-
เก็บกระทู้ไว้ ------โมดุฯ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน
ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
เขียนนิยายวายเป็นครั้งแรก ฝากตัวด้วยนะครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเอง หากบังเอิญไปพาดพิงถึงใครเข้าผมขออภัยล่วงหน้านะครับ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านอย่างรื่นเริงนะฮะ
:o8:
เพิ่มสารบัญครับ
shot.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1324835#msg1324835)
shot.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1405479#msg1405479)
shot.3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1405567#msg1405567)
shot.4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1408157#msg1408157)
shot.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1420473#msg1420473)
shot.6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1428046#msg1428046)
shot.7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1431353#msg1431353)
shot.8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1446966#msg1446966)
shot.9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1462243#msg1462243)
shot.10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1469175#msg1469175)
shot.11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1475031#msg1475031)
shot.12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1665304#msg1665304)
shot.13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1829287#msg1829287)
shot.14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1877623#msg1877623)
shot.15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1900569#msg1900569)
shot.16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1922639#msg1922639)
shot.17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg1994691#msg1994691)
shot.18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg2077924#msg2077924)
shot.19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg2249478#msg2249478)
shot.20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg2297011#msg2297011)
shot.21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg2336090#msg2336090)
shot.22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg2337041#msg2337041)
shot.23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg2357100#msg2357100)
shot.24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg2507454#msg2507454)
shot.25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg2740828#msg2740828)
shot.26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg2762890#msg2762890)
shot.27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg3413065#msg3413065)
shot.28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=22093.msg3457470#msg3457470)
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.1
.
.
.
.
.
.
เพราะความจริงคือสิ่งที่โหดร้าย ดังนั้นความฝันจึงเป็นสิ่งที่แสนสวยงาม....
เพราะความรักคือสิ่งที่ไม่มีจริง ดังนั้นการอยู่ด้วยตัวคนเดียวย่อมเป็นสิ่งที่แสนสุข....
ผมหลงใหลอยู่ในความฝัน รับรู้ถึงวันเวลาที่ผ่านเรื่อยๆดังสายลมที่ปลิวพัดผ่านตนเองไป
ผมไม่เคยเชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริง ดังนั้นผมจึงไม่คิดจะไขว่คว้ามันมาไว้เป็นของตนเอง....
การก้าวเดินไปข้างหน้าเป็นสิ่งที่นำพาความเมื่อยล้ามาสู่ขาทั้งสองข้าง ร่างสูงโปร่งแต่เพรียวบางเดินทอดน่องไปตามทางเท้าริมถนนอย่างอ้อยอิ่ง ฝ่ามือที่ซีดขาวเล็กน้อยถูกยกขึ้นมาอังรับลมหายใจร้อนๆที่เจ้าของร่างเพียรเป่าออกมาบรรเทาความหนาวเหน็บของยามค่ำคืนในต้นเดือนธันวาคม ใบหน้าเฉียบคมไม่แสดงอารมณ์นั้นแดงเรื่อเล็กน้อยเมื่อถูกลมหนาวพัดผ่านมาบาดเสียด
ร้านรวงสองข้างทางปิดไปหมดนานแล้ว เหลือเพียงแสงสีขาวจากเสาไฟข้างทางที่ตั้งตามถนนไปเป็นระยะ ความเงียบสงัดรายล้อมอยู่รอบตัวไม่ทำให้ชายหนุ่มเพียงคนเดียวที่เดินไปหยุด ไปเกิดอาการหวาดหวั่นใจอะไรได้ เขาเพียงแค่จดจ่ออยู่กับตนเองโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
รัตติกร สันติสงคราม ชายหนุ่มร่างสูงเพรียวผู้มีเสื้อสูทสีดำธรรมดาๆที่พนักงานบริษัทปกติใส่กันทาบทับอยู่บนเรือนร่างของเขา ไหล่ข้างหนึ่งสะพายกระเป๋าเป้แบบเด็กนักเรียนมัธยมที่เป็นสีแดงซีดด้วยผ่านระยะเวลามาเนิ่นนาน แม้ชายหนุ่มจะเรียนจบปริญญาโทและออกมาทำงานบริษัทเต็มตัวแล้ว แต่เป้ใบโปรดที่เขาใช้มาตั้งแต่สมัยมัธยมก็ยังคงติดตัวมาจนถึงทุกวันนี้
ฉับพลันความเงียบรอบตัวก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงดังปัง!
รัตติกรนิ่วหน้าเมื่อพบว่าต้นขาด้านซ้ายเกิดอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงก่อนกลายเป็นความชาที่ปวดหนึบ ผ้าสูทสีดำเปียกชื้นเป็นสีเข้มไล่ลงไปตามเรียวขา ก่อนที่โลหิตสีแดงผุดผาดจะหยดลงกระทบพื้น
เขาถูกยิง...
เดาได้จากเสียงเมื่อครู่และความรู้สึกที่สัมผัสได้จากบาดแผลสดใหม่ ชายหนุ่มประคองตัวเองให้หยุดยืนอยู่กับที่เพราะไม่แน่ใจว่าหากขยับตัว บาดแผลที่จะเกิดขึ้นถัดไปอาจคร่าชีวิตเขาไปแทนก็เป็นได้...
“Stupido!(เจ้าโง่!) Perché stare lì! (ไปยืนตรงนั้นทำไม!)”เสียงตะโกนเกรี้ยวกราดเป็นภาษาอิตาลี่ดังขึ้นท่ามกลางความมืด ก่อนเงาของร่างใหญ่โตจะโฉบวาบและผลักตัวของรัตติกรเข้าไปที่ตรอกแคบๆแห่ง หนึ่งพร้อมกับเสียงปืนอีกนัดที่เล็งเป้าไปตรงจุดเดิมที่ชายหนุ่มยืนอยู่เมื่อครู่
“Release!Chi sei tu?(ปล่อยผม! คุณเป็นใคร?)”รัตติกรถามเสียงเรียบนิ่ง ร่างของเขาถูกโอบไว้ด้วยแขนที่แข็งแกร่งราวกับคีมเหล็กของชายหนุ่มแปลกหน้า หลังจากบอกให้อีกฝ่ายปล่อยมือจากตนเองแล้ว เสียงปืนกลับดังขึ้นอีกนัดในระยะใกล้ชิด หนุ่มอิตาลี่ผลักร่างของเขาไปชิดกับผนังด้านในก่อนจะโถมตัวทับลงมา ร่างใหญ่ๆนั่นบังตัวของเขามิดแทบไม่เหลือส่วนใดๆโผล่ออกไปให้เห็น แถมยังเบียดชิดซะจนอึดอัดอีกต่างหาก
“li uccidono subito!(ฆ่าให้หมดเดี๋ยวนี้!)” เสียงตะโกนกร้าวดังขึ้นก้องกังวาน แสงไฟจากริมถนนส่องผ่านเข้ามาจางๆให้เห็นถึงผมหยักศกสีอ่อนที่ตกลงมาปรกหน้า ดวงตาสีสนิมเรืองวาบอย่างอำมหิต ก่อนที่เสียงๆนั้นจะสั่งการต่ออีกสั้นๆ มันเป็นการสั่งการที่คุกคามและเปี่ยมด้วยอำนาจจนพาให้เขาตัวเกร็งไปชั่วครู่หนึ่ง ไม่นานเสียงของกระสุนที่กระทบกับทั้งสิ่งก่อสร้างและเลือดเนื้อก็กระหน่ำขึ้นรอบข้างจนพาให้หูแทบอื้อ ชายหนุ่มชาวอิตาลี่หันกลับมาสนใจคนในอ้อมแขนที่ตวัดสายตาขึ้นมองเขาอย่างระแวดระวัง
พอจำได้ว่าหลังจากหลบวิถีกระสุนเข้ามาในตรอกได้แล้ว ภาษาอิตาลี่ที่เจ้าคนตรงหน้าพูดออกมานั้นชัดเปรี๊ยะและมีสำเนียงถูกต้องครบถ้วนเหมือนเจ้าของภาษามาเอง ส่งผลให้คนร่างใหญ่ถามออกมาด้วยความข้องใจ
“Italia sei?(คุณเป็นคนอิตาลี่เหรอ?)”
“Io sono un thailandese.(ผมเป็นคนไทย)”
รัตติกรตอบกลับนิ่งๆ น้ำเสียงเหมือนคนที่ไม่เจ็บไม่ปวดใดๆพาให้หนุ่มอิตาลี่คิดไปเองว่าคนไทยตรงหน้านี่คงไม่เป็นอะไรมาก หากแต่เมื่อสังเกตดีๆ ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงชาดกลับเม้มแน่น ดวงตาสีน้ำตาลไหม้คมกริบหรี่ลงน้อยๆจนแทบสังเกตไม่เห็น แต่ที่เขาเห็นได้ก็คงเป็นเพราะความใกล้นี่ละมั้ง...
มันบ่งบอกว่าคนตรงหน้ากำลังเจ็บ แต่ไม่ยอมแสดงอาการออกมา...
เขาเห็นลางๆว่าเจ้าหนุ่มคนไทยนี่ถูกยิงที่ต้นขาด้านซ้าย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะประคองตัวเองให้ยืนตรงอยู่ได้ แต่หมอนี่ก็ยังทำ...
จะเพราะศักดิ์ศรี หรือเพราะอะไรก็ตาม แต่ร่างเบื้องหน้าก็ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวเอน ท่วงท่าคุกคามอย่างเงียบกริบส่งผ่านมาจากทั้งสายตาและท่าทาง ดุจดั่งพญาสิงโตที่ซ่อนเร้นอาการบาดเจ็บของตนเองและจับจ้องเหยื่อด้วยความระมัดระวัง...
หากแต่คนอย่างเขาไม่ใช่เหยื่อ และไม่รู้ทำไม ยิ่งเห็นท่าทางแบบนี้ก็ยิ่งถูกใจเขาเป็นบ้า...
อยากได้...
ชายหนุ่มคิดคำนึงในใจ ก่อนจะดันร่างของตนให้แนบสนิทกับคนตรงหน้า กลิ่นคาวๆของเลือดบางเบาผสมผสานไปกับกลิ่นเหงื่อ ชวนให้ใบหน้าคมสันโน้มลงเพื่อสูดดมมันให้มากกว่าเดิม
“cosa fai? (คุณจะทำอะไร?)”รัตติกรถามเสียงแข็ง ก่อนจะส่งสายตาวาวๆจ้องกลับไปเป็นเชิงเตือน
อยากครอบครอง...
มือหนาจับคางเรียวให้ยกสูงขึ้น แรงขืนกลับส่งมาให้รู้สึกได้ผ่านปลายนิ้ว หากแต่แรงนั้นก็ยังไม่พอที่จะหลุดลอดออกจากการเกาะกุมนั้นได้ ริมฝีปากสีชาดเผยอขึ้นเหมือนกำลังจะพูด กลับถูกปิดกั้นด้วยริมฝีปากหนาที่ประทับแนบชิด
ดวงตาสีน้ำตาลไหม้เบิกกว้าง มือที่ว่างอยู่เงื้อขึ้นมาเตรียมประทุษร้ายเต็มที่ แต่กลับต้องหยุดชะงักและเปลี่ยนไปตะบบกับบ่ากว้างแน่นเมื่อมือของผู้บุกรุกอีกข้างขยำเข้าที่บาดแผลที่โดนยิงเต็มแรง!
“อื้อ!!”เจ็บจนแทบขาดใจ....
รัตติกรหายใจสะดุดไปช่วงหนึ่ง เปิดโอกาสให้ร่างแกร่งขบกัดริมฝีปากล่างเบาๆพอให้เลือดซิบ ก่อนจะสอดลิ้นผ่านเข้าไปสำรวจพื้นที่ใหม่ตรงหน้าอย่างร้อนแรง
หวานล้ำ อย่างไม่น่าเชื่อ...
ลิ้นร้อนถูกสอดลึกเข้าไปอีกเมื่อริมฝีปากหนาบดเบียดแนบชิดยิ่งกว่าเดิม มันเร่าร้อนและรุนแรงเหมือนจะดึงดูดเอาวิญญาณทั้งมวลออกจากร่างเสียให้สิ้น
เขากำลังคิดว่าอาจจะตาย เพราะจูบที่เหมือนกับดูดชีวิตทั้งหมดไปนี่
หายใจ...ไม่ออก...
รัตติกรพยายามหลีกหนีจากคนเบื้องหน้าเต็มที่หากแต่ด้านหลังก็ติดผนัง ด้านข้างก็ถูกแขนล่ำๆนั่นกันเอาไว้ ไม่ต้องคิดถึงด้านหน้าด้วยซ้ำ
ยิ่งสะบัดตัวเพื่อจะหลีกหนีมากเท่าไหร่ มือหนาที่ยังคงบีบเค้นบาดแผลที่ถูกยิงก็ยิ่งเพิ่มแรงเข้าไปอีก เพียงคิดจะกัดลิ้นที่ยังคงรุกรานอย่างหนักหน่วงนั่น ปลายนิ้วแกร่งก็กดลงบนบาดแผลโดยตรงจนต้องกรีดร้องทั้งๆที่ถูกปิดปากอยู่
เขาไม่อยากยอมแพ้...มันงี่เง่าเกินไปที่จะมาเป็นอะไรไปเพราะเรื่องบ้าๆพรรณนี้
สายตาของรัตติกรเริ่มพร่ามัว อาการเสียเลือดมากเริ่มส่งผลต่อร่างกาย เลือดหยดแล้วหยดเล่าไหลลงสู่พื้นจนกลายเป็นแอ่งสีแดง ความเจ็บปวดเล่นงานอย่างรุนแรงต่อเนื่อง รสสัมผัสของการจูบเป็นเช่นไรเขาก็แทบไม่รู้ แต่สติที่ดับวูบไปอย่างช้าๆกลับสลักภาพความทรงจำนี้เอาไว้ ตราตรึงอย่างที่ไม่มีวันจะลบเลือนไปได้ง่ายๆ
ความเกี้ยวกราดดุดัน...กับรสจูบที่แทบจะแผดเผาวิญญาณให้สูญสิ้น
ใบหน้าราวกับรูปสลัก...ที่แฝงเค้าอำมหิตอย่างเยียบเย็น...
ดวงตาสีสนิมล้ำลึก…ที่จับจ้องมาเพื่อบ่งบอกถึงความต้องการบางอย่าง...
ที่ไม่ใช่สิ่งดี...
และแล้วดวงตาสีน้ำตาลไหม้ก็ปิดสนิทลง ร่างสูงเพรียวแน่นิ่งไร้ซึ่งแรงขัดขืนใดๆอีกต่อไป หนุ่มชาวอิตาลี่กดย้ำริมฝีปากหนักๆลงไปอีกทีก่อนจะผละออกมา ดวงตาสีสนิมจับจ้องคนตรงหน้าด้วยความพอใจเมื่อนึกถึงดวงตาดื้อรั้นและหาญกล้าที่มองสบ ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มเงียบๆ ยังคงนึกถึงริมฝีปากแสนหวานที่ได้ลิ้มลองไปเมื่อครู่ ก่อนที่ความคิดคำนึงสุดท้ายที่โผล่ขึ้นมาจะตัดสินทุกอย่าง...
...เขาอยากเห็นสิงโตเบื้องหน้า...ถูกสยบอย่างราบคาบลงด้วยมือของเขาเอง...
มือของลาร์เฟียร์ เวสเปอร์
The Don of Don แห่งเมืองปาเลอร์โม เจ้าเหนือหัวของมาเฟียทั่วทั้งอิตาลี่คนนี้นี่แหละ!!!
@@@@@@@@@@@@@@@@@
ศัพท์ใหม่วันละคำ(สองคำ)
Don of Don
มาเฟีย ทุกกลุ่มจากเมืองต่างๆ ทั่วอิตาลี จะมีหัวหน้าใหญ่ที่เป็นศูนย์รวมอยู่ที่ปาเลอร์โม"เจ้าพ่อแห่งเจ้าพ่อ" (Don of Don) หัวหน้าของมาเฟียกทุกกลุ่มจะขึ้นตรงกับเขาคนนี้
ปาเลอร์โม
ปาเลอร์โม (Palermo) เมืองหลวงของซิซิลี เป็นเมืองต้นกำเนิดของมาเฟียครับ
@@@@@@@@@@@@@@@@@
สวัสดีอีกครั้งครับ เป็นยังไงบ้างครับกับนิยายวายครั้งแรกที่ผมแต่ง :mc4:
ดีไม่ดียังไงช่วยติชมด้วยนะครับ
ในตอนแรกมีภาษาอิตาลี่โผล่มาด้วย...
ไม่ค่อยแนะนำให้เอาไปใช้จริงนะครับ เพราะผมให้อากู๋ช่วยแปลทุกคำเลย o22 :o8:
ส่วนเรื่องมาเฟียในที่นี้ แอบอิงประวัติศาสตร์นิดนึง
จะใช้แนวทางแบบมาเฟียยุคเก่าในอดีตเอามายัดใส่ในสมัยปัจจุบันนะครับ
เดี่ยวจะมีข้อมูลมาเสริมให้เรื่อยๆ
ตอนนี้ถ้าใครอยากรู้ต้นกำเนิดลองเข้าไปดูที่เว็บนี้นะครับ
http://firodendon.exteen.com/20091028/entry
(ข้อมูลส่วนใหญ่ผมเอามาจากเว็บนี้นี่แหละครับ)
จะรีบกลับมาอัพในเร็ววัน (ได้ข่าวว่าอาทิตย์หน้าสอบปลายภาค.. :a5:)
ฝากตัวด้วยนะคร้าบบบ :L2:
-
จิ้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
+1 รับเรื่องใหม่จ้า
โอ้แนวมาเฟียอิตาลี่ แปลกดีค่ะ แค่เจอกันครั้งแรกก็ได้เลือดเสียแล้ว อิอิ
:-[ :-[ :-[
-
เรื่องใหม่ :mc4: จะรออ่านนะคะ
-
:mc4:สนุกๆชอบน่าติดตาม :L1:
-
ว๊าว ชอบจัง มาบ่อยๆน๊าจะตามมาอ่าน o22 o22
-
+ 1 ให้จ้า ต้อนรับเรื่องใหม่ :mc4: :mc4:
sm ค่ะคู่นี้ พระเอกแรงงง อ้ะ แต่นายเอกดื้อซะ ถ้าไม่ทำแบบนี้ เจ้าพ่อของเจ้าพ่อลิ้นอาจสั้นกว่าเดิมก็ได้ :laugh:
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
รอตอนต่อไปนะค่ะ
-
โอ๊ะมาแปลก !!
แต่น่าสนใจเอาเรื่อง
+1 เจิม ติดตามค่ะ !! ^__^
-
ชอบมากครับเรื่องใหม่มาเฟียหนุ่มสุดหล่อ
รออ่านตอนต่อไปค้าบบบ
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.2
ความเจ็บแล่นปราดไปทั่วทั้งร่างเป็นสิ่งแรกที่เขาได้เจอเมื่อรู้สึกตัว รัตติกรขมวดคิ้วพร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อข่มเสียงร้อง แต่เมื่อลืมตาขึ้นเพื่อที่จะสำรวจร่างกายของตนเองกลับพบแต่เพียงความมืดสนิท
สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่รัดปิดบริเวณดวงตาจึงทำให้รู้ว่าเขาถูกสิ่งที่น่าจะเป็นผ้าผูกปิดตาไว้อย่างแน่นหนา แล้วยังแขนทั้งสองข้างก็ยังถูกพันธนาการด้วยการมัดไพล่หลังเอาไว้อีก พื้นที่รองรับเขาอยู่ยวบน้อยๆเมื่อรัตติกรกดมือที่ถูกมัดอยู่ลง เขาคงนอนอยู่บนเตียงเป็นแน่เท้...
ชายหนุ่มนึกทบทวนเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นด้วยท่าทีที่ยังคงสงบนิ่ง หลังจากที่เลิกจากการทำงานในบริษัทแล้ว เขาก็แวะกินข้าวแถวๆนั้นและไปสิงสถิตอยู่ที่หอสมุดแห่งชาติอย่างที่ทำเป็นประจำทุกๆครั้งที่มีเวลาว่าง พอหอสมุดเตือนว่าใกล้เวลาปิดตอนสี่ทุ่ม พร้อมกับที่เขาอ่านหนังสือนิยายจบไปห้าเล่ม และหยิบอีกห้าเล่มที่เหลือไปทำการยืมเรียบร้อย จากนั้นก็ไปหาร้านสงบๆคนน้อยๆนั่งอ่านอีกสองเล่มจนถึงเวลาเกือบตีหนึ่ง แล้วจึงตัดสินใจนำอีกสามเล่มที่เหลือไว้ไปนอนอ่านที่บ้าน
ระหว่างทางกลับบ้านนั้นเองที่อยู่ๆก็เหตุยิงกัน เขาโดนลูกหลงเข้าที่ต้นขาด้านซ้าย ก่อนที่จะได้พบกับชายหนุ่มชายอิตาลี่คนหนึ่งที่เข้ามาช่วยบังกระสุนให้ แล้วก็ถูกผู้ชายคนนั้น....
จูบ...
รัตติกรขมวดคิ้วมุ่น ริมฝีปากที่เม้มแน่นรู้สึกแสบๆและริมรู้ถึงรสเค็มของเลือดได้เล็กน้อย
จะเรียกว่าจูบก็ไม่เชิง ก็มันเป็นอาการที่ริมฝีปากสัมผัสกันนี่ แถมยังมีลิ้นสอดเข้ามาด้วยอีกต่างหาก แต่ไอ้ที่จูบกันจนปากแตกไปหมดนั้นมันยังไงล่ะ? แถมพอจะหนีก็ยังถูกกดแผลที่ถูกยิงไว้ขนาดนั้น...
บังคับจูบ? จูบแบบSMอย่างนั้นเหรอ??
แถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันอีกต่างหาก เขารู้สึกอารมณ์เสียนิดๆ ถึงจะไม่ค่อยแคร์กับเรื่องอะไรแบบนั้นก็ตาม แต่นั่นมันจูบแรกของเขานะ ให้ตาย...
ยังไงก็ตามตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาคิดเรื่องแบบนั้น หลังจากถูกยิงมาหมาดๆ สถานที่แห่งแรกที่เขานึกถึงเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาคือโรงพยาบาล แต่พอรู้ว่าถูกปิดตาแล้วยังถูกมัดแขนไว้ข้างหลังเช่นนี้ ไม่มีทางที่โรงพยาบาลที่ไหนจะทำแบบนี้แน่ๆ ดังนั้นเหตุผลก็มีเพียงข้อเดียว นั่นคือเขาถูกจับตัวมา แต่จะเป็นฝ่ายที่ยิงเขา หรือฝ่ายของชายหนุ่มชาวอิตาลี่ก็เท่านั้น
จะฝ่ายไหนก็ตาม ถ้าถูกจับตัวมาแบบนี้ล่ะก็ ยังไงเขาก็ต้องหนีไปให้ได้!
รัตติกรนอนนิ่งๆเพื่อฟังว่ารอบตัวมีสิ่งใดเคลื่อนไหวอยู่รึเปล่า ผ่านไปพักหนึ่งเมื่อยังมีแต่เพียงความเงียบจนเขาแน่ใจว่าไม่มีใครแล้ว เขาจึงเริ่มแผนการหนีทันที
อย่างแรกก็คงต้องแก้มัดที่มือให้ได้เสียก่อน โชคดีที่ไม่ได้ถูกมัดที่ขา หากแต่ความรู้สึกโล่งๆก็ทำให้พอรู้ว่าเขาไม่ได้ใส่กางเกง ก็เข้าใจว่าเพราะแผลเขาอยู่ที่ต้นขาทำให้ต้องถอดออกเพื่อสะดวกต่อการทำแผล ยังดีที่เหลือกางเกงในเอาไว้ให้ล่ะนะ
รัตติกรเกร็งตัวแล้วค่อยๆลุกขึ้นนั่งโดยอาศัยมือที่ถูกมัดอยู่ข้างหลังคอยเป็นฐานยันตัวขึ้นมา แต่ต่อไปสิที่จะยาก หากร่างกายเขายังคงเป็นปกติอยู่มันก็ไม่ยากหรอก แต่เพราะถูกยิงมาที่ต้นขานั่นแหละ ทำให้พอจะงอเข่าแต่ละที ความเจ็บก็แล่นปราดไปทั่วทั้งร่างเลยทีเดียว
พอทนเจ็บจนสามารถเขยิบสะโพกลอดแขนไปได้ ขั้นต่อไปนี้แหละที่คงจะฆ่าเขาให้ตายเลยทีเดียว รัตติกรงอขาขวาชิดกับอก ก่อนจะสูดหายใจลึกๆแล้วค่อยๆงอขาซ้ายข้างที่บาดเจ็บขึ้นตาม
เพียงแค่เกร็งเพื่อที่จะขยับความเจ็บก็แล่นปราดไปทั้งตัว ชายหนุ่มซบหน้าลงกับเข่าข้างขวา ค่อยๆงอขาซ้ายขึ้นมาแม้จะเจ็บแทบขาดใจตายแต่ก็ไม่ยอมหยุด แนวฟันขาวกัดริมฝีปากเอาไว้เพื่อกั้นเสียงร้องที่อยากจะแหกปากออกให้คนได้ยินกันทั้งโลก หากแต่เขากำลังจะหนี ดีไม่ดีถ้าส่งเสียงดังมากเกินไปจะมีคนเข้ามาดูก็เท่านั้น
โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ภายในห้องเล็กแคบที่มีเพียงเตียงขนาดใหญ่นั้น ผนังกระจกด้านซ้ายสีดำสนิทที่อยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรจะกั้นระหว่างเขากับชายหนุ่มผู้หนึ่งเอาไว้...
@@@@@@@@@@@@@@@@@
ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ทอดมองร่างของหนุ่มชาวไทยที่เขาตัดสินใจพากลับมาจากประเทศไทย ผ่านกระจกพิเศษที่มองทะลุได้เพียงด้านเดียว หลังจากการล้อมจับแก๊งเล็กๆแห่งหนึ่งที่เหิมเกริมถึงขนาดล้ำเส้นเข้ามาในอนาเขตการค้าของเขาที่เป็นถึง The Don of Don แห่งมาเฟียทั่วทั้งอิตาลี่
อันที่จริงมันไม่จำเป็นที่เขาจะต้องตามไปด้วย ในเมื่อหากต้องการเขาก็เพียงแค่ออกแรงขยับปากสั่งเท่านั้นก็ได้ทุกสิ่งที่ต้องการ แต่ก็ไม่รู้สิ่งใดมาดลใจให้เขาอยากออกไปเล่นกับพวกฝ่ายเก็บกวาด วางแผนเล็กๆน้อยๆให้พวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงได้วิ่งวุ่นด้วยความทรมาน ก่อนจะได้จบชีวิตของพวกมันด้วยมือของตัวเอง
ไม่คิดเลยว่าการเล่นสนุกเล็กๆน้อยๆนี่จะนำพาให้เขามาพบราชสีห์หนุ่ม ที่หลังจากให้คนไปสืบประวัติทั้งหมดมาแล้วก็ได้ความว่า ชายหนุ่มชื่อ รัตติกร สันติสงคราม โตมาจากครอบครัวเล็กๆที่ไม่ค่อยอบอุ่นนัก พ่อและแม่ของเขาหย่าร้างกันเมื่อรัตติกรอายุได้สามปี เด็กชายจึงต้องไปอยู่กับแม่ แม่ของเขาทำงานเกือบตลอดเวลา พอจะออกไปทำงานก็จะทิ้งเขาไว้ที่หอสมุด ทำให้เขาอยู่กับหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ
เด็กชายชอบอ่านหนังสือทุกประเภท ความกระหายในการอ่านนั้นแทบเรียกได้ว่าบ้าคลั่ง และไม่หยุดอยู่แค่หนังสือภาษาไทย เมื่อใดเขาได้หนังสือมาอยู่ในมือ ไม่ว่าจะภาษาอะไร เขาก็จะต้องอ่านให้จบ และต้องเข้าใจในทุกตัวอักษรด้วย
ความกระหายในการอ่านอย่างบ้าคลั่งนั่นเองที่ทำให้เขาจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาต่างๆให้ได้อย่างแตกฉาน และเมื่อเรียนแล้วก็ย่อมต้องได้ทั้งฟังพูดอ่านเขียน ชายหนุ่มจึงสอบชิงทุนต่างๆ จนเมื่ออายุครบสิบสามปี เขาก็จบจากสถาบันผู้มีความสามารถพิเศษ และเรียนปริญญาตรีและโทในสาขาอักษรศาสตร์จบเมื่ออายุสิบเจ็ด พอเขาอายุได้ยี่สิบปีแม่เขาก็เสียไปด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ ทำให้ต่อจากนั้นมาชายหนุ่มก็ใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียว
จากเหตุผลเล็กๆที่เพียงแค่ต้องการอ่านหนังสือ ทำให้เขาสามารถใช้ภาษาต่างๆได้มากถึงยี่สิบกว่าภาษา มันเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้บุคคลหลายประเภทแห่แหนเข้ามาเพราะต้องการความสามารถทางภาษานั้นไปช่วยในด้านต่างๆ รัตติกรจึงตัดสินใจเข้าทำงานที่บริษัทต่างชาติแห่งหนึ่งในไทยด้วยเงินเดือนสูงลิบ สถานภาพปัจจุบันคือโสดสนิท ไม่เคยผ่านมือใครมาทั้งหญิงหรือชาย
ลาร์เฟียร์นึกถึงประวัติที่ได้รับมาแล้วเหยียดยิ้มอย่างพึงใจ เลขาชั่วคราวของเขาที่เพิ่งเข้ามาใหม่พูดได้เพียงหกภาษาเท่านั้น แถมหน้าตาก็งั้นๆ แม้เจ้าตัวจะพยายามอ่อยเขาแล้วอ่อยเขาอีกอยู่นั่น พอลองมีอะไรด้วยกันแล้วก็ช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน
เขาเบื่อแล้วกับการได้อะไรมาง่ายๆ และเจ้าราชสีห์จากเมืองไทยก็ช่างโผล่มาได้ในจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะ มีหรือเขาจะปล่อยไปง่ายๆ จะปล่อยไว้ในไทยเพื่อให้ทำงานอยู่ในบริษัทเฉยๆก็น่าเสียดาย สู้จับกลับมาทำงานให้เขาไม่ดีกว่ารึไง ในเมื่อทั้งความสามารถของเจ้าตัวก็ดี หน้าตา ท่าทางก็ดี ถูกใจเขาไปหมดเสียอย่างนั้น
ว่าแล้วก็กลับไปจ้องสิงโตหนุ่มอย่างตั้งใจอีกครั้ง เสียงหอบหายใจเบาๆดังลอดผ่านลำโพง ซึ่งรับสัญญาณเสียงจากเครื่องดังฟังที่เขาติดเอาไว้ในตะเข็บปกคอเสื้อของรัตติกร
ร่างเพรียวก้มหน้าลงซบกับเข่าขวา ค่อยๆชันขาซ้ายข้างที่บาดเจ็บขึ้นมา ผ้าพันแผลบนต้นขาขาวเนียนเริ่มมีสีแดงของเลือดซึมเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ หากแต่ก็ยังไม่มีเสียงร้องที่แสดงถึงความเจ็บปวดใดๆแว่วมาให้เขาได้ยิน
มีสติไม่โวยวายเมื่อรู้สึกตัว หาทางหลบหนีอย่างใจเย็น ความอดทนดีเยี่ยม...
เสียงสูดหายใจเฮือกใหญ่ๆดังขึ้นพร้อมกับขาซ้ายที่หยุดชะงักลง รัตติกรหยุดนิ่งไปหลายวินาที มีเพียงเสียงหอบที่ดังขึ้นท่ามกลางทุกสิ่งที่หยุดชะงัก และทันทีที่เสียงหอบหยุดไปเมื่อเจ้าตัวกลั้นหายใจก่อนจะงอขาซ้ายขึ้นมาชิดอกอย่างรวดเร็ว!
“อ๊า~!ฮ่ะ!”
เสียงครางหวานหูดังลั่นขึ้นมาก่อนจะหยุดไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเรียวสะบัดขึ้นเผยให้ลำคอระหงที่เกร็งจนสั่นระริก ลาร์เฟียร์ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วแล้วก้าวเข้าไปยืนแนบชิดกับกระจก ทันกับหยาดน้ำใสๆที่ไหลอาบแก้มเนียนแต่ไม่มีแม้เสียงใดที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ มือแกร่งยกขึ้นสัมผัสกับกระจกแผ่วเบา ไล้ปลายนิ้วช้าๆดั่งจะสามารถปาดน้ำตาที่ไหลรินของคนที่อยู่อีกฝั่งออกได้อย่างไรอย่างนั้น
รัตติกรซบหน้าลงกับเข่าอีกครั้งพร้อมกับหอบหายใจจนตัวโยน เลือดสีแดงสดไหลรินจากบาดแผล ทำให้ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดแปรเปลี่ยนเป็นแดงฉาน ชายหนุ่มนั่งเฉยอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยกเท้าให้มือทั้งสองข้างที่ถูกมัดติดกันอยู่ลอดผ่านไปได้ในที่สุด
เข็มขัดหนังสีดำรัดรวบข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยกัน รัตติกรยกมือทั้งสองขึ้น ใช้จมูกป่ายไปมาตามเข็มขัดอย่างคนกำลังสำรวจ ก่อนจะเริ่มใช้ปากและฟันในการดึงสายเข็มขัดออกอย่างรวดเร็ว ลิ้นสีชมพูเข้มแลบเลียเพื่อหารูของเข็มขัด ก่อนจะใช้ฟันดึงออกมาได้ในที่สุด เมื่อมือเป็นอิสระแล้ว ชายหนุ่มก็สามารถแก้ผ้าที่ปิดตาของตนออกได้อย่างง่ายดาย
ผิดกับเขาที่ยืนอยู่อีกฝั่งของกระจก ที่ตอนนี้อยากกลายเป็นเข็มขัดแทนซะเหลือเกิน....
@@@@@@@@@@@@@@@@@
กลับมาอีกครั้งกับการหายไปนานแสนนาน =[]= จะรีบมาต่อตอนไปในอีกไม่เกินสองชั่วโมงนะครับ
แต่ตอนนี้ทางที่ดี ชิ่งล่ะ!! :z10:
-
เอ่อ มีคำถามครับ ถ้าผมจะเปลี่ยนชื่อตรงหัวเรื่องให้แสดงว่าผมอัพแล้วเนี่ย กดเปลี่ยนตรงไหนเหรอครับ???
ผมทำไม่เป็นอ้าาาา :sad4:
-
ชอบอ่าค่ะ เนื้อเรื่อง dark ดี เอิ๊ก เอิ๊ก เค้าชอบมาเฟียในนิยายอ่ะ :-[
อีก 2 ชั่วโมงจริงป่ะค้า จารอน้าาาา
-
ชอบค่าชอบ มาต่อบ่อยๆนะ เนื้อเรื่องสนุกดีด้วยอ่ะ
ปล.แล้วจะรอน้าาา
^^
-
+1 เป็นกำลังใจครับ :L2:
เนื้อเรื่องน่าติดตาม :pig4:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.3
หลังจากแก้ผ้าปิดตาออก รัตติกรจึงสามารถมองเห็นสถานที่ๆเขาอยู่ได้อย่างเต็มตา มันเป็นห้องขนาดเพียงสี่คูณสี่เมตร มีเตียงขนาดใหญ่ที่ตอนนี้เขาเป็นผู้ครอบครองตั้งอยู่กลางห้อง ผนังฝั่งซ้ายขวาเป็นสีดำมันเงาคล้ายกระจก ส่วนผนังฝั่งหัวเตียงและปลายเตียงเป็นวอลเปเปอร์ลวดลายหรูหรา ประตูไม้สีน้ำตาลเข้มที่ผั่งปลายเตียงเป็นเพียงช่องทางเดียวที่จะทำให้เขาออกไปสู่โลกภายนอกได้...
ชายหนุ่มก้มลงมองสำรวจตัวเอง ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงในปกคลุมร่างอยู่เท่านั้น ตรงต้นขาซ้ายแผลส่วนที่ถูกยิงมีเลือดออกเยอะมาก หากแต่เขาเจ็บจนชา จึงยังไม่อนาทรร้อนใจอะไรมากนัก ชายหนุ่มค่อยๆลุกจากเตียง พิงกำแพงด้านซ้ายที่ใกล้กับประตูเอาไว้ แล้วค่อยๆพยุงร่างเดินไปจนถึงประตูได้ในที่สุด
ประตูไม่ได้ล็อก?
รัตติกรขมวดคิ้วเมื่อลองบิดกลอนประตูดู พอผลักเปิดออกเพื่อดูภายนอก กลับเห็นเพียงทางเดินที่ทอดยาว ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว ซึ่งมันผิดปกติเอามากๆที่เมื่อจับเขามาแล้วแต่ไม่ได้ขังเอาไว้ในห้อง แถมยังไม่มีคนเฝ้าอีกต่างหาก
หรือคิดว่าจับมัดแขนปิดตาเอาไว้แล้วเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้เช่นนั้นหรือ?
ดูถูกกันไปหน่อยมั้ง...
แต่ในเมื่อมีทางให้หนีแล้วเรื่องอะไรที่เขาจะนั่งจับเจ่าอยู่ในห้องอย่างนั้นให้โง่ รัตติกรก้าวออกมาจากห้อง มองทางที่ยังคงเงียบกริบ ก่อนชั่งใจเพียงชั่วครู่ แล้วจึงตัดสินใจเดินไปทางด้านขวา สุดทางเดินมีสิ่งที่เขาคาดเดาว่าน่าจะเป็นลิฟต์ แม้ใจอยากจะวิ่งไปให้ถึง แต่สังขารที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้ได้แค่เดินกะเผลกๆ ใช้ผนังเป็นหลักค้ำยันเดินไปข้างหน้าช้าๆ ทิ้งรอยเลือดเปรอะเปื้อนเป็นทางยาวไว้เบื้องหลัง
กว่าจะมาถึงลิฟต์ รัตติกรก็หน้าซีดเผือด ชายหนุ่มกดปุ่มเพื่อเรียกลิฟต์ แล้วยืนรอด้วยความทรมาน หยดเหงื่อผุดขึ้นตามไรผมพร้อมทั้งความเจ็บปวดที่ก้าวครั้งหนึ่งก็เหมือนกับก้าวเดินตามทางที่เต็มไปด้วยเข็มแหลมคมคอยทิ่มแทง สายตาพร่ามัวเหลือบมองเลขแสดงจำนวนชั้นที่เลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนประตูจะเลื่อนเปิดออกให้เห็นห้องโดยสารที่ไม่มีใครอยู่
ชายหนุ่มก้าวเขาไปในลิฟต์ กดเลขหนึ่งที่เขาคิดว่าเป็นชั้นล่างสุดแล้วพิงผนังรออย่างอ่อนแรง ความเครียดสะสมมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อต้องคิดว่าพอประตูเปิดออกแล้วเขาจะเจอกับอะไร
ดีไม่ดีคงมีคนมายืนรอยิงทื้งก็ได้ใครจะรู้...
รัตติกรยิ้มหยัน ก็แล้วจะทำไมเล่า ตายแล้วก็ไม่มีอะไรต้องเสียดายสักหน่อย ครอบครัวก็ไม่มี เพื่อนก็ไม่มี ยิ่งคนรักด้วยแล้วยิ่งไม่มีใหญ่ คนอย่างเขามีอะไรให้ใครมารักหรือ ชีวิตตัวคนเดียวของเขาจะมีใครมาเหลียวแลด้วยหรือไง ถ้าตายไปคนที่จะคิดถึงเขาก็คงมีเพียงแค่เหล่าเจ้านายทั้งหลายที่อยากได้เขาไปร่วมงานด้วยก็เท่านั้น
สิ่งเดียวที่เขาเสียดาย คือหากตายไปแล้ว ก็จะไม่มีวันได้อ่านหนังสือที่เขารักก็เท่านั้นเอง...
เสียงเตือนดังขึ้นเมื่อลิฟต์เลื่อนมาถึงชั้นที่ชายหนุ่มต้องการ ประตูเหล็กเลื่อนเปิดอย่างเงียบเชียบพร้อมกับที่เขาก้าวออกไปอย่างระแวดระวัง
เบื้องหน้าของเขาคือห้องโถงหรูหราที่สว่างได้ด้วยโคมไฟระย้าอันใหญ่ พรมหนาสีเลือดหมูปูอยู่ทั่วทั้งพื้นห้อง และสิ่งที่โดดเด่นอยู่ตรงกลางคือชุดโซฟาหนังหรูหราสีน้ำตาลเข้ม
ใครคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น...
ดวงตาสีสนิมที่แฝงประกายอำมหิตนั่นเขาไม่มีวันลืม... คนคนๆนั้นคือคนเดียวกับชายหนุ่มชาวอิตาลี่ที่มาช่วยบังกระสุนให้เขา และคงเป็นคนที่จับเขามาด้วย
“Per sfuggire, giusto? Luna (จะหนีไปไหน...ลูน่า)”เสียงถามนั้นราบเรียบ หากแต่แฝงแววเกรี้ยวกราด ชายหนุ่มตรงหน้าเขานั่งในท่าสบายๆแต่เปล่งประกายความมีอำนาจได้เต็มที่
ผู้ชายคนนั้นเรียกเขาว่าลูน่า...ลูน่าที่หมายถึงพระจันทร์ ซึ่งเป็นความหมายเดียวกันกับชื่อของเขา
(ต่อจากนี้ขอพิมพ์เป็นภาษาไทยนะครับ จะได้ไม่เยอะ)
“ผมชื่อรัตติกร”ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ชอบใจ
“รัตติกรก็แปลว่าพระจันทร์เหมือนกัน”อีกฝ่ายยังคงลอยหน้าลอยตาตอบ รัตติกรกัดปากด้วยความหงุดหงิดแล้วเถียงกลับไป ทันใดนั้นเองร่างสูงก็ผุดลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินมาทางเขา
“แต่ลูน่าเป็นชื่อของผู้หญิง”รัตติกรยังคงเถียงกลับ แต่ในใจเริ่มตื่นตระหนกเมื่อเห็นคนตรงหน้าก้าวเข้ามาหาในระยะประชิด
“ชื่อผู้หญิงก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่?”น้ำเสียงนั้นออกแววเยาะเย้ย มือหนายกขึ้นบีบปลายคางเรียวแล้วเชยขึ้นมาให้สบตา
“แต่ผมเป็นผู้ชาย”แม้ในใจจะหวาดหวั่นขนาดไหน รัตติกรก็เถียงกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงดวงตาสีสนิมจะมองสบด้วยประกายตาอำมหิตสักเพียงใด เขาก็จะไม่มีวันแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นอย่างแน่นอน!
“งั้นก็มาเป็นผู้หญิงของฉันซะสิ!”
@@@@@@@@@@@@@@@@@
เกินสองชั่วโมงมาหน่อย ไม่ว่ากันนะครับ :impress2:
จะรีบมาต่อนะครับ คงจะสักวันมะรืนได้ เพราะพรุ่งนี้น้องชายผมจะเข้าควบคุมคอมเครื่องนี้ทั้งวันเพราะวันนี้ผมแย่งมันเล่น แห่ะๆๆ
เอาล่ะ สู้โว้ย! :mc4:
แล้วเจอกันนะครับ!! o13
-
กรี๊ดดดด แนวมาเฟียอิตาลี ดูดุเดือดเลือดสาดดีแท้ :haun4:
รัตติกรท่าทางจะใจแข็งน่าดู อยากรู้จริงว่าพ่อหนุ่มมาเฟียจะกำราบยังไง :impress2:
+1 เป็นกำลังใจให้นะคะ
-
มาเฟียโหดร้าย
เอาใจช่วยลูนานะจ๊ะ
-
งานนี้สงสัยวัดกันที่กึ่นแล้วละ
นายเอกของเราก็ใช่ย่อยซะเมื่อไร o13 o13น้อง :กอด1:
-
สู้ต่อไปทาเคชิ :a2:
^^
:3123: :3123:
-
ฮ่วย ให้มาเป็นผู้หญิงซะงั้น
-
แรง.
อีตามาเฟียนี่หื่นนะเนี่ย
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.4
“งั้นก็มาเป็นผู้หญิงของฉันซะสิ!”
“ฮะ?”รัตติกรทำหน้าเหวอได้เพียงชั่วครู่ ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะฉกวูบเข้ามา เขารีบหันหน้าหนี แต่สัมผัสเปียกชื้นที่ไล้ขึ้นตั้งแต่ปลายคางไปจนถึงใบหูก็ได้ทิ้งร่องรอยอันร้อนผ่าวเอาไว้แทน…
“ไม่เห็นจะเข้าใจยากเลยนี่..?”
เสียงแหบพร่ากระซิบติดชิดริมหู รัตติกรหน้าร้อนวาบก่อนจะผลักร่างของคนตรงหน้าออกโดยแรง หากแต่มือแกร่งกลับรวบแขนทั้งสองข้างเอาไว้อย่างง่ายดาย
ลาร์เฟียร์ยกร่างของรัตติกรขึ้นพาดบ่า ชายหนุ่มไม่ทันจะส่งเสียงร้องประท้วง ก็ถูกอุ้มลงวางบนโซฟาตัวหรูอย่างที่ไม่กระแทกกระทั้นรุนแรง หากแต่ก็ไม่ได้นิ่มนวลเช่นกัน
“จะทำ..อะ...!”พูดยังไม่ทันจบประโยค ริมฝีปากหยักหนาก็โน้มลงมาประทับปิดกั้นเสียงร้องเอาไว้อีกครั้ง ลิ้นร้อนสอดลึกอย่างรวดเร็วจนรัตติกรไม่ทันแม้แต่จะปิดปากลง มือของอีกฝ่ายยังคงรวบแขนเขาเอาไว้แล้วยกขึ้นไปไว้เหนือหัว มันบีบรัดแน่นราวกับคีมเหล็ก ร่างใหญ่โถมทับแนบไปทั้งตัวจนไม่เหลือส่วนใดพอจะขยับหลบหนีไปได้
ถูกบังคับจูบแบบนี้อีกแล้ว ให้ตายสิเว้ย ใครมันจะไปยอม!
พอคิดเสร็จและกำลังจะลงมือกัดลิ้นของใครบางคนให้ได้เลือด แต่เหมือนอีกฝ่ายดูจะรู้ทันจึงเร่งโต้กลับให้คนไร้ประสบการณ์ต้องจำยอม!
“อื้อ...!”ปลายลิ้นของรัตติกรถูกดูดจนเขาชาวาบไปทั่วทั้งตัว ลาร์เฟียร์ไล้ปลายลิ้นไปตามแนวเหงือกแดงฉ่ำ ขบเม้มริมฝีปากนิ่มเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว แล้วเพิ่มความเร่าร้อนด้วยการบดเบียดร่างกายท่อนล่างของตนลงกับคนตรงหน้า
ร่างบางสะดุ้งเฮือก สัมผัสแปลกๆที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนลุกลามไปทั่วทั้งร่างกาย ก็วันๆเขาก็อยู่แต่กับหนังสือ จะไปเคยทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ถึงจะเคยอ่านเจอฉากแบบนี้บ้างก็เถอะ แต่เขาไม่เคยคิดแม้แต่น้อยว่าจะต้องมาเจอกับตัวเอง!
“อย่า...อ่ะ” ริมฝีปากหนาผละออกห่างพอให้รัตติกรได้เอ่ยปากห้าม ก่อนจะถูกประกบลงไปใหม่อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไรก็ตาม ในเวลาเช่นนี้คำเอ่ยใดก็คงไม่มีความหมาย ในเมื่อผู้จู่โจมกำลังลุ่มหลงริมฝีปากแดงๆตรงหน้านี่อย่างหยุดไม่ได้...
ไม่คิดเลย...ว่าจะมีแรงดึงดูดมหาศาลถึงเพียงนี้...
ลาร์เฟียร์เกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นเล็กอย่างเชี่ยวชาญ คอยพัวพันและดูดดึง หลอกล่อให้คนตรงหน้าสิ้นสติในการต่อต้านอย่างช้าๆ ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ยังคงสะท้อนประกายของความดื้อรั้นไม่ยอมคน หากแต่มันก็เริ่มสั่นพร่าไปด้วยแรงตัญหาที่ปะทุขึ้นมาเรื่อยๆ!
มาเฟียหนุ่มลดมือข้างหนึ่งลงมาปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเล็กอย่างรวดเร็ว ก่อนจะสัมผัสความเนียนนุ่มตั้งแต่หน้าท้องขาวเรื่อยไปจนถึงยอดอกสีหวาน ฝ่ามือหนาบีบเค้นไปทั่วร่างจนเนื้อตัวของรัตติกรเต็มไปด้วยรอยแดง จวบจนปลายนิ้วแกร่งบดขยี้เค้นคลึงหนักหน่วงที่ตุ่มไต หนุ่มชาวไทยจึงสะดุ้งเฮือกพร้อมกับความเสียวซ่านที่แล่นปราดไปทั่วร่าง!
“อ๊ะ!...อ่า...บอก...ให้หยุดไงเล่า!”
ลาร์เฟียร์ผละออกจากริมฝีปากบางที่แดงก่ำและบวมเจ่อ จูบย้ำๆลงไปที่ปลายคางแล้วลดระดับลงเรื่อยๆไปจนถึงต้นคอขาวผ่อง ขบเม้มทุกจุดจนเกิดรอยแดงช้ำประปราย แล้วเลื่อนไปขบกัดใบหูกลมนิ่มอีกครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่วๆที่เจือไว้ด้วยความขบขัน
“...ล้อเล่นน่ะ”
สติที่เกือบจะหายไปชัดเจนขึ้นอีกครั้งเพราะประโยคเมื่อครู่ หากแต่มันกลับมาพร้อมความโกรธที่ระเบิดออกมาเช่นกัน! รัตติกรสะบัดแขนที่ถูกเกาะกุมไว้จนหลุด มือเรียวกำแน่นก่อนจะต่อยออกไป เป้าหมายคือใบหน้าหล่อเหล่าร้ายกาจหากแต่ก็น่าโมโหจนอยากทำลายให้เสียสิ้น! ลาร์เฟียร์รับหมัดอย่างง่ายดาย หนุ่มชายอิตาลี่คุกเข่านั่งอยู่เหนือร่างของรัตติกรแล้วขยับรอยยิ้มหยันอย่างสมใจ
“ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นของคุณ!”คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความหงุดหงิดใจ รัตติกรสะบัดหัวเบาๆเพื่อไล่อาการตาพร่าจากการเสียเลือดและการออกแรงเมื่อครู่ ก่อนจะกลับไปจ้องตาเขม็งกับคนตรงหน้าด้วยแววตาวาวๆเอาเรื่อง
“อย่างกับว่าฉันจะสนนักนี่ ตอบคำถามของฉันมาได้แล้ว เธอกำลังจะหนีไปไหน”ดวงตาสีสนิมมองสบอย่างดุดัน พร้อมกับมือหนาที่บีบข้อมือของเขาแน่นจนปวดแปลบ! รัตติกรเม้มริมฝีปากน้อยๆ ข่มความกลัวที่พุ่งวูบขึ้นมาเกาะกุมจิตใจแล้วตวาดกลับไปอย่างไม่กลัวเกรง
“เรื่องของผม!”
“คงจะไม่ใช่แค่เรื่องของเธอ เพราะคนที่พาเธอมาที่นี่ก็คือฉัน ดังนั้นฉันก็ต้องรับผิดชอบในความเป็นอยู่ของเธอเช่นกัน รัตติกร”
“ผมดูแลตัวเองได้! ขอบคุณ”
ความหงุดหงิดเริ่มเข้ามาแทนที่ความกลัว คนอย่างเขาแทบจะเรียกได้ว่าอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยต้องพึ่งพาใครหากไม่จำเป็น!
“อวดดีเหลือเกินนะ”หนุ่มอิตาลี่กล่าวเหยียด หากแต่รัตติกรก็มีความทะนงตนมากพอ ความรู้มากมายที่ได้มาจากหนังสือรวมทั้งภาษาต่างๆที่เขาสามารถใช้ได้ทำให้เขาคิดว่าถึงอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็ใช้ชีวิตได้ทั่วทั้งโลก ดังนั้นที่บอกว่าดูแลตัวเองได้จึงไม่ใช่การอวดดี แต่เพราะเขามั่นใจจริงๆ
”ฉันอยากจะรู้เสียจริง ว่าตัวเปล่าๆอย่างเธอจะทำอะไรได้ในอิตาลี่ โดยไม่มีทั้งวีซ่า พาสปอร์ต หรือกระทั่งบัตรนักเดินทาง”
“ใน...อิตาลี่?”
แทนคำตอบ ลาร์เฟียร์เดินกลับไปหาโต๊ะกระจกที่มุมหนุ่งของห้อง หยิบรีโมทอันเล็กสีดำสนิทขึ้นมาแล้วหันไปทางผนังด้านหนึ่งที่ว่างเปล่า จากนั้นจึงกดปุ่มๆหนึ่ง...
ทันใดนั้นผนังห้องที่อยู่ตรงข้ามกับลิฟต์ก็เลื่อนเปิดออก เผยให้เห็นหน้าต่างที่ทำจากกระจกแผ่นเดียวทั้งบาน ทิวทัศน์ของอ่าวจันทร์เสี้ยวในแทบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา มันเป็นภาพที่รัตติกรจำได้ ความทรงจำจากในหนังสือนำเที่ยวประเทศอิตาลี่ผุดขึ้นในหัว ปรากฏขึ้นเป็นภาพชายทะเลชื่อดังในเมืองแห่งมาเฟีย เมืองปาเลอร์โมในแคว้นซิซิลี ประเทศอิตาลี่...
“ยินดีต้อนรับสู่มอนเดลโล...ลูน่าของฉัน...”
ตอนนั้นเองก่อนที่สติของเขาที่ดับวูบลง ลางสังหรณ์บางอย่างของรัตติกรได้ผุดวาบและแผ่ขยายมาตามไขสันหลัง สังหรณ์นั้นกระซิบถ้อยคำบางอย่างอันแสนจะตราตรึง ก่อนที่สติของเขาจะเลือนหายไปพร้อมกับความมืด...
มันบอกว่า จากนี้ไป ชีวิตของเขาจะไม่มีวันเหมือนเดิม...
v
v
v
v
v
v
-
ไขข้อข้องใจเล็กน้อยเผื่อบางคนอาจจะสงสัยนะครับ
มอนเดลโลคือชื่อของหาดแห่งหนึ่งในเมืองปาเลอร์โม เมืองหลวงของแคว้นซิซิลี(บางคนก็เรียกเป็นเกาะ) ประเทศอิตาลี่ครับ
คนแต่งไม่เคยไปเองหรอกครับ 555 :-[
แต่ชอบเลยหาเปิดดู กูเกิ้ลเอิร์ทหนุกหนานเลยทีเดียว o13
ตอนหน้าคงโผล่มาหลังสงกรานต์นะครับ สักประมาณวันที่17 เพราะผมไปบ้านยายที่สุรินทร์ อยู่นั่นไม่มีเน็ตให้ใช้ง่ะ แหะๆๆ
แล้วเจอกันนะคร้าบบบบ
(เม้นกันเยอะๆเน้อออ แบบว่าพออ่านเม้นแล้วมันชื่นนนนนนนนใจน่ะครับ :กอด1:)
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับทุกคน ขอให้มีความสุขกับปีใหม่ไทยมากๆ เมาไม่ขับนะครับ แอบหลับระวังโดนลัก(หลับ)นะครับ!
ปล.สาดน้ำใส่ทุกคนก่อนจะไม่ได้สาดครับ
เอ้า! สาดดดดดดดดดดดดดดดด น้ำ!!! :laugh:
-
ดุเดือดกันซะจริ้งงงง
-
สนุกมากค่า ชอบเรื่องทำนองที่สุด น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ข้อมูลก็แน่นพอเห็นภาพเมืองนอกได้เลย
อย่าลืมมาต่อไวๆนะคะ อยากให้หนูลูน่าถูกบังคับเยอะๆหน่อย สะใจดี แต่อย่าทารุณเกินนะ เอ็นดูน้องหน่อย
ฮุฮุฮุ :z1: :z1:
-
:เฮ้อ:สงสารนายเอก
ตัวคนเดียวแล้วมาเจอมาเฟียเอาแต่ใจอีก
-
รติกรจะเลือดหมดตัวแล้วนะนั้น :angry2:
ชอบรติกรน่ารักดี :-[
-
หนุกหนานระทึกได้อีกจริงๆ
-
สางสารรติกร :serius2:
เป็นลมหมดสติไปแล้ว อย่างนี้เมื่อไหร่แผลจะหาย
-
ผู้แต่งบอกว่าเพิ่งเคยแต่งเรื่องแนววายเหรอครับ
แต่ดูจากฝีมือแล้วไม่ธรรมดาเลยนะนี่ ขนาดว่าแต่งแนวนี้ครั้งแรก
แล้วจะคอยติดคามคร้าบ ชอบผลงานคุณมากๆ + ไปเลย o13
-
เที่ยวสงกรานต์ให้สนุกและเดินทางโดยปลอดภัยครับ
แล้วอย่าลืมมาแต่งนิยายเรื่องนี้ให้จบนะครับ
+1แล้วขอกอดแน่นๆ :กอด1:
-
นู๋รัก SM ค่ะ :z1: 555+
O//O อุ้ย พูดอะไรไปน่ะ
>///< :oo1:
-
มารอนะคะ เห็นว่าจะกลับมาวันนี้ใช่ไหม อย่าลืมมาต่อนะ เราชอบเรื่องนี้มั่กๆๆๆๆๆๆๆ คิดถึงนะค้าาาาาาาาาาาาา :-[ :-[
-
ดีน่ะที่สลบไปก่อนไม่งั้นได้เสียเลือดอีกแน่ๆๆๆ
55555555
-
ใจร้ายจริงลากมาถึงอิตาลีเชียวรออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบ
-
เห็นชื่อเรื่องเป็นภาษาอิตาลี คิดว่าแปลกดี เลยเข้ามาอ่าน
แล้วก็ไม่ผิดหวังง o13
ชอบแบบนี้!!
แอบจิ้นหนูลูน่าใส่เสื้อเชิ้ต กับกุงเกงใน :z1:
รอตอนต่อไปค่าาา =]
-
มารอค่า มาไวๆๆ เ้ค้ารออยู่นะ :-[
-
รออยู่นะคะ
>///<
-
หึๆๆๆ คู่นี้น่าลุ้น
ราชสีห์หนุ่มน้อยผู้ห้าวหาญ vs เจ้าพ่อมาเฟียซิซิลีสุดโหด(+ซาดิสต์บ้างเป็นบางเวลา???)
ปล. รอตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ :L2: :L2: :L2:
ปล2. สุขสันต์วันสงกรานต์ ขอให้เที่ยวอย่างมีความสุขน้า
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.5
รัตติกรถูกเขาขังเอาไว้ในห้องจนเกือบครบสัปดาห์แล้ว…
อันที่จริงลาร์เฟียร์ไม่ได้ตั้งใจที่จะจับเจ้าราชสีห์หนุ่มไปขังไว้แบบนั้น แต่ทันทีที่ฟื้นขึ้นมา รัตติกรก็พยายามหาทางหนีออกไปอีกจนแผลเปิดอีกรอบ แม้จะถูกจับกลับมาแต่ก็ยังพยายามหาทางหนีออกไปใหม่แทบทุกครั้งที่มีโอกาส และทุกครั้งที่หมอนั่นหนีออกไปและถูกเขาจับกลับมาได้ ก็มักจะได้รับทั้งแผลเล็กแผลน้อยกลับมา รวมทั้งแผลเก่าที่เปิดแล้วเปิดอีก ฉีกแล้วฉีกอีก
สุดท้ายหมอที่เขาเรียกมาดูแลอาการของรัตติกรก็บอกว่า ถ้าหากรัตติกรหนีออกไปแล้วแผลเปิดอีกครั้งเดียว เขาคิดว่าตัดขาทิ้งไปเลยน่าจะง่ายกว่า และเพื่อไม่ให้เจ้าราชสีห์จอมพยศตัวนี้ต้องพิการไป ลาร์เฟียร์จึงจำเป็นต้องจับสิงโตดื้อมาล่ามเอาไว้กับเตียง และสั่งให้คนมาเฝ้าทั้งในและนอกห้องตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
เข้าสู่วันที่เก้าตั้งแต่ที่เขาจับรัตติกรมา วันนี้เขาก็ยังคงสนุกสนานกับการเล่นหมาหยอกไก่กับรัตติกรอยู่เช่นเคย...
“ลูน่า อ้าปากเดี๋ยวนี้!”
“....”คนที่ถูกเรียกยังคงนิ่งเงียบ ใบหน้าสวยได้รูปเบือนหนีไปอีกทาง แสดงอาการชัดเจนว่าปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง
ลาร์เฟียร์เลิกคิ้วมองคนตรงหน้าอย่างขบขัน ร่างสูงเพรียวนอนราบอยู่กับเตียงในชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่ชายเสื้อยาวเลยไปถึงต้นขาเปลือยเปล่า เมื่อใดที่เจ้าของร่างขยับเปลี่ยนท่า ชายเสื้อก็จะเปิดพะเยิบพะยาบ พอให้ได้เห็นอะไรวับๆแวมๆ ถึงจะรู้ว่าส่วนสำคัญยังมีกางเกงชั้นในเป็นปราการป้องกันอยู่ก็เถอะ แต่ในความคิดของเจ้าพ่อมาเฟียเช่นเขา แบบนี้มันยิ่งดูเซ็กซี่มากกว่ามองร่างกายเปล่าเปลือยเป็นไหนๆ
“ถ้ายังไม่ทำตามอีก ฉันว่าเปลี่ยนจากการป้อนอาหารดีๆแบบนี้ไปเป็นสอดท่ออาหารเหลวแทนดีไหม? สอดสายยางเข้าไปทางจมูกน่ะ เธอรู้จักใช่มั้ยลูน่า”
พอกล่าวจบรัตติกรก็ส่งสายตาเขียวปัดมาให้ทันควัน ท่าทางอยากทำร้ายเขาเต็มแก่ หากแต่ทั้งมือทั้งขากลับถูกล่ามติดมุมเตียงทั้งสี่ด้วยโซ่อย่างแน่นหนา ลาร์เฟียร์เลิกคิ้วมองกวนๆ พร้อมกับยื่นกุ้งตัวโตที่ถูกเสียบอยู่บนส้อมเงินอย่างดีไปจ่อตรงปากแดงๆที่เม้มแน่น
“เอ้า กินเข้าไปสักที ฉันอุตส่าห์มาป้อนถึงข้างเตียงเลยนะ”
“ก็ไม่ได้ขอ...”
“เลิกสร้างปัญหาได้มั้ยลูน่า!”
“คุณนั่นแหละเอาปัญหามาให้ผม!”
ดวงตาสองคู่จ้องสบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ลาร์เฟียร์จะฉีกยิ้มเหี้ยมเกรียมแล้วตะโกนเรียกลูกน้องด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ...
“นายน่ะ มานี่ซิ”สิ้นเสียงเรียกของนายใหญ่แห่งปาเลอร์โม ชายหนุ่มร่างยักษ์ที่เป็นคนเผ้าห้องก็วิ่งตรงเข้ามารับคำสั่งอย่างรวดเร็ว
“ไปบอกหมอว่าให้เตรียมท่อส่งอาหารเหลวมาด้วย คนไข้ทานเองไม่เป็น!”
“ครับดอน”รับคำเสร็จร่างยักษ์ก็ทำท่าจะออกไปตามหมอจริงๆ รัตติกรหรี่ตาลงอย่างหงุดหงิดแล้วรีบตะโกนห้ามก่อนที่การ์ดคนนั้นจะไปตามหมอขี้บ่นมาเอาสายยางมาสอดเข้าจมูกเขา
“ไม่ต้อง ฉันกินเองได้!”
“กินเองได้ก็อ้าปากสักทีสิ เอ้า”
“ผมกินของผมเองได้ คุณไม่ต้องมาป้อน ผมโดนยิงที่ขา ไม่ได้ง่อยไปทั้งตัว!”
“จะให้ฉันปล่อยเธองั้นเหรอ ลูน่า? จะได้หนีไปอีกล่ะสิ”
“ปล่อยแขนข้างเดียวผมก็กินได้แล้ว! อีกอย่างผมชื่อรัตติกร! เรียกให้ถูกสักที”
สายตาสองคู่ยังคงจ้องเขม็งกันอยู่เช่นเดิม การ์ดเฝ้าห้องมองเจ้านายตัวเองที คนป่วยที ก่อนจะถอยกลับไปยืมมุมห้อง คอยมองความสนุกสนานของนายเพื่อที่จะได้เอาไปเล่าต่อ คนอื่นคงไม่เชื่อเป็นแน่ว่าของเล่นของนายคราวนี้ดูท่าจะเข้าตามากเป็นพิเศษ ไม่เคยนึกเคยฝันว่าจะได้เห็นเจ้าพ่อแห่งปาเลอร์โมคนนี้ถือช้อนป้อนข้าวให้คนอื่นเองกับมือ!
“ปล่อยก็ได้ แต่ฉันจะเรียกเธอว่าลูน่าอยู่ดี ไม่ต้องพยายามเรียกร้องหรอก เงียบๆแล้วกินซะก็สิ้นเรื่อง”ลาร์เฟียร์ว่าพร้อมกับพยักหน้าให้ลูกน้องคนหนึ่งก้าวเข้ามาปลดโซ่ที่แขนขวาของรัตติกรออก
หนุ่มชาวไทยถอนหายใจ ก่อนจะรับจานใส่กุ้งตัวโตมาวางไว้ที่ตัก ใช้มือขวาหยิบส้อมขึ้นมาหาแต่ก็ยังไม่ยอมกินลงไป
“รออะไรอยู่ล่ะ ปล่อยแล้วก็กินเข้าไปสักทีสิ”
“รู้แล้วน่ะ คะยั้นคะยอให้กินจริง คุณใส่ยาพิษไว้รึไง”
รัตติกรถอนหายใจอีกเฮือก มองกุ้งที่ปลายส้อมก่อนจะตัดใจเอามันเข้าปากไปในที่สุด จากนั้นก็ยกจานส่งกลับไปให้ลาร์เฟียร์ที่นั่งอยู่บนเตียงเดียวกัน
“อะไร? กินแค่นี้เองเหรอ เสียของไปหน่อยมั้ง”
“กินเท่านี้ก็พอแล้ว เดี๋ยวไม่ไหว”
“ไม่ไหวอะไร?”
“...ผมแพ้กุ้งน่ะ”ว่าจบรัตติกรก็ยักไหล่เบาๆคล้ายไม่ใส่ใจ ผิดกับอีกคนที่เปลี่ยนสีหน้าไปทันควันเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่
“แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก! คายออกมาเดี๋ยวนี้เลย!”มือหนาบีบกรามเพื่อให้ริมฝีปากแดงอ้าออก ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปถึงคอจนรัตติกรสำลัก! ฟันขาวกัดนิ้วที่ล่วงล้ำเข้ามาในปากอย่างแรง ลาร์เฟียร์จึงเผลอดึงนิ้วที่สอดอยู่ในปากของรัตติกรออก
“จะมาล้วงคอผมทำไมเล่า!”
“จริงๆเลยนะรัตติกร ทำไมเธอถึงชอบหาเรื่องเจ็บตัวอยู่เรื่อย”ลาร์เฟียร์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ พร้อมกับหันไปบอกการ์ดที่มุมห้องให้ไปเรียกหมอมา
“กุ้งแค่ตัวเดียวผมไม่เป็นอะไรหรอก ผื่นขึ้นนิดเดียวไม่ถึงกับตายซะหน่อย”รัตติกรว่า มือเรียวยกขึ้นถูที่คอเบาๆ รอยแดงเป็นปื้นเริ่มปรากฏบนผิวขาวเนียน
“ไม่ถึงกับตายก็ใช่ว่าเธอจะไม่ดูแลตัวเอง และตอนนี้เธอก็อยู่ในความดูแลของฉันด้วย”ลาร์เฟียร์ว่าพร้อมกับเชยคางเรียวขึ้นเพื่อมองรอยแดงที่ลามไปทั่วลำคอ
....คำพูดนั้นไม่ได้แสดงออกว่าเป็นห่วงอะไรมากมาย ดูเหมือนจะเป็นการบอกว่าทำดีด้วยก็เพราะมีผลกับตนเองก็เท่านั้น หากแต่คนฟังอย่างรัตติกรกลับหัวใจกระตุกวูบ...
ถึงไม่เป็นห่วงแต่ก็ยังใส่ใจ...
มันเป็นแค่ความปรารถนาดีเพียงเล็กน้อย...
แต่ถึงจะเล็กน้อย....เมื่อก่อน เขาก็ไม่เคยได้รับ...
“ผมตายก็ไม่เห็นเป็นไรสักหน่อย คุณเอาผมไปฝังไว้เฉยๆก็ไม่มีใครเขาสนใจหรอก”รัตติกรยิ้มเยาะตัวเองเล็กน้อยพร้อมกับไหวไหล่แบบไม่สนใจเช่นเคย
หากแต่ลาร์เฟียร์กลับยิ้มขรึม ดวงหน้าหล่อเหล่าร้ายกาจโน้มลงจนชิดกับอีกฝ่าย พร้อมกับกระซิบถ้อยคำบางอย่าง แล้วแนบริมฝีปากลงประทับ ปิดกั้นคำต่อล้อต่อเถียงใดๆที่จะลอดออกมาให้ได้ยินอีก...
“แต่ฉันสนทุกเรื่องของเธอ....”
-
อัพแล้วครับ มาช้ากว่าที่บอกไว้เล็กน้อยไม่ว่ากันน้า :call: :o8:
สงกรานต์ผมนี้ไม่โดนสาดน้ำเลยครับ น่าน้อยใจจริงๆ (ก็ไม่ได้ออกไปเล่น จะบ่นทำไม :z6:)
นิยายเรื่องนี้ผมแต่งสดนะครับ พล็อตอะไรก็ไม่มี ที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะอยู่ๆก้คิดถึงเรื่องลักพาตัวกับมาเฟียเฉยๆ
แต่งเสร็จตอนนึงกลับไปนอนคิดตอนต่อไป ดังนั้นอะไรๆก็เป็นไปได้ (ถ้ามีปาปริก้า...ไม่ใช่! :z6:)
มีอะไรก็ติชมได้นะครับ เจอคำผิด การเว้นวรรค ตัวหนังสือเล็กเกินไป คนเขียนน่าตบ บลาๆๆ มีอะไรบอกได้เสมอครับ :laugh:
ผมรักทุกคนครับ เลือกผมกาเบอร์สามนะครับ 555
(ไปแล้ววว เดี๋ยวโดนจริง 555)
-
มาเสียดี ดีใจจัง คิดถึงนะค่า แต่มาต่อก็ยังให้น้องลูน่าเจ็บตัวน่าสงสารเหลือเกิน ยังไงถนอมไว้หน่อยนะ
ไรเตอร์เหมือนเราเลย เวลาเขียนไม่ชอบคิดพล๊อตเรื่อง ถ้าเราอยู่หน้าคอมฯเมื่อไรไอเดียก็มาเองแหละ เน้อะ
ขอบคุณที่มาต่อ อย่าลืมมาอัพไวๆนะคะ อย่าให้รอนาน(อย่าลืมฉากxxx ด้วย เฝ้ารอด้วยใจหวังเลยล่ะ ฮี่ฮี่ฮี่) :-[ :-[
-
ก็อยากบอกว่าต้องขอชมคนเขียนอยู่ดีครับ ว่าเขียนได้ดีมากสมกับเป็นนิยายรักเพราะบรรยายให้รู้สึกถึงอารมณ์ของตัวละครได้ดีมากจริงๆ
คำผิดก็น้อยจนแทบไม่มีเลยแสดงว่าเอาใจใส่ดีมากคร้าบ + ซะเลย o13
-
อ่านเม้นแล้วชื่นจายยย :man1:
ตอนต่อไปคงจะมาต่อมืดๆค่ำๆอีกเหมือนเคยล่ะครับ
(เป็นอะไรไม่รู้ชอบเขียนนิยายตอนกลางคืน กว่าจะเสร็จทีก็ตีสามตีสี่ อุวะ!)
กว่าจะถึงฉากเรียกเลือดเต็มพิกันก็คงอีกนานมั้งครับ ถ้าถูกกินเร็วเกินไปก็ไม่ใช่รัตติกรสิครับ :laugh:
ดังนั้นเอาฉากเรียกเลือดเล็กๆน้อยๆพอหอมปากหอมคอไปกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีเป็นระยะไปก่อนนะครับนักอ่านที่รักทุกคน
เม้นเยอะๆนะคร้าบ แบบว่าพอถึงเวลาตันแล้วมาอ่านคอมเม้นที่ทุกๆคนมาเขียนเอาไว้ให้ มันก็อยากเเต่งต่อให้เสร็จเร็วๆอ่ะครับ
พอรู้ว่ามีคนรอคอยผลงานของเราอยู่แล้วมันรู้สึกดีอ่ะฮะ ประมาณนั้น :monkeysad: รักพวกคุณจังเลยยยยย
ตอนหน้าเจอกันตอนประมาณตีสี่ สวัสดีครับท่าน :z2:
-
ที่ว่ามาต่อตอนตีสี่น่ะ ตีสี่ของวันไหนมิทราบ จะได้มารอได้ถูกวัน
อย่าลืมนะ ถนอมนายเอกหน่อยฉากหวานเยอะๆหน่อย ส่วนฉากxxx อย่าให้รอนานน้องลูน่าเขาน่าหม่ำออกอย่างนี้
เอาแค่ABC ก็ได้ ไม่ต้องถึงขั้นxxx เราอยากได้จริงๆนะ ฮี่ฮี่ฮี่อยากเห็นนายเอกถูกรังแกไวๆ มาเม้นต์ให้กำลังจายนะคะ
อย่าลืมมาต่อไวๆ แล้วอย่าลืม!!! ฉากนั้นต้องอลังการหื่นxคูณ100 เลยนะ เค้าอยากได้
แท้งกิ้วล่วงหน้า :bye2:
-
พึ่งเข้ามาอ่านนะคะ ....ชอบSMมาก กร๊าก
รออ่านนะคะ :L2:
-
สนุกมากเลย รอมาต่อนะค่ะ
-
ว้าววววววว
หวานแบบโหดๆๆๆ อิอิ
รออ่านตอนต่อไป
เริ่มไหวหวั่น นิดๆๆๆอะจิ อิอิ
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.6
รัตติกร สันติสงคราม ไม่เคยคิดมาก่อนว่าในชีวิตของตนเองจะได้พบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้….
สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาหายไป!
ตั้งแต่เริ่มอ่านหนังสือออก ไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะไม่ได้อ่านหนังสือที่เขารัก จะเป็นไข้ไม่สบายขนาดไหนปางตายเพียงไร ขอแต่ได้อ่านฉลากยาข้างขวดเขายังมีความสุข แต่ตอนนี้เขาขาดมันไปเกือบอาทิตย์แล้ว!
จริงอยู่หลายวันที่ผ่านมาก็ควรจะทำให้เขาคลั่งได้ แต่สามวันแรกเค้าก็หมดสติไปจากการเสียเลือดมาก วันต่อๆมาก็มีทั้งฤทธิ์ยาที่ทำให้ง่วงเกือบตลอดเวลา หัวสมองที่ต้องคิดแต่การหาทางหนีออกไปจากที่นี่ รวมทั้งมีคนบางคนมาคอยดึงความสนใจ ทำลายอารมณ์อันแสนมั่นคงของเขาให้แหลกสลายเป็นฝุ่นได้ภายในพริบตา
แต่เพราะเมื่อวานที่คนๆนั้นพูดเอาไว้ เพียงแค่คำพูดและการกระทำ แต่ก็ทำให้เขาหยุดความคิดที่จะหนีออกไปจากที่นี่ ไม่ใช่ว่าเพราะเขาใจง่ายหรือหลงไปตามอารมณ์ของคนอื่น แต่มันทำให้เขาพอจะมั่นใจได้ ว่าคนๆนี้จะไม่ฆ่าเขา อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่....
พอตัดเรื่องที่ต้องคิดมากออกไป ประจวบเหมาะกับยาที่ต้องกินเหลือแค่เพียงยาบำรุงที่ไม่มีผลอะไรต่อสติสัมปะชัญญะ อีกทั้งคนที่คอยมาสร้างความรำคาญใจวันนี้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ถือเป็นวันแรกที่เขาได้อยู่กับตัวเองโดยมีสติสมบูรณ์ครบถ้วน ไม่มีสิ่งใดมารบกวน ซึ่งมันทำให้เขาสำนึกขึ้นมาได้ ว่าเขาห่างจากเพื่อนรักเพื่อนตายตั้งแต่เด็กของตนเองไปแล้วกี่วัน ยาวนานเกินไปจนเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา ความรู้สึกเดิมๆที่เคยกักเก็บเอาไว้ก็แผ่ขยายจนครอบคลุมความคิดทั้งหมดของเขา ปิดกั้นสติทั้งมวลและพามันหายกลับเข้าไปในความมืดมิดอันแสนน่ากลัวอีกครั้ง!
เพื่อนเพียงหนึ่งเดียว ที่ช่วยให้เขาหลบหนีจากความรุนแรงในอดีต ช่วยให้หลุดพ้นจากความทรมานอันแสนมืดมิดน่าขยะแขยง สร้างโลกใบใหม่ที่แสนสวยงาม และสอนให้เขารู้จักโลกทั้งใบโดยไม่จำเป็นต้องออกไปเผชิญสิ่งใดให้ต้องเจ็บปวดอีกครั้ง!
แต่ที่นี่ไม่มีเพื่อนของเขา!
เพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของเขา!!
สิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวในชีวิตของเขา!!!
“หนังสือ...ของฉัน...........”
”อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!”
@@@@@@@@@@@@@@@@@
เสียงร้องลั่นที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้องข้างๆของรัตติกร ซึ่งเป็นที่ที่ลาร์เฟียร์จับจองใช้มันเป็นห้องทำงานชั่วคราวเพื่อคอยสังเกตคนป่วยจากแดนไกลในระยะใกล้ชิด
มาเฟียหนุ่มสะดุ้งเฮือกเพราะเสียงนั้นแล้วละมือออกจากเอกสารตรงหน้า รีบหันไปมองอีกฟากของกระจกที่มีเจ้าของเสียงร้องเมื่อครู่นอนแผ่หราอยู่บนเตียง มีการ์ดคนที่เฝ้าอยู่ในห้องยืนละล้าละลังอยู่ข้างเตียงอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี แผ่นอกขาวเนียนสะท้อนขึ้นลงน้อยๆภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวบางเบาจากอาการหอบเพราะใช้แรงทั้งหมดไปกับการตะโกน ก่อนที่ร่างนั้นจะเกร็งขึ้นอีกครั้งพร้อมกับส่งเสียงร้องดังสนั่นที่ฟังดูแสนทรมานนั่นอีกรอบ
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”
“เกิดอะไรขึ้น?”ลาร์เฟียร์พึมพำกับตัวเองเบาๆแล้วรีบลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องข้างๆที่ยังมีเสียงดังโวยวายออกมาเป็นระยะ การ์ดสองคนหน้าห้องเมื่อหันมาเห็นเจ้านายหนุ่มเดินมาก็รีบเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่
เพียงแค่เปิดประตูเข้าไปเสียงร้องลั่นก็เป็นสิ่งแรกที่เขาได้รับจากโสตประสาท เรือนร่างเพรียวบางถูกล่ามไว้อยู่บนเตียงหลังใหญ่ มือเรียวสวยทั้งสองข้างจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น ข้างเตียงมีการ์ดร่างยักษ์คนเดิมที่หันมามองทางเจ้าพ่อหนุ่มทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามา
“ดอนครับ คุณลูน่าเค้า...”
“ออกไปก่อน”
“ครับ”
การ์ดร่างยักษ์ก้มศีรษะรับคำ ก่อนจะรีบเดินออกไปโดยไม่ลืมปิดประตูล็อกกลอนให้เรียบร้อย ลาร์เฟียร์เดินไปยังร่างของคนที่ตอนนี้หยุดส่งเสียงเพื่อให้ตนเองได้พักหายใจ ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่เคยคมกล้าแวววาวบัดนี้ปิดสนิท หยาดน้ำแวววาวทิ้งร่องรอยจางๆไว้ตรงข้างขมับทั้งสองข้างตามทางไหลผ่านของสิ่งที่เรียกว่าน้ำตา....
ลูน่าของเขาเป็นอะไร...?
คิ้วเรียวที่พาดผ่านเหนือดวงตาคู่สวยขมวดแน่นจนคนมองยังอดรู้สึกเครียดตามไม่ได้ ริมฝีปากสีแดงชาดเผยอขึ้นอีกครั้งบ่งบอกสัญญาณว่าเจ้าตัวจะร้องขึ้นมาอีกรอบ เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มจึงตัดสินใจให้ริมฝีปากของตนเองปิดกั้นเสียงร้องที่ฟังดูทรมานนั้นเอาไว้
สัมผัสหวานล้ำยังคงซาบซ่านอยู่เช่นเคย ปลุกกระแสอารมณ์ที่ผุดขึ้นเพราะแรงตัญหาได้อย่างรวดเร็ว หากแต่ครั้งนี้มันมากกว่าครั้งไหนๆ เพราะมันไร้ซึ่งการต่อต้านอย่างที่เคยเป็นมา!
“อื้ม~....อือ”
เสียงครางผะแผ่วเพราะแรงอารมณ์ลอดออกมาจากลำคออย่างที่ลาร์เฟียร์ไม่เคยได้ยินมาก่อน ลิ้นนุ่มที่เลิกต่อสู้ดิ้นรนอย่างทุกครั้งที่เขาสัมผัสกลับพัวพันตอบรับอย่างดูดดื่ม จุมพิตที่เคยถูกต่อต้านเสมอมากลับได้รับการตอบสนองอย่างเท่าเทียมกัน!
เกิดอะไรขึ้น!?
มาเฟียหนุ่มผละออกจากริมฝีปากหอมหวานอย่างเสียดาย ก่อนจะเลื่อนดวงตาคมกริบสีสนิมของตนขึ้นมาหาใบหน้าที่อยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งฝ่ามือกั้น พวงแก้มที่เคยขาวซีดกลับแดงปลั่งแลดูนิ่มนวลแม้ไม่ได้จับต้อง แพขนตาหนาหรี่ปรือเปิดเผยประกายตาวาบหวามล่องลอยซึ่งทอดมองมาที่เขาอย่างยั่วยวน ก่อนที่เสียงกระซิบแหบพร่าทว่าอ่อนหวานจะดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ....
“....เอาอีก”
สิ้นประโยคนั้น ลาร์เฟียร์ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องทนอีกต่อไป!
ตอนหน้า เสียเลือดกันดีมั้ยนะ? :z2:
v
v
v
v
v
v
v
v
v
-
ขอโทษนะครับที่มาช้ากว่าที่บอกไว้ บังเอิญเจอเรื่องให้อารมณ์มันเฟลจนถึงขึ้นเขียนไม่ออกนั้นแหละครับ
(บางทีมันอาจเป็นสาเหตุให้รัตติของผมสติหลุดในตอนนี้...โอย หดหู่)
สำหรับเด็กอายุแค่17ปีแบบผม วันหนึ่งคนที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตลอด5ปีก็กลายมาเป็นแฟน
เพื่อนสนิทที่เข้ามาบอกว่าชอบก่อน เริ่มมาจีบ เริ่มเข้ามาในชีวิตของผมเรื่อยๆ
จนวันนึงที่ผมชอบเขาเข้าเหมือนกัน วันเวลาที่แสนหวานก็เกิดขึ้นเพียงชั่วสั้นๆ
ก่อนที่วันนึง เค้าจะส่งข้อความมาว่า อยากอยู่คนเดียว... ในวันที่เป็นวันเกิดของผม
จากนั้นเค้าก็หายไป หายไปโดยที่ผมไม่รู้สักนิดว่าทำผิดอะไร ไม่ได้รับแม้กระทั่งคำอธิบาย
จนกระทั่งผ่านมาเดือนกว่า เดือนกว่าที่ผมพยายามลืมว่าเคยมีเค้าอยู่ในชีวิต
ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเขาไว้เป็นอดีตที่ไม่อยากจดจำ
อยู่ๆเค้ากลับมาขอคืนดี แต่เป็นในฐานะของเพื่อน...
ทำเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆที่จู่ๆอยากไปก็ไป อยากกลับมาก็ทำตัวสบายๆ
พูดแค่ว่าโทษที ช่วงนั้นเราไม่ค่อยว่าง...
แล้วความรู้สึกของผมล่ะ จะยังไงก็ได้เหรอ
ส่วนเหตุผลที่เขาจากผมไปน่ะเหรอ ผมไม่ได้รู้จากตัวเขาเองหรอก
ไปถามเพื่อนเขามาอีกทีตอนที่ปรึกษาเรื่องที่เค้ามาขอคืนดีด้วย
คุณรู้มั้ยเขาจากผมไปด้วยเหตุผลอะไร เขาบอกว่า ผมไม่ใช่...แต่ตอนนั้นผมชอบเค้าไปแล้วเค้าไม่อยากให้ผมเสียใจ เลยหนี!
ผมโกรธมาก ไม่ใช่โกรธที่เขาบอกว่าผมไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเค้า
แต่โกรธเพราะเค้าไม่เคยนึกเลยว่า
ผมที่ก่อนหน้านั้นเป็นเพื่อนกับเค้า5ปีจะจบมิตรภาพของเรากับเรื่องเท่านี้ ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วยังไง ไม่ชอบก็บอกกันตรงๆ ผมรับได้และพร้อมที่จะกลับไปเป็นเพื่อนแบบเดิม แต่สิ่งที่เค้าทำกับผมมันเหมือนการหักหลังกันเต็มๆ!
สุดท้ายเค้าก็คิดถึงช่วงเวลาเก่าๆล่ะมั้ง ถึงยอมกลับมา คงอยากได้เพื่อนคนเดิมกลับมา แต่ตัดส่วนที่เคยเป็นคนรักกันออกไป
ทำเหมือนลบความทรงจำกันได้งั้นแหละ คุณว่าผมจะทำยังไงกับเค้าดีล่ะ
หดหู่อ่ะคร้าบบบบบบบบบบ :serius2:
-
โอ๊ะโอ๋ อย่าหดหู่ หาเรื่องสนุกๆทำเถอะคะจะได้รู้สึกดีขึ้น ดูหนัง ฟังเพลงก็ได้ หรือจะให้ดีก็อ่านนิยายหื่นสักหน่อยก็ได้ 5555
ดีใจนะคะที่มาต่อแล้ว รอเรื่องของคุณใจจรดใจจ่อเลยล่ะ ไฟต์ๆๆ สู้ๆๆๆ เข้มแข้งหน่อย :กอด1: :กอด1:
-
หึๆๆๆๆๆไม่ยากครับเลิกคบไปเลยดีกว่า
เพราะเวลาห้าปีมันยังทำแบบนี้ได้ แล้วเวลาที่เหลือตอนนี้กับวันข้างหน้าใจเราจะเจ็บอีกแค่ไหน
ถ้าวันใดวันนึง มันเกิดนึกสนุกหักหลังขึ้นมาอีก
หาอะไรๆที่ทำแล้วให้ลืมเรื่องราวร้ายๆที่ได้ทำร้ายจิตใจ สนุกไปวันๆดีกว่าอาจจะขำบ้างไม่ขำบ้างแต่มันก็ชีวิตของตัวเราเอง :กอด1:
เรื่องนี้น่าติดตามมากเลย :L2:แต่ๆนานมาครั้งอ่ะ
-
ลูน่า...น่าสงสารที่สุด
รอตอนต่อไปดีกว่า :haun4:
-
หดหุ่ให้สุดดดดดด
แล้วกับมาร่าเริงให้ได้น่ะ
บรรเลงมาเป็นตัวอักษรเลย
สู้ๆๆ
-
โอ้ๆๆ
ใจเย็นๆๆๆ เห้นด้วยกะข้างบนนะ
หดกหู่ให้ที่สุด แล้วกลับมาร่าเริง อีกครั้ง
สู้ๆนะ
-
มาเป็นกำลังใจครับ :L2:
อายุยังน้อยอย่าไปยึดติดกับอดีตที่ผ่านมาเลยครับ
คนที่ทุกข์ใจที่สุดก็คือตัวเราเอง
แค่คิดว่าเรา"ไม่ใช่"แล้วก็หนีหน้าเราไป
ก็อย่าไปฝากหัวใจให้เขาคนนั้นเลย เสียเวลา เสียความรู้สึก
อาจจะเจ็บปวดที่ใจบ้างแต่ไม่นานมันก็จะดีขึ้นเอง
ก็แค่คนที่เราเคยรัก...อย่าไปคิดมาก
เอาเวลาไปคิดถึงคนที่รักเรา ปรารถนาดีต่อเราให้มากๆจะดีกว่าเนอะ :กอด1:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.7
ท่ามกลางสติที่จมอยู่ในความทรงจำอันแสนมืดมิด ไม่มีแม้แต่สิ่งใดที่รัตติกรจะใช้ขวนขวายเพื่อดึงรั้งตนเองขึ้นมา ถึงจะกรีดร้องออกไปมากแค่ไหน แต่ภาพอันแสนเลวร้ายเก่าๆก็ยังคงกระแทกกระทั้น ฉุดรั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวตนของเขาให้กลับสู่อดีตที่ปิดตายเอาไว้...
ภาพผนังอิฐเก่าโทรมปรากฏชัดเจนอยู่เบื้องหน้า แผ่นกระดาษเล็กใหญ่ติดประปรายเป็นจำนวนมากจนแทบบดบังสีของผนังที่แท้จริง ตัวอักษรมากมายทั้งภาษาอังกฤษและไทยถูกขีดเขียนด้วยลายมือหวัดๆ...
เด็กชายอายุไม่ถึงห้าขวบนั่งขดตัวอยู่ที่มุมห้องด้านหนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลไหม้กลมโตเบิกค้างล่องลอย จับจ้องแค่ผนังกระดาษเหล่านั้นเหมือนตัดตัวเองออกจากทุกสิ่งในโลก พื้นห้องที่เป็นเพียงพื้นซีเมนต์เปล่าๆถูกอาบไว้ด้วยโลหิตสีคล้ำแห้งกรังที่ลากเป็นทางยาวไปตั้งแต่กลางห้องไปจนถึงประตูไม้บานเก่า
เด็กชายรับรู้แต่เพียงว่าเพื่อนๆของเขาที่เคยมีประมาณห้าคนถูกพาออกไปทางนั้น จากนั้นก็จะมีเสียงร้องที่ดังมากๆเกิดขึ้นเป็นเวลานาน แล้วเพื่อนของเขาจะกลับมาพร้อมกับน้ำสีแดงๆท่วมตัว
เพื่อนของเขานอนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน นานจนเมื่อเริ่มมีกลิ่นแปลกๆเกิดขึ้น ก็จะมีคนมาพาเพื่อนเขาออกไปอีกครั้ง แต่การออกไปคราวนี้ เพื่อนของเขาก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย...
มันเกิดขึ้นทีละคน ทีละคน จวบจนตอนนี้ก็เหลือเขาเพียงคนเดียว...
เมื่อภาพในความทรงจำดำเนินมาถึงตอนที่ประตูไม้บานนั้นเปิดออกกว้าง ความเจ็บปวดบางอย่างก็พุ่งวาบขึ้นมาอย่างรุนแรง มันแล่นตรงสู่สมอง บีบขย้ำด้วยกรงเล็บแหลมคมจนภาพอดีตที่ไหลย้อนกลับมามลายหายไป ทิ้งไว้เพียงความเจ็บปวดจนแทบอยากสิ้นสติไปให้รู้แล้วรู้รอด
ตอนนั้นเองสัมผัสบางอย่างก็แทรกความเจ็บปวดนั้นเข้ามา มันอ่อนหวานเร่าร้อน เข้าแทนที่ความเจ็บปวดที่ละน้อยๆด้วยความเสียวซ่านรุนแรง
รัตติกรรู้เพียงต้องขวนขวายสัมผัสนั้นเอาไว้ ต้องให้มันมากขึ้นกว่าเดิมจนลบล้างความเจ็บปวดทั้งมวลออกไป
มากขึ้น...มากขึ้นเรื่อยๆ...
อยู่ๆสัมผัสอันแสนวาบหวามก็หยุดชะงักไป หนุ่มชาวไทยจึงลืมตาขึ้นเพื่อมองหาสาเหตุนั้น และพบกับใบหน้าคมแกร่งที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ดวงตาสีสนิมที่เริ่มจะคุ้นเคยมองสบมาด้วยประกายสงสัยเจือไว้ด้วยความห่วงใยอย่างบางเบา
แต่ก็ช่างสายตานั่นสิ...สิ่งที่เขาต้องการคือสัมผัสอย่างเมื่อครู่ต่างหาก!
“....เอาอีก”
ฉับพลันที่สายตานั้นเปลี่ยนเป็นความกราดเกรี้ยวรุนแรง ทว่าในกระแสอารมณ์นั้นก็ยังแฝงความเร่าร้อนที่ทรงเสน่ห์ ใบหน้าแกร่งโน้มเข้ามาแนบชิดพร้อมกับริมฝีปากที่เข้ามาบดเบียดด้วยความจาบจ้วง
เพียงเท่านั้นเองสัมผัสที่รัตติกรต้องการก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง ทว่าในครั้งนี้มันรุนแรงกว่าเดิม ความเสียวซ่านแล่นวาบตั้งแต่ปลายลิ้นไปทั้งร่าง แต่มันยังไม่เพียงพอต่อการลบภาพพวกนั้นออกไปจากสมองของเขา และรัตติกรรู้ว่าเขาต้องการมากกว่านี้…
....และจะมากกว่าเดิมขึ้นเรื่อยๆ ตามแต่ที่เขาจะต้องการ!
มาสั้นๆ เพราะคิดว่าตอนหน้าคงเรียกเลือดกันยาว :z2:
แต่อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ถ้ามีปาปริก้า...
ดังนั้นจะเรียกเลือดกันไปถึงขั้นไหน ติดตามชมนะครับ :laugh:
(ส่วนเรื่องคนคนนั้นไปเคลียร์แล้วครับ ก็ไม่เชิงว่าเคลียร์นะ
แต่ทำเหมือนตอนที่ผมรู้จักกับเค้าใหม่ๆ สมัยช่วงยังไม่เปิดใจให้ใครนั่นล่ะครับ
โดนเพื่อนด่าว่าเมิงเย็นชาไปเปล่า ก็ใครใช้ให้เค้าทำแบบนั้นกับผมก่อนอ่ะ
เจ็บก็เจ็บนะ แต่คิดว่าไม่นานก็คงหาย การกระทำของเค้าคงทำให้ผมตัดใจง่ายขึ้น
ถือว่าทางใครทางมันอย่าได้เจอกันอีกเลยก็แล้วกัน ลาขาดดดด
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะครับ (พูดเหมือนนางงาม 55)
ถึงเรารู้จักกันแค่ในบอร์ด แต่เวลาอ่านผมก็รู้สึกนะว่า ใครบางคนที่ผมไม่รู้จัก ถูกเชื่อมต่อกันด้วยนิยายของผมเพียงเรื่องเดียว
แต่ก็ทำให้ผมได้รับทั้งกำลังใจ ทั้งคำชม อ่านแล้วมันปลื้มอ่ะครับ นั่งยิ้มบ้าๆอยู่หน้าคอม 555
เอาเป็นว่าขอบคุณสำหรับทุกสิ่งนะครับ แล้วเจอกันฮะ)
-
เอารูปคาแร็กเตอร์มาให้ชมครับ ได้มาจากเว็บจีนเว็บนึง รูปสวยมากๆๆๆ
ถ้าอ่านนิยายวายแปลจีนบ่อยก็คงจะคุ้นรูปของคนๆนี้มั้งครับ (ของคุณเฟิงน่งหลายเรื่องก็ภาพจากคนนี้นะครับ)
(http://upic.me/i/gl/4ac4d4d406eeb5f9909d4.jpg)
ซ้ายรัตติกร ขวาลาร์เฟียร์ครับ สลับสีผมกันหน่อยก็ประมาณนี้ล่ะครับ
(ถ้าชอบกันผมมีอีกประมาณสองสามรูป เดี๋ยวเอามาให้ดูอีกนะครับ)
-
ขอชมว่า เขียนได้ดีมากๆค่ะ ภาษาดี เนื้อเรื่องไหลลื่น
ชอบอ่ะๆๆๆๆ
อยากอ่านต่อค่าาาาาาาาาาาาาาาาา :z3:
คนแต่งก็สู้ๆนะคะ :กอด1:
-
คนเขียนสู้ๆเน้อ ^^ เป็นกำลังใจให้
เจอปัญหาคล้ายๆกันเลย 55 (ช-ญ)
แต่ผ่านมานานมากแล้ว และตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ เพื่อนสนิทด้วย
เราใช้เวลาทำใจเกือบ 2 ปี ไม่พูด ไม่คุย ไม่ได้เคลียร์ด้วย ตอนคนเขียนโดนอายุ 17 ใช่ป่ะ
ตอนนั้นเรา 13 อ่ะ (กำลังใสๆ = =) จีบกุทำม้ายยยยยยยยย? จีบเราเกือบๆ 5 เดือนอ่ะ TT^TT
พอได้เป็นแฟนก็หายจ้อย ไม่โทรมา ไม่คุยเอ็ม ไม่อะไรเลย พอครบ 7 วัน ก็มาขอโอกาส
เฮ้อออ!!
เอาเถอะ ผ่านไปแล้วก็แล้วไป!
แต่ดีใจนะที่คนเขียนได้เคลียร์ มันจะได้ไม่ติดค้างต่อกัน
เข้าเรื่องดีกว่า
อิมเมจลาเฟียร์ตัวบางกว่าที่คิดไว้เยอะ ตอนแรกนึกว่าจะบึก ถึก ทึน (อารมณ์ประมาณ asami ใน you're my love prize in viewfinder ส่วนคนเขียนจะรู้จักหรือไม่นั้นไม่ขอเดา 555)
ชอบมากๆเลยอ่ะ นิยายแนวนี้ ><
รอฉากเรียกเลือดค่ะ
PS. ไม่เคยเม้นท์ยาวขนาดนี้มาก่อนเลย 555
PS. นอนดึกนะค้าา
-
^
^
^
^
^
ขอบคุณครับ คนเขียนนอนเช้าครับ ไม่นอนดึก 555
ป๋าอาซามิรู้จักแน่นอนครับ ขั้นเทพขนาดนั้น :-[
ส่วนอิมเมจลาร์เฟียร์ตอนลงผมก็คิดอยู่ว่าถึกไม่พอ 555+
จริงๆลาร์เฟียร์สูงกว่ารัตติกรเยอะครับ
งั้นดูรูปนี้ด้วยแล้วกันฮะ จะได้ดูป๋าๆ ถึกขึ้นหน่อยนึง 55
(http://upic.me/i/cb/4ac4d4d445531c28157de.jpg)
-
^
^
^
^
นอนเช้าเหมือนกัน ปั่นนิยายอยู่ 555
ป๋าอาซามิ :o8: ขั้นเทพจริงๆนั่นแหละ
ชวนเม้าท์ :m26: Taiyou no Kikoushi คนเขียนอ่านรึเปล่า? (เริ่มละ พอเห็นรู้จักเข้าหน่อย เริ่มละ 555)
เป็นอีกเรื่องที่ชอบมั่กมาก ><
เข้าเรื่อง!
อิมเมจนี้เจิดเลย >< โอเคสุดๆ ดูถึกขึ้นมาเย้อะะ
อย่างนี้สิ น่าซุก อร๊ากกก พูดอะไรออกปายย ><
-
มาต่อแล้ว ดีใจจัง :-[
ดีใจกับคุณด้วยที่ดีขึ้นแล้ว เรื่องแบบนี้เวลาเท่านั้นแหละคะที่จะช่วยเราได้ :mc4:
แต่ก็โกรธนะ ทำไมนิดเดียวจัง บทหื่นเขียนไม่ออกเหรอคะ น่าตีมือจริงเชียว :m31:(มายด้ายดั่งจายเลย)
หื่นให้มันหนักๆหน่อยเซ่!!!! :m16: (ล้อเล่นนะ)
แต่อิมเมจของพระเอกก็โอเคนะ เดี้ยนชอบคะ แต่ก็อย่างว่าอยากให้พระเอกหล่อล่ำ ถึกกว่านี้ เวลากอดนายเอกจะเหมือนยักษ์กอด ฮุฮุฮุ
พยายามเข้านะ สู้ๆ
จะรอตอนต่อไปคะ
-
:เฮ้อ:สงสารน้องเขามีอดีตที่แสนเจ็บปวด
มาม๊ะ :กอด1: :กอด1:
-
มาต่อแล้ว ดีใจจัง :-[
ดีใจกับคุณด้วยที่ดีขึ้นแล้ว เรื่องแบบนี้เวลาเท่านั้นแหละคะที่จะช่วยเราได้ :mc4:
แต่ก็โกรธนะ ทำไมนิดเดียวจัง บทหื่นเขียนไม่ออกเหรอคะ น่าตีมือจริงเชียว :m31:(มายด้ายดั่งจายเลย)
หื่นให้มันหนักๆหน่อยเซ่!!!! :m16: (ล้อเล่นนะ)
แต่อิมเมจของพระเอกก็โอเคนะ เดี้ยนชอบคะ แต่ก็อย่างว่าอยากให้พระเอกหล่อล่ำ ถึกกว่านี้ เวลากอดนายเอกจะเหมือนยักษ์กอด ฮุฮุฮุ
พยายามเข้านะ สู้ๆ
จะรอตอนต่อไปคะ
แหม ที่ตอนนี้มันสั้นเพราะผมอยากแยกตอนหื่นกับตอนหดหู่ออกจากกันน่ะครับ 555
ขอบคุณนะคร้าบ :man1:
^
^
^
^
นอนเช้าเหมือนกัน ปั่นนิยายอยู่ 555
ป๋าอาซามิ :o8: ขั้นเทพจริงๆนั่นแหละ
ชวนเม้าท์ :m26: Taiyou no Kikoushi คนเขียนอ่านรึเปล่า? (เริ่มละ พอเห็นรู้จักเข้าหน่อย เริ่มละ 555)
เป็นอีกเรื่องที่ชอบมั่กมาก ><
เข้าเรื่อง!
อิมเมจนี้เจิดเลย >< โอเคสุดๆ ดูถึกขึ้นมาเย้อะะ
อย่างนี้สิ น่าซุก อร๊ากกก พูดอะไรออกปายย ><
Taiyou no Kikoushi ก็เคยอ่านครับ ที่พระเอกผมทองๆใช่ป่าวอ่ะ อ่านนานแล้วเหมือนกันครับ :impress2:
-
ชั้นก็อยาก...มีแบบนายนะ :haun4:
-
เพิ่งมาอ่านสนุกดีค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ o13
-
^
^
^
^
นอนเช้าเหมือนกัน ปั่นนิยายอยู่ 555
ป๋าอาซามิ :o8: ขั้นเทพจริงๆนั่นแหละ
ชวนเม้าท์ :m26: Taiyou no Kikoushi คนเขียนอ่านรึเปล่า? (เริ่มละ พอเห็นรู้จักเข้าหน่อย เริ่มละ 555)
เป็นอีกเรื่องที่ชอบมั่กมาก ><
เข้าเรื่อง!
อิมเมจนี้เจิดเลย >< โอเคสุดๆ ดูถึกขึ้นมาเย้อะะ
อย่างนี้สิ น่าซุก อร๊ากกก พูดอะไรออกปายย ><
Taiyou no Kikoushi ก็เคยอ่านครับ ที่พระเอกผมทองๆใช่ป่าวอ่ะ อ่านนานแล้วเหมือนกันครับ :impress2:
[/quote]
ใช่ๆๆ ผมยาวสีทอง ราชนิกูล จากประเทศไรไม่รู้ >< รีบอัพน้อ รอตอนหื่นอยุ่!!
-
กด +1 ให้คนแต่งกะรีบน
โทษฐานคอเดียวกัน ชอบทั้งป๋าอาซามิแล้วก็ลีโอเลยอ่ะ
แต่อิมเมจของลีโอให้กะลาเฟียร์อยู่นะ
ปล. กรี๊ดรูป หนุ่มแว่นโมเอะม๊ากกกกกกกกกกกกก
-
เข้ามาให้กำลังใจครับ รออ่านตอนต่อไป o18
-
มารออ่านตอนต่อไป ฮ่าๆ
มาอัพต่อเร็วๆนะ จะรอติดตาม
-
สู้ต่อไป กริ๊วๆๆ
-
แต่งเก่งจัง ได้อารมณ์มาเฟียอิตสลีดีจังเลย
เราว่าพระเอกดูใจดีแต่มีใจร้ายเล็กน้อย 555
แอบอยากรู้ว่า จะปราบพยศเจ้าเหมียวที่มีปมได้ไหม
แล้วจะมีทางใดที่ลูน่าจะหายจากภาพความเจ็บปวดนี้ได้
ปล. เป็นกำลังใจให้น่ะค่า คุณเข้มแข็งมาก ก็อยากให้คิดว่าก้าวผ่านความเจ็บปวดเพื่อโตไปอีกระดับหนึ่ง
-
เมื่อไรจะมาคะ รอนานแล้วนะ คิดถึงๆๆๆๆๆ :m15: :m15: :m15: :m15:
มาไวๆๆๆๆๆๆ :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
อย่าให้มีเคืองนะ :fire: :fire: :fire: :fire:
เดี๋ยวเราจะพาลหื่นไม่ออกด้วย :m31: :m31: :m31: :m31:
นี่แนะๆๆๆๆ :beat: :beat: :beat:
กระตุ้นอารมณ์หน่อยเผื่อมีไฟ ก้ากกกกก :z6: :z6:
-
มาได้แล้วน่ะ
รอรอร๊อ
-
แต่งเสร็จตั้งแต่สามวันก่อนแล้วครับ แต่คอมที่รักโดนไวรัสแดร็ก ซ่อมเสร็จเมื่อไหร่จะรีบเอามาลงเลยนะครับ
ภาวนาให้ที่แต่งเอาไว้อย่าเพิ่งโดนลบไป สาธุ
แล้วจะรีบมาอย่างไวครับ :z10:
-
เพิ่งจะได้มาอ่าน ^ ^ เขียนได้น่าติดตาม น่าสนใจมากค่ะ
-
อยากให้มาต่อไวๆนะคะ :laugh:
คิดถึงๆๆๆๆๆ :-[
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.8
ทันทีที่ร่างกายหลุดพ้นจากพันธนาการของโซ่ที่ล่ามไว้ รัตติกรก็รีบคว้าต้นคอแกร่งไว้เป็นหลักยึด ชายหนุ่มเอียงศีรษะน้อยๆให้ได้องศาที่พอดี ก่อนที่ปลายลิ้นทั้งสองพัวพันดูดดึงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ความเร่าร้อนภายในห้องพุ่งขึ้นสูงเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ของทั้งสองร่างที่บดเบียดกันแนบชิด
ริมฝีปากหยักหนาบดขยี้ลงที่ริมฝีปากสีแดงชาดอย่างร้อนแรง ก่อนจะเลื่อนไปขบกัดที่ปลายคาง เสียงครางเครือที่ได้รับยิ่งทำให้เจ้าพ่อหนุ่มได้ใจ ลาร์เฟียร์ขบเม้มที่ใบหูกลมนิ่ม ก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้าไปหยอกล้อให้คนภายใต้ร่างสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านที่พุ่งวูบ ผ่ามือหนาบีบเค้นไปตามลำตัวผอมเพรียวก่อนจะหยุดอยู่ที่ยอดอกสีหวาน เพียงแค่สะกิดแผ่วเบา หนุ่มชาวไทยก็สะดุ้งเฮือก
“ร่างกายไวสัมผัสจริงนะลูน่า...แตะตรงไหนดูเหมือนเธอก็รู้สึกไปซะทุกที”
“อือ...ตรง...นั้น..ฮ้า...แรงๆหน่อย”
ลาร์เฟียร์หัวเราะในลำคอแล้วขยี้ปลายนิ้วลงไปที่ยอดอกทั้งสองข้าง ร่างบางบิดเร้าเข้ารับสัมผัสที่ถูกมอบให้ ใบหน้างดงามที่เคยแสดงออกเพียงความกราดเกรี้ยวเย็นชาสะบัดหงายไปด้านหลัง เผยลำคอเรียวที่วาดเส้นโค้งสวยราวกับคอของหงส์ขาวผู้สง่างาม เม็ดเหงื่อบริเวณคอสะท้อนแสงไฟระยิบระยับพาให้ริมฝีปากหนาขมเม้มทิ้งร่องรอยเอาไว้อีกครั้ง
“แค่นี้ก็ทำท่าเหมือนจะไปสวรรค์ซะแล้วเหรอ หืม?”
“อ๊ะ...อีก...มากกว่านี้...”
“ตามสั่งครับ...หึหึหึ”
ผ่ามือเรียวสวยเกาะไว้ที่ไหล่หนาซึ่งตึงแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ปลายนิ้วจิกลงบนบ่ากว้างเมื่อสัมผัสเปียกชื้นไล้เลียอยู่เหนือยอดอกของเขา ยามที่ฟันขาวขบกัดลงมาพร้อมกับปลายลิ้นที่แลบเลียหนักหน่วง ความร้อนก็ยิ่งพุ่งวาบและรวมตัวบริเวณท้องน้อย แผ่ซ่านไปตามจุดต่างๆของร่างกายจนทำให้ต้องบิดเร้าด้วยความทรมานอย่างสุขสม
ลาร์เฟียร์ดึงร่างของรัตติกรขึ้นมานั่งบนตัก เรียวขาที่ปราศจากเนื้อผ้าใดมาปิดป้องเกี่ยวเอวเขาไว้แน่นโดยอัตโนมัติ ชั้นในนั้นถูกถอดออกไปนานแล้ว เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่คลุมหมิ่นเหม่อยู่ที่ไหล่เท่านั้น
“ดะ..เดี๋ยว ตรงนั้นมัน..อ๊า!!”
รัตติกรสะดุ้งเฮือก พร้อมกับพยายามดันร่างของตนเองออกจากคนตรงหน้า เมื่ออุ้งมือหนาโอบกระชับเข้าที่แก่นกายลำสวย ส่วนปลายยอดฉ่ำไปด้วยน้ำเหนียวใสถูกลูบไล้ด้วยนิ้วชี้และเค้นคลึงด้วยนิ้วโป้ง ก่อนจะรูดขึ้นลงช้าๆเป็นจังหวะเนิบนาบที่เล่นเอาหนุ่มชาวไทยแทบขาดใจ
“ทำไมล่ะ หืม?”
“อ๊ะ!..อา มัน ...มันรู้สึก..ฮ่ะ แปลกๆ”
“แล้วมันดีหรือไม่ดีล่ะ...?” ว่าจบลาร์เฟียร์ก็เร่งจังหวะขึ้นอีก ใบหน้าหล่อเหล่ายกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างสนุกสนาน เฝ้ามองปฏิกิริยาของคนตรงหน้าที่ข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้เต็มที่ หากแต่ก็ยังเล็ดลอดออกมาให้เห็นชัดเจนอย่างคนที่ไม่มีประสบการณ์
“ไม่รู้ อ๊า~!” มือแกร่งเร่งจังหวะขึ้นอีกจนรัตติกรแทบไปถึงสวรรค์มะรอมมะร่อ ดวงตาปิดแน่นสนิทจนแทบจะเห็นแต่แสงสว่างวาบที่มากขึ้นเรื่อยๆตามระดับอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น และเมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่คิดว่าต้องการจะปลดปล่อยบางสิ่งออกจากร่างกาย มือที่ช่วยปลุกเร้าอารมณ์ให้กลับบีบแน่นขัดขวางการปลดปล่อยที่เล่นเอาเขาแทบขาดใจ!
“ทำไม...”
“ทำให้ฉันก่อนสิ”
“ทำ..อ่ะ อะไร?”
“เหมือนที่ฉันทำกับเธอไง ตรงนี้น่ะ” ว่าจบลาร์เฟียร์ก็จับมือข้างหนึ่งไปวางไว้บนแก่นกายที่พองตัวแน่นอยู่ใต้กางเกง พอเห็นรัตติกรทำท่าคล้ายจะปฏิเสธ ฝ่ามือที่โอบแน่นปิดกั้นเส้นทางเอาไว้ก็รูดรั้งจนร่างบางที่นั่งอยู่บนตักของเขาสะท้านเฮือก
“เร็วสิ”มาเฟียหนุ่มออกคำสั่งแล้วแย้มรอยยิ้มร้ายกาจ รัตติกรเม้มปากน้อยๆก่อนจะค่อยๆรูดซิบของอีกฝ่ายออก ความใหญ่โตยิ่งปรากฏให้เห็นได้ชัดเมื่อส่วนปลายที่แข็งเกร็งโผล่พ้นขอบกางเกงในออกมา นิ้วเรียวยาวเกี่ยวขอบกางเกงในรั้งลงจนความเป็นชายของอีกฝ่ายแสดงตัวออกมาเต็มที่ ฝ่ามือนุ่มนิ่มโอบกระชับแก่นกายใหญ่ก่อนจะรูดขึ้นลงตามจังหวะในความทรงจำที่อีกฝ่ายมอบให้
“เรียนรู้เร็วดีจังนะ...”น้ำเสียงเชิงหยอกล้อนั้นกระซิบติดชิดริมหู ก่อนที่ริมฝีปากหยักหนาจะโน้มลงมากระกบปิดปากของเขาไว้อีกครั้ง ปลายลิ้นส่งเข้าไปเกี่ยวพัน บดคลึงลึกล้ำจนเขาลืมที่จะต้านทาน
ฝ่ามือหนาเริ่มรูดขึ้นลงอีกครั้งตามจังหวะที่รัตติกรเป็นคนชักนำ หนุ่มชาวไทยจึงเร่งจังหวะมือของตัวเองขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายตอบสนองเขาบ้างอย่างที่เขาต้องการ
ลาร์เฟียร์ละมือตัวเองออกมากุมมือทั้งสองข้างของรัตติกรเอาไว้ ส่งผลให้ดวงตาสีน้ำตาลไหม้เรียวสวยมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์
“แบบนี้ดีกว่านะ”
“อ๊ะ!”
มาเฟียหนุ่มดึงมือทั้งสองข้างของรัตติกรมากำรอบแก่นกายของพวกเขาที่ถูกรวบให้อยู่ชิดกัน ก่อนจะกุมมือนั้นและชักนำให้รูดขึ้นลงตามจังหวะที่เขาต้องการ ร่างเพรียวสะดุ้งเฮือกก่อนเอนหน้าเข้าซบกับซอกคอของเขาเพื่อให้เป็นหลักยึด เสียงครางเครือดังลั่นพร้อมกับร่างที่สั่นเกร็งด้วยแรงอารมณ์ที่พุ่งพรวด เมื่อใกล้จะถึงจุดหมาย แนวฟันขาวก็ขบกัดเนื้อที่คอของเขาเอาไว้โดยไม่รู้ตัว
ลาร์เฟียร์นิ่วหน้าด้วยความเจ็บเล็กน้อย แรงกัดนั้นมากพอที่จะเรียกเลือดได้ แต่เขาก็เปลี่ยนมันเป็นความหฤหรรษ์เมื่อคิดว่าต่อไป เขาก็จะเรียกเลือดของอีกฝ่ายให้มากกว่าแน่นอน!
เมื่อถึงจุดที่คลื่นอารมณ์พุ่งขึ้นสูงสุด ทั้งลาร์เฟียร์และรัตติกรก็ปลดปล่อยออกมาไล่เลี่ยกัน หยาดน้ำสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนมือทั้งสองข้าง รัตติกรหอบหายใจหนัก ในสมองเหมือนแตกกระจายไปด้วยแสงสีนับล้าน ระยิบระยับจนตาพร่าและทำให้เขาแทบสิ้นสติ
ตอนนั้นเองที่ใจเขาสงบลง และคิดขึ้นได้สักที ว่าตัวเองเผลอทำบ้าอะไรไป!
ฉับพลันที่คิดได้และอ้าปากเพื่อจะร้องด่าอีกฝ่ายให้หายแค้น ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากเบื้องล่างถูกบุกรุกอย่างรุนแรงก็แทรกเข้ามาอย่างหนักหน่วง!!
“ทำบ้าอะไรของแก!!!”
“...ก็เซ็กส์ไงล่ะ”
เป็นยังไงบ้างครับกับฉากเรทครั้งแรกในชีวิตของผม เขียนโคตรยากเลยอ้าาาา :serius2:
ติชมด้วยนะครับ
ขอโทษที่มาต่อช้านะครับ คอมโดนไวรัสแดร็กเลยต้องรีบยกไปซ่อมก่อน
แต่เดี๋ยวรอต่อตอนหน้านะครับ ต้องรีบไปแล้ว (ไปต่างจังหวัดกลับมาวันอาทิตย์นะครับ)
รีบไปแล้ววววววว แอบลงมาอัพ แม่จะตื่นแหล่วๆๆๆๆ :z10:
-
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :-[
ดีใจที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :laugh:
ชอบมากคะ ถึงจะน้อยไปหน่อยแต่ก็ดีใจที่คุณมาต่อเสียที :pig4:
แต่อยากให้จัดหนักหน่อย ตามใจแฟนๆหน่อยนะึคะ :mc4:
ขอบคุณล่วงหน้า ฮุฮุฮุ :L2:
:m25: :pighaun:
-
โอย เลือดหมดตัวแล้ว
ขนาดเบาๆนะเนี่ย :jul1:
-
ร้อนแรงเกินไปแว้ววว
-
เผลอตัวไปหน่อยน่ะลูน่า รู้สึกตัวก้หนีไม่ทันแล้วว
:jul1:
-
พึ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ
อยากบอกว่ามันโดนมาก แนวมาเฟียแบบนี้ชอบสุดๆ o13
+1ให้แล้วรอตอนต่อไปนะคะ :กอด1:
-
:jul1: :jul1:
รออ่านนะคะ
-
อ้าวๆนึกว่ารู้ตัวแล้วน้องกร
:กอด1:
-
ครั้งแรกยังขนาดนี้
ครั้งทีสองจะขนาดไหน
ต่อไว ด่วนนนนน อิอิ
-
ชอบคนเขียนนิยายด้วยภาษาแบบนี้จัง
เวลาได้อ่านแล้ว มันรู้สึกเหมือนหยุดไม่ได้อ่ะ
แล้วก็อยากอ่านอีกเรื่อยๆ ไรท์เตอร์มาต่อเร็วๆนะ
ส่วนฉากนี้ทำเค้า :jul1:
-
ขนาดเขียนฉากเรท x เป็นครั้งแรก
แต่ก็สามารถเรียกอารมย์คนอ่านได้เหมือนกัน :haun4:
-
เง้อออออออออ มาต่อด่วนนนนนนนนนนน
-
:pighaun: อ้ายยยย ชอบอะ แอบค้างนะ รอตอนหน้าอิอิ :z1:
-
ลาร์เฟียร์อย่าห่วงเรื่องเซ็กจนลืม
เรื่องความจริงของลูน่าละ
-
รอนานแล้วนะคะ คนแต่งหายไปไหนแล้วคิดถึงจัง คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m31:
มาต่อเร็วๆหน่อย คิดถึงลูน่าคะ นะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :impress2:
-
พิมพ์แก้อีกนิด เดี๋ยวเอามาลงครับ
-
รอๆ :L1:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.9
“...ก็เซ็กส์ไงล่ะ”
กล่าวจบความอึดอัดคับแน่นก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า รัตติกรตัวเกร็งสั่นระริกไปทั้งร่าง ความเจ็บปวดแล่นปราดไปตามไขสันหลังจนแทบพยุงตัวเองเอาไว้ไม่ไหว
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”รัตติกรตะโกนลั่น คล้ายกับมันจะช่วยปลดปล่อยอาการของตนเองออกไปได้
“อยากให้หยุดมั้ยล่ะ?”ลาร์เฟียร์ถาม ริมฝีปากแต้มรอยยิ้มยียวนเล็กน้อย พร้อมๆกับที่บดคลึงนิ้วมือลงบนช่องทางสีหวานที่โอบกลืนนิ้วของเค้าเอาไว้
“…แกจะทำอะไร?”เสียงที่ถามออกไปนั้นฟังดูกระเส่าจนรัตติกรอยากตบปากตัวเอง ความเสียวซ่านแล่นริ้วผสานกับความเจ็บปวดอย่างลงตัวจนทำให้สมองของเขามึนเบลอ
“ฉันมีข้อเสนอ...ซึ่งเป็นที่น่าพอใจทั้งสำหรับฉันและเธอ...”นิ้วที่สามสอดแทรกเข้าไปอย่างนิ่มนวลแยบยล รัตติกรทั้งอึดอัดทั้งเสียวซ่านจนแทบบ้า สิ่งนั้นเข้ามาอย่างอ่อนโยนจนแทบไม่เหลือความรู้สึกเจ็บเช่นตอนที่ถูกบุกรุกเข้ามาคราวแรก ค่อยๆชักนำเขาช้าๆ ให้หลงระเริงไปกับรสสัมผัสที่ได้รับ
“อึก...จะเสนอก็หยุดทำก่อนสิวะ!”หนุ่มชาวไทยกำหมัดทุบหนักๆที่บ่ากว้างของร่างแกร่งแทนการข่มอารมณ์ จะทำตัวเองก็ใช่ที่ ลงกับต้นเหตุมันนี่แหละ
ลาร์เฟียร์หัวเราะในลำคอแล้วละมือออกจากช่องทางเบื้องหลัง อดไม่ได้ที่จะกระแทกนิ้วซ้ำแรงๆอีกทีเป็นการส่งท้าย ชายหนุ่มมองร่างเพรียวบางที่สะดุ้งเฮือกเพราะสัมผัสนั้นก่อนจะหันมาส่งสายตาวาววับใส่เขา ริมฝีปากแดงชาดที่บวมเจ่อน้อยๆเผยออ้าออกคล้ายจะส่งคำด่าผรุสวาสออกมา ทำให้เขารีบปิดมันลงด้วยปากของตนแทน
หลังจากหยอกล้อกับคนตรงหน้าอีกเล็กน้อย ลาร์เฟียร์จึงยอมปล่อยริมฝีปากสีสวยนั่นให้เป็นอิสระ จากนั้นจึงรั้งสะโพกบางเข้าหาตัวจนหน้าท้องแทบชิดกันแล้วมองสบดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ตอนนี้ขุ่นมัวด้วยอารมณ์โมโห ลาร์เฟียร์ยิ้มแล้วมองกลับด้วยท่าทางที่เหนือกว่า
“ฉันต้องการให้เธอมาทำงานกับฉัน”
“งานบ้าอะไรของแก!?”
“เลิกหาเรื่องแล้วหยุดหยาบคายกับฉันสักสิบนาทีไม่ได้หรือไง ลูน่า” ลาร์เฟียร์ขมวดคิ้ว ใช้น้ำเสียงเย็นเยียบอย่างเวลาที่เขาใช้สั่งฆ่าคน ซึ่งมันทำให้คนตรงหน้าลดแรงอารมณ์ลงเล็กน้อยอย่างคนรู้สถานการณ์
“แล้วมันเรื่องอะไรที่ผมต้องไปพูดดีกับคนที่ทำแบบนี้กับผมด้วยล่ะ”รัตติกรแม้จะยอมลงให้แต่ก็ยังไม่วายพูดโต้ตอบด้วยเสียงแข็งๆ เขาโอนอ่อนได้ แต่ไม่มีวันอ่อนแอ!
“คนเริ่มก่อนมันเธอไม่ใช่ฉัน ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันไม่ทะลวงประตูหลังเธอน่ะ รึว่าอยาก?”มาเฟียหนุ่มยิ้มยั่ว ก่อนที่มือหนาจะลูบไล้บริเวรแก้มก้นขาวเนียน ซึ่งทั้งนุ่มนิ่ม ทั้งลื่นมือจนเขาบีบมันเล่นเบาๆอย่างเพลิดเพลิน
“คุณ! หุบปากไปเลยนะ แล้วเอามือออกไปจากก้นผมด้วย มันไม่ใช่ลูกบอลบริหารนิ้วมือ! อยากบีบก็ไปหาซื้อเอาเองไป!” นิ้วเรียวตะปบฝ่ามือที่ลวนลามให้ออกห่างจากกาย เล็บที่เริ่มยาวจิกลงบนผิวเนื้ออย่างไม่ออมแรง หากแต่คนโดนทำร้ายกลับไม่ยี่หระอะไรกับความเจ็บปวดเท่าแมวข่วน
“ฉันอยากทำแบบนี้แล้วจะทำไม แล้วอย่าเถียงจนออกนอกเรื่อง ตอบคำถามฉันมาได้แล้ว”ลาร์เฟียร์ยักไหล่ ไม่สนใจกับอาการหงุดหงิดของอีกฝ่าย ก่อนจะดึงบทสนทนาให้กลับเข้าเรื่องตามที่ต้องการไว้แต่แรก มือทั้งสองข้างยังคงโอบเอวบางของคนที่นั่งคร่อมอยู่ไม่ให้ลุกหนีหรือขยับดิ้นไปไหน
“...ก็แล้วมันงานอะไรของคุณล่ะ”รัตติกรเม้มปากสะกดกลั้นอารมณ์ เขาไม่เขาใจว่าอยู่ๆทำไมคนที่จับตัวเขามาจะต้องการให้เขามาทำงานด้วย มันดูง่ายเกินไปจนเหมือนเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น ดังนั้นเขาจึงรับฟังไปก่อนแล้วค่อยคิดอีกที
“ฉันพอจะรู้ประวัติของเธอคร่าวๆ เธอพูดได้ยี่สิบภาษาใช่ไหม?”
“ยี่สิบสี่!”รัตติกรค้านกลับทันควัน เขาไม่ได้ต้องการอวดอะไรหรอก
ก็แค่อยากกวนประสาท...
“หึ...มีไม่กี่คนบนโลกหรอกนะที่ใช้ภาษาได้มากขนาดนั้น และฉันต้องการให้เธอมาทำงานกับฉันในฐานะผู้ช่วยประจำตัว”ลาร์เฟียร์หัวเราะในลำคอกับปฏิกิริยาที่ลูน่าของเขาแสดงออกมา ก่อนจะเอ่ยถึงประเด็นสำคัญที่เขาต้องการบอกในที่สุด
“ผู้ช่วยประจำตัว?”รัตติกรทวนคำด้วยความสงสัย
แค่ผู้ช่วยเนี่ยนะ? แล้วทำไมต้องเป็นเขาล่ะ?
“ก็แค่งานง่ายๆ ตามฉันไปทุกที่ คอยแปลทุกภาษาให้กับฉัน แล้วก็ช่วยงานของเลขาบางอย่าง เท่านั้นแหละ ไม่ยากใช่ไหม มีเงินเดือนมากกว่าที่ทำงานเดิมของนาย สวัสดิการเยี่ยมทั้งเรื่องที่พักและการกินอยู่ ตกลงไหม?”มาเฟียหนุ่มอธิบายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เมื่อเห็นดวงตาสีน้ำตาลไหม้ฉายประกายสงสัยอย่างปิดไม่มิด
“แล้วมันเรื่องอะไรที่ผมต้องทำงานให้คนที่จับผมมาล่ะ?”สุดท้ายรัตติกรก็ถามเรื่องที่ค้างคาใจออกไป นั่นแหละคือเหตุผลที่เขาลังเลกับท่าทีของคนตรงหน้า ช่วงเวลาก่อนหน้านั้นที่ผ่านมามีแต่การถูกจับล่ามโซ่ ถูกขังไว้ในห้องแคบๆ จะหนีออกไปกี่ครั้งก็ถูกจับกลับมาด้วยวิธีการรุนแรง ไม่มีทีท่าด้วยซ้ำว่าทั้งหมดนั่นจะมาลงเอยด้วยรูปแบบนี้
“ฉันช่วยชีวิตเธอไว้ต่างหาก ทำงานตอบแทนบุญคุณสักหน่อยจะเป็นไร”ลาร์เฟียร์ย้อนตอบ รัตติกรแทบไม่อยากเชื่อว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้
“ช่วยชีวิตที่ไหนเขาทำกับแบบนี้? ทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยว แถมยังลวนลามคนอื่นเขาไปทั่ว พูดได้ไม่อายปาก”ถ้าแบบนั้นเรียกว่าช่วยชีวิต งั้นก็ปล่อยเขาให้เลือดหมดตัวตายที่ตรอกแคบๆในเมืองไทยแบบนั้นยังจะดีกว่า
“ก็ฉันพอใจจะทำ” คำตอบของลาร์เฟียร์นั้นทั้งหนักแน่นมั่นคง แฝงด้วยความหยิ่งผยองเอาแต่ใจตัวจนรัตติกรหมดคำจะต่อว่า
“แล้วสรุปว่าไง เลือกเอาว่าจะทำงานกับฉันดีๆ หรือจะอยู่เป็นง่อยที่นี่ไม่ได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวัน”พอเห็นอีกฝ่ายเงียบไปนานเข้ามาเฟียหนุ่มจึงเอ่ยเร่งเร้าเอาคำตอบ เพิ่มทางเลือกที่เหมือนเป็นการบังคับเข้าไปอีกหนให้คนคิดเยอะรีบๆตอบเขามาสักที
“เฮ้ย! คุณจะบ้าเหรอ แบบนั้นมันเลือกได้ที่ไหนกัน ผมจะกลับประเทศไทย!”ยังไงข้อเสนอที่ถูกยื่นมานั่นก็ไม่น่าไว้ใจแม้แต่น้อย รัตติกรคิดว่าให้เขากลับประเทศไปอยู่เฉยๆอย่างเดิมยังดีเสียกว่า
“จะกลับก็ได้ แต่ต้องกลับไปแบบไม่มีลมหายใจ!”ลาร์เฟียร์ตวาดกรรโชกแรงด้วยความกราดเกรี้ยว สำหรับมาเฟียอย่างลาร์เฟียร์ เวสเปอร์คนนี้ ไม่มีอะไรที่อยากได้แล้วไม่ได้!
“ทำแบบนั้นมันก็เหมือนคุณบังคับให้ผมทำงานให้ไม่ใช่รึไงวะ!”รัตติกรผลักไหล่หนาแรงๆด้วยต้องการจะหนีออกห่างจากคนตรงหน้า ความโกรธพุ่งริ้วขึ้นมาจนเขาอยากทำร้ายอีกฝ่ายให้เละเสียคามือ!
“แล้วไงล่ะ ทำงานกับฉันมันไม่ดีตรงไหนกัน ผลตอบแทนดีกว่าเธอกลับไปทำงานที่ไทยตั้งเยอะ อีกอย่าง อยู่นั่นมีใครรอเธออยู่ด้วยหรือไง?”
อยู่นั่นมีใครรอเธออยู่ด้วยหรือไง....
รัตติกรถึงกับสะอึก ใช่ ที่นั่นเขาไม่มีใคร
ไม่มีใครที่ต้องกลับไปหา และไม่มีใครต้องการให้เขากลับไป...
“...ฉันต้องการคำตอบแล้ว รัตติกร”ลาร์เฟียร์เอ่ยเร่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายที่โวยวายแล้วอยู่ๆก็เงียบลงไป ใบหน้าคมสวยหม่นลงพร้อมกับคิ้วเรียวบางขมวดมุ่น
“...หนังสือ” ในเมื่ออยู่ที่ไหนก็ไม่แตกต่าง ชีวิตของเขาก็มีสิ่งที่ต้องการเพียงอย่างเดียว...
“อะไรนะ?”ลาร์เฟียร์เอ่ยถามเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพึมพำไม่ได้ศัพท์เบาๆกับตนเอง
“ผมต้องการหนังสือยี่สิบเล่มต่อวัน ความหนารวมกันต้องไม่น้อยแปดพันหน้า ห้ามมีเล่มที่เคยอ่านแล้ว และเวลาพักสิบชั่วโมงสำหรับการอ่านมันทั้งหมด นอกเหนือจากนั้นจะสั่งงานอะไรก็เรื่องของคุณ”เมื่อตัดสินใจแล้วรัตติกรก็เอ่ยสิ่งที่เขาต้องการออกไปให้ชัดเจน ต่อจากนี้จะมีอะไรเข้ามาอีกบ้าง เขาก็จะไม่สนใจอะไรมันแล้ว
“....หึ หึ...ฮ่าๆๆๆๆ”ลาร์เฟียร์ได้ยินข้อเสนอก็หัวเราะลั่น นั่นสินะ เขาลืมไปว่ารัตติกรบ้าคลั่งหนังสือยิ่งกว่าอะไรดี คิดไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าสิ่งนั้นจะมีความสำคัญมากขนาดนั้น
“มีปัญหาอะไรรึไง?”พอหมดเรื่องแล้วรัตติกรก็กลับไปต่อล้อต่อเถียงเช่นเก่า
“นั่นหมายถึงเธอตกลงสินะ ดี งั้นก็ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย เสร็จแล้วไปเจอฉันที่ห้องทำงานแล้วกัน”มาเฟียหนุ่มเอ่ยสั่งงานแรกพร้อมกับผละตัวออกจากผู้ช่วยหมาดๆ เขาลงมายืนข้างเตียงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยไปพลางๆ
“...อืม”รัตติกรรับคำแบบไม่ยินดียินร้าย พร้อมกับจัดเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของตนให้เข้าที่เช่นกัน
“เควิน”ลาร์เฟียร์เดินไปกดอินเตอร์โฟนเรียกชื่อการ์ดคนหนึ่งที่ยืนเฝ้าอยู่นอกห้อง
“ครับดอน”ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสนิทเปิดประตูเข้ามาเพื่อรับคำสั่งของคนเป็นนาย ดวงตาเบื้องหลังแว่นดำสอดส่องไปรอบห้องเพื่อหาหลักฐานว่านายเขาทำอะไรกับของเล่นชิ้นใหม่ไปแล้วบ้างอย่างแนบเนียน
“พาลูน่าไปที่ห้องพัก สั่งอลิเซียให้เตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้พร้อม แล้วจัดโต๊ะอาหารที่ห้องทำงานให้ฉันสองที่ บอกฟรานด้วยว่าให้มาพบฉันที่ห้อง”สั่งจบลาร์เฟียร์ก็ออกจากห้องไปด้วยท่าทางอารมณ์ดีอย่างที่นานๆทีจะได้เห็นสักครั้ง
“ครับดอน คุณลูน่า เชิญทางนี้ครับ”การ์ดหนุ่มรับคำสั่งก่อนจะเดินนำทางคนตรงหน้าไปสู่ห้องพักเพื่ออาบน้ำแต่งตัวดีๆซักที
ก็หลายวันที่ผ่านมาพวกเขาได้แต่เฝ้ามองเรียวขาขาววับๆแวมๆนั่นทั้งวัน เล่นเอาใจสั่นจนแทบอยากกระชากเสื้อเชิ้ตขวางหูขวางตานั่นออกไปให้พ้นๆ แต่ก็ต้องเตือนใจตัวเองเอาไว้
ของเล่นชิ้นนี้ของนาย นายสั่งไว้ ว่าใครก็ห้ามแตะ!
ห่างหายไปนาน แหะๆ กลับมาแล้วครับ
ช่วงนี้รู้สึกเป็นแต่งยากๆ สงสัยว่าคงต้องวางพล็อตแล้วล่ะครับ จับทางตัวเองไม่ถูกจริงๆ ตอนนี้ก็เขียนเป็นงงๆด้วย
ทุกคนว่ามันแปลกรึเปล่าครับ หรอว่าผมคิดไปเองนะ... :z3:
-
ไม่แปลกนะ ชอบดีค่ะ
ส่วนเรื่องพล็อตเนี่ย เมื่อก่อนเคยแต่งนิยายแฟนตาซีปกติมาบ้าง ไม่ได้เก่งอะไรหรอกค่ะ แต่ลองแนะนำดู
เขียนนิยาย ต้องลองวางพล็อตดูด้วยจ้ะ แล้วมันจะเขียนง่าย
อย่างน้อยก็คร่าวๆว่าต้องมี ว่าตัวละครหลักๆแต่ละตัวเนี่ยเขียนขึ้นมาเพื่ออะไร จุดประสงค์ของแต่ละคนคืออะไร
เมนไอเดียของเรื่อง อย่างน้อยมันต้องมีเหตุการณ์พีคใหญ่ๆอ่ะค่ะ
ก็ลองวาดคร่าวๆก็ได้นะ ว่าเหตุการณ์นี้เกิด(กับใครที่ไหนอย่างไร) เกิดแล้วมีผลต่อเนื่องไปอีก เป็นเหตุการณ์2 3 4 ก็ว่าไป และก็ต้องมีเหตุการณ์พีคสุดท้ายจบปิด(ซึ่งส่วนมากจะเป็นหัวใจหลักของเรื่อง)ก่อนที่เรื่องจะจบด้วยอ่ะค่ะ วาดๆดู น่าจะเขียนง่ายขึ้นบ้างค่ะ
-
ดีใจที่มาต่อได้เสียที :mc4:
แต่เสียใจที่น้องลูน่าไม่โดนงาบเสียที :m31:
ทำไมงะ....ทำไมๆๆๆ พระเอกมันก้อนหินหรือไง ขนาดนี้แล้วนะ :m16:
คนเขียนใจร้าย :z6:
จัดหนักๆหน่อยเซ่!!!!!!!!!!!! :z13:
หนักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เราต้องการหนักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :beat: :beat:
ฮือ....โกรธแล้วนะ :serius2:
-
^
^
รีบนใจเย็นๆ :laugh:
เราก็อยากให้ลาร์เฟียร์จัดหนักลูน่าเหมือนกัน
แต่ดูจากท่าทางพระเอกแล้วถ้าลูน่าโดนจัดหนักทีนี่คง"หนัก"จริงๆ
เพราะงั้นค่อยเป็นค่อยไปแล้วรอจัดหนักแบบคอมโบเซทดีกว่าเนอะ :impress2:
-
เย้ :mc4: :mc4:
ในที่สุดก็ได้อ่าน นึกว่าเรื่องนี้จะหายเข้ากลีบใบบัวไปซะแล้ว
นึกอยู่แล้วว่าอย่างลูน่าไม่น่าจะโดนงาบง่ายๆ
แต่ติดใจอดีตของลูน่าจังหงะ
มันต้องเป็นม่าม่ารสจัดแหง๋ๆ
ไม่งั้นคงไม่ทำให้คนอย่างลูน่าถึงกับมีอาการทางจิตแบบนี้แน่
โอ้ย :serius2:อยากรู้
ได้แต่รอความเมตตาจากไรเตอร์
รีบมาต่อเร็วๆน้า :L2:
-
เรื่องน่าสนใจดีค่ะ ติดตามนะคะ โพสบ่อยๆนะตัวเทอ :L2: :L2:
-
เพิ่งเข้ามาอ่านวันนี้ ก็ดีนี่คะ ไม่รู้สึกแปลกอะไรเลย ออกจะสนุกชวนติดตาม
คิดว่าจะต้อวเป็นFC ต่อไปแน่ๆเลย
ป.ล. ผู้แต่งอายุ 17จริงๆเหรอ เก่งจังเด็กอะไร อายุแค่นี้เอง
สงสัยเป็นหนอนหนังสือแบบรัตติกรแน่ๆ แล้วก็ถ่ายทอดเก่งด้วยจ้ะ
-
สนุกมากค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะค๊ะ
-
ได้อ่านแล้ว o13
เย ดีใจจัง
-
สนุกดีค่ะ เรื่องราวน่าติดตามดี....อยากอ่านอีกอ่ะ :serius2:
มาต่ออีกเร็วๆนะ :pig4:
-
อ๊ากกกก ตามมาจากเด็กดี
ว่าแต่คิดถึงมากอะไรมาก อยากอ่านอีกเยอะๆจัง
ว่าแต่ 10 เล่มพอมั้ง อ่านเยอะเดี๋ยวไม่มีเวลา
ทำอย่างอื่น 555 :really2:
-
เพิ่งมีโอกาสได้อ่าน สนุกดีคะ
ชอบนะ แบบว่าอ่านแล้วติดเลยคะ (แต่ดูเวลาจากที่เคยอัพก่อนๆ แอบเศร้า ที่ติดนิยายอัพรายเดือน -*-)
เรื่องวางพล็อต แล้วแต่ถนัดล่ะคะ ถ้ารู้สึกว่ามันเริ่มเข้าเรื่องวุ่นๆแล้วก็ลองวางดูก็ดีนะคะ
อย่างน้อยเวลาแต่งต่อจากตอนเดิม แล้วลืมความรู้สึกเดิมของตอนก่อนไปแล้ว ก็ัยังสามารถ
คงเนื้อเรื่องไว้ได้ ไม่หลุดออกไปอะคะ
ยังไงก็เอาใจช่วยแล้วรออ่านอย่างตั้งใจมากนะคะ
-
ไม่อยากเดาเลย อยากรู้ตอนต่อไปที่สุดดดดดดด
-
เห็นแวว sm มาแต่ไกล
-
พิมพ์แก้แปบนึงครับ เดี๋ยวเอามาลง
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.10
รัตติกรเดินตามการ์ดที่ชื่อเควินมาประมาณห้านาทีกว่า ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูไม้บานสูงที่แกะสลักลวดลายตราสัญลักษณ์รูปจันทร์เสี้ยวซ้อนทับด้วยนาฬิกาที่แสดงเวลาหกโมงตรงกับตัวอักษร V และเท่าที่สังเกตมา ประตูทุกบานรวมถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่ก็มักประดับไปด้วยสัญลักษณ์นี่เช่นกัน
คงจะเป็นตราประจำตระกูลล่ะมั้ง...
“คุณลูน่าครับ นี่คือห้องที่ดอนจัดเอาไว้ให้คุณครับ”เควินเปิดประตูบานนั้นออก เผยให้เห็นภายในห้องที่รายล้อมไปด้วยชั้นหนังสือสูงจรดผนัง เตียงกว้างสี่เสาตั้งอยู่ชิดริมหน้าต่างบานสูง ถ่ายทอดทิวทัศน์ริมทะเลของอ่าวจันทร์เสี้ยวมอนเดโล่ในบรรยากาศยามเย็นได้งดงามเป็นที่สุด ขวามือสุดของห้องมีทางเดินที่ทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบิลท์อินเชื่อมกับห้องน้ำโดยไม่มีกำแพงกั้น
ไม่มีกำแพง...อาบน้ำทีคงหวิวๆน่าดู
“อาบน้ำเสร็จเมื่อไหร่ ให้กดปุ่มสีแดงข้างๆโทรศัพท์นะครับ จะมีคนเอาชุดมาให้ จัดการตัวเองเสร็จแล้วเดี๋ยวผมจะพาคุณไปพบดอนที่ห้องทำงานนะครับ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว ตามสบายนะครับ”
ทันทีที่เควินออกจากห้องไป สิ่งแรกที่รัตติกรให้ความสนใจก็คือหนังสือมากมายที่อยู่ตรงหน้า ร่างเพรียวก้าวไปคว้ามาหนึ่งเล่มแล้วยืนเปิดอ่านอยู่ตรงนั้น
ทีแรกเขาคิดว่าขอเปิดอ่านผ่านๆสักหน่อยแล้วจะไปอาบน้ำ…
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หนุ่มชาวไทยยังอยู่ที่เดิม เพียงแต่นั่งลงกับพื้น หนังสือหลายเล่มกองอยู่รอบตัว ท่าทางเหมือนเขาลืมไปแล้วว่าตัวเองต้องทำอะไรและมีใครรออยู่...
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นแผ่วเบาดึงความสนใจของรัตติกรออกจากหนังสือให้หันไปมองที่ต้นกำเนิดเสียง ก่อนที่ประตูไม้เนื้อดีจะเปิดเข้ามาด้วยฝีมือของเควิน โดยมีหญิงสาวอีกคนในชุดแม่บ้านที่ถือสูทติดมือมาด้วย
“เอ่อ...ทำไมยังไม่อาบน้ำล่ะครับคุณลูน่า ผมเห็นแม่บ้านยืนรอคุณอยู่ตั้งนาน สงสัยว่าคุณเป็นอะไรเลยเข้ามาดูน่ะครับ มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ?”น้ำเสียงทุ้มต่ำเข้ากับร่างใหญ่ยักษ์ถามเขาอย่างเป็นห่วงเป็นใย ส่วนแม่บ้านสาวก็เดินเอาชุดสูทไปวางไว้บนเตียงกว้าง จัดวางตามลำดับการใส่เอาไว้อย่างดีแล้วรีบขอตัวออกจากห้องไป
“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ พอดีผมอ่านหนังสือเพลินไปหน่อย จะไปอาบเดี๋ยวนี้แหละครับ คุณเควินไม่ต้องห่วงหรอก”การ์ดหนุ่มยิ้มแห้งๆส่งมาให้ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป โดยไม่วายทิ้งคำเตือนเอาไว้เผื่อคนบางคนจะอ่านเพลิน
“ยังไงก็รีบๆหน่อยนะครับ ดอนไม่ชอบคอยใคร” รัตติกรพยักหน้ารับให้อีกฝ่ายคลายใจและปิดประตูจากไป มือเรียวหยิบหนังสือเล่มที่อ่านข้างไว้มาอ่านต่อโดยใช้มือซ้ายถือไว้มือเดียว ส่วนมือขวาก็ค่อยๆแกะกระดุมเสื้อและถอดชั้นในออก ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ยังคงมองไล่ตามตัวอักษรอย่างไม่ละสายตา
ร่างเปลือยเปล่าก้าวตรงไปทางห้องน้ำอย่างมั่นคง พอไปถึงใต้ฝักบัวก็เปิดน้ำให้รินรดลงมา มือซ้ายยังคงประคองหนังสืออ่าน มือขวาก็กดยาสระผมมาขยี้บนหัว ทุกอย่างดำเนินไปแบบไม่มีอะไรติดขัด การอาบน้ำดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยที่สายตาของชายหนุ่มแทบไม่ละออกจากหน้ากระดาษแม้แต่น้อย
พออาบน้ำเสร็จรัตติกรก็พาร่างเปียกปอนตรงมาที่เตียง ร่างเพรียวได้รูปล้มตัวลงนอน อาศัยให้เตียงเป็นผ้าเช็ดตัว ลมเย็นๆจากแอร์เป่าพัดช่วยให้ตัวแห้งเร็วขึ้นมาอีกหน่อย และแน่นอน ขนาดเวลาอย่างนี้ รัตติกรก็ยังมีหนังสืออยู่ในมือและอ่านต่อโดยไม่ยอมให้เนื้อเรื่องขาดตอน
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ หากแต่ตอนนี้ตัวของชายหนุ่มแห้งสนิท เขานอนคว่ำอยู่บนเตียง มีหมอนหนานุ่มหนึ่งใบรองอยู่ใต้อก และยังคงเพลิดเพลินกับเนื้อหาในหนังสือโดยไม่สนใจอะไรรอบข้าง
จวบจนประตูไม้เปิดออกอีกครั้ง เสียงทุ้มต่ำที่แฝงแววเกรี้ยวกราดก็ดังขึ้นในระยะที่รู้ได้ว่าเจ้าตัวคงมาถึงข้างเตียงของเขาแล้ว
“นอนแก้ผ้าอย่างนี้ เธอรอให้ฉันมาเล่นรักกับเธออยู่รึยังไงลูน่า”
ซวยแล้วสิ....
ไม่ไหวแล้วครับ ทนไวรัสในคอมไม่ไหวแย้ววววว ค้างๆๆๆ กระตุกๆๆๆ ทุกๆ5นาที :m31:
พิมพ์ไปแล้วจิตมันหงุดเงี้ยว ตอนนี้เลยขอมาสั้นๆ
เดี๋ยวแก้ไวรัสได้เมื่อไหร่จะมาลงยาวๆเลยครับ ขอโทษด้วยนะครับ
ส่วนพฤติกรรมของรัตติกรในตอนนี้เอามาจากผมเต็มๆเลยครับ
ตั้งแต่อาบน้ำไปจนถึงตอนนอนตากแอร์ ผมทำแบบนั้นเลยล่ะ 55
นิสัยส่วนใหญ่ของรัตติกรก็เอามาจากตัวผมเองนี่แหละครับ
ผมก็บ้าหนังสือเหมือนกัน แต่ไม่ขนาดรัตติกรนะครับ
เอาเป็นว่ารอไวรัสจางหายแล้วจะรีบมาต่ออย่างด่วน ขอโทษที่ตอนนี้สั้นไปหน่อยนะครับ
(เอาเป็นว่าถือเป็นตอนที่ทำให้รู้จักลูน่าเพิ่มขึ้นละกันน้อ)
ไปนอนแล้วนะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับผม
-
ดีใจจัง มาต่อแล้ว นิสัยของรัติกรเหมือนหลานๆของเราเลย เราชอบนะที่เขาชอบหนังสือ แต่บางทีทำอะไรอืดอาดน่ารำคาญ
เคยถีบลงเตียงมาแล้ว 5555 ทำอะไรช้าจริ๊งอิพวกนี้ รำคาญเฟ้ย เรียกไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว คนอื่นรอมึ๊งอยู่คนเดียว
5555 หวังว่าคนแต่งคงไม่บ้าเท่าหลานเรานะ ขอบคุณที่มาต่อเสียที แต่อย่าลืม!!! จัดหนักให้เราด้วยจ้าาาาาาา :monkeysad:
-
อาบน้ำเสร็จแล้วชอบมากลิ้งบนเตียงเหมือนกันเลย :laugh:
แอร์เป่าเดี๋ยวมันก็แห้งเนอะ :m20:
-
ดอนได้มีประสบการณ์รอคนอื่นแล้ว แต่งานจะเข้าลูน่าของเราซะก่อนมั้ง
-
เริด เอาไปบวกหนึ่ง :L2:
มาดูกันสิว่า ดอนจะหลงลูน่าหัวปักหัวปำกันหรือเปล่า :L1:
-
อ่านพฤติกรรมลูน่าแล้วฮาแตก :m20:
สะท้อนตัวเองพิกลเพราะเราเวลามัวเมากับหนังสือสักเล่มก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
เคยอ่านเดอะลอดฯสามภาคตั้งแต่หกโมงเช้าวันนี้ไปจบที่สี่โมงเย็นของอีกวัน
แทบลืมกินแต่ลืมนอนงดอาบน้ำและตัดขาดจากโลกภายนอก
จนเพื่อนมันบอกถ้านอนตายก็คงไม่มีใครสงสัยหรอก :m23:
แต่ลูน่าเล่นหลงหนังสือจนลืมสถานะของตัวเองแบบนี้
ดูสิว่าจะโดนดอนลงโทษยังไง
ภาวนาขอให้ไรเตอร์จัดการกับไวรัสได้เร็วๆด้วยเน้อ :call:
-
อู๊ยยยยยยย ล่อตะเข้ ชัดๆๆๆเลย
ไวรัสจงหายไปเดี่ยวนี้
รออออออ
-
ไวรัสจงหายเพี๊ยงๆๆๆ :a2:
รออ่านนะคะ :z1:
-
หวายๆๆๆๆๆๆ
แล้วลูน่าจะทำยังไงล่ะเนี่ย :sad4:
-
เพิ่งตามมาอ่าน รอตอนต่อไปอยู่เน้อออ
-
อูย วองโกเล่ๆๆๆๆ มาเฟียอิตาลี่
ลูน่าโครตเก่ง
ชอบตอนบรรยายมากเลย ชอบที่เห็นคนบ้าหนังสืออย่างนี้มาก เหมือนเรามีพรรคพวกอ่ะ อิอิ
อยากอ่านต่อแล้ว
โชวความเทพของลูน่าอีกเยอะนะ แบบ สกิลภาษาไร้เทียมทานไปเลยอะไรยังเงี้ยะอ่ะ ชอบอ่านความเทพของนายเอก :laugh:
-
:serius2: เกลียดไวรัส...
เพราะชอบอ่านหนังสือสินะ ถึงบรรยายออกมาได้ดี.. ชอบอ่า มาต่ออีกยาวๆๆๆๆ นะ
:pig4:
-
1 แนะนำว่ากรุณามีพล๊อตเรื่องเถอะค่ะ..เพราะกลัวจริงๆ เลยว่านิยายสนุกๆอย่างนี้ผู้แต่งจะแต่งไม่จบ
2 มาบ่อยกว่านี้จะเป็นพระคุณค่ะ
3 คำว่าอิตาลีจะใช้กับประเทศเท่านั้นค่ะ ส่วนอย่างอื่นเราจะใช้ว่าอิตาเลียน(อิตาเลี่ยน)เช่นคนอิตาเลียน ภาษาอิตาเลียน อาหารอิตาเลียน
4 ระหว่างบรรทัด ห่างเกินไปค่ะ
แนะนำให้เคาะ enterหนึ่งครั้งเวลาจะขึ้นบรรทัดใหม่ แล้วเวลาจะขึ้นย่อหน้าใหม่ก็เคาะสองครั้งนะคะ จะดีมากเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ..เพราะสนุกมากกกกกกกกก o13
-
ไม่เคยเจอคนบ้าหนังสือขนาดนี้มาก่อนเลยอะ :jul3:
-
ลูน่าน่ารักจังเลยค่ะ...นิสัยเหมือนเด็กเลย(ตรงที่จดจ่อกับอะไรแล้วลืมสิ้นทุกอย่าง)
ลาเฟียร์คงยั๊วะน่าดู...แต่เข้ามาดันเจอสภาพนอนเปลือยอ่านหนังสืออยู่อย่างนี้นึกภาพฉากต่อไปไม่ออก :laugh:
มาอัพเร็ว ๆ นะคะ...ทั้งสองเรื่องเลย สนุกมาก ๆ
+1 o13
-
ลูน่าเทพสุดๆ อาบน้ำมือเดียว
รอมาต่อนะคะ
:L2: :L2:
-
สุดยอดอ่ะค่ะ อาบน้ำไปด้วยอ่านไปด้วยหนังสือไม่เปียกหรอนั่น น่าสงสัยจริงๆ
-
สนุกมากกกค่ะ o13
ลูน่าน่ารักจัง เหมือนพวกอัฉริยะ แต่ก็ยังมีนิสัยเด็กๆ แบบนี้ดอนรักตายเลยค่ะ
:กอด1: :กอด1:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.11
รัตติกรหันขวับไปมองคนที่ยืนทำหน้ายักษ์อยู่ข้างเตียงอย่างรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่กำยำในชุดสูทสีดำสนิทเรียบหรูกอดอกมองเขาด้วยความหงุดหงิด ข้างหลังมีชายอีกคนถือแฟ้มสีดำตั้งหนึ่งเข้ามาด้วย
รัตติกรตลบผ้าห่มเข้ามาคลุมตัวเองอย่างรวดเร็วแล้วมองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยสายตาต่อว่า
“จะเข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อน”
“ไม่รู้ตัวหรือไงว่าฉันรอเธออยู่ ถ้าไม่เข้ามาดูเธอจะอ่านต่อไปอีกนานเท่าไหร่ล่ะ”
รัตติกรรู้ตัวดีว่าเป็นฝ่ายผิด เลยทำได้แค่เม้มปากเพื่อปิดกั้นคำว่าร้ายต่างๆที่อยากตะโกนออกไปให้รู้แล้วรู้รอด
ลาร์เฟียร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จะปราบเจ้าราชสีห์เมืองไทยนี่ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ยังดีที่เขายังมามารถใช้โอกาสที่ได้มาอย่างไม่ทันตั้งตัวนั่นดึงให้รัตติกรมาทำงานกับเขาได้
อีกไม่นานหรอก เขาจะทำให้ทั้งตัวทั้งใจของหมอนั่นจะต้องมาสยบลงแทบเท้าของเขา!!
“ไม่ไปห้องฉันก็ไม่ต้องไป มาดูงานที่นี่เลยก็แล้วกัน”ว่าจบลาร์เฟียร์ก็ทรุดตัวลงบนเตียง ร่างแกร่งรวบตัวคนที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มมานั่งตัก ก่อนจะพยักหน้าเรียกผู้ช่วยให้เอาแฟ้มทั้งตั้งวางลงตรงหน้า
“เฮ้ย! คุณ! ปล่อยผมนะ จะมาจับไว้ทำไมเล่า!”ไม่มีทางเสียหรอกที่รัตติกรจะยอมนั่งตักเขาเฉยๆ ร่างเพรียวบางดิ้นไปมาจนผ้าห่มที่คลุมตัวเอาไว้แทบจะเลื่อนหลุด แต่ที่หนักไปกว่านั่นคือเนื้อนุ่มๆสองก้อนที่กำลังบดเบียดอยู่บนตัวเขาต่างหาก!
“ลูน่า ถ้าเธอไม่อยู่เฉยๆแล้วสงบปากสงบคำสักทีล่ะก็ ฉันว่าเรามาต่อเรื่องบนเตียงอีกรอบกันเอาไหม? ฉันไม่ใช่คนมีความอดทนอะไรนักหรอกนะ”ดูท่าว่าการใช้เรื่องเช่นนี้มาขู่จะให้ผลดีที่สุด เพราะร่างที่ดีดดิ้นอยู่เมื่อครู่หยุดกึกทันทีที่ได้ยิน
“ในหัวคุณก็มีแต่เรื่องแบบนั้นนั่นแหละ”เจ้าตัวบ่นพึมพำเสียงเบา แต่เขานั่งซ้อนอยู่ด้านหลังแบบนี้มีหรือจะไม่ได้ยิน แต่ก็ทำได้แค่เพียงไม่ต่อความยาวสาวความยืด ไม่อยากนั้นก็คงได้เถียงกันไปทั้งวัน งานก็ไม่เดินหน้ากันพอดี และการทำสิ่งที่เสียเวลาก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้นำองค์กรอย่างเขาควรทำด้วย
“ถ้าอยากอ่านนักก็อ่านแฟ้มพวกนั้นไป ทั้งหมดนั่นเป็นข้อมูลคร่าวๆของคู่ค้าของเรา รวมทั้งบุคคลสำคัญในแฟมิลี่ที่นายควรจะจำเอาไว้ด้วย”ลาร์เฟียร์พูดไปก็หยิบแฟ้มหนึ่งเปิดให้รัตติกรที่นั่งซ้อนอยู่บนตักเขาดูไปด้วย
“ถ้าแค่อ่านทำไมคุณต้องมาหาผมเองด้วยล่ะ?”หนุ่มชาวไทยบ่นไป แต่ก็ยอมหยิบแฟ้มเหล่านั้นมาเปิดอ่าน
ข้อมูลส่วนใหญ่ที่อยู่ในแฟ้มเป็นรูปถ่ายของบุคคลหลากหลายสถานะ ข้างใต้ภาพมีคำอธิบายถึงชื่อ วันเดือนปีเกิด อาชีพทั้งในโลกเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ซึ่งมีทั้งข้าราชการชั้นสูง เจ้าของธุรกิจพันล้านรอบโลก ซุปเปอร์สตาร์ กระทั่งนักฆ่ามือหนึ่งก็มี นอกจากนั้นยังระบุประวัติคร่าวๆของเจ้าของรูปถ่ายรวมถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ สุดท้ายยังมีจุดอ่อนของแต่ละคนอยู่อีกด้วย
“ยังมีเรื่องที่ฉันต้องอธิบายเอง และบางอย่างที่เธอน่าจะถามฉันด้วย อีกอย่างฉันไม่ได้เรียกเธอไปหาเพราะแค่จะมอบหมายงานอย่างเดียว ลืมไปแล้วรึไงว่าฉันสั่งอาหารมาให้เรากินด้วยกันอีกน่ะ?”ว่าจบลาร์เฟียร์ก็สั่งให้ผู้ช่วยไปเรียกแม่บ้านมาตั้งโต๊ะอาหาร จากนั้นก็ดึงคนที่นั่งอยู่บนตักมาจูบแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ไล่ฟัดแถวแก้มกับซอกคอหอมกรุ่นอีกหน่อยแล้วจึงค่อยลุกไปนั่งที่โต๊ะเพื่อรออาหารที่สั่งมา
“คุณ...คุณมัน...โธ่เว้ย!”รัตติกรนั่งอึ้งอยู่บนเตียง ทุกสิ่งเมื่อครู่มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนเขาไม่ทันจะหลบหลีกด้วยซ้ำ!
“จะบ่นอะไรอีกล่ะ ลูน่า นั่งอ่านงานของเธอไปเถอะ พออาหารมาก็ลุกมากินเสียด้วยกัน”มาเฟียหนุ่มเหยียดยิ้มมุมปาก เขายกขาขึ้นไขว้กัน จ้องมองอากัปกิริยาของคนตรงน่าที่น่าดูไปเสียทุกอย่าง
คนน่าดูหยิบแฟ้มแบบกระแทกกระทั้นมาเปิดดูได้เกือบสิบนาทีก็ทนต่อการจ้องมองเงียบๆไม่ไหว
รัตติกรถลึงตาใส่เขาทีหนึ่งก่อนจะรวบแฟ้มทั้งหมดเข้าหาตัวแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมโปงตัวเองเอาไว้ ปิดกั้นสายตาที่มองมาซึ่งรังแต่จะสร้างความหงุดหงิดให้เขามากขึ้นอีกก็เท่านั้น
...อย่างไรก็ตาม ตอนที่หมอนั่นดึงเขาไปนั่งบนตัก สัมผัสร้อนผ่าวที่แผ่มาจากคนข้างหลัง รวมทั้งอ้อมแขนแกร่งที่โอบทั้งตัวของเขาเอาไว้มันก็ชวนให้รู้สึกดีเหมือนกัน ทั้งอบอุ่น และรู้สึกมีที่ๆให้พึ่งพิงได้
เป็นอีกสัมผัสที่รัตติกรไม่เคยรู้จัก แต่ได้รับรู้จากการอยู่ข้างๆตัวคนกวนประสาทบางคน...
ที่ขนาดนั่งเงียบๆก็ยังไม่วาย กวนประสาทได้ตลอดเวลา!!
“หึ....ฮ่าๆๆๆ”เห็นพฤติกรรมของรัตติกรเช่นนั้นลาร์เฟียร์ก็ถึงกับหัวเราะพรวดออกมา
แม่บ้านที่เข็นรถอาหารเข้ามาทางประตูได้แต่มองทั้งคู่ด้วยความสงสัย เจ้านายของเธอกำลังหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแบบที่นานๆทีถึงจะได้เห็น ส่วนชายหนุ่มคนให่มของเจ้านายก็นอนคลุมโปงอยู่บนเตียง เล่นอะไรกันอยู่นะ?
“อาหารมาแล้ว ลูน่า ออกมากินด้วยกัน”ลาร์เฟียร์เอ่ยสั่งอย่างเคยชิน เขาหยิบผ้ากันเปื้อนมาวางบนตัก ลงมือรับประทานอาหารที่มาช้ากว่าเวลาที่ควรเล็กน้อยเพราะติดธุระกับคนบางคนที่ไม่ยอมมาร่วมโต๊ะกับเขาเสียที
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา มีเพียงผ้าห่มที่ขยับเล็กน้อยเท่านั้น ลาร์เฟียร์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดประโยคที่น่าจะได้ผลทุกครั้งหากใช้กับรัตติกร
“...ถ้าเธอไม่มาฉันจะไปกินเธอแทน!”
“อีกสามหน้าจะจบ เดี๋ยวไป!”เสียงหวานห้วนตอบกลับมาทันควันอย่างที่เขาคาด ถ้าเป็นคนอื่นๆได้ยินประโยคนี้คงวิ่งรี่เข้ามาหาเขานานแล้ว แต่นี่คือรัตติกร ประโยคเมื่อครู่จึงเป็นได้แค่เพียงแค่คำขู่เท่านั้น
และนี่ก็อีกอย่าง แฟ้มทั้งตั้งนั้นมีสองร้อยกว่าหน้า เวลาที่รัตติกรเริ่มอ่านก็ประมาณยี่สิบนาทีที่แล้ว เรียกได้ว่าอ่านไวเหลือจะกล่าว สมกับเป็นพวกบ้าคลั่งหนังสือของแท้
ครู่เดียวแขนเรียวยาวโผล่พ้นจากผ้าห่มหนา ก่อนจะหยิบชุดเสื้อผ้าที่วางอยู่บนเตียงกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มอีกรอบ ยุกยิกๆอยู่ไม่นาน ร่างเพรียวบางก็ออกมาในชุดกางเกงผ้าสูทและเสื้อเชิ้ต หากแต่ไม่ยอมใส่เน็กไทด์และเสื้อสูททับให้เรียบร้อย ผมสีดำสนิทที่ยังชื้นน้อยๆก็ยุ่งฟูจนไม่เป็นทรง
ลาร์เฟียร์ยิ้มกว้างด้วยความขบขัน มองอีกฝ่ายที่เดินมานั่งตรงข้ามเขาและเริ่มกินอย่างเรียบร้อย
“ลาร์เฟียร์ ผมมีเรื่องอยากถาม”รัตติกรถามเสียงเรียบขึ้นมาเหมือนจะชวนคุย ลาร์เฟียร์เลิกคิ้วด้วยความสงสัยเล็กน้อยก่อนจะตอบรับไป
“ว่ามาสิ”
“ผมพอจะรู้ว่าคุณเป็นมาเฟีย แล้วยังเป็นหัวหน้าของเวสเปอร์แฟมิลี่ด้วย แต่จากข้อมูลที่คุณให้ผมอ่านมา ผมคิดว่าคุณเป็นมากกว่านั้นใช่ไหม?”ท่าทางคนถามยังคงเรื่อยๆ หากแต่น้ำเสียงเป็นการเป็นงาน ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถามเล่นๆ
“...แล้วเธอคิดว่าฉันเป็นอะไรล่ะลูน่า”ลาร์เฟียร์ยิ้มรับอย่างเงียบขรึม เขาวางมือออกจากอาหารแล้วยกแก้วไวน์แดงขึ้นจิบ ดวงตาสีสนิมจับจ้องอีกฝ่ายที่วางมือตามเช่นกัน
“ผมเคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับมาเฟีย ในนั้นมีชื่อตระกูลเวสเปอร์ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่ตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่18 ซึ่งเป็นแฟมิลี่ที่มีมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มก่อตั้งมาเฟียในซิซิลี
ในเมื่อแฟมิลี่ของคุณเป็นแฟมิลี่ที่เก่าแก่ ควบคุมพื้นที่ทั้งหมดในปาเลอร์โม่ที่ถือเป็นเมืองหลวงของมาเฟีย นอกจากนั้นยังมีประวัติในการเป็นเจ้าเหนือหัวของมาเฟียมาหลายรุ่น
และจากที่อ่านงานของคุณ ที่ส่วนใหญ่แล้วเหมือนคอยควบคุมความเป็นไปของมาเฟียหลายๆกลุ่ม ตำแหน่งของคุณดูเหมือนกับหัวหน้าของหัวหน้ามาเฟียอีกที คุณคือ Don of Don ใช่หรือเปล่า?”อีกครั้งที่ลูน่าของเขาแสดงภูมิออกมาให้เห็น ถ้าไม่จำเป็นไม่มีใครไปหาเรื่องพวกนี้มาอ่านหรอก แต่ถ้าคนๆนั้นคือรัตติกรล่ะก็ จะเจอหนังสืออะไรเขาก็อ้าแขนรับทั้งนั้นแหละ
“เก่งนี่? เดาถูกแล้ว ฉันคือเวสเปอร์รุ่นที่ยี่สิบแปด เป็นดอนออฟดอนอย่างที่เธอว่ามานั่นแหละ”ลาร์เฟียร์ยอมรับ ทุกอย่างที่รัตติกรว่ามาเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตระกูลของเขา
“ถ้าอย่างนั้นงานส่วนใหญ่ของคุณคืออะไร ค้ายาเสพติดอย่างนั้นเหรอ?”คนรู้ดีทำท่าทางลำบากใจ รัตติกรยอมรับว่าเขาไม่ใช่คนดีเด่อะไร หากแต่ก็ไม่อยากทำเรื่องชั่วร้ายให้คนหมู่มากต้องเดือนร้อนตามไปด้วย
“ใช่ ยาเสพติด อาวุธเถื่อน ค้าประเวณี ฉันก็คุมหมดนั่นแหละ”เจ้าพ่อหนุ่มตอบรับเสียงเหยียด เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ช้าๆ แก้วไวน์ถูกวางกลับไว้ที่เดิม เขาปล่อยให้มือทั้งสองข้างได้ประสามกันเหนือเข่าด้วยท่าทีของผู้มีอำนาจ
“...ทำไมคุณต้องทำเรื่องเลวร้ายพวกนั้นด้วย”พอรู้ว่าไม่ใช่แค่ค้ายา รัตติกรก็ทำหน้าแย่ลงกว่าเดิม ถึงกับค้าประเวณีก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากเข้าไปยุ่งด้วยแล้ว
“โลกแห่งความจริงไม่ใช่สิ่งสวยงามหรอกนะลูน่า เรื่องพวกนี้ไม่มีวันหายไปจากโลกใบนี้ได้หรอก ถ้าไม่มีใครมาคอยควบคุมจนมันเกิดเป็นระบบระเบียบขึ้นมาล่ะก็ เธอคิดว่าโลกนี้จะเลวร้ายลงอีกแค่ไหนกันล่ะ จะรอให้รัฐบาลมาจัดการก็มีแต่พวกจอมปลอมที่เอาประโยชน์เข้าใส่ตัวก็เท่านั้น”ลาร์เฟียร์อธิบาย เขาอยู่กับโลกแห่งความจริงมานานพอและยอมรับสิ่งเลวร้ายต่างๆมาตั้งแต่รู้ความ คำพูดว่าต้องทำความดีอย่างนู้นอย่างนี้ก้เป็นสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้มาตั้งนานแล้วเหมือนกัน
“แต่ยังไงแบบนั้นมันก็ไม่ดีนี่”หนุ่มชาวไทยแย้งกลับ หากแต่ในหัวเริ่มคิดตาม และเขาก็เห็นว่าเป็นเช่นจริง แต่ก็ยังไม่อยากยอมรับเท่าไหร่นัก
“แม้จะเป็นกลุ่มคนผิดกฎหมายแต่ก็คงอยู่เพื่อประโยชน์ของสังคม แม้ไม่ใช่สีขาวสะอาดแต่ก็เป็นสีเทาที่มีดีมีร้ายระคนกัน”
“...?”ได้ฟังจบรัตติกรก็เพียงแค่ทำหน้าสงสัย เขาแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆลาร์เฟียร์ถึงพูดประโยคนั้นออกมา
“นั่นคือคำสอนที่ดอนแห่งเวสเปอร์ทุกรุ่นยึดถือ เรื่องพวกนี้ไม่มีวันจะหายไปอย่างขาวสะอาดได้หรอก ต้องมีใครสักคนที่ยอมถูกย้อมด้วยสีดำ ปกครองระบบเหล่านั้นให้เกิดผลกระทบต่อสังคมทั่วไปให้น้อยที่สุด แต่หากถูกย้อมด้วยสีดำจนสีขาวเดิมที่มีอยู่ถูกกลืนกินไปหมดสิ้น เมื่อนั้นเขาก็จะกลายเป็นสิ่งที่ต้องกำจัดสำหรับเรา”ลาร์เฟียร์อธิบายประโยคก่อนหน้าให้อีกฝ่ายฟัง ทำการฝังทัศนคติด้านบวกเกี่ยวกับตนเองให้เข้าหัวของรัตติกร
“ถ้าขนาดว่าคุมไว้แล้วทำไมทุกวันนี้ยังเกิดเรื่องพาดหัวข่าวเต็มไปหมดอยู่อย่างนั้นล่ะ?”แม้จะเห็นด้วยกับที่เจ้าพ่อหนุ่มบอกมา แต่รัตติกรก็ยังหาเหตุผลมาแย้งอีกฝ่ายตามความเคยชิน
“เราไม่สามารถควบคุมทั้งโลกได้หรอกนะลูน่า พวกมาเฟียยุคใหม่ที่ไปตั้งถิ่นฐานอยู่อเมริกานั่นไง พวกหัวยุคใหม่ที่เปลี่ยนอุดมการณ์ของมาเฟียยุคเก่าไปเป็นการชิงดีชิงเด่นกัน จากการปกครองอำนาจมืดก็เปลี่ยนเป็นการแสวงหาผลประโยชน์เข้ากลุ่มของตัวเอง ใช้อำนาจมืดเพื่อแสวงหาเม็ดเงินเข้าตัวก็เท่านั้น”ลาร์เฟียร์ยักไหล่ เขาเอ่ยถึงพวกนั้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
“งั้นคุณก็จะบอกว่าคุณเป็นมาเฟียฝ่ายดีงั้นสิ?”รัตติกรยิ้มล้อเลียน เขากำลังคิดถึงพวกซุปเปอร์ฮีโร่อยู่แล้วเอามาเทียบกับคนตรงหน้า
“เวสเปอร์ไม่เคยถือว่าตัวเองเป็นฝ่ายดีหรอก เราคือผู้ปกครอง ไม่ใช่ผู้แย่งชิงก็เท่านั้น”ลาร์เฟียร์ยิ้มรับขันๆ เห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็รู้แล้วว่ากำลังนึกอะไรพิเรนท์ๆอยู่
“ก็ยังดีนะ ได้ทำงานกับมาเฟียแบบคุณ ดีกว่าต้องคอยทำงานแบบพวกผู้ร้ายเต็มขั้นแล้วกัน”พอยอมรับแนวคิดของอีกฝ่าย รัตติกรก็ทำใจได้เร็วขึ้น ย้อมตัวเองให้เป็นแค่สีเทา ยังดีกว่ากลายเป็นสีดำที่น่าขยะแขยง
“หึ...พูดถึงเรื่องทำงาน วันหยุดพักของฉันจะหมดพรุ่งนี้แล้ว มะรืนเราจะไปจีนกัน ที่นั่นคงเป็นที่ๆเธอจะใช้ความสามารถของเธอโดยเต็มที่ล่ะนะ เพราะฉันพูดได้แต่จีนกลางอย่างเดียวเท่านั้น ฝากด้วยละกัน”ลาร์เฟียร์ให้งานแรกกับรัตติกร ประเทศจีนนั้นมีภาษาท้องถิ่นอีกเป็นสิบ การได้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกนั้นพูดกันจะเป็นประโยชน์ต่อเขามากทีเดียว
“ประเทศจีน...งั้นสินะ...” รัตติกรพึมพำรับ ที่ๆจะเป็นงานแรกของเขา และเป็นการเผชิญหน้ากับโลกมืดเป็นครั้งแรกอย่างเต็มตัว...
มาอัพแล้วครับ ไวรัสยังไม่หายไป แต่ผมดันทุรังจะเล่น 555
ตอนนี้ในคอมผมทำได้แค่พิมพ์งานกับเข้าเน็ต
แต่ฟังเสียงอะไรไม่ได้ โหลดอะไรก็ไม่ได้ เล่มเอ็มก็ไม่ได้ ประทับใจจริงๆครับท่าน
รู้สึกว่าตอนนี้เล่นซะยาวแถมมีสาระแบบแปลกๆ
ยังไงก็ตาม ขอขอบคุณเว็บ http://firodendon.exteen.com/20091028/entry
ที่ช่วยอธิบายประวัติมาเฟียต่างๆให้ผมดึงมาใช้ในเรื่องได้เรื่อยๆแบบนี้นะคร้าบ
ส่วนอีกเรื่องนึงที่ผลตอบรับดีเกินคาด(มากมาย) คงจะอัพวันพรุ่งนี้ในเวลาค่ำมืดดึกดื่นจนเกือบเช้าเหมือนเช่นวันนี้ล่ะครับ
ตอนนี้ก็ขอตัวไปนอนก่อน เพราะว่าทำบัตรประชาชนหาย ตอนเก้าโมงเลยต้องออกไปทำบัตรใหม่
สรุปเวลานอนโดยรวมได้3ชม....เอิ้ว o22
ราตรีสวัสดิ์นะครับ ฝันดีนะครับนักอ่านที่รักทุกทั่น!! :z2:
-
อ่านเรื่องนี้แล้วอยากหยิบรีบอร์นในตู้มานั่งอ่านอีกรอบจัง :m1:
แต่ปรากฎว่าอ่านไปได้ไม่ถึงครึ่งเล่ม ..................หลับ!!! :jul3:
ตอนต่อไปอัพสองเรื่องเลยนะคะ :laugh:
-
ตอนนี้น่ารักกันจังเลยนะคะ...ประเทศจีนหรอ
อยากเห็นรัตติกรใส่กี่เพ้าอ่ะ :laugh:
ตอนต่อไปอัพสองเรื่องเลยนะคะ :laugh:
-
รอติดตามอยู่นะคะ
-
ยิ่งอ่านไความสนุกก็ยิ่งเพิ่มขึ้น รอตอนต่อไปค่ะ
-
อ่ะนะ
200หน้า 20นาที อ่านเร็วจัง
แล้วยังได้รายละเอียดด้วย...เก่งอ่า
ชอบอ่ะ สนุกดี นายเอกเก่ง :impress2:
รอตอนต่อไปค่ะ :L2: :L2:
-
:pig4:
-
รอติดตามอยู่ทั้ง 2 เรื่องเลยค่ะ
สนุกกันคนละแบบ เรื่องนี้ออกแนวเครียดหน่อยๆ อีกเรื่องก็ตลก น่ารัก ชอบค่า
-
จะรออ่านทั้งสองเรื่องค่ะ น่าติดตามมากๆ o13
-
มาช่วยดันเรื่องนี้
รัตติกร เหมือนมีบุคลิกขัดแย้งในตัวเองเน๊อะ
อย่างตอนอ่านหนังสือหรือว่าถูกกอดก็ดูเป็นเด็กน้อย
แต่ว่ามีอดีตที่ดูเหมือนจะน่ากลัวอยู่ ทำให้กลายเป็นคนเก็บตัว หรือเปล่า?
เอาใจคนแต่งต่อสู้กับไวรัสนะคะ :L2:
-
เรื่องนี้ก็เข้มข้น อีกเรื่องออกแนวฮา ชอบทั้ง 2 เรื่องเลยค่ะ o13
-
ดีใจที่มาต่อนะคะ ลูน่ายังน่ารักเหมือนเดิม ส่วนอีกเรื่องก็ชอบ :pig4:
เห็นไหมล่ะเราบอกแล้วว่าจัดหนักเร็วเข้า อีกเรื่องนะเรดติ้งกระฉูด :pighaun: :pighaun:
บอกให้จัดหนัก :beat: จัดหนัก :beat:จัดหนัก :beat:
ไม่เชื่อใช่ไหม :z6:
นี่แนะ จิ้มซะเลย :z13: จิ้มซะ :z13:
ยังไงก็ตามเราก็ชอบฉากหวานๆในตอนนี้นะพระเอกน่าร้ากมาก ให้คะแนนความหวานเต็ม 100 เลย แท้วกิ้ว
มาต่อไวๆเด้อ แล้วก็อีกเรื่องด้วย :pig4: :pig4:
-
รอติดตามค่ะ
อ่านแล้วชอบมากๆเลย
สไตล์นี้เป็นเีืื่รื่องที่น่าอ่าน น่าค้นหา
อิอิ
มาต่อเร็วๆเน้
-
ลูน่า เริ่มอ่อนลงแล้วใช่ม้าาาาา :o8:
-
เพิ่งมาตามอ่าน สนุกมั่กๆ o13
-
ครับผม มาอ่านเรื่องนี้ด้วยคนครับ สงสัยที่อ่านหนังสือตอนอาบน้ำ หนังสือไม่เปียกเหรอครับ
คือถ้าแช่ยังเข้าใจ แต่ฝักบัวนี้งงอะ ผมบ้าหนังสือเอาอ่านในห้องน้ำยังไง ตอนใช้ฝักบัวก็ยังกลัวเปียกอยู่ดี
แล้วอดีตที่แว่บเข้ามานั้น ภาพใช่ซ่องหรือเปล่า ให้ความรู้สึกว่าเหมือน แต่ก็งงว่าลูน่าอยู่กับแม่
ก่อนที่แม่เสียชีวิตเมื่อโตแล้ว ไม่ใช่เหรอ เรื่องนี้ดูมาม่าเยอะอะ เทใจให้เรื่องนู้นมากกว่า
แต่จะตามทั้งสองเรื่องนะครับ ยังไงก็อย่าลืมมาต่อด้วยแล้วกัน ขอบคุณครับ
-
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ตามมาจากอีกเรื่องนึง
เรื่องทำดีไม่ได้ดี ตลก
ส่วนเรื่องนี้ แฟนตาซีดี แนวมาเฟีย
-
สนุกดี
แต่แอบงงๆตอนบรรยายอ่ะ ไม่รู้ว่าใครบรรยายเหมือนสลับไปมา หรือเรางงเองก็ไม่รู้ 55
สู้ๆ ติดตามๆ
-
:impress2:
สนุกทั้งสองเรื่องแหละ แต่ตามมาจากทำดีได้ปั๋วล่ะ :m20:
เป็นข้อพิสูจน์ของประโยคที่ว่า "ชื่อ(เรื่อง)นั้นสำคัญไฉน" ได้เหมือนกันนะคะ
ชื่อเรื่องนู้นมันน่าดึงดูดให้เปิดกว่าน่ะ
แต่ก็อ่านแ้ล้วทั้งสองเรื่องนะ สนุกกันไปคนละแบบ
ติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อจ้ะ
:-[
-
ชอบมากมาย
อ่านแล้วไหลลื่นไม่ติดขัดเลย ชอบแนวนี้ด้วยอ่า~
อยากอ่านบทอัศจรรย์ของคู่นี้จัง ฮ่าๆ
-
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าเป็นคนเขียนเรื่องเดียวกันกับ ทำดีได้....
เหอ เหอ
สนุกมากเลย คนละแนว แต่เขียนได้ดีเจงๆๆๆๆ
เชียร์ให้ลูน่าโดนจัดหนัก กร๊ากกกกก
-
:impress2:
สนุกทั้งสองเรื่องแหละ แต่ตามมาจากทำดีได้ปั๋วล่ะ :m20:
เป็นข้อพิสูจน์ของประโยคที่ว่า "ชื่อ(เรื่อง)นั้นสำคัญไฉน" ได้เหมือนกันนะคะ
ชื่อเรื่องนู้นมันน่าดึงดูดให้เปิดกว่าน่ะ
แต่ก็อ่านแ้ล้วทั้งสองเรื่องนะ สนุกกันไปคนละแบบ
ติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อจ้ะ
:-[
เห็นด้วยเลยคะ อ่านสองเรื่อง แต่เรื่องนั้นชวนเชิญให้เปิดมากจริงๆ 5+
-
ยิ่งอ่านยิ่งมีไรมากขึ้น
ชอบๆๆ
-
กรี๊ดดด เรื่องนี้สนุกอ่ะ
มาต่อนะค๊า
-
ลูน่าทำใจยอมรับและก็เข้าใจได้เร็วดี ไปจีนต้องมีเรื่องมันๆ แน่เลย
-
สนุกมากค่ะ เพิ่งได้เข้ามาอ่านนี่ก็ตอนที่ 11 ไปแล้ว
และหวังว่า 12 จะมาเร็วๆนี้
+ 1 ให้สำหรับความสนุก และภาษาก็แสนจะลงตัว
-
มาสมัครเป็นแฟนคลับใหม่ครับ
อ่านทันแล้ว ชอบมากครับ
อยากรู้ว่าอีกเรื่องชื่อว่าอะไรครับ? จะตามไปอ่าน
รอนะครับ มาอัพเร็วๆ
-
ตามมาจากอีกเรื่องอ่ะค่ะ
สนุกมากๆๆ ทั้งสองเรื่องเลย o13
ขอเป็นแฟนคลับอีกคนค่ะ
:L2:
-
ติดตามๆ สนุกดี
-
ติดตามจากเด็กดีมาก
เห็นมีในนี้ด้วย ดีใจมากเลยทีเดียววว
-
ผมจะติดตามทุกตอนเลยนะคับ
สนุกมากๆคับ
-
:L2:ตามมาอ่านเรื่องนี้ด้วยครับสนุกมากมายครับ
รอติดตามนะครับ
-
แวะมาดัน
มาอัพหน่อยจิ
:z2:
-
มาลองอ่านดู
ปรากฏว่าชอบมากกก
ติดแล้วด้วย มาต่อไวๆ นะ เค้ารอตะเองอยู่
สงสัยอดีตนายเอกมาก
เหมือนอยู่ในหนังสยองขวัญไล่ฆ่ามันทีละคน
-
ตามมาจากน้องโยค่ะ ให้คนละอารมณ์ดีแฮะ
-
ชอบพลอตแบบนี้จัง อ่านแล้วคิดถึงนิยายแปลญี่ปุ่น
นานๆจะมีคนแต่งสไตล์นี้ซักที ... รอตอนต่อไปนะค้า
-
ตามทันแล้วว :)
ถึงจะมี5หน้า แบบไม่เต็มแต่ใช้เวลาอ่านมากกว่าน้องลูน่า(ตกลงเปลี่ยนชื่อแล้วใช่มั้ย :m20:)
อ่าน200อีก :z3:
เรื่องสนุกจ้า ภาษาเพราะเลยล่ะ
แต่อยากให้มีพลอตเหมือนกันน๊า คุมไว้เล็กๆก็ได้ เสียดาย
เรื่องสนุกๆกลัวแต่งไม่จบ :sad4:
เป็นกำลังใจให้น๊า :L2:
-
มาต่อเร็วๆนะ >w<
ปอลอ.ติดตามทั้งสองเรื่องเลย
ปอลอลอ.เดี๋ยวให้ครูมาเร่งให้อัพให้ 55555555
-
มาต่อได้แล้วอ่าาา
-
:call: :call: :call:
รออยู่นะค่ะ
-
รออ่ะ o9 o9 o9
-
เย่ๆๆ ไอ่น้องพี่หานิยายน้องเจอแล้ว เด๋วไปอ่านก่อนนะ เห็นบอกว่ายุ่งๆ รีบมาต่อไวๆ ก่อนจะโดน แควนๆเค้างอลนะไอ่น้อง ^^
(โยๆ พี่ขอ NC หนักๆนะคระ อิอิ )
-
มารอน้าส์
:call: :call: :call: :call: :call:
:call: :call: :call: :call: :call:
-
ลูน่าน่ารักดี ออกแนวดื้อนิดๆไม่อ่อนไปไม่แข็งไป
ชอบแนวนี้มากๆเรย
รอติดตามอยู่นะค่ะ
-
อ้ากกกก ชอบเรื่องนี้ มาต่อทีเถอะค้าาาา รอนานแล้วน้า :sad4: :sad4:
-
อัพเร็วๆนะค่ะ สนุกมาก
-
มาอัพเรื่องนี้หน่อยน้าาา อยากอ่านอ่ะ :sad4: :sad4:
-
คน แต่ง ฝาก มา แจ้ง ว่า ...
" เรียนนักอ่านที่รักทุกท่าน
ขณะนี้ผม นาย Namioto yo คอมได้สิ้นชีพ ดับสนิท เปิดไม่ติดอีกเลยไปซะแล้วครับ
ทั้งๆที่แต่งเสร็งทั้ง 2 ตอน เสร็จแล้วทั้ง 2 เรื่อง (อาเมน :z3:)
เมื่อกู้ชีพลลูกรักได้เมื่อไหร่ จะรีบกลับมาอัพทันทีขอรับ
ด้วยรักและไส้แห้ง
Namioto Yo "
ก็ เป็น ประ การ ระ ชะ นี้ แล......
ช่วย รอ 2 เรื่อง นี้ ต่อ ด้วย ละ กัน น้าา o13 o13 o13
จาก เพื่อน ข้าง โต๊ะ ( ตั้ง ชื่อ ให้ เรา ใหม่ ซะ งั้น เลย :serius2:)
:bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
-
รออยู่แล้วค่า
-
สนุกมากค่า จะรอนะ o13 o13
-
คน แต่ง ฝาก มา แจ้ง ว่า ...
" เรียนนักอ่านที่รักทุกท่าน
ขณะนี้ผม นาย Namioto yo คอมได้สิ้นชีพ ดับสนิท เปิดไม่ติดอีกเลยไปซะแล้วครับ
ทั้งๆที่แต่งเสร็งทั้ง 2 ตอน เสร็จแล้วทั้ง 2 เรื่อง (อาเมน )
เมื่อกู้ชีพลลูกรักได้เมื่อไหร่ จะรีบกลับมาอัพทันทีขอรับ
ด้วยรักและไส้แห้ง
Namioto Yo
โฮฮฮ ไวรัส(ใช่มั้ย?)ทำพิษใส่ทั้งคอมคนเขียนและความกระหายของคนอ่าน :sad4:
แต่ยังรอต่อไป~ :L1:
-
:z3: :z3: เรื่องคอมโดนไวรัสนี่ทำใจ
คนอ่านอย่างเราก็ได้แต่ รอ
ส่งกำลังใจให้คนซ่อมกู้ข้อมูลกลับมาให้ได้มากที่สุด :L2:
-
ติดตามมาจากเรื่องอื่นคะ อ่านเรื่องใครว่าทำดีแล้วได้ดี ทำไมกูทำดีแล้วได้ผัวอ่ะ?? น่ารักมากคะ เรื่องนี้เครียดกว่าเรื่องนั้นคะ แต่นายเอกเก่งกว่ามาก และชีวิตแบบโลกมืดน่ากลัวกว่าที่ทุกคนคิด
-
สองเรื่องคนละอารมณ์กันเลย
อ่านแล้วชอบทั้งสองเรื่อง o13
-
เข้ามาปูเสื่อกินหนมรอ :z2:
-
เพิ่งมาอ่านแต่ชอบนะสนุกดีรอตอนต่อไป
-
เห็นทู้นี้ กรี๊ดแล้ววิ่งเข้ามาเลย
นึกว่ามาต่อ
อ้าว มัน19/5/54 :o
วันนี้มัน 19/6/54
ผิดเดือน กรรม กุเข้าใจผิด _*_
-
จิ้มๆๆๆๆให้คนแต่งฟืนคืนชีพ :laugh:
-
กรี้ดดดด สนุกมาอ่ะตัวเธอ
ตัวเธอมาต่อเร็วๆๆๆนะ เรารออยู่ ๕๕๕
ปล.ตัวเธอครบเดือนแล้วนะตัวเธอ ถ้าคอมไม่หาย เราแนะนำ ลงวินใหม่เลย ๕๕๕๕ ลงวินใหม่เท่านั้นที่แก้ไวรัสได้ ๕๕๕
-
ตามมาอ่านจากอีกเรื่องครับ เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะครับ
-
ตามมาจากอีกเรื่องคับ
ชอบทั้งสองเรื่องเลย
มาต่อไวๆนะคับจะรออ่าน
-
หายยย ไปไหนหว่า
มานั่งรอคนแต่งอยู่นะคะ :really2:
-
:z13:
-
ลูน่าสู้น๊า
:bye2: o13
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.12
ลีมูซีนสีขาวปลอดแล่นจอดเทียบหน้าโถงประตูใหญ่ของบ้านสมัยจีนโบราณอย่างเงียบเชียบ บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำก้าวลงจากรถคันหน้ามาเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ตามสัญชาติอิตาเลี่ยนของลาร์เฟียร์ เวสเปอร์จะค่อยๆก้าวออกมาจากรถด้วยท่าทางทรงอำนาจ
ดวงตาสีสนิมคมเฉี่ยวมองกวาดไปรอบบริเวณ ก่อนจะหันกลับไปมองคนในรถที่ซุกตัวนอนขดอยู่บนเบาะ ร่างเพรียวค่อยๆลุกงัวเงียขึ้นมา หากแต่ดวงตายังคงหรี่ปรืออย่างคนตื่นไม่เต็มที่
รัตติกรเดินเซๆลงจากรถ ดวงหน้าสะลึมสะลือหันมองซ้ายขวาแบบเหม่อๆ ท่าทางที่เหมือนลดความระมัดระวังลงทั้งหมดลงแบบนั้นชวนให้ลาร์เฟียร์ถือโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆเช่นนี้ก้มลงประกบปากอวบอิ่มที่แห้งผากเล็กน้อย เรียวลิ้นสีอ่อนแลบเลียไปตามแนวริมฝีปากนุ่มนิ่ม หนุ่มชาวไทยสะดุ้งเฮือกก่อนจะผลักอกแข็งๆของคนฉวยโอกาสให้ห่างตัวอย่างรวดเร็ว
“เล่นบ้าอะไรของคุณ!”รัตติกรกระซิบว่าลอดไรฟัน หางตาเหลือบมองการ์ดของตระกูลฟงที่ยืนอารักษ์ขาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลซึ่งกำลังมองตรงมาทางพวกเขา
“ก็เห็นเหมือนยังไม่ตื่น”ลาร์เฟียร์ยักไหล่ตอบ ท่าทางเหมือนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แต่ระวังตัวหน่อยเถอะลูน่า ในถิ่นของคนอื่น ประมาทแค่ครู่เดียวชีวิตเธอก็ลอยหายไปได้ง่ายๆ”เจ้าพ่อหนุ่มเตือนเสียงเรียบ
“รู้แล้วล่ะน่า...”รัตติกรตอบกลับเบาๆเพราะเห็นชายคนหนึ่งในชุดจีนหรูหราเดินเข้ามาหา
ร่างสูงโปร่งถูกห่มคลุมไว้ด้วยผ้าไหมเนื้อดีสีแดงสดที่ช่วยขับผิวขาวเหลืองให้สว่างซีด กอรปกับผมยาวสีดำสนิทที่ทิ้งตัวตามจังหวะการเดินเข้ามาใกล้ ตวงตาเรียวชี้เฉียงขึ้นเล็กน้อยหยักขึ้นเป็นเส้นโค้งยามผู้เป็นเจ้าของยิ้มทักทายผู้มาเยือน
“สวัสดีคุณลาร์เฟียร์ การเดินทางไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยครับ”ผู้มาใหม่ถามขึ้นเป็นภาษาจีนกลาง รัตติกรพอจะจำได้ว่าเจ้านายคนนี้ของเขาเคยบอกเอาไว้ว่าเป็นภาษาจีนชนิดเดียวที่เขาพูดได้ ดังนั้นงานแปลของเขาก็คงไม่ได้ทำอะไรมากนักสิเนี่ย โชคดีไปละกันนะ!
“ก็ดี”ลาร์เฟียร์ตอบเสียงเรียบ ใบหน้าที่ฉายแววหยิ่งผยองรับกับดวงตาแข็งกร้าวพอเหมาะพอเจาะ
“ผมชื่อฟงเจิ้นฮ่าว เป็นน้องชายของพี่ใหญ่ฟง แต่ตอนนี้เชิญคุณลาร์เฟียร์ด้านในดีกว่านะครับ พี่ใหญ่กำลังรออยู่เลย”เจิ้นฮ่าวยิ้มรับท่าทางไม่ไว้หน้าของเจ้าพ่อหนุ่ม ดวงตาเรียวเล็กเหลือบมองคนที่อยู่ข้างหลังของลาร์เฟียร์ตาเป็นประกาย ก่อนที่จะผายมือเชิญทุกคนเข้าไปในบ้าน
เจิ้นฮ่าวเดินนำทาง ก่อนที่รัตติกรจะก้าวตามไป แต่อยู่ๆฝ่ามือใหญ่ก็ขว้าแขนของชายหนุ่มเอาไว้ ลมหายใจร้อนๆเป่ารดใบหูพร้อมกับถ้อยคำกระซิบภาษาอิตาเลี่ยนของผู้เป็นเจ้าของแผ่วเบา
“เสน่ห์แรงจริงนะลูน่า เผลอแปบเดียวเจิ้นฮ่าวก็เล็งเธอไว้ซะแล้ว…”
“...เรื่องของเขา!”รัตติกรตอบกลับเป็นภาษาเดียวกัน ในหัวนึกย้อนไปถึงข้อมูลของฟงเจิ้นฮ่าว น้องชายของฟงต้าเหลียง เจ้าพ่อค้าของเถื่อนผู้ติดอันดับแบล็กลิสต์ตำรวจฮ่องกง ในแฟ้มข้อมูลระบุข้อสังเกตของคนๆนี้ในด้านรสนิยมเอาไว้ว่าชอบผู้ชายเอเชีย นอกจากนั้นยังเป็นเกย์คิงที่ชอบเล่นซาดิสม์ซะด้วยสิ...
o22 :really2: :z10:
สั้นมากกกกกก แต่ผมไม่ไหวเลี้ยวววว
ขอไปนอนก่อนแล้วพรุ่งนี้จะรีบมาต่ออย่างด่วน ฝันดีทุกคนนะครับ :-[
-
เย้ยยยยยยยยยยยยยยย :a5:
สั้นมวกกกกกกกกกกกกกกกกกก :z3: :z3:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน
สนุกค่ะ ชอบๆ
-
ฟงเจิ้นฮ่าวน่ากลัวเจรงๆ :a5:
ลูน่าระวังตัวไว้ ให้ลาเฟียร์จัดหนักได้คนเดียวพอ หุหุ
-
ลูน่าเสน่ห์แรงจริงๆ ^^ เนื้อเรื่องน่าติดตามมาก เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
-
แหง่ม แยกอ่านเยอะๆ
-
ดีใจมั่กๆที่มาต่อได้เสียที รอมานานน้านนานมากๆๆๆๆๆๆๆ (งอนแล้วด้วย) :m31:
อย่าลืมว่ามีคนรออยู่ และคิดถึงมากๆนะค่า :L2: :L2:
-
รอร้อยเปอร์เซนต์ o13
ท่าทางงัวเงียของลูน่าน่าร้ากกกกก :man1:
-
มาแบบสั้นๆ แล้วคราวนี้อย่าหายไปนานอีกเลยนะครับ
-
สั้นมั่กมาก
:เฮ้อ:
-
รออยู่นะ ขอต่อยาวๆเลยได้ปะ คิดถึงลูน่าอ่ะ
-
เจิ้นฮ่าว...เกย์คิงจอมซาดิสต์?น่าสนใจๆ o13
-
รออ่านต่อค่า ลูน่าน่ารักมากๆ :z2: :z2:
-
มาต่อยังอ่ะ ยังไม่ตื่นอีกเหรออออออออออออ
-
มีหวงซะด้วย
-
เกย์คิง ชอบเล่นซาดิสต์ ฮูยยย ท่าทางน่าสนุกนะเนี่ยะ
-
สั้นสุดๆ :z3: :z3: :z3:
-
โอ้...ลูน่าเกิดไปถูกตาต้องใจ(สำนวนแก๊แก่)เจ้าพ่อเข้าแล้วสิ o18
แต่สั้นจังเลยอ่ะ...ยังไม่หายคิดถึงเลย :กอด1:
-
สั้นมว๊ากกกกก
-
โดนเล็งซะแล้วววว
ระวังหน้าระวังหลังด้วย
-
อ่าวนึกว่ายาว
รีบๆมาต่อนะครับรออยู่ครับผม
-
กลับมาลงต่อแล้วเย้ๆๆๆ
ลูน่าสเน่ห์แรงน๊า แค่เจอหน้าครั้งแรกก็โดนมาเฟียฮ่องกงเล็งซะแล้ว มาเฟียอิตาลีเลยหวงซ๊า
-
เรื่องราวน่าลุ้นนะครับ แต่ก็ดูแลตัวเองบ้างนะครับ
-
น่านๆ ลูน่าจะงานเข้าไหมนั่น
เสน่ห๋ล้นเหลือจริง :z1:
-
:sad4: อยากอ่านต่อแล้วกำลังสนุก
:call: :call: :call:
-
มาอัพไวๆๆๆ เน้อนักเขียน(ก็เค้ารนรงณ์ไม่ใช้ไรเตอร์กันไง)
หึหึ กาลังเข้มข้นหายร้อนแล้วยกซดได้ อ่ะไม่ช่าย หนุกมากจ่ะ
+ น่าจะ1 รึไม่ก็ 2 เพราะเข้ามาดูรอบแรกบวกยังหว่า? ลืมอ่ะ
-
สั้นได้ใจจริงๆๆ
พักผ่อนเยอะๆๆแล้วมาแต่งต่อน่า
-
สั้นมากจริงๆด้วยไรเตอร์
ได้พักผ่อนแล้ว อย่าลืมกลับมาต่อด้วยนะ............
จะรอจนครบร้อยนะคะ
-
100 100 คือตัวเลขที่เรารอคอย มาอัพไวๆน้า
-
สั้นไปป่ะ :a5:
แต่สนุกมากค่ะ รอคอยตอนต่อไปอย่างใจจดใจจอ
อยากเห็นคนหึง อิอิ
-
:man1: :man1: :man1:
ประทับใจมากกกกกกกกกก ครับ โดยเฉพาะการใช้ภาษา
ดีจนไม่นึกว่าจะเป็นเด็กอายุ 17 อะครับ แถมการสะกดคำ ก็ไม่เป็นแบบวรรณยุกต์อักเสบอีกด้วย
ประทับใจมากๆครับ ประทับใจจริงๆ
-
สุดยอดมากเลยคับเรื่องนี้ ผมให้ห้าดาวเลย
อ่านแล้วรู้สึกสัมผัสได้ เหมือนดูหนังแนวเจ้าพ่อมาเฟียเลยคับ
ปล.เป็นกำลังใจให้นักเขียนคับ
o13 o13 o13 o13 o13
-
อ่านทันแล้ววววว แต่ว่า....
แว้กกกกกก เค้าอยากอ่านต่อง่ะ o9
สนุกมากเลยค่ะ แต่งได้สุดยอด ภาษาก็สวย เนื้อเรื่องก็ดี
อ่านแล้วไม่สะดุด เข้าถึงตัวละคร บลาๆๆๆๆ ...
แถมยังเป็นแนวมาเฟีย กรี๊ดดดดดด :m3: ของโปรด
ชอบบุคลิค นิสัย ของลูน่ามาก
รออ่านต่อนะคะ o13
-
รออออออออออออออออออออออออ
นานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
แล้วน้ามาอัพหน่อยยยยยยยยยยยยย
น้า pleaseeeeeeeeeeeeeeee +_+
-
ท่าทางงานของดอนจะเพิ่มมากขึ้นแทนที่จะลดลงซะละมั้ง :laugh:
-
ว่าจะมาตั้งแต่เมื่อคืน แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์ไฟๆขึ้นอีกแล้วครับ
คราวนี้ไม่ได้ไฟดับ แต่มีประกายไฟแล่บออกมาจากคอมแทน = =!!! (บร๊ะเจ้า นึกว่าไฟจะไหม้ =[]=)
ด้วยเหตุนี้ รวมถึงใกล้เอ็นท์แล้วด้วย ท่านแม่ที่รักของผมจึงมีบัญชา ห้ามแตะต้องคอมจนกว่าจะเอ็นท์ติด เด็ดขาด!!
ดังนั้นจึงขอส่งใบลา อัพช้าอย่างไม่มีกำหนด (แต่ผมจะเอาโควต้ามข.คร้าบบ ดังนั้นรอลุ้นเดือนตุลานี้นะฮะ จะเอาให้ติดให้ได้ครับ)
ระหว่างนั้นคงทำได้แค่แต่งใส่สมุดไปวันๆ อาจจะพยายามฝากเพื่อนอัพบ้าง(ถ้าเป็นไปได้นะฮะ T^T)
ขอให้เอ็นท์ติดไวๆ แง่ว~ T^T
ขอโทษจริงๆนะครับ จะรีบกลับมาต่ออย่างไวที่สุดฮะ (โค้งขอโทษ90องศา)
แล้วเจอกันนะครับ
namioto yo
-
โหย ประกายไฟแลบออกจากคอม น่ากลัวจัง
ยังไงก็ขอให้ติดโควต้า มข นะคะ พี่เอาใจช่วย เผื่อวันดีคืนดีจะได้เจอกันในมอบ้างเนาะ ^^
ยังไงเรื่องเรียนก็มาก่อน แต่ถ้าติดแล้วต้องมาต่อนะคะ
-
+1ให้คนเขียนค่ะ สนุกดี :L2:
-
สู้ๆนะคะ ขอให้ติดตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ
แล้วอย่าลืมฝากเพื่อนอัพนะคะ :laugh:
-
เพิ่งเข้ามาอ่านก็ ตกหลุมรักเรื่องนี้ซะแล้วสิ
-
รอมาอ่านต่อ ...
โดนเล็งอีกแล้วว ว ว
-
ตั้งใจอ่านหนังสือนะ
เป็นกำลังใจให้จ้า :กอด1:
-
:z13:
เปลี่ยนจากดินสอเป็นของใต้สะดือแล้วเอามาแทงคนเขียนได้มะ :z1:
-
แอบมาเม้น ผมเห็นนะเอ้อ
พี่ทอสหื่นตล้อด~ 55+
-
หลงรักลูน่าซะแล้วววว อิมเมจลูน่าเราชอบมากเลยค่ะ
จะเป็นยังไงต่อไปน้า ^^
-
สู้ๆๆๆๆ นะค่ะรออ่านอยู่ค่ะ
-
Fight !!!! เอนท์ให้ติดแล้วกลับมาแต่งต่อน่ะ
-
มาอัฟเรื่องนี้ต่อด้วยเลยเร็วววววววววววววว :angry2:
-
ลูน่าเก่งจริง พูดได้ตั้งหลายภาษา
-
เพิ่งมาตามอ่านจ้า .. สนุกตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุดเลย ^^ อยากจะบอกว่าชอบแนวนี้มากกกก เจ้าพ่อมาเฟีย อู้ยยย เท่ซะ! 555 เป็นกำลังใจให้น้องคนแต่งนะจ้ะ เห็นบอกกำลังเอ็น ก็ขอให้เข้าคณะ+มหาลัยที่อยากเข้าให้ได้น้า ,,,
-
จะนอนรอเลยค่า ขอให้ประสบความสำเร็จกับการสอบนะคะ
-
ไฟแล่บงี้ต้องเอาน้ำสาดเลยลูกหายชัวร์! * ป้าด! โดนตบหัวทิ่ม*
อุว้าวพึ่งรู้ว่าคนเขียนกำลังอยู่ในช่วงเตรียมเอนท์
อืมมม เพิ่งผ่านจุดนั้นมายังคงไม่ลืมเลือนซึ่งรอยอดีต ฮ่าๆๆๆ
ยังไงก็ขอให้สอบติดได้คณะที่ตั้งใจไว้นะจร้ะๆ
ขอให้ติดรอบโควต้าเลยด้วยจะได้สบายตัวสบายใจ
ยังไงก็สู้ๆน้า ตอนแรก เห็นชื่อคนแต่งแล้วไม่อยากเข้ามาเล้ยยเพราะรู้ว่าเข้ามาแล้วได้ติดแน่ๆ แล้วก็ตามคาดกั้บ
ติดหนึบ!!!!....หวี่~
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะจ้ะ สู้ๆ o13
สนุกมากกก ตอนนี้พี่ติดฟิคน้องทั้ง2เรื่องงอมแงมเลย ฮ่าๆๆๆ
-
ใช่เลย นี่แหละที่ตามหา
-
เพิ่งได้อ่านเป็นคร้้ังแรก สนุกมว๊ากกกกกกก
ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นฝีมือการแต่งของเด็กเตรียมเอนฯ
แต่งดีมากๆ เริ่ดสุดๆไปเลยคุณน้อง คนเขียนเกิดปีอะไรหรอคะ ปีจออ๊ะป่าว
อยากอ่านต่อสุดๆเลยอ่าาาา มาแต่งไวๆ แล้วจะเป็นกำลังใจให้นะคะ
-
เป็นปลื้มมมมมมม
สนุกจริงๆเรื่องนี้
o13 o13 o13 o13 o13
-
อยากอ่านต่อแล้วอ่าาาา
กำสนุกเลยยยยย
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.12
ลีมูซีนสีขาวปลอดแล่นจอดเทียบหน้าโถงประตูใหญ่ของบ้านสมัยจีนโบราณอย่างเงียบเชียบ บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำก้าวลงจากรถคันหน้ามาเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ตามสัญชาติอิตาเลี่ยนของลาร์เฟียร์ เวสเปอร์จะค่อยๆก้าวออกมาจากรถด้วยท่าทางทรงอำนาจ
ดวงตาสีสนิมคมเฉี่ยวมองกวาดไปรอบบริเวณ ก่อนจะหันกลับไปมองคนในรถที่ซุกตัวนอนขดอยู่บนเบาะ ร่างเพรียวค่อยๆลุกงัวเงียขึ้นมา หากแต่ดวงตายังคงหรี่ปรืออย่างคนตื่นไม่เต็มที่
รัตติกรเดินเซๆลงจากรถ ดวงหน้าสะลึมสะลือหันมองซ้ายขวาแบบเหม่อๆ ท่าทางที่เหมือนลดความระมัดระวังลงทั้งหมดลงแบบนั้นชวนให้ลาร์เฟียร์ถือโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆเช่นนี้ก้มลงประกบปากอวบอิ่มที่แห้งผากเล็กน้อย เรียวลิ้นสีอ่อนแลบเลียไปตามแนวริมฝีปากนุ่มนิ่ม หนุ่มชาวไทยสะดุ้งเฮือกก่อนจะผลักอกแข็งๆของคนฉวยโอกาสให้ห่างตัวอย่างรวดเร็ว
“เล่นบ้าอะไรของคุณ!”รัตติกรกระซิบว่าลอดไรฟัน หางตาเหลือบมองการ์ดของตระกูลฟงที่ยืนอารักษ์ขาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลซึ่งกำลังมองตรงมาทางพวกเขา
“ก็เห็นเหมือนยังไม่ตื่น”ลาร์เฟียร์ยักไหล่ตอบ ท่าทางเหมือนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แต่ระวังตัวหน่อยเถอะลูน่า ในถิ่นของคนอื่น ประมาทแค่ครู่เดียวชีวิตเธอก็ลอยหายไปได้ง่ายๆ”เจ้าพ่อหนุ่มเตือนเสียงเรียบ
“รู้แล้วล่ะน่า...”รัตติกรตอบกลับเบาๆเพราะเห็นชายคนหนึ่งในชุดจีนหรูหราเดินเข้ามาหา
ร่างสูงโปร่งถูกห่มคลุมไว้ด้วยผ้าไหมเนื้อดีสีแดงสดที่ช่วยขับผิวขาวเหลืองให้สว่างซีด กอปรกับผมยาวสีดำสนิทที่ทิ้งตัวตามจังหวะการเดินเข้ามาใกล้ ตวงตาเรียวชี้เฉียงขึ้นเล็กน้อยหยักขึ้นเป็นเส้นโค้งยามผู้เป็นเจ้าของยิ้มทักทายผู้มาเยือน
“สวัสดีครับ นายท่านลาร์เฟียร์ การเดินทางไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยครับ”ผู้มาใหม่ถามขึ้นเป็นภาษาจีนกลาง รัตติกรพอจะจำได้ว่าเจ้านายคนนี้ของเขาเคยบอกเอาไว้ว่าเป็นภาษาจีนชนิดเดียวที่เขาพูดได้ ดังนั้นงานแปลของเขาก็คงไม่ได้ทำอะไรมากนักสิเนี่ย โชคดีไปละกันนะ!
ว่าแต่พวกมาเฟียจีนเรียกเจ้านายของเขาว่านายท่านงั้นเหรอเนี่ย....
“ก็ดี”ลาร์เฟียร์ตอบเสียงเรียบ ใบหน้าที่ฉายแววหยิ่งผยองรับกับดวงตาแข็งกร้าวพอเหมาะพอเจาะ
“ผมชื่อฟงเจิ้นฮ่าว เป็นน้องชายของพี่ใหญ่ฟง แต่ตอนนี้เชิญนายท่านด้านในดีกว่านะครับ พี่ใหญ่กำลังรออยู่เลย”เจิ้นฮ่าวยิ้มรับท่าทางไม่ไว้หน้าของเจ้าพ่อหนุ่ม ดวงตาเรียวเล็กเหลือบมองคนที่อยู่ข้างหลังของลาร์เฟียร์ตาเป็นประกาย ก่อนที่จะผายมือเชิญทุกคนเข้าไปในบ้าน
เจิ้นฮ่าวเดินนำทาง ก่อนที่รัตติกรจะก้าวตามไป แต่อยู่ๆฝ่ามือใหญ่ก็คว้าแขนของชายหนุ่มเอาไว้ ลมหายใจร้อนๆเป่ารดใบหูพร้อมกับถ้อยคำกระซิบภาษาอิตาเลี่ยนของผู้เป็นเจ้าของแผ่วเบา
“เสน่ห์แรงจริงนะลูน่า เผลอแปบเดียวเจิ้นฮ่าวก็เล็งเธอไว้ซะแล้ว…”
“...เรื่องของเขา!”รัตติกรตอบกลับเป็นภาษาเดียวกัน ในหัวนึกย้อนไปถึงข้อมูลของฟงเจิ้นฮ่าว น้องชายของฟงต้าเหลียง เจ้าพ่อค้าของเถื่อนผู้ติดอันดับแบล็กลิสต์ตำรวจฮ่องกง ในแฟ้มข้อมูลระบุข้อสังเกตของคนๆนี้ในด้านรสนิยมเอาไว้ว่าชอบผู้ชายเอเชีย นอกจากนั้นยังเป็นเกย์คิงที่ชอบเล่นซาดิสม์ซะด้วยสิ...
คนที่เป็นหนุ่มเอเชียส่ายหัวไล่ความคิดวิบัติออกจากสมองแล้วรีบสาวเท้าตามเจ้านายคนใหม่ไปทำงานทำการ
ฟงเจิ้นฮ่าวเดินนำทางไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่ประตูไม้สลักลายมังกรหรูหรา เขาหันไปพยักหน้าให้การ์ดสองคนที่เฝ้าประตูอยู่แล้วหันกลับมาหาลาร์เฟียร์
“พี่ใหญ่รออยู่ข้างในนี้ล่ะครับ”
เจ้าพ่อหนุ่มพยักหน้ารับไม่ตอบคำอะไร พอประตูไม้บานใหญ่เปิดออกกว้าง ร่างสูงใหญ่ก็ก้าวเข้าไปด้วยท่วงท่าทรงอำนาจได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด รัตติกรเดินตามหลังไปเงียบๆก่อนจะหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเก้าอี้ไม้ที่ลาร์เฟียร์นั่ง
ฝั่งตรงข้ามเป็นชายหนุ่มวัยกลางคนที่มีเค้าโครงหน้าคล้ายกับเจิ้นฮ่าว ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเขาคือฟงต้าเหลียง คนที่เป็นเป้าหมายของการเจรจาธุรกิจวันนี้ รอบๆห้องมีคนยืนรายล้อมอยู่สิบกว่าคน ต่างจากลาร์เฟียร์ที่มีเพียงรัตติกรและการ์ดอีกสองคนเท่านั้น
“นายท่านลาร์เฟียร์ เดินทางมาเหนื่อยๆ ทานของว่างก่อนนะครับ”ต้าเหลียงยกมือเป็นสัญญาณเรียกให้คนเอาอาหารออกมาวางบนโต๊ะ สาวน้อยในชุดกี่เพ้าสีแดงรัดติ้วเดินยกโถกระเบื้องเคลือบเข้ามาวางไว้ตรงหน้าของเจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลี่ รัตติกรสังเกตโถใบนั้นและพบว่ามันมีเนื้อดีและลวดลายวิจิตรซับซ้อนอย่างที่ต้องมีราคาสูงเป็นของควบคู่กันอย่างแน่นอน
“ขอบคุณ แต่ฉันไม่รับประทานอะไรที่ได้รับจากคนอื่น”ลาร์เฟียร์เหลือบมองโถบนโต๊ะเพียงเล็กน้อยแล้วละสายตาออกมา ก่อนจะประสานมือไว้หลวมๆแล้วไม่พูดอะไรต่อ ทิ้งบรรยากาศที่กดดันอย่างหนักหน่วงเอาไว้ ฟงต้าเหลียงหน้าเสียไปขณะหนึ่งจนกระทั่งเจิ้นฮ่าวเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เจือรอยหัวเราะไว้จางๆ
“นายท่านเป็นถึงดอนแห่งปาร์เลอร์โมนะครับพี่ใหญ่ อันตรายล้วนมีอยู่รอบตัว เขาต้องระวังเป็นธรรมดา จริงมั้ยครับคุณเลขา”เจิ้นฮ่าวหันมาทางรัตติกรเป็นเชิงขอความคิดเห็นหวังให้ช่วยกู้สถานการณ์ หนุ่มยาวไทยเพียงแค่เลิกคิ้วด้วยความงงงันว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเขา ยิ่งไอ้คำว่าคุณเลขานั่นก็ด้วย เขามาทำงานเป็นล่ามอย่างเดียวต่างหาก
“ก็คงงั้นล่ะครับ”เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียหน้าเพราะเจ้านายปากไม่ดีของตัวเอง รัตติกรจึงยอมเออออไปกับอีกฝ่าย ได้ยินดังนั้นต้าเหลียนจึงค่อยยิ้มออก เขาเปิดฝาโถเคลือบขึ้นมา ภายในนั้นมีเส้นใยสีแดงอ่อนๆลอยตัวอยู่ในน้ำสีใสเข้มข้น มันคือรังนกนั่นเอง กลิ่นสมุนไพรอ่อนๆลอยขึ้นมาพร้อมกับไอสีขาวเมื่อความร้อนที่กักเก็บไว้เล็ดลอดออกมาจากภายใน
รักนกแดงที่มีเส้นใยยาวขนาดนั้น ถ้าเป็นของแท้ ราคาเฉลี่ยในตลาดคือหกหมื่นถึงหนึ่งแสนสองหมื่นบาทต่อกิโลกรัม ยิ่งถ้ากะจากความอ่อนนุ่มของรังนกในน้ำนั่นอีก แสดงว่าเฉลี่ยแล้วต้องตุ๋นมามากกว่าสิบชั่วโมง...
รัตติกรประเมินราคารังนกของฟงต้าเหลียงในใจแล้วแอบเสียดายแทนลาร์เฟียร์ ก็ของที่เอามารับรองเจ้าพ่อมาเฟียคนนี้ยังไงก็ต้องเป็นของชั้นหนึ่งนั่นแหละ ดังนั้นแค่ที่อยู่ในโถนั่นน่ะ ราคาก็ปาไปเป็นหมื่นแล้วมั้ง
“ผมไม่กล้าทำเรื่องแบบนั้นกับนายท่านหรอกครับ ผมก็จะกินด้วยเหมือนกัน ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนครับ”ต้าเหลียนตักรังนกขึ้นมาใส่ในถ้วย แล้วรีบกินมันเข้าไปให้ลาร์เฟียร์เห็นกับตา หากแต่เจ้าพ่อหนุ่มกลับขมวดคิ้วเมื่ออีกฝ่ายยังคงพิรี้พิไรไม่เข้าเรื่องสักที
“แกเข้าเรื่องเลยดีกว่าว่าที่ส่งจดหมายเทียบเชิญฉันไปหลายต่อหลายครั้งนั่นน่ะ ต้องการอะไรกันแน่ เห็นบอกว่ามีของที่จะทำให้ฉันสนใจได้แน่ๆไม่ใช่รึไง”ลาร์เฟียร์ว่าพร้อมกับยกเรียวขาแข็งแกร่งขึ้นไขว้กัน ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะถูกวางประสานไว้บนเข่า สายตาคมจับจ้องไปที่ฟงต้าเหลียงแน่นิ่ง เพียงพริบตาเดียวเจ้าพ่อหนุ่มก็เปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องให้กดดันขึ้นมาทันตา
“คะ ครับนายท่าน... เจิ้นฮ่าว!”ต้าเหลียงเรียกน้องชายของตนด้วยน้ำเสียงลนลาน กิตติศัพท์ของดอนแห่งปาเลอร์โมคนนี้เป็นที่รู้จักกันดีในโลกเบื้องหลังอันแสนมืดมิด เขาคือนายเหนือหัวของเครือข่ายผู้คุมกฎแห่งโลกธุรกิจอันตราย มีเส้นสายครอบคลุมไปทั้งโลกด้วยการสืบสายมาจากสมัยบรรพบุรุษจวบจนมาถึงปัจจุบัน ใครก็ตามที่ทำธุรกิจผิดกฏหมายนั้นย่อมรู้จักตระกูลเวสเปอร์เป็นอย่างดี
และเหนือสิ่งใด ใครที่จับงานธุรกิจสายนี้เข้าแล้ว ย่อมต้องรู้เช่นกัน ว่าอย่าขวางทางเวสเปอร์ถ้าไม่อยากตาย...
“เมื่อไม่นานมานี้เราได้ข่าวการบ่อนไส้ของกลุ่มเทย์ริวมาครับ”เจิ้นฮ่าวที่ควบคุมตนเองได้มากกว่าพี่ชายกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนอบน้อม เขารู้สถานการณ์ดีว่าควรทำตัวเช่นไรเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องชาย คนที่ได้คุมตระกูลฟงย่อมเป็นเขาแน่นอน!
ลาเฟียร์เลิกคิ้วแสดงอาการกับข่าวที่ได้รับ รัตติกรที่ยืนอยู่เบื้องหลังก็นึกประวัติกลุ่มเทย์ริวที่ได้อ่านมาไปด้วย
เทย์ริวคือกลุ่มมาเฟียในประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสองขั้วอำนาจที่คานกันอยู่ระหว่างฝั่งคันโตและคันไซ เทย์ริวนั้นเป็นผู้นำทางอำนาจของฝ่ายตะวันตก(คันไซ) และเป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มสึกิวาระแห่งตะวันออก(คันโต) ทั้งสองฝ่ายแม้ไม่ได้แสดงออกว่ามีเรื่องราวบาดหมางใหญ่โตอะไรต่อกัน หากแต่ยังมีสภาวะสงครามเย็นที่แข่งขันในด้านความเป็นใหญ่ทางเศรษฐกิจและการเมืองอย่างเข้มข้นและฝังรากลึกมาหลายชั่วอายุคน
ทั้งสองกลุ่มนั้นเป็นพันธมิตรกับเวสเปอร์ด้วยกันทั้งคู่ หากแต่เทย์ริวนั้นเพิ่งเข้าร่วมในสมัยของลาร์เฟียร์ ต่างจากฝั่งสึกิวาระที่เป็นมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของนายเหนือหัวคนปัจจุบัน
น่าแปลกที่ข่าวของการทรยศมาจากกลุ่มของเทย์ริวซึ่งเข้าร่วมกับลาร์เฟียร์โดยตรง รัตติกรตั้งคำถามกับตัวเอง แล้วปล่อยให้ลาร์เฟียร์เป็นผู้ตัดสินเรื่องราวต่อจากนี้
“หลักฐาน?”ดอนแห่งปาเลอร์โมเอ่ยสั้นๆเป็นเชิงถามไถ่ก่อนจะเลื่อนฝ่ามือขึ้นมาประสานกัน คิ้วเข้มที่พาดเฉียงเหนือดวงตาเรียวคมเลิกขึ้นแสดงถึงความสงสัยแต่ไม่มีอาการตระหนกใดๆแสดงออกมาให้เห็น ชายหนุ่มเพียงเอ่ยถามเสียงหนักเท่านั้น
“สัปดาห์ก่อน ตระกูลฟงของเรามีนัดส่งสินค้าข้ามแดนไปรัสเซีย นายท่านก็รู้ใช่มั้ยล่ะครับว่าแถวนั้นเป็นอาณาเขตทับซ้อนระหว่างเวสเปอร์กับโนวาห์”เจิ้นฮ่าวหยิบภาพถ่ายสองสามใบขึ้นมาจากแฟ้มผ้าไหมลายมังกรสีแดงคล้ำแล้ววางลงตรงหน้าของลาร์เฟียร์
เพียงได้ยินคำว่าโนวาห์ ลาร์เฟียร์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันควัน ในรูปที่เจิ้นฮ่าวส่งมาให้ดูนั้นคือภาพถ่ามมุมสูงจากภัตตาคารสักแห่งในรัสเซียที่จัดแต่งอย่างหรูหราโอ่อ่า บุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพคือชายชาวญี่ปุ่นที่สวมใส่ชุดกิโมโนสีฟ้าขาวอย่างที่ไม่เข้ากับสถานที่หากแต่เหมาะกับคนใส่แบบที่ไม่มีอะไรมาแทนได้
บุคคลอีกฝั่งที่อยู่ในรูปก็คือหนึ่งในสามสมาชิกแกนนำของโนวาห์ ซึ่งเป็นองก์กรมาเฟียในอเมริกาเหนือ และได้ชื่อว่าเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเวสเปอร์อีกด้วย สาเหตุนั่นเองที่ทำให้ลาร์เฟียร์เริ่มเครียดขึ้นมา
การเขียนตอนที่มีสาระเยอะๆทำให้ผมเครียดมาก :z3:
ขออภัยที่มาล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้อีกครั้ง บังเอิญมีเรื่องให้ถึงมือหมอนิดหน่อย ขอโทษจริงๆนะครับ :call:
ตอนนี้เป็นตอนที่สำหรับผมแล้วเขียนยากมากๆเลย :z3: อว้ากก :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
มาทีก็มาช้า สาระก็มีเยอะไปหมด โฮๆๆ :m15:
ขอสอบติดก่อน หลังแกทแพทนี้เท่านั้น สัญญาจัดเต็มแน่นอนนะครับ ^^
ขอบคุณที่ยังรอกันอยู่ แม้นักเขียนคนนี้มันจะอัพช้าขนาดนี้ :monkeysad: ขอบคุณจริงๆครับ :pig4:
-
ยังรออยู่เสมอ
แค่ :call:
ขอให้สอบได้คะแนนดีๆ :L2:
-
เข้ามากรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดก่อน แล้วค่อยอ่าน ดีใจอ่ะ มาต่อแล้วว
เดี๋ยวมาดิทเม้นน้า
----------------------------------------------------------------------------
สั้นไปนี้ดดดดดดดดด :z2:
ลูน่านี่เสน่ห์แรงจังแหะ มีคนมาสนใจอีกแล้วววว ลาเฟียร์อย่าคลาดสายตานะ
รออ่านต่อนะคะ กำลังสนุกเลยเชียวว
:pig4:
-
สู้ๆนะคะ ขอให้สอบได้คะแนนสูงๆ
ระหว่างนี้จะรับดูแลลูน่าไว้ให้ก่อนละกัน อิอิ
-
ถึงจะสั้นไปนิด และไม่มีอะไรคืบหน้า
แต่ก็ยังดีกว่าไม่มาต่อละนะ
เรื่องแกทแพทก็ขอให้สู้ๆนะจ๊ะ
คนอ่านรอนิยายสนุกๆแบบนี้ได้เสมอ :กอด1:
-
ดีใจมากเลยที่คนเขียนยังอุตส่าห์อัพทั้งๆที่ ชีวิตม.6มันแสนจะวุ่นวาย
ไหนจะวิ่งวุ่นสอบนั่นนี่นู่น ไหนจะเรียนในห้องเพื่อทำเกรดอีก
สุดยอดเลยฮับ บวกเป็ดให้โล้ดดด!!!!~
ตอนนี้ก็สุดยอดเลยลาเฟียร์เวลาวางมาดนี่สุดๆจริงๆ
อ่านไปแล้วได้บรรยากาศมาเฟียจริงๆ สุดยอดๆ ฮ่าๆๆๆ
-
รอได้จ้า :z3:
-
อ๊ายยยยยย
อัพแว้ววววว อยากอ่านที่ซู้ดดดดด
+1 ให้จ้า
-
คิดถึงจ้า ยังรออ่านอยู่น้า
-
คนแต่งสอบบ่อยมากกก :o
-
สมัครแทบทุกที่ที่มีเลยล่ะครับ ^^ 55+
-
ครบร้อยแล้ว เข้ามาให้กำลังใจ ชีวิตวัยมันส์ ม.หกเป็นอะไรที่เส็งเคร็งมากสำหรับเรา
ผ่านมาได้ นี่สุดยอดจะโล่ง อย่าเครียดไปเลยท่าน สวรรค์รำไร ท่องไว้ๆๆ
เกรงว่าคนแต่งเครียด บรรยากาศในเรื่องมันจะกลายเป็นแลกลูกปืนตลอดเว 555
รอได้เสมอจ้ะ
o13 o13 o13 o13
-
ดีใจที่มาต่อคะ รอนะคะ
:pig4: คะ
-
เย่ ในที่สุดก็มาอัพ
ขอให้พี่สอบติด ตามที่หวังนะคะ เอาใจช่วย
แล้วก็ยังรอต่อไปค่ะ
-
สนุกมาก ๆ เลยอ่ะ...ลูน่าโดนหมายตาตั้งแต่เหยี่ยบแผ่นดินจีนเลยแฮะ
จากล่ามกลายมาเป็นเลขาจำเป็น หวังว่าลาเฟียร์จะสั่งให้จัดที่นอนลูน่าในห้องรับรองตัวเองนะ กลัวโดนย่องเข้าหาตอนดึก
ลูน่าตอนเพิ่งตื่นน่ารักดี...เอ๋อนิด ๆ จนต้องโดนเจ้าชายจุมพิตปลุกให้ตื่น
กว่าจะผ่านแกทแพตก็สิ้นปีพอดีมั้ง...จะลงแดงมั้ยน้อ~
...........................
อ่านจบอีกรอบ...ทำไงดีอยากได้ตอนต่อไป :m13:
-
สู้ๆ นะคะ รอได้ค่ะ^^
แต่นานไปก็ลืมๆ เรื่องไปเหมือนกันนา :o11:
-
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ขอให้สอบได้นะ
วัยเดียวกับน้ดงพี่เลยนะเนี่ย
-
เพิ่งได้อ่านก้ปลื้มลูน่า o13
-
ตามอ่านโลด
เนื้อเรื่องน่าติดตาม^^
-
ชอบบบบบบ<3
ตามอ่านจนจบ มาต่อไวไวนะ -.,-
คอยติดตามจ้า (y)
-
ต่อโดยด่วยง๊าบ บบบบบบบ :z3: :z3: :z3:
ค้างเกิ๊น โชคดีเรื่องสอบด้วยนะครับ :กอด1:
-
:m1: นี้หล่ะแนวโปรดปราน เราชอบอ่านแนวมาเฟียมากๆ
แบบออกแนว sm เท่าไรยิ่งดี ฮ่าๆ :m25:
ลาร์เฟียร์ หล่อ เท่ สุดๆ ดูโหดๆ เย็นชา หื่นๆ มีแต่คนเกรงขาม (เมะในอุดมคติเลย >//<)
ลูน่าก็สวย เก่ง ไม่เรื่องมาก อดทน ไม่งี่เง่า (นี้ก็เคะในอุดมคติเหมือนกัน)
เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากๆ เมื่อไรจะรักกันน๊า ฮุฮุฮุ รอลุ้นต่อไป :m13:
จะรอตอนต่อไปนะคร๊า o4
-
นั่งนับวันรอเลยค่ะ...อยากอ่านต่อเร็ว ๆ :กอด1:
-
รอคอยยย~ สนุกมากคับ o13
หลงรักเรื่องนี้เลยอ่ะ :impress2: :impress2: :impress2:
-
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะฮับ ดูเหมือนว่าจะแต่งยากมากเลยอะ ใช้ทั้งการวางแผนล่วงหน้า ให้ทุกอย่างมันเชื่อมกัน เป็นเรื่องที่ดีทีเดียว
ช้าแค่ไหนก็จะรอฮับ ขอแค่ต่อจนจบก็พอ และก็รอผลงานเรื่องต่อๆไปด้วย ^^
-
ชอบแนวอิตาลี
ลูน่าก็เป็นนายเอกที่น่ารักแถมไม่โง่เกินไปอีก
เรื่องนี้สาระล้วนๆ
-
อยากอ่านมากครับ :call:
-
อยากอ่านต่อแล้วค่า :monkeysad:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.13
ขบวนรถของลาร์เฟียร์เคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์ของตระกูลฟงอย่างเงียบเฉียบ เจ้าพ่อหนุ่มนั่งกอดอกเงียบๆอยู่ข้างกายของรัตติกรในรถลีมูซีนที่มีพื้นที่กว้างขวาง หากแต่มันก็ดูเวิ้งว้างเมื่อมีผู้โดยสารอยู่เพียงสองคนไม่นับรวมคนขับและบอดี้การ์ดซึ่งนั่งอยู่ส่วนหน้าและถูกม่านสีเงินกั้นปิดเอาไว้อีกที
หลังจากได้เห็นภาพถ่าย ลาร์เฟียร์ก็สั่งให้บอดี้การ์ดเก็บภาพพวกนั้นไว้แล้วลุกออกมาทันที ทิ้งให้รัตติกรต้องทำหน้าที่กล่าวลาสองพี่น้องตระกูลฟงที่ทำหน้าเหมือนยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องการจะพูด แต่ด้วยความที่เกรงบารมีจึงไม่กล้าเอ่ยคัดค้านอะไรและปล่อยให้ลาร์เฟียร์ขึ้นรถจากไปแบบเสียไม่ได้
และเพราะต้องเร่งก้าวตามเจ้านายออกไปทั้งที่ยังไม่ทันได้รู้เรื่องดี จึงทำให้รัตติกรรู้แค่เพียงว่ามีใครบางคนอาจจะกำลังทรยศ แต่ก็ใช่ว่าหลักฐานกับลมปากเพียงแค่นั้นจะนำมาตัดสินอะไรได้ แล้วอีกอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของเขาด้วยเหมือนกัน
ก็ถูกจ้างมาเป็นล่าม ใครจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเขาทั้งนั้นแหละ
พอคิดตก รัตติกรก็เอื้อมมือไปหยิบหนังสือที่พกติดตัวมาแต่ต้องวางทิ้งไว้ในรถตอนที่ออกไปทำงาน มือเรียวกางหนังสือในมุม60องศาแล้วไล่อ่านเรื่องราวภายในพร้อมกับตัดขาดโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
ลาร์เฟียร์เหลือบมองคนข้างๆแล้วได้แต่ถอนใจ คนบ้าหนังสือเป็นยังไง เขาได้เห็นจริงก็วันนี้ ราชสีห์หนุ่มที่เคยเจอกลับกลายเป็นแมวหง่าวไปซะอย่างนั้น ร่างเพรียวค่อยๆยกขาขึ้นมาชันบนเบาะ และทั้งๆที่ดวงตายังไม่ได้ละออกจากหน้ากระดาษแต่ลำตัวกลับขยับหามุมเหมาะสำหรับนั่งพิงอ่านหนังสือในระยะยาว
จะไม่ว่าอะไรเลย ถ้ามุมเหมาะๆของเจ้าแมวนี่จะไม่ใช่ลำตัวของเขาเอง…
“ลูน่า…”
“….”
“ลูน่า!”
“อย่ากวนสิ…”ได้ยินแค่นั้นเจ้าพ่อหนุ่มก็คิ้วกระตุก
“ก็ถ้ายังมาพิงฉันอยู่แบบนี้ มันก็จะไม่จบแค่ฉันเรียกชื่อของเธอ อยากลองอะไรแรงๆกว่านี้มั้ยล่ะ?”รัตติกรไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ เจ้าแมวหง่าวรอจนไล่อ่านจนจบหน้าในเวลาไม่กี่วินาทีแล้วถึงยอมเงยหน้าขึ้นมองเขา
“คุณว่าอะไรนะ?”
“ฉันถามเธอว่าเย็นนี้ระหว่างแส้ม้ากับน้ำตาเทียนจะเอาอะไรดี?”ได้ยินดังนั้นหนุ่มไทยก็ขมวดคิ้วมุ่น
“เรื่องอะไร!!”พริบตาเจ้าแมวก็กลายร่างกลับเป็นราชสีห์ ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ฉายประกายแวววับนั้นระแวดระวังพร้อมกับที่ลำตัวเขยิบออกห่างจากเจ้าพ่อหนุ่มจนไปชิดกับประตูรถอีกฝาก
“นี่ยังอยู่ในเวลางานนะลูน่า ฉันจำไม่ได้ว่าอนุญาตให้เธออ่านหนังสือได้แล้ว”ลาร์เฟียร์กอดอกแล้วมองรัตติกรตาระยับ
“ก็แล้วไหนล่ะงานให้ทำ? คุณไม่เห็นให้ผมแปลอะไรสักอย่าง”
“ความสามารถเธอทำได้แค่นั้นรึไง?”เจ้าพ่อหนุ่มยักคิ้วถาม ในดวงตาคมกริบนั้นส่งสัญญาณท้าทายมาอย่างแจ่มชัดจนรัตติกรกัดฟันกรอด
“แล้วจะให้ทำอะไรอีก ให้บอกมั้ยล่ะว่าสถานที่ในรูปที่คุณได้มามันอยู่ที่ไหน เผื่อจะช่วยแก้ปัญหาที่คิดไม่ตกของนายท่านไงล่ะครับ?”เขาพูดเสียงนอบน้อม ทว่าน้ำคำนั้นไม่ต้องตั้งใจฟังก็รู้ว่าตั้งใจจะประชดประชันชัดเจน
“เธอรู้?”กลับเป็นฝ่ายลาร์เฟียร์ที่ประหลาดใจ เจ้าพ่อหนุ่มไม่คิดว่าคนอย่างรัตติกรจะมาล้อเล่นกับเขา
“นั่นน่ะภัตตาคารอาหารจอร์เจียที่ชื่อ Таганская улица อยู่ถนนหลวงสาย Taganskaya ulitsa แถวใจกลางเมืองมอสโก แล้วก็ อืม...ในร้านมีกล้องวงจรปิดด้วย แค่นี้ก็ช่วยคุณได้เยอะแล้วมั้ง ผมอ่านต่อได้ยัง?”ว่าจบ จากราชสีห์เมื่อกี้ก็ทำท่าจะกลับไปเป็นแมวอีกครั้ง ลาร์เฟียร์ส่ายหัวให้กับพฤติกรรมนั้นหากแต่ริมฝีปากหยักกลับเหยียดยิ้มออกเล็กน้อย เจ้าพ่อหนุ่มกอดอกแล้วเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้ ทอดสายตามองผู้ร่วมทางที่นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ
“หืม...รู้มาจากไหนล่ะพ่อคนเก่ง”ลาร์เฟียร์ถามพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก ดวงตาสีสนิทคมกริบยังคงจับจ้องไปที่อีกฝ่ายแน่นิ่ง
“ภัตตาคารในภาพของคุณเหมือนกับที่ผมเคยอ่านเจอในหนังสือРекомендуемые рестораны в России. หนังสือนำเที่ยวร้านอาหารในรัสเซียน่ะ ส่วนที่บอกว่ามีกล้องวงจรปิด เจ้าของร้านสัมภาษณ์ลงนิตยสารท้องถิ่นเมื่อสองปีก่อน”คนถูกมองที่ยังไม่รู้ตัวตอบเรื่อยๆ ความเงียบทิ้งตัวอยู่เพียงชั่วระยะเดียว แต่นานพอให้รัตติกรตัดขาดออกจากโลกภายนอกได้
เสียงรอสายจากในมือถือเงียบหายไปเป็นสัญญาณว่าปลายสายได้กดรับเรียบร้อย ลาร์เฟียร์สั่งการให้หัวหน้าสาขาที่รัสเซียไปตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้รับ
ที่นี้ก็จะได้รู้กัน ว่าลูน่าของเขาจะเป็นของจริง หรือแค่พวกปากเก่งกันแน่...
_________________________________
ครึ่งหลังตามมาเร็วๆนี้ครับ ไปนอนก่อนแม้ว~
(เพิ่งมองดูนาฬิกา...หกโมงครึ่ง...เพิ่งนอน...เอ่อ :m25: o22 :really2:)
-
ในที่สุดก็มาต่อแล้ว เย้ๆ ดีใจสุดๆไปเลย
ลูน่าเก่งมากๆ เป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะมาก แถมความจำยังดีสุดๆ
o13
-
ขอเป็นลูน่าFC !!!
-
ลูน่ากลับมาแล้ว!!!! :m11:
ยังน่ารักไ่ม่เปลี่ยน...ลาเฟียร์กล้าสงสัยได้ไง ว่าลูน่าไม่ใช่ของจริง :angry2:
-
นึกว่าลืมกันไปซะแล้ว :L1:
:call:
-
กรี๊ดๆๆ ลูน่ากลับมาแล้วๆ อย่าหายไปนานๆอีกเน้ออ :กอด1: :L2:
-
เราก็อ่านหนังสือหลายประเภทนะแต่จำได้ไม่หมดทุกอย่างแต่ที่จำได้ดีมีแต่การตูนกะนิยาย :o8:
-
ตอนใหม่ :impress2:
ลูน่า หนอนหนังสือตัวจริง :laugh:
-
มาต่อแล้ววววว ,,ลูน่าเก่งจริงอะไรจริงง ตอนหน้าขอยาวๆหน่อยน้า ชอบเรื่องนี้มากเลย!
-
เพิ่งมาตามอ่านค่ะ สนุกมากเลย ชอบๆๆ ช่างใจอยุ่นาน เห็นจากอีกเรื่องว่าเครียดๆ พอมาอ่านเครียดแบบนี้โอเค แต่ดราม่าบีบหัวใจ คนอ่านคนนี้ขอทำใจสักครู่นะคะ ^^
กรี๊ดกร๊าดน้องลูน่าเป้นพิเศษ ทำให้นึกถึงตัวเองสมัยมัธยม เรื่องที่พกหนังสืออ่านไปทุกที (แต่ยกเว้นตอนอาบน้ำนะ แอบติน้องลูน่า ชอบอ่านแต่ไม่ถนอมเลย บู้ๆๆ)
ความจำลูน่าเป็นเลิศมากอ่ะ อ่านแล้วจำได้ ชอบนายเอกเก่งๆ 555
ลาเฟียร์ก็เท่ ดูอบอุ่นกว่าตอนแรกอยู่เยอะเลย พี่แกโหดแต่ไม่เหี้ยม (หวังไว้อย่างนั้นนะคะ) ละลายกับสายตาหนุ่มอิตาเลียน ฮี่ๆๆ
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อนะคะ
ปล.เม้นท์ยาวไปมั้ยอ่ะคะ
-
หนุกมาก รีบมาต่อนะคะ
-
ชอบบบติดตามอ่านอยุๆๆๆ ><
-
ชอบบบบบบบบบบ :L2:
-
ชอบเรื่องนี้ค่ะ
ลูน่า น่ารักดีอ่ะ
อยากฉลาดให้ได้ซักครึ่งก็ยังดีเนอะ
ลาร์เฟียร์ก็เข้มมาก โหดดี
รอตอนต่อไปค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
-
รีบมาต่ออออออออออออออออออออ
โฮกกกก อยากอ่านน้องหนูลูน่าต่อแว้วววววว :z3:
-
ลูน่าเทพอยู่แล้วไม่ต้องทดสอบหรอกลาร์เฟียร์ o13
-
จะรีบนอนไปถึงไหนค่ะ มาต่อเร็วน่ะค่ะ
-
คิดถึงลูน่ามากมาย
มาต่อไวไวนะคะ ชอบเรื่องนี้มากๆ
-
(http://[img][color=red][s]ลูน่า ขอแบบนี้ซักคนสิ น่ารักมาก อีตาพระเอกเนี่ย จะวางมาดไปไหนเนี่ย ทำดีเข้าไว้เดี๋ยวได้ใจเองล่ะน่า [/s] [/color]) [/img]
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
อ่านแล้วแอบหมั่นไส้พ่อมาเฟีย
ลูน่าของผม
โมเมบ้าอำนาจดีแท้ แต่ก็ชอบบบบบบบบบบบบบบบบ
-
ชอบเรื่องนี้มากกกก
-
มาต่อแล้วๆ :กอด1:
ลูน่าเมพขิงๆ o13
รออีก50%ที่เหลือจ้า :bye2:
-
ลูน่ากลับมากแล้ว เย่ๆๆ คิดถึงจัง
ดอนลาเฟียร์จะทดสอบทำไมให้เสียเวลาระดับลูน่าบอกไม่มีพลาดแน่นอนนนน
-
:กอด1: :กอด1: :call:
-
จิ้มน้องเป็ดไปตัวนึง~~~~ ฮิๆๆๆ
มาต่อเร็วๆน้า อยากเห็นลูน่าโชว์สกิลเมพอะ
สู้ๆ!!!
-
มันค้างงงงงงงงง อยากอ่านทีเหลือแล้วอะ :z13:
-
มาต่อแล้ววดีใจจัง
ลูน่าเก่งโครต
-
เเตะเป็ดเหลืองไปตัวหนึ่ง มาต่อเร็วๆน๊า าา :z3:
ลูน่าฉลาดจริงๆ เเต่เเเค่หนังสือ
ก็เปลี่ยนเสือเป็นเเมวได้เลยเรอะ :laugh:
-
มาต่อแร้วววว ดีใจที่สุดเรยยยยย :o8: :o8:
-
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากอะ ให้กำลังใจผู้แต่งคะ o13 o13
-
แว็บมาแอบดูว่าลูน่ามายังน้าาาา
รอต่อไป สู้ๆ (พรุ่งนี้เราจะสอบ แต่ก็ยังมีอารมณ์มาส่อง หุๆๆๆ)
-
สนุกดีค่ะ o13 o13 o13
-
คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนยากมากทีเดียวนะคะ
ต้องค้นคว้าข้อมูลเยอะ และมีเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยพบเห็นนัก
ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องมาเฟียนะคะ แต่หมายถึงเนื้อเรื่องจริง ๆ
ขอแสดงความนับถือความตั้งใจกันเลยทีเดียว
-
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ
สนุกมากๆเลยย o13
-
ลูน่ารักการอ่านหนังสือม๊ากมาก
อ่านได้ตลอดเวลาเลย 555
-
เดี๋ยวจะกลับมาอ่านนะค่ะ
อ่านไปคิดถึง รีบอร์นไป ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ชอบเรื่องเกี่ยวกับมาเฟียแบบนี้นะ
ถึงจะดูออก SM ไปบ้างแต่ก็ต้องยอมรับล่ะว่าอยู่ในพื้นฐานของความเป็นจริง
จริง ๆ ล่ะนะ เพราะขึ้นชื่อว่า มาเฟีย คงไม่มีมาเฟียฝ่ายดีหรือเนอะ
ลูน่า............พูดได้ 24 ภาษา โอ้ววววววววววว บระเจ้า จะเก่งไปไหนเนี้ย อยากเก่งแบบเจ๊มั้งอะ o13 o13 o13 o13 o13
-
ว้าวววววววววววววววววว ประทับใจลูน่าอะ อย่างลูน่านะของจริงอยู่แล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แบบนี้ยิ่งกว่าได้ล่ามอีกนะเนี้ยนายหัว
ชอบ ๆ ๆ ๆ ๆ ตื่นเต้นดี ชอบเรื่องแบบนี้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
:3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
-
อ้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ได้โปรดกลับมาเถิดท่านนักเขียน
-
พึ่งมาติดตาม ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ
:impress2: :impress2:
-
อยากรู้ตอนต่อไปแล้ว รีบกลับมาต่อนะค่ะ รอคอยอย่างมีความหวัง
-
เพิ่งได้อ่านคะ สนุกมาก น่าติดตาม ชอบแนวนี้อะ
มาต่อไวไวนะคะ o13
-
:z13:กลับมาอ่านเป็นรอบที่สามก็ยังชอบมากกกกก มาต่อเถอะค่าคนอ่านจะลงแดงแย้วววว :z13:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.13 100%
ขบวนรถของลาร์เฟียร์เคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์ของตระกูลฟงอย่างเงียบเฉียบ เจ้าพ่อหนุ่มนั่งกอดอกเงียบๆอยู่ข้างกายของรัตติกรในรถลีมูซีนที่มีพื้นที่กว้างขวาง หากแต่มันก็ดูเวิ้งว้างเมื่อมีผู้โดยสารอยู่เพียงสองคนไม่นับรวมคนขับและบอดี้การ์ดซึ่งนั่งอยู่ส่วนหน้าและถูกม่านสีเงินกั้นปิดเอาไว้อีกที
หลังจากได้เห็นภาพถ่าย ลาร์เฟียร์ก็สั่งให้บอดี้การ์ดเก็บภาพพวกนั้นไว้แล้วลุกออกมาทันที ทิ้งให้รัตติกรต้องทำหน้าที่กล่าวลาสองพี่น้องตระกูลฟงที่ทำหน้าเหมือนยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องการจะพูด แต่ด้วยความที่เกรงบารมีจึงไม่กล้าเอ่ยคัดค้านอะไรและปล่อยให้ลาร์เฟียร์ขึ้นรถจากไปแบบเสียไม่ได้
และเพราะต้องเร่งก้าวตามเจ้านายออกไปทั้งที่ยังไม่ทันได้รู้เรื่องดี จึงทำให้รัตติกรรู้แค่เพียงว่ามีใครบางคนอาจจะกำลังทรยศ แต่ก็ใช่ว่าหลักฐานกับลมปากเพียงแค่นั้นจะนำมาตัดสินอะไรได้ แล้วอีกอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของเขาด้วยเหมือนกัน
ก็ถูกจ้างมาเป็นล่าม ใครจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเขาทั้งนั้นแหละ
พอคิดตก รัตติกรก็เอื้อมมือไปหยิบหนังสือที่พกติดตัวมาแต่ต้องวางทิ้งไว้ในรถตอนที่ออกไปทำงาน มือเรียวกางหนังสือในมุม60องศาแล้วไล่อ่านเรื่องราวภายในพร้อมกับตัดขาดโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
ลาร์เฟียร์เหลือบมองคนข้างๆแล้วได้แต่ถอนใจ คนบ้าหนังสือเป็นยังไง เขาได้เห็นจริงก็วันนี้ ราชสีห์หนุ่มที่เคยเจอกลับกลายเป็นแมวหง่าวไปซะอย่างนั้น ร่างเพรียวค่อยๆยกขาขึ้นมาชันบนเบาะ และทั้งๆที่ดวงตายังไม่ได้ละออกจากหน้ากระดาษแต่ลำตัวกลับขยับหามุมเหมาะสำหรับนั่งพิงอ่านหนังสือในระยะยาว
จะไม่ว่าอะไรเลย ถ้ามุมเหมาะๆของเจ้าแมวนี่จะไม่ใช่ลำตัวของเขาเอง…
“ลูน่า…”
“….”
“ลูน่า!”
“อย่ากวนสิ…”ได้ยินแค่นั้นเจ้าพ่อหนุ่มก็คิ้วกระตุก
“ก็ถ้ายังมาพิงฉันอยู่แบบนี้ มันก็จะไม่จบแค่ฉันเรียกชื่อของเธอ อยากลองอะไรแรงๆกว่านี้มั้ยล่ะ?”รัตติกรไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ เจ้าแมวหง่าวรอจนไล่อ่านจนจบหน้าในเวลาไม่กี่วินาทีแล้วถึงยอมเงยหน้าขึ้นมองเขา
“คุณว่าอะไรนะ?”
“ฉันถามเธอว่าเย็นนี้ระหว่างแส้ม้ากับน้ำตาเทียนจะเอาอะไรดี?”ได้ยินดังนั้นหนุ่มไทยก็ขมวดคิ้วมุ่น
“เรื่องอะไร!!”พริบตาเจ้าแมวก็กลายร่างกลับเป็นราชสีห์ ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ฉายประกายแวววับนั้นระแวดระวังพร้อมกับที่ลำตัวเขยิบออกห่างจากเจ้าพ่อหนุ่มจนไปชิดกับประตูรถอีกฝาก
“นี่ยังอยู่ในเวลางานนะลูน่า ฉันจำไม่ได้ว่าอนุญาตให้เธออ่านหนังสือได้แล้ว”ลาร์เฟียร์กอดอกแล้วมองรัตติกรตาระยับ
“ก็แล้วไหนล่ะงานให้ทำ? คุณไม่เห็นให้ผมแปลอะไรสักอย่าง”
“ความสามารถเธอทำได้แค่นั้นรึไง?”เจ้าพ่อหนุ่มยักคิ้วถาม ในดวงตาคมกริบนั้นส่งสัญญาณท้าทายมาอย่างแจ่มชัดจนรัตติกรกัดฟันกรอด
“แล้วจะให้ทำอะไรอีก ให้บอกมั้ยล่ะว่าสถานที่ในรูปที่คุณได้มามันอยู่ที่ไหน เผื่อจะช่วยแก้ปัญหาที่คิดไม่ตกของนายท่านไงล่ะครับ?”เขาพูดเสียงนอบน้อม ทว่าน้ำคำนั้นไม่ต้องตั้งใจฟังก็รู้ว่าตั้งใจจะประชดประชันชัดเจน
“เธอรู้?”กลับเป็นฝ่ายลาร์เฟียร์ที่ประหลาดใจ เจ้าพ่อหนุ่มไม่คิดว่าคนอย่างรัตติกรจะมาล้อเล่นกับเขา
“นั่นน่ะภัตตาคารอาหารจอร์เจียที่ชื่อ Таганская улица อยู่ถนนหลวงสาย Taganskaya ulitsa แถวใจกลางเมืองมอสโก แล้วก็ อืม...ในร้านมีกล้องวงจรปิดด้วย แค่นี้ก็ช่วยคุณได้เยอะแล้วมั้ง ผมอ่านต่อได้ยัง?”ว่าจบ จากราชสีห์เมื่อกี้ก็ทำท่าจะกลับไปเป็นแมวอีกครั้ง ลาร์เฟียร์ส่ายหัวให้กับพฤติกรรมนั้นหากแต่ริมฝีปากหยักกลับเหยียดยิ้มออกเล็กน้อย เจ้าพ่อหนุ่มกอดอกแล้วเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้ ทอดสายตามองผู้ร่วมทางที่นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ
“หืม...รู้มาจากไหนล่ะพ่อคนเก่ง”ลาร์เฟียร์ถามพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก ดวงตาสีสนิทคมกริบยังคงจับจ้องไปที่อีกฝ่ายแน่นิ่ง
“ภัตตาคารในภาพของคุณเหมือนกับที่ผมเคยอ่านเจอในหนังสือРекомендуемые рестораны в России. หนังสือนำเที่ยวร้านอาหารในรัสเซียน่ะ ส่วนที่บอกว่ามีกล้องวงจรปิด เจ้าของร้านสัมภาษณ์ลงนิตยสารท้องถิ่นเมื่อสองปีก่อน”คนถูกมองที่ยังไม่รู้ตัวตอบเรื่อยๆ ความเงียบทิ้งตัวอยู่เพียงชั่วระยะเดียว แต่นานพอให้รัตติกรตัดขาดออกจากโลกภายนอกได้
เสียงรอสายจากในมือถือเงียบหายไปเป็นสัญญาณว่าปลายสายได้กดรับเรียบร้อย ลาร์เฟียร์สั่งการให้หัวหน้าสาขาที่รัสเซียไปตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้รับ
ที่นี้ก็จะได้รู้กัน ว่าลูน่าของเขาจะเป็นของจริง หรือแค่พวกปากเก่งกันแน่...
_________________________________
ลีมูซีนสีขาวสะอาดตาแล่นจอดลงหน้าโรงแรมหรูในย่านเซี่ยงไฮ้ รัตติกรหรี่ตาลงเมื่อเปิดประตูก้าวลงจากรถแล้วพบว่าท้องฟ้าที่เคยเห็นเป็นสีเทาขมุกขมัวจากควันพิษกลับกลายเป็นสีส้มอมแดงของยามเย็นไปเรียบร้อย อากาศหนาวๆทิ้งตัวลงปกคลุมอยู่รายรอบกาย ส่งผลให้รัตติกรยกมือขึ้นมาถูกันแล้วเป่าเบาๆ
หนุ่มชาวไทยยืนนิ่งมองสิ่งแวดล้อมรอบกาย ปล่อยให้เจ้าพ่อหนุ่มที่ก้าวตามออกมาต้องเป็นฝ่ายคว้าแขนดึงไปทางเข้าโรงแรม รัตติกรทำหน้าขัดใจและลองสะบัดแขนออกออกจากการยึดจับ แต่แรงที่บีบกระชับรอบข้อมือนั้นกลับเพิ่มมากขึ้นจนได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วเดินขมวดคิ้วตามไปอย่างไม่มีทางเลือก
เมื่อก้าวเข้าไปภายใน ภาพแรกที่เห็นคือล็อบบี้ของโรงแรมที่สวยงามและหรูหราด้วยโครงสร้างของห้องโถงที่สูงแต่โล่งโปร่งเพราะผนังประกอบจากกระจกใส เหนือขึ้นไปมีโคมไฟแชนเดอเลียร์ห้อยระย้าตกแต่งเพดานและให้แสงนวลตาส่องสว่างได้อย่างทั่วถึง รอบด้านรายล้อมเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีซึ่งถูกออกแบบอย่างหรูหราให้เข้ากับโครงสร้างของโรงแรมอย่างพอเหมาะพอเจาะและจัดวางมันไว้อย่างลงตัว
ลาร์เฟียร์ดึงรัตติกรอีกครั้งเมื่อเห็นร่างเพรียวก้าวช้าลงเรื่อยๆและมองโน่นนี่ไม่วางตา เจ้าพ่อหนุ่มหันมาสั่งเลขาผู้ติดตามสั้นๆ มือหนายังกุมข้อมือผอมบางเอาไว้
“ฟราน จัดการเรื่องห้องกับคิวขึ้นบินพรุ่งนี้ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วไปตามฉันที่ห้องอาหาร”
“ครับดอน”
เลขาอีกคนที่ลาร์เฟียร์พามาด้วยโค้งตัวรับคำสั่งก่อนจะเดินไปทางล็อบบี้ของโรงแรมพร้อมกับการ์ดอีกสองคนที่ลากกระเป๋าตามไป หัวหน้าบอดี้การ์ดหน้าเข้มเจ้าของนามสคูร์โดแบ่งงานให้กับการ์ดอีกสองสามกลุ่ม แต่ก่อนที่รัตติกรจะได้อยู่ดูต่อว่าพวกนี้วางแผนความปลอดภัยกันยังไง มือหนาที่ยังคงคว้าจับข้อมือของเขาไว้ก็รั้งตัวเขาออกมาและพามุ่งหน้าลิฟต์ที่ถูกกดรอเอาไว้โดยเจ้าหน้าที่ของโรงแรม
“ไม่ต้องลากได้มั้ย ผมเดินตามคุณเองได้หรอกน่า”ร่างเพรียวกระซิบลอดไรฟันแล้วพยายามดึงมือออกจากการเกาะกุม ลาร์เฟียร์หันกลับมามองคนข้างกายแล้วเปลี่ยนจากการกุมมือเป็นโอบเอวแทน
“คุณ!!”รัตติกรสะดุ้งเฮือกก่อนจะตวัดสายตามาจ้องเขม็ง ลาร์เฟียร์เหยียดยิ้มรับท่าทางแข็งกร้าวของคนตรงหน้าแล้วรวบเอวสอบเพรียวเข้าหาตัวจนสะโพกแนบสนิทกัน
“ชักช้า....”เจ้าพ่อหนุ่มก้มลงกระซิบเบาๆข้างใบหูของราชสีห์หนุ่มที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ก่อนจะใช้แรงเพียงเล็กน้อยดันตัวคนข้างๆให้ก้าวเข้าไปในลิฟต์ซึ่งไร้ผู้โดยสารคนอื่น การ์ดอีกสองคนก้าวตามเข้ามาแล้วกดหมายเลขของชั้นที่เป็นจุดหมาย
“ปล่อยได้รึยัง!?”รัตติกรถามเสียงหนักแล้วบิดตัวหนีมือใหญ่ที่โอบเอวเขาไว้แน่นยิ่งกว่าอะไรดี
“ไม่”นอกจากไม่ปล่อยแล้วมือนั้นยังรัดแน่นกว่าเดิม รัตติกรได้แต่หันไปจ้องเจ้าพ่อหนุ่มตาเขียวปัด
“แล้วจะจับหาอะไรครับ?”แม้จะลงท้ายเสียงสุภาพ หากแต่น้ำคำกลับฟังแล้วทำให้คนเป็นเจ้าพ่ออย่างเขาหงุดหงิดชอบกล
“ฉันอยากจับฉันก็จับ อยู่เงียบๆซะทีลูน่า”ว่าจบแล้วก็ดึงตัวคนข้างๆเข้าชิด แล้วหันไปมองเลขลิฟต์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามระดับชั้นที่พุ่งขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ
คนผิดคือเขารึไง??
รัตติกรได้แต่คิดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะขยับตัวหยุกหยิกเป็นเชิงบอกว่าเขาไม่พอใจเงียบๆ เสียงเตือนว่าลิฟต์ถึงชั้นที่ต้องการแล้วดังขึ้นเบาๆก่อนประตูที่ถูกเล่นลวดลายด้วยกระจกทั้งบานก็เปิดออก เผยให้เห็นทิวทัศน์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ยามค่ำคืนผ่านหน้าต่างกระจกใสบานสูง
การ์ดหนึ่งในสองคนก้าวนำออกไปก่อน รัตติกรได้ยินเสียงดนตรีคลาสสิคดังแว่วมาเบาๆ มันบรรเลงผ่านแกรนเปียโนสีดำขัดมันซึ่งตั้งอยู่กลางห้องอาหารของโรงแรม รอบด้านเป็นโต๊ะอาหารซึ่งตั้งอยู่ประปราย แขกเหรื่อส่วนใหญ่อยู่ในชุดพิธีการหรูหราและพูดคุยกันด้วยท่าทางสุภาพ
บริกรเห็นลาร์เฟียร์กับรัตติกรเดินเข้ามาจึงเดินมาหาแล้วค่อมตัวทักทายด้วยประโยคภาษาอังกฤษติดสำเนียงจีนเล็กน้อย ก่อนจะผายมือเชิญทั้งคู่ไปยังโต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่ใกล้กับกระจกหน้าต่างบานสูงในมุมสงบ ถือเป็นทำเลดีที่สุดภายในห้องอาหารแห่งนี้ก็ว่าได้
สมุดเมนูหุ้มปกไหมสีแดงเดินลายสีทองอย่างดีถูกวางลงตรงหน้าทั้งคู่ด้วยท่าทางนอบน้อม รัตติกรเปิดดูรายการอาหารแล้วไล่สายตาดูว่ามีเมนูอะไรบ้าง ที่ภัตตาคารแห่งนี้เน้นอาหารทางฝั่งยุโรป ส่วนอาหารของทางเอเชียจะอยู่ที่ภัตตาคารอีกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่คนละชั้นกัน
“รับอะไรดีครับท่าน”
“เฟตตูชินีซอสอัลเฟรโด กับแรร์สเต็กเทนเดอร์ลอยน์ลูกแกะย่าง”หลังจากเหลือบมองผ่านเมนูคร่าวๆลาร์เฟียร์ก็เลือกอาหารอิตาเลี่ยนอย่างไม่ลังเล ดวงตาสีสนิมคมกริบเหลือบไปมองทางฝั่งรัตติกร เป็นเชิงบอกให้อีกฝ่ายรีบสั่งอาหาร
“บิสเต็กก้า อัลลา ฟิโอเรนติน่า ขอแบบมีเดียม เวลดันนะครับ”รัตติกรเลือกสเต็กเนื้อทีโบนแบบอิตาเลี่ยนแท้ เป็นเนื้อทีโบนชิ้นหนาที่หมักด้วยเกลือ พริกไทยดำ น้ำมันมะกอก และย่างบนเตาถ่านไม้
ปกติคนส่วนใหญ่จะกินแบบไม่สุก แต่ด้วยความเคยชินกับการกินอาหารที่สุกๆ รัตติกรจึงสั่งแบบมีเดียม เวลดันซึ่งเนื้อที่ย่างออกมาจะมีลักษณะสุกทั้งชิ้นแต่ไม่ถึงกับเกรียม ต่างกับของลาร์เฟียร์ที่เลือกแบบสุกน้อย ซึ่งจะย่างให้สุกเพียงแค่ภายนอก แต่เนื้อด้านในยังคงเป็นสีแดงอมชมพูอยู่
เจ้าพ่อหนุ่มปิดสมุดเมนูแล้วยื่นคืนให้บริกรที่ยืนรออยู่ข้างๆ ก่อนจะหันมามองคนที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามแล้วขยับยิ้มเย็นๆ
“ไวน์เธอเป็นคนสั่งแล้วกันนะ ลูน่า”รัตติกรเลิกคิ้วเมื่อโดนสั่งกะทันหัน การเลือกไวน์ให้เข้ากับอาหารนั้นเป็นเรื่องเฉพาะทาง คนทั่วไปจะรู้เพียงขั้นพื้นฐานว่าไวน์ชนิดไหนเหมาะกับอาหารประเภทใด ยิ่งปีเก่ามากเท่าไหร่ราคาก็ยิ่งสูงตามรสชาติที่นุ่มนวลมากขึ้นเท่านั้น
แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านไวน์ ย่อมรู้ว่าการจะเลือกไวน์ให้เหมาะสมกับอาหารอย่างล้ำลึกนั้นจำเป็นต้องรู้ว่าไวน์แต่ละชนิดมีรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันไปอย่างไร เริ่มตั้งแต่สถานที่ที่ใช้ในการเพาะปลูกองุ่น ทั้งลักษณะดิน สภาพแวดล้อม สภาพอากาศ รวมไปถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการหมักบ่ม อุณหภูมิที่ใช้เก็บไวน์ เรื่อยไปถึงประวัติศาสตร์ของไวน์แต่ละขวด
แล้วเจ้าพ่อมาเฟียนี่คิดว่าคนอย่างเค้าจะไม่รู้เรื่องนี้รึไง?
มีหนังสือมากมายโดยเฉพาะในภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี่ นักวิจารย์หลายต่อหลายคนได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับไวน์ ยิบย่อยไปตั้งแต่ประวัติศาสตร์ของการถือกำเนิด รสชาติของไวน์แต่ละขวด อาหารที่เหมาะสมกับไวน์ มากมายนับไม่ถ้วน
“บอร์โด กาแบร์เน-โซวีญง ปี84 ให้เค้า ส่วนของผมขอแคลิฟอร์เนีย ซินฟันเดล ปี94ครับ”รัตติกรไล่มองจากรายชื่อไวน์ต่างๆที่ถูกเขียนเอาไว้ ก่อนจะเลือกไวน์สองชนิดขึ้นมาและส่งสมุดเมนูคืน หนุ่มชาวไทยแค่นเสียงในลำคอให้เจ้าพ่อหนุ่มที่ยกมือขึ้นมาปรบเบาๆให้เขาเป็นเชิงล้อเลียน ก่อนจะเปลี่ยนไปกอดอกแล้วมองแสงไฟวิบวับจากเมืองที่วุ่นวายที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย
บริกรค่อมตัวลงอีกครั้งแล้วจากไป ทิ้งให้คนทั้งสองตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง การ์ดสองคนที่ตามมาด้วยยืนอยู่ห่างๆ ไม่โดดเด่นจนเกิดไป แต่ก็ไม่ลับตาจนเผยให้เห็นจุดอ่อน
“ทำไมถึงเลือกไวน์นั้นให้ฉันล่ะหืม?”ลาร์เฟียร์ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อนด้วยการเอ่ยถามคนตรงหน้า ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจมาหลายต่อหลายครั้ง
“เพราะคุณสั่งเนื้อแกะ”รัตติกรยักไหล่ตอบ
“แล้ว…?”
รัตติกรถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งแล้วเริ่มอธิบายขยายความด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งคงที่
“….ไวน์แดงของเมืองบอร์โด ซึ่งตามผมที่เคยอ่าน เป็นไวน์ที่นักวิจารย์อาหารส่วนใหญ่แนะนำว่าเหมาะกับเนื้อแกะมากที่สุด เพราะรสฝาดขององุ่นพันธุ์กาแบร์เน-โซวีญงจะเข้ากันดีกับกลิ่นสาบเล็กน้อยของเนื้อแกะที่คุณสั่ง อีกทั้งปี 82 เป็นช่วงปีที่ฝรั่งเศสมีสภาพอากาศดีที่สุดปีหนึ่ง ทำให้ไวน์ที่หมักออกมาได้ในปีนั้นมีรสชาตินุ่มนวล แล้วก็นะ…ปีที่ใช้หมักเยอะๆแบบนั้นมันเหมาะกับคนมีอายุ…อย่างคุณน่ะ”
หรือเรียกง่ายๆก็คนแก่น่ะนะ… รัตติกรยิ้มน้อยๆแต่ดวงตาวาววับ ลาร์เฟียร์เห็นดังนั้นก็เหยียดริมฝีปากออกกว้างแล้วเท้าแขนกับเก้าอี้
“มีความรู้เยอะจังนะ ไม่แพ้ปากดีๆของเธอเลย”ดวงตาสีสนิมคมกริบเหลือบลงมองริมฝีปากบางของคนตรงข้ามที่เม้มแน่นเมื่อถูกตอกกลับ
“…เหอะ”
_________________________________
ในอีกด้านหนึ่งของห้องอาหารหรูหรา ชายหนุ่มชาวจีนร่างเล็กท่าทางเจ้าเล่ห์ได้ยกโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งซึ่งถูกต่อสายตรงไปถึงคฤหาสน์ของตระกูลฟง บุคคลผู้อยู่ปลายสายนิ่งฟังเสียงรายงานที่ถูกถ่ายทอดเป็นภาษาจีนท้องถิ่นซึ่งแตกต่างจากภาษาจีนกลาง ก่อนจะถามคำถามของเรื่องที่ต้องการรู้ออกไป
“เขาจะอยู่อีกนานเท่าไหร่?”
“สายเราที่แฝงตัวอยู่ในโรงแรมรายงานมาว่าเขาจะบินไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้เที่ยงครับคุณชายสอง”
“ไปไม่ได้!!”
“ครับ?”
“ตราบใดที่แผนการของฉันยังไม่สำเร็จ เขาก็ยังไปจากจีนไม่ได้! ทำยังไงก็ได้ให้เขาอยู่ที่นี่ต่อ ถ้าสำเร็จ รางวัลที่พวกนายจะได้รับมันก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเช่นกัน!”
“ไม่ต้องห่วงครับคุณชายสอง แผนสำเร็จเมื่อไหร่ผมจะโทรไปรายงานทันที”
“แล้วฉันจะรอฟัง!!”
_________________________________
เป็นตอนที่ มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาหารเยอะมาก (ทั้งๆที่เป็นแนวมาเฟีย)
แถมต้องหาข้อมูลเยอะมากด้วย… =[]=
ขอบคุณที่โลกนี้มีกูเกิ้ลนะครับ ไม่งั้นผมคงจอดตั้งแต่ตอนแรกนั่นแหละ 555
(รัสเซียก็จัดเต็มกับกูเกิ้ลเอิร์ท เรื่องไวน์ยังโชคดีที่มีความรู้พื้นฐานอยู่บ้างเลยได้ร่ายยาว 55)
เรื่องสเต็กนั่นเป็นเรื่องจริงนะครับ
แต่มีข้อมูลเกี่ยวกับปีที่ผลิตไวน์ ส่วนนี้ผมมั่วเอาล้วนๆนะครับ แต่ที่เหลือเป็นความจริงน้า
ช่วงนี้ต้องเคลียร์งานเยอะทำให้มาลงช้า อีกสองสัปดาห์ผมก็สอบไฟนอลแล้วครับ เลยต้องเร่งตามงานในช่วงที่หยุดไปอ่านสอบเข้ามหาลัยนี่แหละ ก็ขอผ่านช่วงยุ่งๆนี้ไปก่อนแล้วสัญญาว่าจะอัพให้เร็วกว่าเดิมนะครับ
สวัสดีครับผ้ม ^^
Namioto Yo
-
:L2: ขอมอบดอกไม้ช่อโตให้กับลูน่าจัง
ลูน่าเก่งมากๆ สมกับที่เป็นคนรักการอ่านหนังสือจริงๆ
เรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ มีการหักหลังกันแล้ว (ตื่นเต้น)
อยากรู้จริงๆว่า ลาร์เฟียร์ จะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง
-
คุณชายสองมีแผนจะทำอะไรเนี่ย...น่าจะให้ลูน่าได้ยินบทสนทนาของสองคนนี้
อยากให้ลาเฟียร์รุกลูน่าเร็ว ๆ เคลียร์เรื่องนี้แล้วหอบเอากลับอิตาลีเร็ว ๆ นะ
ขอให้คนแต่งสอบเข้าได้นะคะ โชคเอค่ะ :กอด1:
-
ดีใจจัง กลับมาอัพต่อแล้ว
-
ลูน่านี้เทพมาก รอบรู้ทุกด้านเลย
อย่างนี้ไม่ได้เก่งแต่ปากซักกะหน่อย
แล้วชายสองมีแผนอะไรรึนั้น
-
อยากอ่านต่อออออออ :sad4:
คนเขียนสอบบ่อยมากกกกกก :serius2:
-
อัพต่อเรื่อยๆน่อ
จะรออ่านนะ ><
-
มาต่อให้ได้ชื่นใจว่ายังอยู่สบายดีแบบงานหนักหน่วง
คนอ่านก็อุ่นใจแล้วค่ะ
-
เริ่มเข้มข้นแล้ววว ><
,,รออ่านต่อนะคะ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ชอบ ชอบอ่านแนวนี้ รีบมาต่อนะค่ะ
ปล...ใช้ภาษาดีอ่านเข้าใจง่ายค่ะ
-
ดอนเค้ามีความสุขในการได้ขัดคอลูน่านะ สนุกนะที่เห็นลูน่าหน้างอ 5555 น่ารักอ่ะ
แผนการของคุณชายสองคงไม่มีลูน่ามาเอี่ยวด้วยนะ???
-
ท่าทางมีลับลมคมในกันเยอะจริง :m22:
-
ว้าวววววววววว!! ลูน่ากลับมาแล้ว อิิอิ
ชอบเรื่องนี้สนุกมากๆ คุณชายสองจะทำอะไรน้า
รอตอนต่อไปค่ะ ^^
-
สุดยอดความรู้เเน่นปึ๊ก :a5:
ลูน่าน่ารักอ่ะ งุงิ มาต่อเร็วๆนะค่ะ :กอด1:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกจังเลยอ่ะ >,,<
ชอบมากๆเรื่องแนวนี้ประมาณนี้ นายเอกไม่อ่อนแอเกินไป พระเอกก็ไม่โหดเว่อร์ และมีเหตุผลทุกการกระทำ
เราก็เป็นคนชอบอ่านเหมือนกัน แต่ภาษาเดียว 555 สนุกมากๆเลยค่ะ o13
:pig4: สำหรับเรื่องดีๆค่ะ
-
ลูน่าจำได้ไง o22
อีคุณชายสองจะทำอะไรรร
-
มาต่อเร็วๆเน้ออออ
-
เย้มาต่อแล้วว
ลูน่าเก่งจัง ><
คุณชายสองมีแผนอะไรหว่า
-
อ่านแล้วน่าติดตามมากกกก ชอบคาแร็คเตอร์นายเอกแบบนี้จังมันดูมีภูมิ 555
แบบจะมาข่มกันง่ายๆไม่ได้นะ มาไว้ๆน้าาาาา คนเขียนสู้ๆ
-
รอๆๆ
-
:L2:จูบเรียกเลือด(บทที่1) เพิ่งตามมาอ่านนะ แล้วจะต้วมเตี้ยมตามต่อไป :z10:
-
:L1:เอาดอกไม้มาฝากวันแห่งความรัก(ซะเมื่อไหร่)
-
เข้ามาแจ้งข่าวครับ
ในที่สุดก็มีวันได้พูดคำนี้กับเค้าบ้าง ^^
"เอนท์ติดแล้วค้าบ~!! >w< ♥♥"
มนุษย์ศาสตร์ภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น!
หลังจากที่เครียดกินตั้งแต่คะแนนสอบแกทแพทออกแล้วได้น้อยกว่าที่คาดจนเสียความั่นใจ
แต่ก็ผ่านมาได้ !!!
ก็เลยมาประกาศอยากเป็นทางการครับ เมื่อจัดการเรื่องสัมภาษณ์ งานปัจฉิม สอบโอเน็ต ทั้งหมดเสร็จภายในอาทิตย์หน้า
"ผมจะกลับมาอัพโดยปกติแล้วคร้าบบบบ" :mc4: :mc4: :mc4:
ปกติก็ประมาณอาทิตย์ละสองตอนฮะ โดยจะแบ่งอัพสลับกันไประหว่างเรื่อง "Ti Voglio" กับ "ใครว่าทำดีแล้วได้ดีฯ" นะครับ :3123:
ขอบคุณที่ยังรอผมอยู่เสมอมา ขอบคุณทุกๆกำลังใจจากนักอ่านทุกคนนะครับ
:กอด1: :กอด1: :L1: :L1: :L2: :L2: :3123: :3123: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
(ว่าแต่จะมีคนรออยู่มั้ยเนี่ย :z3: ฮ่าๆๆ)
ด้วยรักจากใจเลยน้าา
Namioto Yo ครับผ้ม o13
-
ยินดีด้วยจ้า :L2:
-
ดีใจด้วยนะค้า :กอด1:
-
ดีใจด้วยจ้า
-
ยินดีด้วยค่าาา :mc4:
-
:mc4: :mc4: :mc4:
ยินดีด้วยนะจ๊ะ คิดถึงลูน่ามาต่อเร็วน๊าา :bye2:
-
ดีใจด้วยน้า แล้วก็ต้อนรับกลับมาค่ะ :L2: :L2:
-
ดีใจด้วยนะ และยินดีต้อนรับสำหรับน้องใหม่แห่ง KKU จ๊ะ
-
ยินดีด้วยนะ
ลุ้นจน...เฮ้อ ในที่สุดก็ได้แล้ว
แต่ต่อจากนี้ไปก็มีความสุขสักระยะหนึ่งนะ
แล้วก็กลับไปทบทวนเนื้อหา ม.ปลาย ด้วยละ
เป็นห่วง....ส่งเฟรนด์ชิบ มาให้เขียนด้วย
o13 o13 o13
-
:mc4: ยินดีด้วยจ้า
และบอกว่ายังรออยู่จ๊ะ
:L2:
-
ยินดีด้วยค่ะ^^
-
สนุกมากครับ
-
ดีใจด้วยจ้า
-
ขอแสดงความยินดีกับนิสิตใหม่ด้วยจ้า
ทีนี้ล่ะท่านเอ๋ย....ท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน หึฮ่าๆๆๆๆ (หัวเราะแบบจิตสุดๆ)
แล้วก็ขอแสดงความยินดีกับตัวเองด้วย ที่จะได้อ่านนิยายที่ชอบบ่อยๆแล้ว ฮ่าๆๆๆ
ยังไงก็แสดงความยินดีด้วยอีกทีนะจ้ะ
-
:mc4: :mc4: :mc4:ดีใจด้วยค่ะ ช่วงจากนักเรียน จะเป็นนักศึกษานี่เครียดสุดแล้ว
ยินดีด้วยค่ะ อดดีใจและภูมิแทนคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้..ที่มีลูกที่ตั้งใจมากที่จะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด :m1:
ขอให้มีความสุขกับชีวิตในมหาวิทยาลัยน้ะคะว่าที่นักศึกษาคนใหม่ :L2:
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
o13ยินดีด้วยค่า :กอด1:
-
ตามมาดีใจในทู้นี้ด้วย :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
ยินดีด้วยจ้าาาาา :mc4:
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
พึ่งเข้ามาอ่านครั้งเเรก
สนุกมากกกกกกก
โดยส่วยตัว ชอบอ่านเเนวนี้มาก
เนื้อเรื่องน่าติดตามมาก
เราจะรอนะ
อัพไวๆนะ
ชอบมากๆๆ :L1:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน
เรื่องภาษาสวย แนวเรื่องน่าสนใจ
แล้วก็มีสาระเยอะดี
คนเขียนใส่ใจรายละเอียดเยอะ ชอบแนวนี้มากๆค่ะ o13 o13
ปล.ยินดีด้วยที่ติดคณะที่ตั้งใจไว้ จะสอบแล้วก็สู้ๆนะคะ มีเวลาค่อยมาต่อก็ได้ คนอ่านรอได้เสมอ
:L2:
-
รอๆๆ
-
ขอแสดงความยินดีด้วยนะฮะ
-
:man1:มารอ
-
อะชะบะเฮ้ยยย พลาดเรื่องนี้ไปตั้งนานได้ไงเนี่ยย :m3:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.14
ลิฟต์แก้วของโรงแรมเคลื่อนขึ้นสู่ที่สูงด้วยความเร็วพอเหมาะ ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเซี่ยงไฮ้ที่มองเห็นจากการไต่ระดับขึ้นไปก็ยิ่งเล็กลงเรื่อยๆ แสงไฟหลากสีนับล้านที่แข่งกันเปล่งแสงสู้ความมืดมิดทำให้เมืองนี้ไร้ซึ่งการหลับไหล รถราเต็มท้องถนนวิ่งกันขวักไขว่จนเหมือนเวลาสองทุ่มเช่นนี้ยังเป็นเวลาเร่งด่วนอยู่ ถ้ามองไล่ตามแสงไฟจากรถที่แล่นกระโดนจากถนนหนึ่งสู่อีกถนนหนึ่งซึ่งไขว้สลับกันไปมาก็จะทำให้เห็นเส้นสายถนนซับซ้อนยิ่งกว่าใยแมงมุมในป่าลึก
ความวุ่นวายที่ไม่เคยสงบนิ่งเฉกเช่นเดียวกับเมืองใหญ่ทั่วโลกคือสิ่งที่รัตติกรทิ้งคำนิยามไว้ให้กับภาพที่เห็น ก่อนเจ้าตัวจะหันกลับมาสนใจผู้โดยสารที่ร่วมลิฟต์มาด้วยกัน
หนึ่งในนั้นคือลาร์เฟียร์ที่ยืนกอดอกคุยกับเลขาฟรานด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งขรึมจริงจัง คิ้วเข้มที่พาดผ่านเหนือดวงตาสีสนิมคมกริบนั้นขมวดมุ่นเมื่อข่าวที่สั่งให้ไปตรวจสอบนั้นถูกรายงานกลับมาแล้ว
“ภัตตาคารที่ปรากฏอยู่ในรูปเป็นที่แห่งเดียวกับที่คุณลูน่าบอกมาแน่นอนครับดอน เราตรวจสอบไปถึงเรื่องกล้องวงจรปิดของร้านแล้ว มีการนัดพบของเทย์ริวกับโนวาห์เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนเวลาบ่ายสองโมงสามสิบแปดนาทีครับ”
เมื่อได้ยินชื่อโนวาห์ แววกร้าวอำมหิตก็วิ่งผ่านดวงตาคมกริบสีสนิมอย่างรวดเร็วก่อนจะถูกกดลงให้สงบโดยฉับพลันเหมือนเสือร้ายที่ถูกยึดจับให้นิ่งไว้กับที่ เจ้าพ่อหนุ่มหลับตาลงแล้วคลายสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบถึงรายละเอียดต่อไป
“แน่ใจว่าเป็นเทย์ริว?”
“ยังยืนยันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นครับดอน เนื่องจากกล้องวงจรปิดของภัตตาคารมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ รวมทั้งเป้าหมายนั่งอยู่ห่างจากกล้องไปพอสมควร แต่รูปพรรณสัณฐานที่ได้มาใกล้เคียงกับคุณชายอาราชิมาก ขอเวลาพวกผมอีกวันก็จะสามารถยืนยันตัวตนได้ชัดเจนแน่นอนครับ”
ฟรานก้มหน้าเป็นเชิงขออภัยที่ทำงานล่าช้า เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเขาก็ดันกรอบแว่นสีดำด้านให้เข้าที่ ดวงตาสีเขียวมรกตสงบนิ่งหลุบลงต่ำเพื่อรอฟังคำตอบจากนายเหนือหัวของตนแน่นิ่ง บุคลิกท่าทางเป็นการเป็นงานและจริงจังอยู่เสมอเช่นนี้นั่นเองที่ทำให้ฟราน เวคเตอร์อยู่เป็นเลขาของลาร์เฟียร์มาได้ยาวนานกว่าใคร
“สืบให้ลับที่สุด ฉันไม่อยากให้ไก่ตื่นไม่ว่าจะเป็นหนอนบ่อนไส้หรือพวกโนวาห์ห่าเหวอะไรนั่น หวังว่าฉันจะได้อ่านข้อมูลทั้งหมดพร้อมกับกาแฟบนเครื่องบินเที่ยวไปนาริตะนะฟราน”
“ตามปราถนาแห่งเวสเปอร์ครับ”เลขาหนุ่มผมดำค่อมตัวรับคำสั่งอีกรอบด้วยใบหน้าที่ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะก้าวถอยกลับไปยืนรวมกับกลุ่มบอดี้การ์ดที่รวมตัวกันอยู่อีกฝั่งของลิฟต์
ลาร์เฟียร์พยักหน้ารับแล้วผินสายตามาหาล่ามประจำตัวที่ยืนเงียบอยู่ในมุมที่ห่างจากผู้คนมากที่สุด รัตติกรที่เขาเห็นแวบๆว่าจ้องมาทางนี้กำลังมองเหม่อมองออกไปอีกครั้งหนึ่งเหมือนตัดขาดตัวเองออกจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
“เก่งนี่”เจ้าพ่อหนุ่มกระซิบชิดกับริมใบหูของคนที่ยืนหันหลังให้ รัตติกรสะดุ้งเฮือกเมื่อพบว่าคนที่ดูจริงจังอยู่เมื่อครู่กลับมายืนซ้อนอยู่ข้างหลังเขาเมื่อไหร่ไม่รู้
“อะไรของคุณ?”หนุ่มไทยขยับตัวหนีร่างแกร่งที่บดเบียดแนบชิดกับแผ่นหลังของเขาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ หากแต่เคลื่อนไปได้ไม่ไกล แขนแข็งแรงสองข้างก็ถูกยกขึ้นทาบกับผนังกระจกลิฟต์ กักตัวของเขาเอาไว้ภายในไม่ให้หนีไปไหนได้อย่างที่ต้องการ
“คิดไม่ผิดที่เลือกพาเธอมาจากที่ๆไร้ประโยชน์แบบนั้นจริงๆ ความสามารถของเธอมันดีเกินกว่าจะนั่งเป็นพนักงานบริษัทอยู่เฉยๆเสียด้วยซ้ำ”คนถูกเอ่ยชมซึ่งๆหน้าไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร รัตติกรส่งเสียงหึขึ้นจมูกแล้วยกมือดันแขนของคนข้างหลังให้เปิดทางออก หากแต่การเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงก็ไม่เกิดผลอะไรจนเจ้าตัวได้แต่ทำหน้าหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
“ปล่อยผม!”เงาสะท้อนจากกระจกเผยให้เห็นสายตาหลายคู่ที่กำลังจ้องมองมาทางพวกเขา รัตติกรทำหน้าปั้นยากแล้วเค้นเสียงบอกให้อีกฝ่ายเลิกทำรุ่มร่ามแบบนี้เสียที แต่ลาร์เฟียร์ซึ่งรู้อยู่แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกลับปฏิเสธคำขอนั้นและแทนที่ด้วยการใช้ริมฝีปากไล้เล็มไปตามผิวอ่อนริมใบหู เป็นเหตุให้คนในอ้อมกอดกลายๆสะดุ้งเฮือกแล้วเผลออุทานเสียงหวานพร่า
รัตติกรหันกลับมาหาลาร์เฟียร์เต็มตัว ดวงตาสีน้ำตาลไหม้วาววับไปด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวระแวดระวัง หากแต่เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าแววตาเช่นนี้นั่นแหละที่ทำให้ดอนแห่งปาเลอร์โมตัดสินใจลักพาตัวเขามาจากประเทศบ้านเกิด
ถ้าเพียงรัตติกรอ่อนแอมากกว่านี้ กล้าน้อยกว่านี้ และอวดดีน้อยกว่านี้ ปัจจุบันชีวิตอันแสนสงบของเขาก็คงไม่เปลี่ยนแปลงขนาดพลิกฝ่ามือเช่นนี้แน่นอน
บรรยากาศมาคุถูกทำลายลงด้วยประตูลิฟต์ที่เปิดออกพร้อมกับเสียงเตือนว่าถึงที่หมาย การ์ดสองคนเดินออกไปสำรวจภายนอกแล้วส่งสัญญาณเข้ามาว่าปลอดภัย ลาร์เฟียร์จ้องใบหน้าอวดดีที่ยังคงประสานตากับเขาอยู่ไม่ยอมถอย เจ้าพ่อหนุ่มยกยิ้มด้วยความชอบใจก่อนจะถอยออกมาแล้วเดินออกจากลิฟต์ไปเฉยๆ
“โธ่เว้ย!”รัตติกรสบถเสียงเบา ร่างเพรียวยกมือขึ้นแนบแก้มร้อนผ่าวทั้งสองข้างแล้วปิดตาลง หลังจากหายใจเข้าลึกๆพอให้อารมณ์ที่คุกกรุ่นได้สงบลงแล้วเขาก็ก้าวออกจากลิฟต์เป็นคนสุดท้าย
ทางเดินไปยังห้องพักของพวกเขานั้นถูกปูไว้ด้วยพรมซึ่งเล่นลวดลายไว้อย่างวิจิตรงดงาม ภาพแขวนมีชื่อต่างๆถูกประดับเอาไว้ตามผนังเป็นระยะ แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นมาอย่างแนบเนียน
สามชั้นบนสุดของโรงแรมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาแบบเพนท์เฮาส์ ซึ่งในหนึ่งเพนทส์เฮาส์จะถูกแบ่งเป็น4ห้องนอนแบบมีห้องน้ำในตัว มีส่วนรับแขก ห้องครัวและบาร์เล็กๆเป็นห้องแยกต่างหากอีกด้วย ฟรานเลือกจองชั้นตรงกลางเป็นที่พักของพวกเขา
เมื่อเดินมาถึงประตูห้องและเปิดประตูเข้าไป การ์ดสองคนก็ถูกทิ้งไว้ให้เป็นคนเฝ้าประตู ซึ่งจะคอยเปลี่ยนเวรกันตามเวลา บุคคลที่ได้พักในห้องนี้แน่นอนว่าต้องมีลาร์เฟียร์ อีกห้องหนึ่งถูกยกให้รัตติกร มีเลขาฟรานที่ต้องคอยทำงานใกล้ชิดกับเจ้านาย และห้องสุดทายเป็นของสคูร์โด หัวหน้าบอดี้การ์ดกับคนของเขาอีกสองคนที่จะคอยระวังภัยสำหรับภายในห้อง
การ์ดส่วนที่เหลือพักอยู่ในห้องที่ราคาถูกกว่า แต่ก็พร้อมสำหรับการรับมือเหตุการณ์ต่างๆเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
รัตติกรเดินเข้าห้องของตัวเองทันทีเมื่อฟรานให้สัญญาณแยกย้าย ห้องของเขานั้นปิดไฟเอาไว้ทุกดวงหากแต่ก็ไม่มืดสนิทเพราะผนังฝั่งหนึ่งเป็นกระจกใสทั้งบาน แสงจากภายนอกส่องเข้ามาให้พอเห็นโครงร่างของเตียงซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง
หนุ่มชาวไทยถอดสูทและรองเท้าทิ้งไว้บนพื้นระเกะระกะก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง อากาศในห้องที่อ้าวเล็กน้อยเริ่มเย็นขึ้นด้วยเครื่องปรับอากาศระบบอัตโนมัติที่เมื่อมีคนเข้ามาก็จะทำงานทันที
ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่สะสมมาทั้งวันพาให้สติของเขาล่องลอยไปช้าๆ เหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นในวันนี้ราวกับว่าเขาได้เข้าไปอยู่ในโลกใบใหม่ที่ไม่มีสิ่งใดเหมือนเดิมยิ่งทำให้เขาเหนื่อยล้ามากขึ้นเป็นพิเศษ
รัตติกรใช้สติที่มีเหลืออยู่น้อยนิดพาตัวเองให้เข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มหนานุ่มแล้วทิ้งทุกสิ่งเอาไว้เบื้องหลัง ปล่อยตัวให้ลอยไปกับความฝันที่ละลานตาและการนิทราที่ไร้การรบกวน
ถึงแม้สิ่งสุดท้ายที่คำนึงถึงก่อนหลับตาลงจะเป็นดวงตาอีกคู่ที่สะท้อนภาพของเขาเองก็ตามที
_______________________________________________
เสียงเคาะประตูปลุกให้รัตติกรตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ร่างเพรียวสลึมสะลือมองไปรอบตัว ก่อนจะใช้เวลาไปอีกหลายนาทีในการตั้งสติให้เข้าที่เข้าทาง ภายในห้องดูสว่างขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเพราะสายตาที่ชินกับความมืด ชายหนุ่มลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตูและพบกับหัวหน้าบอดี้การ์ดหน้าเข้มยืนรออยู่
“มีอะไรครับ?”
“ดอนให้ไปพบที่ห้อง”เสียงตอบกลับห้วนสั้นเหมือนคนพูดไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก สคูร์โดหัวหน้าบอดี้การ์ดคนนี้มีรูปร่างสูงใหญ่เกือบถึงสองเมตร เขาอายุสามสิบสี่ปี มีผิวสีขาวจัดซึ่งเต็มแน่นไปด้วยมัดกล้ามที่ดูแล้วก็รู้ได้ทันทีว่ามาจากการออกกำลังกายมากกว่าการเพาะกล้าม ที่ดวงตาเป็นสีฟ้าเข้ม หางตาเรียวเฉียงมีรอยแผลเป็นสีเข้มเส้นหนึ่งลากยาวไปจนถึงเหนือใบหู ยิ่งรวมกับผมสีทองตัดสั้นเกรียนแล้วทำให้ลุคภายนอกของบอดี้การ์ดคนดูนี้อันตรายแม้เห็นแค่เพียงแวบเดียว
รัตติกรขมวดคิ้วแล้วก้มลงมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือที่สวมอยู่ มันบอกเวลาสี่ทุ่ม แสดงว่าเขาหลับมาได้สองชั่วโมงก็โดนปลุกเสียแล้ว
“ทำไมครับ?”
“ไม่ทราบ! รีบๆตามมาได้แล้ว ชักช้าอยู่นั่นแหละ”ว่าจบหัวหน้าการ์ดอารมณ์ร้อนก็ออกเดิน ทิ้งให้รัตติกรซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆถึงโดนเกลียดขี้หน้าค่อยๆก้าวตามไป
สคูร์โดเดินตรงไปที่ห้องของลาร์เฟียร์แล้วเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไปทันที สภาพภายในห้องนั้นเหนือกว่าห้องของรัตติกรอยู่ไม่น้อย หัวหน้าการ์ดเดินตรงเข้าไปทางส่วนที่จัดเป็นห้องแต่งตัวก่อนถึงห้องน้ำ เขาหยิบเสื้อคลุมที่วางเอาไว้บนชั้นยื่นส่งให้คนที่เดินตามมา
“เปลี่ยนไปใส่เสื้อคลุมนี่ซะ เสร็จแล้วก็เข้าไปในห้องนั้น ท่านรออยู่ อ่อ เรียกฟรานออกมาด้วยล่ะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา”ว่าจบก็ยัดเสื้อในมือส่งๆใส่อกของหนุ่มชาวไทยจนเขาต้องรับมาถือไว้ จากนั้นคนอารมณ์ร้อนก็เดินออกไปรอข้างนอกห้อง ทิ้งให้รัตติกรยืนอึ้งด้วยไม่ทันได้ปฏิเสธอะไร
แล้วทำไมต้องเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำ?
หลังจากยืนนิ่งอยู่นานจนคนที่เดินออกไปได้กลับเข้ามาเร่งอีกรอบ รัตติกรเลยจำยอมถอดชุดที่ใส่มาพับวางทิ้งไว้แถวๆนั้นแล้วสวมเสื้อคลุมแทนที่ ร่างเพรียวเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องน้ำแบบบานเลื่อนแล้วเคาะเบาๆ จากนั้นก็รอให้มีเสียงตอบรับก่อนจึงจะเข้าไป
“ใคร?”
“รัตติกร”
“อืมม เข้ามาเลย”เสียงเรียกให้เข้าไปนั้นติดจะพร่าเล็กน้อย รัตติกรเลิกคิ้วด้วยความงุงงง แต่ก็ยอมเปิดประตูเข้าไปและต้องชะงักนิ่งอยู่กับที่เมื่อได้เห็นภาพอันน่าตกตะลึงตรงหน้า
ในห้องที่มีเพียงแสงไฟรางๆสีส้มนวลตา ร่างแกร่งของเจ้าพ่อมาเฟียกำลังอยู่ในสภาพเปล่าเปลือย ชายหนุ่มนั่งอยู่บนพื้นและแช่ตั้งแต่ส่วนเข่าลงไปไว้ในอ่างอาบน้ำ ภายในอ่างนั้นมีฟรานที่กำลังก้มหน้าซุกอยู่ตรงกลางท่อนขาแกร่งทั้งสองข้างของผู้เป็นเจ้านาย
ใช่ ต่อให้ไร้เดียงสาขนาดไหนเมื่อได้มาเห็นภาพเช่นนี้จะๆตาก็ได้ทำอะไรไม่ถูกกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่รัตติกร…
“อืม ฟราน พอก่อน ออกไปได้แล้วล่ะ”ลาร์เฟียร์เหลือบมองคนที่ยังยืนแข็งทื่ออยู่หน้าประตูด้วยดวงตาพราวระยับสมใจ มือแกร่งดันศีรษะของเลขาคนสนิทออกจากภารกิจตรงหน้าที่ยังไม่เสร็จสมดี เขามอบจูบดูดดื่มให้กับอีกฝ่ายแทนคำขอบคุณแล้วรับผ้าขนหนูผืนเล็กมาวางปิดส่วนสำคัญที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย
ฟรานก้าวขึ้นจากอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่แล้วใช้ผ้าขนหนูซับหยดน้ำที่เกาะพราวอยู่บนตัวก่อนจะหยิบเสื้อคลุมและแว่นตาที่วางไว้ข้างๆอ่างมาสวมแล้วเดินมาหารัตติกร
“ขอทางด้วยครับคุณลูน่า”ฟรานส่งยิ้มเล็กน้อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาให้ร่างเพรียวที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เก่า ผมสีดำสีนิทที่ปรกติจะถูกเสยไว้อย่างเรียบร้อยทิ้งตัวลงปรกหน้าผากเพราะหยดน้ำส่งผลให้รัตติกรรับรู้รู้ถึงบุคลิกอีกอย่างของเลขาคนนี้ด้วย
นอกจากความเอาจริงเอาจัง สิ่งที่อีกฝ่ายเก็บซ่อนเอาไว้ก็คือความเซ็กซี่อย่างร้ายกาจนี่เอง…
หนุ่มชาวไทยขยับหลบเบี่ยงทางให้อีกฝ่ายเดินออกไปแต่โดยดี ทันทีที่ประตูเลื่อนบานเดิมเลื่อนปิดลง ความเงียบก็ย่างกรายเข้ามาปกคลุมห้องนี้โดยทันที
“จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ยลูน่า? หยิบเครื่องหอมข้างๆเธอแล้วเดินมาหาฉันซะ”
“คุณต้องการอะไร?”
“นวดแผนไทยให้หน่อยสิ”
อะไรนะ!!!???
_______________________________________________
อืมม ตอนหน้าคงได้จัดเต็ม (มั้งครับ? 555) :-[
(รอดูความคิดเห็นของนักอ่านส่วนใหญ่แล้วกันนะครับ ตอนนี้ผมกำลังลังเลว่าจะให้ลูน่าของผมโดนเผด็จศึกดีมั้ย 55 หรือแค่ลูบๆไล้ๆเหมือนตอนก่อนดี ให้คนอ่านตัดสินดีกว่า ลั้นลา~ :oni1:)
http://www.booking.com/hotel/cn/gran-melia-shanghai.th.html?aid=331514;label=shanghai-c5vtgkNwW3%2APkEOC6P5rCQS4860363489;sid=212c76ec0c552f869b8556769af3167b;dcid=4 (http://www.booking.com/hotel/cn/gran-melia-shanghai.th.html?aid=331514;label=shanghai-c5vtgkNwW3%2APkEOC6P5rCQS4860363489;sid=212c76ec0c552f869b8556769af3167b;dcid=4)
อันนี้เป็นลิงค์ของโรงแรมจริงที่ผมไปเอาข้อมูลสถานที่มาฮะ (มีอยู่จริงในเซี่ยงไฮ้ แต่ห้องที่ผมแต่งอยู่เหนือความจริงไปเล็กน้อย)
ถ้าอยากเห็นภาพของห้องอาหาร ห้องนอน ห้องน้ำ(ส่วนนี้อยากให้เห็นประกอบการจินตนาการอ่ะครับ ตอนหน้าคุณจะได้นึกภาพออกกัน 55)ก็ลองกดเข้าไปดูกันนะครับ
ขอบพระคุณอากู๋อีกครั้ง 55 :z2:
ขอบคุณนักอ่านทุกๆคนด้วยนะครับ! :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4: :pig4:
เจอกันอาทิตย์หน้าครับผม ^^
Namioto Yo
-
ยินดีด้วยเก่งมากกกก o13
:call:
-
ตอนหน้าขอแบบจัดเต็มฟูลคอร์สเลยนะคะ อยากเห็นลูน่าเสียน้องเอก(ราช) :impress2:
-
นวดสินวด
-
จัดมาเถอะค่ะ
จัดมาแบบเต็มๆ อย่าให้ค้างคาเลย :laugh:
-
จัดไปค่ะ กดไปเลย
-
อย่างนี้จัดหนักไปเลย>/////<
มาซะขนาดนี้ยังไงก็เผด็จศึกคะ(อินี่ไม่หื่นเลย= =!!)
>,,<///
-
ไม่ยกให้ค่า หมั่นไส้พระเอกเหลือจะทน
เชอะๆๆๆๆ นวดกดจุดให้หลับไปเลยไป
-
หลังจากที่ตามอ่านเรื่องนี้มา
เพิ่งแสดงตัวค่ะ แหะ แหะ ( ไม่มีเวลาเม้นเท่าไหร่ )
ก่อนอื่น แสดงความยินดีด้วยน่ะค่ะ o13
จะติดตามต่อไปค่ะ!!! :bye2:
-
อ่านไปแล้ว.....หมั่นไส้แมร่งมากเลย
อ้ากกกกกกก ลาเฟียร์!!!!!
ลูน่าอย่าไปยอมง่ายๆนะ เล่นตัวให้อีกคนมันเหนื่อยตายไปข้างเลย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากยกลูน่าให้
เพราะหมั่นไส้อีตาบอสนี่เหลือเกิน
-
แอร๊ยยยยย :z1: :z1:
-
เฮ้ยยย คุณเลขา :a5:
-
หมั่นไส้ดอนอย่างแรง
ให้แค่ลูบๆคลำพอๆ
ลูน่าเล่นตัวมากๆๆเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
:pig4: :call:
-
อย่าเพิ่งให้ลูน่าโดนละเมิดเอกราชดีกว่า!!!
หมั่นใส้ลาร์เฟียร์ชะมัด
ลูบๆ คลำๆไปก็พอ :angry2:
-
เเค่นวดจริงเร้ออออออ
-
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ แต่ไม่ยอมให้ลูน่านวดให้นะ ลูน่าต้องชนะลาเฟียร์ไม่ยอม ลาเฟียร์น่าหมั่นไส้อย่ามาถูกลูน่านะไม่ยอม :fire:
-
อะไรเนี่ยยยยยย o22
ไม่ให้จับลูน่าหรอกเฟ้ยแบบนี้ :m31:
-
ปลุกลูน่ามาเพื่อให้นวดเนี่ยนะ !!!
เอาแต่ใจชะมัดเลยแฮะ
-
ถึงขั้นปลุกลูน่าขึ้นมาขนาดนี้ ไม่ใช่แค่นวดแล้วมั้ง :z1:
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
จะจัดเต็มหรือไม่จัดเต็มก็จะรอค่ะ
แต่เอาให้พ่อพระเอกเค้าลงแดงก็ดีนะค่ะ แบบว่าเกือบๆ
ปล ฉากนี้ ดอนเซ็กซี่มากกก :o8:
-
ลูน่ามีประดยชน์ไปสะทุกเรื่องจริงๆๆ
-
:mc4:
ต้อนรับการกลับมานะจ๊ะ คนเขียน
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด :m31: :m31: :m31:
ทำไมทำหยั่งงี้วะ กร๊าซซซซซซซซ ไม่ยอม :angry2: :angry2:
ไม่ยอมให้ให้เสียเอกราชหรอก หมั่นไส้พระเอกมากๆๆๆๆๆๆๆ
:beat: :beat: มาตบที อร๊ายยยย
อยากให้นายเอกเอาคืนบ้างอ่ะ เอาหนักๆเลย กรี๊ด
-
o18สงวนเอกราชไว้อีกสักสองตอน เกลียดอิมาเฟียอ้ะ
ลูน่า นู๋ก้อนวดกดจุดหลับไปเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
ค้างอย่างรุนแรง อัพค้างๆแบบนี้เอามีดมาเฉาะหัวเถอะค่ะ
-
ขอบอกว่าตอนนี้มัน โครตทำให้อยาก แล้วจากไป จริงๆๆ
มาตอนไวๆๆนะ o13
-
เอิ่ม ขอแค่ลูบไล้ พอให้คลั่งก่อนได้มั๊ย
ไม่อยากให้ลูน่าทับรอยใครแบบสดๆร้อนๆ มันตำตาตำใจจริงๆ ให้ตายเถอะ!! :serius2:
-
ไหนๆลาเฟียร์ก็แกล้งลูน่ามาเยอะละตอนหน้าขอลูน่าแก้แค้นคืน(ซักเล็กน้อยให้ดอนค้างอะไรเงี้ยะดันให้มาเห็นตอนเลขาช่วยอยู่ได้ไงชิ)ก่อนโดนจัดเต็มได้ป่ะคะ(อยากได้คู่ฟรานด้วยค่ะ เริ่มจะโลภละอิอิ)
:3123: กดเป็ดให้กำลังใจคนแต่งค่ะ รออ่านต่อจ้า
-
เจ้านายกับเลขา แบบว่าอึ้ง o22
ไม่ยอมให้ลูน่าเสียเอกราช ชิส์ ไม่ชอบลาเฟียร์แล้ว :เฮ้อ:
-
อยากจะบอกว่าเลือกไม่ถูกเหมือนกัน ใจนึงก็อยากให้ลูน่าโดนเผด็จศึก แต่อีกใจก็แบบว่าอย่าเพิ่งเลย
คิดหนัก ฮ่าๆๆๆ เอาแค่พอลูบไล้พอค่ะ เพราะเริ่มหมั่นไส้ลาเฟียร์แล้ว ชิชิ
อยากอ่านตอนต่อไปจะแย่แล้ว ^^
-
ม่ายยย ไม่ยอมให้ลูน่าเสียเอกราชเร็วๆนี้นะคะ
หมั่นไส้คนบางคน เฮอะ! ลูบๆคลำๆคุ้มคลั่งน้ำลายไหลแต่ไม่ได้หม่ำต่อไปเถอะย่ะ!
เห็นด้วยกับค.ห.คุณ THiiCHA ค่ะ
ไม่อยากให้ลูน่าทับรอยใครแบบสดๆร้อนๆ มันตำตาตำใจจริงๆ ให้ตายเถอะ!! :serius2:
-
ตอนหน้ารอลุ้นว่าใครจะนวดให้ใครกันแน่
ชอบบุคลิกของคุณเลขาอ่ะ...เซ็กซี่สุดยอด ไม่รู้ว่าหัวหน้าการ์ดไม่พอใจอะไรด้วยแฮะ
หรือแอบชอบคุณเลขา? ก็เลยหงุดหงิด?
-
อั๊ยยะ!!!! นวดแผนไทย ทำไมต้องให้ฟรานปรนนิบัติก่อนด้วยอะ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
นวดแผนไทย :impress2: :impress2:
แค่นวดก็พอนิ ไม่ต้องนาบ :o8:
สนุกมากค่ะ
-
เหวยๆ จะให้นวดหรือให้อะไรกันแน่ค่ะ อิอิ
ป.ล. โรงแรมหรูมากกกกก
-
ไม่! ลูน่าอย่ายอมมันนะลูก :m16:
เล่นตัวเข้าไว้ อย่าให้ง่ายๆนะจ๊ะ ไม่งั้นอีตาบอสจะเขี่ยทิ้งได้ง่ายๆเลยนะ
ช็อค!คุณเลขา :a5:
กอดคนเขียน :กอด1:
-
ไม่ใฟ้อ่ะฟุ่มเฟือ
ง่ายไป
แหม่มันน่าจะมีคนมาเป็นคู่แข่งหัวใจลาเฟียมั่งนาหมั่นไส้
-
เริ่มไม่ชอบพระเอกก็ตอนที่. . .กับฟรานนี่แหละ!! :z6:
คิดว่า ฟรานกับอีกคนที่เหมือนจะไม่ชอบนายเอกของเราก็ของเล่นของอีตาพระเอกทั้งนั้นแหละ :m31:
รับไม่ได้ อยากให้พระเอกมีลูน่าคนเดียว :sad4:
สนุกมากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ มาต่อเร็ว ๆ o13
-
หมั่นไส้ลาเฟียร์มากๆ :m16:
:pig4:นะจ๊ะ
-
ชริ
ไม่ๆๆลูน่าอย่าไปยอมเน้อออ
หมั่นใส้ลาร์เฟียร์มากมาย ชิชะ
-
ไม่ยกน้องลูน่าให้หรอกย่ะ!!!
หมั่นไส้อิตาดอนเนี่ยสุดๆอ่ะ เชอะ!!!
-
อุ๊ยว้าย!!!
คุณเลขาแอบเซ็กซี่นะค้า
:z1:
แล้วจะมีคู่เป็นของตัวเองมั้ยเนี่ย
ส่วนเรื่องลูน่าคนสวย
ขอเสนอให้อิคุณมาเฟียมันค้างค่า
o22
ประมาณว่าเกือบได้และแต่ต้องอด
มันจะต้องทรมานแน่ๆ ฮี่ๆๆ
o3
ปลล.ยินดีด้วยที่สอบติดนะจ้ะ
o13
-
คนเขียนหายอ่ะ o22
มาต่อไวๆนะคะ :call:
-
:serius2: ไม่นะๆๆๆๆ เดี๋ยวลูน่าก็โดนฟรานเกลียดอ่ะ
-
ต่อมหมั่นไส้กระตุกกระทันหันค่ะ !! ไม่ยอมยกหลานให้ง่ายๆหรอก !!
ล่อให้ค้างแล้วชิ่งออกมาโลด
คุณเลขาก็แรงไม่เบาเหมือนกันนะ .. แต่ว่าเราไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ !
ให้หนูลูน่าจัดการตาลาเฟียร์นี่ให้เข็ดไปเลย
-
โอ้...นวดแผนไทย :impress2: :impress2: :impress2:
-
อยากอ่านแบบจัดเต็ม !!!!!!
ให้ลูน่าเสียเอก(ราช)ไปเรย เหอๆๆๆๆ :haun4:
-
มาต่อด่วน
-
:sad4:
มารออีกครั้ง :mc4: :mc4:
-
อ่านครั้งแรกเลยค่า รวดเดียวจบ
ชอบมากเลยอ่า บอกได้แค่นี้ อิอิ
อ่านไปยิ้มไปเหมือนคนบ้าแล้วตอนนี้ :really2:
จะรอมาต่อนะคะ ลูน่าจะทำยังไงต่อละเนี่ย เจอภาพแบบนี้เข้าไป แล้วลูน่าจะนวดแผนไทยเป็นไหมน้าาาา อิอิ
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.15
จบจากประโยคนั้นความเงียบก็ทิ้งตัวปกคลุมทั้งห้อง เจ้าพ่อหนุ่มมองคนที่ยังยืนนิ่งอยู่หน้าประตูด้วยอารมณ์ขบขันแต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า ลูน่าของเขาเบิกตากว้าง ริมฝีปากบางอ้าค้างเล็กน้อยแต่ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา คาดว่าจะตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
“นิ่งอยู่ทำไม มาสิ”
“คุณจะบ้าเหรอ!”รัตติกรตะโกนแหวเสียงลั่นแล้วรีบเดินออกจากห้อง แต่กลับพบว่าประตูเลื่อนที่มีเพียงหนึ่งเดียวไม่ขยับเขยื้อนเปิดทางให้เขาออกไปแต่โดยดี หนุ่มชาวไทยเม้มริมฝีปากแน่นแล้วหันขวับมามองเจ้าพ่อหนุ่มตาขวาง
“เปิดประตูให้ผม!”
“ทำตามที่ฉันบอก แล้วจะเรียกฟรานมาเปิดให้”ลาร์เฟียร์โชว์โทรศัพท์ที่อยู่ในมือให้รัตติกรเห็นแล้ววางไว้ข้างๆตัว ใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจขยับยิ้มเหยียดกว้างสร้างความขุ่นเขืองให้อีกร่างที่ต้องอยู่ร่วมห้องโดยจำยอมได้อย่างง่ายดาย
รัตติกรยืนมองอีกฝ่ายด้วยแววตาขุ่นเคือง เริ่มตั้งแต่ส่งคนไปปลุกเขามากลางดึก แสดงภาพบาดตาให้เห็นอย่างหน้าไม่อาย สุดท้ายยังให้เลขาของตัวเองขังเขาเอาไว้ในห้องด้วยกัน แล้วยังมาสั่งอะไรที่ไร้สาระกับเขาอีกเนี่ยนะ!!
“คุณคิดว่าคนไทยทั้งประเทศจะนวดแผนไทยเป็นรึไง! ที่โรงแรมนี่ก็มีสปาอยู่ทำไมไม่เรียกเขามา?!”
“ก็ฉันจะให้เธอนวด เลิกเถียงได้รึยัง? มานั่งนี่ได้แล้ว หรือจะให้ฉันไปหาเอง แต่ไม่รับรองว่าจะจบแค่นวดอย่างเดียว อาจจะนาบต่อด้วยนะ”ดอนแห่งปาเลอร์โมเลิกคิ้วให้อีกฝ่ายเป็นเชิงยั่วยุ รัตติกรเม้มปากแน่นแล้วคว้าตะกร้าไม้สานอย่างดีที่ใส่พวกเครื่องหอมและอุปกรณ์เกี่ยวกับการนวดเอาไว้แล้วเดินไปหาเจ้าพ่อหนุ่มที่แย้มรอยยิ้มสมใจ
“บอกไว้ก่อนนะว่าถึงผมจะเคยอ่านว่าเขานวดแผนไทยกันยังไง แต่ผมก็ไม่เคยทำมาก่อน ผมนวดไม่เป็น บางทีอาจจะไปนวดทับเส้นประสาทสักเส้นของคุณจนร่างกายเป็นอัมพาตเล่นๆก็ได้ ไม่ว่ากันนะ?”รัตติกรยิ้มยียวนกลับ ชายหนุ่มวางตะกร้าเครื่องหอมลงข้างตัวแล้วนั่งลงไม่ใกล้ไม่ไกลจากเจ้าพ่อหนุ่มนัก
ลาร์เฟียร์มองคนข้างตัวที่สงบสติอารมณ์ของตัวเองลงได้อย่างรวดเร็วและกลับมาต่อปากต่อคำกับเขาได้อีกครั้ง ทั้งๆที่ตกอยู่สถานการณ์ที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ลูน่าที่แสนจะดื้อดึงคนนี้ก็ยังไม่ยอมแสดงให้เห็นว่าตัวเองหวาดกลัวหรือตกเป็นรองเขาแต่อย่างใด
หึ...แล้วจะได้เห็นดีกัน
“เธอเรียนรู้เร็วนี่ใช่มั้ย? ฉันสอนให้เดี๋ยวเดียวก็คงจะทำได้ไม่ยาก”
“หา? อ๊ะ!!!”ถือโอกาสที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว เจ้าพ่อหนุ่มก็กระชากคนข้างกายให้ขึ้นมานั่งเกยกันอยู่บนตัก ฝ่ามือหนากดศีรษะเล็กให้โน้มลงมาอย่างไม่อาจขัดขืนแล้วประทับริมฝีปากบดขยี้อย่างเร่งร้อนจนอีกฝ่ายต่อต้านแทบไม่ทัน ลิ้นเล็กถูกดูดดึงจนชาวาบ สิ่งแปลกปลอมจากภายนอกล่วงล้ำเข้ามาสำรวจโพรงปากหวานอย่างหิวกระหายและเร่าร้อน
“อึก ปล่อย!!! เรื่องแบบนี้ก็มีคุณฟรานทำให้อยู่แล้วไม่ใช่รึไง!”
“กับฟรานมันก็แค่งาน เขาแค่ช่วยระบายอารมณ์ให้ฉันก็เท่านั้น”
ขณะพูดลาร์เฟียร์ก็ใช้อีกมือที่ยังว่างดึงเสื้อคลุมของรัตติกรหลุดออกจากไหล่จนไปกองอยู่ที่เอว ปลายนิ้วกร้านลูบไล้ตามแนวกระดูกสันหลังเรียบลื่น กดย้ำในบางจุดที่จะช่วยให้เจ้าของร่างผ่อนคลาย และบางจุดที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ใคร่ให้ลุกโหมกระพือ
“แล้วผมล่ะ คึ อ่ะ....ทำไมผม ต้องทำแบบเดียวกับเลขาของคุณด้วย อื้อออ”
“ไม่เหมือนกัน!”
“ไม่เหมือนตรงไหน!! อ๊ะ!”
ร่างเพรียวสะท้านไหวเพราะร่างกายที่รู้สึกดีเกินไปจนไม่อาจควบคุม มือเล็กดันแผ่นอกแกร่งเป็นการต่อต้านสัมผัสที่รุนแรง ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่มองสบนั้นมีอารมณ์สะท้านไหวรุนแรงแฝงอยู่ภายใน หากแต่สิ่งที่เจ้าพ่อหนุ่มเห็นได้ชัดกว่านั้นคือการขัดขืนและความอวดดีที่ไม่ได้ลดลงไปแม้แต่น้อย
“เธอเป็นของฉัน รัตติกร”
“ผมไม่ใช่ของๆใคร!!”
“หึ!”
งั้นเดี๋ยวจะสอนให้รู้ ว่าใครกันที่เป็นเจ้านาย!!
ลาร์เฟียร์ควานมือลงไปในตะกร้าเครื่องหอมแล้วหยิบน้ำมันหอมระเหยขึ้นมาขวดหนึ่ง เมื่อเปิดฝาออกกลิ่นหอมฉุนก็ลอยฟุ้ง เจ้าพ่อหนุ่มเทน้ำมันในขวดลงบนแผ่นหลังขาวเนียนที่สั่นระริก ฝ่ามือหนาลูบไล้น้ำมันหอมไปทั่วผิวเรียบลื่น กดย้ำและบีบนวดในแต่ละจุดด้วยน้ำหนักมือที่แสนชำนาญจนร่างบางที่นั่งเกร็งอยู่บนตักส่งเสียงครางผ่านลำคออย่างมิอาจห้ามตัวได้
รัตติกรรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัว ยิ่งฝ่ามือหนานั้นลากผ่านที่ตรงไหนยิ่งเหมือนมีเหล็กเผาไฟมาสัมผัสกับร่างกายโดยตรงอย่างไรอย่างนั้น ริมฝีปากที่ถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วงทำให้สมองของเขามึนเบลอขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะหักห้ามใจตัวเองไว้ไม่ได้
ใครจะไปยอม...
ดวงตาสองคู่ยังมองสบกันอยู่อย่างไม่มีใครยอมใคร หนุ่มชาวไทยค่อยๆลดมือจากแผ่นอกนูนแน่นลงมาช้าๆ มือเล็กสัมผัสท่อนเนื้อแกร่งที่ยังไม่สงบอยู่ใต้ผ้าขนหนูผืนน้อยแล้วลูบไล้ไปมาจนเจ้าพ่อหนุ่มถึงกับหยุดชะงักด้วยความแปลกใจ
ดวงตาสีน้ำตาลไหม้พราวระยับคลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะท้าทายและหลอกล่อเขาให้เข้าสู่เกมตัณหา ร่างเพรียวตรงหน้าแม้จะสะท้านไปด้วยแรงอารมณ์ที่เขาสร้างขึ้นมา หากแต่ก็ไม่ยอมให้อารมณ์มาอยู่เหนือสติของตัวเอง คนแบบนี้หาได้ยาก เพราะมนุษย์มักจะยอมแพ้ต่อความปราถนาของตัวเองโดยง่ายดายเป็นพิเศษ และน่าดีใจ ที่ลูน่าของเขาไม่ใช่คนส่วนใหญ่แบบนั้นเสียด้วย
ลาร์เฟียร์ชโลมน้ำมันหอมใส่มือของตนเองแล้วค่อยๆลูบจากต้นคอระหงลงมาที่แผ่นอกแบนราบ ชายหนุ่มใช้นิ้วหัวแม่มือเค้นคลึงที่ยอดอกสีหวานจนอีกฝ่ายสะดุ้งตัวลอยแล้วครางเสียงพร่า รัตติกรสบถในลำคอ มือเล็กที่พยายามปลุกปั่นอารมณ์จึงเร่งจังหวะขึ้นอีกจนเจ้าพ่อหนุ่มตัวเกร็งด้วยความเสียวซ่านที่พุ่งขึ้นมาเป็นระลอก
กลิ่นหอมหวานล้ำลึกของน้ำมันหอมดอกกระดังงาลอยอบอวลไปทั่วห้อง ช่วยชักพาอารมณ์ปรารถนาให้พุ่งขึ้นสูงด้วยความรัญจวน มันลวงประสาทให้พวกเขาต่างหลงไหลไปกับบรรยากาศที่เร่าร้อนหอมหวานมากขึ้นเรื่อยๆจนลืมที่จะยั้งตัวเองเอาไว้
เจ้าพ่อหนุ่มโอบเอวร่างบางไว้แล้วล้มตัวลงนอนไปกับพื้น ส่งผลให้รัตติกรต้องอยู่ในท่าคุกเข่าคร่อมตัวเขาเอาไว้อีกที ฝ่ามือหนากระตุกผ้าคลุมส่วนที่เหลือจากร่างเพรียวแล้วโยนทิ้งไปให้พ้นสายตา เผยให้เห็นโครงร่างงดงามเย้ายวน ผิวขาวเนียนเป็นประกายระยับและลื่นมือด้วยน้ำมันหอมที่ถูกเขาชะโลมไปทั่ว รัตติกรหายใจหอบเครือและยังคงจ้องมองเขาด้วยแววตาต่อต้านดื้อรั้น และเพราะถูกเปลี่ยนท่ากระทันหัน ทำให้หนุ่มชาวไทยต้องละมือจากการปลุกปั่นอารมณ์ของดอนแห่งปาเลอร์โมไปอย่างเสียไม่ได้
มีหรือเจ้าพ่อหนุ่มจะไม่รู้ว่าลูน่าของเขาคิดจะเล่นเกมส์อะไร แต่กับคนที่แทบจะไม่เคยมีประสบการณ์ กับคนที่ผ่านเรื่องแบบนี้มาจนโชกโชน ผลแพ้ชนะมันไม่จำเป็นต้องคาดเดาอยู่แล้ว!
“ฝีมือแค่นี้คิดจะมาปลุกอารมณ์ฉันน่ะมันเร็วไปร้อยปี”
“ก็อย่าคิดว่าคนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้มันมีแค่คุณคนเดียว!”
รัตติกรแยกเขี้ยวส่งให้เจ้าพ่อหนุ่มอีกครั้งแล้วโน้มหน้าลงงับใบหูของร่างแกร่งที่อยู่ภายใต้ตัวของเขา มันเป็นการแก้แค้นเรื่องที่อยู่ในลิฟต์กลายๆ และจุดนี้ก็เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่จากการเฉลี่ยว่ามีผลต่อการกระตุ้นอารมณ์มากที่สุดจุดหนึ่ง
ก็บอกแล้วว่าอย่ามาท้าทายกันให้มากนัก คนที่อ่านหนังสือไปทั่วอย่างเขาน่ะ แม้แต่มารยาหญิงมัดใจชายเขาก็อ่านมาแล้วเว้ย!!!
ลาร์เฟียร์อุทานเบาๆด้วยคิดไม่ถึงว่าเจ้าราชสีห์มากฤทธิ์ตัวนี้จะกล้าทำการอุกอาจถึงเพียงนี้ แต่ไม่นานความคาดไม่ถึงนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะทุ้มหนักด้วยความชอบใจอย่างรวดเร็ว
นี่สิถึงจะสมเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะครอบครอง!
มือแกร่งโอบไหล่บางแล้วกระชากลงมาหาตัว แผ่นอกเนียนที่ลื่นไปด้วยน้ำมันหอมเสียดสีไปกับลำตัวของเขาจนรู้สึกร้อนเป็นไฟ เจ้าพ่อหนุ่มนวดเฟ้นทั่วร่างเพรียวจนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่รอยบุ๋มเล็กๆเหนือก้นกบแล้วกดย้ำลึกพร้อมกับคลึงนิ้วไปตามแนวกระดูกสันหลังบริเวณสะโพกสอบเพรียว รัตติกรสะดุ้งแล้วเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอของเขา ใบหน้าสวยนิ่งขึงฉายประกายอันตรายอย่างเจ้าป่าที่กำลังป้องกันอนาเขต
น่าขย้ำให้สิ้นลายคามือ…
“อ๊า!!!~”
สะโพกเพรียวกระตุกสั่นทันทีเมื่อนิ้วหยาบกร้านชุ่มน้ำมันรุกล้ำเข้ามาในร่างกาย ความลื่นอันเป็นคุณลักษณะเด่นช่วยลดแรงเสียดสีทำให้การสอดใส่นั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย ทว่าฝ่ายที่ต้องรองรับความคับแน่นนั้นกลับอึดอัดเหมือนร่างกายจะแยกออกเป็นเสี่ยงๆ!
“ออกไป!! อ๊ะ!!อึก!”
“แน่ใจนะว่าอยากให้ออก? ตรงนี้ของเธอมันรัดฉันไว้แน่นขนาดนี้เลยนะ หึหึหึ”
“หย่ะ อ๊ะ! หุบ..ปาก!!! อึ้ก!!”
นิ้วที่สองถูกเพิ่มเข้ามาเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มรู้สึกได้ว่าช่องทางที่คับแคบนั้นคลายตัวลงเล็กน้อย รัตติกรเจ็บจนทานตัวอยู่บนแขนตนเองไม่ไหวจึงทิ้งลำตัวส่วนบนลงบนแผ่นอกแกร่งเต็มแรง ลาร์เฟียร์ใช้มืออีกข้างที่ยังว่างคว้าศีรษะของร่างเบื้องบนให้โน้มลงแล้วบังคับมอบจูบอันแสนร้อนแรงอีกครั้งเพื่อปลุกอารมณ์เสียวซ่านให้ช่วยบดบังความเจ็บปวดของอีกฝ่าย
จวบจนความรู้สึกคับแน่นค่อยๆผ่อนลง เจ้าพ่อหนุ่มก็เริ่มชักนิ้วเข้าออกช้าๆทว่าเน้นจังหวะให้หนักหน่วงและสำรวจหาจุดหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไป รัตติกรครางเสียงพร่าแล้วจิกไหล่แกร่งเอาไว้แน่นเพื่อระบายอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง ความเสียวซ่านแล่นวาบไปสู่สมองแล้วกระจายไปทั่วร่างเป็นระยะจนแทบจะครองสติเอาไว้ไม่อยู่
“อ๊า~~!!”
“หืม ตรงนี้สินะ?”
“ไม่!! อึ้ก! อย่าจับตรงนั้น! อ่า… อ๊ะ!!”
เมื่อเจอเป้าหมายที่ต้องการ ลาร์เฟียร์ก็ค่อยๆบดคลึงปลายนิ้วเข้าที่จุดนั้นอย่างหนักหน่วง รัตติกรหายใจหอบถี่ เสียงครางที่พยายามกลั้นไว้เล็ดลอดออกมามากขึ้นเรื่อยๆจนดังก้องไปทั่วห้องอาบน้ำที่กระจ่างจ้าไปด้วยแสงไฟสีส้มลวงตาและกลิ่นหอมฉุนของน้ำมันหอม ทั้งสองสิ่งผสานเข้ากับความเสียวซ่านอย่างลงตัว ชักนำอารมณ์ให้พลุ้งพล่านเหมือนกำลังปีนไต่อะไรบางอย่างที่มีจุดหมายเป็นแสงสีขาวระยิบระยับ
“อา…อ๊ะ! ปล่อย..ลาร์เฟียร์!! มันจะ! อ๊า~!!”
“Rilasciarlo ora. La mia luna...”
เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหู ทำนองของมันอ่อนโยนจนไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากเจ้าพ่อหนุ่มที่ใช้กำลังและคำสั่งบังคับเขาตลอดมา รัตติกรสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วแกร่งกระแทกเข้ามาแรงมากขึ้น จังหวะที่เคยเนิบช้าหนักหน่วงกลับเร่งเร้าขึ้นเรื่อยๆจนเขากรีดร้องออกมาไม่เป็นภาษา หนุ่มชาวไทยยกมือขึ้นปิดปากเพื่อขวางกั้นเสียงร้องของตนเอง
มันฟังดูเร้าอารมณ์เกินไปจนแม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกทนไม่ได้
ไม่ไหวแล้ว...
ก๊อกๆๆ แกร็ก! ครืดดดด
“ดอนครับ!! เราจับสายลับได้! เฮ้ย!!....”
“อื้ม!!!!”
จังหวะที่ประตูเลื่อนเปิดกะทันหันนั้นมาพร้อมกับความเสียวซ่านที่พุ่งทะลุขีดอารมณ์โดยไม่ทันตั้งตัว หยาดน้ำสีขาวขุ่นทะลักทะลายออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องของเจ้าพ่อหนุ่มเต็มไปหมด รัตติกรหายใจหอบเครือ สายตาเบิกกว้างจ้องไปทางหัวหน้าบอดี้การ์อารมณ์ร้อนที่อยู่ๆก็เปิดประตูเข้ามาดื้อๆ
“ฮ่ะ..อา...”
“เอ่อ.....”
“.....”
ทั้งสามจ้องมองกันในความเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่รัตติกรจะผุดลุกขึ้นจากตัวของลาร์เฟียร์อย่างรวดเร็ว ร่างเพรียวผลักอกของเจ้าพ่อหนุ่มเต็มแรงแล้ววิ่งหนีออกไปจากห้องทันทีที่รู้ว่าประตูที่ขังเขาเอาไว้เปิดออกแล้ว
“เดี๋ยวลูน่า!!”
“ไปตายซะ!!!!” นอนแข็งตายอยู่ตรงนั้นไปชั่วกาลนานเลย ไอ้บอสชั่วววว!!
ประโยคตอบกลับของชายหนุ่มเล่นเอาดอนแห่งปาเลอร์โมอึ้งไปชั่วขณะเพราะนึกไม่ถึงว่าจะมีใครกล้าพูดประโยคนี้กับเขา สคูร์โดสะดุ้งเฮือกก่อนจะเปลี่ยนมาผิวปากชอบใจแล้วต้องเงียบไปอีกครั้งเมื่อสายตาสีสนิมตวัดมามองเขาด้วยความเกรี้ยวกราด
เสียงประตูเปิดปิดติดกันดังสนั่นสองครั้งทำให้พวกเขารู้ว่าลูน่าหนีเข้าห้องไปเรียบร้อยแล้วและคงจะไม่ออกมาอีกง่ายๆแน่นอน…
“สคูร์โด!!!!”
“ชิบหาย....”
ลาร์เฟียร์โถมตัวลงในอ่างอาบน้ำอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด น้ำอุ่นๆกระฉอกล้นออกมาภายนอกอย่างรุนแรงตามอารมณ์ของผู้ใช้งาน
สองครั้งแล้วที่เขาได้กอดรัตติกร! และสองครั้งที่ว่ามาก็ไปไม่ถึงขั้นสุดท้ายสักครั้งเดียว!!!
“คราวหน้าเธอไม่รอดแน่!!”
______________________________________
“Rilasciarlo ora. La mia luna...” ประโยคนี้แปลว่า "ปลดปล่อยมันออกมา ลูน่าของฉัน..."
______________________________________
อีกสองวันจะครอบอาทิตย์แต่ดันทำศีลขาดดดด อว๊ากกก :z3: :z3: :z3:
แต่งตอนนี้ย้อมใจ T^T
ค่อยรักษาศีล 5 ใหม่ต่ออีกอาทิตย์ 555+ :jul3:
ตอนนี้คงสะใจหลายๆคนนะครับ 55 ขอโทษที่เอามาลงช้า เนื่องจากถ้าผมแต่งตอนนี้มันผิดศีลห้าชัวร์ๆอ่ะ แต่ไหนๆศีลขาดไปแล้วก็นะฮะ... =w= :z13:
อุหวา ตีห้าครึ่ง
เดี๋ยวผมไปนอนแล้วนะครับ ผิดตรงไหนเดี๋ยวจะกลับมาแก้ไขพรุ่งนี้นะฮะ
ราตรีสวัสดิ์ครับผม ^^
Namioto Yo
-
เห็นปุ้บ จิ้มปั้บ อิอิ :-[
จิ้มก่อนค่อยอ่าน หุหุ :z13:
>> อ่านจบ
กรีดร้องงงงงง เข้ามาทำม๊ายยยยยย :m31:
อีกนิดเดียวเองงงง อ๊ากก ว๊ากกกก o9
....แล้วก็สงบรอตอนต่อไป :z2:
-
น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย...อดอีกละ
-
ลูน่า...... น่าฟัดมาก~
แต่ทำไมต้องให้เห็นอะไรแบบนั้นด้วยเนี่ย
ดีใจนะคะที่กลับมาต่อ
+1ให้จ้า
-
สมน้ำหน้าลาเฟียค้างเลย ชอบแกล้งลูน่าดีนักอิอิ
:3123: ให้กำลังใจค่ะ มาต่อไวไวนะ
-
สะใจค่า!!! ลูน่ายังรอดมาได้ ว่ะฮ่าๆๆๆๆ ราชินีได้อีกจ้ะลูน่า ชอบค่ะชอบ
-
สมน้ำหน้าลาเฟียร์ :laugh:
-
สมน้ำหน้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สะใจแบบสุดๆเลย
-
หัวเราะดัง ๆ สมน้ำหน้าาาาาาาาาาาาา o13
-
สมน้ำหน้าอดไปซะ :angry2:
-
ในที่สุดก็อ่านทันจนได้ :a2: ตามอยู่หนึ่งวันเต็มๆ
มาว่าถึงลูน่ากันดีกว่า เก่ง สวย(?) อย่างที่เค้าว่า
แอบสงสารอยู่เหมือนกัน มาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง
แต่ดีตรงที่พระเอกเค้าปลาบปลื้มในตัวนายเอก
และคิดว่าคงไม่ทำให้ลูน่าต้องเสียใจเป็นแน่แท้
แต่อย่ารุกลูน่าเร็วนักนะ เพราะเค้าไม่เคย :-[
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ ชอบๆๆๆ จะติดตามต่อไปนะคะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
อย่าใจอ่อนกับมันเป็นอันขาด
มันแค่เห็นเป็นของเล่นแม้แต่ลูกน้องก็ไม่เว้น
แต่ละคนหน้าด้านโคตร ทำเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น มีความรู้สึกกันหรือเปล่าหรือว่าเห็นเป็นแค่ความใคร่
ที่จะปลดปล่อยอะไรยังไงกับใครก็ได้ เพราะดูๆแล้วไม่ต่างกับสัตว์ ที่ต้องการจะผสมพันธ์
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดด สะใจ
5555555 :laugh: :laugh: สมน้ำหน้า ฮ่าๆ เข้ามาได้ถูกจังหวะมากกกกก
-
สะใจอ่ะ แอบสมน้ำหน้าลาเฟียร์นิดหน่ึง หม่ันไส้ชะมัด คนอะไรเจ้าเล่ห์จัง 555. o18
อยากเห็นรติกรเอาคืนบ้างจัง แต่คงยากเพราะช่ัวโมงบินมันต่างกัน อิอิ
สนุกค่ะ จะรอมาต่อตอนหน้านะค่ะ o13
-
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก สะใจบอสค้าง
พี่บอร์ดี้การ์ดระวังตัวไว้นะครับ ถ้ามาขัดคราวหน้าอีก มีหวังพี่อาจจะ........โดน........ได้ ฮิ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
-
กร๊ากกกกกกก :laugh:
โสมนะน่า :m20: :m20:
-
กร๊ากกกกกก สมน้ำหน้าไอ้บอสหื่น ฮ่าาาา
-
สถานการณ์ช่าง :z3:
ลูนาคงคิดว่าโชคดี แต่ดอนคงโชคร้าย :เฮ้อ:
บอดี้การ์ดนี้สงสัียคงถูกทำโทษ ข้อหาขัดจังหวะความสำราญของเจ้านาย :z6:
-
ไม่รอดแน่ เอิ๊กๆๆ :haun4: :haun4:
-
อ๊ากกกกกก :angry2:
อีกนิดเดียวเองงงงงงง
มาต่อไวไวน้าาาาา
-
ครั้งหน้า ลูน่าอาจไม่รอด :haun5:
แต่ครั้งนี้ สะใจเป็นบ้าอ่ะ :laugh:
สมน้ำหน้าลาเฟียร์ :m14:
-
กรี๊ดดดดดดดดด
เสียดายTTOTT
อีกนิดเดียวแท้ๆ
เกือบแล้วแท้ๆT^T
ทำไมต้องมีคนมาขัดด้วยเนี่ยยย
ปล.แต่ก็แอบซะใจลาร์เฟียร์เบาๆ 555 สมน้ำหน้า อดเลยละซิ คิคิ
-
โถ่ๆๆๆ สงสารลาเฟียร์ ฮ่าๆๆ
-
555 อดอีกแล้วววว
-
“คราวหน้าเธอไม่รอดแน่!!”
อันนี้ลาร์เฟียร์พูดกะใคร
ลูน่า ที่หนีรอด
หรือ
สคูร์โด ที่มาขัดจังหวะ
-
อ่านจบ คุ้มมากกลับการรอคอย เเต่ขัดใจสุด เข้ามาทำไม นายคนนั้นน่ะ!
-
อ่านตอนนี้แล้วสงสารลาเฟียร์นะเนี่ย อะฮี่ๆๆๆๆ
-
ค้างตลอด :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :m20: :m20:
-
ย๊าาา ทำไมต้องมีคนมาขัดจังหวะด้วยเนี่ยยย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี
โหยยลูน่า ร้ายลึกนะเรา หึๆ
-
:laugh: สมน้ำหน้าดอนนน
-
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
:laugh:
โดดกอดคนเขียนผู้น่ารักดังหมับ*
:กอด1:
มันต้องแบบนี้ สะใจคนอ่าน
สมน้ำหน้า 55555555555555555555555
:m20: :m20:
-
:jul3: ค้าง 2 รอบ สะใจ :jul3: :jul3: :jul3:
สนุกมากค่ะ
-
หึ หึ เกือบจะเส็ดละลูน่า :m25:
P.S. สมน้ำหน้าลาเฟียร์ o18
-
:m20: :m20: :m20:
งดดดดดดดดดดดด
:call:
-
สมน้ำหน้าลาเฟียร์แล้วก็สมน้ำหน้าตัวเองด้วย
เหมือนเราค้างเป็นเพื่อนเลยอ่ะ เวรกรรม -*-
แต่ลูน่า หนูราชินีมากเลยลูก สุดยอดค่ะ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆเลยน้า
-
มา ชูป้ายไฟ "ลูน่า" ด้วยคน จร้า
ความจริงจะเข้ามาอ่านนาน แล้ว เพราะแนวนี้ชอบมาก แล้วคนเขียน ก็เป็นคนเขียนนิยายที่น่าติดตามมาก
แต่มันเป็น นิยาย รายเดือน ก็เลยทิ้งไว้หลายๆตอน ก่อน :laugh:
แต่อดใจไม่ไหวแล้ว
ต้องขอเข้ามาสมน้ำหน้า ดอน ด้วยคน ชิส์ :angry2:
-
สมน้ำหน้าาาาาาา *ตะโกนลั่นบ้าน*
-
สมน้ำหน้าอิตามาเฟียนั่นจริงๆ
ถ้ายังเห็นลูน่าเป็นของเล่นอยู่แบบนี้ อย่าเพิ่งให้ลูน่าเสียตัวให้มันนะ
-
ดีใจปนสะใจค่ะ ยูฮู้ววววววววว
ขอให้ลูน่ายังรอดต่อไปอีกในครั้งต่อๆไป สาม สี่ ห้า... หึๆ
แหม่ สงสัยดอนคลั่งตายเสียก่อน แต่ถ้ากลับไปเลิกนิสัยแย่ๆนั่นก่อนได้ก็พอจะโอเคนะ
-
ดอน เรียก ลูน่า ว่า "ลูน่าของฉัน" เกือบทุกครั้งเลยน่ะ
ลูน่าไปเป็นของแกตอนไหนย่ะ :laugh:
สะใจคนอ่านมากค่ะ
ขอบคุณนักเขียนค่ะ
:pig4:
-
สมน้ำหน้า :laugh:
-
:เฮ้อ:ดีใจที่ลูน่ารอดแต่อีตาลาเฟียร์นี่ยังไม่สะใจเท่าไรเลย ต้องมากกว่านี้อีก อดไปนานๆเลย
-
:pighaun: :pighaun: :pighaun:
โดนเข้าไปเต็มๆ... *ช๊อค* :z13:
ตอนนี้สุดยอด o13 ลูน่าเซ็กซี่มาก *ไม่ไหวแล้ว* >< เขินนนน5555555
รอต่อไปครับ XD
-
:m20: :laugh:ไม่ไหวจะเคลียร์
เอาตรงๆเลยนะ. สะใจ+สมน้ำลาเฟียร์มากกกกก
จงแข็งแบบไม่ได้แอ้มลูน่าไปเรื่อยๆเถอะ ถ้ายังไม่แก้นิสัยแบบนี้
-
:m31: :m31:อ๊ากกกกกกกกกกกก~อีกนิดเดียวเอง ไอ้บอดี้การ์เนั่นเข้ามาไม่ดู(ฟัง)สถานการณ์เลย :fire: :fire: :angry2: :angry2: :m16: :m16: :serius2: :serius2:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ฮากระจาย เปิดตอนซะร้อนแรง แต่ปิดจบซะน่าสงสาร555
-
:laugh:“ไปตายซะ!!!!” นอนแข็งตายอยู่ตรงนั้นไปชั่วกาลนานเลย ไอ้บอสชั่วววว!! :m20:
:pigha2:มันเป็นอะไรที่สะใจมากกกกกกกกกกกกกกก พระจันทร์ลูกแม่แจ๋วจริง
-
สคูร์โด :laugh: โดนหักเงินเดือนแน่
-
:jul1: :jul1:
:pig4:
-
อยากให้ถึงคราวหน้าไวๆจังอ่ะ :impress2:
-
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านตอนล่าสุด เลยไล่อ่านย้อนหลังจนหมด
สนุกมากจ้า ไม่ค่อยมีใครเขียนแนวมาเฟีย+ผสมความรู้ทั่วไปอย่างนี้
นายเอกก็เก่งจนน่าทึ่ง แต่ถ้าเก่งแล้วต้องโดดเดี่ยวแบบนี้ก็ไม่ไหว
เสียอยู่อย่าง พระเอกหื่นเกิ๊น ใครจะชอบใช้ผู้ชายร่วมกันคนอื่นเนอะ
-
สาธุด้วยนะค่ะคนเขียน
มาตอนนี้ร้อนแรงเหลือเกินจริงๆ เมื่อไหร่ลูน่าของเราจะยอมๆไปซักที 555
อยากอ่านเอ็นซี
-
:impress2: :impress2:
ลอดมาได้ไงเนี้ย ลูน่า ~
:laugh: :laugh:
-
ลูน่าก้อ ปล่อยให้บอสแข็งตายเนี่ยนะ ช่างเป็นการตายที่ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
-
:laugh: สะใจที่สุดดดด :laugh:
สมน้ำหน้าลาเฟียร์ :laugh:
จงค้างต่อปายยย :m20:
-
เพิ่งเข้ามาอ่านเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกก นางเอกของเราลักษณะนิสัย ความสามารถเป็นอะไรที่แปลกดี
ตอนล่าสุดนี่คอดสะใจอ่ะ พี่บอดี้กาดเราเข้ามาได้จังหวะจิงๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ค้างกันไปเป็นแถบๆๆ
-
ไม่รู้จะเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของเคะน้อยน่ารัก 555
+1 ให้จ้าาา
-
มารออออ
มาให้กำลังใจ o13
-
:L2:เพิ่งเข้ามาอ่านชอบนะอ่านไปลุ้นไปอะอิอิ
:เฮ้อ:เฮ้อลูน่าเกือบโดนลาเฟียร์กินซะแล้วอะ :L2:
-
แม้แต่มารยาหญิงมัดใจชายก็อ่านมาแล้ว แหมเจ๋งจริงๆลูน่า สมน้ำหน้าบอสหื่น :laugh:
-
เป็นนิยายอีกเรื่องที่สนุกมากจนต้องติดตาม ชม ละครั้ง =w=!!!!!
-
โอ๊ะโอ ลูน่ารอดตัวอีกครั้ง
ลาเฟียร์ยั๊วะเลยแฮะ
น่าสงสารคุณบอดี้การ์ดโดนเละแน่ๆเลย
-
มารออคร้าบบบ
-
มารออีกวันครับ o13
-
อั๊ยย่ะ ลูน่าน้อยเกือบเสร็จลาเฟียร์แล้ว
สคูร์โดเข้ามาทำไมเนี่ย
>///<
-
มารออีกวันนน :)
สู้ๆคร้าบบบบ :)
-
:t3:หายไปนานจังเลยอะเค้ารออ่านอยู่น๊า :call: :call:
-
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว กำลังเข้มข้นเลย
-
หลายวันถัดมา.... ตึง!!!
คิดถึงแล้วครับ มารอ
-
ไม่ได้แอ้มซะหรอด o13
-
มารอคร้าบบบบบ!!! :~)
-
สนุกมากค่ะ รอมาต่อ *O*
-
สนุกมวากกกก~ รอต่อค้ะ
-
2 สัปดาห์แล้ว
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆจัง
-
อยากอ่านต่อแล้วค่าาาาาา :serius2:
กำลังมันส์เลย o18
-
ยังเข้ามารอ -..-
-
TTOTT รอๆๆนะคะ
-
แฟนคลับน้องใหม่ของลูน่ารายงานตัวงับ :-[
รีบๆมาอัพน้า สนุกมากเลย มีสาระด้วย o13 o13 o13 o13
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.16
ประตูถูกปิดเสียงดังสนั่นก่อนผู้เป็นเจ้าของห้องจะกดล็อกใส่กลอนตามเข้าไปอีกทีด้วยอารมณ์ที่ยังคุกกรุ่นรุนแรง รัตติกรหายใจหอบหนักแล้วค่อยๆพาตัวเองเดินตรงไปยังเตียงนอนที่ยังคงเห็นได้ลางๆเพราะแสงไฟจากภายนอก ร่างเพรียวทิ้งตัวลงกับที่นอนแล้วนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น
ยามใดที่ได้อยู่ตัวคนเดียว รัตติกรมักชอบอยู่ในห้องที่ปิดไฟมืดหรือที่ๆไร้แสงสว่าง มันทำให้เขารู้สึกสงบ ปลอดภัย และทำให้มีสมาธิมากกว่า อย่างตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาต้องการทำให้หัวใจที่กำลังเต้นโหมกระหน่ำอยู่นี้สงบลง
มันเต้นแรงเพราะอารมณ์โกรธ เพราะใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจนั้นยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ เหนือไปกว่านั้นยังมีความอับอายที่เขาไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ของตัวเองได้มากพอ และตัวตนที่ยังไม่สงบนิ่งเช่นนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะเป็น…
ความเงียบทิ้งตัวปกคลุมอยู่รอบกาย หากแต่เสียงหัวใจที่รัตติกรได้ยินนั้นก็ยังคงดังก้องอยู่ในหัวไม่สร่างซาไปแม้แต่น้อย
หายไปสักที…
หนุ่มชาวไทยสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อปรับอารมณ์อีกครั้ง แต่กลิ่นหอมที่ลอยแตะจมูกกลับทำให้เขาต้องขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่ามันคือกลิ่นน้ำมันหอมที่ถูกใครบางคนนวดเฟ้นละเลงใส่เอาไว้จนทั่วทั้งตัว
“บ๊าเอ๊ย!”รัตติกรสบถเสียงขุ่นแล้วลุกขึ้นจากที่นอน เสื้อคลุมที่หยิบมาสวมเอาไว้ลวกๆตอนหนีออกมาจากห้องนั้นถูกโยนทิ้งลงบนพื้นก่อนเจ้าตัวจะเดินตรงไปทางห้องน้ำ หนุ่มชาวไทยกดสวิสต์เปิดไฟแล้วต้องหรี่ตาลงก่อนจะค่อยๆปรับสายตาให้เข้ากับแสงได้ในไม่ช้า
ห้องน้ำส่วนตัวของเขาต่างไปจากห้องของเจ้าพ่อหนุ่มอยู่โข เพราะเป็นเพียงอ่างอาบน้ำธรรมดาไม่ใช่จากุชชี่กึ่งสปาแบบในห้องที่เขาโดนล่อลวงเข้าไป การประดับในห้องนี้ส่วนใหญ่เน้นสไตล์โมเดิร์นเสริมกับสีขาวเทาดำดูลึกลับหรูหรา ส่วนของห้องอาบน้ำและสุขาก็แบ่งออกจากกันด้วยกระจกฝ้าทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัว ถ้าห้องของเขาเป็นห้องที่ธรรมดาที่สุดในเพนส์เฮาส์นี้ ราคาของการเข้าพักครั้งนี้ก็คงไม่ต้องพูดถึงเลยทีเดียว
รัตติกรถอนหายใจเมื่อต้องมาคิดว่าต่อจากนี้ไปเขาต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง ชายหนุ่มก้าวเข้าไปนั่งในอ่างและเปิดน้ำเย็นให้ไหลออกมาจากก๊อก สบู่เหลวของโรงแรมถูกเทราดลงบนตัวจนเหลือเพียงครึ่งขวดก่อนที่มือเรียวทั้งสองข้างจะขัดถูตัวเองอย่างพิถีพิถันเพื่อที่จะลบกลิ่นหอมหวานจนฉุนเหล่านี้ออกไปจากตัวให้ได้มากที่สุด
น้ำเย็นๆค่อยๆเพิ่มระดับมาจนถึงรอบเอว พอรวมกับอากาศหนาวๆของประเทศจีนในตอนนี้ที่เย็นจนเข้าขั้นก็ทำให้รัตติกรได้ตัวสั่นสมใจ มันทำให้เขาสมองโล่งและสดชื่นขึ้นได้อย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมเย็นของลาเวนเดอร์จากสบู่เหลวช่วยผ่อนคลายอารมณ์ไปได้อีกขั้นหนึ่ง
รัตติกรถอนใจเฮือกใหญ่แล้วล้มตัวลงนอนในน้ำ มือเรียวยกขึ้นเปิดน้ำร้อนให้ไหลออกมาแทนน้ำเย็น ร่างเพรียวบางพลิกตัวไปมาใต้น้ำที่เพิ่มระดับขึ้นสูงเรื่อยๆ ช่วงไหนที่หมดอากาศหายใจก็ยกศีรษะขึ้นมาครู่เดียวแล้วก็กลับไปใต้น้ำใหม่อีกครั้ง เวลาผ่านไปจนกระทั่งผิวที่ฝ่ามือเหี่ยวซีด รัตติกรจึงขึ้นจากน้ำแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวผืนหนาของโรงแรมมาคลุมไหล่แล้วเดินออกมาข้างนอก
ชายหนุ่มเปิดไฟห้องนอนเพื่อหากระเป๋าเดินทางของเขาที่ถูกขนมาไว้ในห้องตั้งแต่ฟรานเข้าเช็คอินกับทางโรงแรม แม่บ้านของตระกูลเวสเปอร์จัดเตรียมชุดต่างๆที่เขาควรจะต้องใช้โดยรัตติกรไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้เลือกว่าอยากสวมใส่ชุดแบบใด ภายในกระเป๋าเต็มไปด้วยเสื้อผ้าแบรนด์ดังระดับโลก แม้แต่ชุดที่เขาคิดว่าดูพื้นๆมากที่สุดก็มีราคาไปหลายหมื่นบาทแล้วด้วยซ้ำไป
“เหลือกินเหลือใช้จริงนะ”รัตติกรกล่าวเหน็บเมื่อคิดว่าใครเป็นคนออกคำสั่งให้เอาเสื้อผ้าพวกนี้มาให้เขาใส่ ชายหนุ่มหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงคืนกว่า แต่ตัวเขาเองกลับไม่ง่วงเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้เข้ามานอนไปแล้วหนหนึ่งก็ได้
หนังสือที่เอามาในวันนี้เขาอ่านจนหมดตั้งแต่ตอนเย็น เท่ากับว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่มีอะไรให้ทำเป็นชิ้นเป็นอันแม้แต่น้อย รัตติกรเดินไปทางประตูห้องแล้วแง้มเปิดออกเพียงเล็กน้อยว่ามีใครอยู่ในห้องหรือไม่ แต่สรรพเสียงที่เงียบกริบก็บ่งบอกให้รู้ทันทีว่าไม่มีสิ่งใดอยู่ข้างนอก
ในส่วนของห้องนั่งเล่นนั้นมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศเป่าออกมาเบาๆเท่านั้น รัตติกรนึกย้อนไปถึงตอนที่สคูร์โดเปิดประตูเข้ามา เหมือนจะจำได้ว่าหัวหน้าบอดี้การ์ดคนนั้นบอกว่าจับสายลับได้คนหนึ่ง...แล้วตอนนั้นเขาก็ปลดปล่อยออกมาพอดี...
เพี๊ยะ!
หนุ่มชาวไทยยกสองมือขึ้นตบแก้มตัวเองแล้วทรุดตัวลงไปนั่งยองๆกับพื้นห้อง เขาโขกศีรษะกับหัวเข่าของตัวเองซ้ำไปซ้ำมาเหมือนลงโทษตัวเองกลายๆพร้อมกับกระซิบสบถพึมพำไปด้วย
“อุตส่าห์ลืมได้แล้วเชียว ทำไมถึงนึกขึ้นมาอีกวะ ฮึ่ย!”
นึกแล้วอารมณ์กรุ่นๆมันก็พุ่งขึ้นมาในอกอีกรอบ การที่พวกนั้นไม่อยู่ในห้องกันน่าจะเป็นเพราะออกไปสืบสวนสายลับคนนั้นนั่นแหละนะ รัตติกรถอนหายใจหลายเฮือกใหญ่แล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้งก่อนจะก้าวออกไป เป้าหมายคือชั้นสวนลอยของโรงแรมที่น่าจะมีอะไรเจริญหูเจริญตาให้ดู ดีกว่ามานั่งเฉยๆอยู่ในห้องอย่างนี้
มือเรียวแตะลูกบิดประตูที่เป็นเป้าหมาย แต่ขณะที่เปิดออกไปกลับได้ยินเสียงกระซิบกระซาบดังมาอยู่ไม่ไกล มันเป็นภาษาจีนท้องถิ่นของชาวเซี่ยงไฮ้ แน่นอนว่ารัตติกรฟังออก หากแต่เขาก็รู้เหมือนกันว่าไม่มีลูกน้องคนไหนของลาร์เฟียร์ที่เป็นคนจีน…
ฟรานบอกว่าชั้นนี้ทั้งชั้นพวกเขาจองเอาไว้หมดแล้ว ทำให้กลายเป็นเขตพื้นที่ส่วนตัวและไม่น่าจะมีแขกคนใดหลงทางมาถึงที่นี่ได้ รัตติกรเม้มริมฝีปากแน่นแล้วเงี่ยหูฟังอีกครั้งเพื่อจับใจความว่าพวกข้างนอกกำลังพูดอะไรกัน
“เข้าไปค้นในห้อง อวี้เฟิงล่อพวกนั้นออกไปหมดแล้ว”
“แล้วจะถ่วงเวลาตามที่ท่านสั่งได้ยังไง?”
“ก็ขโมยพาสปอร์ตของพวกมันมาสิ! ต้องใช้เวลาอีกหลายวันนั่นแหละถึงจะทำอันใหม่ได้”
“คุณชายสองจะเพิ่มเงินให้พวกเรารึเปล่า? อาเฟิงถูกจับไปแบบนั้น ข้าว่าเขาไม่รอดแน่”
“มันตายก็ดีไม่ใช่รึไง ส่วนแบ่งจะได้เพิ่มขึ้นอีกบาน ฮ่าๆๆๆ”
จากนั้นเสียงหัวเราะของคนประมาณสามถึงสี่คนก็ดังครืน รัตติกรงับประตูปิดเข้ามาแล้วกดล็อกกลอนเผื่อไว้ก่อนอย่างรวดเร็วก่อนจะมองหาที่ซ่อนอย่างเร่งด่วน เป็นที่แน่นอนว่าคนพวกนั้นต้องการจะเข้ามาขโมยพาสปอร์ตของลาร์เฟียร์ไปแน่ๆ และถ้าพวกมันเจอเขาก่อน โอกาสรอดไปแบบครบสามสิบสองก็คงจะริบหรี่เต็มทน...
เสียงลูกบิดถูกขยับเป็นสัญญาณที่ทำให้รู้ว่าพวกนั้นตัดสินใจลงมือแล้ว หนุ่มชาวไทยจำได้ว่าพาสปอร์ตทั้งหมดถูกเก็บไว้กับฟราน เขาจึงตรงไปที่ห้องเลขาหนุ่มแบบไม่ต้องคิด ประตูนั้นไม่ได้ล็อกอย่างที่คาดเพราะเจ้าของห้องไม่อยู่ กระเป๋าเอกสารใบเล็กที่วางอยู่ข้างเตียงคือที่ๆรัตติกรเห็นพาสปอร์ตครั้งสุดท้าย ชายหนุ่มก้าวเข้าไปหยิบมันขึ้นมาแล้วเปิดออกดู พาสปอร์ตของลาร์เฟียร์ ฟราน รวมถึงพาสปอร์ตของปลอมของตัวเขาเองก็อยู่ในนี้ด้วย
เสียงเปิดประตูดังแว่วมาจากภายนอกทำให้รัตติกรรู้ทันทีว่าคนร้ายชาวจีนได้บุกเข้ามาในห้องเป็นที่เรียบร้อย ดูจากลักษณะในห้องของฟรานที่เป็นแบบเดียวกับห้องของตัวเขาเอง รัตติกรจึงตัดสินใจเข้าไปหลบในห้องน้ำแทนที่จะไปซ่อนอยู่ใต้เตียง หลังโต๊ะ หรือในตู้ ซึ่งเป็นสถานที่แรกๆที่พวกคนร้ายจะตรวจสอบแน่นอน
ร่างเพรียวก้าวเข้าไปในห้องน้ำที่มืดสนิท อาศัยภาพในความทรงจำเพื่อเดินไปหยุดหน้าอ่างอาบน้ำโดยไม่เผลอชนอะไรไปเสียก่อน ชายหนุ่มก้าวเข้าไปนั่งในอ่างอาบน้ำที่เปียกชื้นเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงพูดคุยดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆบ่งบอกว่าคนกลุ่มนั้นกำลังจะเข้ามาในห้องนี้ทำให้หนุ่มชาวไทยเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว สองแขนโอบกอดกระเป๋าเอกสารไว้แน่นแล้วเฝ้ารอคอยให้เสียงเหล่านั้นรีบหายไปไวๆ
“เจอมั้ยวะ?!”
“เจอกระเป๋าเดินทาง แต่มีแค่เสื้อผ้า ไม่มีพาสปอร์ตว่ะ”
“ห่าเอ๊ย หรือมันเอาติดตัวไปด้วย”
เสียงรื้อค้นเงียบกริบบ่งบอกให้รู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นพวกมือเบาที่คงลักขโมยของมานักต่อนัก เสียแต่ช่างไม่เหมาะกับการทำตัวเป็นสายลับแอบเข้าห้องคนอื่นเอาเสียเลยเพราะพูดคุยกันเสียงดังไปหน่อย รัตติกรใจเต้นระทึกเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้ห้องน้ำมากกว่าเดิม ลูกบิดประตูหมุนเป็นเสียงเบาๆก่อนที่แสงจากภายนอกจะส่องเข้ามาตามช่องว่าง…
หัวใจเต้นระทึกขึ้นอีกระดับ รัตติกรแนบตัวลงนอนในอ่างอาบน้ำ…
บานประตูเปิดกว้างจนชนกับผนัง หนึ่งในคนร้ายเอื้อมมือออกมาเพื่อจะกดเปิดสวิทต์ไฟ…
“เฮ้ย ห้องนั้นเจอมั้ย?”
“ไม่เจอ ทางนั้นล่ะ?”
“ไม่เจอเหมือนกัน ดูเหมือนมันน่าจะเอาติดตัวไปด้วย แต่ข้าค้นเจอเอกสารที่ดูสำคัญๆสามสี่อย่าง เอาพวกนี้ไปก่อนแล้วกัน รีบออกมาได้แล้ว เดี๋ยวพวกอิตาเลียนนั่นกลับมาก่อนเราจะซวย”
เสียงเรียกจากภายนอกทำให้คนร้ายเดินออกไปจากห้อง รัตติกรถอนหายใจแผ่วเบาเมื่อประตูห้องน้ำถูกปิดลงอีกครั้ง
ดูเหมือนกลุ่มคนร้ายตกลงจะออกไปกันแล้ว แต่รัตติกรยังคงเฝ้าฟังเสียงเปิดปิดประตูแต่ละบานเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเหลืออยู่ ถึงได้วางกระเป๋าเอกสารทิ้งเอาไว้หลังชักโครกแล้วค่อยๆลุกขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวจะก้าวออกมาจากห้อง ประตูถูกแง้มออกเล็กน้อยพอให้สามารถมองลอดออกไปภายนอกได้ รัตติกรมองซ้ายขวาจนแน่ใจถึงได้ออกมาจากห้องน้ำในที่สุด
แกรก...
“เฮ้ย!! มีคนอยู่ในนี้โว้...อั่ก!!”บานประตูถูกเปิดขึ้นฉับพลันจากคนร้ายคนหนึ่งที่กลับเข้ามาอีกครั้ง รัตติกรไหวตัวทันแค่เพียงคว้าแจกันที่หัวเตียงขว้างใส่อีกฝ่านแล้ววิ่งหนีออกมาจากห้อง หากแต่คนร้ายอีกสามคนที่อยู่ข้างนอกกลับไม่ปล่อยให้ผู้รู้เห็นเหตุการณ์หนีออกไปได้!
คนที่ตัวใหญ่ที่สุดวิ่งเข้ามาขว้าแขนของรัตติกรเอาไว้แล้วบิดไปด้านหลังก่อนจะกดให้ร่างเพรียวล้มลงไปนอนกับพื้น! เข่าหนาหนักเลื่อนไปทับไว้ที่แผ่นหลังทำให้ไม่อาจขยับเขยื้อนตัวหนีไปไหนได้ หนุ่มชาวไทยกัดฟันกรอดแล้วเงยหน้ามองคนที่กดเขาเอาไว้กับพื้นด้วยสายตาเกรี้ยวกราด หากแต่อีกฝ่ายกลับใช้มือเดียวรวบแขนเขาเอาไว้ ส่วนอีกมือก็กดกระแทกศีรษะที่เงยขึ้นมาให้ลงไปแนบพื้นอย่างรุนแรง!
“ห่าเอ๊ย ฟาดมาได้นะแจกันเหล็กน่ะ!”คนที่ถูกรัตติกรทำร้ายเดินออกมาจากห้อง ฝ่ามือหยาบหนายกขึ้นกุมหัวคิ้วแถวๆขมับที่มีเลือดไหลออกมาเป็นยาว สายตาโกรธแค้นจับจ้องมาที่เขาเขม็งก่อนเจ้าตัวจะเดินมานั่งลงเบื้องหน้าแล้วตกมือขึ้นตบหน้ารัตติกรเต็มแรง!
“อึ่ก!!”กระพุ้งแก้มของเขาครูดกับเนื้อฟันเล็กน้อยทำให้หยาดเหลือสีแดงสดไหลออกมาประดับมุมปาก รัตติกรส่งสายตาวาววับใส่อีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว คนร้ายจึงยกมือขึ้นเตรียมจะสั่งสอนเขาอีกครั้งแต่มือใหญ่นั้นกลับถูกคนที่ดูท่าทางเป็นหัวหน้ายื้อยุดเอาไว้ก่อน
“อย่าทำร้ายเขาถ้ามึงไม่อยากตาย นั่นคนของเวสเปอร์!”
ชายคนนั้นลดมือลงแต่โดยดี หากแต่สายตาอาฆาตแค้นอย่างหมายมาดกลับจับจ้องหนุ่มชาวไทยนิ่งงันเหมือนจะจดจำเอาไว้ รัตติกรไล้ลิ้นไปดุนแผลในปากดู มันไม่ใหญ่มากเท่าไหร่แต่ก็เจ็บไม่เบา เขาขมวดคิ้วแน่นแล้วเลิกดิ้น รอคอยฟังว่าคนกลุ่มนี้จะทำเช่นไรกับเขาต่อไป
คนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออก ดูท่าจะต้องปรึกษากับผู้สั่งการก่อนถึงจะตัดสินใจได้ว่าจะฆ่าเขาทิ้งหรือปล่อยไป
ดูท่า...เขาจะได้ตายเร็วกว่าที่คิด...
แต่ก็นะ อยู่กับมาเฟีย... ยังไงความตายมันก็เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว…
“เราจับตัวคนของเวสเปอร์ได้คนหนึ่งครับคุณชายสอง เขาโผล่ออกมากะทันหัน เราเลยไม่ทันได้ระวัง”
“....พักอยู่ในห้องเดียวกับคุณลาร์เฟียร์ครับ”
“คนนี้ไม่คุ้นหน้าครับ แต่ไม่ใช่เลขาคนนั้น ลักษณะเขาดูเหมือนคนเอเชียมากกว่า”
“งั้นสักครู่ครับ”
หัวหน้ากลุ่มยกโทรศัพท์มาทางเขาแล้วกดถ่ายรูป ดูท่าจะส่งภาพไปให้ผู้สั่งการดูเพื่อจะได้ตัดสินว่าคนที่พวกเขาจับได้นั้นมีความสำคัญเพียงไรกับดอนแห่งปาเลอร์โม่กันแน่
“...จะจัดการเขายังไงดีครับ?”
“พาตัวกลับไปด้วย!?”
กลุ่มคนร้ายมองหน้ากันเองเลิ่กลั่ก รัตติกรตาโตด้วยความตกใจเล็กน้อย จะจับเขาไปด้วยทำไมกัน?
ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าเพิ่งเข้ามาทำงานในเวสเปอร์แฟมมิลี่ได้ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ค่าของการเอาเขาไปต่อรองน่ะไม่ต้องพูดเลย เขาไม่สำคัญอยู่แล้ว นอกจากนั้นถึงเขาจะมีข้อมูลสำคัญเกือบทุกอย่างของแก๊งค์อยู่ในหัวเพราะหลังจากที่ลาร์เฟียร์รู้ว่าเขาจำหนังสือทุกเล่มที่อ่านได้ เจ้าพ่อหนุ่มก็โยนทั้งบัญชีรายชื่อ ประวัติของแฟมมิลี่ รวมถึงจุดอ่อนจุดแข็งทั้งหมดของแก็งต่างๆเท่าที่จะหามาได้เพื่อเก็บเขาไว้เป็นตัวเรียกข้อมูลยามฉุกเฉินก็เถอะ แต่คนร้ายที่เพิ่งเจอกับเขาพวกนี้ไม่มีทางรู้แน่นอนว่าความสามารถพิเศษของเขาคืออะไร
แล้วจะจับไปทำไม หรือต้องการเอาเขาไปเชือดไก่ให้ลิงดูเฉยๆ?
ไม่ทันได้คิดมากไปกว่านั้น หัวหน้าของกลุ่มคนร้ายก็กดวางสายโทรศัพท์ เขาหันมาหารัตติกรแล้วสั่งการลูกน้องที่ทับตัวชายหนุ่มเอาไว้
“ทำให้มันสลบแล้วเอาตัวมาด้วย!”
รัตติกรตาเบิกกว้าง ถ้าหากพวกนี้จับเขาไปเฉยๆเขายังสามารถจดจำทิศทางแล้วน้ำมาเปรียบเทียบกับแผนที่ในความทรงจำได้ แต่ถ้าสลบไปก็หมดสิทธิ์ว่าจะช่วยเหลืออะไรตัวเองได้อีกเลย!
ยังไม่ทันจะได้ต่อรอง ตอนนั้นเองความรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างฟาดเข้าเต็มหลังคอก็ช่วงชิงความนึกคิดทั้งหมดของเขาไป สติที่รั้งเอาไว้ได้ทำให้หนุ่มชาวไทยพอรู้ว่าถูกแบกขึ้นหลังของใครบางคนและพาออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
สิ่งสุดท้ายที่รัตติกรนึกถึงคือเจ้าของดวงตาสีสนิมคมกล้า...
ถ้าหมอนั่นพบว่าเขาหายไป จะทำหน้ายังไงกันนะ...
______________________________________
อั้ยย่ะ เค้ากลับมาแล้ว... ( นักอ่านเอาฝักข้าวโพดปาหัว 55) :z6:
ตอนก่อนหน้านี้ดูหลายคนสะใจกันดีจัง สมความปรารถนาคนเขียนที่อยากให้ดอนโดหมั่นไส้~ 55
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะคร้าบ
(โค้งแล้วโค้งอีก ขอบคุณมากครับ พวกคุณเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆสำหรับผมนะ ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ~ (เวิ่น...) :monkeysad: )
ขอบคุณคุณ Kaewkaew และนักอ่านหลายๆคนที่เข้ามารอทุกวันเลยนะครับ ผมอัพช้าขนาดนี้ก็ยังมีคนรอผมอยู่ด้วยอ้ะ ซาบซึ้ง~ TTwTT
ผมจะพยายามอัพให้เร็วกว่านี้นะฮะ ไฟท์ๆๆ
ขอบคุณทุกคนจริงๆครับ โดดกอดรายคนเลย~ :กอด1: :man1: :กอด1: :man1: :กอด1:
แล้วเจอกันนะฮะ
Namioto Yo
-
จิ้มมๆๆๆๆๆ :z13:
-
ค้างงงงงมาก แล้วลูน่าจะเปนไงต่อไปเนี่ย :z3: รอค่ะ
-
ทำไมทิ้งให้รัตติกรอยู่คนเดียวละเนี่ย :z3: โดนจับเลยเห็นไหม
:pig4: คะ
-
ค้างงง งงงง TT
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
-
o[]o!!! งะ....ค้างงงง (อัพไวๆนะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชอบมากๆ ^^ )
-
มาลงตอนใหม่แล้ววววเรื่องโปรดของเราเลย o13
-
:a5: :a5: :a5: :a5:
ค้างงงงงงงง++
-
ค้างง :z3:
-
:a5:ลูน่าโดนจับตัวไปแล้ว
รีบมาต่อนะคะ มันค้าง :z3:
-
อั๊ยยะ~~~~~~~
ลูน่าของอาเจ้
จะเป็นอะไรมากไหมน้อ
-
โผล่มาแป๊ปนึง โดนจับตัวไปซะงั้น
พ่อพระเอกของเราเลยไม่มีบทเลย :laugh:
-
ป๊าดดดดด ค้างอย่ารุนแรง
P.S. ไม่นะ ลูน่า><" :sad4:
-
หุยยยย โดนจับ เจ็บตัว พ่วงเจ็บใจ :เฮ้อ:
คราวหน้าขอดอนโผล่มาแบบเท่ๆบ้างน้าโย
เจ๊อยากกรี๊ดบ้างอะ o18
-
เอาแล้วไง
ชะตากรรมนางเอกหนังบู๊ไทยมาละ
เดี๋ยวจะรอดูว่าพระเอกจะตามไปช่วยยังไงนะ
-
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
ต่ายก็รอนะแต่รอแบบเงียบ ๆ อยู่ในเงา 555+
โถ โดนลักพาตัวอีกแล้ว งี้แหละ พอโดนสักครั้งครั้งต่อไปมันก็จะตามมา สู้ๆ
เข้าใจความรู้สึกตอนหนังสือหมดไม่มีอะไรอ่านค่ะ มันน่าเบื่อจริง ๆ นะ -_-
-
ดอนอยู่ไหนนนนนนนนนนนนนนนน
รีบไปช่วยลูน่าเลยนะเฟ้ยยยยยยยยยยย
-
จะโดนนายสองจอมซาดิสต์จัดการยังไงนะ
ลาร์เฟียร์รีบมาช่วยด่วยจ้า
-
มาต่ออีก
-
ไอ้คุณโจรนั่นก็หูไวเหลือเกินนะ
เอาแล้วไงนายเอกโดนจับซะแล้ว
ดอนจะทำไงละเนี่ย
รอตอนต่อไปแทบไม่ไหวเลย><
-
คุณโจรจะหูตาไวไปมั้ยเนี่ย
ที่ถูกจับไม่ใช่เพราะต่อรองมั้ง ?
น่าจะถูกใจลูน่ามากกว่า
-
บอกได้คำเดียว "ค้าง" :z3:
มาต่อไวไวนะค้าาาา :call:
-
เค้าต้องลุ้นอีกแล้ว หลังจากที่ลุ้นไม่ให้ลูน่าเสียตัวเร็ว
ช่วยทันม้ายยยยย งือพระจันทร์ถูกตบหน้าเป็นรอยด้วยนะดอน
-
ลุ้นๆๆ :really2:
-
ว่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ลูน่าโดนสอยไปแล้วดอน
อยากจะรู้เหมือนกันค่ะว่าลาเฟียร์จะเดือดแค่ไหน
ถ้ารู้ว่าลูน่าของตัวเองโดนสอยไปแบบนี้
มันส์แน่ๆๆ
-
ขอบคุณมากค่ะ ที่ทำให้ค้างขนาดนี้ o22
มาอัพเเล้ว เย้ๆๆๆ
-
เราต้องลุ้นทุกตอนที่อ่านใช่ม๊ายยยยยยยยยยยยย
บ่นไปแล้วก็นั่งรออ่าน
-
มันค้างนะพี่!!!
ลาเฟียร์จะทำยังไงละทีนี้
-
รอดูลาเฟียร์คลั่งจ้า
-
โธ่ ลูน่าของฉันนนนนน :angry2:
ดอนรีบมาเลยนะ ชิชะ :m16:
:pig4: นะคะ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด :o ลูน่าโดนสอยไปแล้ว ดอนไปอยู่ไหนเนี่ย
-
ลูน่าโดนจับตัวไปแล้วอ่ะ
ดอนมาช่วยเร็วๆ รู้สึกถึงลางไม่ดีเลย
-
บังอาจจจจจ มาชับรัตติกรของฉันไป = = :z6:
-
ลูน่าาาาา
โดนจับไป :o12:
ช่วยเหลือด่วน
สนุกมากๆเลยคะรอตอนต่อไป o13
-
:a5:ค้างเลยอ่ะ
-
เราพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงงงงงง!!!!!
ชอบมากชอบแนวนี้สุดๆเลย
โอ้ยยย รักเลยอ้ะ
แต่งได้สุดยอดมากๆเลยจ้า
เนื้องเรื่องมันลื่นไหลมากเลยอ้ะอ่านแล้วไม่ติดขัดเลย
อ่านเรื่องนี้แล้วได้ความรู้เว่ออ
คาเร็กเตอร์ตัวระครยิ่งสุดยอดดดด
รู้สึกเสียดายมากที่มาอ่านช้า 55555555555
ติดตามน้าค้าจะติดตามทุกเรื่องเล้ยยย
มาอัพบ่อยๆนะนะนะ ยิ่งตอนนี้ บอกเลย โคดค้างอ้ะ 555555
เป็นกำลังใจให้นะค้าติดตามผลงานอยู่เน้อออ
:L2:
-
อร๊ายยยยยยยยย ค้างงงง
:call: :call: มาต่อเร็วๆนะ คนเขียน
-
เเอร้ยยยยยยย
จะทำอะไรรัตติกรอ่าาาาาาาา
-
เอาล่ะสิ ลูน่า~อย่าเป็นอะไรนะ ขอให้พระเอกมาทันเถอะ
หรือไม่ก็ไปช่วยลูน่าคนสวยออกมาได้โดยไว :serius2:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
ค้างอะ TT
-
คนสวย!!! โดนจับไปแร้ววววว ท่านดอน แกะน้อยโดนจับไปแล้ว
รีบๆมาไวไวเลย :a5:
-
อยากจะกรีดร้องงงงงงงง!!!!!!!!~
ลูน่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!
ไอ้พวกชั่วช้าสามาญญญญญญญ!!!!
แกทำแบบนี้ได้ยังไงงงงงงง แล้วลาเฟียร์จะทำยังไงงงงงงง!!!
แว้กกกกกกกกกกก บ้าเอ้ยยยยย!!
คิดถึงมากเลยครับบบ นานมากกกก T________T
มาต่อไวๆน้าา T___T
-
ค้างง่ะ มาต่อไวๆน้า :serius2:
-
จับลูน่าไป ไม่รู้ว่าจะโชคดี หรือ โชคร้าย นะ ต้องรอดูต่อไป :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ลาเฟียร์รู้คงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
-
:a5:
เฮ้ยยยๆๆๆ
เอาละซิ มากระตุกหนวดเสือแบบนี้
อะไรจะเกิดขึ้น
-
เพิ่งสังเกตุไม่มีใครเรียกชื่อจริงของรัตจัง(รัตติกร)เลย
ความรู้สึกที่ไม่มีหนังสืออ่านน่ะเหรอ สำหรับเรา มันจะเป็นไม่มีYaoi อ่านมากกว่า
(จริงๆแล้ววายอยู่สายโดจินกับการ์ตูน แต่ไม่มีอะไรอ่านแล้ว <เวอร์ชั่นอิ้งกับปุ่นยังอ่าน> ก็เลยหันมาอ่านนิยาย...สรุปว่าติดฮ้า~~)
แต่ว่า อ่ะ ลูน่า!! ใครมิ(?)บังอาจมาทำร้ายน้องรักของผมได้!!
ฟาดหลังกลางคอ....อยากรู้ว่าทำไมคนโดนท่านี้ มักจะหลับไม่รู้เรื่อง(<<มันก็สมควรอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?)
-
มารออออ หลังจากล่าสุด ก็ไม่ได้มารอทุกวัน... พอดีช่วงนี้ก็ยุ่งๆ ฮาาา!!
ชอบชอบ ชอบเรื่องนี้มากจริงๆ:)
มารอเหมือนเดิมครับบบบ ฮี่ฮี่ o13
สู้ๆ
-
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
มาต่อไวๆนะ หนุกมากๆ ขอบคุณคนแ่ต่งคับ :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:o13 o13 o13 o13 o13 o13
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
มารออีกวันครับบบ :)
-
:z2: :z2:
-
คิดถึงแล้วววว ฮ่าๆ
ผมอยากเห็นลาเฟียร์ตอนรู้ว่าลูน่าโดนจับตัวไปนะ O_O
มันน่าลุ้นต่อหนักๆ จริงๆนะ :D
o13 o13
-
เรามานั่งรอตอนต่อไป รัตติกรนี่ใจเด็ดจริงๆ o18 o18
-
*กางเต็นท์*
จิบชานั่งรอฮะ ฮ่า่ๆ
-
รอ รอ รอ
:impress3:
-
:call: :call: รอ รอ รอ ............
-
วันนี้11แล้วววว~
มารอเหมือนเดิม ฮ่าๆ
-
เพิ่งอ่านได้แค่ตอนแรกๆอะค่ะ ทำไมพระเอกแก SM เหลือเกิ๊นนนนนนนนน :angry2:
-
อ้าวว มะทันไร นายเอกเราเสร็จโจรซะแล้วววว
-
ง่ะ หมั่นไส้อีตาพระเิอกนี่จัง ใช้ซะคุ้มเงินเดือน เหอะๆ
-
สมน้ำหน้าลาเฟียร์ +1 ให้สคูร์โดเลย :laugh:
-
นายเอกรู้สึกจะดวงตกตั้งแต่เจออีตาดอน เหอะๆ
-
มารอตั้งแต่หัววันนน o13 o13
-
มารออีกวัน XD
-
ลูน่า โดนจับตัวไป
บอกได้คำเดียว "ค้าง"
รอต่อไป
:pig4: :call:
-
:z13: :z13:
-
อยากอ่านต่อง่ะ :sad4:
-
แวะมาสาดน้ำาาาาา
ไปเล่นสงกรานต์ที่ไหนมาบ้างครับ ฮา
-
เค้ารอเธออย่น๊าาาาT^T
ปล.แฮปปี้วันสงกรานต์นะคะ(ถึงจะช้าหนอยก็เถอะTTOTT)
-
:L2:โดนจับตัวแบบนี้มีงานงอกแน่นๆพวกแก
-
รอฉันรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด
เธอจะมาเธอจะมาเมื่อไหร่~
นัดกันไว้ (ตอนไหน) ทำไมไม่มาาา~
คิดถึงนะฮร้าาาาา
-
รอเธอด้วยความหวังงง :o12:
-
เมื่อไหร่จะมาต่ออ่ะกำลังลุ้นระทึกเชียว
-
ฉันยังรอคอยปาฏิหาริย์ เชื่อว่าวันนึงจะมาถึง
ครึ่งหนึ่งของฉันที่มันขาด หายไป~
มารอครับบ ฮี่ๆ
-
T[]T รอต่อไป
-
สนุกมากกกกกก. แต่คนแต่เราไปไหนอ่ะ :call:
-
มารออออ...
><
-
หายยยยยยยยยย :sad4:
เรารอนะนะนะ มาต่อไวๆเถอะน้า :o12:
เข้าดูแทบทุกวันเลยเมื่อไหร่จะอัพ :z3:
-
ไรท์จ๋าาาา ได้ยินมั้ยว่าเสียงใครรรร~~~~
TT^TT
-
รอร๊อรอ
-
รอ รอ รอ
:serius2: :serius2:
ต่อซะทีเถอะ คิดถึงลูน่า :-[ :-[
:call: :call: :call: :call: :call: :call:
-
อยากอ่านต่อเร็วๆจัง >.<"
-
ว่าฉันคิดถึงและยิ่งคิดถึง
ในคืนที่ฝนโปรยเราอยู่ด้วยกันตรงนี้....
....
รอคอยเธอกลับมาหา
เฝ้ารอจนฝนซา สุดท้ายก็ว่างเปล่า~
ฝนซาแล้วเธอก็ยังไม่มา (ต้องการอะไร?)
แซวเล่นไป คิดถึงละหนาาาา XD มารอออออออ
-
อยากอ่านลูน่า เค้าจะอ่านลูน่า
เหมือนไรจะมาต่อ ค่ะ
-
มาเฝ้ารอออ :o12:
-
มารออีกวันนนนน จะเดือนรึยังหว่า O_O
คิดถึงนะฮ้า
-
มารอครับบบ คิดถึงน้าาา
-
อ้าาาาาาาา ลูน่าโดนจับไปแล้วววววววว
ลาร์เฟียร์รีบตามไปช่วยด่วนเลย ก่อนที่คนโรคจิตตระกูลฟงจะทำไรลูน่าของเค้า TT
-
ลูน่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา เก๊าคิดถึง แง้้้ :o12: :o12:
-
26 วันที่รอคอย เมื่อไหร่เธอจะมา~~
รู้มั้ยฉันคิดถึงเธออออออ~~~~
-
จะครบเดือนแล้วน๊าา~~ มาต่อสักทีสิค่ะ ><
-
ไหนบอกว่าวันที่ 1 ไงค้าบบบบบ เค้ารออยู่นะเออ :z3:
-
:L2:หายไปนานจังเลย :t3:
-
คิดถึงอ่ะ :impress:
-
ช่วงนี้ไม่ได้มาเลย
โอ้ยย คิดถึงน้าาาาาาา :)
รอออออออ
เดือนห้าแล้วน้าาาา
-
ตามมาจากหนูโยตาเอิรธ์
อ่านรวดเดียวจบเลยค่า ชอบมาก รักคนแต่งงงง
-
เดือนห้าแล้ววววว รออออออออ
-
ค้างอ้ะค้าง แง้ :serius2: มาลงชื่อรอร๊อรอด้วยคนนะค่ะ :sad4:
รอฉันรอเธออยู่แต่ไม่รู้เธออยู่แห่งใด เธอจะมาๆเมื่อไหร่ นัดฉันไว้ทำไมไม่มา
ปล :pig4: :pig4: :pig4:
-
รอด้วยคน :impress3: :impress3: :impress3:
-
:call: :call: :call: :call:เรียกนักเขียน
-
ยังไงก็รอนะคะT^T
-
1 เดือน แล้วน้า
:m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
-
:z13: :z13: คนเขียนเรื่องนี้ยังอยู่อะป่าววอ่าา :sad4:
เขาอยากอ่านตอนต่อไปแร้ววเน้ออ :z3: :เฮ้อ:
รอออ ต่อไป สู้ๆ ( :beat: :laugh: )
-
อะไร ไม่ทิ้งคนคุ้มกันลูน่าไว้มั่งเลย
-
ไรเตอร์! เค้าเพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ เค้าชอบมากก
ภาษาสวยเว่อร์เลย
และตอนนี้เราอยากให้ท่านมาอัพทีเถ๊อะ!! TT^TT
-
ลาเฟียร์จะช่วยลูน่าได้รึป่าวนะ รอตอนต่อไป
-
เดือนนึงแล้วนะ o7 เมื่อไหร่จะมา แง้
-
เมื่อไรจะมาน้าาา :t3:
-
อ่านมาตั้งแต่ตอนแรกยันล่าสุด กลับเ้ข้ามาดูความเคลื่อนไหวว่าคนเขียนเข้ามาอัพรึยังหว่าาา
จำไม่ได้ว่าเคยเม้นรึป่าวนะฮะ แต่ติดตามทั้งสองเรื่องเลย เรื่องนี้แล้วก็ ใครว่าทำดีได้ดี
o13 o13 o13 o13 ทุกเรื่อง มาต่อนะฮะ คิดถึงๆ :call:
-
รอ ร้ออออ รอออ เรามานั่งรอนานแล้วน้าาาา :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
รอๆๆๆๆๆ
-
(รออัพ)
ลาเฟียร์...ช่วยลูน่าให้ได้น้าาาา
-
:call: :call: :call:
-
ห่างหายจากเล้าไปนาน(?)
คิดถึงนะคร้าบบบบบบบบบบบบบ :)
-
อ้าวหาย รอๆ
-
ยังไงก็จะรอ :sad4: :sad4: :sad4:
-
จิ้ม จิ้ม จิ้ม :z13: :z13: :z13:
-
*ปูเสื่อ*
แวะมาจิบชาด้วยกันก่อนก็ได้นะ ; ;
-
คนแต่งงงง!!!!!! เรากลับมากดดันอีกแล้วน้าาา
คิดถึงลูน่าที่รัก(ของดอน)จนจะขาดใจอยู่แล้วววว :z3: :z3: :z3: :z3:
-
มารออีกวันนน งานเยอะจนเกือบลืมมม ; ;
คิดถึงคนเขียนนน :)
-
เปิดเทอมได้หลายวัน.. ไม่ค่อยว่างเลย tt' แต่รอทุกวันนะ ฮืออ
หายไปแล้วววววววววว
-
คนเขียนหายไปแล้วอ่าาาา โฮ :sad4:
อยากอ่านต่อน้า เค้ารออยู่น้าาาาาาาาาา
เดือนกว่าแล้วน้าาาา แง :z13:
-
ลาเฟียร์จะโกรธขนาดไหนเนี่ย :z3:
มาต่อเร็วๆนะค่ะ :call:
-
ทำไมโดนจับง่ายจัง
-
หายไปนานจังเลย รีบมานะ
เค้ารออยู่ :impress:
-
หยาาา จะ2เดือนแล้วนะฮ๊าาา!! ยังรออยู่เน้ออออ :)
-
:m15: :m15:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.17
ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ยกขาข้างหนึ่งขึ้นไขว่ห้างแล้วประสานมือไว้เหนือหัวเข่าในขณะที่กำลังจับจ้องร่างๆหนึ่งที่สะบักสะบอมไปด้วยเลือดและรอยแผล ภายในห้องพักขนาดกลางของโรงแรมซึ่งถูกจัดไว้ให้บอดี้การ์ดระดับล่างเข้าพักกลับกลายเป็นห้องทรมาณและสืบสวนสายลับที่ถูกจับมาได้ สคูร์โดหัวหน้าการ์ดผู้แสนใจร้อนเริ่มลงมือหนักขึ้นเรื่อยๆเมื่อผู้ต้องหาไม่ยอมปริปากบอกถึงจุดหมายของการสอดแนมครั้งนี้
ท่ามกลางเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังขึ้นเป็นระยะผสานไปกับเสียงกรีดร้องของเหยื่อ ลาร์เฟียร์เพียงแค่นิ่งเงียบและมองภาพการทรมาณตรงหน้าด้วยแววตาเฉยเมย ในหัวของเขายังคงปรากฏภาพของราชสีห์หนุ่มชาวไทยที่ยังไม่มีท่าทียอมลงให้เขาเลยแม้แต่น้อย ทว่าร่างกายที่แสนสวยงามยามที่บิดเร้าอยู่เหนือตัวของเขากลับน่าหลงไหลเสียเหลือเกิน…
ประตูห้องถูกเคาะเป็นรหัสสั้นๆก่อนที่ฟรานและการ์ดอีกสองคนจะเปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าที่เครียดขึง ในมือของเลขาหนุ่มถือกระเป๋าเอกสารในหนึ่งเข้ามาด้วย เขาเดินตรงไปหาลาร์เฟียร์ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่ ขณะเดียวกันการ์ดที่กลับเข้ามาอีกสองคนก็เรียกพรรคพวกอีกกลุ่มหนึ่งให้ตามออกไปอีกครั้งเช่นกัน
“มีคนบุกห้องเราครับดอน เอกสารบางส่วนถูกขโมยไป แต่ที่สำคัญกว่านั้นดูเหมือนจะเกิดการต่อสู่ขึ้นในห้องพักส่วนกลาง ผมหาคุณลูน่าไม่เจอ แต่พบกระเป๋าเอกสารที่เก็บพาสพอร์ตตรงหลังชักโครกในห้องน้ำของผม ตอนนี้การ์ดกำลังออกไปตามหาคุณลูน่าในบริเวรรอบๆอยู่ครับ แต่ผมคิดว่าเขาไม่น่าจะอยู่ที่นี่แล้ว”ฟรานรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้เจ้าพ่อหนุ่มรับรู้ หลังจากที่จับตัวสายลับได้ เขากับสคูร์โดได้มาหาหลักฐานเพื่อทำการยืนยันว่าสายลับที่จับมาได้นั้นเป็นคนของใคร แต่นอกจากเรื่องที่สายลับผู้นี้เป็นคนจีนแล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใดให้สืบหาต่ออีกเว้นแต่เขาจะยอมปริปากพูดออกมาเอง
สคูร์โดรับหน้าที่ไปแจ้งข่าวนี้แก่ลาร์เฟียร์ รอไม่นานเจ้าพ่อหนุ่มก็ออกมาในสภาพอารมณ์เสียเต็มที่ กลุ่มบอดี้การ์ดข่มขู่และซ้อมสายลับผู้นี้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขายอมพูดออกมาเล็กน้อยว่าของสำคัญบางอย่างของพวกลาร์เฟียร์จะต้องถูกขโมยไปอย่างแน่นอน ฟรานกับการ์ดอีกสองคนจึงถูกใช้ให้กลับไปดูที่ห้องว่ามีอะไรหายไปบ้าง แต่ภาพที่พวกเขาเห็นคือแจกันเปื้อนเลือดและห้องที่ถูกรื้อค้นอย่างมืออาชีพ รัตติกรหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และเอกสารการเดินทางทั้งหมดของพวกเขาก็ถูกซ่อนเอาไว้ในห้องน้ำของฟราน
เลขาหนุ่มรู้ได้ในทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเสียแล้ว…
สีหน้าเฉยเมยของเจ้าพ่อหนุ่มถูกทำลายลงทันทีเมื่อได้รับข่าวสารที่ว่า ดวงตาคมกริบสีสนิมฉายประกายเกรี้ยวกราดดุดันอย่างฉับพลัน ร่างแกร่งผุดลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนที่มือหนาจะหยิบปืนกระบอกหนึ่งตามออกมา กระบอกเก็บเสียงถูกสวมใส่อย่างเชื่องช้าขณะที่ดอนแห่งปาเลอร์โมขยับเคลื่อนเข้าใกล้ร่างเหยื่อที่นอนหมอบแน่นิ่งอยู่กับพื้น
“อยู่ที่ไหน?”เสียงทุ้มต่ำแฝงไว้ด้วยอำนาจเอ่ยถามเหยื่อเป็นภาษาจีนกลางอย่างเยือกเย็น มือหนายกปืนขึ้นสัมผัสที่หน้าผากของอีกฝ่ายแล้วค่อยๆกดแนบเน้นน้ำหนักลงไป สัมผัสเย็นเฉียบจากมัจจุราชสีดำนั้นซึมแทรกผ่านเนื้อหนังเข้าสู่สมองอย่างช้าๆ ทำเอาร่างที่นอนหมอบอยู่กับพื้นระรึกได้ถึงความตายของตนเองเป็นครั้งแรก
“อ่ะ อะไร…ที่ไหน?”หนุ่มสายลับถึงกับสั่นเมื่อเห็นสายตาของเจ้าพ่อหนุ่มที่มองเขา มันไม่ใช่สายตาของคนธรรมดาที่คิดแค่จะทำร้ายใครเพียงเท่านั้น แค่มองสบกับดวงตาสีสนิมเกรี้ยวกราดที่จับจ้องตรงมา ความหนาวเยือกอย่างคนที่กลัวตายเป็นครั้งแรกกลับพุ่งวาบเข้ามาในจิตสำนึกจนทำให้เขาตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะถูกเจ้าหัวหน้าบอดี้การ์ดนั้นทำร้ายยังไงเขาก็ไม่ยอมปริปาก ความเจ็บปวดที่รุมเร้านั้นรอแค่ไม่นานก็กลายเป็นความชา อวี้เฟิงรู้ดีว่าคนพวกนี้จะไม่ฆ่าเขาตราบใดที่ยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แต่กับเจ้าพ่อหนุ่มคนนี้กลับไม่ใช่ หนุ่มชาวจีนรู้สึกได้ในทันทีว่าคนคนนี้เห็นชีวิตเขาเป็นเพียงแค่ของแถมถูกๆชิ้นหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้ให้เปลืองเวลา ถ้าเค้นจนได้คำตอบมาก็ดี แต่ถ้ามันทำให้เสียเวลาก็ฆ่าซะเพียงเท่านั้น
หมดเวลาต่อรองแล้ว…
“คนของฉัน พวกของแก อยู่ที่ไหน?”ปลายกระบอกปืนเคลื่อนลงไปช้าๆผ่านสันจมูก อวี้เฟิงได้กลิ่นดินปืนจางๆผ่านลำกล้องมรณะ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ รู้ว่าหากทำให้ความลับของผู้ว่าจ้างแพร่งพราย กลุ่มพี่น้องของเขาที่ทำงานมาด้วยกันก็ต้องเดือดร้อนแน่นอน
“ผมมาคนเดียว! อ้ากกก!!!”ประโยคที่พูดถูกกลบด้วยลูกกระสุนที่พุ่งเข้าทำลายกระดูกบริเวณหัวไหล่ซ้ายจนแหลกละเอียด ลาร์เฟียร์ยกปืนในมือขึ้นสะบัดเลือดออกเพียงเล็กน้อยแล้วจรดปลายกระบอกปืนอย่างเนิบนาบลงบนตำแหน่งของหัวใจที่เต้นกระหน่ำของเหยื่อที่กำลังกรีดร้อง
“อยู่ที่ไหน!”ระดับเสียงเพิ่มขึ้นหากแต่อารมณ์ดุร้ายนั้นยังไม่ปะทุ เจ้าพ่อหนุ่มยกเท้าขึ้นเหยีบลงที่อกของสายลับแล้วบดขยี้ให้แนบลงกับพื้นอย่างแช่มช้าทว่ารุนแรงจนเหยื่อของเขาแทบหยุดหายใจ เสียงกรีดร้องเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยจากความเจ็บปวดและความกลัวที่พุ่งทวีขึ้นสูงยิ่งกว่าเดิม!
“ไม่ ไม่รู้! อ้ากกก!!!”กระสุนอีกนัดลั่นผ่านกระดูกเชิงกรานที่เอว ร่างของหนุ่มชาวจีนดิ้นสะบัดอย่างเจ็บปวด ลาร์เฟียร์สะบัดปืนในมืออีกครั้งเพื่อไม่ให้เลือดที่กระเซ็นออกมาเปรอะเปื้อนมือของเขา แววตาสีสนิมเหี้ยมเกรียมมองคนใต้ฝ่าเท้าด้วยสายตาที่เย็นเยียบ เฉยชา
สิ่งที่ลาร์เฟียร์แสดงออกมาตอนนี้แตกต่างจากความรู้สึกข้างในของเขาที่ดูจะร้อนเป็นไฟอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันร้อนรนอยากออกไปตามหาคนปากดีที่เขารู้ว่าภายใต้ท่าทางนิ่งขรึมนั้นเก็บความกล้าจนแทบเรียกว่าบ้าไว้มากขนาดไหน เจ้าพ่อหนุ่มกดเก็บอาการเช่นนี้เอาไว้อย่างมิดชิดจนไม่มีใครรู้ เขาบอกตัวเองซ้ำๆว่านี่คืออาการหวงของ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
เพราะของของลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ ใครก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง!!
ปลายกระบอกปืนจรดลงที่ใต้คางของเหยื่อเป็นเชิงบอกว่าให้เงียบเสียงร้องที่น่ารำคาญ เจ้าพ่อหนุ่มทอดสายตามองสบกับเหยื่อของเขาอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้ส่งเสียงถามออกไป แต่อวี้เฟิงรู้ดีว่านี่คือครั้งสุดท้ายที่ดอนแห่งปาเลอร์โมจะถามเขา
สายลับชาวจีนอึกอักอยู่ในลำคอ ความรักชีวิตเสริมด้วยความกลัวเจ็บกลัวตายค่อยๆผลักดันให้เขาพูดความจริงออกไปซะ แต่เมื่อคิดถึงพวกพ้องที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายครั้งมันก็ทำให้เขาพูดไม่ได้สักที
ลาร์เฟียร์ปล่อยเวลาให้เหยื่อของเขาได้คิด ท่ามกลางความเงียบที่มีเพียงเสียงหอบหายใจของอวี้เฟิง เจ้าพ่อหนุ่มก็ละปืนออกจากคางที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ แล้วลั่นไกออกไปอีกครั้ง คราวนี้เจาะทะลุที่เข่าข้างขวา สคูร์โดที่ยืนดูอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลได้แต่หรี่ตาลงและนึกขอบคุณที่โรงแรมนี้สร้างให้ห้องพักทุกห้องให้เป็นห้องเก็บเสียง ไม่อย่างนั้นเสียงกรีดร้องของเหยื่อคนนี้คงเรียกรปภ.มาทั้งโรงแรมแน่ๆ
“บอกแล้ว!!! ทุกอย่างเลย! บอกทุกอย่าง!! อึก ขอร้อง อย่าฆ่าผม! อย่า!!”สุดท้ายแล้วความกลัวตายก็ง้างปากสายลับชาวจีนได้ในที่สุด ลาร์เฟียร์โยนปืนส่งกลับให้ลูกน้องก่อนจะสั่งให้สคูร์โดล้วงความลับจากสายลับคนนี้ให้ได้มากที่สุด เจ้าพ่อหนุ่มเดินกลับไปนั่งที่ตัวเอง แน่นอนว่าคำสั่งสุดท้ายนั้นได้ส่งผ่านไปทางสายตา
ล้วงความลับเสร็จแล้ว ก็ฆ่าทิ้งเสียให้เรียบร้อย…
เพราะเวสเปอร์แฟมมิลี่ไม่เคยละเว้นให้กับศัตรูและผู้ทรยศ!!
___________________________________________
การลืมตาตื่นในครั้งนี้ของรัตติกรไม่น่าพิสมัยนัก ความเจ็บปวดแล่นพล่านตั้งแต่ต้นคอก่อนจะจบด้วยการไปวิ่งวนอยู่ในหัว ดวงตาสีน้ำตาไหม้ลืมขึ้นช้าๆเพื่อมองสภาพแวดล้อมรอบกาย ก่อนจะพบแค่เพียงกำแพงอิฐเก่าๆเบื้องหลังลูกกรงเหล็กที่ดูเก่าไม่แพ้กัน สายโซ่สีเงินสองเส้นผูกโยงกับข้อมือเขาขึ้นไปถึงขื่อไม้บนเพดาน สภาพการณ์ในตอนนี้ดูไม่ต่างกับนักโทษที่ถูกจับไปขังในคุกใต้ดินอย่างไรอย่างนั้น
แสงไฟนีออนสีส้มติดอยู่กลางผนังอีกฝั่งของลูกกรงหากแต่ฝั่งของเขากลับมืดมิด บันไดหินซ่อนตัวอยู่ในมุมแคบๆของห้อง ดูจะเป็นทางเข้าออกเพียงทางเดียวในที่แห่งนี้ หนุ่มชาวไทยค่อยๆหันไปมองรอบๆกาย ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้อง พอก้มลงมองตัวเองก็ยังเห็นว่าอยู่ในเสื้อผ้าครบชุด ดีกว่าตอนที่โดนไอ้เจ้าพ่อนั่นจับมาอยู่โข ตอนนั้นน่ะเหลือให้เขาแค่เสื้อเชิ้ตตัวเดียวเท่านั้นเอง
แต่เทียบระหว่างเตียงนุ่มๆกับคุกมืดๆ อย่างแรกมันก็ดีกว่าน่ะนะ…
รัตติกรเขย่าโซ่ที่พันรอบข้อมือของเขาเผื่อมันจะเก่าเหมือนสภาพรอบข้างจนทำให้เขาโชคดีหลุดออกไปได้บ้าง แต่ดูเหมือนมันจะเป็นสิ่งเดียวในห้องนี้ที่ใหม่เอี่ยม
น่าหงุดหงิดชะมัด!!
ในเวลาแค่เดือนกว่าๆ เขาถูกลักพาตัวมาสองครั้งแล้วนะ! ไม่ผิดปกติไปหน่อยหรือไง? ชีวิตคนเรามันจะเจออะไรแบบนี้ได้ขนาดนี้เชียวเหรอ!? บ้ารึเปล่า!!
“อ้าวๆ ตัวประกันของเราตื่นแล้วหรือนี่ หลับไปแค่ครู่เดียวเองนะครับ”เสียงหนึ่งถามขึ้นเป็นภาษาจีนที่คุ้นหูจากเมื่อตอนกลางวันดังขึ้นก่อนร่างของผู้เป็นเจ้าของเสียงจะค่อยๆปรากฏตัวจากบนบันไดหิน เอกลักษณ์ของผมยาวสีดำสนิทกับเสื้อคลุมสีแดงแบบจีนทำให้รัตติกรรู้ได้ไม่ยากว่าคนคนนี้คือใคร
ฟงเจิ้นฮ่าว…
เจ้าจิ้งจอกนี่ไม่ทำให้เขาแปลกใจมากนักเมื่อพบว่ามันคือคนทรยศ หากแต่การใช้วิธีโง่ๆกับเจ้าพ่อมาเฟียแห่งอิตาลี่อย่างลาร์เฟียร์ดูจะไม่ค่อยฉลาดเอาเสียเลย ทั้งการเลือกลงมือในเขตพื้นที่ของตัวเอง ส่งคนเข้าไปค้นห้องของเจ้าพ่อหนุ่มอย่างอุกอาจ ร่องรอยที่ทำให้สืบสาวมาถึงตระกูลฟงได้นั้นมีเยอะเกินไปจนดูไม่เหมือนวิธีของคนที่เป็นถึงน้องชายของหัวหน้าแก๊ง
แกล้งโง่ หรือโง่จริงๆ เขาก็ต้องตล่อมถามเอาเองสินะ?
“ถ้าไม่ว่าอะไรแล้วปล่อยให้ผมนอนกับพื้นดีๆก็จะเป็นพระคุณนะ”รัตติกรแค่นยิ้มส่งให้อีกฝ่าย เจิ้นฮ่าวเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจกับนิสัยปากกล้าไม่กลัวตายของเลขาคนนี้ หนุ่มชาวจีนสั่งให้ลูกน้องของเขาเปิดประตูห้องขังแล้วเดินเข้ามาหารัตติกร มือเรียวที่ถูกดูแลอย่างดีซึ่งเห็นได้จากเล็บยาวๆที่ถูกตัดจนเป็นปลายแหลมได้รูปและทาเคลือบด้วยน้ำยาสีโทนนู้ดก็ทำให้คนที่ถูกจับรู้ได้ทันทีว่าคนคนนี้เจ้าสำอางขนาดไหน
“กับคนที่อยู่ดีๆก็ได้มาเป็นเลขาคนสนิทของนายท่าน ทั้งๆที่ไม่เคยมีประวัติในวงการนี้มาก่อนเลยอย่างคุณ ไม่ให้ระวังขนาดนี้ไม่ได้หรอกครับ”เจิ้นฮ่าวยกมือขึ้นลูบไล้ไปตามโครงหน้าของตัวประกันของเขาแล้วยิ้มน้อยๆที่มุมปาก ทว่าแววตาที่กระหายในบางอย่างก็ส่อเจตนาที่ทำให้รัตติกรขนลุกพรึบเอาได้ง่ายๆ
เขายังไม่ลืมประวัติของคนคนนี้หรอกนะ โดยเฉพาะไอ้ประโยคที่บอกว่าเป็นเกย์คิงที่ชอบเล่นซาดิสม์น่ะ…
“ผมก็แค่เลขาธรรมดา มีอะไรให้น่าระวังนักหรือครับ?”รัตติกรเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆเป็นเชิงถาม ซ่อนอาการหวาดหวั่นของตนเอาไว้ภายใต้ท่าทีไม่สะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ตรงหน้า อย่างน้อยเขาก็รู้ได้อย่างหนึ่งแล้วว่าฟงเจิ้นฮ่าวถึงกับส่งคนไปสืบประวัติของตน เมื่อวิเคราะห์รวมกับเวลาอันรวดเร็วที่อีกฝ่ายได้ข้อมูลมายิ่งทำให้แน่ใจได้ว่าสายที่ส่งเข้าไปนั้นมีฝีมือดีเข้าขั้นน่ากลัวทีเดียว
เพราะรัตติกรเพิ่งเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกของเวสเปอร์แฟมมิลี่ได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากออกจากบ้านพักตากอากาศที่ปาเลอร์โม่แล้วก็ตรงมาที่ประเทศจีนโดยยังไม่ได้เดินทางกลับไปที่สำนักงานใหญ่ของเวสเปอร์เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงมีแค่ไม่กี่คนหรอกที่จะรู้ประวัติของเขาได้
ฟงเจิ้นฮ่าวได้ฟังที่รัตติกรพูดก็หัวเราะออกมาเบาๆ ข้อมูลที่เขาได้มาแม้ไม่ละเอียดนักแต่ก็พอทำให้รู้ว่ารัตติกรเข้ามาได้เพราะฝีมือ แม้ในอิตาลี่จะไม่มีข้อมูลอะไรให้สืบนัก แต่เมื่อเอาชื่อนี้ไปตามหาที่เมืองไทย เจิ้นฮ่าวกลับได้ข้อมูลของรัตติกรมาเกินพอ
อัจฉริยะแห่งความทรงจำ เจ้าของความสามารถในการใช้ภาษาได้ถึง24ภาษา…
“จะธรรมดาจริงอย่างที่คุณว่ารึเปล่า เดี๋ยวก็รู้ครับ”มือเรียวเลื่อนลงมาบีบกุมรอบลำคอเรียวระหง เล็บที่นิ้วหัวแม่มือจิกเข้าที่ปลายคาง เรียกให้เลือดสีสดผุดขึ้นเป็นจุดเล็กๆแล้วค่อยๆไหลลงมาตามแนวเส้นโค้ง รัตติกรหรี่ตาลงแค่เพียงเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาไหม้วาบวับด้วยความโกรธที่ปะทุขึ้นมา
“กล้าเหรอครับ?”เพียงประโยคเดียวก็ทำให้ฟงเจิ้นฮ่าวหยุดชะงัก
กล้าหรือ…ที่จะเป็นศัตรูกับเวสเปอร์
ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงไม่กล้า แต่ตอนนี้มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้วในเมื่อเจิ้นฮ่าวมีคนที่สามารถช่วยให้เขาได้เป็นใหญ่ยิ่งกว่าปัจจุบัน ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฟงคือข้อแลกเปลี่ยนที่เขาจะได้เมื่อสามารถล้วงความลับที่จะบ่อนทำลายเวสเปอร์แฟมมิลี่ และแน่นอนว่าเมื่อใดที่แผนนี้ประสบความสำเร็จ เขาก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวอีกต่อไป!!
“ถึงขั้นนี้แล้ว คุณคิดว่าผมไม่กล้าหรือครับ?”หนุ่มชาวจีนโน้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างใบหู รัตติกรสัมผัสได้แค่เพียงผมยาวๆที่ปัดเรี่ยไปกับผิวแก้มก่อนที่จะต้องสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายกัดเข้าที่ติ่งเนื้อนิ่มเต็มแรง!
ฟงเจิ้นฮ่าวใจเต้นระทึกกับเหตุการณ์ตรงหน้ามากขึ้นทุกที มันไม่ใช่ความกลัวแต่เป็นความสุขสม ร่างเพรียวที่สั่นเทิ่มอยู่ภายใต้ตัวของเขามันทำให้รู้สึกอำนาจอย่างที่หนุ่มชาวจีนชื่นชอบ นานแล้วที่เขาไม่ได้เล่นกับเหยื่อหายากแบบนี้ และแน่นอนเมื่อมีโอกาสจะได้เค้นข้อมูลจากคนที่ดูท่าจะเล่นยากอย่างเจ้าเลขาคนไทยนี่ เจิ้นฮ่าวย่อมไม่ปล่อยให้มันหลุดลอยไปแน่นอน!
เสียงเปียกชื้นเพราะปลายลิ้นที่โลมเลียเอาเลือดของรัตติกรดังก้องจนน่ารำคาญ แม้จะระงับเสียงร้องของตนเองเอาไว้ได้ แต่มือที่สั่นระริกจนส่งผลไปถึงสายโซ่ที่พันธนาการแขนของเขากลับทำให้เกิดเสียงบาดหูขึ้นมาอีก
รัตติกรรู้ดีว่าตัวเองกำลังกลัว
แต่ความกลัวนี้ไม่ได้หมายความว่าเขากลายเป็นฝ่ายแพ้!!
ในเมื่อความกลัวนี้ทำให้อีกฝ่ายขาดซึ่งความระมัดระวังตัว ค่อยๆหลุดปากถึงเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมาทีละเล็กทีน้อย เขาก็จะฉวยโอกาสนี้เอาไว้เหมือนกัน
มันทำให้ตอนนี้รัตติกรก็ได้ข้อมูลมาอีกอย่าง ข้อมูลที่ช่วยให้เขามั่นใจได้ว่าฟงเจิ้นฮ่าวต้องมีคนที่อยู่เบื้องหลังอีกทีแน่นอน
รู้ไว้เลยว่าเลขาของเวสเปอร์คนนี้มันไม่ใช่ไอ้กระจอก!!!
___________________________________________
กลับ กลับมาแล้วววว =[]=!! (ได้รับแจกันที่ปาใส่หัวแล้วครับ แหะๆ)
หายไป อืม…เป็นเดือน
หนูขอโต้ดดดดดดดดด >/l\<
เอาตรงๆก็เพิ่งได้กลับบ้านครับ ตั้งแต่กลางเดือนเมษา เกิดเหตุชีพจรลงเท้า เลยได้ขึ้นรถลงเรือขึ้นเหนือล่องใต้ เพิ่งได้กลับมาเหยียบบ้านเอาจริงๆก็เมื่อวันที่15ที่ผ่านมานี่เอง
แล้วเมื่อวาน(หมายถึงวันที่19นะครับ)มหาลัยผมก็เริ่มรับน้องแล้วครับ (จะได้พักบ้างมั้ยเนี่ย ไอ้โย่เอ๊ย…)
สรุปคือ กว่าจะกลับมาว่างเป็นผู้เป็นคนเหมือนเดิมก็อาจจะถึงปลายเดือนนู่นเลยล่ะครับ เริ่มหวาดกลัวกับการใช้ชีวิตใหม่ในรั้วมหาลัยเล็กน้อย กลัวปรับตัวไม่ทัน แหะๆ ก็ไหลไปตามน้ำเอาล่ะเนอะ แบบช่วงนี้ผมคงจะกลายเป็นเด็กยิ้มง่าย ยิ้มหวานหว่านไปทั่วอะไรแบบนั้น = w = 55 หาเพื่อนครับหาเพื่อน~
(ปล.ว่าถ้าเค้าไม่กลัวผมน่ะนะครับ 555)
เอาเป็นว่า แม้จะเรื่อยๆ นานๆมาที แต่เค้าก็ไม่หายไปไหนน้า ขอบคุณมากๆที่ยังรอผมเสมอนะครับ :กอด1: :pig4: :pig4: :pig4:
เจอกันตอนหน้าครับผม
Namioto Yo
-
ตักตวงให้คุ้มค่า ชีวิตในมหาลัย
รอตอนต่อไป กำลังมันส์ อิตาเจ้าพ่อเริ่มจะรู้ใจตัวเองมั่งแล้วนะ
-
แบบว่า กำลังมันส์ :z2:
รอตอนต่อไปจ้า :กอด1:
-
มาแล้วววว ดูหลายทีนึกว่าตาฝาด :laugh:
ไปอ่านก่อนนน
-
ที่ว่าไม่กลัวน่ะ
คือยังไม่เจอของจริงละมั๊งนายฟงเจิ้นฮ่าว
บังอาจมาทำร้ายของสำคัญของดอน
รอดยาก :try2:
-
รัตติกรก็ยังไม่ทิ้งลายเสือ อิอิ
ฟงเจิ้นฮ่าวอีกไม่นานก็คงได้ลงนรกแล้วล่ะ ลาเฟียร์เก็บนายแหงๆ o18
-
รอจ้า :กอด1:
-
รอตอนต่อไป
-
TwT รอตั้งนาานน ก็ต้อง รอต่อไป
-
มาแล้ววว มาแล้ววว มาแล้ววววววว
o18 # ถ้าคราวหน้ามาช้าอีกจัเอามีดจิ้มพุง.... ล้อเล่นฮับ 555
ในที่สุดเจ้าพ่อก็เริ่มรู้ใจตัวเอง วี้ดวิ้ววววว~
รอตอนต่อไปเน้อออ ถึงนานก็จะรอค้าบบบบ :z2:
-
เย้!! คนแต่งกลับมาแล้ว!!! :z2: :z2:
กลับมาแล้วก็รีบๆลงต่อร็วๆนะคะ o13 o13 o13
ค้ารออ่านน้าาา
ปล. รักรัตติกรอ่ะ :-[ :-[
-
จุดพลุฉลองแก่การกลับมาของคนเขียน เย้ :mc4:
เพราะในที่สุดการรอคอยก็จบลงซะที
-
กลับมาแล้วก็อย่าหายไปอีกนะจ๊ะ
ไม่งั้น o18
-
ไอ้พวกแก๊งค์นี้เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับของรักของหวงของมาเฟีย ไม่ได้ตายดีแน่แกร ฮึ่มมมม :fire:
นายเอกของเราแม้อยู่ในภาวะขับขันแต่ก็อย่างเท่ห์อ่ะ ไม่มีหวาดกลัว เก็บข้อมูลได้อีกตะหาก
แต่อีตาคนที่จับมาน่ากลัวจริง ๆ นะ พระเอกเรามาช่วยให้ไวค่ะ
ขอบคุณค่ะ
-
:mc4:ยินดีด้วยนะนิศิตใหม่ :mc4: :mc4:
แล้วจะรอตอนต่อไปนะ :bye2: :bye2:
-
เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
o13 o13 o13
-
ขอให้ที่รักมาช่วยทันทีเถอะ
-
โดนจับเป็นตัวประกันไม่พอนะ เจอคนร้ายเป็นพวกจิตๆอีกต่างหาก o21
-
:กอด1: หูยยยย ลูน่าจะไปล้วงความลับเค้าอีก อะไรจะป่านนั้น
-
+ :pig4: :pig4: :pig4:
-
อะไรอ่ะคนแต่ง กลับมาก็ลูน่าโดนจับมาเลยอ่ะ ขอให้ดอนตามมาถล่มตาคนจีนนี้เร็วบังอาจทำลูน่าเลือดออก
-
กลับมาเเล้วเย้ๆ :m4:
พ่อพระเอกของเราเมื่อไหร่จะมาน้า
-
ลูน่าสุดยอดค่าาาา
โดนจับไปยังทำงานได้
ลาเฟียร์กริ้วโกรธอย่างแวร๊ง
มาช่วยให้ทันนะตัววววว
-
ไหดองแตกแล้ว :o8: :o8:
รอตอนต่อไปงับ :กอด1: :กอด1: คิดถึงลูน่า สู้ๆๆ
-
ลูน่าแย่แล้วววววววววววว :z3:
-
สั้นจังเลยอ่ะ แต่ก็คุ้มกับที่รอคอย
ลูน่าได้ฤกษ์โชว์ฝีมือแล้ว...หวังว่าลาเฟียร์จะมาช่วยทันละกัน
-
วู้ววว ลูน่าจะทำอะไรต่อไป เราอยากรู้ๆๆๆ
เราจะรอดูต่อ
พึบๆๆ ปูเสื่อนอนรอแล้วจ้าาา
-
ลาเฟียร์รีบมาด่วนก่อนที่ น้องจิ้นของรัตติกรจะถูกขโมยโดนไอ้หน้าหอกนั่น :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
-
ยังรออยู่เสมอ เอาใจช่วยลูน่าและคนเขียนจ้า
ขอให้สนุกกับชีวิตในรั้วมหา'ลัยนะจ๊ะ :กอด1:
-
ดอนรีบตามมาช่วยหนูลูน่าน่ะ
:pig4: :call:
-
ชอบคาแรคเตอร์ ของลูน่าาจัง o13 o13
รักคนเขียนจางง~ :-[ :L1: :L2: :L2: :กอด1:
-
อั้ยย้าา ลาเฟียร์นี่หวงของจริง... ไม่ใช่ว่าหลงไปแล้วรึ? *หลงตั้งแต่แรกละ*
ชอบตอนนี้มากกกกกก แต่จะชอบมากกว่านี้คงจะดีถ้ามันคือ ลองเกอร์ ฮ่าๆ
คุ้มค่ารอคอย... อยากอ่านตอนต่อไป...
แต่ก็เข้าใจว่ามีงานที่มหาลัยด้วย รับน้องด้วย คุณรุ่นพี่งานหนักเลยทีนี้!
ยังไงก็สู้ๆนะ :) จะมารอเรื่อย ฮ่าๆ *อัพแบบไม่รู้ตัว*
รัตติกรที่รัก ฉลาดเหมือนเดิม กรี๊ด!!!! (?) คึคึ
ปล. ชอบเรื่องนี้จริงๆนะ >O< ถูกใจอะ! สนุกมวกกกกกกกกกกกกกก :) o13
-
ง่า ลุ้นหนูลูน่าจะสะบักสะบอมแค่ไหนหว่า
-
สู้ๆค่า เข้าใจชีวิตเด็กมหาลัย :jul3:
แต่อย่าปล่อยให้คอยนานมากน่า คิดถึง อิอิ :กอด1: :กอด1:
ลูน่าใจเด็ดจังเลย เจ้าพ่อของเราจะมาช่วยตอนไหนเนี่ย เร็วๆน้า เดียวลูน่าจะมีแผลมากไปกว่านี้
ฟงเจิ้นฮ่าวนี่น่าถีบจริง โรคจิตมากกก :z6: :z6:
จะรอตอนต่อไปนะคะ สู้ๆคะ
-
มารอดูกันว่า สุดท้ายใครจะพิชิตใคร ระหว่างผู้คิดจะเป็นใหญ่กับเลขาคนเก่ง
+1 ให้เป็นกำลังใจกับเฟรชชี่ :z2:
-
กำลังสนุกเลยบู่ๆ
:o10:
น้องโยหายไปนานๆพี่ก็ไม่ว่า
แต่อย่าลืมคนอ่านตาดำๆนะจ้ะ
ใช้ชีวิตนักศึกษาใหม่ให้มีความสุขจ้า
:bye2:
-
ลูน่า่่สุดยอด ขนาดโดนจับยังทำงานอยู่เลย
-
ลาร์เฟียร์รีบไปช่วยลูน่าเร็วๆเซ่ :serius2:
แล้วก็จัดการทำลายแก๊งมันซ้าาา :3125:
-
เรปที่แล้วบ่นอะไรไป _ _''
มารอ :)
-
รีบมาด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :sad4: :z3: :seng2ped: :serius2: :m16: :m31:
-
โอ้ยยยยชอบอ่าาาาา
รีบมาต่อเร็วๆนะค่ะ
-
ปูเสื่อนอนรอด้วยคนฮะ :t3: :t3:
-
*ตั้งโต๊ะ* ชวนกินข้าวครับ55555555
ยังคงรอทุกวันนะคร้าบบบบ ::))
มาเยี่ยมบ่อยๆ ฮ่าๆ
-
ปูเสื่อรอๆๆๆ :3123:
-
มารอต่อ O_o ' '
: )
-
อิฟงอย่างได้คิดจะทำอะไรกับหนูลูน่าเด็ดขาด
ไม่งั้นแกตาย :fire: :fire:
-
แทบจะกรี๊ดลั่นบ้านที่มาต่อค่า Y___Y
ยังไงก็รอนะคะ~
-
เพิ่งเจอเรื่องนี้
อ่านแล้วแบบว่า ฉ้านไปอยู่ที่ไหนม้าาาาา :z3: :z3: :z3:
:a6::a6:
มาต่อเร็วๆๆนะค้าาา :L2:
-
รีบๆมาต่อนะ รอตอนต่อไปนะ :z2: :z2:
-
^_^ เสือยังไงก็เป็นเสืออยู่วันยังค่ำ ถึงแม้จะถูกจับใส่กรงอยู่ก็ตาม
-
แวะมาให้กำลังใจคนเขียน :กอด1: :กอด1:
-
โว้ๆ ในที่สุดก็กลับมาต่อ :)) รัตติกรจะรอดไหมเนี่ย ลาเฟียร์มาช่วยเร็วๆเน้อ
-
มาส่งความสุข (?) 555555555
คิดถึงนะฮร๊า
-
วันที่ 4แล้ววววววววววว
-
อ่าาาา พึ่งจะเข้ามาอ่านเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ยอมรับเลยว่าติดซะแระ เนื้อที่ลุ้นได้ตลอด มีการวางแผนอยู่ตลอดเวลา เป็นแนวที่อ่านแล้ว ชอบมาก
-
ค้างมากค่ะ
มาต่อด้วยเด้อ T3T
-
ไม่ได้มาหาเกือบ10วัน!
อั้ยย้า คิดถึงงงงงงงงง ;)
-
มาต่อไวๆนะคะ T T ค้างมากๆเลยค่ะ
-
จะเดือนนึงเล้!!!
ถ้าติดงานสู้ๆ
ติดเรียนก็สู้ๆ
หายไปได้ถ้ากลับมา แต่ถ้ายไม่กลับแจ้งข่าวสักนิด :กอด1:
รอรอรอ :)
-
จะครบเดือนละ แสดงว่าใกล้มาแล้วใช่ไหมเนี่ย o18
รอค่ะ จะรอต่อไป >,,< ตั้งใจเรียนนะคะ
ช่วงนี้น่าจะรับน้องหนักหน่อย :L2: สู้ๆค่ะ
-
ฝากตัวเป็นสมาชิกใหม่ของเรื่องนี้ด้วยคนนะฮะ^^
-
ฮือออออออออ นานมากแล้ววววววววว คิดถึงแล้วน้าาาา TT
*คร่ำครวญ*
-
ฉันคิดถึงเธอคนดี~
-
จะสองเดือนแล้วววววววววว ไม่ได้มาซะนานนนนนน
เมื่อไหร่หนอที่เธอจะกลับมา?
-
ลาร์เฟียสอย่างโหดนะนั่น ฟงอะไรนั่นก็ช่างกล้าจริง ๆ ลูน่าฉลาดมาก ๆ เลยนะนั่น
-
มองอยู่ตั้งหลายทีนึกว่าตาฝาด มองไปนานๆ ตอนที่17อ้ะ!!! กรี๊ดลั่นบ้าน><
ชอบเรื่องนี้มากๆเลย รอจนจะถอดใจ(แต่ก็ยังเข้ามาดู 5555555)
เห็นอัพอีกเรื่องแต่ไม่อัพเรื่องนี้คิดว่าจะทิ้งซะแล้ว :(
เป็นกำลังใจให้นะคะ ปี1 กิจกรรมหนัก ว่างๆยังไงก็อัพนะนะ กำลังค้างเลย 5555555
ติดตามเสมอเย้ อ่านเรื่องนี้แล้วลุ้นดี แต่งได้ลื่นไหลมากๆเลยค่ะ สู้ๆน้า
-
ยังรอเธอเสมอมา :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
-
มาต่อบ่อยๆนะ กำลังสนุกเลย
ลูน่าจะรอดไปได้ยังไง ดอนช่วยด่วน
-
มารอนานแล้วนะคะไปไหนเอ่ย ไม่มาต่อเดี๋ยวเค้าร้องไห้คิดถึงลูน่าน้า :m15:
-
จะสองเดือนเต็มแล้วววว
หายไปไหนนน~
-
รอตอนต่อไป
-
น้องโย่นานๆโผล่มาที ไม่เป็นไรค่ะ ชีวิตปี 1 ก็งี้แหละ 5555
เดี๋ยวว่างๆพี่พาไปเลี้ยงข้าว(เกี่ยวกัน???) :-[
โผล่มาทักทายบ้างพี่ๆก็ดีใจละคะ แต่ถ้าเอาลูน่ามาฝากจะเลเวลอัพความดีใจเพิ่มขึ้น :กอด1:
-
วันที่26นี้มาแน่ครับ (สอบพรุ่งนี้วันสุดท้ายแอ้ววว จะหลุดพ้นแม้วโฮ้ยยยย o7 o7 o7 o7)
ขอบคุณที่ยังรอกันมาจนถึงตอนนี้นะฮะ :monkeysad: :กอด1: :กอด1: :pig4:
มีข่าวดี(มั้งครับ? :o8:)จะมาแจ้งด้วยน้า~
แล้วเจอกันนะครับ คิดถึงเสมอน้า :impress2:
Namioto Yo
ปล.เห็นพี่ๆแวะมาหาบ่อยๆ ขอโทษที่ลงช้าจริงๆนะครับ ขอบคุณที่ยังคอยมาบอกว่ายังรอผมอยู่เสมอนะฮะ~ :L1: :L2: :L2:
-
ขอให้โชคดีในการสอบคะ ^^
ช อบเนื่องนี้มากกกก เลย
หลังจากที่ซุ่มอ่านมานานนนนนน
แล้วมาไวๆนะคะ
รอออยู่ ><
-
นานเกินไปแล้วน๊าาาาาาาาาาาาาาา
เค้ารออ่านอยู่นะ ตัวเอง
-
ปูเสื่อรอ
(ไม่ได้เข้ามาอ่านบ่อยนานๆทีเขินจัง :o11:)
-
อ้ากกก ปั่นติดไฟฟฟจะทันมั้ย ทันวันที่ 26 มั้ย อ้าาาากก (ควันลอยออกจากหู ฟู่ววว)
-
มารอ :z2:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.18 50%
“บอกจุดอ่อนของเวสเปอร์แฟมมิลี่มาซะ”
…ประโยค…ที่บอกความต้องการทั้งหมดของฟงเจิ้นฮ่าว
“ร่วมมือกับผม ว่าง่ายๆ แล้วผมจะขอให้คนคนนั้นปราณีคุณ”
…อีกประโยค…ที่บอกให้รู้ว่าคนคนนั้นคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังและมีอำนาจมากที่สุดที่แท้จริง…
เขาใช้เวลาไปเท่าไหร่กันนะถึงได้ประโยคที่ต้องการเหล่านี้?
“คงรู้ว่าผมชอบใช้ความรุนแรงสินะครับ? ไม่ขัดข้องหรอกนะที่จะใช้มันกับคุณด้วย นั่นคือสิ่งที่ผมรอคอยเลยล่ะ”
คงจะเริ่มต้นที่ประโยคนี้สินะ?
.
.
.
.
แส้ม้าทำจากหนังชั้นดีตวัดฟาดเข้าซ้ำที่แผ่นหลังขาวสล้างซึ่งประดับประดาไปด้วยรอยแผลเก่าใหม่ละลานตา สีแดงช้ำตัดกับสีขาวซีดเซียวดูเด่นสะดุดตาจนทำให้ฟงเจิ้นฮ่าวที่เป็นผู้ลงแส้แทบจะสำลักความสุขตายเอาเสียตรงนั้น
หนุ่มชาวจีนมองรัตติกรที่ขบฟันลงกับริมฝีปากล่างเพื่อข่มเสียงร้องครวญครางของตนเอง หารู้ไม่เลยว่าท่าทางของผู้ที่ไม่ยอมศิโรราบเช่นนี้คือสิ่งที่เขาโปรดปรานมากที่สุด!
“เค้น...ให้ตาย อึก! ก็อย่าหวัง....ว่าจะได้อะไรไปจากผม เพราะ...แค่ก! ...เพราะสุดท้าย แกหรือไม่ก็คนข้างหลังแก ก็จะฆ่าผมทิ้งอยู่ดี...ไม่ใช่รึไง!?”น้ำเสียงหอบพร่าทว่ายังน้ำคำยังหาเรื่องใส่ตัวไม่เปลี่ยน ฟงเจิ้นฮ่าวยิ้มเหี้ยมทั้งๆที่ขัดใจกับเจ้าคนตรงหน้าที่มันดื้อเหลือแสน แต่ก็นั่นแหละ
ยิ่งได้มายาก ยามที่กลายเป็นผู้ครอบครอง ความสุขมันก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น!
“ไม่แน่หรอกครับถ้าคุณจะทำตัวเป็นเด็กดีว่าง่ายกว่านี้หน่อย บอกตรงๆนะว่าฆ่าคุณทิ้งน่ะ ใครๆเขาก็รู้ว่ามันเสียของ ไม่รู้ค่าของตัวเองเลยหรือไงครับ?”ว่าไปพลาง ปลายด้ามแส้ม้าก็กดไล้ไปตามรอยแผล หยดเลือดสีเข้มไหลตามแท่งไม้ลงมาสัมผัสกับมือของผู้ถือ ก่อให้เกิดกลิ่นคาวจางๆที่เร่งให้รอยยิ้มสมใจของชายผู้ทรยศให้กว้างขึ้นจนรัตติกรเผลอสะท้านเฮือก
นับเวลาตั้งแต่ที่ฟงเจิ้นฮ่าวลักพาตัวรัตติกรมา ตอนนี้ก็ล่วงเข้าวันใหม่เข้าไปแล้ว การทรมานเพื่อเค้นหาความลับที่คนคนนั้นต้องการเริ่มต้นขึ้นในชั่วโมงที่สามหลังจากการเจรจาไถ่ถามแต่โดยดีไม่เป็นผล เลขาของเวสเปอร์แฟมมิลี่คนนี้หัวดื้อและปากแข็งเกินกว่าเหยื่อคนไหนๆที่เขาเคยเจอ หลังจากที่เจิ้นฮ่าวเปลี่ยนไปใช้วิธีรุนแรงในการสอบถาม เสียงที่หลุดพ้นออกมาจากลำคอระหงอันงดงามก็มีแค่เพียงเสียงครางเบาๆเท่านั้น ไร้ซึ่งคำตอบหรือคำต่อว่า สิ่งที่รับกลับมามีเพียงดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ยังคงฉายประกายวาววับของผู้เหนือกว่าอยู่เช่นเคย
แต่ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นกำลังอ่อนแสงลง ความหวาดกลัวที่เจ้าตัวเพียรจะข่มไว้กลับดึงดันที่จะเข้าควบคุบสำนึกทั้งหมดที่มี มันส่งผลให้ร่างกายของเขาสั่นระริก แย่งชิงเสียงจริงๆของเขาไปจนมันสั่นพร่า พิษบาดแผลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงริดรอนกำลังกายและทลายความอดทนของหนุ่มชาวไทยลงไปช้าๆ
“อย่าดื้อไปมากกว่านี้จะดีกว่านะครับ บอกผมมาดีกว่าว่าจุดอ่อนของเวสเปอร์คืออะไร เล่นกับคุณแบบนี้ผมก็สนุกดีอยู่หรอกนะ แต่ถ้าปล่อยให่มันผ่านไปนานกว่านี้อีกล่ะก็ คนคนนั้นเค้าจะเปลี่ยนใจเอาได้น่ะสิ อย่าให้ผมหมดความอดทนจนเผลอเล่นสนุกแล้วฆ่าคุณตายดีกว่านะครับ ผมออกจะเสียดายมากๆเลยนะ”
เสียงพูดของฟงเจิ้นฮ่าวที่ผ่านเข้ามาในหูรัตติกรเบาแสนเบาจนเขาแทบจับใจความสำคัญไม่ได้ แต่ยังไงก็คงไม่พ้นเรื่องเดิมๆที่เจ้าตัวขอให้เขาบอกออกมาสักทีนั่นแหละ หนุ่มชาวไทยเงยหน้าขึ้นช้าๆ รอยบาดจากคมมีดที่เจิ้นฮ่าวเลือกมาเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ทรมานประปรายอยู่ตามใบหน้าของเขา มันเป็นเพียงรอยเล็กๆที่กรีดไม่ลึก แค่เจ็บแสบแบบคันๆและเรียกเลือดของเขาออกไปนิดหน่อยเท่านั้น เมื่อใช้ไปแล้วไม่ได้ผล เจิ้นฮ่าวที่รู้สึกเสียดายใบหน้าของรัตติกรจึงเปลี่ยนไปหาของเล่นชิ้นอื่นแทน
ต่อจากมีด เหมือนจะเป็นสนับมือ...รึเปล่านะ?
“หาไปให้เขาไม่ทัน ของที่หวังไว้จะหายไปสินะ? หึ…หึหึ”แรงจะพูดแทบจะสลายหายไปหมด เสียงของรัตติกรที่ตอบกลับไปจึงทั้งแผ่วเบาและแหบพร่า แต่แค่นั้นก็เพียงพอให้ผู้ถือแส้ที่พยายามใจเย็นอยู่ยกมือขึ้นอีกครั้ง แส้ม้าชั้นดีโบกฟาดเข้าที่แผ่นหลังขาวเนียนเต็มแรง เลือดสีสดสาดกระเซ็นลงมาประดับพื้นคล้ายกับกลีบดอกไม้สีสดที่ปลิดร่วงลงมาจากต้นทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาร่วงโรย
ดูเหมือนความอนทนของรัตติกรจะมาสิ้นสุดที่ตรงนั้น ความเจ็บปวดกระชากสติที่เหลืออยู่ทั้งหมดของหนุ่มชาวไทยลงสู่ความมืดมิด ทิ้งให้ร่างกายซึ่งรับบาดแผลสาหัสมายาวนานทิ่งตัวลงสงบนิ่งดั่งหุ่นชักที่ถูกตัดป่านจนขาดสะบั้น
ฟงเจิ้นฮ่าวหอบแฮ่ก มองดูคนตรงหน้าที่สลบไปในที่สุด เสื้อเชิ้ตสีขาวที่อีกฝ่ายใส่มากลายเป็นผ้าขี้ริ้วเปื้อดเลือดกองอยู่ตรงพื้นใต้ร่างของผู้เป็นเจ้าของ เผยผิวขาวซีดอย่างคนที่ไม่ออกแดด ซึ่งตอนนี้เจิ้นฮ่าวช่วยตกแต่งมันด้วยรอยแผลต่างๆนานาจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ทั้งเนื้อทั้งตัวของหนุ่มชาวไทยเหลือเพียงกางเกงขายาวสีดำปกปิดร่างเอาไว้เท่านั้น
สวยงาม…เหนือกว่าที่คาดคิดไว้โขเลยทีเดียว
เสียงประตูเหล็กลั่นครืดคราดดังมาจากประตูห้องขังเหนือบันไดหินเก่าแก่ คนสนิทของฟงเจิ้นฮ่าวก้าวเข้ามาเพื่อเตือนนายของตนว่าถึงเวลาต้องออกไปรับประทานอาหารเย็นได้แล้ว หนุ่มชาวจีนที่สนุกกับการทรมานนักโทษของตนเองจึงถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้ โชคดีไปที่ตอนนี้รัตติกรหมดสติอยู่ เพราะการเล่นกับเหยื่อที่ไม่มีการตอบสนองใดๆนั้นน่าเบื่อสิ้นดี
อีกอย่างถ้าโชคดี คนคนนั้นอาจจะยอมออกจากห้องมาร่วมรับประทานอาหารกับเขาก็ได้…
“เอาน้ำเกลือเย็นๆไปสาดจนกว่ามันจะตื่นขึ้นมาร้องครวญครางให้พวกแกฟัง ฉันต้องเห็นมันอยู่ในสภาพที่แย่ที่สุดตอนที่ฉันกลับมาอีกครั้ง ไม่งั้นคนที่ต้องทรมานกว่ามันก็คือพวกแกเอง!”
ว่าจบฟงเจิ้นฮ่าวจึงวางมือ เขาส่งแส้ให้ลูกน้องอีกคนที่รออยู่ในห้องให้เอาไปทำความสะอาด ทอดตามองร่างขาวสล้างที่มีสภาพไม่ต่างไปจากนกปีกหักเป็นการส่งท้ายแล้วก็ได้แต่ยิ้มกริ่มอยู่ในใจ สุดท้ายแล้วเขาก็ก้าวออกจากห้องไปโดยมีคนสนิทเป็นผู้ปิดประตูตามหลัง
โดยไม่ทันได้สังเกตเหยื่อคนนี้ดีๆอีกครั้ง ว่าดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆนั้นกำลังฉายประกายบางอย่างที่น่าหวาดหวั่น…
เสียงกรีดร้องของอดีตเริ่มดังแว่วขึ้นมาในหัวของรัตติกรอีกครั้ง!
______________________________________
ยังไม่จบนะครับ แต่คอมผมค้างสุดๆอ่ะ เดี๋ยวทยอยๆลงนะครับ ขอพิมพ์ส่วนที่เหลืออีกนิดนึง :z3: :z3: :z3: ขอโทษน้าาา
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาลงต่อนะครับ ตอนนี้ขอไปนอนก่อน ตีสามอาเมน~
(ตั้งแต่เปิดเรียนมหาลัย ไม่เคยได้นอนเร็วกว่าตีสองเลยง่ะ
หมีแพนด้าก็หมีแพนด้าเถอะครับ มาเจอโยแพนด้าตอนนี้ก็สู้ไม่ได้อ่ะ ว่าแล้วก็ลาไปนอน เจอกันคร้าบ)
ืNamioto Yo
-
:mc4: มาแล้ว มาแล้ว
รออ่านต่อ :bye2:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:pig4:
ลูน่า
-
การทรมานยังไม่ทันสิ้นสุด เพียงพักยก ว่าแต่ยกต่อไป จะมีใครมาร่วมแจมไหมนะ
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ โยแพนด้า :z2:
-
อ้ายยย มาแล้วว :L2:
:pig4:
-
รอๆๆๆจ้า :bye2:
-
โหดร้าย! คนเขียนซาดิสม์ ชิชิ
-
:m31: :m31:
อ๊ากกกกก บังอาจจจจ
รัตติกรลูกแม่ กรี๊ด
:กอด1: กอดทีนึงคนเขียนกลับมาแล้ว
-
รอค้า รอๆๆๆ :laugh:
-
ประโยคสุดท้ายเหมือนลูน่าจะกลายพันธุ์ :laugh:
รอส่วนที่เหลือจ้า
-
รอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอ ตอนต่อไป :z3:
-
รอต่อไป............... :z13:
-
โหดดดดดด :z3:
-
]ลูน่า จะกลายเป็นนักล่าเองรึเปล่า? (แบบคนอ่านอยากให้เป็นอ้ะ เพราะสงสารเหลือเกิน) กว่าดอนจะมาลูน่าเค้าช้ำยับเยิน :sad4:
-
ในที่สุดก็ได้อ่านเเล้วว คิดถึงลูน่า :-[
-
รอตอนต่อไป ค่ะ o13 o13
-
เหอะๆ จะทรมานกันอีกหลายตอนปะค้า รออ่านตอนทรมานเสร็จแล้ว 5555 ไม่ค่อยจะซาดิสม์เท่าไหร่
-
นายเอกเรากำลังจะองค์ลง!
-
คิดว่าหายไปแล้ว :impress3:
-
เย้ :m11:มาแล้ว
รอนะสู้ๆคร้า :impress2:
-
รอมานานในที่สุดก็มีซะที TT
-
รอต่อไป มาต่อกี่ครั้งก็ยังสนุกสุดๆ >< ชอบอ่า ลุ้นๆ
-
อ๊ายยยยยยยยย ตาไม่ฝาดมาลงตอนใหม่แล้วจริงๆด้วย สงสารลูน่าจังแต่ลูน่าไม่ได้อ่านหนังสือไม่ได้ไม่ใช่เหรอ นี่มันก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว จะเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย :z3:
-
SM!!!!!!!!!
-
รออยู่น้าา ^^
-
คิดถึงโคตรๆ :pig4:
-
แงๆๆ เดี๋ยวเจอดีแน่ :z6: :z6:
-
ดอนรีบมาช่วยลูน่าซะทีสิมัวทำอะไรอยู่
-
สนุกมากกกกกกกกกกกก
ภาษาสวยแล้วดูเป็นแนวที่แหวกไปอีกทางนึงดี
แบบมีจุดพลิกเยอะจนต้องนั่งกด F5 บ่อยๆ ว่าอัพหรือยัง
รอต่อค่ะ :D
-
ฟงอะไรนั่นร้ายน่าดูเลยนะเนี่ย
-
โอ๊ะโอ๋ นางเอกเราเข้าสไตล์นางพญาแล้วนา
-
อร้ายยยย ลาเฟียร์มาช่วยลูน่าเร็วๆน้าาาา :m15: :m15:
อย่าลืมมาต่อไวๆนะคะ รอมานานแล้วอ่าาา :call: :call:
-
งื้ออ เจ๊บปวดมากอ่ะค่ะ // ร่ำไห้ :o12:
-
อยากกรี๊ดอะ >..<
มาต่อแล้วคิดถึงจังเลยยยยยยยยย -..-
มากอดทีนึง (ฮึ?) ติดสอบนี่เองงง ทำได้ไหมมม?
ลูน่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!
เจ็บจี๊ดจ๊าด รู้สึกกดดันเล็กๆ.. อยากอ่านตอนต่อไปป
ตอนสุดท้ายนี่ทิ้งปมอดีตนะ รอเลยยยย
อย่าหายไปนานนะคราวนี้ ให้เวลาพิมพ์ได้ แต่ไม่ให้หายไปนะ
เดี๋ยวคิดถึง ฮิฮิ *:)*
รักนะจู๊บบบบบบบบ♥ :กอด1:
-
:mc4: :mc4: :mc4: เย้ๆๆ ในที่สุดก็มาซักที
แต่ก็ :z3: :z3: :z3: มีป่มอีกแล้ว
มาต่อไว้ๆๆนะงับ รอติดตามอยู่ :z3: :z3:
-
อ๊ากกกกกกก อ่านแล้วบีบคั้นหัวจิตหัวใจ :o12:
-
:z3: :z3:เมื่อไหร ลาร์เฟียร์ ไปมาช่วยสักที :m31:โธ่ ลูน่า ที่รัก โดนทรมานชะหนักเชี่ยว :monkeysad:
-
เมื่อไรท่านดอนจะมาช่วยลูน่าซักที ลูน่าน่าสงสาร
แต่สายตาของลูน่าที่เปลี่ยนไป มันคืออะไร ความลับของลูน่าจะเปิดเผยบ้างแล้วสินะ
-
นายเอกจะแปลงร่างเป็นอะไรแ้ล้วรึเปล่า 555+ ลุ้นอยู่!!!
-
กรี๊ดดดดดดด ลูน่า มาแว้วววววววว
-
โอยๆ รอมานานแล้วเรื่องนี้ ><!!
-
คนอ่านซาดิมส์เช่นกันเจ้าฮะ อดทนลงแดงรอมาเนิ่นนาน
ในที่สุดก็เห็นหนูรัต เสือน้อยหน้าสวยจอมพยศ //ละลาย
-
ในที่สุดก็มาต่อแล้วค่า
ยังรออยุ่เสมอนะคะ
^^
-
มาแล้วๆ
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.18
“บอกจุดอ่อนของเวสเปอร์แฟมมิลี่มาซะ”
…ประโยค…ที่บอกความต้องการทั้งหมดของฟงเจิ้นฮ่าว
“ร่วมมือกับผม ว่าง่ายๆ แล้วผมจะขอให้คนคนนั้นปราณีคุณ”
…อีกประโยค…ที่บอกให้รู้ว่าคนคนนั้นคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังและมีอำนาจมากที่สุดที่แท้จริง…
เขาใช้เวลาไปเท่าไหร่กันนะถึงได้ประโยคที่ต้องการเหล่านี้?
“คงรู้ว่าผมชอบใช้ความรุนแรงสินะครับ? ไม่ขัดข้องหรอกนะที่จะใช้มันกับคุณด้วย นั่นคือสิ่งที่ผมรอคอยเลยล่ะ”
คงจะเริ่มต้นที่ประโยคนี้สินะ?
.
.
.
.
แส้ม้าทำจากหนังชั้นดีตวัดฟาดเข้าซ้ำที่แผ่นหลังขาวสล้างซึ่งประดับประดาไปด้วยรอยแผลเก่าใหม่ละลานตา สีแดงช้ำตัดกับสีขาวซีดเซียวดูเด่นสะดุดตาจนทำให้ฟงเจิ้นฮ่าวที่เป็นผู้ลงแส้แทบจะสำลักความสุขตายเอาเสียตรงนั้น
หนุ่มชาวจีนมองรัตติกรที่ขบฟันลงกับริมฝีปากล่างเพื่อข่มเสียงร้องครวญครางของตนเอง หารู้ไม่เลยว่าท่าทางของผู้ที่ไม่ยอมศิโรราบเช่นนี้คือสิ่งที่เขาโปรดปรานมากที่สุด!
“เค้น...ให้ตาย อึก! ก็อย่าหวัง....ว่าจะได้อะไรไปจากผม เพราะ...แค่ก! ...เพราะสุดท้าย แกหรือไม่ก็คนข้างหลังแก ก็จะฆ่าผมทิ้งอยู่ดี...ไม่ใช่รึไง!?”น้ำเสียงหอบพร่าทว่ายังน้ำคำยังหาเรื่องใส่ตัวไม่เปลี่ยน ฟงเจิ้นฮ่าวยิ้มเหี้ยมทั้งๆที่ขัดใจกับเจ้าคนตรงหน้าที่มันดื้อเหลือแสน แต่ก็นั่นแหละ
ยิ่งได้มายาก ยามที่กลายเป็นผู้ครอบครอง ความสุขมันก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น!
“ไม่แน่หรอกครับถ้าคุณจะทำตัวเป็นเด็กดีว่าง่ายกว่านี้หน่อย บอกตรงๆนะว่าฆ่าคุณทิ้งน่ะ ใครๆเขาก็รู้ว่ามันเสียของ ไม่รู้ค่าของตัวเองเลยหรือไงครับ?”ว่าไปพลาง ปลายด้ามแส้ม้าก็กดไล้ไปตามรอยแผล หยดเลือดสีเข้มไหลตามแท่งไม้ลงมาสัมผัสกับมือของผู้ถือ ก่อให้เกิดกลิ่นคาวจางๆที่เร่งให้รอยยิ้มสมใจของชายผู้ทรยศให้กว้างขึ้นจนรัตติกรเผลอสะท้านเฮือก
นับเวลาตั้งแต่ที่ฟงเจิ้นฮ่าวลักพาตัวรัตติกรมา ตอนนี้ก็ล่วงเข้าวันใหม่เข้าไปแล้ว การทรมานเพื่อเค้นหาความลับที่คนคนนั้นต้องการเริ่มต้นขึ้นในชั่วโมงที่สามหลังจากการเจรจาไถ่ถามแต่โดยดีไม่เป็นผล เลขาของเวสเปอร์แฟมมิลี่คนนี้หัวดื้อและปากแข็งเกินกว่าเหยื่อคนไหนๆที่เขาเคยเจอ หลังจากที่เจิ้นฮ่าวเปลี่ยนไปใช้วิธีรุนแรงในการสอบถาม เสียงที่หลุดพ้นออกมาจากลำคอระหงอันงดงามก็มีแค่เพียงเสียงครางเบาๆเท่านั้น ไร้ซึ่งคำตอบหรือคำต่อว่า สิ่งที่รับกลับมามีเพียงดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ยังคงฉายประกายวาววับของผู้เหนือกว่าอยู่เช่นเคย
แต่ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นกำลังอ่อนแสงลง ความหวาดกลัวที่เจ้าตัวเพียรจะข่มไว้กลับดึงดันที่จะเข้าควบคุบสำนึกทั้งหมดที่มี มันส่งผลให้ร่างกายของเขาสั่นระริก แย่งชิงเสียงจริงๆของเขาไปจนมันสั่นพร่า พิษบาดแผลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงริดรอนกำลังกายและทลายความอดทนของหนุ่มชาวไทยลงไปช้าๆ
“อย่าดื้อไปมากกว่านี้จะดีกว่านะครับ บอกผมมาดีกว่าว่าจุดอ่อนของเวสเปอร์คืออะไร เล่นกับคุณแบบนี้ผมก็สนุกดีอยู่หรอกนะ แต่ถ้าปล่อยให่มันผ่านไปนานกว่านี้อีกล่ะก็ คนคนนั้นเค้าจะเปลี่ยนใจเอาได้น่ะสิ อย่าให้ผมหมดความอดทนจนเผลอเล่นสนุกแล้วฆ่าคุณตายดีกว่านะครับ ผมออกจะเสียดายมากๆเลยนะ”
เสียงพูดของฟงเจิ้นฮ่าวที่ผ่านเข้ามาในหูรัตติกรเบาแสนเบาจนเขาแทบจับใจความสำคัญไม่ได้ แต่ยังไงก็คงไม่พ้นเรื่องเดิมๆที่เจ้าตัวขอให้เขาบอกออกมาสักทีนั่นแหละ หนุ่มชาวไทยเงยหน้าขึ้นช้าๆ รอยบาดจากคมมีดที่เจิ้นฮ่าวเลือกมาเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ทรมานประปรายอยู่ตามใบหน้าของเขา มันเป็นเพียงรอยเล็กๆที่กรีดไม่ลึก แค่เจ็บแสบแบบคันๆและเรียกเลือดของเขาออกไปนิดหน่อยเท่านั้น เมื่อใช้ไปแล้วไม่ได้ผล เจิ้นฮ่าวที่รู้สึกเสียดายใบหน้าของรัตติกรจึงเปลี่ยนไปหาของเล่นชิ้นอื่นแทน
ต่อจากมีด เหมือนจะเป็นสนับมือ...รึเปล่านะ?
“หาไปให้เขาไม่ทัน ของที่หวังไว้จะหายไปสินะ? หึ…หึหึ”แรงจะพูดแทบจะสลายหายไปหมด เสียงของรัตติกรที่ตอบกลับไปจึงทั้งแผ่วเบาและแหบพร่า แต่แค่นั้นก็เพียงพอให้ผู้ถือแส้ที่พยายามใจเย็นอยู่ยกมือขึ้นอีกครั้ง แส้ม้าชั้นดีโบกฟาดเข้าที่แผ่นหลังขาวเนียนเต็มแรง เลือดสีสดสาดกระเซ็นลงมาประดับพื้นคล้ายกับกลีบดอกไม้สีสดที่ปลิดร่วงลงมาจากต้นทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาร่วงโรย
ดูเหมือนความอนทนของรัตติกรจะมาสิ้นสุดที่ตรงนั้น ความเจ็บปวดกระชากสติที่เหลืออยู่ทั้งหมดของหนุ่มชาวไทยลงสู่ความมืดมิด ทิ้งให้ร่างกายซึ่งรับบาดแผลสาหัสมายาวนานทิ่งตัวลงสงบนิ่งดั่งหุ่นชักที่ถูกตัดป่านจนขาดสะบั้น
ฟงเจิ้นฮ่าวหอบแฮ่ก มองดูคนตรงหน้าที่สลบไปในที่สุด เสื้อเชิ้ตสีขาวที่อีกฝ่ายใส่มากลายเป็นผ้าขี้ริ้วเปื้อดเลือดกองอยู่ตรงพื้นใต้ร่างของผู้เป็นเจ้าของ เผยผิวขาวซีดอย่างคนที่ไม่ออกแดด ซึ่งตอนนี้เจิ้นฮ่าวช่วยตกแต่งมันด้วยรอยแผลต่างๆนานาจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ทั้งเนื้อทั้งตัวของหนุ่มชาวไทยเหลือเพียงกางเกงขายาวสีดำปกปิดร่างเอาไว้เท่านั้น
สวยงาม…เหนือกว่าที่คาดคิดไว้โขเลยทีเดียว
เสียงประตูเหล็กลั่นครืดคราดดังมาจากประตูห้องขังเหนือบันไดหินเก่าแก่ คนสนิทของฟงเจิ้นฮ่าวก้าวเข้ามาเพื่อเตือนนายของตนว่าถึงเวลาต้องออกไปรับประทานอาหารเย็นได้แล้ว หนุ่มชาวจีนที่สนุกกับการทรมานนักโทษของตนเองจึงถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้ โชคดีไปที่ตอนนี้รัตติกรหมดสติอยู่ เพราะการเล่นกับเหยื่อที่ไม่มีการตอบสนองใดๆนั้นน่าเบื่อสิ้นดี
อีกอย่างถ้าโชคดี คนคนนั้นอาจจะยอมออกจากห้องมาร่วมรับประทานอาหารกับเขาก็ได้…
“เอาน้ำเกลือเย็นๆไปสาดจนกว่ามันจะตื่นขึ้นมาร้องครวญครางให้พวกแกฟัง ฉันต้องเห็นมันอยู่ในสภาพที่แย่ที่สุดตอนที่ฉันกลับมาอีกครั้ง ไม่งั้นคนที่ต้องทรมานกว่ามันก็คือพวกแกเอง!”
ว่าจบฟงเจิ้นฮ่าวจึงวางมือ เขาส่งแส้ให้ลูกน้องอีกคนที่รออยู่ในห้องให้เอาไปทำความสะอาด ทอดตามองร่างขาวสล้างที่มีสภาพไม่ต่างไปจากนกปีกหักเป็นการส่งท้ายแล้วก็ได้แต่ยิ้มกริ่มอยู่ในใจ สุดท้ายแล้วเขาก็ก้าวออกจากห้องไปโดยมีคนสนิทเป็นผู้ปิดประตูตามหลัง
โดยไม่ทันได้สังเกตเหยื่อคนนี้ดีๆอีกครั้ง ว่าดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆนั้นกำลังฉายประกายบางอย่างที่น่าหวาดหวั่น…
เสียงกรีดร้องของอดีตเริ่มดังแว่วขึ้นมาในหัวของรัตติกรอีกครั้ง!
______________________________________
ที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์ของตระกูลฟง เป็นเพียงคฤหาสน์เก่าแก่ของหนึ่งในแก๊งคู่อริของเจิ้นฮ่าวที่โดนจัดการจนไม่เหลือผู้สืบทอดคนใดอีก ทรัพย์สินของอีกฝ่ายมีมากมาย ส่วนใหญ่แล้วอยู่รูปอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดินเปล่า ตึกแถว ห้างสรรพสินคา บ่อนคาสิโน และคฤหาสน์เก่าๆอีกสองสามหลังซึ่งกระจัดกระจายกันอยู่ทั่วประเทศจีน
แม้ภายนอกจะดูเก่า แต่เพราะรสนิยมที่ชมชอบของที่หรูหราโอ่อ่าของเจ้าตระกูลฟง ภายในคฤหาสน์แห่งนี้จึงถูกเนรมิตให้สวยงามด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกฟุ้งเฟ้อครบครัน
ฟงเจิ้นฮ่าวก้าวตรงไปยังห้องอาหารด้วยสีหน้ากระเหี้ยนกระหือรืออย่างที่ปิดเอาไว้ไม่มิด หน้าประตูไม้บานใหญ่ที่อยู่สุดทางเดินปรากฏร่างของบอดี้การ์ดร่างเล็กซึ่งคอยยืนเฝ้าประตูเอาไว้อยู่ ชุดสูทสีดำนั้นดูข่มให้เจ้าของร่างดูคล้ายเด็กมัธยม หากแต่เมื่อใดที่เผลอประมาทไปล่ะก็ ร่างเล็กๆนั่นจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและปลิดชีวิตของเป้าหมายให้สิ้นชีพได้อย่างง่ายดาย
หนึ่งในบอดี้การ์ดที่ฝีมือดีที่สุดของฟงเจิ้นฮ่าว ซึ่งเขาส่งให้ไปคอยดูแลความปลอดภัยของคนคนนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นได้มาถึงที่ห้องอาหารแห่งนี้แล้วเรียบร้อย
เจิ่นฮ่าวพยักหน้าให้บอดี้การ์ดของเขาซึ่งค่อมตัวลงเคารพทันทีเมื่อเขาเดินผ่าน คนสนิทที่เดินตามมาอีกทอดเป็นฝ่ายก้าวเข้ามาเปิดประตูให้เจ้านาย ภาพภายในห้องอาหารจึงปรากฏให้หนุ่มชาวจีนเห็นอย่างเต็มตาในที่สุด
มันเริ่มจากกรอบหน้าต่างไม้ฉลุลายสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งส่งผ่านลมบางเบามาน้อยๆเพื่อให้ม่านสีทองปลิวไสว ห้องโถงทรงยาวถูกอาบไล้ไปด้วยสีแดงฉานของพระอาทิตย์ยามเย็น มันมืดสลัวแต่ก็แดงก่ำเพราะผู้ที่มาเยือนก่อนนั้นไม่ได้เปิดไฟ โคมไฟทรงดอกบัวบานที่อยู่เหนือเพดานจึงถูกปล่อยไว้เอาไว้โดยมิอาจได้ฉายแสงให้สมกับราคาค่างวดของมัน
โต๊ะไม้ซีดานเนื้อดีตั้งอยู่กลางห้องอาหารแห่งนี้ ชุดเก้าอี้ที่เข้าคู่กันก็ถูกจัดวางไว้เพียงแค่สามตัว ตัวแรกตั้งอยู่ท้ายโต๊ะฝั่งหนึ่งเพียงตัวเดียวโดดๆ ชุดจานชามวางไว้พร้อมแล้วหากแต่ยังมีไม่การเสิร์ฟอาหารใดๆ ผิดจากฝั่งหัวโต๊ะที่มีเก้าอี้อยู่ถึงสองตัวพร้อมกับมีผู้จับจองแล้วทั้งสิ้น
คนแรกกำลังนั่งรับประทานอาหารด้วยกิริยาที่เรียกได้ว่าละเลียดกินจะเหมาะสมกว่า ทว่าอีกคนที่นั่งอยู่เคียงข้างกลับยืดหลังตรง อาหารที่อยู่เบื้องหน้าก็ไม่ถูกแตะต้องแม้แต่น้อย สายตาคมกล้านั้นเอาแต่จับจ้องไปยังผู้ร่วมโต๊ะอีกคนเพียงเท่านั้น
ไม่แม้แต่จะเหลือบมองมาทางเขาสักนิด…
ผู้ที่ถูกจับจ้องอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมาจากจานอาหารเบื้องหน้าด้วยท่าทีเกียจคร้าน ดวงตาสีฟ้าไอซ์บลูหรี่ปรือมองฟงเจิ้นฮ่าวด้วยท่าทีเฉยเมยทว่าแฝงแววรับรู้อยู่จางๆ ผมสีเงินยาวเรียบลื่นทิ้งตัวลงเคลียบ่า ไล่ระดับความยาวจนไปจรดอยู่ที่ขอบสะโพกสอบเพรียว แม้จะแสดงกิริยาอาการเช่นนี้ แต่บรรยากาศเย็นเยือกบางอย่างก็ยังคงแผ่ออกมาจากคนผู้นี้อยู่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ คล้ายกับสิ่งที่บ่งบอกสัญญาณอันตรายให้ผู้ที่ไม่รู้ต้องรู้จักระวังตัวให้อยู่ห่างๆเอาไว้
ส่วนอีกคนที่หันมามองตามสายตาของผู้เป็นนายทำให้ฟงเจิ้นฮ่าวสะดุ้งได้ไม่ยาก ดวงตาสีเทาอ่อนขับเน้นให้จุดสีดำภายในเด่ดชัดขึ้นจนหน้าหวาดผวา มันคล้ายกับดวงตาของสัตว์มากกว่ามนุษย์ เป็นดวงตาของนักล่าที่กำลังจับจ้องและประเมินเหยื่อของตนเองท่ามกลางความเงียบที่ปล่อยกระแสกดดันรุนแรง
คำพูดที่กำลังจะหลุดออกจากปากเลยถูกหยุดไว้ด้วยบรรยากาศของคนสองคนตรงหน้านั่นเอง...
“สนุกจนเพลิน หรือเหยื่อมันเก่งมากจนทำอะไรไม่ได้งั้นหรือครับ?”เสียงถามทอดเนิบเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียฟังติดหู ร่างสูงวางส้อมที่อยู่ในมือลงแล้วยกน้ำขึ้นดื่มช้าๆพร้อมกับปรายหางตามองเจิ้นฮ่าวเป็นเชิงบอกว่าตนกำลังพูดอยู่กับใคร
คุณชายสองแห่งตระกูลฟงกำมือแน่นเมื่อรู้ความนัยที่ถูกส่งมาพร้อมกับประโยคคำถามเมื่อครู่ เจ้าตัวพยายามยิ้มรับเพราะรู้ว่าแผนการที่ตระเตรียมมาทั้งหมดก็เพื่อแสดงให้คนคนนี้ยอมรับว่าเขามีค่าคู่ควรกับการเป็นหัวหน้าตระกูลคนใหม่ทั้งสิ้น
ยิ่งไม่ต้องคิดไปอีกว่าเมื่อได้เป็นพันธมิตรกันแล้ว เส้นทางในการค้าขายใหม่ๆก็ย่อมเรียงรายขึ้นมามากมาย ขั้วอำนาจใหม่ที่ได้มาอยู่ในมือจะยิ่งช่วยให้เขาพัฒนาตัวเองให้ขึ้นไปทัดเทียมกับไอ้เจ้าพ่อมาเฟียอิตาลี่นั่นได้ไม่ยาก!
“เลขาคนนั้นเล่นยากกว่าที่ท่านคิดนะครับ”หลังจากข่มอารมณ์ของตนเองให้สงบลงแล้ว ฟงเจิ้นฮ่าวจึงแย้มรอยยิ้มขึ้นอีกครั้งแล้วเอ่ยตอบคำถามของคนคนนั้นซึ่งกำลังทอดตามองแก้วทรงสูงที่ใส่ไวน์สีเข้มเอาไว้ เจ้าของดวงตาสีไอซ์บลูหมุนแก้วในมือไปมาคล้ายกับไม่ได้ยินเสียงใด ชายหนุ่มปล่อยให้ความเงียบทิ้งตัวลงปกคลุมบรรยากาศทั้งห้อง
ฟงเจิ้นฮ่าวขยับตัวไปมาเพราะความอึดอัดจากบทสนทนาที่ไม่มีการไถ่ถามใดๆต่อ แต่ฉับพลันก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อแก้วที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายถูกปาวูบลงไปแตกอยู่กลางโต๊ะอาหาร ไวน์สีแดงหกเลอะเทอะสะท้อนแสงอาทิตย์ไม่ต่างจากหยดเลือดที่สาดกระเซ็น…
คล้ายกับลางบ่งบอกบางอย่างที่กำลังใกล้เข้ามา…
“ผมคิดว่าคุณยังพยายามไม่พอมากกว่านะ แต่ความสามารถคงมีแค่นั้น ช่วยไม่ได้สินะครับ ให้ผมช่วยแนะนำอีกมั้ยล่ะ?”คนพูดลุกขึ้นจากที่นั่งหัวโต๊ะและค่อยๆเดินมาจนถึงจุดที่มีไวน์หกอยู่ ปลายนิ้วแตะหยดน้ำแล้วลากมันเป็นเส้นสายบางอย่างที่ไม่มีใครเข้าใจ
เจิ้นฮ่าวกลืนน้ำลายลงคอเพื่อเรียกสติที่บินหายไปตั้งแต่เห็นแก้วไวน์แตกกระจายอยู่บนโต๊ะแล้วเอ่ยรับข้อเสนอของอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาหวาดกลัวคนคนนี้เพราะท่าทีของอีกฝ่ายนั้นไม่เคยแสดงอารมณ์ใดๆให้เห็นเลย หากแต่อำนาจที่จะได้มาเมื่อบรรลุข้อตกลงร่วมกันคือสิ่งที่ผลักดันให้เขาดำเนินแผนการอันตรายที่ไม่ต่างกับเอาชีวิตของคนทั้งตระกูลฟงมาแขวนไว้กับเส้นด้ายกลางหุบเหวที่ลึกสุดหยั่ง
“คุณรู้มั้ยว่าอะไรมีอานุภาพเหนือความกลัว? อะไรที่มนุษย์พ่ายแพ้ให้แก่มันอยู่เสมอ?”คนพูดหยิบเศษแก้วขึ้นมาดูแล้วเพ่งพิศด้วยความสนใจ รอคำตอบจากอีกฝ่าย
“เงินตรา…ล่ะมั้งครับ”ฟงเจิ้นฮ่าวตอบด้วยท่าทางไม่มั่นใจ คนฟังจึงเงยหน้าขึ้นจากเศษแก้วที่อยู่ในมือแล้วถอนหายใจเบาๆก่อนจะกล่าวต่อราวกับกำลังรำคาญเต็มแก่
“ความสุขไงล่ะคุณฟง ความสุข โดยเฉพาะในยามที่กำลังเจ็บปวดหรือหวาดกลัวที่สุด มันคือสิ่งที่ไม่ต่างไปจากฟางเส้นสุดท้ายที่จะสามารถยึดเหนี่ยวเอาไว้ได้เลยเชียวล่ะ”ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆแล้วมองออกไปทางหน้าต่าง ทว่าประกายบางอย่างที่สะท้อนภาพอยู่ในดวงตาสีไอซ์บลูนั้นกลับน่าหวาดหวั่นจนทำให้ผู้ที่ได้เห็นมันหนาวเยือกขึ้นมาทันที
“ความสุข?”
“ใช่ ยิ่งในยามที่ตกเป็นเหยื่อแบบนี้ ความเจ็บปวดทรมานจะยิ่งเร่งความต้องการของเขาให้มากขึ้น แค่หย่อนเบ็ดลงไปนิดหน่อยรับรองว่าเขาจะรีบเข้ามากินเหยื่อจนไม่เหลือซาก”
“แล้วจะให้ผมทำกับเขายังไงล่ะครับ?”เจิ้นฮ่าวก็ยังคงไม่เขาใจอยู่นั่นเองว่าจะต้องมอบความสุขให้รัตติกรอีท่าไหน
“แค่นี้คิดเองไม่ได้เหรอครับ? ผมว่ามันออกจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับรสนิยมของคุณค่อนข้างมากเลยนะ”คนพูดหันกลับมามองโต๊ะเบื้องหน้าด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายใจ เขาพยักหน้าเรียกเพื่อนร่วมโต๊ะอีกคนให้เข้ามาหาแล้วแบมือยื่นไปข้างหน้าเหมือนต้องการของอะไรสักอย่าง
ชายหนุ่มตาสีเทาลุกขึ้นแล้วเดินมาตามคำสั่ง ส่วนสูงที่ปาไปเกือบสองเมตรทำเอาเจิ้นฮ่าวต้องแหงนคอมองอีกฝ่าย ร่างสูงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทของตนแล้วหยิบขวดแก้วใบเล็กๆออกมา ภายในของมันบรรจุของเหลวสีใสสะอาด ปริมาตรกะแล้วประมาณ 5 มิลลิกรัม น่าจะเป็นยาประเภทที่ต้องใช้ฉีดเข้าเส้นเลือด
คนสั่งรับขวดแก้วใบเล็กมาถือไว้ในมือตนเอง เขาชูมันขึ้นเหนือระดับสายตาเล็กน้อยแล้วแกว่งเบาๆ
“นั่น…คือ?”
“มอร์ฟีนไงล่ะคุณฟง บริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปน ขวดเดียวก็ถึงสวรรค์เลยล่ะ”ว่าจบเจ้าตัวก็โยนขวดแก้วมาทางเจิ้นฮ่าว ราคาของมอร์ฟีนบริสุทธิ์ทำเอาหนุ่มชาวจีนเบิกตากว้างแล้วรีบถลันเข้าไปรับก่อนขวดใบนั้นจะตกลงไปแตกกับพื้นให้เสียราคาค่างวด
“คงไม่ต้องบอกวิธีใช้นะครับ?”กล่าวจบก็เหมือนกับได้ปิดบทสนทนาลงณ ตรงนั้น ฟงเจิ้นฮ่าวพยักหน้ารับแล้วยิ้มกว้าง มอร์ฟีนน่ะฤทธิ์แรงกว่ายากล่อมประสาทเสียอีก ถ้ารัตติกรได้รับเข้าไปล่ะก็ รับรองว่าต้องว่าง่ายเป็นสัตว์เลี้ยงเชื่องๆไปเลยล่ะ
หนุ่มชาวจีนหันหลังกลับแล้วเดินออกจากห้อง เขาหันไปสั่งให้คนสนิทยกอาหารขึ้นไปให้ที่ห้องส่วนตัวก่อนจะปิดประตูจากไป ทิ้งให้ผู้มาเยือนทั้งสองคนอยู่ในห้องอาหารที่เริ่มมืดสลัว
“…”
“โนเอล”เจ้าของดวงตาสีไอซ์บลูเรียกชื่อของผู้ติดตามเบาๆ มันแหบน้อยๆคล้ายกับเสียงแมวคราง ผู้ติดตามตาสีเทาจึงหันมารับคำ เขาเดินไปคุกเข่าลงข้างๆเก้าอี้ของผู้เป็นนายที่กำลังเอนหัวลงซบกับพนักพิงแล้วเหลือบมองมาทางเขา
“ครับโซล?”โนเอลก้มหน้าลงมองคนเรียกตน เขาเรียกคนคนนี้ว่าโซล แม้จะเป็นเพียงชื่อย่อ แต่ก็เป็นชื่อที่อีกฝ่ายอนุญาติให้เขาเรียกได้แต่เพียงผู้เดียว…
“…ง่วง”รูปประโยคคือประโยคบอกเล่า หากแต่โนเอลรู้เสมอว่าสำหรับคนคนนี้ แค่คำคำเดียวก็คือประโยคคำสั่ง…
แต่ก็นั่นแหละ บางเรื่องใช่ว่าเขาจะทำตามโดยเสมอไป ยิ่งเป็นเรื่องที่อีกฝ่ายนำมาพูดเล่นๆไม่จริงจังด้วยเพราะอยากผ่อนคลายอารมณ์ หน้าที่ของเขาก็คือโต้ตอบกลับไปเพื่อให้อีกฝ่ายได้ตามประสงค์ที่แท้จริง
“ก็ไปนอนสิครับ…”คนที่ไม่ได้ตามคำสั่งย่นหัวคิ้วลงเล็กน้อยก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นแตะที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายที่อยู่ในระดับเดียวกัน รสเค็มปร่าแตะปลายลิ้นของโนเอล ด้วยแสงที่ส่องเข้ามาจางๆทำให้หนุ่มตาสีเทาพอจะเห็นว่าที่ปลายนิ้วเรียวมีของเหลวสีแดงเข้มเกาะอยู่
“เศษแก้วมันบาดน่ะ เลียให้ทีสิ”นิ้วเรียวกดซ้ำที่ริมฝีปากหนาเป็นเชิงเร่ง โนเอลจ้องตาสีฟ้าสวยของอีกฝ่ายนิ่งเพียงชั่วครู่ก็แลบลิ้นออกมาเลียเบาๆ กลิ่นสนิมที่คาวเล็กน้อยลอยแตะจมูก ทว่ารสชาติหอมหวานกว่าที่คาดไว้ เขาไม่รู้จะตัดสินว่ามันคือเลือดหรือไวน์ที่อีกฝ่ายไปแตะเล่นกันแน่
“ระวังหน่อยสิครับ”เอ่ยเตือนเสร็จโนเอลก็ดึงนิ้วนั้นเข้ามาหาตัวอีกครั้ง ฟันขาวขบที่ปลายนิ้วก่อนจะดูดกลืนหยดเลือดที่ซึมออกมาตามรอยแผล ดวงตาสีฟ้าสวยคู่นั้นยังมองมาที่มาที่เขาไม่คลาดสายตา ชักพาให้ชายหนุ่มหลงมัวเมาไปกับรสชาติที่ได้รับทีละน้อยแต่รุนแรงทุกสัมผัส
“อร่อยเหรอ?”ถามไม่ทันจบคนมีแผลก็ดึงนิ้วของตัวเองออกจากริมฝีปากของคนตรงหน้าอย่างกระทันหันแล้วลองใช้ลิ้นของตัวเองเลียดูบ้าง หากแต่เลือดที่หยุดไหลไปแล้วก็ทำให้เจ้าตัวไม่ได้ลองชิมรสเลือดของตนเองอย่างที่หวังไว้
“ก็ดีครับ”อันที่จริงคือดีมากจนเกือบจะเรียกได้ว่าวิเศษเลยล่ะ…
เจ้าของนิ้วเงยหน้ามองคนสนิทของตนที่ยังคงคุกเข่าแล้วตอบคำถามของเขาหน้าตาย ทว่าปลายลิ้นสีเข้มที่แลบเลียริมฝีปากตัวเองน้อยๆนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มน้อยๆที่หาได้ยากออกมาอยู่ชั่วครู่หนึ่ง
“โนเอล บอกให้คนของเราเอาภาพจากห้องขังรัตติกรมาให้ฉันดู ต่อสัญญาณตรงไปที่ห้องพักข้างบนนั่นแหละ ฉันอยากเห็นเลขาคนใหม่ของเวสเปอร์สักหน่อย”กล่าวจบร่างเพรียวก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วบิดขี้เกียจน้อยๆ เห็นดังนั้นโนเอลจึงลุกตามก่อนจะเดินออกไปหาลูกน้องของเขาซึ่งรออยู่ข้างหลังประตู ร่างสูงถ่ายทอดคำสั่งให้อีกฝ่ายเพียงชั่วครู่ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง
“จะขึ้นห้องเลยรึเปล่าครับ?”
“อืม”ได้ยินดังนั้นโนเอลจึงยืนรออยู่ที่เดิมเพื่อคอยเปิดประตูให้อีกฝ่าย เจ้าของดวงตาสีไอซ์บลูปัดปอยผมสีเงินที่ตกมาข้างหน้าให้พ้นจากหัวไหล่ของตนแล้วเดินออกจากห้องไปโดยมีผู้ติดตามคอยปิดประตูรั้งท้าย
โนเอลจ้องมองกลุ่มเส้นผมสีเงินสวยที่ขยับไปตามจังหวะขยับกายของผู้เป็นนายที่ค่อยๆห่างออกไปแล้วก็ก้มลงมองรอยสักสีดำที่หลังมือข้างขวา มันเป็นภาพดวงอาทิตย์กับตัวอักษรละตินที่เขียนคำว่าโนวาห์เอาไว้…
เพราะชื่อเต็มๆของโซลก็คือโซอาห์เรที่แปลว่าพระอาทิตย์…
เขาคือแสงอันเจิดจ้าที่สาดส่องให้องค์กรยิ่งใหญ่จนกลายเป็นอันดับหนึ่ง
คือราชาแห่งมาเฟียอเมริกา
โซอาห์เร โนวาห์ หัวหน้าของโนวาห์แฟมมิลี่!!!
___________________________________________________
ตัวละครใหม่โผล่อออกมาอีกแล้ว~
โซอาห์เร โนวาห์ อ่านว่า (โซอาเร่ โนว่า) นะครับ
เอาล่ะ มาเริ่มกันด้วยคำประจำของผมเลยละกันนะฮะ :monkeysad:
“ขอโทษคร้าบบบบบบ~”
ทั้งๆที่น่าจะลงตั้งแต่วันที่ 28 แล้ว แต่ลากมาลงเอาซะวันที่ 3 เลยซะนี่ โฮ~ ขอโทษจริงๆน้า>/\< :monkeysad: :monkeysad:
มันเกิดจากสาเหตุที่ว่าอยู่ๆวิชาที่ต้องสอบก็โผล่ขึ้นมาอีกสองตัว…มารู้เอาก่อนสอบไม่กี่วันเลยตะบี้ตะบันอ่านเอาเป็นเอาตายครับ(วิชาเอก ท่องไว้วิชาเอก โฮกก :z3:)
และเมื่อถึงเวลาก่อนหนึ่งวันที่จะสอบ หัวหน้า(ผมเรียกเฮดสาขาว่าหัวหน้าน่ะครับ)ก็เข้ามาบอกว่า เลื่อนสอบนะ…
“=[]=!…………คุณหลอกดาว!!!” o22
แต่ก็ดีที่เลื่อนนะครับ เพราะผมอ่านไม่ทันจริงๆนั่นแหละ เลยได้เวลาเพิ่มขึ้นอีกนิด ทว่าเมื่อวันสอบที่ว่ามาถึง ตอนเช้าที่มีเรียนอาจารย์ก็บอกว่า เลื่อนไปสอบอาทิตย์หน้านะลูก…
“แอ้!!!!!!!!!!!!!! =[ ]=! o22 :o12:”ด้วยเหตุนั้น หมาโยจึงสติแตก วิ่งกลับมาหานิยายแล้วแต่งต่ออย่างเมามันส์(ขนาดเมามันส์ยังช้า…ถุย =3=)
เอาล่ะครับ มาถึงข่าวดีที่กะจะบอกแล้วก็ไม่ได้บอกสักทีกันดีกว่าเน้อ~~ :-[ :-[
.
.
อุฮุ >w< :impress2:
.
.
คือว่า นิยายเรื่องนี้… :man1:
.
.
แอ้วๆๆ y(>w<)y : 222222:
.
.
คือว่าตกลงจะได้ตีพิมพ์ด้วยล่ะครับ!!! :oni2: :impress: o7 :give2: :m1: :m3:
Ti Voglio จะได้ตีพิมพ์คร้าบผ้มมมม!!!
เฮ้ๆๆ :m11: :m11: ตบมือสามร้อยหกสิบองศา~ :m4: :m4: :m4:
(มันดีใจจนเวิ่นเว้อ อย่าสนหมาตัวนี้ครับ กลับสู่สาระกันต่อดีกว่า)
ครับ ก็อย่างที่ได้ว่าไป เมื่อหลายเดือนที่แล้วพี่ๆจากสำนักพิมพ์ไร้กรอบได้ติดต่อมาครับ แต่เพิ่งจะคุยเรื่องพล็อตเรื่องสัญญากันเสร็จเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง ก็อยากรอให้จัดการอะไรเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาแจ้งทุกคนน่ะครับ และตอนนี้ก็ตกลงกันเรียบร้อยแล้วน้า~ :mc4: o13
ดังนั้นเรื่องน่าดีใจที่เป็นผลตามมาก็คือ นิยายเรื่องนี้ ในที่สุดมันก็มีพล็อตแล้วครับ!(แต่งมาจะยี่สิบตอน เอ็งเพิ่งมีพล็อต… :z13:) อีกอย่างก็คือไม่ต้องห่วงว่าผมจะทิ้งนิยายเรื่องนี้ไปแน่นอนครับ ตามที่ตกลงกับพี่ๆที่สำนักพิมพ์เอาไว้ก็คือจะให้จบภายในปีหน้าน่ะครับ (แน่นอนว่าจะลงในเว็บจนจบเช่นกันนะครับ ไม่ลบตอนใดตอนหนึ่งออกไปแน่นอนฮะ) ดังนั้นจากนี้ไปก็คงจะมาบ่อยกว่าเดิมล่ะเน้อะ :z10: :z13:
(แต่ดูจากสปีดของตัวเองที่ผ่านมา มันจะจบทันปีหน้ามั้ยล่ะเนี่ย…[ต้องทันสิเฟ้ย! :fcuk:])
แอ้~ อย่าลืมอุดหนุนสมทบทุนหมาโยตัวดำๆนะครับ ผมจะเอาเงินไปเป็นทุนตอนได้ไปทุน~ 55 :music: (คุณเอ็งจะรีบขายไปมั้ยวะครับ)
ว่าแล้วก็ลาไปนอนอีกครั้งครับผม ช่วงนี้นอนเกือบจะเช้าได้ทุกวัน เถื่อนจริงๆนะเนี่ย :a12:
ราตรีสวัสดิ์นักอ่านที่รักทุกคน แล้วก็สำหรับบางคนที่ตื่นแล้วก็อรุณสวัสดิ์นะครับ ^^
รักและคิดถึงเสมอนะฮะ แล้วเจอกันครับ :bye2:
Namioto Yo
-
ยินดีด้วยนะคะที่จะได้รวมเส่ม เราก็จะได้ลูน่ามานอนกอดที่บ้านด้วยดีใจมากกกกก o13
-
มาเฟียอเมริกา ทำไมพูดสำเนียงรัสเซียหว่า? :confuse:
ส่วนลูน่า ก็ยังโดนทารุณกรรมต่อไป :z3: พระเอกหายยยยยยยย ทำไมไม่มาช่วยลูน่าสักที :sad4:
ปล.เวลาลงเพิ่มใหม่ ไม่ต้องลงอันเก่าซ้ำก็ได้เน้อ แบบว่า เราแอบงงอ่ะจ้ะ แหะๆ :m23:
-
:serius2: :serius2:
เมื่อไหร่จะมาช่วยยย
จะตายอยู่แล้วนะ
ทำไมชักช้าแบบเน้ :z3:
-
ยินดีด้วยค่ะ จะอุดหนุนเเน่ๆ เเต่มาต่อเร็วๆนะเออ
เมื่อไหร่จะมาช่วยนัทจังฟร้า าาาา
:z3: :z3: :z3: :z3:
-
ชอบเรื่องนี้มาก อ่านรวดเดียวเลย
ภาษาสลวย ลื่นไหล ไม่มีติดขัด
พล็อตเรื่อซับซ้อนดี ข้อมูลแน่น
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
อยากรู้ว่าลาเฟียร์จะมาช่วยทันไหมเนี่ย
แอบกดดันเล็กน้อย
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
:sad4:
คุณพระเอกของอิชั้นหายกบาลไปอยู่ไหนคร้า
รีบๆมาช่วยลูน่าซะทีเซ่
เดี๋ยวลูน่าก็แย่พอดี กระซิกๆ
:dont2:
-
ยินดีด้วยจ้า เค้าจะรออุดหนุนเน้อ
ว่าแต่เมื่อไหร่ดอนจะมา :m31: :m31: :m31:
-
คุณพระเอกหายไปไหน ลูน่าแย่แล้วนะ
-
รอตอนต่อไปและ รอ ซื้อ!!!!!!! =,,= <ติดเรื่องนี้แทบคลั่งค่าาาา>
-
:fire: :fire: :fire: :fire:เมื่อไรจะช่วยซักทีอะ :m31: :m31: :m31:
รอจ้า :bye2: :bye2:
-
รออุดหนุนค่ะ :pig4:
-
มาแล้วววว
ในที่สุดอีกครึ่งนึงก็มา TT^TT
-
ว้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ ตัวละครใหม่โผล่มาแว้วๆๆๆ
แล้วพระเอกของศรีสมรไปทำอะไรอยู่ที่ไหนคร้า :sad4:
นายเอกเค้าน่วมแล้วนะตัวเอ๊งงงง
งือออออออออ โผล่มาซะทีเหอะคับลูกเพี่ย
ปล.ยินดีด้วยนะจร้ะ ฮูเร่ๆๆๆ :mc4:
-
ไม่ลืมอุดหนุนหรอกค่า ชอบมากเรื่องนี้ >3<
-
พ่อพระเอกของฉันเมื่อไหร่จะมา
-
อุ คุณพระเอกหาย ลูน่าท่าทางจะต้องติดแหงกอยู่ในคุกอีกสักพัก ลุ้นๆๆ
มีตัวละครใหม่โผล่มาด้วยยย มาเฟียคนนี้จะคิดแย่งลูน่าไปรึป่าวนะ :sad4:
ชอบเรื่องนี้มากกกก ดีใจสุดๆที่จะได้พิมพ์ ปลายปีหน้ารอสอยแน่ค่ะ :t3:(แต่ก็ไม่อยากให้เรื่องนี้จบนะ orz)
รอตอนหน้าค่ะ :กอด1:
-
:L2:ตามอ่านต่อไป
-
เมื่อไหร่ดอนจะมา :z3:ลุ้นตัวโก่งเเล้ว
รอตอนต่อไป
-
พ่อมาเฟียอิตาลีเขายังหาลูน่าไม่เจออีกเหรอเนี่ย ไหนว่าเป็นเขตปกครองของตัวเอง?
รอให้ไอ้ตี๋นั่นฉีดมอร์ฟีนเสร็จแล้วค่อยมาก็ได้มั้ง ปวดแผลรอทรมานเกินไปเนอะ
-
ดีใจด้วยจ้า
-
ดีใจด้วย แปะๆๆๆๆๆๆ สำนัดพิมพ์ไร้กรอบพิมพ์หาซื้อง่าย
แฮะๆ อุดหนุนจ้า
-
เมื่อไรจะมาช่วยลูน่าซักที ไอ้ดอนบ้าาาาาาา
พวกที่ทำร้ายลูน่ากรุณาเล่นให้เฮี้ยนด้วยจะเริ่ดมาก
-
:impress2: :impress2:
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
ได้อ่านจนถึงหน้า 9 แล้วครับ
สนุกดีครับ ฉีกแนวไปทางยุโรบบ้าง
:call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
-
ลูน่าจะถูกทำอะไรอีกนะนั่น เมื่อไรจะมาช่วยลูน่าสักทีนะ
-
ลูน่าโดนจับมาแล้วหนึ่งวัน เหมือนจะไม่นานแต่คนที่กำลังทรมานน่าจะรู้สึกเหมือนเป็นปี
อย่าให้ลูน่ามีรอยแผลเป็นละกัน
-
ตายและลูน่าลูกแม่!! :sad4:
ยินดีด้วยค่ะที่ได้ตีพิมพ์
-
จะมาช่วยลูน่าตอนไหน นะ
ยินดีด้วยค่ะ
:pig4: :call:
-
ดาร์คได้ใจจริงๆเลย o13
-
รอมาเสียนาน... ; ;
เป็นยังไงบ้างแล้ว เกือบสิบวันนี้มันดูนาน ; ;
ยินดีด้วยที่ได้ตีพิมพ์
รอมาแสนนานนนน คิดถึงม๊วกกกกกกกกกก
รอตอนจบอยู่น้าา *ยังไปไม่ถึงไหนเลยยย(หรือใกล้จบล้า?)*
ชอบโนเอล -..- ดูแบบ ชอบอะ5555555
สู้ๆ
-
เรื่องนี้หนุกมากอ่ะ!!!%
-
มานั่งรอลูน่า :monkeysad:
รออุดหนุนนะค่ะ o13
-
อรั้ยยย อ่านแล้วเขินตามเคยเหมือนทุกๆตอนที่อ่าน โซล ก็แอบน่ารักนะเนี่ย >< :-[
-
เมื่อไรพระเอกของเราถึงจะออกโรงล่ะเนี่ย
ลูน่าไกล้จะไม่ไหวแล้วน้า~ :serius2:
น่าสงสารที่สุด ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วยเลย
กลับต้องมาโดนทรมานซะอย่างนั้น
ขอให้ลูน่าอย่าเป็นอะไรมากกว่านี้เลยนะคะ
ตัวละครใหม่คนนี้ดูน่ากลัวมากอ่ะ o22
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
ป.ล.ดีใจด้วยค่ะเรื่องตีพิมพ์เรื่องนี้ จะรออุดหนุนนะคะ
-
มาได้แล้วครับ......คิดถึง
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
คิดถึงแล้วนะ
-
เมื่ออยู่ต่อหน้า ผู้มีอำนาจมากกว่า ไอ้ที่ว่ากร่างก็กลายเป็นลูกหมาไปเลย :jul3:
ส่วนหนุ่มไทยจะกลายเป็นเหยื่ออันโอชะ หรือ ไม่ ก็อยู่ที่อีกคนจะหาทางช่วยออกไปอย่างไร
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ :กอด1:
-
มาคิดถึง จะครบเดือนแล้ว อิอิ
-
เมื่อไหร่จะมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยลูน่านะ :monkeysad:
-
จุดพลุ*เรียก*
เงิบบบบบบบบบ ไปหนายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
เมื่อไรจะมาต่ออะ :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:
:call: :call: :call: :call: :call: :call:
-
จะต้องจุดธูปเรียกหรือจับใส่หม้อถ่วงน้ำดีเอย
-
ส่งข่าวบอกต่อกันสักนิด เธอนั้นไปอยู่ไหน~
-
:z13: :z13:
คนเขียน หายไปไหนน อ่าาา~ :z3: :z3:
:sad4: :o12:
-
เดือนนึงแล้วก็ยังไม่มา
เมื่อไรจะมาคะ อยากอ่านต่อแล้ว :monkeysad:
-
ตีพิมพ์เร็วๆนะ รออยู่ o18 แต่ที่รู้ๆกัน อย่าลืมมาอัพนะ :bye2: :bye2:
-
รอ ร๊อ รออ จุ๊ฟๆ>< :L1: :L1: :L1:
-
เสพซะติดเลย
-
คนเขียนหายป๊ายยยยย :z3:
-
สอบเสร็จเดี๋ยวผมมาน้าาาาาาา :monkeysad:
ว่าแล้วก็ไปเมาต่อ (สอบสามชั่วโมง แอร์เป่าหัวด้วยลมแรงสุด ผลสรุปหวัดกินไข้ขึ้น...อาเมนขอรับ :z13: :z13:)
แล้วเจอกันครับผม
Namioto Yo :man1:
-
โห................... เรื่องไปไกล ถึง ไหน แล้ว เนี่ยยยยยยย
ปิดเทอม เดี๋ยว กลับ มา อ่าน ใหม่ จ้าาาาาาาาา
จุ๊ฟฟฟๆๆๆ
-
ยินดีสู่รวมเล่ม แต่เค้าอยากอ่านต่อแล้วล่ะคุณโย
เล่นหายไป 1 เดือนเลยอ่ะ
คิดถึง รัตติกรแย่แว้ว
-
รออยู่นะครับผม
^ ^
-
รอ รอ :call: :call: :call:
-
:dont2: :dont2: :dont2:
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่านคะ
ภาษาสวยงามอ่านแล้วไม่มีเบื่อ
เนื้อเรื่องเข้มข้นตั้งแต่แรก
ชอบมากคะโดยเฉพาะลูน่า
แล้วมาต่ออีกนะคะเป็นกำลังใจให้คะ *0*
-
นั่งร้องไห้หน้ากระทู้.... เมื่อไหร่น้อที่เธอจะกลับมา???
-
อ้าา ไม่เกินอาทิตย์ครับ ขอโทษที่ให้รอแง้ว (หางลู่หูตก) :z10:
//ยื่นทิชชู่ไปซับน้ำตา :monkeysad: โค้งเก้าสิบองศาแล้วจรลี :pig4: :o12:
-
TwT งี้งงงง
-
รออยู่นะคะ อยากอ่านต่อแล้วว^^ :call:
-
//รับทิชชู่ไปมัดขาคนเขียน #ขาดด!
:กอด1: รอค่ะ รอ
-
มาต่อเถอะได้โปรดดดดดด :z3:
-
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
-
กลับมาต่อทีเถอะ....สาธุ :call:
(เข้าไปอ่านอีกเรื่องของคุณมา...แล้วมัยไม่เห็นมาต่อเรื่องนี้เลยอ่ะ) ฮือๆ :sad11:
-
รอจนลูน่าแห้งคาห้องขังแล้ววว :sad4:
คิดถึงงงง
-
อร๊ายยยยยยย มาอ่านแล้วติด !!
รอด้วยคนค่าาาาา ><"
-
รีบอ่านรวดเดียวจบ แล้วก็มานั่งรอ :เฮ้อ:
รีบมาต่อนะคะ ช้าไม่ว่าแต่ขอให้มาเพราะจากที่อ่านดูแล้วดูรวบรวมข้อมูลมาเยอะมากน่าจะใช้เวลาเยอะ แต่ก็รีบๆมานะคะ
ตอนนี้ลุ้นโครต ลุ้นแบบไม่ไหวเคลียร์ แบบอ๊ากกกกอยากอ่านต่อแล้ว :serius2:
-
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:
:call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
-
คนเขียนเค้าหายไปนานเลยอ่ะ
มาต่อได้แว้วน่ะ รออ่านอยู่จ้า
-
ต่อเถอะค่าาาา :z3:
-
รอรอรอTT^TT
-
อยากอ่านเรื่องนี้ต่อ
-
อัพหน่อยนะ แจ้งข่าวหน่อยนึงงง :sad4:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.19 50%
สายน้ำเย็นสาดเข้ากระทบกับใบหน้า ฉุดกระชากสติที่กำลังดำดิ่งลงลึกสู่ความเงียบงันให้ฟื้นตื่นขึ้นแม้เจ้าของร่างจะไม่เต็มใจ รัตติกรฝืนเปลือกตาให้เปิดขึ้นเล็กน้อย มันหนักราวกับมีใครเอาหินมาถ่วงไว้ภายในร่างกายของเขาร้อนผ่าว ผิดกับภายนอกที่เย็นเฉียบจากน้ำที่ยังเกาะพราวอยู่ตามร่างกาย
“มันรู้สึกตัวรึยังวะ?”
“ขยับแล้วนี่? คงจะตื่นแล้วล่ะ มึงเข้าไปเช็คสิวะ”
ปลายคางถูกดันให้ยกขึ้นสูง รัตติกรปรือตามองอีกฝ่ายที่เห็นได้เพียงแค่เป็นภาพเลือนราง ฝ่ามือหยาบหนาตบเข้าที่ใบหน้า รสเลือดแสบคอจึงแผ่กระจายอยู่ในปากอีกครั้ง จมูกกระสากลิ่นสนิมจางๆ หากแต่ความเจ็บร้าวก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม หนุ่มชาวไทยครางออกมาแผ่วเบาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ารู้สึกตัว ส่งผลให้อีกฝ่ายหัวเราะลั่นเมื่อทำตามคำสั่งของเจ้านายได้ลุล่วงเสียที
“ว่าไปไอ้เลขานี่ก็อึดเป็นบ้า เหยื่อคราวก่อนของนายไม่มีใครทนได้เท่านี้สักคน”
“ปากเก่งด้วยนะโว้ย ใจเด็ดชิบหาย โดดฟาดเลือดสาดขนาดนั้นยังเถียงนายกลับไปได้ ไม่หลุดความลับของไอ้พวกมาเฟียนั่นออกมาสักคำ”
“งี้พวกอเมริกันที่นายพามาเค้าจะไม่หัวเสียแย่เหรอวะ?”
“มึงก็รอดูตอนนายกลับมาสิวะ ท่าทางเป็นยังไงผลก็เป็นแบบนั้นแหละไอ้โง่”
พวก…อเมริกัน?
รัตติกรเงี่ยหูฟังสิ่งที่ลูกน้องของฟงเจิ้นฮ่าวคุยกัน ข้อมูลที่หลุดออกมาอีกอย่างช่วยจำกัดวงของผู้ต้องสงสัยว่าใครกันแน่คือคนที่อยู่เบื้องหลังคนคนนั้นของเจิ้นฮ่าวต้องเป็นคนอเมริกัน มีอำนาจมากพอที่คิดจะต่อกรกับเวสเปอร์แฟมมิลี่ รวมไปถึงเส้นสายที่ฝ่ายนั้นมีก็เชื่อมโยงมาถึงประเทศจีน มันแน่นหนาพอที่จะเป็นแบ็กอัพให้กับตระกูลฟงแทนที่อำนาจเดิมของลาร์เฟียร์
ดูท่างานนี้ศัตรูจะเป็นตัวฉกาจไม่เบา ดอนแห่งปาเลอร์โม่คงจะเจอกระดูกชิ้นโตเข้าให้แล้วล่ะมั้ง…
เสียงประตูเหล็กลั่นครืดคราดดังขึ้นมาจากด้านบน ฝีเท้าของผู้ก้าวเข้ามามีไม่กี่คน มันลงจังหวะแผ่วเบาแล้วค่อยๆเยื้องย่างลงบันไดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ชายผ้าไหมสีแดงเข้มชี้ตัวผู้ก้าวเข้ามาได้ก่อนสิ่งใด
ฟงเจิ้นฮ่าวนั่นเอง…
หนุ่มชาวจีนมีผู้ติดตามมาด้วยสองคน ผู้แรกคือคนสนิทที่รัตติกรเห็นตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ถูกจับมา หากแต่อีกคนกลับเป็นชายมีอายุที่อยู่ในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตา สังเกตคร่าวๆได้ไม่นานฟงเจิ้นฮ่าวก็ก้าวเข้ามาภายในห้องขัง ดวงตาเรียวรีฉายประกายระยับลุ่มหลง เสริมความน่าขยาดเข้าไปด้วยรอยยิ้มเหยียดกว้างและเสียงหัวเราะแหลมในลำคอที่ระคายหูเหลือคณานับ
รัตติกรขมวดคิ้วและให้ความสนใจกับชายในเสื้อกาวน์มากกว่ามาเฟียโรคจิตตรงหน้า นายแพทย์คนนั้นวางกล่องเครื่องมือลงกับพื้นและมองมาทางเขาด้วยท่าทางหวาดกลัว มือที่มีร่องรอยเหี่ยวย่นให้ได้เห็นบ้างแล้วนั้นสั่นระริกยามที่เอื้อมมือไปเปิดกล่องตรงหน้า เผยให้เห็นภายในที่มีทั้งขวดยาขนาดเล็ก ชุดผ่าตัด รวมไปถึงเข็มฉีดยาและผ้าผันแผล
หมอนี่จะเล่นอะไรกับเขาอีกล่ะ…
“ดีใจที่คุณยังมีสติรอผมกลับมานะครับ ช่วงที่ผมไม่อยู่คงมีเวลาเหลือเฟือให้คุณได้คิดไตร่ตรองสักนิดบ้าง ว่ายังไงครับ ตกลงจะบอกผมได้รึยัง?”แม้จะว่าเช่นนั้น ทว่าท่าทางที่ไม่เป็นเดือนเป็นร้อนเท่าที่ควรกลับทำให้รัตติกรสงสัยว่าอีกฝ่ายมั่นใจอะไรนักหนาว่าจะสามารถเค้นความจริงออกจากปากของเขาได้
“โง่…รึเปล่า? ถ้าผมจะบอก อึก!…คุณก็ไม่ต้องมาอ้อนวอนขอมันจากผมแบบนี้หรอก!! หึ”หนุ่มชาวไทยส่งเสียงหัวเราะขึ้นจมูกเป็นการยั่วโมโหอีกฝ่าย รวมไปถึงใช้ปิดบังอาการสำลักเลือดที่พุ่งวูบขึ้นมาถึงคอ ดูท่าสนับมือที่อีกฝ่ายซัดเข้าชายโครงของเขาจะออกฤทธิ์เข้าให้แล้ว
บาดเจ็บภายใน…มันเริ่มเข้าขั้นวิกฤตแล้วนะ!
เมื่อไหร่ไอ้เจ้านายซังกะบ๊วยของเขามันจะโผล่หัวมาช่วยสักที?
“นั่นสิ…ผมก็เลยไม่หวังว่าจะเค้นอะไรจากคุณในสภาพนี้ได้อีกแล้วล่ะ!!”ฟงเจิ้นฮ่าวกล่าวทั้งรอยยิ้ม มือเรียวยาวตวัดขึ้นคว้าลำคอเพรียวบางเอาไว้อย่างถนัดมือแล้วบีบขย้ำเต็มแรงจนรัตติกรดิ้นพล่าน รอจนกระทั่งอีกฝ่ายเริ่มจะแน่นิ่งไป ร่างในชุดจีนจึงยอมผ่อนแรงลงจนกลายเป็นการจับเอาไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะยิ้มเยาะให้เหยื่อของตนเองที่สำลักไอจนน้ำตาคลอ
แม้จะไม่ใช่น้ำตาที่เกิดจากความหวาดกลัว ทว่าใบหน้าหยิ่งทะนงที่เปรอะเปื้อนไปด้วยสิ่งที่แลดูอ่อนแอเช่นนี้กลับยิ่งทำให้เขาอยากเห็นคนตรงหน้าดิ้นรนครวญครางทั้งน้ำตาภายใต้ร่างของเขายิ่งกว่าสิ่งใด!!
ฟงเจิ้นฮ่าวใช้อีกมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบขวดแก้วใบเล็กขึ้นมา ปลายนิ้วเรียวยาวคลึงขวดนั้นให้กลิ้งไปมาบนฝ่ามือขาวซีด รัตติกรกัดริมฝีปากข่มอาการของตนเอาไว้ คิ้วเรียวขมวดแน่นเมื่อมองเห็นขวดที่ว่า ภายในนั้นบรรจุของเหลวสีใส ปริมาณมีเพียงเล็กน้อย ที่ฝาขวดผนึกไว้ด้วยจุกยางสีเทาอ่อน ลักษณะของขวดชัดเจนว่าเป็นขวดยาที่ต้องใช้เข็มฉีดเข้าเส้นเลือด…
ยาที่เอามาใช้เพื่อให้สารภาพความจริงส่วนใหญ่มักเป็นยาที่อยู่ในกลุ่มกล่อมประสาท อยู่กับมาเฟียพวกนี้ก็ไม่น่าจะเป็นยาที่ใช้ในทางการแพทย์โดยตรงเท่าไหร่นัก หนุ่มชาวไทยเลยสันนิษฐานได้ไม่ยากว่ามันคือยาเสพติดชนิดหนึ่ง!
“แค่ก! หึ…เลยต้องใช้…มอร์ฟีน…มาคุยแทนสินะ? อั่ก!!!”รัตติกรกล่าวทั้งใบหน้ายิ้มเยาะคล้ายไม่รู้สึกรู้สา ทว่าเสียงหัวใจในอกที่กำลังเต้นกระหน่ำเพราะความหวาดกลัวกลับดังก้องกระหึ่ม มือของผู้กระทำลงแรงบีบอีกครั้งความเจ็บปวดที่ได้รับเปลี่ยนเป็นด้านชา หยาดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่บนใบหน้าเย็นเยียบขึ้นมากระทันหัน
“!?...” ฟงเจิ้นฮ่าวขมวดคิ้วทันควัน หนุ่มชาวจีนรู้ว่ารัตติกรกลัวเป็นและกำลังกลัว แต่ทั้งที่เป็นอย่างนั้น สติของเจ้าเลขานี่กลับยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ดวงตาสีน้ำตาลไหม้คู่นั้นยังคงฉายประกายแวววาวคมกล้า เขาแน่ใจว่าไม่ได้เอ่ยชื่อยาในขวดนี่ออกไปแม้แต่น้อย แล้วทำไมคนคนนี้ถึงรู้ทั้งที่ทำแค่เพียงเหลือบมองมันเท่านั้น?
รองหัวหน้าตระกูลฟงขบฟันแน่น เขาไม่ยอมแสดงอาการหวั่นวิตกให้คนตรงหน้าได้ใจไปกว่านี้แน่นอน ชายหนุ่มกระชับมือตนเองเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา สัมผัสเย็นเฉียบของขวดแก้วที่ถือเอาไว้สร้างความอุ่นใจให้เขาอย่างง่ายดาย
มีสิ่งนี้แล้วเขาจะกลัวอะไร? อีกไม่นานความหยิ่งทะนงที่น่ารำคาญนี่ก็จะถูกทำลายจนราบคราบแน่นอน!!
“เก่งจริงนะ…ไม่แปลกใจที่นายท่านเลือกคุณมาเป็นเลขาของเวสเปอร์…เสียดายที่ผมต้องทำงานให้เสร็จก่อน รับรองว่าถ้าคุณพูดมันออกมาเมื่อไหร่ ต่อจากนั้นผมจะพาคุณไปสนุกให้ถึงสวรรค์เลยล่ะ”กล่าวจบฟงเจิ้นฮ่าวก็แย้มรอยยิ้มออกกว้าง เขาคลายมือออกจากลำคอของรัตติกรอย่างอ้อยอิ่ง เฝ้ามองคนตรงหน้าที่สั่นระริกไปด้วยความกลัวที่ยังคงผสานความกล้าเอาไว้ด้วยกัน ลำคอขาวเนียนเป็นรอยแดงช้ำ เสียงหอบหายใจเบาๆฟังดูยั่วยวน ดวงตาแสนสวยคู่นั้นก็ยังฉายประกายดื้อรั้นไม่ยอมคนอยู่เช่นเดิม
“เอาให้ถึงนรก…ก็อย่าหวัง ว่าจะได้อะไรไปจากผม!!!”
ความรู้สึกที่ควรจะขัดแย้งกัน รัตติกรกลับแสดงมันออกมาพร้อมกันได้…
เพราะสิ่งนี้หรือ ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์จึงเก็บคนคนนี้เอาไว้กับตัว?
“ฉีดยาให้เขาซะ!”
ถ้าอย่างนั้น เขาก็จะทำลายคนตรงหน้านี้ให้กลายเป็นเพียงเศษกระเบื้องให้ดู!!!
______________________________________
ฉลองการกลับมาของอินเตอร์เน็ต ฮิ้ววว
กลับมาแล้วครับ หลังจากที่รอวันคืนให้บ้านใหม่ที่ย้ายมานี้ติดเน็ตสักที ในที่สุดก็มีแย้วววว
(ที่ผ่านมากลายเป็นฮิคิโคโมริเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน 555)
กลับมาอีกครั้งพร้อมกับทิชชู่กองโต แหะๆ อย่าเอามารัดคอผมนะเอ้อ :z10:
อีกครึ่งเดี๋ยวมาต่อฮะ แม่จะพาไปเดิน(ถือของให้)ที่ตลาดครับ 555 :z13: :z2: :z2:
ครึ่งหลังนี้คิดถึงใคร เค้ากำลังจะกลับมาครับ o13 (ยั่วให้อยากแล้วจากไป รองเท้าแตะลอยตามมาเป็นสาย :z10:)
แล้วเจอกันเร็วๆนี้ครับผม
Namioto Yo
-
อ้ากกกกกกกกกก ลูน่าโดนไปเยอะละนะลาเฟียร์
-
รออยู่ๆ รีบมาต่อเร็วๆนะค่ะ ^^
ลุ้นๆ :really2: :really2:
-
ในที่สุดก็ได้อ่านต่อ :L2:ขอบคุณมากค่า
ว่าแต่ นี่มันค้างกว่าเดิมอีก :z3:
ลูน่าอ่วมสุดยอดด แล้วลาเฟียร์จะมาช่วยทันไหมเนี่ยยย??
รอต่อครึ่งหลังค่ะ :man1:
-
รัตติกรเก่งมากอ่ะทนมาถึงขนาดนี้ได้แล้วอุตส่าห์หาข้อมูลของศัตรูอีก
เมื่อไรลาเฟียร์จะมาช่วยเนี่ย นานไปแล้วน้า
-
:angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
คุณเจ้านายเมื่อไหน่จะมา
-
เจ้านายไปไหนว่ะ ลูน่าโดนจับไปนานเเล้วนะ
-
อ้าวว ยังสอบสวนกันอยู่ -_-
-
ลาเฟียร์จ๋า ถ้าไม่เอาพวกหอสระอาไม้เอก...ให้ทรมานมากกว่าลูน่าล่ะก็...
ฉันไปฉีกอกเธอ!!! :fire:
-
รีบกลับมาต่อเหอะ
-
สอบสวนกันยาวจังเลย :monkeysad: :monkeysad: เมื่อไหร่จะมาฟระดอนนนนน :m31: :m31:
-
รอลาเฟียร์มาช่วย ><
-
ลาร์เฟียยยยยยยยยยยยยยยร์ ♥.,♥
อยากได้แบบจุใจ คงไม่ได้ นี่ก็ครึ่งแรกแล้ว โอ้ว.. อย่าลืมกลับมานะ O_O
คิดถึงมากรุยยยยยย
ก็ลูน่าเก่ง -..-
-
ลาเฟียร์ มาให้ทันน้าาาาาาาาาาา :monkeysad: :monkeysad:
ฆ่าไอ้พวกชั่วนี่ให้หมด :m31: :m31:
-
ฮิ้วววว
ฉลองการกลับมาค่าาา
คิดถึงมากกกก แต่ถ้าพระเอกยังๆมามาซะทีละก็
จะกดลบ
ชริๆ
-
พระเอกรีบๆมาช่วยได้แล้ว!
-
มาแล้ว
ค่อยหายคิดถึง
:laugh5: :laugh5: :haun1:
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: อยากอ่านต่อไวๆๆๆ
-
แง้งงง นึกว่าจะลืมกันไปแล้ว
รีบมาต่อน้าตัวเอง ชอบนายเอกเรื่องนี้มาก ฉลาดดีอะ^^
-
อึดจริง ๆรู้สึกเหมือนกับว่าเวลามันผ่านมานานแล้วนะไอ้พระเอกมัวทำอะไรอยู่น่าจะมาช่วยตั้งนานแล้วนี่ถ้าเป็นคนอื่นคงตายไปแล้วมั้งกว่าพระเอกจะมา
-
โกรธคนแต่งค่ะ ไม่มาต่สักที คอยนานมากๆๆๆo12 o12 o12
รอนะค่ะ :call: :call:
-
เมื่อไหร่ลาร์เฟียร์จะมาละเนี่ยยยยยยยยย
-
ลาเฟียร์จะปล่อยให้รัตติกรอยู่อย่างนี้อีกนานเท่าไหรเนี่ย มาช่วยได้แล้ว หาข้อมูลอะไรอยู่ ยังไม่รู้อีกหรือไงเนี่ย
-
เร็วนี้นะ อย่าหายนะ
แล้วจะเจอแน่ๆใช่ม้ายยยย
-
-[]- / พบ...ทางสว่างงในที่สุดพี่ก็มาต่อ แต่มาค้างแบบนี้ T[]T ม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
มาต่อก็ดีใจนะคะ มากด้วย
แต่ตัดฉับอย่างนี้เอามีดมาแทงกันเถอะ T_T
-
เมื่อไหร่ลูเฟียร์จะมาอ่า :z3:
:pig4: นะคะ
-
อ้ากกกกกรัตติกรของฉันอึดจริงๆ o13
-
อ่านแล้วอยากกระอักแทนรัีตติกร คุณเจ้านายมันหายหัวไปไหน(ฟระ)
-
ลูน่าอึดมาก :a5:
-
เมื่อไหร่พระเอกจะโผล่คะเนี่ย >_<!!!!
เดี๋ยวลูน่าจังเป็นไรไปนะ
-
มาต่อเร็วๆ เน้อ
อยากอ่านต่อแล้วจ้ะ
-
รอครึ่งหลังค่า :mc4:
-
นายเอกที่ขึ้นชื่อเรื่องความอึด :laugh:
-
รอจ้า
-
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ :call:
-
ลาเฟียร์อยู่ไหน..มาช่วยเร็วๆเซ่
-
อิตาดอนใหญ่แห่งอิตาลี จะรอให้ลูน่าตายก่อนรึไง เมื่อไหร่จะมาช่วยยยยย :fire:
-
เมื่อไหร่เจ้านายจะมาเนี่ยยย !
ค้างๆๆๆ รอต่อค่ะ 55
:serius2: :serius2: :serius2:
-
อ่า สงสารรัตติกรจัง T__________T
-
เอ๋ออออออออออออออออออออออ!!!
หายไปอีกแล้ว **นั่งรออีกหลายเดือน*
ฮรึก!
-
เย้ๆในที่สุดก็กลับมาต่อแล้ว
น่างสงสารรัติกรจัง เมื่อไหร่พระเอกจะมาช่วยซักที มานั่งรอนอนรอครึ่งหลังคะ *0*
-
มารอดูการกลับมาของอีกคน ว่าจะมาในรูปแบบไหน และจัดการกับฟงจิ้นฮ่าวแบบไหน
+1 ให้กับการกลับมา พร้อมเน็ตเพื่อลงเรื่องแบบ อันลิมิเต็ด :z2:
-
:mc4: :mc4:
เย้ คนเขียนกลับมาแล้ว
แต่เมื่อไหร่พระเอกจะมาช่วยซักที จะตายแล้วน๊า า
-
ย๊าคคคคคคคค ตามทันแล้ว ดอนหายไปไหน ทำไมยังไม่มาช่วยลูน่าาา :serius2: :serius2:
-
ลูน่า จะกลายเป็นปลาร้าแล้วนะดอน
-
รู้สึกว่าจะนานไปนะ ท่าทางจำลืมลูน่าแล้วมั่งเนี้ย :serius2: :serius2: :serius2:
แต่อย่ายอมแพ้เขานะลูน่าสู้ๆๆ
มาต่อไว้ๆน้า :call: :call: :call: :call:
-
จะ รออ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
รอ
-
ลาร์เฟียร์ หายหัวไปไหน สองตอนแระนะที่ลูน่าโดนทารุณน่ะ
รีบๆมาช่วยซะทีสิ เริ่มหงุดหงิดแระนะ :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:
หรือว่าไม่สนใจลูน่าแ้วเลยปล่อยทิ้งงั้นหรอ โอ้ยย :m31: :m31: :m31:
รีบๆมาช่วย ก่อนที่ไอ้พวกเศษเดนจะฆ่าลูนะนะ :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:
-
ท่านกลับมาด้วยฉากที่คิดไม่ถึง ลูน่าโดนฉีดยาเข้าให้แล้ว
ไอ้เจ้านายเฮงซวยอยู่ไหนฟร่ะ!!
นานเหลือเกินกว่าจะมาถึงตอนนี้ได้ ถ้าเป็นฮิกี้ก็แต่ง(ในสมุดหรือกระดาษอะไรก็ได้)
ตอนอยู่บ้านไปก่อนจิ บู้ๆ!!//ทำปากจู๋
-
:m31: :m31: ลาเฟียร์ นายไปมุดหัวอยู่ไหน ลูน่ากำลังจะโดนฉีดยาเข้าเส้นแล้วนะ :3125:
:monkeysad: โธ่ ลูน่า น่าสงสารและอึดจริงๆเลยลูก เป็นคนอืดไม่ปางตายก็พิการไปแล้ว
-
:z3: :z3: :z3: :z3:
อยากอ่านต่ออออ
รอ ร๊อ รอ...
-
:sad4: โอ้กลับมาแล้วสินะคะ อย่าหายไปนานๆอย่างนี้อีกนะ คิดถึงมากเลย แต่มาขนาดนี้แล้วก็หายคิดถึงแล้วคะ//ฟินเบาๆ :z2:
-
:เฮ้อ:มาช่วยซักทีซิ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.19 80%
สายน้ำเย็นสาดเข้ากระทบกับใบหน้า ฉุดกระชากสติที่กำลังดำดิ่งลงลึกสู่ความเงียบงันให้ฟื้นตื่นขึ้นแม้เจ้าของร่างจะไม่เต็มใจ รัตติกรฝืนเปลือกตาให้เปิดขึ้นเล็กน้อย มันหนักราวกับมีใครเอาหินมาถ่วงไว้ภายในร่างกายของเขาร้อนผ่าว ผิดกับภายนอกที่เย็นเฉียบจากน้ำที่ยังเกาะพราวอยู่ตามร่างกาย
“มันรู้สึกตัวรึยังวะ?”
“ขยับแล้วนี่? คงจะตื่นแล้วล่ะ มึงเข้าไปเช็คสิวะ”
ปลายคางถูกดันให้ยกขึ้นสูง รัตติกรปรือตามองอีกฝ่ายที่เห็นได้เพียงแค่เป็นภาพเลือนราง ฝ่ามือหยาบหนาตบเข้าที่ใบหน้า รสเลือดแสบคอจึงแผ่กระจายอยู่ในปากอีกครั้ง จมูกกระสากลิ่นสนิมจางๆ หากแต่ความเจ็บร้าวก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม หนุ่มชาวไทยครางออกมาแผ่วเบาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ารู้สึกตัว ส่งผลให้อีกฝ่ายหัวเราะลั่นเมื่อทำตามคำสั่งของเจ้านายได้ลุล่วงเสียที
“ว่าไปไอ้เลขานี่ก็อึดเป็นบ้า เหยื่อคราวก่อนของนายไม่มีใครทนได้เท่านี้สักคน”
“ปากเก่งด้วยนะโว้ย ใจเด็ดชิบหาย โดดฟาดเลือดสาดขนาดนั้นยังเถียงนายกลับไปได้ ไม่หลุดความลับของไอ้พวกมาเฟียนั่นออกมาสักคำ”
“งี้พวกอเมริกันที่นายพามาเค้าจะไม่หัวเสียแย่เหรอวะ?”
“มึงก็รอดูตอนนายกลับมาสิวะ ท่าทางเป็นยังไงผลก็เป็นแบบนั้นแหละไอ้โง่”
พวก…อเมริกัน?
รัตติกรเงี่ยหูฟังสิ่งที่ลูกน้องของฟงเจิ้นฮ่าวคุยกัน ข้อมูลที่หลุดออกมาอีกอย่างช่วยจำกัดวงของผู้ต้องสงสัยว่าใครกันแน่คือคนที่อยู่เบื้องหลังคนคนนั้นของเจิ้นฮ่าวต้องเป็นคนอเมริกัน มีอำนาจมากพอที่คิดจะต่อกรกับเวสเปอร์แฟมมิลี่ รวมไปถึงเส้นสายที่ฝ่ายนั้นมีก็เชื่อมโยงมาถึงประเทศจีน มันแน่นหนาพอที่จะเป็นแบ็กอัพให้กับตระกูลฟงแทนที่อำนาจเดิมของลาร์เฟียร์
ดูท่างานนี้ศัตรูจะเป็นตัวฉกาจไม่เบา ดอนแห่งปาเลอร์โม่คงจะเจอกระดูกชิ้นโตเข้าให้แล้วล่ะมั้ง…
เสียงประตูเหล็กลั่นครืดคราดดังขึ้นมาจากด้านบน ฝีเท้าของผู้ก้าวเข้ามามีไม่กี่คน มันลงจังหวะแผ่วเบาแล้วค่อยๆเยื้องย่างลงบันไดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ชายผ้าไหมสีแดงเข้มชี้ตัวผู้ก้าวเข้ามาได้ก่อนสิ่งใด
ฟงเจิ้นฮ่าวนั่นเอง…
หนุ่มชาวจีนมีผู้ติดตามมาด้วยสองคน ผู้แรกคือคนสนิทที่รัตติกรเห็นตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ถูกจับมา หากแต่อีกคนกลับเป็นชายมีอายุที่อยู่ในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตา สังเกตคร่าวๆได้ไม่นานฟงเจิ้นฮ่าวก็ก้าวเข้ามาภายในห้องขัง ดวงตาเรียวรีฉายประกายระยับลุ่มหลง เสริมความน่าขยาดเข้าไปด้วยรอยยิ้มเหยียดกว้างและเสียงหัวเราะแหลมในลำคอที่ระคายหูเหลือคณานับ
รัตติกรขมวดคิ้วและให้ความสนใจกับชายในเสื้อกาวน์มากกว่ามาเฟียโรคจิตตรงหน้า นายแพทย์คนนั้นวางกล่องเครื่องมือลงกับพื้นและมองมาทางเขาด้วยท่าทางหวาดกลัว มือที่มีร่องรอยเหี่ยวย่นให้ได้เห็นบ้างแล้วนั้นสั่นระริกยามที่เอื้อมมือไปเปิดกล่องตรงหน้า เผยให้เห็นภายในที่มีทั้งขวดยาขนาดเล็ก ชุดผ่าตัด รวมไปถึงเข็มฉีดยาและผ้าผันแผล
หมอนี่จะเล่นอะไรกับเขาอีกล่ะ…
“ดีใจที่คุณยังมีสติรอผมกลับมานะครับ ช่วงที่ผมไม่อยู่คงมีเวลาเหลือเฟือให้คุณได้คิดไตร่ตรองสักนิดบ้าง ว่ายังไงครับ ตกลงจะบอกผมได้รึยัง?”แม้จะว่าเช่นนั้น ทว่าท่าทางที่ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเท่าที่ควรกลับทำให้รัตติกรสงสัยว่าอีกฝ่ายมั่นใจอะไรนักหนาว่าจะสามารถเค้นความจริงออกจากปากของเขาได้
“โง่…รึเปล่า? ถ้าผมจะบอก อึก!…คุณก็ไม่ต้องมาอ้อนวอนขอมันจากผมแบบนี้หรอก!! หึ”หนุ่มชาวไทยส่งเสียงหัวเราะขึ้นจมูกเป็นการยั่วโมโหอีกฝ่าย รวมไปถึงใช้ปิดบังอาการสำลักเลือดที่พุ่งวูบขึ้นมาถึงคอ ดูท่าสนับมือที่อีกฝ่ายซัดเข้าชายโครงของเขาจะออกฤทธิ์เข้าให้แล้ว
บาดเจ็บภายใน…มันเริ่มเข้าขั้นวิกฤตแล้วนะ!
เมื่อไหร่ไอ้เจ้านายซังกะบ๊วยของเขามันจะโผล่หัวมาช่วยสักที?
“นั่นสิ…ผมก็เลยไม่หวังว่าจะเค้นอะไรจากคุณในสภาพนี้ได้อีกแล้วล่ะ!!”ฟงเจิ้นฮ่าวกล่าวทั้งรอยยิ้ม มือเรียวยาวตวัดขึ้นคว้าลำคอเพรียวบางเอาไว้อย่างถนัดมือแล้วบีบขย้ำเต็มแรงจนรัตติกรดิ้นพล่าน รอจนกระทั่งอีกฝ่ายเริ่มจะแน่นิ่งไป ร่างในชุดจีนจึงยอมผ่อนแรงลงจนกลายเป็นการจับเอาไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะยิ้มเยาะให้เหยื่อของตนเองที่สำลักไอจนน้ำตาคลอ
แม้จะไม่ใช่น้ำตาที่เกิดจากความหวาดกลัว ทว่าใบหน้าหยิ่งทะนงที่เปรอะเปื้อนไปด้วยสิ่งที่แลดูอ่อนแอเช่นนี้กลับยิ่งทำให้เขาอยากเห็นคนตรงหน้าดิ้นรนครวญครางทั้งน้ำตาภายใต้ร่างของเขายิ่งกว่าสิ่งใด!!
ฟงเจิ้นฮ่าวใช้อีกมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบขวดแก้วใบเล็กขึ้นมา ปลายนิ้วเรียวยาวคลึงขวดนั้นให้กลิ้งไปมาบนฝ่ามือขาวซีด รัตติกรกัดริมฝีปากข่มอาการของตนเอาไว้ คิ้วเรียวขมวดแน่นเมื่อมองเห็นขวดที่ว่า ภายในนั้นบรรจุของเหลวสีใส ปริมาณมีเพียงเล็กน้อย ที่ฝาขวดผนึกไว้ด้วยจุกยางสีเทาอ่อน ลักษณะของขวดชัดเจนว่าเป็นขวดยาที่ต้องใช้เข็มฉีดเข้าเส้นเลือด…
ยาที่เอามาใช้เพื่อให้สารภาพความจริงส่วนใหญ่มักเป็นยาที่อยู่ในกลุ่มกล่อมประสาท อยู่กับมาเฟียพวกนี้ก็ไม่น่าจะเป็นยาที่ใช้ในทางการแพทย์โดยตรงเท่าไหร่นัก หนุ่มชาวไทยเลยสันนิษฐานได้ไม่ยากว่ามันคือยาเสพติดชนิดหนึ่ง!
“แค่ก! หึ…เลยต้องใช้…มอร์ฟีน…มาคุยแทนสินะ? อั่ก!!!”รัตติกรกล่าวทั้งใบหน้ายิ้มเยาะคล้ายไม่รู้สึกรู้สา ทว่าเสียงหัวใจในอกที่กำลังเต้นกระหน่ำเพราะความหวาดกลัวกลับดังก้องกระหึ่ม มือของผู้กระทำลงแรงบีบอีกครั้งความเจ็บปวดที่ได้รับเปลี่ยนเป็นด้านชา หยาดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่บนใบหน้าเย็นเยียบขึ้นมากระทันหัน
“!?...”ฟงเจิ้นฮ่าวขมวดคิ้วทันควัน หนุ่มชาวจีนรู้ว่ารัตติกรกลัวเป็นและกำลังกลัว แต่ทั้งที่เป็นอย่างนั้น สติของเจ้าเลขานี่กลับยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ดวงตาสีน้ำตาลไหม้คู่นั้นยังคงฉายประกายแวววาวคมกล้า เขาแน่ใจว่าไม่ได้เอ่ยชื่อยาในขวดนี่ออกไปแม้แต่น้อย แล้วทำไมคนคนนี้ถึงรู้ทั้งที่ทำแค่เพียงเหลือบมองมันเท่านั้น?
รองหัวหน้าตระกูลฟงขบฟันแน่น เขาไม่ยอมแสดงอาการหวั่นวิตกให้คนตรงหน้าได้ใจไปกว่านี้แน่นอน ชายหนุ่มกระชับมือตนเองเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา สัมผัสเย็นเฉียบของขวดแก้วที่ถือเอาไว้สร้างความอุ่นใจให้เขาอย่างง่ายดาย
มีสิ่งนี้แล้วเขาจะกลัวอะไร? อีกไม่นานความหยิ่งทะนงที่น่ารำคาญนี่ก็จะถูกทำลายจนราบคราบแน่นอน!!
“เก่งจริงนะ…ไม่แปลกใจที่นายท่านเลือกคุณมาเป็นเลขาของเวสเปอร์…เสียดายที่ผมต้องทำงานให้เสร็จก่อน รับรองว่าถ้าคุณพูดมันออกมาเมื่อไหร่ ต่อจากนั้นผมจะพาคุณไปสนุกให้ถึงสวรรค์เลยล่ะ”กล่าวจบฟงเจิ้นฮ่าวก็แย้มรอยยิ้มออกกว้าง เขาคลายมือออกจากลำคอของรัตติกรอย่างอ้อยอิ่ง เฝ้ามองคนตรงหน้าที่สั่นระริกไปด้วยความกลัวที่ยังคงผสานความกล้าเอาไว้ด้วยกัน ลำคอขาวเนียนเป็นรอยแดงช้ำ เสียงหอบหายใจเบาๆฟังดูยั่วยวน ดวงตาแสนสวยคู่นั้นก็ยังฉายประกายดื้อรั้นไม่ยอมคนอยู่เช่นเดิม
“เอาให้ถึงนรก…ก็อย่าหวัง ว่าจะได้อะไรไปจากผม!!!”
ความรู้สึกที่ควรจะขัดแย้งกัน รัตติกรกลับแสดงมันออกมาพร้อมกันได้…
เพราะสิ่งนี้หรือ ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์จึงเก็บคนคนนี้เอาไว้กับตัว?
“ฉีดยาให้เขาซะ!”
ถ้าอย่างนั้น เขาก็จะทำลายคนตรงหน้านี้ให้กลายเป็นเพียงเศษกระเบื้องให้ดู!!!
______________________________________
โซอาห์เร โนวาห์ ผิวปากเบาๆเมื่อเห็นสิ่งที่รัตติกรโต้กลับฟงเจิ้นฮ่าวผ่านโทรทัศน์ที่มีทั้งภาพและเสียงต่อตรงมาจากคุกใต้ดิน เจ้าของผมสีเงินยาวเอนตัวพิงผนักโซฟาหนานุ่มแล้วมองไปทางโนเอลซึ่งยืนอยู่ข้างหลัง บอดี้การ์ดร่างสูงแค่เพียงทำหน้าเรียบเฉยตอบกลับท่าทีเหมือนจะถามของคนตรงหน้า ส่งผลให้ดวงตาสีไอซ์บลูเย็นชาฉายประกายขบขันขึ้นมาแวบหนึ่ง
“เลขาคนใหม่ของลาร์เฟียร์ไม่เลวนะว่าไหม?”โซอาห์เรถามเหมือนจะกระเซ้าเย้าแหย่ให้คนสนิทหน้าตายของตนหลุดออกมาบ้าง ทว่าเจ้าตัวคนถูกถามกลับยังคงมาดนิ่งไม่มีเปลี่ยน
“ก็ดีครับ”
“จะไม่แสดงความเห็นอะไรรึไง?”
“ก็ ดี ไงครับ”โนเอลยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ตัดกับโซอาห์เรที่ยิ้มบางๆ เสียงหัวเราะแหบเครือดังขึ้นในลำคอก่อนที่เจ้าตัวจะกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายเดินมาข้างหน้าแทนที่เขาจะต้องเสียเวลาเอี้ยวตัวกลับไปมอง
“หึงเหรอ?”
“....”
“ฉันจะสนใจใครมันก็เป็นเรื่องของฉันนะโนเอล ฉันไม่ใช่ของของเธอ”
“แต่ผมเป็นของของคุณ...”
“...หึ”ฝ่ายหนึ่งยังคงคงสีหน้าเรียบเฉยของตนเอาไว้ ขณะอีกด้านทำเพียงหัวเราะเสียงเหยียดหยัน โซอาห์เรกระชากแขนของโนเอลที่มายืนอยู่ตรงหน้า บังคับให้อีกฝ่ายโน้มตัวลงมาหา ริมฝีปากสีซีดสัมผัสที่มุมปากแผ่วเบาแล้วผละออกอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเทาสบกับปราการน้ำแข็งในดวงตาของผู้เป็นเจ้านาย มันยังคงไม่สะท้อนสิ่งใดอยู่เช่นเคย
เป็นดวงตาอันแสนเย็นชาที่ไม่ต่างกับจูบเบาๆเมื่อครู่นี้
โซลให้เขาได้ ถ้าเขารู้จักเรียกร้อง...
แต่โซลจะไม่มีวันมอบทั้งหมดให้เขา เหมือนกับที่เขามอบทั้งชีวิตให้โซล...
“ถึงเวลาไปรึยังครับ?”โนเอลถามพร้อมกับยันตัวขึ้นมาจากโซฟาที่ถูกดึงให้ล้มลงไปหาเมื่อครู่ ท่าทางแสดงออกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาถ้าจะทำเป็นเฉยดีกว่าจะต้องแสดงออกว่าเจ็บปวดเพื่อเรียกร้องให้อีกฝ่ายหันมาสนใจตน
บอดี้การ์ดหนุ่มเบี่ยงตัวหลบออกไปเพื่อให้โซอาห์เรเห็นภาพในวงจรปิดอีกตัวกำลังแสดงให้เห็นถึงกลุ่มคนที่กำลังบุกเข้ามาจากทุกประตูของคฤหาสน์ ส่วนใหญ่เป็นคนจากทางฝั่งยุโรปด้วยรูปร่างและหน้าตา แต่สิ่งที่บอกสังกัดของผู้ที่บุกรุกได้ชัดเจนที่สุดก็คือชุดที่พวกเขาสวมใส่อยู่
มีเพียงเวสเปอร์แฟมมิลี่เท่านั้นที่ใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์...
“ลาร์เฟียร์เร็วกว่าที่คิดเยอะเลยนะ ฉันอุตส่าห์วางกับดักเขาไว้ตั้งหลายชั้น หึหึหึ”
“มาเถอะครับ เขากับคุณก็ไม่ใช่เล่นพอๆกัน คนของเรามีอยู่แค่นี้รับมือเขาได้ไม่นานหรอกนะครับ”โนเอลเอ่ยเร่ง ทว่าท่าทีของเขาก็ดูไม่ได้รีบร้อนเหมือนเช่นคำที่เอ่ยออกจากปาก บอดี้การ์ดร่างสูงถ่ายโอนสัญญาณของกล้องวงจรปิดมาสู่ i-pad ด้วยรู้ว่าหมาป่าสีเงินแห่งองค์กรโนวาห์ยังต้องการรับชมภาพการบุกเข้าชิงตัวเลขาคนใหม่ของเวสเปอร์แฟมมิลี่อย่างแน่นอน
“ฉันรอวันจะงัดข้อกับเขาบ่อยไป โนเอล”ว่าไปพลาง รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของโซอาห์เรก็ยิ่งดูเหี้ยมเกรียมขึ้นเท่านั้น ร่างเพรียวบางลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปที่เตียง โทรศัพท์เครื่องบางวางอยู่เหนือกล่องสีดำสนิท ตัวเลขดิจิตอลสีแดงส่องแสงเรืองวาบ มันเป็นเลข 30 ที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว ปลายนิ้วเรียวเอื้อมไปกดรหัสเพื่อเปิดการทำงานของกล่องดำตรงหน้า ตัวเลขที่เคยหยุดนิ่งจึงได้กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งด้วยตัวเลขที่ลดไปทีละวินาที
29:30....
“หวังว่าของขวัญชิ้นพิเศษนี่จะทำให้ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ประทับใจนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
เหลือเวลาอีก 28:00นาที คฤหาสน์แห่งนี้จะระเบิดเป็นจุล!!!!
______________________________________
ย้าฮ่า กลับมาแล้วครับ (สภาพตอนนี้ปางตายมาก :z10: :jul3: :jul3: :really2: :really2:)
ต่อไปคงเป็นฉากที่รอคอยจริงๆ(ซักที แหะๆ) ป๋ามาแล้วฮะ!! o13
ขอโทษน้องแยมด้วยที่พี่สัญญาว่าจะอัพให้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแต่มันเพิ่งมาโผล่เอาตอนนี้นะครับ :m5:
สภาพการณ์ตอนนี้หมาโยจะเดี้ยงละฮะ คือแบบ เปิดเทอมมาได้2-3อาทิตย์เองอ่ะ งานสาขาเข้ามาเยอะมากกกกก ละครสาขาผมอยู่ฝ่ายฉาก ฝ่ายโสต ฝ่ายจัดหาทุน ฝ่ายเสร่อไปลักวิชาผู้กำกับ :o8:
ละครโรงเรียนเก่าผมก็ไปช่วย ดูเหมือนว่ากีฬาระหว่างคณะก็เป็นนักกีฬาด้วย(ต้องตื่นตี5...นั่นมันเวลานอนผมนะ..)นิยายยังแต่งไม่จบ การบ้านกองท่วมหัว เข่าหลุดจนขาเดี้ยง เดินกะเผลกๆทั้งวัน ไม่นานมานี้เพิ่งตกจากที่สูง...เอวเดี้ยงไปอีกที่...
ชีวิตกรู... :m2: :m2: o7 o7
เอาเป็นว่ากว่าจะฟื้นคืนชีพได้ กว่างานจะหมด ไอ้ที่เคยช้าอยู่แล้วก็จะช้าขึ้นไปอีก...(โดนตบผลั่ว :z6: :beat:)
ผมว่าผมไม่สัญญาดีกว่าว่าจะอัพตอนไหน สัญญาทีไรเลททุกรอบเลยอ่ะ เอาเป็นว่าขึ้นอยู่กับชะตาฟ้าลิขิต วันไหนงานน้อยผมจะรีบกลับมานะครับ :z2: :z13: :z13:
คิดถึงเสมอ และขอบคุณที่ยังรอกันอยู่นะครับ :กอด1: :L2: :L1: :pig4:
Namioto Yo
แล้วเจอกันฮะ
ปล.มาลงๆดูแล้วโคตรสั้นเลยอ่ะ ผมว่าผมก็พิมพ์ไปเยอะน้าาาา :z3: :z3:
-
สั้นไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่ได้รู้ว่าลาเฟียร์มาช่วยแล้วววววว
-
กลับมาแล้ววววว ดีใจจัง :o12:
ลาเฟียร์ สู้ๆนะ ช่วยลูน่าให้ได้นะ
ขอบคุณค่ะ :L2:
-
จะช่วยได้มั้ยนั่นเหลือแค่ 28 นาทีเอง
-
มาสักทีเถอะะะ :beat: :beat: :beat:
-
คนแต่งกลับมาแล้ว
ดีใจจนน้ำตาจะไหล :m15:
:z2: :z2: จะรอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ
-
เย้สุดท้าย ลาเฟียร์ก็มาช่วยรัตติิกรสีกที
-
แปะไว้จะมาอ่าน 5 55 +
-
ยังไง ก็
จะนอน รอ นะค่ะ
คนแต่ง ^^ :t3: :t3:( o18)
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
:L2: :L2: :L2:
-
มาแล้ววววววปล่อยให้รอตั้งนานแหนะ :z2:
:pig4: :pig4:
-
แล้วจะนอนรออ่านต่อจ้า
-
เอาวะ มาแต่ชื่อก็ยังดีพระเอกชั้น
-
ตอนที่รอยังไม่มา 555 รอต่อปายย
-
ขอเพิ่มนะ :sad4:
-
โอ้ยมาต่อแล้วอย่าหายอีกน๊า :impress3: :impress3:
จะช่วยทันไหมอะ :z3: :z3: :z3: :z3:
:call: :call: :call: :call:
-
สั้นไปนิด แต่เอาหว่ะ พระเอกมาแล้ววว o7 o7
คนเขียนก็สู้ๆๆ น้าดูแลสุขภาพด้วย
-
ถึงจะสั้น แต่อย่างน้อยลาเฟียร์ก็มาซะที ช้าไปไม๊ห๊ะ แล้วก็รีบเลย เดี่ยวลูน่าแย่พอดี :m16: :m16:
-
อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว
แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล
-
โรคจิตนะโซล พระเอกกว่าจะโผล่ก็รอกันจนเหงือกแห้ง
-
ลาเฟียร์จะมาทันไหมน้า อยากต่อเร็วจัง
-
อ้ากกกก ค้างงงง
มาต่อน้อยนิดทำร้ายจิตใจคนอ่านมาก ฮึ งอนนน
-
มาแล้ว :sad4:
รอจ้าาา
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด มาแล้ว
รัตติการของเราจะกระอักเลือดตายแล้วมั้งเนี่ย -_-
-
ขอโทษนะคะ มันสงสัยน่ะค่ะ ตอนที่ 16 ทำไมห้องของมาเฟียอิตาลีถึงเข้าง่ายขนาดล่ะคะ ถึงแม้จะบอกว่าไปสอบปากคำผู้บุกรุกก็เถอะ ง่ายไปอะ :a5:
-
โนเอลน่าสงสารนะนั่น โซลใจร้าย แล้วรัตติกรจะเป็นอะไรหรือเปล่า ลาสเฟียร์ช่วยรัตติกรให้ได้
-
มาต่อแล้ว :impress3: แต่มันสั้นไปนิด :impress3:
รอลุ้นค่ะ ช่วยทันมัย :call: :call: :call:
-
กว่าจะมา...แทบเดี้ยง
:z6:
-
อ่านทีเดียวรวดอยากบอกว่า
สนุกมากค่ะ
จากที่เห็นท่าทางคนเขียนนานๆอัพใช่ไหมคะ
แต่ก็จะรอคิดว่านานแค่ไหนก็คุ้มที่รอค่ะขอแค่อย่าหายไปเลย
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยคะ
อยากรู้จังว่านายเอกมีอดีตอะไรติดตามต่อไปค่ะ
คนเขียนสู้ๆนะคะงานเยอะน่าดู :L2:
-
มารอต่อ อีก 20 เปอร์
-
โอออ..... โหดจริงๆ โซเรอาห์ อุ้ยชอบคู่นี้จัง
เลื่นอลงมาคิดว่าเยอะ ที่แท้ย้อนตอนเก่า5555555555
เงิบเลยยยยย
หายเจ็บเอวไวๆนาา *หายแล้วรึยังหนาา*
ยังไงก็สู้ๆ อิอิ มาช้าดีกว่าไม่มา มาน้อยแต่กินใจเลย 55555555
โอ้ยจะระเบิดดดด กะฆ่าฟงเจิ้นฮ่าวด้วยหรือเปล่า-0-
-
มาต่อให้ค้างชัดๆ
:sad4: :sad4: :sad4:
-
สะ สั้น!! o22 o22
คะ ค้าง!!! :a5: :a5: :a5:
คนแต่งค้าาา มาฆ่าเราให้ตายเลยเถอะ :z3: :z3: :z3: :z3:
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ อย่าทิ้งนานนะค้า เราจะจมกองเลือด(ของ)รัตติกรตายอยู่แล้ววว :jul1: :jul1:
-
สู่นะ เป็นกำลังใจให้
เรารอตอนต่อไปอยู่นะ
-
:pig4:
-
ดีใจน้ำตาไหลพราก อันแรกก็คือคนเขียนมาอัพแล้ว :monkeysad:
อันที่สองก็คือพระเอกมาช่วยแล้ว นายเอกเราน่วมไปหมดแล้ว
หลังจากที่ช่วยออกไปได้เราว่าต้องพยาบาลกันยาวเลยเจ็บขนาดนั้น
นายเอกของเราอึดและทนน่าดู สมกับที่ทำงานกับมาเฟีย
ขอให้ออกไปได้อย่างปลอดภัยทั้งสองคนนะจ๊ะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ ไม่ว่ายังไงก็รอ :L2:
-
นึกว่าตาฝาด :m14:
การชิงตัวประกันครั้งนี้ คงไม่เพียงแต่ภาระกิจนี้เ่ท่านั้นมั่ง คงได้สะสางบางสิ่งบางอย่างไปด้วยในโอกาสเดียวกัน
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ สู้ ๆ
ปล. ชีวิตคือการต่อสู้และฝ่าฟัน เพื่อไปให้ถึงจุดหมายครับ :กอด1:
-
แทบจะร่ำไห้น้ำตาไหลพราก
ในที่สุดไรท์ก็มาอัพTT^TT
ขอบพระคุณอย่างสูง
รอตอนต่อไปนะคะ^^
สู้ๆนะคะ
-
เพิ่งมาเจอ สนุกมาก ไม่น่าเลย ตามอ่านรวดเดียวแล้วมาค้างอยู่นี่ TT,TT
-
o13 o13 o13
-
อ๊าค ตรูจะบ้าตาย ลุ้นตัวโก่ง 555
-
มาแว้ววววว ไรต์ไม่ต้องรีบนะค้าา
-
:m32: ย่องมาดูไรท์
.....:z3: :z3: มันค้างอ๊าาาา
-
ไอ้ย๊ะ!!
...ในที่สุด
-
จะครบเดือนแล้วน้าาา
เมื่อไหร่ลูน่า จะมา
รออยู่นะงับ สู้ๆ :L2: :L2:
-
:z2: :z2: :z2:
ดันๆๆ เผื่อคนแต่งจะลืม
เอาลูน่ามาน้าาาาา :o12: :o12: :o12:
-
มา นั่ง จิบ ชา รอ :z2: :z2: :z2:
(http://www.bloggang.com/data/m/moresaw/picture/1327050510.jpg)
-
อยากอ่านต่อโฮกกกกกกกกกก :z3: :z3: :z3: :z3:
-
ค้างอยู่บนยอดตาล :z3: :z3: :z3: ว่าแต่คนเขียนมีอีกเรื่องที่เขียนค้างไว้รึเปล่าคะเราหาไม่เจอ ไม่รู้หายไปไหลแล้วใครรู้ช่วยบอกที ถ้าจำไม่ผิดจัชื่อเรื่อง...พวกคุณก็รักกันดีอยู่แล้วจะเอาผมไปเพิ่มทำไม... :really2:
-
เพิ่งได้อ่านตอนแรกไป น่าสนใจมาก ชอบอะไรที่มันมาเฟียๆ อิอิ
เดี๋ยวจะกลับมาอ่านนะคะ ไปอ่านหนังสือสอบก่อน TT^TT
ปล. เค้าแปะเป็ดให้ตัวนะ
-
อ่านทันแล้ว
ชื่อเรื่องดูจะโรแมนติกเบาๆ
แต่โผล่มาตอนแรกก็ยิงกันสนั่น
ชอบบุคลิกของลูน่านะ
ข้อมูลคุณนักเขียนแน่นปึก
บรรยายสนุกดีค่ะ ชอบ
แต่มันมาทีละนิดอ่า ก็เข้าใจว่าคิดสด แต่ก็อยากให้จบเป็นตอนๆไป
อ่านแล้วมันค้างแล้วค้างอีก จบค้างเป็นตอนยังพออ่านรู็เรื่องค่ะ ยังต่อได้
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะ
ติดตามค่ะ
-
:call: :call: :call:
โอม...จง...มา...
-
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงง :z3:
มาอัพเร็วๆนะคะ T__T
-
วาระนี้ ขออวยพร ให้ผู้เขียน & ผู้อ่าน จง
Live Long and Prosper
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
:laugh5: :laugh5: :haun1:
-
ปีใหม่แล้วน้าาา มาต่อเถอะ จะคลั่งแล้วเนี่ยยย
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
<a href=http://download.cnet.com/YouTube-To-MP3/3000-2071_4-75810474.html >youtube to mp3</a>
-
แวะมาจิ้มตูดคนเขียน :z13:
รอค่ะ..
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.19 100%
สายน้ำเย็นสาดเข้ากระทบกับใบหน้า ฉุดกระชากสติที่กำลังดำดิ่งลงลึกสู่ความเงียบงันให้ฟื้นตื่นขึ้นแม้เจ้าของร่างจะไม่เต็มใจ รัตติกรฝืนเปลือกตาให้เปิดขึ้นเล็กน้อย มันหนักราวกับมีใครเอาหินมาถ่วงไว้ภายในร่างกายของเขาร้อนผ่าว ผิดกับภายนอกที่เย็นเฉียบจากน้ำที่ยังเกาะพราวอยู่ตามร่างกาย
“มันรู้สึกตัวรึยังวะ?”
“ขยับแล้วนี่? คงจะตื่นแล้วล่ะ มึงเข้าไปเช็คสิวะ”
ปลายคางถูกดันให้ยกขึ้นสูง รัตติกรปรือตามองอีกฝ่ายที่เห็นได้เพียงแค่เป็นภาพเลือนราง ฝ่ามือหยาบหนาตบเข้าที่ใบหน้า รสเลือดแสบคอจึงแผ่กระจายอยู่ในปากอีกครั้ง จมูกกระสากลิ่นสนิมจางๆ หากแต่ความเจ็บร้าวก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม หนุ่มชาวไทยครางออกมาแผ่วเบาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ารู้สึกตัว ส่งผลให้อีกฝ่ายหัวเราะลั่นเมื่อทำตามคำสั่งของเจ้านายได้ลุล่วงเสียที
“ว่าไปไอ้เลขานี่ก็อึดเป็นบ้า เหยื่อคราวก่อนของนายไม่มีใครทนได้เท่านี้สักคน”
“ปากเก่งด้วยนะโว้ย ใจเด็ดชิบหาย โดดฟาดเลือดสาดขนาดนั้นยังเถียงนายกลับไปได้ ไม่หลุดความลับของไอ้พวกมาเฟียนั่นออกมาสักคำ”
“งี้พวกอเมริกันที่นายพามาเค้าจะไม่หัวเสียแย่เหรอวะ?”
“มึงก็รอดูตอนนายกลับมาสิวะ ท่าทางเป็นยังไงผลก็เป็นแบบนั้นแหละไอ้โง่”
พวก…อเมริกัน?
รัตติกรเงี่ยหูฟังสิ่งที่ลูกน้องของฟงเจิ้นฮ่าวคุยกัน ข้อมูลที่หลุดออกมาอีกอย่างช่วยจำกัดวงของผู้ต้องสงสัยว่าใครกันแน่คือคนที่อยู่เบื้องหลังคนคนนั้นของเจิ้นฮ่าวต้องเป็นคนอเมริกัน มีอำนาจมากพอที่คิดจะต่อกรกับเวสเปอร์แฟมมิลี่ รวมไปถึงเส้นสายที่ฝ่ายนั้นมีก็เชื่อมโยงมาถึงประเทศจีน มันแน่นหนาพอที่จะเป็นแบ็กอัพให้กับตระกูลฟงแทนที่อำนาจเดิมของลาร์เฟียร์
ดูท่างานนี้ศัตรูจะเป็นตัวฉกาจไม่เบา ดอนแห่งปาเลอร์โม่คงจะเจอกระดูกชิ้นโตเข้าให้แล้วล่ะมั้ง…
เสียงประตูเหล็กลั่นครืดคราดดังขึ้นมาจากด้านบน ฝีเท้าของผู้ก้าวเข้ามามีไม่กี่คน มันลงจังหวะแผ่วเบาแล้วค่อยๆเยื้องย่างลงบันไดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ชายผ้าไหมสีแดงเข้มชี้ตัวผู้ก้าวเข้ามาได้ก่อนสิ่งใด
ฟงเจิ้นฮ่าวนั่นเอง…
หนุ่มชาวจีนมีผู้ติดตามมาด้วยสองคน ผู้แรกคือคนสนิทที่รัตติกรเห็นตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ถูกจับมา หากแต่อีกคนกลับเป็นชายมีอายุที่อยู่ในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตา สังเกตคร่าวๆได้ไม่นานฟงเจิ้นฮ่าวก็ก้าวเข้ามาภายในห้องขัง ดวงตาเรียวรีฉายประกายระยับลุ่มหลง เสริมความน่าขยาดเข้าไปด้วยรอยยิ้มเหยียดกว้างและเสียงหัวเราะแหลมในลำคอที่ระคายหูเหลือคณานับ
รัตติกรขมวดคิ้วและให้ความสนใจกับชายในเสื้อกาวน์มากกว่ามาเฟียโรคจิตตรงหน้า นายแพทย์คนนั้นวางกล่องเครื่องมือลงกับพื้นและมองมาทางเขาด้วยท่าทางหวาดกลัว มือที่มีร่องรอยเหี่ยวย่นให้ได้เห็นบ้างแล้วนั้นสั่นระริกยามที่เอื้อมมือไปเปิดกล่องตรงหน้า เผยให้เห็นภายในที่มีทั้งขวดยาขนาดเล็ก ชุดผ่าตัด รวมไปถึงเข็มฉีดยาและผ้าผันแผล
หมอนี่จะเล่นอะไรกับเขาอีกล่ะ…
“ดีใจที่คุณยังมีสติรอผมกลับมานะครับ ช่วงที่ผมไม่อยู่คงมีเวลาเหลือเฟือให้คุณได้คิดไตร่ตรองสักนิดบ้าง ว่ายังไงครับ ตกลงจะบอกผมได้รึยัง?”แม้จะว่าเช่นนั้น ทว่าท่าทางที่ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเท่าที่ควรกลับทำให้รัตติกรสงสัยว่าอีกฝ่ายมั่นใจอะไรนักหนาว่าจะสามารถเค้นความจริงออกจากปากของเขาได้
“โง่…รึเปล่า? ถ้าผมจะบอก อึก!…คุณก็ไม่ต้องมาอ้อนวอนขอมันจากผมแบบนี้หรอก!! หึ”หนุ่มชาวไทยส่งเสียงหัวเราะขึ้นจมูกเป็นการยั่วโมโหอีกฝ่าย รวมไปถึงใช้ปิดบังอาการสำลักเลือดที่พุ่งวูบขึ้นมาถึงคอ ดูท่าสนับมือที่อีกฝ่ายซัดเข้าชายโครงของเขาจะออกฤทธิ์เข้าให้แล้ว
บาดเจ็บภายใน…มันเริ่มเข้าขั้นวิกฤตแล้วนะ!
เมื่อไหร่ไอ้เจ้านายซังกะบ๊วยของเขามันจะโผล่หัวมาช่วยสักที?
“นั่นสิ…ผมก็เลยไม่หวังว่าจะเค้นอะไรจากคุณในสภาพนี้ได้อีกแล้วล่ะ!!”ฟงเจิ้นฮ่าวกล่าวทั้งรอยยิ้ม มือเรียวยาวตวัดขึ้นคว้าลำคอเพรียวบางเอาไว้อย่างถนัดมือแล้วบีบขย้ำเต็มแรงจนรัตติกรดิ้นพล่าน รอจนกระทั่งอีกฝ่ายเริ่มจะแน่นิ่งไป ร่างในชุดจีนจึงยอมผ่อนแรงลงจนกลายเป็นการจับเอาไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะยิ้มเยาะให้เหยื่อของตนเองที่สำลักไอจนน้ำตาคลอ
แม้จะไม่ใช่น้ำตาที่เกิดจากความหวาดกลัว ทว่าใบหน้าหยิ่งทะนงที่เปรอะเปื้อนไปด้วยสิ่งที่แลดูอ่อนแอเช่นนี้กลับยิ่งทำให้เขาอยากเห็นคนตรงหน้าดิ้นรนครวญครางทั้งน้ำตาภายใต้ร่างของเขายิ่งกว่าสิ่งใด!!
ฟงเจิ้นฮ่าวใช้อีกมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบขวดแก้วใบเล็กขึ้นมา ปลายนิ้วเรียวยาวคลึงขวดนั้นให้กลิ้งไปมาบนฝ่ามือขาวซีด รัตติกรกัดริมฝีปากข่มอาการของตนเอาไว้ คิ้วเรียวขมวดแน่นเมื่อมองเห็นขวดที่ว่า ภายในนั้นบรรจุของเหลวสีใส ปริมาณมีเพียงเล็กน้อย ที่ฝาขวดผนึกไว้ด้วยจุกยางสีเทาอ่อน ลักษณะของขวดชัดเจนว่าเป็นขวดยาที่ต้องใช้เข็มฉีดเข้าเส้นเลือด…
ยาที่เอามาใช้เพื่อให้สารภาพความจริงส่วนใหญ่มักเป็นยาที่อยู่ในกลุ่มกล่อมประสาท อยู่กับมาเฟียพวกนี้ก็ไม่น่าจะเป็นยาที่ใช้ในทางการแพทย์โดยตรงเท่าไหร่นัก หนุ่มชาวไทยเลยสันนิษฐานได้ไม่ยากว่ามันคือยาเสพติดชนิดหนึ่ง!
“แค่ก! หึ…เลยต้องใช้…มอร์ฟีน…มาคุยแทนสินะ? อั่ก!!!”รัตติกรกล่าวทั้งใบหน้ายิ้มเยาะคล้ายไม่รู้สึกรู้สา ทว่าเสียงหัวใจในอกที่กำลังเต้นกระหน่ำเพราะความหวาดกลัวกลับดังก้องกระหึ่ม มือของผู้กระทำลงแรงบีบอีกครั้งความเจ็บปวดที่ได้รับเปลี่ยนเป็นด้านชา หยาดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่บนใบหน้าเย็นเยียบขึ้นมากระทันหัน
“!?...”ฟงเจิ้นฮ่าวขมวดคิ้วทันควัน หนุ่มชาวจีนรู้ว่ารัตติกรกลัวเป็นและกำลังกลัว แต่ทั้งที่เป็นอย่างนั้น สติของเจ้าเลขานี่กลับยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ดวงตาสีน้ำตาลไหม้คู่นั้นยังคงฉายประกายแวววาวคมกล้า เขาแน่ใจว่าไม่ได้เอ่ยชื่อยาในขวดนี่ออกไปแม้แต่น้อย แล้วทำไมคนคนนี้ถึงรู้ทั้งที่ทำแค่เพียงเหลือบมองมันเท่านั้น?
รองหัวหน้าตระกูลฟงขบฟันแน่น เขาไม่ยอมแสดงอาการหวั่นวิตกให้คนตรงหน้าได้ใจไปกว่านี้แน่นอน ชายหนุ่มกระชับมือตนเองเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา สัมผัสเย็นเฉียบของขวดแก้วที่ถือเอาไว้สร้างความอุ่นใจให้เขาอย่างง่ายดาย
มีสิ่งนี้แล้วเขาจะกลัวอะไร? อีกไม่นานความหยิ่งทะนงที่น่ารำคาญนี่ก็จะถูกทำลายจนราบคราบแน่นอน!!
“เก่งจริงนะ…ไม่แปลกใจที่นายท่านเลือกคุณมาเป็นเลขาของเวสเปอร์…เสียดายที่ผมต้องทำงานให้เสร็จก่อน รับรองว่าถ้าคุณพูดมันออกมาเมื่อไหร่ ต่อจากนั้นผมจะพาคุณไปสนุกให้ถึงสวรรค์เลยล่ะ”กล่าวจบฟงเจิ้นฮ่าวก็แย้มรอยยิ้มออกกว้าง เขาคลายมือออกจากลำคอของรัตติกรอย่างอ้อยอิ่ง เฝ้ามองคนตรงหน้าที่สั่นระริกไปด้วยความกลัวที่ยังคงผสานความกล้าเอาไว้ด้วยกัน ลำคอขาวเนียนเป็นรอยแดงช้ำ เสียงหอบหายใจเบาๆฟังดูยั่วยวน ดวงตาแสนสวยคู่นั้นก็ยังฉายประกายดื้อรั้นไม่ยอมคนอยู่เช่นเดิม
“เอาให้ถึงนรก…ก็อย่าหวัง ว่าจะได้อะไรไปจากผม!!!”
ความรู้สึกที่ควรจะขัดแย้งกัน รัตติกรกลับแสดงมันออกมาพร้อมกันได้…
เพราะสิ่งนี้หรือ ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์จึงเก็บคนคนนี้เอาไว้กับตัว?
“ฉีดยาให้เขาซะ!”
ถ้าอย่างนั้น เขาก็จะทำลายคนตรงหน้านี้ให้กลายเป็นเพียงเศษกระเบื้องให้ดู!!!
______________________________________
โซอาห์เร โนวาห์ ผิวปากเบาๆเมื่อเห็นสิ่งที่รัตติกรโต้กลับฟงเจิ้นฮ่าวผ่านโทรทัศน์ที่มีทั้งภาพและเสียงต่อตรงมาจากคุกใต้ดิน เจ้าของผมสีเงินยาวเอนตัวพิงผนักโซฟาหนานุ่มแล้วมองไปทางโนเอลซึ่งยืนอยู่ข้างหลัง บอดี้การ์ดร่างสูงแค่เพียงทำหน้าเรียบเฉยตอบกลับท่าทีเหมือนจะถามของคนตรงหน้า ส่งผลให้ดวงตาสีไอซ์บลูเย็นชาฉายประกายขบขันขึ้นมาแวบหนึ่ง
“เลขาคนใหม่ของลาร์เฟียร์ไม่เลวนะว่าไหม?”โซอาห์เรถามเหมือนจะกระเซ้าเย้าแหย่ให้คนสนิทหน้าตายของตนหลุดออกมาบ้าง ทว่าเจ้าตัวคนถูกถามกลับยังคงมาดนิ่งไม่มีเปลี่ยน
“ก็ดีครับ”
“จะไม่แสดงความเห็นอะไรรึไง?”
“ก็ ดี ไงครับ”โนเอลยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ตัดกับโซอาห์เรที่ยิ้มบางๆ เสียงหัวเราะแหบเครือดังขึ้นในลำคอก่อนที่เจ้าตัวจะกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายเดินมาข้างหน้าแทนที่เขาจะต้องเสียเวลาเอี้ยวตัวกลับไปมอง
“หึงเหรอ?”
“....”
“ฉันจะสนใจใครมันก็เป็นเรื่องของฉันนะโนเอล ฉันไม่ใช่ของของเธอ”
“แต่ผมเป็นของของคุณ...”
“...หึ”ฝ่ายหนึ่งยังคงคงสีหน้าเรียบเฉยของตนเอาไว้ ขณะอีกด้านทำเพียงหัวเราะเสียงเหยียดหยัน โซอาห์เรกระชากแขนของโนเอลที่มายืนอยู่ตรงหน้า บังคับให้อีกฝ่ายโน้มตัวลงมาหา ริมฝีปากสีซีดสัมผัสที่มุมปากแผ่วเบาแล้วผละออกอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเทาสบกับปราการน้ำแข็งในดวงตาของผู้เป็นเจ้านาย มันยังคงไม่สะท้อนสิ่งใดอยู่เช่นเคย
เป็นดวงตาอันแสนเย็นชาที่ไม่ต่างกับจูบเบาๆเมื่อครู่นี้
โซลให้เขาได้ ถ้าเขารู้จักเรียกร้อง...
แต่โซลจะไม่มีวันมอบทั้งหมดให้เขา เหมือนกับที่เขามอบทั้งชีวิตให้โซล...
“ถึงเวลาไปรึยังครับ?”โนเอลถามพร้อมกับยันตัวขึ้นมาจากโซฟาที่ถูกดึงให้ล้มลงไปหาเมื่อครู่ ท่าทางแสดงออกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาถ้าจะทำเป็นเฉยดีกว่าจะต้องแสดงออกว่าเจ็บปวดเพื่อเรียกร้องให้อีกฝ่ายหันมาสนใจตน
บอดี้การ์ดหนุ่มเบี่ยงตัวหลบออกไปเพื่อให้โซอาห์เรเห็นภาพในวงจรปิดอีกตัวกำลังแสดงให้เห็นถึงกลุ่มคนที่กำลังบุกเข้ามาจากทุกประตูของคฤหาสน์ ส่วนใหญ่เป็นคนจากทางฝั่งยุโรปด้วยรูปร่างและหน้าตา แต่สิ่งที่บอกสังกัดของผู้ที่บุกรุกได้ชัดเจนที่สุดก็คือชุดที่พวกเขาสวมใส่อยู่
มีเพียงเวสเปอร์แฟมมิลี่เท่านั้นที่ใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์...
“ลาร์เฟียร์เร็วกว่าที่คิดเยอะเลยนะ ฉันอุตส่าห์วางกับดักเขาไว้ตั้งหลายชั้น หึหึหึ”
“มาเถอะครับ เขากับคุณก็ไม่ใช่เล่นพอๆกัน คนของเรามีอยู่แค่นี้รับมือเขาได้ไม่นานหรอกนะครับ”โนเอลเอ่ยเร่ง ทว่าท่าทีของเขาก็ดูไม่ได้รีบร้อนเหมือนเช่นคำที่เอ่ยออกจากปาก บอดี้การ์ดร่างสูงถ่ายโอนสัญญาณของกล้องวงจรปิดมาสู่ i-pad ด้วยรู้ว่าหมาป่าสีเงินแห่งองค์กรโนวาห์ยังต้องการรับชมภาพการบุกเข้าชิงตัวเลขาคนใหม่ของเวสเปอร์แฟมมิลี่อย่างแน่นอน
“ฉันรอวันจะงัดข้อกับเขาบ่อยไป โนเอล”ว่าไปพลาง รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของโซอาห์เรก็ยิ่งดูเหี้ยมเกรียมขึ้นเท่านั้น ร่างเพรียวบางลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปที่เตียง โทรศัพท์เครื่องบางวางอยู่เหนือกล่องสีดำสนิท ตัวเลขดิจิตอลสีแดงส่องแสงเรืองวาบ มันเป็นเลข 30 ที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว ปลายนิ้วเรียวเอื้อมไปกดรหัสเพื่อเปิดการทำงานของกล่องดำตรงหน้า ตัวเลขที่เคยหยุดนิ่งจึงได้กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งด้วยตัวเลขที่ลดไปทีละวินาที
29:30....
“หวังว่าของขวัญชิ้นพิเศษนี่จะทำให้ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ประทับใจนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
เหลือเวลาอีก 28:00นาที คฤหาสน์แห่งนี้จะระเบิดเป็นจุล!!!!
______________________________________
ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์นั่งอยู่ในรถของตนขณะมองภาพกลุ่มลูกน้องที่กำลังบุกฝ่าเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลฟง ชายหนุ่มกำมือแน่นเมื่อนึกถึงข้อมูลที่ได้มาว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังการทรยศครั้งนี้
โซอาห์เรทิ้งกับดักเอาไว้ในแต่ละที่ตามแต่ที่เขาจะตามรอยไปถึง สายลับจากจีนคนนั้นรู้แค่เพียงเป้าหมายที่จะต้องถ่วงเวลาของเวสเปอร์แฟมมิลี่ให้อยู่ที่เมืองจีนต่อไปและสถานที่สำหรับไปรับค่าตอบแทนเมื่องานเสร็จลุล่วงเพียงเท่านั้น พอให้คนตามไปสถานที่นัดพบที่ว่า กลุ่มคนที่บุกเข้าห้องของพวกเขาก็กลายเป็นผู้ค้ายาที่กำลังนัดซื้อขายเฮโรอีนหลายกิโลกรัม ประจวบเหมาะจนเกินพอดีกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาจับกุม ทำให้เสียเวลาและเงินไปไม่ใช่น้อยกว่าจะเจรจาและติดสินบนกรมตำรวจเซี่ยงไฮ้ได้
เส้นทางการตามหารัตติกรเหลือศูนย์ ทว่าเป้าหมายของผู้บุกรุกนั้นคือการถ่วงเวลาให้เขาเลื่อนการเดินทางออกไป การมองหาและจำกัดวงผู้ต้องสงสัยที่จะได้รับประโยชน์หากเขาอยู่ที่นี่ต่อก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ยิ่งคิดไปถึงเมื่อบ่ายที่เขาเข้าพบกับพวกตระกูลฟงนั่นด้วยแล้ว ไม่ยากเลยที่จะระบุคนร้ายได้
ทว่ากับดักที่สองของโซอาห์เรกลับรอเขาอยู่ที่คฤหาสน์หลักของตระกูลฟง ฟงต้าเหลียง ประมุขแห่งตระกูลได้กลายเป็นศพคาเก้าอี้ผู้นำท่ามกลางกลุ่มคนรับใช้คนสนิทที่จมกองเลือดอยู่ไม่ห่าง ในห้องนั่นเต็มไปด้วยสีแดงสดของโลหิตที่พร่างพราย รวมไปถึงกระดาษนับร้อยแผ่นที่กระจายกันกลาดเกลื่อนอยู่รายล้อม มันแสดงหลักฐานการทำผิด ทั้งค้ายา ค้ามนุษย์ รวมถึงการติดต่อกับกลุ่มหัวรุนแรงทางตะวันออกกลางเพื่อลักลอบผลิตอาวุธเถื่อนอย่างเช่นระเบิดแสงและแก๊สน้ำตาจำนวนมาก
หนึ่งในนั้นมีเพียงกระดาษแผ่นเดียวที่ดอนแห่งปาเลอร์โมให้ความสนใจ…
มันคือภาพถ่ายของรัตติกรที่เต็มไปด้วยเลือดซึ่งถูกตอกยึดเอาไว้กลางหน้าอกของฟงต้าเหลียง…
พร้อมกับตราประทับสีทองขององค์กรโนวาห์…
นั่นเป็นการเย้ยหยั่นที่แรงพอดู ดังนั้นเมื่อถึงตอนที่ออกจากคฤหาสน์ หัวหน้าบอดี้การ์ดสคูร์โดจึงได้รับหน้าที่ให้ไปเผาบ้าน ส่วนฟรานก็ต้องนั่งข้างคนที่อารมณ์กำลังร้อนเสียยิ่งกว่าไฟเพราะทำของเล่นแสนรักหลุดมือไปให้คนอื่นใช้จนเกือบพัง เลขาหนุ่มแทบนั่งไม่ติดที่ราวกับถูกเผาเสียเองอย่างไรอย่างนั้น
แน่แล้วว่าฟงเจิ้นฮ่าวที่พอให้หาทั้งคฤหาสน์กลับไม่พบศพ รวมกับตราประทับของโนวาห์บนรูปของรัตติกร การสันนิษฐานว่าใครคือคนบงการและผู้ที่อยู่เบื้องหลังจึงไม่ยากเกินความสามารถเลย ดูท่าความกระหายอำนาจอยากจะขึ้นมาเป็นผู้นำของฟงเจิ้นฮ่าวถึงกับทำให้เขาสามารถขายกระทั่งตระกูลของตนเอง ปล่อยให้โซอาห์เรลงมือฆ่าพี่ชายแท้ๆเพื่อยึดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลแทน!
ไม่รู้จะเรียกว่าโง่หรือบ้า…
สุดท้ายแล้วเมื่อดอนแห่งปาเลอร์โมยกหูโทรศัพท์เพื่อคุยกับสายที่แทรกซึมอยู่ในองค์กรโนวาห์ ก่อนจะวางสายแล้วต่อหารองบอสของเวสเปอร์แฟมมิลี่ซึ่งประจำการอยู่ที่ซิซิลีให้ระดมคนจำนวนหนึ่งมาช่วยในการเปิดฉากสงครามแย่งตัวประกันคืน รอเพียงไม่นาน สถานที่ที่โซอาห์เรอยู่ในตอนนี้ก็ได้ถูกรายงานมาถึงมือของเขาในเวลาเพียงชั่วครู่เดียว
ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน ต่างฝ่ายต่างทั้งเก็บงันและรู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดี การปะทะกันแต่ละครั้งของเวสเปอร์และโนวาห์จึงมักจะตามมาด้วยความเสียหายมหาศาล ความโกลาหลปั่นป่วนของเศษฐกิจหลายชนิด รวมไปถึงกำลังคนที่ต้องเสียไปด้วยเช่นกัน
ฟรานมองลาร์เฟียร์ที่ลงมือทำอะไรรวดเร็วและไม่ค่อยจะรอบคอบอย่างที่เคยเป็นเท่าไหร่ เพราะการติดต่อหาสายลับที่แฝงตัวอยู่ในองค์กรโนวาห์นั้น ช้าเร็วก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้คนที่ส่งเข้าไปถูกเปิดเผยตัวเร็วขึ้น ดังนั้นการสั่งงานแต่ละครั้งจึงต้องมีความสำคัญมากพอและได้รับการไตร่ตรองมาอย่างดีแล้วเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เลยยิ่งทำให้ฟรานที่คอยรับคำสั่งต้องสงสัยถึงความสำคัญของการไปนำตัวรัตติกรกลับมาอีกครั้ง…
______________________________________
“ทางเข้าออกทุกประตูเคลียร์แล้วครับดอน คุณสคูร์โดกำลังพากำลังเสริมค้นทั่วคฤหาสน์ ถ้าเจอคุณลูน่าเมื่อไหร่จะรีบแจ้งให้ทราบครับ”
หนึ่งในลูกน้องที่เป็นฝ่ายประสานงานควบคุมสัญญาณเสียงและการติดต่อของไมค์ทุกตัววิ่งเข้ามาแจ้งลาร์เฟียร์ซึ่งนั่งรออย่างนิ่งสงบอยู่ในรถ แสงจากไฟถนนส่องลอดผ่านกระจกติดฟิล์มหนาได้แค่เพียงเบาบาง เสริมสร้างเงาของผู้ที่อยู่ภายในให้ไม่ต่างกลับเสือร้ายที่จ้องจะตะครุบเหยื่อท่ามกลางความมืด
บรรยากาศเงียบสงัดทิ้งตัวลงครอบคลุม ทั้งๆที่เสียงปืนจากภายในคฤหาสน์ดังแว่วออกมาเป็นระยะ ทว่าบริเวณรอบรถของเหนือหัวแห่งโลกสีเทากลับเงียบกริบจนหน้าหวั่นใจ ชั่วขณะที่ประตูรถเปิดออกมาอย่างแช่มช้า เงาของลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ที่ก้าวออกมาจากข้างในนั้นดูราวกับยมทูตที่กำลังออกล่าวิญญาณ ปืนพกสั้นสีดำลายทองหม่นหรูหราของวอลเธอร์ รุ่น P99 ลาเชสส์ ถูกจับมั่นกระชับในอุ้งมือหนา
ถ้ายมทูตใช้เคียวในการคร่าวิญญาณ มาเฟียอย่างเขาก็จะใช้ปืนในการล่าสังหารเหมือนกัน!!
“ดอนครับ! ทางเราส่งกำลังคนเข้าไปแล้ว ดอนไม่จำเป็นต้อง…”
“ฉันจะเข้าไปเอง! ส่งหูฟังมานี่!”ร่างสูงโดดเด่นก้าวล้ำเข้าหาลูกน้องที่ยืนสั่นผวาอยู่ตรงหน้า ดวงตาสีสนิมคมกริบจ้องสะกดอย่างดุดันให้อีกฝ่ายทำตามที่ตนต้องการโดยเร็ว
“แต่…”
“เอาหูฟังให้ท่าน ส่วนเธอก็กลับไปทำหน้าที่ต่อได้แล้ว”ฟรานที่นั่งอยู่ในรถคันเดียวกันก้าวตามออกมา เขาเอ่ยประโยคคลายสถานการณ์ให้ลูกน้องเร่งกลับไปทำงาน ส่วนตนเองก็เดินออกมายืนเคียงกับดอนแห่งปาเลอร์โมพร้อมกับยกปืนคล็อคปี 1991 ขึ้นมาเช็คกระสุนไปด้วย
“ถ้าดอนจะเข้าไปจริงๆ ผมก็จะไปด้วยครับ เอากำลังเสริมไปด้วยอีกสองสามคน ถึงสคูร์โดจะเคลียร์ทางไว้แล้วก็จริง แต่การที่คุณจะบุกเดี่ยวเข้าไปเพียงคนเดียวแบบนี้มันก็อันตรายอยู่ดีครับ”แน่ล่ะว่าสิ่งที่เลขาอย่างเขาเอ่ยออกมาย่อมไม่ใช่ประโยคคำสั่ง ทว่ามันก็ไม่ใช่ประโยคคำถามให้อีกฝ่ายปฏิเสธเขาได้เช่นเดียวกัน!
ลาร์เฟียร์ตวัดหางตามองฟรานชั่วครู่หนึ่งก็พยักหน้าให้ ร่างสูงเดินล่วงหน้าเข้าประตูคฤหาสน์ไปก่อน ทิ้งให้ฟรานต้องรีบเรียกกำลังเสริมอีกสามคนให้เร่งตามเข้าไปก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นมา
“ออร์ก้าเรียกชีลด์ ออร์ก้าเรียกชีลด์ ตอบด้วยครับ” ฟรานส่งสัญญาณเรียกสคูร์โดซึ่งอยู่แนวหน้าขณะเดินตามลาร์เฟียร์เข้าไปในคฤหาสน์ ดวงตาสีเขียวมรกตสอดส่องผ่านเลนส์แว่นเพื่อมองหาอะไรก็ตามที่ผิดปกติ ชายหนุ่มขยับหูฟังไร้สายให้เข้าที่ ก่อนจะมองกวาดไปรอบด้านอีกครั้ง
ในการสื่อสารทางสัญญาณวิทยุนั้น พวกเขาจะไม่เผยชื่อจริงของตนเป็นอันขาดเพราะเสี่ยงต่อการถูกดักฟังสูงมาก ดังนั้นชื่อของเขาจึงเป็นออร์ก้า ส่วนสคูร์โดก็ใช้ความหมายของชื่อตนเองจึงได้ชื่อชีลด์มา
“นี่ชีลด์ ทราบแล้วเปลี่ยน”รอไม่นาน สัญญาณตอบรับจากสคูร์โดก็ถูกส่งมา
“อีเกิ้ลกับผมกำลังเข้าไป เคลียร์ทางไว้เรียบร้อยมั้ยครับ?”แน่นอนว่าคนที่สำคัญที่สุดในองค์กรอย่างลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ผู้มีฉายาว่าพญาอินทรีนั้นก็มีชื่อของตนเองเช่นกัน
“หา!? จะบ้าเรอะ! เข้ามาทำไม!!”หัวหน้าบอดี้การ์ดหลุดเสียงอุทานอย่างไม่ทันได้คิด แน่ล่ะว่าช่องสัญญาณนี้ทุกคนในแฟมมิลี่ต่างก็ใช้ร่วมกัน ดังนั้นหัวหน้าขององค์กรที่บังคับเอาหูฟังของลูกน้องมาก็ได้ยินการ์ดของตัวเองหาว่าบ้าได้อย่างชัดเจน ฟรานเหลือบตามองดอนของเขาที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยถึงได้กล่าวตัดบทด้วยการถามย้ำถึงสิ่งที่ต้องการไปอีกรอบ
“เคลียร์ทางไว้เรียบร้อยมั้ยครับ?”
“ตายหมดเรียบร้อยครับออร์ก้าที่รัก บอกอีเกิ้ลด้วยว่าลูน่าไม่ได้อยู่บนคฤหาสน์”
“งั้นก็รีบไปหาให้เจอ ฉันจะฆ่ามัน!”น้ำเสียงเรียบแฝงแววดุดันเอาไว้เต็มเปี่ยมเร่งสั่งการ ลาร์เฟียร์ให้ลูกน้องคนหนึ่งส่งแผนที่ของคฤหาสน์มาให้ ไม่นานพิมพ์เขียวแบบสามมิติก็ถูกส่งเป็นไฟล์เข้ามาในมือถือของฟรานที่ยืนรอรับคำสั่งและคอยคุ้มกันไปด้วยในตัว
ดอนแห่งปาเลอร์โมยื่นมือไปรับมือถือมาดู ดวงตาสีสนิมกวาดมองไล่ไปตามแต่ละส่วนของคฤหาสน์เพื่อหาเส้นทางที่จะเข้าไปในทางลับชั้นใต้ดินอย่างรวดเร็ว
“ชีลด์ ให้คนไปเช็คที่ห้องนอนชั้นหนึ่งฝั่งปีกซ้ายห้องที่สาม ห้องนั่งเล่นชั้นสองถัดจากบันไดไปหนึ่งห้อง แล้วก็ห้องพระใหญ่ที่ฝั่งตะวันออกของบ้าน ส่งคนมาหาฉันที่ศาลากลางน้ำอีกสามสี่คนด้วย”
“ไอ้สามที่แรกเข้าใจ แต่ที่สุดท้ายไหงคุณจะไปเองล่ะครับ?”
“ลูน่าอยู่ที่นั่น”
“ห๊า!? เฮ้ย งั้นก็ให้ผมไปด้วยสิ! จะให้แยกออกไปอีกทำไม?”
“ห้องนอนนั่นคงเป็นของพวกโนวาห์ ไปเช็คดูเผื่อมันทิ้งกับดักอะไรเอาไว้อีก ห้องนั่งเล่นมีเตาผิง ฟงเจิ้นฮ่าวจะใช้เป็นทางหนี ส่วนห้องพระมีสมบัติของพวกมันเก็บเอาไว้ ให้คนไปขนมาให้หมด”
“รู้ได้ไงวะ?…”สคูร์โดกระซิบบ่นเบาๆ แน่ล่ะว่าคนอื่นเค้าก็ได้ยินอยู่ดี ทว่าเพราะเป็นเรื่องที่แต่ละคนก็สงสัยกันอยู่ ดังนั้นข้อหาหมิ่นประมาทเจ้านายตัวเองเลยไม่ถูกเก็บไปขึ้นบัญชีหนังหมา
“เอางี้นะอีเกิ้ล รุ้ว่าคุณอยากลุยเดี่ยวเสียวกระหน่ำ ผมก็จะส่งลูกน้องไปตามที่คุณบอก แต่คนที่จะไปหาคุณที่น้ำพุนั่นจะมีผมอยู่ด้วย ไม่ขัดข้องนะ?”
“หึ….ตามใจ”
ท่ามกลางเงามืดในมุมหนึ่งของคฤหาสน์ ตัวเลขดิจิตอลสีแดงสดสว่างตากำลังนับถอยหลังเหลือเพียง 20 นาที!!
______________________________________
ความเจ็บแปลบของเข็มฉีดยาที่แทงเข้ามาในผิวเนื้อนั้นรู้สึกได้เพียงแค่เบาบาง ทว่ารัตติกรถึงกับหายใจสะดุดเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงดันของสลิงค์ที่กดให้มอร์ฟีนแล่นเข้าไปตามกระแสเลือดทีละเล็กทีละน้อย
มันเป็นความเจ็บปวดที่คุ้นเคยเมื่อนานมาแล้ว…
อดีตนั้น…กำลังเรียกเขากลับไปอีกครั้ง…
“อย่า…”
บางสิ่งที่ร่างกายต่อต้านค่อยๆแทรกเข้ามาภายในตัว…
มันเรียบเรียงตัวต่อที่ถูกทำให้แตกกระจัดกระจายกลับมาประกอบเข้ารูปกันอีกครั้งอย่างอ่อนหวาน…เลือดเย็น…
“อย่านะ…”
มอร์ฟีนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในเส้นเลือด เกินกว่าขนาดที่แพทย์จะใช้ระงับอาการปวดของผู้ป่วย มันวิ่งตรงเข้าสู่หัวใจ ขึ้นไปที่สมองแล้วค่อยๆออกฤทธิ์กดประสาท คลายความเจ็บปวดให้คล้ายกับการล่องลอยในปุยเมฆข้นขาว…
ซึ่งซ่อนกรงเล็บแหลมคมของสัตว์ร้ายเอาไว้อย่างมิดชิด…
“อึ๊ก!”
ร่างกายของรัตติกรลอยเคว้งคว้าง ภาพที่มองเห็นได้เพียงเบลอๆเอนไหวไปมาคล้ายกำลังร่ายรำอยู่กับที่ อาการนั้นผ่านไปเพียงชั่วนาทีก่อนที่ความมืดในอดีตซึ่งซุ่มตัวอยู่ท่ามกลางสติอันเลือนรางจะส่งเสียงกรีดร้องและฉีกกระชากลากเอาความเจ็บปวดทั้งหมดของเขามาระเบิดออกอย่างรุนแรง!!!
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!”
______________________________________
สวัสดีปีใหม่ครับนักอ่านที่รักทุกคน :mc4: :mc4:
(ได้โอกาสอัพเพราะพักจากงานไปหายายที่บ้านนามาครับ) :z13: :o8:
ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่ออกจะมักง่ายไปสักหน่อย แต่ก็ขอมอบให้กับทุกคนนะครับ
(ดูท่าผมจะมีปัญหากับการแบ่งเปอร์เซ็นต์แฮะ 20% ที่ลงตอนนี้ยาวเท่ากับ 80%ที่ลงมาก่อนเลยอ่ะ :z2:)
เพื่อไม่ให้ทุกคนค้างไปมากกว่านี้ จะรีบมาลงโดยไวเลยนะครับ :m15: :m15:
(อา ดูงานข้างหน้านั่นสิหมาโย เอ็งไม่รอดแน่)
งานฝ่ายฉากสนุกนะครับถ้ามีคนเยอะ แต่นี่คือละครของสาขาที่ได้ชื่อว่ามีคนน้อยที่สุดในคณะ ดังนั้นคนที่มาทำจริงก็ยิ่งมีน้อยยิ่งกว่าอีก ฉากใหญ่5ฉากกับคนทำงานนับได้ประมาณหกคนบวกลบในแต่ละวัน 555... :jul3: :z13: :z3:
อีกยี่สิบห้าวันจะแสดง 555
ร่างฉากยังไม่ถึงไหนเลย 5555
me>>>>>>> :sad3:
ช่วยเค้าด้วยยยยยยยยยยยย :z3: :o12: :o12: :o12:
อา ใครผ่านไปผ่านมาร่วมด้วยช่วยกันสนับสนุนละครภาษาญี่ปุ่นด้วยนะครับ :monkeysad:
แฮ่ๆ เจอกันในเร็ววันนี้ จะรีบกลับมาเท่าที่จะทำได้ครับผม
คำนับลา
Namioto Yo
o14 o14 o14
สวัสดีปีใหม่ มีความสุขมากๆทุกคนนะครับ ^^
-
ลาเฟียร์รู้ได้ยังไงนะนั่น แล้วจะรู้เรื่องที่พวกนั้นทำไว้ไหมเนี่ย แล้วเมื่อไรจะช่วยลูน่าได้กันนะเนี่ย สงสารลูน่า
-
ตอนหน้าจะได้กลับสู่อ้อมกอดของดอนสักทีหรือเปล่า
-
ความตรึงเคลียดที่กำลังดำเนินไป ท่ามกลางความกดดัน ก็มีอารมณ์ขันของพวกมาเฟียร์ แฝงอยู่ :m20:
แต่ไอ้ความค้างคา หึ หึ หึ ..... นี่สิ เคลียดยิ่งกว่า :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ พร้อมสวัสดีปีใหม่ ขอให้สุขภาพแข็ง แรง นะครับ :กอด1:
-
ลุ้นเว่อร์อ่ะ มาช่วยลูน่าเร็วๆๆ ช้ำแย่แล้ว :z3:
-
กรี๊ดดดดดดดดดด กำลังมัน
เครียดว่า ลูน่าจัง ของอีเกิล จะเป็นอะไรมากไหม เพราะดูถ้า มอร์ฟันจะไปขุดเอาอะไรขึ้นมาซะแล้ว
แต่ o22 o22 o22 o22 o22 o22
เครียดกว่าที่อีกนาน คนเขียนคงจะมาต่อ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก :laugh:
-
เอาไว้จะไปอุดหนุนละครสาขานะคะ เรารู้ว่ามันหนักมากกกก สู้ๆค่ะ
-
ในที่สุดก็ตามอ่านทัน จริงๆแล้วพูดไปงั้นเพราะเห็นอัพช้ามากแต่ละครั้งเลยไม่ค่อยเข้ามา
สู้ๆนะค่ะ เป็นคนเขียนที่ท่าทางอุปสรรคเยอะมาก
ปีใหม่แล้ว ก็ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตนะ
ขอให้งานลดน้อยลงเยอะๆเลย จะได้มีเวลามาอัพนิยายดีๆแบบนี้
เพิ่งเข้ามาอ่านหลังจากที่ไม่ได้อ่านมานาน แต่ก็พบว่าคนเขียนก็ไม่ค่อยได้อัพมากเท่าไหร่เหมือนกัน ฮ่าๆ
ชอบภาษาที่ใช้เขียน และเนื้อหามากค่ะ
รอติดตามตอนต่อๆไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ o13
-
นานมากกกกกกกกที่ไมได้มาอ่านนิยายเรื่องนี้ดีใจที่ได้มาอ่านรับปีใหม่ค่า :กอด1:
-
ดีใจที่เอามาลงคะ
จะติดตามตอนต่อไป
มาลงไวๆๆนะคะ
o13 o13 o13
-
กลับมาแล้วเหรอดอน &ลูนา
-
เป็นของขวัญปีใหม่ทีทรมานคนรับจริง ๆ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ...หวังว่าคนของพระเอกจะเจอระเบิดก่อนนะ
อยากรู้ใจจะขาดแล้วว่าลูน่าจะแผลงฤทธิ์ยังไง
-
มาแล้วววววววววว
ลูน่า อาละวาดให้เต็มที่เลยนะ เดี๋ยวป๋าดอนก็มาช่วยแล้ว
รอตอนต่อไป มาต่อเร็วๆน๊า
-
เพิ่งเข้ามาอ่านจบรวดเดียว
สนุกมากกกกกกกก
ลูน่าอะลาดวาดหนัก พระเอกรีบเจอตัวเร็วๆเถอะ
ไหนจะระเบิดอีก เป็นกำลังใจให้ค่า
-
ค้างงงงงง...อ่า รอตอนต่อไปด้วยความจดจ่อ
ต่อไวๆนะ รออยู่เ้น้อ
-
อยากจะบอกว่าเมื่อคืนฝันว่า คนเขียนมาอัพตอน 19 100% !!!
พอเปิดมาปุ๊บ! เห้ยยยยยย!!! Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!} ~ shot.19 UP! 100% กรี๊ดดดดดดดดด ดีใจอ๊าาา ><
กอดคนเขียน :กอด1: รอตอนต่อไปนะคะ กำลังลุ้นเรย :z3:
-
อ้าววว สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ง่ำๆ
-
อืม....ค้างได้อีก....รอคอยๆๆๆ
-
ในที่สุดลาร์เฟียร์ก็มาช่วยลูน่าแล้ว
-
ยังไงก็ยังค้างอยู่ดี :m31: :m31:
รอต่อไปจ้ะ :z3: :z3:
-
>[]< มาแล้ว!!!!!
-
ลูน่าแปลงร่าง!!
-
รอข้ามปีเลยทีเดียว แต่ถึงยังงั้นก็ยังคงค้างเหมือนเดิม
ถ้าจะรอนานเหมือนเดิมอีก มันก็ไม่ไหวแล้วเน้อ มาต่อเร็วๆหน่อยก็ดีจ้ะ :เฮ้อ:
-
:a5: กรี๊ดดดดด มาแว้ววววววววววววววววววววว :m3: :m3: :m3: :m3:
-
มาแล้วๆ
-
รอตอนต่อไปค่ะ
-
:o12:
ลูน่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา~
-
สมที่ลูน่าบอก เจ้านายชักช้าจริงๆ
-
ค้างง อ๊ะ! :a5: :a5: :a5: :a5:
มาต่อไวๆเน้ออ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ค้างอย่างแรงเป็นตอนที่ยาวนานมากข้ามปีกันเลยทีเดียว
-
ไรเตอร์มาอัพ นิยาย แล้ว เราแถบ จะจุด พลุ ฉลอง แต่อับแล้วค้าง หนักเลย งานนี้ ปวดตับ
-
สุขสันต์ปีใหม่ย้อนหลังค่ะ :L1:
ดีใจที่100%และมีท่าทีว่าจะได้อ่านตอนต่อไปที่ลูนาจะอยู่ในอ้อมแขนของดอมเสียที
-
อ้ากกกกกกกก!
อยากร้องแทนลูน่า
มันจะ จะ จะ ตลอด
เมื่อไหร่จะเจอออออ
-
โอ้ย ไม่ไหว ขออีกหลายๆตอน ด่วนๆ ><
-
มันค้าง!!!
-
ลูน่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :sad4:
-
โอเคแล้วจะรออ่านต่อจ้า
-
ส่งสัยลูน่าจะเสียตัวให้ดอนก็วันนี้และ
-
ค้างอย่างแรงฮ่าาาาา
ลูน่ามีอดีตอะไรง่ะสังสัยๆๆๆ
รอคนเขียนมาต่อค่ะ
...
เร็วๆนะคะ
...
อยากอ่านต่อจัง
...
:L2: :L2: :L1: :L1:ให้คนเขียนนน
-
สู้ๆนะะะ!!
ไม่ได้มาซะนานนน ฮู่วววววววว
งานเยอะสินะสินะ... ยังไงก็ ดูแลรักษาสุขภาพทั้งกายและใจด้วยนะฮ้าบบบบบ
ว่างแล้วอย่าลืมกลับมาหากันน :-[ :-[
สงสารลูน่า TT เจ็บปวดขนาดนั้น...
ขำสคูร์โดตอนบอกว่าลาเฟียร์บ้า ฮาอะ #ใช่เวลาไหม
รอออออออออ
-
ว๊ายยยยยยยยยยย
ตามมาจากกระทู้ แนะนำนิยายน่าอ่าน
นึกว่าเรื่องนี้จะจบแล้วสะอีก
โอ้ว มาย ก็อดดดดดดดดดดดดดดดด
อยากอ่านจังคะ แต่กลัวค้างที่สุด!!!!
อร๊ายยยยยยยย ให้ตายเถอะโรบิ้น ซาร่า จอร์จ!!!!
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
โป้ง!!!
คนเขียนทำคนอ่านค้าง :m16:
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4:กลับมาแล้ว :call: :call: :call: :call:
-
โอ้โยวววค้างงงงงTT^TT
รอไรท์มาต่อไวไวนะคะ
เป็นกำลังใจให้
สู้ๆจ้าาา^^
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
:z3: :z3:
อ๊ากกกกกกกกกกกก
กำลังมันเลย
-
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก~
-
อ้ากกกกอยากอ่านต่อ
T-T
-
คิดถึงที่สุดเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ย ย ย ยยยยย จ๊วฟๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
สนุกโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ค้างมากๆๆๆ ค่ะ :serius2: :serius2:
มาต่อเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :-[
-
กลับมากแล้วๆ
อย่างโหดมาก ดอนรีบมาเร็วๆ o13
-
ไม่ได้มาอ่านซะนาน มาอ่านรวดเดียว 3-4 ตอนเลย :m23:
ยังลุ้นๆอยู่เหมือนเดิม คราวนี้สงสัยเละกันไปข้าง
ขอให้ลูน่าปลอดภัยนะ
ปล. ประมาณตอนที่ 27 อ่ะ ตอนกะปริมาตรมอร์ฟีน เป็น 5 มิลลิลิตร นะคะ ไม่ใช่ มิลลิกรัม
มิลลิกรัมไม่ใช้กับสารละลาย (ของเหลว) คือ ดูด้วยตาก็กะไม่ได้ว่า ในขวดนั้นมีกี่มิลลิกรัมอ่ะ ต้องอ่านข้างขวดเท่านั้นค่ะ :teach:
-
คิดถึง คิดถึง คิดถึง
-
รอ ร๊อ รอ...รออยู่นะ
-
กลับมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
กลับมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
กลับมาลงตอนต่อปายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
อ่าา มาจิบกาแฟ รอ
:z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
:z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
-
:z2: :z2:
ดันๆ
เข้ามานอนรอ
มาต่อไวๆนะงับ :call:
-
อยากอ่านต่อมากมาย
ลูน่าจะเหลือสภาพเป็นไง :sad4:
อ๊ากกก.. อยากอ่านๆๆๆ o9 o9 o9
คนเขียนนนน ได้โปรดมาต่อ สงสารคนอ่านตาดำๆเถิด :impress: :impress: :impress:
-
ค้างอย่างแรงง จะเกิดอะไรขึ้นเนี่ยย
ปูเสื่อรอต่อไปค่ะ ^^
-
:z13:
-
สนุกมาก....
ลูน่าใกล้แปลงร่างแล้ว....ค้างมากมาย กลับมาต่อเถอะจ้า :call:
-
:z13: :z13:
-
คนแต่งจ้าอยู่ไหน~
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.20
ฟงเจิ้นฮ่าวเบิกตากว้างเมื่อร่างของเหยื่อเบื้องหน้ากรีดร้องอย่างทรมานขึ้นมาโดยไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้า เกลียวโซ่ที่ยึดพันธนาการข้อมือผอมสั่นระริกและตึงแน่นเมื่อถูกรั้งเอาไว้ราวกับเจ้าของร่างจะกระชากมันให้ขาดออกจากกัน
“อะไร? เกิดอะไรขึ้นน่ะหมอ?”หนุ่มชาวจีนถามนายแพทย์ที่ทำหน้าตาเลิกลั่กอยู่ไม่ห่าง ร่างเพรียวบางที่อยู่เบื้องหลังลูกกรงกำลังแสดงอาการแปลกประหลาดที่เขาคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอ ดวงตาสีน้ำตาลไหม้คู่งามปิดสนิท ทิ้งให้แพขนตายาวทาบทับกับพวงแก้มซีดเซียว มันเปียกชุ่มด้วยน้ำตาที่รินไหลออกมา ทว่าเจ้าของร่างกลับไม่ยอมเปิดตาขึ้นมารับรู้สิ่งต่างๆรอบกาย เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังก้องสะท้อนภายในห้องขังเล็กแคบ ราวกับรัตติกรกำลังเจ็บปวดกับบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาไม่อาจรับรู้ไปด้วยได้
“อะไรวะ เมื่อกี้นายเล่นมันแทบตายยังไม่ยอมร้องสักแอะ โดนยาเข้าไปเข็มเดียวกลับเป็นขนาดนี้เนี่ยนะ??”
“บ่นอะไร!? พวกมึงเข้าไปเช็คซิ!”เจิ้นฮ่าวหันไปตวาดลูกน้องที่กำลังแตกตื่น ชายชาวจีนร่างสูงสองคนจึงรีบวิ่งเข้าไปหาร่างที่ดิ้นพล่านเพื่อที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการให้ได้ พวกเขายื่นมือเข้าไปจับเพื่อให้ร่างของรัตติกรหยุดนิ่งอยู่กับที่ แม้จะเป็นเช่นนั้นแล้ว เสียงกรีดร้องของรัตติกรก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงเลยแม้แต่น้อย
“มันไม่รู้สึกตัวแล้วนะครับนาย เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมลืมตา เอาแต่ร้องอย่างเดียวเลย”
“หรือมันจะบ้าไปแล้ววะ? เฮ้ย!!”
ลูกน้องของฟงเจิ้นฮ่าวผงะออกมาเมื่อจู่ๆหนุ่มชาวไทยก็สำลักเลือดออกมากองใหญ่ เพราะฤทธิ์ของมอร์ฟีนไปทำให้เลือดที่เขาอุตส่าห์กลืนกลับเข้าไปพุ่งพรวดออกมาอีกครั้ง สีแดงฉานกลบทับสีดำคล้ำของเลือดที่แห้งกรังอยู่ที่พื้น กลิ่นคาวโลหิตจึงโชยคลุ้งอบอวลจนหน้าหวาดหวั่น
“หมอ! เขาจะตายมั้ย? บ้าเอ๊ย! พวกโนวาห์ แกให้ยาอะไรฉันมาวะ!?”เจิ้นฮ่าวเริ่มวิตกกังวล ข้อมูลที่ต้องการยังเค้นไม่ได้สักกะแอะ หากรัตติกรตายไปก่อนขึ้นมา สิ่งที่เขาลงทุนไปทั้งหมดก็จะไร้ความหมาย แต่ละอย่างที่ยอมเสียไปเพื่อแลกกับการเดิมพันครั้งนี้มีไม่น้อย และแน่นอนว่าหากพลาดไปแล้ว เขาก็ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวแน่นอน
“มอร์ฟีนอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้วิงเวียนเล็กน้อย ผมว่าเขาน่าจะได้รับบาดเจ็บภายในอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ออกมาแทนอาเจียนจึงกลายเป็นเลือด แต่สิ่งที่ทำให้เขากรีดร้องเป็นบ้าเป็นหลังอยู่นี่ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้อยู่สองทาง อย่างแรกคือเขาติดมอร์ฟีนมาก่อนแล้วเป็นระยะเวลานาน พอรวมกับสถานการณ์ในตอนนี้ก็เลยทำให้เกิดอาการหลอนประสาท อย่างที่สองคือเขาอาจจะมีอาการทางจิตบางอย่างอยู่แล้วก็เป็นได้”นายแพทย์สูงวัยกล่าวด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งความมั่นใจ
“ติดมาก่อนแล้วงั้นเหรอ? หรือที่หมอนี่ยอมอยู่กับพวกเวสเปอร์ก็เป็นเพราะยางั้นสินะ? หึหึหึ”ฟงเจิ้นฮ่าวสรุปเอาเองจากสิ่งที่ได้ยิน มิน่ารัตติกรถึงได้ทนทายาดขนาดนั้น คงจะเสพเข้าไปเยอะจนแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติเลยสินะ เหอะ…
“ไม่ทราบสิครับ อาจจะเป็นไปได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับการตรวจเขาอย่างละเอียดมากกว่า”
“ยังไงก็ตาม ทำให้มันสงบลงสักทีสิ ถึงฉันจะอยากได้ยินมันร้องแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ถ้าถึงขั้นเสียสติไปมันก็ไม่สนุกหรอกนะ”หนุ่มชาวจีนกล่าวด้วยใบหน้ายุ่งยาก เสียงกรีดร้องทุรนทุรายของรัตติกรฟังดูบาดลึกอย่างน่าประหลาดใจ มันแหลมสูงก้องสะท้อนไปมาจนทำให้เขาเย็นสันหลังวาบอย่างไม่มีสาเหตุ
“ให้มอร์ฟีนเขาไปแล้วแบบนั้นผมไม่กล้าให้ยากล่อมประสาทให้เขาเพิ่มไปอีกเท่าไหร่หรอกครับ อาจจะอาการหนักกว่าเดิมก็ได้”
“งั้นก็ทำให้มันสลบไปสิ! แค่นั้นก็เงียบได้แล้วใช่มั้ยล่ะ!?”กล่าวจบฟงเจิ้นฮ่าวก็พยักหน้าให้ลูกน้องสองคนที่จับตัวรัตติกรอยู่จัดการทำให้เจ้าของเสียงร้องที่เสียดแทงโสดประสาทของเขาให้มันเงียบหายลงไปสักที
หนุ่มชาวจีนอารมณ์เสียจนแทบคลั่งเมื่ออะไรๆก็ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เขาเดินปึงปังออกจากห้องขัง หวังจะไปหาเครื่องดื่มดีๆและเด็กน่ารักๆสักคนมากกกอดให้อารมณ์ที่กำลังดิ่งลงเหวได้กลับมาขึ้นสวรรค์เสียบ้าง ทว่ายามเมื่อหันหลังเดินออกจากแนวกรงที่กั้นระหว่างเขากับรัตติกรไว้ สิ่งที่สัมผัสได้กลับเป็นบรรยากาศเย็นเยียบดำมืดที่ทิ้งตัวลงปกคลุมห้องขังแห่งนี้ทันควันเมื่อประตูที่ใช้สำหรับเข้าออกนั้นมีร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งยืนขวางเอาไว้อยู่
“อ่ะ!! อ่ะ!!!”ฟงเจิ้นฮ่าวยืนนิ่งอ้าปากค้าง เสียงที่พยายามจะเค้นออกจากลำคอกลับเบาบางจนน่าสมเพชเมื่อร่างในเงามืดร่างนั้นค่อยๆย่างเท้าลงมาจากบันได
ตึก... ตึก....
หัวใจเต้นถี่กระชั้น...ยามเมื่อฝีเท้าที่เคลื่อนเข้ามานั้นดังขึ้นเรื่อยๆ
“...” ดวงตาสีสนิมคมกริบจ้องสะกดให้เขายืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ต่างกับเหยื่อของพญาอินทรีที่กำลังถูกล่า สัมผัสเย็นเยียบแผ่ขึ้นมาจากสันหลังเป็นริ้วๆเรียกให้หยดเหงื่อผุดพราวทั้งที่อากาศหาได้มีความร้อนเจือปนอยู่
มัจจุราชสีดำในมือใหญ่ยกขึ้นอย่างแช่มช้า สรรพสิ่งในห้องล้วนแต่นิ่งงันคล้ายกับถูกบรรยากาศที่เข้มข้นกดทับเอาไว้ให้ไม่อาจขยับตัว ปลายนิ้วหนาสอดเข้าที่โกร่งไกปืน ก่อนที่มันจะลั่นกระสุนออกมาราวกับจะสะบั้นความเงียบที่ปกคลุมห้องๆนั้นให้สลายหายวับไปทันควันและแทนที่ด้วยเสียงกรีดร้องดังสะท้อนสะท้านเอาไว้แทน!
ลูกน้องของฟงเจิ้นฮ่าวทั้งสองคนที่จับตัวรัตติกรเอาไว้บัดนี้กลับกลายเป็นเพียงร่างไร้ชีวิตที่ค่อยๆครูดไถลลงตามผนังอิฐเก่าๆ รอยเลือดจากแผลที่ถูกกระสุนเจาะทะลุกะโหลกทิ้งลวดลายคล้ายกับพู่กันที่ปาดวาดสีแดงลงมาเป็นแนวเส้นตรง คล้ายกับฝีมือของจิตรกรชั้นเอก
“ของของฉัน ใคร ก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง!!”สันปืนหนาตวัดฟาดเข้าที่ใบหน้าของฟงเจิ้นฮ่าวเต็มแรงก่อนลาร์เฟียร์ เวสเปอร์จะโถมตัวลงจากบันไดแล้วกระหน่ำยิงเข้าใส่ช่องท้องของคุณชายตระกูลฟงไม่ยั้งมือ
ให้มันเจ็บเหมือนตาย เขาก็ไม่ยอมให้มันตาย!!
“เฝ้ามันเอาไว้”เจ้าพ่อหนุ่มกล่าวเสียงหนักเป็นเชิงสั่งให้สคูร์โดที่ก้าวตามมาคอยจับตาดูสถานการณ์รอบด้าน ฟรานสั่งให้ลูกน้องส่วนหนึ่งเฝ้าทางข้างบนไว้ก่อนจะรีบเดินลงมาดูความเรียบร้อยข้างล่างแทนเจ้านายของเขาที่ตอนนี้ใจร้อนเป็นไฟจนไม่สนใจอะไรแล้ว
“แม่ง โคตรโหด”สคูร์โดพึมพำเมื่อต้องยืนเฝ้าร่างที่ดิ้นป่ายปัดไปมาของฟงเจิ้นฮ่าว แผลที่หน้าท้องยังมีเลือดผุดออกมาราวกับก็อกที่เปิดจนสุด
ในห้องขังที่แฝงตัวอยู่ใต้ดินนั้น ฝ่ายตรงข้ามเหลือแค่เพียงฟงเจิ้นอ่าวที่นอนหายใจพะงาบครวญครางไม่เป็นภาษาอยู่ที่พื้นห้องกับนายแพทย์สูงอายุซึ่งหวาดกลัวจนหมดสติไปกองอยู่กับพื้นอีกคน ลาร์เฟียร์ชายตามองเพียงเล็กน้อยก็ส่งสัญญาณให้ฟรานเข้ามาจัดการ
เป้าหมายของเขาที่มาที่นี่คือพระจันทร์ดวงนี้ต่างหาก...
“ลูน่า!”เจ้าพ่อหนุ่มเรียกอีกฝ่ายเสียงดังเมื่อรัตติกรไร้อาการตอบสนอง เสียงกรีดร้องที่เคยดังก้องเปลี่ยนเป็นแหบเครือเพราะร่างกายอ่อนล้าเกินกว่าที่เจ้าตัวจะทนรับไหว หยาดน้ำตาสีใสไหลรินอาบใบหน้า แพขนตาหนาเปียกชุ่มปิดสนิททั้งที่ยังสั่นระริก ทั่วทั่งร่างขาวเนียนนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลสดใหม่ สิ่งที่ช่วยปกคลุมร่างกายแบบบางนั้นเอาไว้ก็มีแค่เพียงกางเกงตัวเดียว...
สภาพนั้นไม่ต่างกับตุ๊กตาแสนสวยที่แตกร้าว หากแม้เพียงสัมผัสด้วยความรุนแรงก็จะสลายหายไป...
ลาร์เฟียร์เม้มริมฝีปากแน่น น้ำหนักของบางสิ่งที่เคยอยู่ในอกยามที่ตามหารัตติกรไม่เจอเสียทีนั้นตอนนี้มันหายไป หากแต่หัวใจที่บีบรัดจนปวดยามเมื่อต้องเจอของของเขาในสภาพแบบนี้กลับหนักหนากว่าหลายเท่า!
“อย่า...ไม่เอา...”เสียงครางกระซิบนั้นได้ยินแค่เพียงแผ่วเบา ลาร์เฟียร์เดินเข้าไปชิดกับรัตติกรเพื่อพยายามฟังเสียงที่ว่า แต่เสียงกรีดร้องน่ารำคาญของฟงเจิ้นฮ่าวกลับทำให้เจ้าพ่อหนุ่มได้ยินไม่ชัดสักที
“โธ่เว้ย!!! หุบปาก!!”ดอนแห่งปาเลอร์โมลั่นกระสุนอีกครั้ง คราวนี้เจาะทะลุผิวแก้มไปออกที่ใบหน้าอีกข้าง เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเงียบหายไป ดวงตาสีสนิมแฝงประกายกร้าวตวัดขึ้นมองลูกน้องของตนแล้วสั่งการอีกครั้ง
“อย่าให้มันตาย!”ว่าจบเขาก็หันกลับไปหารัตติกรอีกครั้ง ในกระแสความเกรี้ยวกราดนั้นแฝงไว้ด้วยอารมณ์บางอย่างที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ มือใหญ่มองไล่ขึ้นตามโซ่ที่พันธนาการลูน่าของเขาเอาไว้แล้วยิงจนมันขาดออกจากกัน ยามเมื่อไร้สิ่งใดคอยยึดเหนี่ยวร่างกายเอาไว้ ร่างเพรียวบางก็ทรุดลงทันควันไม่ต่างกับหุ่นที่ถูกตัดสายชักรอก
เจ้าพ่อหนุ่มรับร่างเพรียวมากอดไว้ทันควันอย่างที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะล้มลงมา ดวงตาคมสำรวจร่างกายของรัตติกรอย่างรวดเร็วเพื่อหาจุดที่แลดูจะบาดเจ็บที่สุด ยังดีที่บาดแผลทั้งหมดล้วนเกิดจากการเฆี่ยนตีหรือการกรีดเพียงเบาบาง ทำให้ไม่มีส่วนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ทว่ารอยช้ำขนาดใหญ่บนหน้าท้องขาวนั้นกลับน่าเป็นห่วงที่สุด อาการบาดเจ็บที่น่าจะส่งผลไปถึงอวัยวะภายในทำให้เขาไม่สามารถคาดเดาอาการของรัตติกรได้
“ไ..ม่...ช่วย...”เสียงครางของรัตติกรดังขึ้นอีกครั้ง ลาร์เฟียร์ก้มหน้าลงมองริมฝีปากบางที่เอื้อนเอ่ยถ่อยคำเหล่าออกมาอย่างยากลำบากแล้วได้แต่นึกถึงวิธีที่จะทำให้คนตรงหน้าหายจากอาการแบบนี้เสียที
“ลูน่า”
“ช่วยผม อั่ก!”
“ลูน่า!”
“อ๊ะ! ไม่...เอา อึก!!”
“เด็กดื้อเอ๊ย!”สุดท้ายเมื่อนึกวิธีใดไม่ออก เจ้าพ่อหนุ่มก็ใช้วิธีแบบที่เคยทำมาก่อนเมื่อตอนที่รัตติกรเคยมีอาการแปลกๆแบบนี้อีกครั้ง...
ริมฝีปากหนาโน้มลงทาบทับ บดคลึงกลีบปากนุ่มนิ่มอย่างแผ่วเบาแล้วค่อยเพิ่มแรงทีละน้อยคล้ายกับมือที่ค่อยๆเรียกให้สติที่หายไปกลับมาอย่างเชื่องช้าอ่อนหวาน ปลายลิ้นอ่อนสอดเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่ายแผ่วเบาคล้ายกับการกระตุ้น สัมผัสหวานล้ำแม้มีรสเลือดเจือปนอยู่ไม่ทำให้เจ้าพ่อหนุ่มหยุดการแลกเปลี่ยนเรียวลิ้นกับคนตรงหน้าได้ ท่วงทำนองที่เนิบช้าดำเนินอยู่ได้ไม่นานก่อนที่อารมณ์วาบหวามจะปะทุแปรเปลี่ยนจังหวะนั้นเป็นความเร่าร้อนระคนรุนแรง
“อืออ”รัตติกรครางในลำคอยามเมื่ออีกฝ่ายดูดดึงที่ปลายลิ้นของเขาจนเสียววาบ ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่เคยอ่อนแสงค่อยๆเปิดขึ้นทีละน้อยเพื่อค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่กำลังดึงเขาออกจากความทรงจำที่แสนเจ็บปวดเมื่อครู่
และมันยังคงเป็นใบหน้าเดิมที่เคยดึงเขาออกมาจากอดีตครั้งนั้น...
ฟันคมงับลงที่ริมฝีปากล่าง ไม่แรงขนาดที่จะทำให้เจ็บปวด แต่ก็ไม่เบาจนสามารถเรียกสติของรัตติกรให้กลับมาได้ สัมผัสวาบหวามบาดลึก ฉุดรั้งสติที่กำลังร่วงหล่นลงหลุมดำมืดให้ขึ้นสู่แสงสว่างที่ร้อนเร่า แผดเผาร่างกายให้บิดเร้าเกินกว่าจะทนไหว
“มาก...กว่านี้...”รัตติกรพึมพำเบาๆ มือที่อ่อนแรงยกขึ้นรั้งคอของอีกฝ่ายให้โน้มลงมาแล้วเกี่ยวกระหวัดลิ้นร้อนที่แข็งแรงนั้นเอาไว้ไม่ต่างจากฟางเส้นสุดท้ายที่เขาจะสามารถยึดเอาไว้ได้
เพียงแค่นี้ยังพาเขาออกจากฝันร้ายนี่ไม่ได้หรอก...
ต้อง ร้อน ให้มากกว่านี้...
วาบหวาม จนกว่าสมองเขาจะโล่งว่าง...
ซ่านกระสัน ตราบจนแตะถึงขอบสุดแห่งห้วงอารมณ์...
เมื่อนั้นฝันร้ายทั้งหมดถึงจะหายไปได้โดยสิ้นเชิง!
“เจ็บตัวแล้วยังแสบได้อีกนะ”ลาร์เฟียร์พึมพำชิดกับริมฝีปากนุ่มหวานก่อนจะบดจูบเคล้าคลึงให้หนักหน่วงขึ้นไปอีก ริมฝีปากแดงๆนี่ไม่รู้ว่ามีเสน่ห์อะไรนักหนาถึงทำให้เขาถอนตัวจากมันไม่ได้เสียที ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งอยากถลำลึกลงไปอีก แม้จะได้ครอบครองมันไปหลายครั้งหลายคราทว่าตัวเขาก็ยังไม่เคยรู้สึกว่ามันเพียงพอเลยแม้แต่น้อย
“ดอนครับ!”สคูร์โดที่ได้รับข่าวจากทางวิทยุไร้สายตะโกนขัดขึ้นทันควันอย่างไม่เกรงกลัวว่าคนโดนขัดจะอารมณ์เสียจนพาลมาลงกับตัวเอง มันเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของหัวหน้าบอดี้การ์ดที่นานๆทีจะได้แกล้งเจ้านายที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กแบบนี้
“ข้างบนแจ้งลงมา พวกโนวาห์วางระเบิดเอาไว้ในห้องพักที่คุณให้คนของเราไปดู มีอีกหลายลูกที่ติดตั้งชนวนไว้ในส่วนอื่นๆของบ้าน ถ้าระเบิดทีแถวนี้คงวอดหมด แล้วก็ อีกแปดนาทีจะระเบิดครับ!”กล่าวเสียงดังเสร็จก็รีบพยักส่งให้ฟราน ไม่รอช้าเลขาหนุ่มก็รีบสั่งถอนกำลังออกจากคฤหาสน์หลังนี้อย่างรวดเร็วที่สุด
ลาร์เฟียร์กัดฟันแน่นอย่างเหลืออด สุดท้ายแล้วโซอาห์เรก็ยังทิ้งกับดักเจ็บๆคันๆเอาไว้ทิ้งท้าย ไม่เสียแรงที่เป็นศัตรูคู่แค้นกันมาหลายปี กัดไม่ปล่อยซะยิ่งกว่าหมาบ้า!!
มือแกร่งตวัดยกคนในอ้อมกอดขึ้นมาแนบอกแล้วรีบเดินออกมานอกห้องขัง ดอนแห่งปาเลอร์โมเพียงมองร่างไร้สติของฟงเจิ้นฮ่าวอีกครั้งแล้วให้ลูกน้องลั่นกระสุนใส่ขาทั้งสองข้างจนมันไม่สามารถใช้การได้ ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดจากไปในที่สุดทั้งที่ยังเล่นงานคนตระกูลฟงได้ไม่สาแก่ใจของตนเองด้วยซ้ำ
ให้ระเบิดซากมาทับทั้งๆที่มันยังไม่ตายก็น่าพอใจอยู่หรอก แต่ไม่ได้เห็นจุดจบของมันชัดๆนี่สิทำให้เขาหงุดหงิด!
สคูร์โดรอให้ทุกคนออกไปจากห้องจนหมดแล้วกวาดสายตามองสภาพรอบห้องขังอีกครั้ง ทั้งเลือดสดๆที่เปรอะเต็มพื้นและผนัง ทั้งร่างของพวกฟงเจิ้นฮ่าวแต่ละคนที่มีจุดจบไม่ได้ตายดีสักราย เหล่านั้นยิ่งทำให้หนุ่มผมทองเลือดร้อนได้ตระหนักอยู่ในใจตัวเองอีกครั้งที่เห็นการจัดการกับศัตรูแต่ละรายของประมุขแห่งโลกสีเทาคนนี้
อย่าได้คิดลองของ กับดอนออฟดอนอย่างลาร์เฟียร์ เวสเปอร์เป็นอันขาด!
___________________________________________________________
หน้าจอที่ถ่ายทอดสัญญาณจากห้องขังใต้คฤหาสน์ของฟงเจิ้นฮ่าวกลายเป็นสีดำสนิทเมื่อเสียงระเบิดกึกก้องดังขึ้นจากที่ๆห่างไกลลงไปเบื้องล่าง โซอาห์เร โนวาห์หัวเราะลั่น เกมส์เล็กๆของเขาและเวสเปอร์แฟมมิลี่คราวนี้จบลงด้วยการที่เขาเป็นฝ่ายแพ้ ทว่าข้อมูลใหม่ๆที่ได้รับรวมไปถึงท่าทาง “หวงของ” ของดอนแห่งปาเอลร์โมที่ได้เห็นก็ยิ่งทำให้โซอาห์เรหัวเราะจนต้องเอามือกุมท้องตัวเองเอาไว้แน่น
“โนเอล เห็นที่หมอนั่นทำไหม? ฮ่าๆๆๆ”เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกหันกลับมามองเจ้านายตนเองจากที่นั่งผู้ช่วยนักบินบนเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้าของมหานครเซี่ยงไฮ้ ที่สุดปลายสายตาเบื้องล่างนั้นคล้ายกับทะเลเพลิงขนาดใหญ่เมื่อคฤหาสน์อันใหญ่โตของตระกูลฟงนั้นถูกระเบิดเป็นจุลจนไม่เหลือซาก
และตอนนี้เจ้าของระเบิดเหล่านั้นกำลังนั่งเหยียดขาบนที่นั่งอย่างดี ดวงตาสีฟ้าไอซ์บลูหรี่ปรือคล้ายกับแมวแสนสวยที่กำลังพอใจยามได้รับการปรนเปรอ
โซอาห์เร โนวาห์ กำลังสนุก...
“เลขานั่นไม่ธรรมดาจริงอย่างที่คิดไว้เลยนะ ชักอยากได้แล้วสิ...หึหึ”ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ ปลายนิ้วเรียวเคาะที่หน้าจอแทปเลตในมือเบาๆเสมือนย้ำลงบนใบหน้าของรัตติกรที่เคยปรากฏอยู่ในนั้น
โนเอลเม้มริมฝีปากเล็กน้อยแล้วถึงได้กล่าวตอบ
“จะให้ค้นข้อมูลไว้มั้ยครับ?”
“เอาอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องที่ลาร์เฟียร์ไปเก็บเอาเด็กนี่มาได้ยังไงด้วย อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ”
“ตามแต่คุณจะต้องการครับโซล”
เสียงรับคำนั้นราบเรียบอย่างทุกทีที่เคยเป็น ทว่าแววตาที่แฝงแววขมขื่นอยู่ลึกๆนั้นไม่มีใครสามารถสังเกตุได้นอกจากตัวของโนเอลเองเท่านั้น
รัตติกร สันติสงคราม
นายมัน...น่านัก!
___________________________________________________________
ก่อนสอบเราทำอะไร ก่อนสอบเราทำอะไร แต่งนิยายที่ดองไว้ไง สุขใจจุงเบย =w= //ซะที่ไหนล่ะ :z10: :z3: :z3: :a5:
สวัสดีเดือนแห่งความรักครับ เดือนนี้เป็นเดือนสอบไฟนอลครับ แล้วไหงผมมาอารมณ์กระฉูดช่วงนี้วะเนี่ยยย :z3:
มันแต่งให้จบผมไม่เคลียร์อ่ะ เลยได้ฤกษ์ปั่นทั้งๆที่จะสอบอยู่วันสองวันนี้แล้ว
โอ้พระเจ้า o22
เดี๋ยวกลับมาคุยกันยาวๆตอนหน้าแล้วกันนะครับ สปอล์ยว่าเป็นช่วงป๋าสวีทกับไขอดีตรัตติกรฮะ :o8:
แล้วเจอกันนะครับ ^^
รักและคิดถึงอยู่เสมอ :กอด1:
Namioto Yo
ปล.รีบลงเลยยังไม่ได้ตรวจทานอะไร เดี๋ยวกลับมาแก้อีกรอบนะครับ
-
:z3: :z3:
ให้น้องพักก่อนได้ไหม ศัตรูใหม่จะมาอีกแล้ว
ตายๆๆๆ ลูน่าจ๋า
แต่ยังดี ตอนหน้าเค้าจะหวานกันมั่งใช่ไหม
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
สงสัยมากกก ว่าทำไมคนเขียนชอบแต่งตอนสอบ ตอนไม่สอบทำไมไม่แต่งจ๊ะ :z3:
เหลืออีกยาวไหมอ่า กว่าจะจบ เพราะเหมือนมันจะยังไม่ไปไหนเลย :a5:
-
ตอนหน้าเขาจะเร่าร้อนกันไหมนะ :z1:
-
คิดถึงมากเลยอ่ะ
และแล้วดอนก็มาช่วยลูน่าสักทีน้า แต่รู้สึกลูน่าจะเป็นที่ต้องการของใครหลายคนเหลือเกิน
ดอนต้องเฝ้าดีๆนะเนี่ย
-
รอ ร๊อ รอ ในที่สุดก็มา :m15:
ปล.สงสัยเหมือนกันว่าอีกเยอะไหมกว่าจะจบ? เพราะเห็นคนแต่งบอกว่าจะรวมเล่มกับสำนักพิมพ์ อยากเอามานอนกอดอะ
-
อะไรไม่ทำคัญเท่ากับสวีททททททแล้วค่า!!
รอตอนหน้านะคะ โฮ้ะๆๆๆ o13
-
ตอนหน้าๆ :z2: อยากรู้อดีตของลูน่ามากมาย
แล้วก็จะดูว่าลาร์เฟียจะหวานได้แค่ไหนกันนะ
คนเขียนสู้ๆเรื่องสอบนะ ขอให้สอบได้ตามที่หวัง
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
-
ลูน่าเป็นอะไรกันแน่ คลั่งได้น่ากลัวมาก ดอนช่วยลูน่าด้วยนะ
-
ในที่สุดก็ช่วยไปได้ซักที อยากชมว่าโซอาร์เรน่ารักนะ
แต่โรคจิตเกิน
-
ในที่สุดก็ช่วยลูน่าได้ ..
-
เปิดเข้าเล้ามา เจอนิยายอัพ
:a5: :a5:
อึ้ง ไปซักพัก
รีบกดเข้ามาอ่าน
ในที่สุดก็ช่้วยลูน่าได้แล้ว เย้ๆ :mc4:
รอตอนต่อไป รอดูอดีตของลูน่าและบทสวีด?
สู็้้ๆนะฮับ :L2: :L2:
-
โนเอลนี่เปนไรกับนายเอกอะ
ดีใจจังช่วยออกมาได้แล้ว จะได้มาอ่านได้ตามปกติ 555
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4:กลับมาแล้ว :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
จะรออออออออออออออออออออออจ้า :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
ในที่สุดก็ออกมาได้แล้ว ถึงจะมีตัวร้ายเบื้องลึกเบื้องหลัง แต่ออกจากด่านแรกได้ก็ยังดี
เดือนนี้เป็นเดือนสอบไฟนอลครับ แล้วไหงผมมาอารมณ์กระฉูดช่วงนี้วะเนี่ยยย
จะได้สอบอย่างสบายใจไงฮับ :pig4: ขอให้โชคดีในการสอบ เกรดสวยงามอลังการ :mc4:
-
หลังจากที่รอตั้งนานพระเอกก็มาช่วยแล้ว
-
อ่านรวดเดียวจนถึง shot20
สนุำกและน่าติดตามมากๆค่ะ
ที่สุดเลย o13
ดำเนินเรื่องได้ยอดเยี่ยมมาก
ติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆค่ะ
:L2: :pig4:
-
:L2:เยี่ยมไข้ลูน่า
-
:pig4: :pig4:
-
ฉันคิดถึงๆ
-
เออะ ค้าง
ชอบฉากจูบกันในห้องขังจังเลย คิดภาพตามแล้ว โฮ่ววว
มันช่างตอบสนองรสนิยมส่วนตัวได้ดีจริงๆ ฮ่าๆๆ :m25:
-
ใน..ในที่สุดก็อัพแล้ววววววว :sad11:
นึกว่าจะลืม..ลืมหมดแล้ว..
ลืมว่าเราเคยรักกัน(ไม่ใช่และ ๆ )
มาเม้นก่อนอ่าน
ขอบใจนะที่มาต่อ :กอด1: :L2: :3123: :L1:
-
555 เป็นวิธีคลายเครียดก่อนสอบที่ดีนะ
o13
ขอให้ฟาดเอทุกตัวนะจ๊ะ :call:
ซวยซ้ำซวยซ้อนมากมายอ่ะนู๋ลูน่า....เฮ่อ รอตอนต่ออยู่นะ จุบุจุบุ
-
โชคดีงานสอบค่ะ >[]< สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
ไล่อ่านตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน สนุกมากเลยค่ะ o13
อย่าดองนานนะคะเค้าคิดถึงลูน่า :monkeysad:
ใกล้สอบแล้วขอให้เหมาเอทุกวิชาค่ะ จากอานิสงค์ที่เข้ามาอัพนิยาย:3123:
ปล แต่เราว่ากว่าจะจบนี่น้องลูน่าสงสัยช้ำหมดเเน่เลย ดูดิมีศัตรูเข้าคิวมาจ่ออีกแว้ววววว
-
ติดใจประโยคสุดท้าย เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อนเลยแฮะ ....
-
อ่านรวดเดียวยี่สิบช็อต ดั๊นนนนนมาจบตอนที่ลูน่ามีศัตรูเพิ่มอีกซะนี่ :z3: :z3:
ลาร์เฟียร์ขี้หวงนะนั่น น่ารักก ><'
รอช็อตต่อไปจ้า ช่วงนี้สอบเหมือนกันเลยแต่แอบเปิดอ่านนิดนึงคงไม่ทำให้ได้ปลามาเลี้ยงหรอกนะ ฮ่าาา :กอด1:
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: ในที่สุดก็มา
ลูน่าก็ได้ออกจากห้องขังซะที เกือบโดนขังลืมแล้วสิเนี่ย รอดูป๋าสวีท อิอิ :impress2: :impress2:
-
ชักยิ่งอยากรู้อดีตของรัตติกรจังเลยอ่า
รัตติกรได้สร้างศัตรูแบบไม่รู้ตัวซะแล้ว
-
ไม่อยากเชื่อสายนตาว่าเรื่องนี้มาอัพ
รอตอนต่อไป แอร๊ยยยยยยย เชาจะสวีทกันแล้ว
-
ลูน่า เร่าร้อนจริงๆ อิอิ
-
มาแว้ววววววววว
สนุกมากค่ี่าาาาาาาา
ชอบจังเลยจูบดูดดื่มมากเลยฮิฮิ
:o8: :o8:
คนเขียนสู้ๆค่ะ o13 o13
-
เข้ามาเช็คนิยายในเล้าแบบไม่ได้คาดหวังว่าจะมีเรื่องไหนอัพ
เลื่อนๆลงไป อ้าว เฮ้ย อัพแล้ว ฮา ฮา
กดเข้ามาอ่าน ยังโหดเหมือนเดิม อิอิ
-
อ๊าาาาา มาแล้วๆ ในที่สุดก้อัพแล้ว ดีใจอ๊า จุ๊บคนเขียนทีนึง :-[
ป๋าโหดม๊วก รอตอนต่อไปที่ป๋าสวีท :z2: แล้วก้อยากรู้อดีตของรัตติกรไม่ไหวแล้วว :z10:
-
o22 o22
อัพแล้ววว
.
.
.
.
.
.
.
.
เย้!!!!!!ในที่สุดก็อัพสักที!
o13 o13 o13 o13 o13
-
จะมาแค้นลูน่าก้อไม่ถูกนะ โนเอล คนมีเสน่ห์ก้อเงี้ย
ดีใจที่ลูน่าได้กลับเข้าสู่อ้อมอกของดอน ><
อยากรุเรื่องอดีตของลูน่าจังเลยค่ะ อัพต่อนะคะ
-
ลาเฟียร์มาช่วยแล้วว
ลูน่าเป็นอะไรไหม T^T
-
แง้งงง รออยู่นะคะ
ตามมาจาก ใครว่าทำดีแล้วได้ดีฯ
อยากได้ความสามารถของลูน่าจัง อ่านแป๊บเดียวแล้วจำได้ขึ้นใจเนี่ย
แต่ลูน่าช่างน่าสงสาร แงงงง น้ำตาจะไหล
รอฉากสวีทนะคะ เอิ้วววววว :impress2:
-
จะไม่เมมอะไรทั้งนั้น เพราะมันยังไม่สุด เพราะยังไม่หลุดออกจากหลุมดำ ตามความต้องการของรัตติกร :z2:
+1 ให้พร้อมคำอวยพร ให้สมองแล่นปรื้ด ๆ ๆ ๆ ๆ
ปล. ป่านนี้คงสอบเรียบร้อยแล้ว 555 .......
-
รีบมาอัพนะคะ คนอ่านใจจะขาด o18
-
เพิ่งสอบเสร๊จแล้วมานั่งอ่าน ฟิน ฟิน ฟิน ฟิน ฟิน ฮ่าๆๆๆๆ เอิ๊ก แอร๊ย คลั่งไปแล้ว :pighaun:
ป.ล. เรื่องสอบสู้ๆนะครับ
-
:m15: ไม่ได้เข้าซะนาน ในที่สุดก็อัพแล้ว รอตอนต่อไปอยู่นะคร๊าา o13
-
รอตอนต่อไปอยู่ครับ มาต่อเถอะ ชาวเล้าให้อภัยแล้ว :z1:
-
แต่ละตอนนี่นานและขมขื่น มาช้าๆ แต่มาชัวร์ ก็ยังดีกว่ามาช้าาาาาาาาาาาาาาาาาา แล้วหายไปเลยเนอะ
พระเอกเราเท่ห์ไงก็เท่งั้น แต่ไม่มาซะพรุ่งนี้เลยล่ะ :m16: :m16: :m16:
คนเขียน รอเสมอน้า มาช้าไม่ว่า แต่อย่าทิ้งนะคับ :mc4: :mc4:
-
เขียนสนุกจังเลยค่ะ ตามมาจากเรื่องป๊อกกี้ เห็นคนเขียนคนเดียวกัน สนุกมากๆๆๆๆ ถูกใจๆ แต่ต่อช้าทีใจแทบขาด เอิ๊กๆ
รอตอนต่อไปค่ะ
-
ในที่สุด....ในที่สุด!!!! คนเขียนมาลงต่อแล้ว~!!!!! อ๊ากกกกกกกกก ดีใจ!! ท่านหายไปนานเหลือเกินนน T T
อย่านะนะคนเขียน คราวนี้ต้องรีบมาลงตอนต่อไปเ็ร็วๆนะคะ ไม่งั้นมีงอนน
ปล.รักคนเขียนที่สุดในสองโลกครึ่ง
:m3: :m3: :m3:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.21
รัตติกรรู้สึกเหมือนกำลังลอยเคว้งคว้างอยู่ในกระแสน้ำสีดำสนิทที่อุ่นจัดจนไม่สบายตัวและเข้มข้นจนทำให้เขาอึดอัด มันทิ้งน้ำหนักจนถ่วงเขาลงไปลึกเรื่อยๆ ทว่ามันจะเป็นการลึกลงไปหรือลอยไปทิศทางอื่น รัตติกรก็ไม่แน่ใจนัก เพราะสีดำที่รายล้อมรอบตัวอยู่นั้นมืดสนิทไปหมดทุกส่วนจนไม่สามารถแยกได้ว่าทางไหนเป็นบนหรือล่าง
เสียงบางอย่างอื้ออึงอยู่ในหู คล้ายกับตอนที่จุ่มศีรษะลงในอ่างน้ำแล้วพยายามจะฟังเสียงต่างๆแต่ไม่ได้ยินอะไรเป็นเรื่องเป็นราว
เอี๊ยด... อ๊าด...
เสียงอะไร?
เอี๊ยด...อ๊าด... “ม..า...กับ” เอี๊ยด... อ๊าด... “ช่วย...”
รัตติกรหันซ้ายหันขวา ทว่าสิ่งที่มองเห็นยังคนเป็นสีดำที่ล้ำลึกไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อพยายามจะจับว่าเสียงเหล่านั้นดังมาจากทางไหนก็ยิ่งต้องแปลกใจ
มันดังอยู่ในหัวของเขาเอง...
ฟึ่บ!!!
แรงดูดกระทันหันอย่างมหาศาลเกิดขึ้นทันทีอย่างฉับพลันจนเขาไม่ทันตั้งตัว สีดำที่ปกคลุมรอบกายค่อยๆถูกแต่งแต้มจนกลายเป็นภาพบางอย่างขึ้นมา เสียงเอี๊ยดอ๊าดจนแสบแก้วหูนั้นดังขึ้นเรื่อยๆคล้ายกับทุกสิ่งถูกเร่งจังหวะให้ผ่านไปเร็วขึ้นไม่ต่างจากการกดรีเหตุการณ์ไปข้างหน้าแม้แต่น้อย
รัตติกรหอบหายใจพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเองเพื่อหวังว่ามันจะช่วยอะไรบ้างแม้สักเล็กน้อยก็ยังดี แต่เสียงเสียดสีเหล่านั้นมันดังอยู่ข้างในหัวของเขาไม่ใช่ภายนอก ดังนั้นความทรมาณที่เกิดขึ้นจึงไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
ทั้งความเร็วและเสียงที่แสบแก้วหูถูกเร่งระดับขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มขดตัวลงแล้วกอดจิกหัวเข่าเอาไว้แน่น เพราะทั่วทั้งความมืดมิดนี้สิ่งเดียวที่เขารู้สึกได้ว่ามีอยู่จริงก็คือร่างของเขาเองเท่านั้น...
วี้ดดดดดดดดดดดดด!! ฟึ่บ!
เหมือนเร่งความเร็วไปที่จุดสูงสุดแล้วจู่ๆก็ถูกถอดปลั๊กออกไปดื้อๆ ทุกสิ่งหยุดชะงักจนความเงียบที่ไม่มีสาเหตุนี้น่ากลัวกว่าเสียงที่เคยร้องดังในตอนแรกเสียอีก มันเหมือนเขาหูหนวกกระทันหันจนรัตติกรไม่กล้าแม้แต่ละลืมตาขึ้นมามองสิ่งต่างๆรอบตัว
เอี๊ยด...อ๊าด...
เสียงนั้นกลับมาอีกแล้ว?
แสงอ่อนๆส่องลอดผ่านเปลือกตาบาง รัตติกรเหมือนเห็นเส้นเลือดสีแดงที่สานตัวไปมาคล้ายกับกิ่งไม้ที่แตกก้านใบ เขาค่อยๆกระพริบตาขึ้นช้าๆ และพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนขนาดเล็กแห่งหนึ่ง...
ที่ไหน?
หนุ่มชาวไทยรู้สึกว่าตัวเองลุกขึ้น แม้สมองของเขาจะไม่ได้ออกคำสั่งว่าอยากจะลุกก็ตาม สิ่งของต่างๆที่มองเห็นรอบตัวดูสูงใหญ่ไปหมด แม้แต่ประตูบานที่อยู่ข้างหน้าเขาก็ต้องเขย่งตัวแล้วใช้มือเล็กๆคว้าลูกบิดที่อยู่สูงเหนือหัวเอาไว้...
เขาเตี้ยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“คุณแม่ น้องกรออกไปเล่นชิงช้าที่สนามน้า”รัตติกรได้ยินเสียงเล็กๆออดอ้อนดังออกมาจากปากของตนเอง ก่อนที่ภาพเบื้องหลังบานประตูจะปรากฏเป็นหญิงวัยกลางคนหน้าตาเรียบเฉยคนหนึ่งที่นั่งทำบางอย่างกับเอกสารซึ่งวางกระจายอยู่เต็มโต๊ะกินข้าว
เธอคนนั้นเหลือบมองเขาแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ไข้หายแล้วเหรอน้องกร?”
“หายแย้ว น้องกรฟิตเปรี๊ยะ”ว่าจบไอ้เจ้าน้องกรก็ทำท่าเบ่งกล้ามโชว์หม่าม้าคนที่ว่า จะไม่ว่าอะไรเลยถ้ารัตติกรไม่ได้รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนทำท่าทางประกอบนั่น
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา(วะ)!?
มือใหญ่ที่ติดจะเย็นเล็กน้อยทว่าก็นุ่มนิ่มเอื้อมมาจับหน้าผากของเขาอย่างคนที่ต้องการจะวัดไข้ รัตติกรคิดว่าตัวเองกำลังทำตาแป๋วส่งให้หญิงสาวคนนั้นอยู่
หน้าตาของเธอดูคุ้นเคย...เหมือนเคยเห็นมาแล้วจากที่ไหนสักแห่งในอดีตที่รางเลือน...
สัมผัสและน้ำหนักของฝ่ามือที่วางไว้เหนือหัวนั้นชวนให้คิดถึงมากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดในโลก...
“แล้วรีบกลับนะลูก คืนนี้แม่ไปทำงาน น้องกรไปนอนกับป้าดานะครับ”
“คับผ้ม”เจ้าน้องกรตะเบ๊ะอย่างทหารกล้าแล้วยืนตัวตรงแน่ว จะไม่แปลกเลยท่าเขาจะไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำท่านั้นตามไปด้วย
รัตติกรใช้สายตาของน้องกรคนนั้นมองหญิงสาวที่ยกเอกสารในมือขึ้นมาอ่านอีกครั้ง เขาพยายามขุดลึกเข้าไปในความทรงจำของตนเองว่าเคยเห็นในหน้านี้ที่ไหนกันแน่
ร่างของเด็กน้อยเดินออกมาจากห้องที่แม่ของเขาอยู่ ลักษณะของที่นี่เหมือนเป็นแฟลตขนาดเล็กที่มีเพียงห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องนั่งเล่นอีกหนึ่ง ประตูทางเข้าออกหน้าสุดมีกระจกบานสูงที่แม่ของเด็กคนนี้คงจะใช้ไว้สำรวจตัวเองอีกที่ก่อนจะออกไปข้างนอก ที่นั่นเองรัตติกรถึงได้เห็นหน้าค่าตาของเจ้าเด็กนี่เป็นครั้งแรก
ร่างเล็กที่ติดจะผอมบางไปสักหน่อยนั้นอยู่ในชุดเสื้อยืดสีแดงเก่าๆและกางเกงขาสั้นสีครีม ผมสีดำตัดสั้นเสริมด้วยหน้าม้าปรกคิ้ว ตากลมโตสีน้ำตาลไหม้ใสแป๋วนั่นจึงถูกขับให้โดดเด่นขึ้นมา
เขาเคยเห็นเด็กคนนี้ที่ไหนมาก่อน...
ผู้คนที่คุ้นเคย ทุกสถานที่ล้วนคุ้นตา เขารู้แม้กระทั่งว่าถ้าเปิดประตูทางเข้านั้นออกไปแล้วจะต้องเจอกับอ่างปลาหางนกยูงที่เต็มไปด้วยสาหร่ายสีเขียวๆ
และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เพราะที่แห่งนี้...คือบ้านของเขา
บ้านที่เขาอาศัยอยู่กับแม่ตั้งแต่ที่เขายังอายุได้แค่สามสี่ขวบ...
พอนึกขึ้นได้ สิ่งที่รัตติกรอยากทำมากที่สุดคือหันกลับเข้าไปในบ้านแล้วมองหน้าหญิงสาวคนนั้นอีกครั้งหนึ่ง กลับไปมองใบหน้าที่ลืมไปแล้วจนกระทั่งได้มาเห็นอีกครั้ง กลับไปฟังเสียงที่ไม่ได้ยินมานานจนได้กลับมาฟังอีกครา
เพิ่งรู้เอาตอนนี้ ว่าคิดถึงมากขนาดไหน...
ความโดดเดี่ยวที่อยู่กับมันมานานเกินไปทำให้เขาชินชากับการไม่มีใคร...
ทำไม...ถึงเพิ่งมานึกออกได้ตอนนี้กันนะ?
ร่างเล็กของเขาวิ่งออกมาจากบ้านด้วยอาการเริงร่า ขาสั้นๆสองข้างก้าวลงจากบันไดอย่างทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะต้องคอยจับราวไว้เพื่อยืดขาลงไปแตะกับบันไดอีกขั้นให้ได้ก่อนด้วยเพราะส่วนสูงที่ไม่อำนวย โชคดีที่ห้องพักของเขาอยู่ที่ชั้นสอง ดังนั้นจึงไม่ต้องเหนื่อยกับการลงบันไดมากมายนัก
ข้างหน้าแฟลตเป็นสวนขนาดเล็กที่มีชิงช้าสองตัว กระดานลื่นเก่าๆอีกหนึ่งอัน นอกจากนั้นก็เป็นต้นไม้สูงกับม้าหินอ่อนที่เตรียมไว้ให้ชาวแฟลตได้ใช้เวลาอยากมานั่งเล่น ทว่าเวลาตอนนี้เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ แดดยังร้อนเกินกว่าจะมีใครออกมาข้างนอกห้อง ดังนั้นลานแห่งนี้จึงเงียบเหงา มีเพียงเสียงรถยนต์วิ่งตัดผ่านไปมาที่ถนนใหญ่ข้างหน้าแค่เพียงประปราย
รัตติกรตอนเด็กเดินเข้าไปจับจองชิงช้าหนึ่งในสองตัวแล้วเริ่มแกว่งมันเบาๆ เขาสังเกตุปลายเท้าของตนเองที่เตะพื้นเพื่อจะส่งตัวเองให้สูงขึ้นเรื่อยๆ
เอี๊ยด...อ๊าด... เอี๊ยด...อ๊าด...
ฉับพลัน อยู่ๆมือใหญ่ที่แข็งราวกับคีมเหล็กก็เข้ามารวบเอวเขาเอาไว้ ร่างเล็กๆของรัตติกรลอยออกจากชิงช้าตัวจ้อยที่แกว่งช้าลงเพราะไม่มีคนเล่นคอยส่งแรงผลักให้ ในตอนนั้นเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เพราะเป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้องไห้งอแงหรือส่งเสียงดังก่อความรำคาญ ปฏิกิริยาตอบสนองตอนนั้นของเขาจึงเป็นแค่การเบิกตากว้างอ้าปากหวอแต่ไม่มีเสียงร้องใดๆออกมา
เจ้าของแขนที่แข็งแรงคู่นั้นรีบวิ่งเข้าไปในรถตู้สีขาวติดฟิล์มสีทึบ เขาเลื่อนประตูปิดอย่างรวดเร็วแล้วส่งรัตติกรให้หญิงสาวอีกคนที่ถือผ้าสีขาวผืนบางเอาไว้คอยท่า
แล้วรัตติกรก็พบว่าเขาหลับไปอีกครั้งหนึ่ง...
จากนั้นเหตุการณ์ก็วิ่งผ่านไปคล้ายกับการกดรีเทปอีกครั้ง เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกที เขาก็พบว่าตนเองนั่งกอดเข่าอยู่ในห้องปิดตายที่ก่อด้วยอิฐเก่าๆ บนผนังแต่ละด้านเต็มไปด้วยกระดาษโน๊ตที่ปรากฏอักษรทั้งภาษาไทยและอังกฤษไว้เต็มไปหมด อากาศเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศมีกลิ่นของสารเคมีเจือปนอยู่เล็กน้อยคือสิ่งที่ทำให้เขาและผู้ร่วมห้องคนอื่นๆยังมีอากาศไว้หายใจอยู่ได้
ในห้องนี้เคยมีสมาชิกอยู่หกคนรวมรัตติกรเข้าไปด้วย แบ่งออกเป็นหญิงสามชายสาม คู่ที่โตสุดอายุแปดปี รองลงมาคือหกปี และสุดท้ายคือสี่ปีซึ่งเป็นอายุของรัตติกรในตอนนั้น ตอนนี้เด็กสาวและเด็กชายที่โตที่สุดถูกพาออกไปจากห้อง ดังนั้นจึงเหลือเด็กเพียงแค่สี่คนอยู่ในห้องแห่งนี้เท่านั้น
รัตติกรไม่เข้าใจว่าตัวเขามาทำอะไรที่นี่?
ชายหนุ่มแน่ใจว่าตั้งแต่จำความได้ เขาไม่มีความทรงจำของที่นี่อยู่ในหัวแม้แต่น้อย...
เด็กแต่ละคนมองหน้ากันไปมาแต่ไม่มีใครพูดอะไร พวกเขาทำได้แค่เพียงรออะไรบางอย่างให้เกิดขึ้นเท่านั้น...
แล้วประตูไม้เพียงบานเดียวในห้องก็เปิดออกมา...
พร้อมกับร่างของเด็กชายหญิงสองคนที่อาบไปด้วยน้ำสีแดงคล้ำส่งกลิ่นคาวคลุ้ง...
ศีรษะเล็กๆนั้นใหญ่ขึ้นเล็กน้อยจนดูผิดรูป เส้นเลือดตามร่างกายโป่งพองจนเห็นเป็นสายนูนขึ้นมาทั้งตัว ตรงไหนที่พองจนเกินกว่าที่จะขยายตัวได้ก็แตกออกจนผิวบริเวณนั้นกลายเป็นสีม่วงแดงเพราะเลือดที่คั่งอยู่ข้างใน...
รัตติกรได้ยินเสียงกรีดร้อง...
เห็นคนในชุดกาวน์สีขาวเดินเข้ามาดูแล้วจดบันทึกอะไรบางอย่าง...
เห็นเด็กอีกสองคนถูกพาตัวไป...
แล้วเขาก็เข้าใจ...ว่าเขาได้เห็นคนตาย...
ความตายทำให้รัตติกรในตอนนั้นหวาดกลัวที่สุดในชีวิต เขาน้ำตาไหล ร้องไห้ และกรีดร้องอย่างที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน ร้องจนกระทั่งลำคอแหบแห้ง และแสบตาเกินกว่าที่จะเค้นอะไรออกมาได้...
เด็กชายมองตรงไปยังผนังห้องที่ละลานตาไปด้วยกระดาษโน๊ตกลายร้อยแผ่น...
เขาค่อยๆเปลี่ยนตัวเองให้หลีกหนีจากความจริงอันโหดร้าย ด้วยผนังห้องที่เต็มไปด้วยกระดาษโน๊ตซึ่งบันทึกข้อความเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของใครคนหนึ่ง รัตติกรไม่รู้ว่าคำเหล่านั้นอ่านว่าอะไร เขาทำได้แค่จดจ่ออยู่กับตัวอักษรแต่ละตัว ตีความมันด้วยสัญชาตญาณ ปลดปล่อยความนึกคิดทุกอย่างให้ลอยละล่องไปกับความฝัน ลืมสิ้นซึ่งเสียงกรีดร้องของเด็กคนต่อๆมา...
แต่แล้ว มันก็ถูกทำลายลงด้วยเงาของคนในชุดสีขาวที่ก้าวมายืนอยู่ข้างหน้าเขาในที่สุด...
รัตติกรกลายเป็นเด็กคนสุดท้ายที่คนเหล่านั้นเหลืออยู่....
เด็กชายถูกพาตัวไป เบื้องหลังประตูไม้บานเก่าคือทางเดินมืดมิดที่นำไปสู่ห้องทดลองที่ทันสมัย คนในชุดกาวน์หลายสิบคนรีบมารับตัวเขาไปเพื่อทำการเก็บข้อมูล ร่างกายเล็กๆที่ไร้การต่อต้านถูกจับลงนอนกับเตียงอลูมิเนียมเย็นเฉียบ สายไฟระโยงระยางเพื่อวัดค่าต่างๆในการทดลองถูกนำมาติดตั้งอย่างรวดเร็ว
ชายคนหนึ่งถือเข็มฉีดยาอยู่ในมือ ส่วนปลายเข็มและตัวกดทำจากอลูมีเนียมสีเงินแวววาว ตัวหลอดแก้วบรรจุของเหลวสีฟ้าอ่อนไว้ภายใน...
สีฟ้าสวย...ที่ในเวลาต่อมาทำให้เขาเจ็บปวดเหลือแสน...
รัตติกรถูกจับฉีดยาตัวใหม่ที่ปรับสูตรไปเรื่อยๆเมื่อใช้กับเด็กคนก่อนหน้าไม่ได้ผล ยามแรกที่มันแสดงผลลัพธ์ออกมา เขาเจ็บปวดมากเกินกว่าที่เด็กสี่ขวบคนหนึ่งจะทนได้ แม้เป็นผู้ใหญ่ก็อาจขาดใจตายได้ง่ายๆด้วยซ้ำไป
อาการแบบเดียวกับเด็กคนก่อนหน้านี้เริ่มเกิดกับเขา รัตติกรรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เดือดพล่านอยู่ในร่างกาย สมองเหมือนกับจะขยายตัวแล้วหดลงสลับกันไปเพื่อให้พอดีกับศีรษะของเขา หยดเลือดค่อยๆไหลทะลักออกจากร่างกายจนเป็นกลายเป็นแอ่ง เวลาเหล่านั้นดำเนินอยู่นาน บางทีอยู่ๆก็สงบนิ่งไปเหมือนให้ตายใจแล้วเร่งระดับขึ้นใหม่จนกรีดร้องแทบสิ้นแรง การเฝ้าสังเกตุผ่านไปนานจนเหล่าคนในชุดกาวน์ที่จับจ้องเขาดิ้นทุรนทุรายที่อยู่รอบๆส่ายหัวและถอนหายใจว่ายาตัวนี้ไม่ได้ผล
พวกเขาสรุปว่ารัตติกรกำลังจะตายไม่ต่างจากเด็กทดลองคนที่แล้วมา…
สายต่างๆถูกถอดออกไป กลุ่มคนในชุดกาวน์สีขาวเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อออกจากห้องทดลองแห่งนี้ พวกเขามีตัวทดลองจากประเทศอื่นรออยู่ การที่เด็กในประเทศแถบเอเชียไม่สามารถทำให้ยาใช้การได้ต่อไปก็อาจต้องไปลองกับชาติพันธ์อื่นดู สิ่งที่พวกเขาคิดถึงคือการทดลองและวิจัยเท่านั้น
ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์โดยสิ้นเชิง...
ตอนนั้นเองที่มีคนบางกลุ่มบุกเข้ามา เสียงสัญญาณเตือนภัยร้องลั่นเปลี่ยนให้ห้องทดลองสีขาวสว่างอาบไล้ด้วยสัญญาณไฟสีแดงแลดูน่าหวาดผวา คนในชุดกาวน์วิ่งวุ่นไปทั่วเพื่อหาทางออกไปจากห้องวิจัยนรกแห่งนี้ ทว่าชีวิตที่ทำแค่เพียงวิจัยและทดลองนั้นไม่เคยได้ตระหนักถึงวันที่ตนจะต้องถูกเอาชีวิตบางมาก่อน มัชจุราชที่ย่างกรายเข้ามาหาทันควันจึงกวาดล้างเอาวิญญาณของพวกเขาไปได้อย่างง่ายดาย
กลุ่มคนที่บุกเข้ามาทีหลังนั้นทำลายห้องทดลองจนพังพินาศ ทั้งกลุ่มคนในชุดกาวน์รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกคนถูกฆ่าทิ้งไม่ต่างจากที่เขาเคยทำกับผู้อื่น ข้อมูลการทดลองที่ผ่านมาทั้งหมดถูกทำลายให้ลบเลือนหายไปอย่างที่ไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้อีก
สิ่งเดียวที่แปลกไปคือคนกลุ่มนั้นกลับรัตติกรทิ้งไว้ที่นั่น ท่ามกลางซากศพและห้องทดลองที่พังยับ อาจจะเป็นการชะล่าใจที่คิดว่าเด็กชายได้ตายไปแล้วก็เป็นได้ พวกเขาแค่เพียงเข้ามาทำลาย งานเสร็จแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็วไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยใดๆเอาไว้
เหตุการณ์ที่เหลือจากนั้นกลายเป็นภาพรางๆที่ขุ่นมัว
รัตติกรจำได้แค่เพียงเขานอนหายใจรวยรินอยู่ตรงนั้น จวบจนกระทั่งมีคนแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจและพบว่ายังมีคนรอดชีวิตอยู่เพียงคนเดียว
แค่เพียงเด็กชายที่นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงเหล็กสีสะอาดตาเท่านั้น...
รัตติกรถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ได้แพทย์ที่มีฝีมือช่วยกันยื้อชีวิตเขาเอาไว้ได้ แต่ทว่าผลของการที่สภาพจิตใจถูกทำร้ายอย่างรุนแรง เสริมไปด้วยยาบางอย่างที่มีผลต่อสมองโดยตรงทำให้รัตติกรสูญเสียความทรงจำไปในที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ตำรวจจึงไม่สามารถหาพยานหลักฐานใดๆได้ ห้องทดลองแห่งนั้นถูกทำลายยับเยินเกินกว่าจะหาสิ่งใดมาเชื่อมโยงไปถึงผู้บ่งการ และเพราะรัตติกรยังไม่บรรลุนิติภาวะ เรื่องนี้กลายเป็นแค่เพียงข่าวกรอบเล็กๆในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ไม่มีใครรู้ว่าเด็กชายที่รอดชีวิตคือใครเพราะตามกฏหมายแล้วต้องปกปิดเป็นความลับ ทั้งทางโทรทัศน์ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากนักเพราะกำลังเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากกว่า
เป็นเพียงกระแสเล็กๆที่ไม่นานก็ถูกกลืนหายไปตามกาลเวลา แม้จะเป็นทั้งชีวิตของคนๆหนึ่งก็ตาม...
เรื่องนี้จบลงอย่างเงียบเฉียบ แต่ไม่มีใครได้รู้เลย ว่าเพราะผลของยาที่ถูกบังคับฉีดเข้าไปนั้นทำให้รัตติกรกลายเป็นเด็กที่มีสมองด้านการจดจำสมบูรณ์แบบเหนือมนุษย์ทั่วไป นี่เองจึงเป็นสาเหตุให้เขาสามารถจดจำหนังสือทุกเล่ม และเข้าใจภาษาต่างๆได้จนแตกฉาน หากแต่เพราะสมองจดจำได้ถึงความทรมานจึงได้ลบเลือนความทรงจำที่ผ่านมาของรัตติกรไปจนหมดสิ้น...
ราวกับโชคชะตาเล่นตลกซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
เขาความจำเสื่อม และได้สมองที่สามารถจดจำทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นของตอบแทน....
________________________________________________
หายไปอย่างนานและกลับมาอย่างเมาๆ :hao7:
สวัสดีครับนักอ่านทุกคน
คือตอนนี้ดึก(เช้า)มากแล้วและผมเมาอากาศเปลี่ยน ตอนนี้เบลอจัดเข้าขั้นครับ :z3: :z2: :z10: :z13:
(เดือนมีนาผมไปเรียนที่ญี่ปุ่นมาครับ เพิ่งกลับมาแล้วก็ต่องานหนังสือนิดนึงแล้วเพิ่งได้กลับมาขอนแก่นเมื่อวานนี้ อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนหวัดจะกินอีกรอบ โฮรก :ling1:)
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อฉากป๋าสวีทฮะ (หรือลงเลยดีง่ะ แต่ห้าสิบเปอร์นะฮะ อันที่จริงกะเอาไว้ในตอนเดียวกันแต่ตอนนี้ลากยาวอีกแล้ว แฮ่) :ruready
กลัวคนอ่านจิตตก(เพราะตอนแต่งก็ตกเอง) ตอนหน้าเลยเซอร์วิสซะหวานเว่อร์เลย เอาเป็นว่า ผมว่าทุกคนได้อ่านตอนนี้ก็พรุ่งนี้แหละครับ รอค่ำๆไปอีกหน่อยผมก็น่าจะลงอีกตอนแล้ว :hao5: :hao5: :mew1:
เอาแบบเต็มๆดีกว่าเนอะ :hao3:
แล้วเจอกันนะครับ คิดถึงน้า :mew1:
Namioto Yo
-
มาแล้ววว :katai2-1:
-
^^^
จิ้มให้หายอยาก ที่คิดถึง :z1:
เบื้องหลัง แบบ unseen ของนายเอก
ต่อคืนนี้ ( อย่าตั๋วกันนะ ) เจ้าพ่อจะออกแนวสวีท แต่ห้าม SM นะ เพราะเพิ่งผ่านมา เอาแบบน้ำตาลไม่ต้อง :mew1:
+1 ให้เป็นกำลังใจ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ :กอด1:
-
:ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
เอาอีกกกกกกกกกกกกก
-
อดีตของนายเอกช่างน่าสงสารจริงๆ เจอเรื่องเลวร้ายตั้งแต่เด็ก
ความจำเสื่อมก็ดีเพราะมันทำให้จำอะไรเหล่านั้นไม่ได้อีกเลย
น้องกรตอนเด็กร่าเริง สดใส แต่ต้องมาเป็นอย่างนี้เพราะผู้ใหญ่แท้ๆ :เฮ้อ:
ตอนหน้าจะหวานถือเป็นการปลอบขวัญนายเอกสินะ :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
รอตอนต่อไปนะ
-
มาแล้ว จะเอาอีกกกกกกก :hao7: :hao7:
-
อดีตของลูน่านั่นเอง ฮือออ :m15:
แต่จะเอาอีกอ๊าา ต่ออีก ต่ออีก :ling1:
-
ว้าว~อย่างน้อยๆก็ไม่น่าจะมีใครตามล่าเด็กน้อยที่รอดชีวิตแล้วใช่มั้ย
ป่านนี้แม่ของลูน่าจะยังมีชีวิตอยู่รึเปล่านะ
-
:mew4: :mew4: :mew4: :mew4:กรน่าสงสารอะ :mew4: :mew4: :mew4:
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4:กลับมาแย้ว :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
:กอด1: กอดแน่นๆ ในที่สุดคุณคนเขียนก็มาต่อแล้วววววว :L2: :L2:
อดีตลูน่าน่าสงสารมากอะ :monkeysad:
จะรอกินน้ำตาลตอนต่อไปนะคะ :3123:
-
โหย เรสสิเด้นอีวีล เบาๆ
เลือดมาหลายตอนแล้วน๊า
ขอน้ำหวานบ้างเห๊อะ
-
:monkeysad:ในที่สุดก็มาต่อหลังรอมานาน :monkeysad:
คิดถึงลูน่ามากกกกกกกกกก :hao5:
ปูเสื้อรออ่านคืนนี้ :impress2: (หรือคืนพรุ่งนี้? o22)
-
คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในที่สุดก็กลับมาแล้ววววววว :กอด1: :กอด1: :กอด1:
มาต่ออีกเร็วๆนะ จะลงแดงตายแล้ววววว :katai1: :katai1: :katai1:
-
ดีมากกก ขอหวานมาดับคาวด่วนเลยค่ะ อิอิ
-
รอดมาได้ยังไงนะ เด็กอายุแค่สี่ขวบเอง!!
-
หายไปนาน คิดถึงมากมาย รีบมาต่อนะค่ะ ชีวิตรัตติกรนี้โหดร้ายดีแท้
-
แสดงว่าความทรงจำในวัยเด็กของรติกรจะกลับมาแล้วใช่ป่าว
-
>[]< คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
ในที่สุดก็มา ><
อดีตของรัตติกาลเป็นอย่างนี้นี่เอง
-
มาแล้วว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รอ ตอนต่อไปอยู่นะเอ่ออ :katai5: :katai5: :katai5:
สู้ๆจร้าาาาาา :hao7: :hao7:
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
รอเธอมานาน สุดท้ายก็ได้อ่านต่อแล้ว ขอบคุณมากครับ
-
ว้าววว ด้วยความคิดถึงเรื่องนี้ ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านนาน อิอิ
รีบมาต่อนะคะ :mew1:
:pig4: ค่า
-
น่าสงสารจังดีนะที่รอดมาได้แล้วหม่าม๊ายังมีชีวิตอยู่มั้ย
-
น้องกรน่าสงสารมาก :m15:
ดีใจที่มาต่อนะคะ ตั้งตารอเรื่องนี้ตลอดจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร
จะรอฉากสวีทนะคะ อยากเสียเลือด :hao5: หลังจากที่วันนี้เสียน้ำตาไปหลายโอ่ง :katai5:
-
อดีตของลูน่าน่าสงสารอ่ะ แต่ทำไมสั้นจัง :hao5: :hao5:
-
มาซะเครียดเลย -_-
-
แล้วรัตติกรได้ไปอยู่กับแม่หรือเปล่านะนั่น แล้วพวกที่ทดลองอะไรนี่ทำเพื่ออะไรกัน
-
จะตั้งตารอตอนต่อไป
ไม่รู้เลยว่าอดีตขิงลูน่าโหดขนาดนี้
สงสัยอยู่หน่อยตรงตามที่ลูน่าฝันเห็น ทำไมลูน่าถึงได้ชื่อรัตติกรเหมือนตอนก่อนความจำเสื่อมล่ะ
-
รอคอยมานานแสนนาน :mew1:
ขอบคุณมากมาย
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกก :hao7:
-
นี่เราไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม ?
คนแต่งมาอัพแล้ว เย้~ *จุดพลุ*
ตอนนี้ย้อนถึงอดีตของลูน่าซินะ
น่าสงสารน้องมากกก งื้ออ T__T
รอสวีทตอนหน้านะคะ จัดมาหนักๆ เลย ♥ : D
-
=[]= แหกขี้ตานั่งรอ!!! ค่ะ
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.22
ภาพแรกที่เห็นเมื่อลืมตาขึ้นมาคือบานประตูกระดาษที่ถูกออกแบบด้วยแนวเส้นตารางรูปแบบเรียบง่าย เสื่อสานเก็บขอบรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้านั่นก็ดี บรรยากาศเงียบสงบของห้องโล่งกว้างที่ตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้และแผ่นภาพลายอักษรพู่กันนั่นก็ด้วย สิ่งเหล่านั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสถานที่แห่งนี้ถูกออกแบบด้วยสไตล์ญี่ปุ่นเป็นแน่แท้
รัตติกรกระพริบตาเพื่อปรับแสง ก่อนจะมองสำรวจไปรอบตัวอีกครั้ง ทว่าสิ่งที่พบก็คือร่างกายของเขาอ่อนแรงขนาดที่การพลิกตัวหันไปอีกด้านกลายเป็นสิ่งที่พรากเอากำลังของเขาออกไปแทบจะหมดทั้งตัว ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือการนอนนิ่งอยู่กับที่เฉยๆแล้วพยายามเรียกกำลังวังชาของตนเองให้กลับมาได้มากที่สุด
ระหว่างนั้นหนุ่มชาวไทยก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศรอบตัว ทั้งห้องเงียบสงัด แม้กระทั้งเสียงที่แว่วมาจากข้างนอกก็เป็นเสียงของลมที่พัดหวีดหวิวเพียงเบาๆเท่านั้น ยามที่สูดหายใจเข้าไป กลิ่นอายเย็นแบบแห้งๆก็หอมติดจมูกเขามาด้วย เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจนเขาต้องสงสัย...
ที่นี่มีมนุษย์คนอื่นนอกจากเขาอยู่มั้ยนะ?
หลังจากพยายามกำมือเข้าออกจนเริ่มมีแรง รัตติกรก็เลิกผ้าห่มผืนหนาออกจากตัว ชุดที่เขาใส่อยู่เป็นยูกาตะสีขาวลายเทาฟ้า ยิ่งชัดเจนเข้าไปอีกว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่เลียนแบบการตกแต่งของชาวญี่ปุ่น ทว่าที่ๆเขาอยู่ก็คือแดนอาทิตอุทัยแห่งนั้นนั่นเอง
หนุ่มชาวไทยค่อยๆลากเท้าจนไปหยุดอยู่ที่ประตูเลื่อนกระดาษฝั่งหนึ่งของห้อง ลมเบาๆพัดผ่านรอยแยกของประตูเข้ามาบ่งบอกว่าทางนี้น่าจะเป็นทางออกไปของนอกของตัวบ้านมากกว่าการกลับเข้ามาข้างใน พอค่อยๆเลื่อนประตูเปิดออก สีขาวเป็นประกายของหิมะก็สะท้อนเข้าตาเขาทันควัน
เบื้องหน้าเป็นภาพของสวนแบบญี่ปุ่นกว้างขวาง ปุยหิมะอ่อนบางทับถมกันตามสุมทุมพุ่มไม้ ลานหิน และอ่างไม้ไผ่ที่ตอนนี้หยุดนิ่งเพราะน้ำที่คอยหยดลงมาเพื่อเปลี่ยนทิศทางของไม้ไผ่ลำน้อยได้กลายเป็นหยดน้ำที่จับตัวแข็ง ทุกสิ่งยังดูสดใหม่ เหมือนว่ายังไม่มีใครได้บุกรุกเข้ามาในสวนแห่งนี้ และหิมะเหล่านั้นก็เพิ่งหยุดตกได้ไม่นานเช่นกัน
เห็นดังนั้น คนที่ชอบอะไรเย็นๆเป็นพิเศษอย่างรัตติกรก็เลื่อนประตูห้องให้ปิดลง แล้วค่อยๆเดินเท้าเปล่าออกไปจากชานพื้นไม้ที่สร้างออกมาให้เจ้าของบ้านมานั่งชมสวนเล่นในวันที่อากาศดี ร่างเพรียวบางได้สร้างรอยเท้าแรกบนพรมสีขาวผืนใหญ่และรอยต่อๆไปตามทางที่เขาค่อยๆเดิน ลำคอที่แห้งผากตั้งแต่ตื่นมาถูกเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยหิมะที่เจ้าของร่างใช้มือช้อนขึ้นมาเลียกินเล่นเหมือนน้ำแข็งไส
รัตติกรสูดอากาศเย็นๆเข้าเต็มปอด มันหนาวก็จริง แต่ก็ทำให้เขาปลอดโปร่งและสดชื่นมากกว่าตอนที่เพิ่งตื่นมาอยู่มากโข หนุ่มชาวไทยเดินต่อไปยังสวนส่วนที่เป็นลานกว้างๆแล้วเอนตัวลงนอนกับพื้นหิมะที่เย็นเฉียบหว่าอ่อนนุ่ม เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ท้องฟ้าที่เขาเห็นเป็นสีเทาขมุกขมัว บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าอีกไม่นานหิมะอีกระรอกก็จะตกลงมาอีกครั้ง
เปลือกตาบางปิดลงอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มต้องการกลับไปครุ่นคิดถึงความฝันที่เป็นเรื่องจริงในอดีตของตนเอง ตอนนั้นโชคดีที่ถึงแม้จะความจำเสื่อม แต่แม่ของเขาก็ตามหาเขาจนเจอ แน่นอนว่าเพราะไม่มีใครอย่างรื้อฟื้นความทรงจำของเขาให้กลับมา ดังนั้นข่าวของเรื่องนี้จึงถูกปิดเงียบและในเวลาต่อมาก็ถูกทำลายหายไปในที่สุด
เพราะพรสวรรค์ที่ได้รับมากลับทำให้เขากลายเป็นเด็กที่“พิเศษ” ชีวิตหลังจากที่สูญเสียความทรงจำของรัตติกรไปจึงกลายการถูกพาเข้าชั้นเรียนของเด็กหัวกะทิ ตั้งแต่นั้นมารัตติกรก็ไม่สามารถกลับไปเป็นเด็กธรรมดาได้อีกต่อไป เขาไม่มีเพื่อน ไม่ได้ออกไปเล่นในสนามเด็กเล่นเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆ ไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างเช่นที่คนธรรมดาสักคนหนึ่งควรจะมี ในขณะที่จบปริญญาตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่ปี รัตติกรก็ได้เจอแม่ของตนเองน้อยลงเรื่อยๆ สุดท้ายในขณะที่อายุได้ยี่สิบปี เขาก็เสียแม่ของตนเองไปให้กับอุบัติเหตุทางรถยนต์
โลกทั้งใบจึงเหลือเพียงหนังสือที่รัตติกรวางตำแหน่งมันไว้ในฐานะเพื่อนที่สนิทที่สุดเท่านั้น...
เพิ่งมารู้เอาตอนนี้เองว่าสาเหตุที่ทำให้เขายึดติดกับหนังสือขนาดนั้นก็เป็นเพราะเหตุการณ์ลักพาตัวนี้ ตอนที่หนีความจริงแล้วจดจ่ออยู่แต่กับกระดาษโน๊ตบนพนังห้องทำให้สมองเขาจดจำว่าทางเดียวที่จะทำให้ตนเองไม่ต้องเจ็บปวดกับความทรงจำที่โหดร้ายก็คือการให้เขายึดติดอยู่กับตัวหนังสือเหล่านั้น
พอไม่ได้อ่านหลายๆวัน มันถึงได้ออกอาการเอาเหมือนตอนที่เขาอยู่ที่คฤหาสน์ของลาร์เฟียร์ที่ปาเลอร์โม่นั่นเอง
“ตลกร้ายชะมัด หึ...”
รัตติกรลืมตาขึ้นอีกครั้ง ท้องฟ้าที่เคยเห็นกลายเป็นสีเทาเข้มกว่าเดิม ครู่เดียวเกล็ดน้ำแข็งสีขาวก็เริ่มก่อตัวขึ้นในอากาศแล้วตกลงมาอย่างอ้อยอิ่ง สัมผัสเย็นเฉียบแตะต้องที่ใบหน้าอุ่นๆของเขา หิมะเกล็ดนั้นจึงกลายเป็นหยดน้ำแล้วค่อยๆกลิ้งไหลลงไปตามเส้นโค้งของใบหน้า...
ร่างเพรียวบางยกมือขึ้นแล้วคว้าไปในอากาศ กะจะคว้าจับหิมะเล่นคล้ายกับการจับแมลง ทว่าสิ่งที่ได้มาไว้ในกำมือกลับเป็นฝ่ามือใหญ่อันร้อนผ่าวที่คว้าจับมือเขาเอาไว้แทน...
ร้อน...จนอากาศเย็นๆที่อยู่รอบตัวสลายหายไปได้ในพริบตา...
“ลูน่า!!!”
เฮือก!
รัตติกรสะดุ้งจนเผลอปล่อยสะบัดมือที่จับเอาไว้ออกไปแล้วหันไปมองตามเสียงตะโกนเรียกหาพระจันทร์ของใครบางคนที่ดังลั่นจนทำลายบรรยากาศสงบรอบตัวให้แตกกระจายไปในพริบตา
“จะตะโกนหาอะไรครับ?”
ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์อยู่ในชุดสูทสีขาวสะอาดตายืนจังก้าอยู่เหนือร่างกายของเขา ดวงตาสีสนิมคมกริบจ้องเขม็งไปยังตัวการที่นอนทำหน้าตายกลางหิมะอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว เรียกให้ปรอทอารมณ์ของดอนแห่งปาเลอร์โมให้พุ่งจนแทบอยากจะกระชากตัวบางๆนั่นมากอดรัดจนร้องไม่เป็นภาษาให้มันรู้แล้วรู้รอดไป!
“คิดว่าเธอนอนป่วยมากี่วัน ฟื้นขึ้นมาถึงทำซ่าส์มานอนตากหิมะแบบนี้?”
“ไม่รู้ครับ ตอนหลับผมไม่ได้นับ”เหมือนเป็นปฏิกิริยาตอบสนองโดยอัตโนมัติไปแล้วว่าทุกประโยคที่เขาคุยกับเจ้าพ่อมาเฟียนี่ต้องมีการกวนประสาทเกิดขึ้น
ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ น่าแปลกที่เขาดีใจมากกว่าจะโมโห รัตติกรที่นอนหลับเงียบๆนั้นอยู่ด้วยแล้วสบายกว่าเห็นๆ ไม่นึกเลยว่าตัวเขาเองจะคิดถึงคำยียวนกวนประสาทนี่จนกระทั่งได้มาคุยกันอีกครั้งแบบนี้
ตอนที่เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วไม่เห็นรัตติกรนอนอยู่ที่เดิมนั้นเล่นเอาในอกวูบโหว่งจนเขาแปลกใจตัวเอง หากว่าตอนนั้นเขาไม่เหลือบไปเห็นบานประตูห้องอีกฝั่งที่ปิดไม่สนิทแล้วล่ะก็ ได้มีการบ้านแตกเพราะเขาหาเจ้าตัวดีนี่ไม่เจอแน่นอน!
ภาพที่เห็นจากบานประตูที่เปิดออกมานั้นช่างสวยงาม ยามเมื่อทั้งบรรยากาศที่ขาวสะอาดตาและร่างที่สวยงามอยู่ในองค์ประกอบเดียวกัน ร่างเพรียวที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นหิมะขาวทำเอาเขาใจหล่นวูบเมื่อคิดว่าเจ้าตัวเป็นอะไรไป จนกระทั่งมือเรียวสวยยกขึ้นคว้าจับหิมะเล่นเท่านั้นแหละ ลาร์เฟียร์ถึงรู้ว่าเขาเป็นห่วงคนตรงหน้าซะจนคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่!
ถ้าไม่ติดว่าความจริงอากาศตอนนี้ติดลบเข้าไปแล้วไม่รู้กี่องศา เขาได้สำเร็จโทษหมอนั่นเอาตรงนี้แน่ๆ!!
“กลับเข้าห้องเดี๋ยวนี้เลย!”ก่อนที่เขาจะเป็นห่วงแล้วเป็นห่วงอีกจนรับตัวเองไม่ได้ ช่วยรีบๆกลับมาอยู่ในที่ๆเขาดูแลเจ้าราชสีห์จอมพยศตัวนี้ได้สักทีเถอะ!
รัตติกรยักคิ้วใส่เจ้าพ่อหนุ่ม แต่ก็ยอมลุกขึ้นจากพื้นตามที่อีกฝ่ายต้องการ ไม่ใช่ว่าเขากลัวหรอกนะ แต่สถานภาพร่างกายเขาตอนนี้เอาชนะไอ้คนบ้าอำนาจนี่ไม่ได้ก็เท่านั้นแหละ
“ข้างนอกอากาศออกจะดีนะครับ”
“เธอยังไม่ทันจะหายดีก็อย่าหาเรื่องใส่ตัวให้มันมากนัก”เจ้าพ่อหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น
“ตัวก็ตัวผม ใช่ของคุณซะเมื่อไหร่”เจอหาเรื่องเข้ารัตติกรเลยหยุดอยู่กลางทางไม่ยอมเดินกลับเข้าไปในห้องตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก ปรอทอารมณ์ของคนเป็นห่วงแต่ไม่แสดงออกเลยพุ่งทะลุจุดเดือด เดินออกไปกระชากตัวบางๆนั่นมาแบกขึ้นหลังแล้วยกกลับเข้าห้องโดยไม่ฟังเสียงทัดทานและแรงปะทุษร้ายที่ไม่ต่างจากแมวข่วนแต่อย่างใด
“ออกไปทั้งชุดตัวบางๆแบบนั้น รองเท้าก็ไม่รู้จักใส่ เสื้อเปียกขนาดนี้เป็นหวัดขึ้นมามันเดือดร้อนคนอื่นเขาไม่เข้าใจรึไง?”บ่นไปก็ก้าวอาดๆไปจนถึงตู้เสื้อผ้าที่วางอยู่ริมห้อง เขาวางแมวดื้อที่ขู่ฟ่อๆลงกับพื้นแล้วจับเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที!
“เฮ้ย! คุณ! อย่ามาจับคนอื่นเขาแก้ผ้าง่ายๆได้มั้ยวะ! ปล่อยผม!!”รัตติกรดิ้นพล่านเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของดอนแห่งปาเลอร์โม่ แถบผ้าคาดเอวที่เรียกว่าโอบิถูกดึงจนเริ่มคลายออกจากกัน คอเสื้อที่ถูกรั้งเอาไว้ก็ร่นลงไปกองอยู่กับเอว ถ้าไม่ติดว่ายังมีผ้ารัดเอวไว้หลวมๆกับแขนเสื้อที่เขายังไม่ยอมถอดออก ป่านนี้ยูกาตะตัวเดียวที่ปกคลุมกายเขาเอาไว้ได้ลงไปอยู่ที่พื้นหมดแล้วแน่ๆ!
“เธออยู่นิ่งๆไม่เป็นรึไง?”
“เป็นจนกระทั่งเจอคุณนั่นแหละ! ผมทำของผมเองได้ไม่ต้องมายุ่ง!! ปล่อยนะ!”ด้วยแรงแขนที่ไม่ค่อยจะมี การดันไหล่ของอีกฝ่ายเพื่อกันไม่ให้เข้ามาใกล้ตัวก็เป็นอะไรที่กินแรงไปมหาศาล รัตติกรเค้นพลังจนหน้าดำหน้าแดง ลาร์เฟียร์ที่มองอยู่จึงทั้งขันทั้งฉิวเจ้าราชสีห์ที่ไม่รู้จักยอมลงตัวนี้
“ดื้อ”
ว่าจบก็ก้มลงกัดที่จมูกโด่งรั้นเบาๆ ก่อนจะยอมปล่อยตัวคนดื้อที่ว่าให้เป็นอิสระตามที่เจ้าตัวต้องการ
รัตติกรชะงักคล้ายกับถูกสาป อิสระที่ได้รับกระทันหันแบบไม่นึกฝันทำให้เขาลืมหนีจากอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง สัมผัสจักจี้น้อยๆยังหลงเหลืออยู่ที่ปลายจมูก เจ้าตัวจึงรีบถูมันออกโดยแรงแล้วหันหลังกลับไปรื้อเสื้อจากตู้ที่ตั้งอยู่เบื้องหลัง
“ประสาทกลับรึไง?”รัตติกรบ่นกลับเบาๆแล้วหยิบชุดที่สีเรียบที่สุดออกมาใส่ ลาร์เฟียร์เลิกคิ้วใส่แผ่นหลังของรัตติกร นี่คิดว่าเขาไม่ได้ยินที่บ่นนั่นเลยเหรอ?
หนุ่มชาวไทยปลดเสื้อออกจากแขนของตน เพราะมีโอบิรัดไว้ที่เอว เสื้อทั้งตัวจึงไม่ตกลงไปกองกับพื้น รัตติกรใส่ยูกาตะชุดใหม่เข้าไปอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากให้แผ่นหลังเปล่าๆของตนเองถูกจับจ้องด้วยดวงตาสีสนิมคมๆของลาร์เฟียร์ที่นั่งมองเขาไม่ละสายตาเลยแม้แต่น้อย
ถอดเสื้อตัวเดิมออกเรียบร้อย เหลือแค่การผูกสายรัดเอวที่รัตติกรเพิ่งมาค้นพบความยุ่งยากเอาก็ตอนที่จะเอื้อมมือไปจับข้างหลังแล้วต้องสะดุ้งเฮือกเพราะแผลที่กำลังจะสมานตัวนั้นตึงจนไม่สามารถยืดแขนไปมากกว่านั้นได้
“ให้ช่วยมั้ย?”
“ไม่เป็นไรค... อ๊ะ! คุณ!!”มือหนาฉุดคนตัวเล็กกว่าจากด้านหลัง ผลที่ได้คือทั้งตัวของรัตติกรล้มลงไปกองอยู่บนตักของเจ้าพ่อหนุ่มที่นั่งขัดสมาธิรอรับเป็นมั่นเหมาะ แขนแข็งแรงทั้งสองข้างกดเอวของร่างเพรียวไม่ให้ลุกขึ้นยืนแล้ววกมือไปหยิบโอบิที่เกาะเอวบางไว้อย่างหมิ่นเหม่มาถือไว้ในมือ
“ขอให้คนอื่นเขาช่วยบ้างมันไม่ได้เสียศักดิ์ศรีอะไรมากมายนักหรอก นั่งนิ่งๆ เดี๋ยวฉันทำให้”
“เผด็จการ!”รัตติกรเอี้ยวตัวหันกลับไปด่าเจ้าพ่อหนุ่มเสียงเขียว แต่พอคำทั้งหมดหลุดออกจากปากเท่านั้นแหละถึงได้รู้ว่าใบหน้าของพวกเขาห่างกันเพียงไม่ถึงคืบ!
“จะจัดการคนอย่างเธอได้มันก็ต้องวิธีนี้แหละ”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แตะแต้มที่รูปหน้าคมสัน ก่อนที่เจ้าของร่างจะโน้มใบหน้าลงมาเล็กน้อยเพื่อครอบครองริมฝีปากสีแดงๆที่เผยอค้างเอาไว้อย่างที่เจ้าตัวคงไม่รู้ว่ามันเชิญชวนให้เขาอยากจูบมากขนาดไหน
มือเล็กดันเขาออกทันควันเมื่อเจ้าตัวตั้งสติได้ รัตติกรหน้าขึ้นสีเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเขาอายนะ เขาโกรธต่างหาก!
“คุณ!!”
“หืม? ทำไม ไม่ชอบรึไง ตอนพาเธอกลับมาที่นี่เธอมีแต่บอกว่าเอาอีกๆทั้งนั้น นี่ฉันสนองให้นะ”
“ไม่ได้ขอเว้ย! ไม่ได้บอกด้วยว่าจะเอาอีกน่ะ!”หนุ่มชาวไทยแยกเขี้ยวใส่เจ้าพ่อหนุ่มที่ยิ้มยียวน
“ปากแข็งจริง ทั้งๆที่นุ่มออกขนาดนั้นแท้ๆ”
“คุณลาร์เฟียร์!!”
“ว่าไงลูน่า?”เจ้าพ่อหนุ่มยิ้มขำพร้อมกับขมวดปมโอบิในมือให้รัตติกรแล้วค่อยๆขยับให้มันย้ายมาอยู่ข้างหลังของเจ้าตัว ราชสีห์หนุ่มที่ยังไม่หายบาดเจ็บดีแยกเขี้ยวใส่เขาฟ่อๆไม่ต่างจากแมวไร้ทางสู้ เห็นแล้วลาร์เฟียร์ยิ่งอยากหาเรื่องแกล้งเข้าไปอีก
“เอ้า เสร็จแล้ว ทีนี้ก็กลับไปนอนพักซะ เดี๋ยวฉันให้เด็กเอายามาให้ ยังไม่หายดีแท้ๆดันออกไปตากหิมะ ไข้ขึ้นมาอีกฉันจะหัวเราะให้”
“ผมจะเป็นอะไรไปมันก็เรื่องของผม! จะตายมันก็ตัวผมเอง! คุณไม่ต้องมายุ่ง!!”รัตติกรผุดลุกขึ้นยืนทันควันเมื่อถูกปล่อยออกจากอ้อมแขนของเจ้าพ่อหนุ่ม หากแต่ก็เสียท่าล้มลงที่เก่าเพราะหน้ามืดจากการลุกกระทันหัน
แต่คราวนี้ไม่มีมือแกร่งมารับเขาเอาไว้ หนุ่มชาวไทยล้มลงบนตักของลาร์เฟียร์ก็จริง ทว่าเพราะประโยคเมื่อครู่ของรัตติกร ดอนแห่งปาเลอร์โมจึงไม่ยื่นมือออกมารับอีกฝ่ายเอาไว้อย่างที่ตั้งใจจะทำในตอนแรก...
ดวงตาสีน้ำตาลไหม้หรี่ลงเล็กน้อย รัตติกรไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะต้องมารับตัวเองเอาไว้เหมือนตัวเอกในนิยาย แต่ท่าทางเฉยชาทั้งที่เมื่อครู่ได้หยิบยื่นความห่วงใยมาให้เขากลับเป็นอะไรที่เสียดแทงใจกว่าที่คิดไว้
เขาอยู่มาทั้งชีวิตโดยไม่เคยขอความห่วงใยจากใคร...
ดังนั้นถึงจู่ๆจะได้มาแล้วเสียไปมันก็ไม่มีอะไรต่างไปจากเดิม!
ร่างเพรียวลุกขึ้นจากอีกฝ่ายอีกครั้ง คราวนี้ช้าๆอย่างรู้สังขารตัวเองว่ายังไม่พร้อม ลาร์เฟียร์มองคนป่วยที่ไม่ยอมลงตรงหน้าแล้วได้แต่โมโหในใจ
เขาไม่เคยห่วงใครขนาดนี้...ไม่สิ เขาไม่เคยห่วงว่าของเล่นของเขาจะเสียหายเท่าของเล่นชิ้นนี้...
เจ้าของเล่นที่ไม่รักตัวกลัวตาย...ทั้งๆที่เขาอยากจะทนุถนอมมันเอาไว้ให้อยู่ข้างตัวแบบนี้ไปอีกหน่อย...
น่า...หงุดหงิด!!
เจ้าพ่อหนุ่มมองของเล่นตัวที่ว่าซึ่งตอนนี้ยังคงยืนหลับตานิ่งๆอยู่กับที่ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วคว้าร่างของคนป่วยไม่รู้จักเจียมตัว ก่อนจะพาร่างนั้นกลับไปนอนที่ฟูกหนานุ่มกลางห้องแล้วตวัดผ้านวมห่มคลุมร่างที่พยายามจะดิ้นหนีนั่นให้กลับไปนอนนิ่งๆแต่โดยดี
มือหนายึดปลายผ้านวมทั้งสองด้านกดลงกับพื้น ส่งผลให้แนวผ้าที่ตึงรั้งร่างของรัตติกรเอาไว้ให้หยุดอยู่กับที่ ริมฝีปากหนาที่ร้อนระอุโน้มลงกลืนกินกลีบปากบางเย็นชื้นเป็นเชิงบังคับ ปลายลิ้นสอดใส่เข้าไปในโพรงปากหวานฉ่ำของอีกฝ่ายแล้วเร่งเร้าจนกระทั่งร่างข้างใต้หมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะดิ้นอีกต่อไป
“อื้อ!”เจ้าพ่อหนุ่มเร่งจังหวะทิ้งท้ายถึงยอมปล่อยให้รัตติกรได้อิสระคืนดังเดิม ใบหน้าสวยได้รูปขึ้นสีแดงสวยอย่างที่เขาชอบ ร่างเพรียวบางหอบเล็กน้อยแต่ยังคงใช้สายตาที่พยศเอาเรื่องนั่นมองเขาอย่างอาฆาต
ไม่ยอมลงเลยจริงๆ...
“รัตติกร...ชีวิตที่เธอไม่รักนั่นน่ะ ถ้าไม่ต้องการก็เอามาให้ฉันซะ...”
ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ก้มลงกระซิบที่ริมหูของร่างที่อยู่เบื้องล่าง เขากัดมันเบาๆและรับรู้ได้ถึงร่างกายที่กระตุกสั่นเล็กน้อย...
มือหนาเลื่อนขึ้นไปวางแนบอกซ้ายของอีกฝ่าย รับรู้ถึงหัวใจดวงหนึ่งที่เต้นรัวเร็วอยู่ภายใต้เนื้อหนังที่สวยงาม...
“ทั้งชีวิต ทั้งร่างกาย หรือแม้กระทั่งหัวใจดวงเล็กๆนี่ก็ตาม...”
น้ำหนักมือกดลงไปเล็กน้อยเพื่อย้ำให้อีกฝ่ายรู้ว่าต้องเป็นหัวใจดวงไหน...
ดวงตาสีสนิมที่มองสบฉายแววกร้าวแกร่งอย่างที่เจ้าตัวชอบใช้ แล้วริมฝีปากหนาที่ชอบพูดชอบทำแต่อะไรร้ายๆนั่นก็พูดประโยคสุดท้ายออกมา...
“เอามาให้ฉันทั้งหมดนี่...เดี๋ยวจะดูแลเอง!”
__________________________________________________
ฮิ้ว ป๋าสวีททททท 555 :hao7: :hao7:
ป๋าเขาสวีทได้เท่านี้ล่ะครับ จะฟินกันแก้คิดถึงได้มั้ยก็แล้วแต่นักอ่านทุกคนนะครับ ฮ่าๆ
เห็นผมลงวันติดกันอย่าแปลกใจ ประเทศไทยหิมะไม่ได้ตกฮะ :hao3:
เรื่องของเรื่องคือช่วงนี้มันก็ใกล้จะกำหนดส่ง... :z13:
เรื่องของเรื่องก็เลยกลายเป็นว่าผมต้องเข้าโหมดเก็บตัวเพื่อปั่นงานหลังจากหนีไปเที่ยว(ไปเรียนๆ)ที่ญี่ปุ่นเดือนนึงเต็มๆ(ปกติก็อัพเดือนละตอน แง่ว) :katai4: :katai4: :katai4:
ครับ ช่วงนี้เจอกันบ่อยแน่นอนฮะ :ruready :hao7:
ปล.ขอบอกว่าถึงจะใกล้กำหนดส่ง แต่เรื่องที่ลงอยู่ยังไม่ใกล้จบนะครับ //กระอักเลือด
ว่าแล้วก็ลาไปนอน ประเทศไทยร้อนจริงน้อ :t3:
เจอกันในเร็ววันคร้าบ
Namioto Yo
-
TwT อัพแล้ววว // นั่งรอตั้งแต่ค่ำ
ป๋าเขา S นะเนี้ยต้องการทั้งตัว 555
-
รักขนาดนี้แค่บอกว่ารักไม่ตายหรอก ลูน่าคิดมากนะ
-
นี่หวานแล้วเหรอ ยังไม่เท่าไหร่เลยนะ จัดมาอีก
-
แกร่างดังหินผา ก็สยบกับความอ่อนของหนุ่มไทย :katai3:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ :กอด1:
ปล. ร้อนยังไงก็บ้านเรา o13
-
:hao7: :hao7: :hao7:
ร้ายกาจจจมาก พ่อมาเฟีย อิอิ เอาอีกกกก :katai5:
-
อ๊ายยยยย
คำพูดลาเฟียร์เอาซะละลายเลย อิอิ :o8:
รอตอนต่อไปและเป็นกำลังใจให้นะคะ :L2:
-
โดน :hao7:
เจอแบบนี้เข้าไป ยกหัวใจให้เลย :hao6:
-
:hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เค้าเขิน :mew3: :mew3: ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้
เเต่เสียอย่างเดี๋ยวไม่มีฉากในฝันเลย
เค้าไม่ได้หื่นนะๆๆ
มาต่อไวๆนะจ้า
-
อ๊าย ละลายยังเจ้าราชสีห์น้อย กรี๊ดดดดดดดด :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
คนอ่าน เขิลล :-[ :-[ :-[
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
อ้าย หวานก็เป็นนะ :mew3:
-
ประโยคสุดท้ายนี้คมมากเลยป๋าลาเฟียร์ ดูแลในฐานะอะไรกัน ของเล่นหรือคนสำคัญ หุหุ
-
ป๋าขา~ ประโยคสุดท้ายนี่เค้าไม่บอกของเล่นหรอกนะ :o8:
กอดคนเขียนหน่อย คิดถึงจัง
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
หวานแบบโหดๆ 555 :mew5:
-
กรี้ดดดด เขินอะ :mew3:
-
แค่นี้ก็ฟินละค่ะ อิอิ
ขอบคุณนะคะ :mew3:
-
สาบานว่านี่สวีทแล้ว อุบ๊ะ! ฮ่าๆๆๆๆ
จะทำใจนะ ว่าสวีทได้เท่านี้ จะรอดูหลังจากได้กัน เอ๊ย! รักกัน ว่าจะสวีทกันได้ขนาดไหน :hao5: :hao6:
-
ชอบจังเลยอ่ะ เรื่องนี้
-
“เอามาให้ฉันทั้งหมดนี่...เดี๋ยวจะดูแลเอง!”
:m25:
-
“รัตติกร...ชีวิตที่เธอไม่รักนั่นน่ะ ถ้าไม่ต้องการก็เอามาให้ฉันซะ...”
“ทั้งชีวิต ทั้งร่างกาย หรือแม้กระทั่งหัวใจดวงเล็กๆนี่ก็ตาม...”
“เอามาให้ฉันทั้งหมดนี่...เดี๋ยวจะดูแลเอง!”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :ling1:
-
ยกให้ลาเฟียร์ดูแลเหอะลูน่า คึคึ
-
ลาเฟีร์พูดได้โดน...แต่ยอมง่ายๆก็ไม่ใช่รัตติกรสิ หรือจะง่ายดี? 555555
-
อุกี้ :ling1:
มันจะ .... ไปแล้วน้า~~~~~
-
ชอบเรื่องนี้มากๆเลย รีบมาต่อไวๆนะคะ รอค่า ขอแบบยาวๆนะ >< ชอบการบรรยายเรื่องนี้มาก
-
เล่นตัวนิดนึงก่อนค่อยตกลงนะลูน่า
-
สนุกมากคะ :mew1:
-
รัตติกรเนี่ยMมากเลยอ่ะ ลาเฟียร์พูดได้โดนใจมาก :mew1:
-
กิ๊สสสสสสสจัดไปหลายๆดอกเลยค่าดอนนนน 55555
-
ค้าง ค้าง ค้าง :katai1: :serius2: :angry2:
รอ รอ รอ :mew2: :mew2: :mew2: :hao4:
-
:mew3:ให้ตายเถอะ ป๋าพูดถูกใจมาก
-
กรี๊ดดดดดดดดด! ป๋าโหดแต่สวีทมั่กมาก :-[
-
มาต่อเถอะ หุหุ :ling1:
-
หายไปไหนอีกแล้ว :sad4:
-
หวานมากๆ :-[ :-[
-
ค้าง :angry2: o18
(ทำไมถึงน่ารักขนาด :o8: :mew3: )
-
สงสารลูน่าจับใจTT^TT
-
:hao7: :hao7: :hao7:
ป๋าหวานได้แค่นี้หรอ จะเอาอีกๆ :ling1:
ลูน่าใจแข็งเว่อร์ๆ :katai5:
-
หวานมากครับ
-
มาตาม นักเขียนหายไปไหน คนอ่านรออยู่มากมาย รีบมาต่อไวๆนะคะ
อย่าดองเค็มเรื่องนี้เลยย ขอโร๊งงงงง :katai1:
-
รอจ้า รอ o18 o18 o18
-
พึ่งมาอ่านครั้งแรกค่ะ
สนุกที่สุดเลยค่ะ!!!
น่ารักมากๆๆๆของมากกกกกเลยค่ะ
รอตอนต่อไปนะค่ะ
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆแบบนี้มาให้อ่านค่ะ>///<
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.23
ดวงอาทิตย์ลอยเกาะขอบเมฆ แปรเปลี่ยนสีเทาอึมครึมของท้องนภาให้เป็นสีทองระยับจับตา แสงแดดยามเช้าค่อยๆส่องลงมาจากผืนฟ้า เล็ดลอดผ่านรอยแยกเล็กๆของแมกไม้ที่ไร้ซึ่งใบเขียว ก่อนที่มันจะตกลงกระทบกับพื้นหิมะแล้วสร้างแสงสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ สร้างความสุนทรีย์แก่ผู้มองที่เลื่อนบานประตูกระดาษออกมาดูจากภายในห้อง
เจ้าของร่างผอมสูงขยับตัวออกจากช่องว่างของบานประตู ปล่อยให้แสงแดดค่อยๆลบเลือนความมืดในห้องสี่เหลี่ยมที่มีร่างเพียงหนึ่งเดียวนอนหลับสนิทซุกตัวกับฟูกผืนนุ่ม มือสวยยกขึ้นขยับแว่นในมือให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆที่นอนนั้นเพราะหวังว่าแค่เพียงแสงอาทิตย์ที่เขาเปิดให้เข้ามาในห้องนี้จะทำให้ร่างที่นอนหลับอยู่นั้นตื่นขึ้นมาได้
ทว่าคนคนนั้นกลับยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าแล้วพลิกตัวหนีหันกลับไปอีกฝั่งแทนเสียอย่างนั้น
ขี้เซาเอาเรื่องนะเนี่ย...
“คุณลูน่าครับ”เขาตัดสินใจส่งเสียงเรียก ทว่าคนตรงหน้าก็ยังไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง
“คุณลูน่า ตื่นได้แล้วครับ”คราวนี้ใช้มือเอื้อมไปเขย่าตัวอีกฝ่ายเล็กน้อย แต่สิ่งที่รับมาคือเสียงงึมงำพร้อมกับการปัดมือเขาออกไป
ฟราน เวคเตอร์ ยิ้มขรึมกับตัวเองเงียบๆแล้วดันแว่นกรอบสีดำขึ้นอีกครั้ง เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าเรียบๆตัวหนึ่งและกางเกงสแล็ค ดูไม่ต่างจากพวกพนักงานกินเงินเดือนทั่วไปถ้าไม่ติดว่าที่สะโพกเล็กๆนั้นจะมีปืนกระบอกน้อยคาดติดเอาไว้ด้วยซองปืนหนังสีดำอีกทีหนึ่ง
“ทำยังไงถึงจะตื่นได้ล่ะเนี่ย?”เขาพึมพำกับตัวเอง ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นบ้านของคนอื่น เลขาหนุ่มอาจจะลองยิงปืนขึ้นฟ้าสักนัดเผื่อเสียงดังๆมันจะทำให้คนขี้เซาลุกขึ้นมาได้ แต่ก็ได้แค่คิด สุดท้ายเลขาหนุ่มก็ตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนตรงหน้าก่อนแล้วค่อยพาไปส่งให้เจ้านายของเขาที่ออกคำสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่ารัตติกรตื่นเมื่อไหร่ให้พาไปหาเขาที่ห้อง นัยว่าคงอยากเจอกันตั้งแต่เช้านั่นแหละ
ถ้าอยากเจอนัก ทำไมไม่มานอนด้วยกันเสียเลยนะ?
ฟรานเลิกผ้าห่มหนาออกจากตัวรัตติกร มันเป็นเรื่องปกติที่ว่าเวลานอนหากใส่ชุดยูกาตะล่ะก็ เช้ามายังไงก็ไม่แคล้วต้องหลุดลุ่ยเปิดโน่นเปิดนี่ แน่นอนว่าหนุ่มชาวไทยขี้เซาคนนี้ก็ไม่ต่าง
เลขาหนุ่มถอนหายใจแล้วยิ้มน้อยๆ เขาพิจารณารูปร่างของคนตรงหน้า อยากรู้ว่ามีอะไรดีถึงกลายเป็นของโปรดของดอนแห่งปาเลอร์โมได้เสียขนาดนั้น
ผิวของรัตติกรขาวซีดแต่ว่าเนียนละเอียดไปทั่วทั้งตัว มีช่วงไหล่บางกว่าที่เขาเคยคิดเอาไว้ เอวคอดแต่สะโพกเพรียวเข้ารูป...
เหมือนร่างกายของเด็กเสียล่ะมากกว่า เจ้านายของเขาเป็นพวกชอบกินหญ้าอ่อนรึไงนะ?
ฟรานยิ้มแล้วจัดชุดของคนตรงหน้าให้เรียบร้อย ก่อนจะค่อยๆสอดมือเข้าไปใต้ร่างเพรียวบางแล้วยกขึ้นมา
ในเมื่อปลุกไม่ตื่น แล้วเขาก็ขัดคำสั่งดอนไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็อุ้มไปหาถึงห้องเลยก็แล้วกันนะ!
น้ำหนักของอีกฝ่ายมีไม่มากอย่างที่คิดทำให้ฟรานไม่ต้องเหนื่อยแรงในการยกอีกฝ่ายมากนัก ห้องของดอนแห่งปาเลอร์โม่ก็อยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่ด้วย เลขาหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องแล้วส่งเสียงเรียกใครอีกคนที่เขาลากขึ้นมาจากเตียงเพื่อมาปลุกของเล่นของเจ้านายด้วยกัน
“เปิดประตูให้หน่อยครับ มือผมไม่ว่าง”ฟรานได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจเฮือกๆแล้วจึงเลื่อนบานประตูเปิดให้เขา สคูร์โด แอนโธจ หัวหน้าบอดี้การ์ดของลาร์เฟียร์ยืนทำหน้าบึ้งรอเขาอยู่ข้างนอก อีกฝ่ายยังใส่ชุดยูกาตะสำหรับใส่นอนอยู่ด้วยเลยซ้ำ
“ผมปลุกเช้าไปเหรอครับ? คุณเลยทำหน้าเหมือนยังนอนไม่เต็มอิ่มแบบนั้น”ฟรานยิ้มให้อีกฝ่ายน้อยๆแล้วออกเดินนำทางไป
“ผมว่าเมื่อคืนเราก็จัดหนักกันเยอะอยู่นะคุณเลขา ไอ้การที่คุณยังตื่นเช้าๆไหวแล้วมายกเจ้านี่ไปหาดอนได้อีกต่างหากที่น่าแปลก”สคูร์โดตอบกลับเสียงขุ่น ดวงตาสีฟ้าตวัดมองคนที่เดินนำหน้าด้วยท่าทางสบายๆแล้วยิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีก
“เลขาของลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ต้องตื่นตัวทุกเวลาสิครับ ยิ่งบอดี้การ์ดอย่างคุณน่ะ ต้องตื่นตัวให้มากกว่าผมอีกนะ”อีกฝ่ายหันกลับมายักคิ้วให้เขาเป็นเชิงเตือนแล้วเดินต่อไป สคูร์โดกัดฟันกรอดแล้วเร่งฝีเท้าเดินขึ้นไปขนาบข้างกับฟรานแล้วแย่งรัตติกรมาอุ้มไว้เอง
“ช่วยทำไมครับ ผมอุ้มไหวนะ”ถึงอย่างนั้นฟรานก็ให้อีกฝ่ายอุ้มรัตติกรไปแต่โดยดี ประหยัดแรงเขาไปได้เยอะ จะปฏิเสธทำไมล่ะ?
“กลัวนายสะโพกครากน่ะ”สคูร์โดลอยหน้าลอยตาตอบ นานๆทีถึงจะหาเรื่องเจ้าเลขาน่าหมั่นไส้นี่ได้ เขาไม่ยอมปล่อยโอกาสไปอยู่แล้ว!
“หึ อย่าห่วงเลยครับ...”ฟรานยิ้มให้สคูร์โดแล้วหยุดเดินเมื่อไปถึงหน้าห้องของลาร์เฟียร์แล้ว เจ้าตัวเปิดประตูให้สคูร์โดเดินผ่านเข้าไปข้างใน ถือโอกาสตอนที่บอดี้การ์ดคนเก่งมือไม้ไม่ว่างชะโงกตัวไปกระซิบข้างหูอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงทอดแผ่ว...
“สะโพกผมตอนนี้น่ะ ขย่ม คุณไปได้อีกทั้งคืน!”
“!!!”
บอดี้การ์ดหนุ่มอ้าปากค้างหน้าแดงเถือก ชะงักนิ่งอยู่กับที่เหมือนถูกสต๊าฟเอาไว้กระทันหัน ฟรานยิ้มสมใจแล้วผลักหลังของอีกฝ่ายเบาๆให้เดินต่อไป
“พาคุณลูน่าไปนอนที่เตียงดอนสิครับ”ดวงตาสีเขียวมะกอกใต้แว่นเลนส์ใสพราวระยับ เลขาหนุ่มยิ้มน้อยๆแล้วเดินกลับไปห้องของตัวเอง ทิ้งให้สคูร์โดมองตามอีกฝ่ายด้วยสายตาอาฆาตก่อนจะรีบพารัตติกรไปโยนส่งๆลงเตียงกว้างที่ไม่มีใครนอนอยู่ แสงไฟจางๆจากใต้ประตูห้องน้ำทำให้เขารู้ว่าลาร์เฟียร์คงกำลังอาบน้ำ
ถ้าอย่างนั้นออกมาเมื่อไหร่ก็จัดการกันเองแล้วกันวะ!
สคูร์โดมองรัตติกรที่กลิ้งไปมาหาที่นอนดีๆแล้วนิ่งไปด้วยความหมั่นไส้ เขาดีดหน้าผากขาวๆนั่นไปทีหนึ่ง ข้อหาทำให้ไม่มีมือว่างไปจัดการไอ้เลขาปากดีที่ทิ้งระเบิดเอาไว้ให้เขาแล้วเดินหนีไปเสียเฉยๆ
กลับไปห้องคืนนี้เมื่อไหร่ นายเจอดีแน่ ฟราน เวคเตอร์!!
_________________________________________________
ไอน้ำสีขาวอ่อนจางลอยฟุ้งเรี่ยพื้นหินขัดสีเข้มภายในห้องน้ำกว้างขวาง อ่างอาบน้ำไม้สนที่มุมหนึ่งของห้องนั้น ขณะนี้กำลังบรรจุน้ำร้อนเต็มระดับขอบยามเมื่อมีร่างอีกร่างทอดกายอยู่ภายใน เส้นผมสีเข้มที่ปกติจะถูกเสยเอาไว้ตอนนี้กลับทิ้งตัวลงปรกหน้าผากกว้าง ขับเน้นดวงตาสีสนิมยาวเรียวให้ยิ่งคมชัด ผิวกายสะอาดตึงแน่นด้วยกล้ามเนื้อจากการออกกำลังโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเล็กน้อย เสียงถอนหายใจเบาๆดังก้องห้องน้ำกว้าง ก่อนที่เจ้าของร่างนั้นจะลุกออกจากอ่างไม้
ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์เสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอวก่อนจะเดินออกไปจากห้องน้ำ อากาศข้างนอกเย็นกว่าเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงกับหนาวเพราะในห้องนอนก็มีเครื่องทำความร้อนติดตั้งเอาอยู่ ร่างสูงสะบัดผมให้หยดน้ำที่เกาะพราวกระจายออกไป ทว่าเสียงงึมงำของอะไรบางอย่างที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำนั้นกลับทำให้เจ้าพ่อหนุ่มชะงักแล้วหันกลับไปมองบนเตียงของตนเอง
และได้เห็นราชสีห์ตัวหนึ่งนอนแผ่หลาครองเตียงเขาเอาไว้อย่างหมดสิ้นซึ่งการระแวดระวังตัว...
จำได้ว่าเมื่อคืนหลังจากที่เขาเรียกฟรานมาพบเพื่อให้ไปสืบหาต้นตอของสาเหตุที่ทำให้รัตติกรมีอาการแปลกๆแล้วก็ทิ้งท้ายให้เลขาพาเจ้าตัวมาหาเขาในเช้าวันรุ่งขึ้นด้วย แต่ไม่นึกแม้แต่น้อยว่าฟรานจะพารัตติกรมาทั้งที่ยังไม่ตื่นเสียเลยด้วยซ้ำ
จะชมที่ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดหรือจะฉุนที่ทำเกินกว่าคำสั่งดีวะเนี่ย...
ลาร์เฟียร์ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปแต่งตัว วันนี้เขามีประชุมกับเทย์ริว อาราชิ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านพักที่เขาอาศัยอยู่ตอนนี้ และคนคนนั้นยังเป็นถึงผู้นำกลุ่มเทย์ริว คนที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายที่พวกตระกูลฟงใช้มาเป็นหลักฐานเพื่อบอกว่าคนคนนี้ทำการสบคบคิดกับพวกโนวาร์
ในเมื่อไหนๆก็ไม่ได้มาที่ญี่ปุ่นซะนาน ลาร์เฟียร์จึงต่อเครื่องจากประเทศจีนมายังที่นี่เพื่อเคลียร์ทั้งปัญหาเกี่ยวกับพวกโนวาห์และถือโอกาสเรียกประชุมกลุ่มพันธมิตรทั้งหมดที่อยู่ในญี่ปุ่นมาคุยกันด้วยเสียเลย
เหลือบมองไปยังนาฬิกาดิจิตอลไม้ที่วางอยู่ข้างๆหัวเตียงบอกเวลาหกโมงเช้า มาเฟียหนุ่มเป็นคนที่ตื่นเร็วอยู่เสมอ ดังนั้นเวลาประมาณนี้คือช่วงเวลาปกติที่เขาจะตื่นขึ้นมาออกกำลังกายเล็กน้อยแล้วค่อยไปอาบน้ำ จากนั้นก็ค่อยไปทำงานตามแต่ที่วันนั้นจะมีเรื่องอะไรเข้ามาหรือมีสิ่งที่ค้างมาจากเมื่อวาน
หากแต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่ห้องทำงานของตัวเอง ดอนแห่งปาเลอร์โม่จึงเลือกที่จะผ่อนคลายมากกว่าจะหาเรื่องมาให้ปวดสมอง ยิ่งวันนี้ช่วงหลังอาหารเช้าจะมีการคุยเรื่องสำคัญ ดังนั้นตอนนี้เขาก็ขอทำหัวให้มันโล่ง หาสิ่งบันเทิงเริงใจมาผ่อนคลายอารมณ์ และเจ้าสิงโตแมวตัวนี้ก็ช่างมาอยู่ที่นี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลาเสียยิ่งกว่าอะไรดี
ขอแกล้งสักหน่อยแล้วกัน!
ลาร์เฟียร์นั่งลงข้างเตียงในฝั่งที่รัตติกรนอนอยู่ ปลายนิ้วปัดไรผมที่ตกลงมาปรกหน้าของอีกฝ่ายให้พ้นออกไปแล้วจับจ้องใบหน้าสวยเฉียบในยามหลับไหล เขาลากนิ้วผ่านหน้าผากมนๆลงมาที่ปลายจมูกโด่งรั้น ก่อนจะวกกลับขึ้นไปเขี่ยแพขนตาสีเข้มให้เจ้าตัวต้องส่งเสียงครางประท้วงแล้วปัดมือเขาออกไป
“ขี้เซานะเธอน่ะ”เจ้าพ่อหนุ่มเย้าแล้วเลื่อนปลายนิ้วลงมาหาริมฝีปากสีแดงอ่อนที่แห้งเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงไปแล้วชิมรสมัน เลียให้ชุ่มชื่นก่อนจะค่อยๆบดแรงลงไปจนอีกฝ่ายต้องเปิดปากรับการรุกรานนั้นอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
“อะ...อืม”ลาร์เฟียร์ได้ยินเสียงครางอือแผ่วเบายามที่ลิ้นของเขาสอดเข้าประสานกับอีกฝ่าย พัวพันดูดดึงให้คนที่ยังหลับไม่รู้เรื่องต้องคล้อยตามการชักนำที่ไม่ต่างจากฝันอันเลื่อนลอย...
“อา~”
“ทีตอนหลับล่ะว่าง่ายนัก”
เจ้าพ่อหนุ่มพึมพำพร้อมกับหัวเราะในลำคอ ก่อนจะแหวกสาบเสื้อของรัตติกรให้ไปกองอยู่ที่ไหล่ขาวเนียน ริมฝีปากไถลผ่านแก้มหอมลงซุกกับที่ต้นคอเรียวสวย แล้วค่อยๆประทับรอยจูบสีอ่อนไล่ลงมาจนถึงแผ่นอกขาวที่เริ่มขยับแรงขึ้นตามอารมณ์ที่เพิ่มระดับขึ้นทีละเล็กทีละน้อย...
ดอนแห่งปาเลอร์โม่มองรัตติกรที่หน้าแดงก่ำ แถมยังหัวคิ้วขมวดมุ่นเล็กน้อยเหมือนรำคาญใจอะไรสักอย่างแต่ก็ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาเสียที ไอ้ตอนแรกน่ะ เขาคิดว่ารัตติกรจะตื่นตั้งแต่เขาจูบแล้วด้วยซ้ำ นี่ทำมากกว่าจูบไปเยอะแล้วนะ ยังไม่ยอมตื่นอีก!
จากปลุกเฉยๆกลายเป็นปลุกปล้ำซะเลยดีมั้ยเนี่ย?!
ยอดอกสีหวานชูชันอยู่ตรงหน้า แถมคนเป็นเจ้าของยังนอนนิ่งไม่ลุกขึ้นมาขัดขืนสักที เจ้าพ่อหนุ่มเลยถือโอกาส ทำ จนกว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาห้ามแล้วกัน!
คิดเสร็จก็ก้มลงอีกครั้ง ทว่าเป้าหมายกลับกลายเป็นแผ่นอกที่กำลังสะท้อนขึ้นลงเพราะแรงอารมณ์ที่ถูกเขาปลุกปั่นมันขึ้นมา ลิ้นหนาแลบเลียที่ยอดอกสีชมพูก่อนจะขบกัดเบาๆพอให้คนเป็นเจ้าของต้องสะดุ้งเฮือก
อื้อออ!”รัตติกรครางแผ่ว ในที่สุดก็ดูเหมือนจะเริ่มรู้สึกตัวแล้วสักที เจ้าพ่อหนุ่มจึงเร่งมือขึ้นอีกนิด หวังให้ตอนตื่นขึ้นมาเต็มตาเขาจะได้เห็นหน้าแดงๆของอีกฝ่ายที่เขินอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีเลยนั่นแหละ!
ปลายลิ้นลากจากแผ่นอกลงไปหาแอ่งสะดือ ทิ้งร่องรอยอันร้อนผ่าวที่แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นเฉียบอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับอากาศภายในห้อง รัตติกรยกสะโพกตอบสนองโดยอัตโนมัติอย่างไม่รู้ตัว เจ้าพ่อหนุ่มจึงจับขายาวเรียวขึ้นมาพาดบ่าข้างหนึ่ง ส่งผลให้เอวคอดๆนั้นต้องค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ ชายยูกาตะจึงร่นลงมากองอยู่กับเตียง เผยต้นขาขาววับๆแวมๆ ดีที่สายโอบิรัดเอวยังไม่เลื่อนหลุดออก ไม่งั้นคงเห็นไปถึงไหนต่อไหน
ฟันคมๆของเข้าพ่อหนุ่มกัดลงที่ขาอ่อนด้านใน พอดีกับที่เสียงตวาดแหวของคนที่เพิ่งตื่นเต็มตาดังขึ้นมาลั่นห้อง
“ทำบ้าอะไรของคุณ!!”ในเสียงตวาดนั้นแหบเครือเล็กน้อยอย่างเสียงของคนที่เพิ่งตื่นนอน รัตติกรหน้าแดงก่ำและพยายามจะยื้อขาของตนเองออกจากการยึดจับของเจ้าพ่อหนุ่ม แต่วี่แววที่จะหลุดรอดออกจากการยึดกุมครั้งนี้กลับแทบไม่มี!
ความรู้สึกแปลกๆกึ่งฝันกึ่งจริงก่อนหน้านี้ทำให้เขาต้องตื่นขึ้นมาในที่สุดทั้งๆที่ยังนอนได้ไม่ถึงสี่ชั่วโมงดี ใครใช้ให้เมื่อวันก่อนไอ้เจ้าพ่อบ้านี่มาพูดขออะไรแปลกๆกับเขาล่ะ แน่นอนว่าคำตอบของเขาคือไม่ แต่ไม่รู้ทำไมไอ้คนที่อยู่ๆจะมาเอาชีวิตของคนอื่นไปดูแลยังมีหน้ามาวนเวียนอยู่ในความคิดเขาทั้งคืนจนทำเอาหนุ่มชาวไทยถึงกับนอนไม่หลับ!
มันแปลกๆในอก อาการเหมือนมีแมวมากางเล็บข่วนอยู่มั่วซั่ว สร้างทั้งความหงุดหงิดและอาการไม่เข้าใจว่าลาร์เฟียร์ เวสเปอร์เป็นอะไรถึงได้มาพูดจะเอาชีวิต...กับอย่างอื่น ของเขาไปอย่างหน้าด้านๆแบบนั้น!
ของแบบนี้ไม่มีใครที่ไหนเขาให้กันหรอกเว้ย!!
“ปล่อย!!!”รัตติกรตวาดซ้ำอีกรอบ แต่มือหนาที่ยึดจับขาของเขาเอาไว้กลับยิ่งบีบแน่นแล้วลากตัวของเขาให้ขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นกว่าเดิม ลาร์เฟียร์ยกขาของคนที่อยู่เบื้องใต้ให้สูงขึ้นแล้วแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกลาง หนุ่มชาวไทยเบิกตากว้าง รีบตะครุบชายยูกายะของตัวเองให้ปิดส่วนนั้นไว้แทบไม่ทัน
“กว่าจะปลุกเธอได้ยากจะตาย ไม่มีรางวัลให้หน่อยหรือไง?”เจ้าพ่อหนุ่มยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะใช้ปลายลิ้นแลบเลียที่รอยกัดตรงขาอ่อนของรัตติกร หนุ่มชาวไทยสะดุ้งเฮือกหลุดเสียงอุทาน ดวงตาเรียวสวยสีน้ำตาลมองกราดคนบุกรุกอย่างอาฆาตแล้วยกขาอีกข้างเตรียมยันหัวหน้าของตัวเองให้ตกเตียงไปซะรู้แล้วรู้รอด!!
แรงคนเพิ่งตื่น แน่นอนว่าสู้แรงของคนที่เตรียมพร้อมมาอย่างดีไม่ได้ ลาร์เฟียร์จับขาข้างที่ยันมาของรัตติกรเอาไว้ขึ้นพาดบ่าของตนแล้วโน้มตัวลงไปคร่อมคนที่อยู่เบื้องล่าง ปลายจมูกของพวกเขาห่างกันไม่ถึงคืบ เจ้าพ่อหนุ่มจึงเห็นร่องรอยแดงซ่านที่พาดผ่านอยู่บนใบหน้าเรียวสวยนั่น
“ปล่อยผม ลาร์เฟียร์!”หนุ่มชาวไทยพูดผ่านไรฟัน ท่าทางในตอนนี้มันน่าอายเกินกว่าจะคิดออกมาเป็นภาพด้วยซ้ำว่าตัวเขาถูกทำอะไรอยู่ ใบหน้าคมแกร่งที่อยู่ห่างกันแค่เพียงฝ่ามือกั้นนั้นยังแตะแต้มไว้ด้วยรอยยิ้มของความขบขันเจือเอ็นดู และมันทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้และตกเป็นรองเสียยิ่งกว่าที่เคยเจอมา!!
“ไม่ปล่อย”เจ้าพ่อหนุ่มว่าเสียงเรียบ ดูเหมือนจากตอนแรกที่แค่คิดจะแกล้งให้รัตติกรอายตอนที่ตื่นมาแล้วถูกเขาลวนลามนิดหน่อยๆ พอเจ้าตัวทำท่าอายขึ้นมาจริงๆสมใจเขาแล้ว ดอนแห่งปาเลอร์โม่กลับหยุดตัวเองไม่ได้
อยากเห็นคนตรงหน้าอายเขาให้มากกว่านี้...
อยากเห็นท่าทางสู้ไม่ถอยแบบที่เขาชอบนักชอบหนานั่น...
เจ้าพระจันทร์เพียงดวงเดียวที่ไม่เคยยอมแพ้ต่ออะไรก็ตามดวงนั้น...
ไม่รู้ทำไม มันทำให้เขาละสายตาไปไหนไม่ได้เลย!
“นี่คุณ! จะเอายังไงกันแน่ฮะ? เมื่อวานผมก็บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับผม หัวหน้ามาเฟียอิตาลี่น่ะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง!”รัตติกรว่าเสียงเข้ม สบตากับเจ้าพ่อหนุ่มอย่างไม่กลัวเกรงก่อนจะเพิ่มแรงดิ้นของตัวเองให้รอดพ้นจากการถูกจับให้อยู่ในท่าแบบนี้โดยเร็วที่สุด
“ก็จะเอาเธอนี่ไง ลูน่า ฉันก็บอกไปแล้วนี่ว่าเอามาให้ฉันซะ เธอนั่นแหละพูดไม่รู้เรื่อง”ดอนแห่งปาเลอร์โม่เลิกคิ้วแล้วตอบกลับเจือกระแสขำขัน มือข้างหนึ่งละจากเรียวขาที่พาดอยู่บนบ่าลงมาคว้ามือเล็กสองคู่ที่ต่อยตีเขาเป็นพัลวัล และแน่นอนว่ารัตติกรสู้แรงเขาไม่ได้ เหลือแค่เพียงปากดีๆที่ยังว่าเขาอยู่ปาวๆนี่เท่านั้น
“ไม่ให้เว้ย! แล้วก็ปล่อยผมด้วย!”
“ก็ให้มาก่อนสิแล้วจะปล่อย”
รัตติกรเบิกตากว้างยิ่งกว่าเดิม ไอ้เจ้าพ่อนี่จะให้เขาเอาทั้งชีวิตมาแลกกับอิสรภาพแค่ชั่วครู่ชั่วคราวนี่นะ? ให้ก็โง่แล้ว!!
“ไอ้มาเฟียหื่น! ขืนให้คุณหมดแล้วผมจะเหลืออะไรไม่ทราบ? ไม่ได้โง่นะเว้ย!! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้!”ลาร์เฟียร์มองรัตติกรที่ยังไม่ยอมลดละแล้วได้แต่อ่อนใจเล็กน้อย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยต้องลงทุนมาขออะไรแบบนี้เลยด้วยซ้ำ เขาไม่รู้วิธีเรียกร้องขอสิ่งที่ต้องการมากไปกว่าการออกคำสั่งหรอกนะ
“เหลือฉันนี่ไง ไม่ปล่อยให้อยู่คนเดียวหรอกน่า สัญญาจะรักษาเธออย่างดี โอเคมั้ย?”ว่าจบก็ยกนิ้วก้อยขึ้นมาให้เห็น
“มะ...!!”พูดไม่ทันจบรัตติกรก็ดันต้องหยุดชะงัก สมองเพิ่งประมวลคำพูดของอีกฝ่ายจบริมฝีปากหยักหนาก็โน้มลงมาปิดกั้นคำปฏิเสธของเขาทันควัน หนุ่มชาวไทยหลับตาลงทันควันเมื่อพบว่าดวงตาสีสนิมคู่นั้นยังคงจ้องมองมาที่เขาอย่างแน่วแน่
มุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตเขาให้ได้ซะจริงนะ...
“อื้อ...”เรียวลิ้นเชี่ยวชาญชักนำให้รัตติกรต้องหลบหนีไปตามกับดักที่อีกฝ่ายวางเอาไว้ มันอ้อยอิ่งแต่พัวพันไม่ยอมถอยห่าง ยิ่งปฏิเสธมากเท่าไหร่ สัมผัสที่ได้รับก็ยิ่งหวานล้ำจบวูบไหวในอก
จุมพิตแต่ละครั้งเหมือนบ่วงเชือกที่โยนมามัดเขาเอาไว้ให้หนีหายไปไหนไม่ได้
ยิ่งวิ่งหนี ยิ่งรัดแน่นขึ้นทุกที...
จนบางครั้งก็คิดว่าปล่อยให้มันรัดไปอยู่อย่างนี้ ก็ไม่น่าจะเป็นไร...
“ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับ”
“!!”
เสียงราบเรียบของฟราน เวคเตอร์ดังมาจากเบื้องหลังของบานประตู เป็นโชคดีที่อีกฝ่ายไม่เปิดเข้ามา เพราะท่าทางในตอนนี้มันล่อแหลมเสียจนรัตติกรคงไม่มีทางกลับไปมองหน้าฟรานได้อีกแน่ถ้าอีกฝ่ายมาเห็นเขาในสภาพนี้เข้า!
“ดอนครับ คุณชายอาราชิมาถึงที่เรือนใหญ่แล้ว ตอนนี้รออยู่ที่ห้องอาหารครับ”เสียงรายงานยังคงราบเรียบ พอให้รัตติกรโล่งใจได้เปลาะหนึ่งว่าเลขาคนเก่งคงยังไม่เห็นว่าข้างในห้องเกิดอะไรขึ้น
“อืม เดี๋ยวไป”ลาร์เฟียร์ละออกจากร่างของรัตติกรอย่างอ้อยอิ่ง เจ้าพ่อหนุ่มมองคนที่ยังหอบหน้าแดงอยู่บนเตียงแล้วยิ้มออกมาอีกครั้ง
สภาพหลังถูกจูบทีไรน่ากินทุกที...
“คุณลูน่าตื่นรึยังครับ”เงียบไปได้สักพักเลขาประจำตัวก็ส่งเสียงถามขึ้นมาอีกครั้ง
“ตื่นแล้วครับ!”ไม่รอให้ลาร์เฟียร์ได้ตอบรัตติกรก็ชิงส่งเสียงออกไปก่อนแล้วมองอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ ลาร์เฟียร์เลิกคิ้วรับเล็กน้อยก่อนจะลุกออกจากเตียงไปในที่สุด
“ผมเอาชุดมาให้เปลี่ยนครับ ตอนที่พาคุณมาที่ห้องของดอนผมลืมหยิบมาด้วย ขอโทษนะครับ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ”แต่จะดีกว่านี้ถ้าคุณไม่พาผมมาที่ห้องไอ้เจ้าพ่อนี่นะครับ!
“งั้นผมขออนุญาตเข้าไปนะครับ”
“เข้ามา”เจ้าของห้องส่งเสียงตอบกลับ ลาร์เฟียร์เดินไปหยุดที่ตู้เสื้อผ้าของตนแล้วคว้าสูทสีขาวที่แขวนเอาไว้ขึ้นมาใส่ พอดีกับที่ประตูห้องเลื่อนเปิดออก ฟรานที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ก้าวเข้ามาในห้อง ในมือมีสูทเข้ารูปแบรนด์ดังสีควันบุหรี่อีกตัว และแน่นอนว่าเป็นชุดของรัตติกร
เลขาหนุ่มก้าวเท้ามาทางเตียงหลังกว้าง สูทในมือวางลงที่ปลายเตียงก่อนที่เขาจะใช้ดวงตาสีเขียวที่อยู่หลังกรอบแว่นมองของเล่นของรักของเจ้านายที่ยืนหันหน้าหนีไปทางอื่นอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่แล้วได้แต่แอบยิ้มอยู่ในใจ
“ผมว่าผมลืมของอีกอย่างเอาไว้ เดี๋ยวกลับไปเอามาให้นะครับ”
“เอ๋? ก็ครบแล้วนี่ครับ?”รัตติกรเอ่ยแย้งฟรานที่เดินออกไปจากห้อง เลขาหนุ่มเพียงหันกลับมายิ้มกว้างแล้วยกนิ้วมือขึ้นเคาะเบาๆที่ต้นคอของตัวเองให้รัตติกรรู้ว่าเขาจงใจจะสื่อถึงอะไร
“ผมว่าคุณอยากได้ผ้าพันคอดีๆอีกสักผืนนะ”
“อากาศก็ไม่หนาวมากนี่ครับ?”หนุ่มชาวไทยยังคงไม่รู้ว่าเลขาคนเก่งของเวสเปอร์แฟมมิลี่ต้องการจะสื่ออะไร ฟรานแค่เพียงหันกลับมายิ้มให้อีกครั้งแล้วเลื่อนประตูปิด แต่ก่อนไปก็ยังทิ้งอีกประโยคเอาไว้ให้รัตติกรได้คิดทิ้งท้าย
“ลองถามดอนดูสิครับว่าทำไม”
ร่างเพรียวหันขวับกลับมาจ้องเจ้าพ่อหนุ่มที่ยืนกอดอกยิ้มมองเขาจากฝั่งของตู้เสื้อผ้า กระจกบานสูงที่สะท้อนภาพแผ่นหลังกว้างของลาร์เฟียร์ค่อยๆถูกเผยออกมาเมื่อเจ้าของร่างขยับตัวเพื่อหลีกให้คนที่ยืนอยู่ห่างกันได้มองเห็นภาพสะท้อนของตนเอง
“!!”
“พอดีฉันเป็นคนหวงของ...ต้องประทับตราไว้ก่อนว่าคนอื่นน่ะไม่มีสิทธิมายุ่มย่าม”มือแกร่งเคาะที่ต้นคอของตัวเองเลียนแบบท่าของฟราน รัตติกรมองตัวเองที่สะท้อนในกระจกก็ได้แต่ตกตะลึง
เพราะภาพที่สะท้อนคือรอยช้ำสีแดงอ่อนถูกประทับอยู่เต็มต้นคอของเขา!!
ไอ้พวกมาเฟียเจ้าเล่ห์เอ๊ย!
____________________________________________________
ปล่อยให้ป๋าจีบพระจันทร์ไปอีกตอน ส่วนผมขอไปนอนก่อนครับเดี๋ยวกลับมาเม้า :a12: :a12:
ตอนนี้พิมพ์ไปแล้วปวดตาจังครับ แบบ เหมือนความดันตาขึ้น เง้อ... o6
ยังไงก็ราตรีสวัสดิ์นักอ่านที่รักทุกคนนะครับ :กอด1: :กอด1:
Namioto Yo
ปล.ตีสี่ครึ่งแล้วครับพี่น้อง ฮิ้วว :hao7: :hao7:
-
:hao6: :hao6: :hao6:
ลาเฟียร์หื่นมากเหอะ
-
หลังจากประชุมกลับมา ลูน่า คงต้อง :ling3: เป็นแน่แท้
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ หลับให้สบายแล้วตื่นมา ต่อนะครับ :mew1:
-
บอสจับลูน่ากินเลย :katai2-1:
-
เขินนนนนนนนนนนนน :mew3:
ดินน่ารักมากกกกกกกกก ลูน่าน่ารักกว่า อิอิ
ขอบคุณที่อัพค่า :mew1:
-
ลูน่า หนูขี้เซามากลูก เข้าทางดอนเลยนะรู้มั้ย :mew1: :hao7: :impress2:
-
อ๊า ยย ย ย !! ลูน่า >///<
มารอตอนต่อไป ... :impress2:
-
นอนขี้เซาอย่างนี้น่าลักหลับซะจริง
-
คุณบอดี้การ์ดจัดการคุณเลขาให้หน่อย หมั่นใส้มากกกก
-
น่าจะนอนต่ออีกหน่อยนะ คิกๆ
-
ตามอ่านอยู่นะ :katai2-1:
ฝากคุณนุ้กไปบอกแล้วนะ ว่าเขาก็เป็นแฟนิยายเหมือนกัน 555555555 :hao7:
หนุกหนานมาก แต่ค้างบ่อยอ่ะ :hao5:
-
โอ้ อ่านไปยิ้มไป แก้มจะแตกแล้วเนี่ย ฮ่าๆ
ตอนนี้ดอนเป้นอะไรที่ดูหื่นสุดๆ...ถ้าลูน่าไม่ตื่นนี่คงกะลักหลับไปเลยสินะ =_=
ลูน่าก็ขี้เซาจริงๆ คุณเลขาก็....อ่านะเหมือนจะสนับสนุนเห็นดีเห็นงามตามดอนไป...มีการแซวอ้อมๆอีกแน่ะ!!!
รอตอนต่อไปค่า
-
มาต่อเร็วๆนะ รออยู่
เกือบแล้วไหมล่ะลูน่า
ขืนไม่ตื่นโดนดอนลักหลับแน่ๆ
ชอบบบบบ โดนประทับตราซะด้วย
อยากอ่านคู่คุณเลขาด้วยแฮะ น่ารัก
-
กรี๊ดดดดดดด :hao7: :hao7: ได้อ่านต่อซะที
-
โอยยย คิดว่าลูน่าจะไม่รอดซะแร้วววว :haun4: :haun4:
-
เห็นแบบนี้ดอนก็หวานเป็นเหอะ ฮ่าาาาาา
-
ชักอยากอ่านคู่สคูร์โด กับ ฟรานซะแล้วซิ
-
ลาเฟียสคิดยังไงกับลูน่ากันแน่นะ
-
ลาเฟียร์อดอีกแล้ว :m20:
-
ตกลงเธอคนยังไงกัน ??
-
ว้่าว~ ตอนนี้หวานไปเต็มๆ(?) ลูน่ากับลาเฟียร์น่ะนะ
ส่วนฟรานนี่น่าจะเหมาะกับคำว่าเร่าร้อนมากกว่า
-
ป๋าหื่นแต่ป๋าไม่ได้สักที :hao6: :katai3:
-
อย่าให้เสียน้ำยานะป๋าาาาา :hao6:
-
:hao7: :katai2-1: ถ้าจะนัวเนียกันขนาดนี้กินๆกันไปเลยเท้ออออ
-
ขนานยังไม่ :impress2: ยังขนาดนี้
แล้วถ้า :impress2: จะขนาดไหน อ๊ายยย
:jul1: :jul1:
-
เห็นไม่มาต่อซะนาน นึกว่าจะดองซะแล้ว
แหมม ดอนนี่ก็จ้องจะกินลูน่าตลอดเลยนะ :hao6:
-
เรื่องนี้นายเอกโคตรอึด
-
อั๊ยย่ะ! เริ่มอยากอ่านคู่สคูร์โด กับฟรานแล้วอ่ะ
ฟานนี่แรงไม่หยอกนะ ฮิ้ววววววว :hao5:
เมื่อไหร่ป๋าจะได้กินลูน่า พลาดตลอดๆ 555555
-
หวงแบบโจ่งแจ้งเลย
-
:laugh: :m20: ลาเฟียร์อดกินอีกแล้ว
-
ลุน่าสู้ๆ 5555
-
แฮ่กๆๆ ยกให้ป๋าเค้าไปเห๊อะลูน่าาาาาาาาาาาาาาาา
เค้าอยากเห็นตัวโดนงาบอ่ะ (ประเด็น!?)//โดนต่อยย หลังจากป๋าอดงาบตัวไปสามสี่รอบแล้ว แฮ่กๆๆๆๆ
หรือความจริงแล้วป๋าจะไร้น้ำยา!? //โดนยิงทิ้ง
มาต่อเร็วๆนะค๊าาาา เราชอบเวลาๆหนุ่มเค้าหยอกกันบนเตียงจริงๆ ให้ตาย //ปาดน้ำลาย
-
เหอๆๆ ทีตอนนี้หล่ะทำหวง แต่ก็ชอบนะ :o8:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ไม่ได้อ่านนานอยู่ ต้องกลับไปอ่านย้อนหลังนิดหน่อย
ตอนนี้ดูเหมือนดอนจะกินยาผิดหรือเปล่า หวานใส่ลูน่าจัง 55+
-
ลาเฟียร์นี่หื่นแม้กระทั่งกับคนหลับนะ ก็คนหลับเค้าน่ารังแกใช่ไหมล่า~
นอกจากหื่นแล้วยังชอบแกล้งอีกด้วย สงสัยชอบเห็นลูน่าโมโห
ลูน่าเหมือนแมวเลย พองขนขู่เจ้าของ แต่เจ้าของก็หาได้กลัวไม่
กลับยิ่งเพิ่มความน่าเอ็นดูเข้าไปอีก ลูน่าจะไปไหนรอดล่ะทีนี้
จริงๆต้องบอกว่าพอกันทั้งลูกพี่ลูกน้องเลย รู้เห็นเป็นใจให้กันหมด
สรุปคือลูน่าคงจะต้องโดนกลั่นแกล้งอย่างนี้ไปอีกนาน :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
-
แหม๋ ป๋าหื่นแต่เช้าเลยนะ หุหุ ><
:z1: :z1: :z1:
-
ตกลงว่าลูน่าจะให้...???..
คุณพระเอกเจ้าเล่ห์มากๆ...
ถือโอกาสตอนเจ้าตัวเค้ากะลังอยู่ในฟีลทิ้งๆขว้างๆ..ก็ขอกันง่ายๆอย่างงี้เลย..55+
-
น่ารักๆๆๆ :-[ :-[
-
>[]< แอร๊ยยยยย ป๋ารุก -w- พระจันทร์สู้ๆ
-
เมื่อไหร่ลาเฟียร์กับลูนา จะบ๊ะจ้ำบ๊ะเนี่ย มีคนคอยขัดตลอด เซงงงงงงงงงงง
แต่ลาเฟียร์ไปกินไรมาวะ ตอนนี้มาเลี่ยนเชียว เพิ่งมาจีบไรตอนนี้ห๊ะ :katai1: :katai1: :katai1:
-
อีกนิดเดียวอีกแล้ววว
พอจะสป๊ากกกันทีไร ต้องมีตัวขัดจิงๆTT^TT
แล้วเมื่อไหร่อิชั้นจะสมหวังสักทีเนี่ย
แสดดTTTOTTT
ป๋าคะ แหมๆหวงจิงนะคะ ทำรอยไว้ซะ อือหืออออออออออ
>//////<
-
:mc4: :mc4:
ได้อ่านแล้วววววว อิอิ ดีใจมากเลย
อ่านไป เขินไป :-[ :-[
อยากอ่านคู่คุณเลขา กับคุณบอดี้การ์ดบ้างจัง กิกิ :mew2: :mew2:
-
รู้เห็นเป็นใจทั้งเจ้านาย ลูกน้อง ลูน่า น่ามากเลย
-
อร๊าย มันหวานมาสองตอนแล้ว อิอิ
ชอบฟราน จังเลยอ๊า อยากได้ๆ
ลูน่าก็ ให้ๆลุงเค้าไปเถอะ ตัวกะหัวใจอ่า ฮิ้ววววววว
-
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
ดอนชิมเพลินไปหน่อยนะ 55555
-
หายไปนานเลย :hao3:
ลูน่าขี้เซาขนาดนี้ป๋าแกคงได้ลักหลับจริงๆเข้าซักวัน :z1:
-
:mew3: :mew3: :mew3: :mew3:ลูน่าจะรอดไหมอะ :z1: :z1:
-
อ้าาา ได้้อ่านแล้ว ฟิน ป๋าน่าร้ากกก ลูน่าก็น่าแกล้ง สคูร์โด ก็น่าสน ส่วนฟรานนี่ ยั่วมากลูก! -.,- :ling1: :hao7: :hao6:
อยากอ่านต่อแล้ววว :katai1:
-
ดอนชูนิ้วก้อยยยยย อรั๊งงงงงงงงงงงง ฟินนนนนไม่ไหวแล้น
-
อย่าดองนานนะ อีกเรื่องจะต่อป่่าวว :ling1:
-
พูดได้คำเดียวว่า "สนุก"
ป๋ากำลังชิงไหวชิงพริบกับพระจันทร์ดวงนี้อยู่ใช่ไหมคะ :mew1:
ขอบคุณคะ
-
เพิ่งมาอ่าน บอกได้คำเดียวว่าสนุกมากแฝงความตึงเครียดโคตรๆไว้ อ่านไปใจก็ลุ้นระทึกนายเอกจะตายเมื่อไหร่ กร้ากกกกก :hao7: หมั่นไส้หัวหงอกจริงๆเลย จำไว้เลยนะลูน่าน่ะของพ่อมาเฟียอิตาลี หลังจากเหตุการณ์ร้ายๆผ่านพ้นไปคงมีเหตุการณ์ที่ร้ายกว่าเก่าเข้ามาแน่ๆ ลุ้นจริงๆให้ตาย สู้ๆนะคนเขียน แฮปปรี้เอ้นท์นะ o13
-
ดอนนนนนนนนน ~ :hao7: :hao7:
-
:m3:ชอบมากกก สนุกมากๆ เลยคะ เนื้อเรื่องลื่นไหล พรืดๆเลยย หน้าตื่นเต้น หน้าติดตามทุกตัวอักษรเลยคะ
มาต่อเร็วๆนะคะ :mew1:
-
สนุกอ่ะ ชอบๆๆๆ
-
:mew2: รออยู่ นร้า
-
อ่านทันแล้วจ้า. มันส์มากๆ ดุ เดือด เลือดสาด
แอบมีมุมน่ารักๆด้วย ลูน่าเก่งมากอ่ะ สมจะเป็นคู่ควรของดอนนะจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะจ๊ะ ^^
-
แวะมาบอกว่า คนเขียนอย่าเพิ่งดองนะจ๊ะ ยังมีคนรออยู่เน้อออออ~
-
ชอบเรื่องนี้มาก เพิ่งได้อ่านครั้งแรก
อ่านรวดเดียวจบเลย นี้ชั้นพลาดเรื่องนี้มาได้ยังงัยตั้งนานนี่ :katai1:
ชอบบุคลิกลูน่ามากกก หลงรักเลยทีเดียว :hao3:
-
เพิ่งมีโอกาสได้อ่าน..................และเพิ่งอ่านทัน
สนุกมากจ้าาาา ชอบเนื้อเรื่อง ภาษาก็ไหลลื่นดี
มาต่อไวๆนะ :laugh:
ขอบคุณนักเขียนค่ะ :pig4:
-
:call: :call: :call: :call:
-
น่ารักอ่ะ หวาน ชอบๆ ติดตามๆ
-
20
กลับมาเล้ววววววววว อัพมาเยอะเหมือนกันน้าาาา
คิดถึงลูน่าจังเลยยยยยยยยยย :กอด1:
ตอนนี้สุดยอด แอบสงสารโซล.... โอ้ยโอ้ยยยย เจ็บปวดดด
#ดอนเจ็บกว่าปะ ฮืออออ สงสารสุดดดด!!!
พอจะจำกันได้บ้างหรือเปล่า ฮ่าๆ
ต้องขออภัยที่ข้าน้อยไม่ค่อยได้เข้ามาเบย.. ยุ๊งยุ่ง =[]=!
แล้วจะมาติดตามต่อไปป..... เรื่อยๆ :mew1: o13
-
21
ดราม่าแหงะ.....
แอบสงสารลูน่า... เจ็บมากไหม ฮรึก!!
-
22
บางทีก็แอบเจ็บ รู้ว่าลาเดฟียร์ไม่เคยห่วงใครขนาดนี้
แต่รัตติกรก็ไม่เคยได้รับอะไรแบบนี้
ป๋าเข้าใจเขาหน่อยเส่.... =[]=!!!
ไหนๆก็รัก(?) ขนาดนี้
-
ฮึ!!!
ฟรานน่ารักอะ ชอบ 5555555
>.,< หวานแรงๆ #นี่แรงแล้วล่ะ
รัตติกรก็ดูจะดีขึ้นเยอะรึเปล่า...
หึหึ รอตอนต่อไปฮร้าาาา
สู้ๆนะฮ้าบ
-
รอตอนต่อไปค่าา :z3:
-
แหม่ อ่านแล้วนึกถึงโคนันเลย ปริศนา องค์กร โว่วว อยากจบช้าแบบโคนันนะ กลัวใจจะขาด 5555
หลายตอนมากที่อ่านไปแล้วพอ เนื้อเรื่องตัด(จบตอนน่ะล่ะ) ต้องอุทานคำหยาบทุกที
จบค้างตลอด ฮือ ไม่เห็นใจคนอ่านเลยยยแง้ๆๆๆ
ไงก็รออ่านค่ะอย่าลืมมาต่อเน้อออออ ทั้ง2 เรื่องเลย
-
มาต่อเถอะนะ รออยู่ๆ
-
:mc1:ไล่ล่า ตามหาคนเขียน รออยู่นะคะ :mew2:
-
สนุกมากๆ เลย ไม่เสียใจชาตินี้ได้คลิ๊กเข้ามา อ่านแล้วอินสุดๆ แต่งดีมากเลย >.<
รอต่อจร้า...
-
เกร้ดดดดดดดดดด คือแบบไม่ได้มาอ่านเรื่องนี้นานมากเลย
จำได้ว่าอ่านตั้งแต่สมัยอยู่ปีหนึ่งจนตอนนี้ขึ้นปีสามแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ
คือมันส์มากค่ะ สนุกไม่ไหว ป๋าแบบว่าอ่อนโยนอ่ะ
ดูเหมือนป๋าจะดิบจะเถื่อน แต่ป๋าก็ยังมีมุมอ่อนโยนกับรัตติกร
หวานค่ะ นี่หวานจนคนอ่านเขินเลยค่ะ
ไม่นึกไม่ฝันว่าป๋าจะหวานกับเขาเป็นด้วย :o8:
แต่ที่ตกใจที่สุดของเป็นความสัมพันธ์ของพ่อบอดี้การ์ด
ยอดชายกับเลขาหนุ่มรูปงามของดอนนี่ล่ะ
กินกันเองก็ไม่บอก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ เป็นนิยายที่คุ้มค่าการรอคอยมากเลยค่ะ
ภาษาก็สวย เนื้อเรื่องก็สนุก คนเขียนเก่งมากๆเลยค่ะ สู้ๆนะคะ o13
-
คนเขียนหายไป :ling1: อ่านซ้ำมาหลายรอบและ
ยังรอคนเขียนอยู่นะคะ รีบๆกลับมานะ :monkeysad:
-
ทำไม ดอน เจ้าเลห์อย่างนี้ ทำตัวน่ารักสุก
-
เมื่อไหร่จะมาต่ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
-
:hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
เมื่อไหร่จะอัพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพ
-
>///< อร๊ายยย.ย.ย.ย.ย.. เป็นอะไรที่น่าแกล้งเป็นที่สุด
-
สนุกมาก ชอบแนวนี้ฮับ
รอมาต่อน๊าาา
:katai3:
-
ฟรานยริการถึงที่เลยนะคะ :hao6: :hao6:
-
เค้ารอไรท์มาอัพเสมอเลยนะTT^TT
-
:pig4:
-
หายไปไหนนานจังรออยู่นะ :katai5:
-
คิดถึงเรื่องนี้จัง
เมื่อไหร่จะมาอัพเน้อออออออออ :katai2-1:
-
สนุกมาก ว่าแต่เมื่อไหร่คนแต่งจะมาน้อ :amen:
-
โอมมม จงอัพ จงอัพ จงอัพ
-
เค้าคิดถึงลูน่าแล้วนะตัวเอง เข้ามาด้วยความคิดถึง :hao5:
-
ยังไงก็ยังรอ อยู่นะ
-
คิดถึงเรื่องนี้ :call:
-
อ่านตั้งแต่ต้นจนถึงตอนปัจจุบัน
โอ้ยยยยยยยย สนุกมาก นี่บอกเลย!!!
มาต่อไวๆนะ รออยู่จ้า
-
:z10: :z10:
-
นี้ยังรอรออยู่เน้ออ
-
รอจ้า รอ~~
-
:katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: รออออออหหห
-
:call: :call: :call: มาอัฟเร็วๆๆนะค่ะ :call:
สนุกมากค่ะ :mew1:
-
รอ รอ รอ :call: :call: :call:
-
5 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ไรท์หายไหน ไม่บอกกล่าวเบยยยยย TT^TT
รอมาอัพตอนต่อไปยุเน้อออ :m15: :m15:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ไม่ว่าเธอจะจากไปนานแค่ไหนฉันก็ยังคงรอเธออยู่เสมอ :mew6: :call: :call: :call: :call: :call:
-
:call: คนแต่งกลับมาาาาาาาาาาาาาาา คนแต่งกลับมาาาาาาาาาาาาาา
-
ลาเฟียร์ จะจีบทั้งทีก็ทำไก่ตื่นหมด
-
รอ....คอยเธอมานานแสนนาน..
-
มายางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
รอนานไม่ว่า แต่กลับมาบอกข่าวกันก่อนน้าาา อย่าหายไปแบบนี้~
ก็ใจฉันหาย เมื่อได้รับรู้ ว่าเธอจะจากกันไปปปป
คิดถึงคนเขียนสุดๆ
-
เข้ามาด้วยความคิดถึง เค้าก็กลับมาหาตัวแล้ว ตัวยังไม่กลับมาอีกหรอออ
ฮาา ฮา
ลืมลูน่าไปแล้วฤา....
เป็นกำลังใจให้ :)
กลับมาไวๆเน้อออ
-
รอ ร่อ ร้อ ร๊อ ร๋อ
:katai5:
-
รอรอรอ รอฉันรอเทอมาต่ออยู่~
-
ขอสอบเสร็จ ขอสอบเสร็จแล้วจะรีบกลับมาอัพเลยนะ ขอบคุณที่ยังรอกันอยู่นะครับ TwT
-
ขอบคุณค่ะ ที่มาแจ้งข่าว จะรอนะค่ะ
ขอให้ได้คะแนนดีๆ ทุกวิชานะค่ะ
:mew1:
-
จริงดิ รอสอบเสร็จนะ อยากอ่านต่อมากๆ
ขอให้คะแนนสอบออกมาดีดีนะ
-
เค้ารอเสมอเลยนะ
TT^TT
รอไรท์สอบเสร็จนะ จุ๊ฟๆ :monkeysad:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.24
ท่ามกลางทางเดินไม้ที่ทอดตัวยาวไปจนแทบจะสุดสายตา สองข้างทางขนาบด้วยบานประตูกระดาษสีขาวธรรมชาติ ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ เหนือหัวแห่งมาเฟียอิตาลี่ผู้ยิ่งใหญ่กำลังเดินตามคนของตระกูลเทย์ริวเพื่อไปพบกับเจ้าตระกูลที่รอเขาอยู่ที่ห้องอาหาร คนข้างหลังเยื้องไปทางซ้ายคือฟราน เวคเตอร์ เลขาหนุ่มผู้มากความสามารถ เขาเดินตีคู่มากับสคูร์โด แอนโธจบอดี้การ์ดประจำตัวของเจ้าพ่อหนุ่ม
แต่สายตาของคนเป็นเจ้าพ่อกลับไม่ได้มองตรงไปทางด้านหน้าอย่างที่ควรเป็นเท่าไหร่นัก เพราะดวงตาสีสนิมคมกริบมักจะชอบเหลียวกลับไปมองคนที่เดินเยื้องหลังอยู่ทางขวาเสียมากกว่า ราชสีห์แมวของเขาอยู่ในชุดสูทสีควันบุหรี่ของดิออร์ขับเน้นให้ร่างบางแลดูเข้ารูปด้วยทรงเสื้อที่เน้นให้เห็นช่วงเอว ลำคอถูกพันทบไว้ด้วยผ้าพันคอสีฟ้าอ่อนเนื้อนุ่มเพื่อปกปิดรอยบางอย่างที่คนหวงของบางคนมาทำรอยเอาไว้ วงหน้าสวยฉายแววบึ้งตึงติดจะรำคาญอยู่สักหน่อย พอดวงตาสีน้ำตาลไหม้สบกับตาของอีกคนที่หันกลับมามองก็ถลึงเข้าใส่อย่างบอกให้รู้ว่าเป้าหมายของอารมณ์หงุดหงิดนี้คือใคร
ลาร์เฟียร์ยิ้มกลับให้อย่างอารมณ์ดี รู้สึกนึกชอบแววตาวาวๆของจอมอวดดีคนนี้เต็มแก่ ก็ยอมรับล่ะว่าเมื่อเช้าแกล้งเยอะไปนิด แต่เห็นคนไม่ชอบความพ่ายแพ้อย่างรัตติกรต้องมาหัวฟัดหัวเหวี่ยงหลังจากที่เขาไปชี้เป้าให้ดูว่ามีรอยอะไรที่คอแล้วเจ้าตัวแทบจะปรี๊ดปรอทแตก
มันสนุกตรงที่ถึงจะหัวเสียใกล้ระเบิดแต่เจ้าตัวกลับไม่โวยวายโหวกเหวกเสียงดัง แค่มองเขาด้วยสายตาอาฆาตพร้อมกับอวดนิ้วกลางเรียวๆ จากนั้นก็เดินออกไปทางระเบียงข้างนอกที่ดูออกจะเย็นเกินไปสำหรับคนที่ใส่แค่เพียงชุดนอนตัวบางแถมยังเท้าเปล่า พอเขารีบตามออกไป ลูกหิมะก็ถูกปาสวนเข้ามาทันควัน ยังดีที่ตอนนั้นหลบทัน บวกกับคนปามาไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่นักด้วยล่ะนะ
คิดไปก็ยิ้มออกมาอีกที คราวนี้คงไปสะกิดเส้นที่ใกล้จะขาดจนมีเสียงผึงเข้าให้ คนที่ตามมาข้างหลังถึงได้ยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองแล้วบ่นงึมงำเป็นภาษาที่เขาฟังไม่ออก
“บ่นอะไรลูน่า”เจ้าพ่อหนุ่มถามเป็นภาษาอิตาเลียน
“เรื่องของผม!”รัตติกรที่สบถด่าด้วยทุกภาษาครบชาติอาเซียนเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังกว้างที่เจ้าของชอบหันกลับมามองเขาเสียเหลือเกินอย่างหงุดหงิด
“จะถึงห้องเขาอยู่แล้ว สงบเสงี่ยมหน่อยไม่งั้นเขาจะหาว่าคนของฉันไม่มีมารยาท”
“ห๊ะ? อยากให้สงบนักก็หยุดกวนประสาทผมสิครับ แล้วอีกอย่างนะ ผมเป็นคนของคุณตรงไหนไม่ทราบครับ?”
“ก็ของฉันทั้งหมดนั่นและ”
“ห๊า!!??”
“ชู่ว เงียบๆสิครับ ถึงแล้วนะ”ฟรานเอ่ยขัดขึ้นมาก่อนที่เจ้านายของเขาจะแหย่รัตติกรจนอีกฝ่ายสติแตกไปเสียก่อน หนุ่มชาวไทยพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่เพื่อปรับอารมณ์ ในขณะที่ลาร์เฟียร์เพียงยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองยังประตูบานเลื่อนที่อยู่ข้างหน้าซึ่งคนนำทางได้พาพวกเขามาหยุดอยู่ตรงนี้
คนเลื่อนบานประตูเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดกิโมโน เธอคุกเข่ารออยู่อย่างเรียบร้อยแล้วเอื้อมมือไปเลื่อนบานประตูให้เปิดออกอย่างนุ่มนวล ภายในนั้นเป็นห้องที่มีลักษณะยาว และคนที่รอคอยพวกเขาก็นั่งรออยู่ข้างใน
ห้องแบบญี่ปุ่นที่รัตติกรได้ย่างก้าวเข้าไปเป็นครั้งแรกนั้นดูไม่ต่างจากห้องของเหล่าขุนนางและซามูไรของญี่ปุ่นในยุคโบราณอย่างที่เรียกได้ว่าถอดแบบกันมา ทั้งเสื่อตาตามิขนาดสิบเสื่อที่ทอดยาวไปตั้งแต่ทางเข้าจรดกับโทโกโนมะซึ่งเป็นพื้นที่เว้าเข้าไปหลังฉากเพื่อวางแจกันดอกไม้ที่เน้นโชว์ดอกพยับหมอกสีฟ้าครามและไฮเดรนเยียสีน้ำเงินอ่อน บนผนังนั้นยังแขวนภาพอักษรที่ตวัดเขียนอย่างทรงพลังด้วยคำว่าเทย์ริวอย่างเด่นชัด
ทว่าสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในห้องแห่งนี้กลับเป็นชายคนหนึ่งในชุดฮากามะสีน้ำเงินขาวที่นั่งคุกเข่ามองมาทางกลุ่มของผู้มาเยือนด้วยนัยต์ตาสีฟ้าเข้มแข็งคมกล้า ผมสั้นตัดระต้นคอตามสมัยนิยมบ่งบอกว่าเจ้าของนั้นยังอยู่ในวัยรุ่นมากกว่าวัยกลางคน หากแต่สิ่งที่ทำให้ใครๆต่างต้องสะดุดตาเมื่อได้เจอเขากลับเป็นผมสีน้ำเงินที่เกิดจากการย้อม ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นถึงผู้นำตระกูลแต่กล้าทำผมสีนี้นั้นเรียกได้ว่าเจ้าตัวคงมีนิสัยเฮี้ยวอยู่ใช่เล่น
เทย์ริว อาราชิ...
มังกรฟ้าแห่งกลุ่มเทย์ริวที่เป็นถึงผู้นำของกลุ่มมาเฟียทางภูมิภาคคันไซตะวันตก…
ผู้ทรยศที่ปรากฏอยู่ในภาพของฟงเจิ้นฮ่าวคนนั้นนั่นเอง!
“อย่าเผลอไปหว่านเสน่ห์ใส่เขานะลูน่า”ดอนแห่งปาเลอร์โม่มองสบกับสายตาที่จ้องมาจากอาราชิด้วยรอยยิ้มเย็นๆ ทว่าก็ยังส่งเสียงกระซิบเบาๆที่แฝงแววขบขันให้คนที่เดินตามมาข้างหลังได้ยินสิ่งที่เขาต้องการจะสื่ออย่างชัดเจน
รัตติกรใช้ความเงียบเป็นการตอบรับแม้ในใจอย่างจะด่าสาดกลับเสียให้เต็มแก่ ทั้งที่เมื่อเช้าหลังจากที่มีเรื่องราววุ่นวาย กว่าที่พวกเขาจะได้พูดคุยเรื่องงานก็ปาไปตอนที่จะเดินทางจากห้องพักมาที่ห้องอาหารแห่งนี้เท่านั้น แล้วนี่ขนาดอยู่ต่อหน้าผู้ต้องสงสัยแท้ๆ ทำไมยังทำสองหน้ามากวนประสาทเขาได้หน้าตาเฉยขนาดนี้นะ!
หนุ่มชาวไทยขบฟันนับเลขข่มอารมณ์ในใจ หน้าที่ของเขาในการเข้าพบครั้งนี้คือการแปลทุกประโยคที่ได้ฟังนอกเหนือจากประโยคที่พูดกันอย่างเป็นทางการของอาราชิกับลาร์เฟียร์ เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของฟราน หนุ่มชาวไทยต้องเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ รวมไปถึงคอยสนับสนุนข้อมูลต่างๆ และกลับไปรายงานทีหลังเมื่อจบการประชุมในคราวนี้แล้ว
“สวัสดีตอนเช้าครับ ที่พักของพวกคุณเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาใช่มั้ยครับ”เทย์ริว อาราชิยิ้มพร้อมกับโค้งตัวคำนับทักทายตามมารยาท เขาพูดทักทายมาด้วยภาษาญี่ปุ่น ในขณะเดียวกันล่ามของทางฝ่ายนั้นที่นั่งเยื้องอยู่ทางด้านหลังก็พูดประโยคของเจ้านายเป็นภาษาอิตาเลียนอีกที อาราชิผายมือให้คนของตนพาแขกไปนั่งตามที่นั่งซึ่งเป็นเบาะรองพื้นแบบมีพนักพิงที่ออกแบบมาอย่างดี รอจนกระทั่งนั่งเรียงกันจนครบก็พยักหน้าให้คนของตนยกอาหารเช้าเข้ามาเสิร์ฟ
“เรียบร้อยดีครับ อย่าห่วงเลย อีกอย่างบ้านของคุณสวยมาก ยังไงก็ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างดีนะครับ”ฟรานเอ่ยตอบกลับไปเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่ว แต่ละฝ่ายดูเหมือนยังไม่อยากจะเข้าเรื่องสำคัญเท่าไหร่นัก จึงทำเพียงพูดคุยโดยทั่วไประหว่างรับประทานอาหารเช้าไปด้วยเท่านั้น
“แล้วคุณล่ะครับ คุณลูน่า...ใช่มั้ยครับ? อาการดีขึ้นแล้วรึยัง? ผมเคยเข้าไปเยี่ยมคุยแค่ครั้งเดียวเลยยังไม่มีโอกาสคุยกันเลยนะครับ”อาราชิเบือนหน้ามาทักทายทางหนุ่มชาวไทยหน้าสวยคมที่นั่งนิ่งๆอยู่ถัดไปจากฟราน กลุ่มของลาร์เฟียร์มาพักอยู่ที่บ้านของเขาได้สี่ห้าวันแล้ว ช่วงที่มาวันแรกวุ่นวายเล็กน้อยจากการที่ต้องตามหมอมาเพิ่ม จากเดิมเพียงแค่จัดเตรียมที่พักไว้เท่านั้น วันที่สองเขาถึงได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมคนของเวสเปอร์แฟมมิลี่ และนึกไม่ถึงจริงๆว่าคนๆนั้นจะเป็นคนเอเชีย...ว่าแต่ประเทศไทนกันนะ?
“ดีขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณครับ”รัตติกรตอบกลับด้วยภาษาญี่ปุ่นสำเนียงชัดแจ๋ว พาให้เจ้าของภาษาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงงงวย
“เอ๋ เป็นคนญี่ปุ่นเหรอครับ?”เจ้าตัวเอียงคอถามเล็กน้อย ตาเป็นประกายหน่อยๆเมื่อเห็นความหวังว่าคนของอีกฝ่ายมีคนชาติเดียวกับตัวเองอยู่ด้วย
“เปล่าครับ ผมเป็นคนไทย อีกอย่างถ้าเป็นไปได้ อยากให้เรียกผมว่ารัตติกรนะครับ”ว่าจบหนุ่มชาวไทยก็เหลือบไปมองเจ้าพ่อหนุ่มที่เริ่มทำหน้าบึ้งหลังจากหันไปถามฟรานว่าพวกเขาพูดอะไรกัน ก็ใครใช้ให้มาตั้งชื่อเขาเอาดื้อๆกันล่ะ คนอื่นเข้าใจผิดจนไม่มีใครเรียกชื่อจริงเขาถูกแล้วเนี่ย
“ลัด ทิ กอง?”หนุ่มชาวไทยแทบอยากกุมขมับ มาเป็นกองเลยวึ้ย! ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆแว่วมาจากทางลาร์เฟียร์ เขายิ่งได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไอ้มาเฟียนิสัยเสียนี่!
“รัด ติ กอน ครับ ภาษาไทยแปลว่าแสงของพระจันทร์”รัตติกรเน้นเสียงแต่ละพยางค์ให้อีกฝ่ายได้ยินชัดๆ
“เป็นชื่อที่ดีนะครับ งั้นผมเรียกคุณว่าฮาซึกิได้มั้ย? ความหมายเดียวกับชื่อของคุณเลยนะ”อาราชิที่หลังจากลองออกเสียงชื่อจริงของอีกฝ่ายแล้วติดๆขัดๆ เลยเกิดปิ๊งไอเดียคิดชื่อภาษาญี่ปุ่นให้เขาเสร็จสรรพ
.......พวกมาเฟียนี่ ชอบตั้งชื่อชาวบ้านเขาไปทั่วรึไงฮะ!?
“...หึ”รัตติกรหันขวับกลับไปมองคนที่หลุดเสียงหัวเราะออกมาแต่ทำเนียนยกชาขึ้นมาจิบปิดบังมุมปากที่ยกยิ้มไว้อย่างหน้าหมั่นไส้ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็มาเฟียคนแรกที่เอาชื่อเขาไปแปลงจนกลายเป็นชื่อผู้หญิงนั่นแหละ!
เหอะ! คิดว่าจะทำตามที่สั่งรึไง?
หนุ่มชาวไทยหันไปยิ้มหวานส่งให้เจ้าพ่อหนุ่มอย่างเสแสร้ง เจตนากวนเบื้องล่างอย่างเห็นได้ชัด พอเห็นดวงตาสีสนิมคมกริบเบิกค้างขึ้นมาน้อยๆอย่างสมใจแล้วถึงได้เผื่อแผ่รอยยิ้มส่งไปให้หนุ่มผมฟ้าที่รอคำตอบอยู่
“เอาสิครับ เรียกฮาซึกิก็ได้”อย่างน้อยฮาซึกิก็ชื่อผู้ชายแล้วกัน!
ได้ยินเสียงกระทบกันของจานรองแก้วน้ำชามาจากทางฝั่งเจ้าพ่อหนุ่มดังกว่าปกติจนเกือบเหมือนการวางอย่างกระแทกกระทั้น หากแต่รัตติกรไม่ได้หันกลับไปมองแต่ยังคงสนทนากับหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัยต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ปล่อยให้คนอื่นที่เห็นอาการของเจ้าพ่อหนุ่มต้องหนาวๆร้อนๆกันไปเป็นแถบๆ
คุณลูน่ากำลังยั่วให้ดอนของพวกเขาของขึ้น!
“ตอนที่คุณฮาซึกิไม่สบายอยู่ผมก็ได้เข้าไปเยี่ยมบ้าง แต่หลังจากที่คุณฟื้นแล้วก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปทักทาย อย่างไรก็พักผ่อนให้หายดีก่อนได้นะครับ ที่นี่ยินดีต้อนรับเสมอ”อาราชิที่รู้สึกจะคุยถูกคอกับรัตติกรเป็นพิเศษชวนคุยต่อไปโดยที่ไม่รู้สึกถึงบรรยากาศมาคุของเจ้าพ่อหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันบ้างเลยแม้แต่น้อย
พูดให้ถูกคือทำเป็นไม่สนใจมากกว่าล่ะนะ...นี่มันน่าสนุกจะตายไป! ผู้คุมกฏแห่งโลกสีเทาที่กำลังแสดงอาการ หึงหวง ออกมาเนี่ย ของหายากโคตรๆ!!
“ที่ผ่านมารบกวนไปหลายอย่างเลยทีเดียว ขอบคุณมากๆนะครับ”รัตติกรโค้งขอบคุณตามมารยาทของชาวญี่ปุ่น ทั้งองศาและการวางนิ้วมือที่แสดงถึงการสื่อความหมายเบื้องลึกก็ทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ทำเอาคนที่เป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆยังต้องผิวปากหวือ
“บอกว่าคุณฮาซึกิเป็นคนญี่ปุ่นผมก็เชื่อนะเนี่ย นี่คุณไปหาเลขาที่สุดยอดขนาดนี้มาได้ยังไงครับเนี่ย คุณเวสเปอร์?”
ฟรานหันไปถ่ายทอดประโยคของอาราชิเมื่อครู่ให้เจ้านายของตนฟังอย่างรวดเร็ว ลาร์เฟียร์ฟังแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาเพื่อให้ตนเองใจเย็นลง ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เจ้าพ่อหนุ่มชายตามองทางรัตติกรที่หันมามองอย่างสนใจว่าเขาจะตอบว่าอะไร
“Rapire!!(ฉุดมา!!)”
“เฮ้ย!”
“นายท่านช่วยชีวิตคุณลูน่าไว้น่ะครับ”ฟรานรีบพูดแก้ให้ก่อนที่ล่ามของฝ่ายอาราชิที่กำลังตกใจว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่าจะแปลความหมายที่แท้จริงของคำพูดเมื่อกี้ออกมา
แต่รัตติกรที่ได้ยินแล้วแปลได้ทันทีน่ะ ตกตะลึงซะจนค้างนิ่งอยู่กับที่ไปแล้ว
“อย่างนี้นี่เอง คุณลาร์เฟียร์โชคดีจังครับ ผมล่ะอิจฉาเลย”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”เจ้าพ่อหนุ่มยิ้มอีกครั้ง คราวนี้สมใจที่เอาคืนเจ้าสิงโตแมวตัวแสบได้เต็มแก่เลยเผลอยกมุมปากสูงกว่าปกติเล็กน้อย รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงใครบางคนสติขาดผึ่งอย่างสมใจถึงได้กระแอมไอออกมาเบาๆ
“ว่าแต่ จะถ่วงเวลาไปอีกนานมั้ยครับ?”เจ้าพ่อหนุ่มเปลี่ยนรอยยิ้มสมใจของตัวเองเป็นเย็นเยียบ ดูเหมือนจะปล่อยอีกฝ่ายให้ผ่อนคลายจนหมดเวลาทำเป็นเล่นแล้ว
ต่อไปนี้คือการเอาจริงของเวสเปอร์แฟมมิลี่!
“นั่นสินะครับ ประวิงเวลาไปก็ใช่ที่”หลังจากฟังคำแปลของสิ่งที่เจ้าพ่อหนุ่มพูดเมื่อครู่ อาราชิก็เรียกคนของตนเองเข้ามาเก็บอาหารออกไปข้างนอก เหลือไว้เพียงชุดน้ำชาร้อนๆเพื่อให้จิบแก้กระหายระหว่างการประชุม
ตั้งแต่ตัดสินใจไปพบกับกลุ่มผู้นำของพวกโนวาห์ เขาก็รู้ดีว่าอย่างไรช้าเร็ววันที่ลาร์เฟียร์จะเข้ามาถามถึงความภักดีที่มีให้กันก็ต้องมาถึง!!
“เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ”อาราชิกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตาของเขายังคงฉายแววกล้าหาญมุ่งมั่น ไม่เหมือนคนที่กำลังมีความผิดเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าเช่นนั้นก็...”ฟรานเกริ่นนำก่อนเพื่อให้ไม่บรรยากาศดูเคร่งเครียด ทว่าลาร์เฟียร์กลับยกมือขึ้นมาเป็นสัญญาณให้เลขาหนุ่มหยุดพูดแล้วหันมาสั่งการกับรัตติกรที่เก็บเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการประชุมครั้งนี้เอาไว้
“เอารูปให้เขาดู จากนั้นก็อธิบายมา ว่ามันหมายความว่าอะไร”เพียงการกระทำเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศของทั้งห้องให้ตกอยู่ในความเครียดขรึมได้อย่างรวดเร็ว สำหรับลาร์เฟียร์ เรื่องของพวกโนวาห์สำหรับเขาไม่ใช่เรื่องที่ควรมาประณีประนอมยอมความกัน ในเมื่ออีกฝ่ายคือโนวาห์ การจัดการสำหรับเรื่องนี้ก็ต้องทำให้เด็ดขาด!
ถ้าจะภักดีกับเวสเปอร์ คำว่าโนวาห์แม้เพียงแค่ตัวอักษรเดียวก็ห้ามไปข้องเกี่ยว!!
รัตติกรผงกศรีษะรับ ในใจรู้สึกไม่ค่อยชินกับภาพลักษณ์จริงจังของเจ้าพ่อหนุ่มที่เปลี่ยนไปมาปุบปับเสียเท่าไหร่ แต่ทว่างานก็คืองาน เขาแยกแยะมันกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเป็น จึงหันหลังกลับไปหยิบเอกสารแล้วส่งให้คนของเทย์ริวที่คุกเข่ารอรับอยู่ข้างหลัง ก่อนที่จะนำไปส่งให้นายของตนเองอีกที
สิ่งที่ส่งไปคือภาพถ่ายที่ได้จากฟงเจิ้นฮ่าว นอกจากนั้นยังมีภาพที่ถ่ายไล่ย้อนกลับไปตั้งแต่จุดลงเครื่องบินของอาราชิตั้งแต่เขาไปถึงรัสเซีย ภาพในตอนที่คนของโนวาห์ที่เข้าไปรับ รวมไปถึงภาพตั้งแต่ก้าวที่เขาลงจากรถเพื่อไปพบกับกลุ่มผู้นำของโนววาห์จนกระทั่งกลับมาขึ้นรถอีกที
สืบหลักฐานจากภาพของกล้องวงจรปิดเบลอๆเพียงอย่างเดียว...
เวสเปอร์นี่มัน เหลือร้าย...
อาราชิมองภาพเหล่านั้นแล้วยิ้มเครียดๆ เขาวางมันลงกับพื้นเบื้องหน้าตนเอง แม้จะมั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องมีหลักฐานมาเอาผิดเขาแน่ๆ แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงและแสดงให้เห็นนั้นกลับเหนือกว่าด้วยการกระทำที่หมายถึงการจับตาดูเขาอยู่ทุกฝีก้าว
ฝีมือของผู้คุมกฎแห่งโลกสีเทาไม่ได้มีแค่เพียงลมปาก!
“ผมยอมรับ ผบไปพบกับผู้นำของพวกโนวาห์จริงๆ ไม่มีข้อแก้ตัวครับ”ว่าจบก็หันทั้งตัวไปทางลาร์เฟียร์ที่นั่งเอนหลังไปพิงพนักเบาะด้วยท่ากอดอกสบายๆแต่แผ่รังสีกดดันออกมาอย่างที่ใครๆก็รู้สึกได้
หัวหน้าของตระกูลเทย์ริวมองตอบสายตาที่จ้องมาอย่างแน่วแน่แล้วค่อมตัวลงคำนับ สองมือกุมแน่นที่หัวเข่าทั้งสองข้างสั่นระริกเล็กน้อย แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะความกลัว แต่การทำเช่นนี้คือการลดศักดิ์ศรีของตระกูลของเขาลง มันสั่นเพราะเขาต้องข่มใจตนเองเพื่อส่วนรวมของตระกูล
ผู้นำของเทย์ริวต้องไม่ก้มหัวให้ใคร...
แต่ลูกผู้ชาย ถ้าทำผิดก็ต้องยอมรับอย่างไม่บิดพลิ้ว!!
_______________________________________________________
กลับมาแย้วววววว :m11:
(แล้วเดี๋ยวก็จะหายไปอีกแย้วววว // โดนตบผั่วะ :beat:)
สวัสดีตอนประมาณตีสามครับ = w =
ด้วยอานิสงสอบเสร็จกว่าชาวบ้านเลยมีเวลาได้มานั่งเขียนอย่างเป็นจริงเป็นจังสักทีหลังจากที่ห่างมือไปเป็นเวลานานมากกก (ห้าเดือนได้ แม่เจ้าเว้ย :z3: :z10: :z13:)
ก็ต้องขอโทษที่หายไปนาน และขอบคุณที่ยังรอกันอยู่มากๆเลยครับ ขอบคุณจริงๆครับ o7 :hao5:
เหตุผลที่หายไปนาน ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอะไรหรอกครับ เรื่องเรียนนี่แหละ ปีสองเรียนหนักมว๊ากกก ชีวิตนักศึกษาช่างโหดเหี้ยมอะไรเช่นนี้...// :o11: o9 :z13: :heaven
ได้แต่เขียนเก็บไปทีละนิดทีละหน่อย ได้มาตรวจแก้พิมพ์แล้วลบพิมพ์แล้วลบจนกว่าจะเรียกความรู้สึกเดิมๆกลับมาได้ก็เสียเวลาไปเยอะอยู่ ช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้าเลยไม่อยากสัญญาเท่าไหร่ว่าจะมาลงได้บ่อยหรือเปล่า ต้องขอโทษจริงๆนะครับ :hao5:
แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งเรื่องนี้จริงๆนะ!! :n1:
ปีนี้ไม่มีปิดเทอมเล็กเพราะอาเซียน แต่ปิดเทอมใหญ่ล่อซะหกเดือนครับพี่น้อง คิดว่า คงจะได้มาทุ่มลงเอาในหกเดือนนั้นล่ะครับ ช่วงระหว่างนี้อาจจะมีมาลงบ้างสองสามตอนตามอัตภาพแรงกายแรงใจ //แง้ว :z13: :z13:
ยังไงก็ รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ เข้าหน้าหนาวแล้ว ปีนี้ลมหนาวมาจริงด้วย บางพื้นที่ก็ยังมีน้ำท่วมอยู่เลย ดูแลตัวเองดีๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรงๆทุกคนนะครับ :กอด1: :L2:
แล้วเจอกันครับ
Namioto Yo
ปล.ภายในอาทิตย์นี้ จะพยายามลงทำดีได้ดีฯอีกตอนให้ได้ครับ เจอกันที่เรื่องนู้นด้วยน้า :-[
-
เห็น 10/10/56 นึกว่าตัวเองตาฝาด
พระเ้จ้า มาอัพแล้ว :sad4:
แทบลืมเนื้อเรื่องไปแล้ว
เกือบ 6 เดือนเชียวนะ
ต้องขอตัวไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น :hao7:
-
TwT นั่งรอทุกวัน มันมาซักที
-
ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งกันไป
-
ดีใจ ที่มาต่อ
รอนะ
-
welcome back :mew1:
-
คนที่กล้าท้าทายกวนประสาทท่านดอนเวสเปอร์ก็มีแต่ลูน่าคนเดียวสินะ ทำแล้วยังรอดชีวิต แต่นะ...โทษที่ได้มันหวานที่สุดเลย ^^
ตาหัวหน้าตระกูลญี่ปุ่นคนนี้จะรอดไหมเนี๊ย
-
ดีใจที่มาต่อนะคะ ชอบเรื่องนี้มาก มีเหตุและผลดี อย่าทิ้งกันนานนะคะ
-
คิดถึงๆ คิดถีงทั้งคนแต่งและลูน่าเลยค่ะ
ตอนที่เห็นว่าอัพแล้วนี่แทบกรี๊ด(กรี๊ดไปแล้ว) มาสั้นไปนิดนะคะ ยังไม่ไม่หายคิดถึงเลย แต่เข้าใจค่ะว่าเรียนหนัก แค่ไม่ทิ้งเรื่องนี้ก็พอแล้วค่ะ
ยังไงก็สู้ๆทั้งเรื่องเรียนและแต่งนิยายนะคะ( แต่เน้นแต่งนิยายได้ไหมอ่ะ :hao5: )
คิดถึงจ้า
-
ดีใจที่มาต่อค่ะ :กอด1:
ถ้าคนเขียนไม่ทิ้ง คนอ่านอย่างเราก็จะรอ :L2: :pig4: :L2:
-
แค่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งลูน่าคนอ่านก็ดีใจมากแล้วค่ะ
รอต่อไปๆ
รักคนเขียนจัง นึกว่าเราตาฝาด 555
-
กลับมาแล้ว!!!!!!!!!!~~~~~~
นึกว่าตาฝาด
คิดถึงทั้งคนเขียนทั้งลูน่า
อยากให้มาแต่งต่อ เราชอบนิยายเรื่องมากค่ะ
สู้ๆนะค่ะ เป็นกำลังใจให้
-
อร้าย มาต่อแล้ว
-
มาต่อแล้ววววว :sad4:
ยังไงก็จะรอตอนต่อไปน่ะ
-
แทบจะต่อไม่ติดกันเลยทีเดียว
-
ลูน่าแสบเนาะ!! :p
-
ดีใจที่มาต่อ นึกว่าจะทิ้งกันไปแล้ว ยังไงก็สู้ๆสำหรับเรื่องเรียนนะคะ
-
เห็นชื่อนี้โผล่มาหน้าแรกตกใจตลอดนึกว่าคนเขียนมาแล้วแต่ก็ไม่ใช่สักที แต่วันนี้เห็นอีกที :a5: ตกใจเสียยิ่งกว่าตกใจดูอีกทีสิ 10/10/13 โอ้มันมาแล้วจริงๆ :mc4: :mc4: :mc4:
:mew5:แต่ทำไมมาสั้นจังเลยอะ
:ling1:เขาอยากอ่านอีกให้สมกับที่รอมานานหน่อยสิ
-
:hao6: :hao6: :hao6: :hao6: ลูน่า น่ารัก :hao7:
-
:pig4: :pig4:
-
พอเจอเรื่องนี้อัพตอนใหม่แล้ว...แทบจะกรี๊ดลั่นบ้านเลยค่ะ เพราะอ่านวนไปวนมาคงไม่ต่ำกว่าสิบรอบแล้ว คิดถึงคนเขียนมากก
จะรอติดตามตอนต่อๆไปนะคะ รักลูน่า อิอิ :L1: :L1:
-
แอบหลงมาเฟียญี่ปุ่นเบาๆ :o8:
-
อย่าหายไปนานเลยนะคะ รออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ :z3: :z3: :z3: :z3:
-
:sad4: กลับมาต่อแล้วดีใจมากมาย
-
อาราชิก็ดูไม่เลวร้ายนะ มีเบื้องหลังอะไรรึเปล่า
ยินดีต้อนรับการกลับมาค่ะ คิดถึงมากๆ
-
พาพระจันทร์กลับมาแล้ว คิดถึงมากๆเลยค่ะ
เห็นลาร์เฟียร์ออกอาการหึง แล้วมีความสุขมากกก ฮ่าๆๆๆ
-
เข้าใจเลย ขนาดเค้าปีหนึ่งยังแทบกระอักเลยค่ะ
กิจกรรมหนัก ควิซตลอดเวลา แต่ยังไม่เท่าสอบทีนี่ แทบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน
หมกตัวอยู่แต่ในห้อง กินมาม่าเป็นอาหารหลักเพื่อประทังชีวิต :sad4:
แต่เค้าได้ปิดเทอมสองอาทิตย์นะ อิๆ แต่! ก็ยังต้องอ่านหนังสืออยู่ดี o22
พี่สู้ๆ นะคะ อยากบอกว่าคิดถึงและรออ่านอยู่เสมอ ฮี่ๆ เรื่องโยเอิร์ธด้วยน้าาา :hao5:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
รอมานานมาก คิดถึงสุดๆ รอการกลับมา อิอิ
กลับมาอีกนะ และก็ตั้งใจเรียนด้วย สู้ๆนะจ้ะ ^^
:mew1: :mew1: :mew1:
-
ตอนที่เห็นว่ามีอัพเดท ว่าคนเขียนมาต่อ นี่ปริ่มมากเลยนะ ฮือออออออออ :heaven :heaven :heaven
แต่ลูน่า แกยั่วอารมณืหึงหวงน่ะ ระวังกลับไปไม่ได้นอนนะ 55555555555555555555
-
อ๊ายยยย ตาฝาดแน่เลยคนเขียนมาอัพ เอิ๊กๆ
รอจ๊ะรอ รอตอนต่อไป
เฮียแกกะจะแกล้งรัตติกรตลอดเลยใช่มะ
-
สัญญานะ ห้ามทิ้ืงเรื่องนี้นะคะ :mew2:
-
โห หายไปนานมากเลย จะกลับมาอีกทีเมื่อไหร่เนี่ย
-
ในที่สุดก็มาต่อซักทีนะคะ
ดีใจมากที่ยังไม่ทิ้งเรื่องนี้
ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลยคะเป็นกำลังใจให้นะคะสู้ ๆ *0*
-
มาแล้วววววววววววววว TT^TT
ซึ้งน้ำตาแทบไหลพรากก
ดีใจที่ไรที่มาอัพ
เป้นกำลังใจให้นะไรทื จุ๊ฟๆ :monkeysad: :monkeysad:
-
ย้ากกกกกกก!!!! คิดถึงคนแต่งมากกกก เข้ามารอเรื่องนี้ทุกเดือน :sad4:
ในที่สุดก็มาอัพ ฮืออออออ หนูลูน่ามิสสะยูวววว
ขอบคุณที่มาอัพนะคร้าบบบ :กอด1:
-
มาต่อแล้ว
สำหรับเราหายไปนานๆ ก็ไม่เป็นไร
แต่ขอร้องอย่าทิ้งเรื่องนี้นะคะ ช่วยแต่งต่อให้มันจบด้วย
เป็นกำลังใจให้นะ
-
เยส
มาต่อแล้ว ดีใจมากๆ
(เก็บอาราชิไว้เถอะ เราชอบเขา)
-
ลาสเฟียร์ไม่ค่อยเลยนะ
-
:sad4: :sad4: :sad4:มาต่อแล้ว :hao5: :hao5:
-
ในที่สุด :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
ปล. การรอคอยเป็นสิ่งที่..... แต่ยังไงก็ต้องรอ :mew3:
-
เพิ่งเข้ามาอ่านคัฟ โอ้โห พี่เก่งมากอ่ะ แต่งได้เยี่ยม อ่านไม่ขัดเลย เอ่อ..ขัดนิดหน่อยมาต่อช้านี่แหละ ไปอ่านทำดีฯมาก่อนแล้วมาอ่านเรื่องนี้ทีหลัง เรื่องนี้ถ้านับตั้งแต่แรกบอกเริ่มตอน17ตอนนี้ก็น่าจะ20 เกือบ3ปีรึป่าวคนอ่านหนาแน่นมากอ่ะ เข้าเรื่องดีกว่า แกล้งกันไปกันมาดีนะ เจ้าพ่อกับลูน่า อยากให้เป็นของกันและกันเร็วๆจังเลย รอตอนต่อไปนะคัฟคนแต่ง ขอบคุณคัฟ^^
-
อ่านแล้วรุ้สึกว่า ผุ้นำเทยริวมันเท่ว่ะเฮ้ยยยยย
-
:ling1: เมื่อไหร่คนแต่งจะมาอ่าใจจะขาดแล้ว
-
รัตติกรน่ารักจังเลย ><
ไม่รู้จะคอมเม้นอะไร ชอบทุกคน ชอบการบรรยาย ชอบคนแต่ง 555
ชอบเรื่องนี้ที่สุดดดด
ไม่ติ เพราะความชอบพรางตาไปละ #????
เฮี้ยวสุดผู้นำเทย์ริิว ที่ค้อมหัวให้เพราะทำตามแผนรึผิดจริง
แต่ถ้าศักดิ์ศรีแรงกล้าขนาดนั้น... ถ้าคิดจะทำผิดนี่โคตรเสี่ยง!!!
เอาเถอะ
ตอนต่อไป... รอลุ้นนน คิดถึงคนเขียนที่สุดเลย
-
เพิ่งเห็นว่ามาลงเพิ่มแล้ว
ดีใจสุดๆ คิดถึงลูน่า
ขอบคุณที่มาลงต่อนะคะ
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกๆๆๆ ชอบๆๆๆ
อยากอ่านทั้งสองตู่เลยอ่า คู่คุณเลขาก็ด้วย
มาอัพเร็วๆนะ อยากอ่านมากๆจ้า
-
สนุกมากเลยจ้า ลื่นไหลมากเลย
ชอบมากกกกกกก ๆๆๆ มาต่อเร็วๆนะคะ ^^
-
ก่อนอื่นต้องขอบคุณคนเขียนก่อนเลยที่พาลูน่ามาให้เราได้อ่าน
นานมากอย่างที่ว่า แต่เราก็รอติดตามอย่างใจจดใจจ่อนะ
ยิ่งได้มาเห็นพ่อมาเฟียออกอาการหวงของอย่างนี้แล้วชอบบบบ
เอาใจช่วยทั้งเรื่องเรียนและเรื่องนิยายนะคะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
-
อยากอ่านต่ออ่ะคร่าาาาาาาาาาาาาา อัพหน่อยนะตัวเองงงงง :hao7:
-
รีบมาต่อเร็วๆนะคะ เมื่อไหร่น้องลูน่าจะยอมสยบซะทีเนี่ยยยย :katai1:
-
หายไปนานจัง แวะมาบอกว่ายังรอน้า
-
:mc4: หายไปนาน กลับมาคงต้องปิดเว็บฉลอง :mc4:
:katai1: หายไปนานเหลือเกิน รอการกลับมาอยู่นะ :hao5:
นานๆไม่ว่า แต่อย่าหายวับเข้ากลีบเมฆซิคะ :ling1:
หุหุ ตอนนี้ฟินเวอร์ :hao6:
อยากตะโกนดังว่าหนุ่มๆน่ากินทั้งหลายนั้น Made in thailand ค่าาา :hao7: สินค้าส่งออก :z1:
โดยส่วนตัวชอบเคะเป็นคนไทยนะคะ :hao6:ใกล้ตัวดี
ส่วนฝ่ายกดนี่ขอต่างชาติค่ะ :laugh: :laugh: (เว้นญี่ปุ่น จีน เกาหลี) 3 อันนี้ใกล้ไป เราต้องส่งหนุ่มไทยให้โกอินเตอร์กว่านั้นค่ะ :hao6: :hao6:
-
คิดถึงมากๆ
เมื่อไรหนอเธอจะกลับมา ~ ~
เฝ้ารอจนฝนซา สุดท้ายก็ว่างเปล่า ~ ~ ~
:katai4: :katai4: :katai4:
-
เค้าปั่นอยู่นะ //โผล่มาจากมุมมืด
ไม่ทิ้งแน่นอนครับ ขอเวลาผ่านช่วงนี้ไปอีกหน่อยนะฮะ สัญญาว่าปิดเทอมแล้วจะจัดเต็มน้อ...
ขอบคุณที่ยังคงติดตามอยู่เสมอนะครับ ^^
-
>[]< ในที่สุดก็จะได้อ่านอีกแล้วสินะ!!! //รอ
-
เป็นคำตอบที่ชวนปลื้มใจมากเลยค่ะ จะรอต่อไปนะคะ(รอทั้งสองเรื่องเลยค่ะ) :mew1: :mew1:
-
ไหดองแตกแล้ว หายไปนานเลย >__< คิดถึง....
-
เมื่อไหร่จะมาต่ออีกคะ รอจนเหงือกแห้งแล้วคะ ชอบเรื่องนี่มากๆ*0*
-
สวัสดีครับ จากที่ได้อ่านมา เดาเอานะครับ
- เรื่องของรติกรเมื่อก่อนที่ถูกกลายเป็นหนูทดลอง ผมเดาว่าหนึ่งอาจจะเป็นฝ่ายของพระเอกรุ่นพ่อหรือที่พระเอกพึ่งรับ
ตำแหน่งใหม่ๆ เกิดความผิดพลาดจากการควบคุม แอ้แต่ว่าในเมื่อพระเอกบอกว่าฝ่ายตัวเองนั้นค่อนข้างที่จะขาวไม่ถึงกับ
ดำทั้งหมดนั้นก็แย้งกันอยู่ เหตุนี้จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นของฝ่ายตรงข้ามแทน
- อันที่บอกว่าตอนที่รติกรถูกจับตัวไปอยู่ในห้องที่มีอักษรต่างๆ นั้น เป็นไปได้ไหมที่คนก่อนหน้าคือโซลหัวหน้าแก๊งฝ่ายตรงข้าม
แต่ก็อาจจะไม่ใช่เพราะยังไม่รู้อายุของฝ่ายตรงข้ามเลย
- แล้วเรื่องพ่อของนายเอกละ หายไปไหนหรือว่าเสียชีวิตแล้ว
ครับจากที่อ่านมาลองคิดแล้วได้ประมาณนี้อะ เพราะปมที่น่าสนใจคืออดีตของนายเอกแล้วความแค้นระหว่างแก๊ง
ตอนแรกนึกว่ามีเนื้อเรื่องเยอะกว่านี้ คิดไปว่าอยู่ในห้องจบแล้ว
เพราะเมื่อก่อน( 2-4 ปีก่อน ) เคยเข้ามาอ่านแล้ว
เนื่องจากเห็นชื่อเรื่องแล้วน่าสนใจ คิดดไปว่าในเรื่องมันจะต้องเป็น
ไปในทางที่นายเอกไม่ยินยอม มีการต่อต้าน หึงหวง พอเข้ามาอ่านแล้ว
มันโดนอะ ไม่ผิดหวัง อ่านไปแล้วไม่กระตุก ธรรมชาติดี ติดตรง
ชื่อแก๊งพระเอกมักอ่านเป็นบาบิโลนไงไม่รู้ 55555
ช่างเถอะ
ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่มาต่อแล้วจะรอตอนต่อไปครับ
-
//วิ่งมาเกาะคอมรอ
ถึงเค้าไม่เม้นทุกตอนแต่เค้าอ่านทุกตอนนะตัวเธออ :katai5:
-
กำลังสนุกเลยยย มารออ่านนร้าคร้าาา
:mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
-
:call: :call: :call:
-
เมื่อไหร่จะมาต่อน๊า~~~~~~~~~~~~
-
:o8:
พึ่งมาอ่านคร่ะ...ชอบนะเนี่ยๆ ภาษาสละสลวยดีด้วยคร่ะ รอติดตามนะคร้าา o13
-
หายไปไหนแล้วค่ะคนเขียน ไม่มาต่อนานมากเลยค่ะ
นานจะเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วอะ หลายปีแล้วนะคะเนี่ย
มาเขียนต่อเถอะค่ะ ได้โปรดดดด........... :monkeysad:
-
เค้ารอเสมอนะ T^T
-
ดึงงงงงงงงงงงงงงงไปหน้าแรก :katai5:
*แวะมาเยี่ยมฮับ*
-
อัพอัพอัพพพพพพพพพพพพพพพพ
เรารอคุณมากนาน ฮือออออออออ
อ่านตอนที่ 22 23 24 ซ้ำมาล้านแปดรอบบบบ
มารอต่อฮ้าบบบบ ยังคงคิดถึงและคะนึงทุกเมื่อเชื่อวัน
หุหุ กลับมาได้แล้วค่าาา
-
เราเพ่งเข้ามาอ่าน...
แล้วชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มาต่อเร็วเด้อออ
-
คนเขียนอยู่ที่ไหน... :o12:
-
คนเขียนไปไหนน้อหายไปครึ่งปีกว่าแบ้วววววว :katai1:
-
ยังรออยู่นะค่าาาาาาาาา
-
รอมานานแสนนาน... :t3:
-
มาดันเพราะคิดถึงเรื่องนี้
-
คิดถึงเรื่องนี้จังเลยยยย :hao5:
-
คนเขียน เปิดเรื่องใหม่ที่เด็กดีแต่ทำไมไม่อัพเรื่องนี้...
-
:pig4: สนุกมากค่า
-
มาหลับรอ ฮือออ กลับมาเถอะค่ะ :ling3:
คนเขียนเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ยยย
-
ดันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
-
แต่งอยู่น้า ใกล้ได้แล้วครับ ฮึชๆ >w<Y
-
:L2:
สู้ๆ นะคร๊าาา
-
ลืมบอกก :a5: เมื่อคืนผมเอ๋อจริงๆนั่นแหละ เง้อ
ขอเปลี่ยนชื่อที่อาราชิเรียกรัตติกรนะครับ จากอากิระ ขอเปลี่ยนเป็น ฮาซึกิแทนนะครับ
ความหมายมันตรงตัวว่าแสงจันทร์มากกว่าน่ะครับ
อากิระถ้าแปลจริงๆมันหมายถึงคนฉลาดครับ//ซึ่งตรงนี้ผมเอามาจากนิสัยของรัตติกร คันจิเขียนด้วยแสงตัวสว่าง แต่ถ้าแยกตัวออกมามันจะประกอบด้วยตัวพระอาทิตย์กับพระจันทร์ ซึ่งสื่อถึงแสงจันทร์ก็ได้ แต่มันน่าจะลึกล้ำไป =w=
เลยจะเอาฮาซึกิ ซึ่งแปลว่าแสงจันทร์ตรงตัวเด๊ะๆมาแทนนะครับ เดี๋ยวไปแก้ตอนก่อนหน้าด้วย อ่านให้สนุกนะครับ :กอด1:
ปล.ถ้าอ่านที่ทอล์คด้านล่าง มีเกมส์ให้เล่นนิดนึง สนใจร่วมสนุกได้น้า :z2: :z2:
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.25
บรรยากาศในห้องประชุมเงียบสนิท เมื่อหัวหน้าของกลุ่มเทย์ริวยังคงก้มศีรษะค้างเอาไว้ไม่ยอมเงย เหล่าลูกน้องที่ยืนคุ้มกันอยู่เบื้องหลังสบตากันล่อกแล่ก นาทีนี้คนที่จะทำให้เทย์ริว อาราชิ เงยหน้าขึ้นมาได้ก็มีแต่ลาร์เฟียร์เท่านั้น
เจ้าพ่อหนุ่มมองคนที่ก้มค้างอยู่เบื้องหน้าตนเองนิ่ง ดวงตาคมเฉียบสีสนิมไม่ได้ฉายประกายอะไรให้คนอื่นที่คอยลุ้นอยู่จับความรู้สึก ณ สถานการณ์ตอนนั้นได้ ริมฝีปากบางหยักยิ้มขึ้นเล็กน้อยแลดูเหมือนการดูแคลนมากกว่ายิ้มเพราะอารมณ์ดี
“รู้ใช่ไหม ว่าพวกเรากับโนวาห์น่ะเป็นอะไรกัน...”
บรรยากาศเย็นเฉียบปกคลุมทั่วทั้งห้อง หนักอึ้งเสียจนการผ่อนลมหายใจออกมาก็กลายเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างยากลำบาก เรือนผมสีฟ้าสว่างของผู้นำตระกูลเทย์ริวยังคงก้มต่ำ เสียงกระซิบจากล่ามดังขึ้นเบาๆท่ามกลางความเงียบ สื่อข้อความจากดอนแห่งปาเลอร์โมสู่ผู้นำตระกูล
“...รู้ครับ”
“คุณรู้ทั้งรู้ว่าถ้าไปพบกับพวกนั้นจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังไปโดยไม่แจ้งอะไรมาให้พวกเราทราบเลยใช่ไหม...?”น้ำเสียงที่ใช้ถามของเจ้าพ่อหนุ่มยังคงเนิบนาบทุ้มต่ำ แต่คนที่อยู่ราบล้อมนั้นกลับรู้สึกเหมือนกันว่าความสงบนั้นเป็นดั่งสัญญาณของการมาเยือนจากพายุกรรโชกแรง
“ใช่ครับ”ความเงียบอันหนักหน่วงดำเนินอยู่เช่นนั้น กดดันเทย์ริว อาราชิให้คิดหนักก่อนที่ความสัตย์ซื่อในตัวของมังกรหนุ่มจะบอกให้เขาอย่าได้นำข้ออ้างใดๆขึ้นมาแก้ต่างให้ดูน่าสมเพชไปมากกว่านี้
แค่ได้ผิดคำสัตย์ไปแล้วเพียงครั้ง ศักดิ์ศรีที่เขายึดถือไว้ยิ่งชีพก็แทบจะถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี!
“หึ งั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุยแล้วนี่?”ล่ามของเทย์ริวกัดริมฝีปากแน่นก่อนจะแปลออกมา เสียงนั้นราวกับเสียงกระซิบแผ่วเบาในความเงียบ นำมาซึ้งความหนักอึ้งในหัวใจของเหล่าเทย์ริวที่รับฟังสถานการณ์อยู่ในห้อง
“...ผมไม่มีข้อแก้ตัวหรอกครับ จัดการตามที่คุณต้องการเถอะ”เสียงสูดลมหายใจเฮือกดังมาจากรอบข้าง จริงอยู่ที่มาเฟียจากอิตาลี่แทบจะไม่มีความสำคัญอะไรกับพวกเขา เส้นทางการค้าแม้จะเพียงครึ่งหนึ่งของญี่ปุ่นก็ยิ่งใหญ่พอที่จะเลี้ยงคนทั้งแก๊งได้ ทว่าสายสัมพันธ์กับทางตะวันตกนั้นได้เสริมสร้างรากฐาน เปลี่ยนพวกเขาจากกลุ่มมาเฟียที่ทำเพียงแค่การเก็บค่าคุ้มครองและปล่อยเงินกู้ธรรมดาให้สามารถก่อตั้งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ รวมไปถึงสร้างเส้นทางในการออกนอกประเทศให้กับพวกเขาอีกด้วย
มันไม่ได้ขนาดตัดเส้นเลือดใหญ่ที่ไปเลี้ยงหัวใจ แต่กลับทำให้แขนขาบางส่วนใช้งานไม่ได้
ยังไม่นับถึงผลกระทบที่หากว่าทางเวสเปอร์ยกเลิกสัญญากับทางเทย์ริวแล้ว ฐานะของพวกเขาในโลกสีดำแห่งนี้คงตกต่ำลงอย่างไม่ต้องสงสัยอีกด้วยซ้ำไป คงไม่มีใครสามารถพูดได้ ว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ลาร์เฟียร์เหลือบมองไปทางอาราชิที่เงยหน้าขึ้น ไหล่ผึ่งผายนั้นตั้งตรง ท่าทางที่แสดงให้เห็นก็ไม่ใช่หวาดกลัวต่อความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น สายตาสองคู่ของผู้นำมองสบกันนิ่งเงียบและเนิ่นนาน ดอนแห่งปาเลอร์โม่แม้จะกล่าวถ้อยคำที่ทำให้อีกฝ่ายต้องจนมุม ทว่าในสายตานั้นยังคงมองตรงไปที่มังกรฟ้า ความจริงบางอย่างที่อีกฝ่ายยังไม่ได้บอกออกมาคือสิ่งที่เขาต้องการจะรู้....
“พูดอย่างนั้น ก็แปลว่ายอมรับแล้วสิว่าพวกคุณทรยศ?”
“ผมยอมรับว่าผมทำผิด แต่ผมไม่ได้ทรยศครับ อยากให้แยกแยะตรงนั้นไว้ด้วย”อาราชิสบตากับเจ้าพ่อหนุ่มแน่วแน่ ประกายตาสีฟ้าคมปลาบบอกชัดว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้อีกฝ่ายพูดจากดหัวเสมอไป ลูกผู้ชายน่ะมันเรื่องของนิสัย แต่คนที่จะปกครองแก๊งที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ มันก็ต้องมีสมองบ้างล่ะน่า!
“แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะครับ? ในเมื่อเรื่องที่คุณทำ มันก็คือการลอบพบกับพวกโนวาห์ไม่ใช่หรือไง?”ลาร์เฟียร์ยิ้มบางๆที่ไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศมันดีขึ้นมาสักเท่าไหร่ ร่างแกร่งเอนหลังพิงพนักเบาะนั่งแล้วยกมือขึ้นเท้าคาง ส่งสายตาท้าทายกลับไปยังคนจริงจังที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม
“...เรื่องนั้นผมทราบดีครับว่ามันไม่ต่างจากการทรยศ แต่ผมมีเหตุผลของผมที่ต้องไปพบกับทางฝ่ายนั้น และผมก็พิจารณาดีแล้วว่าเรื่องนี้มันไม่จำเป็นต้องดึงเวสเปอร์แฟมมิลี่เข้ามาเกี่ยวข้อง”อาราชิยิ้มตอบสายตาที่ส่งมา ท่าคุกเข่าตามแบบฉบับญี่ปุ่นส่งผลให้แผ่นหลังของเขายังยืดตรง ทำแบบนี้อาจจะเรียกได้ว่าเขาเป็นพวกยอมหักไม่ยอมงอ แต่อย่างไรก็ตามคำพูดของเทย์ริว อาราชิคนนี้ไม่มีคำโกหกแน่นอน!
เมื่อล่ามของทางฝ่ายลาร์เฟียร์แปลเสร็จ คนของทางฝั่งเจ้าพ่อหนุ่มก็แสดงปฏิกิริยาไม่พอใจออกมากันถ้วนหน้า เว้นรัตติกรไว้คนที่แม้บรรยากาศรอบข้างจะมาคุขนาดไหนเจ้าตัวก็ยังนั่งนิ่งเหมือนตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อย่างไรอย่างนั้น...ก็ไม่ใช่เรื่องของเขาจริงๆนี่
“จะบอกว่าการที่ผมมาถามคุณแบบนี้มันสอดไม่เข้าเรื่องสินะ?”
“ผมหมายถึงเรื่องที่ผมทำผิดก็คือการไม่ได้แจ้งไปที่เวสเปอร์เรื่องที่ไปพบโนวาห์ต่างหากครับ เรื่องของเทย์ริว เทย์ริวก็จัดการกันเองได้ ผมไม่แจ้งเพราะไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ กรุณาอย่าเข้าใจผิดไปเองครับ”
เจ้าพ่อหมุ่นขมวดคิ้วน้อยๆแล้วแค่นหัวเราะ คำพูดของอีกฝ่ายเหมือนจะสื่อว่าเรื่องของคนอื่นอย่างเข้ามาสอด เจ้าตัวพูดอย่างชัดเจนว่าตัวเองมีความผิดและยอมรับในเรื่องนั้น แต่กลับไม่ยอมบอกถึงเรื่องสำคัญที่ควรจะพูดตั้งแต่เนิ่นๆ
เรื่องที่ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เทย์ริว อาราชิเข้าพบกับพวกโนวาห์นั่นไงล่ะ...
ลาร์เฟียร์รู้ดีว่าผู้ชายที่ชื่อว่าเทย์ริว อาราชิคนนี้ไม่ใช่พวกกลับกลอกสองหัว หากแต่เป็นพวกหัวแข็งจนน่ารำคาญต่างหาก แล้วไอ้การที่ต้องมาเค้นหาเรื่องที่ต้องการฟังจากคนประเภทนี้น่ะยุ่งยากจนน่าปวดหัว
มังกรฟ้าแห่งแดนอาทิตย์อุทัย ชายหนุ่มที่ลาร์เฟียร์รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเจอว่าคนคนนี้ยึดถือความสัตย์เหนือสิ่งอื่นใด เป็นคนมุ่งมั่นเถรตรงแบบที่ยอมหักไม่ยอมงอ คนแบบนั้นน่ะหรือจะทรยศ เขาสงสัยตั้งแต่เห็นภาพที่ฟงเจิ้นฮ่าวให้มาแล้ว ว่าอาราชิจะไม่มีวันหักหลังเขาตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้ออกปากเอ่ยขึ้นมาเอง ภาพนั้นอย่างไรก็ต้องเป็นการจัดฉากแน่ๆ เพียงแต่ตอนนั้นเจ้าพ่อหนุ่มไม่แน่ใจว่ากลุ่มที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้คือพรรคพวกของฟงเจิ้นฮ่าวเองหรือมีเบื้องหลังอีกทีเป็นพวกโนวาห์กันแน่
และในเมื่อมังกรฟ้าไม่ยอมเอ่ยปากออกมาดีๆเอาแต่หัวแข็งอยู่นั่นมันทำให้เขาหงุดหงิด ไอ้นิสัยเถรตรงจนน่าหมั่นไส้ก็ดี ไอ้ที่มาทำเล่นหูเล่นตากับคนของเขานั่นก็ด้วย จะไม่ให้สั่งสอนเจ็บๆคืนบ้างมันก็ไม่ใช่ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์คนนี้น่ะสิ!
“จะบอกว่า ไม่ว่าทางเราจะตัดสินกับความผิดของการละเมิดสัญญานี่ยังไงคุณก็จะยอมรับสินะครับ?”เจ้าพ่อหนุ่มยิ้มน้อยๆอีกครั้งเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับวาจาถือดีของอีกฝ่าย ปล่อยให้อาราชิที่ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อพอจะรู้สึกตัวว่าเผลอปากดีไม่ดูสถาณการณ์ไปหน่อยจนทำเรื่องให้เข้าทางดอนแห่งปาเลอร์โม่เข้าเสียแล้ว
“หึ...แน่นอนครับ ผิดก็ต้องว่ากันตามผิด ผมเล่นตามกติกาอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงไปหรอกครับ”ผิดก็ต้องว่ากันตามผิด...อีกนัยหนึ่งก็คือบทลงโทษที่เทย์ริวจะได้รับต้องไม่รุนแรงเกินกว่าสิ่งที่สมควรจะโดนนั่นเอง ขึ้นชื่อว่ามังกร อย่างไรก็ไม่ใช่เหยื่อที่จะยอมให้เคี้ยวง่ายๆอยู่แล้ว!
“นั่นสินะครับ...พอดีเลย ผมได้ยินว่าเทย์ริวเปิดเส้นทางสินค้าใหม่กับพวกฮ่องกงไม่ใช่หรือครับ ท่าทางจะค้าขายกำไรดีเลยสินะ?”คิ้วเข้มที่พาดเฉียงเหนือดวงตาสีสนิมคมกริบเลิกขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงถาม ทว่าคนทั้งห้องกลับรู้แก่ใจดีว่าไอ้การถามแบบจะเปลี่ยนเรื่องนี่มันชี้แจงจุดประสงค์ของเจ้าของคำถามอย่างชัดเจน
ดูท่าเทย์ริวต้องแบ่งชิ้นปลามันให้กับเวสเปอร์แฟมมิลี่แล้วสิ...
“เพิ่งเริ่มใหม่ๆเลยยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางหรอกครับ แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับบทลงโทษของพวกผมรึเปล่าล่ะครับ?”อาราชิคิ้วกระตุกแล้วท้าทายกลับไปอย่างคนปากดี ชี้ให้เจ้าดอนนี่พูดออกมาเลยดีกว่าว่าต้องการแบ่งผลประโยชน์จากเส้นทางการค้าใหม่นี้กับเขาน่ะ!
“อยากให้เอาไปเกี่ยวเหรอครับ? ถ้าต้องการแบบนั้นผมก็ไม่ขัดศรัทธาหรอกนะ”ลาร์เฟียร์ยิ้มแล้วปรบมือเบาๆทำนองว่าเรื่องที่อีกฝ่ายเสนอมามันเข้าท่า พวกเถรตรงใจร้อนอย่างคุณชายอาราชินี่ล่อให้มากินเหยื่อง่ายชะมัด!
“อึก...จะเอายังไงก็ว่ามา!”สุดท้ายแล้วท่าทางเย็นๆแบบที่หัวหน้าตระกูลพึงมีก็เริ่มทลายลงช้าๆ อาราชิสบถในลำคอเมื่อเพิ่งมารู้ตัวว่าตกลงไปให้หลุมที่อีกฝ่ายบรรจงขุดขึ้นมาให้เพื่อดึงเอาไอ้อารมณ์ร้อนๆของเขาออกมา จริงๆคนใจร้อนอย่างเขาให้มาทำท่าเป็นพวกมีสติดี นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวน่ะมันไม่ใช่มาตั้งแต่แรกแล้วนี่หว่า!!
“ไม่มากหรอกครับ ผมต้องการแค่ส่วนแบ่งสิบเปอร์เซ็นต์กับความจริงของสาเหตุที่ว่าทำไมคุณต้องไปพบกับโนว่าห์ลับหลังผมเท่านั้นก็พอ ไม่ยากใช่ไหมล่ะครับ?”เจ้าพ่อหนุ่มยิ้มกว้างแล้วฝ่ายมือออกตรงหน้าเหมือนเรื่องที่คุยกันอยู่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ในขณะที่รัตติกรที่นิ่งฟังมาตั้งแต่ต้นแอบหัวเราะในใจเมื่อประโยคล่าสุดของลาร์เฟียร์มันเหมือนกับพวกเมียหลวงถามสามีเรื่องซ่อนชู้ยังไงชอบกล...
พูดออกมาได้คิดก่อนบ้างมั้ยเนี่ย...
ดวงตาเรียวสีน้ำตาลไหม้กวาดมองรอบห้องตามคำสั่งที่ได้รับมาว่าให้สังเกตุการณ์สิ่งต่างๆโดยรอบนอกเหนือจากเนื้อหาของการประชุม รัตติกรเห็นว่าภายในห้องนอกจากพวกเขาแล้ว คนของเทย์ริวก็มีจำนวนอยู่แทบจะพอๆกัน ส่วนใหญ่มีท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนเมื่อเห็นว่าพวกของตนต้องมาเสียท่าให้กับผู้มาอาศัยชั่วคราวจากต่างถิ่น
แต่จากในกลุ่มนั้น รัตติกรเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำมือไว้แน่นแล้วมองไปทางอาราชิด้วยสายตาที่ต่างไปจากลูกน้องคนอื่นๆ แน่นอนว่ามันมีความเจ็บแค้นที่ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่นอกเหนือจากนั้นคือท่าทางเสียใจกับอะไรบางอย่าง ฝ่ามือที่กำแน่นอยู่ข้างตัวนั้นสั่นน้อยๆอีกต่างหาก...
มองดีๆรัตติกรถึงเห็นว่ามีอีกอย่างที่หมอนี่ไม่เหมือนกับลูกน้องคนอื่นๆ...
มือที่ผ่อนจากการกำแน่นนั้นเผยให้เห็นนิ้วที่ไม่ครบห้า หมอนี่ไม่มีนิ้วโป้งข้างขวา...
มันต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่
หนุ่มชาวไทยจดจำใบหน้าของอีกฝ่ายให้ขึ้นใจแล้วหันกลับมาฟังบทสนทนาของการประชุมต่ออีกครั้ง ดูเหมือนเรื่องราวจะดำเนินมาถึงบทสรุปแล้ว ถึงจะพอเดาไว้เรื่องคร่าวๆแล้วก็เถอะ แต่ไอ้เจ้าพ่อนี่ชอบจังเลยนะกับการพูดจาตะล่อมเหยื่อให้มาติดกับแบบนี้เนี่ย น่าหมั่นไส้เป็นบ้า
“ผมไม่มีปัญหากับส่วนแบ่งสิบเปอร์เซ็นต์จากการเปิดเส้นทางสินค้าใหม่นี่หรอกนะครับ แต่เรื่องสาเหตุที่ผมต้องไปพบกับพวกโนวาห์นี่มันจำเป็นต้องรู้ให้ได้ถึงขนาดนั้นเลยหรือครับ?”อาราชิที่แพ้เกือบทุกประตูบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิด แล้วอย่างนี้ที่เขาพยายามปิดไม่ให้พวกเวสเปอร์รู้แทบตายมันจะมีประโยชน์อะไรกันล่ะ? ถ้าความจริงที่เก็บเงียบเอาไว้ถูกเผยออกมา เขาจะแน่ใจได้ยังไงว่าหลังจากนี้พวกมาเฟียอิตาลี่จะไม่ส่งคนมาเก็บกวาดคนของเขาย้อนหลัง
“จริงๆผมอยากได้คำตอบมากกว่าส่วนแบ่งเล็กน้อยนั่นอีกนะครับมิสเตอร์เทย์ริว”เจ้าพ่อหนุ่มยิ้มเยาะแล้วทิ้งจังหวะการสนทนาเพื่อให้เวลาตัดสินใจแก่มังกรฟ้า ตอนนั้นเองระหว่างการพักสายตาหันไปมองรอบข้าง เจ้าพ่อหนุ่มก็ได้เห็นว่าลูน่าของเขากำลังจ้องเป๋งไปยังลูกน้องคนหนึ่งของเทย์ริวอย่างสนอกสนใจเกิดเหตุ พอเจ้าตัวหันกลับมาแล้วเห็นว่าเขาจ้องอยู่ หนุ่มชาวไทยก็ถลึงตาใส่แล้วหันขวับไปอีกด้านทันควัน
มันน่าจับมาฟัดจริงเว้ย! ไอ้สิงโตดื้อนี่!!
“ฟราน เรียกลูน่ามาหาฉันหน่อย”เจ้าพ่อหนุ่มหันไปพูดเบาๆกับเลขาพ่วงหน้าที่ล่ามอยู่ในขณะนี้ ฟรานเลิกคิ้วน้อยๆอย่างประหลาดใจแต่ก็เอี้ยวตัวไปเรียกหนึ่งในการ์ดที่ยืนอยู่ให้ไปเรียกรัตติกรมาหาตามคำสั่ง
จะมาสวีทอะไรกันกลางที่ประชุมล่ะครับดอน...
การ์ดที่เดินไปถึงข้างตัวหนุ่มชาวไทยก้มลงบอกคำสั่งจากนายเหนือหัวแล้วยืนรอให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมาด้วยกัน เห็นรัตติกรขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็ยอมตามมาแล้วนั่งลงข้างหลังเขาเยื้องไปทางเลขาหนุ่ม
“มีอะไร?”เสียงหวานกระซิบถามห้วนๆเป็นภาษาอิตาเลี่ยนพร้อมกับสายตาที่มองแบบเขม่นเล็กน้อยยิ่งทำให้เจ้าพ่อหนุ่มอยากลากเจ้าตัวเข้าห้องยิ่งขึ้นไปอีก เห็นแมวหยิ่งๆแบบนี้แล้วอยากกำราบให้เชื่องชะมัด!
“เมื่อกี้มองอะไร?”
“หา?”
“ฉันถามว่าเมื่อกี้เธอมองอะไรอยู่”คนหน้าสวยได้ยินแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจที่อีกฝ่ายมาถามอะไรแปลกๆเอาตอนนี้
“ใช่เรื่องที่คุณต้องเรียกผมมาถามตอนนี้มั้ยเนี่ย? ผมก็แค่มองลูกน้องของคุณอาราชิเขาก็แค่นั้น”จบประโยคลาร์เฟียร์ก็เหมือนได้ยินเสียงอะไรลั่นเปรี๊ยะในสมองตัวเอง...
คุณอาราชิงั้นเหรอ?
ทีเรียกชื่อเขาเจ้าสิงโตนี่แทบไม่ยอมเรียกเลยด้วยซ้ำ แต่กับไอ้มาเฟียยุ่นที่เจอกันไม่ถึงชั่วโมงดีเรียกคุณอาราชิแล้วเนี่ยนะ? มันน่า....
“แล้วสรุปเรียกมามีอะไร? จะถามแค่ผมมองอะไรอยู่งั้นเหรอ คุณบ้ารึเปล่าเนี่ย?”รัตติกรมองไปทางเจ้าพ่อหนุ่มแบบเย้ยหยันแล้วหันไปมองทางอื่น เวลาพูดไม่มีหางเสียงยังไม่พอ ชื่อก็ไม่ยอมเรียก แถมพูดดีๆสักครั้งก็ยังไม่เคยพูดอีกต่างหาก ถึงจะเพิ่งมาสังเกตุชัดๆเอาตอนนี้ก็เถอะ แต่ไอ้ความหงุดหงิดที่พุ่งริ้วๆอยู่ในอกนี่มันอะไรกัน ดอนอย่างเขาต้องมาอารมณ์เสียกับเรื่องบ้าบอเล็กน้อยอย่างนี้แล้วเหรอเนี่ย?
“ฉันสั่งให้เธอมาสังเกตุการณ์เพิ่มเติมไม่ใช่ให้มานั่งส่องผู้ชายนี่ เห็นท่าทางเหมือนเธอเจออะไรฉันก็อยากรู้บ้างก็เท่านั้น ข้อมูลเล็กๆน้อยๆบางอย่างที่เธอคิดว่าไม่สำคัญมันอาจะเป็นประโยชน์ต่อฉันก็ได้ เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้รึไง?”เจ้าพ่อหนุ่มชี้แจงจุดประสงค์พร้อมเอ่ยกัดอีกฝ่ายไปด้วยในตัว
“เฮ้ย คุณ!”
“ชู่ว...คุณลูน่า อย่าเสียงดังสิครับ ประชุมสำคัญอยู่นะ”ฟรานเอ่ยขัดขึ้นเบาๆเมื่อเห็นท่าว่าเหตุการณ์ชักจะเลยเถิด รัตติกรเลยได้แต่ถลึงตาใส่แผ่นหลังกว้างของเจ้าพ่อหนุ่มที่ยังตีสีหน้ายิ้มเยาะใส่คนของเทย์ริว แต่วาจาเราะร้ายนั่นกลับพุ่งตรงมากัดเขาโดยเฉพาะ
ไอ้เจ้าคนสองหน้าเอ๊ย!
“แล้วตอบฉันได้รึยังว่าลูกน้องของคุณอาราชิที่เธอดูอยู่มันมีอะไร?”
“เหอะ ผมแค่เห็นเขาไม่มีนิ้วโป้งขวาก็เท่านั้น มองจากฝั่งคุณคงเห็นไม่ชัดน่ะนะ ที่นิ้วนั้นปิดผ้าพันแผลไว้ผมคิดว่าน่าจะเป็นแผลที่เกิดขึ้นไม่นาน แต่ผ้าพันแผลไม่มีรอยเลือดอะไร ก็แสดงให้เห็นว่ามันไม่ใช่แผลสดใหม่ กะเอาคร่าวๆมันอาจจะพอดีกับช่วงที่ฟงเจิ้นฮ่าวส่งจดหมายมาให้คุณก็ได้”รัตติกรชี้แจงแล้วมองไปทางลูกน้องคนที่ว่า ลาร์เฟียร์กับฟรานที่ได้ยินเหมือนกันเลยมองตามไปด้วย
“อีกอย่างคือเขาดูท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนมากกว่าคนอื่นๆตอนที่คุณบอกว่าต้องการจะทราบความจริง ผมว่ายังไงงานนี้หมอนี่ก็มีเอี่ยว”หนุ่มชาวไทยสรุปความพร้อมกับยักไหล่ ข้อมูลที่ได้รับทำให้ลาร์เฟียร์พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ยิ่งรวมกับข้อมูลในตอนแรกที่ได้มาจากสายสืบของเวสเปอร์เรื่องมันก็ชักจะเข้าเค้า...
ผิดไปแต่ข้อมูลของเวสเปอร์บอกว่างานนี้มีคนตาย แล้วลูกน้องของเทย์ริวที่น่าจะเป็นสาเหตุของปัญหาคราวนี้กลับยังยืนอยู่ตรงนั้นได้โดยเสียไปแค่นิ้วโป้งขวาล่ะ?
ดูท่างานนี้คนทรยศที่โนวาห์ตั้งเป้าไว้จะไม่ได้มีแค่เทย์ริวกลุ่มเดียวซะแล้วสิ...
“คิดออกรึยังครับว่าสาเหตุมันคืออะไร?”ปล่อยเวลาให้อีกฝ่ายคิดมานานเกินพอ ลาร์เฟียร์จึงเริ่มบทสนทนาขึ้นใหม่อีกครั้ง อาราชิถอนหายใจเบาๆแล้วมองฮาซึกิของเขาที่นั่งอยู่ข้างหลังเจ้าพ่อหนุ่มแล้วก็พอเดาเรื่องได้ว่าอีกฝ่ายคงพอจะระแคะระคายเรื่องนี้ ดีไม่ดีอาจจะได้ข้อสรุปแล้วก็ได้จากการพร้อมใจกันมองไปยังลูกน้องของเขา
“สัญญาก่อนว่าพวกคุณจะไม่เข้ามายุ่งกับคนของผมถ้าผมพูดออกไปแล้ว”มังกรฟ้าเอ่ยข้อต่อรองสุดท้ายแล้วจ้องเขม็งไปยังเหนือหัวของเวสเปอร์ที่พยักหน้าตอบรับแล้วผายมือมาทางเขาเป็นเชิงบอกให้พูด อาราชิก้มหน้าครุ่นคิดแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาหันกลับไปมองลูกน้องคนที่เกือบจะเป็นตัวกลางของเรื่องนี้แล้วส่งแววตาแสดงความเสียใจออกไป ผู้รับไว้เพียงแค่ส่ายหน้าบอกไม่เป็นไรแล้วหลับตาลงยอมรับผลที่จะตามมาหลังจากความจริงถูกเปิดเผย
“ที่ผมต้องไปพบกับโนวาห์...เพราะลูกน้องของผมถูกจับเป็นตัวประกันครับ”จบคำที่อาราชิพูดออกมา ลูกน้องของเทย์ริวส่วนใหญ่ก็ก้มหน้าลงกันหมดคล้ายกับเรื่องนี้เป็นความผิดของพวกตน
มันน่าเจ็บใจขนาดกันล่ะที่ต้องให้หัวหน้าของตัวเองต้องลดศักดิ์ศรีที่เจ้าตัวยึดถือยิ่งชีพลงแล้วถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศทั้งที่ความจริงก็แค่เพียงรักพวกพ้องจนไม่อาจยอมให้ใครตายจากไปง่ายๆ แต่นี่ก็คงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สำหรับเทย์ริว คุณชายอาราชิก็เปรียบกับเป็นหัวใจดวงสำคัญที่ยึดกุมให้เทย์ริวรวมเป็นหนึ่งเดียวกันนั่นแหละ
“นอกจากเทย์ริว...มีคนอื่นอีกรึเปล่า?”ความจริงที่ไม่เกินไปกว่าที่คาดนั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาประหลาดใจเท่าใดนัก ลาร์เฟียร์ถามเรื่องที่สงสัยต่อทันทีราวกับไม่คิดจะเอาความใดๆสร้างความประหลาดใจให้กับเทย์ริวที่ได้ฟังข้อความที่ถูกแปลออกมา
ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ ใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ตอนที่ไปรัสเซียผมไม่ได้พบใครนอกจากพวกโนวาห์...แต่ช่วงนั้นก็ได้ข่าวมาจากทางสึกิวาระว่ามีปัญหาเหมือนกัน ไม่แน่ว่าอาจจะโดนเหมือนผมก็ได้”มังกรฟ้าเอ่ยพาดพิงไปถึงกลุ่มของคู่แข่งตัวฉกาจทางฝั่งคันโต ไม่รู้เหมือนกันว่าหมอนั่นได้ไปพบโนวาห์เพื่อเอาตัวประกันคืนเหมือนเขาหรือเปล่า แต่ถ้าให้เดาก็คงไม่...
สึกิวาระ ชิอง ขึ้นชื่อเรื่องความเย็นชาเสียยิ่งกว่าอะไร!
“สึกิวาระงั้นเหรอ...เอางี้ละกันครับ ไหนๆผมก็มาญี่ปุ่นทั้งที ผมฝากคุณอาราชิช่วยจัดการเรียกประชุมพันธมิตรของเราทั้งญี่ปุ่นหน่อยแล้วกัน ถ้าได้มะรืนนี้จะดีมากครับ สถานที่แล้วแต่พวกคุณจะเลือก เป็นไปได้ขอให้มาครบทุกคนนะครับ เรื่องแค่นี้ผมว่าสำหรับเทย์ริวคงทำได้ไม่มีปัญหาอะไร”ลาร์เฟียร์ที่พอจะเดาเรื่องราวได้ทั้งหมดแล้วตัดสินใจบอกสิ่งที่ต้องการออกไป แน่ล่ะว่าการจะรวมคนทั่วทั้งญี่ปุ่นให้มาเจอกันในเวลาแค่เพียงวันสองวันมันยุ่งยาก แต่ด้วยอิทธิพลของเทย์ริวและเวสเปอร์ เขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา
ถ้าจะมีคนต้องจัดการปัญหานี้ก็คือพวกเทย์ริวอยู่ดี ถือเป็นบทลงโทษอีกอย่างก็แล้วกัน
อาราชิที่ได้รับคำขอร้องปนคำสั่งอ้าปากหวอ เวลาสองวันกับการต้องเรียกประชุมพันธมิตรทั่วทั้งญี่ปุ่นเนี่ยนะ? ยิ่งไม่อยากจะคิดว่าเขาต้องส่งคำเชิญไปให้พวกสึกิวาระจอมหยิ่งนั่นด้วยอีก ไอ้เจ้าพ่อมาเฟียอิตาลี่นี่คิดว่าการเหมาจองเรียวกังสักแห่งเพื่อเป็นที่ประชุมในฤดูท่องเที่ยวแบบนี้มันเป็นเรื่องง่ายนักรึไงหา??
“ตกลงสินะครับ?”ดอนแห่งปาเลอร์โม่ยักคิ้วขึ้นน้อยๆเป็นเชิงถาม ปล่อยให้เจ้าตระกูลเทย์ริวตากระตุกแล้วกัดฟันตอบรับทั้งๆที่ไม่ได้เต็มใจเลยแม้แต่น้อย...
อย่าให้ถึงทีของลูกผู้ชายแดนอาทิตย์อุทัยบ้างนะเว้ย!!
___________________________________
ฮิ้วว จบไปอีกตอน :a2: o7 o7 o7
หายไปนาน คราวนี้ไม่ได้ตาฝาดนะ กลับมาแล้วครับ ^^ //ไหดองกำลังเค็มได้ที่...แอ้ :z10: :z3:
สำหรับคนที่สงสัยว่าผมหายไปไหน ถ้าอ่านเรื่องทำดีได้ดีฯตอนล่าสุดก็คงรู้กันแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้(และไม่รู้ว่าจะอยากรู้ด้วยรึเปล่า ;w;) ผมขอก็อปเอามาตอบละกันเน้อ //คือมันย้าวยาว...
“อย่างแรกช่วงที่ยังไม่ปิดเทอมก็อย่างเคยนั่นแหละครับคือเรียนหนัก พวกศัพท์คันจิโน่นนี่ต้องจำเยอะมาก มันเลยรู้สึกครึ่งๆกลางๆที่ต้องมาแต่งไปด้วยน่ะครับ มันเหมือนพอแบ่งมาทำแล้วผมทุ่มได้ไม่สุดก็เลยหยุดไว้ก่อน ;w; แล้วก็ปิดเทอมตอนเดือนมีนาครับ//ปิดตั้งนานแล้วเอ็งเพิ่งมาได้เริ่มลงเดือนมิถุนา...Orz
ก็...ก็ไม่ได้ว่างน้า เดือนมีนาเพิ่งปิดใหม่ๆเลยปล่อยผีได้ประมาณครึ่งเดือนครับ ช่วงปิดนี่ต้องเขียนบทละครเวทีสาขาด้วย แล้วตอนปลายๆมีนาอยู่ๆก็มีเพื่อนอีกคนติดต่อมาว่า เขียนโดลงงานบาส(งานKuroko No Basket Only Eventครับ)ดีมั้ย บูทต้องสองคนกุไม่มีเพื่อนไปว่ะ ก็เลยได้ฤกษ์ไปเขียนโดกับเพื่อนครับ ;w; //แวะข้างทางนั่นเอง งานจัดไปวันที่4พฤษภาที่ผ่านมาครับ ตรงจุดนี้ขอโทษจริงๆครับ TwT ว่าตรงๆก็คือเพื่อนเขียนโดผมเขียนฟิคครับ ความยาวประมาณ75หน้าA5 //ความยาวก็ประมาณเรื่องมาเฟียถึงตอนที่สิบกว่าๆน่ะครับ
จุดนี้สอนให้รู้ว่าถ้าผมจะแต่งเยอะๆเร็วๆมันก็ทำได้นี่หว่า ต้องมีเดธไลน์มาลนตูดก่อนมั้งเนี่ย//โคตรแย่อ่ะ ถ้าสนใจอ่านผมลงไว้ที่เด็กดีนะครับ จริงๆกำลังจะเปิดจองรอบไปรษณีย์ด้วย ถ้าสนใจก็ลองไปดูได้นะฮะ //คู่ฟ้าไฟครับ =w=//ไอ้นี่ขายของนี่หว่า เง้อ 555 ตบตีได้ฮะ”
จบการก็อปข้อความ 555 กลับมาที่ตระกูลมาเฟียของเรากันดีกว่า
ว่าไปแล้วตอนนี้ผมแต่งเป็นอาทิตย์ๆเลยนะเนี่ย...//ปาดเหงื่อ :o8:
คือผมไม่ถูกกับบรรยากาศเครียดๆหรืออะไรที่ต้องใช้สมองเท่าไหร่ง้า ;w; แต่งตอนนี้ทีแทบจะระเบิดตัวเองได้ครับ 555 พยายามจะให้เป็นฉากที่ลับฝีปากแสดงอำนาจคุณป๋าเสียบ้างหลังจากที่โชว์หวานหลอกกินเด็กมาสองตอนได้ :hao7:
จะว่าไปผมบอกอายุลาร์เฟียร์กับรัตติกรรึยังหว่า...เหมือนจะยังแฮะ = =
รัตติกรอายุ 24 ส่วนคุณป๋าลาร์เฟียร์...เอ่อ...บอกดีมั้ยนะ 555 ให้ทายละกันครับ :hao3: :hao3:
ตอบไปได้อะไรมั้ย...=w= นั่นจิ เอาเป็น ตอบถูกคนแรกรีเควสอะไรก็ได้หนึ่งอย่างละกันครับ //เอาที่ผมทำได้และอย่าทำร้ายกันนะ 55 //เด็กดีคนนึงกับในเล้าอีกคนนะครับ ประกาศผลตอนลงตอนหน้าน้อ :-[
เอาล่ะพล่ามมาเยอะ...สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านมานานอาจจะต้องย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าด้วยต้องขอโทษจริงๆน้า ; w ; ตอนหน้าจะรีบมาลงนะครับ เดี๋ยวไปปั่นคุณเอิร์ธส่งก่อนแล้วจะสลับมาเรื่องนี้อีกที แอ้...เป็นไปได้...ขอให้เป็นไปได้...อยากแต่งให้ได้เยอะๆในช่วงที่ยังปิดเทอมอยู่ครับ //ผมเปิดสิงหาอ่ะ นี่เหลืออีกกี่เดือนวะเนี่ย :z3: :z3: :katai4: :katai4:
คือเปิดเทอมไปผมว่าผมไม่มีเวลาแน่นอนร้อยล้านเปอร์เซ็นต์ ;w; น่าจะได้หายวืดไปอีกครับ แบบว่าทั้งปีสามที่เรียนหนักโฮกๆ ทำละครเวทีเป็นทั้งฝ่ายเขียนบททั้งหัวหน้าฝ่ายฉาก...น่าจะได้ลาลับจริงๆครับ :heaven
แง...อยากได้ห้องมิติแยกของโดเรมอน เอาแบบตัดเน็ตด้วยผมจะได้ไม่เผลอแวบข้างทางบ่อย แง้ว... :z10: :o12:
ตีสามกว่าคนแต่งเริ่มเพ้อ ควรไปนอน...ครับไปนอนแล้วนะ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับทุกคน สำหรับใครที่เพิ่งตื่นมาอ่านก็อรุณสวัสดิ์นะครับ o14 o14
แล้วเจอกันน้า ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านและขอโทษที่ทำให้ต้องรอและเข้ามาทวงนะครับ :-[
Namioto Yo
-
ตอนเห็นมาต่อเหมือนน้ำตาจะไหล
:sad4: :sad4:
นึกว่าจะไม่ได้อ่านเรื่องนี้ต่อซะแล้ว
กระซิกๆ ยังไงก็สู้ๆ นร้าาา เป็นกำลังใจให้ จุบุจุบุ
-
ควรจะกรี๊ดร้องด้วยภาษาอะไรดี คนขียนกลับมาต่อแล้วจริงๆ (นานจริง ถึงขนาดกลับไปอ่านทวนอีกรอบเลยนะเนี่ย)
-
ฮึกกกก ดีใจคนเขียนกลับมา
เราอ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบมากเลยย
ขอเดาอายุก่อน ดอนอายุน่าจะ 32 ป่ะ
ขอให้ถูก เพี้ยงงงงง
-
ดีใจมาก.......ดีใจสุดๆที่มาต่อเรื่องนี้แล้ว
รอเรื่องนี้มาตลอด........
และก็ยังรอเรื่องนี้เสมอนะครับ
ขอบคุณน้องคนแต่งมากครับ
มาแต่ละตอน ไม่เคยผิดหวังเลย
หากว่างเมื่อไหร่ มาต่ออีกนะครับ
-
ขยี้ตาอยู่2-3ที คิดว่าตาฝาด!!! เอ็งมองเลขผิดป่ะวะ?
แต่ม่ายช่ายยยยย มาแล้วววว ดอนกะลูน่ามาละจ๊ะ อิอิ
คิดถึงเรื่องนี้มากๆ ตอนคนแต่งหาย เราก็หายด้วย เพราะเรียนหนักคือกัน
จะรอตอนต่อไปอย่างจดจ่อนะค้าาา อ่านอีก100รอบก็ไม่เบื่อ ลูน่าจังง
ขอบคุณค่าา :mew1:
-
ฮึก คนเขียนกลับมาแล้วววววววววว โอ้เย้ จะรออ่านตอนต่อไปนะค่าา
-
สิ้นหวังกับการรอคอยไปแล้ววววว อย่าหายไปอีกนะคะ ชอบเรื่องนี้ พล็อตดี บรรยายเริด สนุกมาก ชอบสุดๆ มาต่อเรื่อยๆนะคะ
-
:sad4: ต้องอ่านใหม่ทั้งหมด
-
ดีใจที่มาต่อ
:mew4:
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วง่ะ
ดอนอายุเท่าไหร่ไม่รู้หรอก
คิ~คิ
-
อันนี้ของจริงแหะ รอๆๆๆๆตอนต่อไปจ้า o13
-
มาต่อแล้วววว ดีใจจังงง~ :mew1: :mew1:
-
o13 :o8:
-
ไม่ได้ตาฝาดสินะ!!!!ะ TTT^TTT
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด แทบตาจิไหล อัพแล้วๆๆๆๆๆ
:hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
-
5555 ครั้งแรกที่เห็นเรืองนี้อัพ
แบบ เฮ้ย! ตาฝาดป่ะเนี้ยยย จริง ๆ อ่ะ
พออ่านในวงเล็บต่อถึงกับแอบขำหน่อย ๆ
คนเขียนหายไปนานจริงไรจริง 555
ในที่สุดก็กลับมาและ เย้ ๆ
อ่านตอนล่าสุด คุณหนูจันทร์(ลูน่า)ก็ยังคงความหยิ่งปนน่ารักไว้เหมือนเดิม
แต่เหมือนเจ้าพ่อมาเฟียจะขี้หึงขึ้นกว่าเดิมนิด ๆ
สุดท้ายนี้เราชอบภาษาของคนเขียนมากกกกกก
อย่าหายไปนานอีกนะ นะ ฮึก ๆ :monkeysad:
-
ตื่นเช้ามาขยี้ขี้ตาเข้าเล้า
อุ๊ยแม่เจ้า! เค้าไม่ได้ตาฝาดจริงๆด้วย ลูน่าของเค้า(?)มาแล้วววว :impress3:
คิดถึงเรื่องนี้มากมายอ่านกี่ที่ก็คิดถึงทั้งดอนและลูน่า(แต่ตอนนี้เค้าแอบชอบคุณชายอาราชิด้วยนะ แบบว่าดูท่าทางแล้วน่าฟัดมาก)
อืมม ส่วนเรื่องอายุของดอนนี่ขอเดาว่าน่าจะซักสามสิบหน่อยๆ อาจเดาว่าซัก 35แต่กลัวแก่เกิ๊น(เกือบหนึ่งรอบของลูน่าแน่ะ) เพราะงั้นขอเดาที่อายุ31 ปีค่ะ ห่างกันซักเจ็ดปีกำลังดี
ว่าแต่ตอนเฉลยขออายุคุณชายอาราชิด้วยได้เปล่าคะ แบบว่าเดาจากหัว(ผม)สีฟ้า น่าจะอยู่ในวัยจ๊าบมาก(ศัพท์โบราณได้อักฉัน :laugh: )
-
ตาไม่ฝาดช้ะ
ดีใจมากเลยยยยยยย
จุ้บๆ
-
:mc4: ต้อนรับการกลับเล้า ครับ
จริง ๆ ก่อนอ่านตอนนี้ต้องกลับไปปูตอนที่แล้วก่อน เพราะลืมมมม ......
-
นึกว่าตาฝาดมองพลาด555555555
ดีใจมี่เรื่องนี้กลับมาต่อแม้ว่าต้องย้อนอ่านใหม่ทั้งหมดก็ตาม ชื่ออิลุงยังลืมเลย ( ฮา) :z2:
เดาอายุลุงน่าจะ36เพราะดูแกฟินกับการแทะเลมหญ้าอ่อนมาก :z1:
-
ถึงกับขยี้ตาซ้ำๆ 55555
ดีใจที่คุณคนเขียนกลับมา ขอสารภาพว่าแอบลืมเนื้อเรื่อง
มาต่อบ่อยๆนะคะ ขอตัวไปอ่านก่อนละ ฟิ้วว
:hao5:
-
อ้าว เฮ้ย ไม่ได้ตาฝาด
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ันั่งอ่านไปสามย่อหน้า เอิ่ม ตอนที่แล้วมันถึงตอนไหนนะ
แต่ก็ช่างมันเหอะ อ่านต่อๆ
อิอิ
ขอทายอายุดอนว่า 33 ละกัน
-
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ ชอบเนื้อเรื่องกับตัวละครมากๆ มาต่อเร็วๆนะค๊ะ
-
อายุนี่ขอเดาว่า36 ค่า หายไปนานแต่รอได้ค่า o13
-
ดีใจมากๆเลยค่ะ :heaven
เห็นครั้งแรกนึกว่าตาฟาด ต้องมองใหม่ 2 - 3 ครั้งถึงจะแน่ใจ
ยังไงก็รอตอนต่อนะค่ะ เดาอายุป๋าว่า 27 ไม่ก็ 31 ละกันค่ะ อิอิ :hao6:
-
:sad4: ในที่สุดก้อมาเย้ๆๆๆๆๆ แต่ว่าเรียนหนักอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยน้าา
-
ตกใจแปป เรื่องนี้มาอัพ!!!! ต้องไปอ่านใหม่อีกรอบซะแล้ว
มาต่อไวๆๆๆๆๆๆๆๆนะคะ :impress2:
-
ดีใจมากๆๆๆ คิดว่าจะไม่ได้อ่านต่อซะแล้ว :hao5:
ขอบคุณที่มาแต่งต่อ
:3123:
-
ป๋าลาเฟียร์นี่น่าซักประมาณ 30 เนาะ
-
มาแล้วววว :impress2: รอคอยมานานแสนนาน 5555
เป็นกำลังใจให้คนเขียนน้า ~
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ตาไม่ฝาดจริงๆ มาอัพแล้ว
น้ำตาจะไหล
-
ลูน่าก็อย่าไปกวนเขาสิ
-
นี่คือนั่งสตั้นไป5วิแล้วถามคอมว่าจริงใช่มั้ย
-
ขอสารภาพผิดว่าลืมเนื้อเรื่องไปกว่าครึ่งแล้วล่ะ คงต้องกลับไปทวนใหม่ :m28:
-
คิดว่าตาฝาด!! :mew3: กรี้ดดดด :hao7: มาต่อแย้วววววว :mew1:
-
พอเห็นตอนใหม่ทั้งตกใจทั้งดีใจเลยค่ะ
แต่รวมๆแล้วดีใจมากกว่านะ อิอิ
ยังไงก็รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
แล้วก็อายุของส่วนคุณป๋าลาร์เฟียร์ เดาว่า 35 ค่ะ
-
สนุกมาก ทุกทีอ่านแต่ในเด็กดีแต่ตอนนี้อยากเข้าเล้าบ้าง ตอนที่ยังไม่อัพอ่านวนประมาณ 3 รอบได้แล้ว รีบมาต่อน่ะอยากเห็นลูน่าพยศอีก อายุของลาร์เฟียร์น่าจะประมาณสัก 33 ค่ะ ความเป็นผู้ใหญ่สูง แต่ชอบเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อนน่ะค่ะ
-
ขอบคุณ :)
-
เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรกค่ะ ประทับใจค่าาา ป๋าหื่นได้ใจอ่ะ อดีตลูน่าน่าเศร้าไปนะ :o12: ได้ป๋ามาปลอบใจละกัน ฮ่าๆ แอบเห็นคอมเม้นอื่นๆ แล้วใจมันตุ้มๆต่อมๆ ท่าทางจะได้ปูเสื่อรอตอนต่อไปอีกยาวรึเปล่าคะ? :a5:
ปล. ทายอายุป๋า น่าจะสัก 34 รุเปล่าหนาาาาาา
-
เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก
สนุกมากเลยครับบบ
รอต่อไปๆๆๆ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด กรี๊ดดดดดดดดด
:z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ปลื้มมมมม สุดๆๆๆๆ
-
ตกใจจจจ
ตื่นเต้นมาก เกือบลืมเรื่องแหนะ
แต่ก็จำได้อยู่ ก็มันสนุก :hao7:
ขอบคุณที่มาต่อครับ :L2:
-
โห ตกตะลึงพรึงเพริด มีตอนใหม่มา
-
เพิ่งได้มาอ่านค่ะ สนุกมากๆเลย
ลูน่าอดีตเศร้าอะ หวังว่าการทำงานให้ป๋าจะไม่ทำให้น้องซวยไปมากกว่านี้นะคะ
รอติดตามค่า
-
อัพแล้วววQAQ :ling1: :ling1:
-
อ้ากกกก งานเยอะเลยเพิ่งมาเก็น ดีใจสุดๆเลย เย้ๆๆๆๆๆ :oni1: :oni1: :a1:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.26
หลังจบจากการประชุมก็เป็นเวลาสิบโมงกว่าๆ กลุ่มของเวสเปอร์แยกย้ายมารวมกันที่เรือนแยกซึ่งเป็นส่วนที่แบ่งเอาไว้สำหรับให้แขกของเทย์ริวพักโดยเฉพาะ ในห้องนั่งเล่นขนาดกลางที่เมื่อเปิดประตูออกไปแล้วจะเชื่อมต่อกับสวนญี่ปุ่นกว้างขวางนั้นกลายเป็นที่ประชุมย่อยๆของลาร์เฟียร์รวมไปถึงเหล่าหัวกะทิของเวสเปอร์แฟมมิลี่ โดยที่รอบข้างนั้นมีเหล่าการ์ดที่ตามมาด้วยป้องกันเอาไว้อย่างแน่นหนา
เนื้อหาของการประชุมช่วงแรกพูดถึงการเข้าไปคุยกับอาราชิเมื่อตอนเช้า เลยไปถึงเป้าหมายของแผนการต่างๆของโนวาห์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในช่วงนี้ กว่าจะได้ข้อสรุปก็ปาไปเกือบเที่ยง แถมดูเหมือนพรุ่งนี้ก็อาจจะมีประชุมแบบนี้อีกรอบด้วย รัตติกรผู้ที่ช่วงนี้ห่างหายหนังสือของตัวเองมานานเหลือเกินก็แทบจะเกิดอาการลงแดงซะให้ได้
ค่าตอบแทนอย่างหนึ่งที่เขาควรได้รับจากการตกปากทำงานร่วมกับเจ้าพ่อนี่คือหนังสือยี่สิบเล่มต่อวันไม่ใช่รึไง? ตั้งแต่มาถึงญี่ปุ่นเขายังไม่ได้สักเล่มเลยเนี่ย ที่ผ่านแต่ละวันมาได้ก็อาศัยหนังสือเล่มเดิมที่เขาเอาติดตัวมาเท่านั้น นี่กะจะผิดสัญญาจ้างกันรึไง?
ลาร์เฟียร์ที่ส่งต่องานให้ฟรานแจกแจงต่อไปให้ลูกน้องอีกทอดหนึ่งรู้สึกเสียวสันหลังน้อยๆ พอหันกลับไปมองว่ามันเกิดจากอะไร ดวงตาสีน้ำตาลไหม้คู่สวยก็จับจ้องเขาอยู่อย่างไม่วางตา รัตติกรนั่งอยู่แถวระเบียงที่ยื่นออกไปในสวน ร่างเพรียวบางถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเสื้อโค้ทกันลมสีขาวสะอาดตากลืนไปกับสวนทางด้านหลังที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ แก้มใสๆแดงเล็กน้อยจากอากาศเย็นรอบตัว โชคยังดีที่บริเวณคอเสื้อโค้ทนั้นบุไว้ด้วยขนสัตว์สีน้ำตาลอ่อนท่าทางนุ่มสบาย ภาพของเจ้าตัวที่กอดอกเหมือนจะรอให้เขาเสร็จจากงานตรงนี้สักทีทำเอาเจ้าพ่อหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
มีอะไรจะพูดด้วยรึไง? ปกติหนีกันตลอดแท้ๆ คราวนี้กลับจ้องซะ
เจ้าพ่อหนุ่มหันกลับไปดูงานโดยรวมอีกครู่หนึ่งก็ลุกขึ้นแยกตัวออกมาในที่สุด ดอนแห่งปาเลอร์โม่ก้าวไปหาราชสีห์หนุ่มที่เหมือนจะหายไปกับสีขาวของหิมะรอบตัว ก่อนจะหยุดยืนอยู่ไม่ห่างกันนักเพื่อรอฟังว่าอีกฝ่ายต้องการพูดอะไร
“...งานคุณเสร็จรึยัง?”หลังจากทำท่าครุ่นคิดรัตติกรก็พูดออกมา
“ก็เสร็จของตอนนี้น่ะนะ มีอะไรเหรอ?”
“แล้วว่างรึยังล่ะ?”
“จะให้ว่างฉันก็ว่างได้ เธอนั่นแหละมีอะไรถึงได้อยู่ๆก็มาถามหาเวลาว่างจากฉันน่ะ”เห็นอีกฝ่ายไม่ยอมเข้าประเด็นสักทีเจ้าพ่อหนุ่มเลยตัดบทถามเข้าเรื่องให้ตั้งแต่ต้น
“...หนังสือผมอยู่ไหน?”ตาคู่สวยมองช้อนขึ้นเป็นเชิงถามเพราะเจ้าตัวนั่งอยู่กับพื้น แต่คำถามสั้นๆนี่เกือบทำให้เจ้าพ่อหนุ่มทรุดด้วยลืมไปว่าตัวเองพกหนอนหนังสือตัวยงมาด้วย
แล้วไอ้ท่าช้อนตามองแบบนั้นน่ะ ถ้าเป็นพวกลูกแมวสวยๆจะใช้เพื่อออดอ้อนเวลาอยากได้อะไรจากเขาประจำ แต่ไอ้เจ้าราชสีห์ดื้อนี่กลับใช้เพื่อถามหาของที่ไม่โรแมนติกเอาซะเลยอย่างหนังสือเนี่ยนะ?
ทำท่าน่ารักชิบหายแต่ประโยคที่ใช้กลับไร้เสน่ห์เป็นบ้า!
“เธอจะให้ฉันแบกมาญี่ปุ่นด้วยรึไง? ที่ให้ไปก่อนหน้านั้นที่จีนเกือบร้อยเล่มอ่านหมดแล้วเหรอ?”
“หมดตั้งแต่ปีมะโว้แล้วครับคุณ ไหนสัญญาอย่างดีว่าจะให้วันละยี่สิบเล่ม ตั้งแต่มาถึงญี่ปุ่นก็สี่ห้าวันเข้าไปแล้วผมยังไม่เห็นมันสักเล่มเลยเนี่ย”ได้ทีพ่อราชสีห์ก็เริ่มบ่น คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมาพร้อมกับสายตาที่จ้องเขาอย่างต่อว่าต่อขาน
“สามวันแรกเธอนอนซมอยู่แต่กับเตียงจะไปอ่านตอนไหนล่ะหืม?”
“แต่เมื่อวานกับวันนี้ผมหายดีแล้วนี่ ตามสัญญาคุณก็เอามาให้ผมสิ”ดูท่าว่าถ้าวันนี้ไม่ได้หนังสือไปอ่านเจ้าตัวคงได้ลงแดงอย่างที่ผ่านๆมาแน่ เจ้าพ่อหนุ่มถอนหายใจเล็กน้อยแล้วขยี้ผมนุ่มๆของรัตติกรด้วยความหมั่นไส้ผสมหมั่นเขี้ยวแล้วเดินกลับไปหาพวกฟรานที่ยังคงคุยแบ่งงานกันอยู่
“เฮ้ย อย่ามาเล่นหัวชาวบ้านเค้าสิวะ!”รัตติกรที่ผมฟูไม่เป็นทรงตวาดลั่น
“เงียบน่า เธอรออยู่นี่แหละ หนาวนักก็กลับไปห้องก็ได้ มานั่งตากลมแบบนี้เดี๋ยวก็ไข้กลับอีก หนังสือน่ะอยากได้เท่าไหร่เดี๋ยวจะพาไปเอา ว่าง่ายๆซะ”ว่าจบเจ้าพ่อหนุ่มก็เดินเข้าไปคุยกับลูกน้องที่นั่งกันอยู่ข้างในห้อง ทิ้งรัตติกรไว้กับความงงและผมฟูๆของตัวเอง
จะพาไปเอาหนังสือ...ที่ไหนกันล่ะ?
___________________________________________
เจ้าพ่อหนุ่มหายกลับเข้าไปในห้องประชุมนานสองนานแล้วก็ยังไม่ออกมาสักที รัตติกรที่ได้แต่นั่งมองภาพสวนขาวๆโดยไม่มีอะไรทำก็เริ่มเบื่อจนขัดคำสั่งที่บอกว่าให้รออยู่เฉยๆในที่สุด
ก็ในเมื่อไอ้เจ้าพ่อนี่ไม่เอามาให้เขาอ่าน เขาก็เดินตามหามาอ่านเอาเองก็ได้วะ ให้มันรู้กันไปสิว่าคฤหาสน์ใหญ่โตของยากุซ่าจะไม่มีหนังสืออะไรให้อ่านสักเล่มน่ะ คิดเสร็จรัตติกรก็นึกภาพของผังคฤหาสน์เทย์ริวในใจแล้วเริ่มออกเดินไปทางฝั่งที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเรือนใหญ่กับเรือนแยก
ถ้าไปถามคนของเทย์ริวดูก็น่าจะมีให้ยืมอ่านบ้างล่ะน่า...
คิดไปพลางร่างเพรียวก็เดินตามทางที่จำได้ไปเรื่อยๆ เจอการ์ดของเวสเปอร์บ้างสองสามคนที่ดูแลอยู่รอบนอก ทั้งหมดมองเขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยทักอะไร แค่เพียงพยักหน้าให้เท่านั้น พอไม่มีใครมาขวาง เดินไปไม่นานรัตติกรก็มาถึงทางเชื่อมไปเรือนใหญ่ในที่สุด
ทางกั้นทั้งสองฝั่งมีการ์ดของแต่ละแก๊งประจำอยู่สองคน รัตติกรแจ้งให้การ์ดของเวสเปอร์รู้ว่าจะไปหาของบางอย่างที่ฝั่งเทย์ริวแล้วก็เดินข้ามมาอย่างรวดเร็ว พอมาถึงอีกฝั่งคนของเทย์ริวก็จ้องเขาเขม็งเป็นเชิงไม่ต้อนรับเท่าไรนัก
“มีอะไร?”เสียงถามเป็นภาษาญี่ปุ่นสำเนียงคันไซห้วนๆ อาจเพราะเห็นว่ารัตติกรมาแค่คนเดียวจึงมองว่าเป็นลูกน้องระดับล่างเช่นเดียวกับตน ความเกรงใจคงไม่ต้องมีให้เท่าไหร่
“ที่นี่มีห้องสมุดมั้ย?”รัตติกรตอบกลับไปเป็นภาษาญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน คัดลอกมาแม้กระทั่งสำเนียงคันไซจนทำให้คนเฝ้าประตูถึงกับเลิกคิ้วเพราะความคาดไม่ถึงว่าภาษาที่เจ้านี่ใช้จะเหมือนกัน รวมทั้งไอ้คำถามประหลาดๆนั่นก็ด้วย...ถามหาห้องสมุดที่บ้านของยากุซ่าเนี่ยนะ?
“ไม่มี ถามทำไม?”
“แล้วไม่มีที่ไหนที่มีหนังสือให้อ่านเลยเหรอ?”รัตติกรยังจี้ถามต่อไป ก็เพื่อหนังสือเขานี่นา!
“โทษนะคุณ นี่คฤหาสน์ของแก๊งเทย์ริวไม่ใช่โรงเรียนมัธยมจะได้มีห้องสมุดให้นะ”
“ก็แล้วยากุซ่าเค้าไม่อ่านหนังสือกันรึไงเล่า”
“แกจะเอารึไงวะไอ้นี่!”ประโยคที่เหมือนกับจะด่าเล่นเอาผู้เฝ้าประตูของขึ้น ส่วนรัตติกรที่ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองไปทำอะไรให้คนอื่นเค้าของขึ้นนั้นกลับยืนงงอยู่กับที่แบบไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไอ้ท่าทีแบบนั้นเลยทำให้การ์ดของเทย์ริวเดือดจนหวิดๆจะวิ่งเข้ามากระชากคอเสื้อท้าต่อย
“เฮ้ๆ โวยวายอะไรกันน่ะ”เสียงหนึ่งดังขึ้นจากในบ้านทางฝั่งของเรือนใหญ่ เจ้าของเสียงมาในชุดสีฟ้าขาวที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเช่นเดียวกับสีผมที่เป็นสีน้ำเงินเด่นสะดุดตา เทย์ริว อาราชิปรากฏตัวขึ้นจากอีกฝั่งของบานประตูก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจว่าใครที่กำลังมามีเรื่องกับคนของเขา
“คุณฮาซึกิ?”
“สวัสดีครับคุณเทย์ริว”รัตติกรเห็นคนรู้จักโผล่มาก็ยิ้มน้อยๆเพราะเจอคนที่น่าจะพาเขาไปหาหนังสือได้ ไม่ได้รู้เลยว่าไอ้ยิ้มแบบนั้นของเจ้าตัวมันทำเอาคนมองแอบใจเต้นไปหน่อยนึงเลยทีเดียว
คนของดอนแห่งปาเลอร์โม่นี่ไม่เบาเลยจริงๆ...
“เรียกผมว่าอาราชิเถอะครับ ว่าแต่คุณมาทำอะไรตรงนี้เนี่ย? เบื่อๆเลยมาคุยเล่นกับลูกน้องผมเหรอครับ?”อาราชิถือโอกาสแซวแล้วเดินออกมานอกประตู ตอนนี้เลยกลายเป็นพวกเขายืนคุยกันที่กลางทางเชื่อมสองฝั่งไปซะอย่างนั้น
“เปล่าหรอกครับคุณอาราชิ ผมมาถามหาหนังสือที่ฝั่งเรือนใหญ่น่ะครับ พอดีอยากอ่านแต่ทางฝั่งโน้นไม่มีเลยสักเล่ม ที่เรือนใหญ่มีพวกห้องสมุดหรือมีหนังสืออะไรให้ผมยืมอ่านได้บ้างรึเปล่าครับ?”
“หนังสือ?”อาราชิได้ยินก็เอียงคอด้วยความงง ใครมันจะไปคิดว่าเรื่องมันจะมาจบที่หนังสือได้ล่ะเนี่ย
“ไม่มีหรอกครับ ถ้าจะมีก็คงเป็นพวกบัญชีรายชื่อของแก๊งที่ผมคงอนุญาติให้คนนอกแก๊งเราดูไม่ได้”คนผมสีเจ็บเอียงคอยิ้มให้น้อยๆเป็นเชิงบอกกลายๆว่าถ้าอยากอ่านก็มาเป็นคนของเทย์ริวแทนสิครับ รัตติกรที่ไม่ได้รู้ทันกับความนัยของประโยคก็ได้แต่ทำหน้าเสียดาย
“งั้นเหรอครับ เสียดายจัง”เห็นคนสวยทำหน้าผิดหวังอาราชิเลยหาเรื่องตล่อมหวังให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้น ไอ้ที่ฉลาดแต่กลับเป็นคนซื่อๆแบบนี้มันถูกชะตาเขายังไงก็ไม่รู้สิน่า ยิ่งฮาซึกิคุงของเขาเป็นหนุ่มเอเชียตัวเล็กผอมบางแบบนี้แล้วมันยิ่งอยากจับมากอดๆฟัดๆให้หายหมั่นเขี้ยว
“อืม...แต่นอกเหนือจากนั้นไอ้ที่พอจะนับเป็นหนังสือได้ก็คงเป็นการ์ตูนในห้องผมนั่นล่ะครับ เอามั้ย?”ว่าแล้วก็เอ่ยหยอดไปอีกทีเผื่อพระจันทร์ดวงน้อยนี่จะยอมเดินข้ามสะพานที่เขาทอดไปให้มาหา เห็นเจ้าตัวทำตาวาวๆขึ้นมาทันควันเหมือนจะไม่รู้ความนัยที่เขาชวนเข้าห้องแล้วก็ได้แต่ลอบหัวเราะในใจ
“เอาครับ เอาเดี๋ยวนี้เลยได้รึเปล่าครับ?”รัตติกรผู้ไม่คิดว่าตัวเองจะมีอะไรไปกระแทกใจชาวบ้านตอบกลับอย่างรวดเร็ว ก็คนมันขาดหนังสือนานๆไม่ได้นี่นา ถ้าที่นี่มีเขาก็ไม่จำเป็นต้องไปรอไอ้เจ้าพ่อนั้นพาไปหาอีกทีหรอก คิดได้ดังนั้นหนุ่มชาวไทยก็เลยตอบตกลงไปอย่างรวดเร็ว
“งั้นตามมาเอาที่ห้องผมเลยแล้วกันนะครับ อยากได้เล่มไหนจะได้เลือกไปเลย”เห็นรัตติกรยอมเข้าทางอย่างง่ายดาย มังกรฟ้าเลยถือโอกาสโอบไหล่ของอีกฝ่ายเป็นเชิงบอกว่าจะนำทางให้แล้วพาเดินไปทางฝั่งของเรือนใหญ่ด้วยความบันเทิงเริงใจ รู้สึกเหมือนได้เอาคืนไอ้เจ้าพ่อนั่นเลยแฮะ...
“ใครอนุญาติให้เธอไปไหนตามใจชอบหา? ลูน่า!”
เสียงเกรี้ยวกราดด้วยภาษาอิตาเลียนดังก้องทำเอาคนแถวนั้นสะดุ้งกันเป็นแถบๆ แผนพากวางน้อยเข้าถ้ำเลยได้หยุดชะงักลงทันควันเมื่อเจ้าของตัวจริงโผล่ออกมาขัดขวางแล้วกระชากแขนอีกฝั่งของรัตติกรกลับไปด้วยความรุนแรง ส่งผลให้คนที่ถูกยื้อยุดอยู่ตรงกลางขมวดคิ้วเพราะถูกขัดใจ ส่วนอาราชิที่รู้สึกคล้ายงานจะเข้าเล็กน้อยก็ถอนมือออกมาแล้วชูขึ้นเป็นสัญญาณว่ายังไม่ได้ทำอะไรผิดนะเฟ้ย
ด้านลาร์เฟียร์ที่อุตส่าห์เข้าไปเคลียร์งานให้เรียบร้อยเพราะกะจะพาเจ้าสิงโตดื้อนี่ออกไปหาซื้อหนังสือด้วยกัน แต่เมื่อจัดการเสร็จแล้วออกมาดูอีกทีกลับพบว่ารัตติกรหายไปจากที่เดิมแล้ว กลับไปที่ห้องก็ไม่เจอ พอเดินมาถามลูกน้องที่เฝ้ารอบๆดูถึงได้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังจะข้ามไปทางเรือนของฝั่งเทย์ริวซะอย่างนั้น
ได้ยินเท่านั้นเจ้าพ่อหนุ่มก็เริ่มเดือด อุตส่าห์บอกให้รออยู่เฉยๆแต่หมอนี่กลับหาเรื่องไปหาที่พึ่งคนอื่นงั้นเหรอ? แล้วพอเขารีบตามมาก็ได้เห็นเจ้าตัวกำลังจะถูกล่อลวงไปทางฝั่งนั้นอยู่มะรอมมะร่อ แถมยังตามเขาไปแบบว่าง่าย ยอมให้จับโน่นจับนี่ได้โดยไม่บ่นสักคำเนี่ยนะ!!
มันน่านัก!
“โอ๊ยคุณ เบาๆหน่อยไม่ได้รึไง!”แรงกระชากของเจ้าพ่อหนุ่มส่งคนตัวเล็กกว่าให้เข้าไปจมอยู่กับอกหนาๆของตัวเอง ลาร์เฟียร์ขมวดคิ้วแน่นแล้วมองกราดไปทางฝั่งของเทย์ริวเป็นเชิงขู่ อาราชิที่แม้ไม่เข้าใจว่าภาษาอิตาเลียนที่ทั้งสองคนพูดกันมันเกี่ยวกับอะไรแต่พอเจอสายตาพิฆาตเข้าไปก็ยิ้มคืนกลับโดยอัตโนมัติแล้วโบกมือส่งให้คุณพระจันทร์ดวงน้อยอีกที
“งั้นเอาไว้คราวหน้าละกันนะครับคุณฮาซึกิ”ได้แหย่เจ้าพ่อเล่นแบบนี้แล้วสะใจดีพิลึก ยิ่งพอจบประโยคสายตาพิฆาตที่ส่งมานั้นยิ่งเพิ่มความโหดเข้าไปอีกเท่าตัวจนเริ่มเสียวสันหลัง อาราชิเลยคิดว่ารอบนี้เอาแค่นี้พอก่อนน่าจะดีต่อสวัสดิภาพชีวิตตัวเองมากกว่า
“ตกลงครับ เฮ้ย! คุณ!! เอาผมลงนะเว้ย!!!”พูดตอบได้ไม่ทันจบประโยครัตติกรก็ต้องรีบเปลี่ยนมาใช้อีกภาษาอย่างรวดเร็วเมื่อเจ้าของดวงตาสีสนิมที่กำลังเดือดอุ้มเขาขึ้นพาดบ่าอย่างกับกระสอบข้าวแล้วทำท่าจะเดินจากไปทั้งอย่างนั้น ไอ้คนยกเขาขึ้นแบกมันคงไม่อายหรอก แต่พอมองกลับไปภาพของการ์ดเฝ้าประตูที่อ้าปากหวอกับเทย์ริว อาราชิที่กุมท้องกลั้นหัวเราะจะเป็นจะตาย นั่นมันทำเขาอายเป็นบ้าเลยนะโว้ย!!
“เอาลงให้เธอวิ่งพล่านไปหาผู้ชายคนอื่นน่ะเหรอ? ฝันไปเถอะ!”เจ้าพ่อหนุ่มที่เดือดจัดจนไม่สนอะไรแบกสิงโตแมวเดินปร๋อไปเรื่อยๆราวกับว่าเจ้าตัวนั้นไร้น้ำหนัก กำปั้นเล็กๆกระหน่ำทุบลงบนแผ่นหลังเป็นเชิงประท้วงก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเขาเลยแม้แต่น้อย
แรงหนอนหนังสือที่หมกอยู่แต่ในห้องหรือจะสู้กับร่างกายของมาเฟียที่ฝ่าดงกระสุนมาตั้งแต่เด็กอย่างเขาได้! ให้มันรู้สิว่าใครเป็นใคร!
“เห็นคนอื่นเขาเป็นอะไรกันวะ?! ผมไม่ใช่คุณนะจะได้เอากับใครก็ได้น่ะ! ปล่อยสิโว้ย!”รัตติกรที่ดิ้นจนหอบเริ่มเปลี่ยนมาใช้เสียงเข้าสู้แทน ทางที่ลาร์เฟียร์พาเดินไปนั้นเหมือนจะเป็นทางออกจากเรือนแยกนี้ไม่ใช่กลับไปที่ห้องแน่ๆ ไอ้เจ้าพ่อนี่มันกะแบกเขาไปถึงไหนกันเนี่ย!?
“ก็เห็นตามเขาไประริกระรี้นี่? แล็วก็หยุดดิ้นได้แล้วเธอน่ะ”ลาร์เฟียร์พูดตัดบทแล้วฟาดก้นเล็กๆที่อยู่ตรงกับระดับไหล่ของเขาพอดีจนรัตติกรสะดุ้งเฮือก สบถอุทานไม่เป็นภาษา รู้สึกใบหน้าของตัวเองที่แนบอยู่กับแผ่นหลังของอีกฝ่ายร้อนผ่าวจนแทบจะลุกไหม้เสียให้ได้
บอกให้เงียบด้วยการตี..ก้น..เนี่ยนะ!? ไม่ใช่เด็กอนุบาลนะเว้ย!!!
ทะเลาะกันไปจนกระทั่งลาร์เฟียร์แบกรัตติกรมาถึงด้านนอกคฤหาสน์อีกฝั่งในที่สุด ณ ตรงนั้นเองที่มีรถยุโรปสีขาวสะอาดคันหนึ่งสตาร์ทเครื่องแล้วจอดคอยท่าเอาไว้ ตรงส่วนของคนขับมีหัวหน้าบอดี้การ์ดอย่างสคูร์โดนั่งอยู่ ดูเหมือนวันนี้เขาต้องทำหน้าที่ควบทั้งบอดี้การ์ดและคนขับรถไปด้วยในตัว
ด้านนอกรถมีฟรานที่ยืนคอยท่าอยู่ด้วยรอยยิ้มน้อยๆเพราะเห็นท่าของเจ้านายที่พาของเล่นมาด้วย เลขาหนุ่มเปิดประตูรถด้านหลังอย่างรู้งาน เจ้าพ่อหนุ่มที่เดินมาถึงในที่สุดก็จับสิงโตแมวของเขาโยนเข้าไปในรถแล้วขยับตามเข้าไปนั่งด้วยอย่างรวดเร็ว เห็นเจ้าตัวทำท่าจะตะกายออกไปก็เลยต้องรวบตัวบางๆนั่นมารัดเอาไว้แน่นแล้วก็เริ่มต่อปากต่อคำในรถกันต่อ
หัวหน้าบอดี้การ์ดกลอกตาด้วยความเบื่อหน่ายแล้วรอให้ฟรานเปิดประตูเข้ามานั่งข้างหน้าด้วยกัน ก่อนจะตรวจความเรียบร้อยอย่างที่เคยชินแล้วสตูร์โดก็ออกรถในที่สุด ท้องฟ้าข้างนอกขมุกขมัวเป็นสีเทาบ่งบอกว่าไม่นานหิมะก็คงตกลงมาอีก ข้างนอกอากาศคงหนาวน่าดูแหละ แต่อุณภูมิของคนในรถที่เถียงกันอยู่ด้านหลังนี่ร้อนจนแทบจะทะลุจุดเดือดได้อยู่แล้วมั้งนั่น
“โว้ย ไม่ต้องมากอดได้มั้ยเล่า รถวิ่งอยู่แบบนี้จะให้ผมหนีไปไหนไม่ทราบ? ปล่อย!!”รัตติกรที่ถูกรัดไว้แน่นเพิ่งค้นพบว่าท่าแบบนี้มันไม่ต่างอะไรกับการไปนั่งตักของอีกฝ่ายแถมยังถูกกอดไว้อีกต่างหาก แค่ถูกอุ้มเดินผ่าคฤหาสน์มาก็อายจะตายอยู่แล้วยังจะมาทำท่าแบบนี้อีกเนี่ยนะ?
ไอ้มาเฟียหน้าด้านเอ๊ย!
ลาร์เฟียร์ที่สนุกสนานกับการกลั่นแกล้งเอาคืนแมวดื้อเพิ่มแรงกอดขัดกับคำสั่งของอีกฝ่าย เจ้าพ่อหนุ่มเกยคางลงบนไหล่ของรัตติกรแล้วเอียงคอน้อยๆเพื่อมองเสี้ยวหน้าของอีกฝ่ายด้วยดวงตาสีสนิมคู่คม
“ก็เธอเป็นของๆฉัน ฉันอยากจับอยากกอดของๆฉันมันผิดตรงไหนล่ะ? แล้วก็เงียบสักทีเถอะ ไม่งั้นฉันไม่หยุดแค่กอดแน่ แต่ถ้าเธออยากฉันก็ไม่ขัดศรัทธาหรอกนะ หึ”รัตติกรได้ยินประโยคนี้เข้าไปก็ได้แต่อ้าปากค้าง หนุ่มชาวไทยขยับตัวด้วยความอัดอึดเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจแล้วท่องเอาไว้ว่ากำลังเล่นอยู่กับไจแอนท์เวอร์ชั่นหื่นขึ้นมาหน่อย แต่มันแย่ตรงที่ตอนนี้เขาเรียกแมวสีฟ้านั่นมาช่วยไม่ได้นั่นล่ะ...
“เหอะ...แล้วสรุปจะไปไหนเนี่ย?”ราชสีห์หนุ่มเบือนหน้าหนีไปอีกทางแล้วถามเรื่องที่อยากรู้ จะว่าไปวิธีที่หมอนี่พาเขามาขึ้นรถนี่มันเหมือนพวกผู้ร้ายลักพาตัวชัดๆ...
“ไปเอาค่าจ้างของเธอไง”
“หา?”
“ก็เธออยากได้หนังสือไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวจะพาไปซื้อในเมืองนี่ไง อยากได้ขนาดไหนก็หยิบเอาตามสบาย ให้แบกกลับได้ก็แล้วกัน”ลาร์เฟียร์ว่าพร้อมกับยักไหล่เล็กน้อย รัตติกรได้ยินแบบนั้นก็นิ่งอึ้งไปพักหนึ่งด้วยไม่คิดว่าเจ้าพ่อนี่จะพูดจริงทำจริงขนาดนั้น...
“...ก็ไม่บอกแต่แรกวะ”คนนั่งบนตักบ่นอุบอิบแล้วเสตาออกไปมองวิวนอกรถ แก้มใสแดงขึ้นอีกเล็กน้อยจากเดิมที่แดงอยู่แล้วเพราะอารมณ์ขึ้นก่อนหน้านั้น
ก็ถ้าบอกแต่แรกว่าจะพาไปซื้อหนังสือเขาก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องบ้าๆพวกนี้ไม่ใช่รึไงเล่า!?
อับอายขายขี้หน้าเป็นบ้าเลย!!
______________________________________________
จบตอนแว้ววว :mc4: :hao7: :hao7:
ช่างเป็นตอนที่หวานแหวว? มั้งครับ 55555 แต่รู้สึกพอเป็นฉากอะไรอย่างนี้ผมแต่งเร้วเร็วนะ สามวันก็ได้เอามาลงละ=w= //ทำไมตอนอื่นไม่รู้จักทำให้ได้อย่างนี้บ้างฟะ... :z13: :z13: :z3: :z3:
แฮ่ เอาเป็นว่ามาเฉลยเกมส์ทายอายุคุณป๋ากันดีกว่าครับ :-[
จากที่ตอนก่อนมาเล่นเกมส์ทายอายุลาร์เฟียร์กัน ผลสรุปออกมาดังนี้~
“ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ 35 – พญาอินทรี – ผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อน ตาสีสนิม”
ป๋าอายุ 35 นะคร้าบบบ //แก่กว่าที่หลายๆคนคิด จริงๆตอนแรกผมกะว่า38แต่พอคิดว่า 38ไปกิน24แล้วมันก็ห่างกันเกินไปน่ะฮะ 555 35นี่กำลังพอดี มั้ง?
(รัตติกรเกิด ป๋าก็กำลังเข้ามอต้นเลยนะเนี่ย...) :hao7:
ผู้ได้รางวัลจากเล้าเป็ดคือคุณ Yara นะครับ
จากเด็กดีคือคุณ Wisky Pink ครับผม
ตามสัญญาคือรีเควสอะไรก็ได้หนึ่งอย่างครับ ส่งมาได้ทางหลังไมค์หรือข้อความลับนะครับ //ขอเป็นอะไรที่ไม่กำหนดเวลาจะดีมากครับ แฮ่...คือจากนี้ผมต้องไปทำละครเวทีแย้วอาจจะมีเวลาไม่พอ... ; w ; :z10: :z10:
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสนุกกันนะครับ >w< มีตั้งแต่ที่ทายว่าลาร์เฟียร์ยังเอ๊าะๆไปจนถึงอายุ42นู่นเลย 555 ยินดีต้อนรับสู่สายคุณลุงครับ o13 :a9:
เอ้อใช่ๆ มีคนถามอายุของอาราชิมาด้วย คุณมังกรฟ้าอายุ 28 นะครับ ^^
เดี๋ยวตอนหน้า...หรือตอนหน้าๆจะมีตัวละครใหม่ออกมาให้ครบองค์ประชุม 55 ถึงตอนนั้นเดี๋ยวผมเอาข้อมูลของตัวละครแต่ละตัวมาลงให้อ่านเลยละกันเน้อ
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะครับ ขอบคุณที่ยังคงติดตามกันอยู่เสมอครับผม~ :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:
Namioto Yo
-
:a5: ตกใจมาก ตาไม่ฝาดจริงๆ
ขอบคุนนะคะ
-
เอามาถึงปุ๊บ ตกใจปั๊บ! อัพแล้วจริงๆด้วย เปิดมาถึงอ่านครึ่งทอร์คก่อนเลย ลาร์เฟียร์อายุสามสิบห้าแล้วเหรอเนี่ย :hao7: เป็นคนแก่กินเด็กสินะลุง :hao3: แต่ไม่เป็นไรเค้าชอบสไตล์เมะแก่ด้วยเหมือนกัน (ลาร์เฟียร์เถียง:: ยังไม่แก่โว้ย แค่มีอายุ!!)
ตอนนี้แอบหวานนิดๆจริงๆด้วย ลาร์เฟียร์เนี่ยขี้หึงเหมือนกันน้า~ แต่หึงแบบนี้แล้วน่ารักดีอ่ะ
ปล.เห็นนะว่าแอบเปลี่ยนชื่อรัตติกร จากอากิระ เป็นฮาซึกิ อ่านตอนแรกงงเลย ต้องอ่านซ้ำสองรอบ (นึกว่าเป็นชื่อเล่นอาราชิ แง๊ว~)
-
:mew4: :mew1:
-
มาแล้วๆ
-
มาแล้ว :o8:
-
ลูน่ายังน่ารักเหมือนเดิม 555+
-
มาแล้ววววว >///<
-
ตอนนี้น่ารักดี
-
ปลื้มปริ่มม~~~~~ คิดว่าตาฝาดจริงๆ
คิดถึงลูน่ามากอ่าาาา จุ๊บ :mew1:
ดอนลาเฟียร์ก็คิดถึงนะ อย่าน้อยใจไป คิคิ
อ่านละตอนนี้มุ้งมิ้งมาก ถ้าคนเขียนแต่งเร็วก็อยากจะอ่านวันละตอน หรือสองวันตอนก็ได้! อิอิ :laugh:
แอบชะงักตอนชื่อ"ฮาซึกิ" แอบเปลี่ยนชื่อป่ะ? หรือเค้าตาฝาด :mew2:
จะรอตอนต่อไปนะคะ ยังติดตามอยู่ อิอิ
ขอบคุณค่า =]
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด มาแล้ววววววววว
-
น่ารักกกกก มาต่อไวๆๆๆเถอะค๊าาาา
-
ตะลึงอัพไว และเราก็อ่านจบอย่างไว :hao5:
ตอนหน้าขอยาวๆมาต่อเร็วๆนะค้า
คิดถึงลูน่าแบ้วตลอดดดด
-
ดีใจมากเลยค่ะ นึกว่าตาพร่าเลือนไปแล้วซะอีก 555+ :hao7: :L2:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ชอบมาก สามสิบห้ากำลังดีเลย
-
เป็นตอนเบาๆ ที่น่ารักดีค่ะ ^^
-
ขอตอบก่อนอ่านนะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นานเรื่องหนึ่ง (ปี 2011 และเพราะคนเขียนหายบ่อย) แต่ถ้ามาต่อเมื่อใดอยากไปรำแก้บน
เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตามแต่ถ้าคนเขียนหายบ่อย ๆ แบบนี้ เราว่าปี 2022 เรื่องนี้คงได้ประมาณกลาง ๆ เรื่องใช่ไหม???
ปล. ถึงปี 2022 เราก็จะรอคนเขียนมาต่อเหมือนเดิมค่ะ
-
กลับมาก็ทำเอายิ้มไม่หุบ
โอ๊ย~ลูน่าน่ารัก ลาเฟียร์ก็ถนอมหน่อยล่ะ
-
รอต่อไปจ้า ป๋าอายุโอเครเลย วัยแบบนี้แหละ........อิอิ :hao6:
-
ดีใจ มาต่อแล้วววว มาอีกทีเมื่อไหร่ดีคะ :mew1:
-
ขอบคุณ :)
-
ตอนที่ตอบไปว่า ลาร์เฟียร์ อายุ 35
คิดว่า ถ้าลูน่า 24 ป๋าน่าจะอายุเท่านี้เลยค่ะ
เพราะมันดูไม่มากไม่น้อยเกินไป ดูกำลังเป็นหนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์จริงๆ
ส่วนเรื่องที่ให้ขอได้ ขอคิดก่อนนะคะ อิอิ
-
ตะลึง! อัพเดือนเว้นเดือน!
(ขำๆ ล้อเล่นนะๆ 555+
เจออัพตอนใหม่ทีไร ...ตื่นเต้นเหมือนตาจะฝาดทุกทีเลย 555+)
แอบมีฉากกุ๊กกิ๊กให้ชื่นใจ
ชอบฉากแบบนี้ที่สุดเลย~~~
ชอบที่ติทำตัวเหมือนแมวขาดสารอาหารเนี่ยล่ะ
มองหนังสือเป็นปลาย่างเชี่ยว 55+
ตอนต่อๆไปขอแบบนี้ยาวๆน๊า~ มันอิ่มใจดี~
-
มาแล้วววว :mew4:
-
:z2: ไม่ค่อยเชื่อสายตา แต่ก็ :pig4:
หวาน ๆ แบบนี้ ไฟจะลุกท่วม ด้วยไฟแห่งราคะ :haun4:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ :L2:
-
ดวงจันทร์คุณป๋า
น่ารักเหมือนเดิม :m1:
-
ตอนนี้ลาร์เฟียร์น่ารักมากกกกก....
สงสารลูน่านิดหน่อย....กว่าจะได้รางวัล...55+
-
เขาเริ่มสวีทกันรึเปล่านะ 55555
:hao3: :hao3:
-
ผมเริ่มอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ ม หกครับ
จนตอนนี้ปีสามก็ยังไม่จบ. 555
ดีใจที่ผู้แต่งยังคงแต่งต่อนะครับ
ขอบคุณที่สร้างงานดีๆมาให้อ่านครับผม
-
5555 ฮานายเอกอะ น่ารัก อาราชิก็น่ารักนะ อิอิ
-
อร็ายยยยย มาเเล้วววว รอตอนต่อไปปปปป
-
กรี๊ดดดดดดดดดด อัพแล้ว
ไม่ได้อ่านตั้งสามตอนแนะค่ะ
ถ้าจำไม่ผิดอ่านเรื่องตอนประมาณเรียนพยาบาลปีหนึ่ง
ตอนนี้ปีสี่แล้วอ่ะ 5555555555
เรียนไปพร้อมกับติดตามความสัมพันธ์ของป๋ากับรัตติกรไปเลยก็ว่าได้นะคะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ
ชอบมากๆเลยค่ะ พักหลังมารู้สึกป๋าจะน่ารักใจดี อบอุ่นขึ้นมว๊ากกกกกก
รัตติกรก็น่าร้ากน่ารัก ชอบมากเลยค่ะ ฟินอ่ะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ สู้ๆน้า^^
-
โอยยยยฉันมารอพี่ที่เล้าเป็ดทุกคืนเลยนะ
จะขาดใจแล้ว ฮึก ฮึก :hao5:
นิยายเรื่องนี้อ่านแล้วได้อารมณ์ ป๋าอาซามิสุดๆ เค้าจินตนการหน้าดอนเป็นป๋าอาซามิตลอดเลยนะะ
ฟิลมันได้! รอตอนต่อไปค่ะ
ปล.ป๋าอาซามิจาก viewfinder นะคะ o13
-
ฉันอยากตาฝาดอีกจังเลยยยยย :mew2:
-
รัตติกร โดนฮิ้วววว คิกคิก
-
ขยี้ตาแป๊ป :ruready เหยด.ด.ด.ด...ดด. ตอนใหม่จริงๆด้วยเว้ยเฮ้ย.... :katai2-1: ไม่ค้างแต่ก็อยากอ่านต่ออ่ะ
-
เพื่อหนังสือทำได้ทุกอย่างสินะ...
-
มาต่ออีกนะ
-
ลูน่าน่ารักจัง ฮาาา :mew4:
-
:hao5: :hao5: :hao5: :hao5:มาให้ดีใจแล้วก็หายไปอีกแล้วววววววววว :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
-
มารอลูน่าจังอย่างเหงาๆ :katai5: :hao5: คิดถึงงงง
-
ลูน่าน่ารักมากๆ รอยู่นะค้าา :hao7: :hao7:
-
รออยู่และรอต่อไปค่ะ ฮึบ ๆ น้องลูน่านี่เสน่ห์แรงจริงอะไรจริง ใครเห็นก็รักก็หลงก็เอ็นดูไปหม๊ดดดด :o8: :a1:
-
แง่กกกกก เค้าคิดถึงรัตติกร มาต่อหน่อยนะคะคนเขียนนนน :mew6:
//กลับมาอ่านซ้ำหลายรอบแล้ว รัตติกรน่าร๊ากกกกก อิอิ
-
รออยู่น้าาา
ลูน่าน่ารัก :o8:
-
หวังว่าคุณนักเขียนจะไม่ทิ้งเรื่องนี้นะค่ะ รออยู่นะค่ะ
-
ลูน่าน่ารักค่ะ คนแก่ก็น่ารัก จะรอตอนต่อไปนะคะ :mew1: :call:
-
คิดว่ามา :hao5: คิดถึงงงงงงง
-
มาประกาศตามหาคนหายครับ
ผู้แต่งครับรีบกลับมาลงเรื่องต่อทีเถิด ได้โปรด ผู้อ่านรออยู่ครับ
-
เนิ่นนานที่ฉันยังแปลกใจ เหตุใดเจ้าหญิงต้องรอ...เอ้ยไม่ใช้แล้ว!
สงสัยทางไปร้านหนังสือมันไกลมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เอ๊ะ! หรือลูน่าหาหนังสือที่ยังไม่เคยอ่านไม่เจอ!!!! :z3:
-
รอคนเขียน ;w;
-
เนื้อเรื่องสนุกมากค่ะ มาต่อหน่อยนะคะ
-
รอคนเขียน เป็นฟิคที่มีสาระเรื่องนึงเลยสนุกมาก
-
มาสักทีเถ๊อะะะะ คนอ่านรอจนรากงอกเเล้ว //นั่งรอตอไป
-
คนเขียนอยุหนายยยยยย :katai5:
นั่งเฝ้ามาเกือบปีแล้วนะ :ruready
-
:katai5:
-
จะเอาหนังสือๆๆ
-
เข้ามารออ่านทุกวันเลยรู้มั้ยครับ ยังหวังตลอดว่าคนเขียนจะมาแจ้งข่าวให้รับรู้บ้าง ถ้ามีตีพิมพ์รับรองเราซื้อแน่นอน!! แต่อยากอ่านต่อแล้ว สมัครยูสของเว็บนี้ไว้เม้นต์โดยเฉพาะก็ลืมรหัสไปหลายรอบแล้ว.. คนเขียนก็ยังไม่มาซักที :hao5: คิดถึงเฮียลาเฟียร์กับหนูลูน่ามากมาย :z3: :z3:
อัพเถอะครับ ยังหวังอยู่นะ ..
-
ลูน่านางก็จะเอาแต่หนังสืออ
สนดอนบ้างเถอะ :m17:
-
ตอนแรกนึกว่าตาฝาดไปซะแล้ว แต่พอมองดีๆนี่ใช่เลยย
ในที่สุดก็อัพแล้ววว ยังรอดอนกับลูน่าเสมอๆนะจ๊ะะ
-
จาเอาหนังสือออออออ หนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือหนังสือ
พูดถึงหนังสือลูน่ายังเลือกหนังสือไม่เสร็จอีกหราาา ฮรือๆ เลือกได้กี่ร้อยเล่มเเล้วคะ :katai1: :hao5:
-
อยากตาฝาดอีกสักครั้งงงง
-
หายยาว 55555555555
รออยู่น้าาาา :m5: :m5:
-
จะปีเเล้วน้าาาาา อีก1เดือนนนนนน ไม่ได้มาทวงเลยยยยยยยยยยย จริงๆนะ :katai1:
-
ตามอ่านจนถึง shot.26.บอกเลยว่าชอบมากเป็นนิยายที่แต่งดีมาก อ่านแล้วได้ความรู้หลายเรื่องเลย ส่วนตัวชอบนิสัยแบบลูน่ามากอ่ะ น่ารักสุดๆ แต่เห็นคนเขียนยังไม่มาต่อ ยังไงก็สู้ๆๆนะ คนอ่านเป็นกำลังใจให้จร้า :กอด1:
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.26
จบตอนแว้ววว :mc4: :hao7: :hao7:
ช่างเป็นตอนที่หวานแหวว? มั้งครับ 55555 แต่รู้สึกพอเป็นฉากอะไรอย่างนี้ผมแต่งเร้วเร็วนะ สามวันก็ได้เอามาลงละ=w= //ทำไมตอนอื่นไม่รู้จักทำให้ได้อย่างนี้บ้างฟะ... :z13: :z13: :z3: :z3:
แฮ่ เอาเป็นว่ามาเฉลยเกมส์ทายอายุคุณป๋ากันดีกว่าครับ :-[
จากที่ตอนก่อนมาเล่นเกมส์ทายอายุลาร์เฟียร์กัน ผลสรุปออกมาดังนี้~
“ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ 35 – พญาอินทรี – ผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อน ตาสีสนิม”
ป๋าอายุ 35 นะคร้าบบบ //แก่กว่าที่หลายๆคนคิด จริงๆตอนแรกผมกะว่า38แต่พอคิดว่า 38ไปกิน24แล้วมันก็ห่างกันเกินไปน่ะฮะ 555 35นี่กำลังพอดี มั้ง?
(รัตติกรเกิด ป๋าก็กำลังเข้ามอต้นเลยนะเนี่ย...) :hao7:
ผู้ได้รางวัลจากเล้าเป็ดคือคุณ Yara นะครับ
จากเด็กดีคือคุณ Wisky Pink ครับผม
ตามสัญญาคือรีเควสอะไรก็ได้หนึ่งอย่างครับ ส่งมาได้ทางหลังไมค์หรือข้อความลับนะครับ //ขอเป็นอะไรที่ไม่กำหนดเวลาจะดีมากครับ แฮ่...คือจากนี้ผมต้องไปทำละครเวทีแย้วอาจจะมีเวลาไม่พอ... ; w ; :z10: :z10:
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสนุกกันนะครับ >w< มีตั้งแต่ที่ทายว่าลาร์เฟียร์ยังเอ๊าะๆไปจนถึงอายุ42นู่นเลย 555 ยินดีต้อนรับสู่สายคุณลุงครับ o13 :a9:
เอ้อใช่ๆ มีคนถามอายุของอาราชิมาด้วย คุณมังกรฟ้าอายุ 28 นะครับ ^^
เดี๋ยวตอนหน้า...หรือตอนหน้าๆจะมีตัวละครใหม่ออกมาให้ครบองค์ประชุม 55 ถึงตอนนั้นเดี๋ยวผมเอาข้อมูลของตัวละครแต่ละตัวมาลงให้อ่านเลยละกันเน้อ
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะครับ ขอบคุณที่ยังคงติดตามกันอยู่เสมอครับผม~ :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:
Namioto Yo
รอตอนที่ตัวละครออกใหม่ครบองค์ประชุม....
จะปีนึงแล้วน้าคุณโยยยย
ขอตาฝากอีกครั้งได้มั้ยยยยยยยยย คิดถึง รัตติกร คิดถึงลาเฟียร์.. คิดถึงคุณคนเขียนมาก ๆ
-
ฮัลโหลคืออยากอ่านต่ออ่ะ คนแต่งจ๋าาา
-
ปีนึงกับอีก6วัน :hao4: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
-
มาจิ้มมม
-
อย่าหายไปนานนะ รออยู่ กลับมาอีกๆๆๆ :mew2:
-
ลูน่าน่ารักอ่ะ ชอบๆ 555555
-
อย่าทิ้งกันไว้ตรงกลางทางสิที่รัก...
ฮือ เราชอบเรื่องนี้
ปีนึงแล้ววววน้า กลับมาเถอะ :z3: :o12:
-
อยากให้รู้ ว่ารอคนเขียนอยู่ทุกลมหายใจ
ฮื่ออ ฮือออออออออออออ
-
มาต่อเร็วๆน้า :ling1: :ling1:
-
จะไม่เเต่งต่อเเล้วเหรอเสียดาย
-
ยังรอนะคะ
-
อีกสองเดือนครับ อีกสองเดือนคนเขียนจะเรียนจบแล้ว ขออีกแป๊บนึงน้าา
-
รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ :a11: :ped149:
-
อีกสองเดือนครับ อีกสองเดือนคนเขียนจะเรียนจบแล้ว ขออีกแป๊บนึงน้าา
จะรอนะคะ :mew2: :mew2:
-
จะรอค่ะ :katai2-1:
-
รอ นะ :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
หมดเวลาล้าวววววว เดือนนี้รึเปล่า หรือเดือนหน้า :hao4: เรื่องนี้เคยอ่านไปแล้วรอบนึงแต่ยังแต่ไม่จบรู้สึกตอนนั้นจะนานพอสมควรแล้ว พอเข้ามาอ่านรอบนี้ก็ยังแต่งไม่จบอีก ตายๆๆๆๆ คนอ่านตายค้าาา :sad4: แต่อีกเรื่องนึงเรื่องใครว่าทำดีได้ดีฯเรื่องนั้นชอบมากเลยแนวน่ารักหื่นๆ :hao6: เรื่องนี้มาแต่งให้จบเลยน้า ไม่งั้นจะตามไปหลอกหลอนถึงในห้องเลยนะ !!!! :m32: :laugh3: :laugh3: :laugh3:
-
มาช้าก้อได้เเต่ขอให้มาต่อจนจบ ได้โปรดด :mew2: :เฮ้อ:
-
อันนี้สำหรับคนที่น่าจะจำช่วงแรกไม่ได้แล้วเพราะผมหายไปนานซะเหลือเกิน เป็นสรุปคร่าวๆที่ยาวหน่อยนะครับ ส่วนคนที่อยากอ่านตอนใหม่ก่อนก็กดตอนต่อไปได้เลยนะครับ
เรื่องราวของความรักที่เริ่มต้นด้วยความต้องการเป็นเหตุเรื่องนี้เริ่มขึ้นในค่ำคืนกลางฤดูหนาวคืนหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศของการฆ่าฟัน การพบกันแบบไม่คาดฝันของรัตติกร สันติสงครามหนุ่มชาวไทยผู้มากความสามารถกับลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ The Don of Don ของมาเฟียทั่วทั้งอิตาลีนั้นได้ผูกโยงเส้นด้ายแห่งชะตากรรมให้พวกเขาต้องเข้ามาพัวพันกันอย่างที่แยกไม่ได้ตลอดไป
ด้วยความสามารถในการจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเห็นได้และไม่มีวันลืม ซึ่งแลกมาด้วยอดีตอันแสนเจ็บปวดที่เขาต้องพบเจอ สิ่งเดียวที่ช่วยเยียวยารัตติกรให้หลบหนีไปจากอดีตนั้นได้คือหนังสือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การขวยขวายในการอ่านนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆจนทำหนังสือที่เขาอ่านได้ไม่จำกัดอยู่แค่เพียงภาษาไทย รัตติกรสามารถใช้ภาษาต่างๆได้มากถึง24ภาษาทั่วโลก จุดประสงค์ในการใช้ของเขานั้นมีไว้เพื่ออ่านหนังสือเพียงเท่านั้น หากแต่มันก็ดึงดูดให้บุคคลหลายประเภทอยากได้เขาไปเป็นพวกด้วยเช่นกัน
หนึ่งในนั้นคือเจ้าพ่อมาเฟียแห่งปาเลอร์โมที่ถูกใจเขาตั้งแต่แรกพบ เพราะนอกจากความสามารถที่ฉายแววตั้งแต่การพบกันครั้งแล้วแล้ว นิสัยที่ดื้อรั้นไม่ยอมคนหากทะนงในศักดิ์ศรีของตนยิ่งกว่าสิ่งใดนั้นยิ่งทำให้เจ้าพ่อหนุ่มอยากกำราบนิสัยแบบนี้ให้สยบลงแทบเท้าของตัวเอง เขาจึงตัดสินใจลักพาตัวรัตติกรที่บาดเจ็บเพราะโดนลูกหลงติดตัวกลับไปอิตาลีด้วยกันเสียอย่างนั้น
พอได้สติขึ้นมาอีกที สถานที่ที่รัตติกรอยู่ก็กลายเป็นบ้านพักตากอากาศในปาเลอร์โม หนึ่งในเขตเมืองแห่งเกาะซิซิลีประเทศอิตาลีเสียแล้ว เขาได้พบเจอกับเจ้าพ่อหนุ่มอีกครั้งและได้รู้ว่าจากนี้ไปชีวิตของเขาจะต้องพลิกผันมาอยู่กับเจ้าพ่อมาเฟียที่ไม่แค่ต้องการเขาในเรื่องความสามารถเท่านั้น แต่กลับต้องการให้เขามาเป็นผู้หญิงของตัวเองเสียได้
เริ่มแรกนั้นรัตติกรเอาแต่หนีท่าเดียวจนได้รับบาดเจ็บหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มสบโอกาสที่รัตติกรเกิดอาการขาดหนังสือกำเริบเพราะไม่ได้อ่านมานานหลายวัน อดีตอันแสนเจ็บปวดย้อนกลับมาเล่นงานหนุ่มชาวไทยจนแทบเสียสติ และหนทางเดียวที่เจ้าพ่อหนุ่มค้นพบโดยบังเอิญว่าสามารถใช้ดึงสติของรัตติกรกลับมาคือการเล้าโลมทางกายนั่นเอง โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังหลงระเริงไปกับสัมผัสที่ได้รับทำให้รัตติกรหลงไปกับเกมส์ตัณหานี้จนเกือบจะเสียท่าให้เจ้าพ่อหนุ่ม แต่เพราะความเจ็บจากการถูกรุกรานทางกายทำให้รัตติกรรู้ตัวขึ้นมาในที่สุด ลาร์เฟียร์ที่รู้ว่าโอกาสที่รัตติกรจะอยู่เงียบๆฟังเขาพูดแต่โดยดีนั้นหายาก เจ้าพ่อหนุ่มจึงถือโอกาสนี้ยื่นข้อเสนอให้รัตติกรมาทำงานกับเขาเต็มตัว ด้วยอดีตที่ผ่านมา รัตติกรนั้นมักจะโดดเดี่ยวอยู่เสมอ เขาไม่มีเพื่อนสนิท คนในครอบครัวก็ต่างเสียชีวิตกันไปหมดแล้ว เพราะไม่มีอะไรให้โหยหา ทำให้รัตติกรตกลงทำงานกับลาร์เฟียร์โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเป็นหนังสือยี่สิบเล่มต่อวันนั่นเอง
หลังจากนั้นเมื่อญาติดีกันแล้วจนพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน รัตติกรได้มีโอกาสนั่งคุยกับลาร์เฟียร์เป็นเรื่องเป็นราวถึงสิ่งที่เขาจะต้องพบเจอเมื่อตกลงทำงานกับเจ้าพ่อหนุ่ม มันทำให้รัตติกรได้รู้ว่างานของ The Don of Don หรือเจ้าเหนือหัวของมาเฟียทั่วทั้งอิตาลี่คนนี้ไม่ใช่งานที่เต็มไปด้วยเรื่องสกปรกอย่างที่เขาคิด ตระกูลเวสเปอร์นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยยุคแรกเริ่มของการปฏิวัติอิตาลี เป็นหนึ่งในต้นกำเนิดมาเฟียขนานแท้ที่ยึดกฎของมาเฟียยุคเก่าอย่างเคร่งครัด พวกเขาคอยอยู่เบื้องหลัง ควบคุมระบบของเรื่องเลวร้ายต่างๆให้ดำเนินไปอย่างเที่ยงธรรมให้มากที่สุดและก่อผลกระทบต่อสังคมให้น้อยที่สุดเช่นกัน ความจริงที่ได้รู้ในข้อนี้ทำให้รัตติกรเต็มใจทำงานให้กับลาร์เฟียร์ในที่สุด
งานแรกที่ได้รับทำให้หนุ่มชาวไทยต้องเดินทางสู่ประเทศจีนโดยไม่ทันตั้งตัว ลาร์เฟียร์พารัตติกรไปพบกับแก๊งมาเฟียชาวจีนซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่เจ้าพ่อหนุ่มมีเส้นสายอยู่ในขณะนี้ รัตติกรได้รู้จักกับฟงต้าเหลียงผู้นำตระกูลฟงและฟงเจิ้นฮ่าวผู้เป็นน้องชาย สองพี่น้องชาวจีนได้ส่งหนังสือว่ามีเรื่องสำคัญต้องการพบกับลาร์เฟียร์ และได้ให้หลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งที่บ่งบอกว่ามีหนึ่งในพันธมิตรของลาร์เฟียร์นั้นคิดทรยศไปเข้าพวกกับตระกูลโนวาห์ ซึ่งเป็นมาเฟียสัญชาติอเมริกันและถือเป็นแก๊งคู่อริอันดับหนึ่งของเวสเปอร์แฟมมิลี่เลยทีเดียว ด้วยความโกรธทำให้ลาร์เฟียร์เพียงแค่หยิบหลักฐานนั้นติดตัวมาด้วยและเดินทางกลับโดยยังไม่ได้คุยธุระอันใดกับสองพี่น้องตระกูลฟงเลยแม้แต่น้อย
มีเพียงรัตติกรที่ทันได้เห็นว่าหลักฐานชิ้นนั้นคือภาพถ่าย ด้วยความสามารถในการจดจำจากหนังสือนับแสนนับพันเล่มที่เคยได้อ่านมาทำให้เขารู้ในทันทีว่าสถานที่แห่งนั้นคือที่ไหน เมื่อบอกเรื่องที่ตัวเองรู้ให้ลาร์เฟียร์ได้ทราบ ทำให้เจ้าพ่อหนุ่มถือโอกาสส่งคนไปตรวจสอบทันที และผลที่ได้คือสถานที่ๆรัตติกรบอกนั้นมีอยู่จริงและกล้องวงจรปิดของที่ร้านในวันนั้นก็มีภาพบันทึกอยู่ว่าเกิดการนัดพบระหว่างตระกูลเทย์ริวและโนวาห์ขึ้นแล้วด้วย
พวกลาร์เฟียร์เข้าพักที่โรงแรมชั้นนำในย่านใจกลางเมืองของเซี่ยงไฮ้ รัตติกรถูกลาร์เฟียร์ลากไปทานอาหารด้วยกันและถูกเจ้าพ่อหนุ่มทดสอบความสามารถอีกครั้งหนึ่ง มันทำให้ลาร์เฟียร์เชื่อมั่นในที่สุดว่ารัตติกรมีประโยชน์กับเขามากกว่าแค่การเป็นล่ามช่วยแปลภาษา เพราะความสามารถในการจดจำเช่นนี้มีค่ามหาศาลเกินกว่าที่จะคาดคิดได้เลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน คนกลุ่มหนึ่งก็ถูกส่งเข้ามาสอดแนมความเป็นไปต่างๆของเวสเปอร์แฟมมิลี่อย่างลับๆ เมื่อลาร์เฟียร์ประกาศว่าเขาจะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อถามหาความจริงกับแก็งเทย์ริวว่าเหตุใดจึงต้องไปเจรจากับตระกูลโนวาห์ กลุ่มสายลับก็ได้รับคำสั่งให้ทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เวสเปอร์แฟมมิลี่ออกจากประเทศจีนเป็นอันขาด
ห้องพักของรัตติกรถูกจัดให้อยู่ในเพนส์เฮาส์ร่วมกับฟรานเลขาประจำตัวของลาร์เฟียร์ สคูร์โดหัวหน้าทีมบอดี้การ์ดอารักขา และเจ้าพ่อหนุ่มหัวหน้าเวสเปอร์แฟมมิลี่ เพียงเข้าพักในห้องส่วนตัวได้ไม่นาน รัตติกรก็ถูกเรียกให้ออกไปพบกับเจ้าพ่อหนุ่มอีกครั้ง เมื่อเข้าไปหาในห้องน้ำภาพที่รัตติกรเห็นคือฉากเล้าโลมของลาร์เฟียร์กับฟราน เจ้าพ่อหนุ่มเมื่อเห็นว่ารัตติกรมาหาแล้วก็บอกให้ฟรานออกไปพร้อมกับล็อกประตูจากภายนอกเพื่อจะขังพวกเขาไว้ข้างใน ลาร์เฟียร์ใช้กำลังบังคับรัตติกรกลายๆเพื่อให้หนุ่มชาวไทยตกเป็นของเขาเต็มตัว หากแต่รัตติกรกลับทำทีเป็นสมยอมและปลุกปั่นอารมณ์เจ้าพ่อหนุ่มให้ว้าวุ่นไปด้วยกันด้วยถือว่าตนเองจะไม่ยอมตกเป็นฝ่ายที่ต้องไหลไปตามเกมส์ของเจ้าพ่อหนุ่มแต่ฝ่ายเดียว ขณะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่ๆสคูร์โด หัวหน้าบอดี้การ์ดของลาร์เฟียร์ก็เปิดประตูเข้ามาแจ้งข่าวว่าจับตัวสายลับได้ รัตติกรถือโอกาสนี้หนีออกไปจากห้อง ทิ้งให้ลาร์เฟียร์ต้องอารมณ์ค้างอย่างหาที่ลงไม่ได้
เมื่อหนีกลับเข้าห้องของตัวเองได้เรียบร้อยแล้ว รัตติกรต้องหาหนทางสงบสติอารมณ์ของตัวเองอยู่พักใหญ่ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมร่างกายถึงได้ตอบสนองต่อเจ้าพ่อหนุ่มขนาดนั้น และทำไมสัมผัสต่างๆยังคงหลงเหลืออยู่ไม่จางหายไปเลยแม้แต่น้อย จวบจนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ความคิดน่ารำคาญเหล่านั้นก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวไม่สร่างซา สุดท้ายหนุ่มชาวไทยจึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอกแทนที่จะอุดอู้อยู่คนเดียว เมื่อออกจากห้อง เขาพบว่าไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว คาดว่ากลุ่มเวสเอร์แฟมมิลี่คงยกขโยงกันไปจัดการกับสายลับที่จับมาได้นั้นเอง แต่เมื่อเดินออกไปจนถึงประตู เสียงพูดคุยของคนกลุ่มหนึ่งเป็นภาษาจีนท้องถิ่นกลับดังแว่วมาให้ได้ยิน รัตติกรเพียงจับใจความได้ว่าคนกลุ่มนี้ตั้งใจจะเข้ามาขโมยเอกสารต่างๆที่จะทำให้พวกเขาออกไปจากประเทศนี้ไม่ได้ หนุ่มชาวไทยจึงไม่รีรอแม้แต่น้อยที่จะหาเอกสารเหล่านั้นให้พบแล้วเข้าไปหลบซ่อนตัวในห้องน้ำของเลขาฟราน
เสียงของการเข้ารื้อค้นดังแว่วเข้ามาให้ได้ยิน รัตติกรรอจนกระทั่งเสียงเหล่านั้นบอกว่าหาของที่ต้องการไม่พบและชักชวนกันออกจากห้องไปจึงได้วางใจและยอมออกมาจากที่ซ่อน เขาทิ้งกระเป๋าเอกสารของฟรานเอาไว้ในห้องน้ำ หากแต่เมื่อออกมาเขากลับได้เจอกับคนร้ายที่ลืมของทิ้งไว้ในห้อง แม้จะต่อสู้โดยใช้แจกันเหล็กฟาดเข้าที่หัวของผู้บุกรุก แต่พวกนั้นจำนวนมากกลับรออยู่เบื้องนอก แน่นอนว่ารัตติกรถูกจับตัวเอาไว้ในที่สุด หัวหน้ากลุ่มโทรหาผู้ว่าจ้างของเขาว่าจะจัดการเช่นไรกับคนที่จับได้ และเมื่ออีกฝ่ายได้รู้ว่าเขาเป็นใครเข้าแล้วจึงสั่งให้กลุ่มผู้บุกรุกลักพาตัวรัตติกรกลับมาด้วย หมุ่มชาวไทยถูกทำให้สลบ ก่อนที่คนร้ายทั้งหมดจะหนีหายไปอย่างรวดเร็ว
ตัดกลับมาที่สคูร์โดซึ่งกำลังสืบสวนสายลับอยู่ ฟรานกลับไปที่ห้องและพบว่าถูกรื้อค้น เลขาหนุ่มเจอแจกันเปื้อนเลือดพร้อมกับรัตติกรที่หายตัวไป ลาร์เฟียร์โมโหจนฆ่าสายลับที่จับได้ทิ้ง ตัดฉากมาที่รัตติกรที่ถูกจับตัวมาขังเอาไว้ในห้องใต้ดิน พบว่าฟงเจิ้นฮ่าวคือผู้จ้างวานและสั่งให้จับตนเองมา
รัตติกรถูกทรมานเพื่อบังคับให้บอกจุดอ่อนของเวสเปอร์แฟมิลี่ แต่เจ้าตัวปากแข็งและดื้อเงียบอย่างที่เคยเป็น ตอนท้ายเปิดตัวพวกโนวาห์กลายๆ เผยให้เห็นว่าโนวาห์อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้แต่ไม่ใช่ผู้สั่งการ
ความจริงเปิดเผยว่าเจิ้นฮ่าวเสนอตัววางแผนจัดการลาร์เฟียร์เองและโซอาห์เร ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มโนวาห์ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร แต่หมาป่าสีขาวผู้นี้กลับถูกใจในตัวของรัตติกรที่ดูเต็มไปด้วยความลับมากมายอีกทั้งยังมีนิสัยไม่ยอมคนง่ายๆ รัตติกรถูกทรมานหนักขึ้นแต่ยังปากแข็ง อาการขาดหนังสือเริ่มแสดงอาการอีกครั้ง คราวนี้เป็นหนักถึงขั้นชัก ขณะกำลังจะเข้าขั้นวิกฤต ลาร์เฟียร์ก็เข้ามาช่วยด้วยท่าทางโมโหร้ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้โซอาห์เรสงสัยและคิดว่ารัตติกรมีความสำคัญบางอย่างต่อลาร์เฟียร์จึงสั่งให้คนสืบประวัติมา
ย้อนอดีตรัตติกรช่วงที่ถูกลักพาตัวไปในช่วงวัยสี่ขวบครึ่ง ขณะที่เด็กชายกำลังเดินออกไปที่สนามเด็กเล่นใกล้บ้าน อยู่ๆรถตู้ที่ไม่ติดหมายเลขทะเบียนก็วิ่งเข้ามาขนาบข้างและพาตัวเขาขึ้นรถ แน่นอนด้วยอายุเพียงเท่านั้นเด็กชายยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เขาถูกพาตัวไปรวมกับเด็กอีกห้าคนและถูกขังเอาไว้ในห้องใต้ดินเล็กๆแห่งหนึ่ง ตอนแรกมันดูเหมือนการลักพาตัวธรรมดา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือการทดลองอันแสนวิปลาส เด็กแต่ละคนถูกจับออกไปทำการทดลองยาบางอย่างแต่ไม่เคยมีใครทนไหว พวกเขากลับมาด้วยร่างกายที่ผิดแปลก ค่อยๆตายลงต่อหน้าต่อตาของรัตติกรไปทีละคน ทีละคน...
ความตายของเด็กคนแรกนั้นทำให้รัตติกรหวาดกลัว เด็กชายในตอนนั้นค่อยๆเปลี่ยนตัวเองให้หลีกหนีจากความจริงอันโหดร้าย เขาหันไปมองผนังห้องที่เต็มไปด้วยกระดาษโน๊ตซึ่งบันทึกข้อความเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของใครคนหนึ่ง จดจ่ออยู่กับตัวอักษรแต่ละตัว ตีความมันด้วยสัญชาตญาณ ปลดปล่อยความนึกคิดทุกอย่างให้ลอยละล่องไปกับความฝัน ลืมสิ้นซึ่งเสียงกรีดร้องของเด็กคนต่อๆมา แต่แล้วเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาเมื่อต้องกลายเป็นเด็กคนสุดท้ายที่คนเหล่านั้นเหลืออยู่ เด็กชายถูกพาตัวไป เบื้องหลังประตูไม้บานเก่าคือทางเดินมืดมิดที่นำไปสู่ห้องทดลองที่ทันสมัย เขาถูกจับฉีดยาตัวใหม่ที่ปรับสูตรไปเรื่อยๆเมื่อใช้กับเด็กคนก่อนหน้าไม่ได้ผล ยามแรกมันแสดงอาการ รัตติกรเจ็บปวดมากเกินกว่าที่เด็กสี่ขวบคนหนึ่งจะทนได้ แม้เป็นผู้ใหญ่ก็อาจขาดใจตายได้ง่ายๆด้วยซ้ำไป เลือดไหลทะลักออกจากร่างกายจนเป็นแอ่ง นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่รอบๆส่ายหัวและถอนหายใจว่ายาตัวนี้ไม่ได้ผล พวกเขาสรุปว่าเด็กชายกำลังจะตาย…
ตอนนั้นเองที่มีคนบางกลุ่มบุกเข้ามา คนกลุ่มนั้นทำลายการทดลองจนพังพินาศ ผู้เกี่ยวข้องทุกคนโดนฆ่าทิ้ง ข้อมูลทั้งหมดถูกลบเลือน แต่คนกลุ่มนั้นกลับรัตติกรทิ้งไว้ที่นั่น ท่ามกลางซากศพและห้องทดลองที่พังยับ จวบจนกระทั่งมีคนแจ้งตำรวจ ผู้บุกรุกจึงหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและพบว่ายังมีคนรอดชีวิต เขาคือรัตติกรนั่นเอง แม้จะเสียเลือดจนเกือบตาย หากแต่ยาที่พวกนั้นฉีดให้เขากลับได้ผล เรื่องนี้กลายเป็นข่าวกรอบเล็กๆในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเด็กชายคือใครเพราะไม่มีการบอกชื่อจริง ผลของยาทำให้รัตติกรกลายเป็นเด็กที่มีสมองด้านการจดจำแบบสมบูรณ์เหนือมนุษย์ทั่วไป นี่เองจึงเป็นสาเหตุให้เขาสามารถจดจำหนังสือทุกเล่ม และเข้าใจภาษาต่างๆได้จนแตกฉาน หากแต่เพราะสมองจดจำได้ถึงความทรมานจึงได้ลบเลือนความทรงจำที่ผ่านมาของรัตติกรไปจนหมดสิ้น
เขาความจำเสื่อม และได้สมองที่สามารถจดจำทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นของตอบแทน....
กลับมาที่ตอนปัจจุบัน ลาร์เฟียร์พาตัวรัตติกรมารักษาต่อที่ญี่ปุ่นเนื่องจากต้องมาเคลียร์เรื่องที่เทย์ริวแอบไปนัดพบกับโนวาห์แต่ไม่บอกเขา ตอนนี้ก็ดูแลรักษาเทคแคร์ หวานๆก็ว่ากันไป ตัดมาตอนท้ายในช่วงที่ลาร์เฟียร์สั่งให้ฟรานไปตามสืบอดีตของรัตติกรอีกครั้ง เพื่อจะหาสาเหตุให้พบว่าอาการแบบนี้ของรัตติกรเกิดขึ้นมาจากอะไร
อาการรัตติกรดีขึ้นแล้ว เวสเปอร์แฟมิลี่เข้าพบกับตระกูลเทย์ริวเพื่อสอบถามความจริง ได้พบกับอาราชิ หัวหน้ากลุ่มเทย์ริว สาเหตุที่ต้องไปพบกับโนวาห์ก็เพราะมีการจับตัวประกันไปทำให้เขาต้องเข้าไปเจรจากับโนวาห์ตามที่ฝ่ายนั้นยื่นคำร้องขอมา เคลียร์กันเรียบร้อย หลังประชุมเสร็จลาร์เฟียร์ลากรัตติกรไปซื้อของในเมืองกับสคูร์โดและฟราน
-
กรี้ดดดดดด มาแล้วววว
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.27
รถสีขาวคันสวยแล่นฉิวตัดผ่านถนนหลายสายจากภูเขาสูงที่ห่างไกลผู้คนเข้าสู่เขตเศรษฐกิจในเมืองใหญ่ที่มีผู้คนหลากหลายวัยแออัดกันอยู่อย่างพลุกพล่านและเบียดเสียด ตึกหลายแห่งแทงยอดสูงเข้าไปในกลีบเมฆที่ลอยต่ำ แทรกไปด้วยหน้าจอโทรทัศน์ฉายโฆษณาในแต่ละสี่แยกใหญ่ๆช่วยให้บรรยากาศทึมๆของวันหิมะตกดูสดใสขึ้นมาบ้าง ร้านค้าหลายร้านเริ่มนำมิสเซิลโทและต้นคริสต์มาสมาวางตกแต่งชวนให้นึกขึ้นมาได้ว่าอีกไม่นานก็จะข้ามผ่านไปสู่ปีใหม่ซะแล้ว
รัตติกรมองวิวนอกรถเล่นไปเรื่อยๆขณะคิดถึงหนังสือเรื่องที่เขาคิดจะซื้อ แน่นอนว่ารายการในหัวตอนนี้มียาวเป็นหางว่าว กลัวแต่มันจะเยอะเกินไปจนไอ้เจ้าพ่อนี่จะชิ่งไม่ยอมซื้อให้เอาดื้อๆนี่แหละ คิดแล้วเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลไหม้ก็ขยับตัวด้วยความอึดอัด มือใหญ่ที่กอดรัดอยู่ตรงเอวยังคงกระชับแน่นอยู่อย่างนั้นแม้พวกเขาจะออกมาจากคฤหาสน์ของเทย์ริวมานานแล้วก็ตาม
รัตติกรเหลือบมองไปยังคนที่สไลด์มือถือเพื่ออ่านข่าวด้วยใบหน้าเฉยเมยซึ่งยังคงกักเขาเอาไว้ในอ้อมกอดไม่ห่าง บรรยากาศตอนออกมาข้างนอกของหมอนี่ดูยังไงก็เหมือนกับออกมาทำงานแท้ๆ ถ้าจะมีที่แปลกตาไปหน่อยบ้าง ก็คงเป็นชุดของเจ้าพ่อหนุ่มที่เปลี่ยนจากสูทขาวมาเป็นชุดไปรเวทที่ดูภูมิฐาน ผิดกับเขาที่ยังอยู่ในชุดสูทตัวเดียวกับเมื่อเช้าพร้อมผ้าพันคอปิดร่องรอยอนาจารที่อีกฝ่ายทิ้งเอาไว้
คิดแล้วรัตติกรก็ถอดหายใจเฮือกหนึ่งแล้วหันกลับไปมองวิวนอกหน้าต่างเพื่อฆ่าเวลารอให้ถึงที่หมาย คิดไม่ถึงว่าเสียงถอนหายใจเบาๆของตัวเองภายในรถที่เงียบสนิทจะส่งผลให้คนที่รู้อยู่แต่แรกว่าถูกแอบมองยิ้มขำแล้วเอื้อมมือมาบีบแก้มขาวนวลให้หันกลับมามองเขาดีๆอีกครั้ง
“มองหน้าคนอื่นแล้วถอนหายใจนี่มันหมายความว่ายังไงกันหืม?”
“...เรื่องของผมน่า”รัตติกรคิ้วขมวดมุ่นแล้วพยายามดึงมือของเจ้าพ่อหนุ่มออก เสียแต่เรี่ยวแรงที่ผิดกันลิบลับเลยทำให้กลายเป็นว่าเขาจับมือเจ้าพ่อหนุ่มอยู่เฉยๆไปเสียอย่างนั้น
“แต่ฉันว่ามันมีฉันเข้าไปเกี่ยวอยู่หน่อยๆนะ ไม่คิดว่านี่เป็นการเสียมารยาทต่อคนอื่นเขาหรือยังไง”
“ก็แล้วมันต้องมาบีบแก้มกันด้วยเหรอไงเล่า!”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องสิลูน่า”รัตติกรจิ๊ปากด้วยความเบื่อหน่ายแล้วสะบัดหน้าออกจากมือของอีกฝ่าย ส่วนเจ้าพ่อหนุ่มก็ละมือออกจากแก้มใสแล้วใช้สายตากดดันเอาคำตอบแทน
“เซ้าซี้จริงๆเลย กะอีแค่ถอนหายใจนี่ผมต้องรายงานคุณด้วยเหมือนกันเหรอครับเจ้านาย?”
“ก็ไม่หรอก แต่ในฐานะลูกน้อง ถ้าฉันถามอะไรเธอก็ต้องตอบ”
“เผด็จการจริงเว้ย! แค่ตอนนั้นปอดผมบังเอิญมีออกซิเจนต่ำและมีคาร์บอนไดออกไซด์สูง การถอนหายใจช่วยไล่คาร์บอนไดออกไซด์ในปอดได้มากขึ้น ผมก็เลยถอนหายใจแค่นั้นแหละ โอเคมั้ย”ว่าจบก็ยักคิ้วใส่เจ้าพ่อหนุ่มทีหนึ่งด้วยเจตนากวนประสาท ไม่ทันขาดคำเสียงหลุดขำของคุณบอดี้การ์ดหน้ารถก็ดังขึ้นขัดบรรยากาศ พอรู้ตัวสคูร์โดเลยกระแอมไอเล็กน้อยแล้วทำเป็นตั้งสมาธิขับรถต่อไป ผิดกับฟรานที่ยิ้มหวานมาตลอดทาง เขาปล่อยผ่านสถานการณ์ของคู่ข้างหลังแล้วชี้ทางให้คุณบอดี้การ์ดเลี้ยวเข้าไปจอดรถในลานจอดแบบคิดค่าจอดรายชั่วโมงในย่านที่มีคนพลุกพล่านจำนวนมากแห่งหนึ่ง
“หึ...” ลาร์เฟียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยความหมั่นไส้คนที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ในอ้อมกอดของเขา พอรถจอดดีแล้ว เจ้าพ่อหนุ่มเลยโน้มหน้าลงไปกัดริมฝีปากแดงๆด้วยความหมั่นเขี้ยวทีหนึ่งแล้วค่อยลากรัตติกรออกมายืนนอกรถในที่สุด
คนถูกประทุษร้ายกระทันหันอ้าปากหวอแล้วได้แต่แยกเขี้ยวแง่งใส่เจ้าพ่อหนุ่มที่ยังยืนกุมมือเขาอยู่นอกรถ ริมฝีปากแดงช้ำเจ็บแปล๊บๆบ่งบอกให้รู้ว่าตอนที่ถูกกัดเมื่อกี้น่ะไม่ใช่แค่กัดหยอกๆ แรงกว่านี้อีกหน่อยเขาคงได้เลือดไปแล้วด้วยซ้ำ
“ได้คนซาดิสม์นี่...”บ่นงุบงิบเป็นภาษาไทยก็จริง แต่ไอ้คำว่าซาดิสม์น่ะมีความหมายเป็นสากล เจ้าพ่อหนุ่มเลยพอจะรู้ว่าเจ้าเด็กบ้านี่ต้องว่าอะไรเขามาสักอย่างแน่นอน แต่ด้วยขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด ลาร์เฟียร์จึงกระตุกมือรัตติกรเป็นเชิงเรียกแล้วเริ่มออกเดินไปด้วยกัน มีฟรานที่ตรวจสอบเส้นทางมาแล้วเดินนำหน้า และสคูร์โดที่คอยดูแลความปลอดภัยอยู่ด้านหลังอีกที
แน่ละว่าชาวต่างชาติสี่คนที่สามในสี่ตัวสูงปรี๊ดแบบชาวยุโรป หน้าตาก็โดดเด่นสะดุดตามาเดินด้วยกันเป็นกลุ่มๆเช่นนี้ต้องเป็นเป้าสายตา แต่พอสายตาของเหล่าญี่ปุ่นมุงเลื่อนลงมามองคนสองคนที่เดินด้วยกันตรงกลางจับมือกันเดินแบบนั้น สายตาหวานๆของเหล่าหญิงสาวก็เริ่มเปลี่ยนเป็นประกายวิบวับพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ รัตติกรที่รู้สึกหน้าร้อนผ่าวเพราะเข้าใจภาษาญี่ปุ่นพยายามกระชากมือของเจ้าพ่อหนุ่มออก แต่คนตัวสูงกว่าซึ่งไม่สะทกสะท้านกับภาษาที่ตัวเองฟังไม่เข้าใจกลับจับมือบางไว้แน่นกว่าเดิมเพราะกลัวเจ้าตัวเดินหลงไปเพราะแถวนี้คนเยอะชวนหลงเสียยิ่งกว่าอะไร
“ร้านหนังสืออยู่ข้างหน้านี่แหละครับ”ฟรานหันกลับมาบอกแล้วเดินนำไปจนถึงหน้าตึกสูงหลายชั้นที่ติดป้ายร้านต่างๆเอาไว้ ส่วนของร้านขายหนังสือต้องเดินขึ้นไปหน่อย แต่ฟรานตรวจสอบมาแล้วว่าในจุดใกล้ๆกับคฤหาสน์ของเทย์ริวนั้นมีร้านหนังสือร้านนี้แหละที่ใหญ่ที่สุด
ทั้งสี่หยุดยืนอยู่หน้าร้านก่อนที่ฟรานจะหันกลับมาคุยกับรัตติกร
“คุณลูน่าครับ คิดว่าจะใช้เวลาที่นี่ประมาณกี่ชั่วโมงครับ”
“ซื้อเฉยๆ สักชั่วโมงก็เสร็จแล้วครับ”ถึงยังไงถ้าเป็นหนังสือที่ไม่เคยอ่านรัตติกรก็กะจะหยิบหมดอยู่แล้ว ดังนั้นแค่มอง หยิบ แล้วรวมไปจ่ายเงินทีเดียวก็ไม่น่าจะใช้เวลามากนักนี่นะ
“งั้นถ้าเสร็จแล้ว คุณกับสคูร์โดไปรอที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามทางนั้นนะครับ ส่วนนี่บัตรเครดิตครับ เป็นแบบไม่จำกัดวงเงิน ต้องการเท่าไหร่ใช้ได้ตามสบายเลยนะครับคุณลูน่า แต่ช่วยให้บอดี้การ์ดของเราขนกลับไหวด้วยนะครับ ทางผมจะพาดอนไปดูอะไรนิดหน่อย พอเสร็จแล้วจะได้หาอาหารเที่ยงทานด้วยกันแล้วค่อยกลับ ตามนี้นะครับ”ร่ายแผนการเสร็จสรรพ เลขาหนุ่มคนเก่งก็ส่งเครดิตการ์ดให้รัตติกรถือเอาไว้แล้วยิ้มส่งให้อีกครั้งเหมือนกับไม่ยอมให้ปฏิเสธ ผิดกับทั้งล่ามกับบอดี้การ์ดสองคนที่อ้าปากหวอมองหน้ากันด้วยไม่คิดว่าจะต้องอยู่กันสองต่อสองไปอีกเป็นชั่วโมงๆ
คนสองคนที่มีแววไม่ชอบขี้หน้ากันชัดๆอย่างพวกเขา แต่กลับต้องมาเดินเลือกของแล้วไปนั่งดื่มกาแฟต่อด้วยกันเนี่ยนะ??
“นายก็อยู่นี่กับหมอนี่สิฟะ เดี๋ยวฉันไปกับดอนเอง”
“รู้ทางเหรอครับคุณน่ะ แถมของที่กำลังจะไปดูกัน คุณก็ช่วยดอนเลือกไม่ได้หรอกครับ สู้อยู่ที่นี่แล้วใช้ข้อได้เปรียบคือแรงช้างสารของคุณหอบหนังสือทั้งหมดของคุณลูน่าดีกว่า คนเราน่ะต้องput the right man in the right jobนะครับ”ดวงตาสีมรกตเบื้องหลังแว่นกรอบดำดูสุภาพโค้งขึ้นเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มของผู้เป็นเจ้าของ ฟรานตบแก้มที่สากระคายมือด้วยตอหนวดของบอดี้การ์ดหนุ่มเป็นเชิงบอกให้ทำตัวดีๆ
“ทำไมฉันจะช่วยเลือกไม่ได้?”สคูร์โดจับมือของฟรานเอาไว้แน่นด้วยความโมโหเล็กน้อย เรื่องที่จะแยกกลุ่มกันฟรานไม่ได้บอกเขาล่วงหน้า ถ้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้แต่แรกเขาจะได้แบ่งกำลังบอดี้การ์ดบางส่วนมาเพิ่มแท้ๆ ทำไมชอบทำอะไรไม่ปรึกษาเขาก่อนเลยนะทั้งเจ้านายก็ดี ทั้งเลขาหน้ายิ้มนี่ก็ด้วย น่าหงุดหงิดเป็นบ้า!!
“มันเป็นของที่คนต้องเคยใช้มาก่อนถึงจะรู้น่ะครับว่าอันไหนดีหรือไม่ดี ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่เคยใช้แน่ๆล่ะผมมั่นใจ”
“ก็แล้วมันอะไรล่ะโว้ย??”รอยยิ้มของฟรานดูหวานแสบตาขึ้นเรื่อยๆขณะอธิบาย ยิ่งพอเขาถามเสร็จเจ้าตัวก็โน้มตัวมาหาแล้วกระซิบเบาๆที่ริมหูเป็นเชิงไม่อยากให้ใครได้ยิน แน่นอนว่าพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร สคูร์โดก็ดีดตัวไปข้างหลังแล้วชี้ไปทางเลขาหนุ่มด้วยท่าทางอึกอัก
“หึหึ เคยใช้มั้ยล่ะครับ?”
“ไม่เคยเว้ย!!! จะไปไหนก็ไปเลยไป!!”ว่าเสร็จบอดี้การ์ดหนุ่มก็คว้าแขนรัตติกรลากเข้าร้านทันควัน หนุ่มชาวไทยได้แต่เลิกคิ้วเพราะจนสุดท้ายเขาก็ยังไม่รู้ว่าทางเจ้าพ่อหนุ่มไปซื้ออะไรอยู่ดีนั่นแหละ พอมองไปทางลาร์เฟียร์กับฟรานที่ยังยืนมองอยู่หน้าร้าน เจ้าพ่อหนุ่มก็ส่งยิ้มแปลกๆมาให้แล้วเดินตามฟรานออกไปอีกทางหนึ่งในที่สุด
มาเฟียพวกนี้ทำไมต้องทำอะไรให้มันลับลมคมในขนาดนี้ด้วยเนี่ย?
_______________________________________________________________________
“นี่กะจะซื้อกี่เล่มเนี่ย?”เสียงหนึ่งถามขึ้นจากสคูร์โดที่ขี้เกียจเข้าไปอยู่ระหว่างชั้นหนังสือแคบๆเลยยืนรอรัตติกรอยู่บริเวณจุดคิดเงิน พอหนุ่มชาวไทยได้หนังสือจำนวนหนึ่งก็จะเดินเอามาฝากเขาเอาไว้ ตอนแรกๆก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ตอนนี้หนังสือกองอยู่รอบตัวเขาราวกับตั้งเป็นกำแพงปราสาทล้อมยักษ์ ทั้งลูกค้าและพนักงานร้านก็มองมาด้วยสายตาเป็นกังวลแต่ไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านตามประสาคนญี่ปุ่น แม้จะมีพนักงานบางคนใจกล้าเข้ามาถามเขาก็เถอะ แต่ภาษาอังกฤษแบบสำเนียงญี่ปุ่นนั้นสำหรับเขามันฟังไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย พอถามแค่คำว่า “หา?” กลับไป พนักงานคนที่ว่าก็ตัวสั่นริกๆ มองเขาด้วยท่าทางหวาดผวา แล้วพอเขาขมวดคิ้วใส่ด้วยความไม่เข้าใจเท่านั้นแหละ ไอ้คุณพนักงานนั่นก็พูดอะไรไม่รู้เสียงดัง โค้งสุดตัวจนหัวแทบไปชนเข่าแล้วเดินเร็วติดสปีดหนีหายไปหลังเคาท์เตอร์ซะงั้น
สถานการณ์ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเขากลายเป็นตัวประหลาด ตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครจนชวนให้หงุดหงิด ไอ้พระจันทร์ของดอนนั่นก็ยังเดินหายไปในดงหนังสือแล้วขนหนังสือกลับออกมาอีกกองแล้วกองเล่าไม่รู้จักจบจักสิ้น
“ผมซื้อเท่ากับจำนวนวันที่จะอยู่ญี่ปุ่นแล้วก็ทบกับวันตอนที่ถูกจับไปที่จีนคูณด้วยยี่สิบอีกที”
“คูณด้วยยี่สิบ?....สิบสี่คูณยี่สิบก็เป็น.....!!!”ได้ผลลัพธ์ในใจสคูร์โดก็เบิกตาใส่รัตติกรด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แค่จำนวนก็ว่าแย่แล้ว แต่ความหนาของแต่ละเล่มที่สามารถเอาไปเขวี้ยงหมาตายได้ขนาดนี้รวมเข้าไปอีก ดังนั้นมันก็เท่ากับว่าไอ้สองร้อยกว่าเล่มที่รัตติกรคิดจะซื้อเขาต้องเป็นคนแบกทั้งหมดนั่นไม่ใช่เหรอเฮ้ย! ไอ้หมอนี่นี่จะซื้อไปเปิดร้านหรือไงวะ?
“ทำไมเหรอ? คุณถือไม่ไหวเหรอ? ผมช่วยถือก็ได้นะ”รัตติกรเสนอความช่วยเหลือด้วยความหวังดี
“หุ่นอย่างนายยกทีได้แขนหักกระดูกแหกเอาน่ะสิ ผอมอย่างกับไม่เสียบผี กล้ามเนื้ออะไรก็ไม่มี”บอดี้การ์ดหนุ่มตอบกลับพร้อมกับไล่สายตามองหุ่นของรัตติกรด้วยท่าทางหยามเหยียด หนุ่มชาวไทยที่ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดเลยกลอกตาใส่สคูร์โดหนึ่งทีแล้วทำท่าบอกให้อีกฝ่ายช่วยยกหนังสือมาคิดเงินที่เคาท์เตอร์ด้วยกันแทน
ให้เขาเอาหุ่นตัวเองไปเทียบกับบอดี้การ์ดมาเฟียอันดับหนึ่งแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาไม้ซีกไปเปรียบกับไม้ซุงหรอก ไม่ต้องเอาไปงัด แค่วางไว้ข้างๆกันก็รู้แล้วว่าความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายเป็นคนละประเภทกันขนาดไหน ยิ่งกับสคูร์โดที่เป็นพวกเลือดร้อน ถ้าเถียงต่อล่ะก็ มันไม่จบแบบที่เขาต่อปากต่อคำกับลาร์เฟียร์แน่ๆ
“ช่วยแพคใส่กล่องให้ด้วยนะครับ”รัตติกรพูดกับพนักงานขณะที่สคูร์โดยกหนังสือกองแล้วกองเล่ามาวางบนเคาท์เตอร์คิดเงิน ครู่เดียวพนักงานสองสามคนก็เข้ามาช่วยแพคหนังสือลงกล่องให้ หนุ่มชาวไทยรับใบเสร็จมามองยอดเงินเล็กน้อย ดูๆแล้วมูลค่าเงินเดือนเขาแต่ละเดือนก็ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกันนี่นะ
“เรามีบริการจัดส่งนะครับ สนใจรึเปล่าครับคุณลูกค้า”พนักงานหนุ่มใจกล้ามองจำนวนลังที่ดูท่าจะหนักไม่น้อยแล้วเสนอบริการของทางร้านให้ด้วยท่าทางหวาดๆ สายตาของชาวต่างชาติร่างยักษ์ที่ยืนรออยู่ตรงนั้นน่ากลัวจนเขาเกรงว่าถ้าทำท่าทางให้คนพวกนี้ไม่พอใจเข้าล่ะก็จะถูกอุ้มไปโบกปูนถ่วงอ่าวอย่างที่พวกยากูซ่าในหนังชอบทำกันไหม
รัตติกรก็คิดว่าเข้าท่าดี เพราะจำนวนขนาดนี้ไปจะให้เขากับสคูร์โดสองคนขนไปก็ดูจะเป็นงานลำบากเอาการ แต่เพราะสถานที่ที่จะให้ไปส่งดันเป็นบ้านของหัวหน้ายากุซ่าแถบนี้ เกิดเขาตัดสินใจเอาเองโดยพลการ ดีไม่ดีอาจจะทำให้เป็นเรื่องได้ คิดได้ดังนั้นรัตติกรก็หันไปถามคนหน้าดุตาดุข้างหลังว่าจะเอายังไง
“ไม่ต้อง ฉันแบกไปเอง ใส่กล่องใหญ่ๆมาก็พอจะได้แบกง่ายๆหน่อย”เสียงขรึมตอบกลับทันควัน ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการเช่นนั้นรัตติกรก็ไม่ขัดความประสงค์ หนุ่มชาวไทยหันกลับไปทางเคาท์เตอร์แล้วบอกความต้องการของตนเองออกไปแล้วก็ออกมายืนรอให้พนักงานแพคหนังสือลงกล่องให้
“นายเข้าไปสั่งอะไรในร้านก่อนเลยแล้วกัน ฉันจะเอาของไปเก็บที่รถ เดี๋ยวจะตามไปทีหลัง”สคูร์โดมองปริมาณกล่องหนังสือที่เริ่มกองสูงขึ้นเรื่อยๆแล้วแทบอยากจะกุมขมับ ทำไมหัวหน้าบอดี้การ์ดอย่างเขาต้องมาคอยป็นเบ๊ขนของให้ของเล่นของรักของเจ้านายตัวเองด้วยวะเนี่ย?
“ไม่มีอะไรให้ผมช่วยจริงเหรอครับ”
“ช่วยไปนั่งรอดีๆอย่าก่อปัญหาอะไรก็พอ แล้วอย่าหายไปไหนซะล่ะ ดอนให้อยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น อย่าลืมสถานะตัวเองในตอนนี้ว่านายเป็นคนของเวสเปอร์แล้ว ระวังตัวดีๆด้วย”พูดเหมือนสอนเล็กน้อยสคูร์โดก็รับเอากล่องหนังสือทั้งหลายขึ้นมาแบกบนบ่าด้วยท่าทีมั่นคงจนน่าเหลือเชื่อ เรื่องน้ำหนักไม่ต้องพูดถึง แค่ปริมาณกล่องก็น่ากลัวว่าจะขนไปยังไงหมดไหว แต่บอดี้การ์ดคนนี้กลับยกเทินขึ้นบ่าสูงเรื่อยๆราวกับกล่องที่ยกอยู่เป็นเพียงดัมเบลยกน้ำหนักเฉยๆเท่านั้น
ทั้งคู่เดินออกไปจากร้านพร้อมกับสายตาที่แทบจะถลนออกจากเบ้าของคนรอบข้าง ใครจะไปคิดว่าที่ฟรานบอกให้อีกฝ่ายใช้แรงช้างสารช่วยเขาจะออกมาในรูปแบบนี้...
ถ้าพูดถึงเรื่องพลังกำลังล่ะก็ ตั้งแต่เกิดมารัตติกรยังไม่เคยเห็นใครที่แข็งแกร่งขนาดสคูร์โดมาก่อน แน่ล่ะว่าตัวเอกในนิยายหรือเทพปกรนัมทั้งหลายที่เขาเคยอ่านก็มีการกล่าวถึงคนจำพวกนี้ไม่ใช่น้อย แต่พอมาเห็นเองกับตาจริงๆถึงได้รู้ว่าทำไมจอมพลังพวกนั้นถึงได้กลายเป็นที่เทิดทูนขนาดนั้น
ความสามารถแบบนี้ ต้องแลกมาด้วยอะไรกันนะ?
รัตติกรสงสัยในใจแต่ก็ไม่คิดจะไถ่ถามออกมา เขาเดินนำออกจากร้านแล้วช่วยเปิดประตูอำนวยความสะดวกให้สคูร์โด จากนั้นก็นัดแนะสถานที่กับอีกฝ่ายอีกที แล้วหนุ่มชาวไทยก็เข้าไปนั่งรอในร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามอย่างว่านอนสอนง่าย
ทันทีที่เปิดประตูร้าน กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟก็เข้ามาโอบล้อมรอบตัวราวกับเป็นการต้อนรับลูกค้าด่านแรก เสียงทักทายของพนักงานดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระดิ่งที่แขวนเอาไว้เหนือประตูไม้บานสวย อากาศในร้านอบอุ่นกรุ่นกลิ่นหอมบางๆชวนให้สงบใจ คลอไปกับเพลงบรรเลงเบาๆที่เปิดเอาไว้เพื่อไม่ให้บรรยากาศภายในนี้ไม่เงียบเหงาจนเกินไปนัก รัตติกรมองสำรวจไปทั่วร้าน จดจำตำแหน่งต่างๆพร้อมทั้งกล้องวงจรปิดสองสามตัวแล้วค่อยเดินไปยังเคาท์เตอร์เพื่อเลือกสั่งเครื่องดื่มที่ตัวเองต้องการ
“เอาเซทคุณกระต่ายครับ”รัตติกรสั่งเมนูแนะนำที่เห็นขึ้นป้ายไว้หน้าร้านด้วยสีหน้าเฉยชา ผิดกับพนักงานหนุ่มคนรับรายการที่ผงกหัวขึ้นมองเขาทันควันที่ได้ยินคำสั่ง
“อ่ะ เอ่อ...เซทคุณกระต่าย เป็นโกโก้ร้อนท็อปปิ้งมาชเมโล่กับวิปครีมราดซอสบัตเตอร์หนึ่งแก้วกับเค้กคุณกระต่ายในสวนกุหลาบนะครับ”พนักงานหนุ่มเอ่ยถึงรายละเอียดว่าในเซทคุณกระต่ายที่ว่ามีอะไรบ้างเพื่อย้ำให้แน่ใจว่าลูกค้าคนนี้ไม่ได้เผลอสั่งอะไรผิดไป
ก็นั่นมันเป็นเซทสำหรับสาวๆมอปลายโดยเฉพาะ แถมยังตกแต่งทั้งเครื่องดื่มและขนมเค้กเป็นรูปกระต่ายน้อยสุดบ้องแบ๊ว ใครจะไปคิดว่าคนแรกที่กล้าสั่งเมนูนี้กลับเป็นหนุ่มหน้าสวยที่มาร้านกาแฟคนเดียวแบบนี้กัน? คนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแล้วได้ยินว่ารัตติกรสั่งอะไรถึงกับหันกลับมามองเป็นแถว
“ใช่ครับ โกโก้ร้อนขอเป็นแบบไม่ใส่น้ำตาลนะครับ”หนุ่มชาวไทยที่ไม่รู้ตัวว่าตกเป็นเป้าสายตายังยืนนิ่งหน้าตายอยู่หน้าเครื่องคิดเงิน ยืนยันเจตนาว่าเขาจะเอาไอ้เซทคุณกระต่ายนี่แหละไม่ผิดแน่นอน
“เซทคุณกระต่าย โกโก้ร้อนเป็นแบบไม่ใส่น้ำตาลนะครับ ทั้งหมดหนึ่งรายการ ห้าร้อยเยนครับผม”รัตติกรจ่ายเงินแล้วเดินไปยืนรอตรงจุดรับอาหารและเครื่องดื่ม ช่วงเวลานี้คนในร้านยังไม่มาก พนักงานหนุ่มผู้อัธยาศัยดีเลยเดินไปชวนรัตติกรคุยระหว่างรออยู่เฉยๆ
“สั่งไปให้คุณแฟนเหรอครับ?”
“ครับ?”ดวงตาสีน้ำตาลไหม้เรียวสวยช้อนมองขึ้นเพราะตอนแรกเจ้าตัวก้มหน้าลงอ่านโฆษณาที่แปะเอาไว้บนเคาท์เตอร์ ใบหน้าสวยที่อยู่ๆก็เงยขึ้นสบทำเอาคุณพนักงานหนุ่มเผลอใจเต้นไปเล็กน้อย
ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร แต่ตาเรียวสวยเป็นประกาย รับกับโครงหน้าได้รูปและผิวนวลเนียน มีริมฝีปากสีแดงอ่อนๆแต่งแต้มสีสันเล็กน้อย ดูอย่างไรก็ต้องให้คำนิยายกับใบหน้าแบบนี้ว่าสวยคำเดียวเท่านั้น
“เซทคุณกระต่ายน่ะครับ”พนักงานหนุ่มบอกหัวเรื่องเพิ่มขึ้นอีกนิดเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร
“เปล่าครับ ผมสั่งกินเอง”หนุ่มหน้าสวยยังคงตอบกลับและยอมรับหน้าตายว่าเขานี่แหละสั่งเจ้าเมนูสาวน้อยนั่นจริงๆ รัตติกรเห็นสายตาตกใจของอีกฝ่ายก็ค่อยนึกได้ว่าประเทศนี้เป็นประเทศที่ผู้ชายต้องรักษามาดชายหนุ่มผู้เคร่งขรึมกันสุดฤทธิ์ ไอ้การที่ผู้ชายคนเดียวจะเข้ามาสั่งเมนูแบบนี้จึงถือเป็นของแปลกอยู่ไม่ใช่น้อยจริงๆนั่นแหละ
แต่เขาไม่ใช่คนญี่ปุ่นนี่นา...อยากกินอะไรทำไมต้องอดกลั้นที่จะไม่สั่งของที่อยากกินด้วยล่ะ?
“ฮะฮะ หายากนะครับเนี่ยที่ผู้ชายมาคนเดียวแบบคุณจะสั่งเมนูแบบนี้”
“ผมไม่ชอบอดทนกับอะไรที่ตัวเองอยากได้นี่ครับ”
“เห...ประเภทเดียวกับผมเลยสิเนี่ย...”เสียงทุ้มระรื่นแลดูน่าฟังเสียงหนึ่งดังแรกขึ้นจากเบื้องหลัง บ่งบอกให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนที่ยืนฟังบทสนทนาของเขากับพนักงานหนุ่มเมื่อครู่อยู่
พอหันกลับไปมอง สิ่งแรกที่สะดุดตาคือผมยาวสีเงินสว่างที่ที่ยาวเคลียบ่าลงมาถึงเอว เจ้าของประโยคเมื่อครู่นั้นอยู่ในชุดเสื้อโค้ทสีขาวครีมยี่ห้อดัง บริเวณลำคอบุเฟอร์สีน้ำตาลอ่อนดูนุ่มนิ่มอุ่นสบาย แต่เมื่อได้ประจันหน้าจริงๆ รัตติกรถึงกับใจเต้นผิดจังหวะทันควัน
ตัวตาสีฟ้าไอซ์บลูคู่สวยที่มองสบโค้งขึ้นน้อยๆรับกับรอยยิ้มที่อีกฝ่ายส่งมาให้ ร่างที่สูงกว่าเขาเดือบคืบแผ่รังสีเย็นชาบางอย่างออกมาชวนให้บรรยากาศแถวนั้นเย็นขึ้นมาเล็กน้อยแม้เจ้าของร่างจะแย้มยิ้มอยู่ก็ตาม
เขาจะจำผิดไปได้อย่างไร....
ภาพในแฟ้มเก็บข้อมูลที่ลาร์เฟียร์บังคับให้เขาอ่านและจำเอาไว้นั้นมีภาพของคนๆนี้อยู่เยอะเป็นพิเศษ นี่คือศัตรูอันดับหนึ่งของเวสเปอร์แฟมมิลี่ และประวัติยาวเป็นหางว่าวของคนๆนี้ก็ยังประทับอยู่ในสมองของรัตติกรอย่างแจ่มชัด
โซอาห์เร่ โนวาห์...หัวหน้าของโนวาห์แฟมิลี่!!!
_______________________________________________________________________
ก่อนอื่นก็ขอกล่าวว่ากลับมาแล้วนะครับ :o8:
หายไปจะปีกว่าๆแล้ว ทำให้ทุกคนต้องรอนาน ต้องขอโทษจริงๆนะครับ ช้ากว่าเวลาที่สัญญาไว้เป็นเดือนเลย แง... ;w;
ตอนนี้เรียนจบแล้วครับ กำลังรออยู่ว่าทุนการศึกษาที่ขอไปจะได้หรือเปล่า เรียนจบแล้วก็มีเรื่องให้วุ่นวายหลายเรื่องเหมือนกัน แต่สิ่งที่สัมผัสได้มากที่สุดคือความรู้สึกที่ว่าเราไม่ใช่นักศึกษาแล้วนี่สิครับ
อยากจะอ้อนใครก็ทำได้ยากขึ้นแล้วแฮะ แย่จริงๆ
เป็นผู้ใหญ่ขึ้นจากตอนแรกที่แต่งนิยายเรื่องนี้เยอะเลย จำได้ว่าตอนที่ลงตอนแรกเพิ่งจบม.5เอง นี่จบมหาลัยแล้วเรื่องยังไม่จบเลยเหวย (เอาลังหนังสือของรัตติกรปาหัว ถ้านิยายเป็นของดองแล้วเค็มได้ ปริมาณโซเดียมของนิยายเรื่องนี้กินเข้าไปต้องเป็นพิษต่อไตแน่ๆเลย...)
วุ้ย กลับเข้าเรื่อง ห่างมือไปเป็นปีๆกลับมาแต่งอีกทีเป็นอะไรที่ยากอยู่เหมือนกันนะครับ ผมลบแล้วแก้หลายรอบมากเพื่อพยายามดึงมาตรฐานเดิมๆของตัวเองกลับมา แต่จบตอนนี้แล้วก็รู้สึกว่ายังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยน้า
ตอนต่อไปจะทำให้ดีกว่าเดิมนะครับ ห่างหายไปเป็นปีอาจทำให้หลายๆคนลืมเนื้อเรื่องตอนเก่าๆแล้ว ผมเลยทำสรุปช่วงแรกที่หายไปมาให้ด้วย หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ
แล้วเจอกันใหม่นะครับ ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้นะครับ ขอบคุณมากจริงๆน้า :L2:
Namioto Yo
-
ตามมา3+ปี :z3: :z2: ในที่สุดดดดก็กลับมาซักทีค่ะะะ ขอทุนให้ได้ที่ขอนะคะ //ดีใจที่กลับมาอัพอย่างแรง เหนละยังขยี้ตาว่าตาฝาดรึเปล่า :z13: :z13:..รอจนพ้นมาปีกว่า คงจะไม่หนีไปแล้วใช่ไหมคะ :hao5: :hao5: :hao5:
-
มาสักที!!!! ให้ทวงหนี้อยู่นานเลยยย คิดถึงงงว :katai4:
อั๊ยยะ...ชิบผายแล้วหนูลูน่า เจอบอสโนว่าแบบนี้จะเกิดไรขึ้นเนี่ย :katai1: :katai1:
-
บอกเลยว่าตกใจมากๆๆๆค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะที่มาต่อ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชอบมากอีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องที่ขนาดไม่มาอัพ แต่เราก็อ่านวนไปหลายรอบมากค่ะ
ยังไงเราก็จะรอเรื่องนี้จนกว่าจะจบนะคะ
รอมาต่อนะคะ :pig4: :L2:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
มาต่อแล้ววว :sad4:
น้ำตาจะไหล ฮือ กลับมาแล้วจริงๆ ใช่มั้ย ฮืออออ
-
ตกกะใจมากค่ะ ที่คนเขียนกลับมา เอาให้จบนะค่ะ ถึงห่างมานาน แต่สำนวนยังเหมือนเดิม และเราก็ชอบมากค่ะ :3123: :L2: :กอด1:
-
กริ๊ดดดดดดดด ตาฝาดป่าวเนี่ยยย :mew4:
เม้นก่อนอ่านเลยยยย คิดถึงมากรอมาตลอด (น้ำตาจะไหล)
ขอบใจที่มาอัพนะจ๊ะ ครุคริ โอ้ย ป้าดีใจ :กอด1:
-
เหยยยยยยนึกว่าดูวันที่ผิด โอ้โหววว มาเมนท์ก่อนอ่าน5555
อ่านแย้ววว โหยลูน่าอ่านเยอะจังงงงงงง 200กว่าเล่มเป็นเรานี่อยากจิครายยย
-
ขอบคุณ :)
-
อ๊ายยยยยยย มาต่อแล้ว ดีใจเว่อร์ :กอด1: มาต่ออีกน้าาาา รออยู่ค้า อย่าหายไปนานๆอีกเลย ใจคนอ่านจะขาดแล้วค่ะ :monkeysad:
-
ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้า :laugh: :laugh: รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า
-
น้องกรเนื้อหอมมม~~~ :hao7:
-
ดีใจมากที่มาต่อนะคะ เริ่มอ่านใหม่สนุกมากค่ะ
-
ดีใจที่มาต่อค่าาาา เป็นกำลังใจให้น้าาาาา ชอบเรื่องนี้มากๆ
-
คิดถึงมากเลยค่าาาาาา เค้าตามมาตั้งแต่ม.6 จนตอนนี้ปี3แล้วค่ะ 555555 ดีใจที่กลับมานะคะ อย่าหายไปอีกนะคะ :hao5:
-
เราอ่านเรื่องนี้วนไปมาหลายรอบมากๆค่ะ แต่ช่วงหลังมาไม่ค่อยได้กลับมาอ่านเพราะเริ่มเข้ามหาลัย อยู่ๆวันนี้ก็รู้สึกอยากอ่านขึ้นมาเลยเปิดดู
กรี๊ดดดดดดดด คนเขียนอัพแล้ววววววว รอมานานมากจริงๆ ขอบคุณที่มาอัพให้อ่านนะคด
นี่ยัฝกลัวๆอยู่ว่าคนเขียนจะลอยแพนักอ่านกลางคันรึเปล่า ขอบคุณที่กลับมาอัพนะคะ //ดีใจมากกกป
:กอด1: :L1: :pig4:
-
เจอหัวหน้าตัวเป็นๆเลยนะลูน่า~
คุณบอดี้การ์ดนี่แข็งแรงจริงๆ
รอตอนต่อไปปป :mew1:
-
เย้ๆๆ กลับมาแล้ว แต่ค้างมากกก
-
:a5: ตอนเห็นนี่อารมณ์ประมาณนี้เลย ดีใจมว้ากกกกกกกกกกกกก
หวังว่าหลังจากนี้จะไม่ทิ้งช่วงนาน รอคอย
เข้ามาส่องบ่อยๆ :ling1: มาต่อเเล้ว
มีความสุข :กอด1:
-
คิดถึงจังเลย...จะมาต่ออีกเมื่อไหร่คะ รออยู่น้าาาาาาา
-
มาลอยคอ รอๆๆนะแจ๊ะ ได้โปรดดด พลีสสสส
[เป็นกำลังใจให้เสมอ]
-
Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.28
รัตติกรชะงักมองคนผมเงินนิ่งงันอยู่พักหนึ่งแล้วค่อยๆสงบใจตัวเองลง หนุ่มหน้าสวยผินหน้ากลับไปยังเคาท์เตอร์ที่พนักงานหนุ่มยืนมองเขาสองคนเลิกลั่ก เมื่อสักครู่อีกฝ่ายแทรกบทสนทนาของพวกเขาขึ้นมาด้วยภาษารัสเซีย แน่นอนว่าพนักงานคนนี้คงฟังไม่ออก แต่รัตติกรกลับรับรู้ความหมายของมันได้อย่างชัดเจน
นี่ไม่ใช่แค่การกล่าวเพื่อเข้าร่วมบทสนทนา แต่หัวหน้าของโนวาห์แฟมิลี่คนนี้กลับจงใจพูดภาษารัสเซียกับเขา นอกจากนี่จะมองได้ว่าเป็นการเข้ามาทักซึ่งๆหน้า ยังบ่งบอกความนัยแอบแฝงอีกอย่างที่ว่าโซอาห์เร่คนนี้รู้ถึงความสามารถพิเศษของเขามาแล้วเป็นอย่างดี...
รัตติกรตอบกลับไปเพียงว่า “งั้นหรือครับ” ด้วยภาษาเดียวกัน และจู่ๆก็รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของข้างกายที่เปลี่ยนไปอย่างกระทันหันเมื่อมีไอร้อนของมนุษย์ขยับเข้ามาใกล้ พอเหลือบไปมองเล็กน้อย ก็พบว่าไหล่บางที่เคลียไว้ด้วยผมยาวสีเงินยวงได้เขยิบเข้ามาอยู่ข้างๆจนไหล่แทบจะชนกันอยู่มะรอมมะร่อ ใบหน้าคมสวยเย็นชาเอียงน้อยๆเพื่อก้มลงมองเขาอย่างพินิจพิจารณาเหมือนกำลังประเมินค่าสิ่งของอะไรสักอย่าง และรัตติกรก็ไม่ชอบสายตาแบบนี้เอาเสียเลย
การที่พระอาทิตย์คนนี้มุ่งเป้ามาทักทายเขาที่อยู่คนเดียวราวกับกะจังหวะเอาไว้แล้วก็ยิ่งทำให้รัตติกรแอบหวั่นวิตกในใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสาเหตุสำคัญนี้อย่างไรก็ต้องเกี่ยวข้องกับเวสเปอร์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ที่แย่คือมันดันเข้ามาทางเขานี่แหละ!!
“ในที่สุดก็ได้คุยกันสักทีนะครับ พวกเหลือบไรมันเกาะคุณอยู่ตลอด กว่าจะมาทักทายได้นี่ไม่ง่ายเลยนะ”เสียงนุ่มเย็นยังคงเอ่ยเรียบเรื่อยเป็นภาษารัสเซีย มือเรียวชี้ไปยังเมนูเดียวกับของรัตติกรเพื่อสื่อให้พนักงานหนุ่มเข้าใจ ก่อนที่ดวงตาสีไอซ์บลูจะเบี่ยงกลับมามองทางเขาอีกครั้ง
รัตติกรมองกลับพร้อมเลิกคิ้วน้อยๆ บอกว่าพวกเวสเปอร์เป็นเหลือบไรแบบนี้ราวกับจะพูดกันเขาออกมาจากกลุ่มก็ไม่ปาน หมอนี่ต้องการอะไรกันแน่…
“ลำบากแย่เลยสินะครับ”
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แต่ผมมันพวกขี้รำคาญ วันนี้ก็แค่อยากมาพบคุณเท่านั้น”
“เป็นเกียรติจังนะครับ”รัตติกรตอบกลับไปอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ ยังคงเลือกดูท่าทีไปก่อนที่จะบุ่มบ่ามทำอะไร ท่าทีของศัตรูที่มาอย่างมิตรนั้นอันตรายกว่ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด และสิ่งเดียวที่รัตติกรใช้ป้องกันตัวได้ก็มีเพียงแค่สมองเท่านั้น ส่วนสองมือที่ทำได้แค่ยกหนังสือหนักๆนี่คงหวังพึ่งอะไรไม่ได้แน่นอน
“การได้พบคุณต่างหากที่เป็นเกียรติของผม ต่อจากนี้เราคงได้เจอกันบ่อยๆ ผมเลยอยากมาทำความรู้จักกับคุณก่อนสักหน่อยน่ะนะ แต่ว่าก่อนอื่นช่วยบอกคุณพนักงานให้ที่สิว่าของผมเปลี่ยนเป็นเอาแบบกลับบ้านดีกว่า ภาษาญี่ปุ่นผมไม่ค่อยได้เรื่องน่ะ”โซอาห์เร่ยักไหล่น้อยๆ มือเรียวบางแต่เย็นเฉียบจนรู้สึกได้ผ่านเสื้อที่ใส่เอาไว้วางลงที่ไหล่ของเขาเบาๆเพื่อให้เบี่ยงตัวกลับไปทางเคาท์เตอร์ที่มีพนักงานหนุ่มคนเดิมที่มองมาทางรัตติกรด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ
หนุ่มชาวไทยถอนหายใจเบาๆแล้วบอกจุดประสงค์ของคนข้างๆออกไป พนักงานหนุ่มทำหน้าโล่งใจก่อนจะบอกขอบคุณแล้วเดินปลีกไปทางหน้าตู้เค้กเพื่อหยิบกล่องจากใต้เคาท์เตอร์ขึ้นมาพับเพื่อใส่เค้กสำหรับเอากลับบ้าน เมื่อไม่เป็นที่สนใจของใครแล้ว รัตติกรกับโซอาห์เร่จึงหันกลับมาต่อบทสนทนาอีกครั้ง
“ขอบคุณนะครับ แต่ละสำเนียงภาษาของคุณนี่น่ะ ถ้าไม่มองหน้าล่ะก็ใครๆก็คิดว่าคุณเป็นเจ้าของภาษาแท้ๆเลยนะ น่าเสียดายจริงๆ”
“น่าเสียดาย?”
“น่าเสียดาย... ที่คุณไม่ใช่ของผม”
“!!”ใบหน้าสวยคมที่โน้มลงมาใกล้จนแทบจะหายใจรดกันทำเอารัตติกรสะดุ้งเฮือก เสียงทุ้มเย็นกระซิบที่ริมหูใกล้เสียจนหนุ่มชาวไทยรู้สึกราวกับริมฝีปากของอีกฝ่ายสัมผัสโดนใบหูเขาเบาๆเสียด้วยซ้ำ!
“แต่อนาคตมันเป็นสิ่งไม่แน่นอนใช่มั้ยล่ะครับ หึหึหึ”
“อะไรของคุณ!”เสียงหวานตวาดแหวก่อนที่รัตติกรจะผลักอีกฝ่ายออกไปจากตัวเต็มแรง ทว่าแรงต้านของคนที่ยังยืนประกบอยู่ข้างหลังกลับมีมากกว่าที่เขาคาดเอาไว้ ผ่ามือแข็งแรงบังคับจับที่บ่าของเขาไม่ให้หันตัวกลับมา รัตติกรจึงทำได้แค่เพียงหันดวงตาสีน้ำตาลไหม้จ้องกลับไปอย่างเอาเรื่อง
“นิ่งเอาไว้แล้วดูนี่หน่อยสิครับ”เสียงทุ้มยังคงเรียบเรื่อยเหมือนไม่เป็นเดือนเป็นร้อนแม้สถานที่ที่พวกเขายืนยื้อยุดอยู่ด้วยกันตอนนี้คือหน้าเคาท์เตอร์กลางร้านกาแฟที่มีคนนั่งอยู่ไม่ใช่น้อย แผ่นหลังของรัตติกรสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวจากคนที่ยืนแนบอยู่ข้างหลัง ฉับพลันวัตถุแข็งๆบางอย่างก็กดลงที่ข้างเอวของหนุ่มชาวไทยในจุดที่เป็นมุมอับสายตา เมื่อมองลงไปก็เป็นกระบอกปืนที่สวมที่เก็บเสียงเอาไว้จ่ออยู่ในระยะประชิด มือที่จับไหล่เขาเอาไว้แน่นปล่อยออกชั่วขณะเพื่อหยิบกระดาษเล็กๆแผ่นหนึ่งขึ้นมาโชว์ในระดับสายตาของรัตติกร
หนุ่มชาวไทยทำสีหน้าเรียบเฉยไม่กระโตกกระตาก ยอมมองไปยังลายเส้นที่ตวัดอย่างมีเอกลักษณ์เรียงรายเป็นข้อความอันเป็นลักษณะเฉพาะของภาษาอาหรับโบราณยาวประมาณครึ่งหน้ากระดาษเอสี่ ซึ่งถูกโชว์อยู่เพียงชั่วครู่เดียวแล้วผู้เป็นเจ้าของก็เก็บมันกลับลงไปในเวลาไม่กี่วินาที
“คุณต้องการอะไร”
“แปลเมื่อกี้หน่อยสิครับ อย่าให้ตกหล่นเชียวนะ... ไม่งั้นผมยิงแน่”
“เหอะ....คิดว่าผมกลัวปืนคุณรึไง”
“นั่นสินะครับ...คุณไม่กลัว แต่คุณพนักงานคนนั้นจะกลัวรึเปล่านะ...”เสียงทุ้มยังคงกระซิบใกล้ๆใบหู ปลายกระบอกปืนก็ค่อยๆเบี่ยงออกไปอีกทาง มัจจุราชไร้เสียงเล็งไปยังพนักงานหนุ่มที่กำลังตกแต่งเค้กในจานเพื่อนำมาเสิร์ฟให้รัตติกร เจ้าหนุ่มยังคงทำงานอย่างขมักเขม้นโดยไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าหากเพียงร่างบางปฏิเสธไม่ยอมแปล หรือแปลแล้วผิดพลาดไปล่ะก็ ชีวิตของเขาก็อาจจบลงง่ายๆโดยที่ไร้ความผิดแม้แต่นิดเดียว…
“แก...อย่าดึงคนไม่เกี่ยวข้องมายุ่งด้วยสิวะ! เห็นชีวิตคนเป็นอะไรหา!”
“เขาเกี่ยวเพราะมายืนอยู่ตรงนี้ไงครับ มันก็แค่มดปลวกตัวเล็กๆไม่สำคัญอะไรสำหรับผม แต่มันสำคัญสำหรับคนอย่างคุณนี่นะ... เอาล่ะเร็วๆสิ ผมไม่ใช่คนใจเย็นนักหรอกนะ”ฝ่ามือข้างที่เคยกุมไหล่เขาเอาไว้เปลี่ยนไปโอบรอบเอวบางแล้วดึงร่างเพรียวเข้ามาใกล้ ปลายคางลดลงเกยบนบ่าของคนที่โอบเอาไว้ มองดูแล้วมันราวกับเป็นฉากของผู้ที่กำลังโอบกอดพลอดรักกัน ถ้าไม่ติดว่าเบื้องหลังของภาพนั้นคือปืนหนึ่งกระบอกและชีวิตของผู้บริสุทธิ์หนึ่งคน!
รัตติกรกัดฟันกรอด พยายามสงบใจที่เต้นระทึกลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วหลับตาลงสูดหายใจเข้าลึกๆ เวลาเพียงไม่กี่วินาทีที่ได้เห็นข้อความนั้น หากเป็นคนอื่นอย่างไรก็ไม่มีทางทำได้ แต่รัตติกรคือผู้มีสมองแบบพิเศษ ดังนั้นแม้จะเห็นภาพใดๆเพียงชั่วพริบตา เขาย่อมจำได้อย่างแม่นยำไม่มีตกหล่น และแน่นอนว่าไม่มีวันลืมอีกด้วย!
ร่างบางค่อยๆทวนภาพของกระดาษแผ่นเล็กเมื่อครู่ที่สมองจดจำได้อย่างแม่นยำแล้วค่อยๆแปลความหมายของมันออกมาเป็นภาษารัสเซีย...
“สงครามครั้งต่อไป...ต้องการระเบิดอานุภาพสูงจำนวนมากและเครื่องบินทิ้งระเบิดสามลำที่สามารถหลบเลี่ยงเรดาห์ตรวจจับของกองทัพได้ ราคาของโนวาห์แพงเกินไป และเรารู้มาว่าคุณสามารถจัดหาได้ในราคาที่ดีกว่า จึงยื่นข้อเสนอมาทางคุณเป็นการภายในเพื่อเปิดเส้นทางการค้าใหม่ หวังว่าจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจ...ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง SR…ปล.หลังจากได้รับข้อความนี้แล้ว ขอให้ทำลายทิ้งเสีย ทางเราจะเดินทางไปฟังคำตอบจากคุณเองในการประชุมกลุ่มผู้นำประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่จะถึงนี้...”
เสียงหวานแปลข้อความที่ได้เห็นออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ โซอาห์เร่ยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ รัตติกรรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของกระบอกปืนที่หายไปจึงลอบถอนหายใจแล้วสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายทันทีที่รู้สึกถึงแขนที่คลายออก
“ฮ่าๆ เดี๋ยวสิคนเก่ง ผมบอกแล้วเหรอว่าให้คุณขยับได้แล้วน่ะ อยู่อย่างนี้อีกหน่อยนึงสิครับ”แขนเรียวที่แข็งแกร่งกว่าที่คิดกระชับอ้อมกอดอีกครั้ง แต่รัตติกรที่สุดจะทนตัดสินใจทิ้งตัวลงกับพื้นจนหลุดออกจากวงแขนแกร่งนั้นได้ในที่สุด เจ้าตัวขยับถอยหนีไปจนสุดเคาท์เตอร์อีกฝั่ง แก้มสวยขึ้นสีแดงปลั่งเพราะหอบเหนื่อยจากการพยายามหนีและความตื่นเต้นจนแทบหยุดหายใจเมื่อครู่
เมื่อมองกลับไปยังราชามาเฟียแห่งอเมริกา ดวงตาสีฟ้าที่พราวระยับสมใจก็มองตอบกลับมา โซอาห์เร่หัวเราะอีกครั้งพร้อมปรบมือเบาๆ เขายืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับตามรัตติกรมา ทว่าก็ยังคงต่อบทสนทนาต่อไปอย่างไม่อินังขังขอบเลยว่าเมื่อสักครู่นั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“ดื้อจริงเชียว ผมแค่อยากชมคุณแท้ๆ ไม่เห็นต้องหนีกันเลยนี่ครับ”
“ชมบ้าอะไรของคุณ! อย่าคิดเข้ามาใกล้ผมเชียวนะ!”
“ว้าว ดุซะด้วย...ลาร์เฟียร์ยังฝึกมาไม่ดีพอล่ะสิ นี่แหละน้า...ไปเป็นของหมา ยังไงก็ออกมาได้เท่านี้ มาอยู่กับผมสิรัตติกร ผมให้คุณได้มากกว่าเขาหลายร้อยเท่า ความสามารถแบบคุณน่ะไม่สมควรไปอยู่กับเดรัจฉานพันธุ์นั้นหรอก”
“จะอยู่กับใครผมตัดสินใจของผมเองได้ ไม่รบกวนให้คุณมายุ่งหรอก”รัตติกรขึงตาตอบ
“ไปอยู่กับพวกหมาของรัฐบาลโลกแบบพวกนั้นก็เป็นได้แค่หมาโสโครก และผมก็มองว่าคุณดีเกินกว่าที่จะไปอยู่ในที่แบบนั้น คนอย่างลาร์เฟียร์ไม่สมควรเรียกว่ามาเฟียเสียด้วยซ้ำ ผู้คุมกฎแห่งโลกมืดอะไรกัน... หึ ก็แค่หมารับใช้...”เสียงของโซอาห์เร่เมื่อกล่าวถึงลาร์เฟียร์นั้นเจือไว้ด้วยกระแสหยามเหยียดจนรู้สึกได้ ในดวงตาสีฟ้าสว่างนั้นไม่ปิดบังความเกลียดชังที่มีอยู่เลยแม้แต่น้อย รัตติกรเม้มปากแน่น เขาที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของทั้งสองฝ่ายไม่สามารถกล่าวอะไรได้ทั้งสิ้น ถึงจะบอกว่าตอนนี้เขาเป็นคนของเวสเปอร์ก็ตาม แต่กับผู้ชายคนนี้เขาไม่รู้จริงๆว่าจะตอบโต้กลับไปอย่างไรดี...
จังหวะนั้นพนักงานหนุ่มที่ยืนมองรีๆรอๆเพราะกลัวว่าจะเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นกลางร้านก็ยกถาดเครื่องดื่มและเค้กของรัตติกรออกมาพร้อมกับถุงใส่แบบเอากลับบ้านของโซอาห์เร่วางลงบนเคาท์เตอร์คิดเงินเพื่อเป็นการอย่าศึกไปในตัว เขามองไปทางหนุ่มเอเชียผมดำที่อยู่ๆก็ไปยืนซะห่างด้วยสายตาขอความช่วยเหลืออีกครั้ง พอรัตติกรมองกลับไป เจ้าตัวก็พูดให้เขาแปลให้โซอาห์เร่ทันที
“คุณลูกค้า ช่วยบอกเขาทีสิครับว่าแบบเอากลับบ้านนี้มีบวกค่าแพคเกจเพิ่มเลยต้องจ่ายทั้งหมด550เยนน่ะครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ”เจ้าตัวโค้งเขาอย่างดิบดีเป็นการส่งท้าย รัตติกรได้แต่ทำสีหน้าแข็งๆแล้วหันไปบอกชายผมเงินที่ยืนมองด้วยแววตาที่กลับมาสนุกสนานอีกครั้ง
โซอาห์เร่หยิบแบงค์หมื่นเยนขึ้นมาวางบนเคาท์เตอร์แล้วหยิบถุงกาแฟและเค้กกลับมา เขาไม่สนใจเงินทอนแล้วเดินมาหารัตติกรที่ตกใจจนต้องก้าวถอยหลังไปแต่ก็ไม่ทันกับฝ่ามือเย็นๆที่เอื้อมมาคว้าแขนเขาไว้ได้อย่างถนัดถนี่
“ปล่อย! จะทำอะไรของคุณน่ะ!”
“วันนี้ผมแค่มาทักทาย...วันหน้าผมไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆแน่ อีกไม่นานนักหรอกนะ”มือแกร่งกระชากร่างเพรียวให้ถลาเข้ามาใกล้ ใบหน้าคมสวยที่ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มเยาะสายหนึ่งก้มลงสัมผัสริมฝีปากเข้ากับแก้มเนียนใสแผ่วเบาแล้วผละออกมาทันควันก่อนที่หมัดของรัตติกรจะซัดโดนหน้าของตัวเอง
หนุ่มชาวไทยถูแก้มแรงๆจนแดงเป็นปื้นด้วยความรังเกียจ มองไปยังแผ่นหลังที่ถูกปกคลุมไว้ด้วยเส้นไหมสีเงินยวงที่ค่อยๆทิ้งห่างออกไปยังประตูร้าน ดวงตาสีไอซ์บลูหันกลับมามองเขาเป็นเชิงเอ่ยลา ริมฝีปากขยับเป็นคำบอกว่า “แล้วเจอกัน” ก่อนที่จะก้าวออกไปนอกร้านซึ่งมีชายหนุ่มร่างสูงอีกคนยืนรออยู่
รัตติกรทันเห็นแค่เพียงดวงตาสีเทาเย็นชาตวัดมามองเขาเพียงชั่วขณะ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่สายตาของคนคนนั้นฉายประกายอันตรายบางอย่างจนเขาถึงกับขนลุกซู่...
ไปซะได้ก็ดี....
รัตติกรถอนหายใจอย่างหมดแรง เขาฟุบลงกับเคาท์เตอร์โดยมีพนักงานหนุ่มที่ยังนับเงินทอนของโซอาห์เร่ไม่เสร็จมองตาค้าง
“อ้ะ เอ่อ เงินทอนนี่ คุณลูกค้าครับ ทำยังไงดีล่ะ”
“คุณมาถามผมเนี่ยนะ? ก็เก็บไว้สิครับ ไม่เก็บก็เอาไปบริจาคก็ได้ ดวงคุณจะได้ดีขึ้นมาบ้าง แต่ไม่แนะนำให้วิ่งเอาไปคืนหรอกนะถ้ายังรักชีวิตตัวเองอยู่น่ะ”รัตติกรตอบแล้วคว้าถาดของตัวเองขึ้นมาถือ เขาไม่สนเสียงอุทานด้วยความงงงวยของพนักงานหนุ่มแล้วรีบปลีกตัวไปนั่งในที่ๆไกลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อหลบเลี่ยงสายตาชาวบ้านที่จับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียวจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้
ตั้งแต่เจอกับลาร์เฟียร์ไม่รู้ทำไมไอ้เรื่องบ้าๆพวกนี้ถึงวิ่งเข้ามาชนเขาไม่รู้จักหยุดหย่อน แต่เดิมมันก็ไม่ใช่ความต้องการของเขาด้วยซ้ำที่จะต้องมาทำอะไรแบบนี้ พอก้าวเข้ามาที ยังไม่ถึงอาทิตย์ความซวยก็หล่นทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า และดูท่าคราวนี้จะซวยหนักเป็นพิเศษซะด้วย...
โนวาห์คือศัตรูอันดับหนึ่งของเวสเปอร์ เช่นเดียวที่โซอาห์เร่คือศัตรูหมายเลขหนึ่งของลาร์เฟียร์
ปัญหาตอนนี้คือถ้าลาร์เฟียร์มาแล้วเขาจะทำยังไงต่อไป จะบอกไปตามตรงหรือเงียบไว้แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีต่างหาก...
ถ้าเกิดบอกรับรองว่ายังไงก็ต้องระเบิดลง ดีไม่ดีเขาจะโดนหางเล่ห์ไปด้วยซ้ำ ดังนั้นปล่อยไปแบบนี้ก็คงไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อเป้าหมายของโซอาห์เร่คือรัตติกรคนเดียวไม่ใช่เวสเปอร์ทั้งแฟมิลี่เสียหน่อย คิดได้ดังนั้นรัตติกรก็ถอนหายใจอีกเฮือกอย่างคนที่ตัดสินใจได้แล้วก็ก้มลงพิจารณาเค้กที่สั่งไป
คุณกระต่ายในสวนกุหลาบที่ว่าก็คือเค้กสตรอเบอร์รี่ครีมสดดีๆนี่เอง ทว่าบนหน้าเค้กมีตรอเบอร์รี่ที่ฝานบางๆวางเรียงกันเป็นดอกกุหลาบสีแดงสดหลายดอก พื้นที่ตรงกลางมีครีมสดบีบเป็นรูปกระต่ายตัวน้อย มีแยมสีฟ้าใสจุดเป็นตาเล็กๆเอาไว้ ด้วยรูปลักษณ์แบบนี้ก็เลยได้ชื่อว่าเป็นกระต่ายในสวนกุหลาบ ส่วนโกโก้ที่มีมาชเมลโล่กับวิปครีมลอยฟ่องอยู่ข้างบนก็ตกแต่งเป็นรูปกระต่ายอีกเหมือนกัน
รัตติกรปล่อยให้มันน่ารักไปอีกพักหนึ่งแล้วก็จ้วงตักเค้กคำโต ตัดระหว่างคอกับหัวกระต่ายพอดีอย่างไม่มีการคิดจะถนอมความน่ารักให้มันอยู่ไปนานๆเลยแม้แต่น้อย
ตาสีฟ้าเหมือนหมอนั่นพอดีนี่นา...
รัตติกรยิ้มกับตัวเองเพราะการแก้แค้นเล็กๆน้อยๆแล้วเคี้ยวเค้กส่วนที่มีหัวกระต่ายเต็มแรง
“เพิ่งรู้ว่าชอบกินของหวานเลี่ยนแบบนี้นะลูน่า...”
เสียงทุ้มต่ำอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังก่อนที่ฝ่ามือใหญ่จะปาดเช็ดลงบนริมฝีปากด้านหนึ่งที่เลอะครีมเล็กน้อยของรัตติกร
พอเงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร รัตติกรก็พบกับดวงตาคู่คมสีสนิมที่มองมายังเขาด้วยความขบขัน ลาร์เฟียร์ เวสเปอร์ยกนิ้วที่เปื้อนครีมขึ้นมาเลียชิมแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะของรัตติกรเต็มตัว พอมองเลยไปทางเคาท์เตอร์ก็เห็นฟรานกำลังยืนสั่งเครื่องดื่มกับสคูร์โดอยู่สองคน
“แล้วนั่นแก้มไปโดนอะไรมา? ทำไมแดงขนาดนั้น”เจ้าพ่อหนุ่มพอเห็นแก้มด้านหนึ่งของรัตติกรมีรอยแดงๆปรากฏอยู่ก็จับคางของอีกฝ่ายยกขึ้นแล้วจับหันซ้ายหันขวาไปมาเพื่อเช็คว่าของเล่นของเขามีตรงไหนบุบสลายเป็นรอยอะไรมาอีกรึเปล่า รัตติกรปัดมือของอีกฝ่ายออกด้วยความหงุดหงิดที่ถูกจับเล่นไปมาอยากกับตุ๊กตามีข้อต่อ แต่ลาร์เฟียร์ไม่ละความพยายามที่จะจับหน้าของรัตติกรหันข้างมาให้เขาดูรอยแดงที่ว่านั่นชัดๆ
“เรื่องของผมน่า...”
“เรื่องของเธอก็เรื่องของฉันนั่นแหละ ไปถูมันแรงๆล่ะสิถึงเป็นรอยอย่างนี้หืม?”นิ้วโป้งที่หยาบเล็กน้อยถูเบาๆไปตามรอยแดงที่ว่า รัตติกรนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วเอียงหน้าน้อยๆให้แก้มสัมผัสกับฝ่ามือของลาร์เฟียร์เต็มที่ เขาไถๆแก้มด้านนั้นกับมือของอีกฝ่ายนิดหน่อยแล้วผลักมือใหญ่ออกอย่างไม่สนใจใยดีเมื่อเกลือกแก้มจนเป็นที่พอใจแล้ว
ลาร์เฟียร์ชะงักไปชั่วครู่หนึ่งเพราะไม่คิดว่ารัตติกรจะยอมเล่นด้วย นับเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ที่เจ้าพระจันทร์ดวงน้อยนี่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อนในตอนที่ยังมีสติอยู่อย่างนี้ พอมองกลับไปด้วยสายตาเหลือเชื่อก็พบว่าเจ้าตัวมุดหน้าลงไปซดโกโก้ร้อนของตัวเองแล้ว ท่าทีตอนอ้อนเฉยชาจนน่าหมั่นไส้ขนาดนี้แท้ๆแต่เจ้าพ่อหนุ่มกลับยิ้มกว้างเพราะปฏิกิริยาที่ว่านั่น
“หึหึหึ”
“....หัวเราะอะไรของคุณ”
“เธอมันแมวป่าชัดๆ หึหึ”
“คุณว่าใครแมว!”
“ว่าเธอนี่ล่ะลูน่าของฉัน”เจ้าพ่อหนุ่มทรุดตัวลงนั่งด้านข้างของรัตติกรที่เลือกนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ก่อนจะโน้มหน้าลงไปฟัดแก้มใสที่ยังคงแดงเป็นแถบนั้น หนุ่มชาวไทยผวาวางแก้วโกโก้ที่เกือบหกรดตัวเองลงบนโต๊ะแล้วหันกลับมาต่อต้านไอ้เจ้าพ่อที่อยู่ๆก็มาหื่นในที่สาธารณะ ฟันคมพองับแก้มเขาได้ก็กัดด้วยความหมั่นเขี้ยวจนจากที่จะเป็นแค่รอยถูก็จะมีรอยกัดเพิ่มเข้ามาด้วยอีกรอย เขาจะตะโกนโวยวายดังก็ไม่ได้เพราะถึงตรงนี้จะห่างไกลผู้คนแต่ถ้าตั้งใจมองมายังไงมันก็เห็นอยู่ดีนั่นแหละ
มาเฟียพวกนี้มีแต่พวกหน้าไม่อายชอบทำอะไรประเจิดประเจ้อโดยแท้!!
รัตติกรกัดฟันกรอด ดิ้นหนีจนเสื้อผ้ายับยู่ยี่ลาร์เฟียร์จึงปล่อยเขาเป็นอิสระในที่สุด เจ้าพ่อหนุ่มผละออกไปนั่งกระหยิ่มยิ้มย่องกางแขนพาดพนักพิงราวกับจะโอบรัตติกรเอาไว้ ส่วนหนุ่มชาวไทยก็ได้แต่ฮึดฮัดถูแก้มแรงๆอีกครั้งจนแดงเห่อขึ้นกว่าเดิม
แต่อย่างน้อยในใจก็ไม่ได้รังเกียจขนาดนั้น...
ตั้งแต่แรกที่ตั้งใจเอียงแก้มด้านนั้นสัมผัสกับฝ่ามือหนาก็เป็นความตั้งใจของเขาเอง
แค่อยากจะลบรอยที่บางคนมาฝากเอาไว้
ใครจะคิดเล่าว่าไอ้เจ้าพ่อนี่จะบังเอิญมาทับรอยซะเต็มที่ขนาดนี้น่ะ!!!
_____________________________________________________
สวัสดีนักอ่านทุกคนอีกครั้งนะครับ :L2:
ช่วงที่หายไปมีหลายอย่างวุ่นวายพอสมควร แล้วก็ได้ทุนการศึกษาแล้วนะครับ เย้~
ขอบคุณคำอวยพรจากทุกๆท่านเลยน้า
จากนี้ไปจะพยายามอัพดีๆ เป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซน 555
ส่วนเรื่องใครว่าทำดีแล้วได้ดีฯยังเขียนต่ออยู่นะครับ แต่ยังเขียนวาโยไม่ได้เลยยังไม่เอาลง ขอโทษด้วยนะครับ พอโตแล้วมองอะไรๆเปลี่ยนไปหมดนี่มันก็แย่เหมือนกันน้า...
แล้วเจอกันนะครับ ^^
Namioto Yo
-
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
มาแล้วววววววว
-
ลูน่าควรบอกกกกกกกกก ฮืออเดี๋ยวเรื่องยุ่งยากจะตามมาทีหลังนะ
-
ขอบคุณ :)
-
มาอัพแล้วสสสสส คิดถึงมากกกกกกก
-
มาอัพไวๆน่ะคร้า~~~~ :hao6:
-
:mew1:
-
แทบจะร้องไห้เมื่อได้อ่าน :mew1: มาต่อไวๆเด้อ
-
ชอบเรื่องนี้มากดีใจที่มาต่อ
-
ขอบคุณมากค่าาา ยินดีด้วยที่ได้ทุนนะคะ :กอด1: :L2:
-
มาเห็นพอดี น้ำตาจิไหลลล คิดถึงมากก
-
เป็นกำลังใจให้ นิยายสนุกๆ ในแบบที่คุณมีความสุข สู้ๆนะ ดีใจด้วยกับทุน ขอบคุณครัชชช
-
ปริศนามาแล้ว
จะเกิดสงครามหรือเปล่า (จากที่ลูน่าแปล)
โซอาเรเกี่ยวอะไรกับอดีตของลูน่าหรือเปล่าเนี่ย
โอ๊ย ลุ้น
ติดตามค่ะ
:pig4: :pig4:
-
เข้ามาอ่านแล้วน้ำตาไหล...อัพแล้วเว้ยยยย
-
มาอัพต่อเถิดค่ะ
กำลังได้ฟิลล์
:pig4: :pig4:
-
ฉันนั่งรอเธอที่ท่าน้ำทุกวัน...
-
รอยคอ
ดัน
ดัน
-
รอค่ะ รออออออ ร๊อออออ รอออ :ling3: มาต่อนะค่ะ
-
เมื่อไหร่จะมาต่อ T^T
-
อ่านตั้งแต่ปี 3 จนจบมา 3 ปีแล้วค่ะ
รอนานมากจริงๆ..แล้วเราก็จะรอต่อไปเพราะเรารอเก่ง 55555
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^ :L2:
-
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้อัพกี่ครั้งต่อปี แต่ว่าจะมาร่วมรอด้วยค่ะ สนุกดีอะเพิ่งได้อ่านถึงจะรู้ว่านานมากๆกว่าคุณคนเขียนจะมาอัพ แต่ก็อดอ่านไม่ได้ จริงๆแล้วนิยายที่นานมากกว่าจะมาต่อหลายเรื่องคนเขียนจะเขียนได้บรรยากาศไม่ค่อยเหมือนเดิมค่ะเพราะแม้แต่เจ้าของเรื่องก็ลืม แต่เรื่องนี้จากที่ได้อ่านเราว่าบรรยากาศแต่ละตอนมันยังลื่นไหลต่อกันได้ดีอยู่เลย ชอบค่ะเพราะงั้นถึงจะต้องรอนานๆก็ไม่เป็นไร
-
ปีนี้ก็2017 แล้วนะคนเขียน มารอที่ท่าน้ำทุกวันจนเปื่อยไปหมดแล้วรู้ไหม แต่ยังไงก็รอเสมอ
เป็นกำลังใจให้ พัฒนาต่อๆไป
-
รออออ
คนเขียนหายยยย
-
เข้ามาบอกว่ายังรออยู่น๊า... :mew1:
-
:call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
-
ครึ่งปีเเล้วน้าาาาาาา รออออออออ
:ling1: :ling1: :hao5: :hao5: :serius2: :serius2: :z3: :z3:
มาอัพต่อได้เเล้ววววว รอค่าาาา
-
เค้าชอบเรื่องนี้มาก
รอคอยมานานแสนนาน เพิ่งเริ่มกลับมาอ่านเล้าอีกรอบ
ดีใจมาก รออยู่น้า :sad4: :sad4:
-
ไม่ว่ากี่ปีผ่านไป ยังไงก็รอคนเขียนมาต่อให้จบนะคะ
สนุกมากกกกก ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ที่แต่งนิยายวนุกๆให้อ่าน
เลิฟฟฟฟฟฟฟฟ :mew1:
-
รอค่ะ
-
ชอบเรื่องนี้ ดี๊ดี คนเขียนจะมาอัพต่อไหมคะ
รอนะ
ร๊อรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอออออออออออออออออออออ
-
รอนะคะ อย่าลืมอย่าทิ้งเรื่องนี้นะะะะ
-
คิดถึงเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ รอนะคะ
-
คนเขียนมีพรสวรรค์นะค่ะมาต่อเหอะ :ling3: :L2: :3123:
-
นิยายข้ามปีเรื่องมันสนุกจึงต้องรอต่อไป ฮือออออออ :ling1: :ling1:
-
นิยายข้ามปี 2017 ออกจะสนุกมากแท้ๆนะคะ :z3:
-
ชอบรัตติกรมากกกๆๆๆๆ อ่านเเล้วให้ความรู้สึกว่าคนคนนี้ถ้าได้ครอบครองเเล้วคงสุขใจสุดๆไปเลย ส่วนพระเอกของเรานั้นก็หื่นได้ใจคนอ่านดีค่ะ 55555 ชอบมากเลยทั้งการดำเนินเรื่องขนาดในช่วงเเรกๆที่คนเเต่งบอกว่าเพิ่งลองเเต่งเราก็รู้สึกว่าสุดยอดเเล้ว เเต่พอเห็นตอนอัพล่าสุดเเล้วก็เศร้าเลย คนเเต่งหายไปไหนนน :sad4: อยากให้รีบมาอัพต่อจัง รออยู่นะคะ รีบมาน้าาาาา :o12:
-
คิดถึฃเรื่องนี้มากๆค่ะ กลับมาต่อเร็วๆนะคะ
-
ปี2018ต้องมานะะ รอเสมอ
-
รออยู่เสมอนะคะ กลับมาต่อเถอะค่ะ
-
เพิ่งมาอ่านตามที่มีคนแนะนำมาแบบบบบบบบบดีมากกกกกกกเราชอบมากอ่ะ :mew1: :mew1:
อ่านตั้งแต่ต้นจนตอนล่าสุดเลยคือดีอ่ะ แต่เสียดายยังไม่จบ :a5: o22
ขอความกรุณามาต่อโดยด่วนด้วยเจ้าค่ะ :hao5: :hao5:
สาธุ สาธุ :call: :call:
-
โอ้ยๆๆๆเรื่องนี้ดีสุดๆ เราอ่านมาเป็นสิบๆรอบแล้ว ชอบมาก รอไรท์มาต่ออยู่นะ
-
ยังพอมีหนังสือมั้ยคะ
-
คิดถึงเรื้ิองนี้ กลับไปอ่านซ้ำดีกว่า 5555
-
คิดถึงมากเลยค่ะ
เรื่องนี้เป็นที่หนึ่งในใจเราเลย
ยังรออยู่นะคะ ผู้แต่งว่างเมื่อไหร่กลับมาแต่งต่อเถอะนะคะ คิดถึงมากๆ :m15:
-
ระวังหมามาคาบแมวนะดอน
-
:3123:
-
ถึงความหวังจะน้อย แต่ก็ยังรออยู่นะคะ :mew4:
-
รอออ :hao4:
-
รอออค่าาา
-
คิดถึงเรื่องนี้มากๆเลย หวังว่าคนแต่งจะมาลงต่อนะคะ :hao5: :hao5: