พิมพ์หน้านี้ - โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย (End)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: writerbeer ที่ 08-07-2018 20:56:12

หัวข้อ: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย (End)
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 08-07-2018 20:56:12
โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

-------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆทุกคน writerbeer กลับมาแล้วคร้าบ หลังจากลงนิยายเรื่องแรกจบไป ชีวิตผมก็ยุ่งมาก ทั้งเรียนปีสุดท้าย รับปริญญา จนตอนนี้กลายเป็นมนุษย์เงินเดือนไปเรียบร้อย ห่างหายจากบอร์ดไปนานพอสมควร แต่ยังไม่ทิ้งสิ่งที่ตัวเองรักครับ

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของรุ่นพี่กับรุ่นน้องในรั้วมหาวิทยาลัยครับ บอกเลยว่าตัวเอกฟาดฟันกันทั้งเรื่อง5555 ไม่ขอพูดอะไรมากไปกว่านี้ อยากให้ทุกคนเลื่อนลงไปอ่านและทำความรู้จักกับพฤกษ์เพชรข้างล่างได้เลยคร้าบ

อ่านแล้วติชมได้ครับ comment เป็นกำลังใจให้กันด้วยน้า

ปล. ใครที่ยังไม่เคยอ่านนิยายเรื่องแรกของผม ฝากด้วยครับ หรือใครเคยอ่านแล้ว ก็เข้าไปอ่านซ้ำได้ครับ5555
ชื่อเรื่อง: My Close Friend เปลี่ยนคู่จิ้นให้เป็นคู่รัก
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53277.0

หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย EP1 "ทำตามคำสั่งพี่พฤกษ์ปี3"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 08-07-2018 21:19:26
EP1 “ทำตามคำสั่งพี่พฤกษ์ ปี3”

อากาศร้อนอบอ้าว การจราจรติดขัด ให้ตายเถอะ วันนี้มันจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นบ้างมั้ยเนี่ย
หันไปมองค่าโดยสารบนมิเตอร์ก็ปาเข้าไปเกือบหนึ่งร้อยบาท ทั้งๆที่ผมควรจะจ่ายแค่ห้าสิบบาทเท่านั้นถ้าเป็นปกติ ตอนนี้รถบนถนนนิ่งไม่ขยับมาหลายนาทีแล้ว ไทยแลนด์โอนลี่จริงๆ
"เชี่ยเอ๊ย จะทันมั้ยเนี่ย" ผมพึมพำอย่างร้อนใจ
"ใจเย็นๆน้อง เดี๋ยวก็ถึง" พี่โชเฟอร์ผิวปากร้องเพลง ท่าทางไม่ทุกข์ร้อนอะไรทั้งสิ้น
"โหพี่ รถติดขนาดนี้จะใจเย็นได้ไง"
"เอาน่าไอ้น้อง รออีกแปบเดียว...ที่มหาลัยเค้ามีอะไรล่ะ ทำไมต้องรีบขนาดนั้น"
"งานรับน้องน่ะพี่"
"อ้อ พึ่งเข้าเรียนปีหนึ่งสินะ"
"ใช่"
ผมถอนใจเฮือกใหญ่ เมื่อเช้าผมตื่นสาย หลับเป็นตายไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกเลยครับ วิ่งผ่านน้ำเสร็จก็แต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ถึงจะรีบแต่ก็ต้องดูดีครับ จะออกมาข้างนอกแล้วสภาพไม่เนี๊ยบนี่ไม่ใช่ผมแน่ๆ
และก็เพราะไอ้ผมที่บรรจงเซ็ตให้เรียบนั่นแหละที่ทำให้ผมใช้บริการวินมอเตอร์ไซด์จากคอนโดมามหาวิทยาลัยไม่ได้ ผมจึงต้องโบกแท็กซี่ ป่านนี้พึ่งจะผ่านมาได้ครึ่งทาง แต่เลยกำหนดเวลาที่คณะนัดมาครึ่งชั่วโมงแล้ว
ชิบหายตั้งแต่วันแรกมั้ยล่ะกู
"พี่ มีทางลัดหรืออะไรที่จะทำให้มันไปถึงได้เร็วขึ้นมั้ย" ผมถามอย่างอับจนหนทาง
"ไม่มีหรอกน้อง ต้องตรงไปเท่านั้น เอาน่า" คือพี่จะใจเย็นไปมั้ยครับ
"ฮัลโหล" ผมกดรับสายไอ้เจมส์
(ไอ้เพชรมึงอยู่ไหนเนี่ย) ปลายสายกรอกเสียงถามทันที
"กูอยู่บนแท็กซี่ กำลังไป"
(สายประจำเลยนะมึงอะ ตอนนี้ทั้งคณะเค้ามากันครบแล้ว เหลือมึงคนเดียว)
โอ้โหโอริโอปั่น ข่าวนั่นปลอบขวัญผมให้รู้สึกดีขึ้นไปอีก
"มึงเว่อร์ละ รู้ได้ไงว่าขาดกูคนเดียว"
(รุ่นพี่เค้าคุยกันโว้ย)
"เชี่ย...แล้วนี่ทำอะไรกันอยู่วะ"
(กิจกรรมเริ่มมาพักนึงละ มึงให้ไวเลยสัส)
"สัสเอ๊ย เออ กูรีบอยู่เนี่ย"
เข้าร่วมกิจกรรมครั้งแรกสายแล้วแถมยังเป็นคนเดียวอีก ไปถึงผมมีหวังโดนรุ่นพี่เล่นงานเละแน่

ยี่สิบนาทีหลังจากนั้นรถแท็กซี่ก็เลี้ยวเข้ามาในบริเวณมหาวิทยาลัย ผมจ่ายเงินแล้วใส่เกียร์หมาตรงมายังสนามหญ้าหน้าคณะ สถานที่นัดพบของกิจกรรมรับน้องวันนี้ครับ<br>
ผมมองหาไอ้เจมส์เพื่อนผมเป็นอย่างแรก แต่หาไม่เจอหรอกครับ ในเมื่อมีเด็กปีหนึ่งอีกสี่ร้อยชีวิตนั่งรวมอยู่ด้วยกัน
สายตาของรุ่นพี่หลายสิบคู่มองมาที่ผม ผมก้มหน้าลง ไม่กล้ามองหน้าใคร แล้วเดินไปนั่งที่ปลายแถวด้านหนึ่ง
นั่งลงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์ถามพิกัดไอ้เจมส์ แต่แม่งไม่ตอบครับ สงสัยกำลังตั้งใจฟังรุ่นพี่ที่กล่าวอะไรอยู่ด้านหน้า
"น้องคะ ใช่น้องวชิระปะคะ" ผมมัวแต่กดโทรศัพท์เลยไม่ได้สังเกตว่ามีรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินลงมานั่งข้างๆ
"ใช่ครับ" ผมเงยหน้าตอบ อื้อหือ สวยโคตร ตัวเล็กๆขาวๆ ที่สำคัญ หน้าอกใหญ่ด้วยอะครับ-.-
"เขียนชื่อให้พี่หน่อย" พี่คนสวยยื่นใบรายชื่อมาให้ ผมรับมาพร้อมแจกยิ้มหวานไปหนึ่งที ก่อนจะเขียนข้อมูลตามที่กระดาษแผ่นนั้นบอกรายละเอียดให้ใส่
"น้องชื่อเล่นอะไรเหรอ"
"เพชรครับ พี่ล่ะครับ"
"พี่เอ๋ยจ้ะ" ยิ้มทีใจผมจะละลายแล้วคร้าบพี่เอ๋ย
ผมเขียนเสร็จก็ส่งแผ่นกระดาษคืนให้ พี่เอ๋ยรับไปแล้วลุกขึ้นยืน
"ไว้เจอกันนะจ๊ะเพชร"
"ครับพี่เอ๋ย"
ผมไม่ลืมที่จะส่งยิ้มมัดใจสาวไปอีก พี่เอ๋ยกลับไปยืนล้อมพวกปีหนึ่งไว้เหมือนเดิม เพื่อนๆพี่เอ๋ยมองมาที่ผมแล้วก็คุยกันยิ้มๆ
นั่นแน่ ผมหล่อใช่มั้ยล่ะ
ตอนนั้นเองปีหนึ่งทุกคนก็ลุกขึ้นยืนแล้วแบ่งกลุ่ม เอ้า ทำอะไรกันวะ ผมไม่เห็นจะรู้เรื่อง
จะถามไอ้เจมส์ก็ยังไม่เจอตัวมันเลย ผมต้องถามใครสักคนแล้ว
"นายๆ" ผมสะกิดไอ้คนที่นั่งอยู่หน้าผมซึ่งกำลังจะลุกขึ้นบ้าง "ทำอะไรกันวะ"
"พี่เค้าให้แบ่งกลุ่มตามเลข"
"เอ่อ...เลขไรวะ" ผมเกาหัวแก้เก้อ เมื่อกี้ไม่ได้ฟังที่รุ่นพี่คนหน้าสุดพูดเลยสักนิด
"แบ่งตามเลขรหัสนิสิตอะ ลงท้ายด้วยเลข1ก็อยู่กลุ่ม1"
"อ่อ ขอบใจมากเว้ย" ผมตบไหล่เพื่อนคนนั้น แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าจำรหัสนิสิตตัวเองไม่ได้
ปีหนึ่งหลายคนเดินไปเข้ากลุ่มของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ทำไงดีวะกู มาสายแล้วยังเสือกลืมรหัสอีก
จริงสิ รุ่นพี่น่าจะต้องรู้
ผมเดินเข้าไปหาพี่เอ๋ยคนสวยทันที ไม่ได้ตั้งใจจะทำยังงั้นเลยครับ แหะๆ
"พี่เอ๋ยครับ"
"คะ"
"คือเพชรจำรหัสนิสิตไม่ได้อะครับ" ผมบอกเขินๆ
"แปบนึงนะ..." พี่เอ๋ยกลับไปหาใบรายชื่อที่ให้ผมเขียนเมื่อสักครู่นี้ "วชิระ...เพชร 02104...อยู่กรุ๊ป4จ่ะ กรุ๊ปเดียวกับพี่เลย" พี่เอ๋ยยิ้มให้อีกแล้ว
"โอ้ ขอบคุณครับ" โชคดีล่ะครับ ได้อยู่กลุ่มเดียวกับพี่เอ๋ยด้วย
ผมเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับปีหนึ่งคนอื่นๆที่อยู่กลุ่ม4ด้วยกัน ตรงกลางวงมีรุ่นพี่ถือกระดาษเขียนตัวเลข4
แล้วผมก็เห็นไอ้เจมส์
"เชี่ยเจมส์" ผมเดินเข้าไปโบกหัวมันทันที
"ไอ้เพชร กูกำลังจะโทรหามึงพอดีเลย มึงอยู่กรุ๊ปนี้ด้วยอ่อ"
"เออ รหัสกูลงท้ายด้วย"
"เห้ย ดีๆ กูก็อยู่ นึกว่าจะไม่มีเพื่อนละสัส...ว่าแต่ทำไมมึงมาสายวะ"
"กูไม่ตื่น"
"ดีครับ" ผมโบกไอ้เจมส์ไปอีกทีโทษฐานที่ประชด
"มึงคุยกับเพื่อนคนอื่นมั่งยังวะ"
"ยัง นั่งเหงาเป็นหมาหงอยตั้งแต่มาละ"
"โถไอ้เจมส์"
ผมสังเกตเห็นว่ามีเพื่อนผู้หญิงหลายคนมองมาที่พวกเรา
"สาวๆมองกูเต็มเลยว่ะ" ผมกระซิบกับไอ้เจมส์
"ใครว่า เค้ามองกูกันต่างหาก"
"ถุย มึงอะนะ"
"กรุ๊ป4ตามพี่มาทางนี้" เสียงรุ่นพี่คนที่ยืนตรงกลางวงดังขึ้น พวกผมหยุดคุยโอ้อวดกันแล้วเดินตามไป
ไอ้เจมส์มาจากโรงเรียนเดียวกับผมครับ ซี้กับผมมาตั้งแต่ม.1 รู้ไส้รู้พุงกันหมด
เพื่อนม.ปลายคนอื่นๆก็มีสอบเข้ามาเรียนที่นี่ได้หลายคนนะครับ แต่คณะผมเนี่ย มีแค่ผมกับไอ้เจมส์สองหน่อ ผมคิดว่าต้องไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ให้มากขึ้นซะแล้วครับ

รุ่นพี่พาพวกกรุ๊ป4ไปยังลานข้างหลังอาคารเรียนหลังหนึ่ง ผมเห็นว่ามีกรุ๊ปอื่นอีก2-3กรุ๊ปเดินมาด้วย แต่ก็แยกกันไปอยู่ในพื้นที่คนละส่วน ดูเหมือนเตรียมกันไว้ก่อนหน้า
กรุ๊ป4ของผมเป็นซุ้มซึ่งทุกอย่างตกแต่งเป็นสีดำ-ขาว เออ คลาสสิคดีแฮะ ผมชอบ
ยังไม่เดินเข้าไปข้างในก็ได้ยินเสียงร้องเพลงรับน้องจากรุ่นพี่ดังมา
"อยู่บ้านดีดีไม่ชอบ อยู่บ้านดีดีไม่ชอบ เสือกมารับน้อง เสร็จล่ะมึง เสร็จล่ะมึง..."
เพลงไรวะ ผมนึกขันเนื้อเพลง พวกพี่ๆเค้าก็ร้องท่อนนี้ซ้ำไปซ้ำมาเป็นร้อยรอบได้ หลอนหูโคตร
ปีหนึ่งถูกจัดให้เดินเป็นแถวเรียงหนึ่งเข้าไปข้างในซุ้มโดยทุกคนต้องเกาะไหล่กันเข้าไป (นึกถึงแถวรถไฟตอนอนุบาลเลยครับ น่ารักชิบหาย) ไอ้เจมส์อยู่หน้าผม
เมื่อปีหนึ่งเข้ามาในซุ้มจนครบ พี่ๆก็เปลี่ยนเพลงที่ร้อง<br>
"ฮิป ฮิป ฮิปฮิปโป โอ้โหตัวมันใหญ่ มันเดินอุ้ยอ้าย มันเดินอุ้ยอ้าย ลัลลัลล้า ลั้ลลัลลา ลัลลัลล้า ลั้ลลัลลา.."
ไอ้เพลงอยู่บ้านดีดีไม่ชอบนี่ผมว่าแปลกแล้วนะ เจอไอ้เพลงฮิปโปแล้วออกนอกโลกไปเลย เพลงบ้าไรฟะ ต้องการจะสื่ออะไรกับคนฟัง ฮิปโปบ้านพี่ร้องลัลลัลล้าเหรอครับ (ไอ้เพชรได้แต่คิดในใจ)
พวกรุ่นพี่ไม่ได้ร้องอย่างเดียวนะครับ เต้นด้วย ท่าเต้นนี่แบบอย่าให้พูดถึงเลย หนักกว่าเนื้อเพลง และทุกอย่างยิ่งแย่เข้าไปอีก เมื่อพี่ๆมีการชักชวนปีหนึ่งให้มาเต้นด้วยกัน
ผมถูกพี่เรียก5คนแล้ว แต่ผมแค่ยิ้มแหยๆแล้วทำท่าเหนียมอาย ยืนนิ่งไม่ยอมออกไปแจม
ใครมันจะเต้นวะ ไม่เอาเด็ดขาด
กำลังจะหันไปหาไอ้เจมส์ เห้ย มันไปเต้นเพลงฮิปโปกับรุ่นพี่แล้วครับ
เชี่ยยย กล้าสาด มองๆไปนี่มีปีหนึ่งแค่ไม่กี่คนเองนะที่ไปเต้นกับพี่ๆเค้าอะ
ไอ้เจมส์นี่สายตลก ใจกล้าหน้าด้านมากเพื่อนผม
เออ เอาที่มึงสบายใจเลย
เพลงฮิปโปรอบหลังๆมีการเร่งจังหวะขึ้นอีกแน่ะ พี่ๆร้องกระแทกเสียงกันมากขึ้น อย่างกับเป็นเพลงร็อคยังไงยังงั้น
ผมยืนเอ๋อแดกไปเลย
"มัดหมี่ มัดหมี่ มัดหมี่ขูดมะพร้าว ทำกับข้าวอยู่ในครัว มัดหมี่ไม่รู้ตัวถูกคนชั่วลากเอาไป เอาไม้แหย่รู ถูๆไถๆ แสบๆคันๆ มันๆปนกันไป เอาออกก็ไม่ได้ ใครก็ได้ช่วยเอาออกที..."
รู้ตัวอีกทีเพลงฮิปโปก็กลายเป็นเพลงมัดหมี่ ผมรู้จักครับ แต่ไม่มีวันยอมเต้นเพลงนี้แน่ๆ ให้พันนึงผมยังไม่เต้นเลย (ถ้าสองพันก็ขอคิดดูก่อน เย้ย)
ไอ้เจมส์มึงงง มึงจะเต้นเพลงนี้เกินหน้าเกินตาไปแล้วนะ มันเล่นท่าตรงคำว่า "เอาไม้แหย่รู ถูๆไถๆ" ได้โหดสัสลัตเวีย ทุกคนกรี๊ดกร๊าดแล้วพากันชี้มือมาที่มัน
โอย ผมที่ยืนนิ่งเป็นเสาไฟฟ้าอยู่ข้างมันได้แต่ตบมือเปาะแปะและปฏิเสธพี่อีกหลายคนที่พยายามจะดึงผมออกไปเต้นให้ได้ ในใจก็ภาวนากับพระเจ้าว่าให้ผมมีชีวิตรอดออกไปจากซุ้มนี้ด้วยเถิด
ตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่ากำลังถูกใครมองอยู่ ผมหันไปก็เห็นรุ่นพี่คนหนึ่งมองมาจริงๆด้วย
เป็นผู้ชายร่างสูงชะลูด หน้าตี๋ พี่แกยกยิ้มมุมปากขึ้นเมื่อผมสบตา
หน้าตากับท่าทางที่พี่แกมองผมมันกวนตีนชะมัด เหมือนจ้องจะหาเรื่องกันยังไงยังงั้น
ไอ้ผมก็เป็นคนนิสัยเสียแบบนี้ด้วยสิ ชอบรู้สึกไม่ถูกชะตากับคนแค่เจอหน้ากันครั้งแรก

ผมหันกลับไปทางไอ้เจมส์ มันเต้นได้ฮาร์ดคอร์ขึ้นเรื่อยๆ เพลงสันเปลี่ยนไปแล้วครับ
"มีตารอบตัว รอบตั๊วรอบตัว...มีตัวลายตา ลายต๊าลายตา...ฮูลาฮูลา ฮูลาฮูลา...สับปะรดๆ เปรี้ยวมั้ยๆ(เปรี้ยว) เปรี้ยวมั้ยๆ(เปรี้ยว)...เปรี้ยวก็จิ้มเกลือ หวานก็จิ้มเกลือ เปรี้ยวก็จิ้มเกลือ หวานก็จิ้มเกลือ...ถ้าไม่มีเกลือ ก็ไม่ต้องจิ้ม แดกไปเลยๆ..."
เอ่อ สาบานว่าผมลืมเพลงก่อนหน้าไปเลย ใครเป็นคนแต่งไอ้เพลงนี้ แหม่ สัปปะรดสมชื่อจริงๆ ให้ตายเถอะโรบิ้น เพลงอัลไลเนี่ย
แล้วผมก็ต้องทนยืนเต้นง่อยๆไปอีกกี่เพลงก็ไม่รู้ ปีหนึ่งหลายคนเริ่มออกลีลาร่วมกับพวกรุ่นพี่แล้ว ไม่มีใครอายมั่งเลยรึไงวะ ห่า แทบจะเหลือผมอยู่คนเดียวแล้วที่ยังขยับเล็กน้อยอย่างเคอะเขิน
ในที่สุดช่วงเวลาเต้นสันทนาการอันแสนทรมานของผมก็จบลงจนได้ ทั้งรุ่นพี่และปีหนึ่งตบมือเสียงดังและส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด
"เชี่ยยย มันสัสๆอะ มึงไม่มาเต้นด้วยกันไอ้เพชร" ไอ้เพื่อนตัวดีหันมาถามผมพร้อมหอบหายใจ ก็แหงล่ะ เต้นใหญ่ซะขนาดนั้น
"กูไม่เอาด้วยหรอก" ผมกระซิบตอบ
แล้วรุ่นพี่ก็ให้ปีหนึ่งนั่งลง
"เหนื่อยมั้ยคะน้องๆ เต้นดีมากเลย เย่" มีเสียงกลองรัวรับคำพูดของรุ่นพี่ผู้หญิงที่น่าจะเป็นโฆษกของกรุ๊ป "ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่กรุ๊ป4ของพวกเราอย่างเป็นทางการค่าาาา" ตามด้วยเสียงโห่ร้องของพี่ๆทุกคน
จากนั้นพี่โฆษกก็เล่าคร่าวๆว่าคณะนี้มีนิสิตจำนวนมาก จึงได้แบ่งนิสิตออกเป็นกลุ่มหรือที่เรียกว่ากรุ๊ปทั้งหมด10กรุ๊ป กรุ๊ป1-0 โดยแบ่งตามเลขตัวสุดท้ายของรหัสนิสิต ไม่มีการจำแนกสาขา
เหตุผลที่แบ่งก็เพื่อให้มีรุ่นพี่สามารถดูแลรุ่นน้องได้ใกล้ชิดและทั่วถึง และกระจายเด็กที่มาจากโรงเรียนเดียวกันให้มีโอกาสทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆบ้าง
โชคดีสุดๆที่ผมกับไอ้เจมส์มีเลขรหัสนิสิตตัวสุดท้ายเหมือนกัน
ผมสอดส่ายสายตามองหาพี่เอ๋ย แล้วก็เห็นแกกำลังคุยกับเพื่อนอยู่ที่มุมหนึ่ง
"เออ เชี่ยเจมส์ กูเจอหญิงเด็ดๆแล้วนะเว้ย"
"ไหนๆ" ไอ้เจมส์ตาโต หันคอมาหาผมในวินาทีนั้น ไอ้เรื่องแบบนี้น่ะเร็วเชียวนะเพื่อน
"กูไม่บอกหรอก ของกู" ผมยักคิ้วยียวน
"ไอ้สัส คนไหนบอกมา"
"ไม่บอกเว้ย"
ไอ้เจมส์อ้าปากจะด่าผมต่อ แต่เห็นรุ่นพี่คนหนึ่งมองมาที่เราพอดีจึงหุบปากเงียบ
พี่โฆษกพูดต่อไปว่าจะเล่นเกม เฮ้อ น่าเบื่อชะมัด แต่ไอ้คนข้างๆผมนี่ดูกระตือรือร้นอยากเล่น บางทีกูก็สงสัยว่ามาสนิทกับมึงได้ไงวะเจมส์
"อะ เกมแรก เดี๋ยวพี่จะแจกตุ๊กตาหมี3ตัวแล้วก็เปิดเพลง ให้น้องส่งต่อไปให้เพื่อนที่นั่งข้างๆไปเรื่อยๆ ห้ามโยน ห้ามส่งข้ามคนนะคะ พอเพลงจบ ตุ๊กตาอยู่ที่ใคร 3คนจะต้องถูกทำโทษจ้าา"
อื้อหือ แค่ฟังกติกาก็เสียวสันหลังวาบขึ้นมา ไอ้ตุ๊กตาเสียกบาล เอ้ย ตุ๊กตาหมีนั่นคงไม่ได้อยู่ในมือผมตอนเพลงจบหรอกนะ
ตุ๊กตาหมีที่ว่าเป็นหมีพูห์ซะด้วยนะ แหม่ น่ารักเชียว
"พอพี่เปิดเพลงแล้ว น้องเริ่มส่งตุ๊กตาต่อได้เลยนะ...เอ้า เตรียมพร้อม 1 2 3..."
แล้วเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทรแบบ remix version ก็ถูกเปิด ตุ๊กตาหมีพูห์น่ารักที่ใครๆก็อยากเล่น ตอนนี้เหมือนเป็นของน่ารังเกียจและส่งผ่านมือกันอย่างรวดเร็ว
มี2ตัวที่ผ่านมือผมไป เสียวชิบหาย
เพลงยังเล่นต่อไป ไม่รู้ว่าจะหยุดตอนไหน
ไอ้เจมส์ส่งหมีพูห์น้อยใส่มือผมเป็นครั้งที่3 แล้วจู่ๆเพลงก็หยุด
พ่องงงง มาหยุดอะไรที่กูวะ
ผมกลืนน้ำลาย ซวยเหี้ยๆเลยไอ้เพชร
ไอ้เจมส์หัวเราะก๊าก ผมโบกหัวมันไป
"ไอ้เหี้ยเจมส์ มึงนะมึง"
"แบร่" แน่ะ ยังมีหน้ามาหัวเราะผมต่ออีก<br>
"ตุ๊กตาอยู่ที่ใครบ้างเอ่ยยย ออกมาข้างหน้าซะดีๆ..." พี่โฆษกพูดเสียงกลั้วหัวเราะ หายนะ มหันตภัย ชะตากรรมมั้ยล่ะกู
รุ่นพี่จะทำโทษอะไรผมเหรอครับ สั่งลุกนั่ง วิดพื้น หรือกระโดดตบดี
ผมสังหรณ์ใจว่าต้องเป็นอะไรที่อุบาทว์ๆหรือไม่ก็น่าอายมากแน่ๆ
เพื่อนอีกสองคนที่มีหมีพูห์เป็นผู้หญิงครับ คนหนึ่งหน้าตาดูเหมือนจะร้องไห้เต็มแก่ อีกคนดูตื่นเต้นอยากถูกทำโทษ- - ส่วนผมน่ะเหรอครับ เมื่อเดินออกไป ก็ได้รับเสียงกรี๊ดจากพี่ๆผู้หญิงดังลั่น พวกผู้หญิงปีหนึ่งก็ด้วย หันไปซุบซิบกัน
คนหล่อบางครั้งชีวิตก็ลำบากนะครับ (มันใช่เวลามาหลงตัวเองมั้ยเนี่ยไอ้เพชร)
"เดี๋ยวให้ผู้โชคร้ายแนะนำตัวหน่อยดีกว่าเนอะ เอาชื่อ สาขา แล้วก็สถานะละกัน"
สถานะด้วยหรอวะ เออ คิดในแง่ดี ก็ถือโอกาสบอกสาวๆไปเลยว่าผมโสด
"เอ่อ...ชื่อเพชร major finance โสดครับ"
พอถึงคิวผมพูด สาวๆก็กรี๊ดขึ้นมาอีกรอบ และยิ่งหลังจากบอกว่าโสด เสียงนี่ดังไปอีกเท่าตัว
"โอเค มาถึงบทลงโทษนะคะ น้อง3คนพลิกดูในเสื้อของตุ๊กตาจะมีกระดาษเสียบอยู่ ให้หยิบกระดาษออกมาค่ะ"
ผมหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆที่อยู่ด้านในเสื้อสีแดงตัวน้อยของหมีพูห์ออกมา
"อย่าพึ่งเปิดนะคะ เดี๋ยวเราจะมาเปิดทีละคน..."
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าในกระดาษนั่นคงเขียนบทลงโทษไว้ ผมจะโดนอะไรนะ อยากรู้จัง ถุ้ย
เพื่อนคนแรกโดนให้เอาแป้งทาหน้าแล้วเอาสีมาเขียน อีกคนโดนปั่นจิ้งหรีดแล้วให้เต้นต่อ ผมทึ่งมากที่เพื่อนเค้าเต้นได้ชิวๆไม่มึนงง ให้ผมทำก็ทำไม่ได้
"ตบมือให้น้องมิ้งหน่อยยย...โอเค มาถึงคนสุดท้าย น้องเพชรสุดหล่อออ" มีฉายาต่อท้ายชื่อแล้วซะด้วย
ผมแกะกระดาษออกอ่าน
"ทำตามคำสั่งพี่พฤกษ์ ปี3"
เสียงโห่ฮาดังขึ้นมารอบซุ้ม พี่พฤกษ์ ปี3แม่งทำไมวะ
แล้วไอ้รุ่นพี่หน้าตี๋ที่มองผมตอนเต้นสันก็ก้าวออกมาพร้อมคลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย
"พี่พฤกษ์ครับน้องเพชร"

TBC

จะว่าไปแล้ว การรับน้องมหา'ลัยก็เป็นช่วงหนึ่งในชีวิตที่น่าจดจำเลยนะครับ แล้วพี่พฤกษ์จะสั่งให้เพชรทำอะไร ติดตามต่อตอนหน้าครับ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP1 "ทำตามคำสั่งพี่พฤกษ์ปี3"
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 08-07-2018 22:00:12
ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP1 "ทำตามคำสั่งพี่พฤกษ์ปี3"
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 09-07-2018 00:38:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP2 "พี่พฤกษ์ครับน้องเพชร"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 10-07-2018 18:48:02
EP2 “พี่พฤกษ์ครับน้องเพชร”


“พี่พฤกษ์ครับน้องเพชร”
เสียงพูดไอ้พี่พฤกษ์ทุ้มนุ่มน่ากลัวพอๆกับรอยยิ้มนั่น แม่งจะสั่งให้ผมทำอะไรวะ
“น้องเพชรนี่ถือว่าพิเศษมากเลยนะคะ ได้รับเกียรติจากพี่พฤกษ์เลยนะเนี่ย” พี่โฆษกบอก เออ ขอบคุณที่ให้เกียรติมาลงโทษผมครับคุณพี่ “พี่พฤกษ์จะให้น้องทำอะไรดีคะ”
“อืมม…”
มึงอย่าคิดนานไอ้พี่พฤกษ์ กูลุ้นเยี่ยวเหนียว
“ให้น้องเพชรเต้นละกันครับ ตอนเต้นสันเมื่อกี้พี่ไม่เห็นเราเต้นเลย”
นั่นไง สั่งให้กูทำงานถนัดซะด้วย แหม่
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มเยาะ พี่ๆหลายคนส่งเสียงเห็นด้วย
กูไม่เต้นได้มั้ยวะสาด
“อ้อ อีกอย่างนึง” ผมหันกลับไปที่ไอ้พี่พฤกษ์อีกครั้ง มันเสริมเหมือนพึ่งนึกออก “เมื่อเช้าน้องเค้ามาสายนี่นะ พี่ขอทำโทษเพิ่มอีกอย่างได้มั้ยครับ”
ถามงี้ให้สิทธิผมปฏิเสธหรอครับ
ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองตอนนี้ต้องกำลังไม่สบอารมณ์อยู่แน่ๆ ส่วนไอ้พี่พฤกษ์ก็ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มีความสุขมากมั้ยพี่
“ก่อนเต้นมาแปลงโฉมซะหน่อย มา เดี๋ยวพี่ทำให้” หลังประโยคตามมาด้วยเสียงโห่ร้องเซ็งแซ่ของทุกคนในกรุ๊ป
แล้วพี่พฤกษ์ก็หยิบกระป๋องแป้งกับลิปสติกสีแดงสดก่อนเดินเข้ามาหาผม
“เห้ย” ผมร้อง
“ไม่ต้องตกใจนะครับ รับรองว่าหล่อกว่าเดิมแน่นอน”
ทุกคนหัวเราะร่า หล่อกว่าเดิมพ่อมึงสิครับพี่ โอย นี่ผมต้องทำจริงๆเหรอเนี่ย
“ขออนุญาตนะครับน้องเพชร” ไอ้พี่พฤกษ์พูดเมื่อถึงตัวผม ฉีกยิ้มปากจะถึงหู หน้าพี่แกแม่งตัวร้ายในละครหลังข่าวชัดๆ แล้วพี่แกก็เทแป้งใส่มือก่อนจะปะหน้าผม ปะเน้นๆ ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่าขาวโบ๊ะ สัสเอ๊ย
เสียงหัวเราะของคนในกรุ๊ปยืนยันความคิดของผม
“เติมปากกับแก้มหน่อยนะครับ” เอาจริงๆนะ ผมเกลียดขี้หน้าไอ้พี่พฤกษ์ไปแล้ว แม้พี่แกจะพูดเพราะทุกคำ แต่การกระทำมันตรงกันข้าม
อย่าให้ผมมีโอกาสได้เอาคืนมันนะ ผมจะจัดหนักให้ยิ่งใหญ่กว่ารัชดาลัยเธียเตอร์เลยคอยดู
ไอ้พี่พฤกษ์ทาลิปสติกสีแดงสดลงบนปากผม ตามด้วยเขียนเป็นรูปอะไรก็ไม่รู้บนแก้ม ไอ้เหี้ยยยย
ไม่อยากเห็นสภาพตัวเองเลยครับ
ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะหนักมาก และเมื่อพี่แกถอยจากตัวผมให้ทุกคนได้เห็น ผมก็ถูกเสียงหัวเราะจากทุกทิศสาดใส่ ไอ้ชิบหายยยยย
เกิดมาไม่เคยอายขนาดนี้มาก่อน สาบานเลยครับ
เพราะมึงคนเดียวไอ้พี่พฤกษ์ กูเกลียดมึงงงง
“พี่ขอเก็บภาพประทับใจไว้หน่อยนะ”
โดยไม่ทันตั้งตัว ไอ้พี่พฤกษ์ดึงผมเข้ามาโอบไหล่แล้วถ่ายรูปเซลฟี่
“เห้ยพี่”
“เดี๋ยวพี่ส่งรูปให้นะครับน้องเพชร”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกริ่ม เก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง
ถามผมยังว่าอยากเก็บภาพประทับใจร่วมกับพี่มั้ย
“เอาล่ะค่ะ พี่พฤกษ์แปลงโฉมน้องเพชรเสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวนี้น้องเพชรพร้อมเต้นรึยังงง”
“ใจเย็นนะพี่” ผมร้องห้าม คนทั้งซุ้มหัวเราะกันระงม
“เดี๋ยวพี่จะเปิดเพลง น้องเพชรจัดเต็มเลยนะคะ…” พี่โฆษกไม่ได้ฟังที่ผมพูดใช่มั้ย
แล้วเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทรก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ทุกคนตะโกนเชียร์ให้ผมเต้น
ผมจำใจต้องโยกตัวตามจังหวะเพลง สัส ไอ้พี่พฤกษ์ตั้งใจแกล้งกันชัดๆ
“เต้นแรงหน่อยๆ” รุ่นพี่สักคนตะโกนมาจากข้างหลัง พี่มาเต้นแทนผมมั้ยล่ะ
หมดกัน ภาพไอ้เพชรสุดหล่อ
เออ ไหนๆภาพพจน์ผมก็มลายหายไปหมดแล้ว ไม่ต้องแคร์อะไรอีกแล้ว
ผมตัดสินใจเต้นเต็มที่ตรงท่อนฮุคพอดี ยักไหล่แรงกว่าหญิงลีเจ้าของเพลงอีกมั้ง ห่า
กรุ๊ป4ทุกคนหัวเราะดังกว่าตอนที่ผมพึ่งแต่งหน้าทาปากเสร็จเสียอีก ไอ้เจมส์ตาโต อ้าปากค้างก่อนจะส่งเสียงลั่น
เมื่อเพลงจบ ผมได้รับเสียงปรบมือและโห่ร้องอย่างกับเป็นผู้ชนะในสงคราม
“ขอบคุณน้องเพชรมากค่ะ เด็ดมากกกก”
ผมหันไปมองตัวต้นเรื่อง ไอ้พี่พฤกษ์ยืนพิงเสาขำตัวงออยู่
สาดดดดดดด

หลังเกมตุ๊กตาพาซวย ผมขอรุ่นพี่ไปล้างหน้าแต่ไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผมต้องร่วมกิจกรรมอื่นๆต่อไปในสภาพนั้น นี่เห็นผมเป็นตัวตลกเรอะ
ไอ้เจมส์มองผมแล้วแม่งก็ขำอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้ตลกอะไรนักหนา ไอ้เพื่อนบ้า
กิจกรรมสุดท้ายคือการพบกับสายรหัส ซึ่งก็คือรุ่นพี่ปีสูงที่มีรหัสนิสิตเหมือนกับผมนั่นเอง 02104
ปรากฏว่าพี่รหัสปี2ก็คือพี่โฆษกนั่นเองครับ
“เอ้า น้องเพชรเป็นน้องรหัสพี่เหรอเนี่ย ว้าย” ผมยิ้มรับ “พี่ชื่อแนทนะ อยู่ account ดีใจอะได้เพชรเป็นน้อง...ดูดิ มีแต่คนอิจฉาพี่ทั้งนั้นเลย” พี่ผู้หญิงปี2หลายคนมองมาที่พี่แนทกับผม
“ดีใจที่ได้พี่แนทเป็นพี่รหัสเหมือนกันครับ”
“น่ารักมาก เดี๋ยวอย่าพึ่งรีบกลับนะ เสร็จนี่แล้วพวกพี่จะพาไปเลี้ยงข้าว”
“ได้ครับ ของฟรีเพชรไม่พลาดอยู่แล้ว”
“จ้ะ เออ วันนี้พี่ปี3กับ4สายเราไม่มานะ พี่ปี3ติดฝึกงาน ส่วนพี่ปี4ตอนนี้อยู่ญี่ปุ่น นางเที่ยวอยู่จ้า เดี๋ยวได้เจอทั้งสองคนตอนเปิดเทอม”
“อ่อครับ”
“เพชรมีไรให้พี่ช่วยหรืออยากถามก็บอกได้เลยนะ เรื่องชีทเรียนไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ไปขอเพื่อน finance มาให้”
“โอ้ ขอบคุณครับพี่ พี่แนทนี่ใจดีจัง”
“เค้าก็เป็นแบบนี้กันทุกคน” พี่แนทหัวเราะเบาๆ
ผมกับพี่แนทแลก contact และถ่ายรูปกันก่อนผมจะไปรวมกับพวกปีหนึ่งอีกครั้ง เตรียมเดินไปร้านที่รุ่นพี่บอก
“ไอ้เพชร พี่รหัสกูสวยสัส” ไอ้เจมส์พูดกับผมทันที
“ใครวะ ปีไร”
“ชื่อเอ๋ย อยู่ปี2 คนนั้นไง”
ผมแทบสะดุด หันไปตามนิ้วชี้ไอ้เพชรก็คือพี่เอ๋ยคนสวยของผมนั่นเอง
“ไอ้เหี้ยเจมส์ พี่เอ๋ยนี่แหละที่กูบอกมึงเมื่อกี้ว่าเจอหญิงเด็ด”
ไอ้เจมส์ยักคิ้วหลิ่วตาน่าถีบเป็นที่สุด
“เค้าเป็นพี่รหัสกูเว้ย มึงหมดสิทธิ์ละสัส”
“พ่อง ไม่เกี่ยวเว้ย ของกู”
“อดแดกแน่มึง”
“สัส&quot; ผมล่ะอิจฉาดวงไอ้เจมส์ชิบ
“พวกมึงคุยไรกันอยู่วะ” ไอ้นิวที่ไปเข้าห้องน้ำเดินกลับมา มันเป็นเพื่อนที่เล่นเกมอยู่กลุ่มเดียวกับผม ไอ้เจมส์เมื่อกี้ เลยชวนมันมาอยู่ด้วยกันครับ
“พี่รหัสไอ้เชี่ยเจมส์สวยสัส นั่นอะ” ผมชี้ให้ไอ้นิวดูพี่เอ๋ยบ้าง
“เออ สวยจริงว่ะ กูจีบนะ”
“มึงพอเลยไอ้นิว พี่รหัสกูนะเว้ย ไอ้เพชรก็จะจีบคนนึงละ”
“โห่ ยังงี้กูก็แพ้ละถ้าไอ้เพชรจีบ”
“ทำไมวะ” ผมถาม
“ถามได้ ก็มึงหล่อขนาดนี้ วันนี้กูเห็นมีแต่สาวๆมองมึงตลอด”
“แน่นอน”
“เออๆ กูยอมรับก็ได้ว่ามึงหล่อไอ้เพชร แต่ไม่คิดจะถ่อมตัวมั่งเลยรึไงวะสาด” ไอ้เจมส์ด่า
ผมยักไหล่ ทำเอาไอ้เจมส์ส่ายหัวเอือมระอา

เดินเท้าจากคณะมาร้านปิ้งย่างลุงโป้ใช้เวลาไม่ถึง15นาที พี่แนทเล่าให้ฟังว่าหลังจบงานรับน้องวันแรกแต่ละกรุ๊ปก็จะพาปีหนึ่งไปเลี้ยงข้าว จะร้านไหนก็แล้วแต่กรุ๊ป สำหรับกรุ๊ป4ต้องเป็นปิ้งย่างลุงโป้เท่านั้น มาที่นี่ทุกปี
“เออ ดีๆ กูไม่ได้กินบุฟเฟต์มานานแล้ว” ไอ้นิวบอก
“พวกพี่เค้าใจปล้ำว่ะ ต้องแพงแน่ๆ มีกันตั้งเกือบร้อยคน” ไอ้เจมส์ออกความเห็น
“โห่ ระดับคนคณะเรา เลี้ยงแค่นี้ชิวๆเว้ย” ผมพูด คณะผมเนี่ยมีแต่คนรวยๆมาเรียนทั้งนั้น ไม่ที่บ้านมีกิจการใหญ่โตก็เป็นลูกคนดัง
“น้องๆครับ แบ่งนั่งโต๊ะละ4คนนะ อยากนั่งไหนก็ได้ หรือจะมานั่งกับพวกพี่ก็ได้คร้าบ” รุ่นพี่คนหนึ่งส่งเสียงบอก
ผม ไอ้เจมส์ ไอ้นิวเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวที่อยู่เกือบในสุด
ที่นี่ไม่ได้มีแต่หมูกับเนื้อเท่านั้นนะครับ ยังมีอาหารทะเลกับอาหารญี่ปุ่นอีกเล็กน้อยบริการแบบไม่อั้น
ผมกับเพื่อนผลัดกันเดินไปตักอาหาร ระหว่างที่ผมเดินเลือก มีหลายคนมองมาแล้วก็ยิ้มขำ
เป็นเพราะไอ้วีรกรรมตอนเช้าแน่ๆ มันต้องเป็นภาพติดตาของทุกคน น่าประทับใจจริงๆ ถุ้ย
“ไงน้องเพชร เต้นเก่งเหมือนกันนะเราเนี่ย” พี่เอ๋ยทัก เค้ามายืนต่อแถวรอตักเนื้อหลังผม
“โหพี่ ลืมมันไปเถอะ น่าอายโคตร”
“ไม่เห็นน่าอายเลย น่ารักจะตาย พี่กับเพื่อนขำจนปวดท้อง”
“พี่เอ๋ยอะ เพชรไม่คุยด้วยแล้ว” ผมทำปากยื่น แกล้งงอน
“โอ๋ พี่ไม่แซวละๆ” พี่เอ๋ยหัวเราะเบาๆ
“พี่เอ๋ยนั่งตรงไหนหรอครับ”
“ตรงนู้นจ่ะ” พี่เอ๋ยชี้มือไปที่โต๊ะคนละฝั่งกับโต๊ะผมเลย
เมื่อถึงคิว ผมเลือกเนื้อหลายแบบใส่จาน พี่เอ๋ยขยับตัวเข้ามาแนะนำ
“เพชรต้องลองเนื้อน่องลายนี่จ้ะ อร่อยมาก ถ้าหมูก็ต้องสันนอก สันนอกร้านนี้ที่สุดละ”
“ขอบคุณครับ” ผมตอบพร้อมรอยยิ้มหวาน
ผมกลับไปที่โต๊ะอีกครั้งก็โดนไอ้เจมส์สวด
“ไอ้สัส ไปตักเนื้อหรือซื้อเนื้อวะ นานชิบ”
“โทษที กูเลือกนานไปหน่อย”
“ไม่ใช่แจ๊ะพี่รหัสกูนานอ่อวะ” ไอ้เจมส์ยิ้มมุมปาก
“เสือกเห็นอีกนะมึง” ผมหัวเราะ “พี่เค้ามาทักกูก่อนเว้ย”
“จ้า พ่อคนหล่อ เสน่ห์แรง”
แล้วก็มีพี่ๆมานั่งลงที่โต๊ะข้างๆพวกเรา
“เห้ยมึง ไอ้พฤกษ์มันไลน์มาบอกให้ย่างเนื้อสไลด์ไว้ให้มันเยอะๆ”
“เออ แล้วแม่งไปไหนวะ”
“ไม่รู้มัน”
ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินว่าไอ้พี่พฤกษ์จะมานั่งโต๊ะข้างๆ ได้ยินชื่อก็เหม็นขี้หน้ามันขึ้นมา
พี่ๆหันมามองเราสามคน พวกผมก็เลยยกมือไหว้ทักทายและยิ้มให้อย่างมารยาทดี พอเห็นผม พวกเค้าก็หลุดหัวเราะออกมา
“นี่น้องที่ไอ้พฤกษ์แกล้งนิ”
“ฮาว่ะ ไว้เต้นให้พวกพี่ดูอีกดิ”
“เนี่ย เดี๋ยวไอ้พฤกษ์มันมานั่งด้วย น้องอย่าพึ่งหนีไปไหนนะ”
ผมทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม แม่ง ไอ้ห่าพี่พฤกษ์
“พวกมึงก็หยุดขำได้ละสาด เห็นแก่หน้ากูมั่ง” ผมหันไปเล่นงานไอ้เจมส์กับไอ้นิวหลังรุ่นพี่ลุกไปตักอาหาร
“กูหยุดขำไม่ได้ว่ะ แม่งฮาเหี้ยๆ” ไอ้นิวขำจนตัวสั่น
“กูอยู่กับมันมา6ปีไม่เคยเห็นมันเต้นเลย” ไอ้เจมส์พูด
“สัส พอ ไม่งั้นกูจะเอาตะเกียบจิ้มตาพวกมึง” ไอ้สองตัวนั่นก็ยังหัวเราะต่อไปอยู่ดี
ผมกินไปพลางมอบไปรอบๆร้าน ทุกโต๊ะเป็นนิสิตคณะนี้ทั้งหมด สงสัยรุ่นพี่ติดต่อจองเวลาไว้ แล้วสายตาก็พลันเห็นไอ้พี่พฤกษ์เดินเข้ามาในร้าน
ยกเว้นปีหนึ่ง แทบทุกคนทักทายไอ้พี่พฤกษ์ ท่าทางมันจะเป็นคนดังในกรุ๊ป
น่าหมั่นไส้แม่ง
ไอ้พี่พฤกษ์เดินตรงมาที่โต๊ะพร้อมเพื่อน เมื่อมันเห็นผม ปากมันก็ฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา อย่างกับไจแอนท์เวลาเห็นโนบิตะ ขนลุกเลยกู
ผมเลิกสนใจมันแล้วหันมาคุยกับไอ้เจมส์ ไอ้นิวแทน
“หูยย เนื้อน่องลายอร่อยสัส” ไอ้เจมส์จุ่มเนื้อลงกับน้ำจิ้มรสเด็ดแล้วเอาเข้าปากอีกหลายชิ้น
“เออ ต้องขอบคุณไอ้เพชรมัน เอามาซะเยอะเลย” ไอ้นิวพูด
“พี่เอ๋ยแนะนำมาเว้ย ไหนมากินมั่งดิ๊” ผมแกล้งไอ้เจมส์ แย่งคีบชิ้นที่มันกำลังจะเลือกจากเตามาใส่จานตัวเอง
“สัส ย่างเองดิวะเชี่ยเพชร” มันโวยวาย
“กูขโมยมาสองชิ้นเองน่า มึงย่างใหม่ดิ กูได้ขโมยต่อ”
“พ่อง กูย่างใหม่ก็ได้วะ...เซตนี้ของกูนะเว้ย ห้ามยุ่ง” ไอ้เจมส์หยิบชิ้นใหม่วางบนเตาก่อนจะเอาตะเกียบจัดวางให้มันอยู่ฝั่งตัวเอง ผมกับไอ้นิวหัวเราะ
“เออไอ้นิว มึงมาจากโรงเรียนอะไรวะ” ผมหันไปถามไอ้เพื่อนใหม่
“กูมาจากต่างจังหวัด พวกมึงไม่น่าเคยได้ยินชื่อโรงเรียนกูหรอก”
“จังหวัดไรวะ”
“อุดรฯ”
“มาเรียนนี่มึงพักที่ไหนอะ” ไอ้เจมส์ถามบ้าง
“กูอยู่หอใน”
“อ่อ”
“แล้วพวกมึงอะ มาจากไหน”
“กูกับไอ้เจมส์มาจากโรงเรียนเดียวกัน อยู่กรุงเทพเนี่ยแหละ” ผมตอบ
“ไว้พาพวกกูไปเที่ยวบ้านมึงมั่งดิ กูยังไม่เคยไปอุดรฯเลย มีไรแนะนำมั่งวะ”
“เอาดิ มีเด็ดๆหลายอย่างเลยนะ ไว้จะพาไป”
“ตอนอยู่โรงเรียนนะ ไอ้เชี่ยเพชรแม่งไม่ทำห่าอะไรเลย วันๆเอาแต่หม้อหญิง”
ไอ้นิวหัวเราะ
“เอ้า ก็กูหล่อ มึงจะให้กูทำไรวะ” ไอ้เจมส์ทำท่าโก่งคอจะอ้วกกับคำพูดผม
“กูนี่ วงโยฯโรงเรียนนะคร้าบ” ไอ้เจมส์คุย
“เหยด มึงเล่นอะไรวะ”
“แซ็กโซโฟน”
“เท่สาด”
“มึงก็เล่นเพื่อหม้อหญิงเหมือนกันละน่า บอกไอ้นิวไปดิ” ผมกัด
“อย่างน้อยกูก็ใช้ดนตรีเป็นชั้นเชิงเว้ย ไม่ได้ใช้คารมปลอมๆแบบมึงเป็นเครื่องมือ”
“สาด เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้กูอีกละ” ว่าแล้วผมก็คีบเนื้อส่วนของไอ้เจมส์ตอนมันเผลอเข้าปากอีก มันร้องโวยวายใหญ่
“แล้วมึงอะนิว ทำไรที่โรงเรียนปะ” ไอ้เจมส์ถามไอ้นิวต่อ
“กูเล่นบอล”
“แทงบอลอะนะ คู่ไหนมั่ง” ผมหยอก
“ไม่ใช่การพนันโว้ย กูเป็นนักกีฬาฟุตบอล”
“เชดโด้โคอะล่ามาร์ช ยังงี้มึงต้องมีทีมในดวงใจดิ”
“กูแมนยู” ไอ้นิวตอบช้าๆ
“มา จับมือ” ผมดึงมือไอ้นิวจับแล้วเขย่า
“โด่ แมนยูกาก สู้หงส์กูไม่ได้หรอก” ไอ้เจมส์เผยทีมฟุตบอลที่มันรักออกมา
“โว้ะ ลิเวอร์พูลกาก อย่ามาเทียบกะทีมกู” ผมด่า
“ไอ้สัส มึงอย่ามาดูถูกทีมกูนะเว้ย แมนยูฯแหละกาก” ไอ้เจมส์เป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที ผมหัวเราะ
“ใจเย็นพวกมึง เชียร์คนละทีมก็ไม่ต้องเถียงกันก็ได้” ไอ้นิวห้ามศึก
“เออ มึงดูนิวดิ๊เพชร ควาย” ไอ้เจมส์แย่งเนื้อจากตะเกียบของผมไปบ้าง
“ขโมยกูคืนอีก” ผมยิ้ม
ผมพึ่งสังเกตว่าพี่ปี3โต๊ะข้างๆมานั่งกันครบองค์ประชุมแล้ว ไอ้พี่พฤกษ์ที่นั่งฝั่งตรงข้ามกำลังมองหน้าผมอยู่
ผมล่ะเกลียดรอยยิ้มของแม่งจริงๆ
“ไงครับน้องเพชร” นั่น กูกำลังจะหันไปทางอื่นมึงก็ทักขึ้นมาเลย
“ครับ” ผมตอบเสียงไม่สนใจ
“ไม่ทักทายกันเลยนะ ลืมชื่อพี่ไปแล้วอ่อ”
“จะลืมได้ไงครับ พี่พุทธไง”
พี่คนอื่นๆในโต๊ะหัวเราะพรืด
“มึงโดนน้องเล่นละเชี่ยพฤกษ์”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก
“ร้ายนะเนี่ยน้องเพชร สงสัยพี่ต้องสั่งลงโทษอีกมั้ง”
“อ้าว พี่ชื่อพฤกษ์หรอครับ ขอโทษครับพี่” ผมก้มหัวประชดประชัน
“พี่พฤกษ์ครับน้องเพชร...ไม่เป็นไรครับ แต่จำชื่อพี่ไว้ให้ดีนะ เราต้องได้เจอกันบ่อยแน่ๆ” ท้ายประโยคฟังดูน่าเสียวไส้ กูไม่อยากเจอมึงอีกแล้วไอ้พี่พฤกษ์ อย่ามาจองล้างจองผลาญกันอีกเลย
“ว่าแต่น้องอีกสองคนชื่ออะไรกันมั่งเนี่ย” ไอ้พี่พฤกษ์หันไปถามเพื่อนผม
“เจมส์ครับ”
“นิวครับ”
“ยินดีที่รู้จักครับน้องเจมส์ น้องนิว พี่พฤกษ์ ปี3นะ ส่วนนี่เพื่อนพี่…”
แล้วเพื่อนไอ้พี่พฤกษ์อีก3คนก็แนะนำตัว ชื่ออะไรบ้างผมก็จำไม่ได้หรอกครับ กำลังจะฟังแต่พอเห็นสายตาชั่วร้ายของมันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดู facebook แทน
อื้อหือ มีคำขอเป็นเพื่อนส่งมาเต็มเลยครับ ผมกดรับไอ้นิวกับคนอื่นๆอีกไม่กี่คนเฉพาะที่รู้จักเท่านั้น
เลื่อนลงไปอีกหลายชื่อก็เห็น facebook ไอ้พี่พฤกษ์ add มาเหมือนกัน
เออ กูไม่รับ
ผมยิ้มอยู่คนเดียวแล้วกดล็อคหน้าจอก่อนกลับมากินต่อ
แม่งคงไม่สังเกตหรอกมั้ง
“กูไปเยี่ยวแปบ” ผมบอกเพื่อน ลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำ
ระหว่างเดินไป มีหลายคนมองผมแล้วก็ยิ้มๆอีกแล้ว เฮ้อ กูคิดผิดมหันต์เลยที่ยอมเต้น ง่ะ
ทำธุระส่วนตัวเสร็จ กำลังส่องกระจกสำรวจความหล่อของตัวเอง ก็เห็นไอ้พี่พฤกษ์มายืนเกาะประตู
“น้องเพชร” มันยิ้มกริ่ม

TBC

อื้อหือ พี่พฤกษ์แกล้งหนักขนาดนี้ สงสารเพชรจริงๆครับ555
ดูเหมือนเฮียแกจะไม่ยอมจบง่ายๆด้วยสิ มาดักรอที่ห้องน้ำทำไมน้า รอติดตามตอนต่อไปฮะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP3 "ผมไม่กล้ากับรุ่นพี่หรอกครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 13-07-2018 21:29:20
EP3 “ผมไม่กล้ากับรุ่นพี่หรอกครับ”

“น้องเพชร” ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกริ่ม
นี่ไอ้พี่พฤกษ์มาเข้าห้องน้ำของมันหรือตามมากวนตีนผมถึงในนี้เนี่ย
“ครับ” ผมรับคำเสียงเบื่อๆ
“ทำไมเวลาพูดกับพี่ เราต้องทำท่าไม่พอใจด้วย”
“เปล่านี่ครับ ทำไมพี่ถึงคิดว่าผมไม่พอใจล่ะ” ผมยกยิ้มขึ้นมาบ้าง ตั้งใจกวนตีนมันเต็มที่
“น้ำเสียง สีหน้า ทุกอย่างมันบอกชัดว่าไม่พอใจพี่”
“ผมจะไม่พอใจพี่ได้ไงครับ พี่เป็นรุ่นพี่ ผมเป็นรุ่นน้อง ผมไม่กล้าหรอกครับ” ประชดประชันเข้าไปให้สุด กูไม่ยอมแพ้มึงหรอกไอ้พี่พฤกษ์ มึงชอบพูดจาภาษาดอกไม้แต่แฝงเจตนาร้ายใช่มั้ย ได้
“ที่เราทำอยู่เนี่ย เค้าเรียกว่าไม่กล้าเหรอครับ” มันยังยิ้มหน้าบานแม้ผมจะพูดไม่ดีใส่ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะไม่ชอบหน้าและกวนตีนรุ่นพี่คนไหนตั้งแต่วันแรกแบบนี้
มันยังยืนเกาะประตูและมองผมอยู่ตรงนั้น
“พี่มาเพราะจะถามแค่นี้เหรอครับ”
“จริงๆแล้วพี่จะมาถามว่า กลับบ้านยังไง”
ฮะ ถามวิธีที่ผมกลับบ้านเนี่ยนะ
“พี่จะไปส่ง” พี่แกตอบพร้อมยิ้มมุมปาก ถ้าหญิงมองคงคิดว่ามีเสน่ห์ แต่ผมมองว่ามันชั่วร้ายมากกว่า
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมกลับเองได้”
“น้องเพชรกล้าปฏิเสธน้ำใจรุ่นพี่หรอครับ”
เดี๋ยวนะ มันกำลังย้อนผมใช่มั้ย
“ไหนเมื่อกี้บอกว่าไม่กล้ากับพี่ไงครับ แล้วปฏิเสธได้ไง”
เชี่ย มันมาไม้นี่เหรอ ยกคำพูดผมมาเป็นข้ออ้างเฉย
“ใช่ ไม่กล้าครับ” ผมตอบเสียงเย็น
“หึหึ” มันหัวเราะในลำคอ “ถ้างั้นก็กลับกับพี่ ตกลงนะ”
นี่ผมพลาดแล้วใช่มั้ย สัส มันจะไปส่งผมทำไมวะ
ผมไม่ตอบแต่เดินไปที่ประตู มันขวางทางไม่ยอมขยับ
“ตกลงนะน้องเพชร” มันย้ำ
“ครับ”
มันเบี่ยงตัวให้ผมออกมาก่อนแล้วค่อยเดินตามมา
ไม่น่าพลาดเลยกู ไอ้โง่เพชรเอ๊ย
กลับมาที่โต๊ะอีกครั้งไอ้นิวก็นั่งนิ่ง เลื่อนโทรศัพท์ขึ้นลง ส่วนไอ้เจมส์ยังตั้งหน้าตั้งตาย่างเนื้อกับหมูต่อ มันเงยหน้าขึ้นมาถาม
“มึงไปห้องน้ำโคตรนานเลย แล้วทำไมกลับมาพร้อมพี่พฤกษ์อะ”
“คุยกันนิดหน่อย”
“โดนพี่เค้าแกล้งอะไรมาป่าววะ หน้าบึ้งเชียว” ไอ้เจมส์ลดเสียงลง แต่ผมตอบเสียงดัง
“เออ เบื่อแม่งชิบหาย”
หันไปมองไอ้พี่พฤกษ์ก็เห็นมันยิ้มพอใจ นี่วันๆจะยิ้มอย่างเดียวเลยใช่มั้ย
“เชี่ยเพชร” ไอ้เจมส์ร้อง
ผมนั่งลงและกินต่ออย่างหงุดหงิด
“ไอ้นิวมึงอิ่มแล้วอ่อวะ”
“เออ รีบแดกไปหน่อย อิ่มละเนี่ย”
“กากว่ะ กูแดกได้อีกยาวๆ”ไอ้เจมส์ว่า คีบหมูชิ้นใหญ่เข้าปาก “พี่พฤกษ์ทำอะไรมึงวะ”
“เปล่าหรอก กูแค่เห็นหน้าพี่มันแล้วคันตีน” ผมขี้เกียจเล่าเรื่องที่คุยกันในห้องน้ำเมื่อกี้ครับ
“ระวังนะมึง ไปกวนตีนพี่เค้า เดี๋ยวจะอยู่ไม่สุข”
“เออ” ไอ้นิวพึมพำเห็นด้วย
ผมยักไหล่
พี่ปี3เริ่มหันมาชวนพวกผมคุย ไอ้เจมส์ที่มนุษยสัมพันธ์ดีกว่าผมหลายขุมคุยกับพี่ๆจนสนิทกันอย่างรวดเร็ว ไอ้นิวตอบเท่าที่ถูกถาม ผมมองว่ามันน่าจะเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง
ส่วนผมน่ะเหรอ เงียบไม่พูดอะไรเลย ไม่ใช่ไม่อยากทำความรู้จักกับรุ่นพี่หรือหยิ่งอะไรหรอกนะ แต่พอเห็นหน้าไอ้พี่พฤกษ์แล้วมันเสียอารมณ์
ถ้าผมเป็นปลากัดคงท้องไปแล้ว เพราะมันยังจ้องหน้าผมลูกเดียว มีปัญหาอะไรกับหน้ากูฟะ
สองทุ่มเศษ พี่แนทกับปี2คนอื่นๆก็เริ่มเดินไปตามโต๊ะปี1 แจ้งกำหนดการเปิดเรียน สิ่งที่ต้องทำ และชวนให้น้องมาเข้ากิจกรรมรับน้องที่กรุ๊ปทุกวันเป็นเวลา1เดือน
ได้เวลาสนุกแล้วสิ ถุย ได้เวลาโดดต่างหาก
จากนั้นพี่ๆก็ปล่อยปีหนึ่งกลับบ้าน
“มึงกลับไงไอ้นิว”
“เดิน จากนี่ข้ามฝั่งไปก็ถึงหอกูละ มึงอะเพชร”
“เอ่อ” ผมอึกอัก เห็นจากหางตาว่าไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มเยาะ มันฟังอยู่สินะ มารยาทดีมากพี่ “แท็กซี่”
“แล้วมึงอะเจมส์” ไอ้นิวหันไปถามไอ้เจมส์ต่อ
“เดี๋ยวพ่อกูมารับที่นี่เลย”
“ลูกแหง่” ผมกัด ไอ้เจมส์โบกหัวผม “ไอ้ห่านี่ไปไหนมีคนที่บ้านมารับทุกวันแหละ”
“อิจฉากูก็บอกเพชร” เออ กูอิจฉามึงจริงๆนั่นแหละ อยากมีคนมารับส่งทุกวัน
“น้องเพชรครับ” ไอ้พี่พฤกษ์เดินมาหาหลังไปร่ำลาคนเกือบทั้งกรุ๊ปมา กูกำลังจะชิ่งมึงไปเรียกแท็กซี่แล้วเชียว
“ว่าไงครับ”
ไอ้พี่พฤกษ์เลิกคิ้วเหมือนกับจะถามว่าลืมที่คุยกันไว้แล้วหรือ
“กลับกันครับ”
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวหันมามองอย่างสงสัย
“เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ทางเดียวกัน เดี๋ยวพี่ไปส่ง” มึงรู้เหรอว่าบ้านกูอยู่ไหน ยังไม่ได้บอกเลยไอ้พี่พฤกษ์ โกหก
“เนี่ย มึงก็กลับกับพี่เค้าไง” ไอ้เชี่ยเจมส์ เสือกละ
“เห้ย ไม่เป็นไร”
“พี่เค้าอุตส่าห์จะไปส่งนะเว้ย”
“ให้พี่ไปส่งนะครับ” ฟังเสียงมันแล้วขนลุกชิบ
แล้วผมจะทำไงได้
“ก็ได้ครับ...ขอบคุณครับ” ผมกัดฟันพูดคำสุดท้ายออกไป ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มเหี้ยม
“ไปที่รถกัน”
“กูไปละไอ้เจมส์ ไอ้นิว อีกสองวันเจอกันเว้ย”
“เจอกันมึง”

ผมเดินตามไอ้พี่พฤกษ์ไปที่จอดรถด้านข้างร้าน
มันทำแบบนี้เพราะต้องการอะไรวะ เพื่อจะแกล้งผมเหรอ
รถไอ้พี่พฤกษ์คือ volvo สีเงินคันหรูครับ
“นี่รถพี่จริงอ่อ” ผมถามเยาะๆ ตั้งใจกวนประสาทมัน
“ครับ น้องคิดว่าพี่ไปขโมยรถใครมางั้นสิ”
“เปล่าซะหน่อย” ตอบเสียงสูงแม่งเลย
มันกดปลดล็อครถที่กุญแจ
“เชิญครับน้องเพชร”
ถ้ายอมขึ้นรถดีๆก็ไม่ใช่ไอ้เพชรน่ะสิ ผมเดินไปเปิดประตูที่นั่งด้านหลังแล้วขึ้นไปนั่ง
เจ้าของ volvo สตั๊นไป2วินาทีก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“น้องเพชรมานั่งข้างหน้าสิครับ”
“ผมไม่ชอบนั่งข้างหน้าอะ ขอนั่งข้างหลังได้มั้ยครับ”
ผมคิดว่าไอ้พี่พฤกษ์มันต้องอดทนน่าดูที่ไม่ตะบันหน้าผมไปแล้ว
“มานั่งข้างหน้าครับ พี่ไม่ใช่คนขับรถของเรานะ”
“เฮ้อ ก็ได้ครับ”
ผมแกล้งถอนใจ เสียงมันเมื่อกี้ฟังดูหงุดหงิดเล็กน้อย สะใจชะมัด
“คาดเข็มขัดด้วย” มันสั่งต่อเมื่อผมเข้ามานั่งในที่นั่งข้างคนขับแล้ว “บ้านเราอยู่ไหนครับ”
“ผมอยู่คอนโด วิลล่า ราชเทว”ี
“อ้อ”
“พี่รู้จักใช่มั้ย”
“รู้จักครับ แล้วเราอยู่กับใคร”
“คนเดียว”
“เป็นคนต่างจังหวัดเหรอ”
“กรุงเทพ แต่บ้านไกล”
“บ้านอยู่ไหน”
นี่พี่เป็นนิสิตหรือนักข่าววะ ซักฟอกอะไรเยอะแยะ
“พี่จะไปปล้นหรือไง”
“ไม่จำเป็น บ้านมีตังครับ”
ตอบซะกูอยากอาเจียนเลย
“สรุปว่าบ้านอยู่ไหน”
“หนองแขม”
“ก็แค่นั้น”
“พี่ถามไปทำไม”
“อยากรู้”
ไอ้พี่พฤกษ์แสยะยิ้ม ผมตัดสินใจถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยตั้งแต่ก่อนขึ้นรถมา
“ผมถามอะไรอย่างนึงดิครับ”
“ครับ”
“ทำไมพี่ถึงมาส่งผม”
มันไม่ตอบในทันที หน้าตาเหมือนกำลังครุ่นคิดหาคำตอบให้ผมโมโห
ตอนนี้รถติดโคตรๆ ทำให้ผมพึ่งขยับออกมาจากร้านได้ไม่ไกล แม่งเอ๊ย ยิ่งรถติดก็ยิ่งต้องอยู่ในรถไอ้พี่พฤกษ์นานขึ้น
“พี่อยากขอโทษที่แกล้งเราวันนี้ไง”
แต่หน้ามึงไม่ได้แสดงความรู้สึกผิดว่าแกล้งกูเลยนะนั่น โกหกคำโต ไอ้เด็กเลี้ยงแกะ
“น้องเพชรโกรธพี่ พี่เลยอยากไถ่โทษ”
“ใครบอกว่าผมโกรธ”
กูไม่ได้โกรธ แต่กูเกลียดมึงเลยเถอะ
“มองหน้าเราก็รู้แล้ว พี่สั่งให้เต้นทั้งที่เราไม่ชอบ แถมยังแต่งหน้าอีก หรือเราไม่ได้โกรธพี่” มันถามเสียงเริงร่า
“บอกแล้วไงว่าผมไม่กล้าโกรธรุ่นพี่หรอกครับ”
“หึหึ” ไอ้เสียงหัวเราะนั่นอีกแล้ว แม่งโรคจิตดีๆนี่เอง “เอาเถอะ จะโกรธหรือไม่โกรธก็ถือซะว่าพี่ขอโทษแล้วกัน”
ผมไม่ตอบ ไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่าพี่มันหมายความตามที่พูดจริงๆ
“ไม่เชื่อล่ะสิ...พี่ไม่แปลกใจหรอก”
ครึ่งทางแล้ว นี่ผม countdown เวลาที่จะอยู่บนรถมันเลยนะเนี่ย แล้วเมื่อกี้แม่งอ่านใจได้เปล่าว่ะ
“แล้วรับ facebook พี่ด้วย พี่เห็นนะว่าเรากดรับเพื่อนที่ร้านลุงโป้”
เชี่ย มึงแม่งโรคจิตตัวจริง เห็นทุกอย่าง ถ้าไม่มีจิตสัมผัสก็ต้องขี้เสือกแน่ๆระดับนี้
“หยิบมือถือขึ้นมาสิครับ”
ผมมองหน้าไอ้พี่พฤกษ์
“พี่สั่งอะไรเราต้องทำนะ นี่เป็นช่วงเวลารับน้องนะครับ”
“แต่ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในเวลากิจกรรมนี่ครับ”
“ตอนนี้ถือว่าอยู่ครับ เพราะงั้นเราต้องทำทุกอย่างที่พี่บอก”
เหตุผลอะไรของมึงเนี่ย แถวบ้านกูเรียกข้ออ้าง
“น้องเพชร” ไอ้พี่พฤกษ์เรียกเสียงดังขึ้นเล็กน้อย เมื่อผมยังนิ่ง
ผมยอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดรับเพื่อนมันจนได้ และหันหน้าจอให้มันดู
“พอใจยังครับ”
“ดีมาก” ยิ้มหวานเชียวนะมึง
ในที่สุด volvo สีเงินก็มาจอดเทียบหน้าคอนโดผม
ผมสะพายกระเป๋ากับไหล่แล้วเปิดประตูรถ
“ไม่คิดจะขอบคุณกันหน่อยเหรอครับ”
ผมจงใจจะลงจากรถไปเฉยๆแบบนั้น อยากดูปฏิกิริยาไอ้พี่พฤกษ์ ว่าแล้วว่ามันต้องทัก
ผมยกมือขึ้นไหว้มัน แต่ยกขึ้นสูงเหนือหัวเป็นการล้อเลียน
ไอ้พี่พฤกษ์ฉีกยิ้ม
กำลังจะเดินเข้าคอนโดไป เสียงไอ้พี่พฤกษ์ก็ลอยมา
“มาเข้ารับน้องด้วย พี่มีอะไรสนุกๆรอน้องเพชรอยู่เยอะเลย”
ฝันไปเถอะ ผมจะโดดตั้งแต่วันแรกเลยคอยดู
ขึ้นมาถึงห้องผมก็ทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่ม กดรีโมทเปิดทีวีพร้อมหยิบมือถือขึ้นมาเล่น
Notificationจากหลายแอพฯเด้งขึ้นมารัวๆ ผมเลือกอ่านไลน์ไอ้เจมส์ก่อน
‘มึงเห็นรูปตัวเองในfacebookยัง แม่งฮาสัส555555555’
รูปอะไรวะ อย่าบอกนะว่า...
‘รูปเชี่ยไรวะ’ ผมรีบพิมพ์ถามกลับไป
ไอ้เจมส์อ่านทันทีเลยครับ
‘ก็รูปมึงกับพี่พฤกษ์อะ พี่เค้าลง’
ไอ้เหี้ยยยยยยยยย
ผมร้อนรนเปิดwallตัวเองแต่ไม่พบอะไร ไม่มีรูปที่tagมา เอ้า แล้วรูปอยู่ไหน
หรือไอ้พี่พฤกษ์ลงในwallมันเอง
พอผมกดเข้าไปในfacebookมันเท่านั้นแหละ...
พ่องงงงงงงง
มันลงจริงๆด้วย รูปผมกับมันที่มันบอกว่าเก็บภาพประทับใจ สัสเอ๊ย
จะว่าไปผมไม่เห็นหน้าตัวเองตอนนั้นเลย แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วยว่ามันเป็นยังไง แต่นี่เห็นชัดๆเต็มๆเลยครับ
ไอ้พี่พฤกษ์แม่งแต่งหน้าผมเป็นผีจีน มีวงกลมเป็นจุดสีแดงที่แก้มทั้งสองข้าง มึงทำงี้กับกูได้ไง
ผมอยากกระโดดออกจากหน้าต่างห้องลงไปเดี๋ยวนั้น
ตั้งแต่ใช้facebookมา ไม่สิ ตั้งแต่เกิดเลย ผมไม่เคยมีรูปถ่ายบัดซบแบบนี้ แล้วนี่กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนนนน
‘เห็นยังวะ’ มึงไม่ต้องถามแล้วไอ้เจมส์ กูเห็นแล้วโว้ย
‘เห็นละสัส แม่งแกล้งกูชัดๆ เหี้ย’
‘รูปน่ารักออก55555555’
‘น่ารักบ้านพ่อมึงดิ’
‘โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ แค่คนทั้งคณะเค้าเห็นกันหมดแล้ว’
‘เหี้ยเจมส์ มึงอยากโดนตีนกูอ่อ’
‘55555555’
หงุดหงิดชิบหาย
คือคนกดไลค์รูปไป300กว่าแล้วอะครับ ทั้งที่ไอ้พี่พฤกษ์โพสต์ไปเมื่อ20นาทีก่อน คอมเมนต์จัดไปอีกเกือบ100 ยังงี้ฆ่ากูเลยเหอะ
แม่ง ผมทำอะไรไม่ได้ด้วย เพราะมันลงในwallมันเอง ถ้าสมมติขอให้ลบ คุณคิดว่ามันจะลบให้ผมมั้ย
แน่นอนไม่
หมายความว่าผมต้องอยู่เฉยๆทนดูรูปอุบาทว์ๆของตัวเองอยู่ในsocialต่อไปงั้นเหรอ
ไอ้พี่พฤกษ์ กูจะฆ่าหั่นศพมึง

ผมไปอาบน้ำออกมาก็มีข้อความจาก facebook messenger
‘น้องเพชรเห็นรูปรึยังครับ’
ไม่ต้องสืบเลยว่ามาจากใคร ทักมาจนได้นะไอ้ตัวต้นเหตุ
‘รูปอะไรครับ’
ไม่อยากให้แม่งรู้ว่าผมกำลังดิ้น
‘445555’ รีบพิมพ์ขนาดติดเลข4มาด้วย สัส ‘รูปนี้ไงครับ’
แล้วพี่แกก็ capture ภาพที่ลงแล้วส่งมาให้ดู กูเห็นแล้วโว้ย มึงจะส่งมาอีกเพื่อ
‘ครับ ทำไมหรอครับ’
strongซะอย่าง รูปแค่นี้ทำอะไรกูไม่ได้หรอก (ตัดภาพมาที่ความจริง)
“รูปน่ารักเนอะ น้องเพชรชอบมั้ยครับ’
ชอบก็เหี้ยแล้ว น่ารักกับผีดิ ถามงี้มึงกวนตีนกูอ่อวะไอ้พี่พฤกษ์
‘ชอบครับ น่ารักมาก’
‘ลั่น555555555555555555’
ฟาย กูประชด กูด่ามึงอยู่นะสาด มาลั่นอะไร
‘ชอบก็ดีแล้วครับ ถ้างั้นพี่ขอtagเรานะ’
นั่น กูกำลังจะเสียรู้มึงอีกรอบแล้วใช่มั้ย
‘ไม่ต้องtagมาหรอกพี่ คนดูwallพี่ก็เห็นเหมือนกัน’
คิดว่ามันจะทำตามที่ผมบอกมั้ยล่ะ
‘ไม่ได้ดิ ในรูปมีเพชรด้วย ต้องtagไม่งั้นเสียมารยาทแย่’
มึงจะtagมานั่นแหละเรียกเสียมารยาท ไอ้สัส
‘เอาที่พี่พฤกษ์สบายใจเลยครับ’
‘55555555555’
ชีวิตมึงชักจะมีความสุขมากไปละนะ
‘ตอนแรกไม่กล้า เลยมาขออนุญาตน้องเพชรก่อน แต่เราชอบรูป ให้tagได้พี่ก็สบายใจ’
ผมไม่รู้จะด่าอะไรมันดีแล้ว ผมแพ้มันอีกแล้ว แม่งเอ๊ย
รับ tag ด้วยนะครับ
มันคงเห็นแล้วว่าโพสต์นั่นไม่ได้ขึ้นมาบนwallผมเมื่อมันtag ติดตามกูแบบreal-timeจริงๆ เชดโด้
‘ถ้าผมไม่รับอะ’
‘รับสิครับ น้องเพชรจะกล้าขัดคำสั่งรุ่นพี่ได้ไง เดี๋ยวพี่พฤกษ์ไม่พอใจนะ’
น้ำตาจะไหล วันนี้กูขอฝากไว้ก่อนเหอะ

TBC

โอ๊ย ถ้าจะแกล้งกันขนาดนี้5555 มาดูกันว่าพี่พฤกษ์จะแกล้งอะไรน้องเพชรต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP3 "ผมไม่กล้ากับรุ่นพี่หรอกครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-07-2018 16:12:03
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP4 "พี่หวังดีนะ"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 16-07-2018 18:53:12
EP4 “พี่หวังดีนะ”

“ไอ้เจมส์มึงจดครบปะวะ”
“ครบดิ ระดับกู โด่”
“เออ เดี๋ยวใกล้สอบกูยืมซีรอก”
“ทำไมมึงไม่หัดจดเองมั่งวะ” เป็นงี้มาตั้งแต่อยู่โรงเรียน”
“กูเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายไง”
“เสมอพ่อมึงอะ ยังมีหน้ามาพูดอีก” ไอ้เจมส์ด่าผมยับ ไอ้นิวที่นั่งฟังเราสองคนเถียงกันก็ได้แต่ขำ
“มึงด่าแล้วเดี๋ยวก็ให้กูยืมอยู่ดี แล้วจะด่าเพื่อ”
“ก็มึงแม่งขี้เกียจไงไอ้เพชร”
“มึงไม่เห็นหรือไงว่าคาบเมื่อกี้กูหลับ เรียนเช้า ง่วงจะตาย”
“มึงไม่ต้องอ้าง จะเช้าหรือบ่ายมึงก็หลับแทบทุกคาบ ควาย”
วิชาแคลคูลัส คาบเรียนแรกในชีวิตมหาวิทยาลัยของผมพึ่งผ่านไปสดๆร้อนๆนี่เองครับ เริ่มเรียนแปดโมงเช้า กว่าผมจะมาถึงห้องเรียนก็แปดโมงสี่สิบเข้าไปแล้ว แถมนั่งไปยังไม่ทันไรก็ฟุบหลับ ตื่นมาอีกทีเห็นไอ้เจมส์กับไอ้นิวจดอะไรใส่สมุดได้หลายหน้า
“เออ กูยอมมึงไอ้เจมส์ กูไม่เถียง” ผมยกมือขึ้นยอมแพ้
“สัส ขอด่าหน่อย” แล้วมันกับผมก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ไอ้เจมส์มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ ขอให้ได้ด่าก่อน สุดท้ายมันก็ช่วยผมอยู่ดี
“วิชาต่อไปเรียนไรวะ” ผมถาม
“พื้นฐานธุรกิจ” ไอ้นิวตอบ
“ฟังชื่อวิชาก็น่าเบื่อละ โดดไปเดินเล่นกันมั้ย”
“โดดก็เหี้ย เข้าไปดูทรงก่อนมั้ย” ไอ้เจมส์สวนทันที
“เออ แล้วเย็นนี้เลิกเรียนก็ต้องเข้ากิจกรรมที่กรุ๊ปต่ออีก พวกมึงจะเข้ากันปะ” ไอ้นิวถาม
“เข้าดิ”
“ไม่เข้าว่ะ”
“มึงนี่จะโดดทุกอย่างเลยอ่อวะเพชร” ไอ้นิวถามกลั้วหัวเราะ
“รับน้องน่าเบื่อจะตาย กูกลับคอนโดไปนอนยังดีกว่า”
“อย่าไปชวนมันเลยไอ้นิว เชี่ยนี่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมอะไรกับใครเค้าอยู่ละ เดี๋ยวมึงไปกับกูก็ได้ หรือมึงจะโดดอีกคน”
“ถ้ามึงเข้ากูก็เข้า กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรบ้าง...ไม่เข้าด้วยกันหรอวะเพชร อาจจะสนุกก็ได้นะเว้ย”
“ไม่อะ กูขอบาย”
“อย่าไปสนแม่งเลย อินดี้ชิบหาย...กูหิวแล้วว่ะ แดกข้าวกัน”
“นี่ยังไม่เที่ยงเลยนะ” ผมบอก
“แดกเหอะน่า กูหิวละ” แล้วไอ้เจมส์ก็ลากคอผมกับไอ้นิวลุกจากโต๊ะม้าหินหน้าอาคารเรียนของคณะ เดินไปยังโรงอาหาร
“มึงไม่ได้กินข้าวเช้าแล้วไม่หิวหรอวะ” ไอ้นิวถามผม
“ไม่อะ กูตื่นสายจนชินแล้ว แดกมื้อแรกตอนเที่ยงบ่อยๆ”
มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน และแทบจะครบทุกประเภทของอาหารเลย พวกผมตัดสินใจไปยืนต่อแถวร้านก๋วยเตี๋ยวครับ
“เธอๆ”
อยู่ๆก็มีคนมาสะกิดไหล่ ผมหันไปหา
นี่มันปีหนึ่งเหมือนกันนี่นา ผมจำหน้าได้จากคาบเรียนเมื่อสักครู่
“ว่าไง”
“เพชรใช่ปะ”
“ครับ”
“คือ...เพื่อนเราอยากขอไลน์ ได้มั้ย” ผมยิ้มออกมา
“คนไหนเหรอ”
ผู้หญิงคนนั้นชี้ไปที่เพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะไม่ไกลจากร้านก๋วยเตี๋ยวนัก ผมมองตาม สวยใช้ได้นะครับ หุ่นก็เอ็กซ์อยู่ เธอส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มมาให้
“เอาดิ”
ผมตอบอย่างใจง่าย รับโทรศัพท์มือถือของแม่สื่อมาพิมพ์ไลน์ไอดี แม่สื่อเดินกลับไปที่โต๊ะของเธออย่างรวดเร็ว
“เอาอีกแล้วนะพ่อคาสโนว่า” ไอ้เจมส์ล้อ
“คนมันหล่อว่ะ ทำไงได้”
“หญิงโออยู่นิ”
“ตาไวพอกับกูเลยนะไอ้เจมส์”
“เออดิ ไม่งั้นกูไม่ให้หรอก”
เพื่อนผมสองคนหัวเราะ
“ไม่เห็นมีหญิงมาขอไลน์กูมั่งเลย น่าอิจฉาไอ้เพชรว่ะ” ไอ้นิวบอก
“สงสัยเราสองคนต้องกอดคอกันไปขอไลน์หญิงเองแล้วว่ะไอ้นิว” ไอ้เจมส์ทำท่าเดินกอดคอไอ้นิวนำไปที่โต๊ะว่างตัวหนึ่ง
“เว่อร์ไปสัส มึงก็เคยมีผู้หญิงมาขอเบอร์ตั้งหลายคน”
“น้อยกว่ามึงแน่ๆ”
ไอ้เจมส์มันเป็นคู่หูสายหล่อกับผมที่โรงเรียนเลยนะครับ แต่หล่อน้อยกว่าผมนิดนึง อิอิ มีไอ้นิวมาเพิ่มอีกคน ผมอยากจะตั้งชื่อกลุ่มว่าสามหล่อเสียจริงๆ เพราะไอ้นิวมันก็อปป้าของติ่งเกาหลีดีๆนี่เอง
“พี่ชายมึงมาละเชี่ยเพชร”
ไอ้รุ่นพี่ที่ผมเคารพรักและนับถือที่สุด(ถุย)เดินมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่นั่งโต๊ะเดียวกันที่ร้านลุงโป้เมื่อสามวันก่อน พวกพี่แกไปหยุดยืนต่อแถวร้านข้าวมันไก่
ทั้งๆที่พึ่งเจอกันแค่ครั้งเดียว ไอ้พี่พฤกษ์มันก็ทำให้ผมเหม็นขี้หน้าด้วยการกลั่นแกล้งระดับสิบ ผมไม่เคยอับอายในที่สาธารณะมาก่อน ทั้งในโลกความเป็นจริงและโลกออกไลน์ แหม่ คนดีที่โลกรอจริงๆมัน
“กูไม่นับญาติกับพี่มันโว้ย” ผมหน้าบูด
“รูปมึงกับพี่พฤกษ์ห้าพันไลค์แล้วนะเว้ย แชร์อีกพันกว่า นี่ไง” ไอ้เจมส์หยิบมือถือขึ้นมาเปิดรูปนั้นให้ผมดู น่าอายชิบหาย
“สัส กูไม่ดู มึงเอารูปไปไกลๆลูกตากูเลย”
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวหัวเราะก๊าก
“แม่งโคตรฮาเลย ป่านนี้คนทั้งมหาลัยเค้ารู้จักมึงกันหมดแล้วมั้ง”
“เหี้ยเอ๊ย”
“จริงๆกูอยากให้พี่เค้าแกล้งมึงอีกว่ะเพชร น่าจะสนุก”
“มึงหนุกไปคนเดียวนะไอ้เจมส์...พอละพวกมึง หยุดขำได้ละ” ผมโบกหัวทั้งสองคน แม่งดูรูปผมแล้วฮากันไม่ยอมหยุดสักที
ผมเงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวต้มยำของตัวเองขึ้นมาก็สบตาเข้ากับไอ้พี่พฤกษ์พอดี พอมันเห็นผมก็ยิ้มแย้มอย่างน่าถีบ ผมเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างหงุดหงิด
อย่ามายุ่งกับกูเลยครับ
ไอ้ห่าพี่พฤกษ์เดินตรงมาที่โต๊ะพวกผมจนได้ ไอ้เจมส์ไอ้นิวกลั้นหัวเราะสุดชีวิตแล้วยกมือไหว้พี่มัน ส่วนผมทำเป็นไม่เห็น
“หวัดดีครับน้องๆ เป็นไง เริ่มเรียนไปยัง”
“เรียนแคลไปเมื่อเช้าพี่ จารย์สอนโคตรเร็วเลย จดแทบไม่ทัน” ไอ้เจมส์ตอบ
“แคลอ่อ ยาก พี่ก็ไม่ชอบเหมือนกัน”
“แล้วพี่พฤกษ์ล่ะ เรียนรึยัง”
“เรียนละ มาสายด้วย” ไอ้พี่พฤกษ์พูดขำๆ “งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ เย็นนี้อย่าลืมมาเข้ากรุ๊ปล่ะ” พี่มันชำเลืองมาที่ผม
“คร้าบ” ไอ้เจมส์ ไอ้นิวตอบ
“น้องเพชรก็มาด้วยนะครับ” พูดพร้อมยิ้มมุมปาก ห่า กูอุตส่าห์ทำเป็นไม่สนใจมึงแล้วนะ ยังทักกูจนได้
ไอ้พี่พฤกษ์เดินกลับไปหาเพื่อนๆมัน
“มึงนี่นะ ไม่คุยกับพี่เค้าเลย” ไอ้เจมส์ต่อว่าผมทันที
“มึงดูที่มันแกล้งกูดิ น่าคุยด้วยอ่อวะ”
“ยิ่งมึงเป็นงี้ พี่เค้ายิ่งแกล้งมึงหนักขึ้นแน่ๆ”
“มันจะทำอะไรกูได้ ถ้ากูไม่เข้ากิจกรรมซะอย่าง”
ไอ้เจมส์ส่ายหัวเหนื่อยใจ

คาบพื้นฐานธุรกิจหลังพักเที่ยงสนุกดีครับ ตอนแรกผมคิดว่าเลกเชอร์จะน่าเบื่อ ทำนองอาจารย์พูดตามหนังสือไป นิสิตก็มีหน้าที่จดตาม แต่กลายเป็นว่าอาจารย์ยก case study มาสอนแล้วสอดแทรกเนื้อหาวิชาลงไป แถมตัวอาจารย์ยังปล่อยมุกมาทุกๆห้านาที เรียนเพลินจนหมดเวลาเลยครับ
เมื่ออาจารย์ประกาศเลิกชั้นเรียน ผมบอกลาเพื่อน
“กูไปละนะพวกมึง เจอกันพรุ่งนี้เว้ย”
“มึงจะโดดจริงๆใช่มั้ยเนี่ย”
“เออ บอกแล้วว่ากูเสมอต้นเสมอปลายเว้ยเจมส์”
“เออๆ เรื่องของมึง”
“ไม่เข้ากรุ๊ปกับพวกกูจริงอ่อว้า” ไอ้นิวเซ้าซี้ผมอีก
“ไม่เอาอะ กูไปละ บายมึง”
ผมสำรวจหน้าตาตัวเองกับโทรศัพท์มือถือก่อนจะแบกเป้เดินออกจากห้องเรียนไป
จากคณะผมเดินไม่ไกลก็ไปถึงรถไฟฟ้า จริงๆมีรถโดยสารภายในมหาวิทยาลัยและบริเวณโดยรอบให้ใช้บริการฟรี แต่ผมตัดสินใจเดิน จะได้ออกกำลังกายด้วย
แต่ไปได้ยังไม่ทันพ้นบริเวณคณะตัวเองก็เจอคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้
ไอ้พี่พฤกษ์
โอ๊ย ทำไมผมต้องมาเจอมันด้วยนะ
ผมเบี่ยงตัวแล้วจ้ำออกไปอีกทางอย่างรวดเร็ว แต่มันปราดเข้ามาหาผมแล้วยืนขวางไว้ เมื่อกี้มันไม่ได้วิ่งไม่ใช่อ่อวะ ทำไมเร็วชิบหาย นี่คนหรือเสือชีต้า
“น้องเพชรจะไปไหน”
เสียงนุ่มๆกับยิ้มชั่วร้ายถาม
“กลับบ้านไงครับ” ผมตอบตามจริงอย่างไม่เกรงกลัว
“แล้วเราไม่เข้ากรุ๊ปหรอครับ”
“ผมก็บอกอยู่นี่ไงครับว่าจะกลับบ้าน”
“พี่ไม่ได้บอกเราเมื่อตอนเที่ยงให้เข้ากิจกรรมเหรอ”
“บอกครับ...แล้วไง”
ผมไม่สะทกท้าน จ้องหน้าไอ้พี่พฤกษ์ แต่มันกลับยิ้มกว้างขึ้น
“จะให้พี่พูดอีกกี่รอบว่ารุ่นน้องต้องทำตามรุ่นพี่ ไม่ขัดคำสั่ง”
“ถ้าผมไม่ทำตามล่ะ พี่จะทำอะไร”
ครั้งนี้กูไม่มีทางยอมมึงแน่ๆไอ้พี่พฤกษ์
“น้องเพชร พี่พูดกับเราดีๆนะครับ ไปเข้ากรุ๊ปกับพี่” ผมเดาว่ามันหัวเสียขึ้นมาบ้างแล้วแต่ยังรักษาสีหน้ากับน้ำเสียงให้ยิ้มแย้มได้เป็นปกติ เรื่องอะไรผมจะเสียโอกาสยั่วโมโหมันล่ะ
“ไม่ ทำไมผมต้องเชื่อพี่ด้วย...วันนั้นที่ยอมก็เพราะเห็นว่าเป็นวันแรก ผมไม่อยากให้เป็นเรื่อง”
“พูดงี้หมายความว่าวันนี้อยากให้มีเรื่องสินะครับ”
“พี่ก็น่าจะเข้าใจนะว่าผมหมายความว่าไง” หน้ามันกระตุกเล็กน้อย เหยด สะใจดีนัก
“น้องเพชร”
“ครับพี่พฤกษ์” เอาดิ กูกับมึงต้องตายกันไปข้างหนึ่ง
“เราคิดมั้ยว่าทำไมเพื่อนๆเค้าถึงไปเข้ากิจกรรมได้ แล้วทำไมเราไม่เข้า”
“คิดให้เสียเวลาทำไม ผมไม่อยากเข้าก็ไม่เข้า” ผมไม่ได้คิดอย่างที่พูดจริงๆหรอกนะครับ แค่อยากเอาชนะมันเฉยๆ
“แบบนี้เค้าเรียกว่าเอาเปรียบเพื่อนรู้มั้ย”
“เอาเปรียบยังไง ขาดผมไปแล้วเพื่อนลำบากอ่อ แค่กิจกรรมรับน้องไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย...แบบที่พี่ทำอยู่เค้าเรียกว่าบังคับขืนใจรู้มั้ย” ผมย้อน เห็นแววตาพี่มันแข็งกร้าวขึ้น
“ไปกับพี่” มันไม่มีเหตุผลมาเถียงผมอีกแล้ว
“ไม่” ถ้ามันตั๊นหน้าผมตอนนี้จะไม่แปลกใจเลยสักนิด
“ได้” แล้วไอ้พี่พฤกษ์ก็จับข้อมือผมแน่นก่อนจะลากไปทั้งอย่างนั้น
“เห้ย ปล่อย” ผมโวยวาย พยายามสะบัดข้อมือให้หลุดแต่ไม่สำเร็จ มันแรงเยอะมากครับ นี่กินกระทิงแดงมารึไง
“พี่พูดกับเราดีๆแล้วไม่เชื่อนะ”
“พี่ไม่มีเหตุผลเลย ถ้าน้องปีหนึ่งมีธุระสำคัญหรือเรื่องที่ต้องรีบไปพี่ก็ยังจะบังคับให้เข้ากรุ๊ปแบบนี้หรอครับ”
“เรามีธุระอะไร ไหนบอกว่าจะกลับบ้าน”
“ธุระที่บ้านไงครับ”
“เราอยู่คอนโดคนเดียวไม่ใช่รึไง ธุระอะไร”
“ธุระส่วนตัวครับ ไม่จำเป็นต้องบอกพี่” ผมยังยั่วอารมณ์มันไปตลอดทาง
“อย่ามาโกหกเลย พี่ไม่เชื่อ”
“ปล่อยดิพี่” ผมตะคอก
มันยังเดินไปเรื่อยๆ
“น้องเพชร พี่อยากให้เรารู้จักกับเพื่อนๆพี่ๆ อยู่มหาลัยแล้วสังคมมันกว้างนะครับ มันไม่เหมือนอยู่โรงเรียนที่เรียนเสร็จแล้วก็กลับบ้าน...ไม่ลองมาเข้ากิจกรรมแล้วจะพลาดอะไรหลายอย่างเลยนะ” เสียงไอ้พี่พฤกษ์คราวนี้ฟังดูอ่อนโยนลง เฮอะ แกล้งทำแน่ๆ จริงๆมึงแค่อยากแกล้งกูเท่านั้นแหละ ไม่ต้องมาสั่งสอน
“พี่หวังดีนะ”
เดินมาใกล้ถึงกรุ๊ป ไอ้พี่พฤกษ์ก็ดึงผมมากอดคอ นี่มึงสนิทกับกูอ่อวะ
“อ้าวพี่พฤกษ์ น้องเพชร” พี่แนท พี่รหัสผมและโฆษกประจำกรุ๊ป4 เห็นพวกเราเป็นคนแรก พี่แกกำลังถือโทรโข่งเตรียมจะพูด “มาด้วยกันได้ไงเนี่ย มาเร็วเพชร เพื่อนๆรออยู่ กำลังจะเริ่มกิจกรรมกันละ”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มตาหยีให้ก่อนจะปล่อยผมไปรวมกับปีหนึ่งคนอื่นๆ ผมเดินไปนั่งข้างไอ้เจมส์ไอ้นิวอย่างเซ็งๆ
“เป็นไงมาไงถึงมาได้วะ” ไอ้เจมส์ยิงคำถาม
“เจอไอ้พี่พฤกษ์หน้าคณะ แม่งลากกูมา”
“สม” ผมโบกหัวไอ้เจมส์อย่างหมั่นไส้
“ดีแล้ว มาอยู่ด้วยกัน เดี๋ยวกูเหงา” ไอ้นิวตบไหล่ผม ผมส่ายหัวเอือมระอา
“เอาล่ะค่ะ วันนี้เราจะให้น้องปีหนึ่งรู้จักเพื่อนๆและรุ่นพี่ให้มากขึ้นด้วยเกม เกมนี้ก็คือ เกมจำชื่อค่าาา”
น่าสนุกจังเลย ว้าว(เฮ้อ)
อย่าว่าแต่จำชื่อเลย หน้าคนผมยังจำไม่ค่อยจะได้ ถ้ามีบทลงโทษคนแพ้มีหวังผมโดนอีกแหงๆ
“เดี๋ยวก่อนเล่นให้ปีหนึ่งทุกคนมองหน้ากัน หันป้ายชื่อให้เพื่อนเห็นด้วยนะ ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีมากที่จะขอcontactกันนะคะ ถูกใจใครก็ขอมันซะตอนนี้เลย” หลายคนส่งเสียงโห่ฮา ผมมองไปรอบๆ จำหน้าเพื่อนคนอื่นในกรุ๊ปนอกจากไอ้เจมส์กับไอ้นิวได้แค่ห้าหกคน ที่เหลือผมรู้สึกว่าไม่คุ้นเลยสักนิด ผมพยายามมองหน้า ดูป้ายชื่อ แล้วจำในเวลาอันสั้น
“โอเค ต่อไปน้องๆก็ต้องจำรุ่นพี่ให้ได้ด้วย ไล่มาจากพี่ช้างเลยค่ะ เอ้า รุ่นพี่ทุกคนเชิญแนะนำตัว...”
หลังจากพี่ช้าง พี่จ๊ะจ๋า พี่ทรายที่ยืนต่อกัน ผมก็จำใครไม่ได้อีกเลย เชี่ย ใครมันจะไปจำได้หมดวะ
“ทีนี้มาถึงเกมแล้วนะคะ เดี๋ยวพี่จะสุ่มหยิบชื่อน้องขึ้นมา” พี่แนทหยิบกล่องใส่ลูกปิงปองที่เขียนชื่อเด็กปีหนึ่งกรุ๊ป4มาถือ “แล้วพี่จะชี้เพื่อนหรือรุ่นพี่รวม5คน ต้องตอบให้ได้ เอาแค่ชื่อพอ สาขายังไม่ต้องตอบ พี่ใจดีลดให้เลยนะเนี่ย...คนที่ตอบถูกทั้ง5คนจะได้รางวัล ส่วนคนที่ตอบผิดมากที่สุดจะถูกลงโทษนา”
สาบานว่ากติกานั่นใจดีแล้วหรอพี่แนท ผมยังจำไม่ได้โว้ย
ภาวนาแค่อย่าให้พี่แนทหยิบลูกปิงปองได้ชื่อผมก็แล้วกัน
ศพแรกผ่านไป ศพสอง ศพสามค่อยๆผ่านไป...เอ้อ เพลงนี้มันเข้ามาในหัวผมจริงๆนะ โคตรลุ้นว่าใครจะถูกพี่แนทเรียก ไอ้เกมนี้มันตั้งใจแกล้งปีหนึ่งแน่นอน ผู้โชคดีสามคนแรกไม่มีใครตอบถูกครบ5คนเลย แย่สุดคือตอบชื่อถูกแค่สองคนเท่านั้น
คนที่สี่โดนไอ้นิวเข้าให้ครับ ผมกับไอ้เจมส์หัวเราะชุดใหญ่ มันลุกขึ้นยืนนิ่งๆเหมือนคิดว่าเกมนี้ง่ายๆ
แล้วมันก็ทำให้คนทั้งกรุ๊ปอึ้ง เพราะมันตอบชื่อแถมชั้นปีและสาขาของรุ่นพี่ที่พี่แนทสุ่มได้ถูกต้องทั้งห้าคน (พี่เค้าให้ตอบแค่ชื่อโว้ย)
“เชี่ยยย” ผมอุทาน
“มึงจำได้ไงวะนั่น” ไอ้เจมส์พึมพำ
ไอ้นิวหันมายิ้มน้อยๆ สมองมึงแม่งแรมคอมพิวเตอร์ชัดๆ
ทุกคนหน้าเหวอกันหมด พอพี่แนทหายอึ้งก็พูดต่อ
“เก่งมากน้องนิว น้องกินอะไรเป็นอาหารเนี่ย พี่จะได้กินมั่ง...เดี๋ยวก่อนกลับมารับของรางวัลนะคะ”
หลังไอ้นิวพี่แนทก็เรียกอีกสองคน ไม่ได้เรื่องอีกตามเคย
“อะ คนสุดท้ายของวันนี้แล้วค่ะ...ว้าย น้องเพชร น้องรหัสพี่เอง ลุกเลยๆ”
ชิบหาย กูอีกแล้วอ่อ ทำไมต้องกูวะ เหี้ยยย
ไอ้เจมส์ขำจนเสียสติไปแล้ว
ผมลุกขึ้นอย่างยอมรับในชะตากรรม
“เริ่มถามคนหล่อด้วยคนสวยดีกว่า คนนี้ชื่ออะไรเอ่ย” พี่แนทชี้ไปที่พี่เอ๋ย เห้ย ให้มันได้ยังงี้สิ ผมค่อยยิ้มออกหน่อย
“พี่เอ๋ยครับ” เจ้าของชื่อส่งยิ้มมาให้ผม
“ถูกกก เก่งมาก คนต่อไป…”
“เอ่อ...พี่มิวครับ”
“ม่ายช่าย พี่มิวอยู่นู่น พี่ชื่อเชอร์รี่ต่างหาก”
แล้วผมก็ตอบไม่ถูกเลยสักคนหลังจากพี่เอ๋ย ห่าเอ๊ยยย
“สรุปคะแนน ผู้ชนะคือน้องนิว ส่วนผู้แพ้คือน้องเพชรค่าาา”
ผมหน้าบูด ไอ้นิวหันมายักคิ้วหลิ่วตากวนส้นตีนใส่
“ก่อนจะบอกบทลงโทษของน้องเพชร พี่มีการบ้านให้ปีหนึ่งทุกคนเพื่อให้จำเพื่อนๆพี่ๆได้มากขึ้นค่ะ อะ ทุกคนช่วยกันแจกสมุดให้น้องๆหน่อย…”
ผมรับสมุดสีแดงเล่มเล็กจากพี่ปี2 หน้าปกเขียนว่ากรุ๊ป4และมีช่องว่างให้ใส่ชื่อ
“ให้น้องๆไปล่ารายเซ็นจากรุ่นพี่ปี2-4กรุ๊ปเรา ปีละ10คน ก่อนรุ่นพี่จะเซ็นให้ก็จะมีmissionให้น้องๆทำ แต่ละคนสั่งไม่เหมือนกันนะจ๊ะ”
เอ่อ ผมต้องไปตามหารุ่นพี่30คนมาเขียนสมุดให้เนี่ยนะ
“นอกจากรุ่นพี่แล้ว เพื่อนรุ่นเดียวกันด้วย น้องต้องให้เพื่อนปีหนึ่งเซ็นสมุดให้ครบทุกคนในกรุ๊ปนะคะ”
ให้ปีหนึ่งด้วยกันเซ็น โด่ เย็นนี้ก็เสร็จแล้ว (ประชด)
“อีกสามสัปดาห์เอามาส่งนะคะ ใครไม่ส่งเจอดีแน่ หึหึ”
ผมส่งพรุ่งนี้เช้าเลยได้มั้ยพี่แนท ถุ้ย
“อ้อ พี่เกือบลืมบทลงโทษของน้องเพชรไป...สมุดของเราต้องมีลายเซ็นพี่ปี2-4ปีละ20คนนะจ๊ะ”
ห่า ลำพังปีละ10คนผมยังไม่รู้จะทำเสร็จหรือเปล่า จำนวนที่เพิ่มมานี่ไม่ต้องพูดถึงเล้ย
“เออ พี่ปี3กับ4กรุ๊ปเราเนี่ยหาตัวยากหน่อย น้องๆต้องสู้นะ”
ไอ้พี่พฤกษ์มองผมอย่างมีความหมาย
ถึงกูต้องหารุ่นพี่มากกว่าคนอื่นสองเท่าก็เถอะ แต่ให้ตายยังไงก็ไม่เอาสมุดไปให้มึงเซ็นแน่

TBC

แหม่ ไม่ปล่อยให้เพชรหนีไปไหนได้เลยนะพี่พฤกษ์ คิดอะไรกับน้องรึเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP5 "เวลาเราไม่ดื้อนี่ก็น่ารักดีนะครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 19-07-2018 20:24:11
EP5 “เวลาเราไม่ดื้อนี่ก็น่ารักดีนะครับ”

จากวันเปิดเทอม ผมก็ถูกลากเข้ากรุ๊ปหลังเลิกเรียนติดต่อกันมา3วันแล้ว ไม่ใช่ไอ้เจมส์หรือไอ้นิวหรอกนะครับ แต่เป็นไอ้พี่พฤกษ์ผู้ประกาศตนว่าหวังดีที่เป็นคนลากผม
มันมายืนอยู่หน้าประตูห้องเรียนคาบบ่ายของเด็กปีหนึ่งพร้อมเชิญชวน(บังคับ)ให้น้องๆกรุ๊ป4ไปเข้ากิจกรรมรับน้อง แล้วผมจะทำไงได้ ได้แต่เดินตามเพื่อนอีกสองคนไปอย่างเซ็งๆ
และเมื่อผมบังเอิญสบตากับไอ้พี่พฤกษ์ ผมจะเห็นรอยยิ้มและแววตาแสดงความสะใจของมันทุกครั้ง
มึงมีความสุขบนความทุกข์ของรุ่นน้องเนี่ยนะ เจริญเถอะ
วันพฤหัสบดีที่ผมรอคอยมาถึง วันนี้มีเรียนแค่ช่วงเช้า หมายความว่าผมจะหายตัวไปจากคณะได้ตั้งแต่เลิกคลาส ไม่มีโอกาสถูกเรียกไปเข้ากรุ๊ปตอนเย็น
“บ่ายนี้ไปตีดอทกันมั้ยพวกมึง” ผมชวนเพื่อน
“เออ เอาดิ เล่นไหนวะ” ไอ้เจมส์ถามกลับ
“ร้านเกมส์หลังม.ไง มีตั้งเยอะแยะ”
“ไปหอกูหรือคอนโดมึงมั้ยเพชร เราก็มีคอม จะเสียเงินทำไมวะ” ไอ้นิวทำท่าฉงน
“โด่ มึงไม่รู้อะไร เล่นที่ร้านกับที่บ้านมันคนละฟีลโว้ย” ผมบอก
“เออ เรื่องนี้กูเห็นด้วยกับเชี่ยเพชร เล่นที่ร้านแม่งมันกว่าเยอะ” ไอ้เจมส์พยักหน้าสนับสนุน
“เออ ก็ได้”
“เล่นถึงสี่โมงนะ เดี๋ยวต้องกลับมาเข้ากรุ๊ปต่อ”
“เออๆ”
“เชิญพวกมึงสองคนกลับมาเลยครับ กูกลับบ้านดีกว่า เข้าทุกวัน เบื่อชิบหาย”
“สนุกจะตาย” ไอ้เจมส์แย้ง
“นั่นดิ มึงยังไม่ชินอีกอ่อ กูนึกว่ามึงจะเลิกโดดกรุ๊ปมาเข้าทุกวันแล้วนะเนี่ย” ไอ้นิวพูด
หลังเลิกเรียนคาบเช้า สามหล่อเดินออกจากคณะมุ่งตรงไปยังซอยเล็กๆหลังมหาวิทยาลัย ไอ้เจมส์เลือกร้านที่ใหญ่ที่สุดและมีคนมาเล่นเยอะที่สุด เพื่อให้ได้บรรยากาศอย่างแท้จริงครับ โอ้โหโรบินสัน
“ไอ้เพชรมึงไปหาคนมาดิ๊ ยังไม่ครบทีมเลย” ไอ้เจมส์สั่ง
“เออว่ะ...แต่จะมีใครมาเล่นคนเดียววะ เค้าก็มากันเป็นกลุ่มทั้งนั้น”
“มันต้องมีคนเป็นเศษบ้างแหละน่า” ไอ้เจมส์ตอบอย่างรำคาญ นั่งลงหน้าคอมไม่สนใจผม ไอ้กัลยาณมิตรเอ๊ย
“เดี๋ยวๆ มึงหมายถึงหาคนในร้านมาจอยทีมเราอะนะ” ไอ้นิวขัด
“ก็เออดิ”
“หาในเกมก็ได้นิ”
“ไม่ได้เว้ย ต้องเจอตัวเป็นๆ จะได้นัดแนะกัน”
“ขนาดนั้นเลยอ่อวะ” ไอ้นิวหัวเราะ
“มึงนี่ไม่รู้เรื่องเลยนะไอ้นิว” ผมส่ายหัว ตบไหล่มันด้วยท่าทางเหมือนคนรู้อะไรมากกว่า
“พวกมึงเข้าเกมเร็วๆเลย อย่ามัวแต่คุยกัน เวลาเป็นเงินเป็นทองโว้ย” ไอ้เจมส์ร้องบอก
“หาทีมอยู่อ่อน้อง”
ผมยังไม่ทันตามหาสมาชิกมาร่วมทีมดอทเอ รุ่นพี่ปี3กรุ๊ปผมก็ปรากฏตัวขึ้น นั่นมันเพื่อนไอ้พี่พฤกษ์นี่หว่า
“อ้าวเห้ย หวัดดีครับพี่เกี้ยง” ไอ้เจมส์ทัก
“หวัดดีครับ” ผมกับไอ้นิวยกมือไหว้ตาม พี่แกชื่อเกี้ยงเหรอวะ ทำไมผมไม่เห็นจะจำได้เลย ดีนะตอนนี้ไม่ได้กำลังเล่นเกมจำชื่ออยู่
“หวัดดีน้อง มาเล่นเกมเหมือนกันเหรอ”
“ครับ พี่เกี้ยงมีทีมยัง จอยมั้ย”
“ยัง ขอเล่นด้วยดิ”
“โห ดีเลยพี่ พวกผมขาดคนนึงพอดี นั่งเลยครับ…” ไอ้เจมส์ตบที่นั่งข้างมัน เจอรุ่นพี่แล้วมึงดูดีใจเนอะ ผมมองไปรอบๆร้าน หวังว่าจะไม่เจอไอ้พี่พฤกษ์ อุตส่าห์หลบออกมาซะขนาดนี้ ไม่งั้นมันต้องเรียกผมไปกรุ๊ปตอนเย็นแน่
“พี่เกี้ยงมาคนเดียวหรอครับ” ไอ้นิวถามบ้าง
“พี่มากับเพื่อนวิศวะ แต่พวกมันคนเต็มแล้วเลยผลัดกันเล่น...เออ เดี๋ยวพี่เดินไปบอกพวกมันแปบนึงว่ามาเล่นกับน้อง”
ดีไป ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้มาด้วย
พี่เกี้ยงเดินกลับไปทางนิสิตที่สวมเสื้อช้อปกลุ่มใหญ่ที่กำลังโหวกเหวกเสียงดังอยู่กลางร้าน
“ไอ้นิวปกติมึงเล่นอะไร” ผมถาม
“ซัพพอร์ต”
“เออดี กูกับไอ้เพชรถนัดบวกอย่างเดียวทั้งคู่ เพื่อนพวกกูที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยมีใครสายซัพพอร์ต” ไอ้เจมส์พูด ทำท่าลิงโลด
“มาๆ…” พี่เกี้ยงกลับมานั่งประจำที่ข้างไอ้เจมส์ สามหล่อและพี่เกี้ยงเริ่มปฏิบัติการแล้วครับ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผม ไอ้เจมส์ และพี่เกี้ยงตะโกนใส่กันลั่นร้าน ช่วยกันให้ทีมชนะ ไอ้นิวแม้จะไม่ได้แหกปากอย่างพวกเรา แต่ก็ตื่นตัวกับเกมไม่แพ้กัน
ปรากฏว่าจตุรเทพดอทเอแห่งกรุ๊ป4ชนะทุกตาที่เล่นเลยครับ
“โหหห พี่แม่งโคตรเทพอะ” ไอ้เจมส์ลากเสียงยาว มองพี่เกี้ยงอย่างเลื่อมใส
“จริง พี่แม่งสุดว่ะ” ผมพึมพำเห็นด้วย ไม่คิดว่าจะเจอเซียนเป็นรุ่นพี่ในคณะแสนเนิร์ดแบบนี้
“ต่ออีกตาๆ” พี่เกี้ยงยิ้มหน้าบาน ชักชวนให้เล่นต่อ ไอ้เจมส์กับไอ้นิวพยักหน้าแข็งขัน
“เดี๋ยวผมต้องไปแล้วอะ ไว้เล่นกันใหม่คราวหน้านะพี่” ผมบอก
“ไรว้า กำลังสนุกเลย รีบไปไหนวะเพชร เดี๋ยวเล่นอีกแปบเดียวก็ต้องไปเข้ากรุ๊ปละ”
“วันนี้ผมไปไม่ได้พี่ ติดธุระน่ะครับ ไปก่อนนะครับ...กูไปก่อนพวกมึง” คำหลังผมหันไปบอกเพื่อนสองคน ทิ้งมันให้ไปเข้ากรุ๊ปกับพี่เกี้ยงแล้วกัน
“เออๆ”
“เออมึง เจอกันพรุ่งนี้เว้ย”
ผมสะพายกระเป๋า หันไปไหว้พี่เกี้ยงและเดินออกจากร้าน
จริงๆผมไม่มีธุระอะไรหรอกครับ แต่ขืนอยู่เล่นต่อถึงสี่โมงมีหวังโดนพี่เกี้ยงพาไปเข้ากรุ๊ปแน่
ผมเดินผ่านซอยหลังมหาวิทยาลัยทะลุออกไปอีกซอยหนึ่งที่จะผ่านไปสยามได้ วันนี้ได้โดดสมใจแล้ว ไปเดินเล่นดีกว่า อิอิ
ผมเดินมาถึงห้าง square one ไอ้เพื่อนซื้ก็โทรมา
“ฮัลโหล”
(ไอ้เพชร มึงอยู่ไหน)
“square one มีไรวะ”
(square one...มึงกลับมาเข้ากรุ๊ปด่วนๆเลย)
“ทำไม”
(เออน่า มึงกลับมาเหอะ เดี๋ยวก็รู้)
“ไม่กลับโว้ย มึงบอกกูมาก่อนว่ามีอะไร”
(เอ่อ...)
ไอ้เจมส์เงียบไป
“มีไรก็พูดมาดิวะ อย่าลีลา”
(คือ...กูบอกได้แค่ว่า ถ้ามึงไม่กลับมามึงจะเสียใจ)
“พี่เกี้ยงบอกให้เรียกกูกลับไปอะดิ หรือพี่คนอื่นที่กรุ๊ป” ผมดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ก็ได้เวลาเข้ากรุ๊ปแล้ว
(ไม่ใช่พี่เกี้ยง แต่พี่...)
“มึงบอกรุ่นพี่ไปว่ากูติดธุระจริงๆ เคปะ”
(เห้ย เพชรมึงกลับมาเหอะ เชื่อกู)
“ไม่ แค่นี้นะ”
(เดี๋ยว...)
อุตส่าห์โดดมาได้แล้ว ใครจะกลับไปให้โง่ล่ะครับ
ผมเดินเล่นดูนั่นนี่เรื่อยเปื่อยอย่างสบายอารมณ์ ชีวิตเด็กมหาลัยมันต้องแบบนี้สิครับ ใช้เวลาว่างอย่างอิสระ ไม่ใช่มาโดนบังคับให้เข้าร่วมกิจกรรม รออีกไม่นานผมจะหาหญิงมาควงแล้วเดินให้ทั่วเลย
ที่อยู่ในสต็อกล่าสุดก็เกล คนที่ฝากเพื่อนมาขอไลน์ผมตอนต่อแถวซื้อข้าวเมื่อไม่กี่วันก่อน เค้าทักมาคุยกับผมทุกวันหลังจากนั้น หุ่นเอ็กซ์ๆแบบนั้น คุยไปอีกสักพักต้องหาทางรวบรัดให้ได้ครับ
พวกผู้หญิงที่ผมเคยคุยด้วยตอนม.ปลายตอนนี้ก็เลิกคุยไปหลายคนแล้วครับ แต่ไม่เป็นไร สต็อกใหม่ได้ที่นี่แหละ
หกโมงสี่สิบแล้วเมื่อผมเข้าไปนั่งในร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่ง สั่งอาหารเสร็จก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่นรอ เห็นไอ้เจมส์อัพรูปกิจกรรมที่กรุ๊ป ไม่ได้พิเศษอะไรหรอกครับ ก็เล่นเกมตามเคย แต่กับมันที่ enjoy ทุกอย่างก็คงบอกว่าสนุก
“ขอนั่งด้วยคนนะครับ”
เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นหูเอ่ย ผมเงยหน้าขึ้นมองก็ตกใจราวสายฟ้าฟาด
ไอ้พี่พฤกษ์
แม่งมาได้ไงวะ
“ตกใจอะไรขนาดนั้นครับน้องเพชร” มันยกยิ้มมุมปากขึ้น ในหัวมันต้องมีแต่ความคิดชั่วร้ายที่จะแกล้งผมเต็มไปหมดแน่ๆ
“มาได้ไง”
“ขับรถมาไงครับ”
กูไม่ได้หมายถึงวิธีการมาของมึงโว้ย
หรือว่ารุ่นพี่ที่ไอ้เจมส์หมายถึงเมื่อกี้คือมัน
“ตกลงให้พี่นั่งด้วยมั้ยครับ”
“เดี๋ยวมีเพื่อนผมจะมานั่ง ต้องรบกวนให้พี่ไปนั่งที่โต๊ะอื่นแล้วล่ะครับ” ผมฉีกยิ้มกว้าง แต่งเรื่องโกหกสดๆ
“น้องเพชรนัดเพื่อนไว้หรอ พี่เห็นเดินอยู่คนเดียวมาตั้งนานแล้ว”
เชี่ย นี่สะกดรอยตามกูมาตั้งแต่ตอนไหนวะไอ้พี่พฤกษ์ มึงจบมาจากโรงเรียนนักสืบหรือไง นี่มันเหนือกว่าคินดะอิจิไปแล้ว
“ก็เดินเล่นรอเพื่อนไงครับ”
“อ้ออ” เสียงมันบอกชัดว่าไม่เชื่อที่ผมพูดแม้แต่น้อย
“เดี๋ยวเพื่อนผมจะมาแล้วครับ”
“ถ้างั้นก็บอกเพื่อนว่ารุ่นพี่ขอมานั่งด้วยนะ อุตส่าห์มาเจอรุ่นน้องน่ารักๆทั้งที จะให้กินข้าวคนเดียวคงเหงาแย่”
ว่าแล้วก็นั่งลงตรงข้ามผมอย่างถือวิสาสะ ไอ้ห่าพี่พฤกษ์ จะมีซักวันมั้ยที่กูไม่เห็นหน้ามึงเนี่ย
“น้องเพชรสั่งอาหารรึยังครับ”
ผมพยักหน้าอย่างหงุดหงิด ทำมาเป็นถาม ไม่ใช่ว่าสังเกตการณ์ผมมาตั้งนานแล้วหรือไง ผิดกับมันที่ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม
พี่แกยกมือเรียกบริกร
“ผมขอทงคัตสึสันนอก ชุดเล็กครับ”
สั่งเหมือนกูอีก
“แล้วพี่ไม่ไปเข้ากรุ๊ปรึไงครับ”
“ก็จะไปแหละ แต่พอดีรู้มาว่ามีคนจะโดด เลยต้องมารับน้องนอกสถานที่”
ไอ้สัส มึงจะจองล้างจองผลาญกูไปถึงไหน
“ใครหรอครับ กล้าโดดได้ลง” ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“คนแถวนี้แหละ ชอบอ้างว่าติดธุระตลอด แต่จริงๆก็ไม่เห็นมีอะไรทำเลย”
หน้าผมบึ้งตึง ด่ากันชัดๆ สัสเอ๊ย
“ทำแบบนี้ดีแล้วเหรอ มาไล่จับผมคนเดียว แล้วน้องคนอื่นๆที่กรุ๊ปล่ะ”
ผมตัดสินใจยอมรับตรงๆว่าโดดกิจกรรม
“ปีหนึ่งที่กรุ๊ปก็มีพี่ๆคนอื่นดูแลแล้วไง ส่วนไอ้พวกที่ชอบโดดเนี่ย พี่จะดูแลเอง”
ผมแยกเขี้ยว
“ทำไมพี่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับผมด้วยวะ”
ถามแม่งไปแบบนั้นแหละ ผมก็อยากจะรู้เหตุผลจริงๆเหมือนกัน
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มอ่อน มองหน้าผมเหมือนต้องการจะพินิจใจ
“บอกแล้วไงว่าพี่ชอบดูแลเด็กที่โดดกิจกรรม”
“คนที่โดดไม่ได้มีผมคนเดียวซะหน่อย”
“เราเป็นน้องกรุ๊ปพี่นี่ครับ”
“ก็มีปีหนึ่งกรุ๊ปเราอีกหลายคนที่ไม่เข้า ผมไม่เห็นพี่ไปยุ่งกับคนอื่นเลย”
“ก็เพราะไม่ใช่น้องเพชรไง”
หมายความว่าไงวะ
ในตอนนั้น ทงคัตสึสันนอก ชุดเล็กถูกยกมาเสิร์ฟ
“เร็วดีจัง” ไอ้พี่พฤกษ์ว่า กำลังจะวางถาดอาหารที่รับมาลงตรงหน้าตัวเอง
“นั่นของผม”
มันเลิกคิ้ว
“พี่สั่งเหมือนผม ผมต้องได้ก่อน”
“อ่อ...ครับๆ” พี่แกเลื่อนถาดมาทางผมแทน พร้อมรอยยิ้มที่ชวนให้ซัดปากสักหมัด
ผมเริ่มต้นกินทันที เพื่อจะได้ไม่ต้องสนทนากับมัน
อีกไม่นานนัก จานของไอ้พี่พฤกษ์ก็ตามมา
“เพื่อนน้องเพชรยังไม่มาอีกเหรอเนี่ย”
“มันไลน์มาบอกผมเมื่อกี้ว่าไม่มาแล้ว ติดธุระ” ผมตอบทันที
“หึหึ” รู้แล้วสินะว่ากูโกหก “มุกติดธุระอีกแล้ว...อย่าพึ่งกินหมดเร็วนะ รอพี่ด้วย”
ผมไม่สนใจที่มันบอก แถมเพิ่มความเร็วในการกิน
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มเหี้ยมเหมือนคนโรคจิต
“จะรีบไปไหน ที่นัดกับเพื่อนก็โดนเทแล้ว นั่งกินเป็นเพื่อนพี่ไปนะครับ”
“ผมจะรีบกลับบ้าน”
“พี่ไม่อนุญาต”
ผมจ้องหน้ามันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“น้องเพชรกำลังอยู่ในเวลากิจกรรมกับพี่นะครับ อย่าลืมสิว่าพี่รับน้องนอกสถานที่อยู่”
แม่งโคตรสมเหตุสมผลว่ะ กูมอบถ้วยรางวัลแถดีเด่นให้มึงเลยไอ้พี่พฤกษ์
ผมกินเสร็จก็กลับไปสนใจหน้าจอมือถืออีกครั้ง ในขณะที่คนนั่งฝั่งตรงกันข้ามเอาแต่จ้องหน้าผมไปพร้อมกับกิน
ผมพึ่งสังเกตรูปร่างหน้าตาของไอ้พี่พฤกษ์ชัดๆก็วันนี้ มันสูงกว่าผม ประมาณ4-5เซนติเมตรได้ ทรงผมแบบ curly hair ดูจะเป็นสิ่งที่โดดเด่นออกมามากที่สุด ท่อนแขนเห็นเส้นเลือดขึ้นชัด ใบหน้าคมที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่ามีเชื้อจีนแฝงอยู่ นัยน์ตามันเป็นสีน้ำตาลเหมือนกันกับผม จมูกเล็กแต่เป็นสันชัดเจน และริมฝีปากบางสีชมพูอ่อน
ไม่ค่อยอยากยอมรับเท่าไรว่ามันหล่อ
“ทำไมน้องเพชรถึงเลือกเรียนคณะนี้ล่ะครับ”
อยู่ๆไอ้พี่พฤกษ์ก็ถามขึ้นมา ตอนนี้มันกำลังจ้องผมเหมือนต้องการจะอ่านใจอีกแล้ว
“ถามทำไมครับ” ขอให้ได้กวนตีนมันก่อนตอบ
“ก็อยากรู้” มันตอบง่ายๆ
“ผมอยากเรียน finance ตั้งแต่ม.ปลาย”
“แล้วทำไมอยากเรียน finance”
จะสัมภาษณ์เรื่องกูไปเขียนหนังสือชีวประวัติรึไงฟะ
“ผมสนใจเรื่องหุ้น การลงทุน แล้วก็จะได้เอาความรู้ด้านธุรกิจที่คณะสอนไปสร้างกิจการของตัวเอง”
มันเงียบไป ผมตอบไปตามความจริง ถึงผมจะไม่ใช่คนขยันอะไรมากมายแต่ก็มีเป้าหมายในชีวิตนะจะบอกให้ ไง ตะลึงเลยดิไอ้พี่พฤกษ์
“อืม ชัดเจนดี ไม่ค่อยเจอคนแบบเราเลยนะเนี่ย…”
ผมเดาว่ามันกำลังประทับใจ
“พี่ล่ะ majorอะไร”
แล้วผมก็เผลอถามมันกลับไป ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกริ่มก่อนตอบ ไม่น่าไปถามแม่งเล้ย
“marketingครับ”
ผมก้มหน้าลงเล่นโซเชียลต่อ คิดแล้วว่าบุคลิกอย่างมันต้องเรียนmarketing
“เดี๋ยวเราจะกลับบ้านเลยใช่มั้ย”
“อือ”
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไร ผมกลับเองได้”
“ไม่เป็นไร ทางผ่านบ้านพี่อยู่แล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ไม่...อีกอย่าง รุ่นพี่ต้องเทคแคร์ปีหนึ่งหลังรับน้องดิ”
เฮ้อ ผมขี้เกียจเถียงแล้วครับ ยังไงมันก็คงไม่ยอมอยู่ดี


“ถ้าอยากได้ชีทหรือหนังสือเรียนก็บอกนะ ปีหนึ่งทุกmajorเรียนวิชาพื้นฐานเหมือนๆกัน...หรืออยากให้ติวก็บอกได้”
ไอ้พี่พฤกษ์ยักคิ้ว มึงเซียนอ่อจะมาติวให้กู
“เดี๋ยวพี่แนทเอามาให้ผมครับ”
“แนทเค้าเรียนaccountไม่ใช่รึไง ปี3สายน้องเพชรก็account ปี4ก็logis มายืมจากพี่ก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ”
เชี่ย ไอ้พี่พฤกษ์มันรู้ทุกเรื่องจนน่ากลัวไปแล้วนะครับ
“พี่ไม่ต้องเก็บไว้ให้สายรหัสอ่อครับ”
“สายพี่ พี่คนอื่นเค้าส่งมอบให้ปีหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว”
รถvolvoสีเงินเลี้ยวเข้ามาในคอนโดของผมในที่สุด
“ขอบคุณครับ” ผมพึมพำเบาๆแต่ไม่ยกมือไหว้
เจ้าของรถยิ้มกว้าง
“ยินดีครับ”
ผมปิดประตูรถ หันหลังเตรียมจะเดินไป
“เดี๋ยว”
ไอ้พี่พฤกษ์ลดกระจกแล้วเรียก
“เวลาเราไม่ดื้อนี่ก็น่ารักดีนะครับ”

TBC

พี่พฤกษ์นี่สายตื๊อจริงๆ มีแอบหยอดเบาๆด้วย น้องก็ดื้อมาก ติดตามตอนต่อไปด้วยคร้าบ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP6 "หึ อ่อนกว่ากูอีกไอ้พี่พฤกษ์"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 23-07-2018 21:03:30
EP6 “หึ อ่อนกว่ากูอีกไอ้พี่พฤกษ์”

“เวลาเราไม่ดื้อนี่ก็น่ารักดีนะครับ”
ไอ้พี่พฤกษ์ขับรถออกไป เออ เจอกันคราวหน้าผมสัญญาว่าจะดื้อให้สุด
“ไอ้เหี้ยเจมส์ ทำไมมึงไม่บอกกูตั้งแต่ตอนนั้นว่าไอ้พี่พฤกษ์มันไปหาพี่เกี้ยงที่ร้าน”
“ก็พี่พฤกษ์เค้าสั่งกูไม่ให้พูดชื่อ เค้าให้บอกแค่ว่าให้มึงกลับมา”
“แล้วมึงก็ทำตามพี่มันเนี่ยนะ”
“เออดิ ก็กูอยากให้มึงกลับมาเข้ากรุ๊ปนี่หว่า ไอ้นิวก็เห็นด้วย”
ผมโทรไปเล่นงานไอ้เจมส์ทันทีที่ขึ้นมาถึงห้อง มันเล่าให้ฟังว่าไอ้พี่พฤกษ์ขับรถมารับพี่เกี้ยงที่ร้านเกม ไปถึงแล้วเห็นมันแต่ไม่เห็นผม ไอ้รุ่นพี่ตัวดีก็สั่งไอ้เจมส์ให้โทรตาม พอผมไม่ยอมกลับ มันก็ขับรถไปส่งทุกคนที่กรุ๊ปก่อนขับมาsquare one แล้วเดินตามหาผม
โอ้โห กูให้คะแนนเต็มความพยายามมึงเลยไอ้พี่พฤกษ์
“เชี่ย กูไม่รู้จะด่ามึงว่าไงดีเพื่อนรัก”
“ก็ไม่ต้องด่า แล้วมาเข้ากรุ๊ปด้วย พรุ่งนี้พวกพี่เค้าจะพาไปเลี้ยงข้าว มึงไม่น่าพลาดของฟรีนะเพชร”
“กูไม่ใช่คนเห็นแก่กินเหมือนมึงไอ้เจมส์ แค่นี้นะสัส”
ให้ตายเถอะ โดนรุ่นพี่บังคับเข้ากิจกรรมแล้วยังมาโดนเพื่อนอีก
คืนนั้น ไอ้พี่พฤกษ์ส่งข้อความมาทาง facebook messenger อีก
‘น้องเพชรครับ พี่ลืมบอกไป’ ‘พรุ่งนี้อย่าลืมมาเข้ากรุ๊ปนะ วันต่อๆไปก็ด้วย’
‘ถ้าไม่มาอีกพี่ไม่ใจดีแบบวันนี้แล้วนะครับ’
พร้อมอีโมติคอนหน้ายิ้ม
ยิ้มมากมั้ยมึง
ผมไม่ตอบ
แค่คิดว่าไอ้พี่พฤกษ์จะติดตามผมไปทุกที่ก็น่ากลัวจะแย่แล้ว และผมก็เชื่อว่ามันทำจริงๆ ทั้งจากเหตุการณ์วันนี้ วันก่อนที่มันไปดักประตูห้องเรียนปีหนึ่งแล้วเรียกน้องทุกคน กับเมื่อวันเปิดเทอมที่มันลากผมกลับเข้ากรุ๊ปหน้าตาเฉย
ทำไมมันต้องมาวุ่นวายกับชีวิตผมด้วยนะ
ผมแค่สงสัยว่าปีหนึ่งคนอื่นมันโดนแบบนี้กันรึเปล่า
เซ็งชิบหาย
ผมถามเหตุผลมันเมื่อกี้ก็ตอบมาอย่างไม่เข้าใจ

“สรุปมึงไปปะเย็นนี้” ไอ้เจมส์ถามขึ้นระหว่างพักเที่ยง สามหล่อมาทานอาหารที่คณะอักษรฯครับ วันนี้มีเรียนแค่ช่วงเช้า เลยมาเถลไถลที่อื่นได้ จุดประสงค์ไม่ใช่เรื่องกินหรอกครับ แต่เป็นอาหารตาต่างหาก
“แค่กินข้าวหรอวะ”
“มึงสนก็แค่เหล้าใช่มั้ยเชี่ยเพชร”
“เออ มึงก็รู้นิ”
“เสร็จจากร้านอาหารก็มีไปต่อแหละ พี่เกี้ยงบอกกูว่าศุกร์แรกเป็นธรรมเนียมที่รุ่นพี่กรุ๊ปเราจะชวนน้องไปแดกเหล้า”
“งั้นกูไปตอนดริ้งค์เลย”
สาวอักษรได้ชื่อว่าสวยเป็นอันดับต้นๆของมหาวิทยาลัย ผมคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องได้ contact สักคนไปสานสัมพันธ์ต่อ
อย่าหาว่าผมหลงตัวเองเลยครับ เมื่อย่างเท้าเข้าไปในโรงอาหาร นิสิตหญิงหลายคนต่างมองมาที่พวกเรา สะกิดเพื่อน หันไปซุบซิบกัน เหลียวหลังกลับมามอง
หล่อลากเลยไอ้เพชรเอ๊ย
“มึงนี่นะไอ้เพชร มึงล่ะไอ้นิว ไปปะ”
“ไปดิ ไปตั้งแต่ตอนแดกข้าวเลย ของฟรีนะเว้ย” ไอ้นิวที่พึ่งวางหูโทรศัพท์กับคนที่บ้านหันมาตอบไอ้เจมส์
“ต้องยังงี้สิ”
“มึงแดกเหล้าด้วยอ่อนิว” ผมถาม ไม่คิดว่าเจี๋ยมเจี้ยมอย่างมันจะเอากับเขาด้วย
“แดกดิ เยอะด้วย” ไอ้นิวบอกหน้าระรื่น
“โด่ ของยังงี้ต้องรอพิสูจน์ อย่าให้กูเห็นว่าคืนนี้เมาก่อนเพื่อน” ไอ้เจมส์เข้าไปกอดคอไอ้นิว
“ว่าแต่กินที่ไหนวะ” ผมถามต่อ
“brick bar”
สามหล่อเดินไปต่อแถวร้านข้าวเหนียวไก่ทอด ของขึ้นชื่อของคณะนี้ สายตาผมสอดส่ายหาหญิงเด็ดๆไปเรื่อยๆ อืม มีอยู่หลายคนเลย ผมจะเข้าหาคนไหนดีล่ะ
ป้าบ
“เชี่ยเจมส์ มึงตบหัวกูทำไมวะ” ผมสะดุ้ง
“ตาละห้อยเชียวนะมึง”
“จริงว่ะ” ไอ้นิวหัวเราะ
“นี่กูออกนอกหน้าขนาดนั้นเลยรึไง”
“เออ” ประสานเสียงตอบกันเชียวนะไอ้สองตัว
“ไอ้เจมส์ มีคนสนใจมึงอะ” ผมยิ้มออกมา ชี้ให้ไอ้เจมส์หันไปทางข้างขวาของมัน
มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมองไอ้เจมส์อย่างเปิดเผย พอมันหันไป สาวเจ้าก็ส่งยิ้มหวานให้ทันที
“เชดดด” ไอ้นิวร้อง
“ไปสานต่อซะไป” ผมผลักไหล่เพื่อน
พักหนึ่งไอ้เจมส์กลับมาพร้อมยิ้มมุมปาก มันหันหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้เห็นว่าได้ทั้งเบอร์ line และfacebookมาเรียบร้อย
“งานเร็วนะสัส เข้าคณะเค้ามาสิบห้านาทีได้หญิงละ”
ไอ้เจมส์ไม่ตอบแต่ยักไหล่อย่างน่าถีบ
“มึงสายบุกใช่มั้ย ได้ กูจะอยู่เฉยๆให้หญิงเข้ามาหาเอง” ผมลั่นวาจาออกไป
“โห่ ยังไงก็มีคนเข้าหามึงอยู่แล้วไอ้เพชร”
“กูก็ว่างั้น” ไอ้นิวเห็นด้วย
“แน่นอน”
และก็เป็นไปอย่างที่พวกเราคิด มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาขอทำความรู้จักกับผม เธอชื่อแนน เป็นรุ่นพี่ ที่สำคัญสวยเซ็กซี่ตรงสเปคผม เห็นเรียวขาขาวๆจากกระโปรงสอบสั้นแล้วใจไม่ดีเลยครับ
“ถ้างั้นไว้เจอกันนะครับ” ผมโบกมือทิ้งทายให้พี่แนนก่อนเธอจะเดินไปกับกลุ่มเพื่อน
“สาด มึงแม่งร้าย” ไอ้เจมส์ว่า ส่วนไอ้นิวยิ้มน้อยๆ
ก่อนออกจากโรงอาหาร เป็นทีของไอ้นิวบ้าง เพราะมีสาวหมวยคนหนึ่งเดินเข้ามาคุยกับมัน มันเขินจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เกาหัวแก้เก้อ แต่สุดท้ายก็แลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กันจนได้
ผมกับไอ้เจมส์หัวเราะและล้อมันยกใหญ่
“หยุดเลยพวกมึง” ไอ้นิวห้าม หน้ายังเป็นสีแดงเข้ม
สรุปว่าวันนี้สามหล่อไม่มีใครแห้วเลยครับ
ผมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดก่อนจะออกมา brick barตอน2ทุ่มครึ่ง มาถึงไอ้เจมส์กับไอ้นิวก็ควักมือเรียกใหญ่
แค่ผมเดินผ่านจากประตูทางเข้าไปยังโต๊ะเพื่อน สาวๆก็หันมามองเป็นตาเดียวแล้วครับ หึหึ
“อ้าวเพชร นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” พี่เกี้ยงเอ่ยทักผมเป็นคนแรก
“มันโดดแดกข้าวไงพี่ รอมาแดกเหล้าอย่างเดียวเลย”
ผมหันไปมองไอ้เจมส์ตาเขียว ปากไวเชียวนะมึง
“หวัดดีครับพี่ๆ” ผมยกมือไหว้รุ่นพี่พร้อมกันทีเดียว กวาดสายตาไล่ตั้งแต่พี่เกี้ยงไป มองผ่านคนที่นั่งอยู่ข้างขวาพี่เกี้ยงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
แม้กระนั้นก็ยังทันเห็นรอยยิ้มกวนที่มันส่งมา
เบื่อหน้ามันชิบ
ผมทั้งดีใจแล้วก็ประหลาดใจที่เห็นพี่เอ๋ยมา ไม่คิดว่าจะดื่มด้วย เข้ากรุ๊ปมาตั้ง3วันได้คุยกับพี่แกนิดๆหน่อยๆเอง นั่งอยู่ระหว่างพี่ผู้หญิงอีกสองคนที่ผมจำชื่อไม่ได้ นอกจากนั้นก็แก๊งไอ้พี่พฤกษ์ พี่ผู้ชายอีก2คนที่ผมก็จำชื่อไม่ได้อีกเหมือนกัน ไอ้เจมส์ ไอ้นิว แล้วก็เพื่อนปีหนึ่งอีกคน
“มากันแค่นี้หรอครับ” ไหนบอกว่ารุ่นพี่เลี้ยงไง ทำไมมีปีผมมาแค่4คนเอง
“เค้ามากันตั้งเยอะไอ้เพชร แค่แยกโต๊ะกันนั่งตามสายเว้ย” ไอ้เจมส์ตอบ
“วันนี้พวกพี่จองไว้หลายโต๊ะให้กรุ๊ปเรา” พี่ผู้หญิงข้างซ้ายพี่เอ๋ยตอบ พลางมองไปตามโต๊ะต่างๆ
ผมมองตาม เออ จริงด้วย โต๊ะข้างๆนี่คนกรุ๊ป4ทั้งนั้น เชดโด้
“น้องรหัสกูไม่มาว่ะ มันบอกว่าที่บ้านไม่ให้กินเหล้า” พี่เกี้ยงบอก หลายคนหัวเราะ
“อย่าขำดิพี่ บางคนที่บ้านซีเรียสมากนะ” พี่เอ๋ยพูด
“นี่มันโตแล้วนะเว้ย ห้ามกินเหล้าเนี่ยนะ” พี่ผู้หญิงข้างซ้ายพี่เอ๋ยแย้ง
“มึงกำลังงงใช่มั้ยว่าใครชื่ออะไรบ้าง” ไอ้เจมส์กระซิบ
“เออ มึงไล่มาดิ๊”
“ข้างซ้ายพี่เอ๋ยชื่อพี่แจน ข้างขวาชื่อพี่พริม ข้างพี่พฤกษ์ชื่อพี่ริว สองคนนั้นชื่อพี่แบงค์กับพี่โต้ง ข้างไอ้นิวชื่อไอ้ซัน”
“มึงแดกทะเบียนราษฎร์เข้าไปรึไงวะ” ผมกัด นั่นทำให้ไอ้เจมส์ตบหัวผมแทบคว่ำ
“เอ้า ใจเย็นน้อง มีอะไรค่อยๆคุยกัน” พี่ริวหัวเราะ
“น้องเพชรจำชื่อพวกเราไม่ได้อะดิ” พี่แจนรู้ทัน
“เอ่อ...ครับ” ผมลูบหลังคอ
“ไอ้นี่ที่เล่นเกมจำชื่อแล้วจำได้แต่เอ๋ยคนเดียวไง” พี่โต้งว่า คนในโต๊ะส่งเสียงแซว
“พี่เอ๋ยมาให้ผมเซ็นชื่อตอนที่มาสายวันแรกน่ะครับ ผมเลยจำได้” ผมตอบ
“ไม่ต้องเลย น้องแม่งเลือกจำแต่คนสวย” พี่โต้งขัด
“เออ ร้ายสัส” พี่แบงค์สนับสนุน
ทุกคนโห่ขึ้นมาอีก ผมแอบมองไปทางพี่เอ๋ย เค้ากำลังยิ้มน้อยๆ
“แกอย่าไปแกล้งน้องดิ” พี่เอ๋ยว่า
“ถ้างั้นน้องต้องจำชื่อกูได้ เพราะกูสวย” พี่แจนพูดเสียงดังกลบเสียงโห่แซว “พี่ชื่ออะไรคะ”
ผมจำพี่แจนได้แล้ว แต่แกล้งตอบผิดว่า
“พี่จูนปะครับ”
นั่นเรียกเสียงฮารอบโต๊ะ แต่พี่แจนกรี๊ดใส่ผม
“อีเด็กเวร...น้องเจมส์พึ่งบอกแกเมื่อกี้ แกแกล้งจำชื่อชั้นไม่ได้ใช่มั้ยยะ”
“เพชรแม่งแสบว่ะ”
“ฮาเหี้ยๆ”
พี่ริวเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาขอจับมือผมเขย่าแรงๆ
“พี่ว่าเลิกเล่นเกมจำชื่อก่อนมั้ย ที่นี่ไม่ใช่กรุ๊ปนะเว้ย” พี่เกี้ยงพูดกลั้วหัวเราะ “งั้นพวกรุ่นพี่ก็แนะนำตัวพร้อมบอกสายรหัสไปเลยดีมั้ย น้องมันจะได้ไม่งง”
“ดีๆพี่เกี้ยง ผมเห็นด้วย” พี่แบงค์ผงกหัว
“แจนนะคะ ไม่ใช่จูน...ดูปากพี่นะคะ แจนค่ะ” ประโยคนี้พี่แจนหันมาพูดกับผม ผมยิ้มขำ “พี่รหัสน้องนิว ปี3ก็พี่ริวนี่แหล่ะค่ะ”
“เอ๋ยค่ะ พี่รหัสน้องเจมส์” พี่เอ๋ยหันมาสบตากับผมแวบหนึ่งตอนพูด ผมเลยส่งยิ้มหวานไปให้
“พริมค่ะ สายโคโต้ง น้องปี1ไม่มาค่ะ”
“เออ ตั้งแต่มานี่พี่พึ่งได้ยินเสียงพริมนี่แหล่ะ ไม่พูดเลย” พี่ริวแทรกขึ้นมา
“พี่ริวอย่าแกล้งพริม” พี่เอ๋ยขัด
“ริวครับ”
“พฤกษ์ครับ พี่รหัสซัน”
ผมล่ะสงสารไอ้ซัน มาได้ไอ้พี่พฤกษ์เป็นสาย
“เกี้ยงครับ พี่รหัสไอ้แบงค์ ส่วนปี1ไม่มา ที่บ้านไม่ให้กินเหล้า”
“แบงค์ครับ”
“โต้งครับ”
“เพชรครับ น้องพี่แนท...เอ้อ ทำไมพี่แนทไม่มาอ่อครับ”
“แนทติดงานmc มาไม่ได้จ้ะ” พี่เอ๋ยตอบ
“เป็นน้องรหัสแนทแล้วไม่รู้ได้ไงเนี่ย”
ไอ้ห่าพี่พฤกษ์ เผือกร้อนละ
ผมทำเป็นไม่สนใจ
“เจมส์ครับ”
“นิวครับ”
“ซันครับ”
ผมหันไปมองหน้าไอ้ซัน ไม่เคยสังเกตเห็นมันที่กรุ๊ปเลยครับ(น่าจะเพราะจำไม่ได้เองมากกว่า- -) ท่าทางดูเกเรไม่น้อยทีเดียว เออ ช่วยตั๊นหน้าพี่รหัสมึงให้กูทีดิ
“เจมส์มึงชงให้กูที” ผมหันไปสั่งเพื่อน
“mixer”
“เหมือนเดิม” ผมหันไปมองเครื่องดื่มอื่นๆที่พี่ในโต๊ะสั่งมาไว้ ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นของโปรด ไอ้เจมส์จัดเหล้าผสมชเวปส์มาให้หนึ่งแก้ว
“มึงชอบผสมชเวปส์หรอวะเพชร” ไอ้นิวหันมาถาม
“เออ อร่อยนะ ลองดิ” ผมยื่นแก้วให้มันชิม ไอ้นิวดื่มปั๊บก็ฉีกยิ้มออกมา
“ไง”
“เออ ได้อยู่ๆ”
ผมเห็นว่าไอ้พี่พฤกษ์กำลังจับตามองผมอยู่ พร้อมด้วยรอยยิ้มมุมปาก มึงกำลังคิดจะแกล้งอะไรกูอยู่ใช่มั้ย
บทสนทนาในโต๊ะเริ่มด้วยการที่พวกพี่ๆถามถึงกิจกรรมรับน้องที่กรุ๊ปในสัปดาห์แรก แน่นอนว่าไอ้เจมส์ตอบว่าสนุกมาก อยากไปเข้ากรุ๊ปทุกวัน(ผมนี่อยากจะอ้วก)
“เพชรอะ ชอบกรุ๊ปรึเปล่า” พี่ริวหันมาหา
“เอ่อ ก็ดีนะครับ” จะให้ผมบอกว่าน่าเบื่อ อยากโดดคงไม่ใช่ที่
“ดีแล้วทำไมเมื่อวานน้องเพชรถึงโดดล่ะครับ”
ไม่ต้องสืบเลยว่าใครถามประโยคนี้
“ไม่ได้โดดครับ เมื่อวานผมมีธุระ” ผมตอบทันที
ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้โต้เถียงต่อ แค่ยิ้มกรุ้มกริ่มแน่นอนว่าไอ้เจมส์ ไอ้นิว พี่เกี้ยงรู้แล้วว่าไอ้พี่พฤกษ์ไปตามล่าผมเมื่อวาน ดีที่ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ต่อ
“ไอ้แบงค์ไอ้โต้ง ไอ้พวกเนี้ยเล่นdotaด้วยนา เก่งกว่าพวกมึงอีก” พี่เกี้ยงเปลี่ยนเรื่อง ชี้มาทางพวกผม
“เห้ย จริงอ่อพี่ ไว้ต้องมาเจอกันหน่อยแล้วปีหนึ่ง” พี่แบงค์ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
“จริงดิ เล่นทีมเดียวกัน รู้งานสัส” พี่เกี้ยงยืนยัน
“วันไหนบอกมาเลยดีกว่าน้อง” พี่โต้งว่า ยิ้มน้อยๆ
“พี่นัดมาเลย ผมอะได้ทุกวัน อยากเจอ” ไอ้เจมส์ทำท่าตื่นเต้น
“พี่ๆน้องๆคะ โต๊ะนี้ไม่ได้มีแต่ผู้ชายนะคะ ยังมีสาวสวยอีกสามคนนั่งอยู่ เห็นมั้ยเนี่ย” พี่แจนแหวขึ้นมา เรียกเสียงโห่จากพวกผู้ชายในโต๊ะ พี่แบงค์ทำท่าโก่งคออ้วก
“อย่าคุยกันแต่เรื่องเกมสิคะ สาวๆเข้าไม่ถึง”
“ผมก็ไม่ชอบเล่นเกมครับ ไร้สาระ”
ทุกคนหันขวับไปที่ไอ้ซัน ที่พูดขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย แถมทิ้งระเบิดลูกใหญ่ซะด้วย
มึงกล้าหาญมากไอ้ซัน
“เล่นแล้วไม่เห็นจะได้อะไรเลย ไม่มีประโยชน์ เสียเวลา” นั่น ยังไม่จบ ถ้ามึงโดนตีนกูจะไม่แปลกใจเลย
ไอ้เจมส์หันมาสบตากับผม สื่อความหมายว่า ‘แม่งกล้าว่ะ’
“ไม่ชอบเล่นก็ไม่เห็นต้องพูดแบบนั้นเลยนี่” ไอ้พี่พฤกษ์พูดเสียงเย็น ไอ้ซันเบ้หน้า บรรยากาศในวงเปลี่ยนไปทันที
“น้องระวังนิดนึงนะครับ” พี่ริวพูดขึ้นมาอีกคน มองไอ้ซันตาขวาง
“เห้ย ช่างมันเหอะน่า น้องมันคงไม่ได้ตั้งใจ” พี่เกี้ยงที่ดูไม่ได้ติดใจสงสัยคำพูดหมาๆรีบห้ามศึก
ผมมองไปที่ไอ้ซัน แทนที่มันจะมีท่าทีสลด แต่ไม่เลย มันกลับมองไปรอบโต๊ะด้วยสีหน้าท้าทาย
พี่แบงค์ส่ายหัวเบาๆ
มึงแม่งคนจริงว่ะซัน
“นี่ๆ เพลงกำลังโดนเลย มาแหกปากร้องเพลงกันดีกว่ามา” พี่เกี้ยงยังคงพยายามชักชวนคนอื่นให้เลิกสนใจเรื่องนี้พี่แกกอดคอไอ้พี่พฤกษ์ที่ขยับแขนกอดคอพี่ริวต่อแล้วก็ร้องเพลงตามดนตรีสดในร้าน
สักพัก ทุกคนยกเว้นไอ้ซันก็อ้าปากร้องเพลงพร้อมขยับตัวไปตามจังหวะ แล้วแต่ว่าเพลงช้าหรือเร็ว ผมเองร้องตามได้แทบจะทุกเพลง และยกเหล้าขึ้นซดเอาๆจนมึนหัวหน่อยๆ ไอ้ความรู้สึกแบบนี้แหละครับ โคตรชอบเลย กำลังได้ที่
พี่เอ๋ยหน้าแดงขึ้นมาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ นั่นทำให้พี่เค้าดูมีเสน่ห์โคตรๆ ทรวดทรงองค์เอวทุกอย่างกำลังลงตัว วันนี้พี่เอ๋ยใส่กางเกงขาสั้น ผมลอบส่งยิ้มให้และได้รับยิ้มหวานกลับมา แม่งเอ๊ย อยากได้...
หันกลับมาจะยกแก้วขึ้นดื่มต่อก็ดันสบเข้ากับสายตาไอ้พี่พฤกษ์ ดูท่ามันเหมือนจะรู้ทันผม ผมเบนหน้าไปทางอื่นทันที
“ไอ้เจมส์ เติมให้กูหน่อย” ผมส่งแก้วเปล่าไม่รู้ครั้งที่เท่าไรให้เพื่อนซี้
“เพชรแม่งกินเก่งนี่หว่า พี่เห็นหลายแก้วละ” พี่แบงค์พูด
“กูก็เห็น เติมเอาๆ หัดกินมาตั้งแต่ที่โรงเรียนอะดิ” พี่ริวยิ้ม
“นิดหน่อยพี่”
ส่วนไอ้คนเติมเหล้าให้ผมน่ะเหรอ เริ่มเมาแล้วครับ เพราะมันพูดไม่รู้เรื่องแล้ว
“มึงดูเชี่ยเจมส์นะ กากสัส เป็นงี้ทุกที” ผมหันไปพูดกับไอ้นิว มองไอ้เจมส์ที่แดงไปทั้งตัวแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว
“กูก็นึกว่ามันคอแข็งซะอีก” ไอ้นิวพูดยิ้มๆ ท่าทางดูปกติดี ทั้งๆที่บริโภคแอลกอฮอลล์ไปพอๆกับไอ้เจมส์ เออ กูเชื่อแล้วว่ามึงแดกเหล้าเก่ง
“เดี๋ยวตอนกลับช่วยกูดูแลมันด้วยนะ” ผมหัวเราะเบาๆ
“คุยอะไรกันวะ” ไอ้เจมส์พูดเสียงยานคาง มองหน้าผมกับไอ้นิวงงๆ
“กูบอกว่าวันนี้มึงหล่อมากเลยเพื่อน” ผมตบบ่ามัน
“เออ พูดดี” ตาเยิ้มเชียวไอ้เจมส์เอ๊ย
พวกพี่ๆหัวเราะไอ้เจมส์
ไอ้พี่พฤกษ์มันกำลังมองผมอีกแล้ว นี่หน้าผมไปเหมือนพ่อมันรึไงวะ มองอยู่นั่นแหละ
มีอะไรกับผมนักวะ
เดี๋ยวเดียวพี่แจนเริ่มเมาบ้าง โวยวายเสียงดังจนโต๊ะข้างๆหันมามอง พี่เอ๋ยก็พยายามห้ามไม่ให้เจ๊แกดื่มอีกแต่ไม่สำเร็จ ตัวพี่เอ๋ยเองก็ดูมึนๆอยู่เหมือนกัน ส่วนพี่พริมนี่แทบไม่ได้แตะของมึนเมาเลย
ถ้าผมอาสาดูแลหรือขอไปส่งพี่เอ๋ยตอนกลับแม่งต้องดูออกตัวเร็วเกินไปแน่ๆ แต่อย่างน้อยก็อยากจะทำอะไรสักอย่าง ทำไงดีวะ
“กูปวดฉี่ว่ะ” ไอ้เจมส์พูดขึ้น เอามือวางบนเป้ากางเกงแล้วทำหน้าบ่งบอกอาการ ทุกคนในโต๊ะฮาก๊าก
“เดี๋ยวกูพาไป” ไอ้นิวสบตากับผม กลั้นขำแทบตายก่อนจะฉุดแขนไอ้เจมส์ขึ้นพาดบ่าแล้วประคองมันเดินไป
“มีคนตามเจมส์กับแจนไปละ” พี่แบงค์ว่า กอดคอพี่โต้งที่สัปหงกลงไป เออ พี่แกนี่เงียบทั้งเวลาปกติทั้งตอนเมาเลยว่ะ
เวลาผ่านไป ไอ้นิวกับไอ้เจมส์กลับมา ผมเติมเหล้าเข้าปากไปอีก3แก้วแต่ตัวยังตั้งตรงพร้อมสติสัมปชัญญะที่ครบถ้วน บทสนทนาในโต๊ะก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วผมก็เห็นอะไรบางอย่าง
ไอ้พี่พฤกษ์หน้าเป็นสีแดงเรื่อ หัวมันวางอยู่บนไหล่พี่ริวที่กำลังคุยจ้อ
ผมยิ้มเยาะ
หึ อ่อนกว่ากูอีกไอ้พี่พฤกษ์
“เห้ย เหี้ยพฤกษ์ มึงไหวปะเนี่ย...ปกติก็นานกว่านี้นี่หว่า ทำไมวันนี้เมาเร็ว” พี่ริวขมวดคิ้ว ก้มลงมองเพื่อนที่คอพับคออ่อนอยู่ข้างตัว
“โดนหญิงเทมารึไง ไม่น่าใช่ หน้าอย่างแม่งน่าจะเป็นฝ่ายเทคนอื่นมากกว่า” พี่เกี้ยงพูดติดตลก
“เป็นไรจ๊ะน้องพฤกษ์” พี่ริวถามต่อ น้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“ไม่เมา”
“โอ้โห มึงเมาแล้วพฤกษ์ สาดด” พี่ริวว่า
“กูไม่เมา” ไอ้พี่พฤกษ์กระชากเสียงเถียง
“หราาา” พี่เกี้ยงดูนาฬิกา “เชี่ย ห้าทุ่มกว่าแล้ว กูว่าเริ่มกลับกันเหอะ เดี๋ยวจะดึกเกิน”
แล้วพี่เกี้ยงก็ลุกขึ้นไปคุยกับโต๊ะของคนกรุ๊ป4โต๊ะหนึ่ง ผมเดาว่าพี่แกคงบอกให้พวกปี2ปล่อยน้องกลับ ผมมองไปรอบๆ บางโต๊ะก็มีคนกลับไปแล้ว บางโต๊ะก็เห็นว่ามีคนถูกโอบไหล่แล้วพาออกไปจากร้าน บางโต๊ะก็มีคนนั่งกรึ้บต่อทั้งสภาพเมาๆอย่างนั้น
“เชี่ยนิว มึงรู้ปะว่าไอ้เจมส์มันบอกที่บ้านไว้ว่าไง ปกติมันต้องมีคนมารับ” ผมพึ่งนึกขึ้นได้แล้วถามไอ้นิวหน้าตาตื่น
“อ่อ มันโทรบอกที่บ้านตั้งแต่เมื่อเย็นแล้วว่าขอนอนบ้านเพื่อน…”
“เชี่ย แล้วไป ถ้าแม่มันมาเห็นล่ะกูไม่อยากจะนึกภาพ”
“ให้มันนอนหอกูก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไร ให้มันนอนคอนโดกู เดี๋ยวกูดูมันเอง”
“เออๆ”
“ไอ้เกี้ยงมานี่ มาคุยเรื่องส่งน้องแปบ…” พี่ริวตะโกนเรียกข้ามโต๊ะ พี่เกี้ยงเดินกลับมา
“เอาไงดีวะ”
“อืมม” พี่ริวใช้ความคิด “มึงไปส่งแบงค์ พริม แจน วนไปส่งแจนก่อน ให้พริมคอยดูแล กูจำได้ว่าบ้านแบงค์กับพริมอยู่ใกล้กัน” พี่แบงค์กับพี่พริมพยักหน้า พี่แจนยังคงเต้นไม่หยุด
“เออ แล้วไงต่อ”
“ปีหนึ่งบ้านอยู่ไหนกันบ้าง”
ผม ไอ้นิว ไอ้ซันตอบ
“ซันมาคันพี่ เอ๋ยกับโต้งก็ด้วย ทางเดียวกันหมด เดี๋ยวส่งถึงที่ทุกคนเลย แล้วก็เพชร ช่วยพี่หน่อย พี่ฝากไอ้พฤกษ์ได้มั้ย”
อะไรนะพี่ริว
“ให้เจมส์มันนอนหอนิว แล้วให้ไอ้พฤกษ์นอนกับเพชร ไอ้พฤกษ์เคยบอกว่าบ้านน้องกับมันอยู่ทางเดียวกันนิ”
“เอ่อ”
“วันนี้มันไม่ได้ขับรถมา บ้านมันอยู่ไกลสุดละ จะส่งขึ้นแท็กซี่คนเดียวก็เป็นห่วง ห่าเอ๊ย เสือกมาเละวันนี้”
ไม่เอา ผมไม่ให้มันนอนคอนโดผมเด็ดขาด
“เออ ครบละ...ครั้งนี้ต้องรบกวนเพชรแล้วล่ะ” พี่เกี้ยงเห็นด้วย
“น้องน่าจะดูแลคนเมาได้ ฝากไอ้พฤกษ์ด้วยล่ะ”
เหี้ย
นี่ผมต้องดูแลไอ้พี่พฤกษ์จริงๆหรอเนี่ย

TBC

เอาแล้ว พี่พฤกษ์เมาแล้ว เพชรจะทำยังไงกับพี่พฤกษ์ต่อละเนี่ย
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP7 "ฝากไอ้พฤกษ์ด้วยล่ะ"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 27-07-2018 18:39:16
EP7 “ฝากไอ้พฤกษ์ด้วยล่ะ”

พี่ริวกับพี่เกี้ยงแม่งไม่เปิดโอกาสให้ผมปฏิเสธเลย ฝากฝังกันลูกเดียว ทำไมพวกพี่ไม่ดูแลเพื่อนเองอะคร้าบ
แม่งเอ๊ย แล้วผมจะทำไงได้
“ได้ใช่ปะเพชร” พี่เกี้ยงถามซ้ำ
“เอ่อ ครับ”
“ขอบใจมากเว้ยน้อง” พี่แกตบไหล่ผมเบาๆพร้อมทำท่าโล่งอก
“นึกว่าเพชรจะเกลียดขี้หน้าไอ้พฤกษ์ซะอีก เห็นมันชอบแกล้งน้อง”
พี่ริวคิดถูกแล้วล่ะ แต่ทำไมยังฝากไอ้ตัวร้ายไว้ให้เป็นภาระผม
“พี่ว่าน้องท่าทางไว้ใจได้ ขอบใจอีกครั้งนะเว้ย” พี่ริวยิ้มให้
แล้วโต๊ะเราก็ลุกขึ้นพร้อมกัน คนไม่เมาประคองคนเมาเดินตรงไปยังประตูหน้า ผมช่วยไอ้นิวแบกปีกไอ้เจมส์คนละข้าง มันกำลังพูดเรื่องพ่อกับแม่บ่นมันอยู่
“มึงต้องมาดูแลพี่พฤกษ์เฉยเลย” ไอ้นิวกระซิบกับผม
“เออดิ ซวยชิบหาย ทำไมต้องเป็นกูวะ”
“เอาน่า พี่เค้าคงไม่หาเรื่องแกล้งอะไรมึงหรอก เมายังงั้นไม่น่าจะทำอะไรมึงได้”
“โถ่ คอนโดกู กูยังพาหญิงขึ้นไม่กี่คนเองนะเว้ย”
ไอ้นิวหัวเราะเบาๆ
“มึงจะพาใครไปคอนโดวะเพชร...นั่นแน่ ได้หญิงละไม่เห็นแบ่งกูมั่งเลยนะ ไหนๆ…”
“หญิงบ้านพ่อมึงดิเจมส์”
พี่ๆมาส่งพวกผมก่อนจะไปขึ้นรถตัวเอง ผมให้เพื่อนสองคนขึ้นแท็กซี่คันแรกไปก่อน ฝากฝังไอ้เจมส์กับไอ้นิวดิบดี มองตามรถที่เคลื่อนออกไปจนลับตา ไอ้นิวไว้ใจได้แน่ๆครับ
เมื่อแท็กซี่คันที่2ผ่านมา พี่ริวกับพี่เกี้ยงค่อยๆยัดไอ้พี่พฤกษ์เข้าไปข้างในเบาะหลัง ผมตามเข้าไปก่อนจะหันไปบอกลาคนอื่นๆ
“ฝากไอ้พฤกษ์มันด้วยนะน้อง”
“แต๊งกิ้วมากเว้ย”
ผมพยักหน้ารับ ยอมรับในชะตากรรมตัวเองว่าคืนนี้ต้องให้รุ่นพี่ที่ผมแสนเกลียดมานอนค้างด้วย ตอนแรกตั้งใจจะไปส่งพี่เอ๋ยให้ได้ ไหงกลับต้องมาพร้อมไอ้พี่พฤกษ์ซะงั้น
“ไปไหนครับน้อง” พี่โชเฟอร์ถาม
“คอนโด วิลล่า ราชเทวีครับ”
ผมหันไปมองสภาพไอ้คนเมาข้างๆ ทำไมกูต้องมารับผิดชอบมึงด้วยวะไอ้ห่า
ไอ้พี่พฤกษ์นั่งสะลึมสะลือเป็นหมาหงอย ไม่เหลือมาดเก๊กหล่อแบบที่มันชอบทำ
ถ่ายรูปแบล็คเมล์เอาคืนมันมั่งดีมั้ยนะ แม่งกำลังไม่รู้ตัวอยู่เลย
แต่พอผมกำลังจะหยิบมือถือขึ้นมา ไอ้ตัวยุ่งก็ดันพูดขึ้น
“ไอ้ริว”
มันมองผมเหมือนเห็นหน้าไม่ชัด หึ อาการหนักแล้วมึงอะ
“ไปไหนวะ”
นี่มันถามเพราะคิดว่าผมเป็นพี่ริว หรือถามหาตัวพี่ริวกันแน่
“ไอ้ริว กูถามทำไมตอบ”
ชัดเลย
“ผมไม่ใช่พี่ริว”
“ไม่ใช่ได้ไงว้าา...กวนตีนกูอ่อสาดด”
ไอ้พี่พฤกษ์ขยับเข้ามาใกล้หน้าผม ไอ้สัส มึงเขยิบออกไปเลย
“ไอ้ริว กูถามว่าเราไปไหน”
“กลับบ้าน แล้วมึงเขยิบไปไกลๆกูด้วย” ผมเลยเนียนพูดกับมันเหมือนเป็นพี่ริวไปเลย ผลักมันออกห่างแต่แม่งขืนตัวไว้ ไม่ยอมขยับ ขนาดเวลาเมายังแรงเยอะชิบหาย
“มานี่ มาให้กูกอดซะดีๆ…”
“พ่อมึงเหอะ ไม่ให้กอดเว้ย” ผมโวยวายเสียงดังเมื่อไอ้พี่พฤกษ์เข้ามากอด มันรัดแขนรอบตัวผมไว้แน่นแถมวางหัวซบไหล่ผม ผมพยายามทั้งแกะมือทั้งผลักหัวมันออกแต่ไม่สำเร็จสักอย่าง
ไอ้เชี่ยพี่พฤกษ์
“เมื่อกี้มึงยังให้กูซบเลยเพื่อน”
“มึงเป็นเกย์ปะวะ”
“อะไรวะ กูก็กอดมึงบ่อยๆ มาหาว่ากูเป็นเกย์ได้ไง”
“เชี่ยพฤกษ์”
มึงเป็นคนหรือปลาหมึกวะ เหนียวสัส
“ปล่อยกู”
“ม่าย กูม่ายปล่อยย” กูเกลียดเสียงเมาๆของมึงเข้าไส้ไอ้พี่พฤกษ์
ในที่สุดผมก็หยุดขัดขืน เหนื่อยกับแม่ง
แล้วมันก็อยู่ในท่านั้นไปจนรถแท็กซี่มาจอดหน้าคอนโดผม โว้ยยยย
“พี่ เอ้ย ไอ้พฤกษ์ ถึงบ้านแล้ว”
“อืออ กูจะนอน”
ป้าบ
ผมเบิร์ดกะโหลกมันดังสนั่น
“โอ๊ย”
“ลง ไม่งั้นกูจะทิ้งมึงนอนข้างถนน”
“เจ็บนะเว้ยไอ้ริว” มันลูบหัวป้อยๆเหมือนเด็ก แม่งดูปัญญาอ่อนโคตรๆ
ผมจ่ายเงินค่าแท็กซี่ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีฉุดกระชากหมีควาย เอ้ย ไอ้พี่พฤกษ์เดินเข้าไปในตึก ตัวล่ำๆของมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยเมื่อขาดสติ
“ทำไมบ้านมึงใหญ่จังวะ”
“เออ รวยมั้ยล่ะ”
“มึงย้ายบ้านเหรอ”
“บ้านพ่อมึง แหกตาดูดิ๊ว่านี่มันคอนโด”
“โอ้โหหห”
จะว่าไป ผมพบข้อดีที่ต้องรับผิดชอบดูแลไอ้รุ่นพี่ติ๊งต๊องนี่แล้ว ไหนๆมันก็เข้าใจผิดว่าผมเป็นพี่ริวแล้ว ผมขอเอาคืนทั้งด่าทั้งทำร้ายร่างกายแม่งให้สมใจซะเลยคืนนี้
ผมลากไอ้พี่พฤกษ์ขึ้นมาถึงห้องจนได้ เหนื่อยฝุดๆ ตั้งใจโยนมันให้นอนบนโซฟาหน้าทีวี
พอผมปล่อยมือจากตัวมัน กำลังจะเก็บคีย์การ์ดใส่ช่องเสียบ ไอ้พี่พฤกษ์มันผลักประตูห้องนอนผมแล้วเดินเข้าไป
ไอ้เหี้ยยยย
“อย่านะเว้ย”
ผมร้อง วิ่งตามเข้าไป แต่ไม่ทันซะแล้ว มันล้มตัวลงนอนคว่ำหน้าบนเตียงผมเรียบร้อย
“ไอ้พี่พฤกษ์ มึงนอนบนเตียงกูไม่ได้”
“อืออ จะนอน ง่วงแล้ว”
“กูไม่ให้มึงนอนเตียงกู ไปนอนที่อื่น” ผมกระโจนเข้าไปเขย่าตัวมัน ดึงแขนมันให้ลุกแต่ไม่ขยับ ณ วินาทีนั้นไม่เล่นบทพี่ริวแล้วครับ จะเอามันลงจากเตียงผมให้ได้
“แม่สอนว่าสามทุ่มต้องเข้านอนแล้วคร้าบบ”
โอ๊ย กูปวดหัวแทนแม่มึงชิบหายที่มีลูกไม่เต็มเต็งแบบนี้
“มึงลุกเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้พี่พฤกษ์ ไม่ให้นอนเว้ย”
“ไอ้ริวใจร้าย กูจะฟ้องไอ้เกี้ยงว่ามึงไม่ให้กูนอนด้วย”
“เชี่ยเอ๊ย…”
รู้งี้กูน่าจะทิ้งมึงให้นอนหน้าคอนโดไปซะ
ผมต้องให้มันนอนร่วมเตียงด้วยสินะ
ผมส่ายหัวอย่างหงุดหงิด เดินไปหยิบผ้าขนหนูกับอ่างพลาสติกใบเล็ก เติมน้ำใส่อ่างแล้วเอาผ้าชุบน้ำ
ที่ผมจะเช็ดตัวให้มันเนี่ย ไม่ใช่เพราะจะดูแลมันให้ดีเหมือนดูแลไอ้เจมส์เวลาเมาหรอกนะครับ แต่เพราะตัวมันเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า ผมไม่ยอมให้มันติดเตียงเด็ดขาด
ผมใช้เวลาหนึ่งนาทีเต็มๆพลิกตัวไอ้พี่พฤกษ์ให้นอนหงาย แล้วก็สังเกตเห็นว่าสีหน้ากับลำตัวมันก็ดูปกติดี ไม่ได้เป็นสีแดงหรือดูอาการหนักอะไร จะว่าสร่างแล้วก็คงเร็วเกินไป น่าแปลก
เมาอะไรของมึงวะ
“อือออ จะทำไร”
ผมถอดเสื้อยืดไอ้พี่พฤกษ์ออกทางหัว กว่าจะดึงออกได้นี่เสียเหงื่อไปอีกหลายเม็ด ตัวแม่งมีขนเต็มไปหมดเลยครับ มีตั้งแต่ขนหน้าอกไล่ลงมาจนถึงขนที่สะดือแล้วก็ยาวต่อลงไปอีก ยิ่งมันขาวยิ่งเห็นขนพวกนี้ดกดำ นี่คนหรือลิงกันแน่
ผมค่อยๆเช็ดไปตามลำตัว มือไอ้พี่พฤกษ์เริ่มอยู่ไม่สุกแล้วครับ
“ไอ้ริว ทำไมมึงมือหนักจังวะ...ห๊ะ ตอบดิ วันนี้มึงไม่ค่อยพูดกับกูเลยนาา”
“มึงมันปัญญาอ่อน สัสเอ๊ย” มันยกมือข้างหนึ่งมาจับข้อมือผม อีกข้างก็มาลูบไหล่ผมไปมา ผมเลยกระแทกเสียงระบายอารมณ์
“มึงไม่รักเพื่อนแล้วอ่อว้า เบาๆสิจ๊ะ” ยัง ยังไม่หยุดเอามือมาปัดป่ายแถวตัวกูอีก อีกทีกูจะบ้องหัวมึงให้หลุดเลยนะ
“เชี่ยพฤกษ์”
“ว่าไงจ๊ะน้องริว”
ป้าบ
“โอยยยยย”
ผมตบจริงๆครับ ที่หัวมันเลย แรงแน่นอนเพราะหัวมันกระตุกพร้อมเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กูบอกแล้วนะว่าอย่าเซ้าซี้(บอกในใจ)
มันปล่อยมือจากตัวผมไปคลำหัวตัวเอง ผมเช็ดตัวให้มันจนเสร็จ
“แล้วอย่าอ้วกนะมึง ถ้าอ้วกมากูเอาตีนยัดปากแน่”
ตอนนี้ความกังวลผมขึ้นสูงทะลุปรอทแตก ถ้าเกิดมันแฮงค์จนอ้วกออกมา ผมต้องเป็นคนเช็ด โอ้ซาร่า เตียงกู ห้องกู

“ไอ้ริว มึงอยู่ไหน ไอ้ริว”
ผมอาบน้ำเสร็จ เดินกลับเข้ามาในห้องนอน ไอ้พี่พฤกษ์แม่งกำลังเห่าเสียงดังแข่งกับหมาหน้าคอนโดอยู่
“มึงจะเรียกทำไมวะ” ผมพึมพำอย่างหัวเสีย ไอ้พี่พฤกษ์นอนบิดตัวไปมา ตาปิด แต่ส่งเสียงเรียกชื่อพี่ริวไม่หยุดหย่อน ผมล่ะสงสารพี่ริวจริงๆที่มีเพื่อนแบบมัน ไม่ดิ ตอนนี้ผมสงสารตัวเองมากกว่าที่ต้องมาอยู่กับมันเนี่ย
ผมใส่แค่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวแล้วปีนขึ้นเตียง ดีนะเตียงผมกว้าง สี่คนก็ยังนอนได้สบาย ไอ้พี่พฤกษ์เลยดิ้นของมันไปไม่มาเบียดกับผม
“ไอ้ริวววว”
ผมไม่ตอบ
“อาบน้ำให้กูหน่อยจิ”
“จิพ่อมึงดิ”
พูดจาแอ๊บแบ๊วซะกูขนลุกเชียว
“เค้าร้อนนน อาบให้หน่อยย”
“อะไรของมึงนักหนาเนี่ย” ผมโอดครวญ เวลาแม่งเมาแล้วเรื้อนใส่เพื่อนแบบนี้ พี่ริวพี่เกี้ยงทนได้ไงวะ
“ควาย กูพึ่งเช็ดตัวให้มึงเมื่อกี้เลย”
“ริววว”
“มานี่”
ผมขยับตัวไปถอดกางเกงยีนส์ไอ้พี่พฤกษ์ออกแล้วโยนไปที่พื้น พอจะหันกลับไปนอนต่อ แม่งเสือกมากอดผม
“ไอ้สัส ปล่อย”
“ม่าย คืนนี้มึงต้องให้กูกอดดด”
“เชี่ยเอ๊ย”
อย่างที่มันกอดผมแน่นบนรถแท็กซี่ แต่คราวนี้แม่งยื่นหน้ามานัวเนียผมด้วย แถมเอาขาพาดทับตัวผมอีก ไอ้ห่าพี่พฤกษ์
ในที่สุดผมก็รวบรวมกำลังถีบใส่สุดแรงจนตัวมันกระเด็นกลับไปเตียงอีกฝั่ง(เกือบตก) ถ้าตัวไอ้พี่พฤกษ์บางกว่านี้สักหน่อยคงตกเตียงไปแล้ว
“โอย…”
มันนอนโอดโอยพลางเอามือกุมท้อง สมน้ำหน้า
“ถ้ามึงไม่หยุดกวน กูสาบานว่าจะโยนมึงออกทางหน้าต่าง นอนเฉยๆได้มั้ยวะ” ผมตะคอก ทั้งๆที่รู้ว่าคุยกับคนเมาไปก็ไม่รู้เรื่อง อารมณ์เสียสัสๆ อีกนิดเดียวผมทำจริงๆนะ
“ทำไมต้องดุขนาดนั้นด้วยไอ้ริว” ไอ้พี่พฤกษ์ครางเสียงอ่อย หลับตา หน้าเหยเก สภาพแม่งน่าทุเรศชิบ
เออ กูไปนอนโซฟาข้างนอกก็ได้วะ ยอมแพ้มึงละไอ้พี่พฤกษ์ คนเมา2018 แต่พอกำลังจะเดินออกไป ผมเห็นแม่งนอนนิ่งๆเหมือนกำลังจะหลับ(สลบ)แล้ว ผมเลยยืนมองอยู่สักพัก
เห้ย มันหลับไปแล้วว่ะ
ผมตัดสินใจกลับมานอนบนเตียงอีกครั้ง เกือบเช้าแล้วมั้งตอนนั้น สุดท้ายไอ้พี่พฤกษ์ก็หลับไปจนได้ แล้วผมก็ตามไปติดๆเพราะทั้งง่วงทั้งเหนื่อย(ไอ้ความรู้สึกเมากรึ่มๆที่ร้านเหล้าหายไปเป็นปลิดทิ้งเพราะไอ้ตัวปัญหาข้างๆ- -)

“เหี้ยยย”
ผมสะดุ้งตื่นแล้วถีบไอ้พี่พฤกษ์สุดแรง มันกระเด็นไปถึงขอบเตียงอีกฝั่งแต่ไม่ตก(อีกแล้ว)
“โอ๊ย...เห้ย น้องเพชร”
มันทำหน้าตาตื่น หึ ตกใจอะไรขนาดนั้น หน้าน้องเพชรเหมือนป๊ะป๋าพี่พฤกษ์รึไงจ๊ะ
“เพชรมาอยู่นี่ได้ไง”
“หึ ผมควรจะเป็นคนถามพี่มากกว่ามั้ง”
“เดี๋ยวๆ พี่งงไปหมดแล้วครับ”
ไม่รู้จะอธิบายยังไงเลยกู
“แล้วน้องถีบมาได้ไง โคตรจุกเลย” ไอ้พี่พฤกษ์ลูบท้องตัวเอง หน้ามุ่ย
“พี่มากอดผมทำไมล่ะ”
“ก็พี่ไม่รู้นี่ครับ นึกว่าหมอนข้าง”
ขณะที่ตอบว่าหมอนข้างมันก็ยังทำหน้ากวนส้นตีนใส่ผมอีกแน่ะ
“สรุปว่าพี่มานอนกับเพชรได้ไง”
“เมื่อคืนพี่เมาหนัก พี่ริวพี่เกี้ยงเลยฝากพี่มานอนห้องผม”
“อ้อ…” ยิ้มไรของมึง “งั้นพี่ไม่ลงโทษที่เราถีบพี่ละ เมื่อคืนอุตส่าห์ดูแลพี่เป็นอย่างดี”
ไม่ต้องซาบซึ้งบุญคุณผมมากนะ ผมไม่ได้อยากทำ แถมถ้ารู้สิ่งที่ผมทำกับพี่เมื่อคืน พี่อาจจะอยากถีบกลับ
“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไปกอดน้องตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลย”
คำพูดฟังดูดีใช่มั้ยล่ะ แต่หน้าตาแม่งยียวนสื่อความหมายคนละเรื่องเลย
“เราจะไปไหนอะ”
“อาบน้ำครับ”
“เอ่อ ที่ห้องเรามีอะไรกินบ้างมั้ยอะ พี่หิวมากเลย” มันเกาหัว
แหม่ ตื่นมาก็ถามหาของแดกเลยนะ
“ตอนนี้มีแต่มาม่ากับขนมปังครับ อย่างอื่นหมด”
“คือ...พี่อยากกินข้าวอะครับ”
เรื่องมากชิบหาย
“งั้นก็รอผมอาบน้ำ เดี๋ยวออกไปกินข้างนอก”
“ครับ”
ผมพูดเสียงเบื่อๆแต่มันกลับรับคำเสียงใส
ไอ้พี่พฤกษ์บ่นทันทีที่ผมกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง
“ทำไมเพชรอาบน้ำนานจังครับ พี่หิวแล้ว”
“อาบนานๆจะได้สะอาดไงครับ” จริงๆแล้วผมตั้งใจอาบนานเป็นพิเศษ เห็นมีคนแถวนี้หิวน่ะครับ
“ครับๆ” ไอ้พี่พฤกษ์เด้งตัวขึ้นจากเตียง กูล่ะเกลียดท่านอนสบายใจเหมือนเตียงเป็นของมึงเองชิบหาย
“เพชรนี่หุ่นดีเหมือนกันนะเนี่ย”
เนื่องจากผมมีผ้าขนหนูผืนสั้นพันรอบเอวปิดส่วนล่างอยู่ผืนเดียว ไอ้พี่พฤกษ์คงสังเกตเห็นรูปร่างชัด โด่ ไม่ต้องมากระแนะกระแหนกูหรอก หุ่นมึงอะเข้าฟิตเนสทุกวันแน่ๆ
ผมกำลังจะหยิบกางเกงในขึ้นมาใส่ ก็พอดีเห็นว่าไอ้พี่พฤกษ์มันยังยืนมองอยู่ที่เดิม ไม่ได้เดินไปเข้าห้องน้ำ
“มองไรพี่”
“ป่าวคร้าบ” มันตอบก่อนจะรีบเดินออกไป
ผมไม่ได้เขินอะไรหรอกนะ ผู้ชายด้วยกัน แต่มันมาหยุดนิ่งยืนมองผมแต่งตัวนี่ จะเล่นอะไรพิเรนทร์ๆรึป่าวฟะ

TBC

ถ้าพี่พฤกษ์จะเมาแล้วเรื้อนขนาดนี้5555 ถ้าคุณผู้อ่านเป็นเพชรจะทำยังไงนะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP8 "เอาไว้ที่ห้องเพชรเนี่ยแหละ"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 30-07-2018 15:40:55
EP8 “เอาไว้ที่ห้องเพชรเนี่ยแหละ”

“เมื่อคืนพี่ทำอะไรยุ่งๆมั่งปะ”
ไอ้พี่พฤกษ์นั่งจ้องหน้าผมอยู่นานเหมือนชั่งใจอะไรบางอย่าง จนในที่สุดก็ถามออกมา เอิ่ม ผมจะบอกมันยังไงดีว่าทุกเรื่อง
“พี่ไม่วุ่นวาย ไม่ก่อกวนอะไรเพชรสักนิดเลย น่ารักมากครับ”
“55555555555”
มันหัวเราะพรืด เออ ก็รู้นิว่ากูประชด
“น้องเพชรบอกพี่มาตรงๆเถอะ อย่าโกหกเลย”
“เหนื่อย เรื่องยาว”
ผมบอกปัดสั้นๆแล้วเริ่มกินข้าวไข่เจียวหมูสับที่ถูกยกมาเสิร์ฟ เมนูง่ายๆนี้อร่อยที่สุดของร้านอาหารตามสั่งแถวคอนโดผมเลยนะเห้ย
“ไม่เล่าจริงๆอ่อ...อืม ไม่เป็นไร พี่พอรู้อยู่ว่าเวลาตัวเองเมาแล้วทำอะไรบ้าง”
ภูมิใจมากมั้ยที่รู้ว่าตัวเองทำอะไรตอนเมา เฮ้อ คุยกับมันแล้วปวดประสาทชิบ
“ว่าแต่เพชรไม่ได้โกรธอะไรใช่มั้ย”
ผมเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวแล้วมองมันอย่างหงุดหงิด ก่อนพูดด้วยเสียงหวานนุ่ม จงใจเลียนแบบมัน
“ป่าวครับรุ่นพี่”
“หึหึ ชอบโกหกตลอดเลยนะเรา”
ตอนนี้สิบเอ็ดโมงเกือบเที่ยง โว้ย ผมว่าวันนี้จะโทรหาหญิงสักคนแล้วชวนออกไปเดินเที่ยว ต้องมาติดแหง็กอยู่กับไอ้บ้านี่ หวังว่าเสร็จมื้อนี้แล้วมันจะไปๆจากผมสักทีนะ
“ว่าไงมึง...เออ กูฟื้นแล้ว...ไอ้สัส กูยังไม่ตาย...อยู่กับน้องมันเนี่ย...เออ ถ้าไม่ได้เพชรนี่กูแย่เลย…”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มเล็กๆตอนพูดถึงผม สำนึกบุญคุณกันสินะ สงสัยไม่พี่ริวก็พี่เกี้ยงที่โทรมาครับ ผมอยากตะโกนใส่โทรศัพท์ว่าเพื่อนพี่แม่งสร้างปัญหาโคตรๆ
“ไอ้เกี้ยงโทรมาน่ะ มันฝากบอกขอบคุณน้องเพชรอีกครั้งที่ช่วยดูแลพี่”
ผมไม่ตอบ เบี่ยงหน้าไปทางอื่น มันกำลังจ้องผมอีกแล้ว
ตอนนั้นเองก็ถึงทีเพื่อนรักผมโทรมาหาบ้าง
“ว่าไงไอ้ขี้เมา”
(สาด มึงฟื้นละเรอะ)
“เออ ตื่นนานละ กูไม่ได้เมาจนดูแลตัวเองไม่ได้แบบมึงโว้ยไอ้เจมส์”
(เหี้ย)
“ไอ้นิวล่ะ”
(มันกำลังเดินมาส่งกูเรียกแท็กซี่กลับบ้านเนี่ย ไอ้นิว เชี่ยเพชรถามหา)
(เมื่อคืนไอ้เจมส์แม่งโคตรเรื้อนเลยเพชร มัน...) ไอ้นิวส่งเสียงเข้ามา
(พอเลยสัส ไม่ต้องเผากู)
ผมหัวเราะ ว่าแต่ไอ้นิวชะตากรรมเดียวกับผมเลยนี่นา
“เออ งั้นกลับดีๆมึง อย่าให้แม่รู้ละ...บาย”
“น้องเจมส์กับน้องนิวหรอครับ”
“ครับ”
“เพื่อนๆเป็นไงมั่ง เมาหนักมั้ย”
“น้อยกว่าพี่แน่ๆ”
“55555555”
ยังจะมาขำอีก กูกัดมึงอยู่รู้มั้ย
“วันนี้เพชรว่างปะครับ”
ผมจะตอบว่าไม่ แต่นึกสาเหตุโกหกไม่ทัน
“งี้แสดงว่าว่างสินะ”
“มะ ไม่”
“ไม่ใช่ละ ถ้าไม่ว่างจริงเพชรคงตอบพี่ทันทีเลย อย่ามาโกหกน่า”
ผมจิ๊ปาก แม่งเสือกรู้ทัน ไปไม่เป็นเลย
“แล้วพี่ถามทำไม”
มันยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนตอบ
“จะชวนไปซื้อของเป็นเพื่อนหน่อย”
“ทำไมเพชรต้องไปด้วย”
“เมื่อวานก่อนไปร้านเหล้า ปีหนึ่งทุกคนต้องจับฉลากทำmission เพชรเป็นคนเดียวในกรุ๊ปที่โดด ก็ถือว่านี่เป็นmissionของเพชรแล้วกัน”
ข้ออ้าง จะหาเรื่องแกล้งกูอีกสิท่า
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มทะเล้นกับหน้าบึ้งๆของผม
“นี่ง่ายกว่าที่เพื่อนๆเราจับฉลากกันอีกนะ บางคนต้องไปจีบรูปคนในป้ายcut out บางคนไปทะเลาะกับถังขยะ มีให้ไปเต้นที่หน้าคณะอื่นด้วย”
“ครับ ยังไงผมก็ไม่มีสิทธิปฏิเสธอยู่แล้วนี่”
หมดช่วงเวลารับน้องบ้าบอนี่เมื่อไร ผมจะไม่มีวันมายุ่งกับไอ้พี่พฤกษ์อีกเลย คอยดูดิ
ผมกับไอ้พี่พฤกษ์เดินจากคอนโดมาขึ้นรถไฟฟ้าไปลงสยาม คนเยอะเป็นปกติของวันเสาร์อยู่แล้ว
“พี่จะซื้ออะไร”
มันไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มอยู่นั่น
พอออกจากสถานีสยามก็เดินเข้าไปในparagon มันนำผมลงบันไดเลื่อนไปชั้นล่าง
“gourmet?”
“เป็นหมอดูอ่อ”
ไอ้พี่พฤกษ์มาgourmetจริงๆ
“เข็นรถให้พี่หน่อยนะ”
ใช้กูอีก อ่อ สงสัยขาดเบ๊ รู้งี้กูไม่โดดเข้ากรุ๊ปเมื่อวานแล้วยอมไปทะเลาะกับถังขยะซะยังจะดีกว่า
“เราว่าซื้อไข่ไก่กี่ใบดี”
“พี่จะใช้เท่าไรล่ะ”
“อืมม เราว่าเท่าไร”
“มาถามเพชรทำไม”
“งั้นสองโหลไปเลยแล้วกัน”
ผมขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจพี่แก
“ตามมานี่ครับ”
ไอ้พี่พฤกษ์เรียกให้ผมลากรถเข็นตามไปอีกมุมหนึ่ง
“ปกติเราทำอาหารกินเองมั่งปะ”
“พี่ถามทำไม”
“ตอบมาเหอะน่ะ เจ้าหนูจำไม” แน่ะ เคาะหัวอีก เพื่อนเล่นอ่อ
“ไม่ค่อย”
“อ่าฮะ”
ไอ้พี่พฤกษ์ละจากโซนเนื้อไปหาเครื่องดื่มแทน
“บ้านพี่นะ พวกผู้ใหญ่สั่งให้เด็กๆในบ้านกินนมทุกวัน ตอนเด็กพี่โดนบังคับกินนมจืดให้ได้วันละ1ลิตรแน่ะ”
ไม่พูดเปล่า ทำท่าอวดว่าตัวมันเองสูงกว่าผม ถุ้ย สูงกว่าไม่เกิน5เซ็นติเมตรแน่ๆ
“แล้วไงครับ” กวนตีนแม่งซะเลย
“เปล่าครับ เล่าให้ฟังเฉยๆ...พี่โตขนาดนี้ยังกินนมอยู่เลย เพชรก็ควรกินนมเยอะๆนะครับ”
“กินนมเยอะระวังเมาไม่รู้เรื่องแบบเมื่อคืนนะครับ”
หมาในปากผมเริ่มทำงาน ไอ้พี่พฤกษ์ตีหน้าซื่อ ทำเป็นไม่รู้ว่าผมกัด มันหยิบนมจืดกับนมช็อคโกแลตหลายขวดใส่รถเข็น
จากนั้นมันก็หยิบของกินอีกหลายอย่าง มีขนมขบเคี้ยวหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะเลย์ หยิบเป็นสิบถุงแถมไม่ซ้ำรสด้วยนะ
“พี่จะซื้อไปเปิดร้านขายของชำรึไง”
มันหัวเราะเบาๆ
“เปล่าครับ เคยบอกแล้วไงว่าบ้านพี่รวยแล้ว ไม่ต้องขายของหรอก”
ไม่น่าถามแม่ง
เมื่อคุณพ่อบ้านพฤกษ์สุดน่ารัก(แหวะ)ได้ทุกอย่างที่พอใจแล้วก็ตรงไปจ่ายเงิน ผมก็ทำหน้าที่เดิมคือลากรถเข็นตามมันไปต้อยๆ
แคชเชียร์สาวกำลังมองไอ้พี่พฤกษ์ตาละห้อย มันเก๊กใหญ่เลยครับ หึ
พอผมตามเข้าไปยืนหลังมัน แคชเชียร์คนนั้นหันมาหาผมแทนพร้อมกระพือขนตาแวววาว ผมหันไปยักคิ้วให้มัน โคตรสะใจ
สุดท้ายหญิงก็ชอบผมมากกว่ามัน
“เพชรไปได้ยังครับ”
ผมถามทันทีที่เดินออกจากgourmet ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกริ่ม
“ยังครับ”
มันสั่งให้ผมช่วยถือของไปเรียกแท็กซี่ ของแม่งเยอะชิบหาย กำลังเข้าไปนั่งในรถพอดีมันก็พูดขึ้นมา
“เอ้อ พี่ลืมของไว้ที่ห้องเราอะ กลับไปคอนโดก่อนได้มั้ย”
ผมหันขวับไปที่มัน
“ลืมอะไรครับ”
“คอนแทคเลนส์”
นอนห้องกูอีกสักคืนเลยมั้ย ไม่ต้องกลับบ้านหรอก
“ไปวิลล่า ราชเทวีพี่”
ผมบอกพี่โชเฟอร์อย่างหงุดหงิด


“เดี๋ยวพี่พฤกษ”์
“ครับ?”
ลงจากแท็กซี่ ไอ้พี่พฤกษ์ทำท่าจะเดินเข้าไปในคอนโดผมพร้อมของอีกแปดถุง
“เดี๋ยวเพชรขึ้นไปเอาคอนแทคเลนส์ให้ พี่รออยู่ตรงนี้แหละ จะแบกของขึ้นไปให้หนักอีกทำไม”
“เอ่อ พี่จำไม่ได้อะดิว่าวางไว้ตรงไหน เดี๋ยวพี่ขึ้นไปหาเองดีกว่า เกรงใจเพชรแย่”
โอว มาถึงตอนนี้ก็ไม่ต้องเกรงใจผมแล้วมั้งครับพี่ ได้ข่าวว่าสร้างความลำบากเดือดร้อนตั้งแต่เมื่อคืน
“งั้นพี่ก็ขึ้นไปด้วย แล้วฝากของไว้ตรงล็อบบี้เนี่ยแหละ”
“ไม่เอา พี่กลัวหาย”
ไอ้บ้าเอ๊ย ใครจะมาขโมยไปฟะ
“ไม่หายหรอกน่า”
“หายดิ ของกินตั้งเยอะแยะ ช่วยพี่ถือขึ้นไปข้างบนอีกครั้งนะครับ นะๆ”
เฮ้อ มันเคยฟังที่ผมพูดมั้ยล่ะ
ไอ้พี่พฤกษ์ดูอารมณ์ดียังไงก็ไม่รู้ มึงช่วยดูหน้ากูด้วยว่าพร้อมต้อนรับมึงเข้าห้องกูอีกครั้งมั้ย ที่จริงหันไปทีไรก็เจอพี่แกกำลังยิ้มทุกที สุขใจมากดิ
“อยู่ในห้องน้ำรึเปล่านะ”
มันพึมพำกับตัวเอง วางถุงใส่ของลงบนโต๊ะอาหารแล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำเป็นที่แรก
“อยู่ไหนหว่า”
มันเดินเข้าไปในห้องนอนผมต่อ แหม่ เดินเข้า-ออกสบายใจอย่างกับบ้านตัวเองเลยนะ
“เจอละ”
“จะให้ถือของลงไปส่งข้างล่างอีกรอบมั้ยครับ” ผมถามด้วยเสียงประชดประชัน
“ไม่ต้องหรอกครับ” ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะเบาๆ “เอาไว้ที่ห้องเพชรเนี่ยแหละ”
ผมเลิกคิ้วขึ้น
“หมายความว่าไงครับ”
“ไว้ที่ห้องเพชรไง เมื่อเช้าบอกว่าของหมดไม่ใช่อ่อ”
ผมอึ้ง ไอ้พี่พฤกษ์ซื้อของทั้งหมดนี่ให้ผมเนี่ยนะ
“อย่ามาล้อเล่นน่า ถ้างั้นพี่ถือลงไปข้างล่างเองแล้วกัน เพชรจะนอน”
“พี่ไม่ได้พูดเล่นครับ พี่ซื้อให้เราจริงๆ...ถือซะว่าตอบแทนเรื่องยุ่งๆเมื่อคืนนะ”
“ไม่ต้องก็ได้ พะ พี่เอากลับไปเหอะ” ผมตะกุกตะกักขึ้นมา
มันยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าผมทำตัวไม่ถูก
“ปีหนึ่งอย่าขัดคำสั่งรุ่นพี่สิครับ”
ผมกับมันยืนจ้องหน้ากันอยู่เดี๋ยวหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
สุดท้ายมันก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบ
“ถ้างั้นพี่กลับก่อนนะครับ อย่าลืมกินนมเยอะๆล่ะ”
ผมมองตามมันด้วยความงุนงง คนอย่างไอ้พี่พฤกษ์เนี่ยนะจะคิดดีทำดีได้ขนาดนี้
“อ้อ เกือบลืมแน่ะ”
“หือ?”
“ชอบที่เราแทนตัวเองว่าเพชรจัง มันดูสนิทมากกว่าคำว่าผมอะ”
ไอ้พี่พฤกษ์ส่งยิ้มให้เป็นครั้งที่ร้อยและครั้งสุดท้ายของวันก่อนจะเดินเข้ามาตบไหล่ผมเบาๆและออกจากห้องไปกับกระเป๋าคาดอกหนึ่งใบ

ผมปีนขึ้นเตียงเตรียมนอนยามบ่าย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
แม่
ผมคิดอยู่เดี๋ยวหนึ่งว่าจะรับดีมั้ย สุดท้ายก็กดรับ
(เพชร)
“ครับ”
(แม่ว่าจะโทรหาตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เผื่อว่าเพชรน่าจะตื่นสาย)
“แม่มีอะไร”
(เสาร์อาทิตย์ไม่กลับบ้านเหรอลูก)
“ไม่อะ...เพชรเหนื่อย อยากนอนพัก”
(งั้นเหรอ...แล้วเป็นไงบ้าง เรียนอาทิตย์แรก สนุกมั้ย)
“ก็เบื่อๆอะ”
(แม่กับพ่อเป็นห่วงเพชรมากนะลูก นี่พ่อเค้าบ่นถึงเพชรทุกวันเลย)
ผมอยากถามว่าจริงหรือเปล่า แต่ก็กลืนคำพูดโต้ตอบลงไป
(ถ้าว่างหรือหายเหนื่อยแล้วกลับมาบ้านบ้างนะลูก เพชรไม่ได้กลับมาตั้งแต่ก่อนเปิด...)
“แม่” ผมตัดบท “เพชรไม่อยากกลับครับ แม่มีอะไรอีกมั้ย”
(เดี๋ยวจ้ะ เอ่อ แม่กับพ่อรักเพชรนะ) แม่รีบพูด
“แค่นี้นะครับ”
นี่คือบทสนทนาสั้นๆระหว่างผมกับพ่อแม่ และมันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว พอผมเข้ามหาวิทยาลัย ผมขอย้ายออกมาอยู่คอนโดคนเดียว และตั้งใจกับตัวเองว่าจะไม่กลับไปที่บ้านอีกแล้ว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
อะไรกันนักหนาฟะ คนจะนอน
“มีไรเชี่ยเจมส์”
(อ้าว หงุดหงิดไรมาวะไอ้เวร)
ไอ้เจมส์คงจับน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ได้ทันที
“โทษทีว่ะ...มึงมีไร”
(แค่จะบอกว่ากูโอเคละ ตอบไลน์มึงเมื่อกี้แต่มึงไม่อ่าน)
“อ้อ ดีละ ว่าแต่แม่มึงไม่รู้ใช่มั้ย”
(ไม่ กูถึงออกจากหอไอ้นิวตอนเที่ยงๆไง เช้าตื่นมายังไม่หายแฮงค์เลยสาด)
ผมหัวเราะ
(แล้วพี่พฤกษ์เป็นไงมั่ง)
“สัส แม่งป่วนกูชิบหาย เมาแล้วเรื้อนเหี้ยๆ”
ทีไอ้เจมส์หัวเราะบ้าง
“มันหนักกว่ามึงอีกมั้ง ถ้าพวกเพื่อนไอ้พี่พฤกษ์ไม่ขอร้อง กูไม่มีทางรับดูแลแน่”
(พี่เค้ากลับไปแล้วรึไง มึงมาด่าปาวๆอยู่เนี่ย)
“พึ่งกลับไป”
(มึงกับพี่พฤกษ์นี่เจอกันแล้วมีเรื่องทุกทีเลยนะ เมื่อไรจะญาติดีกับเค้าสักทีวะ)
“น่าจะชาติหน้าตอนดึกๆ...เมื่อกี้แม่งลากกูไปช่วยซื้อของ ชดเชยที่กูไม่ได้ทำmissionเมื่อวานเย็น”
(หือ missionไรวะ)
“พวกมึงต้องทำmissionก่อนพี่เค้าเลี้ยงข้าวไม่ใช่รึไง”
(ไม่นะ หลังเลิกคลาสก็มารวมที่กรุ๊ปแล้วไปแดกเลยนะ ไม่มีกิจกรรมอะไรนิ)
....
ห่าาา ผมโดนไอ้พี่พฤกษ์ต้มอีกแล้วอ่อ

TBC

แหม มีซื้อของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆเลยพี่พฤกษ์เนี่ย
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP9 "ทำไมต้องเป็นเพชร"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 02-08-2018 21:20:56
EP9 “ทำไมต้องเป็นเพชร”

ผมมาถึง Central World ตอนเที่ยงกว่าๆได้ เมื่อคืนพี่โก้ สายรหัสปี4 ถามมาในไลน์กรุ๊ปว่าว่างวันไหนกันบ้าง แกอยากเลี้ยง พอดีทุกคนว่างวันนี้ตรงกัน พี่โก้จึงนัดเลย ลาภปากดิงี้
ผมยังไม่เคยเจอพี่มาย(สายรหัสปี3)กับพี่โก้ แต่พี่แนทเล่าให้ฟังว่าสองคนนี้โคตรฮ็อต ผมเลยส่องรูปไลน์โปรไฟล์ของพี่มาย งานดีอยู่ครับ ชักอยากเห็นตัวจริงเร็วๆแล้วสิ
พี่มายพึ่งฝึกงานเสร็จ ส่วนพี่โก้ก็กลับจากต่างประเทศมาไม่กี่วันหลังเปิดเทอม
เรานัดกันเที่ยงตรง แต่ผมพึ่งลุกจากเตียงเมื่อชั่วโมงก่อน จะโดนด่ามั้ยเนี่ยไอ้เพชร
“นั่นไง มาแล้ว” พี่แนทหันมาเห็นผมที่เดินมาใกล้จะถึงหน้าร้านพอดี
“หวัดดีครับพี่ๆ ขอโทษที่มาสายครับ” ผมเอ่ยขอโทษเป็นอย่างแรกเลย
“น้องรู้มั้ยว่าพี่รอโคตรนานเลย เมื่อกี้จะให้แนทเค้าโทรไปตามอยู่แล้ว กะว่าถ้ายังไม่มาพวกพี่จะกินกันแค่3คน” พี่โก้พูดเสียงดัง เล่นงานผมทันที
“เอ่อ ขอโทษจริงๆพี่” ผมตกใจเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองหน้าบึ้งตึงขึ้นมาเหมือนกัน ผมไม่ชอบให้ใครมาพูดแบบนี้ถึงตัวเองจะทำผิดก็เถอะ
“ไม่เป็นไรน่าพี่โก้ น้องเค้าก็เลทแปบเดียวเอง เข้าร้านกันเถอะค่ะ” พี่มายรีบขัดขึ้น เออ ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกครับ(มันใช่เวลามั้ยเนี่ยเพชร)
“ไม่ได้ดิ สายก็คือสาย ผิดก็ต้องสอน พี่ไม่อยากให้น้องเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา”
พี่โก้จ้องผมถมึงทึง ผมที่ตอนนี้ชักหงุดหงิดกับคำพูดพี่เค้า จ้องหน้ากลับ ในขณะที่พี่แนทกับพี่มายสบตากันอย่างไม่สบายใจ
“ผมยอมรับครับว่าผิด แต่พี่ต้องตวาดด้วยอ่อ”
ทุกคนอึ้งไปพร้อมกัน ก่อนพี่โก้จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
“เห้ย เดี๋ยวครับน้อง พี่แค่ล้อเล่น”
คราวนี้เป็นผมที่อึ้งบ้าง
“คือเราคุยกันไว้ว่าจะแกล้งให้พี่โก้ว่าที่เพชรมาสาย แต่ไม่คิดว่าเพชรจะโกรธ…” พี่แนทอธิบาย
“ขอโทษครับ เพชร...ไม่ได้ตั้งใจ” ผมรู้สึกผิดมากกว่าเรื่องมาสายแล้วล่ะตอนนี้
“ไม่เป็นไรๆ พี่ดิต้องขอโทษ ไม่น่าอำน้องเลย” พี่โก้ยิ้มให้ผม
“ขอโทษอีกครั้งนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ มาๆ เข้าร้านกันดีกว่า” พี่โก้ผายมือให้คนที่เหลือเดินเข้าไปในร้านก่อนจะตามเข้ามา

ปรากฏว่าพี่โก้เป็นคนอารมณ์ดี คุยสนุก คนละเรื่องกับที่แกล้งอำผมก่อนเข้าร้านเลย
“น้องๆกินเต็มที่เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
หมูกับเนื้อของ momo paradise มีให้เลือกไม่กี่ประเภท แต่อร่อยทุกอย่างครับ ผมชอบหมูดำที่พี่โก้แนะนำ
“ใช่ๆ ไม่ต้องไปเกรงใจพี่โก้นะเพชร พี่โก้ใจดี นัดเลี้ยงสายแทบทุกเดือน” พี่แนทบอก
“ดีจังเลยครับ”
“พี่ไม่เห็นเพชรค่อยกินอะไรเลย...หรือว่ายังโกรธพี่อยู่” พี่โก้ถามหน้าเจื่อน
“เห้ย ไม่ใช่นะพี่ ผมดิต้องกลัวพี่โกรธ” ผมรีบบอก
“ไม่ๆ พี่ต่างหากที่แกล้งเราก่อน” พี่โก้ส่ายหัวปฏิเสธ
“จริงๆถึงพี่ไม่แกล้ง เพชรก็ยังผิดที่มาสา…”
“เลิกขอโทษกันไปมาได้แล้วค่ะ เพชรเค้าไม่ได้โกรธพี่โก้ซะหน่อย พี่โก้ก็ไม่ได้คิดอะไรเรื่องสายเลยนะ”
พี่แนทบอกยิ้มๆ
“จริงด้วย เพชรกินเยอะๆเลยนะจ๊ะ” พี่มายเสริม
ผมยิ้มตอบพี่โก้ หลังจากนั้นก็กินแบบไม่เกรงใจแล้วครับ
“แต่เพชรไม่ชอบให้ใครตะคอกใส่ใช่มั้ย” พี่แนทถามต่อ
“เอ่อ ใช่ครับ” ผมเกาหัวแก้เก้อ
“แหม พี่ก็ไม่ชอบโดนตะคอกเหมือนกันนะ” พี่มายว่า
“พี่ว่าไม่มีใครชอบทั้งนั้นแหละ” พี่โก้ปิดท้าย
“เออนี่ ทำไมเพชรถึงเลือกเรียน finance ล่ะ” พี่มายเปลี่ยนเรื่องคุย
ผมนึกถึงหน้าไอ้พี่พฤกษ์ที่เคยถามคำถามนี้ขึ้นมา
“ผมสนใจด้านนี้มาตั้งแต่มัธยมแล้วครับ แล้วก็อยากมีความรู้ธุรกิจที่คณะสอนด้วย”
พี่ๆพยักหน้าอย่างชื่นชม
“ต๊าย น้องรหัสเรานี่ทั้งหล่อทั้งความคิดดี ปลื้ม” พี่แนททำท่าดี๊ด๊า
“พี่แนทก็ชมเกินไป”
“เออ พี่กำลังจะพูดอยู่พอดี เพชรนี่หล่อนะเนี่ย เป็น cute boy ได้เลย” พี่โก้พูด
“ใช่ๆ มายไปส่องfacebookน้องมา ฮ็อตมากๆ”
พี่ๆเล่นชมกันทั้งโต๊ะงี้ ผมก็เขินตัวบิดไปมาน่ะสิครับ แหม เมื่อกี้พี่มายบอกว่าไปส่องผมมาด้วย
“พี่เห็นรูปที่เจ้าพฤกษ์ถ่ายกับเพชรตอนรับน้องวันแรกอะ โคตรฮาเลย” แล้วทุกคนยกเว้นผมก็หัวเราะกับคำพูดพี่โก้
“พี่มายกับพี่โก้พลาดมาก แนทอยู่ในเหตุการณ์ ขำจนปวดท้อง”
“พี่โก้รู้จักพี่พฤกษ์ด้วยอ่อ” ผมถาม
“รู้ดิ พี่รับน้องรุ่นนั้นมากับมือ แถมเจ้าพฤกษ์มันก็โด่งดังซะขนาดนั้น”
“มายว่าพฤกษ์กับเพชรนี่คล้ายๆกันเลยนะคะ เข้าม.มาก็เป็นที่รู้จักไปทั่วขนาดนี้”
ม่ายอาว ผมไม่อยากเหมือนไอ้เบื๊อกนั่น
“พี่พฤกษ์อะดูเหมือนจะถูกชะตาเพชรนะ เห็นชอบแกล้งตลอดเลย” พี่แนทบอก
“เพชรคงเบื่อขี้หน้าเจ้าพฤกษ์มันแน่ๆ ดูสิ พูดถึงพี่เค้าแล้วหน้าบึ้งเชียว” พี่โก้พูดกลั้วหัวเราะ
ผมไม่พูดอะไร ได้แต่ลูบหลังคอ จะให้ตอบไปได้ไงล่ะว่าโคตรเหม็นขี้หน้าแม่ง
หัวข้อสนทนาถูกเปลี่ยนไปถึงเรื่องของคนอื่นบ้าง

“เดี๋ยวเพชรไปเข้าห้องน้ำแปบนึงนะ” ผมบอกพี่ๆในโต๊ะก่อนเดินออกมา ยังไปไม่ถึงห้องน้ำก็ดันเห็นคนที่พึ่งถูกพูดถึงที่โต๊ะอาหารเมื่อกี้
ไอ้พี่พฤกษ์
โว้ย ทำไมผมต้องมาเจอมันทุกวันเลยวะ
โชคดีที่ไอ้พี่พฤกษ์ยังไม่เห็นผม มันเดินอยู่คนเดียว ถือของเต็มไม้เต็มมือ ผมรีบเบี่ยงตัวออกไปเดินอีกฝั่งทันที
รอดแล้วกู
ที่หลบเนี่ยไม่ใช่เพราะกลัวนะครับ แค่ไม่อยากเจอหน้า เพราะเดี๋ยวมันก็หาอะไรมาแกล้งผมอีก
แต่เชื่อมั้ยว่าตั้งแต่ผมรู้จักกับไอ้ห่านี่ ดวงผมพุ่งตกยิ่งกว่าดาวหาง หรือเป็นเพราะปีนี้เป็นปีชงราศีผมก็ไม่รู้ พอผมทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วจะเดินกลับไปที่ร้าน ดันเจอไอ้พี่พฤกษ์จังๆเลย
“อ้าว น้องเพชร” มันยกยิ้มมุมปากขึ้นทันทีที่เห็นผม ดีใจได้เจอคนหน้าเหมือนบุพการีรึไงพี่
“ครับ” ผมรับคำเสียงเบื่อหน่าย ไอ้พี่พฤกษ์เดินตรงเข้ามาหา
“แหม ทำหน้าแบบนั้น ดีใจที่เจอพี่อ่อครับ” นี่พี่โง่หรือโง่วะ เห็นๆอยู่ว่าหน้าผมกำลังหงุดหงิด “เพชรมาทำอะไร”
“เรื่องของผม” ด่ามันว่าเสือกแบบสุภาพไปเลยแล้วกัน
“หึหึ” แค่นเสียงหัวเราะอีกแล้ว น่ากลัวตายห่าแหละ
“พี่มีไร ถ้าไม่มีเพชรขอตัวครับ” ผมขี้เกียจคุยกับแม่ง เห็นหน้าแล้วไมเกรนขึ้น จะเดินกลับเข้าร้าน
“เดี๋ยวสิ” มันกางแขนออกขวาง “อะไรเนี่ย เมื่อวานเรายังคุยกันดีๆอยู่เลย หรือว่าไม่ถูกใจของที่พี่ซื้อให้” ไอ้พี่พฤกษ์อมยิ้ม
“เพชรไปคุยดีๆกับพี่ตอนไหน”
“ทำเป็นจำไม่ได้ ก็ตอนที่รู้ว่าพี่ซื้อของให้ หน้าเหวอ เสียงอ่อนลงเลย พี่ถือว่าเพชรพูดดีกว่าปกติแล้วตอนนั้น”
หนอย จับสังเกตได้ทุกอิริยาบถเลยนะ ว่าแต่สำคัญตัวผิดไปรึป่าว แค่ของกินซื้อผมไม่ได้หรอก และยิ่งเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่มันแกล้งผมต่างๆนานา
“หึ เพชรก็แค่แปลกใจเท่านั้นแหละว่าพี่ทำอะไรดีๆบ้างก็เป็น” น่าน เจอกูหลอกด่าอีกประโยค ยังจะขวางทางเดินแล้วโดนด่าฟรีอีกมั้ย
“อคติกับพี่ตลอดนะเรา แต่เราก็ยังแทนตัวเองว่าเพชรอยู่เลย ยังถือว่าพูดดีกับพี่อยู่นะ”
นั่นทำให้ผมเปลี่ยนสรรพนามทันที
“ผมจะไปกินข้าวต่อแล้ว ขอทางด้วยครับ”
ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ขยับ
“กินร้านไหน แล้วจะกลับเมื่อไร”
“เรื่องของผม” เออ เอาดิ กูจะกวนตีนมึงแบบนี้ มีไรมะ
“momo paradise สินะ พี่เห็นสายรหัสเราละ”
นี่คนหรือสับปะรด หูตาไวชิบหาย
“จะหลบทางผมได้ยัง พี่ๆเค้ารออยู่”
“พี่จะรออยู่แถวนี้ กินเสร็จแล้วเพชรต้องกลับกับพี่”
“ทำไมผมต้องไปกับพี่ด้วย”
“เพชรก็น่าจะรู้นะว่าขัดใจพี่ไม่สำเร็จหรอก...กินเสร็จแล้วเจอกัน”
ไอ้พี่พฤกษ์หลีกทางให้ผมเดินจนได้ ผมมองมันอย่างไม่พอใจ แต่แม่งมองกลับมาด้วยยิ้มหวาน
ชาติที่แล้วกูไปทำเวรทำกรรมอะไรกับมึงไว้ป่าววะพี่

“ขอบคุณพี่โก้มากๆนะคะ วันนี้อร่อยมากเลย” พี่มายเอ่ยขอบคุณเป็นคนแรกหลังพี่โก้เช็คบิล
“ขอบคุณค่า”
“ขอบคุณคร้าบ”
“เห้ย สบายมากน้องๆ คราวหน้าให้เพชรเป็นคนเลือกร้านมั่งดีกว่า อยากกินอะไรคิดไว้เลยนะ”
“ได้ครับพี่” oishi grand เลยได้มั้ย คือให้เข้าไปกินเองก็ได้นะ แต่กินฟรีก็ดี5555
“ว่าแต่พวกน้องๆไปไหนกันต่อเนี่ย”
“แนทว่างค่ะ เป็นweekendแรกในรอบหลายเดือนเลย”
ผมกับพี่มายไม่ตอบทันที อึกอักทั้งคู่
“พี่มายกับเพชรล่ะ” พี่แนทถาม
“พี่นัดแฟนไว้อะ เดี๋ยวต้องไปหมอชิตต่อ”
พี่โก้กับพี่แนทมองพี่มายแบบกรุ้มกริ่ม คนจะไปหาแฟนหน้ามีสีแดงเรื่อขึ้นมา โห่ย พี่มายมีแฟนแล้วงั้นเหรอ เสียดายยยย
“ว้า ว่าจะชวนไปเล่นโบว์ลิ่งไม่ก็ร้องคาราโอเกะต่อซะหน่อย แต่ไม่เป็นไร ไว้คราวหน้า” พี่โก้บอก
“พวกพี่ไปกันเถอะค่ะ ไม่ต้องรอมายหรอก”
“ไม่ได้ดิ เดี๋ยวไม่ครบคน”
ตอนนั้นเองไอ้ตัวยุ่งก็โผล่มาหน้าร้านจนได้
“หวัดดีครับพี่โก้ หวัดดีมาย หวัดดีน้องแนท” แหม่ะ ทักทายครบเชียวนะ มึงลงเลือกตั้งป่าววะ ใส่ใจประชาชนดีจริงๆ
“อ้าว เจ้าพฤกษ์...ไม่ได้เจอกันนานแน่ะ เป็นไง”
“หวัดดีแก มาทำไรเนี่ย”
“เรามาซื้อของให้ที่บ้านน่ะ พอดีเมื่อกี้เจอน้องเพชร น้องมาขอติดรถกลับบ้านด้วย เลยรออยู่แถวนี้”
โอ้โหหหห พูดซะมึงดูเป็นคนดีไปเลยนะไอ้พี่พฤกษ์ กูไปขอติดรถมึงกลับตอนไหนวะ มีแต่มึงนั่นแหละมาบังคับกูให้ไปด้วย
ผมสังเกตสีหน้าท่าทางพี่ๆ ไม่มีใครดูติดใจสงสัยอะไรเลย เมื่อกี้พวกพี่ก็เห็นผมหน้าบูดตอนพูดถึงไอ้พี่พฤกษ์แล้วนี่ ทำไมยังเชื่อเรื่องโกหกที่มันแต่ง
“ดูแลน้องพี่ดีๆละกัน” พี่โก้ว่า
“แล้วคนอื่นไปไหนกันต่อครับเนี่ย” ไอ้พี่พฤกษ์ถาม
“ตอนแรกพี่จะชวนไปเล่นต่อ แต่มายก็ไม่อยู่ นี่เพชรก็จะกลับไปอีกคน เดี๋ยวพี่คงกลับเลย”
“แกอะอย่าแกล้งน้องชั้นนะ ไปส่งให้ถึงบ้านด้วย”
“เออ เมื่อกี้เพชรฟ้องว่าพฤกษ์ชอบแกล้ง”
เอ้า พี่มายกับพี่โก้ฝากฝังผมกับมันเฉย ไอ้พี่พฤกษ์หันมายิ้มยิงฟันให้แล้วกอดคอผม
“เราสนิทกันน่ะ ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวไปส่งน้องเองครับ”
ห่า ตอแหล สนิทกันที่ไหน
“งั้นแยกย้ายกันตรงนี้ละกัน ไว้นัดกันอีกนะน้องๆ”
ผมยกมือไหว้พี่ๆทุกคนก่อนจะถูกไอ้พี่พฤกษ์พาเดินออกมาทั้งที่กอดคออยู่
“นี่พี่จะลากผมไปไหนอีกเนี่ย” ผมละทิ้งท่าทีสุภาพทันทีที่อยู่กับไอ้พี่พฤกษ์สองคน
“ป่าวคร้าบ” มันตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี “เพชรอะ จะไปไหนรึป่าว”
“ไม่ ผมจะกลับห้อง”
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
งง อยู่กับไอ้พี่พฤกษ์แล้วมีแต่ความไม่เข้าใจ ทำไมมันจะต้องอยากไปส่งผมนักหนา เจอกันทีไรก็ไปส่งโดยที่ไม่ได้ขอสักครั้ง
“จะปล่อยคอผมได้ยัง”
“ปล่อยไมอะ ก็เราสนิทกันนี่นา” นอกจากจะไม่ทำตามที่ผมบอกแล้วยังตอบกวนตีนด้วย
“เมื่อย”
“กลับมาแทนตัวเองว่าเพชรก่อน”
“ไม่”
“ถ้างั้นพี่ก็ไม่ปล่อย”
ผมเงียบแสดงการต่อต้าน ไอ้พี่พฤกษ์แม่งก็ยังกอดคอผมเดินไปเรื่อยๆ ไอ้สัส นี่มึงเอาจริงเหรอวะ มึงไม่อายคนมองรึไง
เออ กูยอม
“พี่ปล่อยดิ เพชรเมื่อย”
“ก็แค่นั้นแหละ” มันยิ้มกว้างก่อนจะยกแขนออกจากคอผม
เราสองคนเดินมาถึงรถ volvo สีเงินที่ลานจอด ไอ้พี่พฤกษ์เอาถุงของที่ซื้อมาใส่หลังรถก่อนจะขับออกมาจากห้าง
“เพชรยังไม่ตอบคำถามพี่เลยนะ”
“เรื่องไร”
“กลับมาไม่พอใจพี่เพราะอะไร”
“ไม่พอใจอยู่ตลอดเลยต่างหาก”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกับคำตอบ
“ถ้างั้น ที่ไม่พอใจพี่มาตั้งแต่แรกเนี่ย เพราะอะไร”
“โห ยังจะถามอีกอ่อ” แล้วผมก็ใส่มันเป็นชุด “พี่เคยทำอะไรให้น่าพอใจมั้ยล่ะ แกล้งเพชรวันรับน้อง พอโดดกิจกรรมก็ไปลากกลับเข้ามา คืนก่อนนั่นก็เมาเป็นหมา กวนทั้งคืน มีแต่สิ่งดีๆทั้งนั้นเลยนิ”
แทนที่จะสลด ไอ้พี่พฤกษ์กลับยิ้มน้อยๆเหมือนประทับใจตัวเองที่ทำผมหัวเสียได้
“แล้วยังเรื่องที่พี่โกหกว่ามีกิจกรรมเมื่อวันศุกร์ แล้วหลอกให้ไปซื้อของด้วย นี่ไง แต่ละอย่างดีๆทั้งนั้น”
“หึหึ...ยังงี้นี่เอง เพชรไม่ชอบให้พี่โกหกใช่มั้ย”
“ถ้ามีคนโกหกพี่มั่ง พี่ชอบมั้ยล่ะ” ผมถามกลับแทนคำตอบ
“ทีเพชรยังชอบโกหกเลย เดี๋ยวก็อ้างว่ามีธุระแล้วจะไม่เข้ากรุ๊ป”
ย้อนกูอีก
ผมตัดสินใจไม่ต่อล้อต่อเถียงและเริ่มเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง
“พี่พฤกษ์”
“คร้าบ”
ไม่ต้องมาทำเสียงหวานใส่ กูขนลุก
“เพชรถามอีกครั้งนะพี่”
“ว่า”
“ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเพชรด้วย”
เรื่องนี้คาใจผมมานานที่สุดแล้วตั้งแต่เจอกับไอ้พี่พฤกษ์ เคยถามไปก่อนหน้านี้แล้วแต่ได้คำตอบอะไรก็ไม่รู้กลับมา ผมหวังว่าครั้งนี้มันจะให้คำตอบดีๆ และช่วยตอบคำถามข้ออื่นๆที่ยังอยู่ในใจผมได้ด้วย
เพราะมันก็ไม่ได้ดูจะเข้ามาเพื่อหาเรื่อง ทำให้ผมทุกข์ใจอย่างเดียว บางเวลาผมก็รู้สึกว่ามันมีเจตนาดี
พี่แกเงียบไป ไม่ได้ยิ้มเหมือนครั้งที่แล้ว ดูเหมือนกำลังคิดคำตอบอย่างจริงจัง
ผมเองไม่รอให้โอกาสหายไปง่ายๆ รีบกระตุ้นไอ้พี่พฤกษ์ต่อ
“เพชรอยากรู้ว่าทำไมจงใจแกล้งเพชรคนเดียว พี่ทำไปเพื่ออะไร...ทำไมต้องเป็นเพชร”
ผมพูดแต่ละประโยคช้าๆแต่หนักแน่น รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“เอ่อ…”
ไอ้พี่พฤกษ์ละสายตาจากถนนแล้วมองมาที่ผม เมื่อเห็นท่าทีจริงจัง มันอึกอัก
“ไม่...ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นแหละ”
ผมเลิกคิ้ว เห็นได้ชัดเจนว่ามันโกหก
“อย่าโกหกเลย บอกมาตรงๆเหอะ”
“ก็บอกแล้วไงครับว่าไม่มีเหตุผล...พี่แค่แกล้งสนุกๆ”
ผมผิดหวังที่ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ยอมคายความจริงออกมา
“หึ แกล้งสนุกๆอ่อ เพชรไม่เชื่อ”
มันหันมามองผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ผมเองหมดอารมณ์จะถามต่อเลยนั่งเงียบตลอดทางจนถึงหน้าคอนโด
“เดี๋ยวครับ”
ไอ้พี่พฤกษ์จับข้อมือผมไว้ไม่ให้เปิดประตูรถ
“อะไรพี่”
จะทวงคำขอบคุณรึไง กูไม่ให้หรอกนะ เพราะมึงยังไม่ให้คำตอบกูเลย
“พี่ก็แค่…”
นี่มันจะยอมบอกผมแล้วใช่มั้ย
“พี่แค่อยากรู้จักเพชร...อยากคุยกับเพชรเท่านั้นแหละ”

TBC

แค่อยากรู้จักน้องเองเหรอพี่พฤกษ์ comment เป็นกำลังใจให้นักเขียนหน่อยน้า
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP10 "พี่แค่อยากคุยกับเพชรเท่านั้นแหละ"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 06-08-2018 20:28:31
EP10 “พี่แค่อยากคุยกับเพชรเท่านั้นแหละ”
พี่พฤกษ์

“พี่แค่อยากรู้จักเพชร...อยากคุยกับเพชรเท่านั้นแหละ”

บนถนนสายที่ผมกำลังตรงกลับบ้านแน่นขนัด ยิ่งเป็นช่วงบ่ายของวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้แล้วด้วย ถ้าวันนี้ไม่มีความจำเป็นต้องออกมาล่ะก็ ผมจะไม่เลือกเดินทางในเวลาแบบนี้เลย
ผมยอมวนรถไปยังถนนเส้นพญาไทซึ่งอยู่คนละฝั่งกับบ้านผมมาหลายครั้งแล้ว เหตุผลน่ะเหรอ ผมก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
‘ทำไมต้องเป็นเพชร’
คำถามของคนที่ทำให้ผมสับสนที่สุดในตอนนี้ดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว นั่นน่ะสิ ทำไมผมต้องเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตเค้าขนาดนี้ด้วยนะ
ก็แค่อยากรู้จัก
บ้าเอ๊ย ผมตอบน้องได้โง่เง่า
ที่ทำให้รู้สึกแย่ขึ้นไปอีกก็คือเพชรไม่ได้พูดอะไรกลับมาสักคำเดียวหลังจากได้ยินคำตอบของผม ผมมองตาน้อง พยายามจะอ่านความคิดหรือความรู้สึกให้ได้ แต่ผมอ่านไม่ออกเลย และน้องก็ลงจากรถไป
หรือว่าผมควรปรึกษาเรื่องนี้กับใครสักคนดู

เมื่อกลับถึงบ้านและเอาของมากมายที่ซื้อมาให้พ่อแม่และพี่ชายเรียบร้อยแล้ว ผมขับรถออกมาข้างนอกอีกครั้ง ตอนนี้ก็หกโมงเย็นแล้ว
การจราจรคล่องตัวขึ้นกว่าเมื่อตอนผมขับออกมาจาก central world ราวฟ้ากับเหว ผมมาถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว
“ไอ้พฤกษ์ ไหงมาเร็วจังวะ กูกำลังจะชวนไอ้เกี้ยงไปเดินเล่นรอมึงเลย” ไอ้ริวส่งเสียงประหลาดใจนำมาก่อน
“เออ ธุระด่วนขนาดนั้นเลยรึไง” ไอ้เกี้ยงขมวดคิ้ว
“รถไม่ติดว่ะ...แล้วก็ไม่ใช่เรื่องด่วนอะไร กูแค่อยากปรึกษาพวกมึงหน่อย”
“เข้าร้านก่อน กูหิวแล้วเนี่ยตอนนี้” ไอ้ริวรีบห้ามก่อนใครจะพูดอะไรขึ้นอีก มันดันหลังผมกับไอ้เกี้ยงเข้าไปข้างในร้าน
นี่เป็นร้านอาหารที่พวกผมสามคนชอบมากิน และโดยเฉพาะทุกครั้งที่ใครมีปัญหาหรือเรื่องไม่สบายใจ เราจะนัดเจอและคุยกันที่นี่เสมอ
“ตกลงมีเรื่องไรจ๊ะน้องพฤกษ์” ไอ้ริวเปิดประเด็นทันทีหลังเข้ามานั่งและสั่งอาหารเรียบร้อย
“กู…” ผมเริ่มต้นไม่ถูก ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีเกี่ยวกับน้องเพชร
“อย่าบอกว่าจะมาขายตรงพวกกูนะ หรือชวนไปทำธุรกิจเครือข่าย ไม่เอานะเว้ย”
“ห่า ไม่ใช่โว้ย” ผมถึงกับเขวเพราะคำพูดไอ้ริวไปทีเดียว
“มึงดูซีเรียสนะพฤกษ์ กูชักอยากรู้แล้วว่ามึงกำลังคิดเรื่องอะไร” ไอ้เกี้ยงเอ่ย
“เออ หน้ามึงจริงจังสัส” ไอ้ริวเสริม
อย่างแรกเลยคือผมกลัวเพื่อนตกใจถ้าบอกว่าตอนนี้กำลังสนใจเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
“คือ…”
“อย่าลีลาดิวะ กูลุ้นนะสัส” ไอ้ริวเร่ง
“กู...กำลังไม่แน่ใจ”
“ไม่แน่ใจอะไร”
“มึงอย่าพึ่งเร่งมันดิว้า”
“ว่ากูรู้สึกยังไงกับคนๆนึง”
reaction ของเพื่อนสองคนเป็นไปอย่างที่ผมคาดไว้ ไอ้ริวตาโต รูจมูกบาน ปากอ้ากว้าง ส่วนไอ้เกี้ยงยิ้มมุมปากราวกับรู้และเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว
“เหยดดดด เพื่อนกู ไปตกหลุมสาวที่ไหนมาวะ”
“คือ…” ที่จริงก็ไม่ใช่สาวนะไอ้ริว
“ใครวะ กูรู้จักรึป่าว”
“มึงหุบปากดิริว ให้ไอ้พฤกษ์มันเล่าเอง จะตื่นเต้นอะไรนักหนา”
“ไอ้สัส มึงไม่อยากรู้รึไง”
“อยาก แต่เดี๋ยวมึงก็จะรู้แล้วมั้ย”
“เชี่ยเกี้ยงแม่งคนหรือรูปปั้นวะ นิ่งชิบหาย”
“เห้ยพวกมึง อย่าพึ่งทะเลาะกัน กูเล่าไม่ถูกละเนี่ย” ผมรีบห้ามศึกเพื่อนรักเสียก่อน ไม่งั้นวันนี้คงไม่จบ ไอ้ริวมันเป็นคนใจร้อนครับ energy เยอะด้วย พูดก็มาก ปากก็เสีย ในขณะที่ไอ้เกี้ยงก็ใจเย็นเกิน แถม sense ดี เข้าใจคนอื่นไปซะหมด ผมเองอยู่ตรงกลาง ต้องคอยปรับสมดุลให้เราสามคนบ่อยๆ
ผมเงียบไปเดี๋ยวหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง ตัดสินใจใช้สรรพนามแทนชื่อน้องเพื่อเล่า
“กูพึ่งรู้จักเค้าได้ไม่นาน แต่กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลยนะเว้ย”
“ยังไงวะ”
“ปกติถ้ากูสนใจใคร กูจะเข้าไปคุยดีๆเลย แต่นี่…”
“มึงไม่กล้าเข้าหาว่างั้น” ไอ้ริวเข้าใจผิด
“ไม่ใช่”
“อ้าว”
“กูเข้าหา...แต่ไม่ได้เข้าไปดีๆ”
“พวกมึงได้กันแล้วมองหน้ากันไม่ติดงี้อ่อ”
“พ่อมึงดิ” ผมร้อง
“ไอ้ริวมึงหยุดเดา กูว่าไม่ใช่คนหรือลักษณะที่มึงคิดอยู่เลยว่ะ” ไอ้เกี้ยงยิ้มกว้างอย่างมีเลศนัย เห้ย หรือว่ามันจะรู้แล้ววะ
“กูยังไม่ได้น้องเค้า ไม่มีอะไรแบบนั้นเลย”
“นั่นแน่ กินเด็กซะด้วยพ่อหนุ่ม”
เรื่องแบบนี้นี่ช่างสังเกตจังนะไอ้ริว ผมหลุดคำว่าน้องครั้งเดียวจับได้เลย
“กูแกล้งเค้าตลอดเลย...ไม่รู้ดิ เห็นแล้วมันอยากแกล้ง…”
“อรั๊ยยยย” เสียงไอ้ริวนี่เสี่ยงโดนตีนโต๊ะข้างๆมากครับ
“ตอนแรกไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนะ แค่อยากแกล้งเฉยๆ...ไปๆมาๆกูว่ากูรู้สึกมากกว่านั้น”
“อยากตั้ม?”
“เหี้ย กูไม่ได้คิดอกุศลตลอดเวลาเหมือนมึงนะริว” ผมโวย
“มึงแม่งฮาว่ะริว” ไอ้เกี้ยงกลั้นหัวเราะ ฟุบหน้าลงกับแขน มันคงกลัวเสียมารยาทในร้านอาหาร
“กูอยากเจอเค้า อยากคุยกันนานๆ อยากเอาชนะเพราะเค้าดื้อ อยากดูแล ไปรับส่งเค้าทุกวัน”
“เชี่ยยยยยย ใครมันทำเพื่อนกูเพ้อได้ขนาดนี้วะ”
ไอ้ริวยังคงร้องอย่างตื่นเต้นและหันไปสบตากับไอ้เกี้ยง
“แต่น้องเค้าไม่ชอบขี้หน้ากู เพราะกูไปแกล้งบ่อยๆ...เมื่อตอนบ่าย เค้าถามกูว่าทำไมชอบมายุ่ง กูดันตอบไปว่า…”
“ว่าอะไรๆๆ”
“...กูอยากรู้จัก อยากคุยกับเค้า”
“โอ้โหหห ขนาดนี้แล้วมึงบอกชื่อน้องเค้ามาเหอะ กูอยากรู้จนเยี่ยวเหนียวแล้ว”
ตอนนี้อาหารที่สั่งถูกยกมาเสิร์ฟจนครบแล้ว แต่พวกเรากินกันไปเล็กน้อยเท่านั้น ดูไอ้ริวไอ้เกี้ยงจะสนใจ topic วันนี้มากทีเดียว
“มีปัญหาอีกอย่าง”
“เค้ามีแฟนแล้วอ่อวะ”
“ไม่ใช่”
ผมกลืนน้ำลาย ถึงจะคิดว่าไอ้ริวไอ้เกี้ยงน่าจะรับได้ แต่พอต้องบอกจริงๆผมกลับไม่กล้าพูด
“แล้วปัญหาอะไรวะ”
“น้องคนนั้นเป็นผู้ชาย ใช่มั้ย”
ประโยคล่าสุดมาจากปากไอ้เกี้ยง ไอ้ริวหันคอไปหาไอ้เกี้ยงอย่างรวดเร็ว
“มึงว่าไงนะ”
“อะ เออ...ไอ้เกี้ยงพูดถูก น้องเค้าเป็นผู้ชาย”
ผมพูดช้าๆ ราวกับว่าทำอย่างนั้นแล้วจะทำให้เพื่อนตกใจน้อยลง
“ใครวะไอ้พฤกษ์” ไอ้ริวรีบถามต่อ
“ถึงตอนนี้มึงรู้แล้วใช่มั้ยเกี้ยง” ผมไม่ตอบแต่หันไปถามไอ้เกี้ยงแทน
“น้องเพชร” ไอ้เกี้ยงยิ้มแป้นแล้วตอบ
“เห้ยย”
“เชี่ยริว มึงเบาๆหน่อยดิ คนอื่นหันมามองหมดแล้ว” ไอ้เกี้ยงหันไปดุไอ้ริว
ผมคิดแล้วว่าไอ้เกี้ยงต้องเดาถูก
“จริงอ่อวะไอ้พฤกษ์”
“เออ...กูสับสนว่าตัวเองชอบเพชรรึป่าว” ในที่สุดผมก็พูดออกไปจนได้
“เชี่ยยยย ที่มึงชอบแกล้งน้องเค้าเพราะมึงปิ๊งเค้าเนี่ยนะ”
“บอกแล้วไงว่าตอนแรกไม่ แค่เห็นหน้าเด็กมันกวนตีนเลยอยากแกล้ง...แต่หลังๆกูเริ่มอยากให้น้องสนใจ…”
ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองกำลังร้อนผ่าว
“ที่อาสาไปส่งบ้านน้องมัน แล้วก็ตอนแกล้งเมาที่ brick bar ด้วยใช่มั้ย”
ผมตกใจราวสายฟ้าฟาด มองหน้าไอ้เกี้ยงด้วยความทึ่ง มันพูดถูกทุกอย่าง
ไอ้ริวเองดูเหมือนจะช็อคไปแล้ว
“มะ มึงรู้ได้ไงวะเกี้ยง” ผมถามเสียงเบา
“กูเดาเอา แต่ถูกใช่มั้ยล่ะ” ผมพยักหน้า มันยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “เพราะกูเห็นมึงเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับน้องมันตลอดเลยนี่...แต่จริงอย่างที่มึงบอกนะ อยู่กับมึงมาตั้งแต่ปี1 กูไม่เห็นมึงทำแบบนี้กับผู้หญิงที่ชอบสักคนเลยว่ะ”
“เออดิ กูเลยคิดหนักอยู่นี่ไง...ว่าแต่พวกมึงโอเคใช่มั้ย”
“โอเคเรื่องที่มึงชอบน้องเพชรอะนะ” ไอ้เกี้ยงถามกลับ
“เออ”
“โอเคดิ มึงจะชอบใครก็สิทธิของมึง จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงพวกกูก็ต้องแล้วแต่มึงปะวะ” ไอ้ริวตอบทันที
“ใช่ กูคิดเหมือนไอ้ริว นี่มึงกังวลว่าพวกกูจะไม่โอเคเรื่องชอบผู้ชายใช่มั้ย”
ผมพยักหน้าเป็นรอบที่สิบได้
“โห่ โลกมันไปถึงไหนแล้ว กูอะไม่เหยียดเพศเว้ย” ไอ้ริวตบบ่าผมหนักๆ
“ขอบใจพวกมึงมากนะเว้ย” ผมยิ้มกว้าง
“แต่เดี๋ยวนะ กูขอเคลียร์เรื่องที่มึงแกล้งเมาก่อน วันนั้นมึงแกล้งจริงๆอ่อ” ไอ้ริวถาม
ไม่อยากยอมรับเลยให้ตายเถอะ
“เออ”
ไอ้ริวหัวเราะเสียงดัง(ผมเห็นว่าโต๊ะอื่นๆมองมาอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก) ส่วนไอ้เกี้ยงนั่งยิ้มอย่างผู้หยั่งรู้อยู่ท่านั้นตั้งแต่มันตอบถูกว่าเป็นน้องเพชร
“ลงทุนสาดดด แต่กูเชื่อจริงๆนะว่ามึงเมาอะ มึงดูออกอยู่คนเดียวได้ไงวะเกี้ยง”
“ปกติไอ้พฤกษ์มันไม่ได้เมาเร็วนะเว้ย แล้วเหล้าวันนั้นก็ไม่ได้แรงด้วย”
“เจ้าแผนการนักนะไอ้พฤกษ์ ร้ายว่ะ”
ไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสองคนยิ้มล้อผม
“โชคดีที่วันนั้นแบ่งโต๊ะกันกินเป็นกลุ่มเพื่อนกับสายรหัส กูเลยกล้าเสี่ยงให้มึงสองคนจัดคันรถ” ผมยอมรับ
“ที่กูอยากรู้คือ...มึงแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่ามึงชอบน้องจริงๆ”
ไอ้เกี้ยงยิงคำถาม
“อ้าวไอ้ห่า ก็มันพึ่งบอกพวกเราอยู่นี่ไงว่ามันอยากเจอ อยากคุย อยากเอาชนะ อยากดูแล ยังงี้ก็ต้องชอบดิ” สัส ล้อเลียนคำพูดผมซะเสียเลยไอ้ริว
“ไม่ดิ ไอ้ความรู้สึกที่ไอ้พฤกษ์พูดมาทั้งหมดอะ บางทีมันอาจจะไม่ใช่คำว่าชอบหรือรักนะเว้ย บางทีมันอาจจะแค่หลงหรืออยากได้ตัวน้อง แต่ไม่ได้ผูกพันทางใจเลยก็ได้”
ผมอ้าปากค้าง ไอ้เกี้ยงมันคิดอะไรได้ลึกซึ้งโคตร
“เชี่ยยย มึงไปเปิดรายการแข่งกับพี่อ้อยพี่ฉอดไป ถ้าจะเชี่ยวขนาดนี้” ไอ้ริวว่า
“ว่าไงไอ้พฤกษ์ มึงชอบน้องมันจริงๆใช่มั้ย”
“เอ่อ กูคิดว่า...กำลังเริ่มชอบ”
“มึงต้องตอบตัวเองให้ได้แน่ๆว่าชอบจริงหรือเปล่า เพราะถ้ามึงแค่เล่นๆ กูก็ไม่อยากให้มึงไปทำให้น้องสับสน น้องแม่งดูแมนทั้งแท่ง...แล้วตัวมึงเองก็จะสับสนด้วย”
“เออ อันนี้กูเห็นด้วย น้องไม่ใช่เกย์ ท่าจะงานยากว่ะเพื่อน” ไอ้ริวเสริม
“และถ้ามึงคิดว่าชอบ ถึงโอกาสจะดูน้อย กูก็เอาใจช่วยให้มึงจีบน้องมันติด” ไอ้เกี้ยงทิ้งท้าย
หลังอาหารเย็นมื้อนั้น ผมรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยเพราะได้ระบายสิ่งที่เก็บไว้ในใจคนเดียวตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาให้คนอื่นฟัง แต่ก็เกิดความกังวลกับคำถามที่ไอ้เกี้ยงฝากให้กลับมาคิดด้วย
‘มึงแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่ามึงชอบน้องจริงๆ’
ถ้ายอมรับกับตัวเองอย่างจริงใจ ความรู้สึกครั้งนี้เริ่มต้นจากการที่ผมอยากแกล้งน้อง อย่างที่บอกเพื่อนสองคนไปว่าแค่มองหน้าน้อง ในหัวก็เริ่มคิดหาเรื่องมาแกล้งแล้ว ผมยิ่งชอบมากถ้าเห็นน้องมันขัดใจหรือพยศใส่
และที่ผมตอบเพชรไปว่าอยากรู้จัก อยากคุย ก็คือสิ่งที่ผมรู้สึกอยู่จริงๆ
เพียงแต่ผมยังไม่มั่นใจเท่านั้นเองว่ามันมากพอที่จะเรียกว่าชอบได้หรือยัง

ผมเร่งไอ้เกี้ยงกับไอ้ริวให้รีบเก็บสัมภาระเมื่ออาจารย์เลิกคลาสในบ่ายวันพุธ
“พวกมึงเร็วๆดิวะ”
“แหม จะรีบไปหาใครจ๊ะน้องพฤกษ์” อยากจะถีบไอ้ริวทุกครั้งที่เรียกผมขึ้นต้นว่าน้อง ยิ่งมันกำลังกระแนะกระแหนผมอยู่ด้วย
“ป่าว กูแค่หิว อยากไปซื้ออะไรกินหน่อย”
“ซื้อเสร็จแล้วไปไหนต่อล่ะ”
“กรุ๊ปไง”
“วันนี้ไอ้เพชรมันไม่มาหรอก”
ผมหันขวับ
“มึงรู้ได้ไง”
“แน่ะ หลอกนิดหน่อยเชื่อเลยน้า...กูจะไปรู้ได้ไงเล่าว่าน้องมันจะเข้าหรือไม่เข้า”
“ห่าริว”
ไอ้ริวกับไอ้เกี้ยงหัวเราะผม
“ดีนะที่มึงแวะไปกรุ๊ปบ่อยๆอยู่แล้ว เลยดูไม่น่าสงสัยเท่าไร ถ้าเป็นไอ้ห่าริวเข้าก็รู้เลยว่าไปส่องหญิง” ไอ่เกี้ยงว่า
“สัส กูก็ไปบ่อยเหอะ”
“หราาา” ผมกับไอ้เกี้ยงพูดพร้อมกัน
ผมกับไอ้เกี้ยงเนี่ยไปเข้ากรุ๊ปช่วงรับน้องแทบทุกวันอยู่แล้วครับ ส่วนไอ้ริวเนี่ยแล้วแต่อารมณ์มันเลย ถ้าไม่ได้นัดหญิงที่อื่นหรือโดดเรียนมันก็มากับผมแหละครับ
“มึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ไอ้พฤกษ์ ยังไงน้องมึงก็คงมาเข้าแหละ เมื่อวานกับวันก่อนก็มานิ” ไอ้เกี้ยงตั้งข้อสังเกต
“ไม่แน่ว่ะ เอาอะไรกับเพชรไม่ได้หรอก กูยังงงอยู่เลยว่าสองวันก่อนมากรุ๊ปได้ไง อาทิตย์ที่แล้วหาเรื่องโดดตลอด”
“ไอ้เพชรไม่เข้ามึงก็ออกไปหามันข้างนอกอยู่ดี” ไอ้ริวยิ้มกริ่ม
“ก็กูไม่อยากให้น้องๆโดดกิจกรรมนี่หว่า”
“หราาา” คราวนี้เพื่อนผมสองตัวพร้อมใจกันพูดบ้าง
สองวันที่ผ่านมาผมไม่ได้แกล้งอะไรน้องเลยครับ เพราะเรื่องเมื่อวันอาทิตย์ด้วยที่ทำให้ยังไม่กล้าคุยอะไรกับน้อง ไอ้จะขับรถไปส่งที่คอนโดยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เพชรเองก็ไม่ได้มาคุยกับผม อย่าว่าแต่คุย พอน้องมันหันมาเห็นว่าผมมองอยู่ก็หันหน้าไปทางอื่นแทบจะทันที ไม่สนใจโดยสมบูรณ์ ทำให้ผมรู้สึกแย่ลงอีก
16.10น.แล้วเมื่อพวกผมลงมาจากอาคารเรียน ผมแวะซื้อช็อคโกแลตเย็นมาดื่มให้ชื่นใจก่อนจะตรงไปที่กรุ๊ป ระหว่างทางผมเห็นน้องเจมส์กับน้องนิวเดินอยู่ข้างหน้า กำลังไปที่กรุ๊ปเหมือนกัน
ไอ้เกี้ยงกำลังจะส่งเสียงทักแต่ผมรีบห้ามทันที เมื่อได้ยินสิ่งที่น้องมันคุยกัน
“อยากรู้ว่ะว่าวันนี้ไอ้เพชรไปกับใคร” น้องนิวพูดขึ้นก่อน
“เออ มันคุยกับหญิงเงียบๆแบบนี้แหละ เดี๋ยวพอควงก็รู้เองว่าคนไหน” น้องเจมส์พูดกลั้วหัวเราะ
ไอ้เกี้ยงกับไอ้ริวหันมามองหน้าผม
ผมเปลี่ยนใจไม่เข้ากรุ๊ปแล้วครับวันนี้

TBC

คราวนี้ส่งพี่พฤกษ์มาเจอกับคุณผู้อ่านบ้างครับ ที่แท้ก็เริ่มชอบน้องขึ้นมานั่นเอง ต่อไปพี่พฤกษืจะทำยังไงนะ ติดตามกันด้วยครับ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP11 "พี่ขอโทษ ทั้งหมดพี่เป็นคนผิดเอง"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 10-08-2018 20:46:23
EP11 “พี่ขอโทษ ทั้งหมดพี่เป็นคนผิดเอง”

“แนนอยู่ไหนอะคะ”
(ตอนนี้แนนอยู่ Innisfree ค่ะ เพชรมาถึงสยามแล้วเหรอ)
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวเพชรเดินไปหานะ”
ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปร้านเครื่องสำอางที่สาวเจ้าอยู่ นัดเดทวันนี้มีอะไรต้องทำอีกเยอะครับ และถ้าโชคดีผมอาจได้กินเหยื่อเลย เพราะอีกฝ่ายก็ดูเหมือนทอดสะพานมาให้ตั้งนานแล้ว
ยังเซ็งไม่หายที่ไอ้พี่พฤกษ์มันเอาเวลาวันเสาร์ผมไปเกือบทั้งวัน ไม่งั้นผมคงนัดเจอแนนได้เร็วกว่านี้
จริงๆอยากจะเรียกมาตั้งแต่เย็นวันจันทร์แล้วแหละ แต่ติดที่แนนเค้าไม่ว่าง มาว่างเอาก็วันนี้ แต่ผมไม่เป็นไรครับ ว่างเสมอสำหรับหญิง อิอิ
ผมยอมรับว่าไม่ได้คุยกับแนนอยู่คนเดียว คือมันก็ต้องคุยเผื่อไงครับ แต่คนนี้ดูจะคืบหน้าที่สุดแล้ว เข้าทางคนใจเร็วด่วนได้อย่างไอ้เพชรพอดี
ผมเดินเข้ามาข้างในร้านแล้วแต่หาแนนไม่เจอ กำลังจะโทรหาก็พอดีเค้าเรียกผมซะก่อน
“เพชร ทางนี้ค่า”
ผมหันไปตามเสียงเรียก ส่งยิ้มหวานไปให้1ทีเมื่อมองเห็นรุ่นพี่คนสวย จะว่าไปเค้าบอกไม่ให้ผมเรียกพี่ ผมจึงเรียกชื่อเฉยๆ
คืนนี้เราสองคนคงได้เรียกชื่อกันทั้งคืนแน่ๆ
“รอนานเลยดิ ขอโทษนะ เพชรพึ่งเลิกเรียนแล้วก็รีบออกมาเลย” วันนี้แนนมีเรียนแค่ช่วงเช้า ออกมาเดินเล่นกับเพื่อนตั้งแต่เที่ยงๆแล้ว เค้าบอกว่ารอได้ เลยคิดว่าอยากให้เค้าประทับใจที่ผมไม่โดดเรียนและก็รีบออกมาหา
“ไม่เป็นไร แนนก็พึ่งแยกกับเพื่อนเอง มาดูของเพลินๆ...ไปกันเลยมั้ย”
“เอาสิคะ”
ผมอาสาช่วยแนนถือแฟ้มที่บรรจุเครื่องเขียนกับชีทเรียน ไอ้ที่นิสิตหญิงนิยมใช้กันน่ะครับ แววตากับรอยยิ้มที่ส่งให้ผมเมื่อกี้แสดงให้เห็นว่าประทับใจ ในใจแนนคงกำลังประเมินผมอยู่ ผมเองก็ส่งยิ้มเพิ่มคะแนนไปโดยว่องไว
ผมไม่ได้เชี่ยวนักหรอกครับ แต่นี่ก็ไม่ใช่เดทครั้งแรกนี่นา
“เพชรจองตั๋วในแอพมาแล้วใช่ปะ” แนนถามถึงหนังรอบห้าโมงกว่าที่เรากำลังจะไปดูกัน
“ใช่ค่ะ แนนอยากทำอะไรก่อนเข้าโรงรึป่าว”
“อืมม ตอนนี้หิวนิดๆอะ ขอไปกินอะไรรองท้องได้มั้ย”
ผมพยักหน้า ยกมือข้างที่ว่างขึ้นแตะเบาๆที่หลังแนนแล้วเดินเข้าไปใน siam paragon ด้วยกัน
เค้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คอิน
“แนนอยากดูเรื่องนี้ตั้งแต่มันเข้าอาทิตย์ที่แล้วอะ แต่ไม่ว่างเลย ขอเช็คอินอวดเพื่อนหน่อย” เค้ายิ้มเขินๆเมื่อเห็นว่าผมมองอยู่
“เพชรก็อยาก แต่อดใจรอไว้ดูกับแนนเลยนะคะ” ผมหยอด จริงๆก็คิดไว้ว่าจะหว่านชวนหญิงเกือบทุกคนที่คุยอยู่ตอนนี้ให้มาดูเรื่องนี้นี่แหละ แล้วแนนก็เป็นคนแรก
แนนพาผมเข้าร้านไอศกรีมเล็กๆร้านหนึ่ง ผมก็ไม่ขัดข้องอะไรครับ ต้องตามใจเค้าหน่อย เราสั่งกันคนละ1scoop
“เพชรชอบกินรสมะนาวหรอคะ”
“ค่ะ เพชรไม่ค่อยชอบรสหวานๆเท่าไร”
“แนนอะชอบกินทุกรสเลย แต่วันนี้อยากกินช็อคโกแลตชิพ” เค้าบอกผมพร้อมส่งยิ้มให้อย่างร่าเริง ผมมองแนนอย่างย่ามใจ เธอเป็นคนตัวเล็ก หน้าสวยคม และวันนี้เธอก็ใส่เสื้อนิสิตรัดๆและกระโปรงสอบสั้นเหมือนวันที่เจอกันครั้งแรกที่คณะอักษรฯ ทำให้ขับขนาดของหน้าอกที่ใหญ่อยู่แล้วให้เห็นชัดเจนโคตรๆ ส่วนล่างก็เห็นเรียวขาขาวๆเนียนๆ รอยแยกของกระโปรงอีกนิดเดียวที่จะถึงชั้นใน
ของผมขึ้น...
เราคุยเรื่องสัพเพเหระกันต่อ ผมรู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดีอยู่นะ จนใกล้เวลาฉาย ผมกับแนนจึงเดินขึ้นไปชั้นโรงหนัง
“เดี๋ยวแนนไปเข้าห้องน้ำแปบนึงนะ”
“ค่ะ เพชรรออยู่ตรงนี้นะ”
ใจผมไม่ได้คิดถึงหนังที่กำลังจะดูเลยสักนิด คิดแต่วิธีที่จะทำให้แนนไปคอนโดคืนนี้อย่างตื่นเต้น
ผมทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาหน้าโรง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ยังไม่ทันปลดล็อคหน้าจอก็มีเสียงเรียกขึ้น
“ขอดูหนังด้วยคนดิครับ”
“เห้ย”
ผมเหวอหนักมาก ไอ้พี่พฤกษ์นั่งยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ
“พะ พี่มาได้ไง”
“หึหึ พอดีมีคนเช็คอินว่าอยู่แถวนี้น่ะ จะโดดทั้งทีไม่เนียนเลยนะไอ้น้อง”
หรือว่าแนน tag ผมใน facebook ด้วยวะ แม่งเอ๊ยย
“พี่จะทำอะไร” ผมถามเสียงดัง อย่าบอกนะว่ามันจะลากผมกลับไปคณะ
“เพชรน่าจะรู้อยู่แล้วนะ”
“ไปกันค่ะเพ…”
แนนเดินกลับมา ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นผมกำลังจ้องหน้าไอ้พี่พฤกษ์เขม็ง
“มาดูหนังกับเพชรใช่มั้ยครับ”
“ค่ะ เอ่อ...พี่ใช่พี่พฤกษ์ บริหารฯปะคะ”
“ครับผม”
หึ ไอ้นี่มันมีชื่อเสียงพอตัวแหละนะ cute boy นิ
“พอดีว่าน้องเพชรเค้าโดดออกมา พี่เลยมารับกลับไปทำกิจกรรมที่กรุ๊ปน่ะครับ”
“แนน ไม่ต้องไปสนใจ” ผมลุกขึ้นยืน ชักเดือดแล้ว
“เมื่อกี้เรียกพี่ใช่มั้ย แนนอยู่ปีไหน คณะอะไรล่ะ”
“ปี2 อักษรค่ะ”
“แล้วแนนไม่ต้องไปช่วยเพื่อนๆทำรับน้องหรอครับ”
“คะ คือ…”
“แนนคะ เราเข้าไปดูหนังกันดีกว่า” ผมตรงเข้าไปจับมือแนน กำลังจะลากเดินไป แต่ไอ้พี่พฤกษ์ก็ดึงแขนผมไว้อย่างรวดเร็ว
“เพชรเค้าต้องกลับไปเข้ากิจกรรมครับ” ไอ้พี่พฤกษ์พูดทุกประโยคที่ผ่านมานิ่งๆ ไม่กระโชกโฮกฮาก แต่ผมสัมผัสได้ว่ามันเอาจริง “แนนเองก็ไม่ควรมากับน้องในเวลาที่ควรทำกิจกรรมแบบนี้นะครับ”
“ปล่อย” ผมหันไปหาไอ้พี่พฤกษ์
มันอมยิ้ม ไม่สนใจผมอีกครั้ง แต่ไปเล่นงานแนน
“พี่ขอตัวเพชรนะครับแนน”
“กะ ก็ได้ค่ะ” ผมหันกลับไปที่แนนอีกครั้ง เธอปล่อยมือผม ดูเหมือนใกล้จะร้องไห้เต็มแก่แล้ว
“แนน” ผมร้อง
“ไว้คราวหน้าก็ได้นะเพชร แนนไปก็ได้ค่ะ...ขอโทษค่ะพี่พฤกษ์” แนนมองไอ้พี่พฤกษ์อย่างเกรงกลัว ก่อนจะหยิบแฟ้มของเธอที่ผมวางไว้บนโซฟาเมื่อกี้แล้วเดินจ้ำออกไป
“พี่ทำอะไรวะ”
ผมหันไปตะคอกใส่ไอ้ตัวสร้างเรื่อง
“ทำไมครับ พี่ทำผิดหรอ” มันยังไม่ปล่อยมือผมและตอบกลับมาด้วยหน้าอ้อนตีนสุดๆ
“ครั้งนี้ทนไม่ไหวแล้วนะ…” ผมกัดฟันกรอด
ผมทันเห็นแววตาวูบไหวของไอ้พี่พฤกษ์ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวพร้อมเผชิญหน้า
“หรอครับ ถ้างั้นเพชรจะทำอะไรพี่ล่ะ”
ผมเหวี่ยงแขนอีกข้างที่ไม่ถูกจับ หมายจะต่อยหน้า แต่มันเอี้ยวตัวหลบแล้วใช้อีกมือจับแขนผมไปรวมกับแขนอีกข้าง
“โอ๊ย”
กลายเป็นว่าแขนผมสองข้างถูกมันยึดไว้ด้วยมือเดียว แม่งแรงเยอะกว่าผมขนาดนี้เลยเหรอ
“ปล่อย”
พี่รปภ.ชั้นโรงหนังวิ่งเข้ามาหาเรา
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
“ป่าวครับ นี่น้องผม มันโดดเรียนมา เราไม่ได้ก่อเรื่องครับ”
“ไม่ใช่เว้ย” ผมตะโกน แต่พี่รปภ.เสือกเชื่อไอ้พี่พฤกษ์แล้วหยุดยืนนิ่ง ตอนนี้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างจ้องมาที่พวกเรา
“ปล่อยนะเว้ย”
“มานี่”

ผมโดนไอ้พี่พฤกษ์ลากมาทั้งสภาพอย่างนั้นจนถึงลานจอดรถ ทั้งอายคนทั้งห้างที่มองและโกรธจนควันออกหู
ไอ้พี่พฤกษ์เองก็ไม่ได้ปั้นหน้ายิ้มแย้มแล้ว มันเองก็กำลังโกรธเช่นกัน
“ขึ้นรถ” มันสั่ง
ผมไม่ขยับ
“พี่บอกให้ขึ้นรถ”
“ผมไม่ขึ้น”
มันถอนหายใจยาวเหมือนควบคุมอารมณ์ตัวเองก่อนจะเปิดประตูรถแล้วจับผมใส่เข้าไปในเบาะข้างคนขับ ผมพยายามใช้โอกาสนั้นดิ้นขัดขืนสุดแรงแต่สู้แรงมันไม่ได้เลย
“อย่าคิดหนีล่ะ ยังไงพี่ไม่ปล่อยเราไปแน่”
มันปิดประตูตามมาอย่างรวดเร็วและกดล็อครถด้วยกุญแจ
มันเดินอ้อมมายังฝั่งคนขับ กดกุญแจปลดล็อคแล้วปีนขึ้นรถมาอย่างรวดเร็วก่อนกดล็อครถอีกครั้งเพื่อกันผมหนี
แต่ผมไม่ได้คิดจะใช้จังหวะนี้วิ่งหนีมันหรอก เพราะคิดว่ายังไงแม่งก็คงจะตามจับผมกลับมาจนได้
ไหนๆแนนก็กลับไปแล้ว ผมตั้งสติ หายใจเข้าออกช้าๆเพื่อระงับความโกรธ และตัดสินใจจะคุยกับมันให้รู้เรื่อง
“พี่จะพาผมไปไหน” ผมกระชากเสียงถาม
“กลับ”
ผมพยายามไม่มองหน้าไอ้พี่พฤกษ์เพราะมีโอกาสทำร้ายร่างกายมันได้มากในขณะที่มือมันจับพวงมาลัยอยู่ ตั้งใจไว้แล้วว่าจะเคลียร์ด้วยคำพูด อีกอย่างผมคงไม่เสี่ยงทำอะไรมันในขณะที่ตัวเองอยู่บนรถด้วยหรอก ผมยังรักชีวิตอยู่
“เอาตรงๆนะ ครั้งนี้มันเกินไปว่ะพี่...พี่ทำงี้ได้ไง” ผมเริ่ม
ไอ้พี่พฤกษ์หน้าเครียดเขม็ง
“พี่เคยบอกแล้วนี่ ถ้าเพชรโดดกรุ๊ป พี่จะตามเพชรกลับทุกครั้ง”
“ผมพึ่งโดดวันนี้นะ เมื่อวานกับวันจันทร์ก็เข้าแล้วไงครับ”
“แล้วไง วันที่เพชรเข้าพี่ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่วันนี้เพชรโดดพี่ก็ทำอย่างที่บอก”
รถเลี้ยวออกมาจากตัวห้างเรียบร้อย แต่มันกำลังเคลื่อนไปทางที่ผมไม่คุ้น
“พี่จะไปไหน” ผมถามซ้ำ
“กลับไง”
“นี่ไม่ใช่ทางไปคณะหรือคอนโดผม พี่จะไปไหน” ผมเสียงดังขึ้น
“บ้านพี่ แล้วอย่าพูดเสียงแบบนั้นกับพี่”
บ้านไอ้พี่พฤกษ์งั้นเหรอ
“เดี๋ยวนะ...ทั้งหมดที่พี่ทำแม่งโคตรไม่มีเหตุผลเลย”
ผมทนไม่ไหวต้องหันไปพูดใส่หน้ามัน แต่มันไม่ตอบและไม่มองผม ตามองไปข้างหน้าเท่านั้น
“พี่จะพาผมไปบ้านพี่ทำไม”
“คุย เราจะคุยกันให้รู้เรื่อง”
“ผมไม่ไป เคลียร์กันในรถให้มันจบนี่แหละ”
“ไม่ เพชรไม่มีสิทธิปฏิเสธ”
“ไม่มีสิทธิบ้าอะไร พี่อะมีสิทธิอะไรมาสั่งผม”
ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดหยาบคายกับไอ้พี่พฤกษ์เลย มันหันมามองผมแล้ว
“นี่ยังไม่ได้เคลียร์เรื่องที่เพชรจะต่อยพี่เลยนะ”
ยังงี้นี่เอง มันโกรธผมเพราะเรื่องนี้
“หึ ก็ดูที่พี่ทำดิว่ามันน่าต่อยมั้ย” ผมพูดนิ่มๆ ตั้งใจยั่วโมโหเจ้าของ volvo
“เพชร พี่เป็นรุ่นพี่เรานะ” เสียงมันตอนนี้ดูโกรธมากเลยทีเดียว
“ผมว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องหรอก...ถ้าผมไปลากตัวพี่มาตอนกำลังเดทอยู่ พี่อยากต่อยผมมั้ยล่ะ”
มันเงียบ และผมรู้ว่ามันไม่มีเหตุผลมาเถียง ผมโจมตีต่อ
“จะบอกให้ฟังนะ ที่สองวันก่อนผมไปเข้ากรุ๊ปก็เพราะแนนเค้าไม่ว่างมาดูหนัง ไม่ได้อยากไปเลยสักนิด...พี่ก็เห็นนิว่าผมไม่ได้สนุกกับกิจกรรมเลย ผมอยากอยู่เฉยๆ เรียนเสร็จแล้วจะไปไหนก็ได้ที่อยากไป…”
ไอ้พี่พฤกษ์ยังนิ่งเฉย ไม่รู้เลยว่ามันคิดยังไงกับสิ่งที่ผมพูด
“คนที่มาเข้ากิจกรรมก็ครึ่งๆ ไม่ได้มีผมคนเดียวที่ไม่เต็มใจ ยังไงพี่ก็ไม่มีทางบังคับให้น้องมาได้ทุกคนหรอก...พี่ชอบโดนบังคับงั้นอ่อ พี่เห็นคนที่เค้าไม่อยากมาแต่ต้องมาแล้วมีความสุขอ่อ”
ผมใส่เป็นชุด ตั้งใจจะให้มันยอมแพ้ให้ได้
ใจจริงผมก็ไม่ได้ไม่ชอบกิจกรรมรับน้องอะไรขนาดนั้นหรอกครับ ยังไงก็คงไม่ถึงขั้นไม่เข้าร่วมสังคมเลย ผมแค่ไม่ชอบถูกบังคับ
และผมก็ไม่ได้เกลียดขี้หน้าไอ้พี่พฤกษ์ถึงขั้นไม่อยากยุ่งด้วย แต่อยากให้มันเข้าใจผมบ้าง และรู้ว่าสิ่งที่มันทำกับผมก็ผิดเหมือนกัน
“ถ้าพี่ไม่ได้โกหกเรื่องที่บอกว่าอยากรู้จักผม พี่ก็เข้ามาคุยกันดีๆดิ ทำไมต้องมาแกล้งมาบังคับกันยังงี้”
ประโยคหลังผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดเลย แต่ไม่รู้ตัวเองว่าพูดออกไปได้ยังไงเมื่อมองหน้าไอ้พี่พฤกษ์
ในที่สุด มันยูเทิร์นรถตรงจุดที่ใกล้ที่สุดที่อนุญาตให้ทำได้แล้วข้ามมายังถนนฝั่งตรงข้าม
“พี่ยูเทิร์นทำไม”
“พี่จะกลับไปส่งเราที่คอนโด”
“เดี๋ยว ไหนบอกจะไปคุยกันที่บ้านพี่ไง ผมยังเคลียร์กับพี่ไม่จบ”
“พี่เข้าใจทุกอย่างแล้ว...เราเคลียร์กันจบแล้ว”
“เดี๋ยวดิ”
ผมประท้วง ไม่เข้าใจมันเลย
“พี่ขอโทษ ทั้งหมดพี่เป็นคนผิดเอง”
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ไอ้พี่พฤกษ์พูดจนมาถึงหน้าคอนโด ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเช่นกันทั้งๆที่ตั้งใจจะพูดอีกหลายเรื่อง
ผมมองเห็นแววตาเสียใจสะท้อนอยู่ในดวงตาไอ้พี่พฤกษ์ ซึ่งมันทำให้ผมพูดไม่ลง

TBC

เอ้า พี่พฤกษ์โกรธแล้ว ทำไงดีครับเนี่ย
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย EP12 I wish I could ignore you like you ignore me
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 14-08-2018 22:30:50
EP12 “I wish I could ignore you like you ignore me.”

“เมื่อวานมึงไปกับใครมาวะ ไม่เห็นบอกพวกกูเลย” ไอ้เจมส์เซ้าซี้ตั้งแต่ผมโผล่หัวเข้ามาในห้องเรียนเช้าวันต่อมา
“ป๊าว” ผมตอบเลี่ยงๆ ไม่ได้จะปิดบังอะไรหรอกครับ แค่ไม่มีอารมณ์จะเล่าเรื่องเมื่อวาน
“แหม่ ปิดข่าวเงียบเลยนะ แต่กูเห็นละโว้ย พี่แนน อักษรที่เจอเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไง ร้ายสาดดด”
“ห่า รู้แล้วยังถามอีก” ผมโบกหัวไอ้เพื่อนรักไปทีหนึ่ง
“แล้วเป็นไง ดูหนังเสร็จแล้วได้ไปต่อรึป่าวจ๊ะ”
“ป่าวโว้ย กูคนดี”
“ถุย”
“ไอ้เพชร เมื่อวานเป็นไงมั่งวะ” ไอ้นิวที่พึ่งมาถึงห้องเรียนถามผมเป็นสิ่งแรก วันนี้แปลกครับเพราะมันมาสายกว่าผม
“มันยังไม่ได้ทำอะไรกับพี่เค้า เซ็งเลย” ไอ้เจมส์ตอบแทนผม
“ไรว้า” ไอ้นิวร้องเสียดาย
“พวกมึงนี่ก็นะ ใจเย็นดิ...ว่าแต่มึงทำไมมาสายไอ้นิว”
“เมื่อคืนหลังกรุ๊ปกูไปกินเหล้ากับเพื่อนมัธยมมา กลับถึงหอตีสอง” มิน่าล่ะ
“แล้วพี่พฤกษ์ก็ไม่ได้มากรุ๊ป เค้าไม่ไปตามตัวมึงถึงที่หรือไงวะ” ไอ้เจมส์ถาม
“มาดิ น่าเบื่อแม่ง”
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวหัวเราะและถามรายละเอียดต่อ แต่ผมไม่เล่า พวกมันก็เลยเลิกถามไป
ผมยังจำสีหน้า แววตา และน้ำเสียงที่แสดงถึงความเสียใจของไอ้พี่พฤกษ์เมื่อวานได้ดี พยายามจะสลัดมันให้หลุดออกไปจากหัวยังไงก็ทำไม่ได้
และที่น่าแปลกก็คือ ทำไมผมกลับรู้สึกผิดที่ทำให้พี่มันเสียใจ
นี่คือสิ่งที่ผมต้องการตั้งแต่แรกไม่ใช่เหรอ

ความรู้สึกผมถูกทดสอบอีกครั้งตอนพักเที่ยง เมื่อลงไปกินข้าวที่โรงอาหารพร้อมไอ้เจมส์กับไอ้นิว พอไอ้เจมส์เห็นพวกพี่เกี้ยงก็รีบตรงไปนั่งที่โต๊ะเดียวกันทันที
“มาๆน้อง นั่งกินข้าวด้วยกัน” พี่เกี้ยงขยับตัวให้พวกผมอย่างอัธยาศัยดี ทั้งๆที่ที่นั่งก็เหลือสบายๆเพราะเป็นโต๊ะตัวยาว
“ขอบคุณครับพี่” ไอ้เจมส์กับไอ้นิวตอบ
“หวัดดีน้อง...ไอ้พฤกษ์มึงไม่ทักทายน้องรักหน่อยอ่อ” พี่ริวพูดยิ้มๆ แล้วพยักเพยิดมาทางผม
ไอ้พี่พฤกษ์กับผมมองหน้ากันอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนที่ต่างฝ่ายจะหันไปคนละทาง
“อ่าว” พี่ริวร้อง ทุกคนยกเว้นผมกับไอ้พี่พฤกษ์มองอย่างงงๆ
“กูไปซื้อข้าวก่อนนะ” ผมบอกเพื่อนก่อนจะเดินไปจากโต๊ะ
“อ้าวไอ้เพชร รอด้วยดิ รีบไปไหนของมึงวะ...เดี๋ยวมานะพี่” ไอ้เจมส์บอกพี่ๆแล้วตามผมมาพร้อมกับไอ้นิว
ผมเห็นหน้าไอ้พี่พฤกษ์ก็รู้สึกผิดอีกแล้ว
กลับมาที่โต๊ะอีกครั้งผมดันต้องไปนั่งตรงข้ามกับไอ้พี่พฤกษ์ เพราะมีนิสิตคนอื่นมานั่งข้างๆไอ้นิวแล้ว แต่เราไม่ได้คุยกันสักประโยคเดียว ไม่แม้แต่มองหน้ากัน เพราะพอผมเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวแล้วเห็นไอ้พี่พฤกษ์มองอยู่ เราทั้งคู่ก็หันไปทางอื่นทันที
แม่งเอ๊ย อึดอัดชะมัด
ผมจึงรีบกินให้หมดโดยเร็วที่สุดแล้วลุกออกไปจากโต๊ะ
“อ้าวเห้ย ไปไหนวะมึง” ไอ้เจมส์ตะโกนถาม
เสียมารยาทก็ต้องยอมแล้วล่ะ ณ จุดนี้
ผมกำลังจะเรียกพี่วินหน้าม.ไปสยาม ไอ้เจมส์ก็โทรมา
(มึงอยู่ไหนไอ้เพชร)
“กูกำลังจะไปสยาม มึงมีไร”
(พี่เกี้ยงชวนพวกเราไปเล่นเกมร้านเดิม ทุกคนไปกันหมดเลยนะเว้ย ไปมะ)
ผมไม่รู้สึกอยากเล่นเลยสักนิด
“ไม่อะ กูเบื่อ อยากไปเดินเล่น”
(เออๆ แล้วแต่...แล้วเย็นนี้กลับมาเข้ากรุ๊ปด้วย)
“เดี๋ยวดูก่อน”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต่อไปไอ้เจมส์กับไอ้นิวต้องคุยกันเรื่องท่าทีของผมแน่ เผลอๆอาจกำลังคุยกันอยู่ด้วยซ้ำ
ปกติเวลาผมหงุดหงิดหรือไม่สบายใจ อย่างน้อยผมก็รู้สาเหตุ แต่นี่ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมไม่รู้สึกโกรธไอ้พี่พฤกษ์แล้ว แถมยังเก็บเอาเรื่องมันมาคิดอีก

ผมตัดสินใจกลับมาที่คณะอีกครั้งตอนสี่โมงเย็น
“ไอ้เพชร” ไอ้นิวที่นั่งอยู่ในกรุ๊ปแล้วหันมาเห็นผมคนแรก
“ไงมึง”
“เมื่อตอนเที่ยงมึงมีอะไรป่าววะ เล่าให้กูฟังได้นะ” มันบอก ท่าทางเป็นห่วง ไอ้เจมส์ก็หันมาหาผม นั่งเงียบรอฟังคำตอบ
“ป่าวหรอก ขอบใจนะมึง” ผมตบบ่ามันเบาๆ
ผมกวาดตามองไปรอบๆเพื่อหาตัวไอ้พี่พฤกษ์ แต่ไม่เห็นมันเลย เห็นก็แต่พี่เกี้ยงกับพี่ริว อย่างมันเนี่ยนะจะไม่มาเข้า
ใจผมไม่ได้โฟกัสกับกิจกรรมที่พี่ๆให้ทำเลย จนห้าโมงครึ่งพี่ๆก็ปล่อย ผมเดินเข้าไปหาพี่ริวทันที
“พี่ริว”
“ว่าไงเพชร”
“พี่พฤกษ์ไปไหนอะครับ”
“มันบอกว่าปวดหัว กลับบ้านไปตั้งแต่บ่ายแล้ว”
โกหกชัดๆ
“พี่ไม่รู้ว่ามันกับน้องมีปัญหาอะไรกัน...แต่อยากให้เพชรดีกับมันนะ” พี่ริวพูดพร้อมจับไหล่ผม
“พี่เห็นด้วย” พี่เกี้ยงเสริม เดินเข้ามายืนข้างพี่ริว
“เอ่อ...ผมขอเบอร์พี่พฤกษ์หน่อยดิ”
หลังกินข้าวกับไอ้เจมส์ไอ้นิวเสร็จ พวกเราก็แยกย้ายกันกลับ เพื่อนสองคนดูจะรู้ว่าผมกำลังเซ็งๆอยู่ พวกมันเลยไม่ได้คุยเฮฮาอะไรกันเลย
ระหว่างนั่งแท็กซี่กลับ ในหัวก็ดันนึกถึงรถ volvo สีเงินขึ้นมา ถ้าเรื่องไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ผมอาจกำลังนั่งอยู่ในรถไอ้พี่พฤกษ์ก็ได้
ทำไมผมคิดฟุ้งซ่านขนาดนี้วะ
ได้เบอร์ไอ้พี่พฤกษ์มาแล้ว แต่ผมยังสองจิตสองใจว่าจะโทรไปหรือไม่ พี่มันจะคุยกับผมมั้ย โทรไปแล้วจะพูดอะไร
จนมาถึงห้องแล้วนั่นแหละ ผมเปิด facebook เลื่อน feed ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วเห็นโพสต์ล่าสุดของไอ้พี่พฤกษ์
‘I wish I could ignore you like you ignore me.’
ผมอึ้ง นี่มันหมายถึงผมงั้นเหรอ
มีคนแห่กัน comment สอบถามและให้กำลังใจเพียบ แต่มันยังไม่ได้ reply สักคน
หรือมันอาจจะไม่ได้หมายถึงผมก็ได้ ไอ้พี่พฤกษ์อาจกำลังอกหัก
ไม่ว่า status นั่นจะเกี่ยวกับผมหรือไม่ ยังไงก็ไม่อยากให้ผมกับมันต้องค้างคากันแบบนี้ ในที่สุด ผมตัดสินใจโทรไปหาไอ้พี่พฤกษ์
มันกดรับเร็วจนผมตกใจ
(ฮัลโหลครับ)
เชี่ย เริ่มไงดีวะ
“อะ เอ่อ…”
(ใครครับ)
“ผม...เพชร”
ปลายสายเงียบไปนานก่อนตอบ
(ครับ ว่าไง)
ผมใจแป้ว น้ำเสียงไอ้พี่พฤกษ์ฟังดูห่างเหิน
“เพชร เอ่อ...ขอโทษ…”
(...)
แล้วคำว่าขอโทษก็หลุดออกจากปากผมไปเป็นอย่างแรก
ที่ทำให้รู้สึกไม่ดีคือพี่มันเงียบใส่
“พี่พฤกษ์”
(คะ ครับ)
มึงจะตะกุกตะกักอีกคนไม่ได้นะเห้ย
“เพชรรู้ว่าเมื่อวานพูดแรงไปหน่อย แล้วก็...ที่จะต่อยพี่ด้วย”
(...)
อย่าเงียบดิวะพี่
“เพชรผิดเอง ขอโทษนะครับ”
สาบานเลยว่าไม่เคยคิดดีพูดดีขนาดนี้ตั้งแต่เกิดมา ผมไม่อยากปฏิเสธตัวเองว่ารู้สึกผิดจริงๆ
(น้องเพชร...พี่ผิดเองแหละที่บังคับเรา แกล้งเราสารพัด...อย่าโทษตัวเองเล...)
“จริงๆเพชรไม่ได้เกลียดกิจกรรมกรุ๊ปนะครับ เพชรแค่ไม่ชอบโดนบังคับให้ไปเข้าทุกครั้งเท่านั้นเอง” ผมรีบแทรกขึ้นมา เหมือนเด็กที่กำลังสารภาพผิดกับผู้ใหญ่
(ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร...ไม่ต้องฝืนตัวเองหรอก)
“ไม่ได้ฝืน จริงๆนะพี่”
ทำไมผมต้องร้อนรนอธิบายมันด้วยนะ
(ถ้าเพชรไม่อยากก็ไม่ต้องแล้วนะครับ พี่สัญญาว่าจะไม่บังคับอะไรน้องอีกแล้ว) ไอ้พี่พฤกษ์พูดเสียงอู้อี้
มันเสียใจขนาดนี้เลยเหรอ
ผมนึกว่าโทรศัพท์คุยกับไอ้พี่พฤกษ์แล้วจะรู้สึกดีขึ้น แต่เปล่าเลย ผมกลับรู้สึกแย่ลงกว่าเดิม ที่ไอ้พี่พฤกษ์บอกว่าจะไม่บังคับอะไรอีก ฟังเหมือนมันจะไม่มายุ่งกับผมอีกแล้ว
และผมสงสัยเป็นที่สุดว่าทำไมผมต้องรู้สึกผิดขนาดนี้ ทำไมผมไม่ดีใจเลยที่พี่มันไม่ยุ่งกับผมแล้ว ทำไมผมไม่ได้เกลียดไอ้พี่พฤกษ์ทั้งที่ควรเกลียด
โคตรงี่เง่า

วันสุดท้ายของการเรียนในสัปดาห์มาถึง ผมมาเข้าห้องเรียนหลังคลาสเริ่มไปแล้วเกือบหนึ่งชั่วโมง
“ไอ้เพชร เย็นนี้กรุ๊ปเรามีเลี้ยงข้าวอีกแล้วนะเว้ย ไปปะ” ไอ้เจมส์รายงานผมเรื่องของแดกเป็นอันดับแรกเลย
“ที่ไหนวะ”
“สเต็ก Jeffer พี่เค้าจองทั้งร้านเพื่อเลี้ยงเลยนะเว้ย”
“ก็...ไปดิ” ผมคิดนิดหนึ่งก่อนตอบ ไม่ใช่เหตุผลเรื่องของฟรีแน่ๆที่ผมไป แต่เพราะอยากเจอไอ้คนที่ทำผมคิดมากเนี่ยแหละ ถึงยังไม่รู้ว่าพี่มันจะมาวันนี้รึป่าว
“แต่พี่เค้าบอกว่าไม่มีเลี้ยงเหล้าต่อนะเว้ย แดกเสร็จก็แยกย้ายเลย” ไอ้นิวว่า
“ยังงี้มึงเปลี่ยนใจไม่ไปแน่” ไอ้เจมส์ถาม
“สัส มึงนึกว่ากูไปเพราะแดกฟรีอย่างเดียวรึไง ไม่เปลี่ยนใจโว้ย”
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวหัวเราะ
“แล้ว…” ไอ้เจมส์ดูเหมือนไม่แน่ใจว่าจะพูดเรื่องต่อไปดีมั้ย
“มึง...โทรไปคุยกับพี่พฤกษ์ยัง”
“คุยละ แต่ไม่เคลียร์”
อะไรบางอย่างบนใบหน้าผมบ่งบอกว่าไม่อยากให้ถามต่อ ไอ้เจมส์ที่สนิทกับผมมานานเลยหยุด ผมเห็นมันส่งซิกห้ามไอ้นิวที่ทำท่าเหมือนจะถามต่อด้วย
ไอ้เจมส์มันเข้าใจผมว่าไม่ชอบให้ใครมาซักไซ้มากเกินไป หลายครั้งที่มันเป็นห่วงแต่คอยช่วยเหลือผมในรูปแบบอื่นมากกว่าจะให้ผมเปิดปากเล่าปัญหา ผมรักมันก็ตรงนี้
วันนี้ไม่มีการเล่นเกมที่กรุ๊ปแต่พี่ๆนัดปีหนึ่งให้ไปเจอกันที่ร้าน Jeffer ในห้างข้างๆคณะผมตอนห้าโมงเย็นเลย พอใกล้เวลานัด สามหล่อก็เดินไปรอหน้าร้าน
“พวกมึง หลังนี่เราไปแดกเหล้าต่อกันเองปะ” ไอ้ต่อ เพื่อนในกรุ๊ปคนนึงหันมาชวนพวกผม
“กูสนนะ” ไอ้นิวตอบ หันมามองผมกับไอ้เจมส์
“ได้นะ แต่มึงต้องดูแลกูนะนิว และวันนี้กูต้องกลับก่อนสี่ทุ่ม”
ไอ้นิวกับไอ้ต่อหัวเราะพรืด
“ห่า กลับก่อนสี่ทุ่มก็ไม่ต้องไปแล้วล่ะไอ้เจมส์” ไอ้ต่อพูด
“สัส กูอยากแดกนิ แต่วันนี้แม่บอกห้ามกลับเกินสี่ทุ่ม”
“เออๆ เดี๋ยวกูดูมึงเอง คอยควบคุมเวลากลับบ้านมึงด้วย” ไอ้นิวตอบ
“ดีมาก...มึงอะ ไปปะเพชร” ไอ้เจมส์หันมาถามผม
“ไม่ว่ะ คืนนี้กูอยากนอน” ผมนอนหลับไม่เต็มที่มาสองคืนติดแล้ว อีกอย่างคือผมไม่ชอบใช้เหล้าบรรเทาความเซ็งหรือเรื่องทุกข์ใจ ผมชอบกินเพราะอยากสนุกมากกว่า
“โด่ ไรวะ ไม่ไปอ่อไอ้เพชร” ไอ้ต่อเซ้าซี้
“ไม่อะ” ผมปฏิเสธอีกครั้ง
“เคๆ”
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวไม่ได้ชวนต่อ คงรู้ดีว่าผมไม่อยู่ในอารมณ์จะสังสรรค์เลย
เข้าร้านไปแล้ว เหล่าบริกรก็ยกสเต็กมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ พวกพี่ๆประกาศว่าถ้าใครอยากสั่งอะไรเพิ่มก็ได้เต็มที่ไม่มีอั้น ดีโคตร
“เชี่ยยยย กูจะสั่งเพิ่มทุกอย่างเลย” ไอ้เจมส์ว่า ตะกละซะความหล่อมึงลดไปหลายlevelเลยนะ
“กูว่ามึงแดกที่พี่เค้าสั่งให้หมดก่อนเหอะ แค่นี้ก็เยอะชิบ” ผมบอก
“พี่บอสครับ ผมอยากได้หอมทอดเพิ่ม แล้วก็ผักโขมอบชีสด้วย ได้มั้ยครับ” นั่น มันฟังผมเมื่อไรล่ะ หันไปถามรุ่นพี่ที่ผมไม่รู้จัก พี่แกพยักหน้าตอบกลับมายิ้มๆ
“ไอ้ตะกละเอ๊ย”
ไอ้นิวหัวเราะ แต่จู่ๆมันก็หยุด
“อะไรวะ” ผมถาม
ไม่ต้องรอคำตอบเมื่อผมหันไปตามสายตาไอ้นิว พี่เกี้ยง พี่ริว และไอ้พี่พฤกษ์กำลังเดินเข้ามาในร้าน ไอ้พี่พฤกษ์ชะงักไปเมื่อเห็นผม
แล้วมันก็หันหน้าไปอีกทางอย่างรวดเร็ว
ไอ้เจมส์ก็สังเกตเห็นแล้วเช่นกัน มันหยุดเพลิดเพลินกับอาหารตรงหน้าแล้วมองมาที่ผมอย่างไม่สบายใจ
พี่ทั้งสามคนเดินไปนั่งโต๊ะที่ไกลจากที่พวกผมนั่ง ผมสบตากับพี่ริวแวบหนึ่งด้วย

ผมไม่ enjoy กับอาหารมื้อนั้นเลย ไม่ใช่ว่าอาหารไม่อร่อย แต่เพราะเมื่อกี้ไอ้พี่พฤกษ์ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน ผมหงุดหงิดและแปลกใจตัวเองอีกครั้งว่าทำไมต้องหงุดหงิดเพราะมันไม่สนใจด้วย
ผมกำลังคิดว่าจะเข้าไปคุยกับไอ้พี่พฤกษ์ยังไงก็พอดีพี่แกลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินออกไป จะไปไหนนะ
“ไปไหนไอ้เพชร” ไอ้เจมส์น่าจะรู้ว่าผมกำลังจะตามไอ้พี่พฤกษ์ไป มันเห็นว่าผมลุกขึ้นทันทีที่พี่มันออกจากร้าน
“เดี๋ยวกูมา”
ผมตามไปโดยไม่ให้รู้ตัว ปรากฎว่าไอ้พี่พฤกษ์ไปเข้าห้องน้ำครับ ผมเลยรอมันอยู่ด้านหน้าสักเดี๋ยว
“พี่พฤกษ์”
คนถูกเรียกสะดุ้งเล็กน้อยตอนเดินออกมา เพราะไม่ทันสังเกตเห็นว่าผมมาดักรอ
“ครับ”
มันไม่ได้ยิ้มเหมือนปกติที่เจอผม
“ผมขอคุยด้วยหน่อย”
“เอ่อ เพชรจะคุยอะไร”
ผมไม่พอใจท่าทีที่ดูไม่อยากยุ่งกับผมนั่นเลย
“ที่เรายังเคลียร์กันไม่จบไง”
“เราเคลียร์กันจบแล้วนี่ครับ”
“พี่โกรธอะไร ทำไมต้องเมินผมด้วย”
ผมโพล่งออกไปก่อนจะคิดและห้ามตัวเองได้ทันอีกแล้ว
มันดูประหลาดใจมากที่เห็นว่าผมรู้สึกแย่
“พี่ไม่ได้โกรธ”
“หรอครับ เมื่อวานพี่บอกว่าจะไม่บังคับอะไรอีก ยังงี้ไม่โกรธแล้วเรียกว่าอะไร”
ผมกะจะพูดดีๆ แต่อารมณ์ก็นำคำพูดอีกแล้ว
“ไม่ได้โกรธจริงๆ พี่แค่ไม่อยากบังคับเพชรอีก...พี่ก็รู้สึกไม่ดีที่ทำแบบนั้นกับเรานะ…”
ดวงตา ท่าทางไอ้พี่พฤกษ์แสดงความเสียใจอย่างจริงใจ
“ผม…” ผมเขวไป
“เอาเป็นว่าพี่ขอโทษทุกเรื่องนะ...ต่อไป…”
ไอ้พี่พฤกษ์ก้มมองพื้น พูดประโยคต่อมาอย่างลำบาก
“พี่จะไม่ทำให้เพชรไม่พอใจแล้ว”
พักใหญ่ผมถึงรู้ตัวว่าไอ้พี่พฤกษ์เงยหน้าขึ้นมองผมแล้ว เราสบตากันด้วยความว่างเปล่า และจังหวะที่มันกำลังจะก้าวเท้าผ่านผมไป ผมอดใจไม่ไหวจึงพูดออกมาว่า
“ผมเชื่อละว่าพี่ไม่โกรธ แต่ไม่ต้องเลิกยุ่งกับผมก็ได้นี่”

TBC
หัวข้อ: Re: EP13 “ผมเชื่อละว่าพี่ไม่โกรธ แต่ไม่ต้องเลิกยุ่งกับผมก้ได้นี่"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 18-08-2018 20:32:41
EP13 “ผมเชื่อละว่าพี่ไม่โกรธ แต่ไม่ต้องเลิกยุ่งกับผมก็ได้นี่”

วันเสาร์หมดไปอย่างไร้ประโยชน์ ผมหมกตัวอยู่แต่ในคอนโด ไม่รู้สึกอยากออกไปไหนหรือทำอะไรทั้งสิ้น
ไม่ต้องสืบหาสาเหตุเลย เพราะไอ้พี่พฤกษ์นั่นแหละ

“ผมเชื่อละว่าพี่ไม่โกรธ แต่ไม่ต้องเลิกยุ่งกับผมก็ได้นี่”
ผมพูดแบบนั้นออกไปได้ไงวะ ฟังดูตุ๊ดชิบหาย
แต่สิ่งที่ทำให้ผมคิดหนักกว่าคำพูดของตัวเองก็คือท่าทางไอ้พี่พฤกษ์หลังได้ยิน

มันหันกลับมามองผม ผมพูดไม่ออก
“เมื่อกี้เพชรว่าไงนะ”
“ปะ เปล่า”
ไอ้พี่พฤกษ์ดูเหมือนพยายามจะซ่อนรอยยิ้ม แต่ซ่อนไม่อยู่ แถมตางี้เป็นประกายเชียว ได้ข่าวว่าเมื่อกี้มึงรู้สึกผิดกับกูไม่ใช่อ่อพี่ ไอ้ความเศร้าโศกนั่นมันหายไปไหนหมด
ตอนนี้ผมเองเป็นฝ่ายที่จะเดินกลับเข้าไปในร้าน แต่มันฉุดแขนผมไว้
ห่า กูยิ่งดูตุ๊ดเข้าไปอีก
“เดี๋ยวสิครับ จะไปไหน”
อีกนิดเดียวปากมึงจะฉีกถึงหูแล้วนะครับ
“พี่ไม่เลิกยุ่งกับเพชรแล้วก็ได้”
นั่นไง แสดงว่าทีแรกมึงตั้งใจจะเลิกยุ่งกับกูจริงๆ
“พี่ขอโทษนะครับ ทุกเรื่องเลย”
“อะ อือ พี่ขอโทษผมเยอะไปละ...ผมเองก็ขอโทษ...กับทุกเรื่อง” ผมบอกเสียงเบา
ผมไม่ยอมมองสบตาไอ้พี่พฤกษ์เพราะทนเห็นยิ้มมันไม่ได้ แล้วมันก็ยกมืออีกข้างขึ้นมายีหัวผมเบาๆ

เช้าวันอาทิตย์ ผมตื่นขึ้นมาเจออากาศเย็นสบายผิดฤดู ไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือสนใจข้อความใน social media ทั้งหมดที่ใครส่งมาหา
แล้วผมก็นึกถึงหน้าไอ้พี่พฤกษ์ขึ้นมาเป็นคนแรก
ผมนอนแช่ในอ่างอาบน้ำเกือบชั่วโมง ครุ่นคิดเกี่ยวกับความรู้สึกของผมที่มีต่อมัน จริงๆแล้วผมรู้สึกยังไงกันแน่นะ
แปลก
ผมเลิกหลอกตัวเองไปแล้วว่าเกลียด เพราะผมไม่ได้เกลียดพี่มันเลย แล้วผมก็ไม่อยากให้มันเมินใส่หรือรู้สึกผิด เพราะเหตุการณ์ครั้งล่าสุด คนที่ควรจะรู้สึกผิดคือผม
อาบน้ำเสร็จออกมาก็เจอ missed call ของไอ้คนที่ทำให้ผมคิดไม่ตกเนี่ยแหละครับ
โทรมาทำไมวะ
(ฮัลโหลคร้าบ) ไม่ต้องรับสายกูเสียงหวานปานน้ำผึ้งขนาดนั้นก็ได้- -
“ว่าไงพี่พฤกษ์”
(พึ่งตื่นอะดิ เมื่อกี้พี่โทรไปไม่รับ)
“อาบน้ำอยู่”
(อ่ออ)
“แล้วโทรมามีไรครับ”
(พอดีเย็นนี้พี่ผ่านไปแถวคอนโดเพชรอะ จะชวนกินข้าวเย็นด้วยกัน)
“ก็ได้นะ”
(งั้นเดี๋ยวพี่ถึงแล้วโทรหานะครับ)
“อ่าฮะ”
(วันนี้น่ารักจัง ไม่ดื้อ)
พ่อง น่ารักอะไร กูขนลุก
“อะไรของพี่เนี่ย”
มันหัวเราะ
(เดี๋ยวเจอกัน)
ชวนกินข้าวงั้นเหรอ ผมนี่ง่ายเนอะ แต่ก็ไม่ได้อยากปฏิเสธนี่นา
จะคิดมากทำไมไอ้เพชร มึงอยากไปก็ไป ไม่อยากก็ไม่ต้อง ง่ายๆ

ไอ้พี่พฤกษ์โทรมาอีกครั้งตอนเกือบหกโมงเย็น เราตกลงกันว่าจะกินร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่อยู่ถัดไป1สถานีรถไฟฟ้านับจากคอนโดผม
“เพชร” ไอ้พี่พฤกษ์เรียกเมื่อผมเดินเข้าไปในร้านและกำลังมองหาพี่แกอยู่ มาเร็วกว่าผมอีกว่ะ
“พี่มานานยัง”
“สิบนาที พี่หิวมากเลย” มันทำท่าลูบท้องประกอบ
“สั่งรึยังครับ”
“เรียบร้อย สั่งให้เพชรแล้วด้วย”
มันจ้องผม ยิ้มร่า
“อะไรพี่”
“ป่าวครับ”
กูเห็นนะว่ามึงยังไม่หยุดมองแล้วยิ้มอะ มีความสุขมากปะพี่
“เมื่อวันศุกร์ทำไมเราไม่ไป brick bar ล่ะ”
“ผมเซ็งๆอะ”
อ่าวเห้ย หลุดพูดไปเสียแล้ว
“เซ็งเรื่องไร เล่าให้พี่ฟังได้นะครับ”
เรื่องมึงนั่นแหละไอ้พี่พฤกษ์ กูเล่าให้ฟังได้มั้ย
“เรื่องที่บ้านน่ะ”
มันเงียบรอฟัง แต่พอเห็นว่าผมไม่เล่าต่อ มันก็ไม่ได้ซักอะไร
“แล้วเป็นไง เมากลับมาอีกอะดิ” ผมยิ้มแซวมัน
“ป่าวซะหน่อย ครั้งนี้มีสติครบถ้วน”
“หราาา”
“ไม่เชื่อถามพวกน้องเจมส์ก็ได้”
“ดีแล้วครับ ไม่งั้นพี่ริวพี่เกี้ยงลำบากแน่”
“55555555”
ไอ้เจมส์ ไอ้นิว ไอ้ต่อ ไปชวนพวกพี่เค้านี่แหละไปก๊งกันต่อหลังสเต็ก Jeffer ทีแรกไอ้พี่พฤกษ์ไม่รู้ว่าผมไม่ได้ไป
“ถ้าเพชรไปด้วยพี่คงฝากให้ช่วยดูแลแหละ”
“ไม่เอาอะ”
ยังจะหัวเราะอีกแน่ะ
ผมคลางแคลงใจว่าความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างเราสองคนมันหายไปไหนหมด ถ้าย้อนไปสัปดาห์แรกที่ผมรู้จักกับไอ้พี่พฤกษ์นะ ไม่มีทางที่ผมจะมานั่งกินข้าวกับมันแล้วคุยกันดีๆแบบนี้หรอก
ว่าแต่พี้ยามาอ่อ ยิ้มอยู่นั่น
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อพิเศษ2ชามถูกยกมาวางบนโต๊ะ
“พี่สั่งเหมือนผมอ่อ”
“ครับ ก็พี่ไม่เคยกินเจ้านี้นี่นา เห็นเราสั่งแบบนี้เลยตาม”
“ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำตกพร้อมเครื่องในครบชุดเนี่ย signature ของร้านนี้เลยนะ”
“ถ้าไม่อร่อยทำไง” ไอ้พี่พฤกษ์หยั่งเสียงถาม
“โห ถ้าไม่อร่อยผมเลี้ยงพี่เลยมื้อนี้”
“ไม่เอา ถ้าไม่อร่อยพี่ก็ไม่อยากกินต่อ รับผิดชอบเป็นอย่างอื่นดิ”
เรื่องมันหนักหนาสาหัสขนาดกูต้องรับผิดชอบเลยรึไงฟะ
“อะ พี่อยากให้ทำไร”
“อืมม ตอนนี้คิดไม่ออกแฮะ ไว้เดี๋ยวบอกละกัน”
“ไม่ได้บอกแน่ ใครกินก็อร่อย พี่ลองกินก่อนเหอะ”
“ครับๆ” มันยิ้มหวาน นี่ตั้งแต่ผมมาถึงมันยังไม่หุบยิ้มเลย
มันเริ่มจากตักน้ำซุปชิมก่อน หึ ดูหน้าพี่มันก็รู้แล้วว่าทึ่ง ถึงเครื่องถึงรสเลยดิ ต่อด้วยเส้นเล็กและเนื้อในคำเดียวกัน
“ไงพี่”
“อือ อร่อยอะ” ตาโต จือปากเชียวนะ เชื่อรึยังล่ะ
“ผมบอกแล้ว อย่าท้า”
มันหัวเราะเบาๆและกลับไปกินต่อ
“เออพี่ เมื่อวันศุกร์เห็นไอ้ต่อพูดถึงเรื่องทริปรับน้อง มันจัดวันไหนอ่อ”
“ของกรุ๊ปเราวันศุกร์หน้าครับ”
ผมพยักหน้า
“ไปปะ ไปเที่ยวกัน”
“ได้ครับ”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มแฉ่ง
ผมอยากรู้ว่ารับน้องนอกสถานที่จะเป็นยังไงน่ะครับ เค้าทำอะไรกันบ้าง จะได้มีประสบการณ์สักครั้งในชีวิต ถ้าไม่ชอบก็จะได้รู้ว่าไม่ชอบเพราะอะไร
“แล้วเรื่องเรียนเรามีปัญหาอะไรมั้ย”
“ไม่รู้ดิ”
“หืม ไม่รู้ได้ไง”
“ผมไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไรอะดิ”
“แบบว่าเรียนไหวมั้ย ต้องปรับตัวเยอะมั้ย”
“ไม่นะ เพราะผมไม่ตั้งใจเรียนด้วยมั้ง คาบเช้านี่เข้าสายตลอด บ่ายก็หลับหลายครั้ง” ผมพูดกลั้วหัวเราะ ตอนนี้อาจจะยังรู้สึกชิวๆอยู่ เดี๋ยวพอใกล้สอบไฟก็มาเองแหละ
“ไม่ได้นะ เพชรต้องตั้งใจเรียนดิ ปีแรกเนี่ยง่ายสุดแล้ว ปีสูงๆยิ่งยากกว่านี้นะครับ รู้มั้ย” ความรู้สึกตอนนี้เหมือนมีพี่ชายมาอบรมยังไงก็ไม่รู้
“คร้าบ” ผมลากเสียงยาวอย่างเบื่อๆ
เราทั้งกินทั้งคุยกันเพลินจนถึงสองทุ่ม ไอ้พี่พฤกษ์เสนอจะขับไปส่งที่คอนโด
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไร ใกล้แค่นี้เอง เดี๋ยวผมเดินกลับได้”
“ไม่เป็นไร มันมืดแล้ว เดินกลับคนเดียวอันตราย”
ผมหัวเราะ
“ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะพี่”
“ไม่เอาน่า ให้พี่ไปส่งเถอะ”
ผมน่าจะรู้นิสัยไอ้พี่พฤกษ์ดีนะว่ามันดื้อขนาดไหน
“ครับๆ”
“พี่เป็นห่วงเรานะ”
มันพูดเสียงฟังดูอ่อนโยนจังวะ
ผมเดินตามมันไปขึ้นรถสีเงินที่ดูเหมือนจะเป็นรถประจำตัวผมไปแล้วด้วยซ้ำ อยากถามไอ้พี่พฤกษ์เหมือนกันว่ามีใครได้ขึ้นบ่อยเท่ากับผมมั้ย
“บ้านพี่อยู่ไหนอะ”
มันยิ้มก่อนตอบ
“อยากไปเที่ยวอ่อ ไปคืนนี้เลยปะล่ะ”
“ไม่ใช่ละ ถามเฉยๆ”
“แถวบางซื่อครับ”
“ไหนบอกว่าทางเดียวกับคอนโดผมไง” ขี้โม้ที่หนึ่งเลยพ่อคนนี้
“พี่บอกตอนไหนเหรอ” แน่ะ ไม่เนียน
“ไกลนะเนี่ย ทำไมพี่ไม่นั่งรถไฟฟ้ามาเรียนอะ ไม่เบื่อรถติดอ่อ”
“พี่ชอบขับรถมากกว่ายืนโหนรถไฟฟ้ามาเฉยๆ”
ผมหันไปมองไอ้พี่พฤกษ์ มันก็กำลังมองผมอยู่พอดี ผมเลยหันหน้ากลับมามองถนน
เมื่อรถมาจอดหน้าคอนโด ผมพูดขึ้นอีกครั้ง
“ขอบคุณครับ”
“ยินดีครับ”
ผมยังไม่ลงจากรถ ไอ้พี่พฤกษ์เลิกคิ้ว
“พรุ่งนี้...เจอกันที่กรุ๊ปนะครับ”
มันยิ้มกว้างออกมา
“ผมไม่ได้ไปเพราะถูกบังคับนะ ครั้งนี้ผมอยากไปจริงๆ”
“ขอบคุณที่เปิดใจนะครับ...แต่ถ้าวันไหนเพชรไม่รู้สึกอยากไปกรุ๊ปก็ไม่ต้องไปนะ...พี่ไม่ว่าอะไรแล้ว” มันเสริมเสียงอ่อย”
“ครับ”
“เดี๋ยวเพชร”
ผมที่กำลังจะเปิดประตูหยุดชะงัก
“พี่ขออะไรหน่อยดิ”
“ขอได้ไง ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออร่อยนิ” ผมยิ้มมุมปาก เตือนความจำไอ้พี่พฤกษ์เรื่องเดิมพันมื้อเย็น
“เอ่อ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องก๋วยเตี๋ยว”
“แบบนี้ก็ได้เหรอ”
มันหัวเราะ
“คือ...กลับมาแทนตัวเองว่าเพชรได้ปะ”
หือ ผมจะเรียกแทนตัวเองว่า ‘ผม’ หรือ ‘เพชร’ นี่มันสำคัญขนาดนั้นเลยรึไง
“อย่างที่บอก พี่แค่คิดว่ามันดูสนิทกันแล้วน่ะ” ไอ้พี่พฤกษ์พูดพลางเกาหัว
ผมนิ่ง มันเงยหน้ามองผมอย่างรอคำตอบ
“เพชรไปละ”
ผมผลักประตูแล้วหันกลับมามองที่ volvo เจ้าของรถยิ้มกว้างมากกว่าเมื่อกี้เสียอีก

เย็นวันต่อมา สามหล่อเดินกอดคอกันไปเข้าร่วมกิจกรรมตอนเย็นที่กรุ๊ป4 ผมกับไอ้เจมส์กำลังแหย่ไอ้นิวเรื่องสาวอักษรที่มาขอเบอร์มัน คือไอ้นิวกำลังจะไปออกล่า เอ้ย ออกเดทกับเค้าเย็นนี้อะครับ
ไอ้นิวหน้าแดงมาจะได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว
“มึงก็รีบรวบรัดนะเว้ย อย่ามัวชักช้าเหมือนเชี่ยเพชรอยู่” ไอ้เจมส์ว่ากระทบผม
“ห่า กูค่อยเป็นค่อยไปโว้ย มึงไม่รู้อะไร”
“จะเปลี่ยนกลยุทธ์รึไง เห็นตอนม.ปลายนี่รีบเอาๆ” แฉกูอีกไอ้เจมส์
“สัส ตอนนั้นฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่านมั้ยล่ะ”
“กูไม่ทำอะไรเค้าหรอกน่า แค่ดูหนัง กินข้าว ละก็ไปส่งเค้ากลับบ้าน” นี่ไอ้นิวมันไปเป็นพระเอกตั้งแต่เมื่อไร อย่าลืมว่าตอนแนน ผมไม่ได้คิดแบบมันนะ แต่โดนไอ้พี่พฤกษ์ทำเสียแผน- -
“ถุย” ไอ้เจมส์ว่า
เข้าไปนั่งรอในกรุ๊ปได้เดี๋ยวเดียว พี่ๆก็เริ่มกิจกรรม ตอนนั้นเองพวกไอ้พี่พฤกษ์ก็มาถึง
พอพี่แกเห็นผมก็โบกมือมาให้ ผมเลยยักคิ้วตอบกลับไป
แล้วพี่แนทก็ออกมายืนข้างหน้า ประกาศว่ากิจกรรมในวันนี้มี2อย่าง คือจะสอนร้องเพลงของคณะและมหาวิทยาลัย กับให้รีบเคลียร์สมุดล่ารายเซ็นรุ่นพี่ หึหึ ของผมที่ต้องทำมากกว่าเพื่อนคนอื่นยังไปไม่ถึงไหนเลย
“ว้า งั้นวันนี้กูก็สบายละ เพราะของกูครบแล้ว” ไอ้เจมส์ว่า
“เชี่ยย มึงครบแล้วจริงดิ” ผมคว้าสมุดที่มันพึ่งหยิบจากกระเป๋ามาดู เออ ลายมือรุ่นพี่ไม่รู้กี่คนเต็มแน่นทุกหน้าเลย มึงเอาเวลาที่ไหนไปทำวะ
“ของกูเหลืออีก5-6คน” ไอ้นิวหยิบสมุดตัวเองออกมานับดูบ้าง
“แล้วมึงอะเพชร” ไอ้เจมส์หันมาถาม
“ยังไม่ถึงครึ่งเลยสัส” ผมหน้าบูด เพื่อนสองคนหัวเราะทันที
เกือบหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ปี1ได้เรียนรู้เพลงสำคัญๆและประวัติความเป็นมาของเพลงประจำคณะและมหาวิทยาลัย จะบอกว่าผมจำเนื้อไม่ได้สักเพลง555 แต่ก็รู้สึกอินอยู่ครับ
“เอาล่ะค่ะ ต่อไปนี้ทุกเย็น ก่อนจะเล่นเกมหรือเริ่มกิจกรรมอะไรก็ตามที่กรุ๊ป พี่จะให้น้องๆร้องเพลงอย่างน้อยวันละ2เพลงนะคะ รับทราบเนอะ”
พี่แนทพูดพร้อมส่งยิ้มให้ปีหนึ่งทุกคน
“ก่อนกลับบ้านวันนี้ พี่ให้เวลาน้องๆล่ารายชื่อลงสมุดนะจ๊ะ รีบกันหน่อยนะ อาทิตย์หน้าก่อนไปทริปจะมีการตรวจเด้อออ”
ชิบหายแล้วไอ้เพชร
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวพร้อมใจกันตบไหล่ผม
“โชคดีนะจ๊ะ” ไอ้เจมส์บอก แดกดันกันอีกแน่ะ
“สัส”
ผมหันไปเห็นไอ้พี่พฤกษ์ส่งยิ้มมุมปากมา
จะว่าไปผมเคยคิดว่ายังไงก็คงไม่ให้มันเซ็นสมุดให้แน่ๆ แต่เราสนิทกันแล้วนี่ครับตอนนี้ แถมผมก็รู้จักรุ่นพี่อยู่ไม่กี่คนด้วย ถ้าไม่ให้พี่แกเซ็นก็แทบไม่กล้าขอคนอื่นแล้ว
ผมลุกขึ้นตรงไปหาไอ้พี่พฤกษ์ทันที
“พี่เขียนให้เพชรหน่อยดิ”
“ก่อนเซ็นต้องมีภารกิจนะครับ” นั่นไง สนิทกันแล้วไม่ได้หมายความว่ามันจะให้ผมง่ายๆ
“โห่ พี่บางคนเค้าเขียนให้เลยนะ ทำไมต้องมีภารกิจด้วย”
“พี่ไม่ใจดีนี่นา แล้วพี่ก็ให้น้องที่มาขอให้เขียนทำภารกิจทุกคนนะ”
“นี่เพชรนะ” ผมส่งสายตาปิ๊งๆ
“เป็นเรายิ่งต้องทำเลยเด็กดื้อ” ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะ แม่ง
“เออๆ พี่จะให้ทำอะไร”
มันยิ้มเหี้ยมก่อนตอบ
“เต้นแบบที่เพชรชอบละกัน”
ชอบหน้ามึงอะ โว้ย กูกลับมาเกลียดมึงอีกทีดีมั้ย
“เดี๋ยวพี่เลือกเพลงให้นะ อืมม เพลงไรดี”
ไอ้ห่าาาาา
“เอาเพลงง่ายๆเนอะ ถ้าไม่ใช่เพชรพี่ให้เพลงยากกว่านี้นะเนี่ย” ไม่ต้องมากอดคอกูเลยไอ้พี่พฤกษ์
“เพลงไรพี่”
“ไก่ย่างถูกเผา” มันพูดกลั้วหัวเราะ
โว้ย กูจะเผามึงก่อนไก่อะไอ้พี่พฤกษ์
“แต่เต้นตรงนี้มันธรรมดาไปหน่อย ขึ้นไปเต้นบนม้าหินตัวนั้นละกัน”
ผมโคตรรักพี่เลย เอาที่มึงสบายใจ ไม่ต้องห่วงยางอายกูเลยนะ
“อะ เร็วสิครับ เดี๋ยวพี่ไม่เซ็นสมุดให้นะ”
“ได้ คอยดูให้ดีนะพี่”
ผมไม่อยากยอมแพ้มัน เป็นไงเป็นกันเว้ย
ผมเดินขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ม้าหินที่อยู่หน้ากรุ๊ป4แล้วไอ้พี่พฤกษ์ก็ส่งเสียงร้องมาให้
“ไก่ย่างพร้อม... 3 4 ไก่ย่างถูกเผาๆ...มันจะถูกไม้เสียบๆ เอ้า เสียบตูดซ้าย...เสียบตูดขวา...เสียบตูดซ้าย...เสียบตูดขวา…”
ที่ผมเคยได้ยินมันเสียบตูดซ้ายขวาแค่รอบเดียวไม่ใช่อ่อวะ นี่มึงให้กูเสียบกี่รอบ
“เสียบตูดซ้าย...เสียบตูดขวา…” มึงดูชอบเสียบเนอะไอ้พี่พฤกษ์ ฮือ แล้วผมก็ต้องเต้นท่าเสียบทุเรศๆนั่นไม่หยุด
ผมเลี่ยงไม่หันไปมองหน้าไอ้เจมส์กับไอ้นิวเพื่อนรักที่ยืนชี้มือมาที่ผมแล้วหัวเราะท้องคัดท้องท้องแข็ง พอหันไปมองตรงไอ้คนออกคำสั่งก็เห็นพี่เกี้ยงกับพี่ริวเดินมายืนข้างๆมันและกำลังถ่ายคลิป
ผมมีแววดังบน social อีกแล้วสินะเย็นนี้
“ร้อนจริงๆๆ...ร้อนจริงๆๆ...ส่ายมากกว่านี้หน่อยคร้าบบบบ” พี่ชายสุดที่รักกล้าขอน้องก็กล้าให้ครับ อะ ส่ายยยย
เสียงกรี๊ดและเสียงโห่ฮาเชียร์ผมดังลั่นมากกว่าท่อนเสียบตูดซ้ายขวาอีก คราวนี้ไม่ใช่แค่คนในกรุ๊ป4หันมาดูแล้ว แต่กรุ๊ปข้างๆก็ออกมาดูด้วยเช่นกัน
เอาเข้าไป
พอเพลงจบ ผมกำลังจะลงจากม้าหิน แต่ไอ้พี่พฤกษ์แม่งเสือกร้องต่อ แถมเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ไก่ย่าง version อะไรของมึ๊งงงง
ที่แย่คือมีหลายคนมาช่วยมันร้องให้ผมเต้นต่อน่ะสิ
แล้วผมจะทำไงได้ ก็เต้นต่อไปดิครับ

TBC

กลับมาดีกันแล้ววว มีไปกินข้าวกันด้วย แถมพี่พฤกษ์ยังสั่งให้น้องเต้นอีกแน่ะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP14 “ใครสั่งใครสอนให้พูดกับรุ่นพี่แบบนี้”
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 22-08-2018 21:57:37
EP14 “ใครสั่งใครสอนให้พูดกับรุ่นพี่แบบนี้”

“เก่งมากครับ” ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มแป้นเมื่อผมเดินมารับสมุดล่าลายเซ็น มันเขียนให้เรียบร้อย
“เพชรเต้นขนาดนี้ น่าได้มากกว่าหนึ่งลายเซ็นอีก” ผมหน้าบึ้ง
“โอ๋ ได้ครับๆ” มันยกมือขึ้นลูบหัวผมแล้วส่งสมุดต่อให้พวกเพื่อนๆ “ไอ้เกี้ยงมึงเซ็นให้น้องเพชรหน่อย มึงด้วยไอ้ริว แล้วส่งต่อไปให้ครบรุ่นเรา...คุ้มเลยนะเนี่ย เต้นครั้งเดียว” ประโยคหลังมันหามาพูดกับผม
“ขออีกอย่างดิพี่”
“ครับ?”
เสี่ยงขอไปก่อน ไม่รู้มันจะให้มั้ย
“อย่าเอาคลิปลง social นะ”
“ลั่น555555555555”
ลั่นพ่อมึงอะสัส กูอายจนจะไม่มีที่ยืนในคณะแล้วเนี่ย
“ก็ได้ๆ แต่พี่ไม่ลบนะ จะเก็บไว้ดูทุกวันก่อนนอนเลย”
ผมกัดกราม ไม่รู้จะด่าด้วยคำว่าอะไรดี
“เพชรแม่งสุดว่ะ55555” พี่ริวเดินมาตบไหล่ผมพร้อมเสียงหัวเราะ
หลังจากได้ลายเซ็นพี่ปี3ทุกคนที่มาเข้ากรุ๊ปในวันนั้นแล้ว ไอ้ตัวการที่ทำให้ผมต้องอับอายก็ขออาสาไถ่โทษ
“มาครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“อือ” ผมตอบรับ หันไปบอกลาไอ้นิวที่จะไปเดทและไอ้เจมส์ที่แม่ขับรถมารออยู่หน้าคณะแล้ว
ก่อนเดินออกมาจากกรุ๊ปผมเห็นพี่ริว พี่เกี้ยงกระซิบกระซาบอะไรกับไอ้พี่พฤกษ์ด้วย แถมมองมาทางผมอีกแน่ะ
จะแกล้งอะไรกูปะวะ
“เพชรหิวปะ ไปหาอะไรกินก่อนกลับกันมั้ย”
“พี่เลี้ยงดิ ถ้าเลี้ยงเพชรก็ไป”
“ได้คร้าบบบบ”
อ้าวเห้ย พูดเล่นเสือกฟลุคได้ว่ะ อิ่มจังตังอยู่ครบแล้วมือนี้ อิอิ
แล้วมันก็กอดคอผมเดินไปที่รถด้วยกัน
หลังจากนั้นผมก็ไปร่วมกิจกรรมที่กรุ๊ปหลังเลิกเรียนทุกเย็น พวกรุ่นพี่ก็จัดอะไรให้ปีหนึ่งทำไม่ซ้ำแต่ละวันเลย เริ่มจากการฝึกร้องเพลงสถาบันก่อน ตามด้วยเกม ถ้าให้พูดจริงๆ ผมว่าก็สนุกดีครับ
แต่มีคนสนุกกว่าเพราะได้แกล้งผม ก็คือไอ้พี่พฤกษ์ พี่แกสรรหาบทลงโทษมาเล่นงานผมเวลาที่เล่นเกมแพ้ได้ตลอด มองหน้ากับยิ้มโรคจิตๆของมันแล้วก็คิดทุกครั้งว่าผมไปสนิทกับมันได้ไง
แต่แล้วก็มีเซอร์ไพร้ส์จนได้ เมื่อพี่แนทประกาศตอนเย็นวันศุกร์ว่าจะมีการทดสอบร้องเพลงเชียร์ในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า ให้ปีหนึ่งทุกคนตามเพื่อนมาเข้ากรุ๊ปให้ครบและไปพร้อมกันที่สนามบาสเกตบอลสนามที่2
“ครั้งนี้จริงจังนะคะ โทรตามเพื่อนให้ครบ ถ้าไม่ครบก็เอาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ตามได้ แล้วอีกครึ่งชั่วโมงต้องนั่งเป็นแถวให้เรียบร้อยแล้วที่สนาม” พี่แนทไม่ได้ยิ้มสดใสต้อนรับน้องๆเหมือนอย่างทุกวัน
“วันนี้จะมีอะไรวะ ทำไมพี่แนทต้องซีเรียสขนาดนั้น” ไอ้เจมส์หันมาถามผมกับไอ้นิว
“ไม่รู้ว่ะ” ผมตอบ
“หรือว่าจะมีว้ากวะ” ไอ้นิวทำหน้าสยอง
“เห้ย ไม่มั้ง ม.เราไม่สนับสนุนว้ากนิ” ไอ้เจมส์บอก
“พวกพี่ๆกรุ๊ปเราอาจจะทำก็ได้ แค่ไม่สนับสนุน ไม่ได้ห้ามซะหน่อย”
“กูว่าไม่ว่ะ พวกเราโดนรับชิวมา3วีคแล้วนะเว้ย ถ้าจะว้ากคงทำไปตั้งนานแล้ว” ผมเสนอความเห็นบ้าง
“เอ้าน้อง ทำอะไรกันอยู่ พี่แนทบอกไม่ได้ยินรึไง รีบตามเพื่อนดิ” รุ่นพี่ผู้ชายปี2คนหนึ่งตะโกนขึ้นมาท่ามกลางเสียงคุยจ้อกแจ้กของปีหนึ่ง หลายคนสะดุ้งเพราะไม่เคยเจอพี่ๆทำแบบนี้มาก่อน
หรือจะว้ากอย่างที่ไอ้นิวบอกจริงๆนะ
20นาทีต่อมา มีปีหนึ่งมาเพิ่มอีก5-6คน แต่จำนวนคนก็ยังไม่ถึงครึ่งของปีหนึ่งทั้งหมดอยู่ดี
“พี่แนทให้น้องตามเพื่อนไม่ใช่หรอครับ แล้วทำไมยังมากันแค่นี้” พี่ปี2อีกคนลั่นออกมา
“เร็วครับน้อง เดี๋ยวพี่จะให้จัดแถวเดินไปที่สนามแล้ว”
อยู่ๆบรรยากาศในกรุ๊ป4ก็มาคุขึ้นซะงั้น
“แล้วคนที่ไม่เคยเข้ากรุ๊ปเลยนี่ยังไงวะ” ไอ้นิวถาม
“ทำไงได้ ก็ไม่มาอะดิ” ผมบอก
“พี่ๆเค้าเอาจริงว่ะ กูว่าวันนี้มีดราม่าแหงๆ”
สักพักพี่ๆปี2ก็ให้พวกเราจัดแถวตอน กำชับว่าห้ามคุยกันตลอดทางตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงกิจกรรมที่สนามและต้องเชื่อฟังคำสั่งของพี่ปี3และ4ทุกอย่าง
ผมเรียกถามพี่แนทตอนที่เดินผ่านผม
“พี่แนท นี่มันอะไรครับเนี่ย”
“เดี๋ยวก็รู้ พี่ยังบอกไม่ได้” พี่แนททำหน้าอย่างกับจะส่งพวกปีหนึ่งไปรบแน่ะ
รุ่นพี่ปี3และ4กรุ๊ปผมเกือบทุกคนยืนรออยู่แล้วในสนาม ไอ้เจมส์กับหลายๆคนอ้าปากค้าง
“เชี่ย พี่ๆมากันโคตรเยอะเลยว่ะ” ไอ้เจมส์กระซิบ
“มากกว่าปีเรากี่เท่าก็ไม่รู้สัส” ผมประเมินคร่าวๆ
ในบรรดารุ่นพี่กรุ๊ป4ทุกคน ไอ้พี่พฤกษ์กำลังยืนเด่นอยู่ตรงกลางแถวหน้าสุด สีหน้านิ่งเฉยแต่ตาวาวเป็นประกาย ผมสังเกตว่าพี่คนอื่นๆก็เก๊กหน้านิ่งเช่นกัน
“น้องครับ ตอนนี้สี่โมงห้าสิบสองนาที พี่ปี2ได้บอกหรือเปล่าว่าพี่นัดน้องกี่โมง”
ไอ้พี่พฤกษ์พูดเสียงดังลั่นไปทั่วสนามโดยไม่ได้ใช้อุปกรณ์ขยายเสียงใดๆ ผมประหลาดใจมากเพราะไม่เคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้จากเจ้าตัวเลย
ไม่มีเสียงตอบกลับจากใครทั้งสิ้น และปีหนึ่งหลายคนก้มหน้ามองพื้น ผิดกับผมที่ตามองตรงไปที่ไอ้พี่พฤกษ์ ตอนนี้สรุปได้แล้วว่าเป็นการว้ากแน่นอน
“พี่ถามทำไมไม่ตอบ ไม่ได้ยินรึไง” อื้อหือ เสียงไอ้พี่ริวนี่หนักกว่าเพื่อนอีก อีกนิดเดียวน้องๆหูแตกได้เลยนะเนี่ย
ยังไม่มีใครตอบ
“หึหึ” ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะในลำคอ “สงสัยปีหนึ่งไม่รู้จักพวกเราล่ะมั้ง ถึงไม่ยอมพูดด้วย”
ไอ้ผมก็พอได้ยินมาบ้างนะครับว่าการว้ากคือรุ่นพี่จะต้องพูดจากดดันรุ่นน้องและเน้นระเบียบงี่เง่า แต่พอได้เจอของจริงก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน
“ได้ข่าวว่าเข้ากรุ๊ปมา3อาทิตย์แล้ว น้องยังไม่รู้จักรุ่นพี่ครบอีกหรอคะ” พี่ที่ผมไม่รู้จักชื่อคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“แล้วไอ้สมุดล่าลายเซ็นจะมีไปทำไม” ไอ้พี่ริวตะโกนเสียงก้อง
“เชี่ย โหดสัส” ไอ้เจมส์กระซิบ
“มึงยิ้มอะไรวะเพชร” ไอ้นิวถาม
“มึงว่าพวกพี่เค้าจะเก๊กอีกนานมั้ยวะ ว้ากปลอมๆงี้กูไม่กลัวหรอก”
ผมนึกขัน เห็นความติ๊งต๊องปัญญาอ่อนของไอ้พี่พฤกษ์มาจะเดือนนึงแล้วมาเห็นโหมด(แอ๊บ)โหดของมัน ใครจะไปกลัวล่ะครับ พี่ริวก็อีกคน ผมเชื่อไม่ลงแน่ๆว่าแกจะโหดได้แบบนั้น
“คุยอะไรกัน” พี่ผู้ชายที่ผมก็ไม่รู้จักชื่ออีกคนตวาดออกมา
“ไม่มีมารยาท” พี่ริวเสริม
“ตอนพวกพี่ถาม น้องไม่ตอบ แต่น้องคุยกันเองหรอครับ” ไอ้พี่พฤกษ์ฉีกยิ้มมุมปากอย่างอันตราย “ปีสองไม่ได้สอนมารยาทสินะ ว่าไม่ควรคุยกันในระหว่างที่พี่กำลังพูดอยู่แบบนี้”
ไอ้นิวถอนหายใจช้าๆ ผมรู้ว่ามันกำลังกลัวว่าจะถูกพี่เรียกที่เราคุยกันหรือเปล่า เพื่อนเอ๊ย จริงจังไปได้ กูกลั้นขำจะไม่ไหวแล้วนะ
“ปีสองนี่แย่มากเลยนะ ไม่สอนน้องทั้งเรื่องตรงต่อเวลากับมารยาทเลย” ไอ้พี่พฤกษ์หันหน้าไปหารุ่นพี่ปีสองที่ยืน
พี่ปีสองก็เนียนพอๆกันครับ ทุกคนปั้นหน้าละอายใจ เสียใจที่ถูกด่าได้เป็นอย่างดี
“ผมว่าไม่ใช่ความผิดของปีสองอย่างเดียวหรอก น้องปีหนึ่งเองก็ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร” พี่ริวพูดต่อไป
“ถ้างั้น ก็ต้องลงโทษน้องปีหนึ่งด้วยสินะ” ไอ้พี่พฤกษ์หันไปถามพี่ริว
“ผมคิดว่ายังงั้น”
ผมหัวเราะพรืดกับคำตอบของพี่ริว ก็มันดูปลอมมากๆน่ะสิครับ ปกติพี่สองคนเค้าพูดแทนตัวเองกันว่า ‘ผม’ ที่ไหนล่ะ
“ปีสอง กอดคอกัน” ไอ้พี่พฤกษ์กลับมาตะโกนอีกครั้ง “ลุกนั่ง100ครั้ง ปฏิบัติ”
โอ้โห นี่รับน้องหรือฝึกรด.ครับพี่ 100ครั้งกับผู้ชายเนี่ยสบายๆ แต่ให้ผู้หญิงทำด้วยเนี่ยนะ
ผมกับปีหนึ่งเกือบทั้งหมดหันหลังไปดูพี่ปีสองรับบทลงโทษ ทุกคนกอดคอลุกนั่งแทบจะพร้อมเพรียงกันและนับจำนวนครั้งเสียงลั่น
นี่เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ต้องมีในการว้ากสินะ ให้ปีหนึ่งรู้สึกสงสารปีสองที่ถูกด่าและทำโทษแทน
ผมกำลังอ่านใจไอ้พี่พฤกษ์ว่าบททดสอบนี้ต้องการอะไรจากพวกน้องๆ
หรือว่าจะต้องการให้มีปีหนึ่งขออาสารับโทษแทน?
หึหึ ลูกไม้ตื้นๆนะไอ้พี่พฤกษ์ ถ้ามีใครในรุ่นผมเกิดไม่รู้ว่าทั้งหมดนี่มันแค่ละครและรู้สึกสงสารปีสองจริงๆก็จะเข้าทางพวกพี่ๆเลย ผมภาวนาให้อย่ามีใครคิดแบบนั้น
ไม่นานนัก ปีสองก็นับถึง100และกลับมายืนเก๊กหน้านิ่งเหมือนเดิม มีบางคนหอบหายใจ
“ต่อไปจะเป็นบทลงโทษของปีหนึ่ง ปีหนึ่งลุกขึ้น” ไอ้พี่พฤกษ์สั่ง “กอดคอ”
ผมยิ้ม เหนื่อยมั้ยเนี่ยพี่ชาย
“น้องลองคิดเองซิว่าสมควรลุกนั่งกี่ครั้ง”
ไม่มีเสียงตอบกลับอีกครั้ง
“ตอบเด้” พี่ริวตะคอก
“100ครับ”
ไอ้ต่อ ผู้กล้าคนแรกตอบ
“100เหรอ เหตุผล” ไอ้พี่พฤกษ์ถาม
“ผมคิดว่าที่มาสายกันครั้งนี้เป็นความผิดพวกเราครับ พวกเราควรโดนเท่ากับปีสองครับ”
“หึหึ...ทำไมไม่คิดว่าน้องควรโดนมากกว่าปีสองล่ะ”
ไอ้ต่อหุบปากเงียบ ไปไม่เป็นเลย
ร้ายจริงๆนะไอ้พี่พฤกษ์
“มีใครจะเสนออีกมั้ย” พี่ริวถาม
“สัก200เลยมั้ยพี่ เอาให้มากกว่าพี่เค้า2เท่าเป็นไง”
ไอ้ซัน น้องรหัสปากดีของไอ้พี่พฤกษ์ตอบ พี่รหัสมันยิ้มชั่วร้ายกับคำตอบ
“แต่พี่ว่ามันก็ยังน้อยไปอยู่ดี ไหนมีใครรู้มั้ยครับ ว่าปีหนึ่งที่ไม่มาเข้ากิจกรรมวันนี้มีกี่คน”
ไอ้ซันเงิบไปที่คำประชดของมันกลับทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก
“ไม่มีใครรู้เลยเหรอ พวกน้องเคยรู้อะไรบ้างมั้ยครับ” ไอ้พี่พฤกษ์ยังเสียงดังได้อย่างต่อเนื่องไม่มีเหนื่อย
“ผมจะไปรู้ได้ไง เข้ามาก็ไม่เห็นมีวันไหนปีผมจะเข้ากันครบทุกคน” ไอ้ซันโพล่งออกมาอีก ยอมใจความกล้าจริงๆว่ะ
“แสดงว่าน้องไม่เคยสนใจเลยสินะว่าเพื่อนในรุ่นมีทั้งหมดกี่คน ถ้างั้น…” ไอ้พี่พฤกษ์เว้นเสียง ช่วงนี้แหละที่ผมรู้ทันทีว่าอะไรร้ายแรงกำลังจะเกิดขึ้น “ความผิดเรื่องนี้สมควรเพิ่มอีกสัก100ครั้งเนอะ...ปีหนึ่งทั้งหมด ลุกนั่ง300ครั้ง ปฏิบัติ”
หลายคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ดูว่าเล่นๆ แต่พี่แกก็โหดเหมือนกันนะเนี่ย
จากนั้นการกอดคอลุกนั่ง300ครั้งก็เริ่มขึ้น พวกเราไม่พร้อมเพรียงเท่าปีสองและนับเสียงเบากว่าด้วย เมื่อทำไปยังไม่ถึงครั้งที่10 ไอ้พี่พฤกษ์ก็สั่งแทรก
“ไม่มีความสามัคคี เริ่มใหม่”
แล้วมันก็สั่งให้เราหยุดและเริ่มใหม่อีก4หนก่อนจะมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งทรุดตัวลงไปกองกับพื้น เหมือนจะเป็นลม
“พาน้องออกไป” พี่หลายคนหน้าไม่ดีแล้ว ในขณะที่ไอ้พี่พฤกษ์ยังรักษาสีหน้าเครียดเขม็งไว้ได้ ตะโกนสั่งพี่ปีสองให้มาพาผู้หญิงคนนั้นไป
“ใครสั่งให้หยุด ทำต่อไป”
ทำต่อไปอีกไม่ถึง30ครั้ง พี่ริวตะเบ็งเสียงขึ้นมา
“หยุด...แค่กอดคอลุกนั่งแล้วนับให้พร้อมกันยังทำไม่ได้ น่าทุเรศ”
“แล้วใครสั่งให้น้องนั่ง ยืนขึ้น” ไอ้พี่พฤกษ์ขัด ปีหนึ่งสองสามคนที่นั่งลงไปกับพื้นรีบเด้งตัวกลับขึ้นมายืนทันที
“พี่จะให้โอกาสน้องแก้ตัว...อย่างที่พี่ปีสองคงบอกน้องแล้ว จุดประสงค์ของกิจกรรมวันนี้ คือสอบร้องเพลงเชียร์”
เข้าเรื่องได้ซะทีนะพี่
“น้องจะผ่านกิจกรรมนี้ไปได้ก็ต่อเมื่อร้องเพลงเชียร์ให้พี่พอใจ”
เพลงแรกที่ไอ้พี่พฤกษ์สั่งคือเพลงประจำมหาวิทยาลัย ร้องไปได้ไม่ถึงไหนก็โดนสั่งให้หยุด
“เสียงมีแค่นี้รึไง หลายสิบคนดังได้แค่นี้งั้นเหรอ ผมคนเดียวยังร้องดังกว่าพวกคุณทั้งหมดเลย” ไอ้พี่ริวว่า
ผมกะจะถามพี่แกว่าไหนลองร้องให้ฟังหน่อย
“ร้องใหม่” ไอ้พี่พฤกษ์สั่ง
พวกผมเริ่มร้องเพลงกันอีกครั้ง คราวนี้เสียงดังขึ้นกว่าครั้งก่อน แต่ยังไม่ค่อยพร้อมเพรียงกันเท่าไรนัก
“ใช้ไม่ได้ เพลงง่ายๆเพลงเดียวยังร้องให้พร้อมกันไม่ได้เลย” ไอ้พี่พฤกษ์พูด “ร้องใหม่”
ตอนนี้หลายคนเริ่มเหนื่อยแล้ว จากการลุกนั่งที่ผ่านมาและจากการแหกปากร้องเพลง
ผมคิดว่ารอบที่สามของเพลงมหาวิทยาลัยทำได้ดีกว่าสองครั้งก่อนมาก พอร้องจบ ไม่มีรุ่นพี่คนไหนส่งเสียงก่นด่า ไอ้พี่พฤกษ์เลยสั่งเพลงต่อไป
แย่ล่ะสิ เพลงนี้ผมแทบจะจำเนื้อหรือทำนองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว เพราะเมื่อร้องไปยังไม่ทันจบ verse แรก ไอ้พี่พฤกษ์ก็ตะโกนก้อง
“หยุด”
“ห่วย แย่ ไหนบอกว่าซ้อมเพลงเชียร์กันทุกเย็นไง” พี่ริวเสริม
“แค่เพลงที่2ก็ร้องไม่ได้แล้ว” มันกวาดสายตาอำมหิตไปทั่วปีหนึ่ง
แล้วก็เรียกชื่อผมจนได้
“ทุกคนนั่งลง ยกเว้นเพชร”
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวมีสีหน้าสยดสยอง สองคนมองหน้าผมสลับกับไอ้พี่พฤกษ์
นี่พี่มันจะทำอะไรผม
“ทำไมน้องไม่ช่วยเพื่อนร้องเพลงเมื่อกี้”
มันจะว้ากใส่ผมสินะ
“เพ...ผมจำเนื้อเพลงไม่ได้” ผมตอบตามความจริง ตกใจนิดหน่อยที่ถูกหาเรื่อง และไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้คุยกับไอ้พี่พฤกษ์
“จำไม่ได้?” มันทวนคำพร้อมทำหน้าตาเหยียดหยามผมสุดๆ “แค่นี้จำไม่ได้ พี่สงสัยจังว่าน้องสอบเข้ามาเรียนที่นี่ได้ยังไง” ไอ้พี่พฤกษ์ทำแบบนี้กับผมเนี่ยนะ
“แล้วก็เลยเอาเปรียบเพื่อน ไม่ร้องออกมาด้วยใช่มั้ย”
“ก็ผมพูดอยู่นี่ไงครับว่าจำเนื้อไม่ได้ แล้วจะให้ร้องได้ยังไง”
ตอนนี้ทั้งรุ่นพี่รุ่งน้องเกือบทุกคนหันมามองผมกับไอ้พี่พฤกษ์
“ใครสั่งใครสอนให้พูดกับรุ่นพี่แบบนี้”
“แล้วใครสั่งใครสอนให้พี่พูดกับน้องแบบนี้ล่ะครับ”
ดวงตามันไม่ได้แข็งกร้าวอีกต่อไป แต่สั่นไหวจนเห็นได้ชัดเจน ถึงอย่างนั้นไอ้พี่พฤกษ์ก็ยังทำเหมือนว่าจะกินเลือดกินเนื้อผม

TBC

อ้ากกก ว้ากใส่กันอีกแล้ว พี่พฤกษ์น้องเพชรเดือดอีกแล้วว
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP14 “ใครสั่งใครสอนให้พูดกับรุ่นพี่แบบนี้”
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-08-2018 09:44:15
 :L2: :3123: :L1:

ทำไมมมมมมเราเพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ 55 อ่านรวดเดียวตอนปัจจุบันละ รอตอนต่อไปนะ
คิดถึงน้องหมกับอั๋น เราย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ

หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP14 “ใครสั่งใครสอนให้พูดกับรุ่นพี่แบบนี้”
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-08-2018 09:49:12
 :pig4: :pig4: :pig4:

เทศกาลรับน้องนี่ยาวนานจัง
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP14 “ใครสั่งใครสอนให้พูดกับรุ่นพี่แบบนี้”
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 25-08-2018 06:31:15
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
ปล.ฝากใส่วันที่ที่อัพล่าสุดบนหัวเรื่องให้ด้วยทุกครั้งนะครับ จะได้เข้ามาอ่านได้ถูกครับ :hao5:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP15 “พี่อยากอธิบาย ฟังพี่ก่อนนะครับ”
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 26-08-2018 16:21:04
EP15 “พี่อยากอธิบาย ฟังพี่ก่อนนะครับ”

ไอ้พี่พฤกษ์จ้องผมแบบเอาเรื่อง คงไม่คิดว่าผมจะทำอย่างนี้ มันเงียบไปประเดี๋ยวหนึ่งก่อนจะโต้กลับมา
“น้องพูดแบบนี้รู้มั้ยว่าจะโดนอะไร”
“จะให้ผมลุกนั่งคนเดียว500ครั้งก็ได้นะครับ ผมจะได้ออกกำลังกาย” ผมยิ้มทั้งที่ในใจโมโหจนอยากจะพุ่งตัวเข้าไปหามัน ผมโกรธที่มันหาเรื่องผม เลือกผมเป็นเหยื่อในการว้าก
“น้องจะไม่ได้ทำคนเดียวหรอกครับ เพราะปีหนึ่งทุกคนจะต้องทำ”
มีเสียงหึ่งๆท่ามกลางกลุ่มปีหนึ่ง ผมหน้าเสีย ไม่ได้ต้องการให้คนอื่นมาซวยไปด้วย
“เดี๋ยว พี่จะลงโทษก็สั่งผมคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว” ผมกระชากเสียง
“ไม่ได้ พี่ถือว่าความผิดของน้องเป็นของปีหนึ่งทุกคน...ปีหนึ่งกอดคอ ลุกนั่ง500 ปฏิบัติ”
“ไม่”
ผมตะโกนเสียงดังกว่าไอ้พี่พฤกษ์
พวกปีหนึ่งหลายคนที่กำลังจะกอดคอกันหยุดชะงัก พี่ๆทุกชั้นปีหันมามองผมเป็นตาเดียว
“ผมจะรับผิดชอบคำพูดของตัวเองคนเดียว เพื่อนไม่ได้ผิด พี่จะสั่งลงโทษอะไรผมก็เชิญ”
“น้องไม่มีสิทธิมาสั่งพี่ ปีหนึ่งทั้งหม…”
“ไม่” ผมตะเบ็งสุดเสียงอีกครั้ง ไอ้พี่พฤกษ์พ่นลมหายใจแรงก่อนเลิกคิ้วถาม
“ถ้างั้นน้องจะรับผิดชอบยังไง”
“พี่ก็สั่งดิ แล้วให้ผมทำคนเดียว”
เกิดความเงียบเป็นเวลานาน แล้วผมก็ต้องช็อคเมื่อไอ้พี่พฤกษ์ออกคำสั่ง
“งั้นน้องออกไป จะ...จะไปไหนก็ไป”
ผมมองเห็นสีหน้าที่ขัดแย้งกับท่าทีขึงขังของไอ้พี่พฤกษ์
ได้ ถ้ามันไล่ผม ผมก็จะไป เพื่อไม่ให้เพื่อนต้องมาลุกนั่งเพราะผม
ผมแบกกระเป๋าขึ้นพาดบ่า หันหลังให้ไอ้พี่พฤกษ์
“ไอ้เพชร…” ไอ้เจมส์เรียกเสียงเบา
ผมหันไปพยักหน้าให้มันนิดหนึ่งก่อนจะเดินออกมาจากกลุ่มเด็กปีหนึ่ง

ผมไม่ได้กลับคอนโด ไม่รู้สึกอยากกลับบ้าน จริงๆคือไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องการไปที่ไหนตอนนี้ ผมจึงยังอยู่ในเขตของมหาวิทยาลัย แต่เดินมาไกลจนถึงสระน้ำใหญ่ใจกลางพื้นที่ทั้งหมด
มันทำแบบนี้กับผมได้ไง ผมเกลียดมัน
ตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล”
(น้องเพชร)
“นั่นใคร”
(พี่เกี้ยงเองครับ อย่าพึ่งวางสายนะ...) พี่เกี้ยงรีบพูด
“พี่มีไร” สายนี้ต้องเกี่ยวกับเรื่องระหว่างผมกับไอ้พี่พฤกษ์แน่
(เพชรอยู่ไหน)
“ทำไมหรอครับ”
พี่เกี้ยงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบ
(เมื่อกี้มันละครทั้งนั้น พวกพี่ไม่ได้จะด่าจะลงโทษน้องจริงๆนะ อย่าโมโหเลยนะครับ)
“เหอะ”
(ไอ้พฤกษ์มันทำไปตามที่เตี๊ยมกัน ตอนนี้พวกพี่ๆเค้ากำลังเฉลยแล้วนะครับว่าเป็นว้ากปลอม น้องกลับมาเถอะนะ)
“ไม่ครับ”
(เพชร) พี่เกี้ยงร้องอย่างตกใจ
“ขอโทษครับ แค่นี้นะพี่”
(เดี๋ย...)
ผมกดวางสาย
ในสคริปต์มันระบุไว้สินะว่าต้องใช้ผมเป็นเครื่องมือตบตา ให้เอาอะไรๆมาลงที่ผม
สิบนาทีหลังสายพี่เกี้ยง ไอ้พี่พฤกษ์ก็โทรมา
ผมตัดสายแล้วปิดเสียง ปิดสั่นที่มือถือทันที
แต่พี่มันก็โทรหาผมอีกหลายครั้งไม่ยอมหยุด

ผมกลับมาถึงที่คอนโดเกือบสองทุ่ม ใจเย็นลงมากแล้ว แต่ก็ต้องเดือดขึ้นมาอีกเมื่อเห็นว่าใครนั่งรออยู่ที่ประตูหน้าห้อง
“น้องเพชร”
มันผุดลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว ทำท่าจะตรงเข้ามาหาผม
“อย่า”
ผมสั่งเสียงเข้ม ไอ้พี่พฤกษ์หยุดอยู่กับที่
“เพชรฟังพี่ก่อน”
“ไม่ แล้วถอยออกไปจากหน้าห้อ…”
“ขอร้อง ฟังพี่พูดก่อนนะครับ แล้วพี่จะกลับ”
“กูไม่ฟัง” ผมตะโกนลั่น
“เมื่อเย็นพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเพชรจริงๆนะ”
“มึงกลับไปเหอะ” พูดจบแล้วผมก็พุ่งสุดแรงเข้าไปเหวี่ยงไอ้พี่พฤกษ์จนล้ม แล้วรีบเข้าห้องปิดประตูทันที
“เพชร ฟังพี่ เปิดประตูให้พี่ก่อน” มันทุบประตูรัวๆและร้องเรียก แต่ผมไม่สนใจ
กว่าครึ่งชั่วโมงจนเสียงทุบประตูและเสียงเรียกจะเงียบไป

ผมไม่ได้รับโทรศัพท์จำนวนเกือบร้อยสาย ไม่ได้ตอบกลับข้อความในแชท Line ไม่ได้อ่านกระดาษโน้ตที่แนบมากับขนมนมเนยถุงใหญ่ที่ไม่ได้กินเลยสักนิดเดียวตลอดสุดสัปดาห์
ทั้งหมดจากไอ้พี่พฤกษ์
เช้าวันจันทร์ ผมตั้งใจไว้ว่าจะไปเข้ากรุ๊ปตามปกติ ไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้วจะกระทบผม แต่จะไม่สนใจอะไรที่เกี่ยวกับไอ้พี่พฤกษ์อีกแล้ว
ผมไปถึงคณะเกือบสิบโมง คลาสแรกเริ่มไปนานแล้ว เดี๋ยวค่อยไปยืมเลคเชอร์ไอ้เจมส์กับไอ้นิวตรงที่มาไม่ทันเอา
มีคนร่างสูงยืนอยู่หน้าห้องเรียนของผม
ผมหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“น้องเพชร”
ผมไม่ได้เดินหนี แต่เดินเข้าไปเผชิญหน้า
“พี่อยากอธิบาย ฟังพี่ก่อนนะครับ”
“พี่จะอธิบายอะไร เรื่องที่เลือกด่าผมกลางคนเป็นร้อยอะนะ”
ไอ้พี่พฤกษ์หน้าเสีย แววตากระตุกวูบ แต่ก็รีบพูดต่อ
“พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เรื่องนั้นมันมีเหตุผลนะครับ”
“ผมรู้ครับ เหตุผลก็คือพี่อยากด่าผมไง”
“ไม่ใช่นะเพชร พี่จะอยากด่าเราทำไม”
“แล้วพี่ก็ไล่ผมออกไปจากกิจกรรมด้วยนิ...ถ้าไม่อยากเจอแล้วมาหาผมทำไม” ผมใส่ไม่ยั้ง
“ตอนนั้นพี่ไม่อยากให้เรารู้สึกไม่ดีกับพี่ เพราะเราไม่เข้าใจจุดประสงค์ของกิจกรรม”
“เข้าใจดิ...เป็นกิจกรรมที่ดีมากนะครับ เรียกรุ่นน้องไปรวมแล้วด่า สั่งลงโทษเพื่อความสะใจ ดีมากเลย”
“ไม่ใช่ยังงั้นเลย เพชรไม่เข้าใจ”
“พี่เลิกพูดเหอะ นี่หรอเหตุผล ฟังแล้วแม่งเป็นข้อแก้ตัวชัดๆ”
“พี่ขอร้อง ฟังพี่ให้จบก่อน แล้วเพชรจะเข้าใจทุกอย่าง” ไอ้พี่พฤกษ์ขยับเข้ามาจับแขนผม
“ผมไม่ฟัง ปล่อย”
เรายื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่เดี๋ยวหนึ่ง ไอ้พี่พฤกษ์อาศัยแรงที่เยอะกว่ายึดผมไว้ ไม่ว่าผมจะขัดขืนยังไงก็ไม่หลุด
“พี่กำลังทำให้ผมเข้าเรียนสายอยู่นะครับ”
“เพชร” มันพูดเสียงอ่อย
“ไหนพี่เคยบอกว่าหวังดีกับผมไง...ถ้าหวังดีจริงพี่คงไม่อยากทำให้รุ่นน้องสายใช่มั้ยครับ”
“...”
ไอ้พี่พฤกษ์มีสีหน้ายอมแพ้ ยอมปล่อยแขนผม
ผมเดินเข้าห้องเรียนไปโดยไม่หันกลับมามองมันอีก

“พวกมึง วันนี้ไปแดกข้าวคณะอื่นกัน” ผมชวนไอ้เจมส์กับไอ้นิวเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง
“เดี๋ยวกลับมาเรียนคาบบ่ายไม่ทันนะเว้ย มีเช็คชื่อด้วย” ไอ้เจมส์เตือน
“ก็รีบไปรีบกินดิวะ”
“ไม่ทันหรอก นี่เที่ยงสิบนาที กว่าจะเดินไปก็หมดเวลากินละสาด”
“กูเบื่อข้าวคณะเรานี่หว่า”
“ถ้ามึงเบื่อ งั้น...food court ห้างข้างๆมั้ยล่ะ” ไอ้นิวเสนอ
“เออ ก็ได้นะ” ไอ้เจมส์เออออ
“เออๆ รีบไปกัน กูหิวละ” ผมรีบสรุป ใจจริงไม่ได้เบื่ออาหารที่คณะหรอกครับ ผมแค่ไม่อยากเจอใครบางคนที่โรงอาหาร ไม่รู้ทำไมเจอกันที่นั่นโคตรบ่อย
ผมอาสาเฝ้าโต๊ะให้ แล้วให้เพื่อนทั้งสองคนไปซื้อข้าวกันก่อน ระหว่างที่นั่งรอนั้น พี่เกี้ยงก็เดินมาหา
ชิบหาย
“หวัดดีเพชร”
“หวัดดีครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่เกี้ยง ยิ้มแหยเพราะครั้งล่าสุดพูดไม่ดีกับพี่เค้าไว้ทางโทรศัพท์
“มากินนี่คนเดียวหรอ”
“มากับไอ้เจมส์ไอ้นิวครับ ผมให้พวกมันไปซื้อก่อน พี่มาทำไร”
“มาจ่ายค่าโทรศัพท์แล้วแวะมาซื้อของกินนิดหน่อย” พี่เกี้ยงตอบพร้อมชูแก้วกาแฟและถุงขนมคบเคี้ยว “พี่ขอคุยด้วยหน่อยดิ”
“เอ่อ...ได้ครับ”
เรื่องไอ้พี่พฤกษ์พันล้านเปอร์เซนต์
“เพชรคุยกับไอ้พฤกษ์มันรึยัง”
“คุยแล้วครับ”
“น้องยังโกรธมันอยู่ใช่มั้ย” พี่เกี้ยงมีท่าทางเหมือนกำลังสำรวจผมและดูว่าจะมองเรื่องออกเสียด้วยสิ ผมไม่ชอบเลย
“ครับ” ผมตอบตามจริง ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องปิดบัง
“พี่ยอมรับนะว่าอยากให้เพชรหายโกรธมัน แต่พี่คงไปบังคับน้องไม่ได้...เอาเป็นว่า พี่ขอร้องให้ช่วยฟังพี่อธิบายหน่อยแล้วกัน”
ผมไม่อยากฟังอะไรเลย แต่ความรู้สึกผิดที่พูดไม่ดีใส่พี่เกี้ยงก็รั้งผมไว้ให้นั่งเงียบๆอยู่ตรงนั้น
“กิจกรรมเมื่อวันศุกร์ที่แล้วมันคือการจัดฉาก พวกเราไม่มีใครตั้งใจจะด่าหรือแกล้งลงโทษน้องปีหนึ่งเพื่อความสนุกเลย...จะเรียกว่าว้ากปลอมก็ได้ แล้วพวกพี่ก็เฉลยไปแล้วในวันนั้น”
พี่เกี้ยงค่อยๆอธิบาย พูดแต่ละคำอย่างชัดเจน
“ทุกๆปีจะให้ผู้นำกลุ่มปี3เป็นคนนำว้าก แล้วไอ้พฤกษ์ก็เป็นผู้นำกลุ่มของรุ่น มันเลยต้องทำ ถ้าให้พูดตรงๆ มันต้องทำให้น้องเกลียดในช่วงเวลานั้น…
ในกิจกรรม พวกเราคาดว่าจะต้องมีน้องต่อต้านบ้าง แต่...ไอ้พฤกษ์ไม่คิดว่าจะเป็นเพชร มันคิดว่าน้องจะเข้าใจกิจกรรมและไม่ได้รู้สึกไม่ดี”
ถ้าเป็นอย่างที่พี่เกี้ยงว่าจริงๆ ไอ้พี่พฤกษ์ก็คิดผิดมหันต์ ผมรอให้พี่เกี้ยงพูดให้ถึงส่วนที่ตรงจุดว่าทำไมต้องเป็นผม
“ไอ้พฤกษ์มันเลยเลือกจะหาเรื่องเพชร แทนที่จะเป็นคนอื่น เพราะมันคิดว่าเพชรคงไม่โกรธและปีหนึ่งก็จะเข้าใจได้โดยเร็วว่าให้เล่นไปตามเกมของพวกพี่ เพราะมันเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าเพชรกับไอ้พฤกษ์สนิทกัน ไม่น่าจะมาด่ากันแบบนี้”
ผมกำลังนั่งคิดตามทุกสิ่งที่พี่เกี้ยงพูด
“แล้วพี่ก็ไม่โทษเพชรที่โกรธด้วย เพราะพี่เข้าใจว่าถ้าถูกต่อว่าแบบนั้น แถมต่อหน้าคนเยอะๆด้วย...พอพฤกษ์มันเห็นว่าผิดแผน ไม่อยากให้เรื่องบานปลายไปกว่านี้ มันเลยให้น้องออกไปจากสนามก่อน รู้มั้ยว่ามันทำเพื่อเพชร มันไม่อยากลงโทษเพชรจริงๆหรอก”
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวกลับมาแล้ว พอเห็นว่าผมกับพี่เกี้ยงคุยกันเรื่องอะไรก็นั่งกันเงียบๆ
“ตอนที่เฉลยว่าเป็นว้ากปลอม พี่โทรหาเพชร พอประกาศจบกิจกรรมปุ๊บ พวกพี่ก็พาปีหนึ่งไปเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ แต่ไอ้พฤกษ์ไม่ได้ไปด้วย…
สิ่งแรกที่มันทำคือวิ่งมาถามพี่ว่าเห็นเพชรมั้ย รู้มั้ยว่าอยู่ที่ไหน แต่ไม่มีใครรู้ มันก็เลยรีบไปหาเพชรที่คอนโด เพราะยังไงเดี๋ยวน้องก็คงกลับห้อง”
ขนาดนั้นเลยหรอวะ
“ไอ้พฤกษ์แคร์น้องมากรู้มั้ย มันไม่อยากให้น้องเข้าใจผิด ตามง้อจะคุยกับเพชรให้ได้ เมื่อเช้าพี่เจอมัน มันบอกว่าจะไปรอเพชรหน้าห้องเรียน”
สีหน้าพี่เกี้ยงตอนนี้ดูเสียใจมาก
“ถ้าเป็นไปได้ หายโกรธไอ้พฤกษ์เถอะนะ ทุกอย่างที่พี่เล่าเป็นเรื่องจริง”
เมื่อพี้เกี้ยงลุกไปจากโต๊ะ ผมชักไม่แน่ใจความรู้สึกตัวเองเสียแล้ว

สี่โมงเย็น ผม ไอ้เจมส์และไอ้นิวเดินจากอาคารเรียนลงมาเข้าร่วมกิจกรรมกรุ๊ปอย่างเช่นทุกวัน สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการรับน้องแล้ว พวกปีหนึ่งเริ่มสนิทกันมากขึ้นและได้รู้จักรุ่นพี่ทุกชั้นปี รวมถึงพี่บัณฑิตที่จบการศึกษาไปแล้วหลายคนก็แวะเวียนมาที่กรุ๊ปด้วย
ทันทีที่ผมเข้าไปในบริเวณกรุ๊ป ก็เห็นสายตาเศร้าหมองของคนที่กำลังทำให้หัวปั่นที่สุดในตอนนี้มองมา
ผมทำเป็นไม่สนใจ
ระหว่างกิจกรรม ผมอึดอัดมากเพราะรู้สึกได้ว่าถูกมองอยู่ตลอด พอจบเกมของวันนี้ พี่แนทก็ประกาศว่าจะเริ่มเล่นบัดดี้
“น้องๆคะ ทุกคนต้องจับฉลากว่าจะได้พี่คนไหนในกรุ๊ปเรามาเป็นบัดดี้ ซึ่งจะเป็นใครก็ได้จากทุกชั้นปี แล้วน้องก็ต้องเทคของให้บัดดี้ เดี๋ยวพี่จะเอากล่องเทคของมาวางไว้ที่กรุ๊ปนะคะ...หรือถ้าไม่อยากให้ของเนี่ย จะให้พี่ๆเป็นบทลงโทษก็ได้ค่า…” ถึงตรงนี้ปีหนึ่งหลายคนส่งเสียงดีใจ “จะสั่งให้พี่บัดดี้ของน้องทำอะไรก็ได้ วิ่งรอบสนาม ปีนต้นไม้ ยืนเต้นหน้าคณะ หรือจะให้พี่บัดดี้เป็นฝ่ายซื้อขนมมาให้น้องแทนก็ได้ แล้วพี่ๆก็ห้ามปฏิเสธด้วยนะ น้องสั่งอะไรก็ต้องทำ...คราวนี้ถึงเวลาที่น้องจะได้เอาคืนพวกพี่ๆบ้างแล้วล่ะ”
“กูอยากจับได้พี่ริวว่ะ จะสั่งให้เดินเข้าไปขอเบอร์ผู้ชายสักสิบคนแบบที่พี่แกสั่งกูตอนขอเซ็นสมุด” ไอ้เจมส์ว่า ผมกับไอ้นิวหัวเราะ
“เราจะเฉลยบัดดี้คืนวันเสาร์นี้ที่ทริปรับน้องนะค่ะ มีกติกาข้อหนึ่งคือ น้องห้ามให้พี่บัดดี้จับได้ว่าน้องคือใคร ไม่งั้นน้องจะเป็นคนถูกลงโทษเองนะคะ…”
หึหึ มีข้อแม้จนได้ ไอ้ผมก็นึกว่าจะได้แกล้งพี่สบายๆ ต้องเนียนไม่ให้รู้ตัวอีก
ปีหนึ่งลุกขึ้นยืนต่อแถวไปจับฉลากที่พี่แนท แล้วผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชื่อบัดดี้ที่เขียนอยู่ในกระดาษใบที่จับได้
พี่พฤกษ์

TBC

โถ่ น่าสงสารพี่พฤกษ์จริงๆ เพชรยังไม่หายโกรธอีก แถมต้องมาเป็นบัดดี้กัน แล้วเรื่องจะเป็นยังไงต่อล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP15 “พี่อยากอธิบาย ฟังพี่ก่อนนะครับ”
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-08-2018 16:59:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP15 “พี่อยากอธิบาย ฟังพี่ก่อนนะครับ”
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-08-2018 18:14:50
 5555 งานงอกแล้วพี่พฤกษ์
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP15 “พี่อยากอธิบาย ฟังพี่ก่อนนะครับ”
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-08-2018 19:31:06
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP16 “...เป็นแฟนกับพี่นะครับ”
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 29-08-2018 13:05:40
EP16 “...เป็นแฟนกับพี่นะครับ”


“วันนี้แยกย้ายนะ กูมีนัด” ไอ้เจมส์บอกผมกับไอ้นิวเมื่อพี่ๆปล่อยปีหนึ่งกลับบ้าน
“แน่ะ นัดใครไว้จ๊ะ” ไอ้นิวถามยิ้มๆ
“แม่กู” ไอ้เจมส์ตอบ ตามด้วยเสียงหัวเราะของผมกับไอ้นิว “จอดรถรออยู่หน้าคณะแล้วเนี่ย เดี๋ยวไปกินข้าวกับญาติ”
“เออ...งั้นกูกลับไปปั่นการบ้านดีกว่า” ไอ้นิวพูด
“การบ้านไรวะ” ผมถามทันที
“พื้นฐานธุรกิจ ที่สั่งเมื่อบ่ายนี้ไง”
“โอ้โห มึงจะขยันไปไหนสาดดด” ผมคราง
“ว่างกูก็ทำสิวะ จะดองไว้ทำไม อีกเดือนนึงจะมิดเทอมแล้วด้วย”
จะสอบแล้วเหรอ ผมยังไม่รู้เลยว่าเรียนอะไรไปบ้าง
“เดี๋ยวกูว่าจะเริ่มทำภายในวีคนี้เหมือนกัน มึงก็หัดขยันๆอย่างพวกกูบ้างนะเพชร” ไอ้เจมส์หันมาเล่นงานผม
“เหี้ย อยู่กับพวกมึงแล้วเหมือนกูขี้เกียจไปเลย”
“เออดิ” ประสานเสียงใส่หน้ากูเชียวนะเพื่อน
ผมร่ำลาไอ้เจมส์ ไอ้นิว ตั้งใจจะเดินไปเรียกแท็กซี่หน้าคณะ แต่เดินยังไม่ทันพ้นช่วงตึกก็มีเสียงเรียกเสียก่อน
“เพชร”
ผมหยุดเดิน แต่ไม่ได้หันหลังกลับไปหาทันที จนถูกเรียกครั้งที่สองนั่นแหละ
“เพชร”
ยืนใกล้กันอย่างนี้ยิ่งเห็นว่าไอ้พี่พฤกษ์หน้าหม่นกว่าตอนที่มองผมในกรุ๊ปเสียอีก
“จะกลับคอนโดใช่มั้ย”
“อืม” เสียงที่ผมตอบออกไปไม่เหมือนเสียงของตัวเองเท่าไร เหมือนไม่ได้พูดกับพี่มันมานาน ทั้งที่ความจริงคือแค่ไม่กี่วัน
“...ให้พี่ไปส่งนะ”
ผมมองสบตาไอ้พี่พฤกษ์ตรงๆ ต้องการจะรู้ว่าทำไมถึงไม่ละความพยายามที่จะง้อ ทำไมถึงแคร์ผมขนาดนี้ แต่มันหลบตาผม
และผมก็คิดอยู่ด้วยว่าทำไมไม่ปฏิเสธไปตั้งแต่ที่มันเอ่ยปาก
ไม่เข้าใจตัวเองเลยสักนิด
“อือ”
ผมเห็นสีหน้าประหลาดใจแวบหนึ่งตามด้วยรอยยิ้มกว้างของไอ้พี่พฤกษ์ก่อนจะเดินตามมันไปที่ลานจอดรถ

ผมยังโกรธอยู่ และใจหนึ่งก็อยากจะฟังเรื่องจากปากไอ้พี่พฤกษ์เอง ทั้งๆที่รู้เรื่องบางส่วนจากพี่เกี้ยงแล้ว อีกใจก็ไม่อยากฟังอะไรแล้ว แต่อย่างหลังก็ดูขัดกับการที่ยอมมาขึ้นรถมันแบบนี้
“เราหิวข้าวมั้ย”
“ไม่ เดี๋ยวไปกินที่ห้อง”
“คะ ครับ”
ผมสงสัยเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องว่าทำไมต้องคิดว่าคำถามของไอ้พี่พฤกษ์เป็นการชวนกินข้าวแล้วรีบบอกปัด
“เพชร...อยากฟังพี่อธิบายมั้ย”
ผมไม่ตอบ และมั่นใจเต็มร้อยว่าไอ้พี่พฤกษ์รู้คำตอบจากสีหน้าผม
“พี่ว่า...เราคงไม่อยากฟังเหตุผลเรื่องวันนั้นแล้วแหละ ถ้างั้น...จะให้พี่ทำไงให้เราหายโกรธ”
ผมเงียบไปนานก่อนตอบ
“ไม่รู้”
ไอ้พี่พฤกษ์เองก็นิ่งไปเดี๋ยวหนึ่งถึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นจริงๆ พี่ยอมรับผิดทุกอย่…”
“พี่ไม่ต้องขอโทษแล้ว”
ผมไม่อยากได้ยินเสียงแบบนั้นจากมันอีก
“มะ หมายความว่าไงครับ”
“ช่างมันเหอะ”
“ทำไมล่ะ”
ผมจิ๊ปาก ขี้เกียจอธิบายโว้ย
“เพชรยังโกรธพี่อยู่ใช่มั้ย”
“เอาตรงๆ ใครจะไม่โกรธวะ”
แต่ผมก็กำลังรู้สึกใจอ่อนอยู่ด้วย
พอพูดอย่างนั้น หน้าไอ้พี่พฤกษ์นี่หดเล็กลงเลย
“พี่จะให้รู้สึกดีอ่อ”
มันเงียบ ซึ่งผมเห็นแล้วหงุดหงิดและยั้งปากตัวเองไว้ไม่อยู่
“ทำไมต้องเป็นผมวะ” ผมหันไปมองหน้าไอ้พี่พฤกษ์
“พี่...พี่คิดว่าเพชรรู้ว่ามันเป็นว้ากปลอมแล้วจะไม่โกรธ...และที่ไล่เราออกไป เพราะพี่ไม่อยากสั่งลงโทษ…”
ตรงกับที่พี่เกี้ยงพูดเลย
“เออ ผมมันโง่เองแหละ ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง”
“ไม่ใช่ยังงั้น…”
“พี่ไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง” ผมเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
“พี่ขอโทษที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกเรา พี่ผิดเอง” ไอ้พี่พฤกษ์พูดแทรกผมบ้าง
วันนี้ถนนแม่งก็รถติดจังวะ เมื่อไรจะได้ลงจากรถ
“ยกโทษให้พี่นะครับ...พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
ผมพึ่งสังเกตว่ามันพูดเพราะด้วยทุกคำ ห่า มึงง้อผู้หญิงอ่อวะ
“พี่อย่าพึ่งสัญญาอะไรเลย ถ้าไม่แน่ใจว่าจะทำได้...ผมไม่เชื่อแค่คำพูดง่ายๆหรอกนะ”
“งั้นพี่จะทำให้ดู เพชรให้โอกาสพี่มั้ยล่ะ”
คราวนี้เป็นผมบ้างที่หลบสายตาเศร้าแต่แฝงความมุ่งมั่นว่าจะพิสูจน์ให้เห็น
“เลิกพูดเรื่องนี้เหอะ”
ไอ้พี่พฤกษ์ดูไม่เข้าใจแต่ก็ยอมตาม
“ก็ได้ครับ”
จากนั้นจนถึงคอนโดผม เราก็ไม่ได้พูดกันอีก แต่ผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ก่อนลงจากรถ
“พี่พฤกษ์”
“ครับ”
“ขอโทษด้วยแล้วกัน...ที่ผลักพี่วันนั้น ที่ด่าด้วย แล้วก็ไม่ยอมฟังอะไรตั้งแต่แรก”
ผมตะกุกตะกัก ถึงเวลาที่ต้องยอมรับความผิดของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ไอ้พี่พฤกษ์จะผิดคนเดียว
“เอ่อ ครับ”
ผมหวังว่ามันจะเข้าใจว่านั่นคือคำยกโทษของผม
“เดี๋ยวเพชร”
มันคว้าแขนผมไว้ตอนที่เปิดประตูรถ
“ขอบคุณนะครับ”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มหวาน ท่าทางดูทั้งโล่งอกทั้งใจชื้น
ผมไม่ตอบอะไร ลงรถแล้วเดินเข้าคอนโด แต่เมื่อหันมามองก็ยังเห็นคนในรถนั่งยิ้มอยู่ที่เดิม

ผมคิดว่าจะให้บทลงโทษบัดดี้ซะหน่อย จะได้เอาคืนรุ่นพี่อย่างที่พี่แนทบอกจริงๆ ยิ่งผมได้ไอ้พี่พฤกษ์เป็นบัดดี้แล้วด้วย
ก่อนเข้าห้องเรียนคาบเช้าของวันรุ่งขึ้น ผมเขียนโน้ตแล้วแวะเอาไปใส่ในกล่องเทคของที่กรุ๊ป
“ไอ้เจมส์ พวกรุ่นพี่เค้าจะแวะมาดูกล่องเทคกันตอนไหนวะ” ผมถามไอ้เจมส์ทันทีที่เจอหน้า
“พี่แนทบอกว่าให้พี่ที่เล่นบัดดี้ต้องไปรับของหรือคำสั่งอย่างน้อยวันละ2ครั้ง คือพักเที่ยงกับเวลากิจกรรมตอนเย็น”
นั่นทำให้ผมตั้งตารอเลยว่าไอ้พี่พฤกษ์จะปฏิบัติตามบทลงโทษเมื่อไร
แล้วผมก็ต้องสมหวังอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าบัดดี้ตัวเองปฏิบัติตามคำสั่งตอนเวลาพักเที่ยงทันที
ไอ้พี่พฤกษ์เขียนชื่อมันใส่กระดาษแล้วหาเชือกมาคล้องเป็นป้ายแขวนรอบคอ พี่แกแยกตัวออกมาจากพี่ริวกับพี่เกี้ยงแล้วตรงไปที่สนามหญ้าด้านข้างโรงอาหารและเริ่มต้นวิ่งพร้อมตะโกนไปด้วย
“ผมชื่อพฤกษ์ marketing ปี3 ใส่กางเกงในสีชมพู ชอบแอบดูผู้ชายอาบน้ำครับ”
เกิดเสียงหัวเราะโห่ฮาดังลั่นขึ้นแถวนั้น
“เชี่ยยย ใครเป็นบัดดี้พี่พฤกษ์วะ โหดสาด” ไอ้เจมส์ว่า
“แม่งร้ายจริงๆ” ไอ้นิวกำลังหัวเราะตัวงอ
“สมน้ำหน้าไอ้พี่พฤกษ์มัน” ผมทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่ก็มองไอ้พี่พฤกษ์ที่ทำตามคำสั่งผมครบถ้วนไม่บกพร่องอยู่ตลอด
หึหึ อย่างมึงต้องเจอกู
ผมสั่งให้มันวิ่งรอบสนาม20รอบตอนพักเที่ยงและพูดสคริปต์อุบาทว์ๆนั่นระหว่างที่วิ่งอยู่ด้วย
อายแทบแทรกแผ่นดินหนีแน่ๆมึง
กินข้าวไป มองบัดดี้ไป พี่แกอึดจริงๆครับ วิ่งไปหลายรอบแล้วยังคงรักษาความเร็วได้คงที่และเสียงก็ไม่มีตกเลย
รู้ตัวอีกทีไอ้พี่พฤกษ์ก็วิ่งครบ มันหายใจเร็วขึ้นกว่าปกติก็จริง แต่ไม่หอบเลย แม่ง นี่คนหรือคนเหล็ก
มันเดินกลับเข้ามาในโรงอาหาร พี่ริวกับพี่เกี้ยงเข้าไปกอดคอ ตบบ่า ยื่นน้ำดื่มให้ และพูดอะไรกับมันก็ไม่รู้ ผมเดาว่าน่าจะเป็นคำชม
“เมื่อเช้ากูเอาขนมไปหย่อนกล่องละ ไม่อยากแกล้งบัดดี้ตัวเองว่ะ” ไอ้เจมส์พูดกลั้วหัวเราะ
“กูยังไม่รู้จะทำไงกับบัดดี้เลย” ไอ้นิวบอก
“กูก็ยังไม่ได้ทำอะไรกับบัดดี้ว่ะ” ผมทำเนียนไปด้วย
“พวกมึงก็รีบๆเข้าล่ะ เดี๋ยวเฉลยแล้ว ไม่เทคของหรือให้คำสั่งก็เหมือนไม่ได้เล่นนะเว้ย”
ตอนนี้ในหัวผมกำลังคิดคำสั่งต่อไปให้บัดดี้สุดที่รักอยู่

ผมแวบจากห้องเรียนออกมาระหว่างคาบบ่าย ส่งคำสั่งที่สองใส่กล่องให้บัดดี้ คราวนี้ไอ้พี่พฤกษ์มันจะกล้าทำมั้ยนะ
“มึงซื้อขนมให้บัดดี้หรอวะเจมส์”
ผมถาม เมื่อเห็นว่าไอ้เจมส์ซื้อขนมขบเคี้ยวหลายถุง แถมยังมีกระดาษทิชชู่ น้ำเปล่าด้วย สงสัยได้รุ่นพี่ผู้หญิงเป็นบัดดี้ชัวร์ ดูแลดีขนาดนี้
“เออดิ”
“เทคดีจังวะ กูเป็นบัดดี้มึงได้มั้ย”
“ไม่ได้โว้ย ถ้ามึงเป็นบัดดี้กู กูจะสั่งให้วิ่งแก้ผ้ารอบคณะ”
ผมตบหัวไอ้เจมส์แทบพุ่ง ไอ้นิวหัวเราะแล้วเดินตรงไปที่ร้านขนมใกล้บริเวณกรุ๊ป
“เดี๋ยวกูขอแวะซื้อของให้บัดดี้มั่งดิ”
“มึงล่ะไอ้เพชร ไม่เห็นให้อะไรบัดดี้มั่งเลย” ไอ้เจมส์ว่า
“กูให้ของไปแล้ว”
“ตอนไหนวะ”
“ที่กูมาเข้าห้องน้ำคาบเมื่อกี้ไง”
“แหม กลัวคนเห็นรึไง”
“เออ ถ้าบัดดี้จับได้ก็โดนลงโทษดิ”
“เชี่ย”
ไอ้นิวร้อง
“อะไรมึง”
“กูพึ่งซื้อตอนนี้ แล้วถ้าเดินไปที่กรุ๊ป พี่เค้าก็เห็น…”
“มึงก็รีบๆดิ ช้ากว่านี้พวกพี่ๆมากันเต็มกรุ๊ปพอดี” ไอ้เจมส์กับผมขำกับความเอ๋อของไอ้นิว
สามหล่อช่วยกันบังถุงของที่ไอ้นิวซื้อแล้วรีบเอาไปใส่กล่องได้ทันก่อนที่จะมีใครเห็น เราเป็นพวกแรกๆที่มาถึงวันนี้ครับ ผมอดใจรอดูไอ้พี่พฤกษ์ไม่ไหวแล้ว
“หวัดดีครับน้องๆ”
ตายยากจริงๆนะมัน ไอ้พี่พฤกษ์มาถึงกรุ๊ปแล้วเข้ามากอดคอผม
“เพื่อนเล่นอ่อ” ผมถามกวน
“อย่าให้รู้นะว่าใครเป็นบัดดี้พี่ จะเอาคืนให้หนักๆเลย” มันพูดพร้อมส่งยิ้มไปให้ปีหนึ่งทุกคนที่มาถึงแล้ว
เหอะ ก็คนที่มึงยืนกอดคออยู่นี่ไง
“พี่แม่งใจว่ะ กล้าทำได้ไงวะ” ผมแกล้งถามกลั้วหัวเราะ เหมือนไม่รู้เรื่องเลยสักนิด
“จะไม่ทำได้ไงล่ะคร้าบ กฎคือต้องทำตามที่บัดดี้สั่งทุกอย่าง”
“ถ้าบัดดี้สั่งให้กระโดดลงมาจากดาดฟ้าตึก พี่จะทำปะ”
“นั่นก็เกินปายยย” แน่ะ ดีดเหม่งกูอีก สนิทกันอ่อวะ “เราอะได้ใครเป็นบัดดี้”
“เรื่องไรจะบอก”
“บอกมาเหอะน่า พี่ไม่เอาไปบอกพี่คนนั้นหรอก”
“ไม่ เพชรไม่ไว้ใจ”
“ก็ได้ๆ” มันอมยิ้ม
จะบอกได้ไง ก็มึงนั่นแหละสาด
“แล้วนี่จะกอดคออีกนานมั้ย”
ไอ้พี่พฤกษ์ทำเป็นไม่ได้ยิน แถมยังเอามืออีกข้างมายีผมผมเล่นอีก
“หนุกปะ”
“หนุกกกกก” ไอ้สัส มึงอย่ามาลากเสียงแอ๊บแบ๊วแบบนั้น ขนลุกเว้ย
“มึงจะจีบน้องมันอีกนานมั้ยไอ้พฤกษ์ ปล่อยน้องไปนั่งได้แล้ว กิจกรรมจะเริ่มละ”
พี่ริวพูดยิ้มๆ ไอ้พี่พฤกษ์ยอมปล่อยผมแล้วกลับไปรวมกับเพื่อน
เกมที่ได้เล่นวันนี้เป็นเกมใบ้คำครับ ผมโดนแยกไปอยู่คนละกลุ่มกับไอ้เจมส์ไอ้นิว ไม่อยากแพ้พวกมันเลยเล่นเต็มที่ครับ ถึงตาผมเป็นคนใบ้ ผมได้คำว่า ‘คันหู’
ผมเกาที่หูพร้อมทั้งเต้นส่าย นึกภาพเอาจาก mv ที่เคยดูครับ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดได้ทั่วกรุ๊ป
และทีมผมก็ชนะจนได้
“เสียดาย กูหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายไม่ทันว่ะ” ไอ้เจมส์บ่น
“ไม่ต้องเลยสัส”
“เดี๋ยวนี้มึงท็อปฟอร์มขึ้นทุกวันเลยนะเพชร” ไอ้นิวเข้ามากอดคอผม ผมเลยตอบกลับไปด้วยการชูนิ้วกลางให้
หลังเกมจบ ผมเห็นไอ้พี่พฤกษ์เดินไปที่กล่องบัดดี้
ผมแอบยิ้ม
มันมีสีหน้าตกตะลึงเมื่ออ่านกระดาษคำสั่ง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างแทบจะทันที
มันเดินช้าๆ มองหาอะไรบางอย่าง
จนมันสบสายตาเข้ากับผม และเดินตรงมา
ไอ้พี่พฤกษ์หยุดตรงหน้า คุกเข่าลง ฉีกยิ้มร้ายๆแบบที่พี่แกชอบทำ
เห้ย อย่าบอกนะว่า...
“เพชรครับ...พี่ชอบเพชรมานานแล้ว เป็นแฟนกับพี่นะครับ”

TBC

หูยยย เพชรเอาคืนพี่พฤกษ์ได้แสบจริงๆ
ว่าแต่เฮียแกขอเป็นแฟนต่อหน้าคนเกือบร้อยเลยรึ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP16 “...เป็นแฟนกับพี่นะครับ”
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 29-08-2018 13:37:38
 :pig4: :pig4: :pig4:

พี่พฤกษ์นี่ขอไปตามน้ำตามเกม  หรือขอจริง ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP16 “...เป็นแฟนกับพี่นะครับ”
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-08-2018 13:37:55
 :hao7: :-[

เนียนๆไปเลยพี่ เราต้องฉวยโอกาสจากเกมส์
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP17 "พฤกษ์กับเพชร"
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 01-09-2018 09:14:21
EP17 “พฤกษ์กับเพชร”

“เพชรครับ...พี่ชอบเพชรมานานแล้ว เป็นแฟนกับพี่นะครับ”

เหี้ยยยยยย
“พี่ทำบ้าไรเนี่ย”
ผมโวยวาย ผงะถอยหลัง แต่ไอ้พี่พฤกษ์ไม่หยุด มันขยับเข้ามาจับมือผม
คนทั้งกรุ๊ปหันมามองเราสองคน
“รับรักพี่นะครับเพชร”
“รับพ่อ...บ้าอะไรล่ะ”
ผมตกใจจนเกือบหลุดคำว่าพ่องออกมาแล้ว แน่ะ มีทำสายตาปริบๆซึ้งๆใส่กูอีก โอ๊ย
“เล่นไรของพี่เนี่ย”
“ตกลงว่าเราเป็นแฟนกันแล้วนะครับ”
“ฟะ แฟนเฟินไร” นี่มึงเล่นใหญ่รัชดาลัยไปละไอ้พี่พฤกษ์
“ไม่เขินสิครับ”
ไม่ให้เขินได้ไง เอ้ย เขินพ่องงงง
“คำสั่งบัดดี้ใช่มั้ย พอเลยๆ” ผมพยายามสะบัดมือออกจากมือมัน
ไอ้พี่พฤกษ์ลุกขึ้น ยิ้มกว้างแบบโคตรอารมณ์ดี ก่อนจะมองไปยังทุกๆคนในกรุ๊ป4
“พี่ขอผู้ชายเป็นแฟนแล้วนะครับน้องบัดดี้”
ตามด้วยเสียงปรบมือและโห่ร้องของทุกคน ชื่นชมสปิริตความหน้าด้านหน้าทนของไอ้พี่พฤกษ์
ผมพลาดเองแหละ เสือกไปบอกให้มันทำอย่างนั้น
‘บอกรักผู้ชาย1คน’

“ฮั่นแน่ บอกรักแล้วพาขึ้นรถเลยอ่อ ไวไฟจริงๆนะไอ้พฤกษ์”
“ไม่ใช่ละพี่”
พี่ริวแซวผมกับไอ้พี่พฤกษ์ทันทีที่เห็นมันเดินมาชวนผมกลับบ้านหลังกิจกรรมกรุ๊ปจบ
“กูไปส่งน้องที่คอนโดเฉยๆโว้ย”
ตอบปฏิเสธแต่ทำไมต้องยิ้มด้วยล่ะ
“หราาาา”
ไอ้พี่พฤกษ์เลิกต่อล้อต่อเถียง ได้แต่ชูนิ้วกลางใส่หน้าพี่ริว
“กูไปละนะพวกมึง” ผมหันไปบอกไอ้เจมส์กับไอ้นิวที่ก็กวนตีนไม่แพ้เพื่อนไอ้พี่พฤกษ์ พวกมันกำลังทำท่าทางล้อเลียนผม- -
“ไปกันเถอะครับ”
พอพ้นเขตกรุ๊ป มันก็ยกแขนขึ้นโอบผมแล้วพาเดินไปที่รถด้วยกัน
“เพื่อนเล่นอ่อ”
“หวงตัว?”
มันย้อนถาม หน้ายิ้มกวนชวนให้ชกสักหมัด
“หรือว่าเขิน เขินพี่อ่อ”
“เขินพ่อง”
ป้าบ
“โอ๊ย ไอ้…”
“พูดไม่ดีเดี๋ยวโดนอีกทีนะครับ”
“คิดว่ากลัวไง”
โบกหัวกูมาได้ มือมึงไม่ใช่เล็กๆนะสัส
“ลามปามพ่อพี่ได้ไง”
ผมสะบัดแขนมันออกจากไหล่แล้วเดินนำหน้าไปโดยไม่รอ
“อ้าว งอนพี่เหรอ รอด้วยดิน้องเพชร”
ตอนนี้ผมเกลียดเสียงกลั้วหัวเราะของไอ้พี่พฤกษ์มาก
“ไม่ได้งอน”
“ไม่งอนแล้วเดินหนีไมอะ”
“รำคาญ”
มันทำตาโตก่อนจะรวบคอผม
“ปล่อยยย”
“รำคาญอ่อ...มานี่เลยไอ้ตัวแสบ”
ด้วยแรงที่มากกว่า ผมถูกมันลากไปที่รถทั้งสภาพนั้น
“เจ็บนะเว้ย”
ผมขึงตาใส่มันเมื่อถูกปล่อยและนั่งในเบาะหน้าเรียบร้อยแล้ว
“ง้องแง้งเป็นผู้หญิงไปได้” ยัง ยังไม่หยุดกวนตีน
“ใครกันแน่ง้องแง้ง ปัญญาอ่อน” คำหลังผมพึมพำเสียงเบา
“อะไรนะ” เสือกได้ยินอีกแน่ะ
“ป๊าวว”
“หึหึ”
ไอ้พี่พฤกษ์ยีหัวผมก่อนจะหมุนพวงมาลัย บังคับรถให้เคลื่อน
“เรานี่ดื้อยังไงก็ยังงั้นเลยนะ”
ผมทำเป็นไม่สนใจ มองออกไปทางกระจกรถ
“แน่ะ ทำเมินด้วย”
“รำคาญไง ขี้เกียจคุย”
“เดี๋ยวนี้ปากคอเราะร้ายนะน้อง”
“ผมด่าพี่ตั้งแต่วันแรกที่เจออยู่แล้วนะ”
“เออ ก็จริง แค่ไม่ใช่คำหยาบ...เอ๊ะ ยอมรับอ่อว่าด่าพี่”
“พึ่งรู้รึไง” ผมขำ
“นึกถึงตอนที่พี่สั่งให้เราขึ้นรถครั้งแรกเนอะ”
“พูดรำลึกความหลังเหมือนคนแก่ไปได้”
“อ้าว ก็มันสนุกนิครับ ได้แกล้งเพชร”
“ถามผมยังว่าสนุกด้วยมั้ย”
“สนุกไม่สนุกไม่รู้...รู้แต่เดี๋ยวนี้เรายอมกลับกับพี่ทุกวัน” ไม่ต้องมาทำหน้ากรุ้มกริ่มเลยมึง
“โด่ เห็นว่าได้กลับฟรีเหอะ”
“งั้นจ่ายค่าน้ำมันมา”
“ถ้าจะทวง คราวหน้าก็ไม่ต้องชวนกลับ” เอาดิ กูไม่ยอมมึงหรอก
ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะลั่น
“โอเค ยอมแล้วครับ”
ผมเพิ่มเสียงจากวิทยุเองอย่างถือวิสาสะเมื่อเพลงที่ชอบขึ้นมา
“แน่ะ ซนรถพี่อ่อ”
ผมไม่ตอบ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ชอบเพลงนี้สินะ”
“เงียบๆดิ จะฟังเพลง”
“ครับๆ” มันยิ้มก่อนจะหันไปโฟกัสกับถนนต่อ
พอเพลงโปรดผมจบ ไอ้พี่พฤกษ์ก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“วันนี้ว่างปะ”
“ก็ว่าง”
“งั้น...ไปบ้านพี่มั้ย”
“ไปทำไรอะ”
“เอ่อ…”
ผมสงสัยว่าทำไมมันต้องตะกุกตะกัก
“ชวนไปนอนด้วยเฉยๆอะ”
“ที่บ้านไม่มีคนอยู่รึไง”
“ก็มี แต่ชวนไปเที่ยวไงครับ ไปมั้ย”
“อืม...เอาดิ”
ยังไงผมกลับคอนโดไปก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว ไปเล่นบ้านไอ้พี่พฤกษ์ก็ได้
“แล้วพรุ่งนี้ใส่ชุดนิสิตพี่ออกมาเรียนก่อนก็ได้ เดี๋ยวพี่มาส่ง”
“ก็ต้องเป็นงั้นอยู่แล้ว” ผมแกล้งตอบกวนตีน มันยิ้ม ชอบให้กูกวนรึไง “พูดเหมือนพี่ไม่ต้องออกมาเรียน”
“พี่มีเรียนบ่ายไงครับ แต่เราเรียนเช้า”
“แล้วรู้ได้ไงว่าพรุ่งนี้ผมเรียนเช้า”
“รู้ดิ” อ้าว กวนตีนคืนอ่อ
เมื่อถึงสี่แยกข้างหน้า แทนที่จะขับตรงต่อไปยังคอนโดผม ไอ้พี่พฤกษ์ก็ยูเทิร์นรถมาอีกฝั่ง มุ่งหน้าไปบ้านมัน
ผมเลิกถามไปนานแล้วว่าทำไมไปส่งแทบทุกวัน ทั้งๆที่บ้านเราสองคนไม่ได้ใกล้กันเลย
“พี่พฤกษ์”
“คร้าบ”
“หิว”
“โอ๋ แปบนึงนะครับ เดี๋ยวกลับไปกินที่บ้านพี่ วันนี้ป้าแม่บ้านทำกับข้าวไว้เยอะเลย”
ไม่พูดเปล่า เอื้อมมือมาลูบหัวผมอีกแน่ะ ทำอย่างกับกูเป็นเด็ก
“รอไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวจะแวะกินก่อนก็ได้นะ”
“รอได้”
“โอเคครับ...แต่จะกินข้าวที่บ้าน ทำอะไรให้พี่อย่างนึงก่อน”
“ทำไร”
“เลิกแทนตัวเองว่าผม แล้วกลับมาเป็นเพชร”
อีกละ มันสำคัญตรงไหนฟะ
“ทำไมผมต้องทำด้วย” ถ้าไม่ก่อกวนก็ไม่ใช่ไอ้เพชรอะดิ เน้นเสียงตรงคำว่าผมด้วย
“ไม่งั้นก็ไม่ต้องกิน”
“งั้นก็จอด ผมจะกลับคอนโด” มึงก็น่าจะรู้นะว่ากูชอบเอาชนะ
“โห่ แค่แทนตัวเองว่าเพชรเอง นะครับ” เสียงอ่อนเสียงหวานเชียว ไอ้สัส ขนลุก
“ตอบก่อนดิว่าทำไม”
“ขี้สงสัยจังวะ” ไอ้พี่พฤกษ์พึมพำ
“ผมได้ยินนะ”
“ก็เคยบอกแล้วไง...มันดูสนิทกันดีอะ”
“แต่ผมไม่อยากสนิทกับพี่นิ”
มันจิ๊ปาก ผมยิ้ม
"ไอ้เด็กนี่”
"แบร่”
ผมก็ไม่ได้ติดขัดอะไรหรอกนะครับ แค่อยากแกล้งพี่มันเฉยๆ
"เพชรก็ได้”
เท่านั้นแหละไอ้พี่พฤกษ์ก็ยิ้มไม่หุบเลย

“ป้าหวานนนน พฤกษ์หิวแล้วคร้าบบบ”
ไอ้พี่พฤกษ์แหกปากตั้งแต่ตอนที่พึ่งจอดรถในโรงจอดเสร็จ ซึ่งนอกจากvolvoก็ยังมีรถอีก4คันจอดอยู่
เออ กูเชื่อแล้วว่าบ้านมึงรวยจริง
ผมคงไม่ต้องพูดถึงบ้าน(คฤหาสน์น้อยๆ)ของมันอีกนะครับ
“ค่าาา ป้าทำเสร็จแล้วค่ะ”
ผมเดินตามไอ้พี่พฤกษ์เข้าไปแล้วก็เห็นป้าหวานยืนยิ้มอยู่หน้าห้องโถง ผมยกมือไหว้อย่างคนมารยาทดี
“หวัดดีครับ”
“หวัดดีค่ะ เพื่อนน้องพฤกษ์หรอคะ”
“แฟนพฤกษ์น่ะครับ”
ป้าหวานเลิกคิ้ว ท่าทางตกใจเล็กน้อย
แฟนพ่อมึงดิสัส
“หืมม น้องพฤกษ์มีแฟนแล้วไม่เห็นบอกป้าเลย”
“ล้อเล่นนะคร้าบ นี่รุ่นน้องที่คณะ สนิทที่สุดแล้วคนเนี้ย” ไอ้พี่พฤกษ์พูดพร้อมกับโอบไหล่ผม
“ป้าเกือบเชื่อน้องพฤกษ์แล้วนะเนี่ย”
“เอ้า แนะนำตัวสิ” ไอ้ตัวยุ่งบอกผม
“ผมเพชรครับ”
“ค่ะ น้องเพชรหล่อมากเลยนะคะ ป้าเห็นตั้งแต่ลงจากรถมา”
“แล้วพฤกษ์อะ ไม่หล่อรึไง”
ผมล่ะเกลียดเวลาที่มันแอ๊บแบ๊วจริงๆ- -
“หล่อสิคะ หล่อทั้งคู่นั่นแหละ ไม่ต้องน้อยใจนะ” ป้าหวานบอกกลั้วเสียงหัวเราะ “กินข้าวกันเถอะน้องพฤกษ์ น้องเพชร ป้าเตรียมให้พร้อมแล้วจ้ะ...เอ จะว่าไปสองคนนี้นี่ชื่อเข้ากันเลยนะ พฤกษ์กับเพชร”
ไอ้พี่พฤกษ์ที่ยังโอบผมอยู่หันมายิ้มแฉ่งให้ แต่ผมไม่ได้ยิ้มกลับไปให้มันหรอกนะ
“ชื่อเราเข้ากับพี่แหละ”
มันกระซิบที่หูผม ผมทำท่าอาเจียนใส่
ปรากฏว่ากับข้าวทุกอย่างที่ป้าหวานทำอร่อยมากเลยครับ ผมเติมข้าวเพิ่มอีก2จาน คนที่ยิ้มกริ่มไม่แพ้ป้าหวานก็คือไอ้พี่พฤกษ์
“อยู่คอนโดคนเดียวไม่ได้กินของอร่อยแบบนี้อะดิ”
“เออดิ” ผมตอบสั้นๆแล้วหันไปกิน(ยัด)ต่อ
“จะมากินกับข้าวฝีมือป้าหวานบ่อยๆก็ได้นะ”
“อยากอยู่ แต่ไม่อยากเจอพี่อะดิ”
“อ้าว ไอ้เด็กเวร”
ผมแลบลิ้นใส่ไอ้พี่พฤกษ์ที่ตีหน้าเข้ม โด่ น่ากลัวตายแหละ
“วันนี้น้องชลจะกลับมากินมั้ยคะเนี่ย ยังไม่โทรมาบอกป้าเลย” ป้าหวานเดินเข้ามาพร้อมถาดใส่ผลไม้หลายชนิดที่ถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
“ไม่รู้มันดิครับ ไม่ได้บอกอะไรพฤกษ์ไว้ด้วย”
“ยังดีที่น้องพฤกษ์บอกให้ป้าทำไว้เยอะนะเนี่ย”
“นั่นสิครับ ไม่งั้นกับข้าวเหลือไม่ถึงพี่ชลแน่ๆ แขกกินเยอะขนาดนี้” ไอ้พี่พฤกษ์แซะผม ผมทำเป็นไม่สนใจ
“ถ้าจะเอาอะไรเพิ่ม เรียกป้านะคะ ป้าเข้าไปในครัวก่อน”
“คร้าบ” ไอ้พี่พฤกษ์ตอบ ป้าหวานหันมายิ้มกว้างกับความมูมมามของผมอีกครั้งก่อนจะหันหลังเดินไป
“ทำไมบอกให้ป้าเค้าทำกับข้าวไว้เยอะๆอะ”
“ก็พี่กะจะชวนเรามานอนบ้านตั้งแต่แรกแล้ว”
“แน่ใจได้ไงว่าเพชรจะมานอน”
“แน่ใจดิ” มันเว้นจังหวะแบบที่ผมรู้ว่ากำลังจะกวนตีน “เราใจง่ายจะตาย”
“ไอ้พี่พฤกษ์”
“แน่ะๆ ด่าผู้ใหญ่อีกแล้วอ่อ เดี๋ยวโดน”
“ว่าแต่ชลนี่ใคร”
“พี่ชายพี่เอง”
“แล้วพ่อแม่ล่ะ”
“ไปฮ่องกง ทริปพักผ่อนกับลูกน้องที่บริษัท...ทำไมวันนี้ถามเยอะจังเรา”
“ไม่ถามแล้วก็ได้”
ไอ้พี่พฤกษ์ยีหัวผมอย่างเอ็นดู

“นอนได้ป่าว”
“โห่ ได้ดิ เตียงพี่เพิ่มอีกคนยังนอนได้สบายๆเลย”
ไอ้พี่พฤกษ์พาผมขึ้นห้องนอนมันหลังอาหารเย็น มันบอกว่าทำตัวให้สบายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง แน่นอนอยู่แล้ว ระดับผมไม่มีเกรงใจหรอก5555
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน จะเปิดทีวี คอม หรือทำอะไรก็เอาเลย”
ผมพยักหน้ารับ มันส่งยิ้มให้ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูขึ้นพาดบ่าแล้วออกจากห้องไป
ผมเดินสำรวจรอบห้อง นอกจากเตียงกับตู้เสื้อผ้าแล้ว ที่กินพื้นที่ห้องไปส่วนใหญ่อีกอย่างก็คือของสะสมของไอ้พี่พฤกษ์ น่าขโมยกลับไปเล่นหลายชิ้น
แต่ผมสะดุดตากับรูปถ่ายครอบครัวของพี่มันมากกว่า พี่ชลหน้าตาคล้ายไอ้พี่พฤกษ์ เพียงแต่ผิวแทนและดูเนี้ยบ ขรึมกว่า ส่วนพ่อแม่ก็ดูท่าทางใจดีทั้งคู่ ครอบครัวนี้น่าจะมีความสุขมากเลยทีเดียว
อิจฉาชะมัด
ไอ้พี่พฤกษ์ตอนยังเป็นเด็กน้อย หน้าตาน่ารักมากครับ ขาวเผือก ปากแดง แก้มยุ้ยน่าเล่น ไว้ผมทรงกะลาครอบ ผมเห็นรูปเด็กชายพฤกษ์หลายรูปแล้วก็ต้องหัวเราะออกมา
ดูเพลินๆจนเจ้าตัวกลับมาจากอาบน้ำเสร็จนั่นแหละครับ
“แน่ะ ซนอะไรเนี่ย”
“ป่าว”
“พี่เห็นนะว่าหยิบกรอบรูปขึ้นมาดู”
“หยิบตอนไหน ไม่มี”
“ไม่เชื่อหรอก” ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะ “พี่ทันเห็นตอนเราวางคืนที่พอดี”
“เออๆ ดู มีปัญหาอ่อ” ผมเลิกฟอร์มแล้วหันไปหาเรื่องเจ้าของห้อง
“ป่าวคร้าบ อยากดูก็ดูดิ”
“ทำไมพี่ตอนเด็กน่ารักวะ”
“แล้วตอนนี้ไม่น่ารักรึไง”
“ไม่”
“แบบนี้ยังไม่น่ารักอีกอ่อ”
“น่าเกลียด พี่แม่งไม่น่าโตเลย” ผมยังกวนตีนไม่หยุด
“น้องเพชร”
“คร้าบบบพี่พฤกษ์”
“กวนตีน”
“พอๆกับพี่อะ”
ผมยักคิ้วใส่ไอ้พี่พฤกษ์
“อะๆ ตอนนี้ไม่น่ารักแล้วก็ได้ แต่หล่อ”
“ไม่อะ”
“ใครๆก็บอกว่าพี่หล่อ”
“เพชรว่าไม่”
“อิจฉาอะดิ”
“ทำไมต้องอิจฉา ก็เพชรหล่อกว่า”
“จ้าาา พ่อคนหล่อ หล่อไม่มีใครเท่า”
ไอ้พี่พฤกษ์หยิบชุดนอนที่เสื้อกับกางเกงเป็นลายและสีเดียวกันมาใส่ ผมหัวเราะพรืด
“ขำไร”
“โตขนาดนี้ยังใส่ชุดนอนแบบนี้อีกอ่อ”
“เออ มีปัญหารึไง” มันหลบสายตาผม เหมือนจะเขินหน่อยๆ ผมเลยรุกต่อ
“เหมือนเด็กโข่งเลยว่ะ”
“ไอ้เด็กเวร”
“ว่าไงคร้าบ” ผมลากเสียงยาว เลียนแบบมันเวลาที่จะกวนตีน พร้อมเดินเข้าไปใกล้
“น้องพฤกษ์ปีนี้กี่ขวบแล้วอะคร้าบ”
“ล้อเลียนใช่มั้ย”
โดยไม่ทันตั้งตัว ไอ้พี่พฤกษ์ก็พุ่งเข้ามารัดผมแล้วจับทุ่มลงบนเตียง ก่อนจะขึ้นคร่อมไว้
“เห้ย อะไรของมึงเนี่ย ปล่อย” ผมร้องตะโกนเสียงดังลั่น ดิ้นสุดแรงแต่ขยับออกจากตัวไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้
“หึหึ อยากแซวพี่ดีนัก” มันแสยะยิ้มก่อนจะโน้มตัวลงมา
ห่า มึงจะทำอะไรกู

TBC

ก็ดันไปสั่งให้เขาบอกรักผู้ชายนี่เนอะ555
พี่พฤกษ์นี่ร้ายจริงๆ มีชวนไปบ้าน จะทำอะไรเพชรน้า
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP17 "พฤกษ์กับเพชร"
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-09-2018 09:52:18
 :pig4: :pig4: :pig4:

น้องมันใจง่ายจริง ๆ อ่ะแหละ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP17 "พฤกษ์กับเพชร"
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 01-09-2018 12:12:08
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP17 "พฤกษ์กับเพชร"
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-09-2018 17:50:58
พี่พฤกษ์จะทำอะไรน้องงง
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP17 "พฤกษ์กับเพชร"
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-09-2018 19:58:39
รุ่นพี่รุ่นน้องหยอกล้อกัน  :hao7:

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP18 "ผมขอสั่งให้พี่พฤกษ์..."
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 05-09-2018 11:52:03
EP18 “ผมขอสั่งให้พี่พฤกษ์…”

“หึหึ อยากแซวพี่ดีนัก” มันแสยะยิ้มก่อนจะโน้มตัวลงมา
ห่า มึงจะทำอะไรกู
แล้วไอ้พี่พฤกษ์ก็จั๊กจี้เอวผม ผมดิ้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ปล่อย5555555 ไอ้บ้า555555”
“อยากซ่าก็ต้องเจอแบบนี้แหละ”
“55555 ปล่อยนะเว้ย พะ พอแล้ว55555”
มันไม่สนใจคำขอ เล่นอยู่นานกว่าจะลุกออกไปจากตัวผม
“ห่า ไอ้พี่พฤกษ์”
มันหันมาตีหน้าเข้มใส่ผมอีกเมื่อได้ยินคำด่า
“เดี๋ยวก็โดนอีกทีหรอก”
ผมทำท่าไม่เดือดร้อนอยู่บนเตียง
“ไปอาบน้ำด้วยนะ ไม่ให้นอนสภาพนี้นะเว้ย”
พอไอ้พี่พฤกษ์พูดงี้ผมก็เล่นเลยสิ
“เพชรง่วงแล้วอะ นอนนะ ฝันดีครับพี่”
“นอนไม่ได้ ไปอาบน้ำก่อน”
ผมหลับตา ทำเสียงครางเพื่อความสมจริง
“ขอนอนนะคร้าบ ง่วงแล้วง่ะ”
“ไม่เอาาาา”
ไอ้พี่พฤกษ์ร้องเสียงดัง ผมนึกขัน
“เพชร ไปอาบน้ำ”
มันฉุดแขนผมให้ลุกขึ้น
“โห่ ไรว้า...ทีวันนั้นพี่เมาเป็นหมา น้ำไม่อาบ เพชรยังให้นอนเลย”
ผมแกล้งบ่น เห็นรอยยิ้มเขินจากเจ้าของเตียงก่อนจะยอมลุกขึ้นแล้วออกไปอาบน้ำบ้าง

สรุปว่าวันรุ่งขึ้นไอ้พี่พฤกษ์ปลุกผมตอนเจ็ดโมง(เมื่อคืนก็บังคับให้นอนตั้งแต่เที่ยงคืน) พอผมงัวเงียไม่ยอมขยับ มันก็ลากขาและดึงตัวให้ลุกจากเตียงจนได้
“เป็นอะไรฮะเรา หน้าบูดเชียว” ไอ้เรื่องกวนตีนเนี่ยที่หนึ่งเลยนะเฮีย ก็รู้ว่าบูดเพราะมึงนั่นแหละ
“ยังจะถามอีกอ่อ”
“555555 ก็เพชรเรียนเก้าโมงนิ ไม่ปลุกแล้วจะไปทันมั้ยล่ะ”
“เพชรเคยเข้าทันที่ไหน เรียนเก้าโมง อย่างเร็วเพชรถึงม.ก็สิบโมงละ”
“ไม่ได้ละ...ต่อไปนี้วันไหนเราเรียนเช้า พี่ต้องไปรับที่คอนโดทุกวันล่ะมั้ง”
“ไม่ต้องเลย จะมาทำไม”
“เอ้า ไม่งั้นเราก็สายสิ”
“ยุ่ง พี่เป็นพ่อเพชรรึไง”
“ไอ้เด็กนี่”
“พฤกษ์มึงคุยกับใครวะ”
ผมละสายตาจากหน้ากวนตีนๆของไอ้พี่พฤกษ์ไปหาคนที่กำลังตรงเข้ามาที่โต๊ะอาหาร
“อ้าวพี่ชล นี่เพชร น้องที่คณะ เมื่อคืนมันมานอนกับพฤกษ์”
“หวัดดีครับพี่” ผมยกมือไหว้
“หวัดดีครับ” พี่ชลยิ้มให้ หน้าเหมือนไอ้พี่พฤกษ์ชะมัด “สนิทกับไอ้พฤกษ์อ่อ พลาดละน้อง”
“พี่ชลลล” ไอ้ตัวป่วนลากเสียงยาว ผมหัวเราะ
“เมื่อกี้ทะเลาะอะไรกันวะ เสียงดังไปถึงหลังบ้าน”
“ไอ้นี่มันดื้อพี่ ปลุกไปเรียนแล้วงอแง ต้องจัดการ”
พี่ชลหัวเราะ
“ทำเป็นว่าน้อง บางวันมึงก็ตื่นไปเรียนเช้าไม่ทันไอ้พฤกษ์”
แค่นั้นไอ้พี่พฤกษ์ก็ไปไม่เป็น ผมส่งยิ้มกวนเบื้องล่างให้มัน
หลังจากนั้นพี่ชลก็ถามเรื่องเรียนกับผมนิดหน่อย ก่อนจะรีบกินอาหารเช้าจนเสร็จแล้วขอตัวออกไปทำงาน
“พี่อยากให้เราไปเรียนให้ทันจริงๆนะ รู้มั้ย”
“อือ” ผมพึมพำ น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยนั่นมึงไปหัดมาจากไหนวะพี่
มันขับรถออกมาส่งผม วันนี้รถไม่ติดเลย ถึงม.ก่อนเวลาเข้าเรียนหลายนาที
“แล้วพี่จะไปไหน เรียนบ่ายนิ”
“ไปห้องสมุด”
“ห้องสมุด พี่เนี่ยนะ” ผมแกล้งทำท่าประหลาดใจ
“เออ พี่ไปห้องสมุดไม่ได้รึไง” มันหรี่ตาจ้องผม
“ไม่อยากเชื่อ คนอย่างพี่ไม่น่าไปที่ดีๆแบบนั้นอะ” ผมกวนต่อ “โอ๊ย” โดนโบกหัวเลยกู
“ทำแผนการตลาด งานเยอะโคตร”
“งั้นเพชรไปละ”
“เดี๋ยว”
“อะไรอีก”
“ทำท่ารำคาญพี่อีกละ เดี๋ยวเดินไปส่งที่ห้อง...พี่กลัวเราโดด”
“โห่ ไม่โดดหรอกน่า เดี๋ยวไปเอง”
“ไม่”
ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ให้ผมเปิดประตูรถ แถมยังจับข้อมือผมแล้วพาเดินไปด้วย
“ไม่ต้องลากเพชรไปแบบนี้ก็ได้” ผมบ่นหน้ามุ่ย
“ไม่ได้ครับ” มันส่งยิ้มให้อย่างน่าถีบ
เออ แกล้งกูได้ทั้งวันมึงอะ
“ถึงห้องละ จะเข้าไปเรียนด้วยเลยมั้ย”
“ก็ได้นะ จะได้ดูว่าเราตั้งใจเรียนรึเปล่า”
“ไม่ต้องเลยมึง” ผมเผลอหลุดคำว่ามึงไปด้วย
“นี่ พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ เดี๋ยวโดนทำโทษ”
“ทำโทษบ้าไร...แล้วมืออะปล่อยได้ละ จะเข้าห้อง”
เมื่อยังไม่ยอมปล่อย ผมพยายามแกะมือมันออก แต่ดูเหมือนจะถูกรัดแน่นขึ้น
“ตกลงจะให้เพชรเรียนมั้ย”
“เรียนสิครับ...ตั้งใจเรียนล่ะ” ไม่พูดเปล่า ไอ้พี่พฤกษ์ยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหัวผม
“ยุ่งชิบ” ผมเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องเรียนทันทีที่มันคลายมือ ได้ยินเสียงพึมพำอย่างอารมณ์ดีตามหลังมาอีกว่า
“ไอ้ตัวแสบ”

เย็นวันศุกร์มาถึงเร็วเสียจนคนที่ไม่สนใจโลกอย่างผมยังตกใจ ไม่ได้ตื่นเต้นกับทริปรับน้องอะไรหรอกนะครับ แค่คิดได้ว่าใช้ชีวิตอยู่ที่มหาวิทยาลัยมาครบหนึ่งเดือนแล้วก็เท่านั้น
ผมเอาเสื้อผ้าและรองเท้านิสิตกลับไปเก็บที่คอนโดก่อนแล้วค่อยออกมาที่ม.อีกครั้ง ขี้เกียจแบกไปด้วยครับ กรุ๊ป4ของผมไปรับน้องกันที่พัทยา เดินทางด้วยรถบัสคันใหญ่ทั้งขาไปและกลับ พวกที่พัก อาหารการกิน กิจกรรม แน่นอนว่ารุ่นพี่เป็นคนจัดการทุกอย่าง
“ของมึงน้อยจังวะไอ้เพชร” ไอ้เจมส์ทักทันทีที่เห็นผมเดินมาที่กรุ๊ปตอนทุ่มตรงพร้อมกระเป๋าเป้ใบเดียว
“ไป2คืนนะเว้ย กูไม่ได้ไปอยู่ทั้งเดือนแบบมึง”
“สัส”
ไอ้นิวหัวเราะที่ผมแซะไอ้เจมส์ ก็มันจัดของมาอย่างกับจะไปอยู่นานน่ะครับ
“น้องๆคะ ยกสัมภาระไปขึ้นรถได้เลย อีก15นาทีรถจะออกแล้วค่า” พี่แนทประกาศ ผมกับไอ้นิวช่วยกันถือของไอ้เจมส์ไปด้วย
พอไปถึงที่รถ ก็เจอแก๊งไอ้พี่พฤกษ์ยืนอยู่
“เออ นี่ไง มึงไปนั่งกะน้องมันดิ” พี่ริวพูดแล้วพยักเพยิดมาทางกลุ่มพวกผม
“มีไรอ่อพี่” ไอ้เจมส์ถาม
“พี่จะนั่งกับไอ้เกี้ยง ไอ้พฤกษ์เป็นเศษ เลยจะฝากให้มันไปนั่งกับพวกน้อง เห็นมี3คนเหมือนกัน”
“ได้ดิพี่ งั้นไอ้นิวมานั่งกับกู ให้เชี่ยเพชรนั่งกับพี่พฤกษ์ไป”
“เห้ย” ผมร้อง เห็นไอ้พี่พฤกษ์กำลังกระหยิ่มยิ้มย่อง “ทำไมกูวะ”
“ก็เราสนิทกันนี่คร้าบ” ไอ้พี่พฤกษ์เดินเข้ามาล็อค เอ้ย โอบคอผมโดยอัตโนมัติ
“ใครสนิทกับพี่วะ” ผมหันไปถามมันทันที
“เออๆ ตามนี้ ฝากไอ้พฤกษ์ด้วยนะน้อง อย่าให้เพื่อนพี่เหงา” พี่ริวแม่งพูดจบแล้วก็ดึงพี่เกี้ยงขึ้นรถไป ส่วนไอ้เจมส์กับไอ้นิวยิ้มยิงฟันใส่ผม ก่อนจะตามพี่เกี้ยงขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
“สัส จำไว้นะพวกมึง”
ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะ
“ขำไร”
“งอนเพื่อนอ่อ”
“เออ รำคาญพี่ด้วย”
“รำคาญได้ไง งั้น...พี่จะตัวติดเราตลอดทั้งทริปเลย ดีมะ” มันพูดพร้อมฉีกยิ้ม
“งั้นเพชรกลับบ้านละ”
“จะไปไหนล่ะคร้าบ ไม่อยากเจอพี่ขนาดนั้นเลยรึไง” เสียงอ้อนๆแบบนั้นมึงเก็บไว้ใช้กับหญิงเถอะพี่
ผมไม่ตอบ แต่ขยับตัวออกจากวงแขนมันแล้วปีนขึ้นรถไป
“เพชรรอพี่ด้วยดิคร้าบ ไปหาที่นั่งกัน”
ดูมึงมีความสุขมากเนอะไอ้พี่พฤกษ์
“นี่ไงไอ้พฤกษ์ กูจองให้ละ” พี่เกี้ยงเรียก ชี้ที่นั่งด้านหน้าถัดจากแถวที่พี่แกกับพี่ริวนั่งอยู่
“เออ ขอบใจมึง...น้องเพชรจะนั่งติดหน้าต่างมั้ยครับ”
“อือ” ผมตอบ
“แหม่ พูดกับเพื่อนนี่ไม่เหมือนพูดกับน้องเพชรเลยนะสัส” พี่ริวแซว
“เสือก” ไอ้พี่พฤกษ์ด่า
ผมขยับเข้าไปนั่งที่นั่งติดหน้าต่าง ก่อนมันจะเข้ามานั่งข้างๆพร้อมด้วยยิ้มเหี้ยมน่าถีบ
ผมหันไปมองรอบๆ เห็นว่ามีแต่ปีหนึ่งด้วยกันกับรุ่นพี่ปีสามเท่านั้น
“เค้าให้ปีเพชรนั่งกับปีพี่อ่อ”
“ครับ แล้วปีสองก็ไปนั่งกับปีสี่อีกคัน เพราะต้องคุยเรื่องกิจกรรมที่จะจัดให้พวกน้อง เป็นธรรมเนียม...ถามงี้อยากนั่งกับพี่ทุกปีอะดิ”
“อยากกับผีดิ” ผมหันหน้าหนีไอ้พี่พฤกษ์แล้วมองออกไปนอกรถ
“เดี๋ยวจะโดน” มันพูดกลั้วหัวเราะ
แล้วพี่ปีสามที่ผมไม่รู้จักชื่อก็เดินขึ้นมาเป็นmcประจำรถ พี่แกเดินถือโทรโข่งไปหาทุกคนและให้แนะนำตัว
“แนะนำตัวอีกละ เฮ้อ” ผมพึมพำ
“พี่ว่าเพชรไม่ต้องหรอก ทั้งคันรู้จักเราแน่นอน”
“เออดิพี่”
“แต่เราก็ยังไม่รู้จักพี่ปีสามทุกคนใช่มั้ยล่ะ”
“ใครจะไปจำได้หมด”
“งั้นก็ตั้งใจฟังสิครับ”
พอมาถึงคิวผมกับไอ้พี่พฤกษ์ พี่พิธีกรก็ขยี้เราสองคนทันที
“อ้าว แล้วทำไมตรงนี้เป็นปีสามกับน้องปีหนึ่งล่ะ ฮั่นแน่ สองคนนี้เป็นอะไรกันรึเปล่าน้า”
แล้วเสียงแซวก็ดังลั่นขึ้นมาทั้งคัน
“ยังไงวะพฤกษ์ บอกรักน้องที่กรุ๊ปนี่ไม่ได้เล่นใช่มั้ย”
“สาด ไม่ใช่เว้ย” ไอ้พี่พฤกษ์ตอบปัด แต่หน้าเริ่มเป็นสีแดงแล้ว ห่า มึงจะเขินเพื่อ
“อะๆ ไม่แกล้งละ น้องเพชรคิ้วขมวดเชียว แหะๆ พี่ล้อเล่นนะคะ...มา แนะนำตัวๆ”
“ชื่อพฤกษ์ครับ marketing ปีสาม” หลังไอ้พี่พฤกษ์พูดก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดและโห่ร้องขึ้น
“ชื่อเพชร ปีหนึ่ง finance ครับ” ผมเองก็ได้รับเสียงเชียร์กรี๊ดกร๊าดเช่นกัน
“โอเค ขอให้เดินทางอย่างมีความสุขนะคะบ่าวสาว เอ้ย ม่ายช่ายย”

รถออกไปได้สักพัก ไอ้พี่พฤกษ์ก็หยิบถุงขนมขึ้นมา
“กินขนมกันมั้ยครับ”
ผมพยักหน้า กำลังเอื้อมมือไปจะหยิบเลย์รสโนริสาหร่ายถุงใหญ่ที่ไอ้พี่พฤกษ์แกะเป็นห่อแรก แต่มันก็ขยับถุงหนีมือ
ผมจิ๊ปาก มันหัวเราะเบาๆ
“แน่ะ อยากกินอ่อ”
ผมไม่ตอบ หันหน้าไปทางหน้าต่างอีกครั้ง
“55555 โอ๋ๆ น้องเพชร...นี่ครับ พี่ให้ทั้งถุงเลย”
“ไม่กินละ”
“กินเถอะน่า นะๆ”
ผมหันกลับมาแล้วคว้าถุงเลย์ทั้งห่อไปครองคนเดียว อยากซื้อรสที่กูชอบมานัก จะแดกทั้งห่อคนเดียวเลยคอยดู ง่ำ
“แหม่ ไม่แบ่งพี่เลยนะ” มันพูดยิ้มๆ และผมก็ไม่คิดจะส่งถุงกลับไปให้เจ้าของได้กินด้วย เสือกกวนตีนผมก่อน
แต่พอผมยัดไปได้แค่ครึ่งห่อก็อิ่ม เลยยื่นให้ไอ้พี่พฤกษ์
“อะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่แบ่ง”
“โห่ย อิ่มก็บอกมาเหอะ อย่ามาฟอร์ม5555”
“จะกินไม่กิน”
“กินคร้าบ” มันรับขนมไปจากมือ
สัส รู้ทันกูทุกอย่างนะมึงอะ
ผมกินข้าวเย็นมาค่อนข้างเยอะแล้วยังยัดเลย์เข้าไปอีกครึ่งซอง อิ่มครับ แถมได้แอร์เย็นๆ ที่นั่งสบายๆ ตาก็เริ่มปิด
แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้

“เพชร ถึงแล้วนะ…”
ผมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาตอนสามทุ่มครึ่ง รถบัสกำลังเลี้ยวเข้ามาส่งสมาชิกกรุ๊ป4ที่ที่พัก เห็นไอ้คนปลุกก็นั่งยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ
“ง่วงเหรอ สงสัยวันนี้ไม่ได้หลับในห้องเรียนล่ะสิ” นั่น เหน็บกูอีก
“ยุ่ง” ผมอ้าปากหาว “หายง่วงแล้ว อยู่ได้ยันสว่าง”
“ปากดี ให้มันจริง”
“แล้วเพชรจะนอนกี่โมงมันเกี่ยวอะไรกับพี่วะ” ผมด่า
“อ้าว ไอ้เด็กนี่”
“555555”
ผมหัวเราะแล้วลุกขึ้นเดินลงจากรถไปเอาสัมภาระที่ชั้นล่าง
“คืนนี้โดนแน่” ไอ้พี่พฤกษ์ตามลงมาอย่างรวดเร็ว นี่มันไม่ได้หายตัวมาใช่มั้ย ไวจนน่ากลัว
“กลัวจัง พี่จะทำอะไรเพชรอ่อ” ผมทำเสียงล้อเลียน
“หึหึ เดี๋ยวก็รู้”
มันขยี้หัวผมก่อนจะลากกระเป๋าตัวเองแล้วเดินออกไป
มีแผนชั่วอะไรกับผมอีกล่ะไอ้พี่พฤกษ์
แน่นอนว่าผมนอนห้องเดียวกับไอ้เจมส์ ไอ้นิว เมื่อเก็บข้าวของเข้าห้องพักแล้ว พี่ๆก็เรียกให้ปีหนึ่งทุกคนมารวมกันที่ห้องจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ (ซึ่งก็คือห้องรับรองของที่พัก) พร้อมกับพกสมุดล่ารายชื่อมาด้วย
“กูแอบไปถามพวกรุ่นพี่มา กิจกรรมคืนนี้มีแค่ส่งสมุดล่ารายชื่อกับเฉลยบัดดี้ หลังจากนั้นใครจะทำอะไรก็ทำ” ไอ้เจมส์บอก
“แล้วพรุ่งนี้อะ” ไอ้นิวถาม
“รู้แค่ว่ารับน้องทั้งวันเช้ายันเย็น แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง”
“มึงไม่รู้ได้ไงวะเจมส์ กาก” ผมด่า
“กูไม่ใช่พี่ปีสองนะเว้ย จะได้รู้ว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง ทีมึงยังไม่รู้ห่าอะไรเลย” มันโวยวาย
“อ้าว กูเห็นมึงขี้เสือก นึกว่าจะรู้”
ไอ้เจมส์ตบหัวผม ไอ้นิวหัวเราะ
ปีหนึ่งต้องส่งสมุดล่ารายชื่อก่อนถึงจะผ่านเข้าไปข้างในห้องกิจกรรมได้ มีรุ่นพี่ปีสองสองคนคอยตรวจจำนวนลายเซ็นที่ประตูหน้า ปรากฏว่าทุกคนได้ลายเซ็นครบหมดครับ เลยไม่มีใครถูกทำโทษ
ผมก็ต้องขอบคุณไอ้เจมส์มันล่ะนะ ที่ช่วยลากผมไปล่าลายเซ็นด้วยบ่อยๆ บางทีก็เอาสมุดผมไปให้รุ่นพี่ที่ใจดีเขียนเลย ไม่ต้องทำ mission
ขอบคุณไอ้พี่พฤกษ์หน่อยๆที่ทำให้ผมได้รายชื่อปีสามเกือบทั้งหมดในคราวเดียว ถึงจะต้องเต้นอุบาทว์ๆต่อหน้าคนเป็นร้อยก็เถอะ- -
และแล้วเวลาเฉลยบัดดี้ที่ผมรอคอยก็มาถึง ไอ้พี่พฤกษ์ไม่รู้แน่นอนว่าเป็นผม เพราะงั้นจะสั่งลงโทษมันให้สาสมเลย
หึหึ ผมคิดไว้แล้วว่าจะให้เฮียแกทำอะไร
ปีหนึ่งถูกเรียกออกไปหน้าเวทีทีละคน พี่ๆนับ1ถึง3เพื่อให้โอกาสรุ่นพี่ที่คิดว่าตัวเองเป็นบัดดี้น้องแสดงตัว
“คนต่อไป น้องต่อค่า…”
ไอ้ต่อออกไปหน้าเวที ยิ้มกริ่ม คงคิดว่าพี่บัดดี้มันต้องไม่รู้แน่ๆ
แต่ยังไม่ทันเริ่มนับ พี่เอ๋ยก็ยืนขึ้น
“พี่เองค่ะ น้องต่อเป็นบัดดี้พี่ใช่มั้ย”
ไอ้ต่ออ้าปากหวอก่อนจะโวยวายว่าพี่เอ๋ยรู้ได้ไง ทุกคนโห่ใส่และหัวเราะเยาะมัน เพราะไอ้นี่เสือกสั่งแกล้งพี่เอ๋ยคนสวยไว้เยอะ
“งี้เอ๋ยก็จะได้สั่งลงโทษน้องต่อนะคะ...เอ๋ยให้ต่อทำอะไรดีคะ” พี่แนทที่รับบท mc ทุกงานถาม
“อืมม...น้องต่อเห็นกล้วยตรงนู้นมั้ยคะ” พี่เอ๋ยชี้ไปที่โต๊ะรวมอุปกรณ์สั่งลงโทษที่พวกพี่ปีสองเตรียมมาโดยเฉพาะ ทุกคนหันไปมองตาม เห็นกล้วยหวีใหญ่2หวีถูกร้อยติดกันด้วยเชือกฟาง “ห้อยคอไว้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพวันอาทิตย์นะคะ”
จบคำพูดพี่เอ๋ยก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดและปรบมือดังไปทั่วห้องกิจกรรม ไอ้ต่อครวญครางก่อนจะเดินไปหยิบกล้วย2หวีมาสวมไว้ที่คอ
“ต่อไป น้องเพชรสุดหล่อค่าาาา”
ผมเห็นรอยยิ้มแปลกๆของไอ้เจมส์กับไอ้นิวก่อนจะเดินออกไปหน้าเวที
“น้องเพชรคิดว่าพี่บัดดี้รู้มั้ยคะว่าได้น้อง” พี่แนทถาม
“คิดว่าไม่ครับ” ผมอมยิ้ม
“ดูมั่นใจมากเลยน้องรหัสพี่ ดีค่ะดี เอ้า ถ้างั้น พี่คนไหนคิดว่าตัวเองเป็นบัดดี้ของน้องเพชร แสดงตัวเลยค่ะ...หนึ่ง...สอง...สาม…”
ไม่มีใครแสดงตัวออกมา ผมยิ้มกว้าง
“เก่งมากค่าาาน้องเพชร งั้นเฉลยพร้อมสั่งลงโทษพี่บัดดี้ของตัวเองได้เลยค่ะ”
“ผมขอสั่งให้พี่พ…”
“พี่ขอสั่งให้เพชรทำตามที่พี่จะสั่งทุกอย่าง ตลอด3วันนี้ที่ทริปครับ”
ผมตกใจแทบสิ้นสติ ก็ไอ้พี่พฤกษ์มันพูดแทรกเสียงผมที่พูดผ่านไมโครโฟนออกมาอย่างน่าประทับใจ
เชี่ยยยย แม่งรู้ได้ไงวะ
ทุกคนในห้องกิจกรรมอ้าปากค้าง เหมือนไอ้ต่อเมื่อกี้
“...ว่าไงคะน้องเพชร พี่พฤกษ์เป็นบัดดี้น้องรึเปล่าคะ” เสียงพี่แนทเรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง
“อะ เอ่อ…”
ผมเห็นมันยิ้มปากจะฉีกถึงหู
“ใช่ครับ”
ผมเกลียดไอ้พี่พฤกษ์ เกลียดสัสๆ เกลียดที่สุดในโลก
โว้ยยยย

TBC

เอ้า จะแกล้งเขา กลับโดนเขาเอาคืนซะงั้น น่าสงสารจริงๆเพชร555 ว่าแต่พี่พฤกษ์รู้ได้ไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP18 "ผมขอสั่งให้พี่พฤกษ์..."
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 05-09-2018 12:12:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP18 "ผมขอสั่งให้พี่พฤกษ์..."
เริ่มหัวข้อโดย: LoveAlone ที่ 05-09-2018 12:17:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP18 "ผมขอสั่งให้พี่พฤกษ์..."
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-09-2018 14:35:13
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP18 "ผมขอสั่งให้พี่พฤกษ์..."
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-09-2018 17:25:42
เกมส์พลิกจ้า555
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP19 “แข่งกับพี่ ให้ปิดตายังได้เลย”
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 08-09-2018 08:16:41
ตอนที่19 “แข่งกับพี่ ให้ปิดตายังได้เลย”
พี่พฤกษ์

“น้องเพชรคร้าบบบ”
ผมรีบเรียกบัดดี้ของผมไว้ เพราะทันทีที่การเฉลยบัดดี้จบ น้องก็ตั้งท่าจะออกไปจากห้องกิจกรรมทันที
หึหึ จะเดินหนีกันรึไง
ผมรู้ว่าน้องได้ยินแต่ทำเป็นไม่สนใจ
“น้องเพชร”
ผมเรียกดังขึ้นพร้อมทั้งเร่งฝีเท้าตาม และเมื่อน้องยังไม่ยอมหยุด ผมก็จับข้อมือไว้ซะเลย
“อะไรอีกอะ”
น้องหันมาตีหน้าซื่อใส่
“ลืมแล้วอ่อ เราต้องทำตามคำสั่งพี่ตลอดทริปนะ”
“เออ รู้แล้ว...มีอะไรกับเพชรอีกมั้ยครับ”
น้องคงกำลังหงุดหงิดที่ผมเป็นฝ่ายได้สั่งลงโทษแน่ๆ
“ไปกับพี่”
“ไปไหน”
“มาเหอะ ไม่ต้องถาม” จะบอกเลยก็ได้ แต่ผมอยากกวนตีน
“ไม่ไป”
“นี่เป็นคำสั่งบัดดี้นะครับ”
น้องจิ๊ปาก คิ้วขมวด แก้มป่อง สีหน้าตอนนี้กำลังหงุดหงิดน่าแหย่ที่สุด
“ก็ได้...ปล่อยมือเพชรซะทีดิ”
ผมปล่อยมือแล้วโอบไหล่น้องพาเดินไปที่ชายหาดแทน
“พี่รู้ได้ไงว่าเป็นเพชร”
ทิ้งฟอร์มแล้วถามจนได้นะ อยากรู้ล่ะสิ
“เดาไม่เห็นยาก”
“ยังไง”
“ไม่บอกได้ปะ”
“บอกมาเลย”
“ไม่บอก”
“บอกมาาา” น้องลากเสียงยาวเซ้าซี้ “รู้นานแล้วด้วยใช่มั้ย”
“รู้ตั้งแต่วันแรกละ” ผมยิ้มกว้าง
“เชี่ย...พี่เห็นเพชรเอาคำสั่งไปหย่อนกล่องอ่อ หรือมีคนไปบอก”
“พี่ว่าเราก็ไม่ได้บอกใครว่าจับได้พี่นิ เจมส์กับนิวยังรู้ทีหลังพี่ด้วยซ้ำ”
“ไอ้สองตัวนั่นก็รู้อ่อ” น้องโวยวายขึ้นมาทันที “ไอ้เพื่อนชั่ว”
“เรามันไม่เนียนเอง จะโทษใคร” ผมดีดเหม่งน้อง
“โอ๊ย...ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง บอกมา รู้ได้ไง”
“อะๆ บอกก็ได้ พี่เห็นลายมือเราในกระดาษก็รู้แล้ว”
น้องอ้าปากน้อยๆ ก่อนจะกลับมาเก๊กหน้าขรึมแบบที่ชอบทำเวลาอยู่กับผมตลอด
“รู้แล้วทำไมยังทำตามคำสั่งเพชรอะ”
“ก็เดี๋ยวไม่เนียน รอมาเอาคืนตอนนี้ไงครับ”
ผมยิ้มแฉ่ง ตรงกันข้าม น้องกำลังเซ็งสุดๆ
“แล้วพี่โกงปะวะ สั่งแบบนี้ได้ด้วยอ่อ”
“หือ ที่ให้ทำตามคำสั่งพี่ทั้งทริปอะนะ”
“เออดิ”
“โกงตรงไหน มันก็เป็นคำสั่งเหมือนคนอื่นนะครับ”
“นี่มันเบ๊ชัดๆ”
“55555555”
ผมชอบเวลาที่น้องไม่สบอารมณ์ชะมัด โคตรน่ารัก
“แล้วจะให้ทำอะไรอีกก็รีบๆบอกมา”
“ใจเย็นดิ เดี๋ยวพี่สั่งแน่ ไม่ต้องห่วง”
ผมพาน้องมาไกลจากห้องกิจกรรมและผู้คนในกรุ๊ปพอสมควร ปีหนึ่งที่รุ่นพี่จับได้ กับรุ่นพี่ที่ไม่รู้ว่าน้องคนไหนเป็นบัดดี้กำลังรับบทลงโทษกันอยู่
ผมปล่อยมือจากไหล่น้องแล้วนั่งลงบนทรายนุ่ม น้องทรุดนั่งตามข้างๆ ลมเย็นพัดมารอบบริเวณ
ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากโอบน้องไว้แล้วนั่งลงด้วยกัน
จริงๆแล้วผมมีคำสั่งอยู่อย่างนึง แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำมั้ย
“ให้เพชรมานั่งเป็นเพื่อนอะดิ” น้องยิ้ม รู้ความต้องการของผมในที่สุด
“เออ”
“เหงาอ่อ...ไม่แปลกใจอะ นิสัยงี้ไม่มีใครคบหรอก”
“เดี๋ยวเถอะ”
“55555555...จะชวนมาดูทะเลเป็นเพื่อนก็บอกดิ ไม่เห็นต้องเก๊ก”
“ถ้าไม่สั่งแล้วจะมารึไง”
“ไม่มาอะ”
“นั่นไง” ผมขยี้หัวน้อง “กวนตีน”
“อย่าดิ ผมเสียทรงหมด”
“ดึกแล้วจะหล่อให้ใครดูคร้าบบ”
น้องละสายตาจากผมแล้วมองออกไปทางทะเล
แต่ตอนนี้สายตาของผมไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ทะเลเลยสักนิด
เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างในตัวน้องที่ดึงดูดผมมาได้สักเดือนแล้ว จนตอนนี้ผมไม่สับสนแล้วว่าความรู้สึกที่ผมมีวันนี้มันเรียกว่าอะไร ไม่สนใจแล้วด้วยว่าน้องไม่ใช่ผู้หญิง
เพราะผมชอบน้องไปแล้ว
“พี่พฤกษ์”
“ครับ”
“ชอบทะเลอ่อ”
“ก็ชอบนะ ทำไมเหรอ”
“เห็นชวนเพชรมานั่งดูนี่ไง”
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เอื้อมมือไปลูบผมน้องเล่น
ไม่ต้องทะเลก็ได้ ผมแค่อยากอยู่กับน้องสองคนก็เท่านั้น
“อย่าเล่นหัวผู้ใหญ่ดิ”
“ไหน ใครผู้ใหญ่ เห็นแต่เด็กอมมือเนี่ย”
“ถ้าเพชรเป็นเด็กอมมือ พี่ก็เด็กปัญญาอ่อนอะ”
เฮ้อ ด่าซะเสียบรรยากาศโรแมนติกเลย
“พูดงี้เดี๋ยวสั่งให้ลุกนั่งสักร้อยครั้งดีมั้ง”
“สั่งดิ เพชรยังไม่ลืมคดีเก่าหรอกนะ”
“แหะๆ” ผมนึกถึงเรื่องว้ากปลอมแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที เมื่อกี้พูดคำว่าลุกนั่งก็ไม่ทันคิด ไอ้พฤกษ์เอ๊ย “ขอโทษคร้าบบบ”
“พูดแล้วขึ้นว่ะ” ชิบหาย น้องดูเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาแล้ว
“เรื่องนั้นเราเคลียร์กันแล้วไม่ใช่เหรอ พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะคร้าบ” ผมบอกเสียงอ่อย
“แล้วไงอะ เพชรยังไม่ลืม”
“พี่ขอโทษ อย่าโกรธเลยนะ นะครับ” ผมพึ่งรู้สึกตัวว่าน้องขยับเข้ามาใกล้อย่างเอาเรื่อง
“55555555 ไอ้พี่พฤกษ์ตัวหดเลยว่ะ”
“เอ่อ...อ้าว นี่ไม่ได้โกรธจริงๆอ่อ”
“55555 เรื่องมันนานแล้วน่า เพชรแค่แกล้งพี่เฉยๆ...เนี่ยอ่อรุ่นพี่ กลัวตัวสั่นเลย”
“ไอ้ตัวแสบ”
“โอ๊ย”
ผมล็อคคอน้องแล้วกดหัวลงแนบกับอกผม
“ปล่อยย หายใจไม่ออก แค่กๆ…”
“ใครกลัวใคร ไหนพูดใหม่ดิ๊”
“ก็พี่กลัวเพชรไง โอ๊ย เอ้ย ไม่ๆ เพชรกลัวพี่พฤกษ์แล้วคร้าบบ” หึ มันต้องยังงี้สิ อีกนิดผมจะทำมากกว่าล็อคคอแล้วนะ “ยอมแล้ว แค่กๆ”
น้องมองค้อนผมตาเขียวหลังถูกปล่อย
เราสองคนคุยกันต่ออีกสักพักจนอากาศเย็นลงเรื่อยๆแล้วเปลี่ยนเป็นหนาว และน้องจะได้ไปอยู่กับเพื่อนๆด้วย ผมจึงชวนน้องกลับ
“กลับกันเถอะ หนาวแล้วเดี๋ยวไม่สบาย”
“อือ”
ผมอยากจะเลื่อนเวลาให้ช้าลงอีกหรือไม่ก็หยุดเวลาเอาไว้ที่ตรงนี้ ผมไม่ต้องการจากน้องไปเลย
“แล้วเราจะไปไหนต่อ กลับห้องเลยปะ”
“งั้นมั้ง คงไปกินเหล้ากับไอ้เจมส์ไอ้นิวต่อ”
“อย่ากินเยอะนะครับ”
“ยุ่ง บอกตัวเองเหอะเรื่องเมาอะ”
“5555555555” วันนั้นพี่แกล้งเมาโว้ย ขยี้อยู่นั่น “ไม่รู้อะ พี่สั่งเราห้ามดื่มเยอะ ห้ามเมาเละเทะ”
“เออๆ” น้องทำท่ารำคาญ
“ถ้าพรุ่งนี้พี่รู้ว่าไม่ทำตาม จะโดนหนักนะครับ” คาดโทษไว้เลย ผมไม่อยากให้น้องเมาจริงๆนะ
“ครับพ่ออออ” ทำเสียงล้อเลียนกลับมาอีกแน่ะ
“งั้นพี่ไปละ...ฝันดีนะครับ” ผมพูดประโยคสุดท้ายออกไปอย่างเคอะเขิน
หวังนิดๆว่าน้องจะบอกผมแบบนั้นบ้าง แต่คำพูดที่ได้กลับมาคือ
“ฝันดีผีรอบเตียงครับพี่”
เดี๋ยวก็โดนผีผ้าห่มหรอกน้อง

ผมเจอน้องอีกครั้งตอนแปดโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น หน้าน้องทั้งเซ็งทั้งง่วงที่ถูกปลุกขึ้นมาทำกิจกรรม ผมยักคิ้วทักทาย แต่น้องเห็นแล้วมองไปทางอื่นทันที
ไอ้เด็กบ้า
ปีสองกำลังบอกปีหนึ่งคร่าวๆว่าวันนี้จะต้องทำอะไรบ้าง ผมเห็นตารางเวลาทุกอย่างแล้ว เพราะปีสองมาปรึกษาผม ซึ่งเป็นผู้นำชั้นปีสาม
การรับน้องของกรุ๊ป4ในวันที่2นี้เน้นเกมฐาน ช่วงเช้าจะให้จับเป็นกลุ่มตามสายรหัส เพื่อความสนิทสนมที่มากขึ้น ช่วงบ่ายจะให้ปีหนึ่งกลับมารวมตัวกันกับเพื่อน
ผมล่ะอิจฉาพี่โก้ มาย กับแนทจริงๆที่ได้น้องเพชรไปเป็นสายรหัส
ส่วนปีหนึ่งสายผมน่ะเหรอ อย่าไปพูดถึงมันเลยดีกว่า
ที่ไม่ชอบน้องรหัสตัวเองไม่เกี่ยวกับที่ไม่ได้น้องเพชรนะครับ แต่เป็นเพราะน้องสายมันปากไม่ค่อยมีหูรูด ไม่รู้กาลเทศะต่างหาก
หลังจากให้ทุกคนในกรุ๊ปแบ่งกันตามสายแล้ว(ยกเว้นปีสองที่เป็นคนจัดกิจกรรม) ผมตีเนียนเข้าไปคุยกับพี่โก้ทันที
“หวัดดีครับพี่โก้”
“อ้าวพฤกษ์ เป็นไงมั่ง ไม่เจอนานแน่ะ”
“ก็พี่ไม่มาที่กรุ๊ปมั่งเลย ผมไปทุกวัน”
“โทษทีว่ะ ยุ่งตั้งแต่เปิดเทอมจนตอนนี้ยังยุ่งอยู่เลย…”
ผมเห็นน้องมองผมแวบหนึ่งก่อนจะหันไปคุยกับมาย
เมินกันอีกแน่ะ
“แล้วนี่เจอเพชรรึยัง ไม่เห็นทักทายน้องรหัสพี่เลย” คุยกับพี่โก้สักพัก แกก็พยักเพยิดไปทางคนที่ผมอยากคุยด้วยอยู่พอดี
“หวัดดีครับ” ผมทำเป็นทักน้องเหมือนคนรู้จักกันได้ไม่นาน
“หวัดดีครับ พี่ชื่อไรครับเนี่ย”
ไอ้เด็กผี ไอ้บ้า โว้ย
“55555555”
พี่โก้กับมายประสานเสียงกันหัวเราะเยาะผมทันที
“ป่านนี้น้องยังจำชื่อแกไม่ได้อีกอ่อ” มายว่า
“ถ้าจะไม่น่าจำจริงๆ” พี่โก้เสริม
ผมทำหน้ายักษ์หน้ามารใส่ แต่น้องยักคิ้วตอบ มันน่านัก
“เดี๋ยวไม่ลืมแน่ว่าพี่ชื่ออะไร” ขู่ซะเลย
“พี่โก้พี่มายดูสิครับ พี่เค้ามาขู่ผม” ไม่ต้องมาแอ๊บแบ๊วเลย ทีอยู่กับพี่ไม่เคยทำแบบนี้อะ
“โอ๋ๆ ใครแกล้งน้องพี่”
“เดี๋ยวพี่จัดการให้”
มายกับพี่โก้เล่นตามน้ำ ทำท่าปกป้องน้องเพชรเต็มที่
“ไม่ได้ม้างง มีคนต้องทำตามที่ผมสั่งไปถึงพรุ่งนี้แน่ะ”
น้องหน้าหงิกขึ้นมาทันที
หึ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครใหญ่
หลังจากนั้นผมกลับเข้าไปรวมกับสายรหัสเพื่อเล่นเกมฐาน แล้วโชคก็เข้าข้างผมเมื่อถึงฐานที่6 เพราะสายผมได้เล่นแข่งกับสายน้องเพชร
เสร็จแน่ไอ้น้อง
ฐานนี้คือเกมตักลูกปิงปองครับ แต่ไม่ได้ตักง่ายๆหรอกนะ ต้องเอาช้อนชาไปตักลูกปิงปองที่ปีสองเอาไปโยนไว้ในทะเล สายไหนเก็บลูกปิงปองได้เยอะกว่าก็ชนะ
สายผมเก็บลูกปิงปองสีส้ม สายน้องเก็บสีขาว
“จะไหวเร้อ” ผมเดินเข้าไปพูดข้างๆน้อง มันยกยิ้มมุมปากขึ้นก่อนจะหันมาตอบว่า
“แข่งกับพี่ ให้ปิดตายังได้เลย”
ผมหัวเราะ
“จะคุยก็ให้ชนะพี่จริงๆก่อน”
“พี่แพ้แน่”
“จ้าาา พ่อคนเก่ง”
“สองคนนั่นจะจู๋จี๋กันอีกนานมั้ยน่ะ มาเร็ว” พี่โก้เรียกพวกเรายิ้มๆ
เมื่อเสียงนกหวีดดัง ผมกับน้องเพชรวิ่งลงน้ำไปก่อนใครเพื่อน ลงมือใช้ช้อนตักลูกปิงปองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เราสองคนเล่นกันเต็มที่ ได้รับเสียงเชียร์ดังลั่นจากแก๊งปีสองที่อยู่ประจำฐาน แถมฐานข้างๆก็ยังหันมาดู
“น้องเพชรสู้ๆ” มายที่หมดความพยายามในการตักลูกปิงปองไปแล้วร้องตะโกนพร้อมกระโดดเหยงๆเชียร์
“เชี่ย ไอ้เพชรแม่งจริงจังสาด” พี่ปีสี่สายผมที่กำลังเล่นอยู่เหมือนกันยังอดหันมาดูน้องไม่ได้
“ไอ้พฤกษ์สายมึงก็พอกะน้องกูอะ” พี่โก้หันไปด่ากลั้วหัวเราะ เพราะผมเองก็ไม่ยอม
ไม่นานก่อนจะรู้ตัว เวลาหมดลง ผมเห็นลูกปิงปองสีส้มในกะละมังดูมีจำนวนมากกว่าสีขาวนิดหน่อย
ผมหันไปยิ้มยิงฟันให้เพชร ซึ่งกำลังหอบน้อยๆ สีหน้าหงุดหงิด
“ทีมสีส้มชนะสีขาวค่าาา...อะ สีขาวยืนเรียงเป็นหน้ากระดาน เตรียมรับบทลงโทษเลย”
ผมรับกระป๋องใส่สีจากปีสองแล้วตรงไปยืนหน้าน้องทันที
“อย่าเยอะนะไอ้พี่พฤกษ์”
“ลั่น555555555555”
“ลั่นพ่อมึงอะพี่” เดี๋ยวตบด้วยปาก
แล้วผมก็จุ่มมือลงไปในสีก่อนจะค่อยๆไล้นิ้วป้ายลงบนแก้มกับหน้าผากน้องอย่างบรรจง
“มาร์คๆ ถ่ายรูปให้พี่หน่อย” ผมร้องเรียกช่างภาพปีสองให้หันมาถ่ายรูป
“เชี่ย ไม่เอา” น้องพยายามหันหลังหนีกล้อง แต่ผมรั้งเอวน้องไว้แล้วพลิกตัวให้หันกลับมาทางกล้อง
“มองกล้องสิครับ” ผมบอก
“ไม่โว้ย”
“นี่บัดดี้สั่ง”
น้องเงยหน้าขึ้นอย่างเสียไม่ได้ ผมหัวเราะ
“ยิ้มด้วยคร้าบบบ”
“ไม่ต้องทำเสียงหวานเลยมึง”
ถึงปากจะพูดยังงั้น น้องเพชรก็ยิ้มหวานให้กล้องเหมือนผม จะเต็มใจหรือทำเพราะเป็นคำสั่งบัดดี้ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าโคตรตะมุตะมิเลย
“วีดวิ้วววว”
“กอดกันด้วยอะ”
“สวีทเว่ออออ”
เสียงจากทั้งสายผม สายน้อง และพี่ฐานลอยมา น้องหุบยิ้มทันที
มาร์คมันถ่ายตอนน้องยิ้มทันมั้ยเนี่ย
ก่อนจะแยกย้ายกันไปฐานต่อไป ผมบอกน้อง
“ตอนบ่ายเราโดนหนักกว่านี้แน่ เตรียมตัวไว้”
“ไอ้โรคจิต” โดนด่าเลยกู
เออ ยอมรับก็ได้ว่าโรคจิต(เฉพาะกับน้องนะ)

“แหมๆ ติดเด็กซะลืมเพื่อนไปเลยนะมึง”
“เชี่ยริว มึงจะเสียงดังหาพ่อง” ผมด่าไอ้ริวทันควัน แม่งไม่หยุดแถมยังหัวเราะอีก
“เอ้า กูพูดผิดตรงไหน”
“พูดเหมือนมึงไม่เคยทิ้งเพื่อนไปหาหญิงยังงั้นแหละสัส” ไอ้เกี้ยงเดินถือจานข้าวเที่ยงมาวางที่โต๊ะเป็นคนสุดท้าย
“จริงไอ้เกี้ยง” ผมรีบสนับสนุน
“มึงก็ด้วยเชี่ยเกี้ยง อย่าด่ากูคนเดียว”
“น้อยกว่ามึงแน่ๆอะ...ว่าแต่มึงเหอะพฤกษ์ จะบอกน้องมันตอนไหน”
“เออ ยังไงวะ”
ไอ้ริวกับไอ้เกี้ยงจ้องผม ถามถึงสิ่งที่ปรึกษาพวกมันไว้เมื่อสองวันก่อน
“กู...กูไม่แน่ใจว่ะ”
“ไม่แน่ใจเชี่ยไรวะ แล้วมึงจะบอกมันเมื่อไร”
“...” ผมนิ่ง พึ่งจะมาลังเลกับความคิดบ้าๆของตัวเองเอาตอนนี้
“กูคิดเหมือนไอ้ริว มึงบอกน้องไปเลยเว้ย”
ถ้าคำสั่งบัดดี้ของผมใช้กับเรื่องที่จะทำได้ก็คงดี

TBC

พี่พฤกษ์รุกใหญ่เลยนา ว่าแต่เฮียจะทำอะไรกับบัดดี้ ต้องติดตามตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP19 “แข่งกับพี่ ให้ปิดตายังได้เลย”
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-09-2018 10:59:36
 :pig4: :pig4: :pig4:

บอกไรอ่อ?
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP19 “แข่งกับพี่ ให้ปิดตายังได้เลย”
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-09-2018 11:03:56
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP19 “แข่งกับพี่ ให้ปิดตายังได้เลย”
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-09-2018 18:02:10
เมื่อไหร่จะบอกน้องนะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP19 “แข่งกับพี่ ให้ปิดตายังได้เลย”
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 08-09-2018 21:05:18
มัวแต่ตอดเดี่ยวก็แห้วเด้อ  :katai3:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP20 “ผูกข้อมือให้เพชรหน่อย”
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 13-09-2018 21:08:38
EP20 “ผูกข้อมือให้เพชรหน่อย”

ไอ้เจมส์กับไอ้นิวนั่งหัวเราะเยาะผมมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว
“สัส พวกมึงมีความสุขบนความทุกข์ของเพื่อนอ่อวะ”
“ทุกข์ไรวะ เมื่อกี้กูเห็นมึงยังยิ้มให้กล้องอยู่เลย”
“กูโดนบังคับโว้ย”
สายรหัสผมเล่นเกมฐานแพ้สายไอ้พี่พฤกษ์ ผมเลยโดนสีทาหน้าเป็นบทลงโทษ บวกด้วยคำสั่งบัดดี้ที่ห้ามล้างหน้าจนกว่าจะถึงห้าโมงเย็น ทำให้ต้องอยู่ในสภาพน่าเกลียดแบบนี้ไปเรื่อยๆ
คนในกรุ๊ปที่เห็นผมก็หัวเราะใส่ไม่ต่างจากไอ้เพื่อนชั่วสองตัวนี่
“แล้วพวกมึงรู้ใช่มั้ยว่ากูเป็นบัดดี้พี่มัน”
“โด่ รู้ดิ” ไอ้นิวตอบ
“ใครไม่รู้ก็บ้าแล้วไอ้เพชร ชัดเจนขนาดนั้น” ไอ้เจมส์พูดจบแล้วก็กลับไปขำก๊ากต่อ
“ไม่บอกกูสักคำ จำไว้นะสัส”
“โอ๋ อย่าโกรธกันสิครับเพื่อนนนน” ไอ้เจมส์ที่นั่งข้างๆขยับเข้ามากอดผม ผมพยายามผลักมันออก
“เพราะไอ้เจมส์เลย กูจะบอกมึงตั้งแต่แรกแล้ว มันอะห้ามกูไว้” มึงกลายร่างเป็นปลาไหลไปตั้งแต่เมื่อไรวะไอ้นิว
“อ้าวเชี่ยนิว เอาตัวรอดเฉย” ไอ้เจมส์ว่า
“ไม่ต้องเลย กูงอนมึงทั้งคู่อะ”
“น้องเพชรอยากกินอะไรครับ เดี๋ยวมื้อนี้ป๋าเจมส์เลี้ยงเอง”
“เลี้ยงห่าไร นี่พี่ๆเลี้ยง ฟรีอยู่แล้ว”
ยังจะมีหน้ามาขำอีกแน่ะ
ผมเบิร์ดกะโหลกไอ้เจมส์กับไอ้นิวเสร็จก็หันไปเจอไอ้พี่พฤกษ์ที่กำลังเดินไปตักอาหารเพิ่มพอดี
พี่แกหัวเราะพร้อมเรียกพี่ริวกับพี่เกี้ยงให้หันมาดูผมด้วย
ผมหันหน้าหนีทันที
สาดดดดด

ความร้ายกาจของไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้มีแค่นั้น เพราะนอกจากมันจะใช้คำสั่งบัดดี้บังคับให้ผมทิ้งสีไว้บนหน้าถึงเย็นแล้ว กิจกรรมในช่วงบ่ายมันก็ยังตามมาแกล้งผมอยู่ตลอด
ผมโดนทั้งแป้ง ทั้งน้ำ ทั้งโคลน ทุกอย่างคูณสองจากที่เพื่อนปีหนึ่งด้วยกันโดน เพราะไอ้พี่พฤกษ์- -
กูกลับมาเกลียดมึงเหมือนตอนเจอกันครั้งแรกได้ปะวะ ไม่อยากสนิทด้วยแล้ว
“น้องเพชรคร้าบบบ มาหาพี่สิ” มันควักมือเรียกผมหลังกิจกรรมสิ้นสุดลง
“ไม่ไปเว้ย” ทุกคนรอบบริเวณนั้นหัวเราะกับคำตอบผม
“โถ่ งอนพี่เหรอครับ มานี่มา” มันตรงเข้ามาจับมือผมแล้วลากเดินไป
“ไม่ไป พี่จะพาเพชรไปไหน” ผมร้อง พยายามแงะมือมันออก
“เดี๋ยวพี่อาบน้ำสระผมให้นะ” มันหันมายิ้มให้
“ไม่เอาโว้ย อาบเองได้”
“555555555 อย่าดื้อดิ” มึงหัวเราะสะใจได้น่าเกลียดมากไอ้พี่พฤกษ์
มันลากผมผ่านฝูงชนกรุ๊ป4ไปเรื่อยๆ เหี้ย น่าอายชิบ
“ไม่เอาาา”
“สะดีดสะดิ้ง” สัส
“สะดีดสะดิ้งพ่อง”
“เดี๋ยวจับตีปากซะเลย มานี่…”
มันหยุดเดินเมื่อถึงจุดที่ให้แขกของที่พักล้างตัวหลังขึ้นมาจากทะเล
“เพชรล้างเองได้น่า”
“ยืนนิ่งๆ”
มันเปิดฝักบัว ผมขยับหนีน้ำ
“บอกให้ยืนนิ่งๆไงครับ”
“ยืนนิ่งก็เปียกทั้งตัวดิ จะให้ใส่เสื้อผ้าอาบน้ำรึไง”
“ก็ถอดดิ”
“ถอดบ้านมึงอะ”
“น้องเพชร คำพูดคำจาครับ” โว้ย
“ถอดบ้านพี่ดิ สระผมอย่างเดียว”
มันยิ้มกว้าง
“จริงๆอยากให้พี่สระผมให้ก็บอก ทำเป็นเล่นตัว”
ไอ้พี่พฤกษ์ขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะเริ่มสระผมให้ ผมยื่นแต่หัวออกไปให้โดนน้ำ
ปรากฏว่ามือมันนุ่มกว่าที่ผมคิด
“สกปรกชิบ”
“ที่สกปรกก็เพราะพี่นั่นแหละ”
“5555555”
“หยุดหัวเราะเลย เดี๋ยวน้ำลายลงหัว”
มันล้างน้ำเปล่าชำระคราบก่อน แล้วค่อยชโลมแชมพูให้ จบด้วยล้างน้ำเปล่าอีกที นี่เคยเป็นช่างทำผมรึไงวะ
“หัวโล่งขึ้นมั้ย”
“โคตรๆ”
“แล้วจะอาบน้ำเลยมั้ย เดี๋ยวพี่อาบให้”
“ไม่ต้อง เพชรอาบเองโว้ย”
“หึหึ”
กลัว ไม่ต้องมาอาบน้ำให้กูเลยนะ
ก่อนผมจะเดินกลับไปที่ห้องพักตัวเอง ไอ้พี่พฤกษ์ก็เรียกอีก
“แล้วพี่อะ”
“อะไร”
“พี่สระให้แล้ว เพชรไม่สระให้พี่บ้างอ่อ”
“สระเองดิ มือไม่มีรึไง”
“ไอ้เด็กบ้า”

ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้มาเกาะแกะหรือวุ่นวายอะไรอีกหลังจากสระผมให้ รุ่นพี่ปล่อยให้ปีหนึ่งไปพักผ่อนตามอัธยาศัยครับ
"มึงล้างหน้าได้แล้วหรอวะไอ้เพชร" ไอ้เจมส์ถามปนขำ ผมกลับห้องมาอาบน้ำ กำลังจะงีบ เพราะวันนี้โดนปลุกมาทำกิจกรรมแต่เช้า แต่ไอ้เพื่อนรักมาถึงก็ถามกวนตีนซะนี่
"มึงจะให้กูทิ้งสีไว้ข้ามคืนรึไง"
"ก็ดีนะ ดูดีกว่าเวลาปกติอีก"
ผมเหวี่ยงหมอนใส่หน้าไอ้เจมส์ มันหลบไม่ทันเลยรับไปเต็มๆ สมน้ำหน้า
"ไอ้สาด"
"สม กูยิ่งง่วงๆอยู่...ไอ้นิวอะ" ถามถึงเพราะเห็นไอ้เจมส์กลับมาคนเดียวครับ
"กูเห็นมันคุยกับพี่ชายมึงอยู่"
"พี่ชายกู?" ผมย้อนถาม
"ก็พี่พฤกษ์ไง"
"ห่า พี่ชายกูที่ไหน"
"พี่เค้าดูรักมึงจริงๆนะ"
"รักหรือเกลียดกูกันแน่...ว่าแต่คุยอะไรวะ วางแผนแกล้งกูอีกมั้ยเนี่ย"
"แน่ๆ55555"
ไอ้เจมส์เดินเข้าไปอาบน้ำได้ไม่ถึงสองนาที ไอ้นิวก็กลับห้องมา ผมจะได้นอนมั้ยวะวันนี้
"ไอ้เพชร พี่พฤกษ์เค้าฝากของมาให้มึงอะ"
"ไรวะ"
"คำสั่งบัดดี้มั้ง" ผมเงยหน้าเห็นไอ้นิวชูกระดาษที่พับไว้เรียบร้อยคล้ายจดหมาย
"มึงอ่านเลย เฮียแกสั่งให้กูทำไร" ผมนี่ตาตื่นเลย
"มึงอ่านเองดิ พี่เค้าบอกว่าอย่าเปิดจนกว่าจะถึงมือน้องเพชร"
"โหไอ้นิว มึงเชื่อฟังพี่มันขนาดนั้นเลยรึไง" ท่าจะเป็นเอามากนะเพื่อน
"กูไม่อยากเสือกโว้ย อะ เอาไป" พูดจบแล้วมันก็โยนกระดาษใส่ตัวผม แล้วตั้งท่าจะเดินเข้าห้องน้ำ
"เชี่ยเจมส์อาบอยู่"
"อ่าวเหรอ งั้นกูไปอาบห้องไอ้ต่อก่อน เลอะตัวไม่ไหวแล้วว่ะ"
ผมเปิดกระดาษออกอ่านแล้วก็งงอยู่เดี๋ยวหนึ่ง
'หลังบายศรี มาหาพี่ที่ทะเลหน่อยนะ ตรงที่เดียวกับเมื่อวานเลย'
อะไรวะเนี่ย
ผมรู้สึกเหมือนหลับไปได้สามวินาทีแล้วก็โดนไอ้เจมส์กับไอ้นิวปลุกมาเดินเข้าห้องประชุม รอกิจกรรมช่วงค่ำต่อครับ
พอปีหนึ่งเข้ามาครบทุกคน พี่ๆก็ปิดไฟในห้อง ก่อนจะฉายวิดีโอที่รวมภาพกิจกรรมรับน้องตั้งแต่ก่อนเปิดเทอม อื้อหือ
"เห้ย" ผมร้องเสียงดังแทรกเสียงหัวเราะของคนในห้อง เมื่อรูปที่ผมโดนไอ้พี่พฤกษ์ปะแป้งและทาลิปสติกสีแดงเหมือนผีจีนในวันแรกของการรับน้องปรากฏขึ้น
ไอ้ตัวต้นเรื่องหันมาหัวเราะเยาะผม
สัส
เรานั่งดูแล้วก็หัวเราะรูปเพื่อนที่อยู่ในวิดีโอไปเรื่อยๆ มีผมกับไอ้พี่พฤกษ์โผล่มาอีกสองสามรูป เฮ้อ นี่กะไม่ให้กูมีภาพพจน์ดีๆในกรุ๊ปเลยอ่อวะ
"น้องๆครับ เป็นไงบ้าง ชอบวิดีโอที่พี่ๆตัดต่อมั้ย" ไอ้พี่พฤกษ์เดินจับไมค์ออกมาข้างหน้าหลังวิดีโอจบ มีเสียงตอบว่าชอบหลายเสียงจากปีหนึ่ง
ผมหันมองรอบห้องก็เห็นแต่รอยยิ้มสดใสทั้งจากน้องๆและพี่ๆ
ผมเองก็กำลังยิ้ม
"พี่ขอเป็นตัวแทนของรุ่นพี่ทุกคน พูดอะไรหน่อยนะครับ...พี่ดีใจที่น้องๆมาเข้าร่วมกิจกรรม ขอบคุณที่สละเวลามา แล้วก็เปิดใจให้พวกพี่ๆนะครับ"
ไอ้พี่พฤกษ์พูดต่อไปด้วยสีหน้าที่กำลังมีความสุขมาก
"แล้วพี่ก็ต้องขอโทษน้องด้วย ถ้ามีอะไรที่พวกเราทำให้น้องไม่พอใจ หรือผิดพลาด...พี่อยากให้น้องทุกคนมีเพื่อน มีความสุขกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย มันยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมากนอกเหนือจากเรื่องเรียนนะครับ"
"หล่อเลยสาด แย่งซีนเหี้ยๆ" ผมแอบได้ยินพี่ริวกระซิบ(นั่นเรียกว่ากระซิบเหรอน่ะ) กับพี่เกี้ยง แล้วพยักเพยิดไปทางไอ้พี่พฤกษ์ เรียกเสียงหัวเราะครืนจากคนในห้อง
"พี่เองเคยสงสัย เคยตั้งคำถามเหมือนกันว่า เราจะเข้ากิจกรรมรับน้องไปทำไม พี่คิดว่า เวลาเดือนกว่าๆที่ผ่านมานี้ คงพอจะให้คำตอบได้บ้าง...
พี่มีเพื่อนเพิ่มขึ้น รู้จักคนเยอะขึ้น มีปัญหาอะไรก็มีรุ่นพี่คอยช่วยเหลือ ดูแล พี่มีอีกสังคมเล็กๆนอกจากเพื่อนในห้องเรียนหรือชมรม นี่แหละครับจุดประสงค์ที่มีกรุ๊ป"
แถลงการณ์ของไอ้พี่พฤกษ์ได้รับเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดกร๊าดลั่นห้อง สายตามันมองตรงมาที่ผม
ผมเข้าใจในตอนนั้นเองว่าหลายสิ่งที่มันพูด มันกำลังสื่อถึงผมอยู่ด้วย
"พี่ขอทำหน้าที่สุดท้าย ในฐานะผู้นำรุ่น ส่งน้องเข้าพิธีบายศรี...พวกเรากรุ๊ป4 ขอต้องรับน้องๆทุกคนอีกครั้งครับ"
ปีหนึ่งถูกจัดแถวให้เดินออกไปห้องประชุมอีกห้องที่อยู่ด้านข้าง ภายในมีการจุดเทียนไว้เต็ม พี่ๆทั้งปีสองสามสี่และบัณฑิตนั่งเรียงแถวกันไป ข้างตัวมีด้ายสีขาววางอยู่
พิธีบายศรีมาถึงแล้วสินะ
อยู่ๆผมก็รู้สึกใจหายวาบขึ้นมา ตลอดเวลาที่ผมเอาแต่โดดกิจกรรม ทั้งๆที่ยังไม่รู้ ไม่ลองก่อนเลยว่ามันเป็นยังไง แต่วันนี้ผมกลับไม่อยากให้กิจกรรมนี้สิ้นสุดลงเลย
ผมยอมรับว่าส่วนสำคัญมาจากไอ้พี่พฤกษ์
ผมเปิดใจมากขึ้นก็เพราะมัน
เพราะงั้นคนแรกที่ผมมองหาและจะให้ผูกข้อมือก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน
ไอ้พี่พฤกษ์ที่พึ่งเดินข้ามห้องมา ยังไม่ทันนั่งลงที่ของตัวเองดี ฉีกยิ้มกว้างจนปากจะถึงหู เมื่อมันเห็นผมตรงเข้าไปหา
"อะไรเหรอครับน้องเพชร"
อ้าว กวนตีนกูเฉย นี่มาดีนะ ยังทำเป็นไม่รู้อีก
"เดินมางี้ให้ซักผ้าให้มั้ง...ก็ผูกข้อมือดิ" ทีแรกกูก็ไม่เขินอะนะ
"ลั่น555555555"
"ผูกข้อมือให้เพชรหน่อย"
"ขอร้องพี่อีกรอบได้มั้ยครับ ชอบเวลาเราพูดดีๆจัง"
เท่านั้นแหละ ผมเบือนหน้าหนี เตรียมลุกขึ้นไปหารุ่นพี่คนอื่นเลย
"เดี๋ยวดิคร้าบบบ" มันฉุดแขนผมให้กลับมานั่งลง แล้วหยิบด้ายสีฟ้าออกจากกระเป๋าเสื้อ
ผมตกใจนิดหน่อย ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้จะใช้ด้ายสีขาว
"เดี๋ยวพี่ผูกข้อมือให้นะ..."
มันยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น ก่อนจะเอาด้ายสีฟ้าอังไฟน้อยๆจากเทียนแล้วไล้ข้อมือผม
"เมื่อกี้ที่พูด ส่วนใหญ่พี่อยากบอกเรานะ...ขอบคุณที่เปลี่ยนความคิด ขอบคุณที่น้องเข้ามาเรียนที่นี่ ขอบคุณที่เปิดใจให้กรุ๊ปนะ พี่ดีใจที่ได้รู้จักเรานะครับ"
อื้อหือ ทำผมไปไม่เป็นเลย มาโหมดนี้
"พี่ขอโทษเราอีกครั้งนะ ถ้าแกล้งเพชรเยอะไป พี่แค่...รู้สึกถูกชะตาเราน่ะ" ถึงตอนนี้ไอ้พี่พฤกษ์มันก้มมองพื้นห้อง ก่อนจะผูกด้ายใส่ข้อมือผม
"ขอบคุณพี่พฤกษ์เหมือนกันนะ" ผมบอกพร้อมยิ้มกว้าง
แต่ไอ้พี่พฤกษ์ดูจะยิ้มกว้างกว่าผมอีกนะ เพราะคำพูดขอบคุณแน่ๆ
มันยกมือข้างที่ไม่ได้กำลังจับข้อมือ ลูบหัวผมเบาๆ
"ได้โน้ตจากนิวยัง เสร็จบายศรีอย่าลืมไปหาพี่นะ"
"อือ" ผมตอบก่อนจะลุกขึ้น ไปให้รุ่นพี่คนอื่นผูกข้อมือต่อ
หลังจากนั้น ด้ายสีฟ้าโดดเด่นอยู่บนข้อมือผมท่ามกลางด้ายสีขาวทั้งหมด

“มีไรเนี่ย”
ผมสะกิดไหล่ไอ้พี่พฤกษ์เมื่อไปถึง พี่แกกำลังยืนเอาเท้าเขี่ยทรายเล่นอยู่ พอเห็นผมก็สะดุ้ง
“ทำไมมาเร็วจัง”
“อ้าว ก็พี่บอกว่าบายศรีเสร็จแล้วให้มาหาไง”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มแป้น ยื่นมือออกมายีหัวผม
“แล้วมีอะไร ต้องมาคุยที่นี่เลยอ่อ”
ผมขมวดคิ้ว นึกสงสัยว่ามีเรื่องสำคัญอะไรถึงต้องมาเจอกันที่ชายหาดเท่านั้น
“คือ...พี่มีเรื่องจะบอก”
“เรื่องไรอะ”
“เอ่อ…”
ผมจ้องตาไอ้พี่พฤกษ์ แต่มันหลบตาผม
“จะสั่งไรเพชรอีกอะ”
“เห้ย ไม่ใช่”
ตอนนี้ไอ้พี่พฤกษ์กำลังตะกุกตะกัก ทั้งดูวิตกกังวลอย่างชัดเจน เกิดอะไรขึ้นวะ
“นั่งคุยกันก่อนมั้ยพี่” ผมยิ้ม ไม่เคยเห็นเฮียแกเป็นแบบนี้มาก่อน
“คือพี่…”
ผมรอให้ไอ้พี่พฤกษ์พูดออกมาเอง คงจะเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ
สองสามนาทีหลังจากนั้น ไอ้พี่พฤกษ์ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมตรงๆจนได้ ยกมือทั้งสองข้างวางบนไหล่ผม
ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจหนักหน่วงของพี่มัน
“พี่...พี่ชอบเพชร”
...
“เห้ย พี่เล่นไรเนี่ย”
ผมพูดกลั้วหัวเราะ แต่ไอ้พี่พฤกษ์ดูจะไม่ตลกด้วย มันไม่มีทีท่าว่ากำลังล้อเล่นอยู่เลย
“พี่พูดจริงๆนะ ไม่ได้เล่น”
ผมอึ้ง
“พี่ชอบเพชร”
ไอ้พี่พฤกษ์ย้ำอีกครั้ง ผมเหมือนได้ยินประโยคล่าสุดนั่นดังซ้ำไปมาอยู่ในหัว
รู้ตัวอีกครั้งผมก็ผลักอกมันออก ตัวมันแค่เซไปนิดๆเท่านั้น
“พี่เป็นบ้ารึไง...เพชรเป็นผู้ชาย”
แววตามันวูบลง
“พี่รู้...แต่พี่ชอบเรา...พี่โกหกความรู้สึกตัวเองไม่ได้”
ตอนนี้ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“พี่แค่คิดว่ามันถึงเวลาแล้ว”
ภาพเหตุการณ์ต่างๆตั้งแต่ที่ผมรู้จักไอ้พี่พฤกษ์ปรากฏขึ้นพร้อมกัน ที่มันเข้าหาผม ชอบแกล้งผม คอยอาสาไปส่งผม ทำดีกับผม เพราะว่ามันคิดกับผมแบบนี้งั้นเหรอ
ไม่อยากเชื่อเลย
“ที่พี่เข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตเพชรก็เพราะแบบนี้สินะ”
“ใช่ พี่อยากอยู่กับเรา”
ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงโกรธ และก็รู้สึกเหมือนความเชื่อใจถูกทำลายลงด้วย ยิ่งมองสบตาไอ้พี่พฤกษ์ในตอนนี้แล้ว
“นานรึยัง”
“หมายถึงอะไรครับ”
“พี่ชอบเพชรตั้งแต่เมื่อไร”
“สักพักนึงแล้ว”
ดูเหมือนว่ามันต้องการจะพูดอะไรต่อแต่ก็ไม่พูดออกมา
“พี่ทำแบบนี้ทำไม”
“...”
“เพชรนึกว่าพี่แค่อยากแกล้ง แค่อยากเป็นเพื่อน...เราเป็นแค่พี่น้องกันไม่ใช่รึไง”
ผมใส่ไม่ยั้ง และเห็นว่าหน้าพี่พฤกษ์กระตุกตรงคำว่าพี่น้อง
“พี่ต้องการอะไร...มาบอกเพชรทำไม”
“...”
“จะให้เพชรบอกว่ารู้สึกแบบเดียวกับพี่งั้นอ่อ”
“พี่ไม่ได้บังคับเพชรนะ...แต่พี่ผิดเหรอที่บอกความรู้สึกกับเราตรงๆ”
ผมผงะไป
“ถ้าเราไม่ได้คิด…”
“พะ...เพชรไม่ได้ชอบพี่”
เราสองคนยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ไอ้พี่พฤกษ์มองผมอย่างเสียใจสุดซึ้ง
ผมอยากจะก้าวเท้าออกไปแล้วหันหลังให้ชายหาด แต่เท้าไม่สามารถขยับได้
“ไม่เป็นไรครับ...ถือว่าพี่ไม่ได้พูดไปก็แล้วกัน…”
กลายเป็นว่าพี่พฤกษ์เป็นฝ่ายไปก่อน ผมทันเห็นสีหน้าผิดหวัง ซึ่งไม่ต้องการเห็นเลยสักนิด

เมื่อคืนผมไม่ได้ไปดวดเหล้ากับไอ้เจมส์ไอ้นิวหรือไปเจอใครทั้งสิ้น แต่กลับห้องพักทันทีหลังเรื่องที่ชายหาด พอไอ้นิวแบกไอ้เจมส์ที่เมาเละเทะไม่รู้ตัวมาที่ห้องตอนตีสี่ ผมทำทีเป็นว่าหลับไปแล้ว
สภาพผมเช้านี้ก็ไม่ต่างจากไอ้เจมส์เท่าไรหรอก
“เมื่อคืนมึงหายไปไหนวะไอ้เพชร ไม่มาแดกเหล้ากับกู” ไอ้นิวเริ่มบทสนทนาที่โต๊ะอาหาร
“กูเพลียๆว่ะ อยากนอนเร็ว”
“ทิ้งกูให้ดูแลไอ้เจมส์อยู่คนเดียว มึงโคตรพลาด ไม่เห็นไอ้เจมส์…”
“พอเลยสาด”
ผมกับไอ้นิวหัวเราะ ไอ้เจมส์ที่ยังไม่หายแฮ้งค์ เอ่ยเสียงห้ามไอ้นิวอย่างอ่อนแรง
ตอนนั้นเอง ผมรู้สึกเหมือนถูกใครมองอยู่ พอหันไปก็เห็นว่าเป็นไอ้พี่พฤกษ์
แต่มันก็หันหน้าหนีไปทางอื่นทันที
ต่อไปนี้ผมกับมันคงจะกลับไปไม่รู้จักกันเหมือนเดิมสินะ
ในเมื่อมันต้องการเป็นมากกว่าพี่ชายน้องชาย แล้วผมให้ไม่ได้ ความสัมพันธ์ของเราก็ต้องยุติลงเท่านี้
หลังอาหาร ทุกคนถ่ายรูปเล่นกันก่อนขึ้นรถกลับบ้าน ผมที่ไม่ค่อยอยู่ในอารมณ์จะถ่ายรูปสักเท่าไร ต้องฝืนยิ้ม
ผมรู้ว่าสาเหตุมาจากเรื่องไอ้พี่พฤกษ์
ผมแอบสังเกตก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังฝืนยิ้มอยู่ด้วยเหมือนกัน
น่าแปลกที่ผมเองก็รู้สึกไม่ดีด้วย ทำไมนะ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย ทำไมต้องแคร์ไอ้พี่พฤกษ์ด้วย

11โมงแล้วเมื่อทุกคนขนสัมภาระไปขึ้นรถบัส เตรียมเดินทางกลับกรุงเทพ ที่รถคันของปีหนึ่งและปีสาม ไอ้เจมส์กับไอ้นิวรีบขึ้นไปนั่งด้วยกัน ทิ้งให้ผมนั่งคนเดียว
“สัส แล้วกูจะนั่งกะใคร”
“ก็พี่พฤกษ์ไง” ไอ้เจมส์ตอบหน้าทะเล้น
ไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“ไอ้ห่า”
ผมเดินไปนั่งแถวข้างหลังพวกไอ้เจมส์ ไอ้พี่พฤกษ์มันคงจะมานั่งกับผมหรอก
แล้วก็จริงอย่างที่ผมคิด เพราะมีแค่พี่ริวกับพี่เกี้ยงที่เดินขึ้นรถมาเท่านั้น
“อ้าว พี่พฤกษ์ไปไหนล่ะครับ” ไอ้เจมส์ถามพี่ริว
“มันไปนั่งคันปีสองกับปีสี่น่ะ เห็นบอกว่าจะคุยเรื่องงานรับน้อง” แค่ผมเห็นท่าทางพี่ริวก็รู้แล้วว่าโกหก เพราะมันจงใจหลบตาผม
กิจกรรมจบแล้ว มีอะไรต้องคุยอีก
ผมแปลกใจตัวเองอีกครั้งที่หงุดหงิด
ไอ้พี่พฤกษ์หลบหน้าผมก็ถูกแล้วนี่ ถ้าเป็นผมไปบอกชอบใครแล้วเขาไม่ชอบ จะให้กล้าสู้หน้าต่อได้ไง
รถบัสแล่นออกจากบริเวณของที่พักในที่สุด นอกหน้าต่าง ผมเห็นฟ้าโปร่ง วันนี้ลมเย็นสบาย อากาศดีตรงกันข้ามกับความรู้สึกของผมโดยสิ้นเชิง
ราวกับว่าความสุขจากกิจกรรมรับน้องและช่วงเวลาบายศรีที่ผมได้รับจากไอ้พี่พฤกษ์ได้ระเหยหายไปหมดแล้ว
ผมก้มลงมองข้อมือตัวเอง ด้ายสีฟ้าเส้นเดียวยังคงโดดเด่นกว่าด้ายสีขาวอีกหลายสิบอัน
ใจหนึ่งผมก็อยากจะแกะมันออกจากมือแล้วโยนทิ้งไป แต่อีกใจก็รู้ดีว่าทำไม่ลง เลยได้แต่ปล่อยให้มันพันรอบข้อมืออยู่แบบนี้
ผมสับสน

TBC

แงงงง สงสารพี่พฤกษ์
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP20 “ผูกข้อมือให้เพชรหน่อย” 13/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-09-2018 09:44:31
 :pig4: :pig4: :pig4:

คนมันไม่รู้ใจตัวเองก็เงี้ยะแหละ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP20 “ผูกข้อมือให้เพชรหน่อย” 13/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 14-09-2018 20:11:49
 :man1:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP20 “ผูกข้อมือให้เพชรหน่อย” 13/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 15-09-2018 04:08:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP20 “ผูกข้อมือให้เพชรหน่อย” 13/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-09-2018 01:56:42
เพชรเองก็เป็นเด็กที่อีโก้สูงนะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP21 - 18/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 18-09-2018 06:41:36
EP21 "พี่ยอมทำร้ายตัวเอง แลกกับการที่เรากลับมาเป็นน้องพี่ครับ"

หลังกลับมาจากรับน้องนอกสถานที่ ผมรู้สึกเซ็งมาก แต่ละวันผ่านไปโดยที่ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรไปบ้าง
ที่น่าหงุดหงิดก็คือ ผมรู้สาเหตุดีว่าผมเป็นแบบนี้เพราะอะไร แต่ก็ไม่ยอมคิดที่จะแก้ปัญหา
ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้พูดกับผมอีกเลยตั้งแต่นั้น จริงๆคือไม่มองหน้าผมเลยต่างหาก ไม่ใช่การหลบหน้า เพราะเจอกันจังๆที่มหา'ลัยอีกสามครั้ง แต่มันทำเป็นไม่เห็น ทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ
และผมเองก็ไม่ได้เข้าไปคุยกับมันเหมือนกัน
ผมเคยคิดว่าแบบนี้แหละถูกแล้ว แต่ตอนนี้ไม่คิดอย่างนั้นเลย
ผมเป็นคน มีหัวใจ มีความรู้สึก ไอ้พี่พฤกษ์ไม่คิดเลยรึไงว่าถึงผมไม่ได้รักมันแบบนั้น แต่อย่างน้อยผมก็รักมันแบบพี่ชายคนหนึ่ง
และไม่ต้องการให้ไอ้พี่พฤกษ์ทำประหนึ่งว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ผมเซ็งขนาดที่ว่าบรรดาหญิงที่คุยอยู่ทั้งโทรทั้งไลน์มาชวนให้ไปหา ก็ไม่มีอารมณ์จะไป
มึงมีอิทธิพลกับกูขนาดนี้เลยเหรอวะ
พักเที่ยงวันศุกร์ ผมตัดสินใจเล่าทุกเรื่องให้ไอ้เจมส์กับไอ้นิวฟัง
"อะไรนะ"
ไอ้เจมส์ร้องเสียงดัง ตาโต อ้าปากค้าง ส่วนไอ้นิวก็มีสีหน้าอึ้งไป เมื่อบอกว่าไอ้พี่พฤกษ์บอกชอบผมที่ทริป
"จริงหรอวะ"
"จริงดิ กูจะโกหกมึงทำไม"
"งั้น...ที่พี่เค้ามายุ่งกับมึงบ่อยๆก็เพราะงี้เหรอ" ไอ้นิวตั้งข้อสังเกต
"เออ"
"เชี่ย...แล้วพอมึงปฏิเสธไป พี่พฤกษ์ทำไงวะ" ไอ้เจมส์ถามต่ออย่างรวดเร็ว
"พี่มันก็ไม่พูดกับกูอีก เจอหน้ากันยังไม่มองเลย" ผมกระแทกเสียงระบายอารมณ์
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวเงียบไป แต่ยังจ้องหน้าผมอย่างเป็นห่วง พวกมันคงเห็นอาการของผมมาหลายวันแล้ว
"แล้วมึงจะทำไงต่อ" ไอ้เจมส์ว่า
"ไม่รู้ว่ะ...กูจะทำอะไรได้ เค้าไม่ยุ่งกับกูนิ" ยิ่งพูดออกมา เหมือนผมจะยิ่งขึ้นได้อีกเรื่อยๆ
"ก็จริง ถ้าสมมติมึงทะเลาะเรื่องหญิงหรือไม่ชอบขี้หน้ากัน เข้าไปเคลียร์ตรงๆก็จบ แต่นี่..." ผมก็คิดอย่างไอ้เจมส์พูด ผมไม่ได้คิดแบบเดียวกับไอ้พี่พฤกษ์ แถมทำลายความสัมพันธ์ดีๆของเราในคืนนั้นไปแล้วด้วย จะให้เคลียร์ยังไง
"มึงกับพี่พฤกษ์ซี้กัน คงนานหน่อยแหละกว่าจะหายอึดอัดแบบนี้" ไอ้นิวขยับเข้ามากอดคอผม
"เออ"
นั่งคุยกันต่อสักพัก ไอ้เจมส์ก็ชวนไปกินเหล้าคืนนี้ครับ ผมตอบรับทันที เพราะไม่อยากจมอยู่แต่กับเรื่องนี้อย่างเดียวแล้ว

"คืนนี้กูต้องกลับถึงบ้านห้าทุ่มตรงนะเว้ย ไม่งั้นแม่กูเอาตาย" ไอ้เจมส์ประกาศกร้าวตั้งแต่วินาทีที่มันเดินเข้ามาในผับ ผมกับไอ้นิวมาถึงก่อนมันไม่นานนี้เองครับ
"ห่า ถ้ามึงอยู่ได้แค่สองสามชั่วโมง กลับไปแดกนมที่บ้านไป"
พูดจบปุ๊บ หัวผมก็โดนมือไอ้เจมส์ฟาดดังป้าบ ก่อนที่ไอ้นิวจะเริ่มหัวเราะซะอีก
"ไม่ต้องประชดเลยสัส มึงก็รู้ว่าแม่กูเป็นไง"
"เดี๋ยวกูสั่งนมให้มึงแก้วนึง" คราวนี้ผมโยกหัวหลบฝ่ามือไอ้เจมส์ได้ทัน
เหล้าสองกรมถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะ วันนี้เราสั่งแบรนด์นำเข้าทั้งนั้นเลยครับ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
เพราะชีวิตผมช่วงนี้แม่งโคตรเซ็งเลย
ผมกระดกเหล้าเข้าปากทันทีไม่รีรอ แอลกอฮอลล์ฝาดๆเนี่ยแหละที่ทำให้หัวโล่งดีนัก
"คืนนี้มึงหิ้วสักคนกลับคอนโดดิเพชร" ไอ้นิวบอกพร้อมกอดคอผม
"อยากอยู่ แต่จะมีใครเต็มใจให้กูหิ้วมั้ยวะ"
"ถุย ไม่ต้องทำมาถ่อมตัวเลยไอ้หล่อ หน้าอย่างมึงต้องถามว่าจะมีใครไม่อยากให้หิ้วกลับมั่ง" ไอ้เจมส์โวยวายแทรกผมขึ้นมาทันที
"มึงก็หาสักคนดิวะ"
"เอาไปให้แม่กูด่าเหรอ" ผมกับไอ้นิวหัวเราะกับคำตอบของไอ้เจมส์
ผมคุยเรื่องหญิงไปงั้นแหละครับ ไม่มีอารมณ์จะนัดเจอหรือทำอะไรใครทั้งนั้นแหละ
ตอนนี้นึกถึงแต่เรื่องไอ้พี่พฤกษ์อยู่คนเดียว
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
อย่างที่ทุกคนรู้ดี ผ่านไปยังไม่ถึงชั่วโมง ไอ้เจมส์ก็เริ่มเมา พูดไม่รู้เรื่อง เฮ้อ
"มึงไหวปะวะ" ผมแหย่
"หวายยย"
"ไหวไร มึงเมาแล้ว" ไอ้นิวเสริม
"เมาเหี้ยราย กูไม่ได้มาววว" ว่าแล้วมันก็หยิบแก้วขึ้นกระดกต่อ
"กูว่าสี่ทุ่มครึ่งออกจากที่นี่ ทำให้มันสร่างแล้วไปส่งบ้าน" ไอ้นิวหันมากระซิบกับผม
"เออ ไม่งั้นเชี่ยเจมส์โดนแม่มันฆ่าแน่"
เซ็ง ยังไม่ทันเมาก็ต้องกลับก่อนซะแล้วครับ แต่ทำไงได้ เพื่อนผมทั้งคน
ผมดื่มไป โยกไป ในหัวไม่มีเรื่องไม่สบายใจอะไรเหลือให้คิด
จนกระทั่งสายตาไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนหนึ่งตรงเคาน์เตอร์บาร์
ผมจำไอ้พี่พฤกษ์ได้ทันทีถึงจะหันหลัง มันนั่งอยู่คนเดียว ข้างตัวมีเหล้าขวดใหญ่3ขวด ถูกเปิดไปแล้ว2ขวด หลังคอจนถึงหูมันเป็นสีแดงเข้ม
"ไอ้เพชร มองไรอยู่วะ" ไอ้นิวถาม สะกิดผมยิกๆ
"ปะ เปล่า มึงว่าไง"
"หญิงโต๊ะนู้นดูเหมือนอยากจอยกับโต๊ะเราว่ะ" ผมหันกลับมาเห็นไอ้นิวแล้วก็หัวเราะ หน้าแม่งหื่นเสียจนน่ากลัว
"มึงบุกดิ ลากมาให้ครบทุกคนเลย"
"หนายวะ...พากูไปหาหญิงด้วยดิไอ้นิว...อยู่หนายยยย"
"มึงอะนั่งอยู่เฉยๆเหอะ หญิงเห็นสภาพมึงตอนนี้หนีหมดพอดี" ผมปรามพร้อมดึงไอ้เจมส์ให้มันนั่งอยู่กับที่ ขณะที่ไอ้นิวเดินเข้าไปหาเป้าหมายแล้ว
แต่ผมก็อดไม่กลับไปมองที่เคาน์เตอร์บาร์ไม่ได้
และภาพที่เห็นก็ทำให้ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้
ไอ้พี่พฤกษ์โดนผู้ชายคนหนึ่งกระชากคอเสื้อแล้วผลักลงไปกองกับพื้น มีผู้ชายอีกสองคนยืนขนาบข้าง ท่าทางเหมือนกำลังจะรุมกระทืบ
ผมออกวิ่งไปขวางไว้ทันที
"เห้ย มึงเป็นใคร"
"พวกมึงจะทำอะไร" ผมถามกลับอย่างไม่เกรงกลัว
"อย่าเสือก เดี๋ยวมึงจะโดนไปด้วย"
"ไม่เสือกไม่ได้ว่ะ นี่พี่กู"
ไอ้นิววิ่งเข้ามาประกบผมอีกคน แต่ก่อนจะมีใครได้ลงไม้ลงมือกัน การ์ดและพนักงานในผับประมาณห้าหกคนกรูกันเข้ามาตรงเคาน์เตอร์บาร์ ห้ามศึกพวกผมเอาไว้
"อย่ามีเรื่องมีราวกันเลยนะครับ ขอร้องล่ะ"
พวกมันสามคนจ้องผมกับไอ้พี่พฤกษ์ก่อนจะเดินออกไปจากร้าน
"นี่มันอะไรวะ ทำไมพวกนั้นจะกระทืบพี่พฤกษ์" ไอ้นิวถาม
"มันเมาแล้วเดินไปชนไอ้พวกนั้น" ผมตอบ โกรธจนควันออกหู
แต่ไม่ได้โกรธแค่ไอ้สามตัวนั่น โกรธไอ้คนที่กองอยู่กับพื้นตอนนี้ด้วย

ผมพยุงไอ้พี่พฤกษ์ไปเรียกแท็กซี่หน้าผับ ฝากฝังไอ้เจมส์ให้ไอ้นิวดูแลอีกครั้ง โทษทีว่ะนิว คืนนี้มึงคงอดฟาดหญิงอีก
แต่ผมปล่อยไอ้พี่พฤกษ์ไปไม่ได้จริงๆ
"พี่พฤกษ์" ผมเขย่าแขนมัน มันหันมามองหน้าผมแวบหนึ่งก่อนจะหันหนีไปอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะสั้นๆนั้นผมเห็นว่าแววตาไอ้พี่พฤกษ์เปลี่ยนจากเลื่อนลอยเป็นวูบไหว
มันสร่างเมาแล้ว รู้แล้วว่าเป็นผม
"พี่พฤกษ์ หันมา" ผมสั่ง
ไอ้พี่พฤกษ์ยังไม่ยอมขยับ ผมจึงกระชากตัวมันให้หันมาหา
"หูหนวกรึไง" ผมไม่รู้เลยว่าทำไมอารมณ์โกรธถึงพุ่งออกมาเยอะขนาดนี้
มันสบตาผม แต่ก็ยังไม่พูดอะไรอยู่ดี
"พี่ไม่รักตัวเองรึไงวะ ทำไมปล่อยตัวเองงี้"
"..."
"เป็นไรวะ ถามแล้วไม่ตอบ"
"อืม พี่ผิดเองแหละ"
ผมงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น นี่มันตอบผมได้แค่นี้เหรอ
"มึงแม่งบ้า" กลายเป็นผมเองที่หันออกไปทางหน้าต่างรถแท็กซี่ ไม่อยากมองหน้ามันแล้ว

เวลาบนท้องถนนผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ เพราะภาพที่ผมเห็นในหัวมีแต่ภาพไอ้พี่พฤกษ์กำลังจะโดนกระทืบอยู่เมื่อกี้
"พี่ไม่เข้าใจ" อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมา
"ไม่เข้าใจอะไร"
"เรา...มาช่วยพี่ทำไม"
"ถามอะไรวะ"
ผมหันไปตะคอกใส่หน้าไอ้พี่พฤกษ์ เกลียดชังสายตาเศร้าของมันที่จ้องกลับมา
"คิดว่าเพชรเห็นแล้วจะปล่อยให้พวกมันกระทืบพี่รึไง"
"ก็เพชรไม่อยากยุ่งกับพี่แล้วไม่ใช่เหรอ"
ผมชะงัก
"ดูถูกกันเกินไปละ"
ไอ้พี่พฤกษ์คงคิดว่าผมจะไม่เข้าไปช่วยมันเพราะเราสองคนเลิกยุ่งกันไปแล้วสินะ
"พี่ขอโทษ"
"เลิกขอโทษซะทีเหอะ" ผมตัดบทอย่างรำคาญ ชอบขอโทษทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
ไอ้พี่พฤกษ์เอนหัวลงกับเบาะรถ ถอนหายใจเบาๆ ท่าทางดูอิดโรย
"เดี๋ยวคืนนี้พี่นอนห้องเพชรละกัน อย่ากลับบ้านสภาพนี้เลย"
มันอึ้งไป
"เอ่อ...ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราลงแล้วให้พี่แท็กซี่วนกลับไปส่งบ้านพี่ต่อเลย"
"ไม่ กลับกับเพชร อย่าเรื่องมากดิวะ"
ผมเดือดขึ้นมาอีก มันจะหนีผมไปถึงไหนนะ
"ใครกันแน่ที่ไม่อยากยุ่งอะ" ผมพึมพำ
เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีก จนลงจากแท็กซี่แล้วขึ้นมาถึงห้องผม
ไอ้พี่พฤกษ์ไปทรุดตัวลงบนโซฟา ปิดตาลง บ่งบอกว่าเหนื่อยกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้
จริงๆแล้วมันอาจจะเหนื่อยใจเพราะต้องมานอนคอนโดผมก็ได้
"อะ น้ำ" ผมยื่นขวดน้ำเปล่าให้
"ขอบคุณครับ"
มันรับจากมือผมไปดื่มหลายอึก
"พี่จะอาบน้ำเลยมั้ย"
"แล้วแต่เราเลยครับ"
ทั้งกิริยา น้ำเสียง ทุกอย่างดูห่างเหิน ดูไม่ใช่ปกติที่มันทำกับผม
ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว
"พี่เป็นไรวะ เจอผมแล้วมันอึดอัดใจมากปะ"
มันค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วหันมามองหน้าผม
"พี่ไม่ได้..."
"ไม่ได้อะไร" ผมตะคอก "จะบอกว่าทำตัวปกติงั้นดิ"
"..."
"รังเกียจเพชรใช่ปะ"
"พี่ไม่เคยคิดแบบนั้น"
"หรอวะ แต่ดูที่พี่ทำดิ"
"เราก็รู้ว่าพี่รู้สึกยังไง...แล้วพี่จะรังเกียจเราได้ไง"
"เหอะ รู้สึกดี...แต่เมินใส่ ตีตัวออกห่างเนี่ยนะ"
ผมตะเบ็งเสียงดัง ในขณะที่ไอ้พี่พฤกษ์ตอบกลับมาด้วยเสียงเบาแต่หนักแน่น
"สิ่งที่มึงทำกับพูดมันย้อนแย้งกันว่ะ"
"ถ้างั้นเพชรจะให้พี่ทำไงครับ...เราไม่ได้ชอบพี่ จะให้พี่กลับไปคุยกับเราแล้วลืมเรื่องที่ทะเลวันนั้นน่ะเหรอ"
ผมเสียหลัก ประโยคล่าสุดของมันคือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
ผมเบือนหน้าหนี กลายเป็นไอ้พี่พฤกษ์หันมาจ้องผมแทน
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าไม่ได้ต้องการให้มันไปจากชีวิตของผมแบบนี้
"พี่ไปอาบน้ำเหอะ" ว่าแล้วผมก็หันหลัง เดินกลับเข้าห้องนอนตัวเอง

เสียงน้ำในห้องน้ำเงียบไปนานแล้ว แต่ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้เดินเข้ามาในห้องนอน ผมจึงเปิดประตูออกไปดู
มันนอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่บนโซฟา
"ทำไมพี่ไม่เข้าไปในห้อง"
"อือ...เดี๋ยวพี่นอนตรงนี้ก็ได้ครับ"
ผมกัดฟัน นี่จะประชดกันไปถึงไหน
"ไปนอนในห้อง"
ผมดึงแขนมันขึ้นสุดแรง เจ้าตัวส่งสายตามองแปลกๆ แต่ก็ยอมลุกขึ้นตามแรงฉุด
ผมลากมันมานอนบนเตียง
หลังผมอาบน้ำเสร็จ ไอ้พี่พฤกษ์ก็หลับไปแล้ว นอนตะแคงข้างหันหลังให้ผม
ไม่รู้ว่ามันหลับไปแล้วจริงๆ หรือแค่หลับตาเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าผม
น่าแปลก คนสองคนที่ไม่น่าจะได้คุยกันแล้ว วันนี้กลับมานอนบนเตียงเดียวกัน
น่าแปลก ผมเองที่เคยคิดว่าจะเลิกยุ่ง แต่กลายเป็นว่าเข้าไปช่วยพี่มันแล้วก็พามาที่ห้อง
น่าแปลก ที่ผมไม่ได้เกลียดไอ้พี่พฤกษ์ ความรู้สึกตอนนี้ห่างไกลจากคำว่าเกลียดนัก
ผมเป็นอะไร
ล้มตัวลงนอนบนเตียงมาได้สักพัก ผมพึ่งรู้สึกตัวว่ากำลังจ้องมองแผ่นหลังไอ้พี่พฤกษ์อยู่
ในตอนที่บอกตัวเองให้เลิกฟุ้งซ่าน ไอ้พี่พฤกษ์ก็พูดขึ้นมาเบาๆ
"เพชรจะด่าพี่อีกก็ได้ แต่พี่ขอโทษอีกครั้ง"
ผมพ่นลมหายใจแรง ยังไงก็ไม่ชอบฟังคำขอโทษจากคนที่ไม่ได้ผิด แต่ครั้งนี้ไม่ได้เหวี่ยงใส่แล้ว
"เรื่องอะไร"
"เรื่องที่ทำตัวเองให้น่าสมเพช เมาจนช่วยเหลือตัวเองก็ไม่ได้"
"ยะ อย่าพูดแบบนั้น...พี่ไม่ได้น่าสมเพช"
"จริงเหรอครับ"
ไอ้พี่พฤกษ์ค่อยๆขยับตัวกลับมาหาผม
"แล้วเรื่องที่ทะเลคืนนั้นล่ะ พี่ไม่น่าสมเพชเลยเหรอ"
ผมรู้สึกว่าตัวเองใจอ่อนลงทุกทีที่เห็นแววตาเจือความรู้สึกมากมายของไอ้พี่พฤกษ์ ทั้งน้ำเสียงมันที่พูดประโยคเมื่อกี้ก็ฟังดูตัดพ้อ
"พี่ไม่รู้ว่ารู้สึกกับเพชรมากขนาดนี้ได้ไง...อกหักมากี่ครั้ง ไม่เคยเจ็บเท่านี้เลยรู้มั้ย"
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มเศร้า
ใจผมโคตรอึดอัด
"พี่ไม่อยากหลบหน้าเราเลย ไม่อยากเดินหนี แต่พี่แค่ทำใจไม่ได้ เพราะพี่ไม่ได้คิดกับเพชรเหมือนเดิมแล้ว"
ผมเหมือนกลับไปฟังพี่มันสารภาพรักอีกครั้ง
"ไม่ว่าจะมองยังไง พี่มันก็น่าสมเพช...พี่อยากคุย อยากเจอหน้า อยากใช้เวลาอยู่กับเพชรตลอด...พี่แค่อยากบอกว่า พี่ชอบเราจริงๆนะครับ ถึงเราจะเกลียดพี่ไปแล้วก็ตาม"
"เพชรไม่ได้เกลียดพี่" ผมแทรกขึ้นทันที
"ไม่ต้องรีบตอบก็ได้...ไม่ต้องพูดให้พี่สบายใจหรอก"
"เพชรไม่ได้พูดปลอบ พี่คิดไปเองทั้งนั้น"
"ถ้างั้น...บอกพี่ได้มั้ยครับ พี่ควรทำตัวยังไง"
"หมายความว่าอะไร"
ไอ้พี่พฤกษ์กำลังคิดแบบเดียวกับผมอยู่รึเปล่านะ
"พี่...ไม่อยากเลิกยุ่งกับเรา...อย่างน้อยเรากลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้มั้ยครับ"
ผมอึ้ง นั่นคือสิ่งที่ใจผมต้องการที่สุด
"พะ พี่พฤกษ์"
ผมเชื่อแล้วว่าไอ้พี่พฤกษ์รู้สึกกับผมมากจริงๆ ถ้าถึงกับขอร้องกันแบบนี้
แต่มันไม่รู้สึกเจ็บเลยรึไง จะกลับมาทำตัวปกติ ทั้งๆที่รู้ว่าผมไม่ได้คิดอะไร
"พี่โอเคเหรอ...ถ้าจะกลับมาทำเหมือนเดิมกับเพชร"
"พี่จะพยายามครับ"
"พี่ไม่เหนื่อยที่ต้องมาทำดีกับเพชร ทั้งที่..." ผมพูดต่อไปไม่ได้
"พี่ยอมทำร้ายตัวเอง แลกกับการที่เรากลับมาเป็นน้องพี่ครับ"
อื้อหือ
"ถ้าพี่บอกว่าโอเค...เพชรก็โอเค"
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้ม แต่ผมเห็นว่าแววตามันไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลยสักนิด
ผมไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกหรือผิด
แต่ก็อยากได้พี่ชายคนนี้กลับมาเหมือนเดิม
ผมแม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลย

11โมงกว่าแล้วเมื่อผมตื่นขึ้นในวันถัดมา เตียงอีกฝั่งว่าง ไอ้พี่พฤกษ์คงจะออกไปแล้ว
วันนี้ผมมีเรียนแค่คาบเช้า ไปตอนนี้ก็คงไม่ทัน ผมเลยmessageไปหาไอ้เจมส์กับไอ้นิวว่าไม่ไปเรียนแล้ว
จะว่าไป เมื่อคืนผมทิ้งให้ไอ้นิวจัดการเรื่องไอ้เจมส์คนเดียวนี่หว่า
ลืมไปเลย มัวแต่ห่วงเรื่องไอ้พี่พฤกษ์
ผมพิมพ์ถามพวกมันต่อ ไอ้เจมส์ตอบทันทีว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ไอ้นิวไปส่งมันทันเวลา แถมแม่มันจับไม่ได้ด้วยว่าไปเมามา
เชี่ย ทำได้ไงวะ
'แล้วพี่พฤกษ์ล่ะ เป็นไงมั่ง'
นั่นน่ะสิ ถ้าร่างกายมันคงไม่เป็นไรแล้ว แต่ใจเนี่ยสิ
ผมก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าทำไมไอ้พี่พฤกษ์ถึงตัดสินใจที่จะทำแบบนั้น ทั้งยังสงสัยตัวเองด้วยว่าทำไมถึงยอมให้พี่มันทำ
ผมยอมรับว่ารู้สึกดีกับไอ้พี่พฤกษ์ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะคิดไปไกลกว่านั้น
หรือเพราะผมไม่อยากจะตัดความสัมพันธ์กับไอ้พี่พฤกษ์จริงๆ แม้จะเป็นในรูปของพี่น้อง
ผมเปิดประตูออกจากห้องนอนก็เจอเจ้าตัวนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา
"พี่พฤกษ์"
"อ้าว ตื่นแล้วเหรอครับ" มันหันมายิ้มให้ผม
"เพชรนึกว่าพี่ออกไปแล้ว"
"ยังครับ เพชรหิวมั้ย"
"ก็...นิดหน่อย"
"งั้นกินข้าวกัน พี่หิวมากเลย"
"พี่ยังไม่ได้กินอะไรใช่มั้ย ตื่นกี่โมงเนี่ย"
"แปดโมงกว่าๆ"
"แล้วทำไมไม่ไปหาอะไรกิน"
"รอกินพร้อมเราไง"
"จะรอเพชรทำไม คราวหลังไม่ต้องรอ"
ผมงงกับท่าทางมันหน่อยๆ เพราะกลับมาเป็นปกติทุกอย่าง ไม่เหมือนเมื่อคืนและหลายๆวันก่อนที่เมินผม
"เดี๋ยวเพชรอาบน้ำแปบนึง แล้วลงไปหาอะไรกินกัน"
"พี่ลงไปซื้อมาแล้วแหละ"
มันตรงไปหยิบถุงโจ๊กสองถุงออกมาอุ่น นอกจากนั้นก็มีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋อีกด้วย
"ร้านใต้คอนโดใช่ปะ"
"ครับ"
"ร้านนี้อร่อย"
ผมนั่งลง ปล่อยให้เฮียแกจัดการกับอาหาร
"จริงๆพี่อยากปลุกเราไปเรียนนะ แต่คิดว่าเราคงอยากพัก...เรื่องยุ่งๆเมื่อคืน เอ่อ...ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยพี่ไว้นะครับ"
"อือ" ผมตอบรับสั้นๆ อยากพูดว่าอย่าคิดว่าผมจะไม่ช่วย แต่ก็กลืนคำพูดนั้นลงไป
"อร่อยจริงๆด้วยแฮะ"
"ตอนเพชรย้ายมาอยู่ใหม่ๆ กินร้านนี่เกือบทุกวันแหละ...ว่าแต่พี่ไม่มีเรียนรึไง"
"มีแค่คาบเช้าเหมือนกัน ไปก็ไม่ทันแล้ว"
"งั้นวันนี้พี่จะทำอะไร"
"เอ่อ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จก็คงกลับบ้านแหละครับ"
"เห้ย พี่ไม่ต้องรีบกลับ...จะอยู่ทั้งวันเลยก็ได้"
ทำไมตอนนี้บรรยากาศระหว่างผมกับไอ้พี่พฤกษ์มันดูอึดอัด กระอักกระอ่วนจังนะ
ไอ้พี่พฤกษ์กินหมดอย่างรวดเร็ว
"เมื่อคืน...พี่ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่มั้ย"
"ไม่ครับ ไม่เป็นอะไรเลย เพราะเราเลยนะที่มาช่วย"
ผมไม่ได้ตอบอะไร รู้สึกแปลกหน่อยๆที่โดนไอ้พี่พฤกษ์จ้องแล้วก็พูดแบบนั้นด้วย
ตอนนั้นเองโทรศัพท์พี่แกมีสายเข้ามา
"ฮัลโหลครับ...อยู่คอนโดน้องเพชร...เมื่อคืนเมาเละเลยว่ะพี่ ไม่กล้ากลับบ้าน พ่อกับแม่ล่ะ...อ้อ..."
ไอ้พี่พฤกษ์คงไม่ได้บอกคนที่บ้านว่าไม่กลับ
"พี่ชลโทรมาน่ะ ดีนะช่วยโกหกให้"
"อ่อ"
มันยังคงพูดไปจ้องหน้าผมไปอยู่ ผมไม่กล้าสบตามันก็เลยก้มลงมองแต่ชามโจ๊ก
นี่ผมเขินไอ้พี่พฤกษ์เหรอวะ
"เพชร"
"ครับ"
"เรา...ไม่ได้ติดขัดอะไรใช่มั้ย"
"อะไรเหรอ"
"เรื่องที่พี่บอกเมื่อคืน"
หมายถึงที่ไอ้พี่พฤกษ์จะกลับมาเป็นพี่น้องกับผมเหมือนเดิมสินะ
"มะ ไม่ครับ"
ผมเงยหน้าขึ้นนิดนึงเพื่อมองปฏิกิริยาของไอ้พี่พฤกษ์ แล้วก็เห็นรอยยิ้มแบบเมื่อคืน
ยิ้มแบบที่ตาไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย มองแวบเดียวก็รู้

TBC

อื้อหือ แบบนี้เจ็บยิ่งกว่าอีก ทำไมเพชรใจร้ายขนาดนี้
#ทีมพี่พฤกษ์ คุณผู้อ่านละครับ ทีมใคร
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP21 - 18/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 19-09-2018 07:01:00
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP21 - 18/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-09-2018 07:08:36
 :L2: :pig4:

 :m15:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP21 - 18/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-09-2018 12:26:18
 :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP22 "เพชรกำลังเข้าใจผิด ผิดมากๆเลยด้วย" 22/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 22-09-2018 07:20:17
EP22 "เพชรกำลังเข้าใจผิด ผิดมากๆเลยด้วย"

หลังจากเรื่องวุ่นๆที่ผับคืนนั้น ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้หลบหน้าหรือทำตัวห่างเหินตามที่พูดไว้จริงๆ มันกลับมาส่งผมที่คอนโดหลังเลิกเรียนแทบทุกวัน หลายครั้งก็กินมื้อเย็นด้วยกัน
ไม่รู้ว่าไอ้พี่พฤกษ์ตัดใจจากผมได้หรือไม่ เพราะเราสองคนยังเจอกันตลอด แต่ตัวผมเองยืนยันว่าผมยังอยากคบกับพี่มันแบบนี้ต่อไป
ผมเห็นแก่ตัวไปรึเปล่านะ
"เพชร"
วันนี้มันก็มารอผมหน้าห้องเรียนคาบบ่าย ผมบอกลาไอ้เจมส์กับไอ้นิวและเดินออกไปกับไอ้พี่พฤกษ์
"กลับกับพี่มั้ยครับ"
ผมกำลังจะบอกมันอยู่พอดีว่าวันนี้มีนัด
"เอ่อ วันนี้เพชรมีธุระ..." ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่บอกไอ้พี่พฤกษ์ไปตรงๆว่าจะไปทำอะไร
"อ่อ...งั้นไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวแยกกันตรงนี้ก็ได้"
ผมแปลกใจที่มันไม่ถามต่อว่าไปทำอะไร หรือเสนอว่าจะไปส่ง ตามปกติที่เคยทำ
"ไว้เจอกันครับ"
พี่แกส่งยิ้มให้ผมก่อนจะเดินแยกตัวไปที่ลานจอดรถของมหา'ลัยคนเดียว

"ฟ้า"
"อ้าว เพชร ให้ฟ้ารอตั้งนานแน่ะ งอนแล้ว"
ฟ้าคือเพื่อนสมัยมัธยมของไอ้นิวที่มาเรียนมหา'ลัยเดียวกัน แต่อยู่คนละคณะครับ ไอ้นิวดีลให้เสร็จสรรพ ให้ไลน์ไอดีผมไป บอกว่าฟ้าสนใจเพราะเห็นผมกับมันในรูปบนโซเชียลบ่อยๆ
"เพชรพึ่งเลิกเรียนคร้าบบ อย่างอนเลยนะ"
"ก็ได้ แต่ต้องเลี้ยงขนมฟ้านะ"
"ฟ้าอยากกินอะไรครับ"
"อยากกินเยลลี่ร้านนู้นอะ"
"เอาดิ ไปกัน"
เดทของผมเริ่มต้นง่ายๆแบบนี้แหละ ไอ้นิวเริ่มอยู่กับผมจนรู้แล้วว่าผมชอบแบบไหน จัดมาให้เต็มๆ ตัวเล็กๆ ขาวๆ หมวยๆ แต่นมบึ้ม ถ้าผมได้ฟ้าแล้ว จะพามันไปเลี้ยงเหล้าแน่ๆ
"เพชรสนิทกับนิวหรอ"
"อือ ตัวติดกับมันทั้งวัน ตอนอยู่โรงเรียนมันเป็นไงอะ"
"โห นิวอะฮ็อตจะตาย มีคนมาจีบเยอะแยะ...ไม่เหมือนฟ้า ไม่มีใครมาจีบเลย" ว่าแล้วก็ส่งสายตามีเลศนัยให้ผมด้วย ผมรู้นะว่าเธอหมายความว่าไง นี่มันทอดสะพานให้ชัดๆ
"อย่างฟ้าเนี่ยนะไม่มีใครมาจีบ ไม่จริงมั้ง"
"จริงงง ฟ้าไม่น่ารักเท่าไรอะ ใครจะมาชอบ"
"เพชรว่าฟ้าน่ารักมากเลยนะ ใครไม่ชอบก็ช่างเค้าสิ" ผมพูดประโยคนั้นพร้อมมองฟ้าเหมือนจะกลืนกินไปทั้งตัว แน่นอนว่าสาวเจ้าถึงกับเขินตัวงอ
"เพชรพูดงี้กับผู้หญิงทุกคนใช่มั้ย ฟ้าว่าใช่แน่ๆเลย"
"ไม่นะ คนไหนน่ารักเพชรถึงจะบอกว่าน่ารัก"
ผมละสายตาจากรูปร่างของฟ้าไม่ได้เลยครับ คือมันเอ็กซ์มาก ในหัวผมจินตนาการไปถึงว่าตัวเองกำลังมีอะไรกับเธอแล้วด้วยซ้ำ
"เพชรกินเยลลี่ด้วยกันมั้ย"
"ครับ"
ฟ้าทำท่าจะป้อนเยลลี่ให้ผม ผมเลยขยับตัวเอาปากเข้าไปรับ จังหวะนั้นผมมองต่ำลงไปในชุดนักศึกษาของฟ้าจนเห็นร่องอก
ผู้หญิงเปิดทางให้เราขนาดนี้แล้ว รออะไรอยู่ล่ะครับ
"หลังกินข้าว ฟ้าไปไหนต่อรึเปล่า"
"ไม่นะ ฟ้าว่าง ไม่รีบกลับ"
ผมแทบจะกระโดดโลดเต้น
"งั้นไปคอนโดเพชรมั้ย มีหนังเก่าๆหลายเรื่องที่ฟ้าเคยบอกเพชรว่าอยากดูอะ"
ฟ้าหน้าแดงซ่าน เธอคงรู้จุดประสงค์ของผมแล้ว ผู้ชายชวนผู้หญิงไปที่ห้องกันสองคน ถ้าแค่ดูหนังคงเป็นไปไม่ได้
ที่ผมกล้าชวนฟ้าเร็วขนาดนี้ เพราะคิดว่าเธอต้องไม่ปฏิเสธผมแน่ๆ
"อะ อือ"
ผมยิ้ม โอบไหล่เธอแล้วตรงไปร้านอาหารที่โทรจองไว้เมื่อหลายชั่วโมงก่อน

ใจผมไม่อยากกินข้าวเย็นแล้วครับ แต่ก็อดทนจนจบมื้อ แถมต้องรอฟ้าถ่ายรูปเล่นในร้านอาหารอีก กว่าจะได้ออกจากร้านก็ปาเข้าไปทุ่มกว่าแล้วครับ
"ฟ้าอยากไปไหนอีกมั้ย"
"ไม่อะ เพชรล่ะ"
"งั้นไปห้องเพชรกันเลยมั้ย"
"อือ"
ฟ้าหน้าแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง ในหัวเธอคงคิดเรื่องเดียวกับผมอยู่แน่ๆ
ผมพาฟ้าลงมาชั้นล่างของห้างเพื่อจะไปเรียกแท็กซี่ที่ด้านหน้าถนน แต่ยังไม่ทันถึงก็เจอไอ้พี่พฤกษ์
สีหน้ามันทั้งอึ้งทั้งหม่น สายตามองมาที่มือผมซึ่งวางอยู่บนไหล่ฟ้า
"พะ พี่พฤกษ์"
ผมเองก็ตกใจเหมือนกัน
"ครับ เอ่อ...พี่ขอตัวก่อนนะ"
ไอ้พี่พฤกษ์เดินผ่านผมกับฟ้าไป ในมือมันถือถุงใส่ของเต็มไปหมด คงจะซื้อของเข้าบ้านแน่ๆ
"ใครเหรอเพชร"
"อะ เอ่อ รุ่นพี่ที่คณะน่ะ"
"อ่อ"
ฟ้าดูจะไม่ทันสังเกตอาการของผม
ผมรู้สึกไม่ดีขึ้นมาอย่างประหลาดที่เห็นแววตาเจ็บปวดนั่น ผมคิดว่าการที่ผมอยู่กับฟ้าตรงนี้มันทำให้ไอ้พี่พฤกษ์เสียใจ
ผมยืนนิ่ง ไม่ขยับ
ฟ้าจับมือผมข้างหนึ่งแล้วออกเดินต่อ แต่ผมกำลังจมอยู่กับไอ้พี่พฤกษ์
"ฟ้า..."
"หืม"
ฟ้าหยุดแล้วหันมามองหน้าผม
"คือ...เพชรขอโทษนะ วันนี้เพชรคงไปกับฟ้าไม่ได้แล้ว"
"ทำไมอะ"
สาวเจ้าโวยวายขึ้นมาทันที
"เพชร...เพชรมีเรื่องที่ต้องเคลียร์ด่วนเลย"
"เรื่องอะไร สำคัญกว่าฟ้าอีกเหรอ"
ผมผงะไปนิดนึง แม้กำลังคิดเรื่องไอ้พี่พฤกษ์อยู่เต็มสมอง แต่ก็เกิดคำถามเกี่ยวกับผู้หญิงตรงหน้าด้วย นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะเนี่ย
"เพชรขอโทษจริงๆนะ ไว้คราวหน้าเรานัดกันใหม่นะ...นะครับ"
"ไม่ ถ้าเพชรไม่พาฟ้าไปคอนโดคืนนี้ เราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก"
อ้าวเห้ย
"ฟ้า เพชรขอโทษ งั้น...พรุ่งนี้นะครับ" ผมรีบพูดอย่างร้อนรน อยากวิ่งไปหาไอ้พี่พฤกษ์แล้ว
"ไม่ ยังไงก็ต้องวันนี้"
"ฟ้าา"
ผมไม่เคยเจอผู้หญิงที่งี่เง่าใส่ตั้งแต่เดทแรกแบบนี้มาก่อนเลย
"ไม่รู้แหละ เพชรต้องเลือกระหว่างฟ้ากับธุระของเพชร"
ผมมองหน้าไม่สบอารมณ์ของเธอ ในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกไอ้พี่พฤกษ์
"เพชรขอโทษจริงๆนะฟ้า"
ผมแกะมือฟ้าออกก่อนจะหันหลังออกวิ่งไปทางที่ไอ้พี่พฤกษ์พึ่งเดินไป
"เพชร จะไปไหน กลับมาเดี๋ยวนี้นะ"
ได้ยินเสียงฟ้าตะโกนตามมา ไว้ค่อยเคลียร์ครับ ตอนนี้ผมอยากคุยกับไอ้พี่พฤกษ์มากที่สุด
วิ่งมาจนสุดทางของห้างแล้วก็ยังไม่เจอ หรือไอ้พี่พฤกษ์จะออกไปแล้ว
ผมกดโทรศัพท์หาทันที
(ฮัลโหลครับ)
"พี่อยู่ไหน"
(ลานจอดรถครับ เพชรมีอะไรรึเปล่า) น้ำเสียงไอ้พี่พฤกษ์ฟังดูประหลาดใจ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก มันยังไม่ออกจากห้างไป
"อยู่ชั้นไหน โซนไร"
(ชั้น4 C16)
"อย่าพึ่งออกไปนะ รอเพชรก่อน"
ผมออกวิ่งต่อ
รถ volvo สีเงินหาไม่ยากเลย เพราะมันเด่นที่สุดแล้วในชั้นจอดรถ ณ ขณะนั้น ไอ้พี่พฤกษ์ยืนอยู่ข้างรถ กำโทรศัพท์ไว้ในมือ กำลังรอและมองหาผมอยู่เหมือนกัน
"พี่พฤกษ์"
"เพชรมีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่า"
"คือ..."
ผมคิดไม่ออกเหมือนกันว่าทำไมถึงตัดสินใจทิ้งฟ้าที่คุยด้วยมาตลอดสองอาทิตย์แล้วมาหาไอ้พี่พฤกษ์ได้อย่างง่ายดาย
มันมองผมอย่างสงสัยใคร่รู้ แววเจ็บปวดเมื่อครู่ก็ยังไม่หายไปด้วย
"ไปส่งเพชรหน่อยดิ"
นั่นคือคำเดียวที่ผมนึกได้
"แล้ว...น้องผู้หญิงคนนั้นล่ะ"
"เค้ากลับไปแล้ว ช่างเหอะ" ผมตอบเลี่ยงๆ "พี่ไปส่งเพชรได้มั้ย"
"เอ่อ...ครับ"
เฮ้อ ค่อยยังชั่ว
"เมื่อกี้เห็นพี่ถือของเต็มเลย ซื้อของเข้าบ้านเหรอ"
ผมเริ่มชวนคุย เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศเงียบจนน่าอึดอัด
"ครับ"
ไอ้พี่พฤกษ์ตอบโดยไม่มองหน้าผม เริ่มหมุนพวงมาลัย วนรถจากที่จอดลงมาชั้นล่าง
"แล้ววันนี้พี่ไม่ต้องทำแผนอ่อ"
"วันนี้ไม่ครับ นัดอีกครั้งพรุ่งนี้"
ไหงตอบสั้นจังวะ
ไอ้พี่พฤกษ์กำลังแข่งแผนการตลาดครับ รวมทีมกับเพื่อน ช่วงนี้ก็จะนัดทำงานกันบ่อยๆ ผมพึ่งมารู้เมื่อสองสามวันก่อนว่าหลังจากมันขับมาส่งผมที่คอนโดแล้วก็วกกลับไปที่คณะเพื่อคุยงานต่อ ทำเอาผมอึ้งไปเลย
ไอ้พี่พฤกษ์รักผมมากจริงๆ
ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มันรู้สึกดีขึ้น ผมอยากได้เวลาคุยกับพี่มันนานๆ
"ทำไมเราถึงมากลับบ้านกับพี่ล่ะ"
ไอ้พี่พฤกษ์ถามขึ้นเบาๆ
"เอ่อ เพชร...เพชรอยากกลับกับพี่อะ...ไม่ได้กลับด้วยแล้วมันรู้สึกแปลกๆ"
เอาจริงๆผมก็ไม่รู้เหตุผลหรอก
ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ตอบอะไร แถมท่าทางก็นิ่งเสียจนผมเดาไม่ได้เลยว่ามันกำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่
โทรศัพท์ผมยังคงสั่นอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องหงายหน้าจอขึ้นมาดูก็รู้เลยว่าเป็นฟ้าแน่ๆ ผมตัดสินใจปิดเครื่องทันที
"ไม่รับโทรศัพท์เหรอครับ"
"ไม่อะ...แวะกินข้าวก่อนได้มั้ย เพชรหิว"
"เอ่อ..."
อย่าปฏิเสธผมนะ
"ขอโทษครับ วันนี้พี่นัดที่บ้านไว้แล้ว ไม่ได้กินข้าวกับที่บ้านหลายวันเพราะแข่งแผนน่ะ"
"อ้อ..."
ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยวะ
ในที่สุดเราก็มาถึงคอนโด แต่ผมยังไม่อยากลงจากรถไปเลย
"เพชร"
ผมหันจากหน้าต่างไปหาไอ้พี่พฤกษ์ มันกำลังมองผมพอดี
"พี่ถามจริงๆนะ ทำไมถึงกลับมาหาพี่"
ผมกลืนน้ำลาย จะตอบยังไงดีล่ะ
"เรากำลังทำให้พี่สับสน รู้มั้ยครับ"
น้ำเสียงกึ่งตัดพ้อกึ่งต่อว่านั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่ลงไปอีก
"ก็...ก็ไหนบอกว่าจะทำอย่างที่เคยทำกับเพชรเหมือนเดิมไง..." ผมเฉไฉ
"เพชร พี่ไม่รู้ว่าเราคิดอะไรกันแน่ แต่ทำแบบนี้...มันเหมือนให้ความหวัง"
ผมชะงัก จริง จริงที่สุดเลย
"ถะ ถ้าพี่ไม่สะดวกมาส่ง ก็บอกตรงๆ เพชรกลับเองก็ได้"
ขอเผ่นก่อน วันนี้แม่งสู้ไม่ไหวจริงๆว่ะ ผมคว้ากระเป๋าขึ้นแล้วเตรียมลง แต่ไอ้พี่พฤกษ์ก็กดล็อคประตูไว้อย่างรวดเร็วและจับข้อมือผมไว้แน่น
"ปล่อย"
"ตอบพี่มาก่อน"
"บอกให้ปล่อย"
"พี่ขอร้อง"
คำว่าขอร้องทำเอาผมหยุด
"ว่าไงครับ" มันกระตุ้น
"เพชร...เพชรไม่รู้"
ผมสบตาไอ้พี่พฤกษ์กลับ
"เพชรจะไม่รู้ได้ไง ถ้าเพชรไม่รู้เหตุผลว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีใครที่รู้แล้ว"
"ถ้าพี่ไม่อยากมาส่งผม...ไม่อยากยุ่งกับผมแล้ว บอกตรงๆเลยก็ได้นะ"
"เพชรกำลังเข้าใจผิด ผิดมากๆเลยด้วย"
ผมขมวดคิ้ว
"ถ้างั้นพี่ก็อธิบายมา ถามแบบนี้จะให้เพชรคิดว่าไง"
"พี่เคยบอกแล้วว่าพี่อยากทำทุกอย่างที่ดีที่สุดให้เรา เพราะว่าพี่รักเรา แม้ว่าเราจะไม่ได้รักพี่เลย..."
ขนาดผมฟังยังเจ็บ แล้วไอ้พี่พฤกษ์ที่เป็นคนรู้สึกทั้งหมดจะขนาดไหน
"พี่ยืนยันว่ายังอยากดูแลเราเหมือนเดิม...แต่พี่ถามก็เพราะเพชรทำเหมือนแคร์พี่ ทำเหมือนเพชรห่วงความรู้สึกพี่ เรื่องน้องผู้หญิงคนนั้น..."
ทำไมผมจะไม่แคร์มัน ทำไมจะไม่ห่วงความรู้สึกมันล่ะ ผมเองก็รู้สึกนะ
ผมไม่เถียง ไม่โต้ตอบใดๆ เพราะไม่มีอะไรมาแย้ง
"คราวนี้เพชรต้องบอกพี่บ้าง"
ผมเงียบไปนาน แต่ก็ทนสายตาที่ไอ้พี่พฤกษ์จ้องมาไม่ไหว
"เออ เพชรไม่อยากให้พี่นอยด์...พอใจยัง"
ไอ้พี่พฤกษ์จ้องผมอีกสักพักก่อนจะคลายมือ ผมรีบเปิดประตูลงมาทันที
ใช่ ไอ้พี่พฤกษ์พูดถูกทุกอย่าง ผมไม่รู้ความรู้สึกตัวเอง แล้วจะมีใครในโลกนี้รู้
ผมต้องกลับไปทบทวนทุกอย่างแล้ว

ฟ้ายังคงโทรมาเรื่อยๆไม่หยุดหย่อนจนเลยเที่ยงคืนไปแล้วนั่นแหละ แต่ผมไม่ได้รับสักสาย และคิดไว้แล้วว่าหลังจากนี้ก็จะไม่รับอีก
เช้าวันต่อมาผมออกมามหา'ลัยตามปกติ ในหัวคิดแต่เรื่องไอ้พี่พฤกษ์จนตื้อไปหมด
"เห้ยพวกมึง เย็นนี้ไปอ่านหนังสือกัน อาทิตย์หน้าเริ่มสอบวิชาแรกแล้วนะเว้ย" ไอ้นิวเปิดประเด็นขึ้นมา เอาซะคนขี้เกียจอย่างผมสะดุ้ง
"เออ เอาดิ ที่ไหนดีวะ" ไอ้เจมส์เออออ
"มีร้านกาแฟที่นึง ข้ามสะพานลอยจากหน้าคณะเราแล้วเดินเข้าซอยต่ออีกหน่อยก็ถึงละ"
"เออๆ ไปปะไอ้เพชร"
"ไปดิ กูกะให้มึงสองคนติวหนักๆเลย ไม่รู้จะเอาเหี้ยอะไรไปสอบ"
ไอ้นิวหัวเราะกับคำตอบผม ส่วนไอ้เจมส์ส่ายหัวอย่างเอือมระอา มันชินแล้วล่ะที่ผมไม่ค่อยได้เรียน แต่มาฟิตตอนใกล้สอบเอาอย่างเดียว
ผมไลน์ไปบอกไอ้พี่พฤกษ์ว่าเย็นนี้ไม่ต้องไปส่ง
สี่โมงเย็น พวกผมออกจากห้องเรียนแล้วตรงไปยังร้านกาแฟที่ไอ้นิวบอก มีนิสิตมานั่งกันจนเกือบเต็มร้านแล้ว
"คนเยอะจังวะ" ผมพึมพำ
"ก็มันช่วงสอบแล้วนี่หว่า โง่นะมึงเนี่ย" ไอ้เจมส์ว่า ผมเลยโบกหัวมันไปหนึ่งที
เมื่อได้ที่นั่งสำหรับสามคนแล้ว ไอ้เจมส์กับไอ้นิวก็เริ่มหยิบหนังสือโจทย์แคลคูลัสขึ้นมาทำทันที ผมที่กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาไถ ถึงกับต้องเปลี่ยนไปจับหนังสือแทน
"มึงเริ่มอ่านยังวะเพชร" ไอ้เจมส์ถาม
"ยัง"
"มึงรีบเลย บทหลังๆยากสัส ต้องใช้เวลา" ไอ้นิวบอก และเพิ่มความกดดันขึ้นไปอีกด้วยการเปิดไปที่หน้าท้ายๆของหนังสือ แสดงว่าโจทย์ข้างหน้ามันทำครบแล้วสินะ
หันไปมองไอ้เจมส์อีกตัว นี่ก็พอกัน อ่านไปครึ่งเล่มแล้ว
เอาวะ เหลืออีกแค่อาทิตย์เดียว ผมต้องเริ่มบ้างแล้ว
อ่านไปได้ยังไม่ถึงสิบหน้า เสียงโทรศัพท์ก็ดัง
ฟ้า
เฮ้อ ปิดเครื่องหนีอีกซะดีมั้ง
ผมยื่นโทรศัพท์ใส่หน้าไอ้นิวให้ดู
"ทำไมมึงไม่รับวะ"
"เมื่อวานมีปัญหานิดหน่อย"
"เออ กูลืมถามเลย มึงกับฟ้าเป็นไงมั่ง"
"กู...กูเทเค้า"
"ไอ้สัส หล่อเลือกได้ชิบหาย" ไอ้เจมส์แทรก
ผมไม่กล้าเล่าให้ไอ้สองคนนี้ฟังว่าทิ้งฟ้าแล้วไปหาไอ้พี่พฤกษ์ครับ
"ทำไมวะ เพื่อนกูไม่โออ่อ" ไอ้นิวเลิกสนใจหนังสือแล้วหันมาหาผม
"ทำนองนั้น"
ฟ้ายังคงโทรเข้ามาติดๆกันอีกหลายครั้ง
"กูว่ามึงรับดีกว่า เคลียร์ให้จบไปเลย ไม่งั้นเค้าโทรหามึงทั้งวันแน่" ไอ้เจมส์เงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาบอก
"เออๆ" จริงของมันครับ
ผมหงายหน้าโทรศัพท์ขึ้นมา แต่ว่าคราวนี้ไม่ใช่ฟ้าโทรมาครับ เป็นพี่ริวแทน
"ฮัลโหลพี่"
(เพชร อยู่ไหน)
"ผมอ่านหนังสืออยู่แถวมหา'ลัยเนี่ย พี่มีไร"
(ฟังพี่ดีๆนะ ไอ้พฤกษ์รถชน ตอนนี้มันอยู่โรงพยาบาล)
ผมช็อค
(เพชร เพชร)
"คะ ครับพี่"
(เพชรจะมาหามันมั้ย)
"ปะ ไปดิพี่...อยู่โรงพยาบาลไหน..."

ผมบอกไอ้เจมส์กับไอ้นิวก่อนออกจากร้านกาแฟอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เรียกแท็กซี่ได้ทันทีเลยเมื่อเดินไปถึงหน้าถนนและโรงพยาบาลที่ไอ้พี่พฤกษ์อยู่ก็ไม่ได้ไกลจากมหา'ลัยเท่าไรด้วย
แสดงว่าอุบัติเหตุคงเกิดไม่นานนัก
ผมยังไม่ได้ถามอะไรจากพี่ริวมาก รู้แค่ว่าตอนนี้ผมต้องไปหาไอ้พี่พฤกษ์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
ห้ามเป็นอะไรไปนะเว้ย
มาถึงผมก็วิ่งสุดแรงไปที่แผนกฉุกเฉิน เห็นพี่ริว พี่เกี้ยง เพื่อนผู้ชายและผู้หญิงอีกหลายคนในแก๊งไอ้พี่พฤกษ์ ทั้งกลุ่มเพื่อนที่เรียนด้วยกัน เพื่อนในกรุ๊ป และเพื่อนทีมแผนการตลาด
ผมตรงเข้าไปหาพี่ริวเป็นคนแรก
"พี่ริว พี่พฤกษ์เป็นไงบ้าง" ผมถามไปหอบไป เพื่อนไอ้พี่พฤกษ์หลายคนหันมามอง
"อ้าวเพชร...ไม่รู้เลยว่ะ พี่มาถึงคนแรก เจอพยาบาลก็บอกให้รอหน้าห้องก่อน หมอกำลังตรวจอยู่"
ผมหน้าเสีย ทรุดนั่งลงกับเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด
"มันจะไม่เป็นไรเว้ยน้อง มันอยู่ในมือหมอแล้ว" พี่ริวพูดปลอบ แต่สีหน้าก็ดูไม่ได้มั่นใจนัก
พี่เกี้ยงเดินมาสมทบอีกคน แกนั่งลงข้างผมก่อนจะเอื้อมมือมาโอบไหล่ผมแล้วบีบเบาๆ
ผมรู้ดีว่าพี่ทั้งสองคนพยายามจะทำให้ผมสบายใจ แต่ผมไม่รู้สึกแบบนั้นเลย
มีเสียงพูดคุยกันหึ่งๆในกลุ่มเพื่อนไอ้พี่พฤกษ์
"มันจะเป็นไงมั่งวะ"
"รถชนที่ไหนวะ"
ความรู้สึกของผมในตอนนี้ปนเปกันไปหมด ใจนึงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อีกใจก็กลัว ไม่อยากได้ยินอะไรเลย
"นั่นไง พี่ไอ้พฤกษ์มาแล้ว" ใครสักคนพูดขึ้น
ทุกคนหน้าห้องฉุกเฉินมองตาม พี่ชลวิ่งหน้าตื่นเข้ามา และตรงเข้ามาถามอาการน้องชายทันที
"พฤกษ์เป็นไงบ้าง..."
พอพี่ชลคุยกับเพื่อนไอ้พี่พฤกษ์เสร็จ ก็มานั่งลงข้างพี่เกี้ยง ผม พี่เกี้ยง พี่ริวยกมือไหว้แก
"หวัดดีครับ" พี่ชลรับไหว้ แต่ไม่ได้ยิ้มตอบ "พ่อกับแม่พี่กำลังมา"
ช่วงเวลารอหลังจากนั้นทรมานมาก พวกเราไม่รู้เลยว่าไอ้พี่พฤกษ์เป็นอย่างไรบ้าง จนพ่อกับแม่พี่มันมาถึง หมอก็ยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉิน
ผมเห็นแม่ไอ้พี่พฤกษ์ร้องไห้สะอื้นอยู่บนบ่าพ่อ พี่ชลที่ย้ายไปนั่งด้านข้าง จับมือแม่กุมไว้
ผมตัดสินใจเลิกชะเง้อไปที่ประตู แล้วซุกหน้าลงกับฝ่ามือแทน

TBC

ฮือ ทำไมพี่พฤกษ์ซวยขนาดนี้
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP22 "เพชรกำลังเข้าใจผิด ผิดมากๆเลยด้วย" 22/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-09-2018 08:18:59
เพชรปากแข็งจัง
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP22 "เพชรกำลังเข้าใจผิด ผิดมากๆเลยด้วย" 22/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 22-09-2018 11:31:07
 :pig4: :pig4: :pig4:

ง่า...อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร?
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP22 "เพชรกำลังเข้าใจผิด ผิดมากๆเลยด้วย" 22/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 25-09-2018 08:22:21
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP22 "เพชรกำลังเข้าใจผิด ผิดมากๆเลยด้วย" 22/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 25-09-2018 19:20:37
 :L1:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP23 "อย่าดื้อดิ" 26/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 26-09-2018 06:28:52
EP23 "อย่าดื้อดิ"

ในที่สุดหมอและทีมรักษาทั้งหมดก็เปิดประตูออกมา
พี่ชลกับพ่อแม่กรูกันเข้าไปถามหมอ
ผมเองก็นั่งไม่ติด ใจเต้นแรงลุ้นคำตอบ
"คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ แต่ซี่โครงกับแขนหัก คาดว่าน่าจะโดนกระแทกแรงพอสมควร ยังไงคิดว่าต้องพักอยู่ที่โรงพยาบาลสักหนึ่งอาทิตย์นะครับ หมอไม่อยากให้ขยับร่างกายมากเท่าไร"
ผมและทุกๆคนถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง
"เห็นมั้ย...บอกแล้วว่ามันต้องไม่เป็นอะไร" พี่ริวยิ้มกว้าง กอดคอผมกับพี่เกี้ยง
"แหม่ ตอนกูมาถึงไม่เห็นจะมั่นใจงี้เลย" พี่เกี้ยงกัด สีหน้าดีขึ้นจากเมื่อครู่ด้วยเหมือนกัน
หมอบอกอีกว่าจะให้เยี่ยมคนไข้ได้เมื่อย้ายออกจากห้องฉุกเฉินแล้ว
พี่ๆบางคนทยอยกันกลับและจะมาเยี่ยมใหม่ในวันถัดไป ตอนนั้นเองที่ผมนึกอะไรขึ้นมาได้
ผมตรงเข้าไปหาพี่ชลกับพ่อแม่
"เอ่อ สวัสดีครับ"
พ่อแม่ไอ้พี่พฤกษ์รับไหว้ผมแล้วส่งยิ้มให้ ส่วนพี่ชลหันมาตบไหล่ผม
"พ่อครับแม่ครับ นี่เพชร รุ่นน้องไอ้พฤกษ์ที่มหา'ลัย"
"หวัดดีลูก"
"คือ...ผม...จะว่าอะไรมั้ยครับ...ถ้าผมขออยู่เฝ้าพี่พฤกษ์"
ทั้งสามคนมองผมอย่างสงสัย
"เอ่อ...จริงๆพี่ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรหรอกนะ แต่เพชรจะไม่ลำบากเหรอ ทีแรกพี่คิดว่าจะจ้างพยาบาลพิเศษมาช่วยดูแลอยู่แล้วน่ะ" พี่ชลบอก
"ไม่ต้องจ้างก็ได้ครับ ผม ผมอยากช่วยดูแลพี่พฤกษ์...ทุกวันจนกว่าจะออกจากโรงพยาบาลเลยครับ"
เงียบกันไปนานมาก
"อืม ถ้าเพชรสะดวก ก็ได้นะ...พ่อกับแม่ว่าไงครับ"
พ่อแม่ไอ้พี่พฤกษ์พยักหน้าและส่งยิ้มให้ผม แต่คงนึกประหลาดใจมากแน่ๆที่ใครก็ไม่รู้เสนอตัวมาเฝ้าไข้ลูกชายให้
"ขอบคุณครับ" ผมยิ้มกว้าง
"โอเค ขอบใจเพชรมากนะ" พี่ชลตบไหล่ผมเบาๆ "แต่พี่ถามนิดนึงดิ ทำไมเพชรถึงอาสาจะมาเฝ้าเจ้าพฤกษ์มันล่ะ"
ผมตะกุกตะกักขึ้นมาอีกครั้ง
"เอ่อ คือ...พี่พฤกษ์ช่วยผมหลายเรื่องเลยน่ะครับ...ถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยได้ ผมก็อยากช่วยครับ"
จริงๆแล้วผมมีแต่ทำให้ไอ้พี่พฤกษ์เสียใจ และโอกาสที่ผมจะได้ทำดีตอบแทนมันก็มาถึงแล้วด้วย
พี่ชลกับพ่อแม่ตามหมอไปจัดการเรื่องย้ายไอ้พี่พฤกษ์ไปพักห้องพิเศษ ส่วนผมแยกตัวออกมานั่งรอกับพี่ริว พี่เกี้ยง
พี่สองคนมองหน้าผมแปลกๆ
"มีอะไรรึเปล่าพี่" ผมถามตรงๆ
"เพชรกำลังจะทำอะไร" พี่ริวมีสีหน้าเคร่งขรึมกว่าปกติ แสดงว่าเข้าโหมดซีเรียสไปแล้วเรียบร้อย
"พี่หมายถึงเรื่องอะไร"
"ก็ที่เพชรไปขอเฝ้าไอ้พฤกษ์ ทำไมถึงทำแบบนั้น"
"ผม...ผมอยากช่วยพี่พฤกษ์" ผมพูดได้แค่นั้น สายตาพี่ริวดูเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
"แค่นั้นจริงๆเหรอ"
"ครับ"
"พี่ไม่รู้นะ...ที่ทริปน้องบอกไม่ชอบไอ้พฤกษ์ แต่กลับมาที่มหา'ลัย น้องให้มันไปส่งที่บ้านทุกวัน วันนี้ก็จะมาเฝ้ามันอีก สรุปน้องคิดยังไงกับมันกันแน่"
พี่ริวเริ่มโกรธ ผมเห็นพี่เกี้ยงจับแขนพี่ริวเหมือนปรามไว้
"ไอ้พฤกษ์มันจะรักใครชอบใคร พี่ไม่เคยเสือก แต่ครั้งนี้มันเป็นเพชร พี่ว่าเราคุยกันได้ เตือนกันได้...พี่แค่ไม่อยากให้เพื่อนต้องเสียใจซ้ำซาก ถ้าเพชรไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน"
สมองผมว่างเปล่า ไม่มีอะไรจะโต้ตอบพี่ริวสักอย่าง
"ที่พี่โทรหาเมื่อกี้เพราะคิดว่าอย่างน้อยเพชรก็คงเป็นห่วงมันบ้าง แต่ไม่คิดว่าจะมาเฝ้ามันแบบนี้...เพชรกำลังปั่นหัวไอ้พฤกษ์อยู่นะ"
พี่ริวพูดจบก็เดินออกไป
"เอ่อ พี่ก็อยากให้เพชรกลับไปคิดดูให้ดีๆนะ ไม่ใช่เพื่อไอ้พฤกษ์คนเดียว เพื่อตัวเพชรเองด้วย..."
พี่เกี้ยงว่า ก่อนจะเดินตามพี่ริวไป

หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ผมย้อนกลับไปเก็บเสื้อผ้าที่คอนโดเตรียมมาเฝ้าไอ้พี่พฤกษ์ พอพี่ชลโทรหาว่าให้ขึ้นมาที่ห้องพักผู้ป่วยได้ ผมจึงเข้าไป
พอเข้าไปแล้วก็เห็นรอยยิ้มของพ่อแม่ไอ้พี่พฤกษ์เป็นสิ่งแรก
"พวกพี่กำลังจะกลับแล้ว ยังไงฝากไอ้พฤกษ์มันด้วยนะ"
"ครับผม"
"ขอบคุณน้องเพชรมากเลยนะจ๊ะ"
"พ่อรบกวนด้วยนะ"
แล้วพี่ชลก็ขยับตัวออกจากหัวเตียง ทำให้ผมเห็นหน้าไอ้พี่พฤกษ์
"พี่ไปก่อนนะ"
"หวัดดีครับ"
ผมยกมือไหว้ครอบครัวไอ้พี่พฤกษ์อีกครั้ง มองตามหลังทุกคนเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย ก่อนจะหันกลับมาหาไอ้พี่พฤกษ์
มันฟื้นแล้ว กำลังจ้องผมอยู่เหมือนกัน
"พี่พฤกษ์" ผมเรียกเบาๆ
"เอ่อ ครับ"
"พี่เป็นไงบ้าง"
มันเงียบไปประเดี๋ยวหนึ่งก่อนตอบ
"ไม่เป็นอะไรมากครับ ไม่ต้องเป็นห่วง"
ผมไม่ชอบคำตอบนั่นเลย
"หมอบอกว่าพี่ซี่โครงหัก แขนหัก ต้องนอนโรงพยาบาลอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์"
"เอ่อ แต่พี่รู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมากจริงๆนะ"
"จะไม่เป็นอะไรมากได้ไง"
ผมเดินเข้าไปที่ข้างเตียง มองสำรวจตัวไอ้พี่พฤกษ์ ถ้าดูจากภายนอกก็ไม่เห็นบาดแผลหรือร่องรอยบาดเจ็บใดๆ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอวัยวะภายในนี่สิที่น่ากลัวกว่า
"หมอบอกว่าไม่อยากให้พี่ขยับตัว"
"ครับ เมื่อกี้หมอเข้ามาคุยกับพี่เหมือนกัน แต่พี่คิดว่าพี่ชิวมากเลยนะ"
ผมถอนหายใจ รู้แล้วว่ามันพูดเพื่อไม่ให้ผมเป็นห่วง
"อย่าหลอกเพชรเลย เพชรรู้ว่าพี่เจ็บมาก"
ไอ้พี่พฤกษ์เงียบ และผมเข้าใจว่ามันเชื่อผมที่บอกให้ไม่โกหก
"โอ๊ย..." มันร้อง จากการที่กำลังจะชันตัวขึ้นนั่ง ผมรีบขยับไปประคองตัว ดันให้ร่างมันนองลงราบไปกับเตียงตามเดิม
"เห็นมั้ย ขยับนิดเดียวยังเจ็บเลย...ถ้าจะลุกไปเข้าห้องน้ำหรือจะเอาอะไรก็บอกเพชร"
ไอ้พี่พฤกษ์มองผมตาปริบๆ
"พี่ชลบอกว่าเพชรขออยู่เฝ้าพี่ที่นี่"
"ครับ"
"ช่วงนี้เราใกล้จะสอบแล้วด้วย ไปอ่านหนังสือเตรียมสอบดีกว่า อย่ามาอยู่เฝ้าพี่เลยนะครับ"
ผมหงุดหงิด แต่ไม่อยากพูดไม่ดีกับไอ้พี่พฤกษ์ในสภาพแบบนี้
"ไม่ครับ ยังไงเพชรก็จะมาเฝ้าพี่"
มันไม่ตอบอะไร แค่มองด้วยแววตาที่เหมือนกำลังอ่านใจผมอยู่
"เรื่องอุบัติเหตุ พี่เล่าให้เพชรฟังได้มั้ย" ผมลากเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียง
"ครับ หลังเลิกคลาสเช้าพี่ขับออกมาทำธุระที่สยาม เอ่อ เห็นเราบอกว่าไม่ต้องไปรับ พี่เลยขับกลับคณะอีกทีตอนเกือบห้าโมง"
"กลับมาคุยแผน marketing ใช่มั้ย"
"ครับ พี่คิดว่าถ้ามาทางถนนใหญ่ตอนนั้นรถคงติด เลยมาทางลัดแทน ปรากฏว่าเจอรถกระบะที่ขับสวนมาชนอย่างจังเลย"
ผมนึกภาพตามแล้วก็เสียวแทน
"พี่หักหลบลงข้างทางได้ครึ่งคัน ทีแรกนึกว่าจะไม่ชน แต่ก็โดนอยู่ดี...กระแทกแรงด้วย"
"แล้วคนขับกระบะล่ะ"
"พอชนพี่แล้วเค้าก็หนีไปเลย"
"เหี้ยเอ๊ย" ผมสบถ
"ไม่ต้องห่วง พี่ชลติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดแถวนั้น พี่บอกลักษณะรถไปแล้ว ถึงตอนนั้นจะไม่เห็นเลขทะเบียนก็เถอะ"
ผมพยักหน้า นึกโกรธคนขับรถกระบะคันนั้นขึ้นมาทันควัน
"ว่าแต่มีคนรู้ได้ไงว่าพี่โดนรถชน"
"พี่ไม่ได้สลบไปนะ แค่ลุกออกจากรถเองไม่ไหว พี่โทรหาพี่ชล แล้วมันก็คงโทรหาเพื่อนพี่ต่อ"
"อ่อ" ผมนึกถึงตอนที่พี่ริวแจ้งข่าว คิดได้แค่ว่าต้องรีบมาหาไอ้พี่พฤกษ์ให้เร็วที่สุด และถ้ามันเกิดเป็นอะไรไปมากกว่านี้ ผมจะทำยังไง
"เราล่ะ รู้เรื่องพี่ได้ยังไง" ไอ้พี่พฤกษ์ถามผมบ้าง
"พี่ริวโทรบอก"
"เอ่อ แล้ววันนี้เราจะอยู่เฝ้าพี่ทั้งคืนเลยเหรอ"
"อือ"
ไอ้พี่พฤกษ์หันหน้าหนีผมไปอีกทาง
"เพชรรู้นะว่าพี่คิดอะไรอยู่"
ผมไม่ได้โกรธ แต่เป็นอารมณ์น้อยใจมากกว่าที่รู้ว่าไอ้พี่พฤกษ์ไม่ต้องการให้ผมมาเฝ้าไข้
"เพชรมาเฝ้าพี่ก็เพราะว่าเพชรอยากมา ไม่ได้มีใครบังคับ หรือเพราะสงสาร หรืออะไรทั้งนั้น"
มันยังคงไม่มองมาที่ผม
"เพชร...เพชรก็เป็นห่วงพี่นะ"
เงียบอยู่นาน จนไอ้พี่พฤกษ์หันมาอีกครั้ง
"ขอบคุณนะครับ" มันยิ้มบางๆ

ผมพึ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเย็นก็ตอนสามทุ่ม เลยแวบออกมาซื้อโจ๊กที่ขายอยู่หน้าโรงพยาบาล
เมื่อกี้ไอ้เจมส์กับไอ้นิวพึ่งโทรมาถามผมเรื่องไอ้พี่พฤกษ์ครับ กะว่าจะมาเยี่ยมพรุ่งนี้ และพอบอกไปว่าผมมาอยู่เฝ้า พวกมันก็พูดเหมือนพี่ริวกับพี่เกี้ยงเปี๊ยบ
'มึงอะนะไปเฝ้าพี่พฤกษ์...ถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรด้วย กูว่าถอยห่างออกมาเหอะ สงสารพี่เค้าว่ะ'
ผมถอยออกมาไม่ได้หรอก ด้วยเหตุผลอะไรก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
ผมแวะซื้อผลไม้ ขนม และนม กะจะให้ไอ้พี่พฤกษ์ไว้กินตลอดช่วงที่อยู่โรงพยาบาลนี่แหละ
แต่พอกลับไปที่ห้องพิเศษของไอ้พี่พฤกษ์ ผมมองเห็นจากช่องหน้าต่างเล็กๆตรงประตูว่ามันกำลังพยายามจะดันตัวเองแล้วลุกขึ้นจากเตียง และเนื่องจากแขนขวาหัก ทำให้มันพยายามใช้แขนซ้ายข้างเดียวทรงตัว
ผมผลักประตูแล้ววิ่งตรงไปหามันทันที
"พี่ทำอะไร"
มันสะดุ้งและหยุดนิ่งอยู่กับที่
"เอ่อ...พี่จะไปเข้าห้องน้ำน่ะครับ"
"แล้วทำไมไม่เรียกพยาบาล ถ้าล้มไปจะทำยังไง พี่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าหมอไม่ให้ขยับตัวเยอะถ้าไม่จำเป็น"
"ครับ พี่เห็นว่าแค่ลุกไปเข้าห้องน้ำใกล้ๆเอง เลยไม่อยากเรียกให้ใครลำบาก"
"พี่ไม่ห่วงตัวเองบ้างรึไง" ผมตะโกน และอะไรบางอย่างก็เตือนสติให้เย็นลง "คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ"
"ขอโทษครับ..."
ผมวางของที่ซื้อมาทั้งหมดลงก่อนจะค่อยๆประคองไอ้พี่พฤกษ์ให้ลุกขึ้นจากเตียง โอบตัวมันเบาๆแล้วพาเดินไปที่ห้องน้ำ พี่มันครางเพราะเจ็บจากการขยับตัว
"ดะ เดี๋ยวเพชรรอพี่หน้าห้องน้ำก็ได้ครับ" มันพูด หน้าแดงนิดหน่อย
"พี่เขินไร ผู้ชายเหมือนกัน" ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ผมก็ยืนรอมันหน้าห้องน้ำอยู่ดี
เมื่อเฮียแกเสร็จธุระ ผมก็ประคองกลับไปนอนบนเตียงตามเดิม
"ขนาดมีเพชรช่วยประคองแล้วพี่ยังร้องเจ็บอยู่เลย เพราะงั้นอย่าดื้อ เข้าใจปะ" ผมอดไม่ได้ที่จะดุมันอีก
"คร้าบ" มันตอบเสียงอ่อย
"แล้วเพชรซื้อของกินมาให้พี่เต็มเลย กินอะไรมั้ย"
"ไม่ค่อยหิวอะ ยังอิ่มข้าวเย็นที่หมอมาเสิร์ฟอยู่เลย"
"อย่าดื้อดิ" ผมดุซ้ำ "พี่อะต้องกินเยอะๆ เลือกอย่างนึง"
"เอ่อ งั้นนมก็ได้"
ผมเทนมจืดให้ไอ้พี่พฤกษ์สองแก้วเต็มๆ
"โห สองแก้วเลยอ่อ แก้วเดียวได้มั้ยครับ พี่กินไม่หมดหรอก" มันถามเสียงเบา
"ก่อนนอนพี่ต้องกินให้หมดทั้งสองแก้ว" ผมตัดบท
ผมจัดการเก็บของกินอย่างอื่นใส่ตู้เย็น ก่อนจะถอดชุดนิสิตออกจนเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว
"พะ เพชรทำอะไร"
ไอ้พี่พฤกษ์หน้าเป็นสีแดงอีกแล้ว มันกำลังจ้องตัวผม
"จะอาบน้ำ..."
แต่ผมก็หลบตาไอ้พี่พฤกษ์เองทีหลัง เพราะมันไม่ยอมหยุดมอง คว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไป
ไอ้ห่า ลามก
ระหว่างอาบน้ำ ผมสงสัยขึ้นมาว่าทำไมผมไม่โกรธที่มันมองแบบนั้น ทำไมไม่ได้รังเกียจ
แต่รู้สึกเหมือนว่าจะเขินมันหน่อยๆด้วยซ้ำ
ออกมาเลยสวมเสื้อยืดเพิ่มจากกางเกงอีกตัวนึง เกรงใจหมอกับพยาบาลที่จะเข้ามาดูอาการไอ้พี่พฤกษ์ตอนดึกๆ ไม่งั้นเหลือชิ้นเดียวไปแล้ว
"พี่พฤกษ์กินนมไปถึงไหนแล้วครับ"
ผมถามพร้อมหันไปมอง มันใช้แขนข้างที่ไม่ได้หักชูแก้วเปล่าให้เห็นหนึ่งแก้ว
"ดีมาก"
"ที่จริง...รถชนนี่ก็มีเรื่องดีอยู่เหมือนกันนะ" มันเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"ดียังไง"
"ก็...เพชรมาดูแลพี่ไง"
ผมหลบสายตามัน
"ถ้าพี่ไม่โดนรถชน...พี่คงไม่มีโอกาสได้อยู่กับเพชรแบบนี้" ไอ้พี่พฤกษ์พูดเสียงเศร้า
"พี่จะบ้ารึไง...ถ้าอยากให้มาหา...บอกดีๆก็ได้ ไม่ต้องรอให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอก"
ผมพูดจากใจจริง แต่พูดโดยที่ยังคงไม่มองหน้าไอ้พี่พฤกษ์
ทั้งผมทั้งไอ้พี่พฤกษ์ต่างก็นิ่งไปนาน จนเวลาเลยมาถึงสี่ทุ่มแล้วนั่นแหละ
"พี่นอนได้แล้วนะ"
"หือ นี่สี่ทุ่มเองนะ"
"พี่ต้องพักผ่อนเยอะๆ อย่าดื้อดิ"
"..."
"กินนมให้หมดด้วย"
มันยกแก้วนมที่เหลืออยู่อีกครึ่งขึ้นดื่มจนหมด มองตามผมที่เก็บแก้วไปล้างทำความสะอาด
"ขอบคุณมากนะครับที่มาอยู่ช่วยพี่"
ไอ้พี่พฤกษ์ส่งยิ้มน้อยๆให้ ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ

ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นเพราะถูกสะกิดเบาๆที่ไหล่ พอเห็นว่าเป็นพี่ชลเลยรีบลุกจากโซฟา
"วะ...หวัดดีครับพี่" ผมกลั้นหาว
"เหนื่อยมั้ยเรา พี่ขอโทษนะ" พี่ชลขยี้หัวผมเบาๆ
"มะ ไม่เป็นไรครับ"
จริงๆคือผมเพลียมาก เพราะพึ่งจะล้มตัวลงนอนเมื่อสองชั่วโมงก่อน ไอ้พี่พฤกษ์หลับไปตั้งแต่สี่ทุ่มกว่าก็จริงครับ แต่ผมไม่กล้าหลับ กลัวว่ามันจะลุกมาเข้าห้องน้ำหรือทำอะไรด้วยตัวคนเดียวอีก จนตีห้า ร่างกายผมก็ทนง่วงไม่ไหว
"พี่คุยกับพฤกษ์เมื่อวาน มันบอกว่าเพชรกำลังจะสอบมิดเทอม พี่เลยคิดว่าจะรบกวนเราแค่คืนเดียว หลังจากนี้คงจะจ้างพยาบาลพิเศษ"
"แต่ผมไม่เป็นไรจริงๆนะครับ ผมเต็มใจช่วย" ผมรีบพูด
"อย่าเลย ไม่ใช่ว่าที่บ้านพี่ไม่อยากรับน้ำใจเรานะ แต่เป็นห่วงเราเรื่องสอบด้วย...เอางี้ เพชรก็มาเยี่ยมไอ้พฤกษ์มันได้ทุกวันแหละ แต่ไม่ต้องถึงกับอยู่เฝ้าข้ามคืนหรอก โอเคมั้ย"
ถ้าพี่ชลพูดขนาดนี้ ผมคงไม่กล้าปฏิเสธแกอีกรอบ
"เอ่อ...ก็ได้ครับ"
"ยังไงก็ขอบใจมากนะ ว่าแต่เมื่อคืนพฤกษ์เป็นไงบ้าง"
"ก็หลับตั้งแต่สี่ทุ่มน่ะครับ นอนยาวจนถึงตีห้าเลย แต่หลังจากนั้น..."
"เพชรหลับใช่ปะ" พี่ชลยิ้มแซว
"ขอโทษครับ"
"เห้ย ไม่เป็นไรน่า ถ้าเป็นพี่คงหลับไปพร้อมกับมันแล้วด้วยซ้ำ...เดี๋ยวนะ งั้นแสดงว่าเพชรอยู่ดูมันแทบทั้งคืนเลยดิ"
"ครับ"
"กลับไปพักผ่อนเลย...แล้ววันนี้มีเรียนรึเปล่า"
"มีครับ แต่แค่ช่วงบ่าย"
"ดีเลย งั้นกลับไปนอนพักก่อนไปเรียนสักเดี๋ยวนะ"
"ครับผม"
ผมมองไปที่ไอ้พี่พฤกษ์ มันกำลังหลับสบายอยู่เลย
"ไม่ต้องเป็นห่วงมันนะ พี่ติดต่อคุณพยาบาลไว้ละ อีกเดี๋ยวพี่ต้องไปออฟฟิศ"
"ครับ เอ่อ ผมซื้อของกินตุนไว้เต็มตู้เย็นเลย พี่ชลลองดูนะครับ"
"ขอบคุณครับ"
ผมอาบน้ำและใส่ชุดนิสิตกลับคอนโด
เย็นวันนั้นผมกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งพร้อมไอ้เจมส์กับไอ้นิว ก่อนจะเข้าเยี่ยมไอ้พี่พฤกษ์ได้ก็ต้องรอทีมแข่งแผนการตลาดของมันที่มากันล้นห้องเยี่ยมก่อน
ไอ้พี่พฤกษ์นี่ฮ็อตจริงๆ
"หวัดดีคร้าบบบบ" ไอ้เจมส์ส่งเสียงก่อนใครเพื่อน
"อ้าว หวัดดีครับ มากันครบแก๊งเลย"
"พี่เป็นไงมั่งครับ" ไอ้เจมส์สัมภาษณ์ต่อทันที
"ดีขึ้นจากเมื่อวานเยอะเลยครับ"
"จริงอ่อ" ผมถามแทรก
"จริงดิ เพราะเพชรมาดูแลพี่นั่นแหละ"
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวมองหน้ากันอย่างมีความหมาย
"เว่อ"
ไอ้พี่พฤกษ์อมยิ้ม
"แล้วตอนนี้ตามตัวคนขับรถกระบะได้รึยังครับ" ไอ้นิวถามบ้าง
"เรื่องนี้พี่ชายพี่จัดการให้อยู่ ไม่รู้เป็นไงบ้าง"
"พี่พฤกษ์" ผมเรียก
"ครับ"
"ไหนพยาบาลพิเศษที่พี่ชลจ้างมาอะ"
"คุณพยาบาลเค้าพึ่งออกไปตอนเพื่อนพี่มาเยี่ยม เดี๋ยวพอพวกเราออกไป เค้าก็กลับมาแหละ"
"เวลาพี่จะลุกไปไหน เค้าอยู่ช่วยพี่ใช่มั้ย"
"อยู่ครับ" มันยิ้ม
"ดี แล้วพี่ก็ต้องให้เค้าช่วย เข้าใจมั้ย"
"เข้าใจคร้าบบ" ไอ้พี่พฤกษ์พูดเสียงค่อย
"อะ อะไรมึง" ผมพูดใส่ไอ้เจมส์กับไอ้นิว เพราะมันสองคนจ้องผมอย่างสงสัย
"เห้ย เดี๋ยวกูออกไปซื้อหนมก่อนนะ หิวว่ะ ไอ้นิวไปกับกูหน่อย"
นั่น ไอ้สองตัวนี่กำลังจะทิ้งให้ผมอยู่กับไอ้พี่พฤกษ์
"เออๆ ไปดิ" ไอ้นิวเออออแล้วก็พากันออกไปกับไอ้เจมส์สองคน
ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงผู้ป่วย
"เอาจริงๆพี่พฤกษ์"
"เอาจริงเรื่องไร"
"อาการอะ ดีขึ้นแล้วจริงอ่อ"
"ดีขึ้นจริง ไม่เชื่อเราลองถามหมอดูก็ได้"
"แต่ก็ต้องนอนโรงพยาบาลหนึ่งอาทิตย์เต็มๆใช่มั้ย"
"ครับ"
"แข่งแผนล่ะ"
"หลักๆเสร็จแล้ว เหลือแต่เก็บรายละเอียดของ presentation นิดหน่อย โชคดีที่มาโดนรถชนวีคใกล้ส่งนะเนี่ย"
"โชคดีอะไรล่ะ"
"เออ จริงด้วย"
"แล้วสอบอะ"
"ของพี่เริ่มสอบวิชาแรกอีกสองสัปดาห์ ชิว" ห่า อิจฉา ของกูอีกไม่กี่วันแล้ว บทแรกยังไม่อ่านจบ "เพชรเหอะ อ่านหนังสือไปถึงไหนแล้ว"
"สบาย อีกนิดก็จบละ"
"หึหึ เสียงสูงเชียวนะ"
รู้ทันอีก ไม่เคยโกหกไอ้พี่พฤกษ์ได้เลย
"เนี่ย เดี๋ยวเยี่ยมพี่เสร็จก็กลับไปอ่านซะนะครับ"
"เออน่า"
"อย่าดื้อดิ เทอมแรกเก็บเกรดง่ายสุดแล้ว พยายามเข้านะ"
"อือ เห้ย ลอกคำพูดอ่อ" ผมพึ่งรู้ตัวว่าโดนย้อน มันหัวเราะชอบใจ "พี่อะแหละอย่าดื้อ จะได้หายไวๆ"
"เพชรก็ด้วย อย่าดื้อ"
"งั้น...เพชรกลับก่อนนะ"
"ครับ เอ่อ ถ้าว่างๆแวะมาหาพี่อีกนะครับ"
"คร้าบ" ผมลากเสียงเลียนแบบ เจ้าตัวนอนยิ้มกริ่มอยู่บนเตียง
ปรากฏว่าไอ้เพื่อนชั่วสองตัวมันไม่ได้ไปซื้อขนมอะไรหรอกครับ แต่มันยืนแอบฟังอยู่หน้าห้อง ผมเพ่นกบาลพวกมันไปก่อนจะเดินออกมาด้วยกัน
พวกผมสวนกับพี่เกี้ยงและพี่ริวที่มาเยี่ยมไอ้พี่พฤกษ์ต่อ พวกแกคุยกับไอ้เจมส์ไอ้นิว แต่ไม่ได้พูดอะไรกับผม คงยังไม่นึกอยากคุยกับผมหลังเรื่องเมื่อวานเท่าไร
อย่างน้อยวันนี้ผมก็รู้สึกว่าไอ้พี่พฤกษ์เริ่มกลับมาพูดคุยและทำตัวกับผมเหมือนเดิมล่ะนะ
แต่เรื่องที่ผมไม่แน่ใจก็คือความรู้สึกตัวเองนั่นแหละ

TBC

เพชรมาเฝ้าไข้แบบนี้ คิดอะไรกับพี่พฤกษ์ปะเนี่ย
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP23 "อย่าดื้อดิ" 26/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-09-2018 11:39:40
 :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP23 "อย่าดื้อดิ" 26/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-09-2018 08:42:47
ถ้าเราเป็นเพื่อนพี่พฤกษ์เราก็ไม่อยากจะคุยกับเพชรนะ บอกว่าไม่ชอบแต่มาทำดีแบบนี้ สงสารพี่พฤกษ์
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP23 "อย่าดื้อดิ" 26/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-09-2018 22:38:19
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิเพชร  แกอย่ามาให้ความหวังกับพี่พฤกษ์สิ  น่าสงสารพี่แกออก
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP24 "เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว" 30/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 30-09-2018 07:44:47
EP24 "เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว"

ถึงแม้ไอ้พี่พฤกษ์จะบอกให้ผมมาเยี่ยมบ้างถ้าว่าง แต่ผมมาหามันทุกวัน บางวันที่มีเรียนแค่ครึ่งเช้าหรือบ่าย ผมก็จะมาช่วงครึ่งที่ไม่มีเรียน และเอาเวลาว่างที่เหลือ(อยู่น้อยนิด)ทั้งหมดไปกับการอ่านหนังสือเตรียมสอบมิดเทอม
รู้ตัวอีกที ไอ้พี่พฤกษ์ก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ จากที่ฟังเจ้าตัวกับพี่ชลบอก เห็นว่าซี่โครงเป็นปกติดีแล้ว ส่วนแขนยังต้องใส่เฝือกอ่อนอีกสัก4-5วัน และงดการขยับแขนที่ไม่จำเป็นทุกอย่างจนกว่าจะถอดเฝือก
'ขอโทษนะครับ ช่วงนี้พี่ขับรถไม่ได้ เดี๋ยวหายดีแล้วพี่จะกลับมาส่งเพชรเหมือนเดิมนะ' ไอ้พี่พฤกษ์บอกผมอย่างอ่อนโยน
ผมตื่นตอนเที่ยงพอดิบพอดีในวันเสาร์ คืนก่อนอยู่อ่านหนังสือกับไอ้เจมส์ไอ้นิวที่ร้านกาแฟจนถึงตีสอง ผมอะเลิกอ่านตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว แต่อยู่นั่งเล่นเกมมือถือรอพวกมันสองคนอ่านจบ เย็นวันนี้ก็นัดกินข้าวแล้วอ่านกันต่ออีก
ควานหามือถือบนโต๊ะข้างเตียงอย่างงัวเงียแล้วเจอว่ามี missed call จากไอ้พี่พฤกษ์ครับ
ผมกดโทรไปหามันทันที
(พึ่งตื่นใช่ปะเนี่ย) มันทักทายด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
"เออดิ พี่มีไร"
(วันนี้อยู่คอนโดใช่มั้ยครับ)
"อืม แต่เดี๋ยวเย็นจะออกไปเจอไอ้เจมส์ไอ้นิว"
(เอ่อ พี่ไปหาตอนนี้ได้มั้ยครับ)
"พี่จะมาทำไรอะ"
(ก็...)
"..."
(จะติวสอบให้อะ)
ขนาดไม่เห็นหน้า ผมยังสัมผัสได้จากเสียงว่าไอ้พี่พฤกษ์กำลังเขินหน่อยๆ
"อือ มาดิ"
ดีครับ ผมมีอะไรหลายอย่างอยากถามพี่มันด้วย
"เห้ย ว่าแต่พี่จะมายังไง"
(ไม่ต้องห่วง พี่ชลไปส่ง)
"อ่อ"
(เดี๋ยวเจอกันครับ)
ไอ้พี่พฤกษ์มาถึงในอีกหนึ่งชั่วโมงถัดมา
"หวัดดีครับพี่" ผมทักทายสองพี่น้อง
"โห คอนโดเพชรกว้างจัง แต่งสวยด้วย...อยู่คนเดียวเหรอ" พี่ชลที่พึ่งมาคอนโดผมครั้งแรกเอ่ยชม
"ครับ อยากแวะมาตอนไหนก็มาได้เลยนะครับ"
"คนรบกวนน่าจะเป็นน้องพี่มากกว่า...งั้นพี่กลับละ พฤกษ์เสร็จแล้วโทรมาหาพี่ละกันนะ"
"อย่าลืมซื้อของให้แม่ล่ะ"
"เออ"
ผมเดินไปส่งพี่ชลที่หน้าลิฟต์ กลับมาก็เห็นไอ้พี่พฤกษ์นั่งอยู่บนโซฟารอแล้ว
"แขนพี่เป็นไงบ้าง"
"ตอนนี้ดีขึ้นเยอะจริงๆแล้วครับ ไม่รู้สึกปวดแล้ว" แน่ะ มีขยับแขนใต้เฝือกโชว์ด้วย "เพชรกินข้าวรึยัง"
"กินแล้ว พี่อะ"
"เรียบร้อย...มาเริ่มอ่านหนังสือกันมั้ย"
"ของีบแปบนึงดิ ง่วงอีกแล้วอะ" ผมลงไปนั่งข้างๆไอ้พี่พฤกษ์
"ไม่ต้องเลย ไม่ทันเริ่มก็ขี้เกียจละ" มันพูดพร้อมดีดหน้าผากผม
"โอ๊ย ก็ง่วงอะ"
"ไม่ให้นอน อ่านเลย"
ผมหน้าบูด หยิบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับแคลคูลัสมากองบนโต๊ะข้างโซฟา อีกสองวันเตรียมโดนเชือด
"เราอ่านถึงไหนแล้ว"
"จบดิป กำลังขึ้นอินทิเกรต"
"ก็ไม่ช้านิ มา ลุยอินทิเกรตเลย..."
วิธีการอ่านหนังสือของผมกับไอ้พี่พฤกษ์คนละเรื่องกันเลยครับ ไม่ต้องถามนะว่าวิธีใครมีประสิทธิภาพมากกว่า มันให้เริ่มตั้งแต่หลักการก่อน พอเข้าใจหลักการแล้วก็ให้ท่องสูตร จำจนแม่นแล้วจึงทำโจทย์ ทำโจทย์จบหนึ่งข้อดูเฉลยทันที ถ้าผิดจะได้รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และจะได้ไม่ผิดแบบเดียวกันกับโจทย์ข้ออื่นอีก
ไอ้พี่พฤกษ์ผ่านวิชานี้มาสองปีแต่ยังจำแคลคูลัสได้มากกว่าผมที่กำลังเรียนอยู่ทั้งเทอม โลกแม่งไม่ยุติธรรม
ผมวางปากกาและหนังสือลงทันทีที่อ่านมาเกินสามชั่วโมงแล้ว
"เป็นไง พี่สอนรู้เรื่องมั้ย"
"สอนดีกว่าจารย์เพชรอีก"
มันหัวเราะ
"พี่ว่าเราอะไม่ตั้งใจฟังในคลาส ไม่ใช่จารย์เค้าสอนไม่ดีหรอก"
"หลอกด่าปะเนี่ย"
"ด่าตรงๆเลย ก็เรามันขี้เกียจนิ" ไอ้พี่พฤกษ์ว่าจบก็หัวเราะ ผมหน้าบึ้ง "แล้วเริ่มอ่านวิชาอื่นบ้างรึยัง"
"ยัง แคลฯตัวเดียวก็จะอ่านไม่ทันแล้วเนี่ย"
"วันจันทร์สอบแคลเสร็จก็รีบอ่านวิชาอื่นต่อเลยนะ intro to finance เนื้อหาเยอะ ระวังจะไม่ทัน"
"ทำไมรู้จักวิชาของ finance" ผมถาม
"ภาคพี่ก็ต้องเรียนคอร์สนี้เป็นตัวพื้นฐาน จำได้ว่าอ่านเยอะอยู่...แบ่งเวลาดีๆนะเราอะ"
"คร้าบบบบ" ผมลากเสียงล้อเลียนมัน
ผมลุกขึ้นไปหยิบน้ำเปล่ามาดื่ม เอามาเผื่อไอ้พี่พฤกษ์ด้วย
"ขอบคุณครับ"
"พี่พฤกษ์"
"หือ"
"ถามไรหน่อยดิ"
เหมือนไอ้พี่พฤกษ์รู้ว่าผมกำลังจะถามเรื่องสำคัญ เพราะมันดูตั้งใจฟังขึ้นมา
"เอ่อ...พี่ชลเค้ารู้เรื่องที่พี่ชอบเพชรมั้ย"
ไอ้พี่พฤกษ์ชะงักไปเล็กน้อย คงนึกสงสัยว่าผมถามเรื่องนี้ทำไม
"ไม่รู้"
"พี่ไม่ได้บอกอ่อ"
"อืม ไม่ได้บอก"
"แล้วมีใครรู้บ้าง"
"แค่ไอ้ริว ไอ้เกี้ยง กับเรานั่นแหละ"
ผมประหลาดใจนิดหน่อยที่มีคนรู้น้อย ไม่ได้คิดว่าไอ้พี่พฤกษ์จะเอาไปโพนทะนากับคนอื่นนะครับ แค่คิดว่าคนรู้จักพี่แกเยอะ อาจรู้เพราะมันก็ไม่มีทีท่าจะปกปิดเรื่องจีบผม เพียงแต่ไม่พูดเท่านั้นเอง
แต่ก็ดีที่พี่ชลไม่รู้ครับ ไม่งั้นเค้าคงเกลียดผมอีกคนแน่ๆ และถ้าพี่ชลไม่รู้ ผมคิดว่าพ่อแม่ไอ้พี่พฤกษ์ก็คงไม่รู้เหมือนกัน
"ทำไมถึงถามล่ะ"
"แค่อยากรู้น่ะ เอ่อ...แล้วพี่...ทำใจได้แล้วอ่อ"
คราวนี้ไอ้พี่พฤกษ์ถึงกับมองหน้าผมตรงๆ เหมือนจะค้นให้ได้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
ผมอยากรู้ว่าที่พี่มันมาใช้เวลาอยู่กับผม มันทำใจกลับไปเป็นแค่พี่น้องได้จริงๆแล้วหรือ
"ถ้าหมายถึงทำใจเรื่องชอบเรา พี่ทำไม่ได้หรอกครับ แล้วก็ไม่เคยคิดจะทำด้วย..."
ผมอึ้ง
"พี่ไม่อยากพยายามเลิกชอบเรา เพราะใจพี่ก็รู้ดีว่ามันทำไม่ได้ ยิ่งวิ่งหนีก็ยิ่งเจ็บ สู้ให้พี่มาเจอเราทุกวันยังเจ็บน้อยกว่า..."
จริงเหรอ เจ็บน้อยกว่าจริงๆเหรอ
ผมรู้สึกว่างเปล่า
"เพชรคิดว่าแปลกสินะ ใช่ พี่อาจไม่ได้คิดเหมือนคนอื่น...แต่พี่ดีใจที่อย่างน้อยเราก็ไม่ได้รังเกียจพี่ แล้วก็ให้มาคุยมาหาได้เหมือนกับพี่น้องกันปกติ"
ผมจุกจนพูดไม่ออก ผมทำร้ายใจไอ้พี่พฤกษ์มาโดยตลอด
"รู้มั้ย พี่ไม่เคยเข้าใจคำว่ารักจริงๆเลยนะ"
มันยังพูดต่อไปอย่างจริงจังโดยจ้องตาผม
"พี่ไม่เคยคิดเลยว่าความรักแบบไม่หวังครอบครอง ไม่หวังรักตอบแทนมันจะมีจริง...จนมันเกิดกับพี่เอง ทีแรกพี่ก็มีความหวังขึ้นมานิดๆนะ ที่เรายอมให้พี่มาส่งที่คอนโดหลังเลิกเรียน ที่เราไปเฝ้าพี่...แต่พี่รู้แล้วว่าเราคิดกับพี่เหมือนพี่ชายคนนึง...พี่เห็นแค่เรามีความสุข ได้ดูแลเรา เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว"
ผมอยากขอโทษมัน
"พี่พฤกษ์...เพชร...ขอโทษ"
"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ เพชรไม่ได้ผิด"
"ผิด...เพชรมันเห็นแก่ตัว..."
"อย่าโทษตัวเองเลย ถ้าจะมีใครที่เห็นแก่ตัวก็พี่เนี่ยแหละ...พี่เข้ามาวุ่นวายกับเราเอง"
ในแววตาไอ้พี่พฤกษ์บอกความรู้สึกหลายอย่าง ทั้งรัก เศร้า ทรมาน แต่ทุกความรู้สึกที่เจือปนกันอยู่นั้น ผมสัมผัสได้ว่ามันคือความจริง ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้โกหกผมสักคำเดียว
"เพชร"
ผมไม่ได้ขานรับ แต่นิ่งรอฟังสิ่งที่พี่มันจะพูดต่อไป
ไอ้พี่พฤกษ์ค่อยๆขยับตัวเข้ามากอดผม
"รังเกียจพี่มั้ยครับ"
"ไม่"
"เมื่อไรที่เราต้องการพี่ เรียกพี่ได้เสมอ...แต่ถ้าไม่อยากให้พี่มายุ่งด้วยแล้ว บอกได้เลยนะ..."
ตอนนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจความเจ็บปวดของไอ้พี่พฤกษ์แล้วจริงๆ
ผมยกแขนขึ้นกอดตอบ ไม่มีความรู้สึกรังเกียจเลย กลับเป็นความรู้สึกดีด้วยซ้ำ
"พี่ขออยู่แบบนี้สักพักได้ไหม"
"อือ"
"ขอบคุณนะครับ"
ผมรู้สึกได้ว่าไอ้พี่พฤกษ์กำลังยิ้ม
เวลาผ่านไปเท่าไรไม่รู้ จนมันคลายกอดผม
ช่วงเวลานี้ทำให้ผมนึกอะไรขึ้นมาได้
"ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย" ผมเริ่มพูด
"..."
"เจอกันคราวหน้า...เพชรจะทำให้มันชัดเจน จะไม่ให้พี่เจ็บไปมากกว่านี้อีก..."
"...ครับ"

สองอาทิตย์ผ่านไปรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ การสอบมิดเทอมครั้งแรกของผมสิ้นสุดลง อาจจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนัก แต่อย่างน้อยมันก็ผ่านไปแล้ว
ถ้าผมไม่มีไอ้เจมส์กับไอ้นิวคงจะแย่กว่านี้อีก
วันนี้ผมกับพวกมันชวนกันมาฉลองสอบเสร็จที่ร้านเหล้าเจ้าประจำ แน่นอนว่านัดพวกไอ้พี่พฤกษ์มาด้วย
วันนี้ผมจะทำตามสัญญาที่ให้ไอ้พี่พฤกษ์ไว้ ผมตัดสินใจได้แล้ว
"เชี่ยยย โต๊ะนั้นแม่งรวมนางฟ้าชัดๆ" ไอ้เจมส์กระซิบ ชี้มือไปที่โต๊ะผู้หญิงล้วนสี่คนทางด้านขวา
"จริงด้วยว่ะ" ไอ้นิวหันไปดูตาม
"เข้าไปชนเลยดิวะ" ผมยุ
"ชนเลยอ่อเห้ย" หน้าเพื่อนผมตอนนี้แม่งโคตรโรคจิต
"กูหมายถึงชนแก้วไอ้สัส ไปๆ" ผมเติมเหล้าใส่แก้วให้ไอ้เจมส์แล้วดันหลังมันให้เดินไปที่โต๊ะนั้น
เวลามันเริ่มมึนๆเนี่ย บอกให้ทำอะไรก็ทำ
ผมกับไอ้นิวไม่ได้เดินไปด้วย ยืนดูและหัวเราะอยู่ที่โต๊ะครับ
"ไง"
พี่ริวทัก แกเดินมาพร้อมกับพี่เกี้ยง แต่ไม่เห็นเงาของคนที่ผมอยากคุยด้วยมากที่สุด
"ไอ้พฤกษ์กำลังมา" พี่เกี้ยงตอบ จะว่าไป ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลคราวนั้น ผมยังไม่ได้คุยกับพี่เกี้ยงพี่ริวเลย
และที่วันนี้นัดสองคนนี้มาด้วยก็เพราะผมมีเรื่องอยากเคลียร์ครับ
"เดี๋ยวกูไปหาไอ้เจมส์ก่อนนะเว้ย" ไอ้นิวรู้งาน ให้ผมได้คุยกับพี่ทั้งสองคน
"เออ" ผมตบไหล่มัน
"เป็นไงมั่ง" พี่ริวถาม
"ก็ดีพี่"
"ดีจริงอะ" พี่ริวยิ้มน้อยๆ
"ดีดิ"
"เออ...แล้วนัดพวกพี่มาเจอเนี่ย เรื่องไอ้พฤกษ์ใช่มั้ย"
พี่ริวเข้าประเด็นเลย ส่วนพี่เกี้ยงไม่ได้พูดอะไร เอาแต่สำรวจท่าทีผม
"ผมอยากขอโทษพี่อะ...เรื่องพี่พฤกษ์ ผมผิดเอง"
เงียบไปพักหนึ่ง พี่ริวเข้ามากอดคอผม
"เออ พี่ก็ขอโทษมึงด้วยว่ะ วันนั้นพี่ก็ใจร้อนไปหน่อย"
"ขอโทษจริงๆนะพี่ พี่เกี้ยงด้วย"
"คร้าบ"
พี่เกี้ยงตบไหล่ผม
"ผมตัดสินใจแล้ว วันนี้ผมจะคุยกับพี่พฤกษ์ให้รู้เรื่อง...ผมจะไม่ทำร้ายพี่พฤกษ์อีกแล้ว"
"ดีแล้ว...พี่เชื่อว่าแบบนี้ดีกับมันมากกว่าเพชรปล่อยให้ค้างคาอยู่แบบนี้นะ" พี่เกี้ยงว่า
"นั่นไง มันมาละ" พี่ริวควักมือเรียกไอ้พี่พฤกษ์ที่กำลังมองหาโต๊ะพวกเราอยู่
"โทษทีว่ะ รถโคตรติดเลย"
ไอ้พี่พฤกษ์สบตาผม เราแทบไม่ได้คุยกันเลยตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
"วันนี้กูไม่แดกเยอะนะเว้ย" ไอ้พี่พฤกษ์รับแก้วที่พี่ริวชงให้
"อ้อ" พี่ริวมองมาทางผม เข้าใจว่าไอ้พี่พฤกษ์คงอยากไปส่งผมขากลับ
แต่ผมไม่อยากรอที่จะคุยแล้ว
"พี่พฤกษ์"
"ครับ"
"เพชรขอคุยด้วยหน่อยดิ"
มันพยักหน้า และเดินตามผมออกมานอกร้าน พี่ริวกับพี่เกี้ยงมองตามหลังเราทั้งคู่
ผมเดินนำมาหลังร้าน ที่ซึ่งไม่มีใครอยู่ตอนนี้
"เราเป็นไงบ้าง ทำสอบโอเคมั้ยครับ" ไอ้พี่พฤกษ์เริ่มบทสนทนาทันที
"ไม่ดี แต่ก็ไม่แย่ พี่อะ"
"ของพี่หรอ สบาย" ไอ้พี่พฤกษ์ยักไหล่
"แหม่...แล้วเรื่องอุบัติเหตุ หายดีแล้วใช่มั้ย"
"ครับ"
ผมพอทราบจากพี่ชลบ้างว่าไอ้พี่พฤกษ์กลับมาปกติดีทุกอย่างแล้ว แต่ก็อยากถามกับเจ้าตัวให้แน่ใจ
"เอ่อ..."
ผมหยุดรอให้พี่มันพูดก่อน
"ที่เรียกพี่มา จะคุยเรื่องวันนั้นใช่มั้ย"
ผมพยักหน้า
"เราไม่ต้องลำบากใจนะ ถ้าจะบอกให้พี่ไป...หรืออย่างน้อย...ถ้ายังอยากให้พี่อยู่แบบนี้...บอกมาเลยครับ"
สายตาไอ้พี่พฤกษ์สื่ออะไรออกมามากมาย ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ พี่มันทำใจไว้แล้วกับคำตอบของผม
ช่วงเวลาที่เราไม่ได้เจอกัน ไอ้พี่พฤกษ์มีทั้งเรื่องที่โรงพยาบาล เรื่องสอบ เรื่องแข่งแผนการตลาด ส่วนผมยุ่งอยู่กับหนังสือเพราะไม่เคยแตะเลยทั้งเทอม แต่ก็ได้มีเวลาทบทวนความรู้สึกตัวเองอยู่บ้าง
ผมไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่ผลักไสไอ้พี่พฤกษ์ แต่กลับยอมรับมันเข้ามาอย่างเต็มใจ
ผมไม่รู้ว่าทำไมความโกรธที่ทะเลคืนนั้นถึงได้ระเหยหายไปหมดแล้วในวันนี้
ผมไม่เคยเข้าใจว่าตัวเองก็แค่ตกใจที่ถูกมันบอกรัก ไม่ใช่รังเกียจหรือไม่รู้สึก
ผมไม่เคยรู้ตัวเองว่าไอ้พี่พฤกษ์ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมทีละนิดๆ จนกลายเป็นส่วนสำคัญ
ผมโกรธที่มันเคยทำตัวห่างเหิน และพยายามจะหายไปจากผม
ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเร่งรีบไปหาไอ้พี่พฤกษ์ ตอนที่รู้ว่ามันเกิดอุบัติเหตุ
ผมไม่รู้แน่ชัดว่าตัวเองเริ่มคิดถึงแต่พี่มันเมื่อไร และบอกเลิกคุยกับคนอื่นทั้งหมดไปแล้วได้ยังไง
ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกต่อไอ้พี่พฤกษ์มันไม่ใช่ฉันท์พี่น้องแล้ว โดยไม่สนใจข้อจำกัดเรื่องที่เราต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่
และผมอยากมีมันอยู่ ไม่ใช่ในแบบที่มันเป็นฝ่ายวิ่งตามอย่างเดียว ไม่ใช่ในแบบที่มันเป็นฝ่ายดูแลผม
ผมอยากดูแลมันบ้าง
"ตอนนี้พี่ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่มั้ย"
"ครับ..."
"ถ้าสมมติเพชรไม่ปฏิเสธพี่ที่ทริป...พี่จะทำไงต่อ"
ไอ้พี่พฤกษ์เงียบไปเดี๋ยวหนึ่ง
"เอ่อ...พี่ก็คงดูแลเราเหมือนเดิมนั่นแหละ"
"จริงอ่อ"
"ครับ อย่างที่เราให้โอกาสพี่ทำ แม้ว่าจะปฏิเสธไง" ตัดพ้ออีกละ
"ถ้าเพชรขออะไร พี่จะทำให้ทุกอย่างเลยใช่มั้ย"
"ครับ พี่จะทำให้ทุกอย่าง"
"งั้น..." ผมหน้าแดง "เพชรขอให้พี่ไม่ไปไหน...แล้วก็..."
"..."
"จีบเพชรได้มั้ย"
ตอนนี้ผมรู้แล้วและมั่นใจด้วยว่าตัวเองพร้อมเปิดใจรับไอ้พี่พฤกษ์

TBC

ง่อววว เพชรพูดงี้หมายความว่าไงอะ #กองเชียร์พี่พฤกษ์
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP24 "เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว" 30/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 30-09-2018 09:37:58
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...อ่านช่วงแรก ๆ ของตอน  นึกว่าจะผลักไสไล่ส่ง

พอมาช่วงหลังของตอน  อ้าว  รู้ใจตัวเองแล้วซะงั้น  อิอิ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP24 "เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว" 30/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 30-09-2018 09:57:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP24 "เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว" 30/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 30-09-2018 12:42:37
รู้ใจตัวเองสักทีนะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP24 "เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว" 30/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 30-09-2018 12:54:03
สงสารพี่พฤกษ์มานาน จะได้เห็นรอยยิ้มพี่มันบ้างละ พยายามจีบเข้านะพี่ ถึงเวลาเอาคืนก็ทบต้นทบดอกไปเลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP24 "เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว" 30/9/18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-09-2018 14:09:34
ดีใจกับพี่พฤกษ์

 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP25 "จะยกบ้านให้ทั้งหลังเลย" 4/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 04-10-2018 06:30:04
EP25 "จะยกบ้านให้ทั้งหลังเลย"

"งั้น..." ผมหน้าแดง "เพชรขอให้พี่ไม่ไปไหน...แล้วก็..."
"..."
"จีบเพชรได้มั้ย"
ประโยคนั้นตามมาด้วยความเงียบยาวนาน ผมกับไอ้พี่พฤกษ์จ้องกันไปมา จนผมรอไม่ไหว
"พี่พฤกษ์"
"คะ ครับ"
"ยังอยู่กับเพชรมั้ย"
"ยะ อยู่ครับ"
ไปบอกให้เค้ามาจีบ พูดออกไปได้ไงวะ โคตรสาวเลย
"จริงเหรอครับ"
"อะ อือ"
เราต่างตะกุกตะกักกันทั้งคู่ แม่ง เกิดมาไม่เคยเขินขนาดนี้มาก่อน
"เราพูดจริงใช่มั้ยครับ"
"เออ ถามอีกครั้งเพชรจะเปลี่ยนใจละนะ" ผมเหวี่ยงกลบเกลื่อนความเขิน
ผมไม่ได้เห็นไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกว้างมานานก็ตอนนี้แหละ ตาเป็นประกาย มันดูมีความสุขมากกว่าครั้งไหนๆที่เคยเห็น
แต่มองหน้าพี่มันได้แวบเดียวต้องหันไปทางอื่นทันที ก็มันเขินนี่ครับ
ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะเบาๆ ดูจะชอบใจที่ผมทำอะไรไม่ถูก
"น้องเพชร"
"อือ"
"ยังอยู่กับพี่มั้ย...หันมามองหน้ากันหน่อยสิ" ห่า ลอกคำพูดผมมาย้อนอีก
"ไม่"
"ไม่สบายรึเปล่าครับ หน้าแดงเชียว"
"ไอ้พี่พฤกษ์" ผมหันไปหามันจนได้
"โอ๋ๆ ไม่แกล้งละๆ..." มันหัวเราะ พลางจับไหล่ผมแล้วบีบเบาๆ
"งั้นไปข้างในนะ" ผมหันหลังเตรียมเดินกลับเข้าไปในร้าน คนมันอายโว้ย
"ครับๆ" มีความสุขใหญ่เลยนะพ่อคุณ "จะไม่หันมามองหน้ากันหน่อยอ่อ"
"อยากโดนต่อยปะ"
"55555555 ไม่เอาคร้าบ" ไอ้พี่พฤกษ์เดินตามผมมา "ยังไงก็ขอบคุณนะครับ"

"ไปเล่นเกมกันมั้ยพวกมึง" ไอ้นิวเอ่ยชวนหลังคาบบ่ายวันจันทร์จบลง
"เอาดิ วันนี้กูว่างพอดี มึงไปปะเพชร" ไอ้เจมส์หันมาถามผม
"เอ่อ..." ผมดันมีนัดแล้วน่ะสิ
"มึงจะเทเพื่อนอ่อ"
"อะ เออ...มึงเลยไอ้นิว ชวนปุบปับ ไม่บอกล่วงหน้า"
"อ่าว กูผิดอีก"
"โด่ ไรว้า...ว่าแต่มึงจะไปไหน" ไอ้เจมส์หันมามองผมอย่างรู้ทัน
"กูมีธุระ"
"หราาา" ประสานเสียงกันเลยทีเดียวเพื่อนผม
"ธุระนี่ใช่พี่พฤกษ์ปะวะ โอ๊ย..." ผมตบไปกลางกบาลไอ้เจมส์เต็มๆเลยครับ
"ใช่แน่ๆ" ไอ้นิวยิ้มมุมปาก
"เออ แล้วไงวะ" ผมโวยวาย
"แหม่ๆ เดทอ่อจ๊ะ" ตอนนี้ผมเกลียดเสียงไอ้เจมส์ชิบหาย "อะๆ ปล่อยมันไปเถอะไอ้นิว อย่าไปขัดขวางความรักมันเลย"
"ยังโว้ย"
"ฮั่นแน่" ประสานเสียงอีกละ
"อะไร"
"มึงบอกว่ายัง แสดงว่ามีโอกาส" ไอ้เจมส์แซว
"ไม่ใช่แค่มีโอกาส ไอ้เพชรมมันยอมให้พี่เค้าจีบขนาดนั้น กูว่าได้ชัวร์" ไอ้นิวว่า
"เพ้อเจ้อพวกมึงอะ ไปดีกว่า..."
ผมเก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋าก่อนจะเดินหนีไอ้เจมส์กับไอ้นิวออกมา
วันนี้ไอ้พี่พฤกษ์ชวนผมไปกินข้าวที่บ้านครับ จะเรียกว่าเดทกันก็คงไม่ใช่
แล้วทำไมผมต้องเขินด้วยล่ะ แค่นึกว่าจะไปกินข้าวกับบ้านพี่มันเฉยๆ
ผมเดินมาถึงหน้ารถ volvo สีเงินที่ลานจอดรถของมหา'ลัยแล้วแต่ไม่เห็นไอ้พี่พฤกษ์ สงสัยคลาสยังไม่เลิก
จะว่าไป เรื่องผมกับไอ้พี่พฤกษ์ก็มีแค่ไอ้เจมส์ ไอ้นิว พี่ริว พี่เกี้ยงที่รู้เท่านั้น และพอสี่คนนี้รู้ว่าคำตอบของผมคืออะไรก็ช็อคไปพอๆกับไอ้พี่พฤกษ์นั่นแหละ
ขนาดตัวผมเองยังช็อคเลย
กว่าผมจะตัดสินใจได้ก็นาน
ผมมองข้ามเรื่องเพศและไม่สนใจเลยสักนิดว่าคนอื่นจะคิดยังไง
แค่ความรู้สึกอย่างเดียวก็ตอบได้แล้ว ผมรู้สึกดีกับไอ้พี่พฤกษ์ และในเมื่อมันไม่ได้ทำร้ายใคร ผมก็เปิดใจให้พี่มันสิครับ
"เพชร" ไอ้พี่พฤกษ์มาถึงจนได้ ยิ้มแป้นเมื่อเห็นว่าผมรออยู่
แกล้งมันซะหน่อยดีกว่า
"ทำไมสาย" ผมพูดเสียงเรียบ หน้าตาย
รอยยิ้มพี่มันเปลี่ยนเป็นเจื่อนทันที ก๊าก
"ขอโทษครับ อาจารย์ปล่อยเลทอะ นี่พี่รีบวิ่งมาเลย"
ชายเสื้อนิสิตหลุดออกมาจากกางเกง เห็นได้ชัดว่าพี่มันวิ่งมาจริงๆครับ
"แล้วทำไมพี่ไม่ไลน์บอกก่อน นี่มารอตั้งนานแล้วนะ"
"ขะ ขอโทษจริงๆครับ พี่ไม่รู้ว่าอาจารย์เราจะปล่อยเร็ว" มันตรงเข้ามาหา ผมถอยหนี
"รู้มั้ยว่าเพชรยืนตรงนี้มาครึ่งชั่วโมงละ" ความจริงคือยังไม่ถึงห้านาทีเลย ก๊าก
"พี่ขอโทษ" ไอ้พี่พฤกษ์หน้าจ๋อยจริงครับ
ผมหัวเราะพรืด
"โห่พี่ เพชรล้อเล่น55555555555"
"หะ...เห้ย แกล้งพี่อีกแล้วอ่อ" แล้วมันก็ตรงเข้ามาล็อคคอผมครับ
"โอ๊ย ปล่อยนะ เจ็บ..."
"ตัวแสบเอ๊ย"

"ป้าหวานหวัดดีคร้าบบบ"
ผมลงจากรถไอ้พี่พฤกษ์ปุ๊บ ก็วิ่งมาทักทายป้าแม่บ้านอย่างสนิทสนมทันที ถึงจะเคยมาที่นี่แค่ครั้งเดียวก็เถอะ
"อ้าว...น้องเพชร สวัสดีค่ะ"
"ป้าจำผมได้ด้วยอ่อ"
"แหม จำได้สิคะ น้องเพชรต่างหากจำป้าได้ด้วยเหรอ"
"จำได้สิคร้าบ ป้าหวานทำอาหารอร่อยขนาดนี้"
"โอ๊ย พูดดี เดี๋ยวเย็นนี้ป้าจัดเต็มให้อีก"
"อะแฮ่มๆ"
ผมหันไปมองคนกระแอมเสียงตาขวาง
"ป้าหวานอย่าไปหลงเชื่อนะครับ ไอ้นี่มันมาหลอกกินฟรี"
"อย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลยครับป้า เข้าบ้านกันดีกว่า"
"อ้าวเห้ย"
ผมจูงมือป้าหวานเข้าบ้านอย่างถือวิสาสะ ก่อนป้าแกจะขอตัวไปเตรียมสำรับในครัว
"นี่ ใครอนุญาตให้เข้าบ้านอะ" ไอ้พี่พฤกษ์มายืนยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆผม จะว่าไปมันเป็นคนเคลื่อนไหวเร็วจนน่ากลัวเลยครับ ขาผมกับขามันก็ไม่ได้ยาวต่างกันมาก ขนาดผมเดินเข้าบ้านก่อนมันเดี๋ยวหนึ่งแล้ว มันยังเดินตามมาทัน
"ต้องขอด้วยอ่อ" ผมกวนตีนกลับ
"ขอดิ เจ้าของบ้านยังไม่พูดเลยนะ"
"ไหนเจ้าของบ้าน"
"ก็ยืนหล่ออยู่ข้างๆเนี่ย" พูดพร้อมยักคิ้ว น่าต่อยให้คิ้วแตก
"นี่หรอเจ้าของบ้าน นึกว่าโจรมายกเค้า"
"ไอ้เด็กบ้า"
ผมด่าเสร็จก็เตรียมจะออกวิ่งหลบเงื้อมมือไอ้พี่พฤกษ์ แต่ไม่ทันครับ มันล็อคเอวผมได้ก่อน
"ปล่อยนะเว้ย" ผมแหกปาก
"ไม่ปล่อย" ยิ้มด้วยแน่ะ โรคจิตชิบ
"ปล่อยยย"
"ม่าย"
"ปล่อยเลย"
"ไม่ เจ้าของบ้านยังไม่อนุญาตให้ไปไหนนะ"
"เรียกตัวเองว่าเป็นเจ้าของบ้านอยู่นั่นแหละ ถ้าเชิญแขกมาแล้วทำงี้ เพชรกลับละ"
ผมดิ้น แกล้งงอแงให้มันปล่อย
"โอ๋ อย่ากลับเลยน้า พี่แกล้งเล่นนะครับ" นั่น เสียงหวานเชียว สู้ด้วยแรงไม่ได้ก็ต้องวิธีนี้แหละ
ว่าแต่วิธีผมเนี่ย สะดีดสะดิ้งเหมือนผู้หญิงเค้าทำกันเลยแฮะ
"งั้นก็ปล่อยดิ"
"อะๆ ปล่อยก็ได้"
ผมกับคุณเจ้าของบ้านตรงไปนั่งที่โซฟาตัวยาวที่ห้องรับแขก รอทานอาหารพร้อมกับพ่อแม่และพี่ชล
"ถ้าคราวหลังอยากเข้าบ้านดีๆเลยก็มีวิธีนะ" ยัง ยังไม่จบเรื่องนี้อีก
"อะไร"
"ก็..." ไอ้พี่พฤกษ์ขยับหน้าเข้ามาใกล้และลดเสียงลงเป็นกระซิบ "มาเป็นแฟนเจ้าของบ้านไง จะได้ยกบ้านให้ทั้งหลังเลย"
อ้วกกกกก จีบกันแบบนี้
"ถุย ไม่เอา"
"ใจร้าย" ห่า ทำเสียงแอ๊บแบ๊วอีกแน่ะ
"หิวๆๆๆๆๆ"
เสียงพี่ชลมาถึงพร้อมๆกับที่ผมได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาในบ้าน ผมมองไปทางประตูหน้าก็เห็นแกเดินหอบของมาเต็มไม้เต็มมือเลยครับ
"กูคิดว่าพ่อกับแม่จะกลับมาแล้วนะเนี่ย...หวัดดีเพชร" พี่ชลพูดกับน้องชายก่อนจะหันมารับไหว้ผม
"นั่นดิ แล้วพี่ถืออะไรมาเยอะแยะวะ"
"งานดิวะถามได้ ลูกค้าแม่งเรื่องมากชิบหาย สั่งแก้แล้วแก้อีก" พี่ชลหน้ามุ่ย แกทำงานด้าน organizer น่ะครับ รับจัดงานนู่นนี่นั่นมากมาย แถมทำในบริษัทชื่อดังด้วยนะ ได้ยินว่าจบงานนึงรับทรัพย์อื้อเลย "ตามสบายเลยนะเพชร เดี๋ยวพี่เอาของไปเก็บก่อน..."
"ทำไมเวลาเจอพี่ไม่ไหว้เหมือนตอนพี่ชลอะ" คุณเจ้าของบ้านหันมาหาเรื่องทันที
"ก็ความน่านับถือมันไม่เท่ากันไง โอ๊ย" เจ็บนะเว้ย เขกหัวมาได้
"หมายความว่าพี่ไม่น่านับถือรึไง"
"ยังจะถาม"
"น้องครับ seniorityอะรู้จักมั้ย" มันเก๊กเสียงเข้ม ตีหน้าขรึม ทำอย่างกับว่าเราอยู่ในช่วงเวลารับน้อง
"มาเล่นบทพี่โหดอะไร เพชรไม่เชื่อหรอก"
ไอ้พี่พฤกษ์ทำหน้าบูด
"ว้า พอหมดกิจกรรม รุ่นน้องก็หมดความเคารพรุ่นพี่ซะละ"
"ไม่ใช่ไม่เคารพ แต่มันไม่เนียนเว้ย" ผมพูดกลั้วหัวเราะ
"ถามจริง ตอนรับน้องเราไม่เชื่อเลยอ่อ"
"ไม่อะ...พี่ลองคิดดูนะ มีเหตุผลอะไรที่อยู่ๆรุ่นพี่เรียกรุ่นน้องไปด่า ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด"
"พี่ไม่ได้ด่านะ"
"หราาา"
"เออ เค้าเรียกว่าเข้มงวดกว่าปกติ"
"ก็นั่นแหละ ไม่ใช่ทุกคน แต่ก็ส่วนใหญ่อะที่ดูออก ว่าพวกพี่แกล้งทำ"
"อืมม แล้วเราคิดว่ามีวิธีไหนที่จะฝึกระเบียบ ฝึกความสามัคคี สอนให้น้องใหม่รู้จักเพลงเชียร์ เพลงสำคัญๆของคณะ และได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากร่วมกับเพื่อนๆได้ดีกว่าวิธีนี้ล่ะ"
"เอ่อ...ไม่รู้อะ แต่เพชรว่ามันต้องมีวิธีที่ดีกว่า"
"แล้ววิธีอะไรล่ะครับ"
"ก็บอกว่าไม่รู้ไงฟะ- -"
"เห็นมะ เพราะงั้นพวกพี่ก็เลยต้องทำตามประเพณีเดิมไปก่อน ถ้าตอนที่เพชรขึ้นมาเป็นรุ่นพี่แล้วคิดวิธีที่ดีกว่าได้ ก็ลองพิจารณาเปลี่ยนดูนะครับ"
เป็นงานเป็นการ เป็นเหตุเป็นผลจริงๆนะไอ้พี่พฤกษ์
"อือ"
"เอาจริงๆ พี่ก็ไม่อยากจัดกิจกรรมที่มันเครียดๆให้พวกเราหรอกนะ เห็นมั้ยว่าว้ากปลอมมีวันเดียวเอง ที่เหลือเป็นกิจกรรมสนุกๆที่กรุ๊ปแทน"
"เออ ดีแล้ว ขืนว้ากทุกวันน้องไม่ไหวกันพอดี"
"จริงครับ อันนี้พี่เห็นด้วย" มันยิ้มแล้วลูบหัวผม "หิวรึยังเรา"
"นิดๆ" ผมยอมรับตรงๆ
"งั้นกินอะไรรองท้องก่อนมั้ย ไม่รู้ว่าพ่อแม่พี่จะกลับมาถึงกี่โมง"
"ไม่เป็นไร ยังไหวอยู่"
"ครับผม"
ตอนนั้นเอง เสียงรถแล่นเข้ามาอีกคัน
"พ่อแม่หวัดดีครับ" ผมกับไอ้พี่พฤกษ์ลุกไปสวัสดีพ่อกับแม่ ทั้งสองคนหันมายิ้มแป้นให้ผม
"หวัดดีลูก...เป็นไงบ้างน้องเพชร สบายดีมั้ยจ๊ะ"
"สบายดีครับ"
"โทษที ให้รอตั้งนานแน่ะ วันนี้รถติดมาก...เดี๋ยวไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารได้เลยนะ พ่อขออีกห้านาที"

"ทานละนะครับ"
พี่ชลเริ่มลงมือตักกับข้าวเป็นคนแรกเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้ากัน พ่อกับแม่หัวเราะ
"ไปหิวมาจากไหนเนี่ยแก" พ่อถาม
"โห่พ่อ วันนี้ชลกินข้าวไปมื้อเดียวแล้วก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย แก้งานให้ลูกค้าทั้งวัน"
"เหนื่อยก็มาทำที่บริษัทเรามั้ยล่ะ"
"ขอชลเก็บประสบการณ์อีกเดี๋ยวนะพ่อ เดี๋ยวจะกลับมาบริหารบริษัทเราแบบจัดเต็มเลย"
"ถ้าแม่ให้เงินเดือนแกมากกว่าที่แกได้อยู่สองเท่าล่ะ มาทำเลยมั้ย" แม่พูดบ้าง
"เดี๋ยวผมโทรลาออกแปบ" ทุกคนหัวเราะ
"ระวังนา มัวแต่ทำ organize เดี๋ยวพฤกษ์มันจบแล้วจะมาบริหารก่อนแก" พ่อหันมาหาไอ้พี่พฤกษ์
"พฤกษ์ยังไม่แน่ใจเลยครับ อาจจะทำข้างนอกก่อน แล้วกลับมาทำที่บริษัทเราทีหลัง" ไอ้พี่พฤกษ์ตอบ
"เห็นมั้ยครับ ชลสร้างแนวทางให้น้องเดินตาม"
"ใครเดินตามพี่ พฤกษ์เลือกเองต่างหาก"
"หราา มึงเลียนแบบกูตั้งแต่เลือกคณะแล้วโว้ย"
"โด่ พฤกษ์ชอบmarketingตั้งนานแล้ว"
"เถียงกันไม่อายแขกเลยนะพวกแก ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้" แม่ปรามแต่ก็ขำไปด้วย
"ก็มันจริงนี่ครับ พฤกษ์มันเลียนแบบชล"
"เหตุการณ์ปกตินะลูก อย่าไปสนใจ" พ่อหันมาบอกผมยิ้มๆ
แสดงว่าพี่ชลก็จบ marketing เหมือนไอ้พี่พฤกษ์สินะ
ผมพึ่งสังเกตเห็นว่าสองพี่น้องเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อกันทั้งคู่ และเข้าใจแล้วว่ามันดูอบอุ่นและสนิทสนมกับคนในครอบครัวดี หรือที่ไอ้พี่พฤกษ์บอกให้ผมแทนตัวเองว่าเพชรก็เพราะเหตุผลนี้กันนะ
"น้องเพชรล่ะจ๊ะ เรียนmarketingด้วยรึเปล่า" แม่หันมาถามผมแล้ว ทุกคนมองมาที่ผม
"financeครับ"
"อ๋อ ทีแรกแม่เข้าใจว่าเรียนmarketingเหมือนเจ้าสองคนนี้"
"แล้วคิดไว้รึยังว่าจบไปจะทำอะไร" พ่อถามบ้าง
"ยังไม่ได้คิดจริงจังเลยครับ แต่ผมสนใจเรื่องหุ้น เรื่องลงทุนไรงี้ครับ เลยตัดสินใจเรียนสาขานี้" ผมตอบเหมือนที่เคยตอบไอ้พี่พฤกษ์
"ดีแล้ว พ่อว่าfinanceตอนนี้กำลังบูม"
"แล้วที่บ้านน้องเพชรทำอะไรเหรอจ๊ะ" แม่กลับมาถามต่อ
ไอ้พี่พฤกษ์ดูสนใจหัวข้อนี้ขึ้นมา ผมยังไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้มันฟังเลยนี่นะ
เพราะผมไม่อยากจะนึกถึงมัน
"เอ่อ พ่อผมเป็นวิศวกร ส่วนแม่...ทำมูลนิธิครับ"
"โอ้โห ดีจังเลยนะ...ว่าแต่มูลนิธิด้านไหนหรอจ๊ะ"
ถ้าไม่ใช่ผู้ใหญ่ถามล่ะก็ ผมไม่อยากพูดถึงพ่อแม่ตัวเองเลย
"ช่วยเหลือ...เด็กกำพร้าน่ะครับ"
"ว้าว" พ่อกับแม่ไอ้พี่พฤกษ์ร้องเบาๆ สีหน้าดูประทับใจ
ใช่ครับ ใครๆรู้ก็ประทับใจทั้งนั้น แต่ผมไม่ประทับใจสักนิด
"บ้านเราอยู่แถวไหนล่ะ"
"ผมอยู่คอนโดแถวมหา'ลัยครับ"
"แล้วพ่อกับแม่พักที่ไหน"
"อยู่แถวหนองแขมครับ"
"พ่อกับแม่นี่สัมภาษณ์อย่างกับน้องเค้าทำความผิดมาแน่ะ ดูสิ ไม่กล้าตักอาหารเลย" พี่ชลแซวทั้งพ่อแม่ทั้งผม
"เอ้า กินสิลูก ไม่ต้องเกรงใจ" พ่อรีบบอก
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกว้าง ตักกับข้าวให้ผม
"พฤกษ์ตักให้น้องอีกเยอะๆเลยลูก" แม่บอก
"อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย" มันถาม
"ได้หมด"
กับข้าววันนี้มีหลายอย่างครับ ปูผัดผงกะหรี่ ฉู่ฉี่ปลา แกงจืดเต้าหู้หมูสาหร่าย น้ำพริกกะปิ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผมก็ชอบทุกอย่างตามที่ตอบไอ้พี่พฤกษ์เลยนะ
เพราะงั้นมันเลยตักทุกอย่างใส่จานผม
"พอแล้วพี่ เดี๋ยวกินไม่หมด"
"แหม่ ทำเป็นอาย ครั้งที่แล้วกินแทบไม่เหลือ"
ทุกคนหัวเราะ ผมมองตาเขียวใส่คนแซว
"คืนนี้เพชรนอนที่นี่รึเปล่า" พี่ชลถาม
"ไม่ได้นอนครับ เดี๋ยวทานเสร็จก็กลับเลยครับ"
"นอนบ้านพี่ดีกว่านะ นี่สองทุ่มแล้ว กว่าจะกลับถึงคอนโดเราก็คงดึก"
"ใช่ลูก นอนที่นี่เถอะ แล้วพรุ่งนี้ก็ไปเรียนพร้อมเจ้าพฤกษ์มันเลย" แม่เสริม
"เอ่อ..."
ผมมองไอ้พี่พฤกษ์ มันยิ้มอย่างมีเลศนัย
"ครับ"

"ยังอิ่มอยู่เลยอะ" ผมบอกไอ้พี่พฤกษ์ ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้วครับ ผมพึ่งอาบน้ำออกมา ส่วนคุณเจ้าของบ้านเค้าก็นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง
"พี่ก็อิ่ม" มันละสายตาจากโทรศัพท์มาหาผม และจ้องร่างกายผมไม่วางตา
"มองไร" เนื่องจากมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวห่อหุ้มท่อนล่าง จะไม่อายเลยครับถ้าคนที่มองอยู่ไม่ใช่คนที่คิดอะไรกับผม
"มองแขกไง ไม่ได้อ่อ" กูหวั่นสายตามึงจริงๆนะไอ้พี่พฤกษ์
คุณเจ้าของบ้านหัวเราะเบาๆ
ปกติอยู่คอนโดก็ใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียว แต่คืนนี้ต้องนอนกับไอ้พี่พฤกษ์ เลยเพิ่มเสื้อยืดอีกตัวเพื่อความปลอดภัยครับ
เสื้อผ้าที่ผมใส่อยู่ทั้งชุดก็ของไอ้พี่พฤกษ์นี่แหละครับ
"มาๆ นอนๆ" พูดพร้อมทำท่าตบเตียงตรงที่ว่างข้างๆ บรึ๋ย สยิว
"ท่าพี่แม่งหื่นชิบหาย เลิกทำเหอะ"
"ลั่น5555555555"
"ยังจะมีหน้ามาขำอีก"
ผมปิดไฟปีนขึ้นไปนอน ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะนิดหน่อย แต่ก็ตะแคงข้างหันหลังให้ผม
เออ ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
ผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมงได้ ผมยังตื่นเต็มตาอยู่ แล้วก็มีแขนมาพาดบนเอว
เชี่ย ไอ้พี่พฤกษ์
ผมดึงแขนมันออก แต่มันเอากลับมาพาดใหม่ ผมดึงออกอีกครั้ง มันก็เอากลับมาพาดอีก แถมกระชับวงแขนให้ผมเข้าไปใกล้ตัวมันมากขึ้นด้วย
แสดงว่ามึงไม่ได้หลับละ
เพราะงั้นผมเลยยกขาถีบเต็มๆเข้าที่หน้าท้องไอ้พี่พฤกษ์ เกิดเสียงโครมเมื่อตัวมันกระเด็นไปเกือบตกเตียง
"โอยยยยยย...เราถีบพี่ทำไมเนี่ย"
"แกล้งหลับอ่อ ไม่เนียน"
"พี่เจ็บนะครับ" ไม่ต้องทำหน้าน่าสงสารเลย มึงแม่งไว้ใจไม่ได้
"ถ้ากอดอีก พี่โดนหนักกว่าเมื่อกี้แน่"
"ทำกับเจ้าของบ้านงี้ได้ไง"
"ก็เจ้าของบ้านแม่งวิตถาร"
"แขกตีนหนักชะมัด อูยย"
"นอนๆ" ผมหัวเราะ
"ขอกอดหน่อยก็ไม่ได้"
"ลองอีกทีมั้ยล่ะ"
"ลองกอด" ไม่เข็ด
"ลองถีบ"
"ไม่กอดก็ได้คร้าบบบ" ไอ้พี่พฤกษ์ทำหน้ามุ่ย

TBC

บอกแล้วว่าเพชรมันไม่ง่าย555 #กองเชียร์พี่พฤกษ์
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP25 "จะยกบ้านให้ทั้งหลังเลย" 4/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-10-2018 09:21:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP25 "จะยกบ้านให้ทั้งหลังเลย" 4/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-10-2018 14:02:33
55 นุ้งเพชร รุนแรงกับพี่

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP25 "จะยกบ้านให้ทั้งหลังเลย" 4/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-10-2018 14:36:19
รุนแรงแบบนี้ลูกหัวปีท้ายปีแน่ๆ5555
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP26 "ให้จับแปบนึง..." 8/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 08-10-2018 19:29:47
EP26 "ให้จับแปบนึง..."
พี่พฤกษ์

"มาซะเช้าเลยนะ"
เพชรบ่นพลางหาว แต่ผมยืนยิ้มกว้าง เวลาน้องหงุดหงิดทีไรอดยิ้มไม่ได้เลยครับ
"เช้าอะไร นี่แปดโมงแล้วนะ"
"แปดโมงบ้านพี่เรียกบ่ายรึไง" นั่น ผมโดนเลยหนึ่งดอก
"เรียกสายเว้ย"
"ตกลงคันพี่นี่มีแค่เราสองคนใช่ปะ"
"ครับ...ชอบคำว่าเราสองคนจัง"
"เลี่ยน"
ผมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"แล้วอีกคันออกรึยังเนี่ย"
"ออกแล้วนะ พี่โทรคุยกับไอ้ริวเมื่อกี้"
ทริปเขาใหญ่วันนี้ผมเป็นคนจัดการทุกอย่างครับ ทั้งเตรียมรถ จองที่พัก หาร้านอาหาร คนที่ไปก็มีผม เพชร ไอ้ริว ไอ้เกี้ยง เจมส์ นิว รวมเป็นชายฉกรรจ์หกคน ค้างหนึ่งคืน ชิวๆ ถือว่าสูดอากาศครับ
เราแบ่งกันไปด้วยรถสองคัน แน่นอนว่าผมขอความร่วมมือ(แกมบังคับ)ให้สี่คนที่เหลือไปคันไอ้ริว และขอน้องมากับผม
หึหึ
"เรามีแค่กระเป๋าใบเดียวเหรอ"
ผมถามเพราะเห็นว่าน้องสะพาย kanken อยู่ใบเดียว
"ไปคืนเดียวเอง เอาไรไปเยอะแยะ"
ผมนำน้องไปยังรถที่จอดไว้ใต้คอนโด ไม่ชักช้าให้เสียเวลาครับ วันหยุดแบบนี้ยิ่งออกเดินทางช้ารถยิ่งติด
"งี้พี่ตื่นตั้งแต่กี่โมงเนี่ย ต้องมาแวะรับเพชรอีก"
"หกโมงนิดๆครับ"
"โห เพชรตื่นหกโมงล่าสุดก็ตอนประถมฯอะ"
ผมยีหัวน้องเล่นอย่างเอ็นดู
พอขึ้นรถปุ๊บ เพชรก็มีทีท่าเหมือนจะนอนต่อทันที
"จะนอนเหรอ คุยเป็นเพื่อนพี่ก่อนดิ"
"ไม่อะ ง่วง"
นี่แหละครับเพชร ตรงไปตรงมา สั้นๆได้ใจความ ถึงบางครั้งจะดูโหดไปหน่อยก็เถอะ
ผมชวนไปงั้นแหละครับ เจ้าตัวตาจะปิดเต็มที ให้พักผ่อนเยอะๆดีกว่า
"ใจร้ายง่ะ"
"อย่าทำเสียงแบ๊วดิ แก่ละนะ"
"แก่กว่าเราสองปีเอง" ผมพูดกลั้วหัวเราะ
"ไม่ๆ หมายถึงหน้า555555" ก้มหลบฝ่ามือผมทันอีกแน่ะ
"ถามจริง"
"เรื่อง?"
"หน้าพี่แก่อ่อ"
"ไม่หรอก" ตอบได้ดี
"แต่เราอะดูแก่55555555"
"ไอ้พี่พฤกษ์"
ขอกวนตีนกลับบ้างนะ
"แวะซื้ออะไรกินก่อนมั้ย อีกประมาณสามชั่วโมงเลยนา"
"ไม่หิวอะ"
ตอนนี้เพชรนั่งยืดตัวขึ้น ตาจ้องมองไปบนถนนข้างหน้า
"แล้วไม่นอนเหรอครับ"
"เอ้า" น้องหันมาหาผม คิ้วขมวด "ก็พี่ให้อยู่เป็นเพื่อนไม่ใช่อ่อ"
น่ารักกกกกก ละลายแล้วผม
"นอนก็ได้นะครับ เดี๋ยวเพลียแล้วจะเที่ยวไม่สนุก"
"พี่ขับได้ใช่ปะ"
"สบายมากครับ เรานอนเถอะ"
จบประโยคผมยังไม่ทันถึงนาที น้องก็หลับคอพับคออ่อนไป ถึงช่วงติดไฟแดง ผมอดใจไม่ไหวต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพประทับใจไว้ครับ
หึหึ พลาดแล้วที่รัก
เมื่อขับมาได้สักครึ่งทาง ผมตัดสินใจแวะปั๊ม
"เพชร...เพชรครับ"
ผมเขย่าหน้าขาน้องเบาๆ
"อือออ"
"แวะปั๊มแปบนึงครับ"
"ถึงแล้วอ่อ..."
"ยังครับ แวะปั๊มก่อน"
เพชรตรงรี่ไปที่7-11ก่อนผมจะดับเครื่องซะอีก ไหนบอกไม่หิว- -
"อะ ซื้อมาให้"
น้องยื่นกาแฟกระป๋องให้ผมทันทีที่ตามเข้าไป
ผมยิ้มแก้มปริ
"ขอบคุณนะครับ...โอ๊ย"
"มือปลาหมึก"
ผมรับกาแฟโดยไปจับมือน้อง เลยโดนตีมือเข้าให้
ของแบบนี้รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลองครับ5555

"วันนี้มึงขับช้ากว่ากูได้ไงวะ" ไอ้ริวทักทันทีที่รถเข้ามาจอดในบ้านพักเสร็จเรียบร้อย "เพราะคนนั่งมาด้วยใช่มั้ยล่ะ"
"กวนตีน" ผมว่ายิ้มๆ
"ไอ้เพชรรรรรร" เจมส์วิ่งมากระโดดกอดเพชร จริงๆแล้วน้องมันเป็นคนตลกมากเลยนะครับ5555
"ไม่ต้องรักกูขนาดนั้นก็ได้" เพชรทำหน้าเบื่อหน่าย
"ไรวะ กูคิดถึงมึงนะ"
"กูจะอ้วก"
"ไหนกูขอกอดด้วยดิ" นิวตามมาสมทบอีกคน
"พอเลยมึง แค่เชี่ยนี่ก็อึดอัดจะแย่"
ผมเองก็อยากขอกอดกับเค้าบ้าง แต่กลัวโดนถีบ- -
"แล้วไอ้เกี้ยงอะ" ผมหันไปถามไอ้ริว
"มันคุยกับเจ้าของบ้านพักอยู่"
เห็นว่าบ้านของคุณเจ้าของก็อยู่ติดๆกันกับบ้านพักพวกเรานี่แหละครับ
"กูนอนห้องไหนวะ"
"ชั้นสอง ห้องขวามือจากบันได"
"ห้องผมล่ะพี่" เพชรถามบ้าง
หึหึ
"ก็ห้องเดียวกับไอ้พฤกษ์น่ะแหละ" ไอ้ริวยิ้มมุมปาก
"เห้ย ไม่เอา" น้องโวยวายขึ้นมา ดูหวาดผวาที่ต้องนอนกับผมยังไงไม่รู้
"ทำไม ไม่อยากนอนกับเพื่อนพี่อ่อ"
"ผมจะไปนอนกับเพื่อน"
"นอนห้องละสองคนเว้ย กูนอนกับไอ้นิวแล้ว" เจมส์บอก
"แล้วพี่ก็นอนกับพี่เกี้ยง"
"อะไรวะ..." น้องถือกระเป๋าเดินขึ้นห้องไปเลย สงสัยเขิน555
"ฮั่นแน่" เจมส์ส่งเสียงแซว
"รีบตามเมียมึงไปดิ" ไอ้ริวกระซิบกับผม
"ยังโว้ย"
ผมตามน้องขึ้นมาอย่างว่องไว พอเห็นว่าในห้องมีเตียงใหญ่อยู่เตียงเดียว ผมยิ้มกริ่มเลย
"ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้นครับ"
"ถามทำไม กวนตีนอ่อ"
"เค้าไม่รู้เรื่องจริงๆ" ใส่เสียงแอ๊บแบ๊วลงไปด้วย เผื่อน้องจะเห็นใจ
"ไม่ต้องเลย"
"ไม่อยากนอนกับพี่เหรอคร้าบบ"
"เออดิ"
ผมแกล้งทำท่าสลด
"ก็พี่ชอบมากอดเพชรอะ"
"พี่ชอบละเมอน่ะ"
"ละเมอบ้าไร เพชรรู้นะว่าพี่แกล้ง"
อ้าว รู้ได้ไงวะ
"แหะๆ" เกาหัวแกรกๆ ไปไม่ถูกเลยผม
"ถ้าคราวนี้มากอดอีก จะถีบให้ตกเตียง"
"โถ่ ถ้าเราถีบบ่อยๆแล้วพี่ช้ำในขึ้นมาจะทำไง"
"ก็ตายไง"
"แล้วเพชรไม่เสียใจอ่อ"
"ไม่เสียใจโว้ย"
น้องหยิบเสื้อผ้าออกมาจัดวาง
"กลัวพี่อ่อ" ผมเนียนเข้าไปนั่งใกล้ๆ
"ยังมีหน้ามาถามอีก"
"ไหนบอกซิกลัวอะไร"
"กลัวพี่ข่มขืนไง" น้องพูดหน้าตาย
"ลั่น5555555555555...โอ๊ย" ผมโดนถีบอีกแล้ว รอบนี้ลงไปกองกับพื้นจริงๆ
"สม"
"ใครต้องกลัวใครกันแน่เนี่ย โอยยย"
น้องหัวเราะสะใจ
"ไปกินข้าวกัน หิว"
"มาช่วยพี่หน่อย ลุกไม่ไหว" ไหนลองอ้อน
"ลุกเองดิ"
น้องเดินหนีไปแล้วครับ มันน่านัก

"ใครอยากกินอะไรสั่งเต็มที่เลยนะ มื้อนี้ไอ้พฤกษ์เลี้ยง" ไอ้เกี้ยงประกาศเมื่อทุกคนมาถึงร้านอาหาร
"เห้ย กูพูดตอนไหนวะ"
"ตอนนี้ไงเพื่อน อะ มึงเลี้ยง"
"เดี๋ยวไอ้ริว กูยังไม่ตกลงเลย"
"โห่พี่" เจมส์พูดขึ้น "ไม่ป๋าเลย"
"อ้าว"
"มากับรุ่นพี่ทั้งที รุ่นพี่ก็ต้องเลี้ยงสิคร้าบ" ไอ้เด็กนี่มันร้ายจริงๆครับ
ไอ้ริว ไอ้เกี้ยง นิวหัวเราะ
ผมหันไปสบตาเพชร น้องฉีกยิ้มชั่วร้ายใส่
"งั้นมื้อนี้ไอ้พฤกษ์ เคนะ"
"ดีล"
"ไม่โว้ย" ผมโบกหัวไอ้ริวกับไอ้เกี้ยงด้วยมือคนละข้าง "รับผิดชอบร่วมกับกูเลย"
"พี่พฤกษ์เลี้ยงหน่อยดิ"
ผมอึ้ง น้องเอื้อมมือมาเขย่าแขนผม เป็นครั้งแรกที่น้องอ้อนเลยนะเนี่ย
"นะคร้าบ"
เสียงหวานแบบนั้น โคตรชอบเลยครับ
"เอ่อ พี่เลี้ยงก็ได้"
หลังคำตอบรับของผมตามมาด้วยเสียงประท้วงโวยวายจากไอ้ริวกับไอ้เกี้ยง และเสียงเฮจากเจมส์กับนิว
"สาด ทีไอ้เพชรขอล่ะยอม"
"เออ สองมาตรฐานว่ะ"
"ไม่ต้องเลี้ยงหรอกน่า แชร์กันเนี่ยแหละ เพชรล้อเล่น" เพชรบอก ยักคิ้วหลิ่วตาใส่อีก เดี๋ยวจะโดนดี
ทำให้พี่เสียหลักได้ไง
สั่งไปเดี๋ยวเดียวอาหารก็มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะครับ ผมตักให้เพชรเป็นคนแรกเลย
"เอ่อ...ขอบคุณครับ"
ผมถองไอ้ริว ห่า มองผมกับน้องอยู่ได้
แต่ไอ้เกี้ยงกับน้องอีกสองคนก็มองอยู่เหมือนกัน
บางครั้งเพชรก็ดูออกง่ายมาก โดยเฉพาะเวลาที่ไม่พอใจ อารมณ์จะสื่อออกมาผ่านสีหน้าให้เห็นชัดเจนเลยครับ แต่บางครั้งก็อ่านยากมาก ผมพยายามที่จะค้นหาความรู้สึกนึกคิดของน้องอยู่ อย่างเช่นตอนนี้ ผมไม่รู้เลยว่าน้องกำลังคิดอะไรในหัว
"พี่ไม่กินรึไง"
จู่ๆน้องก็เงยหน้าขึ้นมาถามผมบ้าง
"พี่เค้ามองมึงจนอิ่มแทนข้าวละ"
"ฮิ้วววว"
เจมส์แซว ตามด้วยเสียงรับของไอ้ริว
ไอ้พวกบ้า
ทีนี้น้องเลยกลับไปก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียวครับ

พวกเราไปสวนสัตว์ Khaoyai exotic zoo กันต่อหลังอาหารเที่ยง ดูน่ารักขัดกับการที่ผู้ชายหกคนมาเที่ยวใช่ไหมครับ555
จริงๆผมไม่มีที่ไหนที่ชอบเป็นพิเศษหรอก ใครชวนไปไหนก็ไปได้หมดแหละ
แต่ที่เลือกมาสวนสัตว์เนี่ย เพราะมีคนเค้า request มาน่ะ

'พี่พฤกษ์'
'คร้าบ'
'เขาใหญ่อะ แพลนจะทำไรบ้าง'
'ตอนนี้พี่ดูไว้มีแค่ที่พักกับร้านอาหารแฮะ' ผมตอบกลั้วหัวเราะ
'อ่อ'
'เราอยากทำไรล่ะ'
'เอ่อ'
ยังไม่รู้หรอกว่าเพชรอยากทำอะไร แต่ท่าทางแบบนั้นดูเหมือนเจ้าตัวกำลังเขินนิดๆ
'ไหนบอกพี่ดิ'
'ห้ามหัวเราะนะเว้ย'
'คร้าบ บอกมาเถอะ'
'เพชรอยากไปสวนสัตว์อะ'
ผมอึ้ง
'ตลกอะดิ'
'หืม ไม่ตลก...แต่ทำไมเราถึงอยากไปล่ะ'
'เพชรชอบดูสัตว์ มันน่ารักดี'
ผมยิ้ม ไม่รู้มาก่อนเลยว่าน้องชอบอะไรแบบนี้
'ได้ครับ งั้นหลังมือเที่ยงวันแรกเราไปกันเลย'
'เย่'
'งี้เราไปสวนสัตว์บ่อยปะ'
'เด็กๆอะบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ไปนานแล้ว...พี่รู้มั้ย เพชรอะอยากเลี้ยงหมาสักตัว'
'ก็เลี้ยงดิ'
'อยู่คอนโดมันเลี้ยงไม่ได้ดิ'
'ไม่ๆ พี่หมายถึงที่บ้านเรา'
'เอ่อ...เพชรไม่ค่อยได้กลับบ้านน่ะ'
'อ้อ...จะว่าไป พี่ก็อยากเลี้ยงนะ'
'เลี้ยงดิ เพชรจะได้แวะไปเล่นกับมัน'
'ไม่ใช่หมา'
'แล้วอยากเลี้ยงไร'
'อยากเลี้ยงเราไง จะดูแลอย่างดีเลย'
จบประโยคนั้น น้องทำท่าโก่งคออาเจียนใส่ผมTT

"อะไรดลใจให้มึงมาสวนสัตว์วะไอ้พฤกษ์" ไอ้ริวถามถึงแม้รถทั้งสองคันจะเข้ามาจอดอยู่ในพื้นที่ของสวนสัตว์แล้วก็ตาม
ผมหันไปมองหน้าเพชร น้องขึงตาใส่
รู้ทันทีว่าห้ามบอก
"มีคนเค้าอยากมา"
เท่านั้นแหละ ทุกคนหัวเราะลั่นเลย
"มึงเนี่ยนะเพชร" เจมส์ร้อง
"แบ๊วสาดดด" นิวว่า
"เออ กูอยากมา มีปัญหาไรมะ"
ผมยิ้มขำที่เห็นน้องโวยวาย ไอ้ผมก็นิสัยไม่ค่อยจะดี ขี้แกล้ง
หลังจ่ายเงินค่าเข้าเรียบร้อย เพชรเค้าก็คว้ากล้องขึ้นมาสะพายแล้วออกเดินไปโดยไม่รอใคร
"น้องมันงอนมึงปะวะ" ไอ้เกี้ยงสะกิด
"หน้าบูดเชียว ทำไงดีวะ"
"ไปง้อดิ รอไรวะ"
"เออๆ"
เหมือนเจ้าตัวจะรู้เลยว่าเป็นผมที่เดินเข้าไปใกล้
"มาทำไม"
"น้องเพชรคร้าบบบ"
"..."
"งอนปะเนี่ย"
"ไม่ได้งอน"
ผมกลั้นขำ ขนาดไม่ได้งอน ให้เด็กอนุบาลมาฟังยังรู้เลยว่าน้ำเสียงกำลังไม่พอใจ
"เสียงแข็งขนาดนั้นไม่งอนได้ไง"
"อย่ามาเกะกะ จะถ่ายรูป"
"คุยกันก่อนดิ"
ผมเอาตัวไปยืนขวางกรงลิงที่น้องมาถึงเป็นที่แรก ดูซิ ระหว่างลิงกับไอ้พฤกษ์ น้องจะเลือกอะไร
"ไม่คุย"
"จะคุย มีไรปะ" ผมยักคิ้วกวน
"งั้นก็ยืนคุยกับลิงไป"
ผมรีบคว้าแขนน้องที่กำลังจะเดินหนีไปทันที
"โอเคๆ พี่ขอโทษ"
ไม่เล่นแล้วครับ รู้สึกว่าครั้งนี้น้องโกรธจริงๆ
"ขอโทษเรื่องอะไร"
"ก็ที่บอกคนอื่นว่าเราอยากมาสวนสัตว์ไงคร้าบ"
"รู้ตัวด้วยอ่อ"
อื้อหือ ประชดประชัน
"รู้ดิ เห็นหน้าเราก็รู้แล้วว่าโกรธ...งั้นต่อไปนี้พี่จะไม่ทำอีก โอเคมั้ยครับ"
"ตลอดอะ"
"อะไรตลอด?"
"ชอบสัญญาแต่ไม่รู้ว่าจะทำได้รึเปล่า"
"โถ่ พี่ไม่เคยผิดสัญญากับเราเลยนะ"
"เออๆ พูดมาก"
"เดี๋ยว"
"จะจับมือเดินทั้งวันเลยรึไง ปล่อยได้แล้ว"
"ยังไม่เคลียร์เลย สรุปหายโกรธพี่ยัง"
"ยัง"
"อ้าว"
"ถ้าทำอีก โดนถีบขาคู่แน่"
นั่น
"ส่งซิกให้แล้วยังจะบอกอีก"
"ไม่บอกแล้วคร้าบ พี่ไม่รู้ว่าเพชรจะอายขนาดนั้นนิ"
"จริงๆไม่ได้อายหรอก แค่หงุดหงิดที่พี่ชอบแกล้ง...ไม่ได้ดั่งใจ"
พูดพร้อมส่งสายตาคาดโทษมาให้ด้วย น่ากลัวหน่อยๆแฮะ
"ก็ได้ งั้นจะแกล้งนิดๆหน่อยๆพอ เคนะ"
"ถุย นิดๆหน่อยๆ"
"55555555555"
ผมยอมปล่อยมือน้อง(ส่วนหนึ่งก็เพราะกลัวด้วย- -) และเดินตามไปเงียบๆ
เพชรชอบสัตว์จริงๆครับ แวะดูเป็นเวลานานและถ่ายรูปแทบจะทุกชนิด ที่อยู่นานมากก็เห็นจะเป็นสิงโตเนี่ยแหละ
ดูเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลยแฮะ
"ชอบสิงโตเหรอ"
"อือ"
"เพราะไรอะ"
"เด็กๆชอบดู lion king มั้ง" น้องหัวเราะ
"อ้อ" ผมยิ้ม
"มันเท่นะ...ไม่รู้ดิ ดูน่าเกรงขาม”
"จริง...เอากลับไปเลี้ยงสักตัวมั้ย"
"เอาได้เอาไปแล้ว"
ผมยื่นหน้าเข้าไปดูรูปในกล้อง
"ถ่ายสวยเลยนะเนี่ย"
"แน่นอน" น้องตอบพร้อมยักคิ้ว
"ไม่เห็นถ่ายรูปพี่มั่งเลย" ได้จังหวะจีบแล้วครับ ขอสักหน่อย
"ไม่เอาอะ ถ่ายรูปฮิปโปยังดีกว่าเลย"
"น้องเพชร" ผมเรียกเสียงอ่อย
"5555555 อะ มาๆ เดี๋ยวถ่ายให้"
"ไม่เอารูปเดี่ยว"
"จะถ่ายกับสัตว์ใช่มั้ย เอาตัวไร"
"จะถ่ายกับเพชรอะ"
น้องส่ายหัว
"นะคร้าบ รูปนึง"
"เพชรไม่อยากถ่ายด้วยอะ"
"เด็กบ้า"
ทำหน้าทะเล้นอีก น่าตีจริงๆ
"งั้นเซลฟี่นะ"
"ครับผม"
น้องปรับเป็นเลนส์ให้หันมาทางพวกเราเพื่อถ่ายเซลฟี่ก่อนจะเอนตัวมาใกล้ๆผม
ทุกรูปผมยิ้มกว้างจนปากแทบจะถึงหูให้กล้อง
"เดี๋ยวส่งให้นะ"
"ส่งเลยดิ อยากได้อะ"
"รอไม่เป็นรึไง"
"นะคร้าบบบ"
"เรื่องมากจังวะ"
ถึงอย่างนั้น น้องก็ส่งรูปมาให้ผมทาง bluetooth เลยทันที แล้วแบบนี้จะไม่ให้รักได้ไงล่ะครับ
"พี่ลงรูปนี้นะ"
ผมเลือกรูปที่น้องยิ้มกว้างที่สุด
"แล้วแต่พี่ดิ"
รูปอย่างกับแฟนเปิดตัวกันแน่ะ
"ดูอะไรต่ออีกมั้ยครับ"
"เหลือยีราฟ"
น้องนำผมไปที่โซนของยีราฟ แล้วตรงไปซื้อแครอทก่อน มียีราฟถึง7ตัว เมื่อพวกมันเห็นอาหาร ทุกตัวก็กรูกันเข้ามาหา
น้องแจกแครอทจนหมด แต่ยังเหลืออีก2ตัวที่ไม่ได้กิน
"พี่พฤกษ์ซื้อแครอทให้อีกชุดดิ"
น้องยื่นแบงค์ร้อยมาให้
"ใช้พี่อ่อ"
"เออ จะทำไม่ทำ"
"ทำคร้าบบบ"
ผมไม่ได้รับเงินจากมือเพชร แต่เอาเงินตัวเองจ่ายซื้อ
"เดี๋ยวพี่ช่วยออก"
น้องส่งแครอทให้ยีราฟอีก2ตัวที่เหลือแล้วใช้มือลูบหน้ามันเบาๆอย่างไม่รังเกียจ
"แบ่งกันกินนะนาย"
มีพูดกับยีราฟด้วย ผมเห็นแล้วยิ้มตามเลย
เพชรดูอ่อนโยนและมีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับสัตว์จริงๆ

"หายไปดูสัตว์หรือไปสวีทกันวะ นานชิบ" ไอ้ริวส่งเสียงมาเป็นคนแรกเมื่อผมกับเพชรเดินกลับไปที่บริเวณทางเข้าอีกครั้ง สี่คนที่เหลือดูท่าจะมานั่งรออยู่ที่นี่นานแล้ว
"ดูสัตว์ดิวะ พวกมึงไม่ได้ดูมั่งเลยรึไง"
"เดินดูนิดหน่อยก็เมื่อยละ เลยมานั่งรอ" ไอ้เกี้ยงว่า
"มึงสองคนก็ด้วยอ่อวะ" น้องหันไปถามเพื่อนบ้าง
"ขอดูรูปหน่อยดิ" นิวบอกและรับกล้องมาจากมือเพชร
"เราหิวน้ำมั้ยครับ" ผมหันไปหาเพชร
"ไม่อะ"
"งั้นไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย"
ผมจับมือน้องอย่างถือวิสาสะแล้วดึงให้เดินไปร้านน้ำข้างๆประตูทางเข้าด้วย
"ชอบหลอกจับมืออยู่เรื่อย" น้องบ่นอุบ พยายามสะบัดให้หลุดแต่ก็สู้แรงผมไม่ได้หรอกครับ อิอิ
"ไม่ได้หลอก จับตรงๆเลยเนี่ย"
"โรคจิตเอ๊ย"
"สะดีดสะดิ้งนะเรา"
"บ้านพี่ดิ"
ผมซื้อชาเขียวกลิ่นมะลิที่ตัวเองชอบให้น้องด้วย
"เคยกินมั้ย"
"ไม่เคย"
"ลองดู อันนี้หอมมาก ไม่ค่อยหวานด้วย"
หึหึ ไหนบอกไม่หิวน้ำ เปิดขวดแล้วกระดกไปเกือบครึ่ง
"อร่อยอะดิ"
"ก็พอได้"
"ลั่น55555555555"
เรื่องฟอร์มจัดเนี่ยต้องยกให้คุณเค้าเลยครับ อร่อยก็บอกว่าอร่อย ไม่เห็นต้องเก๊กเลย
"ขำไร บ้าปะ"
"ขำคนฟอร์มจัดอะ"
น้องทำหน้ายักษ์หน้ามารใส่
ผมกับน้องเดินกลับไปถึงจุดที่คนอื่นนั่งพักอยู่ ทุกคนส่งยิ้มมีเลศนัยมาให้
"อะไรวะ"
"ไหนมึงบอกไปดูรูปสัตว์ไงวะ แล้วนี่อะไร" ไอ้ริวหันหน้าจอโทรศัพท์ให้ดูรูปผมกับน้องที่ผมพึ่งลง facebook ไป
"รูปคู่ก็มา" เจมส์โชว์รูปในกล้องอีกคน
"งานนี้เรามากันหกคนไม่ใช่อ่อวะ ไหงลงรูปแค่สองคน"
"อย่ายุ่งดิ เรื่องของคนสองคนเว้ย โอ๊ย..." ผมโอบไหล่น้องก่อนจะโดนศอกกระทุ้งเข้ามาเต็มๆ
"เดี๋ยวโดนหนักกว่านี้" น้องขู่
"เจ็บ ไม่เอาแล้วคร้าบบ"

"รีบเมาอ่อ"
ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่ม ผมเดินมานั่งลงข้างๆเพชรที่สระว่ายน้ำหน้าบ้านพัก น้องกำลังนั่งดื่มเบียร์ เอาเท้าจุ่มน้ำอยู่
"คอแข็งกว่าพี่อะ กินทั้งคืนก็ไม่เมา"
"เดี๋ยวจะคอยดู" ผมยิ้มกริ่ม
"พี่อะอย่าเมาแบบคืนนั้นอีกละกัน นอนกับเพชรด้วย ขี้เกียจดูแล"
"ไม่เมาหรอกน่า พี่คอแข็งแล้ว"
"โม้ชิบ"
ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกอยากบอกเรื่องที่เคยแกล้งเมา
"เอ่อ เพชร..."
"หือ"
"พี่มีอะไรจะบอก"
"เกริ่นมาแบบนี้ เรื่องไม่ดีชัวร์" รู้อีก
"ก็นิดหน่อย"
"เรื่องไร"
"คือ..."
เห็นสายตาคมของน้องจ้องกลับมาแล้วชักหวั่นใจ ไม่กล้าเล่าต่อเลย
จะโดนต่อยไหมวะ
"วันนั้นอะ...พี่แกล้งเมา"
ผมพูดจบก็รีบก้มหน้าลงทันที
เงียบอยู่นาน จนในที่สุดทนไม่ไหวต้องเงยหน้าขึ้น
แล้วน้องก็บิดหูผม
"อ๊ากกกกกกกก" ผมร้องลั่น มือหนักๆของเพชรบิดเต็มแรง
"พี่โกหกอ่อ"
"โอ๊ยยยย มันเจ็บนะครับ"
"แสดงว่าพี่ตั้งใจแกล้งเพชร"
"ไม่ได้แกล้ง โอ๊ยย...หูจะขาดแล้ว ปล่อยพี่เถอะ"
"ไม่ได้แกล้งแล้วคิดจะทำอะไร"
"พี่แค่อยากนอนกับเราเฉยๆ อ๊ากกกก"
"มึงแม่งโรคจิต คิดจะทำอะไรกูตั้งแต่ตอนนั้นแล้วใช่มั้ย" ขึ้นมึงขึ้นกูแล้ว หูผมขาดแน่ๆ
"ม่ายย พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น"
"ไม่คิด แต่นอนกอดกูทั้งคืนเนี่ยนะ"
"แค่กอดเองคร้- อูยยยย ปละๆ ปล่อยหูพี่เถอะ"
น้องหยุดบิด แต่ออร่าความอาฆาตยังแผ่ออกมาเต็มเปี่ยม
"จะ เจ็บบบ" ผมครางเสียงอ่อย
"ไอ้พฤกษ์เป็นไรวะ"
ไอ้เกี้ยงวิ่งหน้าตั้งจากข้างในบ้านออกมา
"ไม่มีอะไรคร้าบ" น้องตอบ และหันมาปิดปากผมด้วยสายตา
"ตกใจหมด ได้ยินเสียงร้องลั่นบ้านนึกว่ามีเรื่องอะไร"
ฮึก มึงไม่เห็นหูกูรึไงไอ้เกี้ยง คงแดงก่ำ โดนบิดหูแทบขาดแล้วยังบอกเพื่อนตัวเองไม่ได้TT
"คนอื่นล่ะ" ผมถาม
"เจมส์กับนิวออกไปซื้อกับแกล้ม ส่วนไอ้ห่าริวยังไม่ตื่นเลย อีกเดี๋ยวกูจะไปปลุกมันละ...เดี๋ยวสองคนนั่นกลับมาเข้าไปตั้งวงในบ้านกัน"
"เออ"
ไอ้เกี้ยงเดินกลับเข้าไป
"หึ ทำไมไม่บอกพี่เกี้ยงไปอะว่าโดนอะไร"
"ก็เราไม่ให้บอกนิ"
"รู้ด้วยอ่อ ทีตอนอยู่สวนสัตว์ปากมอมเชียว"
"ไม่กล้าทำแล้ววว"
"ก็ดี ไม่งั้นจะเอาให้หูขาด"
"ว่าแต่ตอนนั้นพี่ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยจริงๆนา"
"เออ...มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกเพชรอีกมั้ย"
"ไม่มีหรอก...แต่ถ้าสมมติมี จะไม่บิดหูแล้วใช่มั้ย"
"ไม่แน่"
จึ๋ย
"ถามจริง"
"ไม่มีคร้าบ"
"ถ้ารู้ทีหลังนะ สนุกแน่"
หลังจากนั้นผมเลยหุบปากเงียบ นั่งนิ่งๆแทน
"555555555"
"เราขำอะไร"
"ขำพี่นั่นแหละ นั่งเป็นหมาหงอยเลย"
"..." ยังไม่กล้าพูดอะไรครับ
"ไหนมาดู" น้องขยับเข้ามาชิดตัว "โห หูยังแดงแจ๋เลย เจ็บอยู่ใช่ปะ"
"อือ" ความจริงคือเริ่มหายเจ็บแล้ว แต่ขออ้อนซะหน่อย
แอบมองหน้าน้องแวบนึง ดูเหมือนจะสงสารเราแฮะ
"อะ"
เพชรกุมมือผม
"ให้จับแปบนึง โทษฐานที่เพชรทำแรงไป"
ใจผมเต้นแรง มือที่อยากจับมาตลอด วันนี้ได้สมใจ แบบนี้ยอมโดนบิดหูอีกรอบก็คุ้ม
อืมม รู้สึกดีชะมัด
ผมสบตาน้อง แต่เจ้าตัวหันไปมองน้ำในสระซะแล้ว
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ เราทั้งคู่ยังนั่งอยู่ตรงนั้น มือผมกับน้องยังกุมกัน
และผมเองก็ยังละสายตาจากคนข้างๆไปไม่ได้เลยสักวินาทีเดียว

TBC

ง่อววว มีพาไปเที่ยวสวนสัตว์ มีลงรูปคู่ มีจับมือ สวีทททท
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP26 "ให้จับแปบนึง..." 8/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-10-2018 19:49:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP26 "ให้จับแปบนึง..." 8/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-10-2018 20:46:14
ตามใจน้องมากอะ บอกเลย
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP26 "ให้จับแปบนึง..." 8/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-10-2018 07:02:49
คู่รักสายโหด
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP27 "มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย” 13/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 13-10-2018 08:32:31
EP27 "มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย”

"นี่มึงยังไม่ได้คบกับพี่พฤกษ์อ่อวะ"
"มึงจะแหกปากให้คนทั้งคณะได้ยินรึไงเชี่ยเจมส์"
ผมนั่งให้ไอ้เจมส์ซักไซ้ที่โรงอาหารมาได้พักใหญ่แล้ว มันดูตกอกตกใจมากเมื่อรู้ว่าผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่พฤกษ์
"มึงโกหก กูไม่เชื่อหรอก"
"กูจะโกหกมึงเพื่อ"
"ไม่อยากให้ใครรู้ไง คบกันเงียบๆ"
"ถ้าจะปิดบังมึงอะนะ กูคงไม่บอกตั้งแต่เรื่องที่ยอมให้ไอ้พี่พฤกษ์จีบหรอก"
สีหน้าไอ้เจมส์ยังคงไม่เชื่อคำพูดผมอยู่ดี
"ทำไมมึงคิดงั้น"
"ก็ช่วงนี้มึงกับพี่เค้าตัวติดกันจะตาย หลังเลิกเรียนเค้ามารอรับมึงทุกวัน เสาร์อาทิตย์ยังนัดกันออกไปไหนๆ ลงรูปคู่บ่อยกว่าคนเป็นแฟนกันบางคู่ซะอีก"
"เว่อร์"
ที่ไอ้เจมส์พูดไม่ได้เว่อร์หรอกครับ แต่เป็นความจริงเลยต่างหาก หลังกลับมาจากเขาใหญ่ ผมกับไอ้พี่พฤกษ์อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา
"หราาา...เฮ้อ ตอนนี้มีแต่กูที่เหงาอยู่คนเดียวเลยสาด"
"สม" ผมหัวเราะ
"ไอ้สัส"
อย่างวันนี้ไอ้นิวมันไปเดทครับ หญิงคณะทันตแพทย์ซะด้วยนะ รอติดตามอยู่ครับว่ามันจะได้ฟันหมอไหม
"มึงก็คุยอยู่หลายคนไม่ใช่รึไงวะ เลือกๆนัดๆแล้วสานสัมพันธ์ต่อดิ"
"เนี่ยเลือกอยู่ เลยเครียด"
"แหม่ หล่อเลือกได้ตายห่า"
"ขอบคุณสำหรับคำชมครับ"
เย็นนี้ไอ้พี่พฤกษ์ชวนผมไปนอนที่บ้านครับ เฮียแกบอกว่าไม่มีคนอยู่บ้าน พี่ชลไป event ที่ต่างจังหวัด ส่วนพ่อกับแม่ไปดูงานที่ญี่ปุ่น
แม่งคิดจะทำมิดีมิร้ายกับกูเปล่าวะ
ขืนบอกไอ้เจมส์ มันได้ถามมากขึ้นอีกแน่
"แล้วนี่มึงรอพี่เค้าอยู่รึไง"
"เออดิ"
"เนี่ย จะไม่ให้กูสงสัยได้ไงว่าคบกันแล้ว"
"เอาเป็นว่ากูกับไอ้พี่พฤกษ์ยังไม่ได้คบกัน เคปะ" ผมตัดบท
"เออๆ มองหน้ามึงก็รู้แล้วว่าพูดจริง...ถามอีกอย่างดิ"
"ไร"
"ได้กันยัง"
ป้าบ
"อูยยย เจ็บนะเว้ย ตบมาได้"
"มึงถามมาได้ไอ้สัส"
"แล้วได้กันรึยังอะ"
"ยังโว้ย"
"ฮั่นแน่ ยังแสดงว่าเดี๋ยวต้องมี"
"พ่อมึงเหอะ"
"น้องเพชร"
คนถูกพูดถึงมาพอดี หันหลังไปตามเสียงเรียกก็เห็นพี่มันมายืนยิ้มหวานอยู่
"กูไปละ"
"หวัดดีครับพี่พฤกษ์...ขอให้เสร็จพี่แกไวๆ" ประโยคหลังไอ้เจมส์หันมากระซิบกับผม
"เดี๋ยวกูถีบล้ม"
ผมสะพายกระเป๋าก่อนจะออกเดินไปที่ลานจอดรถพร้อมไอ้พี่พฤกษ์
"ไม่ได้เอาของมานอนอ่อ"
"เอามาทำไม ใช้ของพี่ไง"
"คร้าบ"
มันโอบไหล่ผม
"เนียนอีก"
มันไม่ตอบ แต่อมยิ้ม
"คะแนนมิดเทอมออกมั่งยัง"
"ออกแล้วตัวนึง"
"ดีปะ"
"มีนพอดี"
"เห้ย ได้มีนก็โอเคแล้ว" มันลูบหัวผม
"ไอ้เจมส์กับไอ้นิวเกือบท็อปทั้งคู่"
"เราก็เอาอย่างเพื่อนมั่งสิ"
"ผมไม่เก่งเท่าพวกมันนี่หว่า"
"ถ้าพยายามก็ทำได้ เดี๋ยวพี่ติวเพิ่มให้เอามั้ย"
"ไม่เอาอะ เรียนในห้องก็เบื่อจะแย่แล้ว"
"ขี้เกียจตัวเป็นขน"
"ยุ่งไรด้วยอะ"
"เดี๋ยวเหอะ"
ผมกวนตีนใส่ เลยโดนดีดเหม่งเข้าให้
"นี่ให้เพชรนอนด้วยกี่คืน"
"เพชรจะนอนทุกคืนเลยก็ได้นะครับ"
กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่
"เอาดีๆ"
"55555 พี่ชลกลับพรุ่งนี้แล้ว"
"เออ"
"แต่อยากให้เรามานอนกับพี่ทุกคืนจริงๆนะ"
"หื่นชิบหาย ไม่เอา"
ยังจะหัวเราะอีกแน่ะ

หลังซัดกับข้าวฝีมือป้าหวานไปเต็มท้อง ผมก็ขึ้นมาห้องไอ้พี่พฤกษ์
"พี่อาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวออกมาเล่นด้วย"
"พี่นอนในห้องน้ำไปก็ได้ เดี๋ยวเพชรนอนเตียงให้"
"ถุย"
ผมหัวเราะ
พอเจ้าของห้องออกไปแล้ว ผมก็เริ่มหยิบของนู่นนี่ในห้องมาดู เด็กวัยกำลังซนแถมอยากรู้อยากเห็นอะเนอะ(เสือก) ถึงจะเคยรื้อเคยเห็นไปบ้างแล้วก็เถอะ
แล้วผมก็อึ้งกิมกี่ เมื่อดันเจอสิ่งที่ไม่เคยเห็นในห้องพี่มันมาก่อน
แผ่นหนังโป๊ญี่ปุ่น3เรื่องวางซ้อนกันอยู่ตรงชั้นวางทีวี ข้างๆเครื่องเล่นดีวีดีเลย
ผมยิ้ม
ไอ้ห่าพี่พฤกษ์มันร้าย
แผ่นหนัง3เรื่องนั้นเป็นหนังโป๊ชายหญิงธรรมดาครับ แผ่นแรกนางเอกเป็นเมท แผ่นที่สองนางเอกเป็นเกอิชา ส่วนแผ่นสุดท้ายนางเอกเป็นนักเรียนหญิง มีนักเรียนชายอีกเกือบสิบคนยืนล้อม ทุกแผ่นเป็น hd ครับ
แหม่ แค่ปกก็น่าใส่ลงไปในเครื่องเล่นดีวีดีแล้วเปิดทีวีดูมันซะตอนนี้เลย
ดูทรงแล้วเหมือนมันพึ่งดูเมื่อคืนด้วยซ้ำ ไอ้คนหื่น2018เอ๊ย
"รอนานมั้ยคร้าบ...เห้ย"
ไอ้พี่พฤกษ์กลับมาหน้าตื่น เมื่อเห็นว่าผมถือแผ่นหนังมันอยู่ในมือ
"น้องเพชรทำอะไร"
"ดูหนังแบบนี้ด้วยอ่อเรา" ผมยิ้มเยาะ
"เรารื้อของพี่อ่อ เอาเก็บที่เลยนะ"
"รื้อที่ไหน เพชรเห็นมันวางอยู่เฉยๆเลยเหอะ"
ไอ้พี่พฤกษ์หน้าเริ่มเป็นสีแดง
"ชอบแบบญี่ปุ่นๆอ่อ"
"หยุดแซวเลย"
มันหันหน้าหนีผม เดินไปใส่เสื้อผ้า
"ไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าคนฮ็อตที่สุดของคณะก็ดูหนังโป๊เหมือนกัน" ผมยังแหย่ต่อไป
"ไอ้เด็กบ้า"
"อายเหรอคร้าบบบบ"
"เราไม่เคยดูรึไง"
"ไม่เคยหรอกคร้าบ ถ้าดูนะแม่ตีตายเลย"
"โม้"
ผมหัวเราะ ไม่เคยเห็นไอ้พี่พฤกษ์อายขนาดนี้มาก่อน
"ระวังเถอะ แซวมากๆจะโดนดี"
"กลัวจังเลย จะโดนอะไรน้า"
"โดนแบบในหนังอะ" มันหันมายิ้มมุมปากใส่ผม
ผมนี่สะดุ้งเลย
"ไอ้สัส อย่าแม้แต่จะคิดนะมึง"
"ปากแบบนี้เดี๋ยวก็จัดให้ครางยิ่งกว่านางเอกหนังซะเลย"
"พะ พ่อมึงดิพี่"
ผมรีบวิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้า ออกไปจากห้องทันที ได้ยินเสียงหัวเราะจากไอ้คนบ้ากามตามหลังมาดังลั่น
คืนนี้กูจะรอดไหมวะ

"อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอครับ"
ผมกลับมาไอ้พี่พฤกษ์ก็นั่งเอาหลังพิงหัวเตียงสบายใจอยู่ ไม่เหลือวี่แววความอายที่ผมพบแผ่นหนังโป๊เมื่อครู่เลย
"ดูหนังกันมั้ยครับ"
ผมหันไปที่ทีวีก็ต้องตกใจ ไอ้พี่พฤกษ์มันเปิดหนังโป๊อยู่
"เหี้ย"
มันคือเรื่องนักเรียนหญิงที่ผมพึ่งเห็นแผ่น
นางเอกกำลังโดนอยู่พอดีเลยครับ ร้องครางลั่น นักเรียนชายหลายคนแย่งกันสัมผัสร่างกายเธอ
แล้วน้องชายผมก็แข็งขึ้นโดยอัตโนมัติ
แย่แล้ว
"มานั่งดูด้วยกันนะ"
"ยะ อย่าเข้ามา"
ผมกระเถิบตัวหนีจากเตียง แต่ตายังจ้องที่ทีวีไม่กะพริบ
ไอ้พี่พฤกษ์มาถึงตัวผมแล้วฉุดแขนให้นั่งลงที่ปลายเตียง
"อย่านะเว้ย"
"ดูหนังเฉยๆเอง"
ภาพในทีวีกำลังดุเดือด นางเอกเปลี่ยนขึ้นมาขย่มให้นักเรียนชายคนหนึ่งแล้วครับ
แม่งเอ๊ย
ผมไม่รู้เลยว่านั่งนิ่งดูจนจบตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีน้องชายก็แข็งดุนกางเกงบอลจนเห็นชัด
“มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย”
“ชะ ช่วยไร”
ผมสะดุ้งอีกหน ไอ้พี่พฤกษ์ขยับตัวผมให้เข้ามานั่งอยู่หว่างขามันก่อนจะกระซิบเสียงนุ่ม
“น้องเพชรครับ”
เสียงหื่นซะจนผมสยิว ผมหันไปมองหน้ามันก็เห็นตาเยิ้มและรอยยิ้มชั่วร้ายตอบกลับมา
“อะไรเนี่ย”
ถึงปากจะพูดอย่างนั้น แต่ผมก็ไม่ได้ลุกหนีไปไหน
“ให้พี่ช่วยนะ”
ผมกลืนน้ำลาย ไม่กล้ามองหน้ามันเลยหันหนีไปอีกทาง แม่ง ผมกำลังจะเสียให้มันแล้วใช่มั้ย
ไอ้พี่พฤกษ์จับมือผมไว้ข้างหนึ่ง อีกมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดผม
เชี่ย
หน้าท้องผมหดเกร็งเมื่อมือนั้นลากไปมา เบาๆช้าๆ อืมมม
“พี่พฤกษ์” ผมเรียก ตั้งใจเรียกสติมันกลับมา
“คร้าบ” มันตอบรับเสียงหวาน แต่มือเลื่อนขึ้นไปถึงหน้าอกแล้ว
มันลูบตรงกลางระหว่างบริเวณหน้าอกแล้วไล่นิ้วไปถึงหัวนม
“ไอ้พี่พฤกษ์” ผมเรียกเสียงดังขึ้น
นอกจากจะไม่สนใจเสียงปรามแล้ว มันยังขยับหน้าเข้ามาคลอเคลียซอกคอผม
“อะ ไอ้พี่พฤกษ์”
ผมจับแขนมันข้างที่กำลังเล่นกับหัวนม
“ทำไม”
มันเงี่ยนจนเอาอะไรมาหยุดก็ไม่อยู่แล้ว
“เราไม่อยากเหรอครับ”
ผมจะบอกว่าไม่ก็ตอบได้ไม่เต็มปาก
“นะครับ”
กูไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายโว้ย กูเคยแต่กับผู้หญิง กูยังไม่พร้อมมม
ตาไอ้พี่พฤกษ์เป็นประกาย ดูท่าทางมันคงไม่ปล่อยผมไปไหนแน่คืนนี้
“มึง”
“อะไรอีก”
ผมหลบตาเพราะไม่มีคำตอบใดๆจะให้ ไอ้พี่พฤกษ์กดรีโมทปิดทีวีแล้วกลับมาจู่โจมอีกครั้ง
มันแหย่ลิ้นเข้าไปในรูหู มือข้างหนึ่งยังคงเขี่ยหัวนมผม
“อืออ”
เชี่ย ผมคราง นี่มันทำผมได้ขนาดนี้เลยหรอวะ
“ชอบมั้ยครับ”
“ชะ...ไม่”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกริ่มที่เห็นผมระทวย
“ไม่ชอบจริงอ่อ”
“ไม่ชอบเว้ย”
“ทำไมเสียงสั่นล่ะครับ”
“ก็มึงทำไรกูอะไอ้พี่พฤกษ์”
มันหัวเราะเบาๆแล้วจูบไซร้แก้มผม อืออ
ผมดิ้น เมื่อไอ้พี่พฤกษ์เห็นแบบนั้นเลยผละออก
“รังเกียจพี่อ่อ”
“ไม่ใช่”
“งั้นทำไม”
“...”
“พี่อยากทำให้เพชรจริงๆนะครับ”
“ทะ ทำอะไร” ผมตกใจ
“หึหึ...เด็กน้อยเอ๊ย”
“เดี๋ย…”
ครั้งนี้ไอ้พี่พฤกษ์ยกมือขึ้นมาประคองหน้าผมไว้ไม่ให้หนี
ถ้ามันเลยเถิดไปมากกว่าจูบแก้มล่ะ
อารมณ์ผมกำลังเตลิด
มือผมที่ควรจะผลักตัวไอ้พี่พฤกษ์ออกกลับวางนิ่งอยู่บนเตียง
“ไหนบอกไม่อยาก”
“สัส งั้นออกไปเลย”
ผมทำท่าจะผลักมันออก แต่มันกอดผมไว้
“โอ๋ พี่ล้อเล่นนะครับ...มาต่อกันนะ”
“เห้ย”
ไอ้พี่พฤกษ์เลื่อนมือลงมาที่ชายเสื้อผม หมายจะถอดออก ผมรีบจับมือนั่นไว้แน่น
“ถอดนะครับ”
“ไม่”
“ทำไมดื้อกับพี่จัง” ฟังเสียงมันดูหงุดหงิดหน่อยๆแฮะ
“ไงก็ไม่ถอด”
“ก็ได้...งั้นถอดแต่กางเกงก็พอ”
“เหี้ย นั่นยิ่งไม่ถอดเลย”
“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ”
“ยะ อย่าเชียวนะมึง” ผมสั่งเสียงสั่น
“หึหึ งั้นดูซิว่าจะทนไม่ถอดได้มั้ย…”
“พี่จะท...อ๊ะ”
ไอ้พี่พฤกษ์คว้าหมับเข้าที่เป้าผมแล้วบีบเบาๆ
“ปล่อยนะ”
“สู้มือพี่เชียวนะ” มันบอกกลั้วหัวเราะ
ผมหน้าแดง น้องชายผมตื่นตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ มันจับที่ลำแล้วรูดขึ้นลงจากด้านนอกกางเกง
“ยะ อย่านะ”
“ปากห้ามพี่ทำนั่นนี่ แต่ร่างกายเรามันตรงกันข้ามเลยนะ” ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลย แค่นี้กูก็อายจนไม่รู้จะมุดหัวไว้ที่ไหนแล้ว
มันเอานิ้วกดหัวน้องชายผมระหว่างที่รูดลำไปด้วย ผมคราง
“ซี้ดด...อ่าาา”
มีน้ำซึมออกมาที่ปลายหัว
แม่งเอ๊ย
ผมหยุดขยับตัวต่อต้านไอ้พี่พฤกษ์ไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มันเลิกเสื้อผมขึ้นไปกองอยู่ที่คอ ยกแขนข้างหนึ่งไปพาดคอมันแล้วโน้มลงมาลงลิ้นที่หัวนมผม เลียสลับกับดูดจนหัวนมแข็งเป็นไต
“อืออ”
ไอ้พี่พฤกษ์เงยหัวขึ้นมา
“พี่ชักให้นะ”
ผมไม่ได้ตอบ แต่ไม่ปฏิเสธ เพราะโดนมันเล้าโลมจนอยากปล่อยน้ำแล้ว
ห่า รับผิดชอบที่ทำกูเงี่ยนด้วย
มึงแม่งโคตรเลว เอาหนังโป๊มาเปิดยั่วกู
“ไม่ตอบ ให้พี่ทำมั้ยครับ”
“ยะ ยังจะถาม…”
มันยิ้มกว้างกับคำตอบ ขยับตัวผมให้เอนไปแนบกับตัวมันก่อนจะดึงกางเกงบอลกับกางเกงในผมออกไปกองที่เข่า
น้องชายผมผงกหัวหงึกๆเมื่อเป็นอิสระ ไอ้พี่พฤกษ์รูดไล่ตั้งแต่โคนยันปลาย
มันเป็นผู้ชายคนแรกเลยนะที่ได้สัมผัสไอ้นั่นของผมอะ
ตอนนี้ผมโดนเล่นหนักทุกช่องทาง มือซ้ายไอ้พี่พฤกษ์กำลังชักให้ผม มือขวาก็ไม่พ้นวางอยู่ตรงบริเวณหัวนม แถมแก้มก็ถูกมันจูบไล้อยู่
โคตรเสียว
“อ่าาาา”
ผมร้องครางอย่างหน้าไม่อาย เอนหัววางบนไหล่ไอ้พี่พฤกษ์และหลับตาพริ้มรับการเล้าโลม มันเริ่มชักเร็วขึ้น
“อ่าา...น้องเพชร”
ไอ้ห่า ผมได้ยินมันครางชื่อผม แถมตอนนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรแข็งๆมาดุนแถวๆก้นด้วย
มึงจะทำอะไรกูวะ
ผมไม่ได้สนใจน้องชายไอ้พี่พฤกษ์อีก เพราะตัวเองกำลังเสียวแทบขาดใจ ดูเหมือนใกล้จะถึงเส้นชัยในอีกไม่ช้า
“พะ พี่พฤกษ์ อือออ” เย้ย แล้วกูไปเรียกชื่อมันทำม้าย
“อ่าา เรียกพี่อีกได้มั้ยครับ” โรคจิตเอ๊ย
ตัวผมกระตุกก่อนที่น้ำกามจะพุ่งออกมาหลายระลอก เปื้อนมือไอ้พี่พฤกษ์เต็มไปหมด ผมหอบหายใจถี่
“พี่...พฤกษ์…”
“เพชร ช่วยหน่อย” มันบอกเสียงซ่าน
“อะ อะไร”
“แบบที่พี่ทำให้เรา”
ผมหันหลังไปมอง สีหน้ามันอ้อนวอนสุดๆ โชคดีที่ตอนนี้มันขอผมแค่ชักว่าวให้เท่านั้น
แล้วไอ้พี่พฤกษ์ก็จับมือผมไปกำรอบน้องชายมัน

TBC

อื้อหือ พี่พฤกษ์โคตรร้าย พลิกเกมได้เร่าร้อนอะไรขนาดนี้555
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP27 "มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย” 13/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-10-2018 08:54:37
 :o8:มีการล่อลวง

ทำหน้าหงอยๆน้องก็ติดกับแล้ว
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP27 "มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย” 13/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-10-2018 09:46:06
พี่พฤกษ์มันร้าย :hao3:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP27 "มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย” 13/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 13-10-2018 10:22:26
 :pig4: :pig4: :pig4:

ตอนแรก ๆ ก็แค่ซอฟต์ ๆ ภายนอกเนอะ

รอแบบจัดหนักจัดเต็มอยู่นาจา
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP28 "อย่ามายุ่ง" 18/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 18-10-2018 06:30:15
EP28 "อย่ามายุ่ง"

แล้วไอ้พี่พฤกษ์ก็จับมือผมไปกำรอบน้องชายมัน
"ช่วยพี่หน่อยนะครับ"
ผมนิ่ง เกิดมาไม่เคยจับน้องชายใครนอกจากของตัวเอง ท่าทางมันอยากมาก เพราะแข็งโป๊กเลยครับ
"เพชร"
มันอ้อนวอนเสียงอ่อย แถมกระซิบเบาๆข้างหูด้วย ห่า กูสยิวมั้ยล่ะ
ในเมื่อผมยังไม่ยอมทำอะไร มันเลยจับมือผมให้รูดลำขึ้นลง
"เห้ย" ผมร้อง
"ถ้าช้า พี่จะไม่แค่ชักนะ"
ไอ้สัส กลัวแล้ว
ผมเริ่มทำให้ไอ้พี่พฤกษ์ หันตัวเข้าหามันแล้วสาวให้ช้าๆ
"อ่าาาาา"
มันส่งเสียงครางอย่างพอใจ น้ำใสๆซึมออกมาที่ปลายหัวเต็มมือผม
เงยหน้าจากน้องชายมันก็เห็นไอ้พี่พฤกษ์กำลังมองผมอย่างภูมิใจ
"มะ มองไร"
"พี่อยาก..."
"หยุดเลย" ผมรีบปรามเสียงดัง มันหัวเราะในลำคอ
ไม่อยากจะมองหน้ามันตอนนี้เลย ตาเยิ้ม รอยยิ้มชั่ว โรคจิตชิบหาย
แต่ถ้าไม่มองหน้า ก็ต้องก้มลงมองน้องชายมัน ไม่ใช่รังเกียจนะ แต่ผมเขิน ใครจะไปจ้องไอ้นั่นล่ะ แค่ชักให้ก็จะไม่ไหวแล้ว
"อ่าาา เพชร"
อย่าครางชื่อกูบ่อย เดี๋ยวกูเสียวขึ้นมาอีกรอบ
มันฝังหน้าลงซอกคอผมและไล้ริมฝีปากผ่านผิวหนัง อื้อหือ
ท่านี้แม่งโคตรได้
"ยะ อย่า"
"อย่าปฏิเสธเลยน่า อึก...พี่รู้ว่าเราชอบ"
"ไอ้ห่า"
มันขยับเข้ามากอดและยังคงไซร้คอผมไม่หยุด ส่วนมือผมก็ชักให้มันอย่างดุเดือด
"โอววว...อ่าาา"
เหี้ย อย่ามีใครมาได้ยินเสียงครางไอ้พี่พฤกษ์ตอนนี้เลยนะ
แต่ฟังแล้วผมเสือกเสียวตามไปด้วยสิ น่าอายชิบ
ไม่นานน้องชายมันก็ปล่อยน้ำออกมาทะลักล้นมือผม(กูเชื่อแล้วว่ามึงอยากจริงๆ)
"พะ เพชร...สะ สุดยอดเลย..." ไอ้พี่พฤกษ์หอบหายใจ
"ทะลึ่ง"
"จะไปไหนคร้าบ"
ผมกำลังจะลุกออกจากตัวมัน ก็ถูกดึงแขนซะก่อน
"ล้างตัวดิ พี่จะนอนทั้งสภาพนี้รึไง"
"ล้างให้พี่ด้วย"
"พ่อมึง ล้างเองดิวะ"

ผมตื่นขึ้นมาเกือบสิบเอ็ดโมงในวันรุ่งขึ้น เห็นไอ้พี่พฤกษ์นั่งกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ตรงปลายเตียง
"หลับสบายมั้ยครับเมื่อคืน"
ผมจิ๊ปาก ฟังเสียงมันก็รู้จุดประสงค์ของคำถามดีว่าไม่ได้หมายถึงช่วงเวลานอน
"พี่นะหลับสบายยยยยมากเลย"
"อยากหลับไปตลอดชีวิตมั้ยล่ะ"
"อูยย ไม่เอาหรอกครับ...ถ้าพี่หลับไปตลอดชีวิตเราจะเสียใจเอานา"
"เสียใจทำไม"
"ก็...ไม่มีคนทำให้แบบเมื่อคืนไง"
"ไอ้สัส หยุดพูดเลยนะ"
ผมปาหมอนใส่มัน มันหัวเราะ
"โอ๋ๆ ไม่แกล้งละๆ"
"อย่าเข้ามา"
ไอ้พี่พฤกษ์ปรี่เข้ามาหาผม แต่ผมรีบดันตัวมันออกห่าง
ก็น้องชายผมมันเคารพธงชาติอยู่น่ะสิ
ดีนะขายังอยู่ใต้ผ้าห่ม
"หรือว่า..." มันอมยิ้ม "มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ยครับ"
"ไม่ต้องเลย ไอ้บ้ากามเอ๊ย"
ใจเย็นไว้ลูกพ่อ ถ้ามึงยังแข็งงี้มีหวังโดนไอ้พี่พฤกษ์หลอกรีดน้ำอีกรอบแน่
"ไม่อยากให้ช่วยจริงๆเหรอ...สนุกนา"
"ถ้าพี่พูดอีกทีเพชรกระทืบจนกว่าสลบเลยนะ"
"ไม่เอาแล้วคร้าบบบบ"
ผมพึ่งสังเกตว่ามันอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ดูเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก
"พี่จะไปไหน"
"ไปกับเราอะ"
"หือ ไปไหน"
"จะชวนเราไปเดินเล่นน่ะ"
"ไม่ไป" ผมกวนตีน
"ทำไม"
"ก็ไม่ไปอะ จบนะ"
"มีนัดกับคนอื่น?"
"ไม่มี แต่ไม่อยากไปกับพี่"
"ได้" ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มเหี้ยม ลงมานั่งข้างๆผม "ไม่ออกไปข้างนอก งั้นก็นอนดูหนังกับพี่"
"เหี้ย ไม่เอา"
"เลือก จะออกไปเดินเล่นหรือจะอยู่ในห้องพี่"
"ไม่ทั้งสองอย่าง"
"งั้นมีช้อยส์ที่สามให้"
"อะไร"
"ไปม่านรูด"
"ไอ้โรคจิต"
เงี่ยนข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว ผมเริ่มกลัวมันจริงๆแล้วนะ
"งั้นก็เลือก" มันโอบไหล่ผม
"ไปเดินเล่น"
"ก็แค่นั้น" มันยิ้มกว้าง
"ชิ"

ไอ้พี่พฤกษ์พาผมมาที่สวนลุมพินี บ่ายวันนี้แดดไม่แรงเลย แถมลมเย็นสบายด้วยครับ ยากมากที่จะเจอสภาพอากาศดีๆในเวลาแบบนี้
"เบื่อห้าง เบื่อสยามละ มานั่งเล่นสวนสาธารณะดีมั้ยครับ"
"ถามไม พี่พามาแล้วนิ"
มันหัวเราะ
"ก็จริงเนอะ แล้วเราชอบมั้ยล่ะ"
"ชอบดิ"
"ชอบพี่หรือที่นี่"
"สวนลุมฯ"
"ไม่ชอบพี่อ่อ" มันยิ้ม
"ไม่อะ"
"สักนิดก็ไม่เลยอ่อ"
"หยอดเก่งงงงง"
"ไม่ตอบแสดงว่าชอบอยู่"
"กลับบ้านละ"
"อย่าพึ่งไปไหนสิคร้าบบบ" มันกอดเอวผมไว้
"ปล่อย"
"ไม่ปล่อย"
"จะปล่อยไม่ปล่อย"
"ทำไมอะ มากกว่าเอวพี่ยังจับมาแล้วเลย โอ๊ย..."
ผมศอกเข้าที่ท้องมันเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้
"โอยยย เจ็บ"
ผมเดินไปนั่งที่ริมแม่น้ำ ไอ้พี่พฤกษ์ตามมานั่งลงข้างๆทันที
"มันเจ็บนะครับ"
"ไอ้หื่นเอ๊ย ไปหื่นไกลๆไป"
"555555555555"
หัวเราะเหมือนโรคจิตเชียว
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ผมดังขึ้น
แม่
"ไม่รับเหรอครับ" ไอ้พี่พฤกษ์เรียก คงเห็นว่าผมจ้องจอมือถืออยู่เฉยๆ
"...เดี๋ยวมานะ"
ผมลุกขึ้นแล้วเดินออกไปคุยแถวต้นไม้ที่ไกลจากริมแม่น้ำ
"ฮัลโหล"
(เพชร อยู่ที่ไหนลูก)
"ทำไม"
(มะ แม่ว่าเราไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วนะลูก)
"เราคุยกันแล้วนี่ครับ ว่าเพชรจะไม่กลับไปที่นั่นอีก...ถ้าแม่มีจะพูดแค่นี้ เพชรวางนะครั..."
(เดี๋ยวลูก)
"..."
(คือ...พ่อเราป่วย แถมตอนนี้ความดันขึ้นสูงมาก หยุดอยู่บ้านมา3วันแล้ว)
ใจผมหล่นวูบ
"มะ แม่อย่ามาโกหกเลย...เพชรไม่เชื่อ"
(จริงๆนะลูก แม่อยากให้เรามาดูพ่อเค้าซะหน่อย...เดี๋ยวเดียวก็ยังดี)
"อย่าใช้วิธีนี้เพื่อให้เพชรกลับบ้านเลยครับ แค่นี้นะครับ"
ผมไม่รู้เลยว่าพ่อป่วยแบบที่แม่บอกจริงๆหรือไม่ แต่ผมไม่ต้องการจะกลับไปบ้านหลังนั้นจริงๆ
"หายไปคุยตั้งนานแน่ะ" ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกริ่ม ยังนั่งอยู่ตรงที่เดิม
"อือ"
"พี่อยากเจอแม่เราบ้างจัง"
"เอ่อ...บ้านเพชรไกลน่ะ"
"แค่หนองแขมเอง ไม่เห็นไกลขนาดนั้น"
"ยะ อย่าเลย"
"ทำไมล่ะ เพชรจะไม่พาพี่ไปให้ที่บ้านรู้จักเลยอ่อ" มันกระเง้ากระงอด
"แม่เค้าไม่ค่อยว่างหรอก...ขนาดเพชรยังไม่ค่อยได้กลับบ้านเลย"
"อ่าวเหรอ..."
อะไรบางอย่างบนหน้าผมคงบอกให้ไอ้พี่พฤกษ์หยุดตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว
ในหัวตอนนี้กำลังสับสน ผมควรกลับไปที่บ้านไหมนะ
"เรา...ไม่สบายใจอะไรรึเปล่าครับ"
"ปะ เปล่า...เพชรโอเค"
"บอกพี่ได้นะ"
ผมส่ายหัว
เราเงียบกันนาน ผมมองออกไปกลางแม่น้ำที่ตัดผ่านสวนสาธารณะ แต่ดูเหมือนมองออกไปในความว่างเปล่าแทน เพราะไม่รับรู้ภาพธรรมชาติด้านหน้าเลย
ส่วนไอ้พี่พฤกษ์ยังจ้องผมอยู่
"น้องเพชร"
"..."
"พี่รู้นะว่าตอนนี้เรากำลังมีเรื่องไม่สบายใจ อย่าปิดบังพี่เลย..."
"เปล่า"
"บอกพี่มาเถอะ"
ผมไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังทั้งสิ้น
"พี่จะเซ้าซี้ทำไม บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร"
"พี่ไม่อยากให้เราเก็บเรื่องเครียดไว้กับตัวคนเดียว...พี่จะได้ช่วยไงครับ"
ผมหันกลับมามองไอ้พี่พฤกษ์ แววตามันดูทั้งอ่อนโยน ทั้งอ้อนวอน ทั้งเป็นห่วง ทั้งน้อยใจ ต้องการที่จะค้นความจริง
มันคงรู้ได้ทันทีว่าผมไม่ปกติหลังวางสายจากแม่
"พะ พี่ช่วยไม่ได้หรอกเรื่องนี้"
"เรื่องอะไรล่ะครับ เพชรยังไม่เล่าให้ฟังเลย แล้วพี่จะรู้ได้ไงว่าช่วยไม่ได้"
"ก็บอกว่าช่วยไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่องรึไง"
ผมเริ่มหงุดหงิด เรื่องนี้ไอ้พี่พฤกษ์ไม่มีทางเข้าใจหรอกถ้ามันไม่ใช่ผม
"พี่เป็นห่วงเรานะครับ"
ยิ่งมันต้องการที่จะรู้แค่ไหน ผมยิ่งกดดันมากขึ้นเท่านั้น
"เพชร"
"อย่ามายุ่ง"
ผมตวาด ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินหนีออกมาจากสวน ไม่กล้าหันกลับไปมองหน้าไอ้พี่พฤกษ์อีก

สองชั่วโมงต่อมา ผมมายืนอยู่หน้าสถานที่ที่เคยเรียกว่าบ้าน โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพาตัวเองมาถึงที่นี่ได้อย่างไร
สิ่งของทุกอย่างหน้าบ้านยังอยู่ในตำแหน่งเดิม เหมือนเมื่อหลายเดือนก่อนที่ผมจะจากไป กระถางต้นไม้หลายสิบใบและบัวรดน้ำของพ่อ โต๊ะกลมตัวเล็กที่พ่อมักจะใช้นั่งอ่านหนังสือพิมพ์หรือดื่มกาแฟ โซนอุปกรณ์และข้าวของซึ่งรับบริจาคมาไว้สำหรับแจกเด็กๆในมูลนิธิของแม่
ประตูเปิดอยู่ ผมจึงเดินเข้าไปโดยไม่ส่งเสียงเรียก
"เพชร"
แม่ลุกขึ้นจากโซฟาหน้าทีวีและปรี่เข้ามาจับมือผมไว้แน่น
"กลับมาแล้วเหรอลูก แม่คิดถึงเพชรมากรู้มั้ย"
แม่พยายามจะเข้ามากอด แต่ผมดันตัวออกห่างและดึงมือแม่ออก
"พ่ออยู่ไหน"
"เอ่อ...คือ พ่อเค้านอนอยู่ข้างบนน่ะ"
"แม่พาพ่อไปหาหมอรึยัง"
"ไปมาแล้ว หมอบอกว่าความดันขึ้นสูง...สะ สูงกว่าครั้งก่อนๆอีก...พึ่งมาถึงเหนื่อยๆ อยากกินอะไรมั้ยลูก เดี๋ยวแม่ทำให้กิน"
"ไม่ครับ"
ผมเดินไปนั่งลงที่โซฟาแทน
แม่เดินมาหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างผมแล้วหายเข้าไปในครัว
อะไรบางอย่างทำให้ผมแอบเดินตามหลังไปเงียบๆ และหยุดอยู่หลังกำแพงห้องครัว
แม่พูดด้วยเสียงเบาเกือบกระซิบ แต่ผมได้ยินทุกคำชัดเจน
"คุณคะ เพชรกลับมาบ้านแล้ว...อย่าพึ่งเดินเข้ามาในบ้านนะคะ ฉันบอกลูกว่าคุณนอนป่วยอยู่บนห้อง...เดี๋ยวฉันจะคุยกับลูกไว้ ไม่ให้ขึ้นไปข้างบนค่ะ...แล้วคุณก็เข้ามาทางข้างหลัง ค่อยๆแอบขึ้นห้องไป..."
ผมมือสั่น นี่พ่อกับแม่โกหกผมจริงๆสินะ
"...ค่ะ แค่นี้นะคะ"
"แม่ครับ"
แม่สะดุ้ง หันมาหาผมด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
"เพชร"
"เพชรขึ้นไปหาพ่อก่อนนะ"
ผมปั้นหน้ายิ้มเสแสร้ง
"ยะ อย่าพึ่งไปเลยลูก พ่อเค้าพึ่งหลับไปไม่นาน...รออีกสักเดี๋ยวนะ"
"เหรอครับ...งั้นเพชรไปรอหน้าบ้านก่อนก็ได้"
"เอ่อ เพชรไม่อยากกินอะไรเลยเหรอ แม่อยากทำให้กินนะ" แม่เดินตามผมออกมาที่ห้องนั่งเล่น มือไม้พันกันยุ่งเหยิง เห็นได้ชัดว่าทำตัวไม่ถูก
"ไม่เลยครับ ว่าแต่มูลนิธิแม่ยังอยู่ดีมั้ย"
"ดะ ดีสิจ๊ะ เหมือนเดิมเลย"
"แหม ดีจังครับ...แม่ไม่ลองรับเด็กสักคนมาเลี้ยงที่บ้านล่ะ"
ไม่มีเสียงตอบ นาทีถัดมาแม่น้ำตาคลอ
"ทะ ทำไมเพชรพูดแบบนี้ลูก"
"แล้วแม่โกหกทำไมว่าพ่อป่วย" ผมกลับมาใช้น้ำเสียงปกติ ละทิ้งท่าทีสบายอกสบายใจ
"มะ แม่ขอโทษลูก แม่กับพ่อแค่อยากให้เพชรกลับมาบ้า..."
"กลับมาให้คนที่บ้านทำแบบนี้เหรอครับ...นี่พ่อกับแม่จะโกหกเพชรกี่เรื่องกัน ชีวิตเพชรยังโดนโกหกไม่พออีกใช่มั้ย"
ผมตะโกนสุดเสียง ตอนนั้นเองที่พ่อวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
"เพชร อย่าว่าแม่เลยลูก พ่อเป็นคนบอกแม่เองให้โกหกว่าพ่อป่วย"
"ไม่ต้องออกรับแทนหรอกครับ เพราะทั้งพ่อกับแม่ก็ชอบโกหกมาตั้งแต่เพชรเด็กๆอยู่แล้วนี่ครับ"
"ฟังก่อนลูก"
แม่ร้องไห้และทรุดลงไปกองกับพื้น พ่อวิ่งเข้ามาประคอง
"เพชรไม่ฟังอะไรทั้งนั้น...คิดแล้วว่าพ่อต้องไม่ได้ป่วย ตะ ต่อไปนี้เพชรจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว"
ผมวิ่งออกไปจากบ้าน ไม่เหลียวกลับมาตามเสียงเรียกของพ่อแม่อีก
ขณะที่กำลังวิ่งอยู่นั้น น้ำตาผมเองก็ไหลออกมาด้วยเช่นกัน

ผมเลิกร้องไห้แล้ว แต่ไม่อาจลบภาพเหตุการณ์เมื่อบ่ายได้เลย แล้วผมก็ไม่ได้นึกถึงแต่พ่อกับแม่ด้วย
ผมคิดถึงไอ้พี่พฤกษ์
มันไม่ติดต่อหาผมเลยตั้งแต่ตอนนั้น
ผมรู้สึกรังเกียจตัวเองที่ใจอยากให้มันตามมาหาผม

TBC

พ่อกับแม่โกหกอะไรเพชรกันนะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP28 "อย่ามายุ่ง" 18/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 18-10-2018 08:56:00
 :pig4: :pig4: :pig4:

รับเด็กมาเลี้ยง?


เพชรไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ใช่ป่ะ 


เลยโกรธหาว่าพ่อแม่โกหก
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP28 "อย่ามายุ่ง" 18/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-10-2018 11:24:40
เพชรเหมือนเด็กมีปัญหาอ่าาา   เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องทำความเข้าใจเน้อ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP28 "อย่ามายุ่ง" 18/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: LoveAlone ที่ 18-10-2018 16:48:50
 :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP28 "อย่ามายุ่ง" 18/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 18-10-2018 22:39:25
เรื่องที่บ้านนี่มันยังไง แต่ก็ไม่น่าไปลงกับพี่มันอย่างงั้นนะ เพชรนิสัยไม่ดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP29 "พ่อกับแม่โกหกเพชรทำไม" 25/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 25-10-2018 19:42:18
EP29 "พ่อกับแม่โกหกเพชรทำไม"

ตั้งแต่จำความได้ ไม่มีวันไหนเลยที่ผมไม่ดื้อกับพ่อแม่ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมถูกสปอยล์ หรือเพราะเป็นลูกคนเดียวของบ้านกันแน่
หรือมันอาจเป็นนิสัยแย่ๆของผมเองก็ได้
พ่อผมเป็นวิศวกร ดูแลลูกน้องในฝ่ายอีกหลายสิบคน ผมมักจะตามพ่อไปที่บริษัทแล้วเดินดูไลน์ผลิตตั้งแต่ต้นจนจบปลายทางเสมอ โดยสัญญากับพ่อว่าจะไม่ซุกซน จะไม่หยิบจับอะไร และการเดินชมจะอยู่ในการดูแลของพ่อหรือลูกน้องพ่อเท่านั้น
แต่โตขึ้นมา ผมกลับไม่ได้สนใจงานด้านวิศวกรรมเลยสักนิด
ส่วนแม่ผมทำมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้า มีผู้ช่วยและอาสาสมัครในมูลนิธิรวมกันประมาณเกือบร้อยชีวิต จากจำนวนทีมงานคงไม่ต้องบอกว่าจำนวนเด็กๆเยอะกว่าขนาดไหน
มูลนิธินี้แม่ก่อตั้งขึ้นเองครับ ด้วยเงินทุนที่แม่สะสมมาตอนทำงานอยู่บริษัทก่อนผมเกิดเสียอีก แต่ตอนนี้มูลนิธิขยายตัวขึ้นมาก ได้รับเงินทุนสนับสนุนและสิ่งของบริจาคมากมาย แม่เองได้ออกงานสังคม รายการโทรทัศน์และวิทยุอยู่บ่อยๆ
ในทางตรงกันข้าม ผมไม่ชอบไปมูลนิธิของแม่เลย ผมไม่ชอบคนที่นั่น เด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกันมักจะมองผมแปลกๆ หรือผมรู้สึกไปเองก็ไม่รู้ว่าทุกคนทำตัวแปลกๆกับผม
'น่าอิจฉาเด็กคนนั้นเนอะ แล้วดูเด็กคนอื่นๆที่นี่สิ'
ผมเคยได้ยินเจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดถึงผม และยังจำประโยคนั้นได้แม่นจนถึงทุกวันนี้
ผมเข้าใจดีว่าประโยคนั้นหมายถึงอะไร
เพราะในชีวิตผมไม่เคยรู้สึกขาดเลย แม้พ่อกับแม่จะทำงานหนักขนาดไหน รับผิดชอบสูงแค่ไหน แต่ไม่เคยบกพร่องเรื่องเวลาที่ให้ลูก ทั้งสองดูแลผมเป็นอย่างดี
และผมก็ไม่เคยไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการสักครั้ง แค่เอ่ยปากบอก สิ่งใดๆก็ตามจะมาวางอยู่ตรงหน้าในไม่ช้า
ผมคิดว่าตรงนี้แหละที่ทำให้ผมกลายเป็นคนเอาแต่ใจและอารมณ์ร้อน
ผมสอบเข้าโรงเรียนประถมศึกษาที่ดีที่สุดของประเทศไม่ได้ แต่ผมก็ได้เข้าเรียน ผมสอบเข้าโรงเรียนมัธยมศึกษาที่ดีที่สุดของประเทศไม่ได้ แต่ผมก็ได้เข้าเรียนเช่นกัน
ด้วยการที่พ่อแม่บริจาคเงินจำนวนมหาศาลให้โรงเรียน
ผมจึงถูกตราหน้าว่าเป็น 'เด็กฝาก' มาตลอด
'กูจะบอกมึงให้นะไอ้เด็กฝาก ถ้าพ่อแม่มึงไม่รวย มึงไม่มีทางเข้ามาเรียนที่นี่ได้หรอก'
ผมจัดการอัดไอ้คนพูดประโยคนี้จนช้ำในต้องเข้าโรงพยาบาล
ถามว่าผมรอดจากโทษพักการเรียนหนึ่งเทอมมาได้อย่างไร
ก็เพราะเงินของพ่อกับแม่อีกนั่นแหละ
จะว่าไปแม่งโคตรน่าสมเพชร เพราะมันก็จริงอย่างที่นักเรียนคนนั้นพูดกับผม
'จริงๆแล้วโทษของวชิระคือพักการเรียนหนึ่งเทอมเลยนะครับคุณพ่อคุณแม่ แต่ทางโรงเรียนเห็นว่านี่เป็นความผิดครั้งแรก เลยตัดสินว่าเหลือแค่ทำทัณฑ์บนเอาไว้ก็พอ'
คำพูดผู้อำนวยการฟังดูดีใช่ไหมครับ แต่คุณครูอีกหลายคนมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจหรือแอบส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย
เรื่องชกต่อยของผมไม่ได้มีแค่ตอนเข้าม.1มาใหม่ๆหรอกครับ แต่มันมีมาเรื่อยๆ ก็ด้วยนิสัยเลือดร้อน ไม่ชอบขี้หน้าคนง่ายๆ และหน้าตาผมที่ทำให้คนเห็นหมั่นไส้ได้ง่ายๆ นำพามาซึ่งการทะเลาะวิวาทเสมอ
แล้วผมก็รอดจากเรื่องพวกนี้ไปได้ทุกครั้ง
ผมเคยสอบตก4วิชาและถูกประเมินไม่ให้เกรดอีก2วิชาในเทอมเดียว ซึ่งหากเป็นนักเรียนคนอื่นควรเก็บกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากโรงเรียนได้แล้ว แต่ผมก็ได้เลื่อนขึ้นไปเรียนชั้นถัดไปกับเพื่อนๆเหมือนไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
ชิวิตในโรงเรียนของผมน่าทุเรศใช่ไหมล่ะ
ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจ ผมตั้งใจว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลดีๆให้เป็นของขวัญพ่อกับแม่ ให้ภูมิใจอย่างที่พวกเขาไม่เคยได้รับจากผมเลย
ผมรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คนโง่หรือไม่มีหัวสมอง แค่ขี้เกียจก็เท่านั้น เพราะงั้นผมจึงทบทวนบทเรียนมากขึ้น ไปเรียนพิเศษวิชาที่จะใช้สอบเข้าคณะทางด้านบริหารธุรกิจ เปลี่ยนแปลงตัวเองในด้านการเรียนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ในที่สุด ผลการสอบตรงก็ประกาศออกมา
ผม print out รายชื่อนักเรียนที่สอบผ่านเข้าไปในมหาวิทยาลัยพร้อมกำใส่มือกลับบ้าน เพื่อจะบอกข่าวดีที่สุดในชีวิตให้พ่อแม่ทราบ
สองทุ่มกว่าแล้วที่ผมย่องเข้าบ้านเงียบๆ เห็นพ่อกับแม่กำลังคุยกันอยู่ที่โซฟาตัวยาว
"วันนี้ลูกบอกรึเปล่าว่าจะไปไหน"
"เปล่านี่"
"งั้นฉันจะโทรหาลูกแล้ว นี่มันมืดแล้วนะ"
"อีกสักเดี๋ยวดีกว่า ปกติถ้าลูกไม่เรียนพิเศษ กลับถึงบ้านก็เกือบทุ่มแล้วนะคุณ"
"ก็นี่สองทุ่มแล้วนะคะ"
"เอาน่า อีกสักเดี๋ยว ให้เค้าไปผ่อนคลายกับเพื่อนๆหรือทำอะไรตามใจชอบบ้างเถอะ...ช่วงสอบ เค้าก็อ่านหนังสือเต็มที่"
"ก็จริงนะ ฉันอยากรู้ผลสอบเร็วๆแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะประกาศสักที"
แน่นอนว่าผมไม่ได้บอกเรื่องวันประกาศผลสอบหรอกครับ รอจะเซอร์ไพร้ส์วันนี้
"ผมภูมิใจมากเลยนะคุณ เพชรเคยเป็นเด็กเกเร แต่ตอนนี้เค้าเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเยอะเลย"
"นั่นสิคะ ถ้าเค้าสอบเข้าเรียน finance ได้ อนาคตจะต้องดีมากแน่ๆ"
ผมกำลังจะก้าวเท้าพ้นธรณีประตู แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของพ่อ
"ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อแม่เค้าอยู่ที่ไหนเนอะ ถ้ารู้ว่าลูกชายเป็นเด็กน่ารักขนาดนี้คงภูมิใจเหมือนพวกเรา"
นี่มัน...หมายความว่าอะไร
"ฉันคิดไม่ผิดเลยที่เลือกเค้ามาอยู่กับเรา...คุณจำวันที่เราเจอเค้าครั้งแรกได้มั้ย"
"ได้สิ แค่คุณเห็นเค้าก็หลงรัก รีบบอกเจ้าหน้าที่ขอมาเลี้ยงทันที"
"คุณก็ชมว่าน่ารักน่าชัง มาแย่งฉันอุ้มเหมือนกันแหละน่า"
ผมถูกเลือก ถูกพามาอยู่ที่นี่งั้นเหรอ
"ก็จริงนะ...ผมว่าใครเห็นเค้าก็ต้องอยากรับไปเป็นลูกทั้งนั้นล่ะ...จะว่าไป..."
"อะไรเหรอคุณ"
"เราควรบอกความจริงลูกรึยังนะ"
"ไม่ได้นะคะ" แม่ส่งเสียงห้ามทันที
"ทำไมล่ะ"
"เค้ากำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย กำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญมาก...ฉันกลัวว่าลูกจะรับไม่ได้"
"แต่ลูกโตแล้วนะคุณ"
"ไม่ได้ ลูกรู้ตอนนี้ไม่ได้แน่ๆ"
"งั้นคุณจะบอกเค้าเมื่อไร"
"ฉัน...ไม่รู้"
"แต่เราจะปิดบังเรื่องนี้ไปตลอดก็ไม่ได้นะ"
"มะ ไม่ต้องกังวลว่าเพชรจะรับไม่ได้หรอกครับ"
ผมทนฟังต่อไปไม่ไหว ตัดสินใจเดินเข้าไปยืนกลางบ้าน
"เพชร"
ไม่มีความตกใจไหนมากเท่าของพ่อกับแม่ผมในตอนนี้ ไม่สิ เค้าไม่ใช่พ่อกับแม่แท้ๆด้วยซ้ำ
"พะ เพชรกลับมาตั้งแต่เมื่อไรลูก" พ่อตะกุกตะกักถาม
ผมตอบช้าๆ
"ตั้งแต่ที่พ่อพูดว่าเลือกเพชรมาอยู่ที่นี่นั่นแหละ"
"คะ คือ มันไม่ใช่แบบที่เพชรกำลังเข้าใจนะลูก" แม่รีบบอก
"หรอครับ" ความโกรธพุ่งขึ้นมาจนล้น ขนาดนี้แล้วแม่ยังจะโกหกปิดบังผมอีกงั้นเหรอ "แล้วมันเป็นแบบไหนล่ะครับ"
ไม่มีคำตอบจากแม่
"พ่อ...ผิดเองแหละลูก...อย่าไปโทษแม่เค้าเลย"
"เพชรไม่ได้โทษแม่คนเดียวนี่ครับ...เพชรคิดว่าพ่อกับแม่ก็โกหกด้วยกันทั้งคู่"
ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้อง ผมจ้องเข้าไปในตาของพ่อกับแม่ ต้องการที่จะรู้ความจริงทุกอย่าง และเห็นความเสียใจอย่างแสนสาหัสสะท้อนกลับมา
น้ำตาแม่ไหล
"จะมีใครพอบอกเรื่องจริงผมได้มั้ยครับ"
ไหนๆก็รู้แล้วว่าสองคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่ให้กำเนิดผม ผมก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
แม่เอามือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น พ่อเข้าไปประคองแม่ให้นั่งลงที่โซฟาก่อนจะค่อยๆเรียบเรียงเรื่องราว
"พ่อกับแม่...ไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆของลูก...พะ พวกเรามีลูกไม่ได้"
ผมเปิดปากถามคำถามต่อไปอย่างลำบาก
"ถ้างั้น...พ่อกับแม่ไปรับเพชรมาจากไหน..."
"จากมูลนิธิ..."
แบบนี้สินะ
"ระ รู้มั้ยว่าใครเป็นพ่อแม่เพชร"
แม่สะอื้นหนักขึ้นไปอีก พ่อเป็นคนตอบ
"เราไม่รู้เลยลูก"
แสดงว่าผมก็เป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งสินะ
แต่โชคดีกว่าเด็กคนอื่นๆตรงที่มีคนรับมาเลี้ยง
ทำไมผมไม่เคยสงสัยพฤติกรรมของคนที่มูลนิธิเลยนะ
ทำไมไม่เคยเอะใจว่าหน้าตาผมไม่มีส่วนไหนที่ได้มาจากพ่อกับแม่
"พ่อกับแม่โกหกเพชรทำไม"
ไม่มีคำตอบ แต่ผมเองก็ไม่ได้อยากรู้สักเท่าไรหรอก
'น่าอิจฉาเด็กคนนั้นเนอะ แล้วดูเด็กคนอื่นๆที่นี่สิ'
และถึงตอนนี้ผมเข้าใจความหมายจริงๆของประโยคนี้แล้ว
ผมเข้าห้องนอนทันที ไม่กินข้าว ไม่ตอบเสียงเรียกของพ่อแม่ ไม่ได้เอากระดาษผลสอบให้พวกเขาดู แต่ขยำทิ้งแล้วปาลงถังขยะไป
เพราะมันไม่มีความหมายใดๆอีกแล้ว
ความตื่นเต้นดีใจและภูมิใจในตัวเองหายไปเกลี้ยง
ผมหมกตัวอยู่แต่ในห้องจนถึงวันถัดมา คิดใคร่ครวญทุกอย่างเพื่อตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับชีวิต และก็พบทางออก
ผมบอกพ่อกับแม่เรื่องผลสอบตรงพร้อมๆกับเรื่องที่จะขอไปอยู่คอนโดใจกลางเมืองแถวมหาวิทยาลัย
แน่นอนว่าเห็นความดีใจของพ่อแม่ได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น
"ทำไมล่ะลูก"
"เพชรว่ามันสะดวกกว่า มหา'ลัยคงจะเรียนหนักขึ้น กิจกรรมก็เยอะ ถ้าต้องเดินทางไปกลับทุกวัน เสียเวลาชีวิตครับ"
ระยะทางจากบ้านผมไปรถไฟฟ้าห่างกันแค่ไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น และมหาวิทยาลัยเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวก็ถึง
ผมรู้ทันทีว่าพ่อกับแม่เข้าใจถึงเหตุผลจริงๆที่ผมขอไปอยู่คอนโดคนเดียว
และรู้ด้วยว่าพวกเขาเสียใจมาก
แต่ควรจะรู้ด้วยว่าผมเองก็เสียใจมากเหมือนกัน
เทอมสุดท้ายของมัธยมฯผ่านไปโดยที่ความสัมพันธ์ของผมกับครอบครัวอุปการะไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ผมไม่พูดไม่จา ไม่อยู่ติดบ้าน ถึงกลับมาบ้านก็หนีเข้าห้องตัวเอง
และเห็นแม่ร้องไห้โดยมีพ่อนั่งปลอบอยู่บ่อยครั้ง
วันที่ผมย้ายของไปอยู่คอนโด ผมเรียกรถแท็กซี่2คันมาขนย้าย ร่ำลาพ่อกับแม่ด้วยประโยคสั้นๆเพียงประโยคเดียว
"เพชรไปนะครับ"
ไม่มีคำสัญญาว่าจะกลับมา
ชีวิตผมต้องเจอเรื่องโกหกหลอกหลวงอีกกี่ครั้งกัน

"อ้าวเพชร"
พี่ชลเป็นคนมารับหน้าบ้าน พลางยกมือไหว้ตอบผม
"มาหาไอ้พฤกษ์เหรอ"
"ครับ"
คนที่ผมอยากเจอมากที่สุดตอนนี้ก็คือไอ้พี่พฤกษ์
"เข้ามาก่อนดิ"
พี่ชลดึงแขนผมแล้วพาไปนั่งที่โซฟา
"พี่ถามไรหน่อย"
ผมพยักหน้า ไม่รู้ทำไมเวลามีคนเปิดประโยคมาแบบนี้ ผมถึงรู้สึกว่ามันจะต้องตอบยากแน่ๆ
"ทะเลาะกับไอ้พฤกษ์มาใช่ปะ"
"เอ่อ...ครับ"
"พี่รู้แล้วนะ เรื่องที่มันชอบเราอะ"
ผมนิ่งอึ้ง พี่ชลรู้ได้ยังไง
"พี่ถามมันเองแหละ เห็นว่ามันกับเราตัวติดกันตลอด จริงๆก็ดูไม่ยากเลยนะ..."
ผมเลียริมฝีปากอย่างนึกกังวล
"พี่ไม่ได้จะกีดกันอะไรนะ ไม่สนด้วยว่ามันจะรักใคร เพศไหน สนแค่ว่าชีวิตน้องพี่มันยังมีความสุขดีอยู่รึเปล่าแค่นั้น"
พี่ชลยิ้มให้อย่างอ่อนโยน จับไหล่ผมเบาๆ
"เดี๋ยวคุยกับไอ้พฤกษ์มันแล้วกัน พี่เรียกให้ลงมาละ...มันโกรธอยู่ แล้วก็ง้อยากหน่อยนะ เพราะมันไม่ค่อยจะโกรธอะไรใครเท่าไร แต่ก็เพราะมันแคร์เราจริงๆ"
เดี๋ยวเดียวไอ้พี่พฤกษ์ก็ลงมา สีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก และพอเห็นผม ก็ยิ่งดูหนักขึ้นไปอีก
"มาๆ"
พี่ชลเดินไปลากมันมานั่งข้างๆผม
"พะ พี่พฤกษ์"
ผมเรียกเสียงค่อย
"เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกแปบนึงนะ"
พี่ชลยิ้มให้กำลังใจผมอีกครั้งก่อนเดินออกไป
"พี่พฤกษ์"
"ครับ"
มันตอบกลับเสียงแข็ง
"คือ...เพชรขอโทษ"
ผมเข้าเรื่องทันที
"ขอโทษเรื่องอะไร"
"ที่สวนลุมฯ...เพชรพูดไม่ดี..."
"ไม่ต้องขอโทษ เพชรไม่อยากให้พี่ยุ่งเรื่องของเพชรไม่ใช่รึไง"
"ขอโทษครับ"
"พี่ผิดเองแหละที่เข้าไปวุ่นวายกับชีวิตเราอะ"
"มะ ไม่ใช่"
"ถ้างั้น" ไอ้พี่พฤกษ์ลุกขึ้นยืน "เรามาทำไม ในเมื่อไม่อยากให้พี่ยุ่ง"
"ฟังเพชรก่อน"
ผมกอดเอวพี่มันไว้แน่น มันดูตกใจ
ผมเองก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน เกิดมาไม่เคยง้อใครขนาดนี้ แต่รีบรั้งไว้เพราะกลัวมันเดินหนีไป
"เพชร...จะเล่าให้พี่ฟังทุกอย่าง"
"ไม่ต้องแล้วล่ะครับ"
"พี่พฤกษ์ เพชรขอโทษ"
มันมองผม อะไรบางอย่างในตาไอ้พี่พฤกษ์บ่งบอกว่ากำลังใจอ่อน
"เพชรไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้เลย ไอ้เจมส์ก็ไม่รู้...แต่เพชรมีเหตุผล แล้วก็จะบอกพี่ เพราะเพชรแคร์พี่"
ไอ้พี่พฤกษ์นิ่งเงียบ
"เพชรไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อแม่...เพชรถูกทิ้งแล้วพ่อกับแม่เก็บมาเลี้ยง"

TBC

เพชรมีปมแบบนี้นี่เอง เป็นกำลังใจให้ทั้งเพชรทั้งพี่พฤกษ์ต่อไปด้วยนะ #พฤกษ์เพชร
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP29 "พ่อกับแม่โกหกเพชรทำไม" 25/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-10-2018 21:26:20
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP29 "พ่อกับแม่โกหกเพชรทำไม" 25/10/18
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-10-2018 02:02:11
 :pig4: :pig4: :pig4:

ถึงจะถูกเก็บมาเลี้ยง  แต่เขาก็รักราวกับลูกในไส้

ทำไมไม่คิดบ้างในประเด็นนี้  แล้วถามหน่อยเหอะ 

ไอ้สิ่งที่แกทำอยู่เนี่ย  เขาไม่ได้เรียกว่า โกหกคนอื่นอยู่หรือไง?

รมเสีย
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP30 "เพชรชอบพี่" 28/5/2020
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 28-05-2020 10:36:37
EP30 "เพชรชอบพี่"

"เพชรไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อแม่...เพชรถูกทิ้งแล้วเค้าเก็บมาเลี้ยง"

สีหน้าไอ้พี่พฤกษ์เปลี่ยนจากโกรธขึ้งเป็นตกใจหลังได้ยินประโยคนั้น

"วันนี้แม่โกหกว่าพ่อป่วย...ให้เพชรกลับบ้าน"

มันยืนนิ่ง ก้มลงมองผม ผมเองก็ยังกอดเอวมันไว้แน่น

"เพชรไม่อยากไปที่บ้านอีกแล้ว"

น้ำตาผมไหลอีก พี่พฤกษ์ยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ เป็นเวลานานกว่ามันจะพูดขึ้นอีกครั้ง

"เพชร...ฟังพี่นะ"

ผมพยักหน้า สบสายตากับคนที่แคร์มากที่สุดในตอนนี้

"การที่เด็กคนนึงจะโตขึ้นมาได้ เราคิดว่าใครสำคัญที่สุดในชีวิตเขา"

"พ่อแม่"

"กลับกัน ถ้าขาดพ่อแม่ เด็กจะโตขึ้นมาเป็นไง"

"มะ ไม่รู้…แต่ชีวิตก็คงลำบากกว่าคนที่มีพ่อแม่" ผมสูดจมูก

"ใช่...ถ้างั้นเราคิดว่าตัวเองอยู่กลุ่มไหนครับ"

ผมกัดริมฝีปากแทนคำตอบ และไอ้พี่พฤกษ์คงรู้ทันทีว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่

"ในใจเราคงตอบพี่ว่ากลุ่มที่ขาดพ่อแม่ แต่ผิดนะ" ผมมองมันอย่างไม่เข้าใจ "เพชรไม่ได้ขาดเลย เพชรมีทั้งพ่อและแม่ครบถ้วน...ถ้าถามพี่นะ มันไม่สำคัญเลยว่าท่านจะเป็นคนให้กำเนิดเรารึเปล่า ที่สำคัญกว่าคือสิ่งที่ท่านทำให้เพชร เลี้ยงดูอย่างดีจนอยู่มาถึงตอนนี้ รักเหมือนกับเป็นลูกแท้ๆของตัวเอง" ผมนิ่ง ไม่มีอะไรจะโต้แย้งไอ้พี่พฤกษ์ ได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมไม่เคยคิดอะไรแบบนี้ได้เลย

"เพชรยังโชคดี มีเด็กอีกหลายคนที่ไม่มีแม้กระทั่งคนเลี้ยงดู พวกเขาโตขึ้นมาด้วยตัวเอง คิดดูสิว่าลำบากกว่าเราขนาดไหน"

แววตาไอ้พี่พฤกษ์บ่งบอกถึงความอ่อนโยนแต่ก็จริงจังอย่างเห็นได้ชัดด้วย

"พี่อาจจะไม่รู้จักหรือเข้าใจพวกท่านเท่ากับเพชร แต่พี่แน่ใจว่าทุกอย่างที่ท่านทำก็เพื่อเรา ท่านรักเรา แม้จะต้องโกหกหรือปิดบังความจริง"

ผมเริ่มคิดทบทวนตามคำพูดไอ้พี่พฤกษ์ และเมื่อเห็นแบบนั้น มันจึงพูดต่อ

"พี่รู้ว่ามันยาก แต่เราจะทำร้ายคนที่รักเราแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะแค่เขาไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆยังงั้นเหรอ"

"พะ เพชร..."

มันนั่งลง มือข้างหนึ่งจับมือผม มืออีกข้างโอบผมเข้าไปแนบกับบ่า

"เพชรลองกลับไปคิดดูนะ พี่ทำได้แค่แนะนำ แต่สุดท้ายแล้วเราเป็นคนตัดสินใจเอง"

ผมอ้อยอิ่งอยู่ที่บ้านไอ้พี่พฤกษ์จนฟ้าเริ่มมืด แน่นอนว่ามันรู้ว่าผมคิดอะไร

"ไม่กลับคอนโดรึไง จะทุ่มนึงแล้วนะ" ผมหน้าเสีย เจ้าของบ้านพูดส่งแขกถึงขนาดนี้

"พี่พฤกษ์ เพชรขอโทษ...หายโกรธเพชรนะครับ"

ผมรู้สึกผิดจริงๆ แล้วก็ต้องการให้พี่มันยกโทษให้ ไม่เอาอีกแล้วกับท่าทีเย็นชาไม่สนใจกันแบบนั้น

"ก็เห็นเราบอกว่าไม่อยากยุ่งกับพี่"

"พี่พฤกษ์" ผมเรียกเสียงอ่อย

"ครับ" มันตอบห้วน

"เพชรอยากให้พี่ยุ่ง ไม่อยากให้พี่ไปไหน"

พึ่งรู้ว่าไอ้พี่พฤกษ์โกรธก็คือโกรธจริงๆ ที่แกปลอบผม สอนผมเมื่อกี้ก็แค่เรื่องที่บ้าน แต่ที่ผมอาละวาดเมื่อบ่ายมันคนละเรื่องกัน

"เข้าใจรึยังว่าพี่รู้สึกแย่แค่ไหนตอนที่เราไม่อยากให้พี่ยุ่ง พอพี่ไม่อยากยุ่งกับเราบ้าง"

"เข้าใจแล้ว" ผมตอบเสียงเบา

"งั้นอย่าทำอีก มีอะไรก็เล่าให้พี่ฟัง รู้มั้ยครับ"

"ครับ...คืนนี้เพชรขอนอนกับพี่นะ"

"หืม ทุกทีบ่ายเบี่ยง ทำไมวันนี้จะมานอนด้วย"

"นะคร้าบบ"

"อืม"

เกือบเที่ยงคืนแล้ว ทั้งผมทั้งไอ้พี่พฤกษ์อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ผมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ

"พี่พฤกษ์...ยังโกรธอยู่อ่อ"

"เปล่า ไม่ได้โกรธแล้วล่ะ...มานี่"

มันดึงผมมากอด

"พี่รักเรานะครับ"

"คะ ครับ"

"นอนกันมั้ย"

"อือ"

มันลุกไปปิดไฟ แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่ม ผมทำตาม

"พี่อยากให้เราโตขึ้น อยากให้เรามีความสุข...ให้พี่อยู่กับเรานะครับ"

ผมขยับมือเข้าไปกุมมือไอ้พี่พฤกษ์

"วันนี้ขี้อ้อนเป็นพิเศษนะ" มันว่า ผมมองมัน รู้สึกดีแบบบอกไม่ถูก เห็นรอยยิ้มบางๆตอบกลับมาและรู้ว่ามันก็กำลังรู้สึกแบบเดียวกับผมเช่นกัน

 

หลังจากวันที่เกิดเรื่องและผมไปง้อไอ้พี่พฤกษ์ที่บ้าน ผมคิดไว้อยู่เรื่องหนึ่ง คือคิดหาวันที่จะกลับไปหาพ่อกับแม่ผม และแน่นอนว่าจะพาไอ้พี่พฤกษ์ไปด้วย

กิจกรรมหลังเลิกเรียนของนิสิตม.ผมมีอยู่ไม่กี่อย่างหรอกครับ ไม่ไปเดินเล่นห้างฯ ก็อยู่ที่ร้านเหล้า โดยเฉพาะเย็นวันศุกร์ด้วยแล้ว นิสิตหลายคนเลือกที่จะไปฉลองวันหยุดสุดสัปดาห์กับเพื่อนที่ร้านเหล้า

“พรุ่งนี้เรียนเสร็จอยากทำอะไรมั้ยครับ” ไอ้พี่พฤกษ์ถามผมในคืนก่อนหน้า

“ไม่รู้ดิ…พี่อยากทำอะไรเป็นพิเศษมั้ย”

“อืมม…ทำอะไรก็ได้ แค่อยู่กับเพชรก็พอ” จับได้ชัดเจนว่าท้ายประโยคของมันกำลังหยอด

สุดท้ายเราก็ตกลงกันว่าไอ้พี่พฤกษ์จะมาเล่นที่คอนโดผม ทำอะไรง่ายๆกินกันที่คอนโด แล้วก็อาจจะหาหนังใน Netflix ดูกันสักเรื่อง เพราะงั้นผมที่เลิกเรียนก่อนในวันศุกร์ จึงมานั่งรอที่ม้าหินแถวๆตึกที่มันเรียนครับ

“น้องเพชร”

ไอ้พี่พฤกษ์เอ่ยเสียงเรียก ยิ้มกว้างเมื่อผมหันไปหา มันเดินมาพร้อมกับพี่ริว พี่เกี้ยง ไอ้พี่สองคนนี้ก็พอๆกับไอ้เจมส์ ไอ้นิวเลย เห็นผมกับไอ้พี่พฤกษ์ทีไรแซวตลอด

“ฮั่นแน่ ใครมารอมึงถึงตึกเรียนเลยวะพฤกษ์”

“เสือกละไอ้ริว”

“แหมๆๆ เจอแฟนแล้วลืมเพื่อนเลยนะสาดด” ไอ้พี่ริวกวนประสาทต่อ ไอ้พี่พฤกษ์ก็รีบหันไปทางเพื่อนมัน คงจะกำลังส่งกระแสจิตกันว่า ‘อย่าพึ่งพูดว่าผมเป็นแฟน’

“ไรพี่ริว” ผมทำเสียงเข้ม

“อะๆ ยังไม่ใช่แฟนก็ได้ว้า แต่กูว่าอีกไม่นานหรอก ไม่ใช่แฟนวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะเป็นแล้วก็ได้…เออ ว่าแต่ กูถามอะไรพวกมึงหน่อยดิ”

“ไอ้ริว กูรู้มึงจะถามอะไร” พี่เกี้ยงพูดพลางขำ

“ไอ้ห่าเกี้ยง มึงจะรู้ดีไปหน่อยละ…ไหนถ้ามึงรู้จริง ถามมันสองคนแทนกูดิ”

“ได้กันยัง” พี่เกี้ยงหันมามองผม

“พ่อมึงเหอะริว สาดด” ไอ้พี่พฤกษ์แหวเพื่อนทันที และแม่งเสือกหน้าเป็นสีแดงขึ้นมา

“เออ รู้ใจกูจริงๆ…เอ้า ว่าไงล่ะพวกมึง ได้กันรึยัง”

“ยังจะถามอีก” ผมกัด

“เออ ห่า มึงนี่นะ” พี่พฤกษ์สนับสนุน

“พี่นี่อยู่กับไอ้เจมส์ได้เลย แม่งถามอยู่นั่น” ผมเผลอหลุดปากว่าเพื่อนผมก็ถามเรื่องนี้เหมือนกัน

“เห็นมั้ย ใครๆเขาก็อยากรู้กันทั้งนั้นอะ สรุปเป็นผัวเมียกันยังครับ”

“ไม่ใช่โว้ย/ยังโว้ย” ผมและไอ้พี่พฤกษ์ตอบ

“หึหึ โกหก”

“โกหกไร กูพูดจริงเว้ย” ไอ้พี่พฤกษ์ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ ผมเดาว่ามันกำลังนึกถึงเรื่องที่เรา เอ่อ ทำอะไรกันคืนนั้นแน่ๆ

ชิบหาย พอผมคิดตาม ก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเหมือนกันด้วยแฮะ

“กูก็ไม่เชื่ออะ หน้าแดงทั้งคู่เลย” ไอ้พี่เกี้ยงหัวเราะ

“พอๆ แซวน้องมันพอแล้วพวกมึง…ปะ เพชร ไปกันดีกว่า อย่าไปสนใจพวกแม่งเลย” ไอ้พี่พฤกษ์ฉุดผมลุกขึ้นยืนแล้วพาเดินออกไปที่ลานจอดรถ หนีจากเพื่อนมันสองคน

“ได้กันแล้วแน่ๆ พวกมึงอะ กูไม่เชื่อหรอก”

ไอ้ห่าพี่ริวยังตะโกนตามหลังมาอีกแน่ะ คนเขามองกันทั้งคณะแล้วเห็นม้าย

“เวลาเพื่อนพี่แซว เขินปะ” ไอ้พี่พฤกษ์ถามขึ้นเมื่อเรามาอยู่ด้วยกันในรถแล้ว

“ไม่อะ เพชรก็โดนไอ้เจมส์ ไอ้นิวแซวประจำ”

“5555 ดีแล้ว อย่าไปถือสาพวกมันนะ โดยเฉพาะไอ้ริว พูดมากทั้งวัน”

“เพชรไม่คิดอะไรหรอกน่า พี่ต่างหาก หน้าแดงก่อนเขาอีก”

ไอ้พี่พฤกษ์เกาหัวแก้เขิน

“ว่าแต่…” สักพักมันก็หันมายิ้มอย่างมีเลศนัย ผมรู้ทันทีว่ามันกำลังจะกวนตีน พออยู่กันสองคนนี่ไม่เห็นอายเหมือนตอนอยู่กับเพื่อนเลย มีแต่หื่นใส่ผมอะ

“ไรพี่”

“เมื่อไรเราจะทำแบบที่ไอ้ริวบอกอะ…โอ๊ย” ท้ายประโยค ผมต่อยแขนมัน

“ทะลึ่ง”

“พี่รู้นะว่าเราก็คิด”

“คิดไร ใครจะหื่นเหมือนพี่ บ้าเปล่า”

“อย่ามาหลอกกันเลย เมื่อกี้เราก็หน้าแดงเหอะ พี่เห็น” มันยิ่มกรุ้มกริ่ม

“อากาศมันร้อนต่างหาก”

“หรา”

ผมเปลี่ยน mp3 ในรถไอ้พี่พฤกษ์เป็นเพลงโปรด

“ว่าแต่เย็นนี้พี่อยากกินอะไรครับ” ถามไปงั้น ผมคิดไว้แล้วว่าจะกินอะไรที่คอนโด

ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มแป้น ละสายตาจากถนนมามองผมครู่หนึ่ง

“ยิ้มไร”

“ยิ้มไม่ได้รึไง” มันตอบกวนๆ

“เหมือนคนโรคจิต”

“โห่ย เซ็ง…จะโรแมนติกกับเขาบ้าง โดนหาว่าเป็นคนโรคจิตซะงั้นอะ”

ผมหัวเราะ

“ไหนๆ จะโรแมนติกยังไง”

ผมสบตาไอ้พี่พฤกษ์ จริงๆแล้วมันเป็นตัวบอกทุกอย่างได้เลยว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ผมเคยเห็นสายตาที่เศร้าสร้อยแม้ว่าริมฝีปากมันกำลังยิ้ม เคยเห็นสายตาที่อ่อนไหวแม้กระทั่งมันกำลังขึงขังหรือไม่พอใจ และตอนนี้แววตาของมันบ่งบอกว่ากำลังมีความสุขมาก

ผมเองก็มีความสุขมากที่ได้อยู่กับมัน

“เพชรรู้มั้ยว่าตัวเองน่ารัก”

“หือ ยังไง”

“ก็เราทำตัวน่ารัก เป็นเด็กดี ไม่ดื้อกับพี่ไงครับ”

“หึหึ นี่เพชรไม่ดื้อแล้วอ่อ”

“น้อยลงมาก ตั้งแต่ที่เราเจอกันวันแรก”

ผมเขินก็เลยเงียบ หันหน้าไปยังถนน ไม่กล้ามองหน้าไอ้พี่พฤกษ์ ตั้งแต่ที่คุยกับมัน ไม่รู้เป็นอะไร เขินพร่ำเพรื่อตลอด ไม่คิดเลยว่าชีวิตผมจะมีวันมาเขินผู้ชายด้วยกันแบบนี้

“เขินเหรอครับ” นั่น และไม่ใช่ว่าผมรู้ทันความคิดมันฝ่ายเดียว มันเองก็อ่านผมออกอย่างง่ายดายไม่ต่างกัน

“เปล่าซะหน่อย”

“ขี้เก๊ก”

“ไม่ได้เก๊ก”

“ฟอร์ม”

“ไม่ได้ฟอร์ม”

“หึหึ”

เมื่อมาถึงห้อง ไอ้พี่พฤกษ์ก็ตั้งท่าจะทำครัวทันที

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเพชรทำให้ พี่ไปนั่งเล่นรอเลย”

มันขยี้หัวผมก่อนจะเดินออกจากโซนครัวไปนั่งดูทีวี

มันขับรถมาเหนื่อยแล้ว ไม่ต้องมาเหนื่อยทำอาหารให้ผมกินอีกหรอก

อีกอย่าง ผมอยากเป็นฝ่ายดูแลมันบ้าง

ผมเองทำอาหารพอใช้ได้ ตั้งแต่ที่มาอยู่คอนโดคนเดียวได้ฝึกทำกินเอง จะให้กินข้างนอกทุกมื้อก็เบื่อแย่ครับ วันนี้ผมว่าจะทำแกงกะหรี่เนื้อให้ไอ้พี่พฤกษ์กินครับ เห็นมันบ่นเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าอยากกิน เมื่อวานเลยแอบไปซื้อวัตถุดิบมาเตรียมไว้

“เราจะทำอะไรให้พี่กินน้า” มันส่งเสียงมาจาก living room “ตื่นเต้นจัง”

“เว่อร์น่า”

“จะอร่อยมั้ยน้า”

“อย่าคาดหวังสูงนะ เพชรทำงูๆปลาๆ”

“งูๆปลาๆได้ไง พี่กินทั้งทีนะครับ” มันแกล้งทำเสียงเข้ม

“จะกินไม่กิน”

“กินคร้าบ”

คนรอกินเดินเข้ามาป่วนในครัวจนได้ พอเห็นว่าผมหั่นเนื้ออยู่ แล้วก็เห็นน้ำแกงกะหรี่ที่ต้มอยู่ในหม้อ มันฝรั่ง หัวหอมวางรอไว้ทำต่อ ไอ้พี่พฤกษ์ก็ยิ้มกว้างหน้าบาน

“น่ารักจัง ทำแกงกะหรี่ให้พี่กินเหรอ”

“แกงจืด” ผมกวนตีน

“กลิ่นหอมฉุยเลย”

“พี่ก็เกินไป”

“ชมจริงๆนะ”

มันเดินเข้ามาซ้อนหลัง วางคางลงบนไหล่ผม มือทั้งสองข้างแตะเอวผม

“ไหนดูหน่อย”

“ระวังนะ เพชรหั่นเนื้ออยู่”

ผมหันไปสบตากับมัน หน้าเราห่างกันไม่กี่นิ้ว ใจผมเต้นแรงแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“พี่พฤกษ์มากวนเพชรงี้เมื่อไรจะเสร็จ ไปนั่งรอเลยไป” ผมโวย

“คร้าบ…” มันลากเสียงอย่างอารมณ์ดี ยอมปล่อยผม

 

“หือ อร่อยอะ” ไอ้พี่พฤกษ์ตาโต ตักแกงกะหรี่เข้าปากอีกหลายคำหลังจากนั้น

“เว่อร์” ผมยิ้มกริ่ม ปากก็ว่ามัน แต่ใจนี่พองโต หึ ฝีมือผมอร่อยแน่นอนอยู่แล้ว

“ไม่ได้เว่อร์ อร่อยจริงๆ…ทำหลายครั้งแล้วใช่ปะ”

“สองสามครั้งเอง”

“เรานี่ก็ทำอาหารเก่งนะเนี่ย” มันยิ้มแก้มตุ่ย “แล้วทำอะไรเป็นอีกบ้าง”

“ได้หมดอะ อาหารไทยก็ได้ ฝรั่งก็ได้ เกาหลีก็เคยทำ แต่ทำขนมไม่เป็นนะ” ผมได้ทีโม้ซะเลย แต่ที่พูดไป ก็เคยทำมาหมดแล้วจริงๆครับ

“ขอตัวอย่างซิ”

“ผัดกะเพรา ก๋วยเตี๋ยวก็เคยทำกินเอง สปาเก็ตตี้ สเต็ก ซุปกิมจิ…อีกเยอะอะ”

“หูยย ไว้พี่ต้องมาฝากท้องที่คอนโดเราบ่อยๆแล้วแหละ”

“แน่ะ ไม่ต้องมาเลย รู้นะว่าจะมาทำไม” ก็หน้าไอ้พี่พฤกษ์อะดิ หื่นชิบ แค่มองก็รู้แล้วว่ามันคิดอกุศลอะไรอยู่

“5555555555555 พี่มาแค่กินข้าวจริงจริ๊ง”

ไม่เกินสิบห้านาที แกงกะหรี่เนื้อหนึ่งหม้อก็หมดเกลี้ยงด้วยชายฉกรรจ์ผู้หิวโหยสองนาย

“เดี๋ยวพี่ล้างจานให้นะ” ไอ้พี่พฤกษ์รวบจาน ลุกขึ้นจะเดินไปห้องครัว

“เห้ย ไม่ต้อง เดี๋ยวเพชรจัดการเอง พี่นั่งดูทีวีไปเหอะ”

“ม่ายอาว เราทำอาหารให้พี่กินแล้ว หน้าที่พี่ต้องล้าง เรานั่นแหละไปนั่งพัก”

“ไม่ต้องน่า เพชรล้างแปบเดียว”

“เดี๋ยวพี่ล้างให้ครับ”

“อะๆ งั้นก็ไปล้างด้วยกันเนี่ยแหละ”

ผมกับมันช่วยกันล้างจาน มีสองสามหนที่มือเราสองคนสัมผัสกันโดยบังเอิญ ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มไม่หุบ ในขณะที่ผมไม่กล้าสบตามันเลย

 

สามทุ่มกว่าแล้ว ผมกับไอ้พี่พฤกษ์อาบน้ำพร้อมนอนเรียบร้อย ปกติผมจะใส่แค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวสบายๆ แต่นี่ไอ้พี่พฤกษ์อยู่ด้วย เขินครับ (เขินรอบที่ล้าน) เลยใส่เสื้อยืดอีกตัว

ส่วนแขกก็เหมือนกัน ใส่เสื้อยืดและกางเกงบ๊อกเซอร์ของผม แต่เลือกตัวที่ใหญ่ๆให้หน่อย เพราะมันตัวหนากว่าผมนิดนึง นี่ถ้าอยู่บ้านมันเองคงหนีไม่พ้นชุดนอนแบบเสื้อกับกางเกงเป็นลายเดียวกัน แค่ผมนึกถึงก็ขำพรืด

“ขำราย”

“เปล่า…ใส่ชุดเพชรได้ใช่มั้ยครับ”

“ได้ แต่ถ้าให้สบายกว่านี้ ไม่ต้องใส่อะไรนอนเลยก็ได้นะ” มันว่าพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“พ่อพี่ดิ”

“น้องเพชร” มันดุ

ไอ้พี่พฤกษ์นั่งอยู่ปลายเตียง มองผมที่กำลังใช้ไดร์เป่าผมอยู่

“มองไร”

“ก็เรามันน่ามองอะ”

ผมส่ายหัว หวั่นสายตาหื่นกามของมันขึ้นมานิดๆแฮะ

“เดี๋ยวดูหนังกันมั้ยพี่”

“ได้คร้าบ”

พอเป่าผมเสร็จ ไอ้พี่พฤกษ์ก็ฉุดแขนผมลงมานั่งข้างมัน

“พี่มีอะไรจะบอก”

“หืม” ผมเห็นสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมผิดปกติมองมา

“คือ พี่ว่ามันก็นานแล้วนะ…ที่เราคุยๆกัน”

มันกุมมือผม ตั้งแต่เมื่อไรกันนะที่ผมยอมให้มันจับมือแบบนี้

“พี่อยากรู้ว่า…เพชรรู้สึกอะไรกับพี่บ้างมั้ย”

เงียบไปนาน ผมคิดถึงความรู้สึกตัวเองและเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนอยู่ ไอ้พี่พฤกษ์ก็ใจจดใจจ่อรอคำตอบ

ผมเป็นคนชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองนะ ถ้าชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ และอยากที่จะแสดงออกหรือทำอะไรได้ตามความรู้สึกจริงๆของตัวเอง

และก็จริงอย่างที่ไอ้พี่พฤกษ์ว่า จนถึงตอนนี้มันก็นานพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วว่าผมรู้สึกดีกับมันมากแค่ไหน และอยากมีมันอยู่ด้วยกันไปตลอด บางคนอาจจะมองว่าสามสี่เดือนเป็นเวลาที่น้อยไปสำหรับการทำความรู้จักกัน หรือบางคนอาจจะมองว่าไม่ต้องดูกันนานถึงสามสี่เดือนแล้วค่อยตัดสินใจคบกัน ซึ่งผมไม่เห็นว่ามันจำเป็นจะต้องไปใส่ใจเรื่องพวกนั้นทำไม ถ้าใจบอกว่าใช่ก็คือใช่สิ เวลาไม่ใช่สิ่งที่สลักสำคัญอะไรเลย

“เพชรชอบพี่”

ผมบอกคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง กุมมือมันให้แน่นขึ้น

คนรับสารหน้าเป็นสีแดงหน่อยๆ

ผมมองสำรวจไอ้พี่พฤกษ์ ใครจะไปนึกว่าอยู่ๆผมก็มาลงเอยกับผู้ชายด้วยกัน แล้วก็เป็นผู้ชายในฝันของใครหลายคนด้วย ขาวตี๋ หน้าคม สูงชะลูด กล้ามแน่น พิมพ์นิยมสุดๆ

“งั้น…เรามาคบกันมั้ยครับ”

ไอ้พี่พฤกษ์พูดจบก็จ้องเข้ามาใกล้ขึ้นอีก บรรยากาศรอบข้างเงียบเสียจนได้ยินเสียงหัวใจมันเต้นเร็วถี่

ของผมเองก็เต้นตึกตักเหมือนกัน

“ครับ”

คำตอบรับของผมทำเราทั้งคู่เสียอาการ มันยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น ผมเขินจนต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง

แต่มือเราทั้งคู่ยังประคองจับกันอยู่

หลายนาทีผ่านไป เรายังนั่งกันอยู่อย่างนั้น

“ขอบคุณนะครับที่ตอบตกลงพี่”

“อือ เพชรก็ขอบคุณพี่พฤกษ์นะครับ” ในชีวิตผมพูดดีกับใครแทบนับครั้งได้เลย ทำดีมาก็น้อยกว่าไม่ดี แต่ผมอยากตอบแทนสิ่งดีๆที่มันมอบให้ผม “เพชรไม่ใช่คนดีอะไร เกเร เป็นเด็กมีปัญหาด้วยซ้ำ…แต่พี่ก็ยังเลือกเพชร”

ไอ้พี่พฤกษ์ลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน

“พี่ก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก”

“แต่เพชรสัญญานะ ว่าจะปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนดีขึ้น”

“ครับ…พี่รักเพชรนะ”

สิ้นคำนั้น ไอ้พี่พฤกษ์ขยับเข้ามาจนเห็นทุกอย่างบนใบหน้าได้ชัดเจน มันค่อยๆประกบปากเข้ากับปากผม และจูบอย่างนุ่มนวล

ผมจูบตอบ วางมือลงบนอกไอ้พี่พฤกษ์ มันเองก็วางมือโอบเอวผมไว้หลวมๆ

TBC
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP31 "พี่พฤกษ์รักเพชรนะครับ" 27/7/2020
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 27-07-2020 09:00:25
EP31 "พี่พฤกษ์รักเพชรนะครับ"
พี่พฤกษ์

เราจูบกันเนิ่นนาน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไรแล้ว มันเป็นความรู้สึกดีที่สุดที่ผมเคยรู้สึก ริมฝีปากบางสีแดงของเพชรช่างเย้ายวนเสียจนผมไม่ต้องการที่จะผละออกเลย
"อืมมม...พะ...พี่พฤกษ์" น้องเป็นฝ่ายขยับออก หน้าขึ้นสีแดงเพราะเขิน ผมเองก็ไม่ต่างกันหรอก
แต่มันดันมีอย่างอื่นมานอกเหนือจากความเขินด้วยน่ะสิ
"ครับ" ผมรับคำ เลียริมฝีปากอย่างกระหาย ยังไม่พอใจกับจูบเมื่อครู่
"ไอ้บ้า ไอ้ลามก"
"หืม"
เพชรมองที่เป้ากางเกงผมเร็วๆแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น น้องชายผมมันตื่นเต็มที่และดันกางเกงจนนูนเด่นเห็นได้ชัด
เพชรจะขยับตัวหนีแต่ไม่สำเร็จเพราะผมกอดตัวน้องเอาไว้แน่น
"พี่จะทำอะไร" น้องเริ่มโวยวาย
"เพชร...พร้อมมั้ยครับ"
"พร้อมไรเล่า ไอ้บ้า"
ผมปิดปากน้องด้วยจูบที่สอง ครั้งนี้หนักหน่วงรุนแรง ไม่นุ่มนวลเหมือนเมื่อครู่ อารมณ์มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ น้องเองไม่ได้ขัดขืนแต่จูบตอบผม
มือที่กอดเพชรเริ่มเลื้อยไปตามลำตัว ทั้งลูบไล้และบีบคลึงเบาๆเป็นการกระตุ้น เดี๋ยวเดียวก็เห็นว่าน้องเองก็มีอารมณ์ตามผมมาเหมือนกัน
"พร้อมแล้วนี่ครับ" ผมแซว น้องต่อยแขนผม
"เพราะพี่อะ"
"ครั้งนี้พี่ขอนะครับ"
น้องไม่ตอบอะไรแถมยังเบือนหน้าหนีอีกครั้ง ผมจับตัวน้องเอนลงบนเตียงเบาๆแล้วขึ้นคร่อมทับ
"พะ...พี่พฤกษ์"
"คร้าบ" หรือว่าน้องยังกลัวอยู่นะ
"จะ...จะทำแล้วจริงๆเหรอ"
"เพชรอยากให้พี่ทำรึยังครับ"
น้องเงียบไป ผมมองสบตาคนที่ผมรักที่สุด เอื้อมมือลงไปลูบหัวน้องเบาๆ
"ถ้าเพชรยังไม่..." ผมเริ่มลังเล
"เพชรกลัวเจ็บ"
"โอ๋..." ผมจูบหน้าผากน้องอย่างอ่อนโยน "เจ็บแหละครับ แต่พี่สัญญาว่าจะค่อยๆทำนะ"
เพชรพยักหน้าช้าๆ ผมดีใจจนเนื้อเต้น ถอดเสื้อออกที่หัวแล้วลงซุกไซร้ซอกคอน้องทันที
"อะ อ้าา..." เพชรร้องครางกระสันเมื่อผมลากริมฝีปากผ่านคอ ลามเลียขึ้นไปถึงแก้มและหู หอมฟัดแก้มเนียนของน้องและควานลิ้นแหย่รูหู
น้องดิ้นพล่าน ตัวสั่น ขยับขาสีขาผมด้วยความเสียว
"พี่พฤกษ์...เพชรเสียว...อืออ" เสียงน้องยิ่งทำให้อารมณ์ผมพลุ่งพล่าน คืนนี้ผมไม่มีวันปล่อยน้องหนีไปไหนแน่
ผมถกเสื้อน้องขึ้นแล้วถอดออกเหวี่ยงไปบนพื้น
พระเจ้า เรือนร่างน้องโคตรเซ็กส์ โคตรดึงดูดอะไรขนาดนี้ ถึงผมจะเคยเห็นน้องเปลือยท่อนบนมาแล้วก็เถอะ แต่วันนี้มันดูน่าหลงใหลมากกว่าครั้งที่แล้วอีก ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพที่เห็นตรงหน้ามันคือเรื่องจริง
"ไอ้หื่นเอ๊ย" น้องว่า มองตามสายตาผมและมือที่ไล้เวียนไปตามลำตัวน้องอย่างพึงพอใจ
"เราก็หื่น ไม่ใช่พี่คนเดียวหรอก ดูสิ" ผมยิ้ม จ้องส่วนกลางลำตัวของเพชรที่กำลังแข็งแน่นเห็นเป็นลำชัดเจน
"ไอ้พี่พฤกษ์" น้องร้องลั่นเมื่อผมเอามือบีบเบาๆ
"อย่าหวงเลยน่า พี่เคยจับแล้วนะ ลืมแล้วเหรอ"
ผมก้มตัวลงเล่นกับหัวนมสีชมพูบนอกแน่นเปลือยเปล่าของน้อง ตวัดลิ้นเลียวนและฉกรัวๆสลับกับดูดอย่างหื่นกระหาย น้องเด้งตัวรับปากผมด้วยความเสียว
เล่นกับอกอยู่นาน ผมเลื่อนปากลงมาที่หน้าท้องเป็นลอนเกือบจะเป็นซิกแพ็คของเพชร ทั้งใช้มือลูบและใช้ปากจูบไซร้
ทันใดนั้นผมก็ดึงกางเกงน้องออก
ตอนนี้เพชรเปลือยทั้งตัวให้เห็น ผมยิ้มกว้าง ถูกใจกับร่างกายที่สวยงามของคนรักเป็นที่สุด คว้าหมับเข้าที่เพชรน้อยแล้วสาวลากๆช้าๆ
"พะ...พี่พฤกษ์ครับ"
เพชรพูดเสียงเครือ ผมขยับตัวขึ้นมาจูบกับน้องอีก คราวนี้น้องจูบผมอย่างดูดดื่ม ยกแขนขึ้นโอบรอบคอผม
"พะ...เพชร...พี่จะไม่ไหวแล้วครับ..." ผมดึงกางเกงตัวเองออกบ้าง ไม่เหลือเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆห่อหุ้มร่างเราสองคนอีกต่อไป
ผมรีบพุ่งไปหยิบถุงยางอนามัยกับเจลหล่อลื่นที่เตรียมไว้ในลิ้นชักมา จัดการตัวเองจนมาถึงน้อง
"นี่พี่เตรียมไว้เหรอ"
"ครับ...ต้องใช้ไอ้นี่นะ เพชรจะเจ็บน้อยลงนะครับ"
ผมใช้เจลกับช่องทางรักของเพชร น้องดูกังวลจนสังเกตได้
"จะ...เจ็บ" น้องร้องเมื่อผมเพิ่มจำนวนนิ้ว
"ทนนิดเดียวนะครับคนดี"
ผมจุ๊บหน้าผากแล้วลงไปซุกไซร้ตัวน้องอีกเพื่อผ่อนคลายความเจ็บ จนผมคิดว่าได้ที่แล้ว
"พี่เข้าไปนะครับ"
ผมถอดนิ้วออกแล้วสอดใส่ท่อนเนื้อแข็งร้อนเข้าไปแทน ไม่ทันไรเพชรก็ร้องดังลั่น
"อ๊าา...เพชรเจ็บ...พี่พฤกษ์"
"พี่ขอโทษนะครับ...เพชรทนอีกนิดเดียวนะ เดี๋ยวจะหายเจ็บแล้วนะ"
ผมสาบานเลยว่าผมค่อยๆทำอย่างเบาแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้คนที่ผมรักรู้สึกทรมานน้อยที่สุด ผมขยับช้าๆอย่างใจเย็น หักห้ามความรู้สึกที่อยากจะโหมกระหน่ำใส่ตัวน้องเอาไว้
"อ๊าา...พี่พฤกษ์" เพชรหน้าเป็นสีแดงก่ำ กัดปาก แสดงความเจ็บปวด แต่ผมกลับมองว่ามันเซ็กซี่ยั่วยวนที่สุด
"เชื่อใจพี่นะครับ"
ผมเข้าไปได้จนสุดทาง โน้มตัวลงไปโลมเลียยอดอกสวยอีกครั้งและขยับสะโพกช้าๆแต่หนักแน่น และเข้าสุดออกสุด
"อ๊ะๆๆ...อ๊า...อือ..." ผมโคตรชอบฟังเสียงนั่นเลย
"อืมมม...อ่าาา..."
ผมยกขาน้องขึ้นสูงมาพาดบ่า มือคลึงเขี่ยเค้นหัวนมน้องและเริ่มซอยถี่ขึ้น
"พะ พี่พฤกษ์ อ่าา"
"เพชร...อืมม..."
ผมเพิ่มความรุนแรงและความเร็วไปเรื่อยๆจนตัวน้องลอยขึ้นจากเตียง ทำไปสักพักก็อดใจไม่ไหวต้องดึงตัวเพชรขึ้นมาจูบอีก
เราจูบกันนัวเนีย ผมสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวลิ้นเพชรมาแลกน้ำลายกัน เพชรให้ความร่วมมือผมเต็มที่และดูเหมือนจะหายเจ็บแล้ว ความเสียวซ่านแผ่คลุมไปทั่วเราทั้งคู่
จูบเสร็จผมก็ไม่เสียเวลาลงไปดูดเลียหน้าอกน้องต่อ ข้างที่ไม่ได้อยู่ในปากผมก็โดนมือผมบีบคลึงเล่น ท่อนล่างก็ไม่หยุดขยับเลยแม้แต่วินาทีเดียว
เพชรครางดังลั่นห้อง ไม่รู้ห้องข้างๆน้องจะได้ยินกิจกรรมของเรามั้ย
ผมวางน้องลงบนเตียงแล้วเริ่มชักรูดให้น้องบ้าง พร้อมๆกับที่ซอยอย่างต่อเนื่อง
"สะ...เสียว..."
"พี่...ก็เสียว...ครับ...อ้าา..."
ไม่นานนักเพชรก็ปลดปล่อยออกมาเต็มมือผม ผมเสียวมากจนช่วงท้ายขยับรัวเร็วจนน้องตัวสั่นหัวคลอน เสียงเนื้อกระทบกันดังก้อง และแล้วผมก็รีบถอนออกในจังหวะสุดท้าย ดึงถุงยางและปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องน้อง
เราสองคนหอบตัวโยน อกขยับถี่เร็วเพื่อเอาอ๊อกซิเจนเข้าไป มันสุดยอดมากๆครับ ภาพเพชรขยับตัวใต้ผมและร้องครวญครางยังปรากฏชัดในหัว
"พะ...พี่รักเพชรนะครับ"
"เพชรก็รัก...พี่พฤกษ์" น้องยิ้มบางๆให้ ผมก้มลงไปคลอเคลียน้องอีกครั้ง
เพชรเปลี่ยนสถานะเป็นทั้งแฟนและเมียผมในคืนเดียวกันเลย

หลังจากนั้น เราก็อยู่ด้วยกันแทบทุกวันเลยครับ ไม่ผมมานอนคอนโดน้อง น้องก็ไปนอนบ้านผม สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งคือพ่อแม่และพี่ชายผมไม่ว่าอะไรเรื่องนี้สักคำ ซ้ำยังเอ็นดูเพชรมากๆเลยด้วยครับ
"ขอบคุณนะครับ...ที่ไม่รังเกียจผม" เพชรบอกทุกคนในครอบครัวผมที่โต๊ะอาหาร ในวันที่ผมตัดสินใจเล่าความสัมพันธ์ของเราให้ที่บ้านรับรู้
"อย่าคิดอย่างนั้นนะลูก พวกเราไม่รังเกียจเลยจ้ะ...แม่ไม่สนใจเลยว่าพฤกษ์จะมีแฟนเป็นใคร ขอแค่คนนั้นรักลูกชายแม่จริงๆ"
"ต่อไปก็ดูแลกันและกันนะลูก...เวลาทะเลาะกันก็ใจเย็นๆ นึกถึงสิ่งดีๆที่เราทำร่วมกันมา" พ่อผมบอก ยิ้มอย่างใจดีให้เพชร
"พี่ดีใจนะที่เป็นเพชร...ขอบใจที่รักน้องพี่นะ"
พี่ชลพูดบ้าง ขยับมายีหัวเพชรเล่นอย่างมันเขี้ยว
น้องหันมายิ้มกว้างน่ารักให้ผม
เหลือเพียงแค่ครอบครัวเพชรเท่านั้น ผมแอบหวั่นใจนิดๆว่าพวกท่านจะยอมรับผมมั้ย
แต่เพชรเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวมาก วันหนึ่งน้องก็บอกผมว่าจะกลับไปหาพ่อแม่เขาและพาผมไปเปิดตัวด้วย ท่าทางดูไม่เกรงกลัวหรือวิตกกังวลอะไรสักนิด
"เพชรว่ามันถึงเวลาแล้ว...เพชรอยากขอโทษพ่อกับแม่...แล้วเพชรก็จะพาพี่พฤกษ์ไปด้วย"
เช้าวันเสาร์ที่เงียบสงบ ผมขับvolvoสีเงินคู่ใจมาจอดที่หน้าบ้านเพชร น้องบอกว่าอยู่กันแค่สามคน แต่บ้านใหญ่พอๆกับบ้านผมเลย สวนหน้าบ้านมีหญ้าสีเขียวชอุ่ม กระถางต้นไม้สวยหลายกระถาง มีโรงเก็บของเล็กๆอยู่ข้างที่จอดรถซึ่งมีรถจอดอยู่สามคัน
น้องบอกว่าพ่อกับแม่ซื้อรถให้ แต่ตอนนั้นโกรธพวกท่านมากเลยไม่ยอมใช้รถ
น้องชะงักนิดนึงเมื่อเห็นพ่อเดินอยู่แถวบริเวณประตูหน้าบ้าน
ผมแตะหลังเพชรเบาๆเป็นการให้กำลังใจ น้องหันมาพยักหน้า
"เอ่อ...พ่อครับ"
พ่อน้องหันมามองด้วยสีหน้าตกใจมาก ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาลูกชาย
"เพชรลูก...พ่อคิดถึงลูกมาก"
พ่อโผเข้ากอดน้องแน่น น้องเองก็รับกอดพ่ออย่างอบอุ่น วางหน้าซบบ่าพ่อ
"เพชรกลับมาเหรอคะคุณ"
ด้วยเสียงของพ่อ ทำให้แม่น้องเดินออกมาจากในบ้าน พอเห็นพ่อลูกยืนกอดกัน แม่ก็เข้ามากอดด้วยอีกคน มือลูบทั่วหน้าตาและตัวน้อง
"เพชรกลับมาแล้วเหรอลูก...แม่ขอโทษที่โกหกวันนั้น" แม่น้องน้ำตาไหลอาบแก้ม
"พ่อขอโทษด้วยลูก"
"มะ...ไม่เป็นไรครับ...เรา...เข้าบ้านกันก่อนเถอะครับ"
ผมยกมือไหว้สวัสดีพ่อกับแม่น้อง พวกท่านหันมารับไหว้และยิ้มอย่างอบอุ่นให้
"ผมพฤกษ์ครับ เป็นรุ่นพี่เพชรที่มหาลัยน่ะครับ" ผมแนะนำตัว
"พ่อครับ แม่ครับ นี่พี่พฤกษ์...แฟนเพชรเอง"
ผมตกใจมากที่น้องบอกพ่อกับแม่ทันที ท่านทั้งสองเองก็ดูอึ้งไปเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้ต่อ ทำเอาผมทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
ถึงแม่ไม่รู้ว่าน้องจะกลับมาบ้าน แต่ก็มีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะ ไม่เหมือนอยู่กันแค่สองคนเลย
"ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกก่อนว่าจะมา" น้องว่า
"ไม่เป็นไรลูก...โชคดีที่วันนี้แม่ทำของโปรดเพชรพอดีเลยนะ" พ่อบอก
"ใช่ มีเยอะเลยลูก...พฤกษ์ทายสิว่าเพชรเค้าชอบกินอะไร"
บนโต๊ะมีผัดผัก แกงส้มชะอมไข่ ปลาช่อนทอด และยำถั่วพลู น้องมองมายิ้มๆ ในขณะที่ผมลังเลตอบ
"อืมม...ปลาช่อนทอดใช่มั้ยครับ"
"สมเป็นแฟนเพชรจริงๆ เก่งมากจ้ะ" แม่เอ่ยชม
ผมเดาเอาจากที่น้องชอบกินของทอดแล้วก็ชอบกินปลาน่ะครับ นี่ถ้าตอบผิดก็เตรียมมุดลงใต้โต๊ะอาหารได้เลย
"เอ่อ พ่อครับ แม่ครับ"
พ่อกับแม่น้องนิ่งฟังสิ่งที่ลูกชายจะพูด
"ก่อนกินข้าว เพชรอยากขอโทษ...ขอโทษทุกเรื่องเลยนะครับ...ที่เพชรเคยเป็นเด็กเกเร ทำตัวไม่ดี พูดจาไม่ดี...โกรธแล้วก็ไม่ยอมพูดด้วย...ขอโทษโดยเฉพาะวันที่เพชรรู้ความจริง..."
พ่อกับแม่น้องน้ำตารื้นขึ้นมา น้องเองก็เริ่มตัวสั่น ผมเอื้อมมือไปกุมมือน้องอยู่ใต้โต๊ะ
"เพชรรู้สึกผิดมากๆ...เพชรรู้ว่าสิ่งที่ทำมันแย่...แต่เพชรอยากขอโอกาสแก้ตัวได้มั้ยครับ...เพชรขอเป็นลูกของพ่อกับแม่ได้มั้ยครับ..."
สิ้นคำนั้น พ่อกับแม่ก็ลุกมากอดน้อง สามพ่อแม่ลูกกอดกันร้องไห้อีกครั้ง แต่น้ำตาที่ไหลออกมาจากครอบครัวนี้เป็นน้ำตาแห่งความสุขและการเริ่มต้นครั้งใหม่
ผมชื่นชมหัวใจและความคิดดีของเพชร วันนี้น้องโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกก้าวแล้ว

"ต่อไปนี้เพชรจะกลับมาหาพ่อกับแม่บ่อยๆ พี่พฤกษ์มากับเพชรนะ" น้องเอ่ยชวนเมื่อเรากลับขึ้นมาอยู่บนรถ กำลังเดินทางกลับคอนโดครับ
"ได้ครับ" ผมลูบหัวน้องอย่างรักใคร่
"ขอบคุณนะครับ" เพชรยิ้มหวานให้ น้องจะรู้ตัวมั้ยนะว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน ทั้งใจเย็นลง ห่วงใยใส่ใจคนอื่นมากขึ้น พูดจาก็น่ารักขึ้น ตอนนี้ผมหลงน้องจะแย่แล้ว
"พี่พฤกษ์รักเพชรนะครับ"
ความรู้สึกของผมเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ จากความชอบพัฒนามาเป็นความรัก และจากความรักพัฒนามาเป็นความรักที่จะไม่มีอะไรมาทำลายมันลงได้
ผมดูออกว่าน้องกำลังเขิน
"เพชรล่ะ รักพี่มั้ยครับ"
ผมรู้ว่าน้องก็รักผม แต่ถามเพราะอยากอ้อนแฟนนั่นแหละ
น้องอมยิ้ม แกล้งทำเป็นไม่ตอบ
"เพชรครับ"
"ครับ"
"รักพี่มั้ย"
น้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกม ฮึ่ม กวนนักใช่มั้ย
"ถ้าไม่ตอบว่ารักพี่...ถึงห้องแล้วไม่ได้นอนทั้งคืนนะ"
น้องสะดุ้งก่อนรีบพูด
"พี่รู้ว่าเพชรก็รักนี่...เพชรรักพี่พฤกษ์คร้าบ"

TBC
หัวข้อ: Re: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย - EP32 The End 6/8/2020
เริ่มหัวข้อโดย: writerbeer ที่ 06-08-2020 23:26:43
EP32 (The End) "โทษทีครับ กว่าพี่จะได้คนนี้มาเป็นแฟนไม่ง่าย...ใครหน้าไหนก็ห้ามจีบครับ"

หนึ่งปีในรั้วมหาวิทยาลัยผ่านไปค่อนข้างเร็ว แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมากมายและชีวิตผมเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วอยู่ดี
ที่บอกว่าชีวิตผมเปลี่ยนไปน่ะ หมายถึงเปลี่ยนไปในทางที่ดีนะ และดีมากๆเลยด้วย
เรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งเลยก็คือ ผมได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกับพ่อแม่บุญธรรมของผม ผมกับไอ้พี่พฤกษ์ไปเยี่ยมพวกท่านทุกเดือน และไม่เสียใจแล้วถึงแม้ผมจะไม่มีโอกาสได้รู้จักพ่อแม่ที่แท้จริงเลยก็ตาม
ในเมื่อผมมีพ่อแม่บุญธรรมที่รักผมเหมือนเป็นลูกแท้ๆของพวกท่าน
อีกเรื่องหนึ่งก็คือตัวไอ้พี่พฤกษ์เองนั่นแหละ
ผมที่เคยมีความสุขกับการอยู่คนเดียว ไม่มีความสัมพันธ์แบบผูกมัดกับใคร พอมามีแฟนเป็นตัวเป็นตน กลับรู้สึกว่ามันมีความสุขมากกว่าที่เคยเสียอีก
ตอนก่อนคบกัน หลังคบกันใหม่ๆ จนมาถึงตอนนี้ ไอ้พี่พฤกษ์ก็ยังเป็นคนเดิมที่สม่ำเสมอตลอดมา เราดูแลกันและกันทุกวัน และแน่นอนว่าตอนนี้ความรู้สึกของผมมันเลยจากคำว่าชอบไปไกลมากแล้ว
"เพชรครับ...กี่โมงแล้วอ่า" ไอ้พี่พฤกษ์ลืมตาตื่นขึ้นมาก็หาวฟอดใหญ่
"จะเก้าโมงแล้วครับ...เดี๋ยวนี้ตื่นสายกว่าเพชรอีก เมื่อก่อนทำมาเป็นว่าเพชรขี้เซา" ผมผลักแขนพี่มันเล่น เจ้าตัวยิ้มหวานก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด
"ก็ใครล่ะ ชอบทำให้พี่เพลียบ่อยๆจนตื่นสาย"
"ไม่ต้องมาโทษเพชรเลย พี่หื่นของพี่คนเดียว"
"คนเดียวอะไรครับ แล้วเมื่อคืนใครครางลั่นห้องอะ โอ๊ยย..."
ผมบิดหูไอ้พี่พฤกษ์ หึ พี่มันน่ะโคตรหื่นเลย ทำเกือบทุกวัน บางวันก็สองสามรอบ นี่ถ้าผมไม่แข็งแรงสงสัยคงได้นอนซมแน่ๆ
"ไอ้หื่น"
"ก็เรามันน่ารักเองนี่ครับ" พี่มันบีบจมูกผมอย่างมันเขี้ยว
"แน่ะ"
"แหะๆ"
"มันทิ่มขาเพชรอะ"
"อะไรทิ่มเหรอครับ พี่ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย" มันยิ้มกริ่มก่อนจะขยับขึ้นมาอยู่เหนือตัวผม
"อีกแล้วเหรอพี่พฤกษ์...เมื่อคืนยังไม่อิ่มเหรอ" ผมถาม หน้าแดงจัด
"เมื่อคืนอิ่ม...แต่ตอนนี้พี่หิวอีกแล้วอะดิ อืมมม..."
"อือออ..."
พี่มันกดจูบผมอย่างรวดเร็วก่อนจะสอดแทรกแก่นกายเข้ามา เดี๋ยวนี้นอนเปลือยไม่ใส่เสื้อผ้าด้วยกันทั้งคู่แล้วครับ อาศัยผ้าห่มคลุมร่างอย่างเดียว ยิ่งทำให้เวลาจะมีอะไรกันก็ง่ายเลย
แล้วผมก็เสร็จไอ้พี่พฤกษ์แต่เช้าจนได้
"พี่พฤกษ์ไปอาบน้ำ"
"เดี๋ยวดิ ขอนอนกอดเมียก่อน"
"ม่าย เหนียวตัวแล้ว"
"เหนียวอะไรครับ ทีเมื่อกี้เหนียวกว่านี้ไม่เห็นบ่นเลย"
"ไอ้พี่พฤกษ์"
"5555555555"
ไอ้พี่พฤกษ์รัดผมแน่นอย่างกับงูเหลือมแถมยังเอาหน้ามาคลอเคลียผมไม่หยุดหย่อน
"อือออ พอแล้วพี่พฤกษ์ จั๊กจี้"
"ก็พี่รักอะ"
"เพชรก็รักพี่ ไม่เห็นต้องมานัวเนียแบบนี้เลย"
"เรารักพี่น้อยกว่าที่พี่รักเราไง" ไอ้พี่พฤกษ์ทำหน้าน้อยใจปนอ้อนหน่อยๆ
"ใครบอกว่าเพชรรักน้อยกว่า"
"ถ้ารักมากกว่าก็ต้องหอมพี่ดิ"
ผมยิ้มก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาอยู่บนตัวไอ้พี่พฤกษ์ หอมฟอดใหญ่ที่แก้ม แล้วก็จูบปากอย่างดูดดื่ม เฮียเค้าดูจะพอใจมาก กอดผมแล้วลูบไปทั่วตัว
"อืมมม น้องเพชรครับ"
"อือออ พี่พฤกษ์"
"พี่ชักอยากขึ้นมาอีกแล้วดิ"
"เห้ย ไม่เอาาา" ผมร้องเสียงหลง
"น่านะ แปบเดียวนะครับคนดี..."
"อืออ...อ๊าา...พี่พฤกษ์"
ไอ้พี่พฤกษ์คนหื่นกามจับตัวผมให้อยู่ตรงกลางลำตัวมันแล้วจัดการบรรเลงเพลงรอบสองต่อ

เกือบเที่ยงแล้ว เราสองคนออกมาที่คณะ แน่นอนว่าไอ้พี่พฤกษ์เป็นคนขับรถvolvoสีเงินและผมก็เป็นตุ๊กตาหน้ารถเช่นเคย มาถึงก็ตรงดิ่งไปที่โรงอาหารทันที
"ไอ้เพชรมึงดูเหนื่อยๆนะ โดนไรมาเปล่าวะ" ดูไอ้เชี่ยเจมส์มันทักผมสิครับ น่าถีบมั้ย
"ไอ้สัส แดกข้าวไปมึงอะ"
"ไรว้า ถามแค่นี้ก็บอกไม่ได้"
ทั้งไอ้เจมส์ ไอ้นิว พี่ริว พี่เกี้ยงหัวเราะชอบใจใหญ่ วันนี้ทั้งกลุ่มผมและกลุ่มไอ้พี่พฤกษ์มานั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกันเลยครับ เพราะว่ามีเรียนแค่ตอนบ่ายแถมเรียนตึกเดียวกันด้วย
"มึงก็เบาๆกะน้องมันหน่อยดิวะพฤกษ์" พี่ริวร่วมแซวด้วยอีกคน
"ไม่ต้องเสือกเลยสาด" ไอ้พี่พฤกษ์หันไปด่าเพื่อน
ตั้งแต่คบกันมา ผมกับไอ้พี่พฤกษ์โดนสี่คนนี้ล้อจนชิน อ้อ แล้วก็ไม่ได้มีแค่สี่คนนี้ที่รู้แล้วนะครับ
ตอนนี้รู้กันทั้งมหาวิทยาลัยแล้วมั้ง
ก็ไอ้พี่พฤกษ์น่ะสิ หลังจากที่ทั้งบ้านผมบ้านมันรู้เรื่องเราสองคนแล้ว มันก็รีบประกาศกร้าวใน social เลยว่าเราคบกัน ด้วยเหตุผลสองข้อ หนึ่งคือจะได้ไม่มีคนเข้ามาหาผม สองคือมันอยากอวดจะแย่แล้วว่ามีแฟนเป็นผม- -
แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเฮียแกหรอกนะ
"ไปซื้อข้าวกัน"
"ครับ"
สี่คนเค้ากินข้าวกันจะหมดจานแล้ว ส่วนผมและไอ้พี่พฤกษ์ที่พึ่งมาถึงจึงเดินไปสั่งอาหารตามสั่งมากิน
เมื่อวานเป็นวันเปิดเทอมครับ แต่ผมกับไอ้พี่พฤกษ์ยังไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมรับน้องที่กรุ๊ปเลย
วันจับสายรหัส เราสองคนก็ไปเที่ยวอังกฤษกันอยู่ เมื่อวานตอนเย็นก็ไปกินข้าวกับพี่ชลและพ่อแม่นอกบ้าน เย็นนี้ต้องไปหาน้องรหัสและดูการรับน้องซะหน่อยแล้ว
ก่อนเข้าห้องเรียน ไอ้พี่พฤกษ์ก็ลูบหัวผมพร้อมสั่งเสีย
"ตั้งใจเรียนนะครับที่รัก"
"รู้แล้วน่า"
"ฮิ้วววววว" พี่ริวร้องตะโกนลั่น
"เรียกที่รักด้วยว่ะ" พี่เกี้ยงว่า
"ตั้งใจเรียนนะครับนิว" ไอ้เจมส์ทำเป็นหันไปลูบหัวไอ้นิวแล้วพูดเลียนแบบไอ้พี่พฤกษ์
"เดี๋ยวนิวจะตั้งใจที่สุดเลยครับพี่เจมส์" ไอ้นิวก็เล่นด้วย
"เดี๋ยวกูถีบขาคู่เลยไอ้ห่า" ผมดันหลังเพื่อนสองคนให้เดินไปข้างหน้าก่อนจะหันไปพูดกับไอ้พี่พฤกษ์อีกที
"เย็นนี้เจอกันที่กรุ๊ปเลยครับ"
"คร้าบบบ" แฟนผมยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินตามพี่ริวพี่เกี้ยงแยกไปขึ้นลิฟต์อีกฝั่ง

ผมมาถึงกรุ๊ปก่อน ซื้อโกโก้เย็นของโปรดของเฮียมันติดมือมาด้วย เพื่อนๆปี2เข้ามาทักทายผมกันยกใหญ่ เนื่องจากพึ่งมาปรากฏตัวที่กรุ๊ปวันแรกของปีการศึกษานี้ครับ
"ไอ้เพชรมึงผอมลงเปล่าวะ"
"แก ฉันเห็นรูปเซ็ตที่แกไปลอนดอนมา โคตรน่าไปเลยอ่า อยากไปมั่ง ลงอีกดิๆ"
"เมื่อวานมึงไปไหนมาสาด"
"น้องเพชร แล้วไอ้พฤกษ์อะ"
ผมค่อยๆตอบทีละคำถาม ยังตอบไม่หมดก็พอดีแฟนตัวเองมายืนโอบไหล่อยู่ข้างๆ
"พี่ซื้อน้ำมาให้เราด้วยครับ" ไอ้พี่พฤกษ์ยื่นแก้วโกโก้เย็นร้านเดียวกับที่ผมซื้อเมื่อกี้มาตรงหน้า
"เพชรก็ซื้อให้พี่เหมือนกัน" ผมหยิบแก้วโกโก้ส่งให้ไอ้พี่พฤกษ์บ้าง มันยิ้มแฉ่งก่อนจะรับน้ำไปดูด
"เฮ้อ เบื่อผัวเมียคู่นี้จังเลยเว้ย" พี่ริวว่า แล้วก็หัวทิ่มจากฝ่ามือแฟนผม
เรารอจนน้องปี1เริ่มเดินมานั่งในกรุ๊ปเพิ่มขึ้นๆ ผมหันไปถามไอ้เจมส์กับไอ้นิว
"คนไหนน้องรหัสกูวะ"
"นู่น งานพรีเมี่ยมชิบหาย" ไอ้เจมส์ตอบ ออกหน้าออกตาซะไม่มี
"เพชรไปหาน้องรหัสก่อนนะครับ" ผมบอกไอ้พี่พฤกษ์ก่อนจะหยิบชุดเครื่องเขียนที่ซื้อเตรียมไว้ให้น้องรหัสแล้วออกมาจากกระเป๋า
"เดี๋ยวพี่เอาของไปให้น้องรหัสมั่งเลยดีกว่า" ไอ้พี่พฤกษ์หันไปถามพี่เกี้ยงเหมือนกันว่าใครคือน้องรหัส
ผมเดินอ้อมกลุ่มเด็กปี1ไปหาน้องเฟิร์น นิสิตหญิงที่โคตรสวยอย่างเพื่อนผมว่า
"น้องเฟิร์น"
"คะ"
"พี่เพชร ปี2นะครับ พี่เป็นพี่รหัสเราอะ"
"อ้อ พี่เองเหรอคะ หนูชื่อเฟิร์นนะคะ อยู่ account ค่ะ"
"ครับ พี่ซื้อของมาให้นะ นี่ครับ" ผมส่งชุดเครื่องเขียนให้
"โห...ขอบคุณนะคะ พี่น่ารักจังเลย" น้องเฟิร์นยิ้มหวานน่ารักให้ผม พลันสายตาก็หันไปเห็นเพื่อนที่นั่งข้างๆน้องเฟิร์นส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้ผม
"พี่เพชรโคตรหล่อเลยอะ หนูตามพี่ในเพจ cute boy ตั้งแต่สอบเข้าได้แล้ว...หนูชื่อมิ้นนะคะ"
"ครับผม หวัดดีครับ"
น้องมิ้นมองมาด้วยสายตาที่รู้ทันทีว่าอ่อย
เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจกลับไปยืนรวมกลุ่มกับเพื่อนดีกว่า
"งั้นเดี๋ยวไว้คุยกันนะครับ น้องเฟิร์นทำกิจกรรมกรุ๊ปก่อน"
หลังจากผมเดินผละออกไป สายตาเด็กผู้หญิงปี1ก็มองตามมา บางคนซุบซิบกันเห็นได้ชัด
ตอนนี้ไอ้พี่พฤกษ์กำลังดูดโกโก้เย็นด้วยสีหน้าบึ้งตึงหน่อยๆ
ผมยังไม่ได้บอกใช่มั้ยครับว่าเฮียแกทั้งหึงทั้งหวงหนักมาก
"พี่พฤกษ์คร้าบ ทำไมทำหน้าแบบนั้น"
"หึ เสน่ห์แรงตลอดนะเรา...ดูดิ มองเพชรกันเป็นแถวเลย"
"อย่าไปสนใจเลยคร้าบ"
"ไม่สนได้ไง มีแต่คนจ้องแฟนพี่"
"บางทีเพชรเดินกับพี่พฤกษ์ คนมองพี่เต็มเลย...เอาน่า อย่าไปสนใจเลยครับ"
"ก็พี่หึงอะ" ไอ้พี่พฤกษ์บีบจมูกผม
กิจกรรมรับน้องดำเนินไปอย่างราบรื่นครับ ผมไปช่วยพวกเพื่อนปี2ทำนู่นนี่นั่นบ้าง วันนี้เล่นเกมจำชื่อกันครับ นึกย้อนไปถึงตัวเองเมื่อปีที่แล้วเลย จำใครแทบไม่ได้
เกือบหกโมงเย็นแล้วที่mcประกาศเลิกกิจกรรม น้องเฟิร์น น้องมิ้นและน้องปีหนึ่งผู้หญิงอีกสองสามคนพุ่งตรงมาที่ผม
"เอาแล้ว ไอ้เพชรซวยแน่" ไอ้นิวตบไหล่ผม
"โชคดีเว้ยเพื่อน" ไอ้เจมส์ไม่ได้หมายความตามที่พูดสักนิด
"พี่เพชร ถ่ายรูปกันค่ะ"
"อ่า ได้ครับ"
น้องเฟิร์นขยับมายืนข้างผมพร้อมชูสองนิ้วสู้ตาย
แต่พี่ใกล้ตายแล้วครับ
"พี่เพชรขา มิ้นกับเพื่อนขอถ่ายกับพี่ด้วยได้มั้ยคะ ชอบพี่มากๆเลยค่ะ นะคะ"
"เอ่อ คือ..." ผมมองหาแฟนตัวโตของผม แต่เฮียแกไม่ได้ยืนดูดน้ำและจ้องมาที่ผมแล้วอะ
"ทุกคนครับ ฟังทางนี้หน่อยครับ"
ผมหันไปอย่างตกใจ ตอนนี้ไอ้พี่พฤกษ์จับไมค์พูดอยู่หน้ากรุ๊ปครับ
"พี่ชื่อพฤกษ์ อยู่ปี4นะครับ ยินดีที่ได้รู้จักน้องๆทุกคน"
แต่ทำไมเสียงแข็งฟังดูเหมือนไม่ค่อยรู้สึกยินดีเลยล่ะคร้าบ
"น้องเพชร ปี2 finance รบกวนออกมาข้างหน้าด้วยครับ"
ชิบหายแล้วกู
"น้องเพชรครับ"
คืนนี้ผมโดนหนักแน่
"มาแล้วครับ"
"คนไหนคือน้องรหัสปี1ของน้องเพชรครับ" ไอ้พี่พฤกษ์ถามเสียงเข้ม
"น้องเฟิร์นครับ"
"มีแค่คนเดียวใช่มั้ยครับ"
"ชะ ใช่ครับ"
ตอนนี้พวกเด็กปีหนึ่งมองผมกับไอ้พี่พฤกษ์สลับกันไปมาอย่างงุนงงสงสัย ส่วนพวกปี2ขึ้นไปจนถึงปี4ต่างยืนยิ้มอย่างมีความสุขให้กับชะตากรรมของผม
เพราะทุกคนรู้ว่าไอ้พี่พฤกษ์กำลังหึง
"แล้วทำไมต้องไปยืนถ่ายรูปกับน้องอีกสี่คนที่เหลือด้วย"
"เอ่อ"
"พี่หึงรู้มั้ยครับ"
สิ้นคำนั้น เด็กปี1ทั้งกรุ๊ปก็ส่งเสียงร้องโห่แซวและกรี๊ดกร๊าดกันลั่นบริเวณกรุ๊ป
"ทุกคนครับ น้องเพชรเป็นแฟนพี่" ไอ้พี่พฤกษ์ขยับเข้ามาโอบตัวผม "โทษทีครับ กว่าพี่จะได้คนนี้มาเป็นแฟนไม่ง่าย...ใครหน้าไหนก็ห้ามจีบครับ"
ผมหน้าเป็นสีแดงด้วยความเขิน หันไปมองแฟนตัวเองแล้วก็เห็นรอยยิ้มเหี้ยมมองกลับมา
แต่ถึงจะขี้หึงขี้หวงยังไง ผมก็รักไอ้พี่พฤกษ์ที่สุดเลยครับ

End

ในที่สุดพี่พฤกษ์กับน้องเพชรก็ลงเอยกันด้วยดี แม้ว่าจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไรในตอนแรก แถมเคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นจะไม่ยุ่งกันอีก
ผมดีใจที่เพชรโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และเป็นคนที่ดีมากขึ้นเมื่อมาอยู่กับพี่พฤกษ์ แต่ดีใจมากกว่าที่พี่พฤกษ์สมหวังในความรักครั้งนี้ครับ กว่าจะได้น้องมาเป็นแฟนนี่ไม่ง่ายอย่างที่เฮียแกบอกไว้เลยจริงๆ
ขอบคุณสำหรับทุกการอ่านเลยครับ และผมยินดีมากที่ได้เขียนเรื่องราวความรักอีกครั้ง ยังไงฝากติดตามนิยายเรื่องต่อไปของผมด้วยครับ