไรล่ะ แต่พอเห็นคุณชายทำตาโตสงสัยไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรผมก็ชักจะตงิดใจเสียแล้วสิ "คุณชาย คุณชายเมาอยู่เหรอครับ"

   “เออ มั้งยังมึน ๆ อยู่เลย" คุณชายตอบออกมา "โอย... อย่าถามมากนักดิวะ เล่านิทานให้ฟังได้แล้ว"

   “เออครับ!!!” ผมตอบกลับพลางได้แต่นึกเจ็บใจ ...ไอ้ผมก็นึกว่าเมื่อกี้นี้ที่คุณชายทำเพราะตั้งใจจะทำไม่ใช่ทำเพราะฤทธิ์ของเหล้า แล้วผมจะเจ็บใจทำไมล่ะเนี่ย?

   หลังจากที่คุณชายกลับไปนอนบนเตียง ผมก็เริ่มเล่านิทานที่เคยอ่านสมัยเด็ก ๆ ให้คุณชายฟัง คุณชายหันมามองผมเป็นระยะ ๆ จนผมสมาธิไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะรู้สึกเกร็งเวลาถูกสายตาอันหวานคมของคุณชายจับจ้องมา จนทำให้ผมเล่านิทานผิด ๆ ถูก ๆ น้ำเสียงก็ตะกุกตะกักไปหมด

   ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมเวลาที่โดนคุณชายจับจ้องผมจะต้องเกร็งและเป็นแบบนี้เสมอ...

   “โหย... ข้าว... เล่าแบบนี้อย่าเล่าดีกว่า" คุณชายบ่น

   “ก็คุณชายขอให้เล่าเองนี่ครับ" ผมเถียงออกไป ...ก็แหม! โดนจ้องแบบนี้เป็นใครก็ตัวเกร็งทั้งนั้นแหละ ถ้าคนอื่นจ้องคงไม่เป็นไร แต่ให้ตายเถอะคนอย่างคุณชายถ้าได้ไปนั่งจ้องยืนจ้องหรือนอนจ้องใคร คนที่โดนจ้องก็ต้องเกร็งกันทุกคนนั่นแหละ

   “ยังจะเถียงอีก" คุณชายโต้กลับ

   “ง่า... ก็...” ผมทำเสียงอ่อนลง "คุณชายเล่นจ้องผมราวกับผมเป็นนักโทษประหารผมก็เล่าไม่ออกสิครับ"

   “ทำไมวะ กลัวฉันหรือไง หึหึ" ได้ทีก็แสยะยิ้มใหญ่ แถมยังแกล้งทำตาเขม็งแล้วยื่นเข้ามาใกล้ ๆ อีกต่างหาก จนผมต้องรีบเอียงออก ทว่าไม่ว่าจะเอียง เอน โยก ย้ายไปทางใด คุณชายก็ตามติดตลอด

   จนท้ายที่สุดเมื่อคุณชายแกล้งจนพอใจก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

   “ฮ่า ๆ ๆ ไอ้ไก่อ่อนเอ๊ย" ขำไม่ว่า แต่มาด่าว่าไก่อ่อนผมยอมไม่ได้

   “รู้ได้ไงว่าผมไก่อ่อน" ผมเถียงออกไป

   “ไม่อ่อน?” คุณชายทวนคำพลางแกล้งทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนที่จะหันมาจ้องผมแล้วแสยะยิ้มร้ายกาจออกมาอีกครั้ง "ก็แสดงว่าแข็งสินะ ไหนขอพิสูจน์ดูหน่อยซิ"

   พูดจบก็รีบยื่นมือมาทางจุดยุทธศาสตร์ะหว่างขาของผม ด้วยปฏิกิริยาต่อต้านที่ตอบสนองออกมาอย่างฉับพลันทำให้ผมปัดมือคุณชายออกไปด้วยความรวดเร็ว

   “คุณชายจะทำอะไร" ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความตกใจ มือข้างที่ไม่ได้จับแขนของคุณชายเอาไว้ก็พยายามปกปิดจุดนั้นเอาไว้ด้วยกลัวว่าคุณชายจะใช้มืออีกข้างมาจับ

   “ก็พิสูจน์ไง" คุณชายพูดหน้าตาย ...นี่คุณชายจะรู้บ้างไหมที่เอาแต่ใจเล่นสนุก ๆ แบบนี้มันทำให้ผมเสียวสันหลังวาบมากแค่ไหน

   “คุณชายจะพิสูจน์อะไร พอเถอะครับ ถ้าไม่หยุดผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ" ผมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง หน้าตาที่แสดงออกก็คงจะจริงจังไม่ต่างกันเพราะคิ้วของผมมันกำลังขมวดเล็กน้อยเพื่อแสดงถึงความไม่พอใจ แต่ทว่าไอ้คุณชายไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสึกนิด ทำปากขมุบขมิบตอนที่ผมพูด แถมยัง...

   “ฮ่า ๆ ๆ ๆ" เอาแต่หัวเราะเสียงดังลั่น แล้วต่อว่าผมอีกต่างหาก "ไอ้ไก่อ่อนเอ๊ย แค่นี้ทำเป็นกลัวไปได้ เอาล่ะ ๆ ไม่แกล้งแล้ว มาเล่านิทานให้ฉันฟังต่อดีกว่า"

   พูดจบก็เอนตัวลงไปนอนกับหมอนตามเดิม พอเห็นว่าผมยังนั่งนิ่งคุณชายก็ตอบที่นอนพร้อมกับบอกว่า

   “เร็วสิ!!!"

   “ก็เมื่อกี้คุณชายบอกไม่ต้องเล่าดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ" ผมกวนประสาทคุณชาย ก็อยากมาว่าผมดีนักนี่นา

   “ก็นายพูดตะกุกตะกักอ่ะ" คุณชายเอ่ย "คราวนี้ก็เล่าให้มันดี ๆ ละกัน"

   “ครับ" ผมตอบโดยที่ไม่รู้ว่าจะเล่าด้วยน้ำเสียงปกติได้ไหม เพราะถ้าโดนคุณชายต้องอีกมีหวังเป็นเหมือนเมื่อครู่นี้แน่ ๆ

   “ไม่เอาแล้ว ไม่ต้องเล่านิทานแล้ว" พอผมตั้งท่าจะเล่าคุณชายก็เอ่ยขัดขึ้นเสียอย่างนั้น ...ตกลงจะเอายังไงกันแน่เนี่ย ช่างเอาแต่ใจจริง ๆ

   “อ้าว... แล้วคุณชายจะให้ผมทำอะไรให้ล่ะครับ" ผมเอ่ยถาม เพราะรู้ดีกว่าถึงคุณชายไม่ให้ผมเล่านิทานกล่อม แต่มีหรือที่คนอย่างคุณชายจะปล่อยผมไปง่าย ๆ ต้องสั่งให้ทำอะไรอย่างอื่นแทนแน่ ๆ

   “พูดงี้หมายความว่าไงวะ พูดอย่างกับฉันชอบบังคับจิตใจนายอย่างงั้นแหละ" คุณชายพ่นลมหายใจออกมา

   “เปล่าครับ" ผมตอบเสียงอ่อยเพราะกลัวคุณชายจะพิโรธขึ้นอีก ในใจก็นึกหมั่นไส้พูดอะไรออกมาไม่ดูนิสัยตัวเองเลยว่าเป็นคนยังไงกันแน่ ...อยากรู้จริง ๆ ถ้าผมตอบออกไปว่า 'ใช่ครับ' แล้วคุณชายจะทำหน้าอย่างไร แต่ไม่เอาดีกว่าเพราะไม่อยากจะมีปัญหา

   “เปล่าก็ดี" คุณชายตอบออกมาก่อนจะส่งสายตายั่วยวนมามองผม ...จริง ๆ มันก็เป็นสายตาปกติของคุณชายที่สุดแสนจะเจ้าเล่ห์นั่นแหละ แต่ผมชอบคิดไปเองว่าคุณชายกำลังยั่วยวน "ฉันไม่อยากฟังนิทานแล้ว แต่ฉันอยากฟังเรื่องของนาย...”

   “หือ?... เรื่องของผม" ผมทวนคำ

   “ใช่"

   “แล้วจะให้ผมเล่าอะไรล่ะครับ เรื่องของผมมันไม่มีอะไรหรอก ตื่นมาก็เรียนหนังสือ ทำงาน กินข้าว อาบน้ำ นอน และรับใช้คุณชายเป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์ มันก็มีอยู่แค่นี้ล่ะครับ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก" ผมตอบออกไปแต่คุณชายกลับส่งเสียงหัวเราะดังลั่นราวกับว่าที่ผมพูดออกไปนั้นเป็นเรื่องขบขัน

   “ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น ฉันหมายถึงความฝันของนาย หรืออนาคตของนาย นายอยากทำอะไร อยากเป็นอะไรประมาณนี้ต่างหาก"

   “โถ่... ก็ไม่พูดให้เข้าใจแต่แรก" ผมเอ่ยขึ้น ...แต่เอ๊ะ คุณชายจะอยากรู้เรื่องพวกนั้นไปทำไม เมื่อตอนคุณชายตัวยังเล็ก ๆ คุณชายก็เคยถามความฝันของผมแล้วนี่นา ตอนนั้นผมจำได้ว่าตอบออกไปว่าอยากรวย มันคงเป็นคำตอบที่ดาด ๆ เกินไปสินะ

   ในเมื่อคุณชายอยากฟังใหม่อีกครั้ง ผมก็จัดให้ก็ได้

   “จะเล่าได้หรือยัง มัวแต่ลีลาอยู่ได้" สงสัยว่าผมจะนั่งครุ่นคิดนานเกินไป ไอ้คุณชายตัวแสบของผมก็เลยต่อว่าผมซะอย่างนั้น

   “คร้าบ ๆ" ผมขานรับก่อนที่จะเริ่มเล่าทันที

   “ความฝันของผมก็คือ... ผมอยากรวยครับ ผมคิดอย่างนั้นมาเสมอ" สุดท้ายผมก็ตอบออกไปแบบที่เคยตอบ คุณชายทำหน้าขึงขังเหมือนไม่พอใจในสิ่งที่ได้ฟังผมจึงรีบยกมือห้ามเอาไว้แล้วรีบพูดต่อ "เดี๋ยวครับคุณชาย มันยังไม่จบ...”

   “เออ งั้นก็รีบ ๆ เล่ามา" ...เร่งจริง ไม่รู้จะอยากรู้ความฝันของผมไปทำไม ถ้าผมเล่าไปคุณชายจะเนรมิตให้ผมหรืออย่างไรนะ

   “ที่ผมอยากรวยก็เพราะตอนที่ผมตัวเล็ก ๆ น่ะ ผมเห็นพ่อกับแม่ทำงานหามรุ่งหามค่ำหนักเอาเบาสู้ทุกวัน ทั้งพ่อแล้วก็แม่ต้องหาเงินด้วยความสุจริตทุกวิถีทางเพื่อที่จะส่งผมเรียน ลำพังค่าเล่าเรียนค่าอยู่ค่ากินน่ะ พ่อกับแม่คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่เพราะตอนนั้นพี่ชายของพ่อดันติดพนันน่ะสิครับแล้วก็เป็นหนี้ก้อนโต ถ้าไม่หาตังค์ไปจ่าย เจ้าหนี้ก็จะยึดทรัพย์สินทุกอย่างที่ลุงมี รวมถึงบ้านที่ผมอาศัยอยู่มาตั้งแต่เกิดด้วย

   พ่อกับแม่ก็เลยโชคร้ายไปด้วยเลยต้องช่วยหาเงินจ่ายหนี้ทุก ๆ เดือนและหนี้มันก็มากโขจนตอนที่ผมเรียนจบ ม.3 พ่อกับแม่ก็ไม่ไหว เพราะไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนหนี้ก็แทบจะไม่ลดเพราะดอกเบี้ยก็เพิ่มเอา ๆ ท้ายที่สุดก็เลยยอมให้ยึดบ้านแล้วย้ายเข้ามาหางานทำในเมืองหลวงน่ะครับ"

   ผมหยุดเล่าก่อนที่จะเดินไปรินน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของคุณชายมาดื่มกิน เพราะเล่าไปซะยืดยาวก็ชักจะคอแห้ง พอดื่มเสร็จผมก็เดินมานั่งที่เดิมแล้วหันไปจ้องมองคุณชายชั่วครู่ คุณชายจ้องมองผมด้วยความสนใจทว่าเปลือกตาด้านบ่นก็หย่อนซะเหลือเกินเห็นแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้ สงสัยคงจะง่วงจัด...

   “เล่าต่อดิ ขำอะไร" เสียงคุณชายงัวเงียมาก คงใกล้จะหลับเต็มทนแต่ก็ยังอยากฟังนิทาน(ประวัติ)ของผมต่อ ผมจึงก้มหน้าหลบสายตาคุณชายแล้วเล่าต่อ ...เพราะถ้ามอง ผมต้องเล่าไม่ออกแน่ ๆ

   “ครับ... พอย้ายมาอยู่เมืองหลวงผมก็เรียนโรงเรียนวัดแถว ๆ บ้านอย่างที่คุณชายทราบนั่นแหละครับ ผมต้องเดินผ่านปั๊มน้ำมันทุกวัน แล้ววันหนึ่งผมก็เห็นป้ายรับพนักงานเพิ่มก็เลยลองสมัครดูเพราะอยากช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของพ่อกับแม่ แต่ผมทำงานได้แค่หลังเลิกเรียนน่ะครับ ผู้จัดการเองก็คงสงสารผมก็เลยรับผมไว้เป็นกรณีพิเศษ และเพราะอดีตเหล่านั้นนั่นแหละครับ เลยทำให้ผมอยากรวย อยากเอาเงินไปซื้อบ้านหลังนั้นคืนให้พ่อกับแม่เพราะมันเป็นบ้านที่ทุกคนต่างก็ผูกพัน... แต่ถึงจะคิดอย่างนั้นผมก็รู้ว่ามันคงไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ...”

   ผมเว้นวรรคอีกครั้งก่อนที่จะถอนหายใจออกมา พอนึกถึงเรื่องราวในอดีตทีไรมันก็อดที่จะสงสารพ่อกับแม่ไม่ได้

   “อนาคตผมก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าจะทำอะไร คงคิดว่าจะเป็นเด็กปั๊มต่อไปแล้วก็เป็นพี่เลี้ยงคุณชายจนกว่าคุณชายจะไม่ต้องการ เพราะเงินที่คุณชายให้ในแต่ละเดือนมันก็มากโขและทำให้ผมมีเงินเก็บเหลือใช้... แล้วผมก็มีอีกความฝันนึง คุณชายอยากฟังไหมล่ะครับ...”

   ผมแกล้งหยุดชะงักเพื่อรอฟังว่าคุณชายจะตอบว่าอย่างไร สายตาของผมไม่ได้จับจ้องไปที่ใบหน้าของคุณชายหรอก เพราะถ้าเห็นสายตาของคุณชายที่จับจ้องมามันจะทำให้ผมตัวเกร็งและไม่มีสมาธิเล่า ...แต่ทว่าคุณชายไม่ได้ตอบอะไร สงสัยคงจะกำลังนึกหมั่นไส้ที่ผมถามความเห็น ผมก็เลยเล่าต่อซะเลย

   “คุณชายจำได้ใช่ไหมครับ ตอนที่เราเจอกันครั้งแรกน่ะ คุณชายเคยบอกว่าอยากไปอลาสก้า... หลังจากวันนั้นผมก็ไปศึกษาหาข้อมูลว่าอลาสก้ามันเป็นยังไง มันอยู่ที่ไหน พอได้เห็นรูปป่าสนท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมไปทั่มในอินเตอร์เนต มันก็ทำให้ผมฝัน... เอ่อฝัน... ฝันอยากจะไปอลาสก้า...”

   ผมชะงักชั่วครู่เพราะรู้สึกเคอะเขินที่จะพูดประโยคถัดไป... “กับคุณชาย จบแล้วครับ"

   ท้ายที่สุดผมก็เอ่ยประโยคนั้นด้วยน้ำเสียงเบาหวิวก่อนที่จะเงยหน้าไปมองคุณชายเพราะอยากรู้ว่าคุณชายจะทำสีหน้าอย่างไรที่ได้ฟังความฝันของผม แต่ทว่า... ผมก็ต้องผิดหวังเพราะภาพที่ผมเห็นก็คือคุณชายกำลังนอนหลับ เปลือกตาปิดสนิท โดยที่ผมไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่

   เห็นดังนั้นผมก็ได้แต่ส่ายศีรษะแล้วจ้องมองดูคุณชายด้วยความเอ็นดูพลางนึกในใจว่าคุณชายคงจะชอบฟังนิทานเวลาปวดศีรษะจริง ๆ ขนาดผมเล่าอัตชีวประวัติที่แสนน่าเบื่อคุณชายก็ยังหลับปุ๋ยเอาง่าย ๆ แบบนี้

   ...แต่เดี๋ยวก่อน! มันมีอะไรแปลก ๆ ไปอยู่นะ... อัตชีวประวัติ? น่าเบื่อ? พอผมจับต้นชนปลายได้ผมก็เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมคุณชายถึงหลับปุ๋ย ก็เพราะสิ่งที่ผมเล่ามันน่าเบื่อน่ะสิ

   “หน็อย! ร้ายนักนะคุณชาย" ผมเอ่ยขึ้นต่อหน้าอย่างไม่เกรงกลัว "หลอกให้เล่าประวัติแล้วก็ชิงหลับตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ มิน่าล่ะถึงอยากฟังนักฟังหนาไอ้นิทานกล่อมเด็กหรือเรื่องของผมเนี่ย!!!"

   พูดจบผมก็ลุกขึ้นก่อนที่จะดึงผ้าห่มมาห่มถึงอ้อมอกของคุณชายเอาไว้แล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คุณชายได้พักผ่อนตามลำพัง




จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่5 P.3] - 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 19-09-2013 16:08:19
คุยกับคนอ่านครับ  :hao6:

คุณ iamnan :: คุณชายไม่มีแผนอะไรจริงจริ๊ง ครับ :hao4:
คุณ NJnobu :: แหะๆ เมาค้างงับ เอิ๊กๆ
คุณ nunnan :: แกล้งด่าว่าไก่อ่อน ฮ่าๆ พอข้าวเถียงว่าไม่อ่อนก็เลยจะพิสูจน์ซะ 555
คุณ khuan :: T^T ขอโทษงับ แฮะๆ
คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: ไม่มี๊ๆ ยังไม่อยากให้คุณชายออกตัวแรงคร้าบ 555
คุณ WednesdayAugust :: ฉากเด็ดยังไม่มีเด้อ อุบไว้ก่อน แฮะๆ
คุณ cavalli :: มาต่อแล้วคร้าบ อิอิ
คุณ fannan :: มาต่อแล้วจ้า T^T ไม่มีอะไรจริงจริงเน่อฉากต่อไป
คุณ kasarus :: ฮ่าๆๆ ยังไม่กินครับ เอิ๊กๆ
คุณ dahlia ::  :hao5: คุณชายแค่ชอบแกล้งข้าวครับ
คุณ loveaaa_somsak :: 555 ถ้าคุณชายไม่รับผิดชอบจะเป็นไงน๊า (แต่ยังไม่ทำอะไรซะหน่อย)
คุณ took-ta_naka :: แต่ผมอยากให้เป็นรุกทั้งสองคนเลยง่า T^T
คุณ sang som :: เจ้าเล่ห์ที่สุดด้วยครับ 555
คุณ Xipnoz :: อยากสลับมากๆครับ T^T แต่ไม่รู้เหมือนกัน แหะๆ
คุณ BlueHoney :: ไม่มีจ้า มีแต่ฉากแกล้ง ฮ่าๆ
คุณ Lily teddy :: 555 ขอบคุณคร้าบ แกล้งพิสูจน์ไอ่นั่นครับ เอิ๊กๆๆ  :katai1:
คุณ Sofa :: T^T จินตนาการได้เลยครับ อยากให้ใครเป็นรุก รับ แต่อาจจะไม่เกี่ยวกะหน้าตาก็ได้คิคิ
คุณ inspirer_bear :: คุณชายขี้แกล้งจริงๆ !!!
คุณ mentholss :: ตอนใหม่มาแล้วครับ  ^^
คุณ wishes :: มาแล้วจ้า ไม่ค้างแว้ว แหะๆ
คุณ มยอนฮวา :: 555 ไม่จับกดครับ แต่จับอ่อน ฮ่าๆๆ
คุณ u_cosmos :: ยังๆ ยังรอดครับ ฮ่าๆๆๆ
คุณ Wereena :: ขอบคุณคร้าบ ชอบแล้วต้องเม้นท์ให้ทุกตอนด้วยนะ คิคิ บังคับๆ
คุณ thanza1970 :: ขอบคุณครับผม มาอัพตอนใหม่แล้วนะ
คุณ Dee^daY :: ขอบคุณครับ ^^ ฝากติตดามตอนต่อๆไปด้วยนะงับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Magician ที่ 19-09-2013 16:46:56
^
^
^

เย้ๆ ได้จิ้มคนเขียนด้วย  :z13:

อุ๊วะ ฮะฮาาาาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 19-09-2013 17:25:40
จับอ่อนเหรอ!?? //ทำหน้าเสียดาย...แต่มีหอมแก้มด้วยอ่า ><
ความฝันของข้าวจะเป็นจริงเปล่าคะ? เราอยากให้ข้าวได้ไปกอดกับคุณชายในป่าสนที่อลาสก้าจัง^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 19-09-2013 18:06:38
อ้อนเป็นเด็กเชียว เจ้าเด็กแก่แดด  :katai5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 19-09-2013 18:14:38
เข้ามาเช็คเรื่องนี้ทุกวันเลย :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Xipnoz ที่ 19-09-2013 18:26:02
คุณชายอ้อนซะน่ารักเชียว  :-[
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-09-2013 19:04:35
อะไรเนี่ยคุณชาย ปล่อยข้าวเล่าแล้วตัวเองชิงหลับได้ไง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 19-09-2013 20:56:09
ชิงหลับก่อนแบบนี้ มันน่าจับตีก้นนักนะ คุณชาย 555  :hao3: :hao3: :hao3:

+  :กอด1:  o13 ให้กำลังใจคนเขียนหน่อย...

 :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 19-09-2013 22:53:35
แกล้งหลับอะป่าวววว

เตรียมตัวไว้ข้าวว 5555

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 19-09-2013 23:28:17
ชอบฟังนิทานด้วย น่ารักเชียวนะคุณชาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-09-2013 01:34:13
 :hao3: แกล้งหลับหรือเปล่าหนอคุณชายกับประโยคสุดท้าย
น่ารักกันทั้งคู่เลย :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 20-09-2013 04:41:31
อยากไปอลาสก้ากับคุณชายเหรอ



น่ารักจังนะเนี่ยยังจำความฝันของคุณชายได้ด้วย



รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-09-2013 10:07:57
น่ารักจริงคุณชาย
มีหอมแก้มข้าวด้วย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 20-09-2013 11:48:00
อ๋อเพื่อพิสูจน์ไอ่นั่น น่ะเอง 555 แต่แหมคุณชายนี่เจ้าเล่ห์อะ หลอกหอมแก้มข้าวไปหนึ่งฟอดน่าตาเฉยทำเอาข้าวไปไม่เป็นเลย
ขนาดเล่านิทานยังตะกุกตะกักมัวแต่เขินกะสายตายั่วยวนของคุณชายตลอด แต่รู้สึกสงสารข้าวนะ
ยิ่งอ่านชีวิตและความฝันของข้าวแล้วไม่อยากให้คุณชายแค่หลอกแกล้งข้าวเลย เพราะยิ่งใกล้ชิดชีวิตข้าวก็ยิ่งผูกพันกะคุณชายนะเนี่ย
เพราะนอกจากความฝันของข้าวที่อยากจะรวยเพื่อเอาเงินไปซื้อบ้านในสมัยเด็กคืนให้พ่อแม่แล้ว
ตอนนี้คุณชายก็เริ่มจะเป็นส่วนหนึ่งในความฝันของข้าวแล้วด้วย  แล้วข้าวจะสมหวังกะความฝันที่จะได้ไปอลาสก้ากับคุณชายไหมน๊า
ตกลงคุณชายนี่หลับจริงหรือแกล้งหลับเนี่ย จะได้ยินความฝันของข้าวบ้างไหมอยากรู้จัง
รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 20-09-2013 18:46:29
อิตาคุณชายนี่ แสบ&กวน ได้อีก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 20-09-2013 18:53:51
มีความฝัน 2 อย่างแล้วนะ คุณข้าว ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 20-09-2013 20:51:01
น่ารักจริง ๆ ข้าวนี้ฝันอยากเป็นเหมือนเราเลยอ่ะ อยากรวย 555จับคุณชายกดเลย รวยทางลัด คิคิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 20-09-2013 22:50:40
น่ารักว่ะ แต่กว่าจะมาแต่ละตอน มาไวไวบ้างนะค้าาาาาาา
ว่าแต่ใครเป็นเคะหว่า???
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 22-09-2013 23:43:28
น่าสนใจน่ะ ชีวิตคุณชายกะบ่าว

 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 25-09-2013 03:03:52
ตอนที่ 7    ::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: บ้านเด็กกำพร้า :::



        พอถึงเวลา 11.00 นาฬิกา ผมก็รีบวิ่งขึ้นไปปลุกคุณชายบนห้องนอนทันที...   

   คุณชายยังคงนอนหลับสนิท แถมหน้าตายังยิ้มแย้มดูมีความสุขอีกต่างหากราวกับว่ากำลังฝันหวาน

   “คุณชาย คุณชายครับ ตื่นได้แล้วครับ" ผมเอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือไปเขย่าร่างของคุณชายเบา ๆ

   “อย่านะข้าว" คุณชายสะดุ้งโหยงลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วก็มองหน้าผมแปลก ๆ ก่อนจะบ่นเบา ๆ "ฝันเหรอเนี่ย"

   'ฝัน?' ผมได้ยินเสียงของคุณชายแม้มันจะบางเบามาก ๆ ก็เถอะแต่ที่ผมสงสัยคือคุณชายจะเอ่ยชื่อผมทำไม หรือว่ากำลังฝันถึงผมหว่า... จากนั้นคุณชายก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะมองหน้าผมราวกับต้องการจะถามว่ามีปัญหาอะไร

   “11 โมงแล้วครับคุณชาย" ผมพูดออกไปทันทีก่อนที่จะมีเรื่อง คุณชายพยักหน้ารับจากนั้นก็ลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวทันที สายตาผมก็ไม่รู้มันเป็นอะไรมากนักถึงได้จ้องแต่บ็อกเซอร์ของคุณชาย พอเห็นว่าบ็อกเซอร์ของคุณชายดูเปียก ๆ แฉะ ๆ ผมก็อดที่จะแซวไม่ได้

   “โห! คุณชาย แอร์ก็เปิดซะเย็นยังจะร้อนเหงื่อออกจนกางเกงแฉะอีกนะครับ ดูท่าจะขี้ร้อนเนอะ" พูดจบคุณชายก็ก้มหน้ามองดูบ็อกเซอร์ของตัวเองก่อนที่จะทำตาโตเบิกโพลงเหมือนกับตกใจหลังจากนั้นก็หันมาทำหน้าดุใส่ผม

   “เออ... ฉันร้อน อย่ามัวพูดมากอยู่เลยรีบรีดเสื้อ รีดกางเกงรอไว้เลย เอาตัวไหนก็ตามใจ" สั่งจบก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที แต่เมื่อกี้ตอนที่โดนแซวว่าขี้ร้อน ผมเห็นคุณชายทำหน้าเหมือนอาย ๆ นิดหน่อย ...ผมล่ะงงจริง ๆ ว่ามันมีอะไรให้น่าอายตรงไหน

   “คร้าบ...” ผมตอบรับก่อนจะเข้าไปเดินเลือกเสื้อผ้าให้คุณชายทันที




   หลังจากที่ทำภารกิจทุกอย่างเสร็จ คุณชายเป๊กก็ออกเดินทางไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทันที ซึ่งผมก็โดนคุณชายบังคับให้ไปด้วย

   “ข้าว... ไม่อยากขับรถเป็นบ้างเหรอ" ในขณะที่รถกำลังติดอยู่แยกไฟแดง คุณชายก็เอ่ยขึ้น

   “ไม่เอาหรอก" ผมปฏิเสธออกไป ...ถ้าผมขับรถเป็นมีหวังไอ้คุณชายมันใช้ผมขับไปนู่นไปนี่แน่ ๆ สู้นั่งสบาย ๆ อยู่บนรถดีกว่า

   “ทำไมอ่ะ กลัวฉันใช้ขับเหรอไง" คุณชายถามอย่างรู้ทัน

   “เปล่าครับ" ผมปฏิเสธ จะให้ผมยอมรับได้ยังไงล่ะมีหวังคุณชายโกรธจนวันตายแน่ ๆ

   “เอาน่า ขับ ๆ ไปเถอะฉันไม่ใช้หรอก เดี๋ยวว่าง ๆ ฉันจะสอนให้นะ" คุณชายฉีกยิ้มออกมา โดยที่สายตาก็ยังจับจ้องถนนหนทางข้างหน้า
 
   “ไม่เอาอ่ะ รถคุณชายคันละตั้งกี่ล้าน เกิดผมทำสีรถถลอกผมคงรู้สึกแย่" ผมหาเหตุผลที่เข้าท่ามาปฏิเสธ

   “ถ้าเป็นข้าว...” คุณชายพูดออกมา แต่แล้วก็นิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะหันมามองผมแล้วก็ยิ้มออกมาแล้วเบือนหน้าไปจ้องมองถนนต่อ ...หน้าผมมันเหมือนตลกหรือไงคุณชาย!

   ผมจ้องคุณชายกลับเพื่อลุ้นว่าจะพูดอะไรต่อ แล้วสิ่งที่คุณชายพูดออกมา ก็ทำให้ผมใจเต้นแปลก ๆ อีกแล้ว

   “ฉันไม่โกรธหรอก... เฉพาะข้าวคนเดียวเท่านั้นนะ" แหนะ... พูดเสียงนุ่มไม่พอ ยังแอบยิ้มละมุนละไมให้อีก

   “ทำไมล่ะครับ" ผมอยากรู้เหตุผล ผมมันก็มนุษย์คนหนึ่งเหมือนกับคนอื่น ๆ แล้วมีดีอะไรที่คุณชายจะต้องไม่โกรธถ้าผมเอารถไปขับชนจนบุบหรือสีถลอก ...ขนาดเรื่องขี้ปะติ๋วเท่าไข่คุณชาย เอ้ย! ไข่มดแดง คุณชายยังโกรธผมจนเลือดขึ้นหน้าเสียทุกครั้งเลย

   “ก็เพราะข้าวคือคนพิเศษไงล่ะ" เอาอีกแล้ว คุณชายเล่นพูดจาอะไรให้ผมแปลก ๆ อีกแล้ว ถึงผมจะชอบผู้หญิงมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่มาเจอคุณชายที่หน้าตาหล่อเหลาของผมพูดจายั่วยวนแบบนี้บ่อย ๆ ผมก็หวั่นไหวเหมือนกันนะ

   “โด่... คุณชายก็ชอบพูดเล่นแบบนี้อยู่เรื่อยเลย"

   “ฉันไม่ได้พูดเล่น ข้าวคือคนพิเศษจริง ๆ" คุณชายยังมีหน้าเล่นมุกต่อไป ผมนั่งนิ่งเงียบเพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณชายจะพูดอะไรต่อ "คือฉัน... ฉัน... ฉันชอบข้าว ชอบตั้งแต่ที่ข้าวขึ้นแท็กซี่ตามฉันไปที่สุวรรณภูมิแล้ว"

   “คุณชาย...” คราวนี้ผมนั่งนิ่งของจริงเลยล่ะ ไม่ใช่นิ่งเพราะอยากจะนิ่งแต่เป็นเพราะอาการเกร็งไปทั่วร่างหลังจากที่ได้ฟังคำพูดของคุณชาย จนกระทั่งเสียงหัวเราะของคุณชายดังขึ้น สติของผมเลยกลับมา

   “ฮ่า ๆ ๆ ทำไมต้องทำหน้าตาย ตาโต อ้าปากเหวอแบบนั้นด้วยวะ" ยังจะขำอีกนะคุณชาย นี่ถ้าไม่มียศหม่อมหลวงนำหน้าชื่อ ผมคงจะฟาดกบาลแรง ๆ เพื่อเป็นการสั่งสอนแล้วล่ะที่บังอาจมาหัวเราะผม "ฉันก็แค่พูดเล่นเอง... ฉันจะไปชอบข้าวได้ยังไง ข้าวก็ผู้ชาย ฉันก็ผู้ชาย ฮ่า ๆ ๆ อย่าคิดมากนะเบบี๋"

   พูดจบก็ยื่นมือมาขยี้ศีรษะผมอย่างชอบใจ ...คุณชายก็เป็นซะแบบเนี้ย ชอบพูดอะไรให้ผมคิดมากอยู่เป็นประจำ แล้วผมก็หลงเชื่อทุกครั้งเสียด้วยสิ

   “โถ่...” ผมถอนหายใจออกมา อยากพูดเล่นมากนักใช่ไหม คราวนี้ผมขอเล่นบ้างละกันก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณชายจะมีอาการแบบไหน "ผมก็นึกว่าคุณชายพูดจริงซะอีก ไอ้เราก็อุตส่าห์ดีใจนึกว่าจะได้คบกับคุณชายจริง ๆ จัง ๆ แล้วซะอีก"

   สิ้นเสียง... รถก็เบรกกะทันหันจนคนที่ขับรถตามมาต้องบีบแตรไล่เสียงดังลั่นที่คุณชายทำให้คนอื่น ๆ เสียจังหวะ โชคดีที่รถคันหลังไม่ได้วิ่งตามมาติด ๆ ชนิดแนบเนื้อเลยทำให้รถเบนซ์คันหรูของคุณชายไม่โดนชน

   “ข้าวว่าไงนะ" คุณชายหันมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่เพียงแค่น้ำเสียง สีหน้าของคุณชายก็ยังจริงจังอีกด้วย ...เสียงแต่ที่ยังดังต่อเนื่องทำให้คุณชายต้องรีบยกเท้าขึ้นจากเบรกแล้วขับรถต่อไป "ข้าวพูดจริงเหรอ"

   “ครับ...” ผมตอบคุณชาย แถมยังทำเป็นเขินอายแล้วหันหน้าไปนอกหน้าต่างอีกต่างหาก

   “ข้าว...” คุณชายเรียกชื่อผม "นายเป็นผู้ชาย ฉันก็ผู้ชาย อย่าพูดอะไรแบบนี้อีกนะ ฉันรับไม่ได้"

   พอคุณชายพูดจบ คราวนี้ผมก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นบ้าง ดังกว่าตอนที่คุณชายแกล้งผมซะอีก เอาคืนทั้งทีก็ขอให้หนำใจไปเลย

   “ไอ้ข้าว!!!” คุณชายเน้นเสียง "สนุกนักเหรอไงวะ"

   “ก็ช่วยไม่ได้... คุณชายอยากแกล้งผมก่อนทำไมล่ะครับ"  ผมเถียงกลับ ชอบแกล้งให้ผมหวั่นไหวดีนัก ผมก็ขอแกล้งคืนบ้างละกัน ...แต่เอ๊ะ! ที่คุณชายตกใจจนเท้าเผลอไปแตะเบรกรถสุดแรงนี่มันเป็นเพราะอะไรกันแน่นะ จะว่าแค่ตกใจเฉย ๆ ก็คงไม่ใช่ คงจะตกใจมาก ๆ ล่ะมั้ง

   “ไอ้ข้าว!!!” คุณชายยืดแขนออกมาล็อกที่คอของผม แล้วออกแรงจนศีรษะของผมต้องเอนไปตามแรงนั่นกระทั่งซบเข้ากับหัวไหล่ของคุณชาย ...ให้ตายเถอะ แทนที่ผมจะดิ้นหรือสู้ ทำไมผมถึงกลับอยู่นิ่ง ๆ ให้คุณชายโขกสับได้ตามใจล่ะเนี่ย มิหนำซ้ำกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากร่างกายของคุณชายมันยังทำให้ผมรู้สึกว่ากลิ่นนั้นเป็นกลิ่นที่หอมที่สุดในชีวิตตั้งแต่ที่ผมเคยสัมผัสมา

   “อย่ามาล้อเล่นอีกนะโว๊ย เดี๋ยวเหอะ คราวหลังจะทำให้ชอบสมใจ" คุณชายผลักศีรษะผมออกไปทันทีที่พูดจบ

   ผมขยี้ศีรษะของตัวเองแรง ๆ เพื่อจัดทรงผมให้เข้าที่ก่อนที่จะหันไปต่อปากต่อคำกับคุณชายต่อ "เหรอครับ แล้วคุณชายจะทำยังไง ถ้าคิดว่าแน่ก็เอาเลย กลัวที่ไหนเล่า..."

   “หึ...” คุณชายพ่นลมหายใจออกมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เมื่อไม่พูด ผมก็ไม่คิดที่จะถาม... จนกระทั่งในที่สุดคุณชายก็เลี้ยวเข้าไปในซอย ๆ หนึ่งหลังจากที่ขับรถออกมานอกตัวเมืองไกลพอสมควร ถนนในซอยค่อนข้างแคบมีตัวบ้านถูกสร้างเรียงรายอยู่ตลอดทาง หากแต่มันไม่ได้หลังใหญ่โตเหมือนกับบ้านที่อยู่ในตัวเมือง

   แล้วในที่สุดคุณชายก็ขับรถเข้าไปในรั้วแห่งนี้ ที่หน้ารั้วมีป้ายอันใหญ่โตบอกเอาไว้เด่นหราว่าที่นี่คือ 'สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าบ้านบารมี'

   หลังจากที่จอดรถเข้าซอง คุณชายก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาใครบางคน

   “รัชท์ อยู่ไหน" คุณชายเอ่ยขึ้น ...คนที่คุณชายโทรหาคือ คุณรัชท์ ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของคุณโรมเจ้าของยิมฟิตเนสที่คุณชายเป๊กของผมไปใช้บริการเป็นประจำ คุณรัชท์มีอายุมากกว่าคุณชาย 1 ปี แต่คุณชายก็ไม่ยอมเรียกพี่แถมยังคุยซี้กันอย่างกับเพื่อนสนิท ...เหตุที่ทั้งคู่สนิทกันก็เพราะคุณรัชท์เป็นคนที่แนะนำคุณชายตอนที่คุณชายเรียนเทควันโดจนกระทั่งปัจจุบัน คุณรัชท์กับคุณชายเป็นนักกีฬาเทควันโดที่เก่งที่สุดของยิมฟิตเนสและยังเป็นคู่ปรับกันอีกด้วย เวลามีแข่งขันทีไรก็จะผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะเสมอ ๆ

   “เออ ๆ เดี๋ยวลงไปหาเดี๋ยวนี้แหละ" พูดจบก็วางสาย... คุณชายต่อให้จะเรียนมารยาทมากี่ปี ๆ ก็ไม่เคยพูดครับกับคนที่อายุใกล้เคียงหรือน้อยกว่าเลยสักครั้ง จะพูดดีก็ตอนที่อยู่ต่อหน้าญาติผู้ใหญ่เท่านั้นแหละ "ป่ะข้าว... ทุกคนเตรียมงานอยู่ข้างในแล้ว"

   “ครับ"

   หลังจากที่เดินลงจากรถ คุณชายก็เดินตรงไปยังอาคารหลังหนึ่งซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวมีขนาดกว้างพอ ๆ กับหอประชุมในโรงเรียนมัธยมอยู่ด้านในสุด  ตลอดทางเดินมีต้นไม้สูงใหญ่ทำให้ดูร่มรื่น

   เสียงเด็กปรบมือที่ดังเล็ดลอดออกมาจากตัวอาคารเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากิจกรรมการมาทำบุญที่บ้านเด็กกำพร้าได้เริ่มขึ้นแล้ว ...ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยมาทำอะไรแบบนี้เลยสักครั้ง

   คุณชายเดินนำลิ่ว ๆ อยู่ด้านหน้าก่อนที่ย่างเท้าเข้าไปในนั้นก่อนผม  ...ไม่รู้ว่าจะรีบไปไหน เดินรอกันหน่อยก็ไม่ได้

   ภายในอาคารหลังนั้นที่ด้านในสุดมีเวทีเล็ก ๆ ตั้งอยู่ โดยคุณรัชท์กำลังยืนอยู่บนเวทีกับพนักงานประจำอีกสองคนที่ผมคุ้นหน้าซึ่งทำงานอยู่ที่ฟิสเนต ด้านล่างเวทีมีเด็กมากหน้าหลายตานั่งเรียวแถวกันอยู่ คาดเดาจากสายตาก็น่าจะมีประมาณ 30 – 40 คนได้

   ด้านข้างแถวที่เด็กนั่งฝั่งซ้ายมีโต๊ะซึ่งวางหม้อกับข้าวขนาดใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งดูเวลาแล้วก็พอจะเดาได้ว่าเด็ก ๆ น่าจะรับประทานกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนฝั่งขวามีโต๊ะที่มีขนมลูกอมและกล่องของขวัญมากมายวางเรียงรายเอาไว้ ...สงสัยคุณรัชท์จะนำมาแจกเด็ก ๆ

   “คุณชาย" ผมร้องเรียกคุณชายที่เดินนำผมลิ่ว ๆ "รอผมด้วยสิครับ"

   ผมรู้สึกเกร็ง ๆ อย่างบอกไม่ถูกที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ไม่ใช่เพราะอายที่จะต้องทำในสิ่งดี ๆ หรอกนะ แต่เพราะไม่เคยเป็นจุดเด่นยืนอยู่ท่ามกลางสายตาของเด็ก ๆ หลายคู่แบบนี้ต่างหาก

   “เดินช้าจริง" คุณชายหันมากระซิบข้างหูทันทีที่ผมเดินไปหยุดอยู่หลังคุณชายตรงหลังโต๊ะฝั่งขวา ผมไม่ได้เถียงอะไรออกไปยืนก้มหน้ารับความผิดนิ่ง ๆ

   เมื่อเห็นว่าคุณรัชท์ยังคงพูดพรรณนาโวหารไม่รู้จบอยู่บนเวที ผมก็ใช้ช่วงเวลานี้กวาดมองดูสีหน้าค่าตาของเหล่าเด็กกำพร้าที่นั่งเรียงแถวอยู่ตรงหน้า ซึ่งใบหน้าของน้อง ๆ ทุกคนมองออกชัดเจนว่ากำลังสนุกและมีความสุข มีบางคนที่ดูเศร้ากว่าปกติอาจเป็นเพราะไม่ชอบกิจกรรมแบบนี้ น้อง ๆ ส่วนใหญ่หน้าตายังดูอ่อนเยาว์ อายุคงไม่เกิน 10 ปี

   พอเห็นเด็กเหล่านี้แล้วผมก็อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่เกิดมามีพ่อกับแม่ที่รักและคอยดูแลเอาใจใส่มาตั้งแต่เด็ก ๆ แม้จะโดนดุบ้างในบางครั้ง แต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งแม้แต่ในวันที่ลำบากที่สุด ทรัพย์สินทุกอย่างโดนยึกไปจนแทบจะไม่มีเงินเหลือเก็บก็ตาม

   ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเด็กเหล่านี้ผิดอะไร ทำไมเขาถึงต้องมาอยู่ที่นี่ พ่อกับแม่ของเขาไม่รักลูก ๆ บ้างหรืออย่างไรทั้ง ๆ ที่เด็ก ๆ เหล่านี้ถือกำเนิดมาจากความรักของพวกเขาทั้งนั้น... หรือไม่พ่อแม่ของเด็กก็อาจจะคิดถึงความความสุขและความสนุกของตนจนลืมนึกผลที่จะตามมา

   “เอาล่ะครับ... คราวนี้พี่รัชท์มีเกมสนุก ๆ จะให้น้อง ๆ เล่น แต่ก่อนที่จะเริ่มเล่นพี่จะให้สต๊าฟของเราจับคู่กันก่อน" พูดจบคุณรัชท์ที่ยืนอยู่บนเวทีก็ผายมือมายังฝั่งที่ผม คุณชายรวมถึงพนักงานในฟิตเนสคนอื่น ๆ ที่คุ้นหน้ายืนอยู่ "พี่สต๊าฟจับคู่ได้เลยนะครับ"

   “คุณชาย... เราต้องเล่นเกมด้วยหรือเปล่า" ผมถามอย่างกังวลใจ คุณชายพยักหน้าตอบ "ผมไม่เล่นนะครับ"

   “ไม่ได้" คุณชายยื่นคำขาด "เพราะนายต้องคู่กับฉัน"

   พูดจบก็ยักคิ้วทะเล้น ๆ ใส่ ถ้าต้องคู่กับคุณชายผมก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าคู่กับคนอื่น ๆ ผมคงขอตัวล่ะงานนี้

   “จับคู่กันเสร็จหรือยังครับ" คุณรัชท์เอ่ยถามหลังจากที่ปล่อยให้เหล่าสต๊าฟเลือกคู่อยู่ประมาณ 20 วินาที

   คุณชายเป๊กกวาดสายตามองดูรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าทุกคนยืนแยกกันเป็นคู่ ๆ คุณชายก็ตะโกนตอบกลับไปว่า

   “เสร็จแล้วครับ" ทีอยู่ต่อหน้าคนเยอะ ๆ พูดมีหางเสียงเชียวนะคุณชาย...

   “ดีมากครับ" คุณรัชท์เอ่ยขึ้น "ถ้ามีคู่แล้ว ก็ให้เดินจับมือกันมาเรียงแถวหน้ากระดานที่ด้านหน้าเวที โดยห้ามให้มือหลุดออกจากกันเด็ดขาดนะครับ"

   สิ้นเสียงของคุณรัชท์ผมก็หันหน้าไปมองคุณชายด้วยความไม่บริสุทธิ์ใจ หากแต่คุณชายคงจะไม่ได้คิดอะไรเลยยิ้มกริ่มแล้วจับมือผมทันที ...สัมผัสแรกที่คุณชายเอื้อมมือมาจับทำให้ผมรู้สึกถูกใจอย่างประหลาด เพราะฝ่ามือของคุณชายช่างนุ่มนิ่มเสียเหลือเกิน




จบตอน...
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่6 P.4] - 19/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 25-09-2013 03:12:46
คุยกับคนอ่านครับ ^^

คุณ Magician :: อาราย มาจิ้มอารายเค้า ฮ่าๆ จิ้มกลับ :z13: :z13:
คุณ BlueHoney :: >.< นั่นสิครับ ผมก็อยากให้ข้าวไปเที่ยวกับคุณชาย เป็นจริงหรือไม่จริงต้องรอติดตามครับผม
คุณ nunnan :: อิอิ หลงรักเด็กแก่แดดแล้วล่ะซี๊
คุณ loveaaa_somsak :: ขอบคุณคร้าบ น่ารักจริงๆเลย >.< เช็คทุกวัน ต้องอ่านทุกตอนด้วยนะ คิคิ
คุณ Xipnoz :: อ้อนน่ารักจริงครับ... เขียนเรื่องนี้ไปยังหลงคุณชายเองเลย 555  :hao7:
คุณ iamnan :: 5555 คุณชายเจ้าเล่ห์ !!!
คุณ NJnobu :: เย่ ได้รับกำลังใจแล้วครับ 555 น่าจับตี้ก้นคุณชายจริงจริ๊ง ข้าวอุตส่าห์เล่าอะไรๆสำคัญออกไป :z6:
คุณ ice_spok :: ใช่ๆ อาจจะแค่แกล้งหลับก็ได้ เจ้าเล่ห์อยู่แล้วอ่ะคุณชาย 555
คุณ kasarus :: ฮ่าๆๆ หลอกให้เล่าเรื่องเบื่อๆจะได้หลับง่ายครับ กรั๊กๆ แผนคุณชายใช้ข้าวเล่า
คุณ B52 :: มีสิทธิ์แกล้งหลับครับ คิคิ
คุณ fannan :: ขอบคุณครับ อัพตอนใหม่แล้วน๊า^^  :mew1:
คุณ lizzii :: อยากหอมมั่งอ่าจิ คิคิ
คุณ Lily teddy :: อิอิ ต้องติดตามต่อไปครับผม ^^ ว่าความฝันของข้าวจะเป็นไง แต่อดีตของข้าวมันน่าโมโหนัก T^T ไม่เกี่ยวอะไรกับครอบครัวข้าวเล๊ยย แต่ต้องมาช่วยรับเคราะห์
คุณ mentholss :: >.< แสบแต่ก็รักครับ (ข้าวฝากมาบอก)  :hao7:
คุณ Dee^daY :: >.< อิอิ จะกี่ฝันเดี๋ยวให้คุณชายจัดการให้มันเป็นจริงซะเลย ดีไหมน๊อ
คุณ sang som :: 555555 รวยทางลัด ข้าวฝากมาบอกว่าไม่ต้องรอคุณชายจับกดเดี๋ยวจับคุณชายกดเองเลยน่าจะไวกว่า เอิ๊กๆๆๆ
คุณ EARTHYSS :) :: >.< ขอบคุณครับ อิอิ เมะ เคะ คือใคร ต้องลองๆอ่าน ลองๆเดาดูครับ กรั๊กๆ อาจจะไม่มีอะไรตายตัวก็ได้คู่นี้ หุหุ
คุณ thanza1970 :: *0* คุณชายกะบ่าวเลยเหรอ 555 งั้นต้องจัด SM ให้บ่าวหนักๆดีไหม คิคิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 25-09-2013 06:01:28
อิอิคุณชายวางแผนอะไรไว้ป่าวเนี่ย



รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: neruko07 ที่ 25-09-2013 06:58:49
อ๊าก นึกว่าจะเนียนๆ แต่ที่ไหนได้แกล้งกันไปมา
คุณชายซึนนนนนนน ข้าวก็ซื่อ หนุกดีค่ะ ^^
ชอบเรื่องนี้มากๆ เลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 25-09-2013 07:39:58
ทำมาเป็นพูดว่ารับไม่ได้ เดี๋ยวคนอื่นมารับข้าวได้จะสมน้ำหน้าคุณชายทีหลัง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-09-2013 07:48:11
เอ๊ๆๆๆ คุณชาย เหงื่อออกจริงเร้อะ 55555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 25-09-2013 08:30:28
อยากเห็นคุณชายเจ้าเล่ห์ๆ

ข้าวก็ปล่อยให้บื่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 25-09-2013 08:45:13
หายไปนาน มาอ่านอีกที

2 ตอนรวด  แม้ๆๆ คุณชายทำมาปกปิด  ที่แท้ก็แอบคิดอะไรกับข้าวจริงๆนั่นแหล่ะ

ข้าว เอ้ย โดนจับมือแค่นี้อาการออกเลยเรอะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 25-09-2013 09:01:11
ใช่เหงื่อแน่เหรอ คุณชาย...  :hao3: แหม ชอบให้คุณชายจับมือก็บอกมาเห๊อะน้องข้าว  :hao3: :hao6:

+  :mew1:  :กอด1: คนเขียน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: FahFon ที่ 25-09-2013 09:29:20
ลุ้นๆ  >/////<
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-09-2013 09:48:25
เด็กปั๊มเราจะได้รักกับคุณชายจริงๆ ไหมเนี่ย
คุณชายปกปิดความรู้สึกตัวเอง มันไม่ดีนะครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 25-09-2013 10:02:50
มีหลายคนสงสัยเรื่องเหงื่อ!? >.<
เกมส์อะไรเอ่ย มีจับมือด้วย... แหม! อยู่ต่อหน้าเด็กๆอย่าคิดอะไรไม่งามนะ เค้าเขิน :o8:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 25-09-2013 10:12:34
ถ้าให้ดูตามอิมเมจ คุณชายรับ ข้าวรุก


แต่ถ้าดูนิสัย คุณชายรุก ข้าวรับ


แหม่ คุณชายมือนุ่มนิ่มซะด้วยยย  กระแสรับแผ่มาแต่ไกล  :hao3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 25-09-2013 12:17:13
พูดเล่นกันไปมา พอถึงเวลาบอกความรู้สึกจริงๆ คงไม่คิดว่าเป้นเรื่องล้อเล่นน่ะ

ตอนนี้ฟินสุดๆ หวังว่าตอนต่อไปจะทวีความฟินขึ้นเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-09-2013 12:18:02
อ่านๆอยู่ อ้าว!!! จบตอนซะแล้วสั้นจริง
ระวังนะคุณชาย เล่นพูดอย่างนี้เดี๋ยวมีใครมาสนใจเขาเมื่อไรละก็อย่ามาทำเป็นเดือดเป็นร้อนทีหลังนะ จะสมน้ำหน้าให้ซะ :katai3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: carenaka ที่ 25-09-2013 16:36:22
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 25-09-2013 17:29:20
กรี๊ดดดดด ตัดจบอ่ะ ><

อยากรู้จัง มือนุ่น แล้วจะยังไงต่อเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 25-09-2013 18:23:45
งานนี้จะโดนแกล้งอะไรอีกน้าาาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: wishes ที่ 25-09-2013 21:52:56
 :mew1: มาต่อไวๆ นะครับ รอ รอ รอ ครับ :mew3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 25-09-2013 22:39:37
มาสั้น ๆ เองอ่ะ

สั้นเหมือนคนแต่งไหมเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 26-09-2013 00:54:58
เพิ่งเห็นเรื่องนี้ และได้อ่าน
จนถึงตอนล่าสุด


สนุกกกกกกกกกๆๆๆ
เนื้อเรื่อง่นารักดีอ่ะ
อ่านแล้วรู้สึกดี ผ่อนคลาย
เหมือนได้พักใจ
ชอบบบบบบบบบบบบบ




ขอบคุณคนเขียนเน้ออออออออออ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 26-09-2013 02:02:23
แหมะะะ ไม่ค่อยได้ทำไร ก็นิ่มอยู่แล้วหล่ะ  :mew5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 26-09-2013 09:12:18
ให้หอมแก้มกันหรอ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 26-09-2013 09:51:04
แหนะๆเล่นเกมอะไรกันเหรออ
จะเข้าทางคุณชายหรือเปล่าเนี่ย คึคึ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Xipnoz ที่ 26-09-2013 11:10:56
คุณชายฝันถึงข้าว เปียกเลยทีเดียว

แล้วแบบนี้ยังบอกรับไม่ได้อีกนะ  :-[
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 28-09-2013 00:55:24
 :mew1:

  :-[  เท่อไหร่คุณชายจะบอกออกไปละนี่
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 28-09-2013 03:44:49
ไม่คิดว่าเหงื่อคุณชายออกผิดที่บ้างเหรอข้าว >///<

คนไม่ได้คิดอะไรทำไมจะต้องยิ้มกริ่มด้วย ไหนจะมือนิ่มๆที่มาจับเร็วๆนั่นอีก
เกมที่ให้เล่นจะเป็นอะไรกันหนอออ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 28-09-2013 18:52:29
เริ่มหวั่นไหวกันทั้งคู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 30-09-2013 23:29:39
ตอนที่ 8

::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: การหักหน้า :::



          สต๊าฟที่จับคู่มีทั้งหมด 6 คู่ เมื่อทุกคู่เดินมาหน้าเวทีแล้วคุณรัชท์ก็สั่งให้น้อง ๆ ทั้งหมดแบ่งกลุ่มเป็น 6 กลุ่มทันที โดยแต่ละกลุ่มต้องมีสมาชิกเท่า ๆ กันซึ่งกลุ่มของผมกับคุณชายได้สมาชิกตัวเล็ก ๆ มาร่วมกลุ่มทั้งหมด 6 คน

   “เกมแรกที่พี่จะให้เล่นก็คือเกมยืนบนกระดาษนะครับ โดยน้อง ๆ จะต้องยืนบนกระดาษหนังสือพิมพ์ร่วมกับพี่สต๊าฟโค้ชห้ามให้เท้าหรืออวัยวะในร่างกายส่วนใดก็ตามหลุดออกมาโดนพื้นนอกหนังสือพิมพ์นะครับ"

   สิ้นเสียงของคุณรัชท์ สต๊าฟที่ไม่ได้จับคู่ก็นำแผ่นหนังสือพิมพ์มาวางไว้ตรงหน้าของแต่ละกลุ่ม

   “ชอบเกมนี้จริง ๆ" คุณชายเอ่ยออกมา สายตาก็ยังคงไว้ซึ่งความเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม

   “ทำไมครับ" ผมเอ่ยถาม เพราะไอ้เกมต่าง ๆ นานาแบบนี้ผมไม่เคยเล่นหรอก

   “เดี๋ยวก็รู้...” สิ้นเสียงของคุณชาย จากนั้นเกมก็เริ่มทันที

   ในทีแรกทุกกลุ่มไม่มีปัญหาอะไร สมาชิกทุกคนสามารถยืนอยู่บนหนังสือพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย แต่พอด่านต่อมา ที่ต้องพับกระดาษหนังสือพิมพ์ลงครึ่งหนึ่งเท่านั้นแหละ พื้นที่ในการยืนบนหนังสือพิมพ์น้อยลงทำให้สมาชิกในกลุ่มต้องมีการสัมผัสตัวกันมากขึ้น

   ผมกับคุณชายพยายามที่จะยืนขาเดียวหรือทำท่าต่าง ๆ นานาก็แล้วแต่ก็ไม่สามารถยืนบนหนังสือพิมพ์ได้สักที

   “เอางี้นะข้าว ให้น้องขี่หลังนายกับหลังฉันอย่างละคน" คุณชายสั่ง จากนั้นผมก็เลือกน้องที่ตัวโตที่สุดมาขี่หลัง ส่วนคุณชายเลือกน้องในกลุ่มที่ตัวเล็กที่สุดเพราะเห็นว่าคนตัวโตได้เสร็จผมไปเรียบร้อยแล้ว

   “หน็อย! ขี้โกงนี่คุณชาย" ผมเอ่ยขึ้นขณะที่คุณชายกำลังนั่งย่อขาให้เด็กขี่หลัง

   “ช่วยไม่ได้" คุณชายเบะปากพูดออกมาอย่างน่าหมั่นไส้

   หลังจากที่ทุกอย่างพร้อมผมก็เดินไปยืนขาเดียวอยู่บนแผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์ เหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย แต่ก่อนที่จะเรียกกรรมการมาตรวจ คุณชายดันเจ้าเล่ห์ใช้มือข้างหนึ่งมาโอบร่างของผมจนรางของผมกับคุณชายต้องแนบชิดติดกัน

   “รู้หรือยังทำไมฉันถึงชอบเกมนี้" เสียงของคุณชายนุ่มนวลมาก มากเสียจนผมต้องยืนตัวแข็ง หัวใจก็เต้นแรงผิดปกติเพราะไม่ใช่แค่ร่างกายที่ใกล้ชิดกัน ใบหน้าในยามนี้ก็แทบจะติดกันอยู่แล้ว

   “ไม่รู้ครับ" ผมแกล้งตอบปัด ๆ ไปเพราะไม่อยากตกอยู่ในเกมแห่งความหวั่นไหวที่คุณชายตั้งใจจะแกล้งผม

   “ไม่รู้เหรอ" คุณชายขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด แขนที่โอบร่างของผมไว้ออกแรงดันมากขึ้นจนผมที่ไม่ได้ตั้งตัวเผลอขยับร่างเข้าไปใกล้ชิดกับคุณชายจนใบหน้าของคุณชายกับผมไปเกยอยู่บนไหล่ของกันและกัน มิหนำซ้ำคุณชายยังแกล้งเป่าหูจนผมรู้สึกขนลุกอีก "คราวนี้รู้หรือยัง"

   ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไปจนกระทั่งมีเสียงของสต๊าฟซึ่งเป็นกรรมการคนหนึ่งดังขึ้น

   “ผ่านครับ...” สิ้นเสียงของกรรมการเสียงเด็ก ๆ ในกลุ่มก็ดังลั่นขึ้นตามมาทันที จากนั้นคุณชายก็คลายวงแขนออกก่อนที่สมาชิกในกลุ่มจะแตกสลายแล้วแยกย้ายกันดูกลุ่มอื่น ๆ

   นอกจากกลุ่มของผมแล้ว ก็ไม่มีกลุ่มไหนที่ผ่านด่านนี้ได้เลย เนื่องจากแผนกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ถูกพับจนเล็กลงกับสมาชิกในกลุ่มที่มากเกินไปเลยไม่มีใครทำสำเร็จ

   จบจากกิจกรรมนี้ คุณรัชท์ก็เรียกเด็ก ๆ สมาชิกในกลุ่มขึ้นไปรับรางวัล หลังจากนั้นก็มีการร้องเพลงโดยคุณรัชท์เป็นคนร้องและคุณชายของผมเป็นมือกีต้าร์

   ผมมองดูคุณชายดีดกีต้าร์อยู่บนเวทีด้วยความรู้สึกที่สับสน... ใช่! ผมสับสน ผมไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าคุณชายดีดกีต้าร์เป็นด้วย แถมสีหน้าท่าทางเวลาที่คุณชายดีดกีต้าร์น่ะมันชวนให้ผู้ชมที่นั่งดูทุกคนไม่เว้นแม้แต่ผมต่างเคลิบเคลิ้มยิ่งนัก น้ำเสียงของคุณรัชท์ชายหนุ่มผิวขาวที่หน้าตาดีไม่แพ้คุณชายก็ชวนฟังเช่นกัน จึงทำให้ทั้งคู่ในยามนี้ต่างมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน





   
   เวลาผ่านไปจนกระทั่งบ่าย 4 โมงเย็น หลังจากที่กิจกรรมต่าง ๆ จบลง คุณรัชท์ก็ได้มอบของใช้ ขนมและเงินสนับสนุนให้กับคุณบารมี ซึ่งเป็นเจ้าของสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าแห่งนี้ จากนั้นก็ถึงเวลาแยกย้ายกลับบ้าน

   “ไงข้าว สนุกไหม" คุณรัชท์เดินมาทักทายหลังจากที่ภารกิจในวันนี้เสร็จสิ้น แม้คุณรัชท์จะอายุน้อยกว่าผมถึง 2 ปี แต่ทว่าตอนเจอกันครั้งแรกนั้น คุณชายได้ย้ำกับคุณรัชท์บ่อย ๆ ว่าไม่ต้องเรียกผมว่าพี่ มันก็เลยทำให้คุณรัชท์เคยชินกับการที่เรียกชื่อผมเพียงอย่างเดียวแบบคุณชาย ซึ่งผมก็ไม่ได้ถือโทษโกรธแต่อย่างใด

   “สนุกครับ...” ผมเอ่ยตอบ "คุณรัชท์นี่เก่งจังเลยนะครับ อายุแค่เนี้ยแต่รู้จักทำอะไรเพื่อสังคมซะแล้ว ไม่เหมือน...”

   ผมเหล่ตาไปมองไอ้คุณชายสุดแสบของผม

   “เหมือนอะไร" แล้วคุณชายก็รีบขัดขึ้นทันที "พูดให้มันดี ๆ นะไอ้ข้าว"

   “ฉันก็ทำตามพ่อน่ะข้าว ตอนเด็ก ๆ พ่อพามาที่นี่บ่อย" คุณรัชท์ตอบออกมา นั่นทำให้ผมรอดตัวจากการตอบคำถามของคุณชาย

   “ครับ" ผมขานรับ คุณรัชท์เป็นชายหนุ่มผิวขาว ผมยาวเข้าทรงประมาณต้นคอ ตัวเตี้ยกว่าคุณชายเล็กน้อยแต่ก็สูงกว่าผม ถือได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่ดูภูมิฐานมาก ๆ ผิดกับคุณชายที่แม้จะภูมิฐานแต่การกระทำและนิสัยต่าง ๆ ที่แสดงออกมาไม่ต่างกับเด็กแบเบาะที่เอาแต่ใจตัวเองเป็นว่าเล่น

   “เดี๋ยวฉันไปก่อนนะข้าว" คุณรัชท์เอ่ยกับผมก่อนที่จะหันไปพูดกับคุณชาย "ขอบใจมากนะชายเป๊ก ไว้เจอกันอาทิตย์หน้า"

   “อืม... แล้วเจอกันไอ้รัชท์"

   หลังจากที่คุณรัชท์แยกตัวจากไป คราวนี้ก็เหลือผมกับคุณชายเพียงสองคนเท่านั้นที่ยืนอยู่ด้วยกันตามลำพังเพียงสองคน

   “ไอ้ข้าว" แล้วเสียงของคุณชายก็ดังขึ้น เวลาที่คุณชายเรียกผมด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบแบบนี้ มักมีเรื่องให้เสียวสันหลังเกิดขึ้นทุกครั้ง

   “ครับ" ผมขานรับทำใจดีสู้เสือ

   “เมื่อกี้นายตั้งใจจะว่าฉันใช่ไหม" น้ำเสียงแสดงถึงความหงุดหงิดชัดเจน

   “เปล่าครับ" ผมปฏิเสธ... ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วผมหมายถึงคุณชายนั่นแหละ แต่มันก็แค่เป็นการแซวเล่นเท่านั้น

   “เปล่างั้นเหรอ" คุณชายหายใจฟึดฟัดก่อนที่จะเอื้อมมือมาจับที่ข้อมือของผมแล้วออกแรงกดสุดแรงก่อนที่จะเดินนำไปยังจุดจอดรถ

   “คุณชายเป็นอะไร ไม่พอใจอะไรเหรอครับ" ผมถาม... แม้ว่าปกติคุณชายจะขี้หงุดหงิดเอาแต่ใจ แต่คุณชายก็ไม่เคยแสดงอารมณ์ที่ดูเหมือนจะโมโหร้ายใส่ผมแบบนี้

   คุณชายไม่ตอบอะไรออกมา มีเพียงเสียงหายใจฟัดฟัดเท่านั้นที่ดังขึ้นตลอดทางจนกระทั้งเดินไปถึงยังจุดที่รถเบนซ์จอดอยู่ คุณชายก็เปิดประตูแล้วเหวี่ยงผมเข้าไปในรถทันที

   แม้ผมจะตัวเล็กกว่าคุณชายแต่ผมก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนผู้หญิง... แต่เพราะไม่อยากขัดใจผมก็เลยต้องแกล้งทำตัวให้อ่อนแอ แล้วพุ่งตัวเองเข้าไปในรถตามแรงเหวี่ยงของคุณชาย หลังจากนั้นคุณชายก็ปิดประตูก่อนจะเดินอ้อมไปยังประตูคนขับแล้วสตาร์ทรถทันที ทว่าก็ยังไม่ได้ขับไปไหน

   “ทำไมต้องชื่นชมไอ้รัชท์ขนาดนั้น และทำไมต้องทำให้ฉันเสียหน้าต่อหน้าไอ้รัชท์" คุณชายเอ่ยด้วยความหงุดหงิด สังเกตได้จากน้ำเสียงและสีหน้า

   “ก็ผมไม่รู้นี่ครับว่าคุณชายจะไม่พอใจ ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ" ผมเอ่ยตอบ ถ้ารู้ว่าพูดไปแล้วจะโมโหแบบนี้ผมก็คงไม่พูดไปแต่แรกหรอก

   “ตลอดเวลานายจะแกล้งฉัน จะทำตัวขัดใจ หรือเถียงอะไรฉัน ฉันไม่เคยว่า แต่ฉันไม่ชอบให้นายไปชมไอ้รัชท์ และไม่ชอบให้นายมาหักหน้าฉัน... ต่อหน้าไอ้รัชท์"

   “ครับ" ผมตอบรับเสียงเบา ผมล่ะขัดใจจริง ๆ คำที่คุณชายบอกว่าไม่ว่าผมจะทำอะไร คุณชายไม่เคยว่า... ให้ตายเถอะ ผมคิดว่าผมโดนคุณชายต่อว่าหรือหาเรื่องทุกครั้งที่เจอหน้ากันซะอีก

   “แค่ครับงั้นเหรอ... นายจะไม่พูดอะไรให้มากกว่านี้หน่อยเหรอ" คุณชายยังบ่นอย่างเอาแต่ใจ

   “ผมขอโทษครับ" สิ้นเสียงของผม คุณชายก็ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะหันมามองผมตาขวาง... ให้ตายเถอะแค่นี้ผมก็กลัวจะแย่แล้วแต่คุณชายดันก้าวขาข้ามมายังเบาะนั่งของผมแถมยังกดไหล่ผมสุดแรงอีกต่างหาก

   ผมสบตามองคุณชายอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แม้จะรู้สึกเจ็บหัวไหล่ตรงบริเวณที่คุณชายกดเอาไว้แต่ผมก็ต้องทนนิ่งเงียบ

   “ฉันอุตส่าห์พูดตั้งหลายประโยคเพื่อให้นายรู้ว่าฉันไม่พอใจอะไร" คุณชายเค้นเสียงลอดไรฟันออกมา "แต่นายกลับพูดแค่ครับกับขอโทษ แค่นี้มันไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกดีหรอกนะ"

   “แล้ว... แล้วคุณชายจะให้ผมพูดอะไร" ผมเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

   “ถามตอนนี้มันก็สายไปแล้วล่ะไอ้ข้าว"

   สิ้นเสียง... คุณชายก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด คุณชายโน้มใบหน้าลงมาแล้วใช้ริมฝีปากประกบกับริมฝีปากของผมอย่างแรง โดยที่มือยังคงดันไหล่ของผมเอาไว้

   ผมนั่งนิ่งด้วยความตกใจไปชั่วขณะ แต่พอนึกได้ว่าตัวเองกำลังเป็นฝ่ายถูกกระทำสมองก็สั่งให้รีบใช้พลังกายทั้งหมดที่มีดันร่างของคุณชายออกไปสุดแรง เท่านั้นยังไม่พอหมัดในมือขวาที่ถูกกำเอาไว้แน่นก็ถูกส่งไปยังใบหน้าของคุณชายสุดแรงเช่นกัน

   “คุณชายคิดจะทำอะไร!!!" ผมตะโกนเสียงดัง สายตาก็มองคุณชายด้วยความเชือดเฉือนอย่างไม่เกรงกลัว แม้ว่าจะถูกคุณชายแกล้งอยู่บ่อยครั้ง แต่ในครั้งนี้ผมคงไม่ยอมให้คุณชายได้กระทำได้อย่างชอบใจแน่ ๆ "ผมไม่ใช่ของเล่นของคุณชาย หรือตุ๊กตาหน้ารถที่คุณชายจะทำอะไรกับผมก็ได้"

   พูดจบ ผมก็เปิดประตูรถของคุณชายออกไปทันที ทว่ายังไม่ทันที่จะก้าวขาลงจากรถได้สำเร็จ คุณชายที่ตั้งตัวได้กลับใช้มือดันร่างของผมเอาไว้ให้แนบชิดกับเบาะนั่งเช่นเดิมก่อนจะเอื้อมมือไปปิดประตูกับมาแล้วนั่งคร่อมร่างของผมเอาไว้

   “หมัดหนักเหมือนกันนะไอ้ข้าว...” คุณชายพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มือข้างหนึ่งก็เอื้อมไปจับตรงใบหน้าที่โดนอัด "ฉันไม่เคยคิดว่านายเป็นของเล่นหรือตุ๊กตาหน้ารถ"

   “แล้วคุณชายทำแบบนี้กับผมทำไม" ผมเอ่ยถามด้วยความไม่ชอบใจ ไม่ว่าผู้ถูกกระทำจะเป็นหญิงหรือชายแต่คุณชายก็ไม่ควรที่จะกระทำแบบนี้กับใครทั้งนั้น

   “ฉัน... ฉันก็แค่...” คุณชายพูดเสียงเบาพลางหลบสายตา กว่าจะพูดออกมาแต่ละคำก็ใช้เวลายืดยาวกว่าปกติ "เออ! จะยังไงก็ช่าง ฉันไม่ชอบที่นายหักหน้าฉัน!”

   “แค่นี้ใช่ไหมคุณชาย" ผมเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกที่ผิดหวัง ไม่ว่าการกระทำหรือคำพูดของคุณชายในตอนนี้ ทุกอย่างล้วนเอาแต่ใจเกินจะทนทั้งสิ้น ผมทนไม่ได้หรอกนะถ้าต่อไป ผมจะต้องถูกคุณชายทารุณกรรมตามใจชอบโดยที่ไม่คิดถึงความรู้สึกผมสักนิดแบบนี้

   “เออ! แค่นี้ ทำไม ไม่พอใจอะไร หรืออยากจะโดนแบบเมื่อกี้อีก" ...ยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกนะคุณชาย

   ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป ผมจับจ้องไปที่ใบหน้าของคุณชายด้วยความเชือดเฉือน แววตาของคุณชายไม่ได้แสดงออกถึงความสำนึกผิดสักนิด จากนั้นผมก็พยายามที่จะใช้แรงทั้งหมดที่มีดันร่างของคุณชายให้ออกจากร่างของผม

   “ออกไป" ผมทำเสียงดุอย่างที่ไม่เคยทำ คุณชายผงะเล็กน้อยก่อนที่จะหันมาจ้องตาผมเขม็ง คงจะตกใจกับการกระทำของผม

   “ไม่"

   “ผมบอกให้ออกไป" ผมทำน้ำเสียงราบเรียบ พยายามระงับโทสะทุกอย่างที่เกิดขึ้นในจิตใจสุดฤทธิ์...

   “ฉันบอกว่าไม่" คุณชายตอบกลับ

   ผมถอนหายใจออกมา เมื่อคุณชายยังดื้อด้านอยู่แบบนี้ผมก็คงต้องใช้แรงในการแก้ปัญหาแล้วล่ะ...

   ผมใช้แรงทั้งหมดผลักร่างของคุณชายอีกครั้งและมันก็ได้ผลเมื่อคุณชายตั้งใจทำให้ร่างของตัวเองถอยห่างออกไปตามแรงที่ผมผลัก จากนั้นผมก็เอื้อมมือไปเปิดประตู แต่ก่อนที่ผมจะได้ก้าวขาลงจากรถ คำพูดของคุณชายก็ทำให้ผมชะงัก

   “นายไม่เคยเป็นแบบนี้... นายไม่รักฉันแล้วเหรอข้าว" น้ำเสียงและสายตาของคุณชายไม่มีส่วนใดที่แสดงถึงความเสแสร้งเลยสักนิด...
 
   ผมอยากจะก้าวขาลงจากรถไปให้พ้น ๆ หน้าของคุณชายในตอนนี้เหลือเกิน แต่ทำไมนะ... ทำไมผมต้องรู้สึกใจอ่อนกับแค่คำพูดของไอ้เด็กเอาแต่ใจคนนี้ด้วยเนี่ย เจอไม้นี้เข้าไปแล้วผมจะทิ้งคุณชายไปได้อย่างไรเล่า

   ในที่สุดผมก็ตัดสินใจกลับมานั่งที่เดิมก่อนจะปิดประตูรถ

   “ก็เพราะข้าวเป็นแบบเนี้ย ฉันถึงรักข้าวที่สุดยังไงล่ะ" คุณชายทำเสียงกระดี๊กระด๊าเกินเหตุก่อนที่จะก้าวขาข้ามไปนั่งยังเบาะคนขับ แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรออกไปเพราะไม่มั่นใจในคำว่า 'รัก' ของคุณชายมันหมายความว่าอย่างไรกันแน่ มันเป็นรักแบบเจ้านายลูกน้อง รักแบบพี่ชายน้องชาย หรือรักที่มากกว่านั้น เสียงโอดครวญของคุณชายที่ดังขึ้นก็ทำให้ผมตกใจจนต้องรีบเขยิบร่างเข้าไปดูใกล้ ๆ

   "โอ๊ยยย...” คุณชายยกมือลูบแก้มตรงบริเวณที่โดนอัด

   “ผมขอโทษ... เจ็บมากไหมครับ" ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ผิดอะไรแต่ทำไมผมต้องเป็นฝ่ายขอโทษทุกครั้งไปด้วยนะ ผมหันหน้าไปมองใบหน้าของคุณชายด้วยความห่วงใย ก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบยังจุดที่คุณชายโดนหมัดเบา ๆ

   “โอ๊ยยย ข้าว เบา ๆ หน่อย" คุณชายทำเสียงโหวกเหวกขณะที่มือของผมกำลังสัมผัสโดนรอยต่อย ผมทำหน้าเหวอด้วยความตกใจก่อนที่จะรีบชักมือกลับ ทว่าเสียงหัวเราะที่ดังตามมาก็เป็นสัญญาณให้ผมรู้ว่าคุณชายไม่ได้เจ็บจริง "ฮ่า ๆ ๆ ห่วงฉันขนาดนี้แล้วยังทำอวดเก่งจะทิ้งฉันได้ลงคอนะข้าว"

   สิ้นสียงของคุณชายผมก็จงใจถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนที่จะนั่งกอดอกแล้วทำหน้าขรึมไม่โต้ตอบอะไรออกไป

   คุณชายหัวเราะในลำคออย่างชอบใจก่อนที่จะเริ่มขับรถออกจากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าบ้านบารมี

   “หายงอนได้แล้วไอ้ข้าว" สงสัยว่าผมจะทำหน้าขรึมและนั่งนิ่งเงียบเกินไป ก่อนจะขับรถออกไปสู่ถนนใหญ่คุณชายก็หันมาพูดกับผมพร้อมกับขยี้ศีรษะของผมด้วยความเอ็นดูเหมือนกับทุก ๆ ครั้ง

   “ครับ" ผมตอบเพียงเท่านั้น จากนั้นคุณชายก็นั่งเงียบ ๆ ขับรถต่อไปจนกระทั่งขึ้นทางด่วน

   คุณชายขับรถต่อไปเรื่อย ๆ เปิดเพลงฟังตลอดทางเพื่อกลบความเงียบ จนกระทั่งเลยทางลงที่ปกติคุณชายมักจะขับรถลงยังจุดนี้เป็นประจำผมเลยเอ่ยปากถาม

   “คุณชายไม่ลงเหรอครับ"

   “ไม่อ่ะ"

   “แล้วคุณชายจะไปไหน"

   “ไปทะเล...”

   สิ้นเสียงของคุณชายผมก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

   “แต่...” ในขณะที่ผมกำลังจะเอ่ยอะไรออกไป คุณชายก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

   “ไม่ต้องแต่อะไรทั้งนั้น... นายเคยบอกไม่ใช่เหรอว่าอยากไปทะเล นี่ไงฉันก็กำลังจะพานายไปทะเล เพราะฉันก็อยากไปทะเลกับนายเหมือนกัน"

   สิ้นเสียงของคุณชาย หัวใจของผมมันก็เต้นรุนแรงผิดจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่มีปากเสียงเหมือนว่าจะโกรธกันแทบตาย แต่สุดท้ายทั้งผมและคุณชายก็กลับมารู้สึกดี ๆ ต่อกันได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่ามันเพราะอะไรกันนะ

   “ครับ" ผมตอบพร้อมกับอมยิ้มนิด ๆ ไอ้เรื่องที่คุณชายกระทำกับผมเมื่อครู่ผมลืมความโกรธที่เกิดขึ้นไปหมดแล้วล่ะ

   “ยิ้มอะไร ดีใจอ่ะดิ" จะขับรถดี ๆ ก็ไม่ได้ ยังมีหน้ามาถาม...

   “เปล๊า" ผมตอบเสียงสูงพลางกลอกลูกตาชมท้องฟ้าและถนนหนทางเพราะไม่อยากหันไปสบมองกับสีหน้าและแววตาเจ้าเล่ห์ของคุณชาย




จบตอนคร้าบ... ตอนหน้าพาไปฟินที่ทะเลแล้ว 555+++
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่7 P.5] - 25/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 30-09-2013 23:42:10
คุยกับคนอ่านครับผม ^^  :3123:

คุณ fannan :: มาต่อให้แล้วนะครับ ไอ้คุณชายไว้ใจไม่ได้ครับแผนเยอะเหลือหลาย
คุณ neruko07 :: 555  ชอบตรงคุณชายซึนครับ แต่เอาเข้าจริงไม่น่าจะซึน คิคิ
คุณ iamnan :: 555 พล็อตเรื่องจะประมาณนั้นครับ รอสมน้ำหน้าคุณชายได้เลย กร๊ากๆๆ
คุณ lizzii :: ไม่จริงจ้า 55555
คุณ Palmpalm :: งั้นรอเห็นได้เลยครับ  :hao3:
คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: 555 ข้าวมันซื่อคร้าบ เดี๋ยวจะค่อยๆมีอะไรที่มากกว่านั้นขึ้นเรื่อยๆ *0*
คุณ NJnobu :: ไม่จริงจ้า ไม่เหงื่อ 555 T^T เวลาชอบใครแล้วได้จับมือกันมันสุดจะพรรณนาจริงๆ คิคิ
คุณ FahFon :: จงลุ้นต่อไป... คิคิ  :3123:
คุณ seaz :: T^T ต่อไปคุณชายจะทั้งปกปิดและต่อต้านเลยล่ะครับ ฮือๆ
คุณ BlueHoney :: 555  ไม่กล้าให้คิดอะไรไม่งามครับ แต่ก็แกล้งกันไปเรียบร้อย เบาๆงับ ^^ แต่ตอนขากลับนี่สิ ไม่เบาแล้ว *0*
คุณ Biwty... :: T^T อย่าใส่ใจกับอิมเมจมากครับ 555 มานก็เป็นแค่เพียงภาพลวงหลอกตา เดี๋ยวให้ผลัดกันครับ เอ๊ยยย ไม่ใช่ละ
คุณ loveaaa_somsak :: แน่นอนครับ จะทีวีความฟินขึ้นเรื่อยๆให้ครับ ^^ แล้วก็จะพาหน่วง - -" ดีไหมหนอ
คุณ B52 :: *0* มีคนรอสมน้ำหน้าคุณชายอีกแล้ว เอิ๊กๆ รอได้เลยครับ จะจัดให้สักฉาก แฮ่ๆ แต่ขอให้คุณชายแผลงฤทธิ์สุดๆก่อน 5555
คุณ carenaka :: ขอบคุณครับ ^^ ฝากติดตามตอนต่อๆไปด้วยนะครับ
คุณ poppycake :: แฮ่ๆ มาต่อให้แล้วน๊า ^^
คุณ mentholss :: เรียบร้อยครับ 555 แกล้งไม่เท่าไหร่ แต่ความหึงในใจคุณชายนี่สิ 555  :hao7:
คุณ wishes :: มาต่อแล้วครับ ขอบคุณครับผม ^^
คุณ ice_spok :: - - สั้นไม่สั้นมาพิสูจน์เซ่ ไอ่คนทะลึ่ง  55555
คุณ MK :: อ่า... ขอบคุณครับ ^^ ดีใจนะครับที่อ่านแล้วสนุก แต่เหมือนได้พักใจ... จะว่าไปผมแต่งเรื่องนี้ก็เหมือนได้พักใจไปด้วยเหมือนกันครับ เจออะไรเครียดๆมาเยอะ ^^ มาพักใจไปด้วยกันอีกนะครับ  :L1:
คุณ nunnan :: 555 จริงครับเป็นคุณหนูซะอย่างไม่ทำไรอยู่แล้ว 555 แต่ก็เทควันโด้สายดำเชียวนา
คุณ maew189870 :: *0* อันนั้นติดตามกันเอาเองเด้อ เรื่องแบบนี้น่าจะมีหลุดมาให้ฟินบ่อยๆ
คุณ มยอนฮวา :: 555 เข้าไม่เข้า คุณชายก็สามารถจ้า
คุณ Xipnoz :: คุณชายปากแข็งน่าเตะครับ T^T
คุณ pharm :: คนอย่างคุณชายน่าจะยากพอสมควรครับที่จะบอกอะไรออกไปถ้าไม่ถึงขีดสุด
คุณ u_cosmos :: 555 นั่นซิ ข้าวมันบื้อออครับ 555 เลยพยายามคิดในแง่ดี หรือความจริงข้าวอาจจะรู้ก็ได้แต่แกล้งแซวไม่ให้คุณชายขายหน้า คิคิ
คุณ cheyp :: T^T ทั้งคี่ได้ไหม คนเขียนก็หวั่นไหว แหะๆๆ

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 30/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 30-09-2013 23:51:40
คุณชายนี่มันซึนได้โล่ห์เลยให้ตายสิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 30/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Xipnoz ที่ 01-10-2013 00:17:37
คุณชายปากไม่ตรงกับใจเลยนะ  :hao3:

พาข้าวไปทะเลแล้ว จะเกิดไรขึ้นไหมน้าา  :hao6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-10-2013 00:50:47
คุณชายเจ้าเล่ห์จริงๆ  ตอนหน้าข้าวจะได้เห็นทะเลแล้ว :ling2: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: neruko07 ที่ 01-10-2013 00:51:29
โหยยยยยยย นึกว่าจะดราม่า คุณชายอะ เล่นเอาตกใจหมด  :o12:

ยิ่งอ่านยิ่งน่าร้ากกกก คุณชายจอมซึน =///= 555555555  จุ้บๆ กันแบ้ววว  :z2:  อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 01-10-2013 02:44:27
 :hao7:
อ๊ากกกก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 01-10-2013 05:04:43
ว้าวๆจะไปทะเลกันแล้ว



รออ่านต่อครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 01-10-2013 10:51:21
รังศีเคะแผ่กระจายอีกแล้วนะคุณชาย  :impress2:



คุณชายต้องเคะเท่านั้น!!!!!!  :fire:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 01-10-2013 10:54:05
ถ้ารักจริง คุณชายอย่าทำพี่เสียใจนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: FahFon ที่ 01-10-2013 11:34:15
คุณชายอึนมึนซึนมากอ่ะ 55555+
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 01-10-2013 12:38:26
อยากโดดเตะก้านคออิคุณชายบื่อ (เปลี่ยนชื่อให้ใหม่ซะ หุหุ) จริงจริ๊ง ฮึ่มๆๆ   :m16:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 01-10-2013 13:26:08
คุณชายซึนจริง ๆ รอวันคุณชายเดเระแตก 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-10-2013 14:10:28
ชายเป๊กนี่น๊า ปากแข็งจริงๆ เลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชายหม่อม [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 01-10-2013 14:35:25
ซึนได้ใจจริงๆ คุณชาย  :hao4:

จะมีอะไรเกิดขึ้นที่ทะเลป่าวน้า  :hao3:  :hao3: (โรคจิตไปป่าวเรา...!)

+  :กอด1:  :mew1: จุ๊บ ฟัด คนเขียนก่อนไป อิอิ...
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 02-10-2013 00:30:49
โป้งชายเป๊กละ เอาแต่ใจ ชอบแกล้งข้าว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 02-10-2013 04:55:33
ชายเป๊ก อารมณ์ขึ้นๆลงๆ

เอาแต่ใจแท้  ทำไมไม่บอกความในใจกับข้าวล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 04-10-2013 03:11:00
::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: ทะเลสีดำ :::




       กว่าที่คุณชายจะขับรถไปถึงจุดหมาย... ท้องฟ้าที่เป็นสีส้มในทีแรกค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีดำและมีแต่ความมืดมิดตลอดทาง

   “ทะเลนี่มันอยู่ไกลไหมครับ" ผมเอ่ยถาม เพราะตั้งแต่เกิดมาผมก็ยังไม่เคบไปเที่ยวทะเลสักครั้ง ...คุณชายนี่ก็มีมุมที่น่ารัก ๆ เหมือนกันเนอะ รู้ว่าผมอยากไปทะเล บทจะพาไปก็พาไปเอาง่าย ๆ แบบนี้ เพราะแบบนี้สินะถึงจะทะเลาะกับคุณชายบ่อยครั้ง แต่สุดท้ายผมก็ต้องยอมคุณชายทุกครั้งไป

   “ไม่ไกลหรอก... อีกไม่กี่กิโลก็ถึงแล้ว" คุณชายตอบออกมา

   “เหรอครับ... ตื่นเต้นจัง" ผมเอ่ยขึ้น เด็กบ้านนอกอย่างผมจะได้เห็นทะเลก็คราวนี้ล่ะ

   “ดูสิ...ทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้" คุณชายพูดไปยิ้มไป... ก็แหม! ผมยังไม่เคยเที่ยวทะเลเลยสักครั้งจะไม่ให้ตื่นเต้นได้ไงเล่า

   “ถ้าผมเด็ก คุณชายเด็กกว่าผมเยอะครับ" ผมเถียง

   “อ่ะจ้ะ ๆ ยอมเด็กกว่าก็ได้" คุณชายพูดเสียงหวาน "นี่ถ้าไม่ใช่ข้าวฉันไม่ยอมเถียงแพ้หรอกนะ"

   “คุณชายก็พูดแบบนี้เสมอ... สุดท้ายพอเถียงกันจริงจังทีไรก็ชนะทุกทีแหละน่า" ผมบ่น

   “แต่วันนี้ฉันแพ้ข้าว" คุณชายเอ่ยเสียงเบา

   “แพ้?” ผมทวนคำด้วยความสงสัย

   “ใช่... ตอนนั้น พอเห็นข้าวทำหน้าไม่พอใจ แล้วจะลงจากรถ... ฉันโคตรกลัวเลยว่ะ...”

   “กลัว? กลัวอะไรครับ" ผมล่ะสงสัยจริง ๆ คนอย่างคุณชายกลัวอะไรเป็นด้วยอย่างนั้นหรือ รู้จักมาตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยกเดียว ไม่ว่าคุณชายจะมีเรื่องกับใครก็สู้ไม่ถอย สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำหรือแมลงที่หน้าตาประหลาด ๆ ถ้าไม่มีพิษมีภัยก็กล้าเล่นกล้าจับไปเสียทุกตัว

   “กลัวว่าข้าวจะทิ้ง...” คุณชายตอบเสียงเบา

   “คุณชาย...” ผมเอ่ยเสียงเบาเช่นกันเพราะรู้สึกว่าคุณชายให้ความสำคัญกับผมมากเกินกว่าที่ผมคิดเอาไว้เสียอีก ถ้าคุณชายถึงขนาดกลัวผมทิ้ง อย่างนั้นก็แสดงว่าผมคงมีความสำคัญกับคุณชายอยู่ไม่น้อย

   “แต่พอข้าวตัดสินใจที่จะปิดประตูรถแล้วอยู่กับฉันต่อไป... เท่านั้นแหละ ฉันถึงได้แน่ใจว่าฉัน...” คุณชายเว้นจังหวะชั่วครู่ มีเสียงกลืนน้ำลายดังเอื๊อกตามมา จากนั้นถึงพูดต่อ "...คิดยังไงกับข้าว"

   “คิดยังไงกับผม" ผมทวนคำพลางทำสีหน้าฉงน ใจมันเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ราวกับรู้สึกว่ากำลังจะโดนบอกรักอย่างไรอย่างนั้น

   “ใช่! ฉันไม่อยากเสียข้าวไปให้ใคร โดยเฉพาะไอ้รัชท์" คุณชายเน้นเสียงหนักเมื่อเอ่ยถึงเพื่อนรักเพื่อนแค้นซึ่งเป็นคู่ปรับที่สนามเทควันโด

   “แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณรัชท์" ...แล้วทำไมผมต้องรีบปฏิเสธด้วยนะ ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทว่าจบประโยคนี้ คุณชายก็ยิ้มออกมาเหมือนกับว่าพอใจในสิ่งที่ได้ยิน

   “ข้าว" แล้วคุณชายก็เอ่ยเรียก น้ำเสียงของคุณชายช่างอ่อนนุ่มจนผมหวั่นไหว

   “ครับ"

   “ข้าวเคยรู้สึกแปลก ๆ เวลาที่ฉันคุยกับคนอื่น เคยน้อยใจเวลาที่โดนฉันด่า หรือเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าวันนึงต้องห่างกันไกล แล้วข้าวจะทนไม่ได้...” คุณชายเว้นจังหวะแล้วเหลือบสายตามามองผม... ผมลุ้นระทึกว่าคุณชายจะพูดอะไรต่อ "เหมือนที่ฉันรู้สึกกับข้าวบ้างไหม"

   “คุณชาย...” ผมเอ่ยเสียงสั่น คำพูดคำจาของคุณชายมันไม่ต่างจากชายหนุ่มที่ป้อนคำหวานใส่หญิงสาวสักนิด ถ้าผมเป็นผู้หญิง ผมมั่นใจได้เลยว่าผมคงหลงรักคุณชายหัวปรักหัวปรำไปแล้วแน่นอน แต่เพราะผมเป็นผู้ชาย แม้ว่าจะรู้สึกดีแต่ผมก็สามารถห้ามใจได้ไม่ให้คิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น

   “ครับ" คุณชายขานรับด้วยความสุภาพอย่างที่ไม่เคยเป็น

   “ผมจะไม่ทิ้งคุณชายไปไหน... ผมจะเป็นไอ้ข้าวให้คุณชายโขกสับตลอดไป ผมสัญญาครับ" ผมพูดออกไปด้วยความรู้สึกจากใจจริง
   “จริงนะข้าว.... สัญญาแล้วนะข้าว" คุณชายทำเสียงกระดี๊กระด๊า

   “ครับ" ผมยิ้มรับ ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบาราวกับเสียงกระซิบที่คุณชายคงจะไม่มีทางได้ยิน "ยกเว้นก็แต่คุณชายจะทิ้งผมไปก่อนนะ"

   “ข้าวน่ารักที่สุด... แต่ข้าวสัญญากับฉันอีกข้อได้ไหม" คุณชายเอ่ยออกมาทั้งที่ริมฝีปากก็ฉีกยิ้มจนจะถึงใบหูอยู่แล้ว

   “สัญญาอะไรครับ"

   “ข้าวจะต้องเป็นของฉันแค่คนเดียวเท่านั้น"

   สิ้นเสียงของคุณชายผมก็ชะงักชั่วขณะก่อนที่จะนั่งนิ่งตัวเกร็งเพราะรู้สึกสับสน คำพูดของคุณชายมันหมายความว่าอย่างไรกันแน่นะ...

   อาจเป็นเพราะผมนั่งเงียบเพราะมัวแต่ตกใจและตีความอยู่นาน คุณชายก็เลยเอ่ยออกมา

   “ฉันหมายถึง เป็นพี่เลี้ยง เป็นเพื่อน เป็นคนสนิทของฉันแค่คนเดียว ข้าวจะต้องไม่ทำแบบนี้กับใครน่ะ"

   “อ่อ... ครับ" ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนที่จะเอ่ยถามอย่างลองเชิง "แล้วถ้าวันหนึ่งผมมีแฟน..."

   “ไม่ได้!” คุณชายรีบเอ่ยขัดออกมาทันที "ข้าวจะมีแฟนไม่ได้ ถ้าข้าวมีแฟน ข้าวก็จะไม่มีเวลาให้ฉัน"

   “โถ่... คุณชายก็ แบบนี้ผมคงไม่ต้องเป็นโสดอยู่ตัวคนเดียวไปตลอดชีวิตเลยเหรอไงครับ" ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงขำขัน เพราะอดรู้สึกดีใจไม่ได้กับการที่คุณชายหวงผมขนาดนี้ ...แต่เอ๊ะ แล้วทำไมผมจะต้องดีใจด้วย คำพูดของคุณชายมันหมายถึงห้ามให้ผมมีแฟนเชียวนะ จะว่าไป... ผมก็ไม่เคยสนใจคิดถึงเรื่องนั้นอยู่แล้ว มันเลยทำให้ผมไม่ได้กังวลอะไรแต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องแกล้งพูดแบบนี้

   “ใครบอกว่าข้าวอยู่ตัวคนเดียว... ฉันก็จะอยู่กับข้าวไง" คุณชายตอบออกมา

   “แล้วคุณชายจะไม่มีแฟนเหรอครับ"

   “มี... แล้วไง มีไม่มีก็ไม่มีใครสำคัญเท่าข้าวหรอก เออ... เลิกพูดมากได้แล้ว จะถึงแล้วเนี่ย เห็นนั่นไหม" คุณชายที่เอ่ยด้วยความขัดเขินในทีแรกพลันต้องแกล้งเปลี่ยนเรื่องแล้วชี้ไปที่กระจกหน้ารถ

   แม้ในยามนี้ท้องฟ้าจะมืดสนิททว่าแสงไฟจากข้างทางและตัวอาคารต่าง ๆ ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวก็สว่างไสวพอจะทำให้มองเห็นสิ่งที่อยู่ไกล ๆ ชัดเจน ซึ่งนั่นมันก็คือ...

   “ทะเล!” ผมเอ่ยด้วยความตกใจ "ทำไมมันใกล้อย่างงี้ นี่กี่โมงแล้วเนี่ย"

   “ทุ่มครึ่ง" คุณชายตอบออกมา "บางแสนอ่ะเป็นทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพมากที่สุดแล้ว ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง...”

   “ว่าแต่มืดแบบนี้... ก็อดเล่นน้ำสิครับ" ผมเอ่ยขึ้นพลางหันไปมองทะเลด้วยความรู้สึกที่อดเสียดายไม่ได้

   “อยากเล่นก็เล่นได้น่า" คุณชายตอบออกมา

   “แต่มันอันตราย ไม่เหมือนตอนกลางวัน... มั้ง" ผมเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ พอทอดสายตามองออกนอกหน้าต่างเห็นแต่ทะเลสีดำแล้วมันก็อดนึกถึงความอันตรายของท้องทะเลไม่ได้

   “งั้นก็เล่นพรุ่งนี้เช้าก็ได้นี่"

   “คุณชายหมายความว่าไง" ผมเอ่ยด้วยความสงสัย

   คุณชายยักคิ้วให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะตอบออกมา

   “ก็เปิดโรงแรมนอนซะที่นี่เลยไง"

   “เฮ้ย... ม่านรูดเหรอ ไม่เอานะคุณชาย อายคนอื่นเขา" ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธ ทว่าคุณชายกลับหัวเราะออกมาไม่หยุด "คุณชายขำอะไรครับ"

   “ก็ขำข้าวน่ะสิ จะบ้าเรอะข้าว... ฉันจะไปเปิดโรงแรมม่านรูดทำไมล่ะ พูดถึงโรงแรมก็คิดถึงม่านรูด คิดไรกับฉันเปล่าเนี่ยข้าว ฮ่า ๆ ๆ"

   “ก็ผมไม่รู้นี่" ผมหลบสายตาก้มหน้างุด ๆ อยากจะตบกบาลตัวเองแรง ๆ ให้ความคิดที่ไม่เข้าท่าจริง ๆ ...คิดไปได้อย่างไรว่าคุณชายจะพาไปเปิดม่านรูด...




จบตอน

สงสัยข้าวอยากเข้าม่านรูด คุณชายจัดหน่อย!!!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่8 P.6] - 01/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 04-10-2013 03:20:53
คุยกับคนอ่านครับ

คุณ iamnan :: 555++ เดี๋ยวจะหายซึนละคร้าบ
คุณ Xipnoz ::  :hao7: make Love ไปเลย คิคิ
คุณ B52 :: เห็นทะเลสีดำไปก่อนเนอะ ^^ เดี๋ยวๆรอวันพรุ่งนี้ จะได้เล่นทะเลกับคุณชายสมใจแล้ว 555
คุณ neruko07 :: อิอิ นึกว่าจะดราม่า (เดี๋ยวคราวหลังไม่ให้นึกแล้ว ให้ดราม่าจริงๆเลย) คิคิ >.<
คุณ pharm :: อร๊ากกก อาราย เค้า อร๊ากกกก กลับนะ (คิดไรอยู่นี่ คิคิ รู้นะ)  :hao7:
คุณ fannan :: มาต่อแล้วคร้าบ T^T แต่ตอนนี้สั้นกะจึ๋งนึง แฮ่ๆ
คุณ Biwty... :: จะเคะหรือเมะ เดี๋ยวจะเฉลยแล้วอีกสัก ไม่เกิน 5 ตอน  :hao7: ปล.ทำไมต้องเคะเท่านั้นหว่า 555 ถ้าให้เป็นเมะจะเป็นไรไหมน๊อ อิอิ :hao5:
คุณ loveaaa_somsak :: T^T กว่าที่จะเข้าใจถึงคำว่ารักที่แท้จริง มันต้องผ่านเรื่องเสียใจมากมายหลายสิ่งแน่ๆครับ หึหึหึ
คุณ FahFon :: 555 อึนซึนมึน เลยเหรอครับ น่ารักอ่าจิ๊  :hao3:
คุณ mentholss :: โดดเตะเลยครับ สนับสนุนเต็มที่  :z6:
คุณ WednesdayAugust :: *0* เดเระ แตก 555 เอาไว้ตอนจบเลย กรั๊กๆ (ล้อเล่นจ้า)
คุณ lizzii :: แฮ่ๆ เดี๋ยวจะทำให้ปากอ่อนแล้วคร้าบ *0*  :hao4:
คุณ NJnobu :: 555 ได้รับกำลังใจแล้วครับ (อยากให้เกิดอะไรเปล่าล่า) 555  :hao6:
คุณ kasarus :: ง่า... ง้อๆๆๆ อ่านตอนล่าสุดมาเกี่ยวก้อยกะชายเป๊กได้แล้วน๊า
คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: หึหึ อารมณ์คุณหนูเอาแต่ใจชัดๆเลยครับ แต่ก็น่ารักน๊า  :hao4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 04-10-2013 07:27:45
คุณชายพาข้าวเข้าโรงแรมจะเกิดอะไรขึ้น
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 04-10-2013 08:21:05
นี่คือคุณชายจีบข้าวแล้วรึเปล่าเนี่ย แลดูหวานปะแล่ม ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 04-10-2013 09:17:07
ตอนแรกๆก็ดูน่ารักดีหรอก
มาสดุดตกม่านรูด ขำคิกเลย

หวังว่าคุณชายไม่จับข้าวกินกรอกนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 04-10-2013 09:41:20
ม่านรูดก็ดีนะ กระจกเยอะดี  :hao3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: FahFon ที่ 04-10-2013 10:21:50
คุณชายเริ่มแสดงออกมากขึ้นละ เชียร์ให้พูดเลยๆ อะไรๆจะได้เร็วขึ้น อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 04-10-2013 10:30:09
ตอนแรกก็มุ้งมิ้งดี แต่พอบอกว่าม่านรูด นี่สิ  :hao6: :hao6: :hao6:

+  :กอด1:  :mew1:  o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 04-10-2013 10:48:28
อะไร ยังไงข้าว คิดไปถึงไหน 5555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 04-10-2013 13:07:12
ปกติเราเป็นคนใจร้อนนะ ไม่ชอบตามอ่านอะไรนานๆ
แต่ชอบเรื่องนี้อะ ชอบความค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อน
มีเวลาได้ผูกพันกัน ได้เรียนรู้ใจตัวเองไปเรื่อยๆ มีมุมน่ารักๆ ให้กันตลอด
รู้สึกมันอบอุ่น มันอบอวล มันดูเป็นความรักที่มีคุณค่า
ไม่ใช่ประเภทเจอหน้ากันก็ใส่มาแต่ฉากเรทๆๆๆๆๆ ชีวิตไม่มีอะไรนอกจากเรทๆๆๆๆ


แต่เข้าม่านรูดเลยก็ดีนะ ท่าทางข้าวพร้อมแล้ว เย้ยยยย มะช่ายยยย 555+
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-10-2013 18:06:10
โอ้ย ข้าวนะน่ารักอีกแล้ว ยังไงก็ตามคุณชายไม่ทันสักทีโดนแกล้งตลอด คุณชายไม่พูดให้เคลียรสักที
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 04-10-2013 18:28:47
“ข้าวจะต้องเป็นของฉันแค่คนเดียวเท่านั้น"
เห็นแก่ตัวมากไปป่าวจ้ะ คุณชายน้อย
ทีตัวเองยังไม่แสดงอะไรให้ชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋เลยนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-10-2013 22:24:11
ทำไมรู้สึกว่าทะเลกำลังจะหวาน 5555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 04-10-2013 23:10:38
คิดอะไรอ่ะข้าว อยากเข้าอะดิ  :o8:

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 05-10-2013 03:23:06
คุณชาย แอบรักแแอบชอบข้าวก็บอกไปตรงๆจิ  :teach:
แหมๆ มีการมาแกล้งทำอย่างอื่นกลบเกลื่อนอีกนะ  :m26:
เข้ามาอ่านครั้งแรกเจ้าคร๊า ถึงตอนแรกเราอ่านแล้วจะรู้สึกแปลๆหน่อย  :confuse:
เพราะย้อนความ แต่ก็โดยรวมแย้ว สนุกดีเจ้าคร๊า  o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 05-10-2013 06:35:11
พาไปม่านรูดเลยไป



สงสัยข้าวจะอยากอิอิ




สั้นไปรออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 06-10-2013 16:46:21
เข้าโรงแรมแล้วรูดม่าน ก็ได้ ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 07-10-2013 06:36:33
รออยู่นะคับฝม   :mew2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-10-2013 01:59:12
::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: คำสั่งของหม่อมย่า :::





         ไม่นานมากนัก... คุณชายก็ขับรถเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งมีความสูง 5 ชั้น ทว่าแม้จะสูงไม่มากนักแต่กลับมีขนาดกว้างขวางพอสมควร การตกแต่งก็อยู่ในสไตล์ที่ร่วมสมัย มีการใช้ศิลปะไทยมาผสมผสานกับตัวโรงแรมเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นไทย ซึ่งหากพิจารณาจากลักษณะแล้วโรงแรมแห่งนี้น่าจะเน้นลูกค้าต่างชาติมากกว่า

   หลังจากที่หาที่จอดรถได้ คุณชายก็เดินนำไปยังล็อบบี้ภายในตัวโรงแรมทันที... สายลมเย็น ๆ ที่พัดมาจากริมทะเลขณะเดินอยู่นั้นเป็นสายลมที่ทำให้ผมรู้สึกถึงความสดชื่นที่สุด

   หลังจากที่เข้าไปในตัวล็อบบี้ พนักงานต้อนรับก็ทักทายยกมือสวัสดีคุณชายกันทุกคนราวกับคุณชายเป็นคนใหญ่คนโตของที่นี่

   “คุณชายครับคุณชาย" ผมเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคุณชายเดินเลยผ่านเคาน์เตอร์ซึ่งมีพนักงานนั่งอยู่ไป

   “อะไร"

   “คุณชายไม่จองห้องพักเหรอครับ" ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะปกติเวลาดูในละครมักจะเห็นผู้ที่จะมาพักในโรงแรมจะต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนเสมอ

   “ไม่อ่ะตามมาเงียบ ๆ เหอะน่า" คุณชายตอบออกมา แถมยังทำเสียงเหมือนรำคาญจนน่าหมั่นไส้อีกด้วย

   “ครับ"

   คุณชายเดินนำผมไปจนกระทั่งถึงหน้าลิฟต์ รอสักพักหลังจากกดปุ่มลูกศรชี้ขึ้นลิฟต์ก็เปิดออก หลังจากที่เข้าไปในลิฟต์คุณชายก็กดหมายเลข 5

   “คุณชายเคยมาที่นี่เหรอครับ" ผมเอ่ยถามอย่างสงสัยขณะที่อยู่ในลิฟต์

   “เคย... แต่ไม่บ่อยหรอก" คุณชายตอบออกมาก่อนจะถามกลับ "ข้าวง่วงยัง"

   “เพิ่งสองทุ่มเองนะคุณชาย ตายังสว่างอยู่เลย เล่นน้ำทะเลทั้งคืนยังได้" ผมตอบ

   “เหรอ... งั้นไปเล่นน้ำทะเลกัน"

   สิ้นเสียงคุณชาย ลิฟต์ก็เปิดออกทันที ก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรออกไป คุณชายก็จับข้อมือของผมแล้วเดินออกจากลิฟต์ทันที...

   ในตอนนี้ คุณชายอาจไม่รู้สึกอะไร แต่ทำไมหัวใจของผมถึงเต้นแรงอีกแล้วนะ ...ก็แค่จับข้อมือให้เดินตามเฉย ๆ

   “นี่... ห้องส่วนตัวของฉัน" คุณชายเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูทางเดินในจุดที่ลึกที่สุด ซึ่งเป็นห้องที่อยู่มุมสุดของชั้น 5

   “ห้องส่วนตัว?” ผมทวนคำในขณะที่คุณชายกำลังไขกุญแจ

   “ใช่" คุณชายหันมายิ้มให้อย่างมีเลศนัยก่อนจะผลักประตูเข้าไปแล้วเสียบอะไรบางอย่างซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นการ์ดแข็ง ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดพอ ๆ กับบัตรประชาชน คุณชายเสียบมันเข้าไปที่ช่องเสียบข้างประตู จากนั้นไฟในห้องก็สว่างขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

   ภายในห้องปรากฏเฟอร์นิเจอร์หรูหรา มีทีวีจอแบนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงหน้าเตียงนอนแบบคู่ ส่วนข้างผนังที่ติดกับช่องเสียบคีย์การ์ดจะเป็นตู้เสื้อผ้า ถัดออกไปจากเตียงนอนจะมีมุมโต๊ะทำงานซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน

   “คุณชายมีห้องส่วนตัวในโรงแรมได้ไงครับ นี่ไม่ใช่คอนโดนะ" ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “ก็นี่มันโรงแรมของพ่อฉัน... พอเรียนจบพ่อก็จะยกกิจการที่นี่ให้ฉันดูแล ฉันก็เลยขอห้องส่วนตัวห้องหนึ่งไงล่ะ" คำตอบของคุณชายทำให้ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึง เพราะผมไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าหม่อมราชวงศ์กริชกรหรือพ่อของคุณชายเป๊กนั้นจะทำธุริจโรงแรมด้วย "จะทำหน้าแบบนั้นทำไมวะ กลัวว่าฉันเรียนจบแล้วเราจะต้องอยู่ไกลกันเหรอไง คิดมากน่า"

   “ไม่ใช่ครับ" ผมปฏิเสธ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยสักนิด ผมแค่แปลกใจก็เท่านั้น

   “เออ ๆ ช่างมันเถอะ... ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป ห้องน้ำอยู่ทางนั้น จากนั้นเราค่อยไปหาอะไรกินกัน"





   ริมทะเลยามค่ำคืนสวยงามน่าเดินกว่าที่ผมเคยจินตนาการเอาไว้ เพราะแสงไฟจากเสาต้นใหญ่ที่ถูกประดับประดาไว้ตลอดทางเดินกอปรกับบรรยากาศเย็น ๆ จากลมทะเลที่พัดขึ้นมานั้นมันสามารถทำให้คนที่มีเรื่องกลัดกลุ้มกลับมามีจิตใจที่สงบได้เชียวล่ะ

   “ชอบไหมข้าว" คุณชายเอ่ยขึ้นขณะที่เราสองคนเดินมาได้สักระยะ

   “ครับ อากาศดีมาก ๆ" ผมตอบออกไป จากนั้นคุณชายก็เดินมากอดคอผม

   “เนอะ... ฉันเองก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่สักเท่าไหร่ แต่พอได้มาที่นี่ทีไรมันก็ทำให้ฉันลืมเรื่องเครียด ๆ ได้ทุกที" คุณชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ผมสังเกตเห็นแววตาของคุณชายฉายชัดถึงความกังวลจนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าคุณชายเป็นอะไร

   “เรื่องเครียด ๆ คุณชายเครียดอะไรครับ" แล้วผมก็ถือวิสาสะเอ่ยถาม

   “เฮ้อ...” คุณชายถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะออกแรงดันแขนที่ล็อกคอผมเอาไว้ให้ไปนั่งอยู่บนผืนทรายริมทะเล

   ในยามนี้เราสองคนกำลังนั่งอยู่เคียงข้างกันโดยหันหน้าออกไปมองทะเลในยามค่ำคืน ผมรู้สึกถึงความสุขแบบประหลาด ๆ บางอย่างที่เกิดขึ้นในจิตใจ อาจเป็นเพราะผมไม่เคยมาทะเลสักครั้ง และเมื่อมีโอกาสได้มาเที่ยวทะเลมันเลยทำให้ผมมีความสุข และมันยิ่งสุขเข้าไปอีกเมื่อคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ใช่ใครอื่นไหนแต่เป็นคุณชายเป๊หสุดเอาแต่ใจของผม

   “ข้าวเคยดูละครหลังข่าวไหม" จู่ ๆ คุณชายก็ถามอะไรแปลก ๆ

   “ก็ดูผ่าน ๆ ครับ แต่ไม่ค่อยได้สนใจ" ที่ผมตอบออกไปแบบนั้นเพราะขณะที่ละครฉาย ผมกำลังทำงานอยู่ในปั๊ม และในปั๊มก็มีทีวีเพียงตัวเดียวซึ่งหากไม่มีลูกค้า พนักงานที่ติดละครต่างก็จะมายืนดูละครกัน ผมก็เลยต้องไปยืนร่วมวงด้วย

   “คิด ๆ ไปชีวิตฉันมันก็ไม่ต่างจากในละครเลยว่ะข้าว...” คุณชายตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่ซึมลงเล็กน้อย คงจะมีเรื่องกังวลอยู่ในใจสินะ "คือคุณพ่อน่ะ บังคับให้ฉันหมั้นกับพี่หญิงดาว หม่อมหลวงดารารัศมีหลังจากที่ฉันเรียนจบน่ะ ฉันเคยเจอพี่หญิงดาวครั้งล่าสุดก็ตอนอายุ 11 ปี หลังจากนั้นพี่หญิงดาวก็ไปเรียนต่างประเทศ"

   “หมั้นเหรอครับ" ผมทวนถาม "ก็ดีนี่ครับ ฟังจากที่คุณชายพูดพี่หญิงดาวอะไรนั่นน่าจะเป็นคนที่มีการศึกษาเหมาะสมกับคุณชายดีนะครับ"
   ผมพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงราวกับไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร แต่ภายในจิตใจมันกำลังคัดค้านในสิ่งที่พูดออกไปเพราะผมไม่ต้องการให้คุณชายหมั้นกับหญิงดาวนั่นเลยสักนิด

   “แต่ฉันไม่อยากหมั้น ฉันไม่ได้ชอบพี่หญิงดาว"

   “ถ้าไม่อยากหมั้นคุณชายก็ปฏิเสธสิครับ คนอย่างคุณชายชอบฝ่าฝืนคำสั่งของคุณพ่อกับคุณแม่แล้วนี่" ผมแสดงความคิดเห็น

   “มันก็ใช่... อีกอย่างนี่ไม่ใช่แค่ความต้องการของพ่อกับแม่ฉันน่ะสิ แต่ผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งนี้ก็คือหม่อมย่า...” พอพูดถึงหม่อมย่า สีหน้าของคุณชายก็เครียดหนักกว่าเก่า

   “หม่อมย่าเหรอครับ แล้วหม่อมย่ามาเกี่ยวอะไรด้วย"

   “ก็หม่อมย่าเป็นเพื่อนกับกับคุณแม่ของหม่อมราชวงศ์วรพฤกต์ซึ่งเป็นพ่อของพี่หญิงดาว คุณย่าของฉันกับคุณย่าของพี่หญิงดาวก็เลยตกลงกันว่าจะให้เราสองคนหมั้นกันหลังจากที่ฉันเรียนจบ อีกอย่างตอนนี้คุณย่าก็ป่วยหนักเดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ต้องไปเยี่ยม... ฉันคงไม่กล้าขัดใจคุณย่าหรอกข้าว"

   สิ้นเสียงของคุณชาย ผมก็พยายามทำหน้าครุ่นคิดในสิ่งที่คุณชายพูดอย่างเข้าใจ... แต่น่าแปลกที่ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมา คุณชายไม่เคยพูดถึงหม่อมย่าให้ผมฟังสักครั้ง

   “ครับ... ถ้าคุณย่าป่วย ผมว่าคุณชายก็ทำตามท่านเถอะครับ" ผมเอ่ยขึ้นเพราะไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาแย้ง แม้ไม่อยากให้คุณชายทำแบบนั้นก็ตาม ทว่าประโยคถัดมาของคุณชายก็ทำให้ผมอึ้งมากขึ้นไปอีก

   “แต่ฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้ว"

   “อ่อ... คุณชายก็เลยกลัวคนที่คุณชายรักจะเสียใจ" ผมถอนหายใจออกมา เพราะไม่ยักรู้ว่าคุณชายจะมีคนที่คุณชายรักอยู่แล้ว ได้ยินดังนั้นความรู้สึกประหลาด ๆ คับคล้ายคับคลาว่าจะเสียใจก็ประเดประดังเข้ามาในจิตใจ

   “อืม... ก็คงงั้น เฮ้อ... ช่างเถอะ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด" คุณชายถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเขยิบมานั่งใกล้ ๆ กับผมจนแขนของราวแนบชิดติดกัน "ว่าแต่ข้าวเถอะ... มีคนรักบ้างยัง"

   “ยังครับ" ผมก้มหน้าตอบ วัน ๆ ก็เอาแต่เรียนหนังสือ เลิกเรียนก็ทำงาน วันหยุดก็ต้องรับใช้คุณชาย ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปมีคนรักเล่า

   “ดีมาก" คุณชายแสยะยิ้มออกมา "ฉันไม่ยอมให้ข้าวมีแฟนเด็ดขาด"

   “อ้าว... ทำไมอ่ะคุณชาย แบบนี้มันขี้โกงนี่...” ผมเถียง เพราะขนาดคุณชายยังมีคู่หมั้นได้ แล้วทำไมผมจะมีคนรักบ้างไม่ได้

   “ก็ตอนอยู่บนรถฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าข้าวต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ฮ่า ๆ ๆ" พูดจบก็หัวเราะเสียงดังก้องราวกับเป็นเรื่องที่น่าตลกขบขัน

   “ขี้โกงนี่ครับคุณชาย" ผมแกล้งพูดออกไปอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องรู้สึกดีด้วยกับการที่คุณชายพูดว่าผมจะต้องเป็นของคุณชายคนเดียวเท่านั้นด้วย "ทีคุณชายยังไม่ต้องเป็นแค่ของผมคนเดียวเลย"

   “พูดงี้แสดงว่าอยากให้ฉันเป็นของข้าวคนเดียวเหรอ อันแน่ คิดไรกับฉันเปล่าเนี่ยข้าว" คุณชายทำน้ำเสียงอย่างมีเลศนัย

   “ทีคุณชายยังพูดแบบนี้ได้เลย หรือว่าคุณชายคิดอะไรกับผม"

   สิ้นเสียง... คุณชายก็เงียบลง ก่อนจะแกล้งแหงนหน้ามองท้องฟ้าโดยไม่สนใจที่จะให้คำตอบกับผม

   “ไม่ตอบ... หรือคุณชายจะคิดอะไรกับผมจริง ๆ ครับเนี่ย" ผมแกล้งยื่นหน้าไปใกล้ ๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณชายหันหน้ามาหาผมพอดี แล้วริมฝีปากของผมก็ปะทะเข้ากับใบหน้าของคุณชายจัง ๆ

   เราสองคนต่างนั่งตัวแข็งไปชั่วขณะ พอตั้งสติได้ ผมก็รีบเบือนหน้าออกมาทันที

   “เอ้อ... จะบ้าเหรอไง ฉันจะไปคิดอะไรกับข้าวได้ไงเล่า ข้าวเป็นพี่เลี้ยง เป็นพี่ชายที่ฉันรัก เอ๊ย... ไม่สิ เป็นพี่ที่ฉันรู้สึกผูกพันและสนิทสนมก็เท่านั้น" คุณชายตอบอย่างตะกุกตะกักอย่างที่ไม่เคยเป็นซึ่งผิดกับวิสัยของคุณชาย และนั่นเลยทำให้ผมต้องขำออกมาในท่าทีที่ตลกขบขันน่าเอ็นดูแบบนี้ "ขำอะไรข้าว"

   “เปล๊า... ผมไม่ได้ขำคุณชายนะครับ ฮ่า ๆ" ผมปฏิเสธ แต่ท้ายประโยคผมก็ต้องหลุดขำออกมาอยู่ดี

   “ไอ้ข้าว...” สงสัยคุณชายจะไม่พอใจที่ผมไม่ยอมบอก คุณชายก็เลยยื่นแขนมาพาดคอผมก่อนที่จะล็อกเอาไว้แน่นจนหน้าของผมต้องก้มลงไปติดกับอ้อมอกของคุณชาย และสุดท้ายคุณชายก็ลงโทษผมด้วยการเขกกบาลเบา ๆ หนึ่งที

   “โอ๊ย... เจ็บนะครับ" ผมแสร้งทำเสียงโอเวอร์เกินจริง

   “เจ็บเหรอ ดี งั้นก็โดนอีกสักหลาย ๆ รอบเลยเป็นไง นี่ ๆ" พูดจบคุณชายก็เขกผมอีกประมาณ 5 ครั้งได้ เมื่อหนำใจ คุณชายก็เลยปล่อยผมก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินกอดคอผมเดินต่อไป




จบตอน ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอนที่9 P.6] - 04/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-10-2013 02:07:09
คุยกับนักอ่านครับผม ^^  :3123:

คุณ loveaaa_somsak :: ยังไม่เกิดไรครับ *0* รอไปเกิดในทะเลดีกว่า *0*
คุณ iamnan :: ฮ่าๆๆ คุณชายก็ยังไม่มั่นใจตัวเองเลยครับ
คุณ Palmpalm :: 555+++ ไม่แน่ครับ คิคิ
คุณ kasarus :: *0* กระเยอะจริงอ่า ผมยังไม่เคยไปเลยมิกล้าเขียน 555 กลัวอธิบายไม่ถูก คิคิ
คุณ FahFon :: 555 คุณชายปากแข็งครับเรื่องนี้ เฉไฉไปเรื่อย T^T
คุณ NJnobu :: 555 ข้าวมันซื่อบื้อคร้าบ
คุณ rmlab :: 555 คิดไปถึงฟินแลนด์แหงๆเลย
คุณ WednesdayAugust :: >.< อ่านคอมเม้นท์แล้วยิ้มแก้มปริ แต่พอมาเจอบรรทัดสุดท้าย 555 ขำกลิ้งเลย ค่อยเป็นค่อยไปก่อนคึรับ แต่ก็ใกล้แล้วล่ะ 555 ^^ (ขอบคุณนะครับที่ติดตาม ฝากติดตามจนจบด้วยน๊า)
คุณ B52 :: 555+++ คุณชายปากแข็งอ่าครับ เฉไฉไปเรื่อย คนแบบนี้เคยเจอแล้ว - -" ต้องยอมตลอดเลย -*- 555
คุณ mentholss :: 555+++ เพราะข้าวเป็นลูกไก่ในกำมือของคุณชาย จะสั่งอะไรก็ได้คร้าบ กร๊ากๆๆ แลดูข้าวจะยอมด้วยสิ *0*
คุณ lizzii :: ^^ เปลี่ยนน้ำเค็มให้เป็นน้ำหวาน แหะๆๆ
คุณ pharm :: ข้าวคิดไม่ซื่อครับ *0*
คุณ sanri :: ขอบคุณคร้าบ ^^ ฝากติดตามต่อไปเรื่อยๆด้วยนะครับ จะพยายามอัพไม่ทิ้งช่วงยาวนะครับ ^^
คุณ fannan :: ^^ ตอนใหม่มาแล้วครับ แหะๆ
คุณ Dee^daY :: 555 คุณชายไม่พาเข้าครับ คุณชายบอกว่า ไปห้องส่วนตัวสะดวกกว่า กร๊ากๆ
คุณ tomnub :: ^^ ครับป๋ม มาแล้วนะครับ ^^


หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 08-10-2013 08:29:08
โอ๊ย มาทะเลกันทั้งที

หวานกันหน่อยไม่ได้เหรอ? หาเรื่องตีกันตลอด

ชายเป๊กนี่ก็ไม่ยอมเปิดเผยความในใจสักที ลุ้นจนรากจะงอกแล้วน๊าาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 08-10-2013 08:47:09
คุณชายยังไม่เลิกซึนอีกเร้อ ระวังข้าวจะไปมีคนอื่นนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 08-10-2013 10:36:29
เก๊กอยู่นั่นแหละคุณชายเป๊ก เดี๋ยวจะเชียให้ข้าวไปมีคนใหม่เลย  :hao3:

+  :กอด1:  :mew1:  o13  :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 08-10-2013 11:20:23
อ่ะน้าาาา
จิงๆคุณชาย ก้อน่าจะบอกข้าวไปตรงๆว่าชอบอ่ะ = =
เพราไอ้ที่ทำอยู่ก้อไม่แตกต่างเท่าไหร่
(หึงซะ 555+)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 08-10-2013 11:22:03
ต่างคนต่างเก็บความรู้สึก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: FahFon ที่ 08-10-2013 13:44:51
โธ่......ชีวิตคุณชายผู้สูงศักดิ์ นิยายเป๊ะๆเลยยยย รอลุ้นกันต่อไป >__<
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 08-10-2013 14:05:14
โอ๊ยยยย คนนึงก็เหมือนยังอึนๆ ไม่รู้ใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งงงงงงง
แต่ใกล้แล้วใช่มั้ยคะ คริคริ น่ารักน่าหยิกน่าเขกหัวจริงๆ เล้ยคู่นี้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 08-10-2013 17:16:03
พึ่งรู้ว่าคุณชายก็มีเรื่องเครียดจ้า 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-10-2013 10:26:40
เมื่อไรจะเข้าใจตรงกันสักทีนะอีกคนแอบรักไม่กล้าบอก อีกคนรักแต่ยังไม่รู้ใจ :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 10-10-2013 11:24:27
ตอนนี้ทะเลจะหวานหรือขมดีหนอ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 10-10-2013 12:37:48
รึว่าคลื่นจะมา!!?
หายไปนาน(เราเอง)... รอสองคนนี้เขาลงน้ำ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 10-10-2013 12:43:41
รึว่าคลื่นจะมา!!?
หายไปนาน(เราเอง)... รอสองคนนี้เขาลงน้ำ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 10-10-2013 20:04:09
ยังไม่รู้ใจตัวเองทั้งสองคนสินะ 

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 12-10-2013 20:32:54
หงุดหงิดแปป

เมื่อไหร่จะถึงตอนฟินนนน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 12-10-2013 21:46:52
อยากให้ข้าวรู่้ว่าคุณชายรักข้าวคนเดี่ยวจัง

ทำได้เปล่าคับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 ] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 12-10-2013 23:06:41
โอ๊ย กลับมาอ่านรวด 4 ตอน เหมือนจะเป็นโรคหัวใจยังไงไม่รู้ แบบยิ่งอ่านมันยิ่งหน่วงอะ
เพราะทั้งคำพูด และการกระทำของคุณชายก็ช่างทำให้ข้าวสับสนหวั่นไหวใจเต้นตึกตักได้ตลอด
แล้วไม่รู้ข้าวควรจะดีใจกับความสำคัญที่คุณชายมีให้ หรือจะเสียใจกับคำสัญญาผูกมัดโดยที่คุณชายไม่คิดถึงอนาคตของข้าวบ้างเล้ย
เพราะถ้าวันนึงคุณชายต้องมีใครซักคนจริง ๆ ถึงวันนั้นคุณชายจะยังให้ข้าวอยู่เคียงข้างได้จริงเหรอ
แล้วข้าวจะยอมอดทนต่อความรู้สึกของตัวเองที่มีให้คุณชายได้ตลอดไปเหรอ  แค่ตอนนี้ได้รู้ว่าคุณชายจะต้องหมั้น
ตามคำสั่งหม่อมย่าก็เริ่มเครียดแล้ว เพราะยังไงคงขัดคำสั่งไม่ได้ซะด้วย ถึงจะเป็นคุณชายเป็กที่เอาแต่ใจก็เถอะ
ยังไม่รู้พี่หญิงดาวเป็นคนแบบไหน  มองในแง่ดีพี่หญิงดาวอาจเป็นตัวช่วยของข้าวก็ได้นะ
 :เฮ้อ: ทั้งหมดมันก็เพราะข้าวกะคุณชายต่างกันเกินไป ทั้งฐานะ ทั้งชาติตระกูล  ถึงต้องปิดบังความรู้สึกตัวเองแบบนี้
แล้วต่อให้ยอมรับใจตัวเอง แต่โอกาสสมหวังมันจะมีจริงเหรอ สงสารข้าวกะคุณชายจัง
แต่เรื่องราวยังอีกยาว(มั่ง) อาจมีจุดพลิกผันก็ได้นี่เนอะ ยังไงก็ขอให้จบอย่างมีความสุขนะคะ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:  :กอด1:
ปล. อาจจะเม้นวกวนไปมา แต่มันอินอะ ประหนึ่งตัวเองเป็นข้าว  :heaven
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 13-10-2013 00:21:52
ยังไม่รู้ใจตัวเองกันอีกหย๋อเนี่ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 13-10-2013 04:42:39
ดินต่างฟ้า กับ หาดทรายใต้แสงจันทร์


        ร้านอาหารที่คุณชายพามานั้นเป็นร้านหรูหราทว่าไม่ได้อยู่ติดทะเล เพราะต้องเดินเข้าไปในซอยเล็กน้อย ทว่าบรรยากาศที่มีลูกค้าต่างชาติปะปนกับคนไทย อีกทั้งศิลปะของตัวร้านก็ผสมผสานระหว่างสไตล์ไทยกับสไตล์ยุโรปจนลงตัวก็ชวนให้น่านั่งอยู่ไม่น้อย

   ตัวร้านมีขนาดกว้าง ทางเข้าร้านมีน้ำพุขนาดใหญ่ประดับประดาอยู่ตรงกลางประกอบกับสองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่และโคมไฟสีสวยที่ให้ความร่มรื่นแถมยังมีโคมเล็ก ๆ ประดับอยู่ตามกิ่งไม้ทำให้ดูสบายตา

   พอเดินเข้าไปในตัวร้าน มีเพลงสากลเปิดเบา ๆ ให้ลูกค้าได้ฟัง แสงไฟสีส้มทำให้ภายในร้านดูสลัว ๆ และค่อนข้างจะโรแมนติกเหมาะสำหรับลูกค้าที่มากันเป็นคู่รัก

   คุณชายเดินนำไปยังโต๊ะตัวหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับผนัง ด้านข้างมีกระจกใสบานใหญ่กั้นเป็นผนังทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นวิวนอกตัวร้านได้อย่างชัดเจน จากนั้นพนักงานในร้านก็ส่งใบรายการอาหารมาให้

   “ข้าวอยากกินอะไร" คุณชายเอ่ยถามหลังจากที่ผมเปิดดูรายการอาหารได้สักระยะ อาหารของร้านนี้มีทั้งอาหารไทย อาหารอีสานรวมถึงอาหารประจำชาติของชาวยุโรปก็มีให้เลือกสรร แต่ส่วนใหญ่เมนูหลัก ๆ จะเป็นอาหารทะเลเสียมากกว่า

   “แล้วแต่คุณชายเลยครับ" ที่ต้องตอบแบบนั้นเพราะผมเป็นคนกินง่าย ๆ อยู่แล้ว... ยกเว้นก็แต่ผักสารพัดชนิดที่ผมจะไม่แตะต้องเด็ดขาด

   คุณชายพยักหน้ารับหลังจากนั้นก็สั่งรายการอาหารมาค่อนข้างเยอะพอสมควร และปิดท้ายด้วยการสั่งเหล้ามาหนึ่งขวด

   “เดี๋ยวก็เมาอีกหรอกครับ" ผมเอ่ยขึ้นทันทีหลังจากที่พนักงานเดินจากไป

   “ไม่เมาหรอก ฉันสั่งมาให้ข้าวดื่ม" คุณชายทำเสียงทะเล้น ถ้าเรื่องเหล้าเนี่ยผมไม่กลัวหรอก หลังเลิกงานผมก็เคยกินกับพี่ปั๊มและพนักงานคนอื่น ๆ ในปั๊มน้ำมันบ่อย ๆ มันเลยทำให้ผมเคยชินและไม่เมาง่าย ๆ แน่นอน แต่ที่ผมห่วงก็คือ...

   “แต่คุณชายพาผมมาเที่ยวทะเล ผมก็อยากเที่ยวทะเลกับคุณชาย ไม่ได้อยากดื่มเหล้าสักหน่อย"

   “เออน่า ดื่ม ๆ ไปเหอะ พรุ่งนี้ตื่นมาค่อยไปเที่ยวก็ได้" คุณชายตอบ

   “หึ! คิดจะมอมเหล้าผมล่ะสิ บอกไว้ก่อนเลยว่าผมคอแข็งระดับหินแกรนิตเรียกพี่นะครับ" ผมยักคิ้วใส่คุณชาย สงสัยคุณชายจะหมั่นไส้ก็เลยเอื้อมมือมาปัดศีรษะผมเบา ๆ ...ไอ้เด็กแสบนี่มันทำอะไรไม่เคยเห็นหัวผมหรอก สงสัยมันไม่เคยคิดว่าผมเป็นพี่ตามที่ปากพูดล่ะมั้ง

   “ฉันจะมอมเหล้าข้าวทำไมล่ะ อย่างฉันน่ะไม่จำเป็นต้องมอม..." คุณชายเอ่ยออกมา "แต่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะคอแข็งตามที่โม้หรือเปล่า"

   ระหว่างนั้นเราสองคนก็นั่งคุยกันอย่างเพลิดเพเลิน ไม่นานมากนักอาหารที่คุณชายสั่งก็ถูกทยอยนำมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ มีทั้งปลาเผา หมึกนึ่งมะนาว กุ้งชุบแป้งทอด ต้มยำทะเล และส้มตำปูปลาร้าของโปรดของคุณชาย และที่ขาดไม่ได้ก็คือข้าวเหนียว

   กลิ่นของปลาร้าที่อยู่ในส้มตำช่างยั่วยวนยิ่งนัก ทว่าก่อนที่ผมจะตักกิน คุณชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ตักกุ้งชุบแป้งทอดมาให้ผมพร้อมกับเนื้อหมึกนึ่งมะนาว

   “กินเยอะ ๆ นะข้าว จะได้ตัวโต ๆ" คุณชายพูด...

   “ขอบคุณครับคุณชาย" แล้วทำไมผมต้องรู้สึกเขินด้วยเนี่ย ...จะว่าไป คุณชายไม่เคยตักอาหารให้ผมกินสักครั้งนี่นา กลับกันก่อนหน้านี้เวลาออกไปทานอาหารนอกบ้านกับคุณชายสองคนทีไรก็มีแต่คุณชายที่แกล้งบอกให้ผมตักนู่นตักนี่ให้จนน่ารำคาญ แต่สุดท้ายผมก็เต็มใจตักให้คุณชายเสมอ

   และก่อนที่ผมจะได้กิน คุณชายก็ทำหน้างอใส่ผม คิ้วก็ขมวดมุ่นด้วยความขัดใจ

   “โถ่... ข้าวไม่เห็นตักให้ฉันบ้างเลย" ว่าแล้วเชียวคุณชายต้องอยากให้ผมตักให้คืนแน่ ๆ

   ผมเอื้อมมือไปตักเนื้อปลาทับทิมเผาให้กับคุณชาย ก่อนที่จะตักส้มตำปูปลาร้าของโปรดให้คุณชายด้วย

   “คุณชายก็ทานเยอะ ๆ นะครับ" ผมเอ่ยกลับบ้าง คุณชายยิ้มอย่างพอใจก่อนที่หลังจากนั้นเราทั้งสองจะลงมือรับประทานอาหาร

   เราสองคนนั่งอยู่ในร้านอาหารนานโข เพราะอาหารที่สั่งมาเยอะเกินไปทำให้ทั้งผมและคุณชายต้องค่อย ๆรับประทาน กว่าที่อาหารทุกอย่างจะถูกจัดการลงกระเพราของผมกับคุณชายจนหมดเกลี้ยงก็ปาไปเกือบชั่วโมง...

   “คุณชายอ่ะ กินนิดเดียวเอง" ผมประท้วงทันทีที่กลืนข้าวคำสุดท้ายลงคอ ก็ตลอดเวลาคุณชายเล่นตักอาหารให้ผมสารพัดส่วนตัวเองก็ทานนิดเดียว

   “ก็ฉันอยากให้ข้าวกินเยอะ ๆ นี่" คุณชายพูดขณะเอื้อมมือไปหยิบแก้วเปล่าก่อนที่จะผสมเหล้ากับโซดาแล้วยื่นแก้วนั้นมาให้ผม "เอ้า... พ่อคนคอแข็ง ดื่มซะ"

   “โถ่... คุณชายครับ ผมเพิ่งกินข้าวอิ่มจะให้ดื่มเหล้าแบบนี้มันไม่ไหวหรอกครับ" ผมปฏิเสธ "เอาไว้ไปดื่มบนห้องพักได้ไหม"

   สิ้นเสียงของผม คุณชายก็ถอนหายใจออกมาอย่างขัดใจ

   “ถ้างั้นก็ดื่มแก้วนี้ให้หมดก็ยังดี"

   “ครับ... คุณพ่อ" ผมรับแก้วนั้นมาก่อนที่จะกลั้นใจดื่มมันจนหมดแก้ว รสชาติของเหล้ามันขม... ขมกว่าที่ผมเคยดื่มกับพี่ปั๊มหลายร้อยเท่า ไม่รู้คุณชายผสมโซดากับเหล้าในอัตตราส่วนอย่างไรมันถึงได้ขมขนาดนี้ พอหมดแก้ว ผมก็เลยต้องแลบลิ้นแล้วทำหน้าเหยเกออกมาราวกับว่าสิ่งที่ผมเพิ่งดื่มเข้าไปเมื่อครู่ เป็นสิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุดในชีวิต

   “ไหนว่าคอแข็ง ทำไมทำหน้าแบบนี้ล่ะ" ได้ทีก็ต่อว่าใหญ่... คุณชายนี่นิสัยขี้แกล้งขี้เอาชนะเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

   “ก็คุณชายเล่นผสมโซดาแค่นิดเดียวมันก็ขมสิครับ" ผมเถียงออกไป

   “อ่ะโด่... ก็นึกว่าจะเก่ง ไอ้ไก่อ่อนเอ๊ย" ยังมีหน้ามาว่าผมอีก... ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็คออ่อนปวกเปียกยิ่งกว่าอะไร

   “บอกแล้วไงว่าผมไม่อ่อน" ผมเถียงและไม่รู้เพราะฤทธิ์เหล้าหรืออย่างไรถึงทำให้ผมกล้าพูดในประโยคถัดไป "ถ้าไม่เชื่อจะพิสูจน์ก็ได้นะคุณชาย"

   ไม่ว่าเปล่าผมยังตบที่หว่างขาอย่างท้าทายอีกด้วย...

   “อ่ะ ๆ ไว้ค่อยไปพิสูจน์ที่ห้องละกัน" พูดจบคุณชายก็เรียกพนักงานมาเก็บตังค์จากนั้นเราทั้งสองก็เดินออกจากร้านอาหาร

   ขณะที่เดินอยู่ริมหาดนั้น ผมรู้สึกมึน ๆ เล็กน้อยโชคดีที่มีคุณชายช่วยประคองตลอดทางเลยทำให้ผมสามารถเดินได้อย่างสง่าผ่าเผย แต่ถึงกระนั้นคุณชายก็ยังบ่น...

   “จะเดินเซทำไม ไหนว่าคอแข็งวะ" คุณชายบ่นไปขำไป ไม่รู้จะขำอะไรนักหนา

   “เซอะไร ผมก็เดินปกตินี่ครับ" ผมเถียงโดยที่ไม่รู้เลยว่าในยามนี้ตัวเองกำลังเดินกอดคอคุณชายโซซัดโซเซขนาดไหน

   “ฉันไม่ไหวแล้วนะข้าว เดี๋ยวก็พานอนริมหาดซะหรอก"

   “ก็เอาสิครับ จะนอนก็นอนเถอะ ผมง่วงแล้ว" พูดจบผมก็ปล่อยแขนออกจากคอของคุณชายแล้วทิ้งร่างลงกับหาดทรายริมทะเลทันที

   ใบหน้าที่แหงนมองท้องฟ้าในยามนี้ทำให้ผมมองเห็นดวงดาวน้อยใหญ่ที่กำลังแข่งกันทอแสงระยิบระยับงามตา แต่ความงามนั้นก็หดหายไปเมื่อมีใบหน้ามุ่ย ๆ ของคุณชายก้มลงมาบดบังรัศมีของท้องฟ้า

   “โถ่... คุณชาย ผมกำลังดูดาวเพลิน ๆ เลย กำลังมองหาดาวลูกลิงอยู่เลย" ผมบ่นคุณชายอย่างสุภาพ

   “ดาวลูกลิง?” คุณชายทำหน้างุนงง "อ่อ... ดาวลูกไก่เหรอ เหอะ ๆ เมาแล้วพูดไรเลอะเทอะไปหมดเลยนะข้าว"

   “ช่างเหอะน่า มานอนดูดาวด้วยกันดีกว่า"

   ผมไม่สนใจในสิ่งที่คุณชายพูดสักนิด เพราะทันทีที่คุณชายพูดจบผมก็กระชากแขนของคุณชายจนคุณชายที่ยังไม่ได้ตั้งตัวต้องล้มลงมาตามแรงนั้น

   ถ้าล้มธรรมดาเฉย ๆ มันก็คงไม่มีอะไร แต่คุณชายดันล้มลงมาโดยที่ริมฝีปากของคุณชายดันมาประกบกับหน้าผากของผม และริมฝีปากของผมก็ปะทะกับหน้าผากของคุณชายนี่สิมันเลยทำให้เราสองคนตัวแข็งไปชั่วขณะ พอตั้งสติได้คุณชายก็ค่อย ๆ ยั้งกายให้อยู่ในท่านั่งเหยียดขา

   ผมที่รู้ตัวว่าเมื่อครู่ได้ทำความผิดเลยรีบยกศีรษะไปนอนหนุนตักคุณชายเพื่อเป็นการขอโทษและออดอ้อนไปในตัวด้วยกลัวว่าคุณชายจะบ่นอะไรออกมา

   “เมื่อกี้ผมขอโทษนะครับ" ผมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาหวิว

   คุณชายไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงยิ้มให้ผมอย่างเอ็นดูก่อนที่จะใช้มือคลำศีรษะผมจากนั้นเราทั้งคู่ก็นอนและนั่งแหงนมองดาวบนท้องฟ้าที่ริมหาดด้วยกัน




จบตอน ^^

จบแล้วฟังเพลงนี้ 555 >> http://www.youtube.com/watch?v=DvyDUwK2XWk (ใครจะเป็นเจ้าหญิงของใคร 555)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน10 P.7] - 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 13-10-2013 04:50:15
คุยกับคนอ่านที่น่ารักที่สุดในโลกครับ ^^

คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: ตอนหน้าจะเริ่มหวานแล้วครับ ^^ แต่เดี๋ยวจะพยายามแทรกขมมาใส่ *0* มันเป็นนิสัยไม่ดีของคนเขียน T^T ชอบให้หาเรื่องทะเลาะกัน
คุณ kasarus :: เชียร์ข้าวให้มีคนอื่นเหมือนกันครับ 555
คุณ NJnobu :: *0* ถ้ามีคนอื่นจริงไม่รู้คนอ่านหรือข้าวจะเสียใจมากกว่ากัน คิคิ
คุณ poppycake :: T^T คนปากแข็ง ต้องโดนจูบ เดี๋ยวโดนแน่ๆคุณชายอ่ะ
คุณ loveaaa_somsak :: คิคิ เดี๋ยวจะให้ปล่อยออกมาบ้างดีกว่าเน้อ ^^
คุณ FahFon :: 555 นิยายเป๊ะๆ แต่เดี๋ยวต้องรับมือ ถ้าต้องทำตามคำสั่งจริงๆ คุณชายจะทำยังไง
คุณ WednesdayAugust :: ใกล้อาราย *0* เค้าม่ายรู้ คิคิคิ
คุณ rmlab :: นิดหน่อยครับ 555 สะใจดี ให้มีเรื่องเครียดกะเค้าบ้าง
คุณ B52 :: 555 เดี๋ยวต้องมีวันนั้นที่มาถึงครับ *0* อาจจะตอนหน้าเล้ย (มั้ง)
คุณ mentholss :: ผสมๆ กันไปดีกว่าเน้อ ^^
คุณ BlueHoney :: 555 T^T คนเขียนก็หายไปนานเหมือนกันคร้าบ T^T
คุณ MK :: T^T ถ้าคุณชายรู้ใจเมื่อไหร่เสร็จแน่ไอ้ข้าว !!! อุ๊บบ!!  :katai1:
คุณ ice_spok :: 55555 ไม่บอกกก
คุณ maew189870 :: T^T ได้ไม่ได้ต้องรอติดตามครับผม
คุณ Lily teddy :: เม้นท์ไม่วกครับ อิอิ อ่านเพลินเลยครับ ^^ แค่อีกนานเลยกว่าหญิงดาวจะโผล่มา ตอนนี้ลัลล๊า กันไปก่อน แฮ่ๆ
คุณ sanri :: น่าจะรู้แล้วครับ (มั้งน๊า) แต่คนนึงยังไม่กล้าบอก อีกคนคงยังไม่กล้ายอมรับ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 13-10-2013 08:21:34
หวานจัง



ไหนว่าคอแข็ง



แก้วเดียวมึนเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 13-10-2013 09:56:46
อาฮะ มีแอบหวานตอนท้ายด้วย  :o8:

เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันซักที ลุ้น ลุ้น  :hao7:

+  :กอด1:  :mew1:  o13  :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 13-10-2013 10:03:23
คุณชายกะจะมอมข้าวล่ะสิ คืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นน้อ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 13-10-2013 10:07:58
หวานละมุน ละไม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-10-2013 10:13:22
ล้มท่าไหนเนี่ย 55555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 13-10-2013 11:21:49
ตามอ่านทันแล้วค่ะ >.<
ทั้งคู่ยังไม่เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริง

แต่แอบคิดว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นที่ห้องพักบ้าง อิอิ

ขอบคุณนะคะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 13-10-2013 13:31:13
คุณชายจะทำอะไรข้าวไหมนะ :impress2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 13-10-2013 13:47:22
หวานจริง ๆ ตอนนี้ อุอุอุ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-10-2013 14:09:01
ล้มยังไงเนี่ยต่างฝ่ายต่างุ๊บหน้าผากกันได้เนี่ย งง 55
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 13-10-2013 14:32:55
มาทิ้งระเบิดแล้วก็ไปหรอออออ

////โวยวายย ปาข้าวของใส่พี่ชาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-10-2013 14:53:17
ตอนนี้หวานๆสบายๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 13-10-2013 18:58:34
น่ารักๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 13-10-2013 19:59:32
หวานขนาดนี้ยอมรับใจกันซักทีเถอะ แหมๆๆๆ /แซว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 13-10-2013 20:07:37
สองคนนี้เมื่อไหร่จะ...กันซ่ะทีเนี่ย ><
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-10-2013 10:17:30
ฟอร์มเยอะก็เท่านั้น ปากแข็งก็เท่านั้น อิคุณชายบื้อเอ้ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 14-10-2013 13:08:25
คุณชายกะมอมข้าวแล้วลากเข้าห้องป๊ะเนี่ย  :o9:
แต่ปากยังแข็งดั่งเดิม มะบอกชอบๆไปเลยเล่า อีตาคุณชายง่าวนี่  :mew5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 14-10-2013 13:39:41
มารอครับ รีบมาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Tamtang ที่ 14-10-2013 14:40:07
มาต่อไวๆน๊าา เพิ่งอ่านครั้งแรก อิอิ เชียร์ให้คุณชายเป็นเคะน๊าา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 14-10-2013 18:51:28
ล้มตัวลงนอนดูดาวแล้ว สงสัยจะดูกันจนฟ้าเหลือง ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 14-10-2013 21:50:45
ฟังจากเพลงไม่รู้ใครเป็นเจ้าหญิงของใครเลยค่ะ เพราะทั้งข้าวและคุณชายต่างก็เดินเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของอีกฝ่ายทั้งคู่
แล้วค่ำคืนนี้ก็มีแต่ข้าวกะคุณชายอยู่เคียงใต้แสงดาวจริง ๆ เล่นนอนริมหาดเลยอะ โรแมนติกจัง
และถึงจะมีความรักให้กันและกัน แต่ตอนนี้มันก็ยังเป็นความรักที่ไม่อาจเปิดเผยออกไปได้นี่สิค่ะ
เอ๊ หรือจะมีใครยอมเปิดเผยใจในคืนนี้ 555
ปล.ตอนนี้เม้นแบบเอาเนื้อเพลงมาผสม ๆ กะเนื้อเรื่องซะเลย เข้ารึเปล่าไม่รู้  o6
     แล้วที่จริงเพลงเค้าก็ไม่ได้เศร้านะ เพราะงั้นความรักระหว่างคุณชายกะข้าวก็ยังมีหวังสินะคะ (เกี่ยวไหม 555)
     แฮะ ๆ อย่าอ่านไปขำไปนะค่ะ พึ่งเคยเม้นแบบนี้อะ อายจัง  :-[   :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 15-10-2013 05:12:52
ไงก็รอลุ้นต่อไปว่าคู่นี้จะอย่างไง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 15-10-2013 12:28:11
 o18 อร๊ายยยยย ฟินทั้งเรื่องอ่ะ

น่าร๊ากกกกกกกกกก ฝุดๆ

ถึงข้าวจะซื่อแต่ก็ไม่โง่นะจ๊ะ 55555(ทำไมชายเป๊กให้บอกรักให้มันเคลียร์ๆไปเลยห๊ะ)

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 15-10-2013 16:14:46
นอนดูดาวริมหาดโรแมนติคไม่มีใครเกินอ่ะ ><
ทำคะแนนให้ทะลุเป้าเยอะๆนะคุณชาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 15-10-2013 20:18:12
น่ารักเกินเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 15-10-2013 20:39:12
หวานไปไหนค่ะคุณชาย :o8:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 16-10-2013 20:53:46
เมื่อไหร่จะมาต่อคับ  อยากรู้แล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 17-10-2013 18:57:01
น่ารักจังคู่นี้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 18-10-2013 16:02:15
มอมเหล้าไอ้ข้าวเนี่ย  คิดจะทำอะไรครับคุณชาย

 :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 18-10-2013 17:01:05
อยากอ่านตอนใหม่แล้ว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 19-10-2013 00:39:36
ดินต่างฟ้า กับ รุ่งอรุณ



        อากาศที่หนาวเย็นส่งผลให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา เสียงคลื่นที่ซัดสาดกับท้องฟ้าที่มืดมิดทำให้ผมประหลาดใจยิ่งนักว่าผมกำลังอยู่ที่ไหน พอหันไปทางขวาก็พบกับร่างของใครบางคนซึ่งผมกำลังนอนหนุนไหล่อยู่ ผมเลยรีบเหยียดตัวให้อยู่ในท่านั่งทันที

   “คุณชาย" แล้วผมก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าใครคือผู้ที่ให้ผมนอนหนุนไหล่ทั้งคืน แต่ที่ผมสงสัยไปกว่านั้นคือผมมานอนอยู่ที่ริมหาดได้อย่างไร
 
   ความทรงจำครั้งสุดท้าย... ผมจำได้เพียงว่าผมกับคุณชายกำลังนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน แล้วคุณชายก็ยื่นแก้วเหล้ามาให้ ...ใช่แล้ว! ผมคงจะเมาไปตั้งแต่ตอนนั้น

   “คุณชายครับ คุณชาย" ผมกระตุกร่างของคุณชายเบา ๆ

   “หือ...” คุณชายค่อย ๆ ขยี้ตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย "ตื่นแล้วเหรอข้าว โอ๊ย... ปวดไหล่ชะมัด ไหนบอกว่าคอแข็ง เล่นเมาซะตั้งแต่แก้วแรกที่ดื่มแบบนี้ก็ไม่ไหวนะข้าว"

   ตื่นขึ้นมาก็ทำปากดีบ่นผมทันที ผมไม่ถือสาหรอกแต่เป็นห่วงคุณชายมากกว่าที่ต้องเสียสละหัวไหล่ให้ผมนอนหนุนทั้งคืน

   “ปวดมากไหมคุณชาย" ผมเอ่ยถาม

   “ก็นิดนึง" คุณชายตอบออกมาขณะยั้งกายให้ลุกขึ้นนั่ง

   ผมเอื้อมมือไปลูบบริเวณไหล่ข้างที่ผมนอนหนุนก่อนจะค่อย ๆ ออกแรงนวดเบา ๆ ด้วยหวังว่าอยากให้คุณชายรู้สึกดีขึ้น แต่ทว่าคุณชายก็ดันเล่นพิเรนท์ ๆ จับมือผมที่กำลังนวดแล้วดึงไปข้างหน้าสุดแรงจนแขนผมต้องโอบร่างของคุณชายเอาไว้

   “เปลี่ยนจากนวดมาเป็นกอดดีกว่า" คุณชายตอบออกมา "หนาวชะมัด"

   “คุณชายครับ เดี๋ยวใครมาเห็นมันจะดูไม่ดีนะครับ" ทั้ง ๆ ที่หัวใจของผมก็เต้นตึกตักแถมยังชอบที่ได้อยู่ในท่านี้ ทว่าปากของผมก็ดันพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึกออกไปอีกแล้ว

   “แคร์ทำไม" คุณชายตอบออกมาพลางพลิกนาฬิกาข้อมือที่ใส่ตั้งแต่เมื่อคืนขึ้นมาดู "เพิ่งตี 5 เอง ไม่มีใครมาสนใจหรอกน่า"

   “ครับ" พูดจบผมก็เขยิบเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอาคางเกยไหล่คุณชายอย่างถือวิสาสะ โชคดีที่คุณชายไม่ว่าอะไรแม้ว่าในยามนี้ใบหน้าของเรามันแทบจะแนบชิดติดกันอยู่แล้ว ...ยิ่งนานวันผมยิ่งรู้สึกว่าความใกล้ชิดและการแสดงออกของเราสองคนชักจะเลยเถิดจนคล้ายกับ... “คุณชายไม่รู้สึกแปลก ๆ บ้างเหรอครับที่เราสองคนทำแบบนี้ มันเหมือนกับเราเป็น... เอ่อ เป็นมากกว่าเพื่อน หรือพี่น้องน่ะครับ"

   “นายจะบอกว่าเหมือนคนรักใช่ไหม" คุณชายสวนกลับมาอย่างตรงประเด็น

   “ครับ" ผมตอบออกไปด้วยความตื่นเต้นเพราะอยากรู้ว่าคุณชายจะมีความคิดเห็นอย่างไร

   “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะข้าว ความสนิทสนมและความใกล้ชิดรวมถึงอะไรหลาย ๆ อย่างที่ข้าวทำให้ฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกไม่อายหรือต้องเกรงใจที่จะทำอะไรแบบนี้กับข้าว" คุณชายตอบออกมาก่อนที่จะทิ้งศีรษะมากับใบหน้าของผมที่เกยอยู่บนหัวไหล่ของคุณชาย "มันคงจะเป็นความรักแบบพี่น้องล่ะมั้ง ไม่ดิ... ฉันไม่เคยเห็นข้าวเป็นพี่ คงจะเป็นเพื่อนรัก อืมใช่เป็นเพื่อนที่รักกันมาก ๆ แล้วข้าวล่ะคิดยังไง"

   “ผมเหรอ" ผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่คุณชายพูดจบ ส่วนตัวผมเองก็ไม่เคยคิดจะชอบ รักหรือหลงใหลผู้ชายคนไหน ผมจึงมั่นใจว่าผมไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นแน่นอน แต่ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม... ถึงมีแค่คุณชายคนเดียวเท่านั้นที่ผมกล้าคิดอะไรเกินเลยแบบนั้นด้วย "ก็คงจะเหมือนคุณชายล่ะมั้งครับ ไม่งั้นผมคงไม่ทำแบบนี้หรอก"

   “อืม... คิดแค่นั้นก็ดีแล้ว" คุณชายตอบออกมา "ป่ะ... กลับกันเถอะ"

   สิ้นเสียง คุณชายก็แกะมือผมออกจากร่างก่อนที่จะยั้งหายลุกขึ้นแล้วยื่นมือมารับตรงหน้าผม ผมเอื้อมมือไปจับกับมือนั้นก่อนที่จะยั้งกายให้ลุกขึ้นบ้าง จากนั้นเราก็เดินริมหาดเพื่อกลับไปยังที่พักด้วยกัน

   ไม่รู้ทำไม... หัวใจผมถึงเต้นรุนแรงแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหน ผมชักไม่แน่ใจเสียแล้วสิว่าผมคิดกับคุณชายแค่เพื่อนหรือแค่น้องชายอย่างที่พูดออกไป

   แต่ไม่ว่าจะอย่างไร... ผมมันก็เป็นแค่เด็กปั๊ม ให้ทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะเราสองคนต่างกันเกินไปโดยเฉพาะในเรื่องของฐานะและชื่อเสียงเงินทอง ที่สำคัญเราทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน มันยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่งถ้าผมจะไปเรียกร้องโหยหาความรัก... จากคุณชายของผม





   ทันทีที่กลับไปถึงห้อง คุณชายกับผมก็ผลัดกันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เนื่องจากที่นี่เป็นห้องพักส่วนตัวของคุณชาย ในตู้เสื้อผ้าเลยมีเสื้อผ้าของคุณชายพอให้เลือกใส่

   “ง่วงไหมข้าว" หลังจากที่ผมแต่งตัวเสร็จคุณชายก็เอ่ยถาม โดยชุดที่ผมใส่เป็นเสื้อกล้ามสีดำกางเกงขาสั้น ส่วนคุณชายใส่เสื้อกล้ามสีขาวกางเกงขาสั้นเช่นกัน

   “ไม่อ่ะครับ นอนมาทั้งคืนแล้ว" ผมตอบ

   “ดี... งั้นตามฉันมานี่" พูดจบคุณชายก็เปิดประตูออกไปรอนอกห้องทันที ผมจึงต้องรีบตามออกไป

   คุณชายเดินนำไปจนสุดทางก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนซึ่งอยู่ติดกับตัวลิฟต์

   “คุณชาย จะไปไหน" ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะคุณชายบอกว่าโรงแรมมี 5 ชั้น แล้วห้องพักของคุณชายก็อยู่ชั้น 5 แล้วด้านบนมันมีอะไร

   “ดาดฟ้า ตามมาเหอะน่า"

   สิ้นเสียงคุณชายก็ก้าวขาฉับ ๆ ไปด้านบน ผมจึงต้องรีบเดินตามขึ้นไปด้วยความว่องไว

   พอถึงชั้นบนสุดก็พบกับประตูกระจกใส พอทอดสายตามองลอดไปนอกประตู โคมไฟสูงใหญ่ที่ส่องสว่างไสวทำให้ผมเห็นสระน้ำขนาดใหญ่ได้อย่างชัดเจน รอบ ๆ สระน้ำมีม้านั่งมากมาย และถูกตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดอย่างสวยงาม

   คุณชายยกคีย์การ์ดขึ้นมาทาบกับเครื่องทาบบัตรก่อนที่จะผลักประตูให้เปิดออกไป

   “อ้าว... คุณชาย สวัสดีครับ คุณชายมาที่นี่ทำไมไม่บอกผมครับ ผมจะได้ลงไปรับใช้คุณชาย" หลังจากที่เปิดประตูเข้าไป ยามหนุ่มนายหนึ่งซึ่งดูจากสีหน้าค่าตาแล้วน่าจะอายุไม่เกิน 25 ปีรีบเดินเข้ามาทักทายคุณชายอย่างคุ้นเคย

   "พอดีฉันมากับเพื่อน เลยไม่อยากรบกวนบอล...” คุณชายตอบกลับก่อนจะเหล่ตามาทางผม "เออ... เดี๋ยวฉันจะรอดูพระอาทิตย์ขึ้น ยังไงรบกวนบอลไปยกอาหารเช้าขึ้นมาสองชุดหน่อยนะ"

   ผมล่ะแปลกใจกับคำพูดของคุณชายจริง ๆ ตอนแรกบอกว่าไม่อยากรบกวน แต่สุดท้ายก็ใช้ยามบอลไปยกอาหารเช้ามาให้

   “ครับ...” ยามบอลตอบรับ

   “นี่ข้าวนะ" คุณชายแนะนำให้ผมรู้จักกับยามหนุ่ม ก่อนที่จะแนะนำยามหนุ่มให้ผมรู้จักบ้าง "ส่วนนี่บอล... แฟนฉันเอง"

   “คุณชาย!!!” ยามบอลทำเสียงตกใจไม่ต่างจากผมที่กำลังทำสีหน้าตกใจ "คุณชายก็แกล้งผมแบบนี้ประจำเดี๋ยวเพื่อนคุณชายก็เข้าใจผิดหรอก"

   “ฮ่า ๆ ๆ ก็เวลามานี่ทีไรนายก็ดูแลฉันยังกับแฟนทุกทีนี่นา" คุณชายตอบด้วยความขำขัน แต่ผมไม่ขำด้วยเลย... ผมคิดมาตลอดว่าคุณชายเป๊กของผมจะชอบพูดแซวเล่น ๆ และชอบแกล้งแบบนี้กับผมคนเดียวเท่านั้น ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าจะมีคนอื่นที่ได้รับอภิสิทธิ์พิเศษในการโดนแซวหรือโดนแกล้งแบบนี้จากคุณชายด้วย ที่สำคัญยามบอลแม้จะผิวเข้มแต่ใบหน้าของเขาก็ดูคมเข้มหล่อเหลาไม่น้อยเชียวล่ะ

   ...แล้วทำไมผมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยเนี่ย...

   “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณข้าว" ยามบอลทัก

   “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณบอล" ผมทักกลับด้วยความสุภาพเช่นกัน ยามบอลยิ้มให้ผมก่อนที่จะเดินลงไปข้างล่าง

   หลังจากที่ยามบอลเดินจากไป ผมก็เดินนำคุณชายไปนั่งในจุดที่ชมวิวได้ชัดเจนที่สุด แม้โรงแรมแห่งนี้จะอยู่ในซอยเล็ก ๆ ทว่าด้านหน้าก็ไม่มีอาคารบดบันทิวทัศน์จึงทำให้ดาดฟ้าแห่งนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลได้อย่างชัดเจน

   “ข้าว... เป็นไร" คุณชายเอ่ยถามหลังจากที่เดินผมมานั่งม้านั่งตัวเดียวกัน "เดินไม่รอเลย"

   “ไม่ได้เป็นไรนี่ครับ" ผมเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมเดินไวขนาดนั้นเชียวหรือ ผมรู้แค่ว่าพอยามบอลเดินจากไป ด้วยความที่รู้สึกแปลก ๆ ในจิตใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณชายกับยามบอล เลยทำให้ผมรีบเดินหนี หรือว่าความรู้สึกนี้มันจะเรียกว่า...

   “หึงฉันเหรอข้าว" ไม่ว่าเปล่า คุณชายยังเอื้อมมือมาโอบหลังผมอีกต่างหาก

   “เปล่าครับ" ผมปฏิเสธพลางแกะมือคุณชายออก

   “ก็แค่แซวเล่นนิดหน่อยเอง ฉันไม่ได้คิดอะไรกับบอลสักหน่อย"  คุณชายเอ่ยขึ้น สงสัยคงกลัวผมเข้าใจผิด

   “คุณชายจะคิดหรือไม่คิดอะไรกับใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมนี่ครับ" แต่ผมก็ดันปากดีตอบออกไปราวกับไม่ห่วงใยในความรู้สึกของคุณชาย และเหมือนว่าคำพูดของผมมันจะมีผลอะไรบางอย่างกับคุณชายเสียด้วย เพราะหลังจากนั้นคุณชายก็เงียบเสียงลงไม่พูดอะไรอีกเลย แถมยังเขยิบออกห่างจากผมอีกต่างหาก

   “คุณชาย... เอ่อ... คือ... ผม... ผมขอโทษ" ความจริงผมเองก็สงสัยเหมือนกันว่าผมผิดอะไรทำไมถึงต้องขอโทษคุณชายด้วย แต่พอเห็นคุณชายเป็นแบบนี้ทีไรมันก็อดไม่ได้ที่จะต้องรีบง้อทุกที

   “อืม...” คุณชายตอบเสียงเรียบ แถมยังทำหน้าขรึมอีกต่างหาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคุณชายกำลังงอนแน่ ๆ

   “โถ่... คุณชายครับ ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น" ผมทำเสียงสำนึกผิด

   คุณชายถอนหายใจออกมาก่อนที่จะตอบอย่างประชดประชันว่า "ข้าวจะขอโทษทำไม ในเมื่อฉันจะคิดอะไรยังไงกับใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าวอยู่แล้วนี่"

   “คุณชายครับ" ผมเอ่ยพลางเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ ๆ แล้วยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของคุณชายด้วยความเอ็นดู

   ตั้งแต่คุณชายตัวเล็ก ๆ เวลาที่คุณชายโมโห หงุดหงิด หรือมีเรื่องกับใคร ทางเดียวที่จะทำให้คุณชายสงบได้ก็คือผมต้องลูบศีรษะคุณชายพร้อม ๆ กับหาเหตุผลมาเอ่ยปลอบใจคุณชาย "คุณชายสำคัญกับผมนะครับ ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้ผมก็คงไม่รู้สึกหึงคุณชายหรอกครับ...”

   “หึ ๆ ๆ" สิ้นเสียงของผมคุณชายก็หัวเราะออกมา "ยอมรับแล้วสินะว่าหึง"

   “มันก็ไม่เชิงครับ แค่รู้สึกแปลก ๆ ที่คุณชายพูดแบบนั้น...” ผมตอบออกไปพลางเว้นวรรคชั่วครู่เพื่อสบตามองคุณชายแล้วพูดต่อ "กับคนอื่น..."

   “ไม่ชอบเหรอ เออ ๆ ไม่คุยแบบนี้กับใครแล้วก็ได้" คุณชายตอบปัด ๆ กอดที่จะยืดแขนมากอดคอผม แล้วชี้มือไปด้านหน้าซึ่งเป็นวิวของผืนฟ้าและท้องทะเล มองออกไปสุดสายตาจะเห็นผืนฟ้าและท้องทะเลจรดกันและที่ตรงนั้นมีแสงสีส้มอ่อน ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นดูสวยงามยิ่งนัก "เขาว่ากันว่าขณะนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น หากมีนกบินผ่านแสงของพระมาทิตย์มาหนึ่งคู่ คนที่นั่งดูพระอาทิตย์ด้วยกันจะเป็นเนื้อคู่กันนะข้าว"

   “จริงเหรอครับ" ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย "ผมไม่เห็นเคยได้ยินเลย"

   “จริงสิ เรามาลุ้นกันดีกว่าว่าจะมีนกบินมาตรงกับแสงพระอาทิตย์สักคู่ไหม"

   พูดจบผมกับคุณชายก็ลุ้นอย่างหนัก... ในยามเช้าแบบนี้มีนกบินผ่านมาเป็นฝูง ๆ หลายฝูง แต่ก็ไม่มีนกที่บินแยกออกมาเป็นคู่ตามลำพังสักคู่ จนกระทั่งเวลาผ่านไปพระอาทิตย์ค่อย ๆ ลอยขึ้นเหนือผืนน้ำ ผมก็ต้องถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเสียดาย ...แล้วผมจะเสียดายทำไมเนี่ย

   “ถอนหายใจทำไมข้าว" คุณชายเอ่ยถาม

   “ก็ไม่เห็นมีนกบินมาเป็นคู่เลยนี่ครับ" ผมเผลอตอบออกไป คุณชายอมยิ้มทันทีสงสัยจะพอใจในคำตอบของผม พอผมนึกคำที่คุณชายได้พูดเอาไว้เมื่อคู่เรื่องนิกบินมาเป็นคู่ ผมก็รีบยกมือปัดป่ายพร้อมกับปฏิเสธออกไปว่า "ไม่ใช่นะครับคุณชาย ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น"

   “ไม่ทันแล้วล่ะข้าว" แต่คุณชายก็ไม่รับฟังเหตุผลของผม "ฮ่า ๆ ๆ อยากเป็คู่กับฉันเหรอไงข้าว น่ารักจริงจริ๊ง"

   ไม่ว่าเปล่า มือที่แสนซุกซนของคุณชายสุดแสบก็ยังยกขึ้นมาหยิกแก้มผมสุดแรง ก่อนที่ผมจะได้โต้ตอบอะไร เสียงของเครื่องทาบบัตรที่ดังขึ้นบริเวณประตูก็ทำให้ผมกับคุณชายต้องนั่งนิ่งเลิกหยอกล้อกันเพราะกลัวใครจะสงสัยในความสัมพันธ์ของเรา





จบตอน

รู้สึกไหม ตอนยามบอลเดินลงไปเอาอาหาร แล้วข้าวรีบเดินหนีคุณชาย... นี่มันนิสัยของรับดื้อเงียบชัดๆ กร๊ากกกก  :laugh:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน11 P.7] - 13/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 19-10-2013 00:54:07
คุยกับคนอ่านครับป๋ม ^^

คุณ fannan :: ช่วงนี้เติมความหวานลงไปก่อน กำลังเกี้ยวพาราสีกันอยู่​ฮ่าๆ อย่าเพิ่งเลี่ยนเน่อ...
คุณ NJnobu :: แบร่... ไม่เห็นเป็น คิคิ
คุณ kasarus :: 555 อย่าใส่ร้ายคุณชายน๊า คุณชายไม่ได้คิดจะมอมจริงจริ๊ง...
คุณ loveaaa_somsak :: >.< ช่วงนี้ใส่ความหวานไปก่อนครับ คิคิ เพราะอีกเรื่องกำลังขม T^T
คุณ lizzii :: ล้มท่าประมาณว่า ข้าวนอนดูดาวไปแล้ว แต่คุณชายที่อยู่ด้านหลังกำลังนั่งก้มมองอยู่บนบนหัวของข้าวอ่า
คุณ iammz :: ไม่เกิดคร้าบ ไม่เกิดอะไรในห้องพัก 555 ไว้ไปให้เกิดกลางเกาะดีกว่า อุ๊บบ!!  :-[ เผลอหลุดปากแว้วว
คุณ -Otto- :: ยังไม่ถึงเวลาครับ คิคิ
คุณ WednesdayAugust :: แฮะๆๆ ใส่ความหวานเข้าไปเยอะๆก่อนครับ เดี่ยวความขมจะตามมาเอิ๊กๆๆๆ
คุณ iamnan :: คนนึงกำลังนอนอยู่ อีกคนนั่งก้มหน้ามาคุยด้วยครับ พอเสียหลักปุ๊บหน้าที่อยู่คนละมุมองศาก็เลยป๊ะกัน แฮ่ๆ
คุณ ice_spok :: ทิ้งระเบิดอะไรแว๊ เปล่าเล๊ยย
คุณ B52 :: T^T กลัวเลี่ยนกันจังเลย เดี๋ยวตอนหน้าๆหาอะไรมาแก้เลี่ยนดีกว่าเนอะ อิอิ
คุณ thyme812 :: ขอบคุณครับ (ชมคนเขียนใช่ไหม) กร๊ากๆๆ ยินดีรับคำชมเต็มที่เลย (อ้าว!!ไม่ใช่ เขาชมข้าวกับคุณเป๊กนู่น)
คุณ -west- :: แหะๆๆ ต้องรอลุ้นคร้าบ ว่าจะยอมเปิดใจกันไหม
คุณ MaNaSsAwEe :: จะ....... (..... คืออาราย ฮ่าๆๆๆ) กิ้วๆๆ คิดไรอยู่เอ่ย คิคิ
คุณ mentholss :: 55555 เดี๋ยวก็... ปากอ่อนกันเองครับ
คุณ sanri :: 555 ยังยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้ล่ะมั้งครับ เลยไม่ยอมบอกชอบๆสักที (แบบนี้น่าจับกดคุณชายให้รู้ใจตัวเองสักที เนอะ)  :angry2:
คุณ abcee :: มาต่อแล้วครับผม ^^ อิอิ
คุณ Tamtang :: จ้าา มาต่อแล้วครับ ^^ แล้วถ้าเกิดคุณชายเป็นเมะล่ะ *0* จะงอนเค้าไหมเนี่ย T^T
คุณ Dee^daY :: *0* ด้วยความไม่เข้าใจจากใจจริง ฟ้าเหลือง หมายถึงอารายเอ่ย แหะๆ  :hao4:
คุณ Lily teddy :: 555 ตอนแรกอ่านเม้นท์ไม่ขำครับ ^^ อ่านเพลินๆ ซึ่งๆ  แต่พอเห็นตรงปล.บรรทัดสุดเท่านั้นแหละห้ามขำ ก็เลยขำเลย 55555 แบร่  :laugh:
คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: >.< ขมขื่น!!!! หรือ จะแฮปปี้เอนดิ้ง ต้องลุ้นกันต่อไปคร้าบ
คุณ jamlovenami :: *0* ขอบคุณคร้าบ มีคนฟินทั้งเรื่องด้วย คิคิ ดีใจที่สู๊ดดด >.<  :3123:
คุณ u_cosmos :: คุณชายปั่นคะแนนใหญ่เลย ดูดาวจบ ตื่นมากลับไปดูกระอาทิตย์ขึ้นต่อ ฮ่าๆๆๆ
คุณ boobooboo :: >.< ขอบคุณคร้าบ มาต่อแล้วจ้า T^T ช่วงนี้อาจจะอัพไม่ถี่เหมือนแรกๆหน่อย แฮ่ๆ พอดีกำลังเริ่มหางานทำเลยตื่นเต้นๆ ไม่ค่อยมีสมาธิแต่งเท่าไหร่คร้าบ กรั๊กๆๆ
คุณ suikajang :: หวานไปฟินแลนด์จ้า *0* ไปด้วยกันบ๊
คุณ MK :: เปล๊าาา คุณชายไม่ได้คิดจะมอมจริงจริ๊ง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 19-10-2013 01:15:57
 :z1:  ข้าวมีทั้งหึงทั้งตั้งความหวังต่างๆนาๆ  เมื่อไหร่อิตาคุณชายจะลุยแบบจริงจังสักทีนะ ทำเป็นหมาหยอกไก่ เด๊ะเชียรให้มีคู่แข่งเลยนิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-10-2013 07:51:21
บอกรักกันเลยยยย รอลุ้นอยู่น๊าาาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 19-10-2013 08:09:36
พี่น้องกันเค้าไม่หึง และไม่รู้สึกอยากถูกหึงหรอกนะสุดหล่ออออ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 19-10-2013 09:41:24
หวานกันไป  :hao3: แต่ไม่เป็นแฟนกันซักที อะไรเนี่ย  :hao7:

+  :กอด1:  :mew1:  o13  :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 19-10-2013 09:43:48
อยากกรี๊ดให้เล้าแตก กับตอนนี้
หวานกันซะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 19-10-2013 10:00:23
คุณชายล้อเล่นมากไป ระวังข้าวทนไม่ไหวนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 19-10-2013 10:49:18
คุณชาย~~ รุกเข้าไปเลยค่ะ >.<

ข้าวมีหึงด้วยนะ นั่นแน่!

ขอบคุณนะคะ +1 ~^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 19-10-2013 11:06:29
ลุ้นว่าใครจะเลิกปากแข็งก่อนกัน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 19-10-2013 11:08:43
คุณชายจะเอายังไง 

ทำไมไม่ทำตัวให้มันชัดเจนกว่านี้นะ

เดี๋ยวบอกข้าวหาคนใหม่เลย
55555555555555555555555

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Ma Lullaby ที่ 19-10-2013 13:31:11
 :z3: โอยลุ้นๆ เอาไงคะคุณชายขา

น้องแอบหวั่นไหวแทนไอ้ข้าวแล้วนะคะ :กอด1:

นี่มันรักแบบหน่วงๆชัดๆ  :katai5:

ปล. น้องบวกเป็ดไม่เป็น แต่จะคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้นะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 19-10-2013 14:48:30
แงงง ไม่เอาขมๆ ได้ปะคะ :hao5:
กำลังมีความสุข อ่านที่คนเขียนตอบเมนต์แล้วตีโพยตีพายล่วงหน้าซะงั้น 555

คู่นี้มันกั๊กกันจริงๆ  :hao7:
อ่านแล้วนึกถึงการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง "เพื่อนแบบนี้มีคนเดียวในโลก" เลย
คืออ่านจนจบแล้วยังไม่รู้เลยว่าตกลงเอ็งสองคนเป็นอะไรกัน 5555
(แต่เรื่องนี้เรามั่นใจว่าตอนจบน่าจะชัดเจนแหละ  :-[ คนเขียนคงไม่ใจร้ายหรอกเนอะ)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Tamtang ที่ 19-10-2013 15:16:29
แง่วๆ ข้าวเป็นรับสินะ ไม่เป็นไร ฟินต่อได้ อิอิ :o8: :o8:

มาต่อไวๆน๊าา :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 19-10-2013 16:25:47
คุณชายยยย  เรื่องนกนี่เรื่องจริง หรือ หลอกให้ข้าวเผยไต๋กันแน่นะ  หุหุ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-10-2013 20:29:22
แน่ะคุณชายนอกจากหยอดข้าวแล้วยังมีไปหยอดคนอื่นอีกเรอะะะะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 20-10-2013 20:23:35
มีงงมีงอน

อย่าให้ข้าวงอนนะคุณชาย :katai3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 20-10-2013 23:03:14
พี่ชายกำลังอินในบทข้าวใช่ไหม??

ตอบบ หึหึ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 21-10-2013 03:26:42
คู่นี้นี่

หยุดทำให้หัวใจสั่น กับ ใกล้จะหยุดเต้น  เพราะรอลุ้นได้ไหม

555+ แต่เรื่องน่ารักแบบไปได้เรื่อยๆ สนุกดี
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-10-2013 13:20:16
 :katai1:สั้นจังเลยยังหวานกันได้ไม่เท่าไร มาต่อเร็วนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 22-10-2013 00:25:30
อ่านแล้วอยากให้ข้าวได้เอาคืนคุณชายบ้างจัง เพราะเหมือนข้าวจะโดนคุณชายแกล้งบ้าง หลอกบ้างให้สับสน หวั่นไหวอยู่ฝ่ายเดียวตลอด
(หรือเพราะได้อ่านแต่ฝ่ายข้าวไม่รู้) ส่วนคุณชายก็เอาแต่ขำข้าวไปซะทุกเรื่อง ยิ่งเรื่องยามบอลนี่อีก
มีการแกล้งแนะนำว่าเป็นแฟนด้วย อย่างงี้ข้าวก็ต้องน้อยใจบ้างแหละ จากที่คิดว่าคุณชายเห็นข้าวพิเศษกว่าใคร
กลายเป็นข้าวได้เป็นแค่เพื่อนสนิทที่รักมาก แต่ยามบอลได้เป็นแฟนเลย (ถึงจะรู้ว่าจริง ๆ คุณชายก็เห็นข้าวสำคัญสุดก็เถอะ)
แต่ก็อยากให้มีใครมาจีบข้าวแล้วให้คุณชายหึงสติแตก หรือจ๋อยไปเลยบ้างจัง เหมือนตอนของคุณรัชท์อะค่ะ
แบบอยากเห็นคุณชายสับสนเพราะข้าวเยอะ ๆ บ้างอะค่ะ มันสะใจดี  555 รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 23-10-2013 10:33:08
ซึน & ดื้อเงียบ ><
ทนไม่ไหวแล้ว...จิ้นเองดีกว่า คึคึ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 23-10-2013 16:51:39
ต้องรอให้ ผู้เขียน ถามเนื้อคู่ด้วยตัวเองหล่ะนะ
มันก็เหมือนนกที่บินผ่านอ่ะนะ ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: AnimajuS ที่ 24-10-2013 17:51:17
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 01-11-2013 00:34:48
ดินต่างฟ้า กับ ท้องทะเลสดใส

   ยามบอลเดินมาพร้อมกับถือกล่องโฟมมา 4กล่อง มีแก้วน้ำอีก 2 ใบบนถาดอาหาร ส่วนอีกมือหนึ่งยามบอลถือขวดน้ำชาเขียวแช่เย็นซึ่งเป็นรสเดียวกับที่คุณชายขื่นชอบขึ้นมาด้วย

   “ขอบใจนะบอล" คุณชายเอ่ยขึ้นหลังจากที่ยามบอลนำอาหารเช้ามาให้

   “ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณชายจะรับอะไรอีกหรือเปล่าครับ" ยามบอลเอ่ยถาม

   “ไม่แล้วล่ะ นี่ก็จะ 6 โมงแล้ว บอลจะออกเวรแล้วนี่" คุณชายเอ่ยขึ้น

   “ครับ" ยามบอลตอบออกมา จากนั้นคุณชายก็ควักตังค์ในกระเป๋าออกมา ผมเห็นคุณชายนับแบงค์พันจำนวน 3 ใบก่อนจะยื่นให้กับยามบอล

   “มาครั้งนี้ฉันไม่ได้ไปเยี่ยมน้องบอสเลย ถือซะว่าเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ฉันช่วยอยากช่วยนายกับลูกละกัน... อย่าปฏิเสธเลยนะ"

   “เอ่อ... ครับ ๆ" ยามบอลเกาศีรษะอย่างเคอะเขินก่อนที่จะยื่นตังค์มารับเงิน "ขอบคุณนะครับคุณชาย"

   พูดจบก็ยกมือไหว้แม้คุณชายจะมีอายุน้อยกว่าก็ตาม ผมหันไปมองพระอาทิตย์ต่อเพราะไม่อยากให้บอลเขินไปมากกว่านี้พลางคิดในใจว่าคุณชายเองก็มีมุมน่ารัก ๆ แบบนี้ด้วยแฮะ เป็นคนที่จิตใจดีจริง ๆ

   “เอ้อบอล บอลเข้าเวร 4 ทุ่มใช่ไหม" คุณชายเอ่ยถาม

   “ใช่ครับ" ยามบอลตอบออกมา

   “แล้วค่ำนี้ได้ไปไหนหรือเปล่า" คุณชายเอ่ยถามอีกครั้ง

   “ไม่ครับ" ยามบอลก็ตอบออกมาอีกครั้งเช่นกัน

   “ถ้าอย่างนั้นก่อนกลับเดี๋ยวฉันจะซื้อขนมไปฝากนะ" เอาแล้วไง ในที่สุดคุณชายก็หาทางไปบุกบ้านยามบอลจนได้ แม้ผมจะไม่ได้หันไปมองโดยตรง แต่หูของผมก็รับฟังทุกคำพูดของคนทั้งคู่อย่างจับผิด

   “ไม่เป็นไรครับคุณชาย อย่าลำบากเลยครับ" ยามบอลปฏิเสธ น้ำเสียงแสดงออกถึงความเกรงอกเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด

   “อย่าปฏิเสธเลยน่า ฉันจะไปเยี่ยมหลานด้วย ไม่เห็นหน้าหลานตั้งหลายเดือนคิดถึงจะแย่...” คุณชายเอ่ยออกมา... ผมชักสงสัยแล้วสิว่าเหตุใดคุณชายถึงดูสนิทสนมกับยามบอลมากมายนัก ทั้ง ๆ ที่ทุกวันหยุดส่วนใหญ่คุณชายก็จะอยู่กับผม ไม่รู้ว่าเอาเวลาไหนมาเที่ยวที่นี่

   “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะทำอาหารเย็นรออยู่ที่บ้านดีไหมครับ"

   “ดีเลย งั้นเดี๋ยวสัก 5 โมงถึง 6 โมงเย็นจะแวะไปหานะ"

   “ครับ" ยามบอลตอบรับ "ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับคุณชาย"

   “โชคดีบอล"

   สิ้นเสียงของคุณชาย ยามหนุ่มมาดเข้มก็เดินลงไปจากดาดฟ้าทันที หลังจากนั้นคุณชายก็เขยิบมานั่งเบียดผมใกล้ ๆ จนร่างของเราแทบจะติดกันเป็นสังกะตังอยู่แล้ว

   “ไหนดูซิมีอะไรกินบ้าง" คุณชายเอ่ยขึ้นพลางหยิบกล่องโฟมมาเปิดดูทั้ง 4 กล่อง ซึ่งมีข้าวผัดที่โปะด้วยไข่ดาวและไส้กรอกจำนวน 2 กล่อง ส่วนอีก 1 กล่องเป็นสาลี่และแอปเปิ้ลที่ถูกหั่นมาอย่างเป็นระเบียบ และอีกกล่องเป็นสลัดผักซึ่งมีผักใบเขียวที่น่าขยะแขยงมากมายรวมถึงแครอทและหอมใหญ่ผสมอยู่ในนั้นด้วย

   “บอลนี่รู้ใจฉันจริง ๆ" คุณชายเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัยหลังจากที่เห็นกล่องสลัดผัก

   “รู้ใจอะไรเหรอครับ" ผมเอ่ยด้วยความงุนงง

   “ก็สลัดน่ะสิ" คุณชายหันมามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ผมพอจะรู้แล้วล่ะว่าคุณชายกำลังคิดอะไรอยู่

   “หยุดเลยนะคุณชาย ผมกินแค่ข้าวผัดก็อิ่มแล้ว" ผมเอ่ยขึ้นก่อนที่จะยื่นมือไปหยิบกล่องข้าวผัด ทว่าคุณชายก็จับมือผมเอาไว้... คุณชายรู้ดีว่าผมไม่ชอบกินผักทุกชนิดยกเว้นเห็ดกับฟักที่ผมพอกินไหว สงสัยจะบังคับให้ผมกินสลัดผักสินะ

   “ข้าว... ผักมันมีประโยชน์นะ อ้าปากเดี๋ยวฉันป้อน" คุณชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

   “ไม่ครับ... ไม่กิน" ผมปฏิเสธฉับพลัน

   “ไอ้ข้าว!” เอาแล้วไง องค์คุณชายเริ่มลงแล้ว "ปกติมีแต่พี่เลี้ยงสั่งให้คุณหนูคุณชายกินผัก แต่ทำไมนายมันดื้อด้านต้องให้ฉันสั่งนายให้กินผักฟะ เอ้าอ้าปาก!!!”

   คุณชายเอ่ยประโยคหลังด้วยน้ำเสียงที่ดังก้อง

   “แล้วทำไมคุณชายต้องบังคับผมด้วย ก็รู้ว่าผมไม่ชอบกินนี่" ผมเถียงอย่างไม่เกรงกลัว "ไม่กินผักก็ไม่เห็นเป็นไร กินอย่างอื่นก็มีประโยชน์ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตได้เหมือนกัน"

   “คนละครึ่ง" คุณชายยื่นคำขาด แถมในประโยคต่อมายังทำน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจอีก "ถ้าไม่กิน... ฉันก็จะไม่กินข้าวเหมือนกัน ถ้าข้าวไม่ห่วงฉัน ข้าวก็ไม่ต้องกินสลัดแล้วทานข้าวผัดไปคนเดียวเลยก็ได้นะ"

   ผมถอนหายใจออกมาก่อนที่จะตอบตกลง "ก็ได้ครับ"

   “ดีมากเดี๋ยวฉันป้อน ข้าวไม่ชอบหอมใหญ่ ไม่ชอบมะเขือเทศใช่ไหม งั้นกินแตงกวาไปละกัน" คุณชายเอ่ยขึ้นขณะตักแตงกวาที่มีน้ำสลัดสีขาวราดอยู่มาให้

   ผมมองแตงกวาในช้อนด้วยความรู้สึกขยะแขยงยิ่งเห็นน้ำขาว ๆ ที่เปื้อนแตงกวานิด ๆ ยิ่งคิดเลยเถิดไปว่ามันเป็นน้ำอย่างอื่น แต่ท้ายที่สุดผมก็กลั้นใจหลับตาแล้วอ้าปากให้คุณชายได้ป้อนอย่างพอใจ

   “แหวะ" ผมเอ่ยขณะกำลังเคี้ยว ระหว่างนั้นคุณชายก็ตักมะเขือเทศและผักอื่น ๆ ไปกินเช่นกัน

   กว่าที่สลัดผักจะหมดกล่องก็เสียเวลาในการกินไปหลายนาทีเหมือนกัน หลังจากนั้นผมก็รีบหยิบกล่องข้าวผัดมาตักกินแก้เลี่ยนทันที ผมได้ยินเสียงคุณชายหัวเราะ 'หึหึ' ในลำคออย่างสะใจ สงสัยจะดีใจมากสินะที่แกล้งผมได้ ...อย่าให้ถึงทีผมบ้างละกันนะคุณชาย






   นักท่องเที่ยวในยามเช้าค่อนข้างบางตา อาจเป็นเพราะส่วนใหญ่ยังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงนอนนุ่ม ๆ ทว่าบนเรือที่คุณชายพามานั่งซึ่งจะพาข้ามไปยังเกาะแห่งหนึ่งก็มีผู้คนโดยสารจนเต็ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติเสียด้วย ...ก่อนหน้านี้หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จสรรพคุณชายก็รีบบึ่งรถออกมาจากโรงแรมด้วยความรวดเร็วเพื่อมุ่งไปยังเมืองติดทะเลอีกเมืองที่มีชื่อว่า 'พัทยา'

   “เพิ่ง 7 โมงเองคุณชาย ไอ้เกาะร้อยเกาะล้านอะไรนั่นมันมีอะไรดีกว่าหาดบางแสนหรือฝั่งพัทยาเหรอครับ คนถึงต้องลำบากนั่งเรือข้ามไป" ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “ไปถึงเดี๋ยวก็รู้ แต่ฉันมั่นใจว่าข้าวจะต้องชอบที่นั่นแน่ ๆ เมาไม่ใช่เหรอนอนพักเถอะ" พูดจบคุณชายก็ใช้แขนพาดคอก่อนจะดันศีรษะของผมให้ซบไหล่ของคุณชาย... ผมบ่นว่าเวียนศีรษะตั้งแต่ 3 นาทีแรกที่เรือออกจากท่าแล้ว คุณชายก็เลยเป็นห่วงมากกว่าปกติ และเป็นโชคดีของผมที่คุณชายเตรียมพร้อมพกยาดมมาให้ด้วย

   ด้วยความง่วงจากการพักผ่อนไม่เพียงพอกอปรกับอาการเวียนศีรษะเลยทำให้ในที่สุดผมก็ผล็อยหลับไป

   “ข้าว ๆ" เสียงคุณชายที่แว่วเข้ามาในหูช่วยปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

   ผมขยี้ตาด้วยความงัวเงีย ก่อนที่จะถามออกไปว่า "ถึงแล้วเหรอครับ"

   “ถึงแล้ว... ไปกันเถอะ"

   “ครับ"

   พูดจบผมกับคุณชายก็ลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน... นี่เป็นอีกครั้งที่ผมได้นอนซบไหล่ของคุณชาย ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก จะว่าไปผมก็อยากให้คุณชายมานอนซบไหล่ผมบ้างจัง ผมอยากรู้ว่าแบบไหนมันจะมีความสุขมากกว่ากัน

   คุณชายเดินนำไปข้างหน้าจนกระทั่งไปถึงหัวเรือที่จะต้องก้าวขาออกจากตัวเรือไปขึ้นฝั่ง คุณชายที่อยู่บนทางเดินของฝั่งก่อนก็ได้ยื่นมือมารับทำราบกับว่าผมเป็นผู้หญิงอ้อนแอ้นที่ไม่สามารถช่วยอะไรตัวเองได้อย่างไรอย่างนั้น และด้วยความที่ผมไม่อยากให้เสียน้ำใจผมก็เลยต้องยื่นมือไปตอบรับก่อนที่จะก้าวขาข้ามไป

   ทว่าผมคงจะคิดในแง่ดีเกินไป เพราะขณะที่ผมก้าวขา คุณชายก็แกล้งดึงผมสุดแรง... มันแรงเสียจนผมตกใจและร่างของผมก็ถลาไปตามแรงดึงนั้นจนร่างของผมไปชนกับร่างของคุณชายที่ยืนอยู่ด้านบนสุดแรง

   “ฮ่า ๆ ๆ" แถมคุณชายยังหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก "รีบไปกันเถอะ"

   แล้วก็ทิ้งผมเดินนำไปข้างหน้าไม่รอให้ผมต่อว่าได้ทัน... ผมเลยต้องรีบเดินตามไป

   ตลอดทางเดินจากท่าเรือเดินเข้าเกาะจะเป็นทางเดินแคบ ๆ ไม่กว้างมากนัก น้ำทะเลบนเกาะล้านสีฟ้าสดใสจนสามารถมองเห็นปลาน้อยใหญ่ที่แหวกว่ายอยู่ใต้ผืนน้ำได้อย่างชัดเจน พอเพ่งสายตาไปยังชายหาดที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากบริเวณท่าเรือ ก็เห็นทรายสีขาวสะอาดกับม้านั่งที่ตั้งเรียงรายเต็มไปหมด
 
   นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่โดยเฉพาะชาวต่างชาติเพศหญิงต่างแข่งกันแต่งชุดว่ายน้ำอย่างน้อยชิ้นที่สุดเพื่อที่จะอวดสีผิวและเรือนร่างอันสวยงาม ส่วนผู้ชายจะเน้นใส่กางเกงขาสามส่วนสบาย ๆ ส่วนเสื้อก็ถอดมันทิ้งเอาไว้สงสัยจะแข่งกันโชว์ร่องกล้ามอันแข็งแกร่งบนเรือนร่างของตัวเอง

   “ข้าว... ห้ามมองคนอื่นนะ เข้าใจไหม" คุณชายหันมากระซิบบอกขณะที่กำลังจะเดินเข้าตัวหาด

   “พูดอย่างกับผมเป็นถ้ำมองงั้นแหละ" ผมย้อนกลับ ปกติผมไม่ใช่คนที่มีนิสัยเพ่งมองใครอยู่แล้ว ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะหน้าตาดีแค่ไหนก็ตาม ...แต่ขอเว้นคุณชายไว้คนหนึ่งนะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันหางตามักจะเหลือบไปมองคุณชายเสมอ ๆ

   “ก็... เออ ฉันไม่ชอบไง ก็พวกเพื่อน ๆ ที่มหาลัยเห็นใครหน้าตาดีไม่ได้ชอบเหล่มองกันใหญ่ ฉันก็แค่ไม่ชอบ" คุณชายปฏิเสธออกมา

   “หึงผมล่ะสิ" ผมได้ทีก็เลยยั่วโมโหคุณชายสักหน่อย และดูเหมือนว่าจะได้ผลเสียด้วยเพราะคุณชายหันหน้ากลับมามองผมด้วยความฉับไว

   “อะไรวะ ไม่เกี่ยวกับหึงเฟ่ย พูดงี้จะไปไหนก็ไปเลยไป" พูดจบก็แกล้งเดินนำผมไปด้วยความว่องไว

   มีหรือที่ผมจะไม่วิ่งตาม... เกิดหลงทางแล้วติดเกาะอยู่คนเดียวมันจะซวยเอา เงินก็ไม่ได้พกมาสักบาทเพราะคุณชายยินดีออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ผมอยู่แล้ว

   คุณชายก้าวขาฉับ ๆ จนกระทั่งไปถึงต้นหาดที่ทอดมาจากทางเดินของท่าเรือ ทรายที่เกาะแห่งนี้มีความขาวสะอาดผิดกับฝั่งหาดบางแสนลิบลับ พอมองไปน้ำทะเลก็ใสเสียจนผมชักจะอดใจไม่ไว้...

   “คุณชาย... เล่นน้ำกันเถอะ" ผมตะโกนบอกคุณชายขณะวิ่งลงน้ำทะเลสีใสด้วยความตื่นเต้น

   “ไอ้ข้าว" คุณชายตะโกนเรียกผมอยู่บนหาด "ขึ้นมาก่อน...”

   “ทำไมครับ คุณชายกลัวน้ำเหรอครับ" ผมหันหลังไปตอบพลางยักคิ้วกวนบาทาใส่คุณชาย

   “ใครกลัว...” คุณชายตะโกนกลับจากนั้นก็รีบวิ่งลงน้ำและตรงมาทางผมทันที แม้ผมจะไม่เคยเล่นน้ำทะเลแต่ตอนผมก็ชอบไปว่ายน้ำที่หนองน้ำแถวบ้านจึงทำให้ผมมีทักษะการว่ายน้ำที่ดีเยี่ยม

   แต่ดูเหมือนว่าคุณชายก็ไม่น้อยหน้า แม้จะลงน้ำทะเลทีหลังแต่พอถึงจุดที่เท้าแตะไม่ถึงพื้น คุณชายก็ว่ายน้ำตามผมด้วยความรวดเร็ว จนกระทั่ง...

   “หึหึ จับได้แล้ว" มือทั้งสองข้างของคุณชายจับร่างของผมเอาไว้ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาโอบกอดจนแน่น "มากล่าวหาว่าฉันกลัว... เพราะฉะนั้นรับโทษนั้นซะ"

   สิ้นเสียงคุณชายก็พลิกร่างของผมให้หันหน้าไปปะทะกับใบหน้าของคุณชาย เสื้อกล้ามที่เปียกปอนเผยให้เห็นสัดส่วนของคุณชายได้อย่างชัดเจน สายตาของคุณชายจ้องผมราวกับกำลังปรารถนาอะไรบางอย่าง เพราะในแววตาคู่นั่นมันฉายชัดถึงความร้อนลุ่มราวกับต้องการให้ผมช่วยทำอะไร

   “คุณชายจะทำอะไร" ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หวาดหวั่น แม้ว่าผมจะตัวเล็กกว่าคุณชายแต่แรงก็ไม่ได้น้อยไปกว่าคุณชายอย่างแน่นอน เกิดคุณชายคิดไม่ซื่อกับผม ผมคงไม่ยั้งมือยั้งเท้าแน่

   คุณชายไม่ตอบอะไรแต่ยิ้มให้ผมหนึ่งทีก่อนที่จะใช้พลังแขนที่โอบรัดร่างของผมพาผมจมดิ่งลงไปในน้ำทันที

   ด้วยความตกใจทำให้ผมรีบหลับตาปี๋ในทีแรก ทว่าพอตั้งสติได้ผมก็ค่อย ๆ ลืมตาก็พบว่าในยามนี้ริมฝีปากของคุณชายกำลังประกบแน่นกับริมฝีปากของผม แม้ว่าผมจะตกใจในสิ่งที่คุณชายทำ แม้คำสั่งที่กลั่นกรองออกมาจากสมองจะสั่งให้ผมปฏิเสธและผลักร่างของคุณชายออกไป ทว่าความรู้สึกข้างในจิตใจกับบังคับให้ผมทำตัวนิ่ง ๆ ไม่ต้องขัดขืนอะไรทั้งนั้น

   ภาพของคุณชายที่กำลังหลับตาพริ้มภายใต้ผืนน้ำในยามนี้มันทำให้ผมรู้สึกแปลก ๆ พอร่างกายตอบสนองว่าผมกำลังมีความสุข แขนของผมที่ทิ้งดิ่งในทีแรกก็ค่อย ๆ ขยับยกขึ้นมาก่อนที่จะโอบกอดร่างของคุณชายด้วยความทะนุถนอม... เช่นเดียวกับแขนของคุณชายที่กำลังรัดร่างของผมเอาไว้อย่างแนบแน่น

   ผมไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านไปกี่นาที พอคุณชายลืมตาขึ้นมาคุณชายก็ยิ้มให้ผมก่อนที่จะเอื้อมมือมาขยี้ศีรษะของผมอย่างชอบใจ จากนั้นร่างของเราสองคนก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นเหนือผืนน้ำไปพร้อม ๆ กัน โชคดีที่ดวงตาของผมไม่แพ้น้ำทะเลจึงทำให้ผมไม่รู้สึกแสบตาเวลาที่ลืมตาในน้ำ

   “ฉันไม่ได้ตั้งใจ" คุณชายเอ่ยขึ้น... ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่สีหน้าของคุณชายยังแสดงออกถึงความสุขไม่ต่างจากผม ทว่าในตอนนี้คิ้วที่ขมวดมุ่นกลับแสดงถึงความเครียดอย่างฉัดเจน "ฉันขอโทษลืม ๆ มันซะข้าว"

   “คุณชายขอโทษผมทำไม ผมไม่ได้โกรธ" ผมเอ่ยขึ้นพอจะเอื้อมมือไปแตะไหล่คุณชายเพื่อเป็นการปลอบประโลมว่าผมไม่ได้นึกโกรธ แต่คุณชายกลับปัดมือของผมออก

   “ฉันบอกให้ลืม!!!” สิ้นเสียง... คุณชายก็ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งทันที

   ผมได้แต่มองร่างนั้นด้วยความงุนงง พลางคิดไปถึงสาเหตุที่ทำให้คุณชายต้องแสดงออกมาแบบนี้ คุณชายเคยแซวผมเล่น ๆ เสมอว่ารับไม่ได้หากผมกับคุณชายจะรักกัน ไม่แน่ว่าในตอนนี้คุณชายอาจจะกำลังสับสน... สับสนในความรู้สึกของตนเองเหมือนที่ผมกำลังสับสน แต่ผมก็ไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธความสุขที่เกิดขึ้นอย่างที่คุณชายกำลังทำ





จบตอน....
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน12 P.8] - 19/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 01-11-2013 00:46:16
คุยกับคนอ่านครับ ^^  :mew1:

คุณ yymomo :: 555 หยอกกันไปหยอกกันมา สุดท้ายหมาก็จะรู้ตัวช้าว่าหลงรักไก่เข้าแล้วครับ แต่มันจะสายไปรึเปล่า ก็แค่นั้น เอิ๊กๆๆ
คุณ iamnan :: อิอิ รอคุณชายยอมรับความจริงข้อนี้ได้ก่อนนะคร้าบ
คุณ -west- :: >.< นั่นสิครับ หึงกันไปมาด้วย ตอนล่าสุดไปเกาะล้านฮ่าๆยังมีการห้ามให้ข้าวมองคนอื่น
คุณ NJnobu :: โฮะๆๆ เราต้องการเติมความหวานให้มากๆๆ ไปก่อน เรื่องการเป็นแฟนรอไปก๊อนนน คิคิ
คุณ mentholss :: โฮะๆ ตอนล่าสุดหวานกว่าอี๊กก... แต่จบไม่หวานซะงั้นเพราะอิตาคุณชายงี่เง่า ฮือๆ  :hao5:
คุณ loveaaa_somsak :: ผมว่าตอนนี้ข้าวก็ชักจะทนไม่ไหวแล้วครับดูเหมือนว่าใจข้าวน่ะให้คุณชายไปหมดแล้ว 555
คุณ iammz :: ขอบคุณคร้าบ 555 รุกแล้ว แต่ดั๊นไม่ยอมรับซะงั้น  :fire:
คุณ kasarus :: คิคิ ลุ้นต่อไปนะครับ เอิ๊กๆ ดูเหมือนว่าข้าวน่าจะเลิกก่อนนะ
คุณ MK :: 555 เชียร์ให้ข้าวมีคนใหม่เหมือนกันครับ คุณชายจะได้รู้สึกซะบ้าง อ่ะโด่!!!
คุณ Ma Lullaby :: ขอบคุณคร้าบ ได้อ่านคอมเม้นท์ดีใจกว่าได้บวกเป็ดอีก คิคิ เพราะรู้สึกมีการโต้ตอบกันเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ทำให้มีกำลังใจอ่ะครับผม ^^
คุณ WednesdayAugust :: โฮะๆๆๆ(หัวเราะอย่างชั่วร้าย) ตอนแรกว่าจะให้จบชัดเจนน่ะแหละครับ กรั๊กๆ แต่พอเห็นคอมเม้นท์นี้แล้วกล่าวถึงการ์ตูนญี่ปุ่นว่าจบไม่ชัดเจน ชักอยากจะจบแบบนั่นซะแล้วสิ คิคิ
คุณ Tamtang :: มาต่อแล้วครับ ขออภัยน๊า T^T ช่วงนี้อัพช้าเล็กน้อย
คุณ Pe๊aNu๊T :: เป็นความลับของคุณชายครับเรื่องนก ฮ่าๆๆๆ ลองเอาไปใช้กับคนที่แอบชอบดูนะครับ คิคิ
คุณ lizzii :: นั่นซี... สงสัยจะหยอดยั่วให้ข้าวหึงไปงั้นนะครับ คิคิ
คุณ  pharm :: 555 งอนไปก็เท่านั้น สุดท้ายข้าวก็ต้องง้ออยู่ดี เพราะคนทำให้งอนมันไม่รู้ตัวหรอก!!!!  :m31:(โอ้วเหมือนจะใส่อารมณ์มากไปหน่อย แฮ่ๆ)
คุณ ice_spok :: แน่นอน 555 มีแบบคุณชายมาควงสักคนมีแต่ได้กับได้ ที่แน่ๆได้ตังค์ (เฮ่ยย ไม่ใช่ละ)
คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: ขอบคุณครับผม T__T จะพยายามให้น่ารักๆ ตลอดรอดฝั่งนะคร้าบ กลัวไปไม่รอด แฮ่ๆ
คุณ  B52 :: มาต่อแล้วนะคร้าบ T___T ขออภัยนะครับที่หายไปนาน เนื่องจากติดภารกิจ(หนีเที่ยว) อยู่นั่นเอง เหอๆ
คุณ Lily teddy :: ผมจะบอกว่าผมก็กำลังรอบทนั้นอยู่เกมือนกันครับ บทที่ข้าวได้เอาคืนอย่างสะใจ ฮ่าๆๆๆ  :hao3:
คุณ BlueHoney :: อร๊ากกก... >.<  ซึน เงียบดื้อ คำคำนี้น่ารักจังเลย คิคิ
คุณ Dee^daY :: TT____TT คนเขียนรอเนื้อคู่อยู่คร้าบบบ ฮือๆๆๆ  :hao5:
คุณ AnimajuS ::  :3123: :3123: :3123: ขอบคุณนะคร้าบ ฝากติดตามตอนต่อๆไปด้วยน๊า

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 01-11-2013 01:58:22
มองหาหนุ่มหล่อ ๆ ล่ำ ๆ ที่ชายหาดซะข้าวเอามาควงแบบให้ทะเลกลายเป็นหวานฉ่ำเลยนะข้าว ไหน ๆ คุณชายก็ไล่แล้วนิ ตัวเองเริ่มก่อนแท้ ๆ ดันมาสั่งให้ลืม มันน่าตบกะโหลกสักสองทีจริง ๆ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องมารับหาคนที่พร้อมจะรับได้มาให้ข้าวควงเย้ยซะให้เข็ด
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-11-2013 02:10:43
 :a5:อ่านๆอยู่ อ้าวเฮ้ยหมดตอน :เฮ้อ:แหมนึกว่าจะเห็นฉากสวีทของสองคนนี้เยอะๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 01-11-2013 10:59:04
ชายเป๊ก

ยอมรับความจริงซะเถอะ


ปล. ยิ่งอ่านยิ่งชอบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 01-11-2013 11:16:01
คู่นี้มันกั๊กกันตลอดจริงๆ ขนาดจูบกันแล้วนะเนี่ย
แต่ถ้าคนเขียนจบไม่เคลียร์ล่ะก็ มาเคลียร์กะเราเลยค่ะะะะะะะะ!!!!!!!! 55555 ล้อเล่นแต่โกรธจริง :P 555
ล้อเล่นจริงๆ ค่ะ จะจบแบบไหนมันก็เป็นสิทธิของคนเขียนอยู่แล้ว
เพียงแค่เราชอบเรื่องนี้มาก ถ้าทำให้เราเสียใจเราก็แค่โดนเหมือนคนที่เรารักทำให้เสียใจเท่านั้นเอ๊งงง
(ใช้วิธีกดดันทางอ้อม กรั๊กๆ)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-11-2013 12:24:07
คุณชายทำเราสับสนตาม
ตั้งแต่จะเป็นรุกหรือรับ..เอ๊ะ ไม่ใช่ 5555
ตั้งแต่ไปรู้จักบอลได้ไง แล้วไหนจะอาการแบบนี้อีก
เคลียร์มาซะดีๆ เลยยย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 01-11-2013 13:39:16
อิตาคุณชายบื่อนี่อารมณ์แปรปรวนจริง สงสัยประจำเดือนจะมา
เอ๊ะ หรือว่าเป็นวัยทอง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 01-11-2013 13:40:21
ดูจากตอนนี้ข้าวควรเผื่อใจไว้บ้าง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 02-11-2013 10:49:30
ไอ้คุณชาย บ้าบ้า
 :z3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] -01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 03-11-2013 12:48:06
อ้าว กำลังหวานอยู่ดี ๆ ไหง่คุณชายทำนิสัยอย่างงี้ล่ะ  ตัวเองเริ่มก่อนแท้ ๆ
ข้าวก็ไม่ได้อ้อนได้ยั่วอะไรซักหน่อย จากที่ตั้งใจจะแกล้งข้าวตัวเองดันรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาเองอะดิ
ก็แหมถึงจะเป็นเพื่อนสนิทที่รักมากเค้าก็คงไม่เล่นกันแบบนี้หรอกมั่งคุณชาย (คิดว่านะ)
รุ้สึกข้าวคงไม่ต้องไปแกล้งหวานกะใครให้คุณชายสับสนแล้วล่ะมั่ง
เพราะแค่ปัจจุบันอาการคุณชายก็ท่าจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะ (จริง ๆ ก็น่าสงสารคุณชายนิด ๆ นะ)
แต่ตอนนี้คุณชายดันมาทำเหมือนโกรธข้าวด้วยนี่สิ ไม่อยากให้ข้าวตามง้อเลยอะ
คุณชายเอาแต่ใจขึ้นทุกวัน ถึงจะมีมุมน่ารัก ใจดีบ้าง แต่น่าหมั่นไส้เยอะกว่าน๊า 555
แล้วอย่างงี้ตอนหวานจะหมดแล้วรึเปล่าค่ะ หรือจะหวานมากขึ้นเผื่อคุณชายยอมรับใจตัวเองอะค่ะ 
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนและน้องข้าวเหมือนเดิมจ้า  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 03-11-2013 13:37:38
เอาแต่ใจตัวเองจริงค่ะคุณชาย
อยากให้โดนคำว่าให้ลืมคำนั้นคืนสนองบ้างจัง
ออกแนวแค้นไปหน่อย


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 03-11-2013 16:42:40
เริ่มก่อน แต่ก็หนีไปก่อน ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 06-11-2013 15:19:25



         ผมว่ายน้ำและเร่งเดินตามคุณชายขึ้นไปบนฝั่ง คุณชายเช่าเปลนั่งพร้อมกับสั่งอาหารว่างมารับประทานเล่น ๆ ตลอดเวลาคุณชายไม่พูดไม่จากับผมสักคำ พอผมคุยอะไรไปคุณชายก็ตอบรับสั้น ๆ คำเดียวเท่านั้นจนผมชักจะทนไม่ไหว

   “คุณชาย! คุณชายเป็นอะไร ไม่ชอบอะไรผมก็บอกออกมาตรง ๆ สิครับ อย่าอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แบบนี้" นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมตวาดคุณชายด้วยน้ำเสียงที่ดังก้อง และผลตอบรับที่ได้ก็คือคุณชายรีบหันหน้ามาจ้องผมเขม็งทันที

   “เออ! ฉันไม่ชอบนาย เลิกพูดมาก เลิกทำตัวน่ารำคาญได้แล้ว" สิ้นเสียงของคุณชายผมก็ถึงกับหน้าชาทันที โดนเด็กคนนี้ต่อว่าหรือกลั่นแกล้งมาก็หลายทีแต่มันไม่มีครั้งไหนที่เสียใจเท่ากับครั้งนี้

   ผมน่ะหรือที่ทำตัวน่ารำคาญ... ปกติผมไม่เคยจะขัดใจอะไรคุณชายสักครั้ง มีแต่คุณชายต่างหากที่เอาแต่ใจจนผมตามใจไม่ถูก คิดแล้วน้ำตาก็แทบจะไหลหากแต่ผมไม่ใช่คนที่น้ำตาจะไหลลงมาได้ง่าย ๆ หรอกนะ

   “ผมขอโทษ" ท้ายที่สุดผมก็จำต้องเอ่ยคำ ๆ นี้ออกไปเพื่อหวังจะให้เรื่องทุกอย่างมันจบและไม่มีอะไรติดค้างอีก ทว่าคุณชายกลับประชดผม

   “หึ! เลิกทำตัวน่าสงสารได้แล้ว... นายจะมาขอโทษฉันทำไม นายไม่ผิดอะไร ฉันต่างหากที่ผิด" พูดจบก็ลุกขึ้นจากเปลก่อนที่จะเดินไปตามตัวหาด

   ผมมองตามร่างของคุณชายจนกระทั่งจู่ ๆ คุณชายก็ไปหยุดยืนคุยกับหญิงสาวชาวไทย หน้าตาของเธอดูมีอายุถ้าผมเดาไม่ผิดน่าจะสักประมาณ 30 ต้น ๆ เธอมีผิวสีน้ำผึ้งใบหน้าของเธอแม้ไม่สวยโดดเด่นมากแต่ก็ถือได้ว่ามีเสน่ห์ไม่น้อย และบุคลิกแบบนี้แหละที่ชายต่างชาติมักมอง

   ไม่นานมากนักคุณชายก็ทำท่าเหมือนจะเดินกลับมายังที่นั่งเพราะคุณชายหันมาพร้อมกับชี้นิ้วมาทางผมหนึ่งทีแล้วหญิงสาวก็พยักหน้าตอบตกลง แต่ที่ทำให้ผมเริ่มรู้สึกไม่พอใจก็ตอนที่คุณชายเดินกลับมานั้น คุณชายดันยื่นมือไปจับกับมือของหญิงสาวปริศนาทำตัวราวกับว่าเป็นคู่รักที่มาเที่ยวสวีทหวานอย่างไรอย่างนั้น

   “นี่ไอ้ข้าว... คนใช้ส่วนตัวของผม" ทันทีที่มาถึง คุณชายก็แนะนำผมอย่างให้เกียรติ หญิงสาวจิกหางตามองผมเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะกล่าวว่า

   “สวัสดี" น้ำเสียงของเธอแสดงถึงความเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด... คงจะเป็นเพราะคุณชายแนะนำไปว่าผมเป็นคนใช้สินะเธอก็เลยทำตัวแบบนี้

   “สวัสดีครับ" ถึงกระนั้นผมก็ยังทักทายเธอด้วยความสุภาพ

   “นี่คุณแนนซี่" คุณชายแนะนำชื่อของเธอให้ผมรู้จัก... ก่อนที่จะแนะนำหน้าที่ของเธอในวันนี้ต่อ "เป็นคู่เดทของฉันในวันนี้เอง... ถ้าคุณแนนซี่อยากได้อะไรก็เรียกใช้ไอ้ข้าวได้เลยนะครับ"

   “ค่ะ"

   ผมได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้ในใจเท่านั้น คุณชายจะมาควงหญิงประชดผมอย่างไรผมไม่สนใจหรอก แต่ที่ผมไม่ชอบเลยก็คือ... ทำไมคุณชายต้องให้ผมไปรับใช้แม่นี่ด้วย ดูสายตาก็รู้แล้วว่าแม่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ชอบผมเลยสักนิดและคงจะจิกหัวใช้ผมให้หนำใจอย่างแน่นอน

   “คุณแนนซี่ออยากกินอะไรไหม" คุณชายเอ่ยถามก่อนที่จะพาคุณแนนซี่นั่งลงที่เปลนั่งเคียงข้างกัน

   “แนนซี่อยากกิน เอิ่ม...” เธอยกนิ้วชี้มาแตกที่ริมฝีปากพร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิดด้วยความดจริตสุดฤทธิ์ "กินส้มตำปูม้าค่ะ"

   “ครับ" คุณชายตอบร่างอย่างสุภาพก่อนจะจ้องมาทางผม "ไอ้ข้าว... ไปสั่งส้มตำปูม้ากับกุ้งชุบแป้งทอดมาให้คุณแนนซี่ที"

   “ครับ" ผมพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นทันที แต่ก่อนที่ผมจะได้เดินไปคุณแนนซี่ก็รีบร้องทักผมเอาไว้

   “เดี๋ยวก่อน... บอกแม่ค้าด้วยนะว่าขอปูม้าตัวที่กล้ามใหญ่ ๆ" ขณะพูดเธอก็ใช้มือลูบไล้ที่ต้นแขนของคุณชาย "และกุ้งชอบแป้งทอดขอแป้งหนา ๆ เหมือนกับใบหน้าของนาย  อุ๊ย... ไม่ใช่ ๆ ฉันก็แค่จะบอกว่าถ้าสั่งเสร็จแล้วจะไปไหนก็ไปเลยนะ ฉันกับคุณเป๊กต้องการเวลาส่วนตัวอยู่กันตามลำพังสองคน ใช่ไหมคะคุณ"

   พูดจบเธอก็หันไปทำแววตายั่วยวนกับคุณชายแล้วคุณชายก็ดันเล่นกับเธอด้วยเพราะคุณชายยิ้มแฉ่งสุดฤทธิ์ก่อนที่จะยื่นหน้าไปใกล้ ๆ กับใบหูของเธอจนแทบจะติดกันอยู่แล้วแล้วค่อยตอบออกมา

   “ใช่ครับ"

   ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องยืนมองทุกการกระทำจนกว่าที่คุณชายกับคุณแนนซี่จะทำอะไรที่ยั่วประสาทผมจนจบ...

   “เอ้านี่เงิน... สั่งเสร็จจะไปไหนก็ไป สักบ่าย 3 โมงค่อยกลับมาเจอกันที่นี่" พูดจบคุณชายก็ยื่นตังค์มาให้จำนวนหนึ่ง

   ผมรับตังค์ของคุณชายก่อนที่จะทำตามที่คุณชายต้องการทันที





   ผมนำเงินที่คุณชายให้มาไปเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเล่น ซึ่งคนบนเกาะได้บอกกับผมเอาไว้ว่าเกาะแห่งนี้มีหาดหลายหาดและใหญ่อยู่พอสมควรหากต้องการจะเที่ยวให้ครบทุกเกาะภายในวันเดียวก็ควรที่จะเช่ามอเตอร์ไซค์

   ผมกางแผนที่ที่ร้านเช่ารถให้มาออกดูก่อนที่จะขับรถไปตามแผนที่จนเห็นหาดครบทุกหาด ซึ่งแต่ละหาดก็มีความสวยงามและจุดเด่นที่แตกต่างกัน

   ผมเลือกที่จะใช้เวลาทั้งหมดพักอยู่ในหาดที่เงียบสงบที่สุดเพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของผมยามนี้มันช่างร้อนลุ่มเหลือเกิน และการได้นอนหลับพักผ่อนริมชายหาดคงจะเป็นทางเดียวที่ช่วยให้จิตใจของผมสงบลง

   เสียงตะกุกตะกักที่ดังขึ้นช่วยทำให้ผมตื่นจากภวังค์อีกครั้ง ท้องฟ้ารอบข้างที่เคยสว่างไสวกลับแปรเปลี่ยนเป็นมืดดำ คลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่งก็มีขนาดที่ใหญ่ตามแรงลมที่พัดมาด้วยความรุนแรงกว่าปกติ พอพลิกนาฬิกาข้อมือก็รู้ว่านี่เป็นเวลาบ่าย 2 โมง แต่ท้องฟ้าในยามนี้มันไม่ต่างกับ 6 โมงเย็นเลยสักนิด

   “น้อง ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น" ผมถามเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังรีบเก็บเปลนั่งกับร่มไม้ด้วยความสงสัยเพราะดูเหมือนว่านี่คงไม่ใช่เมฆฝนธรรมดา ๆ แน่นอน

   “พายุกำลังจะเข้าน่ะสิพี่... พี่รีบกลับที่พักเถอะเดี๋ยวจะเป็นอันตรายเอา" เด็กคนนั้นตอบออกมา "เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะพี่ ต้องรีบเก็บเดี๋ยวแม่ด่าถ้าเก็บไม่ทัน"

   ผมมองดูเปลนั่งในละแวกนี้มันมีมากมายแต่คนเก็บมีอยู่แค่ไม่กี่คนเห็นแล้วก็อดสงสารเด็กไม่ได้

   “เดี๋ยวพี่ช่วย" สิ้นเสียงของผมเด็กหนุ่มก็พยักหน้ารับจากนั้นผมก็มองดูวิธีพับและว่าต้องยกเปลไปเก็บตรงไหนแล้วค่อยทำตาม

   ขณะเก็บเปลกลุ่มเมฆฝนที่ดำทมิฬก็ค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ฝั่งแต่ท้ายที่สุดผมก็ช่วยเด็กหนุ่มเก็บเปลและร่มไม้ได้ทัน

   “ขอบคุณนะครับพี่" เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เปลตัวสุดท้ายถูกวางลงในห้องเก็บเปลซึ่งเป็นห้องเล็ก ๆ ริมหาด

   “ไม่เป็นไร"

   “เออ... พี่ พี่พักที่ไหน ผมว่าเมฆฝนมันเคลื่อนตัวมาใกล้เต็มทนแล้วพี่คงจะกลับไม่ทันไปพักบ้านผมก่อนดีกว่าไหม" เด็กหนุ่มเอ่ยชวน

   “ไม่เป็นไร พอดีเพื่อนพี่รออยู่น่ะ เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ" ผมปฏิเสธ

   “ครับ... แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็ติดต่อผมได้นะพี่" เด็กหนุ่มยื่นนามบัตรมาให้ ซึ่งพอผมอ่านดูก็รู้ว่าเป็นนามบัตรของรีสอร์ท "เบอร์ผมเบอร์สุดท้ายนะพี่โทรมาได้เลย เดี๋ยวผมไปแล้ว"

   “ครับ" ผมพยักหน้ารับจากนั้นก็รีบขับมอเตอร์ไซค์ออกไปยังจุดที่คุณชายนัดเอาไว้ทันที





   ทางด้านของคุณชายเป๊ก... หลังจากที่ข้าวเดินจากไป คุณชายก็รีบเอามือของแนนซี่ที่กำลังลวนลามลูบไล้ไปทั่วร่างออกทันที

   “ไอ้ข้าวไปแล้ว คุณปล่อยผมได้แล้ว" คุณชายพูดด้วยน้ำเสียงไร้เยื่อใยก่อนที่จะยื่นเงินไปให้ "เอานี่เงิน... ตามที่ตกลงกันไว้"

   แนนซี่ยื่นมือไปรับเงินที่คุณชายว่าจ้างให้มาแสดงละครตบตาข้าวก่อนที่จะเอ่ยว่า "หล่อ ๆ แบบนี้ แนนซี่ยินดีให้บริการแบบถึงพริกถึงขิงเสมอนะคะ ยินดีไม่คิดเงินด้วยค่ะ"

   ในขณะที่พูดเธอก็เอามือลูบไล้ไปทั่วร่างของตนเองและทำท่าว่าจะปลดบิกินีที่เธอสวมใส่ หากแต่คุณชายเป๊กกับพูดขัดเอาไว้เสียก่อน

   “คุณอย่ามาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าผมอีก" คุณชายเอ่ยเสียงดุ "ผมจะไปเดินเล่นแล้ว ส้มตำปูม้ากับกุ้งชุบแป้งทอดคุณจะกินก็กินไปแต่อย่ามายุ่งกับผม"

   พูดจบคุณชายก็ลุกจากเปลแล้วเดินเล่นไปตามริมหาดทันที โดยไม่สนใจแนนซี่หญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่ว่าจ้างให้มาแสดงละครว่าเป็นคนรักข้าวใหม่ปลามันสักนิด

   เหตุที่คุณชายทำแบบนั้นก็เพราะกำลังพยายามจะห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ให้คิดอะไรเกินเลยกับข้าว เขากำลังหลอกตัวเอง หลอกความรู้สึกที่เกิดขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด... คุณชายคงไม่รู้สักนิดว่าสิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นมันทำร้ายความรู้สึกในจิตใจของข้าวมากแค่ไหน

   คุณชายเป๊กใช้เวลาในช่วงที่ว่างนี้เดินเล่นตามชายหาดก่อนที่จะว่ายน้ำเล่นจนเหน็ดเหนื่อยแล้วค่อยกลับขึ้นมาเล่นเตะบอลและเล่นวอลเลย์บอลชายหาดกับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่ต่างก็มาร่วมเล่นด้วยกันริมหาดด้วยความสนุกสนาน แม้จะมาจากต่างที่ต่างทางต่างเชื้อชาติ แต่มิตรภาพก็ไม่ได้จำกัดแค่ว่าต้องเป็นคนเชื้อชาติเดียวกันเท่านั้น

   การมาเล่นกีฬาริมหาดทำให้คุณชายได้เพื่อนสนิทใหม่อีก 3 คนซึ่งเป็นชายหนุ่มชาวญี่ปุ่น 1 คน และชายหนุ่มชาวออสเตรเลียอีก 2 คน

   หลังจากที่เล่นวอลเลย์บอลชายหาดเสร็จ ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นซึ่งมีผิวเข้มหน้าตาคมสันก็ได้มาขออีเมล์ติดต่อกับคุณชายเป๊กเอาไว้ ด้วยความที่ชายชาวญี่ปุ่นผู้นี้ได้หลงใหลในเสน่ห์ของเมืองไทยและหวังว่าอยากจะได้ไกด์นำเที่ยวหากมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่อีก

   “แล้วเจอกันนะฮัตซัง" คุณชายยอกลากับฮัตสึระเป็นภาษาสากลหลังจากที่แลกเมล์กันเสร็จ "ถ้าจะมาเที่ยวเมืองไทยอีกเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาได้เสมอ"

   “โอเค ไว้จะติดต่อมานะ บาย" ฮัตสึระยื่นมือให้กับคุณชายเป๊กด้วยมิตรภาพ คุณชายเป๊กยื่นมือตอบจับก่อนที่จะเดินกลับไปยังที่จุดพักของตัวเองที่อยู่ช่วงต้นของตัวหาดทันที

   ในระหว่างที่เดินอยู่นั้นคุณชายก็สังเกตเห็นเมฆฝนดำทมิฬก้อนใหญ่กำลังลอยอยู่บนฟ้าไกล ๆ สุดสายตา พอเห็นว่าท่าไม่ดีคุณชายก็พยายามกดเบอร์โทรศัพท์หาข้าวทันทีแต่ไม่ว่าจะโทรไปสักกี่สายข้าวก็ไม่รับ คุณชายก็เลยตัดสินใจเช่ารถมอเตอร์ไซค์แล้วออกตามหาข้าวตามหาดต่าง ๆ

   เวลาผ่านไปจนกระทั่งบ่าย 3 โมง เมฆฝนเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้กับเกาะมากขึ้นเรื่อย ๆ ลมที่พัดรุงแรงขึ้นทำให้คุณชายกลับไปรอข้าวยังจุดที่ได้นัดกันเอาไว้ในทีแรก ทว่าข้าวก็ไม่กลับมาสักที... แล้วความห่วงใยกลัวว่าข้าวจะได้รับอันตรายก็ถาโถมเข้ามาในจิตใจ คุณชายจึงเร่งขับรถออกตามหาข้าวตามหาดต่าง ๆ อีกครั้ง... โดยไม่สนใจเลยว่าตนเองจะได้รับอันตรายหรือไม่...




จบตอน....  ไม่รู้คุณชายจะทำเรื่องให้ยุ่งยากทำไม สุดท้ายตัวเองก็ทุกข์ใจเอง 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 06-11-2013 15:25:53
คุยกับคนอ่านครับ

คุณ iamnan :: 555 ก่อนข้าวจะได้ควงใครเย้ย กลายเป็นตาคุณชายควงสาวเย้ยข้าวเล่นซะงั้น ไอ้คุณชายงี่เง่า!!!
คุณ B52 :: สวีทเน้นๆ ตอนหน้าครับ คริคริ
คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: >.< ขอบคุณคร้าบ ดีใจนะครับยิ่งอ่านยิ่งชอบ กลัวจะยิ่งอ่านยิ่งเบื่อมากๆ T^T
คุณ WednesdayAugust :: 555++ จบเคลียร์ครับเคลียร์ แต่จะเคลียร์ไปในทางดีหรือร้ายต้องลุ้นอีกทีครับ
คุณ lizzii :: ฮ่าๆๆๆ รุกรับตอนหน้าเฉลยครับ อุ๊บบส์
คุณ mentholss :: 555 สงสัยจะเป็นนิสัยประจำตัวของคุณชายเอาแต่ใจมั้งครับ
คุณ loveaaa_somsak :: 555++ น่าสงสารข้าวเนอะครับ โดนแกล้งสารพัด แหม่อิต้าคุณชายนี่ไม่ไหวจริงๆ แกล้งกายไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามาแกล้งให้ปั่นป่วนจิตใจนี่สิมันไม่สนุกหรอก
คุณ pharm ::  :call: จุดธูปแช่งให่คุณชายเสียใจบ้างดีกว่า
คุณ Lily teddy :: 555++ ไม่รู้ทำไม T^T ชอบแต่งให้พระหรือนายเอกต้องน่าหมั่นไส้ซะงั้นอ่าครับ ทุกเรื่องเลย แต่ส่วนใหญ่เน้นให้พระเอกน่าหมั่นไส้ ซะงั้น และมันก็น่าหมั่นไส้จริงๆด้วย  :hao5:
คุณ mur@s@ki :: 555 โอ้วว เจ๋งเลยครับ เป็นคำแนะนำที่ดีมากให้คุณชายโดนคำว่า 'ลืม' สั่งสอนตัวคุณชายบ้างคงซะใจน่าดู คิคิ
คุณ Dee^daY :: เอาแต่ใจ เห็นข้าวเป็นของเล่นสินะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน13 P.9] - 01/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 06-11-2013 15:26:36
ทำตัวเองแท้ๆ คุณชาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 06-11-2013 16:24:22
555++ จบเคลียร์ครับเคลียร์ แต่จะเคลียร์ไปในทางดีหรือร้ายต้องลุ้นอีกทีครับ

 o22
<< ถ้าจะจบไปในทางร้ายเอามีดมาแทงกันเลยดีกว่าค่า  :sad4:
คุณชายนะคุณชาย จ้างผู้หญิงมาหาเรื่องให้ยุ่งยากตัวเองแท้ๆ
บอกรักจับกดข้าวไปซะก็สิ้นเรื่อง เย้ยย เก๊าล้อเล่น (จริงๆ ชอบแบบนี้แหละ ค่อยเป็นค่อยไปดี)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 06-11-2013 17:08:32
เอิ่มมม คุณชายค่ะ
หาเรื่องใส่ตัวเองสุดๆอ่ะ = = (หาเรื่องให้ข้าวอีกต่างหาก)
แร้วพายุเข้าอย่างนี้ ง้อยากนะบอกเรยย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-11-2013 17:46:35
อย่าเพิ่งให้คุณชายสมหวังนะ หมั่นไส้อ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-11-2013 17:51:47
ว๊ายยยย ตั้งใจรอตอนหน้า หึหึ
แต่คุณชายนี่น่าตีให้เข็ดจริงๆ ทำร้ายจิตใจข้าวตลอดดด
รอช่วงเวลาข้าวเอาคืนดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 06-11-2013 19:11:55
ข้าวหายไปไหนเนี่ย
ถ่้าข้าวเป็นอะไรคุณชายเตรียมโทษตัวเองได้เลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: capool ที่ 06-11-2013 19:37:16
ทำตัวปัญญาอ่อนอย่างกะคนไม่มีสมอง    :angry2:  ไอ้กรูปีเอ๊ย!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 06-11-2013 19:44:45
ทำให้ยุ่งเอง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 06-11-2013 19:50:14
ทำมาปากเก่งอวดดี แล้วเป็นไงล่ะ ตัดใจไม่ใยดีได้จริงมั้ย
ทำตัวน่ารำคาญจริงๆ ด่าข้าวไม่ดูตัวเองเลยคุณชาย ช่วยสำนึกให้มากๆนะคะ


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-11-2013 21:01:29
สมน้ำหน้าคุณชายอยากทำร้ายจิตใจของข้าวดีนัก ลองหายไปสักวันสองวันซิ คราวหลังจะได้ไม่ทำอย่างนี้อีก(แค้นและน้อยใจแทนข้าวสุดๆ)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 ] -06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 06-11-2013 21:19:42
คิดแล้วเชียวว่าต้องเป็นแผนของคุณชายแน่ ๆ ไม่งั้นถ้าไม่จ้างมาใครจะกล้าแสดงนิสัยแย่ ๆ เปิดเผยแบบนั้น
ต่อหน้าคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ถึงคุณชายจะแนะนำว่าข้าวเป็นคนใช้ก็เถอะ
แล้วจริง ๆ คุณชายก็ไม่ใช่เด็ก ๆ ละ ควรจะรู้นะว่าสิ่งที่ทำมันทำร้ายความรู้สึกของข้าวมากแค่ไหน
หรือเพราะข้าวยอมก้มหัวให้คุณชายก่อนตลอดล่ะซิ คุณชายถึงไม่คิดถึงความรู้สึกของข้าวบ้างเลย
แล้วที่ทำเนี่ยมันไม่เหมือนพยายามให้ตัวเองเลิกคิดเกินเลยกะข้าวนะ แต่มันเหมือนพยายามให้ข้าวเข้าใจผิด
และเลิกคิดเกินเลยกะคุณชายมากกว่า แล้วตอนนี้ข้าวไปอยู่ที่ไหนไม่รู้ ยิ่งพึ่งเคยไปทะเลครั้งแรกด้วย
ข้าวอาจหลงทางก็ได้ แต่ไม่แน่ข้าวอาจจะไปรอคุณชายที่ห้องพักแล้วก็ได้  ดีให้คุณชายหัวหมุนเพราะหาข้าวไม่เจอซะเลย
จะได้รู้ว่าถ้าข้าวหายไปจากชีวิตคุณชาย คุณชายนั่นแหละจะต้องเสียใจ แต่ไม่ใช่คุณชายออกตามหาข้าวจนได้รับอันตรายนะ
เพราะแบบนั้นคุณชายก็จะได้คะแนนสงสารจากข้าวอีกอะจิ  แล้วเพื่อนใหม่ของคุณชายนี่จะมีบทบาทเด่นไหมน๊า
โดยเฉพาะฮัตซัง น่าให้มาจีบข้าวต่อหน้าต่อตาคุณชายซะเลย (พยายามมองหาชายอื่นที่ดีกว่าคุณชายให้ข้าวอะคะ 555)
คุณชายจะได้หัวปั่นเพราะหึงข้าวเยอะ ๆ แบบยิ่งอ่านยิ่งหมั่นไส้คุณชายมาก ๆ เหมือนพวกตบหัวแล้วลูบหลังเลยค่ะ
ก่อนสวีทเน้น ๆ ตอนหน้าขอให้ข้าวได้แก้แค้นคุณชายแบบเน้น ๆ ก่อนได้ไหมคะ รอสมน้ำหน้าคุณชายอย่างเดียวเลยค่ะ 555
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนตลอด ตลอดค๊า  :pig4:  :L2: :กอด1:



หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 06-11-2013 21:57:21
ข้าวปล่อยมันไปเถอะ ทำตัวแบบนี้ไม่น่ารัก

ถ้าไม่รักอย่ามาให้ความหวัง และทำให้ข้าวสับสน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 06-11-2013 22:47:03
คุณชายเป็นไรมากป่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 07-11-2013 11:00:29
ติดงาน ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งเกือบเดือน  :mew2: แต่จะพยายามหาเวลาว่างม่าอ่านบ่อยๆน้า

ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน +  :กอด1:  :mew1: คนเขียนซักหน่อย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 07-11-2013 18:18:29
รอค่าาา

อยากอ่านต่อแบ้วววว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-11-2013 02:33:13
::: ดินต่างฟ้า :: กับ :: บทอัศจรรย์ :::



         ผมกลับไปถึงจุดนัดหมายตอนเวลาบ่าย 3 โมง 10 นาที เลยเวลานัดมา10 นาทีทว่าริมหาดแห่งนั้นไม่มีผู้คนเดินเตร็ดเตร่อยู่สักคน แม้แต่เปลหรือร่มไม้สักอันก็ไม่มีให้เห็น...

   “คุณชาย... คุณชายอยู่ไหน คุณชายอยู่ไหมครับ" ผมพยายามตะโกนเรียกหาคุณชายสุดเสียงทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่แต่ผมก็อยากตะโกนด้วยหวังว่าจะได้ยินเสียงคุณชายตอบกลับมา ทว่าท้ายที่สุดก็พบเพียงความว่างเปล่า

   คลื่นลมฟ้าฝนก็โหมกระหน่ำเข้ามาเรื่อย ๆ เม็ดฝนที่ตกปรอย ๆ ในทีแรกก็เปลี่ยนเป็นตกหนักหน่วง ทว่าหากผมไม่พบกับคุณชายผมก็ไม่มีทางที่จะหาที่หลบฝนแล้วเอาตัวรอดคนเดียวเป็นอันเด็ดขาด

   ผมตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซค์ฝ่าลมฝ่าฝนไปตามหาดต่าง ๆ ด้วยหวังว่าจะพบกับคุณชายจนท้ายที่สุดผมก็เห็นมอเตอร์ไซค์ปริศนาจอดอยู่หาดแห่งหนึ่ง ซึ่งที่กระจกของมอเตอร์ไซค์นั้นมีสร้อยเงินจี้รูปไม้กางเขนซึ่งผมให้เป็นของขวัญวันเกิดของคุณชายเมื่อ 3 ปีที่แล้วห้อยอยู่ ผมจึงรีบจอดมอเตอร์ไซค์แล้วออกไปตามหาคุณชายทันที

   หาดแห่งนี้มีกระท่อมเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ขายของให้กับนักท่องเที่ยวตั้งเรียงรายอยู่ไม่กี่หลังเท่านั้น ส่วนด้านหลังหาดข้างทางก็จะมีรีสอร์ทน้อยใหญ่สร้างอยู่อย่างประปราย

   แม้ว่าฝนจะตกหนักเสียจนมองทางข้างหน้าแทบไม่เห็น แต่ผมก็วิ่งตามชายหาดไปเรื่อย ๆ ด้วยหวังว่าจะพบกับคุณชาย

   “ข้าว ข้าว ข้าวอยู่ไหน ได้ยินแล้วตอบด้วย" เสียงที่แว่วมาไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใดทำให้ผมยิ้มอย่างมีความหวัง

   “คุณชายผมอยู่นี่ครับ...” ผมตะโกนกลับสุดเสียงเช่นกัน จากนั้นเสียงตะโกนเรียกหากันของเราสองคนก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างของเราสองคนได้อยู่ใกล้กันมากขึ้น ๆ และท้ายที่สุด ร่างของชายหนุ่มในเสื้อกล้ามสีขาวที่กำลังเปียกปอนไปด้วยฝนที่ตกลงมาหนักหน่วงก็อยู่ในสายตาของผมอย่างลาง ๆ

   ผมรีบวิ่งเข้าไปหาร่างนั้นด้วยความฉับไวไม่ต่างจากร่างนั้นที่กำลังวิ่งมาทางผมด้วยความฉับไวเช่นกัน

   “ข้าวหายไปไหน... รู้ไหมฉันเป็นห่วงข้าวมากแค่ไหน" หลังจากที่ร่างของเราทั้งสองวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของกันและกัน คุณชายก็ยกมือมาโอบกอดร่างของผมเอาไว้อย่างแนบแน่นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วง... ผมเองก็รู้สึกไม่ต่างจากคุณชายนักหรอก

   “ผมกลับไปหาคุณชายแล้ว แต่พอไม่พบคุณชาย ผมก็เลยออกตามหาคุณชายตามหาดอื่น ๆ อีก" ผมเอ่ยตอบขณะที่คางของผมกำลังเกยอยู่บนไหล่ของคุณชาย

   “ฉันก็คิดอยู่แล้วว่าข้าวไม่มีทางเอาตัวรอดคนเดียวแน่ ๆ ฉันก็เลยตามหาข้าวเหมือนกัน" คุณชายพูดก่อนที่จะผละผมออกจากอ้อมกอดแล้วจ้องผมเขม็ง "ป่ะ... ไปหาที่หลบฝนกันก่อนดีกว่า"

   สิ้นเสียง... คุณชายก็เดินลากแขนผมนำไปยังใต้กระท่อมของร้านค้าที่ในยามนี้ถูกปิดสนิด ทว่าหน้ากระท่อมแห่งนี้ก็มีกันสาดยื่นออกมาพอจะเป็นกำบังให้เราสองคนได้หลบฝน

   เสื้อผ้าที่เปียกปอนกอรปกับลมฝนที่พัดสาดเข้ามาทำให้เราสองคนต่างก็ตัวสั่นด้วยความหนาวเหน็บ... หากโดนฝนเฉย ๆ คงไม่เป็นไรมากแต่ทว่าลมทะเลที่พัดมามันรุนแรงเกินกว่าที่จะพยายามยืนอยู่นิ่ง ๆ ได้

   “ข้าว... ฉันไม่ไหวแล้ว" คุณชายเอ่ยขึ้นพลางเขยิบเข้ามาใกล้ ๆ ผมแล้วยืดแขนมาแอบร่างของผมเอาไว้อย่างแนบแน่น "ข้าวก็หนาวใช่ไหม"

   “ครับ" ผมตอบทันทีที่คุณชายเอ่ยถาม... จากนั้นคุณชายก็ค่อย ๆ ข่มร่างของผมให้นั่งลงกับพื้นพิงผนังกระท่อมไปพร้อม ๆ กับร่างของคุณชาย

   ลมหายใจที่รดต้นคอทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด คุณชายค่อย ๆ เอื้อมมือที่โอบกอดขึ้นมาลูบศีรษะ ผมไปมองคุณชาย สายตาของเราปะทะกันอยู่นานสองนาน มีความปราถนาอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น จากนั้นก็...


   
         พระพิรุณสั่งฟ้าให้บ้าคลั่ง      ให้รินหลั่งหยาดน้ำฟ้ามาเป็นสาย
      ให้ลมโบกโหมเข้าฝั่งจนวอดวาย      ให้คลื่นยักษ์ซัดทลายล้างมลทิน
      ระหว่างนั้นกระท่อมเล็กริมหาดทราย   เกิดสมกายรสรักริมสายสินธุ์
      เสียงฟ้าร้องให้จังหวะโยกราคิน      กลิ่นอายดินช่วยกระตุ้นต่อมอารมณ์
      ร่างร้อนลุ่มบรรจงมอบน้ำผึ้งหวาน      ร่านลนลานอดทนจนสุขสม
      พอเสร็จสิ้นต่างแยกร่างกลางสายลม   ก่อนรสขมจะเข้าแทรกแลกระทวย




   หยาดฝนที่ค่อย ๆ สงบลงพร้อม ๆ กับสายลมที่เพียงพัดหวิวได้ทำให้คนทั้งคู่เปิดปากคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้อีกครั้ง

   “ฉันไม่ได้ตั้งใจ" น้ำเสียงของคุณชายแสดงถึงความสับสน เสียงลมหายใจของคุณชาแสดงออกถึงความเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด "ข้าว... ฉันขอร้อง... ลืมมันไปซะ ลืมว่าเมื่อกี้ฉันกับนายได้ทำอะไรกัน"

   “เอ่อ... ครับ" ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่บางเบา

   ผมล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคุณชายจะโกหกความรู้สึกที่เกิดขึ้นหรือความต้องการในจิตใจของตัวเองไปทำไม แต่น่าแปลกที่ผมกลับไม่รู้สึกโกรธคุณชายเลยสักนิด อาจเป็นเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาผมยอมคุณชายมาโดยตลอดไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะหนักหนาสาหัสสักแค่ไหน จึงไม่แปลก... ที่นี่จะเป็นอีกครั้งที่ผมจะยอมให้คุณชายทำอะไรตามที่ใจปราถนา แล้วก็ยอมที่จะไม่พูดถึงความสุขที่เกิดขึ้นเพื่อให้คุณชายสับสน แม้มันจะต้องแลกกับความทุกข์ระทมที่เกิดขึ้นในจิตใจของผมเพียงฝ่ายเดียวก็ตาม

   หลังจากที่พายุพัดผ่านไป... ผมกับคุณชายก็จัดการนำมอเตอร์ไซค์ที่เช่ามาไปคืนร้านเช่านก่อนที่เราจะนั่งเรือกลับเข้าฝั่งไปด้วยกันทันที เพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว

   ตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนเรือผมสังเกตเห็นคุณชายพยายามระมัดระวังไม่ให้ร่างกายของคุณชายมาแตะต้องโดนตัวของผม ผิดกลับขามาที่คุณชายให้ผมนั่งพิงไหล่ตลอดทางลิบลับ

   “เออข้าว...” แล้วจู่ ๆ คุณชายก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบมานาน ทว่าคุณชายก็ไม่สบตามามองผมเหมือนอย่างเคย "ฉันโทรหานายตั้งหลายสายตอนก่อนพายุจะเข้า ทำไมนายไม่รับ"

   “ผมไม่ได้เอาโทรศัพท์มา...” ผมตอบออกไปเพราะผมไม่คิดว่าการมาท่องเที่ยวในวันนี้ผมจะโดนคุณชายไล่ตะเพิดจนเราต้องแยกจากกัน.... เพราะปกติก็ไม่ค่อยมีใครโทรมาหาผมอยู่แล้ว ผมก็เลยตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ไว้ในห้อง

   “อืม" คุณชายรับคำเพียงเท่านั้นก่อนที่จะนั่งทอดสายตาออกไปมองท้องทะเลต่อไป

   เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง... เรือที่นั่งมาก็จอดเทียบท่าที่ฝั่ง ระหว่างนั้นเราสองคนต่างรอให้นักท่องเที่ยวออกจากเรือก่อนจนเหลือเราสองคนเป็นคนสุดท้าย คราวนี้ผมออกจากเรือก่อนคุณชาย พอผมหันหลังกลับแล้วยื่นมือขอไปรับ คุณชายก็ชะงักพร้อมกับมองผมแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า

   “ไม่เป็นไร ขอบใจ" แล้วคุณชายก็ก้าวขาออกจากเรือข้ามมายังตัวสะพานที่ทอดยาวไปถึงฝั่งด้วยตนเอง

   ผมได้แต่ถอนหายใจให้กับความอึดอัดที่เกิดขึ้นแล้วเดินตามหลังคุณชายไปเงียบ ๆ ระหว่างนั้นคุณชายก็โทรไปหายามบอลแม้จะไม่รู้ว่าพูดอะไรกันบ้างแต่ก็พอที่จะจับใจความได้คร่าว ๆ ว่าคุณชายบอกว่าจะไปสายกว่าเวลาที่นัดไว้สักเล็กน้อย





   เราสองคนผลัดกันอาบน้ำแต่งตัว กว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแทนที่ผมจะรู้สึกสดชื่นแต่ผมกลับรู้สึกเพลีย ๆ ตัวก็ร้อนรุม ๆ ราวกับจะไม่สบาย พอเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาดื่มก็รู้สึกว่ารสชาติแปลกไป... มันรู้สึกขมกว่าที่ควรจะเป็น

   'สงสัยจะไม่สบาย' ผมเอ่ยในใจตากฝนตากลมขนาดนั้นยังแข็งแรงดีก็คงแปลก แล้วคุณชายล่ะจะเป็นอย่างไรบ้างนะ

   ผมหันไปมองดูคุณชายที่กำลังแต่งตัว ท่าทางของคุณชายดูทะมัดทะแมงปกติ หากแต่แววตาที่เอาแต่ใจตลอดเวลาคู่นั้นกลับหวานเยิ้มลงเล็กน้อยสงสัยคงจะรู้สึกเพลียไม่ต่างกัน

   “คุณชายครับ... ขับรถไหวไหม" ความเป็นห่วงที่เกิดขึ้นทำให้ผมอดที่จะถามไม่ได้ แม้ว่าคุณชายจะสามารถขับรถจากพัทยามายังบางแสนได้อย่างสวัสดิภาพแต่ผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี ทว่าความหวังดีของผมกลับได้รับคำตอบเป็นสายตาที่เชือดเฉือนของคุณชาย พร้อมกับประโยคชดประชันที่ตอบกลับมาว่า

   “ฉันไม่ได้อ่อนแอ ตากฝนแค่นี้... ไม่เป็นไรหรอก แค่ก ๆ" พูดไม่ทันขาดคำก็ไอออกมาเสียแล้ว คุณชายรีบเบือนหน้าหนีก่อนที่จะแก้ต่่างว่า "ก็แค่น้ำลายติดคอ"

   “ครับ น้ำลายติดคอ" ผมตอบรับพร้อมกับทวนคำอย่างไม่เชื่อในเหตุผลจนคุณชายต้องหันมาจ้องผมตาเขม็งแล้วกระแอมไออีกสองสามครั้ง

   “เสร็จยัง ไปได้แล้ว เดี๋ยวบอลรอนาน"

   “ครับ"

   ทันทีที่ขึ้นรถ อาการอ่อนเพลียก็ทำให้ผมเผลอหลับไปในที่สุด ไม่นานมากนัก... คุณชายก็ร้องเรียกปลุกให้ผมตื่น การได้นอนแค่ไม่กี่นาทีมันทำให้รู้สึกเพลียและเวียนศีรษะมากขึ้นไปอีก

   ผมก้าวขาลงจากรถด้วยความรู้สึกว่าสิ่งรอบข้างมันกำลังหมุนเคว้งคว้างไปในอากาศ บ้านไม้หลังเล็ก ๆ 2 ชั้นที่อยู่ตรงหน้ามันดูบิดเบี้ยว จนกระทั่งผมรู้สึกว่าจะยั้งกายต่อไปไม่ไหว ผมก็หลับตาแล้วยกมือกุมขมับก่อนที่จะขยับไปพิงกับประตูรถ

   “เป็นไรข้าว ไหวหรือเปล่า" คุณชายเอ่ยถาม

   “ไหว ๆ ครับ คุณชายเข้าไปในบ้านก่อนเถอะ" ผมเอ่ยตอบ

   “อืม" คุณชายตอบรับ ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีผมก็ได้ยินเสียงคุณชายคุณกับใครบางคนว่า "ดูท่าไอ้ข้าวจะไม่ไหว ไปพยุงมันเข้ามาหน่อยดิ"

   “ครับ" แล้วก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งตอบรับด้วย

   เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผมเปิดตามองภาพตรงหน้าอีกครั้ง แล้วภาพของยามบอลที่ใส่ชุดเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงขาส่วนก็ปรากฏเด่นชัด

   “อ้าวยามบอลเองเหรอครับ" ผมเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก

   “ครับ... คุณข้าว เดี๋ยวผมช่วยพาเข้าบ้านนะครับ" ยามบอลเอ่ยตอบ จากนั้นก็เดินเข้ามาพยุงร่างผมโดยยกแขนผมไปพาดกับคอแล้วก็พาเดินเข้าไปในตัวบ้าน ระหว่างนั้นยามบอลก็บ่นกับผมว่า "ตัวร้อนขนาดนี้ไปทำอะไรมาครับเนี่ย"

   “เหรอ... ผมตัวร้อนเหรอครับ" ผมยังไม่รู้ตัวเลย รู้แค่ว่าเพลียและเวียนศีรษะมาก ๆ ก็เท่านั้น

   “ครับ ไปพักก่อนเถอะครับ"

   หลังจากที่เข้าไปในตัวบ้าน ยามบอลก็ตะโกนสั่งใครบางคนว่า "ซี... เอาที่นอนมาปูให้ที คุณข้าวไม่สบาย"

   ผมยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ กว่าที่สติจะกลับมาอีกทีก็ตอนที่มีคนค่อย ๆ พาร่างผมให้นั่งลงและทิ้งร่างไปกับที่นอนนุ่มนิ่มที่ถูกปูทับกับพื้นบ้าน แถมคนใจดีคนนั้นยังห่มผ้าให้ผมและใช้หลังมือคลำหน้าผากของผมเพื่อเช็คอาการอีกต่างหาก

   “ขอบใจนะบอล" ผมเอ่ยขึ้น ทว่าพอลืมตา... ร่างที่ปรากฏตรงหน้ากับเป็นไอ้เด็กแสบของผมที่กำลังจ้องผมตาเขม็ง คิ้วก็ขมวดมุ่นเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง

   “บอลไปเตรียมอาหารตั้งนานแล้ว" ถ้าเป็นอย่างที่คุณชายพูดนั้นก็แสดงว่าคุณชายเป็นคนที่มาสับเปลี่ยนกับยามบอลเพื่อที่จะดูแลผม

   พอคิดดังนั้นผมก็อดที่จะยิ้มไม่ได้... เด็กอะไรทำเป็นอวดเกร็ง ทำเป็นไม่อยากแตะเนื้อต้องตัวผม สุดท้ายพอเห็นผมป่วยก็อดใจอ่อนที่จะอยากดูแลไม่ได้อยู่ดี ...ขี้เก๊กชะมัด

   “ขอบคุณครับคุณชาย" ผมเอ่ยขึ้น ในใจก็รู้สึกดีใจที่คุณชายยังคงเป็นห่วงผม

   “เออ ไม่ไหวก็นอนพัก...” คุณชายเอ่ย ทว่ายังไม่ทันที่คุณชายจะพูดจบผมก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

   “อย่าดื้อ อย่าขยับ เดี๋ยวยุงจะมากัด เดี๋ยวผีจะมาหลอก...”

   สิ้นเสียงของผม เราสองคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกันเสียงดังลั่น เพราะคำพูดประโยคนี้ผมมักพูดกับคุณชายบ่อย ๆ ตอนที่คุณชายตัวยังเล็ก ๆ แล้วป่วยหนัก พอพูดแบบนี้ทีไรคุณชายก็จะกลัวแล้วให้ผมนั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ เตียงนอนทุกคืน... พอคุณชายหลับเมื่อไหร่ผมถึงจะกลับบ้าน

   แล้วภาพในอดีตก็หวนมาให้คิดถึง... ไม่รู้ว่าคุณชายกำลังคิดเหมือนผมหรือเปล่า แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้คิดถึงอดีต ๆ ที่น่าปวดหัวกับการดูแลคุณชายตัวเล็ก ๆ คนนี้

   “ขำอะไร ไม่สบายก็นอนไปเลยไป เดี๋ยวฉันจะดู... เอ่อ...” คุณชายพูดตะกุกตะกักสงสัยกว่าจะเสียฟอร์มก็เลยแถไปเรื่อย "เดี๋ยวฉันจะให้บอลกับซีมาดูแล"

   “ผมไม่เป็นอะไรแล้ว... เมื่อกี้ก็แค่มึนหัวเพราะได้งีบบนรถแป๊บเดียวก็เท่านั้นครับ" สิ้นเสียงผมก็ยั้งกายให้ลุกขึ้นทำเหมือนกับว่าผมแข็งแรงสบายดี ซึ่งมันก็จริงเพราะภาพต่าง ๆ ที่ปรากฏตรงหน้ามันไม่ได้หมุนบิดเบี้ยวเหมือนในทีแรก และการที่ได้พักสายตาในระยะเวลาสั้น ๆ มันก็ทำให้อาการเวียนศีรษะทุเลาลง แม้จะยังมีไข้อยู่ก็ตาม

   “ว่าแต่คุณชายเถอะครับ... เป็นไงบ้าง" อาการที่ไอแค่ก ๆ ตลอดเวลาของคุณชายมันก็ไม่ได้ดีกว่าผมเลยสักนิด

   “ก็แค่ไอ...” คุณชายตอบเพียงเท่านั้น "รอฉันอยู่นี่นะ เดี๋ยวฉันจะไปดูว่ามีอะไรกินบ้าง เราคงต้องแยกกันกินที่นี่เพราะเดี๋ยวบอลกับลูกจะติดไข้เอาได้"

   “เดี๋ยวผมไปช่วย" พอผมทำท่าจะเดินตาม คุณชายก็หันมาร้องห้าม

   “ไม่!” น้ำเสียงของคุณชายหากคนไม่รู้สนิทชิดเชื้ออย่างผมได้มาฟังคงคิดว่าเป็นน้ำเสียงที่ดุดันขึงขัง ทว่าผมรู้ดีว่าการที่คุณชายพูดคำว่า 'ไม่!' ด้วยน้ำเสียงแบบนี้ มันเป็นน้ำเสียงที่แสดงถึงความห่วงใยต่างหาก

   ท้ายที่สุดผมก็เลยต้องนั่งรอคุณชายอยู่บนที่นอนนุ่ม ๆ




จบตอน >.< ฮ่า ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน14 P.10] - 06/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-11-2013 02:41:40
คุยกับคนอ่านคร้าบ >.<  :L1:

คุณ pharm :: วาจาร้ายแต่ท้ายที่สุดก็ร้ายได้แค่วาจาอ่ะคุณชายเอ๊ยยย
คุณ WednesdayAugust :: มีดเตรียมพร้อม(สำหรับแทง) เอ๊ยย ไม่ใช่ละ มิกล้าทำหรอก คิคิ... ปล.จับกดแล้ววววว
คุณ poppycake :: โฮะๆ แต่บรรยากาศมันพาไป๊.. กลายเป็นง้อง่ายซะงั้นครับ คิคิ
คุณ iamnan :: ความหมั่นไส้ที่มีต่อคุณชายเป๊กจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆครับ  :hao5:
คุณ lizzii :: มิกล้าแต่งฉากเรท  :hao5: เอากลอนไปแทนละกันน๊า
คุณ -west- :: ท้ายที่สุดก็หากันจนเจอคร้าบ  :mew1: แต่ดูท่าว่าคุณชายจะไม่ยอมรับใจตัวเองง่ายๆ
คุณ capool :: เหอๆ ชอบคำนี้จังเลยครับ 'ไอ้กรูปรีเอ๊ย' ไว้ยืมไปด่าเพื่อนมั่งนะครับ คิคิ
คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: และจะยุ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยครับ  :hao5:
คุณ mur@s@ki :: T^T เหมือนว่าจะไม่สำนึกด้วย ข้าวมันยอมคุณชายซะทุกอย่าง ยอมง่ายไปกลายเป็นของตายไปเลย
คุณ B52 ::  :hao5: ตอนยังไม่หายครับ แต่เดี๋ยวจะมีฉากให้หายไปจากกันจริงๆครับ แต่จะหายเพราะเหตุผลอะไรยังไง ไว้ติดตามต่อนะคร้าบ
คุณ Lily teddy :: เพื่อนใหม่ตอนนี้ยังไม่เด่นครับ เป็นตัวประกอบไปก่อน แฮ่ๆ แต่โดยส่วนตัวชอบหนุ่มญี่ปุ่นกรั๊กๆ เอาไว้มามีบทบาททีหลังดีกว่าครับ ปล.แอบฮาตรงรอสมน้ำหน้าคุณชายอย่างเดียว T^T  แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สมน๊า ต้องรอต่อไป แฮ่ๆ
คุณ loveaaa_somsak :: เนอะ T^T ดูท่าคู่นี้จะรอดยากครับหากพูดถึงหลักความเป็นจริง เฮ้อ,,, หรือถ้ารอด ข้าวก็คงโดนทำร้ายจิตใจสารพัดสารเพ
คุณ MaNaSsAwEe :: 555 เป็นมากถึงมากที่สุดครับ
คุณ NJnobu :: ครับผม... ตั้งใจทำงานนะครับ สู้ๆ ^^  เป็นกำลังใจให้เหมือนกันน๊า เหนื่อยก็แวะมาอ่านนิยายได้นะครับ แหะๆ
คุณ April❤ :: มาแบ้วจ้า ^^ ตามต่อได้เลยครับ แฮ่ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pornumpai-ka ที่ 08-11-2013 05:17:29
 :ling1: :ling1:

จะเอา nc ๆๆๆๆๆ  มันค้างงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 08-11-2013 06:55:04
บอกให้ข้าวลืม ถ้าข้าวลืมทุกอย่างรวมถึงตัวคุณชายแล้วจะรู้สึก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 08-11-2013 08:30:04
ข้าวเอ้ยยยยยย จะยอมอะไรกันนักหนาดัดหลังคุณชายไปเลยสิ ลืม ๆ ไปเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 08-11-2013 10:30:43
อีคุนชาย ท่ามากจริง  :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: แจกดอกให้คุนชาย อิ  :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 08-11-2013 10:56:16
 :fire: เก๊กมากระวังจะแห้วนะคุณชาย ถึงข้าวจะรักมากแต่หากยังทำงี้จะยุให้ข้าวทิ้ง  :m16:
ความอดทนของคนเราไม่ได้กว้างเท่าทะเลนะจ๊ะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 08-11-2013 11:16:40
อิอิ   ชอบๆ หวานๆ เศร้าๆ...อยากให้แบบว่า ข้าวลืมคุณชาย...แล้วคุณชายโหยหาข้าว  แบบนี้   :o8:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 08-11-2013 12:03:15
แหมมมม ตามสูตรหนังไทย
ติดฝน แร้วก้อได้...กัน >/////<
5555+ (ขัดใจก้อแต่ อิคุณชายนี่แหล่ะ -*-)

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-11-2013 12:18:38
 :katai1:เอาอีกแล้วนะคุณชาย แหมหมั่นใส้จังเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 08-11-2013 12:41:02
อิคุณชาย เก๊กนะแก 555
เดี๋ยวยุให้ข้าวหนีไปซะเลยนี่
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 08-11-2013 13:09:23
อยากเตะคุณชายเป๊กขี้เก๊กจริงๆ...  วันนี้ฝนตกได้บรรยากาศเหงาๆ แถมหนาวอีกต่างหาก :-)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-11-2013 13:34:20
บทอัศจรรรย์มาเป็นกลอนเลย :)
ว่าแต่คุณชายนี่ปากแข็ง นิสัยเสียตล๊อดดดดดดด
จริงๆ เลย ข้าวก็ใจดีจัง ขัดใจป้าจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 08-11-2013 14:12:56
คุณชายนี่~~ เอะอะก็ให้ลืมนะ เดี๋ยวเถอะ~~

ย้อนอ่าน 3 ตอนรวด ขอบคุณนะคะ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 08-11-2013 14:47:44
ขัดใจอีตาคุณชายด้วยคน แต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ เพราะข้าวมันสปอยล์คุณชาย ยอมตลอด ยอมเจ็บอยู่คนเดียว
กลายเป็นบทอัศจรรย์ที่น่าเศร้าซะงั้น ใจนึงก็สงสารข้าว อีกใจก็สมน้ำหน้า ยอมอีตาคุณชายดีนัก เอ๊ะ ยังไง 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 08-11-2013 21:32:49
กระท่อม และ สายฝน

มันทำเอาคนเราใจตะเลิด ได้จริงๆ 555+
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 08-11-2013 21:55:42
ข้าวนี่มันนางเอกเกินไปแล้ว
คุณชายก็เหลือเกิน
จะลืมจริงๆเหรอ
ลืมไปเลยช้าว อย่าสนใจ ดูซิใครจะลงแดงตายก่อนกัน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 08-11-2013 22:10:56
ชอบกลอนง่ะ ผิดคาดเลยนึกว่าจะบรรยาย 55
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 09-11-2013 10:36:45
ใครก็ไดัเอาอิคุณชายบื้อไปถ่วงทะเลตอนพายุเข้าที จ้างเป็ด1ตัวเลยเอ้า
เซ็งเป็ดกกไข่อิคุณชายจริง ฮึ่มๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 ] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 09-11-2013 17:28:47
 :angry2: คุณชายนิสัยแย่มาก ๆ ตัวเองไม่พร้อมยอมรับเองแท้ ๆ แต่กลับเก็บซ่อนอารมณ์ตัวเองไม่ได้
ถึงเวลาแค่บอกว่าทนไม่ไหว  แต่ตอนนี้กลับมาขอร้องให้ข้าวลืมเรื่องทุกอย่าง เห็นแก่ตัวที่สุด
ยิ่งอ่านยิ่งแค้นไอ่คุณชายเป็กมาก ๆ ทำเป็นไม่อยากถูกเนื้อต้องตัวข้าว เชอะ อดทนให้ได้ตลอดนะ
ยิ่งตอนนี้ยังไงคุณชายก็ต้องรู้สึกเป็นเจ้าของข้าวมากขึ้นแน่ ๆ ที่เข้ามาช่วยดูแลข้าวตอนป่วย
นอกจากห่วง ก็ต้องแอบหวงด้วยแหละไม่อยากให้ชายอื่นมาแตะเนื้อต้องตัวข้าวอะดิ 
ตอนนี้ถ้ายามบอลไม่สนใจข้าวงั้นเป็นซี(จะใช่เด็กที่ข้าวช่วยเก็บเปลไหมอะ)ก็ได้
ช่วยมาจีบหรือทำเหมือนจะจีบข้าวทีเถอะ อยากเห็นคุณชายหึงจนจะลงแดงไปเลยอะ (555 แค้นแล้วพาล)
ปล. เป็นบทอัศจรรย์เข้าพระเข้านางที่ฮามาก (ขอโทษนะคะ) ไม่ใช่แต่งไม่ดีนะ แต่พึ่งเคยเจออะค่ะ อ่านไปขำไป
เลยไม่ได้สัมผัสกับอารมณ์พุ่งพล่านของคุณชายเลยอะ (อยากสัมผัสทำไมไม่รู้ 555)
แล้วหนุ่มญี่ปุ่นที่เก็บไว้ นี่ใช้เป็นไม้ตายเลยดีไหมคะ แบบถ้าคุณชายยังไม่ยอมรับใจตัวเอง
ให้ข้าวหนีตามหนุ่มญี่ปุ่นไปเลยดีกว่า o13 (ยุยงส่งเสริม) อิอิ
รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนกะน้องข้าวต่อไปจ้า  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 09-11-2013 19:01:27
ถ้าข้าวยังยอมไปทุกอย่างอยู่แบบนี้ คนผิดมันก็ไม่สำนึกแล้วเกิดการปรับปรุงสิ



 :z3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 10-11-2013 18:44:33
อิคุณชายยยยย ถ้าเค้าลืมจริงๆอย่ามาเสียใจทีหลังนะ :angry2:

ข้าว.....เทอดีเกินปายยยย :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 12-11-2013 19:39:28
ยังสรุปไม่ได้ ว่าใคร เป่า ยิ้ง ฉุบ ชนะ ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 14-11-2013 03:47:56
ดินต่างฟ้า กับ ทิฐิงี่เง่า


         หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ ผมก็เก็บจานชามไปล้างทำความสะอาด ส่วนคุณชายเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายนั่งพักผ่อนเพราะดูท่าว่าอาการของคุณชายจะแย่ลงเรื่อย ๆ ผิดกับผมที่มีอาการดีขึ้น

   “คุณชายดูท่าว่าจะขับรถไม่ไหวนะครับคุณข้าว กลับไปพักที่โรงแรมอีกสักคืนก่อนดีไหมครับ" ยามบอลเสนอความคิดเห็นขณะที่ผมกำลังล้างจานอยู่

   “ผมก็คิดงั้นเหมือนกัน แต่ว่า... คุณชายดื้อจะตายไป คงไม่ฟังที่ผมพูดหรอก" ผมเอ่ยอย่างปลง ๆ คนอย่างคุณชายน่ะถ้าตัดสินใจจะทำอะไรแล้วต่อให้ใครมาพูดเป่าหูอย่างไรก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจง่าย ๆ ได้หรอก

   “ถ้างั้นเดี๋ยวผมคุยให้" ยามบอลเสนอ

   “ลองดูครับ" ผมตอบรับทันที ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ายามบอลจะเปลี่ยนใจคุณชายได้จริงเหรอ หลังจากนั้นยามบอลก็ออกไปจากห้องครัวเพื่อไปคุยกับคุณชายทันที

   พอล้างจานเสร็จ ผมก็เดินกลับไปหาคุณชาย ใบหน้าที่ซีดเซียวกับอาการไอไม่หยุดทำให้คุณชายดูทรุดโทรมลงไปมากภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

   “ข้าว แค่ก ๆ" พูดไปก็ไอไป

   “ครับ" ผมขานรับ

   “ฉันว่าฉันคงกลับไม่ไหวอ่ะ... เดี๋ยวให้ซีขับรถไปส่งที่โรงแรมอีกสักคืนนะ พรุ่งนี้ลางานได้ไหม" คุณชายเอ่ยขึ้น

   “ได้ครับ" ผมตอบรับ ...ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างคุณชายจะยอมเปลี่ยนใจด้วย ผมชักสงสัยเสียแล้วสิว่ายามบอลมีดีอะไรนะคุณชายถึงยอมเชื่อฟัง ขนาดผมซึ่งเป็นคนสนิทพูดแทบตายคุณชายก็ยังดันทุรังจะกลับบ้านให้ได้

   จากนั้นซีก็เดินนำไปยังรถของคุณชายเพื่อที่จะขับไปส่งพวกเราที่โรงแรม... ซีเป็นเพื่อนสนิทของยามบอล ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าสนิทกันแบบไหน เพราะดูจากหน้าตาแล้ว ซีดูอ่อนเยาว์กว่ายามบอลน่าจะอายุเท่า ๆ กับคุณชาย แถมตลอดเวลาที่พักอยู่ที่บ้านของยามบอล ซียังเป็นคนที่ดูแลน้องบอสให้กับยามบอลอีกด้วย

   ส่วนน้องบอสเป็นเด็กชายอายุ 3 ขวบตัวเล็ก ๆ ผิวคล้ำเหมือนพ่อ(ยามบอล)แต่ก็มีแก้มที่นุ่มนิ่มน่าหยิกดูแล้วน่ารักน่าชังเชียวล่ะ ทว่าน่าเสียดายที่แม่ของน้องบอสดันทิ้งน้องบอสไว้กับยามบอล ส่วนตัวเองได้หนีตามเศรษฐีมีอายุชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวแล้วได้รู้จักกับเธอที่หาดแห่งนี้

   ยามบอลไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรให้ฟังมากนัก อาจเป็นเพราะไม่อยากพูดให้ผู้หญิงเสียหาย ส่วนยามบอลนั้น หลังจากที่โดนภรรยาทิ้งไป เขาก็ได้รู้จักกับซีซึ่งเป็นเด็กรุ่นน้องที่ช่วยแม่ทำงานร้านอาหารอยู่ริมหาด อาจเป็นเพราะคุยกันสนิทถูกคอหรืออย่างไรไม่ทราบ ซีก็เลยย้ายมาอยู่กับยามบอลและช่วยยามบอลดูแลน้องบอสที่บ้านหลังนี้

   “แล้วบอลไม่ไปพร้อมกันเหรอ" ผมเอ่ยถามกับซีทันทีหลังจากที่พยุงคุณชายขึ้นรถแล้วนั่งด้วยกันบนเบาะหลัง

   “ไม่ครับ... พี่บอลคงรอให้ลูกหลับก่อนค่อยไปทำงาน" ซีตอบออกมา

   “ครับ" ผมขานรับ หลังจากนั้นซีก็สตาร์ทรถและขับรถวนกลับไปทางโรงแรมของคุณชายทันที ผมล่ะอดทึ่งไม่ได้จริง ๆ ที่เด็กสมัยนี้ต่างขับรถเก๋งรถยนต์เป็นกันเกือบหมดแล้ว

   “ซี... แม่สบายดีไหม" ในระหว่างทาง คุณชายคงเห็นว่าบรรยากาศมันเงียบวังเวงเกินไปก็เลยต้องเปิดปากถาม

   “สบายดีครับ ตอนนี้กิจการที่ร้านกำลังรุ่ง ถ้าไม่ได้คุณชายช่วยไว้ผมกับแม่เองก็คงจะลำบาก...” ซีตอบออกมา "ขอบคุณคุณชายนะครับ"

   “ไม่เป็นไรน่า คนกันเองทั้งนั้น" คุณชายตอบออกมา ส่วนผมได้แต่นั่งฟังด้วยความสงสัย คุณชายมีความดีความชอบอะไรนักหนากับคนที่นี่ถึงได้ชื่นชอบและกล่าวขอบคุณกันเป็นว่าเล่นนักนะ

   “ว่าแต่คุณชายล่ะครับ คุณท่านกับคุณหญิงสบายดีนะครับ" ซีเอ่ยถามขึ้นบ้าง

   “ก็สบายดี แต่ก็เหมือน ๆ เดิมนั่นล่ะ พ่อก็เอาแต่ทำงาน ส่วนแม่ก็เอาแต่ออกงานสังคม" คุณชายเอ่ยขึ้น ผมสังเกตเห็นว่าแววตาของคุณชายเปลี่ยนไป พอพูดถึงคุณพ่อกับคุณแม่ทีไรคุณชายจะดูเศร้าสร้อยลงทุกที "แต่ยังดีนะที่มีข้าวมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อย ๆ"

   “พี่ข้าวนี่โชคดีจริง ๆ นะครับที่ได้เป็นคนสนิทของคุณชาย" ซีเอ่ยขึ้น ผมยิ้มกริ่มได้ไม่ทันไรก็ต้องหุบลงเพราะคำพูดในประโยคถัดมาของคุณชาย

   “คนสนิทอะไร... ก็แค่พี่เลี้ยงธรรมดา ๆ เนี่ยแหละ แค่ไอ้ข้าวมันรู้ใจฉันมากกว่าคนอื่นก็เท่านั้น ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปมากกว่านั้นเลยสักนิด หึ..." พูดจบก็พ่นลมหายใจออกมา สงสัยยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนที่นั่งเรือออกไปเที่ยวเกาะ แต่จะโทษผมก็ไม่ได้ด้วยสิเพราะผมไม่เคยบังคับให้คุณชายทำอะไร มีแต่คุณชายนั่นแหละที่ทำตามใจตนเองทั้งนั้น

   “ครับ" ซีตอบรับเพียงเท่านั้นก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป





   บนห้องของคุณชาย ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงแม่บ้านสามารถเข้ามาทำความสะอาดจนไม่เหลือร่องรอยของความสกปรกหรือเละเทะของข้าวของที่กระจัดกระจายเลยสักนิด หากเป็นห้องอื่น ๆ แม่บ้านจะมีช่วงเวลาในการทำความสะอาดที่แน่นอนในแต่ละวัน ทว่าสำหรับห้องของคุณชาย... หากคุณชายมาพักทันทีที่กลับหรือออกไปทำธุระข้างนอกแม่บ้านจะต้องเข้ามาทำความสะอาดทันที

   “คุณชายจะทำอะไร" หลังจากที่กลับเข้าไปในห้อง คุณชายก็ตรงเข้าไปค้นตู้เสื้อผ้าทันที

   “เอาเสื่อมาปู นายนอนบนเตียงไปเลย เดี๋ยวฉันจะปูเสื่อนอนด้านล่างเอง" คำตอบของคุณชายแทบทำให้ผมลืมหายใจ นี่สินะอาการของคนที่พยายามปฏิเสธอะไรบางอย่างจนเกินพอดี

   “ไม่ต้องหรอกครับ... ถ้าคุณชายไม่อยากนอนร่วมห้องกับผมขนาดนั้น...” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ คุณชายก็หันมาขัดทันที

   “ทำไม!” เสียงของคุณชายดังก้อง เสื้อพับในตู้เสื้อผ้าที่พยายามดึงอยู่นานสองนานก็ถูกดึงออกมาจนสำเร็จ

   “เดี๋ยวผมไปเปิดห้องใหม่นอนก็ได้" แทนที่จะรู้สึกดีที่ได้พูดออกไปแต่ทำไมผมกลับรู้สึกกังวลใจแปลก ๆ ด้วยนะ ...ไม่ได้กลัวว่าจะต้องไปเปิดห้องนอนใหม่จริง ๆ หรอก แต่ผมรู้สึกว่าผมกำลังกังวลถึงความรู้สึกของคุณชาย แม้ว่าคุณชายจะไม่สนใจความรู้สึกของผมเลยก็ตาม

   “เออ! ดี ไปเปิดห้องใหม่เลยไป" น้ำเสียงของคุณชายแสดงออกถึงความขัดใจอย่างเห็นได้ชัด คุณชายยัดเสื่อเข้าตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิมก่อนที่หยิบเงินในกระเป๋าแล้วเดินมาโยนใส่หน้าผม "เอาไป แล้วพรุ่งนี้ 8 โมงเช้ามาเจอฉันที่นี่"

   “8 โมง ตกลงครับ" ผมตอบรับ แม้จะไม่อยากรับเงินของคุณชายทว่าผมก็ไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวตั้งแต่แรกผมจึงไม่ได้พกเงินติดตัวมามากนัก "ไว้กลับบ้านเมื่อไหร่ผมจะเอาเงินมาคืนนะครับ"

   พูดจบผมก็เดินออกจากห้องทันที ได้ยินเสียงคุณชายตะโกนโหวกเหวกด้วยความไม่พอใจ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหยุดฟังเสียงที่เล็ดลอดผ่านประตูนั้นมาให้เสียความรู้สึกทำไม

   “อวดเก่งเข้าไป! ฉันรู้นะว่านายยืนฟังฉันอยู่ บอกให้รู้ว่าเลยนะที่ฉันทำดีกับนาย ที่ฉันให้เงินนาย ฉันก็แค่สมเพช... เด็กปั๊มจน ๆ อย่างนาย ไม่ได้พิศวาสอะไรนายสักนิด อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย โว๊ยยย!!!”

   จนกระทั่งเสียงของคุณชายสงบลง ผมถึงได้ก้าวขาออกจากรัศมีหน้าห้องของคุณชายไป แม้จะรู้ว่าสิ่งที่คุณชายพูดนั้นไม่ได้มาจากความรู้สึกที่แท้จริง แต่เพราะอารมณ์ที่เดือดพลุ่งพล่านเลยทำให้คุณชายพูดออกมาแบบนั้น ผมก็ยังรู้สึกเสียใจอยู่ดี ถ้าเลือกได้... ผมก็ไม่อยากได้ยินคำพูดที่เสียดสีหรือกระทบกระทั่งไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจจากคนที่ผมเคารพและให้เกียรติมาเสมออย่างคุณชายหรอกนะ

   ผมกดลิฟต์ลงไปที่ชั้น 1 และมุ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์บริการลูกค้าทันที ทว่าผมก็ต้องพบกับคำตอบที่น่าผิดหวังเพราะห้องพักของโรมแรมนี้ไม่มีห้องว่างเหลืออยู่

   ผมตัดสินใจเดินออกจากซอยโรงแรมของคุณชายแล้วเดินตามชายหาดไปเรื่อย ๆ โดยคิดว่าพอเห็นโรงแรมที่ไหนก็จะแวะถามที่นั่น จนกระทั่งเดินไปได้สักระยะ ป้ายโรงแรมที่เด่นหราซึ่งชี้เช้าไปในซอยเล็ก ๆ ก็ทำให้ผมผุดยิ้มออกมา ผมไม่รอช้ารีบตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปในซอยนั่นทันที แต่ทว่า...

   “ขอภัยด้วยนะคะ ตอนนี้ห้องพักเต็มค่ะ" พนักงานของโรงแรมก็ดันตอบออกมาแบบนี้

   “แล้วแถวนี้พอมีโรงแรมอื่นที่อยู่ใกล้ ๆ บ้างไหมครับ" ผมเอ่ยถามอย่างสุภาพ เพราะนี่ก็ 3 ทุ่มกว่าแล้ว ลมทะเลในตอนนี้ก็หนาวเหลือเกิน ผมไม่อยากไปเดินตากลมนาน ๆ ในขณะที่ผมกำลังรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวหรอกนะ

   “ใกล้สุดก็โรงแรม... แป๊บนะคะ" เธอหยุดชะงักชั่วครู่ก่อนจะหยิบแผ่นกระดาษเล็ก ๆ ภายในลิ้นชักออกมา "โรงแรมนี้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้จองไว้โรงแรมที่อยู่ริมหาดมักจะเต็มนะคะ ถ้าอยากได้ชัวร์ ๆ ก็ต้องเข้าไปในตัวเมืองหน่อยซึ่งก็อยู่ไกลพอสมควรค่ะ"

   “ขอบคุณครับ" ผมรับใบปลิวแผ่นนั้นมา ซึ่งโรงแรมที่พนักงานบอกก็คือโรงแรมของคุณชายนั่นแหละ

   แม้ว่าในยามนี้จะมืดมิด ทว่าร้านอาหารรวมทั้งผับบาร์ริมหาดกลับคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สังเกตจากผมทองผมแดงที่มากมายตามหน้าร้านเหล่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวเอเชียก็พอมีให้เห็นบ้างอย่างประปราย

   ความอ่อนเพลียจากการตากฝนทำให้ผมตัดสินใจนั่งพักอยู่ที่ริมทางสักครู่ ระหว่างนั้นมีคนเดินผ่านไปผ่านมามากมาย ทุกคนล้วนมากันเป็นหมู่คณะหรือไม่ก็มากันเป็นคู่ ๆ เห็นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ แล้วจู่ ๆ ภาพของคุณชายก็แว๊บเข้ามาในหัวสมอง

   ถ้าในตอนนี้มีคุณชายนั่งอยู่ด้วย... ผมก็คงไม่รู้สึกเหงา แต่ผมก็ทำได้แค่คิด ไม่รู้ว่าหลังจากคืนนี้ผ่านพ้นไป ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณชายจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า ผมไม่อยากคาดเดาอะไรทั้งนั้น

   เหตุการณ์ที่ชายหาดมันทำให้ผมรู้แล้วว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณชายมันคืออะไรกันแน่ แต่คุณชายนี่สิดูท่าจะไม่ยอมรับง่าย ๆ และถ้าคุณชายไม่ยอมรับขึ้นมา ก็ไม่แน่ว่าวันพรุ่งนี้อาจจะเป็นวันสุดท้าย... ที่ผมได้มีโอกาสรับใช้คุณชายในฐานะพี่เลี้ยงก็ได้

   ผมพยายามคาดหวัง... ว่าคุณชายจะคิดเหมือนผม แต่ผมก็รู้ดีว่าโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้นมันน้อยนิดเหลือเกิน ยิ่งคิดมันก็ยิ่งหวาดหวั่นยิ่งรู้สึกกลัว ไม่อยากจะหวังอะไรมากเพราะกลัวผิดหวังมาแล้วจะเจ็บ

   'ไอ้เรามันก็แค่เด็กปั๊มจน ๆ ข้าวเอ๊ย อย่าไปหวังอะไรมากเลย' เพราะฐานะทั้งทางการเงินและทางสังคมที่ต่างกันมากมาย มันเลยทำให้ผมเจียมตัวเสมอ...

   เมื่อผมรู้สึกว่าผมนั่งพักจนหายเหนื่อยและมีแรงพอที่จะเดินหาโรงแรมต่อผมก็ลุกขึ้น ทว่าในระหว่างนั้น... ก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาทักทาย

   “สวัสดี... ชื่ออะไร แล้วคิดคืนเท่าไหร่" ผู้พูดเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำ เขามีผมสั้นสีบลอนด์เงิน หน้าตาของเขาราวกับหลุดออกมาจากหนังแฟนตาซีที่คุณชายชอบพาไปดูในโรงภาพยนตร์บ่อย ๆ สำหรับผมแล้วชายหนุ่มต่างชาติคนนี้จัดว่าเป็นคนที่หน้าตาหล่อเหลาเอาการเลยล่ะ เสียแต่ว่าเขากำลังเมาเท่านั้น

   “ว่าไง คิดคืนเท่าไหร่" เขาคุยกับผมเป็นภาษาสากล ส่วนผมได้แต่ยิ้มแหย ๆ เพราะแปลไม่ออกว่าเขาพูดอะไร

   “บาย ๆ พรุ่งนี้เจอกัน" ผมเอ่ยลาเป็นภาษาอังกฤษ แล้วรีบวิ่งหนีทันที ไม่สนใจว่าจะโดนชายหนุ่มต่างชาติคนนั้นมองอย่างไร สำหรับผมแล้วภาษาอังกฤษเป็นอะไรที่บรมโง่เลยล่ะ โชคดีที่ผมยังจำคำบอกลาคุณครูในชั้นเรียนสมัยมัธยมเวลาที่เรียนภาษาอังกฤษได้ อย่างน้อยเขาก็จะได้รู้ว่าผมบอกลาแล้วและไม่ต้องการคุยกับเขา

   “เฮ่... นาย" ชายหนุ่มต่างชาติตะโกนให้หลัง แต่ผมก็ไม่สนใจตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไปจนกระทั่งวิ่งไปได้สักระยะ เห็นชายหนุ่มคนนั้นยังหยุดยืนอยู่ที่เดิมซึ่งก็ไกลจากจุดที่ผมวิ่งมาถึงพอสมควร ผมเลยชะลอฝีเท้าค่อย ๆ กลับมาก้าวเท้าเดินช้า ๆ อย่างปกติ

   'เกือบไปแล้วไหมล่ะ สงสัยจะมาถามทางสินะ ขอโทษนะครับพอดีผมมันโง่ภาษาอังกฤษ' ผมได้แต่นึกโทษตัวเองในใจที่ตอนเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่เคยตั้งใจและไม่คิดจะพยายามเข้าใจสักที

   ระหว่างนั้น... รถเก๋งสีขาวมุกก็มาหยุดจอดที่ข้างทางในจุดที่ผมกำลังเดินอยู่ ในทีแรกผมไม่ได้สนใจอะไรและก้าวเดินแต่ไปแต่พอกระจกรถถูกหมุนลงแล้วคนขับรถตะโกนถามผมเท่านั้นแหละ ผมก็เลยหยุดยืนสนทนากับเขา

   “นายจะไปไหน... มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า" ผู้พูดเป็นชายหนุ่มน่าจะอายุมากกว่าผมไม่ต่ำกว่า 10 ปี เขาสวมแว่นตาดำแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาวกางเกงสามส่วน

   “พอดีจะหาโรงแรมพักน่ะครับ แถวนี้ไม่มีห้องว่างเลย" ผมตอบอย่างสุภาพ ในใจก็นึกสงสัยว่าเขาจะหยุดรถแล้วมาสนใจผมทำไม
   “ขึ้นมาสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง" ชายหนุ่มเอ่ยทักอย่างสุภาพ

   “ไปส่งเหรอครับ" ผมทวนถาม ชายหนุ่มพยักหน้ารับทันที

   “ใช่ ขึ้นมาเร็ว ๆ" ชายหนุ่มเร่งเร้า ผมเองที่ไม่ได้คิดเอะใจอะไรเลยตัดสินใจเปิดประตูรถขึ้นไปทันที

   “ขอบคุณนะครับ พี่... ชื่ออะไรครับ ผมข้าวนะครับ" ผมเอ่ยทันทีหลังจากที่ปิดประตูรถ อย่างน้อยทำการทักทายกับผู้มีพระคุณอย่างมีมารยาทก็คงจะไม่เสียหายอะไร

   “พี่ใหญ่ครับ...” ชายหนุ่มตอบออกมา เสียงของเขานุ่มฟังดูคล้ายกับเสียงของนักร้องอย่างไรอย่างนั้น "ว่าแต่น้องข้าวมาทำอะไรที่หาดคนเดียวครับเนี่ย"

   “เอ่อ... ผมมา...” ผมตอบตะกุกตะกัก เพราะเหตุผลที่แท้จริงในสิ่งที่พี่ใหญ่ถามมันช่างน่าขำยิ่งนัก "มาเที่ยวครับ แต่ไม่ได้จองห้องพักไว้เพราะไม่คิดว่าห้องพักจะเต็ม"

   “คงเคยมาครั้งแรกสิท่า" พี่ใหญ่ถามด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดู

   “อืมครับ" ผมตอบรับ "แล้วทำไมจู่ ๆ พี่ใหญ่ถึงจอดรถรับผมล่ะครับ ไม่คิดว่าผมเป็นพวกมิจฉาชีพบ้างเหรอ"

   “ฮ่า ๆ ๆ" สิ้นเสียงของผมคนที่ถูกถามก็หัวเราะเสียงดังลั่น "แล้วทำไมข้าวไม่คิดว่าพี่เป็นพวกมิจฉาชีพบ้างล่ะถึงกล้าขึ้นรถมากับพี่"

   สิ้นเสียงของพี่ใหญ่ ผมก็เหล่สายตาไปมองด้วยความหวาดระแวงทันที เห็นรอยยิ้มที่แสยะออกมาที่มุมปากมันยิ่งทำให้ผมเริ่มระแวงเสียแล้วสิ... ว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดจะทำอะไรกันแน่

   “เฮ้ย! พี่ไม่ทำไรหรอก ล้อเล่นน่ะ"

   ทว่าในระหว่างที่พี่ใหญ่กำลังขับรถอยู่นั้น รถมอเตอร์ไซค์ที่ขับตามมาก็ได้เร่งแซงขึ้นหน้าและมาจอดขวางทางรถของพี่ใหญ่เอาไว้จนทำให้ต้องเบรกกะทันหัน

   พี่ใหญ่บีบแตรเสียงดังลั่น ปากก็สบถคำหยาบคายออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมอเตอร์ไซค์ไม่ยอมไปสักที พี่ใหญ่ก็เลยเปิดประตูลงไปสงสัยว่าจะไปหาเรื่องชายหนุ่มที่สวมหมวกกันน็อกปกปิดใบหน้าเอาไว้

   ผมเปิดประตูตามลงไปเพราะคิดว่าอย่างน้อยถ้ามีเรื่องอะไรก็น่าจะพอช่วยพี่ใหญ่ได้บ้าง แต่ทว่าคำสนทนาของคนทั้งคู่กับทำให้ผมถึงกับสะอึก




จบตอน...
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน15 P.10] - 08/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 14-11-2013 04:02:24
คุยกับคนอ่านครับ ^^

คุณ pornumpai-ka :: 555 อยากแต่ง NC เหมือนกันครับ แต่ไม่เอาดีกว่า สกิลไม่ถึง คิคิ
คุณ loveaaa_somsak :: จริงครับ!! ข้าวลืมแล้วจะรู้สึก เกลียดคำว่า 'ลืม' ของคุณชายจริงๆ
คุณ iamnan :: 555 อย่างข้าวไม่น่าจะลืมได้ง่ายๆ ครับ ยอมทุกอย่างซะขนาดนั้น
คุณ saradino1 :: เอ๋า... ฮ่าๆ ว่าคุณชายท่ามาก แต่แจกดอกไม้ให้คุณชายซะงั้น 555 นึกว่าจะให้ข้าวเป็นการปลอบใจซะอีก
คุณ suikajang :: *0* ความอดทนของคนเราไม่ได้กว้างเท่าทะเลนะ คมมากๆ ครับ ฮ่าๆ ไวเดี๋ยวยืมใช้ในนิยายบ้าง คิคิ
คุณ tomnub :: คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ แต่.. รออีกสักหน่อยนะครับ ฮ่าๆๆ คุณชายจะต้องโดนดัดนิสัยบ้าง
คุณ poppycake :: ฮ่าๆๆ ยืมบรรยากาศหนังไทยมาเยอะครับ ฝนพรำแล้วจับปล้ำซะ กร๊ากๆๆ :hao6:
คุณ B52 :: ณ จุด ๆ นี่ ความหมั่นไส้จะทวีเพิ่มขึ้นไปอีก เฮ้อ...
คุณ Pe๊aNu๊T :: 555 เดี๋ยวได้ห่างกันสมใจละครับ คิคิ
คุณ BlueHoney :: เตะคุณชายเลย สนับสนุนครับ (ไม่ห่วงตัวละครตัวเองด้วย) แต่เตะข้าวเค้าไม่ยอม แฮ่ๆ
คุณ lizzii :: 555 ใจดี ดี ซื่อ บื้อ ให้มันสุดสู๊ดดดเพื่อรอวันระเบิดครับ  :hao6:
คุณ iammz :: ขอบคุณเหมือนกันคร้าบ ^^ มาอ่านก็ดีใจแล้วครับ คิคิ
คุณ WednesdayAugust :: สมน้ำหน้า 555 ยอมมากไป รู้สึกเหมือนแต่งไปแต่งมา ตัวละครข้าวจะแบนแบบ (วันเฉลิม) จนเริ่มรำคาญกันซะแล้ว แต่อดทนรำคาญอีกซักหน่อยครับ ข้าวมันไม่ได้มีดีอย่างเดียวหรอก รอให้ถึงขีดสุดก่อนแล้วค่อยระเบิดลง (เอ๊ะ!! มันจะลงยังไงหว่า)
คุณ ลิงน้อยสุดเอ๋อ :: คิคิ ต้องลองติดอยู่ในบรรยากาศแบบนั้นครับ
คุณ -west- :: 555 นั่นสิครับ ถ้าเกิดข้าวมันลืมหรือแกล้งลืมไม่สนใจจริงๆ ใครจะลงแดงก่อนนะ หึหึ คนที่โดนตามใจมาตลอดนั่นแหละ จะตายเอา คิคิ
คุณ MaNaSsAwEe :: ฮ่าๆๆ บรรยายไม่เก่งครับ(เก่งแต่ปฏิบัติ) เฮ่ย!!ไม่ใช่แล้ว 555 จริงๆก็อยากบรรยายครับ แต่กลัวว่าเรทมันจะรุนแรงฉูดฉาดเลือดกำเดาไหลกันเกินไป เลยเอากลอน(ตลกๆ)ซอร์ฟๆไปแทนครับ
คุณ mentholss :: 5555 คุณชายไปถ่วงทะเลไม่ได้ครับ เดี๋ยวเรื่องไม่จบ คิคิ
คุณ Lily teddy :: 555 ผมอ่านผมก็ขำตรงบทอัศจรรย์เหมือนกันครับ แปลกๆ ดี แต่ดีใจนะครับที่อ่านแล้วฮา ในขณะที่เครียด ๆ เศร้า ๆ เซ็ง ๆ ก็ได้ฮาเพราะบทกลอนไปด้วย เอิ๊กๆๆๆ
คุณ mur@s@ki ::  :hao5: 'ยอม' เป็นอะไรที่เจ็บมากๆครับ ยอมโดนกระทำฝ่ายเดียวเฮ้อ ไอ้คุณชายมันจะไปรู้สึกอะไร คิดอะไร อยากทำไรก็เอาแต่ใจตัวเองไม่นึกถึงคนอื่น แต่อยากเห็นเหมือนกันนะครับฉากข้าวไม่ยอมแล้วจะเกิดอะไรขึ้น หึหึ
คุณ April❤ :: 555 ดีเกินไป... เป็นเหตุผลที่ไม่เคยเข้าใจ น่าใช้เหตุผลนี้ให้คุณชายบอกเลิกข้าว เอิ๊กๆ
คุณ Dee^daY :: ฮ่าๆๆ ผลัดกันรุกผลัดกันรับครับ กร๊ากกก เรื่องตอนหลังจะเป็นเรื่องที่ข้าวเอาคืนคุณชายบ้างครับ 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 14-11-2013 05:57:47
เกิดอะไรขึ้น 
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pornumpai-ka ที่ 14-11-2013 09:04:28
 o22 o22 o22 o22

มันเกิดอะไรขึ้น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


ทำงี้ได้ไงมาต่อด่วน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 14-11-2013 09:18:09
ใครตามมาเจอ? เกิดอะไรขึ้น

ปล.อย่าหายไปนานน๊าาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 14-11-2013 12:29:29
ลุ้นระทึกอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-11-2013 12:53:29
ไอ้คุณชาย~~~~~~~~~~~~!!!!!!!!!!!!!

ถ้าข้าวโดนฉุดไป ทำไงฟร้าาาาาาา  :m31: :m31: :m31: :m31: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 14-11-2013 13:23:06
เย้ย ข้าวจะโดนพาไปไหนเนี่ย
เพราะคุณชายแท้ๆเลยนะ..น่าจับไปตีกันจริง หุหุ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 14-11-2013 13:37:55
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกสงสาข้าวมาก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-11-2013 14:52:03
น้านนนน ความอยาก(รู้)&อาการค้างบังเกิดได้อีก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 14-11-2013 18:01:01
ข้าวจะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย แล้วเกิดอะไรขึ้น โอ๊ยยย ค้างงงง  :sad4:

ป.ล. รอดูกันต่อไป >_<
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 14-11-2013 18:48:33
อ๊ากกกก

ค้างอ่ะ :ling2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 14-11-2013 19:13:55
ตัดฉับ... ฮื่อออออออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 14-11-2013 19:51:38
ค้างอย่างแรงส์!!!!!!!!!!! :z3: :z3:
หัวข้อ: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 14-11-2013 19:54:52
ตามมาหื่นด้วยคนนะ คุณชายนะคุณชายถ้าเกิดข้าวเป็นอะไรขึ้นมานะ มี.... บ้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 14-11-2013 20:37:48
ใครกันน่ะ!!!



มาเก็บค่าแชร์
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 14-11-2013 20:57:59
อะไรอ่ะ เกิดอะไรขึ้น
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 14-11-2013 22:19:37
 :hao7:  ค้างจ้าๆ  :hao5:
 :m31: อิคุณชายทิฐิเยอะระวังเน้อ ตัวละครเพิ่มมาแล้วก๋า จักวันเสียข้าวไปแล้วจะรู้สึก  :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 14-11-2013 22:22:26
แง๊ๆๆๆ เค้าคุยอะไรกัน~ อยากรู้ค่ะ >.<
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-11-2013 22:30:55
คุณชายไล่เค้าแล้วทำเท่ห์ตามมาง้อรึไง
เชอะ !!!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-11-2013 19:51:38
 :angry2:คุณชายเอาอีกแล้วนะ ถ้าข้าวเป็นอะไรไปนะจะรู้สำนึก ฮึ
ข้าวจะเจออะไรไม่ดีหรือเปล่า
ลุ้นมาต่อเร็วๆนะ มันค้าง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NUTTYZERO ที่ 16-11-2013 00:04:22
ตามอ่านมาจนทันแล้ว...ชอบมากครับเรื่องนี้

ขอสมัครเป็นแฟรคลับเรื่องนี้ด้วยคนนะครับ ^^

ปล.คนแต่งโรคจิตเบาๆนะเนี้ย...ชอบเขียนบทถึงจุดไคล์แม็ก แล้วตัดฉับ ค้างเลย 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 16-11-2013 19:42:58
ง่ะ เห็นชื่อตอนแล้วสะอึกเหมือนกันค่ะ  คิดแล้วว่าคุณชายคงงี่เง่าอะไรกะข้าวอีกแน่
จริง ๆ ข้าวก็น่าจะปล่อยให้คุณชายนอนพื้นซะบ้างก็ดี (แต่คงเป็นไปไม่ได้) อยากทำอะไรก็ปล่อยให้ทำ ในเมื่อข้าวไม่ได้ผิดอะไรซักหน่อย
แต่เพราะทิฐิของข้าวเหมือนกันนะที่ประชดคุณชายแบบนั้น คนที่ลำบากก็คือข้าวเองแท้ ๆ มืดค่ำขนาดนั้น
กับสถานที่ ๆ เราไม่รู้จัก นอกจากจะลำบากยังอันตรายด้วย แล้วตกลงพี่ใหญ่เป็นใคร มีจุดประสงค์อะไรรึเปล่าไม่รู้
แล้วคนขี่มอไซค์คนนั้นอีกคุยอะไรกะพี่ใหญ่นะ ที่ทำให้ข้าวถึงกับต้องสะอึก จะว่าคนขี่มอไซค์เป็นคุณชาย
ที่มาตามหาข้าวก็คงไม่ใช่  เพราะนอกจากมีแรงอาละวาดใส่ข้าวแล้ว คุณชายคงไม่มีแรงมาตามง้อข้าวให้เสียศักดิ์ศรีหรอก
แล้วอย่างงี้ข้าวจะทำยังไงล่ะ ยังไงก็ขอให้ข้าวอย่าเจอเรื่องลำบากไปมากกว่านี้เล้ย 
แล้วเรื่องคุณชายกะครอบครัวยามบอลอีก ต่อไปจะมีบทบาทมากขึ้นไหมนะ เพราะสงสัยเหมือนกันว่าทำไมคุณชายถึงยอมฟังยามบอล
หรือคิดอีกแง่เวลาอยู่กะคนอื่นคุณชายคงจะแสนดีไม่ดื้อ ไม่รั้น ไม่เอาแต่ใจเหมือนเวลาอยู่กะข้าวรึเปล่า 
แล้วยามบอลกะซีอีก ท่าทางจะยืมตัวใครซักคนมาจีบข้าวให้คุณชายหึงไม่ได้ซะแล้วล่ะมั่ง (อิอิ จิ้นเองอีกล่ะ)
งั้นเรื่องแก้แค้นคงต้องรอไปก่อน ตอนนี้ขอให้ข้าวปลอดภัยก่อนล่ะกันเนอะ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนมาต่อไว ๆ นะคะ เพราะมันค้างมากอะ   :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 25-11-2013 10:18:23
สงสัยจะต้องยุให้ข้าวไปมีคนใหม่จริงๆละมั้งทีนี้ 555

พึ่งได้เข้ามาอ่าน งานเยอะมาก ทั้งงาน ทั้งเรียนภาษา  :sad4:

ยังงัยก็เป็นกำลังใจให้เสมอนะคราบผม

+  :กอด1:  :mew1: ขอฟัด 100% ที่หายไปนาน อิอิ...
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 01-12-2013 23:03:39
ดินต่างฟ้า กับ ขนมสุดโปรด






         “พี่ใหญ่... จะหลอกพาข้าวไปไหน" เสียงของชายหนุ่มคุ้นหูยิ่งนักและพอพิจารณาจากชุดเครื่องแบบของยามที่ใส่ผมจึงมั่นใจได้ว่านั่นคือยามบอล

   “ไอ้บอลเองเหรอ มึงจะมาตัดหน้ารถกูทำไมวะ" เหมือนว่าสองคนนี้จะไม่ถูกกันมาก่อนเพราะน้ำเสียงของพี่ใหญ่แสดงถึงความพร้อมที่จะมีเรื่องเต็มที่

   “ข้าวเป็นเพื่อนของผม ผมไม่ยอมให้พี่ใหญ่หลอกพาข้าวไปทำเรื่องอย่างว่าหรอก" ยามบอลพูดกับพี่ใหญ่ก่อนที่จะหันหน้ามาทางผมที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ "ข้าวขึ้นรถ พี่ใหญ่มันเป็นพวกชอบซื้อบริการเด็ก หรือไม่ก็หลอกเด็ก... ไปทำเรื่องอย่างว่า"

   สิ้นเสียงของยามบอล ไม่ต้องรอให้สมองไตร่ตรองอะไรผมรีบกระโดดขึ้นไปบนหลังรถมอเตอร์ไซค์ของยามบอลทันที

   “โธ่เว้ย!!! ไอ้เชี่ยบอล มึงนี่มันมารผจญกูชัด ๆ" พี่ใหญ่สบถออกมา เขาไม่ได้ยื้อแย่งชิงตัวของผมแต่อย่างไร

   ยามบอลขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทันที ผมลองหันไปมองด้านหลังเห็นสายตาของพี่ใหญ่ที่แสดงถึงความอาลัยอาวรณ์สุดฤทธิ์ทว่าคิ้วที่ขมวดมุ่นก็แสดงให้เห็นถึงความหงุดหงิดอย่างชัดเจนเช่นกัน

   “บอล...” ผมเอ่ยขึ้น

   “ครับคุณข้าว" ยามบอลตอบรับ

   “นี่มันอะไร ตกลงพี่ใหญ่เป็นใครกันแน่" ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “อย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับ เมื่อ 2 ปีก่อน ไอ้ซีก็เคยเกือบโดนไอ้ใหญ่หลอก แต่พอดีผมขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาเห็นพอดีผมก็เลยช่วยซีเอาไว้ได้ทัน" ยามบอลตอบออกมาก่อนที่จะจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ข้างทาง ชายหนุ่มปลดล็อกที่หมวกกันน็อคก่อนจะหิ้วไปด้วยแล้วเดินนำไปยังที่นั่งริมหาดโดยมีผมที่แม้จะสงสัยว่ายามบอลจะทำอะไรกันแน่เดินตามไปติด ๆ "ว่าแต่คุณข้าวมาทำอะไรคนเดียวดึก ๆ ดื่น ๆ ครับ"

   “เอ่อ... ผม...” ผมก้มหน้าลงมองเม็ดดิน ผมไม่อยากจะตอบหรอกนะว่าผมทะเลาะกับคุณชายก็เลยต้องไปหาที่พักใหม่ แต่สงสัยว่าหน้าตาของผมจะแสดงออกชัดเจนเกินไปยามบอลก็เลยเอ่ยออกมาอย่างรู้ทัน

   “ทะเลาะกับคุณชายใช่ไหมครับ คุณชายก็เป็นซะแบบเนี้ย เอาแต่ใจ พูดอะไรไม่ค่อยคิดถึงความรู้สึกของใครหรอก" ยามบอลเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มก่อนที่จะหันมามองผมด้วยสายตาที่บริสุทธิ์ใจ "แต่คุณข้าวรู้ไหมครับ ว่าคุณชายน่ะเป็นห่วงและรักคุณข้าวมาก ๆ เลยนะครับ"

   ผมเห็นขวับไปจ้องยามบอลตาเขม็งทันที

   “ฮ่า ๆ ๆ จริง ๆ ครับ" ยามบอลยังไม่ยอมแพ้พยายามที่จะพูดต่อไป "คุณชายไม่เคยพาเพื่อนคนไหนขึ้นไปนอนบนห้องของคุณชายเลยนะครับ ผมไม่เคยเห็นคุณชายยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุขเวลาอยู่กับใครเลยนอกจากคุณข้าว ตอนที่คุณข้าวป่วยหนัก คุณชายก็กระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะครับ แต่ติดที่คุณชายออกจะปากแข็งนิดหน่อยก็เท่านั้น"

   “ไม่จริงหรอกบอล" ผมเถียง ถ้าคุณชายห่วงผมจริงคงไม่แสดงออกถึงความรังเกียจขนาดนั้นหรอก "ถ้าคุณชายห่วงผม คุณชายก็คงไม่ไล่... เอ๋...”

   ผมชะงักไปชั่วครู่ พอคิดย้อนกลับไปยังเหตุการณ์เมื่อตอนที่อยู่ห้องของคุณชายแล้ว คุณชายไม่ได้ไล่ผมออกจากห้องสักนิด แต่ผมต่างหากล่ะที่ตัดสินใจออกมาเองเพราะรู้สึกน้อยใจที่คุณชายแสดงออกถึงความรังเกียจขนาดยอมปูเสื่อนอนที่พื้นด้านล่างแล้วให้ผมนอนบนเตียง

   “ความจริงคุณชายบอกให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะครับ แต่ผมเห็นคุณข้าวเป็นแบบนี้แล้วผมก็อดที่จะบอกไม่ได้" ยามบอลเว้นจังหวะชั่วครู่ก่อนที่จะยิ้มให้ผมแล้วพูดออกมา "หลังคุณข้าวออกจากห้อง คุณชายก็โทรมาหาผม บอกให้ผมขับรถดูตามชายหาดเพราะคุณชายรู้ดีว่าช่วงนี้ห้องพักริมทะเลคงเต็มหมดอีกทั้งการที่มาเดินคนเดียวยามกลางคืนแบบนี้ริมหาดมันอันตราย คุณชายเลยขอให้ผมช่วยตามหาคุณข้าวแล้วพาคุณข้าวกลับห้อง"

   “จริงดิบอล" ผมเอ่ยขึ้นอย่างอัศจรรย์ใจ คนอย่างคุณชายมีหรือที่จะห่วงใยใครจริง ๆ

   “จริงสิครับ ผมเองก็อดทึ่งไม่ได้เหมือนกันว่าจะมีใครที่ทำให้คุณชายเป็นห่วงเป็นใยได้ขนาดนี้ คุณข้าวนี่โชคดีจริง ๆ นะครับ"
   “เหรอ...” ผมหลบสายตาแล้วแกล้งมองฟ้ามองดูเรื่อยเปื่อยเพราะไม่อยากให้ยามบอลเห็นสีหน้าและแววตาที่เก้อเขินในยามนี้

   “นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณชายคงเป็นห่วงคุณข้าวแย่ กลับกันเลยไหมครับคุณข้าว...” ยามบอลเอ่ยถาม ก่อนที่จะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วยิ้มแก้มปริ "นั่นไง พูดยังไม่ทันขาดคำก็โทรมาซะแล้ว สงสัยจะโทรมาถามว่าเจอคุณข้าวยัง"

   “อย่าเพิ่งบอกคุณชายนะว่าเจอผมแล้ว" ผมรีบยกไม้ยกมือบอก

   “ครับ" ยามบอลยิ้มรับก่อนที่จะกดรับโทรศัพท์ทันที "ครับคุณชาย"

   สิ้นเสียงทักทายยามบอลก็เงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่ตอบออกไปว่า

   “ยังไม่เจอเลยครับ คุณชายเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะครับ ผมจะได้รีบช่วยตามหาคุณข้าวให้พบ" ยามบอลแกล้งทำเสียงร้อนลน "ครับ ๆ"

   แล้วสุดท้ายก็วางสายไป ยามบอลเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋ากันเกรงก่อนที่จะขำออกมาอย่างพอใจแล้วเอ่ยว่า

   “คุณชายเป็นห่วงคุณข้าวมาก ๆ เลยนะครับ พอผมบอกว่ายังไม่เจอตัวคุณข้าว น้ำเสียงก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด"

   “ดี... ให้คุณชายได้รู้จักห่วงคนอื่นซะบ้าง" ผมเผลอพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว

   “คุณข้าวว่าอะไรนะครับ" ยามบอลเอ่ยถาม สงสัยจะได้ยินที่ผมพูดไม่ถนัด

   “เอ้อ... เปล่า ๆ ครับ ไม่มีอะไร" ผมตอบออกไปเพราะไม่อยากให้ยามบอลได้รับรู้ถึงความคิดที่ชั่วร้ายของผม "ว่าแต่แถวนี้มีตลาดกลางคืนรึเปล่าครับ ช่วยพาผมแวะหน่อยได้ไหม"

   “ได้สิครับ" พูดจบยามบอลก็เดินนำผมไปยังรถมอเตอร์ไซค์ทันที คิดแล้วก็อดทึ่งไม่ได้ หน้าตาที่คมเข้ม บุคลิกท่าทางการเดินที่สง่ามันทำให้ยามหนุ่มคนนี้ดูมีเสน่ห์อยู่ไม่น้อย









   ตลาดโต้รุ่งแถวชายทะเล ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปดึกสักแค่ไหนก็คึกคักตลอดเวลา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรวมถึงคนในพื้นที่หมุนเวียนกันมาจับจ่ายซื้อของ

   ของที่ขายในตลาดก็ไม่ได้มีเพียงของกินเท่านั้น มีทั้งเสื้อผ้า ของเล่นเด็ก ของฝากหรือแม้แต่มุมนั่งดื่มของนักดื่มคอแข็งทั้งหลายก็ตาม

   “คุณข้าวจะซื้ออะไรครับ เผื่อผมช่วยแนะนำได้" ยามบอลเอ่ยขึ้นหลังจากที่จอดรถมอเตอร์ไซค์เสร็จ

   “ขนมเบื้องหน้าฝอยทองหรือไม่ก็ขนมบ้าบิ่นอ่ะ ที่นี่มีขายหรือเปล่าครับ" ผมตอบออกไป เพราะเวลาคุณชายหงุดหงิดทีไรนอกจากขนมฝีมือป้านุ่มแล้ว ก็มีแต่ขนมเบื้องหน้าฝอยทองและขนมบ้าบิ่นแหละที่จะทำให้คุณชายใจเย็นลงได้

   “มีครับ... น่าจะอยู่ทางนั้น" พูดจบยามบอลก็ชี้นิ้วไปยังแถวกลาง ๆ ก่อนจะเดินนำเข้าไปยังแถวนั้นแล้วเดินตรงไปด้านใน

   ตลอดทางมีกลิ่นหอมของทั้งขนมและอาหารที่น่าเอร็ดอร่อยมากมายมาเตะจมูก แม้จะทานอาหารมื้อเย็นที่บ้านของยามบอลมาจนอิ่มหนำสำราญแล้ว แต่พอได้กลิ่นของแปลก ๆ ที่หากินได้ยาก ท้องไส้มันก็ร้องประท้วงออกมาเป็นว่าเล่นซะอย่างนั้น

   “นั่นไงครับขนมบ้าบิ่น" ยามบอลชี้ไปยังร้าน ๆ หนึ่งซึ่งเป็นรถเข็นที่มีกระจกใสกั้นอยู่ ภายในกระจกใสมีขนมบ้าบิ่นที่ทำเสร็จแล้วอยู่ 2 ถุง

   “ขนมบ้าบิ่นถุงเท่าไหร่ครับ" ผมเอ่ยถาม... คนขายขนมเป็นหญิงสาวร้านใหญ่ หน้าตาไม่ค่อยต้อนรับแขกสักเท่าไหร่เพราะคิ้วของเธอจะขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าขณะนี้ลูกค้าจะกำลังยื่นอยู่หน้าร้านของเธอก็ตาม

   “25 บาท ค่ะ" เธอตอบออกมาด้วยความสุภาพ

   “งั้นเอาสองถุงเลยครับ" ผมสั่ง จากนั้นเธอก็หยิบขนมบ้าบิ่นและผมก็ได้จ่ายตังค์ในทันที

   หลังจากที่ซื้อขนมบ้าบิ่นเสร็จ เดินตรงไปด้านในอีกสักพักก็เจอกับร้านขายขนมเบื้อง และในระหว่างนั้นเอง

   “ขอขนมเบื้องชุดนึงครับ" เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นสั่งพ่อค้าขนมเบื้องพร้อม ๆ กับเสียงของผม... มันเป็นเสียงที่คุ้นเคยและเป็นเสียงที่ผมอยากได้ยินที่สุดในตอนนี้

   พอหันหน้าไปมองชัด ๆ ใบหน้าที่น่ารักน่าชัง ผิวที่ขาวเด่น ดวงตาที่กลมโตคู่นั้นก็กำลังจับจ้องผมเช่นกัน

   “ข้าว"

   “คุณชาย"

   เราสองคนต่างเอ่ยเรียกกันและกัน และไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัวอะไรคุณชายก็เขยิบเข้ามาใกล้ ๆ ทำท่าว่าจะโอบกอดผมแต่ก็ชะงักเสียก่อน แววตาที่แสดงออกถึงความห่วงใยในทีแรกพลันเปลี่ยนไปเป็นแววตาแห่งความขัดใจก่อนที่เบือนหน้าหนี

   “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณข้าวกลับกับคุณชายเลยนะครับ... ผมขอตัวไปทำงานก่อนละกันครับ" ยามบอลไม่รอให้ผมและคุณชายได้เอ่ยอะไร เขารีบก้าวขาเดินจากไปทันทีที่พูดจบ

   ผมได้แต่ขอบคุณยามบอลในใจเพราะถ้าไม่ได้เขามาช่วยเอาไว้ ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ผมจะเป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้งยามบอลยังเป็นคนที่เอาความลับเรื่องที่คุณชายเป็นห่วงผมมาเล่าให้ผมฟังอีก พอนึกถึงตอนที่คุณชายกำลังกระวนกระวายที่ผมหายตัวไป มันก็อดที่จะยิ้มและขำออกมาไม่ได้จริง ๆ

   “ไง... ได้ที่พักแล้วเหรอ" คุณชายเอ่ยถามอย่างลองเชิง

   “ได้แล้วครับ" ผมตอบออกไป สีหน้าของคุณชายแสดงถึงความผิดหวังแต่ก็กลับมาเป็นปกติในเวลาต่อมา

   “ขนมเบื้องได้แล้วครับ" ระหว่างนั้นพ่อค้าชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นถุงขนมเบื้องออกมา 2 ถุง แต่ก่อนที่ผมจะยื่นมือไปรับแล้วจ่ายตังค์ คุณชายก็แย่งรับถุงนั้นมาแล้วจ่ายตังค์ในส่วนของผมให้ด้วย

   “แล้วพักที่ไหนล่ะ" หลังจากที่เดินออกจากหน้าร้านขนมเบื้องคุณชายก็เอ่ยถาม

   “คุณชายจะรู้ไปทำไม... เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมก็ไปหาคุณชายอยู่ดี" ผมตอบอย่างลองเชิงเพราะอยากรู้ว่าคุณชายจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

   “เออ... ไม่รู้ก็ได้" คุณชายทำเสียงตะคอก ก่อนที่จะเดินจ้ำอ้าวไปด้วยความหงุดหงิด ผมรีบวิ่งตามร่างนั้นไป พอถึงช่วงที่คนเยอะผมก็ตามคุณชายได้ทัน

   “ผมก็จะกลับไปนอนกับคุณชายไงครับ" แล้วคำพูดของผมก็ทำให้คุณชายหยุดชะงัก

   “ใครอนุญาต" คุณชายทำเสียงเข้ม

   “อ้าว...ไม่อนุญาตเหรอครับ" ผมแสร้งทำเสียงผิดหวัง

   “เออ" แล้วคุณชายก็ตอบกลับในทันที

   “แล้วใครกัน... ที่ร้องไห้ขี้มูกโป่งขอให้ยามบอลช่วยตามหาผมกันนะ โด่... ไอ้เราก็อุตส่าห์ดีใจ..."

   สิ้นเสียงของผม นิสัยเด็ก ๆ ของคุณชายก็กลับมาทันที คุณชายหันขวับมามองผมด้วยสายตาเชือดเฉือน ก่อนจะปาถุงขนมเบื้องถุงหนึ่งมาใส่ร่างของผม

   “นิสัยเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะครับคุณชาย" ผมยังจำครั้งแรกที่ผมโดนคุณชายปาขนมไข่ใส่ศีรษะได้ หลังจากนั้นเวลาผมพูดอะไรที่ทำให้คุณชายรู้สึกเสียหน้า คุณชายก็มักจะมองหาอะไรใกล้ ๆ ตัวที่ไม่เป็นอันตรายมาปาใส่ผม แต่ผมก็ไม่ถือหรอก "ห่วงผมก็พูดมาตรง ๆ เห๊อะ เลิกเก๊กได้แล้ว"

   “ไอ้ข้าว!!! ไปติดนิสัยปากดีมาจากไหนวะ" คุณชายเอ่ยอย่างเดือดดาล

   “ก็ติดมาจากคุณชายนั่นแหละครับ" ผมตอบแล้วรีบเกาะแขนของคุณชายทันทีเพราะไม่อยากให้โทสะของคุณชายพลุ่งพล่านไปมากกว่านี้ "ผมขอโทษนะครับ ขอโทษที่ออกจากห้อง ขอโทษที่ทำให้คุณชายเป็นห่วง..."

   น้ำเสียงของผมอ่อนโยนลง เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าหมดเวลาสนุกแล้วนะ... หมดเวลาที่จะแกล้งกันเพื่อความสะใจแล้ว และเหมือนว่าคุณชายเองก็ต้องการให้ถึงเวลานี้เร็ว ๆ เหมือนกัน เพราะคุณชายตอบออกมาว่า

   “ฉัน... ฉันก็ต้องขอโทษข้าวเหมือนกัน ฉันออกมาตามหาข้าว พอดีแวะมาดูขนมเบื้อจำได้ว่าข้าวชอบ... ก็เลยจะซื้อไปเตรียมไว้ให้หลังจากที่บอลเจอตัว"

   “เปล่า ผมไม่ได้ชอบขนมเบื้องนะครับ" ผมยกมือปฏิเสธทันที "แต่ที่ผมกินบ่อย ๆ เพราะผมเห็นคุณชายชอบต่างหากผมก็เลยกินด้วย"

   ระหว่างที่พูดมือของผมก็แกะถุงขนมเบื้องไปด้วย ไม่รอให้คุณชายได้โต้ตอบอะไรผมรีบหยิบขนมเบื้องที่แตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ยัดเข้าปากของคุณชายทันที

   คุณชายทำตาดุใส่ผมแต่ก็เคี้ยวขนมเบื้องจนละเอียดแล้วกลืนลงคอก่อนจะยืดแขนมาล็อกคอผมแล้วเขกผมแรง ๆ หลายที

   “นี่แหนะ ๆ เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะ ให้มันรู้ซะบ้างว่าฉันเป็นใคร นายเป็นใคร" คุณชายบ่นไปขำไป

   “โอ๊ยยย... คุณชาย เจ็บ ๆ ๆ นะครับ" ผมแสร้งทำเสียงโอดครวญ

   “เจ็บก็ดีจะได้สำนึกซะบ้างว่าการแกล้งคุณชายเป๊กน่ะ... มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ" คุณชายค่อย ๆ คลายวงแขนออกจากคอของผมก่อนจะพูดต่อ "แต่สิ่งที่ควรทำกับคุณชายเป๊กน่ะก็คือ... ยอม! ยอมทำและยอมเป็นทุกอย่างที่คุณชายเป๊กต้องการ เข้าใจไหมไอ้ข้าว"

   ผมส่งเสียงหัวเราะ 'หึหึ' ออกมาในลำคอ ก็ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมก็ยอมทำและยอมเป็นในสิ่งที่คุณชายต้องการมาตลอด ไม่อย่างนั้น... ผมคงไม่อยู่ให้คุณชายโขกสับมาจนถึงทุกวันนี้หรอก

   “เข้าใจครับ" ผมตอบรับอย่างว่าง่าย "แล้วคุณชายล่ะ... จะยอมอะไรเพื่อผมได้บ้าง"

   “หือ...” คุณชายเบิกตาโพลงด้วยความสงสัย "จำเป็นด้วยเหรอ"

   “โด่... ขี้โกงนี่หว่า" ผมแกล้งพูดไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรจริงจัง

   “แค่ที่ฉันห่วงใยข้าว และยกให้ข้าวเป็นคนสำคัญ... ข้าวยังไม่พอใจอีกเหรอ"

   สิ้นเสียงของคุณชาย... หัวใจของผมก็กระตุกวูบวาบ... ใบหน้าก็รู้สึกร้อนผ่าวราวกับว่าเรื่องที่ได้ยินเป็นเพียงความฝัน

   “คนสำคัญเหรอครับ...” ผมทวนถามเพื่อความแน่ใจ

   “ก็เออสิวะ... คนสำคัญแต่ไม่ใช่คนรักจำเอาไว้ นายมันก็แค่คนสำคัญ" คุณชายตอบกลับ

   “ครับ... ผมมันก็แค่คนสำคัญ" ผมตอบรับด้วยความยินดี แม้มันจะรู้สึกแปลก ๆ ในคำพูดนั้น แต่ถึงขนาดเอ่ยปากยกให้ผมเป็น 'คนสำคัญ' สำหรับคุณชาย มันคงเป็นตำแหน่งที่วิเศษไม่น้อย "เออนะครับ... คนสำคัญ คนสำคัญ"

   “แล้วจะย้ำอะไรนักหนาวะ"

   “ก็แค่คนสำคัญ... มันฟังดูแปลก ๆ นี่ครับคุณชาย แต่เอาเถอะผมชอบ ฮ่า ๆ ๆ" ผมพูดไปขำไปก่อนจะเดินนำไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย พอตั้งสติได้ผมก็ชะลอฝีเท้าและวรอให้คุณชายเดินนำ เพราะผมไม่รู้ว่าคุณชายจอดรถไว้ตรงไหน

   “กลับกันเลยไหม" คุณชายเอ่ยถามก่อนจะเดินแซงผมไป

   “ก็ดีครับ แต่ก่อนกลับ... เดี๋ยวคุณชายอย่าลืมแวะซื้อยาแก้ไอที่ร้านขายยาด้วยนะครับ" เพราะคุณชายยังมีอาการไอเป็นช่วง ๆ อยู่เลย ผมก็เลยอดเป็นห่วงไม่ได้

   “ไม่ต้องแวะหรอก" คุณชายตอบ ผมทำสีหน้าฉงน "ฉันแวะซื้อแล้วล่ะ แวะซื้อยาลดไข้ให้ข้าวด้วย"

   “ครับ" ผมขานรับก่อนจะเดินก้มหน้างุด ๆ ตามคุณชายไป ไม่รู้ทำไม... แค่ได้ยินคุณชายบอกว่าแวะซื้อยาลดไข้มาให้ผมแล้ว ผมก็อมยิ้มไม่หยุด มันอาจจะเป็นอาการดีใจที่คุณชายห่วงผม เพราะเป็นคุณชายหัวแข็ง ดื้อรั้น ไม่ค่อยยอมใครแต่เพราะคนแบบนี้ดันคิดถึงความรู้สึกของผมนี่แหละ มันเลยทำให้เรื่องเล็ก ๆ กลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมไปโดยปริยาย




จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน16 P.11] - 14/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 01-12-2013 23:14:10
คุยกับคนอ่านที่น่าฮักหลายๆ >.<  :z2:

คุณ nokkaling :: 555 พี่ใหญ่มันเป็นพวกกินเด็กครับ เสียดายเนอะ น่าจะลองให้ข้าวโดนกิน คิคิ
คุณ pornumpai-ka :: แฮ่ๆ ไม่มีอะไรแล้วคร้าบ ยามบอล มาเจอพอดี
คุณ  iamnan :: T^T เข้ามาตอบตรง ปล. โดยเฉพาะ ขออภัยจริงๆครับที่หายไปนาน  :hao5:
คุณ loveaaa_somsak :: แฮะๆ ไม่มีอารายในก่อไผ่ครับ
คุณ poppycake :: เกือบโดนฉุดแล้วว ฮ่าๆๆ
คุณ Pe๊aNu๊T :: จริงครับ น่าจับไปตีกัน ^^
คุณ rmlab :: ง่า อย่าเพิ่งครับ ตอนหลังจากนี้น่าสงสารกว่าอีกครับ (น่าจะนะ)
คุณ mentholss :: T^T กลัวว่าผมจะหายไปนานจนหายค้างแล้วอ่าจิครับ (เค้าขอโทษนะ)
คุณ WednesdayAugust :: มาแล้วครับ แฮ่ๆ ไม่รู้รอนานเปล่า ขออภัยในความไม่สะดวกจริงๆครับ
คุณ pharm :: เย่... ไม่ค้างแล้วจ้าตอนใหม่มาแว้ว
คุณ -west- :: *0* ฉับ ๆ ฉึบ ๆ ชิชะ คุณ -west- ก็แอบตัดฉับบ่อยๆเหมือนกันนะ ฮ่าๆ ได้คุณ -west- เป็นไอดอลนี่แหละ  :mew1:
คุณ Bovie :: T^T ง่า... เห็นคำนี้แล้วแอบรู้สึกผิด 'ค้าง' แต่กว่าจะมาต่อล่อไปครึ่งเดือน+ แหะๆ ขออภัยนะครับ T^T ให้อภัยด้วยเน่อ
คุณ  JAROEN :: โชคดีตอนนี้ข้าวยังไม่เป็นอะไรครับ อิอิ
คุณ mur@s@ki :: 555 ยามบอลมาเก็บครับ
คุณ MaNaSsAwEe :: เกิดว่าพี่ใหญ่ตั้งใจจะหลอกกินข้าวจริงๆครับ >.< น่าจะให้พี่ใหญ่ได้ชิมสักนิดก็ยังดี เหอๆ เสียดายจัง อยากกลับไปแก้บท T^T
คุณ suikajang :: จริงครับ คุณชายมันทิฐิเยอะจริงๆ
คุณ iammz :: แฮ่ๆ มาเฉลยแล้วจ้าว่าคุยอะไรกัน
คุณ lizzii :: 5555+++ งี้แหละ พอเอาเข้าจริงก็ใจอ่อน ตาคุณชายขี้เก๊ก
คุณ B52 :: มาต่อแล้วครับผม T^T แต่ติดตรงที่ว่า "ไม่เร็ว" แหะๆ ขอโทษด้วยครับ อย่าโกรธนะ  :3123:
คุณ NUTTYZERO :: โอ้ว... ขอบคุณครับ ที่ตามอ่านจนทัน คิคิ มาตอบเด้อว่าผมไม่ได้โรคจิตเบาๆ เปลี่ยนจากเบาๆ เป็นหนักๆ เลยล่ะ 55555555555555 สาย SM จ๋าเลย  :z13:
คุณ Lily teddy :: คิคิ เดี๋ยวตอนหน้าๆจะแกล้งให้คุณ Lily teddy สะอึกกว่านี้อีกครับ อ่ะจึ๋ย >.< ตอนต่อๆ ไปผู้ที่กลับมามีบทบาทมากขึ้นจะเป็น พี่ปั๊มครับ >.< แฮ่ๆ
คุณ NJnobu :: ขอบคุณคร้าบ งานเยอะก้ยังไม่ลืมกัน จริงๆช่วงนี้ T^T ผมก็แอบยุ่งๆนิดหน่อยเหมือนกัน มาอัพช้ามากเลย  T^T  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 01-12-2013 23:26:41
 :เฮ้อ:  อิคุณชายเนี่ยพูดความจริงสักครั้งจะตายมั้ย คิดอะไรก็พูดออกไป เก๊กไว้เพื่อ สักวันคงมีบทเรียนให้ได้รับรู้  :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 01-12-2013 23:32:23
ข้าวถอนตัวยังทันนะ ต่อไปจะเจ็บลึกมากกว่านี้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 01-12-2013 23:42:42
เจอข้าวซะที ดีแล้วที่เข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-12-2013 00:05:38
หงุดหงิดข้าว จะทำตัวเป็นนางเอกยอมตลอดทำไมฟ่ะ เซ็งมาก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: capool ที่ 02-12-2013 00:37:28
เอาตรงๆเลยนะ แม่ง!เริ่มรำคาญนังข้าวแระ จะกระแดะเป็นนางเอกละครน้ำเน่าไปถึงไหน คือจากตอนแรกสงสารจนตอนนี้เริ่มสมน้ำหน้าแระอยากโง่ยอมมันทุกอย่าง เป็นคนดีนักก็เจ็บไปสมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะ แบร่ๆๆๆ  :m14:  ส่วนไอ้คุณชายนี่ก็อยากกระโดดขาคู่ถีบยอดหน้าจริงๆ  :z6:  หมั่นไส้ชิบหาย ไอ้สลัดเห็ดสด!!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 02-12-2013 00:53:19
หงุดหงิดคุณชาย คำสำคัญ แต่ไม่ใช่คนรัก มันคืออัลไลลล

สำหรับเรา ตอนนี้บอลคือพระเอกกกกกกกกก เอาไปสิบกะโหลกก มาช่วยข้าวได้ทัน น่ารักที่ซู้ดดดดด

ป.ล. คนเขียนจงดีใจนะ ที่ทำให้คนอ่านอินได้ขนาดเน้ โอ๊ยยยยยยย *ลงไปดิ้นกับพื้น*
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pornumpai-ka ที่ 02-12-2013 01:10:52
 :ling1:


น่ารักอ่ะ  ชอบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Satanza321 ที่ 02-12-2013 02:30:06
หึหึ ไอ่คุณชายเป๊ก ขี้เก๊ก ปากแข็ง :m12:
อีกหน่อยก็คงจะเป็นยิ่งกว่าคนสำคัญแหละข้าว ขนาดเป็นคนสัมคัญธรรมดายังห่วงขนาดนี้เลย :m3:
(ชายเป๊กปากแข็งจริงๆนะ ไม่ยอมรับความจริงอีกต่างหาก)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 02-12-2013 09:24:36
บางครั้ง ความรัก ก็เป็นเรื่องเข้าใจยาก ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 02-12-2013 09:51:48
คุณชายบื่อก็ยังคงเป็นคุณชายบื่ออยู่วันยันค่ำ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-12-2013 10:36:00
เกือบไปแล้วนะ ข้าว
ดีว่าได้เจ้าชาย 'บอล' ขี่ม้าขาวมาช่วย
ส่วนคุณชายอ่ะนะ ตัวประกอบมาก ขอบอก~~~~!!
55555555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 02-12-2013 21:20:47
ขออนุญาต เอาชายเป๊กไปทิ้ง...  :z6: ทั้งบื้อ ทั้งซื่อ  :beat:

ได้ว่างจริงๆซักที ทีนี้จะได้อ่านตลอดแล้ว  :hao3:

แต่...ไม่รู้ว่าจะได้อ่านต่อไปอีกนานมั้ย สิ้นปีนี้ต้องไปเรียนต่อแล้ว  :o12:  :hao5:

+  :กอด1:  :mew1: ฟัดคนเขียนซักหน่อยหลังจากที่ไม่ได้เข้ามานาน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 02-12-2013 21:30:33
คุณชายปากแข็ง
ต้องให้ข้าวเจอคนอื่นก่อนใช่ไหมถึงจะยอมพูดออกมาตรงๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 02-12-2013 23:24:37
เกือบไปแล้วไหมล่ะข้าว นี่ถ้ายามบอลไม่ขี่ม้าขาว เอ๊ยมอไซค์มาช่วยไว้ได้ทันล่ะก้อ
แล้วแหม ยามบอลอะไม่น่าบอกเลยว่าคุณชายเป็นห่วงขนาดให้ยามบอลออกตามหาข้าว
ดูสิ ข้าวดีใจหน้าบาน(คิดภาพเอง)  หายโกรธคุณชายเป็นปลิดทิ้งเลยนะ แล้วยังไม่ทันได้เห็นคุณชายกระวนกระวายชัด ๆ
คุณชายกะข้าวก็ใจตรงกันมาเจอกันที่ร้านขนมสุดโปรดซะก่อน(พยามโยงไปชื่อตอน 555)
คราวนี้เลยได้คืนดีกันง่าย ๆ เลยอะ ถึงคุณชายจะยังแอบเก๊กก็เถอะ แต่ยังดีที่สุดท้ายคุณชายก็ยอมรับว่าผิด
และยอมขอโทษข้าวเหมือนกัน ถึงข้าวต้องเป็นฝ่ายขอโทษก่อนก็เถอะ สลับกันง้อซะ
แถมคุณชายยังยอมยกให้ข้าวเป็น(แค่) คนสำคัญอีก พูดอย่างงี้ข้าวของเราก็คงต้องยอมทำและยอมเป็นทุกอย่าง
ที่คุณชายอยากให้เป็นต่อไปอีกนานเลยอะดิ รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4: :กอด1:
ปล.ถ้าจะสะอึกในตอนหน้า ๆ ขอเป็นสะอึกกะความรักที่เปิดเผยมากขึ้นของคุณชายที่มีต่อข้าวได้ไหมอะค่ะ ^^
แล้วพี่ปั้มนี่จะมีบทบาทมากขึ้นในแง่ไหนน๊า ตัวช่วย หรือตัวอิจฉาเอ่ย 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 03-12-2013 00:31:21
ตอนนี้ขอปลื้มยามบอลก่อน  อิคุณชายไว้ทีหลัง
ดีนะที่บอลมาช่วยทัน โล่งอกแทน
ถ้าคุณชายรู้นะว่าข้าวเกือบจะเจออะไร...คงยิ้มไม่ออกแน่ ชิๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-12-2013 02:24:13
ปากแข็งไม่มีใครเกิน :hao3:
แหม ก็แค่คนสำคัญ แค่นั้นเองเนอะได้ฟังก็เขินนะเนี้ย :o8:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-12-2013 02:28:40
ปากแข็งไม่มีใครเกิน :hao3:
แหม ก็แค่คนสำคัญ แค่นั้นเองเนอะได้ฟังก็เขินนะเนี้ย :o8:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-12-2013 13:54:00
คุณชายมันไปน่ารักน่าชังตอนไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 03-12-2013 23:10:15
คุณชายเป๊กยังสับสนในตัวเองอยู่หรือเปล่า
คนสำคัญๆ หืม...ปากคุณชายหนักสักกี่กิโลกัน
แต่ข้าวก็นะ ทนเกิน ถ้าวันนึง คุณชายมีคนรัก และคนสำคัญไปพร้อมกันนี่
น้องข้าวจะรับไหวหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 04-12-2013 13:25:29
 :angry2: อีคุณชายสุด(ซื่อ)บื้อเอ๊ย 
ปากนายโดนหินโปกปูนถ่วงไปหรอยะ  หนักซะไม่มีเนี่ย  :m16:
แหม น่าจับเตะซักเปรี้ยงสองเปรี้ยงนะเนี่ย  :beat:
ปล. แหะๆ ไม่ได้มาอ่านตั้งนาน เรื่อยมาถึงนี้แย้วหย๋อเนี่ย
แต่อีตาคุณชายก็ยังปากอมดอกพิกุลเหมือนเดิม  :mew5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 04-12-2013 13:44:21
ข้าวทำไมไม่โกรธอิคุณชายนานๆหน่อย
นางเอกเกินไปแล้วววว :katai4:

ส่วนอิคุณชาย...หมั่นไส้จิงๆ
ไม่มีข้าวแล้วหล่อนจะรุ้สึก :z6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 04-12-2013 21:32:53
หมั่นไส้ชายเป๊กอ่ะ เล่นตัว55 ห่วงเขาก็บอกเขาไปมาทำซึนใส่ชิช๊ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-12-2013 14:29:27
ดินต่างฟ้า กับ ข้อความสุดท้าย





         หลังจากที่กลับจากทะเล คุณชายก็แวะไปส่งผมที่บ้านทันที พอมองดูนาฬิกาก็ปรากฏว่า 10 โมงกว่าแล้ว ผมเลยจำเป็นต้องขาดเรียนช่วงเช้าไปโดยปริยายและตั้งหน้าตั้งตาไปหาอะไรทำที่ปั๊มน้ำมันแทน

   ผมไม่อยากรอเวลาอยู่บ้านเฉย ๆ เพราะตอนนี้อาการไข้ก็ลดลงจนเกือบจะหายดีแล้ว อย่างน้อยไปที่ปั๊มก็ยังได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ไม่เบื่อหน่าย

   ทว่าในระหว่างที่ผมกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้น เสียงข้อความเข้าของโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นก็ทำให้ผมต้องรีบเดินไปกดดูว่ามันเป็นข้อความของใคร

   และชื่อที่ปรากฏเด่นหราบนหน้าจอก็ทำให้ผมถึงกับยิ้มแก้มปริออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

   'คุณชายส่งข้อความมาหา' ผมเอ่ยในใจก่อนที่จะกดเปิดข้อควมแล้วอ่านข้อความทันที

   ข้าว... ตั้งแต่วันนี้... ฉันจะไม่ไปพบข้าวและข้าวก็ไม่ต้องมาหาฉันอีกนะ ฉันโตแล้ว ฉันไม่อยากมีพี่เลี้ยงแล้ว ให้เมื่อคืนเป็นความทรงจำคืนสุดท้ายระหว่างเรา โชคดีนะข้าว

   ทันทีที่อ่านข้อความจบหัวใจของผมมันก็เต้นแปลก ๆ มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับว่าผมกำลังจะสูญเสียอะไรบางอย่างที่สำคัญของชีวิตไป แล้วภาพเหตุการณ์ของเมื่อคืนหลังจากที่กลับไปถึงห้องก็ย้อนเข้ามาในหัวสมอง






   หลังจากที่ลงจากรถเบนซ์ คุณชายก็เดินจับมือผมไปตลอดทาง ผมรู้สึกแปลก ๆ ไม่แน่ใจว่าคุณชายยอมรับความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองได้แล้วหรืออย่างไร

   ฝ่ามือของคุณชายมันนุ่มนวล... นุ่มยิ่งกว่าฝ่ามือของผู้หญิงเสียอีก แม้จะมีสายตาของพนักงานหลายคู่มองเราสองคนแต่คุณชายก็ไม่ยอมปล่อยมือผมให้หลุดจากการกอบกุม แล้วนั่นมันก็ทำให้ผมรู้สึกปลาบปลื้มในตัวของคุณชายและมั่นใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณชายคงไม่มีวันที่จะทิ้งผมอีก

   “ข้าว...” หลังจากที่ประตูห้องปิดลงคุณชายก็เอ่ยเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว

   “ครับ" ผมตอบรับจากนั้นคุณชายก็เดินจูงมือผมเอาขนมที่ซื้อมาไปวางไว้บนโต๊ะก่อนที่จะวกกลับมานั่งบนเตียงนอน

   “ฉันไม่เข้าใจตัวเองเลยว่ะ ว่าทำไมเวลาที่ทะเลาะกันกับข้าวแล้วขัาวหายไป ฉันจะต้องรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้ง" คุณชายหันมามองผม สายตาของคุณชายแสดงถึงความสับสนอย่างเห็นได้ชัด "นายเป็นผู้ชาย และฉันก็เป็นผู้ชายนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันไม่เข้าใจ"

   “แล้วตอนนี้คุณชาย... เข้าใจรึยังครับ" ผมเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงบนเตียงนอนข้าง ๆ กับร่างของคุณชาย

   คุณชายไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ทว่าการกระทำของคุณชายมันเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเลยล่ะว่าคุณชายเข้าใจแล้วหรือยัง

   เสื้อกล้ามสีขาวของคุณชายถูกถอดออกจากเรือนร่างก่อนที่หลังจากนั้นคุณชายจะเอื้อมมือมาถอดเสื้อให้ผมบ้าง ในยามนี้ร่างของเรากำลังไร้อาภรณ์ปกปิด

   คุณชายทิ้งร่างมาซบกับร่างของผมก่อนที่จะพยายามออกแรงกดให้ร่างผมล้มลงไปนอนกับเตียงนอนโดยมีร่างของคุณชายล้มทับตามมา

   “ข้าวมีความสุขไหมเวลาที่อยู่กับฉัน" เสียงของคุณชายที่เอื้อนเอ่ยออกมาข้างใบหูมัทำให้ผมรู้สึกขนลุกซู่

   ผมพยักหน้าเป็นคำตอบ จากนั้นเราสองคนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก ทว่าสายตาที่จ้องมองกันและกัน แม้จะไม่พูดอะไรแต่มันก็สามารถแทนความหมายและคำพูดต่าง ๆ ได้มากมาย

   ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่ผมรู้สึกว่าเววตาของคุณชายมันแสดงออกถึงความเศร้า... เศร้ากับอะไรบางอย่างที่ยังมาไม่ถึง มันเหมือนกับการเศร้าล่วงหน้าทว่าเพียงชั่วครู่แววตาครู่นั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังดี

   เสียงลมหายใจที่ประสานกันและไออุ่นจากลมนั้นทำให้ท้ายที่สุด... ร่างของเราทั้งสองก็ตอบสนองซึ่งกันและกันและถ่ายทอดความรู้สึกที่มีให้กันผ่านเรือนร่างที่เร้าร้อน

   หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจ เราสองคนก็นอนอยู่ด้วยกันบนเตียงทั้งอย่างนั้น ลมหายใจของคุณชายที่รดต้นคอตลอดคืนมันทำให้ผมหวั่นไหว นอนไม่หลับ คิดอยากจะทำอะไรต่อมิอะไรต่ออีกให้สนุก แต่ก็กลัวคุณชายจะว่าเอา

   ผมไม่กล้าแม้แต่พลิกตัว จึงได้แต่พยายามกอดอ้อมแขนของคุณชายที่นอนโอบกอดร่างของผมเอาไว้อย่างแนบแน่น... จนท้ายที่สุดผมก็หลับไป






   กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน...

   หลังจากที่ผมได้อ่านข้อความนั้น ผมก็วิ่งออกจากห้องทันที สมองของผมในยามนี้มันด้านชาไปหมด ถ้าหากคุณชายต้องการให้มันเป็นอย่างข้อความที่คุณชายส่งมา แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อคืนคุณชายจะกระทำไปเพื่ออะไร... เพื่อความสุขของตัวเอง เพื่อทำให้ผมเจ็บช้ำน้ำใจเล่น ๆ อย่างนั้นน่ะหรือ

   ถ้าคุณชายต้องการจะทิ้งผมไปอยู่แล้ว... แล้วทำไมคุณชายต้องทำให้ผมมีความหวัง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันไม่ใช่แค่อารมณ์เผลอไผลเช่นเดียวกับตอนที่อยู่เกาะกลางทะเลในยามที่ฝนตกหนัก แต่เรื่องเมื่อคืนสายตา น้ำเสียง ความพูด อารมณ์และการแสดงออกทั้งหมอ มันล้วนเป็นความต้องการจากใจจริงของเราทั้งสองคนไม่ใช่หรือ

   มันไม่มีความเสแสร้งในท่าทีเลยสักนิด! ไม่จริง มันต้องไม่เป็นอย่างนั้น คุณชายก็แค่สับสัน

   ผมวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งพยายามกดโทรศัพท์เพื่อที่จะโทรหาคุณชาย ทว่าไม่ว่าจะโทรไปสักกี่สายคุณชายก็ปล่อยให้เสียงรอสายดังไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมันตัดไปเอง

   ...ทำไม... มันเป็นเพียงคำพูดเดียวที่ผุดขึ้นมาในสมองของผมตอนนี้ และหลังจากคำว่าทำไม มันมีอีกหลายประโยคที่ต้องการจะเอ่ยถามกับคุณชายมากมายจนนับไม่ถ้วน

   รถจักรยาน รถโดยสารมันไม่ได้อยู่ในความคิดของผม ความร้อนรนส่งผลให้ผมลืมทุกสิ่งทุกอย่างและคิดถึงคุณชายเพียงคนเดียวเท่านั้น ผมวิ่งไปลัดเลาะตามตรอกซอกซอย แม้ว่าบ้านของผมกับบ้านของคุณชายจะอยู่ไม่ไกลกันมากนักหากนั่งรถโดยสารหรือปั่นจักรยานไป แต่หากเดินไปล่ะก็มันไม่ได้ถือว่าใกล้เลย

   ผมอยากจะถามกับคุณชายให้รู้เรื่องว่าข้อความที่คุณชายส่งมานั้นมันเป็นเพียงแค่การล้อเล่นขำ ๆ ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม ...ใช่! มันจะต้องไม่ใช่เรื่องจริง

   กว่าที่ผมจะวิ่งไปถึงหน้าบ้านของคุณชายก็กินเวลาไปหลายนาที เหงื่อที่เปียกโชกทำให้ช้างที่ออกมาเปิดประตูต้อนรับถึงกับผงะด้วยความตกใจ

   “ช้าง... ช้าง! คุณชาย คุณชายอยู่ไหม" ผมเกาะรั้วหน้าบ้านถามช้างทันที

   “คุณชายไม่อยู่ครับ" ช้างตอบโดยเลี่ยงที่จะปะทะสายตากับผมตรง ๆ ราวกับว่ารับรู้ถึงความแปลก ๆ บางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับคุณชาย "แต่คุณชายฝากนี่ไว้ให้คุณข้าวครับ"

   สิ่งที่ช้างยื่นมาให้มันเป็นกระเป๋าเป้สะพายหลังยี่ห้อดังที่ผมอยากได้ ภายในกระเป๋ามีเสื้อผ้าของผมจำนวนหนึ่งที่เคยเก็บเอาไว้ที่นี่เผื่อว่าวันไหนผมจำเป็นต้องค้างคืนที่บ้านของคุณชาย และสิ่งที่ทำให้ผมยอมพ่ายแพ่ต่อคุณชายก็คือภายในกระเป๋าใบนั้นมันมีสร้อยพร้อมกับจี้เงินรูปไม้กางเขนที่คุณชายบอกว่ารักนักรักหนาไอ้ของขวัญชิ้นนี้ที่ผมเคยให้ แต่ท้ายที่สุดคุณชายก็เลือกที่จะคืนมันมาให้ผม

   “ฝากบอกคุณชายด้วยนะ ว่าอะไรที่เคยให้ไปหรือเก็บไว้ที่นี่ ฉันไม่ต้องการที่จะเอาคืนทั้งนั้น" พูดจบผมก็เขวี้ยงกระเป๋าที่คุณชายฝากมาให้ลงไปตรงหน้าอย่างไม่ใยดี

   จากนั้นผมก็เดินกลับไป... กลับไปในเส้นทางที่ผมวิ่งมา และหลังจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ผมคงจะกลับไปเป็นไอ้ข้าวเด็กปั๊มธรรมดา ๆ คนเดิมที่ไม่มีคุณชายมาคอยกวนใจ

   ผมถอนหายใจทิ้งตลอดทางกระทั่งเดินออกจากซอยบ้านคุณชาย น้ำตาของผมมันก็ไหลลงมาซะอย่างนั้น โชคดีที่ผมไม่ใช่คนขี้แยที่จะร้องไห้กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ช้างเลยไม่เห็นผมร้องไห้ต่อหน้าทั้ง ๆ ที่ใจของผมมันดิ้นรนทุรนทุรายอยากจะร้องไห้ออกมาเพื่อให้คุณชายเปลี่ยนใจ แต่ผมรู้ว่าทำไปก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร เพราะถ้าคุณชายเป็นห่วงและรักผมจริง... คุณชายคงไม่ปล่อยให้ผมต้องพบกับความผิดหวังเพียงคนเดียวแบบนี้

   และคุณชาย... คงไม่ใจร้ายที่จะทำดีกับผมตลอดจนนาทีสุดท้ายที่เราได้อยู่ด้วยกัน แล้วในเวลาต่อมาก็หลบหน้าหายไป หายไปโดยที่ผมไม่มีโอกาสได้ทำอะไร

   'คุณชาย... มันก็แค่ไอ้คนใจร้ายเห็นแก่ตัว'








   ทางด้านของคุณชายเป๊กหรือหม่อมหลวงการัณญภาสฌ์ สุริยะวิทู... เขารู้อยู่แล้วล่ะว่าหลังจากที่ส่งข้อความไป ข้าวจะต้องดิ้นรนทุรนทุลายรีบมาหาเขาที่บ้านเป็นแน่ แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าไอ้ข้าวของเขาจะวิ่งมาในสภาพที่เหงื่อโทรมกายแบบนั้น

   คุณชายที่แอบมองดูข้าวอยู่ตลอดเวลาที่หลังต้นไม้ใหญ่นั้นไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลยสักนิดที่ต้องทำแบบนี้ และพอเห็นข้าวโยนกระเป๋าที่เขาตั้งใจซื้อให้เพื่อเป็นของขวัญส่งท้ายนั้นมันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดในจิตใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น

   ในความเจ็บปวดเหล่านั้นกลับมีความแค้นปะปนอยู่ด้วย เพราะการกระทำของเขามันทำให้เขารู้สึกว่านั่นคือการกระทำที่เสียมารยาทที่สุด ...แต่เขากลับไม่คิดเลยสักนิดว่าการกระทำของเขาต่างหากล่ะที่มันทั้งเลวร้ายและเสียมารยาทมากกว่าสิ่งที่ข้าวแสดงออกถึงร้อยเท่าพันเท่า

   ช้างเก็บกระเป๋าที่ข้าวขว้างทิ้งไปคืนให้กับคุณชายที่แอบดูทุกการกระทำของข้าวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ หลังจากที่คุณชายรับกระเป๋าใบนั้นกับคุณมาคุณชายก็เขวี้ยงมันทิ้งลงกับพื้นอีกรอบ

   “ไอ้คนไร้มารยาท" คุณชายตะโกนด่าเสียงดังก้อง "ช้าง... เผากระเป๋าและเสื้อผ้าทิ้งซะ"

   พูดจบคุณชายก็เดิินกลับไปบนห้องโดยไม่รอดูว่าช้างจะทำตามที่สั่งหรือไม่...

   ช้างหิ้วกระเป๋าใบนั้นเข้าไปเก็บไว้ในห้อง เขาไม่กล้าทำตามที่คุณชายสั่งหรอก เกิดมีของสำคัญหรือของมีค่าอยู่ในนั้นหากโดนเผาไปมันน่าเสียดายออก รอให้ทั้งคู่ใจเย็นลงก่อนดีกว่า




จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-12-2013 14:44:38
คุยกับคนอ่านครับ....


คุณ yymomo :: คุณชายมันใจแข็งจนทำข้าวเสียใจเลยครับตอนล่าสุด
คุณ loveaaa_somsak :: นั่นสิครับ สงสัยจะถอนตัวแล้ว แหะๆ
คุณ rmlab :: กลับมาผิดใจกันอีกแล้วครับ
คุณ iamnan :: ง่า อย่าเพิ่งหงุดหงิดน๊า
คุณ capool :: ง่าา ให้เป็นนายเอกหนักๆ เจ็บสุดๆ แล้วค่อยจำคร้าบ แฮ่ๆ
คุณ WednesdayAugust :: ดีใจสิครับ อิอิ เอาให้ด่าตัวเอกกันไปเยอะๆเลย เอิ้กๆ
คุณ pornumpai-ka :: >.< ชอบเค้าใช่มะ ฮ่าๆ (ไม่ใช่ละ  :m15:)
คุณ Satanza321 :: สุดๆอ่ะคนนี้ - -" ถอดแบบมาจากคนใกล้ตัวคนหนึ่งเลยทีเดียวเชียว ความเก๊กและปากแข็งเนี่ยครับ
คุณ Dee^daY :: ยากมากถึงมากที่สุดครับ โดยเฉพาะความรักชายชาย ของคนที่ยังไม่กล้ายอมรับตัวเอง T^T  :hao5: :hao5:
คุณ mentholss :: *0* นึกว่าจะบอกว่าข้าวบื้อ ฮ่าๆ กลายเป็นคนชายบื้อ คิคิ
คุณ poppycake :: 555 ตัวประกอบอย่างคุณชายทำพิษอีกแล้ว หมดประโยชน์แล้วครับ คราวนี้ทำให้คุณชายเป็นตัวประกอบ+ตัวอิจฉาบ้างดีกว่า ฮ่าๆ
คุณ NJnobu :: ง่าไปเรียนต่อที่ไหนครับ ต่างประเทศหรือเปล่า ตั้งใจเน่อ นอนนิ่งๆให้ฟัด (แต่ขอของฝากเยอะๆ)
คุณ -west- :: ไม่ต้องคิดมากเลย คำตอบคือ ใช่ ครับ หึหึ พอทำตัวดีๆ เรียบร้อยๆ น่ารักไม่สน ต้องให้มีคู่แข่งซะบ้าง กำลังรอเวลานั้น T^T
คุณ Lily teddy :: 555 เหมือนจะสะอึก สะอึก ในความรักที่เป็นไปไม่ได้แทนละครับ คุณชายฟอร์มจัดเกิน - -" และคราวนี้เหมือนจะคืนดีกันยากแล้วด้วย ล่ะมั้งครับ คิคิ  :L1:
คุณ Pe๊aNu๊T :: นั่นซี่ ข้าวก็ไม่ยอมบอกด้วยว่าเจออะไร สงสัยกลัวคุณชายจะอาละวาด
คุณ B52 :: T^T ตอนล่าสุด อยากจะเตะคุณชาย คนสำคัญอะไร ถึงตัดใจส่งข้อความไปแบบนั้น  :hao5:
คุณ lizzii :: ตอนล่าสุดกลายเป็นน่าเตะแล้วครับ  :heaven
คุณ chen :: คงสับสนว่าจะยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็นดีหรือไม่ล่ะครับ แต่ในใจน่าจะรู้ตัวว่าคิดยังไงกับข้าว
คุณ sanri :: คนนี้มาโหด 555 ทำแบบนั้นจริงปากคุณชายอ่อนยวบแน่ๆ คิคิ ^^
คุณ April❤ :: คราวนี้ท่าจะโกรธนานละครับ หึหึ
คุณ MaNaSsAwEe :: มันท่ามากไอ้เป๊ก คราวนี้แหละ ให้คุณชายได้รู้สึกเวลาที่ขาดข้าวบ้างว่าเป็นไง จะรู้สึกหรือไม่รู้สึกอะไรไหม  :hao6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน17 P.12] - 01/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 05-12-2013 14:48:03
           ^
           ^
           ^

จิ้ม จิ้ม ค่ะ พึ่งเคยได้มีโอกาส เพราะปกติมาต่อตอนค่ำมืดดึกสงัดทุกที 555
T^T  T^T  T^T  T^T  T^T  T^T  T^T  T^T  T^T  T^T
แง  :serius2: อ่านแล้วทั้งค้างทั้งเครียด อารมณ์เสียเลย ไอ้คุณชายเป๊กนี่ยิ่งอ่านยิ่งอยาก  :beat:  :z6:
แบบเปลี่ยนพระเอกไปเลยดีกว่าเปลี่ยนไปเลย นิสัยแย่เห็นแกตัวแบบนี้ขาดคุณสมบัติไม่คู่ควรกะข้าวสักนิด
ดีที่ข้าวไม่ร้องไห้ค่ำควรขอคำอธิบายอะไรให้ยืดยาว มันทำขนาดนี้ก็ตัดทิ้งไปเลยข้าวของไม่ต้องไปเอาแล้ว
ตอนหน้าขอให้มีคนดี ๆมาจีบข้าวซะทีแล้วคุณชายก็ย้ายไปอยู่อลาสก้าคนเดียวเลยนะคะ
ตัดแล้วตัดเลยถ้ามาง้อข้าวเมื่อไหร่ ข้าวเมินอย่าไปมองเลยนะ แค้นอะ ช้างนะช้างเก็บไว้ไมไม่รู้
เดี๋ยวกระเป๋าใบนี้ต้องกลับไปอยู่กะใครซะคนแน่ ๆ แล้วอาจทำให้ทั้งสองคนดีกันก็ได้ น่าจะเผาไม่ให้เหลือซากไปซะเลย
เฮ้อ เหนื่อย รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมนะคะ สะอึกมากเลยอะค่ะตอนนี้  :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 05-12-2013 15:12:02
ดิชั้นจะพยายามเข้าใจค่ะว่าชีวิตมันต้องมีมาม่า ไม่งั้นมันจะขาดรสชาติ

//นั่งรอฟ้าหลังฝนสวย ๆ เกร๋ ๆ หลอกตัวเองว่าไม่สะทกสะท้านสะเทือน

ความจริงต้องขอบคุณทั้งข้าวและคุณชายด้วยแหละที่ทำตัวแบบนั้นมาตลอด ก็เลยออกจะไม่สงสารเท่าไหร่
อันนี้ไม่ได้ว่านะ ก็เข้าใจอยู่ว่าสถานะมันต่างกัน
แต่ทางออกก็มีหลายแบบ ในเมื่อเลือกจะทำอะไรแบบนี้ มันก็ต้องเจอกับอะไรแบบนี้
ซึ่งก็ไม่ได้ว่าอีกนั่นแหละ จะว่าไงดีล่ะ นิยายแต่ละเรื่องมันก็ต้องแตกต่างกัน
ถ้าตัวละครจะเลือกทางเดิม ๆ สวยสดงดงามแบบตัวละครในอุดมคติมันก็ซ้ำซากล่ะเนอะ

(((ทำไมรู้สึกตัวเองเมนท์จริงจังมาก  :hao7:)))

แต่แปลกไงไม่รู้แฮะ ชอบตรงที่เรื่องนี้ไม่บรรยายฉากเรท
ไม่ใช่ว่าเป็นคนดีไม่หื่นหรืออะไรนะ หื่นแหละ หื่นมากด้วย 55+
ฉากเรทเนี่ยอ่านมาเยอะมากทั้งแบบตัวหนังสือและแบบเห็นภาพ(การ์ตูน)
แต่นาน ๆ ทีมาเจอเรื่องที่ไม่เรทบ้างมันก็อ่านสบายใจดีไปอีกแบบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 05-12-2013 15:32:21
สงสารข้าวจริงๆ
งอนให้ยาวเลยนะ
คุณชายซื่อบื้อ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 05-12-2013 15:50:03
ไอ้คุณชายยยยยยยยยยยยยยยยเป็นอะไรอีกเนี่ยผีเข้าผีออก ทนเริ่มจะเกลียดคุณชายจริงๆแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 05-12-2013 16:01:12
หลบไปพักใจก่อนนะข้าว หนีไปไกลๆ หยุดการติดต่อทั้งหมด ดูสิไอ้คุณชายมันจะทำอย่างไง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-12-2013 16:05:25
มันเกิดอะไรขึ้นอีกเนี้ย :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pornumpai-ka ที่ 05-12-2013 16:17:32
มันเกิดอะไรขึ้น  ใครทำอะไร  โอ้ยยยยยย  ค้างมากกกกก



 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-12-2013 19:10:26
ไม่ใช่น่าเตะแล้ว
ต้องโดนซักป๊าบ อิคุณชายนี่
ทำตัวยังกะตัวร้าย ชิ!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 05-12-2013 19:17:05
ขอให้ข้าวเข้มแข็ง คนที่ทรมานเจ็บเจียนตายต้องเป็นคุณชายน่าหมั่นไส้จะทิ้งข้าวอยู่แล้วยังมาส่งท้ายบ้าบอคอแตกซื้อของให้ทำบ้าอะไร แล้วยังมีหน้ามาโกรธข้าวอีก ไร้สาระจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-12-2013 19:17:41
โอ้ยยยยยยย  :serius2: :serius2:
 ไปไหนก้อไปเรยนะ อิคุณชายยยยย  :angry2:  :m31:

ไปให้ไกลๆ ข้าวเรย
แล้วจะแช่ง ขอให้ข้าวมีคนใหม่เร้วๆ เช๊อะ  :a14:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 05-12-2013 19:23:19
คุณชายทำตัวแย่อ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 05-12-2013 19:57:18
ขอกระโดดถีบอิคุณชายรัวๆ ย๊ากก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 05-12-2013 20:04:13
บางทีพฤติกรรมคุณชายก็ดูไร้วุฒิภาวะเกินเหตุไปนะ อีกนิดนี่เรียกไร้สมองได้แล้ว...
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 05-12-2013 21:37:26
 :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 05-12-2013 21:50:52
คุณชายอารมณอารมณ์แปรปรวน วันนั้นของเดือนมาเหรอ

ข้าวถอนตัวด่วน อยู่กับคนลังเลแบบนี้ อยู่ไปก็ไม่มีความสุขหรอก

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Satanza321 ที่ 05-12-2013 23:21:16
คุณชายเป็นอะไรชอบขึ้นๆลงๆ :mew5:
สงสารข้าวอยู่ดีๆก็ถูกบอกเลิกซะงั้น เงิบไปเลย :a5:
รอตอนต่อไปนะ :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 05-12-2013 23:36:50
อยากจัด  :z6:  :beat: ให้คุณชายเหลือเกิน สงสารข้าวอ่ะ ทำแบบนี้กับข้าวได้งัย...  :o12:  :serius2:

ใช่ครับจะไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย น่าจะประมาณช่วงปีใหม่ แต่ยังไม่อยากไปเลยอ่า  :sad4:
ถ้าไปแล้วกว่าชีวิตที่นู่นจะเข้าที่เข้าทางสงสัยจะซักพัก ภาษาก็ยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่เลย  :a5:  แต่ก็จะพยายามหาเวลาเข้ามาอ่านเรื่อยๆเลย  :hao3:

คืนนี้ +  :กอด1:  :mew1: ฟัดคนเขียนซะหน่อยให้หายมันเขี้ยว อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 06-12-2013 10:50:34
ไม่ได้มาอ่าน 3 ตอน

อยากฆ่าชายเป็กจริงๆ ไอ้บ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ข้าวหาคนมาดามใจใหม่เลย อย่าไปสนใจคุณชายบ้านั่นเลย ฮึ้ย!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 06-12-2013 14:39:27
ไอชายบื่อออออออ
อยากถีบยอดหน้ามันเจงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NUTTYZERO ที่ 06-12-2013 20:00:59
ใจร้ายที่สุด!!~ บีบคั้น ค้างเติ่ง คุณชายนะคุณชาย ทำกับข้าวของผมได้ลงคอ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 07-12-2013 01:04:13
ตามย้อนอ่านสองตอนค่ะ >.<

คุณชาย~ ทำไมทำแบบนี้หืออ?
มีเหตุผลอะไร T^T
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 15-12-2013 11:30:48
ความรักก็เป็นอย่างนี้แหละ --
ถ้าไม่ยอมเปิดใจ ความรักก็คงยังอยู่นอกใจ ไม่ใช่ ในใจ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 14-01-2014 14:01:39
เรื่องกำลังเข้มข้นเลย หายไปนาน รีบมาต่อไวๆ นะครับ คนอ่านรออยู่
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 14-01-2014 14:20:17
เข้ามารอน้องข้าวด้วยคนค่ะ เห็นเด้งมาหน้าหนึ่ง นึกว่าตอนใหม่ซะอีกอะ  :o12:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: venuz ที่ 14-01-2014 14:45:08
 เบื่อคุณชาย
......................

 :z6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Miw_Miw@In Love ที่ 14-01-2014 17:45:02
ตามอ่านทั้งสองเว็บเลย ทั้งเด็กดีและthaiboyslove
ยังไงก้อรอนะค่ะ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน18 P.13] - 05/12/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 16-01-2014 00:06:29
ดินต่างฟ้า กับ พี่ชาย




         ริมถนนในตอนกลางวัน แสงแดดที่สว่างจ้าทำให้ผมรู้สึกร้อนระอุ แต่มันก็ไม่ร้อนเท่ากัยจิตใจในยามนี้ ผมเดินสู้แดดไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ แต่ท้ายที่สุดผมก็เดินไปถึงปั๊มน้ำมัน

   “อ้าวเฮ้ย... ไอ้ข้าว ทางนี้ ๆ ไหงวันนี้มาไวจังวะ" พี่ปั๊ม... พี่ชายที่คอยให้ความช่วยเหลือผมเสมอโบกมือทักทาย

   ผมเดินก้มหน้างุด ๆ ไปหาพี่ปั๊มโดยไม่รู้ตัวเลยว่าใบหน้าของผมในยามนี้มันกำลังแสดงออกถึงอารมณ์แบบไหน

   “มึงร้องไห้ทำไมวะ"

   สิ้นเสียง... ผมก็เงยหน้ามองพี่ปั๊มทันที ผมส่ายหน้าและโบกไม้โบกมือปฏิเสธ

   “ผมเนี่ยนะร้องไห้" ผมทวนคำด้วยความฉงน

   “เอ้า... ไอ้นี่ ตามึงก็แดง น้ำตาก็ไหลซึมออกมา นี่มึงไม่รู้ตัวเลยรึไง" คำพูดของพี่ปั๊มทำให้ผมลองยกมือมาปัดหางตา ปรากฏว่ามีน้ำแฉะ ๆ ซึมผ่านมาจริงด้วย

   นี่ผม... ร้องไห้จริง ๆ หรือเนี่ย ผมแทบไม่อยากเชื่อเพราะตลอดทางผมไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าผมร้องไห้ออกมา ผมแค่เสียใจ... เสียใจกับการกระทำของคุณชายก็เท่านั้น คิดแล้วก็น่าขำกับการที่ผมไม่รู้ว่าน้ำตาของผมมันไหลลงมาตั้งแต่เมื่อไร

   “ไม่จริง" ผมปฏิเสธ พอมองหน้าเงยฟ้ากะจะโกหกว่าฝนตกแต่แดดที่สว่างจ้าก็ทำให้ผมแก้ตัวไม่ออก

   “มึงไม่ต้องเงยหน้าหาข้ออ้างมาปฏิเสธกูเลยนะ แดดจ้าขนาดนี้ฝนคงไม่ตกให้มึงอ้างว่าน้ำตาของมึงคือน้ำฝนหรอก" พี่ปั๊มเอ่ยอย่างรู้ทัน "ทะเลาะกับคุณชายเหรอไง"

   “เอ่อ...” ผมตอบตะกุกตะกัก ทุกครั้งไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็มีแต่พี่ปั๊มนี่แหละที่รับฟังผม ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไร รถที่ขับเข้ามายังตู้จ่ายน้ำมันก็ทำให้พี่ปั๊มต้องทำหน้าที่

   “เดี๋ยวกูเติมน้ำมันให้ลูกค้าแป๊บ"

   “อืม"

   ระหว่างนั้น ผมก็นั่งรออยู่ที่เก้าอี้นิ่ง ๆ พยายามจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ภาพและคำพูดต่าง ๆ นานาของคุณชายมันก็วนเวียนอยู่ในความคิดจนศีรษะของผมแทบจะระเบิด

   “เฮ้ย... มึงไหวเปล่าวะ" ทั้ง ๆ ที่สายตาของผมก็จับจ้องไปตรงหน้า ทว่าสมองของผมมันไม่ได้สั่งให้ผมสนใจและรับรู้เลยสักนิดว่าพี่ปั๊มได้เติมน้ำมันให้ลูกค้าเสร็จแล้ว

   “ไหวพี่" ผมตอบออกไป

   “เออ... ตกลงมึงทะเลาะกับคุณชาย" พี่ปั๊มเอ่ยถามอีกครั้ง

   “อืม" ผมตอบเสียงเบา

   “นั่นไง... กูว่าแล้วคนอย่างคุณชายน่ะมันเอาแต่ใจ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้หรอก พอมึงหมดประโยชน์ คุณชายก็ไม่สนมึงแล้ว"

   “พี่ปั๊ม! อย่ามาว่าคุณชายนะ!!!” สิ้นเสียงของพี่ปั๊ม ผมก็ตะคอกเสียงดัง ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่พี่ปั๊มพูดมามันไม่ได้ผิดเลยสักนิด แล้วทำไมผมต้องแก้ตัวให้คุณชายด้วยนะ พอผมเห็นพี่ปั๊มคิ้วขมวดมุ่นอาจจะเพราะแปลกใจหรือตกใจก็ตาม ผมก็เลยพูดต่อ "เอ่อ... ผมขอโทษ"

   “ช่างแม่งเหอะ กูเข้าใจ" พี่ปั๊มถอนหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเขยิบมาใกล้ ๆ แล้วกอดคอ "กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงทะเลาะอะไรกับคุณชาย แต่ถ้ามึงไม่สบายใจทำไมมึงไม่กลับไปขอโทษ"

   “ขอโทษ" ผมทวนคำด้วยความฉงน "ขอโทษทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเนี่ยนะ"

   “ก็เออสิวะ" พี่ปั๊มตบบ่าเบา ๆ ให้กำลังใจ "หรือถ้ามึงไม่อยากยุ่งกับคุณชายแล้ว มึงก็ไม่ต้องทำ"

   “อืม...” ผมตอบรับ "พี่ปั๊ม รถกำลังจะขับเข้ามา"

   “ช่างเหอะ กูไม่มีอารมณ์ทำงานแล้วว่ะ น้องกูมันหน่วงแบบนี้ กูทำงานไม่ไหวจริง ๆ" พี่ปั๊มตอบออกมาก่อนจะตะโกนเรียกพนักงานอีกคนที่รับผิดชอบในช่องเดียวกันให้มาทำงานแทน "ไอ้โด้ฝากมึงด้วยนะ วันนี้กูหยุด เดี๋ยวกูไปบอกผู้จัดการแป๊บ"

   “ครับ" ไอ้โด้ตอบกลับด้วยความสุภาพ ไอ้โด้มันเป็นเด็กใหม่ อายุแค่ 17 ปีตัวก็เล็กนิดเดียว แต่เพราะครอบครัวยากจนโด้เลยดิ้นรนและขยันทำงานหามรุ่งหามค่ำ โด้ทำงานวันละ 16 ชั่วโมงรวมค่าโอทีเพราะโด้ไม่ได้เรียนหนังสือ และโชคดีที่ทั้งเจ้าของและผู้จัดการปั๊มน้ำมันแห่งนี้เป็นคนใจดีก็เลยไม่มีปัญหาอะไรกับการทำงานที่กินเวลางานมากกว่าคนอื่น




   
   พี่ปั๊มพาผมไปที่ห้องพัก... ซึ่งห้องพักของพี่ปั๊มเป็นห้องเช่าเล็ก ๆ อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก พี่ปั๊มอาศัยอยู่คนเดียว เพราะพ่อแม่ของพี่ปั๊มและน้องชายต่างก็อยู่ต่างจังหวัดกันหมด เนื่องจากพี่ปั๊มเป็นคนที่ประหยัดมัธยัสถ์ ไม่เที่ยวกลางคืนเลยทำให้พี่ปั๊มมีเงินเก็บและส่งให้พ่อกับแม่ใช้ทุกเดือน

   “รอกูอาบน้ำแป๊บ... เหนียวตัวว่ะ" พูดจบพี่ปั๊มก็ถอดเสื้อและกางเกงออกจนเหลือแต่บ็อกเซอร์ตัวเดียวทันที แต่ก่อนที่พี่ปั๊มจะเข้าไปในห้องน้ำ พี่ปั๊มก็หันมาพูดกับผม "แต่กูว่ามึงอ่ะไปล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่า"

   ผมพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที กระจกบนอ่างล้างมือสะท้อนภาพของผมที่ดวงตากำลังแดงก่ำ หางตาเปียกแฉะ ใต้ตาก็ปูดโปนจากการร้องไห้

   “เหอะ ๆ" ผมขำให้กับตัวเองอยู่ที่น่ากระจก ผมไม่ยักรู้เลยว่าผมจะเป็นเอามากได้ขนาดนี้ คิดแล้วก็ขำตัวเอง... คนอะไรร้องไห้ไม่รู้ตัว "ฮ่า ๆ ๆ ๆ"

   ผมหัวเราะเสียงดังลั่น

   “เฮ้ย ไอ้ข้าว มึงเสียใจจนเสียสติไปแล้วเหรอวะ" เสียงของพี่ปั๊มตะโกนถามด้วยความเป็นห่วง

   ผมเปิดก็อกน้ำแล้วใช้ฝ่ามือรองก่อนจะใช้ล้างหน้าล้างตาสุดแรง ผมลูบไล้ไปทั้วใบหน้าแล้วตอบพี่ปั๊มกลับไปว่า "พี่ปั๊มไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่ได้เป็นอะไร"

   “เออ"

   สิ้นเสียงของพี่ปั๊ม ผมก็ใช้มือตวงน้ำขึ้นมาล้างหน้าอีกหลายสิบรอบ จนกระทั่งผมพอใจและคิดว่าใบหน้าของผมมันจะลบคราบน้ำตาออกไปจนหมด

   ผมเงยหน้ามองกระจก ใบหน้าของผมในยามนี้มันดูดีกว่าเมื่อครู่นี้มากราวกับเป็นคนละคน... ผมยิ้มให้กับตัวเองแล้วมองภาพนั้นในกระจก แล้วรอยยิ้มนั้นก็หุบลงเมื่อเสียงของความคิดผมมันดังขึ้น

   'หลังจากวันนี้นายจะไม่มีคุณชายเข้ามายุ่งอีกแล้วนะข้าว นายคิดว่านายมีความสุขจริง ๆ เหรอ'

   ใช่... แม้ว่าผมกับคุณชายจะเคยทะเลาะกันหลายครั้ง แต่ปัญหาในครั้งนี้มันคงจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคุณชาย เรื่องราวมันเลยใหญ่โตจนกระทั่งคุณชายทำให้ผมมีความสุขก่อนที่จะหนีหน้าผมไป... ไม่คิดจะให้ผมได้พูดอะไรเป็นครั้งสุดท้ายเลยสักนิด

   “เสร็จยังวะข้าว" อาจเป็นเพราะผมจะล้างหน้านานเกินไป พี่ปั๊มก็เลยเคาะประตูเรียกด้วยความเป็นห่วง

   ผมเปิดประตูออกไปทันทีก่อนจะแสร้งยิ้มให้กับพี่ปั๊มแล้วทำราวกับว่าผมลืมความเสียใจทุกอย่าง และหลังจากนี้ชีวิตผมจะมีแต่ความสุข

   “เสร็จแล้วครับ เชิญอาบน้ำได้เลยครับคุณปั๊ม" ผมยิ้มทะเล้นให้กับพี่ปั๊ม

   “ไอ้ห่า! กูไม่ใช่คุณชายนะโว๊ย" แล้วพี่ปั๊มก็ตอบแทนผมด้วยการเขกกบาลผมแรง ๆ หนึ่งที

   “ฮ่า ๆ ๆ รีบอาบน้ำนะคุณปั๊ม เดี๋ยวผมจะรีดชุดไว้รอ" ผมพูดไปขำไป พอเห็นพี่ปั๊มทำท่าจะกระโดดถีบ ผมก็วิ่งหนีเข้าไปในห้อง แล้วเสียงประตูห้องน้ำที่ถูกปิดดังปั้งก็ดังตามมา พร้อมกับเสียงตะโกนของพี่ปั๊มว่า

   “ไอ้ข้าว... ขืนมึงยังพูดมากกูจะออกไปเตะมึงเดี๋ยวนี้แหละ" พี่ปั๊มขู่ แต่มีหรือที่ผมจะกลัว ถ้าเป็นคุณชายก็ว่าไปอย่าง

   “อูย... คุณปั๊มโหดจัง ป่าเถื่อนที่สุด" ผมแสร้งทำเสียงสะบัดสะบิ้ง และไม่ต้องรอให้ผมได้ตั้งตัวอะไร พี่ปั๊มก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้ววิ่งตรงมาทางผมก่อนจะออกแรงถีบเข้าที่บั้นท้ายสุดแรงจนร่างของผมกระเด็นไปล้มลงกับพื้น

   ผมไม่ยอมให้พี่ปั๊มได้สนุกอยู่เพียงฝ่ายเดียว มือที่ฉับไวของผมจับผ้าขนหนูของพี่ปั๊มเอาไว้ได้ทันในตอนที่พี่ปั๊มถีบ พอพี่ปั๊มจะวิ่งกลับไปยังประตูห้องน้ำ ชายผ้าขนหนูที่ถูกผมจับเอาไว้ก็หลุดลงเผยให้เห็นร่างที่เปลือยเปล่าของพี่ปั๊ม

   ร่างของพี่ปั๊มทั้งท่อนบนและท่อนล่างมีสีเดียวกันคือขาวเหลือง เนื่องจากพี่ปั๊มเป็นเด็กเหนือและเชื้อสายโคตรเหง้าเหล่ากอตั้งแต่ต้นตระกูลก็เป็นคนล้านนาเลยทำให้พี่ปั๊มมีสีผิวที่เนียนขาวไม่ต่างจากลูกคุณหนู

   “เป็นเด็กเหนือนี่ดีจังวุ้ย ขนาดก้นยังขาวจั๊วะ ฮ่า ๆ ๆ" ผมหัวเราะเสียงดังลั่นขณะที่ปั๊มปิดประตูห้องน้ำลง เพราะผมยังไม่หนำใจเลยทำให้ผมแซวส่งท้าย "คนอะไร ก้นขาวกว่าหน้าผมอีก"

   “ไอ้ข้าว ไอ้น้องเลว ไอ้ปากดี เดี๊ยะ ๆ" พี่ปั๊มตะโกนร้องด้วยความเจ็บใจ ส่วนผมก็ได้แต่หัวเราะอย่างสะใจที่แกล้งพี่ปั๊มได้

   ทุกครั้งที่มีปัญหาไม่ว่ากับคุณชาย ครอบครัวหรือเรื่องเพื่อนที่มหาลัย ก็มีพี่ปั๊มคนเดียวนี่แหละที่เป็นที่ปรึกษาคอยทำให้ผมยิ้มได้เสมอ ถือเป็นโชคดีของผมที่ได้รู้จักกับพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่ปั๊ม

   พอคิดเรื่องพี่ปั๊ม ผมล่ะอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ว่าพี่ปั๊มไม่เบื่อกับการทำงานเป็นเด็กปั๊มบ้างหรือ เพราะนอกจากพนักงานที่ปั๊มแล้ว พี่ปั๊มก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนอีกเลย กระทั่งสาว ๆ ก็ไม่เคยคบใครเป็นแฟนสักคน ขนาดมีคนสวย ๆ มาเสนอตัวถึงที่ปั๊มตั้งมากมาย แต่ท้ายที่สุดพี่ปั๊มก็เอาแต่บอกว่า...

   'กูยังไม่อยากมีว่ะข้าว... กูส่งเงินเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงตัวเองแค่นี้กูก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว กูยังไม่อยากหาภาระมาเพิ่ม'

   ทั้ง ๆ ที่ตอนรู้จักกันใหม่ ๆ บ่นนักบ่นหนาว่าอยากมีสาวสวย ๆ รวย ๆ สักคน ทว่าพอเอาเข้าจริงคนที่เข้ามาส่วนใหญ่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทั้งสวยและรวย แต่พี่ปั๊มก็เอาแต่ปฏิเสธและแกล้งตอบสาว ๆ เหล่านั้นไปว่า

   'ขอโทษนะครับ ผมเป็นเกย์ และนี่แฟนผมครับ' และพี่ปั๊มก็จะเอาผมมาบังหน้าเสมอ ผมล่ะอายจริง ๆ ที่ต้องทนแกล้งเป็นเกย์กับพี่ปั๊มเพื่อให้พี่ปั๊มปฏิเสธหญิง

   กว่าที่พี่ปั๊มจะอาบน้ำเสร็จ ผมก็คิดหน้าสาว ๆ ที่มาเสนอตัวจีบพี่ปั๊มได้ร่วม 10 คน แต่ละคนพอโดนไม้ตายของพี่ปั๊มที่หลอกว่าเป็นเกย์ต่างก็ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก คิดแล้วก็ตลก... แต่ที่ตลกยิ่งกว่าคือมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอายุเท่ากับพี่ปั๊มที่แอบชอบพี่ปั๊มเนื่องจากผิวขาวและหน้าตาที่เซอร์ได้ใจ พอเธอได้ยินว่าพี่ปั๊มเป็นเกย์เท่านั้นแหละเธอก็กรี๊ดลั่น และพอพี่ปั๊มยื่นแขนมาพาดคอผมแล้วแนะนำผมให้รู้จักกับผู้หญิงคนนั้นเลือดกำเดาเธอก็ไหลแล้วตอบกลับมาว่า

   'ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งชอบ กรี๊ด... พี่ปั๊มเท่ที่สุด อร๊ายยย...' แล้วหลังจากนั้นเธอก็วนเวียนมาที่ปั๊มเป็นครั้งคราวแต่ไม่ได้มาทักทายพี่ปั๊มโดยตรงเหมือนมาลอบมองว่าผมกับพี่ปั๊มจะทำอะไรให้เธอได้จินตนาการสนุก ๆ อีกหรือเปล่า

   “หัวเราะอะไรวะข้าว" สงสัยว่าผมจะคิดเรื่องพรรค์นี้เพลินไปหน่อยเลยเผลอหัวเราะเสียงดังลั่น ยิ่งพอเห็นสีหน้าที่สงสัยของพี่ปั๊มก็ยิ่งยากที่จะหยุดเสียงหัวเราะ

   “ฮ่า ๆ เปล่าพี่ จะว่าไปพี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ" ผมพูดไปขำไปเลยไม่เห็นว่าในตอนนั้นพี่ปั๊มกำลังแอบยิ้มหลังจากที่ผมชมว่าน่ารัก

   “เออ... กูก็น่ารักมาแต่ไหนละ" พี่ปั๊มตอบกลับอย่างมั่นใจ "แต่ไอ้น้องเชี่ย มึงช่วยชมว่ากูหล่อ กูเท่กูยังจะรู้สึกดีกว่าที่มึงชมกูว่าน่ารักนะเว้ย"

   “เหรอ...” ผมลากเสียงยาวก่อนจะตอบไปให้พี่ปั๊มเจ็บใจว่า "ตรงไหนที่ควรชมว่าหล่อว่าเท่... แต่ถ้าน่ารักอ่ะเพียบเลย"

   ใช่... พี่ปั๊มเหมาะสมกับคำชมว่า 'น่ารัก' มากกว่า 'หล่อ' และ 'เท่' เพราะนอกจากหน้าตาที่ค่อนไปทางคำชมนั้นแล้ว นิสัยของพี่ปั๊มก็ยังเนี้ยบจนผมไม่คิดว่าจะมีเด็กปั๊มที่เรียบร้อยขนาดนี้ จริงอยู่ว่าคำพูดคำจาเวลาพี่ปั๊มพูดกับผมจะโพงผาง แต่เวลาพูดกับผู้ใหญ่ล่ะก็ ทั้งพูด 'ครับ' ทั้งไหว้ผู้ใหญ่อย่างมีมารยาท ห้องพักของพี่ปั๊มก็ดูแลซะสะอาดสะอ้านไม่เคยมีประวัติสกปรกหรือการดองผ้าเอาไว้จนล้นตระกร้าเพราะพี่ปั๊มจะทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง อย่างมากก็สัปดาห์ละ 7 วัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ชายทั่วไปไม่ทำ

   “มึงพูดงี้จะหายเรื่องกูใช่ไหม" ใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวก็ยังซ่ากระโดดมาล็อกคอผม แต่พี่ปั๊มที่ตัวเล็กกว่าผมมีหรือที่ผมจะสู้ไม่ได้และท้ายที่สุดก็กลายเป็นพี่ปั๊มซะเองที่ถูกผมล็อกคอล็อกตัวเอาไว้

   “ปล่อยกู" พี่ปั๊มพยายามดิ้น ทว่าในระหว่างนั้นสายตาที่ไม่ได้เจ้าเล่ห์ของผมก็ดันเผลอไปสบมองกับบ็อกเซอร์ของพี่ปั๊มเข้าพอดิบพี่ดี

   “พี่ปั๊ม... ทำไมบ็อกเซอร์มันพอง ๆ" ความจริงใครเห็นใครก็ต้องรู้ว่ามันคืออะไรแต่ที่ผมถามเพราะอยากทราบสาเหตุที่ทำให้พี่ปั๊มเป็นเช่นนั้น

   “ไอ้สัส ถ้ามึงไม่ปล่อยกูมันก็ไม่หาย" พี่ปั๊มโวยวายอย่างหัวเสียผิดกับผมที่ยิ้มกริ่ม

   “เฮ้ย... คิดไรกับผมเปล่าเนี่ย หรือว่าที่เคยบอกผู้หญิงว่าเป็นแฟนกับผม พี่จะชอบผมจริง ๆ" สงสัยว่าผมจะติดนิสัยเจ้าเล่ห์มาจากคุณชาย ได้ทีผมก็เลยแกล้งพี่ปั๊มเสียจนสะใจ

   ใบหน้าที่ขาวใสของพี่ปั๊มจู่ ๆ ก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ มันแดงอย่างชัดเจนจนผมชักสงสัยจริง ๆ เสียแล้วสิว่าพี่ปั๊มจะเป็นอย่างที่พูดจริง ๆ

   “ปล่อย!!!” และท้ายที่สุด พี่ปั๊มก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายดิ้นจนหลุดแถมยังผลักผมสุดแรงก่อนที่จะรีบไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ขณะนั้นก็ไม่วายที่จะหันมาแยกเขี้ยวใส่ผม ส่วนผมก็ไม่ได้ถือสาอะไร นาน ๆ ทีจะมีโอกาสได้แกล้งคนอื่นแบบนี้สนุกดีเหมือนกัน...

   การอยู่กับพี่ปั๊มมันทำให้ผมลืมความเครียดที่เกิดขึ้นไปเลยล่ะ... ผมชักไม่มั่นใจเสียแล้วสิ บางทีการไม่มีคุณชายมาคอยวุ่นวายกับชีวิต มันอาจจะทำให้ผมมีชีวิตที่สงบสุขขึ้นมากกว่าเดิมก็เป็นได้



จบตอน

และขออภัยกับการที่ห่างหายไปนานแสนนานครับ T^T
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pornumpai-ka ที่ 16-01-2014 00:17:52
 :a5:

เย้ๆ ในที่สุดก็มา  รอได้จ้า

ข้าวสู้ๆ นะ  ทุกอย่างมันจะดีเอง :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 16-01-2014 00:19:04
สงสารข้าวมากเลยตอนนี้ ตาคุณชายก็เอาแต่ใจเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 16-01-2014 01:38:31
ตาไม่ฝาด  ข้าวกลับมาแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-01-2014 02:29:11
หายไปนานเลย อ่านอีกทีอารมณ์โกรธคุณชายก็กลับมาทันทีเหมือนกัน :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 16-01-2014 03:01:20
กริ๊ด จริง ๆ พี่ปั้มเป็นหนุ่มน้อยน่ารักใบหน้าขาวใสเหรอเนี่ย เพราะไม่มีอิมเมจของพี่ปั้มตั้งแต่แรก(เท่าที่จำได้)
เลยคิดมาตลอดว่าพี่ปั้มเป็นผู้ชายตัวโต ๆ บึก ๆ ถึก ๆ เถื่อน ๆ(ขอโทษนะพี่ปั้ม) แถมเวลาพูดจาก็ดูห้าว ๆ
เหมือนพี่ใหญ่ที่คอยปกป้องดูแลน้อง แต่ ไหงพี่ปั้มดันขาวจั๊วะแถมตัวเล็กกว่าข้าวอีกล่ะเนี่ย
แบบนี้ข้าวคิดถูกแล้ว ไม่ต้องไปสนใจคุณชายเอาแต่ใจอารมณ์แปรปรวณให้ชีวิตตัวเองสับสนวุ่นวายหรอกนะ
ไหน ๆ ก็หลุดพ้นจากวังวนของคุณชายมาได้ ข้าวก็ต้องเข็มแข็ง และใช้ชิวิตให้มีความสุขกับคนที่รักและหวังดีกะเรานะข้าว
แต่พี่ปั้มจะแอบคิดอะไรกะข้าวจริงเหรอ อยากเลยนะเป็นพี่เป็นน้องน่าจะสบายใจกว่านะพี่ปั้ม
ตอนนี้ถึงคุณชายจะไม่ได้ออก แต่ก็ยังมีคุณชายในความคิดของข้าวออกมาให้หงุดหงิดแทนนี่สิ
รอติดตาม และบวก บวกเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนนะค๊า ดีใจที่กลับมาค่ะหายไปน๊าน นาน คิดถึงข้าวเลยค่ะ  :pig4: :L2:
ปล.1 Happy New Year ย้อนหลังนะคะ มีความสุขมาก ๆค่ะ  :กอด1:
ปล.2 อิมเมจพี่ปั้มน่ารักแบบนี้ จะทำคุณชายออกอาการหึงข้าวไหมเนี่ย (อิอิ อยากให้คุณชายวุ่นวายใจอะ)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 16-01-2014 05:12:57
กรี๋ดด ทิ้งอิคุณชายไปเลย
มาเอาพี่ปั๊มนี่แหละ น่ารักก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 16-01-2014 09:51:45
ดีใจที่สุดที่ได้อ่านต่อ ขอขอบคุณมากครับที่มาตามคำเรียกร้อง

เบื่อคุณชาย ผมว่าคุณชายไม่เหมาะเป็นพระเอก เป็นคนลังเล

ไม่มีความกล้า แบบนี้ไม่สามารถดูแลและปกป้องใครได้หลอก

พระเอกเรื่องนี้คือไอข้าว หานายเอกให้ไอข้าวด้วยก็ได้นะ

อยากแนะนำให้พี่ปั๊มเป็นนายเอกได้ก็ดี เหมาะสมกันดี

ไม่ต้องมาคอยระแวง เรื่องสังคม และฐานะ อย่างที่คุณชายคิด

และกระทำอยู่ตลอด จนทำให้ข้าวเสียใจเหมือนทุกวันนี้

ถ้าคุณชายอยากมีส่วนร่วมก็เป็นสามีน้อยแล้วกัน 3 P ไปเลย

อยากวอกแวกดีนัก สมน้ำหน้าที่เสียข้าวไป


มาต่อตอนใหม่เร็วๆ นะครับ ติดตามเรื่องนี้มาตลอด รวมถึงเรื่องอื่นๆ ของคนเขียนด้วยที่จบไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 16-01-2014 12:20:05
โอ๊ะ โอ!!!!!
พี่ปั๊มเปนหนุ่มน้อย ตัวขาววว น่ารักหรอเนี่ย O.o
(อ่านมาตั้งนาน คิดว่าจะเถื่อนๆหน่อย 555+)

ว่าแร้วเราเชียร์ให้ข้าวเป็นรุก มารุกพี่ปั๊ม ทิ้งอิคุณชายทางจะดี
หึหึหึ  o3 o3 o3
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 16-01-2014 13:31:50
พี่ปั๊มนี่พระรองเกาหลีมากกกก พี่ชายที่แสนดี อบอุ่น คอยให้ความช่วยเหลือ
เชียร์คนนี้แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ เหมือนพระรองเกาหลี...ดียังไงก็แห้ว
เกิดเป็นคนดีนี่ลำบากจริงๆ ดีนะที่เราเป็นคนเลว กร๊ากๆๆ

ถ้าคนแต่งเปิดโหวต จะโหวตพี่ปั๊มมม *ชูป้ายไฟ ปั๊มโอปป้า* 555555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-01-2014 16:37:18
ถ้าอยุ่กับพี่ปั๊มเราว่าข้าวรุกแน้ๆ 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-01-2014 21:19:12
เปลี่ยนข้าวเป็นพระเอก ปั๊มเป็นนายเอก 5555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Miw_Miw@In Love ที่ 16-01-2014 22:42:57
แต่เค้าก็อยู่ข้างคุณชายอยู่นะ

 :impress2: :hao3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 19-01-2014 18:05:49
ดินต่างฟ้า กับ เรื่องริมรั้ว






        ปัญหาหนักบนท้องถนนของเมืองหลวงคือการจราจรติดขัด แต่ดีหน่อยที่ช่วงบ่ายรถไม่ติดหนักเท่ากับชั่วโมงเร่งด่วนอย่างตอนเช้าช่วงไปทำงาน หรือตอนเย็นช่วงเลิกงาน ขนาดรถมอเตอร์ไซค์ยังต้องคิดหนักเลยเพราะบางทีก็ไม่สามารถแทรกขับช่องแคบระหว่างรถยนต์ที่จอดติดคู่กันได้ แถมจะแทรกแต่ละทียังต้องคอยชะเง้อมองดูข้างหลังด้วยความระมัดระวัง เพราะคนขับรถบางส่วนไม่มีวินัยเท่าที่ควร

   ความจริงผมเองก็ไม่เคยขับรถมอเตอร์ไซค์หรอก แต่ก็ซ้อนท้ายพี่ปั๊มบ่อยครั้งจึงทำให้ผมสามารถเข้าใจถึงปัญหาเหล่านี้

   “พี่ปั๊มพี่จะพาผมไปไหน" ผมชักตงิด ๆ ใจเพราะทางที่พี่ปั๊มขับรถมามันเป็นถนนเส้นใหญ่ที่ตัดผ่านซอยเข้าบ้านของคุณชาย ในใจผมก็ภาวนาว่าพี่ปั๊มคงจะไม่คิดอะไรแผลง ๆ โดยการบุกพาผมไปบ้านของคุณชายหรอกนะ

   “หึ ๆ" พี่ปั๊มเพียงหัวเราะในลำคอเท่านั้น และพอพี่ปั๊มหักเลี้ยวเข้าซอยบ้านของคุณชายเท่านั้นแหละ ผมก็โวยวายทันที

   “พี่... จะเข้าไปทำไม ผมไม่อยากไป ผมกับคุณชายเราจบกันแล้ว!!!”

   “จบเหรอ... มึงแน่ใจเหรอ กูว่ามึงควรไปปรับความเข้าใจแล้วก็ขอโทษคุณชายดี ๆ ซะ" พี่ปั๊มเอ่ยออกมา

   “ไม่! ผมไม่ผิด พี่ปั๊มกลับเลย พี่ปั๊มไม่รู้เรื่องอะไรอย่ายุ่งดีกว่า" ไม่รู้ว่าผมพูดแรงไปหรืออย่างไร เพราะแทนที่พี่ปั๊มจะโต้กลับแต่เขากลับเงียบเสียงลงและขับรถไปเรื่อย ๆ ทันที

   “พี่ปั๊ม..." ก่อนที่จะถึงหน้าบ้านของคุณชายผมก็เอ่ยชื่อของพี่ชายสุดที่รักอย่างสำนึกผิดพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะที่บ่าของพี่ปั๊มจากทางด้านหลังเบา ๆ

   “มึงไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น" พี่ปั๊มเอ่ยออกมา

   พอถึงหน้าบ้านของคุณชาย พี่ปั๊มก็จอดรถและกดกริ่งที่หน้าประตูทันที ไม่นานมากนักช้างก็รีบวิ่งมาเพื่อที่จะเปิดประตูแต่พอเห็นหน้าผมช้างก็หน้าถอดสีแล้วหันหลังไปมองราวกับกลัวว่าจะมีใครเห็นแล้วรีบวิ่งมาที่หน้ารั้วทันที

   “คุณข้าว ตอนนี้คุณชายอารมณ์ไม่ดี ผมว่าคุณข้าวกับไปเถอะครับ" สีหน้าของช้างแสดงถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าถ้าคุณชายมาเห็นผมตอนนี้ ผมจะต้องโดนคุณชายทารุณกรรมจนตายไปอย่างไรอย่างนั้น

   “ครับ" ผมพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย แต่ทว่า...

   “ไม่...” พี่ปั๊มปฏิเสธกลับพร้อมกับกระหน่ำกดกริ่งที่หน้ารั้ว

   ผมพยายามห้ามแล้ว แต่พี่ปั๊มก็ดื้อดึงเหลือเกินจนท้ายที่สุด... คุณชายที่กำลังมีสีหน้าเคร่งเครียดแววตาดุดันราวกับเสือร้ายที่ต้องการขย้ำเหยื่อให้เละคาอุ้งเท้าก็เดินออกมา

   พอเห็นหน้าผม คุณชายก็เหลือกตาใส่แล้วรีบเร่งฝีเท้าเดินมาที่หน้ารั้วทันที

   “นายจะมาที่นี่อีกทำไม!!!” นั่นประไรเดินมาถึงก็ทำเสียงดุใส่เลย "ฉันคิดว่านายเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำ... ว่าฉันรังเกียจนายมากแค่ไหน”

   “เอ่อ... ผม...” ทั้ง ๆ ที่โกรธคุณชายแทบตาย มีคำที่อยากจะด่าอยากจะต่อว่าก็เยอะแยะแต่พออยู่ตรงหน้ากลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ ยิ่งคำพูดที่ประชดประชันของคุณชายที่พูดออกมามันยิ่งทำให้ผมรู้สึกกับมีมวลอากาศจุกอยู่ในลำคอ

   “คุณชาย!” เมื่อผมพูดอะไรไม่ออก พี่ปั๊มก็เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมารับหน้าแทน "คุณชายทำแบบนี้กับไอ้ข้าวได้ยังไง"

   “มันไม่เกี่ยวกับนาย" คุณชายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นไร้ซึ่งความเป็นมิตร ทั้ง ๆ ที่ปกติคุณชายไม่เคยทำนิสัยแบบนี้กับพี่ปั๊มเลยสักครั้ง

   “คุณชายรู้ไหม ไอ้ข้าวมันเสียใจมากแค่ไหนกับสิ่งที่คุณชายทำ มันเดินร้องไห้กลับไปที่ปั๊มโดยที่มันไม่รู้ตัว ถ้ามันไม่รักคุณชาย... มันคงไม่เสียใจและร้องไห้แบบนี้หรอก" พี่ปั๊มพูดจาฉอด ๆ ราวกับรู้เรื่องราวทุกอย่างดี แม้ผมจะไม่ได้พูดอะไรให้พี่ปั๊มฟังก็ตาม

   “หึ! แล้วไง ข้าวมันรักฉันรึไง... เออ... จะรักก็รักไปแต่ฉันไม่ได้รักมัน และเพราะฉันรู้ว่ามันรักฉัน ฉันเลยไม่อยากจะพบหน้ามันอีกยังไงล่ะ" สิ่งที่คุณชายพูดมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับตายทั้งเป็น ต่อให้มีมีดนับร้อยเล่มบินมาปักที่ร่างของผมมันก็คงไม่รู้สึกทรมานเท่ากับคำพูดที่เสียดแทงจิตใจของคุณชาย "ฉันรับไม่ได้ที่พี่เลี้ยงของฉันจะเป็นพวกรักร่วมเพศ กลับไปซะและอย่ามาเหยียบที่นี่อีก"

   พูดจบคุณชายก็ทำท่าจะหันหลังกลับไป แต่ก่อนที่คุณชายจะได้ทำอย่างที่ตั้งใจพี่ปั๊มก็เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน

   “เดี๋ยวครับ!” คุณชายชะงัก "ตอนคุณชายพูด ทำไมคุณชายต้องหลบหน้าไอ้ข้าวมันด้วย... ที่คุณชายไม่กล้ามองหน้ามันเพราะคุณชายไม่ได้รู้สึกตามที่พูดใช่ไหมล่ะครับ"

   คุณชายหยุดฟังจนจบ... แต่ทว่าน่าแปลกที่คุณชายไม่ได้หันมาโต้ตอบอะไร ทั้ง ๆ ที่ปกติคนอย่างคุณชายไม่น่าจะยอมอะไรง่าย ๆ แบบนี้ คุณชายเพียงตะโกนให้หลังว่า

   “กลับไปซะ... และอย่ามาเหยียบที่นี่อีก" สงสัยว่าคุณชายกลัวว่าผมกับพี่ปั๊มจะไม่กลับไปง่าย ๆ ก็เลยส่งคำขู่แถมท้ายอีกหนึ่งประโยคว่า "ถ้าพวกนายไม่อยากให้ไอ้ช้างโดนไล่ออก ก็อย่ากดออดพร่ำเพรื่อ"

   แล้วคุณชายก็เดินกลับเข้าไปในตัวบ้านทันที ส่วนช้างในตอนนี้มีสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก อาจเป็นเพราะช้างไม่กล้าที่จะเอ่ยปากไล่ผม แต่ก็กลัวที่จะโดนคุณชายไล่ออกตามคำขู่เลยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

   “กลับกันเถอะพี่ปั๊ม" ผมเอ่ยเสียงเบาเพราะอดเห็นใจช้างไม่ได้ อีกทั้งหากจะยืนอยู่ที่นี่ก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่า

   “อืม...” พี่ปั๊มตอบรับก่อนที่จะเดินมากอดคอผมแล้วพูดปลอบใจ "มึงไม่ต้องเสียใจนะ... กูดูออกว่าคุณชายแค่พูดประชดมึงเท่านั้น"

   “ผมบอกให้กลับ!!!” ผมตะคอกเสียงดังไม่สนใจในสิ่งที่พี่ปั๊มพูดสักนิด ไม่ว่าคุณชายจะรู้สึกอย่างไรแต่ถ้าการที่คุณชายจะรักผมแล้วมันทำให้คุณชายลำบากใจ... ผมก็ควรจะไป... ไปให้พ้น ๆ จากชีวิตคุณชายอย่างที่คุณชายต้องการ




   ทางด้านของคุณชายเป๊ก...

   หลังจากที่คุณชายได้ตะคอกด่าข้าวออกไป เขาก็ตัดสินใจที่เดินหันหลังกลับเข้าไปในตัวบ้านทันที ไม่ใช่เพราะต้องการจะหนีหน้าแต่เป็นเพราะคุณชายกำลังรู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่ตนได้กระทำ... เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นมันตรงกันข้ามกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของเขาอย่างสิ้นเชิง

   ขณะที่หันหลังแล้วยืนฟังคำที่ปั๊มเอ่ย... พวกเขาเหล่านั้นจะรู้บ้างไหมว่าคุณชายเองก็กำลังเสียใจไม่ต่างกัน แล้วน้ำตาที่ไม่เคยไหลมาหลายปีมันก็เอ่อล้นและทะลักลงมาจากดวงตาของคนปากแข็งอย่างคุณชายเป๊ก

   คุณชายก้าวขาเข้าไปในบ้านด้วยความรวดเร็ว โดยไม่สนคนใช้ที่มองมาด้วยความห่วงใยตลอดทาง เพราะคุณชายไม่ต้องการจะพูดคุยกับใครในตอนนี้ทั้งสิ้น... แม้กระทั่งแม่ของตัวเองก็ตาม

   คุณหญิงวลีลาวัลย์ที่เห็นลูกชายเดินก้มหน้าก้มตา... อีกทั้งยังมีดวงตาที่แดงก่ำก็ได้แต่มองตามด้วยความห่วงใย เธออยากจะเข้าไปปลอบใจเหลือเกินแต่เพราะลูกชายไม่เคยแสดงอาการแบบนี้ให้เห็นเลยสักครั้งเลยทำให้เธอคิดว่าควรจะปล่อยให้ลูกชายได้ใช้เวลาอยู่ตามลำพังไปก่อน พอใจเย็นลง... เธอค่อยหาโอกาสเข้าไปปลอบ

   หลังจากที่เข้าไปในห้อง... คุณชายก็ล็อกประตูก่อนที่จะทิ้งตัวนอนคว่ำลงไปกับเตียงนอน ปล่อยให้หยดน้ำใส ๆ ที่ไหลรินลงมาจากดวงตาซึมไปกับหมอน

   ทำไมนะ... ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะรู้สึกดีที่ได้เขี่ยคนที่จิตวิปริตผิดเพศไปให้พ้น ๆ ได้สักที แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับเสียใจจนอยากจะคุกเข่าขอร้องให้คน ๆ นั้นกลับมา แต่เขาก็ทำไม่ได้... เพราะแม้จะรู้ความรู้สึกในจิตใจดีแล้วว่ารู้สึกอย่างไรกับข้าว แต่เขาก็ไม่อาจยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นและสิ่งที่ตัวเองเป็นได้อย่างแน่นอน

   ขนาดเขายังเสียใจมากมายขนาดนี้... แล้วข้าวล่ะจะเสียใจแค่ไหน... พอคิดดังนั้นคุณชายก็กำหมัดแน่นก่อนจะทุบกำปั้นนั้นลงไปกับเตียงนอนสุดแรง เพื่อทำโทษตัวเอง.... แต่เหมือนว่านั่นจะยังไม่หนำใจเพราะเบาะนอนมันนุ่มเกินไปเขาก็เลยตัดสินใจลุกขึ้นก่อนที่จะกำหมัดแล้วอัดมันเข้าไปที่กำแพงหลายครั้งจนมือถลอก... มีเลือดไหลซึมออกจากหลังมือ

   แม้ว่าจะเจ็บปวดมากแค่ไหนแต่คุณชายกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้เศษเสี้ยวของความเจ็บที่ก่อเกิดในจิตใจเลย

   'ให้อภัยฉันด้วยนะข้าว' คุณชายได้แต่อ้อนวอนในใจเพราะคงไม่มีวันที่คุณชายจะกลับไปพูดกับข้าวได้ตรง ๆ อีกแล้ว






   รถมอเตอร์ไซค์ของพี่ปั๊มถูกสตาร์ททันทีหลังจากที่ผมตะคอกสั่ง พี่ปั๊มหน้าเสียเล็กน้อยแต่ท้ายที่สุดก็พยายามฝืนยิ้มและทำตัวให้เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะไม่อยากให้ผมเครียด

   “มึงอยากให้กูพาไปที่ไหน" พี่ปั๊มเอ่ยถามขณะเลี้ยวออกจากซอย

   “ไปไหนก็ไปเหอะ แต่อย่าพาผมกลับมาที่นี่อีก" ผมตอบเบา ๆ พอเริ่มควบคุมอารมณ์แล้วผมก็ค่อย ๆ ยกมือข้างหนึ่งขึ้นไปแตะไหล่ของพี่ปั๊มอย่างสำนึกผิด "ขอโทษนะพี่ที่ตะคอกใส่"

   “เฮ้ย!... ไม่เป็นไรน่า" พี่ปั๊มพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ "แต่มึงเชื่อกูนะว่าคุณชายแค่ไม่แน่ใจตัว...”

   “หยุด!” ผมเอ่ยขัด ไม่ปล่อยให้พี่ปั๊มพูดจบ "อย่าพูดถึงคุณชายอีก..."

   “แต่ข้าว... เชื่อกูเถอะว่าคุณชาย...”

   “ถ้าไม่หยุดผมจะกระโดดลงจากรถเดี๋ยวนี้แหละ" พอเห็นว่าพี่ปั๊มไม่ฟัง ผมก็เลยต้องขู่

   “เออ ๆ ไม่พูดแล้ว ๆ เอาเป็นว่าอาทิตย์หน้าไปเที่ยวบ้านกูกันดีกว่าเนอะ"

   “อืม...” ผมขานรับ... แค่ได้ยินว่าพี่ปั๊มจะไม่พูดถึงคุณชายแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว แต่เดี๋ยวก่อน... เมื่อกี้พี่ปั๊มพูดอะไรต่อนะ "พี่ปั๊มว่าไงนะ... เที่ยว!... บ้าน!... บ้านพี่งั้นเหรอ"

   “เออ... มึงตอบรับกูแล้วนะ เพราะฉะนั้นมึงต้องไปกับกู" พี่ปั๊มเอ่ยอย่างรู้ทัน สงสัยกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจปฏิเสธ แม้ผมจะไม่ชอบการเดินทางไกล ๆ สักเท่าไหร่ แต่ถ้านาน ๆ ทีได้หาเวลาพักผ่อนบ้างมันก็น่าสนใจเหมือนกัน

   “โหย... บ้านนอกอย่างบ้านพี่ปั๊มมีไรน่าเที่ยว" ผมแสร้งทำเสียงผิดหวัง "ไม่น่าหลุดปากรับคำเลย"

   “เออ ๆ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปวะ" พี่ปั๊มตะคอกกลับ สงสัยจะงอน... “บ้านกูมันบ้านนอก บ้านไม้เล็ก ๆ ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนวังของคุณชายนี่ อุ๊บ...”

   “พี่ปั๊ม..." ผมพูดเสียงเบาเพราะคิดว่าพี่ปั๊มจะโกรธจริง ๆ ถึงขนาดต้องเอาบ้านของคุณชายมาประชดประชันเปรียบเทียบ แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยจนจบประโยคพี่ปั๊มก็ดันพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

   “เอ้อ... ไอ้ข้าว กูขอโทษ มึงอย่ากระโดดลงจากรถนะ" สงสัยว่าพี่ปั๊มจะไม่ได้โกรธอะไรและกลายเป็นว่าพี่ปั๊มเองนั่นแหละที่กังวลว่าผมจะโกรธ

   พอจับต้นชนปลายถูกผมก็ได้แต่ร้อง 'อ๋อ' ในใจ เพราะพี่ปั๊มเอ่ยถึงคุณชาย และผมได้ห้ามเอาไว้แล้วว่าห้ามพูดถึงพี่ปั๊มก็เลยเป็นห่วง

   “ฮ่า ๆ ๆ" คิดดังนั้นผมก็หัวเราะเสียงดังลั่นพร้อมกันนั่นก็เผลอแกล้งเอื้อมมือไปกอดกับพี่ปั๊มสุดแรง "คนอะไรน่ารักจริงจริ๊ง"

   “เฮ้ย!!!” พี่ปั๊มอุทานออกมา "ปล่อย... มึงอย่าเล่นงี้ดิวะ"

   “ฮ่า ๆ ๆ" ผมหัวเราะชอบใจ ยิ่งเห็นพี่ปั๊มพยายามนั่งบิดซ้ายบิดขวาเพื่อให้ผมปล่อยผมก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นไปอีก




จบตอน

555+++ ไม่รู้ว่าคนอ่านจะสงสารคุณชายบ้างไหม หรือ สมน้ำหน้าอย่างเดียวเพราะทำตัวเอง หรือมัวแต่จิ้นพี่ปั๊มกันน๊อ ^^"
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: WednesdayAugust ที่ 19-01-2014 18:20:36
ไม่สงสารคุณชายเลย ชิส์
*โบกแท่งไฟพี่ปั๊มรัวๆ*
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 19-01-2014 18:51:14
ยิ่งเกลียดคุณชายมากขึ้น

ฟันข้าวแล้วทิ้ง

หาว่าข้าวเป็นคนจิตวิปริต

ถามจริงเถอะใครเริ่มก่อน

ขอให้ข้าวหมดรักคุณชาย

เริ่มต้นชีวิตใหม่

กับคนที่รักเราจริง

และยอมรับในตัวเรา

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 19-01-2014 18:54:38
ต้องแก้แค้นให้มากๆ
คุณชายพูดอะไรออกมา ใจร้ายมาก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-01-2014 19:21:25
ไม่สงสารสักนิด
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน19 P.14] - 16/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 19-01-2014 19:21:51
มีแต่คนเขี่ยให้ คุณชาย โดนทิ้ง
เชียร์ เด็กปั๊ม ได้กันเอง กันเกลียว ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 19-01-2014 19:25:31
คุณชายเป๊ก  ไอ้โรคจิต   :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-01-2014 19:26:12
ไม่สงสาร อิคุณชายสักนิดเดียวอ่ะ
บอกรับไม่ได้ แต่ฟันน้องข้าวแร้วทิ้งแบบนี้ได้เนี่ย
เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง จิงๆ
อกหักไปซะเห๊อะ!!!
(พี่ปั๊มสู้ๆ!!! ข้าวรุกพี่ปั๊มปายเรย โอกาสตอนหน้านี่เหมาะอ่ะ บอกเรย 555)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-01-2014 19:33:42
ไม่สงสาร ทำตัวเองทั้งนั้นอิคุณชายนิสัยไม่ดีถ้ารู้ว่าจะต้องห่างแบบนี้แล้วจะไปมีอะไรกับข้าวทำไม มันไม่ต่างกับการฟันแล้วทิ้งสักนิด
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 19-01-2014 21:27:02
ไปเที่ยวบ้านพี่ปั๊มกันดีกว่า จะได้สบายใจขึ้นบ้าง
ปล่อยให้คุณชายนั่งคิดนอนคิดอยู่ในวังนั่นหล่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 19-01-2014 21:52:18
อยู่กับพี่ปั๊มดีกว่า สบายใจ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-01-2014 22:10:58
คุณชายคิดมากเกิ๊นนนนนน
รีบๆ ดีกันน๊าาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pornumpai-ka ที่ 19-01-2014 22:50:31


ปั๊มน่ารักอ่ะ
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบ

 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: หยกกลม ที่ 20-01-2014 20:23:54
เชียร์ปั๊ม คุณชายมันทำตัวน่าเบื่ออ่ะ


ขอบคุณคร้าที่ลงเรื่องสนุกๆให้อ่าน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 23-01-2014 20:58:11
เฮ้อ นอกจากไม่รู้จะสงสารอะไรคุณชาย มันยังน่าโกรธกว่าเดิมปะเนี่ย
เพราะยังไม่เห็นจะมีใครไปกดดันอะไรคุณชายเลยนะ คุณชายก็เครียดเอง เศร้าเองรับไม่ได้เองซะละ
คุณหญิงแม่ก็ดูรักและเป็นห่วงคุณชายมากคงไม่ทำร้ายจิตใจคุณชายหรอกมั่ง
พี่ปั้มก็เป็นคนดีจริง หวังดีเห็นข้าวเศร้าเลยพาข้าวไปหาคุณชายให้เศร้ากว่าเดิมอีก
เพราะคราวนี้ต้องฟังคำพูดร้าย ๆจากปากคุณชายเองเลยอะ น่าสงสารข้าวจัง เพราะงั้นช่วงนี้พี่ปั้มต้องปกป้องดูแลข้าวนะ
แล้วก็งงกะคุณชาย ในเมื่อรับไม่ได้ขนาดนี้จะมาแอบกุ๊กกิ๊กกะข้าวทำไม พอได้ตัวได้ใจก็ดันหักดิบตัดใจจากข้าวซะงั้น
แบบนี้ใครจะไปสงสารคนเห็นแก่ตัวอย่างคุณชายได้ล่ะเนี่ย แล้วคุณชายกะข้าวจะมาเจอกันอีกยังไงนะมันดูคนละทางกันเลย
นอกจากคุณชายจะประเภทหวงก้างงะ เห็นใครใกล้ข้าวก็พาลตอแยรึเปล่า แต่ยังไงก็ขอให้ข้าวอยากเป็นฝ่ายพยามเข้าหาคุณชายก่อนละกันน๊า
รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมค๊า  :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Miw_Miw@In Love ที่ 23-01-2014 22:18:50
เค้ายังชอบคุณชายอยู่น้าาาาาาาาาาาาาาาาา

 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 23-01-2014 22:27:55
รอไปเที่ยวพร้อมปํ๊มกับข้าว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 25-02-2014 01:55:30
รอคุณชายมันมากอดขาร้องไห้ขอความรักจากข้าว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 14-04-2014 18:57:54
คิดถึงน้องข้าวจังค่ะ ยังไม่ได้แก้แค้นคุณชายเลย หนีหายไปไหนซะแล้ว
ยังรอติดตามอยู่นะคะ  :pig4: :กอด1:
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ ผู้เขียน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน20 P.14] - 19/01/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 17-07-2014 11:58:04
   5 วันต่อมา...

   ผมกับพี่ปั๊มได้ขออนุญาติผู้จัดการหยุดยาว... เนื่องจากว่าใน 1 ปี นั้นผู้จัดการอนุญาตให้ขอลาหยุดชดเชยได้ 7 วัน เพราะปั๊มแห่งนี้ไม่อนุญาตให้พนักงานหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ จึงทำให้ทางปั๊มต้องชดเชยวันหยุดให้ในวันอื่นแทน แต่มีข้อแม้ว่าห้ามพนักงานหยุดพร้อมกันเกิน 3 คน ...ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ไอ้โด้ขอหยุดเพื่อที่จะไปเที่ยวที่บ้านเกิดของพี่ปั๊มด้วย แต่กว่าที่พี่ปั๊มจะยอม ไอ้โด้ก็ต้องเอ่ยพยายามอย่างยากลำบากเหมือนกัน

   “อะไรนะ! พี่ปั๊มจะพาพี่ข้าวไปเที่ยวบ้านงั้นเหรอ" โด้เอ่ยอย่างตื่นเต้น หลังจากที่พี่ปั๊มแจ้งข่าวให้ไอ้โด้รับทราบ

   “ก็เออน่ะสิ... แล้วมึงจะตะโกนเสียงดังทำไม" พี่ปั๊มยื่นมือไปตบกบาลไอ้โด้เบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้

   “โอ๊ย...” ไอ้โด้แสร้งทำเสียงเจ็บปวดก่อนที่จะกระพริบตาปริบ ๆ แล้วปฏิบัติการออดอ้อนก็เริ่มขึ้น "พี่ปั๊มสุดหล่อของโด้... โด้เป็นแค่เด็กตาดำ ๆ ที่บ้านยากจน กระซิก ๆ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองเหนือรึเปล่า... ไอ้โด้มันน่าสงสาร ใคร ๆ ก็ไม่รักมัน... ฮือ...”

   โด้สาธยายยืดยาวพร้อมกับแกล้งยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้ไหลออกมาสักนิดเพื่อแสดงให้สมบทบาท

   “ไม่!!!” พี่ปั๊มปฏิเสธอย่างรู้ทัน

   “โถ่... ดูสิ ไอ้โด้เอ๊ย แกมันเกิดมาอาภัพ ขนาดพี่ชายสุดหล่อยังไม่รักแค่พาไปเที่ยวบ้านเกิดยังพาไปไม่ได้ ผิดที่แกเองแหละโด้ วาสนาไม่ถึง บุญบารมีก็ไม่ดี เฮ้อ... สงสารชาตินี้จะต้องพยายามเข้าวัดทำบุญบ่อย ๆ เผื่อว่าชาติหน้าเกิดมาจะได้มีคนเมตตากับเขาบ้าง...” โด้ยังพยายามต่อไป ส่วนผมได้แต่พยายามข่มอารมณ์ความขำขันไว้ข้างในจิตใจเพราะกลัวว่าจะเป็นการเสียน้ำใจหากหัวเราะออกมาตรง ๆ
   ผิดกับพี่ปั๊มที่เอาแต่ขมวดคิ้วมุ่น...

   “ไม่ว้อย...” พอปฏิเสธ... โด้ก็เริ่มแตะเนื้อต้องตัว แรก ๆ ก็แค่หัวไหล่แต่พอพี่ปั๊มยังยืนกรานคำเดิมโด้ก็ค่อย ๆ เลื่อนมือลงมาถึงกลางหลัง และในไม่ช้ามือของโด้คงจะเลื่อนลงไปถึงบั้นท้ายของพี่ปั๊มแน่ ๆ หากพี่ปั๊มไม่เอ่ยออกมาเสียก่อนว่า...

   “เออ... ตกลง ปล่อยกูได้แล้วไอ้เชี่ยโด้ กูเสียว บรึ๋ย!!!” พี่ปั๊มขนลุกซู่ว... พร้อมกับรีบถอยห่างจากโด้มาหลบอยู่หลังผมราวกับกลัวว่าจะโดนโด้ลวนลามจนทำให้ความยริสุทธิ์ที่เก็บไว้มานานหายไป "แต่มีข้อแม้...”

   “ข้อแม้อะไรครับพี่ปั๊มสุดหล่อ...” โด้กระพริบตาปริบ ๆ อย่างใคร่รู้ "โด้ยอมทุกอย่าง...”

   “หึ... มึงต้องห้ามเรียกกูแบบนี้อีก และมึงต้อง...” พี่ปั๊มทำหน้าครุ่นคิด

   “ต้อง...” โด้ทวนคำอย่างตื่นเต้น "ต้องอะไรครับ"

   พี่ปั๊มไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่กลับมากระซิบที่ข้างหูของผมเบา ๆ "ต้องอะไรดีวะไอ้ข้าว ช่วยกูคิดหน่อยดิ...”

   “อ้าว... พี่ปั๊มยังคิดไม่ออกเหรอ" ผมกระซิบกลับ

   “ก็เออสิวะ อยากแกล้งไรมันมึงก็ว่ามาได้เลย"

   สิ้นเสียงของพี่ปั๊มผมยิ้มกริ่ม ก่อนที่จะกระซิบกลับเบา ๆ ว่า "ต้องกอดกูแรง ๆ หนึ่งทีตอนนี้"

   “เออ... ต้องกอดกูแรง ๆ หนึ่งทีตอนนี้" พี่ปั๊มที่มัวแต่พะวักพะวนเรื่องไอ้โด้จะทำมิดีมิร้ายเผลอพูดตามผมโดยที่ไม่ได้ไตร่ตรอง

   “ได้สิครับพี่ปั๊มสุดหล่อของโด้" แล้วไอ้โด้ก็ยิ่มกริ่มก่อนจะวิ่งมากอดพี่ปั๊มสุดแรง... พี่ปั๊มพยายามจะวิ่งหนีแล้วแต่เพราะผมช่วยจับเอาไว้สุดท้ายพี่ปั๊มก็เสร็จไอ้โด้จนได้

   “ฮ่า ๆ ๆ" ผมได้แต่หัวเราะด้วยความชอบใจพร้อมกับยกนิ้วหัวแม่มือเป็นคำชมให้โด้ ส่วนไอ้โด้ก็ยิ้มรับพร้อมกับยกนิ้วหัวแม่มือตอบกลับมาเช่นกัน ผิดกับพี่ปั๊มที่เป็นเพียงคนเดียวที่เอาแต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกับส่งสายตาดุ ๆ มาทางผม

   หลังจากที่ตกลงกับผู้จัดการเรียบร้อย... พวกเราทั้งสามต่างก็แยกย้ายกันกลับที่พักและได้นัดแนะตกลงกันอีกว่าให้ไปรวมตัวกันที่หอพักของพี่ปั๊มเวลาบ่าย 4 โมงเย็น

   ก่อนที่ผมจะปั่นจักรยานกลับไปเก็บของที่บ้าน... ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดสมองของผมถึงสั่งให้ผมปั่นจักรยานไปที่บ้านของคุณชายเสียก่อน
   ทั้ง ๆ ที่พยายามไม่คิดถึง แต่มันก็อดเป็นห่วงและอยากเห็นหน้าของคุณชายไม่ได้เหมือนกันแฮะ...

   ผมใช้เวลาปั่นจักรยานไม่นานมากนัก ก็ไปถึงที่บริเวณหน้ารั้วบ้านของคุณชาย ผมจอดจักรยานหลบมุมเอาไว้ก่อนที่จะย่องเข้าไปส่องช่องว่างตรงกำแพงรั้วอย่างเงียบเชียบเพราะไม่อยากให้ใครเห็น แม้แต่ช้างก็ตาม...

   ภายในรั้วบ้านของคุณชาย ลุงแช่มกับช้างเดินไปเดินมาบริเวณสวนหน้าบ้านตามปกติ พอมองลึกเข้าไปในตัวบ้านก็เห็นแม่บ้านและคนใช้คนอื่น ๆ เดินกันว่อนทว่ากลับไม่เห็นร่างของคุณชาย

   ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างหมดหวัง ทว่าพอตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อที่จะกลับบ้าน ร่างที่ยืนจ้องเขม็งอยู่ด้านหลังก็ทำให้ผมชะงักกึก

   คุณชายยืนจ้องผมตาเขม็ง มือข้างหนึ่งของคุณชายถือไอศกรีมแม่งรสโปรดที่มีขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อ ส่วนมืออีกข้างถือถุงหิ้วใบใหญ่ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าน

   “อ่ะ... เอ่อ... คุณชายไปซื้อของมาเหรอครับ" ผมเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก รู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูกที่คุณชายมาเห็นว่าผมกำลังแอบส่องมองคุณชายอยู่ที่หน้ารั้วบ้าน

   ทว่าพอคิดไปถึงเรื่องที่คุณชายเดินออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด เพราะก่อนหน้านี้เราสองคนมักจะทะเลาะกันบ่อย ๆ เรื่องออกไปซื้อของหน้าปากซอย เนื่องจากคุณชายมักจะขับรถเบนซ์ออกไปซื้อส่วนผมก็จะชอบต่อว่าที่คุณชายไม่รู้จักเดิน... ปากซอยก็อยู่ไม่ไกลนักเดินแค่ไม่กี่นาทีก็ถึง แต่ไม่ว่าจะทะเลาะกันสักกี่ครั้งคุณชายก็ไม่เคยยอมผมสักครั้งจะต้องขับรถออกไปซื้อของตลอด ...แต่ในวันนี้มันไม่ใช่

   “มาที่นี่อีกทำไม" คุณชายถามเสียงขรึม ...ไม่สนใจตอบคำถามผมสักนิด

   “ก็...” ผมชะงัก จะให้ผมพูดออกไปได้อย่างไรว่าผมเป็นห่วงคุณชาย อยากมาดูให้รู้ว่าคุณชายยังปกติดีหรือเปล่า

   สงสัยว่าผมจะนิ่งเงียบนานเกินไป คุณชายก็เลยถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านด้วยความเงียบเชียบ ไม่แม้แต่จะชายตามองผมหรือหันหลังกลับมาหลังจากที่เดินผ่านผมไป

   ผมถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย อุตส่าห์ได้เจอคุณชายแล้วแท้ ๆ เราน่าจะได้พูดคุยอะไรกันให้มากกว่านี้ และด้วยความเสียดายนี้แหละ เลยทำให้ผมยืนตะโกนให้หลังอยู่หน้ารั้วว่า

   “คุณชายไม่ขับรถออกไปซื้อของแล้ว... เก่งจังเลยนะครับ" พูดจบ... ผมก็อยากจะตบกบาลตัวเองให้แรงที่สุดหลาย ๆ ที รู้ทั้งรู้ว่าคุณชายเป็นพวกไม่ชอบเสียหน้าและยอมแพ้แต่ผมดันเอาเรื่องแบบนี้มาพูดซะอย่างนั้น เจอกันทั้งทีน่าจะพูดอะไรที่มันดีกว่านี้

   คุณชายหยุดนิ่งไปชั่วขณะ... ไม่รู้ว่าผมหูแว่วหรือมโนไปเองหรือเปล่าเหมือนผมได้ยินคุณชายตอบกลับมาว่า

   “ก็นาย... เคยขอให้ฉันหัดทำแบบนี้ไม่ใช่รึไง" สิ้นเสียงที่คล้ายกับเสียงกระซิบนั้น คุณชายก็ก้าวขาเดินต่อไปส่วนผมได้แต่ทอดสายตามองตามร่างนั้นไปจนกระทั่งลับสายตา

   ไม่น่าเชื่อว่าการที่เราทะเลาะกันและไม่เจอกันเพียงไม่กี่วัน... พอกลับมาเจอกันอีกครั้งจะทำให้ผมเกิดความรู้สึกประหลาด ๆ มากมายขึ้นในจิตใจ

   ผมอยากจะเดินเข้าไปในรั้วบ้านของคุณชายเหลือเกิน... อยากจะเข้าไปเป็นไอ้ข้าวให้คุณชายโขกสับเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่ผมก็ทำได้แค่คิดเพราะในตอนนี้คุณชายไม่ต้องการให้ผมทำแบบนั้นอีกแล้ว

   ท้ายที่สุดผมก็เดินคอตกและถอนหายใจออกมาหลายสิบครั้งก่อนที่จะปั่นจักรยานกลับบ้านไป... กลับไปทั้งที่ผมได้ทิ้งอะไรบางอย่างเอาไว้ตรงนั้น และหวังว่าสักวันคุณชายจะเก็บมันขึ้นมาแล้วรู้ว่า ความรัก ความหวังดีที่ผมยังทิ้งไว้ที่คุณชายน่ะมันมีคุณค่ามากแค่ไหน

   ‘อย่างอแงสิไอ้ข้าว อย่าหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ สิ’ ผมรู้สึกรื้นที่บริเวณขอบตา มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาถู ๆ ไถ ๆ เพราะไม่อยากให้น้ำใส ๆ เหล่านั้นมันไหลลงมา ...โถ่เอ๊ย ผมจะต้องรู้สึกแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เมื่อไหร่ผมถึงจะทำใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันได้นะ



ขออภัยครับที่หายไปนาน T___T
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน21 P.15] - 17/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-07-2014 12:37:59
 :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: ขอแบบหลายๆที โห่ อย่างนานอะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน21 P.15] - 17/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 17-07-2014 13:24:00
อย่าหายไปนานอีกนะ ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน21 P.15] - 17/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 17-07-2014 13:34:16
 :impress2:   อ๊ายยย น้องข้าวกลับมาแล้ว   :mew1:

อย่าหายไปนานๆอีกเลยนะ คิดถึง :sad4:

ว่าแต่อิคุณชายเนี่ย ซึนเหมือนเดิมจริงๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน21 P.15] - 17/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 17-07-2014 14:58:09
ประกาศ.........

ประกาศ...................

ประกาศ............................

มีเพลงประกอบนิยายเรื่องนี้มาฝากด้วยครับ 5555+++ Ver.ชั้นต้องอุดดู อยากฟังตามลิ้งค์ไปเลยน๊า

คำเตือน... กรุณาปิดตา และอุดหูก่อนดูทุกครั้ง T__T

เพลง เธอทั้งนั้น... (มีแต่เพลงนี้ ไม่มีดนตรี 555++ หาคนดีดกีต้าร์ให้อยู๋)
https://www.facebook.com/photo.php?v=618327094941711
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน21 P.15] - 17/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 17-07-2014 15:39:10
เย้มาต่อแล้ว หายไปในช่วงกำลังกินมาม่าพอดี อารมณ์ค้างมานาน

แต่ข้าวไม่น่ากลับไปหาคุณชายเลย เล่นตัวแรงๆ นานๆ ไปเลย อย่าได้แคร์

มาต่อเร็วๆอีกนะ รอไปเที่ยวเหนือด้วยคน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน21 P.15] - 17/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 17-07-2014 19:05:04
 o13

ไม่เปนไรน้า ดีใจ o22 มาต่อแล้ว

อย่าหายไปนานๆอีกนะ
หัวข้อ: Re: ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน21 P.15] - 17/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-07-2014 20:34:04
น้องข้าวมาแล้วอ่ะดีใจๆ :mew1: o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน21 P.15] - 17/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 17-07-2014 23:10:45
ข้าวกับคุณชายกลับมาแล้ว

ข้าวน่าจะไปเที่ยวนานๆเนอะ คุณชายมันจะได้คิดถึงอกแตกตาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน21 P.15] - 17/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 22-07-2014 19:59:15
ตอนที่ 22



แล้ววันเดินทางไปเที่ยวบ้านของพี่ปั๊มก็มาถึง พวกเราเดินทางมาถึงสถานีขนส่งก่อนเวลาขึ้นรถทัวร์ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่ต้องเผื่อเวลาไว้พอสมควรก็เพื่อป้องกันการผิดพลาดจากการจราจร มาถึงไวกว่าอย่างไรก็ดีกว่ามาสาย


   “ไอ้โด้... กูถามจริงเหอะ มึงคิดยังไงถึงแต่งตัวแบบนี้" พี่ปั๊มเอ่ยขึ้น


   ผมหันไปมองโด้แล้วก็ต้องพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วยกับคำถาม เพราะโด้แต่งตัวด้วยเสื้อหนังสีดำแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าหนัง ที่ศีรษะก็สวมหมวกไหมพรมสีขาว มิหนำซ้ำมือทั้งข้างยังสวมถุงมือสีขาว บนใบหน้ายังมีแว่นตาดำทรงกลมทาบทับ


   “ไปเที่ยวเหนือทั้งทีก็ต้องใส่เสื้อหนา ๆ สิครับ ได้ยินมาว่าภาคเหนือของประเทศไทยอุณหภูมิต่ำ ยิ่งพอไปเที่ยวบนเขาบนดอยบางทีก็อุณหภูมิติดลบ โด้ก็ต้องทำตัวให้ชินก่อนสิครับพี่ ๆ" โด้ตอบอย่างฉะฉาน "แล้วพวกพี่ไม่เตรียมเสื้อกันหนาว ถุงเท้า ถุงมือและหมวกหนา ๆ ไปเหรอครับ ไม่เป็นไร โด้เตรียมมาเยอะไว้เดี๋ยวโด้ให้ยืม"


   “โถ่เอ๊ย... ไอ้โด้" พี่ปั๊มพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ "ไอ้อากาศหนาว ๆ น่ะ มันต้องช่วงปลายปีหน้าหนาว ช่วงนี้มันหน้าฝนมันไม่หนาวหรอกถอดหมวก ถอดถุงมือออกซะ"


   “อ้าว... จริงเหรอ โด้นึกว่าหนาวตลอดปี โถ่... แบบนี้ไปก็เสียเที่ยวน่ะสิ" โด้บ่นอย่างเสียดาย


   “หรือมึงจะไม่ไป" พี่ปั๊มเอ่ยขัด


   “ไปคร้าบ... ไป ๆ แหม... แค่นี้ทำเป็นน้อยใจไปได้" โด้ว่าก่อนที่จะหันหน้ามาทางผม "เนอะพี่ข้าว"


   “อ่ะ... เออ ๆ ใช่ ๆ แค่นี้ทำเป็นน้อยใจน้องไปได้ ก็น้องมันไม่รู้นี่นา" ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับโด้ก่อนที่จะยืนหน้าไปกระซิบที่ข้างใบหูของพี่ปั๊มอย่างเบาเสียงที่สุด "ให้โด้มันแต่งอย่างงี้เหอะ เดี๋ยวสายตากดดันของคนรอบข้างก็ทำให้มันอายเองนั่นแหละพี่"


   “ซุบซิบอะไรกัน คิดจะแกล้งอะไรน้องโด้งั้นเหรอ" โด้เอ่ยขึ้น ผมสะดุ้งโหยง


   “เออ... มึงอยากทำอะไรก็ทำเหอะโด้" พี่ปั๊มว่า หลังจากนั้นเราก็เดินไปนั่งรับประทานอาหารเพื่อรอเวลาจนกระทั่งถึงเวลาที่รถจะออก


   พี่ปั๊มเดินนำไปยังชานชาลา พอไปถึงก็มีรถโดยสารสีขาวคาดฟ้า 2 ชั้นมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว ผมเดินเอากระเป๋าไปเก็บที่ช่องเก็บกระเป๋าด้านล่าง โด้เดินตามมาติด ๆ พนักงานช่วยจัดสัมภาระให้เราแถมยังยิ้มให้ด้วยความสุภาพอีกต่างหากสมกับที่เป็นพนักงานบริการ ส่วนพี่ปั๊มไม่มีกระเป๋าเสื้อผ้า มีเพียงกระเป๋าเป้เล็ก ๆ ที่สะพายข้างใส่ของจุกจิกสำหรับผู้ชายเท่านั้น


   บนรถโดยสารมีผู้คนนั่งตามเบาะต่าง ๆ จนเกือบเต็ม พี่ปั๊มเดินนำไปจนกระทั่งหยุดอยู่แถวที่ 7


   “ข้าว... มึงไปนั่งข้างใน" พี่ปั๊มหันมาบอกผม ผมพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปตามคำสั่งอย่างว่าง่าย จากนั้นพี่ปั๊มก็หันไปคุยกับโด้ "ส่วนโด้ มึงนั่งนี่"


   พี่ปั๊มชี้ไปที่เบาะอีกฝั่งแต่อยู่แถวเดียวกัน โด้ทำหน้าหงิกงอแต่ก่อนที่จะได้ประท้วงอะไรไปมากกว่านั้นพี่ปั๊มก็รีบนั่งที่เบาะข้าง ๆ ผมทันที โด้จึงจำใจเดินคอตกไปนั่งเบาะที่อยู่อีกฝั่ง(แต่แถวเดียวกัน)กับคนแปลกหน้าด้วยความจำใจ ...นึก ๆ ไปก็สงสารโด้แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ รถทัวร์มันไม่ได้กว้างพอจะออกแบบให้เบาะ 3 เบาะติดกันฉะนั้นหากเดินทางไปไหนมาไหนกันเป็นกลุ่มด้วยจำนวน 'คี่' ต้องมีหนึ่งคนที่ยอมเสียสละนั่งกับคนอื่น หรือถ้ารวยสักหน่อยก็อาจจะนั่งรถที่ราคาแพงขึ้นไปอีกแต่มีเบาะเดี่ยว ทว่าสำหรับเด็กปั๊มอย่างเรา... รถทัวร์ ป.1 ก็หรูแล้ว


   “ไงข้าว... ตื่นเต้นไหม" พี่ปั๊มถาม


   “หือ...” ผมเลิกคิ้วด้วยความฉงน ก็แค่ไปเที่ยวที่บ้านเกิดของพี่ปั๊มจะตื่นเต้นทำไม


   “กูถามว่าตื่นเต้นไหม" พี่ปั๊มย้ำ... เสียงของพี่ปั๊มรัวเร็วจนดูเหมือนว่าคนที่ตื่นเต้นจะเป็นพี่ปั๊มเสียมากกว่า


   “ก็... ไม่นี่ครับ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น"  ผมตอบออกไปตามตรง


   “มึงมันตายด้าน ขนาดกูยังตื่นเต้นเลย" พี่ปั๊มแกล้งตบกบาลผมเบา ๆ มันเป็นการตบแบบพี่น้องที่มักหยอกล้อกันซึ่งผมชินเสียแล้วล่ะ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไม...


   “แล้วทำไมต้องตื่นเต้นด้วย"


   “ก็มึงจะได้ไปเจอกับครอบครัวกูแล้วนี่" ขณะพูดพี่ปั๊มก็หลบสายตา สงสัยพี่ปั๊มอาจจะคิดมากเรื่องสภาพบ้านล่ะมั้ง ก็เลยคิดมากกว่าว่าผมจะอยู่ไม่ได้


   “อ๋อ... คิดมากน่าพี่ ต่อให้บ้านพี่จะเป็นกระต๊อบฟางหรือกระท่อมเอสกิโมผมก็อยู่ได้หมดแหละ" จากการศึกษาถึงภูมิประเทศในดินแดนอาลาสก้าทำให้ผมรู้มาว่ากระท่อมเอสกิโมมันคืออะไร


   “สัส... กูไม่ได้อยู่ขั้วโลกเหนือนะจะได้มีเอสกิโมอย่างที่มึงว่าน่ะ" พี่ปั๊มแยกเขี้ยวใส่ เวลาที่พี่ปั๊มทำหน้าแบบนี้ทีไรผมอดเอ็นดูไม่ได้ทุกที ไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กผิวขาวที่หน้าตาค่อนไปทางน่ารักมากกว่าหล่ออย่างพี่ปั๊มจะมาเป็นเด็กปั๊มตั้งหลายปี


   ผมยกแขนข้างซ้ายขึ้นไปพาดบ่าของพี่ปั๊มก่อนจะออกแรงดันให้มันแน่นจนร่างของเราติดกัน พี่ปั๊มเป็นพี่ชายที่แสนดีเสมอ ผมรู้ดีว่าพี่ปั๊มอยากทำให้ผมมีความสุขและไม่ต้องไปเครียดกับเรื่องของคุณชาย หลายวันมานี้พี่ปั๊มเลยพยายามชวนผมคุยหรือหากิจกรรมสนุก ๆ ทำซึ่งมันก็ได้ผล แต่เวลาที่ผมอยู่ตามลำพังผมก็อดคิดถึงคุณชายไม่ได้ทุกที


   “ขอบคุณนะพี่ ที่ช่วยเหลือผมในทุก ๆ เรื่อง" ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บางเบา


   “มึงน้องกู" พี่ปั๊มก้มหน้าหลบสายตาตอบออกมาแถมยังนั่งตัวแข็งราวกับโดนสาป


   “ผมรักพี่จริง ๆ ว่ะ" ผมกระชับร่างของพี่ปั๊มแน่นเข้าไปอีก พี่ปั๊มสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าหรือขัดขืนแต่อย่างใด


   “ฮันแน่... สองคนนั้นแอบทำอะไรกัน" เสียงกะล่อนที่ดังขึ้นจากไอ้โด้ทำให้พี่ปั๊มรีบผละร่างของผมออก


   “ปล่อย มึงอย่ามาทำแบบนี้กับกูอีกนะ กูขนลุก" สิ้นเสียงของพี่ปั๊มผมก็ยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผมจะไม่แต๊ะเนื้อต้องตัวที่พี่ชายหวงนักหวงหนาอีก


   “ขนลุกจริงเหรอพี่ปั๊ม... แหม่... โกหกใครก็โกหกได้นะ แต่โกหกใจตัวเอง...” โด้ยังพูดไม่จบพี่ปั๊มก็รีบหันไปเอ่ยขัด


   “หยุด! ไอ้โด้ ถ้ามึงยังขืนพูดมากกูจะลากมึงลงรถเดี๋ยวนี้ล่ะ"


   “คร้าบ ๆ" โด้ตอบด้วยน้ำเสียงกะล่อนก่อนจะนั่งนิ่ง ๆ ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำอีกต่อไปจนกระทั่งรถเริ่มขยับ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการเดินทางที่แสนยาวไกลกำลังจะเริ่มต้นขึ้น






   
   ผมนั่งทอดสายตาออกไปนอกกระจก เส้นทางรอบข้างที่เคยมีตึกมากมายเรียงรายกันเป็นแถว ๆ แปรเปลี่ยนเป็นท้องทุ่ง ทว่าตลอดทางยังมีรถราแล่นสวนผ่านมาไม่ขาดสาย... ทั้ง ๆ ที่ผมควรจะตื่นเต้นกับการเดินทางแต่พอความเงียบเข้าปกคลุมทีไรมันก็ทำให้ผมอดนึกถึงใบหน้าของคนเจ้าอารมณ์อย่างคุณชายไม่ได้เสียทุกที


   ทำไมนะ... ทำไมคุณชายจะต้องเข้ามาวนเวียนอยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาคุณชายก็เอาแต่เอ่ยคำพูดที่ทำให้ผมเจ็บปวดหัวใจ ไม่รู้ว่าป่านนี้คุณชายจะเป็นอย่างไรจะกำลังรู้สึกแบบเดียวกับผมหรือเปล่า หรือกำลังมีความสุขที่ไม่มีผมในชีวิตอีกต่อไป


   'คงไม่คิดหรอกไอ้ข้าวเอ๊ย... ถ้าคุณชายเสียใจก็คงไม่ตัดสินใจทิ้งมึงแบบนี้' เสียงความคิดของผมดังขึ้น


   'ไม่หรอกน่า... อย่าคิดมากไปเลย คุณชายก็แค่สับสน เดี๋ยวพอคุณชายยอมรับหัวใจของตัวเองได้เมื่อไหร่ก็กลับมาตามง้อเองนั่นแหละ' แล้วอีกความคิดก็แทรกเข้ามา ...ผมกำลังพยายามปลอบใจตัวเอง หลอกให้ความหวังกับตัวเองทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ คนอย่างคุณชายน่ะหรือจะยอมลดตัวมาทำอะไรเพื่อผม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าสุดท้ายมันจะลงเอยแบบนี้ แต่ผมก็ไม่ยอมหักห้ามใจตั้งแต่ทีแรก จะมัวโทษคุณชายก็คงไม่ถูก มันก็สมควรแล้วแหละที่ผมต้องรู้สึกระอักกระอ่วนใจแบบนี้


   ระหว่างที่กำลังนั่งใจลอยอยู่นั่น แรงสัมผัสที่กระทบไหล่สายก็ทำให้ผมตื่นจากภวังค์เพ้อเจ้อ พอหันไปมองก็พบว่าศีรษะของพี่ปั๊มกำลังซบอิงที่หัวไหล่ด้านซ้ายของผม


   'คนอะไรหลับอย่างกะเด็ก' ผมคิดก่อนที่รอยยิ้มจะผุดออกมาแล้วปล่อยให้พี่ปั๊มนอนซบไหล่ผมต่อไป 'เหมือนคุณชายเลย เฮ้อ...'
   ผมนั่งคิดถึงความทรงจำเก่า ๆ ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานสักเท่าไหร่ จนกระทั่งรถทัวร์เลี้ยวเข้าไปยังจุดพักรถ ผมเดาว่าคงจะถึงครึ่งทางแล้ว


   แสงไฟในรถที่สว่างขึ้นพร้อม ๆ กับเสียงประกาศของพนักงานสาวช่วยปลุกให้ผู้ที่ตกอยู่ในอาการหลับใหลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมารวมทั้งพี่ปั๊ม


   “ถึงจุดพักรถแล้วเหรอ" พี่ปั๊มเอ่ยด้วยเสียงงัวเงีย


   “ถึงแล้วครับ ไอ้พี่ขี้เซา" ผมเอ่ยตอบ


   “เออ... ก็กูง่วงนี่นา ป่ะ ลงไปหาไรกินกันดีกว่า" พี่ปั๊มขยี้ตาก่อนจะลุกขึ้น ทว่าพอหันไปมองไอ้โด้ที่กำลังนอนอ้าปากหวอ พีปั๊มก็อดที่จะกลั่นแกล้งมันไม่ได้


   หลังจากที่ผู้โดยสารลงจากรถไปจนเกือบหมด พี่ปั๊มก็ลุกขึ้นจากเบาะก่อนที่จะยื่นมือไปบีบจมูกโด้จนจมูกของเจ้านั่นแดง โด้สะบัดแขนไปมาทำท่าเหมือนขาดอากาศหายใจ สักพักปากที่อ้าหวอก็สูดลมหายใจเข้าออกจนเกิดเสียงดังและท้ายที่สุดโด้ก็ตื่นขึ้นมา


   “ไอ้ขี้เซา!” พี่ปั๊มว่าโดยที่ไม่ดูตัวเองเลยสักนิด นอนหลับสบายใจตลอดทางยังมีหน้าไปว่าโด้อีก


   “โอ๊ย... พี่ปั๊ม จะแกล้งโด้ทำไมเนี่ย กำลังฝันดีเลย" โด้บ่นอุบอิบ พอหันซ้ายหันขวาเห็นคนบนรถโล่ง ๆ โด้ก็ยิ้มแฉ่ง "ถึงแม่ฮ่องสอนแล้วเหรอครับ"


   “ถึงบ้านแป๊ะมึงดิ" พี่ปั๊มว่า โด้ทำหน้าจ๋อยทันที "นี่เพิ่งพักครึ่งทาง กูจะชวนมึงลงไปเข้าห้องน้ำแล้วก็หาไรกิน จะไปไม่ไป"
   ไม่รอฟังคำตอบ พี่ปั๊มก็เดินนำลงจากรถไปทันที ผมเดินตามโดยมีโด้รีบลุกจากเบาะนั่งแล้วรีบตามมาด้วยความรวดเร็วราวกับกลัวว่าจะโดนทิ้งปล่อยเกาะอย่างไรอย่างนั้น


   ทันทีที่เดินเข้าไปในจุดซื้อขายอาหาร สายตาของผู้คนที่นั่งรับประทานอาหารก็จับจ้องมาทางเราราวกับเป็นตัวประหลาด ผมรู้สึกเกร็งเล็กน้อย สังเกตเห็นใบหน้าของพี่ปั๊มก็รู้สึกหงุดหงิดเช่นกัน จะมีก็แต่โด้คนเดียวเท่านั้นที่เดินยิ้มสบายใจเฉิบไม่รู้เรื่องอะไร ...โด้เป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตได้ตลอดเวลาจนน่าอิจฉาจริง ๆ


   “ไอ้โด้... มึงไปเดินไกล ๆ กูเลยไป" แล้วในที่สุดพี่ปั๊มก็ทนไม่ไหว


   “อ้าว! ไล่โด้ได้ไงอ่ะ ใช่สิ โด้มันไม่หล่อ มันไม่น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนพี่ข้าวนี่ พี่ก็เลยรังเกียจโด้ ชิ" โด้แสร้งทำหน้างอน


   “ไม่เกี่ยวเว่ย!!!” พี่ปั๊มปฏิเสธ "แต่กูอายที่ต้องมาเดินกับคนที่แต่งตัวประหลาด ๆ อย่างมึง ไม่เห็นเหรอไงวะ คนอื่นพากันจ้องมึงตาไม่กะพริบ กูเลยรู้สึกว่ากูเป็นตัวประหลาดที่โดนจ้องด้วย"


   ผมไม่ได้ว่าอะไรโด้เพราะสงสารแต่ก็อดพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ปั๊มไม่ได้


   โด้ลองหันมองลอบข้าง ปรากฏว่าสายตาหลายคู่ที่จับจ้องต่างพากันรีบหลบสายตาราวกับกลัวว่าจะโดนหาเรื่องเพราะพวกเขาจ้องหน้าโด้


   “แฮะ ๆ จริงด้วย" โด้ยกมือลูบหัวอย่างเด้อเขิน ...ให้ตายสิ เดินลงมาตั้งไกลเจ้านี่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าโดนคนรุมมอง ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ "สงสัยโด้จะหล่อเกินไป พวกนั้นก็เลยพากันมอง อย่าอิจฉาผมเลยน่าพี่ปั๊มที่โด้มันหล่อกว่าพี่"


   “ถุย!!!” พี่ปั๊มเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินตรงไปยังห้องสุขา


   ผมเดินตามไปพี่ปั๊มไปติด ๆ ในใจก็นึกขำกับนิสัยของเพื่อนร่วมงานทั้งสอง พี่ปั๊มเหมือนพี่ใหญ่ที่เอาแต่ใจ ขี้หงุดหงิด ขี้บ่น แต่ในใจลึก ๆ ก็เป็นคนดีและห่วงน้องนุ่งเสมอ ส่วนโด้ก็เป็นน้องเล็กที่ไร้เดียงสา แถมยังกล้าต่อล้อต่อเถียงกับพี่ปั๊มและชอบทำตัวประหลาด ๆ จนบางทีผมก็อดเอ็นดูไม่ได้เหมือนกัน


   ในเวลาที่รู้สึกเศร้าใจแบบนี้ พอมีพี่ปั๊มกับโด้อยู่ใกล้ ๆ พูดคุยสนุกสนานด้วยมันก็ทำให้ผมลืมเรื่องคุณชายไปได้บ้างเหมือนกัน แม้จะเล็กน้อย... แต่ผมก็หวังว่าการเดินทางไปเที่ยวบ้านเกิดพี่ปั๊มในครั้งนี้ จะช่วยเป็นยารักษาที่ทำให้ผมกลับมามีชีวิตที่ปกติ และท้ายที่สุดผมก็จะค่อย ๆ ลืมคุณชายได้เอง





จบตอนครับ  :hao5:

แอบขอพื้นที่เล็กๆ โปรโมทหน่อยนะครับ แฮ่ๆ เป็นนิยายเรื่องที่ผมแต่งตอนที่ยังไม่รู้จักเล้าเป็ดครับ(ไปอยู่โลกไหนมา)เลยไม่ได้ลงที่นี่ T__T

(http://i159.photobucket.com/albums/t128/kukzabb/10552369_693163267398546_3204862461645964391_n_zps0ec1de7d.jpg)


Sketch Lover ร่างกายชายรัก

ผู้เเต่ง : MR. กุ๊กกู๋

ขนาด : A5 จำนวนหน้า: 280+ หน้า

ของเเถม: ที่คั่น ตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงในเว็บ

ของเเถมรอบจอง : เรื่องสั้น 1 เล่ม

ราคา : 300 บาท ไม่รวมค่าส่ง

สั่งจองได้ที่ : http://www.hermitandmomiji.com/product/106/pre-order-skecth-lover-by-mr-กุ๊กกู๋-เปิดจองและโอนเงินตั้งแต่วันนี้-15-กันยายน-2557

อ่านเรื่องได้ที่ :http://writer.dek-d.com/gugdczine/story/view.php?id=967971
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน22 P.15] - 22/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 22-07-2014 21:35:28
โฮ่ หายไปนาน
ชอบพี่ปั๊มค่ะ ฮืออออออออออ เขี่ยคุณชายทิ้งไปเลยๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน22 P.15] - 22/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-07-2014 21:44:22
คุณพี่แอบรักใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน22 P.15] - 22/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-07-2014 21:47:29
เรื่องของพู่กันหน้าอ่านอ่ะ
ปกสวยมาก ส่วนเรื่องนี้มาต่อบ่อยๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน22 P.15] - 22/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 22-07-2014 22:16:31
ร่วมทริปนี้ด้วยคน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน22 P.15] - 22/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 22-07-2014 23:25:45
โด้ปั๊มป่ะ  :hao6:

พู่กันนี้ตอนพิเศษเยอะมั๊ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน22 P.15] - 22/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 24-07-2014 18:30:17
การเดินทาง ยังอีกยาวไกล ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน22 P.15] - 22/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 25-07-2014 18:41:59
ตอนที่ 23


“ข้าว... กินไรหน่อยไหม" หลังจากที่ทำธุระในห้องน้ำกันเสร็จสรรพพี่ปั๊มก็เอ่ยถาม


   “ก็ดีเหมือนกันพี่" ผมตอบออกไป รู้สึกว่าระยะหลังมานี้ผมจะทานน้อยลง ไม่ใช่เพราะไม่หิวนะ แต่มันกินไม่ลงต่างหาก


   “ดี ๆ โด้ก็หิวแล้วเหมือนกัน" โด้เอ่ยขึ้นบ้าง คงอยากร่วมวงสนทนา


   “กูไม่ได้ถามมึง" พี่ปั๊มทำเสียงดุใส่ โด้หน้าจ๋อยลงทันที


   “พี่ปั๊มอ่ะ แกล้งโด้ประจำเลย" พูดจบโด้ก็เดินก้าวขาฉับ ๆ ตรงไปยังจุดรับประทานอาหาร สงสัยจะงอน ผมกับพี่ปั๊มรีบวิ่งตามเพราะกลัวว่าโด้จะโดนรุมสกรัม เพราะการแต่งตัวของโด้นอกจากประหลาดแล้ว แว่นตาดำที่สวมอยู่บนใบหน้ากับท่าทางการเดินที่ชวนเรียกสหบาทาทำให้ผมอดห่วงไม่ได้


   “ไอ้ขี้งอน" พี่ปั๊มว่าเข้าให้


   “ใครงอน โด้เปล่า" โด้ทำน้ำเสียงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


   “เปล่า! แล้วมึงจะรีบเดินหนีพวกกูทำไม" ผมเพิ่งรู้ว่าพี่ปั๊มเป็นคนรอบคอบ(เก็บทุกรายละเอียด)ก็ตอนนี้ เพราะไม่ว่าใครจะทำอะไรหรือมีท่าทีอย่างไรไม่เคยรอดพ้นสายตาพี่ปั๊มไปได้ มิน่าล่ะ... ในหลาย ๆ ครั้งที่ผมรู้สึกเครียด แม้ไม่ต้องพูดอะไรออกไปพี่ปั๊มก็สังเกตได้เองทุกครั้งไป


   “ก็แค่ลองใจว่าพี่จะห่วงแล้วตามมาหรือเปล่า... ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะ ฮ่า ๆ" โด้ยิ้มชอบใจ


   “กูไม่ได้ห่วงมึง กูเดินตามไอ้ข้าว" แล้วพี่ปั๊มก็มาโบ้ยให้ผมซะอย่างนั้น


   “เออ ๆ ผมห่วงไอ้โด้มัน" แล้วผมก็ต้องเล่นไปตามน้ำเพราะอยากให้เรื่องมันจบ ๆ "รีบไปหาซื้อไรมากินกันก่อนที่รถจะออกกันเถอะ จีบกัน เอ้ย...กัดกันอยู่ได้"


   พูดจบผมก็รีบเดินนำไปยังร้านอาหารทันที ไม่รอดูว่าอีกสองคนด้านหลังจะมีอาการอย่างไร แต่ก็ได้ยินเสียงพี่ปั๊มร้องประท้วงตามมาว่า 'กูไม่ได้จีบ ๆ' ส่วนไอ้โด้ก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ ผมชักสงสัยเสียแล้วสิที่ไอ้โด้ชอบยั่วโมโหพี่ปั๊มแบบนี้หรือว่าโด้จะชอบพี่ปั๊มเข้าแล้วจริง ๆ


   'ไม่จริงน่า ดูยังไง ๆ โด้ก็ไม่เหมือน พี่ปั๊มก็ไม่น่าจะใช่' ผมสะบัดศีรษะไล่ความคิดนั้นออกไป ทว่าในใจกับยิ้มกริ่มรู้สึกขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก


   “กินไรวะข้าว" เสียงที่ดังขึ้นพร้อม ๆ กับฝ่ามือที่เอื้อมมาจับบ่าทำให้ผมสะดุ้งโหยง "เฮ้ย! ตกใจอะไรวะ กำลังเหม่อลอยถึงใครอยู่เหรอไง"


   “เปล่า กำลังคิดอยู่ว่าจะกินไร" ผมแก้ตัวเองไปโดยไม่หันไปสบตากับคนถามสักนิด ความจริงอยากจะตอบพี่ปั๊มออกไปด้วยซ้ำว่าผมไม่ได้เหม่อลอยถึงใคร แต่กำลังคิดถึงเรื่องขนพองสยองเกล้าระหว่างพี่ปั๊มกับโด้ต่างหาก แต่ที่ผมไม่พูดเพราะผมกลัวว่าพี่ปั๊มจะโวยวายเสียงดังและท้ายที่สุดเราก็จะไม่ได้รับประทานอาหารกัน


   “อันแน่... จริงเหรอวะ กูดูออกน่าว่ามึงโกหก" ผมอุตส่าห์ไม่พูดไรแล้วแต่พี่ปั๊มตัวดีก็ดันไม่ยอมหยุด


   “รู้ดีนักใช่ไหม" ผมยืดแขนออกไปล็อกคอพี่ปั๊มก่อนจะออกแรงกดให้ใบหน้าข้างหนึ่งของพี่ปั๊มซุกอยู่กับอกของผมพี่ปั๊มจะได้หยุดพูดสักที จากนั้นเราสองคนก็เดินไปหยุดอยู่หน้าร้านอาหารร้านหนึ่ง


   ผมสั่งอาหารออกไป พี่ปั๊มพยายามโวยวายและดิ้นให้หลุด แต่ตัวเล็ก ๆ อย่างพี่ปั๊มไม่มีวันสู้แรงของผมได้หรอก... กว่าที่ผมจะปล่อยให้พี่ปั๊มเป็นอิสระก็ตอนที่แม่ค้ายื่นจานอาหารมาให้ผม


   “เจอกันที่โต๊ะนะพี่" ผมชี้ไปยังโต๊ะว่างใกล้ ๆ กับร้านอาหาร


   “ไอ้น้องเลว แกล้งกู" พี่ปั๊มทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ มือทั้งสองข้างก็สาละวนกับผมที่ยุ่งเหยิง... ผมยักคิ้วกวนบาทาใส่แล้วชี้ไปยังโต๊ะอาหารอีกครั้ง "เออ... เดี๋ยวกูตามไป"


   ผมนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร ไม่นานมากนักโด้ก็ตามมาพร้อมกับพี่ปั๊มที่เดินตามหลังมาติด ๆ ในขณะที่โด้กำลังจะนั่งลงข้างผม พี่ปั๊มก็รีบเดินอ้อมแล้วนำจานอาหารมาวางตรงจุดที่โด้จะนั่ง


   “ตรงนี้ของกู" พี่ปั๊มพูด


   “แย่งโด้นี่หว่า" โด้เถียง


   “มีปัญหา หรือมีอยากจะลองดีกับกู" พี่ปั๊มขู่โดยไม่สนใจสักนิดว่าโด้ที่ยืนอยู่ด้านหลังกำลังทำปากขมุบขมิบล้อเลียน


   “นิสัยผู้หญิงจริง อยากนั่งก็นั่งเลย โด้นั่งตรงนี้ก็ได้" แล้วไอ้โด้ก็ดันปากเสียไม่ยอมพีปั๊มเสียด้วยสิ แถมคำที่โด้ต่อว่าแม้มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรแต่คนอย่างพี่ปั๊มผมรู้ดีว่าไม่มีวันยอมให้ไอ้โด้มันต่อว่าฝ่ายเดียวแน่นอน


   ปึง!!!


   แล้วเสียงทุบโต๊ะก็ดังขึ้น ผมสะดุ้งโหยง ผู้คนในละแวกนั้นต่างหันมามองทางโต๊ะของพวกเราด้วยความสนใจบ้างก็มีท่าทีที่หวาดระแวง


   พี่ปั๊มหน้าแดงก่ำ ผมสังหรณ์ใจไม่ได้จึงเอื้อมมือไปแตะบ่าพี่ปั๊มเบา ๆ


   “ใจเย็นพี่ โด้มันก็แค่ล้อเล่น" ผมเอ่ยขึ้นพลางหันไปมองโด้ สีหน้าของโด้เหยเกราวกับรู้ตัวดีว่าได้จุดชนวนให้คนขี้หงุดหงิดอย่างพี่ปั๊มประสาทเสียแล้ว ...จะบอกว่าพี่ปั๊มหงุดหงิดก็ไม่ได้เสียทีเดียว เพราะอาการแบบนี้พี่ปั๊มเป็นเฉพาะกับโด้เท่านั้น


   “มึงว่าใครเป็นผู้ญิงนะ" พี่ปั๊มหายใจฟุดฟัดลุกจากเก้าอี้แล้วยื่นมือไปกำคอเสื้อของดด้พร้อมกับออกแรงบิด สายตาของพี่ปั๊มในยามนี้ไม่ต่างจากราชสีห์ที่กำลังรอเวลาขย้ำเหยื่อตรงหน้าให้เละคาอุ้งเท้าเลยสักนิด


   “ดะ... โด้ไม่ได้ว่าพี่ ปะ... เป็น เป็นผู้หญิง" โด้พูดติด ๆ ขัด ๆ เสียงก็สั่นไหวด้วยความกลัว "โด้แค่แซวว่าพี่ทำนิสัยเหมือนผู้หญิงก็แค่นั้น แต่ๆๆๆๆ พี่ฟังโด้ก่อนนะ โด้แค่แซวเล่น แซวเล่นจริง ๆ โด้มันปากเสีย"


   “เออ... พี่ปั๊ม ใจเย็นเถอะ อย่าไปโกรธน้องมันเลย" ผมช่วยปลอบ เมื่อเห็นว่าพี่ปั๊มยังมีสีหน้าที่เครียดเขม็งผมก็เลยใช้ไม้เด็ดด้วยการพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน "นะครับพี่ปั๊ม เชื่อผมนะครับ น้องมันยังเด็กพูดไรไม่คิดอย่าไปถือสามันเลยนะครับคนเก่ง"


   สิ้นเสียง... มือของพี่ปั๊มก็คลายออกจากคอเสื้อของโด้ ผมถอนหายใจยาวเช่นเดียวกับโด้ จากนั้นพี่ปั๊มก็ค่อย ๆ นั่งลง


   “เออ... กูขอโทษ ช่วงนี้กูกำลังเครียดนิดหน่อย" พี่ปั๊มหันมาพูดกับผมก่อนจะหันหน้าไปทางโด้ "มึงด้วยเหมือนกัน กูขอโทษ"


   “โด้ก็ขอโทษพี่ โด้จะไม่พูดแล้ว ว่าแต่พี่เครียดอะไรล่ะ" โด้เอ่ยถาม


   “ก็กูกำลังสับสนในตัว... เอ้ย!!! แล้วมึงจะมาหลอกถามกูทำไม กูไม่ได้เป็นไร รีบ ๆ กินเหอะ" พี่ปั๊มเฉไฉ หน้าที่แดงจัดด้วยความโกรธค่อย ๆ จางลง จากนั้นเราสามคนก็รีบรับประทานอาหารด้วยความเงียบ มันเงียบจะกระทั่งได้ยินเพียงเสียงลมหายใจและเสียงเคี้ยวอาหารเท่านั้นเหมือนกับว่าต่างคนต่างก็กำลังรู้สึกประหม่ากับเหตุการณ์ที่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดเมื่อครู่


   “เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ กินเสร็จพวกมึงไปรอบนรถเลยก็ได้" พี่ปั๊มที่ทานข้าวเสร็จเป็นคนแรกเอ่ยขึ้น ผมพยักหน้ารับรู้เช่นเดียวกับโด้


   หลังจากที่พี่ปั๊มลุกจากโต๊ะ ผมที่สังเกตเห็นสีหน้าของโด้ยังคงเกร็ง ๆ อยู่ก็อดเป็นห่วงน้องไม่ได้


   “อย่าคิดมากน่าโด้ พี่ปั๊มโกรธมึงไม่นานหรอก"


   “พี่ข้าว... โด้ขอโทษ โด้ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้บรรยากาศมันอึมครึมแบบนี้" โด้พูดด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด


   “เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง จะเข้าห้องน้ำเปล่า" ผมเอ่ยยิ้ม ๆ


   “ไม่อ่ะพี่" โด้ปฏิเสธ


   “งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวไปดูพี่ปั๊มก่อน"


   “ครับ" โด้พยักหน้า จากนั้นผมก็ลุกออกจากโต๊ะทันที แต่ก่อนที่จะเดินจากไปผมไม่ลืมที่จะตบบ่าให้กำลังใจโด้

   ภายในห้องน้ำ ร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งกำลังล้างหน้าที่หน้ากระจก เขาใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างรองหยาดน้ำที่ไหลเต็มแรงก่อนจะยกมันขึ้นมาลูบใบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเสื้อผ้าบางส่วนเปียกปอน


   ผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ จับจ้องภาพในกระจกที่สะท้อนออกมา พี่ปั๊มมีสีหน้าที่สดใสผิดกับเมื่อครู่ราวกับว่าหยาดน้ำจากก๊อกช่วยชะล้างความหม่นหมองทั้งหมดออกไปจนสิ้น


   “อ้าวไอ้ข้าว มาเข้าห้องน้ำเหรอไง" น้ำเสียงของพี่ปั๊มกลับมาสดใสเป็นปกติ


   “เปล่า ผมมาดูพี่" ผมปฏิเสธพร้อมกับตอบออกไปด้วยเหตุผลที่แท้จริง


   “เป็นห่วงกูอ่อไอ้น้องรัก" พี่ปั๊มปิดก๊อกน้ำก่อนจะเดินกลับมากอดคอแล้วพาร่างของผมออกไปจากห้องน้ำ


   “อืม! ห่วง กลัวว่าพี่จะมาทำนิสัยผู้หญิงในห้องน้ำอีก" ผมแซวเข้าให้ ผมรู้ดีว่าถ้าเป็นผมพี่ปั๊มต้องไม่โกรธแน่ ๆ


   “ไอ้สัส ฮ่า ๆ ๆ กูมันงี่เง่าเนอะ แค่นี้ก็ไปโกรธไอ้โด้มัน" พี่ปั๊มเอ่ยติดตลก


   “ที่สุดเลยล่ะครับ" ผมตีหน้าซื่อแล้วพยักหน้า พอเห็นกำปั้นที่ยกขึ้นจึงรีบวิ่งหนีออกจากห้องน้ำทันที


   “ไอ้ข้าว!!! มึงตาย!!!” พี่ปั๊มเอ่ยเสียงดัง แม้ว่าผู้คนในละแวกนั้นจะมีอยู่อย่างหนาตาแต่ก็ไม่ได้มีความเกรงใจใครสักนิด


   ผมวิ่งไปจนกระทั่งถึงโต๊ะอาหารที่โด้นั่งอยู่ ผมอ้อมไปหลบหลังโด้แล้วโอบไหล่เอาไว้เพื่อใช้เป็นไม้กันพี่ปั๊ม... ได้ผล พี่ปั๊มชะงักเช่นเดียวกับโด้


   “โด้มึงต้องช่วยพี่นะ คนบ้ากำลังวิ่งไล่พี่มา น่ากลัวชะมัด" ผมทำเสียงตื่นเต้นเพื่อกลบเกลื่อนบรรยากาศคลื่นใต้น้ำที่ไม่แน่ใจว่ามันสงบลงหรือยัง


   “ไอ้ข้าว หน็อย!!! ถ้ากูไม่ได้ถีบก้นมึงวันนี้มีหวังกูนอนตายตาไม่หลับแน่" พี่ปั๊มทำเสียงฟึดฟัดขึ้นมาอีกครั้ง "โด้! จับไอ้ข้าวให้กู"
   สิ้นเสียงประกาศิตของพี่ปั๊ม แขนของผมที่โอบไหล่ของโด้ก็ถูกจับเอาไว้ทันที ผมไม่ดิ้นหนีไปไหน ยอมให้พี่ปั๊มทารุณกรรมร่างกายได้อย่างใจชอบ ขอแค่พี่ชายสุดที่รักกับน้องชายขี้เล่นหายโกรธกันแค่นั้นก็พอแล้ว


   และผลจากการที่ผมไม่วิ่งหนีไปไหน ทำให้โดนพี่ปั๊มถีบก้นอย่างแรง ไม่ถนอมน้ำใจที่สนิทสนมกันมาตั้งหลายปีสักนิด แต่นั่นมันก็ไม่เจ็บใจเท่ากับการที่หลังจากที่โดนถีบจนเซถลา พี่ปั๊มยังอุตส่าห์วิ่งเข้ามาใช้นิ้วมือสองนิ้วจิ้มทะลวงเข้าที่บั้นท้ายของผมอย่างแรงจนทำให้ผมรู้สึกเสียวพิลึกและเผลอร้องจ๊ากออกมาดังลั่นจนคนในละแวกนั้นหันมามองผมเป็นทางเดียว ...เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้


   เท่านั้นยังไม่พอ คนที่เพิ่งงอนกันสองคนเมื่อครู่นี่กลับตบฝ่ามือของกันและกันแล้วหัวเราะลั่นที่เห็นผมต้องอับอาย


   “ขออภัยด้วยนะครับ" ระหว่างที่เราสามคนกำลังหยอกล้ออย่างไม่อายสายตาผู้คนอยู่นั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งดูจากใบหน้าแล้วคาดได้ว่าน่าจะอายุประมาณ 30 ต้น ๆ ได้เดินเข้ามาหา เขาแต่งด้วยชุดสีกรมท่าลักษณะคล้ายกับเครื่องแบบของยามรักษาการณ์ทั่วไป


   “ครับ" พี่ปั๊มซึ่งเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มตอบรับ


   “รบกวนช่วยเบาเสียงลงนิดนึงนะครับ" ยามหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ติดจะเกรงใจเล็กน้อยก่อนจะเบาเสียงลงราวกับกระซิบในประโยคถัดมาว่า "ต้องขออภัยจริง ๆ นะครับพอดีมีคนมาบ่นกับผมแล้วสั่งให้ผมมาเตือน"


   “ไม่เป็นไรครับ พวกเรากำลังจะขึ้นรถแล้ว" พี่ปั๊มตอบออกไป


   “ขอบคุณครับ" ยามหนุ่มยิ้มก่อนจะเดินจากไป โดยระหว่างนั้นก็หันมาเหลียวมองพวกเราเป็นระยะ ๆ ไม่รู้เพระอะไรเหมือนกัน


   “ได้เวลาเดินทางต่อแล้ว Go Go” พี่ปั๊มพูดแล้วเดินนำไปยังรถทัวร์ โดยมีโด้เดินตามไปติด ๆ และผมเดินรั้งท้าย


   ในขณะที่เดินอยู่นั้น ผมอดคิดถึงคุณชายไม่ได้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง จะมีความสุขมากแค่ไหนกับการที่ไม่มีผมอยู่ใกล้ ๆ แล้วเวลาโมโหหรือหงุดหงิดคุณชายจะไประบายใส่ใคร เพราะคงไม่มีใครเป็นที่รองรับอารมณ์ของคุณชายได้ดีเท่ากับผมอีกแล้ว


   ผมไม่เข้าใจตัวเองจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่คน ๆ นั้นทำร้ายความรู้สึกของผมสารพัด ทำให้ผมร้องไห้ เสียใจแทบไม่เป็นอันกินอันนอน แต่พอย้อนนึกถึงช่วงเวลาดี ๆ หรือข้อดีของคน ๆ นั้นมาเพียงเสียวเดียวเท่านั้น มันกลับทำให้ผมใจอ่อนและให้อภัยได้ง่าย ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ


   'นี่ใช่ไหมความรัก..'


   “ข้าว" เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมสะบัดศีรษะไล่ความคิดเล่านั้น


   “พี่ปั๊ม" ผมเอ่ยชื่อของผู้ที่เรียกผม ตอนนี้พี่ชายตัวเล็กกำลังยืนอยู่ข้าง ๆ รถทัวร์ส่วนไอ้โด้เดินขึ้นไปบนรถเรียบร้อยแล้ว "ทำไมไม่ขึ้นรถ"


   “กูขึ้นไปแล้ว แต่กูไม่เห็นมึงตามขึ้นไปสักที" คำพูดของพี่ปั๊มทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความฉงน "มึงโกรธกูเรื่องเมื่อกี้อยู่เหรอวะ"
   “ไม่ใช่" ผมสะบัดศีรษะด้วยความฉับไว "ผมไม่ใช่คนขี้น้อยใจหรือคิดเล็กคิดน้อยอย่างคนถามหรอก"


   “อ้าวไอ้น้องเวร กูถามดี ๆ ดันมาแขวะกูอีก" พี่ปั๊มบ่นหน้ามุ่ย


   “ฮ่า ๆ ๆ ไม่มีอะไรหรอกพี่ ไปกันเถอะ" ผมเดินไปกอดคอพี่ปั๊มก่อนจะดันหลังให้เดินขึ้นรถไปพร้อม ๆ กัน พี่ปั๊มไม่ถามอะไรออกมาอีกสักคำสงสัยคงรู้ว่าผมกำลังคิดถึงคุณชายอยู่แน่นอน


   หลังจากที่ขึ้นรถไป ไม่นานมากนักคนขับและพนักงานก็ตามมานับจำนวนผู้โดยสาร เมื่อเห็นว่าผู้โดยสารมาครบรถทัวร์ก็เริ่มเคลื่อนอีกครั้ง


   “ข้าว" พี่ปั๊มเรียกผมอีกครั้ง


   “ไรพี่" ผมรับคำห้วน ๆ


   “ไหล่มึงนี่ก็นุ่มดีเหมือนกันเนอะ กูขอนอนท่านี้ไปจนถึงแม่ฮ่องสอนเลยละกันนะ" ไม่ว่าเปล่า ศีรษะของคนพูดยังรีบเอนมาซบที่หัวไหล่ของผมด้วยความว่องไว


   ผมไม่ได้ตอบออกไปด้วยคำพูดหากแต่พยักหน้าให้พี่ปั๊มรับทราบพลางนึกสงสัยในใจว่า ชายแท้ที่ไหนเขาชอบนอนซบไหล่ผู้ชายด้วยกัน พอคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ชายแท้จะทำแบบนี้ มันก็อดคิดไม่ได้ว่าพี่ปั๊มจะชอบผู้ชายจริง ๆ แต่พอลองถามหรือเอ่ยแซวทีไร พี่ปั๊มก็เอาแต่ปฏิเสธโวยวายเสียงแข็งปากหนักเสียยิ่งกว่าอะไร


   ผมยอมรับว่าขณะนี้ผมกำลังรู้สึกหวั่นไหว พี่ปั๊มทำให้ผมลืมเรื่องที่กำลังนึกถึงคุณชายไปจนสนิทใจ หรือว่านี่จะถึงเวลาแล้วที่ผมควรจะต้องตัดใจจากคุณชายให้ได้อย่างเด็ดขาดสักที



จบตอน


............
ตอบคุณ IsDeer :: ตอนพิเศษ ในเล่ม 3 ตอนครับ แต่สั่งพรีออเดอร์กับ Hermit จะได้เรื่องสั้นพิเศษอีก 1 เรื่อง ครับ ^^
หัวข้อ: Re:◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน23 P.15]- 25/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-07-2014 19:16:53
เอ๊ยยยยยยย มาจิ้มๆ :z13:
หัวข้อ: Re:◑﹏◐ ดินต่างฟ้า รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน23 P.15] - 25/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-07-2014 19:53:11
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน23 P.15] - 25/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 25-07-2014 22:32:57
เย้มาไว แต่ไม่ถึงเมืองเหนือสักที คุณชายก็หายไปหลายตอนแล้ว คิดถึงนิดๆเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน23 P.15] - 25/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 25-07-2014 23:17:54
อย่าเพิ่งหวั่นไหวกับพี่ปั๊มนะข้าว
คนนี้ต้องให้โด้มันกดและปราบซะให้เข็ด  :hao6:

ขอบคุณที่ตอบจ้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน23 P.15] - 25/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 26-07-2014 01:53:36
อ่าน ตั้งแต่ ต้นจนจบ อ่า สงสารข้าววววมากเลยยยย รีบมาต่อนะเคอะ
เชียร์ไห้โด้แล้สพี่ปั้มได้กันนนะเคอะ :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน23 P.15] - 25/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 27-07-2014 00:59:48
ตอนที่ 24


        กว่าที่รถทัวร์จะขับเคลื่อนไปถึงตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็เล่นเอาผมอาเจียนออกมาหลายรอบ โชคดีที่พี่ปั๊มรู้อยู่แล้วว่าเส้นทางการเดินรถจากเมืองหลวงสู่บ้านเกิดของตนนั้นมันสาหัสสากรรจ์แค่ไหน จึงได้พกถุงหิ้วใส่กระเป๋าสะพายข้างมาจำนวนหลายใบ


   “เฮอะ!” พี่ปั๊มพ่นลมหายใจออกมาขณะยื่นทิชชู่มาให้ผมเช็ดปาก ผมรับทิชชู่มาด้วยความเกร็งเพราะเข้าใจไปว่าพี่ปั๊มคงจะรังเกียจ


   “ขอโทษนะพี่" ผมเอ่ยหลังจากที่เช็ดปากเรียบร้อย "ผมไม่รู้ว่าเส้นทางมาบ้านพี่มันจะหฤโหดโคตรคดโค้งขนาดนี้"


   “ไม่! กูสิต้องขอโทษมึงที่ไม่ได้บอกมึง" พี่ปั๊มหันมาตอบด้วยความฉับไว แววตาของพี่ปั๊มแสดงถึงความจริงใจไร้การเสแสร้ง


   “อ้าว! ผมก็นึกว่าพี่รังเกียจซะอีก"


   “ไอ้ข้าว!” พี่ปั๊มจ้องมผมเขม็งราวกับว่าผมพูดความผิดร้ายแรงออกไป "มึงเป็นน้องกูนะโว้ย แค่มึงอ้วกมันยังน้อยไป ลองให้กูเช็ดตูดมึงสิ ยังได้เลยไอ้น้องรัก"


   “เอ๋? แล้วพี่หงุดหงิดอะไร" ถ้าพี่ปั๊มไม่ได้รังเกียจผม แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้พี่ปั๊มเป็นแบบนี้


   “ก็ดูไอ้โด้ดิวะ ไอ้กูก็นึกว่ามันจะอ้วกจนหมดแรง ที่ไหนได้นั่งยิ้มหน้าระรื่นมาตลอดทาง หน็อย! เจ็บใจนัก" พี่ปั๊มพูดเสียงดังตั้งใจให้ไอ้โด้ได้ยิน


   “อ๋อออออ.......” โด้ลากเสียงยาวพร้อมกับพยักหน้าอย่างเข้าใจ "อย่างงี้นี้เอง แต่เสียใจด้วยนะพี่ปั๊ม เพราะโค้งแค่นี้ทำอะไรสุดหล่ออย่างโด้ไม่ได้หรอก"


   “ไปกันเถอะข้าว" พี่ปั๊มแกล้งทำไม่สนใจไอ้โด้พลางพยุงร่างของผมเพื่อที่จะพาเดินลงจากรถเมื่อเห็นผู้โดยสารคนอื่น ๆ ทยอยลงกันจนหมดแล้ว


   ผมหันไปมองโด้ก็เห็นว่ารายนั้นกำลังทำหน้างอนจนแก้มป่องคิ้วขมวดที่พี่ปั๊มไม่ยอมสนใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินตามลงมาด้วยความเงียบเชียบ


   หลังจากที่หยิบสัมภาระลงจากรถเสร็จ พี่ปั๊มก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะโทรหาใครบางคน


   “เอ้อ ไอ้ปอม อยู่ไหนแล้ววะ" นั่นคือประโยคแรกที่พี่ปั๊มเอ่ยขึ้น ก่อนจะเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ "เออ ๆ เดี๋ยวกูเดินไป"


   พี่ปั๊มกดวางโทรศัพท์แล้วหันมาพยักหน้าให้ผมกับโด้ที่ยืนอยู่ด้านหลัง "ป่ะ"


   “ไปไหนพี่" เสียงของโด้เอ่ยขึ้น


   “ไปหาน้องกู มันขับรถมารออยู่ที่ร้านข้าวแกงด้านหน้าสถานีขนส่งแล้ว"


   พี่ปั๊มเดินนำไปยังหน้าสถานีขนส่งโดยมีผมกับโด้เดินตามไปติด ๆ ราวกับเด็กที่กลัวว่าจะโดนปล่อยทิ้งไว้กลางป่าอย่างไรอย่างนั้น สักพักพี่ปั๊มก็เลี้ยวเข้าไปในร้านขายข้าวแกงร้านหนึ่ง ภายในร้านมีผู้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะอาหารมากมายจนเกือบเต็ม


   “ปั๊ม ๆ ทางนี้” แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ผมหันไปมองตามต้นเสียงก็เจอกับเด็กหนุ่มผิวขาวเหลืองยกมือเรียกพี่ปั๊ม เขาตัดผมสั้นดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อย หน้าตาของเด็กหนุ่มผู้นั้นราวกับดาราเกาหลีที่ผ่านการศัลยกรรมมาจนหล่อเหลา หากแต่คน ๆ นี้ไม่ใช่... ดูอย่างไรใบหน้าของเขาก็สดใสด้วยธรรมชาติไร้ซึ่งการแต่งเติมใด ๆ การแต่งกายก็ดูจะแสนธรรมดาเพราะเขาสวมเสื้อแขนกุดสีขาวเผยให้เห็นมัดกล้ามเล็ก ๆ ที่ต้นแขนเหมือนคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ท่อนล่างเป็นกางเกงสามส่วนสีดำ


   พี่ปั๊มพยักหน้ามาทางผมแล้วพยักหน้าเป็นการบอกว่าให้เดินตามไป จากนั้นพี่ปั๊มจึงเดินนำไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ กับเด็กหนุ่มผู้นั้น


   “ไอ้ปอมนี่เพื่อนร่วมงานกูนะ คนนี้ชื่อข้าวอายุเท่ากันกับมึง ส่วนนั่นไอ้โด้อ่อนกว่ามึง 4 ปีมั้ง น่าจะราว ๆ นั้น” พี่ปั๊มเป็นคนเริ่มบทสนทนา ก่อนจะหันหน้ามาทางผมและพยักเพยิดไปทางโด้


   เด็กหนุ่มหน้าตาน่าเอ็นดูยิ้มให้ผมกับโด้ก่อนยื่นมือออกมาตรงหน้าผม ผมยิ้มกลับพอจะชักมือไปจับตอบพี่ปั๊มปัดมือของเด็กหนุ่มคนนั้นออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ


   “นี่ไอ้ปอมน้องชายกูเอง...” พี่ปั๊มทำเสียงขรึมก่อนจะหันหน้าไปทางน้องชายแล้วกระซิบกระซาบกันสองคน แต่ผมดันได้ยินด้วย “มึงไม่ต้องมาทำเป็นพิธีรีตองจับมงจับมือแล้วพูดยินดีที่ได้รู้จักนะครับแบบในละครเลยไอ้ปอม!”


   “ทำไม” ปอมเอ่ยถาม หากแต่พี่ปั๊มไม่ตอบแถมยังเบือนหน้าหนีก่อนจะนั่งกอดอกอย่างวางท่า ทว่าพอได้ยินในสิ่งที่น้องชายเอ่ยในประโยคถัดไปออกมาเท่านั้นแหละพี่ปั๊มก็แทบจะนั่งนิ่งต่อไปไม่ได้ “หึงเหรอไงพี่”

   “หึง! หึงบ้าหึงบออะไรเล่า” น้ำเสียงของพี่ปั๊มแสดงออกถึงความขัดใจอย่างเห็นได้ชัด มิหนำซ้ำยังยกเหตุผลต่าง ๆ นานามาสารพัดราวกับกำลังร้อน “กูจะหึงได้ยังไง ผู้ชายเหมือนกันนะโว้ย ไอ้นี่หนิ ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วพูดมากพูดมั่วไปเรื่อยไป กูไม่ได้หึง ไม่ได้หึงจริง ๆ เข้าใจไว้ด้วย”


   “อื้อ... เข้าใจ” ปอมพยักหน้า สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงอารม์ใด ๆ ออกมาสักนิดทำให้ผมไม่รู้เลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้กำลังครุ่นคิดอะไรกันแน่ “ก็แค่แซวเล่น ๆ แล้วทำไมต้องตอบซะยืดยาวขนาดนั้น”


   “เอ้อ... ก็เปล่า มึงนี่ก็พูดมากจัง กูไปสั่งอาหารก่อนดีกว่า หิวจะแย่แล้ว” พูดจบก็ลุกขึ้นทันที


   “โด้ไปด้วย” โดยมีโด้ที่ลุกขึ้นตามไปเลือกอาหารจากถาดอาหารด้านหน้าร้านติด ๆ ส่วนผมยังไม่รู้สึกหิวจึงยังนั่งอยู่ที่โต๊ะตามเดิม


   โต๊ะอาหารภายในร้านเป็นโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ มีเก้าอี้ 4 ตัววางรอบโต๊ะ โดยที่ซ้ายมือของปอมเป็นที่นั่งของพี่ปั๊ม ส่วนฝั่งขวามือของปอมคือที่นั่งของโด้ ส่วนผู้ที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับปอมก็คือผม


   “ข้าว” เสียงที่เอ่ยเรียกทำให้ผมที่กำลังเสมองไปรอบ ๆ ร้านต้องหันหน้าไปปะทะกับคนตรงหน้า สายตาของคนที่มองมากลับทำให้ผมนึกไปถึงใครบางคนเสียได้ คนที่ผมเคยเป็นพี่เลี้ยงและเขาก็ได้ทอดทิ้งผมไปอย่างไม่ใยดี ...บ้าจริง!


   “ครับ” ผมรับคำอย่างสุภาพ แม้ว่าโครงหน้าจะต่างกันเพราะปอมคล้ายกับพี่ปั๊มมากกว่า ทว่าความสดใสไร้เดียงสาหากแต่แววตาแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจและไม่ยอมคนนั้นกลับทำให้ผมคิดถึงคุณชายไปได้ “มีอะไรครับคุณชาย”


   แล้วผมก็เผลอพูดออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว


   “คุณชาย?” ปอมทำหน้างุนงงครู่หนึ่ง


   “อ้อ... เปล่า ๆ ไม่ใช่ ๆ” ผมรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ แล้วทำไมผมต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจแบบนี้ด้วยนะ พอจะสบตาก็กลับรู้สึกกลัวคนตรงหน้าขึ้นมาดื้อ ๆ ท้ายที่สุดผมจึงเลือกที่จะหลบตาแล้วนั่งก้มหน้านิ่ง ๆ เหมือนเป็นคนขี้อายที่ไม่กล้าสบสายตาใคร “ไม่มีอะไรครับ”


   ผมลอบถอนหายใจออกมา คุณชายยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของผมไม่ยอมจากไปไหน แล้วแบบนี้ผมควรจะทำอย่างไรต่อไป ปล่อยให้เรื่องทั้งหมดมันจบไปแบบนี้หรือลองกลับไปหาคุณชายอีกสักครั้ง เผื่อว่าคุณชายอาจจะแค่กำลังลองใจว่าผมจะทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้


   “ผมจะถามว่าข้าวไม่หิวเหรอ ไม่ไปหาไรกินบ้างล่ะ” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องสลัดความคิดบ้า ๆ ทิ้งไป


   “อ้อ...” ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก... ไม่รู้เหมือนกันว่าโล่งอกเรื่องอะไร “ผมยังไม่หิวครับ แล้วปอมล่ะ”


   “ว๊า... แย่จัง” ปอมทำน้ำเสียงเสียดาย “เห็นพี่ปั๊มกับโด้ไปเลือกของกินแล้ว ผมก็ว่าจะชวนข้าวไปซื้อด้วยกันซะหน่อย”


   คำพูดของปอมมันอาจจะไม่มีอะไรนอกจากความบริสุทธิ์ใจ หากแต่หัวใจของผมกลับเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเพียงเพราะประโยคสั้น ๆ ที่ถูกเอ่ยออกมา อาจเป็นเพราะผมรู้สึกว่าคนตรงหน้ามีอะไรบางอย่างที่คล้ายกับคุณชาย แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่คุณชาย ...ใช่! ปอมกับคุณชายเป๊กคนละคนและไม่มีทางที่ผมจะมองใครเป็นคุณชายไปได้อีก


   “ไม่กินสักหน่อยเหรอ สักนิดก็ยังดี กินไม่หมดเดี๋ยวผมช่วยกินก็ได้” …น้ำเสียงที่คล้ายกับออดอ้อนนั่นมันคืออะไรกัน


   “ครับ ๆ กินก็ได้” ผมอยากจะตบกบาลตัวเองแรง ๆ เหลือเกิน สมองสั่งให้ปฏิเสธออกไป แต่ทำไมปากของผมมันถึงตอบรับนะ


   “ดีมาก ปั๊มจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” พูดจบคนตรงหน้าก็ลุกขึ้นแล้วเดินนำไปทันที


   ผมไม่รอช้ารีบเดินตามไปทันที เพิ่งรู้ตอนนี้ว่าปอมมีส่วนสูงที่มากกว่าผมน่าจะประมาณ 3-4 เซนติเมตรได้


   ระหว่างที่กำลังเดินไปเลือกอาหาร อยู่ ๆ ปอมก็พูดในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินออกมา


   “ข้าวรู้ป่ะว่าปั๊มเป็นเกย์” น้ำเสียงราบเรียบปกติเหมือนกับว่าสิ่งที่เอ่ยออกมานั้นไม่ใช่เรื่องแปลก


   “เหรอ...” ผมลากเสียงยาวก่อนที่จะส่ายศีรษะ ทั้ง ๆ ที่รู้สึกตกใจอยู่พอควรกับสิ่งที่ได้ยิน “ไม่รู้ครับ”


   “จริงเหรอครับ ว๊า... ผมนี่แย่จริงที่เอาความลับของพี่ชายมาเล่าให้คนอื่นฟัง” ปอมพูดด้วยน้ำเสียงสบายใจก่อนจะยกมือขึ้นมาขยี้หัวของตัวเองราวกับสำนึกผิด หากแต่นั่นมันเป็นการเสแสร้งชัด ๆ “ปั๊มชอบโทรมาเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังบ่อย ๆ บางครั้งก็เล่าเรื่องของข้าวด้วยนะ ไอ้เราก็นึกว่าข้าวจะรู้ความรับของปั๊มข้อนี้แล้วซะอีก ดูปั๊มจะสนิทสนมและห่วงข้าวมาก ๆ เลยล่ะครับ”


   “ไม่รู้ครับ” ผมส่ายศีรษะ แม้จะสงสัยอยู่บ้างแต่ก็ไม่คาดคิดว่าพี่ปั๊มจะเป็นอย่างที่ปอมกล่าวหาจริง ๆ “ไม่คิดว่าพี่ปั๊มจะเป็น...”


   “ผมขออะไรอย่างได้ไหม” คราวนี้น้ำเสียงของคนพูดเริ่มจริงจังจนผมอดรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะขอนั้นมันคืออะไร


   “ได้สิครับ” ผมตอบรับอย่างว่าง่าย ปอมกระตุกยิ้มออกมาหนึ่งทีแล้วพูดประโยคที่ยืดยาวออกมาว่า


   “อย่าให้ความสัมพันธ์ระหว่างปั๊มกับข้าวมันเกินเลยคำว่าพี่น้อง อย่ารักปั๊มแบบคู่รักเด็ดขาด ถึงมันจะเป็นเกย์ แต่ด้วยนิสัยใจคอและท่าทางของมันยังพอมีหวังที่จะกลับมาเป็นปกติได้ หวังว่าข้าวจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดนะ” พูดจบก็เดินนำลิ่ว ๆ ไปทางหน้าร้านปล่อยให้ผมยืนงุนงงกับสิ่งที่ได้ยินโดยไม่สนใจสักนิดว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่


   ผมกับพี่ปั๊มจะรักจะชอบกันได้อย่างไร เราสองคนสนิทสนมกันก็จริง แต่ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมันก็แค่พี่น้องเท่านั้น ผมยอมรับว่าผมรักพี่ปั๊มมาก แต่รักในฐานะพี่ชายไม่เคยคิดอะไรเป็นอย่างอื่น แล้วการที่ปอมมากล่าวหาพี่ปั๊มกับผมแบบนี้จะให้ผมทนนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร ...แม้บางครั้งจะมีหวั่นไหวบ้างก็เถอะ แต่มันก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้น้องจากคำว่าพี่น้องเท่านั้น ผมมั่นใจ!


   คิดดังนั้น ผมจึงรีบเดินตามออกไปหวังที่จะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ปอมเข้าใจ แต่ทว่าพอไปถึงปอมก็สั่งอาหารและหันมาพูดกับผมโดยที่ไม่ยอมให้ผมเป็นฝ่ายเปิดปากขึ้นมาก่อน


   “ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ผมรู้ว่ามันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็แค่พูดดักเอาไว้ก่อน เพราะข้าวอาจจะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น...” ระหว่างที่ปอมกำลังจะพูดต่อ เสียงของแม่ค้าขายอาหารก็ดังขึ้น


   “กับข้าวได้แล้วค่ะ”


   ปอมหันไปจ่ายเงินกับแม่ค้าจนเสร็จสรรพแล้วจึงหันมาพูดกับผมอีกครั้ง


   “แต่กับปั๊มไม่ใช่...” พูดจบก็เดินกลับไปที่โต๊ะ ปล่อยให้ผมยืนสับสนกับคำพูดเหล่านั้นอีกครั้ง


   การที่ปอมบอกว่า ผมไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น แต่กับพี่ปั๊มไม่ใช่... มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ปอมไปรับรู้เรื่องราวอะไรของพี่ปั๊มมาอย่างนั้นหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดกบาล หวังจะมาเที่ยวคลายเครียดเพื่อลืมเรื่องราวที่ไม่น่าจดจำ แต่เหตุไฉนผมต้องมาเครียดยิ่งกว่าเก่ากับคำพูดแปลก ๆ ของเด็กหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันยังไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ


   “คุณคะ สั่งอะไรดีคะ” แล้วเสียงที่ดังขึ้นก็เรียกสติผมให้กลับคืนมาอีกครั้ง ผมเงยหน้าไปมองแม่ค้าขายอาหารทำตาปริบ ๆ อย่างสำนึกผิดที่มายืนอยู่หน้าร้านแต่ยังไม่ยอมสั่งอะไรสักที


   ผมกวาดสายตามองดูอาหารในถาด มีอาหารที่น่ารัปประทานหลายอย่าง ทั้งไข่ลูกเขย หมูหวาน ยำไข่ต้ม ฉู่ฉี่ปลาทู อะไรที่ไม่มีผักผมชอบทั้งนั้นแหละ แต่ทว่า


   “เอาผัดผักรวมมิตรกับยำเห็ดเข็มทองครับ” ผมตัดสินใจสั่งอาหารเพื่อสุขภาพไปแล้ว พอคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก คำที่คุณชายเคยพูดหรือเคยขอเอาไว้ก็กลับมาวนเวียนอยู่ในหัวสมองจนทำให้ผมต้องหวั่นไหวไม่เป็นอันทำอะไร เรื่องคุณชายว่าเครียดแล้ว ได้ยินคำพูดแปลก ๆ ของปอมเมื่อครู่ยิ่งทำให้ผมเครียดเข้าไปใหญ่ ...ไอ้ข้าวเอ๊ย เมื่อไหร่มึงถึงจะกลับมามีความสุขอีกสักทีวะ


   พอเดินถือจานอาหารกลับไปนั่งที่โต๊ะพี่ปั๊มก็ส่งสายตาที่แสดงถึงความประหลาดใจมาทางผม


    “ไอ้ข้าว มึงไม่ชอบกินผักไม่ใช่หรอเหรอวะ”


   “เอ๋... พี่ข้าวไม่ชอบกินผักหรอครับ” โด้เอ่ยแทรกด้วยความชอบใจก่อนจะเอามือทุบอกตัวเองแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “ไม่เก่งเหมือนโด้เลย กินผักเป็นตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จากนั้นก็กินมาตลอด”


   “ก็... เออน่าพี่ หัดกินบ้างก็ดี” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจพลางหันไปมองจานอาหารในมือแล้วรู้สึกขยะแขยงชอบกล ผมจะกินมันลงจริง ๆ หรือนี่


   ผมลอบถอนหายใจก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะอาหารพยายามไม่สบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พอจะตักอาหารเข้าปากมือมันก็ค้างอยู่กลางอากาศอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ...นี่ผมกำลังทำบ้าอะไรเนี่ย คุณชายก็ทิ้งผมไปแล้ว แล้วทำไมจะต้องไปใส่ใจกับไอ้คำพูดที่อยากให้เราทำนู่นนี่นั่นของคุณชายด้วยนะ


คิดดังนั้นผมจึงถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้ววางช้อนส้อมลงบนจานอาหาร ไม่กินก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ โตมาอายุป่านนี้ผมก็ยังแข็งแรงเหมือนคนทั่ว ๆ ไปนั่นแหละน่า


“เป็นอะไร” พี่ปั๊มเอ่ยถามหลังจากที่เห็นผมวางช้อนส้อมลง


“เปล่าครับพี่” ผมปฏิเสธออกไปก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาดื่มจนหมด จังหวะที่ผมกำลังเงยหน้าดื่มน้ำ สายตาของผมก็ดันไปปะทะกับสายตาเจ้าเล่ห์ของปอมเอาเสียได้ ทั้ง ๆ ที่เห็นในทีแรกก็ดูน่ารักสเใสไร้เดียงสา แต่พอได้พูดคุยกันเพียงไม่กี่ประโยคผมกลับรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่คิดเสียแล้ว เขาดูฉลาดและยากที่จะเข้าใจ


ปอมยักคิ้วให้ผมหนึ่งทีก่อนจะเผยอยิ้มออกมาแล้วเอ่ยว่า “ไม่ลองกินดูล่ะ กับข้าวร้านนี่อร่อยจริง ๆ นะ”


พูดจบก็ถือวิสาสะมาตักอาหารที่จานของผมแล้วยัดเข้าปากตัวเองก่อนจะเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย ผมไม่ชอบท่าทีของหมอนี่เลย ทั้ง ๆ ที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูแต่กลับชอบทำเจ้าเล่ห์เพทุบายเหมือนอยากจะมีปัญหากับผมเสียให้ได้


“อร่อยจริง ๆ นะ ถ้าพี่ข้าวไม่กินโด้ขอนะครับ” พอโด้จะตักบ้างพี่ปั๊มก็รีบยื่นมือไปดันมือของโด้ออกทันที


“ไม่ได้! นี่ของไอ้ข้าว ให้มันกินบ้างช่วงนี้ยิ่งผอม ๆ อยู่ มึงก็เหมือนกันไอ้ปอมอย่าไปแย่งมันกิน” พูดจบก็หันมามองหน้าผม “รีบกินได้แล้วไอ้ข้าว”


“ครับ” ท้ายที่สุดผมก็ต้องกลั้นใจรับประทานผัดผักประหลาด ๆ และยำเห็ดพิสดารที่ผมตัดสินใจสั่งมา ...โถ่เอ๊ยไอ้ข้าว คิดเองเออเองทั้งนั้น ทำไมไม่ยอมทำอะไรตามใจตัวเองสักทีนะ ทำไมถึงชอบนึกถึงคุณชายและคำพูดบงการของคุณชายต่าง ๆ นานาสารพัดด้วย
การที่จะลืมใครบางคนที่มีความผูกพันกันมานั้นมันไม่ได้ทำง่าย ๆ เลยสักนิด แล้วคุณชายล่ะ จะมีสักเสี้ยววินาทีไหมที่มีอาการเหมือนผม หรือคุณชายไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว บางทีเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันอาจจะเกิดจากความสงสารก็เป็นได้


“ก็แค่เนี้ย จะกินก็กินได้นี่ครับ” หลังจากที่ผมตักอาหารคำสุดท้ายเข้าปาก เสียงของปอมก็ดังขึ้น ระหว่างนั้นพี่ปั๊มกับโด้กำลังเดินไปเลือกของหวานที่หน้าร้านเลยทำให้รอบโต๊ะอาหารเหลือเพียงแค่ผมกับปอมอีกครั้ง


   “นายมีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่า” ผมถามออกไปตรง ๆ เพราะคำพูดหลาย ๆ อย่างของปอมมันสะกิดใจให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่หวังดีกับผม


   “ก็เปล่านี่ครับ” ปอมตอบพร้อมรอยยิ้มที่สดใสหากแต่ฉาบไปด้วยเล่ห์ร้ายที่ไม่มีใครสังเกตเห็นนอกจากผม “แล้วข้าวล่ะมีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่า”


   เมื่อถามกลับมาตรง ๆ แบบนี้มีหรือที่ผมจะยอมแสร้งทำเป็นคนดีแล้วส่ายศีรษะปฏิเสธแบบเขา “มี”


   ได้ผล... ปอมยิ้มให้กับคำตอบ เขาเลิกคิ้วแล้วจ้องมองผมด้วยความสนใจ


   “เรื่องที่นายกล่าวหาพี่ปั๊มว่าเป็นเกย์ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ผมกับพี่ปั๊มจะรักกันไม่ได้” ที่ถามไม่ใช่เพราะผมหลงรักพี่ปั๊มไปแล้วหรอกนะ แค่อยากรู้เหตุผลที่แท้จริงเท่านั้น “เพราะที่นายบอกว่าพี่ปั๊มยังพอมีหวังที่จะกลับมาชอบผู้หญิงนั้น ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง”


“แล้วถ้าผมยังยืนยันคำตอบเดิมล่ะ” สีหน้าของปอมจริงจังมากขึ้น เขาจ้องผมเขม็ง


“แล้วเพราะอะไรล่ะ” ผมถามพร้อมทั้งพยายามคิดหาเหตุผลไปด้วย “เพราะนายไม่ชอบที่มีพี่ชายเป็นเกย์อย่างนั้นน่ะหรือ ผมเข้าใจนะว่าผู้ชายแท้ ๆ อย่างนายคงจะทำใจลำบากที่มีพี่ชายเป็นเกย์ แต่นายรู้ไหมว่ากว่าที่ใครคนหนึ่งจะยอมรับความรู้สึกที่ผิดเพี้ยนของตัวเองได้น่ะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะ แล้วถ้าพี่ปั๊มเป็นแบบนั้นจริง นายก็ควรจะเข้าใจความรู้สึกของพี่ปั๊มมากกว่าที่จะเลือกต่อต้านสิครับ”


ผมพูดไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในจิตใจ รู้ดีว่าการที่ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งคิดว่าตนเองเป็นชายแท้มาโดยตลอดนั้นจะยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลงเรื่องรสนิยมทางเพศที่เกิดขึ้นมันทำใจลำบากแค่ไหน ผมพยายามวิ่งหนีความจริงมาโดยตลอด แต่ท้ายที่สุดผมก็ต้องพ่ายแพ้... พ่ายแพ้ให้กับหัวใจของตัวเองที่ไม่สามารถปฏิเสธถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้


ตั้งแต่ที่ผมเริ่มรู้สึกหวั่นไหว ผมต้องทนอยู่กับความหวาดกลัวมาโดยตลอด... กลัวว่าครอบครัวจะรับรู้ถึงสิ่งที่ผมเป็น กลัวว่าเพื่อนฝูงและคนรอบข้างจะรังเกียจเมื่อรู้ว่าผมชอบเพศเดียวกัน ทว่าความกลัวเหล่านั้น แท้จริงแล้วมันไมไ่ด้น่ากลัวเลยสักนิด ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ผมจินตนาการไปเองทั้งนั้น บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ อยู่ที่ว่าผมกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นหรือเปล่า และผมก็รู้แล้วว่าความกลัวเหล่านั้นมันช่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับการที่ผมได้รับรู้ความจริงว่าคนที่ผม 'รัก' กลับไม่ได้คิดเช่นเดียวกับผม เพราะคนที่ไม่สามารถยอมรับในความรู้สึกของตัวเองได้นั้นมันช่างน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าอะไร...


“ผมไม่ได้ต่อต้าน เพราะผมเข้าใจความรู้สึกแบบนั้นดี” ปอมยังคงยิ้มระรื่น “แต่เพราะพ่อกับแม่ยังอยากมีหลาน...”


“อยากมีหลาน” ผมทวนคำ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ปอมต้องการจะสื่อเลยสักนิด แต่แล้ววินาทีต่อมาความสงสัยของผมก็ถูกไขจนกระจ่าง และทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้นทันตา


“ใช่! ปั๊มน่ะยังพอมีโอกาสที่จะกลับไปชอบผู้หญิงได้ แต่ผมทำไม่ได้เพราะผมไม่เคยต้องการผู้หญิงมาเป็นคู่ครองเลยสักนิด” น้ำเสียงนั้นจริงจังเช่นเดียวกับสีหน้าและแววตาที่จับจ้องมาที่ผม


   สายตาที่เต็มไปด้วยความกดดันส่งผมให้ผมต้องนั่งนิ่งและสมองไม่สามารถประมวลคำพูดที่อยากจะพูดออกมาได้ สุดท้ายผู้ที่มาปลดปล่อยให้ผมหลุดจากความกดดันก็เดินมาพร้อมกับวางถ้วยของหวานถ้วยหนึ่งลงตรงหน้าผม


   “กินแก้เลี่ยนซะไอ้น้องรัก” เสียงของพี่ปั๊มช่วยเรียกสติผมให้กลับคืนมาอีกครั้ง


   “ขอบคุณครับ” ผมขยับถ้วยของหวานเข้ามาใกล้ ๆ แล้วรีบรับประทานโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น ไม่อยากจะคิดอะไรให้ปวดหัวแต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมพี่ปั๊มจะต้องเป็นฝ่ายเสียสละยอมมีหลานให้พ่อกับแม่ แล้วถ้าพี่ปั๊มไม่สามารถรักผู้หญิงคนใดได้จริง ๆ แล้วล่ะ เขาจะลำบากใจแค่ไหนที่ต้องฝืนความรู้สึกของตัวเอง โดยการคบกับผู้หญิงสักคนเพื่อครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันอาจจะเกิดขึ้นเพราะความจำเป็น ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้องเลยสักนิด


   ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คนที่น่าสงสารที่สุดก็คือพี่ปั๊มกับผู้หญิงที่จะต้องมาเป็นคู่ครองและลูกที่อาจจะต้องเกิดมาในอนาคต แล้วมันจะมีทางแก้ไขบ้างไหม แล้วพี่ปั๊มจะยอมให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นไปตามคำบัญชาของพ่อและแม่รวมถึงปอมจริง ๆ น่ะหรือ




จบตอนนนนน.........

รอตัวละครแบบปอมมานานมากครับ หึหึหึ

เม้นท์ให้เค้าด้วยนะ.... อ้อนนน  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน24 P.15] - 27/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 27-07-2014 01:29:37
อิดวกปอม ที่แท้เมิงก็แค่เห็นแก่ตัวสินะ ไอ้เราก็นึกว่ามันจะหวังดีกับพี่ซะอีก
คนแบบนี้เราว่ามันน่ารังเกียจจริงๆ  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน24 P.15] - 27/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-07-2014 02:33:48
เมื่อก่อนเป็นแค่เรื่องของคุณชายกับข้าว แต่ตอนนี้ตัวละครเพิ่มขึ้นมาอีกความสำคัญก็กระจายออกมาเลยคิดว่าไอ้คุณชายเนี่ยยังดำรงตำแหน่งพระเอกของเรื่องอยู่ใช่ไหม หรือเปลี่ยนตัวให้ข้าวเป็นแทนแล้ว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน24 P.15] - 27/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 27-07-2014 15:20:42
คิดเหมือนข้อความด้านบนเลย ^^
มันทำให้ความสำคัญของตัวละคร ดูน่าสนใจน้อยลง ความน่าติดตามเลยน้อยลงไปด้วย ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน24 P.15] - 27/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 27-07-2014 19:59:45
คิดเหมือนข้อความด้านบนเลย ^^
มันทำให้ความสำคัญของตัวละคร ดูน่าสนใจน้อยลง ความน่าติดตามเลยน้อยลงไปด้วย ..

ง๊าา T___T ขออนุญาตแทรกตอบนิดนึงนะครับอย่าเพิ่งเบื่อน๊า ช่วงนี้มันเป็นเหมือนพาร์ทเล็กๆ ของการไปบ้านพี่ปั๊ม
เลยขอสอดแทรกอะไรเกี่ยวกับครอบครัวนี้เต็มที่ แล้วก็คุณชายไม่หายไปไหนแน่นอนครับ รออีกแป๊บนึง แป๊บนึง
ให้คุณชายได้เรียนรู้ก่อนว่าการไม่มีข้าวอยู่ด้วยแล้วเป็นยังไง เดี๋ยวก็กลับมาแล้วครับ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน24 P.15] - 27/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 28-07-2014 00:54:01
สรุปว่า ปอมก็เป็นเกย์สินะเนี่ย

พี่ปั๊มเป็นของน้องโด้เท่านั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน24 P.15] - 27/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 28-07-2014 10:32:50
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน24 P.15] - 27/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 28-07-2014 10:38:24
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน24 P.15] - 27/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 29-07-2014 12:46:57
ตอนที่ 25


หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ ปอมได้ขับรถพาพวกเราไปยังที่พัก ซึ่งผมเดาเอาไว้ตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าน่าจะเป็นบ้านของครอบครัวพี่ปั๊ม ทว่าพอไปถึงจุดหมายผมกลับไม่แน่ใจเมื่อได้พบกับสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่บนเนื้อที่กว้างขวางซึ่งดูหรูหราราวกับวังของคุณชายหากแต่สถานที่แห่งนี้มันมีกลิ่นอายของความคลาสสิกเข้ากับชนบทมากกว่า


   ผมกวาดสายตามองตัวบ้านด้วยความประหลาดใจ บ้านหลังนี้มีสองชั้น มีขนาดกว้างขวางเหมือนกับบ้านของเศรษฐีในละครหลังข่าว การตกแต่งดูหรูหรา สวนหย่อมหน้าบ้านกว้างขวาง รั้วบ้านเป็นอิฐที่ถูกฉาบด้วยปูนและทาสีครีมอ่อน ๆ ทับอีกชั้น และมีโคมไฟประดับล้อมรอบอยู่บนนั้น


   “พี่ปั๊ม” ผมเดินไปกระซิบเบา ๆ ที่ข้างใบหู “บ้านพี่จริงเหรอครับ ทำไมมันใหญ่โตมโหฬารอย่างงี้ล่ะ”


   ไม่ใช่ว่าผมต้องการจะดูถูกพี่ปั๊ม หากแต่ก่อนหน้านี่พี่ปั๊มเคยเล่าให้ฟังว่าครอบครัวของเขานั้นยากจน บ้านที่แม่ฮ่องสอนเป็นบ้านไม้เก่า ๆ สองชั้น และเพราะพ่อกับแม่ไม่มีเงินเลี้ยง พี่ปั๊มจึงต้องดั้นด้นไปหางานทำในเมืองหลวงเพราะเลี้ยงชีพตัวเองและไม่อยากเป็นภาระของพ่อแม่ ทว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าในยามนี้มันขัดกับสิ่งที่พี่ปั๊มเคยพูดไปเสียทุกอย่าง


   “ไว้เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ยกของไปเก็บก่อนดีกว่า” พี่ปั๊มหันมากระซิบ ผมพยักหน้ารับ ทว่าพอจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของตัวเองก็พบว่ามันถูกใครบางคนหิ้วและเดินนำลิ่ว ๆ ไปหยุดอยู่หน้าประตูบ้านก่อนแล้ว


   “ปอม” ผมตะโกนเรียก ก่อนจะรีบวิ่งตามไป “นั่นกระเป๋าของผมนะ”


   “กระเป๋าของข้าว อ่อใช่ครับ ผมเห็นโด้หิ้วกระเป๋าของตัวเองแล้ว ส่วนกระเป๋าใบเล็ก ๆ สีน้ำตาลอีกใบจำได้ว่าเป็นของปั๊ม ก็เลยเดาเอาไว้อยู่แล้วว่าใบนี้น่าจะเป็นของข้าว”


   “ก็เออสิครับ ของผม แล้วนายจะหิ้วไปทำไม ส่งมานี่มา” พอผมจะแย่งกลับ ไอ้คนเจ้าเล่ห์ก็ดันเหวี่ยงแขนข้างที่หิ้วกระเป๋าหลบแถมยังยักคิ้วท้าทายราวกับต้องการจะบอกว่าถ้าแน่จริงก็แย่งให้ได้สิ ...แต่เสียใจด้วย เพราะผมไม่ใช่ของเล่นที่จะต้องเดินไปตามเกมของใครอีกแล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ยอมเล่นอะไรบ้า ๆ บอ ๆ นี่เด็ดขาด


   “งั้นตามสบายละกัน” เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน มาถึงก็มีพลขับขับรถไปรับแถมยังบริการถือกระเป๋าขึ้นห้องให้อีก


   “ดีมากเด็กดื้อ” หมอนั่นยักคิ้วให้ผมอีกแล้ว แถมฉายาแปลกประหลาดที่เรียกผมว่า ‘เด็กดื้อ’ มันคืออะไรกัน ตั้งใจจะกวนประสาทกันใช่ไหม แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้โต้ตอบอะไร พี่ปั๊มที่เดินตามมาก็ขัดขึ้น


   “มีอะไรกัน” น้ำเสียงของพี่ปั๊มขรึมกว่าปกติ


   “ก็...” ผมกำลังจะฟ้อง แต่ก็โดนปอมขัดเสียก่อน


   “ก็... ไม่มีอะไรครับ จะยกกระเป๋าข้าวขึ้นไปไว้บนห้องให้น่ะครับ ส่งของพี่ปั๊มมาสิเดี๋ยวผมเอาไปเก็บให้ด้วย”


   พี่ปั๊มส่งกระเป๋าไปให้น้องชายอย่างไม่ติดใจอะไรก่อนจะหันไปสั่งโด้ “ส่วนของมึงหิ้วตามไอ้ปอมขึ้นไปบนห้องเอง”


   “ตลอดเลยนะพี่ปั๊ม” โด้แยกเขี้ยวใส่ แต่ท้ายที่สุดก็ยอมเดินตามปอมเข้าไปในบ้านแล้วเอากระเป๋าไปเก็บแต่โดยดี ก่อนที่หลังจากนั้นพี่ปั๊มจะเดินนำผมเข้าไปในตัวบ้านแล้วเลี้ยวเข้าไปยังห้องโถงกว้างอย่างคุ้นเคยซึ่งมีโซฟาหรูหราตัวใหญ่ตั้งอยู่


   ผมกวาดสายตามองรอบ ๆ บ้านอีกครั้ง แม้จะไม่ได้หรูหราเท่ากับวังของคุณชาย ทว่าทั้งตัวบ้านและสิ่งของเครื่องใช้ภายในก็หรูหราเกินกว่าที่ชาตินี้ทั้งชาติผมจะสามารถเก็บเงินสร้างบ้านและซื้อของใช้แบบนี้ได้แน่ ๆ ต่อให้มีผมสิบคนช่วยกันเก็บตังค์ก็ยังยากเลยที่จะสามารถสร้างบ้านแบบนี้ได้


   “นั่งดิข้าว” พี่ปั๊มสั่งซึ่งเขาได้นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวก่อนแล้ว


   ผมนั่งลงที่โซฟาตัวเล็กซึ่งอยู่ติดกันกับโซฟยาวอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่รู้ว่าพี่ปั๊มตั้งใจจะแกล้งอะไรผมหรือเปล่า บางทีนี่อาจจะไม่ใช่บ้านของพี่ปั๊มก็ได้ แต่พอมองการกระทำของพี่ปั๊มมันกลับทำให้ผมคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นบ้านของเขาจริง ๆ เพราะไม่มีท่าทีประหม่าแสดงออกมาให้เห็นเลยสักนิด ราวกับมีความคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี


   “ไม่ใช่” เสียงของพี่ปั๊มดังขึ้นอีกครั้ง ผมทำขมวดคิ้วด้วยความฉงนก่อนที่พี่ปั๊มจะใช้มือตบที่นั่งข้าง ๆ พี่ปั๊มเสียงดังแล้วพูดต่อ “มานั่งตรงนี้ ข้าง ๆ กู”


   “ทำไม” ปกติผมไม่ใช่คนขี้สงสัย ทว่าหลายวันมานี้มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นกับผมมากมายไหนจะเรื่องของคุณชาย แล้วยังจะเรื่องบ้านและเรื่องครอบครัวของพี่ปั๊มอีก ซึ่งผมก็ไม่รู้ตัวเองเลยว่ากลายเป็นคนขี้ระแวงไปตั้งแต่เมื่อไร


   “มาเหอะน่า” พี่ปั๊มพยักหน้าหงึก ๆ เห็นดังนั้นผมจึงทำตามคำสั่งแต่โดยดี


   ในตอนนี้เราสองคนนั่งติดกัน ทันใดนั้นแขนข้างหนึ่งของพี่ปั๊มก็ยกขึ้นมาโอบไหล่ ผมสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ เพราะอยู่ ๆ คำพูดของปอมก็ลอยเข้ามาในหัว คำพูดที่บอกว่าพี่ปั๊มเป็นเกย์...


   ผมไม่ได้สะดุ้งเพราะรู้รังเกียจเลยพี่ปั๊ม ไม่มีสิทธิ์คิดอย่างนั้นเสียด้วยซ้ำ เพราะถ้าพี่ปั๊มเป็นเช่นที่ปอมกล่าวหาจริง นั่นก็ไม่ได้ต่างกับผมเลยสักนิด


   ผมมีความรู้สึกที่ดีกับเพศเดียวกัน โดยเฉพาะกับคุณชาย... เด็กหนุ่มเอาแต่ใจคนนั้นทำให้ผมหวั่นไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน ทว่านอกจากคุณชาย ก็ยังไม่มีใครที่ทำให้ผมมีความรู้สึกพิเศษ ๆ แบบนั้นได้อีก ...ไม่แน่ว่าผมอาจจะกลับใจไปชอบผู้หญิงก็เป็นได้


   “มึงอย่าไปฟังไอ้ปอมมันมากนะ ไม่ว่ามันจะพูดอะไรก็อย่าไปเชื่อมันล่ะ ไอ้นี่มันขี้แกล้ง” พี่ปั๊มเอ่ยขึ้นเหมือนรู้เรื่องราวที่ผมคุยกับปอม “มึงน้องกู กูรักมึงแบบน้อง ไม่ผิดใช่ไหมที่กูจะคิดแบบนี้”


   พี่ปั๊มตบบ่าผม โดยที่ผมไม่รู้เลยว่านี่เป็นการให้กำลังใจ หรือต้องการให้ผมเชื่อใจในสิ่งที่พี่ปั๊มพูดออกมา หรืออาจจะมีนัยยะอื่น ๆ แฝงอยู่ก็เป็นได้ แต่พอได้ยินดังนั้น ผมก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก


   “ครับพี่”


   “แล้วก็เรื่องบ้าน” คราวนี้พี่ปั๊มเลื่อนแขนออกจากไหล่ผมก่อนจะนั่งเอนหลังให้พิงกับโซฟาด้วยท่วงท่าที่ผ่อนคลาย“กูขอโทษที่โกหกมึงมาตลอด”


   “โกหก?” ผมทวนคำแล้วหันไปจ้องพี่ปั๊มเขม็ง ไม่ใช่ว่าผมรู้สึกโกรธล่วงหน้าแต่ผมสนใจว่าสิ่งที่พี่ปั๊มจะพูดในประโยคถัดไปมันคืออะไร
   “ใช่ กูขอโทษที่กูโกหก ทั้งเรื่องบ้านและเรื่องครอบครัวที่กูเคยบอกว่ากูยากจน มึงไม่โกรธกูใช่ไหม”


   ผมส่ายศีรษะแทนคำตอบ ผมจะโกรธพี่ชายของผมได้อย่างไร มันเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับความสัมพันธ์ดี ๆ ของเราสองคนที่เกิดขึ้นมาตลอดระยะเวลาหลายปี


   ผมจ้องตาพี่ปั๊มอย่างเข้าใจ แต่ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกไปจริง ๆ มีคำถามมากมายผุดขึ้นในหัวสมองหากแต่ผมไม่ต้องการที่จะเซ้าซี้ออกไป รอให้พี่ปั๊มเป็นคนเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาเองดีกว่า


   “มึงอย่าเงียบดิวะ” พูดจบก็ยื่นมือมาวางไว้ที่ต้นขาของผม ผมสะดุ้งเล็กน้อย


   “ก็รอให้พี่เล่าอยู่”


   “มึงอยากรู้อะไรล่ะ ถามกูสิ กูไม่รู้จะเริ่มยังไงดี”


   คราวนี้ผมยกแขนขึ้นไปพาดบ่าของพี่ปั๊มบ้าง น่าแปลกที่ครั้งนี้หัวใจของผมมันรู้สึกหวิว ๆ แปลก ๆ มันไม่ใช่อาการขัดเขินหากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันเหมือนมีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกไปเล็กน้อย


   เพราะพี่ปั๊มเป็นคนรวยอย่างนั้นหรือผมถึงรู้สึกแปลกไป หรือเพราะคำพูดของปอมที่กล่าวหาพี่ปั๊มเลยทำให้ผมรู้สึกหวาดระแวง หรือบางทีอาจเป็นเพราะพี่ปั๊มโกหกเรื่องราวของครอบครัวมาตลอดเลยทำให้ผมรู้สึกไม่อยากจะเชื่อใจ


   ใช่!... ผมอาจจะรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ แต่ถึงอย่างไรพี่ปั๊มก็คือพี่ชาย... พี่ชายที่แสนดีของผม พี่ชายที่คอยปลอบใจและดูแลผมมาตลอดเวลาที่ผมทำงานอยู่ปั๊มน้ำมัน


   “ทำไมพี่ต้องโกหก” ไม่รู้ว่าน้ำเสียงของผมมันเคร่งขรึมเกินไปหรืออย่างไรพี่ปั๊มถึงมีหน้าเสียเล็กน้อยกับคำถามของผม หรืออาจเป็นเพราะคำพูดของผมมันฟังดูรุนแรงเกินไป แต่ผมไม่ได้โกรธพี่ปั๊มเลยสักนิด ไม่ได้ประชดด้วย


   “กูไม่ได้ตั้งใจ” พี่ปั๊มตอบเสียงเบา “ไม่โกรธกูนะข้าว”


   “ไม่ครับ ไม่เลยสักนิด”


   “แล้วทำไมตอนพูดต้องหลบหน้ากูด้วย”


   “หลบอะไร” ผมปฏิเสธทันควันพร้อมกับหันหน้าไปมองพี่ปั๊มทันที ‘พี่ปั๊มเป็นเกย์’ อยู่ ๆ ข้อครหาของปอมก็ดังขึ้นในหัวของผมอีกครั้ง มันดังวนไปวนมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนผมต้องจ้องตาพี่ปั๊มด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้... แววตาคู่นั้นช่างเรียวสวยและดูอบอุ่นกว่าทุกครั้งที่เคยเห็น ทว่าภายใต้ความอบอุ่นกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกผิดที่แสดงออกชัดเจน


ผมไม่ได้โกรธพี่ปั๊มจริง ๆ นะ แต่ทำไมการแสดงออกและคำพูดของผมมันถึงตรงข้ามกับความคิดข้อนี้ไปได้ ผมไม่เข้าใจตัวเองจริง ๆ “นี่ไงผมจ้องหน้า ผมมองตาพี่แล้วไง พี่จะเล่าอะไรก็เล่ามา”


“เอ่อ... กู...” คราวนี้เป็นฝ่ายพี่ปั๊มเสียเองที่ก้มหน้าหลบสายตา “กูมีเหตุผลนะที่กูต้องโกหกมึงและโกหกทุก ๆ คน รอให้กูพร้อมก่อนนะ เดี๋ยวกูจะเล่าให้มึงฟังทั้งหมด กูสัญญา”


“นี่พี่ยังไม่พร้อมอีกเหรอครับ” ผมสวนกลับไป รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่เรื่องราวทุกอย่างมันชัดเจนถึงเพียงนี้ แต่พี่ปั๊มยังเลือกที่จะเก็บเหตุผลเอาไว้ไม่ยอมเล่าให้ผมฟัง “เมื่อไหร่ล่ะครับถึงจะพร้อมอีกหนึ่งวัน หนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี หรือสิบปี หรือถ้าพี่ลำบากใจขนาดนั้นก็ไม่ต้องเล่าให้ผมฟังก็ได้นะครับ ผมไม่ได้โกรธพี่เลย ไม่เลยสักนิด”


“ไอ้ข้าว!!!” พี่ปั๊มขึ้นเสียง “มึงอย่าย้ำได้ไหมว่ามึงไม่โกรธกู การแสดงออกของมึงมันไม่ใช่เลยสักนิด มึงโกรธกู มึงผิดหวังในตัวกู กูรู้... กูขอโทษ เอาไว้กูพร้อมกูจะเล่าให้มึงฟังทั้งหมด มึงรอกูหน่อยนะ เรื่องบางเรื่องมันยากเกินกว่าที่จะอธิบายให้ใครฟังได้ มันต้องใช้เวลา มึงเข้าใจใช่ไหม”


“อืม” ผมพยักหน้า “ผมเข้าใจ”


พูดจบก็ลุกขึ้นทันที ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่ปั๊มดี เพราะคนเราล้วนมีที่มาที่แตกต่างกัน มีประสบการณ์ในโลกกว้างที่ไม่เหมือนกัน ผมไม่รู้หรอกนะว่าที่ผ่านมาพี่ปั๊มต้องเจอกับอะไรบ้าง มันคงเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่จะทำใจได้ เพราะไม่เช่นนั้นพี่ปั๊มคงไม่เลือกที่จะทิ้งความสุขสบายจากการเป็นคุณหนูให้กลายไปเป็นเด็กปั๊มธรรมดา ๆ ยากจนคนหนึ่งหรอก แต่ถึงอย่างไรผมก็อดน้อยใจไม่ได้จริง ๆ ที่พี่ปั๊มไม่เชื่อใจในความสัมพันธ์ของเรา


...ใช่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็แค่ความน้อยใจไม่ใช่ความโกรธเคือง


   “เอาเถอะ ผมจะไม่เซ้าซี้พี่ ถ้าพี่สบายใจเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้ผมฟังก็ได้” ท้ายที่สุดผมก็เลือกที่จะสลัดความผิดหวังทิ้งไป ผมหันไปสบตาพี่ปั๊มอีกครั้ง มือข้างที่โอบไหล่ถูกยกขึ้นมาขยี้ศีรษะของพี่ปั๊มอย่างเอ็นดู “ผมขอโทษ”


   คนร่างเล็กทิ้งศีรษะมาซบที่ไหล่ของผม ไม่รู้ว่าเราสองคนปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเท่าไร เพราะเราไม่ได้พูดอะไรกันอีก มือของผมยังคงลูบศีรษะของพี่ชายอยู่อย่างนั้น อยากรู้เหลือเกินว่าเหตุผลที่ทำให้พี่ปั๊มต้องโกหกทุกคนในปั๊มมันคืออะไร แต่ผมก็คงทำได้แค่รอ... รอเวลาที่พี่ชายคนนี้จะสบายใจแล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟัง


   ระหว่างที่ความเงียบกำลังครอบงำ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นร่างของใครบางคนบนบันไดชั้นบนสุด สายตาของเขาแน่นิ่งไม่ไหวติง เขาจ้องผมเขม็งก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สื่อถึงความรู้สึกประหลาดยากเกินคาดเดา แต่มั่นใจได้เลยว่ามันไม่ใช่รอยยิ้มที่แสดงออกในทางที่ดีแน่นอน


   ‘ปอมกำลังคิดอะไรอยู่นะ’ สิ้นเสียงความคิด ปอมก็วกกลับขึ้นไปบนชั้นสอง เขาเลือกที่จะปล่อยให้ผมกับพี่ปั๊มอยู่ในห้องรับแขกสองคนต่อไป ทั้งที่ความเป็นจริงนั้นเขาสามารถเดินลงมาขัดขวางความใกล้ชิดของเราสองคนก็ได้


   เด็กหนุ่มคนนั้นช่างพิลึกคนยิ่งนัก ปากก็บอกไม่ต้องการให้พี่ชายมีรสนิยมทางเพศกับเพศเดียวกัน แต่ก็เลือกที่จะปล่อยให้ผมกับพี่ปั๊มนั่งแนบชิดกันต่อไป แท้จริงแล้วความต้องการของเขามันคืออะไรกันแน่




จบตอนครับ.....
รออีกนิดนะครับ สำหรับใครที่คิดถึงคุณชาย
ให้คนที่ทิ้งข้าวไปอย่างไม่ใยดีได้รู้รสชาติของความโดดเดี่ยวไปก่อน แฮ่ๆ  :mew6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน25 P.16] - 29/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 29-07-2014 13:03:23
ยอมรับว่าตอนนี้อยากรู้จริงๆ ว่าคุณชายเป็นอย่างไรบ้าง     
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน25 P.16] - 29/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 29-07-2014 19:00:57
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน25 P.16] - 29/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 30-07-2014 00:14:42
พี่ปั๊มมีเหตุผลอะไรกันนะ

ไม่ใช่ว่าตระกูลนี้มีการแย่งสมบัติกันนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน25 P.16] - 29/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 31-07-2014 02:25:02
ตอนที่ 26

วันแรกของการเดินทางมาที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มันเป็นวันแห่งการพักผ่อน หลังจากที่ผมใช้เวลากับพี่ปั๊มที่ห้องรับแขกอยู่นานสองนาน พี่ปั๊มก็ชวนผมขึ้นไปบนห้องนอน


   ผม พี่ปั๊มและโด้นอนพักห้องเดียวกัน ห้องพักของเรานั้นมีขนาดกว้างขวาง เตียงนอนเป็นเตียงคู่ขนาดใหญ่ที่สามารถนอนอัดกันสามคนได้สบาย ๆ ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบครัน มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ มีโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเอาไว้ให้ใช้ทั้งยังมีห้องน้ำส่วนตัวอีกด้วย


   วันนั้นทั้งวันพวกเราสามคนแทบจะใช้เวลาทั้งหมดหมดไปกับการหลับใหล กว่าที่จะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่พระอาทิตย์เกือบจะตกดิน แสงสีทองอ่อน ๆ ที่สะท้อนผ่านบานกระจกและมากระทบกับเปลือกตาของผมส่งผลให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา


   ผมยันกายให้ลุกขึ้นนั่ง พอหันไปมองข้าง ๆ ก็เห็นกับร่างของพี่ปั๊มซึ่งอยู่ตรงกลางกำลังนอนขดตัวกอดหมอนข้างอย่างน่าเอ็นดูกับโด้ที่นอนอยู่ริมสุดกำลังนอนอ้าปากหวอยังดีที่ไม่มีน้ำลายไหลยืด


   “พี่ปั๊ม” ผมเอื้อมมือไปเขย่าร่างของคนที่นอนกอดหมอนข้างเบา ๆ


    ได้ผลพี่ปั๊มค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาราวกับเด็ก 5 ขวบที่เพิ่งตื่นนอน มือขึ้นหนึ่งยกขึ้นมาเช็ดขอบตาก่อนที่ในเวลาต่อมาจะอ้าปากหาว


   “กี่โมงแล้วเนี่ย” เสียงของพี่ปั๊มงัวเงีย


   “ไม่รู้ครับ แต่น่าจะเย็นมาก ๆ แล้วล่ะ”


   “ฮะ!!! เย็นมาก ๆ” คราวนี้พี่ปั๊มสะดุ้งแล้วชันกายให้อยู่ในท่านั่ง “เย็นแค่ไหนวะ ซวยแล้วไง ป่านนี้พ่อกับแม่คงกลับมาแล้วมั้ง เดี๋ยวกูจะอาบน้ำ มึงก็รีบ ๆ อาบเลยนะไอ้ข้าว ปลุกไอ้โด้ด้วย”


   ท่าทางของพี่ปั๊มดูร้อนรนผิดปกติ ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ของพี่ปั๊มนั้นมีความน่าเกรงขามขนาดไหนถึงทำให้พี่ปั๊มเป็นแบบนี้ได้


   “โด้ ๆ” ผมเขย่าร่างของน้องชายตัวเล็กเบา ๆ โด้งัวเงียตื่นขึ้นมา แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรออกมาพี่ปั๊มก็วิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยร่างที่เปลือยกายท่อนบน


   “ไม่ต้องปลุกแม่งละ ลากมันขึ้นมาเลย อาบน้ำพร้อม ๆ กันเนี่ยแหละ” พูดจบมือของพี่ปั๊มข้างหนึ่งก็ฉุดโด้ขึ้นมาจากเตียง ส่วนอีกข้างก็จับแขนผมแล้วออกแรงดึงก่อนจะตรงไปทางห้องน้ำ


   “เฮ้ย!!! จะบ้าเหรอพี่ อาบพร้อมกันเนี่ยนะ” ผมสะบัดแขนออก ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ผมก็ไม่กล้าแก้ผ้าล่อนจ้อนต่อหน้าใครหรอกนะ ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว “ไม่เอาด้วยหรอก พี่กับโด้อาบไปเลย”


   “ได้ครับพี่ข้าว” โด้พยักหน้าเห็นด้วยสุดฤทธิ์ก่อนจะแกล้งทำเกาะแขนพี่ปั๊มเพื่อหวังจะเข้าไปอาบน้ำด้วยกันสองคน ทว่ายังไม่ทันจะก้าวขา ฝ่ามืออรหันต์ของพี่ปั๊มก็ป๊าบเข้าให้ที่กลางกบาลของโด้ “โอ๊ยยย!!! ประทุษร้ายร่างกายน้องชายสุดหล่ออีกแล้วนะ”


   “ก็มึงมันกวนตีน” พี่ปั๊มต่อว่าโด้ ก่อนจะหันมาทางผม “มึงไม่ต้องอายเลยไอ้ข้าว ใส่บ็อกเซอร์อาบนั่นแหละก็ไม่ได้จะจับมึงแก้ผ้าโชว์ช้างน้อยแล้วอาบพร้อมกันหรอกน่า เชื่อกู... ขอให้อาบเสร็จทันก่อนที่พ่อกับแม่จะกลับมาเป็นดีที่สุด”


   สิ้นเสียงประกาศิตนั้น ผมกับโด้จึงต้องจำใจเข้าห้องน้ำพร้อมกันกับพี่ปั๊ม


   การอาบน้ำ และการแต่งตัวของพวกเราเสร็จสิ้นด้วยความรวดเร็ว เพียงแค่ 10 นาที ทุกอย่างก็เรียบร้อยสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องเสียเวลารีดชุดเพราะภายในตู้เสื้อผ้ามีเสื้อโปโลสุภาพ ๆ ถูกรีดจนเรียบรวมถึงชุดอื่น ๆ แขวนไว้หลายตัว ซึ่งพี่ปั๊มเป็นคนจัดการเครื่องแต่งกายให้เสร็จสรรพ


   “พยายามอย่าพูดอะไรมากและพูดให้มีหางเสียงทุกประโยคเข้าใจไหมข้าว โด้ก็ด้วย แต่ถ้าไม่โดนถามอะไรก็โชคดีไป” พี่ปั๊มหันมาสั่ง ยังไม่ทันที่เราสองคนจะตอบรับ คนใจร้อนก็เล่นเปิดประตูแล้วเดินนำออกไปจากห้องทันที “ตามมา”



   ภายในบ้านหลังใหญ่ที่น่าจะครึกครื้นกลับดูเงียบเหงา ไม่รู้ว่าตอนนี้ปอมหายไปไหน แม่บ้านสักคนก็ไม่มีให้เห็น ผมล่ะอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ว่าคนบ้านนี้ทำความสะอาดกันอย่างไรถึงไม่มีร่องรอยของความสกปรกตามตัวบ้านเลยสักนิด


   พี่ปั๊มเดินนำลงไปยังชั้นล่าง บุคลิกของพี่ปั๊มในยามนี้ดูแปลกไป เดินตัวตรงสง่า สาวเท้าเป็นจังหวะ เห็นแล้วรู้สึกขัดใจเพราะมันเหมือนไม่ใช่ตัวตนของพี่ปั๊มเลยสักนิด


   “พี่ปั๊มดูแปลก ๆ ไปนะพี่ข้าว” โด้กระซิบ


   “ใช่ ๆ” ผมพยักหน้าเห็นด้วย แต่ก่อนที่เราสองคนจะพูดอะไรต่อพี่ปั๊มก็หันมาส่งสายตาดุใส่แล้วเดินวนไปทางห้องรับแขกซึ่งเป็นห้องเดียวที่ผมกับพี่ปั๊มนั่งคุยกันเมื่อตอนที่เดินทางมาถึงบ้านหลังนี้


   ทันทีที่เข้าไปในห้อง ผมก็พบกับชายวัยกลางคนรูปร่างสมส่วนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว เขามีสีหน้าเคร่งขรึม ข้าง ๆ กันนั้นมีหญิงวัยกลางคนผมยาวเป็นลอนนั่งอยู่ ดวงตาของเธอกลมโตและเต็มไปด้วยประกายแห่งความเมตตาอารี หญิงวัยกลางคนผู้นี้ดูใจดีผิดกับชายวันกลางคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ลิบลับ


   “สวัสดีครับ” พี่ปั๊มยกมือขึ้นมาสวัสดีบุคคลทั้งสองด้วยความสุภาพก่อนจะหันมาทางผมกับโด้ “นี่เพื่อนผมครับ คนนี้น้องข้าว ส่วนคนนี้น้องโด้ครับ”


   “สวัสดีครับ” ผมกับโด้ยกมือขึ้นสวัสดีท่านทั้งสองพร้อมกัน ไม่รู้ว่าโด้กำลังพยายามเก็บกดอารมณ์ขันเอาไว้ในใจเหมือนผมหรือเปล่า เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยจะได้ยินพี่ชายของผมคนนี้พูดจาสุภาพกับใคร และมีอย่างที่ไหนมาเรียก 'ไอ้โด้' ว่า 'น้องโด้' กลับไปกรุงเทพฯ มีหวังโดนโด้ล้อไม่หยุดแน่ ๆ


   ท่านทั้งสองยิ้มรับโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นการรับไหว้


   “มานั่งข้าง ๆ แม่สิลูกปั๊ม” หญิงวัยกลางคนยิ้มให้ลูกชายคนโตด้วยความอารี พี่ปั๊มเดินอ้อมไปนั่งข้าง ๆ กับเธอด้วยความโอนอ่อน จากนั้นแม่ของพี่ปั๊มจึงบอกให้พวกเรานั่งลงที่โซฟาตัวเล็กสองตัวซึ่งอยู่ใกล้ ๆ


   “หึ! เพิ่งตื่นกันสิท่า” ชายวัยกลางคนพ่นลมหายใจออกมา สีหน้าของเขาดูไม่สบอารมณ์สักเท่าไร


   “แหมคุณคะ ลูกเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองหลวงนะคะ นั่งรถทัวร์มาไกลก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา” หญิงวัยกลางคนหันไปแก้ต่างให้


   “สนามบินก็มีไม่รู้จักนั่งมา” คราวนี้หญิงวัยกลางคนพยักหน้าเห็นด้วย


   “นั่นสิ ทำไมไม่นั่งเครื่องบินมาล่ะลูกปั๊ม” หญิงวัยกลางคนหันไปถามพี่ปั๊ม


   “ก็... เอ่อ...” พี่ปั๊มอึกอัก “พาเพื่อนมาเที่ยวทั้งที นั่งเครื่องบินมามันก็ไม่ได้บรรยากาศสิครับคุณแม่”


   “คุณแม่? ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” สายตาทุกคู่หันไปมองโด้ด้วยความเร็วเหนือแสง โดยเฉพาะพี่ปั๊มกับคุณพ่อที่ส่งสายตาไม่พอใจชัดเจน


   ผมล่ะอยากจะลุกขึ้นไปกระโดดถีบยอดหน้าไอ้น้องคนนี้เสียจริงที่มันขำไม่เก็บอาการจนเกือบทำเอาผมระเบิดเสียงหัวเราะไปด้วยอีกคน ผมเข้าใจโด้นะ ใครจะไปคิดล่ะว่า ชายหนุ่มที่มักพูดจาขวานผ่าซากอย่างพี่ปั๊ม พออยู่ต่อหน้าบุพการีทั้งสองจะกลายเป็นคุณหนูผู้เรียบร้อยแบบนี้ได้ โชคดีที่ผมพยายามท่องพุทโธรัว ๆ ในใจเลยทำให้ผมระงับอาการระเบิดเสียงหัวเราะเอาไว้ได้ ...บ้าจริง!


   “มีอะไรน่าขำ” เสียงที่เคร่งขรึมทำให้เสียงหัวเราะของโด้หยุดลงทันที หน้าของเจ้าตัวดีเจื่อนลงและเหตุการณ์ก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง “คบแต่คนแบบนี้สินะ แกถึงได้ทำตัวเหลวไหล บ้านช่องก็ไม่ค่อยกลับ แล้วไหนจะไอ้หอรังหนูของแกที่กรุงเทพอีก อยู่เข้าไปได้ไง”


   “ผมขอโทษครับ” น่าแปลกที่พี่ปั๊มไม่เถียงอะไรสักนิดแถมยังก้มหน้าสำนึกผิดอย่างง่ายดาย


   ระหว่างนั้น ผมเหลือบสายตาไปมองโด้เป็นระยะ ๆ ใบหน้าที่พยายามกลั้นความขบขันนั้นทำเอาผมแทบจะทนไม่ไหวไปด้วยอีกคน โชคดีที่พ่อของพี่ปั๊มแกล้งทำเป็นไม่สนใจ


   “ลูกปั๊ม...” คุณแม่ของพี่ปั๊มพูดเสียงหวาน พยายามจะทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น มือข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นมาลูบศีรษะของลูกชายอย่างไม่รังเกียจ ...ที่ต้องบอกว่าไม่รังเกียจเพราะเส้นผมที่หยกศกถูกปล่อยยาวรุงรังเลยต้นคอเล็กน้อยนั้นยังไม่ได้สระตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน ผมรู้ดีว่ามันเหนียวเหนอะหนะเล็กน้อยเพราะผมเคยสัมผัสมาแล้ว “กลับมาคราวนี้จะมาอยู่กี่วันล่ะลูก”


   “หนึ่งอาทิตย์ครับ”


   “ว๊า... อาทิตย์เดียวเองเหรอ” หญิงวัยกลางคนถอนหายใจออกมา ใบหน้าและแววตาของท่านสลดเล็กน้อย “อยากให้อยู่สักเดือนสองเดือนจัง หรือไม่ก็กลับมาอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยยิ่งดี”


   “ไม่ได้หรอกครับคุณแม่” พี่ปั๊มปฏิเสธ “ผมยังมีงานที่ต้องรับผิดชอบ”


   “ไอ้งานดูแลปั๊มน้ำมันน่ะเหรอ ก็ให้ลุงธัญญ์ดูแลก็ได้นี่จ๊ะ ส่วนลูกก็มาดูแลกิจการที่นี่ดีกว่า”


   คำพูดของแม่พี่ปั๊มทำให้ผมเริ่มจับต้นชนปลายอะไรถูก 'งานดูแลปั๊มน้ำมัน' ถ้าผมเดาไม่ผิดพี่ปั๊มคงเป็นเข้าของปั๊มน้ำมันแน่ ๆ และที่บอกว่าให้ลุงธัญญ์รับผิดชอบ เพราะลุงธัญญ์คือผู้จัดการที่รับผมเข้าทำงานพร้อมทั้งดูแลสวัสดิการของพนักงานทุกคนภายในปั๊มน้ำมัน ซึ่งถ้าผมเดาไม่ผิดลุงธัญญ์น่าจะเป็นญาติหรือไม่ก็คนสนิทของครอบครัวพี่ปั๊มแน่ ๆ


   ...มิน่าเล่า พี่ปั๊มถึงโดดงานได้บ่อย ๆ และดูสนิทสนมกับผู้จักการเป็นพิเศษ เพราะเหตุนี้นี่เอง


   “มันไม่อยากกลับมาก็ไม่ต้องไปบังคับ ดีแล้ว... กลับมาก็ขายขี้หน้าชาวบ้านเปล่า ๆ ให้มันไปอยู่ไกล ๆ นั่นแหละดี” พูดจบ ชายวัยกลางคนก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องรับแขกทันที 


   ส่วนคุณแม่ของพี่ปั๊มหันมายิ้มให้ผมสลับกับโด้ด้วยความเอ็นดู


   “ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ สามีฉันก็แบบนี้แหละ แข็งกระด้างเกินใคร ลูกปั๊มก็เหมือนกันนะจ๊ะ อย่าโกรธคุณพ่อนะคะ” มือของเธอยังคงลูบศีรษะของพี่ปั๊ม ผมสังเกตเห็นใบหน้าของพี่ปั๊มค่อย ๆ ขึ้นสีแดงระเรื่อ ไม่รู้ว่าเพราะโกรธที่โดนคุณพ่อด่าหรือเพราะเขินกับการกระทำของคุณแม่กันแน่


   “เอ้อ... คุณแม่ครับ” พี่ปั๊มจับมือของคุณแม่ลงมาจากศีรษะแล้วกุมเอาไว้แน่น “มีอะไรทานบ้างครับ แล้วนี่น้องหายไปไหน”


   “อ้อ... ลูกปอมเหรอ ออกไปตรวจงานที่ปั๊มรอบ ๆ ตัวเมืองน่ะ เดี๋ยวอีกสักพักก็คงกลับมา...” หญิงวัยกลางคนตอบ ไม่ทันขาดคำ ร่างสมส่วนของเด็กหนุ่มหน้าตาน่าเอ็นดูหากแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เปี่ยมล้นก็เดินตรงเข้ามายังห้องรับแขก “อ๊ะ... นั่นไง น้องมาพอดี”


   “สวัสดีครับคุณแม่” ปอมหันไปยกมือไหว้ผู้เป็นแม่ “วันนี้มีอะไรทานบ้างครับ”


   มาถึงก็ถามเรื่องกินเชียว แถมยังจงใจเดินอ้อมมาหลังโซฟาแล้วหันมามองผมด้วยสายตาประหลาด ๆ ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวข้าง ๆ กับผู้เป็นแม่แล้วสวมกอดร่างนั้นด้วยความรัก หญิงวัยกลางคนสวมกอดกลับแถมและหอมแก้มลูกชายด้วยความเอ็นดู มันช่างเป็นภาพที่น่าอิจฉาเสียจริง


   “อยู่ในครัว ไปดูสิลูก ของกินเยอะแยะเลย อ้อ... เทใส่จานไว้เลยนะ เดี๋ยวแม่ขอคุยกับพี่ปั๊มให้หายคิดถึงก่อน แล้วจะรีบตามไป” หญิงวัยกลางคนกล่าว


   “ได้ครับ งั้นเดี๋ยวให้ข้าวกับน้องโด้ไปรอในครัวกับผมเลยนะครับ” ปอมส่งยิ้มประหลาด ๆ มาให้ผมอีกครั้ง ผมหันไปมองหน้าพี่ปั๊มเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนว่าพี่ปั๊มจะยังไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับปอม


    ทันทีที่ผมกับโด้เดินตามปอมเข้าไปในห้องครัว ไอ้คนเจ้าเล่ห์ที่คงจะคิดแผนการอะไรบางอย่างเอาไว้ล่วงหน้าก็หันไปคุยกับโด้


   “เอ้อ น้องโด้ครับ รบกวนน้องโด้ขึ้นไปหยิบชุดกันเปื้อนบนห้องนอนของพี่ให้หน่อยสิครับ พี่ว่าจะทำข้าวผัดปูเอาไว้กินพร้อมกับอาหารที่แม่ซื้อมา”


   สิ้นเสียงของปอม ผมไม่รอให้โด้ตอบรับเพราะรู้ทันว่านั่นคือแผนการของไอ้คนเจ้าเล่ห์ที่ต้องการอยู่กับผมในห้องครัวตามลำพังสองคน “โด้ไม่ต้องขึ้นไป คนอะไรเอาชุดกันเปื้อนไว้ในห้องนอน”


   “คนแบบผมนี่ล่ะครับ” ปอมยิ้มให้ ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของผม “อยู่ในตู้เสื้อผ้านะโด้”


   “ครับพี่ปอม” โด้พยักหน้ารับ “เดี๋ยวโด้ขึ้นไปเอาให้ โด้อยากกินข้าวผัดปู”


   พูดจบก็เดินออกจากห้องครัวโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของผมเลยสักนิด ไอ้โด้เอ๊ย... ทำไมถึงไม่ได้เรื่องอย่างนี้นะ ไม่อยู่ช่วยเป็นทัพหน้าป้องการวาจาที่แสนกวนประสาทของปอมให้กับผมเลย ...ไอ้น้องเวร!


   พอร่างของโด้เดินไปจนลับสายตา ผมจึงเงยหน้าสบมองตาไอ้คนเจ้าเล่ห์อย่างลองเชิง มันจ้องผมกลับ มิหนำซ้ำยังทำหน้าตาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกด้วย


   “จะมองอีกนานไหม” พูดจบก็หันหลังให้แล้วเดินไปค้นอะไรบางอย่างในตู้เย็น ชั่วครู่ปอมก็หยิบไข่ไก่ 5 ฟองมาวางไว้บนโต๊ะ พร้อมด้วยผักคะน้า มะเขือเทศ หอมใหญ่ และกระป๋องพลาสติกที่มีฝาสีใสปิดเอาไว้เป็นอย่างดี ผมชะเง้อมองดูจึงรู้ว่าภายในนั้นมีเนื้อปูที่ถูกหั่นเป็นชิ้นหนา หมอนี่ไม่ได้ต้องการจะแกล้งผม แต่เขากำลังจะทำข้าวผัดปูจริง ๆ “ทำอะไรเป็นบ้าง”


   “ตกลงจะทำข้าวผัดปูจริง ๆ เหรอเนี่ย” ผมไม่ได้ตอบคำถามของหมอนั่น หากแต่ส่งคำถามกลับเพราะคาใจ สบตามองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาต้องกำลังวางแผนปั่นหัวผมอยู่แน่ ๆ


   “จริงสิครับ” ปอมพยักหน้าตอบ “แล้วคิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ”


   สิ้นเสียง ปอมก็หันมาจ้องผมเขม็งราวกับต้องการจะจับผิดและเค้นให้ผมพูดความจริงออกมา ผมเบือนหน้าหนีแล้วแสร้งเสมองไปทางอื่นทันที


   “ก็เปล่า” ทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วยนะ “ไม่ได้คิด”


   “เหรอ...” ปอมลากเสียงยาว ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาใกล้ ๆ แล้วล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและชักมือกับออกมาอีกทีพร้อมกับโชว์โทรศัพท์สีดำรุ่นเก่ากึ๊กดึกดำบรรพ์ให้ผมดู


   “เฮ้ย...” ผมร้องเสียงหลง ไม่คิดว่าคนมีฐานะอย่างปอมจะใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกันกับผม “นายใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกับผมเลย เคสก็แบบเดียวกันสีเดียวกัน อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นเนี่ย”


   ปอมยิ้มให้ผม ก่อนจะก้มหน้ากดมือถืออย่างถือวิสาสะแล้วส่งมาให้ผมดูอีกที “นี่รูปใครเหรอ ใช่คุณชายเป๊กอะไรนั่นหรือเปล่า”


   ผมมองดูรูปภาพในมือถือกอปรกับคำถามนั่นเลยทำให้ผมเพิ่งรู้ว่า นี่มันโทรศัพท์ของผมนี่นา แล้วมันไปอยู่กับปอมได้อย่างไร เขามาเอามันไปตอนไหน หากแต่คำถามเหล่านั้นมันไม่สำคัญเท่ากับรูปภาพของคนที่กำลังยิ้มแป้นแล้นในมือถือเลยสักนิด


   รูปของคุณชายซึ่งใส่เสื้อยืดสีขาวกำลังผมเผ้ายุ่งเหยิงกำลังฝืนยิ้มเพราะโดนผมบังคับถ่ายรูปตอนที่เพิ่งตื่นนอน ท่าทางงัวเงียหากแต่ไม่มีความขัดใจใด ๆ ปรากฏบนใบหน้าที่น่าเอ็นดูนั่นมันทำให้ผมอดคิดถึงวันเก่า ๆ ไม่ได้ ผมเคยตั้งใจจะลบรูปภาพของคุณชายออกจากมือถือ แต่พอจะกดปุ่มลบทีไร ใจมันก็กระตุกวูบ แค่รู้ว่าจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดหรือพบเจอคุณชายอย่างเดิมมันก็เสียใจพออยู่แล้ว ถ้ายังลบรูปคุณชายทิ้งออกไปอีก ผมคงทนไม่ได้ อย่างน้อยแม้มันจะเป็นความสุขบ้า ๆ บอ ๆ แต่ผมก็ต้องการจะเก็บมันเอาไว้ ผมมีความสุขทุกข์ครั้งที่ได้เห็นรูปภาพของคุณชายในอิริยาบถต่าง ๆ แม้ว่าความสุขนั้นมันจะปะปนไปด้วยความเจ็บปวดก็ตาม


   “นายเอาโทรศัพท์ฉันไปตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมไม่สนใจที่จะตอบคำถามว่าคนในรูปคือใคร ปอมมีสิทธิ์อะไรมากดโทรศัพท์ของผมดูเล่นแบบนี้


   “ก็ตอน...” ปอมทำท่านึกจงใจจะยั่วโมโห “ที่มีสายเรียกเข้า”


   สิ้นเสียงของปอม ผมรีบกดไปดูบันทึกข้อมูลการโทรทันที แล้วรายชื่อที่ปรากฏล่าสุดก็ทำให้ผมถึงกับหัวใจกระตุกวูบอีกครั้ง และมันยิ่งสั่นไหวมากยิ่งขึ้นเมื่อผมพยายามคาดเดาถึงเหตุผลที่ทำให้เจ้าของรายชื่อนั้นโทรมา พอมองดูเวลาก็เข้าใจได้ทันทีว่าตอนนั้นผมกำลังนอนหลับใหลอยู่ในห้องนอน


   ...คุณชายเป๊กจอมซน...

และมันยิ่งรู้สึกตกใจยิ่งขึ้นเมื่อโทรศัพท์ของผมปรากฏสัญลักษณ์แสดงถึงการตอบรับการโทรมาของคุณชาย!



จบตอนครับ >.<
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน26 P.16] - 31/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 31-07-2014 06:14:00
คุณชายโทรมาทำไม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน26 P.16] - 31/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 31-07-2014 07:18:59
หึ...เอาล่ะซิ มันส์แน่!!!!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน26 P.16] - 31/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 31-07-2014 10:15:22
แว้ก แปลกๆเลยอะ มาต่อนะคร้าบบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน26 P.16] - 31/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: narakfuidfuid ที่ 31-07-2014 10:22:35
กำลังสนุกเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน26 P.16] - 31/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 31-07-2014 23:10:28
ถ้ารับวายแทนคงจะมีเฮ หวังว่าคุณชายจะขึ้นมาตามถึงที่เลยนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน26 P.16] - 31/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 01-08-2014 22:14:48
ค้างงงงงเติ่งเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อ่าๆๆๆนะ
รีบมาต่อนะค่ะ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:อดใจไม่ไหวววววว อยากเหนไอ้คุณชายจะทำอย่าง ไร นะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน26 P.16] - 31/07/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 02-08-2014 00:25:06
ตอนที่ 27


ไอ้เด็กเอาแต่ใจ ไอ้คนใจร้ายที่ไล่ผมไปจากชีวิตเขาอย่างไม่ใยดีจะโทรมาหาผมทำไม ความสงสัยต่าง ๆ ผุดขึ้นมามากมายในหัวสมอง ผมรีบกดโทรศัพท์กลับไปหาเบอร์นั่น หากแต่เสียงที่ดังขัดขึ้นของปอมทำให้ผมต้องรีบกดวางสายในทันที


   “รู้สึกคุณชายคนนั้นจะโกรธผมมากเลยนะที่คนกดรับโทรศัพท์คือผม ไม่ใช่ข้าว”


   “นายคุยกับคุณชาย?” น้ำเสียงของผมสั่นไหว ไม่รู้ว่าปอมคุยอะไรไปบ้าง แต่ในใจของผมตอนนี้มันร้อนลุ่มราวกับเปลวเพลิงอันร้อนระอุกำลังแผดเผา อวัยวะภายในช่องท้องมันปั่นป่วนไปหมด ความวิตกส่งผลให้ผมปวดศีรษะขึ้นมาอย่างกะทันหันและอยากจะอาเจียนออกมาเสียให้ได้


   “คงจะเป็นคนที่สำคัญมากเลยสินะ” ปอมเดินเขยิบร่างเข้ามาจนแนบชิดกับผม จากนั้นริมฝีปากอิ่มได้รูปก็ถูกยื่นเข้ามาใกล้ ๆ กับใบหู “หรือต่อจากนี้... อาจจะเป็นได้แค่อดีตคนสำคัญ”


   “ไอ้ปอม!!!” ผมผลักร่างนั้นออกไปสุดแรงจนร่างนั้นกระแทกกับขอบโต๊ะอาหาร


   ปอมมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยหากแต่ครู่เดียวเท่านั้นรอยยิ้มที่กวนประสาทที่ไม่อาจคาดเดาความรู้สึกได้ก็เผยอออกมา ผมเกลียดรอยยิ้มนั่น


   “ตกลงเคยเป็นแฟนกันจริง ๆ สินะครับ คุณเองก็เป็นเกย์สินะครับ” น้ำเสียงราบเรียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปอมเป็นคนที่ควบคุมสติได้ดีจนกลายเป็นผมเองที่พอได้คุยกับคนแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองบ้าคลั่ง... บ้าคลั่งจนแทบจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ “อยากรู้ใช่ไหมว่าผมคุยอะไรกับเขา...”


   ปอมจงใจจบบทสนทนาแค่นั้น ไม่ยอมพูดอะไรต่ออาจเป็นเพราะต้องการคำตอบจากผม


   ผมพยักหน้าเป็นคำตอบ หากแต่คำพูดที่ได้รับกลับมาแทบจะทำให้ผมควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่


   “เอาไว้ผมมีอารมณ์เมื่อไหร่แล้วผมจะบอกนะ ตอนนี้ผมไม่ต้องการจะคุยเรื่องไร้สาระกับใครเพราะธุระสำคัญของผมคือการทำข้าวผัดปูให้เสร็จ หึ...”


   ผมกำมือแน่น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกโมโห เก็บกดจนอยากจะชกคนตรงหน้าเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ แต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นจากภายนอกห้องครัว และเพียงครู่เดียว เจ้าของเสียงฝีเท้าก็เดินเข้ามาพร้อมกับชุดกันเปื้อนที่ถูกพาดเอาไว้บนแขน


   ก่อนที่โด้จะเดินมาถึงยังจุดที่ผมกับปอมยืนอยู่ ปอมรีบหันหน้ามาคุยกับผมเบา ๆ เหมือนเป็นการยั่วโทสะครั้งสุดท้าย “ถ้าอยากรู้ขนาดนั้น ทำไมไม่ลองโทรกลับไปหาดูล่ะ หรือว่า... กลัว กลัวคำตอบที่จะได้ยิน”


   ให้ตายเถอะ... ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเด็กหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่แสนร้ายกาจคนนี้ต้องการอะไรจากผมกันแน่ เขาจะยั่วโทสะผมไปถึงไหน มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้น แล้วทำไมผมจะต้องกลัวคำตอบที่จะได้ยินอะไรนั่นด้วย หรือว่าหมอนี่ไปเป่าหูอะไรคุณชาย แต่มันจะสำคัญอะไรเล่า ถึงอย่างไรคุณชายก็เป็นคนที่ทิ้งผมไปเอง แล้วผมยังมีสิทธิ์ที่จะต้องกลัวอะไรอีกอย่างนั้นหรือ


   ความกดดันจากคำพูดและการแสดงออกของปอม รวมถึงความเครียดในจิตใจของตัวเอง ส่งผลให้ผมตัดสินใจเดินออกจากห้องครัวไป แม้จะมีเสียงโด้ร้องเรียกถามด้วยความสงสัย หากแต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป ในตอนนี้ผมไม่ต้องการจะพูดคุยกับใครทั้งนั้น เพราะคนเดียวที่ผมอยากคุยด้วยมากที่สุดก็คือ ...คุณชาย


   ผมเดินก้มหน้าก้มตาไม่สนใจใครใด ๆ ทั้งสิ้น ผมเดินขึ้นบันไดไปด้วยความรวดเร็ว อยากจะเข้าไปในห้องนอนให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากจะเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ สักพักคนเดียวเพื่อสงบสติอารมณ์แล้วกลับมาเป็นไอ้ข้าวคนเดิม


   ผมไม่ชอบอาการแบบนี้ของตัวเองเลย อาการที่ไร้สติ ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จนเลือดขึ้นหน้า อาการที่ท้องไส้ปั่นป่วนราวกับมีมวลอากาศที่หมุนวนเป็นพายุอยู่ในนั้นจนทำให้ผมรู้สึกจุกอย่างรุนแรง ไหนจะอาการเจ็บแปลบ ๆ ที่หน้าอกข้างซ้ายเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของใครบางคนซึ่งเป็นคนสำคัญ อยากรู้ว่าเขาได้ฟังอะไรผิด ๆ ไปบ้าง แม้จะห่วงมากแค่ไหน แต่ผมก็ขี้ขลาด... ขี้ขลาดเกินกว่าที่จะโทรกลับไปถามให้เข้าใจ


   ทันทีที่ถึงห้องนอน ผมก็ทิ้งร่างของตัวเองลงไปบนเตียงนอน ซุกใบหน้าไปกับหมอนนุ่ม ๆ น่าแปลกที่อยู่ ๆ ภาพความทรงจำเก่า ๆ ก็กลับมา ห้องกว้างขวางของพี่ปั๊มแปรเปลี่ยนเป็นห้องนอนของคุณชาย แล้วร่างที่คุ้นเคยสนิทสนมก็ปรากฏขึ้นข้าง ๆ กับร่างของผม


   “คุณชาย” ผมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหว ร่างนั้นกำลังหลับตาพริ้มราวกับเด็กที่ไร้เดียงสา “คุณชายครับ”


   เสียงเรียกที่เอ่ยซ้ำอีกครั้งส่งผลให้คุณชายตื่นขึ้นมา เขาขยี้ศีรษะตามประสาคนที่เพิ่งตื่นนอนจนผมยุ่งเหยิงก่อนจะหันมายิ้มให้ผม


   “ข้าวเองเหรอ” น้ำเสียงนั่น... น้ำเสียงที่คุ้นเคยแบบนั้น “เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ ฉันไปทำอะไรให้ข้าวไม่พอใจหรือเปล่า”


   ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที ไม่อยากให้คุณชายเข้าใจผิด คนอย่างผมน่ะหรือจะมีสิทธิ์ไม่พอใจอะไรในตัวคุณชาย


   “แล้วเป็นอะไรล่ะ”


   “ผมก็แค่...” ผมก้มหน้า ตั้งใจหลบสายตา พยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะเอ่ยคำพูดง่าย ๆ ออกไป หากแต่ไม่รู้เพราะเหตุใดพอจะขยับปากเอื้อนเอ่ยทีไรคำนั้นก็ถูกเก็บไว้ในใจทุกที ‘คิดถึงคุณชาย’


   “แค่อะไร” คุณชายทำเสียงดุ หากแต่ใบหน้ากลับยิ้มละมุนละไม ผมชอบรอยยิ้มแบบนี้ที่สุด รอยยิ้มที่สามารถทำให้โลกมืดมนของผมสดใสขึ้นมาได้ทันตา ผิดกลับรอยยิ้มของหมอนั่น!


   “แค่...” ผมพยายามอีกครั้ง มือที่ข้างหนึ่งค่อย ๆ เลื่อนไปหา หวังจะสัมผัสมืออันอ่อนนุ่มของคุณชาย ทว่าพอเอื้อมไปถึงร่างของคุณชายก็พลันสลายหายไป แค่จะบอกว่าคิดถึงผมยังไม่มีสิทธิ์เลย


   ภาพภายในห้องนอนกลับมาในสภาพเดิมอีกครั้ง มันไม่ใช่ห้องของคุณชาย หากแต่เป็นห้องนอนของพี่ปั๊ม ห้องนอนในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่โลกแห่งมโนภาพ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันก็แค่ภาพลวงตา ผมคงเครียดมากเกินไป หรือไม่ก็เพราะความคิดถึงที่มันมากล้นเลยทำให้สมองของผมฟุ้งซ่านจนเห็นภาพลวงตา


   ผมพลิกร่างที่กำลังก้มหน้าให้แหงนมามองเพดาน ยกโทรศัพท์ที่อยู่ในมือขึ้นมาพลางกดดูอัลบั้มภาพซึ่งมีภาพของคุณชายที่มากมายถูกเก็บเอาไว้ในนั้น


   ผมเลื่อนดูไปเรื่อย ๆ รู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนี้แม้จะเป็นแค่รูปภาพก็ตาม ทว่าความอิ่มเอมเหล่านั้นกลับคละเคล้าไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส จะสุขก็สุขไม่สุดเพราะมีความทุกข์มาสอดแทรก ทุกข์ที่คิดถึง ทุกข์ที่ยังปักใจรอทั้ง ๆ ที่รู้ว่าโอกาสที่จะกลับไปสนิทสนมกันเหมือนเดิมมันแทบจะเป็นศูนย์


   คิดดังนั้น ความสงสัยก็ประเดประดังเข้ามาในสมอง บางทีผมอาจจะยังมีหวัง เพราะไม่อย่างนั้นคุณชายคงไม่โทรมาหา


   ผมควรจะโทรกลับไปหาคุณชายแล้วคุยให้รู้เรื่อง ไม่ควรปล่อยให้ความเข้าใจมันคาราคาซังอย่างนี้


   เสียงรอสายดังขึ้นอยู่เกือบนาทีจนสุดท้ายก็ตัดไป มันเป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมโทรกลับไปมากกว่า 10 ครั้ง แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายสาย


   ‘หมดหวังแล้วสินะไอ้ข้าว’ ผมถอนหายใจออกมา นึกเสียใจที่มัวแต่นอนหลับจนไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของคุณชาย บางทีอาจเป็นเพราะบทสนทนาในตอนนั้น เลยทำให้คุณชายเลือกที่จะไม่สนใจกดรับโทรศัพท์ของผม หรืออาจเป็นเพราะ... คุณชายไม่ต้องการจะคุยกับผมตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว


ระหว่างที่ผมกำลังจะกดโทรกลับไปหาคุณชายอีกครั้ง ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างของผู้มาใหม่ที่สาวเท้าเข้ามาในห้องนอน


   พี่ปั๊มทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วเดินตรงเข้ามาหาผม


   “มึงมีปัญหาอะไร กูเห็นท่าทางมึงแปลก ๆ ตั้งแต่ตอนที่เดินออกมาจากห้องครัว”


   ผมมองหน้าพี่ปั๊ม ไม่กล้าที่จะพูดความอัดอั้นทั้งหมดออกไป ถึงอย่างไรปอมกับพี่ปั๊มก็เป็นพี่น้องร่วมสายเลือด ผมคงยอมรับไม่ได้ถ้าต้องเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่น้องร่วมสายเลือดผิดใจกัน ผมรู้จักนิสัยของพี่ชายคนนี้ดี เขาเลือกที่จะเขาข้างฝ่ายที่ถูกต้องโดยไม่สนใจว่าฝ่ายที่ผิดจะเป็นใคร ต่อให้เป็นน้องชายหรือเพื่อนสนิท ถ้าทำผิดพี่ปั๊มก็ไม่ปล่อยเอาไว้แน่ ๆ


   “เป็นอะไร ไอ้ปอมทำอะไรมึง มีไรก็พูดออกมาสิวะ อย่าเป็นแบบนี้ กู...” พี่ปั๊มชะงักชั่วครู่ ผมได้ยินเสียงสูดลมหายใจก่อนที่หลังจากนั้นจะพูดต่อ “กูเป็นห่วงมึงนะเว้ย”


   แม้จะเป็นคำพูดสั้น ๆ แต่มันก็ทำให้จิตใจของผมสั่นไหวได้เหมือนกัน ยามอัดอั้นอึดอัดใจแบบนี้สิ่งที่ผมต้องการที่สุดก็คือความห่วงใยและคำปลอบใจของคนสนิท


   ผมโผเข้าไปกอดพี่ปั๊ม และยิ่งออกแรงมากขึ้นเมื่อเริ่มรู้สึกว่าน้ำตาจะไหล พี่ปั๊มยกมือขึ้นมาลูบศีรษะเพื่อปลอบใจก่อนที่ครู่หนึ่งแขนของพี่ปั๊มจะค่อย ๆ เลื่อนลงแล้วออกแรงกระชับแน่นเข้ากับร่างของผมบ้าง


   ถ้าจำไม่ผิด... นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เราสองคนกอดกัน


   ความอบอุ่นที่ถูกถ่ายทอดมาจากหัวใจของพี่ปั๊มถูกส่งผ่านมาทางอ้อมกอดในครั้งนี้... อ้อมกอดของพี่ปั๊มช่างอบอุ่นเหลือเกิน อบอุ่นกว่าอ้อมกอดไหน ๆ มันเป็นอ้อมกอดแห่งความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่อ้อมกอดแห่งความฉาบฉวย


   “บอกกูได้หรือยังว่ามันเป็นอะไร” เสียงของพี่ปั๊มแผ่วเบา


   “ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ” ผมไม่ต้องการให้พี่ปั๊มต้องมารับฟังเรื่องราวไร้สาระของผมอีกแล้ว แค่ความห่วงใยที่มอบให้มันก็มากเกินพอ


   พี่ปั๊มไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีกต่อไป ครู่หนึ่งอ้อมแขนที่กระชับแน่นถูกคลายออก มือทั้งสองข้างของพี่ปั๊มเปลี่ยนมาจับหัวไหล่ของผมเอาไว้แน่น สายตาของเราสองคนสบมองกัน สัมผัสได้ถึงความสงสัยหลายอย่างอยู่ในดวงตาคู่นั้น


   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ราวกับความฝัน ใบหน้าของพี่ปั๊มโน้มเข้ามาหาใบหน้าของผม จนเหลืออีกเพียงนิดเดียวจมูกของเราสองคนก็จะชนกันแล้ว ลมหายใจอุ่นร้อนที่ปะทะเข้าที่ใบหน้าส่งผลให้ผมรู้สึกหวั่นไหวแปลก ๆ …แต่ทำไมอยู่ ๆ ความอึดอัดใจก็ถามโถมเข้ามาเพราะคิดไปว่าคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คุณชาย... ไม่ใช่... มันจะต้องไม่เป็นแบบนี้


   “เอ้อ... พี่ปั๊ม” ผมผลักร่างพี่ปั๊มออกไปด้วยแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่นั้นกลับขยับไปตามแรงของผมอย่างจำยอม “ไปทานข้าวกันดีกว่าครับ”


   “อืม...” พี่ปั๊มพยักหน้า “กูขอโทษนะข้าว”


   พูดจบก็ลุกจากเตียงแล้วเดินออกไปจากห้องทันที ส่วนผมได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่ไม่ปล่อยตัวไปตามอารมณ์หวั่นไหวที่เกิดขึ้น ทว่าพี่ปั๊มจะรู้สึกอย่างไรนะ ที่อยู่ ๆ ก็โดนผมผลักออกไปแบบนั้น เขาจะโกรธผมหรือเปล่า หรืออาจรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น พอผมจะลุกเดินตามออกไป เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ทำให้ผมชะงัก ผมหยิบมันขึ้นมาดู ชื่อของบุคคลที่โทรกลับมาทำให้หัวใจของผมเต้นแรงอีกครั้ง ผมหวั่นไหวที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผมลืมเรื่องของพี่ปั๊มไปโดยปริยาย


   ...คุณชายเป๊กจอมซน...





จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน27 P.16] - 02/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 02-08-2014 01:04:02
สัันเหมื นเจ้าของกระทู้เลยอ่า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน27 P.16] - 02/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 03-08-2014 00:24:35
 :ling1: ค้าง มาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน27 P.16] - 02/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 03-08-2014 01:30:47
ค้างงงงงอ่า เอาคุณชายมาเอาคุณชายมาเลยยยยนะ
ฮึๆๆๆๆๆๆ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน27 P.16] - 02/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-08-2014 03:30:14
นึกว่าจะมีการตีฉิ่งฉาบเกิดขึ้น  :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน27 P.16] - 02/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-08-2014 12:23:48
ตอนที่ 28



   การพยายามต่อต้านความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันทำได้ยากจัง ทั้ง ๆ ที่ผมควรจะมีความสุขกับการไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะถูกมองเป็นพวกวิปริตผิดเพศ แต่เพราะอะไรกัน... ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยคาดคิดเอาไว้มันถึงได้กลับตาลปัตรไปหมด


   ผมไม่มีความสุขเลยสักนิดกับการที่ไม่มีไอ้พี่เลี้ยงที่แสนดีอยู่ข้างกาย ไม่ว่าจะทำอะไรผมก็ต้องพะว้าพะวังอยู่ตลอดเวลาเพราะมัวแต่นั่งคิดถึงมัน!


ข้าวจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขนาดผมเป็นคนผลักไสไล่ส่งยังรู้สึกทรมานใจเจียนตาย กินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับ แล้วหมอนั่นที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ คงทรมานไม่ต่างจากผมหรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ


   แค่ช่วงเวลาไม่กี่วัน ผมก็ยอมพ่ายแพ้ให้กับความคิดที่จะไม่มีข้าว ผมเหมือนคนบ้าที่เอาแต่นั่งรอโทรศัพท์ หวังว่าข้าวจะโทรมาง้อบ้าง แต่จนรอดจนรอด ผ่านไปเป็นวัน ๆ ก็ไม่มีวี่แววใด ๆ แม้แต่ข้อความสักฉบับก็ไม่มีส่งมาให้หายคิดถึง


   ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมทำเกินไป... หรือข้าวต้องการให้เรื่องทุกอย่างมันจบลงแบบนี้อยู่แล้ว ถึงไม่สนใจผมเลยสักนิด ผมนึกโทษตัวเองแต่ก็อดที่จะนึกระแวงข้าวไปด้วยไม่ได้เหมือนกัน ผมรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีความคิดค่อนข้างแย่ มักหาเหตุผลมาเข้าข้างแล้วทำให้ตัวเองถูกได้เสมอ แต่ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะมองในมุมใด ก็ไม่มีทางที่ผมจะกลายเป็นคนที่ถูกต้องได้เลย


   ดังนั้นผมจึงยอมรับชะตากรรมที่ตัวเองก่อ ตัดสินใจยอมเป็นฝ่ายเดินหน้าแล้วขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น พอไม่มีข้าว โลกของผมที่เคยสดใสก็กลับว่างเปล่า มันเงียบเหงา มันหมองหม่น ...นี่สินะความผูกพัน


   ทว่าความตั้งใจของผมก็สูญเปล่า ผมโทรหาข้าว แต่ผู้ที่รับสายกลับเป็นใครก็ไม่รู้ น้ำเสียงไม่คุ้นเคยเลยสักนิด แล้วไหนจะคำพูดที่ทำให้หัวใจของผมแทบแตกสลายนั่นอีก


   ทันทีที่วางสาย ผมก็ทิ้งร่างลงกับเตียงนอนนุ่ม ๆ พยายามเงยหน้ามองเพดานเพราะไม่ต้องการให้ไอ้น้ำใส ๆ ที่แสดงถึงความอ่อนแอมันไหลลงมา


   ‘ข้าวไม่ได้รักคุณแล้ว’


   คำพูดของคนปริศนามันดังก้องซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว น้ำเสียงของคนแปลกหน้ามันแสดงออกถึงความเย้ยหยัน ไม่เคยมีใครที่กล้าทำกับผมแบบนี้ แล้วหมอนั่นมันเป็นใครกัน พอนึกโกรธทีไร ความเสียใจกับใบหน้าของไอ้พี่เลี้ยงผิวแทนที่มีแต่ความใสซื่อบริสุทธิ์ก็แทรกเข้ามาทุกครั้งจนทำให้ความเสียใจเข้ามาแทนที่


   นี่สินะคือบทลงโทษกับสิ่งที่ผมได้กระทำลงไป ในตอนนี้ผมไม่มีคนที่แสนดีพร้อมที่จะยอมรับใช้และเชื่อฟังทุกอย่างอยู่ข้าง ๆ อีกต่อไป ...โถ่เอ๊ย เกิดมาเคยคิดว่าตัวเองโชคดี มีทุกสิ่งทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องดิ้นรนค้นหา แต่แท้จริงแล้วสิ่งของรอบกายเหล่านั้นล้วนเป็นเพียงความสุขจอมปลอม ฐานะและยศถาบันดาศักดิ์มันไม่มีความสำคัญเลยสักนิดเมื่อเทียบกับความรู้สึกดี ๆ ยามที่ได้อยู่ใกล้ ๆ ใครคนหนึ่ง... ซึ่งเป็นคนพิเศษที่สุดในชีวิต


   “ข้าว...” ผมพร่ำเพ้อชื่อนี้ออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในยามนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกกลั่นกรองออกมาจากหัวใจ ไม่ใช่สมอง “กลับมาหาฉัน... อีกครั้งจะได้ไหม”


   พูดซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าไร พอตั้งสติได้ก็รู้สึกว่าน้ำตาที่คลออยู่เต็มเบ้ามันเหือดแห้งหายไปหมด ผมลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วส่องมองภาพของไอ้คนขี้แพ้ที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาบานใหญ่ สภาพของคนตรงหน้าที่สะท้อนออกมาในยามนี้มันดูไม่ได้เลยสักนิด ผมเผ้ายุ่งเหยิง นัยน์ตาแดงก่ำ ขอบตาดำช้ำเพราะอดหลับอดนอน ไม่ว่าจะมองมุมใดไอ้คนในกระจกเงาตรงหน้าก็มีแต่ความน่าสมเพชสิ้นดี


   ข้าวเคยสอนผมมาตลอดว่าไม่มีใครไม่เคยทำผิด เพราะไอ้คนอย่างผมมันเอาแต่ใจ ทำผิดกับคุณแม่คุณพ่อมานับครั้งไม่ถ้วนจึงทำให้พี่เลี้ยงที่แสนดีของผมเอือมระอาไปด้วย แต่ข้าวก็ย้ำเสมอว่าพอทำผิดหนึ่งครั้ง เราจะสำนึกมันไหม และเรากล้าที่จะเผชิญหน้าแล้วกล่าวขอโทษตรง ๆ กับความผิดที่เราได้กระทำหรือไม่ หรือถ้าไม่กล้าที่จะกล่าวขอโทษ อย่างน้อยการขอโทษที่ดีที่สุดก็อย่าพยายามทำผิดครั้งที่สองอีกเด็ดขาด


   เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาส ถ้าข้าวกลับมาหา... ผมจะไม่มีวันทำผิดซ้ำซากกับเรื่องเดิม ๆ อีก ผมขอแค่โอกาสเพียงเท่านี้จริง ๆ จะมีทางเป็นไปได้ไหม ต่อให้การกลับมาของข้าวกลายเป็นผมเสียเองที่โดนโขกสับอย่างที่ผมเคยทำกับข้าวผมก็ยอม ผมยอมแล้ว ยอมทุกสิ่งทุกอย่าง อานุภาพของความรักมันยิ่งใหญ่ยิ่งนัก มันทำให้ความคิดและการกระทำของผมเปลี่ยนไปโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลย ...ผมกลายเป็นคนอ่อนแอไปแล้วจริง ๆ สินะ


ทว่าอยู่ ๆ ในใจกลับรู้สึกกลัวขึ้นมา คำพูดของไอ้คนแปลกเสียงที่บอกว่าข้าวไม่ได้รักผมแล้วมันตอกย้ำให้ผมสำเหนียกตัวเองว่าแท้จริงแล้วนั้น ผมมันก็แค่มนุษย์โลกธรรมดา ๆ เหมือนคนอื่น ๆ มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ได้มีอำนาจวิเศษวิโสเหนือใคร ๆ สักนิด
   ผมเคยคิดมาเสมอว่าข้าวเปรียบเสมือนลูกไก่ตัวน้อย ๆ ที่อยู่ในกำมือ จะบีบเมื่อไหร่ก็ต้องตาย พอรู้สึกสงสารค่อยคลายมือออกเพื่อให้มันมีชีวิตรอดต่อไป แต่ในยามนี้ผมกับรู้สึกว่าบทบาทของเราสองคนกำลังสลับกัน ผมไม่ต่างจากลูกไก่ที่กำลังดิ้นพล่านในอุ้งมือของข้าว


   การกระทำและคำพูดของข้าวนับต่อจากนี้มันสามารถเป็นเครื่องสังหารอันเหี้ยมโหดได้เสมอ ลองให้ผมได้ยินคำว่า 'เกลียด' ออกมาจากปากของข้าวดูสิ มันคงเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับตายทั้งเป็น เพราะขนาดผมลองนึกว่าจะได้ยินคำ ๆ นั้น ร่างกายของผมมันก็เร่าร้อนและพร้อมที่จะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ แล้ว


   ...ไม่ ทุกอย่างมันจะต้องไม่เป็นแบบนั้น


   ‘ถ้าข้าวไม่กลับมา ฉันจะไปตามหาข้าวเอง’
   






   ภายในห้องนอนที่กว้างขวาง ในยามนี้ผมกลับรู้สึกว่ามันแคบลงขนัด ไม่ว่าจะนั่งหรือนอนและมองไปทางไหนก็รู้สึกอึดอัดอยู่ไม่เป็นสุขสักนิด จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ปรากฏชื่อของบุคคลที่โทรเข้ามา ความรู้สึกอึดอัดก็พลันสลายหายไปแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นพิลึก กล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะกดรับสายทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้พยายามโทรไปหาตั้งหลาย


   ผมสูดลมหายใจให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้อยู่ 2 ครั้งเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนที่ผมจะตัดสินใจกดตอบรับ


   “คุณชาย  คุณชายครับ” เสียงของผมสั่นรัวไม่เป็นจังหวะ คำพูดก็วกไปวนมาเพราะความตื่นเต้นและประหม่า “คุณชาย นี่ข้าว ผมข้าวเองนะครับ ไม่ใช่คนอื่น นี่ผม... ผมเองครับ”


   “คุณข้าวครับ” เสียงที่ตอบกลับทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจ นั่นไม่ใช่เสียงของคุณชาย ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของช้าง


“คุณชายไปแล้วครับ”


   “ไป!!! ไปไหน ช้าง... คุณชายไปไหน” ผมกระวนกระวายใจกับสิ่งที่ได้ยินเป็นอย่างยิ่ง ไอ้คำว่า ‘ไป’ หากใช้กับคุณชายมันเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุดสำหรับผมเลยล่ะ เด็กหนุ่มคนนี้เลือดร้อนยิ่งกว่าอะไร ถ้าพูดว่าจะไปไหนแล้วไม่ได้ไปล่ะก็นะเรื่องยาวแน่


   “ผมก็ไม่รู้ครับ พอดีพ่อเห็นคุณชายสะพายกระเป๋าเดินทางแล้วนั่งแท็กซี่ออกไป พ่อเลยบอกให้ผมโทรถามคุณหญิงกับคุณพ่อของคุณชาย แต่ก็ไม่มีใครรู้เลยครับ คุณหญิงเลยสั่งให้ผมขึ้นไปดูบนห้อง ได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ของคุณชายดัง พอจะกดรับ สายก็ตัดไปก่อน ผมเลยกดดูข้อมูลการโทรครับ เห็นเบอร์คุณข้าวเลยลองโทรกลับดูครับ ตอนนี้คุณหญิงกังวลใจมาก ๆ เลยนะครับ เพราะตั้งแต่มีคุณข้าว คุณชายก็ไม่เคยทำตัวเหลวไหลและหายตัวไปเงียบ ๆ แบบนี้อีกสักครั้งเลยนะครับ จะติดต่อก็ไม่ได้ด้วยเพราะไม่ยอมเอาโทรศัพท์ไป”


   “ช้าง... แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าคุณชายไปไหน” ไม่ใช่แค่คุณหญิงหรอกที่กังวลใจ ผมเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน จะว่าไปตอนที่พบกับคุณชายครั้งแรกผมจำได้แม่นเลยล่ะว่าเด็กคนนี้มันแสบเอาเรื่องขนาดไหน อยากทำอะไรก็ทำ ปากเสียอีกต่างหาก ทว่าพอรู้จักกันนานวันเข้า นิสัยเหล่านั้นก็ค่อย ๆ เลือนหายไปกลายเป็นคุณชายที่จิตใจดีหากแต่ชอบพยายามทำตัวกร่างเกรียนเพื่อปกปิดความอ่อนโยนของตัวเอง


   “ถ้าคุณข้าวไม่รู้เหมือนกัน เราก็คงต้องรอล่ะครับ รอการติดต่อกลับมาของคุณชาย” ช้างตอบกลับมา ขณะนั้นมีเสียงโวยวายดังเล็ดรอดเข้ามาในโทรศัพท์ แต่ผมฟังไม่รู้เรื่องเพราะเสียงมันเบามาก “คุณข้าวครับ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะครับ คุณหญิงกลับมาแล้ว ยังไงถ้าคุณข้าวติดต่อคุณชายได้รบกวนโทรกลับมาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”


   พูดจบก็วางสายในทันที ไม่รอให้ผมพูดอะไรเลยสักนิด


   พอการสนทนาระหว่างผมกับช้างจบลง ผมไม่รอช้ารีบออกจากห้องแล้วมุ่งตรงไปยังห้องครัวในทันที บางทีการที่คุณชายออกจากบ้านไปโดยที่ไม่บอกใครอาจจะเกี่ยวข้องกับบทสนทนาทางโทรศัพท์กับปอมก็เป็นได้


   เป้าหมายของผมยังคงสาละวนอยู่กับการทำข้าวผัดในห้องครัว แม้ว่าจะมีพี่ปั๊มกับโด้อยู่ด้วยแต่เพราะโทสะที่เดือดพล่านอยู่ในกายจนเลยขีดจำกัดมันเลยทำให้ผมมองข้ามทุกคนจนในสายตาของผมมีแต่ปอมคนเดียวเท่านั้น ...ไอ้ปอม ไอ้คนที่ทำให้คุณชายหายตัวไป ไอ้คนนิสัยไม่ดี!


   “ไอ้ปอม!” ผมยังมีสติและรู้ด้วยว่าน้ำเสียงของผมมันแสดงออกถึงอารมณ์รุนแรงแค่ไหน ขาขยับเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าร่างนั้นอยู่ในรัศมีที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ใกล้จนกระทั่งผมสามารสัมผัสกับร่างกายของมันและยกกำปั้นข้างขวาขึ้นมาเพื่อหวังจะต่อยเข้าไปที่มุมปากของมัน


   “พี่ข้าว!!!” มือข้างขวาของผมถูกรั้งเอาไว้ ปอมอาศัยจังหวะนี้ขยับร่างให้ห่างออกไป “พี่ข้าวเป็นอะไร ไม่เอานะครับพี่ ไม่ทะเลาะกันนะ โด้ขอล่ะ ไม่เอาไม่ดื้อนะพี่ข้าวสุดหล่อของโด้”


   เป็นโด้ที่ยืนอยู่ใกล้กว่าเข้ามาขวางผมเอาไว้ได้ทัน หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมาพี่ปั๊มก็มาสมทบและล็อกร่างของผมเอาไว้แน่น
   “มึงเป็นอะไรไอ้ข้าว จะต่อยไอ้ปอมทำไมวะ” เสียงของพี่ปั๊มแสดงถึงความหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย “หรือว่ามึง... ไอ้ปอม... มึงยั่วโมโหอะไรไอ้ข้าวมันถึงได้เหมือนหมาบ้าขนาดนี้”


   ปอมไม่ได้ตอบอะไรออกมา เขาจ้องผมเขม็ง สายตาที่มองมาแสดงออกถึงความสมเพชชัดเจน... น่าแปลกที่สายตาอันน่ารังเกียจคู่นั่นกลับเรียกให้สติของผมกลับมาทั้ง ๆ ที่น่าจะรู้สึกโกรธมากกว่าเดิม


   ...คนที่น่าสมเพชไม่ใช่ผม แต่มันคือปอมต่างหาก ไอ้คนที่จงใจหาเรื่องคนอื่นแบบนี้น่ะ มันน่าขยะแขยงยิ่งกว่าศพช้างเน่า ๆ ที่ลอยขึ้นอืดอยู่ในแม่น้ำหลายวันเสียอีก


   ลมหายใจที่ถี่รัวค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ ดวงตาที่เหลือกถลนจนรู้สึกเกร็งกลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง ความโกรธหายไปหมดสิ้น ไม่รู้จะต้องรู้สึกอย่างนั้นทำไม ในเมื่อไม่ว่าจะทำอะไรกับไอ้คนน่าสมเพชแบบนั้นมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น กลับกัน... ถ้าผมปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลแล้วล่ะก็จะกลายเป็นผมเสียอีกที่ดูแย่ลงไปถนัดตา


   “ไม่มีไรแล้วล่ะครับ” ผมแกะแขนที่โอบรัดร่างของพี่ปั๊มออก “ขอบคุณครับพี่ปั๊ม ขอบใจนะโด้”


   พูดจบก็เอื้อมมือไปลูบศีรษะน้องเล็กด้วยความเอ็นดู ทั้ง ๆ ที่ผมควบคุมสติไม่ได้ แต่โด้ก็มีความกล้ามากพอที่จะเข้ามาห้ามโดยที่ไม่กลัวจะโดนลูกหลงเลยสักนิด


   “ขอบใจไรพี่ เรื่องแค่นี้เอง” โด้ตอบปัด ๆ หลบสายตาไม่รู้ว่าเขินที่โดนชมหรืออย่างไร “มา ๆ มาทำกับข้าวกันต่อดีกว่า เอ้อพี่ปั๊มไอ้หอมใหญ่นี่มันต้องตัดยังไงนะครับ”


   “ไอ้โด้!!!” พี่ปั๊มทำเสียงดุ “กูบอกมึงหลายครั้งแล้วนะ มันต้องเรียกว่าซอย ไม่ใช่ตัด!”


   “เอ้าเหรอครับ โด้ก็ลืมไปเลย แหม่... ไอ้โด้นี่มันหัวไม่ดีจริงจริ๊ง” โด้แสรงตบกบาลตัวเองเบา ๆ


   “เออ... ไอ้โง่”


   “โง่ก็ดีนะ ถ้าโง่แบบนี้แล้วมีคนฉลาด ๆ แบบพี่มาคอยสั่งสอนเรื่อย ๆ โด้ยอมโง่จนตายเลยเอ้า” โด้ต่อปากต่อคำอย่างฉะฉาน
   “หน็อย!!! ฝันไปเถอะว่ากูจะทำแบบนั้น” พี่ปั๊มเถียงกลับ


   “เอ้า... แล้วนี่ไม่ใช่ความจริงหรอกเหรอครับ ก็พี่ปั๊มกำลังสอนผมอยู่นี่นา ไหนลองพิสูจน์ดูซิว่านี่ความจริงหรือความฝัน” พูดจบก็แกล้งทำท่าหยิกแก้มตัวเองออกมาอย่างน่าเอ็นดูก่อนจะร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดจนเกินจริง “โอ๊ยยย!! นี่ไม่ใช่ฝันนี่พี่ปั๊ม”


   “หืม!!! กูขี้คุยกับมึงละ ซอยหอมต่อไปเลย” พี่ปั๊มสั่งเสียงดัง พร้อมกับพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่ายออกมาเป็นระยะ ๆ คงจะเบื่อหน่ายโด้พอควร


   โด้พยักหน้ารับก่อนจะก้มหน้าก้มตาไปซอยหอมด้วยความตั้งใจต่อ ทว่าก็ไม่วายที่จะจงใจพูดเสียงเบา ๆ ให้พี่ปั๊มได้ยินเพื่อยั่วโมโห “ขนาดขี้เกียจก็ยังอุตส่าห์คุยตั้งนานนะ”


   “ถ้ามึงไม่หยุดพูดนะ มึงเจอตีนกูแน่” พอเจอคำขู่แบบนี้เข้าไป ไอ้โด้ก็เงียบสิ... แถมยังเงียบแบบไม่สนใจพี่ปั๊มด้วย ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนในที่สุดพี่ปั๊มก็เป็นฝ่ายหงุดหงิดกับท่าทีที่จงใจกวนบาทาแบบนั้นของไอ้โด้เสียเอง เหมือนกับว่าต้องการให้ไอ้โด้มันตอบสนองกับคำพูดของตัวเอง แต่พอโด้ไม่โต้ตอบก็เลยขัดใจ


   ผมได้แต่หัวเราะร่ากับสิ่งที่เกิดขึ้น มีแต่โด้คนเดียวเนี่ยแหละที่สามารถต่อปากต่อคำกับพี่ปั๊มอย่างไม่กลัวตาย หรือต่อให้ตายก็คงจะยอมแต่โดยดี... ไม่รู้ว่าทั้งคู่จงใจแกล้งทะเลาะกันเพื่อให้บรรยากาศที่ขมุกขมัวมันดีขึ้นหรือไม่ แต่ผมก็รู้สึกดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนในตอนนี้อารมณ์โทสะของผมได้สลายหายไปจนหมดสิ้น


   ผมเหล่หางตามองดูคู่อริของผม หมอนั่นมีสีหน้านิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ทั้งนั้นราวกับคนเก็บกดที่อยากจะระเบิดอารมณ์โกรธออกมาแต่ก็ไม่กล้า จะหัวเราะขำขันก็ต้องข่มเอาไว้เพราะไม่อยากให้ใครรับรู้ว่ากำลังรู้สึกอย่างไร


   “ปั๊ม ตีไข่เสร็จแล้วใช่ไหม ส่งมาให้หน่อย แล้วก็หอมใหญ่ มะเขือเทศ ผักคะน้า ผักชีที่ซอยจนเสร็จด้วยนะ เดี๋ยวจะทำข้าวผัดปูต่อเลย” พูดจบก็เดินกลับไปยังหน้ากระทะแล้วราดน้ำมันลงในกระทะเพื่อเตรียมจะทำข้าวผัดปูทันที


   เหตุการณ์ในตอนนี้กลับมาเป็นปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนรู้ดีว่าในความปกติมันย่อมไม่ปกติ เพราะการกระทำของผมเมื่อครู่มันแสดงออกชัดเจนว่ามีอะไรบางอย่าง หากแต่ยังไม่มีใครเอ่ยถามอาจเพราะยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สมควร


   ข้าวผัดปูถูกปรุงจนเสร็จภายในไม่กี่นาที จากนั้นการรับประทานอาหารมื้อแรกกับครอบครัวของพี่ปั๊มก็เริ่มขึ้น


   การรับประทานอาหารมื้อนี้ เป็นมื้อที่ผมสัมผัสได้ถึงความกดดันที่สุดตั้งแต่เกิดมา บนโต๊ะอาหารที่ควรจะมีการพูดคุยถามไถ่กันบ้างระหว่างพ่อแม่และลูกที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานแต่กลับมีเพียงความเงียบงัน ผู้เป็นพ่อไม่แม้แต่จะสบตามองหน้าพี่ปั๊มด้วยซ้ำไม่รู้ว่ามีเรื่องผิดใจอะไร แต่กลายเป็นปอมที่ดูจะสนิทกับพ่อมากกว่าเพราะเวลาต้องการจะทานอะไรที่เอื้อมตักไม่ถึง พ่อก็จะสั่งปอมให้ตักให้เพียงคนเดียว


   แม่ของพี่ปั๊มแสดงสีหน้าเหนื่อยใจอย่างเห็นได้ชัด เธอคงไม่ต้องการให้บรรยากาศมันอึมครึมแบบนี้แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
   ผมรีบรับประทานอาหารให้เสร็จแล้วรีบขอตัวออกจากห้องรับประทานอาหารทันทีโดยไม่สนใจว่านี่เป็นการเสียมารยาทหรือไม่ เพราะบางทีพวกเขาอาจจะอยากอยู่กันตามประสาครอบครัวมากกว่าถึงอย่างไรผมก็เป็นคนนอก


   โชคดีที่โด้รู้สึกเหมือนผม เพราะพอผมลุกขึ้น ร่างเล็ก ๆ ของโด้ก็ลุกขึ้นตามแถมยังก้มศีรษะขออนุญาตออกจากโต๊ะอาหารอย่างมีมารยาทเสียด้วย


   หลังจากที่ออกจากห้องรับประทานอาหาร ผมตั้งใจชะลอฝีเท้าลงเพื่อรอให้โด้เดินตามมาให้ทัน


   “พี่ข้าว พี่จะไปไหน” โด้เอ่ยถามในทันทีที่มาถึง


   “พี่ก็ไม่รู้ว่ะโด้ อยู่ในนั้นแล้วมันอึดอัดแปลก ๆ เลยออกมาดีกว่า” ผมตอบออกไปตามตรงไม่เพียงแค่เรื่องทานอาหารหรอก อาการกระวนกระวายกับการหายตัวไปของคุณชายที่เกิดขึ้นในจิตใจมันไม่สามารถให้ผมนั่งอยู่นิ่ง ๆ ในสภาวะกดดันแบบนั้นได้หรอก


   “นั่นสิ โด้ก็คิดว่าโด้เป็นคนเดียวซะอีก ครอบครัวพี่ปั๊มดูประหลาด ๆ พิลึก ๆ ยังไงก็ไม่รู้” โด้พยักหน้าเห็นด้วย “โด้ยังไม่ง่วงเลยนอนมาทั้งวัน... ไปหาไรทำที่สวนหน้าบ้านกันดีกว่าเนอะพี่ข้าว”


   “ก็ดีเหมือนกัน”


   บางทีการได้นั่งชมวิวทิวทัศน์มองบรรยากาศยามค่ำคืนที่มีสายลมอ่อน ๆ หอบเอาความเย็นมาฝากร่างกายอาจจะทำให้ผมผ่อนคลายขึ้นบ้างก็ได้


   ‘ตอนนี้คุณชายอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรครับ อย่าทำให้ทุกคนเป็นห่วงแบบนี้สิ’











จบตอน >.<
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน28 P.16] - 08/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 08-08-2014 14:41:20
งงกับคุณชายมากนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน28 P.16] - 08/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-08-2014 16:38:42
จะว่าอย่างไรดีล่ะสำหรับตอนนี้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน28 P.16] - 08/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 08-08-2014 18:45:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน28 P.16] - 08/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 08-08-2014 23:13:55
สับสนนะ แต่ไม่สงสารคุณชายหรอก
 :m16:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน28 P.16] - 08/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 09-08-2014 01:00:04
แล้วคุณชายจะมาถูกมั้ยเนี่ย
มือถือก็ไม่เอาไป แล้วจะถามทางใครรรรรรร
ที่สำคัญ แกเคยเดินทางคนเดียวเหรอคุณชาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน28 P.16] - 08/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 09-08-2014 02:24:20
สะใจ อิคุณชายยยยยยย อิบ้าาาาาาาา  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
 รีบมาต่อนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน28 P.16] - 08/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 09-08-2014 10:26:12
ตอนนี้...รู้สึกว่า  งงๆ  ไงไม่รู้อะ....แต่จะติดตามข้าวกับคุณชายต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน28 P.16] - 08/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 09-08-2014 16:23:12
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน28 P.16] - 08/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 13-08-2014 11:25:25
ตอน 29



     

           …เสียงกระซิบจากคุณชาย...

            ท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ช่างมืดมิดยิ่งนัก ไม่มีจันทร์เจ้ารวมถึงดวงดาวน้อยใหญ่ปรากฏให้เห็นมีเพียงเมฆทะมึนก้อนใหญ่ที่บดบังความงดงามจากฟากฟ้า มันมืดมิด มืดมน มัวหมองจนน่ากลัว หรือเพราะหัวใจของผมกำลังหม่นหมองอะไรรอบข้างเลยดูหมองหม่นตามไปด้วยกันแน่นะ


            อีกไกลแค่ไหน... กว่าที่รถสองแถวจากอำเภอปายจะพาผมข้ามผ่านภูเขาน้อยใหญ่แล้วไปถึงยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอนนะ... ความจริงผมจะรอนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนก็ได้ หากแต่ว่าเที่ยวบินรอบต่อไปต้องรออีกวัน ผมคงทนรอไม่ไหวเพราะอยากเห็นหน้าคนที่ผมทอดทิ้งไปจนใจจะขาด ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจนั่งเครื่องบินมาลงที่เชียงใหม่แล้วต่อรถตู้ไปยังอำเภอปาย และเหมารถสองแถวจากอำเภอปายไปยังแม่ฮ่องสอนอีกที


ผมนั่งถอดถอนหายใจอยู่หลายครั้ง เผลอพลิกนาฬิกาข้อมืออยู่เป็นระยะ ๆ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าแล้ว


            ไม่รู้ว่าพระเจ้าจะลงโทษผมไปถึงเมื่อไร อยู่ ๆ รถที่นั่งมานานก็ดับสนิท คนขับรถพยายามสตาร์ทใหม่หลายรอบแต่ก็ไม่เป็นผล


            “เฮ้ย... ไอ้น้อง... แย่แล้วว่ะ... รถแม่งเป็นไรไม่รู้สตาร์ทไม่ติด” ชายหนุ่มผิวเข้มรูปร่างซูบผอมซึ่งเป็นคนขับรถหมุนกระจกแล้วตะโกนบอกผมซึ่งนั่งอยู่ทางกระบะหลัง


            “แล้วต้องทำไง” ผมเอ่ยถาม เงินก็จ่ายไปแล้วตั้งหลายพัน กลางป่ากลางเขาแบบนี้คงหารถคันใหม่ลำบาก


            “รอได้ไหมไอ้น้อง เดี๋ยวพี่โทรเรียกช่างแป๊บ”


            “นานไหมพี่ หรือพอทางโทรเรียกรถคันใหม่ให้มารับผมได้ไหม ผมรีบจริง ๆ”


            “ไม่มีหรอก ป่านนี้เพื่อนพี่มันคงนอนกันหมดแล้ว หรือไม่ก็แดกเหล้าตั้งวงไพ่กัน ไม่มีใครสนใจมารับหรอก”


            “ผมให้พี่ห้าพันถ้าพี่หาคนมาแทนได้” นิสัยเดิมของผมกลับมาอีกครั้ง ไม่ได้ตั้งใจจะใช้เงินฟาดหัวใครหรอกนะ เพราะข้าวเคยบอกว่าไม่ชอบที่ผมทำแบบนี้ แต่ในครั้งนี้มันอดไม่ได้จริง ๆ เพราะเป้าหมายที่ผมกำลังตามหามันสำคัญเกินกว่าที่ผมจะมานั่งปล่อยให้เวลามันเสียเปล่า


            “แป๊บนึง” คนขับรถพยักหน้ารับ เขารีบกดโทรศัพท์เพื่อโทรหาใครสักคนในทันที จงใจเดินเลี่ยงไปไกล ๆ เพราะไม่ต้องการให้ผมได้ยิน


            “ว่าไงพี่” ผมเอ่ยถามเมื่อชายหนุ่มร่างผอมเดินกลับมาอีกครั้ง


            “เพื่อนพี่กำลังมา รออีกซักหนึ่งชั่วโมงน่าจะถึง”


            “โอเคครับ” ผมพยักหน้าตกลง อย่างน้อยเสียเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้วจ่ายเพิ่มเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังดีกว่าเสียเวลาซ่อมรถที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ


            “มานั่งข้างหน้าก่อนสิน้อง กลางป่ากลางเขายุงมันเยอะ”


            ผมพยักหน้าตอบตกลงทันที พลางนึกในใจทำไมบอกช้าจัง เพราะยุ่งมันมาแอบดูดเลือดผมไปตั้งเยอะแล้ว


            เวลาผ่านไป ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ความอ่อนเพลียทั้งทางร่างกายและจิตใจส่งผลให้ผมรู้สึกงัวเงียจะหลับมิหลับแหล่จึงไม่ได้สนใจที่จะยกนาฬิกาขึ้นมาดู รู้ตัวอีกทีฝนก็กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักและมีทีท่าว่าจะไม่หยุดง่าย ๆ เสียด้วย


            ขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ของคนขับรถที่ผมเหมาจ้างมาก็ดังขึ้น เขากดรับทันที สีหน้าและท่าทีของเขาดูขัดใจเล็กน้อยไม่รู้ว่าเพราะอะไร ได้ยินเพียงเสียงตอบรับ ‘เออ ๆ’ และ ‘ช่างเหอะ’ พร้อมกับเสียงถอนหายใจอยู่หลายครั้งจนวางโทรศัพท์ไป


            “ไอ้น้องพี่ขอโทษ” เขาหันมาคุยกับผม “เพื่อนพี่มันมาไม่ได้แล้ว ทางที่มันขับมาฝนตกหนัก ลมพัดแรงจนต้นไม้หักโค่นกีดขวางถนน มันบอกขี้เกียจอ้อมมาอีกทางเพราะมันไกลเลยขอยกเลิกที่จะมารับ”


            ผมผิดหวังเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ฟัง รู้ในทันทีเลยว่าการเดินทางของผมในครั้งนี้ต้องช้ากว่าที่ควรจะเป็นแน่ ๆ “ถ้าอย่างงั้น เราก็ต้องรอช่างใช่ไหม”


            “ใช่... แต่ถ้าน้องรีบลองลงไปโบกรถแถวนี้ก็ได้นะบางทีอาจจะมีคนเข้าเมือง”


            “อ่อ... ได้ครับ” ได้ยินดังนั้นผมก็ตอบรับทันที และไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่ารีบก้าวขาลงจากรถโดยไม่สนว่าเม็ดฝนที่ตกลงมามันจะส่งผลให้ร่างของผมเปียกปอนแค่ไหน


            “ไอ้น้อง...” พี่ชายคนขับรถหมุนกระจกลงแล้วตะโกนเรียก ในมือของเขาถืออะไรบางอย่างพร้อมยื่นมันมาให้กับผม “ไฟฉาย เปิดส่องไว้ก็ดี เผื่อว่ารถที่ขับผ่านมาจะได้สังเกตเห็น”


            “ขอบคุณครับ” ผมยื่นมือไปรับไฟฉายนั้นมา ก่อนจะตัดสินใจไปยืนอยู่กลางถนนแล้วยกมือข้างที่ถือไฟฉายให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้


            ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ผมยืนอยู่อย่างนั้นโดยไม่คิดจะกลับไปนั่งในรถ กลัวว่าหากมีรถสักคันผ่านมาแล้วจะพลาดโอกาส แต่ทำไม... ถนนเส้นนี้มันถึงไม่มีรถขับผ่านมาสักคัน!


            ร่างกายที่อ่อนล้าจากการเดินทางพอเดินน้ำฝนที่สาดเทลงมาอย่างบ้าคลั่งเริ่มส่งผลให้ผมรู้สึกอ่อนเพลีย ร่างที่เคยบางเบากลับหนักหน่วงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด จะก้าวขาออกไปข้างหน้าหนึ่งก้าวนั้นยังทำได้ยากแสน


            ...ไม่ไหว ผมไม่ไหวแล้ว ผมยืนตากน้ำฝนนานเกินไป เหนื่อยเหลือเกิน ผมไม่เคยต้องมายืนตากฝนนานขนาดนี้ เพราะข้าว... เพราะมันคนเดียว ทำให้ผมต้องมาทำอะไรที่บ้าบอแบบนี้ ผมควรจะหยุดดีไหมนะ ร่างกายของผมมันทนอีกต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ


            ก่อนที่ผมจะหมดสติ แสงไฟจากรถที่กำลังขับมาด้วยความเชื่องช้าซึ่งสาดส่องมากระทบกับดวงตาของผม ส่งผลให้ผมฟื้นจากอาการที่คล้ายกับร่างจะสลายและกลับมามีแรงฮึดอีกครั้ง


            “ทางนี้ครับ ทางนี้... จอดด้วยครับ” ผมตะโกนเสียงดังลั่นแข่งกับเสียงฟ้าฝน ไม่สนใจว่าเขาจะได้ยินหรือไม่ พยายามยกมือข้างที่ถือไฟฉายส่องไปตัวรถบริเวณคนขับ


            ได้ผล... รถคันนั่นค่อย ๆ ชะลอความเร็วและหยุดอยู่ข้าง ๆ กับร่างของผม



            “พี่ครับ พี่เข้าเมืองไหมครับ รบกวนไปส่งผมหน่อยนะครับ” ผมเอ่ยขอด้วยความสุภาพ โชคดีที่โดนข้าวสั่งสอนให้พูดจาดี ๆ เวลาต้องการขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ถ้าไม่มีข้าว... ผมคงกลายเป็นคนที่ไม่มีใครคบและอยากช่วยเหลือแน่นอน


            “ในเมืองเลยเหรอ ฝนก็ตกหนัก ไกลก็ไกลลูก ลุงขับไปไม่ไหวหรอก” เสียงของเขาแหบพร่า ผมเพิ่งสังเกตว่าคนขับรถกระบะคันนี้มีผิวกายที่เหี่ยวย่น เส้นผมเป็นสีขาวหงอกเต็มศีรษะ


            “นะครับลุง ถ้าลุงขับไม่ไหวผมขับเอง เดี๋ยวผมออกค่าน้ำมันให้ด้วย เดี๋ยวจ่ายค่าเสียเวลาให้ลุงด้วยนะครับ จะคิดเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย” ผมอ้อนวอนร้องขอต่อไป ถ้าลุงยังปฏิเสธผมก็จะทำทุกวิถีทางให้คุณลุงยอมให้ได้


            “ก็ได้ ๆ ถ้างั้นเติมน้ำมันให้ลุงเต็มถังก็พอ ส่วนค่าเสียเวลา... ช่างมันเถอะ ลุงมันก็แก่แล้ว ไม่รู้จะเอาเงินไปทำไร หาเช้ากินค่ำไม่ต้องแบมือขอเงินใครแค่นี้ลุงก็มีความสุขแล้วลูกเอ๊ย ขึ้นมา... ขึ้นมาเร็ว” คุณลุงเอ่ยขึ้นด้วยความเต็มใจ ผมสังเกตเห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏบนใบหน้าตลอดเวลาที่พูด ช่างเป็นคนที่มีความสุขกับการใช้ชีวิตเสียจริง


            “ขอบคุณครับลุง รอแป๊บนะครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปเอากระเป๋าก่อน...” พูดจบก็วิ่งกลับไปที่รถกระบะที่จอดเสียอยู่แล้วเปิดประตูรถเพื่อที่จะหยิบกระเป๋าสัมภาระ


            “ดีใจด้วยนะไอ้น้อง เจอรถสักที” พี่คนขับรถยิ้มให้


            “ขอบคุณครับพี่ ผมไปก่อนนะครับ” ผมเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าก่อนที่จะค้นกระเป๋าเงินแล้วมอบเงินจำนวนหนึ่งไป “ถือซะว่าเป็นน้ำใจนะพี่”


            “อือ... ขอบใจไอ้น้อง” ชายหนุ่มยื่นมือมารับ “เดินทางดี ๆ ล่ะ โชคดี”


            “โชคดีครับ”


            ผมเดินวกกลับไปที่รถของคุณลุงด้วยความรู้สึกที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ในหัวใจ อีกนิดเดียว... อีกนิดเดียวเท่านั้นผมก็จะได้เจอข้าวแล้ว ที่อยู่ของพี่ปั๊มที่ผู้จัดการปั๊มน้ำมันให้มาผมยังเก็บเอาไว้อย่างดี ไม่จำเป็นต้องเปิดอ่านซ้ำซาก เพราะบ้านเลขที่ ซอย ถนน ตำบลผมจำได้หมดตั้งแต่วินาทีแรกที่อ่านแล้ว


            ‘รอก่อนนะข้าว ฉันยังเชื่อใจนายนะ เชื่อว่านายไม่ได้หมดรักฉันอย่างที่ไอ้เจ้าของเสียงแปลกประหลาดนั่นพูด’

 





            ท้องฟ้าคืนนี้ช่างมืดมิด แสงของดวงดาวและความพร่างพราวของพระจันทร์นั้นถูกบดบังด้วยเมฆหมอกอึมครึม ไม่รู้ว่า... เขา... จะกำลังนั่งมองท้องฟ้าที่มืดมนเหมือนผมไหม หรือว่าท้องฟ้าที่คุณชายกำลังมองมันสวยงามมีแสงดาวระยิบระยับอวดกันเปล่งรัศมี มันน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะตั้งแต่ที่ไม่มีผม ท้องฟ้าของคุณชายก็คงจะสวยงามและไม่มีวันไหนที่มืดมนแบบท้องฟ้าของผมในคืนนี้


            ‘คุณชายจะเป็นยังไงบ้างนะ คุณชายอยู่ที่ไหน รีบ ๆ กลับบ้านนะครับ เฮ้อ ดื้อจึง ไอ้เด็กดื้อ จะทำอะไร หายไปไหนไม่เคยห่วงความรู้สึกของคนอื่นเลย’ ผมนั่งพร่ำเพ้อแต่คำเดิม ๆ วนไปมาในใจอย่างไม่ยอมหยุด


            “พี่ข้าว... ไปนั่งตรงนั้นกันดีกว่าครับ” เสียงของโด้เรียกสติผมให้กลับคืนมา ไม่รู้สักนิดว่าเผลอแหงนหน้ามองท้องฟ้าไปนานแค่ไหน เราสองคนกลับออกมานั่งเล่นที่ม้านั่งนอกบ้านด้วยกันอีกครั้งหลังจากที่ได้กลับขึ้นไปทำธุระต่าง ๆ ในห้องนอน นั่งรอพี่ปั๊มอยู่หลายชั่วโมงแต่พี่ปั๊มก็ไม่กลับขึ้นห้องมาเสียที ด้วยความเบื่อหน่าย จึงตัดสินใจลงมานั่งรับอากาศบริสุทธิ์ที่นี่อีกครั้ง


            “อืม” ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามโด้ไปยังม้านั่งที่ตั้งอยู่กลางสวน


            สายลมในตอนนี้มันเย็นวาบหวิวแปลก ๆ มีกลิ่นไอฝนลอยมากับสายลม พยายามจะไม่นึกถึงคุณชายแต่บรรยากาศแบบนี้มันอดไม่ได้จริง           


            “มีอะไรไม่สบายใจเล่าให้โด้ฟังได้นะพี่” เด็กหนุ่มร่างเล็กเอ่ยขึ้น แม้ภายนอกจะแสดงออกว่าเหมือนคนซื่อ(บื้อ) หากแต่ความเป็นจริงเด็กหนุ่มคนนี้มีดีกว่าที่เห็นยิ่งนัก


            “โด้คิดยังไงถึงอยากมาเที่ยวบ้านพี่ปั๊มอ่ะ” ผมไม่ได้ตอบคำถาม แถมยังยิงคำถามกลับ


            “เอาตรง ๆ เลยนะพี่ โด้ไม่อ้อมค้อมนะ” โด้ทำเสียงจริงจัง ไม่เพียงเท่านั้นสีหน้าและท่าทางก็จริงจังไปด้วย... นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นท่าทางของโด้เป็นแบบนี้ “โด้เป็นห่วงพี่ข้าวกับพี่ปั๊ม ไม่รู้หรอกว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกพี่แต่รู้ว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน พี่ข้าวดูเศร้า ๆ แปลก ๆ ส่วนพี่ปั๊มก็ดูเงียบกว่าที่เคย ไม่รู้สิพี่มันอธิบายไม่ถูกเท่าไหร่ รู้แค่ว่าอยากไปกับพวกพี่ ไม่อยากเห็นพวกพี่เครียด”


            สิ้นเสียงของโด้ รอยยิ้มของผมก็ผุดขึ้นทันที ผมเอื้อมมือไปลูบศีรษะของไอ้เด็กดีเบา ๆ เป็นการชื่นชม “มาแล้วก็เลยเครียดไปกับพวกพี่ด้วยเลยน่ะสิ”


            “โอย... ไม่หรอกพี่” โด้ลากเสียงยาวแล้วพูดอย่างขบขัน “คนอย่างโด้นะ ให้มีเรื่องเครียด ไม่เกินห้าวินาทีก็หายแล้ว”


            ผมนั่งอมยิ้มให้กับนิสัยที่น่าเอ็นดูของโด้ เด็กอะไรช่างมองโลกสดใสเสียจริง


            “เอ้อ... ว่าแต่พี่ข้าวเถอะครับ ไม่สบายใจเรื่องอะไรอยู่เหรอครับ” ได้ยินคำถามนี้ย้ำอีกครั้งใจผมมันก็สั่นแปลก ๆ มันยากเหลือเกินกับการที่จะเล่าให้ใครฟังว่าตอนนี้เรากำลังเป็นอะไร รู้สึกอย่างไร อ่อนไหวแค่ไหน มันน่าอายออกที่ต้องเล่าความรู้สึกอ่อนแอของตัวเองให้ใครฟัง และโด้จะรับได้ไหม ถ้ารู้ว่าเรื่องกลุ้มใจของผมเป็นเรื่องของผู้ชาย... ที่มีความรักต่อผู้ชายด้วยกัน


            “เล่ามาเหอะพี่ ระบายให้โด้ฟังได้นะ โด้น้องพี่นะ ต่อให้พี่จะคิดอะไร เป็นอะไร รู้สึกยังไงกับใครโด้ก็ไม่รังเกียจพี่หรอก”       “โด้รู้?” ผมรีบเอ่ยแทรกทันทีที่ได้ยินโด้พูดแบบนั้น พูดเหมือนกับว่าผมเป็นอะไร รู้สึกอะไรกับใครหรือบางทีเขาอาจจะรู้เรื่องราวของผมทั้งหมดก็เป็นได้


            โด้ไม่ได้ตอบด้วยวาจาแต่เขาพยักหน้าเป็นคำตอบ


            “เมื่อไหร่” ผมเอ่ยถาม นึกกังวลใจแปลก ๆ กลัวว่าน้องจะเปลี่ยนไป


            “ไม่แน่ใจหรอกครับ แต่ก็คิดว่าน่าจะใช่ ช่างมันเถอะนะพี่ข้าว มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะเป็นยังไงหรือชอบใคร สิ่งสำคัญก็คือพี่ข้าวเป็นพี่ที่แสนดีของโด้ แค่นี้มันก็เจ๋งเป้งสุด ๆ แล้วครับ” โด้ตอบอมยิ้มพลางแหงนหน้ามองดูท้องฟ้าที่ไร้แสงดาวราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง นัยน์ตาแสดงออกชัดเจนถึงความเงียบเหงาแปลก ๆ “เกิดมาโด้ไม่เคยคิดเลยนะ... ว่าโด้จะมีคนที่ดีกับโด้ได้เท่ากับพี่ข้าว... และพี่ปั๊ม”



            คำพูดของโด้ทำให้ผมรู้สึกสงสัย อะไรที่เรียกว่าดี เพราะการกระทำหรือความสัมพันธ์ระหว่าผมกับโด้มันก็เหมือนเพื่อน เหมือนพี่น้องธรรมดา ๆ เท่านั้น ไม่ได้มีอะไรวิเศษวิโสเกินใคร


            “โด้นี่แย่เนอะ... ทั้ง ๆ ที่พี่ข้าวกำลังกลุ้มใจแท้ ๆ กับมาระบายเรื่องของตัวเองให้ฟัง” โด้พยายามฝืนยิ้ม แท้จริงแล้วเด็กคนนี้ก็ไม่ต่างกับปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป แม้ภายนอกจะดูสดใสร่าเริง แม้ปากจะบอกว่าเครียดไม่เกิน 5 วินาทีก็หาย แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านั้นมันเป็นเพียงหน้ากากชั้นดีที่ถูกสวมใส่เอาไว้เพื่อปกปิดความอ่อนแอของตัวเองก็เท่านั้น


            “ไม่หรอกโด้ คนเรามันก็มีมุมที่อ่อนแอกันหมดทุกคนแหละ ต่อให้เป็นพระเอกหนังค่าตัวร้อยล้านมันก็ต้องมีเรื่องเครียด ๆ ให้คิดกันทั้งนั้นแหละ”


            “เนอะ... หรือต่อให้จนแบบพวกเราหาเช้ากินค่ำก็ใช่ว่าจะไม่มีช่วงเวลาที่มีความสุขสักหน่อย” โด้ยิ้มออกมา ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อ สายตาของโด้ก็จับจ้องไปที่รั้วประตูเขม็งราวกับว่ากำลังจ้องมองอะไรบางอย่างอยู่


            ผมหันไปมองตาม แสงไฟสลัว ๆ ที่ส่องสว่างเผยให้เห็นร่างตะคุ่ม ๆ ของใครบางคนที่กำลังยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ที่หน้ารั้ว และเหมือนว่าในเวลานั้น ร่างที่อยู่นอกรั้วจะหันมาเห็นผมกับโด้พอดีเพราะเขาทำท่าพยักใบหน้าเหมือนต้องการให้เราสองคนออกไปหา


            “มีธุระอะไรกับคนในบ้านหรือเปล่าครับคุณลุง” ผมเอ่ยถามทันทีที่เดินไปถึงหน้ารั้ว มองลอดช่องเหล็กรั้วบ้านในระยะใกล้ ๆ จึงรู้ว่าร่างตะคุ่ม ๆ ที่เห็นเป็นร่างของชายชราที่มีผมขาวหงอกเต็มศีรษะ


            “เอ้อ... ที่นี่ใช่บ้านของคุณข้าวรึเปล่า” คุณลุงเอ่ยถาม ท่าทางของคุณลุงดูกล้า ๆ กลัว ๆ อาจเพราะทำตัวไม่ถูกเมื่อได้พูดคุยกับคนที่ยืนอยู่ภายในเขตรั้วบ้านที่ใหญ่โตโอ่อ่า


            “ไม่ใช่ครับ” ผมเลิกคิ้วด้วยความฉงน นี่คือบ้านพี่ปั๊มหากแต่คุณลุงจะเอ่ยถามถึงผมไปเพื่ออะไร


            “อ้าวเหรอ... ขอโทษ ๆ งั้นลุงกลับละ” ลุงผงกศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเดินหันหลังกลับไป ได้ยินเสียงบ่นแว่ว ๆ ให้หลังว่า “ก็ที่อยู่ที่พ่อหนุ่มยื่นมาให้มันไม่น่าจะผิดนี่นา แถมยังนอนละเมอเรียก ไอ้ข้าว ๆ ไม่ยอมหยุดปาก”



            “เดี๋ยวครับคุณลุง” ผมรีบเปิดประตูรั้วบ้านเล็กออกไปแล้ววิ่งไปดังหน้าคุณลุงเอาไว้ “เมื่อกี้คุณลุงบอกว่าไอ้หนุ่มที่ไหนยื่นที่อยู่มาให้ แล้วใครนอนละเมอเป็นชื่อไอ้ข้าวนะครับ”


            “ก็พ่อหนุ่มนั่นไง” คุณลุงพยักพเยิดใบหน้าเข้าไปในตัวรถ


            แสงไฟสลัว ๆ ที่ส่องผ่านกระจกรถบานใหญ่ เผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับใหล ใบหน้าของเขาขึ้นสีแดงระเรื่อ คิ้วขมวดมุ่นแสดงความกังวลแม้ดวงตาจะหลับพริ้ม เส้นผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงปกหน้าผากเอาไว้ หน้าอกที่กระเพื่อมไหวตามลมหายใจดูอ่อนล้ากว่าที่ควรจะเป็น... ไม่ต้องมีคำบรรยายใด ๆ ให้มากกว่านี้ ผมรีบเดินไปเปิดประตูรถอย่างถือวิสาสะ เพื่อที่จะเข้าไปพูดคุยกับร่างนั้นให้หายข้องใจ ว่าเพราะอะไรเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้


            “คุณชาย! คุณชาย!!” ผมเอ่ยเรียกร่างนั้น เมื่อไม่มีเสียงตอบกลับผมจึงยื่นมือไปสัมผัสที่ใบหน้าของเขา


            “ขะ... ข้าว... ข้าวเหรอ” มีการตอบสนองจากร่างที่เกือบจะไร้สติ แม้เปลือกตาจะยังปิดสนิท


            “คะ... ครับ... ผมเอง” ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหว หัวใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะ “คุณชายตัวร้อนจี๋เลย ไปทำอะไรมาครับ...”


            “......”


            ไม่มีเสียงตอบกลับ ผมพยายามเรียกคุณชายอยู่อีกสักพักเมื่อเห็นว่าร่างของคุณชายแน่นิ่ง ผมจึงหันไปคุยกับคุณลุงเจ้าของรถทันที



            “คุณลุงครับ... รบกวนไปส่งที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดด้วยครับ ผมเองแหละครับที่ชื่อข้าว แต่นี่ไม่ใช่บ้านของผมนะครับ” เมื่อคุณลุงพยักหน้า ผมจึงหันไปคุยกับโด้ “โด้... เดี๋ยวพี่พาคุณชายไปโรงพยาบาลนะ คุณชายตัวร้อนจี๋เลย เข้านอนกันไปก่อนเลยนะ ไม่ต้องเป็นห่วงพี่ ฝากบอกพี่ปั๊มด้วย”



            “ครับพี่” โด้พยักหน้ารับ... จากนั้นคุณลุงก็เดินอ้อมมาที่ประตูฝั่งคนขับก่อนจะก้าวขาขึ้นรถแล้วขับออกไป


            ความกังวลใจส่งผลให้ผมลืมจนเผลอนั่งอยู่ที่เบาะหน้าทับร่างของคุณชายที่กำลังตัวร้อนจัด ในพื้นที่ที่ควรจะอึดอัดแต่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด ประหนึ่งอาจเป็นเพราะอ้อมแขนของคุณชายที่ไม่รู้ว่าได้ยกมาโอบกอดร่างของผมเอาไว้ก็เป็นได้ ผมพยายามพลิกตัวอยู่หลายครั้งเพราะกลัวว่าคุณลุงจะสังเกตเห็น หากแต่อ้อมแขนของคนป่วยนั้นกลับรัดแน่นเหมือนจงใจ แม้จะอ่อนเพลียแต่ความเจ้าเล่ห์ก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยสักนิด


            “อย่าดิ้นได้ไหม... หนักนะ” คุณชายพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุดอาจเพราะกลัวว่าคุณลุงจะได้ยิน โชคดีที่รถกระบะเก่า ๆ ของคุณลุงไม่มีแอร์เย็น ๆ เหมือนรถรุ่นใหม่ จึงต้องหมุนกระจกลงเพื่อถ่ายเทอากาศทำให้เสียงลมที่พัดเข้ามากลบเสียงของคุณชายมิด     


            “นึกว่าป่วยจนสลบไปแล้วนะครับ” ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราวกับกระซิบเช่นกัน


            “ดูถูกคุณชายคนเก่งของข้าวเกินไปไหม” คุณชายกระซิบกลับ คราวนี้เปลือกตาที่ปิดสนิทมานานค่อย ๆ เปิดออกแล้วหันมาสบมองกับดวงตาของผม มาถึงไม่ทันไรนิสัยปากเก่งอวดดีก็แผลงฤทธิ์เสียแล้ว “ตากฝนแค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”


            ผมไม่ได้สนใจคำพูดของคุณชายเลยสักนิด เพราะสายตาของคุณชายที่มองมาในยามนี้กำลังทำให้หัวใจของผมสั่นไหว มันเป็นสายตาที่อ่อนโยนไร้ซึ่งความแข็งกระด้าง เป็นสายตาที่สามารถสะกดให้ใครก็ตามที่ได้สบมองต้องตกอยู่ในภวังค์ฝัน


            “นั่งอยู่นิ่ง ๆ นะ จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล”



            ผมพยักหน้ารับ จากนั้นคุณชายจึงปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง... ผมใช้โอกาสนี้พินิจมองใบหน้าที่ขาวละมุนหากแต่กำลังขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความคิดถึง ไม่คิดไม่ฝันว่าคุณชายจะกลับมา


ผมต้องขอขอบคุณอะไรก็ตามที่ดลใจให้คุณชายทำแบบนี้ ไม่โกรธคุณชายเลยสักนิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไป อาจเป็นเพราะหัวใจของผมนั้นมีคุณชายเป็นเจ้าของ ต่อให้คุณชายจะทำร้ายจิตใจผมจนเจ็บเจียนตายมากกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่ามันก็ยังเป็นของคุณชาย ทั้งร่างกายและจิตใจของไอ้ข้าวคนนี้มันไม่มีวันที่จะเปลี่ยนไปแน่นอน


เมื่อมองดูใบหน้าของคุณชายจนพอใจ มันก็อดไม่ไหวที่จะอยากใกล้ชิดกับร่างนี้ให้มากกว่านี้ ผมเหลือบสายตาไปมองคุณลุงคนขับรถ เมื่อเห็นว่าคุณลุงไม่ได้สนใจผมเลยสักนิดเพราะต้องเพ่งสมาธิไปกับการขับรถ ผมจึงค่อย ๆ ทิ้งร่างของตัวเองไปกับร่างกายของคุณชายจนในตอนนี้ศีรษะของผมกำลังแนบกับแก้มนุ่ม ๆ ของคุณชาย


เหมือนคุณชายจะรับรู้ความปรารถนาของผม มือที่โอบรัดมาตั้งแต่ต้นออกแรงกระชับร่างของผมให้แน่นขึ้นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปไหน ก่อนที่ในเวลาต่อมาคุณชายผู้เย่อหยิ่งที่พยายามปฏิเสธความรู้ของตัวเองมาตลอดจะเอียงใบหน้ามาทางผมเล็กน้อยจนริมฝีปากที่อิ่มเอิบนั้นสัมผัสเข้าที่แก้ม


ผมรู้สึกร้อนวูบขึ้นมาที่ใบหน้าทันที ไม่รู้ว่าเพราะพิษไข้ของคุณชายถูกส่งผ่านมาทางริมฝีปากหรือเพราะความรู้สึกปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในจิตใจกันแน่... แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม ผมจะต้องนั่งนิ่ง ๆ ไม่ไหวติง ไม่กระดุกกระดิกไปไหน เพื่อที่จะได้รับสัมผัสที่อบอุ่นแบบนี้ไปตลอดทาง


‘ขอบคุณนะครับคุณชาย ขอบคุณที่กลับมา ขอบคุณที่ทำให้ไอ้ข้าวกลับมามีความสุขอีกครั้ง’


แม้จะมีความสงสัยมากมายกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าทุกอย่างที่คุณชายทำจะเพราะสาเหตุอะไร ผมก็พร้อมที่จะให้อภัยและกลับไปเป็นเหมือนเดิมเสมอ แล้วคุณชายล่ะ กลับมาหากันคราวนี้ยังมีความคิดที่จะทอดทิ้งผมไปอีกเหมือนเดิมหรือเปล่า ...ขอให้มันอย่าเป็นเช่นนั้นเลย


“ข้าวยังรักฉันเหมือนเดิมใช่ไหม” อยู่ ๆ คุณชายก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน


ผมพักหน้าลงเล็กน้อยเป็นคำตอบ... ผมเคยสงสัยกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไรและเกิดได้อย่างไร... พอผมอยู่ใกล้ ๆ แล้วได้ยินคำพูดออดอ้อนน่าเอ็นดูของคุณชายก็มีอันต้องใจอ่อนทุกครั้ง ยิ่งเมื่อร่างกายของเราสองคนสัมผัสกัน หัวใจที่เต้นถี่รัวเพราะความตื่นเต้นประหลาด ๆ มันเป็นสัญญาณบ่งบอกได้ว่าผมนั้นคิดอย่างไรกับคุณชาย


‘ผมรักคุณชายนะครับ’


“ก็เหมือนกัน” คำสั้น ๆ ที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว แต่มันก็ดังมากพอที่จะทำให้ผมได้ยิน หากแต่แทนที่จะพูดอะไรให้มากกว่านั้น คุณชายกลับหลับตาพริ้มแล้วหันหน้าไปอีกทาง ใบหน้าที่แดงระเรื่ออยู่แล้วกลับแดงจัดมากกว่าเก่า อาจเพราะพิษไข้จะเร่งงานหนักผมจึงไม่คาดคั้นอะไรมากเพราะต้องการให้คุณชายพักผ่อนให้เต็มที่ ดีเหมือนกันที่เบือนหน้าหนีเพราะตอนนี้ผมก็รู้สึกร้อนวูบแปลก ๆ ไม่ต้องส่องกระจกก็พอจะเดาได้ว่าใบหน้าของผมนั้นขึ้นสีแดงระเรื่อแค่ไหน


...แต่เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน บางทีที่คุณชายหน้าแดงจัดอาจไม่ใช่เพราะพิษไข้ แต่อาจจะกำลังรู้สึกเหมือนผมก็ได้ ใช่ไหมครับคุณชาย





จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 13-08-2014 12:11:24
เจอกันสักที :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Brow_Ney ที่ 13-08-2014 12:42:13
นึกว่าคุณชายจะไปหาไม่เจอซะแล้ว
ข้าวเจอคุณชายทีไรใจอ่อนให้ตลอด.. ดีแล้วล่ะจะได้รักกันซะที :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 13-08-2014 14:44:37
เจ้าเลห์ละเมอนะคุณชาย  :o8:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-08-2014 15:14:38
พยายามจริงๆนะคุณชาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 13-08-2014 15:42:11
เจอกันซักทีนะคุณชาย   แต่คนอ่าน "ค้าง" :serius2:     
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 13-08-2014 15:52:29
ดีใจจังที่ทั้งสองเข้าใจกันซักที......รักข้าวและคุณชาย...รักกันๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 13-08-2014 22:35:15
เนียนเกินไปแแล้วคุณชายยยยย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 13-08-2014 22:58:08
เย่~เจอกันซักที
รอตอนต่อไปค่าาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 14-08-2014 09:27:18
 :-[ :-[   :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 14-08-2014 09:53:55
เจอกันแล้ววว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 17-08-2014 07:21:16
เจอแล้วก็อย่าดื้อนะชาย ระวังข้าวไม่รัก  :hao3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 17-08-2014 10:06:48
 :katai1: :katai1: :katai1:  อิคุณชายมันหาเจอได้ไงฟร๊ะ  o22 

แบบว่าเห้ยประเทศไทยนะเฟร๊ย แล้วเค้าไปตั้งเหนือ แม่งเก่งชิบหายไปละ  :katai1: 

แบบว่ามันยังไม่พออ่ะ อิคุณชายตอนทำไม่คิดทีนี้ล่ะมาคิดได้ น่าจะโดนสั่งสอนให้มากกว่านี้ 
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน29 P.16] - 13/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 18-08-2014 16:09:37
ตอน 30


ผลการตรวจพิษไข้ของคุณชายไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คุณหมอบอกว่าเพราะตากฝนจึงทำให้ตัวร้อนและร่างกายอ่อนเพลีย เพื่อป้องกันไม่ให้พิษไข้ลุกลาม คุณชายจึงโดนฉีดยาไปหนึ่งเข็มพร้อมกับได้ยากลับมารับประทานอีก 3 ซอง


“ข้าวอ่ะ!” คุณชายทำเสียงงอนหลังจากที่รับยาเสร็จสรรพ “บอกว่าไม่ฉีดยา ๆ ก็ดันทุรังจะให้ฉีดอยู่นั่นแหละ”


“ก็ผมเป็นห่วงคุณชายนี่” ผมเถียง พอรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็เบือนหน้าหนีแล้วรีบแก้ต่าง “ก็ห่วง... ห่วงว่าคุณหญิงจะเป็นห่วง”


“ปากแข็ง” คุณชายบ่นอุบอิบ


“เอ้อ... คุณชายครับ พูดถึงคุณหญิง ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ช้างโทรมาหาผม ทุกคนที่บ้านเป็นห่วงคุณชายมากเลยนะครับ โดยเฉพาะคุณหญิง” พูดจบผมก็หยิบโทรศัพท์ออกมา หากแต่ยังไม่ทันที่จะได้กดเบอร์โทรออกไปใครบางคนที่แสนดื้อด้านก็ดันเอื้อมมือมาแย่งเอาไปเสียก่อน


“จะทำอะไร” คุณชายถามเสียงเข้ม มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์ของผมแน่น


“โทรหาช้างครับ คุณหญิงและทุกคนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”


“ไม่ต้อง” คุณชายงัดแงะโทรศัพท์ผมก่อนจะถอดแบตออกมา แล้วจึงยื่นตัวเครื่องเปล่า ๆ กลับมาให้ผม “ฉันถามผู้จัดการที่ปั๊มมาแล้ว ข้าวลาหยุดเจ็ดวันใช่ไหม นี่ก็หมดไปหนึ่งวันแล้ว ฉันขออะไรได้ไหมข้าว...”


คุณชายจงใจเว้นจังหวะเพื่อให้ผมถาม “ขออะไรครับ”


“ให้วันหยุดที่เหลืออยู่ของข้าวอีกหกวัน มีแค่ฉันกับข้าวเท่านั้น เราสองคนจะไปเที่ยวด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน อยากทำอะไรก็ทำตามใจ ไม่ต้องอายสายตาผู้คนและที่สำคัญเราจะไม่ติดต่อกับคนที่บ้านรวมถึงพี่ปั๊มของข้าวด้วย แล้วก็... ไอ้คนที่มันรับโทรศัพท์ของข้าว”
สิ้นเสียงของคุณชายหัวใจของผมก็กระตุกวูบ ใบหน้าของปอมลอยเข้ามาในความคิดแล้วความสงสัยต่าง ๆ ก็ถาโถมเข้ามา


“ปอม! ปอมมันคุยอะไรกับคุณชายครับ” มันเป็นสิ่งที่ผมสงสัยและกระวนกระวายใจมาตลอด


“มันไม่สำคัญหรอก” คุณชายตอบด้วยใบหน้าที่แย้มยิ้มมิหนำซ้ำยังยักคิ้วเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก


“สำคัญสิ! เผื่อคุณชายไปได้ยินอะไรผิด ๆ มา” หากแต่ผมไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับคุณชายด้วย จะให้ผมฝืนยิ้มทั้งที่ยังคาใจในบทสนทนาระหว่างคุณชายกับปอมไม่ได้หรอก


“ไปหาลุงบุญส่งกันเถอะ ป่านนี้คงหลับรอเราแล้วมั้ง” คุณชายไม่สนใจจะตอบคำถามแถมยังเดินนำลิ่ว ๆ ไปยังนอกตัวอาคารแล้วตรงไปยังลานจอดรถ


ผมได้แต่เร่งฝีเท้าเดินตามทั้งที่ยังคาใจ ระหว่างทางก็พยายามถามตลอดทางว่าคุณชายคุยอะไรกับปอมแต่คุณชายก็ไม่ยอมบอกสักนิด มิหนำซ้ำยังมีหน้ามาหัวเราะแล้วบอกว่าสะใจเวลาที่เห็นผมเป็นแบบนี้อีกต่างหาก ...ไอ้เด็กกวนบาทาเอ๊ย!!! อย่าให้ถึงทีพี่บ้างนะ พี่จะแกล้งให้จำไม่ลืมเลย!!!


ลุงบุญส่ง... คุณลุงผู้แสนใจดีช่วยรับคุณชายซึ่งกำลังยืนตากฝนอยู่กลางถนนในยามนี้กำลังหลับพริ้มอยู่ภายในรถซึ่งเปิดกระจกเอาไว้เพื่อถ่ายเทอากาศ ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น แต่คุณชายก็ไม่ได้สนใจสักนิดเดินมั่นหน้าไปปลุกคุณลุงขึ้นมาอย่างน่าตาเฉย ใจคอไม่คิดจะให้คุณลุงพักให้หายเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย


“คุณลุงครับ เสร็จแล้วครับ”


“อะ... เอ้อ ๆ เสร็จแล้วเหรอ ขึ้นรถมาสิลูก” คุณลุงลุกลี้ลุกลนตอบ มือเอื้อมไปจับพวงมาลัยขับรถโดยอัตโนมัติทันทีที่รู้สึกตัว


“คุณลุงไหวไหมครับ เดี๋ยวผมขับรถไปส่งบ้านดีกว่า” คุณชายเอ่ยถามด้วยความสุภาพ เวลาที่คุณชายทำตัวสุภาพ ๆ แบบนี้มันทำให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งกว่าตอนทำหน้าบูดบึ้งหลายเท่าเชียวล่ะ


 “ไม่เป็นไร ๆ ลุงไหว” ลุงบุญส่งพยายามปฏิเสธ


“ไม่เอาน่าครับลุง เดี๋ยวผมไปส่งดีกว่า มันดึกมากแล้วและที่สำคัญลุงก็ช่วยผมมาตั้งเยอะ” คุณชายถือวิสาสะเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วพยุงลุงบุญส่งให้ลุกขึ้นมา ลุงมีทีท่าอึกอักใจเล็กน้อย “นะครับลุง”


“ก็ได้ ๆ ไว้เดี๋ยวลุงบอกทางนะ แล้วก็ไม่ต้องรีบนะ ทางมันมีแต่เขาอันตราย” สุดท้ายลุงบุญส่งก็ยอมแพ้ให้กับความน่ารักของคุณชายจนได้ คนอย่างคุณชายลองได้อยากทำอะไรแล้วล่ะก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ หรอก ...แต่เดี๋ยวสิ ลุงบุญส่งไม่น่าจะแพ้ให้กับความน่ารักของคุณชายนะ คนที่แพ้น่าจะเป็นผมมากกว่า ไม่!!!


   “ครับผม”






   ถนนหนทางในจังหวัดแม่ฮ่องสอนช่างคดเคี้ยวกว่าที่ไหน ๆ แสงไฟข้างทางก็แทบไม่มีให้เห็น แต่ยังโชคดีที่เส้นทางจากตัวเมืองไปบ้านลุงบุญส่งไม่อันตรายมากนัก หากขับรถช้า ๆ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่แซงในที่ที่ควรแซงและชะลอความเร็วในช่วงที่มีป้ายห้าม เพียงแค่นี้ก็จะถึงจุดหมายได้อย่างสวัสดิภาพแน่นอน


   แน่นอนว่า... คุณชายกับลุงบุญส่งถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ หากแต่คำว่าสวัสดิภาพนั่น มันไม่สามารถใช้กับผมที่ต้องจำใจนั่งอยู่บนกระบะหลังสักนิด แม้ฝนจะหยุดตกไปแล้ว แต่ความเย็นจากไอน้ำที่ชุ่มฉ่ำกอปรกับแรงลมที่พัดมาปะทะตลอดทางมันทำให้ผมรู้สึกเหน็บหนาว เท่านั้นไม่พอ เส้นผมของผมก็กะเซอะกะเซิงไม่ต่างจากคุณชายที่เปียกปอนมาก่อนหน้านี้เลยสักนิด มิหนำซ้ำกระบะหลังยังไม่มีเหมาะนุ่ม ๆ ให้รองนั่งบั้นท้ายผมในยามนี้จึงระบมไปหมดแล้ว


   บ้านของลุงบุญส่งอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งบ้านทุกหลังภายในหมู่บ้านละแวกเดียวกันล้วนเป็นบ้านไม้ บางหลังชั้นเดียว บางหลังสองชั้น แต่สิ่งที่เหมือนกันทุกหลังคือไฟฟ้าภายในบ้านดับสนิท มืดมิดไร้แสงใด ๆ สอดส่อง เหลือเพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ภายในบ้านยังส่องสว่าง และถ้าผมเดาไม่ผิดบ้านหลังนั้นจะต้องเป็นบ้านของลุงบุญส่งแน่นอน


   ทันทีที่คุณชายดับเครื่องรถกระบะ ลุงบุญส่งก็เดินลงจากรถแล้วก้าวขาตรงไปยังตัวบ้านด้วยความฉับไว ทันใดนั้นร่างของหญิงชราร่างหนึ่งก็เปิดประตูออกมาต้องรับ ผมของเธอหยิกสั้นระต้นคอและมีสีขาวโพลนไปทั่วศีรษะ มือข้างซ้ายของเธอยืนค้ำไม้เท้าเอาไว้อย่างมั่นคง หากมองแล้วผ่านไปก็คงไม่มีอะไรน่าประทับใจ ทว่าในตอนนี้... ผมที่กำลังจับจ้องอยู่ตลอดเวลาถึงกับน้ำตาคลอเบ้ากับภาพที่เห็น
   หญิงชราค่อย ๆ พยุงไม้เท้าแล้วก้าวขาเพื่อมาหาลุงบุญส่งที่กำลังเดินไป เมื่อทั้งสองคนอยู่ในรัศมีที่สามารถสัมผัสร่างกายกันได้ ชายชราอย่างลุงบุญส่งก็โอบกอดร่างนั้นด้วยความรัก เช่นเดียวกับหญิงชรา ทั้งคู่กอดกันอยู่นานจนกระทั่งผมเดินไปใกล้ ๆ ถึงเห็นน้ำตาของหญิงชราไหลรินไม่ขาดสาย และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจไปมากกว่านั้นคือ คุณลุงยกมือขึ้นมาปาดหยดน้ำตาแล้วบอกว่าไม่มีอะไร จากนั้นคุณป้าจึงบอกให้คุณลุงเข้าไปทานอาหารภายในบ้าน


   “เข้ามาทานด้วยกันสิลูก” คุณลุงหันมาชวน


   “ขอบคุณครับ” คุณชายเอ่ยพร้อมพยักหน้ารับก่อนจะก้าวขาแล้วเดินตามคุณลุงกับคุณป้าไป ไม่ลืมที่จะเอื้อมมือมาจับที่มือของผมให้ก้าวตามเข้าไปด้วย


   ผมเดินตามไปอย่างว่าง่าย สาเหตุที่เราสองคนไม่เรียกท่านทั้งสองว่าคุณปู่คุณย่าหรือคุณตาคุณยายเพราะเกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาท แม้ว่าทั้งคู่จะดูชราภาพน่าจะอายุสัก 60 ปลาย ๆ ก็ตาม ทว่าลุงบุญส่งยังดูแข็งแรงเกินวัย ส่วนคุณป้าแม้ต้องใช้ไม้เท้าค้ำพยุงตลอดเวลาเหมือนคนเดินไม่ไหว แต่พอมียาใจอยู่ใกล้ ๆ กลับดูกระฉับกระเฉงขึ้นอย่าน่าอัศจรรย์


   บ้านของลุงบุญส่งไม่มีโต๊ะอาหาร อาหารทุกจานถูกวางอยู่บนเสื่อซึ่งถูกปูราบกับพื้นบ้านซึ่งนั่นไม่ได้ลำบากเกินไปสำหรับคุณชายเพราะตอนที่ไปเที่ยวทะเลแล้วพักอยู่บ้านของยามบอลคุณชายก็นั่งรับประทานอาหารกับพื้นมาแล้ว แต่ที่ดูเหมือนจะเป็นการลำบากเพราะอาหารมื้อนี้คงดูไม่น่าพิสมัยสำหรับคุณชายเท่าไรนัก


   “เอ่อ... ข้าว...” คุณชายแอบมากระซิบที่ข้างหู “ไอ้เม็ดขาว ๆ ที่อยู่ในจานนั่นมันคืออะไรแถมยังมีมดอีก แล้วอีกชามอ่ะมีตัวอะไรดึ๊กดึ๋ยด้วย ยังกะลูกอ๊อด”


   “ก็ลูกอ๊อดไงครับ เขาเรียกว่าแกงฮวก ส่วนไอ้เม็ดขาว ๆ นั่นคือยำไข่มดแดงน่ะครับ” ผมตอบอย่างรู้ดี แม้จะไม่ชอบกินผักแต่ให้ตายเถอะไอ้สัตว์ประหลาดที่คนอื่นเขาไม่ค่อยกล้ากินกันผมน่ะชอบยิ่งนักขอให้จัดมาเยอะ ๆ เถอะ โซ้ยได้ทุกสายพันธุ์ไม่มีข้อโต้แย้งแน่นอน ผิดกับไอ้คนที่มันชอบอวดเก่งเรื่องกินผักตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้มเชียวล่ะ


   “กินอาหารพวกนี้ได้ไหมลูก เดี๋ยวป้าไปเจียวไข่มาเพิ่มดีไหม”


   “ดีเลย...” ยังไม่ทันที่คุณชายจะพูดจบ ผมก็รีบยื่นมือไปปิดปากเพราะรู้ว่าคุณชายจะต้องตอบตกลงแน่นอน


   “สบายครับป้า ไม่ต้องไปเจียวไข่เพิ่มหรอก แกงฮวกกับยำไข่มดแดงของโปรดผมเลยล่ะครับ เนอะ...” ไม่วายที่จะหันไปทำหน้าเยาะเย้ยคุณชายแถมยังส่งคำถามแบบมัดมือชกให้อีกด้วย


   “อ่อ งั้นเดี๋ยวป้าไปตักข้าวมาให้นะ”


   “ครับผม” ผมตอบรับด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความสุขใจเป็นที่สุด นานทีปีหนจะมีโอกาสได้แก้แค้นคุณชายบ้าง มาอยู่ติดดินพึ่งบ้านคนอื่นก็ต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับคนในพื้นที่ ไม่ใช่จะมาเอาแต่ใจเป็นเด็ก ๆ ต้องการอะไรจะต้องได้อย่างนั้น


   “ไอ้ข้าว!!!” คุณชายส่งเสียงรอดผ่านไรฟัน “ฝากไว้ก่อนเถอะ”


   ผมไม่ได้โต้ตอบอะไร รอจนกระทั่งคุณป้าตักข้าวมาให้ เราสองคนยกเว้นคุณชายจึงรับประทานอาหารมื้อนี้อย่างเอร็ดอร่อย แม้ผมจะรับประทานมาแล้วจากที่บ้านของพี่ปั๊มแต่ก็ยังไม่อิ่มเพราะบรรยากาศไม่เป็นใจจึงทำให้ทานได้เพียงนิดเดียว ผิดกับตอนนี้ที่ข้าวบนจานของผมแทบไม่เหลือสักเม็ด


   ผมหันไปมองดูคุณชายเป็นระยะ ๆ คุณชายนั่งตัวแข็งทื่อ พยายามตักแค่ผักต้มกับน้ำพริกมารับประทานเท่านั้น


   “ลองดูหน่อยครับ อร่อยนะ” ผมตักยำไข่มดแดงมาให้ คุณชายส่งสายตาคาดโทษมาอย่างน่าสยดสยองหากแต่นั่นยิ่งทำให้ผมได้ใจเลยตักลูกอ๊อดน่ารัก ๆ ในถ้วยแกงมาให้อีก 3 ตัว “แกงฮวกก็อร่อยครับกินเยอะ ๆ นะครับ”


   “ใช่ ๆ ลูก อร่อยนะ ลองทานดู” คุณป้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามช่วยสนับสนุน


   “ครับ” คุณชายตอบอย่างสุภาพ ท่าทางของคุณชายในยามนี้ดูใจเย็นขึ้นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า หากเป็นเมื่อก่อนคงวางจานกับข้าวลงแล้วเดินหนีไปไม่ยอมรับประทานแน่นอน แต่ในครั้งนี้ไม่ใช่


   คุณชายพยายามตักไข่มดแดงขึ้นมารับประทานด้วยความยากลำบาก ทันทีที่อาหารเข้าไปในปาก ใบหน้าที่พะอืดพะอมในทีแรกก็มีสัญญาณดีขึ้น ปากที่เคี้ยวเม็ดข้าวอย่างเชื่องช้ากลับมีจังหวะถี่รัวขึ้นราวกับว่าสิ่งที่เพิ่งรับประทานเข้าไปมันเอร็ดอร่อยอย่างไม่เคยสัมผัส จนกระทั้งข้าวคำนั้นถูกเคี้ยวลงคอ


   “อร่อยจริงด้วย” คุณชายมากระซิบที่ข้างใบหู จากนั้นก็ตักยำไข่มดแดงมารับประทานอีกหลายคำจนกระทั่งกับข้าวในจานหมด เหลือเพียงลูกอ๊อดตัวเล็ก ๆ ในจาน 3 ตัวเท่านั้นที่คุณชายไม่กล้ารับประทาน


   “แต่ไอ้แกงฮวกอะไรนั่นไม่ไหวจริง ๆ นะข้าว ขอเถอะ”


   “ครับผม” คุณชายไม่รับประทานก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็กล้าพอที่จะรับประทานอะไรประหลาด ๆ อย่างไข่มดแดงแค่นี้ก็เก่งมากพอแล้ว
   การรับประทานอาหารในมื้อนี้จบลงด้วยดี โชคดีที่บ้านของลุงบุญส่งมีห้องว่างอยู่หนึ่งห้อง และท่านทั้งสองก็ไม่รังเกียจที่จะให้พวกเราค้างที่นี่ด้วย 1 คืน เนื่องจากตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว จะกลับไปในตัวเมืองก็ไม่มีรถรับส่ง ผมกับคุณชายจึงต้องนอนพักที่บ้านหลังนี้


   ห้องว่างที่ว่านี้อยู่บนชั้นสอง เป็นห้องไม้สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ภายในหองไม่มีเฟอร์นิเจอร์สักชิ้น ผมกับคุณชายต้องขนมุ้ง เสื่อและหมอนจากห้องเก็บของชั้นล่างขึ้นไปยังห้องนั้นด้วยกัน ระหว่างที่กำลังทำกิจกรรมเหล่านั้น ผมสังเกตท่าทีของคุณชายเป็นระยะ ๆ อยากรู้ว่าจะมีสีหน้าที่เบื่อหน่ายบ้างไหม หากแต่สิ่งที่ปรากฏบนใบหน้าของคุณชาย มีเพียงรอยยิ้มที่เปื้อนไปด้วยความสุขสนุกสนานเท่านั้น ไม่มีความเบื่อหน่ายหรือไม่พอใจใด ๆ แสดงออกมาแม้แต่นิดเดียว


   คุณชายเปลี่ยนไปแล้ว... เปลี่ยนไปมากเสียจนผมคิดว่าเป็นคนละคนเสียอีก ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณหนูที่อยู่แต่ในรั้วในวังมาตลอดอย่างคุณชายจะกล้ารับประทานอาหารประหลาด ๆ เท่านั้นไม่พอยังยอมนอนบนเสื่อแข็ง ๆ ภายในมุ้งซึ่งไม่มีแม้แต่พัดลม


   “นอนได้จริงนะครับ” ผมเอ่ยถามขณะที่กำลังกางมุ้ง ส่วนคุณชายกำลังนั่งพิงผนังอยู่มุมห้องแล้วมองผมอย่างสบายใจเฉิบ


   “ได้สิครับ” พูดจามีหางเสียงด้วย ผมล่ะรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ กับท่าทีออดอ้อนของคุณชายแบบนี้เสียจริง “ขอแค่นอนกับข้าวอ่ะ ที่ไหนก็ได้หมดนั่นแหละ”


   “อ่อ... เหรอ... แล้วก่อนหน้านี้ล่ะครับ” ผมอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องนั้น ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่เราได้คุยกันตามลำพัง ถึงอย่างไรผมก็ขอเอ่ยถามให้หายคาใจสักหน่อยเถอะ “ทำไม... ถึงต้องทิ้งผม ไล่ผมให้ไปจากชีวิตคุณชายด้วยล่ะครับ”


   “ข้าว...” คุณชายถอนหายใจออกมา “ขอโทษ”


   แล้วก็จบเพียงเท่านั้น ไม่มีเหตุผลใด ๆ อธิบายออกมา


   “ผมไม่ได้โกรธคุณชายนะ เพราะฉะนั้นคุณชายไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ” พูดจบผมก็เดินอ้อมไปหาคุณชาย เพราะกางมุ้งเสร็จพอดี “แต่คุณชายช่วยบอกผมได้ไหมว่าเพราะอะไร ถ้าผมรู้ว่าผมทำอะไรผิดไป ผมจะได้ไม่ทำให้คุณชายโกรธอีก ผมไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอีก เพราะผมคงทำใจไม่ไหวถ้าต้องเสียใจกับเรื่องเดิม ๆ เป็นครั้งที่สอง”


   “ข้าวไม่ได้ทำอะไรผิด” ทันทีที่ผมพูดจบคุณชายก็รีบพูดต่อทันที “ฉันต่างหากล่ะที่ผิด ฉันไม่กล้าที่จะยอมรับความรู้สึกตัวเอง ฉันยอมรับไม่ได้กับสิ่งที่ตัวเองเป็นเลยคิดไปว่าการไล่ข้าวไปให้พ้น ๆ จากชีวิตมันจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ไม่ต้องทนทุกข์กับความจริงที่เกิดขึ้น แต่พอไม่มีข้าว... ฉันกลับรู้สึกทรมาน... ทรมานมากยิ่งกว่าเก่า มันลำบากมากเลยนะข้าวกับการที่จะต้องยอมรับว่าตัวเอง... เป็นพวกรักร่วมเพศ”


   น้ำเสียงประโยคสุดท้ายที่เอ่ยออกมาสั่นเครือเล็กน้อย ผมไม่แปลกใจเลยสักนิดที่คุณชายจะคิดแบบนั้น เพราะทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ ฐานะเงินทองรวมถึงแวดวงทางสังคมของคุณชายที่มีมาก เลยทำให้คุณชายเป็นที่จับจ้องของใครหลาย ๆ คน และคงไม่ใช่เรื่องดีนักหากคนเหล่านั้นต้องรับรู้ว่าคุณชายเป็นพวกรักร่วมเพศ


   “แล้วตอนนี้ล่ะ คุณชายยอมรับได้แล้วเหรอครับ” ที่ถามออกไปไม่ใช่ว่าจะตอกย้ำความกังวลใจ แต่เพื่อความแน่ใจ ถ้าคุณชายไม่สามารถยอมรับในความรู้สึกของตัวเองได้ ผมจะได้รับรู้ว่าต่อจากนี้ควรจะปฏิบัติตัวเช่นไรกับคุณชาย


   “ไม่แน่ใจเหมือนกัน” คุณชายตอบเสียงเบา ก่อนที่ชั่วครู่ใบหน้าละมุนละไมที่ยังคงแดงระเรื่อเพราะพิษไข้จะเงยขึ้นแล้วมองมาทางผม มีความอีกอึดอัดใจบางอย่างแฝงอยู่ในแววตาคู่นั้น “ขอพิสูจน์หน่อยได้ไหม”


   ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยกับสิ่งที่ได้ยิน “พิสูจน์อะไรครับ”


   “ก็พิสูจน์ความรู้สึกของตัวเองน่ะสิ” พูดจบคุณชายก็โน้มร่างเข้ามาให้ผมในทันที


   ปฏิบัติการพิสูจน์ความรู้สึกของคุณชายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งแต่ มือทั้งสองข้างของคุณชายถูกยกขึ้นมากอดกับร่างของผมอย่างแนบแน่น ใบหน้าของคุณชายซบลงตรงหัวไหล่ของผมก่อนที่ชั่วครู่มือข้างหนึ่งจะเลื่อนขึ้นมาลูบศีรษะของผมด้วยความเอ็นดู
   ไอร้อนจากพิษไข้ที่ส่งผ่านมาทางอ้อมกอดมันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกร้อนตามไปด้วยเลยสักนิด ร่างอุ่น ๆ นั้นกลับทำให้ผมรู้สึกเคลิบเคลิ้มกับการกระทำที่แสนพิเศษแบบนี้ ผมอยากให้คุณชายกอดผมแบบนี้ไปนาน ๆ นานจนกว่าจะเช้าเลยยิ่งดี แต่บางทีคุณชายอาจจะไม่ได้คิดแบบผม เพราะในเวลาต่อมา อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นก็ถูกผละออกไป มือทั้งสองข้างของคุณชายเปลี่ยนมาจับที่หัวไหล่ด้วยความเกร็ง
   ผมแหงนหน้ามองดูร่างที่โตกว่าเล็กน้อยด้วยความรู้สึกหวาดระแวงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าการพิสูจน์ครั้งนี้มันจะจบอย่างไร ผมไม่อาจคาดเดาความคิดจากสายตาที่สบมองมาของคุณชายในยามนี้ได้เลยสักนิด มันไม่มีความกังวลอยู่ในนั้น แต่มันกลับดูแน่นิ่ง เย็นชา จนน่ากลัวว่าคุณชายจะไม่ได้คิดเช่นเดียวกับผม


   โชคดีที่คุณชายไม่ปล่อยให้ผมต้องมโนไปมากกว่านี้ เพราะการกระทำของคุณชายที่เกิดขึ้นในวินาทีต่อมาชัดเจนแล้วว่าคุณชายยอมรับความรู้สึกของตัวเองได้หรือไม่


   มือทั้งสองข้างของคุณชายเปลี่ยนมาช้อนที่ปลายคางของผมจนใบหน้าเงยขึ้นอีกเล็กน้อย คุณชายไม่รอช้ารีบใช้จังหวะนี้โน้มใบหน้าของตัวเองลงมาใกล้ ๆ แล้วบังคับให้ริมฝีปากของตัวเองมาประกบกับริมฝีปากของผมอย่างนุ่มนวล ก่อนที่ในเวลาต่อมาคุณชายจะออกแรงบดขยี้เล็กน้อยด้วยความเร่าร้อนจากรสสัมผัส แล้วก็หยุดนิ่งปล่อยค้างไว้ทั้งอย่างนั้น โดยที่มีข้างหนึ่งถูกลดระดับลงมาโอบร่างของผมเอาไว้


   ลมหายใจอุ่นร้อนถูกพ่นออกมากระทบกับใบหน้าของผมตลอดเวลา... รู้สึกดีจัง การกระทำแบบนี้ อยู่แบบนี้อีกสักนิดจะได้ไหม อย่าเพิ่งปล่อยให้เวลาแห่งความสุขมันจบลงเลย


   เหมือนว่าคำภาวนาในจิตใจจะได้ผล คุณชายไม่ยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ มือข้างหนึ่งยังช้อนใบหน้าของผมอย่างมั่นคงส่วนอีกข้างยังคงโอบกอดผมเอาไว้แน่น จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้สักพัก คุณชายก็ค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าให้ออกห่างหากแต่นัยน์ตาที่เปี่ยมล้นด้วยความสุขยังคงสบมองผมไม่หันเหไปทางไหน


   “ฉันรู้แล้วล่ะข้าว ว่าฉันรู้สึกยังไง” น้ำเสียงของคุณชายเบาหวิว “ฉันจะไม่ยอมให้ข้าวจากไปไหนแล้วนะ ข้าวจะต้องอยู่กับฉัน เป็นของฉัน และรักฉันคนเดียวเท่านั้น”


   ประโยคที่เอ่ยออกมาชัดเจนแล้วว่าคุณชายเลือกที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเอง หากแต่คำพูดที่ทำให้ผมดีใจที่สุดในชีวิตนั้นกลับทำให้ผมไม่แน่ใจ... ไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ที่แสนวิเศษนับจากนี้มันจะยืดระยะได้ยาวแค่ไหน เพราะยังคุณชายยังมีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่ต้องพบเจอ


   “ถ้าคุณชายไม่ไล่ ผมก็ไม่ไปไหนหรอกครับ” ผมเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยคำถามที่ค้างคาใจออกมาบ้าง “แล้วคุณหญิง คุณท่าน หม่อมย่าและพี่หญิงดาวล่ะครับจะว่ายังไง”


   “กังวลใจเหรอครับ” คุณชายพูดจามีหางเสียงอีกแล้ว ไม่รู้ว่าไอ้เด็กเอาแต่ใจคนนี้จะรู้บ้างไหมว่ามันทำผมจิตใจปั่นป่วนแค่ไหน “ข้าวก็รู้จักนิสัยของฉันไม่ใช่เหรอ ถ้าฉันอยากได้อะไร เลือกอะไรหรือตัดสินใจอะไรไปแล้ว ไม่มีใครที่จะมาเปลี่ยนแปลงความคิดหรือขวางฉันได้เด็ดขาด แม้แต่คุณแม่ก็ตาม! อ้อ มีเพียงคนเดียวที่เปลี่ยนใจฉันได้ คนนั้นก็คือข้าวเองไม่ใช่เหรอ”


   คำพูดของคุณชายหนักแน่น เช่นเดียวกับท่าทางที่แสดงออกตลอดเวลา มือไม้ทั้งสองข้างจะต้องวนเวียนสัมผัสร่างกายของผมเพื่อเป็นการตอกย้ำให้ผมมั่นใจ แต่ถึงจะอย่างนั้นผมก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าเรื่องของเรามันจะยืดยาวสักแค่ไหน เพราะผมและคุณชายนั้นต่างกันเหลือเกิน


   คุณชายเปรียบเสมือนท้องฟ้าที่สวยงามและสูงส่งยากที่ใครจะเอื้อมถึง ต่อให้เป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่หมองหม่นเพียงใด ก็ยังมีดวงจันทร์และดวงดาวหลายดวงที่คอยสาดแสงให้ความสว่างประดับบารมี ส่วนผมมันก็แค่เศษดินเม็ดเล็ก ๆ ที่ไร้ค่าพร้อมที่จะถูกผู้คนย่ำเหยียบตลอดเวลา ถ้าคนหนึ่งเป็นฟ้าอีกคนเป็นดิน... ฟ้ากับดินมันจะอยู่คู่กันได้จริงหรือ


   “ข้าวรู้ไหมว่านามสกุลของข้าวหมายถึงอะไร” อยู่ ๆ คุณชายก็เอ่ยถาม


   “ต้นข้าว วสุธา... วสุธาหมายถึงดินไงครับ” ผมตอบอย่างฉะฉาน ใครบ้างล่ะจะไม่รู้จักความหมายของนามสกุลตัวเอง ขนาดนามสกุลยังตอกย้ำให้ผมต้องจำเอาไว้เลยว่าผมน่ะมันก็เป็นได้แค่เศษดินเศษทรายเม็ดเล็ก ๆ เท่านั้น


   “แล้วนามสกุลของฉันล่ะ”


   “สุริยะวิทู... พระอาทิตย์กับพระจันทร์ใช่ไหมครับ” ความหมายนามสกุลของคุณชายผมก็รู้ดีเช่นกัน เพราะผมเคยสงสัยว่าวังสุริยะวิทูมันมีที่มาอย่างไร มาสืบทราบทีหลังว่าชื่อของวังถูกตั้งจากนามสกุล จากนั้นผมจึงไปหาความหมายของคำนี้ว่ามันหมายถึงอะไรและคำตอบที่ได้ก็อย่างที่ผมบอกกับคุณชายนั่นแหละ


   “เก่งนี่” คุณชายยื่นมือมาขยี้ศีรษะ “ใครจะไปคิดล่ะเนอะว่าผืนดิน กับสิ่งที่ลอยอยู่บนฟากฟ้าจะมาบรรจบกันได้ แต่ก็นั่นแหละความแตกต่างมันก็เป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์อวดอ้างเพื่อที่ผู้ที่มีมากจะได้ยกตัวเองให้สูงขึ้นโดยการกดคนอื่นให้ต่ำลง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นมาจากใจ ไม่สำคัญสักนิดว่าฉันเป็นใคร ข้าวเป็นใคร แค่เรารู้สึกเหมือนกันเท่านั้นก็พอ”


   “นั่นสิครับ” ผมพยักหน้าเห็นด้วย กลับเป็นผมที่คิดเองเออเองว่าตัวเองต้อยต่ำไม่คู่ควรกับคุณชาย แท้จริงแล้วคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นมันเป็นเป็นเพียงนามธรรมที่ไม่สามารถจับต้องได้ ต่อให้ใครจะมองว่าเราต่างกันเพียงใดมันก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าเรารักกันมากพอที่จะจับมือแล้วก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหมดที่เกิดขึ้นนับจากนี้ได้หรือเปล่า


   “อาบน้ำกันดีกว่า” อยู่ ๆ คุณชายก็เปลี่ยนเรื่อง แถมยังส่งสายตาแปลก ๆ มาให้อีกด้วย คงไม่ได้คิดว่าจะลากผมไปอาบด้วยหรอกนะ





จบตอน ^^ .



------------

ตอบคนอ่านจ้า  ^^

สำหรับคำถามที่ว่า คุณชายมันหาเจอได้ไง
ได้กล่าวเอาไว้ในเนื้อเรื่องสั้นๆว่า คุณชายได้ที่อยู่บ้านพี่ปั๊ม มาจากผู้จัดการปั๊มน้ำมันนะครับ
แต่ไมไ่ด้บอกรายละเอียดว่าไปคาดคั้น เอามาได้ยังไง จากนั้นพอได้ที่อยู่ ก็เลยเดินทางจาก กรุงเทพฯ บินตรงสู่เชียงใหม่
และต่อรถมาที่ ปาย และเข้าแม่ฮ่องสอนต่อทันที แต่ทว่า รถที่เหมาจากปาย ไปแม่ฮ่องสอนนัั้นเกิดดับ
จึงต้องหารถคันใหม่ที่แล่นผ่านไปมาระหว่างทาง จนกระทั่งได้รถของลุงบุญส่ง
ซึ่งลุงบุญส่งก็เป็นคนแม่ฮ่องสอนนั่นแหละ แม้ไม่ได้อยู่ใน อ.เมือง แต่พอรู้ที่อยู่ ก็เลยพางมไปถูกครับผม

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-08-2014 17:01:29
รักกันให้มากน่ะอุปสรรคใหญ่อีกเยอะรออยู่ข้างหน้า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 18-08-2014 18:03:23
จะว่าอะไรมั๊ยที่ตอนนี้เรารอและอยากอ่านตอนที่อิสาระแนปอมมันจะโดนจัดการซักทีมากกว่าตอนหวานๆซะอีก
คือตอนเค้าสวีทกันอ่านแล้วก็มีความสุขดีนะแต่มันไม่สุด ไม่ใช่แต่งไม่ดีนะครับแต่ว่ามันตะหงิดๆในใจเรื่องอีปอม
มันเลยเหมือนห่วงหน้าพะวงหลัง พอจะมีความสุข ก็ดันมามีเรื่องอีปอมโผล่ขึ้นมาในใจ เหมือนยังไม่ได้รับการสะสาง
หรือคนเลวยังไม่ได้รับกรรม เลยกลัวและกังวลว่ามันจะมาสร้างปัญหาอะไรต่ออีกอ่ะ แต่ที่แน่ๆฝาก :z6:  :beat: มันซักสิบที :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 18-08-2014 19:49:30
อิคุณชายเจ้าเล่ห์ 55555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 18-08-2014 20:09:26
คุณชายอยาเอาแต่ใจตัวเองนาาาาา
สงสารคนอื่นมั่งนะ เขาจะทุกข์ร้อนสักเพียงไหน
ป่านนี้ พี่ปั้ม น้องโด้ คงกระวนกระวาย แน่ ๆ
ที่ติดต่อข้าวไม่ได้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 18-08-2014 22:15:55
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 18-08-2014 23:40:39
หวานๆกันโหน่ยยยย
สภาพร่างคนอ่านกำลังขาดน้ำตาลขั้นโคม่า :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 19-08-2014 00:13:05
ข้าวนี่หลงคารมคุณชายเข้าเต็มๆเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 19-08-2014 10:04:31
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 19-08-2014 10:18:54
 :pig4: เขินจังค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Brow_Ney ที่ 21-08-2014 14:09:31
ปรับความเข้าใจกันแล้ว รักกันดีๆล่ะ อุปสรรคข้างหน้ายังรออยู่ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน30 P.17] - 18/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 23-08-2014 20:00:29
   “อาบน้ำกันดีกว่า” อยู่ ๆ คุณชายก็เปลี่ยนเรื่อง แถมยังส่งสายตาแปลก ๆ มาให้อีกด้วย คงไม่ได้คิดว่าจะลากผมไปอาบด้วยหรอกนะ



            “ดีเลยครับ คุณชายน่ะรีบไปอาบเลย ตากฝนมาตั้งนานเดี๋ยวไข้จะขึ้นหนักเอา” ผมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่ปกติ พยายามข่มความคิดเอาไว้



            “ไม่อ่ะ อาบพร้อมกันนะ” คุณชายทำสีหน้าออดอ้อน ...นั่นปะไร ผมว่าแล้วเชียว “นะข้าว นะนะ”



            “บ้าน่าคุณชาย” ผมปฏิเสธ “คุณชายไปอาบเลยไป”



            “ไม่เอา ข้าวต้องอาบด้วย” คุณชายยังแสดงอิทธิฤทธิ์ความเอาแต่ใจไม่ยอมจบและตบท้ายด้วยการออดอ้อน “นะ... น้า...”



            ผมส่ายหน้าปฏิเสธท่าเดียว ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากอาบพร้อมคุณชายหรอกนะ แต่ถ้าผมต้องเห็นเรือนร่างของคุณชายชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดน้ำมีหวังผมต้องสลบตายอยู่ในห้องน้ำแน่ ๆ กล้ามหน้าอกของคุณชายใช่ว่าจะเล็กที่ไหน ต้นแขนอีกล่ะ มันดูดีเกินกว่าที่ผมจะข่มใจให้ไม่รู้สึกอะไรเลยเวลาที่มองไม่ได้หรอก



            “ถ้างั้นไปรอหน้าห้องน้ำหน่อย... มันมืด”



            “อ๋อ...” ผมแสร้งพยักหน้าช้า ๆ อย่างเข้าใจอะไรบางอย่าง “กลัวผีก็บอก”



            “ไอ้ข้าว!!!”



            “กลัวผีสินะ ฮ่า ๆ” ผมแกล้งทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่



            “หึ... ใครกลัว” พูดจบก็เข้ามาประชิดร่างผมด้วยความฉับไวมิหนำซ้ำล็อกคอผมเอาไว้อีกต่างหาก แม้ตัวจะยังรุม ๆ ด้วยพิษไข้หากแต่นั่นไม่ได้ทำให้เรี่ยวแรงของคุณชายลดลงเลยสักนิด “ลองพูดอีกทีสิ ใครกลัวผี”



            ผมขนลุกซู่ทันที คุณชายเล่นโน้มหน้ามากระซิบที่ข้างใบหูแถมยังเป่าเข้ามาในรูหูของผมอีกต่างหาก



            “จะตอบได้หรือยัง” คุณชายคาดคั้น



            “มะ...ไม่ครับ ไม่มีใครกลัวผี”



            “ดีมาก...” คุณชายคลายวงแขนออกก่อนจะยกมือขึ้นมาขยี้ศีรษะผมเล่นแล้วพูดต่อ “เออข้าว... ถอดเสื้อให้หน่อยดิ”



            ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจทันที ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นกายเนื้ออันน่าสัมผัสของคุณชาย หากแต่ความรู้สึกในตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อน ความสัมพันธ์ที่เหมือนจะเลื่อนขั้นจากนายจ้างกับลูกจ้าง กลายมาเป็นความสัมพันธ์ที่คล้ายกับคนรักมันเลยทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหวได้ง่ายยิ่งขึ้น



            “อะไรนะครับ” ผมถามย้ำทั้ง ๆ ที่ได้ยินเต็มสองรูหู



            “ถอดเสื้อให้หน่อย” พูดจบก็ชูมือขึ้นสูงตั้งท่าพร้อมให้ผมถอดเสื้อให้เต็มที



            ผมลอบถอนหายใจออกมาแล้วเบือนหน้าหนี พยายามหลบสายตาคุณชายแล้วเหล่มองที่ชายเสื้อยืด นับหนึ่งถึงสามในใจแล้วมือก็เอื้อมไปจับที่ชายเสื้อก่อนจะยกขึ้นจนกระทั้งมันหลุดออกมาตามแรง



            ไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัว คุณชายก็ถือวิสาสะยื่นมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวที่ผมใส่ กระดุมเม็ดแรกถูกปลดอย่างง่ายดาย แต่ก่อนที่เม็ดที่สองจะโดนปลดผมก็ยกมือขึ้นมาจับเอาไว้พร้อมหันหน้าที่เบือนหนีกลับมามองคุณชายตรง ๆ



            สายตาที่อ่อนโยนกับรอยยิ้มหวานของคุณชาย สะกดให้ผมต้องยืนอยู่นิ่ง ๆ มือที่จับแขนของคุณชายเอาไว้อ่อนแรงลงอย่างน่าประหลาด คุณชายดูซูบผอมลงเล็กน้อยหากแต่มัดกล้ามบนแผ่นอกยังคงงดงามเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ผิวขาวอมชมพูซึ่งถูกฉาบอยู่บนเรือนร่างอันแข็งแกร่งมันช่างน่าสัมผัสเสียจริง



            ฝ่ามือของคุณชายค่อย ๆ เลื่อนลงตามเม็ดกระดุมจนกระทั่งถึงเม็ดสุดท้าย ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าคุณชายถอดเสื้อให้ผมเสร็จตั้งแต่เมื่อไร พอรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงของคุณชายดังแว่วเข้ามาในรูหู



            “ข้าว... เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ”



            เสียงของคุณชายชัดทุกประโยค แต่ทำไมผมถึงมองไม่เห็นคุณชายเลยสักนิด... พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นอะไรไม่รู้เป็นสีขาวอมชมพูพอลองกดใบหน้าพร้อมแนบใบหูลงไปก็ได้ยินเสียงเต้นของอะไรบางอย่างสะท้อนกลับมา



            “จะซบอีกนานไหม ถ้าไม่ไหวก็ไปนอนกันเลยไหม”



            ผมรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน 'ใครซบคุณชาย..' ทั้งที่ในห้องนอนควรมีแค่เราสองคนไม่ใช่หรือ หัวใจของผมร้อนลุ่มรู้สึกไม่พอใจกับคำ ๆ นี้ ความไม่พอใจส่งผลให้ผมต้องอ้าปากกัดกับอะไรที่ให้ความรู้นุ่ม ๆ ตรงหน้าเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ทันที



            “โอ๊ย!!! ไอ้ข้าว” เสียงของคุณชายดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือที่ดันศีรษะผมออกสุดแรง “กัดทำไมวะ”



            ผมมองซ้าย มองขวา เมื่อพบว่าไม่มีใครจึงหันกลับไปสบตาคุณชายก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ใครซบคุณชายครับ”



            “ใครล่ะ!  ก็ข้าวนั่นแหละ กำลังถอดเสื้อให้อยู่ดี ๆ แล้วจู่ ๆ ก็มาซบที่อกฉันซะงั้น ถามอะไรก็ไม่ตอบ ไอ้เราก็นึกเป็นห่วงว่าไม่สบายหรือเปล่า แต่สุดท้ายเป็นไงล่ะ โดนกัดซะงั้น!!!”



            ผมมองที่หน้าอกของคุณชาย รอยเขี้ยวของผมชัดเจนมาก มันเป็นวงอยู่รอบหัวนมเม็ดเล็ก ๆ ข้างซ้ายของคุณชายพอดิบพอดี เห็นสายตาดุ ๆ ที่มองมาก็ได้แต่ก้มหน้าแล้วยิ้มแหย ๆ อย่างสำนึกผิด



            “ผมขอโทษครับ” บ้าจริง... ผมอยากจะเอาปืนมายิงกบาลตัวเองให้ตายเสียรู้แล้วรู้รอด เผลอทำอะไรที่น่าอับอายลงไปแบบไม่รู้ตัว จำได้ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่คุณชายถอดเสื้อให้ สายตาที่แสนดื้อด้านมันเหลือบไปมองเรือนร่างของคุณชายทั้งที่พยายามข่มใจแล้ว แล้วหลังจากนั้นมันก็รู้สึกอยากสัมผัส อยากอยู่ใกล้ ๆ แล้วสติก็ดับวูบไปปล่อยให้กิเลสตัณหาเข้ามาครอบงำ



            “หึ” คุณชายเค้นเสียงพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา “ชอบเหรอ”



            “เปล่าครับ!” ผมปฏิเสธเสียงแข็ง



            “ชอบเหรอ” คุณชายถามอีกครั้ง น้ำเสียงในคราวนี้อ่อนโยนลงเล็กน้อย



            “ปะ... เปล่าครับ” น้ำเสียงของผมอ่อนลงตามคุณชาย หัวใจของผมเกิดอาการสั่นรัวอีกครั้ง



            “ชอบเหรอครับ” คุณชายเขยิบเข้ามาใกล้ ๆ แล้วยกมือขึ้นมาจับใบหน้าของผมให้เงยมองตา



            เมื่อได้สบตากับคุณชาย ริมฝีปากที่ตั้งใจจะตอบออกไปเหมือนอย่างเคยกลับขยับไม่ได้ คุณชายรู้จุดอ่อนข้อนี้ของผม ...ผมไม่สามารถพูดโกหกคุณชายได้ในขณะที่กำลังจ้องมองตากับคุณชายอยู่ และในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน



            ผมพยักหน้าเป็นคำตอบ คุณชายฉีกยิ้มออกมา มันเป็นรอยยิ้มของผู้มีชัย



            “ฉันไม่ยอมให้ใครกัดฟรี ๆ หรอกนะ” น้ำเสียงของคุณชายเจ้าเล่ห์



            “ครับ” ผมก้มหน้ายอมรับความผิดต่อไป “คุณชายจะให้ผมชดใช้ยังไงผมยอมทุกอย่างครับ”



            “ดี... แต่ก่อนที่จะชดใช้เราไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่า”


            “ครับ” ผมพยักหน้าอีกครั้ง

 






            บ้านของลุงบุญส่งมีห้องน้ำไว้เพื่อขับถ่ายเท่านั้น ถ้าต้องการอาบน้ำจำเป็นต้องเดินอ้อมไปทางด้านหลังของตัวบ้าน ซึ่งผมกับคุณชายเพิ่งทราบหลังจากที่ออกมาจากห้องพักเป็นจังหวะเดียวกับที่ลุงบุญส่งนำผ้าขาวม้ามาให้พอดีและลุงบุญส่งได้แยกตัวกลับห้องนอนเพื่อไปพักผ่อนทันที จากนั้นเราสองคนจึงถอดเสื้อแล้วผูกผ้าขาวม้าไว้ที่เอวเหมือนเวลาที่ผูกผ้าขนหนูทันที



            สถานที่อาบน้ำอยู่กลางแจ้ง มีรั้วไม้เล็ก ๆ ล้อมรอบเป็นทรงสี่เหลี่ยม ภายในรั้วกั้นมีโอ่งน้ำสองใบสูงประมาณเอว



            “อาบตรงนี้เลยเหรอ” คุณชายเอ่ยถาม เกิดมาเคยอาบน้ำแต่ในห้องน้ำหรู ๆ คงประหลาดใจกับภาพที่เห็น



            “ใช่ครับ” ผมตอบพร้อมเดินไปหยุดอยู่หน้าโอ่งทันที คุณชายเดินตามมาติด ๆ



            “แล้วมันต้องอาบยังไงอ่ะ” คุณชายถามอีกครั้ง เห็นสบู่และแชมพูวางระแกะระกะอยู่บนถาดรองระหว่างโอ่งสองใบคงทำอะไรไม่ถูก



            ผมไม่ได้ตอบคำถามในทันที หากแต่เดินไปหยิบขันในอ่างพร้อมตักน้ำขึ้นมาก่อนจะหันไปส่งยิ้มอันแสนเจ้าเล่ห์ให้คุณชายแล้วสาดน้ำในขันออกไปทางร่างนั้นด้วยความสะใจ



            “แบบนี้ไงครับ”



            “ไอ้ข้าว!!!” คุณชายขึ้นเสียงพร้อมเดินไปหยิบขันในอ่างแล้วตักน้ำขึ้นมาสาดผมบ้าง



            เราสองคนสาดน้ำใส่กันไปมาอย่างสนุกสนาน พอน้ำบกลงจึงยื่นมือไปเปิดก็อกแล้วหันมาสาดน้ำใส่กันต่ออย่างสนุกสนานจนกระทั่งเป็นฝ่ายผมที่ยอมแพ้แล้วหยุดสาดก่อน

            คุณชายที่ผมเห็นหยุดสาดสักพักจึงหยุดตามแล้วเอื้อมมือไปหยิบสบู่ก้อนที่อยู่ในถาดซึ่งวางอยู่ระหว่างโอ่งสองใบมา ผมนึกว่าคุณชายจะถูสบู่ให้ตัวเองเสียอีกแต่ที่ไหนได้



            “เขยิบมาสิ” ไม่รอให้ผมตอบหรือทำตามคำสั่ง มืออีกข้างของคุณชายก็เอื้อมมาดึงร่างของผมเข้าไปหาทันที จากนั้นสบู่ในมือของคุณชายที่ถูกหยำน้ำจนละลายเป็นฟองก็ได้ละเลงไปทั่วเรือนร่างของผม



            ผมรู้สึกจั๊กจี๋แปลก ๆ ยิ่งตอนที่ฝ่ามืออันนุ่มนวลของคุณชายมาละเลงที่หน้าอกของผมมันทำให้ผมจนลุกซู่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ หากแต่ร่างกายไม่ได้ปฏิเสธกลับชอบความรู้สึกแบบนั้นเสียด้วยซ้ำ



            เมื่อร่างกายส่วนบนด้านหน้าถูกคุณชายผู้หล่อเหลาจัดการจนสะอาดหมดจด เขาก็จัดการต่อด้วยการเขยิบเข้ามาใกล้ ๆ จนร่างติดกัน จากนั้นมือทั้งสองข้างก็ถูกสอดผ่านใต้วงแขนของผมแล้วมาละเลงสบู่เล่นที่แผ่นหลังในท่วงท่าที่คล้้ายกับว่ากำลังสวมกอด



            ผมยืนตัวเกร็ง ปล่อยให้คุณชายเล่นเรือนร่างได้อย่างสบายใจจนกระทั่งฝ่ามือของคุณชายค่อย ๆ ไหลลู่ต่ำลง... ต่ำลงเรื่อยตามกระดูกสันหลังจนอีกนิดเดียวเท่านั้นมันก็จะเลื่อนลงไปถึงบั้นท้าย



            “เอ้อ... คุณชายครับ” ผมเอ่ยขึ้นพร้อมดันร่างของคุณชายออกอย่างเบามือ คุณชายทำสีหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ผมจึงรีบแย่งสบู่ในมือของคุณชายมา “เดี๋ยวผมถูกให้คุณชายบ้างดีกว่า”



            ไม่รอให้คุณชายแสดงความคิดเห็นใด ๆ รีบตักน้ำขึ้นมาราดสบู่เล็กน้อยเพราะอยากให้มีฟองมากกว่านี้จากนั้นก็ละเลงสบู่ไปบนเรือนร่างของคุณชายบ้าง



            กายเนื้อของคุณชายช่างขาวละมุนหากแต่แข็งแกร่งเสียจริง ผมแกล้งกดมือลงตรงหน้าอกที่นูนออกมาเป็นกล้ามมัดเล็ก ๆ อย่างไม่รู้ตัวจน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงรู้สึกอ่อนไหวและชอบสัมผัสกับส่วนนี้ของคุณชายที่สุด



            “ถูที่อื่นบ้างก็ได้” จนกระทั่งคำพูดของคุณชายที่เปล่งออกมา ผมถึงได้รู้ว่ามือของผมมันหมุนรอบแผ่นอกของคุณชายซ้ำแล้วซ้ำเล่า



            ผมเงยหน้ามองคุณชายก่อนจะยิ้มแหย ๆ ให้ ร่างตรงหน้ายิ้มกลับมาด้วยความชอบใจ …โถ่เอ๊ย! ไอ้ข้าว อ่อนไหวทุกทีสิน่า



            “เอาไปถูเองเลยครับ” พูดจบผมก็ยัดสบู่ในมือคืนคุณชายจากนั้นจึงรีบตักน้ำขึ้นมาชำระร่างกายจนฟองสบู่ที่คุณชายบรรจงถูให้หายไปจากเรือนร่างจนหมด



            คุณชายถอนหายใจออกมาแต่ไม่ได้โต้เถียงอะไรและตั้งใจถูสบู่ให้ตัวเองทุกซอกทุกมุมก่อนจะตักน้ำขึ้นมาราดรดร่างกายของตัวเองบ้าง จนกระทั่งร่างกายสะอาดหมดจดไม่ต่างกับผม



            “ป่ะ ขึ้นห้องกันเถอะ” คุณชายเอ่ยขึ้นพลางยื่นมือมาจับแขนผมหากแต่ผมเกร็งตัวเอาไว้ไม่ยอมก้าวขาตาม



            “เดี๋ยวครับ” คุณชายชะงักกึก หันมามองผมด้วยความแปลกใจ “คุณชายตากฝนมา ยังไม่ได้สระผมเลยนะครับ”



            “ต้องสระด้วยเหรอ” คุณชายทำสีหน้าไร้เดียงสาสุด ๆ คงจะคิดว่าตัวเองน่ารักสิท่า ซึ่งมันก็ไม่ผิดสักนิดถ้าจะคิดแบบนั้น แต่ไอ้คนไม่น่ารักอย่างผมเห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้



            “ต้องสระครับ” ผมพยักหน้า



            “ไม่สระได้ไหม ขี้เกียจ” ตอบปัด ๆ ไปอย่างไม่สนใจสักนิด



            “ไม่ได้ครับ” ผมปฏิเสธท่าเดียว จะยอมให้คุณชายขึ้นมานอนโดยที่ไม่สระผมไม่ได้หรอก ตากฝนมาไม่รู้นานกี่นาทีแค่นี้หวัดก็เล่นงานแล้ว



            “ก็คนมันขี้เกียจนี่” คนชายทำเสียงเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่วายเอื้อมมือไปหยิบขวดแชมพูที่วางอยู่ในถาดระหว่างโองสองใบมา ผมยิ้มแป้นแล้นทันทีเป็นการชื่นชม หากแต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นรอยยิ้มของผมก็หุบลงเมื่อได้ยินประโยคต่อไป “สระให้หน่อยสิ”



            “เฮ้อ...” ผมลอบถอนหายใจออกมาพร้อมยื่นมือไปคว้าขวดแชมพูในมือของคุณชาย... ให้มันได้อย่างนี้สิน่า เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง ชอบบังคับจิตใจคนอื่น พอไม่ได้ดั่งใจก็โมโหร้าย



            ...แต่เอ๊ะ นี่คุณชายไมได้บังคับนะ แต่ขอร้องต่างหาก ผมจะปฏิเสธก็ได้นี่นา แต่ไม่เอาดีกว่าทำ ๆ ไปน่ะดีแล้ว เกิดปฏิเสธไปแล้วไม่ได้สระผมให้ ผมจะรู้สึกเสียดายเสียเอง



            ผมทำตามความประสงค์ของคุณชายจนเสร็จสิ้น จากนั้นเราจึงเดินกลับไปที่ห้องนอนพร้อมกัน โชคดีที่คุณชายพกไดร์เป่าผมมาในกระเป๋าเดินทางด้วย จึงช่วยให้เส้นผมของคุณชายแห้งภายในเวลาไม่กี่นาที



            เราสองคนคลานรอดเข้าไปในมุ่งตาม ๆ กันจากนั้นต่างคนต่างทิ้งร่างที่แสนหนักหน่วงของตัวเองไปกับเสื่อแข็ง ๆ โชคดีที่ยังมีหมอนนุ่ม ๆ ให้ได้นอนหนุนไปตลอดคืน



            ก่อนที่ผมจะหลับตา สายตาอันแสนดื้อด้านของผมดันเหลือบไปมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความใคร่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร จะแอบมองผมเหมือนที่ผมกำลังแอบมองบ้างไหม



            คำตอบที่ได้น่าผิดหวังเล็กน้อย เพราะเปลือกตาของคุณชายปิดสนิท ไม่หันมามองผมเลยสักนิด ...โถ่ คนใจร้าย ทำให้ผมหวั่นไหวหัวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาตลอดทั้งคืนแล้วมาหลับเอาง่าย ๆ แบบนี้มันน่าตีซะให้รู้สึกนึกนัก



            ความผิดหวังส่งผลให้ผมพ่นลมหายใจออกมา จังหวะที่ผมกำลังพลิกตัวไปอีกทางเพราะไม่อยากมองใบหน้าของคุณชายที่กำลังหลับตาพริ้ม คนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็ดันยืดแขนข้างหนึ่งมาคว้าร่างของผมเอาไว้ มิหนำซ้ำยังออกแรงดึงจนผมต้องยอมเขยิบเรือนร่างไปตามแรงนั้น



            “อย่าใจร้ายนักสิ” เสียงของคุณชายเบาหวิว “นอนด้วยกันทั้งทีจะทำเมินพลิกตัวหนีแบบนี้เหรอ”



            ได้ยินดังนั้นผมก็งงสิ... ไอ้คนที่ทำตัวเมินมันคุณชายไม่ใช่เหรอ เข้ามุ้งมาก็หลับตาพริ้มไม่สนใจผมสักนิด แล้วยังมีหน้ามาโยนความผิดให้ผมอีก



            “ผมเปล่าใจร้ายนะครับ” แม้จะอยากต่อล้อต่อเถียงเพียงใด แต่ท้ายที่สุดผมก็ต้องปฏิเสธออกไปด้วยถ้อยคำที่สุภาพอยู่ดี



            “อืม” คุณชายรับคำสั้น ๆ เสียงของคุณชายดูอ่อนล้ากว่าที่เคย “นอนเถอะ”



            พูดจบก็กระชับแขนให้แน่นขึ้น... แน่นขึ้น... แน่นเสียจนผมรู้สึกอึดอัด แต่ผมก็พยายามอยู่นิ่ง ๆ ไม่อยากรบกวนคุณชายให้มากมายนัก เพราะแม้ความรู้สึกภายนอกจะอึดอึดแต่มันก็ขัดกับความรู้สึกที่ก่อเกิดขึ้นภายในจิตใจที่กำลังเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขจนผมไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นพูดได้



            ผมหลับตาลงพร้อมทั้งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่หลายนาทีจนผมคิดว่าคนที่กอดผมเอาไว้อย่างแนบแน่นจะหลับสนิทเสียแล้ว แต่อยู่ ๆ ร่างนั้นก็กระซิบขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่บางเบาว่า



            “หลับยัง”



            “ยังครับ” ผมตอบในทันที “ผมนึกว่าคุณชายหลับไปแล้วซะอีก”



            “ก็เกือบแล้วล่ะ” คุณชายตอบกลับมา “แต่นึกขึ้นได้ว่าข้าวยังไม่ได้ชดใช้เลย”



            “ชดใช้?” ผมทวนถามด้วยความฉงน ไม่รู้ว่าไปติดค้างอะไรคุณชายตั้งแต่เมื่อไร ถ้าเรื่องเงินล่ะก็ไม่ใช่แน่ คนรวยล้นฟ้าอย่างคุณชายไม่เคยคิดจะทวงตังค์ผมอยู่แล้ว และผมเองก็ไม่เคยไปขอยืมตังค์คุณชายมาใช้แน่ ๆ มีแต่คุณชายเต็มใจมอบให้ทั้งนั้น ...จนกระทั่งประโยคถัดไปที่คุณชายเอ่ยออกมา ผมถึงนึกได้ว่าผมไปติดค้างอะไรคุณชายเอาไว้



            “ใช่! ก็ที่ข้าวดูดอกเล่นไง”



            “ไม่ได้ดูด แค่เผลอกัดนะครับ” ผมรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้า พอคิดถึงเหตุการณ์นั้นมันก็ทำให้ผมนึกอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี



            “ ถ้าอย่างนั้น... คืนนี้... คืนนี้... ข้าว...” คุณชายจงใจพูดช้า ๆ เว้นจังหวะให้ผมรอลุ้นจนเผลอกลืนน้ำลายเสียงดังเอื้อกไปหนึ่งที คุณชายจึงยอมพูดต่อ “ข้าวต้องเป็นของผมนะครับ นะครับ...”



            ให้ตายเถอะ... คุณชายเล่นมาไม้นี้แล้วผมจะปฏิเสธได้อย่างไร ผมยอมรับว่าผมกลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ไม่ใช่กลัวว่าร่างกายจะต้องเจ็บปวดแต่อย่างใด หากแต่กลัวใจของคุณชายจะยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นไม่ไหวแล้วตัดสินใจเลือกที่จะเดินหนีผมไปอีกครั้งต่างหาก สำหรับคุณชายน่ะ... เจ็บหายแค่ไหนผมก็ทนได้ แต่ถ้าต้องเจ็บที่หัวใจน่ะผมคงทนไม่ไหวอีกแล้วจริง ๆ



            “นะครับข้าว” คุณชายลูบศีรษะของผมด้วยความเอ็นดู พร้อมกับค่อย ๆ ละเลงริมฝีปากมาที่หัวไหล่ก่อนจะเลื่อนไปที่ลำคอแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “นะครับ”

(http://i159.photobucket.com/albums/t128/kukzabb/Screenshot2014-08-23at92409PM_zps6d7b5ffa.png)


จบตอน



Talk

ตอบคุณ AMINOKOONG :: ^^ ฮ่าๆ ไม่ว่าครับ ดีใจที่ยังมีคนสนใจเรื่องปอมอยู่ อย่างที่บอกเลย แต่งเองยังพะวงเองเลยครับว่าปอมจะโผล่มาอีกเมื่อไหร่ หึหึ แต่รอได้เลยครับ ช่วงนี้ให้พระ-นาย ได้หวาๆนกันสักนิดก่อนครับ T^T ไม่อยากให้ดราม่าเกินไป แหะๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน31 P.17] - 23/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-08-2014 20:44:58
อย่ารุนแรงนักละประเดี๋นวคุณตาคุณยายจะนอนไม่หลับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน31 P.17] - 23/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 23-08-2014 22:21:50
ระวังบ้านพังนะ คนเฒ่าคนแก่ก็อยู่เกรงใจบ้างอะไรบ้าง

ใครก็ได้ถอดความมาเป็นบทอัศจรรย์แบบเต็มที อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน31 P.17] - 23/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 24-08-2014 00:09:27
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:   ข้าวนะข้าว  อิตาคุณชายยังไม่จัดการชีวิตตัวเองให้ดีกว่านี้เลย ยังไปยอมให้มันกินตับอีก


อีกหน่อยพออิคุณชายมันเจอปัญหาอะไรอีก ก็คงวิ่งหนีอีกตามเคย อิตาคุณชายตุ๊ดเอ๊ย  :z6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน31 P.17] - 23/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 24-08-2014 01:13:38
คุณชายไม่ค่อยชัดเจนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน31 P.17] - 23/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 24-08-2014 12:20:23
และแล้ว ก็มีกระท่อม ฝนตกไม่หยุด
ร่างกายเปียกฝน หลังจากนั้น จุด จุด จุด
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน31 P.17] - 23/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 24-08-2014 16:28:13
และแล้ว เขาก็รวมเป็น 1 ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน31 P.17] - 23/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 29-08-2014 20:47:01
   ตอนที่32


ว่ากันว่า... เวลาที่คนเรามีความสุขถึงขีดสุดแล้วเผลอหลับไป เราจะไม่อยากตื่นขึ้นมาอีกเลย


   เห็นทีคำกล่าวนี้จะเป็นจริง เพราะกว่าที่ผมจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตะวันก็โด่ส่องแสงผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาแยงตา พอพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ก็เห็นเข็มสั้นมันชี้อยู่ที่เลข 9 ส่วนเข็มยาวชี้อยู่ที่เลข 6 แล้ว


   “ตื่นแล้วเหรอข้าว” ผมคงพลิกตัวแรงไปคุณชายเลยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาบ้าง ...เล่นนอนกอดผมทั้งคืนคงจะเหนื่อยน่าดูสิท่า


   “ตื่นแล้วครับ” ผมตอบพลางเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของคุณชาย ซึ่งอุณหภูมิที่ส่งผ่านมาเป็นสัญญาณดีว่าคุณชายใกล้จะหายเป็นปกติแล้ว


   “ตื่นก็ไปอาบน้ำได้แล้วไป” คุณชายสั่ง “เพราะเดี๋ยวต้องรีบเดินทางแล้ว ไม่อยากเสียหนึ่งวันไปกับการนอนยาว ๆ ของไอ้คนขี้เซาหรอกนะ”


   “ใครขี้เซา” จำได้ว่าผมตื่นก่อนคุณชาย พอพลิกตัวเบา ๆ เท่านั้นแหละ คุณชายเลยตื่นตามนี่นา ถ้าผมขี้เซาคุณชายก็ต้องโคตรขี้เซาเลยล่ะ


   “ก็ข้าวไง” ได้ยินดังนั้นผมก็ขมวดคิ้วมุ่น พอลองพิจารณาดูคุณชายชัด ๆ ก็พบว่าใบหน้าที่สดใส เส้นผมที่เป็นระเบียบแม้จะยังนอนหนุนหมอน กับเสื้อยืดหล่อ ๆ พร้อมกางเกงยีนส์ขาสามส่วนนั่นมันหมายความว่าคุณชายได้ตื่นมาก่อนหน้านี่และอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จสรรพแล้ว


   “ไม่จริงใช่ไหมครับ ตั้งแต่ไม่ไหร่กันล่ะเนี่ย” ผมบ่นพึมพำอย่างไม่เชื่อสายตาพลางยื่นหน้าไปใกล้ ๆ กับต้นคอของคุณชายแล้วสูดลมหายใจสุดแรง กลิ่นสบู่เป็นสิ่งยืนยันได้ชัดเจนเลยว่าสิ่งที่ผมเพิ่งเอ่ยถามออกไปเป็นเรื่องจริง   


   “แต่เช้าเลยนะ” พูดจบก็ดันศีรษะผมออกแถมยังแสร้งทำท่ารังเกียจกับการกระทำของผม ทีเมื่อคืนล่ะ กอดผมไม่ยอมปล่อยเลยนะ “เร็ว! ไปอาบน้ำได้แล้วไป”


   “ไปอาบแน่ครับ... แต่เดี๋ยวก่อน ที่บอกว่าแต่เช้าเลยนะคุณชายหมายความว่าไง” ผมกระตุกคิ้วด้วยความสงสัย คงไม่ใช่ว่ากำลังคิดอะไรทะลึ่ง ๆ อยู่หรอกนะ


   “หมายความว่าไงล่ะ” คุณชายนอนยิ้มแล้วเอ่ยออกมาอย่างสบายใจ “อยู่ ๆ เล่นยื่นหน้ามาแล้วสูดลมหายใจแบบนี้มันคิดเป็นอย่างอื่นได้ด้วยเหรอ... ไอ้ทะลึ่ง!!!”


   ประโยคต้นผมไม่ถือสาเท่าไหร่ แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายที่คุณชายด่าผมว่า 'ไอ้ทะลึ่ง' เนี่ยผมไม่ยอมรับหรอกนะ มันไม่ใช่นิสัยผมเลยสักนิด ผมก็แค่พิสูจน์กลิ่นดูกลัวว่าคุณชายจะแค่ล้างหน้า แปรงฟังแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่ผ่านการอาบน้ำอย่างที่ชอบทำอยู่เป็นประจำต่างหาก!


   “หยุด! อย่าเถียง” พอผมจะอ้าปากแก้ต่างออกไปคุณชายก็เอ่ยขัดขึ้น “ไปอาบ!”


   แกล้งทำเสียงดุแบบนี้ มีหรือที่ไอ้ข้าวผู้เปรียบเสมือนลูกไก่ในกำมือจะกล้าเถียง  ได้แต่พยักหน้ารับแล้วปั้นหน้าให้อยู่ในท่าทีที่ยิ้มแย้มแจ่มใสก่อนจะเดินออกไปอาบน้ำตามคำสั่ง


   แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวข้ามผ่านธรณีประตู เสียงที่ดังขึ้นส่งท้ายก็ทำให้ผมต้องหันกลับไปทำหน้าดุ ๆ ใส่คุณชายทันที


   “ดีมากไอ้ทะลึ่ง!” คุณชายสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมองเห็นผมกลับมา แต่มันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นเพราะเมื่อคุณชายแสร้งถลึงตากลับผมก็กลับมาตัวหดเท่าไข่มดแดงเหมือนเดิม


   ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นานมากนัก เพราะการอาบน้ำกลางที่โล่งแจ้งในเวลาที่สายจนตะวันโด่แบบนี้มันไม่ใช่วิสัยของผมมากนัก คนที่แวะเวียนผ่านไปมายังหน้าบ้านของลุงบุญส่งย่อมสามารถมองลอดผ่านรั้วไม้ที่กั้นเป็นห้องน้ำเล็ก ๆ มาเห็นเรือนร่างของผมได้อย่างง่ายดายแม้ไม่ชัดเจนก็ตาม


   ผมมารู้ทีหลังว่าคุณชายลงไปอาบน้ำตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพราะแอบถามลุงบุญส่งก่อนจะขึ้นห้อง ...ร้ายนักนะไอ้เด็กคนนี้ ตื่นแต่เช้าแล้วไม่ยอมปลุก ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเรื่องที่น่าขำอีกเรื่องคือ....


   “เอ้อ... เมื่อคืนแผ่นดินไหว โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร” ลุงบุญส่งพูดก่อนที่ผมจะก้าวขาขึ้นห้อง


   “ตอนไหนครับ ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย” ผมทำสีหน้าสงสัย เกิดมาไม่เคยประสบกับแผ่นดินไหวอยากรู้เหมือนกันว่ามันจะสะเทือนแรงแค่ไหน


   “ก็ตอนดึก ๆ นั่นแหละ แผ่นดินไหวแรงมาก บ้านสั่นด้วยนะเออ มีเสียงโครม ๆ ด้วยนี่ไม่รู้สึกตัวกันเลยเหรอลูก เมียลุงก็บอกว่าไหว แต่แปลกนะถามบ้านอื่นก็ไม่เห็นมีใครรู้สึก ถามไอ้หนุ่มหน้าขาวมันก็บอกไม่รู้สึก รึว่าลุงกับเมียลุงอาจจะฝันไปก็ได้ แต่แปลกนะฝันเรื่องเดียวกันเฉยเลย”


   ผมพยายามนึกตามที่ลุงบุญส่งพูด พอจะเข้าใจแล้วว่าที่บ้านเสียง และมีเสียงไม้ดังโครม ๆ มันเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ คิดดังนั้นผมจึงตอบออกไปว่า


   “ไม่มีแผ่นดินไหวจริง ๆ ครับ ผมก็ไม่รู้สึกตัวเลย สงสัยลุงจะฝันนะครับ ยังไงเดี๋ยวผมไปแต่งตัวก่อนนะครับ ชอบคุณนะครับลุง” จะให้ผมตอบถึงสาเหตุตรง ๆ ได้อย่างไรเล่า





   “คุณชาย... ทำไมไม่ยอมปลุกผม” ผมแสร้งทำน้ำเสียงโมโหทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป


   “ก็เหนื่อยไม่ใช่เหรอ อยากให้พักเยอะ ๆ” คำตอบช่างแสนดีเหลือเกิน แต่มันออกจะขัดแย้งกับใบหน้าที่ยักคิ้วยียวนกวนบาทา


   “เปล่าเลยครับ” ผมปฏิเสธออกไปทั้งที่เมื่อคืนน่ะผมรู้สึกอย่างที่คุณชายว่าจริง ๆ แต่ความเหนื่อยของผมมันขี้ประติ๋วเดียวเองถ้าต้องเทียบกับความเหน็ดเหนื่อยของคุณชายที่ทั้งเดินทางหลายชั่วโมงแถมยังยืนตากฝนโบกรถอีก “แล้วคุณชายไม่เหนื่อยเหรอครับ”


   “ใช้สมองส่วนไหนคิดคำถามนี้เนี่ยข้าว เมื่อวานฉันต้องเจอกับอะไรบ้างก็น่าจะรู้ ไม่เหนื่อยมั้ง” ตอบอย่างจงใจยั่วโมโหชัด ๆ แต่ก็เพราะรู้ว่าเหนื่อยนั่นแหละถึงถามแต่ที่แปลกใจคือคุณชายเอาเรี่ยวแรงที่ไหนลุกลงไปอาบน้ำตั้งแต่ 6 โมงเช้าต่างหาก


   “แล้วทำไมไม่นอนพักเยอะ ๆ ล่ะครับ” ผมถามพลางเดินไปหยิบเสื้อยืดของคุณชายที่เตรียมออกมาไว้ให้มาสวม มันหลวมเล็กน้อยเพราะคุณชายตัวโตกว่าผมแต่ใส่เสื้อหลวม ๆ ก็สบายตัวไปอีกแบบ


   “ถ้านอนก็ไม่ได้ยินไอ้ทะลึ่งละเมอสิ” สิ้นเสียงของคุณชายผมก็หน้าแดงก่ำทันที


   ใช่ครับ... เมื่อคืนผมฝันถึงคุณชาย มันเป็นฝันที่เต็มไปด้วยฉากอีโรติกจนผมไม่อยากจะคิดถึงมันอีก จำได้ว่าในฝันผมพูดและทำอะไรที่อับอายออกไปหลายอย่างแต่ไม่คิดว่าจะละเมอออกมา


   “ถึงได้เรียกว่าไอ้ทะลึ่งไงล่ะ ตื่นมาก็ยังไม่ยอมหยุด หึ! ไปเอานิสัยแบบนี้มาจากใครเนี่ย” ได้ทีก็แซวผมใหญ่เลย


   “ก็คนแถวนี้ล่ะครับ” ผมตอบทีเล่นทีจริง หากแต่คนที่ร้อนตัวกลับลุกขึ้นแล้วก้าวขาตรงมาหาผมด้วยความฉับไวก่อนจะพันธนาการร่างของผมเอาไว้แน่นด้วยอ้อมแขนที่แข็งแกร่ง


   ผมเงยหน้าสบตามองคุณชายชัด ๆ เพิ่งสังเกตว่านัยน์ตาที่กลมโตฉายแววถึงความน่ารักเจ้าเล่ห์นั้นมันเยิ้มเสียจนจะหลับมิหลับแหล่ พอนึกถึงคำพูดของคุณชายเมื่อครู่นี้ที่บอกว่า 'ถ้านอนก็ไม่ได้ยินผมละเมอสิ' ถึงได้เข้าใจว่า...
   “คุณชายยังไม่ได้นอน”


   “อืม” คุณชายพยักหน้าพลางยกมือขึ้นมาปิดที่ปากของผม “เลิกเรียกฉันว่าคุณชายจะได้ไหม”


   ผมส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความฉับไว ก็คุณชายเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนปลูกฝังความคิดนี้ให้ผมตั้งแต่ตอนที่ผมไปทำหน้าที่พี่เลี้ยงวันแรก บอกให้ผมต้องเรียกว่า 'คุณชาย' และต้องลงท้ายด้วยคำว่า 'ครับ' ทุกประโยค ซึ่งผมเองก็ชินกับการเรียกและพูดแบบนี้แล้วด้วย


   “ฐานะของเรามันไม่เหมือนเดิมแล้วนะ ก็คบกันแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องเรียกว่าคุณชายแล้วก็ได้”


   ดวงตาของผมเบิกโพลงทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่คุณชายพร่ำเพ้อออกมา พอพยายามจะอ้าปากเถียงมือที่แข็งแกร่งก็ดันออกแรงกดริมฝีปากผมแน่น ผมจึงทำได้แค่เพียงส่งเสียง อู้อี้ๆ เป็นการประท้วงเท่านั้น พร้อมส่งคำถามผ่านทางสายตาว่าเราตกลงคบกันตั้งแต่เมื่อไร เพราะไม่เห็นจะจำได้สักนิดว่าตอนไหนที่เราสองคนตกลงคบกันแบบแฟน


   “เรียกว่าเป๊กเฉย ๆ เข้าใจป่ะ” คุณชายยังคงบังคับจิตใจของผมต่อ ส่วนผมก็เอาแต่ส่ายหน้าปฏิเสธท่าเดียวเพราะยังพูดไม่ได้


   “เรียกว่าเป๊ก เข้าใจไหม” ครั้งที่สอง น้ำเสียงยังคงปกติ


   “เข้าใจไหม” ครั้งที่สาม น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนไปให้ความรู้สึกถึงความกดดันชัดเจน


   “ไม่เข้าใจใช่ไหม” ครัั้งที่สี่ ประโยคที่เอ่ยออกมาเปลี่ยนไปเล็กน้อย หากแต่คำ ๆ นี้กับให้ความรู้สึกน่ากลัวประหลาด ๆ จนผมต้องส่ายหน้าแล้วพยายามส่งเสียงอู้อี้ออกมาว่า


   “เอ้าไอแอ๊วอั๊บ” ...เข้าใจแล้วครับ... เท่านั้นแหละคุณชายถึงยอมปล่อยผมให้หลุดจากพันธนาการที่แน่นหนา และทันทีที่หลุดออกมาผมก็เปิดฉากต่อว่าทันที “คุณชายขี้กะ...” โกง...


   “เป๊ก! เรียกสิ” คุณชายเอ่ยขัด สีหน้าดูขัดใจเล็กน้อย


   ผมทำสีหน้ายุ่งยากใจเล็กน้อย พอจะเข้าใจในความต้องการของคุณชายอยู่หรอก แต่ถึงอย่างไรเรียกแบบปกติมันก็ติดปากแล้ว อีกทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ของคุณชายมันก็สูงส่งเหลือเกิน จะให้ผมเรียกแค่ชื่อเล่นสั้น ๆ คงไม่สนิทใจ


   “แค่นี้ทำเพื่อฉันไม่ได้เหรอ” น้ำเสียงที่งอนง้อแบบนั้นเริ่มทำผมใจอ่อนแล้วสิ


   ผมลังเลใจอยู่สักพัก พอเห็นแววตาที่แสร้งทำเป็นน้อยอกน้อยใจของคุณชาย กับท่าทีที่ก้มหน้าแล้วเบือนหน้าหนี ...เพียงแค่นั้น หัวใจของผมก็อ่อนยวบและยอมทำตามคำปรารถนาของคุณชายทันที


   “โถ่... อย่างอนนะ...” ผมขยับร่างเข้าไปใกล้ ๆ กับคนที่เบือนหน้าหนี “นะเป๊ก อย่างอนผมนะ น๊า...”


   ได้ผล... คุณชายหันหน้ากลับมา แววตาเปลี่ยนไปกับเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง


   “เรียกอีกทีซิ... ไม่เอา... เอาอีกหลาย ๆ ทีเลยดีกว่า” น้ำเสียงตื่นเต้นราวกับเด็กสามขวบที่เพิ่งได้ของเล่นชิ้นถูกใจ


   “เป๊ก... เป๊ก... เป๊ก... เป๊ก...” ผมเอ่ยชื่อเล่นของคุณชายซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง มันไม่ชินปากจริง ๆ แต่พอเรียกไปเรื่อย ๆ ก็ชักจะรู้สึกชินขึ้นมาแล้วเหมือนกัน “เป๊ก... เป๊ก... เป๊ก... ไอ้เป๊ก”


   “โอ๊ย...” ฝ่ามืออรหันต์ของคุณชายที่โบกเข้าที่กลางกบาลทำให้ผมเผลอร้องเสียงหลงออกมาทันที


   “ได้ทีแล้วลามปาม”


   “ก็แค่ลองใจ” ผมบ่นอุบอิบ แค่ล้อเล่นหน่อยเดียวเองจะได้ชินปากทำไมต้องลงโทษกันรุนแรงแบบนี้ด้วยนะ “ไม่คิดว่าจะโดนตอบกลับด้วยฝ่ามือของคนโหดเหี้ยม”


   “เรียกเป๊กก็พอ ส่วนคำว่าไอ้น่ะมันไม่น่ารักเลยนะ” คุณชายพูดออกมาได้อย่างมั่นหน้า ทีกับผมน่ะบอกได้ว่ามันไม่น่ารักฃอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ตัวเองกลับชอบเรียกผมว่าไอ้ข้าวบ่อย ๆ น่ะมันน่านัก “แล้วอย่าเถียง ที่ฉันเรียกว่าไอ้ข้าวน่ะ เพราะมันน่าเอ็นดู เข้าใจ”
   

“เหตุผลฟังเข้าท่าดีนะครับ” ผมแกล้งประชด “งั้นผมเอ็นดูคุณชายเป๊กก็เรียกแบบนั้นได้เหมือนกันดิครับ”


   “หึ... ถ้าชอบก็เอา เรียกสิไอ้เป๊ก” ได้ทีท้าใหญ่เลย ก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าผมแค่แกล้งพูดไปอย่างนั้นไม่กล้าทำจริงหรอก “เรียกสิเร็ว เรียกไอ้เป๊กสิ”


   ผมส่ายหน้ารัว ๆ อย่างสำนึกผิด เล่นกับใครไม่เล่นดันไปเล่นกับไอ้เด็กเอาแต่ใจ ขี้โมโห ขี้โวยวาย ชอบเอาชนะคนอื่นอย่างคุณชายเป๊ก การัณญภาสฌ์ สุริยะวิทู คิดผิดไปแล้วจริง ๆ ไอ้ข้าว


“หึ... ไอ้กระจอก ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิถึงได้ชอบ” พูดจบก็เดินออกจากห้องไม่หันมามองผมอีกเลย แต่ไม่ลืมที่จะตะโกนให้ท้ายว่า “แต่งตัวเสร็จก็รีบลงมานะ จะเตรียมอาหารไว้รอด้านล่าง”


   “คร้าบ...” ผมตอบรับเสียงหวาน หากแต่ในใจกำลังก่นด่าคุณชายว่า ‘ไอ้ขี้เก๊ก’ ไม่ยอมหยุด จะบอกว่าชอบออกมาตรง ๆ ก็ลีลาท่ามากอยู่นั้นล่ะ


   หลังจากที่คุณชายเดินลงไป หัวของผมก็ดันไปนึกถึงเรื่องที่ลุงบุญส่งพูด...

เมื่อคืนคุณชายรุนแรงขนาดบ้านสั่นเลยเหรอเนี่ย มิน่าล่ะผมถึงยังรู้สึกระบมไม่หาย อย่าให้ถึงคราวผมบ้างนะจะเอาคืนให้สามสมเลยคอยดู



จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน32 P.17] - 29/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 29-08-2014 23:12:05
ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ได้ยินเสียงครางเหรอ คุณลุงคุณป้า แผ่นดินไหวมันจังหวะแปลกๆนะ

เรียก เป๊กรู้สึกแปลก ฉันขอเรียก อิคุณชายต่อไปแล้วกันนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน32 P.17] - 29/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 30-08-2014 00:06:16
 :a5:  ป๊าดดดดดด  แผ่นดินไหว  เร่าร้อนรุนแรงแท้น้อ   :o8:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน32 P.17] - 29/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 30-08-2014 12:10:25
ลุงต้องไปดูฝาบ้านแล้ว มีร้งมีร้าวหรือเปล่า
ไหวซะขนาดนั้น คริ คริ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน32 P.17] - 29/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 30-08-2014 12:18:40
เปลี่ยนชื่อจากเป็กเป็นเก็กแทนไหมคะคุณชาย..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน32 P.17] - 29/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-08-2014 15:59:22
โห บ้านสะเทือนเลยเหรอ รุนแรงนะเนี่ยะ  :z1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน32 P.17] - 29/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 30-08-2014 19:47:55
แผ่นดินไหว ไม่รู้กี่ครั้ง แต่คงหลายริกเตอร์ ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน32 P.17] - 29/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-08-2014 03:02:36
สงสารคุณตาคุณยาย นี้ถ้าได้ยินเสียงด้วยคงนึกว่ผีหลอกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน32 P.17] - 29/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 01-09-2014 11:42:56
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน32 P.17] - 29/08/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 02-09-2014 20:40:30
ตอน 33

            บรรยากาศการเดินทางในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นอะไรที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเส้นทางไหน ๆ ก็คดเคี้ยวจนน่ากลัว แต่ยังดีที่วิวทิวทัศน์ข้างทางมันสวยงาม ขอบคุณธรรมชาติที่สรรสร้างสิ่งดี ๆ ให้อยู่คู่กับประเทศไทย


            “ไหวไหมครับ” ผมเอ่ยถามคนหน้าซีดที่เพิ่งเดินกลับออกมาจากห้องน้ำในรถทัวร์ คุณชายลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียนเป็นครั้งที่สามแล้ว



            “ไหว สบายมาก” ก็ยังปากเก่งไม่เคยเปลี่ยน “ข้าวอ่ะเป็นไงบ้าง”



            “ก็ไหวครับ หลับ ๆ ตาเอา พยายามไม่มองออกไปนอกหน้าต่าง” ผมตอบ “แล้วเมื่อคืนคุณชายไปไงมาไงเนี่ย ไม่เห็นอ้วกเลย”



            “ก็ในหัวมันคิดแต่เรื่องข้าวนี่ ไม่ได้สนใจอะไรเลย” พูดจบก็ขยับร่างมาใกล้ ๆ เบียดจนตัวผมจะติดและแบนราบกับกระจกรถอยู่แล้ว “รู้ไหม ข้าวสำคัญกับฉันมาก ๆ นะ”



            “ไม่รู้ครับ” ผมส่ายหน้า แกล้งทำหน้าตาใสซื่อไร้เดียงสา ไม่ได้จงใจจะกวนประสาทคุณชายเลยสักนิด เพราะแม้คุณชายจะพูดแบบนั้นแต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเพราะอะไรผมถึงสำคัญกับคุณชาย



            “ฮืม! ไอ้ทะลึ่ง” คุณชายทำเสียงฟึดฟัดแล้วเขยิบออกไปนั่งที่เบาะของตัวเองแบบปกติก่อนจะยกแขนขึ้นมากอดอกแล้วหลับตาไม่สนใจอะไร



            ผมหันไปมองด้วยความสนใจ อยากรู้ว่าคุณชายงอนจริงหรือแกล้งงอน แต่เวลาผ่านไปหลายวินาที คุณชายยังคงหลับตานิ่งไม่แม้แต่จะเปิดเปลือกตามามองผมดูบ้าง



            ‘หรือคุณชายจะงอนจริง ๆ’ ผมไม่คิดว่าการที่ไม่รู้ตัวว่าสำคัญกับคุณชายอย่างที่คุณชายพูดมันจะทำให้คุณชายโกรธผมจริง ๆ พอลองเอามือจิ้ม ๆ ที่แขนคุณชายก็ดันเขยิบร่างออกห่างไปอีกราวกับรำคาญ ถึงกระนั้นก็ยังไม่ยอมเปิดเปลือกตามาโต้ตอบกับผมอยู่ดี



            ให้ตายเถอะ! ถึงผมจะเคยง้อและอ่อนข้อให้กับคุณชาย แต่ทุกครั้งคุณชายก็เล่นโวยวายแบบออกนอกหน้า ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะเมินเฉยไม่พูดไม่จาแบบนี้



            ผมลองนั่งลอบมองสังเกตไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งรถถึงจุดหมาย คุณชายจึงลุกขึ้นหยิบกระเป๋าแล้วหันมาพยักหน้าให้ผมก่อนจะเดินลงจากรถไปไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ



            “เป๊ก... เป๊กครับ” ผมเอ่ยเรียก พยายามทำน้ำเสียงให้อ่อนหวานที่สุดเท่าที่ผู้ชายอย่างผมจะทำได้



            “ไร” แต่คำที่ได้รับกลับมากับเป็นคำสั้น ๆ อย่างเย็นชา



            ผมได้แต่ลอบกัดริมฝีปากด้วยความหมั่นไส้ขณะที่เดินตามหลังก่อนจะสูดให้ใจเข้าลึก ๆ แล้วลองสรรหาคำมาพูดให้คุณชายหายจากอาการแบบนี้บ้าง



            “ก็ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าผมสำคัญกับเป๊กยังไง” ได้ผลคุณชายหยุดนิ่งราวกับจะรอฟังหากแต่ยังไม่ยอมหันหน้ากับมามอง “แต่ถ้าถามว่าเป๊กสำคัญกับผมมากแค่ไหน ผมคงตอบได้ง่าย ๆ เลยล่ะว่ามาก... มากถึงมากที่สุด ผมชอบเวลาที่ได้อยู่ใกล้ ๆ เป๊ก ได้รับใช้เป๊ก ทำตามคำสั่งของเป๊กนะ ชอบเวลาที่เห็นเป๊กยิ้มมีความสุข ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเริ่มรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าผมจะรู้สึกดีกับไอ้เด็กอวดเก่ง ปากดี งี่เง่า เอาแต่ใจ ไร้เหตุผล แบบนี้ไม่ได้ แต่ถึงจะ... โอ๊ยยย!”



            ยังไม่ทันจะพูดจบคุณชายก็ส่งมะเหงกแรง ๆ มากลางกบาลผมหนึ่งที



            “พูดให้มันดี ๆ” แถมยังส่งเสียงดุ ๆ มาอีกต่างหาก



            “ก็ยังพูดไม่จบนี่ครับ ไม่เอาแล้ว ไม่พูดแล้ว” ไม่ได้โกรธหรืองี่เง่าหรอก แต่อดหมั่นไส้คุณชายไม่ได้



            “ไม่เอาน่า อย่างอนเป็นเด็กสิ พูดต่อให้จบนะ... นะ รอฟังแล้วเนี่ย” คุณชายเดินเข้ามาอ้อนเหมือนกับเด็กที่กำลังออดอ้อนขอของเล่นชิ้นใหม่



            “โห!!! ใครงอนครับ เป๊กไม่ใช่เหรอที่งอน” ผมโต้กลับ “เล่นนั่งเงียบมาตลอดทาง”



            “แค่แกล้ง” ตอบกลับสั้น ๆ พร้อมยักคิ้วกลับมาให้



            “ฮืมมมม!!!” ผมพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ อยากจะก่นด่าไอ้คนตรงหน้าให้หายเครียดเสียบ้างแต่ก็ด่าไม่ลงจริง ๆ เพราะโดนปลูกฝังมาตั้งแต่เจอกันครั้งแรกว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรกับคุณชายผู้สูงส่งคนนี้



            “เอาน่า ไปกันต่อเถอะ ขี้โมโหไปได้” พูดจบก็เดินมาโอบไหล่แล้วตบบ่าเบา ๆ ใช่สิ... ตัวเองไม่ใช่คนที่โดนงอนนี่นา อย่าเผลอทำให้ผมงอนบ้างล่ะ จะเอาคืนให้หนัก ๆ เลย



            คุณชายพาผมเดินไปขึ้นรถสองแถวอย่างชำนาญ สังเกตเห็นบนตัวรถเขียนจุดหมายปลายทางเอาไว้ว่า ‘ปางอุ๋ง’



            “จะพาไปไหนครับ” ผมเอ่ยถามขึ้นทันที ไอ้ปางอุ๋งอะไรนั่นชื่อประหลาดชอบกล อ่านครั้งแรกแล้วรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็จำง่ายดี



            “ไปเที่ยวไง” ตอบแบบกำปั้นทุบดินสุด ๆ



            “ที่ไหน ไกลป่ะครับ”



            “อ่านไม่ออกเหรอ นู่น” คุณชายพยักพเยิดใบหน้าไปทางตัวอักษรที่เขียนคำว่าปางอุ๋งเอาไว้ “ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไกลไหม ไม่เคยมา”



            “ครับ” ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ “คงเป็นสวนมะปรางของคุณอุ๋งล่ะมั้ง ไปเที่ยวสวนมะปรางก็ดีนะครับ อยากกินผลไม้อยู่พอดี”



            “สวนมะปรางของคุณอุ๋ง?” คุณชายทวนคำก่อนจะเลิกคิ้วอย่างงุนงง แล้วขำพรวดออกมาเสียงดังลั่นอยู่หลายวินาทีจนหน้าขึ้นสี “เดี๋ยวนะข้าว… ไอ้นี่มันเป็นมุกใช่ไหม สวนมะปรางของคุณอุ๋งเนี่ย”



            ผมส่ายหน้าปฏิเสธอย่างฉับไวเป็นคำตอบ พร้อมทำแววตาใสซื่อสุดฤทธิ์ “แล้วมันไม่ใช่เหรอไงครับ”



            “ไม่ใช่! ไอ้บ้า นอกจากทะลึ่งแล้วยังบ้าอีกนะ ฮ่า ๆ” พูดไปก็ขำไปไม่หยุด



            ผมทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่รู้จะขำอะไรนักหนาก็คนมันไม่รู้จักนี่นา “แล้วมันคืออะไรล่ะครับ”



            “ไปถึงเดี๋ยวก็รู้” คุณชายพูดเสียงสั่น พยายามกลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์ “แต่ไม่ใช่สวนมะปรางแน่ ๆ”



            “ฮืม!!!” ผมคำรามรอดไรฟัน พลางคิดในใจว่าอย่าให้เป็นสวนมะปรางนะพ่อจะขำให้ฟันร่วงเลยคอยดู ชอบขำคนอื่นดีนัก



            หลังจากที่เราสองคนสนทนาด้วยวาจาสุภาพกันอยู่สักพัก นักท่องเที่ยวก็ทยอยขึ้นรถจนเต็มรถ ผมกวาดสายตาดูทั่วรถสังเกตได้ว่าไม่ได้มีเพียงคนไทยเท่านั้น ฝรั่งหัวแดงก็มี หรือคนเอเชียผิวเขาซึ่งน่าจะเป็นชาวจีน เกาหลี หรือญี่ปุ่นก็มี ซึ่งนั่นทำให้ผมเริ่มตงิดใจขึ้นมาแล้วว่ามันต้องไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวธรรมดา ๆ แน่นอน



            รถแล่นไปได้ไม่นานมากนักผมเริ่มรู้สึกอึดอัด ไม่ใช่เพราะผมอ้วนขึ้นจนนั่งเบียดเสียดกับผู้คนเยอะแยะไม่ได้หรอกนะ แต่คุณชายเล่นนั่งเบียดเสียจนจะสิงเข้ามาในร่างของผมยู่แล้ว



            “เบียดทำไมครับ” ผมกระซิบถาม



            “เงียบเหอะน่า นั่ง ๆ ไป” ไม่ตอบแถมยังทำเสียงดุอีกต่างหาก คนอะไรใจร้ายชะมัด ใจร้ายมาตั้งแต่เด็กเสมอต้นเสมอไป พอผมทำท่าจะเถียง คุณชายก็ถลึงตาใส่แล้วเอ่ยขัด “ถ้าพูดออกมาอีกคำจะโดนกอด”



            เล่นขู่กันแบบนี้มีหรือที่ผมจะไม่ทำตาม โดนกอดน่ะไม่กลัวหรอก แต่บนรถสองแถวมันไม่เหมาะสม เพราะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กและเยาวชน นี่ถ้าไม่เห็นว่ามีเด็กเล็ก ๆ อยู่บนรถ 2 คนผมคงเถียงคุณชายกลับไปแล้ว



            “ก็แค่เนี้ย” ยังจะมากระซิบยั่วโมโหอีกแถมยังเบียดไม่ยอมเลิก ผมไม่เข้าใจจริง ๆ คนมันก็ไม่ได้แออัดอะไรขนาดนั้นแล้วจะมาเบียดทำไม หรือว่าตั้งแต่ยอมเปิดใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นเลยอยากอ้อน อยากแสดงออก



            ‘ก็น่ารักอยู่หรอก แต่มันอึดอัดนะครับ’ ทำได้แค่บ่นในใจ



            นั่งตัวลีบเพราะโดนเบียดอยู่ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าไหร่ รถสองแถวก็จอดสนิท ผู้คนทยอยลงจนหมดโดยมีผมและคุณชายเดินลงเป็นคู่สุดท้าย



            รอบด้านในตอนนี้คือหมู่บ้านเล็กๆ บ้านทุกหลังเป็นบ้านไม้และมีขนาดกะทัดรัดราวกับเป็นที่พักของนักท่องเที่ยวมากกว่า และไม่ว่าจะมองไปทางใด ก็เห็นแต่ต้นไม้กับภูเขา ซึ่งมันน่าจะสวยงามกว่านี้ถ้าไม่ติดที่ว่าตอนนี้ร้อนไปหน่อย



            “ป่ะ” เสียงของคุณชายดังขึ้น ก่อนจะก้าวขาเดินนำฉับ ๆ ไปด้วยความไว เล่นเอาผมเดินตามแทบไม่ทัน แต่ท้ายที่สุดก็หยุดชะรอผมเอาดื้อ ๆ “เดินช้าจริง”



            ผมมองใบหน้าคุณชายที่ขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย คุณชายดูอารมณ์เสียแปลก ๆ ตั้งแต่ตอนที่อยู่บนรถสองแถวแล้ว



            “เป็นอะไรครับ”



            “ถามมาก! ตามมา” พูดจบก็เอื้อมมือมาจับข้อมือของผมแล้วเดินนำไปอย่างชำนาญราวกับรู้ว่าจุดหมายปลายทางที่จะไปต้องเดินไปทางไหน



            ผมก้าวขาเดินตามคุณชายไปเรื่อย ๆ รู้สึกว่ามือของคุณชายบีบแน่นขึ้น เหมือนกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง ผมพยายามครุ่นคิดว่าผมไปทำอะไรผิดใจตอนไหน แต่ไม่ว่าจะนึกอย่างไรก็นึกไม่ออกเสียที จนกระทั่งคุณชายเดินฝ่าดงป่าสนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่ง



            หลังคาของตัวบ้านมีลักษณะเป็นจั่วแหลมสูง กำแพงเป็นไม้จักรสานดูสวยงาม แม้ว่าตัวบ้านจะดูเล็กแต่พอมองไปรอบ ๆ กลับกลายเป็นว่าบ้านหลังนี้ใหญ่ที่สุด



            คุณชายปล่อยมือออกจากผมแล้วเดินอ้อมไปยังตัวบ้านหลังหนึ่งในละแวกนั้น สักพักก็เดินกับมากับชายวัยกลางคนรูปร่างสมส่วนและมีผิวขาวตามแบบฉบับของชาวเหนือ



            “หลังนี้นะครับ” ชายวัยกลางคนชี้ไปยังตัวบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านหลังที่ผมยืนอยู่



            “ครับ” คุณชายตอบกลับ จากนั้นชายวัยกลางคนก็ยิ้มให้คุณชายก่อนจะเดินจากไป ผมได้แต่สงสัยว่าคุณชายไปตีสนิทกับพนักงานที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปจนกระทั่งคุณชายเดินนำขึ้นตัวบ้าน



            ภายในบ้านเป็นโถงโล่งกว้าง มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงเสื่อ หมอน มุ่งและพัดลมเท่านั้น โชคดีที่ยังมีห้องน้ำในตัวเพราะเวลาต้องออกทริปไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือทัศนะศึกษากับทางโรงเรียนและมหาวิทยาลัย สิ่งที่ผมไม่ชอบเลยคือการต้องไปใช้ห้องน้ำรวมกัน... ไอ้เรื่องอาบน้ำน่ะมันขี้ประติ๋วอยู่แล้ว แต่ที่ผมรับไม่ได้คือ... อย่าให้ผมต้องกล่าวเลย ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกัน แค่คิดก็ขยะแขยงแล้ว



            พูดถึงห้องน้ำ ก็เลยต้องขอตัวไปสำรวจสักหน่อย แม้ว่ารูปทรงของตัวบ้านจะดูไม่ทันสมัย อาจเพราะต้องการให้เข้ากับบรรยากาศและชุมชนของคนที่นี่ แต่ห้องน้ำต้องบอกได้เลยว่าสะอาดและถูกใจมาก มันไม่ได้ดูหรูหราเหมือนห้องน้ำในห้างใหม่ ๆ ที่สร้างจนทันสมัย แต่เพราะความสะอาดอ้านต่างหากที่ทำให้ห้องน้ำธรรมดา ๆ กลับดูมีราคาขึ้นมาทันใด



            หลังจากที่ผมออกจากห้องน้ำ ก็เห็นร่างของคุณชายกำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเสื่อ



            “คุณชาย... ” คนมันติดเรียกคุณชายไปแล้ว อยู่ ๆ มาให้เรียกชื่อเล่นเลยไม่ค่อยชินเท่าไหร่เผลอพูดออกไปอย่างลืมตัว



            “งีบแป๊บนึง” คุณชายตอบกลับมาในทันที



            “ครับ” ผมลอบถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย ว่าจะชวนคุณชายไปเดินเล่นสักหน่อย เห็นต้นไม้สูง ๆ บรรยากาศดี ๆ เลยอยากไปเดินดูให้ทั่ว ๆ แต่ทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อเมื่อคืนคุณชายได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง ให้พักผ่อนสักหน่อยก็น่าจะดี



            “ข้าว”คุณชายเอ่ยเรียกทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท “มานอนด้วยกันสิ”



            พูดจบก็ตบมือลงบนเสื่อข้าง ๆ กับร่างของตัวเอง



            “ไม่ง่วง” ผมบอกออกไปตรง ๆ



            “ก็ฉันง่วงนี่” ผมขมวดคิ้วมุ่น คุณชายง่วงแล้วเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ “มันไม่มีหมอนข้าง นอนไม่หลับ”



            “ข้ออ้างชัด ๆ” ผมบ่นเบา ๆ คุณชายไม่ได้ยินหรอก โตจนป่านนี้แล้ว เห็นหลายครั้งไม่ต้องมีหมอนข้างก็ยังนอนหลับสนิทเสมอนี่นา อยากกอดผมก็บอกตรง ๆ เถอะ



            “งั้นไม่เป็นไร” คุณชายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บางเบา ก่อนจะนอนพลิกร่างไปอีกด้านที่ไม่ใช่ด้านที่ผมยืนอยู่ “ฉันคงบังคับข้าวมากเกินไป งั้นข้าวอยากทำอะไรก็ทำเถอะครับ ฉันนอนก่อนนะ”



...ให้ตายสิ น้ำเสียงน้อยใจและคำพูดที่สื่อชัดเจนว่ากำลังงอนนั่นมันหมายความว่าอะไรกัน



            “ไม่เอาน่าคุณชาย” ผมเดินเข้าไปหาก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ กับร่างของคุณชาย



            “เรียกคุณชายอีกแล้ว” คุณชายถอนหายใจด้วย



            “เอ้อ... จริงด้วย” ผมร้องเสียงสูง ก็คนมันลืมตัวนี่นา “ขอโทษครับ จะพยายามพูดให้ชินน๊า ว่าแต่เป๊กอ่าอย่างอนสิ ดีกันน๊า นะนะนะ”



            ผมเอื้อมมือไปจับที่แขนของคุณชายแล้วเขย่าเบา ๆ เป็นการง้อ หากแต่คุณชายยังคงนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงเลยสักนิด



            ‘ไอ้ขี้งอนเอ๊ย’ ผมอยากจะตะโกนออกไปดัง ๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ขืนพูดออกไปมีหวังชาตินี้โดนงอนจลอดชีวิตแน่ ท้ายที่สุดก็เลยต้องง้อต่อ “นอนด้วยก็ได้ แต่ถ้าตื่นแล้วสัญญานะต้องไปเดินเล่นกับผม”



            ไม่รอให้คุณชายตอบอะไร ผมรีบเหยียดกายนอนบนเสื่อข้าง ๆ กับร่างของคุณชาย... หนุนหมอนใบเดียวกันกับคุณชายและเอื้อมมือไปโอบกอดคุณชายที่ยังนอนพลิกใบหน้าไปอีกด้านอยู่



            คุณชายเลื่อนฝ่ามือมากุมกับฝ่ามือของผมที่กำลังโอบร่างอยู่



            “สัญญาครับ” พูดสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่บางเบา แล้วสุดท้ายก็ผล็อยหลับไปไม่รับรู้อะไรอีกเลย สงสัยคงจะง่วงจัด



            ผมคิดแล้วก็ขำกับนิสัยเด็ก ๆ ของคุณชาย แม้ในบางมุมจะชอบทำตัวเก่ง ปกป้องและช่วยเหลือผมต่าง ๆ นานา แต่อย่างไรเด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ ทั้งกลัวผี ทั้งปากแข็ง ทั้งขี้งอน ทั้งขี้โวยวาย ไหนจะง่วงแล้วเผลอหลับเอาง่าย ๆ แบบนี้อีกล่ะ ...นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่าความรักทำให้คนตาบอด ไม่ว่าคนรักจะมีข้อเสียอะไร เราก็ไม่ถือสาเลยสักนิด บางข้อเสียยังคิดว่าน่าเอ็นดูเสียอีก



            ผมนอนคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาระหว่างเราสองคนแล้วเผลอยิ้มออกมาอยู่หลายครั้งจนกระทั่งท้ายที่สุดผมก็เผลอหลับ.ไปตามคุณชาย... หลับไปโดยที่แขนยังคงโอบกอดร่างของคุณชายเอาไว้





 

            ทำไมรู้สึกอึดอัดจัง อากาศรอบด้านค่อย ๆ ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ พอจะลองพลิกทางซ้ายก็ไม่ได้ พลิกทางขวาก็ไม่ได้ ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจลืมตาขึ้นมา



            “เฮ้ย!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อเห็นว่าใบหน้าของผมมันกำลังซุกอยู่กับร่างของใครสักคน ฝ่ามือที่ไวเท่าเสียงเผลอผลักร่างนั้นออกไปจึงได้เห็นเต็มตาว่านั่นคือคุณชาย



            “ตกใจอะไร” คุณชายทำเสียงดุ


            “เอ้อ เปล่า ๆ ครับ” ผมยกมือขึ้นมาขยี้ศีรษะ จำได้ว่าตอนก่อนนอนผมเป็นคนกอดคุณชาย แต่พอตื่นมาทำไมผมถึงโดนคุณชายกอดไปได้นะ แถมยังซุกที่อกอีกต่างหาก น่าอายชะมัด



            “ไปล้างหน้าล้างตาไป” คุณชายไล่



ผมพยักหน้ารับ “คร้าบ คุณผู้ชาย...”


หลังจากที่ผมและคุณชายล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว เราสองคนก็เดินออกจากที่พักทันที ทัศนียภาพรอบด้านในยามนี้ล้วนเป็นสีทองด้วยอานุภาพของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน ต้นไม้ที่สูงใหญ่ซึ่งกำลังแข่งกันเริงระบำเนื่องจากสายลมเย็น ๆ ที่พัดมา



ผมก้าวขาลงจากตัวบ้านตามคุณชายไปอย่างเชื่องช้า ที่แห่งนี้ราวกับดินแดนบนสรวงสวรรค์มันงดงามเกินกว่าที่ผมจะพรรณนาออกมาได้ และพอเดินตามคุณชายไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางที่ทอดยาวซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ตลอดทาง จนกระทั่งเห็นหนองน้ำขนาดใหญ่ มันใสจนมองเห็นฝูงปลา พอปะทะกับแสงอำพันของดวงอาทิตย์มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่งดงามที่สุดเท่าที่ผมเคยสัมผัสมา



หนองน้ำสีทองเป็นประกายระยิบระยับ บรรยากาศรอบด้านที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และสายลมมันทำให้ผมอยากจะปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่เสียให้รู้แล้วรู้รอด ความเครียดต่าง ๆ นานาที่มากมายพลันสลายหายไปเมื่อได้พบกับสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์จนสวยงามภายในสถานที่แห่งนี้



ผมก้าวขาไปหยุดอยู่ใกล้ ๆ กับหนองน้ำก่อนจะเอนกายลงนอนกับผืนดินเพื่อดื่มด่ำธรรมชาติให้เต็มที่



คุณชายเดินมาหยุดอยู่ข้างแล้วนอนลงเช่นเดียวกับผม จากนั้นมือข้างที่อยู่ใกล้กันของเราสองคนก็ขยับเข้าไปสัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ ผมกุมมือของคุณชายไว้แน่น ไม่อยากให้หายไปไหน ผมเกลียดการจากไปโดยที่ไม่รู้อะไรสักคำ



“อย่าทิ้งผมไปไหนอีกนะ” ปากพร่ำเพ้อออกไปโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจสักนิด แค่กำลังรู้สึกถึงความสุขที่เกิดขึ้น มันมากล้นเสียจนไม่อยากให้ความสุขนี้ต้องจางหายไป


“ฮืม...” คุณชายเค้นเสียงออกมาเบา ๆ “ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรรออยู่ข้างหน้า เราจะต้องกุมมือแล้วฝ่าฟันปัญหาเหล่านั้นไปด้วยกัน”



“ผมพร้อมที่จะกุมมือแล้วฝ่าฟันปัญหาไปกับเป๊ก”



“ไม่ว่ามันจะร้ายแรงแค่ไหน ข้าวต้องไม่ทิ้งฉันไปไหนนะ” น้ำเสียงของคุณชายแสดงออกถึงความกังวลใจ แม้มันจะไม่ชัดเจนแต่ผมก็สังเกตเห็น คงมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ทำให้คุณชายกังวลใจจนต้องเอ่ยออกมาแบบนี้



“มันจะไม่มีวันนั้นแน่นอนครับ” นั่นคือคำมั่นสัญญาที่ผมได้ให้ไว้กับตัวเอง ผมพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคุณชายทุกวินาทีที่มีโอกาส พร้อมที่จะเผชิญทุกปัญหาไม่ว่ามันจะร้ายแรงแค่ไหน



ผมเคยกังวลในความแตกต่างของเราที่เหมือนจะเป็นเส้นขนานไม่มีวันที่จะมาบรรจบกัน แต่คุณชายก็ทำให้ผมเชื่อมั่นได้แล้วว่าคุณชาย 'รัก' เหมือนที่ผม 'รัก' คุณชาย เพราะถ้าคุณชายไม่คิดอย่างนั้น คงไม่ดั้นด้นมาตามหาผมถึงที่นี่แน่นอน



ผมพลิกตัวขึ้นไปคร่อมอยู่บนร่างของคุณชาย สายตาจองเราทั้งสองจับจ้องกันอยู่สักพัก แม้ไม่มีคำพูดใด ๆ เอ่ยออกมาแต่เราต่างก็รับรู้ถึงความปรารถนาของกันและกัน



ผมบรรจงโน้มใบหน้าลงไปช้า ๆ จนริมฝีปากของผมไปประทับกับริมฝีปากของคุณชาย สายลมที่พัดหวิวช่วยสร้างบรรยากาศให้อบอุ่น ผมกดริมฝีปากลงเล็กน้อยเพื่อดื่มด่ำถึงความสุขที่แสนคุ้มค่าโดยไม่เกรงกลัวสายตาใด ๆ ว่าจะมีใครผ่านมาละแวกนี้หรือไม่ เพราะจุดที่ผมกับคุณชายนอนอยู่นั้นมันเป็นจุดที่อับผู้คน



คุณชายไม่ปล่อยให้ผมสนุกอยู่ฝ่ายเดียว เขาดันร่างผมลงก่อนจะพลิกขึ้นมาคร่อมอยู่บนร่างของผมบ้าง จากนั้นการจูบอันเร่าร้อนก็เริ่มขึ้นอย่างกะทันหัน คุณชายไม่ปล่อยให้ผมตั้งตัวได้ทัน ทันทีที่โน้มหน้าลงมา ลิ้นเจ้ากรรมก็ละเลงไปทั่วปากจนผมขนลุกซู่หลับตาปี๋ปล่อยให้คุณชายได้เล่นอย่างสนุกสนาน จนกระทั่ง...



“พอแล้ว” ผมเอ่ยออกไปเพราะกลัวควบคุมอารมณ์ไม่ไหว คุณชายค่อย ๆ ผละริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้าก่อนที่จะบรรจงโน้มมันลงมาที่หน้าผากอย่างทะนุถนอม



“ครับ” คุณชายเอ่ยขึ้นเบา ๆ “โทษฐานที่ข้าวทำตัวน่ารัก คืนนี้จะยอมเป็นของข้าวบ้างละกัน”



พูดจบก็เบือนหน้าหนี...



“เป็นอะไรครับ” ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณชายสื่อ



“ถามมาก” คุณชายทำเสียงดุ “อย่ามาทำแกล้งโง่ ไร้เดียงสาหน่อยเลย”



“เอ้า… อะไรคุณชาย ก็คนมันไม่รู้จริง ๆ นี่” ผมคะยั้นคะยอ มือทั้งสองข้างก็เขย่าร่างของคุณชายเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ



“ไอ้ทะลึ่ง” แล้วผมไปทะลึ่งตอนไหนล่ะเนี่ย อยู่ ๆ ก็มาว่าผมซะงั้น “ให้เวลาคิดสิบวินาทีถ้าคิดไม่ออกก็ไม่ต้องแล้วนะคืนนี้”



“เฮ้ย! อะไรเนี่ย” ผมพยายามคิด



“หนึ่ง... สอง... สาม...” คุณชายนับไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง “เก้า...”



“เอ้อ... รู้แล้วครับ ไม่สิบนะไม่สิบ หยุด!!!” พูดไปทั้งที่ยังคิดไม่ออกเพราะกลัวว่าจะอดกับเรื่องที่คุณชายพูด ช่างเถอะ... ไม่ว่าคุณชายจะหมายถึงอะไร เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ แค่รอให้ถึงคืนนี้เร็ว ๆ ก็เท่านั้น



‘ตกลงที่คุณชายบอกว่าจะยอมเป็นของผมมันคืออะไรน๊า...’



จบตอน >.<



ปล.สำหรับใครที่คอมเม้นท์ตอนนี้ เดี๋ยวส่งฉาก NC เล็กๆน้อยๆในข้อความให้นะครับ - - ไม่กล้าลงเพราะไม่รู้ว่าเว็บมีระบบแบนฉาก NC เหมือน เด็กดีรึเปล่า และก็กลัวมันประเจิดประเจ้อดาเมจหนักเกินไป แหะๆ แต่งฉากนี้ไม่ค่อยเป็นด้วย แต่ก็ลองแต่งดูไปแล้วครับ แหะๆ แต่ฉาก NC ถึงไม่อ่าน ก็สามารถอ่านตอนต่อไปได้รู้เรื่องปกติครับผม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-09-2014 21:08:57
แวบแรกที่อ่าน คือ  :a5: คุณชายจะยอมให้ข้าวเสียบเหรอ!!!!!!!!  //  โดนโบกโทษฐานตรงเกิน



หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 02-09-2014 21:29:10
ตกลงคุณชายเป็นนายเอกหรือนี่
อืมห์ รอฉาก... ดีกว่า
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 03-09-2014 01:49:20
ว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย  :jul1:
คุณชายจะโดนกดมั่งแล้ว ไม่อยากจะเชื่อ

เท่าที่รู้นะ เอ็นซีลงได้เต็มที่แหละ แต่ภาษาที่ใช้ห้ามโจ่งแจ้งต้องใช้คำแทนอะไรงี้
เห็นหลายๆเรื่องเอ็นซีแรงๆก็ยังปกติ

ปอลิง: ถ้าไม่กล้าลง เราจะรออ่านในข้อความนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-09-2014 02:19:32
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-09-2014 10:58:56
 :pig4:  ขอบคุณที่อนุเคราะห์ส่ง....มาให้ค่ะ   :z1: อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด แต่ชอบค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: t_cus ที่ 03-09-2014 11:11:24
อยากได้ๆ ไรเตอร์ส่งมาให้ด้วยนะคะ
รอฉาก NC หุๆๆ    :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 03-09-2014 13:05:05
รอคืนนี้ ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 03-09-2014 15:08:32
รอนะ ข้าวกับคุณชาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 03-09-2014 17:12:21
รอๆๆๆ คับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 04-09-2014 13:20:52
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Brow_Ney ที่ 04-09-2014 13:43:25
ข้าววววจะไหวป่าว คุณชายยิ่งตัวใหญ่กว่าด้วย  o18
อยากอ่านๆๆๆๆ nc nc nc
หัวข้อ: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 04-09-2014 15:47:01
ตายแล้ว ใครจะขี่ใครอ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน33 P.18] - 02/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-09-2014 18:51:47
ตอนที่ 34


ความสุขที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่วัน กลายเป็นความทรงจำที่น่าจดจำไปชั่วชีวิต



แล้ววันเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก็มาถึง ผมต้องตื่นจากโลกแห่งความฝันแล้วกลับคืนมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง การมาพักผ่อนครั้งนี้คือสิ่งวิเศษที่สุดในชีวิตของผม ผมไม่มีวันลืมมันแน่นอน



คุณชายเดินจับมือผมไปตลอดทาง แม้จะมีสายตาหลายคู่มองมาทางเราเป็นระยะ ๆ แต่คุณชายก็ไม่คิดที่จะปล่อยมือผมให้หลุดพ้นไป แถมยังดูออดอ้อนมากกว่าปกติอีกด้วย... สงสัยจะติดใจในลีลาของผมในคืนนั้นก็เป็นได้...



คืนนั้นผมเหมือนสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้ว่าโดนตัวอะไรเข้าสิง คึกยิงกว่าเสือสิงห์กระทิงแรดเสียอีก... คุณชายได้กล่าวเอาไว้แบบนั้น และเช้าวันต่อมาผมยังโดนบ่นจนหูแฉะเพราะคุณชายไม่มีแรงจะลุกไปอาบน้ำ(ผมคิดว่าสำออยมากกว่า) แถมยังต้องเสียเงินค่าปรับที่ผมเผลอรุนแรงจนขาเตียงหัก คิดแล้วก็น่าอายชะมัด เพิ่งรู้ว่าการเป็นฝ่ายกระทำมันสนุกแบบนี้นี่เอง ชักจะติดใจแล้วสิ



“ฮืม... ไอ้ข้าว คิดไรอยู่” เสียงของคุณชายที่ดังขึ้นเรียกสติของผมให้กลับคืนมา



“เปล่านี่ครับ” ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่วูบขึ้นมาบนใบหน้า



“อย่าริอาจคิดเรื่องคืนนั้นนะโว้ย” คุณชายรู้ทัน “อยู่ ๆ ก็หน้าแดง รู้นะคิดอะไรอยู่”



“ครับผม ไม่คิด ๆ” ผมเอื้อมมือไปคลำศีรษะของคุณชายด้วยความเอ็นดู รู้ว่าคุณชายติดใจเรื่องคืนนั้นแน่นอนแต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมาตรง ๆ ไอ้คนขี้เก๊กไม่มีที่สิ้นสุดเอ๊ย…



ระหว่างที่รอขึ้นเครื่องบินอยู่นั้น คุณชายได้คืนแบตโทรศัพท์มาให้ผม แล้วบอกให้ผมโทรหาพี่ปั๊มเพื่อที่พี่ปั๊มจะได้ไม่ต้องรอกลับพร้อมผม เข้าใจเปลี่ยนเรื่องดีนะคุณชายของผมเนี่ย



ผมรับแบตโทรศัพท์นั้นมาก่อนจะใส่มันลงไปในโทรศัพท์แล้วกดเบอร์โทรหาพี่ปั๊มทันที



“ข้าว!!! มึงอยู่ไหน ไอ้สัส ไอ้เชี่ย ไม่ติดต่อกลับมาหากูไม่เลยนะ รู้ไหมว่ากูเป็นห่วง ทุกคนเขาวุ่นวายตามหามึง ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย ไอ้โด้บอกว่ามึงไปกับคุณชายตั้งแต่คืนนั้น แล้วมึงก็ไม่กลับมาอีกเลย ไอ้น้องเวรเห็นคุณชายดีกว่ากู แม่งเอ๊ย... แล้วนี่โทรมาทำไม โทรมาหาวันจะกลับสินะรู้วันดีจริง เออไม่ต้องห่วง กูจองตั๋วรถไว้เผื่อมึงแล้วนะ รีบกลับมาที่บ้านกูด้วยล่ะ รถออกบ่ายสี่โมงเย็น”



ทันทีที่พี่ปั๊มกดรับโทรศัพท์ เขาก็พูดยืดยาวไม่ยอมหยุด ไม่มีแม้กระทั้งการเว้นวรรคจังหวะเพื่อหายใจ แถมยังใส่อารมณ์ในน้ำเสียงรุนแรงจนน่าตกใจอีกต่างหาก ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะผมผิดเองที่ไมได้ติดต่อกลับไปเลย



“ผมขอโทษนะพี่” ผมเอ่ยอย่างสำนึกผิด ใช่ว่าผมไม่อยากติดต่อกลับไปเสียเมื่อไรล่ะ แต่คุณชายเล่นซ่อนแบตมือถือไว้ ครั้นจะแอบหยอดเหรียญโทรศัพท์สาธารณะไปหาก็จำเบอร์ใครไม่ได้สักคน “คือผมกำลังจะบินกลับกรุงเทพกับคุณชายแล้วครับ ไว้ผมเล่ารายละเอียดให้ฟังนะครับ แล้วเจอกันที่นู่นนะพี่”



“เออ!!!” พี่ปั๊มรับคำอย่างไม่พอใจ “กูซื้อตั๋วรอมึงเก้อสินะ ดีจริง... ไว้เจอกัน แค่นี้ล่ะ”



พูดจบก็ตัดสายทันที ไม่รอให้ผมพูดอะไรอีกเลยสักนิด ผมรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่แปลกที่พี่ปั๊มจะโกรธ ผมเล่นหายตัวไปแล้วยังไม่ยอมติดต่อกลับ ถ้าผมเป็นพี่ปั๊มก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน



“ไม่คิดมากน่า” ใบหน้าของผมคงแสดงถึงความกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด คุณชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เลยเอื้อมมือมาโอบบ่าให้กำลังใจ “ปั๊มโกรธข้าวได้ไม่นานหรอก เชื่อสิเดี๋ยวก็หาย”



“ครับ” ผมรับคำสั้น ๆ และคิดแบบนั้นเช่นกัน พี่ปั๊มอาจจะเป็นคนขี้น้อยใจหรือโมโหง่ายในบ้างเรื่อง แต่ข้อดีคือไม่เคยโกรธใครได้นานซึ่งผมก็หวังว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน



            “รออยู่นี่แป๊บนึงนะ ไปซื้อของกินก่อน” คุณชายตบบ่าผมอีกครั้งแล้วยั้งกายให้ลุกขึ้น



            ผมพยักหน้ารับ ระหว่างนั้นผมลองโทรกลับไปหาพี่ปั๊มอีกสองครั้ง แต่พี่ปั๊มก็ไม่ยอมรับสาย ผมจึงทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น



            “พี่ครับ ๆ” อยู่ ๆ เสียงของเด็กน้อยคนหนึ่งก็ดังขึ้น พร้อมกับฝ่ามือเล็ก ๆ ที่เดินมากระตุกขาของผมเบา ๆ



            “ครับ” ผมมองดูเด็กคนนี้ด้วยความสงสัย อายุของเด็กคนนี้น่าจะประมาณ 6-7 ขวบ เขามีผิวเขา รูปร่างสมส่วน ตาตี่ แถมยังมีลักยิ้มด้วย



            “มีคนฝากมาให้ครับ” พูดจบก็ยื่นอมยิ้มสีรุ่งมาให้พร้อมกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก ๆ สีขาว



            ผมพลิกแผ่นกระดาษขึ้นมาดูจึงเห็นข้อความเขียนเอาไว้ว่า ‘ยิ้มบ้างนะ ทำหน้าบึ้งแบบนี้ไม่น่ารักเลย แต่ถ้ายังไม่หายก็แกะอมยิ้มมาอมซะนะ ไอ้ทะลึ่ง…’



ทันทีที่อ่านจบ ริมฝีปากของผมก็ฉีกออกเป็นรอยยิ้มโดยอัตโนมัติ แค่มองแว๊บแรกผมก็จำได้แล้วว่าเป็นลายมือไก่เขี่ยแบบนี้เป็นของใคร ยิ่งเห็นประโยคสุดท้ายที่เขียนไว้ นอกจากคุณชายแล้วก็ไม่มีใครเรียกผมแบบนี้สักคน



พอผมเงยหน้าจะขอบคุณเด็กน้อยตัวเล็ก ๆ เด็กคนนั้นก็หายไปเสียแล้วกลายเป็นคุณชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า



“ยิ้มแล้ว” คุณชายเอ่ยยิ้ม ๆ “อย่าเครียดนะ ฉันขอโทษ”



ผมพยักหน้ารับพร้อมกับยกอมยิ้มและโน้ตในมือขึ้นมาโชว์ “ใครมันจะไปเครียดลงล่ะ”



“ก็ข้าวไง” คุณชายเถียง



“หายแล้วครับ”



“แกะมาอมดิ” คุณชายยื่นมือหวังจะมาแย่งอมยิ้มที่อยู่ในมือของผม



“ไม่ครับ” ผมขยับมือมาซ่อนไว้ข้างหลังไม่ให้คุณชายแย่งอมยิ้มไป “อมไม่ลงหรอก เป๊กอุตส่าห์ซื้อให้”



“ก็ซื้อให้อมไง จะได้ยิ้ม”


“ก็ยิ้มแล้วไงครับ ไม่แกะนะ” ผมยื่นหน้าไปใกล้ ๆ ทำสายตาออดอ้อนสุดฤทธิ์ เมื่อคุณชายยังคงหน้านิ่งผมจึงเอ่ยต่อ “นะ ๆ ขอเก็บไว้ดูดีกว่า”



“ไอ้บ้า ใครเขาให้เก็บอมยิ้มไว้ดู” คุณชายต่อว่าก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ


“ผมไง” ผมยิ้มแป้นแล้นแล้วยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงทันที






 

การเดินทางเหนือน่านฟ้าเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและรวดเร็วที่สุด หากแต่ความสะดวกสบายย่อมต้องแลกมาด้วยจำนวนเงินที่มากกว่า ซึ่งผมคงไม่มีวันที่จะมีโอกาสได้นั่งเครื่องบินแน่ ๆ หากไม่ใช่ว่าคุณชายเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้



ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางโดยเครื่องบิน คุณชายใจดีให้ผมนั่งชิดติดขอบหน้าต่าง ผมมองผ่านกระจกเครื่องเห็นท้องฟ้า เห็นก้อนเมฆที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วรู้สึกตื่นเต้น จนกระทั่งเครื่องบินโลดแล่นเข้าสู่เมืองหลวง ผมเพิ่งรู้ว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีขนาดกว้างขวางและใหญ่โตมโหฬารถึงเพียงนี้ มองจากมุมสูงสามารถเห็นแผนผังเมืองและตึกได้อย่างชัดเจน มันกว้างขวางเสียจนผมรู้สึกทึ่งอย่างบอกไม่ถูก



การที่ได้นั่งเครื่องบินในครั้งนี้ มันทำให้ผมรู้ว่าโลกของเรานั้นกว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหน มนุษย์เราเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้ไม่ต่างจากฝูงแมลงสักนิด



หลังจากที่ลงจากเครื่องบิน คุณชายก็ไปรับกระเป๋าและเดินทางกลับบ้านทันทีโดยที่พาผมไปด้วย



ระหว่างที่นั่งแท็กซี่อยู่นั้น ผมพยายามไม่คิดถึงเรื่องร้ายแรงต่าง ๆ นานาทั้งสิน เพราะคาดเดาได้ว่าคุณหญิงและคุณท่านจะต้องโกรธคุณชายแน่นอน อาจมีการทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้น แต่ผมก็ยังหวัง... หวังว่าทุกอย่างจะเป็นปกติไม่มีการโต้เถียงระหว่างครอบครัว แม้มันจะเป็นความหวังที่ริบหรี่ก็ตาม



“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าวจะต้องอยู่ข้างฉันนะ” คุณชายเอ่ยเบา ๆ ก่อนยื่นมือมาจับที่ฝ่ามือของผม ซึ่งเราทั้งสองคนต่างนั่งแท็กซี่เบาะหลังด้วยกัน



“แน่นอนครับ” ต่อให้คุณชายจะเจอกับอะไร ผมก็พร้อมที่จะอยู่ข้างคุณชาย ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่มีวันที่จะผิดคำพูดของตัวเองอยู่แล้ว



...แต่ว่าทำไม ยิ่งรถแล่นไปในเส้นทางที่คุ้นเคย ใกล้ถึงบ้านคุณชายเรื่อย ๆ ผมถึงยิ่งกังวลมากขึ้น มากจนผมไม่รู้ตัวเลยว่าร่างกายของผมมันขยุกขยิกไปมา เหงื่อไหลทั้ง ๆ ที่แอร์เย็น



‘อย่าคิดมากน่าข้าว มันไม่มีอะไรหรอก คุณผู้หญิงรักคุณชายจะตายไป’ ผมพยายามปลอบใจตัวเอง อดเป็นห่วงคุณชายไม่ได้จริง ๆ



ผมสรรหาคำพูดมาปลอบใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งถึงที่หมาย



มองผ่านกระจกเห็นลุงแช่มลุกลี้ลุกลนมาเปิดประตู และพอร่างของคุณชายก้าวลงจากรถก็รีบกุลีกุจอมาถือกระเป๋าให้อย่างเต็มใจก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใยว่า



“คุณชายรีบเข้าบ้านเลยครับ คุณหญิงท่านเป็นห่วงคุณชายมากนะครับ ท่านไม่ยอมทานอะไรเลยได้แต่นอนซมอยู่บนห้องนอนครับ” ลุงแช่มเลือกที่จะไม่เซ้าซี้ถามว่าคุณชายไปไหน เพราะเรื่องสำคัญกว่าตอนนี้ก็คือเรื่องของคุณหญิงและหม่อมย่า “พอหม่อมย่าของคุณชายได้ข่าวว่าคุณชายหายตัวไป ท่านเลยแวะมาหาคุณหญิงที่นี่นะครับ ท่าทางไม่พอใจเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ”



“หม่อมย่ามาเหรอ” คุณชายทวนถาม สังเกตเห็นว่าคิ้วของคุณชายกระตุกเล็กน้อยอย่างไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ว่ายินดีหรือเสียใจกันแน่



“ใช่ครับ มาตั้งแต่คืนแรกที่คุณชายหายตัวไป” ลุงแช่มตอบ คุณชายพยักหน้ารับก่อนจะเร่งฝีเท้าก้าวขาเข้าไปในบ้านทันที แต่แทนที่คุณชายจะเดินเข้าไปคนเดียว มือข้างหนึ่งกลับยื่นมาจับแขนของผมแน่นจนผมต้องก้าวขาเดินตามไปด้วย



บ้านของคุณชายยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สิ่งของทุกอย่างยังคงวางถูกที่ถูกทางเหมือนเดิม ทันทีที่คุณชายเดินเข้าไปในตัวบ้าน เหล่าแม่บ้านและคนรับใช้ต่างส่งเสียงวี้ดว้ายด้วยความดีใจที่เห็นคุณชายกลับมา จนกระทั่งเสียงที่ทรงอำนาจมหาศาลของใครบางคนดังขึ้นสั้น ๆ ความเงียบจึงกลับมาในบันดล



“หยุด! เอะอะโวยวายอะไรกัน” 



น้ำเสียงทรงพลังจนผมเองยังแอบสั่นผวาในใจ นี่เป็นน้ำเสียงของใครกัน... ผมไม่คุ้นเคยเลยสักนิด พอหันไปมองตามต้นเสียงจึงพบกับร่างของหญิงวัยชราหากแต่สภาพร่างกายยังคงดูแข็งแรงสมบูรณ์ เส้นผมของเธอถูกเกล้าขึ้นมามีปิ่นปักผมสีทองเสียบอยู่บนม้วนผมนั้น เธอแต่งกายด้วยชุดลูกไม้สีขาวแขนยาว ท่อนล่างเป็นซิ่นสีทองอร่าม มือข้างขวาถือพัดสีเงินดูมีราคา บุคลิกของเธอดูน่าเกรงขามจนทำให้ผมรู้สึกประหม่าไม่กล้าสบตา



“สวัสดีครับคุณย่า” ก่อนที่หญิงชราจะได้เอ่ยปากพูดอะไร เป็นคนชายที่แย่งพูดขึ้นมาก่อน คุณชายยกมือไหว้และโค้งศีรษะลงอย่างนอบน้อมจนผมต้องปฏิบัติตาม



“สวัสดีครับ”



หม่อมย่าของคุณชายก้มหน้าเล็กน้อยเป็นการรับไหว้แต่ก็ไม่ได้สนใจผมไปมากกว่านั้น เพราะสิ่งที่เธอสนใจคือหลายสุดรักสุดหวงต่างหาก



“หายไปไหนมาฮะตาเป๊ก” หม่อมย่าทำเสียงดุพร้อมกับก้าวขาฉับ ๆ แล้วยกพัดมาตีแขนคุณชายเบา ๆ หลายที “นี่แน่ะ ๆ”



“โอ๊ย... คุณย่าครับ เป๊กเจ็บแล้วครับ” คุณชายแสร้งทำเสียงเจ็บปวด



“เจ็บก็ดี จะได้สำนึกไว้บ้างว่าคราวหลังจะไม่หายไปแบบนี้อีก”



“คุณย่าอ่ะ” คุณชายแกล้งทำหน้างอนก่อนจะโอบกอดร่างของหม่อมย่าแล้วใช้ลูกอ้อนสารพัดทั้งหอมแก้ม ทั้งออกแรงกอดแน่น ๆ จนหม่อมย่าต้องยอมแพ้ให้กับความน่ารักของคุณชาย



“พอได้แล้วชายเป๊ก ย่ายอมแล้ว ปล่อย ๆ” คุณย่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ดูท่าทางท่านสนุกสนานและชอบใจจนลืมความผิดของหลานชายจอมแสบไปแล้ว ภาพที่ดูทรงอำนาจพังทลายลงในบันดลทันทีที่ได้กระเซ้าเย้าแหย่กับหลานชายสุดที่รัก



คุณชายหันมายักคิ้วให้ผมแล้วเอ่ยว่า



“คุณย่าครับ นี่ข้าวนะครับ”  ผมยิ้มให้หม่อมย่าด้วยความประหม่าพลางผงกศีรษะเล็กน้อย



“เด็กคนนี้เหรอที่พาหลานย่าเหลวไหล” คำพูดของหม่อมย่าทำให้ผมแทบลมจับ ผมเนี่ยนะพาคุณชายเหลวไหล คุณชายต่างหากล่ะที่เป็นคนชอบทำอะไรตามใจ หม่อมย่าจะมาโยนความผิดให้ผมดื้อ ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ เป็นลมดีกว่า... แต่ถ้าผมต้องกลายเป็นคนผิดแล้วคุณชายไม่ต้องทะเลาะกับครอบครัวผมก็ยอม



“ใช่ครับ” เอาสิ... คุณชายดันตอบออกไปแบบนั้นเสียด้วย แถมยังส่งสายตากวนบาทามาให้ผมอีก



หลังจากที่ได้ยินคุณชายตอบแบบนั้น หม่อมย่าก็ผละร่างออกจากอ้อมกอดของคุณชายแล้วก้าวขาฉับ ๆ มาหาผมด้วยความฉับไวทันที ผมนึกทึ่งในท่าทีคนสูงอายุที่น่าจะอ่อนแอแต่กลับแข็งแรงกระฉับกระเฉงราวกับสาวแรกรุ่น



หม่อมย่าจ้องหน้าจ้องตาผมอย่างพินิจพิจารณา จนผมรู้สึกเกร็งต้องหลบสายตา



“ซื่อ ๆ แบบนี้คงไม่น่าจะใช่” หม่อมย่าพูดเพียงเท่านั้นแล้วเดินกลับไปหาคุณชายทันที “บอกย่ามาซะดี ๆ หายไปไหนมา แล้วทำไมไม่ยอมติดต่อกลับมาที่บ้าน รู้ไหมแม่ชายน่ะเป็นห่วงชายมากเลยนะ”



“รู้ครับคุณย่า” คุณชายก้มหน้า “พอดีมีปัญหานิดหน่อย เป๊กขอโทษนะครับ ว่าแต่ตอนนี้คุณแม่เป็นไงบ้างครับ”



“อุ๊ย...” หม่อมย่าทำสีหน้าตกใจพร้อมกับยกมือทาบอก “ย่าลืมไปเลยว่าแม่ของชายกำลังนอนป่วยอยู่บนห้อง รีบขึ้นไปหาแม่วลีลาวัลย์เถอะ ป่านนี้คงตรอมใจที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนหายออกจากบ้านจนแทบจนขาดใจแล้วมั้ง”



“โถ่... คุณย่า” คุณชายทำเสียงสำนึกผิดก่อนจะเดินจูงขึ้นย่าขึ้นบันไดไปยังชั้นสองทันที และไม่ลืมที่จะหันหน้ามาหาผมแล้วพยักหน้าบอกเป็นเชิงให้ผมขึ้นไปด้วย... ผมจึงยอมเดินตามไปห่าง ๆ



คุณชายก้าวขาอย่างชำนาญเดินผ่านห้องของตัวเองแล้วตรงไปยังห้องที่มีประตูไม้บานใหญ่กั้นอยู่ ผมรู้ว่านี่คือห้องของคุณหญิงและคุณท่านแม้ผมจะคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้แต่ผมก็ไม่เคยย่างกายเข้าไปในห้องนั้นสักครั้งเพราะคิดว่ามันไม่สมควร



คุณชายเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับหม่อมย่า



“ชายเป๊กลูกแม่” เสียงของคุณหญิงวลีลาวัลย์เล็ดรอดออกมา น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ “หายไปไหนมาตั้งหลายวันเนี่ย ไม่ติดต่อกลับมาหาแม่บ้างเลย โถ่... มีลูกชายคนเดียวแต่ดันไม่ได้รับการเหลียวแล น่าน้อยใจที่สุด”



“ไปแม่ฮ่องสอนมาครับ” เสียงคุณชายที่เอ่ยตอบดังแว่วออกมา แต่ก่อนที่จะได้ยินอะไรไปมากกว่านั้น ผมคิดว่าผมยังไม่ควรที่จะเข้าไปขัดจังหวะในตอนนี้ ...กลับบ้านดีกว่า



ในระหว่างที่หันหลังกลับ ผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นร่างที่ยืนนิ่ง ๆ ของหม่อมราชวงศ์กริชกร สุริยะวิทูจ้องผมด้วยสายตาที่เขม็ง มือข้างหนึ่งกำซองเอกสารสีน้ำตาลเอาไว้ กำจนแน่นเสียจนซองยับยู่ยี่...



แววตาที่เคยอบอุ่นอ่อนโยนสมกับเป็นผู้ใหญ่ใจดีนั้นแปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่มีแต่ความโกรธเกลียดชิงชัง ...ผมสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่ผมไม่ทราบว่าเพราะอะไร คุณท่านถึงมีท่าทีที่ไม่พอใจผมแบบนี้



“สวัสดีครับ” ผมพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด หากแต่คุณท่านไม่รับไหว้แถมยังฝากวาจาที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินให้ผมช้ำใจเล่นเสียด้วย



“ออกไปจากวังซะ แล้วอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก” พูดจบก็เดินตรงไปยังห้องนอนทันที



ผมรู้สึกตัวชาไปชั่วขณะ ทำตัวไม่ถูก ในหัวเต็มไปด้วยคำถามที่ว่าผมทำผิดอะไรทำไมจึงโดนห้ามไม่ให้มาเหยียบที่นี่อีก ผมรู้ดีว่าสถานที่ที่มีค่ามีราคามากมายมหาศาลอย่างวังหลังนี้ไม่ใช่ของผม ผมไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องสิทธิอะไรแค่อยากจะทราบถึงเหตุผลเท่านั้น



...โถ่เอ๊ยข้าว ครั้งก่อนโดนคุณชายไล่อย่างกับหมูกับหมา กลับมาครั้งนี้ดันเจอคุณท่านไล่ นี่โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับผมเนี่ย




จบตอน




ขอบคุณทุกคนที่เม้นท์และติดตามจนถึงตอนล่าสุดนะครับ แหะๆ  :3123:

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 05-09-2014 19:47:51
ขอสารภาพตามตรงว่าพออ่านจบตอนนี้ประโยคแรกในหัวสมอง คือ

อ้าว เฮ้ย   :a5: ทำไมต้องมาจบดอนนี้ด้วยล่า 

กำลังลุ้นเลยนะ  คาดว่าพ่อคุณชายเป๊กคงได้รับรู้ความจริงของลูกชายเข้าแล้วแน่ๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 05-09-2014 21:20:04
อ้าว ข้าวเพิ่งจะเดินเข้ามาหยก ๆ
กลับโดนไล่ ให้ออกไปซะแล้ว
ว่าแต่ ใสซองเอกสารนั้น เป็นภาพของ
ข้าวกับคุณชาย ใช่ไหมเนี่ย
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 05-09-2014 22:23:59
ฝีมือนักสืบไม่ก็คนไม่ค่อยจะหวังดีสินะ
เตรียมกินมาม่าเลย
ทางที่ดีคุณชายควรบอกว่า "ผมมีสามีแล้วครับ" ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 05-09-2014 22:44:54
คือมันดินต่างฟ้ากันเกินไปจริงๆนะ
ข้าวจะทำยังไง ชายเป๊กก็ดูว่าจะเข้มแข็งพอปกป้องข้าวมั๊ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-09-2014 22:56:24
รู้เรื่องแล้วแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Brow_Ney ที่ 06-09-2014 11:38:56
กำลังเริ่มจะหวานกัน
ดราม่ามาอีกแล้ว TT
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 06-09-2014 14:53:18
ดราม่ากำลังเกิด + ขอบคุณสำหรับ ตอนพิเศษ นะคับ ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 08-09-2014 21:42:05
ThankS
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 11-09-2014 10:41:01
 :katai5: รออยู่นะ  :call:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน34 P.18] - 05/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 12-09-2014 16:26:55
ตอนที่ 35


ไม่รู้ว่าผมยืนคิดฟุ้งซ่านไปนานเท่าไร... แต่น่าจะนานพอควรเพราะอยู่ ๆ คุณชายก็เปิดประตูห้องออกมา ใบหน้าของคุณชายแสดงออกถึงความไม่สบอารมณ์ เหมือนว่าคุณชายจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นผม แต่เพียงครู่เดียวก็พยายามฝืนยิ้มแล้วตรงมาหาทันที



ในมือของคุณชายถือซองเอกสารซึ่งน่าจะเป็นซองเดียวกับที่คุณท่านถือเมื่อครู่นี้ ผมไม่รู้ว่าข้างในนั้นมีอะไรแต่น่าจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณชายมีอาการแบบนี้



“ข้าว... ไปกับฉันเดี๋ยวนี้” คุณชายสั่งทันทีที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม



ผมพยักหน้ารับไม่กล้าถามอะไรไปมากกว่านี้เพราะในตอนนี้ผมไม่กล้าที่จะคิดหรือตัดสินใจอะไรได้ด้วยตนเองทั้งนั้น



ระหว่างที่เราสองคนกำลังเดินลงบันไดอยู่นั้น เสียงของคุณท่านก็ดังขึ้น



“ชายเป๊ก! จะไปไหน!! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ จะไปกับมันอีกทำไม!!!” เกิดมาเพิ่งเคยเห็นหม่อมราชวงศ์กริชกรโมโหก็คราวนี้ แค่ได้ยินเสียงผมก็ขนลุกแล้ว



“พ่อไม่มีสิทธิ์มาห้าม” คุณชายโต้กลับโดยที่ขาก็ก้าวฉับ ๆ ต่อไป



“โถ่เว้ย... ยังไงแกก็ต้องหมั้นกับหญิงดาวเท่านั้น ฉันไม่ยอมให้แกต้องคบกับไอ้เด็กปั๊มนั่นแน่นอน”



นี่คือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่จะออกจากตัวบ้าน... ที่หม่อมราชวงศ์พูดแบบนั้น หมายความว่าท่านรับรู้เรื่องระหว่างผมกับคุณชายแล้วใช่ไหม มิน่าเล่าถึงมองผมด้วยสายตาที่มีแต่ความเกลียดชัง



แม้จะรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้น่าจะมาถึงไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่ก็ไม่คาดคิดว่ามันจะรวดเร็วแบบนี้ ผมเพิ่งสร้างความทรงจำที่ดีที่สุดกับคุณชายมาไม่กี่วัน มาวันนี้... ผมต้องเจอกับความทรงจำที่แสนเลวร้ายอีกแล้วอย่างนั้นหรือ



“ข้าวไม่ต้องกลัวนะ... ไม่มีใครมาเปลี่ยนใจอะไรได้ทั้งนั้น”



ผมควรจะยินดีที่ได้ยินคุณชายพูดแบบนี้... คุณชายรักษาคำพูดที่ให้ไว้... คุณชายยอมรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นโดยไม่กลัวว่าหนทางข้างหน้ามันจะมีขวากหนามอีกมากมายขวางกั้น แต่ทำไมนะในใจผมกลับไม่มีความสุขเลยสักนิด



…มันจะดีจริงหรือ ที่ผมจะมีความสุขโดยที่ครอบครัวของคุณชายมีแต่ความวุ่นวายไม่สงบสุขแบบนี้ ผมจะยอมเห็นแก่ตัวเพื่อที่จะได้รับความสุขเพียงคนเดียว โดยไม่สนใจว่าคุณชายอาจจะต้องแตกหักกับครอบครัว



ผมจะยืนยิ้มหน้าระรื่นแล้วเห็นชีวิตของคุณชายต้องพังพินาศได้จริง ๆ น่ะหรือ...



คำถามเหล่านี้ดังซ้ำ ๆ ในสมอง ผมไม่กล้าตัดสินใจอะไรทั้งนั้น จะเดินต่อไปก็ทนไม่ได้ที่ต้องเห็นคุณชายทะเลาะกับครอบครัว จะหันหลังกลับก็กลัวใจตัวเองจะทรมาน เป็นห่วงความรู้สึกของคุณชายด้วย



สติของผมกลับมาอีกครั้งหลังจากที่คุณชายฉุดแขนของผมให้ขึ้นไปนั่งบนแท็กซี่



คุณชายสั่งแท็กซี่ให้ไปที่บ้านเช่าของผม ระหว่างที่นั่งอยู่นั่งคุณชายได้ยื่นซองเอกสารมาให้ผม



“เปิดดูสิ”



ผมรับซองเอกสารนั้นมา ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในแต่มันน่าจะไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่



“มันจะดีเหรอครับ” ที่ถามออกไปเพราะเกรงว่ามันจะเป็นเอกสารลับระหว่างคุณชายกับคุณท่าน ซึ่งผมเป็นคนนอกอาจไม่ควรรู้



“เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะข้าว” คุณชายไม่ได้ตอบในสิ่งที่ผมถาม หากแต่สิ่งที่พูดออกมาเป็นคำตอบในสิ่งที่ผมสับสน เรื่องนี้เป็นปัญหาของครอบครัวคุณชายแท้ ๆ แต่คุณชายยังเลือกที่จะอยู่ข้างผม แบบนี้ถ้าผมยังคิดจะถอยหลังกลับไปผมก็เลวเกินไปแล้ว



ผมหยิบสิ่งที่อยู่ในซองเอกสารมาดู ปรากฏว่าในนั้นมีรูปถ่ายระหว่างผมกับคุณชายในหลาย ๆ อิริยาบถช่วงที่อยู่แม่ฮ่องสอน รูปถ่ายหลายใบหากมองดูผิวเผินไม่ต่างจากเพื่อนสนิทกันทั่วไป หากแต่หลายใบนั้นกลับชัดเจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรา



“ซองเอกสารนี้ถูกส่งมาจากแม่ฮ่องสอน น่าจะเป็นนักสืบที่พ่อจ้าง” เสียงของคุณชายแผ่วเบาและสั่นเล็กน้อย “แต่ข้าวไม่ต้องเป็นห่วงนะ”



คุณชายกำมือผมแน่น... แน่นจนผมรับรู้ความรู้สึกของคุณชายได้ว่าเขาไม่ต้องการจะเสียผมไปอย่างที่พูดออกมาจริง ๆ ทว่าในใจคุณชายเองคงกำลังสับสน อาจเพราะไม่อยากมีปัญหากับคนที่บ้านเช่นกัน



“รูปนี้ผมหล่อแฮะ” ผมอมยิ้มแล้วโชว์ให้คุณชายดู “เดี๋ยวหากรอบรูปมาใส่แล้วตั้งไว้หัวเตียงดีกว่า... เฮ้ย รูปนี้เป๊กก็น่ารัก ชอบ ๆ”



“ไหน ๆ รูปไหน” คุณชายทำน้ำเสียงสนใจ ไม่รู้ว่าแกล้งหรือจริงจังแต่มันก็ดีกว่าการที่เราสองคนต้องมานั่งเครียดไปตลอดทาง



“นี่ครับ” ผมยื่นไปให้ รูปใบนั้นมันเป็นรูปที่คุณชายกำลังอ้าปากจาม ตาหยี ใบหน้าเหยเก มือข้างที่จับกับมือของผมมาตลอดกำลังยกขึ้นมาปิดปาก



คุณชายฉีกริมฝีปากยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกหลังจากที่ทำหน้าเครียดมาตลอดทาง



“เออ... เอาไปใส่กรอกทุกรูปเลยไหม ต้องขอบใจคุณพ่อที่จ้างนักสืบไปถ่ายนะเนี่ย ทำให้เราได้มีรูปคู่กัน”



“นั่นสิครับ”



“เนอะ”



“คร้าบ”



ผมฝืนยิ้มทั้งที่ในใจกำลังร้องไห้ เข้าใจดีว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง รู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นนายพรานร้ายที่หลอกล่อคุณชายที่เปรียบเสมือนนกซึ่งสามารถโบยบินได้อย่างอิสระอยู่บนฟากฟ้าให้ติดกับดักจนตกลงมาแล้วไม่สามารถที่จะโบยบินขึ้นไปหาท้องฟ้าที่สวยงามได้อีก



ทว่า... นกตัวนั้นกลับเลือกที่จะเชื่อใจแล้วบินไปเคียงข้างผม เมื่อเป็นเช่นนั้นผมก็จะอยู่เคียงข้างนกตัวนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน ผมจะไม่มีวันปล่อยให้คุณชายต้องร้องไห้อยู่ตามลำพังเด็ดขาด








 

ทันทีที่หม่อมหลวงการัณญภาสฌ์ สุริยะวิทูเดินออกจากบ้านไปพร้อม ๆ กับร่างของไอ้ข้าวพี่เลี้ยงซึ่งเป็นเด็กปั๊มที่มีความสัมพันธ์เกินเลยกว่าที่ควรจะเป็น หม่อมราวงศ์กริชกร สุริยะวิทูผู้เป็นพ่อของคุณชายเป๊กก็เลือดขึ้นหน้าจนหมดสติไป



“ตกลงนี่มันอะไรกันแม่วลี” หม่อมย่าเอ่ยถามขณะที่ลูกสะใภ้ของตนกำลังใช้ผ้าซับไปที่ใบหน้าของสามี



“วลีก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณแม่” วลีลาวัลย์ตอบออกมา “แต่พอเห็นภาพที่คุณพี่นำมาก็พอจะเดาออกว่าชายเป๊กกับพ่อข้าวมีความสัมพันธ์เกินเลยกัน วลีไม่คิดเลยนะคะว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้”



“อุ๊ย! ตายจริง” หม่อมย่ายกมือขึ้นทาบอก เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “ความสัมพันธ์เกินเลยที่เธอว่านี่มันคงไม่ใช่...”



“อย่าให้วลีพูดเลยค่ะ วลีทำใจไม่ได้ถ้าลูกเป๊กจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ”



“แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ล่ะ เธอจะทำยังไง” หม่อมย่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ



“วลีไม่ยอมแน่ ๆ ค่ะ” เธอขึ้นเสียงหนักแน่นหากในใจเธอกลับรู้สึกสั่นไหวอยู่ไม่น้อยเพราะกลัวจะใจอ่อนยอมตามลูกชาย



“ผมก็ไม่ยอมแน่ ๆ ครับคุณแม่ แค่ก ๆ” หม่อมราชวงศ์กริชกรเอ่ยขึ้นมาสมทบหลังจากที่สติกลับมา เขาหมดสติไปหลังจากที่ตะโกนร้องเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก่อนจะออกจากบ้านเพราะความเครียด



“อุ๊ย... คุณพี่ ฟื้นแล้วเหรอคะ” วลีลาวัลย์รีบกุลีกุจอไปหาพร้อมกับยกแก้วน้ำให้สามีดื่ม



“ขอบใจ” หม่อมราชวงศ์กริชกรพูดเสียงห้วน “บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าให้ลูกยุ่งกับไอ้เด็กปั้มมันมากนัก เป็นไงล่ะสมใจเธอรึยัง”



สิ้นเสียงของหม่อมราชวงศ์กริชกร ผู้เป็นภรรยาก็ก้มหน้าด้วยความสำนึกผิดทันที “วลีขอโทษนะคะ วลีเห็นว่าชายเป๊กว่านอนสอนง่ายขึ้นตั้งแต่ได้ตาเด็กข้าวมาดูแล คุณพี่ก็เห็นไม่ใช่หรือคะ ตั้งแต่ได้ตาเด็กนั่นมา ชายเป๊กก็มีนิสัยในทางที่ดีขึ้นผิดกับเมื่อก่อน...”



“แล้วไง! นิสัยดีขึ้น แต่ต้องแลกกับการที่มีลูกเป็นพวกวิปริตฉันรับไม่ได้หรอกนะ” หม่อมราชวงศ์กริชกรกระแทกเสียง “หรือเธอรับได้”



“ไม่ค่ะ” น้ำเสียงของวลีลาวัลย์บางเบา เธอส่ายศีรษะเบา ๆ เป็นการเน้นย้ำคำตอบ “วลีรับไม่ได้ หญิงดาวเท่านั้นที่เหมาะสมกับลูกเป๊กที่สุด”



“ใช่! เราจะต้องจัดงานหมั้นให้ไวที่สุด” หม่อมราชวงศ์กริชกรพยักหน้า ทางเดียวที่เขาคิดออกในตอนนี้ก็คือรวบรัดจัดงานหมั้นให้ไวที่สุด แล้วประกาศลงหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับรวมทั้งสื่อทีวีทุกช่องให้เป็นข่าวดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้ใครระแคะระคายสงสัยในความสัมพันธ์ของลูกชายกับไอ้เด็กปั๊มนั่น



“แล้วชายเป๊กจะยอมเหรอคะ” จริงอยู่ว่าวลีลาวัลย์เห็นด้วยทุกประการ แต่เธอก็รู้นิสัยของลูกชายดีว่าหัวรั้นและเอาแต่ใจมากแค่ไหน ใช่ว่าเรื่องแบบนี้มันจะบังคับฝืนใจกันได้ง่าย ๆ



“มันต้องยอมแน่ ๆ” หม่อมราชวงศ์กริชกรแสยะยิ้มออกมาก่อนจะหันหน้าไปหาผู้เป็นแม่ “แล้วคุณแม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงบ้างครับ”



“เอาไว้ให้เจอตัวหลาน เดี๋ยวแม่จะคุยอีกที” หม่อมย่าทำสีหน้าครุ่นคิดจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เนื่องจากหญิงดาวเป็นเด็กสาวที่เธอเอ็นดูมาตั้งแต่ตัวยังเล็ก ๆ และเธอก็รักหลานคนนี้มากไม่ต่างจากหลานแท้ ๆ อย่างชายเป๊ก เธอจึงปรารถนาที่จะให้คนทั้งคู่แต่งงานกันและออกคำสั่งนี้มาตั้งแต่ที่ชายเป๊กยังเป็นเด็ก แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าหากหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอต้องหมั้นและแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก แล้วเขาจะมีความสุขได้อย่างนั้นหรือ



“ไม่ต้องกังวลนะครับคุณแม่ เราจะต้องมีทายาทสืบสกุลแน่นอน”

 








“อะไรนะ! คุณพ่อสั่งให้คนมาเปลี่ยนรหัสสแกนคีย์การ์ดงั้นเหรอ” คุณชายบ่นอย่างหัวเสียกับพนักงานต้อนรับที่โรงแรมของคุณท่านในบางแสน



“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ” พนักงานสาวก้มหน้าหลบสายตา แม้จะไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เธอก็เกรงกลัวเพราะรู้ดีว่าพิษสงของคุณชายเวลาที่โมโหมีอานุภาพรุนแรงมากแค่ไหน



“ไม่เป็นไรนะครับ” ผมกระตุกแขนคุณชายเบา ๆ ไม่อยากให้คุณชายอารมณ์เสียไปมากกว่านั้น



“อืม” คุณชายหันมาพยักหน้าให้ “ไปกันเถอะ”



พูดจบก็เดินนำลิ่วออกจากโรงแรมทันที



สาเหตุที่ทำให้เราสองคนมาโผล่ที่บางแสนก็เพราะหลังจากที่กลับไปที่บ้านเช่า ลุงธัญญ์ผู้จัดการปั๊มน้ำมันได้โทรมาแจ้งให้ผมพักงาน ได้ยินลุงธัญญ์หลุดชื่อของปอมออกมาเลยพอจะจับต้นชนปลายถูกว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ผมจึงไม่ได้เซ้าซี้อะไรมาก พอเรื่องเป็นแบบนั้นคุณชายเลยชวนผมมาพักผ่อนที่บางแสน แต่โชคก็ไม่เข้าข้างเมื่อคุณพ่อของคุณชายดันสั่งให้คนมาเปลี่ยนรหัสคีย์การ์ดมิหนำซ้ำยังระงับบัตรเครดิตและเอทีเอ็มของคุณชายทุกใบอีกด้วย จนในตอนนี้คุณชายเหลือเงินติดตัวอยู่ไม่ถึงหมื่นเท่านั้น



ในความโชคร้ายยังมีเรื่องดี ๆ อยู่บ้าง แม้คุณชายจะโดนตัดไม่ให้ใช้เงิน แต่เพราะเงินของคุณชายจากการทำอาชีพพี่เลี้ยงนั่นแหละที่ทำให้ผมพอจะมีเงินเก็บเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอยู่บ้าง



ผมเดินตามคุณชายไปจนกระทั่งถึงริมหาด ใบหน้าของคุณชายในยามนี้ไม่สู้ดีนัก



“ฉันไม่เหลืออะไรแล้วข้าว” น้ำเสียงของคุณชายเบาหวิว เขาหันมามองใบหน้าผมด้วยแววตาที่เศร้าสร้อยก่อนที่จะทิ้งร่างลงนั่งบนหาดทราย นิ้วมือทั้งสองข้างก็เขี่ยทรายเล่นอย่างไม่ได้ตั้งใจราวกับสิ่งที่ทำลงไปนั้นเกิดจากความเหม่อลอย



“คุณชายพูดอะไรครับ” ผมทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ แล้วจับแขนของคุณชายเอาไว้แน่น คุณชายหันหน้ามาสบตามองผมด้วยความไม่เข้าใจ “คุณชายยังมีผมนะครับ”



รอยยิ้มของคุณชายผุดขึ้นทันทีที่ผมพูดจบ “ฉันรู้ว่าฉันยังมีข้าว แต่ฉันหมายถึงเงินน่ะไม่มีใช้แล้ว รถก็ไม่มี ที่พักก็ไม่มี ชวนข้าวมาแท้ ๆ แต่กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ขอโทษนะข้าว แล้วก็ไอ้คำว่าคุณชายพอเถอะนะ ไม่ต้องเรียกแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่และหม่อมย่าคงรับไม่ได้ สุดท้ายพวกท่านก็คง...”



น้ำเสียงของคุณชายสั่นไหวราวกับคนกำลังร้องไห้ “คง... ตัดสัมพันธ์กับฉัน”



พูดจบหยาดน้ำใสก็รินไหลลงมาจากดวงตาทันที ...ไม่ชอบเลยที่คุณชายเป็นแบบนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเข้มแข็งและหัวรั้นอย่างคุณชายจะต้องร้องไห้ออกมา ปัญหาที่เจอหนักหนาสาหัสอยู่พอสมควร เมื่อสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวปรารถนา ความไม่เข้าใจกันจึงเกิดขึ้น มิหนำซ้ำคุณชายยังเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลอีกด้วย คุณท่านและคุณหญิงคงไม่ยอมง่าย ๆ



“ไม่หรอกครับ” ผมเอื้อมมือไปปาดน้ำตาของคนที่ไม่ชอบแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น “คุณชายเป็นสายเลือดของพวกท่าน ไม่มีวันที่พวกท่านจะตัดสัมพันธ์กับคุณชายได้ลงหรอกครับ”



“คุณพ่อเป็นคนทิฐิสูงมาก” น้ำเสียงของคุณชายยังคงสั่นไหว



“แล้วถ้าเป็นแบบนั้น จะทำยังไงต่อไปล่ะครับ” ที่ถามไม่ได้จะตอกย้ำในคำตอบของคุณชายหรอกนะ แค่อยากรับรู้ความคิดของคุณชายก็เท่านั้น



“ยังคิดไม่ออก”



“แล้วไม่คิดจะลองไปคุยกับท่านตรง ๆ แล้วอธิบายให้ท่านเข้าใจถึงเหตุผลบ้างเหรอครับ บางทีการพูดคุยอาจจะมีอะไรดี ๆ รออยู่มากกว่าการที่เราคิดไปเอง ตัดสินใจไปเองนะครับ”



“ฉันรู้น่าข้าว แต่คุณพ่อ... มันอธิบายลำบากอ่ะ คุณพ่อคงไม่ยอมแน่ ๆ” คุณชายถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ “ข้าวอยากให้ไปลองคุยกับคุณพ่อดูเหรอ”



“ครับ” ผมพยักหน้า



“ถ้าเป็นความต้องการของข้าว ฉันก็จะทำ” คุณชายตอบรับเสียงหนักแน่น “แต่ขอเวลาอีกสักพักนะ”



“ได้สิครับ” ผมยิ้มออกมา คุณชายของผมน่ารักเสมอ ต่อให้เป็นคนหัวรั้นแต่พอถึงยามที่สับสนและไม่เข้าใจตัวเองก็มันจะเชื่อฟังและทำตามที่ผมบอกทุกครั้ง แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมหลงรักไอ้เด็กตัวแสบคนนี้จนโงหัวไม่ขึ้นได้อย่างไรล่ะ



คุณชายทิ้งศีรษะมาที่ไหล่ของผม ไม่พูดไม่จาอะไรอีกสักคำ ผมปล่อยเวลาให้ผ่านไปทั้งอย่างนั้น บางทีความเงียบอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนที่กำลังสับสนในความคิด



ความเงียบไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่ความคิดของเราเท่านั้นที่จะทำร้ายตัวเราเอง... และผมก็เชื่อว่าคุณชายจะไม่ปล่อยให้ความคิดทำร้ายตัวเองแน่นอน เราจะต้องผ่านอุปสรรคนี้ไปด้วยกัน



ในระหว่างนี้เราสองคนจำเป็นต้องขาดเรียนไปโดยปริยาย ผมน่ะไม่ลำบากเท่าไรหรอกแค่ทำคะแนนสอบให้ได้เยอะ ๆ ก็จบอยู่แล้ว แต่มหาวิทยาลัยที่คุณชายเรียนอยู่นี่สิไม่รู้ว่าต้องทำงานอะไรส่งบ้างหรือเปล่าแต่คุณชายก็ยืนยันว่าจะยังไม่กลับไปที่กรุงเทพฯ จนกว่าอะไร ๆ จะดีขึ้น



'ผมจะอยู่ตรงนี้ อยู่เคียงข้างและสู้ไปพร้อม ๆ กับคุณชายนะครับ'


จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-09-2014 18:29:09
อุปสรรคครั้งใหญ่
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 12-09-2014 18:32:49
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 12-09-2014 20:33:38
เป็นกำลังใจให้น้าาาาา
สู้ ๆ นะข้าวกับคุณชาย
 :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 13-09-2014 00:14:11
 :beat: ตัวเองไม่เคยเลี้ยงลูกจนดีได้ขนาดนี้แท้ๆ ทำไมทำตัวยังงี้ ลูกไม่ใช่สิ่งของนะ จะมาจัดว่าเหมาะไม่เหมาะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 13-09-2014 10:11:40
สู้ต่อไปคุณชาย  คุณแม่กับคุณย่าดูท่าแล้วน่าจะพอคุยกันได้ ปัญหาอยู่ที่คุณพ่อจริงๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 13-09-2014 19:33:02
อุปสรรคของความเข้าใจ ..
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 26-09-2014 19:23:05
ตอนที่ 36

หากวันเวลาแห่งความสุขผ่านไปไว แล้วเหตุใดคืนวันแห่งความผิดหวังมันถึงได้ผ่านไปอย่างเชื่องช้าแบบนี้ด้วยนะ...


ตั้งแต่ที่ผมเช็คอินโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดมากนัก คุณชายก็ไม่ยอมพูดจาอะไรสักคำ หลังจากที่เขาห้องก็เอาแต่นอนอยู่บนเตียงนอน ยังดีที่คุณชายไม่แกะอ้อมกอดของผมที่ได้โอบกอดคุณชายเอาไว้ตลอดเวลาออกเช่นกัน


ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร เสียงโทรศัพท์ของผมที่ดังขึ้นได้ทำให้ผมต้องผละจากร่างคุณชายแล้วไปหยิบโทรศัพท์มาดู


หน้าจอโทรศัพท์ปรากฏเบอร์ของพี่ปั๊ม ผมหันไปมองหน้าคุณชายแว๊บหนึ่ง เมื่อคุณชายไม่ได้สนใจอะไรผมจึงเดินออกไปคุยที่ดาดฟ้าระเบียงห้อง ซึ่งในยามนี้พระอาทิตย์ได้ตกดินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


“ครับพี่ปั๊ม” ผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่กดรับสาย


“มึงอยู่ไหน กูรู้เรื่องแล้วนะ พรุ่งนี้มึงกลับมาทำงานได้แล้วนะ ไอ้ปอมแม่งเชี่ยว่ะ ขู่ลุงธัญญ์ว่าจะไล่ออกถ้าไม่ยอมพักงานมึง ลุงธัญญ์ก็เลยต้องทำตามแต่ตอนนี้กูเคลียร์ให้ละ”


“คือพี่ปั๊ม ผม...” เสียงของผมเบาลงซาบซึ้งในน้ำใจของพี่ชายคนนี้แต่ตอนนี้ผมมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้น


“คืออะไร พูดดัง ๆ หน่อยสิวะ”


             ผมหันไปมองคุณชายอีกครั้ง พอเห็นสภาพของคุณชายในตอนนี้ผมไม่มีกระจิตกระใจจะไปทำงานแล้วปล่อยให้คุณชายอยู่ตามลำพังได้หรอก


“ผมขอโทษนะครับ คือผม... ผมขอลาออก” ไม่อยากจะพูดคำ ๆ นี้สักนิด การเป็นเด็กปั๊มที่คอยเติมน้ำมันให้กับคนอื่น ๆ มันไม่ใช่งานที่หนักหนาสาหัสสำหรับผมสักนิด แม้จะมีหลายคนที่มองผมอย่างเหยียดหยามแต่มันจะไปสำคัญอะไรในเมื่อสิ่งที่ผมทำมันคืออาชีพที่สุจริต ถ้ามีโอกาสผมยังอยากเป็นเด็กปั๊มไปจนตายเลย แต่ทว่า... ผมปล่อยคุณชายเอาไว้คนเดียวไม่ได้จริง ๆ


“มึงพูดอะไรของมึง กูเคลียร์ให้แล้วนะ อย่างอนได้ป่ะ” น้ำเสียงของพี่ปั๊มแสดงถึงความสับสน


“ผมไม่ได้งอนนะพี่ ที่ผมตัดสินใจแบบนี้มันไม่เกี่ยวกับลุงธัญญ์หรือปอมเลย แต่ว่า...”


“แต่อะไร” พี่ปั๊มกระแทกเสียงใส่อย่างร้อนรน “แต่อะไรวะ ช่วงนี้มึงแปลกไปนะข้าว มีไรก็พูดมาให้หมดถึงยังไงมึงก็น้องกู”


“ครับ” ผมรับคำ ก่อนจะค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นระเบียงห้อง “คุณชายมีปัญหากับที่บ้านครับ คุณพ่อของคุณชายรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว คุณท่านโกรธมากและเหมือนจะบังคับคุณชายให้หมั้นกับคุณหญิงดาวแต่คุณชายไม่ยอมเลยหนีออกจากบ้านมากับผม แล้วตอนนี้บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิตของคุณชายใช้ไม่ได้สักใบเลยครับ ผมเป็นห่วงคุณชายครับพี่ ผมทิ้งคุณชายไว้คนเดียวไม่ได้จริง ๆ”


“อืม...” พี่ปั๊มตอบรับเสียงเบา... เบาลงจนผมยังนึกสงสัยว่าเพราะอะไร เพราะปกติพี่ปั๊มไม่ใช่คนเสียงเบาแบบนี้ “กูเข้าใจแล้ว มึงก็ดูแลคุณชายดี ๆ ละกัน ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกกูได้ทุกเรื่องนะเว้ย กูยินดีช่วย ยังไงมึงก็น้องกู เข้าใจป่ะข้าว”


“เข้าใจครับพี่ ขอบคุณนะครับ” ผมตอบรับไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากจะขัดใจพี่ปั๊ม แม้ว่าหนทางข้างหน้าจะต้องเจอกับอุปสรรคหรือปัญหาที่หนักหนาสาหัสแค่ไหน ผมคงไม่กล้าที่จะขอร้องให้พี่ปั๊มมาช่วยหรอก ที่ผ่านมาพี่ปั๊มก็ช่วยผมมาตั้งเยอะ ไม่รู้ว่าต้องตอบแทนเท่าไรถึงจะหมด


            “มึงสัญญากับกูได้ป่ะ”


“สัญญาอะไรครับ”


“ถ้ามึงไม่ไหว... ให้นึกถึงกู แล้วกลับมาหากูได้ทุกเมื่อ กูจะรอนะมึง เออ แค่นี้ล่ะ กูต้องรีบไปทำงานแล้ว” พูดจบก็ตัดสายทันที ผมไม่ได้อุปทานไปเองใช่ไหม รู้สึกว่าน้ำเสียงในประโยคหลัง ๆ ของพี่ปั๊มมันสั่นเครือแปลก ๆ


‘ขอบคุณนะครับพี่ปั๊ม’









ทางด้านของพี่ปั๊ม...
ทันทีที่วางสายโทรศัพท์ เขาก็ก้มหน้าก้มตาแล้วยกหลังมือขึ้นมาปาดใบหน้าบริเวณดวงตา


“พี่ข้าวว่าไงบ้างครับ แล้วพี่... โอเคนะ” เป็นเสียงของโด้ที่เอ่ยถาม


“ไว้เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ตอนนี้กูขออยู่คนเดียวก่อนได้ป่ะ” ปั๊มเอ่ยขึ้นโดยที่ไม่หันไปสบตากับคนที่คุยด้วย


“ได้ครับ” โด้รับคำอย่างสุภาพ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องของผู้จัดการไป


แม้จะไม่เคยอกหัก แต่โด้ก็เข้าใจดีว่าอาการที่เกิดขึ้นกับพี่ปั๊มในยามนี้มันคืออะไร ใช่ว่าเขาจะโง่จนสังเกตอะไรไม่ออก ตั้งแต่วันที่ข้าวหายไปกับคุณชาย โด้ก็โดนปั๊มบ่นจนหูแฉะทุกวัน ท่าทีที่ร้อนลนจนผิดปกตินั้นกอปรกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมานานระหว่างปั๊มกับข้าวทำให้โด้มั่นใจว่า ...พี่ปั๊มหลงรักพี่ข้าวเข้าเต็มเปา


หากแต่ปั๊มเป็นคนปากแข็ง ไม่ยอมรับความจริงง่าย ๆ ต่อให้เอาอะไรมาง้างปากก็คงจะไม่ยอมรับออกมาแน่ ๆ ท้ายที่สุดก็ทำได้เพียงเป็นห่วงเขาข้างเดียวอยู่ห่าง ๆ แบบนี้


“โด้...” เสียงที่ดังขึ้นทำให้โด้ชะงักกึกหลังจากที่เดินออกมาจากห้อง


“อ้าว... พี่ปอมสวัสดีครับ” เหตุผลที่ปอมมาปรากฏตัวที่กรุงเทพฯ ก็เพราะตั๋วรถที่ปั๊มจองไว้ให้ข้าวนั้นมันว่าง ปอมก็เลยใช้โอกาสนี้ออดอ้อนคุณพ่อกับคุณแม่ของเขาเพื่อที่จะได้มาเที่ยวในเมืองหลวง


“ปั๊มอยู่ไหน”


“ในห้องผู้จัด...” ไม่รอให้โด้พูดจบ ปอมก็เดินจ้ำอ้าวเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที โด้ทำได้เพียงมองตามแล้วถอนหายใจออกมาพร้อมกับภาวนาว่าอย่าให้เกิดเรื่องอะไรที่ร้ายแรงระหว่างพี่น้องคู่นี้


“ปั๊ม” เสียงของปอมทำให้ปั๊มสะดุ้ง เขารีบยกมือขึ้นมาปาดหยาดน้ำที่กำลังเอ่อล้นจนท่วมใบหน้า


“อะไรวะ” ปั๊มพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติ “มึงหาโรงแรมหรู ๆ ได้แล้วเหรอวะ”


“อืม... แล้วนี่เป็นไร ไมเสียงสั่นอ่ะครับพี่” ปอมเดินเข้าไปใกล้ ๆ “ร้องไห้เหรอ”


“ร้องไรล่ะไอ้น้องเวร เออ... มึงมาก็ดีแล้ว กูยังไมได้คิดบัญชีเรื่องมึงที่ทำกับไอ้ข้าวเลยนะโว๊ย” พอน้ำตาเหือดแห้ง ปั๊มก็หันหน้ามาสบตากับน้องชายทันที พยายามทำตัวให้ไม่มีพิรุธ


“ปอมก็จะมาคุยเรื่องนี้เหมือนกัน” สิ้นเสียงของปอมปั๊มก็พยักหน้าเห็นด้วย “พี่ปั๊มชอบข้าวใช่ป่ะ”


คำถามที่เอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของน้องชายทำให้ผู้เป็นพี่ถึงกับสะดุ้ง


“ชอบเชิบอะไรวะ ไหนว่าจะมาคุยเรื่องที่มึงสั่งให้พักงานไอ้ข้าววะ”


“ปอมรู้น่าพี่ว่าพี่ชอบข้าว... สายตาที่พี่มองข้าวมันไม่ใช่สายตาที่คนปกติจะมองกัน... ถ้าพี่อยากสมหวัง ก็มาร่วมมือกับผมดีกว่า” ปอมเอ่ยออกมาอย่างรู้ดี


“หึ...” ปั๊มพ่นลมหายใจก่อนที่จะเอ่ยประโยคถัดไปด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ “ร่วมมือกับมึงเพื่อที่มึงจะได้ใช้โอกาสนี้เข้าหาคุณชายอ่ะนะไอ้ปอม กูรู้นะว่ามึงชอบคุณชายมานาน แต่มึงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำแบบนี้กับใคร ตลอดเวลาที่อยู่แม่ฮ่องสอนกูรู้มาตลอดแหละว่ามึงทำอะไรบ้าง ทั้งเรื่องที่มึงกดรับโทรศัพท์ของไอ้ข้าว ทั้งเรื่องที่มึงคอยยั่วโมโหไอ้ข้าว แต่เพราะมึงเป็นน้องกู กูเลยไม่อยากจะพูดอะไรออกไป”


“พะ... พี่รู้” เสียงของปอมกระตุกเล็กน้อย เรื่องยั่วโมโหน่ะถึงจะรู้ก็ไม่แปลกใจอะไรแต่เรื่องรับโทรศัพท์ของข้าวแล้วปั่นหัวคุณชายเล่นนี่สิ รู้ได้อย่างไรแถมเรื่องแบบนี้มองมุมไหนเขาก็กลายเป็นตัวร้ายชัด ๆ


“เออ... กูรู้ แล้วมึงก็อย่าคิดจะทำอะไรแบบนี้อีกเป็นอันขาด อย่าริอาจคิดว่าถึงไม่มีไอ้ข้าวอยู่บนโลกใบนี้แล้วคุณชายจะหันมาชอบมึง เรื่องของหัวใจมันบังคับกันไม่ได้หรอกจำไว้” ปั๊มพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ที่กูพูดเพราะกูหวังดีกับมึง ยังไงมึงก็น้องกู”


พูดจบก็เดินออกจากห้องทันที ปล่อยให้คนที่โดนต่อว่าอยู่ฝ่ายเดียวยืนตัวเกร็งอยู่ในห้อง ปอมรู้สึกชาไปทั่วร่าง วาจาของพี่ชายทำให้เขาคิดอะไรไม่ออก เหมือนโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง แต่มีหรือที่คำพูดเพียงแค่นั้นจะทำให้คนที่รักคุณชายมาตั้งหลายปีอย่างเขายอมแพ้


ความจริงแล้วครอบครัวของปอมรู้จักกับครอบครัวของคุณชายมาแต่ไหนแต่ไร คุณพ่อของปอมทำธุรกิจปั๊มน้ำมันจนประสบความสำเร็จทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุเพียง 20 ต้น ๆ เท่านั้น กิจการที่รุ่งเรืองขึ้นทำให้รู้จักคนกว้างขวางและหนึ่งในนั้นก็คือหม่อมราชวงศ์กริชกร สุริยะวิทู


หม่อมราชวงศ์กริชกร สุริยะวิทู ร่วมหุ้นทำปั๊มน้ำมันกับ ‘สรวิทย์’ หรือ ‘วิทย์’ พ่อของปั๊มกับปอม ทำให้หลายต่อหลายครั้งที่มีหม่อมราชวงศ์จัดงานเลี้ยง ครอบครัวของปอมจะได้รับการ์ดเชิญ แน่นอนว่าเพื่อนที่แสนดีอย่างสรวิทย์ไม่เคยปฏิเสธงานเลี้ยงสักครั้ง และทุกครั้ง... เด็กชายตัวเล็ก ๆ ซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องจะขอตามติดมาด้วยทุกครั้ง


ปอมพบเจอกับหม่อมหลวงการัณญภาสฌ์ สุริยะวิทูหรือคุณชายเป๊กครั้งแรกเมื่อตอนที่เขาอายุได้เพียง 13 ขวบ ส่วนคุณชายเพิ่งอายุได้เพียง 10 ขวบเท่านั้น ตอนนั้นเป็นงานเลี้ยงฉลองที่ปีนั้นปั๊มน้ำทำกำไรได้เกินเป้าหมาย ...ในครานั้นปอมคิดว่าคุณชายเป็นเด็กที่น่ารักน่าชังและยังไม่ได้คิดอะไรเกินเลยนอกเหนือจากความคิดที่ว่าเด็กนั่นน่าสนใจก็เท่านั้น


จนกระทั่งเวลาผ่านไป คุณชายโตเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลา ตอนนั้นคุณชายอายุ 16 ขวบ ส่วนปอมอายุ 19 ขวบเท่านั้น วันนั้นมันงานวันเกิดของคุณหญิงวลีลาวัลย์ ซึ่งคุณสรวิทย์และลูกชายคนเล็กได้เดินทางมาร่วมงานนี้ด้วย และทันทีที่ปอมได้พบกับคุณชายที่หน้าตาหล่อเหลา ความชื่นชอบรูปลักษณ์ภายนอกนั้นได้ทำให้เขาต้องการที่จะได้ผู้ชายคนนั้นมาครอบครอง หากแต่เขาไม่รู้ว่าคุณชายจะมีรสนิยมแบบนั้นหรือไม่ และตั้งแต่วันนั้นมา ปอมก็พยายามสืบเสาะจนกระทั่งรู้ว่าคุณชายมีพี่เลี้ยงคนสนิทหนึ่งคน และดูท่าว่าพี่เลี้ยงคนนั้นจะไม่ใช่พี่เลี้ยงธรรมดาเสียด้วย จิตใจของเขาเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวพลางนึกริษยาที่คน ๆ นั้นได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณชาย แต่ปอมก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรไปมากกว่านั้น ทำได้แค่ตามสืบอยู่ห่าง ๆ


แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง วันที่โชคชะตาเข้าข้างปอม เพราะไอ้พี่เลี้ยงคนนั้นดันเป็นคนสนิทของปั๊มซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเขา วันที่ปั๊มได้พาข้าวไปแม่ฮ่องสอน และทำให้ปอมได้รู้จักกับข้าว และเพียงได้สนทนากันวันแรก ความริษยาที่อัดแน่นอยู่ในใจก็ได้ปะทุออกมาจนกลายเป็นความเกลียดชัง และถ้ามีอะไรที่จะทำให้ข้าวกับคุณชายแตกแยกกันได้ ปอมก็จะทำทุกวิถีทางและขัดขวางผู้ชายทุกคนที่เข้ามายุ่งกับคุณชายแม้ว่าคุณชายจะไม่ชอบเขาก็ตาม


ขอแค่ไม่ให้ใครได้ใกล้ชิดคุณชาย ขอแค่คุณชายเป็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลาและสะอาดบริสุทธิ์อยู่ในจินตนาการของปอมคนเดียวก็เพียงพอ


‘แกไม่มีวันสมหวังแน่ไอ้ข้าว!’


.....................................

เนื้อหาด้านล่าง สำหรับคนที่มาอ่านใหม่ ข้ามไปตอนต่อไปเลยนะครับ มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง
ส่วนคนเก่าที่อ่านแล้วให้ตัดตรงนี้ออกเลยนะครับ เนื้อเรื่องเปลี่ยนใหม่


อัพเดทแจ้ง 16/10/59

โค๊ด: [เลือก]

[u]

กลับมาที่บางแสน...
“วันที่เวียนเปลี่ยน วันที่เลยผ่าน รักคงมั่น เราไม่เคยห่าง เคียงคู่ชิดใกล้ทุกเวลา ยอมทิ้งความฝัน ยอมทุก ๆ อย่างให้กันและกัน เพียงได้เคียงข้างเพียงได้ร่วมทาง โอ้...รักนิรันดร์...” ผมฮัมเพลงเบา ๆ ตามนักร้องของร้านเหล้าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามชายหาด แต่มันคงดังสำหรับคุณชายเพราะผมยื่นปากไปใกล้ ๆ กับใบหู


“อะไรข้าว” คุณชายหยุดรินเหล้าลงแก้วแล้วหันมาเอ่ยถาม เราสองคนเข้ามาในร้านนี้ประมาณ 20 นาทีแล้วแต่เพิ่งมีเพลงนี้แหละที่ผมชอบและร้องตามได้


“ฟังเพลงนี้สิครับความหมายดีนะ” ผมส่งยิ้มให้ คุณชายอาการดีขึ้นหลังจากที่ได้ออกมาจากห้องพัก เริ่มพูด เริ่มยิ้มกับผมบ้างแล้ว


“เพลงอะไรอ่ะ ไม่เห็นรู้จักเลย เกิดไม่ทัน” คุณชายเอ่ยขึ้นขณะเลื่อนมือไปหยิบขวดโซดาแล้วยกขึ้นมาเทลงไปในแก้วเหล้า


“โห... เพลงออกจะดัง ไปอยู่ที่ไหนมาครับเนี่ย” ผมเอ่ยแซว


“ก็คนมันไม่รู้จักนี่นา”


“งั้นฟังนะครับ เดี๋ยวร้องให้ฟัง” ผมยิ้มให้คุณชายอีกครั้งก่อนจะรีบร้องตามท่อนต่อไป “เรียนรู้รักอย่างรู้คุณค่า ฝันไม่ไกล บินไปตามทางหาดวงตะวันที่เธอต้องการ ไม่มีฉุดรั้ง ไม่มีดึงดัน เราเข้าใจ รักยังแสนหวาน รักยังไม่เปลี่ยน เคียงคู่กัน... ก่อนเคยคิดว่ารักต้องอยู่ด้วยกันตลอด เติบโตจึงได้รู้ความจริง…”


“เสียงดีนะเนี่ย” เสียงที่ขัดขึ้นของคุณชายทำให้ผมหยุดร้อง


“แน่นอนครับ ความหมายดีด้วยนะครับเพลงนี้” ผมย้ำไปที่ความหมายของเพลงอีกครั้ง ไม่รู้ว่าคุณชายจะเข้าใจมันบ้างไหม


“เหรอ ๆ ไหน ๆ ขอฟังต่อซิ” คุณชายเอ่ยด้วยความสนใจ


“ได้สิครับ แต่ผมไม่ร้องแล้วนะ”


“ไม่เอาอ่ะ ร้อง ๆ ข้าวต้องร้อง” คุณชายงอแงเป็นเด็ก ๆ


“เอาแต่ใจเหมือนเดิมเลยนะครับ” ผมแกล้งดุ


“โอเค ไม่ร้องก็ได้” คุณชายแกล้งทำเสียงงอนกลับ เจอไม้นี้เข้าไปผมก็ใจอ่อนสิครับ


ผมเขยิบเก้าอี้เข้าไปใกล้ ๆ คุณชาย แล้วใช้แขนข้างหนึ่งโอบหลังพร้อมกับออกแรงให้ร่างนั้นเขยิบเข้ามาจนแนบชิด


คุณชายหันหน้ามาสบตามองผม ดวงตากลมโตคู่นั้นกำลังฉายชัดถึงความอ่อนไหวเพียงครู่เดียวเท่านั้นคุณชายก็หลบตาแล้วทิ้งศีรษะลงมาที่หัวไหล่


“หากเคียงชิดใกล้ แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน ประโยชน์ที่ใด หากรักทำร้ายตัวเอง หากเดินแนบกาย มีพลั้งต้องล้มลงเจ็บด้วยกัน ห่างเพียงนิดเดียว ให้รักเป็นสายลมผ่านระหว่างเรา แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอย เพื่อให้เราได้ถึงดั่งฝัน ร่วมกัน…” ผมฮัมเพลงเบา ๆ จนจบตามนักร้องที่อยู่บนเวที


“ไม่เห็นจะความหมายดีตรงไหนเลย” คุณชายเอ่ยขึ้นมา ศีรษะยังคงซบอยู่ที่ไหลของผม “ที่ข้าวบอกว่าความหมายดี เพราะอยากห่างกัน อยากแบ่งที่ว่างใช่มะ”


“เฮ้ย!!! ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเราเลยนะครับ” ผมรีบปฏิเสธด้วยความร้อนใจ กลัวคุณชายจะเข้าใจผิดแล้วคิดน้อยใจจนตัดสินใจทำอะไรแผลง ๆ “คือที่ผมบอกว่าความหมายดีน่ะเพราะรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้คนรักกันชอบทำตัวติดกัน สามารถยอมและทิ้งทุกอย่างได้เพื่อคนที่รักโดยไม่คิดถึงอนาคตว่ามันจะเป็นยังไงต่างหากล่ะครับ คือถ้าต้องห่างกัน แต่ห่างเพื่อความสุข ความสำเร็จของอีกฝ่ายแล้วค่อยมาพบกันทีหลังมันก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ ดีกว่าอยู่ใกล้กันแต่ไม่เหลืออะไรเลยสุดท้ายก็เลิกลา”


“อืม...ดีกว่าใกล้กันแต่ไม่เหลืออะไรเลยสุดท้ายก็เลิกลา” คุณชายทวนคำเสียงหนักแน่น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่พอใจในสิ่งที่ผมพูด


“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ ไม่ได้หมายถึงเรา โถ่คุณชายอย่าคิดมากสิครับ” ผมอ่อนใจ ไม่กล้าพูดอะไรออกไปอีก กลัวว่ายิ่งพูดแล้วจะทำให้ยิ่งเข้าใจผิดไปใหญ่


“เราควรห่างกัน ฉันควรกลับไปที่บ้านใช่มะ” คุณชายจ้องผมเขม็งด้วยแววตาใคร่รู้


“ใช่ครับ” ผมพยักหน้าเห็นด้วย สังเกตเห็นคุณชายหน้าเสียเล็กน้อยจึงรีบพูดต่อ “หมายถึงคุณชายควรกลับไปคุยกับคุณท่านและคุณหญิงให้เข้าใจนะครับ แต่เราจะไม่ห่างกัน เอาไว้เมื่อไหร่ที่คุณชายพร้อม ผมจะไปด้วยนะครับ”


“จริงนะ” หลังจากที่ทำหน้าเครียดมานานคุณชายก็ยิ้มได้อีกครั้ง “ข้าวไม่คิดจะห่างฉันจริง ๆ นะ”


“สัญญาครับ ด้วยเกรียติของลูกผู้ชาย” ผมชูนิ้วสองนิ้วเป็นสัญลักษณ์ของคำมั่นสัญญา


“เอ้าดื่ม…” คุณชายยิ้มออกมาแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมาจับกรอกปากผม เล่นแบบนี้ผมก็แย่สิ ต้องฝืนกลืนน้ำที่รสชาติย่ำแย่ลงไปในคอจนได้


“ไม่เอาแล้วนะครับ” โชคดีที่คุณชายจับแก้วเหล้ากรอกปากผมแค่แป๊บเดียวเท่านั้น เลยไม่ต้องทนดื่มมันจนหมดแก้ว


“ได้ แต่คืนนี้ถ้าฉันไม่เมาไม่กลับนะ”


“ตามสบายเลยครับ ยอดชายนายข้าวคนนี้จะดูแลคุณชายเป๊กเอง” พูดจบฝ่ามืออรหันต์ของคุณชายก็ประทานมาที่กบาลผมด้วยความฉับไวและรุนแรงจนใบหน้าของผมเกือบจะทิ่มไปถูกโต๊ะ


“ได้ครั้งเดียวอย่ามาย่ามใจนะโว้ย ยอดชงยอดชายอะไร ไม่ชอบว่ะห้ามพูดแบบนี้อีก” คุณชายทำเสียงดุก่อนที่จะมากระซิบที่ข้างหูของผมเบา ๆ “จะทำไรก็ทำไป แต่ไม่ชอบให้พูดแบบนี้เข้าใจป่ะ อย่าพูดอีกนะว่าเป็นยอดชาย หรืออะไรที่ทำตัวราวกับว่าอยู่เหนือกว่า”


“อายเหรอครับ” ผมเอ่ยถามตรง ๆ ส่วนคุณชายเบือนหน้าหนี


“ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ”


“ได้ครับ ไม่พูดแล้ว ๆ” ผมยอมอ่อนข้อให้คุณชาย “แต่ขอถามอะไรอย่างได้ไหมครับ”


“ว่ามา” น้ำเสียงยังคงดุเหมือนเดิม


ผมยื่นหน้าไปใกล้ ๆ กับใบหูแล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุด แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คุณชายได้ยินทุกประโยค “แล้วเป๊กชอบแบบไหนมากกว่ากันครับ เอ่อ... หมายถึงชอบเป็นเมะหรือเป็นเคะ”


ไอ้ศัพท์แปลก ๆ พวกนี้ผมเรียนรู้มาจากคุณชายทั้งนั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคุณชายไปเอามันมาจากไหน แต่ผมจำได้ว่า ‘เมะ’ หมายถึง ‘เพศรุก’ ส่วน ‘เคะ’ หมายถึง ‘เพศรับ’ อะไรทำนองนี้


“เมะมันรู้สึกดีนะ สนุกและมีความสุขดี ส่วนเคะก็... เพิ่งเคยเหมือนกัน เห็นข้าวชอบและมีความสุขฉันก็สนุกไปด้วย” เวลาคุยแล้วหลบสายตามันไม่ใช่นิสัยของคุณชายเลยสักนิด คุณชายไม่เคยกลัวใครและไม่เคยเขินกับเรื่องใด ๆ จนต้องหลบสายตาคู่สนทนา พอเห็นคุณชายเป็นแบบนี้ก็อดเอ็นดูไม่ได้จริง ๆ


“ชอบเป็นเคะก็บอกตรง ๆ ก็ได้ครับ ไม่เห็นต้องอายเลย” ยิ่งเห็นอาย ๆ แบบนี้ก็เลยยิ่งอยากหาเรื่องแหย่ และผลที่ได้รับก็คือคำขู่ที่แสนจะน่ากลัว


“พูดมากน่า เดี๋ยวคืนนี้โดนจัดหนักแน่”


“ครับ... จะรอจัดหนัก ๆ ให้เป๊กนะครับ”


“โว้ว... เกลียดข้าวแล้วว่ะ ตั้งแต่กลับจากแม่ฮ่องสอนปากดีขึ้นเยอะเลยนะ” พูดจบก็กระดกเหล้าในแก้วจนหมด



จบตอน[/u]
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-09-2014 19:35:14
ปอมร้ายอ่ะ  :z6: ซักหลายๆ ทีได้ไหม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 26-09-2014 22:32:25
 :jul1: ว๊ายยยยยยยยยยยยยย คุณชายเปลี่ยนใจเป็นเคะเต็มตัวแล้ว

ถ้าอิปอมรู้คงดีใจเข้าไปใหญ่ ข้าวต้องจัดการไม่ให้มันมายุ่งกับคุณชายนะ
ส่วนคนชายเดินเข้าไปบอกที่บ้านเลยว่า "ผมมีผัวแล้วครับ" ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Brow_Ney ที่ 27-09-2014 14:27:46
ทำไปทำมา คุณชายจะเปลี่ยนสถานะตัวเองเป็นรับ ถาวรแล้วมั้ง555
อุปสรรคเยอะจัง เรื่องครอบครัวยังไม่เคลียร์ แล้วยังจะมีเรื่องปอมเข้ามาอีก เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 06-12-2014 10:32:25
ThankS
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 07-12-2014 21:51:43
เมื่อไหร่คนเขียนจะกลับมาต่ออ่าาาาาา  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-12-2014 22:37:18
 :undecided:  หายไปนานจัง เมื่อไหร่จะมาต่อน้าาาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน35 P.19] - 12/09/57 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: real port ที่ 14-12-2014 19:07:31
รอครับ :z13:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน37 P.19] 16/10/59 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 16-10-2016 00:42:22
ตอน 37


        หลายครั้งที่ความผิดหวังเป็นแรงผลักดันทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ... ผมอาจพูดได้ไม่เต็มปากว่าชีวิตของผมกับคุณชายประสบความสำเร็จ เพราะหลังจากที่ซมซานหาที่พักราคาถูกๆ เราทั้งคู่ก็ต้องออกทำงานเลี้ยงชีพ หาค่ำกินเช้ามันค่อนข้างที่จะลำบากสำหรับคุณชาย แต่เขาก็ไม่เคยท้อและพร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน


   เราสองคนพักอาศัยอยู่บ้านไม้เก่าๆ อยู่ในซอยแคบๆ ซึ่งไม่ไกลจากตัวชายหาดมากนัก โชคดีที่เจ้าของบ้านคือคนรู้จักของยามบอลจึงทำให้การเจรจาตกลงเป็นไปอย่างง่ายดาย


   ผมกับคุณชายตัดสินใจขายลูกชิ้นปิ้ง เงินในบัญชีของผมมีมากพอที่จะเป็นทุนสำหรับกิจการเล็กๆ แบบนี้ เหมือนว่าทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่แล้วคืนหนึ่งผมกับคุณชายก็มีอันต้องแยกจากกันอีกครั้ง


   “เลือกได้เลยนะครับ” เสียงของคุณชายดังขึ้นเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นร่างของลูกค้ามาหยุดอยู่หน้าร้าน ขณะที่กำลังจดจ่อกับการปิ้งลูกชิ้น ส่วนผมกำลังก้มหน้าหั่นแตงกวาและกะหล่ำ


   เมื่อลูกค้าไม่ตอบกลับแถมยังไม่ยอมสั่ง คุณชายจึงตัดสินใจเงยหน้าขึ้นไปมอง ...และเสียงสั่นเครือของคุณชายได้ส่งผลให้ผมเผลอปล่อยมีดจนหลุดมือ


   “พะ...พ่อ”


   ผมเงยหน้าขึ้นไปมองตาม ใบหน้าของหม่อมราชวงษ์กริชกรแน่นิ่งจนผมรู้สึกหวาดกลัว สายตาของท่านจ้องคุณชายตาเขม็งก่อนที่จะเปลี่ยนมาจับจ้องที่ผมอย่างดูแคลน


   “น่าสมเพช” คุณท่านเน้นเสียงหนักขณะมองหน้าผมก่อนที่จะหันกลับไปมองคุณชาย “เป็นถึงคุณชายแต่กลับไม่รักดีมาทำตัวต่ำๆ ติดดินแบบนี้ เสียประวัติครอบครัวหมด  แล้วไหนจะเรื่องเรียนอีก อาจารย์ของแกตามหาตัวแกให้วุ่นระวังจะเรียนไม่จบเอา”


   “หึ...” คุณชายแสยะยิ้ม ใบหน้ากระตุกราวกลับกำลังพยายามระงับโทสะที่เกิดขึ้น “ตกลงมีธุระอะไรกันแน่ คงไม่ได้มาเพื่อแค่จะด่าผมหรอกมั้งครับ”


   “ก็ฉลาดดีนี่...” คุณท่านตอบออกมาพร้อม “ตอนนี้ย่าของแกกำลังป่วยหนักเพราะแกทิ้งพวกเรามาอยู่กับไอ้เด็กเหลือขอนี่... เพราะฉะนั้นแกจะต้องกลับวังกับฉันเดี๋ยวนี้”


   หลังจากที่คุณท่านพูดจบ คุณชายก็เอื้อมมาจับกับมือของผมแล้วบีบมันแน่น... ผมรับรู้ได้ทันทีว่าคุณชายกำลังลังเลใจเพราะเป็นห่วงคุณย่าแต่จะทิ้งผมก็ไม่ได้


   ผมอยากจะแสดงบทพระเอกที่แสนดีแล้วบอกให้คุณชายกลับไปเหลือเกินแต่ผมก็ต้องอดทนเอาไว้ ในเมื่อเราสองคนสัญญากันเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทิ้งกัน ผมก็จะไม่มีวันพูดจาทำร้ายคุณชายอีกแน่นอน แม้สิ่งที่ผมเลือกมันจะเห็นแก่ตัวก็เถอะ


   “ตกลง... ผมจะกลับ” ทว่าคำตอบของคุณชายกลับทำให้ผมหัวใจแทบแตกสลาย มือของผมค่อยๆ คลายออกจากมือของคุณชายราวกับคนไร้เรี่ยวแรง


   คุณชายเลือกที่จะทิ้งผมและกลับไปอยู่กับครอบครัว ซึ่งการตัดสินใจนี้มันไม่ใช่เรื่องผิดเลยสักนิด แต่ทำไมผมถึงอดที่จะเสียใจไม่ได้นะ


   “ดีมาก... หึๆๆ ฮ่าๆๆ” คุณท่านยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆ หัวเราะเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ


   “แต่ข้าวจะต้องกลับไปด้วย” เสียงหัวเราะของคุณท่านเงียบลงทันทีเมื่อได้ยินคำนี้


   “ได้” คุณท่านพยักหน้าตอบตกลงอย่างง่ายดาย หากแต่น้ำเสียงนั่นออกจะไม่ค่อยเต็มใจเลยสักนิด “ครั้งนี้ฉันจะยอมแก เพื่อคุณย่าของแกหรอกนะ”


   “ขอบคุณครับ” น้ำเสียงของคุณชายแสดงออกถึงความไม่เต็มใจเลยสักนิด “ถ้าอย่างนั้นขอกลับไปเก็บของก่อนนะครับ”


   “ไปขึ้นรถ เดี๋ยวฉันพาไป”


   “ครับ”


   หลังจากที่เก็บของเสร็จ พวกเราก็ออกเดินทางทันที ผมรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ว่าการปรากฏตัวของคุณท่านจะต้องมีอะไรมากกว่าแค่คุณย่าป่วยแน่ๆ เหมือนกับว่าคุณท่านกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง และไม่แน่ว่าแผนนั้นอาจจะเป็นการแยกผมกับคุณชายออกจากกันก็เป็นได้


   ผมนั่งตัวเกร็งตลอดทาง ไม่ใช่เพราะกลัวคุณท่านหรือคนรับใช้ของคุณท่านในรถแต่เพราะกลัวการคาดคิดไปล่วงหน้ากับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น


   “เป็นอะไร” คุณชายกระซิบถามข้างหู “นั่งตัวเกร็งเชียว”


   “เปล่าครับ” ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว ผมรู้ว่าคุณชายอยากจะพูดอะไรมากกว่านั้นแต่เพราะในรถมันเงียบจนเกินไป หากพูดอะไรมากเกินไปมีหวังคนในรถคนอื่นๆ จะได้ยินด้วยแน่ๆ


   “ไม่ต้องห่วงนะ” คุณชายพูดแค่นั้นก่อนจะเอื้อมมือมาจับกับมือของผม


   “ครับ”


   คุณชายนั่งจับมือผมตลอดทางจนกระทั่งในที่สุดรถก็เลี้ยวเข้าสู่เขตวังสุริยะวิทูเราสองคนจึงผละมือออกจากกัน


   “คุณย่าอยู่บนห้องพักของท่าน แกรีบขึ้นไปเยี่ยมเลย ถ้าย่าเจอแกคงจะอาการดีขึ้น” คุณท่านเดินมาพูดกับคุณชายหลังจากที่ลงจากรถ


   “แล้วข้าวล่ะ” คุณชายเอ่ยถาม


   “ฉันจะให้มันนั่งรออยู่ในห้องรับแขก” คำตอบของคุณท่านทำให้ผมรู้สึกวูบวาบแปลกๆ ผมไม่ได้กลัวการอยู่คนเดียวแต่ผมไม่อยากนั่งอยู่คนเดียวในบ้านที่ใหญ่โตโอ่อ่าในขณะที่กำลังได้รับความรู้สึกเกียจชังจากเจ้าของบ้านแบบนี้


   คุณชายหันมามองผมด้วยสายตาครุ่นคิด... ผมจ้องกลับพยายามสื่อสารทางสายตาให้คุณชายเข้าใจว่าอย่าทิ้งผมไว้คนเดียวนะ แต่ทว่า...


   “ตกลงครับ”


   ผมอยากจะร้องไห้เหลือเกิน คุณชายกำลังคิดอะไรกันแน่ ปล่อยให้เด็กปั๊มตัวดำๆ ที่กำลังโดนเพ่งเล็งต้องอยู่ในวังแห่งนี้ด้วยความโดดเดี่ยวเนี่ยนะ


   “เดี๋ยวจะรีบลงมาหานะข้าว” คุณชายเอ่ยกับผมด้วยน้ำเสียงละมุนละไม


   “ครับ” ผมยิ้มเหยเก มันไม่ได้ช่วยให้รู้สึกอุ่นใจเลยสักนิดแม้น้ำเสียงจะละมุนละไมขนาดนั้น


   หลังจากนั้นเราก็แยกย้ายกัน ผมนั่งรออยู่ในห้องรับแขกส่วนคุณชายขึ้นไปหาหม่อมย่าบนห้องนอนส่วนตัว








   ...คุณชาย...



   ผมรู้ว่าคุณพ่อไม่มีทางยอมให้ผมกับข้าวได้ลงเอยกันแน่ แต่การที่หม่อมย่าต้องป่วยเพราะเรื่องของผมก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเช่นกัน


   คุณย่าคือความหวังเดียวของผมที่จะทำให้ผมกับข้าวได้ลงเอยกัน... แม้ว่าท่านจะดูดุและโหดมากในสายตาคนรับใช้และคนอื่นๆ แต่สำหรับผมท่านใจดีมาก ท่านไม่เคยดุด่าหรือตีผมเลยสักครั้งไม่ว่าผมจะทำอะไรผิด


   ผมเอาแต่คิดเรื่องที่จะให้คุณย่าช่วย จนลืมนึกไปเลยว่าการที่พ่อแยกผมกับข้าวออกจากกันนั้นท่านกำลังวางแผนอะไรอยู่หรือเปล่า
   

หลังจากที่ผมผลักบานประตูเข้าไป ผมก็เห็นร่างของหม่อมย่ากำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง


   “หม่อมย่า” แต่พอท่านได้ยินเสียงผมเท่านั้นแหละ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นก็ขยับหันมาจ้องมองผมอย่างไม่กระพริบสายตา
   

        “ชายเป๊ก... ชายเป๊กของย่า” น้ำเสียงของท่านเหมือนจะร้องไห้ ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปโอบกอดท่านทันที


   ร่างกายของคุณย่าอุ่นกว่าปกติกอปรกับใบหน้าที่ซีดเผือด นั่นทำให้ผมรู้ว่าคุณพ่อไม่ได้โกหกเรื่องที่คุณย่าป่วย


   “เป๊กกลับมาแล้วครับคุณย่า” ผมกอดท่านเอาไว้แน่น


   “ย่าดีใจที่เป๊กกลับมาหา” เสียงของคุณย่าแหบพร่า “แล้วเด็กคนนั้นล่ะ”


   “เด็กคนนั้น” ผมทวนคำด้วยความสงสัย เข้าใจว่าคุณย่าหมายถึงข้าว แต่คุณย่าต้องการจะถามอะไรกันแน่


   “ใช่... ย่าอยากจะถามว่าชายเป๊กรักเด็กคนนั้นมากถึงขนาดยอมทิ้งย่า ทิ้งพ่อ ทิ้งแม่เลยเหรอลูก”


   คำถามของคุณย่าสร้างความกดดันเหลือเกิน หากผมตอบไม่ใช่มันก็ชัดเจนว่าผมกำลังโกหก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันฟ้องอยู่ทนโท่ว่าผมเลือกข้าวและทิ้งครอบครัว แต่หากตอบว่า ‘รัก’ และ ‘ใช่’ มันก็จะแสดงถึงความอกตัญญูที่เขาเลือกคนอื่นไม่ใช่ครอบครัว


   ทั้งๆ ที่ผมตั้งใจจะมาพูดกับคุณย่าตรงๆ เพราะคิดว่าท่านจะเข้าใจปัญหา แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผมกลับไม่กล้าพูดอะไรออกไป อาจเพราะคุณย่ากำลังป่วยหนักด้วย


   “ผมไม่มีวันทิ้งคุณย่าหรอกครับ”


   “แต่ก็ทิ้งไปแล้ว... ฮึ” คุณย่าพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะเบือนหน้าหนี


   “โถ่... คุณย่าครับ อย่าโกรธเป๊กเลยนะครับ” ผมกอดท่านแรงขึ้นพลางซบใบหน้าไปที่หัวไหล่เพื่อทำการออดอ้อน


   “ย่าไม่ได้โกรธ... แต่อย่าแค่น้อยใจ” คุณย่าเว้นจังหวะชั่วครู่พลางลูกศีรษะของผมก่อนที่จะพูดต่อ “ย่าน้อยใจที่ชายเป๊กทิ้งย่า ย่าน้อยใจที่หลานของย่ามีอะไรไม่ยอมพูดออกมาตรงๆ ชายเป๊กจำได้ไหมว่าตอนเด็กๆ เราสองคนเคยให้สัญญากันไว้ว่าจะไม่มีความลับอะไรต่อกัน ไม่ว่าจะคิดอะไร รู้สึกอะไร หรือทำอะไรผิดเราก็จะมาคุยมาปรึกษากัน แต่ทำเรื่องนี้ชายเป๊กถึงไม่ยอมคุยกับย่า”


   ใช่ครับ... ผมกับย่าเคยให้สัญญากันว่ามีอะไรจะเล่าให้กันฟังทุกเรื่อง อาจเป็นเพราะสัญญาข้อนี้เลยทำให้ผมกับย่าเปิดใจให้กันในทุกๆ เรื่อง และทำให้ย่าเข้าใจในตัวผมจึงเอ็นดูผมมาโดยตลอด


   “ไม่ว่าชายเป๊กจะทำอะไรผิด ย่าก็พร้อมที่จะเข้าใจเสมอนะลูก”


   “แล้วเรื่องผมกับข้าว... มันผิดมากไหมครับ” ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าญาติผู้ใหญ่ที่ผมรักและเคารพมากที่สุดจะมีความคิดเห็นอย่างไร


   “ตกลงชายเป๊กกับเด็กคนนั้นรักกันจริงๆ ใช่ไหม ชายเป๊กไม่ได้รักพี่หญิงดาวจริงๆ ใช่ไหม เล่าให้ย่าฟังสิ เล่าถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นเล่าถึงความอัดอั้นในใจให้ย่าฟัง” หม่อมย่าพูดประโยคที่ยืดยาวด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า บางช่วงท่านก็กระแอมไอ แต่ท่าก็พูดจนจบประโยค


   ความตั้งใจของหม่อมย่าทำให้ผมเชื่อใจและตัดสินใจเล่าถึงความรู้สึกทั้งหมดให้ท่านฟัง


   “ครับ... ผมรักข้าว ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร อาจเพราะความผูกพันล่ะมั้งครับ ข้าวทนอยู่ทนดูแลเด็กดื้อด้านไม่มีใครอยากคบอย่างผมมาตั้งหลายปี ย่าก็รู้ว่าคนนิสัยแบบผมแค่คบเป็นเพื่อนยังไม่มีใครอยากคบเลยนอกจากพวกเพื่อนกินที่วันๆ หวังล่อเงินจากผมก็เท่านั้น แต่กับข้าวมันไม่ใช่”


   ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียงข้างๆ กับหม่อมย่าแล้วเล่าต่อ


   “ข้าวไม่ได้เห็นเงินสำคัญกว่าผม ข้าวเป็นคนที่มีความคิดซื่อๆ ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ผมเองก็อธิบายไม่ถูกนะครับว่าผมรักข้าวได้ยังไง แต่ผมเริ่มรู้ตัวตอนที่ผมกับข้าวทะเลาะกันเพราะความงี่เง่าของผมทำให้เราห่างกัน และนั่นแหละทำให้ผมรู้ว่าผมขาดข้าวไม่ได้...”


   “แค่นั้นเองน่ะเหรอ... บางทีหลานอาจจะแค่ต้องการเพื่อนเฉยๆ ก็ได้ หลานแน่ใจได้ยังไงว่านั่นคือความรักที่มากเกินกว่าคำว่าเพื่อน” หม่อมย่าเอ่ยถาม


   “ผมแน่ใจครับ” ผมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ “ผมไม่มีเหตุผลให้กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นหรอกครับ ที่ผ่านมาผมเองก็พยายามตามหาเหตุผลให้กับความรักนะครับ จนวันหนึ่งผมก็มั่นใจว่าความรักไม่มีเหตุผล เพราะถ้าเรามัวแต่หาและยึดติดกับเหตุผลมันจะเป็นรักที่สมบูรณ์แบบได้ยังไงล่ะครับ”


   คุณย่าขมวดคิ้วมุ่นอาจเพราะไม่เข้าใจ ผมจึงอธิบายต่อ


        “คุณย่าลองคิดดูนะครับ ถ้าเรารักใครคนหนึ่งเพราะเขารวย เขาน่ารัก เขาดี เขาเอาใจเรา แต่ถ้าวันหนึ่งเขาเปลี่ยนไป เขาล้มละลาย เขาประสบอุบัติเหตุจนเสียโฉม เขางี่เง่า เขาไม่ดีและเขาเบื่อที่จะเอาใจเรา เรายังจะรักเขาอีกไหม เพราะเหตุผลที่เราเคยรักเขามันหายไปจากตัวเขาคนนั้นหมดแล้ว รัก... ต่อให้เขาจะดีจะแย่ยังไงมันก็คือรัก”


“ล่ะ... หลานย่า” หม่อมย่าอ้าปากค้าง ผมไม่สามารถคาดเดาได้ว่าท่านกำลังคิดอะไรได้แต่ภาวนาในใจให้ท่านเข้าใจและยอมรับผมกับข้าวก็พอ “แล้วเรื่องหมั้นหมายกับพี่หญิงดาวล่ะ หลานจะว่ายังไง”


“ผมไม่เคยตกลงเลยนะครับ มีแต่ผู้ใหญ่ที่ตัดสินใจกันเองทั้งนั้น”


“เรื่องนี้ย่าผิดเอง” น้ำเสียงของคุณย่าสั่นคลอ “ยกโทษให้ย่าด้วยนะชายเป๊ก “


หม่อมย่ากำมือผมไว้แน่น ก่อนที่เวลาต่อมาน้ำตาของท่านจะรินไหลพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ ร่างของท่านสั่นเทาราวกับเจ้าเข้า
ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นสักนิด เพราะอะไรหม่อมย่าถึงรู้สึกผิดขนาดนี้


“ผมไม่ได้โกรธหม่อมย่านะครับ” ผมพยายามสรรหาคำพูดต่างๆ นานามาปลอบใจท่าน แต่ท่านก็เอาแต่สะอื้นไห้นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอะไรจนกระทั่งบานประตูห้องของหม่อมย่าถูกเปิดออก


“คุณชายครับ คุณท่านสั่งให้มาตามคุณชายลงไปที่ห้องรับแขกครับ” ชายหนุ่มในชุดสูทดำซึ่งเป็นลูกน้องของคุณพ่อเอ่ยขึ้น


“เดี๋ยวลงไป” ผมตอบก่อนที่หันกลับไปบอกคุณย่า “ย่าอย่าคิดมากนะครับ ผมไม่ได้โกรธคุณย่าจริงๆ ผมรักย่านะครับ”


พูดจบผมก็หอมแก้มของคุณย่าก่อนที่จะผละร่างกายให้ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องในทันที ผมมัวแต่คุยกับคุณย่าจนลืมนึกไปเสียสนิทว่าข้าวยังรอผมอยู่ที่นั่น...






ผมมองตามร่างของคุณชายจนกระทั่งลับสายตาก่อนจะกลับมาเผชิญกับคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่สู้ดีนัก


“ฉันว่าเราสองคนมีเรื่องที่ควรจะตกลงกัน” หม่อมราชวงษ์กริชกรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่ารอบข้างไม่มีใคร


   “ครับ”


   “ฉันจะไม่ถามถึงความสัมพันธ์ของนายกับชายเป๊กหรอกนะเพราะฉันไม่อยากฟัง แต่ฉันต้องการให้นายเลิกยุ่งกับชายเป๊ก” เสียงของคุณท่านราบเรียบไร้โทนสูงต่ำจนผมรู้สึกกดดัน อีกทั้งสายตาเหยียดหยามที่ส่งมานั่นมันทำให้ผมแทบจะนั่งไม่ติด


   “แต่ถ้าทำแบบนั้น...” ผมทำใจดีสู้เสือ “คุณชายอาจจะคิดทำอะไรไม่เข้าท่าอีกก็ได้นะครับ อย่างเช่นหนีไปกับผม”


   “ฉันรู้ว่าไอ้นี่มันหัวดื้อ เพราะฉะนั้นฉันถึงต้องการให้นายช่วย” คุณท่านแสยะยิ้มมุมปาก


   “ช่วยอะไรครับ”


   “ฉันจะอนุญาตให้นายอยู่กับชายเป๊กที่นี่จนถึงอาทิตย์หน้า ระหว่างนี้ฉันจะให้อิสระกับนายและชายเป๊กอย่างเต็มที่ อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องกลับมานอนที่วัง”


   “เพราะอะไรล่ะครับ ในเมื่อคุณท่านต้องการให้ผมเลิกยุ่งกับคุณชายแล้วจะให้เราอยู่ด้วยกันอีกทำไม” ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัยพลางคิดในใจหรือว่าคุณท่านจะยอมรับในตัวผม แต่ผมก็คิดผิดถนัดเพราะในประโยคถัดมาของคุณท่าน มันทำให้ผมรู้สึกราวกับโลกหยุดหมุน ในหัวมึนตื้อไปหมด


   “เพราะฉันต้องการทำให้ชายเป๊กตายใจ และอยู่ที่นี่จนกว่าจะครบกำหนดวันหมั้นและแต่งงานระหว่างชายเป๊กกับหญิงดาวในสัปดาห์หน้า ถ้านายอยู่ที่นี่ด้วยชายเป๊กก็จะไม่ระแคะระคายถึงเรื่องนี้ แต่นายต้องปิดปากเงียบห้ามพูดอะไรจนกว่าจะถึงวันงาน และพอถึงวันนั้น... นายต้องไปให้พ้นจากชีวิตของชายเป๊กและไม่ต้องห่วงว่าฉันจะใช้งานนายฟรีๆ เพราะถ้านายยอมและทำสำเร็จฉันมีค่าตอบแทนให้หลายล้านเชียวล่ะ”   


   “...” มิน่าเล่าคุณท่านถึงยอมให้ผมนั่งรถและเข้ามาในวัง ที่แท้ก็ต้องการจะเจรจาตกลงเรื่องนี้นี่เอง มันไม่ใช่เรื่องยากเลยหากผมจะปฏิเสธแล้วบอกแผนการทั้งหมดของคุณท่านให้คุณชายรับทราบ แต่ถ้าทำแบบนั้น... คุณชายก็อาจจะต้องไปลำบากตรากตรำกับผมอีก
   “ฉันสืบมาแล้วว่าพ่อแม่ของนายอยู่ต่างจังหวัดกำลังหาเงินซื้อบ้านที่ถูกยึดไปกลับคืนมา ค่าตอบแทนที่ฉันจะให้มันมีมากพอที่จะซื้อบ้านหลังนั้นกลับมาได้ อีกทั้งยังเหลือใช้จนนายคาดไม่ถึงเลยล่ะ”


   ผมไม่ได้ห่วงเรื่องเงินเลยสักนิดเพราะไม่เคยคิดที่จะใช้ทางลัดในการหาเงินเพื่อที่จะซื้อบ้านคืนมา แต่ผมห่วงความรู้สึกของคุณชายมากกว่า


   ถ้าผมตกลง คุณชายจะต้องผิดหวังในตัวผม แต่นั่นก็แลกกับการที่คุณชายจะได้ใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติ มีหน้ามีตาในสังคมต่อไป ไม่ถูกครหาดูถูกดูแคลนรวมถึงได้รับความรักจากคนในบ้านอย่างเปี่ยมล้นแน่นอน


   แต่ถ้าผมปฏิเสธ ทุกอย่างจะกลับตาลปัตร คุณชายจะไม่ได้รับความรักจากคนทางบ้าน อีกทั้งอาจถูกคนในสังคมประณามและทำให้ครอบครัวเสียชื่อเสียง การใช้ชีวิตในแต่ละวันก็คงจะไม่ราบรื่นต้องลุ้นว่าวันไหนจะมีเงินไม่พอใช้บ้างซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผมคิดไม่ตกตลอดเวลาขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บางแสน


   “ฉันไม่เร่งรัดเอาคำตอบหรอกนะ กลับไปคิดดูให้ดี พรุ่งนี้ค่อยให้คำตอบก็ได้...” คุณท่านเอ่ยขึ้นอาจเพราะผมเงียบไปนาน “ถ้านายรักชายเป๊กจริง นายคงไม่เห็นแก่ตัวรั้งเขาไว้ เพราะที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการที่นายต้องใช้ชีวิตอยู่กับชายเป๊กโดยที่ไม่มีอะไรเลยมันทำให้ชายเป๊กต้องลำบากมากแค่ไหน”


   คำพูดของคุณท่านเสียดแทงใจผมเหลือเกิน มันเหมือนมีหนามแหลมนับพันเล่มกำลังทิ่มแทงที่หัวใจของผม ทุกคำพูดที่เปล่งออกมามันเหมือนตอกย้ำถึงความเห็นแก่ตัว


   หากต้องเลือกในสิ่งที่ถูกต้องผมก็ควรทำตามที่คุณท่านต้องการ แต่หากเลือกทำตามหัวใจผมก็ต้องเห็นแก่ตัวต่อไปและทำให้แผนของคุณท่านที่จะจับคุณชายแต่งงานกับคุณหญิงดาวต้องพังทลาย


   ‘ตอนนี้เราอาจจะไม่มีอะไร ใครอาจจะมองว่าเราเริ่มต้นจากศูนย์ แต่ฉันว่ามันไม่ใช่นะ...’ เสียงของคุณชายในห้วงความทรงจำดังขึ้น


   ‘ทำไมล่ะครับ เราแทบไม่มีเงินเลยนะ’


   ‘ไม่มีเงินแต่ก็ยังมีข้าวไง... แค่มีข้าวมันก็ไม่ใช่ศูนย์แล้ว... แต่มันคือร้อยต่างหาก เราจะเริ่มต้นจากร้อยไปด้วยกันและทำให้มันเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ ลำบากแค่ไหนฉันก็จะทน ขอแค่มีข้าวอยู่ข้างๆ ก็พอ’


   ตอนนั้นคุณชายพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ผมไม่รู้ว่าเพราะแค่ต้องการพูดเพื่อให้ผมสบายใจหรือพูดด้วยความรู้สึกจากใจจริงกันแน่ แต่นั่นก็เท่ากับว่าคุณชายพร้อมที่จะลำบากไปกับผมแม้ว่าเราจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม


   มันยากเหลือเกินที่ต้องตัดสินใจในเรื่องแบบนี้ ระหว่างที่ผมกำลังใช้ความคิดอยู่นั้นสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นร่างของคุณชายกำลังเดินลงมาจากบันได


   ชายหนุ่มรูปหล่อส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มนั่นทำให้ใจผมแทบละลายและทำให้ผมตัดสินใจได้ยากขึ้น ผมรักคุณชายเพราะอะไร ผมพยายามหาเหตุผล เพราะเขารวย เขาหล่อ เขาน่ารักแค่นั้นน่ะหรือ ผมคิดว่าไม่ใช่จนตอนนี้ผมเองก็ยังไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าเพราะอะไร


   ในเมื่อความรักที่เกิดขึ้นมันไม่มีเหตุผล มันก็คงไม่ยากใช่ไหมหากผมจะทำตามความประสงค์ของหม่อมราชวงษ์กริชกร


   “ตกลงครับ”


   เมื่อได้ยินคำตอบ หม่อมราชวงษ์กริชกรก็กระตุกยิ้มออกมาทันที


   “ดี... งั้นคืนนี้ไปเก็บของเข้าห้องได้เลย”




จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน37 P.19] - 16/10/59 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 21-10-2016 15:40:13
ตอนที่ 38

ภายในห้องนอนที่แสนคุ้นเคย ร่างที่ใหญ่กว่ากำลังกอดร่างของผมเอาไว้อย่างแนบแน่น ฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นมาซุกซนอยู่ที่บริเวณแผงอกของผม การกระทำนั่นทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบจนอยากจะตอบสนองหากแต่ข้อตกลงที่ได้ให้ไว้กับคุณท่านทำให้ผมต้องแกล้งทำเป็นไม่สนใจและนอนอยู่นิ่งๆ


“เป็นอะไร” จนในที่สุดคุณชายก็เอ่ยถาม “ทำไมนอนตัวนิ่งแบบนี้ หรือว่าคุณพ่อคุยอะไรไม่ดีกับนาย”


 “ไม่ใช่ครับ” ผมปฏิเสธออกไปก่อนที่จะเลื่อนมือไปจับกับมือคุณชายเอาไว้แน่น “เพราะคุณท่านไม่พูดอะไรเลยต่างหาก ผมจึงรู้สึกกังวล”


“คงจะโกรธจนพูดอะไรไม่ออก แต่ก็ดีอย่างน้อยก็ยอมให้เราอยู่ด้วยกัน” คุณชายดุนจมูกมาที่ซอกคอของผม น้ำเสียงของคุณชายแสดงออกถึงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด “แต่แย่หน่อยนะที่พ่อห้ามให้เราไปทำอะไรประเจิดประเจ้อข้างนอก”


“ถึงไม่ห้ามเราก็ไม่ทำอยู่แล้วนะครับ” ผมเถียง


“เหรอ... แล้วตอนที่อยู่ทะเลล่ะ” คุณชายทำเสียงทะเล้นพร้อมขบต้นคอผมเบาๆ ราวกับกำลังหมั่นเขี้ยว


“ตอนไหน... ผมจำอะไรไม่เห็นได้เลยนะครับ”


 “ก็ตอนที่ไปเกาะล้านไง ทั้งในน้ำแล้วก็บนบก” คุณชายเริ่มเถียงอย่างจริงจัง


ผมเกือบที่จะหลุดขำ นี่คุณชายคิดจริงเหรอว่าผมจำไม่ได้ “จำไม่ได้จริงๆ ครับ”


“ต้องให้รื้อฟื้นความจำใช่ไหม” พูดจบคุณชายก็พลิกร่างของตัวเองจากเตียงนอนมาคร่อมร่างของผมไว้ มือทั้งสองกดหัวไล่ของผมเอาไว้อย่างแรง


คุณชายจ้องผมตาเขม็งอย่างขัดใจ เห็นดังนั้นผมจึงรีบตอบออกไปเพราะกลัวจะโดนราชสีห์ร้ายขยุ้มร่าง


“จำได้แล้วคร้าบ...” ผมทำน้ำเสียงออดอ่อนก่อนที่จะแสร้งทำน้ำเสียงประชดประชันในประโยคถัดมา “ก็ตอนนั้นมีใครไม่รู้บอกให้ลืม... แม่ง... เจ็บชะมัดเลยนะครับ การที่โดนคนที่เรารักกระทำกับเราแบบนั้นแล้วสุดท้ายบอกให้เราลืมมันเจ็บยิ่งกว่า...”


ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบคุณชายก็โน้มใบหน้าลงมาด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้ริมฝีปากของตัวเองบดขยี้กับริมฝีปากของผมด้วยความร้อนรุ่ม


“เลิกพูดได้แล้ว” คุณชายเค้นเสียงออกมาจากลำคอโดยที่ริมฝีปากของเรายังบดขยี้กันอยู่อย่างนั้น
ความปรารถนาในเรือนร่างที่แสดงผ่านอากัปกริยาต่างๆ เป็นเรื่องปกติของความรัก และการตอบสนองความรักด้วยภาษากายก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดศีลธรรมอันใด หากมันเกิดในสถานที่และเวลาที่เหมาะสม เพราะมันคือเรื่องปกติของมนุษย์โลก


 ในเมื่อผมกับคุณชายรักกันจึงไม่มีเหตุผลใดใดที่ผมจะปฏิเสธความต้องการนี้



ระหว่างที่ผมกำลังโดนคุณชายใช้ลิ้มรสริมฝีปากด้วยความดูดดื่ม มือของผมก็เลื่อนไปจับชายเสื้อของคุณชายแล้วขยุ้มมันเอาไว้แน่นอยู่ชั่วขณะ และในที่สุดก็ตัดสินใจถอดมันออกมา


ร่างของคุณชายปฏิบัติตามความต้องการของผมอย่างว่าง่าย และผมเองก็เช่นกันหลังจากที่เป็นฝ่ายถอดเสื้อให้คุณชายได้ก่อน เขาก็พลิกตัวผมให้นอนคว่ำก่อนที่จะถอดสิ่งที่ปกปิดเรือนร่างของผมทุกชิ้น


 
 อาภรณ์เปลื้องเรือนกายจึงพร้อมรบ           ราชสีห์ขบคมเขี้ยวลงบนแผ่นหลัง
แล้วใช้ลิ้นลิ้มรสจนหมดชัง                       ไม่หยุดยั้งละเลงรักบทต่อไป
อุ้งมือใหญ่วางลงบนร่างเหยื่อ                   เท้าจิกเสื่อเพิ่มอารมณ์ให้ลื่นไหล
เล็บกรีดกรายเลื่อนลงต่ำจนพอใจ              ก่อนซุกไซร้ทะลวงรักอัศจรรย์
เหยื่อกระตุกดีดเด้งตามความถี่                 โดนขยี้ยีย่ำราวกับฝัน
ยอมพลีกายถวายชีพชีวัน                         แล้วสุขสันต์เสพสมรติรส
 


ค่ำคืนอันแสนทุกข์ทรมานใจผ่านไปอย่างเชื่องช้า เจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงแผนการของหม่อมราชวงศ์กริชกร แต่ก่อนวันนั้นจะมาถึง เวลาที่เหลืออยู่ผมจะใช้มันให้คุ้มค่าก่อนที่ทุกอย่างจะต้องพินาศไป


เช้าวันรุ่งขึ้นคุณชายชวนผมเข้าไปเยี่ยมคุณย่า ผมจำได้ว่าในครั้งแรกที่ผมเจอท่านร่างกายของท่านยังดูแข็งแรงแต่ในเวลานี้ไม่ใช่


ภาพของคนสูงวัยที่นอนซมอยู่บนเตียงนอนตอกย้ำให้ผมรู้สึกผิด


“คุณย่าครับ ดูสิผมพาใครมาเยี่ยม” คุณชายเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสผิดกับผมที่แสดงอาการออกทางสีหน้าไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร


“คุณชายครับ มันจะดีหรอครับ” ผมกระซิบที่ข้างใบหูของคุณชาย “ถ้าหม่อมย่าเห็นผม ท่านอาจจะอาการทรุดลงก็ได้นะครับ”


“ไม่ต้องห่วงน่า” คุณชายกระซิบกลับ


“ล่ะ... หลานย่า มาแล้วเหรอ” เสียงแหบพร่าของหม่อมย่าดังขึ้น “นั่นข้าวใช่ไหม”


คุณย่าเหลือบสายตามามองผม สายตาของท่านแน่นิ่งจนผมไม่สามารถคาดเดาได้ว่าท่านรู้สึกเอ็นดูหรือเกลียดชังกันแน่


“ใช่ครับ” คุณชายตอบ เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมยกมือขึ้นไหว้หม่อมย่าพอดี


“สวัสดีครับหม่อมย่า”


หม่อมย่าผงกศีรษะรับเบาๆ หากแต่ใบหน้าของท่านยังคงแน่นิ่งไม่แสดงอาการว่าชอบหรือเกลียดขี้หน้าผมออกมา


ความรู้สึกที่ต้องคาดเดาว่าคนตรงหน้ารู้สึกอย่างไรมันกดดันยิ่งกว่ารู้ว่าคนตรงหน้าเกลียดเสียอีก


“คุณย่าทานข้าวต้มนะครับ ผมกับข้าวช่วยกันทำ เห็นแบบนี้แต่ข้าวทำอาหารเก่งนะครับ” คุณชายพยายามยกยอปอปั้นผม นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกกดดันเข้าไปใหญ่


ความจริงผมไม่ได้ทำอาหารเก่งเลยสั่งนิด ทำได้แต่ของง่ายๆ อาจเพราะผมไม่กินผักเลยทำให้อาหารที่ผมทำได้ส่วนใหญ่ไม่มีผักเป็นส่วนประกอบ


“เอาสิ.. แต่เอ้อ...น้ำย่าหมด” หม่อมย่าชี้มือไปยังเหยือกน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอน


เห็นดังนั้นผมจึงตั้งใจจะรับอาสาเป็นคนลงไปเติมน้ำให้


“เดี๋ยวผมไป...” แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ เสียงของหม่อมย่าก็ขัดขึ้น


“ชายเป๊กลงไปเติมน้ำให้ย่าหน่อยสิลูก ส่วนข้าวต้มเดี๋ยวให้ข้าวป้อนย่าละกัน ย่าจะได้คุยกับข้าวไปพลางๆ ด้วย”


คุณชายหันมามองผมที่กำลังยืนอึ้ง ผมพยายามกรอกสายตาไปมาเพื่อเป็นสัญญาณบอกคุณช่ายว่า ‘อย่าตกลงนะ ให้ผมเป็นคนลงไปเติมน้ำเถอะ’ แต่เหมือนคุณชายจะไม่สนใจสักนิด


“ได้ครับคุณย่า”


ผมล่ะอยากจะขย้ำคุณชายให้แหลกคามือเสียตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเหลือเกิดแต่ก็ทำได้แค่คิด เมื่อคืนก็ปล่อยผมไว้กับคุณท่าน ตอนนี้ก็ปล่อยผมไว้กับคุณย่า ไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรอีกบ้าง


หลังจากที่คุณชายออกจากห้องไป ผมก็เขยิบเข้าไปใกล้ๆ กับหม่อมย่าโดยที่มือที่ชามข้าวต้มด้วยความเกร็ง


“มานั่งนี่สิ” หม่อมย่าใช้มือตบขอบเตียงนอน “ย่าจะได้ทานข้าวต้มง่ายๆ”


“ครับ”


“เอ้า... นั่งตัวแข็งอยู่นั่นแหละ จะให้ย่ากินข้าวต้มไหม”


“อ้อ... ครับ”


สิ้นเสียงผมก็วางถ้วยลงที่โต๊ะข้างเตียงนอนก่อนจะประคองหม่อมย่าให้อยู่ในท่านั่งพิงกับหัวเตียงโดยมีหมอนรองหลังไว้เพื่อความสบาย จากนั้นผมก็หยิบถ้วยข้าวต้มมาเพื่อที่จะป้อนหม่อมย่า แต่ทว่า...


พอผมใช้ช้อนตักข้าวต้ม ด้วยสัญชาตญาณของคนป้อนจะรู้ว่าข้าวต้มมันร้อนจะต้องเป่าให้เย็นก่อน แต่ถ้าผมเป่าหม่อมย่าจะรังเกียจไหมนะ


 ผมลังเลอยู่นานสองนานจะป้อนก็ไม่กล้าป้อนจะเป่าก็ไม่กล้าเป่าจนเสียงของหม่อมย่าดังขึ้น


“คิดอะไรอยู่เหรอ”


“คือ...” ผมอึกอักไม่กล้าตอบตรงๆ “ข้าวต้มมันร้อนน่ะครับ”


“ร้อนก็เป่าสิ”


 ได้ยินดังนั้นผมก็ปฏิบัติตามทันที ก่อนที่จะเริ่มป้อนโดยที่ยังรู้สึกขัดเขินอยู่


ท่านไม่รังเกียจเด็กปั๊มที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างผมจริงๆ น่ะหรือ... ทำไมท่านถึงไม่พูดอะไรกดดันสักคำผิดกับหม่อมราชวงศ์กริชกร


ผมป้อนท่านไปสักพักจนกระทั่งเสียงฝีเท้าของใครบางคนมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น


หม่อมย่าสำลักข้าวต้มจนข้าวที่อยู่ในปากพุ่งออกมาโดนใบหน้ารวมถึงเสื้อผ้าของผมและร่างของท่าน ผมรีบวางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะทันทีแล้วหยิบกระดาษชำระที่อยู่ใกล้ๆ มาเช็ดปากและเสื้อผ้าของท่านที่เลอะเทอะไปด้วยเม็ดข้าวต้ม


“ผมขอโทษนะครับคุณย่า ผมไม่ได้ตั้งใจ” ผมเอ่ยอย่างร้อนลน แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณย่าจะเป็นอะไรมากไหม วินาทีนี้ผมห่วงท่านมากที่สุด “คุณย่าร้อนไหมครับ”


พอคุณชายเปิดประตูเข้ามา เขาก็จ้องผมตาเขม็งก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาดูอาการหม่อมย่าด้วยความตกใจแล้วรินน้ำให้ท่านดื่ม


“หลบไปก่อนข้าว”


ผมเขยิบออกจากขอบเตียง ปล่อยให้คุณชายดูแลหม่อมย่าต่อไป นึกกังวลใจว่าคุณชายจะโกรธผมหรือไม่


“เป็นอะไรมากไหมครับคุณย่า”


“เปล่า... ย่าไม่เป็นอะไร” หม่อมย่าตอบออกมาก่อนจะหันมาจ้องผม สายตาของท่านแน่นิ่งไม่ไหวติงจนทำให้ผมรู้สึกกดดัน “ย่าอิ่มแล้ว... ชายเป๊กพาข้าวไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนเถอะ”


ผิดคาด... ผมนึกว่าหม่อมย่าจะโกรธจนเลือดขึ้นหน้าแล้วไล่ผมออกจากวัง แต่ท่านกลับบอกให้คุณชายพาผมไปล้างเนื้อล้างตัว



“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปล้างตัวเอง ให้คุณชายอยู่กับคุณย่าที่นี่เถอะครับ”


คุณชายพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยกับคำพูดของผม และเมื่อหม่อมย่าไม่ปฏิเสธอะไรผมจึงเดินออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้า




 


หลังจากที่ล้างเนื้อล้างตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเสร็จสรรพ ผมตัดสินใจแวะไปหาพี่ปั๊มเพื่อที่จะคุยเรื่องที่ค้างคาโดยลืมที่จะบอกคุณชายไปเสียสนิท


พอนึกได้ผมจึงรีบส่งข้อความทางไทรศัพท์ไปหา …ออกมาหาพี่ปั๊มนะครับ เดี๋ยวจะรีบกลับไป...


โชคดีที่พี่ปั๊มมาทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ ผมนึกสงสัยมานานแล้วว่าทำไมพี่ชายของผมคนนี้ถึงได้ทำงานตั้งแต่เช้ายันดึก โดยที่ไม่ปริปากบ่นสักคำ ที่แท้ก็เป็นเจ้าของปั๊มแห่งนี้นี่เอง


“สวัสดีครับคุณปั๊ม” ผมยกมือไหว้พี่ปั๊มตามปกติเมื่อเดินเข้าไปหา


“คุณปั๊มบ้านมึงสิ” พี่ปั๊มทำน้ำเสียงไม่พอใจ “เรียกพี่เหมือนเดิมก็พอ”



“ครับ...” ผมตอบรับ “เออ... พี่ปั๊มยุ่งอยู่ไหม ผมอยากชวนพี่ไปกินข้าวเช้ากัน”


“ทำไม ทะเลาะกับคุณชายอีกเหรอไง มึงนี่นะ ต้องให้มีเรื่องถึงจะโผล่มาหากู หายไปอยู่บางแสนตั้งนาน ติดต่อก็ไม่ค่อยได้ พอจะกลับมาก็ไม่บอกกูล่วงหน้าสักคำ” พี่ปั๊มบ่นยืดยาวจนผมสำนึกผิดแทบไม่ทัน



“ผมไม่ได้ทะเลาะ เอาไว้ไปคุยกันที่ร้านอาหารนะพี่ ผมเองก็มีเรื่องอยากจะถามพี่เยอะเลยเหมือนกัน”


“งั้นรอแป๊บ กูไปเปลี่ยนเสื้อแป๊บนึง”


“ครับ”


พี่ปั๊มใช้เวลาไม่ถึง 3 นาทีในการไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องผู้จัดการ จากหนุ่มในชุดปั๊มน้ำมัน บัดนี้ได้เดินกลับออกมาอีกครั้งในชุดเสื้อยืดสีดำ สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตยีนส์ ท่อนลางเป็นกางเกงยีนส์ขายาวมีรอยขาดตรงเข่าดูเซอร์ไม่เบา


 “ไปร้านไหนดี” พี่ปั๊มขับรถมอเตอร์ไซค์มาหยุดอยู่ตรงหน้า ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวๆ ที่แวะมาเติมน้ำมันในปั๊มถึงได้หลงพี่ปั๊มกัน หล่อเซอร์เท่ห์


“แล้วแต่พี่เลย” พูดจบก็กระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถทันที


ร้านอาหารที่พี่ปั๊มเลือกอยู่ไม่ไกลมากนัก เป็นร้านห้องแถวขนาดเล็กๆ แต่บรรยากาศภายในร้านดูสะอาดสะอ้านไม่ต่างกับร้านหรูๆ


ระหว่างที่รออาหาร ผมจึงเลือกถามในสิ่งที่สงสัยออกไป


“เรื่องที่พี่ปั๊มต้องโกหกผมและทุกๆ คน ตกลงมันยังไงกันแน่ครับ” พี่ปั๊มเบือนหน้าหนีทันที แสดงออกทางสีหน้าว่าไม่อยากจะคุยเรื่องนี้อย่างชัดเจน “พี่รับฟังผมมาตลอด แต่เรื่องของพี่... พี่ไม่เคยระบายให้ใครฟังเลย ผมไม่รู้หรอกนะว่าพี่เจอกับอะไรมา แต่การที่ตัดสินใจออกจากบ้าน มาทำงานแบบนี้ ทำตัวราวกับประชดชีวิต มันคงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ใช่ไหมครับ”


 “มึงจะพูดอ้อมค้อมทำไมวะ... กูดูหน้ามึงก็รู้แล้วว่ามึงแค่อยากเสือกเรื่องของกู”


 “ไม่ใช่นะพี่” ผมรีบปฏิเสธ


“กูล้อเล่น” พี่ปั๊มขยับยิ้มในท่าทีของผม “เออ... เรื่องมันเกิดมานานแล้วนะเว้ย คือตอนที่กูอยู่แม่ฮ่องสอน ก็เคยโดนรุ่นพี่แถวบ้านมันมอมเหล้าแล้วกูก็เสร็จมันแค่นั้น มันถ่ายรูปแบล็คเมล์กู ขู่เอาเงินจากกูอยู่นานเกือบปีจนกูทนไม่ไหว สุดท้ายพอกูไม่ให้เงิน มันก็เลยส่งภาพอย่างว่าไปให้พ่อกับแม่กู”


พี่ปั๊มเล่าด้วยใบหน้าที่ระรื่น... มันระรื่นจนผมสังเกตได้ว่ากำลังฝืน


“หลังจากนั้นเป็นไงล่ะ... พ่อกูก็ผิดหวัง ลูกชายคนโตมีอะไรกับผู้ชาย อธิบายอะไรไปก็ไม่เชื่อเหมือนแก้ตัว ก็ไม่แปลกหรอกนะที่พ่อจะคิดงั้น กูเองก็เสียใจนะเว้ยที่ทำให้พ่อผิดหวัง อายชาวบ้านเพราะไอ้นั่นมันส่งรูปประจานไปทั่ว กูทนความอับอายไม่ไหว เลยตัดสินใจมาอยู่กับลุงธัญญ์ที่นี่ ทิ้งอนาคตตัวเองทั้งหมดมาเป็นเด็กปั๊มกระจอกๆ อย่างที่มึงเห็นเนี่ยแหละ กูนี่มันโง่เนอะ กลัวคำนินทาจากสังคม กลัวคำดุด่าของพ่อ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องที่กูเต็มใจเลยสักนิด”


ยิ่งพูด... น้ำเสียงของพี่ปั๊มก็เริ่มสั่นเครือ ใครจะฝืนยิ้มเล่าถึงอดีตที่แสนเจ็บปวดของตัวเองได้จนจบล่ะ ผมคิดว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญมันหนักหนาสาหัส แต่มันไม่ได้ครึ่งหนึ่งหากเทียบกับสิ่งที่พี่ปั๊มต้องเผชิญเลยสักนิด


เด็กหนุ่มที่อนาคตกำลังสดใสกลับโดนไอ้สารเลวที่ไหนมารู้มามอมเหล้าแล้วทำเรื่องชั่วๆ


“แล้วทำไมพี่ปั๊มไม่เอาเรื่องมันล่ะครับ”



“หึ... พ่อของมันเป็นผู้มีอิทธิพล ใครก็ทำอะไรมันไม่ได้หรอก” ใบหน้าของพี่ปั๊มแสดงออกถึงความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด สายตาทั้งสองข้างลอกแลกไปมาราวกับไม่อยากจะเอ่ยถึงมัน “บางครั้งกฎหมายก็ต้องแพ้ให้กับอำนาจและเงินทอง ครอบครัวของมันก็รวยแต่ดันงกกับลูก ลูกมันก็แสนเลวต้องทำเรื่องเชี่ยๆ เพื่อมาปล้นเงินจากกู”


ผมตัดสินใจเลือกที่จะจบบทสนทนาไว้เพียงเท่านี้ เข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรพี่ปั๊มถึงไม่อยากจะเอ่ยถึงมัน


 ผมเลือกที่จะเปลี่ยนไปนั่งข้างๆ พอเห็นมือของพี่ปั๊มกำแน่นรู้สึกได้ทันทีว่ากำลังข่มอารมณ์ความเจ็บปวดที่ระคนไปด้วยความโกรธแค้นเอาไว้มากแค่ไหน


 “ไม่เป็นไรนะครับพี่”


ผมเอื้อมมือไปจับกับมือของพี่ปั๊มที่กำลังกำมือของตัวเองเอาไว้แน่น สักพักมือนั่นก็เริ่มสั่นพร้อมๆ กับร่างของเขา ไม่ต้องอธิบายอะไรออกมา ผมก็รับรู้ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเจ็บปวดมากแค่ไหน พี่ปั๊มอาจจะอยากระบายความรู้สึกออกมาด้วยการร้องไห้หากแต่ก็เข้มแข็งพอที่จะข่มน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันรินไหลออกมา


“ข้าว...”


แล้วเสียงที่ดังขึ้นก็ทำให้ผมสะดุ้ง มันไม่ใช่เสียงของพี่ปั๊ม แต่ผมจำได้ดีว่านั่นเป็นน้ำเสียงของใคร


พอเงยหน้าผมก็พบกับร่างของคุณชายที่กำลังจ้องผมเขม็ง คุณชายคงกำลังเข้าใจผิดที่เห็นผมจับมือของพี่ปั๊ม แต่ยังไม่ทันที่ผมจะอธิบายอะไร ร่างนั้นก็วิ่งออกไปจากนอกร้านทันที


ปอมที่ยืนอยู่ด้านหลังของคุณชายจ้องผมด้วยสายที่เปี่ยมไปด้วยความสะใจ ก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมาอย่างน่าหมั่นไส้แล้ววิ่งตามคุณชายออกไปยังนอกร้านในเวลาต่อมา


ผมอยากจะวิ่งตามคุณชายออกไปเหลือเกิน แต่วินาทีนี้ผมเองก็ทิ้งพี่ปั๊มไม่ได้เช่นกัน อีกทั้งไม่กี่วันข้างหน้าเรื่องระหว่างผมกับคุณชายก็จะจบลง หากจะจบลงตั้งแต่วันนี้ก็คงจะไม่ต่างกัน


“กูไม่เป็นไร” เสียงของพี่ปั๊มทำให้ผมหวั่นไหว “ไปตามคุณชายเถอะ”


พี่ปั๊มเอื้อมมืออีกข้างมากุมมือของผม ร่างกายของเขาค่อยๆ หายจากอาการสั่นเทา


“อย่าปล่อยให้คนสำคัญของชีวิตเข้าใจผิดเหมือนอย่างที่กูเคยเจอ ไม่ใช่แค่เราแต่เขาก็คงจะเจ็บปวดเหมือนกัน”





จบตอน....
ก่อนอื่นต้องขออภัยนะครับ หากนิยายตอนนี้มีบทที่อาจไม่เหมาะสมว่าจะลงในช่วงนี้หรือไม่
คิดอยู่มาสักพักว่าจะลงดีไหม กลัวคนที่แวะมาอ่านบางคนอาจไม่เข้าใจ แต่ไม่ได้มีเจตนาในทางไม่ดีแน่นอนนะครับ
...............................................
คุยถึงเรื่องนิยายกันดีกว่า ต้องขอโทษที่หายไปนานนะครับ ตอนนี้กำลังรีไรท์ตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ไปด้วย
รู้สึกได้เลยว่าภาษาชุ่ยมาก ต้องรีไรท์ทุกบรรทัด ย้ำ ทุกบรรทัดจริงๆ ครับ
เป็นคนที่แต่งนิยายแบบ คิดอะไรก็แต่งๆ ไปเลย ภาษาลวกๆ หน่อย ออกมาตามหัวที่กำลังแล่น ไม่ได้ขัดเกลา
จะมาเกลาตอนรีไรท์ทีหลังรวดเดียวอีกที ขอบคุณทุกคนที่ทนอ่านภาษากากๆ ของผมมาจนถึงบทนี้นะครับ ดีใจมาก
พอลองกลับไปรีไรท์ดูแล้วแบบว่าถ้าเราเป็นคนอ่าน คงปิดไปแล้วแน่ๆ รับไม่ได้กับภาษา 55+ (ด่าตัวเองแพพ)

..พูดถึงไอ้ข้าว ตอนที่แล้วก็โดนคุณพ่อต้อน ตอนนี้หม่อมย่าก็สำลักข้าวใส่อีก 555+ มีแผนไรป่ะเนี่ย
ไหนจะนังปอมที่โผล่มาพร้อมฉากที่คุณชายเข้าใจผิด ข้าว ศึกรอบด้านจริงนะเมิง 555
แต่ตอนหน้ามีไรสะใจนิดๆ มาฝากแน่ๆ ครับ <3

.... โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน38 P.19] - 21/10/59 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-11-2016 23:31:51
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน38 P.19] - 21/10/59 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 01-12-2016 19:34:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน38 P.19] - 21/10/59 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: chaichan ที่ 06-12-2016 19:21:31
รอคร่าา :call:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน38 P.19] - 21/10/59 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 14-07-2017 21:32:27
ตอนที่ 39


   เวลาผ่านไปจนกระทั่งท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดยามรัตติกาล เสียงเครื่องยนต์จากถนนใหญ่ที่เคยดังเซ็งแซ่ก็ค่อยๆ จางหายไปอาจเป็นเพราะเวลาในคืนนี้ได้ล่วงเลยไปนานมากแล้ว

   ผมนั่งรอคนที่กำลังเข้าใจผิดอยู่ที่รั้วหน้าบ้าน สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาเป็นระยะจนล่าสุดเข็มสั้นก็ชี้ไปที่เลขสองพอดีแต่คนที่ผมรอก็ยังไม่กลับมาสักที

   วันนี้ทั้งวัน ผมต้องทนอยู่ในวังด้วยความกดดันทวีคูณมากขึ้น ผมเป็นต้นเหตุที่ให้คุณชายแห่งวังสุริยะวิทูหายไปและไร้การติดต่อกลับมา

   หม่อมราชวงศ์กริชกร คุณหญิงวลีลาวัลย์รวมถึงหม่อมย่าต่างผลัดกันมาสอบถามเรื่องคุณชายแต่ผมก็ไม่สามารถให้คำตอบกับพวกท่านได้ สายตาขุ่นเคืองเป็นคำตอบชัดเจนว่าพวกท่านต่างรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

   ในความไม่พอใจกลับมีความพอใจที่ปะปนอยู่ไม่น้อยเช่นกัน การที่ผมกับคุณชายเข้าใจผิดและไม่ได้คุยกันแบบนี้ทำให้พวกท่านต่างมีหวังว่าแผนการที่วางไว้มันจะทำให้ดำเนินการได้ง่ายกว่าที่คิด

   ระหว่างที่ผมกำลังนั่งกอดเข่า แสงไฟจากรถยนต์ที่สาดส่องเข้ามาในซอยก็ทำให้ผมต้องลุกขึ้นและวิ่งไปชะเง้อมองที่หน้ารั้วทันที
   เมื่อเห็นว่านั่นคือรถของคุณชายผมจึงรีบเปิดประตูรั้วให้ทันที

   รถของคุณชายแล่นไปจอดยังที่ประจำ ผมรีบวิ่งตามไปง้อด้วยกลัวว่าคุณชายจะลงจากรถไปโดยที่ไม่สนใจกัน

   “คุณชายครับ” ผมเอ่ย

   คุณชายยืนแน่นิ่งไปตอบอะไรผมกลับสักคำ อาจเพราะโกรธจัดจนไม่อยากจะมองหน้าหรือแม้แต่ปริปากพูดคุยกับผม แต่น่าแปลก... ในทีแรกผมคิดว่าจะเจอกับสภาพที่เมาจนหัวราน้ำแต่นี่ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์เลยสักนิด

   “คุณชายกำลังเข้าใจผิดนะครับ” ผมไม่ชอบการแก้ตัวเลย เพราะจะเป็นเรื่องจริง แต่หากต่างฝ่ายต่างเชื่อใจกันปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้นและก็ไม่ต้องมีฝ่ายไหนต้องตามแก้ตัว “ผมกำลังคุยกับพี่ปั๊มถึงเรื่องราวในอดีต พี่ปั๊มต้องพบเจอกับปัญหามากมายผมก็เลยเป็นห่วง...”

   “หึ...”คุณชายพ่นลมหายใจออกมา “เป็นห่วง... แล้วจำเป็นต้องนั่งติดกัน จับมือกันขนาดนั้นต่อหน้าคนทั้งร้านไหม”

   “โถ่... คุณชายครับ ถ้าคุณชายเป็นผม คุณชายก็ต้องทำแบบนี้ และผมก็บริสุทธิ์ใจไม่ได้คิดไรเกินเลยกับพี่ปั๊มจริงๆ นะครับ”

   “เรื่องแบบนี้ใครจะพูดแก้ตัวยังไงก็ได้นั่นแหละ แต่ใจคนน่ะนะมันจะยังไงก็อีกเรื่องหนึ่ง” คุณชายเถียงกลับ ไม่มีทีท่าว่าจะยอมเข้าใจเลยสักนิด

   ดังนั้นผมจึงเฉไฉไปเรื่องอื่นชักเอือมระอาแล้วเหมือนกันที่ต้องมานั่งแก้ตัวในเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้

   “แล้วปอม... มากับคุณชายได้ยังไง” ผมทำเสียงขรึมเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ว่าผมเองก็ไม่พอใจเหมือนกัน

   “จำเป็นต้องตอบด้วยเหรอ” ทว่าคำตอบคุณชายกลับทำให้ผมถึงกับสะอึก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ ผมนิ่งเงียบไปนานหากแต่ไม่ยอมขยับเท้าไปไหน คุณชายก็เช่นกัน “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้โง่พอที่จะมองไม่ออกว่าปอมคิดจะทำอะไร และฉันก็ไม่ได้โง่พอที่จะไม่เชื่อใจคนรักของตัวเองแล้วทำตัวงี่เง่าไร้สาระหรอกน่า”

   คำพูดของคุณชายยิ่งทำให้ผมสับสน พูดราวกับเข้าใจในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเหตุใดจึงต้องวิ่งหนีออกจากร้านอย่างกะทันหันด้วยล่ะ

   เหมือนว่าคุณชายจะได้ยินในสิ่งที่ผมคิด เพราะอยู่ๆ คุณชายก็พูดต่อในเรื่องที่ผมกำลังสงสัยพอดี

   “ในทีแรกก็ยอมรับว่าไม่พอใจ แต่พอขับรถออกไป ปอมก็เริ่มพูดเรื่องไร้สาระมากขึ้น และพอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้ก็พอที่จะเข้าใจว่าปอมมีแผนการอะไรกันแน่ แต่เพราะยังไม่แน่ใจเลยลองพาปอมไปเที่ยวทั้งวันจนกระทั่งตกดึกปอมเมาได้ที่เลยรู้ความจริงอะไรบางอย่าง”

   “ความจริงอะไรครับ” ผมเอ่ยอย่างใจเย็น

   “เขาบอกว่าจะทำให้เราสองคนแยกจากกัน พอค้นโทรศัพท์ของปอมถึงได้รู้ว่าปอมติดต่อกับคุณพ่อตลอดเวลา ปอมเป็นคนจัดการเรื่องรูปของเราระหว่างที่อยู่แม่ฮ่องสอน และเขายังยอมรับอีกว่าเขารักฉันและเกลียดข้าว” น่าแปลกที่น้ำเสียงของคุณชายไม่ได้แสดงถึงโทสะเลยสักนิด “ข้าวรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เคยบอกกันสักคำ”

   คุณชายยังคงยืนหันหลัง ผมจึงเดินเข้าไปหาแล้วไปหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วสบมองใบหน้าของคุณชายด้วยความรู้สึกที่มีแต่ความปรารถนาดีอยู่เต็มหัวใจ

   “พูดโดยไม่มีหลักฐานมันก็เหมือนใส่ร้ายคนอื่น ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญเท่ากับการที่ผม... ไม่ใช่สิต้องบอกว่าเราเชื่อใจกันและกัน”
   คุณชายก้มหน้าเหมือนพยายามเลี่ยงสายตาจากผมแล้วนิ่งไปสักพัก

   “ได้...” คุณชายเงยหน้าขึ้นมาสบตามองผมอีกครั้ง คราวนี้ใบหน้าของคุณชายเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ “เป๊กจะเชื่อใจข้าวนะ”

   รู้สึกเหมือนหางเสียงของคุณชายจะสั่นเล็กน้อยราวกับมีอะไรในใจแล้วอยากจะเอ่ยต่อ แต่คุณชายก็เลือกที่จะเงียบและยิ้มให้ราวกับต้องการจะบอกว่าไม่มีอะไรจะพูดแล้วนะ

   ผมสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างในตัวของคุณชาย ต้องมีเรื่องอะไรที่คุณชายไม่ยอมพูดกับผมและเก็บเอาไว้คนเดียวแน่ๆ

   ถึงกระนั้น ผมเองก็ไม่กล้าถาม คนอย่างคุณชายถ้าไม่อยากพูดต่อให้ใครบังคับก็ไม่ยอมพูด เว้นเสียแต่จะอยากพูดเอง

   “งั้นคืนนี้...ไปพักกันเถอะครับ” ผมเอื้อมมือไปจับกับมือที่แสนอบอุ่นของคุณชาย จากนั้นเราจึงเดินเข้าวังไปพร้อมกันโดยไม่เกรงกลัวว่าจะมีสายตาคู่ใดแอบมอง










   ...คุณชาย...

   หลังจากที่เห็นข้าวกุมมือกับคนอื่นกลางร้านอาหารผมก็ตัดสินใจจะไปให้ไกลจากข้าวเท่าที่จะไกลได้ทันที หากแต่พอวิ่งไปยังรถ ชายหนุ่มที่เคยพบหน้ากันนานๆ ครั้งซึ่งเป็นคนเดียวกับที่นำทางผมมาที่ร้านอาหารแห่งนี้ได้วิ่งตามมาและถือวิสาสะเปิดประตูรถผมแล้วนั่งประจำที่ของข้าว

   เวลานั้นผมไม่ได้นึกโกรธปอม เพราะกำลังอยู่ในอาการเสียใจที่เห็นภาพข้าวจับมือกับพี่ปั๊มอย่างแนบแน่นมากกว่า

   “กะแล้วเชียวว่าสองคนนี้ต้องมีอะไรกันแน่ๆ สงสัยมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่บ้านแล้ว” ปอมจงใจเอ่ยขึ้น นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

   และยิ่งปอมสาธยายยืดยาวต่อไป ความไม่พอใจของผมมันก็เพิ่มขึ้นตามสิ่งที่ปอมกำลังเล่า จนท้ายที่สุดผมจึงสั่งให้ปอมหยุดเล่าเพราะไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว

   ผมตัดสินใจจะใช้เวลาทั้งหมดของวันนี้อยู่กับปอมและเที่ยวกับปอมเนื่องจากปอมอ้างว่านานๆ ครั้งจึงจะมีโอกาสได้มาที่นี่ เขาเลยขอให้ผมพาเที่ยว ซึ่งผมเองที่สภาพจิตใจยังไม่สงบจึงเลือกที่จะไม่ปฏิเสธ

   ผมพาปอมเดินทางไปยังสถานที่สำคัญๆ เท่าที่ผมพอจะนึกออกและเคยไป ใช้เวลาแค่หนึ่งวันคงไปสถานที่สำคัญได้ไม่ครบ แต่ก็พาไปเท่าที่จะไปได้

   มองผิวเผินปอมเป็นชายหนุ่มที่ดูเรียบร้อยนิสัยดีไม่ผิดจากคนทั่วไป แต่ผมรู้สึกประหลาดใจเวลาที่เขาพูดถึงข้าว คำพูดคำจาและน้ำเสียงมันมีอะไรบางอย่างที่สื่อให้ผมรับรู้ว่าปอมไม่ชอบข้าว

   จนกระทั่งตอนค่ำผมตัดสินใจไปที่ห้องพักของปอมโดยซื้อเครื่องดื่มมึนเมาขึ้นไปด้วยจำนวนหลายขวด ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะดื่มเองหรอกนะ แต่ผมตั้งใจจะมอมเหล้าปอมแล้วหลอกถามว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เอาแต่พูดถึงข้าวในมุมมองที่ไม่ดีเลย

   โชคดีที่แผนการของผมสำเร็จไปอย่างง่ายดาย ปอมเมาหัวราน้ำโดยที่ผมนั้นยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ผมจึงหลอกถามเรื่องต่างๆ มากมายจนรู้ความจริงที่ว่าปอมแอบชอบผมมานาน

   ผมรู้สึกยินดีที่มีคนชอบ แต่การชอบใครแล้วต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนผมคิดว่ามันน่าสมเพชมากกว่า ปอมต่อว่าข้าวต่างๆ นานาอย่างไร้เหตุผล แต่ผมก็ทนฟังจนจบเพราะอยากรับรู้ว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัวแค่ไหน

   นอกจากความเกลียดชังที่มีต่อข้าว ปอมยังเผลอหลุดปากออกมาอีกว่าเขาเป็นคนที่ทำให้คุณพ่อของผมรับรู้ความจริงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับข่าว ปอมเป็นคนส่งข่าวให้คุณพ่อและแจ้งข้อมูลสำคัญๆ ให้กับนักสืบตลอดเวลา

   ผมคิดว่าเรื่องอันน่าขยะแขยงที่ปอมกระทำจะมีเพียงเท่านั้นแต่ผมก็คิดผิด เพราะระหว่างที่ผมกำลังจะลุกจากขอบเตียงเพื่อที่จะออกจากห้อง ปอมก็กระชากชายเสื้อของผมให้ล้มลงไปกับเตียงนอนตามเดิม

   “เดี๋ยวก่อนสิครับ... คุณชาย” ปอมพูดด้วยน้ำเสียงที่ยืดยานตามประสาคนเมา “อย่าเพิ่งไปปอมยังมีอะไรที่อยากจะบอกให้คุณชายฟัง เรื่องนี้มันสำคัญมากๆ เลยนะครับ”

   ได้ยินดังนั้น ผมจึงตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ “มีอะไร”

   “ถามกันง่ายๆ แบบนี้ได้ไงครับ ต้องให้รางวัลก่อนสิ”พอพูดจบก็ทำแก้มป่องพร้อมกับใช้นิ้วมือจิ้มไปที่แก้มของตัวเอง “หอมแก้ม... ตรงนี้ แล้วปอมจะเล่าให้ฟัง”

   ผมเบือนหน้าหนีแล้วรีบเบ้หน้ากรอกสายตามองบนทันทีเพื่อระบายความเอือมระอา ก่อนที่จะหันกลับมาแล้วทำตามคำสั่งของปอมด้วยความรวดเร็ว

   ปอมหัวเราะชอบใจ แต่มันยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น “ข้างนี้ด้วย”

   ผมหอมแก้มปอมอีกข้างตามคำสั่งอย่างฝืนใจ

   “เล่าได้แล้ว”

   “คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะครับ เอาล่ะๆ ปอมยอมเล่าแล้วก็ได้” ปอมเว้นจังหวะชั่วครู่เหมือนพยายามรวบรวมสติเพื่อที่จะเล่าเรื่องราวต่อไปนี้ “คุณชายไม่สงสัยเหรอครับว่าทำไมคุณพ่อของคุณชายถึงยอมให้ไอ้ข้าวอยู่ในวังกับคุณชายทั้งๆ ที่ท่านแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบไอ้ข้าว”

   “ก็สงสัย แต่พ่อคงกลัวว่าผมจะหนีไปไหนอีกมั้ง” ผมตอบออกไปตามความคิด นึกเอะใจเหมือนกัน พอได้ยินปอมถามแบบนี้เลยชักสังหรณ์ใจแล้วว่าตกลงมันมีอะไรมากกว่านั้นหรือ

   “ไม่ใช่ครับ... แต่เป็นเพราะผมที่บอกให้คุณพ่ออนุญาตให้ไอ้ข้าวอยู่กับคุณชายเอง หึหึ” ปอมเล่าอย่างภาคภูมิใจแล้วส่งเสียงหัวเราะออกมา

   “ทำไมพ่อต้องทำตามคำสั่งของนายด้วย”

   “ก็เพราะมันเป็นแผนที่จะทำให้คุณชายอยู่แต่ในวังไม่หนีไปไหนไงล่ะครับ จนกว่า...” ปอมยกมือปิดปาก “อุ๊บ... ไม่ได้ๆ ผมสัญญากับคุณท่านแล้วว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”

   หากสิ่งที่ปอมพูดคือความจริง คุณพ่อมีแผนให้ผมอยู่แต่ในวังโดยใช้ข้าวเป็นเครื่องมือ แล้วหลังจากนั้นคุณพ่อต้องการจะทำอะไรกันแน่ และข้าวรู้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ผมกระวนกระวายใจหนักขึ้น

   “ปอม...” ผมพยายามเค้นเสียงออกมาอย่างนุ่มนวล “ถ้าไม่เล่าผมก็ไม่รู้นะครับ และถ้าผมไม่รู้ผมก็จะโกรธปอมพอผมโกรธความเกลียดมันก็จะตามมา ปอมต้องการให้ผมรู้สึกแบบนั้นกับปอมจริงๆ เหรอ”

   “ไม่นะครับ คุณชายอย่าเกลียดผมนะครับ” ปอมรีบเอื้อมมือมาเกาะแขนของผม ถ้าไม่ติดว่ามีเรื่องต้องหลอกถามต่อให้จบผมคงสะบัดแล้วลุกหนีไปแล้ว

   “ถ้าไม่อยากให้เกลียดก็พูดมาสิ พ่อต้องการให้ผมอยู่ที่วังโดยที่ใช้ข้าวเป็นตัวล่อเพื่ออะไร” ขณะพูดผมก็เอื้อมมือไปลูบศีรษะของคนที่เมาหัวราน้ำอย่างฝืนใจ ลืมตาดูโลกมาหลายปีไม่เคยนึกว่าชีวิตต้องมาทำเรื่องที่ฝืนใจแบบนี้กับใคร ยิ่งคิดก็ยิ่งขยะแขยงทั้งการกระทำของตัวเองและคนที่อยู่ข้างๆ

   “คุณท่านจะจัดงานหมั้นและงานแต่งระหว่างคุณชายกับคุณหญิงดาว กำหนดการคร่าวๆ น่าจะภายในสัปดาห์หน้า ปอมเองก็ไม่แน่ใจว่าวันไหน แต่การจัดงานจะทำแบบลับที่สุดเพราะไม่ต้องการให้คุณชายรับทราบเรื่องนี้จนกว่าจะถึงวันงาน แม้คุณท่านเองจะไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุดหากถึงวันนั้นคุณชายจะยอมไหม แต่ท่านก็คิดว่านี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้คุณชายตัดความสัมพันธ์กับไอ้ข้าวได้ ถึงคุณชายจะไม่ยอมแต่งแต่ถ้าไอ้ข้าวต้องเห็นภาพที่คุณชายทะเลาะกับคนในครอบครัว ไอ้ข้าวก็คงจะเจียมกะลาหัวและสำนึกได้ว่าตัวมันเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวคนอื่นต้องทะเลาะและแตกแยกกัน”

   สิ่งที่ปอมพูดออกมาทั้งหมดทำให้ผมอึ้งจนทำอะไรต่อไปไม่ถูก ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่เล่า แน่นอนล่ะว่าผมไม่ยอมและคงอาละวาดจนวังแตกแน่ๆ คนนิสัยซื่อๆ อย่างข้าวก็คงจะเอาแต่โทษตัวเองและคงหายไปจากชีวิตผมเป็นแน่

   “แล้วข้าวรู้เรื่องนี้ไหม” ผมถามออกมาโดยภาวนาว่าให้ปอมตอบว่า ‘ไม่’ เพราะถ้าข้าวรู้เรื่องนี้นั่นเท่ากับว่าผมกำลังโดนคนที่ผมรักหักหลังอย่างเลวร้ายที่สุด

   “ปอมไม่แน่ใจ” คำตอบของปอมทำให้ผมโล่งใจไปเปราะหนึ่ง เพราะมีโอกาสที่ข้าวจะไม่รู้เรื่องเช่นกัน “แต่ปอมคิดว่าน่าจะรู้ คุณท่านน่าจะคุยกับมันแล้ว ไม่งั้นมันคงไม่ยอมอยู่กับคุณชายในวังหรอกครับ หึ... สมน้ำหน้า อีกแค่ไม่กี่วันมันก็จะต้องซมซานออกไปจากชีวิตของคุณชายแล้ว”

   ผมกำมือแน่นและปล่อยให้พูดจนจบ ใครจะทนยืนฟังคนอื่นว่าร้ายคนที่ตัวเองรักด้วยสีหน้าระรื่นได้ หรือถ้ามีนั่นไม่ใช่ผมแน่นอน หลังจากที่มันพูดจนจบโทสะทั้งหมดที่อัดอั้นมาตลอดทั้งวันได้ถูกระบายออกมาด้วยกำปั้นหนักๆ ของผม

   ผมอัดไปที่เบ้าหน้าของปอมอย่างเหลืออด หนึ่งครั้งยังไม่หนำใจ ผมต่อยมันไปเรื่อยๆ จนมันหมดสติไป นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง ใจจริงอยากจะถีบมันตกเตียงด้วยซ้ำแต่เพราะเห็นว่ามันยอมคายความลับออกมาเลยลงโทษแค่เบาะๆ พอ

   ก่อนออกจากห้องผมเลยทิ้งโน้ตข้อความไว้ให้มันเจ็บใจเล่นๆ

   ‘ขอโทษที่ไม่ได้ดูแลเพราะผมต้องรีบกลับไปหาข้าว... เรื่องมีอยู่ว่าปอมเมาแล้วลงไปซื้อของข้างล่าง จู่ๆ ก็มีคนบ้าที่ไหนไม่รู้มาดักปล้นและทำร้ายสภาพก็เลยเละเทะอย่างนี้ ดูแลตัวเองด้วยละกัน’

   ผมขีดเส้นใต้ที่ประโยคแรกเพื่อเน้นย้ำให้คนอ่านรู้ว่าใครสำคัญสำหรับผมมากกว่ากัน ส่วนคนอ่านจะคิดอย่างไรก็เป็นเรื่องของมัน ไม่มีอะไรที่ผมต้องแคร์มันอีกแล้ว ไอ้สาระเลว...






   ภายในห้องนอน...

   คืนนี้คุณชายดูไม่เหมือนเดิม ปกติจะชวนพูดคุยตลอดเวลาแต่ตอนนี้เอาแต่นิ่งเงียบจนผมไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ บางทีก็หันมามองหน้าผมแล้วยิ้มให้เหมือนคนไม่เต็มใจ จนกระทั่งคุณชายอาบน้ำเสร็จคุณชายก็ทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงนอน

   ผมเดินไปนั่งที่พื้นฝั่งที่คุณชายนอนแล้วทิ้งคางเกยขอบเตียงไว้ คุณชายมองผมด้วยความแน่นิ่งแต่ผมพยายามส่งยิ้มหวานๆ แล้วตัดสินใจสรรหาคำมาออดอ้อนด้วยหวังว่าจะให้คุณชายกลับมาเป็นปกติ

   “ขอโทษ... ดีกันนะไอ้เด็กดื้อ” ผมคิดได้แค่เพียงเท่านี้แหละ “ทำหน้าบึ้งอีก ง้อไม่เก่งไม่ได้หมายความว่าไม่รักนะ”

   พูดจบก็ขยับหน้าไปซุกที่ฝ่ามือของคุณชายที่ยืนออกมาบริเวณขอบเตียง แทนที่จะทำตัวให้มันน่ารักๆ แต่กลับเลือกที่จะขบนิ้วมือของคุณชายเบาๆ

   “ไอ้ข้าว!” ได้ผลคุณชายเริ่มกลับมาบ่นเหมือนเดิมแล้ว ผมจึงออกฝังเขี้ยวแรงขึ้น “โอ๊ย... เป็นหมารึไงวะ นี่นิ้วมือไม่ใช่กระดูกนะโว้ยกัดอยู่ได้”

   ได้ยินเสียงคุณชายบ่นผมก็ยิ่งรู้สึกดีใจเลยเผลอออกแรงกัดเข้าไปอีกแรงๆ หนึ่งที และผลจากการกัดครั้งนี้ทำให้ผมได้รับการตอบแทนอย่างสาสม คุณชายใช้มืออีกครั้งมาดันศีรษะผมไปอย่างแรงแถมยังยกขาขึ้นมาช่วยถีบร่างของผมจนผมเซถลาออกจากเตียง

   “ยอมแล้วข้าว พอได้แล้ว” คุณชายเอ่ยขึ้นหลังร่างของผมกระเด็นไปไกล

   “ผมสิต้องยอมคุณชาย เล่นถีบแรงซะขนาดนี้ กลัวจนตัวสั่นหมดแล้วนะครับ” ผมเถียง

   “นี่กลัวแล้วใช่ไหม” คุณชายแสร้งทำเสียงดุ

   “ไม่กลัวหรอกครับ พูดไปงั้น” ผมแกล้งเบ้หน้าแล้วทำท่ายียวนกวนบาทาคุณชาย พอเห็นคุณชายทำท่าฟึดฟัดผมจึงรีบยั้งกายให้ลุกขึ้นแล้วพุ่งเข้าไปกอดคุณชาย “ล้อเล่น... ผมกลัวคุณชายนะครับ ไม่เคยกลัวใครมากเท่านี้มาก่อน”

   “ยังจะพูดประชดอีก” น้ำเสียงของคุณชายติดขำ กระนั้นแขนทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมากอดผมกลับก่อนจะโน้มใบหน้ามาซบกับไหล่ของผมแล้วกระซิบที่ข้างหูเบาๆ “หรือถ้าไม่ประชด ตกลงกลัวอะไร ทำไมต้องกลัวกันเดี๋ยว ฉันใจร้ายกับข้าวมากเลยหรือไง”

   “ไม่ใช่นะครับ” ผมรีบปฏิเสธ

   “แล้วกลัวอะไร” คุณชายรีบถาม

   “กลัวว่าคุณชายจะไม่รักน่ะครับ”

   “โถ่เอ๊ยเด็กโง่”

   พูดจบคุณชายก็ยกมือขึ้นมาขยี้ศีรษะผมอย่างเอ็นดู แม้ว่าคุณชายจะอายุน้อยกว่าผม แต่การกระทำนี้รวมทั้งรอยยิ้มที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นเหลือเกินที่มีคุณชายอยู่ข้างๆ แล้วเหตุนี้... ผมจะสามารถทรยศคุณชายโดยการร่วมมือกับคุณท่าน แล้วปล่อยให้เรื่องระหว่างเราจบลงเท่านี้จริงๆ น่ะหรือ

   ผมอัดอั้นเหลือเกิน ไม่รู้ว่าควรตัดสินใจอย่างไร ไม่ว่าจะเลือกทางใดคุณชายก็ต้องเจ็บอยู่ดี หากผมเลือกทำตามข้อเสนอของคุณท่าน ทุกอย่างสำหรับผมคงจบแค่ในวันนั้นแล้วความรู้สึกของคุณชายล่ะ นั่นคือสิ่งที่ผมกังวลใจมากที่สุด แต่หากผมเลือกคุณชาย ก็จะมีโจทย์ข้อใหม่เพิ่มขึ้นมาให้คุณชายเป็นฝ่ายเลือกอีกทีว่าจะเลือกครอบครัวแล้วทำหน้าที่ลูกที่ดีต่อไปหรือเลือกผมแล้วทิ้งทุกอย่างและเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปด้วยกัน

   แค่คิดน้ำตาก็คลอเบ้า ผมพยายามขยับเปลือกตาไปมาเพื่อไม่ให้หยดน้ำเหล่านั้นมันรินไหลออกมาพร้อมกับกอดคุณชายไว้ให้แน่นที่สุดเพราะไม่อยากสบตากับคุณชายในตอนนี้

   “ข้าว...” คุณชายเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิวหลังจากที่เราทั้งสองเงียบไปนาน “เป๊กเชื่อใจข้าวนะ”

   “ครับ” วินาทีนั้นผมเข้าใจเพียงว่าคุณชายต้องการจะสื่อถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่ปั๊ม โดยไม่เอะใจสักนิดว่าคุณชายได้รับรู้แผนการที่หม่อมราชวงศ์กริชกรได้จัดการเอาไว้



จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน38 P.19] - 21/10/59 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 14-07-2017 21:35:12
ตอนที่ 40


ช่วงเวลาที่แสนอึดอัดใจผ่านไปด้วยความยากลำบาก หม่อมราชวงศ์กริชกรเรียกผมไปทราบแผนการอย่างลับๆ อยู่บ่อยครั้งเมื่อตอนที่คุณชายต้องออกไปทำธุระข้างนอกหรือยามเผลอหลับในตอนกลางวัน


   จนในที่สุด... เหลืออีกแค่เพียง 1 วันเท่านั้น งานทุกอย่างที่เตรียมไว้ก็พร้อมที่จะเริ่มขึ้นเท่านั้น ในคืนนี้คุณท่านสั่งให้ผมพาคุณชายออกนอกบ้าน จะไปที่ไหนก็ได้และให้กลับมาอีกทีตอนเวลาหลังเที่ยงคืนแต่ห้ามเกินตีหนึ่ง นั่นเท่ากับว่าวันนี้ทั้งวันจะเป็นการเดทครั้งสุดท้ายระหว่างผมกับคุณชาย

   ผมพยายามคิดอยู่นาน... เรื่องไปเที่ยวน่ะไม่ยากหรอก แต่มันยากเพราะโจทย์ที่คุณท่านตั้งไว้ให้กลับมาหลังเที่ยงคืน หากพูดอะไรเยอะไปคุณชายอาจสงสัยได้ และการที่จะกลับมาหลังเที่ยงคืนก็ต้องไปเที่ยวในที่ไกลๆ สักหน่อย

   ทะเลไม่ใช่สถานที่ที่ดีแน่นอนสำหรับเดทครั้งสุดท้าย ผมจึงตัดทิ้งไปเลยเพราะเคยไปกับคุณชายแล้ว และความทรงจำดีๆ ที่ทะเลก็มีมากมายจนผมพอใจแล้ว

   ผมเข้าเว็บไซต์ดูแผนที่จังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ กับกรุงเทพฯ ซึ่งผมแทบไม่เคยไปสักที แต่มีที่หนึ่งที่ผมได้ยินอยู่บ่อยๆ ซึ่งนั่นก็คือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรุงเก่าของเราชาวสยามนั่นเอง

   การไปเที่ยววัดเก่าแก่และทำบุญไหว้พระจึงเป็นตัวเลือกที่ผมสนใจ เคยได้ยินมาว่าหากทำบุญด้วยกันในชาตินี้ ชาติหน้าจะมีโอกาสเวียนมาพบเจอกันอีก เมื่อวาสนาของผมในชาตินี้กำลังจะหมดลง ก็คงทำได้แค่ภาวนาให้ชาติหน้าอย่าได้มีความรักกับใครสั้นๆ แบบนี้อีก

   “คุณชายผมอยากไปอยุธยา ว่างใช่ไหมครับ” ผมเอ่ยขอแบบมัดมือชกขณะที่กำลังนอนหนุนหมอมอยู่บนเตียง “พาผมไปเที่ยวหน่อยสิ”

   คุณชายไม่ได้ตอบออกมาในทันที เขาเดินไปดูสมุดเล่มสีดำที่วางไว้อยู่บนโต๊ะแล้วเปิดอ่านราวกับตรวจสอบว่าวันนี้มีธุระต้องไปทำอะไรที่ไหนหรือเปล่าเพราะสมุดเล่มนั้นคือสมุดตารางเรียนและตารางงานทุกอย่างของคุณชาย ...ชั่วครู่คุณชายก็ปิดสมุดลงแล้ววางเก็บไว้ที่เดิม

   “ได้สิ... ข้าวรีบอาบน้ำเลยนะ แล้วไปอยุธยากัน”

   “ครับ”

หลังจากที่ผมตอบ คุณชายก็ยิ้มรับก่อนจะเดินหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปยังระเบียงห้อง ในทีแรงผมไม่ได้สนใจอะไร ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว แต่ก่อนที่จะเข้าไปอาบน้ำ หางตาเหลือบไปเห็นสีหน้าของคุณชายที่ค่อนข้างเครียด ผมจึงเดินไปแอบอยู่ที่กำแพงใกล้ๆ กับประตูระเบียง

“ขอบใจนะมึง กูมีธุระด่วน ไปไม่ได้จริงๆ ฝากบอกอาจารย์ด้วย ไว้เดี๋ยวกูจะโทรไปเล่ารายละเอียดให้อาจารย์ฟังทีหลังเอง”

เสียงของคุณชายเล็ดลอดเข้ามา ผมอยากรู้ว่าคุณชายมีธุระอะไรจึงตั้งใจจะฟังต่อแต่ทว่า...

“ข้าว” เสียงคุณชายดังขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ประตูบานระเบียงถูกเปิดออก

ผมสะดุ้งโหยง ไม่คิดว่าคุณชายจะวางสายโทรศัพท์ไวขนาดนี้

“ผม... เอ่อ...” ผมพยายามนึกข้อแก้ตัว “อ้อ... ผมจะไปเอากางเกงบ็อกเซอร์น่ะครับ”

พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปหยิบกางเกงบ็อกเซอร์ที่แขวนเอาไว้แต่คุณชายกลับคว้าแขนผมเอาไว้เสียก่อน

“นั่นมันบ็อกเซอร์ของฉัน” คุณชายเอ่ยขึ้น “ของข้าวก็เก็บเข้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่เหรอ”

“อะ... เออ... จริงด้วยครับ”

“แล้วอีกอย่างบ็อกเซอร์ของข้าวก็ถืออยู่ที่มือไม่ใช่เหรอไง”

ผมเหล่ตามองตามที่คุณชายเอ่ย บ็อกเซอร์สีขาวอยู่ในมือจริงด้วย ผมจึงเงยหน้ามองคุณชายอีกครั้งพลางยิ้มแหยๆ ให้เพราะนึกข้อแก้ตัวไม่ออก

“หรือว่าจะเอาของฉันไปดม... เออ... ไปเอาไป” คุณชายทำเสียงยียวนก่อนจะปล่อยมือผมแล้วเดินกลับไปที่เตียงนอน

ผมยืนนิ่งหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะโมโหที่โดนคุณชายกล่าวหาแบบนั้นหรือเพราะรู้สึกอายกันแน่ ผมไม่ได้โรคจิตนะ แต่ผมเคยหยิบมันมาดมหลังซักเสร็จบ่อยๆ ก็เพราะกลิ่นผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มของที่วังแห่งนี้สั่งตรงมาจากต่างประเทศ ซึ่งมันหอมกว่าของที่ผลิตในประเทศไทยมากๆ

ข้ออ้างของผมเหมือนจะดูๆ แต่จริงๆ แล้วผมชอบกลิ่นของคุณชายนั่นแหละ... ยิ่งกลิ่นตอนก่อนสักมันหอมมาก ผมมั่นใจว่าทุกครั้งที่ผมแอบหยิบมันมาดมไม่น่าจะมีใครเห็น ...หรือว่าคุณชายจะเคยเห็น

“ยืนแข็งเป็นรูปปั้นเชียว เรื่องแบบนี้ปิดกันไม่ได้หรอกข้าว ฮ่าๆๆ ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า” ยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะอีก
ผมแยกเขี้ยวพร้อมชูนิ้วกลางใส่คุณชายเป็นการแก้เขิน คุณชายทำท่าเหมือนจะวิ่งมาเตะ ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วล็อกประตูทันที

“โถ่.. ไอ้อ่อน อย่าออกมานะโว้ย ออกมาโดนลงโทษแน่ บังอาจมาชูนิ้วกลางใส่กัน มันน่านัก!!!”

“ผมล้อเล่นน่าคุณชาย ก็อยากมากล่าวหาว่าผมโรคจิตก่อนทำไม” ผมตะโกนกลับ

“เออ! ช่างเหอะ รีบอาบละกัน อยากไปเที่ยวกับข้าวจะแย่ละ” น่าแปลกที่คุณชายไม่เถียงต่อ ยอมอ่อนข้อให้ง่ายดายเหลือเกิน แต่ก็ดีเหมือนกัน... ผมจะได้ไม่รู้สึกอายหากต้องเถียงเรียงความโรคจิตเล็กๆ ของตัวเองต่ออีก






ระหว่างเดินทาง... เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นอยู่หลายครั้ง แต่คุณชายก็ไม่ยอมรับสักคำและปิดเครื่องไปในที่สุดเพื่อตัดความรำคาญ พอผมเอ่ยถามว่าใครโทรมา คุณชายก็ตอบเพียงว่าเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ไม่มีธุระอะไรมากแล้วก็เปลี่ยนเรื่องเฉยเลย

การเดินทางจากเมืองหลวงปัจจุบันไปยังอดีตเมืองหลวงนั้นไม่ยากเลยสักนิด ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษก็เดินทางมาถึงจุดหมาย

“อยากไปวัดไหนล่ะ” คุณชายเอ่ยถามขณะขับรถเข้าสู่ตัวเมือง รู้ได้เพราะสังเกตเห็นป้ายสถานที่ราชการสำคัญๆ หลายแห่ง “เห็นบอกว่าอยากมา คงศึกษามาแล้วใช่ไหม”

“คือผม...” ผมรู้สึกผิดจังที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาเลยว่าจังหวัดนี้มีสถานที่ไหนที่น่าเที่ยวบ้าง “ผมไม่ทราบครับ ผมแค่อยากมา รู้แค่ว่ามีวัดเก่าๆ มากมาย”

“กะแล้วเชียว” คุณชายพึมพำออกมาก่อนจะยื่นมือถือมาให้ “กดเปิดเครื่องแล้วลองหาข้อมูลในเว็บดูซะ”

“ครับ”

ผมรับโทรศัพท์แล้วทำตามที่คุณชายสั่งทันที แต่ก่อนที่ผมจะค้นหา ข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ที่โชว์ขึ้นนั้นทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่นด้วยความกังวลใจ เห็นดังนั้นผมจึงถือวิสาสะกดเข้าไปอ่านข้อความนั้นแบบเต็มๆ

ไอ้คุณชายครับ... ถ้าไม่รีบโทรกลับอาจารย์จะให้คุณมึงตกและต้องลงทะเบียนเรียนใหม่ในปีหน้านะครับ กูพยายามพูดช่วยมึงเต็มที่แล้วนะเว้ย

หลังจากที่อ่านข้อความจบ ผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าคุณชายต้องมีธุระที่มหาวิทยาลัยแน่ๆ

“คุณชายครับ”

“ว่าไง เลือกวัดได้แล้วเหรอ”

“ไม่ใช่ครับ... วันนี้คุณชายมีธุระอะไรที่มหาลัยหรือเปล่าครับ”

“ทำไม” คุณชายแย่งโทรศัพท์จากผมแล้วเหลือบตามองอ่าน สักพักก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะปั้นหน้ายิ้ม “ช่างมันเหอะ มันไม่สำคัญหรอก”

“สำคัญสิครับ อนาคตคุณชายนะครับ รีบโทรกลับไปหาเพื่อนเลย” ผมเอ่ยอย่างร้อนรน 

“ข้าวไม่ต้องห่วงหรอก ไม่มีอะไร เดี๋ยวค่อยกลับเคลียร์ทีหลัง” คุณชายยังยืนยันคำเดิม

“ไม่ได้ครับ ถ้าตกต้องเรียนใหม่ ก็จะจบช้าไปอีก” ผมก็ยังยืนยันตามเดิมเช่นกัน

“ตกอะไร เพื่อนมันก็ส่งมาขู่ไปงั้นแหละ ไม่ต้องห่วงน่าอาจารย์ใจดีจะตายไปแค่ขี้บ่นไปหน่อยก็เท่านั้น ข้าวก็คงเคยเจอเหมือนกันใช่ไหม อาจารย์ที่ชอบบ่นชอบขู่ จริงๆ ก็แค่เป็นห่วงเราไม่มีอะไรมากหรอก”

 น่าแปลกที่คุณชายยิ้มแย้มตลอดเวลา... เอาแต่ยิ้มจนผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่รอยยิ้มที่เต็มใจ เพียงแต่กำลังฝืนเพราะต้องการให้ผมรู้สึกดี แต่ผมจะเถียงอะไรก็ไม่ได้เพราะเหตุผลที่คุณชายยกมานั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด อาจารย์หลายท่านที่ชอบบ่นนักศึกษา ขู่นึกศึกษาเรื่องคะแนนนั้นไม่ได้เกลียดหรือกลั่นแกล้งนักศึกษาหรอก เพียงแต่พวกท่านเป็นห่วงว่านักศึกษาของตัวเองจะออกนอกลู่นอกทางมากกว่า

“ข้าวหาข้อมูลต่อดีกว่า มาถึงนี่แล้วจะโทรไป หรือกลับไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก” คุณชายยังคงยิ้ม “นะครับ เที่ยวกันให้สนุกดีกว่า”

...และยังคงยิ้มต่อไปแถมยังยกมือมาขยี้ศีรษะผมอีก ไม่รู้ว่าผมคิดมากไปหรือเปล่า ท่าทางของคุณชายในตอนนี้ดูอ่อนโยนเกินปกติ คุณชายจะรู้บ้างไหมว่าการที่คุณชายทำตัวดีกับผมแถมยังยิ้มให้ตลอดเวลาแบบนี้มันยังทำให้ผมทำใจลำบาก

   ผมพยายามไม่สนใจรอยยิ้มของคนที่กุมหัวใจของผมเอาไว้และเลือกที่จะกดหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวตามที่เขาต้องการต่อไป

   “เออข้าว... เราเคยตกลงกันแล้วใช่ไหม ว่าจะไม่เรียนฉันว่าคุณชาย” คุณชายเอ่ยถามระหว่างที่ผมกำลังก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์

   “มันชินน่ะครับ” ผมตอบตามตรง “เรียกชื่อเฉยๆ ผมว่ามันดูห้วนๆ ไป”

   “ก็อยากให้เรียกแบบนั้น มันจะได้ดูไม่ห่างเหินกันเกินไป ใครๆ เขาก็ทำกัน ในหนังสือก็บอกเอาไว้แบบนั้น” คุณชายหัวดื้อยังคงเถียง แต่เดี๋ยว...

   “หนังสือ... หนังสืออะไรครับ” ผมจ้องคุณชายด้วยสายตาที่จงใจให้เห็นว่ากำลังจับผิดอย่างจริงจัง

   “หนังสืออะไร้” คุณชายทำเสียงสูง “ไม่มี้... แค่อ่านผ่านๆ”

   “อ๋อ...” ผมพยายามครุ่นคิด จนกระทั่งนึกออกว่าเคยเห็นหนังสือเล่มเล็กๆ ในลิ้นชักของคุณชาย “ไอ้หนังสือคู่มือมัดใจแฟนที่คุณชายเก็บไว้มันเป็นอย่างดีในลิ้นชัดโต๊ะทำงานใช่ไหมครับ”

   “เหอะ...” คุณชายพ่นลมหายใจออกมา “ขี้ค้นชะมัด”

   “ผมอ่านแล้วล่ะ มิน่าล่ะถึงอยากให้เรียกแทนชื่อกันและกัน และพยายามทำอะไรหลายๆ อย่างตามที่หนังสือเล่มนั้นบอก” ได้ทีผมก็ล้อใหญ่ “รู้แบบนี้แล้ว... จะให้ผมเลิกรักคุณชายได้ยังไงล่ะเนี่ย”

   คำพูดที่เอ่ยออกไปเหมือนจะหวานซึ้ง หากแต่ความรู้สึกภายในจิตใจของผมในตอนนี้มันกำลังเหี่ยวเฉา ยิ่งพอรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณชายเองก็พยายามที่จะทำหน้าที่ของคนรักที่ดี จนกระทั่งแอบไปซื้อหนังสือคู่มือมัดใจแฟนมาอ่านมันยิ่งทำให้ผมลำบากใจ

   “พูดอย่างกับว่าจะเลิกรักกันงั้นแหละ” คนพูดทำแสร้งทำเสียงประชดประชัน

   “ไม่ใช่นะครับ”  ผมรีบปฏิเสธ “หมายถึงรักมากอยู่แล้ว... ยิ่งทำตัวแบบนี้ก็ยิ่งรักมากๆ ขึ้นไปอีก”

   “รักข้าวเหมือนกัน... รักมากด้วย” พูดแล้วก็ยิ้มหวานๆ มาให้

   สถานการณ์แบบนี้ผมควรจะดีใจ แต่ทำไมผมกลับรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ สองสามวันมานี้คุณชายทำตัวน่ารักมาก อาจมียียวนกวนประสาทตามประสาแต่ในหลายๆ ครั้งกลับมีมุมอ่อนโยน น่ารักแถมยังบอกรักกันมากกว่าปกติเหมือนกับต่างคนต่างรู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่นานที่จะได้อยู่ด้วยกัน

   ‘หรือว่าคุณชายจะรู้’

   แล้วความสงสัยก็ผุดขึ้น ผมเหลือบมองคุณชายอีกครั้งพลางนึกคิดว่าเผลอพูดหรือทำอะไรให้คุณชายจับผิดได้หรือเปล่า สุดท้ายก็สรุปได้ว่าไม่ ผมไม่เคยหลุดปากหรือทำตัวน่าสงสัย แม้แต่ตอนที่พบกับหม่อมราชวงศ์กริชกรทุกครั้ง ผมก็มั่นใจว่าคุณชายต้องไม่เคยจับได้แน่นอน เพราะนอกจากจะระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี คนของคุณท่านก็คอยดูต้นทางให้ตลอด ความลับจึงยังไม่น่าจะรั่วไหล

   ‘หรือจะเป็นคนอื่นที่หลุดปาก’

   แล้วความสงสัยก็ประเดประดังเข้ามาอีกเรื่อยๆ ไม่รู้จบ แต่ผมก็พยายามหาเหตุผลมากลบได้อย่างมิดชิดทุกข้อสงสัยเช่นกัน หากคุณชายรู้มีหรือที่จะอยู่นิ่งเฉยไม่แสดงอาการอะไรออกมา นั่นจึงทำให้ผมสรุปได้ว่า เรื่องในวันพรุ่งนี้จะยังคงเป็นความลับ

   “เอ้อข้าว....”เสียงคุณชายดังขึ้น อาจเพราะผมนั่งเงียบนานเกินไป เอาแต่คิดมากเรื่องแผนการของคุณท่าน “ไม่ต้องหาแล้วนะ เดี๋ยวเราจะแวะกินก๋วยเตี๋ยวเรือร้านนั้น แล้วฉันจะให้เจ้าของร้านแนะนำเอง”

   “ได้ครับ” ดีเหมือนกัน ถึงอย่างไรคนในพื้นที่ก็น่าจะมีข้อมูลมากกว่า

   เราสองคนแวะทานก๋วยเตี๋ยวเรือกันจนเสร็จสรรพ เจ้าของร้านให้ความช่วยเหลือในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอย่างดี มีแผนที่และให้รายละเอียดวัดสำคัญๆ รวมถึงการเดินทางไว้อย่างครบถ้วน






   ตลอดการเดินทาง ผมเห็นโบราณสถานมากมาย เคยเห็นซากวัดปรักหักพังในละครหลายๆ เรื่อง ให้ความรู้สึกถึงมนต์ขลังแปลกๆ แต่พอได้มาสัมผัสกับตาตัวเองกลับสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต ความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นจากการดูผ่านหน้าจอทีวีไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวจากการมาเห็นด้วยตาตัวเองเลยสักนิด

   ภาพอิฐที่เรียงรายกันเป็นกำแพง ล้อมรอบเจดีย์ และวังเก่า แค่มองจากภายนอกก็ชวนให้น่าค้นหา มันลึกลับพลางทำให้คิดต่อไปว่าในอดีตบ้านเมืองของเราจะมีการดำรงชีวิตอย่างไรกัน

   คุณชายพาผมแวะไปหลายสิบวัดทั้งวัดเก่าในสมัยกรุงศรีอยุธยาหรือวัดใหม่ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ วัดเก่าบางวัดยังดูสมบูรณ์สวยงามอยู่เลย แต่บางวัดกลับเหลือเพียงเศษซากอิฐที่เป็นกำแพงล้อมรอบเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะผ่านไปวัดไหนๆ ผมก็จะอธิษฐานในใจ ให้เรื่องระหว่างผมกับคุณชายผ่านไปได้ด้วยดี

   นอกจากความสุขสบายใจที่ได้มาไหว้พระขอพรแล้ว ความสุขอีกอย่างที่ผมได้รับในวันนี้ก็คือทุกครั้งที่ลงจากรถแล้วเดินเข้าวัด คุณชายจะจับมือผมตลอดทาง แม้จะมีสายตาของนักท่องเที่ยวหลายคู่จับจ้องมาที่เราสองคน แต่คุณชายก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด

   ความจริงแล้วผมไม่ได้รู้สึกต้องการให้เอาใจหรือทำอะไรน่ารักๆ แบบนี้หรอก มันเหมาะสำหรับคู่รักชายหญิงมากกว่า แค่ทำตัวดีๆ เข้าใจและให้อภัยกันในทุกๆ เรื่องอย่างที่ผ่านมาก็ปลื้มมากแล้ว

   จับมือกับผู้ชายท่ามกลางสายตาผู้คนมันน่าอายเหมือนกันนะ ร้อยพ่อพันแม่แต่ละคนอาจมีความคิดเห็นในการกระทำนี้ต่างกัน ในทีแรกผมคิดจะคลายมือออก แต่เหมือนคุณชายจะรู้ตัวแล้วกำมือผมไว้แน่น เขาไม่พูดอะไรเพียงส่งยิ้มมาให้ นั่นทำให้ผมรับรู้ได้ว่าการกระทำมันเกิดขึ้นจากการตั้งใจจริงของคุณชาย อีกทั้งเหตุผลที่ว่า ...นี่คือเดทครั้งสุดท้ายของเรา... ผมจึงรู้สึกพิเศษมากขึ้นกับเรื่องเล็กๆ ที่ไม่เล็กแบบนี้

   เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทอง พระอาทิตย์ใกล้ตกดินเต็มทน ใจของผมก็ยิ่งสั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ พยายามจะไม่คิดถึงมันแต่ก็ทำไม่ได้เลย

   แม้นภาพเบื้องหน้าจะสวยงามราวกับนิมิตแต่จิตใจของผมตอนนี้มันมืดมิดดำดิ่งเหลือเกิน...

แสงสีทองถูกปกคลุมไปทั่วผืนฟ้า เหล่านกกาเริ่มโบยบินกลับรังกันเป็นฝูง เสียงของพวกมันดังเจี๊ยวจ๊าวราวกับกำลังหัวเราะเยาะ เจดีย์ที่สูงตระหง่านเริ่มส่งภาพมัวหมองเมื่อความมืดเข้าปกคลุม จากภาพนิมิตที่สวยงามกำลังผลัดเปลี่ยนเป็นภาพที่มืดสนิท เหมือนมันกำลังตอกย้ำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น 

   ใจสั่นระรัว มือสั่นระริก เม็ดเหงื่อซึมใบหน้าทั้งที่อากาศในตอนนี้มีลมพัดโชยมาตลอดเวลา อาการกระอักกระอ่วนเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความรู้สึกทั้งตื่นเต้น หวาดกลัว เสียใจ วิตกจริตคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นภายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

   สงสัยอาการผมคงแสดงออกชัดเจนเกินไป เลยทำให้คนที่กำลังจับมือผมเอาไว้รู้ตัว

   คุณชายคลายมือออกแล้วเปลี่ยนเป็นมาโอบกอดร่างของผมเอาไว้... เขารัดร่างของผมเอาไว้อย่างแนบแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปไหน การกระทำนั้นทำให้ผมน้ำตาคลอเบ้า ร่างกายสั่นแรงมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับหัวใจที่ตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่ามันเต้นแรงและถี่มากกว่าปกติ

   คุณชายไม่พูดอะไรสักคำ เขากอดผมแน่นเหมือนกำลังแข่งกับตัวเองว่าจะสามารถทำให้ผมกลับมาสงบนิ่งได้เหมือนเดิมหรือไหม ...ทั้งกอด ทั้งลูบหัว ทั้งเอาคางซบไหล่ จนกระทั่งผมสัมผัสได้ถึงความห่วงใย ร่างกายที่อุ่นร้อนของคุณชายส่งผ่าน
   ร่างกายของผมสงบลง แต่น้ำตาที่กำลังคลอเบ้ามันพร้อมที่จะไหลลงอาบใบหน้าเต็มที่ หากมีอะไรมาสะกิดความรู้สึกอีกนิดเดียว เขื่อนรอบดวงตาที่พยายามสร้างขึ้นมาคงแตกพังทลายอย่างแน่นอน

   “ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” เสียงของคุณชายช่างนุ่มน่าฟังเหลือเกิน ไม่ถามอะไรตอกย้ำสักคำราวกับรู้ว่าอาการเมื่อครู่มันเกิดขึ้นเพราะเหตุผลใด

   ผมภาวนาอย่าให้คุณชายพูดอะไรไปมากกว่านั้นเพราะกลัวจะกลั้นไอ้น้ำตาที่ดื้อด้านไว้ไม่ไหว จึงตัดสินใจยกมือขึ้นมากอดร่างของคุณชายเอาไว้อย่างแนบแน่นเป็นคำตอบให้เขารับรู้ว่าผมไม่เป็นอะไร

   เราสองคนยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นนิ่งๆ ไม่แน่ใจว่าผ่านไปกี่นาที แต่มันนานเสียจนทำให้ผมสามารถเก็บความเครียดทั้งหมดเอาไว้ น้ำตาที่คลอเบ้าพลันเหือดแห้งหายไปและฝืนกลับมาทำตัวปกติได้เหมือนเดิม

   ผมเป็นฝ่ายที่ค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกแล้วเอียงหน้าเล็กน้อยมองคนที่ตัวสูงกว่า ความมืดในยามนี้ไม่มีผลต่อการมองเห็นและสัมผัสถึงรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นของคนตรงหน้า …เขากำลังยิ้มตาหยีเชียวล่ะ

   ไม่เคยคิดเลยว่าเด็กชายที่เคยตัวเล็กๆ ดื้อด้านเอาแต่ใจแบบคนคนนี้ วันหนึ่งจะโตตัวกว่าผมและสามารถทำให้ผมเปลี่ยนความคิดว่าจากเด็กที่แสนซนจะเปลี่ยนเป็นคนที่แสนอบอุ่นได้ถึงเพียงนี้

   อ้อมกอดที่มีแต่ความอบอุ่น... อบอุ่นจนทำให้ความร้อนลุ่มของผมหายไป ผมจะจดจำเอาความรู้สึกนี้เอาไว้ตลอดไป

   อยู่ๆ ริมผีปากของผมก็ขยับแล้วแย้มยิ้มให้กับคนตรงหน้า มันเป็นรอยยิ้มที่ผมไม่ได้ฝืนหรือพยายามแต่อย่างใด แต่หัวใจและความรู้สึกของผมได้สร้างรอยยิ้มนี้ขึ้นมาเอง และสักพักมันก็ค่อยๆ จางหายไป

   “ค่ำแล้วนะ อยากกลับหรือยัง” เสียงของคุณชายทำให้ผมต้องดึงสติกลับมาแล้วต่อสู้กับสิ่งที่ต้องเผชิญต่อไป

   ผมพลิกข้อมือขึ้นมาดูเวลา เหลือเวลาอีกตั้ง 5 ชั่วโมงกว่าจะเที่ยงคืน “ยังเลยครับ หาอะไรอร่อยๆ กินก่อนได้ไหม”

   “เอาสิ ข้าวอยากกินไร วันนี้จะตามใจข้าวเป็นพิเศษในทุกๆ เรื่อง” พูดจบก็ยิ้มจนตาหยีอีกแล้ว

‘...ขอร้องล่ะครับ อย่าทำตัวแสนดีน่ารักๆ แบบนี้อีกเลย เดี๋ยวผมจะข่มอารมณ์เอาไว้ไม่ไหว’ ผมคิดในใจก่อนจะตอบออกไปในคำถามนั้น “เคยได้ยินพี่ๆ ที่ปั๊มพูดว่ากุ้งเผาอยุธยาอร่อยนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่าร้านไหนและอยู่ตรงไหน”

คุณชายพยักหน้ารับรู้แล้วกดมือถือหาข้อมูลอยู่ประมาณ 2 นาทีจึงเงยหน้ามายิ้มร่าจนแก้มแทบปริแล้วจับมือผมเดินกลับไปขึ้นรถ

“ไปไหนครับ” ผมเอ่ยถามอะไรโง่ๆ ออกไป รู้ทั้งรู้ว่าเขาจะพาไปไหน ถ่วงเวลาได้แค่ 1-2 วินาทีเพื่อให้คุณชายหยุดตอบผมก็ต้องทำ เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนของคุณท่าน ผมนึกไม่ออกแล้วว่าหากรับประทานอาหารมื้อค่ำกันเสร็จผมจะใช้วิธีไหนถ่วงเวลาของคุณชายต่อไป

“ไปกินกุ้งเผาไง” คุณชายตอบออกมา



จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2017 04:00:58
ตอน 41
   ...ผมถ่วงเวลาได้สำเร็จ...

   ผมนั่งอยู่ในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันระหว่างทางกลับนานเกือบชั่วโมง เหตุผลที่ต้องทำแบบนี้เพราะหลังจากที่ออกจากร้านกุ้งเผา เหลือเวลาอีกประมาณตั้งสองชั่วโมงครึ่ง ( ตอนนี้จะเท่ากับเวลา 21.30 น.) กว่าเวลาจะล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืน ผมจึงต้องทำอะไรก็ได้เพื่อถ่วงเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ( ก็จะเท่ากับ 22.30 น. ) เพื่อให้อีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งที่เหลือเป็นเวลาขับรถกลับวัง

   ยิ่งใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง  ผมก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด ใจหนึ่งอยากบอกแผนการของหม่อมราชวงศ์กริชกรให้คุณชายรับทราบแล้วหนีไปด้วยกัน แต่อีกใจก็ต้องอดทนเอาไว้เมื่อพยายามคิดว่าสิ่งที่คุณท่านกระทำคือสิ่งที่ถูกต้องมากที่สุดแล้ว

   ผมเคยพยายามให้คุณท่านเปลี่ยนใจ สอบถามไปว่าให้คุณชายแต่งงานตั้งแต่อายุเท่านี้จะไม่มีผลต่อการใช้ชีวิตหรือ คุณชายอายุยังไม่ถึง 20 ปีเต็มด้วยซ้ำ ถ้ากลัวสังคมประณามเรื่องการมีความรักต่อเพศเดียวกัน ก็ต้องกลัวสังคมประณามที่ปล่อยให้ลูกชายแต่งงานทั้งที่ยังเรียนไม่จบ

   คุณท่านตอบเพียงว่าเรื่องนั้นไม่มีปัญหา อีกอย่างฝ่ายหญิงก็เรียนจบมีการงานมั่นคงและยินยอมแผนการนี้ด้วยความเต็มใจเพราะหลงรักคุณชายมาตั้งแต่เด็ก และการถูกชาวบ้านนินทาในเรื่องนี้มันเล็กน้อยมากหากเทียบกับให้ชาวบ้านรู้ว่าตระกูลสุริยะวิทูปล่อยให้ลูกชายเป็นพวกรักร่วมเพศ

   สิ่งที่หม่อมราชวงศ์กริชกรพูดมานั้นแล้วนั้นล้วนถูกต้องทุกประการ ผมพยายามหาเหตุผลมาหักล้างก็คิดได้เพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น... คือทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการมัดมือชกและฝืนใจคุณชาย มันไม่ใช่เรื่องยุติธรรมสำหรับคุณชายเลยสักนิด

   ...แต่มันก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วเช่นกัน

   ผมคิดเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงของคุณชายเอ่ยเรียก

   “ข้าว... ข้าว... ถึงแล้วนะ”

   ผมขยี้ตาด้วยความรู้สึกงัวเงีย พอมองออกไปนอกกระจกจำได้ว่าที่ตรงนี้คือโรงจอดรถของคุณชาย ผมจึงสะดุ้งโหยงและพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูทันที

   เมื่อเห็นว่าเข็มนาฬิกาบอกเวลาว่ายังอยู่ในช่วงที่หม่อมราชวงศ์กริชกรกำหนดจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ

   “เป็นไร ถอนหายใจอะไรขนาดนั้น”

   “อ้อ...” ผมรีบหาเหตุผลที่เข้าท่า “นึกว่าจะโดนคุณชายปล้ำซะแล้ว”

   “ไอ้...” คุณชายแยกเขี้ยวใส่ ผมรีบเปิดประตูลงจากรถทันทีไม่รอให้คุณชายมีโอกาสด่า

   หลังจากที่ออกจากโรงรถ ผมพยายามสังเกตดูรอบรั้วเขตวังปรากฏว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สวนภายในเขตวังยังคงเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ตรงกลางเป็นลานหญ้าขนาดกว้างมีดอกไม้หลากสีปลูกประดับเป็นหย่อมๆ

   พอเดินเข้าไปในวัง บรรยากาศกลับดูอึมครึมกว่าคืนอื่นๆ ไม่มีแสงไฟเล็ดลอดจากเรือนพักแม่บ้าน แม้แต่คนสวนคนงานที่ชอบสุมหัวดื่มสุราดึกๆ ในคืนนี้ก็หายหน้าหายตาไปหมด ผมเดาได้ว่าอาจเพราะคุณท่านกำชับอย่างหนักแน่นทุกคนเลยต้องระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างดี

   เมื่อทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผน... แผนต่อไป ผมต้องทำให้คุณชายนอนหลับสนิทเพื่อที่หากมีเสียงดังรบกวนขึ้นมายามดึก คุณชายจะได้ไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

   “คุณชายนอนเลยไหมครับ” ผมถามก่อนที่เราจะก้าวขึ้นบันได

   “คงอาบน้ำแล้วนอนเลย เหนื่อยมาทั้งวันละ” คุณชายเหยียดแขนขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะแสร้งทำใบหน้าให้ดูน่ารัก “อยากนอนกอดข้าวจะแย่แล้ว”

   “งั้นรีบไปอาบน้ำเลยครับ เดี๋ยวผมขอไปอุ่นนมก่อนนะครับ”

   “อย่านานนะ” คุณชายทำเสียงออดอ้อน

   “ครับ” ผมพยักหน้า พูดจบก็ผลักบั้นท้ายของคุณชายเบาๆ เป็นสัญญาณบอกว่าให้รีบขึ้นไปได้แล้ว

   คุณชายก้าวขาขึ้นบันไดทีละขั้นราวกับโดนบังคับ กระทืบเท้าเสียงดังราวกับเด็กโดนขัดใจจนในที่สุดก็ขึ้นไปถึงชั้นบน

   “รีบตามมานะ” คุณชายตะโกนบอก

   “ครับ” ผมตอบรับ จากนั้นก็เสียเวลาอีกหลายนาทีกว่าที่เราจะแยกจากกันได้ เพราะคุณชายกับผมต่างชวนกันคุยไปมาเรื่องไร้สาระราวกับกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอีก

   ผมเดินตรงไปยังห้องครัวหลังจากที่แยกกับคุณชาย หลังจากที่ก้าวเท้าเข้าห้องครัวได้แค่ครึ่งก้าวผมก็ต้องผงะเมื่อเห็นร่างของใครบางคนนั่งอยู่ในนั้น

   “หม่อมย่า” ผมรีบวิ่งเข้าไปหาทันทีเมื่อตั้งสติได้ ท่านสวมชุดนอนผ้าแพรสีขาวขลิบทอง “ทำไมมานั่งอยู่ในนี้ครับ ไม่สบายหรือต้องการอะไรบอกผมได้เลยนะครับ”

   หม่อมย่าส่ายศีรษะก่อนจะตบเก้าอี้ตัวข้างๆ ของท่านแล้วบอกผม “มานั่งตรงนี้สิ ย่าเข้ามารอข้าว”

   เป็นที่รู้กันว่าคุณชายจะต้องดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอนทุกคืน และพอผมมาอยู่ที่นี่ หน้าที่อุ่นนมก่อนนอนจึงเป็นหน้าที่ของผม

   “ครับ” ผมตอบรับอย่างเกร็งๆ แล้วทำตามที่ท่านสั่ง ใจเต้นตึกๆ ไม่เป็นจังหวะด้วยกลัวว่าจะโดนหม่อมย่าเทศนาเรื่องผมกับคุณชายเช่นเดียวกับที่หม่อมราชวงศ์กริชกรทำ
 
   “ย่ารักหลานย่ามากนะ...” น้ำเสียงของหม่อมย่าแหบพร่าและแต่ละคำที่เปล่างออกมาล้วนเชื่องช้ากว่าคนวัยหนุ่มสาว “ย่ากับชายเป๊กไม่เคยมีความลับอะไรต่อกัน ไม่ว่าชายเป๊กจะทำอะไรผิด ชายเป๊กก็จะยอมรับผิดกับย่าเสมอ แต่กับเรื่องของข้าว... ชายเป๊กไม่เคยบอกย่าเลย เห็นแม่วลีพูดถึงข้าวอยู่บ่อยๆ ตอนที่พาชายเป๊กไปเยี่ยมชายเป๊กที่ต่างจังหวัด แม่วลีชื่นชมข้าวให้ย่าฟังนะรู้ไหม บอกว่าเป็นเด็กคนเดียวที่สามารถกำราบเป๊กได้ และพอย่าถามชายเป๊กถึงเรื่องข้าวทีไร เขาก็จะเอาแต่พ่นลมหายใจออกมาแล้วบอกว่าย่าอย่ายุ่งน่า...”

   ผมเดินไปรินน้ำให้หม่อมย่า โดยที่หม่อมย่ายังคงเล่าต่อไป

   “...ย่าก็เลยไม่ยุ่งเรื่องของข้าวอีก แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ กลับกลายเป็นว่าชายเป๊กมาคุยเรื่องของข้าวให้ย่าฟังทุกครั้งที่ไปเยี่ยม ทั้งชม ทั้งด่าบ้างปะปนกันไป แต่ทุกครั้งที่พูดถึงข้าวสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือชายเป๊กจะยิ้มและหัวเราะแบบมีความสุขมาก ย่าเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย ...ย่านึกอยากเจอข้าวมานานแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที จนกระทั่งย่ามารู้ว่าชายเป๊กกับข้าวมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน”

   คุณย่าหยุดพูดแล้วมองหน้าเหมือนต้องการให้ผมเอ่ยอะไรออกไป สายตาของคุณย่าที่จับจ้องมาไม่ใช่สายตาดูแคลนแบบของหม่อมราชวงศ์ แต่เป็นสายตานิ่งๆ ที่แผ่รังสีความกดดันออกมาราวกับว่ากำลังใช้สายตานั้นสั่งให้ผมพูดอะไรออกไปก็ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้

   “ผมขอโทษนะครับหม่อมย่า” ผมพูดโดยที่หลบสายตา จะกล้าสู้หน้าได้อย่างไรในเมื่อผมมันเป็นแค่เด็กปั๊มจนๆ ที่ไม่มีสมบัติและเกียรติยศอะไรเลย “ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นครับ”

   “ในทีแรกที่ย่ารู้เรื่อง ย่าเองก็รับไม่ได้ ไม่ใช่เพราะข้าวไม่มีสมบัติหรือยศถาบ้าบออะไรหรอกนะ แต่เพราะหลานของย่ากับข้าวเป็นผู้ชายเหมือนกัน ย่ายังคิดภาพไม่ออกเลยว่าผู้ชายสองคนจะรักกัน มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกันได้ยังไง แต่ก่อนที่จะไปถึงเรื่องนั้นย่าเองก็อยากรู้ว่าข้าวมีดีอะไรชายเป๊กถึงได้หลงหัวปรักหัวปรำ”

   คุณย่าหยุดพูดอีกแล้ว... ผมต้องให้คำตอบกับคุณย่าใช่ไหมว่าผมมีดีอะไร คุณชายถึงได้หลงรักหัวปรักหัวปรำ

   “ผมคง... ยอมอ่อนข้อให้กับคุณชายในทุกๆ เรื่องมั้งครับ”

   “เพราะย่าสงสัย ย่าเลยแกล้งสำลักข้าวต้มใส่ข้าวในวันที่เราเจอกันครั้งแรก ย่าอยากรู้ว่าข้าวจะทำยังไง และสิ่งที่แสดงออกก็ทำให้ย่าพึงพอใจอย่างยิ่ง นอกจากจะไม่บ่น ข้าวยังห่วงย่ามากกว่าห่วงตัวเอง แต่เพราะย่าไม่แน่ใจ ย่าเลยลองคุยกับชายเป๊กตรงๆ ว่าเพราะอะไรชายเป๊กถึงรักข้าว”

   ผมกลืนน้ำลายอย่างตื่นเต้น อยากรู้เหลือเกินว่าคุณชายจะตอบว่าอย่างไร ทั้งไหนจะเรื่องแผนการแกล้งสำลักข้าวต้มอีก ตกลงคุณยายต้องการจะสื่ออะไรกับผมกันแน่

   “ย่าไม่ขอตอบนะว่าชายเป๊กตอบว่าอะไร แต่พอได้ฟังคำตอบของชายเป๊ก ย่าก็อึ้งทำอะไรไม่ถูกเชียวล่ะ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะมีความคิดแบบนี้ และหลังจากนั้นย่าจึงสังเกตเราอยู่ห่างๆ ในทุกๆ วัน ทุกๆ คืน และย่าก็เชื่อสนิทใจแล้วว่าตอนนี้ชายเป๊กมองคนไม่ผิด”

   ใจของผมเต้นแรงอีกครั้ง ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนั่นหมายความว่าคุณย่าเห็นด้วยและยอมรับในความรักของเราสองคนแล้วใช่ไหม

   “ย่าดีใจที่ได้คุยกับข้าวในคืนนี้ ส่วนพรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อไปก็อยู่ที่ข้าวจะตัดสินใจนะ” น้ำเสียงของหม่อมย่าเต็มไปด้วยความเห็นใจ ท่านคงรู้เรื่องราวทั้งหมดและรู้ว่าผมลำบางใจแค่ไหนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

   “ขอบคุณนะครับหม่อมย่า เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ”

   “ไม่เป็นไร รีบอุ่นนมไปให้ชายเป๊กเถอะ หายไปนานเดี๋ยวจะโดนสงสัยเอา”

   “แต่...”

   “เดี๋ยวย่าให้นุ่มไปส่ง นุ่มไปซื้อดอกไม้เตรียมไหว้พระพรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวก็คงจะกลับมา ข้าวอุ่นนมไปให้ชายเป๊กเถอะลูก เอ้อ...นุ่มเองก็บอกว่าข้าวเป็นเด็กดี แต่ตอนรู้จักกันใหม่ๆ โดนชายเป๊กเล่นงานไปเยอะเหมือนกัน” ป้านุ่มที่คุณย่าเอ่ยถึงรักและเอ็นดูผมมาก แวะมาหาคุณชายครั้งใด จะต้องมีขนมฝากให้ผมนำกลับไปกินแทบทุกครั้ง

   “ครับ” ผมตอบรับด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นตันใจ ดีใจที่คุณย่ายอมรับในตัวผม ...แต่จะให้ผมทำอย่างไร ในเมื่อหม่อมราชวงศ์กริชกรได้เตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมจนหมดแล้ว

   “ผมไปก่อนนะครับหม่อมย่า” ผมโค้งศีรษะเล็กน้อย หม่อมย่ายิ้มรับจากนั้นผมจึงถือแก้วนมสองแก้วออกจากห้องครัว
   ผมยกแก้วนมขึ้นไปในห้องครัวอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งไปถึงจุดหมาย พอเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก็พบกับร่างขาวๆ ที่ไม่ยอมสวมเสื้อ มัดกล้ามที่นู่นแน่นอย่างพอดิบพอดีคำหากได้สัมผัสนั้นมันช่างยั่วยวนผมยิ่งนัก

   คุณชายไม่ค่อยชอบนอนสวมเสื้อ แต่ผมเคยขอเอาไว้ว่าให้สวมทุกคืนเพราะการที่คุณชายล่อนจ้อนแม้จะแค่ท่อนบนแค่นี้มันก็ทำให้อาการหื่นกามของผมกำเริบได้

   “นมครับคุณชาย” ผมยื่นแก้วกระเบื้องสีดำไปให้ ก่อนจะวางแก้วสีขาวของตัวเองไว้บนโต๊ะข้างเตียงนอน

   “ขอบใจข้าว” คุณชายยื่นมือมารับ หากแต่ไม่ยอมดื่มในทันทีกลับวางแก้วลงข้างๆ กับแก้วของผม “เออข้าว ไปเอาทาร์ตไข่ในตู้เย็นให้หน่อ”

   “คึกอะไรครับเนี่ยอยากกินทาร์ตไข่ตอนดึก” ปกติคุณชายจะไม่ทานอาหารจำพวกแป้งหลัง 4 ทุ่มเว้นแต่ตอนไปเที่ยวสังสรรค์เท่านั้น

   “คึกอะไรล่ะ” คุณชายทำเสียงยียวนก่อนจะจ้องมาทางผมด้วยสายตาที่เหมือนกันราชสีร์กำลังจ้องเหยื่อมีนอตัวดำๆ …เดี๋ยวข้าว จะเปรียบเทียบตัวเองไปเป็นแรดทำไมเนี่ย “ไปเอามาเหอะน่า ก็มันอยาก”

   “ครับ” ผมทำตามคำสั่ง วิ่งลงไปเอาทาร์ตไข่โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือแผนการตลบหลังของคุณชาย เพราะหลังจากที่ลงไปเอาทาร์ตไข่แล้วกลับขึ้นมาดื่มนม เพียงชั่วครู่เท่านั้น... สายตาของผมก็เริ่มพล่ามัว ดวงตาที่พยายามฝืนให้ลืมก็ค่อยๆ ปิดสนิท ทุกอย่างมืดมิดเป็นสีดำ แล้วสติก็ดับไปหลังจากนั้นทันที...






   ...คุณชาย...

   ...คืนนี้ข้าวอุ่นนมนานจัง อาบน้ำเสร็จแล้วยังไม่ยอมขึ้นมาอีกหรือว่าข้าวกำลังจะทิ้งผมไป

   คิดดังนั้น ผมจึงรีบออกจากห้องและวิ่งลงไปยังห้องครัวแม้จะสวมใส่เพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวก็ตาม ขณะวิ่งมีเสียงคุยกันเล็ดลอดออกมาเบาๆ ผมจึงเปลี่ยนจากวิ่งเป็นย่องช้าๆ ไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องครัว

   ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูอย่างระมัดระวัง หม่อมย่ากำลังนั่งคุยกับข้าว เสียของคุณย่าที่เล็ดลอดออกมาในยามนี้ ผมได้ยินมันชัดเจนทุกประโยค

   หม่อมย่าเลือกที่จะอยู่ข้างผมและข้าวแต่ท่านก็ไม่สามารถช่วยอะไรไปได้มากกว่าการให้กำลังใจ แต่แค่นี้มันก็สำคัญสำหรับผมมากแล้ว

   ผมไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป แม้ว่าข้าวจะไม่บอกความจริงกับผม และผมไม่รู้ว่าข้าวตัดสินใจอย่างไรกันแน่ แต่ผมรู้แล้วล่ะว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไป

   หลังจากที่หม่อมย่าสนทนากับข้าวจบ ข้าวได้แยกไปอุ่นนมทันที การกระทำของข้าวทำให้ผมรับรู้ได้ทันทีว่ากำลังวางแผนจะทำอะไร เพราะหลังจากที่นำแก้วนมออกจากไมโครเวฟ ย่าก็ล้วงมือไปหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋ากางเกง มันเป็นซองใสเล็กๆ ภายในซองบรรจุผงอะไรบางอย่างเอาไว้

   ผมเคยเห็นมันตอนเช้าก่อนไปเที่ยวขณะที่ข้าวกำลังอาบน้ำ รายชื่อตัวยาที่เขียนผมลองฝากให้ไอ้รัชท์เพื่อนรุ่นพี่เจ้าของโรงยิมคนสนิทช่วยเช็คให้ว่าตัวยานี้คืออะไร และไม่นานมากนักก็ได้รับการติดต่อกลับมาจึงรู้ว่าเป็นยานอนหลับชนิดไม่รุนแรงมากนัก แต่ส่งผลทำให้หลับลึกประมาณ 6-8 ชั่วโมง

   ...ข้าวคิดจะวางยาผม และงานหมั้นรวมถึงงานแต่งจะถูกจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ข้าวคงคิดจะหนีไปตอนที่ผมนอนหลับ และให้คุณพ่อจัดการทุกอย่างรวมถึงบีบบังคับให้ผมแต่งงาน

   หลังจากที่คาดคะเนแผนการได้ ผมจึงรีบวิ่งกลับไปบนห้องนอนเพื่อไม่ให้ข้าวสงสัยและหลังจากที่ข้าวขึ้นไป ผมจึงต้องหาเรื่องให้ข้าวกลับลงไปข้างล่างอีกครั้งและผมก็ทำสำเร็จ

   หลังจากที่ข้าวออกจากห้องเพื่อลงไปเอาทาร์ตไข่ ผมจึงรีบนำแก้วนมของผมไปเทใส่แก้วใสที่วางคู่ไว้กับเหยือกน้ำบนโต๊ะ จากนั้นก็รีบนำแก้วสีดำของผมไปล้างน้ำแล้วนำนมในแก้วของข้าวมาเทใส่แก้วกระเบื้องดำของผมแทน... จากนั้นจึงเทนมจากแก้วใสลงไปในแก้วของข้าว ก็เท่ากับว่า... แก้วของข้าวคือแก้วที่มียานอนหลับผสมอยู่

   “ใจร้ายไม่บอกกันนักใช่ไหม... ดี... ร้ายมาก็ต้องร้ายกว่า”

   เสียงฝีเท้าของข้าวดังขึ้น ผมรีบถอยห่างออกจากบริเวณแก้วนมทันทีแล้วตีเนียนไปนอนเกลียกกลิ้งบนที่นอน

   ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับปรากฏร่างของข้าวที่กำลังจ้องผมตาลุกวาว แถมยังอ้าปากค้างอีกต่างหาก ...หรือว่าร่างเปลือยๆ ของผมที่กำลังนอนเหยียดแข้งขาบนเตียงนอนมันจะดูยั่วยวนเกินไป

   “ไอ้ทะลึ่ง” ผมรีบเอาหมอมาปิดร่างไว้อย่างเสแสร้ง ไม่ได้อายหรอกนะ แต่แค่อยากกวนประสาทเฉยๆ

   “คุณชายนี่ก็ชอบอ่อยจังนะครับ” มันยอกย้อนก่อนจะเดินมานั่งบนขอบเตียงแล้วดึงมือผมขึ้นให้ลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งก่อนจะส่งจานทาร์ตไข่มาให้ “นี่ครับ”

   “ป้อนหน่อย” ผมทำเสียงออดอ้อน ในใจก็ก่นด่าตลอดเวลาว่าทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ จะทิ้งกันไปทั้งทียังทำหน้าใสซื่อได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ด้วยความหมั่นไส้เลยเผลอตบศีรษะมันไปหนึ่งทีด้วย

   “ตกลงจะอ้อนให้ป้อนหรืออ้อนบาทาผมกันแน่ครับ” มันยอกย้อนอีกครั้ง ชอบจังเวลาที่ข้าวปากเก่งแบบนี้

   “ป้อนหน่อยเดะ” ผมพูดอีกรอบแล้วยื่นหน้าไปใกล้ๆ  ข้าวหยิบทาร์ตไข่แล้วยื่นมันมาแตะที่ปากของผม  “เอาปากป้อน”

   “ครับ” ข้าวคาบทาร์ตไข้เอาไว้ที่ปากอย่างหลวมๆ แล้วยืนหน้ามาใกล้ๆ กับปากของผม

   ผมจ้องมองดูข้าวด้วยความปรารถนาแต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้ก่อนจะยืนหน้าไปใกล้ๆ แล้วงับทาร์ตไข่กลับ

   ในยามนี้จมูกของเราชนกัน เช่นเดียวกับสายตาที่ประสานกันแน่นิ่ง เหมือนว่าวินาทีนั้น... น้ำตาของข้าวจะคลอเบ้า ผมรับรู้ได้ทันทีว่าเพราะเหตุใด แต่ผมแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ในใจนึกอยากให้มันร้องไห้ออกมาเสียด้วยซ้ำ คิดจะทิ้งผมดีนักต้องเจอแบบนี้แหละ

   ผมค่อยๆ กัดทาร์ตไข่เข้าปาก แต่ข้าวยังคงแน่นิ่งคงจะกินไม่ลง ผมเลยกัดมันคนเดียวจนกระทั่งริมฝีปากของเราทั้งคู่สัมผัสกัน ริมฝีปากของข้าวร้อนผ่าว ผมจึงตัดสินใจกอดร่างนั้นเอาไว้แน่น

   ข้าวยกมือขึ้นมากอดเหมือนกัน แต่ยังคงใจแข้งไม่ยอมปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา ผมเลยผละริมฝีปากออก

   “อบอุ่นจังเวลากอดกับข้าว” ผมจงใจเอ่ยขึ้น อยากตอกย้ำให้ข้าวรู้สึกเสียดายสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเราเผื่อเปลี่ยนใจอยากพูดความจริงขึ้นมาบ้าง “โชคดีจังที่ตอนนั้น... ข้าวตัดสินใจขึ้นแท็กซี่ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วยกัน ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่รู้จักกัน”

   “คุณชายดื่มนมเถอะครับ” ข้าวจงใจตัดบท ...ร้ายนักนะ สงสัยกลัวว่าจะอั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหว “เดี๋ยวผมหยิบมาให้”

   “เอาสิ... ดื่มพร้อมกันนะ”

   “ครับ”

   ข้าวเอื้อมมือไปหยิบแล้วส่งแก้วกระเบื้องสีดำมาให้ผม... ผมซ่อนยิ้มอย่างมารร้ายเอาไว้ในใจก่อนจะยกมันขึ้นมาดื่มจนหมดเพื่อไม่ให้คนคิดจะวางแผนหักหลังผมระแคะระคายในแผนการ

   ข้าวมองผมดื่มจนหมดแก้วอย่างพอใจจากนั้นจึงดื่มของตัวเองต่อ

   ผมโกรธข้าวเหมือนกันนะที่ไม่คิดจะบอกเรื่องนี้ให้ผมทราบจนวินาทีสุดท้าย ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถูกคนที่รักหักหลัง แต่ต้องข่มอารมณ์ทั้งหมดเอาไว้ แล้วพยายามนึกถึงเหตุผลที่ข้าวตัดสินใจแบบนี้

   อึ้งกับตัวเองเหมือนกันที่ไม่พูดอะไรออกไปจนกระทั่งถึงตอนนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเราสอนให้ผมรู้จักควบคุมอารมณ์ ไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เพราะถ้าผมเป็นข้าว... ผมก็คงจะตัดสินใจเช่นเดียวกับข้าว

   ผมเอาแต่มองในมุมของตัวเองมาตลอด ว่าคนนั้นจะต้องเป็นแบบนั้น คิดแบบนี้ โดยไม่คิดถึงความรู้สึกหรือพยายามเข้าใจในตัวเขา แต่ตอนนี้ผมต้องคิดถึงจิตใจข้าวให้มากๆ เขาเองก็คงไม่ได้ยินดีและอัดอั้นเหมือนกันที่ต้องทำอะไรแบบนี้ ...โถ่ แบบนี้จะไม่ให้หลงรักจนหัวปรักหัวปรำได้อย่างไร

   “หลับฝันดีนะข้าว” ผมประคองร่างของคนที่หลับลึกลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล ฤทธิ์ยาแสดงผลภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที “ไม่มีใครมากำหนดกฎเกณฑ์เรื่องของเราได้หรอก จากนี้ไปเป๊กจะจัดการทุกอย่างเอง”




จบตอน

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2017 04:02:58
ตอนที่ 42

“ข้าว... ข้าว...”

เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยดังขึ้น ผมลืมตาอย่างช้าๆ เห็นใบหน้าของคนที่แสนอบอุ่นกำลังยิ้มให้ คงกำลังฝันไปสินะ...

ขนาดในฝันก็ยังตามมาหลอกหลอน ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไร คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะหลับตาพริ้มลงอีกทีเพราะยังไม่อยากตื่น

“ข้าว...” คุณชายเรียกผมอีกครั้ง คราวนี้ยื่นมือมาตบที่แก้มของผมเบาๆ ด้วย “ข้าว ตื่นได้แล้วจะต้องขึ้นเครื่องแล้ว”

...เดี๋ยวนะ ทำไมผมต้องตื่น และผมจะต้องขึ้นเครื่องไปไหน ผมพยายามนึกย้อนถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่ผมจำได้ และผมก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาสุดแรง

   “เฮ้ย!!!” พอเหลียวมองไปรอบด้านก็พบว่าเป็นห้องแปลกๆ ที่มีเนื้อที่กว้างขวาง มีผู้คนมากมายทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ซึ่งทุกคนล้วนมีกระเป๋าใบใหญ่ติดมือหรือหลังมา ...ไม่ต้องพิจารณาให้มากนัก ผมจำได้ว่าที่แห่งนี้คืออาคารผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิ “คุณชาย... ผม... มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วคุณชายไม่ต้องแต่งงานเหรอครับ หรือว่าแต่งเสร็จแล้ว หรือว่า...”

   “หยุดพูดได้แล้วข้าว” คุณชายยกมือมาป้องปากผม “ใจร้ายมากเลยนะ ร่วมมือกับคุณพ่อเพื่อที่จะผลักไล่ให้ไปแต่งงานกับคนอื่น”

   “เดี๋ยวสิคุณชาย ตอบมาเลยนะครับ มันเกิดอะไรขึ้น” ผมเอ่ยถามอย่างร้อนรน    

   “ก็หนีไง... ข้าวไม่สงสัยบ้างเหรอทำไมถึงพาข้าวไปทำพาร์สปอร์ต ทำวีซ่าและเอกสารสำคัญๆ สำหรับเดินทางไปต่างประเทศ ฉันแกล้งทำเป็นไม่รู้แผนการเพื่อรอดูว่าข้าวจะบอกกันบ้างไหม แต่ก็ไม่เลย ใจร้ายจริงๆ”

   “ผมขอโทษ” ผมก้มหน้าสำนึกผิด ไม่กล้าสบตามองหน้าคุณชายหรอก ผมรู้ว่าคุณชายจะต้องโกรธมากเพราะการกระทำมันไม่ต่างอะไรกับการหักหลัง “แต่คุณชายจะพาผมหนีไปไหน แล้วทำยังไง แล้วเรื่องที่วังล่ะครับ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มันจะไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ เหรอครับ”

   “ข้าวทำใจให้สบายนะ ไม่ต้องคิดมาก เอาไว้ไปถึงอลาสก้าเดี๋ยวจะเล่าทุกอย่างให้ข้าวฟัง”

   “อะ... อะไรนะครับ” ผมอ้าปากเหวอ ถ้าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือความจริง นั่นหมายความว่าคุณชายจะพาผมไปในที่ที่คุณชายเคยพร่ำบอกว่าอยากไป “อลาสก้า”

   “อืม...” คอยรับด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “เคยมีคนบอกว่าอยากไปอลาสก้าด้วยกันไม่ใช่เหรอ”

   “ใครบอก... บอกตอนไหน” ผมพยายามครุ่นคิด แล้วภาพของเหตุการณ์ในอดีตเมื่อตอนที่คุณชายบอกให้เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังก็ผุดขึ้นมา “คุณชายแกล้งหลับเหรอครับ อย่าบอกนะว่าตอนนั้นได้ยินที่ผมพูดทั้งหมด”

   คุณชายไม่ได้ตอบอะไรแต่ส่งยิ้มละมุนละไมมาให้ นั่นก็ทำให้ผมพอจะทราบในคำตอบได้ทันที

   “แล้วที่บ้าน...”

   “บอกแล้วว่าอย่าเพิ่งถาม ไว้ไปถึงอลาสก้า จะเล่าให้ฟังทั้งหมด ข้าวทำใจให้สบายเถอะ แบกรับอะไรมาตั้งเยอะ ให้เป๊กได้มีโอกาสทำอะไรเพื่อข้าวบ้างนะ”

   ผมอยากจะปฏิเสธ... เพราะเกรงกลัว แต่เพราะคำพูดและการแสดงออกของคุณชายนั้นมีแต่ความจริงใจทำให้ท้ายที่สุดผมจึงพยักหน้ารับ

   “ครับ”

   “จะไม่หักหลังกันอีกนะ”

   “โถ่... คุณชาย” ผมส่งเสียงตัดพ้อ ใช่ว่าเต็มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ลำพังแค่ผมคนเดียวคงไม่มีปัญญาปฏิเสธหรือเปลี่ยนความคิดหม่อมราชวงศ์กริชกรได้หรอก

   “จะไม่ปิดบังและมีความลับกันอีกนะ เคยตกลงกันแล้วนี่ว่าจะเชื่อใจกัน ต่อไปต้องเชื่อใจกันในทุกๆ เรื่องนะ ต่อให้ใครมาพูดอะไรไม่เข้าหูก็ไม่ต้องไปใส่ใจ”

   “ผมเข้าใจนะครับ” ผมทราบถึงเจตนารมณ์ในสิ่งที่คุณชายสื่ออกมา แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าเราสองคนจะไปกันรอดจริงๆ น่ะหรือ “คุณชายเปรียบเสมือนท้องฟ้า ผมมันแค่ผืนดิน สิ่งที่อยู่จุดสูงสุดมันจะสามารถลงมาบรรจบกับสิ่งต้อยต่ำที่อยู่เบื้องล่างได้จริงๆ น่ะหรือ ต่อให้มีคำพูดที่หวานหอม การกระทำที่สวยงามมากแค่ไหน แต่สุดท้ายผมก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าผมเป็นแค่ดิน”

   “นั่นคือสิ่งที่ข้าวคิดไปเองต่างหาก มนุษย์เราไม่ว่ายากดีมีจนทุกคนล้วนมีค่า ข้าวสอนเป๊กมาเสมอไม่ใช่เหรอว่าควรให้เกียรติคนอื่นเพราะเป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน ถ้าข้าวบอกว่าข้าวเป็นดิน เป๊กก็พร้อมที่จะอยู่กับดิน ถ้าการที่บินอยู่บนฟ้าแล้วมันมีปัญหามากนักเป๊กก็จะเป็นดินเหมือนข้าว เพราะเป๊กขาดข้าวไม่ได้”

   “คุณชาย...” น้ำตาของผมคลอเบ้า ใครจะไปคิดเล่าว่าคนที่มีความเพียบพร้อมในทุกๆ ด้านอย่างคุณชายจะยอมทำเพื่อผม... เขามีโอกาสได้พบเจอสิ่งที่ดีกว่าผม แต่สุดท้ายเขาก็เลือกแล้ว “ผมเข้าใจแล้วครับ ผมพยายามบอกตัวเองเสมอว่าต่อให้ยากดีมีจนมันก็คือคนเหมือนกัน แต่เป็นผมเองซะอีกที่กลับเกรงกลัว เคารพ ให้เกียรติ และยกยอปอปั้นคนที่รวยกว่า ดีกว่าจนผมเอาแต่ดูถูกและสมเพชตัวเอง ผิดกับคุณชายที่พยายามเปลี่ยนความคิดและการกระทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้รักของเราก้าวต่อไปได้”

   “ถ้าเข้าใจแล้ว... ก็ไปอลาสก้ากันเถอะ” คุณชายยื่นมือออกมา

   “ครับ” ผมยิ้มรับก่อนจะยื่นมือไปสัมผัสแล้วลุกขึ้นตามแรงดึงของคุณชาย

   ทว่า... ยังไม่ทันที่เราสองคนจะได้ก้าวขาไปไหน สายตาของผมก็จับจ้องไปเห็นร่างของใครบางคนซึ่งสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวและใส่แว่นดำปกปิดใบหน้ากำลังจ่อปืนมาทางร่างของคุณชาย มันยกปืนซึ่งๆ หน้าไม่เกรงกลัวสักนิดว่าจะมีผู้ใดเห็นหรือการกระทำของมันจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่มากขนาดไหน

   สัญชาติญาณการปกป้องของผมทำงานโดยอัตโนมัติ ผมพลิกร่างไปเป็นกำบังแล้วกอดคุณชายเอาไว้แน่น และวินาทีนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น

   เสียงหวีดร้องของผู้คนดังระงมพร้อมๆ กับที่ร่างของผมทำท่าว่าจะทรุดลงกับพื้น แต่คุณชายพยายามประคองเอาไว้

   “ข้าว!!!” คุณชายร้องเรียกชื่อของผมเสียงดังลั่น แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาจนเลอะใบหน้าของผมที่กำลังถูกประคองเอาไว้ ผมรู้สึกเหมือนแรงกอดของคนที่กำลังร้องไห้แน่นขึ้นเรื่อยๆ

   ในตอนนั้นเอง ผมสังเกตเห็นริมฝีปากของคุณชายขยับไม่ยอมหยุด ทว่ากลับไม่ได้ยินอะไรสักนิด อาจเพราะความตกใจที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้สึกหูอื้อจนไม่ได้ยินเสียงใดๆ

ดวงตาเริ่มพล่ามัวไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดสักนิด หรือมันคงจะเจ็บปวดมากจนไม่รู้สึกอะไร ...ภาพสุดท้ายที่เห็นคือภาพของผู้ชายที่แสนอบอุ่นกำลังโอบร่างของผมเอาไว้แน่นแล้วร้องไห้ปล่อยให้น้ำตารินไหลไม่ยอมหยุด

…โถ่ คุณชาย อย่างร้องไห้สิครับ ใบหน้าใสๆ มันแดงหมดแล้ว ดูสิ คนอะไร ขนาดร้องไห้ยังหล่อ แค่คุณชายไม่เป็นอะไรมันก็วิเศษสุดๆ แล้วครับ

   เราไม่ได้เที่ยวอลาสก้าด้วยกัน... ผมกำลังจะตายแล้วใช่ไหม... ผมขอโทษนะครับคุณชาย ยังมีอะไรที่ผมยังอยากจะพูดและทำกับคุณชายอีกมากมาย แต่วาสนาผมคงมีเพียงเท่านี้

   ผมพยายามจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ยกมือเอื้อมไปสัมผัสที่ใบหน้าของคุณชาย แต่ยังไม่ทันที่จะได้สัมผัส ผมก็รู้สึกว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดมันเหือดหาย ผมไม่มีกำลังจะทำสิ่งใดอีกแล้ว วินาทีต่อจากนั้น ภาพเบื้องหน้าก็ดับลงแปรเปลี่ยนเป็นความมืดสนิท สติสัมปชัญญะที่หลงเหลืออยู่ขาดห้วงไป

   “ข้าว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน เสียงจากคนที่ผมปรารถนาจะให้เขาปลอดภัย







   ...คุณชาย...

   ทันทีที่ข้าวทรุดหลังจากที่เสียงปืนดังลั่น ผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนร้ายเล็กเป้าหมายมาที่ใครกันแน่

   น้ำตาของผมนองใบหน้า ผมร้องไห้กลัวว่าคนที่กำลังจะประคองอยู่ทิ้งผมไป ผมเคยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งพอจะปกป้องคนคนนี้ แต่ท้ายที่สุดผมกลับไม่สามารถปกป้องข้าวได้เลย กลับกันเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายปกป้องผม

   เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์แล้วโทรเรียกรถพยาบาลทันที... เจ้าหน้าที่ช่วยหลายคนช่วยกันกั้นผู้คนเอาไว้ไม่ให้มามุงดูใกล้ๆ เพราะกลัวว่าข้าวจะขาดอากาศหายใจ

   ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ผมเอาแต่ร้องไห้จนกระทั่งรถพยาบาลมาเลยนั่งขึ้นไปด้วย มือและเสื้อผ้าของผมเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด ผมภาวนาให้ข้าวฟื้นตลอดทาง ปากก็พร่ำบอกกับคุณหมอและพยาบาลว่าให้ช่วยข้าวให้ได้

รถพยาบาลแล่นถึงโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ผมวิ่งตามรถเขียนเตียงนอนของข้าวจนไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องไอซียู

“ช่วยเขาด้วยนะครับ เขาสำคัญกับผมมาก” นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ผมบอกกับพยาบาลก่อนที่ประตูห้องไอซียูจะถูกปิดลง

ผมนั่งนิ่งอยู่หน้าห้องไอซียู สมองของผมตื้อไปหมด แม้แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมยังลืมที่จะนึกถึงมันว่าใครกันที่ต้องการจะทำร้ายผมจนข้าวต้องเอาตัวมาบังเอาไว้ เพราะในหัวตอนนี้มีแต่เรื่องและภาพของเขาผุดขึ้นมาเต็มไปหมด

เวลาผ่านไป... ไม่รู้นานเท่าไร หม่อมย่า คุณพ่อและคุณแม่ก็มาตามตัวผมที่โรงพยาบาล ผมคิดว่าจะถูกคุณพ่อดุด่าแต่ก็คาดการณ์ผิด
คุณพ่อเป็นคนแรกที่วิ่งเข้ามากอดผม... หัวใจของพ่อเต้นแรงจนผมสัมผัสได้

“โชคดีที่ลูกไม่เป็นอะไร”

“โถ่... ชายเป๊กลูกแม่ โชคดีที่จริงๆ ที่ลูกปลอดภัย” คราวนี้แม่วิ่งมาโอบกอดผม ทั้งสองคนกอดผมเอาไว้แน่นโดยไม่ได้รังเกียจสภาพของผมในตอนนี้เลยสักนิด

“พ่อกับแม่... ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ ที่วังมีปัญหาอะไรไหมครับ ผม... ขอโทษ” ผมเอ่ยขึ้นอย่างสะอึกสะอื้น ผมยังไม่พร้อมจะคุยเรื่องนี้ แต่ในเมื่อครอบครัวของเรากลับมาเจอกันไวกว่าที่ผมคาดคิดเอาไว้มาก ผมจึงเลี่ยงไม่ได้

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ” พ่อตอบออกมา “ส่วนเรื่องของแก ฉันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเช็คกล้องวงจรปิด และกำลังติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิด คาดว่าน่าจะทราบเรื่องและจับตัวคนร้ายได้ไม่เกินคืนนี้”

“ครับ”

“ส่วนเรื่องของลูก...” พ่อทำท่าจะพูดต่อ แต่โดนหม่อมย่าที่ยืนดูอยู่ตลอดเวลาขัดเอาไว้

“ตากริช อย่าเพิ่งพูดอะไรไปมากกว่านี้เลย หลานกำลังขวัญเสีย ให้หลานไปพักก่อนดีกว่าไหม”

“ครับคุณแม่” พ่อตอบรับคุณย่าอย่างว่าง่ายก่อนจะหันมาคุยกับผมต่อ “ไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนนะลูก”

“แต่ผมเป็นห่วงข้าว” ผมปฏิเสธ ถ้ายังไม่รู้ว่าข้าวปลอดภัย ผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะไปไหนหรอก

“ไปพักก่อนเถอะหลานย่า” คราวนี้หม่อมย่าเดินมาจับมือผม “ความดีของเขาจะคุ้มครองตัวเขาเอง ส่วนหลานย่ากลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า แล้วค่อยกลับมาที่นี่ก็ยังไม่สาย ดูสภาพสิ... คิดว่าถ้าข้าวฟื้นขึ้นมาแล้วเห็นเราในสภาพแบบนี้เขาจะดีใจไหม”

“ผมเข้าใจครับหม่อมย่า” ผมพยักหน้าอย่างรู้ดี แต่ผมคงทิ้งคนที่เอาตัวมาบังกระสุนแทนผมไม่ได้หรอก “แต่ผมยังไปไหนไม่ได้จนกว่าจะรู้ว่าข้าวปลอดภัย”

“แต่หลานย่า...” ยังไม่ทันที่หม่อมย่าจะพูดจบ ผมก็เอ่ยขัดทันทีเพราะรู้ว่าท่านจะพูดอะไร

“ถ้าคุณหมอเปิดประตูแล้วบอกว่าข้าวปลอดภัยแล้ว ผมจะกลับไปอาบน้ำ กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ถ้าคุณหมอไม่ออกมา แล้วผมยังไม่รู้อะไร ผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรหรอกครับ”

หม่อมย่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้นทุกคนก็เงียบแต่ยังคงนั่งอยู่กับผมอีกสักพัก ผมจึงบอกให้ทุกคนกลับวังกันไปก่อน ซึ่งทุกคนก็ไม่ปฏิเสธ เพราะเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว คุณหมอยังไม่ออกมาแจ้งอาการสักที

หลังจากที่พ่อและแม่พาหม่อมย่ากลับไปไม่นาน ไอ้รัชท์ก็แวะมาหาและนั่งรอคุณหมอเป็นเพื่อนผม... ไอ้รัขท์ระแคะระคายมานานแล้วว่าผมกับข้าวต้องมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยกัน และความจริงระหว่างผมกับข้าวก็ถูกเปิดเผยในตอนที่ผมไล่ข้าว แล้วข้าวหนีไปพักใจที่แม่ฮ่องสอน เพราะความเครียดในตอนนั้นผมจึงต้องหาที่ระบาย และไอ้รัชท์ก็เป็นคนเดียวที่ผมคิดว่าสามารถเล่าให้ฟังได้ และสุดท้ายผมก็ได้รับคำแนะนำรวมถึงกำลังใจจากไอ้รัชท์ในหลายๆ เรื่อง

พอประตูห้องไอซียูถูกเปิดออก... ผมก็รีบลุกจากเก้าอี้แล้ววิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที

“หมอยินดีด้วยนะครับ คนไข้ปลอดภัยแล้ว” ผมยิ้มปริกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ทว่าประโยคถัดมาก็ทำให้ผมเข่าทรุดอีกครั้ง แทบจะล้มทั้งยืนเชียวล่ะ “แต่ว่ากระสุนฝังเข้าไปในจุดสำคัญ คนไข้มีโอกาสเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นที่ท่อนล่างตั้งแต่ช่วงสะโพกลงไปจะเป็นอัมพาต ไม่รับรู้ความรู้สึกใดๆ”

ผมหันไปมองหน้ารัชท์ด้วยความตกใจ... นั่นหมายความว่าข้าวจะเดินไม่ได้และไม่มีความรู้สึกทางด้านร่างกายตั้งแต่ช่วงสะโพกลงไป
“แล้วมีโอกาสที่จะหายกลับมาเป็นปกติไหมครับ” รัชท์ถามคุณหมอแทนผมก่อนจะยกแขนขึ้นมาโอบไหล่ให้กำลังใจ

“มีครับแต่ค่อนข้างน้อย โอกาสไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นที่ผู้ป่วยในกรณีแบบนี้จะหายจากการเป็นอัมพาต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของคนไข้ และกำลังใจในการบำบัดด้วยครับ เดี๋ยวหมอขอตัวก่อนนะครับ ขอดูอาการในห้องไอซียูอีกหนึ่งคืนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะย้ายไปห้องพิเศษให้นะครับ”

“ขอบคุณครับหมอ” รัชท์กล่าวขอบคุณ

น้ำตาของผมคลอเบ้าอีกครั้ง นึกโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุทำให้ข้าวต้องพบกับความเจ็บปวดและร้ายแรงถึงขั้นเป็นอัมพาต อนาคตของข้าวต้องดับลงเพราะผม

“ไม่เป็นไรนะชายเป๊ก สิบเปอร์เซ็นใช่ว่าจะไม่มีโอกาส” รัชท์เอ่ยขึ้นก่อนจะประคองผมไปนั่งที่เก้าอี้

“อือ...” ผมตอบอย่างเลื่อนลอย น้ำตายังคงไหลต่อไปเรื่อยๆ ในใจก็เอาแต่โทษตัวเองซ้ำไปมา นึกอยากให้คนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงผู้ป่วยนั้นต้องเป็นผมมากกว่า

ยิ่งนึกก็ยิ่งเจ็บปวด... ความเจ็บทั้งด้านร่างกายและจิตใจที่เคยผ่านมาทุกเหตุการณ์ในชีวิต เทียบไม่ได้กับครั้งนี้แม้เพียงเศษเสี้ยวเดียว
เรี่ยวแรงจะเดินยังไม่มี ภาพรอยยิ้มของคนที่ยอมก้มหัวให้ผมตลอดเวลาลอยเข้ามาในห้วงแห่งความคิด คนอะไรใจดีชะมัด กว่าจะทำให้โกรธได้สักครั้งต้องเป็นเรื่องร้ายแรงสุดๆ ทำไม... คนที่ต้องนอนเจ็บปวดและร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ถึงต้องเป็นคนที่มีแต่ความใสซื่อบริสุทธิ์ในความคิดแบบข้าวด้วย

ผมนึกล่วงหน้าไปแล้วว่าหากข้าวตื่นมาแล้วรู้ว่าตัวเองเป็นอัมพาต ข้าวจะรู้สึกอย่างไร... ข้าวคงยิ้มให้ผม ปลอบผม บอกให้ผมไม่ต้องโทษตัวเอง แม้ว่าข้าวจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็คงจะอดทนและข่มความเจ็บปวดทุกอย่างไว้ ไม่แสดงให้เห็นเหมือนอย่างที่ผ่านมา

 รัชท์ต้องประคองและขับรถกลับไปส่งผมที่วัง เพราะแค่การหายใจผมยังทำได้อย่างยากลำบาก จะให้เดินเหมือนคนปกติคงทำไม่ได้

   รัชท์ประคองผมขึ้นบนห้องนอน แล้วนั่งรอจนกระทั่งผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก่อนจะออกจากห้อง ผมยืนส่องกระจงมองใบหน้าของตัวเองในยามนี้แล้วนึกตกใจ ไม่เคยเห็นตัวเองในสภาพน้ำหูน้ำตาไหลจนใบหน้า จมูกและหูเป็นสีแดงระเรื่อได้ถึงเพียงนี้


   พอดึงสติกลับมาได้ ใบหน้าที่ห่อเหี่ยว โศกเศร้าราวกับคนไร้วิญญาณได้เปลี่ยนเป็นความโหดเหี้ยม ดวงตาเขม็งเพราะนึกโกรธแค้นไอ้คนร้ายที่มันลงมือทำ ผมกำมือแน่นพร้อมกัดริมฝีปากจนน้ำสีแดงนองไหลออกมาหากแต่ว่าไม่รู้สึกเจ็บปวดสักนิด

ผมจ้องภาพที่สะท้อนออกมาในเงากระจก แล้วให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะต้องจับตัวไอ้คนชั่วมารับโทษอย่างสาสมให้ได้ มันจะต้องชดใช้กับสิ่งที่ข้าวต้องเจออย่างทุกข์ทรมานเช่นเดียวกัน เมื่อจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ ผมจึงเดินลงไปหารัชท์ที่นั่งรออยู่ภายในห้องรับแขกก่อนจะกลับไปที่โรงพยาบาลด้วยกัน

ผมนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียูตลอดคืน จนกระทั่ง ตี 5 ครึ่ง ประตูห้องไอซียูได้เปิดออก คุณหมอมาคุยกับผมเรื่องการย้ายห้อง หลังจากที่ตกลงกันเสร็จสรรพ เวลาประมาร 6 โมงเช้า พยาบาลก็ได้เลื่อนรถเข็นเตียงนอนออกมา

ใจของผมสั่นระรัวในทันที เดินเข้าไปมองร่างของคนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มด้วยความรู้สึกที่แสนเจ็บปวด... เจ็บปวดที่เขาต้องเป็นแบบนี้ สักพักพยาบาลก็เลื่อนรถเข็นเตียงนอนนำไปยังห้องพัก ผมจึงเดินตามตลอดทางจนถึงห้องพักแบบเดี่ยวพิเศษ
ระหว่างทาง ผมไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สายตาของผมเอาแต่จับจ้องที่ใบหน้าของคนที่กระโดดเข้ามาเป็นเกราะกำบังให้กับผม ถ้าข้าวตื่นขึ้นมา ผมควรจะทำตัวอย่างไร พูดอะไรกับเขาบ้าง ผมคิดอะไรไม่ออกในตอนนี้ นึกกลัวไปหมดเสียทุกอย่าง ...ทำไมคนที่นอนอยู่ตรงนั้นถึงไม่เป็นผม



จบตอน

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2017 04:06:10
ตอน 43

ภาพเบื้องหน้ามีแต่สีขาว.. พล่ามัว... ร่างกายก็อ่อนเพลียเกินกว่าจะขยับไปไหน ความรู้สึกเหมือนมีอะไรครอบจมูกและปากเอาไว้มันช่างอึดอัด อยากจะดึงออกแต่ก็ทำไม่ได้

   กรอกสายตาไปรอบห้อง เห็นโทรทัศน์จอใหญ่ ตู้เย็นสีเงินดูหรูหรา ในตอนแรกเข้าใจว่ามันคือโรงแรมหรูแต่พอมองอีกทางแล้วเห็นสายระโยงระยางจากเสาน้ำเกลือจึงเข้าใจว่าผมกำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาล แล้วเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็แล่นเข้ามาในหัวสมอง

   “คุณชาย” ผมพยายามเรียกชื่อ เขากำลังนอนหลับซบหน้าอยู่ขอบเตียง อาจเพราะเสียงของผมเบาเกินไป ผมจึงกระดิกนิ้วมือที่คุณชายกำลังจับเอาไว้อย่างแนบแน่น

   ได้ผล... คุณชายค่อยๆ ขยับร่างกายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหากแต่ใบหน้ายังคงซบอยู่อย่างเดิม

   “คุณชายครับ...” ผมลองร้องเรียกอีกครั้ง คราวนี้คุณชายสะดุ้งโหยงแล้วหันมามอง

   ใบหน้าของคุณชายในตอนนี้แม้จะมีรอยยิ้มปรากฏแต่กลับเศร้าหมอง คุณชายจับมือผมเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ

   “ข้าว... ข้าวรู้สึกตัวแล้ว ข้าวตื่นแล้วใช่ไหม ข้าว” เด็กอะไรขี้แยชะมัด แค่ผมตื่นขึ้นมาจำเป็นต้องน้ำตาซึมด้วย

   “เสียใจเหรอครับที่ผมตื่นขึ้นมา” ผมพูดเล่น แต่คนฟังกลับส่ายศีรษะรัวๆ แล้วเช็ดน้ำตาก่อนจะโน้มตัวมาโอบร่างแล้วยื่นหน้ามาซบหัวไหล่ของผม

   “ไม่ข้าว.... ไม่เลย ดีใจต่างหาก มัน... ไม่รู้จะพูดยังไง”

   “คุณชายอย่าร้องสิครับ ผมไม่เป็นไรแล้ว” ผมยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของคนที่กำลังซบไหล่ แต่ยิ่งผมพูดอะไรมากเกินไป คุณชายก็ยิ่งร้องไห้ราวกับเด็กอมมือ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดจึงตัดสินใจเงียบไว้ก่อน

   ผมพยายามจะยั้งร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งเพราะอยากกอดกับเด็กขี้แย ...แต่ทำไม ผมรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองมันหนักจัง หนักจนไม่สามารถขยับหรือยั้งกายได้

   “คุณชายผมอยากกอดคุณชายเหมือนกันนะครับ” พอลุกไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้น “แต่ผม... ลุกไม่ได้”

   คุณชายร้องไห้หนักกว่าเก่า... ทั้งร้อง ทั้งสะอื้นจนผมรู้สึกผิด พยายามจะพูดอะไรออกมาแต่ผมก็ฟังไม่รู้เรื่องเพราะเอาแต่สะอื้น

   “ใจเย็นๆ นะครับคุณชาย” ผมยื่นมือไปเช็ดใบหน้า น้ำตาของคุณชายทะลักมาราวกับเขื่อนแตก เช็ดอย่างไรก็ไม่แห้งแถมยังไหลลงมาเรื่อยๆ อีกต่างหาก “ผมไม่เป็นไรแล้วนะครับ”

   คุณชายนิ่งไปสักพักราวกับกำลังรวบรวมสติหากแต่ร่างยังคงสั่นเทา

   “ขะ... ข้าว... ข้าวไม่ต้องพยายามลุกนะ” เสียงของคุณชายสั่นเครือ คุณชายจับบีบมือผมเอาไว้แน่นก่อนที่จะจ้องหน้าทั้งน้ำตาที่ยังคลอเต็มเบ้าแล้วพูดต่อ “กระสุนยิงโดนจุดสำคัญซึ่งมีผลทำให้ข้าวเป็นอัมพาต ข้าวจะเดินไม่ได้ ร่างกายของข้าวตั้งแต่สะโพกลงไปจะไร้ความรู้สึก”

   เหมือนโลกหยุดหมุนไปอีกครั้ง สมองของผมปั่นป่วนไปหมด ถ้าเป็นอย่างที่คุณชายว่า นั่นเท่ากับว่าผมกลายเป็นคนพิการโดยสมบูรณ์แบบ

   “คุณชายอย่าอำผมเล่นน่า” ผมทำเสียงทีเล่นทีจริงเหมือนเป็นการปลอบใจตัวเองมากกว่า... และหวังลึกๆ ว่าเรื่องที่คุณชายพูดจะเป็นเพียงเรื่องโกหก

   “ขอโทษ” คุณชายพูดเพียงเท่านั้นแล้วก็ซบหน้ามาที่ไหล่สะอื้นไห้ปล่อยให้น้ำตารินไหลต่อไป

   การแสดงออกของคุณชายทำให้ผมเชื่อได้ทันทีว่านั่นคือเรื่องจริง... ผมกำลังจะกายเป็นคนพิการ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในชีวิต มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำใจได้ยอมรับข้อเท็จจริงข้อนี้ได้ง่ายๆ

ผมยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าต่อจากนี้ชีวิตของผมจะลำบากมากขนาดไหน แต่เหนือสิ่งอื่นใด...  ผมไม่สามารถวิ่งหนีความจริงข้อนี้ได้ นี่คือสิ่งที่ผมต้องตอกย้ำให้ขึ้นใจ และไม่ว่าคุณชายจะกำลังคิดอะไร ผมจะไม่มีทางยอมเป็นภาระให้คุณชายอย่างเด็ดขาด

   “คุณชายหยุดร้องไห้ได้แล้วนะครับ คุณชายไม่ผิดอะไรสักนิด ผมต่างหากที่ผิด ผมเอาตัวเข้าไปบังกระสุนเองนะครับ”

   “กะแล้วเชียวข้าวต้องพูดแบบนี้” คุณชายเอ่ยขึ้น “ข้าวทำเพื่อเป๊กขนาดนี้... นับจากนี้ไปเป๊กจะดูแลข้าว จะทำทุกอย่างให้ข้าว ให้สมที่ข้าวกล้าเอาร่างของตัวเองมาบังกระสุนแทนเป๊ก”

   “ผมขอบคุณนะครับคุณชาย” คุณชายยิ้มแก้มปริ... หากแต่พอผมพูดประโยคถัดไป สีหน้าของคุณชายก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน “แต่ผมคงขอกลับไปอยู่กับพ่อและแม่ พวกท่านคงเป็นห่วงผมมาก ถ้าคุณชายรักผมจริง คุณชายต้องเชื่อผมนะครับ คุณชายต้องไม่ขัดใจผมนะครับ ให้ผมได้ทำในสิ่งที่อยากทำนะครับ...”

   ‘ผมไม่อยากเป็นภาระให้กับคุณชาย’ ผมคงบอกสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ เพราะถ้าพูดออกไปแบบนั้น คุณชายจะต้องเสียใจและไม่ยอมแน่ๆ การเอาเรื่องครอบครัวมาอ้างจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

   สายตาของคุณชายแสดงออกถึงความผิดหวัง นัยน์ตาแดงก่ำราวกับกำลังจะปล่อยโฮออกมาอีกรอบ

   “ทำไม... ต้องตัดสินใจแบบนี้” เสียงของคุณชายเบาหวิว เหมือนคนที่กำลังใจเสีย “ทำไมต้องพูดกดดัน บังคับกันแบบนี้ด้วย”

   คุณชายเข้าใจความรู้สึกของผมแล้วใช่ไหม เวลาที่โดนกดดันและบีบบังคับด้วยคำพูดมันเจ็บปวดแค่ไหน ผมไม่ได้ต้องการจะแก้แค้นคุณชายหรอกนะ แต่ผม... คงยอมให้คุณชายมาเสียอนาคตแล้วเอาแต่อยู่กับคนพิการอย่างผมไม่ได้หรอก

   “ผมคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงน้องน่ะครับ” พูดด้วยน้ำเสียงปกติ ซ่อนความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดไว้ในใจ ใช่ว่าผมเองจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร หัวใจของผมปรารถนาแต่คุณชายเท่านั้น แต่ในเมื่อผมไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ผมจะเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวคงจะไม่ถูกต้อง

   “คิดถึง... เดี๋ยวพาไปหาบ่อยๆ ก็ได้” คุณชายพยายามหาเหตุผลมารั้งผมเอาไว้ “อยากไปหาเมื่อไหร่ก็บอกกันได้เสมอ แต่อย่าทำแบบนี้... อย่าทิ้งกันไป... ไม่เอาแบบนี้ ไม่ได้หรอ”

   “...”

   ผมไม่กล้าพูดอะไรออกไป กลัวตัวเองจะเผลอร้องไห้จึงตัดสินใจนิ่งเงียบ แกล้งหลับตา พอควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ จึงตัดสินใจจบบทสนทาเอาไว้เท่านี้ก่อนดีกว่า

   “ผมยังเพลียๆ อยู่เลย ขอนอนพักก่อนนะครับ”

   ขณะแกล้งหลับตา... ผมพยายามลองขยับขา โดยหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ แต่ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด ร่างกายส่วนล่างก็ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง มันแน่นิ่งไม่ไหวติงราวกับตอกย้ำให้ผมยอมรับว่าผมกลายเป็นคนพิการแล้วนะ ไม่ต้องฝืนหรือพยายามขยับอีกแล้ว

   เรื่องแบบนี้ใช่ว่าจะทำใจยอมรับกันได้ง่ายๆ ผมตกใจอยู่ไม่น้อยแต่ต้องไม่แสดงออกอะไรเพราะไม่อยากให้คนที่เฝ้าผมอยู่ข้างๆ ต้องเป็นกังวล เพราะแค่นี้เขาเองก็คงจะกังวลและโทษตัวเองมากเกินพอแล้ว

   “ข้าว” คุณชายเรียกอีกครั้ง พอเห็นผมไม่ตอบอะไรจึงยื่นมามาจับกับมือของผมเอาไว้แน่น

   ผมสัมผัสได้ถึงอาการสั่นสะท้าน เหมือนคนกำลังสะอื้นไห้หากแต่พยายามข่มน้ำเสียงเอาไว้

   “อยู่ด้วยกัน... จะไม่อยู่ด้วยกันจริงๆ เหรอข้าว”

   ยิ่งคุณชายพูดมากสักเท่าไร ผมก็ยิ่งรู้สึกใจอ่อนอยากยอมแพ้ให้กับความตั้งใจของคุณชาย แต่อนาคตของคุณชายมันไกลเกินกว่าที่จะมาทิ้งชีวิตไว้กับคนพิการอย่างผม เพราะฉะนั้นผมจะใจอ่อนไม่ได้

   ‘ขอโทษจริงๆ นะครับ’



   
   ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไร พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบกับร่างของคุณชายที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม สวมเสื้อตัวเดิม ผมจึงแกล้งหลับตาลง เพราะยังไม่พร้อมจะพูดคุยกับคนตรงหน้า หากแต่มือของผมที่โดนสัมผัสเอาไว้อย่างแนบแน่นดันไหวติงอย่างลืมตัว... ผมจึงเผลอลืมตาอย่างลืมตัวด้วยความตกใจ

   “ข้าว…” นั่นประไรคุณชายเอ่ยเรียกขึ้นทันที

   “ครับ...” ผมยิ้มแหยๆ ตอบรับก่อนจะเบือนหน้าหนี

   “ข้าวฟื้นแล้วเหรอชายเป๊ก” ทว่าเสียงที่ดังขึ้นได้ทำให้ผมหันกลับไปมองทางต้นเสียง คุณท่านเดินมาที่ขอบเตียงก่อนจะไล่คุณชายออกจากห้อง “พ่อมีอะไรอยากคุยกับข้าว... ตามลำพัง”

   ผมตกใจที่ได้ยินแบบนั้น นอนป่วยอยู่แบบนี้คุณท่านยังจะต้องการจะต่อว่าอะไรผมอีกหรือ

   “พ่อจะคุยอะไร” คุณชายทำท่าเหมือนจะไม่ยอมไป ผมภาวนาให้เป็นเช่นนั้น

   “เรื่องส่วนตัว... แต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่พ่อจะพูดกับข้าว มันไม่ใช่สิ่งไม่ดีเหมือนอย่างที่ผ่านๆ มาแน่นอน ถือว่าพ่อขอนะชายเป๊ก”

   “ก็ได้ครับ แต่ถ้าพ่อพูดอะไรที่ทำให้เขาต้องเสียใจ อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะครับ”

   คำภาวนาของผมไม่เป็นผล คุณชายเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้กำลังใจ

   หม่อมราชวงศ์กริชกรนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดียวกับที่คุณชายนั่ง ท่านเอาแขนทั้งสองข้างพาดไว้บนขอบเตียงในท่วงท่าที่สบายและดูเป็นกันเองจนผมรู้สึกเกร็งไปหมด

   “นายต้องการจะไปจากชายเป๊กจริงๆ หรือ” คำถามแรกของท่านก็เล่นเอาผมตั้งตัวแทบไม่ทัน นอกจากจะลำบากใจในการตอบ ยังนึกสงสัยว่าคุณชายเอาเรื่องที่เราคุยกันไปเล่าให้คุณพ่อฟังด้วยหรืออย่างไร

   “ใช่ครับ...” ผมพยักหน้าตอบรับ

   “เพราะอะไร” น้ำเสียงของท่านขรึมจนผมรู้สึกกดดัน

   “ผมดูแลตัวเองไม่ได้ พ่อกับแม่คงเป็นห่วง และผมเองก็คิดถึงพ่อกับแม่มากๆ ครับ” แต่ก็พยายามตอบในเหตุผลเดียวกับที่บอกคุณชาย
   “แล้วไม่รักชายเป๊กบ้างเหรอ ไม่คิดเหรอว่าถ้าตัดสินใจแบบนี้จะทำให้ชายเป๊กเสียใจมากขนาดไหน” คุณท่านจะถามแบบนี้ทำไม ในเมื่อที่ผ่านมาก็พยายามกีดกันความรักระหว่างผมกับคุณชายมาตลอดไม่ใช่หรือ

   “รักครับ” ผมตอบออกไปตามตรง “แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อผม... ผมดูแลตัวเองไม่ได้ ผมคงยอมเป็นภาระให้กับคุณชายไม่ได้หรอกครับ คุณท่านจะถามทำไม ในเมื่อคุณท่านเองก็ไม่ได้ต้องการให้ผมกับคุณชายคบกันอยู่แล้วนี่ครับ เป็นคุณท่านเองไม่ใช่เหรอครับที่พยายามกีดกัน  คุณท่านคงได้คำตอบที่พอใจแล้วนะครับ... ผมคงอยู่เป็นภาระให้คุณชายและคุณท่านอีกไม่นานหรอกครับ”

   ผมเผลอตอบออกไปตามความรู้สึก ความอัดอั้นทำให้ผมต้องระบายทุกสิ่งที่เก็บไว้ในใจออกมาโดยไม่เกรงกลัวคนตรงหน้าสักนิด แต่พอดึงสติกลับมาได้ผมก็รีบหลบสายตาเบือนหน้าหนี อยากจะตบปากตัวเองแรงๆ สักร้อยทีที่ถือดีกล้าพูดเรื่องไร้มารยาทออกไป

   “คิดเอาไว้อยู่แล้วว่านายต้องคิดว่าการที่ตัวเองเป็นแบบนี้... จะเป็นภาระให้กับชายเป๊ก” ผมอธิบายอะไรออกไปตั้งยืดยาวแต่คุณท่านกลับสนใจเพียงแค่นี้ มีหัวใจบ้างไหมเนี่ย “ฉันขอโทษในเรื่องที่ผ่านมา คนเรามันก็ผิดพลาดกันได้ ฉันได้ยินชายเป๊กกับนายคุยกันตั้งแต่ตอนที่ฟื้นครั้งแรกแล้วล่ะ ตอนนั้นฉัน แม่วลี และคุณแม่ต้องใจจะมาเยี่ยม แต่พอแง้มประตูเข้าไป เห็นว่ากำลังคุยกัน คุณแม่ก็เลยบอกให้รออยู่ด้านนอกแต่ไม่ยอมปิดประตูเพื่อที่จะฟังว่านายกับชายเป๊กคุยอะไรกัน”

   “หึ...” ผมพ่นลมหายใจ การแอบฟังคนอื่นคุยกันมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยสักนิด แต่จะแสดงความคิดเห็นอะไรออกไปก็คงจะไม่ถูกต้อง เพราะทั้งคุณท่าน และหม่อมย่าต่างก็มีอายุมากกว่า ผมควรจะให้ความเคารพนับถือ

   “หลังจากตอนนั้น ฉันเลยรู้ได้ทันทีว่าทำไม ชายเป๊กถึงได้รักนายมากถึงเพียงนี้ ทำไมถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับนาย” คำพูดของคุณท่านทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ พูดราวกับว่าคุณท่านกำลังจะยอมรับในตัวผมอย่างไรอย่างนั้น

   “เพราะอะไรล่ะครับ” ผมแกล้งถามออกไป อยากรู้เหมือนกันว่าคำตอบของคุณท่านคืออะไร

   “เพราะทุกสิ่งที่นายแสดงออกมา มันออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริง นายยอมเอาตัวบังกระสุนให้ชายเป๊ก ยอมเลือกที่จะทิ้งชายเป๊กเพราะคิดว่าตัวเองเป็นภาระในสภาพแบบนี้ นายเป็นคนดี... ดีเกินไปจนฉันคาดไม่ถึงว่าบนโลกมนุษย์จะมีคนดีได้ถึงขนาดนี้”

   ผมรู้สึกอึ้งกับคอตอบ คุณท่านชื่นชมผม... เพียงเท่านี้ผมก็คงไม่มีอะไรติดค้างกับคุณท่านอีกแล้ว

   “เปลี่ยนใจได้ไหม...” คุณท่านเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว

   “เรื่องอะไรครับ” ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่

   “อยู่กับชายเป๊กที่นี่ จะรักกัน คบกัน ดูแลกันยังไงก็ตามสบาย ขออย่างเดียวอย่าทิ้งชายเป๊กไป เปลี่ยนใจอยู่ที่นี่ได้ไหม...” คุณท่านเว้นจังหวะไปชั่วครู่ก่อนจะเอื้อมมือมาสัมผัสกับมือของผม “ฉันรู้ว่าฉันบังคับจิตใจนายกับชายเป๊กมามากเกินพอแล้วเมื่อก่อนฉันไม่เข้าใจความรักระหว่างเพศเดียวกัน จึงตัดสินใจทำอะไรผิดๆ แต่การที่นายกล้าเอาตัวมาบังกระสุน มันพิสูจน์แล้วว่านายรักชายเป๊กโดยไม่มีเงื่อนไข ฉันขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา ให้อภัยฉันด้วย”

   “คุณท่านครับ...” ผมรีบแทรกขึ้นด้วยความตกใจ ชายวัยกลางคนที่เพียบพร้อมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์รวมถึงฐานะกำลังกล่าวสำนึกผิดต่อหน้าผม “อย่าทำแบบนี้เลยครับ ผมไม่ได้โกรธคุณท่านเลยนะครับ”

   “ถ้านายกังวลเรื่องพ่อแม่และน้องชาย ตอนนี้หายห่วงได้เลยนะ ฉันกำลังให้คนไปจัดการเรื่องบ้านและที่ดินที่ถูกยึดไป นายจะต้องได้มันกลับคืนมาแน่ๆ ส่วนเรื่องคิดถึงครอบครัว นายจะไปเมื่อไหร่ ไปกี่วันก็ได้ ฉันไม่ว่า ฉันพร้อมที่จะทำให้คนของฉันพาไปเยี่ยมครอบครัวเสมอ... ขอเพียงอย่างเดียว อย่าทิ้งชายเป๊ก... จะได้ไหม”

   หม่อมราชวงศ์กริชกรเอ่ยออกมาอย่างยืดยาวจนผมตั้งตัวไม่ทัน ท่านจะให้ความช่วยเหลือเรื่องบ้านและที่ดินที่เคยถูกยึดไป และพร้อมจะสนับสนุนความรักของผมกับคุณชายรวมถึงให้ความช่วยเหลือในทุกๆ เรื่อง ...นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม

   ผมลองยกมือขึ้นมาแล้วฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของตัวเองแรงๆ หนึ่งที... ผมเจ็บ แต่ยังไม่มั่นเลยลองดึงแก้มของตัวเองอีกครั้งจนเผลอร้องโอดครวญออกมา

   “โอ๊ย...” น่าขำกับการกระทำของตัวเองชะมัด พอเรียกสติกลับมาได้ จึงหันไปมองคุณท่านด้วยความรู้สึกขอบคุณ “ผมขอบคุณสำหรับทุกความช่วยเหลือจริงๆ นะครับ ผมดีใจจริงๆ ที่คุณท่านยอมให้ผมคบและอยู่กับคุณชายต่อไป แต่อย่างที่ผมบอก... ผมเดินไม่ได้ ผมคงรู้สึกแย่ที่ต้องเป็นภาระให้กับคุณชาย”

   “เป๊กไม่เคยคิดว่าข้าวเป็นภาระเลยนะ” เสียงของคุณชายโพล่งขึ้น พร้อมกับร่างหล่อเหลาที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ในเมื่อคุณพ่ออนุญาตแล้ว อยู่ด้วยกันนะข้าว อยู่ที่นี่ดูแลกัน ช่วยเหลือกัน และเราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน”

   ใบหน้าของคุณชายในยามนี้เต็มไปด้วยความหวัง... แล้วผมจะทำให้คุณชายต้องผิดหวังได้อย่างไรกันเล่า

   “ครับ” ผมพยักหน้าเป็นคำตอบ พลางนึกสงสัยว่าคนบ้านนี้เป็นอะไรกันไปหมด ถึงต้องแอบดักฟังคนอื่นคุยกัน

   ส่วนคุณชายนั้นคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะโน้มตัวลงมากอดกับร่างของผมโดยไม่เกรงกลัวสายตาของคุณท่านเลยสักนิด ผมพยายามจะผลักร่างนั้นออกแต่คุณชายก็ไม่สนใจ ...เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งไม่เปลี่ยนเลย

   “ในเมื่อตกลงแล้ว...” เสียงของคุณท่านดังขัดจังหวะ หากแต่ว่าไม่สามารถทำให้คุณชายเลิกกอดผมได้ “ต่อไปก็เรียกฉันว่าพ่อด้วยล่ะ เข้าใจไหม”

   ผมไม่คาดคิดว่าจะมีวันนี้... วันที่คุณท่านยอมรับในตัวผม แม้ว่าต้องผ่านอุปสรรคมาอย่างมากมายแต่ผลสุดท้ายมันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้พยายามมา

กว่าจะถึงวันนี้... ผมต้องแลกกับความเจ็บปวดไม่รู้กี่ครั้ง กระทั่งเกือบต้องแลกชีวิตเพื่อรักษาคนที่ผมรักเอาไว้จนทำให้ผมต้องกลายเป็นคนที่ไม่สามารถเดินได้ตามปกติอีกต่อไป แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆ แต่เพราะเหตุผลของการกระทำทุกๆ อย่างคือ ‘ความรัก’ ผมเลยไม่เคยนึกเสียใจกับผลที่ตามมาเลยสักครั้ง แม้ว่ามันจะสมหวังหรือไม่สมหวังก็ตาม

“ขอบคุณนะครับ... พ่อ”

มันเป็นคำพูดที่ผมพูดออกมาได้ยากเย็นที่สุดในชีวิต แม้ว่าท่านจะเอ่ยปากยอมรับ แต่ผมก็ยังคงรู้สึกถึงความแตกต่างอยู่ดี

คุณท่านและคุณชายเป็นใคร ผมเป็นใคร ชาติกำเนิดแตกต่างกันขนาดไหน ผมรู้ดี แต่หากผมไม่ขจัดความคิดเหล่านี้ นั่นก็เท่ากับว่าผมกำลังดูถูกความหวังดีของคุณท่าน เพราะจะกลายเป็นผมเสียเองที่เป็นฝ่ายไม่ยอมรับข้อแตกต่าง ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายพยายามเรียกร้องมาตลอด

   “ข้าว” คุณชายผละอ้อมกอดออกก่อนจะเปลี่ยนมาช้อนร่างของผมให้ขยับไปกับขอบเตียงอีกฝั่งอย่างระมัดระวัง “ขอนอนด้วยนะ”

   ผมไม่ได้ตอบออกไปในทันที หันไปมองคุณท่านเพราะรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม

   “ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวพ่อจะไปคุยกับตำรวจต่อแล้ว” คุณท่านขยิบตาให้ผม ก่อนจะหันหน้าไปทางคุณชายแล้วทำเสียงดุๆ ใส่ “จะทำอะไรก็เพลาๆ มือด้วยนะชายเป๊ก ข้าวกำลังไม่สบายอยู่ ถ้าฉันรู้ว่ารุนแรงกับข้าวล่ะก็ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”

   “คร้าบ... คุณพ่อ”

   ใบหน้าของผมร้อนผ่าว จะบอกว่าเขินก็คงใช่ จะบอกว่าอายก็ไม่เชิง ความรู้สึกที่ถูกยอมรับราวกับเป็นคนในครอบครัว มีการพูดคุยหยอกล้อกันกับคุณพ่อ มันเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น

   หลังจากที่คุณท่านเดินออกไป ความตื้นตันเหล่านั้นก็ปะทุออกมาเป็นหยาดน้ำตา

   คุณชายยื่นมือมาปาดหยาดน้ำตาอย่างเบามือ คงรู้ว่าผมกำลังรู้สึกอย่างไร

   “เรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไปสักทีแล้วนะข้าว” คุณชายยื่นใบหน้ามากระซิบที่ข้างใบหูก่อนจะนอนตะแคงแล้วกอดร่างของผมเอาไว้ อ้อมกอดของคุณชายช่างอบอุ่นเหลือเกิน กลิ่นกายเวลาที่ได้สัมผัสใกล้ๆ ก็ช่างหอมหวนไม่เหมือนใคร

ผมพยายามผลักร่างนั้นออกเพราะกลัวจะทนควาปรารถนาบางอย่างไม่ไหว ...ช่างน่าขำสิ้นดี เจ็บจนขยับไม่ได้ยังคิดเรื่องพรรค์นี้ออกมาได้

   “อดทนหน่อยนะข้าว” น้ำเสียงของคุณชายเบาหวิว “เพราะเป๊กก็กำลังอดทนเหมือนกัน แต่เชื่อเถอะดีขึ้นเมื่อไหร่ข้าวจะต้องโดนลงโทษแน่ๆ”

   “คุณชาย!” ผมรู้ว่าคุณชายต้องการจะสื่อถึงอะไร กำลังคิดเรื่องเดียวกันสิท่า “ลงโทษผมทำไม ผมทำอะไรผิด”

   คุณชายยกมือขึ้นมาแล้วใช้นิ้วดีดหน้าผากผมเบาๆ ก่อนจะจ้องผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม มันกรุ้มกริ่มจนน่าหวาดผวาเชียวล่ะ

   “ก็ใครใช้ให้เอาตัวมาบังกระสุน คิดว่าเจ๋งนักรึไง ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาร้ายแรงกว่านี้ล่ะ คิดบ้างไหมว่าใครจะเป็นคนที่เสียใจมากที่สุด”

   พูดจบคุณชายก็พลิกตัวมาคร่อมร่างผมเอาไว้ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งมาจับปลายคางผมไว้แน่นแล้วโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ จนปลายจมูกของเราชนกัน

   “ขอลงโทษเบาๆ เป็นการมัดจำก่อนแล้วกัน” สิ้นเสียงก็เลื่อนริมฝีปากมาประกบที่แก้มซ้ายของผมหนึ่งทีก่อนจะเปลี่ยนเป็นแก้มขวาอีกหนึ่งที “อย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะ”


   ผมพยักหน้าเป็นคำตอบเพราะขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียง แล้วเพ่งมองสายตาของคนที่กำลังคร่อมร่างของผมเอาไว้ ก่อนจะยิ้มออกมา
   ...น่าแปลกที่ผู้ชายคนนี้สามารถทำให้ผมตกหลุมรักได้ตลอดเวลา และผมก็จะทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการเพื่อตอบแทนความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเรา



จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2017 04:08:25
ดินต่างฟ้า ตอนจบ


จาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในที่สุดก็จับตัวคนร้ายได้ภายในเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง

คนร้ายให้การว่าถูกจ้างวานให้มายิงหม่อมหลวงการัณญภาสฌ์ เนื่องจากผู้ว่าจ้างมีทั้งความรักและความแค้นส่วนตัว เขาให้การว่าผู้ว่าจ้างนั้นมีความคลั่งไคร้ในตัวคุณชายมากจนเกินเหตุ เขาอยากให้คุณชายสนใจในตัวเขา แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่เคยได้รับความสนใจสักนิด แม้แต่หางตา คุณชายยังแทบไม่เคยเหลียวมอง

ทว่าเหตุผลเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เขาแค้นมากจนพอที่จะตัดสินใจทำแบบนี้ได้ แต่เพราะวันหนึ่งเขาดื่มเหล้าจนเมาหัวราน้ำ และต้องตื่นขึ้นมาพบกับข้อความอันแสนเจ็บปวด ความแค้นเลยปะทุออกมาจนยากเกินจะควบคุม

คุณชายหลงไอ้เด็กปั๊มจนหัวปรักหัวปรำ รักมันมากกว่าเขา ทั้งๆ ที่ไอ้เด็กปั๊มนั่นไม่มีอะไรเทียบเท่าเขาเลย แต่เขาก็รู้ว่าอีกไม่กี่วันคุณชายก็จะถูกจับให้แต่งงานกับผู้หญิง พอคิดถึงเรื่องนั้นจึงทำให้เขายับยั้งช่างใจที่จะไม่ทำอะไรรุนแรงเอาไว้ได้

แต่แล้วพอถึงวันงาน ทุกอย่างกลับพังทลาย แผนที่เขาร่วมกันวางไว้กับหม่อมราชวงศ์กริชกรดันพังย่อยยับ คุณชายเลือกที่จะพาไอ้เด็กปั๊มนั่นหนี

“จับตาดูพวกมันเอาไว้ ถ้างานแต่งล่ม และคุณชายพาไอ้ข้าวหนีไป ให้จัดการคุณชายทันที” นั่นคือคำสั่งที่คนร้ายได้รับซึ่งเสียงทั้งหมดคนร้ายได้บันทึกข้อความการสนทนาเอาไว้อย่างรอบคอบ เผื่อวันหนึ่งตนเองถูกหักหลังหรือถูกจับได้ จะได้มีหลักฐานดำเนินคดีให้กับตำรวจ

“ทำไมต้องยิงคุณชายล่ะครับ ในเมื่อคุณเองก็รักคุณชาย แต่เกลียดไอ้เด็กปั๊มนั่นไม่ใช่เหรอ” นี่คือคำที่คนร้ายเอ่ยถามกับผู้ว่าจ้าง

“เพราะเกลียดมันน่ะสิ... ถึงต้องให้มันรับรู้ถึงความเจ็บปวดเมื่อต้องสูญเสียคนที่รักไปบ้าง และในเมื่อคุณชายเองก็ไม่เคยคิดที่จะเหลียวแลฉัน ก็กำจัดมันไปซะ!!!”

คนร้ายสะกดรอยตามจนกระทั่งไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เขาทำงานอย่างมืออาชีพสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจพบเจออุปกรณ์ที่ใช้ลงมือจากด่านทุกด่านจนกระทั่งได้ทำการลงมือตามที่ได้รับคำสั่ง แต่ดันผิดพลาดเพราะผู้ที่ถูกยิงไม่ใช่คุณชายแต่กับเป็นไอ้เด็กปั๊มที่เอาตัวมาบังเอาไว้...

หลังจากที่ได้รับฟังคำให้การของคนร้าย... ตำรวจก็บุกไปจับผู้อยู่เบื้องหลังการว่าจ้างทั้งหมดทันที

ปอม... ไม่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะความหลง ความแค้น ความผิดหวังและความขาดสติและเหตุผลส่วนตัวอื่นๆ ทำให้เขาตัดสินใจทำเรื่องที่โหดร้ายจนลืมนึกทุกผลที่จะตามมา

ผลจากการกระทำของเขานอกจากจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ยังทำให้ตัวเองรวมถึงคนในครอบครัวเดือดร้อนไปด้วย พ่อแม่และพี่ชายของปอมต้องเสียใจและผิดหวัง และไม่ว่าพวกเขาจะคร่ำครวญอย่างไร ก็ไม่สามารถหลีกหนีโทษจากการกระทำไม่พ้น

โชคดีที่การว่าจ้างฆ่าคนอื่นโดยเจตนาไม่สำเร็จ... โทษจึงไม่ร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต ส่วนโทษที่ได้รับจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล รวมถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายต่อไป

หลังจากที่ปอมได้รับโทษตามกฎหมาย พี่ปั๊มที่หายหน้าหายตาไปนานก็ได้เดินทางมาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาล

พี่ปั๊มดูไม่สดใสกระปรี้กระเปร่าเหมือนอย่างเคยอาจเพราะรู้สึกผิดกับสิ่งที่น้องชายกระทำ เขาละอายใจเกินกว่าจะมาพบหน้า แต่ผมก็เป็นคนขอร้องให้โด้พามาเพราะโด้แวะมาเยี่ยมผมบ่อยๆ

ผมพยายามอธิบายแล้วแม้คนที่ลงมือทำเรื่องเลวร้ายจะเป็นน้องชายสายเลือดเดียวกัน แต่คนที่ลงมือกระทำก็ไม่พี่ปั๊มเสียหน่อย ไม่จำเป็นต้องคิดมาก พี่ปั๊มเหมือนจะเข้าใจ แต่ถึงอย่างไรด้วยความเป็นพี่น้องกับคนร้ายจึงมีความรู้สึกผิดติดอยู่ในใจทำอย่างไรก็ไม่อาจแก้ได้สักที

นี่แหละหนา... ถึงมีคนชอบกล่าวว่าจะทำอะไรก็ให้คิดหน้าคิดหลัง คิดถึงคนในครอบครัวด้วย แม้ว่าตัวเองจะทำผิด ไม่ใช่ว่าจะต้องรับโทษหรือชดใช้กรรมเพียงคนเดียว แต่มันมีผลต่อคนในครอบครัวด้วย ทั้งความรู้สึกเสียใจ ทั้งหน้าที่การงานที่อาจมีปัญหา และโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมจนอาจทำให้ไม่กล้าสู้หน้า เฉกเช่นกับที่พี่ปั๊มกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้





...เส้นทางความรักของผมกับคุณชายไม่ได้โดยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กลับเต็มไปด้วยขวากหนาที่พร้อมจะทิ่มแทงหากใครคนใดคนหนึ่งไม่อดทนก็คงจะพังทลายลงได้ทันที

หลังจากที่กล้องวงจรปิดขณะที่ผมใช้ตัวบังกระสุนให้คุณชายถูกเผยแพร่ออกไปตามสื่อสาธารณะ ประชาชนก็เริ่มให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้ ผมกับคุณชายกลายเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียล หลายคนชื่นชมในการกระทำของผม แต่ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่กล่าวหาว่าคนอย่างผม ‘โง่’ ยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อคนคนหนึ่ง ...ทุกอย่างมักมีสองด้านเสมอ

ผมถูกนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ตั้งแต่วันแรกที่คุณชายพาผมนั่งรถเข็นแล้วจูงลงไปรับบรรยากาศในสวนของโรงพยาบาล

“พวกคุณสองคนเป็นอะไรกันคะ” นั่นคือคำถามแรกที่นักข่าวโพล่งมา ทำเอาผมตกใจจนผงะต้องหันไปมองหน้าคุณชายเพราะไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี

คุณชายส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะกันนักข่าวออกแล้วจัดการตอบคำถามแทนผม

“เราสองคนเป็นครอบครัวเดียวกันครับ”

“พี่น้องหรือญาติกันเหรอคะ แต่หม่อมราชวงศ์กริชกรมีลูกชายเพียงคนเดียวนะคะ ส่วนใหญ่ก็ไม่ปรากฏข้อมูลของคุณต้นข้าวนะคะ นามสกุลก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน” นักข่าวเอ่ยถามต่อด้วยความสงสัย “มันมีอะไรมากกว่านั้นใช่ไหมคะ”

“ถูกต้องแล้วครับ เราไม่ใช่ญาติกัน ผมเองก็ไม่รู้ว่าควรเรียกว่าอะไรเพราะทั้งผมและข้าวเองก็ไม่เคยตกลงคบกัน... แต่เรามีความรู้สึกดีดีต่อกัน มีความรัก มีความห่วงใยต่อกัน สำหรับผม ข้าวคือคนสำคัญครับ” คุณชายหยุดพูดแล้วหันมาขยับยิ้มแถมกระพริบตาให้ผมราวกับพระเอกในซีรี่ย์เกาหลี เรียกเสียงฮือฮาจากนักข่าว “เดี๋ยววันนี้ผมขอตัวพาข้าวพักผ่อนก่อนนะครับ เพิ่งพาออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์วันแรกอยากให้ข้าวได้พักผ่อนเต็มที่ ถ้าพี่ๆ อยากสัมภาษณ์อะไรเดี๋ยวผมจะแจ้งอีกทีนะครับ”

นักข่าวทุกท่านยินยอมด้วยความว่าง่าย

“แต่เดี๋ยวค่ะ ขออีกหนึ่งคำถามนะคะ... เมื่อกี้คุณชายบอกว่าคุณข้าวคือคนสำคัญ... แล้วสำหรับคุณข้าวล่ะคะ คุณชายคืออะไร”
ผมสะดุ้งอีกครั้งให้กับคำถาม ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลยว่าการออกจากห้องผู้ป่วยครั้งแรกต้องมาเจอกับสถานการณ์เช่นนี้
ผมหันตาไปมองคุณชายด้วยความเขิน... ผู้ชายก็เขินเป็นนะครับ... คุณชายยักคิ้วก่อนจะพยักหน้าให้เหมือนบอกเป็นนัยๆ ว่าให้ผมตอบถามสักที

ผมหันกลับมามองเหล่านักข่าวอีกครั้ง สังเกตเห็นสีหน้าและแววตาของทุกคนแสดงออกถึงความตื่นเต้น บางคนหน้าแดงราวกับลูกมะเขือเทศ ผมไม่แน่ใจว่าอากาศที่นี่ร้อนเกินไปหรือไร แต่ผมว่าอากาศตอนนี้กำลังดีนะ... บางคนยิ้มแก้มปริทำปากขมุบขมิบไปมา บางคนก็กะพริบตาถี่ๆ จนผมรู้สึกหนักใจว่าต้องตอบคำถามนั่นโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ใช่ไหม ในเมื่อจำเป็น ผมก็จะตอบ

“คุณชาย...” รู้สึกว่าเสียงของตัวเองสั่นจัง อาจเพราะอาการเขินจัดกำลังเร่งงาน “คือ... ฟ้าของผมครับ”

ผมไม่ใช่คนที่มีความมั่นใจ ไม่เคยตกอยู่ในสภาพที่มีคนจ้องและรุมถามคำถามแบบนี้ คำถามของผมอาจเข้าใจยากเกินไป ทุกคนเลยเงียบกริบ ผมจึงรีบอธิบายต่อ

“ฟ้าที่คอยมอบแสงสว่างในยามกลางวันและฟ้าที่คอยแต่งแต้มสีสันในยามค่ำคืน คุณชายคือฟ้าที่ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ผมก็จะมองเห็นและเฝ้านึกถึงได้ตลอด ฟ้าที่มีทั้งร้อน หนาว และบ้าคลั่งเมื่อยามมีเมฆฝน แต่สุดท้ายฟ้าก็กลับมาสดใสอบอุ่นได้เหมือนเดิม และมีเพียงฟ้าผืนนี้แหละที่คอยเฝ้ามองดูผมซึ่งเป็นเพียงเศษดินตลอดเวลา ไม่ว่าจะทุกข์ สุข เศร้า หัวเราะ หรือร้องไห้ ฟ้าผืนนี้ไม่เคยคิดที่จะทิ้งผมเลยครับ”

ผมหยุดพูดแล้วหันไปมองหน้าคุณชาย... น้ำตาของเขาคลออยู่เต็มเบ้า ไอ้เด็กขี้แยกำลังจะร้องไห้อีกแล้ว ผมเลยจัดการทิ้งประโยคเด็ดๆ ให้กับนักข่าวเป็นการส่งท้ายโดยหวังว่านั่นจะทำให้คุณชายซาบซึ้งจนน้ำตาไหล

“คุณชายคือครึ่งชีวิตของผมครับ” ผมยกมือขึ้นมาจับมือของคุณชายที่วางไว้อยู่ที่ไหล่ของผม เพื่อบิ้วอารมณ์

ได้ผล... คุณชายปล่อยโฮต่อหน้าสื่อ นักข่าวช่างภาพรีบเบี่ยงเบนความสนใจจากผมไปหาคุณชาย เกิดเสียงดังแชะๆ อยู่หลายครั้งจนกระทั่งผมต้องขอร้องให้พวกเขาหยุดแบบอ้อมๆ

“เดี๋ยวผมขอพักก่อนนะครับ ยังไงวันนี้ขอบคุณมากๆ นะครับ สวัสดีครับ”

นักข่าว ช่างภาพทุกรายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พอทุกคนจากไป คุณชายก็โน้มตัวลงมากอดคอผม หอมแก้มผมหนักๆ ราวกับต้องการบอกให้ผมรู้ว่า... เขารัก เขาหลงผมมากแค่ไหน

“พอได้แล้ว” จนผมต้องบอกให้คุณชายหยุด “เป็นเด็กขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

คุณชายส่ายหน้าไม่พูดอะไร แต่ยังกอดคอ หอมแก้มและจับมือเอาไว้อย่างแนบแน่น...

บางทีการไม่พูดอะไรออกมา แต่แสดงออกด้วยภาษาทางกายอาจทำให้เรารับรู้ถึงความรู้สึกดีๆ มากว่าการที่เอาแต่พูดจาสวยหรูที่เคยไม่เคยคิดจะกระทำ

   ‘ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างครับ’ ผมพูดในใจพลางบีบมือคุณชายเอาไว้แน่นเป็นสัญญาณให้เขารับรู้เช่นกันว่าผมกำลังรู้สึกเช่นได้

   คุณชายยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาหยดสุดท้าย ก่อนจะใช้มืออีกข้างมาขยี้ศีรษะของผมเบาๆ แล้วเข็นรถของผมต่อไป... 

   ผมไม่รู้ความสุขแบบนี้มันจะอยู่ไปได้นานแค่ไหน แต่ผมจะเก็บความรู้สึกที่อบอุ่นของผู้ชายคนในไว้ในใจของผมตลอดไป


   ‘ผมรักคุณชายนะครับ’




จบแล้วจ้า...

ฝากติดตามเรื่องใหม่ด้วยนะครับ

จิตวิทยาใจ >> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60212.0
ซื่อสัตย์ >> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61134.0

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 03-09-2017 22:59:59
กำลังเริ่มอ่านครับ ขอแวะมาทักทายและขอบคุณนักเขียนก่อนครับ ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวแวะมาทักทายใหม่หลังอ่านจบน้า ;-)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 04-09-2017 12:48:27
แอบเสียน้ำตาเล็ก ๆ ให้กับข้าว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 06-09-2017 03:50:37
จบแล้ว ดีใจมากที่แฮปปี้ :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 24-12-2017 22:30:13
เคยติดเรื่องนี้มาก..แต่ก็เงียบไปเลย..นึกว่าไม่มาต่อเลยไม่ติดตาม..ดีจังจบแบบแฮปปี
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 29-01-2018 12:08:53
 :hao3: เหมือนจะสนุก เดี๋ยวมาอ่านแล้วมาเม้นอีกทีน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 03-02-2018 23:45:10
น่ารัก ชอบคุณชายฉลาดดี ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ แต่แอบมีโง่ตอนไม่รู้ใจตัวเอง แอบน่าตื้นมาก รวมๆ แล้วน่ารักดีค่ะ  o13 จะตามอ่านนิยายของนักเขียนอีกน้าาาาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: zysygy ที่ 15-09-2018 20:33:12
 o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 16-09-2018 13:34:13
หายไวๆ นะข้าว สนุกมาก ให้ข้อคิดดีๆ ขอบคุณผู้เขียน มากๆ จร้า ติดตาม ผลงาน ต่อไป ^^ :mew3: o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: Sapthada Book ที่ 21-10-2018 00:31:32
เขิน..อะ :hao7: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: ่juicboysofly ที่ 22-10-2018 16:46:34
เขินจนบอกไม่ถูก :-[ :-[ :-  สุดท้ายร้องไห้จนเกือบอ่านไม่จบ :mew4: :mew4:

ขอบคุครับที่เขียนเรื่องน่ารักๆ ให้อ่าน :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: zysygy ที่ 22-01-2019 18:49:03
คิดถึงคุณชายเป๊กกับข้าวเลยกลับมาอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 13-03-2024 20:20:25
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 25-03-2024 17:38:44
 :pig4: