พิมพ์หน้านี้ - His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: TofuChan ที่ 15-03-2018 11:51:11

หัวข้อ: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 15-03-2018 11:51:11

=================================================================
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



==================================================================






His Dears Hunter   :  ภารกิจพิชิตชายชู้

ความแค้นที่ต้องสะสาง
เมื่อสามีแอบหนีไปมีผัว..
เตือนตัวเองให้ลืมความชอกช้ำจากน้ำมือคนชั่ว
แล้วไปยั่วเย้า จับชู้เหล่านั้นมาทำเมีย ให้จงได้

ฟ้าถล่มยามรู้ว่าแฟนที่คบกันมา สามปีขอเลิก
ความแตกว่าแอบไปเล่นชู้ถึง สามคน
แถมยังไปเป็นเมียเขาอีกต่างหาก

โมดิฟายตัวเองเสียใหม่
ตามล่า จีบผัวของผัว
ยัดเยียดตำแหน่งเมียให้พวกมัน
เพื่อความสะใจ และก้าวต่อไปในโลกที่โหดร้าย

ความพยาบาท ไม่ใช่ของหวาน
แต่ ความพยาบาทคือ อากาศ ที่ต้องสูดดมทุกวัน..



                                                           By Tofu Chan [ โตฟูจัง ]




==================================================================

ผลงานผู้เขียน


นิยาย


Love of 1999 : มารักกัน.. ก่อนวันสิ้นโลก (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66048.0)


=================================================================

เรื่องสั้น


หมอนวดชาย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66155.0[b)


เสวนาในบาร์เบอร์ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66228.0)

==================================================================


หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Preface ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 15-03-2018 12:07:01

Preface  : มันคือภารกิจด่วนครับ ท่านผู้อำนวยการ !!


“ท่านผู้อำนวยการคะ ลูกค้าวีไอพีที่นัดไว้ มาเข้าพบท่านตามเวลาแล้วค่ะ”

“คุณนที ใช่ไหม เรียกเข้ามาได้เลย”

“คุณนทีคะ เชิญค่ะ”




“สวัสดีครับ ท่านผู้อำนวยการ”

“นั่งลงก่อนสิครับคุณนที ต้องขออภัยที่ต้องให้ลำบากมาหา ผมอยากเข้าใจตรงกัน เลยต้องเชิญมา”

“ยินดีครับ”

“ภารกิจที่ว่า มีเวลาให้ สถาบัน โจนาธาน นอร์แมน พาวเวอร์ ช่วยอบรมคุณได้นานแค่ไหนครับ”

“หกสิบวันครับ”

“ขอมากกว่านั้นได้ไหม จากบุคลิกภาพของคุณนที ต้องขออภัยที่ต้องแจ้งว่า น่าจะสัก เก้าสิบวันขั้นต่ำ”

“ผมไม่มีเวลาขนาดนั้นครับ ผมยินดีจ่ายเพิ่ม”

“แล้วเริ่มได้เมื่อไหร่ครับ หลักสูตรที่คุณนทีร้องขอมา ไม่มีในสถาบันเรา คงต้องประชุมและร่างแบบฝึกกันใหม่”

“ตอนนี้ หน้าผมเริ่มยุบแล้ว คุณหมอที่เกาหลีใต้แจ้งว่า ยังไม่ให้ออกกำลังกายหนักมาก ผมเลยขอเป็นสิ้นเดือน”

“อีกยี่สิบวัน  อืม  ผมคิดว่า เราจะระดมผู้เชี่ยวชาญร่างหลักสูตรด่วนขึ้นมาได้ทัน เพื่อคุณนทีโดยเฉพาะเลย”

“ผมหวังว่า จะได้รับการเปลี่ยนแปลงจนพอใจครับ อย่างที่ผมบอก ผมพร้อมจ่าย”

“ทางเราคิดเงินแค่ตามสมควรนะครับ แต่รับรองได้ว่าคุณจะมี อกที่ผาย ไหล่ที่ผึ่ง เดินเหิน วางท่าที ได้สมาร์ท เอ่อ..”

“พูดมาเถิดครับ”

“ก้นจะไม่บิดเวลาเดิน ไม่จีบปากจีบคอ  เอาให้ตรงเลยก็คือ คุณนที จะมีความเป็นแมนสมใจ”

“ครับ นี่เช็คที่ผมเตรียมมาวางมัดจำ แล้วสิ้นเดือนเจอกันนะครับ ท่านผู้อำนวยการ”
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Preface ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 15-03-2018 15:44:18
Prep   1 : ลากไส้มันออกมา


- หกเดือนก่อน

ห้องจัดเลี้ยงชั้นใต้ดินสุดหรู พร้อมป้าย “ปาร์ตี้ฉลองความโสด” แขวนตัวหรา
นอกจากบริกรสาวสองคน ก็มีกลุ่มนักศึกษาเพียงสี่คนที่นั่งกันอยู่บนโซฟากำมะหยี่ ซึ่งเพื่อนของผมเพิ่งอ๊วกใส่ไป 
สีอ๊วกอมเหลือง บนผ้าบุโซฟาสีม่วง มันช่วงตัดกันดีราวกับผลงานภาพเขียนของแวนโก๊ะอยู่ไม่น้อย

ผมเรียกเหล่าคนสนิทมา หลังจากที่ผมเพิกเฉยเพื่อนพ้องไปแสนนานถึงสามปี ก็แหม คนติดแฟนจะให้ทำยังไงได้ครับ เอาล่ะ วันนี้กะเลี้ยงพวกมันเต็มที่ อย่าหาว่าตบหัวแล้วลูบหลังเลยนะเพื่อน กูแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว

“ไอ้น้ำ นี่ถ้าไม่โดนไอ้กัสทิ้ง กูจะได้เห็นหน้าเห็นตามึงตามผับบาร์ไหมวะ”  เอาย้ำเข้าไป ไอ้พวกเพื่อนเชี่ย

“กูก็อยู่ตรงนี้กับพวกมึงแล้วไง  เอาเว้ย เอาให้เมา ใครกลับไม่ไหว กูเปิดห้องสวีทไว้ให้ ไปนอนแผ่สองสลึงกับขึ้นบนเลย”



เหล้าแบรนด์นอกที่เสิร์ฟจนบริกรมือล้า กับอาหารหรูหราตรงหน้า มันไม่ได้ทำให้ผมคลายจากเรื่องที่อยู่ในใจไปสักเท่าไหร่ แต่วันนี้ มันคงต้องมีเพียงเสียงเพลง และเพื่อนฝูง เพราะว่ามันเป็นคืนแห่งการฉลองความโสด

“แล้วนี่น้ำอาการดีขึ้นแล้วใช่ไหม หลิวโทรไปน้ำก็ไม่รับ” ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“อืม น้ำก็กำลังทำใจ แต่มันค้างคาใจว่า ทำไม  น้ำทำอะไรผิดวะ น้ำไม่เข้าใจเลยว่ะหลิว”

“เอ้ย มึง อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป รวยล้นฟ้าอย่างมึง เดี๋ยวก็หาเอาใหม่” เอ เพื่อนรักอีกคนช่วยปลอบ แต่ดูแล้ว ไอ้เอนี่อยากให้ผมโสดที่สุดแล้ว เพราะเมื่อก่อนผมกับมันนี่ออกเที่ยวกันทุกคืน มันคือเจ้าของ อ๊วกสไตล์แวนโก๊ะ เมื่อสักครู่

“แต่กูไม่อยากได้คนที่หวังแต่เงินของพ่อกูว่ะ”

“ไม่รอเขาหน่อย เผื่อเขาอาจคิดได้แล้วก็กลับมา” ตูน มึงยังคงโลกสวยไม่สร่างซานะไอ้ตูน มันใช่เวลาไหม

“ถ้าเขาเลือกที่จะไป เขาคงไม่กลับมาแล้วว่ะไอ้ตูน นี่แมร่ง ย้ายของออกไปหมดแล้ว”

“อ้าว แล้วมันไปอยู่ไหนล่ะวะ” เอ เอ่ยถาม “ปกติก็แมร่งไม่เห็นมีบ้านจะอยู่ ตั้งแต่มึงหิ้วมันจากเธค ก็แจ้นย้ายมาอยู่กับมึงยาวเลยนี่”  เชี่ยย  ความจำมึงนี่นะสุดยอดนะไอ้เอ ขนาดมึงเมาจนทำโซฟาโรงแรมด่างไปแล้ว

“กูให้กุญแจคอนโดที่สาธรไป เผื่อมันยังต้องใช้ เดี๋ยวหางานได้ แล้วค่อยย้ายออกไป อันนี้กูไม่ถือ”

“แกช่างดีงามจังเลยน้ำ” หลิวเอามือมากุมที่มือผมเป็นการปลอบประโลม ตามประสาเพื่อนรัก

“แล้วถ้ามันไม่ย้ายออกล่ะ” มึงนี่ก็ช่างปั่นว่ะไอ้เอ

“กูก็ไม่ว่าอะไร คอนโดกูเยอะแยะ”

“เออ กูรู้ว่ามึงรวย ไอ้ลูกท่านนายพล แต่ไม่ได้หมายความว่า มันจะเอาแฟนใหม่มันมาล่อกันในห้องมึงได้นะ” เอสวนกลับ

“แฟนใหม่..  มันมีแฟนแล้วเหรอ”

“.........”

“เฮ้ย อย่าเงียบกันไปหมด พวกมึงรู้อะไรมา เล่ามาเลย”

“เอ อย่าเพิ่งเหอะ ไม่ใช่วันที่เมากันอย่างนี้” ตูนปรามไอ้เอ ที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย

“ก็ได้ ถ้าพวกมึงไม่บอก  กูจะถือว่า กูเสียแฟนแล้วกูก็จะเสียเพื่อนไปด้วย กูจะเลิกคบให้หมดเลย”

“อย่าทำอย่างนี้เลย  กำลังโมโห  อย่าเอาอารมณ์มาพาลใส่ พวกเราก็เป็นห่วงน้ำนะ” หลิวหันไปมองเอ อย่างคาดโทษ

“เออ ๆๆ ไอ้น้ำ กูเองที่ปากเสีย กูขอโทษ  ไว้มึงหายเมา กูค่อยทยอยเล่าให้มึงฟังอย่างละเอียดทีละคนแล้วกัน”

“ทีละคน.. มันไม่ได้มีคนเดียวเหรอ”  ผมถามกลับ  มีอะไรทำให้ผมตกใจไปกว่านี้ได้อีกไหม  คืนวินาศสันตะโรอะไรกันเนี่ย

“เชี่ยยยยย”  เอ ดูร้อนรนที่ตัวเองเผลอพูดออกมาอีกระลอก จนเพื่อนที่เหลืออีกสองคนต้องทำหน้าดุใส่มัน

“หลิว  ตูน  เอ..  พวกมึงรักกูไหม  เอาจริงๆ”

“รักสิ” ทีงี้ ตอบพร้อมกันล่ะแมร่ง พอให้เล่าความจริง เสือกอ้ำอึ้ง

“กูขอให้พวกมึงบอกทุกอย่างให้กูฟัง แล้วกูจะลืมมันไว้ตรงนี้ ไว้ที่ใต้ถุนโรงแรมนี้ กูจะลืมไอ้กัสให้สิ้นซาก”






เสียงเพลงที่ถูกผมสั่งหยุดไปได้สักพัก แต่หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์ยังมี มิวสิควีดีโอ พร้อมตัวหนังสือคาราโอเกะวิ่งวนไป เพลงแล้วเพลงเล่า  ประสาทสัมผัสผมแทบจะไม่มีเหลือ เกลี้ยงพอกับแก้วเหล้าตรงหน้า  แต่ผมก็ยังมีสติพอที่จะร้องไห้จนน้ำตาแทบจะหมดต่อม  เหมือนเส้นเอ็นที่เกาะอยู่รอบลูกตามันปวดไปหมด น้ำมูกไหลจนสูดแล้วสูดอีก อยากจะอาเจียนเอาสิ่งที่อั้นอยู่ในท้องออกมาให้หมด ตอนนี้มันก็เอ่ออยู่ปริ่มคอหอยแล้วด้วยสิ

“กัสมันมีแฟนใหม่แล้ว”
“กัสมันแอบเล่นแอ๊พ แล้วนัดเจอคนนั้นคนนี้”
“กัสมันมันเดทกับคนชื่อกันต์อยู่”
“คบคนอื่นระหว่างที่คบมึงนั่นแหล่ะ”
“เฮ้ยย ไม่ใช่นะ กับกันต์ นี่เลิกกันไปแล้ว กูเห็นว่า มันเดทกับคนชื่อจิมมี่”
“มันยังไปนัดมีอะไรกับคนตามสวนธารณะตอนดึกด้วย”
“ตอนมันเบี้ยวนัดมึงเมื่อวาเลนไทน์  มันก็ไปเดทกับผัวใหม่ของมันอยู่”


เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆ   เบรก แป๊บ นะพวกมึง !!!!! 

“ผัว”

“........”

“เล่าเดี๋ยวนี้”

“....................”

“กูบอกให้เล่าเดี๋ยวนี้”

“..................................”

“มึงไม่รักกูใช่ไหม ทำไมปล่อยให้กูโง่คนเดียว”

“พวกเราก็สืบอยู่นะน้ำ”

“ไม่ต้องเลยหลิว  ไม่ต้องมาจับตัวน้ำ ปล่อย”  ผมรู้ว่าผมพาล แต่มันโมโหชะมัด

“กูเอง กูเล่าเอง”

“พอเหอะ เอ แค่นี้ไอ้น้ำมันก็รับไม่ไหวแล้ว ไว้วันอื่น ค่อยเล่า” ตูนหันไปปรามเอ ที่กำลังจะไขความจริงให้ผมฟัง

“ตูน กูขอ ให้มันได้เล่า  กูไม่อยากเป็นคนโง่ไปอีกแม้แต่วันเดียว  กูไหว้พวกมึงแหล่ะ”

“ไอ้น้ำ  แฟนใหม่ของไอ้กัส..  มันล้วนแต่เป็นรุก”



เช้าวันใหม่..  เอ่อ ต้องเรียกว่า ตะวันโด่ง เพราะว่า ไอ้เอยังหัวทิ่มอยู่ที่ขอบเตียง  หลิวนอนสลบอยู่ที่โซฟา  มีเพียงตูนที่เอาจานครัวซ็อง มาวางไว้ที่หัวเตียง แล้วส่งแก้วน้ำส้มมาให้ผม  แอร์เย็นฉ่ำในห้องสวีทหรูของโรงแรม ห้องตกแต่งแบบทันสมัยแต่ใช้โทนสีขาวในเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น

“ดื่มหน่อยนะน้ำ จะได้สร่าง”

“ขอบใจว่ะ”  ผมยกแก้วนั้นผ่านริมฝีปาก น้ำส้มสดไหลผ่านลำคอลงไป ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง แต่ก็ยังเวียนหัวอยู่

“เดี๋ยวกูต้องกลับก่อน ตอนบ่ายต้องแวะไปมหาลัย อาจารย์จะให้กูไปเตรียมตัวแข่งทำหนังสั้นประกวด”

“อืม แล้วไอ้พวกนี้ล่ะ”

“เดี๋ยวจะปลุกหลิว กูไปส่งเอง แต่ไอ้เอ น่าจะต้องให้มันนอนอีกสักพัก”

“เออ ไว้เจอกัน กูว่าจะนอนอีกหน่อย”

“น้ำโอเคนะ”

“กูโอเคแล้วตูน ขอบใจว่ะเพื่อน”



แสงแดดลอดผ้าม่านสีขาวทึบซึ่งดูดความสว่างไว้สนิทเมื่อเช้า พอชักรอกเปิดออกมาเผยวิวที่สว่างไสวสวยงามของมหานครฝั่งตะวันออก  มีแม่น้ำกับตึกสูง แดดทะลุผ่านม้าม่านตะข่ายชั้นในออกมา  ผมเดินไปเปิดออกจนหมดเหลือเพียงกระจกใส ตัวผม และไอ้เอผู้ซึ่งตอนนี้กำลังซดน้ำส้มที่ตูนเตรียมไว้ให้ กับขนมปังก้อนโตและข้าวต้มเครื่องชามใหญ่

“มันคบกันระหว่างที่อยู่กับกูเหรอ”  ผมเอ่ยถามคนที่นั่งพิงหัวเตียงด้วยกัน

“คนไหนล่ะ”

“ไม่ตลก”

“อืม เท่าที่รู้มานะ”

“มันเจอกันยังไง”

“คนแรก ก็รู้จักกันตั้งแต่คบกับมึงได้สักปีกว่าแล้ว ชื่อกันต์”

“แล้วพวกมึงก็ไม่เล่าไม่บอกกูเนี่ยนะ”

“มึงต้องรับรู้ความอึดอัดของพวกกู”

“เออ กูเข้าใจว่ะ”

“หลิว กับ ตูน นี่ห่วงมึงมาก”

“แล้วมึงล่ะ”

“กูแค่คิดว่า หล่อแบบมึง เดี๋ยวก็หาใหม่ได้  เอาจริงๆ กูยังอยากให้มึงกลับไปเป็นผู้ชายด้วยซ้ำ”

“คงไม่ได้แล้วว่ะเอ กูขอโทษ  มึงคงหมดสนุก ตอนกูมาคบกับกัส”

“ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ว่า มึงเคยเป็นผู้ชาย เคยจีบสาวกับกูตอนมอปลาย แล้วพอมึงเป็นแบบนี้ กูก็แค่คิดว่า..”

“... คิดว่าอะไร”

“คิดว่า มึงแค่ชอบไอ้กัส  ถ้าหมดไอ้กัสไป มึงอาจกลับไปเป็นผู้ชายอีกครั้ง”

“ไม่น่าจะทันแล้วว่ะเพื่อน กูขอโทษมึงจริงๆว่ะ  แล้วก็ขอบคุณที่มึงดีกับกูเหมือนแต่ก่อน ก่อนกูมีกัส”

“แล้วนี่จะเอายังไง”

“ก็เริ่มต้นใหม่ นี่ไปสมัครฟิตเนสไว้ จะลดน้ำหนัก  แล้วก็จะนัดหมอเฉลิมทำหน้า”

“โหว คนจริงนี่หว่า ดีๆๆ กูสนับสนุน  เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน”

“เอาดิ เดี๋ยวกูสมัครเมมเบอร์ให้มึงด้วย”

“มึงใช้เงินแบบนี้หรือเปล่า กัสมันเลยเกาะมึงเป็นปลิงอยู่ตั้งสามปี”

“มันก็ไม่ได้อะไรไปจากกูเท่าไหร่นะ  อยู่ด้วยกันเรากินเที่ยวกัน  โอเคไปเมืองนอกบ่อยก็จริง แต่กูว่ามันก็น่าจะรักกูไม่น้อย”

“ถ้ามึงคิดอย่างนั้นก็ดี”

“นี่กูยังตกใจ ที่มันมีแฟนเป็นรุก”

“แล้วปกตินี่ มันอยู่กับมึง มันไม่เคยรับเหรอ”

“มันรุกกูตลอด นี่แหล่ะที่กูงง”

“คนเรามันเปลี่ยนกันได้”

“มันอาจแค่ชอบไอ้คนที่ชื่อกันต์มาก เลยยอมทุกอย่าง”

“กูว่าไม่นะ”

“หมายความว่าไง”

“ดูมันจะชอบมากด้วย  จะเป็น ไอ้สจ๊วตที่ชื่อกันต์ หรือ ทหารที่ชื่อจิมมี่ ยังไม่รวมคนล่าสุดของมัน  มันเป็นรับให้ทุกคน”


ผมเอามือกุมหน้า ไม่รู้ว่า เรียกว่าอับอาย หรือเรียกว่าหน่ายใจ
ผัวกู ไปเป็นผัวคนอื่นหรือนี่  แถม ไปมีผัวใหม่อีกตั้ง สามคน

“แล้วมันก็ไม่ได้ชื่อกัสแล้วนะ”

“ห๋า..”

“มันชื่อ น้องออ”

“เชี่ยยยยยย”

“ตอนอยู่กับมึง ยอดชายนายออกัส ให้เรียกกัส  แต่ตอนอยู่กับรุกทั้งหลาย นางชื่อ น้องออ จ้า”

ผมเอาหน้าตัวเองฟาดลงไปบนหมอนขนเป็ดแรงๆ  เขกมันซ้ำ ๆ ย้ำๆ ให้เห็นถึงความโง่ของตัวเอง
ออ เมียของชายอื่น คือ กัส ผัวของผม    ไอ้สัส






ในคฤหาสน์หลังใหญ่  พ่อผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงห้องโถง  ผมเข้าไปกอดอ้อนเหมือนอย่างทุกทีที่ทำความผิด  สำหรับงวดนี้ คือการรูดบัตรเครดิตจนเต็มวงเงินแล้วก็เมาปลิ้นแบบเมื่อคืน

“พ่อ น้ำขออะไรหน่อยสิ”

“บัตรเอเม็กซ์ใบใหม่อยู่ที่โต๊ะน่ะ ส่วนวีซ่า กับ มาสเตอร์การ์ด เดี๋ยวให้นุดีไปจัดการปิดยอดให้”

“พ่ออ่ะ เห็นน้ำเป็นคนยังไง ไม่ใช่เรื่องเงินนะครับ”

“งั้นไม่เอาใช่ไหม เอเม็กซ์ใบใหม่”

“เอาสิ แต่มันไม่ใช่ประเด็น” กูเกือบไป  หวิดไม่มีบัตรใช้แล้วไหมล่ะ

“ว่ามา”  พ่อพลิกหนังสือพิมพ์หน้าถัดไป แต่เหลือบตามองผ่านแว่นมาที่ผม

“ก็ไม่มีอะไรหรอก กะว่าจะยืมทีมสืบสวนของพ่อหน่อย”

“เอาไปทำอะไร  สืบเรื่องแฟนเก่าเหรอ”   เห้ยยยย พ่อกู  หรือท่านอาจารย์ลักษณ์ เลขานิเทศ

“อืม ใช่ครับ  ครั้งหลังสุด พ่อใช้งานพี่อำนาจเมื่อไหร่ล่ะ”

“ก็ตอนสืบ เรื่องลูกเลิกกับแฟน”  ชิบหาย  เหงื่อกูเริ่มตกแล้ว

“พ่อก็ ไหนบอกว่า จะไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ของน้ำไง”

“ก็ไม่ได้ยุ่ง แต่ดูอยู่ห่างๆ  ไว้เบญจเพสแล้ว จะทำอะไรก็ทำ  แต่ตอนนี้ยังต้องอยู่ในกฎของพ่อ”

“ครับ”

“แล้วจะใช้งานพี่อำนาจเขาเมื่อไหร่ล่ะ”

“เร็วที่สุดครับพ่อ”



ผมทอดตัวเอนนอนลงบนเตียงของผม ในห้องชั้นบนของคฤหาสน์  ตอนพ่อปลูกบ้านหลังนี้ใจกลางซอยทองหล่อ พ่อถามว่าจะเอาห้องไหน  ผมชี้ไปที่ห้องบนสุด  ผมเคยดูเรื่อง โรมิโอ แอนด์ จูเลียต เวอร์ชั่น ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปิโอ แล้วรู้สึกว่า อยากมีระเบียงเป็นของตัวเอง ให้ใครสักคนปีนเข้ามา

ในห้องมีแต่กรอบรูปอันว่างเปล่าอยู่เต็มไปหมด เพราะผมแกะเอารูปถ่ายคู่ของผมกับกัส ซึ่งบัดนี้กลายเป็นน้องออ เผาทิ้งไปแล้ว แต่กรอบยังต้องเก็บไว้ เพราะซื้อมาจาก ร้านทิฟฟานี่ ซึ่งแพงมาก 

คงเหลือแต่เพียง หมอนอิงรูปหมีสีเหลืองใบหนึ่ง ที่ใครเคยซื้อให้ผมเป็นของขวัญ สิ่งแทนใจราคาถูก แต่ผมยังคงเก็บมันไว้ เพราะเขาให้มันในวันที่บอกกับผมว่ารัก  ผมเอาหัวหนุน พยายามทำจิตใจให้ว่าง ข่มตาให้หลับไป





พี่อำนาจทำงานเร็วมาก ส่งข้อมูลที่ผมต้องการได้ภายในไม่กี่วัน 
แกเป็นนายทหารสูงโย่งพันธุ์ดุ หน้าตาไม่เคยยิ้ม ทั้งที่ออกจะหล่อเหลา แต่เรื่องสืบข่าวนี่ไม่เป็นรองใคร อีกทั้งยังเป็นได้ทั้งบอดี้การ์ดให้พ่อผมตอนเดินทางไกล ผมจะอุ่นใจถ้ามีพี่อำนาจคอยอารักขา

พ่อของผมไม่ใช่มาเฟีย  แต่ว่าท่านเป็นนายทหารใหญ่  เรียกได้ว่าใหญ่มาก จนนักการเมืองต้องมายืมเงินกันบ่อยตอนเลือกตั้ง  ถามว่า ท่านรวยมาจากไหน  รวยมาจากบ้านฝั่งคุณแม่ผมครับ  เพียงแต่ แม่ไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว
พ่อของผมยังไม่มีภรรยาใหม่  น่าจะมีคนพยายามเข้าหาท่านอยู่เป็นนิจ ก็ท่านยังดูดีเมื่อเทียบกับอายุ ความหล่อนี่ได้ลูกมาเต็มๆ  แถมความรวยไม่ต้องพูดถึง  แต่พ่อก็ทำแต่งานหนัก ตั้งแต่แม่ไม่อยู่ พ่อโหมสร้างธุรกิจใหม่ๆ ไปอย่างนั้น แต่ดันออกมาดี แถมยังสำเร็จไปทุกอย่าง  เงินเหลือใช้ไม่ขาด พ่อไม่ได้มีธุรกิจมืด  ธุรกิจเราคลีน
พ่อแค่ทำแบบเหงาๆ ของเขา  มีพวกทนายส่วนตัว กับ พลทหารที่สนิท  พี่อำนาจ และ เลขาผู้ใจดี คือพี่นุดี คอยช่วยงาน




====================================================

รายงานลับ  ภาคพื้นดิน ภารกิจพิเศษ
นาย อนุสรณ์ บวรธุรการ [ ออกัส ]

Title         :  ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเชิงชู้สาว
Results    :  มีความสัมพันธ์แบบเปิด  ไม่ผูกพัน กับ บุรุษเพศ สามคน

                คนที่ 1 ชื่อ   นายกันต์ณรงค์  วงศ์ประเสริฐ  [ กันต์ ]
                                      อาชีพ  พนักงานภาคพื้นสายการบิน

=====================================================

รายงานยาว 6 หน้า A4 ทั้งที่อยู่ รายละเอียด ชื่อพ่อแม่ ไม่รวมถึงรสนิยม ความชอบ  พี่อำนาจนี่ไว้ใจได้เสมอ

อ้าว คนชื่อกันต์ ไม่ใช่ สจ๊วต  แต่เป็น กราวนด์ 
เอาล่ะสิ งั้นก็รู้ที่ทำงานแล้ว จะลองไปดูหนังหน้ามันหน่อย ในรูปก็ถือว่ามันหน้าตาดี ถ้าเทียบกับภาพจากบัตรประชาชน มันก็เอาอยู่ เออ..คงจะหล่อจริงว่ะ 
เอ๊ะเดี๋ยว  ภาพแอบถ่ายที่ซูมมาใกล้  ที่ข้อมือมัน นี่มัน Tag Heuer ที่เคยขอกูใช่ไหม ไอ้กัส มึงเอาไปให้มันใส่เหรอ  รุ่นฟอร์มูล่า หน้าจอสีน้ำเงิน ไอ้ส้นตีน กว่ากูจะตามหาให้มึงได้ หมดไปร่วมแสน   

ไฟแค้นมันสุมทรวงเข้าแล้ว  แต่ผมก็พยายามทำใจ ผมเลือกคนผิดเอง ความคิดที่จะแอบไปดูหน้าตัวจริงของกันต์ ก็โดนสติฝ่ายดีของผมมาหยุดไว้ เอาล่ะ เอาเป็นว่า ผมจะหยุดมันไว้แค่นี้
แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์เล่นตลก  นรกเล่นละคร  กัสโทรมา...

“ว่าไง”

“เธอเป็นไงบ้าง”

“ก็ดี”

“หายโกรธกัสแล้วเนอะ”

“หึ”

“คิดถึงเธอจัง”

“มีอะไรหรือเปล่า”

“กะจะบอกว่า ขออยู่ที่คอนโดอีกสักพักนะ”  ในใจผมก็เริ่มชื้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า อยากได้ยินคำบางคำ

“อืม”

“คือ กัสกำลังจะได้งานแล้ว เป็นกราวนด์”

“อาฮะ”

“เดี๋ยวกัสก็จะย้ายไปอยู่ใกล้ที่ทำงาน เธอรอหน่อยนะ กัสย้ายออกแน่นอน”  น้ำตาผมปริ่ม แต่พยายามเก็บอาการ

“อืม”

“ดูแลตัวเองดีๆนะ ไปก่อนนะ ไว้คุยกัน”   แล้วเขาก็วางสายไป

ไม่มีคำพูดคำนั้น..  คำที่บอกว่า  เรากลับมาดีกันนะ  ไม่มีแม้แต่วลีเดียว...



ค่ำของวันนั้น ผมเปิด app มือถือ เป็นภาพกล้องวงจรปิด พร้อมเสียงไมโครโฟน ที่ซ่อนไว้ที่หลอดไฟกลางห้องของคอนโดซึ่งให้ใครบางคนยืมพักอาศัย  ก่อนหน้านี้ผมให้ลูกน้องพ่อไปติดไว้ก่อนเขาจะย้ายเข้าไปอยู่ ผมทรุดลงไปนั่งข้างเตียง กลัวกับสิ่งที่กำลังจะเห็น หวาดกับสิ่งที่กำลังจะได้ยิน  แต่ผมคิดว่า ผมก็แข็งแรงพอแล้ว  ผมกดแอ๊พ Panoramic 360 องศา แล้วรอเวลา

“ออรู้  ออก็คิดถึง”  เสียงออดอ้อน สาวแตก แถมยังเรียกตัวเองว่า ออ แบบที่ไอ้เอมันเล่าทุกประการ

“ใช่ เดี๋ยวคงย้ายไปอยู่ด้วยกันเร็วๆนี้แหล่ะ ตัวรอเค้าหน่อยนะ ออจะรีบ  นะๆๆ”  สะดิ้งสะดิ้งมากมายยิ่งนัก อดีตสามีกู

“คิดถึงสิ ไม่คิดถึงได้ไง  ไม่เคยนอนคิดถึงใครขนาดนี้มาก่อน คิดถึงๆๆๆ”  กูจะเป็นลม นี่เสียงผัวกูเหรอเนี่ย

“รักมากกกกก รักที่สุด รักแบบที่ไม่เคยรักใคร อยากไปอยู่ด้วย คิดถึงลีลาอันเด็ดดวง โอ๊ยลืมทุกคนที่ผ่านมาเลย ตัวเองคือชายเหนือชาย ที่ออคิดถึงทุกลมหายใจ”

โทรศัพท์ที่เปิดลำโพงของผมร่วงลงกับพื้น  ผมเอื้อมไปปิดมันเพราะไม่อยากฟังต่อ  ผมร้องไห้เป็นเผาเต่า
แล้วสัญญากับตัวเองว่า..  พรุ่งนี้ ผมจะเป็นคนใหม่


หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep. 1 : ลากไส้มันออกมา]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 16-03-2018 08:32:33
 :mew4: :mew5:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep. 2 : The Brand New Me ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 17-03-2018 14:53:54

Prep  2 : The Brand New Me ! อย่าให้เขารู้ ว่าฉันเคยเป็นใคร

เห็นทีตารางฝึกที่เซ็ทไว้คงไม่พอเสียแล้ว  ผมจัดแอดวานซ์เข้าทุกคอร์ส  ตายเป็นตาย งานนี้ นายนที ขอลุย

รายการที่ต้องทำกับร่างกายเป็นการด่วน

1.   ลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม จาก 75 ให้ได้ 65  เพราะต้อง เพิ่มกล้ามเนื้ออีก 5 กิโลกรัม
2.   ไข่ขาว ไข่ขาว ไข่ขาว
3.   อกไก่ปั่น  อกไก่ปั่น อกไก่ปั่น
4.   ไม่แตะแอลกอฮอล์ทุกชนิด
5.   ไม่ยุ่งเกี่ยวกับ ของหวาน ยกเว้นวันหวยออก
6.   ไม่ให้มีคาร์โบไฮเดรทเข้าปากหลังหกโมงเย็น
7.   เช้าโยคะ  สายคลาสแดนซ์  บ่ายงานแขนขา เย็นว่ายน้ำ ค่ำงานหน้าท้อง โดดเรียนให้มากที่สุด
8.   ห้ามเล่นมือถือ
9.   ปรึกษาแพทย์เรื่องผิวที่อาจแตกจากน้ำหนักที่ขึ้นลงเร็ว
10.   เลิกอ่านนิยาย

ผมใช้ฟิตเนสของคอนโดคงไม่พอ จึงไปสมัครฟิตเนสในเครือของหลิวเพื่อนรัก ซึ่งครอบครัวของนางเพิ่งเปิดได้สามสาขาอยู่ตามห้างใหญ่ มีพี่ชายของหลิวผู้ที่กลับจากเมืองนอกมากช่วยเป็นผู้จัดการ  อืมพี่ไผ่ ไม่ได้เจอนานแล้วเหมือนกัน ตอนเด็กนี่แกล้งผมประจำ  หลิวกับผมสนิทกันมาก นางจึงเป็นชะนีน้อยคนเดียวในกลุ่ม 

ผมกับเอ เรียนพีอาร์ [ ประชาสัมพันธ์ ]  ส่วน หลิวกับตูน เรียน บีซี [ บอร์ดแคส ]
ผมกับต้นหลิว ได้กลับมาโคจรเจอกันก็ตอนมาเข้ามหาวิทยาลัย ถ้ามีวิชาเรียนรวม ก็จะนั่งด้วยกัน  เราชอบไปซื้อของด้วยกัน เพราะพวกเราใช้เงินกันง่าย ไม่คิดมาก ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเล็กน้อย ถ้าเงินมันช่วยให้สบาย ก็เอาเถิด เราถูกสอนกันมาแบบนี้  บ้านเรารวยกันมาก  พ่อหลิวนี่ รวยไม่แพ้พ่อผมหรอก ธุรกิจคนละแบบ  แต่บ้านของหลิวจะอิสระกว่า เขาให้ลูกสาวไปเปิดท้ายขายของตามตลาดนัดเพื่อความสนุกสนาน  ลองเป็นพ่อผมเหรอ คงให้พี่อำนาจตามมาประกบ ศัตรูพ่อผมเยอะกว่านั่นเอง


ผมใช้เวลาทั้งหมด ทุ่มไปกับการออกกำลังกาย ไม่ไปดูหนัง ไม่เล่นเกม ไม่ทำห่าอะไรทั้งนั้น ความตั้งใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมจะเป็นคนใหม่  กระนั้นแค่รูปร่าง คงยังไม่พอ  หลิวช่วยผมเลือกทรงจมูกและคางใหม่ อาจมีตาที่ต้องกรีดผ่า แล้วก็ใส่ดอลลี่อายส์เล็กน้อย ลอกผิวชั้นนอก ทำเบบี้เฟซพรีเมี่ยมยิงละอองทองคำไว้ที่ผิวให้เปล่งปลั่ง  ผมอ้อนพ่อแทบตายกว่าจะไฟเขียว  แต่คงต้องรอให้ปิดเทอมใหญ่ก่อน เพราะการจะพักฟื้นใบหน้าก็คงกินเวลาหลายวันอยู่


ยังคงได้การ์ตูนคอยดูแลเรื่องการเรียน งานส่งอาจารย์ ฝากเช็คชื่อในบางวัน แล้วก็ดูแลทุกอย่าง มีตูน สบายไปสิบอย่าง แต่ก็ทำได้เฉพาะวิชารวมคณะ  ถ้าเป็นวิชาสาขาผมก็มีแค่ไอ้เอคนเดียว  ไอ้นี่คงพึ่งพาอะไรไม่ได้เท่าไหร่ เอาเป็นว่า ผมขอพ่อแล้วถ้าเกรดเทอมนี้มันจะดร็อปลงสักหน่อย เพราะผมมีเรื่องให้ต้องโฟกัส



“หมอเฉลิมคิวยาวเลยว่ะน้ำ นี่หลิวเลือกทรงให้มันเข้ากับหน้าน้ำมาให้ดู หยดน้ำที่ปลายจมูกหน่อยๆ ก็น่ารักดี”

“เรื่องคิวไม่น่าใช่ปัญหา น้ำยินดีจ่ายเพิ่มค่าเสียเวลาคุณหมอ”

“แกจะเอาเงินไปฟาดไม่ได้นะน้ำ คิวหมอมีทั้งดารา และคนดัง ต่างคนต่างไม่ยอมหรอก ต้องเส้นยัยพยาบาลหน้าเคาท์เตอร์ มีลุ้น”

“มีหมออื่นอีกไหม”

“ถ้าเมืองไทยนี่ต้องแกแหล่ะว่ะ เพราะคนอื่น จมูกผู้ชายจะออกมาเหมือนจมูกผู้หญิงน่ะสิ  โจทย์น้ำ คือให้จมูกดูแมน โก้ เท่ แล้วก็มีความเป็นชาย  พวก สจ๊วต แอร์ ผ่านมือแกหมด มันออกมาดูวัยรุ่นกว่า”

“หลิวติดต่อ พี่แหวนแหวน ให้น้ำเลย ไม่รอแล้ว ไปเกาหลีกัน”

“เห้ย เอาจริงดิ มันต้องหลายวันเลยนะน้ำ พักฟื้นอีก ไปทั้งที ทำนิดหน่อยมันจะคุ้มเสียเวลาไหม”
“น้ำจะทำทั้งหน้า  ย้ำว่าทั้งหน้า หลิวบอกพี่แหวนแหวนเลยว่า เอาหมอที่ดีที่สุด เกรดเทียบเท่าหมอของเล็ทมีอิน ทั้งหน้า”


คิวช่วงหลังสอบก็แน่นเหยียด ไหนจะลูกท่านหลานเธอ ไฟนอลเสร็จก็บินไปขึ้นเขียงกันเป็นว่าเล่น 
นี่ต้องใช้เส้นแม่ของหลิวติดต่อผู้จัดการ เรน  ให้พี่แหวนแหวน ได้ลูบไล้ซิกแพ็คของเรน สามนาทีเต็ม
นางถึงจะยอมลัดคิวให้ผม
ทุกสิ่งอย่าง มันดำเนินไปด้วยความสิเน่หาส่วนตัว โลกมันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ ผมโตมาแบบนี้

เหลืออย่างเดียวที่จะทำให้ผมเปลี่ยนไปตลอดกาล คือ พัฒนาบุคลิกภาพ 
เพราะต่อให้คุณหล่อรวยหุ่นเฟิร์มแค่ไหน แต่ถ้าคุณยังมีบุคลิกภาพเดิม คุณก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่ 
ผมจึงติดต่อผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีที่สุดของประเทศเรา ให้จัดคอร์สพิเศษเพียงแค่ผมคนเดียว 
ใครที่ว่าผมนุ่มนิ่ม ไม่เข้มเท่ หรือแมนเหมือนผู้ชายทั่วไป  ผมจะเป็นคนใหม่แล้ว 


มึงลองดูนะไอ้กัส  ว่าที่มึงเรียกพวกมันว่า ชายเหนือชาย  จะแมนเข้ม หล่อได้เท่าขี้ตีนกูไหม


ผมกด แอ๊พลิเคชั่น GPS Tracking ที่มือถือ กดข้อความส่งไปยังซิมการ์ดที่ซ่อนอยู่ในรถยนต์ ซึ่งใครบางคนได้ไปเป็นของขวัญวันครบรอบที่เราอยู่ด้วยกันครบสามปี  แท้จริงแล้ว ผมติด จีพีเอสแทร็กกิ้งไว้ เพื่อกันรถหาย
แต่ไม่ได้คิดแม่แต่น้อย ว่าสักวันหนึ่ง จะต้องเปิดฟังค์ชั่น ฟังเสียงผ่านไมโครโฟน ซึ่งซ่อนไว้บนรถซูซูกิ สวีฟท์ อีโค  คันนั้น..  คันที่เราเอาไว้พาแมวของเราไปฉีดวัคซีน

“อีแขก มึงเป็นไงบ้าง กูล่ะคิดถึงมึงจัง..   เออๆๆ ไว้ไปสีลมกัน ไม่ได้เมามาตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว ยุ่งๆ กำลังย้ายของ   
หูยยยย เผ็ดสิมึง กูล่ะลองไปทุกท่า  ลิงอุ้มแตง หนุมานเหลียวหลัง   กูไปคลาสโยคะ ยังไม่ปวดเมื่อยตามตัวเท่านี้มาก่อนเลย  ฮ่าๆๆ  รู้งี้  กูมีผัวตั้งนานแล้ว”

ผมปิดมือถือลง แล้วก็ขึ้นลิฟท์ที่ลานจอดรถห้างเพื่อไปยังชั้น 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของฟิตเนส The Plum ของบ้านหลิว
ผมไม่ได้มีอาการอะไรมากหลังวางสายจากแอ๊พจีพีเอส  เพราะเริ่มชินกับความรู้สึกมึนอึนในหัว การออกกำลังกายช่วยผมได้ และแน่นอนว่า จากคำพูดของใครบางคนที่วนในหัว วันนี้คงต้องออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะลบประโยคเลวทรามเมื่อกี้ให้ออกไปจากใจ


“ไม่ควรใช้อุปกรณ์เดิมเกิน 40 นาทีนะครับ” เสียงของชายตัวสูงใหญ่ ที่เดินมาหา พูดที่ข้างหูผมที่กำลังอยู่บนลู่วิ่ง

“ขอโทษครับ มันเป็นกฎเหรอ ผมไม่รู้ ขอโทษครับ  เชิญพี่ใช้เลย” ผมกดฟังค์ชั่นเปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินเพื่อเตรียมหยุดเครื่อง

“เปล่าหรอก  ถ้าใช้อุปกรณ์เดิม ร่างกายมันจะไม่เฟรซ  อันนี้เป็นความเชื่อของพี่ครับ น้องน้ำ”

“รู้ชื่อผมด้วย..  เฮ้ยย   พี่ไผ่”  พี่ของหลิวนี่หว่า กลับมาคราวนี้หล่อโครต จมูกนี่พุ่งกว่าพี่ เคน ภูภูมิอีก

“ถ้าจำกันไม่ได้ นี่น้อยใจนะเนี่ย”

“พี่เปลี่ยนไปเยอะนี่ครับ  หล่อล่ำเชียวพี่ ผมอยากมีกล้ามท้องบ้าง แต่เทรนเนอร์ให้ลดไขมันก่อน”

“ใครเป็นเทรนเนอร์ให้ครับเนี่ย”

“พี่เดชครับ หลิวมันจัดพี่เดชให้ผม”

“โอเคเลย เดี๋ยวจะบอกเดช ให้เคี่ยวให้หนักเลย”

“หูยยยพี่ ผมไม่อยากให้มีกล้ามเนื้ออะไรมากมาย ผมไม่อยากตัวล่ำ”

“เอาประมาณไหนล่ะ บอกมาสิ”

“ผมเป็นคนตัวบาง ก็อยากให้มีหัวไหล่ มีกล้ามท้อง แต่ไม่อยากได้แขนขาใหญ่ๆอ่ะ”

“ซักประมาณ ณเดชน์ เอาไหม”

“ต้องตายก่อนแน่เลยพี่  เอาแบบที่เข้ากับหุ่นผม อยากได้แนวนักกีฬา ประมาณ สารัช นักบอล ไรงี้”

“นี่ก็ไม่ได้ต่างอะไรมากนี่ น่ารักดีออก”

“ผมไม่อยากน่ารัก”   อุ้ย ผมเผลอใส่เสียงดุไป พี่ไผ่เงียบไปเลย  ขอโทษนะพี่

“พี่ขอโทษ”

“ไม่ใช่ครับพี่  ผมเบื่อที่จะดูน่ารักในสายตาใครแล้ว ผมอยากหล่อ ผมอยากดูเท่ ดูแมน พี่ช่วยผมหน่อยนะ”

“อืม จะบอกกับเดชให้นะ”  แล้วพี่ไผ่ก็เดินไปดูแลลูกค้าคนอื่น  น่าจะงอนผมแน่เลย



ตอนเด็ก พี่ไผ่แมร่งชอบล้อผมว่าเหมือนผู้หญิง มันยังบอกคนอื่นว่า หลิวกับผม เป็นน้องสาวที่ต้องดูแล 
บางทีก็โมโห แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร  คุณความดีของไอ้พี่ไผ่มันก็ยังมี   ไม่มีใครแกล้งผมเท่าไหร่หรอก มันพิทักษ์ผมต่อหน้าธารกำนัลอยู่หลายครั้ง ใครก็ไม่กล้าซ่ากับมัน
เรียนก็ดี ตัวก็สูงใหญ่ เล่นกีฬาเก่ง เป็นที่รักของครูอาจารย์ เสียตรงเจ้าชู้ เปลี่ยนคนคบไปเรื่อย  แต่มันก็ธรรมชาติคนฮอตล่ะมั๊ง  ตอนนั้นผมยังอยากโตมาเป็นแบบมันเลย มีสาวห้อมล้อมให้พ่อได้เห็นและภูมิใจ แต่ไหงเลย ผมดันไปมีแฟนเป็นผู้ชาย แถมเป็นเมียไอ้กัสอยู่ได้ตั้งสามปี  ผมก็โมโหตัวเองอยู่เหมือนกัน 


“เมื่อวานนี่แกดุอะไรพี่ชั้นวะน้ำ”  กูนึกแล้วว่า ไอ้พี่ไผ่ต้องไปฟ้องหลิว คนไรวะ ตัวเบ้อเร่อ แต่ขี้งอนชิบเป๋ง

“ก็ไม่ได้อะไร พี่เขาไม่เข้าใจน้ำหรอก”

“เขาบอกว่า ยืนดูอยู่นาน เห็นข้างหลังจำได้ทันทีว่าเป็นน้ำ”

“เดี๋ยวเห็นกันหลังเปิดเทอมหน้าคงจำไม่ได้แล้วแหล่ะ เพราะหน้ามันจะเปลี่ยน”  ไอ้เอ ไอ้สัส

“นี่น้ำจะเอาจริงเหรอ มันน่ากลัวนะ ผ่าทั้งหน้าเนี่ย” ตูน กูเลือกแล้ว  แต่ขอบใจเว้ยที่ห่วงใย

“กูไม่เข้าใจ ว่ามึงจะเปลี่ยนตัวเองก็ทำไป แต่จะทำให้แมน ให้ดูเท่ ไปเพื่ออะไรวะ ไม่เข้ากับหน้ามึงเลย”

“กูเลยทำหน้าใหม่ไงมึง”

“เออ กูก็ไม่เก็ทอยู่ดีแหล่ะวะ”

“เอ  กูมีแผนของกู แต่กูยังไม่พร้อมจะพูด เอาเป็นว่า กูจะเป็นคนใหม่ แล้วกูก็จะหล่อ มีซิกแพ็ค แล้วก็ แมนโครต”

“มึงจะหาแฟนประชดผัวเก่าเหรอวะ”  เอ ยังคงหาคำตอบ

“เอาเป็นว่า ถ้าคืบหน้า กูจะเล่าให้มึงฟังเอง”


ใต้อาคารกลางหอสมุดมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่กำลังหน้าดำคร่ำเครียดกับการสอบปลายภาคที่ใกล้เข้ามา 
ผมมาหาตำราที่ไม่มีในอินเทอร์เน็ต เช่น บทสัมภาษณ์ในหนังสืออ้างอิงของพวกนักกีฬา ดาราชาย ที่ผมมองว่าดูมีเสน่ห์ ผมจะก็อปปี้วิธีพูด วิธีวางประโยค การใช้คำ ผมเอาสมุดบันทึกเล็กๆ มาจดคำที่น่าจะใช้บ่อย เอามือถือถ่ายรูปวิธีนั่ง วิธียืน วิธีเดิน  นี่ถ้าเป็นวิชาเรียน คงได้คะแนนดีไม่น้อย

“น้ำไม่อ่านหนังสือเรียนบ้างเลยเหรอ เดี๋ยวก็ไม่ได้เกียรตินิยมอย่างที่ตั้งใจหรอก”

“ไม่สนแล้ว ตอนนี้ โฟกัสไปที่การเปลี่ยนตัวเอง”

“มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ  น้ำเป็นน้ำทุกวันนี้ มันก็ไม่ได้แย่ แถมยัง..”

“อะไร”

“ไม่เอา ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวโดนดุแบบพี่ไผ่”

“ก็ผู้ชายอะไร ชมผู้ชายว่าน่ารัก มันน่าให้ดุไหมล่ะ”

“เขาคิดแบบนั้นจริงๆ”

“ไปอยู่เมืองนอกนาน เพี้ยนไปแล้วมั๊ง”

“ก็เห็นเขาชมน้ำมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนไปนอก  เมื่อวานนี่ดูตื่นเต้นมากที่เจอ แต่พอโดนดุ ก็จ๋อยไปเลย”

“ผู้หญิงชอบผู้ชายน่ารักไหม หรือชอบแบบหล่อเท่”

“มันก็แล้วแต่คนนะน้ำ  หลิวว่า คนเราไม่จำเป็นต้องชอบอะไรเหมือนกัน ดูอย่างหลิว ก็ชอบผู้ชายที่มันโก๊ะๆ หน่อย”

“ถ้าเราไม่ใช่ สเปคไอ้กัสแต่แรก แล้วมันจีบเราทำไม น้ำก็ไม่เข้าใจ”

“มันผ่านไปแล้วน้ำ ทำไมไม่ปล่อยวาง”

“น้ำเสียความมั่นใจไปแล้วว่ะหลิว  น้ำต้องกู้มันกลับคืนมา”




ปิดเทอมแล้ว ผมเตรียมเสื้อผ้าสำหรับบินวันพรุ่งนี้ไว้ เนื่องจากไปหลายวัน กระเป๋าจึงเยอะพอกับ น้ำตาล ชลิตา บินไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส แต่ก็ไม่น่าเป็นปัญหาอะไร โรงแรมที่พ่อให้คนจองให้ ห้องนอนใหญ่โต แถมยังอยู่ใจกลางแหล่งของกิน ไม่ต้องเดินไกล  หลิวสัญญาว่าจะบินไปเยี่ยม

วันนี้ ผมเลยมาออกกำลังกายสั่งลา ก่อนจะไม่ได้ออกไปอีกแรมเดือน ตอนนี้ เอาเป็นว่า ผมเริ่มมีซิกแพ็คแล้วนะ แต่ต้องเกร็งขี้แตกเลย  ถ้ายืนเฉยๆมันก็ไม่เห็น จะเอาอะไรมากครับ แค่ไม่กี่เดือนได้ขนาดนี้ก็ดีเหลือหลาย  การเรียนผมไม่ค่อยเสียเท่าไหร่ เพราะว่าพ่อผมจ้าง คุณดวงดาว จารุจินดา อ่านเล็คเชอร์อัดใส่โซนี่ เร็คคอร์ดเดอร์ให้ผม ออกกำลังกายไป ก็ฟังไป เพลินจะตาย ไม่เข้าใจอะไร ก็ยกสายหาไอ้ตูน 

The Plum Fitness ที่เวิ้งห้องอาบน้ำ หลังจากผมอยู่ในยิมนี้มาสามชั่วโมงกว่า มองนาฬิกาก็เกือบสามทุ่มแล้ว  ผมเปิดน้ำฝักบัวที่เย็นฉ่ำรดมาที่หัว ให้ความฟุ้งซ่านมันหมดไป  จะอะไรซะอีก  ยิ่งใกล้วันทำศัลยกรรม มันยิ่งใจเต้น ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับการจะไปผ่า ผมทนเจ็บได้  แต่ผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่า ที่กำลังจะทำมันคุ้มไหม แล้วนั่นก็ทำให้ใจหม่นหมอง 

ผมเดินออกมา ที่หน้าล็อคเกอร์ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากอาบน้ำเสร็จ  มีชายคนหนึ่งยืนอยู่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน ล็อคเกอร์ของเขาไม่มีเบอร์  เพราะมันเป็นล็อคเกอร์ของผู้เป็นเจ้าของ หุ่นแมร่งโครตเท่ สูงโย่งแต่สัดส่วนมันใช่อ่ะ ผิวก็คล้ายพระเอกหนังเอ็กซ์ญี่ปุ่น  ดั้งมึงนี่หมอเกาหลีจะให้กูได้อย่างนี้ไหมวะ

“เป็นไง จะบินแล้วสินะ”

“อืมครับ เดี๋ยวหลิวก็ว่าจะตามผมไปด้วยล่ะพี่ไผ่”

“คงช็อปกันกระจายสินะงวดนี้”

“ไม่น่าจะได้ช็อปนะพี่ ผมคงไม่แบกใบหน้าที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลออกไปไหน”

“เออ  ลืมไป  แล้วนี้ กลัวไหม ตื่นเต้นหรือเปล่า”

“ไม่กลัวครับ แต่ตื่นเต้นนิดหน่อย.. ไม่รู้ว่า ผมคนใหม่จะเป็นแบบไหน”

“ก็คงไม่น่ารักเหมือนเดิมแล้วสินะ”

“คำก็น่ารัก สองคำก็น่ารัก”

“พูดความจริง ก็ดุกันอีกแล้ว”

“ผมขอโทษ  แต่ไว้พี่รู้ว่าผมเจออะไรมา พี่จะเข้าใจผม”

“อืม ถามเจ้าหลิว ก็ไม่ยอมเล่า คงหนักสิงวดนี้”

“ปางตายครับพี่ไผ่”

“งั้นก็ เป็นกำลังใจให้นะ หวังว่าคงจะหล่อสมใจ”

“อยู่แล้ว”

“แต่ว่า จะดีไม่น้อย ถ้า...”

“ถ้าอะไรครับ”

“ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวโดนดุอีก”

“พูดเหอะ สัญญา ว่าจะไม่ดุ”

“หล่อได้ แต่น่ารักให้เหมือนเดิมแล้วกัน”

“มันยากนะนั่น”

“เดินทางดีๆ  พี่ต้องไปสรุปบัญชีก่อน โชคดีครับน้ำ”

“สวัดสีครับพี่”  และขอบคุณครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ยังมีตัวตน.. 


หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep. 2 : The Brand New Me ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 17-03-2018 19:49:52
 :z1: พิชิตกันเลยก้อดั้ยค่ะ  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 3 : New Look นิวรุก ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 19-03-2018 13:18:30

Prep  3 :  New Look !!  นิว รุก !!

ลานล็อบบี้ ทางขึ้นลิฟท์ ผมเดินผ่านมันด้วยการพยายามเพิกเฉยต่อเสียงติฉินจากพนักงานต้อนรับ
แม้ว่าคอนโดมิเนียมหรู ติดรถไฟฟ้าเพลินจิตจะคัดกรองคนเข้าทำงานด้วยความพิถีพิถัน แต่การนินทากาเล มันอยู่ในกมลสันดานของมนุษย์ทุกคน โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า พนักงานต้อนรับ  ผมเดินเข้าลิฟท์ส่วนตัว ซึ่งมีเฉพาะของเพนท์เฮ้าส์เท่านั้น

“แฟนใหม่คุณนทีเหรอ หล่อจังเลยนะแก หน้าคล้ายกันเลย สงสัยคราวนี้จะเนื้อคู่”
“น้องชายเขาหรือเปล่า หล่อ แมนกว่าคุณนทีเยอะเลย ตัวล่ำเชียว”
“มีการ์ดห้อง แสดงว่า คุณนทีคงไว้ใจหน้าดู”
“หูยย งานนี้ สงสัยคุณนทีจะหวงแหน ขนาดคนเก่าหน้าตาธรรมดายังวีนทะเลาะกันตรงล็อบบี้ประจำ”
“คนนี้เผ็ดเนอะ เดินหลังตรง แต่งตัวดูดีมีชาติตระกูล ค่อยน่าควงหน่อย ไม่ใช่อย่างคนก่อน อย่างกับแว๊นตกถังข้าวสาร”
“ว่าแต่ คุณนที หายไปไหนเป็นเดือนๆ ไม่โผล่มาเลย สงสัยอีคนเก่ามันทิ้งไปแล้วแน่ๆเลย”


นี่ถ้าไม่เพราะไอ้เอยืมรถไปใช้ คงไม่มีโอกาสได้นั่งรถไฟฟ้ากับเขาเพื่อเช็คเรตติ้งตัวเอง ว่าปลายมีดหมอ เปลี่ยนเราได้แค่ไหน  แค่สามเดือนแรกที่รูปร่างเริ่มกระชับ ก็มีคนเหลียวมอง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายก็เหอะ  พอหน้าที่ผ่ามา รอยเย็บเริ่มเข้าที่ ไม่มีรอยบวมช้ำ ก็รู้สึกมั่นใจ ใครก็เหล่ตาม  แล้วพอยิ่งใกล้จบคอร์สพัฒนาบุคลิกภาพ คราวนี้ ทั้งชายทั้งหญิง คงเลียของปากด้วยความอยากกินผมสินะ 

ถ้าเป็นเมื่อก่อน คงตัวลอย เชิดหน้าจนไปแตะแชนโดเลีย  แต่นี่ มันก็ยังหน่วงในใจนิดหน่อย เพราะภารกิจผมยังไม่เริ่ม
แผนลับที่ผมนอนคิดอยู่เมื่อครึ่งปีก่อน  อันหวังว่า มันจะเยียวยาหัวใจตัวเอง


ในเพนท์เฮ้าส์กว้าง 150 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ไม่รวมอ่างจากุชชี่ที่ใหญ่จนเกือบเท่าห้องน้ำสนามบินสุวรรณภูมิ  หากผมจะใช้ห้องนี้เป็นฐานปฏิบัติการ จะล่อเสือ ล่อตะเข้ มันก็ต้องใช้เหยื่อดี เอาเป็นว่า การมีห้องเชือดระดับพรีเมี่ยม มันย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง 

“โหว กว่ามึงจะเสด็จมานะไอ้เอ”  ผมนั่งรอมันจนซิลิโคนแทบเหี่ยว มันนัดผมมาเจอที่คอนโด หลังจากเอเป็นคนแรกที่ผมเปิดใจเล่าให้ฟังว่า ผมจะทำอย่างไรให้หายแค้นกับไอ้กัส

“รถมึงขับมันชิบหาย กูเลยเอาไปโชว์สาวแถวมหาลัย ล่อเหยื่อ เผื่อฟลุค   เฮ้ย หน้ามึงเข้าที่แล้วนี่หว่า  หล่อเชียวเว้ย แมร่ง ถ้ากูเห็นมึงเดินตามถนน กูจำไม่ได้เลยนะ นึกว่านายแบบที่ไหน  แล้ว ไขว่ห้างแบบนี่ ไม่ใช่มึงเลยว่ะ มึงต้องนั่งหนีบๆเข่าสิ กูไม่ชิน”

“แล้วกูจะเสียเงินหมดเป็นล้านทำเพื่อ ถ้าไม่เปลี่ยนตัวเอง”

“เออๆๆ   กูก็เลยนัดมึงมาติวนี่ไง มึงจะได้บรรลุเป้าหมาย แม้ว่ากูจะไม่เห็นด้วยเลยกับสิ่งที่มึงคิดจะทำนะ แต่ในฐานะเพื่อน กูก็จะสนับสนุนมึงให้ถึงที่สุด”

“อย่าให้ หลิว กับ ตูน รู้นะเว้ย มันช่วยกูมากเหลือเกินหลิวเนี่ย ไหนจะจัดการทุกอย่างให้กูเปลี่ยนได้ขนาดนี้  ไอ้ตูนก็ช่วยกูเรื่องเรียนซะจนกูเกรงใจเลย  มีมึงนี่แหล่ะไม่ช่วยเชี่ยอะไรกูเลย”

“กูจะมาช่วยเรื่องที่สำคัญที่สุดต่างหาก เลยนัดมึงมานี่ไง”

“มึงจะติวอะไรให้กู”

“กูจะให้มึง หัดตีหม้อ”



Flashback

“ห้า หก เจ็ด แปด  วันมอร์ไทม์” โอยย กูไม่ไหวแล้วไอ้พี่เดช  ตัวกูจะฉีกเป็นเสี่ยงๆ  “ข้อศอกชนให้สุดหัวเข่า มิสเตอร์นที  อ้าว ห้า หก เจ็ด แปด”

“ผม ไม่ไหวแล้วพี่เดช เจ็บพี่” นายนทีคนนี้ต้องแผ่ตัวลงบนเบาะรองตัวของไนกี้  ซื้อของแพงก็ไม่ช่วยกูเลย โอ้ยยยย

“เป้าหมายมีไว้ทำไม มิสเตอร์นที”

“เอาไว้สู้วววววว”

“ห้า หก เจ็ด แปด วันมอร์ไทม์ ยกศอกขึ้นมากอีก  ห้า หก เจ็ด แปด”   กูอยากจะร้องไห้






โรงแรมที่พัทยาใต้  ผมกับเอ เปิดไว้เอาแบบถูกที่สุด หนึ่งห้อง  แล้วก็เปิดแบบหรูหราที่บางละมุงไว้นอนจริงตอนดึกอีกหนึ่งห้อง สาเหตุที่ผมต้องเปิดโรงแรมถูกเพราะว่า ไอ้เอมีแผนจะอ๊อฟน้องโส มาให้ผมฝึกประลองได้มากที่สุด โดยมันจะสาธิตให้ดู  เอาเข้าจริง มันอยากจะตีกะหรี่ฟรี โดยให้ผมออกตังมากกว่า เอาเหอะ เมื่อมันเปิดใจกับผมขนาดนี้ จะทุ่มเทการสอนให้ผมขนาดนี้ ผมก็เต็มที่เหมือนกัน

ก็จริงของมันที่ว่า ต่อให้ผมมีใบหน้าที่หล่อกว่าดาราช่องสาม หุ่นดี บุคลิกเท่ แต่ท้ายที่สุด ผมจัดการกิจธุระบนเตียงไม่ได้  ผมก็ไม่สามารถประกาศชัยชนะได้เลย  ไอ้เอมันท้วงผมตอนที่ผมเล่าแผนการให้มันฟัง  แม้ตอนแรกมันจะหัวเราะจนน้ำตาไหล แต่ท้ายที่สุด มันก็ร้องไห้แล้วกอดผม เพราะไม่คิดว่า เหตุการณ์ที่กัสก่อ จะทำให้ผมสะเทือนใจและเสียศูนย์ได้ขนาดนี้  มันเลยขันอาสาจะติดวิชาที่สำคัญที่สุด ในปฏิบัติการเอาชู้รักมาทำเมีย นั่นก็คือ พาวเวอร์ออฟ รุก

เมื่อก่อน ผมก็เคยไปเที่ยวซ่องเจ๊หวีกับไอ้เอตอนมอปลาย แต่ไม่ชอบ กลัวติดโรค  ผมก็ทำเป็นนะ เสร็จกิจเร็วไปหน่อยแต่อย่างน้อยก็สบายตัว หลังจากนั้นพอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เจอกับกัสพอดี จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ไม่ได้มีเซ็กซ์กับคนอื่นเลยนอกจากกัสคนเดียว  ช่วงแรกเราแลกสัมผัสกันไม่ได้สอดใส่ จนครั้งที่สามสี่ ก็เริ่มมีการสอดใส่กัน เขาเป็นคนรุกผม มันเจ็บปวด แต่มันก็มีความสุขตอนที่เราสบตากันเมื่อเสร็จสม ผมไม่คิดเลยว่า ความสุขหลังร่วมรัก มันจะเกิดได้กับผู้ชาย แล้วหลังจากนั้นผมก็โดนรุกมาตลอด

ไอ้เอ เปิดหนังเอ็กซ์ให้ผมดู แล้วให้ผมจินตนาการ ว่ากำลังเป็นฝ่ายรุกบ้าง  เอารูปของ “กันต์” ผู้ที่เป็นเป้าหมายภารกิจแรก มาลองมโนดู ว่าจะเกิดอารมณ์ได้แค่ไหน ก็ไม่เป็นผลเท่าไหร่  อารมณ์มา แต่เจ้านทีน้อย ไม่กลอยใจตาม  ไอ้เอจึงเห็นว่า ไม่ได้ทีแล้ว คงต้องออกภาคสนาม ทำเวิร์คช็อป  ตอนเรียนแมร่งไม่เห็นเอาจริงเอาจังแบบนี้ ไอ้กร๊วก


ผมรู้สึกสนิทใจกับไอ้เอขึ้นสิบเท่า ตั้งแต่ผมเลิกกับกัส ไม่คิดเลยว่ามันจะรับทุกอย่างเกี่ยวกับตัวผมได้ขนาดนี้  เอ เป็นลูกคนโตของครอบครัวค้าขายวัสดุก่อสร้างที่ปริมณฑล  บ้านมันรวยพอตัว แต่มันก็มาเกาะผมกินอยู่เรื่อย ไม่ค่อยจะออกตัง สิ่งที่มันให้กับผม มักเป็นเวลา และ กำลังใจ   ตอนมอปลาย ไม่ถึงกับสนิทกันมาก แค่อยู่กลุ่มเดียวกัน  แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วมาเรียนพีอาร์ ด้วยกัน  ก็กลายเป็นสนิทกันไปเลย  ถ้าตอนนั้น ทุกคนโหวตเลือกมันเป็นเดือนคณะ อาจไปไกลถึงเดือนมหาลัยก็ได้ แต่คนในสาขาดันเลือกผม  ก็เลยไปไกลได้สุดแค่ตัวแทนคณะ กับขวัญใจสื่อมวลชน ที่มาจากกุหลาบของลูกน้องพ่อส่งมาให้ทั้งนั้น   ตอนนี้ผมคิดว่า ถ้าใบหน้าซึ่งโมดิฟายมาใหม่  หุ่นอันแสนฟิตและเฟิร์ม  กับบุคลิกอันแมนเท่ปัจจุบันของผม การประกวดในคืนนั้นผมคงคว้าชัย 



ซอยสุนีย์ พัทยาใต้  ร้านสเนคบอย

“น้องรูปหล่อครับ พาพี่กลับบ้านหน่อย พี่คิดพันเดียว”  ชายวัยยี่สิบกลาง ที่เมื่อสักครู่เต้นรูดเสาเกือบเปลือย เหลือเพียงกางเกงชั้นในขอบบางสีขาวเปียกน้ำ ติดเบอร์สาม ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นจู๋ แล้วลงมานั่งข้างเบาะกับผม โดยมีไอ้เอนั่งยกนิ้วหัวแม่มือส่งสัญญาณว่า คนนี้ใช้ได้ ซึ่งก็จริง ในบาร์นี้ คนนี้น่าจะดูหน้าตาดีสุดแล้ว แถมมาดแมนดูคล้ายผู้ชายตามท้องถนนทั่วไป

“กูนึกว่า มึงจะให้กูอ๊อฟผู้หญิง ไอ้สัส”

“ก็มึงจะปฏิบัติการกับผู้ชาย มึงจะอ๊อฟผู้หญิงทำไม  ซ้อมใหญ่ไปเลย คันนี้ต้องรันทรู  เดี๋ยวผู้หญิง กูอ๊อฟเอง  ห้องกว้างจะตาย คนละเตียง มึงคอยดูกู ว่าทำยังไง”


“มีผู้หญิงด้วยเหรอน้อง  หูย เอาดิ ลดให้ แปดร้อยพอ”  โปรมึงแรงนะ เบอร์สาม

“อุ้ย ไม่ได้นะพี่ ผู้หญิงน่ะ ของผม พี่ก็กับไอ้หน้าขาวนี่ไป แต่เดี๋ยวห้องเดียวกันเลย”  เอผู้คร่ำหวอดวิชาซื้อบริการเอ่ย

“งั้นไม่ลดนะ พันนึงเหมือนเดิม แต่ก็ถ้าผู้หญิงไหว ให้พี่ไปต่อนะ พี่หลายยกได้”

“พี่ ผมไม่ได้ให้พี่รุกมันนะ พี่ต้องรับ”

“เฮ้ยยย จริงดิ  หน้าออกจะหวาน” แสดงว่า หมอเกาหลีสอบตก แมร่งกูบอกให้เอาแมนๆ

“ไปกันได้เลยไหมพี่ เดี๋ยวต้องไปหาน้องผู้หญิงไปด้วยอีก”

“น้องจ่ายค่าอ๊อฟนอกสถานที่ สามร้อย แล้วออกไปได้เลยครับ”




รถสองแถวสีแดง เขียนข้างรถว่า หาดจอมเทียน-พัทยาใต้ จอดลงที่หน้าทางเข้าโรงแรม  ผมกับเอ เดินลงมาโดยมี ทวน เด็กอ๊อฟชายจากบาร์  กับ นก เด็กอ๊อฟหญิง ที่ไอ้เอติดต่อมาระหว่างผ่านหน้าบาร์ที่ถนนคนเดิน เธอเรียกเพิ่ม เพราะนึกว่าจะโดนผู้ชายสามคนรุมกินโต๊ะ  เอาเข้าจริงผู้หญิงนี่อ๊อฟง่ายกว่าผู้ชายมาก เพราะว่ามีจำนวนเยอะพอกับเม็ดทรายบนชายหาด หรือผู้ชายมันจะเยอะพอกัน แต่เราไม่กล้าเข้าไปถาม กลัวโดนมันเตะ

ทวน กับ นก นี่ดูสนิทกันเร็วแฮะ  ความที่เป็นเพื่อนร่วมอาชีพ แถมเป็นไทยใหญ่เหมือนกัน เลยพูดภาษาเดียวกันได้
ตอนเดินผ่านเคาท์เตอร์เข้ามา พนักงานก็ไม่ได้สนใจอะไรที่เข้าห้องพร้อมกันสี่คน เหมือนเป็นเรื่องชินชา
นั่นคือสาเหตุที่เอ ให้ผมตีรถมาที่นี่ เพราะว่า มันไม่เป็นขี้ปาก แล้วก็ไม่มีใครที่รู้จักเห็นหรือจะเอาไปนินทาได้ แถมลูกจ้างของเราในคืนนี้ เป็นงาน ไม่ต้องมาคอยอธิบาย หรือ กังวลเรื่องที่กำลังจะเกิด หากไม่เป็นไปตามคาด



หลังจากนั่งกันนิ่งอยู่ห้านาที นกคงกลัวจะเสียเวลางานของเธอ จึงคว้าไอ้เอไปดูดปาก แล้วก็โลมเล้า เอหันมาพยักหน้าให้ผมไปเริ่มกับทวนได้แล้ว  ผมเลยเดินมานั่งอีกเตียงที่อยู่ติดกันแต่เหมือนจะห่างไกลด้วยความรู้สึก มีเพียงโคมไฟหัวเตียงที่กั้นไว้   ทวนดึงผมไปพยายามจะจูบบ้าง แต่ผมเบือนหน้าหนี เขาก็โลมเล้าด้วยลิ้นตามติ่งหูลงมาตามซอกคอ มันก็เสียวดีอยู่หรอกนะ แต่มันแปลกๆว่ะ  เอาเป็นว่า มันไม่ได้ตื่นเต้นอย่างที่คิด   ตอนนี้เขาแก้เสื้อผ้าผมออกหมด  ตอนแรกก็นึกอายไอ้เออยู่บ้าง แต่พอหันไปเห็นมันก็เปลือยเกลี้ยงหมดตัวโดยมีนกบรรเลงโอษฐ์กามอยู่ จึงเลิกอายในทันที  แมร่งของมึงก็ไม่ใช่เล่นนี่หว่าไอ้เอ   แถมหุ่นก็ดี กีฬาก็ไม่เล่น วันๆ เอาแต่เล่นเกม อ่านการ์ตูน แล้วลอนท้องนั่นได้มาจากไหนวะ 



“ไปดูเขาทำไม มาคู่ของเราดีกว่าน้อง” ทวนจับผมนอนราบ แล้วโขกหัวลงไปกับนทีน้อย เขาใช้ปากให้จนมันขยายพองตัว กูก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ามึงหรอกนะไอ้เอ  แถม ขาว ตรง กว่า ด้วย

“อืมมม  อืมมมม”  ผมลองปลดปล่อยตัวเองด้วยการครางดูบ้าง เออ..เป็นอะไรที่ไม่เคยทำ  ปกติกับกัสนี่ก็ร้องโอ๊ยอย่างเดียว   เสร็จกิจทีไร ก็ต้องไปช่วยตัวเองต่อในห้องน้ำ   หรือรอให้มันหลับก่อน ก็สาวมือเอาบนเตียงนั่นแหล่ะ

“ให้พี่รุกแทนดีไหมน้อง”

“ไม่ได้ ต้องให้มันเป็นรุก”  ไอ้เอตะโกนแทรกเสียงมา จนผมต้องหันไปดู  กูยกให้เลย ไอ้เพื่อนยอดเยี่ยม

“เอ่อ.. กูว่า..”

“มึงต้องทำให้ได้ มึงต้องเห็นน้ำตาไอ้กัสให้ได้”

ผมว่าแล้วก็จับทวนพลิกตัวนอนลงบนฟูกนิ่ม เอื้อมมือไปหยิบถุงยางที่เพื่อนรักใส่กระจาดไว้ให้ตรงหัวเตียง เจลหล่อลื่นและลมหายใจที่หอบถี่  ผมฉีกถุงยางออก แล้วบรรจงหยิบชิ้นยางมาบีบตรงปลายหัวเพื่อไล่อากาศแบบที่ดูในดีวีดีสุขศึกษา  ผมก้มหน้าไปไซร้ซอกคอของทวนบ้างเพื่อปลุกเร้าอีกฝั่ง กลิ่นตัวสาปชิบหาย  ขนตามหน้าอกก็หยิกยาว ก่อนผมจะเอามือที่เตรียมถุงยางอนามัยไว้เข้าไปสวม..

นกเขาไม่ขัน...

“เชี่ยยยยยยยยย”    เอ ผละจาก นก ที่ยังนอนเปลือย สาวอ๊อฟดูไม่เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น  แต่ไอ้เอดูเป็นห่วงผมจริง มันเดินแก่นกายโด่แทบจะชี้หน้าผมอยู่แล้ว มาคุกเข่าลงตรงหน้า แล้วถามผมว่าโอเคไหม  ผมได้แต่ส่ายหน้า แถมรู้สึกเสียหน้ามาก  เหลือบไปมองทวนที่นอนหงายตั้งเข่ายกชันอ้ารอ ทวนไม่ได้มีทีท่าแปลกใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหยิบกางเกงยีนส์ที่เขาถอดไว้ที่ปลายเตียง  ตอนแรกนึกว่าเขาจะกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าเขาล้วงกระเป๋ากางเกงตัวนั้นแล้วส่งซองเล็กสีขาวให้ผม

“อมไว้ใต้ลิ้นแป๊บนึง แล้วกลืน  ขมหน่อย แต่เดี๋ยวก็ขึ้น” แล้วทวนก็เดินกลับไปนอนรอต่อ “จ่ายด้วย ร้อยห้าสิบ”

ผมมองหน้าไอ้เอที่ยังคงดูท่าทีกังวลและเป็นห่วง ผมล่ะใจกับมันมาก ที่มันทิ้งหญิงนกแล้วมาดูอาการผม  มันคงจะเสียดายที่ไม่ได้บรรเลงเพลงรักต่อ หรรมมันยังแข็งโป๊กขนาดนั้น ผมต้องแอบเหลือบไปมองอยู่สลับกับมองหน้ามัน

“เอาไงดี” ไอ้หรรมฟู ถาม

“กูว่า กูไม่พร้อมว่ะ”

“อีกสิบนาทีน้อง เดี๋ยวก็ขึ้น ดูหนังโป๊ รอไปก่อน เดี๋ยวก็ขึ้น เชื่อพี่” มึงกลัวไม่ได้ตังเพิ่มร้อยห้าสิบใช่ไหม

“งั้นระหว่างรอ มึงไปทำต่อเหอะ” ผมรู้สึกผิด

“มึงแน่ใจนะ” ดูเป็นห่วงกูหรอกนะ แต่มันรีบกระโดดขึ้นเตียงกลับไปหานกอย่างเร่งรีบ ไอ้ห่า พร้อมทุกสถานการณ์เลยมึง


ที่เตียงขวา ริมกำแพง แอร์เย็นฉ่ำ

“เสียเวลาหนู จ่ายเพิ่มร้อยนึงด้วยนะ”

“จ๊ะ เดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลย  ให้พวกเขานั่งดูด้วยนะ”

“หึ  ได้สิคะ คิดว่าเป็นครูให้ก็แล้วกัน พวกไก่อ่อน”  ผมได้ยิน ถึงกับหูร้อน

“ว่าไงนะ”  ผมเดินไปที่เตียงทางขวา

“แหม  คนไม่เคยก็งี้แหล่ะ หนูเห็นประจำ ก็ดูคนที่เขาทำเป็น แล้วเรียนรู้เอานะ  มา พี่เอ เริ่มกัน  ดูเอานะ ว่าผู้ชายจริงๆ เขาทำกันยังไง”  ผมล่ะอยากเดินไปจิกหัวขึ้นมาต่อย แต่ก็เพราะเธอเป็นผู้หญิง และไม่มีอะไรที่เธอพูดไม่จริงเลยสักนิด

“มึงนั่งดูก็ได้ กูไม่ถือ กูไม่ไหวแล้ว ไอ้น้ำ”  เอคว้าถุงยางมาครอบใส่อย่างชำนาญ แล้วเอื้อมไปบีบเจลทาที่เนินของนก 

มันผ่านเข้าไปอย่างช้าช้า  แล้วก็ถี่ เร็วขึ้น..  เร็วขึ้น
สีหน้าของนกบ่งบอกว่าเธอกำลังมีความสุข  ยิ่งเอแล้ว มันทำหน้าเหมือนกำลังอยู่บนสวรรค์ชั้นสูงสุด เอเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนักหน่วง รุนแรง ร่างที่ผอมบาง แต่มีกล้ามเนื้อตามหัวไหล่ รอนท้อง ต้นขา ส่ายเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ  มันก้มลงไปงับปทุมถันของนกสลับซ้ายขวา  ก้นของเอ กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะ  ผมมองลีลาของเอแล้วนึกทึ่ง มันชำนาญและดูโหยหิว  เหงื่อของมันกระเด็นมาโดนผมที่นั่งอยู่ติดขอบสังเวียน เหงื่อของเอซึมลงบนผิวของผม ผมได้กลิ่นตัวของมันพวยพุ่ง กลิ่นกายมันออกมาผสมกับหยาดเหงื่อนั้น  แล้วจู่ๆ.. 

นกเขาขันแล้วเว้ย..

“เชี่ยยยยยยยย”  เอที่กำลังได้ที่ ดึงตัวเองออกมา  นกผงกหัวลืมตามาดูผมที่ยืนเปลือยเปล่าและเดินเข้ามาจนชิดเตียงที่เธอนอนหราอยู่  มีทวนเดินตามมาประกบ

“กูขอนะ”  ผมบอกกับเอ    เอพยักหน้า แล้วเบี่ยงตัวออก
ผมหยิบถุงยางมาสวมอีกครั้ง คราวนี้มันแน่นคับปึ๋งปั๋ง ผมบีบเจลหล่อลื่นลงบนแก่นกายอีกครั้ง แล้วส่งผ่านมันเข้าไป...





ตีสาม สองนาที..

“หิวไหมวะ”

“อืม” เอาเข้าจริงผมง่วงมากกว่า  แต่ก็ไม่อยากจะนอน มันคงแปลกที่ด้วย

“ไปหาอะไรกินไหม”

“ป่านนี้อ่ะนะ จะมีอะไรให้มึงแดรก”

“พัทยาไม่เคยหลับ”

“แต่เวิ้งนี้มันบางละมุงเว้ย”

“เออ มีแล้วกัน ข้าวต้มก็ยังดี ไปเหอะ กูเพลีย”

“ก็แมร่ง เล่นทุกท่าในตำรา กูล่ะยอมใจ”

“แหม มึงก็ใช่ย่อย พอเครื่องติดนี่นะ  ขี้งกอย่างกู ยังต้องแอบทิป ทั้ง นก ทั้ง ทวน ไปอีกคนละ ห้าร้อย สงสาร”

“ขอบใจนะมึง”

“อืม มึงจ่ายทั้งหมดนี่ จะขอบใจกูทำไม”

“กูขอบใจ ที่มีมึงตรงนั้น  แล้วทำให้กูผ่านมันมาได้”


หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 3 : New Look นิวรุก ]
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 19-03-2018 19:05:12
ต้องถึงกับหนีบขาอ่านกันเลยทีเดียว อีพี่เอบ้า  :oo1 :haun4: :pighaun:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 3 : New Look นิวรุก ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-03-2018 23:31:06
 :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 3 : New Look นิวรุก ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 21-03-2018 15:08:53
พี่เอ ทำหนูร้อนฉ่าค่ะ 55  :hao7: :haun4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 3 : New Look นิวรุก ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 22-03-2018 00:24:53
ต้องถึงกับหนีบขาอ่านกันเลยทีเดียว อีพี่เอบ้า  :oo1 :haun4: :pighaun:

ฮาเม้นนี้ นึกภาพตาม  :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 4 : คนจีบกัน(ต์) ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 30-03-2018 01:07:23
Prep 4 :     คนจีบกัน(ต์)

เมืองจำลอง พัทยา ในบ่ายวันนี้เต็มไปด้วยผู้คนแม้ไม่ใช่วันหยุด มีทัวร์จากต่างประเทศเดินให้ว่อน
ผมกับเอ ที่ลากสังขารสุดโทรมคล้ายซอมบี้ ถ่อมายัง Mini Siam เพราะวันนี้มีนัดกับต้นหลิวเพื่อนรัก
ทำไมต้องเมืองจำลองนะเหรอครับ ก็เพราะว่าถ้าจะสร้างโลกโซเชียลใหม่ ทำโปรไฟล์ขึ้นมาใหม่ทั้งที ทั้ง Facebook  Instagram หรือ จะ Twitter ผมก็จะสร้างตัวตนขึ้นมา เพื่อไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับ นายน้ำ ใจเดียวคนเดิม  รวมถึงหน้าเดิม หุ่นเดิมของผม ก็จะเป็นอดีตทันที

ไอ้เอหัวใสเป็นคนต้นคิด เพื่อสนับสนุนการมาพัทยาในครั้งนี้ จุดประสงค์มันแอบแฝงอันนี้ผมรู้ มันกะมาตีหม้ออย่างเดียวแต่ผมก็ว่าเป็นความคิดที่ไม่เลว  พอต้นหลิวรู้ว่าผมกับเออยู่พัทยา เธอก็รีบทิ้งทุกอย่างเพื่อตามมาสมทบ ปล่อยให้ตูนปั่นงานส่งอาจารย์แทน
ถ้าผมขอตังพ่อ ทุกประเทศที่อยู่ในเมืองจำลองนี้ ผมคงไปได้หมดแหล่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่เงินซื้อไม่ได้ ..คือเวลา

“มึงต้องเหยียบทุกเรื่องนะไอ้เอ”

“เออ กูรู้น่า”

“มึงน่ะ ลองได้เมา แมร่งเล่าทุกเรื่อง”

“กูไม่เล่าหรอก แม้กูจะคิดว่า หลิวควรรู้ทุกเรื่องก็ตาม”

“นั่นไงล่ะ กูว่าแล้ว อย่าได้เล่านะเว้ย”

“เออๆๆ  ใครจะอยากไปเล่าความระยำตำบอนของมึงเมื่อคืนกันล่ะ ไอ้หมกมุ่น”

“มึงนั่นแหละ ตัวดีไอ้เอ ไอ้บัดซบ”

“ฮ่าๆๆ  ศีลเราเสมอกันว่ะ  กูไปฉี่แป๊บ มึงรอตรงนี้ละกัน”

ผมยืนอยู่หน้า หอไอเฟลจำลอง ก็ทำได้เหมือนอยู่นะ สมัยที่ผมไปซื้อหลุยส์วิตตองใบแรกที่ชองเซลิเซ่ ก็มีเวลาแวะ ลาตูร์ เอฟเฟล อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ของจริง มีตาข่ายสีเขียวคลุมซ่อมบำรุงอยู่เป็นชาติ ของปลอมสวยกว่าในความคิดผม
เมื่อหันกลับไป มีชายหนุ่มหน้าหล่อยืนอยู่ตรงหน้า ตัวเขาสูงจนน่าอิจฉา สกินเฮดรับกับจมูกโครงแกร่งที่หมอลียอง ก็ให้ผมมาไม่ได้แบบนี้

“พี่ไผ่”

“นั่นไง ใช่จริงด้วย” พี่ไผ่พูดจบ ก็เอานิ้วมาเขี่ยปลายจมูกผม  จมูกแพงๆ ที่พี่แหวนแหวนได้ค่าคอมมิชชั่นไปไม่รู้เท่าไหร่

“เก่งจังเลยพี่ไผ่อ่ะ หลิวมองตั้งนานยังหาไม่เจอเลย ไม่คุ้นหน้าน้ำเลย จำหน้าใหม่ไม่ได้ซะที”

“นี่จะจิกกัดเพื่อนต่อหน้าหอไอเฟลปลอมใช่ไหม”  ผมดุใส่หลิว

“ปลอมกว่าประตูชัย ก็หน้ามึงนี่แหล่ะไอ้น้ำ” ไอ้เอสุดปากหมาที่กลับจากห้องน้ำก็ตามมาสมทบ

“ก็ไม่เห็นจะต่างจากเดิมขนาดนั้น ดูทีเดียวก็รู้ว่าน้ำ” พี่ไผ่ยักคิ้วมาให้ ทำเหมือนภูมิใจ  ภูมิใจกะผีน่ะสิ กูหมดไปเยอะนะไอ้พี่ อย่างน้อยก็ควรจำกันไม่ได้ ลังเลก็ยังดีนะเว้ย

“พี่ไผ่นี่คนแรกเลยพี่ อาจารย์ที่คณะไล่มันออกไปตอนมันสอบเก็บคะแนน จนมันต้องไล่ชื่อของฝาก ที่เคยซื้อมาฝากท่าน อาจารย์ถึงจะยอมให้สอบ” แฉกูได้อีก ไอ้เอ

“หน้าก็อาจจะเปลี่ยน  บุคลิกก็อาจจะแปลกไป  แต่มันก็คือ น้ำแหล่ะว่ะ น้ำเด็กเอ๋อๆคนเดิม”

“ไปถ่ายรูปกันได้แล้ว นึกว่าหลิวจะมาคนเดียวซะอีก” ผมหันไปมองทางหลิวที่เหมือนจะดีใจ เวลาพี่ชายแซวผมหนัก

“ก็พี่ไผ่เขาห่วง กลัวหลิวขับรถลงข้างทาง เมื่อคืนตูนมาติวหนังสือให้จนดึกเลย”

“ไม่น่าจะต้องตีรถมาเลย ถ้างั้น” เอท้วง

“เรื่องอะไร ปล่อยให้อยู่กับเอ ในเมืองแบบนี้ เดี๋ยวชักนำกันไปทำอะไรเละเทะ”  เชี่ยยย  หลิว ญาณทิพย์

ผมกับเอทำหน้าอึกอัก หันมองกันจนคงเป็นพิรุธให้พี่ไผ่ได้เห็น เขาหันไปจูงหลิว เดินไปดูโคลอสเซียม ที่อยู่ในโซนมินิยุโรปต่อก่อจะหันมาแซวผมอีกระลอก “เดาว่า ช้าไปแล้วล่ะหลิว เละเทะกันไปแล้ว” 


พี่ไผ่เอากล้องตัวเก่ง ถ่ายรูปผมกับหลิวคู่กันหลายรูป ซึ่งผมจะเอาไว้ใช้ในโปรไฟล์ให้คนสงสัยเล่นว่า มีแฟนแล้วหรืออาจจะอยู่ในช่วง มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน เพราะว่า คนมีเจ้าของแล้ว เป็นที่ต้องการของคนบางประเภท มากกว่าคนโสด  โดยเฉพาะคนอย่างไอ้กันต์ เป้าหมายแรกของผม

“แต่มันดูก็รู้ป๊ะ ว่าเป็นของเก๊ ฉากพวกนี้น่ะน้ำ” หลิวเอ่ยถาม

“ก็จริง แต่เราเอาบรรยากาศ กับพวกชาวต่างชาติเป็นฉาก ไม่ได้เน้นสถานที่หรอก  แต่เดี๋ยวน้ำจะเอามือถือ ซูมใกล้สถานที่จำลอง แล้วค่อยเอาไปโพสต์อีกที  เลือกที่จับผิดยาก เช่น อียิปต์ หรือ นครวัด”

“ยังไม่รู้จุดประสงค์น้ำ  แต่หลิวก็จะช่วยเต็มที่นะ”

“ขอบใจนะ” ผมมองหน้าหลิวผู้แสนดี ก็ได้ยินเสียงแชะใหญ่ จากตากล้องแว่วมา  มีโรงอุปรากรซิดนีย์เป็นฉากหลัง

“หูยยย อย่างกับ พรีเว็ดดิ้งนะเนี่ย” พี่ไผ่เอ่ยแซว

“ยกน้องสาวให้ผมเปล่าล่ะ”

“ยกให้ได้ แต่ห้ามเอามาคืนนะ รำคาญ”

“ไอ้พี่ไผ่” หลิวเอื้อมมือจะไปทุบพี่ชาย จนพี่ไผ่เอื้อมมาหลบอยู่ด้านหลังผม มันคล้ายตอนที่เราสามคนเคยใช้เวลาด้วยกันตอนเด็ก  พี่น้องที่ชอบหยอกทะเลาะกันประจำ โดยมีผมเป็นตัวกลาง เราโตกันมาแบบนี้อยู่ระยะนึงเลย


Flash Back
“หลังตรงอีกคุณนที  ตรงอีก”
“ครับอาจารย์”
“เกร็งสะโพกไว้ ก้าวให้ไว ทะมัดทะแมงขึ้นอีก”
“ครับอาจารย์”
“แขม่วหน้าท้อง ยืดอก ยกสะโพกอีก อย่าเดินก้นบิด”
“ครับ.. อาจารย์”




..ในคฤหาสน์ของพ่อ
ผมนั่งอ่านรายงานข้อมูล ประวัติของ ธนง วงศ์ประเสริฐ หรือ กันต์ อดีตสามีรักของอดีตสามีผม ที่ตอนนี้ หมายจะเป็นสามีของสามีอดีตสามี  โอ๊ยยยย  เริ่ม งง 
พี่อำนาจทำงานได้เร็ว ละเอียด สมกับเป็นมือขวาของพ่อ ผมนั่งตาปรือเพราะนอนน้อยพักนี้ ช่วงนี้ออกไปเที่ยวผู้หญิงบ่อย แล้วก็ลองเที่ยวผู้ชายดูบ้าง  ผมก็คิดเสียว่ามันเป็นงานที่ต้องทำ เป็นภารกิจที่ต้องพิชิต ซ้อมทุกวันกันผิดพลาด

เอ ให้ผมลองใช้ กามากร้า ซึ่งคล้าย ไวอากร้า แต่อันตรายน้อยกว่า เป็นยาสมุนไพรอินเดีย ฉีกซองสีขาวออกมา อมเจลไว้ใต้ลิ้นสักครู่ มันจะวิ่งซ่านไปในเลือด ร่างกายร้อนผ่าว เส้นเลือดทุกสิ่งอย่างในร่างกายจดหดตัว ผลข้างเคียงก็คือ บางสิ่งบางอย่างจะชูชันขึ้นมาแทน  หลักการเดียวกับ ไวอากร้าทุกประการ  แต่ไวอากร้า ผลข้างเคียงมันเยอะครับ คงเห็นหลายคนหัวใจวายคาเตียง ส่วนหนึ่งมาจากใช้ยาซึ่งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
คอร์สพัฒนาบุคลิกภาพใกล้จบแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นอีกคน วิธีพูด วิธีเดิน ขนาดนั่ง หรือ กิน ยังเปลี่ยนไป จนพ่อผมต้องคอยแอบมองผ่านว่านตาหนาของเขา ว่าไอ้เด็กคนนี้ มันเป็นลูกเขาจริงไหม 

“นายน้อยจะเอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ  ประวัติพ่อกับแม่ หรือ ร่องรอยทางทันตกรรม ของคนชื่อกันต์”

“อย่าเว่อร์ได้ป๊ะ พี่อำนาจ” ผมหันไปพูดใส่ ชายหนุ่มในชุดซาฟารีสีเทาเข้มที่มานั่งข้างกับผมบนโซฟาอย่างคุ้นเคย

“อ้าว ก็เห็นนายน้อยถึงขั้นออกปากให้สืบ สงสัยจะอยากทำความรู้จักเขามาก”

“ขี้บ่นเป็นลิงแสมเลยพี่เนี่ย”

“ผมแค่ห่วงนายน้อย ไม่อยากให้นายน้อยเป็นทุกข์”

“ที่พี่อำนาจหามาให้นี่แหล่ะ จะเป็นกุญแจแห่งการพ้นทุกข์”

“นายกันต์นี่คือ มรรค 8 เหรอ”

“เดี๋ยวเหอะ อย่ามากวน อารมณ์ยิ่งไม่ดีอยู่”

“เด็กแถวพระรามเก้า ไม่ถูกใจเหรอครับ เห็นเข้าออกอยู่บ่อยนะพักนี้”

“เฮ้ยไอ้พี่อำนาจ” ผมรีบโผเอามืออุดปากสมุนเจ้าเล่ห์ของพ่อ ถ้าพ่อได้ยินนี่ เทศน์ยาวเลย

“อ้ออันอิงอี่อับ อ๋มเอ็นอุ๊กอันเอย” ก่อนพี่อำนาจจะแกะมือของผมที่อุดปากเขาอยู่ออก  “ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”

“เดี๋ยวก็ไม่ทำแบบนี้แล้ว คงไม่นานหรอก ขี้เกียจเล่าเหตุผลน่ะ”

“แต่มันก็ยังดีกว่าไปบาร์นวดชายแถวสาธรแบบวันก่อนแหล่ะครับ  ยังไงนวดกับผู้หญิงนายน้อยก็จะปลอดภัยกว่านะครับ”

“ไอ้พี่อำนาจ” ผมเอานิ้วชี้ไปอุดปากบอดี้การ์ดหน้าหล่อของพ่อ ทำไมรอบกายผมมีแต่คนกวนส้นตีน




สนามบินขาออก

บริเวณที่เช็คอินกระเป๋าผู้โดยสาร ผมที่แต่งหล่อเต็มยศด้วยเสื้อเชิ้ตเทา กับแจ๊คเก็ตสีดำจาก Ralph Lauren กับยีนส์ไม่แพงเท่าไหร่  ผมไม่อยากให้ใครจับพิรุธได้ 

“สวัสดีครับ คุณนที มีกระเป๋ามาเช็คอินกี่ใบครับ” ชายในชุดสูทดำ เชิ้ตขาวกับเน็คไทสีเลือดหมู เงยหน้ามาทัก  สายตานี่ดูก็รู้ว่า สะดุดเข้ากับใบหน้าหล่อป้ายแดงจากเกาหลีของผม

“ใบเดียวครับผม คุณ เอ่อ..”

“กันต์ณรงค์ วงศ์ประเสริฐ  รหัสพนักงาน QT43218 ยินดีต้อนรับคุณนทีครับ”

“ผมมีใจเดียว  เอ๊ยยย   ใบเดียวครับ นี่ครับ พาสสปอร์ต กับบอร์ดดิ้งพาส” มองกูตาไม่กระพริบ หึ ภารกิจนี้อาจเสร็จง่ายกว่าที่คิดไอ้น้ำเอ๋ย

“ขอโทษนะครับ อันนี้มันพาสสปอร์ตปลอมหรือเปล่าครับ” กันต์ทำหน้างง ปนตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

“อ๋อ ผมขอโทษ ตายๆๆๆๆ ทำไงดีนะครับ ความพิเรนทร์ของลูกชายผมโดยแท้” ผมเอาพาสปอร์ตที่หมดอายุแล้ว ลอกรูปเดิมออก แล้วเอารูปที่ถ่ายเปลือยท่อนบนไปแปะแทน โชว์หุ่นเซียะให้กันต์ได้ยล  “ไม่มีแม่คอยดูแลนานก็แบบนี้แหล่ะครับ ผมล่ะจนใจ”  คือไอ้เอบอกว่า ถ้าบอกว่ามีลูกแล้ว ความแมนเราจะเพิ่มเป็นห้าเท่า

“คุณนที รีบกลับไปเอาพาสปอร์ตตัวจริงจะดีไหมครับ เหลือเวลาอีกพอประมาณ น่าจะทัน”

“ไม่เป็นไร ผมเหนื่อยจัง เมื่อเช้าไปเล่นสควอชมาแล้วเมื่อยเนื้อตัว อยากไปสปาแทน พรุ่งนี้ผมค่อยเดินทางใหม่ก็แล้วกัน”

“แต่ตั๋วนี้ ก็จะใช้งานไม่ได้แล้วนะครับ ถูกยกเลิกฟรีๆเลยครับผม”

“ได้รู้ว่าพ่อหม้ายลูกติดยังมีคนห่วงใยบ้าง แค่นี้ผมก็อุ่นใจแล้ว พรุ่งนี้ คุณ.. เอ่อ..”

“เรียก กันต์ ก็ได้ครับ”

“คุณกันต์ เข้างานกี่โมงครับ”

“เรามีเที่ยวไป ดูไบอีกที พรุ่งนี้ บ่ายสอง ต้องเช็คอินกระเป๋าก่อนสิบเอ็ดโมง และก่อนอื่นต้องรบกวนคุณนทีซื้อตั๋วใหม่ครับ”

“ตั๋วเฟิร์สคลาส ไม่น่าเต็มง่ายๆ นะ  ผมเห็นว่างทุกที  เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยซื้อใหม่แล้วกัน” ผมขยิบตาให้หนึ่งทีครึ่ง  ดูเขาจะเผยอยิ้มแบบอายเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าหยิบพาสปอร์ตเก่าของผมส่งให้คืน

“พาสปอร์ตที่ใช้งานไม่ได้แล้วครับ”

“ใช้ไม่ได้ ก็ฝากทิ้งทีนะครับ สวัสดีครับ.. คุณกันต์”


เหนื่อยชิบหาย !!  หายใจไม่ทั่วท้องเลยกู  แต่เอาเป็นว่า น่าจะมีชัยไปกว่าครึ่ง ดูจากหูตาที่เขาเล่นกลับมา จำไว้เลย ถ้าใครกำลังเขินจะเผลอเอามือขึ้นเสยผม  สาบานได้ว่า กันต์เสยไปจนเหาละลายติดหนังหัว   ไม่นาน ก็มีไลน์แอดเข้ามา ใช้ชื่อว่า “รักกันต์” แหม.. ไม่ค่อยเลยนะมึง  เหมาะสมแล้วกับผัวเก่ากู  ง่าย ไวไฟ  เดี๋ยวกูจะสั่งสอนให้สาสม
ในพาสปอร์ต มีรูปผมกึ่งเปลือยอยู่หน้าหลัง ฝีมือการถ่ายแบบจากไอ้เอ  มีเบอร์โทร แล้วก็ไอดีไลน์  มีที่อยู่คอนโดห้องหรูใจกลางเมือง เจ้าตัวคงรู้ว่าผมอ่อย  แล้วเขาก็รีบเสนอท่าทีกลับ แหม.. ชักสนุกแล้วสิ



สนามบินขาออก  วันที่สอง

“ไม่ทราบว่า ในกระเป๋าเดินทางคุณนที มีสิ่งของต้องสำแดง หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้า พาวเวอร์แบงค์บ้างไหมครับ”

“มีครับ”

“โอ้ว..  พาวเวอร์แบงค์รูปร่างแปลกนะครับ ประจุไฟเยอะเกินกว่ากำหนดด้วยหรือเปล่าครับนี่ เกิน 32000 mAh ครับ”

“ฮ่าๆๆ  น่าจะเกินครับ..”

“งั้นคงต้องขอให้เอาออกนะครับ”

“คงไม่ได้หรอก ผมไม่กล้าทิ้ง คาซึเอะ ไว้  สงสารเธอ  เธอเป็นตุ๊กตาตัวโปรดของผม”

“เป็นตุ๊กตาที่มีประจุไฟมากเลยนะครับ”

“คุณกันต์ไม่รู้หรอก ว่าเธอทำอะไรได้บ้าง  เขินจังครับ  คุณกันต์คงไม่เข้าใจคนเหงา  หน้าตาแบบคุณกันต์คงไม่เข้าใจ”

“ผมทำไมเหรอครับ”

“ก็คุณกันต์ออกจะดูดีขนาดนี้ ไม่เหงาแบบผมหรอก”

“อะไรกัน คุณนทีนี่หล่อระดับเฟิร์สคลาสเลยนะครับ ถ้าเหงานี่คงแปลกมากๆ”  ติดบ่วงกูแล้วสิมึง

“ผมต้องทำอย่างไรดีนะครับ”

“เสียใจด้วยครับ ต้องเอาตุ๊กตาประจุไฟตัวนี้ออกไป ไม่อย่างนั้น คงจะโหลดกระเป๋าให้ไม่ได้”

“งั้นผมเอาเธอไปส่งบ้านก่อนดีกว่า  พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”

“เสียดายตั๋วแทนจังเลยนะครับ แต่พรุ่งนี้ผมหยุดนะครับ”

“นี่กะจะไม่ให้ผมเช็คอินกระเป๋ากับคนอื่นเลยเหรอครับ”

“เปล่าครับ ผมแค่แจ้ง จะมีน้องพนักงานคนอื่นมาดูแลแทน” กันต์มีอาการเขินอาย ที่ผมพูดดักคอขนาดนี้

“ผมไม่ชอบเปลี่ยนคนดูแลบ่อยนะสิ.. ดูอย่าง คาซึเอะ  เธออยู่กับผมมาหลายปี”

“ผมหยุดสองวัน ทำงานสามวัน สลับกันไปครับ”

“งั้นผมกลับมาใหม่ ตอนคุณกันต์มาทำงานเนอะ  สวัสดีครับ”

“ผมมีไลน์คุณนที”

“ก็ทักมาสิครับ เห็นทีผมต้องบอกกับคาซิเอะว่า หมดเวลาของเธอแล้วล่ะ”


เอาเข้าจริงเขาก็มาดดี มีหน้าตาโดดเด่น คนจะเข้าใจว่าเป็นสจ๊วตก็ไม่แปลก ที่ทำงานกราวนด์ สงสัยสอบโทอิคได้น้อยสินะ หรือว่าอายุมากแล้ว  แต่จากข้อมูลพี่อำนาจ กันต์น่าจะทำเป็นพนักงานภาคพื้นดินอยู่ระยะนึงแล้ว 
ถ้าเจอข้างนอก หรือไม่ได้มีคดีความกันอยู่ ก็ถือว่า เป็นคนน่าคบหาเหมือนกัน อัธยาศัยดีเชียว ดูเอาใจใส่ แล้วก็ช่างเอาใจ  ไอ้กัสหลงมึงตรงนี้สินะ หึ  ไม่นานหรอกกันต์.. ไม่นานหรอก




“ข้อมูลผม ใช้ได้ไหมครับนายน้อย”  ผมปรือตาขึ้นมามอง บอดี้การ์ดของพ่อที่คร่อมตัวผมอยู่ ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าออกห้องผมได้ตามอำเภอใจ จะมีก็ไอ้พี่อำนาจนี่แหล่ะ

“ก็พอจะรักษามาตรฐานพี่อำนาจได้อยู่หรอกนะ ไม่ถึงกับวิเศษอะไร”

“นายน้อยจะเอาอะไรล่ะครับ ผมจะไปหามาให้”

“อยากรู้ว่า มันชอบไปเที่ยวไหนเวลามันได้วันหยุด เหล้าที่มันชอบ แล้วก็ไปกับใคร”

“นายน้อยหลงรักเขาเหรอครับ”

“เฮ้ยย ไม่ใช่”

“อ้าว ผมก็นึกว่า นายน้อยแอบตามเขา อยากทำความรู้จัก อยากได้เขา”

“จะพูดยังไงดี..  อยากทำความรู้จักน่ะใช่  แต่ไม่ได้ชอบ  แค่อยากได้เขา คือ ต้องได้ แต่ไม่ได้ชอบ”

“มันย้อนแย้งอยู่นะนายน้อย”

“เออหน่า พี่ก็เอาข้อมูลมาให้ผมแล้วกัน แล้วมานอนทับทำไมเนี่ย หนักจะตายอยู่แล้ว จะนอน”

“เมื่อคืนดึกอีกแล้วเหรอครับ เห็นไปแถวรัชดามา”

“นี่แอบติดจีพีเอสที่รถใช่ไหม”

“จีพีเอสมันล้าสมัยมากไปแล้วครับ สำหรับผม”


หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 4 : คนจีบกัน(ต์) ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-03-2018 01:25:13
 o13 o13
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 4 : คนจีบกัน(ต์) ]
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 31-03-2018 13:08:57
 :impress2: :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 5 : ชาวเป(ย์)รู ยังต้องเรียกกูว่าพ่อ ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 03-04-2018 00:28:02
Prep.5 :  Pay for Play ชาวเป[ย์]รู ยังต้องเรียกกูว่าพ่อ

โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย บ่ายวันศุกร์ ผมเดินผ่าฝูงนักศึกษาเข้าไปยังโต๊ะที่พวกหลิวนั่งรออยู่ 

“เชี่ยยย หน้าใหม่มึงนี่เผ็ดเว่อร์  คนมองทั้งตึก”  เอทำหน้าอิจฉาตาร้อน

“หุ่นใหม่ก็เท่ดีนะ เราว่าน้ำหุ่นแบบนี้กำลังดี แบบเก่าผอมเกินไป” ตูนแสดงความเห็นเพิ่ม

“แกดูสมาร์ทขึ้นด้วยน้ำ เดินเหินนี่แมนเชียว สาวคณะบัญชีเหลียวหลังกันใหญ่ อย่ามานั่งกับหลิว เดี๋ยวหลิวโดนดักตบ”

“อย่ามาอวยกันเว่อร์เลยเพื่อน  ไหนกินอะไรกันเนี่ย”

“มีแครอทเค้กที่น้ำชอบด้วย เราเห็นร้านเจ๊อิ๋วเพิ่งสไลด์เป็นชิ้นใส่ตู้เมื่อกี้ เลยซื้อมาฝาก มีน้ำมะพร้าวปั่นด้วย”

“โหว ตูน ขอโทษว่ะ ตอนนี้เรางดของหวานกับของทอด น่าจะยาวเลย” แล้วผมก็ควักน้ำแร่เอเวียงจากกระเป๋ามาดื่ม

“แล้วนี่สองคนนี้ไปเที่ยวพัทยากันสนุกไหม ตูนจะไปด้วยทำไมไม่ให้ไปล่ะเนี่ย” ผมกับไอ้เอแทบสำลักน้ำ

“น้ำมันชวนไปเรียนดำน้ำ เลยไม่อยากให้ตูนไป มันอันตราย” เอขี้ม้าขาวมาช่วย เรื่องตอแหลมันก็ได้โล่อยู่นะ

“ทำไมไม่ให้พี่ไผ่สอน พี่ไผ่ดำน้ำเก่งมาก ได้ใบประกาศอนุญาตดำน้ำลึกแล้วด้วย”  ตูน กูว่ามึงควรหยุด ไอ้ขี้เสือก

“โทษนะครับ พอดีเพื่อนอยากรู้จัก เพื่อนอยากได้เบอร์” ชายคนหนึ่งเดินมาหาที่กลุ่มเรา เอ่ยปากบอกกับผม แล้วชี้ไปที่สาวสามคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหน้าร้านน้ำปั่น

“เพื่อนคนไหน” ผมถาม

“นี่ไง เราเอง เราที่ชื่อว่าเพื่อน”  ชายหนุ่มคนเดิมที่หน้าตาดีใช้ได้ ชี้ยังหน้าอกตัวเอง

“......”  มุกเสื่อม พูดไม่ออกเลยกู  ก่อนมีเสียงกรี้ดดังมาจากกลุ่มเพื่อนของไอ้เพื่อน แล้วไอ้คนชื่อเพื่อนก็เดินกลับไปสมทบเพื่อนของมัน ซุบซิบนินทา เอาเหอะ จะหาว่าหยิ่งก็แล้วแต่ ตอนนี้ ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เป้าหมายผมคือ ท้าชน และ พิชิตไอ้กันต์ ให้จงได้



จากประวัติของกันต์ มีอะไรน่าสนใจมากมาย พี่อำนาจพิมพ์รายงานมาให้ว่า
เขาดิ้นรนพอสมควรที่จะจากชีวิตบ้านนอกมาเมืองหลวง เขาทะเยอทะยานและพยายามที่จะเป็นที่ยอมรับ 
ความที่หน้าตาดี บางอย่างก็ง่าย แต่บางอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นปัญหา
เพราะมันสร้างสมนิสัยบางอย่างที่เขาคิดว่า เขาจะได้มันมาโดยง่าย

ทุกวันหยุด มีสถานที่หนึ่ง ที่เขาจะต้องมาประจำ แล้วเขาก็กลับกับใครสักคนในทุกคืนที่ออกเที่ยว
ก็หน้าตาแบบนั้น คงไม่ยาก ถ้าจะหาใครที่เหงาเช่นกันกลับบ้านด้วย 
เพียงแต่ก็แปลกใจ ว่าทำไมเขาเลือกที่จะสานต่อคนอย่าง ออกัส แฟนเก่าของผม
ออกัส ไม่ได้มีอะไรที่ กันต์น่าจะโหยหา  เงินก็ไม่มี แถมยังกำมะลอ
กันต์เอง แม้จะหน้าตาดีขนาดนั้น แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะทำให้ ออกัสผู้รักสนุก จะถึงกับทิ้งผมไปหาได้
คืนนี้ ผมคงได้คำตอบ


ผมเปิดตู้เสื้อผ้าสีไม้มะค่าของ Kenzo รุ่น ลิมิเต็ด แล้วก็หยิบเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงยีนส์ฟอกฟ้าอ่อนออกมาวางที่เตียง เลือกเครื่องประดับให้น้อยชิ้นที่สุด แต่มีโลโก้เล็กน้อย  จะล่อเหยื่อเด็ด ใจก็ต้องถึง อืม.. ใช้ทิฟฟานี่แล้วกัน ต่างหูแบบหนีบ กับข้อมือทองคำขาว น่าจะเพียงพอสำหรับไฟสลัวในผับ  วันนี้ผมคงไม่ขับรถ นั่งแท็กซี่เอาดีกว่า เผื่อจะเมา


สีลมซอย 2
ดนตรีดังอึกทึกลั่นจนไม่ได้ยินเสียงพูดคุย  ผมนั่งอยู่หน้าเคาท์เตอร์ในตำแหน่งที่โดนสังเกตได้ชัด  ผับที่ซึ่งคืนนี้ มีเงาของกันต์โผล่มาแน่นอน  ตั้งแต่ผมย่างเท้าเข้ามา ก็มีสายตาหลายคู่จ้องมา ผมรู้พลานุภาพของมีดหมอก็วันนี้ 

ดีเจสเตชั่น ผับเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยชายวัยกลัดมันผู้หื่นกระหาย แม้ภาพภายนอกคล้ายผู้คนจะหลั่งไหลกันมาฟังดนตรีซาวด์แน่น วัยรุ่นถึงวัยดึก บ้างก็แต่งเป็นผู้หญิง บ้างก็ดูคล้ายกรรมกรแบกหาม  บางคนก็คล้ายเพื่อนพ่อซะจนน่ากลัว   เพลงที่ล้ำสมัย  กับบรรยากที่เร่าร้อน  แต่ภายในเท่านั้นใครจะไปรู้ว่า คนที่ก้าวเท้าเข้ามาอุดมไปด้วยความเหงาที่แบกไว้บนบ่า และหวังว่าจะพาใครสักคนกลับบ้านด้วยเพื่อทุเลาความหว้าเหว่นั้น

นั่นไง เขามาแล้ว เดินมากับเพื่อนอีกคนที่หน้าตาดีไม่แพ้กัน แต่งตัวเรียบง่าย แต่ก็ดึงดูดสายตาไม่น้อย  ตั้งแต่ผมเดินเข้ามา ที่ผู้คนต่างมองเป็นตาเดียว  มีนายแบบสิงคโปร์  แล้วก็น่าจะเป็นกันต์นี่แหล่ะ ที่ทำเอาหนุ่มน้อยใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าบาร์สะกิดกันจ้าล่ะหวั่น โดยเฉพาะฝรั่ง และ นิโกร ที่มองกันต์จนน้ำลายไหล 

เพลง I’ve Never Been to Me เวอร์ชั่น DJ.dance Remix ที่ไม่ได้ฟังมาเนิ่นนาน ทำเอาคนลุกขึ้นเต้น ผมหันไปมองกันต์ที่ตอนนี้ ตระหนักแล้วว่า ผมอยู่ในนี้  เขายกแก้วชูขึ้นเป็นการทักทายผม  ผมชูตอบ แล้วส่งยิ้มให้ เดาว่านับหนึ่งถึงสิบ เขาจะต้องเดินมา

“คุณนที มาได้ไง” กว่าจะมาทักกูได้ โค้กซีโร่กระป๋องละ ร้อยห้าสิบ หมดไปสี่ดริ้งค์แล้ว

“อ้าว คุณกรานวด์รูปหล่อ  ชื่ออะไรนะ”

“กันต์ครับ จำชื่อผมไม่ได้ เสียใจนะเนี่ย” เขายกมือปัดไล่เพื่อนที่มาด้วยกัน ให้ไม่ต้องมานั่งด้วย

“ให้อภัยผมเถิด สมองผมคงตื้อน่ะครับ อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเหงา เลยนะครับ”

“น้องคาซึเอะ ทิ้งไปเหรอครับ”

“ฮ่าๆๆ   มันเจ็บกว่านั้นเยอะ  อย่าพูดถึงมันเลย ดื่มอะไรดี ให้ผมเลี้ยงนะ”

“คืนนี้ ผมว่าผมไม่ค่อยอยากจะดื่มเท่าไหร่ครับ”

“ผมเปิดบลูเลเบิ้ลให้นะ”

“หูววว  ได้ครับ คุณนที”



จากแก้วสู่แก้ว  ผมที่งดแอลกอฮอล์ในช่วงของการดูแลหุ่นที่เพิ่งถูกแกะสลักโดยเทรนเนอร์เดช ก็ไม่คิดแตะต้องเครื่องดื่มมึนเมาไปพักใหญ่  คงได้แต่นั่งจิบน้ำแร่กับโคล่าแบบไม่มีน้ำตาลไปค่อนคืน  ผมให้กันต์ได้พูด พูด แล้วพูด นั่นนี่ในสิ่งที่เขาอยากจะบอกเล่ากับคนที่เพิ่งรู้จักอย่างผม  เอาเข้าจริง เขาก็น่ารักมากอยู่นะ ยกเว้นถ้าวกเข้าเรื่องการงาน

“ไอ้พวกสจ๊วต กับ แอร์ มันไม่เคยเห็นหัวพวกผมหรอกคุณนที รู้ไหมทำไม”

“ไม่รู้สิครับ เล่าให้ผมฟังหน่อย ผมมีเวลาทั้งคืนเลย”

“ก็พวกมันวิเศษเลิศเลออยู่บนฟ้า  ส่วนพวกผม มันมองว่ายังไงก็เป็นคนภาคพื้นดิน  ขึ้นชื่อว่าอยู่บนดินมันก็ไม่สุงสิงแล้ว”

“คุณกันต์คิดมากไปเองหรือเปล่าครับ ผมอยู่บนนั้น น้องๆก็น่ารักกันมากเลยนะครับ” ยั่วโมโหได้อีก ผมนี่เยี่ยม

“มันก็ซูฮกแต่กับพวกคนรวยแหล่ะครับคุณนที  เงินเดือนมันสูงกว่า มันไฮโซกว่า มันมองพวกผมกันด้วยหางตา”

“แล้วไม่อยากไปทำงานข้างบนนั้นบ้างเหรอครับคุณกันต์” ผมยังคงแหย่ให้เขาปลดปล่อยอารมณ์เขาออกมาอีก เพราะตอนนี้ ผมรู้สึกได้เลยว่า เขาเมาเต็มที่แล้ว  ซึ่งตอนแรกเห็นเขาจะหยุดดื่ม ผมเลยใช้ไม้เด็ด สั่งเปิดบลูเลเบิ้ลให้เขา โอ้โห ข้อมูลพี่อำนาจนี่แม่นเป๊ะ กันต์ผู้ที่พ่อนักสืบตัวดีบอกว่า เป็นพวกวัตถุนิยมสุดโต่งมีเหรอจะปฏิเสธ  เขายกมันเข้าปากแบบที่ไม่กลัวเมาอีกเลย

“โอยยย แค่ทุกวันนี้ มีงานก็บุญแล้วคุณนที ผมน่ะ รอเขาเปิดรับคนในมาสามปีแล้ว ก็ไม่เห็นจะได้ แถมยังมีคนจาก เอ้าท์ซอร์สมาแข่งอีก เงินเดือนก็ใช่จะเยอะ โหมทำโอทีแทบตายเพื่อจะผ่อนคอนโด  ไหนจะส่งเงินกลับต่างจังหวัดไปให้แม่ เหนื่อยครับพี่นที  เหนื่อยเหลือเกิน” 

“แล้วน่ารักอย่างคุณกันต์นี่ไม่มีแฟนเหรอครับ”

“ผมก็เพิ่งเลิกไป มันไปมีคนใหม่ไปแล้ว นี่ ผมยังคิดถึงมันอยู่เลย ผมมองนาฬิกาที่มันเก็บตังซื้อให้ผมอยู่บ่อยครั้ง” นาฬิกาที่มึงใส่ ฮอยเออร์นั่น คือเงินกู ฮัลโหลววว

“เขาทิ้งคุณกันต์ไปได้ยังไง คุณกันต์ออกจะดูเพอร์เฟ็คส์”

“มันว่าผมปกป้องมันไม่ได้ ทั้งที่ผมดูแลเป็นอย่างดี ผมวิ่งเต้นให้ได้มาทำกราวน์อีกสายการบินนึง จะฝึกงานสิ้นเดือนนี้อยู่แล้ว ผมดันไปจับได้ซะก่อน ว่าไปมีคนอื่น มันบอกว่า..”  แล้วกันต์ก็ฟุบหน้าลงไปที่โต๊ะ ร้องไห้  เออ หัวอกเดียวกันแฮะ

“บอกว่าอะไรครับ”  ไอ้กัส มึงทำคนเสียใจมากกว่าหนึ่งคน มึงนี่นะ ไม่ได้ตายดี ไอ้ห่า

“ผมจืด เหมือนแกงจืด ไม่มีอะไรแปลกใหม่สำหรับมัน”

“ถ้าเมาแล้ว ไปต่อห้องผมกันดีกว่านะ”

“ผมว่าผมจะกลับบ้าน ผมอยากกลับ..”

“เพ็นท์เฮ้าส์ ดิเอ็มไพร์”

“หูววว ผมไปด้วย”




ในสระว่ายน้ำโอเพ่นแอร์  ผมในกางเกงบ็อกเซอร์ กับกันต์ในกางเกงว่ายน้ำสีเหลืองอ่อนของผม ให้เขายืมใส่ มันดูดีเวลาอยู่กับเขามากกว่าอยู่กับผมนะ ผมว่า

“นี่ไม่มีใครลงว่ายน้ำเลยเหรอครับ คือ เขาไม่ว่าใช่ไหมว่ายดึกขนาดนี้” กันต์ที่สำรวจห้องผมด้วยสายตา แถมยังสนใจอสังหาของผมซะยิ่งกว่าผมที่อยู่ตรงหน้า

“มันเป็นสระของผมครับ”

“โหว จริงดิ”

“เพ็นท์เฮ้าส์ จะมีสระของตัวเอง แต่ก็สระเล็กอย่างที่เห็นนี่แหล่ะครับ โครงสร้างมันคงรับน้ำหนักได้เท่านี้”

“ในตึกมี เพ็นท์เฮ้าส์กี่ห้องครับคุณนที”

“เพ็นท์เฮ้าส์ธรรมดา มี 4 ห้องครับ ซึ่ง เพ็นท์เฮ้าส์ไดมอนด์ มีห้องเดียว”

“ซึ่งห้องนี้ก็คือ..  คือห้องไดมอนด์ ที่ว่าเหรอครับ”   เขาอมยิ้มเมื่อผมส่งแก้วแชมเปญไปให้แทนคำตอบ   ผมลอยตัวในน้ำไปหาใกล้กันต์ เขาเริ่มหน้าแดงทั้งที่ดื่มไปตั้งเยอะแล้ว แต่เหมือนจะเมายากแฮะ สงสัยฉี่ในสระกูแน่เลยไอ้หน้าหล่อ

“อร่อยจังเลย”

“ดอม เพอริญอง ผมเปิดเฉพาะโอกาสพิเศษน่ะครับ”

“ว้าววว”

“ผมจูบคุณได้ไหม”  ผมรุกเขาก่อน  แต่เขาก็เดินผ่าน้ำมาแล้วบดปากเขากับริมฝีปากของผม กลิ่นบลูเลเบิ้ล ผสมกับ ดอม เพอริญอง ไม่รู้ว่าอันไหนแรงกว่า แต่รสริมฝีปากของกันต์หวานนำรสเหล้าทั้งปวง ผมเอามือของเขามาจับซิกแพ็คป้ายแดงของผม ให้เขาลูบไล้อยู่อย่างนั้น ผมโอบเอวเขารั้งเข้ามาชิด ให้หน้าท้องของเราเบียดกัน
บางสิ่งบางอย่างมันพองก๋า แล้วมันก็เบียดไปมาในน้ำนั้น

“ผมว่า.. ผมไม่พร้อม ผมยังไม่..” 

“ผมไม่ได้เร่งรัดครับกันต์  ผมแค่อยากใช้เวลากับคุณคืนนี้”  แล้วผมก็บรรจงจูบปากที่เอื้อนเสียงครางกระเส่าไม่หยุดหย่อน สักพักผมดึงเขาขึ้นจากสระ ส่งผ้าเช็ดตัวสีส้มผืนสะอาดของ HERMES ให้กันต์มารับไว้ เขาเอาผ้ามาสูดดม มันช่างดูน่ารักดี เหมือนเด็กน้อยที่เห่อของเล่น 
ผมรู้จากรายงานของพี่อำนาจว่าเขาบ้าของแบรนด์เนม แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเอาหนักขนาดนี้เลย  ผมเช็ดตัวของผมให้แห้ง แล้วเดินเข้าไปหาเขา เอา HERMES อีกผืนแต่เป็นสีดำอักษรส้ม เช็ดไปที่หัวของเขาให้มันแห้งหมาด ห่อไหล่เขาไว้  ถอดบ็อกเซอร์ที่เปียกของผมไว้กับพื้น

“คุณนทีครับ.. ผมว่า..  ผม..”

ผมบดปากลงไปบนปากแดงนั้นอีกรอบ ก็มันดีแฮะ นุ่ม หวาน อร่อยกว่าของไอ้กัสมากมายนัก  ผมเอามือเขามาจับของผม เขากำมันแน่น เมื่อมันเหมือนจะเป็นแต้มต่อ ผมเลยส่งลิ้นเข้าไปควานในปากของเขา สอดปลายลิ้นไปให้เขาอมไว้ในกระพุ้งแก้มอุ่นร้อน กันต์ฉกมันอย่างชำนาญ มือเขายังกำแก่นกายของผมไว้แน่น  ผมค่อยๆเอามือกดหัวเขาลงไป เขาขืนตัวอิดออดเล็กน้อย

“คุณนทีครับ.. ผม..” 

“ห้องซ้ายแต่งแบบ Dior ถ้าไม่รังเกียจของเชย.. แต่ถ้าชอบสีสันแบบ Versace ก็ห้องขวาครับ”

เสร็จผม..  เขาดึงผมไปทางห้องซ้าย คว้าคอผมโน้มไปจูบ ผมเอาลิ้นไถจากติ่งหูลงมาที่ซอกคอตามที่ไอ้เอสาธิตให้ดู ผมจับแขนทั้งสองของกันต์ยกขึ้นแล้วโน้มดันตัวลงนอนบนเตียง  สีหน้ากันต์เป็นปลื้มที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าเขาสัมผัสกับผ้าปูที่นอนดิออร์สีขาวตัดดำ ผมสั่งมาโดยเฉพาะ และหวังว่ามันจะได้ใช้

“เบรกก่อนคุณนที...” กันต์ดิ้นไปมา เมื่อลิ้นของผมวนอยู่ที่ตุ่มเม็ดสีชมพูตรงยอดอก ผมเลือกที่จะไม่โกนหนวดวันนี้ ให้ตอขนมันถูแถวราวนมจนเขาส่ายดิ้นราวกับปลาถูกทุบหัว  ผมล็อคข้อมือที่อยู่เหนือหัวของเขาทั้งสองข้าง  ตาเรามองกัน เขาดูหล่อ น่ารัก แล้วก็น่าขยี้  เอาเข้าจริง เขาน่าครอบครองกว่าไอ้กัสด้วยซ้ำ 

“เรียกผมว่า พี่ได้ไหม” ผมใช้ปลายเท้าของตัวเองเหนี่ยวดึงกางเกงว่ายน้ำสีเหลืองจากสะโพกของเขาออกแล้วโยนทิ้งไป  ก่อนจะเอาลิ้นลากจากราวนมลงมาถามสีข้าง ผ่านมายังเนินสะโพก  โดยไม่ลืมที่จะเพิ่มความโรแมนติกตามที่ไอ้เอติวไว้ ด้วยการบรรจงจุมพิตลงที่บั้นเอว กันต์หลับตาพริ้ม  ผมเอานิ้วค่อยๆไต่ไปที่ซอกขาด้านใน แล้วยกขาเขาชันขึ้น

“เดี๋ยวสิพี่ คุยกันก่อนครับพี่นที”

“ครับน้องกันต์”  ผมหยุดไม่อยู่ ชิมเขาไปเรื่อย มือที่ไล้อยู่ตามตัวเขาถูกกันต์จับล็อคไว้บ้าง

“ผมไม่เคย..”

“อย่าทำพี่แปลกใจสิครับ”

“ผมไม่เคยเป็นรับครับพี่”

“พี่จะค่อยๆนะครับ”  ผมโน้มทับตัวเขา เรากอดกันไปมาแลกกับจูบที่ดูดดื่ม

“พี่ครับ  พี่นทีรับผมแทนได้ไหม  ผมไม่กล้า”

“พี่ก็ไม่เคยด้วยสิครับ.. มันมีครั้งแรกเสมอนะครับกันต์  นึกถึงเรานอนกอดกัน ทานไข่ปลาคาเวียร์ เป็นมื้อเช้า”  ผมเอานิ้วที่ชุ่มด้วยเจลหล่อลื่นแหย่เข้าไป เขายอมแล้ว   ผมนับหนึ่ง

“โอ๊ยพี่นที ผมเจ็บ”

“เจ็บแป๊บเดียว นะ.. นะครับ..  เดี๋ยวพรุ่งนี้ ไปพักฟื้น พี่จะพาบินไปกินกุ้งที่ศรีพันวากันนะครับ”  แล้วผมก็แหย่นิ้วเพิ่มเข้าไปอีกนิ้ว เขาครางออกมา   ผมนับสอง

“โอ๊ยพี่นที  ผมไม่ไหวแล้ว พี่ผมเจ็บ หยุดครับพี่ หยุด”

แล้วผมก็หยิบไม้ตายสุดท้ายออกมา ซองฟอยด์สีน้ำตาล หลุยส์ วิตตอง ไซส์ 54 ลายโมโนแกรม ฉีกต่อหน้าเขา แล้วส่งถุงยางที่แพงที่สุดในโลก ไปให้เขาจูบหนึ่งที  กันต์จูบมันด้วยความหื่นกระหาย เอื้อมมือจะมาหยิบประติมากรรมชิ้นพิเศษ
ฉีกฟอยด์ราคา 80 ดอลลาร์อย่างบรรจง แล้วหยิบลาเท็กซ์ห่วงกลมสีน้ำตาลเข้มน้ำในที่ปลายนิ้ว
 
“ใส่ให้พี่ทีนะครับ พี่สั่งมาไว้ใช้กันน้องกันต์เท่านั้น.. น้องกันต์คนเดียว”  ผมก้มลงไปดูดปากเขาอีกรอบ กันต์เอื้อมมือไปใส่ถุงยางให้ผม แล้วผมก็ นับสาม..




ที่ระเบียงของเพ็นท์เฮ้าส์  ผมนั่งดูดาวในเมืองหลวง แม้ชั้นที่อยู่จะสูงขนาดนี้ ก็ยังมีตึกมาบังอยู่ดี  อากาศเย็น  ผมเหลือบไปเห็นคนที่นอนหลับบนเตียงดิออร์  เขากอดหมอนขนห่านหนาแสนนุ่มไว้กับหน้าอก ซุกตัวที่เปลือยเปล่าอยู่อย่างนั้น หลับตาพริ้ม คล้ายกับกำลังฝันถึงอะไรบางอย่าง  กันต์เป็นคนน่าเอ็นดู สดใส น่าหลงใหล..  ออกัส คงชอบแบบนี้สินะ

ผมเดินไปที่เตียง ก้มลงไปหอมเขาที่แก้ม เอาผ้าห่มมาคลุมตัวเขาไปไว้ หรี่ไฟที่หัวเตียงลงให้สลัว  เอื้อมไปหอมที่ซอกคอเขาอีกรอบ เขายิ้มทั้งหลับไปอย่างนั้น

แล้วผมก็ ควักโทรศัพท์ออกมา.. กด ชัตเตอร์อย่างไร้เสียง  ความเงียบที่ทารุณ ได้เริ่มต้นขึ้น ผมรับรู้เลยว่า ปีศาจร้ายได้ครอบงำหัวใจผมเข้าให้แล้ว


หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 5 : ชาวเป(ย์)รู ยังต้องเรียกกูว่าพ่อ ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-04-2018 19:28:24
อร๊ายยย ชอบบบบบบบบบ
กันต์บ้าแบรนเนมได้น่ารักมากกก   :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 5 : ชาวเป(ย์)รู ยังต้องเรียกกูว่าพ่อ ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 03-04-2018 21:02:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 5 : ชาวเป(ย์)รู ยังต้องเรียกกูว่าพ่อ ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 05-04-2018 22:39:11
หายใจไม่ทั่วท้องเลย :ling1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 5 : ชาวเป(ย์)รู ยังต้องเรียกกูว่าพ่อ ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 06-04-2018 14:12:09
มันมีจริงนะคะ คนที่บ้าแบรนด์ เพื่อนที่ มอ มีคนนึง ถึงกับทำทุกอย่างให้ได้สะพายหลุยส์ อย่าให้ได้เล่าเลยว่านางไปทำอะไรมาบ้าง
ส่วนเรื่องราวสนุกมาก ตอนนี้เดาไม่ออกว่า จะลงเอยกับใคร
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 6 : เด็กชายในขุดเอี๊ยมหมี ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 07-04-2018 13:19:50
Prep 6 :   เด็กชายในชุดเอี๊ยมหมี

ศรีพันวา..
ห้องอาหาร Baba Soul Food..

กันต์ณรงค์ นั่งจัดการกับการะเวกสอดไส้ ระหว่างรอ ปูผัดมะนาว ยำเป็ดกรอบ ที่เชฟกำลังปรุงอยู่ในครัวหรู โดยผมไม่ได้ทานอะไรมาก เพราะว่าเคยทานอาหารพวกนี้จนชิน  ได้แต่นั่งเขี่ยชีสเค้กขนุน ระหว่างมองกันต์โซโล่อาหารกองโตตรงหน้าอย่างสนุก  เขากินแต่ละจานจนแทบจะเลียมัน คงหิวมาก แถมยังถ่ายท้องตั้งแต่เช้า ผมนี่รู้ดีว่ามันเป็นอาการข้างเคียงของการเป็นรับ หรือเสียซิงด้านหลัง

เขาแต่งตัวสบาย ในชุดของผม เพราะเราตื่นกันสายมาก ผมให้พี่นุดี เลขาของคุณพ่อ รีบจองตั๋วเครื่องบินให้ กันต์ไม่ได้กลับบ้าน ผมเสนอให้เขาใส่ชุดของผมที่อยู่ในตู้เคนโซ่ เขาเลือกตัวที่เรียบๆ ง่าย ๆ ด้วยความเกรงใจ ผมเลยเอาแจ็คเก็ตของอีฟแซง มาห่อตัวเขาอีกที เพื่อให้เขามั่นใจขึ้น

แหลมพันว่า วันนี้สวยเหลือเกิน โต๊ะที่เรานั่งเป็นมุมที่มองจากผาสูง เห็นเวิ้งน้ำเป็นวงกว้าง ลมเอื่อย กับ เครื่องดื่มเย็นชื่นใจแต่กันต์เขาไม่ได้เรียกร้องที่จะสั่งอะไรนะครับ แต่ดูเมนู เอานิ้วลูบไล้ผิวเมนูราวกับจะซึมซับมันไปทุกตัวหนังสือ แล้วเขาก็ได้นั่งเงียบ ผมจึงต้องสั่งเมนูเด็ดมาให้  เขาเหลือบไปมองแหลมพันวา ยกมือถือมาถ่ายรูปแอบๆ อย่างเกรงใจ ผมต้องผายมือเป็นเชิงอนุญาต ให้เขาได้ใช้เวลาดื่มด่ำสถานที่สวยหรูแห่งนี้ไปจนอิ่มใจ  เขาตักปูมาให้ผมชิม ผมก็รับเข้าปากเพื่อมาแกล้มกับเบียร์เบาๆ 

“พี่ทำน้องกันต์โทรมขนาดนี้เลยเหรอครับ โด๊ปเอาแรงคืนนี้ใช่ไหม”

“โหย พี่นที ไม่ไหวแล้วครับ ผมแทบแย่ นี่ท้องเสียแต่เช้าเลย ไม่ได้เตรียมตัวก่อน”

“พี่ขอโทษนะครับ พี่อดใจไม่ไหว น้องกันต์น่ารักมาก”  พอผมเอ่ยชม เขาก็ทำปากยู่ น่าชังเชียว ถ้าไม่เกรงใจฝรั่งที่นั่งรายล้อมโต๊ะอื่น ก็จะเอื้อมเอามือไปหยิกที่จมูกจิ้มลิ้มนั้น กันต์รูปหล่อของไอ้กัส  มันดูน่ารักสำหรับผม   “แล้วนี่ พี่ขโมยตัวบินมาภูเก็ตแบบนี้ คนที่คุยๆ อยู่ไม่ว่าเหรอครับ”

“ไม่มีนะครับ ผมโสด โสดสุดๆ”

“ตั้งแต่เลิกกัน..  เอ่อ. แฟนเก่าชื่ออะไรนะ”  ถามเผื่อไว้ เกิดรุกไปผิดคนล่ะยุ่งเลย

“อนุสรณ์ครับ..  ชื่อ ออ”  เออ ถูกคน โล่งอก

“ไม่เปิดใจให้ใครบ้างล่ะครับ ออกจะหล่อ ใครก็อยากเป็นเจ้าของ”

“ก็เปิดอยู่นี่ไงครับ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะเตรียมทิ้งขว้างผมแล้ว”  หน้ายู่ ปากจู๋แดงแจ๋ มันใช้ได้ผลเสมอเลยเหรอ อย่างน้อยก็กับผม  น่ารักแฮะ

“ก็ถามเฉยๆครับ พวกตัวท็อปสายการบินเนี่ย เขาว่าเจ้าชู้ พี่ไม่อยากเมาหัวราน้ำบ่อยๆ” 

“ผมมันก็แค่กราวนด์ครับ”  เขาก็ก้มหน้าเขี่ยกุ้งย่างเกลือตัวโข่ง

“พักที่นี่สักคืนไหม”

“อย่าเลยครับพี่ สวยอย่างกับสวรรค์ขนาดนี้ คงแพงน่าดู เก็บเงินไว้กินของอร่อยดีกว่า”

“เงินน่ะมีเยอะแล้ว”

“นั่นสิครับ” เขายิ้มเจื่อนๆกลับมา

“แต่อยู่บนสวรรค์ กับ เทวดารูปงาม พี่จะไปหาโอกาสแบบนี้ได้ที่ไหนอีกล่ะครับ”


บ่ายวันนี้ ผมเหมาลิมูซีนให้พาเราสองคนไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และหาวัดเพื่อไหว้พระ นักท่องเที่ยวเยอะมาก ผมเห็นกันต์มีสีหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดทาง  ระหว่างที่เรากำลังกลับมาเพื่อทำสปาตอนเย็น เขาก็ถ่ายรูปตัวเองบนรถลีโม่  แล้วกันต์ก็ขออนุญาตถ่ายรูปคู่กับผม  ช่างมีมารยาท และเจียมตัวโดยแท้  ผมโอบเขาจากด้านหลัง ให้เขามาอิงแผ่นอกกล้ามแน่นของผม แล้วหอมที่แก้มเขาระหว่างเขาเซลฟี่  เสียงชัตเตอร์นุ่มนวล แผ่วเบาเท่ากับรอยจุมพิตของเราสอง ที่ไม่ได้เกรงใจคนขับรถเลยแม้แต่น้อย  ผมเอื้อมเอามือเขามาจับที่ของผมอีกรอบ เพราะมันตื่นตัวเมื่อได้กลิ่นอ่อนจากซอกคอ เขาทำตาลุกวาวเชิงปราม ว่านี่บนรถนะ  ผมกระซิบที่ข้างหูของเขา 

“สปีลเบิร์ก เคยนั่งคันนี้ ตรงเบาะนี้”  กันต์ทำตาถลนด้วยความอึ้ง แล้วเขาก็ก้มลงไปตรงนั้น เทวดาตัวน้อยนี้ รู้วิถีพาปุถุชนอย่างผมขึ้นสวรรค์นับครั้งไม่ถ้วน




“ตูน ว่าไง เมื่อกี้น้ำติดธุระเลยไม่ได้รับสาย”

“จะบอกว่า เราส่งเปเปอร์ให้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

“ขอบใจนะตูน  ไม่มีตูน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”

“น้ำหายไปไหนนานจัง ไม่กลับมาเรียนเหรอ  เราพยุงให้ได้ไม่กี่คาบหรอก แต่วิชาสาขาย่อย เอเขาก็ช่วยดูให้อยู่นะ”

“อีกไม่นานแล้วตูน น้ำทำธุระใกล้จะบรรลุแล้ว”

“อืม รีบๆ กลับมานะ”

“คิดถึงเหรอ”

“....”

“เฮ้ยยย  ล้อเล่น”

“อ้าว ก็เป็นห่วง  กลัวเรียนไม่ทัน”

“ขอบใจนะตูน  เราจะรีบกลับไป”




เตียงคู่สปาแสนนุ่ม ละมุนไปด้วยบรรยากาศอันอบอวนของกลิ่นไอทะเล  ผมกับกันต์ที่เปลือยเหลือแค่ผ้าขนหนูพาดทับก้นไว้ นอนคว่ำอยู่ในเตียงคู่ ซึ่งเตียงผมกับเตียงเขาห่างกันเพียงสองเมตร  มีพนักงานนวดมือเทพี กำลังบรรจงนวดเรา ผมพลิกหน้าที่คว่ำหันมองทางเขา  กันต์ก็มองกลับมา ตาปรือเหมือนจะง่วง ท่าหาวยังน่ารัก ผมล่ะอยากจะลากเขากลับห้องซะเดี๋ยวนี้  เพียงแต่ สปาถูกจองไว้แล้ว  ดอกลีลาวดีลอยเต็มอ่างไปหมด
“กรี้งงงงงงงง” เสียงโทรศัพท์สไตล์โบราณดังขึ้นจากมือถือของผม ผมเอ่ยให้พนักงาน เอานิ้วปัดโทรศัพท์แล้วเปิดลำโพงให้ผมที เพราะโคลนที่พอกอยู่เต็มหลังผมคงทำให้ผมลุกขึ้นมาไม่สะดวกเป็นแน่

“นายน้อย ผมได้ข้อมูลของ ภารกิจที่ 2 แล้วครับ ไอ้เนี่ย มันชื่อ..”  เสียงพี่อำนาจนี่หว่า  เห้ย เดี๋ยวกันต์ได้ยิน  ผมรีบลุกขึ้น จนโคลนที่แปะหลังไหลลงเปื้อนพื้น คว้าโทรศัพท์ และผ้าขนหนูไปพันเอวไว้ แล้วเดินออกไปโทรศัพท์ที่ระเบียง

“พี่อำนาจ ผมติดธุระอยู่”

“อ่าว ก็เห็นรีบ ไลน์ไป นายน้อยก็ไม่ตอบนี่ครับ”

“ก็บอกว่า ติดธุระ”

“งั้นผมก็ยังไม่ต้องแฟกซ์ข้อมูลไปที่โรงแรมเนอะครับ”

“รู้เหรอ ว่าผมอยู่ไหน”

“คุณปลาวาฬ เจ้าของโรงแรมคงจำหน้าใหม่ของนายน้อยไม่ได้สินะครับ”

“เฮ้ยยยย”

“นายน้อยอยู่ในหูในตาของผมเสมอแหล่ะครับ” ผมวางสายคนเจ้าเล่ห์แล้วรีบเดินกลับเข้ามา กันต์ก็กำลังคุยโทรศัพท์ผ่านสปีคเกอร์เช่นกัน

“มีอะไร” กันต์ทำเสียงดุ

“มึงหายไปไหนวะ กูโทรไปเบอร์เก่าก็ไม่ติด นี่ได้เบอร์จากไอ้เอ็มมาเนี่ย”

“ก็ยุ่งๆ เหนื่อยๆ นี่มาพักผ่อน”

“มึงเนี่ยนะ พักผ่อน”

“อืม กูก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิมป๊ะ”

“มึงอย่าร้ายใส่กูสิ กูคิดถึงมึงนะ”

“คนคิดถึงกัน เขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก ออกัส”

เชี่ยยยยย  กูว่าแล้ว เสียงคุ้นมาก  ไอ้กัส  แต่มันคุยมึงกู กับกันต์เหรอ  ถ้าอย่างนั้น คนที่ผมแอบฟังผ่านจีพีเอส ที่เรียกเธอเรียกเค้า ก็ไม่ใช่กันต์น่ะสิ  ผมเดินอย่างเงียบไปแอบฟังใกล้ๆ  กันต์ที่นอนคว่ำ หันหน้าไปทางโทรศัพท์ น้ำเสียงเขาไม่ยินดียินร้ายอะไร

“แอบดูเฟซบุ้คมึง นี่ไปเที่ยวทะเลอยู่เหรอ”

“อืม อยู่แหลมพันวา”

“หูว อย่างหรู”

“ก็ดี”

“แล้วไปกับใครล่ะ เห็นมีรูปคู่บนรถด้วย เพื่อนเหรอ หน้าตาดีนะ”

“อืม”

“ใครอ่ะ”

“ทำไมล่ะ”

“ดูคุ้น แต่นึกไม่ออก”
“อย่ามาโมเม”

“อ้าว ก็ถามดู อยากรู้”

“มึงไม่ต้องรู้หรอก เอาเป็นว่าตอนนี้ กูมีความสุขมาก  แค่นี้ก่อนนะ ต้องพลิกตัวแล้ว  พี่ครับ รบกวนปิดโทรศัพท์ให้ที ขอบคุณครับ”  แล้วกันต์ก็เตรียมพลิกตัวหงาย ผมเลยแกล้งทำเป็นเพิ่งเดินเข้ามา 

“ธุระด่วนหรือเปล่าครับ” กันต์ทำตาแป๋วใคร่รู้ เมื่อเห็นผมเดินถือโทรศัพท์เข้ามา   ผมจึงปิดโทรศัพท์ต่อหน้าเขา แล้ววางไว้ที่เตียงต่อ ถอดผ้าห่อร่างกายไว้ที่ข้างเตียง เดินมาเอามือลูบที่แก้มเขาซึ่งบัดนี้ นอนหงายมีผ้าขนหนูสีขาววางพาดปิดใต้ท้องน้อย เพื่อรอนวดขั้นตอนต่อไป

“ธุระอะไรจะไปสำคัญกว่าได้อยู่ที่นี่ คืนนี้ ไม่มีอีกแล้วครับ” แล้วผมก็เดินกลับขึ้นไปนอนคว่ำ ให้พนักงานสาวทั้งสองที่ยืนดูอยู่ห่างๆ มาชำระโคลนตามตัวของผมออกไป



FlashBack

หินก้อนเล็ก ลอยมาโดนหัวเด็กน้อย แม้ไม่แรงนัก แต่มันก็เจ็บไปถึงใจ
“โว๊ยยยยยย  คนอะไรตัวซีดขาวอย่างกับศพ”  หินอีกก้อนลอยมาโดนแถวแขน น่าจะเกิดรอยข่วน
“ผู้ชายอะไรชื่อน้ำ ไปเป็นผู้หญิงเลยไป” หินก้อนนี่เล็กลง แต่เขวี้ยงแรง นำมาสู่รอยช้ำตรงหน้าแข้ง
“แต่งตัวประหลาด ไอ้ลูกไม่มีแม่” หินก้อนนี้ใหญ่ที่สุดในบรรดาหินทั้งหมด มันหล่นไปโดนปลายนิ้วเท้า และมันเจ็บ
“แม่มึงหนีไปมีชู้ ว๊าย ว๊าย ว๊าย ไอ้ลูกไม่มีแม่” แล้วมันก็มีอีกหลายก้อนลอยมา ผมไม่ได้เอามือปัดป้องก้อนหิน เพราะตอนนี้ มือผมต้องใช้มันเช็ดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด

“มึงไปให้พ้น ไปกันเดี๋ยวนี้เลยนะ” เขาคนนั้นที่คนช่วยผมเสมอวิ่งเข้ามาไล่เด็กในหมู่บ้านให้หลบไป  แต่มันก็จะกลับมาเมื่อฮีโร่ประจำตัวของผมไม่อยู่ช่วย  ในหมู่บ้านที่แสนหรูหรา แต่ไม่สามารถที่จะขี่จักรยานบนถนนโดยปลอดภัยได้ ไม่เลยสักครั้ง 
เด็กชายที่ตัวโตกว่าผม เดินไปหยิบจักรยานที่ถูกผลักจนล้ม จูงมาคืน เขาเอาชายเสื้อมาเช็ดน้ำตาให้ผม ผมก็ยังร้องไห้ไม่หยุดอยู่ดี
“อย่าไปคิดมากนะ ที่ต้องแข็งกว่าหิน ก็คือหัวใจ” เขาคนเดิม ส่งจักรยานมาคืนผม แล้วเดินจากไป
“ครับพี่ไผ่”




บาบาเนส ศรีพันวา

บนบาร์หรู วิว 360 องศา ในท้องทะเลเวิ้งกว้าง แสงอาทิตย์ที่ดูเหมือนจะตกลงทะเลไปอย่างเชื่องช้า ผมนั่งดื่มค็อกเทลอยู่กับกันต์สองคน โดยมีคู่รักต่างชาติ นั่งกันเป็นคู่บนที่นั่งเตี้ยกระจายอยู่อย่างไม่แออัด ผมกับกันต์ก็นั่งบนเบาะสีฟ้าคล้ายสีของทะเลเมื่อกลางวัน เรานั่งชิดกัน ทานของที่ตั้งเต็มโต๊ะไม้ตัวเตี้ย  โดยมีฝรั่งหัวทองกระจัดกระจายเป็นเพื่อนร่วมนั่งบนระแนงที่ทำขึ้นเป็นแผ่นขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางสระน้ำ  บาร์นี้เคยเป็นหนึ่งในบาร์ที่ดีที่สุดในโลกเมื่อหลายปีก่อน และแน่นอนว่ากันต์ก็รู้ดี  เขาถ่ายรูปจนแบตเตอรี่มือถือหมด  ผมสั่งซื้อเพาเวอร์แบงค์อันใหม่เอี่ยมจากรูมเซอร์วิส ให้เอามาส่งที่บาร์  กันต์ยิ้มให้แล้วเอื้อมตัวมาหอมผม  ท่ามกลางชาวต่างชาติ เราไม่ได้อายอะไร  แต่เหมือนบางสิ่งหายไป.. หายไปตั้งแต่กลับจากห้องสปา อาจเป็นหัวใจของใครบางคน.. ใจของเขาที่ออกัสได้กลับไปเพียงแค่โทรหา

“ไม่ชอบทานบาร์บีคิว เหรอครับ” ผมตัก กุ้งโสร่ง ใส่ในจานของกันต์ ส่วนตัวผม ก็แกะกุ้งอันดามัน จิ้มกับซ้อสมะขามเข้าปากทาน ทำไม่รับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร  ทั้งที่ผมพอจะเดาได้แหละ ว่าตอนนี้ เขาคิดถึงออกัสเข้าแล้ว

“พี่ทานไปเรื่อยๆ ก่อนเลยครับ ผมยังไม่หิวมาก”

“เวลาคิดถึงใครมากๆ มันจะลืมว่า ร่างกายของเราก็สำคัญไม่แพ้หัวใจ”

“ผมขอโทษครับพี่นที”

“ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจ เอา  สาเก ค็อกเทล ไหม เผื่อจะดีขึ้น”

“เดี๋ยวค่อยทานครับ พี่ทานก่อนเลย ขออภัยที่ทำให้พี่หมดสนุกนะครับ”

“พี่ไม่ได้กะมาสนุกนะครับ พี่กะมามีความสุข แล้วตอนนี้พี่ก็มีครับ”

“ขอเวลาผมนิดนะครับ สักครึ่งชั่วโมง น่าจะดีขึ้น”

“น้องกันต์ใช้เวลาเท่าที่ต้องการนะครับ” ผมโอบเอวเขา “แต่เมื่อถึงเวลาของพี่..  ขอคิดดอกเบี้ยนะครับ” แล้วผมก็หอมเขาที่ซอกคอ เขาทำหน้าเขิน ก่อนจะมองไปที่ทะเลอันดำมืดต่อไป



ลักเซอรี่ พูล วิลล่า โอเชี่ยน วิว

ในห้องขนาด 250 ตารางเมตร ที่ตกแต่งไว้อย่างดี  สระว่ายน้ำ กับ ทะเล ที่อยู่กับคนละฝั่งหน้าต่าง ชวนมองสลับกันโดยไม่ตั้งใจ ผมนอนอยู่บนเตียงแสนนุ่ม ในขณะที่กันต์ กำลังแช่ตัวเองอยู่ในน้ำจากุชชี่  ผมเลยถือโอกาสโทรศัพท์คุยกับพี่อำนาจ เรื่องเป้าหมายที่สอง

“นึกว่านายน้อยจะโทรมาเอาตอนฟ้าเหลือง”

“เดี๋ยวเหอะ”

“หรือว่าเหลืองไปแล้วล่ะเนี่ยครับ”

“เข้าเรื่องทีได้ป๊ะ อย่าเวิ่นเว้อ”

“คนที่สอง ที่นายน้อยอยากรู้จักเนี่ย ผมว่า นายน้อยอย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงดีกว่านะครับ”

“ทำไมล่ะ”

“มันเป็นตัวอันตรายครับ”

“ห๋า ทำไมล่ะ เล่ามาหน่อย”

“เอาเป็นว่า นายน้อยกำลังจะเล่นกับไฟครับ”




ผมรีบวางสายไปโดยยังไม่ได้คุยต่อเท่าไหร่ เพราะกันต์ตะโกนเรียกให้ผมหยิบเสื้อคลุมไปให้เขาในห้องน้ำ แต่เมื่อผมเดินเข้าไป  เขากำลังนอนซบกับขอบผ่านจากุชชี่ มีระบบน้ำวนที่เปิดเดินเครื่องอย่างเบา พอให้ฟองสบู่บนผิวน้ำเคลื่อนลอยเหมือนกับน้ำของทะเล  เขาพยายามฝืนยิ้ม แยกขาชันเขาขึ้นมา มันเชิญชวนและยั่วเย้า แต่ผมดูก็รู้ว่าเขาฝืน มันน่าเศร้าเมื่อใครสักคนจมกับอดีต ผมคงไม่มีอารมณ์กับเขา แม้กันต์จะดูน่ารักมากในร่างเปลือยเปล่ากับอ่างอาบน้ำที่หรูหรานี้

“ผมขอโทษที่ทำให้พี่กร่อยนะครับ พี่นที”

“เขาโทรมาเหรอ”  ผมถอดผ้าคลุมลงที่พื้น เผยร่างที่เปลือยเปล่า แล้วเดินก้าวลงไปในอ่างจากุชชี่ที่กันต์นอนแช่อยู่

“ครับ นึกถึงวันเก่า ก็เศร้านิดหน่อย”  กันต์ขยับตัว ให้ผมที่ขยับไปนั่งชิดขอบอ่าง แล้วโยกตัวกันต์นอนพิงหน้าอกผมอีกที ผมกอดเอวเขาจากด้านหลัง เอาจมูกฝังลงตรงซอกคอ สูดกลิ่นกายที่หอมของเขาอย่างบรรจง

“รักเขามากเลยเหรอครับ  เล่าให้ฟังหน่อย ว่าเขามีอะไรดี กันต์ถึงได้ติดขนาดนี้  คนนั้นชื่ออะไรนะครับ  ออกัสใช่ไหม”

“ใช่ครับ ออกัส”



เพลง End of The Road ของ Boy II Men ดังคลอมาจาก ทีวีที่เปิดทิ้งไว้ ลอดเข้ามาในห้องน้ำ ผมฟังกันต์พร่ำเพ้อถึงออกัสแล้วยิ่งไม่เข้าใจ เขาไม่มีอะไรที่เข้ากันได้เลยแม้แต่น้อย แถมออกัส ก็ไม่ใช่คนที่กันต์ณรงค์นี้จะใฝ่ฝันถึง  เขาทั้งคู่ทะเยอะทะยาน ใฝ่สูง แม้ลึกแล้วก็เป็นคนดีทั้งคู่ แต่คนที่จะดึงดูดเข้าหากัน มันต้องต่างกัน มันต้องเติมเต็มกันไม่ใช่หรือ

“ผมกับเขา เคยฝันจะเดินไปด้วยกัน เราจะไปให้ถึงในสิ่งที่เราต้องการครับพี่นที”

“ออกัสเขาต้องการอะไร”

“เขาบอกผมว่า เขาต้องการคนที่เอาใจใส่ ที่จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต  เขาต้องการคนที่โอบกอดเขาไปในทุกคืน แล้วก็..”

“แล้วก็อะไรครับ”

“แล้วก็ คนที่พร้อมจะมีเขาเป็นเมียคนเดียว ไปตลอดชีวิต”




กันต์นอนทอดกายที่เปลือยเปล่าอยู่บนเตียง เราเพิ่งเสร็จกิจมาราธอนกัน เขาน่าจะเหนื่อยอ่อน เพราะผมระบายความหงุดหงิดในใจกับร่างที่ผอมบางนี้ ผิวที่ขาวเนียนถูกผมดูดเม้มกัดจนเป็นจ้ำ ผมกระหน่ำใส่เขาไม่ยั้ง ราวกับว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยกัน  เมื่อผมเป็นรุก ผมก็เป็นรุกที่ป่าเถื่อนอยู่ไม่น้อย  และเมื่อเขาเป็นรับ เขาก็ช่างเป็นรับที่น่าหลงไหลเหลือเกิน

“พอแล้วนะ พรุ่งนี้ผมต้องกลับไปพักฟื้นแล้ว”

“เราจะได้เจอกันอีกไหม”

“ทำไมพี่นที พูดแบบนี้  พี่ไม่อยากเจอผมอีกแล้วเหรอ”

“อยากเจอสิครับ แต่ไม่รู้สิ”

“หรือพี่เบื่อที่ผมซึมเศร้าเมื่อหัวค่ำ  ผมสัญญา ผมจะไม่ทำอีก”

ผมก้มลงไปจูบปากบางแสนหวานนี้แทนคำตอบ ผมไซร้ไปที่ซอกคอแล้วเม้มมันอีกครั้ง เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มาถ่ายรูปคู่ของเรา ตอนผมจูบ ผมขบกัด  กันต์ก็ยิ้มรับกล้องอย่างไม่ถือสา  ผมเอื้อมพลิกตัวเขาคว่ำลง ผมปีนป่ายไปอยู่ข้างบน ลงลิ้นลากจากหลังไปจนถึงท้ายทอย แล้วเอื้อมมือไปถ่ายรูป  หน้าของกันต์ฟ้องว่า เขาอยู่ด้านล่างอย่างมีความสุข มีผมอยู่ข้างบนมองกล้องด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ 
แล้วผมใช้โทรศัพท์ที่บรรจุซิมการ์ดเบอร์ใหม่ซึ่งเพิ่งลงทะเบียนด้วยชื่อพี่อำนาจ แล้วก็กดส่งไปยังเบอร์ที่ผมคุ้นเคย..  พร้อมเขียนข้อความ “อย่ายุ่งกับเมียผมอีก” ไปยังเบอร์ของคนที่ทำให้ผมเศร้ามาแรมปี และหวังว่า มันจะอกแตกตาย เมื่อได้เห็นผัวเก่าของมัน เป็นเมียผม

หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 6 : เด็กชายในชุดเอี๊ยมหมี ]
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 07-04-2018 14:05:44
f\อ่านเรื่องนี้ละเดาทางไม่ถูกเลยง่ะะะะ ฮื้อออ นี่ว่าน้ำต้องรู้สึกดีๆกับพี่ไผ่พอสมควร
แล้วจะพัฒนาได้ไหมอ่ะ 5555  จริงๆ นี่ชอบอะไรไม่รู้ในตัวกันต์ แบบ ฮีก็ไม่ร้ายนะ ออกจะเป็นคนที่อ่านง่าย  ละถ้าน้ำหลอกเค้าไปเยอะขนาดนี้ ฮีก็ต้องเสียใจแน่ๆอ่ะ โถวววว น่าสงสาร เจ็บจากออกัสไม่พอ มาถูกแฟนเก่าของแฟนหลอกอี้กกก //  หรือมีอะไรที่เราไม่รู้ไหม 5555
จะรออ่านต่อไปเรื่อยๆน้า :)
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 6 : เด็กชายในชุดเอี๊ยมหมี ]
เริ่มหัวข้อโดย: krayfanxing ที่ 07-04-2018 15:32:13
อ่านแล้วรู้สึกอยากอ่านอีก อยากรู้ว่าสรุปแล้วคุณนทีของเราจะได้กับพี่ไผ่หรือพี่อำนาจเอาจริงๆ มันคือฮาเร็มของคุณนทีล่ะ เราชอบกันต์นะนางดูน่าเอ็นดูนี่ยังงงอยู่ว่าไปเป็นผัวนางออได้ไง
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 6 : เด็กชายในชุดเอี๊ยมหมี ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-04-2018 02:12:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 6 : เด็กชายในชุดเอี๊ยมหมี ]
เริ่มหัวข้อโดย: xexezero ที่ 08-04-2018 08:47:15
อื้อหือ ภารกิจที่สองมาเสียแล้ว ติดตามๆค่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 6 : เด็กชายในชุดเอี๊ยมหมี ]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 08-04-2018 11:17:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 6 : เด็กชายในชุดเอี๊ยมหมี ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 10-04-2018 16:53:08
 :hao3: :hao3: :hao3: ฟันธงว่าพี่ไผ่ แต่พี่อำนาจนี่ชวนเอไปไหน
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 7 : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 11-04-2018 12:36:22
Prep 7  : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ

คฤหาสน์บ้านจงวิสุทธิ์
หน้ากระจกบานใหญ่ใต้ไฟหลอดกลมเรียงกันห้าดวง  ผมสั่งทำตามแบบกระจกดาราฮอลลิวู้ด ในเงาสะท้อนนั้น ตัวผมที่เปลือยเปล่านั่งมองเงาของชายคนหนึ่งซึ่งบัดนี้โตเป็นหนุ่ม ผมสีดำแกมน้ำตาลแดงปัดหน้าผาก โครงจมูกอันโด่งกำลังดี ไม่แย่งชิงความเด่นของดวงตาดำกลมโต ขนตาที่เพียรเล็มตัดแล้วใช้เบบี้ออยล์ทาตั้งแต่มอปลาย บัดนี้มันยาวงอนหนา ใครก็บอกว่าขนตาผมชวนมอง  ใต้จมูกเป็นร่องเชื่อมกับริมฝีปากบนซึ่งใครก็ชอบเอามือเอื้อมมาแตะ  อวัยวะตรงนี้มันมีชื่อเรียกไหมนะ  ผมมองริมฝีปากตัวเอง มันเป็นสีชมพูออกแดงเรื่อ ปิดฟันที่เป็นระเบียบซึ่งคุณพ่อจับดัดไว้ตั้งแต่มอต้น แรกเริ่มก็อายเพื่อนสมัยต้องดัดฟัน แต่บัดนี้มันส่งผลแล้วว่ามันทำให้คางเราอยู่ในรูปทรงที่ดี

กว่าจะเป็นหน้าผมในวันนี้ มันผ่านร้อนผ่านหนาวมาขนาดไหน จงภูมิใจกับมันนะ นายนที จงวิสุทธิ์
ผมยืนขึ้นและถอยหลังออกไปจากกระจก  ให้กระจกเก็บเฟรมเรือนร่างของผมได้หมด   หัวไหล่ที่กระชับเข้าเป็นมัดกล้าม แผ่นอกที่กว้างแบน หน้าท้องที่กิ่วมีรอนกล้าม  ผมบิดตัวดูสะโพกตัวเองที่กระชับเข้ารูป  แม้ร่องเนื้อจะไม่เห็นชัดมากเพราะสีผิวที่ขาวซีด แต่ผมก็ภูมิใจกับปฏิมากรรมนี้  แม้เอวผมจะบางไปหน่อย ก้นผมจะงอนไปนิด แต่มันก็น่าหลงใหลเชียวล่ะเพราะขวบปีที่ผ่านมา ผมโหมสร้างมันด้วยวินัยและเงินตราไปมากโข ไหนจะอดในส่งที่อยากกิน และ ทนในสิ่งที่ไม่ชอบ อด และ ทน รวมกันเป็น อดทน จึงเป็นคำที่มีความหมายกับผมในตอนนี้ มากกว่าที่ผมเคยรู้จักคำนี้มาก่อน

“สำรวจร่องรอยการต่อสู้เหรอครับ”

“เฮ้ยยย  ไอ้พี่อำนาจ ทำไมไม่เคาะประตู” ผมรีบเอามือกุมนทีน้อยไว้ด้วยความอาย

“นายน้อยก็รู้ ผมไม่ได้มีมารยาทขนาดนั้น”

“มันก็ไม่ใช่พรวดพราดเข้าห้องคนอื่นแบบนี้” ผมรีบเดินไปหยิบเสื้อคลุมที่แขวนไว้ข้างกระจกมาสวม

“อายทำไม เห็นมาตั้งแต่เด็ก”

“ก็ตอนนี้ไม่ใช่เด็กแล้ว”

“ครับ เห็นแล้ว ว่าไม่ใช่เด็กแล้วล่ะ”

“ไอ้พี่บ้า ไอ้คนทะลึ่ง”

“จะมาคุยเรื่องคนที่ให้สืบ คนใหม่  ไอ้จิมมี่”   แล้วพี่อำนาจก็เดินมานั่งที่เตียงผม ผมเลยเดินตามมานั่งข้าง พร้อมรับแฟ้มจากมือของเขา แต่พี่อำนาจไม่ยอมปล่อยแฟ้ม ผมจึงนึกได้ว่า เขาไม่อยากให้ผมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับจิมมี่ แต่ผมก็ดึงดันคว้าแฟ้มนั้นออกจากมือที่หนาใหญ่  ต่อให้กล้ามเป็นมัดอย่างเขาก็เอาผมที่ร้อนใจไม่อยู่หรอ
“อย่างที่ผมบอก นายน้อยกำลังจะเล่นกับไฟ ผมรู้จักมันดี ตอนแรกเห็นชื่อ ก็ว่าคุ้นที่ไหน ที่แท้เป็นไอ้จิมมี่”

“เขาเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ ไหนว่า เป็นตำรวจ”

“มันไม่ได้นิสัยเลวร้าย  แต่มันแสบ  แล้วก็...”

“แล้วก็อะไร”

“มันขย้ำทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มันรวบหมด”

“ก็ไม่เห็นจะกลัว”

“อย่าเพิ่งวางใจสิครับ  ผมไม่รู้ว่า นายน้อยมีแผนอะไร แต่ไม่อยากให้ประมาท จิมมี่ มันลูกเล่นแพรวพราว แถมชั้นเชิงมาก”

“พี่อำนาจไปรู้จักเขาได้ยังไงล่ะ”

“สมัยเป็นนายร้อย ก็อยู่กลุ่มเดียวกัน”

“ห๋า เดี๋ยวนะ อย่างนี้เขาก็รู้จักพี่สิ”

“แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเราผลัดกันเป็นที่หนึ่งของรุ่นมาโดยตลอด มันต้องจำผมได้อยู่แล้ว”



================================================================

รายงานลับภาคพื้นดิน   ภารกิจพิเศษ
นาย อนุสรณ์ บวรธุรการ [ ออกัส ]

Title       :  ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเชิงชู้สาว
Results    : มีความสัมพันธ์แบบเปิด ไม่ผูกมัด กับบุรุษเพศ 3 คน
               คนที่ 2 : ชื่อ  นาย ศตวรรษ  สิรางกูร  [ จิมมี่ ]
               อาชีพ  : ตำรวจ  ยศ ร้อยตำรวจเอก

================================================================

พี่อำนาจส่งรายงานพร้อมประวัติอีกสิบหน้าเอสี่  เยอะกว่าของกันต์ณรงค์หลายหน้า เฉพาะประวัติด้านการเรียนก็ยาวเป็นหางว่าว  ผมพลิกเอาแต่หน้าสำคัญมาดูคร่าวๆ  จนลืมไปว่า พี่อำนาจยังไม่เดินออกจากห้อง พอหันไปมอง ซึ่งตอนนี้เขาล้มเอาหลังเอนนอนบนเตียงผมไปแล้ว คล้ายจะหลับด้วย เขาหายใจลึกเบา หน้าอกที่ฟิตแน่นกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะ  โครงหน้าแบบไทยแท้ ผิวสีแทน จมูกโด่งเป็นสันแต่หนาแกร่ง กับสันกรามแบบนี้ ที่ผมเคยรีเควสหมอเกาหลี แต่หมอบอกว่าไม่เหมาะกับผมแล้วทำทรงอื่นให้แทน  แล้วพี่อำนาจก็ลืมตา

“สำรวจความหล่อผมเหรอครับ นายน้อย”  เสียงลอยมาตอนสายตามองมองลงต่ำไปยังรูปร่างของพี่อำนาจพอดี

“ไม่ใช่สักหน่อย จะดูว่า ไอ้หมอนี้ ทำไมไม่ไปเป็นตำรวจ มาเป็นเบ้พ่อผมทำไมตะหาก” ผมก็เหมือนจะพูดแรง เพื่อแก้เกี้ยวความเขิน แต่พี่อำนาจไม่ถือสาหรอก ผมเคยพูดไม่ดีกับแกเยอะกว่านี้มาก

“เบื่อระบบราชการไทย”

“ก็เป็น FBI ไปเลยสิ”

“ไม่เอา ไม่อยากอยู่ไกลบ้านนี้  รักคนบ้านนี้”

“รักพ่อผมเหรอ”

“เฮ้ย เล่นใหญ่ไปนะ”

“ฮ่าๆๆ”

“มานี่สิ” พี่อำนาจอ้าแขนให้ผมเอนตัวไปนอนหนุน แบบที่เขาชอบทำเวลาผมทะเลาะกับพ่อแล้วขึ้นมาร้องไห้ในห้อง

“อย่าทำอะไรที่มันอันตรายเกินไปนะ พี่เป็นห่วง”

“มีพี่อยู่ ผมไม่ห่วงหรอก”

“แต่พี่จะตามเราไปทุกที่ไม่ได้หรอกนะ”

“ผมใกล้จะบรรลุภารกิจแล้ว พี่เห็นไหมว่าผมดีขึ้น ไม่เหมือนเมื่อห้าหกเดือนก่อน”

“พี่ไม่รู้ว่าเราดีขึ้นจริงไหม หรือ แค่ทำว่าดีขึ้นไปวันๆ  เรามันเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เด็ก”

“แต่ตอนนี้ผมไม่เด็กแล้ว ผมโตแล้ว”

“ไหนดูสิว่าโตแค่ไหน” แล้วพี่อำนาจก็เอื้อมตัวลุกขึ้นมาเอามือเปิดเสื้อคลุมผม จนหน้าอกที่ขาวของผมโผล่ออกมา

“ไอ้บ้า ไอ้ทะลึ่ง” ผมรีบปัดมือที่กำลังจิ้มหน้าอกผมเล่น แล้วคว้าเสื้อคลุมมาปิดไว้ ทำหน้าดุใส่

“ยังไงก็เด็กอยู่ดี เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ”





หน้าจอ ไอโฟน  แอ๊พพิลเคชั่น Don’t Miss A Thing  ผมเปิดกล้องไลฟ์สดพร้อมไมโครโฟนที่บันทึกผ่านหลอดไฟกลางห้อง ซึ่งซ่อนไว้ในคอนโด ที่ออกัสขอยืมพำนักไว้

August’s words
“ก็บอกแล้ว ว่าเรื่องของเรามันจบไปแล้ว”
“เออ กูไม่ได้คิดถึงมึงเหมือนกันนั่นแหล่ะ แค่โทรไปหาตามประสาคนเคยๆ”
“ทำไม มึงนึกว่ามึงมันเด็ดขนาดนั้นเลยเหรอไอ้กันต์ กูถึงต้องตามสอดส่องขนาดนั้น มึงจะไปคั่วกับใครที่ไหนก็ไป”
“อย่าให้กูต้องเอารูปที่กูได้มา ส่งไปให้เพื่อนๆมึงดูนะ”
“อย่ามาทำไขสือ แล้วเดี๋ยวนี้ มึงริอ่านไปเป็นเมียเขาแล้วเหรอ ไหนกับกูบอกว่าไม่เคยเป็นรับ แล้วรูปนี้มันคืออะไร”
“อย่ามาบอกว่าไม่รู้เรื่อง  แล้วไลน์มึง เปลี่ยนเป็น กันต์เมียพี่ที  นี่ยังไม่ชัดอีกเหรอ”
“แต่ก็เอาเถอะ ยังไง กูก็ไม่ได้สนใจมึงแล้ว กูถึงได้ทิ้งมึงไปหาพี่จิมมี่ไง  เพราะเขาดูแลกูได้ดีกว่ามึง  เขาปกป้องกูได้ เขาเป็นชายเหนือชาย ฟังไว้นะไอ้กันต์!!”

ออกัส ก็ยังคงเป็นออกัส มันเป็นการลงท้ายบทสนทนาได้เจ็บปวด  ชายคนนี้คงได้รับพรจากฟ้าให้มีพลังพิเศษในการทำร้ายหัวใจคน  แม้ผมไม่ได้ยินเสียงปลายสายฝั่งของกันต์ แต่ผมมั่นใจว่า มันหนักหน่วงและเกินเยียวยา  กันต์คงจะกองกับพื้นเหมือนที่ผมเป็น คงเอามือจับหัวใจที่บีบรัด แล้วก็ร้องไห้ไปจนหมดคืน
ผมปิดแอ๊พถ่ายทอดสดที่มือถือ อาบน้ำแต่งตัว ผมคิดว่า ผมคงต้องไปเยียวยาใครบางคน คนผู้น่าสงสารสุดหัวใจ


ระหว่างทาง ผมแวะมาที่ร้านหนังสือตามที่นัดกับ การ์ตูน ไว้  ถือโอกาสซื้อนิตยสารอ่านเล่นไปฝากผู้ป่วยโรคหัวใจพังด้วย นั่นผมเห็นเขาแล้ว ชายหนุ่มตัวท้วมต้วมเตี้ยม  ยืนตัวขาวผ่องอยู่ตรงชั้นหนังสือ แว่นกลมโตแบบพอตเตอร์ ก็ไม่อาจบดบัง ดวงตาที่ใสแจ๋วของเขาได้

“หูย แต่งตัวซะหล่อ นี่เตรียมไปไหนต่อเหรอน้ำ”  ตูนถามผม ผู้ซึ่งในชุดเชิ้ตขาวเข้ารูป กางเกงสแล็คสีน้ำตาล มีผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินผูกที่คอ

“มีนัดว่ะตูน เลยนัดมาที่นี่แหล่ะ จะได้ไม่ต้องเดินทาง”

“นี่ไง เราเลือกไว้ให้แล้ว กองเนี่ย เป็นศัพท์เกี่ยวกับ ตำรวจ แล้วก็ แฉชีวิตใต้ดาวบนบ่า แล้วก็ไดอารี่สีกากี เอาไปฝากใคร”

“ไม่หรอก เราเอาไว้อ่านเอง”

“จะสอบตำรวจเหรอ”

“เปล่า จะอ่านเพื่อให้เข้าใจใครบางคนมากขึ้น”

“อ๋อ  ยังว่า ขนาดในห้องเรียน ยังขาดสอบเก็บคะแนนตั้งบ่อย”

“น้ำไม่ห่วงเกรดแล้วว่ะตูน น้ำมีเรื่องให้ทำเยอะเลย”

“เออเหอะ ไปใช้ชีวิต  ตูนเห็นน้ำเป็นอย่างปีที่แล้วก็ไม่ไหวนะ”

“น้ำดูน่าสมเพชมากเลยใช่ไหม”

“ไม่หรอก แค่น่าสงสาร”

“แต่ขอบใจนะ ที่ช่วยเหลือน้ำมาตลอด อยู่คนละสาขายังอุตส่าห์ตามงานให้น้ำ  ไอ้เอนี่สิ ไม่ได้เรื่อง”

“เอ ก็ห่วงน้ำมากนะ มันทิ้งสาวทุกคนไปขลุกกับน้ำเลยช่วงนั้น”

“แต่ดูตอนนี้สิ หายหัว”

“ก็หมดห่วงแล้วไง ดูน้ำตอนนี้สิ  อย่างกับคนใหม่แหน่ะ”

“ใช่ เราเป็นคนใหม่ น้ำคนเดิมตายไปแล้ว”

“นัดใครไว้ เราไปด้วยได้ไหม”

“ไม่ดีหรอก ตูนอย่าไปเลย”

“.......” 

“ไม่เอาน่า ไว้เราพาไปกินบิงซูนะ”  ผมเดินไปโอบไหล่ตูน ที่ดูเหมือนจะหงอยไปเลยตอนผมไม่ให้ตามมา





ในร้านขนมญี่ปุ่นสุดหรู ผมกับกันต์นั่งทานโมจิชาเขียว กับ ไอศกรีมถั่วแดง มีวาฟเฟิ้ลราดซ้อสชาเขียว และ โรยอัลมอนด์วางไว้ 

“คิดว่า พี่จะไม่ยอมติดต่อผมอีกแล้ว”  กันต์ที่มีวี่แววตาบวมช้ำ อยู่ในชุดเสื้อขาวแขนยาวมีฮู้ด กับกางเกงยีนส์ดำ ดูน่าชัง

“พี่คิดว่า น้องกันต์ต้องยุ่ง หลังจากพี่ขโมยตัวกันต์ไปหลายวัน” ผมไม่รับสาย ไม่ตอบไลน์กันต์ ตั้งแต่กลับจากศรีพันวา

“แล้วก็ไม่คิดจะรับสายผม ไม่โทรกลับ”

“ไม่อยากฟังน้ำเสียงเศร้า ที่เฝ้าคิดถึงแต่ใครก็ไม่รู้นี่ครับ”

“นั่นไง งอนจริงด้วย  ผมดีขึ้นแล้ว”

ผมเอื้อมมือไปปาดที่ใต้ตาบวมแดงของเขา  “แบบนี้อ่ะนะ ดีขึ้นแล้ว”  กันต์ทำหน้าเศร้าที่โดนผมจับได้

“นี่ผมเพิ่งรับสายเขา เขาด่าผมเป็นชุดเลย ว่ามีใครส่งภาพอะไรก็ไม่รู้ไปให้ เขาเลยโมโห”

“จริงสิ ภาพอะไรเหรอ”

“ผมก็ไม่รู้ โมโหอย่างเดียว  แล้วแถมยังไปอ่านไลน์ผมที่ พี่นที เอาของผมไปเปลี่ยนชื่อโปรไฟล์น่ะ”

“ชื่อไลน์ กันต์เมียพี่ที น่ะเหรอ เฮ้ย พี่ขอโทษ พี่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่”  ผมแก้ตัว ทั้งที่จริงผมตั้งใจเลยล่ะ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เขาคงช็อคแบบว่า ผมเป็นเมียพี่นทีเนี่ย”

“ไม่เห็นจะใช่เรื่องใหญ่นี่นา”

“เรื่องใหญ่สิครับ ผมไม่เคยเป็นรับให้ใครมาตลอด กับออกัส นี่ก็เคยขอ ผมก็ไม่ให้ครับ”

“รู้สึกเป็นเกียรติจังครับ”

“แต่พี่ก็กำลังจะทิ้งผมไปอีกคน”

“พี่ไม่ทิ้งกันต์ไปไหนหรอก แต่กันต์ต้องให้เวลากับหัวใจตัวเอง ว่าอยากเป็นเมียพี่ หรือเป็นสามีเขา”






The Plum Fitness
ผมที่ทานอาหารทะเล กับ แอลกอฮอล์ไปผิดเงื่อนไขคุณหมอ พอเลิกเรียนก็ตั้งใจมาเบิร์นเอาทุกสิ่งอย่างออกไปให้หมด นี่ดีนะที่ผมหัวดี เรียนเก่ง ไม่อย่างนั้นคงต้องไม่สามารถจัดสรรเวลามาเสริมหล่อให้ร่างกายแบบนี้แน่
วันนี้ เทรนเนอร์เดช สุดเหี้ยมไม่มา ผมล่ะโล่งใจ ก็แต่ละครั้งที่โดนตาเดชฝึก ผมจะต้องกลับไปนอนระบมไขข้อตัวเองทุกคืน หลิวบอกว่า เทรนเนอร์ประจำตัวผมไปบวช หนึ่งเดือน ให้ผมใช้เทรนเนอร์ใหม่ไปก่อน แต่ไฉนเลยกลายเป็นไอ้พี่ไผ่ ที่ความโหดช่างไม่แพ้กันเลย
“ห้า หก เจ็ด แปด”

“เดี๋ยวก่อนสิพี่ไผ่ ผมระบมไปหมดแล้ว”

“แหม ไปทำอะไรมาแรงหมด  ไม่ได้ เดี๋ยวกล้ามแฟ่บ เอาอีก  อ้าว ! ห้า หก เจ็ด แปด”

“โอ๊ยยย พอก่อน พี่ ผมเจ็บไปหมดทั้งตัวแล้วเนี่ย”

“มันน่าบิดให้ก้นเขียว  พอหุ่นเข้าที่เข้าทาง ก็วินัยหาย เดี๋ยวก็กลับมาตูดย้วยเหมือนเก่า”

“พูดดีๆ ใครตูดย้วย”

“จะให้พูดไหม ว่า มีปานที่ฝั่งซ้ายด้วย”

“ไอ้พี่ไผ่ เดี๋ยวเหอะ”  ผมรีบหันรีหันขวาง กลัวคนอื่นได้ยิน แต่โชคดีทุกคน ฟังเพลงไปด้วย เล่นฟิตเนสไปด้วย

“พรุ่งนี้ว่างเปล่า วันเสาร์มีเรียนไหม”

“ไม่มีแล้วครับ จะฝึกงานแล้ว เรียนเบามากช่วงนี้”

“เหรอ ไอ้หลิวมันบ่นว่าเรียนหนัก สรุปว่า น้องพี่หัวทื่อใช่ไหมเนี่ย”

“ไม่ทื่อหรอก แต่อย่ามาเทียบกับผมสิ ผมมันตัวท็อป”

“โหะ”  มีคนบางคนเบะปาก

“จะชวนไปไหน ว่ามา”

“ก็ว่าจะชวนไป Bounce น่ะ จะซื้อแทมโพลีนเข้ามา ให้ลูกค้าเล่น จะไปลองว่าแบบไหนดี”

“ก็ได้ เห็นแก่คุณความดี สมัยเป็นองค์รักษ์ให้นะเนี่ย”

“ตอนนี้ ก็ยังพิทักษ์องค์หญิง  เอ๊ย  องค์ชายไหวนะ”

“ไม่ต้องแล้ว เห็นกล้ามไหมเนี่ย” ผมเบ่งกล้ามป้ายแดงให้พี่ไผ่ดู อวดได้ก็อวด

“เอานิ้วดีดก็แตกแล้ว กล้ามหรือลูกโป่งน้ำ”

“รมณ์เสีย”

“โอ๋ๆๆๆๆ  พ่อกล้ามโต  รอบเที่ยงนะ รู้ว่าตื่นสาย ให้ไปรับไหม”

“ถ้าไม่ลำบากก็ไปสิ ขี้เกียจขับรถ”

“พรุ่งนี้พี่ไปรับ  เอาต่อเร็ว  ห้า หก เจ็ด แปด”

“โอ๊ย  ไอ้พี่ไผ่  ไอ้เบื๊อก”





ช่วงค่ำ หลังจากแยกกับพี่ไผ่แล้ว ผมมายังสถานีตำรวจ ย่านชานเมืองฝั่งธนบุรี ผมกับพี่อำนาจเลือกที่นั่งตรงร้านขายอาหารตามสั่งที่อยู่ในรั้ว สน.  โดยพี่อำนาจนั่งหันหลังเข้า แล้วให้ผมหันหน้าเข้าไปที่ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติของ สน.  รอจนกว่า เป้าหมายที่เราเฝ้าดู จะเดินเข้ามาตามกะ  ซึ่งก็คือ สองทุ่มตรง

“กลางคืนใส่แว่นดำ ไม่ค่อยเด่นเลยเนอะ ถอดออกจะไม่สะดุดตากว่านะพี่”  ผมแซวพี่อำนาจ จนต้องถอดแว่นดำออก ดูเขากลัว จิมมี่ จะเห็นเขาเหลือเกิน มีซัมติง อะไรหรือเปล่ากับคนชื่อจิมมี่ ทำไมรุกรี้รุกรนผิดมาดขรึมของเขาจัง

“เมื่อเย็น ลูกน้องผม เอากระเป๋าสตางค์ของนายน้อย ไปแจ้งความว่าเก็บได้ เป็นกะงานของเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง  แต่เดี๋ยวพอจิมมี่เข้ากะ นายน้อย ก็ไปแจ้งความว่า กระเป๋าสตางค์หล่นหาย จะทำบัตรประชาชนใบใหม่ เดี๋ยวจิมมี่ จะมารับเรื่องเอง ตอนนั้นจะเป็นโอกาสได้คุยและทำความรู้จัก”

“เขามียศมีตำแหน่ง รับเรื่องร้องทุกข์เป็นหน้าที่เขาเหรอครับ”

“มันบ้ากล้อง ตำแหน่งรับแจ้งความ พวกนายตำรวจหน้าตาดีๆ จะแย่งกันทำ มีโอกาสดัง เป็นเน็ตไอด้อลได้เร็ว”

“โหว แข่งกันทุกวงการเลยเนอะพี่”

“ทำมาพูด หมดไปเท่าไหร่ล่ะ หน้า กับ หุ่น น่ะ”

“เดี๋ยวปั๊ดฟ้องพ่อเลย”

“ไหนว่าโตแล้ว”

“ก็ต่อยแบบผู้ใหญ่ไง เดี๋ยวเอาให้หน้าเขียวเลยนี่”

“เฮ้ย จะบีบไข่เหรอ  นายน้อย!! มาแล้วๆๆ  อย่าๆ อย่าเพิ่งหันไป เดี๋ยวกำลังจะเดินผ่านโต๊ะเรา เดี๋ยวนายน้อยก็เห็น อย่าเพิ่งหันไปนะ”    ผมแทบหัวเราะพอเห็นอาการของพี่อำนาจ  เอาๆๆ ไม่หันก็ไม่หัน  สักแป๊บ เป้าหมายของเราก็เดินเฉียดผ่านโต๊ะเราไป  เขาหันมามองทางพี่อำนาจ เหมือนจะนึกอะไรในใจ แล้วก็เดินไปทางประตู สน.   มองจากด้านหลัง หุ่นเขาสูงเพรียว เสื้อสีกากีที่รัดเข้ารูป มันคงดูไม่ดีแน่ ถ้าไม้แขวนไม่มีเอวกิ่วคอดขนาดนั้น
“เขาเห็นผมไหม”

“เห็นนะพี่ เหมือนจะหันมามอง แล้วเหมือนจะพยายามนึก ว่าไอ้หน้าดุนี่คือใคร”

“มันต้องจำผมได้อยู่แล้ว”

“นักเรียนนายร้อยมีเป็นตับ เขาคงไม่ได้มีแต่พี่เป็นเพื่อนหรอกน่า”

“แต่มันเคยพยายามจะปล้ำพี่ ทำไมมันจะจำพี่ไม่ได้”




ห้องลงบันทึกประจำวัน มีนายตำรวจนั่งอยู่สองคน คนหนึ่งกำลังคุยโทรศัพท์ กับอีกคนที่เพิ่งมาถึงได้สักชั่วโมง กำลังดูเอกสารและแฟ้มกัน เช็คทรงผมตัวเองผ่านกระจกเงา ก่อนจะเก็บกระจกเงาลงเก๊ะ เมื่อเห็นผมเดินผ่านประตูเข้ามา  ผมเลยแจ้งว่า ผมมาแจ้งกระเป๋าสตางค์หาย  นายตำรวจหน้าตาดี คิ้วเข้มหนา สีผิวขาวจัด แต่มีร่องรอยของการตากแดด คล้ายพระเอกหนังเอ็กซ์ญี่ปุ่น  จมูกเขายาวเรียว ปลายเชิดขึ้นเล็กน้อย รูจมูกใหญ่ แต่ได้สัดส่วน ตาเรียวยาว ตาดำใหญ่รับกันดีกับคิ้วหนาของเขา  ริมฝีปากที่ฮัมเพลงไม่หยุด ก็สีกำลังสวย ลำคอยาว มีเส้นเอ็นขึ้น 

“ผมว่า มีกระเป๋าสตางค์ใบนึงคล้ายจะเหมือนที่คุณแจ้งนะ เดี๋ยวผมหาก่อน  เมื่อกี้ว่า ยี่ห้ออะไรนะ คุณนที”

“Coach ครับ ผมดีผมไปเล่นกีฬา ไม่กล้าเอาใบแพงไป”

“สีน้ำเงิน โค้ช  เออ มีหนึ่งใบจริงด้วยครับ เดี๋ยวผมขอเช็คด้านในนะครับ เงินคงไม่เหลือแล้วล่ะ เดี๋ยวผมดูบัตรให้”

“เอ่อ.. คุณตำรวจครับ พี่..”

“ผมจิมมี่ ครับ”

“ครับ ผู้กองจิมมี่  คือ มันมีรูป  แบบว่า.. เอ่อ..”

“อืม ผมเห็นแล้ว  มันเป็นรูปคุณนั่นแหล่ะ กึ่งเปลือยซะด้วย ถ้างั้นคงไม่ผิดแน่ น่าจะเป็นใบนี้  เดี๋ยวผมให้เซ็นชื่อรับนะครับคุณนที”

“ขอบคุณมากครับ  แต่ว่า เงินไม่น่าจะเหลือแล้วเนอะครับ ผมห่วง สมาชิก เม็มเบอร์ ข้างในน่ะครับ”

“อะไรหาย ก็แจ้งความเพื่อทำใหม่ได้เลยครับ เอา เดี๋ยวผมเปิดดูให้ ว่ามีอะไรเหลือ หรืออะไรหาย..  บัตรเม็มเบอร์ที่ยังมี   โคโลนี่ ซาวน่า   บาบิลอนซาวน่าวีไอพี   ดิโอบีลีสสปาและมาสซาส  แหม.. ไม่เบานะคุณเนี่ย” จิมมี่หลิ่วตามองผม

“ผู้กองเอ่อ..” ผมแกล้งหันไปทางนายตำรวจอีกคนที่ยังไม่วางสายจากชาวบ้านโทรมาร้องทุกข์  ผมเลยขยับหน้าไปใกล้ เพื่อกระซิบ  ผมพบว่า กลิ่นเขาดีเชียว หน้าเขาก็หล่อชิบเป๋งเลย  “ผู้กองไปบ่อยเหรอครับ”

“ผมไม่ไปที่แบบนี้ครับ” เขาเอื้อมตัวมาใกล้ขึ้น หน้าเรายิ่งใกล้กันมากขึ้นไปอีก   “ผมมีแต่คนมาหาถึงที่ครับ..  รบกวนเซ็นรับตรงนี้นะครับ”  เขาหยิบสมุดเล่มใหญ่มาให้ผมเซ็นรับ ว่าได้รับของครบเรียบร้อย 

“โห แล้วแฟนผู้กองไม่ว่าเอาเหรอครับ” ผมยังคงกระซิบด้วยเสียงอันเบา เพื่อไม่ให้เขาอึดอัดต่อเพื่อนร่วมงาน

“ผมมีแฟนซะที่ไหนล่ะ”

“หน้าอย่างผู้กองเนี่ยนะ ไม่มีแฟน”

“ใครจะมาเป็นแฟนตำรวจต้องอดทนครับ ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นได้”

“แต่ท่าทาง ผู้กองจิมมี่ ไม่น่าจะเหงานะครับ แขกเหรื่อเยี่ยมบ้านน่าจะเต็มไปหมด  ไว้มีโอกาส อยากไปเป็นแขกบ้างจัง”

“ทิ้งเบอร์ไว้ได้ครับ”

ผมหยิบรูปกึ่งเปลือยที่ผมถ่ายทิ้งไว้ แล้วพี่อำนวจจับใส่กระเป๋าสตางค์กำมะลอ เอามาพลิกแล้วเขียนเบอร์โทร และ เบอร์ไลน์ ด้านหลัง ส่งกลับไปให้ผู้กองเก็บไว้  เขาคว้าใส่กระเป๋าส่งยิ้มให้  ผมยกมือไหว้ลา


ลานจอดรถด้านหลังสถานีตำรวจ ผมเดินขึ้นรถฝั่งซ้าย ที่มีพี่อำนาจสตาร์ทรถรออยู่

“ก็เห็นเขาดูเป็นคนน่ารักจะตายไปพี่”

“อย่าติดสินอะไรเพียงเห็นแป๊บเดียว”  พี่อำนาจออกรถผ่านรั้วสถานีตำรวจ เพื่อพาผมกลับบ้าน

“ใส่ความคนอื่นเปล่าเนี่ย เขาออกจะหล่อ สุภาพ  จินตนาการเองไปคนเดียวหรือเปล่า”

“อย่าให้มันได้ออกลาย นายน้อยจะเป็นใบ้ไปเลย กระต่ายบ้านอย่างนายน้อย อย่าได้ประมาทหมาป่าตัวนั้นเด็ดขาด”   





รถแอคคอร์ดสีดำของพี่อำนาจ มาจอดที่ถนนพระราม 9 หน้าอาคารสถานอาบอบนวดแห่งหนึ่ง ที่ผมนัดกับเอไว้ ซึ่งตอนนี้เอมายืนรอที่ลานจอดรถแล้ว ผมลงจากรถมาทักทายเอ  พี่อำนาจเดินลงจากฝั่งประตูคนขับ รับไหว้จากเอ

“แล้วคืนนี้ จะกลับยังไงล่ะนายน้อย ให้ผมขับวนมารับไหม”

“ไม่ต้องครับพี่ เดี๋ยวนั่งรถแท็กซี่กลับ”

“มันดึก อันตรายนะ”  พี่อำนาจมองไปทางเอ

“เดี๋ยวผมนั่งไปส่งที่บ้านไอ้น้ำเลยครับพี่  เดี๋ยวผมไปนอนที่บ้านด้วยเลย”  เอเสนอ

“โอเค ถ้าเอไปด้วย พี่ก็ไม่ห่วงแล้ว ระวังตัวกันให้ดี ป้องกันด้วย”  ก่อนพี่อำนาจจะชี้หน้าไปที่เอ “อย่าเข้าห้องเดียวกันอีก”

“ครับ”  เอหันหน้าเหวอมาทางผม เราสองคนมองพี่อำนาจขับรถออกไปทั้งที่งุนงงว่า เขารู้เรื่องราวที่พัทยาได้อย่างไร

ผมก็เอ กอดคอกันเดินเข้าสุขสถานไปอย่างละม่อม
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 7 : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-04-2018 19:21:03
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 7 : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ]
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 11-04-2018 21:23:26
ตื่นเต้นง่ะะะ จิมมี่นี่น่าจะยาก
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 7 : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 12-04-2018 20:57:35
อร๊ายยยยย  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 7 : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 12-04-2018 22:50:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 7 : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 16-04-2018 10:49:21
โอยยย ขำ แท็กพี่แหวนแหวนได้ไหมคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 7 : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 17-04-2018 01:58:42
โอ๊ยยยย. ความเอ = ความหื่น
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 7 : ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-04-2018 08:48:20
อร้ายยย พี่เอใจน้องบางหมดแล้วค่ะ555
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 8 : กระโดดเพื่อให้ลืม ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 19-04-2018 23:31:32

Prep 8 : Bounce กระโดดเพื่อให้ลืม

อรุณรุ่งผ่านไปหลายชั่วโมง ผมกับเอยังนอนอุตุอยู่บนเตียง เพราะเมื่อคืนเราซ้อมปฏิบัติการเพื่อสำเร็จโทษเป้าหมายที่สองอยู่ถึงเกือบโต้รุ่ง เราแยกห้องกันตามที่พี่อำนาจสั่งไอ้เอไว้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่อยากให้เราอยู่ห้องเดียวกัน บางทีพี่อำนาจก็รู้เรื่องพวกเรามากเกินไปแล้ว

“ก๊อก ก๊อก” แล้วประตูห้องนอนที่ไม่สามารถล็อคได้ ก็ถูกเปิดออก ที่ล็อคไม่ได้เพราะเนื่องจากเป็นคำสั่งของคุณพ่อ ท่านห้ามให้คนในบ้านมีความลับ ใครล็อคห้องจะโดนไล่ออกจากบ้าน พ่อไม่มีทางไล่ผมออกจากบ้าน แต่ผมก็ทำตามกฎของบ้านเรื่องนี้ แม้มันจะอึดอัดในบางครั้ง

“สวัสดีครับพี่ไผ่” เสียงเอ งัวเงีย ตื่นมาไหว้ผู้มาเยือน พี่ไผ่ มาในชุดเสื้อทีมกีฬาสีฟ้า มันเข้ากับสีผิวเขาดีเหลือเกิน ผิวขาวเหลืองที่มีเลือดฝาดที่แก้มตลอดเวลาจนน่าอิจฉา กับกางเกงขาสั้นเผยกล้ามขาที่แกร่งแบบเตะคนตายได้ ผมแปลกใจที่เขาไม่เล่นกล้ามจนล่ำบึ้กแบบที่เจ้าของฟิตเนสทั่วไปทำกัน แต่เขาหุ่นเหมือนนายแบบฝรั่งที่ตัวใหญ่มากกว่า

“นอนเถิดครับเอ พี่มาลากไอ้น้ำมันไปข้างนอก”

“เดี๋ยวผมก็กลับแล้วครับพี่ เมื่อคืนดึกกันมาก พระรามเก้าก็เรียกแท็กซี่โครตยากเลย”

“ห๋า ไปพระรามเก้ากันมาเหรอ หูยยย เด็กสมัยนี้ เที่ยวของแพงนะ”

“ป๋าน้ำจ่าย ผมแค่ผู้ติดตามครับ” มึงนี่นะไอ้เอ ขายกูได้ แถมต่อหน้าพี่ไผ่ด้วย ผมนี่ไม่กล้ามองหน้าพี่เขาเลย

“ไปได้แล้ว เจ้าตัวดี ผู้ชอบตีหม้อ” อะไรจะคล้องจองเป็นกลอนกาพย์อย่างนั้น

“ทำยังกับไม่เคยเที่ยวอ่ะ แซวอยู่ได้” ผมทำน้ำเสียงหงุดหงิดใส่ เพื่อเขาจะหยุดล้อเลียน

“ก็ไม่เคยเที่ยว”

“ห๋า พี่ไผ่ไม่เคยเที่ยวอาบอบนวดเหรอครับ” เอดูตกใจมาก

“ไม่เคย”

“ตอนไปอยู่เมืองนอกมันไม่มีเหรอครับ ที่เมืองไทยมันก็ไม่แพงจนพี่จ่ายไม่ได้นี่นา” เอตาสว่างขึ้นมาทันที

“เปล่า พี่ไม่เคยต้องไปเที่ยว มันมีมาให้ฟรีตลอดอยู่แล้ว”

“เชดดดดด หล่อได้อีก ไว้ผมจะไปฟิตเนสเอาให้หล่อแบบพี่บ้างนะ ผมก็อยากได้ของฟรี”

“ได้เลยครับเอ ฮ่าๆๆๆ”

“โฮ้ยยย ขี้คุย ขี้โม้กันจัง ไปอาบน้ำดีกว่า” แล้วผมก็บหอบสังขารสุดโทรมไปอาบน้ำ ฝักบัวที่น้ำเย็นจัดซึ่งผมชอบซะด้วย ไหลมาชะล้างเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้ใบหน้า ผมทำธุระเสร็จ จึงตะโกนบอกให้เอเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ เพราะลืมถือเข้ามาในห้องเนื่องจากวันนี้ ผมเข้าห้องน้ำทั้งที่ใส่เสื้อคลุม ปกติ ถ้าอยู่กับไอ้เอสองคน เราแทบเปลือย เดินใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกันอย่างไม่เอาย

“เอ้า ผ้าเช็ดตัว”

“เฮ้ยยยย พี่ หลับตาเดี๋ยวนี้”

“มันมีอะไรที่พี่ไม่ควรเห็นเหรอ”

“ไม่มี แต่อย่ามอง” ผมเอามือเอื้อมไปปิดตาพี่ไผ่ผู้ซึ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำเฉยเลย

“พี่เห็นจนชินแล้ว ที่ฟิตเนส ห้องอาบน้ำก็แก้ผ้าเดินกันให้นัวไปหมด”

“นั่นมันคนไม่รู้จักป๊ะ ออกไปเดี๋ยวนี้” ผมยังเอามือนึงปิดตาเขา แล้วอีกมือก็แย่งผ้าเช็ดตัวที่เขาไม่ยอมปล่อย

“อยากเห็นแบบเต็มๆว่า หมอเกาหลีเปลี่ยนอะไรให้บ้าง”

“เดี๋ยวไม่ไปเลือกแทมโพลีนเป็นเพื่อนนะ”

“อ๊าๆๆ ไม่มองก็ได้” เขาปล่อยให้ผมดึงผ้าเช็ดตัวไปใส่อย่างเร่งด่วน แล้วจึงคลายมือที่ปิดตาเขาไว้ พี่ไผ่เดินรอบผมหนึ่งรอบ คล้ายสำรวจ ในห้องน้ำมันมีแต่ความชื้น ผมรู้สึกว่ามันเริ่มจะร้อนแล้วด้วย

“มองอะไร ออกไปได้แล้ว”

“ตอนเด็กยังถูหลังให้พี่อยู่บ่อยๆ จะอายทำไมล่ะ”

“ก็ตอนนี้โตแล้วป๊ะ ช่วยออกไปได้แล้ว”

“จะตอนนี้หรือตอนไหน น้ำคนนี้ ก็เป็นน้ำคนเดิมของพี่อยู่ดีนั่นแหล่ะครับ”





ห้องรับแขก
พ่อที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ มีพี่อำนาจนั่งตรวจเอกสารอยู่ข้างกาย พ่อมองลอดแว่นออกมาตอนผมกับพี่ไผ่เดินลงบันไดมาด้วยกัน โดยมีเอตามมาด้านหลังมาห่างๆ

“สวัสดีครับคุณพ่อ”

“อ้าว ลูกไผ่ เป็นไงบ้าง ตั้งแต่กลับจากเมืองนอก พ่อไม่ได้เจอเลย”

“ยุ่งๆน่ะครับ พ่อกับแม่ผมฝากความคิดถึงมา ไว้แกจะแวะมาเยี่ยมนะครับ”

“เจอกันกับพวกท่านตามงานเลี้ยง แทบไม่มีโอกาสได้คุยเลย เอาๆๆ ไว้แวะมาคุยกัน คิดถึงพวกท่านอยู่เหมือนกัน”

“ได้ครับคุณพ่อ วันนี้ขออนุญาตพาน้องน้ำไปช่วยเลือกของหน่อยนะครับ”

“เอาเลยๆ แล้วให้คนขับไปส่งไหม วันนี้รถว่างหลายคัน”

“ไม่ต้องหรอกครับ พอดีผมเอารถมา เดี๋ยวเย็นๆ แวะมาส่งน้ำครับ”

“เต็มที่เลย อย่าดื้อกับพี่เขานะลูก” พ่อหันมาเตือนผม “มีตังไหม” พ่อน่ารักเป็นที่สุด ผมเดินไปแบมือขอ พ่อหยิบให้หมื่นนึง “ถ้าจะซื้อหาอะไรเพิ่มก็รูดบัตรไปก่อนนะ” ผมแทบกราบที่ตัก พี่อำนาจหันมาหัวเราะ

“นายน้อยนี่ขี้อ้อนเนอะครับท่าน”

“เออ. ก็ดูสิ มีแต่คนรุมเอาใจ เลยกลายเป็นเด็กที่เสียหมด”

“ใส่ตะกร้าล้างน้ำก็ไม่ทันแล้วครับท่าน” แล้วพ่อก็หัวเราะไปกับคำพูดของพี่อำนาจจนผมรู้สึกเสียหน้า รีบลี้ภัยดีกว่า

“แล้วลูกเอล่ะ ให้คนขับของพ่อไปส่งไหม ว่างกันหลายคนวันนี้”

“อ๋อ ผมติดรถพี่ไผ่ไปก็ได้ครับพ่อ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง เอ่อ..นายท่าน เดี๋ยวผมไปส่งเอ นะครับ”

“เอาเลย อำนาจ พาลูกเอแวะทานข้าวก่อนเข้าบ้านนะ เดี๋ยวพ่อแม่เขาจะว่าฉันดูแลเพื่อนลูกไม่ดี”

“ครับท่าน ผมจะดูแลเอให้ดีครับ”





Bounce Arena รัชดาภิเษก
ผมกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเพื่อเตรียมไปกระโดดแทมโพลีน แต่ห้องด้านหลังกำลังทุบทำใหม่ จึงต้องใช้ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแทน พี่ไผ่มาเคาะประตูห้องผม แล้วเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องด้วย เพราะห้องอื่นคนใช้เต็ม พี่ไผ่แต่งตัวชุดกีฬาไว้แล้ว แกบอกว่า แกแค่เดินมาจะถอดกางเกงในออก 

“ไม่กลัวเป็นไส้เลื่อนเหรอครับ จะถอดทำไม” ผมพูดเสียงเบา เพราะกลัวห้องน้ำข้างๆ จะเข้าใจผิด ว่าผู้ชายตัวใหญ่สองคนเข้าห้องเดียวกัน มันดูไม่งาม

“กางเกงมันมีซับในอ่ะ เดี๋ยวเหงื่อออก” ว่าแล้วเขาก็ดึงกางเกงกีฬาขาสั้นลงกับพื้นเหลือเพียงกางเกงใน Homme สีเทาอ่อน กับอะไรไม่รู้ที่ยัดอยู่จนพูนเต่ง ผมมีเหงื่อซึมเลย บรรยากาศในห้องเปลี่ยนชุดมันตึงเครียด

“ไม่เปลี่ยนชุดล่ะครับน้ำ จะถึงรอบกระโดดของพวกเราแล้วนะ”

“พี่เปลี่ยนก่อนเลย”

“มายืนจ้อง ก็อายเป็นนะครับ จะดูเหรอ อยากดูก็จะเปิดให้ดู เราน่ะเปิดบ้างดิ จะดูว่าเหมือนตอนเด็กไหม”

“อย่ามาทะลึ่งได้ป๊ะ ร้อนจะตายชัก รีบๆออกไปเลย”

“โตเป็นหนุ่มแล้วนะเราเนี่ย” พี่ไผ่เอามือที่ข้างหนึ่งมาลูบที่แก้มผม แล้วอีกมือก็เอื้อมไปถอดกางเกงในตัวเองออก ผมไม่กล้ามองลงไป ได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะคอมันแห้งผาด พี่ไผ่มองหน้าผมอยู่อย่างนั้น

“พี่ไผ่ ออกไปได้แล้วครับ”

“อย่ามองลงมานะ เดี๋ยวติดใจไม่รู้ด้วย” แล้วพี่ไผ่ก็สวมกางเกงขาสั้น เขาส่งกางเกงในสีเทาของเขาที่พับไว้ มาให้ผม

“ให้ทำไม ไม่เอา ไม่ใช่คนโรคจิต”

“จะฝากในกระเป๋า ได้เช่าล็อคเกอร์อันเดียวไง”

“อ๋อ” ผมรับกางเกงในอุ่นตัวนั้นมาถือไว้ แล้วเขาก็เดินออกจากห้องไป ผมล็อคประตู หายใจไม่ทั่วท้องเลย ใจผมเต้นแรงมาก ไอ้พี่มันชอบทำอะไรทะลึ่ง สองแง่สองง่ามกับผมประจำ ผมกางชั้นในสีเทานั้นออกมาดู มันเป็นเนื้อผ้าคอตต้อลนุ่มมือเชียว พอพลิกไปมาเห็นสภาพยังค่อนข้างใหม่เอี่ยม กางเกงในพวกเพลย์บอยใช้คงเป็นแบบนี้สินะ เหมือนมีกลิ่นแป้งอ่อนๆ ลอยมา จำได้ว่า เป็น ทเวลพลัสสีชมพูซึ่งผมก็ชอบเหมือนกัน คนอะไรเอาแป้งเย็นทาไข่ แล้วจู่ๆ ผมก็มีอาการตื่นตัวที่ด้านล่าง ผมจึงรีบเก็บกางเกงในพี่ไผ่เข้ากระเป๋า เปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเองแล้วรีบออกมา


เราเลือกโซนแทมโพลีนเบสิค กระโดดบ้างล้มบ้าง เพราะไม่เคยเล่น คิดว่า การใช้แทมโพลีนเบสิค จะง่ายกับผู้เล่นฟิตเนส และไม่อันตรายจนเกินไป อีกทั้งดูแลง่าย เน้นการออกกำลังกายที่แท้จริง พี่ไผ่ดูสนุก เขากระโดดได้สูง แต่อยู่กับที่ ไม่ไปไหน เหมือนจะยังบังคับทิศทางตัวเองไม่ได้ ในขณะที่ผมกระโดดข้ามไปมาได้ดีกว่า แต่ล้มบ่อยชะมัด

“ถ้าเป็นแบบนี้ สั่งจากออสเตรเลีย ถูกด้วย”

“มันก็ทำจีนหมดแหล่ะพี่ ทำไมไม่สั่งจากจีน”

“ถ้าผ่านแบรนด์ มันก็จะดูดีไง พี่ว่า แบบนี้กำลังดี” พี่ไผ่ กระโดดไปด้วย พูดไปด้วย ดูจะเหนื่อยกว่าเล่นฟิตเนสอีกนะเนี่ย

“ทำไมพี่กระโดดอยู่กับที่ ไปข้างหน้า หรือ หมุนตัวมั่งสิ”

“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวล้ม บังคับยากชะมัด”

“ง่ายจะตาย มานี่” ผมดึงมือพี่ไผ่ กระโดดไปข้างหน้า แต่ดันทำให้พี่เขาเสียจังหวะ เราล้มลง ผมหงายหลัง พี่ไผ่คร่อมทับตัวผมอยู่ ไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่ว่าจ้องหน้าผมทำไมกันล่ะ “ลุกได้แล้ว” ผมพยายามจะดันตัวขึ้น แต่ติดร่างใหญ่ที่ทับผมอยู่

“คนบางคน เหมาะกับอยู่ข้างล่างนั่นแหล่ะดีแล้ว”

ผมอาศัยจังหวะเขาเผลอ พลิกตัวเขาหงายแล้วคร่อมเขาแทน “ใครก็อยู่ข้างบนได้ทั้งนั้น ถ้าเจ๋งพอ ไม่เห็นจะยาก”

พี่ไผ่พลิกผมกลับลงมานอนหงายอีกรอบตอนผมไม่ทันตั้งตัว “จะฝืนตัวเองไปทำไมล่ะครับ มันสนุกแล้วจริงเหรอ”

“ปี้ดดดดดดดดดดด” เด็กคุมโซนเป่านกหวีด ชี้ให้พวกเราลุกกันได้แล้ว “ที่นี่ มีเยาวชนเยอะนะครับ ได้โปรด”
ผมกับพี่ไผ่เขิน รีบเดินย้ายไปโซนอื่นกัน เราเล่นกันจนครบชั่วโมง หมดรอบ ก็เตรียมกับบ้าน



หลิวที่ตามมาสมทบผมกับพี่ไผ่ชวนกันมาทานข้าวกันที่ Little Hong Kong ร้านอาหารจีนขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้อาคารเดียวกันกับสถานที่ซึ่งผมเพิ่งออกกำลังกายเสร็จ

“กินเยอะๆนะน้ำ วันนี้พี่ไผ่เขาเลี้ยงเต็มที่” หลิวเสนอ

“ก็เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กป๊ะ น้ำเคยเลี้ยงพี่ซะที่ไหน บ้านก็รวยกว่าบ้านพวกเราตั้งเยอะนะหลิว”

“พี่อายุเยอะกว่า พี่ต้องจ่ายสิ”

“ก็คงงั้น คงต้องหาเลี้ยงไปจนแก่เลยล่ะครับ”

“ดีมาก”

“แล้วนี่เป็นไงกันบ้าง มาเล่นหรือมาอ่อยสาวกัน หนุ่มหล่อสองคนมากระโดดดึ๋งๆไปมา” หลิวเอ่ยถาม เพราะเห็นผมกับพี่ไผ่ซัดอาหารไม่หยุด ทั้งเหนื่อยทั้งหิว

“พี่เห็นมีแต่เด็กตัวกระเปี๊ยกครับน้องสาว”

“น้ำก็เห็นมีแต่เด็กฝรั่ง กับแนวพ่อแม่ลูกน่ะหลิว”

“พี่ไผ่เลยเสนอในที่ประชุมไง เพราะแทมโพลีนน่าจะเป็นตัวเรียกลูกค้ากลุ่มผู้หญิง และ คนที่เสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อ”

“ก็พี่คิดว่า บางคนไม่อยากจะเล่นเวททุกวัน อาจมีวันที่พักบ้าง ก็จะเป็น แทมโพลีน นี่แหล่ะ”

“แต่มันบังคับยากเหมือนกันนะพี่ไผ่ แล้วก็กินพื้นที่เยอะ แล้วคนนึงถ้าเล่น รับรองจองยาว” ผมแย้ง

“แต่เมื่อกี้น้ำกระโดดแค่สิบนาทีก็ลิ้นห้อยแล้วนะ” อ้าว ไอ้พี่

“พี่น่ะ ห้านาทีก็หลังยอกแล้ว ไม่ดูสังขาร” หึ นึกว่าจะแพ้เหรอ

“นี่ ชวนมากิน ไม่ได้ชวนมาทะเลาะนะสองคนนี้ ทุกทีเลยสิ” หลิวตัดบท




                                 Line

==================================
                             MR.KAKI
==================================
      เพิ่มเพื่อน  II     บล็อค      II    รายงานปัญหา
==================================

MR.KAKI : สวัสดีครับ [ สติ๊กเดอร์ หมีบราวน์ พักร้อน ]

NATEE : ใครครับเนี่ย ชื่อ กากี ? [ สติ๊กเกอร์ โคนี่ เครื่องหมายคำถาม ]

MR.KAKI : ผมผู้กองจิมมี่ ครับ

NATEE : สวัสดีครับผู้กอง มีอะไรให้รับใช้ครับ

MR.KAKI : มีคนมาแจ้งความเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ ผมดูแล้ว มันก็ใบเดิมเลย

NATEE : โค้ช ใบสีน้ำเงินเหรอครับ

MR.KAKI : ใช่ครับ มีรูป เอ่อ..

NATEE : รูปอะไรครับผู้กอง

MR.KAKI : มีรูปกึ่งเปลือย แต่มันจากใต้คางลงมา ผมเลยไม่แน่ใจว่า เป็นของคุณนทีหรือเปล่า

NATEE : [ ส่งรูปของผม ที่ถ่ายเห็นหน้า ไปจนถึงท้องน้อย ซึ่งเตรียมกับพี่อำนาจไว้แล้ว ส่งกลับไปให้ ]

MR.KAKI : โอ้ว น่าจะคนเดียวกันเลย

NATEE : ผมน่าจะโดนขโมยนะครับ พอดีผมมีแขกค่อนข้าง.. เอ่อ.. ไม่ซ้ำคนน่ะครับ

MR.KAKI : เป็นชีวิตที่น่าสนุกนะครับ

NATEE : ก็ตามประสาคนโสด และขี้เหงาน่ะครับ ผู้กอง

MR.KAKI : ส่งโลเคชั่นมา ผมแวะเอาไปคืนให้ แต่คงเป็นวันอื่นนะครับ วันนี้ผมก็มีแขก

NATEE : สมกับเป็นคนรูปหล่อจริงๆเลยครับ

MR.KAKI : ผมเนี่ยนะหล่อ [ แนบรูปมุมสูง Selfie จากใต้จมูกโด่ง ลงมาถึงผ้าเช็ดตัวที่คาดเอวไว้ ด้านหลังเป็นเตียงนอน มีเด็กผู้ชายวัยมหาวิทยาลัย สองคน นอนคว่ำหมดแรงอยู่ คนละฟากของเตียง

NATEE : ผู้กองน่ะ ของดี ของพรีเมี่ยมของ สน. เลยนะครับ ผมล่ะอยากจะไปแจ้งของหายทุกวันเลย

MR.KAKI : ไว้มาแจ้งเป็นการส่วนตัวได้ครับ [ แนบรูป เด็กมหาลัย สองคนที่เหมือนเริ่มขยับตัว ] แค่นี่ก่อนนะครับ ผมต้องไปดูแลแขกอีกสักรอบ

NATEE : ขอให้สนุก แล้วก็ ฝันดีนะครับ



ผมกด เพิ่มเพื่อนกับนายตำรวจสุดหล่อ งานนี้ไม่ง่ายแฮะ ผมนึกถึงคำพี่อำนาจเลย ว่าบางคนเกิดมาเป็น รุกออริจินัล แล้วเขาก็ไม่ต้องง้อคนอย่างผม ถึงหน้าปัจจุบันผมจะหล่อมาก หุ่นผมก็เฟิร์ม แต่หน้าอย่างเขา มีอะไรมาให้เลือกมากมาย เขาไม่มีความจำเป็นต้องมาเป็นรับให้ผม เขาเลือกที่จะรุกใครก็ได้ เป็นปัญหาแล้วล่ะ เห็นที่งานนี้ มีอะไรต้องเตรียมการอีกมาก

ผมกดโทรศัพท์โทรหาน้องกันต์ด้วยความคิดถึง เขาก็ออดอ้อนตามประสาคนน่ารัก เขาบอกว่าช่วงนี้เขายุ่งมาก เพราะกำลังจะมีเปิดสอบรับพนักงานในตำแหน่งที่เขาใฝ่ฝัน เขาเล่าเรื่องที่ออกัสเพียรโทรหาเขาบ่อยจนเขาสลัดเรื่องเดิมไปไม่ได้เสียที ไม่รวมเรื่องที่เขาคิดถึงผมบ่อยจนผมอมยิ้ม กันต์บอกว่า จะกลับบ้านต่างจังหวัด แล้วออกัส ก็ขอไปด้วย ผมไม่ออกความเห็นได้แต่บอกให้เขาระวังตัวให้ดี ไม่รู้ว่า ออกัสจะมีแผนอะไรไหม แต่ที่มั่นใจคือ กันต์ยังไม่รู้ว่า ผมได้ส่งรูปถ่ายบนเตียงของผมกับกันต์ เข้ามือถือออกัสไปแล้ว กันต์ซื้อพวงกุญแจรูปพิน็อคคลิโอ้มาฝาก เหมือนประชดเลย ผมเอ่ยขอบคุณทั้งที่ยังไม่ได้รับของ เขาบอกว่าถ้าผมยอมปลีกเวลานัดเจอเขา เขาจะมอบมันให้ผม เด็กดียังไงก็เป็นเด็กดีวันยังค่ำ

เย็นนี้ ไอ้เอไม่ออกรอบพาผมฝึกซ้อมตามนัด แล้วมันก็หายตัวไป เหมือนจะไม่อ่านไลน์กลุ่มด้วย คงไปติดสาวที่ไหนอีกแน่ ในไลน์กลุ่มก็มีแค่ หลิวกับตูน ที่สนทนากันเรื่องเรียน เรื่องเที่ยว เรื่องนัดทำบุญ มีผมที่ได้แต่อ่านโดยไม่ได้ตอบอะไร

ผมเริ่มลังเลที่จะปฏิบัติภารกิจต่อ ไม่ใช่แค่เพราะว่ามันยาก แต่เหมือนผมหาประโยชน์จากมันไม่ได้ ผมได้กันต์แล้วเป็นอย่างไร ออกัสก็คงไม่ได้ร่ำร้องกลับมาหาผม ซึ่งผมก็ไม่ได้ต้องการออกัสอีกต่อไปแล้ว เขาดูช้ำใจเล็กน้อยแต่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะโมโหโทโสจนผมสะใจ แล้วผมจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงทำไม ผมคว้าหมอนใบนุ่มคู่ใจมาอิงหัวไว้ก่อนจะคล้อยหลับไป



August’s Voice GPS Tracking
“ใช่เลยแก นี่ชั้นกำลังจะย้ายออกแล้ว ไปอยู่กับผัว โอ๊ยยยย ไม่ได้รวยเหมือนเมียเดิมกู แต่อยู่แล้วสบายใจ”
“ใช่สิแก ชั้นน่ะ เดี๋ยวจะได้ทำงานสายการบินแล้ว เล็กๆ ในประเทศ แต่ว่า เออ มันก็ดีกว่าอยู่เฉยล่ะวะ”
“ช่ายยย กันต์มันฝากให้”
“อืม ก็เฉยๆ มันจะมีใครก็มีไป ช่างมัน”
“ก็เห็นจากรูปแล้ว ส่งเข้ามือถือกูเลยค่ะ”
“มองไกลๆ หน้าตาก็โอ แต่ถ้ากล้าส่งรูปมานี่ มันก็น่าจะเลวไม่น้อย”
“ช่างมัน”
“ใช่ กันต์มันคงเป็นรับให้ไอ้นี่”
“เจ็บสิวะ แต่ทำไงได้ พยายามไม่รับรู้”
“ผัวใหม่น่ะเหรอ ไม่มีทาง แมนซะยิ่งกว่าแมน รับรองไม่มีทางไปเป็นเมียใคร”



The Plum Fitness เวลาปิดทำการ
ผมมาลองใช้แทมโพลีนอันใหม่ ตามคำชักชวนของพี่ไผ่ สินค้าที่ใช้เวลาประมาณอาทิตย์เดียวจัดส่งถึง เพราะมีตัวแทนจัดจำหน่ายในประเทศไทยที่สาธร แถมยังได้ลดราคาเยอะ เพียงแต่ขอทำโปรโมท โดยอ้างชื่อฟิตเนสไปใช้ในการโฆษณา พี่ไผ่ก็อนุญาต ผมมาถึงในเวลาซึ่งช่างประกอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว เครื่องเล่นมันก็ใหญ่โตเหมือนกัน พี่ไผ่เลือกให้อยู่ ด้านในสุดของอาคาร เพื่อให้แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน

“พี่ขอถ่ายรูปน้ำตอนกระโดด ส่งให้ตัวแทนจำหน่ายนะ เขาขอนายแบบเล่นสักคน เอาไปเสนอลูกค้า”

“ซึ่งพี่ต้องเลือกผม เพราะผมหล่อสุดในบรรดา สมาชิกของพี่ทุกสาขาแล้ว”

“ซื้อมาจากหมอไหน ความมั่นใจเนี่ย”

“อ้าว คนเราก็ต้องเปลี่ยนเปล่าล่ะ”

“ไม่ได้บอกสักหน่อย ว่าไม่ควรเปลี่ยน แค่ ดูแล้วไม่ใช่น้ำเท่าไหร่ เอาเหอะ เดี๋ยวงอนพี่อีก ลองกระโดดดูนะครับ”

ผมก็ลองเทสต์แทมโพลีนป้ายแดง พื้นแทมโพลีนเป็นสีดำ ขอบกุ๊นเป็นสีแดง ผมลองกระโดดดู ลื่นกว่าที่ Bounce เพราะไม่ได้ใส่ถุงเท้าสำหรับเล่นแทมโพลีนโดยเฉพาะ แต่ก็ถือว่า ในระดับการออกกำลังกาย ก็ใช้ได้เลย
ระหว่างแทมโพลีนกับกำแพง มีตาข่ายขึ้งตึงกั้นระหว่างเครื่องเล่นกับกระจกที่มองออกไปเป็นทิวทัศน์ของเมืองหลวงยามดึก แสงไฟสีเหลืองและแดงอร่ามเต็มไปหมด ผมกระโดดไปเรื่อย มองที่กระจกผ่านม่านตะข่ายอยู่อย่างนั้น นึกถึงคำพูดของออกัสที่ดักฟังเมื่อหัวค่ำ คนใหม่ที่มึงว่าแน่นะเหรอ กูจะทำให้มึงร้องไห้เลยคอยดู
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 8 : กระโดดเพื่อให้ลืม ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-04-2018 00:26:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 8 : กระโดดเพื่อให้ลืม ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 20-04-2018 16:20:37
ทเวลพลัสชมพู โอ๊ยย ขำ 555+   :hao3: :hao6:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 8 : กระโดดเพื่อให้ลืม ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 22-04-2018 12:08:22
 :hao4: :-[  กุงเกงในตัวนั้น
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 8 : กระโดดเพื่อให้ลืม ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 23-04-2018 22:18:52
อร้ายยย จิมมี่ไหน ไฟแรงเฟ่อร์  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 9 : ความยากระดับ 9 ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 24-04-2018 18:27:15
Prep  9 : ความยากระดับเก้า

PentHouse  The Empire

ผมมีนัดกับผู้กองจิมมี่ เขาจะแวะเอากระเป๋าสตางค์กำมะลอใบนั้นมาคืนผม หลังจากอาบน้ำแต่งตัวฉีดน้ำหอมรอ ฟอกสบู่เฉพาะที่ลับ ไม่เคยซื้อมาใช้ก็ต้องช็อปออนไลน์มา เพราะดูเขาสะอาดหมดจด จะมีกลิ่นแม้แต่นิดก็เกรงว่าจะเป็นที่ไม่ถูกใจ เล่นกับของพรีเมี่ยม เราต้องทำตัวให้พรีเมี่ยมตาม
พี่อำนาจ ก็โทรมาซะถี่ยิกแต่เช้า ดูเขาจะเป็นกังวลมาก ไอ้เอก็เช่นกันสลับกันโทรมาจนผมเองเริ่มจะวิตก ผมก้มลงไปดมที่เสื้อเชิ้ตสีครีมตัวเก่ง ก็หอมกำลังดี  ก่อนเสียงกริ่งหน้าประตู จะดังขึ้น 

“เข้ามาก่อนสิครับ คุณจิมมี่”  ก่อนจะนำเขาในชุดเสื้อเชิ้ตดำ กางเกงยีนส์สีฟอก มานั่งที่โซฟา กลิ่นเขาหอมฉุยกว่าผมอีก

“ห้องใหญ่โตเชียวครับคุณนที พนักงานต้อนรับสุภาพมาก”

“ผมมีแขกบ่อยน่ะครับ พนักงานต้อนรับเขารู้งานดีครับ”

“แขกคุณนทีมากลางวันแบบผมเหรอครับ”

“คนที่มากลางวันได้ ต้องเป็นแขกคนโปรดน่ะครับ”

“หล่อแล้วยังปากหวานอีกนะครับเนี่ย”  เขาเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสตางค์โค้ช สีน้ำเงินออกมา ยื่นให้ผม

“ไม่ต้องไปเซ็นอะไรที่ สน. เหรอครับ”

“อยากไปไหมล่ะครับ”

“ถ้าไปแล้วเจอผู้กอง ก็อยากไปบ่อยๆนะครับ”

“ฮ่าๆๆ  ยอมแล้ว คุณนทีนี่เจ้าเล่ห์น่าดู”  เขาทำท่าจะลุกจากโซฟา  เห้ย ไม่สนใจผมเลยเหรอ หรือเขาจริงจังกับออกัสแล้ว

“ทำไมรีบกลับล่ะครับ มีงานเหรอผู้กอง”

“เปล่าครับ เข้าเวรค่ำ แต่ไม่อยากรบกวน เผื่อคุณนทีจะมีแขกแวะเวียนมา

“คิววันนี้ อุทิศให้ผู้กองคนเดียวเลยครับ”





ผมกับผู้กองอยู่บนเตียงนุ่มที่เพิ่งเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ เป็นสีเทาเข้ม เราโรมรันพันตู กอดจูดกันอย่างดุเดือด เขาฉีกเสื้อเชิ้ตสีครีมของผมกระดุมขาดกระเด็นแล้วโยนไปที่ปลายเตียง  จับผมพลิกคว่ำ อ๊ะ.. ไม่ใช่ในแผนนี่หว่า  ผมคว้าคอเขาแล้วจับเขาพลิกลงไปนอนหงาย ตัวผมดันขึ้นมาคร่อมที่ตัวของจิมมี่ 
ผมก้มส่งลิ้นลงไปในปากอุ่น ให้เขาอมลิ้มผมไว้ มือก็แกะกระดุมเสื้อของเขา ถอดเข็มขัด แล้วก็กระดุมกางเกงยีนส์  ผิวเขาเนียนเกลี้ยงมาก แทบไม่มีขนสักเส้นให้เห็น ไม่มีไขมันมาให้สะดุดตา  ผมบรรจงจูบลงไปที่แผ่นอก แล้วก็โลมเลียตรงยอดติ่งนั้น เขาครางชื่อผมออกมา เอามือมาค้ำที่คอ แล้วดึงหัวผมขึ้นไปประกบปาก เราดูดปากกันดุเดือนเลือดพล่าน ในใจผมยังคิดถึงวิธีต่อไป 
มันไม่ดูง่ายเหมือนกันต์ ที่คล้ายจะมีใจให้ผม  แต่ผู้กองจิมมี่ เหมือนมาหาเรื่องสนุกกันแค่นั้นมากกว่า  ผมเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ที่ตั้งไว้อัดวีดีโอ ซึ่งซ่อนอยู่ในกระปุกรูปม้าน้ำ  ในภวังค์ที่ผมเผลอ เขาก็พลิกผมลงมาหงายหลังนอน  จิมมี่ลากลิ้นจากปลายซอกคอลงมาที่หน้าอกผมบ้าง เขางับที่ระหว่างซอกหน้าอก กับซอกรักแร้ ผมดิ้นด้วยความเสียวซ่าน กางเกงผมหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  แล้วเขาก็เอานิ้วมือแหย่เข้ามา 
เฮ้ย.. ผิดแผนอีกแล้ว ไม่ได้     ผมรีบล็อคแขนเขาแล้วเอี้ยวตัวขึ้นคร่อมให้เขานอนคว่ำที่เตียง  ผมลากลิ้นจากกลางหลังโลมเลียไปยังเนินสะโพก เขาครางเบาๆ  ผมเอาเข่าของผมรั้งขาของจิมมี่ให้แยกออก  ผมล้มลงไปทับตัวเขา จูบที่ต้นคอ แล้วเอื้อมมือไปหยิบถุงยาง  ผมเข้าใกล้จะบรรลุภารกิจนี้แล้ว   แต่ทันใดนั้น หนุ่มตัวบางแต่เนื้อตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อคนนี้ ก็จับผมพลิกหงายหลังลงอีกรอบ  ผมสู้แรงของเขาไม่ได้
เขาส่งสายตาลงมามองที่ตาของผม ลมหายใจของเรารดใส่กันจะอุ่นร้อน  เขาที่ตัวล่อนจ้อนเหมือนผม เราเอาตัวเบียดกันจนแก่นกายของเราทั้งคู่พองหรา  เขามีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับผม แต่มันดูคล้ำและดุดันกว่า เหมือนจงอางที่จ้องเผด็จศึก เขาบรรจงจูบลงมาที่ผมอีกครั้ง แล้วเขาก็คว้าถุงยางในมือของผมไป  เขาใช้ปากฉีกถึงยาง แล้วหยิบเนื้อห่วงออกมาจากซองอย่างชำนาญ สายตาเรายังคงมองกันอย่างดูเชิง  เขาหยิบถุงยางไปสวมใส่ให้จิมมี่น้อย ที่ดูตอนนี้มันพองจนไม่น้อยแล้ว  เขาเอานิ้วแหย่เข้ามาในตัวผมจนผมเผลอเคลิ้ม..  จิมมี่ก้มลงมาจูบที่ปลายคางของผม ตวัดลิ้นเลียที่ซอกคอ ผมครางแล้วร้องเรียกชื่อของเขาออกมา  เขาเพิ่มนิ้วอีกนิ้วแหย่เข้ามา ผมหายใจถี่ขึ้นแล้วก็ครางโหยหวน
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ที่กำลังถ่ายบันทึกเรามันดังขึ้น  ผมรีบสะบัดตัวออก ตั้งสติแล้วบอกกับเขา   
“ผู้กองครับ..  ผมว่า วันนี้ เราคงต้องพอกันแค่นี้”

ผู้กองจิมมี่ใส่เสื้อผ้าแล้วจากไป เขาไม่ได้โกรธอะไร ก่อนออกไปยังก้มลงมาหอมหน้าผากผมแล้วส่งตาหวาน ยิ้มของเขาหล่อเหลาชะมัด เขาไม่ได้ยัดเสื้อที่มีรอยยับยู่ใส่ในกางเกงที่รัดติ้วนั้น  ผมเห็นจากข้างหลัง เรือนร่างของเขามันช่างดูเย้ายวน หูผมยังร้อนฉ่า แล้วอารมณ์ผมก็ยังคงค้างเติ่ง  ไม่ทันไร ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น แต่ไม่ทันได้รอผมไปเปิดประตูต้อนรับ  ประตูก็ถูกเปิดออก  มีแค่สองคนที่มีการ์ดประตูห้องผม คือ ไอ้เอ และ พี่อำนาจ

ไม่ต้องเสียเวลาสงสัย พวกเขาเข้ามาพร้อมกันสองคน ไอ้เอเดินมากอดผมที่อยู่ดีๆก็ร้องไห้โฮ  พี่อำนาจเดินมานั่งที่ปลายเตียงมองมายังผมที่ร้องไห้ไม่หยุด ไอ้เอเอามือดึงผมไปซบที่ไหล่ แล้วลูบหัว ผมสะอื้นไห้ด้วยความชอกช้ำ  แล้วก็เจ็บใจตัวเองที่เอาเรือนร่างมาเสี่ยงขนาดนี้  จนสักพักพออาการผมดีขึ้น เอก็ไปชงชาให้ผม  ผมเอื้อมตัวลงมานอนหนุนตักพี่อำนาจ เขานั่งเอามือลูบหัวผมอย่างกับแมว

“พี่บอกนายน้อยแล้ว ว่ามันไม่ธรรมดา ไอ้จิมมี่น่ะ”

“พี่รู้แล้วเหรอ ว่าผมทำอะไร”

“อืม ก็เค้นให้เอ เล่าให้ฟังหมดแล้ว”  ผมตกใจที่ได้ยิน กำลังจะหันไปทำหน้าดุใส่เพื่อนแต่พี่อำนาจห้ามเสียก่อน “อย่าไปว่าเพื่อนเลยนะ พี่แค่เป็นห่วง พี่ไม่เล่าให้ใครฟังหรอก”

“ผมแค่อยากหายเจ็บใจ”  ผมพลิกตัวกลับข้าง โดยยังคงนอนที่ตักพี่อำนาจ หันหน้าไปทางหน้าท้องของเขา เอื้อมมือไปกอดที่เอวพี่เขาไว้ อ้อนบอดี้การ์ดตัวดี “พี่อย่าบอกพ่อนะ”

“อืม พี่จะไม่พูด แต่อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนี้สินายน้อย” เขายังคงลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา ผมก็สะอื้นไม่หยุดหย่อน จนเอาเดินเอาชาที่ชงเสร็จมาให้ ผมก็ดึงตัวขึ้นมานั่งดื่ม

“นี่ถ้าไม่โทรเข้ามา มึงคงจะเสียท่าไปแล้วไอ้น้ำ”

“ขอบใจมากว่ะเอ กูก็เกือบไป” ผมยังนึกถึงอารมณ์ที่มันพาไปจนเกือบเสียท่า  ภารกิจเกือบล่มไปแล้ว  แต่ก็ดันคิดได้ว่า สองคนนี้ รู้ได้ไงหว่า   “ว่าแต่ รู้ได้ไงกัน นี่มี จีพีเอส ดักฟังใช่ไหม” ผมเค้นเอาความจริง

“ยิ่งกว่า จีพีเอสอีกมึง” เอกระซิบบอก

“เฮ้ยยยยยย จริงดิ”

“แต่ไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวมึงหรอก แค่พอรู้ว่า มึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย”

“กูโดนพี่อำนาจสปายเหรอวะ” ผมเหลือบมองไปทางบอดี้การ์ดของพ่อ ที่กำลังยืนสูบบุหรี่ที่ระเบียง  ผมไม่เคยเห็นเขาสูบ

“ไม่นะ เขาไม่ได้ตามอะไรมึง แต่แค่วันนี้กูเล่าให้เขาฟังว่า มึงนัดไอ้ตำรวจหน้าหล่อนั่น เขาเลยดูกังวล”

“เหมือนกูเสีย อธิปไตย เลยว่ะ”

“มึงก็เคยเสียให้ไอ้กัส ไปแล้วป่ะวะ ไม่เห็นจะต้องกังวล เอาจริงๆ”

“มันไม่เหมือนกันเว้ย  กูจะเป็นรุก แล้วกูก็รุกน้องกันต์ได้แล้ว ไอ้จิมมี่ มันต้องโดนกูรุก กูจะเสียทีมันไม่ได้”

“เฮ้อ กูล่ะเหนื่อยแทนมึงว่ะ  เมื่อกี้ตอนกูเห็นมันออกจากล็อบบี้ ดูมันยิ้มอย่างกับผู้ชนะ แต่แม่งหล่อเหมือนกันว่ะ”

“ใช่เวลามาชื่นชมเป้าหมายกูไหม”

“หล่อจริงๆ อย่างกับพระเอกช่อง 7   แล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะ ดูว่าจะฟาวด์แล้วนะงานนี้”

“คนเรามันต้องมีวิธี เดี๋ยวกูตั้งสติก่อน กูกำลังเสียขวัญ”

“โหว ขวัญเอ๋ยขวัญมา”  เอกอดผมแน่นจนผมต้องเอาหัวไปซบที่ไหล่มัน  หลังพวกเราผ่านเหตุการณ์วิกฤตมาอย่างใจหาย



อาทิตย์ต่อมา ผมที่เรียกขวัญกลับคืนมาได้ระดับหนึ่ง ก็มาตั้งสติได้ จึงหยอดส่งข้อความไปหาผู้กองจอมแสบ  แต่มีแค่รอยอ่าน หรือนานที ก็มีสติ๊กเกอร์ตอบกลับมา มันยิ่งตอกย้ำความพ่ายแพ้ให้ผมปริ่มล้นในใจ  ทำไมมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ล่ะ ถ้ามานั่งนึก ก็คงเพราะผมเตรียมตัวไม่พร้อมพอ หรือไม่สามารถหาจุดอ่อนจุดแข็งของตัวภารกิจนี้ได้
วันนี้หลังสอบเก็บคะแนนเสร็จ ผมก็มากับต้นหลิว เพื่อไปเป็นเพื่อนในงานวันแซยิดคุณพ่อของหลิว  หลิวบอกว่า คนชอบถามเรื่องแฟน จะทำเนียนแกล้งเอาผมไปโชว์ตัว ทุกคนในเครือญาติจะได้หยุดนินทา โดยมีตูนขอตามมาทีหลัง แต่การ์ตูนกลับไปบ้านเปลี่ยนชุดก่อน ส่วนผมมีเสื้อผ้ารอไว้ท้ายรถอยู่แล้ว จึงไม่ซีเรียสอะไรมาก  ใจยังคงกังวลเรื่องวิธีพิชิตผู้กองอยู่

บ้านบดินทร์เตชานนท์

“สวัสดีน้ำ หล่อขึ้นจนจำไม่ได้เลยเนี่ย ตามสบายนะ เดี๋ยวพ่อขอรับแขกก่อน หลิวดูแลเพื่อนทีนะ” พ่อของต้นหลิวผู้ใจดีและเอ็นดูผมมาเสมอ เอ่ยขอบคุณกับ พระปากน้ำ รุ่น 3 พิมพ์ลึก ที่พ่อของผม ฝากมาให้เป็นของขวัญวันแซยิด ท่านดูดีใจมาก คว้าผมไปหอมแก้มอย่างเอ็นดู ผมนับถือท่านเป็นผู้ใหญ่คนสนิทที่คุ้นเคย  พ่อของหลิวอายุเยอะกว่าพ่อของผมหลายปีอยู่ แต่บ้านเราก็ชิดเชื้อกันอย่างกับญาติ  เอาจริงๆนะ สนิทกว่าญาติที่คอยมาขอยืมเงินพ่อบางคนอีก 

ผมก็เลยขอตัวเพื่อเข้าไปที่ครัว ไปทักทายคุณแม่ ซึ่งท่านก็ใจดีไม่แพ้กัน แถมทำอาหารได้อร่อยมาก ผมชอบแม่ของหลิวมาก เพราะว่าท่านดูแลผมดี ผมเองไม่มีแม่แล้ว ท่านก็มักจะฝากอาหารแสนอร่อยผ่านหลิวมาให้ ผมรู้ว่า ท่านสงสารผม

“ฝากขอบคุณ พ่อด้วยนะน้ำ เล่นให้ของขวัญถูกใจขนาดนี้ คงนั่งส่อง นั่งลูบคลำทั้งวัน ลุงเขาบ้าพระเครื่องแค่ไหน หนูก็จำได้ใช่ไหม”  ผมล่ะหัวเราะเลย เมื่อนึกถึงสมัยที่มานั่งเล่นบ้านหลิว แล้วก็จะเห็นพ่อของหลิวนั่งเช็ดถูกกรอบใส่พระเครื่อง แล้วก็นั่งส่องกล้องทั้งวันทั้งคืน จนแม่ของหลิวบ่นทุกครั้งตอนเรียกมาทานข้าว

“แล้วพี่ไผ่ไปไหนล่ะครับเนี่ย”

“น่าจะอยู่ข้างบน ยังไม่ลงมา ฝากน้ำขึ้นไปตามที่ได้ไหมลูก แขกเหรื่อมากันเต็มบ้านแล้ว พักนี้เป็นอะไรไม่รู้ ชอบเก็บตัว”

“โดนสาวที่ไหนหักอกหรือเปล่าครับแม่”  ผมแซวแก้เก้อ แต่ก็รอฟังเผื่อแม่จะเล่าอะไรเกี่ยวกับพี่ไผ่เพิ่มบ้าง

“ไม่หรอก สาวที่ไหนกัน ไม่เห็นจะมีใครเลย หลิวเองก็ติดพี่ชายซะขนาดนั้น ไปไหนก็ไปกันสองคนพี่น้อง จนแม่ไม่รู้จะห่วงใครดี ระหว่างลูกชายกับลูกสาว ว่าใครจะไม่ออกเรือน”

“ไม่หรอกครับแม่ ทั้งพี่ไผ่ กับ หลิว นี่ฮอตจะตาย ลูกบ้านนี้ใครได้เป็นแฟนโชคดีจะตายไปครับ”

“น้ำก็เลือกเอาเลยสักคนสิ ยกให้เลย ใครก็ได้”  อุ้ย แม่แซวแรง

“ฮ่าๆๆๆ  ทุกวันนี้ ผมก็เหมือนลูกบ้านแม่อยู่แล้วครับ”  ผมนึกขำในความฉลาดพูดเอาตัวรอด 



ห้องนี้ เจ้าของดุ
ผมเคาะประตูหน้าป้าย ห้องนี้เจ้าของดุ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดลูกบิดซึ่งไม่ได้ล็อค สงสัยใช้กฎเดียวกับบ้านผมแฮะ  เดินเข้าไปเห็นพี่ไผ่ในชุดแจ็คเก็ตสีเทา กับเชิ้ตแดง กำลังส่องหน้ากระจก  เขาหันมาส่งยิ้ม ดูหล่อชะมัด แต่ทำไมไม่ใส่กางเกง พิเรนทร์จริง อีตานี่   แล้วเขาก็เดินมายังผม กางเกงในสีเทาตัวที่เขาใส่อยู่ มันเป็นตัวเดียวกับที่มีกลิ่นแป้งเย็นทเวลพลัสสีชมพูหรือเปล่านะ  พอนึกถึงก็รู้สึกร้อนขึ้นมาเลยเดินเลี่ยงไปนั่งที่เตียงแทน

“แม่ให้มาตามแล้วพี่ แขกมากันเต็มแล้ว”

“เบื่อชะมัดเลย ไม่ไปไม่ได้เหรอ” เขาเดินมาคุกเข่าตรงหน้า อย่างกับน้องหมาที่ออดอ้อน มันไม่น่ารักหรอกนะสำหรับคนอายุขนาดนี้  มันแค่...  ดูหล่อ เท่านั้นเอง

“หกสิบปีมีครั้งเดียว ไม่ควรงอแงนะครับ ผมยื่นมือไป เขาเอาคางมาวางอุ๋งอุ๋ง แบบที่กำลังฮิต

“เหนื่อยจะเจอเพื่อนพ่อ ขี้เกียจตอบคำถามญาติ”

“คำถามที่ว่า เมื่อไหร่จะแต่งงานใช่ไหมครับ”

“โดนเหมือนกันเหรอ เหนื่อยเนอะ” พี่ไผ่ลุกขึ้นมา หรรมแทบจะทิ่มหน้าผมอยู่แล้ว ก่อนจะเอนตัวไปนอนบนเตียง ผมต้องแอบเหล่ไปดู ไม่กล้ามองตรงๆ

“ผมนึกไปเองว่า คนอย่างพี่จะแกร่งกว่านี้”

“อย่ามาปากดีเลย โหมเที่ยวอาบอบนวดทุกอาทิตย์นี่ หัวใจแข็งแรงมากเลยเนอะ” เขาลุกขึ้นมานั่งข้างๆผมที่ขอบเตียง

“พี่อย่าเฉไฉ  ไปทาแป้งเย็น แล้วนุ่งกางเกงได้แล้ว”  อุ้ยย เชี่ยยย  กูเผลอ

“ทำไมรู้ว่าพี่ทาแป้งเย็นอ่ะ  ปกติพี่ทาแค่...  เห้ย..  วันนั้น เอากางเกงในพี่ไปสูดดมเหรอ”  พี่ไผ่ทำหน้าเหวอ

“ประสาท ได้กลิ่นก็จำได้แล้วเปล่า แป้งยี่ห้อนี้ก็ใช้อยู่”

“มันฟังดูจั๊กจี้ชะมัดเลย เวลามีคนทำอะไรแบบโรคจิตใส่เราเนี่ย” พี่ไผ่เอื้อมมือมาล็อคข้อมือผมแน่น

“บอกว่าไม่ใช่” ผมพยายามจะสะบัดมือ ไม่กล้ามองตาเขา พี่ไผ่จ้องผมเขม็ง ผมยิ้มอย่างผู้ชนะ 

“ไม่เห็นต้องอาย บอกกันตรงๆ เดี๋ยวจะถอดให้สักตัวไว้ดูต่างหน้า เอาแบบสดๆ ร้อนๆ เลยเอาไหม”

“ไอ้พี่บ้า อย่ามาใส่ร้ายได้ไหม ใครเขาโรคจิตขนาดนั้น”  ก่อนเขาจะปล่อยมือผมออก แล้วกลับไปเอนหลังนอนต่อ

“โถ่ หรอกให้พี่แอบดีใจไปเอง”




ผมนั่งที่ริมสระน้ำ หลังจากที่พ่อพี่ไผ่เอ่ยขอบคุณทุกคนบนเวทีเสร็จ  มีการแจกลูกสุนัขบีเกิ้ล สำหรับผู้ร่วมงานที่สนใจรับกลับไปเลี้ยง  โดยมีกฎว่าห้ามปล่อยวัด แต่ต้องนำไปเลี้ยงให้ดี  มีความวุ่นวายเล็กน้อยเพราะว่าสุนัขบีเกิ้ลซนมาก จนวิ่งวุ่นไปหมด แต่บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุก  ผัวกับเมียทะเลาะกันเรื่องจะเอาสุนัขกลับบ้านหรือไม่กลับ  มีเด็กที่ร้องไห้อย่างน่ารักเพราะว่า พ่อแม่ไม่ยอมให้เลี้ยงน้องหมา  ตลกที่สุดคงเป็นท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ที่วิ่งไล่จับบีเกิ้ลแสนซนจนเกือบตกสระว่ายน้ำ  ผมว่าเป็นอะไรที่บ้านนี้เขาเตรียมไว้เป็นสัจจะธรรมบางอย่างให้แขกคิดมากกว่า เพราะผมรู้ดีว่าพ่อแม่ของหลิวเป็นคนแบบนี้ แม้ราคาสุนัขตัวละหลายพันอยู่ แต่ของขวัญที่เขาได้มาแต่ละคน ก็ให้ของขวัญล้ำเลิศมากำนัล ครั้นจะไปแจก แต่เอาไปเลี้ยงดูไม่ดีก็คงจะไม่ใช่เรื่อง บ้านเขารักน้องหมาจะตาย คงมีการให้ถ่ายรูปรายงานความเป็นอยู่ คนที่เอาไปต้องเลี้ยงดูให้ดีเพราะความเกรงใจเจ้าของงาน

ผมกดแอ๊พ DMiss เพื่อดักฟัง GPS Tracking ในห้องพักของออกัส  แต่ว่าไม่มีเสียงคาดว่าไม่อยู่บ้าน  ผมเลยกดส่งข้อความไปยังเบอร์ของจีพีเอสรถยนต์ สักสิบวินาทีก็มีข้อความย้อนกลับมา ผมกดที่ลิงค์ข้อความเพื่อเปิดเส้นทางของรถปรากฏเป็นเส้นทางที่ใกล้กับที่นี่ เฮ้ย เขามาทำอะไรแถวนี้ ผมนึกในใจ แต่เมื่อไม่มีบทสนทนา ผมก็เลยวางหูลง

“แต่งตัวหล่อมากเลยตูน” ผมเอ่ยทัก ตูนที่เพิ่งมาถึง การ์ตูนหนุ่มแก้มกลมมาในชุดสูทเต็มยศ เอาเข้าจริงตอนแรกหลิวก็ไม่ได้ชวนเพราะว่า ตูนพูดกับคนอื่นไม่เก่ง จึงคิดว่าถ้ามางานน่าจะอึดอัด แต่ตูนก็ดึงดันจะมาให้ได้ การ์ตูนเป็นคนที่คอยช่วยเหลือทุกคนเรื่องการเรียน เขานี่ระดับเทพ ฉลาดแล้วก็มีวินัยในการเรียน แม้ผมจะหัวดี ฉลาดกว่าคนอื่น แต่การเรียนในมหาวิทยาลัย คะแนนส่วนใหญ่มาจากคะแนนเก็บและคะแนนในห้องเรียน ผลสอบก็แค่ช่วยให้เกรดมันดี  ผมซึ้งน้ำใจตูนที่คอยช่วยเหลือทุกคนในกลุ่ม

“ก็งานระดับตระกูลบดินทร์เตชานนท์  จะแต่งตัวธรรมดาได้ไง เอใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มา เลยไปหลบอยู่ที่โต๊ะพี่อำนาจน่ะ ไม่กล้าเดินมา”

“อ้าว ไหนตอนแรกเอบอกไม่มา”

“อืม แต่พี่อำนาจไปรับมา”

“ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”

“นั่นสิ งงเหมือนกัน แล้วนี่หลิวอยู่ไหนล่ะ เราเอาของมาให้พ่อหลิวด้วย”

“อยู่ข้างใน ไปสิ เราพาไป” 

ผมพาการ์ตูนมาไหว้พ่อหลิวแนะนำตัว แล้วก็พาไปไหว้แม่ ดูท่านจะเอ็นดูเพื่อนลูกทุกคน ขนาดไอ้เอมันกวนบาทาขนาดนั้น ท่านก็รักมันอยู่ไม่น้อย  เพียงแต่คอยกระตุ้นให้ทุกคนขยันเรียน
ผมเหลือบไปเห็นพี่ไผ่ ที่นั่งอยู่คนเดียวตรงลานหน้าน้ำพุ ผมเลยทิ้งตูนไว้กับแม่หลิว แล้วไปสมทบพี่ไผ่ที่ดูคล้ายจะมีเรื่องในใจอะไรบางอย่าง ทำให้คนร่าเริงอย่างเขาซึมไปเลย

ผมส่งแก้วบรั่นดีให้พี่ไผ่ แต่ข้างในเป็นเบเบิ้ลที่เขาชอบกับน้ำแข็งสองก้อน เขาเขยิบตัวให้ผมนั่งข้างๆ น้ำพุวันนี้เร่งแรงจนละอองน้ำกระเด็นมาโดนผิวหน้าผมเล็กน้อย ไฟสีฟ้าส่องทำให้น้ำพุดูงดงามกว่าทุกวัน
“แจ็ค ออน เดอะ ร็อค  รู้ใจจริงเลยน้องคนนี้” พี่ไผ่เอามือมาขยี้หัวจนผมยุ่ง ผมรีบปัดมือพี่ไผ่มาคว้าไว้

“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเงียบจัง อกหักหรือเปล่าครับ”  ผมรอคำตอบ เขาไม่พูดอะไรอยู่พักใหญ่ ก่อนจะคว้าแก้วบรั่นดีไปกระดกเหล้าเข้าปากแล้วมองไปที่ท้องฟ้า

“ไม่ได้อกหัก แต่เหมือนเขาจะไม่รักพี่เลยต่างหาก”

“สาวคนไหน จะไม่มีใจให้พี่ชายรูปหล่อของผมล่ะครับ”

“พี่หล่อเหรอ”

“ไม่อยากจะชม แต่เห็นเศร้าอยู่นะ  พี่น่ะ หล่อโครตๆเลย”  อ้าว ยิ้มแล้ว บ้ายอนี่หว่า ผมเลยชมแกต่ออีกหน่อยแล้วกัน ถือว่า ชมเพื่อรักษาจิตใจ “นี่ถ้าผมหล่ออย่างพี่นะ ผมฟันสาวทั่วมอให้หมดแมร่งเลย

“นี่ก็ได้ข่าวว่า น้ำ กับ เอ สองคนฟันจนหมดพระรามเก้าแล้วไม่ใช่เหรอ”  อ้าว ไอ้พี่

“ถ้าอีกหน่อยพี่รู้ความจริง พี่จะเข้าใจผม”  ผมคว้าเหล้าในมือเขามายกดื่มบ้าง

“ตอนพี่ยังไม่กลับจากเมืองนอก ที่หลิวบอกว่าเราไปคบผู้ชาย ก็นึกว่าจะไม่ชอบผู้หญิงอีกแล้ว ไหนเล่าให้ฟังหน่อยสิว่า มันเป็นยังไง”

“ผมก็ไม่รู้ว่า ผมเรียกตัวเองว่าอะไรครับพี่ไผ่  ผมแค่บังเอิญมีแฟน แล้วแฟนดันเป็นผู้ชาย ตอนนี้ ผมเลิกกับเขาไปแล้ว ผมมีอิสระที่จะเป็นตัวเอง  แต่ผมก็ไม่รู้ว่า ผมจะลงเอยกับผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าคนนั้นใช่ มันก็คือใช่”

“กว่าจะคิดได้อย่างนี้ คงก่ายหน้าผากไปหลายเดือนสินะ”

“ตอนเจอกับแฟนเก่านะพี่ ผมน่ะเครียดจนแทบคลั่ง จากผู้หญิงมาผู้ชาย มันก็คิดไม่ตกนะพี่ไผ่ แต่บังเอิญผมเป็นคนทำตามใจตัวเองอยู่แล้ว พี่ก็รู้ ผมก็เป็นของผมแบบนี้”

“เป็นไปได้ไหม ถ้าน้ำ จะกลับไปรักผู้ชายอีกครั้ง”

“ไม่แน่ใจนะครับ ตอนนี้ที่ผมออกเที่ยวกับเพื่อน ก็เที่ยวแต่ผู้หญิงนะ ไม่มีอะไรแน่นอน ใช่คือใช่”

“เก่งนะ รู้หัวใจตัวเอง  แต่ก็อย่างที่น้ำบอก น้ำก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว พี่เห็นแต่เด็กก็เป็นแบบนี้”

“พี่อย่าเศร้านะ พี่ก็เหมือนพี่ชายผม ผมไม่อยากเห็นพี่เศร้า” ผมเอาหัวลงไปซบที่ไหล่พี่ไผ่ อ้อนให้เขาไม่เครียด

“ครับ พี่ไม่เศร้าแล้ว น้องชายขอขนาดนี้”

“พี่ไผ่”

“ครับ”

“แม่พี่บอกว่า ให้ผมเลือกลูกบ้านเขาไปเป็นแฟนได้เลย จะเอาคนพี่หรือคนน้อง”  แล้วมองก็นั่งตัวตรงมองหน้าพี่ไผ่

“เฮ้ย จริงดิ แล้วเลือกคนไหน” พี่ไผ่หันมาทำตาลุกวาว เค้นเอาคำตอบ มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าเขาแล้ว

“ไม่เอาเลยสักคน  คนน้องก็เพื่อนรัก  ส่วนคนพี่ก็นักรัก ไม่เอาดีกว่า” แล้วพี่ไผ่ก็แย่งแก้วเหล้าไปซด ส่ายหน้า หัวเราะ


[ TBC ]

หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 9 : ความยากระดับ 9 ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 24-04-2018 18:28:54

[ ต่อ ]

ขากลับผมบอกลาพ่อแม่ของหลิว โดยมีหลิวเดินออกมาส่ง ผมหันไปโบกมือให้พี่ไผ่ เขาส่งยิ้มจางกลับมา  เหลือเพียงตูนอยู่ช่วยหลิวเก็บของ ส่วนพี่อำนาจก็ไปส่งเอที่บ้าน 

ผมเปิด จีพีเอสแทร็กกิ้ง เช็คเส้นทางของ ออกัสอีกครั้ง เขายังอยู่แถวนี้ ใกล้กับบ้านหลิวเลย เขามาทำอะไร หรือว่าแอบตามผมกลับ  เขารู้เรื่องกันต์แล้วเหรอ  ผมรีบเผ่นรถไปทางถนนใหญ่ สายตาเหลือบไปดูกระจกหลังอยู่ตลอด ผมคงไม่ได้โดนรถไล่ตามแบบในหนังหรอกนะ  พลางเอามือไปเปิดดูจีพีเอสอีกที ยังไม่มีการขยับรถออกมาจากบ้านของหลิว ผมจึงวางใจแล้วลดความเร็วลง ก่อนจะขับกลับบ้านไป

กลางคืนในห้องนอน ผมโทรไปหาน้องกันต์ สอบถามเรื่องการสอบเป็นสจ๊วต เขาเล่าให้ฟังถึงความง่ายและมีน้ำเสียงที่สดใส เขาฝากพวงกุญแจ พิน็อคคลิโอ ไว้ที่เคาท์เตอร์ต้อนรับไว้ให้ผม  ผมถือมันไว้ในมือตอนโทรหาเขา น้องกันต์อยากเจอผมมาก กันต์บอกว่าเขาชอบคุยกับผมมาก สบายใจ  ผมถามกลับเรื่องออกัส  เขาบอกว่าก็กลับมาคุยกันในฐานะเพื่อน แต่ก็อดใจคิดถึงเรื่องเก่าไม่ได้เลย  การลืมใครสักคนเป็นเรื่องยาก ยิ่งเขากลับมาอยู่ในวงจรชีวิต ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ หวังว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องชินชา

พี่อำนาจเรียกผมกับเอเข้าไปพบที่บ้านของเขา พี่อำนาจมีบ้านอยู่ที่ชานเมือง แม้จะไม่ใหญ่โตมาก แต่ว่าก็มีสวนกว้างและเนื้อที่เยอะ แปลกใจตรงบ้านเขาเป็นระเบียบขนาดนี้ มันควรเป็นบ้านของคนที่มีเมียสักคนคอยปัดกวาดเช็ดถู ข้าวของในบ้านเป็นระเบียบมาก

“นี่เป็นประวัติ กับหนังสือรุ่น มีข้อมูลของจิมมี่อยู่ ลองทยอยดู” พี่อำนาจเอาเอกสาร หนังสือกองโต มาให้ผมกับเอช่วยกันไขรหัส เผื่ออาจจะนำพากุญแจไปสู่ความสำเร็จในภารกิจที่ 2 ก็เป็นได้  เพราะตอนนี้ ผู้กองจิมมี่แทบจะไม่ตอบไลน์ผมเลย เต็มที่ก็ส่งสติ๊กเกอร์  แล้วก็วันก่อน มีการวีดีโอคอลกันในไลน์ เขาให้ผมถอดเสื้อผ้าออกเอาเสื้อปิดหน้าไว้เหลือแต่ดวงตา  เขาก็ทำแบบนั้น เราสำรวจเรือนร่างกันและกัน ผมเห็นผู้กองจิมมี่เอามือข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์ เลื่อนต่ำลงไปที่ใต้ผ้าห่ม ขยับไปมา ผมก็ทำเช่นกันเพื่อกระตุ้นอารมณ์เขา และอาจจะเป็นหนทางให้เรากลับไปมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันอีกครั้ง  เขาเปิดผ้าห่มผืนหนานั้นออก เผยให้เห็นท่อนทวนที่มันชูหัวขึ้นมา ผมจึงทำใจกล้าเปิดออกเช่นกัน เราส่งเสียงครางผ่านอุปกรณ์สื่อสารแบบไม่อาย ต่างคนต่างเรียกชื่อกันและกันผ่านวีดีโอคอลจนสำเร็จความใคร่ไป  เขาถึงจะตอบไลน์ผมมากขึ้น และยินดีที่จะนัดเจอกันอีกในวันหน้า

ผมกับเอ ทยอยหาข้อมูล แต่ดูแล้วแทบจะไม่มีความหวัง นักเรียนระดับเหรียญทอง สลับกันเป็นที่หนึ่งกับพี่อำนาจ แต่ด้วยความที่พี่อำนาจเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูด ตำแหน่งประธานรุ่น ตลอดจนความเด่นดังจึงเป็นของผู้กอง ไม่รวมกับที่ผู้กองยังมีรอยยิ้มที่พิมพ์ใจกว่า พี่อำนาจดุดันไป แต่เกือบทุกรูปก็มีเขาทั้งคู่เป็นกลุ่มเดียวกัน  ผมหาจนเบื่อแต่ลองมองไปยังเอซึ่งยังคงหาข้อมูลอย่างสนใจ อีกทั้งยังคอยหันไปถามพี่อำนาจตลอดว่ารูปนี้ถ่ายที่ไหนยังไง พ่อบอดี้การ์ดตัวดีก็กำลังขะมักเขม้นกับการตัดหญ้าจนเหงื่อซก เขาถอดเสื้อเปลือยท่อนบน เดินเข้าออกบ้านมาหาน้ำหาท่าให้พวกเราอยู่ตลอด

“พี่อำนาจตอนเรียน ก็น่าจะเก่งเอาเรื่องอยู่นะ”

“พ่อมึงเลือกคนเข้าทำงาน เขาต้องสกรีนอยู่แล้วว่ะไอ้น้ำ”

“นั่นสิ แล้วทำไมมาทำงานกับพ่อกูวะ แทนที่จะไปอยู่องค์กร หรือ หน่วยงานดีๆ  หรือว่า แก่ไปแล้ว”

“แก่ที่ไหน มึงเห็นหน้าท้องเขาป่าววะ ซิกแพ็คนั่นไม่ได้จะได้มาง่ายนะเว้ย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีไขมันตรงไหนบ้างเปล่าวะ อย่างกับนักรบโบราณ”

“แล้วมึงมานั่งสำรวจเรือนร่างพี่เขาทำไม รีบหาข้อมูลไอ้ผู้กองจิมมี่ให้กูสิ ไอ้นี่”


พี่อำนาจเดินเข้ามาสภาพเหงื่อโชก เขาเอาผ้าขนหนูสีเลือดหมูเช็ดตามตัวจนแห้ง แต่ผิวหนังที่เกรียมเรื่อด้วยเลือดฝาดยังคงเห็นชัด เขาเดินมานั่งข้างเอ คนอะไรวะ เหงื่อออกแต่ตัวไม่เหม็น แถมมีกลิ่นอ่อนของโคโลญลอยมาอีกต่างหาก เอคงรู้สึกได้ มันที่ใส่เสื้อแขนกุดอยู่ แขนไปชนถูไถกับแขนพี่อำนาจที่เปลือยท่อนบนอยู่ ที่ก็กว้าง นั่งเบียดนั่งสีกันอยู่ได้

“ผมว่า พี่ต้องเล่าให้ฟังแล้วแหล่ะ ว่าจิมมี่ เป็นคนยังไง  เอาตามมุมมองพี่ ไม่ต้องเล่าประวัติ เอานิสัยล้วนๆเลย”

“พี่ก็ไม่สนิทกับเขาเท่าไหร่”

“อย่ามาบอกว่าไม่สนิท ทุกรูปมีกันและกัน”  เถียงไม่ออกเลย เป็นครั้งแรกที่พี่อำนาจกวนตีนผมไม่ออก เอหันไปมองเขม็งแบบคนอยากรู้  เรื่องเสือกยกให้ไอ้เอ

“ก็อยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น”

“แต่พี่เคยเล่าว่าเขาอยากได้พี่”

“มันเมา แล้วก็มันเพิ่งทะเลาะกับคนอื่นๆ พี่แค่คอยช่วยเหลือ ปลอบใจมัน มันคงเพ้อไปเอง”

“พี่อำนาจ ผมบอกให้เล่า”

พี่อำนาจเล่าด้วยอาการเกร็ง แต่สักพักเขาก็พูดมันออกมา นายศตวรรษ สิรางกูร หรือ จิมมี่ เป็นคนที่เงียบเชียบในช่วงปีแรกที่พี่อำนาจรู้จัก  มักโดนคนอื่นแกล้งอยู่เสมอ ตอนที่คนในกองคนอื่นหนีโรงเรียนไปเที่ยวแล้วโดนจับได้ มีการลงโทษรุนแรง ทุกคนโยนเป็นความผิดจิมมี่ ทำให้จิมมี่โดนลงโทษคนเดียว แต่เขาก็ไม่ปริปากหรือสาวเรื่องไปยังคนอื่น เลยทำให้เพื่อนๆ เริ่มแกล้งเขาน้อยลง  เขามุ่งมั่นอ่านหนังสือ และฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ มุ่งมั่นที่จะเป็นตำรวจ แถมที่บ้านยังมีฐานะดีพอที่จะสนับสนุนได้  แต่ระยะหลังก่อนเรียนจบ จิมมี่ก็เปลี่ยนไป เขาให้เวลากับโลกโซเชียลมากขึ้น หลงรูปลักษณ์ตัวเองพอประมาณ แต่ใครจะไปว่าได้ เพราะจิมมี่ดูดีมากในทรงผมตัดสั้นสกินเฮด แถมกล้ามเนื้อที่เพิ่มเติมเข้ามา เหมือนจะทำให้เขาเป็นที่หลงใหลได้ปลื้มของสาวน้อยใหญ่ สีผิวที่เคยขาวแต่เกรียมด้วยแดดจากการฝึกใน บุคลิกเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนที่แข็งกร้าวขึ้น จากที่พี่อำนาจเคยสนิทด้วย ก็มีอันต้องห่างออกมา เพราะเหตุการณ์ในการซ่อมรุมซ้อมรุ่นน้อง ซึ่งจิมมี่ผู้เคยเงียบเฉย กลับมีความเกรี้ยวกราดจนพี่อำนาจไม่อยากยุ่งด้วย

“เดี๋ยวเบรกก่อน ผมเคยเห็นพี่ซ้อมนักเลงแถวบ้าน ก็ดุพอกันป๊ะ” ภาพนั้นยังติดตาผมอยู่เลย

“มันไม่ใช่แบบที่คนทั่วไปมีเรื่องกันนะครับนายน้อย  เขาล็อคมือล็อคเท้ารุ่นน้องแล้วฟาดอย่างรุนแรง ห้ามกันก็ไม่หยุด มันบ้าเลือดมาก จนพี่คิดว่า น่าจะเพราะเขาเก็บกดอะไรสักอย่าง”

“ข้ามไปเรื่องที่เขาบอกรักพี่”

“เขาไม่ได้บอกรักพี่” พี่อำนาจรีบเถียงก่อนจะหันไปมองเอที่อยากรู้เหมือนกัน

“เอาเป็นว่า เขาอยากได้พี่ ผมอยากรู้ว่า เขาอยากได้อะไรในตัวพี่”

“ตอนแรกพี่ก็คิดว่า เราสนิทกันเพราะเรียนเก่งทั้งคู่ หรือเพราะเราเป็นที่หนึ่งที่สองในนั้น เลยทำให้เขาอยากมาชิงดีชิงเด่นกับพี่หรือเปล่า แต่ไม่เลย จิมมี่ไม่เคยแสดงอาการอิจฉาถ้าพี่มีชัยเหนือกว่าเขา กลับชื่นชมและให้กำลังใจ ในขณะถ้าเขาชนะพี่ เขาจะคอยมาถามว่าพี่โอเคไหม”

“ฟังดูเขาก็ดีนี่นา ทำไมไม่ยอมๆไปล่ะ” เอถามเสียงแข็ง

“ก็เพื่อนเปล่าครับ เพื่อนกันไม่เล่นกันเองนะ”

“แต่ก็อยากไหม ถามจริง” เอ มึงจะรู้ไปทำเพื่อ

“ไม่ครับ พี่ไม่เล่นเพื่อน พี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน” 

“กลับไปวินาทีบอกรัก” ผมตัดบท อยากฟังต่อ

“รักอะไรเล่านายน้อยก็  วันเกิดผมเอง เขาซื้อกางเกงหนังแก้วสีดำให้ผม มันไม่ใช่สไตล์ผม แต่ผมก็รับมันไว้ เขาให้ผมสัญญาว่าจะเป็นตำรวจระดับใหญ่ให้ได้ในสักวัน แล้วก็เอากุญแจมือสีเงินสลักชื่อเขากับพี่คนละห่วง มาให้เก็บไว้ มันทำให้พี่เป็นกังวล  คือเขาไม่ค่อยทำแบบนี้กับใคร เขาดุดันและก้าวร้าวมากขึ้น โดยเฉพาะรุ่นน้อง หรือ เพื่อนที่มีบุคลิกอ่อนแอ แต่กับพี่เขาดีมาก”

“แล้วไงต่อ” เอถาม

“ก็ท้ายที่สุด ในวันที่รู้ว่า ทุกคนไปงานปาร์ตี้ แต่ไม่ชวนมันไป มันมาดักรอที่หน้าหอพักของพี่ แล้วก็ร้องไห้ พี่ก็พามันเข้าไปในห้อง ก็ปลอบมัน เล่าให้ฟังว่าที่คนอื่นไม่ชอบมันเพราะอะไร  มันก็ไม่เห็นจะแคร์ เค้นให้ได้ว่า ทำไมพี่ไม่ชวนมันไป  พี่ก็บอกว่า พี่ก็เกรงใจคนอื่นเหมือนกัน มันก็ทำตาดุหันมาเลย ยังจำได้เลยว่าน่ากลัวไม่น้อย”

“เป็นคนมีหลายอารมณ์เหรอครับ”

“ก็ไม่เชิงนะนายน้อย  เขาแค่มีอารมณ์ขึ้นสุด ลงสุด  แล้วสักพักเขาก็กอดพี่ พี่คิดว่าเขาคงรู้สึกอ้างว้างก็กอดตอบ แต่รู้สึกตัวอีกที เขาก็จูบพี่เข้าแล้ว”

“แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก เล่าให้หมด เอาจริงๆ ห้ามโกหก” เพื่อน มึงเป็นอะไรวะ กินรังแตนมาจากไหน ไอ้เอ

“พี่ก็ดึงตัวเขาออก แล้วบอกว่า เราเป็นเพื่อนกัน อย่าทำอะไรแบบนี้เลย เขาก็ร้องไห้ไม่หยุด แล้วก็ออกไปจากห้อง หลังจากนั้นเขาก็เหมือนเดิม เพียงแต่กับพี่ เขาไม่ได้คุยอะไรมาก ทักทายตามปกติ”

“แค่นั้นเหรอ”

“ก็แค่นั้นสิครับน้องเอ”


กลางดึกคืนนั้น ผมที่กำลังจะเข้านอน เปิดไล่ทวิตเตอร์เพื่อดูรูปนมสาว ๆ เอามาช่วยตัวเองก่อนนอนเป็นประจำ ผมเลื่อนทวิตเตอร์ไปจนเจอกับข้อความหนึ่ง มันทำเอาผมฉงน
“เหล่า มร.เกรย์ ฉันพร้อมแล้ว”  แล้วสาวในรูปที่ใส่หน้ากากหนังสีดำ และชุดหนัง พร้อมแส้และโซ่ขึงเต็มห้องไปหมดก็เริ่มเต้นอย่างยั่วเย้า ทันใดนั้นผมก็มานั่งทบทวน 
กางเกงหนังแก้วของพี่อำนาจ.. 
แส้ที่ฟาดใส่รุ่นน้อง..
กุญแจมือที่หัวเตียงตอนวีดีโอคอลกัน..

เห้ย  ไอ้จิมมี่ มึงมันแนว S&M นี่หว่า !!
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 9 : ความยากระดับ 9 ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-04-2018 19:32:07
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 9 : ความยากระดับ 9 ]
เริ่มหัวข้อโดย: xexezero ที่ 24-04-2018 20:14:09
อู้หูว งานนี้ท่าจะไม่หมู น้ำคงต้องศึกษาข้อมูลแนวนี้เพิ่ม55  :hao6:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 9 : ความยากระดับ 9 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-04-2018 20:47:19
อูย!! คนนี้ดูจะกินกันไม่ลง มาสายsmซะด้วย555
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 29-04-2018 20:04:14
Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M

ผมรีบประชุมด่วนกับเอในวันรุ่งขึ้น ที่โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย เอบอกว่ามันดูเสี่ยงเกินไปถ้าผมจะทำอะไรแบบนั้น ถึงตอนที่การ์ตูนเดินเข้ามาพอดีและได้ยินเข้า

“S&M มันคือลูกกวาดเหรอ”  ตูนทำหน้าซื่อ ถามขึ้น

“ไม่ใช่ มันเป็นรูปแบบหนึ่งของกิจกรรมทางเพศ” เอตอบ แล้วตูนก็หูแดง หน้าแดงไปหมด

“เอส คือ ซาดิสม์ พวกที่ชอบสร้างความเจ็บปวดให้ผู้อื่น  ส่วน เอ็ม  คือ มาโซคิสม์ จะเป็นพวกที่ ชอบเวลามีคนมาทำเจ็บปวดใส่”

“ถ้าอย่างนั้น เขาต้องอยู่ด้วยกันเหรอเอ ต้องจับคู่กันเองใช่ไหม”

“ใช่ หรือ แสวงหากัน” 

“มันมีด้วยเหรอ คนที่ชอบเห็นผู้อื่นเจ็บปวด หรือ ตัวเองชอบความเจ็บปวดน่ะ”

“รสนิยมทางเพศบนโลกใบนี้  10 หน้ากระดาษ A4 ก็บรรยายได้ไม่หมดว่ะตูน  บางคนชอบฉี่ใส่กัน บ้างก็เลียหัวแม่ตีน มีคนชอบสมสู่กับหมา มึงลองหาคำว่า Bobo นะ ใครมีต่อท้ายในชื่อเขารู้กันว่าชอบแนวนั้น ไหนจะพวกชอบได้กับพระกับชี อันนี้กูว่ามันเป็นรสนิยมส่วนบุคคลว่ะตูน”

“โลกหมุนไว้จัง ทำไมมันเป็นแบบนั้นล่ะ มันน่ากลัวจัง”

“เขาทำแล้วมีความสุข  มาตรฐานคนเราไม่เหมือนกัน แต่ดีแล้วที่พวกเราเกิดมาเหมือนคนอื่น”
ผมนั่งคิดถึงสิ่งที่เพื่อนสองคนกำลังสนทนากัน ก็พลางพูดกับตัวเองในใจว่านำพาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
หลังจากไลน์ไปบอกพี่อำนาจ มีความเห็นในเชิงเห็นด้วยกลับมาปนกับอักขระที่รู้เลยว่าตกใจ แต่สักพักก็มีข้อความตอบกลับจากพี่อำนาจมาว่าพรุ่งนี้จะนัดเจอผมกับเอ  ผมจึงถามเอว่าเอาอย่างไรดี เพราะพรุ่งนี้ผมนัดมันไปตีหม้อแถวรัชดา ได้ข่าวว่ามีสาวจากสิบสองปันนามาใหม่หลายคน เลยบอกพี่อำนาจไปว่ามีนัดกับเอไว้ แต่พี่เขาตอบกลับมาว่ารัชดาไม่ช่วยอะไร ถ้าอยากจะชนะจิมมี่ต้องมาเจอเขา  เอาล่ะสิ +งานนี้เสือซุ่มอย่างพี่อำนาจจะสอนอะไรผม

ผมไม่เคยชอบ S&M มันดูไกลตัวมาก  เวลาเปิดเว็บโป๊ ผมจะเลื่อนข้ามไป เอาเข้าจริง ผู้กองจิมมี่ชอบเป็น S หรือ M กันล่ะ แล้วพฤติกรรมพวกนี้ มันจะมีผลต่อบทบาท รุก หรือ รับ ไหม  จำเป็นไหม ที่ S จะเป็นรุก หรือ M ต้องเป็นรับตลอด  แล้วไอ้เครื่องหนังนี่มันไปซื้อกันที่ไหนวะ กุญแจมือพอจะหาได้  แส้นี่ฟังแล้วสยองเลย  น้ำตาเทียน ผ้าปิดตา ไหนจะโซ่  ผมเริ่มคิดว่าผมมาไกลเกินไปแล้วไหม ผมไม่ได้แค้นอะไรไอ้ออกัสเท่าไหร่แล้วตอนนี้  แล้วออกัส จะโดนอะไรแบบนี้หรือเปล่า ทำไมผู้กองที่ดูเป็นคนยะโส ถึงต้องกับคบหากับออกัสเลยเหรอ  ตอนนี้เขายังติดต่อกันไหม หรือเขาเป็นแค่คู่นอนกัน ถ้าผมปฏิบัติภารกิจนี้สำเร็จ ผมจะทำให้ออกัสร้องไห้ได้ไหมนะ

หลิวที่เพิ่งมาถึงเดินมาสมทบ ตูนขยับให้หลิวนั่ง พวกเราทำปากจุ๊ ไม่ให้ตูนพูดอะไรเกี่ยวกับ S&M ให้หลิวฟัง
“น้ำ เสาร์อาทิตย์นี้ไปไหนเปล่า หลิวมีเรื่องขอร้อง”

“ว่างนะ เพราะว่าเรียนก็ไม่หนักแล้ว เทอมหน้าฝึกงานยิ่งสบาย”

“น้ำวานชวนพี่ไผ่ไปเที่ยวหน่อยสิ เขาดูหงอยผิดปกติ ยิ่งช่วงนี้ญาติมาเต็มบ้านหลังพ่อหลิวแซยิด ดูเขาไม่มีความสุข”

“อ้าว หลิวก็พาไปสิ”

“มันไม่เหมือนกัน เขาเที่ยวกับน้องมาตลอดชีวิต เพื่อนฝูงชวนไปไหนเขาก็ไม่ค่อยออกเที่ยว  เมื่อหลายเดือนก่อนเที่ยวกลางคืนอยู่พักเดียว ก็ไม่ออกอีกแล้ว  หลิวห่วงพี่ชายหลิวน่ะ”

“น้ำไม่ใช่คนคุยเก่งอะไร”

“แต่น้ำพูดกวนประสาทเขาเก่ง แล้วพี่ไผ่ดูมีความสุข อารมณ์ดีเวลาน้ำกวนใส่ นะๆๆ  หลิวออกค่าตั๋วให้ ไปฮ่องกงก็ได้ ใกล้นิดเดียว”

“หูย อะไรจะขนาดนั้น วัยทองพี่เขาแล้วล่ะมั๊ง”

“นะๆๆ ช่วยหลิวหน่อย หลิวถามเขาก็ไม่ตอบ ถ้าเขานั่งมองดวงดาวนี่เป็นเอาหนักแล้วแหล่ะ  เหมือนมีเรื่องให้คิด”

“เอางี้ เดี๋ยวน้ำจะชวนเขาไปใกล้ๆ อย่างกาญจนบุรี เอาไหม ขับรถแป๊บเดียว”

“กูต้องไปด้วยไหมวะ สาวเมืองกาญจน์แมร่งแจ่ม” เอ ตาสว่างขึ้นมาเชียวมึง

“เราว่า งานนี้ น่าจะแค่น้ำกับพี่ไผ่  นะๆๆ”

“เอางี้ น้ำจะแกล้งทำเป็นหาคนถ่ายรูปให้ แต่ถ้าพี่เขาไม่ไป น้ำก็ช่วยไม่ได้นะ”

พี่ไผ่รีบตอบตกลงทันทีที่ผมเอ่ยชวน สงสัยแกจะเหงาอย่างนัก ผมเข้าใจนะเวลาโดนญาติปากหมาเพียรถามเรื่องแต่งงานเนี่ย บางทีผมก็คิดว่า พวกญาตินี่มีไว้ให้เรารำคาญเล่น หรือเขาห่วงใยเราอย่างแท้จริง  ถ้าพ่อผมไม่มีตัง เขาจะหมั่นมาหาเราบ่อยไหม พี่ไผ่คงกำลังกุ้มใจที่โดนถามนั่นนี่  ก็พี่เขาออกจะสมบูรณ์แบบ หล่อล่ำ รวย แถมนิสัยดีขนาดนั้น คนก็คาดหวังไว้มาก  แต่ด้วยความที่เป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยออกไปไหน ทำแต่งาน ก็คงไม่เจอสาวถูกใจเท่าไหร่ 
ผมก็ยินดีช่วยนะ เห็นเขาไม่สบายใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้  ตั้งแต่โตมาถ้าไม่นับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ก็พี่ไผ่นี่แหล่ะที่ผมปรึกษาเขาอยู่บ่อย เพราะเขาคือฮีโร่ที่คอยปกป้องผมตอนผมยังเป็นลูกนกที่อ่อนแอ  ตอนนี้ผมแข็งแกร่ง บินเที่ยวพระรามเก้าได้ทุกคืน ผมก็จะไม่ลืมเขา อะไรช่วยได้ก็ช่วย แม้จะมีเรื่องให้เป็นกังวลเรื่องภารกิจที่ยังไม่สำเร็จก็ตาม


บ้านชานเมือง
ผมกับเอ มาถึงตอนค่ำหลังจากเราเรียนหนักกันทั้งวัน แต่ว่าแวะบ้านอาบน้ำอาบท่าก่อนมาถึง  วันนี้บ้านทำไมดูเงียบเชียบ แถมยังปิดไฟมืดผิดกับทุกที  พี่อำนาจใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวตัดกับผิวสีเข้ม กางเกงสีฬาขายาว ไม่ใส่รองเท้า ยืนอยู่ในห้องนอน  เขาเรียกพวกผมสองคนเข้าไป มีเทียนที่จุดไว้แทนไฟวางตั้งเรียงบนพื้นและหัวเตียงหลายจุด ไม่กลัวไฟไหม้บ้านเหรอไอ้พี่ แล้วนี่คือ จะสาธิตให้ดูหรืออะไรยังไง  ต่อให้ผมสนิทกับพี่อำนาจ เพราะผมโตมาเขาก็ผมอยู่กับพ่อผมแล้ว แต่มันก็เขินเปล่าวะ  อย่างไอ้เอนี่คือเพื่อน แต่นี่เขาลูกน้องพ่อ ยางอายกูก็พอจะมีนะเว้ย

“พี่ พวกเราต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ” เอแย้ง เพราะดูแล้วทุกอย่างมันเริ่มเลยเถิด

“ถ้านายน้อยคิดจะยอมยกเลิกภารกิจ คืนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมี แต่ถ้าจะไปต่อ ต้องเอาให้สุด”

“น้ำ มึงแน่ใจเหรอวะ กูว่ามันจะเกินเลยไปแล้วนะ”
“กูจะทำให้สำเร็จ”   

เมื่อเย็นตอนระหว่างรอไอ้เออาบน้ำ ผมกด GPS ไปที่เครื่องจับฟังในรถยนต์และบ้าน ไม่ได้ยินเสียงใคร จึงลองแกล้งส่งข้อความทางไลน์ไปถึงออกัสว่าได้งานหรือยัง  เขาตอบกลับมาว่า ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ห้อง กับ รถ จะคืนให้ นั่นทำให้ผมหงุดหงิดพอประมาณ แล้วผมก็โทรหากันต์เพื่อจะถามเรื่องงาน  กันต์ก็เหมือนจะท้อกับการสัมภาษณ์และระบบเส้นสาย  เขาตกลงว่าจะกลับไปคุยออกัสอีกครั้งเพราะคิดถึงอีกฝ่ายไม่ไหว  นี่ออกัสผู้ไม่เคยหยุดโหยหา เขาพยายามเอาทุกอย่างที่ควรเป็นของผมกลับไปได้ทุกทีสิน่า

หลังจากอยู่กับเอในห้องนอนพี่อำนาจพักนึง ความเงียบก็ถูกทำลายขึ้นจากคำถาม
“จะถึงกับมีการลงแส้ ฟาดหลังโชว์อะไรแบบนี้หรือเปล่าวะ กูกลัว”

“อย่าว่าแต่มึงกลัว กูก็กลัว”

“ลูกน้องพ่อมึง มึงจะกลัวทำไม”

“กลัวสิวะ เขาแข็งแรงกว่าพวกเรารวมกัน ถ้าหน้ามืดขึ้นมา ยั้งไม่อยู่ กูตายลูกเดียว”

ประตูถูกเปิดออก พี่อำนาจเดินเข้ามาอยู่ในชุดเดิม เพิ่มเติมคือไม่ได้ใส่กางเกงแล้ว เหลือเพียงกางเกงใน กับเสื้อเชิ้ตที่ย้อยลงมาปิดยาวถึงหน้าขา  เขาถือกางเกงตัวที่จิมมี่ให้มา เดินมาหาพวกเรา
“ตกลงได้หรือยัง ว่าจะหยุด หรือจะไปต่อครับนายน้อย”

“ผมจะไปต่อ”

“พี่อำนาจจะทำอะไรไอ้น้ำ เดี๋ยวพ่อมันรู้จะทำยังไง เจ้านายพี่นะ” เอรีบแสดงความเห็น

“พี่จะแสดงให้เห็นว่า วิธีเป็นต่อจิมมี่ จะต้องทำยังไงครับเอ”

“แล้วพี่จะตีมันด้วยแส้เหรอ หรือจะรนน้ำตาเทียนใส่มัน คือมันจะดีเหรอพี่”

“เปล่า พี่ไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นกับนายน้อยหรอกครับ”

“อ้าว”

“พี่ถึงได้ให้เรียกเอมาด้วยไง”



Flashback
คืนแรกพบ
“ผมขอกลับบ้านกับคุณได้ไหม”  เป็นคำแรกที่เขาพูดกับผม แล้วมันก็ดึงให้ผมอยู่ในบ่วงใต้อาณัติของออกัสทั้งปวง  เขาแค่เดินมาที่หน้าบาร์ คงมีเรดาห์จับได้ถึงความเหงาจนขีดสุดของผม  ชายหนุ่มผู้ที่กำลังนั่งเศร้าเพราะจับได้ว่าสาวที่ควงด้วยเข้าหาเขาเพราะเงิน วันนั้นผมเศร้ามา จนออกัสนั่งลงคุยด้วย เหมือนมีลมเย็นเอื่อยพัดเข้ามาโดนใบหน้าทั้งที่เป็นบาร์ซึ่งปิดทึบ  แล้วผมก็อยากลองดีพาเขากลับบ้าน  ผมไม่กลัวอะไร ยามบ้านผมเยอะแยะ
ระหว่างที่ผมมีจูบแรกกับผู้ชายด้วยกัน เสื้อผ้าพวกเราเปลื้องกันจนล่อนจ้อน วินาทีนั้นเอง ไม่รู้ด้วยความเมา หรือเพราะเขามันน่าเสน่หา  เขาขอให้ผมเป็นของเขา  แล้วผมก็ยินยอม  มันเจ็บแทบบ้า แต่ก็มีสิ่งแสนอบอุ่นเช่นกัน ตัวเขาที่เคลื่อนไหวทับตัวผม กระเพื่อมเป็นจังหวะ  เรามองหน้ากัน มองตากันด้วยความกระหายในอีกฝ่าย  เขาจูบลงมาบดขยี้ปาก แล้วกระซิบข้างหูว่าให้ผมเป็นของเขาคนเดียว  แล้วผมก็เป็นของเขาคนเดียวมาสามปี.. 


“กูทำไม่ได้ ไอ้น้ำ กูขอโทษ”  เอยืนหลบอยู่หลังผม หนีสายตาพี่อำนาจที่มองมา

“เฮ้ย กูก็ไม่คิดบังคับมึงนะเว้ย  เราล้มเลิกก็ได้ กูไม่อยากให้มึงเสี่ยง”

“กูอยากช่วยมึงนะเว้ย แต่กูกลัว”

“เราไม่ได้จะทำ S&M กันวันนี้ครับ จะกลัวอะไรครับน้องเอ  พี่จะไม่ทำอะไรที่น้องเอไม่มีความสุข หยุดได้ทุกเมื่อที่อยากหยุด ตกลงไหม” แล้วพี่อำนาจก็ส่งมือที่หงายออกมาเชิญชวนให้เอเดินเข้าไป  “มาเรียนรู้กัน ว่าหัวใจสำคัญที่สุดในการกระตุ้นอีกฝ่าย คืออะไร โดยมีนายน้อยเป็นนักเรียนนะครับ”  แล้วก็เหมือนต้องมนต์ เอเดินไปหาพี่อำนาจ  พี่อำนาจส่งกางเกงหนังสีดำให้เอไปเปลี่ยนในห้องน้ำ  พอเอเข้าห้องไป ผมรีบถามพี่อำนาจถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่า เราไม่ได้กำลังทำอะไรที่มันเลยเถิดไป

“จับอาการของเอให้ดี ดูจุดกระสัน ว่าพี่ใช้วิธีไหนหาจุดนั้นจากเขา”

“ทำไมต้องเป็นเอ”

“เพราะพี่ทำกับนายน้อยไม่ได้ครับ ความสัมพันธ์เราจะเปลี่ยนไป  หรือว่า.. นายน้อยอยากให้พี่ทำ”

“เฮ้ย ไม่นะ พี่คือพี่ชายผม”

“ผมก็คิดกับนายน้อยเป็นน้องชาย น้องชายที่ผมรัก  ผมทำแบบนั้นกับคนที่ไม่รู้สึกอะไรไม่ได้”

“แต่ทำกับไอ้เอได้เนี่ยนะ”

“เอทำให้ผมมีอารมณ์ได้” 


ผมละช็อคไปเลย ไอ้เอตัวฟันสาว ล่าน้องหมอนวดทั่วกทม.  ผมนี่ยกให้มันเป็นไอด้อล กูรู ด้านฟันสาวและอาจารย์ทางเซ็กซ์ด้วยซ้ำ  แต่วันนี้ มันดูหงอแล้วก็เหมือนแมวเชื่องตัวหนึ่ง แล้วพี่อำนาจทำไมพูดอย่างนั้น พี่เขามีอารมณ์กับผู้ชายเหรอ ถ้ามีทำไมไม่มีกับคนหน้าตาหวานแบบผม ไปมีกับไปเอ  เอ้ย โลกนี้มันอยู่ยากชิบหาย
แต่ทันใดนั้นผมก็รู้แล้ว ว่าเอมันก็ช่างดูยั่วเย้า เมื่อมองเห็นหน้าของพี่อำนาจที่ตื่นเต้น สายตาวาวแววเมื่อเห็นเอ เดินออกมาในกางเกงหนังตัวเดียว เอโยนเสื้อและกางเกงในที่ถอดออกวางไว้ไปกองบนโซฟา แล้วเดินอวดร่างเพรียวอย่างช้า มาหาพวกเราที่ยืนอยู่ตรงปลายเตียง 

“โอยยยย”   เสียงพี่อำนาจกระเส่าออกมา พี่อำนาจจูงเอมายืนที่ปลายเตียงด้วย แล้วให้ผมลากเก้าอี้มานั่งที่ใกล้เตียงเพื่อดู  พี่อำนาจเอาฝ่ามือที่ดูหนาหยาบ ลูบไล้ไปตามท่อนบนที่เปลือยเปล่าขาวเนียนของเพื่อนผม เอหลับตาพริ้มแล้วก็หายใจลึกหนัก พี่อำนาจเอามือโอบเอวของเอแล้วดึงเข้ามาสวมกอด คล้องเอวไว้ อีกมือที่ว่างลูบไล้ที่คอ เลยไปถึงติ่งหู เอมีอาการสั่นขึ้นมา  พี่อำนาจจับเอหันหลัง แล้วเข้าไปประกบ มือโอบจากหลังมาลูบไล้แผ่นอก เลื่อนมาที่ท้องน้อย แล้วพี่อำนาจก็พ่นลมอุ่นร้อนจากปากสู่หลังใบหูของเพื่อนผม  เอมันแอ่นตัวดิ้นไปมาในอ้อมกอดนั้น  ติวเตอร์ร่างถึกเอามือของลูกศิษย์มาลูบไล้กางเกงหนังตัวที่ใส่อยู่ เอค่อยๆสัมผัสมันอย่างช้า  ผิวขาวของเอผู้ที่มีลำตัวบางตัดกับสีผิวเกรียมแดดของพี่อำนาจผู้ที่มีแต่มัดกล้ามเต็มตัวไปหมด แม้จะยังไม่ถอดเสื้อสีขาวนั้นออกก็เหอะ   พี่อำนาจจับให้เอหันกลับมาผจัญหน้า แล้วผลักให้นอนลงไปบนเตียง  เขาเรียกผมให้เดินไปหา

“ถอดเสื้อผ้าให้ผมทีครับนายน้อย”  ผมชอบที่พี่เขาเรียกตัวเองสลับกันระหว่างคำว่า พี่ กับ ผม  มันดูซับซ้อนไม่น้อย

“เอ่อ..”

“ช้าๆนะครับ”  เขาไม่ได้สั่งแต่ว่าน้ำเสียงมันเย็นเฉียบลึก

ผมค่อยๆแกะกระดุมออกทีละเม็ด เชิ้ตสีขาวเนื้อหยาบ แต่ผิวของพี่อำนาจนั้นหยาบกร้านกว่า แผงอกแน่นเผยออกมาพ้นเสื้อที่เปิดออก  ผมค่อยๆ ถอดเสื้อของพี่อำนาจออก หันไปดูเอที่นอนบนเตียงยังคงมองมา หายใจลึกกระเส่า แล้วก็หลับตาพริ้มยกมือขึ้นมาลูบไล้ท่อนบนของตัวเองที่เปลื้องเปล่า

“จูบที่หน้าอกพี่หน่อยสิครับ นายน้อย ปากนายน้อยมันแดงสวยเหลือเกิน”

ผมก้มลงไปจูบที่หน้าอกของเขาตามคำขอ เขาดึงหัวผมขึ้นมาไปกระซิบ

“ผมเจอจุดกระสันของเอ อยู่ที่ติ่งหูขวา เราจะจัดการที่จุดนั้นกันนะครับ”    ก่อนที่อำนาจจะสั่งให้ผมถอดชั้นในของเขาออก
ผมคุกเข่าตรงหน้า หันไปมองเอ ซึ่งเพื่อนรักของผมเงยหัวขึ้นมามองตาม หายใจถี่ หน้าแดงก่ำ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ  เอพยักหน้าให้ผม  มือของผมเอื้อมมาที่ขอบกางเกงใน ไม่มีกลิ่นหอมแบบของพี่ไผ่ แต่มีกลิ่นความเป็นชายที่หอมไม่แพ้กัน  ผมบรรจงรูดกางเกงในนั้นลงมา แก่นกายของพี่อำนาจที่พองตัวดีดสวนกับขอบชั้นในจนเฉี่ยวปลายจมูกผมไป กลิ่นของมันไม่เหมือนของออกัส  หน้าตามันดุดันกว่า แล้วก็ใหญ่โต มีรอยเส้นเลือดและสีคล้ำ

“ผมต้องจูบมันไหม”

“อย่าเลย นายน้อยจะอดใจไม่ไหวครับ..  แต่ลูบมันหน่อย มันอยากรู้จักนายน้อยเหมือนกัน”  ผมก็ทำตามคำบอก มันกำแทบไม่รอบจนผมต้องหายใจถี่ตามที่มันผงกหัว  เหมือนกับว่าเตรียมจะระเบิดในมือผมอย่างนั้นแหล่ะ  ผมเลยปล่อยมัน พี่อำนาจเดินโทงตัวเปล่าไปหาเอยังที่นอน   
ผมดันเก้าอี้ทิ้งไปแล้วเดินไปนั่งกับพื้น ใกล้ชิดขอบเตียงเพื่อดูให้ชัดขึ้น  เอดูตาลอย แต่มีรอยยิ้มปรากฏ  สายตาของมันในวันนี้ ไม่ใช่เสือผู้หญิงในวันที่ผมกับมันไปพัทยา 

“ขอมือหน่อยครับน้องเอ”  พี่อำนาจผายมือรอให้เอส่งมือมาให้ พี่เขานั่งคุกเข่าอยู่บนเตียงข้างตัวของเอ แล้วเอามือของเอมาลูบไล้ตามหน้าท้องที่แข็งเป็นรอน  ผิวพี่อำนาจใต้ไฟสีเหลืองดูอย่างกับเนื้อทอง มันสุกสกาว คล้ำสวย แล้วก็เห็นมัดกล้ามชัดเจน พี่อำนาจเอื้อมมือมาเขี่ยที่ติ่งหูขวาของเอ  เพื่อนผมดิ้นแล้วหายใจถี่  เอเลื่อนมือจากหน้าท้องต่ำลงมาที่แก่นกาย เอกำมันไว้แน่น หน้าอกสั่นกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจที่ถี่ขึ้น พี่อำนาจยังคงเกลี่ยปลายติ่งหูของคนที่นอนอยู่จนมันดิ้นไปมาราวกับปลากำลังถูกทุบหัว แต่มันไม่ใช่ความทรมาน เหงื่อที่ซึมออกตามซอกคอ ผิวของเอผ่องขาว

“นายน้อยลองลูบไล้เพื่อนดูสิครับ ผิวของเพื่อนนายน้อยมันเนียนกว่าผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยเจอ”  ผมเอื้อมมือไปลูบที่หน้าอกของเอ มันหายใจรัวก่อนจะผงกหัวมามองผม แล้วก็หงายหัวกลับไปแผ่บนเตียงต่อ ผิวคนจีนนี่ช่างเนียนผ่อง
“คราวนี้ ค่อยๆถอดกางเกงให้เพื่อนนะครับ”  ผมแกะกระดุมกางเกง มือผมที่กำลังง่วนกับการแกะก็สัมผัสได้ว่า เอก็มีอารมณ์ถึงขีดสุด ใต้กางเกงหนัง ไม่มีกางเกงใน เอน้อยที่รออยู่โผล่ออกมาอย่างดุดันไม่แพ้กันกับของพี่อำนาจ สีของมันขาวสวยกว่า หัวสีชมพู ปลายเปิดร่นลงมา ผมเหนี่ยวกางเกงถอดออกไปจนสุดปลายเท้า 
“ปลุกเร้าเพื่อนสักนิดสิครับนายน้อย”  ผมเอามือลูบที่แก่นกายของเอ มันแทบจะระเบิดอยู่แล้ว มือหนึ่งของผมกำมันแน่นจนเอดิ้นสะโพกหนี  แล้วพี่อำนาจคว้าอีกมือของผมเอื้อมมาขยี้ที่ปลายหูขวาของเอ
เสียงครางของเอดังลั่น กระสับกระส่าย เอแอ่นหน้าท้องขึ้นสู้กับมือผมที่ขยับขึ้นลงอยู่สักพัก มันร้องโหยหวนอีกครั้งลากยาว แล้วทุกอย่างก็ระเบิดทะลักออกมาเปื้อนทั้งมือและที่ท้องน้อย  เสียงลมหายใจเบาลง พี่อำนาจเอื้อมมีมาเช็คคราบของเอที่กระเด็นติดแก้มขวาของผมอย่างแผ่วเบา

แล้วพี่อำนาจ ก็เอามือปาดของขุ่นเหลวตรงหน้าด้วยมือเปล่า จับขาของเอชันขึ้นทั้งสองข้าง แล้วใช้นิ้วที่เปื้อนของขุ่นนั้นถูไปที่ร่องก้น เอสะดุ้งร้องเสียงหลงอีกรอบ พี่อำนาจก้มลงไปดูดปากเอ แล้วโถมตัวที่ล่อนจ้อนแทรกไปตรงกลางระหว่างขาของเพื่อนรักผม  มันเร่าร้อน แล้วมันก็หยุดไม่ได้แล้ว  ผมขยับตัวไปชิดกับเพื่อนเลิฟ เอามือลูบเช็ดเหงื่อตามใบหน้ามันออก เสยเส้นผมที่เปียกชื้นให้  มันหายใจแรงหันมามองหน้าผม ตาลอย  ไม่มีอาการตกใจหรือกลัวหลงเหลือ 
พี่อำนาจก้มลงมา ดูดที่ติ่งหูขาว ใช้ลิ้นเลียเข้าไปในซอกหู เอดิ้นพล่านแต่ถูกพี่อำนาจรัดตัวไว้ด้วยแขนที่แน่นด้วยกล้าม พี่อำนาจลงลิ้นรัวจนเอร้องครางออกมาดังลั่นสั่นห้อง

“ผมไม่ไหวแล้ว  ผมไม่ไหวแล้ว”  เอโหยหวน ผมรีบจับหน้าของมันมองมาที่ผม  มันเหมือนจะร้องไห้แต่ยังครงมีรอยยิ้ม
พี่อำนาจแหย่นิ้วที่ชุ่มเจลเข้าไปในตัวมันหนึ่งนิ้ว เสียงโอดโอยดังขึ้นมา พี่อำนาจก้มลงมาโจมตีที่ติ่งหูขวาของเออีกรอบ

“ผมไม่ไหวแล้วพี่ ผมเสียว”
พี่อำนาจแหย่นิ้วเพิ่มอีกนิ้ว เอตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวด จนผมก้มไปจับหน้ามันมามองผมอีกรอบ  มันพยักหน้าส่งสัญญาณว่ายังไหว
พี่อำนาจเอาแก่นกายตัวเองไปจ่อแทนนิ้ว ก้มลงมาดูดปากแล้วขยับไปขยี้ติ่งหูหนักหน่วง กอดรัดตัวเอแน่นไม่ให้ดิ้น หายใจหอบถี่เหมือนคนกำลังหัวใจจะวาย แล้วพี่อำนาจก็พ่นลมร้อนแผ่วจากปากไปที่หูขวนั้น

“ใส่มันเข้ามาพี่ ผมไม่ไหวแล้ว ใส่มันเข้ามาเลย!!”





เอร้องไห้กระซิก อยู่ในอ้อมกอดพี่อำนาจ  ซึ่งให้ผมออกจากห้องไปก่อน ทิ้งไว้ให้พี่อำนาจปลอบคนที่เสียขวัญไม่หยุด

ไม่ครับ.. ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น..

พี่อำนาจแค่แสดงให้เห็นว่า เอได้ยอมจากการปั่นรุกในจุดกระสัน  และเมื่อเอปลดปล่อยสัญญาณว่าอนุญาต พี่อำนาจก็หยุดไม่ทำต่อ เขาแค่ก้มลงไปจูบบนหน้าผากของเพื่อนของผมอย่างแผ่วเบา แล้วกอดไว้อย่างนั้น  เอก็ร้องไห้ไม่หยุด จนผมคิดว่า มันร้องไห้ที่ไม่ได้ทำต่อหรืออะไรยังไง

“พี่บอกแล้ว ว่าพี่จะไม่ล่วงเกินเอนะครับ แม้ว่าพี่จะเกือบทนไม่ไหวแล้ว”

“ฮืออออ ไอ้พี่บ้า ไอ้พี่อำนาจบ้า ฮือออออ  ฮือออออ”

“อย่าร้องนะคนดี เราทั้งคู่ต่างรักนายน้อย เราจะไม่ปล่อยให้เขาไปเจออะไรอย่างนี้ในแบบที่ไม่พร้อม”

“แต่พี่ทำผม ฮือออออ ฮืออออออออ”

“พี่เกือบทำ แต่ไม่ได้ทำสักหน่อย หรืออยากให้ทำนะ”

“ไอ้บ้า ไอ้พี่บ้า ฮืออออออ ฮืออออออ”

“ไม่ร้องนะคนดี  คืนนี้นอนที่นี่นะ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แค่ขอกอดให้เอหายกลัวนะครับ”



แต่จากบทเรียนสุดเร่าร้อนเมื่อกี้มันแสดงให้เห็นว่า แม้ไอ้เอที่ฟันสาวมาทั่ว ไม่เคยเสียเอกราชให้ใครด้านหลัง มันก็พร้อมและยินยอมแต่โดยดีเมื่อพี่อำนาจได้ปลุกกำหนัดมันจนถึงขีดสุด 
นี่เสียงร้องกระซิกของเอก็หายไปแล้ว  ผมล่ะยอมใจพี่อำนาจชิบเป๋ง เจ๋งว่ะ
เลยย่องกลับบ้าน ปล่อยให้เอมันนอนที่นี่ก็แล้วกัน  ฝากดูแลเพื่อนผมด้วยนะ บอดี้การ์ดตัวแสบ

จิมมี่.. มึงเตรียมได้เลย กูพร้อมแล้ว
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-04-2018 21:54:12
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-04-2018 23:39:29
พร้อมลงสังเวียนแก้ตัวแล้ว~555 :hao7:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M ]
เริ่มหัวข้อโดย: xexezero ที่ 30-04-2018 09:58:52
โอ้ย เออออออ สงสารน้อง :katai1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M ]
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 01-05-2018 10:42:49
โอ๊ยยยยยย อร๊ายยย
 :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 01-05-2018 13:49:22
อ่านแล้วรู้สึกคอแห้ง  :oo1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 02-05-2018 11:30:52
ตกใจหมดเลยค่ะ 555 
สนุกๆๆ   :o8:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 02-05-2018 15:24:07
เคมีคู่รองพลิกเฉยเลย  :impress2: o13
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 10 : บทเรียนเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจ S&M ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 04-05-2018 12:38:15
เผ็ดร้อน  :z10:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 11 : ตัวช่วย จากขุมนรก ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 05-05-2018 11:57:39
Prep 11 : ตัวช่วย จากนรกภูมิ


เช้านี้ ผมนัดกับพี่ไผ่ไปเมืองกาญจน์  เอาเข้าจริงผมมาบ่อยมา อกหักก็มา ดีใจก็มา ท้อแท้ก็มา ยิ่งเมื่อตอนไอ้กัสมันทิ้งผมไป เมืองกาญจน์แทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่สอง  ผมชอบแม่น้ำ แล้วก็นอนอาบแดดอันแสนเปรี้ยงรุนแรงจัดของที่นี่ จังหวัดที่ได้ชื่อว่า ร้อนที่สุดของประเทศ
แต่วันนี้ อากาศไม่ร้อนเลย อาจเพราะฤดูกาลของมัน ผมใส่เสื้อยืดขาวกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน บังเอิญตรงกับพี่ไผ่ที่ใส่เสื้อยืดขาว แต่กางเกงขาสั้นเป็นสีเขียว มองไกลๆ ใครไม่รู้คงนึกว่าเป็นชุดคู่ ฟังแล้วจั๊กจี้ นี่มันพี่ชายผมนะ
ตอนแรกจะชวนไอ้เอมา แต่มันคงยังไม่หายเสียขวัญ  ผมนี่สำนึกผิดแทบไม่ทันเลยกับค่ำคืนที่เร่าร้อนวันก่อน พอได้รู้ว่า ไอ้พี่อำนาจนี่มันปีศาจชัดๆ ก็ยิ่งนึกกลัวว่า แล้วจิมมี่นี่มันจะขนาดไหน  เพราะพี่อำนาจมันไม่ได้ฝึกปรือบ่อยแบบไอ้ผู้กองเจ้าเสน่ห์นี่น่ะสิ
พี่ไผ่แวะปั๊มซื้อของกินให้ผมบ่อยมาก ดูเขาก็ไม่ได้ซึมเศร้าอะไรแบบที่หลิวบอก สงสัยเพราะว่า สนุกกับการไม่ได้อยู่บ้านสินะ ทริปสั้นวันเสาร์อาทิตย์นี้ ถือว่ามาเซอร์วิสพี่ชายก็แล้วกัน  พี่โดยสายเลือดก็ไม่มีกับเขา ก็เลยกะจะเอาพี่ของหลิวมาเป็นพี่ชายก็แล้วกัน

“ไม่ได้จองก่อนจะมีห้องไหมเนี่ย”

“มีสิพี่ไผ่ ได้อาร์ต เจ้าของเพื่อนผมเอง มันมีห้องเปล่ากันไว้ฉุกเฉินตลอดแหล่ะ”

“แต่รีสอร์ตเขาดังมากเลยนะ ลำน้ำแควสวยใส ดารามาตรึม”

“ผมก็ดารา ชอบเล่นหนังสด”

“เดี๋ยวเราเล่นโชว์เจ้าของรีสอร์ตดีม๊ะ”

“พี่จะรับผมได้เหรอ ของผมอันเท่านี้”  แล้วผมก็ทำทะเล้น เอาท่อนแขนขึ้นมาชู

“อ้าว เข้าใจผิดมาตั้งนาน นึกว่าน้ำเป็นรับ”

“เห้ยยย พี่อย่าโมเม ผมน่ะ ชายเหนือชาย”

“งั้นไม่เอาด้วยล่ะ กลัว”

“ผมล่อเล่น ใครจะไปทำอะไรพี่ไผ่ครับ ตัวอย่างควาย”

“เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวได้เปลี่ยนจากน้องมาเป็นเมีย”




ระหว่างทาง พี่ไผ่ขับรถ เราก็เปิดเพลงฟังกันไป เป็นอัลบั้มของไมเคิล บูเบล ผมก็นึกถึงเรื่องของจิมมี่ที่วนอยู่ในหัว ว่ามันคุ้มแล้วจริงเหรอที่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยง  คือผมน่ะ แค้นไอ้ออกัส แต่ผมก็ไม่ได้แค้นขนาดที่ว่าจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น  เอาเข้าจริงวันนั้นถ้าไม่ได้ริงโทนช่วยชีวิต ผมอาจเคลิ้มจนเสร็จผู้กองไปแล้วก็ได้

“น้ำเคยคิดจะหยุดเที่ยวผู้หญิง เพื่อใครสักคนไหม”

“ผมก็ไม่ใช่เด็กเที่ยวหรอกครับพี่ ถ้าพี่ได้รู้เหตุผล พี่จะเข้าใจผม สักวันผมจะเล่าให้ฟัง”

“เป็นภารกิจที่สนุกดีนะครับ มิชชั่นนี้ น่าอิจฉา”

“แล้วพี่อ่ะ เป็นอะไรไป ซึมจนใครก็เป็นห่วงกันไปทั่วเลย”

“ถึงได้ชวนพี่ทำทีว่ามาถ่ายรูปใช่ไหม”

“แหม่.. รู้ทัน”

“ขอบคุณมากครับ”

“รู้แล้ว ก็ยังอุตส่าห์แกล้งทำเป็นไม่รู้ แล้วมาเที่ยวอ่ะนะ”

“เต็มใจให้หลอก”


ผมค่อยบรรจงหาข้อมูลเกี่ยวกับ S&M ระหว่างทาง เพื่อเป็นการฆ่าเวลาระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตรนี้ เรื่องของความเจ็บปวดบนเตียง มันมีอะไรที่น่าประหลาดและน่ากลัวในคราวเดียวกัน  แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ คือตอนที่ผมเคยโรมรันพันตูกับจิมมี่ให้ห้องนอนเพ็นท์เฮ้าส์ และ กับคลาสหาจุดกระสันที่บ้านพี่อำนาจ ที่ผิวของทั้งคู่ มีรูปเสือเรืองแสงสีเขียว ของพี่อำนาจอยู่ที่หัวไหล่ซ้าย ส่วนของจิมมี่ อยู่ที่ต้นขาขวา  แต่ไม่ทันได้ถามพี่อำนาจ เพราะก็เขินเหมือนกันกับเหตุการณ์วันก่อน มันเกือบจะเป็น ทรีซัม ก็ไม่ปาน แต่ก็เชื่อเจตนาอันบริสุทธิ์ใจของพี่อำนาจว่าเขาเป็นห่วงผมจริง  แต่ตอนที่ผมก้มไปจูบแผงอกแน่นล่ำของเขา กับตอนที่ผมต้องคุกเข่าถอดกางเกงในให้ แล้วลูกชายพี่อำนาจเกือบดีดใส่หน้า ผมนี่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ คอแห้งผาด สารภาพว่าตัวเองเกิดอารมณ์อยู่ไม่น้อย  แล้วไอ้เอที่ทั้งโดนขึง โดนถล่มซอกคอติ่งหูซะขนาดนั้น มันจะไปทนไหวได้ยังไง

แต่แล้วผมก็มาสะดุดกับทวิตเตอร์อันนึง ในแฮชแท็ก S&M Thailand  มันเป็นรูปของเงามืด แต่มีสีเขียวเรืองแสงที่ดิสเพลย์ ผมเลยไปกดดูรูปประจำตัว ปรากฏว่า เป็นรอยเรืองแสงในที่มืดของเสือโคร่ง อยู่บนเนื้อต้นขา  มันใช่แน่ มันคือทวิตเตอร์ของผู้กองจิมมี่ !!

“ดูรูปโป๊แต่หัววันเลยนะ” พี่ไผ่โผล่มาทักจากด้านหลังของผม ซึ่งนั่งอยู่ในร้านกาแฟระหว่างทาง

“หาข้อมูลต่างหาก” อายชิบหาย

“มีหนัง มีแส้ หูยยย เล่นแบบนี้เลยเหรอวะน้ำ ผิดคาด”

“ผมบอกว่า ผมหาข้อมูลเฉยๆ” ผมนี่รีบปิดทวิตเตอร์แทบไม่ทัน

“ไม่ใช่ว่า พี่กำลังทวิตอยู่ ไปเจอน้ำในกลุ่ม ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ นะ  คงตกใจแย่”

“กลุ่มอะไรนะครับ”

“Yaris X-5 ไง  ที่สุดของ S&M ไทย”



ผมมาถึงห้องพัก ที่วันนี้เต็มไปด้วยกรุ๊ปทัวร์ โดยเฉพาะชาวรัสเซียกับชาวจีน เสียงจอแจบนทางเดิน ซึ่งรีสอร์ตพัฒนาขึ้นมาจากที่ผมเคยมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ทางเข้าปลูกต้นไม้หลากสีแทนของเดิมที่เริ่มเหี่ยวเฉา  ปูกระเบื้องตันหนอนใหม่ในสนามหญ้าเป็นอักษรยินดีต้อนรับ  พุ่มไม้เป็นรูปสัตว์  ห้องอาหารมีของฝากและผลิตภัณฑ์แสนขายดีเช่น มะม่วง และมะพร้าว   
เจ้าของซึ่งคุ้นเคยกันดี วันนี้อยู่ด้วย เจ้าของก็จัดที่พักโซนวีไอพี เป็นแพหรูยื่นอยู่กลางแม่น้ำแควน้อย ณ เวิ้งที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของย่านวังนกแก้ว อำเภอไทรโยค  ลำน้ำไหลไม่แรง แต่มันใสเขียวจนอยากจะแหวกว่าย มีสระว่ายน้ำที่ฝังตัวอยู่กลางแม่น้ำ ทำให้สีฟ้าของน้ำในสระ ตัดกับสีเขียวของแม่น้ำอย่างเห็นได้ชัด  ระเบียงดูดาวที่คืนนี้ผมคงจับจอง  กับชิงช้าไม้ตรงหน้าห้องพักบนแพที่ไกลจากเวิ้งห้องนักท่องเที่ยว

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มีพี่อำนาจอยู่ปลายสาย “นายน้อย ผมได้ข้อมูลเพิ่มเติมของคนที่สามแล้ว”

“คนที่สองยังทำไม่สำเร็จเลยพี่ ท้อแล้วว่ะ”

“อย่าเพิ่งท้อสิ ไม่ได้อะไรจากบทเรียนวันก่อนเลยหรือไง”

“ก็เจอบทเรียนฮาร์ดคอร์พี่เข้าไป ผมน่ะท้อเลย”

“แล้วเอเป็นไงบ้าง”

“อ้าว นึกว่า คุยอยู่กับพี่อำนาจ”

“เปล่านะ หายไปเลย ไลน์ไปมีรอยอ่าน แต่ไม่ตอบ ไม่กล้าโทรไปอ่ะนายน้อย ช่วยหน่อยสิ”

“ทำอะไรไว้ ก็หาทางออกเอาเองเลย น่าขนลุกชะมัดเลยพี่เนี่ย”

“ผมก็ยังขนลุกไม่หาย ที่นายน้อยจะขอจูบของผมอ่ะ ขนลุกชะมัด”

“ไอ้พี่บ้า  ไอ้คนเลว”



กุ้งแม้น้ำตัวใหญ่เห็นว่า เอามาจาก  ทะวาย ทางพม่า กับปลาแม่น้ำตัวโต  มีอาร์ต ผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ต มานั่งร่วมวงด้วย ชุดอาหารวีไอพีของเรา จัดแยกออกมาเสิร์ฟตรงระเบียงดาว ที่ยื่นออกไปกลางแม่น้ำ  แต่เรายังคงมองเห็นห้องอาหารที่เนืองแน่นไปด้วย บุฟเฟต์ทัวร์จีน กับทัวร์รัสเซีย

“คนเยอะอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอครับ” พี่ไผ่เป็นผู้เริ่มวงสนทนา เมื่อเห็นผมได้แต่กินเอากินเอา หลังจากอดอาหารมาหลายเดือนเพื่อให้ร่างกายเข้าที่ แต่จากคลาสของพี่อำนาจวันก่อน เหมือนผมจะเสียพลังกายไปเยอะ

“ก็ตั้งแต่ได้ ทัวร์จีน ทัวร์รัสเซียมาอุ้มชู ก็ไม่เดือดร้อนแล้วครับพี่ไผ่ คนไทย ได้แค่วันหยุด ถ้าเจอช่วงเปิดเทอมคนตังหมด ก็หายกันไปเลย หรือถ้าใกล้วันหยุดยาว ก็จะลูกค้าเต็ม แต่ได้ทัวร์จีน ทัวร์รัสเซีย มาเที่ยวไทรโยค ทำให้กระจายวันท่องเที่ยวกัน  กลางสัปดาห์ก็คนเยอะ เราเลือกใช้กำลังคนได้ถูก ไม่อัดกันวันหยุดอย่างเดียว”

“ดีจัง เวิ้งน้ำก็สวยมาก คนบอกต่อกัน ถ่ายรูปลงโซเชียลจนดังมากเลย น่ายินดีแทน”

“ขอบคุณครับ  อย่างไรก็ เต็มที่กันนะครับ ขอตัวไปดูแลแขก   ขาดเหลืออะไรบอกนะน้ำ  ไม่ได้คุยเท่าไหร่เลย ไว้แวะไปหาที่ กรุงเทพแล้วกัน แต่เจอกันคราวหน้า ต้องทักมานะเว้ย จำหน้าไม่ได้ เปลี่ยนเยอะเกิ๊น”

“เอาเลยอาร์ต แต่ไว้ไป เอากุ้งทะวายไปฝากเราด้วยนะโว้ย อร่อยว่ะ” ผมที่กุ้งเต็มปาก โบกมือให้เจ้าของรีสอร์ตไปดูแลแขก
พี่ไผ่ แกะปลาให้ใส่จานให้ผม แล้วจับปลาพลิก ก่อนจะเลาะเนื้อปลาคังจนเหลือแต่ก้าง  “ปลาคังนี่ต้องเมืองกาญจน์เนอะ”

“ผมไม่ชอบกิน มันเหมือนงูอ่ะ”

“อ้าว นึกว่าชอบงู เมื่อกี้ยังเห็นนังดูทวิต งูเต็มไปหมดเลย”

“ก็บอกว่า หาข้อมูลอยู่!!”



Yaris X-5
กลุ่มของเขาในทวิตเตอร์มีผู้ติดตามจำนวนมาก ในคลับของเขา เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์หุ่นดีมากหลายคน ตัวหลักหนึ่งคน แล้วก็มีเพื่อนเขาอีกสี่คน รวมกับเป็นห้าคนคล้ายขบวนการจูเรนเจอร์  เพียงแต่ชุดทุกคนมันไม่ใช่ 5 สี แต่เป็นเครื่องหนังสีดำกันหมด เขาเปลี่ยนสถานที่ประกอบกิจกามไปยังที่ต่างๆ แต่ก็จะมีห้องหลักที่ตกแต่งไว้โมเดิร์น หรูหรา ไม่น่ากลัวอย่างที่ผมคิดไว้ตอนแรก
ในทุกโพสต์ จะแสดงแขกรับเชิญ ที่พวกเขาเรียกตัวมาจากกลุ่มแฟนคลับ เพื่อมาแสดงการมีเซ็กซ์แนว S&M แม้ว่า บางโพสต์ก็ไม่ได้ S&M เท่าไหร่ แต่ความที่พวกเขาใส่หน้ากากหนังสีดำ มันเลยทำให้บรรยากาศดูแล้วมีความดุเดือดอยู่ไม่น้อย แขกรับเชิญจะได้รับการบรรยายสรรพคุณ มักเป็นฝ่ายรับ โดยมีแก๊ง ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ เป็นฝ่ายรุก พวกเขาจะแสดงความรุนแรงเข้าใส่ โดยแขกรับเชิญก็จะโดนกระทำแต่เปี่ยมไปด้วยความสุข 
คนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าไป มีทั้งลูกครึ่ง นายแบบ ไปจนถึงดารา หรือถ้าเป็นธรรมดา ก็มักจะเป็นคนที่มีความพรีเมี่ยมอยู่ในตัว ผิวพรรณสะอาด รูปร่างดีเยี่ยม ไม่ออกสาว และที่สำคัญ จะต้องเป็นคนที่มีความสุขกับการโดนทารุณกรรมทางเพศ
ผมเห็นแทบทุกโพสต์ จะมีทวิตเตอร์ของ นาย SplashHIT  มาแสดงความเห็นเสมอ  นายสแปชฮิต นี่เอง ผมสันนิษฐานว่าต้องเป็นผู้กองจิมมี่อย่างแน่นอน

“หมกมุ่นจริงด้วยเว้ยเฮ้ย” ไอ้พี่แมร่งมาได้จังหวะทุกทีสิน่า ผมต้องรีบลุกจากเตียงปิดแอ๊พทวิตเตอร์ทันที

“ก็บอกแล้วว่า..”

“หาข้อมูล”

“อืม”

“โอเค หวังว่าจะไม่ปฏิบัติตามนะ ทั้งแส้ ทั้งโซ่ โหย น่ากลัวอ่ะ”

“จะนอนเลยไหมเนี่ย ทำไมหน้าแดงๆ อย่าบอกนะว่า กระดกไวน์ที่ให้อาร์ตเอามาให้จนหมดเลยน่ะ”

“ก็มันอาหย่อย”

“ไหนว่ารสแปลกๆ”

“กินไปกินมาอาหย่อยยย  ไวน์มะเม่า ของดีประจำตำบล”

“เมาก็เข้ามานอนสิ”

“ไปนั่งเล่นที่ระเบียงดาวกัน นะๆๆๆ น้องรัก”


หลังจากวันนี้ที่เราแวะถ่ายรูปกันมาตลอดทาง พี่ไผ่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเอ็นดูสุดขีด แต่มาเสียหมาตอนเมานี่แหล่ะวะ ทำไมทำตัวเหมือนเด็กจัง ผมหอบร่างเพลียอีกทั้งอิ่มจัดไปนั่งเป็นเพื่อน  อาร์ตให้เด็กมาปูฟูกกับหมอนอิงที่ระเบียง ซึ่งยื่นออกมากลางแม่น้ำที่เหมือนจะไหลเชี่ยวขึ้น  ได้ข่าวว่ากลางคืน เขื่อนจะปล่อยน้ำ ทางรีสอร์ตก็เตือนว่าไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำยามวิกาล  เจ้าของรีสอร์ตเตรียมไวน์มะเม่าไว้ให้อีกขวด แน่นอนว่า พี่ไผ่รบเร้าให้ผมดื่มเป็นเพื่อน  พอดีกัน กล้ามที่เล่นมาเจอแอลกอฮอล์เข้าไปก็หายหมด ดีนะเป็นไวน์ ถ้าเป็นเบียร์กับเหล้านี่ผมพยายามไม่แตะเลย

“ดาวสวยจังเลยครับน้ำ” พี่ไผ่นอนหนุนตักผม ดูท้องฟ้าที่มันก็สวยเหลือเชื่อนั่นแหล่ะ ฟ้ามืด แต่ดาวกระจายอย่างกับผ้าซาตินสีดำมีรูพรุนจากแสง  ระยับระยับเต็มไปหมด

“พี่มีอะไรที่คับข้องใจจะเล่าให้ผมฟังไหมพี่ไผ่ ผมพร้อมฟังนะ”

“เล่าไม่ได้.. เล่าให้ฟังไม่ได้”

“คนเราต้องระบายออกมาบ้างนะพี่ เก็บไว้คนเดียวมันจะอึดอัด”

“พี่ไม่มีเพื่อนเท่าไหร่ พี่อาภัพเพื่อน”

“เห็นหลิวเล่า ใครก็อยากมาสนิทกับพี่ พี่มันไม่เปิดใจเอง ลูกท่านหลานเธอ คนรวยๆ ทั้งนั้นอยากมาสนิทกับพี่น้องคู่นี้ บ้านบดินทร์เตชานนท์ มันหอมหวนไม่รู้เหรอ”

“หึ”

“หรือไม่จริง”

“ก็จริง”

“แล้วจะทำตัวอินดี้ ไม่สุงสิง ไม่คบหากับใครทำไม  อีกหน่อยพี่ทำธุรกิจแทนพ่อพี่ มันก็ต้องมีคอนเน็คชั่นป่าววะ”

“ก็ใช่”

“ไหนจะต้องเข้าสังคม พาครอบครัวออกงาน เป็นหน้าเป็นตาให้ที่บ้าน มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง สืบทอดกิจการ”
แล้วพี่ไผ่ก็สะอื้น  เชี่ยแล้ว ผมพูดอะไรผิดหูเขาไป  เขาเอียงหน้ามาทางหน้าท้องผม แล้วโอบกอดผมไว้ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ก็เลยได้แต่เอามือลูบหัวเขาเบาๆ  ผมคงไปจี้ต่อมอะไรของไอ้พี่มันน่ะ ก็คงทำได้แค่อยู่เป็นเพื่อน ลูบไล้เส้นผมเขาให้เหมือนลูบหัวแมวน่าจะเป็นทางออก  คนอะไรผมนุ่มชะมัด หมักด้วยอะไรวะ  ร้องไห้ยังหล่อ  ไอ้ขี้แยเอ๋ย ถ้ามึงล้อเลียนอะไรกู กูจะขุดเรื่องคืนนี้มาแฉ เอาสิ
สักพัก พี่เขาก็หยุดไป ลุกขึ้นมานั่งข้างผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คว้าไวน์มาดื่มต่อ ผมรีบไปแย่งแก้วจากมือ

“พอได้แล้ว ไอ้ยักษ์ขี้แย”  พอแซวเขา เขาก็หันดวงตาที่บวมแดงนั้นมามองผม อมยิ้ม ก่อนจะหันขึ้นไปมองท้องฟ้าที่ดำมืดอีกรอบ

“เหมือนวัยเยาว์มันคงต้องสิ้นสุดวันนี้พรุ่งนี้แล้วจริงเหรอน้ำ”

“จริงสิพี่ พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นอีกเหรอ มันถึงเวลาที่พี่จะต้องเป็นผู้ใหญ่แล้วครับ”

“พี่ยังไม่ได้ใช้ชิวิตวัยรุ่นเท่าไหร่เลย”

“ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตสุดกู่ แล้วจะเรียกว่ามีความสุขหรอกครับพี่  คนที่เขาใช้ชีวิตไปวันๆ มันก็มีความสุขได้ อย่าไปดูมันมาก พวกหนังฮอลลิวู้ด มันล้างสมองพี่ ทำทุกวันให้มันดี มันก็มีความสุขได้เอง”

“เก่งจังเลย น้ำเนี่ย”

“ปากดีเวลาสอนคนอื่น ผมน่ะ”

“ปากอันนี้น่ะเหรอ” พี่ไผ่เอื้อมนิ้วหัวแม่มือมาไล้ที่ริมฝีปากผมเบาๆ  แล้วก็เอาหัวแม่มีตัวเองไปชิม มันเป็นพิธีกรรมอะไรของนักเรียนนอกใช่ไหม

“ผมว่าเราควรเข้านอนได้แล้..”  แล้วลมหายใจผมก็แทบหยุดเพ่นพ่าน เมื่อหน้าของพี่ไผ่มาแนบชิด แล้วบรรจงจูบลงมาที่ปากผมอย่างแผ่วเบา เขาชักหน้าถอยออกไปนิดนึง สูดลมหายใจเข้าเต็มแรง แล้วเอื้อมหน้ามาจูบผมอีกรอบ คราวนี้มันช่างยาวนานใต้แสงจันทร์นั้น แล้วความทรงจำผมก็เลือนไปใต้หมู่ดาว



เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมตื่นมารับ ตาที่ลืมขึ้นพบว่า มันน่าจะเป็นแสงสีทองของวันใหม่ที่ลอดผ้าม่านเข้ามา เตียงเราใหญ่ แต่ร่องรอยของอีกฟากมันยับยู่ยี่พอกับฟากของผม เพียงแต่เจ้าตัวเขาไม่อยู่แล้ว

“ครับพี่”

“นายน้อย ผมติดต่อกับ ทีมยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ ได้แล้ว”

“พวกเขาว่ายังไงบ้าง”

“ก็ยากมากครับนายน้อย เขาไม่สนเงินทอง ทุกอย่างเพื่อความสนุก”

“อ้าว แล้วจะทำยังไงเพื่อล่อผู้กองจิมมี่ออกมาล่ะ”

“ผมยื่นขอเสนอพิเศษ แต่มันก็เสี่ยงกับงานของผมไม่น้อย”

“ถ้าเรื่องถึงพ่อ ผมเคลียร์ให้เอง”

“ผมเสนอจะลบหน้ามูลใบหน้าจริงของพวกเขาที่ปลิวว่อนในโลกโซเชียลให้หมดไป”



เมื่อเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้น ผมก็หอบสังขารที่อ่อนเพลียไปสูดอากาศข้างนอก แม้จะเป็นจังหวัดที่ร้อนจัด แต่ตอนเช้าและตอนค่ำ มันก็เย็นเอาเรื่องแฮะ  ผมเห็นพี่ไผ่ นั่งใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มองดูลำน้ำที่ไหลเอื่อยอีกครั้งหลังจากเขื่อนได้กักน้ำในตอนเช้า  ผมเอาผ้าห่มของห้องออกไปด้วย เพื่อห่อสังขารตัวเองที่ดูไม่ได้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตายับเยินเพราะไม่ได้ทาครีม  ผมทิ้งตัวลงไปนั่งข้างพี่ไผ่  เหมือนพี่เขาจะไม่ได้มองมาทางผม  คงเขินหรือรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปเมื่อคืน

เปล่าครับ เขาไม่ได้ย่ำยีอะไรผมสักหน่อย  หลังจากจูบนั้น มันก็ไม่มีอะไร แค่มองตากับสักสิบวินาทีได้ แต่มันเป็นอึดใจที่ยาวนานไปเหมือนชั่วกัปกัลป์
ผมเอียงหัวของตัวเองไปซบที่ไหล่เขา หวังว่าจะให้เขาผ่อนคลาย ผมรู้ว่าเขาเมา แล้วเขาก็กุ้มใจ ผมไม่ถือสา แต่หัวใจผมมันก็เต้นแรงมากไม่น้อยเมื่อคืนนี้ ใจก็หล่นวูบที่มันเกิดขึ้น ผมพยายามบอกกับตัวเองว่า ผมคิดกับเขาเป็นพี่ชาย แล้วตอนนี้ผมมีเป้าหมายที่ต้องบรรลุ มันคงจะมีอะไรมาหยุดยั้งในช่วงนี้ไม่ได้เป็นแน่

“หิวยังพี่ไผ่”

“ยังครับ กำลังทำตัวเองให้สร่างเมา”

“ด้วยการมานั่งดูน้ำดูปลาเนี่ยนะ”

“ปลามันก็อยู่ของมันสิ พี่มานั่งดูน้ำ”

“ดูทำไมล่ะน้ำ”

“ก็พี่ชอบน้ำ.. ไม่รู้เหรอ”  ให้ตายสิ เขาคงไม่ได้หมายถึงแม่น้ำแควน้อยที่สวยเหลือเกินตรงหน้า



หลังจากอาบน้ำเหมือนไม่ได้มีสถานการณ์อะไรที่มันดีขึ้นเท่าไหร่ เราเช็คเอ้าท์ขับรถออกกันมา แวะปั๊มน้ำมันบ้าง แวะร้านของฝากไปให้พวกหลิวบ้าง  แต่ก็แทบไม่ได้คุยกัน  เหมือนเราสนทนากันผ่านเพลงของ นอร่าห์ โจนส์  สลับกับ อเดล  แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะเห็นพ้องกันไปทุกเนื้อหาหรอก มีบางเพลงผมก็กดข้าง แล้วก็มีบางเพลงที่พี่เขาก็ฟังซ้ำไปมา

“พี่หมายความอย่างที่พี่พูดนะ”  ผมอุตส่าห์ไม่รื้อฟื้นแล้วนะ

“ที่พี่เครียดมาเป็นอาทิตย์ คือเรื่องนี้เหรอ”

“มันก็เรื่องตัวพี่เองด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่ต้องตอบคำถามตัวเรามากมาย”  ผมเข้าใจ เขาเป็นคนหนุ่ม คนหล่อ คนฮอต ที่ใครก็คาดหวัง  ถ้าเผลอใจให้ผู้ชาย มันคงเป็นอะไรที่ช็อคคนรอบข้างอยู่ไม่น้อย  แต่ไม่ได้ช็อคผมเท่าไหร่  เพราะลึกแล้ว ผมกับพี่ไผ่ ก็รู้ลึกในใจว่า ถ้าผมกับเขาจะแอบมีใจให้กันมันก็ไม่แปลก  แต่ที่ผ่านมา ผมไปนึกเอาเองว่า หัวใจที่ร้องหา มันคือคำว่าพี่ชายกับน้องชาย แต่ไม่น่าจะใช่แล้วล่ะ..  โจทย์ถูกตอบด้วยรอยจุมพิตเมื่อคืน  มันไม่ได้เร้าร่อนแบบจะกระชากกันขึ้นไปที่เตียงอ่อนนุ่ม  หรือไม่ได้เอื่อยเฉื่อยแบบไม่มีไฟ  แต่มันร้อนรุ่มอยู่บนริมฝีปากคู่นั้น  เพียงแต่พี่ครับ.. นาทีนี้ ผมยังให้พี่มากกว่านี้ไม่ได้  ผมกำลังมีเรื่องที่จะต้องทำรอผมอยู่   

ผมมองเขาขับรถออกไป  ผมก็ยืนเต๊ะท่าอยู่ตรงนั้น เผื่อเขาจะมองลอดกระจกหลังผม  ที่ผ่านมาผมชอบทำตัวให้ดูดีต่อหน้าเขา แต่ก็เผลอเป็นตัวเองที่เด๋อด๋าก๋ากั่น ซึ่งผมไม่ค่อยกล้าแสดงแบบนี้ต่อหน้าใคร  ไหนจะมีเขามาคอยปกป้อง
พี่ไผ่เลือกที่จะห่างไป เมื่อหลิวไปเล่าให้ฟังว่าผมมีแฟน  แถมเป็นผู้ชาย  เขาก็ไม่ได้ติดต่อผมอีกเลย  ตอนแรกผมก็คิดไปว่า เขาคงมีเพื่อนดีที่เมืองนอก ผมก็คิดถึงพี่ไผ่อยู่บ่อยครั้ง แค่ที่ผ่านมานึกไปเองว่า มันน่าจะแบบน้องคิดถึงพี่แหล่ะน่า

ผมนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง ตั้งใจจะงีบอีกสักหน่อย ก่อนจะตื่นมาทบทวนหนังสือสำหรับวันเรียนพรุ่งนี้ แต่ผมก็ข่มตาหลับลงไม่ได้  ผมเอามือมาลูบคลำที่ริมฝีปากตัวเองอยู่บ่อยครั้ง  คงเพราะอากาศมันเย็นหรือเปล่า หรือเพราะผมลืมทาลิปมัน  แต่ทำไมทุกทีที่มองไฟบนฝ้าเพดาน หน้าของใครบางคนต้องลอยมาทุกทีเลย




“นายน้อยๆๆ”

“อารายยยยยย”

“โทรหาน้องเอให้หน่อยสิ  ให้รับสายผมด้วย”

“โอ๊ยยย มันไม่โกรธอะไรพี่หรอก มันคงแค่ขวัญหนีดีฝ่อน่ะ”

“น้องเขาจะเกลียดผมไหม”

“จะเกลียดทำไมล่ะไอ้พี่ มันครางซะเสียงหลงขนาดนั้น คงยังไม่กลับจากสวรรค์ล่ะมั๊ง”

“นายน้อยอย่าพูดเล่นสิครับ”

“พี่ ผมว่า ผมควรจะหยุดไหม”

“ถ้านายน้อยคิดว่า นายน้อยดีขึ้นแล้ว ลืมความแค้นในใจได้แล้ว ก็จงหยุดเถิด มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก”

“แล้วถ้าผมยังอยากจะภารกิจนี้ให้สำเร็จล่ะ พี่ว่าผมจะดูเลวไหม”

“นายน้อยช้ำมามาก ไม่มีใครต่อว่านายน้อยหรอกครับ แค่อยากให้ถามหัวใจตัวเองให้ดี ว่ามันควรหยุดไหม”

“ผมอยากทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ พี่ช่วยผมหน่อย ผมจะมีชัยเหนือ ผู้กองจิมมี่ ให้จงได้”

“ผมจะเอาใจช่วยนะนายน้อย แต่ตอนนี้ โทรหาน้องเอให้ผมหน่อยสิ”




คลาสเรียนเช้า ไอ้เอไม่มาแฮะ เดาว่ายังไม่กลับจากสวรรค์จริงๆด้วย  เมื่อคืนผมก็ไม่ได้โทรหามันตามที่บอดี้การ์ดตัวแสบขอร้องหรอก อยากทรมานพี่อำนาจอีกเล็กน้อย สงสัยผมติดนิสัย S&M มาเข้าแล้ว ดูทวิตเตอร์มากเกินไปแล้วสิไอ้น้ำ
คือพี่อำนาจดูเปลี่ยนไปเชียว  ผมก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะหาทางพาเอมาร่วมวงไพบูลย์แบบไม่มีแผนการหรอกนะ มันร้ายจะตายไอ้พี่อำนาจเนี่ย 
ผมว่ามันทะแม่งตั้งแต่วันแรกที่พี่เขาเจอไอ้เอแล้ว ทั้งที่เขาชอบทำหน้าดุใส่ทุกคนที่มาเกาะแกะผม แต่กับไอ้เอ เขามักมีแต่รอยยิ้มให้เสมอ  จนช่วงมอปลายที่ไอ้เอควงสาวไม่ซ้ำหน้าตั้งแต่มันถอดเหล็กดัดฟันออก พี่อำนาจก็ไม่ได้มาดูแลเราเท่าไหร่ อีกทั้งยังยุ่งกับเรื่องพ่อของผมที่มักมีอันตรายจากอิทธิพลทางการเมือง  พี่อำนาจกลับมามีบทบาทในชีวิตพวกเราอีกครั้งก็ตอนเข้า มหาวิทยาลัย เหมือนพ่อส่งเขามาคอยคุมพฤติกรรมพวกเรา
แต่แล้ว เรื่องในคืนก่อน ผมว่ามันน่าจะเฉลยเรื่องราวทั้งหมด ผมถึงว่า พี่อำนาจมันร้าย มันเอาผมเป็นข้ออ้างเข้าหาไอ้เอ ไม่รู้ว่า ไอ้ผู้กองจิมมี่มันแสบ หรือพี่อำนาจที่แสบกว่า



ผมมารอ ตัวแทนของกลุ่ม Yaris X-5 ที่ห้างสรรพสินค้า ผมเลยแกล้งส่งข้อความไปชวนไอ้เอให้ออกมาเป็นเพื่อน มันก็ยอมออกมาแต่โดยดี สารรูปนี่ดูไม่ได้ เหมือนเดินออกมาจากหมู่บ้านพรหมพิราม เช็ด ไอ้เพื่อนเกลอ กูขอโทษที่การ์ดพ่อกูทำให้มึงเป็นแบบนี้  เรานัดเจอกันในร้านเบเกอรี่ฝรั่งเศส ซึ่งแทบไม่ค่อยมีคน เพราะเป็นร้านที่ขายขนมราคาสูงมาก

“กูขอโทษ”

“หยุด”

“กูไม่คิดว่า”

“หยุด”

“พี่อำนา..”

“หยุด เราจะไม่พูดอะไรกันเรื่องวันนั้นอีก  เดี๋ยวมึงพากูไปตีหม้อ เอาเกรดแบบเด็กป๋าชูวิทย์ แล้วกูจะถือว่า หายกัน”

“คนเดียวพอเหรอ”

“สิบคน”

“เฮ้ย”

“ทีละคนเว้ย  แต่ว่า สิบคน  ก็จะชดเชยเรื่องวันก่อนได้”

“แค่มึงขอ กูมีเหรอจะไม่ให้ มึงเพื่อนรักกูนะเว้ย  ขอกอดที”

“เอามือมึงออกจากตัวกู  อย่าคิดนะ ว่ากูจะไม่จำ ว่ามึงทำอะไรกูบ้าง”

“อารมณ์มันพาไป ไอ้เชี่ย  พี่อำนาจแม่ง น่าจะมีสาริกาลิ้นทอง สั่งอะไรกูทำหมด”

“กูก็ด้วย ไม่เห็นเหรอ ไม่เป็นตัวเองเลย สัส”



ชายวัยสามสิบกลาง หน้าตาดี รูปร่างสัดทัน ตัวเล็กกว่าที่เห็นในทวิตเตอร์ แต่วิธีเดินตรงมายังโต๊ะเรา ผมจำได้ทันที เพราะเผมเห็นเขาเดินละม่อมขึ้นเตียงด้วยท่านี้เลย  ต่างตรงวันนี้เขาไม่ได้สวมหน้ากาก เผยใบหน้าอันหล่อเหลาอยู่ไม่น้อย

“สวัสดีครับ คุณปิกาจู้บอย”  ตัวแทนกลุ่ม ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ เอ่ยทักทาย พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ไปนั่ง

“นั่นชื่อมึงเหรอวะไอ้น้ำ”

“ทีมึงยังชื่อ คุณหลวงแปดนิ้ว ได้เลย  เอาจริงๆ มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นป๊ะ”

“สัส”

“พวกคุณนี่สนิทกันดี หน้าตาดีกันทั้งคู่เลย ไม่สนมาเป็นแขกรับเชิญผมเหรอ”

“คุณยารีส”

“เรียกผมว่า กร”

“คุณกร  คือแผนของผมนะ ผมจะให้คุณชักชวนคนหนึ่ง ไปเป็นแขกรับเชิญ  และแน่นอนว่า ผมจะตามไปในสถานที่นั้นด้วย” ผมแจงให้เขาฟัง

“คุณน่ารักดีครับ หล่อ หุ่นดี ผมก็อยากกับคุณอยู่นะครับ”

“เฮ้ย คุณกร ไม่ใช่อย่างนั้น  ผมอยากให้เชิญแฟนคลับที่เหนียวแน่นของคุณคนหนึ่งไป”

“คนจะเข้าไปเป็นแขกรับเชิญได้ ต้องพรีเมี่ยมนะครับ ทีมผมมีชื่อเสียงที่สะสมมา”

“เขาคนนี้ พรีเมี่ยมไม่แพ้ใครในแขกที่คุณเชิญมา และผมรับประกันว่าเขาเด็ดมาก”

“เป็นรุกหรือเป็นรับ หรือเป็น โบท ครับ”

“เป็นรุก ออริจินัล ครับคุณกร”

“ผมมีคนในทีม ที่รับได้ ผมเองก็รับได้ ถ้าเขาเด็ดอย่างที่ว่า”

“เปล่าครับ ที่เรียกมาคุยวันนี้ ก็เรื่องนี้แหล่ะ จะทำความเข้าใจตรงกัน”

“ยังไงครับ”

“พี่กร ต้องโปรยเสน่ห์ของพี่ให้เต็มที่ ..ในแบบที่เขาคนนี้ฝันถึง”
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 11 : ตัวช่วย จากขุมนรก ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-05-2018 12:50:32
แผนเป็นยังไงบอกเราหน่อย เราอยากรู้~555 :hao7:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 11 : ตัวช่วย จากขุมนรก ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-05-2018 18:34:35
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 11 : ตัวช่วย จากขุมนรก ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 06-05-2018 11:13:42
แก๊ง X5 คือ ที่สุด ขรรมก๊าก 
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 11 : ตัวช่วย จากขุมนรก ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-05-2018 01:26:39
ทำไมใครๆต่างก็รุมรักออกัส
มันน่ารักน่าเอาขนาดนั้นเลยเหรอ

อิจฉาเลย..หุหุ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 11 : ตัวช่วย จากขุมนรก ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 09-05-2018 15:16:06
เกลียดความ X5 .จังเลย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 10-05-2018 12:33:07
Prep 12 :  คุณ.. ผม.. เขา..  ทั้ง 7 คน

คุณกร แห่ง ยารีส เอ็กซ์ไฟว์ ส่งข้อความที่เชิญชวนผู้กองจิมมี่ผ่านข้อความส่วนตัว ดูเขาตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ ถึงกับไม่เป็นอันกินอันนอน ส่งรูปตัวเองในอิริยาบถต่างๆมาทุกชั่วโมง
Yairs X-5 เคยอยากชวนจิมมี่เข้ามาเป็นแขกรับเชิญเหมือนกัน แต่เท่าที่แอบเช็คว่าเจ้าของแอคเคาท์ splashHIT นั้นไปแฝงตัวอยู่ในกลุ่ม #ตำรวจด้านมืด และ #ตำรวจหรรษา  พวกเขาก็ไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง  แม้ว่าจิมมี่จะกดรีทวิตและเข้ามาคอมเม้นต์ตอบทวิตเตอร์ในทุกโพสต์ แต่พวกเขาเลือกที่จะเมินเฉย ไม่ยุ่งด้วย  พอผมยื่นข้อเสนอและการันตีความปลอดภัย กลุ่มก็ยินดี  เพราะรูปโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ของจิมมี่ แม้ไม่เห็นหน้า แต่หุ่นนั้นแซบเหลือรับประทาน

“ปุกาศ  ปุกาศ จาก Yaris X-5”
อาทิตย์หน้า เชิญพี่น้องท้องชนกันทั้งหลาย มาร่วมชม Live สด 
เรามีของดี ของเด็ด มาให้พวกท่านได้น้ำลายไหล
กับสามหนุ่มที่เจ๋งที่สุดของปี รับรองได้ว่า ท่านต้องเสียน้ำ[ลาย] ให้กับการไลฟ์ของเรา
แห่กันเข้ามา ถอดกางเกงทิ้งไป วางตัวเองลงบนเตียงที่อ่อนนุ่ม
ชาร์จแบตโทรศัพท์ให้เต็ม บีบโลชั่นกันถลอกไว้ในมือ แล้วมาสนุกกัน
ขอบคุณสปอนเซอร์หลัก ถุงยางอนามัยมิโดริ เหนียว ทน ทุกศึกหนัก  และ ป๊อบเปอร์ลอนดอน เคลิ้มเยิ้มทุกสรวงสวรรค์
แล้วที่สำคัญ สถานที่ถ่ายทอดสด ห้องสุพรีม ชั้นบนสุดบนตึก ของโรงแรมดัง อภินันทนาการจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม

กลุ่มเขาคนตามเยอะจริง อะไรจริง  แค่คุณกรทวิตข้อความออกไป คนกดหัวใจหลักหมื่น รีทวิตไม่ต้องพูดถึง ปั่นป่วนไปทั้งทวิตเตอร์จนติดเทรนด์ มีผู้คนเข้าไปรอคอยแสดงความเห็นจำนวนมาก หลายคนที่รูปโปรไฟล์โชว์เรือนร่างเซ็กซี่ ต่างเข้าไปแสดงความเห็น อยากจะมีส่วนร่วม และอยากได้รับเชิญบ้าง  ผมรีบกดเข้าไปดู ทวิตเตอร์ของจิมมี่ ว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง  ไม่มีอะไรปรากฏ 
ผมจึงกลับไปที่ เฟซบุ้คของเขา ซึ่งเป็นเฟซบุ้คใช้ทำงานด้วยรูปจริงในชุดเครื่องแบบตำรวจ จึงมีผู้ติดตามเป็นสาวน้อยใหญ่มหาศาล  “ฝันของผมกำลังจะเป็นจริง ผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง” แล้วก็มีคนเข้ามาสอบถามมากมาย ว่าได้เลื่อนตำแหน่งหรืออะไร แต่เขาไม่ได้ตอบกลับตามประสาผู้กองเจ้าเสน่ห์ที่ใครก็จับตา
ผมมั่นใจว่า เขาทุ่มสุดตัวเพื่องานนี่แน่นอน  ผมเองก็เตรียมความพร้อมอดอาหาร นอนให้พอ พร้อมฟิตร่างกาย เพราะศึกครั้งนี้ มันใหญ่หลวงนัก แล้วแถมจะต้องถ่ายทอดสดด้วย มันกดดัน ถ้าพลาดมีอับอาย ถึงแม้จะใช้เครื่องแบบหน้ากากหนังสีดำพลางอยู่ แต่ผมคงหลบซ่อนความอัปยศไม่ได้ ถ้าผมไม่สามารถพิชิตภารกิจนี้

วันนี้ผมเข้าห้องสมุดช่วงบ่ายเพื่ออ่านหนังสือ แม้ผมมีเวลาให้การเรียนน้อยลง แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมฉลาดขึ้น อาจเพราะผมไม่ไปเสียเวลาคร่ำครวญกับความเสียใจตอนเลิกรากับออกัส เหมือนกับหลายเดือนก่อน กระนั้นผมกลับมีช่วงเวลาสนุกมากขึ้น ไหนจะออกเที่ยวกับไอ้เอ ทะลึ่งตึงตังตามประสาผู้ชาย  ได้ลดอีโก้ตัวเองมาพึ่งพาเรื่องเรียนจากหลิวและตูน สนิทกับพี่อำนาจมากขึ้นหลังจากผมกำหรรมเขาไปแล้ว ได้รู้จักน้องกันต์แสนน่ารักที่แม้ตอนนี้ไอ้ออกัสจะเอาน้องเขากลับไปใกล้ชิดแล้ว  แถมยังมีผู้กองเจ้าเล่ห์ให้ผมได้วีดีโอคอลแบบเปลือยเปล่าสำเร็จโทษกันบ่อยครั้ง ชีวิตผมก็มีสีสันดีแฮะ และอาทิตย์หน้ามันจะถึงขีดสุด เพราะผมจะเป็นแขกรับเชิญใน ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ อันแสนโด่งดัง  พิชิตผู้กองเจ้าเสน่ห์คาเตียงให้ธารกำนัลได้ยล โปรดจงมั่นใจว่าออกัสจะดูเทปบันทึกนั้นด้วยตาเปล่า
แต่ที่ผมชักแม่น้ำทั้งห้ามาเข้าหัว เพราะท่ามกลางชีวิตหรรษาเหล่านี้ ผมลืมเรื่องหนึ่งไปไม่ได้เลย..  รอยจูบของพี่ไผ่




“ตูน เราอยากได้ รูปโมเดล กบต้ม วิชาวิเคราะห์ผู้รับสารจังเลย” หลิวทำเสียงออดอ้อน

“ถ่ายเอกสารไว้ให้แล้ว ก็หลิวน่ะมาสายบ่อยจังพักนี้” ตูนยื่นกระดาษที่ถ่ายเอกสารไว้ให้หลิวหนึ่งชุด

“ก็ต้องพาพี่ชายไปกินข้าวตอนเช้า พักนี้เป็นเอาหนัก ยิ่งตั้งแต่กลับจากเมืองกาญจน์นี่ เหมือนวิญญาณหลุดลอย”

“ไอ้น้ำ มึงทำอะไรพี่ไผ่วะ” เอผู้ใครรู้ในทุกเรื่องสอดเข้ามา  แต่เมื่อไม่มีคำตอบจากผมที่ยังคงก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไป เอก็แก้เกี้ยวด้วยการหันไปคุยกับคนที่เหลือแทน  “แล้วได้ โมเดล กบต้ม นี่มันยังไงวะ”

“ก็ กบ เป็นสัตว์ที่ปรับตัวได้เร็ว ถ้าเราเปิดน้ำที่ต้มจนร้อนไว้ แล้วใส่กบลงไป กบจะกระโดดหนีทันที  แต่ถ้าใส่กบลงไปน้ำที่ไม่ร้อน แล้วตั้งไฟจนร้อน กบจะตายคาหม้อโดยไม่ได้กระโดดออก”

“เชี่ยยยยย ทำไม เป็นทฤษฎีที่โหดร้ายขนาดนี้” เอทำหน้าเหวอ  เอาเข้าจริงอาจารย์ก็อธิบายตั้งบ่อยแต่มันไม่ฟัง

“อ่ะ นี่คือคำอธิบาย แล้วก็นำไปประยุกต์กับการสื่อสารมวลชนอย่างไร กับพฤติกรรมผู้บริโภค เราแยกไว้ให้เป็นข้อ ลายมืออ่านยากหน่อยนะ ถ่ายเอกสารไว้ให้แล้ว”  ตูนยื่นเอกสารที่เขียนหัวกระดาษว่า เอ  ให้เจ้าตัว

“ขอบคุณครับ ไม่มีนาย เราจะเป็นยังไงเนี่ย”เอยื่นมือไปบิดแก้มตูน จนอีกฝ่ายหน้าแดงทำหน้าตกใจ สะดุ้งกับรอยสัมผัสเล็กน้อย ก่อนจะทำทีเอาชีทมานั่งติววิชากับหลิวแทน   

เอจึงขยับมานั่งชิดผมแทน พร้อมกระซิบ  “ช่วยบอกให้บอดี้การ์ดพ่อง  เลิกโทรหากูที”

“ทำไมล่ะ พี่เขาคงอยากเคลียร์”

“ไม่”

“แต่ว่า”

“ไม่”

“รับสายก็ยังดี ลูกผู้ชายคุยกันให้รู้เรื่อง”

“กูไปอย่างลูกผู้ชาย แล้ววันนั้นเป็นไงล่ะมึง”

“เออ กูเข้าใจ กูรู้ว่ามึงเสียเซลฟ์”

“กูไม่ได้โกรธอะไรพี่เขา แต่กูกับพี่อำนาจไม่มีอะไรจะเกี่ยวข้องกันอีก ควรอยู่กันให้ห่าง”

“อย่างน้อยก็ขอให้เขาได้ขอโทษไหมวะ แบบวิถีลูกผู้ชาย”

“กูล่ะกลัวชิบหาย ลูกผู้ชายแบบนั้น”

“เขาถามถึงมึงทุกวันเลยว่ะ”

“กูควรภูมิใจไหม”

“เมื่อก่อนมึงชื่นชมพี่เขานักหนา เจอทีไรก็ชมให้กูฟังตลอดว่าเขาเท่ เขาหล่อ เขานิสัยดี”

“นั่นมันก่อนเหตุการณ์วันนั้น  วันโลกาวินาศ”




วิดีโอคอล ในคืน รันทรู

“วันนี้ ผมขอเก็บแรงไว้นะครับคุณนที  แต่ผมให้คุณนทีสำรวจเรือนร่างผมได้  ผมฟิตไหมอาทิตย์นี้”

“ผู้กองดูแน่น เฟิร์มเสมอในสายตาผม  ผมก็ไม่ทำเหมือนกันครับวันนี้ พรุ่งนี้ผมก็มีศึกใหญ่”

“เราทั้งคู่นี่ คิวแทบไม่ว่างเลยนะครับ เกิดมาหล่ออย่างพวกเราต้องทำใจ”

“ผมก็อยากจะจัดสักไฟลท์กับผู้กองอยู่นะ”  ผมเอามือลูบไล้ตัวเอง ยกเว้นหน้ากากที่บดบังผิวหน้า แต่ที่เหลือ มันเปลือยเปล่าล่อนจ้อน  เราทั้งคู่เริ่มชินกับการอยู่หน้ากล้อง เพราะวีดีโอคอลกันบ่อย เรียกว่า สนิทกันระดับหนึ่งก็ว่าได้

“เรามันรุกทั้งคู่ เกรงว่า ที่เป็นแบบตอนนี้มันก็ดีอยู่นะครับ ผมแทะโลมคุณนทีผ่านวีดีโอคอล ก็สนุกอยู่ไม่น้อย คุณนทีเซ็กซี่ และก็น่าฟัดมากครับ”

“ผู้กองก็เร่าร้อน ผมมีอารมณ์กับหุ่นของผู้กองทุกครั้งเลย” แล้วผมก็เลื่อนโทรศัพท์มาทางด้านล่าง ชูแก่นกายให้เขาดู

“ผมเชื่อครับ นทีน้อยไม่เคยโกหกผมเลย  มันน่ารัก น่าคลึงเล่นอยู่ไม่น้อย”

“เราต้องหยุดแล้วแหล่ะ ผมต้องเก็บแรงไว้พรุ่งนี้”

“ผมก็เหมือนกัน ผมตื่นเต้นชะมัดเลยคุณนที  พรุ่งนี้มันเป็นวันอันยิ่งใหญ่ของผม”

“ผมอวยพรให้เราทั้งคู่ครับ”




เวนทูรี่ แกรนด์ ลาดพร้าว ห้องสุพรีม

คุณกรและทีม มาล่วงหน้าก่อนเวลานัดหมายพอประมาณ พวกเขาจัดแสงไฟ และเอาโทรศัพท์ต่อกับขาตั้งกล้องไว้สามตัว มีป้ายแบนเนอร์ถุงยางอนามัย และ เจลหล่อลื่นซึ่งเป็นสปอนเซอร์ ติดไว้ที่หัวเตียง ห้องแสนกว้าง แอร์เย็นเฉียบ  ขวดป๊อบเปอร์วางเรียงกัน มันไม่ใช่ของถูกกฎหมายในประเทศไทยนัก แต่มันจะช่วยให้ฝ่ายที่เป็นรับผ่อนคลายและรับอย่างง่ายดายมากขึ้น  ถุงยางในตะกร้าและเควายเรียงไว้เพื่อประกอบฉาก 
มีเสื้อผ้าที่ถูกจัดเตรียมไว้ทั้งหมด 7 ชุด วางอยู่ที่เตียงนอนคิงไซส์ ผมเดินไปดูใกล้ๆ มันมีวัสดุที่ทำจากยางด้วยในบางชุด

“เป็นของสปอนเซอร์รายใหม่ครับ เนื้อยางทนทาน ไม่ขึ้นราเหมือนหนัง” คุณกรรีบชี้แจง

“แต่ว่าของแขกรับเชิญจะต้องเป็นหนังนะครับ”  ผมก็รีบแจงกลับเช่นกัน

“ครับผมเตรียมไว้แล้ว คุณนทีไม่ต้องกังวล”

“แล้วเราจะไม่มีการพูดชื่อของแต่ละฝ่ายใช่ไหมครับ”

“ไม่มีแน่นอน จะมีแต่คำว่า มึง กับ กู ลอยว่อนในอากาศ  อาจมีคำว่า ไอ้สัตว์ หรือ ไอ้เหี้ยบ้าง ตามสถานการณ์ที่เกิด แต่เราจะคุมให้มันออกมาดูสุภาพ ชวนฝันที่สุดครับ”

“ชวนฝันเลยเหรอ”

“ก็แน่ล่ะสิครับ กลุ่มเราเป็นความใฝ่ฝันอันสูงสุดของใครหลายคน  เรามีมาตรฐานที่ต้องรักษานะครับ”

“ผมก็เชื่อเช่นนั้น”

“แล้วอีกเรื่องหนึ่งคุณนที  ผมทำให้ตามประสงค์ หวังว่า รูปของน้องๆผม ที่ลอยว่อนเน็ตอยู่”

“ไม่ว่าเรื่องนี้ จะออกมาสำเร็จหรือไม่ พี่อำนาจจะรักษาคำพูดครับ เอาไว้เขาจะมายืนยันกับคุณกรด้วยตัวเอง”
กรเอามือไปโอบปลอบใจลูกทีมคนหนึ่ง ซึ่งผมก็เพิ่งเห็นหน้าเขาในรีทวิตอินเทอร์เน็ต น้องคนนี้หน้าตาดี หน้าที่การงานดี เป็นข้าราชการด้วย เชื่อว่า รูปที่หลุดออกมาจากคนที่แฉว่าเขาคือใคร มีผลกระทบกับเขามากเช่นกัน

“ลำพังผม ไม่มีปัญหาครับ ผมน่ะแกร่งพอ  แต่น้องเพิ่งกำลังมีหน้าที่การงานที่ดี ผมอยากให้น้องเขาได้ไปต่อ”

“พี่อำนาจไม่เคยรับปากในสิ่งที่ทำไม่ได้ครับ”




22.30
หลังละครหลังข่าวจบ  เรามีนัดบรรลงสดกันตอน ห้าทุ่มตรง จนป่านนี้ แขกรับเชิญอีกสองคนยังไม่มา หนึ่งในนั้นคือเป้าหมายที่ผมจะต้องพิชิต กับอีกคนที่คุณกรคงเชิญมาร่วมด้วย ผมตื่นเต้นแต่ก็ระงับอารมณ์ไว้  พยายามไม่เดินไปมา ในห้องตอนนี้ มีพี่กรที่จะเป็นตัวหลัก หุ่นเล่าล่ำและแข็งแกร่งมาก เขาลองยกผมขึ้นได้โดยง่าย แล้วก็เอ่ยชวนให้ผมเป็นเมียเขาคืนนี้ ผมรีบกระแอมไอ เขาจึงบอกว่าล้อเล่น แล้วยืนยันว่าจะทำให้สำเร็จตามแผน  ก่อนจะส่งหน้ากากหนังสีดำมาให้ผมครอบศีรษะไว้ มันคลุมหัวผมจนมิดเหลือเพียงดวงตาและปากที่โผล่ออกมาก  คุณกรก็ใส่มันแล้วเช่นกัน

“เราจะให้ผู้ที่กำลังจะมาถึง รู้ตัวจริงของพวกเราไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นแบบน้องตั้ม” คุณกรหันไปทาง ตั้ม หนุ่มที่เพิ่งเป็นข่าวรูปหลุด เขาชิงใส่หน้ากากยางสีดำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้มถอดเสื้อออกเผยให้เห็นหุ่นเจ๋ง มัดกล้ามกำลังดี ตัวบางกว่าคุณกร แต่ผิดพรรณสดใส  อยู่ในกางเกงขาสั้นสีดำทำจากยาง ผิวมันเลื่อมเวลาโดนไฟห้องมันยิ่งวาววับ เป็นชุดใหม่จากสปอนเซอร์
ถัดไป มีคุณอ๋า ที่ใส่เสื้อกั๊กยาง กับกางเกงขาสั้นยางสีดำมันเช่นเดียวกัน คุณอ๋าจะคอยทำหน้าที่ถ่ายวีดีโอผ่านมือถือโดยมีกล้องวีดีโอ อีกสองตัว บันทึกอยู่คนละมุม

บนโต๊ะหัวเตียง มีโต๊ะไม้กลมเตี้ยแต่ดูแข็งแรง มีชายที่ผมไม่รู้จักชื่อ แลดูอายุมากกว่าคนอื่น ผิวสีคล้ำตัวบางกว่าใคร แต่ก็มีมัดกล้ามรูปร่างฟิตปั๋ง ขึ้นไปยืนซ้อมเต้นคล้ายอะโกโก้ชาย เห็นคุณกรว่า เขาจะไม่ยุ่งอะไรกับใครในกิจกรรมบนเตียงยกเว้นเต้นโชว์เป็นแบล็คกราวน์
วันนี้ ทีม Yaris X-5 เป็นทีมชุดไม่ฟูลทีม ขาดไปหนึ่งคนที่จะคอยอยู่บ้านและปั่นทวิตเตอร์ด้วยแอคเคาท์ซึ่งสร้างขึ้นมาอีกประมาณ สิบแอคเคาท์  ความเป็นทีมของยารีสเอ็กซ์ไฟว์ทำเอาผมทึ่ง  อีกอย่าง คุณกรบอกว่า ไม่ควรมีคนอัดแน่นจนเต็มเฟรมไป  เดี๋ยวถึงเวลา เมื่อมีการเริ่มบรรเลงกามกิจ บนเตียงจะเหลือเพียง สองคู่ แล้วกล้องตัดสลับกันไปมา

“ติ๊งต่องงงงงง” เป้าหมายคงเดินทางมาถึงแล้ว ในเวลาเกือบห้าทุ่ม  เขาเตรียมหน้ากากมาเอง คงไม่อยากให้ใครจดจำ ถือว่าเซฟตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่ผมก็ยังจำรูปร่างเขาได้ เพราะเราวีดีโอคอลกันบ่อย รูปร่างสูงโปร่งแต่แน่นไปด้วยมัดกล้าม เอวกิ่วต้นขาแข็งแรงสไตล์นักกีฬา ท่าเดินแสนเท่กับเสียงนุ่มนั้น  “สวัสดีครับ ผม สแปชฮิต ครับ”

“สวัสดีครับคุณสแปลชฮิต ผม..”

“คุณกร ยารีสเอ็กซ์ไฟว์  ผมจำเรือนร่างคุณได้” จิมมี่เอื้อมมือไปลูบที่ต้นแขนของคุณกร ดูเขาจะคลั่งไคล้คุณกรเอามากๆ

“ทางเรามี ไวอากร้า กามากร้า แมลงวันสเปน ผงม้าคึก  เลือกใช้ได้ตามสบายนะครับ”

“ผมไม่ต้องใช้ครับ ยิ่งถ้ากับคุณกร ผมจัดได้ทั้งคืนครับ”

“ปากหวานจังครับ เดี๋ยวได้รู้กัน  แต่ผมจะไม่ได้เป็นของคุณสแปลชฮิต คนเดียวนะครับ แล้วคุณก็ต้องเป็นของคนอื่นด้วย”

“ผมก็พร้อมอยู่ดี”   จิมมี่หันมามองทุกคน ก่อนจะมาสะดุดที่ตัวผม  เขาพิเคราะห์อย่างสงสัย แต่ไม่ได้แสดงอาการอะไร



คุณกรส่งชุดหนังสีดำให้ผู้กองจิมมี่ได้เปลี่ยน  หน้ากากที่เขาใส่มาเองไม่ใช่หน้ากากใหม่ มันดูผ่านการใช้งานมาบ้าง ผมก็คุ้นกับหน้ากากอันนี้ เพราะตอนวีดีโอคอลยังเคยเห็นเขาใส่อันนี้บ้าง เขาถอดเสื้อออกแล้วพับถือไว้ หุ่นเขาดีกว่าทุกวันที่ผมเห็นผ่านมือถือ เขาคงฟิตมาเพื่อคืนนี้  คนในห้องมองเขาตาวาว จิมมี่ดูมีเสน่ห์และเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง เขาเหมือนเพชรเม็ดงามที่คนในห้องพร้อมจะแย่งกันขยี้ให้แหลก   คุณอ๋าเริ่มเดินกล้องถ่ายช่วงเวลาที่จิมมี่ถอดกางเกงออก เหลือแต่กางเกงในสีดำ ทำจากหนังทรงผ้าเตี่ยว คล้ายทาร์ซาน แต่เป็นสีดำ มันเร่าร้อน แล้วก็เปลือยก้น โครตจะน่าปล้ำเลย
ผมสาบานได้ว่า พี่กรน้ำลายไหล ไม่แพ้น้องตั้ม  ทันใดนั้น คนที่ผมไม่ทราบชื่อฟาดเชือดลงมากลางหลังจิมมี่ดังผั๊วะ
จนผู้กองคำรามดัง อ๊าก

เปล่าเลย.. เขาไม่โกรธแม้แต่น้อย เขาส่งเสียงครางทุ้ม แยกเขี้ยวแล้วหันไปมองคนที่เต้นบนโต๊ะอย่างพึงพอใจ
“ใจเย็นกันหน่อย รอก่อน รออีกคนก่อน” คุณกรปราม ก่อนที่ทุกอย่างพร้อมจะปะทุแล้ว


“ติ๊งต่อง” เสียงกริ่งตัวเดียวกันกับเมื่อสักครู่ แต่ให้อารมณ์ที่ต่างกัน ผมระทึกกับสิ่งที่กำลังจะเกิด ใจก็กังวลว่าจะทำมันออกมาไม่ดี  อีกใจนึกก็คิดว่า จะล้มเลิกภารกิจแล้วกลับบ้านดีไหม  แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่จะชนะออกัส  มันเหมือนจะเรียกศรัทธาตัวเองกลับมาต่างหาก  ผมจะทำให้ได้ คำว่า ชายเหนือชาย ที่ออกัสมันปรามาสไว้ วนเวียนในหัวผมมานานเหลือทน ผมต้องลบมันไปจากใจ
ผู้มาใหม่เข้ามาเยือน เขาใส่หน้ากากไหมพรมถักสีเทา กับร่างสูงใหญ่แน่นฟิตเดินเข้ามา ผมและผู้กองจิมมี่หันไปมองอย่างไม่ละสายตา ไม่แน่ใจว่า ผู้กองจิมมี่จะจำเขาได้หรือเปล่า แต่ผมโตมากับเขา ทำไมผมจะจำเขาไม่ได้ ภายใต้หน้ากากนั้นมันคือ พี่อำนาจ

“ยินดีต้อบรับครับคุณ Demon Master” คุณกรกล่าวต้อนรับแล้วส่งชุดสีขาวให้พี่อำนาจไปเปลี่ยน เขาหันมาหลิ่วตาให้ผมผ่านหมวกไหมพรมที่คลุมหัวอยู่ เหมือนคนงานพม่าเลยไอ้พี่  แล้วนี่เข้ามาได้อย่างไร แต่เอาเป็นว่า ผมอุ่นใจถึงขีดสุด ขอบคุณนะพี่ที่ทำให้ผมขนาดนี้  ผมจะประเคนไอ้เอใส่พานให้เลย คอยดู

พี่อำนาจหันหลังให้ทุกคน ถอดหมวกไหมพรมออก แล้วใส่หมวกคลุมหัวที่ทำจากยางสีขาว วาววับ แล้วเขาก็หันกลับมา ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกอย่างไม่อาย แถมแก่นกายของเขามันก็โตงามน่ามองกว่าของคนอื่น เขาคว้ากางเกงในทำจากยางสีขาว มีขนนกฟูเย็บติดกับขอบกางเกงใน จะบอกว่าดูน่ารักก็พูดไม่เต็มปาก  แต่เนื้อยางมันแนบกับลำตัวเข้าทุกซอกมุม จนเห็นเป็นลำท่อนชัดเจน เอาเป็นว่า เราเป็นสามคนแขกรับเชิญดาวเด่นที่คุณกรและทีมงานพึงพอใจถึงขีดสุด เพราะตอนนี้บรรยากาศมันคล้ายลาวาที่รอการประทุ

“เลดี้ แอนด์ เลดี้  ขอเชิญนางร้ายทั้งหลายที่เตรียมนอนทำร้ายตัวเองบนหน้าจอมือถือ  วันนี้ ของดี ของพรีเมี่ยมทั้งสาม จะมาทำให้ท่านน้ำลายหก น้ำหูน้ำตาไหลด้วยความเสียดายที่ไม่ได้มาร่วมวง น้ำอะไรในร่างกาย มันจะไหลออกมา ก็ให้มันไหลไป เพราะวันนี้ นาทีนี้ พิธีกรรมของชาว ยารีสเอ็กซ์ไฟว์ มันกำลังจะเริ่มขึ้น กระตุ้นต่อมหรรษา เย้ยราคะในกมลสันดานของพวกท่าน กดหัวใจ กดรีทวิตกันรัวๆ แล้วสุมหัวกันเข้ามา ทิชชู่หนึ่งม้วน คงไม่เพียงพอ จะรีรอไปใย สักครู่เดียว หลังผู้สนับสนุนใจดี”  พี่อ๋าร่ายยาว แต่น้ำเสียงเขานุ่ม ชวนฝันเลยว่ะ  เขาถ่ายกล้องแบบ ดอลลี่ แพนมือถือที่ถ่ายทอดสดตาม ถุงยางที่แก้ออกมาเรียงบนโต๊ะใกล้เตียง ซูมให้เห็นยี่ห้อชัดเจน แล้วก็ไล่ไปทางป้ายสปอนเซอร์

พี่อำนาจเดินมาทางผม จับคางผมเชิดขึ้น หอมแก้มลงมาตรงใต้ดวงตา เพราะมันเป็นเนื้อกว้างส่วนเดียวที่โผล่พ้นหน้ากาก  แล้วก็เดินไปทางผู้กองจิมมี่ คว้ามือของผู้กองมาลูบไล้ที่กล้ามท้องของตัวเอง  ก่อนจะเดินไปรอที่เตียง
น้องตั้มที่มองพี่อำนาจไม่วางสายตา ก็ตามไปประกบ คล้ายกับกลัวใครจะมาชิงพี่อำนาจไป  คุณกรเดินไปที่เตียงโดยมีผู้กองเดินตามไป  ปล่อยให้ผมยืนอยู่ปลายเตียงคนเดียว  นักเต้นบนโต๊ะเตี้ยเริ่มส่ายสะโพกโยกย้าย  คุณอ๋าหรี่ไฟเล็กน้อย แล้วเดินกล้อง มีเสียงดนตรีจังหวะเร้าใจคลอมา  “สวยมาก  เป็นเฟรมที่สวยเหลือเชื่อ”

จิมมี่ที่ตอนแรก ดูจะมองคุณกรอย่างเทิดทูน แต่พอพี่อำนาจเดินเข้ามา เหมือนความสนใจเขาจะถูกแบ่งเป็นสองทาง กระนั้นเขาก็ยังโฟกัสที่คุณกรต่อไป  พอคุณอ๋าเริ่มถ่ายทอดสดผ่านไลฟ์  ผมก็เดินขึ้นมานอนตรงกลาง ระหว่างคู่นักรบ

“ 3..  4 Action !!”  สิ้นเสียงคุณอ๋า  ผู้กองก็จู่โจมคุณกร โรมรันพันตูกันไม่หยุด เขาแลกจูบกันอย่างเผ็ดร้อน นอนเองกันลงมาข้างตัวผม  คุณกรที่นอนทับผู้กองอยู่ด้านบน เอื้อมตัวลงมาดูดปากกับผมที่นอนอยู่ สลับกลับไปแลกลิ้นของผู้กองต่อ ผมหันไปทางพี่อำนาจ ที่ยืนอยู่ข้างเตียง แต่ยกเท้าซ้ายวางที่ฟูก  ทำให้เป้ากางเกงในสีขาวของเขามาลอยอยู่ตรงหน้าของน้องตั้ม ที่กำลังลงลิ้นที่กล้ามท้องของพี่อำนาจอย่างหื่นกระหาย  น้องตั้มพยายามไล่ลิ้นขึ้นไป หอมแก้มแล้วพยายามจูบ แต่พี่อำนาจก็ยังคงเป็นพี่อำนาจ ไม่ได้จูบตอบ พลิกหน้าหนี ปล่อยให้น้องตั้มจัดการกับรูปร่างที่แน่นฟิตของเขาต่อไป  น้องตั้มถอดกางเกงในสีขาวนั้นออกก่อนจะถอดของตัวเองตามไปด้วย ทุกคนชูชันกันพร้อมจะระเบิดศึก
 
น้องตั้มหันหลังให้พี่อำนาจแล้วก้มลงมาใช้ปากกับของผม  ผมก็ไม่ว่างเพราะกำลังแลกลิ้นกับคุณกร ก่อนจะสลับกับการจูบกับผู้กอง  ทันทีที่ผู้กองจูบกับผม ผมว่าเขาจำผมได้แล้ว เพราะรสจูบคนเรามันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน เขาส่งยิ้มแล้วก็ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เหมือนคนที่มีความสุขจนแทบทะลัก 
คุณกรโลมเลียผู้กองไปแทบทั้งตัว แล้วเอาผ้ามามัดข้อมือของผู้กองไปคล้องกับเสาที่หัวเตียง ถอดกางเกงผู้กองออก หุ่นของผู้กองเป็นที่น่าปรารถนา คุณกรขึ้นมานั่งแล้วก็คว้าเทียนมาจุดไฟ ค่อยๆ รนน้ำตาเทียนหยดใส่ ผู้กองโหยหวนออกมา 

ผมหันไปทางพี่อำนาจ เขาเอามือบี้ไปที่หัวนมของตัวเอง มองขึ้นเพดาน เพราะน้องตั้มกำลังจัดการกับท่อนแกร่งของพี่อำนาจอย่างแทบไม่มีเวลาหายใจ  น้องตั้มดูหื่นกระหายกับพี่อำนาจมาก ผมเห็นเขาเอื้อมปากไปเลียเม็ดเหงื่อที่ซึมตามสะโพกของพี่อำนาจแทบทุกหยดหยาด แล้วในที่สุด เกมก็ถูกหยุดกะทันหัน

“เบรกให้ซีนสปอนเซอร์กันก่อนนะครับ”  คุณกรที่ยืนขึ้นบนเตียง ส่งถุงยางอนามัยยี่ห้อ มิโดริ ให้แก่ทุกคนสวมใส่
ผมฉีกถุงยางออกมาเป็นสีเขียวเข้ม ถุงยางรุ่นใหม่จากญี่ปุ่น เหนียวทนไม่ขาดง่ายยืดหยุ่นสูง มิโดริที่แปลว่าสีเขียว แต่ทันทีที่ทุกคนบนเตียงสวมเข้าตรงแก่นกายของตนเองแล้วรูดถุงยางไปจนสุดโดน เนื้อยางจะสีบางลงคล้ายสีของใบเตย มันก็ดูน่ากินอยู่ โดยเฉพาะของพี่กร เขาใส่ได้ขึ้นกล้องมาก
ทุกคน นั่งคุกเข่าบนเตียง ยกเว้น พี่อำนาจ ที่ต้องยืนตรงขอบเตียงเพราะเตียงกว้างไม่พอ  เราปั่นน้องชายให้แข็งกัน แล้วทำมินิฮาร์ทส่งให้พี่อ๋าถ่ายรูป  คุณพี่อ๋าถ่ายทั้งมุมกว้าง และตัดภาพซูม โคลสอัพไปยังถุงยางที่สวมใส่อยู่ มุมซ้าย มุมขวา จากด้านบนแบบเบิร์ดอายส์วิว  หรือ มองจากพื้นสวนขึ้นมา  หน้าตาพี่อำนาจรำคาญมาก แต่เขาก็ยังอยู่ตรงนี้เพื่อเป็นเพื่อนผม ซึ้งจังเลยว่ะ

เมื่อทุกคนกำลังจะกลับมาไลฟ์ต่อ ก็ปรากฎว่า ยอดรีวิตมันโด่งนำรายการละครหลังข่าว ไปเรียบร้อยแล้ว คุณกรกับน้องตั้ม คว้ายาไวอากร้าไปกินคนละเม็ดก่อนเริ่มองค์สอง บนเตียงเหลือเพียงพี่อำนาจเอนตัวนอนรอบนเตียงในฟากซ้าย กับผู้กองที่นอนคว่ำหันมามองตากับพี่อำนาจในฟากขวา  ผู้กองมองพี่อำนาจอยู่อย่างนั้น เขามองตากันนานจนผมกลัวว่า จิมมี่จะจำพี่อำนาจได้  แล้วจิมมี่ก็เอามือไปคลึงตรงต้นแขนที่อำนาจ ไล้มายังหน้าอก ลงไปที่ถุงยางมิโดริซึ่งถูกสวมไว้ ผู้กองกำมันไว้แน่น แล้วเขาก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงสะใจ

“ 3.. 4.. Action!” คุณอ๋าสั่งอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนใส่กันไม่ยั้ง  พี่อำนาจถล่มน้องตั้มจนคนโดนยิ้มร่า พี่อำนาจเขารุนแรง ดุเดือด แต่สายตามองมายังผู้กอง  ในขณะที่ผู้กองก็สวมตัวเข้าหาคุณกรจากด้านหลัง แล้วก็บรรเลงเกมรุนแรง สายตาของจิมมี่ก็หันกลับมามองพี่อำนาจอยู่ตลอด สลับกับการก้มลงไปไซร้หลังคอของคุณกร จิมมี่ดูมีความสุขมาก แล้วก็ส่งเสียงครางดังเป็นระยะ  ผมที่แทบไม่ได้ทำอะไรเลยได้แต่รอเวลา  เวลาที่ผมกำลังจะได้เผด็จศึก..

คุณอ๋าเดินเก็บทุกเฟรม ในทุกมุม ทุกองศา ด้วยความตื่นเต้น เขาพูดออกมาตลอดว่าเป็นงานดี งานเด็ดแบบที่โลกทวิตเตอร์ต้องจดจำ ไม่บ่อยที่คุณกรจะเป็นฝ่ายรับ  ในขณะที่คนซึ่งเต้นบนโต๊ะก็เหมือนกินยาบ้าเข้าไป ส่ายย่อโยกไม่หยุดหย่อน แต่ก็ยืนช่วยตัวเองสลับกันไปจนสำเร็จความใคร่ไปสองครั้งแล้ว  สาบานได้ว่าผมหลบทัน แต่พี่อำนาจ โดนไปเต็มหลังจนหันไปทำตาดุใส่

พี่อำนาจทนและอึดมาก แถมลงทุกขบวนท่า แต่ไม่จูบปาก เขาทำให้น้องตั้มดาวรุ่งในทีมต้องร้องขอชีวิต
ผมพยักหน้าส่งสัญญาณ น้องตั้มหลบไปพร้อมเปลี่ยนให้ตั้มถือกล้องไว้ในมือ  พี่คนที่เต้นก็ลงจากโต๊ะเวทีคว้ากล้องวีดีโอมาเตรียมถ่าย  พี่อ๋าเดินไปหรี่เพลง แล้วส่งน้ำให้ทุกคนได้ดื่ม ช่วงพักก่อนจะเข้าสู่องค์ที่ 3

“3.. 4.. Action!”  พี่อำนาจคว้ากุญแจมือแล้วไปคล้องกับมือข้างซ้ายของผู้กองที่นอนหราอยู่ จิมมี่ผู้เพิ่งเสร็จกิจไปสี่ยก คงจะเหนื่อยล้าไม่น้อย แล้วคุณกร ก็เดินเอากุญแจมืออีกอันตวัดคล้องที่มือขวาของผู้กอง
พี่อำนาจร่างเปลือยเปล่าในหน้ากากสีขาว อยู่ด้านซ้าย  กับ พี่กรในหน้ากากสีดำล่อนจ้อนในด้านขวา
ผู้กองที่ถูกล็อคมือทั้งสองข้าง นอนเปลือยเปล่าอยู่ตรงกลาง
ผมเดินขึ้นจากปลายเตียงไปยืนอยู่ที่ปลายเท้าของผู้กอง ผมเอาเท้าเขี่ยให้เขาอ้าขาออก เขาปฏิบัติตามแต่โดยดี
ผมหยดน้ำตาเทียนจากเทียนสีดำลงบนตัวของผู้กอง  เขาครางร้องโหยหวน
ผมรับแส้จากนักเต้น แล้วเริ่มฟาดลงไปที่หน้าอก จากเบาสู่ความแรงที่มากขึ้น ผู้กองจิมมี่กรีดร้อง คำราม น้ำตาเขาไหลพราก แต่เขายิ้มอย่างเป็นสุข  เขาระเบิดเสียงหัวเราะลั่น “แรงกว่านี้ !!  แรงขึ้นอีก!!”
แส้ถูกฟาดลงไปจนเนื้อตัวมีรอยแดง พี่อำนาจค่อยๆ เอื้อมตัวไปยกขาข้างซ้ายของผู้กองชันเข่าขึ้น
คุณกรก็ทำกับขาข้างขวาเช่นเดียวกัน

พี่อ๋าเดินเอา ป๊อบเปอร์ไปให้ผู้กองสูดหนึ่งที แล้วจิมมี่จะถอนหายใจยาวเสียงกระเส่า
“ผมไม่เคย..  ผมไม่เคย”  เขาพรำกับตัวเองอย่างแผ่วเบา แต่ก็หลับตาพริ้ม
คุณกรก้มลงไปดูดปาก แล้วเงยตัวขึ้น เอามือของผู้กองที่ถูกล็อคอยู่นั้น มาจับที่แก่นกายของคุณกร
พี่อำนาจก็เอามือซ้ายของจิมมี่ทำเช่นเดียวกัน ผู้กองมองซ้ายสลับกับขวาแล้วก็ครางแรงขึ้นอีก
ผมคว้าถุงยางมิโดริมาสวม หยดน้ำตาเทียนลงอีกครั้งที่แก้มก้น ซึ่งถูกยกลอยขึ้นมาตามขาที่พี่อำนาจรั้งไว้
แล้วก็เอานิ้วปาดเจลเควาย ค่อยสอดเข้าไปทีละนิ้ว
“อ๊ากกกกกกก”
พี่อำนาจถอดถุงยางของเขาออก แล้วเอามือของผู้กองไปสัมผัสท่อนเนื้อแบบสดร้อน  จิมมี่ดูพึงพอใจถึงขีดสุด
คุณกรก้มลงไปคลึงที่ซอกหูด้วยลิ้นอย่างดุเดือด เสียงครางของจิมมี่ดังขึ้นอีก  เม็ดนมด้านขวาของเขาแข็งเป็นไต
ผมมองไปทางพี่อำนาจ เขาพยักหน้าให้ ผมเจอแล้ว ผมเจอจุดกระสันเขาแล้ว หัวนมเม็ดขวานั่นเอง
วินาทีนั้น ผมรีบก้มลงไปบรรเลงลิ้นที่ปลายของมัน แล้วโจมตีที่ฐานนมด้วยความสะใจ ผู้กองจิมมี่ดิ้นพล่านร้องลั่นด้วยความเสียว เขาโหยหวนราวกับถูกเชือด น้ำตาเขาไหลแต่เขายิ้มสลับหัวเราะออกมา 

คุณอ๋าหรี่ไฟ รอยสักเรืองแสงที่ต้นแขนของพี่อำนาจสว่างเขียวขึ้นชัดเจน จิมมี่หันไปมองรอยสัก น้ำตาไหล คว้าท่อนเนื้อของพี่อำนาจเข้าปากไปกลืนกิน ผมก็ก้มลงไปโจมตีหัวนมขวาต่อ  ขยับนทีน้อยเข้าไปชิดจ่อรอสัญญาณ ก่อนเขาจะคายลำทวนของพี่อำนาจออกมาจากปาก แล้วจิมมี่ก็ระเบิดเสียงร้องดังลั่นห้อง

“อ้ากกกกกก ได้โปรดเถิด  ใส่เข้ามา.. ใส่มันเข้ามา..”
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-05-2018 13:41:36
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 10-05-2018 20:07:06
นั่งทำงานอยู่ ตาสว่างเลยคร้าา.  :ruready
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 10-05-2018 21:20:54
ค้างงง
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-05-2018 00:08:17
 :jul1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 11-05-2018 14:13:37
มันจี้ดดดดด   :z3:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 11-05-2018 22:44:03
เดี๋ยวเราแท็กให้ พีมิราจ อ่านนะ 555+    :katai2-1: :hao7: :really2:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 12-05-2018 13:38:26
ตความดันขึ้นค้าาาา :haun4: :pighaun :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 13-05-2018 23:49:34
 :m31: :m31: :m31:  ขออีกกกกกกก
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 14-05-2018 12:21:25
 :m25: :haun4: :pighaun: :try2:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 14-05-2018 18:23:37
ชอบอ่ะ มันไม่ได่เน้น sex แต่แค่ใช้เรื่องทางเพศเดินเรื่อง  เป็น ดราม่า + คอมเมดี้  ด้วยซ้ำ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 15-05-2018 23:02:15

 :katai4:
 :katai4:
 :katai4:
 ขออีกกกก
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 12 : คุณ.. ผม.. เขา.. เราทั้ง 7 คน ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 16-05-2018 23:54:31
อ่านตอนแรก เหมือนจะอีโรติก แต่แท้จริง มีทั้ง ดราม่า และ คอมเมดี้ ในตัว น่ารักดีค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 18-05-2018 14:29:41
Prep  13 : พอแล้ว..  พอกันที..

ห้องนอนของนที
สายวันรุ่งขึ้นผมนั่งทานครัวซ็องบนเตียงด้วยสภาพอิดโรย ก่อนจะส่งแก้วนมสดกับน้ำส้มคั้นไปให้คนที่นอนเปลือยอยู่ด้านข้าง ซึ่งเพิ่งตื่นมาด้วยอาการเพลียถึงขีดสุด เขารับน้ำส้มไปดื่มแล้วตามด้วยนมในทันที แถมยังคว้าครัวซ็องในมือผมไปกัดกินจนหมด ผมเลยเดินเปลือยไปยกชามข้าวต้มที่แม่บ้านทำขึ้นมาให้ มาตั้งที่ข้างเตียงให้เขาซด
เครื่องปรับอากาศถูกลดอุณหภูมิมาที่ 23 องศาเซลเซียส ผมเคยเห็นโฆษณาว่ามันเหมาะกับภาวะที่กำลังใช้ความคิด
ได้นั่งดูเขาจัดการกับอาหารอย่างอร่อย สำรวจเรือนร่างในร่มผ้า ส่วนที่ไม่โดนแดด ผิวพรรณเขาเนียนแทบไม่มีขน แต่ส่วนที่มันถูกแสงอาทิตย์เผา มันก็เป็นผิวคล้ำแบบที่พระเอกหนังเอ็กซ์ญี่ปุ่นเขามีกัน

“ผมยังไม่อิ่มเลย”

“กินขนาดนี้ ผู้กองเอาไปไว้ไหนหมด”  ผมเอื้อมมือไปหยิกพุงที่ไม่ยอมป่องสักทีของเขา

“ก็จะกลับกันก็กี่โมงเข้าไปแล้วล่ะ  ตีห้าหกสิบนะ ได้ข่าว”

“ใครใช้ให้ผู้กองช่างร้อนแรง” ผมเอื้อมตัวไปหอมที่ซอกคอเขา  ผมที่ไม่ได้ใส่น้ำมันหรือเจล ปรกลงมาที่หน้าผาก เขาดูหล่อใสแบบคนซื่อๆคนหนึ่ง  ยิ่งน้ำเสียงออดอ้อนแบบเด็ก  นี่มันใช่ผู้กองคนเดียวกับคนที่อยู่ภายใต้หน้ากากหนังสีดำเหรอวะ

“อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนมีความสุข”

“ผมฟังเสียงผู้กองผมก็รู้ว่าผู้กองมีความสุข  ขอบคุณนะครับ”

“ขอบคุณคุณนทีด้วย สำหรับแผนการทั้งหมดนี้”

“เอ๋??” เขาได้พกปืนมาหรือเปล่าวะ เสียวเว้ย

“ผมเป็นตำรวจนะคุณนที แถมเป็นตำรวจที่เก่งมากด้วย”

“แล้วทำไม..”

“ยอม น่ะเหรอครับ  คุณต้องเป็นผมในเมื่อคืนนี้  ซ้ายก็คนที่ผมฝันถึงตั้งแต่เด็กจนโต  ขวาก็คนที่ผมใฝ่หาทุกลมหายใจ ทุกอย่างมันพาไป  น้ำตาเทียนที่ร้อนฉ่า กับเสียงฟาดแส้อันเร้าใจ ลำพังคุณนทีน่ะเหรอ ไม่ได้แอ้มผมหรอก”

“ผมขอโทษ ผมมีเหตุจำเป็น”

“เกี่ยวอะไรกับ ออกัส หรือเปล่า  ถ้าใช่บอกได้เลยว่า ที่คุณทำไป มันเปล่าประโยชน์”



ห้างสรรพสินค้า
ผมพาผู้กองมาเดินที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เขาใส่เสื้อผ้าของผมได้พอดีเลย ผมเอาเสื้อสีเทามีฮูททรงเข้ารูป กับกางเกงยีนส์สีดำ  รองเท้าบูทเขาใช้คู่เดิมของเขา  เรามานั่งทางชาบูกัน เขากินจุมาก นี่ก็ยังกินไม่หยุดเลย

“มีเซ็กซ์ยกหนึ่ง มันใช้กี่ แคลลอรี่ ครับผู้กอง” ผมแซวเขา

“เคยมีผลวิจัยว่า ช่วยตัวเองหนึ่งครั้งเท่ากับวิ่ง 300 เมตร”

“ผมนี่วิ่งรอบโลกมาแล้วสินะ”

“ฮ่าๆๆๆ  ส่วนมีเซ็กซ์ มันมากกว่านั้น ท่าพื้นฐาน ท่าอุ้มแตง กวางเหลียวหลัง หนุมานถวายเบิร์น  แต่ละท่วงท่ามันเผาพลังงานสานต่างกันไป”

“ผู้กองของผมก็เลย ผอมสแลนเดอร์ เอวนี่กิ่วเชียว”

“คุณนี่มันทะลึ่งตึงตังจริงๆ ทำไม ไอ้กัสมันทิ้งไปล่ะนี่”

“เบรกผมหัวทิ่มเลย”

“ผมกับกัสไม่ได้จริงจังอะไรกัน  เขาแค่เติมเต็มความ S&M ของผม”

“กัสไม่น่าเป็นคนที่ชอบความเจ็บปวด เขาเนี่ยนะจะเป็น มาโซคิสม์”

“ใครบอกว่ากัสเป็นฝ่าย M กันล่ะ”

“ห๋า”

“ไม่จะเป็นว่า M ต้องเป็นฝ่ายรับนะครับ รุกที่ชอบความเจ็บปวดก็มี”

“โหว ผมนี่มีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย  ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

“ฮ่าๆๆ ผมชอบคุณนะ คุณนทีตลก  เราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้”

“แต่จะไม่ยอมมีอะไรกับผมแล้วใช่ไหม”

“คงไม่แล้วครับ วีดีโอคอล คือเส้นสุดขอบของคู่เราแล้วล่ะครับ”

“เสียใจจัง” ผมทำปากจู๋แบบที่น้องกันต์ทำบ้าง เผื่อมันจะดูน่ารัก

“ผมมีเรื่องขอร้องอย่างหนึ่งสิ  แลกกับ รูปที่คุณได้ถ่ายเมื่อคืน ถ้าคุณทำให้ผม ผมก็จะยินดีให้คุณเอาไปใช้แก้แค้นไอ้กัส”




ผมขับรถมาส่งผู้กองที่ชานเมือง บ้านหลังนี้ที่เต็มไปด้วยต้นไม้กับความอบอุ่นเหมือนผู้เป็นเจ้าของ ผมพาเขาเข้าประตูรั้วซึ่งไม่ได้ปิด เดินเข้าประตูบ้านไปเพราะว่าเป็นสถานที่อันแสนคุ้นเคย เจ้าของบ้านไม่ได้เดินออกมาต้อนรับแต่ว่าได้เตรียมกับแกล้มกับเครื่องดื่มเอาไว้รอ หลังจากที่ผมไลน์ไปบอกล่วงหน้า  ผู้กองดูตื่นเต้นพอประมาณ  เขาในมุมที่ไม่ได้เก๊กท่า ก็ดูน่ารักน่าหลงอยู่เหมือนกันนะ ถ้าเขาเป็นแบบนี้บ่อย สงสัยผมจะตกบ่วงเสน่ห์เขาอีกคนเป็นแน่
ที่โต๊ะกินข้าวไม้โอ๊ค เจ้าของบ้านเขาทำเองด้วยนะ เพราะเขาจะอวดอ้างทุกทีที่ใครเดินเข้ามา แต่วันนี้ก็เงียบอยู่จนผมต้องเอ่ยให้ผู้กองฟังแทน

“โต๊ะตัวนี้ พี่อำนาจทำเองเลยนะครับ”

“เจ๋งอ่ะ คงเก่งยังไงก็เก่งอย่างนั้น”

“คงสู้นายตำรวจอนาคตไกลไม่ได้หรอกครับ ผมมันก็แค่ การ์ดนักธุรกิจคนหนึ่ง”

“อย่าเฉยชาสิเพื่อน”

“ก็กำลังพยายามอยู่” พี่อำนาจก็เขินเป็นเหมือนกันว่ะเฮ้ย

“จิมของโทษนะ ที่เคยพูดความในใจออกไป ไม่คิดว่า มันจะทำให้นายรับไม่ได้”

“ไม่ใช่รับไม่ได้ แต่มันตกใจว่ะ  เพื่อนเที่ยวด้วยกัน พอมาบอกว่าชอบ มันก็เหมือนวางตัวไม่ถูก”

“มันผ่านไปแล้ว เส้นทางของพวกเรามันคนละทางไปแล้ว จิมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับนาจแล้วนะครับ”

“อืม.. รู้”

“แต่เมื่อคืนนี่ เต็มปากเลยนะผู้กอง”  ผมแซวแรง เพื่อให้บรรยากาศมันดีขึ้น

“ฮ่าๆๆๆ  ถ้าไม่ใช่เมื่อคืน มันก็คงไม่มีโอกาสแล้วล่ะครับ อะไรคว้าได้ ก็ต้องคว้า”

“ผมไม่ได้คิดอะไรกับจิมในแง่นั้น แต่ไม่เคยรังเกียจ และก็เสียใจที่แสดงท่าทีออกไปจนจิมต้องย้ายกลุ่มออกไป”

“มันก็ทำจิมแกร่งขึ้นนะ อกหักเนี่ย”

“ผมไม่มีค่าคู่ควรอะไรให้จิมคิดมากอยู่แล้ว ดูตอนนี้สิ ใครๆก็อยากจะครอบครองผู้กอง เห็นไหม”

“งั้นก็ เป็นเพื่อนกันนะ  ผมไม่ชอบคุยกับพวกซื่อบื้อ ยังนึกถึงช่วงเวลาที่เราแข่งกันทำคะแนนสอบ”

“สู้กับใครก็ไม่มันเท่าสู้กับจิม ผมยอมรับ”

“งั้นวันนี้ ขอเมาให้เต็มที่เลยนะ”

ผมจึงทิ้งให้เพื่อนเก่าสองคน ได้ใช้เวลาด้วยกัน  ก่อนจะขอตัวขับรถออกมา บางทีปมในใจมันไม่ได้มีไว้ให้ทิ้งไป มันอาจทำให้เราแกร่งขึ้นได้ หรือหม่นหมอง ก็ต้องอยู่ที่คนนั้นจะมองมันเป็นแบบไหน  ถ้าตัดเรื่องรสนิยมบนเตียงที่แปลกจากสังคม ดูผู้กองทุกวันนี้สิ เขาช่างเป็นที่ต้องการ  เขาเติบโตจนเขาแข็งแรงกว่าใครแม้ในใจจะผุกร่อน กระนั้นการที่ผมพาเขามาลบปมในใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าความกล้าที่จะพาตัวเองไปสู่เป้าหมายของเขาจางหายไปเลย แต่เขาดันได้มิตรภาพที่เขาโหยหากลับมาอีกครั้ง

ผมใช้โทรศัพท์เครื่องเดิม ที่ส่งภาพลับของผมกับกันต์ในคราวก่อน  แต่วันนี้ มันต้องทำให้ปลายสายกรีดร้องแน่
มีทั้งคลิปและภาพ แม้จะใส่หน้ากากหนัง แต่รอยสักรูปเสือโคร่งเรืองแสงเป็นสีเขียวตรงต้นขาขวาของผู้กองจิมมี่ มันแจ่มชัดในกรอบเฟรม
ผมผู้ซึ่งใส่เขาไม่ยั้งด้วยความกระหายในชัยชนะ หันมาหลิ่วตาใส่กล้อง เพราะรู้ว่า ออกัสกำลังจะอกแตกตาย


========================================================================

รายงานลับ ภาคพื้นดิน ภารกิจพิเศษ
นายอนุสรณ์ บวรธุรการ [ ออกัส ]
      Title    : ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเชิงชู้สาว
      Results    : มีความสัมพันธ์แบบเปิด ไม่ผูกพัน กับบุรุษ 3 คน
            คนที่ 3  : ชื่อ ต้น [ ขอสงวนนามจริง ] *** นายน้อยไม่ควรรู้ครับ
            อาชีพ   : นักธุรกิจ
========================================================================

ไม่มีรายงาน ไม่มีรูปพรรณสันฐาน ไม่มีแม้แต่ชื่อจริงมาให้  เข้าใจว่าพี่อำนาจคงเหนื่อยกับการเตรียมการรับมือผู้กองจิมมี่ แต่แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว  แถมมีโน้ตมาให้เจ็บใจเล่นว่า  “งานนี้ผมขอไม่ยุ่ง”
หรือภารกิจสุดท้ายมันจะอันตราย  ใครคือ ไอ้ต้น แล้วมันสำคัญอย่างไร ทำไมพี่อำนาจไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ
ผมเองก็ไม่ถึงกับอารมณ์เสีย เพราะเมื่อย้อนไปดูสิ่งที่ผ่านมา ถือว่ามาไกลจากจุดหมายเยอะมาก แถมออกัสเริ่มจะไม่มีผลต่อจิตใจผมอีกแล้ว ถ้าไม่ได้ปฏิบัติภารกิจสุดท้าย ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นตราบาปติดตัวผมไปจนวันตายนี่นา


โรงอาหารกลาง มหาวิทยาลัยของผม

“น้ำ เดี๋ยวหลิวกับตูนไปฝึกงาน ไม่มีใครช่วยเรื่องเรียนแล้วนะ  เอ ก็เหมือนกัน อย่าพาน้ำเที่ยวมากสิ เดี๋ยวจะเรียนเสีย”

“ทำไม พีอาร์ ฝึกงานเร็วจังเลยล่ะ” ผมถามหลิว

“เพราะพีอาร์คนเรียนเยอะ ที่ฝึกงานไม่พอน่ะเอ  นี่ตูนกับหลิวได้ฝึกก่อน แล้วพอปีหน้าก็เป็นคิวของกลุ่มสอง”

“นี่กูต้องขยันเรียนแล้วสินะไอ้น้ำ”  เอแทรกเสียงขึ้นมา พร้อมหันมาถามความเห็นผม

“เออ!!”

พอหลิวกับตูน ขึ้นไปเรียนก่อน ผมกับเอที่ไม่มีคาบเรียนบ่าย คงนั่งกันอยู่ที่โรงอาหารกลาง เพราะแอร์เย็นฉ่ำจนไม่อยากจะออกไปไหน

“มึงเล่าเรื่องเมื่อวานมา ไอ้น้ำ”

“หมายถึง วันกับกลุ่ม Yaris X-5 เหรอ”

“ไม่ กูไม่ได้หมายถึงวันนั้น  กูหมายถึงเมื่อวาน  ไอ้พี่อำนาจส่งข้อความมาบอกว่า ผู้กองขอนอนที่บ้าน มึงปล่อยไว้ได้ยังไง”

“ก็เขาเพื่อนกันเปล่าวะ”

“เพื่อนกันเขาไม่คว้าของเพื่อนเข้าปากหรอก ไอ้ชิบหาย”

“บรรยากาศมันพาไปเว้ย อ้าว มึงก็ดูหรอ  กูเป็นไงเด็ดไหม”

“เด็ดห่าอะไร ยืนเก้ๆ กังๆ อย่างกับเด็กหัดตั้งไข่  พี่อำนาจนี่โครตน่ากลัวเลย สงสารคู่ซ้อม คงพรุน ดีนะวันนั้นกูรอด”

“เขาไม่ทำกับมึงแบบในนั้นหรอก เขาคงถนอมมึงจะตาย” ผมเอามือไปหยิกแก้มเอเป็นการหยอก

“สัส  ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง แล้วนี่เขาคบกับผู้กองเหรอ ไปนอนค้างกันด้วย”

“หึงเหรอ”

“เปล่า”  เสียงหอนแผ่วเหมือนลุลา เลยมึง

“เขาเพื่อนกัน เอาจริงๆ  เพื่อนกัน มันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

“แต่มันเคยเกิดขึ้นน่ะ”

“ก็เหมือนกูกับมึงนี่แหล่ะ บางที บรรยากาศก็พาไปเปล่าวะ  กูเห็นมึงเพอร์ฟอร์ม บางทีก็มีอารมณ์นะเว้ย  มึงอย่าบอกว่ามึงก็ไม่ได้แอบมองกูบ่อยๆ กูเห็นนะ มึงมองเวลากูถอดเสื้อ หรรมมึงก็ตื่นตัว”

“ก็ซอกคอมึงขาว ไอ้สัส”

“เห็นม๊ะ  มันเกิดขึ้นได้แล้วมันก็เป็นเรื่องปกติ สติคือสิ่งที่ค้ำชูให้เพื่อนยังคงเป็นเพื่อน  แค่เพื่อนเรามีเสน่ห์หรือเซ็กซี่ ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องถูกขวางออกจากชีวิตของกันและกัน กูเชื่อในพี่อำนาจ ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก มึงก็ต้องศรัทธาในตัวเขา”

“อืม”

“นี่หลงรักไอ้พี่มันไปแล้วใช่ไหม”

“เปล่า”

“นี่กูเอง เพื่อน อย่าตอแหลใส่”

“กูก็แค่..  คิดว่า เรื่องมันจะเป็นยังไง ถ้าคืนนั้น เขาใส่มันเข้ามา”

“เดี๋ยวกูทำให้เองไหมวะ นี่พูดก็คึกแล้วเนี่ย”

“สัส..  กูไม่อยากให้ใครมานอนทับตัวกูทั้งนั้น..  ก็แค่พี่เขาเสือกเป็นคนแรก”



สุขุมวิท 24
ผมนัดน้องกันต์มาทานอาหารญี่ปุ่น ตามสัญญาคือเราจะเป็นเพื่อนกัน ไม่มีอะไรกันอีกแล้วในแง่ชู้สาว ผมก็โอเคนะ

“น่ารักไหมครับ พวกกุญแจพิน็อกคิโอ” กันต์ชี้มาที่พวงกุญแจ ซึ่งผมก็คล้องใส่กับกุญแจรถ แล้ววางบนโต๊ะให้เขาเห็นเป็นการเอาใจ

“น่ารักสิครับ หยิบจับทีไรก็คิดถึงน้องกันต์”

“ถ้าโกหก จมูกจะยาวขึ้น”  กันต์เอามือชี้ที่จมูกของผม

“แล้วถ้าทำความดี มันจะหดลงไหม”

“อันนี้ ต้องถามหมอเกาหลีครับ ฮ่าๆๆ”  รอยยิ้มและเสียงหัวเราะแสนน่ารักแบบนี้แหล่ะ ที่ผมคิดถึง

กันต์เล่าให้ฟังถึงการสอบสัมภาษณ์ ดูท่าแล้วเขาไม่น่าจะได้เป็นสจ๊วตหรอก แล้วถ้าหลุดรอบนี้ อายุเขาก็คงจะมากเกินกว่าจะไปอยู่บนฟ้าแล้ว คล้ายน้ำเสียงจะมีความท้อแทรกอยู่ในที  แต่เขาก็มีแผนสอง คือถ้าไม่ได้ขึ้นมาเขาก็อาจจะทนอยู่เก็บเงินไปอีกพัก แล้วไปหุ้นกันทำบริษัททัวร์เล็กๆ น่าจะสนุกดีกว่าอยู่ในงานที่ใจไม่รัก
เราสั่งบิงซูชาเขียวถั่วแดงมา แย่งกันกินอย่างสนุก ก่อนจะมีกล่องทิชชู่ของโต๊ะอื่น ถูกหยิบมาปาใส่บิงซูจะกระจายเต็มโต๊ะ แถมกระเด็นมาเปื้อนผมกับกันต์จนเลอะ เราเหลือบไปมองผู้ประทุษร้ายซึ่งกำลังยืนดูด้วยความโมโห กำหมัดแน่นเดินมาที่ข้างโต๊ะ สีหน้าบ่งบอกว่าเขาโมโหถึงขีดสุด..   ออกัส

“ทำไปเยอะนะหน้า เกือบจะจำไม่ได้ แต่สันดานเอาชนะ ยังเหมือนเดิม”  ออกัสพูดใส่ผม

“รู้จักกันเหรอครับ” เด็กน้อยกันต์ทำหน้าเหรอหรา หันซ้ายขวาและดูตกใจ

“มันก็คือแฟนเก่าที่กูทิ้งมันมาหามึงไงไอ้กันต์  อย่านึกว่ามันจะพิศวาสมึงเข้าล่ะ มันแค่จะแก้แค้นกูชัดๆ”

“พี่นที..”  กันต์เหมือนทำหน้าจะร้องไห้ ที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่คนมองทั้งร้าน

“มันล่ามึงจนได้ตัวมึงเสร็จ มันก็ไปล่าผู้กองของกูต่อ แล้วก็ส่งคลิปมาเย้ยกูไง”

“พี่นทีครับ” กันต์มองมาที่ผม เค้นเอาความจริง ผมพูดไม่ออกเลย หน้าตาเขาน่าสงสารมาก

“เราจำใฝฝ้าเธอได้หมด ให้ไปผ่าหน้า ดูดไขมัน หมดเป็นล้าน แต่สันดานเลว จ้องจะเอาชนะ หมอเกาหลีก็ทำให้เธอไม่ได้หรอกนะน้ำ”

“น้ำ.. น้ำแฟนเก่ามึงน่ะเหรอ กัส” น้องกันต์เสียงสั่นเครือ

“เออ.. แหกตาดูมันซะ นี่แหล่ะไอ้น้ำ  ไอ้จอมอาฆาตแค้น ไอ้คนที่มันจ้องจะเล่นงานกูอยู่ทุกวินาที” แล้วออกัส ก็ปาของใส่ที่โต๊ะอีกรอบเสียงดังปัง จนผู้จัดการร้านต้องให้พนักงานชายมาลากเจ้าตัวออกไป  เขายังส่งเสียงสาปส่งไม่หยุด  กันต์มีน้ำตาไหลลงบนหน้า หยิบกระเป๋าของเขา ยืนขึ้นแล้วก็ชี้มาที่ตุ๊กตาพิน็อกคิโอ  แล้วก็เอื้อมมาแตะจมูกผม เขาร้องไห้สะอื้น น่าสงสาร ผมอยากจะกอดปลอบใจเขาเหลือเกิน อยากอธิบายว่า ผมไม่เคยคิดร้ายกับเขา และกันต์ก็เป็นของขวัญแสนวิเศษที่ผมได้สัมผัสจากภารกิจเลวร้ายอะไรนั้น   เขายกมือไหว้ลา.. ตามแบบฉบับเด็กมารยาทดี  แล้วก็เดินจากไป
ผมหยิบวัตถุสีดำที่ถูกปาลงมาเมื่อสักครู่ขึ้นมาดู  เป็นกล้องที่ผมติดไว้ในคอนโดที่ออกัสขอพักอาศัยอยู่  ผมถอนหายใจ แล้วก็เรียกให้พนักงานเช็คบิล ผมเองก็มีมารยาทพอที่จะเอ่ยให้ร้านคิดค่าเสียหายถ้ามีอะไรมันถูกทำลายไปจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่  แต่สิ่งหนึ่งที่ผมหวังจะเยียวยา คือความรู้สึกของน้องกันต์ผู้น่าสงสาร


หลิวให้บัตรคอนเสิร์ตแถวหน้า ของ Beyonce’ Live in Bangkok World Tour มา เนื่องจากเธอกับตูนกำลังวิ่งวุ่นกับการเตรียมตัวฝึกงาน แล้วก็ไม่อยากให้พี่ไผ่ไปดูคอนเสิร์ตคนเดียว  ผมก็รับปากตกลงเพราะว่าอยากจะเคลียร์เรื่องที่เกิดเมื่อตอนไปกาญจนบุรีด้วย  เราแทบไม่ได้คุยกันตั้งแต่หลังกลับมา ซึ่งก่อนหน้านี้เขากับผมมักจะไลน์คุยกันก่อนนอนเสมอ ต่อให้ผมต้อง วีดีโอคอล กับผู้กองจนเสร็จกิจ หรือบอกฝันดีให้น้องกันต์  ผมก็ต้องปิดท้ายด้วยการเขียนไปแซวพี่ไผ่ ไม่อย่างนั้นผมจะนอนไม่หลับ  เขาก็มักจะตอบกลับมาในทันทีเหมือนรอผมอยู่เช่นกัน


เป็นครั้งแรก ที่บียอนเซ่เปิดคอนเสิร์ตด้วยเพลงช้า นักร้องคงรับรู้ถึงความหมองหม่นในใจของผู้ชมแถวหน้าหรือเปล่านะ
สาวผิวสี รูปร่างสุดเจ๋ง ร่ายมนต์เพลง Hallo อยู่บนนั้น ผมกับพี่ไผ่มองหน้ากันด้วยความคิดถึง  เขาเม้มปากอย่างรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่มันพาไป  ผมแค่รอเขาพูดกลับมาอย่างเต็มปากว่าไม่ใช่เพราะเมา ผมรอคำนี้คำเดียว
พอเพลงเร็วเริ่มขึ้น  ผมกับเขาก็พยายามทำตัวสนุก เราพูดกันถึงเรื่องอื่น เช่นแดนเซอร์สาวตัวอ้วนสี่คนที่สะบัดสะโพกจนเอวแทบหลุด หรือจะเป็นนักดนตรีหญิงล้วนบนเวทีที่วาดลวดลายกันเจ๋งแจ๋ว  เครื่องแบบรัดรูปของนักร้องสาวที่วาววับ เสียงร้องทรงพลังจับใจ  แต่หารู้ไม่ว่าตรงหน้าเวทีนักร้องคนโปรดของผม ผมกลับไม่สนุกเท่าไหร่ เมื่อไหร่พี่ไผ่จะพูดถึงมัน

รถแอคคอร์ดสีดำของพี่ไผ่ ขับมาจอดที่หน้าประตูรั้ว ยามเปิดประตูอัตโนมัติ พี่ไผ่ก็ขับเลี้ยวเข้ามาส่งถึงหน้าบ้านของผม เขาไม่ได้เอ่ยคำล่ำลา แค่กดไปที่สวิทช์ประตูเพื่อให้ประตูฝั่งผมคลายล็อค มันช่างเหมือนกันการไล่ไปในที ผมเอื้อมไปคว้ากระเป๋าจากที่นั่งด้านหลัง พอหันกลับมา เขาก็เอื้อมตัวมาจ้องผมอยู่ใกล้ จนหน้าของเราใกล้กัน

“ขอบคุณที่ไปดูเป็นเพื่อนนะครับ”

“ผมอยากใช้เวลากับพี่ไผ่ด้วยแหล่ะครับ”

“ช่วยพูดให้กระจ่าง ให้พี่ไม่ต้องคิดมาก ให้พี่ไม่ต้องอดหลับอดนอนอีกได้ไหม”

“ผมชอบเวลาอยู่กับพี่”  แล้วลมหายใจผมก็หยุดไปในวินาทีนั้นตอนเขาเอื้อมตัวลงมาจูบ




ผมเดินเข้าบ้านที่ปิดไฟเงียบ  มีแค่พ่อนั่งอยู่ที่โซฟา  พ่อมองลอดใต้แว่นมาเห็นผม ก็เลยเดินเข้าไปหา นอนตักพ่อ อ้วนเหมือนว่า การกลับดึกเป็นเรื่องปกติ

“พวกวิปริต”

“พ่อ” ผมลุกขึ้นนั่งสีหน้าตกใจ พ่อไม่เคยพูดอะไรใส่ผมแบบนี้

“ไม่รู้จักธรรมชาติของตัวเอง ฝืนอะไรไม่เข้าเรื่อง”

“ผมขอโทษ แต่ผมก็เป็นของผมแบบนี้ ผมเกิดมาเป็นแบบนี้”

“ไม่ ลูกไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่ลูกทำตัวเองทั้งนั้น”

“แล้วพ่อจะให้ผมทำยังไง  ให้ผมเลิกคุยกับพี่ไผ่เหรอ”

“เกี่ยวอะไรกับลูกไผ่  พ่อไม่ได้หมายถึงเรื่องไผ่”

“อ้าว”

“พ่อหมายถึงแกน่ะ ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาซะบ้าง หน้าหวานแบบนี้ เกิดมาเป็นรับ จะไปทำตัวเป็นรุก ทำไม”

“พ่อ”

“จะฝืนตัวเองให้ผิดธรรมชาติทำไมล่ะลูก สวรรค์ให้ลูกเป็นอะไร ก็ต้องภูมิใจกับมัน พ่อไม่ได้เลี้ยงลูกให้โตมาเป็นคนที่ฝืนทำตัวเป็นนั่นนี่ที่มันไม่ใช่”

“พ่อครับ”

“ไม่ต้องพูดแล้ว ลูกเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเกินไป แล้วต่อไปนี้ ห้ามไปเที่ยวกลางคืน ส่วนอำนาจ ก็จะไม่ได้เข้าใกล้ลูกอีก”
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-05-2018 16:49:24
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 19-05-2018 00:05:40
คุณพ่อเบอร์หนึ่ง..น่ารักที่สุด
น้ำโชคดีมีพ่อที่น่ารักมาก..รักลูกมากมาย

ขอกอดพ่อด้วยคน

พี่ไผ่คือพระเอกของน้องน้ำใช่ไหม
ถ้าใช่จะดีที่สุด

ขอบท nc ของพี่ไผ่กับน้องน้ำด้วยนะ
ห้ามลืม..อิอิ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 21-05-2018 13:04:43
เอ เริ่มอยากเป็นรับ ซะงั้น
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 21-05-2018 13:33:49
พี่ไผ่เป็นพระเอกหรือเปล่า :m28:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 22-05-2018 13:45:12
 :hao3:

เราทายว่าชู้คนที่3คือพี่ไผ่นั้นเองเองเอง
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 22-05-2018 16:28:11
อืมม..น้ำควรหยุด
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 22-05-2018 17:45:51
ตามอ่านต่อ ..
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-05-2018 10:06:09
คุณพ่อโกรธแล้วว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 13 : พอแล้ว.. พอกันที ]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 25-05-2018 19:33:04
หรือจะเป็น ต้นไผ่ ..
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 26-05-2018 13:16:27
Prep 14 :  พักรบ พบความนัย


ผมกับเอ ขับรถไปยังบ้านพี่อำนาจ หลังจากที่พ่อผมได้พักงานพี่เขาไปโดยไม่มีกำหนด  เราปล่อยให้พ่ออารมณ์เย็นลง ค่อยแอบมาหาอดีตการ์ดตัวดี ที่ตอนนี้กลายเป็นคนว่างงานไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
พี่อำนาจอยู่ในเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น กำลังทาแลคเกอร์เคลือบเงาเอ้ากี้ไม้ที่เขาเพิ่งประกอบเสร็จ เขาวางมือจากงานแล้วเดินไปเปิดแอร์ในห้องรับแขกให้ผมกับเพื่อน  เอาน้ำอัดลมมาเสิร์ฟให้พวกผม แล้วขอตัวไปอาบน้ำก่อนจะตามมาสมทบ

“พี่โอเคไหม เดี๋ยวพ่อหายโมโห ก็คงจะเรียกตัวกลับไป”

“นายท่านไม่ได้ต่อว่าอะไรผมขนาดนั้น ท่านแค่ตกใจ นายน้อยไม่ต้องไปพูดอะไรหรอก แค่ทำตัวเองให้อยู่ในกรอบก็พอ”

“ผมทำพี่เดือดร้อน”

“พี่ก็ปล่อยให้นายน้อยก้าวข้ามมาในแดนอันตรายเกินไป อันนี้พี่ผิดเอง เรื่องนี้มันอธิบายให้นายท่านฟังยาก มันซับซ้อน”

“แล้วพ่อไอ้น้ำ ท่านรู้ได้ไงล่ะพี่” เอ สอบบทสนทนาเข้ามา

“เรื่องงานข่าวบ้านท่าน ไม่เคยเป็นรองใครนี่ครับ แถมการถ่ายทอดสดในคืนวันก่อน มันก็โด่งดังพอประมาณ นี่ถ้านายน้อยไม่ใส่หน้ากาก รับรองได้ว่า ท่านก็คงจะอับอายน่าดู อันนี้ต้องเห็นใจคนระดับท่านนะครับ”

“แล้วนี่เราจะเอายังไงกันดีล่ะพี่” ผมอยากรู้ว่าพี่เขาจะตกงานเพราะผมไหม

“เดี๋ยวนายท่านอารมณ์เย็น ก็คงเรียกพี่กลับไป  จะให้พี่ไปทำอย่างอื่น พี่ก็ขี้เกียจเริ่มต้นแล้ว อยู่กับนายท่านสบายจะตาย”

“เดี๋ยวผมให้พี่นุดีพูดให้ พ่อฟังพี่นุดีจะตาย”

“นี่นุดี ก็ส่งข่าวมาแล้ว ว่าท่านให้เอางานเอกสารฝากมาให้ผมดูให้ที เดี๋ยวตอนเสร็จคงเอาเข้าไปให้ท่านด้วยตัวเองครับ”




พี่อำนาจขอตัวเข้าไปทำกับข้าว เห็นแมนถึกอย่างนี้ เขาทำกับข้าวไวและอร่อยมาก เห็นบอกว่า เรื่องเข้าครัว ถ้าเป็นทหาร กับ ตำรวจ อย่าได้ไปสู้เขา คนพวกนี้ทำอาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะกับแกล้ม  หันไปเห็นเอเคี้ยวแก้มตุ่ยนี่การันตีได้เลย พี่มันทำไก่หมักทอด กับน้ำจิ้มซีฟู้ดเด็ดมาก เจียวไข่ก็กรอบอร่อยอย่างกับร้านอาหารชั้นดี  ต้มยำกุ้งที่แม้จะเป็นกุ้งแช่ช่องฟรีซ แต่ก็อร่อยเด็ดเชียว 

พี่อำนาจเล่าให้ฟังถึงเรื่องของผู้กองจิมมี่ ว่าตอนนี้เขาก็คุยไลน์กัน โดยมีเอทำทีเป็นไม่สนใจแต่หูนี่ผึ่งเลย ผู้กองจิมมี่ตอนนี้ ออกงานกับกลุ่ม Yaris X-5 ด้วย  เรียกว่าได้เป็นหนึ่งในทีม แถมยังมีคนตามทวีตเยอะขึ้นมามาก  พี่อำนาจใช้เวลาไม่นานในการจัดการกับรูปหลุดของคนในทีม โดยมีจิมมี่ช่วยอีกแรง

พอทานกันเสร็จ เอเข้าไปช่วยพี่อำนาจล้างจาน โดนสาลิกาลิ้นทองชวนอีท่าไหนไม่รู้ ก็ยอมอยู่กินเหล้าต่อเป็นเพื่อนพี่อำนาจ โดยไล่ให้ผมกลับก่อน

“มึงแน่ใจนะ”

“เออ  เดี๋ยวพรุ่งนี้กูให้พี่เขาไปส่งที่คณะก็แล้วกัน”

ผมหันมองคนซึ่งยืนทำหน้าเขินอยู่หน้าตู้เย็น  แดงกว่าตู้เย็นก็หน้ามึงนี่แหล่ะไอ้พี่ “มีเรียนเช้า ถนอมมันด้วยนะพี่อำนาจ”

“ไอ้สัส กูกินเหล้าเป็นเพื่อนคนตกงานเฉยๆเว้ย”

“เออ กูพูดเล่น กูรู้ พี่เขาไม่ทำอะไรที่มึงไม่ยินยอมหรอก”

“นายน้อยนี่ พูดถูกใจผมจริง” พี่อำนาจเดินตามมาโอบไหล่เอ ที่มายืนส่งผมหน้าประตู

“พูดมาก เดี๋ยวก็กลับพร้อมไอ้น้ำเลยนี่”

“โหย อยู่ด้วยกันก่อนสิ กินเหล้าคนเดียว มันเหงา งานการก็ไม่มีทำ”

“ถ้าทำอะไรแผลงๆ นะ ผมจะบิดให้หรรมเขียวเลย”

“กลัวแล้วครับ กลัวแล้วน้องเอ”

ผมหัวเราะก่อนจะเดินขึ้นรถเพื่อขับกลับบ้าน  ชีวิตคนเรานี่มันช่างพลิกผันได้ใจยิ่งนัก เมื่อวานยังตีหม้อด้วยกันอยู่เลย วันนี้มาทำตัวอ้อน ยืนปลดกระดุมเสื้อเผยผิวขาว อ่อยไอ้คนตกงานให้น้ำลายไหล  ดูอย่างไร มึงก็ไม่มีวันกลับไปเป็นผัวใครได้อีกแล้ว ไอ้เอเพื่อนรัก  กรรมอะไรของชาวนิเทศวะเนี่ย   ไปซะแล้ว.. เดือนคณะกู

แม้พ่อไม่ได้ห้ามให้ผมติดต่อพี่ไผ่ แต่ผมก็เลือกที่จะยังไม่ได้ติดต่อไป มันมีคำพูดบางคำที่ดังก้องหู ก็คือคำพูดของพี่เขาที่บอกชอบผม  กับคำพูดของพ่อที่เหมือนจะให้ผมไม่ทำตัวเป็นผู้ชายเที่ยวเตร่อาบอบนวดเหมือนเคย  พ่อบอกผมฝืนตัวเอง พ่อจะมารู้อะไรใจผมวะ  ผมก็งงนะเว้ย พ่ออะไรพอใจจะให้ลูกชายตัวเองไปเป็นเมียคนอื่น สงสัยเป็นธรรมชาติคนวัยทอง

ผมเลยเลือกที่จะแวะไปที่บ้านหลิว เพื่อเยี่ยมเพื่อนและขอยืมรายงาน..
ก็ได้.. จริงๆ ผมอยากเจอหน้าพี่มัน  อยากเห็นไอ้คนที่บอกว่าชอบผม อยากรู้ว่า มันเมา มันเครียด หรือมันพูดจริง
ในใจก็คิดว่า หลายเดือนมานี่ ผมควรจะจบทุกอย่างได้แล้ว ความแค้นของผมมันทำให้ทุกอย่างดูจะเกินพิกัดไปหน่อย
พี่อำนาจก็โดนพักงาน  น้องกันต์ก็ดูใจสลาย  ผู้กองจิมมี่ก็เตลิดไปเป็นแนวฮาร์ดคอร์ไปเลย  เอาเข้าจริงจะว่าบาปก็บาปนะ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ไม่อยากจะให้มันมีเหตุอะไรที่อาจนำพาซึ่งความเสียใจมาสู่

ดูอย่างไอ้เอสิ ผมพามันไปตีหม้อเพื่อเรียกความเป็นชายให้ตัวเอง แต่ไอ้เอก็กลายเป็นเสพติดอาบอบนวดไปโดยไม่ทันคิด
แถมยังนำพาไปสู่ค่ำคืนที่เกือบทำให้มันเสียซิงด้านหลังเข้าให้  ผมก็เลยคิดว่า สงสัยมันถึงเวลาจะหยุดได้แล้ว
ภารกิจที่ 3  สงสัยจะเป็นหมัน  นายต้น อะไรนั่น คงไม่ได้เจอกันแล้วสินะ
ผมยังจำหน้าออกัส ที่สั่นไปด้วยความโมโห ก่อนจะปากล้องดักฟังใส่ชามบิงซู ผมก็ใจไม่ดี ไม่เคยเห็นเขาเสียใจขนาดนี้
แต่คนอะไร มีน้องกันต์ที่แสนดีอยู่แล้ว ยังอยากจะไปทำตัวเละเทะอีก ถือว่าผมสั่งสอนมันก็แล้วกัน บังอาจมาทำแบบนี้กับน้องกันต์ที่ผมเอ็นดูได้ยังไง

หน้าบ้านของต้นหลิว 

ผมเดินหิ้วเกี๊ยวน้ำเจ้าโปรดของต้นหลิว แล้วก็มีเครปญี่ปุ่นไส้นูเทลล่าเม็ดมะม่วงของโปรดพี่ไผ่ กับรังนกร้อน เอามาฝากเจ้าของบ้าน แต่พอเลี้ยวรถเข้ามาถึง ก็มีรถจอดอยู่ คันที่ผมคุ้นตา เล่นเอาผมช็อค
มิน่า วันก่อนที่ผมเปิดจีพีเอสติดตามรถ มันก็จอดอยู่แถวนี้
ต้นหลิวเห็นผม รีบเดินออกมาจากประตูบ้าน แต่ช้าไปแล้ว น้ำตาผมร่วงลงอาบแก้ม  ผมยืนเสียใจที่ทำไมเพื่อนรักถึงปกปิด

“น้ำ  หลิวไม่เกี่ยวนะ หลิวก็เพิ่งรู้เรื่องเมื่อวันงานเลี้ยงของพ่อหลิวนั่นแหล่ะ”

“ทำไมทุกคนถึงปิดบังล่ะ”  ผมสั่นไปทั้งตัว กำมือแน่น

“มันกระทันหัน น้ำอย่าโมโห  หลิวก็ไม่รู้จะบอกยังไง”

“เรากลับแล้ว”

“น้ำต้องไม่โมโหหลิวนะ  หลิวอยู่ข้างน้ำนะ”

“ตอนนี้ เธอควรอยู่ข้างพี่ชายเธอ ต้นหลิว ไม่ใช่ข้างเรา”

“เธอเพื่อนรักเรา เราไม่อยู่ข้างเธอ เราจะไปอยู่ข้างใคร”

“แต่พี่ชายเธอกำลังคบหาอยู่กับ อสรพิษ หลิวเอาเวลาไปดูเขาดีกว่า อย่าได้ให้เราต้องรื้อฟื้นความเลวของมันอีก”

“น้ำอย่าโกรธพี่ไผ่ รอความจริงทั้งหมดจากปากเขาก่อนดีกว่าไหม”

“ไม่แล้วล่ะหลิว เราไม่โกรธหลิวหรอก  แต่เราคงไม่ไปสุงสิงกับเขาอีกแล้วล่ะ พี่ชายเธอน่ะ”

ผมเดินกลับมาขึ้นรถกลับ  หลิวทำหน้าไม่ถูก คงเสียใจมากเหมือนกัน ผมรู้ว่าหลิวรักผมมาก เราคือเพื่อนที่รักกันมาก ผมก็ไม่โกรธอะไรต้นหลิวเช่นกัน  แต่ตอนนี้ผมกำลังโกรธพี่ชายเขา..   ต้นไผ่..      พี่ต้น  ของไอ้กัส



ห้องนอนของคนใจช้ำ

ผมนอนอยู่บนเตียงในกางเกงบ็อกเซอร์สีฟ้าอ่อน กับการที่ไม่มีอาภรณ์อื่นใด ก่อนจะส่งรหัสไวไฟไปให้คนข้าง ที่หอบของพะรุงพะรังมานอนเป็นเพื่อน  สงสัยหลิวคงกังวลว่าผมจะเครียด เลยส่งฑูตสวรรค์ตัวไม่น้อย มาอยู่ด้วย

“น้ำนอนถอดเสื้อได้ไหมวะตูน มันไม่ชินน่ะ”

“เอาที่ตามสบายของน้ำเลย แต่เราไม่ถอดนะ เราอายพุง”

“ไม่เห็นจะอ้วนเลย ทำไมชอบเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองล่ะ แค่มีเนื้อหนังมากกว่าคนอื่น น่ารักดีออก ไหนลองถอดแว่นสิ”

ผมเอื้อมมือไปถอดแว่นตาของชายที่อยู่ในชุดนอนลายหมีพูห์  เผยให้เห็นใบหน้าที่อ่อนเยาว์กว่าใครในคณะเรียน เขาดูใสซื่อ หน้าตาเหมือนตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดบนโลกใบนี้ตลอดเวลา มีมุมมองโลกที่ผมอิจฉา  คนในคณะต่างว่าเขาบื้อ เขาเซื่อง เขาไม่ทันโลก แต่เขาเป็นคนที่ทำให้กลุ่มของผมเป็นหลักแหล่ง ไม่ลอยล่อง ไม่หลุดไหลไปตามความเละเทะของตัวผมเอง
“เราสายตาไม่ดี ใส่คอนแทคเลนส์ก็ไม่ได้ แพ้อ่ะ”

“ไปทำเลสิคไหม”

“ไม่เอาอ่ะ กลัว”

“การ์ตูนเคยนึกอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้นไหม”

“...”

“ขอโทษ น้ำไม่ได้หมายถึงแบบนั้นนะ”

“เราเข้าใจที่น้ำพูด  เราก็อยากเป็นคนที่ดีขึ้น เพียงแต่ ดีขึ้นในความหมายของเรา กับน้ำ มันไม่เหมือนกัน เราไม่ได้อยากจะดูหล่อขึ้น หรือมีคนรุมล้อม”

“อืม เป็นตูนแบบนี้น่ะดีแล้ว ทุกคนในกลุ่มรักตูนมากนะ”

“หลิวคิดยังไงกับเราอ่ะ”

“ก็รักตูนกันทุกคนแหล่ะ”

“เราไม่ได้หมายถึงแบบนั้น”

“ห๋า” ผมตกใจ ที่เห็นเขาอ้ำอึ้ง เหมือนอยากเผยสิ่งที่อยู่ในใจ  แต่ดูจากสีหน้า มันกระจ่างชัดแล้วว่ะ

“เราไม่เคยบอกใครเลยอ่ะ แต่เราถามเพราะน้ำดู เจ็บมาเยอะกว่าเรา”

“เซอร์ไพรส์ชิบหายเลยว่ะตูน คนในกลุ่มไม่รู้กันเลยนะเนี่ย หลิวรู้ไหม”

“หลิวนึกว่าเราเป็นเกย์ด้วยซ้ำ”

“กูก็เพิ่งรู้ ว่ามึงไม่ใช่ ฮ่ะๆๆๆ  การ์ตูนเอ้ยยย  ขำว่ะ”  มีรอยยิ้มที่หายาก ปรากฏขึ้นบนใบหน้าผมซะที

“ขึ้นกูมึงเลยเหรอ ฮ่ะๆๆ”

“คือ เรานึกว่าตลอดว่า ตูนชอบเอ  ส่วนเอก็บอกว่า ตูนชอบเรา”

“เฮ้ยย เพื่อนกันทั้งนั้น”

“แต่ชอบหลิวเนี่ยนะ”

“หลิวน่ารัก”

“กำ  เวรกรรม”

“แต่บ้านเขารวย เขาเป็นคนสวย แถมนิสัยก็ดีงาม เขาคงเหมาะกับผู้ชายเท่ๆ เนอะ”

“นี่จริงจังเปล่าเนี่ย”

“อืม แต่เราก็เจียมตัวแหล่ะ”

“หลิวเหมือนน้องสาวเราคนนึงเลย”

“เรารู้”

“ถ้าหลิวจะมีแฟน เราไว้ใจนายนะตูน  นายจะเป็นหลักให้ต้นหลิวได้เกาะยึด”





ผมส่งไลน์ ปรึกษาไอ้เอด่วน แต่ดูเหมือนมันจะยุ่ง ไม่ก็เมาหลับไปกับพี่อำนาจแล้วละมัง ถึงได้ไม่ตอบ ปกติมันติดไลน์จะตายไป  นี่สงสัยกำลังปลอบใจคนตกงานอยู่เป็นแน่
เอาเข้าจริง การ์ตูน เป็นผู้ชายแท้ว่ะ เฮ้ย เอกับหลิวรู้นี่จะเป็นยังไงวะ เอคงหัวเราะแต่หลิวล่ะ จะขำออกไหม ปกติแล้วหลิวให้ความเชื่อใจไปไหนมาไหนด้วย แทบจะเป็นฝาแฝดก็เพราะว่าการ์ตูนมันดูนุ่มนิ่ม คล้ายเพื่อนสาวหรือเปล่า
แต่ถ้าถามความนิสัยดีของตูน เอาไปเลยเต็มร้อย คอยเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น บ้านก็ผู้ดีเก่า พ่อเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง ซึ่งสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น พี่ๆของตูนก็น่ารัก คล้ายตูนนี่แหล่ะ ช่วยเหลือคนรอบข้างอยู่เสมอ
บ้านของหลิวเอง ก็เป็นตระกูลใหญ่ ถ้าได้เกี่ยวดองกัน ผมมองไม่เห็นความไม่เหมาะสมตามที่ตูนกลัว ออกจะดีด้วยซ้ำ  แต่เจ้าตัวคงกลัวเรื่องความไม่เท่ ไม่ได้มีบุคลิกที่เป็นผู้นำ เอาง่ายๆ ไม่มีความมาดแมนแอนด์แฮนด์ซั่ม เหมือนใครนั่นเอง สงสัยผมกับเอ ต้องช่วยมันเป็นการใหญ่แล้วงานนี้

แล้วผมก็วุ่นวายกับเรื่องของคนอื่นอยู่ได้สักพัก  พักเดียวเท่านั้น..
ผมก็กลับมานึกถึงเรื่องของตัวเอง กับความชอกช้ำเมื่อหัวค่ำ
จะพยายามมากน้อยมากแค่ไหน ผมก็แพ้ออกัส
มันชนะผมทุกครั้งเสมอ..



เช้านี้ผมไม่มีเรียน แล้วก็ไม่มีใจจะเรียนด้วย เลยคิดว่าจะโดดเรียนสักหน่อย ช่วงนี้ไม่ค่อยหนักอะไร ผมหัวดีอยู่แล้วด้วย  ตอนบ่ายคิดว่าต้องใช้เวลาเสริมหล่อ เพราะต้องไปงานทำบุญร้อยวันของอากงไอ้เอ  โดยมีพี่อำนาจขันอาสาขับรถไปให้ที่ปทุมธานี 
พอคล้อยเย็น พี่อำนาจก็มารับผมกับเอ ระหว่างทาง เอไม่ค่อยคุยกับพี่อำนาจเท่าไหร่ เมื่อคืนทำอะไรกันหว่า แล้วพี่อำนาจก็ดูเป็นห่วงเป็นใย คอยเตือนให้กินพาราทุกสี่ชั่วโมง หน้าตาก็แดงๆ อากาศก็ร้อนแต่ใส่เสื้อคอเต่า คือแฟชั่นแถวปทุมธานีหรือยังไงวะมึง

“มึงไหวไหมวะ”

“อืม เดี๋ยวก็ดีขึ้นอ่ะ เดี๋ยวจะงีบสักหน่อย มึงก็เปลี่ยนมานั่งข้างหน้าก็ได้ กูจะได้นอน”

“เออๆๆ เดี๋ยวตอนแวะปั๊มแล้วกัน  พี่อำนาจแวะปั๊มด้วยนะครับ”

“ได้ครับนายน้อย  ว่าแต่ น้องเอกินยาแล้วเนอะ”

“ไม่ต้องมาพูดเลย ขับรถไป”  หูยยย มีเสียงดุ

“ครับๆๆ”  คือมีความเป็นแมวเชื่องช่วงโดนพักงานว่ะ

“ว่าแต่ เรื่องตูนกับหลิว เดี๋ยวคืนนี้ค่อยวางแผนกันนะ กูขอหลับก่อน  แมร่งตกใจไม่หาย กูคิดมาตลอดว่า ตูนแอบชอบมึงนะไอ้น้ำ”

“แต่กูก็คิดว่า ตูนแอบชอบมึงมาตลอด พอเจ้าตัวสารภาพนี่ช็อคเลย”

“เออ นั่นสิ  แต่ถ้าเป็นแฟนกันกูก็เห็นด้วยนะ ศีลเสมอกัน ขยันอยู่กับขยัน  ลูกออกมาวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ได้เลย”

“แต่หลิวมันจะคิดอะไรกับตูนเหรอวะ กูว่า หลิวคงนึกว่าตูนเป็นเพื่อนสาวมาโดยตลอด”

“ไอ้ตูนมันก็น่ารักดีนะเว้ย ถอดแว่นมาก็ดูดี หน้าแมร่งใสกิ๊ก กูว่าหน้ากูเนียนแล้ว หนังหน้ามันดีกว่ากูอีก แล้วถ้าฟิตหุ่นหน่อย แต่งตัวให้มันทะมัดทะแมง ก็ดูดีขึ้นได้”

“มันไม่ยอมจะเปลี่ยน กูเกริ่นแล้ว”

“คนเราไม่เหมือนกันครับนายน้อย” พี่อำนาจพูดแทรก

“ไม่มีใครอยากจะหล่อขึ้นเหรอพี่”

“มันก็หล่อในรูปแบบอื่นได้ จะทิ้งโลกเก่าทั้งใบไว้ที่เกาหลี มันเป็นวิถีของนายน้อย แต่เพื่อนที่ชื่อตูน เขาอาจจะคิดอีกแบบ”

“เออ พูดดี” ไอ้เอ มึงควรอยู่ทีมกู ไอ้สัส

“แต่ก็อยากให้มันดูดีขึ้น บุคลิกแบบไม่หน่อมแน้มอ่ะ บ้านของหลิวเขาก็มีหน้ามีตา อีกหน่อยไปออกงาน มันจะได้ไม่เป็นคนที่หลบอยู่หลังเสาเหมือนทุกที”

“งั้นก็เดี๋ยวผมไปสอนให้ไม่ครับนายน้อย”

“ไม่ต้องเลย บอกให้ขับรถไป”  เอตวาดเสียงดุ

“ครับๆๆ”



บัญชาก่อสร้างและวัสดุ

หลังจากไหว้ป๊ากับม๊าของเอเสร็จ พวกเราก็เอาของขึ้นไปยังตึกที่เป็นอาคารพาณิชย์ 6 คูหา ติดถนนใหญ่ มีทางเข้าข้างอาคารซึ่งแบ่งไว้เป็นทางขนาดใหญ่ รถสิบล้อ รถพ่วงวิ่งผ่านได้สบาย ด้านล่างเป็นออฟฟิศห้องกระจก ชั้นบนทำเป็นที่นอน  ด้านหลังเป็นเวิ้งแพ้นท์ปูน และโกดังของ ตอนแรกเอจะพาผมไปดูบ่อปลาคาร์ฟที่ป๊าเลี้ยงไว้ แต่ป๊าไม่อยากให้เดินผ่านเวิ้งคนงานต่างด้าว ที่ป๊าบอกว่าควบคุมยากแถมก้าวร้าว แต่ที่ยังต้องเลี้ยงไว้เพราะหาคนงานยาก คนไทยก็ไม่ค่อยยอมทำงานแบบนี้กันแล้ว

ด้านบนตึก เวิ้งปีกขวามีสองห้องนอน พอพี่อำนาจขอนอนห้องเอ ป๊ากับม๊ามันก็มองหน้าจับพิรุธใหญ่เลย แต่เอก็แก้ตัวว่า ผมเป็นคนชอบนอนคนเดียว ส่วนพี่อำนาจเป็นคนกลัวผี  ม๊าชมพี่อำนาจว่าหล่อสมาร์ท อยากให้เอเล่นกีฬาเพื่อที่จะดูแข็งแรงแบบพี่เขา  แต่ป๊าดูจะมองพี่อำนาจแปลกๆ  ก่อนพวกเราจะขอตัวขึ้นห้องนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามาช่วยเรื่องเลี้ยงพระ

ผมล็อคห้องเรียบร้อย ก็ถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือบ็อกเซอร์ตัวเดียวนอนอยู่บนเตียงเปิดไฟสลัว แล้วก็กดวีดีโอคอลหาผู้กองจิมมี่ผู้ซึ่งไม่ได้คอลกันมาหลายวัน กะว่าจะปลดปล่อยเสียหน่อยเพราะว่าเรื่องเมื่อวานก็ทำผมเครียดเอาเรื่อง

“เป็นอย่างไรครับ หายหน้าหายตาไปเลย ผู้กองสุดหล่อของผม”

“ผมนอนเร็วสิครับ โทรมมากเลย สงสัยจะหักโหมไปหน่อย”

“ก็ยังดูหล่อนะผมว่า  อ้าว มีแขกเหรอ เห็นหลังโผล่มาในจอ”

“อ่อ จำไม่ได้เหรอใคร”  แล้วผู้กองจิมมี่ก็ หันไอแพดของเขาไปทางคนที่นอนถอดเสื้อเล่นมือถืออยู่ข้างๆ เขาเมื่อเห็นผมในจอก็เหลือบตามาสวัสดี

“อ้าว พี่กร อุ้ย อะไร ยังไง เล่าด่วน”

ผู้กองเล่าด้วยอาการเขิน ว่าเขากับ พี่กรแห่ง Yaris X-5 ก็คบหาดูใจกันตั้งแต่วันนั้นมา  พวกเขาไม่ได้หยุดมีอะไรกับคนอื่น เพียงแต่ ต้องมีกันและกันในสังเวียนนั้นด้วย  ดูผู้กองเขินมาก ในขณะที่พี่กรก็ดูจะหวงจิมมี่อยู่ไม่น้อย

“อย่างนี้ ผมก็ วีดีโอคอล กับผู้กองไม่ได้แล้วสินะ” 

“ถามเขาสิ” ผู้กองแพนไอแพดไปทาง พี่กร ที่ยังคงเล่นมือถืออยู่ พี่กรยกมือขึ้นมาทำเป็นรูปกากบาท แปลว่า NO

“หูยยยย ผมคงเหงาแย่ ฮ่าๆๆ  ไม่กวนดีกว่า”

“แต่คุณนทียังปรึกษาผมได้นะ  ยังโทรมาคุยไปเที่ยวกันได้ แต่แค่มีคุณกรอยู่ด้วย” แล้วจิมมี่ก็ก้มลงไปหอมที่แก้มของพี่กรที่นอนอยู่ ช่างเป็นภาพที่น่ารักในสายตาผม เพราะทั้งคู่เป็นสายโหด ฮาร์ดคอร์ ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ สมน้ำสมเนื้อ มวยถูกคู่ แถมยังหน้าตาดีกันทั้งคู่ คงได้หึงกันเตียงสั่นเป็นแหน่

“ครับ ขอบคุณมากผู้กอง  แต่ผมคงไม่ได้ปฏิบัติภารกิจต่อแล้วล่ะ ผมแพ้แล้ว”

“รู้แล้วใช่ไหมว่าเป็นคุณ ต้นไผ่”

“ผู้กองก็รู้เหรอ”

ผู้กองเล่าถึงความเป็นมาทั้งหมด สรุปคือ ช่วงที่ออกัสเป็นแฟนกับน้องกันต์ ก็ได้ไปมีคดีตบตีหึงหวง เนื่องจากมีเพื่อนสจ๊วตมาข้องแวะกับน้องกันต์ จนถึงกับขึ้นโรงพัก แต่ก็ยอมความกันไป ตอนนั้นเองได้รู้จักกับจิมมี่  ออกัสก็เหมือนจะหลงผู้กองเข้าเต็มเปา คอยแวะเวียนมาหา มาทักทาย สุดท้ายแล้วก็ขอมีอะไรด้วย  ความที่ผู้กองก็ยังโสด ก็เลยตามเลย แต่มาสะดุดใจ ที่ออกัสเองพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะตอบสนองอารมณ์แบบ S&M ของเขา  ผู้กองเลยคิดว่า น่าจะเป็นคนเดียวที่รับเขาได้ แต่แล้วเขาก็ได้รู้จักโลกของทวิตเตอร์ที่นำพาไปสู่อะไรที่ยิ่งใหญ่กว่า เป็นตัวเองได้มากกว่า อีกทั้งยังเป็นเหมือนโลกใบใหม่ แถมนำไปสู่การได้เจอพี่กร Yaris X-5 คล้ายจะเป็นรักแรกพบของเขา  จึงได้ห่างกับออกัสไป ประกอบกับจับได้ว่า เขากับกันต์เป็นแฟนกันอยู่ จิมมี่เลยไม่อยากเข้าไปยุ่ง

แต่แล้ว เรื่องมันก็ยุ่งเหยิง เพราะวันที่เขาไปจับกลุ่มคนที่นัดมีเซ็กซ์ในตึกร้างแถวย่านเมืองทองธานี กลับพบว่าหนึ่งในกลุ่มคนที่จับได้ คือ ออกัส เขาตกใจแต่ก็ทำเป็นไม่รู้จัก แต่ก็ช่วยให้ออกัสโดนเพียงตักเตือน
ออกัสให้ช่วยคนอีกคนที่อยู่ในกลุ่ม ไม่ให้โดนดำเนินคดีข้อหาอนาจาร คนนั้น คือ ต้นไผ่

ผมก็ตกใจอยู่ไม่น้อย แต่คิดว่าพอทบทวนดู ก็มีช่วงที่พี่ไผ่เครียดหรือดูเหม่อลอย มันอาจเป็นช่วงเดียวกับที่เกิดเรื่องหรือเปล่า แต่ผมก็พยายามจะไม่คิด เพราะพี่ไผ่ จะหลุดออกจากวงจรชีวิตผมไปแล้ว ผมตั้งใจให้เป็นแบบนั้น




เมื่อความหดหู่ในใจคลุมอารมณ์ผมจนมิด ผมก็โทรหาน้องกันต์ผู้สดใส ขอพลังบวกสีขาวนี้เผื่อจะเติมเต็มอารมณ์ของผม  ว่าแต่ เขาจะหายโกรธผมหรือยังนะ
“หายโกรธพี่หรือยังครับน้องกันต์”  ผมได้แต่หวังว่า ปลายสายที่เงียบไป จะมีคำตอบให้ผมสดชื่น

“กันต์ก็ไม่ได้โกรธอะไรพี่นทีนะครับ กันต์แค่ตกใจ”

“พี่แค่อยากบอกว่า พี่รู้สึกดี ในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน มันอาจเริ่มต้นด้วยจุดประสงค์ผิด แต่พี่อยากให้น้องรู้ไว้ ว่าน้องเป็นคนน่ารัก ที่พี่ชอบอยู่ด้วย อันนี้เป็นความจริงนะครับ”

“ผมก็รู้  สายตาพี่มันฟ้อง”  คนอะไร ช่างน่ารักน่าชังเสียเหลือเกิน

“แล้ววันนั้น ทะเลาะกับกัส มันหรือเปล่า เคลียร์กันได้ไหม”

“ก็ไม่มีอะไรมากนะครับ มันจิกหัวผมฟาดกับกำแพงทีนึง แล้วก็ตกใจที่เห็นหัวผมโน เลยหยุด ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับพี่ เพราะผมกับเขาก็ยังไม่ได้กลับมาคบกัน แต่ผมแอบสะใจนิดๆด้วยซ้ำไป เพราะว่า ดูเขาเสียสติจนคลั่งเหมือนว่าจะหึงผม หรือไม่ก็หึงพี่นทีนั่นแหล่ะ แอบดีใจนิดๆ”

“แหน่ะ นึกว่าเป็นเทวดาตัวน้อยของพี่เสียอีก”

“ติดความเป็นปีศาจของพี่มานั่นแหล่ะครับ”

“ขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม”

“ได้เลยครับ”

“ชอบอะไรคนอย่างไอ้กัสมันวะ”

กันต์เล่าถึงเหตุการณ์ในตอนที่เจอกัน เมื่อวันที่ออกัสมาตื๊อ  เขาไม่ได้ชอบหน้าตาสไตล์ออกัสเท่าไหร่ ดูไม่แพง [ ประโยคแอบทำผมขำ ] แต่ว่าออกัสเพียรทำทุกอย่างเพื่อจีบเขา รู้ว่าเขาชอบอะไรก็สรรหา ก็เปลี่ยนตัวเองเพื่อนำไปสู่  ผมจึงนึกย้อนกลับไป ในวันที่เขาจีบผม เขาก็พยายามทำแบบนั้น มันคือสไตล์ของเขา 

ผมหย่อนเรื่องจิมมี่ ปรากฏว่า น้องกันต์ก็รู้ดี เพียงแต่พยายามทนและให้อภัย  ในขณะที่เรื่องพี่ไผ่น้องกันต์ก็รู้เหมือนกัน แต่คิดว่าถ้าออกัสหยุดทุกอย่างได้ เขาก็จะยอมกลับมาคบกันเป็นแฟนได้  แต่ถ้าออกัสไม่มีพฤติกรรมที่ดีขึ้นเขาก็จะไม่ยอมคบหาอีก ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น

ผมยังถามเรื่องความคืบหน้าของการเป็นสจ๊วต อาชีพในฝันของเขา กันต์เล่าว่า บางครั้งมันต้องใช้กำลังภายในประกอบในบางองค์กร ซึ่งเขาไม่มี แต่เขาก็คิดว่ เขาคงจะเดินหน้าเก็บเงินและไปเปิดบริษัททัวร์กับเพื่อนแทน เขาเล่าถึงความฝันของเขาด้วยอารมณ์แจ่มใส แม้จะอยู่ในอารมณ์ที่ความหวังทางอาชีพมืดหม่นก็ตาม  กันต์ก็ยังเป็นกันต์ที่มองโลกบวกอยู่เสมอ

กันต์บอกว่าคิดถึงผมเหมือนกัน  น้องพูดว่าผมเหมือนกับเป็นคนที่มองเขาทะลุ และมีบางอย่างที่ทำให้เขานึกถึงออกัส  ถ้าผมเข้ามาในจังหวะที่แผลใจเขาหายดีแล้ว เขาอาจหลงรักผมไปแล้วด้วยซ้ำ ฟังแล้วก็ปลื้มอยู่นะ  กันต์บอกว่ามีความดีงามของผมในเรื่องบนเตียง เขามีความสุข แต่ก็คิดว่าคงไม่กลับไปเป็นรับอีก แต่เขาจะจำไว้ว่า เขามอบมันให้ผมไปเป็นของขวัญ ที่ทำให้เขามีความสุขในช่วงเวลาหนึ่ง  นี่ถ้าอยู่ใกล้ผมอยากจะคว้าเขามาหอมสักฟอดใหญ่ อยากกอดเขาไว้ แม้รู้ว่าหัวใจของเขาเป็นของออกัสไปนั่นเอง

หลังจากผมวางสายกันไป ใจนึงผมก็คิดถึงพี่ไผ่  ในวันที่เขามีเรื่องผมไม่ได้อยู่เคียงข้างเขา  ลูกคนโต ลูกชายคนเดียวของบ้านตระกูลดัง ไม่มีเพื่อนมีฝูงเพราะเพิ่งกลับจากเมืองนอกเมืองนา  ด้วยนิสัยชอบเก็บตัว ทำแต่งานตั้งแต่ยังวัยรุ่น เขาก็คงเหงาในมุมของเขา  แต่เรื่องออกัส ผมรับไม่ได้ มันเหมือนที่พยายามกันมา ก็พังทลายเพียงเพราะเขากับออกัสเคยมีอะไรกัน ทำไมนะ ภารกิจที่ 3 ต้องเป็นพี่ไผ่ด้วย

ในขณะที่กำลังนอนมองฝ้าเพดานอย่างเลื่อนลอย  เสียงเอะอะก็ดังขึ้น เสียงป๊ากับม๊าดังโวยวายไม่หยุด มีอะไรกันนะ พี่อำนาจกับเอมีเรื่องอะไรหรือเปล่า  ผมรีบคว้าเสื้อผ้ามาสวม เพื่อที่จะลงตามไปสมทบ
สักพักตอนที่ผมวิ่งลงบันไดมา  มีเสียงไซเรนจากรถตำรวจ มีความจอแจจากหน้าถนนใหญ่
หน้าออฟฟิศปิดเงียบ  รถตำรวจจอดเสียบเข้ามาที่แพ้นท์ปูน ผมรีบสาวเท้าวิ่งไปดู  มีคนงานต่างด้าวล้อมวง

ป๊ากับม๊า ยืนดู มีเอยืนในชุดนอนยืนกอดอกตัวสั่นด้วยความกลัว  พี่ชายกับพี่สาวเอทำหน้าอิดโรยเพราะเพิ่งตื่น
ตรงกลางนั้น ที่ล้อมด้วยตำรวจ มีพี่อำนาจยืนอยู่..  พี่อำนาจ อยู่ตรงนั้น..

ตีสามครึ่ง
ป๊ากับม๊าของเอ ยกมือไหว้คุณตำรวจ รถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ สีน้ำตาลเข้มพ่นด้วยสีขาวคาด เปิดไซเรนวิ่งออกไป มีหนุ่มฉกรรจ์อยู่ท้ายรถกลุ่มหนึ่งนั่งหน้าสลด มีเอ ยืนทำหน้าซีดอยู่ตอนที่รถตำรวจขับผ่านหน้าไป
ผมกลับขึ้นมาที่ห้อง คว้าหนังสือออกมาอ่าน เพราะว่าคงจะนอนที่นี่ไม่หลับเป็นแน่
พี่อำนาจแมร่ง.. ชอบเล่นใหญ่ไปทุกเรื่อง
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-05-2018 19:44:03
ร้อยเหตุผล ค้นความจริง นิ่งไม่อยู่
หาแทบตาย ยิ่งไม่รู้ ดูไม่เห็น
แต่คนใกล้ ใจมัวพร่า ว่าไม่เป็น
กลับเป็นคน แอบซ่อนเร้น เข่นฆ่าเอง

ต้นไผ่..ชื่อนี้เราจะลืมไม่ลงเลย
เหมือนนั่งอยู่ดีดี..แล้วมีคนอ้อมหลังมาตบหัวทิ่ม

ทั้งแค้นทั้งเจ็บ
เซ็งว้อยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-05-2018 21:26:14
 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 27-05-2018 13:44:13
เริ่มละ ชามมาม่า
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-05-2018 19:17:01
พี่ไผ่นะพี่ไผ่ อุส่าห์ เชียร์ ทำไมถึงเหี้ยแบบนี้ละจ๊ะ :m16:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 27-05-2018 21:34:40
ว่าแล้วต้องเป็นพี่ไผ่  :hao3:

ว่าแต่ช่วงสุดท้ายของตอนมันคืออะไรพี่อำนาจทำอะไรเรางง :m28:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 28-05-2018 15:09:40
อกอีแป้น แล่นลึก เข้าตึกแขก
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 28-05-2018 22:00:10
คิดว่า คุณไผ่คงมีเหตุผลของเขา จะรอคำแก้ตัว เพราะคุณไผ่อยู่กับน้ำแต่เด็ก มันมีเรื่องของโชคชะตา
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 29-05-2018 11:01:47
ก็ยังเชียร์ ต้นไผ่อยู่ดี หวังว่าคงกลับมาชนะใจน้ำได้นะคะ   :mew4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 29-05-2018 18:32:26
 :monkeysad:  ขอให้พี่ไผ่มีเหตุผลที่ดี
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 31-05-2018 16:17:05
ไม่ใช่แค่พี่ไผ่ต้องกลับตัว น้ำเองก็เช่นกัน ถลำไปขนาดนั้นแล้ว
ส่วนเรื่อง พี่อำนาจ เดาว่าไม่มีอะไร ดูน้ำไม่ทุกขืร้อนเท่าไหร่ แต่เอนี่ เป็นเคะไปแล้ว
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 02-06-2018 12:03:49
ตอนแรกนึกว่าตูนเป็นตัวร้าย  :ruready
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 02-06-2018 23:20:03
 :katai2-1: รอๆๆจ้า
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-06-2018 23:24:07
หายไปนานจังเลย
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 14 : พักรบ.. พบความนัย.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 03-06-2018 23:27:35
คนแต่งแก้บท เอ๊ยยยย..แก้ตัวแทนไอ่พี่ไผ่ยังไม่เสร็จเหรอจ๊ะ
ฮ่าฮ่า

รออ่านตอนหน้าอยู่
ถึงว่า..กว่าจะมา...
นาน น๊าน นาน

ยังรออ่านจ้าาาาาาาา
นานแค่ไหน..ก็รอ
หุหุ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 05-06-2018 14:35:48
Prep  15 : ReVirginized  ฉันเหมือน 15 อีกครั้ง

การเลี้ยงพระยังคงดำเนินต่อ คนตายก็ยังต้องการบุญกุศล แม้ว่าเมื่อคืนจะเกิดเรื่องมากน้อยแค่ไหน 
เอในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ มันดูหล่อเชียววันนี้แม้จะอดนอน  ส่วนป๊ากับม๊าที่มีสีหน้าผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ภิกษุ 9 รูป กำลังฉันเพล แล้วก็สวดแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับผ่านรูปอากงที่ตั้งไว้ใกล้พระพุทธ

ปกติแล้ว บ้านของเอจะใช้บริการพระวัดจีนแถวบ้าน แต่เนื่องจาก ทำบุญ 100 วันเป็นประเพณีทางไทย จึงนิมนต์พระไทยมาแทน พอเสร็จพิธีกรรม เจ้าอาวาสก็ส่ง กำหญ้าคาแห้ง ให้พระที่นั่งลำดับถัดไปอันเป็นสัญญาณว่า ให้พรมน้ำมนต์ให้กับสถานที่ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือนตามความเชื่อของผู้เป็นเจ้าภาพ

ป๊าบัญชา ส่งขันน้ำมนต์ใบใหญ่ไปให้ชายผิวเข้มในชุดเสื้อยืดขาวกางเกงยีนส์ดำ ที่นั่งไม่พูดจาอะไรตั้งแต่เช้า แต่เป็นที่จับจ้องด้วยสายตามองของทั้งญาติทุกเหล่าฝ่าย ซึ่งซุบซิบ นินทา ชี้มาจนผู้เป็นเป้าสายตามีอาการเขิน

“ป๊าวาน อำนาจ พาพระเดินพรมน้ำมนต์ให้ทีนะ  เอ ลื้อนำทางไปที ไปที่โกดังหลัง ไปทุกๆที่เลย วันนี้ฤกษ์ ปัดเสนียดจัญไรให้หมดไป ป๊าล่ะดีใจจริงๆ” 

“ครับ”  พี่อำนาจรับบาตรน้ำมนต์ เดินเคียงคู่กับพระสงฆ์ โดยมีเอเดินตามไปข้างๆ  ละอองน้ำมนต์สาดไปยังส่วนต่างๆ ของออฟฟิศ ก่อนจะกระเซ็นไปทั้งโกดังเก็บของ และ สโตร์ สักพักเอก็เดินนำขึ้นไปยังตึกใหญ่ ยังห้องนอน ทุกห้อง พระท่านก็พรมไปทุกส่วนสัดไม่มีปริบ่น ไม่แสดงออกบนใบหน้าว่าเหนื่อยหน่าย แถมมีรอยยิ้มด้วยซ้ำตอนป๊าเองถวายซองหนาให้

พี่อำนาจหลังจากที่ไอ้เอพาสำรวจพื้นที่เมื่อคืน ดันไปเจอความไม่ชอบมาพากล ซึ่งคนในบ้านของเอ ก็มักจะปล่อยให้กับทางคนงานดูแลสโตร์กันเอง  มีการแอบนำของในสโตร์ไปขาย แถมยังโยนออกนอกรั้วแบบไม่เกรงกลัว ตอนที่รถกระบะมาจอดข้างรั้วแล้วมารับปูนหลายสิบกระสอบอยู่นั้น พี่อำนาจก็กระโดดคว้าตัวพร้อมโทรเรียกตำรวจพอดี  ที่ผ่านมา คนงานต่างด้าวกับพนักงานบัญชีรู้กัน จับสต็อคสินค้าเข้าเป็นของชำรุดบ้าง เสียหายบ้าง

ในยุคที่ลูกจ้างหายาก แถมหนีกลับกันไป ก็เมื่อ ออง ซาน ซูจี ผู้นำหญิงมาเยี่ยมพบปะที่สมุทรสาครคราวก่อน มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มชนแรงงานต่างด้าว ในทางดีบ้าง ในทางเหิมเกริมบ้าง อย่างหลังเกิดขึ้นในบริษัทของเอ
ป๊าก็ต้องปล่อยบางอย่างเลยตามเลย เพราะว่ากองกำลังต่างด้าวค่อนในระแวกมีขนาดใหญ่ จะไล่ออกก็กลัวว่าจะกลับมาทำร้ายเพราะแต่ละคนดุดัน พูดจาไม่รู้เรื่อง ตกเย็นก็ตั้งโต๊ะกินเหล้าขาว  แถมยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา จะเข้าไปตรวจในโกดัง ก็ทำได้แค่ตอนกลางวัน เพราะตกดึก แม้จะอยู่ในชายรั้วของบ้านตัวเอง แต่มันก็ดูน่ากลัว 
ถ้ายกกันออกหมด คนงานก็หายาก  เพราะคนที่เป็นตัวหัวโจก ขู่บังคับให้ทุกคนทำตามนี้กันหมด แต่เมื่อคืนพอตำรวจได้จับตัวหัวไป คนงานที่เหลือก็รีบเล่าขั้นตอนวิธีการโกงให้ฟัง พร้อมกับแสดงความอึดอัด เพราะพวกเขาก็อยากจะทำงานที่นี่ไปอีกนาน เนื่องจากป๊าของเอใจดี จ้างแรงในราคาที่สูงกว่าที่อื่น 

ป๊ากับม๊า ขอร้องให้พี่อำนาจอยู่ต่ออีกวันสองวัน เพื่อที่จะช่วยเคลียร์ทุกอย่างจนเข้าระบบ เสนอการเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดี เข้าทางพี่อำนาจที่แสดงความเก๋า คุมคนงานทุกคนได้อยู่หมัดเพียงแค่แผดเสียงใส่ คนงานทุกคนหงอ แต่ก็ยังปฏิบัติตามอย่างดี ป๊ากับม๊าดูดีใจมาก แถมยังบอกเอให้เรียกพี่อำนาจมาหาให้บ่อย  ยิ่งพอรู้ว่า ตอนนี้พี่อำนาจไม่ได้ทำงานกับพ่อผมชั่วคราว ป๊าถึงกับชวนให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน เล่นเอาเอทำหน้าไม่ถูกเลย 

ผมเลยขับรถกลับมาคนเดียว ปล่อยให้พี่อำนาจได้ทำคะแนนกับพ่อตาแม่ยายไปเรื่อย เอาหน่า เอมันก็ดูจะมีความสุขไม่น้อย การชนะใจบ้านคนจีนยากแค่ไหน ก๋วยเจ๋ง กับ อึ้งย้ง คงรู้ดี  ผมก็มองว่า พี่อำนาจพักงานอยู่ในจังหวะที่เหมาะที่ควร   ม๊าของเอฝากมะขามเทศถุงเบ้อเร่อมาฝากพ่อผมด้วย  แต่ผมก็กะว่าจะแวะที่แห่งหนึ่งก่อน


ดิ ลอฟต์ เฮ้าส์ สาธร
ผมไขประตูเข้ามาในห้อง คอนโดที่ผมให้ใครบางคนยืมอาศัยจนกว่าจะหางานได้ ห้องเละตุ้มเป๊ะ ตามประสาความไม่มีวินัยของผู้อาศัย สาบานได้ว่าเห็นแมลงสาปอยู่ที่กองเสื้อผ้า  จานที่ไม่ได้ล้างวางกองอยู่ตรงอ่าง ไม่รวมถุงขยะที่ไม่ได้เอาไปทิ้ง ผ้าปูที่นอนวางกองสูง 

หลังจากที่ผมโทรมายังส่วนกลางก็พบว่า ออกัส ไม่ได้กลับห้องมาร่วมอาทิตย์แล้ว ในตู้เสื้อผ้ามีเหลือเครื่องแต่งกายอยู่ไม่มาก เชื่อว่าเขาทยอยย้ายของออกไปแล้ว  ผมมองไปที่หลอดไฟกลางห้องที่ผมเคยซ่อนกล้อง GPS ไว้ มันถูกเปลี่ยนด้วยหลอดไป แอลดีดี ธรรมดาแทน   ก็ลองเดินสำรวจดูข้าวของที่อาจเสียหาย เผื่อเรียกคนมาซ่อมแซมตอนเขาย้ายออก

กะไว้ว่าจะเอาให้คนเช่าต่อ ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอกนะ แต่ห้องถ้าไม่มีคนอยู่เลย มันก็โทรม อมฝุ่น สู้ให้คนมาอยู่ให้ตึกมันคึกคักดีกว่า  ก็พ่อของผมเหมาชั้นไว้ 24 ห้อง  เราให้เช่าทุกห้อง ด้วยราคาที่พ่อผมตั้งคนแย่งกันอย่างกับอะไรดี ทุกคนโอนตังตรงเวลาโดยเฉพาะลูกค้าผู้เช่าต่างชาติ  พ่อบอกว่า เงินเหลือก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร จะลงทุนอะไรก็หาว่าฟอกเงิน  เก็บไว้ก็ชอบมีนักการเมืองมาขอยืม สู้เอาไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ดีกว่า จมกับที่ดิน บ้าน คอนโด ยังดีกว่า นักการเมืองขอยืมแล้วทวงคืนไม่ได้  หรือไปต่างประเทศบ้าง อ้างว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลบ้าง  พ่อจึงไม่ค่อยว่า ถ้าผมจะใช้เงินเยอะขนาดนี้ พ่อพูดเสมอว่า ดีกว่าให้คนยืมแล้วไม่ได้คืน  แต่ก็ให้ผมเรียนรู้คุณค่าของเงินอยู่เสมอ 

บนโต๊ะหนังสือริมหน้าต่าง ซึ่งเขาไม่เคยอ่านหรอก หนังสือหนังหา ที่ผ่านมาเห็นเล่นแต่มือถือ และดูละครหลังข่าว โต๊ะหนังสือดูจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวที่เรียบเตียนที่สุดในห้อง  มีรูปของเขาอยู่ตรงนั้น 
รูปเดี่ยวของออกัสที่เชียงใหม่   
รูปคู่ของออกัสกับกันต์ที่กำลังนั่งทานของหวานร้านหรู 
รูปคู่ของออกัสกับผู้กองขณะเดินห้าง
แล้วก็ยังมีรูปคู่ของออกัสกับพี่ไผ่ ขณะนั่งรถไปไหนกันสักแห่ง 
และ..รูปคู่ของออกัสกับผม  รูปที่เราไปญี่ปุ่นด้วยกัน..


บ้านของต้นหลิว
ผมพาการ์ตูนมาส่งบ้านหลิว  วันนี้เขามีการนัดที่จะเตรียมความพร้อมก่อนฝึกงาน การ์ตูนแต่งตัวหล่อเพื่อมาหาหลิว และแน่นอนว่า แม่ของหลิวต้องชวนผมทานข้าวเย็นที่บ้านแน่นอน  ผมอยากให้โอกาสเพื่อนได้ทำคะแนน  แล้วก็ไม่อยากให้หลิวคิดว่าผมโกรธเธอเกี่ยวกับการที่หลิวปิดบังเรื่องออกัสกับพี่ไผ่  ผมต้องการแสดงออกว่า ไม่มีอะไรรบกวนจิตใจผมได้ แม้ว่า คนที่ผมกำลังจะเผชิญหน้า เป็นคนที่ผมอยากเค้นเอาคำตอบที่ค้างคาใจเหลือเกิน

แม่ของหลิว โผเข้ากอดเมื่อเห็นผม  ท่านสั่งให้คนเตรียมอาหารเพิ่ม พ่อของหลิวมอง การ์ตูนอย่างพินิจพิเคราะห์ แถมยังซักถามอะไรหลายอย่าง ผมค่อยๆ เดินออกมาจากห้องรับแขกปล่อยให้ผู้ใหญ่ได้คุยกับชายหนุ่มแสนเรียบร้อย คุณลุงคงใช้ลางสังหรณ์ของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ก็ย่อมทราบได้ว่า การ์ตูนกำลังทำคะแนนอย่างเงียบเชียบกับลูกสาวคนเดียวของท่านเป็นแน่  แม่หลิวพาผมไปชิมขนมไทยหลายอย่างที่ท่านกำลังหัดทำ สักพักนึง ระหว่างที่กำลังรอให้แม่ครัวเตรียมกับข้าวมื้อเย็น  หลิวก็เดินเข้ามาพร้อมพี่ไผ่

“น้ำอยู่กินข้าวกับเราก่อนนะ” หลิวเดินมาเกาะแขนผม ผู้ซึ่งกำลังช่วยคุณแม่ของเจ้าตัว จัดขนมหวานลงบนถ้วยเบญจรงค์

“ก็รับปากคุณแม่แล้ว เดี๋ยวเรากับตูน อยู่ทานด้วย”

“แล้วนี่ตูนไปไหนล่ะ”

“โดนคุณลุงเรียกคุยน่ะ” ผมส่งสายตาแบบมีเลศนัยไปยังหลิว เพื่อหลอกดูอาการว่า เธอจะรู้ไหมนะ ว่าการ์ตูนแอบชอบ

“อ๋อ พ่อนี่ก็” แล้วหลิวก็ปลีกตัวเดินไปทางห้องรับแขก เพื่อไปพิทักษ์ตูน ซึ่งเดาว่า คุณลุงน่าจะซักจนอ่วมเลย

“แล้วนี่ ไผ่จะไปไหนล่ะลูก ไปดูฟิตเนสเหรอ อยู่ทานข้าวกันดีกว่า โทรไปบอกที่ทำงานสิ ว่าวันนี้ไม่เข้า” คุณแม่เสนอแนะ

“เอิ่ม. ผมว่า.. ผมไม่อยู่น่าจะดีกว่าครับ”   ไม่แม้แต่น้อย ที่เขาจะหันมามอง

“ก็แล้วแต่นะ น้ำกับตูนอุตส่าห์มาทั้งที”

“อยู่กินข้าวกันไหมพี่ ที่ฟิตเนสคนไม่เยอะหรอกวันนี้ ผมเพิ่งถามโค้ชเดชเมื่อกี้นี้เอง”  ผมทำใจดีสู้เสือ แสดงให้เขาเห็นว่า ผมไม่ได้ยี่หระอะไรกับทุกเหตุการณ์  คนอย่างไอ้น้ำ สตรองเพียงพอ

“ก็ได้นะ”  แล้วพี่ไผ่ก็ขอตัวไปโทรศัพท์   เอาล่ะสิ  เขาก็คงจะลองดูเชิงว่าผมจะมีอาการอะไร ก็รอดูแล้วกัน แต่งานนี้ผมไม่แพ้แน่นอน







“ไอ้เอ มึงเป็นไงบ้างวะ” ผมต่อสายหาเพื่อนรัก

“แปลกๆ ว่ะ  คือคนในบ้านทุกคนเหมือนจ้องจะจับผิดกู  บรรยากาศแปลกๆ แต่ไม่มีอะไร”

“แล้วไอ้พี่มันเป็นไงวะ”

“ก็กลายเป็นลูกรักป๊ากูไปแล้ว นี่ไปนั่งกินเหล้ากับป๊ากูน่ะ ส่วนม๊านี่ทำกับแกล้ม ลงครัวเองเลย”

“ฟังดูพิกล”

“กูล่ะเสียวว่ะไอ้น้ำ กูทำตัวไม่ถูก”

“ป๊าคงดีใจ ที่ลูกคนเล็กจะออกเรือน”

“ออกเรือนกับเตี่ยมึง นี่กูทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่า พี่อำนาจจะมาไม้ไหน  แต่สถานการณ์เรื่องคนงานสงบแล้ว”

“แล้วคนงานให้ออกไปหลายคนไหม”

“สาวไปสาวมา ก็หลายคน แล้วพี่อำนาจโทรไปหาเพื่อนเขา ให้จัดแรงงานเข้ามาชุดให้ มีให้เลือกเยอะ ป๊านี่รับหมดเลย ค่าแรงถูกด้วย แล้วก็ดูไม่มีพิษมีภัย”

“นี่พาตูนมากินข้าวบ้านหลิว”

“หลิวมันรู้ยังหว่า”

“เดี๋ยวคืนนี้ กูจะถาม”

“จะดีเหรอ”

“ต้องช่วยมันว่ะ ไอ้ตูนมันบื้อ  ส่วนหลิวนี่ก็โลกสวย เดี๋ยวกูช่วยเหลือเอง”

“แล้วมึงล่ะ ใครช่วยเหลือมึง”

“กูไม่ต้องการคนช่วยอะไรทั้งนั้น” 

แล้วก็มีเสียงของหลิว ตะโกนมาเรียกให้ไปทานข้าวในห้องอาหาร ผมจึงยกมือขอเวลาสักครู่ ว่าจะรีบตามไป ผมลุกขึ้นจากชิงช้าในสวน เพื่อเตรียมไปสมบทกับทุกคน ได้เวลาเผชิญหน้ากับมื้อเย็นที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมอยู่ไม่น้อย
“ไหวนะ”

“เอาจริงๆ กูไม่ได้แคร์ไอ้ออกัส ขนาดนั้นว่ะ ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว” ผมตอบเอ ที่ยังรอสายอยู่

“กูไม่ได้หมายถึงไอ้กัส กูหมายถึง พี่ไผ่”

“...”

“มองจาก แถวคลอง 11 นี่ก็ยังรู้เลย ว่าพวกมึงเสี้ยนในกันและกัน”

“ไอ้สัส”

“กูแค่ไม่คิดว่า พี่ไผ่แมร่ง เท่ขนาดนั้น จะมาพิศวาสอะไรมึง”

“กูก็ตัวท็อปอยู่ ไอ้เชี่ยยย”

“อันนั้นกูรู้ แต่ประเด็นคือ บ้านเขาก็ตระกูลใหญ่เปล่าวะ เขาคงเครียดอยู่นะเว้ย ไม่มีประวัติกับผู้ชาย”

“บังเอิญว่า เคยมีเว้ย  ประวัติเขาคือ ไอ้กัส นั่นเอง”

“อืม”

“ทำไมมึงไม่ตกใจ”

“กูรู้จากพี่อำนาจนานแล้ว”

“อ้าว ทำไมมึงเหี้ยอย่างนี้ล่ะเพื่อน”

“ของบางอย่างมันก็พูดไม่ออกนะเว้ย  อย่าไปโกรธหลิว หรือโกรธทุกคนเลยนะเว้ย จะโกรธกู กูก็ไม่ว่า”

“กูไม่โกรธใครหรอก  กูบอกแล้วว่า กูไม่ใช่คนเดิม”

“แต่มึงก็เป็นน้ำเพื่อนรักกูนั่นแหล่ะ  มีอะไรโทรมานะเว้ย”

“อืม.. มึงก็เหมือนกัน ป๊ามึงเอ็นดูลูกเขยก็ดีแล้ว”

“ไอ้สัสน้ำ !”





หมั่วโถวที่สไลด์เสิร์ฟคู่กับขาหมูฮ่องเต้ ถูกส่งทั้งจานไปยังหัวโต๊ะ  มีปลาจาระเม็ดนึ่งบ๊วยของโปรดหลิวที่เจ้าตัวแทบไม่ยอมแบ่งกับคนอื่น ตรงหน้าผมมีแกงจืดปลาหมึกยัดไส้สีตุ่นหมองพอกับใบหน้าคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม พี่ไผ่นั่งจิ้มยำคอหมูย่างเข้าปากไม่ได้สนทนากับใคร  พ่อของหลิวที่อยู่หัวโต๊ะ มองพี่ไผ่ สลับกับหลิวไปมา ก่อนจะชวนให้คุณแม่ชิมปลาคังลวกจิ้มที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งผมเป็นคนซื้อมาฝาก  การ์ตูนนี่ไม่ต้องพูดถึง นั่งตับลีบแบนนิ่งเสียจนแทบจะเหมือนหินสลักรูปหมี

“พ่อสบายดีเนอะน้ำ  นี่ไม่มีโอกาสไปเยี่ยมท่านสักที  สงสัยต้องนัดวันซะแล้ว”

“สบายดีครับ พักนี้พ่อไม่ได้ไปไหน ใกล้ฤดูเลือกตั้งด้วย”

“ท่านกลัวพวกรัฐมนตรียืมเงินน่ะสิ  คนพวกนี้ก็นะ เอ่ยปากยืมกันง่ายๆ”

“คุณพ่อชินแล้วครับ”

“งั้นเดี๋ยวลุงไปยืมมั่งดีกว่า ฮ่าๆๆ”

“ที่มีอยู่ คุณลุงก็ใช้ไม่หมดแล้วนะครับผมว่า”

“เผื่อต้องแต่งลูก เดี๋ยวจะชักหน้าไม่ถึงหลังน่ะสิ”

“แต่งลูกชาย หรือลูกสาวล่ะครับลุง”  ผมชนะยกที่หนึ่ง  ทิ้งระเบิดไปก่อนใหญ่ ให้ไอ้คนโตของบ้านนี้นั่งหน้าจ๋อยเลย

“ลุงก็พูดไปอย่างนั้นแหล่ะ สงสัยจะอีกนาน” กลายเป็น ตูนที่รีบก้มเคี้ยวกุ้งราดผัดเปรี้ยวหวานตรงหน้า หลบสายตา
 
“ป้าก็บอกแล้ว เลือกเอาสักคนสิลูกน้ำ แล้วมาสู่ขอเลย” แม่ของหลิวที่นั่งเงียบอยู่นาน โพร่งออกมาบ้าง

“อ้าว ทำไมทำกับผมอย่างนี้ล่ะครับ ฮ่าๆๆ”

“ทุกวันนี้ ก็เหมือนลูกอยู่แล้ว จะไปตก ไปแต่ง ให้มันเสียค่าสินสอดทำไมล่ะคุณก็” 

“แหม ถ้ามาขอลูกสาว เราคงไม่กล้ารับสินสอดบ้านท่านหรอกค่ะ แต่ถ้าลูกชายเราไปขอ จะหาสินสอดไม่ทันน่ะสิ หน้าตาอย่างลูกน้ำนี่ ค่าสินสอดจะเท่าไหร่กัน”  คุณแม่หลิว นั่งทำหน้าคิดเป็นจริงเป็นจังมาก จนที่โต๊ะเริ่มทำหน้าเหวอ  ผมเห็นท่าจะยาว แถมตัวเองก็เป็นท็อปปิคหลัก เลยพยายามแก้เก้อ

“โหว แค่ได้กินของอร่อยแบบนี้ทุกวัน ก็พอแล้วครับ”  ก็พอจะทำให้ทุกคนได้หัวเราะแบบเสแสร้งกันได้บ้าง  โดยเฉพาะคนที่นั่งตรงข้าม เขายังคงใช้ส้อมเขี่ยอาหารไปมา ไม่ได้มองหน้าใคร แค่เหลือบตามาจ้องผมเป็นระยะ ก็เท่านั้น






ผมกลับมาถึงบ้าน พ่อยังคงนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา ดูอะไรอยู่น่ะเหรอครับ เป็นซีรีส์เกาหลี ที่คุณหมอสาวคนหนึ่ง กับ นายทหารหนุ่มที่ด้วยภาระหน้าที่การงาน ไปด้วยกันไม่ได้  ผมแปลกใจที่พ่อนั่งดูรายการอะไรแบบนี้  ผมเลยเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วก็นอนที่ตักพ่อ เป็นการอ้อน ตามประสาลูกชายคนเดียวที่เงินใกล้หมด และบัตรเครดิตใกล้เต็มวงเงิน
“อำนาจ เป็นยังไงบ้างแล้ว ทำอะไรอยู่”

“ผมไม่รู้ ไม่ได้ติดต่อ”

“อย่ามาโกหก”

“ก็สบายดี ไปช่วยบ้านเอ รื้อระบบใหม่ คนงานมันเกรียน”

“เออ ก็เหมาะกับอำนาจดี”

“นี่พ่อโกรธพี่เขามากเลยเหรอ จริงๆผมผิดเองครับพ่อ”

“พ่อรู้  แต่เขาเป็นพี่ เขาต้องคอยเตือน ไม่ใช่สงเสริม”

“เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งผม เขาเป็นลูกจ้างพ่อ เขาก็ทำตามทำสั่ง”

“แต่พ่อไม่ได้เลี้ยงเขาแบบลูกจ้างนี่นา”



[ TBC ]


**** มีฉาก half blood INCEST แบบเบา ต่อด้านล่าง กรณีไม่ใช่แนว ควรกดข้ามตอน



หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 05-06-2018 14:39:48
[ ต่อ ]

**** มีฉาก INCEST เบาบาง  ถ้าไม่ใช่แนว ควรข้าม

ไลน์ของหลิว

“พ่อคุยอะไรกับตูนบ้างล่ะน้ำ”

“น้ำไม่รู้หรอก ไม่ลองถามตูนดู”

“ก็อยากลองถามจากน้ำดูก่อน”

“นี่รู้แล้วใช่ไหม เรื่องตูนน่ะ”

“รู้ตั้งนานแล้ว”

“อ้าว จริงดิ”

“เขาก็แสดงออกขนาดนี้มาตั้งนานแล้ว”

“ตอนแรกเรานึกว่ามันชอบเอ”

“บ้า”

“เอก็นึกว่ามันชอบเรา”

“พวกบ้า”

“มันนุ่มนิ่ม ต้วมเตี้ยม”

“จะพูดว่า ตุ้งติ้ง ก็พูดมา”

“เออ มันตุ้งติ้ง”

“ก็จริงแหละ คนที่สาขาก็คิดแบบนั้น”

“แต่หลิวไม่คิด”

“ก็เขาดีกับเรา”

“ชอบมันไหม”

“น้ำคิดว่าไงล่ะ”

“มันเป็นคนดีโครต บ้านก็อยู่ในตระกูลที่ไม่เสื่อมเสีย ผู้ดีเก่า พี่น้อง ญาติ ไม่ใช่คนโลภ แต่ไม่รู้ว่า คนจะว่ายังไง จะเป็นเขยบ้านหลิว มันจะต้องดู น่าเกรงขามกว่านี้เปล่า”

“คนที่ว่า นี่ใครอ่ะ”

“ก็คนทั่วๆ ไปน่ะ”

“เราไม่แคร์หรอก  เราแคร์แค่ เขาคิดยังไง  เราคิดยังไง”

“สตรองเว่อร์”

“เก่งม๊ะ”

“เก่งกว่าเรา เพื่อนรัก  นี่แสดงว่า ชอบตูนเหมือนกันใช่ไหม”

“น้ำต้องเห็นสิ่งต่างๆ ที่เขาทำให้เรา”

“แพ้ความดีว่างั้น”

“มันมีอะไรที่มากกว่านั้นนะ  เขามันพลังงานแห่งความรักที่มอบมาให้ รู้สึกว่ามันอบอุ่น”

“ใช้คำว่ารัก เต็มปากเลยนะ”

“....”

“เฮ้ยยย ใจเย็น ล้อเล่น”

“ก็แอบหวั่น ว่าเขาจะท้อไหม คนรอบข้างเหมือนจะชอบคิดไปว่า เขาไม่เหมาะกับเรา”

“เอาจริงๆ ใครก็มองแบบนั้นป๊ะ”

“เราสิ กลับคิดว่า เราจะคู่ควรกับความรักที่เขามอบให้ไหม มันสมบูรณ์แบบอ่ะ”

“โหยยย ต้นหลิว  นังเพื่อนชั่ว มีความรักเต็มอก แล้วปกปิด”

“ก็ค่อยๆ ดูไป”

“อืม เป็นกำลังใจให้นะ  ยิ่งตูนมันเป็นคนน่ารัก เราอ่ะ ก็อยากให้ไปกันรอด”

“ก็ไม่รู้สิ ทำตัวไม่ถูก ไม่เคยมีแฟนนี่นา”





หลังจากวันนั้นพักใหญ่ ผมใช้เวลากับตัวเองและการเรียนมากขึ้น พ่อเติมเต็มบัตรเครดิตของผมทุกใบในฐานะลูกชายที่กลับเนื้อกลับตัว ผมไม่ได้ไปเที่ยวกลางคืน ไม่ใช่เพราะไอ้เอไม่ยอมออกไปด้วย แต่เพราะว่าผมไม่อยากรู้สึกว่าจะต้องทำ ในสิ่งที่ผมจะพยายามไปก็เท่านั้น 

ผมส่งไลน์ทักทาย ผู้กองกับพี่กร แต่ไม่ได้วีดีโอคอลล์กันอีกเลย ผมเหม็นฟามรัก พวกข้าวใหม่ปลามัน  แต่ทั้งคู่ก็เอ็นดูผมนะ ส่งรูปคู่เชิงสังวาสมาให้ดูเป็นระยะ พี่กรนี่ตัวดีเลย ส่งทุกท่าบนฟูกมาให้ดู คือ ใช้พื้นที่เตียงได้คุ้มมาก คนอวดผัว

มีโอกาสได้โทรหาน้องกันต์ เล่าสารทุกข์สุกดิบ น้องยังคงน่ารักและเป็นกำลังใจในปลายทางที่มืดหม่นได้เสมอ แต่ตอนนี้ผมมั่นใจว่า เขาใจอ่อนกับลูกตื้อของออกัสเข้าให้แล้ว  ออกัสมันก็แบบนี้แหล่ะครรับ ขี้ตื้อ ขี้อ้อน ต่อให้มันกวนประสาทได้แค่ไหน มันก็ยังเอาใจของกันต์กลับไปจนได้ 

แล้วผมก็ใช้เวลาให้ยุ่งเหยิงเข้าไว้ ทำใจให้ไม่คิดถึงพี่ไผ่ แล้วมันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยในทุกวัน  ผมไม่ไปฟิตเนส อาศัยว่ายน้ำในสระเล็กส่วนตัวที่คอนโด  กลับไปทานข้าวกับพ่อบ่อยขึ้น แล้วก็พาพ่อไปเดินห้าง เราดูซีรีส์เกาหลีด้วยกัน ผมแอบเห็นพ่อน้ำตาไหลในบางฉาก ส่วนใหญ่เป็นการพลัดพรากและไม่สมหวัง  ผมปลอบโยนพ่อด้วยป็อปคอร์นแสนอร่อยที่เตรียมไว้

เอเพื่อนรักยังไปกลับ กทม. กับ ปทุมธานี เพราะเรื่องยุ่งของที่บ้านซึ่งกำลังเข้าสู่ในทางที่ดี  ตอนนี้พี่อำนาจเข้าไปช่วยดูถึงขั้นตอนการจัดซื้อด้วยซ้ำ  เป็นที่รักของที่บ้านกันใหญ่ มีคนเดียวคือ อาม่าใหญ่ ที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ได้สุงสิงหรือเข้ามาพูดคุย น่าจะเพราะอาม่าใหญ่ เป็นคนเลี้ยงไอ้เอมา น่าจะหวงแหนหลานชายคนโปรดเป็นอย่างมาก การที่พี่อำนาจผู้ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่มียศฐา บุ่มบ่ามเข้าไปใกล้ชิดและโผล่มาอยู่ในโลกของไอ้เอ มันคงทำให้อาม่าใหญ่ปรับตัวไม่ทัน 


ทำไมทุกคนเหมือนมีชีวิตที่เดินไปข้างหน้า..  แต่ผมไม่ไปไหน


แถมยังเหมือนกลับไปเริ่มต้นใหม่ ถอยหลังไปยืนในจุดที่เคยผ่านมาแล้วทั้งหมด อยู่กับชีวิตเรียบง่าย เป็นนาย นที เด็กดีของคุณพ่อ  ลึกแล้วในใจผมก็ชอบมันนะ เป็นไอ้น้ำคนที่นั่งอ่านนิยายที่ชอบ เล่นเกม ดูการ์ตูน ซื้อเสื้อผ้าด้วยเงินพ่อ นั่งรอว่าจะมีใครคิดถึงเราไหม แล้วเฝ้าดูใจตัวเองว่า เราคิดถึงใคร


เผลอไปในความรู้สึก..  ภวังค์ที่หายไป ส่งต่อผมมาที่หน้าประตูบ้านของใครบางคน  ผมเรียกสติ แล้วกรดกริ่งนั้น

บ้านไม้สักสองชั้น ใช้ไทรเกาหลีล้อมเป็นรั้วด้วยเนื้อที่ขนาดใหญ่ ไม่ไกลจากตลาดบ้านแพ้ว สมุทรสาคร เท่าไหร่นัก เจ้าของบ้านวิ่งมากอด แล้วดึงผมเข้าไปในบ้าน โดยมีสามีทหารที่เปลือยท่อนบน วางมือจากกรรไกรตัดกิ่งไม้ เดินมารับไหว้ผม 

แม่ ดูเปลี่ยนไปมาก น้ำหนักขึ้นมาเยอะ ผิวที่เคยขาวเนียน ดูคล้ำ มีกระขึ้นที่ใบหน้าซึ่งเคยสวยมาก ผมสีเทาแซมเต็มมิได้ย้อมดำแบบแต่ก่อน   น้าธนู เอาผ้าขาวม้า มาเช็ดเหงื่อตามตัดออก แล้วคว้าเสื้อยืดคอวีมาสวม ก่อนจะมาจัดเตรียมน้ำมาให้ผมดื่ม  น้าธนูเคยเป็นคนสนิทของพ่อ เป็นนายทหารเก่าที่แม้จะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังเต็มไปด้วยมัดกล้าม  เขายังดูหนุ่มมากเมื่อเทียบกับแม่ของผม 

ไวน์มะเม่า กับ อาหารทะเลเผา ถูกย่างมาวางเกลื่อนโต๊ะ  น้ำจิ้มซีฟู้ดส์ที่แม่ทำ ยังคงอร่อยกว่าที่ไหนเสมอ น้าธนูคอยประคองแก้วไม่ให้แม่ดื่มมากไป  ลมพัดเอื่อย เสียงเครื่องปรับอากาศที่ถูกเปิดรอ มีห้องหนึ่งห้องที่แม่เตรียมไว้ให้ผมเสมอถ้าผมจะแวะมาเยี่ยมเยือน   เหลือบไปมี อุทิศ น้องชายต่างมารดาของผม ที่แวะมาสวัสดีแต่ไม่ได้ออกมาสุงสิงอะไร 

ผมออกมานั่งที่ระเบียงดาว แม้อากาศจะไม่ได้เย็นหนาว แต่ก็พอมีลมเอื่อยพัดโดนใบหน้า  ผมมองไปที่สวน เห็นน้าธนูเก็บเตาย่าง มีอุทิศออกมาช่วยพ่อของเขา  ป่านนี้แม่คงหลับไปแล้ว  ผมไม่รู้ว่าแม่มีความสุขไหม แต่แม่ละทิ้งชีวิตที่สบาย โดยไม่หันหลังกลับ ใบหน้าของแม่บนโต๊ะ ยามที่แกะกุ้งส่งให้ผม ไม่รู้ว่าเป็นใบหน้าแห่งความสุขหรือเปล่า แม่อยากกลับไปไหม หรือแม่ก้าวมาไกลเกินจะกลับ ผมไม่อาจจะคิดแทน  แต่ผมก็คิดถึงแม่อยู่เสมอแล้วก็แวะกลับมาถ้าผมอยากเริ่มต้นกับตัวเองด้วยความรู้สึกใหม่ มันก็เป็นอย่างนี้มาตลอด 

“ยังไม่หลับเหรอ”  แม่เดินห่อผ้าพันคอหนา มานั่งข้างผม  พร้อมส่งเสื้อไหมพรมสีครีมมาให้

“ถักเองเหรอครับแม่”

“อืม เป็นตัวแรกเลยนะ ที่แม่เย็บจนเสร็จ”

“ขอบคุณครับ”  ผมกางออกมาดู สำรวจขนาดซึ่งน่าจะใส่ได้อย่างพอดี

“ลายเชยหน่อยนะลูก แม่เพิ่งหัดทำ”

“น่ารักดีออกครับ เดี๋ยวผมจะใส่แล้วถ่ายรูปส่งมาให้นะ”

“กว่าจะถึงฤดูหนาว หน้าคงเปลี่ยนไปอีก จนแม่จำหน้าลูกตัวเองไม่ได้แล้วแหล่ะ”

“แม่อ่ะ !!”

“อยากทำอะไรก็ทำ  เงินก็มี เอาที่ปลอดภัยแล้วกันนะ เลือกหมอที่ดี”

“ครับ” 


แม่นั่งคุยกับผมสักพักแล้วขอตัวไปนอน  แม่บอกว่า แม่รู้ว่าผมมีเรื่องในใจ ถ้ามีอะไรก็มาค้าง มาหาให้บ่อย  พอแม่กลับไปแล้ว ผมก็ไปหยิบจดหมายในกระเป๋า ที่หลิวฝากมาให้ มันเริ่มยับยู่ยี่เพราะผมหยิบมาอ่านไปมาอยู่หลายรอบในสองวันมานี้  หลิวบอกว่าเจ้าของจดหมายเขาฝากมาให้ แล้วก็ขอให้ผมกลับไปเล่นฟิตเนสได้แล้ว ก่อนที่ก้นจะกลับมาย้อย ดูมันสิ ขนาดง้อ ยังมีความกวนบาทาระดับสิบ


ผมกำจดหมายที่เขียนด้วยลายมือเหมือนไก่เขี่ย แต่ผมก็อ่านจนขึ้นใจ มองไปที่แม่ซึ่งออกไปตาม น้าธนู กับ อุทิศให้กลับเข้ามานอน ปล่อยให้สวนเหลือเพียงร่องรอยของการสังสรรค์  ดาวยังคงระยิบข้างแสงจันทร์  ผมก็ยังคงนั่งถอนหายใจอยู่ที่ระเบียงต่อไปจนดึกดื่น จนกระทั่ง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“อ้าว ยังไม่ง่วงเหรอ อุทิศ”

“ผมจะมาขออะไรพี่น้ำหน่อย”

“ว่า”

“ช่วงที่พี่ไม่อยู่ ผมขอมานอนที่ห้องพี่ได้ไหมครับ”

“ได้สิ แต่มีอะไรหรือเปล่า”

“ผมนอนที่ห้องไม่ได้น่ะครับ”

“ทำไม”

“คือ พ่อกับแม่..  เอ่อ..  เวลาเขาเมา เขาจะ..  เอ่อ..”

ผมพอจะเดาได้ เลยเอามือตบไหล่ แล้วบอกให้อุทิศไปหยิบ เบบี้ออยล์ ซึ่งวางอยู่ตรงหน้าห้องน้ำรวม แล้วให้เขาตามเข้ามาในห้องผม  สั่งล็อคประตูให้ดี

“น้าธนูกับแม่ทำกันเสียดังเหรอ”

“พี่น้ำ ผมนอนไม่ได้เลย แม่โหยหวนมาก”

“อ้าวแล้วที่ผ่านมาทำยังไง”

“ผมก็พยายามเอาหัวมุดในหมอน แต่มันก็ดังลอดมา ผมนอนไม่หลับ”

ผมพยายามดู น้องชายต่างมารดาของตัวเอง ตอนนี้เขาโตเป็นเด็กหนุ่ม อายุ 12 หน้าตาดี แต่ก็ใสซื่อ ไม่มีพิษมีภัย  ผมไม่ได้โกรธ ถ้าเขาจะแย่งความรักของแม่ไปจากผม เพราะที่ผมได้จากพ่อ มันก็เพียงพอแล้ว  ออกจะนึกขำด้วยซ้ำ ที่เด็กน้อยคนนี้ไม่มีพิษสงอะไร แม้กระทั่งผู้ใหญ่ร่วมรักกันก็ไม่สามารถระบายให้ใครฟังถึงอารมณ์ที่กรุ่นฟุ้งในใจได้

“ไม่เคยปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนเหรอ”  ผมเอื้อมมีไปรับ เบบี้ออย จากมือของเขา

“ใครจะกล้าบอกล่ะพี่ น่าอาย”

“ไม่มีอะไรน่าอาย ถ้าเก็บกดไว้ สิวจะขึ้นนะ”  ผมเอื้อมมือไป ชี้ที่สิวเม็ดเล็กตรงคาง ที่ปูดนูนขึ้นมา แต่ก็ไม่ทำให้เขาเสียความหล่อใสแต่ประการใด สิวเป็นเรื่องธรรมชาตินะผมว่า  สิ่งที่ผมจะสอนเขา ก็เช่นกัน

“ผมก็ไม่กล้าบอกใครอยู่ดีครับพี่น้ำ  ผมกะว่าจะขอมานอนที่ห้องพี่ เพราะมันไกลหน่อย แต่ก็รอจะขอพี่ก่อน พี่ก็ไม่มาเยี่ยมแม่สักที”

“ตลกจัง มีอะไรก็โทร หรือ ไลน์มาสิ  เราก็น้องพี่คนนึง แม้จะแทบไม่เคยคุยกันก็เหอะ นี่ดีใจนะที่ มาปรึกษาพี่”

“ผมอยากสนิทกับพี่นะ  แต่ผมก็ไม่รู้ว่า พี่เกลียดพ่อผมไหม”

“ไม่นะ น้าธนู ดูแลแม่พี่ดี ถ้าเราไม่ดื้อ พี่ก็จะรักเราด้วย”

“ครับพี่น้ำ”

“เอาล่ะ ถอดกางเกง”

“เฮ้ย”

“ไหนบอกไม่ดื้อ”

“แต่พี่ นี่พี่จะทำอะไรผม”

“พี่ไม่ล่วงเกินอะไรเราหรอกครับ อุทิศ  แต่พี่จะสอนให้เรา จัดการดับไฟในใจให้ได้   ไม่มีอะไรผิดหรอกน่า”

“....”

“ไว้ใจพี่ไหมครับ”

“ครับ”

“ถ้าอาย ก็ถอดให้พี่ก่อนนะ”  แล้วผมก็เอนตัวลงนอน อุทิศ ค่อยๆ ถอดกางเกงกีฬาผมออกอย่างเคอะเขิน เขาตาลุกวาวเมื่อเห็นของผม ซึ่งมันก็ตื่นตัวได้ไวเพราะผิดกลิ่น แต่ก็ต้องข่มใจว่า นี่น้องชายนะ   เมื่ออุทิศเห็นเช่นนั้น เขาก็ค่อยๆ ถอดกางเกงผ้าร่มขาสั้นของเขาออก โอ้โห สงสัยจะได้น้าธนูมาเยอะ อายุแค่สิบสอง แต่แม่เจ้าโว้ย มันอลังการ  แล้วอุทิศก็ย้ายมานอนที่เตียงของผม  ไม่ดื้ออย่างที่บอกจริงด้วยแฮะ

“ฮอร์โมนของเด็กชาย มันไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจนะอุทิศ ถ้าเรารู้จักระบายมัน เราก็จะไม่อัดอั้น แต่ต้องสัญญานะ ว่าไม่หมกมุ่น และไม่จมปรักกับมัน มีแฟนหรือยัง อย่าไปล่วงล้ำสาวที่ไหนนะ มันยังไม่ถึงเวลา”

“ผมไม่รู้ว่าผมจะหมกมุ่นกับมันไหม ผมเคยแอบดูหนังโป๊ ตอนไปห้องเพื่อน แต่ที่บ้านไม่เคย พ่ออยู่บ้านตลอดเวลา”

“เราระบายมันได้ แต่อย่าไปเอามันเหนือในทุกเรื่อง สมัยพี่วัยเดียวกับอุทิศ พี่ก็แค่วันละสองครั้ง”

“สองครั้งนี่เรียกว่า เยอะ หรือ น้อยครับ”

“คนเราไม่เหมือนกัน พี่ก็ตื่นนอน หนึ่งรอบ  กับก่อนนอนหนึ่งรอบ แต่ถ้าอุทิศรู้สึกตอนไหน ก็บรรเทาตัวเองตอนนั้น เน้นว่า อย่าไปหมกมุ่นนะ” 

ผมเปิดเบบี้ออย หยอดใส่มือ แล้วชโลมลงบนแก่นกายของผม แล้วก็บีบใส่ของอุทิศด้วย ผมเอามือของผมไปชโลมให้กันท่อนกายน้องชาย  เขาก็ตื่นตัวได้รวดเร็ว ขนาดเกือบจะเท่ากับของผมแล้ว แต่ปลายยังไม่เปิด สีไม่คล้ำ ผมเลยละมือออก กลับมานวดน้ำมันไปที่ของผม เพื่อสาธิตให้เขาดู

“ถ้าตรงปลายยังไม่เปิด ต้องใส่น้ำมัน หรือโลชั่น เพื่อที่จะไม่ทำให้เป็นแผลถลอก ใส่เยอะๆนะ”

“ครับ” เสียงของอุทิศกระเส่าเล็กน้อย หายใจหอบ

“เวลาดึงลงมา รั้งให้ปลายเลยรอยหยัก ถ้ามันสกปรก จะได้รู้  แต่เท่าที่ดู สะอาดดีนะ”

“พ่อสอนผมล้าง ผมก็ล้างทำความสะอาดทุกวันครับพี่”

“ดีมาก  เด็กดี”  ผมเอื้อมไปกำของอุทิศ แล้วค่อยๆ รั้งลงมาเพื่อเป็นการสาธิต แล้วขยับมือขึ้นลง ก่อนจะส่งต่อให้เขา ทำด้วยตัวเอง  ผมเอามือที่ว่างของตัวเอง ถลกเสื้อของผมขึ้นจะแผ่นอกโผล่ออกมา  ผมเอามือลูบไล้ แล้วเขี่ยที่ปลายยอดอก แล้วครางเบาให้เขาดู  อุทิศค่อยๆ ทำตาม 

มันเขื่องขึ้นมาเกินเด็กแล้ว เขาเร่งขึ้นด้วยตัวเอง หลับตาพริ้ม เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก  จมูกโด่งเป็นสันคล้ายของน้าธนู ผิวเข้ม โหนกแก้มเหลี่ยมแสดงความเป็นชาย เขาหายใจหอบ ก่อนจะกระตุกร่างที่เกร็ง ปลายเท้าเหยียดตึง แล้วผ่อนมือลงมา หายใจออกเฮือกใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น 

ผมเลยหลับตา ใช้มือขโยกขึ้นลง จินตาการถึงสิ่งที่ผ่านมาในขวบปี ที่ชีวิตทางเพศของผมโลดโผนเกินบรรยาย  ผมรู้สึกได้ถึงหัวใจตัวเองที่เต้นเร็ว หายใจหอบ  ผมหันไปมอง อุทิศที่เพิ่งเสร็จกิจ หันมามองผมกระทำตัวเองอย่างสนใจและใคร่ที่จะเรียนรู้  ผมเอื้อมมือของอุทิศ มาจับที่ของผมแล้วให้เขาช่วยผม เขาขยับมือขึ้นลงอย่างเต็มใจ ผมหายใจหอบถี่ เหงื่อเราทั้งคู่ แตกเต็มหน้า ไหลมาที่ซอกคอ  อุทิศจ้องมองของผมที่เกร็งตัวเต็มที่พร้อมจะระเบิด ก่อนเขาจะหันหน้ามามองผม  ผมพยักหน้า เขาเร่งมือรัว ก่อนผมจะสั่นเกร็งไปทั้งตัว หอบเอาลมหายใจเฮือกใหญ่ พ่นใส่เขาอย่างเต็มแรง  หยาดขาวขุ่นล้นเปื้อนเต็มมือเขา ผมพยักหน้าให้เขาขยับมือต่อ  เป็นบทเรียนว่า ความสุขยังต่อได้อีกประมาณครึ่งนาทีหลังจากเลยจุดสุดยอดไปแล้ว อุทิศดูตื่นเต้นที่เขาพลาดอะไรไป  ก่อนของผมจะอ่อนตัวคามือเขาเมื่อผ่านไปครึ่งนาที

ผมนอนหงายแผ่แบบคนที่เพิ่งวิ่งรอบสนามฟุตบอลมา  อุทิศเอามือที่เปื้อนมาเช็ดที่หน้าท้องของผม  มันปนกันทั้งหยาดสีขุ่นของผมและสีใสของเขา ปนรวมเลอะบนตัวผมเต็มไปหมด  ผมดันศอกพยุงตัวขึ้น หันไปดูเขาที่นอนราบหลับตา  ผมก้มลงไปหอมหน้าผากเขาอย่างเอ็นดู

“เราสนิทกันแล้วนะครับ น้องชาย มีอะไรปรึกษาพี่ได้นะ”

“ครับพี่น้ำ  ขอบคุณครับพี่ชาย”



หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 05-06-2018 14:46:42
**** hallo from the other side

ก่อนอื่น  ขออภัย ที่ช้าน้าาาาา

เราเข้ารับการรักษาตัว ด้วยโรคปลายประสาทเสื่อม  ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ปลายนิ้วมือ เราขยับได้ดี

เหลือ ฝังเข็ม อีก 6 ครั้ง คุณหมอว่า น่าจะหายดี

ระหว่างที่รักษา เราได้ ฟิคคุณหมอ กับคนไข้ เพิ่มเข้ามา นับเป็นการเจ็บป่วยที่ให้คุณ  มากกว่าโทษ คริ คริ

ท่านผู้อ่านไม่ต้องกลัว  ทุกเรื่อง ก่อนที่จะลงบอร์ด   เราเขียนจบล่วงหน้าทุกเรื่องแล้ว  ^__^

เพียงแต่ ก่อนจะลงแต่ละตอน จะรีไรท์ นิดหน่อยแค่นั้น และเปลี่ยนเคมี คู่รอง บ้างบางตอน

ตอนนี้ มีนิยายที่เสร็จแล้ว 4 เรื่อง แต่ยังไม่ได้ลงในเดือนนี้

เพราะเราต้อง เตรียมตีพิมพ์ 1 เรื่อง  The Debut : แจ้งเกิดหัวใจ นายเบอร์รอง [ ชาย-หญิง ]

ส่วน Love of 1999 : มารักกัน.. ก่อนวันสิ้นโลก  กำลัง รีไรท์  เช่นกัน [ ชาย-ชาย ]

ขอเวลานิด จะทยอยลงให้  ขอบคุณที่ถามถึง และข้อความที่ส่ง inbox กันมา

เรื่องสั้น อีก 3 เรื่อง กำลังจะตรวจ เดี๋ยวทยอยลงให้ที่ บอร์ดเรื่องสั้น ในหมวดชุด แรงงานที่รัก

- พลขับ คนละขับ

- ปิ่นโต ของเด็กวัด

- รักการ ภารโรง

ขอบคุณน้าาาาาาาา


ปล. สำหรับ คนที่ไม่ชอบ incest  ต้องขออภัยที่ แทรกมาให้ในบทนี้
ส่วนตัวคิดว่า  นิยายเชิงสังวาส จะสมบูรณ์ได้ ถ้ามีทุกรูปแบบ แต่ไม่กล้าใส่แบบเต็ม
เลยวางเป็น haft blood ไว้แทน

นิยายเรื่องนี้ แม้มี sex เป็นตัวเดินเรื่อง แต่เชื่อว่า ท่านผู้อ่านจะเข้าใจว่า แท้จริงแล้ว มันเป็นเรื่องของความรัก

เพียงแต่ รัก โลภ โกรธ หลง  มักถูกความใคร่ ทำให้มันเติบโตไปในทางที่เกินควบคุม

โค้งสุดท้ายแล้วนะ  เป็นกำลังใจให้ นที คนเก่ง  ที่ซุกซนเหลือเกิน 



หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 05-06-2018 16:15:08
สู้ๆนะเด็กน้อย
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-06-2018 17:23:15
เห็นน้ำเพลาๆลงก็ดีใจ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-06-2018 18:28:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-06-2018 22:03:28
แค่เค้าเขียนจดหมาย..ฝากน้องสาวมาง้อ
ก็หายงอนซะแล้ว หึหึ

งั้นแสดงว่าจดหมายฉบับนั้นคงให้เหตุผลที่น่าพึงพอใจมากกกกกกก
ขนาดไม่ได้มาพูดอธิบายด้วยตัวเอง แค่เปิดอ่านก็สามารถทำให้ใจอ่อนได้เลย
ฮ่าฮ่า ไอ่พี่ไผ่คนนี้เยี่ยมจริงๆ ทำให้น้องน้ำยอมสยบราบคาบ ไร้การต่อรองใดใด

เคลียร์ขนาดนั้นเลย..จริงดิ
กร๊ากกกกกกกกกก


อย่าเข้าใจ ตัวพี่ผิด คิดไปมาก
แม้แต่จูบ ลิ้นพันปาก ยังผลักไส
ไม่เคยเล๊ยยย ไม่เคยเลย ไม่มีใคร
แค่รู้จัก เดินสวนไป สวนกันมา

จะสงสัย ไปทำไม เพิ่งรู้จัก
เขาแค่เคย แวะทายทัก ไม่หนักหนา
จะพูดจา ก็เหมือนเพื่อน ลืมเลือนมา
อย่าไปนับ ที่ง้างขา อ้าใส่กัน

เข้าใจเหอะ..เน๊าะ
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 06-06-2018 12:44:45
พี่อำนาจ มง !!  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 06-06-2018 15:25:19
ก็เข้าใจได้นะ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 07-06-2018 12:41:48
ทุก แค็ทตาล็อค ใน youporn ถ่ายทอดไว้แล้ว ในนิยายเรื่องนี้  o18 :hao3: :hao7:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 08-06-2018 00:42:54
เอิ่มนู๋น้ำ นั่งน้องนะ ก๊ากกก เว้นบ้างอะไรบ้างค่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 08-06-2018 15:48:58
 :haun4: :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 09-06-2018 00:03:09
เพ่อำนาจโครจลอยลำ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 15 : ReVirginized บริสุทธิ์อีกครั้ง.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-06-2018 01:18:46
รอตอนต่อไปอยู่นะ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : Cuckold Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 09-06-2018 12:16:30
Prep  16 :  CuckOld Game คนกองหนุน

บ่ายคล้อยในวันที่ล่ำลาแม่ ผมหอบมะพร้าวที่น้าธนูตัดมาให้ 2 ทะลายใหญ่ขึ้นหลังรถเก๋งไป ผมกอดแม่พร้อมหอมไปฟอดใหญ่ แม่ก็หอมผมกลับ ผมส่งเงินให้แม่ปึกหนึ่ง แต่แม่ไม่รับไว้ เลยแกล้งส่งไปให้น้องชายของผมแทน แม่รีบแย่งไปเก็บไว้ แล้วบอกว่าจะทยอยแบ่งให้ซื้อของที่จำเป็น  อุทิศยกมือขอบคุณ ผมยักคิ้วให้ ก่อนจะเดินมาส่งผมที่รถ
“อย่าลืมนะ มีอะไร ไลน์มาหาพี่ เราสนิทกันแล้วนะ อย่าลืม” ผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่ตอนอุทิศทำหน้าเหวอ พร้อมกับหันกลับไปมองทางน้าธนูอย่างกลัวๆ

พอเข้าเขตตัวเมือง ผมแวะที่ห้างใหญ่แถวพระราม 2  เพื่อเจอกับตูนซึ่งแวะมาเยี่ยมพ่อแม่ของเขาแถวนี้  เลยถือโอกาสเดินห้างพูดคุยกัน โดยเฉพาะเรื่องของหลิว  เราเลือกร้านอาหารอิตาเลี่ยนซึ่งราคาไม่แพงนัก ผมจะถือโอกาสสอนวิธีการวางมีดส้อม ตลอดจนการพับผ้าเช็ดปาก เผื่อให้เขาได้ศึกษาเวลาออกสังคม คิดจะเป็นเขยบ้านเศรษฐี มันต้องจริงจังเว้ยตูน

“แล้ววันนั้น โดยคุณลุงจัดหนักเลยไหม ออกมานี่หน้าซีดเลย”  ผมเฉือนอกไก่อบซ้อสมะเขือเทศ ให้ตูนดูเป็นตัวอย่าง เขาก็สนใจเป็นอย่างมาก แต่ปากก็ยังเคี้ยวตุ่ย จนผมต้องเอามีดชี้หน้าให้สำรวม

“ไม่เลย คุณลุงดีมาก ก็ถามมาตรงๆ เลยว่า จีบหลิวเหรอ”

“หูวว เชดดด  ลุงนี่ทำไมโหด แล้วบอกไปว่ายังไง”

“บอกไปว่า ไม่ได้จีบ”

“อ้าว”

“ก็ไม่อยากโกหก  ไม่ได้จีบ แต่อยู่ด้วยกันทุกวัน ก็ไม่รู้ว่าหลิวคิดยังไง”

“ลุงว่าไงต่อล่ะ”

“เขาให้ย้ายที่ฝึกงานมาฝึกที่บริษัทเขา ให้ไปทำเรื่องกับอาจารย์ด่วน”

“เครียดแทนเลยว่ะตูน”

“ก็ดีนะ ลุงท่านจะให้เรียนรู้งาน คงแอบดูทักษะเราด้วยว่า เราทำได้ไหม ถ้าจะมาดูแลลูกสาวเขา”

“ใจเย็นๆเว้ย เขาพูดแล้วเหรอว่า จะให้ตูนดูแลหลิวได้”

“คิดว่าได้”

“ทำไมล่ะ ไปแสดงอะไรให้ท่านเห็น ถึงคิดว่าชนะใจคุณลุงได้”

“ไต”

“ห๋า”

“ไต ชนะใจพ่อหลิว”

“คือ อะไรยังไง งง”

“ท่านบอกว่า มีคนมาทาบทามหลิวเยอะ ลูกชายเพื่อน หน้าตาดี ท่าทางบุคลิกดี เหมาะสมกับตระกูลเขา เรารักลูกสาวท่านแค่ไหน ถึงจะคิดว่า ท่านจะใจอ่อน”

“แล้วก็บอกไปว่า ไต เหรอ”

“เราบอกว่าหลิวเป็นคนสวย อยู่ในครอบครัวที่ดี ใครก็คงให้ใจกับหลิวได้อยู่แล้ว ส่วนตัวผมคงไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนั้น”

“ฟังอยู่ ลุ้นมากกก”

“ท่านถามว่า เรามีใจที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นสิ ก็บอกไปว่า เปล่าไม่ใช่แค่ใจ  แต่ผมให้ ไต หลิวได้  ในวันหนึ่งถ้าหลิวต้องการ”

“เชดดดดดดด”

“ก็เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ  ไม่ได้หมายความว่า ให้ชีวิตหรือตายแทนอะไรแบบนั้น  เราก็มีครอบครัว มีพ่อแม่ต้องทดแทน แต่ถ้าวันหนึ่ง หลิวลำบาก ต้องการในสิ่งที่คนอื่นอาจให้ไม่ได้  เราว่า เราให้ได้”

“ไอ้ตูน  เชดเข้  มึงนี่มาเหนือเมฆ”




ฝนตกหนักมาหลายวัน บ่งบอกว่าเตรียมเข้าสู่ต้นหนาว  พี่อำนาจให้ผมแวะรับที่บ้าน เพื่อให้ผมขับไปส่งเขาที่บ้านเอ จริงแล้วผมขันอาสาเองแหล่ะ  ระหว่างทางไปปทุมธานี เลยถามสารทุกข์คนคุ้นเคย  เอที่กลายเป็นเด็กเรียน แทบไม่ได้เที่ยวกลางคืนเลย ยกเว้นวันเลี้ยงสายรหัส หรือมีนัดกับกลุ่มเดือนคณะอื่นซึ่งจัดเดือนละครั้ง มันตั้งหน้าตั้งตาเรียนผิดวิสัยเชียว

“แล้วนี่ พี่อำนาจโซโล่เพื่อนผมไปยัง”

“ไม่เอาสินายน้อย ผมไม่ขายแฟน”

“เฮ้ย เป็นแฟนกันแล้ว”

“เขาไม่ยอมรับ แต่แหม ผมไม่โง่ขนาดนั้น”

“ไอ้พี่ มึงนี่ก้าวหน้า”

“นายน้อยล่ะ ดีขึ้นไหม แล้วช่วงนี้เอายังไงกับชีวิต”

“ก็ไม่มีอะไร ได้กลับมาเป็นตัวเอง ใช้เวลาให้หมดไปกับการอ่านหนังสือ แล้วก็ว่ายน้ำรักษาหุ่น”

“ฟังดูเหงาๆ นะ”

“อย่ามาใส่ใจเรื่องของผมเลย แล้วเป็นไงบ้าง ที่บ้านเขาโอเคกับพี่ไหม”

“พูดลำบากครับนายน้อย  คือ อาม่าใหญ่มีสิทธิขาดทุกอย่าง เป็นการยากที่จะชนะใจท่าน เพราะว่าท่านลำบากมาก่อน สร้างทุกอย่างมากับมือ ท่านคงห่วงหลานชายคนโปรด ว่าพี่จะไปล่อลวง หรือหลอกหลานท่านไหม พี่มันคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่ใช่คนมีชาติตระกูล”

“คนจีนด้วยอ่ะเนอะ”

“ใช่ แต่ป๊ากับม๊า แล้วก็พี่ ๆ ญาติๆ เขาดีกับพี่มากเลยนะ”

“แล้วนี่จะไม่กลับไปช่วยงานพ่อผมแล้วเหรอ”

“ช่วยสิครับ ท่านก็มีส่งงานมาให้ช่วยบ้าง แต่คงอีกสักพัก คงยังโกรธไม่หาย ที่พี่ไม่ดูแลนายน้อยให้ดี”

“ผมขอโทษนะ”

“พี่ก็ผิดเองด้วย อย่าโทษตัวเองไปเลยนะครับ”

“ดูแลเพื่อนผมด้วยนะพี่”

“ถ้าอาม่าใหญ่เขาจะใจอ่อน ยอมสักทีนะ”





ช่วงที่แวะปั๊มเติมน้ำมัน มีข้อความในไลน์เข้ามา เป็นข้อความของคนที่หายไปนาน เขาอยากจะนัดเจอผม ทำเอาผมสงสัยอยู่ ว่าจะมาไม้ไหน  คนที่ไม่คิดว่า จะมีเรื่องอะไรให้พูดกันมากได้อีก หลังจากเหตุการณ์หลายอย่าง  ผมยังสองจิตสองใจ
พี่อำนาจขับรถเข้ามาที่ตึกออฟฟิศ บัญชาก่อสร้างและวัสดุ  มีรถอัลพาร์ดสีดำคันคุ้นตาจอดอยู่ พี่อำนาจหันหน้ามามองกับผมอย่างตกใจ เล่าเอาเราสองคนทำหน้าไม่ถูก  เลยพยายามมองผ่านกระจกออฟฟิศติดฟิล์มกรองแสงดำปี๋  ว่าเขามาทำอะไรที่นี่   แล้วเอก็เปิดประตูเดินออกมา ยกมือไหว้พี่อำนาจแล้วก็ทักทายผม ก่อนจะเรียกพวกเราเข้าไป

“พ่อกูมาทำอะไรวะไอ้เอ”

“มาเรื่องพี่อำนาจอ่ะ”

“เอาแล้วสิ” พี่อำนาจที่ได้ยินคำตอบจากเอ ทำหน้าเหว๋อ ตัวแข็งทื่อ แต่เอก็ดึงแขนให้พี่อำนาจเดินเข้าไปคล้าย นักโทษกำลังจะเดินเข้าแดนประหาร  แต่ผมเองกลับไม่คิดว่า พ่อผมจะมาแฉอะไรพี่อำนาจสักหน่อย แล้วหน้าตาไอ้เอก็ดูผ่อนคลายพิกล



“อ้าว นั่นไง อำนาจมาแล้ว” ป๊าของเอเอ่ยทัก  พร้อมรับไหว้ผู้มาใหม่อย่างผมกับพี่อำนาจ ที่กวาดมือสวัสดีทุกคน

“มาๆๆๆ  อาอำนาจ มานั่งนี่” อามาใหญ่เอ่ยด้วยสำเนียงปนจีน แฝงความอารมณ์ดีไว้ในที ผิดแปลกจากทุกครั้งที่พูดกับพี่อำนาจ

“นายท่านสวัสดีครับ” พี่อำนาจ ยกมือไหว้พ่อของผม

“พ่อมาทำอะไร” ผมชิงถาม

“มันเรื่องของผู้ใหญ่  แล้วนี่ มาบ้านเขาทำไมไม่ซื้อของติดไม้ติดมือมาล่ะนี่ อย่าทำพ่อขายหน้าสิ”

“โหยท่าน อย่าได้ต้องเกรงใจอะไร น้ำนี่ก็เหมือนลูกผมคนหนึ่งถ้าท่านจะไม่ถือสา  เพื่อนสนิทเอ จะเข้าออกบ้านผมเมื่อไหร่ จะมานอนเป็นปีเป็นเดือน ผมก็ยินดีครับท่าน”  ป๊าออกตัวกับพ่อ พร้อมโอบไหล่ผมอย่างคุ้นเคย

“เอ ลื้อพา ลูกน้ำ ออกไปหาอะไรกินก่อนสิไป ผู้ใหญ่เขาคงนั่งคุยกันอีกแป๊บ  ส่วนอำนาจ ก็อยู่นี่แหล่ะ อยู่คุยกัน”
ผมกับเอก็เดือนเลี่ยงออกมาจากห้อง แล้วขึ้นไปยังชั้นบนของตึกในห้องนอนของเอ เพื่อพูดคุยกัน




“นี่มันอะไรกันวะ ไอ้เอ”

“พ่อมึง คงได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง ว่าอาม่าใหญ่กู ชอบคนมีหัวนอนปลายเท้า”

“แล้วยังไงวะ”

“ท่านก็มาแสดงตัว  ว่าพี่อำนาจ แม้ไม่มีพ่อแม่ แต่ก็เหมือน เป็นน้องชายท่าน คล้าย เป็นลูกคนโตของบ้านมึง”

“พ่อกูนี่เล่นใหญ่ได้โล่ห์”

“อาม่าใหญ่กูนี่ ยิ้มแก้มปริ บอกด้วยนะว่า เอ็นดูพี่อำนาจมาตลอด เป็นคนน่ารัก ดูซื่อ ขยัน”

“เฮ้อ ไม่คิดว่าจะต้องมาอยู่ในจุดนี้เลยว่ะ”

“จุดที่พ่อมึงต้องมาเคลียร์ให้พี่อำนาจเหรอวะ”

“เปล่า  จุดที่กูต้องมาดู เพื่อนรักกูเตรียมออกเรือน โดยมีพ่อกูมาสู่ขอ”

“สัส มึงอ่ะ เชี่ยยยย”




ผมทิ้งรถไว้ให้พี่อำนาจใช้ แล้วก็กับรถอัลพาร์ดกับพ่อ  ระหว่างทางกลับบ้านพ่อกดกระจกกั้นห้องโดยสายขึ้นมาปิดระหว่างเรา กับ คนขับรถ  พ่อถามถึงแม่ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง  ผมก็เล่าตามความจริง สักพักพ่อก็นิ่งเงียบไป  ผมขอคุยกับน้องบ้างนะ ถ้าพ่อไม่โกรธอะไร  ซึ่งก็ไม่ได้มีคำคัดค้าน

“พ่อยังโกรธแม่อยู่ไหม”  ผมแกะเบียร์กระป๋องที่ 3 ส่งให้พ่อ  ส่วนของผมกำลังโซโล่กระป๋องที่ 4

“ใครบอกกัน ว่าพ่อโกรธแม่  เขาพูดอย่างนั้นกันเหรอ”

“ผมก็แค่เดาจากสถานการณ์  ไม่ผิดนะที่พ่อจะโกรธ”

“ไม่มีใครรู้หรอกว่า เรื่องทั้งหมดเป็นยังไง พ่อไม่เคยโกรธแม่ หรือแม้กระทั่งตัวธนูเองก็ตาม”

“ถ้ามันซับซ้อน ผมเมาเกินกว่าจะได้ยิน”

“พ่อเองก็เมา เกินกว่าจะเก็บมันไว้กับตัวเอง  ถึงคราวลูกต้องเป็นผู้ฟังแล้วนะ”  แล้วท่านก็เริ่มเล่าหลังจากที่ผมพยักหน้า 



ในช่วงสิบสามปีก่อน พ่อผมป่วยเป็นโรคตับ มันส่งผลไปยังหลายส่วนอย่างของร่างกาย ระหว่างที่คุณหมอไม่เคยให้ความหวัง  หัวใจที่ห่อเหี่ยวของพ่อ ยังมีผลกระทบบางอย่างของร่างกายที่เฉาเหี่ยวยิ่งกว่า และแน่นอนว่า มันไม่ได้กระทบกับพ่อคนเดียว  มันกระทบกับแม่ด้วย..  พ่อเล่าแค่นี้ ผมก็รับรู้แล้ว

ธนู นายทหารคนสนิท นอกจากพ่อจะไว้ใจแล้ว พ่อยังรักเขามากเหมือนน้องชายคนหนึ่ง  ก่อนที่ธุรกิจทุกด้านของพ่อจะขยายตัว และเดินไปข้างหน้า ธนูเป็นคนที่คุณพ่อเชื่อใจซะทุกเรื่อง  แม้กระทั่งเรื่องที่คุณพ่ออยากทำให้คุณแม่มีความสุข..

ในคราวแรก ทั้งแม่ และน้าธนู ก็เหมือนจะไม่ยอมรับข้อเสนอ ตลอดจนแสดงท่าทีคัดค้านอย่างเห็นได้ชัด  แต่พ่อบอกว่า พ่อจับแวว สิเน่หา ในสายตาของกันและกันได้  พ่ออยากให้แม่มีความสุข และพ่อก็ไม่ไว้ใจใครยกเว้นธนู
แล้วเหตุการณ์ก็นำไปสู่ ความท้าทายของชายคนหนึ่ง ที่พยายามทุกอย่าง ให้ผู้หญิงซึ่งตัวเองรักอาจมอบความรักกลับมายังเขาเหมือนอย่างเคย แม้ว่าเขาจะเติมเต็มเธอได้ไม่สมบูรณ์พร้อม

ในห้องนอนของคืนหนึ่ง พ่อก็เปลือยกายอยู่เคียงข้าง แม่ที่ไร้ซึ่งอาภรณ์  น้าธนูบรรจงถอดเสื้อยืดและกางเกงทหารของตัวเองออกอย่างบรรจง  เขาเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ชัดเจนและได้สัดส่วน พ่อบอกว่า พ่อเห็นแววตาของแม่ที่นอนทอดกายอยู่บนเตียง ก็รู้แล้วว่า เป็นดวงตาของผู้หญิงที่ตกหลุมรักชายคนหนึ่งอย่างเต็มอก  ธนูก็ส่งสายตามแบบนั้นคืนกลับให้ 

พ่อยังคงนอนอยู่บนเตียงนั้นด้วยแล้วก็เฝ้าดู  ธนูได้ทะนุถนอมแม่อย่างดี  นายทหารร่างแกร่งบรรจงจุมพิตทุกตารางนิ้วของเรือนร่างแม่ คุณนายผู้เลอโฉม ผิวของแม่แสนเนียนขาวท้าทายไฟสลัวและสายตาคู่นั้น
ปทุมถันถูกปากสากหยาบบรรจงโลมเล้าไปทั่วถ้วน แล้วนายทหาร ก็มอบความเป็นชายสุดแกร่ง ขย้ำเข้าให้สาวผู้โหยหาและร้างลาไฟราคะมาแสนนาน  หัวใจขอแม่ถูกจุดติดในคืนนั้น 

พ่อยังจำร่างที่ชุ่มเหงื่อของน้าธนูขโยกไหวทับตัวของแม่ เสียงของแม่ครางออกมาอย่างเป็นสุข
มันดำเนินผ่านไปนานจนแม่ร้องออกมาเป็นครั้งที่สอง  น้ำตาของแม่ไหลลงมาอาบแก้มพร้อมร้อยยิ้มที่ฉีกกว้าง
วินาทีนั้นเอง  พ่อรู้ตัวว่า มันอาจถึงเวลาที่ต้องปล่อยแม่ไป

กระนั้น ชายคนหนึ่งคงไม่กล้าผลักไสให้ผู้หญิงอันเป็นที่รัก เป็นแม่ของลูก ไปอยู่กับนายทหารแมนล่ำที่ไม่ได้มียศฐาอะไร มันดูเป็นการใจร้ายเกินไป  แต่พ่อให้เวลาเป็นตัวสานต่อ
แม่และน้าธนู ไม่เคยหยุดที่คืนเร่าร้อนนั้น  มันดำเนินต่อไปจนก่อเป็นความรัก
จากที่ต้องแอบซ่อนเพราะเกรงใจ  ก็ไปสู่ความหวังใหม่ที่จะมีแค่กันและกัน
แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง พ่อก็พร้อมที่จะปล่อยทุกอย่างไป  เงินก้อนหนึ่งถูกมอบให้ทั้งคู่ได้ดูแลกันและกัน
พ่อเลือกที่จะให้ทุกคนเข้าใจไปในแบบอื่น เพราะทนคนละอายใจไม่ไหว หน้าที่แทบมุดแผ่นดินหนี
ถ้าใครสักคนจะตราหน้าว่าไม่มีน้ำยา หรือทำให้ภรรยาถึงสรวงสวรรค์ไปไม่ได้
แต่แล้วแม่กับน้าธนู คือผู้เสียสละให้ทุกคนคิดเป็นอื่นโดยไม่มีข้อโต้แย้ง  พวกเขายินดีรับคำติฉินไว้เพียงสองคน

เบียร์หมดกระป๋อง คงเหลือไว้เพียงรอยน้ำตาของพ่อที่ไหลริน  ผมคว้าหยิบเบียร์ออกจากมือของพ่อ
ก่อนจะซบตัวเองไปที่บ่า ผมกอดพ่อไว้แล้วก็เช็ดน้ำตาของตัวเองที่ไหล่นั้น  ไหล่ที่แบกอะไรไว้มากมายเสียเหลือเกิน

“พ่อครับ ผมขอบคุณในสิ่งที่พ่อทำคนรอบข้าง ผมรักพ่อนะ”

“พ่อก็รักลูก  ลูกเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พ่อมีตัวตน”

“ผมขออะไรพ่ออีกสักสองอย่างได้ไหม  แล้วผมก็จะไม่ขออะไรพ่ออีกเลย  อย่างน้อยก็จนเรียนจบ”

“ก็ลองว่ามาสิ”

“ผมว่า พี่นุดี ชอบพ่อนะ ผมไม่รู้ว่า พ่อมองไม่ออก หรือพ่อไม่เปิดใจ”

“ที่ลูกจะขอก็คือ..”

“ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด พ่อก็ชอบเลขาของพ่อคนนี้อยู่เต็มอก เอาเขาเป็นเมียเถิดครับ ผมอยากเห็นพ่อมีความสุข”

“พ่อแก่เกินจะคิดเรื่องพวกนี้แล้วแหล่ะน้ำเอ้ย เขายังสาว เขายังสวย อย่ามาคิดอะไรแบบนั้นเลย”

“อย่างน้อย ก็รับปากผม ว่าจะลองเปิดใจนะครับ”

“แล้วอีกเรื่องหนึ่งล่ะ ขอให้ใคร”

“ให้คนหนึ่ง ที่น่าสงสารมากครับ”




ในสายของวันหนึ่ง ผมตื่นมาพอกหน้า ขัดผิว หมักผม ก่อนจะแต่งตัวหล่อแต่คงไว้ในความสบายตา  หวีผมเป็นอย่างดี ฉีดน้ำหอมกลิ่นที่เขาเคยบอกว่าชอบ นี่ผมดูตื่นเต้นกับการนัดในครั้งนี้มาก  ตั้งแต่เขาส่งข้อความมา ผมก็ใจจดจ่อว่ามันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นไหม แม้ว่าทางของผมกับเขามันคงจะโคจรจากกันไป แต่ผมก็อยากดูดี ให้เขาได้จดจำผมไปแบบนี้ให้นาน
ผมยืนอยู่หน้ากระจกบานโต  หนุ่มหล่อในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กับกางเกงสีขาวเข้ารูป กำลังจะไปหาใครคนหนึ่งตามนัด


สวนสาธารณะติดรถไฟฟ้า ใจกลางถนนสุขุมวิท
ผมเดินจากรถไฟฟ้าลงมา ผ่านอาคารห้างสรรพสินค้า มายังสวนสาธารณะที่เรานัดกันไว้ กิจกรรมที่หวังว่าทำแล้วมันจะออกมาดูดี คือปั่นจักรยานน้ำ  เราเคยไปปั่นแบบนี้ครั้งหนึ่งที่ฟาร์มจระเข้ สามพราน  มันวนไปวนมา หมุนเป็นเกลียว หาทางเดินหน้าไปไม่ได้ จนคนรอบข้างต้องเข้ามาช่วยเหลือ  วันนี้ เราจะหาวิธีขับขี่มันให้รอด
เมื่อเดินไปถึงหน้าบึงน้ำซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่  มีคนขี่เรือถีบยังไม่มากนัก เพราะฝนเพิ่งหยุดตกไป สายรุ้งพาดจากฟ้าลงมา  ปลายของสายรุ้งที่เราไม่กล้าชี้ตามคำโบราณ  ทอดตัวหายลงไปยังโพ้นขอบทะเลสาบที่ไกลสุดสายตานั่น
เขายืนรออยู่ตรงนั้น มาก่อนเวลา แสดงให้เห็นว่า เขาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันสินะ..   ออกัส 

ออกัส ใส่เสื้อเชิ้ตสีเขียวที่ผมเป็นคนซื้อให้ กับกางเกงสีน้ำตาลเข้ม ชุดเก่งของเขาเลยเวลาออกมา เขายกมือขึ้นทักทาย ผมเลยเดินเข้าไปหา สำรวจเสื้อผ้าของกันและกันเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยชมว่าอีกฝ่ายดูดี   เรารอคิวเรือปั่นอยู่สักพัก ไม่ได้คุยอะไรกันมากนอกจากเรื่องรถติด การขึ้นราคาของบัตรโดยสารรถไฟฟ้า แล้วก็พนักงานขายตั๋วที่ดูหล่อดี
ผมนั่งบนเรือถีบฝั่งซ้าย คอยคุมเกียร์เดินหน้าถอยหลัง ส่วนออกัสนั่งฝั่งขวาคอยบังคับทิศทางพวงมาลัย เราออกแรงปั่นเพื่อให้จักรยานน้ำได้ออกจากตลิ่ง  แล้วมันก็ซ้ำรอยเดิม คือตัวเรือหมุนว่ายเป็นทางเดียว วนเป็นวงกลมอยู่สามรอบไม่ไปไหน  เราหัวเราะก่อนจะเริ่มเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบ ปล่อยให้ยานพาหนะของเราล่องลอยอยู่กลางน้ำ

พอเอ่ยคุยกันเรื่องน้องกันต์ กลายเป็นว่าเราทั้งคู่กลับเริ่มมีบทสนทนามากขึ้น ออกัสนินทาน้องกันต์ให้ฟัง ถึงการเป็นคนนอนกรนเสียงดัง ช่างขัดกับความน่ารักของคนที่โดนพูดถึง  ผมยังถามถึงเรื่องที่เขาง้อน้องกันต์สำเร็จ ก่อนออกัสจะควักกุญแจห้องของคอนโดมิเนียมที่พักพิงมานาน คืนให้กับผม  เขายังจะคืนรถยนต์อีโคคาร์ไม่ได้มีราคาแพงอะไรแก่ผม แต่ก็ปฏิเสธไป เพราะคันนั้นผมเต็มใจให้เขาไว้ใช้ 

ออกัสเอ่ยถามถึงชีวิตของผม  แล้วก็เท้าความไปถึงการหัดเป็นรุก แล้วเขาก็เล่าในฝั่งการหัดเป็นรับของตัวเองแลกกัน  เขาหัวเราะตอนผมเล่าวีรกรรมของผมกับเอ ตอนตะลอนตีหม้อไปทั่วพระรามเก้า  แต่ออกัสก็ตกใจสุดกำลัง เมื่อรู้เรื่องพี่อำนาจกับเอ  ผมยังเล่าเรื่องของผู้กองที่ตอนนี้เป็นแฟนกับ เซ็นเตอร์ของทีม ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ อย่างพี่กรไปแล้ว ออกัสก็หัวเราะแล้วบอกว่า พวกเขาเหมาะสมกันดี

“เค้าว่า เค้าควรเป็นคนบังคับเกียร์นะ  น้ำน่ะ มาบังคับเรือปั่นนี่ซะ”  แล้วออกัสก็ไถลตัวข้ามตักผมไปนั่งอีกฝั่ง ผมก็เริ่มทำการเป็นคนบังคับพวกมาลัยแล้วออกแรงปั่น  มันได้ผลแฮะ  เราเริ่มสนุกกับการบังคับทิศทางได้ แถมกำลังวังชาของเราทั้งสองคนมันเหลือเฟือ จักรยานน้ำถูกปั่นออกมากลางทะเลสาบอย่างง่ายดาย  ผมเห็นตลิ่งที่ห่างออกไปแล้วรู้สึกสนุกอยู่ไม่น้อยเลย
“เค้าขอโทษในทุกเรื่องนะ เค้าไม่มีหน้ากลับมาแม้กระทั่งดูว่า เธอโอเคไหม  เค้ามันใจไม่กล้าพอ”

“อะไรที่แล้วไปแล้ว ก็ปล่อยผ่านไปเถิดกัส  เราไม่ได้ถือสาอะไร”

“อืม” เขาเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาเรียวยาวคู่นั้น

“น้ำเองก็ขอโทษ ที่ไปคิดแค้นแล้วก็ทำเรื่องอะไรมากมาย คิดแล้วก็แปลกใจที่ปล่อยให้ทุกอย่างไปไกลขนาดนี้”

“รักมาก ก็แค้นมาก ออกจะดีใจนะ ถ้ามานั่งคิดดู”

“เวลาเรารักใคร คงรักมากเกินไป”

“มันไม่มีคำว่าเกินไปหรอก ความรักน่ะ รักมากน่ะดีแล้ว แต่ต้องมีจุดหมาย ว่ารักจะเดินไปทางไหน”

“ก็พูดได้สินะ แหม  รักไปทั่วเลย”

“แต่กับน้ำ ตอนนั้น เราก็จริงจังนะ  ขอบคุณสำหรับรักดีๆ  เรารักนายมากเลย ตอนนั้นน่ะ”

“แล้วอยู่ดีๆ มันก็หายไปเหรอ”

“มันก็คงหายไปจากเราทั้งคู่แหละ ถ้าเธอไม่หลอกตัวเอง เธอก็หมดรักเค้าไปแล้ว หมดมานานมากแล้วด้วย”

“เรื่องหัวใจนี่มันยากเสมอเลยว่ะกัส”   



พอเรือปั่นของเรามาจอดเทียบ ก็เป็นเวลาที่ฟ้าไม่ครึ้มแล้ว เขาออกจากเรือก่อน แล้วเอื้อมมือมาดึงผมให้ขึ้นไปที่ฝั่ง เราเดินข้างกันมาสักครู่ ก่อนจะมาเจอกับน้องกันต์ ที่ตามมาหา  กันต์ยกมือไหว้ผมส่งยิ้ม

“นี่มาเพราะอยากเจอพี่ หรือว่า ตามมาหึงนะ”

“หึงทั้งสองคนนั่นแหล่ะครับ” กันต์หัวเราะออกมาแล้วเดินกอดผม

“ถ้ามันร้ายใส่ ก็ทิ้งมันไปนะ พี่รออยู่”

“ให้มันน้อยๆหน่อย” กัสรีบดึงกันต์ออกมาโอบไหล่ไว้

“ผมขอบคุณพี่นทีมากนะครับ สำหรับเรื่องงาน ฝากขอบคุณพ่อพี่นทีด้วย มีโอกาสผมจะเข้าไปไหว้”

“ได้เป็นสจ๊วตสมใจแล้วสินะ”

“ผมจะไม่ทำให้เสียชื่อคุณพ่อพี่นะครับ ผมจะตั้งใจแล้วก็ฝึกฝนให้เก่งเลยครับ”

ผมเอามือไปขยี้หัวของน้องกันต์อย่างเอ็นดู  สายการบินที่คุณพ่อสนิท จะมีสจ๊วตคนน่ารักไปเฉิดฉายอยู่บนฟ้าแล้วสินะ เห็นทีต้องเปลี่ยนสายการบินไปใช้บริการบ้างแล้ว อยากเห็นน้องกันต์ในชุดสจ๊วตจังเลย
ก่อนทั้งคู่จะล่ำลา เดินจับมือกันไปทางอีกด้านของทะเลสาบ เขาคงอยากจะใช้เวลากันกับสวนสาธารณะนี้อีกสักพัก เห็นอย่างนั้นผมเลยหันกลับมายังทางออก
คิดแล้วก็ตลกดี หลังจากแค้นใจออกัสมาเนิ่นนาน วันนี้ก็แพ้เขาอีกแล้ว แค่คำว่ารัก ที่เขาเคยมอบให้ วันนี้เขาแค่ย้ำมันเหมือนเดิมว่า รักนั้นเป็นของจริง คำเดียวก็เปลี่ยนให้ผมแพ้อย่างราบคาบ โดยไม่คิดที่จะกลับมาชนะอีก



นึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำอย่างโลดโผนมาตลอดปีก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้  ยิ่งนึกถึงข้อความในกระดาษที่ใครบางคนฝากน้องสาวมา  ข้อความสั้น ลายมือสุดห่วย บนหลังกระดาษบิลสินค้าที่มีรอยใช้แล้ว 

“ยอมเป็นภารกิจสุดท้าย มาให้สำเร็จ”

คนอะไรวะ แค่เพียงจะมีผม จะยอมถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ไหนที่ผ่านมาไม่ยอมเสียเชิงชายให้ใคร  หนุ่มลูกผู้ดีมีตระกูล หล่ออย่างกับดารา มีผู้คนหมายปอง จะยอมเป็นเมียผมเหรอ นึกแล้วก็น่าขำ มันเป็นลมปากที่เขาพูดไปอย่างนั้น
ผมคงไม่ให้โอกาสเขาหรอก ถ้าไม่ได้ปลดชนวนกับออกัสในวันนี้  ออกัสถึงกับเอ่ยปากว่า พี่ไผ่มีแต่ผมในหัวใจ แล้วมันก็ทำให้ผมอ่อนปวกเปียก  แต่เท่าที่ฟังออกัสเล่ากลางทะเลสาบนั้น ผมก็คิดว่า พี่ไผ่เจออะไรมาหนักเหมือนกัน เรื่องของเราคงต้องเอาไว้ก่อน  แต่เรื่องที่จะช่วยให้พี่ไผ่กลับมาเป็นผู้เป็นคน คงต้องมาก่อน

โทรศัพท์มือถือ ถูกหยิบขึ้นมา ผมลังเลอยู่นานตอนเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้า แล้วขึ้นไปที่ชั้นสี่ ซึ่งเป็นฟิตเนสของเขา
แต่วันนี้เขาไม่ได้เข้ามาที่ทำงาน  ผมเดินไปดู แทมโพลีน ซึ่งผมมีส่วนช่วยเลือก พบว่ามันเป็นเครื่องเล่นยอดนิยมของสมาชิกไม่น้อยเลย รายล้อมด้วยป้ายโฆษณาของแบรนด์สินค้า  มีรูปผมที่กระโดดแทมโพลีนตอนทดลอง ขยายใหญ่ติดตรงข้างฝา หลังโต๊ะทำงานของผู้จัดการ ผู้ซึ่งวันนี้หายไปไหนไม่ทราบได้

ผมกดส่งข้อความไปหาพี่ไผ่ เราไม่ได้คุยกันมานาน ได้แค่กดไลค์ในไทม์ไลน์ของกันและกันแล้วหวังว่าอีกฝั่งจะรับรู้

“ผมไม่อยากเป็นน้ำ ที่ไหลลงที่ต่ำ เปลี่ยนไปตามภาชนะไหน อีกต่อไปแล้วครับ”   ข้อความฝั่งผมถูกส่งไปหาเขา

สิบนาทีต่อมา ข้อความปลายทางถูกย้อนกลับมาหา.. 

“พี่ไม่อยากเป็นต้นไผ่ที่ลู่ลม ต้องทุกข์ระทมเพราะความอ่อนไหวของตัวเอง”

และอึดใจต่อมา ข้อความสุดท้ายของค่ำคืนที่แสนยาวนาน..     “ช่วยให้พี่ เป็นคนที่ดีขึ้นนะครับ”

หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : Cuckold Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 09-06-2018 14:52:45
เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : Cuckold Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-06-2018 15:35:38
ปรับความเข้าใจกันแล้ว
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : Cuckold Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 09-06-2018 16:54:43
 :a14:
ชิสสส


 :m19:
หล่อเลือกได้
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : Cuckold Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-06-2018 18:32:27
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : CuckOld Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 10-06-2018 14:18:24
ลืมความแค้นทิ้งไป.. 
น้ำได้พ่อ มาเต็มๆ  :mc4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : CuckOld Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 10-06-2018 20:09:30
สู้ๆนะไผ่น้ำ :3123:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : CuckOld Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 10-06-2018 21:24:25
นะ..
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : CuckOld Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 11-06-2018 16:39:00
เข้าใจคำว่า cuckold ในแบบของความรักเลย
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : CuckOld Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 11-06-2018 23:05:17
อะม่าใหญ่ที่ว่าแน่ ยังแพ้ใจบอดี้การ์ดหนุ่ม
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : CuckOld Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 13-06-2018 14:06:48
Cuckold นี่ คืออีกรูปแบบหนึ่งของเซ็กซ์ใช่มั๊ยคะ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 17 : ในความ OutDoor นั้น (ต้นไผ่) ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 14-06-2018 01:27:43
Prep 17 :  ในความ OutDoor นั้น [ part ของ ไผ่ ]


[ ต้นไผ่ ]

ต้นไผ่ ที่ใบเฉาเหี่ยว รากของมันโดนงูเห่าแทะทอน ดินที่แห้งแตก ทำเอามันโย้เอน แล้วกำลังจะตาย..

ผิดกับความเชื่อของครอบครัวชาวจีนเลยเนอะครับ  ไผ่เป็นหนึ่งใน สามสหายเหมันต์  พ่อเลยเอามาตั้งเป็นชื่อลูกๆทั้งสาม
ต้นไผ่ - ต้นสน – ต้นเหมย

กระนั้น มันก็ไม่เห็นจะมงคลอย่างที่คนจีนเชื่อเท่าไหร่  ต้นสนจากไปตั้งแต่ยังเตะฟุตบอลไม่เป็นด้วยซ้ำ แม่ก็ได้แต่โทษพ่อว่าเป็นเพราะต้นสน เป็นสิ่งที่คนไทยเชื่อว่า ไม่ควรปลูกไว้ในบ้าน เลยเป็นเหตุให้ สน  น้องชายสุดที่รักของผมต้องจากไป
แม่มาเริ่มหยุดกล่าวโทษพ่อ เมื่อ เหมยน้องสาวคนเดียวของผม เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น ต้นหลิว  ต้นไม้ร้ายแรงอันดับหนึ่ง ที่คนไทยเชื่อว่า ห้าม!ปลูกในบ้าน เพราะรูปทรงของมันช่างโศรกเศร้า ไม่มงคล  หลิวต้องการให้เห็นว่า การที่ต้นสนจากไปนั้น มันไม่ได้เป็นเพราะอะไรเลย  เป็นความประมาทของคนที่ข้ามถนนโดยไม่ดูต่างหาก 

หลิวกับผม จึงค่อนข้างขบฏต่อธรรมเนียมจีนเป็นอย่างมาก พวกเราทำตัวต่อต้านในทุกสิ่งที่พ่อแม่พยายามยัดเยียด เราไม่เรียกป๊ากับม๊า ด้วยซ้ำ  เราเรียก “พ่อ” กับ “แม่” เพื่อให้พวกท่านได้รู้ว่า ผมกับน้องสาว อยากเติบโตมาแบบไทย แบบที่พี่น้องไม่แก่งแย่งกัน ไม่แข่งขันกันเป็นที่หนึ่ง  แม้ท้ายที่สุดผมก็อาจจะยอมรับในความเป็นจีนของพ่อกับแม่ ที่ทำให้เรามีกินมีใช้เหลือเฟือ ไม่ลำบาก และสร้างสมความเป็นคนขยันทำกิน ซึ่งมันก็มีประโยชน์อย่างปฏิเสธไม่ได้

ตอนที่ต้นสนจากไป หลิวตัวติดกับผมมาก ซึ่งผมก็ห่วงน้องสาวเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอย เราเล่นกันสองคน ผมก็ตามเป็นผู้พิทักษ์ ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม น้องสาวจึงมองผมเป็นฮีโร่ สองคนพี่น้องจึงสนิทกันมาก จนเพื่อนบ้านใหม่ย้ายเข้ามา

บ้านของคนที่มั่งคั่งกว่าครอบครัวของผมด้วยซ้ำ  ลุงใจดีคนหนึ่ง กับภรรยาแสนสวยของเขา  ในวันที่พวกเขาเอากระเช้าผลไม้มากล่าวสวัสดี ผมเห็นเด็กชายคนหนึ่งที่ยืนแอบอยู่ข้างหลังคุณแม่  เป็นเด็กชายตากลมใส ยืนแอบอายไม่พูดจา กัดหัวนิ้วโป้งอย่างน่าเอ็นดู ผิวเขาเหมือนผู้เป็นมารดา แต่ก็หน้าคมคายเหมือนพ่อของเขา 
ต้นหลิว หยิบตุ๊กตาสนูบปี้สีขาว แม้จะเริ่มเก่า แต่น้องสาวผมก็ยื่นให้เด็กน้อยคนนั้นอย่างเป็นมิตร จนเขาเดินออกมาจากหลังคุณแม่ เพื่อหยิบมันไป แล้วส่งรอยยิ้มแสนหวานกลับมา

แล้ว น้ำ ก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวผม โดยมีผมเป็นผู้นำในการไปเที่ยวเล่นทุกครั้งที่เลิกเรียน ยิ่งในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ต้องพูดถึง พวกเรายึดครองสนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน ปั่นจักรยานแข่งกัน เล่นวีดีโอเกม  ต้นหลิวชอบร้องเพลงโชว์พวกเรา  น้ำก็ชอบเต้นให้ดู โดยมีผมเป็นพี่ใหญ่ คิดกิจกรรมทำกันอยู่เสมอ  ผมสอนการบ้านน้องทั้งสอง แย่งกันกินขนมนมเนย ที่แม่ของผมชอบทำมาให้
จนแล้ว คุณอาผู้หญิง แม่ของน้ำก็หายตัวไป คนในหมู่บ้านก็พูดถึงในทางที่ไม่ดี คุณลุงผู้ใจดี ไม่มานั่งทานข้าวที่บ้านผมบ่อยเหมือนแต่ก่อน  แล้วก็ส่งผลไปถึงน้ำ ที่มักโดนเด็กแถวบ้านล้อเลียนอยู่เสมอ  ผมถึงกับตามไปต่อยเมื่อเห็นกลุ่มเด็กเกเรที่ปาหินใส่น้ำตอนตะโกนด่าทอเขา ว่าเป็นไอ้ลูกไม่มีแม่

จากนั้นไม่นาน คุณลุงก็ย้ายบ้านไป บ้านหลังเดิมก็ให้คนเช่า ไม่ได้ขาย มีพวกทหารที่เป็นลูกน้องมาคอยดูแลทำความสะอาดจนบ้านเรียบร้อยดี เราไม่ได้เจอครอบครัวเขานานมาก ผมคิดถึงน้ำเหมือนกัน เขาคงเหมือนน้องชายผมที่จากไปหรือเปล่า ผมถึงเอ็นดูเขามากเหลือล้น แต่ผมก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ เมื่อเราได้กลับมาเจออีกครั้ง

วันที่หลิวไปเป็นเพื่อนผมเพื่อทำวีซ่า ก่อนเดินทางไปเรียนต่อในปีหน้า หลิวเจอเพื่อนเก่าที่หายไปนาน ทั้งคู่จำกันได้ในทันทีพร้อมวิ่งเข้ามาโอบกอดกัน เขากระโดดโลดเต้นดีใจ แต่กลับนิ่งเงียบเมื่อหันมาเจอผม  เขายืนอึ้งอยู่นาน คงจำผมไม่ได้หรือเปล่า แต่ตัวผมเองกลับจำเขาได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของเขาเด่นชัดขึ้นมา เหมือนภวังค์ที่ผมต้องก้าวข้ามผ่าน  ปากนิด จมูกหน่อย ที่ผมคุ้นเคย ซอกคอขาวเนียน กับเส้นผมดำขลับเหมือนไหมญี่ปุ่น  จนผมต้องยิ้มให้เขาก่อน น้ำจึงยกมือไหว้ผม แล้วก็แจกยิ้มที่แสนหวานคืนกลับมา

ในหลายเดือนก่อนผมไปเรียนต่อ หลิวกับน้ำนัดเจอกันบ่อย ผมก็อาสาขับรถไปรับไปส่งเสมอ เพราะหวังที่จะได้เจอกับน้ำ ผมต่อสู้กับหัวใจตัวเองอยู่นานแสนนาน มันร้อนในอกที่ต้องรู้สึกตกหลุมรักใครบางคนที่เป็นผู้ชาย พ่อกับแม่คงจะอกแตกตาย เมื่อลูกชายคนโตของตระกูลต้องกลายมาเป็นแบบนี้ 
ผมยังคงคบหากับผู้หญิงคนนั้นคนนี้ที่เข้ามาหา ไม่เคยได้ขาด ไม่เคยว่างเว้น  แม้ผมรู้ตัวว่าผมจะหน้าตาดี มีครอบครัวที่ใหญ่โตเป็นกองหนุน  แต่ผมก็มีความสุขในหลายเดือนก่อนผมไปเรียนต่อ เมื่อได้ใช้เวลาติดสอยไปกับหลิวในทุกครั้ง

แล้วมันก็งอกงามในช่วงสามเดือนท้าย แม้หลิวจะไม่ได้ไปด้วย แต่น้ำก็โทรหาผม เรียกออกไปติวหนังสือ ไปเดินห้างตามประสาผู้ชาย เล่นกีฬา ดูหนัง เพียงแต่ในความสุข มันมีความทุกข์ที่ไม่กล้าเอื้อนเอ่ยบอกอีกฝ่ายว่าผมรู้สึกอย่างไร รู้สึกอะไรกับผมบ้างหรือเปล่า..   แล้วผมก็ต้องถอดใจ เมื่อเขาปรึกษาผมเรื่องผู้หญิงที่เขากำลังจะคบหา

ตอนจากลาแล้วบินไปเรียนต่อ ผมก็ถามหาข่าวเขาจากน้องสาวผมตลอด เราไม่ได้ติดต่อกันโดยตรง อันเป็นความตั้งใจของผมเอง ซึ่งผมอยากจะมีชีวิตใหม่ ไม่อยากจมกับสิ่งที่มองอนาคตไม่เห็น  เมื่อ น้ำเขาเลือกที่จะมีแฟนผู้หญิงไม่ได้ขาด ผมจะไปหวังอะไรกับความสัมพันธ์แบบนั้น แม้แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจหัวใจตัวเองเลยด้วยซ้ำ

ชีวิตในต่างแดนเปิดโลกใหม่ให้แก่ผม  จากที่คิดว่า มาแล้วจะกลับไปอย่างคนเดิม  คนที่อาจรักกับผู้หญิงได้ ก็คล้ายจะคิดผิดไป  เอาเป็นว่า ผมไม่ได้ชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชายอีกเลย  ผมชอบแค่คนที่ผมจากมา แล้วบังเอิญ ภายใต้ดวงตากลมโต ริมฝีปากบางแดง เขาดันเป็นผู้ชาย ที่น่าเอ็นดูเหลือเกิน ก็เท่านั้น

แต่แล้วผมก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อต้นหลิว เล่าให้ผมฟังว่า น้ำมีแฟนเป็นผู้ชาย ชื่อกัส  ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรดลใจเขา แล้วผมก็กลายเป็นคนอกหักที่ต้องทำตัวให้ลืมทุกอย่าง  จำใส่หัวไว้อย่างเดียว่า ผมเป็นได้แค่พี่ชาย

คนเรียนเก่งอย่างผม มีเวลาเหลือค่อนข้างมาก ไม่ต้องทำงานพิเศษเหมือนคนไทยที่มาอาศัยในเมือง เพราะเรามีเหลือกินเหลือใช้  ฮอร์โมนที่กลัดมัน ความเป็นหนุ่มแน่น กับเพื่อนที่ก๋ากั่น และอินเทอร์เน็ตที่เริ่มฮิต ชักจูงผมก้าวเข้าสู่เว็บบอร์ดหนึ่งที่ตอบสนองอารมณ์ทางเพศซึ่งผมเพิ่งรู้ตัวว่าผมหลงใหลกับมัน..  ชาวรักในที่แจ้ง

OutDoor Club เติมเต็มไฟราคะในใจผม ความที่เป็นคนเอเชียหน้าหล่อ หุ่นล่ำ ของใหญ่  มันเป็นที่หายาก เรียกได้ว่าคน แรร์ไอเทม อย่างผมถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก  ผมเป็นดาวเด่นที่คนก็อยากจะนัดเจอ ในลานหน้าโบสถ์ร้าง  ในสวนสาธารณะของรัฐ  ที่ดาดฟ้าของตึกสูง ห้องน้ำสาธารณะ บนโบกี้รถไฟที่ไม่ค่อยมีคนนั่ง  ระเบียงอพาร์ทเม้นท์  บันไดหนีไฟคอนโด โดยเฉพาะในป่า กลางลานตั้งแคมป์  เติมเต็มความระห่ำของพวกเราอย่างถึงพริกถึงขิง
แม้ท้ายที่สุด ยามผมกลับถึงหอพัก ผมจะยิ่งเหงากว่าเดิม เมื่อคิดว่าสิ่งที่ทำไปมันไร้ค่า ไม่มีราคาในความรู้สึก อีกทั้งเหมือนคนโรคจิต เก็บกดอะไรมา ก็ระบายอย่างหื่นกระหาย  เพื่อนในหอบอกว่า เพราะผมเติบโตมาในกฎระเบียบที่แสนเคร่ง แต่ผมว่าไม่ใช่ เพราะทำไมต้นหลิวไม่เป็น ลูกคนจีนอีกมากมายยิ่งกว่าผม ก็ไม่เห็นทำอะไรแบบที่ผมทำ

จุดจบของผมในต่างแดนได้มาถึง เมื่อรถตำรวจบุกเข้ามาจับในสวนสนุกแห่งหนึ่งของเมืองที่เลยเวลาทำการแล้ว  พวกเราสิบกว่าคนผู้ต่างกำลังจับคู่บรรเลงกามกิจ ผมที่กำลังขโยกเอวใส่สาวนิโกรบนม้าหมุน ถูกรวบโดยละม่อม คืนที่แสนวุ่นวาย ทีมทนายและเจ้าหน้าที่กงสุลเคลียร์ทุกอย่างด้วยคำขอร้องจากคุณพ่อซึ่งคงกำลังโมโหจัดอยู่ที่สยามประเทศ  ผมไม่กล้าออกไปไหนอีกเลย โชคดีที่ไม่เป็นข่าว ได้แต่มีเสียงนินทายามเดินผ่านโรงอาหารของวิทยาลัย แต่ผมก็ไม่ได้เครียดขนาดนั้น เพราะเมืองนี้ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาปักหลักใช้ชีวิตอยู่แล้ว ที่ผมกลัวคือ พ่อกับแม่ที่อยู่ที่บ้านเกิดต่างหาก

ในวันที่ต้องบินกลับ  ผมก็ตั้งใจว่า ผมอยากจะทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่ แล้วไปเริ่มต้นใหม่ที่เมืองไทย พ่อกับแม่เตรียมโปรเจคส์ไว้ให้มากมายในขณะที่ผมเลือกจะหาธุรกิจในร่มทำ จึงแจ้งความประสงค์ในที่ประชุมว่า อยากจำทำฟิตเนส แล้วมีสาขาหลากหลายในห้างสรรพสินค้า โดยจุดขายที่ แต่ละสาขามีเครื่องเล่นรอง และรูปแบบสไตล์ที่ต่างกัน โดยสมาชิกสามารถเวียนกันใช้ได้ทุกสาขาเพื่อความไม่จำเจ  บอร์ดบริหารเห็นด้วยแล้วทุกอย่างก็เป็นรูปเป็นร่างในเวลาอันรวดเร็ว 

วันหนึ่งที่ผมจำได้ เขาคนนั้นเดินอยู่บนลู่วิ่งอย่างหมดอาลัยตายอยาก แม้ไม่ใช่เขาที่ร่าเริงสดใสในทุกครั้งที่เจอะเจอ แต่มันคือเขาแน่นอน  ผมเดินไปทักทาย ดูเขาไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร่ ความผิดหวังในใจเลยบังเกิด  แต่เมื่อได้รับรู้จากต้นหลิวว่า เขาเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบหาดูใจได้ร่วมสามปี  ผมก็เข้าใจได้ว่า อยากเพราะอยู่ในอารมณ์ที่โศรกเศร้า 

หลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสเจอน้ำบ่อยขึ้น เฝ้าเห็นเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองทีละน้อย หุ่นที่ผอมบางเริ่มมีมัดกล้าม บุคลิกเปลี่ยนมาเป็นผู้ชายที่มาดแมน ท่าทางการพูด เดิน เปลี่ยนไปจนบางทีก็สงสัยว่า เขามีความตั้งใจอะไร แล้วพอได้รับรู้ว่า เขาจะบินไปยกเครื่องใบหน้าใหม่ที่เกาหลีใต้ ผมใจหายเลย กลัวว่าหน้าตาที่ผมเคยหลงใหล มันจะเปลี่ยนไปจนไม่เหลือความทรงจำเดิม  พอถาม ก็ถูกตะคอกใส่จนรู้สึกว่า ระยะทางของเรา ไกลกันเหลือเกิน  คืนนั้น ผมเลยออกไปตามคำชักชวนของชายคนหนึ่ง ผู้ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ผมได้ทำความรู้จักเมื่อเหยียบเท้าลงแผ่นดินเกิด
เขามีชื่อว่า.. ออ



Flashback : OutDoor สุวรรณภูมิ ข้างห้องขายตั๋วดิสนีย์แลนด์

ออ เจอผมที่สนามบินขณะที่ผมกำลังจะเรียกแท็กซี่กลับ  เขาส่งสายตาหวานมามอง แต่ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาคือสเปคของผมแต่อย่างได้  เมื่อเห็นความยาวของแถวแท็กซี่ ผมก็เครียดขึ้นมา เนื่องจากผมไม่อยากโทรบอกคนที่บ้านมาให้รับ เพราะตั้งใจไว้ว่า จะไปเที่ยวทิ้งทวนสักอาทิตย์หนึ่งก่อน แล้วจะกลับเข้าบ้านทำตัวเป็นเด็กดีของพ่อ ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน
จึงเปลี่ยนใจไปนอนรอแถวที่นั่งพักผู้โดยสาร พอดึกจนคนเริ่มหมดก็ค่อยกลับ  ผมลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เพียงใบเดียวตามมาด้วย เพราะของใช้อันอื่น ผมส่งคาร์โก้กลับมาล่วงหน้า   แล้วนอนทอดตัวยาวที่ก้าวอี้สีม่วง ตรงทางเชื่อมระหว่างอาคาร 1 และ อาคาร 2   แต่ก็เหมือนจะนอนไม่หลับ เพราะได้นอนมาเต็มอิ่มบนเครื่องบินกับการเดินทางแสนยาวนาน   ผมเหลือบไปเห็นชายคนเดิมที่เจอตรงคิวแท็กซี่ มานั่งใกล้กับผม เขาชวนคุย บอกว่าตัวเองชื่อ ออ  มาหาเพื่อนที่เป็นกราวน์ของสายการบินแห่งหนึ่ง เขาถามคำ ผมก็ตอบคำ แต่ก็ยังทึ่งกับความขี้ตื้อของเขา

แล้วฝรั่งผมทองคู่หนึ่ง เดินผ่านตรงหน้าที่นั่งผม ชายตามามอง ชูมือกำและแบมือสามครั้ง ส่งซิกด้วยสัญลักษณ์ของชาว เอ้าท์ดอร์  นาทีนั้นใจผมระทึกมาก รู้สึกตื่นเต้น ใจหนึ่งก็อยากจะเดินตาม ใจหนึ่งก็อยากจะเลิกสิ่งที่ครอบงำใจของผมให้หมดไปจากชีวิต ความอาจหาญนั้นพ่ายแพ้ต่อราคะในใจ ผมเดินตามลากกระเป๋าไปยังทางเชื่อมรถไฟ City Line ที่เงียบเหงา เนื่องจากมันหมดเวลารอบของรถไฟแล้ว  เวิ้งที่เหมือนหลับใหลต้องรอวันใหม่มาปลุกชีพ  จะเหลือเพียงบูธแลกเงินซึ่งไม่ค่อยมีคนเดินมาถึง กับบูธแลกอุปกรณ์ Wifi ไปใช้ยังประเทศในแถบเอเชีย 

ฝรั่งคู่นั้น เดินเข้าไปที่ซอกหลังบูธไวไฟนั่นแล้ว ผมใจเต้นรัว อารมณ์ทางเพศของผมครุกรุ่น ลมหายใจที่อุ่นร้อนพ่นมาใส่ต้นคอผม ชายที่ชื่อว่า ออ  เดินตามผมมา ก่อนจะจูงมือลากผมไปที่บูธอีกฝั่งที่ลับตากว่า หลังป้ายโปรโมชั่น DisneyLand ฮ่องกง ตั๋วดิสนีย์แลนด์ ราคาพิเศษ 2,200 บาท
ผมเหมือนโดนสะกด  ไม่ใช่จากหนุ่มตรงหน้าที่ชื่อออ  แต่เป็นเพราะไฟร้อนกับสัญชาตญาณเดิมที่ปะทุขึ้นมาอีกทั้ง เขานั่งลงไปคุกเข่าแก้กระดุมกางเกงยีนของผม บรรเลงโอษฐกามให้ ผมไม่ได้ขัดขืน ได้แต่มองไปที่ข้างซอกบูธอีกฝั่ง สาวผมทองที่กำลังทำหน้าเหยเกเพราะหนุ่มฝรั่งกำลังลงลิ้นให้เธอเช่นกัน วินาทีที่แสนยาวนานไม่มีคนผ่าน ได้ยินเพียงเสียงตามสายประชาสัมพันธ์ประกาศเที่ยวบินลอดมา  ไฟจากบูธขายตั๋วทยอยปิดลง ผมหลั่งความอัดอั้นและสันดานดิบที่ถูกเก็บมานานหลังจากเหตุการณ์ที่ถูกจับ ระเบิดเข้าเต็มปากเขา ชายหนุ่มที่คุกเข่ากลับโลมเลียด้วยลิ้นแล้วกลืนกินน้ำกำหนัดซึ่งท่วมยอดปลายจนมันแห้ง ก่อนจะเก็บลำทวนของผมเข้าในกางเกง ติดกระดุมทุกเม็ดอย่างบรรจง แล้วก็ลุกขึ้นยืน มองหน้าผมอย่างคนที่ชนะ

หนึ่งอาทิตย์ที่ผมไปเที่ยวครั้งสุดท้าย ก่อนจะกลับเข้าบ้านที่เต็มไปด้วยประเพณีและกรอบระเบียบ ออ ได้ติดสอยห้อยตามผมไปด้วย เขายินยอมให้ผมโจมตีใส่เขาไม่ยั้ง ไม่ว่าจะลานกลางแจ้งที่ไหน ริมอ่าวเทียนตอนตีสอง  หาดทรายแก้วตอนเช้ามืด  ใต้สะพานไม้อ่าวลุงดำ  กลางทะเลใต้แสงจันทร์ที่อ่าวไผ่  เขายอมเป็นทาสที่สนองความใคร่ของผมโดยไม่ต้องร้องขออะไรตอบแทน ทุกครั้งที่ผมกระทุ้งขย้ำเข้าที่เขา ผมไม่ได้มีความรู้สึกพิศวาสอะไรในตัวคนที่กำลังร้องคราง แต่ผมพยายามเต็มที่เพื่อจะทิ้งอดีตทุกอย่างผ่านลานกลางแจ้งที่เราได้ไปเยือน รสนิยมที่ชาวตะวันออกอาจรับไม่ได้ ผมจะทิ้งมันไปผ่านน้ำขาวขุ่นที่ผมพยายามรีดออกจากตัวของผมให้หมดสิ้น   

ผมกลับเข้าบ้านโดยไม่ได้ติดต่อกับ ออ อีกเลย แต่ผมมีเบอร์เขา และสัญญาว่าหากผมซื้อโทรศัพท์ใหม่ที่เมืองไทย ก็จะบอกเบอร์ให้รู้ แล้วผมก็รักษาสัญญาที่ให้   เขาโทรและส่งข้อความมาแต่ผมไม่ได้รับหรือตอบโต้ เพราะผมไม่ได้รักเขา เราแค่เป็นคนเหงาที่ปลดเปลื้องให้กันและกัน  เขาพยายามจะเจอผมให้ได้ ผมก็ปฏิเสธมาเรื่อย จนวันหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลกจากผู้ชายที่บอกว่าชื่อ กันต์  และเป็นแฟนของออ  ผมเลยใช้ข้ออ้างนี้ให้ ออ เลิกติดต่อกับผมโดยเด็ดขาด

เวลาผ่านไปคล้ายจะลืมเลือน ผมติดต่อเขาไปตอนที่ผมอ่อนแอถึงขีดสุด  ในวันที่ผมถูกถาโถมให้นัดเจอลูกสาวเพื่อนพ่อเพื่อดูตัวนับครั้งไม่ถ้วน ไม่รวมถึงญาติปากเสียที่คอยเอาหลานตัวเองมาอวด พร้อมยุยงให้พ่อผมรีบเป็นปู่  แต่ที่อ่อนแอที่สุด คือหัวใจของผมที่ได้รับรู้ว่า น้ำ กลับไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิง

มันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่ใช่เหรอ  ที่น้องชายคนหนึ่งซึ่งผมสนิทมาก แล้วก็รักเขามาก จะเลือกมีวิถีชีวิตซึ่งสังคมบอกไว้ว่า มันถูกมันควร จะให้ผมไปทัดทานคัดค้านได้อย่างไร  เขากับเพื่อนสนิทโหมเที่ยวอาบอบนวดอย่างหื่นกระหาย จากข่าวที่ได้ยินมา แม้จะสับสนอยู่บ้างที่แอบรู้มาว่า เขากำลังไปพัวพัน กราวน์หนุ่มรูปหล่อที่บินไปเที่ยวด้วยกันถึงศรีพันวา มันตอกย้ำให้ผมได้จำใส่กระโหลกตัวเองว่า ผมเป็นได้แค่พี่ชาย ไม่ว่าเขาจะลงเอยกับผู้หญิง หรือ ผู้ชาย มันก็ไม่มีชื่อของผมอยู่ในนั้น

ออ พาผมไปยังตึกร้างย่านเมืองทองธานี มีคนเดินอยู่ทุกมุมซอกตึก เขารู้ใจผม เดินนำผมไปยังลานกลางแจ้งตรงดาดฟ้ายอดตึก  ในมุมที่มีวิวของนครเมืองขนาดใหญ่เปิดไฟอร่ามสว่างไกล เขาแก้กางเกงผมลงไปที่พื้น หยิบถุงยางออกมาสวมให้ เอามือไปยึดกับขอบระเบียงตึกในท่าพร้อม ผมเดินไปประกบ พยายามลืมทุกอย่างกับชีวิตที่แสนเส็งเคร็ง  ผมอัดพลังลงไปในการระบายตัณหาใส่คนข้างหน้า เขาร้องดังโหยหวน คนที่อยู่ตามมุมอื่น ล้วนแล้วแต่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี รูปร่างสมส่วน เดินเปลือยมาที่ผมอย่างหื่นกระหาย เขารุมลงลิ้นเลียลำตัวผมเป็นการใหญ่ จับผมถอดเสื้อ แล้วก็ลูบไล้มัดกล้ามของผม ความเป็นที่ต้องการของคนอื่นกลับคืนมาอีกครั้ง ออ มอบสิ่งนี้ให้ผมเป็นของปลอบใจในวันที่เหนื่อยล้า ผมชอบในความพยายามของเขา แม้จะรู้ว่า มันไม่ใช่อะไรที่เขาปรารถนาเลย

เรายังคงนัดกันไปอีก ผมไปในฐานะดาวเด่นที่ถูกพูดถึง ในทวิตเตอร์มีรูปผมเปลือยแต่เซ็นเซอร์หน้าตามสัญญาลูกผู้ชาย ผมเป็นที่ต้องการ.. 
เข้าใจไหมครับ..      ผมเป็นที่ต้องการ..
ในวันที่น้ำก้าวห่างผมไป  ผมได้กลับมาเป็นตัวเอง แล้วทุกคนก็อยากใกล้ชิดผมกันทั้งนั้น 
น้องน้ำ..   น้องเห็นไหม..

แล้วใจของผมก็หล่นวูบ..   เสียงไซเรนที่คุ้นเคย  ผมนึกในใจว่าอนาคตคงหมดวูบแล้ว 

ผมถูกลากเข้าตารางในที่คุมขังชั่วคราว ก่อนจะลงบันทึก ออ ที่หลบหนีไปได้ก่อน แล้วกลับมาพร้อมนายตำรวจหน้าตาดีมากคนหนึ่ง เขาพามาแนะนำให้รู้จัก แล้วผู้กองจิมมี่ก็ช่วยผมไว้  ประกอบกันกับเส้นสายของคุณพ่อ

อนาคตผมไม่ถึงกับหมดแบบที่คิด แลกกับรอยเจ็บที่ใบหน้า จากฝ่ามือฉาดใหญ่ของพ่อที่ตบเข้ามา
กกหูที่ชา ไม่ได้ยินเสียงพร่ำด่า  น้ำตาผมไม่ไหล ของพ่อต่างหาก ที่ไหลอย่างกับสายน้ำ

ในความตั้งใจอีกครั้งที่จะเปลี่ยนตัวเอง มันคงไม่ง่ายเลย แล้วมันก็ต้องทนเสียงเหน็บแนบและคำด่าทอที่ถูกหยิบยกมาพูดใส่เสมอยามที่พ่อคุมอารมณ์ไม่ได้  แม่ได้แต่นั่งร้องไห้แล้วก็ปลอบผม

ลูกเลว ลูกชั่ว ลูกชายคนโตของตระกูล ช่างล้มเหลวไม่เป็นท่า

ต่อให้ทำงานได้ดี เป็นคนดีได้แค่ไหน แต่ถ้าผิดในเรื่องนี้ ผมก็คงไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนไปในสายตาของพ่ออีกแล้ว
ต้นหลิวที่ไม่ได้รับรู้อะไร ตามคำขอร้องของพ่อกับแม่ ชักนำให้น้ำมาปลอยผม เขาชวนผมไป กาญจนบุรี เป็นทริปสั้นซึ่งเต็มไปด้วยความหวัง และคำถาม  ผมเริ่มงง ที่แอบเห็นเขาดูทวิตเตอร์กลุ่ม S&M ซึ่งล้วนแต่เป็นแบบ ชายรักชาย  ตกลงเขาเป็นทางไหน ผมยังมีสิทธิไหม เขาจะรับได้กับอดีตแสนเหี้ยของผมหรือเปล่า

ในนาทีที่ผมเผลอ ผมจูบเขาไปแล้ว ใต้แสงจันทร์ กลางลานแพที่เวิ้งว้าง..

เป็น outdoor ที่โรแมนติกที่สุดของชีวิตผม  ผมเกือบอดใจไม่ได้หลังจากขยี้จุมพิตที่สองลงไปอีกครั้งอย่างโหยหา
น้ำ ที่ผมหลงรัก  คนที่ใฝ่ปองอยู่ตรงหน้า  เขาไม่มีท่าทีปฏิเสธ  ในลานกลางแจ้งลับตาคนที่ผมใฝ่ฝัน
ลมที่พัดมาโดยไม่มีกำแพงกั้น  แสงจันทร์ที่ผ่านมาถึงผิวหนังโดยไม่ถูกเพดานบัง
แต่แล้วผมก็ห้ามใจ ไม่ทำอะไรต่อ.. 

ผมเห็นน้ำในคืน Live สดกับกลุ่มของ Yaris X-5  ผมรู้เลยว่านั่นเป็นเขา ที่ไม่ใช่ตัวเขา
เรือนร่าง บุคลิก ต่อให้เปลี่ยนไปแค่ไหน คนที่กำลังบรรเลงกามกิจใส่คนอื่น ก็คือน้ำ  เพียงแต่ เขาไม่ได้เป็นตัวเอง
ผมคงตั้งคำถามไปเรื่อยว่าเขาทำแบบนี้ทำไม แต่แล้วผมก็ได้คำตอบจาก ออ เมื่อเขาแวะมาเตือนว่า
ผมคือเป้าหมายรายต่อไป

โลกทำไมมันกลม แต่ก็แบนเกินกว่าจะให้ทางของผมกับน้ำมาบรรจบ
ออ ก็คือ กัส อดีตแฟนของน้ำหรอกหรือนี่
ออกัส ตัวแสบ ที่ทำให้คนที่ผมรัก ช้ำมาแรมปี
ผมไม่ได้โกรธอะไรออกัส กลับขอบคุณที่เขาแวะมาเตือน ว่าผมกำลังจะโดนล่า โดยคนที่ชื่อว่า น้ำ
จึงตั้งใจจะบอกกับออกัสว่า แท้จริงแล้ว ผมกับน้ำรู้จักกันมานาน
แต่แล้วเมื่อรถของน้ำขับออกไปจากหน้าบ้านของผม แล้วหลิววิ่งหน้าตื่นเข้ามา
ผมก็รู้เลยว่า อนาคตที่เคยคิดว่า ดับวูบ มันเป็นจริงแล้ว

หลิวที่เห็น ออกัส ตกใจยิ่งกว่า
ผมได้รู้เรื่องทั้งหมดจากน้องสาว ซึ่งระแคะระคายมาบ้าง แต่เนื่องจากน้ำไม่ยอมเล่าถึงความเป็นมา
เราสองคนเลยตีรถไปหาเอที่ปทุมธานี แต่ก็ให้หลิวรอในรถ เพื่อความสบายใจของเอในการพูดความจริง
ผมไม่ได้เล่าให้น้องสาวฟังทั้งหมดตามสัญญาที่ให้ไว้กับเอ  แต่ผมก็กระจ่างแจ้งทั้งหมดแล้ว
ในวันนี้ เขาคงยังแค้นออกัสอยู่  และแน่นอนว่า ถ้าผมเป็นภารกิจอันดับสามของเขา

เพื่อคนที่ผมรัก ทำไมผมจะให้ไม่ได้..

มันอาจเจ็บ แต่ถ้าทำให้เขาหายจากใจที่ปวด  ผมก็พร้อมจะทำ
ให้โดยไม่หวังผลว่า เราจะมีโอกาสได้คบหากันในวันหน้าหรือไม่ 
แค่อยากเห็นรอยยิ้มของเขากลับมาอีกครั้ง ในแบบที่ ไม่มีอะไรติดค้างในใจ
ทิ้งความทุกข์ทั้งหลายไปเถิดครับน้องน้ำ  เพื่อน้อง..  พี่ยอมทุกอย่าง..

เพราะนี่คือ ความรัก ของชายที่ชื่อว่า ต้นไผ่
รอยยิ้มของน้ำ  คงเป็นน้ำที่ชโลมใจ  ให้ต้นไผ่ ที่รากเหง้าเฉาแทบปางตาย ได้สดชื่นขึ้นมาบ้าง
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 17 : ในความ OutDoor นั้น (ต้นไผ่) ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-06-2018 08:22:22
พี่ต้นก็น่าสงสารนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 17 : ในความ OutDoor นั้น (ต้นไผ่) ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-06-2018 10:32:24
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 17 : ในความ OutDoor นั้น (ต้นไผ่) ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 14-06-2018 16:23:50
อีออกัส อีแร่ด
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 17 : ในความ OutDoor นั้น (ต้นไผ่) ]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 14-06-2018 17:47:10
ความรัก ทำให้ได้ทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 17 : ในความ OutDoor นั้น (ต้นไผ่) ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 14-06-2018 22:33:47
ร้องลำบาก ยากแค้น แสนสาหัส
บอกว่าหมัด สิงอยู่ หูเจ้าหมา
มันไม่รู้ ว่าไปติด ที่ไหนมา
จึงคร่ำครวญ ควานหา ว่าจากใคร

เที่ยวส่ำส่อน ร่อนเร่ ระเหหก
หางไม่ตก ซกตูด ครูดดากไหล
มันสนุก ซุกทั่ว ไม่กลัวใคร
มันก็แค่ ปล่อยน้ำไหล ใส่เข้ารู

ใครเขาทำ ให้เจ้าเป็น เฉกเช่นนี้
หมาตัวดี เป็นขี้เรื้อน เหมือนอดสู
บอกที่ทำ ตัวยังงี้ ประชดดู
ไม่มีใคร เขารักกรู ยับยู่ใจ

ยังจะหวัง ให้น้องหมา เปิดโอกาส
ที่ผ่านมา พี่หมาพลาด อาจสงสัย
แต่จริงแล้ว พี่รักเดียว ไม่รักใคร
โปรดยกโทษ ให้หัวใจ พี่หมารอ

ขอแก้ตัว เลิกเมามัว มั่วสวาท
จะไม่มี ความผิดพลาด พี่หมาขอ
ในอดีต ที่ผ่านมา มั่วดอพอ
จะเก็บไว้ ให้เพียงพอ น้องคนเดียว

หุหุ
รำไม่ดีพี่ต้นไผ่(ไม่)กิน
กร๊ากกกกกก

อูยยยยยยย..เหตุผลร้อยแปดพันเก้า
แต่ละอย่าง..ก็นะ..รับไม่ไหวจริงๆ

ไม่รู้ดิ..โลก(ไม่)สวยอ่ะ
อิอิ

รักเรื่องนี้มากกกกก..บอกเลย
อยากกอดคนแต่งซะจริงๆ
จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 17 : ในความ OutDoor นั้น (ต้นไผ่) ]
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 15-06-2018 12:41:50
ถล่มหัวใจมากค่ะ นังออกัส หล่อนทำไมร้าย!!
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 17 : ในความ OutDoor นั้น (ต้นไผ่) ]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 15-06-2018 17:14:19
พี่ไผ่ผู้ขี้ขลาด ยังไม่เปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง

ให้น้ำรู้เลย กลับคิดว่าตัวเองไม่มีสิทธ์

แถมยังไปทำเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก

เอาใจช่วยนะ

คนซื่อบื้อ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 18 : Hand Job จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 19-06-2018 20:24:06
Prep  18  :  Hand Job  จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ

ผมนอนอ้าซ่าอยู่บนเตียง มีเพียงกางเกงบ็อกเซอร์สีครีมติดร่างกายอยู่ ซิคแพ็คที่แน่นปั๋งมันก็เริ่มชัดน้อยลง ตัวก็แฟ่บลงเพราะความขี้เกียจออกกำลังกาย วันนี้อากาศมันดีจริงสิพับผ่า  สักพักมีเสียงเคาะประตู ผมเลยตะโกนให้เข้ามาได้พร้อมเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มสีเทาฟูฟ่องมาห่มร่างเกือบเปลือย

“น้องน้ำ ทานข้าวต้มกุ้งก่อน พี่คั้นน้ำสับปะรดมาให้ด้วย”

“ทำไมยกมาเองล่ะครับพี่นุดี”

“ป้าสมหมายแกลางาน ไปบวชลูกชาย”

“ทีหลังบอกผม ผมลงไปทานข้างล่างก็ได้ครับ” ผมเอื้อมมือไปรับถาดอาหารมาวางบนเตียง แล้วนั่งมองพี่นุดีที่ลากเก้าอี้มานั่งที่ข้างเตียงเพื่อเตรียมทักทายผมตามประสาคนคุ้นเคยกันดี

“เทอมนี้เกรดเป็นยังไงบ้าง เที่ยวดึกดื่น ระวังนะ เดี๋ยวเกรดจะตกเอา”

“ผมมีเรื่องให้สะสาง แต่ทุกอย่างก็จบลงแล้ว ผมจะกลับมาขยันแล้วล่ะครับ”

“เป็นอย่างนั้นได้ก็ดี พี่ไม่มีเวลามาสอนแล้วนะ งานพี่ก็ยุ่งมาก พ่อเราน่ะหาเรื่องให้พี่ยุ่งได้ตลอด”

“พ่อกลัวพี่นุดีหนีไปอยู่ที่อื่นล่ะสิ เลยแกล้งใช้นั่นนี่ ทำไมผมจะไม่รู้”  ผมหย่อนระเบิดลูกแรกหลังจากพ่อไฟเขียวแล้วว่า จะยอมเปิดใจกับพี่นุดีดูบ้าง

พี่นุดี อยู่กับพ่อผมมานาน ผมก็ได้แกนี่แหล่ะสอนการบ้าน ติวนั่นนี่จนเก่ง แกเป็นเด็กทุนที่พ่อผมเป็นสนับสนุนให้วิทยาลัย พี่นุดีนอกจากจะเก่งด้านวิชาการแล้ว ยังจะเก่งด้านการเงินอีกด้วย พอร์ตหุ้นของพ่อผมเติบโตต่อเนื่องเพราะความเก๋าของเลขานุการสุดปราชญ์เปรื่องคนนี้อย่างแท้จริง แถมยังบริหารพอร์ตเงิน ทั้งความเสี่ยง กระจายลงทุนไปยังอสังหาริมทรัพย์และทองคำในรูปแบบต่างๆ  ไม่วายไปจนถึงเพชรและพระเครื่อง  หุ้นในบริษัทน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้สัมปทานจากรัฐในการให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงท่าอากาศยาน  จนพ่อผมแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย ผมไม่รู้ว่าพ่อให้เงินเดือนพี่นุดีเท่าไหร่ แต่แกก็แทบไม่ได้ซื้ออะไร  บ้านที่พ่อผมซื้อให้ใหญ่โต ก็ไม่ค่อยไปอยู่ เพราะที่บ้านผมก็ทำห้องพักแต่งไว้หรูหราให้พี่นุดีได้อยู่   
ยามค่ำคืน
ตอนที่พ่อนั่งดูทีวีอย่างเหงาๆ  ผมอุ่นใจทุกครั้งที่พี่นุดีคอยดูแลพ่อ  พาเดินที่สนามหญ้าหน้าบ้านในตอนเช้า เพื่อให้น้ำค้างยอดหญ้าซึมเข้าฝ่าเท้า เห็นเขาว่ามันดีกับสุขภาพท่าน  อาหารที่พ่อทาน มีแต่อาหารซึ่งเป็นมิตรกับร่างกาย แน่นอนว่าถ้าเป็นป้าสมหมายจัดหา คงไม่ถูกใจพ่อ แต่พอเป็นคำสั่งพี่นุดี พ่อก็ไม่กล้าขัด
พี่นุดีเป็นสาวตัวไม่ใหญ่แต่รูปร่างเอิบอิ่ม ท้วมอวบ ไม่ใช่คนสวย แต่ว่านมต้มแกนี่โตเกินตัว ตูดก็เบ้อเร่อ ตอนแรกผมยังคิดว่าแกจะถูกพี่อำนาจหลีซะอีก ปรากฏว่า พี่นุดีกับพี่อำนาจสนิทสนมกันในเชิงเพื่อนคู่หูคู่ฮาซะมากกว่า แถมคุยกันทะลึ่งตึงตังไม่มีสิ่งอื่นมาเจือปน
ผมเป็นคนหวงสมบัติพ่อนะ แต่กับพี่นุดี ถ้าวันหนึ่งจะมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ผมไม่เคยคิดจะหวง เพราะว่าที่มีอยู่นี้เราก็ใช้กันไม่หมด  เงินมี แต่ไม่ได้แบ่งปันกับคนที่เรารัก มันเป็นเงินที่เหงาอย่างไรก็ไม่รู้ครับ คนไม่รวยอย่างพวกเราคงไม่เข้าใจ บางคนเห็นเราใช้เงินหรือให้ใครแบบโง่เขลาก็แหนบแนม หารู้ไม่ว่า เรามีความสุขใจหลังการให้ แม้ใครจะว่าเราว่าไม่ฉลาดก็เหอะ  ผมล่ะเข้าใจพ่ออย่างแท้จริง

“เดี๋ยวพี่ลงไปข้างล่างก่อนนะ วันนี้กองทุนมันผวน ไม่อยากห่างหน้าจอคอมพ์”

“พี่นุดี ทำไมพี่ไม่หาแฟนดีๆสักคนล่ะ พี่ก็ยังสาวจะตาย มาจับเจ่าอยู่กับพ่อผมไม่เบื่อเหรอ”

“พ่อเธอหาเรื่องให้พี่ปวดหัวได้ทุกวัน จะเบื่อได้ยังไง”

“ผมแค่เสียดายความสาวของพี่  คนวัยเดียวกันมันน่าจะทำให้พี่สนุกกว่าเปล่าครับ”

“ไม่เลย พี่ไม่ชอบคนวัยเดียวกัน  ผู้ชายวัยเดียวกับพี่มักจะโง่”

“อ้าว”

“ผู้ชายหนุ่ม เป็นผู้ชายที่ต้องเรียนรู้ ต้องเดินทาง พี่ขี้เกียจรอ  ผู้ชายที่มากประสบการณ์ รู้ทิศทางที่จะต้องไปต่างหาก คือผู้ชายที่พี่สนใจ”

“แต่คนหนุ่ม มันก็หล่อ ก็ดูดีกว่าไม่ใช่เหรอพี่”

“แหวะ ต้องมานั่งดูคนพวกนี้ แต่งตัวหวีผมเยิ้มไปด้วยน้ำมัน นุ่งยีนส พี่รับไม่ได้หรอก บางคนยังจัดการกับชีวิตตัวเองไม่ได้เลยว่าจะไปทางไหน  เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา พี่ก็มีของพี่ ชีวิตนี้พี่หาเงินได้พอแล้ว แต่คนที่เห็นปลายทางของตนเอง คนพวกนี้ไม่ใช่คนหนุ่ม”

“เออ มีอย่างนี้ด้วย”

“แล้วคนหนุ่ม ก็ไม่ได้ดูดีในสายตาพี่สักหน่อย คนอายุมากหน่อย สุขุม มีความอบอุ่นมากกว่า”

“เพื่อนๆ ของพ่อ ก็จีบพี่นุดี ตั้งเยอะ”

“ยี้ แต่ละคน ไม่เห็นมีหล่อ”

“อาธวัชไง เจ้าของโรงแรมเวสต์เทิร์นน่ะ”

“หล่อยังไม่เห็นจะได้ครึ่งหนึ่งของพ่อเธอเลย”

“พ่อผมหล่อขนาดนั้นเลยเหรอ”

“...”

“แหน่ะ”

“ไอ้เด็กนรก”





วันนี้ผมมีนัดกับการ์ตูนเพื่อเลือกเสื้อผ้าสำหรับเข้าฝึกงานกับพ่อของต้นหลิว พอทานข้าวต้มที่พี่นุดีทำให้เสร็จก็เตรียมตัวจะออกจากบ้าน เห็นพ่อกำลังจะขึ้นรถตู้ไปตีกอล์ฟ ก็เหลือบไปเห็นหนุ่มผิวเข้มจอมขี้เก๊กใส่แว่นตาดำ กับชุดซาฟารีสีเทาเข้ม
 
“อ้าว กลับมาทำงานกับพ่อแล้วเหรอพี่”

“อืม วันนี้ตีกอล์ฟกับหัวหน้าฝ่ายค้าน พอใกล้เลือกตั้งแล้วมันค่อนข้างอันตราย พี่ว่าตามไปดูท่านหน่อย”

“งั้นวันนี้ไอ้เอก็ว่างอ่ะดี”

“ไม่ต้องเลย จะชวนกันไปซุกซนที่ไหนกัน”

“ผมเป็นเด็กดีจะตาย ถามพ่อสิ”

“เดี๋ยวก็นัดกันไปทำอะไรแผลงๆอีก นายน้อยน่ะจะทำเอเสียไปด้วย”

“ชิชะ เด็กพี่น่ะตัวแสบ อย่ามาโบ้ยผม”

“พอกันแหล่ะ เพื่อนกันยังไง มันก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ อยู่ในที่แจ้งนะ ไม่ต้องไปที่มืด”

“ถ้าไอ้เอมันอดใจไหวนะ”

“เดี๋ยวจะโดนดีกันทั้งคู่”   ว่าแล้วไอ้พี่ก็ทำหน้าดุใส่แล้วขึ้นรถตู้ นั่งคู่กับพ่อผมไป  พ่อหันมายิ้มๆ กลั้นหัวเราะ  ประตูรถตู้ถูกปิดอัตโนมัติ แล้วเคลื่อนตัวออก 
ผมรีบมารับเอที่หอ มันบอกว่า กลับมานอนที่หอได้สองคืนแล้ว ไปกลับปทุมธานีเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก  เราเลยจะช่วยกันไปบูรณะรสนิยมการแต่งตัวของการ์ตูน

“มึงแมร่ง ไปกันถึงไหนต่อไหนแล้ววะ กับไอ้พี่กู” ผมถามเมื่อมันเอื้อมมือไปเปิดวิทยุคลื่นโปรด

“มึงจะเสือกทำไม อย่าให้กูรื้อ ว่ามึงทำให้กูเป็นแบบนี้”

“ไม่เกี่ยวกับกูเลย อย่ามาโยนความผิดให้กู” ผมหันไปดู มันไม่ได้หมายความในแบบที่มันพูดหรอก เพราะมันยังยิ้มออก ผมที่ไม่ได้ใส่มูสหรือเจล ปรกลงบนหน้าผม ลมจากแอร์รถเป่าจนหน้าม้ามันปลิวไสวไปมา มันดูเรียบร้อยกว่าเมื่อเดือนก่อนมากมายนัก ผิวพรรณนี่ผ่องเชียว เดือนคณะกู กำลังจะกลายเป็นดาวเหรอเนี่ย

“แล้วมึงกับพี่ไผ่เป็นยังไงบ้างอ่ะ ตกลงจับเข่าคุยกันหรือยัง”

“คุยกันแล้ว”

“เล่ามา”

“แลกกับเรื่องของมึงนะ เอาแบบเปิดอกนะเพื่อน ชีวิตกู มีแค่มึง ที่กูเล่าได้ทุกอย่าง”

“เออ!”

ผมเล่าถึงเรื่องที่ผมไปหาพี่ไผ่ที่บ้าน ตรงดิ่วเข้าไปหาคุณลุง แล้วบอกว่าผมจะเป็นคนดึงพี่ไผ่ขึ้นจากหลุมที่เขาสร้างไว้เอง แต่มีข้อแม้ว่า ลุงต้องสนับสนุนให้พี่ไผ่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่เขาชอบ แค่เลิกเซ็กซ์แผลงๆ นั่นซะ ผมกับพี่ไผ่จะไม่เป็นอะไรกันเกินพี่น้อง มาช่วยในฐานะคนที่เคยได้รับการช่วยจากเขาไว้หลายครั้ง คุณความดีของเขาที่ตรึงไว้ในใจผม  ผมคิดว่า ผมก็ชอบเขามากแหล่ะ แต่เราสองคนจะคบหากันในแบบนี้ตอนนี้ไม่ได้ เราสองคนต่างเลยเถิดเส้นจารีตอันดีงามในสายตาของสังคมมามาก  แม้ว่าลุงกับป้าจะมองผมดีและเอ็นดู แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลย มันจะเป็นการดี ถ้าคุณลุงจะมองพี่ไผ่ดีขึ้นบ้าง ผมเข้าใจความอึดอัดของเขา แต่ก็คิดว่าที่ผ่านมา เขาแก้ปัญหาผิดทาง และผมเองก็เช่นกัน ผิดกันแค่ ผมน่าเอ็นดูมากกว่าจนทุกคนมองข้ามความโสมมของผมไป แล้วโยนความผิดไปที่ ออกัส  แต่ขณะที่พี่ไผ่ ไม่มีใครให้รับกรรมแทน

วิธีการบำบัดของผมนั่นเหรอครับ  อันนี้ผมคิดเอง ไม่ได้อ้างอิงทฤษฎีของฟรอยด์ หรืออะไร
ที่ผ่านมา พี่ไผ่หนีปัญหาด้วยการเลี่ยงมัน  แต่ผมคิดว่าเราควรนำตัวเองไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงต่อการกระตุ้น ทนมันให้ได้
อย่าหนีปัญหา  แต่จงก้าวข้ามผ่านมัน !! 
คล้ายเอาเหล้าสาดไปที่คนลงแดงแต่ไม่ให้เขากิน
เอาน้ำราดไปบนหน้าคนที่กระหายแต่ไม่ให้เขาดื่ม 
จะว่าหักดิบก็ได้  แต่ผมว่า มันน่าจะบำบัดพี่เขาได้

ในช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมา  ผมพาพี่เขาไปยัง สวนสาธารณะต่างๆ ที่ชมรม OutDoor มักนัดกันตามทวิตเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น สวนสาธารณะพุทธมณฑลสาย 2   ใต้ทางด่วนพระราม 9 ตอนตี 3   สะพานรัชชวิภา  คลองจั่น  ศรีนครินทร์
ผมกับเขา จะนั่งกันที่ม้านั่ง หรือ เอาเสื่อไปปู  พี่ไผ่กับชุดกีฬาชุ่มเหงื่อหลังเลิกงาน มีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดชาว เอ้าท์ดอร์ แบบที่ผมสู้ไม่ได้ แต่ผมก็มีคนเหล่มาไม่น้อยเหมือนกันนะ จะหาว่าคุย
พี่ไผ่เฝ้ามองคนเหล่านั้น ผมก็เฝ้าระวังพี่ไผ่อีกที 
ผมรู้ว่าแกทรมาน  แต่พี่ต้องทนนะ พี่ทำได้ ผมรู้

“แล้วพี่เขาไหวเหรอวะ คนมันเคยๆ แถมเป็นอะไรที่ชอบด้วย”  เอถามด้วยความใคร่รู้

“เขาก็เหงื่อแตกเลยล่ะมึง แถมยังนั่งซูดปาก หายใจหอบ เหมือนคนโดนล่าม คงเกรงใจกูด้วยแหล่ะ นี่ถ้าไม่มีกูอยู่ด้วย กูว่าคงกระโจนเข้าใส่เหมือนกัน”

“มึงนี่โหดมากกกกก  กอไก่ล้านตัว”

“คือ กูต้องมั่นใจว่า พี่เขาทำได้”

“มีอะไรเด็ดๆไหมวะ”

“มีดิ  แมร่ง มีแก๊งหนึ่ง เป็นแว๊นหน้าตาดีสี่คน เอาสก๊อยมา Gang Bang  ตอนแรกกูนึกว่ามารุมโทรม ที่ไหนได้ ผู้หญิงถอดก่อนเลย  กลายเป็นเกมหมู่มากกว่ารุมโทรม เด็กผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาดีกว่าใคร ยักคิ้วให้ไอ้พี่ไผ่เว้ย น้องสก๊อยก็กระดิกนิ้วเรียก กูสาบานว่า เป้าพี่แกนูนขึ้นมาจนจะทะลุกางเกงฟุตบอล”

“แล้วทำไง”

“กูก็ทำตาเขม็งใส่ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก็ค่อยๆ สงบลงได้”

“ไปนั่งดูกันแค่นั้นเหรอ”

“ส่วนใหญ่ก็คุย คุยกันถึงตอนเด็ก  เขาก็เล่าชีวิตเขาตอนไปอยู่เมืองนอก  กูก็เล่าของกู  ตอนไม่มีอะไรมากระตุ้น มันก็ดีไปหมดอ่ะว่ะ กูว่า พี่เขาเป็นคนโรแมนติกด้วยซ้ำ แล้วก็มีความหล่อระดับสิบ”

“อันนี้เป็นที่ประจักษ์ว่ะมึง”

“แต่พอหื่นขึ้นมา เหมือนหมาเดือนสิบสอง หันซ้ายหันขวา แบบร้อนรน ดุกดิก กูจะบ้า”

“มึงก็อย่าไปหักดิบพี่เขามาก สงสารเขา  ถ้ามึงไปอั้นเขามาก เขาจับมึงปล้ำกลางแจ้ง อันนี้กูไม่รู้ด้วย”

“เขามีอารมณ์ในที่แจ้งมากเลยว่ะ มีแอบจูบกูอยู่ตลอด หอมแก้ม จับนั่นนี่ กูก็ปฏิเสธพอเป็นพิธี”

“มึงนี่โหดกว่าที่กูคิดนะไอ้น้ำ”


ห้างสรรพสินค้า
ผมกับเอ พาตูนเลือกเสื้อผ้า โดนตูนเลือกเสื้อผ้าที่ราคาไม่แพงนัก ทั้งที่พวกผมอาสาจะจ่ายให้  บ้านของการ์ตูนจริงๆ ก็พอจะมีฐานะที่สุดในอำเภอของเขา แต่เขาเป็นแบบนี้เอง คือไม่ใช้เงินเท่าไหร่ ทุ่มสุดก็คือซีร็อคชีทให้หลิว หรือไม่ก็เบเกอรี่ที่มาปรนเปรอต้นหลิว นอกนั้นก็แทบไม่ได้ใช้อะไร
“เราว่าแค่นี้ก็พอนะ” ตูนหิ้วของพะรุงพะรัง แล้วเดินตามผมกับเอมา

“นี่มึงเอาจริงนะเนี่ยไอ้ตูน กูล่ะนับถือมึงเลย”  เอตบไหล่พร้อมโอบไหล่ตูนอย่างกันเองกว่าแต่ก่อน ซึ่งเคยนึกว่าตูนแอบชอบใครในเราสองคน คิดแล้วก็ตลกดี

“อยากให้พ่อเขาเห็นว่า เราช่วยเขาได้ ดูแลหลิวได้”

“รับรองมึงผอมแน่ ไอ้ตูนเอ๋ย”

“ผอมไม่ได้อ่ะ หลิวไม่ยอมให้ผอม”

“ทำไมล่ะ” ผมกับเอรีบประสานเสียง

“คือ.. หลิวชอบให้เราเจ้าเนื้อ ห้ามผอม”

“นังหลิว ชอบแนว Chubby ก็ไม่บอก เออ เดี๋ยวกูช่วยขุนให้เนื้อมึงเด้งดึ๋งเลย รับรองถูกใจหลิว” ว่าแล้วเอก็คล้องคอตูนที่ยิ้มร่า พาไปกินของหวานกัน โดยมีผมหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินตามไป


วันก่อนที่ห้องน้ำ ห้างสรรพสินค้าดัง ย่านบางกะปิ ชั้น G  ผมกับพี่ไผ่ ยืนฉี่ที่โถ ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในการบำบัด  ผมเห็นเขากำของเขาแน่นเลย ตอนที่โถข้างๆ เริ่มขโยกมือช่วยตัวเอง  ผมรอดูพี่ไผ่ว่าจะผ่านมันไปได้ไหม  ตัวผมเองไม่มีอารมณ์ในที่แจ้งแบบนี้ แต่ผมก็พยายามเข้าใจทุกคน  หันไปมองโถอื่น ก็ยืนกันให้เต็ม ทุกคนต่างสาวมือ แล้วหยุดเมื่อแม่บ้านเดินผ่าน เอาเข้าจริง จากสีหน้าแม่บ้าน ผมว่าป้าเขาคงเห็นมาเยอะ ว่าคนเหล่านี้มาทำอะไรกัน  สักพักพี่ไผ่ก็เก็บน้องชายเขาเข้าแล้วหันมายิ้มพยักหน้า เอาเป็นว่า วันนี้ เขาเอาอยู่  โอเค ผมให้อีกหนึ่งแต้ม

“กินอะไรดีครับน้ำ” พี่ไผ่เดินข้างผมตามบันไดเลื่อนมาชั้น 2 เพื่อหาร้านอาหารทาน

“อะไรก็ได้ครับ ปิ้งย่างไหม”

“จะดีเหรอ แทบไม่ได้ออกกำลังกายเลยนะน้ำน่ะ  มาตะลอนตามพี่เป็นเดือน เดี๋ยวก็มีพุงหรอก”

“นานที ถือว่า ผ่อนปรนนะ”

“แล้วพี่จะได้รับการผ่อนปรนบ้างไหม มันจะระเบิดอยู่แล้วนะ”

“ผมเข้าใจพี่นะ ก็แล้วแต่พี่เลย”

“ไม่เอาดีกว่าครับ พี่จะก้าวต่อ ขอบคุณที่มาช่วยเหลือ แม้มันจะดูพิกลก็เหอะ”

“เทียบกับผมเมื่อเดือนก่อนๆ ก็ไม่ประหลาดเท่าไหร่นะครับ”

“ตกลงพี่ยังเป็นภารกิจสุดท้ายของน้ำหรือเปล่า”

“เรื่องนั้น ค่อยว่ากันตอนจบโปรแกรมการจับนายต้นไผ่ ใส่ตะกร้าล้างน้ำ ก่อนนะครับ”

“พูดซะ พี่เสียหายเลย”

“ก็มันจริง คนอะไร ใช้ชีวิตเซ็กซ์ซะคุ้มเลย”

“พี่ว่า พี่ไม่ใช่คนที่ ไลฟ์สดกับกลุ่ม ยารีสเอ็กซ์ไฟว์ นะ”

“แต่ที่พี่ทำมาทั้งหมด มันเหมือนหนีอะไรไปเรื่อยๆอ่ะพี่  จริงๆแล้ว พี่ชอบจริงๆ เหรอ ที่กลางแจ้งเนี่ย”

“ที่สุดเลย”

“พยายามจะเข้าใจอยู่”

“จำวันที่เราไปกาญจนบุรีกันได้ไหม  ใต้แสงดาว กลางลานแพที่ล่องอยู่บนน้ำนั้น”

“ครับ จำได้”

“พี่แทบอดใจไม่ไหว อยากจะปล้ำน้ำตรงนั้นเลย บรรยากาศมันเป็นใจมาก ยิ่งเป็นน้ำด้วย แล้วก็ลานโล่งกลางแจ้งสวยงามกลางป่าแบบนั้น สาบานได้ว่ามีผู้หญิงแอบมองอยู่สองสามคน”

“ก็ยังอดใจได้”

“ก็กลัวน้ำจะโกรธน่ะสิ  กลับไปนอน พอน้ำหลับ พี่ต้องเข้าไปช่วยตัวเองอยู่สามรอบ ความดันขึ้นเลย”

“ไว้พี่ดีขึ้น ผมจะพาพี่ไปอีกนะ”

“ห๋า.. คืออะไร ยังไง”

“เออน่า”

“หมายถึง ไปทำกันตรงนั้นเลยเปล่า หูว”

“ไม่ พี่จะไม่ได้ มีเซ็กซ์ในที่แจ้งอีกต่อไป บนดาดฟ้าที่ตึกเมืองทองก่อนตำรวจจับ ให้คราวนั้นเป็นครั้งสุดท้ายเถิดพี่”

“ครับ..  พี่ขอโทษ”




วันนี้ผมมีนัดกับน้องชายตัวดี อุทิศ
ผมพาเขามาขริบ  ใช่ครับ ฟังกันไม่ผิด  มาขริบหนังหุ้มปลาย
แท้จริงแล้ว การขริบก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นนัก ผมเองแม้ไม่ได้ขลิบ ก็ใช้งานน้องหนูของผมได้เป็นอย่างดี แล้วคนรอบตัวผมก็ไม่ได้มีใครขริบ ยกเว้นผู้กองที่เป็นมุสลิมซึ่งทำมาตั้งแต่เด็ก ของจิมมี่เลยดูสวยตรง หัวโผล่มาทักทายน่ารัก
แต่กับอุทิศ ผมมีความกังวล ซึ่งแม้ว่า พ่อของเขาจะสอนให้อุทิศทำความสะอาดเป็นอย่างดี แต่ปริมาณความเยอะของหนังหุ้ม มันแตกต่างกับอันทั่วไปที่ผมเคยเห็น  แถมน้องก็เริ่มมีขนาดใหญ่และเขื่องขึ้นเรื่อย จนหนังหุ้มไม่สามารถโตตามทัน
ผมได้รับไลน์บอกจากน้อง ว่าหนังหุ้มปลายเขาเป็นแผล หลังจากที่ผมสอนให้เขาบรรเลงกามกิจให้ตัวเองจากวันนั้น
ส่วนหนึ่ง เขาอาจหักโหมมากไปด้วย แต่ถ้าทาโลชั่น ชโลมครีมก่อนช่วยตัวเอง มันไม่ควรจะมีแผล ยกเว้นคนที่ทานน้ำตาลเยอะจนเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ก็มีโอกาสที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศจะมีรอยถลอกเป็นประจำ
ตัวน้องอุทิศเอง ทันทีที่ผมได้แนะนำเรื่องการขริบแก่เขาไป เขาก็สนใจมากแถมหาข้อมูลเพิ่มอีกมากมาย แล้วเขาก็ไม่อยากให้ที่บ้านรู้ เลยพยายามเก็บค่าขนม 
ความที่เป็นพี่ชายที่แสนดี ผมเลยเสนอออกค่าใช้จ่ายให้น้อง แล้วก็ให้มาพักฟื้น ประมาณหนึ่งอาทิตย์ตามที่อินเทอร์เน็ตบอกไว้ ความที่ยังเป็นผู้เยาว์ ก็คงจะต้องให้ผู้ปกครองเซ็น กระนั้นแน่นอนว่า พี่อำนาจจัดการให้หมด

ผมพาน้องมานอนที่ห้องผม หน้าตาเขาบอกบุญไม่รับเมื่อยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ แต่ก็กินยาแก้ไข้กันไว้ มันบวมน้อยกว่าที่คิด ส่วนหนึ่งก็เพราะน้องอาจจะร่างกายแข็งแรงกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน  อุทิศบอกว่ามันเจ็บหนักมากตอนเดินขึ้นบ้านมา พอตอนที่เขายกมือไหว้พ่อผม เจ้าหนูที่กำลังเป็นแผลไปสีกับกางเกง เป็นอันต้องสะดุ้งขึ้นมาเฮือกใหญ่ พ่อผมก็หัวเราะเพราะว่าพี่อำนาจคงจะเล่าให้ฟังแล้ว คุณหมอที่ตรวจความดันและทำให้ ก็เป็นคุณหมอที่บ้านเราคุ้นเคยกันดี
พ่อไม่ได้มีอาการรังเกียจอะไรเมื่ออุทิศ น้องต่างบิดาของผมเดินเข้าบ้าน ผมว่า หัวใจของพ่อเป็นผู้ชายที่บริสุทธิ์นะ พ่อคือฮีโร่ของผม สักวันผมอยากจะมีจิตใจที่ดีแบบพ่อบ้าง



ผมทิ้งน้องไว้พร้อมกับอาหารอ่อน และยาแก้ไข้ วีดีโอเกม และ หนังสือการ์ตูน ก่อนจะออกไปกับพี่ไผ่เพื่อไปยังโรงหนังย่านสะพานควาย เป็นโรงหนังระดับล่าง กลิ่นอับ แถมยังฉายหนังเรทอาร์วนไปมา ที่บอกว่าเรทอาร์ เป็นการโฆษณาเพื่อกันตำรวจเท่านั้น เมื่อหนังวนไปสักพัก เรื่องต่อไปก็เป็นหนังเรทเอ็กซ์ทันที  โรงหนังประเภทนี้แทบไม่มีเหลือในเมืองหลวงแล้ว เพราะว่าคนมีอินเทอร์เน็ต ดูกันในมือถือ แต่ที่ยังอยู่กันได้ก็เพราะที่แห่งนั้นมีอย่างอื่นมา นั่นก็คือหนังสด มันเหมือนป็อปคอร์นที่แกล้มกับหนังนั่นเอง
วันนี้ เป็นหนังเก่า “กลกามแห่งความรัก” ซึ่งเป็นแค่หนังเรทอาร์ ก่อนจะต่อด้วย “บุพเพพิศวาส” ซึ่งเป็นหนังเรทเอ็กซ์เลียนแบบ ออเจ้า โดยใช้นักแสดงไทยบรรเลงกามกิจ ผมดูแล้วก็ตลก คือความที่โรงหนังมันมืด มีกลิ่นอับแถมยังเก่ามาก ผมออกจะกลัวมากกว่ามีอารมณ์คล้อยตาม คนนั่งกันบางตา ไม่ได้แออัดเหมือนหนังของมาเวล แต่ว่า เมื่อเราหย่อนก้นลงนั่งตรงไหน ก็จะมีคนตามมานั่งในที่นั่งติดกันทันที  ไอ้พี่ไผ่ ก็ไม่มีข้อยกเว้น ทันทีที่คนได้เห็นหุ่น เห็นหน้ามันในเงาลางๆ จากแสงของจอ ก็มารุมล้อมนั่งรอบมันกันหมด  สักพัก มีมือขยันมาช่วยขยี้ พยายามจะแก้ถอดกางเกงของมัน พี่ไผ่เอามือปัดป้องพอเป็นพิธี แต่ถ้าไม่มีผมอยู่ มันคงจะแอ่นตัวให้ใครต่อใครทำอะไรเลยตามเลยนะผมว่า 

ผมเห็นแล้วสงสารเขาอยู่ ถ้ามีใครสักคนหนึ่งจะรู้ว่า เซ็กซ์สำคัญกับชีวิตแค่ไหน ก็ผมนี่แหล่ะ
เลยเลือกที่จะลุกและแกล้งขอตัวไปห้องน้ำ เผื่อจะปล่อยให้เขาได้ปลดปล่อยบ้าง ผมเดินมายังห้องน้ำแล้วก็กำลังยืนที่โถ ก็มีคนพยายามมาเข้าสวมกอด  มีกะเทยแต่งหญิงอยู่สองคนที่ทางเข้าพยายามเสนอขายโอษฐ์กามละหนึ่งร้อย ถูกดีแฮะ แต่ผมไม่มีอารมณ์กับกะเทยหรอกนะ ยิ่งในโรงหนังด้วย  แต่ผมเห็นมีผู้ชายใส่เสื้อลายสก็อตคล้ายคนตัดอ้อยเดินตามเข้าไปทางห้องน้ำหญิง ซึ่งแน่นอนว่า โรงหนังแบบนี้ผู้หญิงไม่กล้าเข้าหรอก  พอออกมาจากห้องน้ำ พี่ไผ่อยู่ตรงนั้น

“วันนี้ ถือว่าผ่อนปรนให้ครับ”  ผมบอกเขา เมื่อเห็นหน้าตาประมาณว่า กูทนไม่ไหวแล้วโว้ย ของเขา

“ไม่เอาครับน้ำ พี่ไม่ทำ”

“ผมไม่ว่าอะไร ไม่ฟ้องพ่อพี่ด้วย”

“พี่แค่อยากอยู่กับน้ำ  ออกไปจากที่โสมมนี้กันเถิดนะ”
ทำมาพูดว่า โสมม ตึกร้างเอย ห้องน้ำสาธารณะเอย แหม.. เมื่อก่อนหนักกว่านี้นะได้ข่าว  แต่ก็แอบดีใจนิดหน่อยที่เขาฝ่าวงล้อมเมื่อสักครู่มาได้ สำหรับผมมันดูน่ากลัว แต่สำหรับเขามันคงเป็นการกระตุ้นกำหนัดได้เป็นอย่างดี อู้ย ขนลุก

พี่ไผ่ขับรถมาส่งผมที่บ้าน ผมเลยชวนเขาขึ้นไปทักทายเจ้าอุทิศ  ซึ่งตอนนี้นอนเล่นเกมแต่หน้าตาเหมือนซอมบี้มาก น้องบอกว่านอนไม่หลับ เจ็บมาก พี่ไผ่แนะนำให้กินยาคลายกล้ามเนื้อสักเม็ด แล้วจะหลับสบาย  ผมเลยเอาให้น้องกิน น้องก็เหมือนจะง่วง 
ผมออกมานั่งที่ระเบียงห้อง หันหลังเข้าไปภายในเห็นอุทิศที่นอนบนเตียงอ่านการ์ตูนอยู่ พี่ไผ่เดินตามออกมานั่งคู่กับผม

“พี่ว่า ที่เราทำอยู่นี้มันไร้สาระไหมครับ”

“ก็ไม่รู้สิ แต่พี่ชอบใช้เวลากับน้ำนะ แล้วก็ปลื้มที่น้ำรับเรื่องเลวชั่วในตัวพี่ได้”

“พี่ก็ไม่ได้เลวอะไรนี่ครับ แค่รสนิยมทางเพศของพี่มันเกินล้ำคนอื่นไป  คนอื่นที่ว่า เราเรียกเขาว่า สังคม ครับ”

“น้ำล่ะ น้ำมีรสนิยมทางเพศอะไร บอกให้พี่รู้หน่อยสิ อย่างน้อยพี่ก็รู้สึกผิดน้อยลง”

“ผมก็ธรรมดา ทั่วๆไปนี่แหล่ะ”

“ไม่เอาหน่า คนเราต้องมีอะไรที่มันใฝ่ฝันมั่งสิ แบบว่า นอกกรอบ”

“....”

“เวลาเข้าเว็บโป๊ ชอบดูในแคทตาล็อคไหน”

“อย่ามาหลอกถามซะให้ยาก”

“นะๆๆๆ  พี่อยากรู้ความต้องการน้ำบ้าง”

“มันไม่มีใน แคทตาล็อค”

“ดูดีหรือยัง”

“ไม่มีหรอก ส่วนใหญ่เป็นสถานการณ์”

“เร็ว บอกมา”

“คือ พี่รู้จัก Mile High Club ไหม”

“ไอ้น้ำ เอ้ยยยยย เจ๋ง ชอบมีเซ็กซ์ในที่สูงเหรอ!”

ผมรีบเอามืออุดปากพี่ไผ่ เพราะกลัวน้องอุทิศจะได้ยิน  อุทิศหันมามองก่อนจะกลับไปอ่านการ์ตูนต่อ  พี่ไผ่ลดมือของผมออกจากปากเขา เรามองตากันอยู่อย่างนั้น ลมพัดเย็นเอื่อยมาที่ระเบียง

“พี่ขอจูบน้ำได้ไหม”

“เพราะมันกลางแจ้งเหรอครับ”

“เปล่า เพราะพี่รักน้ำ”

ผมก็หลับตาพริ้มก่อนจะยิ้มรับจูบของเขา ถือเสียว่าเป็นรางวัลให้คนที่พยายามทำตัวดีมาเป็นแรมเดือนก็แล้วกัน
แต่เอ.. จูบมันจะนานไปแล้วนะ ลิ้นเขาสอดเข้ามาควานไปทั่วปากผม ผมก็อ้ารับลิ้นพี่ไผ่ที่ขยันฉกเข้ามาจัง เขาถอดปากออกแล้วบรรจงหอมลงมาที่หน้าผาก หายใจหอบ มีเหงื่อซึมตรงขมับ ผมเอามือไปปาดให้ เรามองตากัน พี่ไผ่ยังคงหายใจแรงเชียว ผมเหลือบลงไปที่กางเกงกีฬาผ้ามันสีดำ โหยยย ทำไมมันนูนขึ้นมาขนาดนี้ 
ก็เข้าใจนะว่ามันเป็นระเบียง มันกลางแจ้งพอที่จะกระตุ้นอารมณ์เขา แต่ว่ามันอยู่ในช่วงที่เรากำลังพยายามจะรักษาเขาให้ใกล้เคียงปุถุชนที่สุดนี่นา มันจะดีเหรอกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อไปนี้
“พี่ไม่ไหวแล้วครับน้ำ” เขาบดจูบขยี้ลงมาที่ผมอีกรอบ ลมหายใจอุ่นร้อนรดมาที่หน้าผม จนผมมีสติพอที่จะบอกกับเขาไปว่า ยังมีอุทิศนอนอยู่ในห้อง  เขากลับตอบกลับมาว่า เพราะมีคนดูอยู่ เขาถึงทนไม่ได้ เขากำลังจะถึงขีดสุด
ผมหันไปมองที่น้อง อุทิศพยักหน้ายิ้มพร้อมทำสัญลักษณ์โอเค ก่อนจะแกล้งเอาหนังสือการ์ตูนปิดหน้า ไอ้น้องแสบ มึงจะต้องเป็นน้องรักกูแน่
ผมจูบตอบพี่ไผ่กลับในทันที  เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน เราจะยังไม่เลยเถิดอะไรกันขนาดนั้น แต่ในวันนี้ รางวัลของคนทำตัวดี ถือเสียว่า เป็นของล่อใจเล็กน้อยให้ทำดีต่อไป  ผมปลดกางเกงเขาออก  โอ้วแม่เจ้า มันใกล้เคียงของพี่อำนาจ แต่ขาวแล้วหัวก็แดงเรื่อ  อวบแล้วก็มีเส้นเอ็นปูดโปน
พี่ไผ่เอนตัวลงนอนข้างเก้าอี้ผมจนตัวเราเบียดกัน เอาหัวผมไปหนุนที่แขน โอบกอดผมไว้ หลับตาพริ้ม
ผมบรรจงขยับมือขึ้นลงเป็นจังหวะ แล้วเร่งตาม  บนระเบียงชั้นสองที่สูงขึ้นมานี้  ทำเอาผมก็มีอารมณ์อยู่เหมือนกัน มันเป็นที่สูง ที่ซึ่งผมชอบเสมอ พี่ไผ่ดูดปากผมอีกครั้งแล้วหงายกลับไปนอนอิงเก้าอี้ ผมยังอยู่ในท่อนโอบแขนของเขา เร่งมือขโยกบ้องไผ่ขึ้นลงจนมันแข็งเกร็ง พี่ไผ่หายใจรัว แล้วก็หอบขึ้น เหงื่อที่ไหลลงมาท่วมเสื้อกีฬาสีน้ำเงินจนแฉะ  ผมสาวมือขึ้นลงแล้วก็เร่งมือรัวขึ้น  หันไปดูอุทิศที่ตอนนี้โยนหนังสือการ์ตูนทิ้งไปแล้ว นั่งมองคู่เราอยู่
การถูกจับจ้องนี่สินะ มันกระตุ้นอารมณ์พี่ไผ่ไว้  พี่ไผ่หอบรัวขึ้นอีก ผมเอื้อมตัวไปเลียติ่งหูเขา แล้วก็ไล้ริมฝีปากไปตรงกรามที่เป็นสันเหลี่ยม  คนโดนไซร้ร้องเสียงหลงครางออกมา
“น้ำ... น้ำ.....”
ผมแหย่ลิ้นเข้าไปในซอกหูเขา ค่อยๆขบมันเบาๆ แล้วก็บดขยี้ด้วยการเม้มปาก  ร่างกายของพี่ไผ่แอ่นไปมาคล้ายปลาที่กำลังดิ้นไปมาในกระชัง  เขาอยู่ในมือผมแล้ว เก่งดีนักใช่ไหม  ผมลงลิ้นไปที่ซอกคอเขา เหงื่อเค็มเข้าปาก แกล้มกันกับเนื้อซอกคอที่หวานของเขา
ผมสาวมือเร็วขึ้น รัวขึ้น พี่ไผ่ก็หอบหายใจแรงขึ้น ลึก.. รัว.. แล้วเขาก็แอ่นเกร็งไปทั้งตัว ก่อนจะครางหอนออกมาอย่างกับหมาป่า  กำหนัดที่เก็บมาหลายวันทะลักท่วมมือผม กระเด็นมาเปอะเสื้อกีฬาเขา ยังพุ่งเลยมาโดยแก้ม กับมุมปากของผม  เขามองหน้าผมด้วยลมหายใจที่หอบน้อยลง  ผมก็มองตาเขากลับ แล้วส่งลิ้นของผมไปเลียที่มุมปากของตัวเอง กลืนกินน้ำข้นสีขาวขุ่นเข้าไป มันทั้งคาวทั้งหวาน เขาเอื้อมตัวมาดูดปากผมอีกรอบ ก่อนจะกอดผม น้ำรักที่เปื้อนเสื้อกีฬา เบียดเปื้อนเลอะเสื้อยืดสีขาวของผมไปด้วย เรากอดกันอยู่อย่างนั้นจนเสียงนกร้องบินมาใกล้ ผมเอื้อมตัวไปจูบเขาอีกครั้ง แล้วถอดริมฝีปากออกมา

“แค่ผ่อนปรนให้นะ อย่าคิดว่าผมจะยอมโดยง่าย”

“พี่รักน้ำชิบหายเลยว่ะ แมร่ง”
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 18 : Hand Job จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 19-06-2018 20:37:21
รบกวน สอบถามท่านผู้อ่านด้วยว่า

ซีนของ คุณพ่อ กับ พี่นุดี มันเป็น ช-ญ  จะให้แยกออกไปเลย หรือ ทำลิงค์แยก
หรือไม่เอามาปนเลย

พอดีมือใหม่ ไม่รู้กฏอ่ะ  เค้าขอโทษ   :call: :call: :call:

Thank na 

โค้งสุดท้าย ฝุด ฝุด   

- พี่อำนาจ กับ เอ   
- พ่อ กับ นุดี
- จิมมี่ กับ พี่กร 
- ยัยออกัส กับ น้องกันต์

จะลงเอยอย่างไรนะ  แล้ว น้องอุทิศ ตัวแสบ นี่หลังจาก เจ้านู๋แข็งแรงดี จะทะลึ่งตึงตังไปไหน
หุ หุ 

หวังว่า ไม่เกินเลย

ขอบคุณ ทั้งใน บอร์ด  ใน เด็กดี  ใน ธัญวลัย  ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 18 : Hand Job จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-06-2018 21:11:11
 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 18 : Hand Job จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-06-2018 00:18:49
ฤาจะรัก ฤาจะใคร่ ใครสับสน
ฤาจะหยุด ฤาจะซน ไม่ค้นหา
ฤาจะเซ็กส์ ฤาจะใช้ ทุกเวลา
ฤาจะพอ ฤาถามหา ว่าตามเธอ

ยากทำใจ ให้ยอมรับ ขอนับถือ
ไม่ระแวง ไม่หืออือ หรือกลัวเผลอ
ไม่สะดุด ไม่หยุดรัก ไม่พักเจอ
จะเป็นไง ยังเป็นเธอ ที่เพ้อครวญ

ทางข้างหน้า ร่วมฝ่าฟัน ดั้นด้นถึง
ตั้งความรัก ไว้ฉุดดึง ถึงโหยหวน
จะไม่ปล่อย ให้ไอ่พี่ รำแทงทวน
หยุดชักชวน กวนคนอื่น รื่นเอาท์ดอร์

หุหุ

เราจะไม่ขัดขวางทางของใครเพราะกลัวบาป
จะไปห้ามไม่ให้เค้ารักกัน..มันไม่ดี

งานนี้นับถือน้ำใจของคนน้องจริงๆ
จิตใจดี งามมาก..ข้าน้อยขอคารวะอย่างสุดซึ้ง
น้อยคนนักที่จะทำใจยอมรับความสำส่อนของอีกคนหนึ่งได้

ยอมใจน้ำจริงๆ

ส่วนไอ่พี่ต้นไผ่..กรูไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก
สมองแมร่งงงง มึนตึ๊บว่ะ
เอาเป็นว่า..เป็นคนที่โชคดีมากๆๆๆๆๆๆ ก็แล้วกัน

บับบุย..หยื๋ยยยยยยยยย
น่ากลัว..ตัวโฉด ของเรื่องนี้

รักนะคุณคนแต่ง
เรามารอคุณทุกวันเลย
จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 18 : Hand Job จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-06-2018 00:55:06
พ่อ+พี่นุดี เราว่าทำเป็นตอนพิเศษดีไหม น่าจะโอเคกว่า
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 18 : Hand Job จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ]
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 20-06-2018 18:32:07
ตอนไรท์บอกในเรื่อง เลิฟ 1999 ว่าเรื่องนี้จะเป็น นิยายเชิงสังวาส อันนี้ เข้าใจทะลุเห็นแจ้งแล้ว 555  :pighaun:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 18 : Hand Job จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 20-06-2018 22:56:45
……


พี่ไผ่อดทนเก่งมากกกกก. 

น้ำต้องให้รางวัลพี่เขาหลายรอบหน่อย รอบเดียวพิษยังออกไม่หมดเลยอ่ะ

แล้วรสนิยมด้านเซ็กส์ของทั้งคู่ก้อหลอมรวมกันได้.  ที่กลางแจ้งบนที่สูง   อิ อิ


 :hao6:  :hao6:  :hao6:  :hao6:  :hao6:  :hao6:


……


..
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 18 : Hand Job จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 21-06-2018 13:54:34
จะจบแล้วจริงๆเหรอ คิดถึงแย่ อยากอ่าน พ่อกับนุดีเหมือนกัน แต่ทำลิงค์แยกดีกว่าค่ะ เพราะคนในบอร์ดบางคนเขาไม่เอา หญิงชาย เลยค่ะ คิดว่าแยกไปจะดี
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด ยสตน ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 22-06-2018 15:55:29
Prep 19 :  Bareback  ฟ ห ก ด    ย ส ต น

“ตื่นมากินข้าวต้มก่อนสิอุทิศ” ผมเรียกน้องชายที่นอนอ้าซ่า ไม่ยอมนุ่งผ้า เพราะกลัวว่ากางเกงจะไปเสียดสีกับผิวของอุทิศน้อยซึ่งเพิ่งโดนชำแระเอาหนังหุ้มปลายออกไป  แม้จะมีอาการบาดเจ็บแต่มันก็ชูชันขึ้นมา รอยเย็บไหมสีดำดูน่ากลัว กระนั้น มันดูน่ารักน่าชัง    เออ.. เอ็งมีของดี เกินวัยเลยนะ น่าอิจฉาชิบเป๋งเลย
อุทิศงัวเงียลุกขึ้นมารับข้าวต้มไปทานโดยที่ยังไม่ได้แปรงฟัน เขาไม่ได้คว้าผ้ามาปิดเครื่องเพศเขาแต่อย่างใด ก็เราพี่น้องกัน ไม่รู้สึกจะอายอะไร แม้จะคนละพ่อก็เหอะ

“เมื่อคืนพี่ทำผมเจ็บระบมไปทั้งคืนเลย พี่น้ำ”

“พี่ไปทำอะไรเอ็งตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็พี่คนหล่อๆล่ำๆ กับพี่น่ะสิ อนาจารกันที่ระเบียง”

“อ๋อ” ผมนึกถึงเมื่อคืน ก็เขินขึ้นมาเหมือนกัน ผมก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น แต่อารมณ์มันพาไป ก็เลยช่วยพี่ไผ่อยู่ตรงระเบียงสักเล็กน้อย แกจะได้หายเครียด อดอยากปากแห้งมาแรมเดือน  แถมพี่มันก็มีอารมณ์เมื่อรู้ว่ามีเจ้าอุทิศนั่งมองอยู่ คือชอบเป็นที่เพ่งเล็งสินะ ผมก็ต้องมาทำบัดสีไปด้วย  ละอายใจอยู่เหมือนกัน

“นอนแข็งทั้งคืนเลยครับพี่ เจ็บอ่ะ” เขามองลงไปที่แผลผ่าตัด มันมีรอยฉีกนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับเลือดออก  ผมเลยเอามือไปพลิกดู มันก็ตื่นตัวขึ้นมา ทำให้รอยแผลถูกดึงรั้งด้วยท่อนที่ขยาย น้องจึงร้องด้วยเสียงออกมาอันดัง “โอ๊ยยย พี่น้ำ”  ผมต้องรีบปล่อยมือแล้วให้เขาท่อง พุทโธไว้ เพื่อระงับกิเลส

“น้องมีอารมณ์กับผู้ชายด้วยเหรอ”

“เปล่านะครับ ผมชอบผู้หญิงนมใหญ่ๆ แต่แหม มานั่งสาวมือกันให้เห็น แถมยังดูดปากกันเป็นชั่วโมง มันก็มีอารมณ์บ้าง”

“พี่ขอโทษ พี่ไผ่มันคึก แต่อยู่ในช่วงงด พี่ก็สงสาร  เหมือนหมาเดือนสิบสองถูกขังกรงน่ะ หมั่นไส้ แต่ก็สงสาร”

“เขาหล่อเนอะพี่คนนั้น หุ่นก็ดีน่าอิจฉา ผมอยากหล่อแบบนั้นบ้าง”

“เราก็หล่อ เดี๋ยวยิ่งโตจะยิ่งหล่อ หัวบันไดบ้านจะมันเลื่อมเลยล่ะคอยดู  ยิ่งมีเจ้านี่ขนาดนี้ด้วยนะ” ผมชี้มือไปที่ผู้บาดเจ็บ

“ผมหวังว่า มันจะออกมาถูกใจผู้รับทุกคนนะครับ” แล้วเขาก็เอามือพลิกเล่นไปมา จนมันชูขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็ร้อง “โอ๊ยย”




ผมมาหาต้นหลิวที่บ้าน แวะมาสวัสดีคุณป้ากับคุณลุงที่พักนี้ผมเข้าออกบ่อยขึ้น คุณลุงให้คนเอารถผมไปเก็บในอาคาร พร้อมให้อยู่ทานอาหารกลางวันด้วยกัน  ผมเลยเดินมาช่วยคุณป้าเพราะว่าคุณป้าลงครัวเอง
“นี่เมื่อวานเราไปช่วยตูนเลือกเสื้อผ้าฝึกงาน อยากหล่อเลย”  ผมเล่าให้หลิวฟัง หลิวเหลือบตามามองขณะที่ปลอกหัวหอม

“ไม่ได้พากันไปทำอะไรพิเรณนะ” หลิวหลิ่วตามา

“เห็นไปต่อกับไอ้เอ ก็ไม่รู้สินะ ฮ่าๆๆ”  ผมแกล้งยั่วเพื่อน เพราะขึ้นชื่อว่าไอ้เอ ไม่มีใครไว้ใจ

“เดี๋ยวเหอะนะพวกนี้” หลิวเอามีดชี้มาที่หน้าผมเลย

“หลิว ลูกวานไปช่วยป้าหน่อยจัดโต๊ะ แล้วก็เอาชาร้อนไปให้คุณพ่อทีสิ แม่จะคุยกับน้ำแป๊บนึง”  คุณป้าหันไปบอกกับหลิว
พอต้นหลิวคล้อยหลังไป คุณป้าก็หันมาส่งยิ้มให้ผม รับรู้ได้เลยว่า คงอยากรู้เรื่องแฟนของลูก  ผมเลยรีบบอกโดยไม่ต้องให้ถาม  เล่าถึงความดีงามของการ์ตูน ตลอดจนความขยัน ชาติตระกูล  คุณป้าก็ยืนยิ้มไปพร้อมกับปรุงแกงกะทิไปด้วย

“ป้าไม่ได้อยากรู้เรื่องหลิวกับการ์ตูนสักหน่อย”

“อ้าว”

“หลิวมีอะไรเล่าให้ป้าฟังหมดแหล่ะ  การ์ตูน ป้าก็รู้จักดี ให้คนไปสืบมาหมดแล้ว ป้ารู้ว่าป้าไว้ใจการ์ตูนได้ จะมีก็แต่หลิวนี่แหล่ะ จะไปสร้างความปวดหัวให้ตูนได้นะ”

“ผมก็นึกว่า ให้หลิวออกไปก่อน เพื่อจะคุยเรื่องนี้”

“ป้าอยากจะคุยเรื่องเจ้าไผ่”

“อ๋อครับ  พี่ไผ่ก็กำลังพยายาม ทั้งโฟกัสเรื่องงาน แล้วผมก็ดูแลไม่ให้พี่ไผ่ ออกนอกลู่นอกนาง ไม่รู้จะทำได้แค่ไหนนะครับ”

“ป้าเลยอยากจะคุยนี่ไง”

“ครับ”

“ป้าคุยกับลุงแล้ว พวกเราก็ไม่ไว้ใจใคร ถ้าไหนๆ ไผ่ก็เชื่อฟังแต่น้ำ  ป้าก็ไม่รู้ใจน้ำ ว่าชอบพอลูกป้าบ้างไหม”

“ป้าพูดแบบนี้ผมก็เขินสิครับ ฮ่าๆๆๆ  บอกแล้วว่า ยังไงผมก็เหมือนลูกเหมือนหลาน”
“คือ ป้าน่ะ รู้ใจลูกชายมาตลอด ในห้องเขา ก็มีแต่รูปของน้ำตั้งแต่เรียนในไทย ป้าเจอหมอนพิงที่น้ำซื้อให้เขาวันเกิด เขายังเก็บไว้จนทุกวันนี้ จนมันแบนแฟบไปหมด ไผ่คิดอะไรทำไมป้าจะไม่รู้”

“ผมก็คิดว่า พี่ไผ่เป็นคนน่ารักครับ เพียงแต่ ที่ลุงกับป้าอาจตกใจไปบ้าง ที่พี่เขามีบางอย่างต่างออกไปจากกรอบของสังคม แต่พี่เขาก็กำลังปรับตัว”

“ไม่มีข้อแก้ตัวในเรื่องนั้น มันเป็นความผิดของเขาทุกอย่าง แต่ลุงกับป้าก็ให้อภัย แล้วหวังว่าน้ำก็จะให้อภัยเขาด้วย”

“ที่ผ่านมา ผมกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่มีอะไรผิดต่อกันครับ ผมก็ไม่ใช่จะดีเด่อะไรนะครับ เรื่องนี้ผมรับได้”

“มาเป็นคนกันเองในครอบครัวเถิดนะ มาให้ลุงกับป้าได้ใกล้ชิดกับน้ำมากกว่านี้”

“คุณป้าครับ..”

“รับรักเจ้าไผ่มันสักที ถ้าน้ำก็มีใจ”





หลังจากทานอาหารซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความอึมครึม ไม่ใช่ในทางที่ไม่ดี เหมือนฝนจะตก ก็มีมืดหม่นบ้าง เพียงแต่ก็ไม่ได้มีใครกลัวฝนนั้นเท่าไหร่ คุณลุงคุยกันเองกับพี่ไผ่มากขึ้น ดูผ่อนคลายกันทั้งคู่แต่ก็ยังมีระแวดระวังบ้าง  หลิววีดีโอคอลล์กับการ์ตูน คุณป้ายังชวนให้มาปาร์ตี้บาร์บีคิวด้วยกันวันเสาร์นี้   พี่ไผ่ตักอาหารให้ผมอย่างเขินๆ ผมเองก็ทำตัวไม่ถูก คือ แบบมันต่อหน้าผู้ใหญ่น่ะครับ

ป้าบอกกับผมว่า พ่อแม่ทุกคนแหล่ะ อยากให้ลูกมีความสุข เพียงแต่พ่อแม่ไม่รู้หรอก ว่าความสุขของลูก เป็นความสุขที่จีรังไหม  แต่ถ้าเป็นเรื่องหัวใจ พ่อแม่จะไม่ยุ่ง ขออย่างเดียวว่าอย่าไปทำอะไรที่มันเลยเถิดอย่างที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องกรรมการผู้บริหารจะคิดอย่างไรกับพี่ไผ่ในเรื่องรสนิยมทางเพศ คุณลุงจะรับหน้าเอง 
ญาติทั้งหลายที่รวมกันตั้งคำถาม คุณป้าจะจัดการเอง  ขออย่างเดียวให้พี่ไผ่ได้มีความสุขบนกรอบสังคมอยู่บ้าง

เอาเข้าจริง ผมก็บอกได้เต็มปากว่า พี่ไผ่อยู่ในใจผมมาตลอดนั่นแหละ แต่ว่าเส้นทางวงโคจรของเราไม่ได้มาเจอกัน เขาก็ระแวงว่าผมจะคิดอย่างไรกับเขา  ส่วนเขาก็เป็นคนที่ผมคงได้แต่มอง  ไม่คิดเลยว่าเขาจะชอบผมขนาดนั้น
ผมตามพี่เขาขึ้นไปบนห้อง กะจะไปดูสิว่า คุณป้าโม๊หรือเปล่า ตุ๊กตา Bad Badz Maru [ แบด แบด มารุ ] เป็นทรงหมอนอิงที่ผมให้เขาไปเมื่อหลายปีก่อน มันเป็นของที่เขารักเขาหวงอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ
พี่ไผ่หยิบมันมาให้ดู โอ้น้องแบด ทำไมแบน แต๊ด แต๋ ขนาดนี้  ร่องรอยการใช้งาน ผมเลยคว้าน้องเขามาวางที่ตัก
เดี๋ยวสิ..  ทำไมปากแบด แบด มารุ ถึงมีรู  นุ่นตรงนั้นก็เป็นรูกลวง  พอลองเอานิ้วแหย่เข้าไป นุ่นก็จับตัวเป็นก้อน

ไอ้พี่ไผ่ มึงล่อตุ๊กตากู !!

เขาไม่ได้ปฏิเสธตอนผมเอานิ้วแหย่เข้าไปในปาก แบด แบด มารุ ผมเอานิ้วที่แหย่ไปโดนนุ่นที่แห้งแข็งอยู่ข้างใน แล้วเอามาดมดู นี่มันกลิ่นคาวอย่างนั้นแน่นอน ไอ้ห่า คนอะไร คึกได้ขนาดนี้  เขาทำหน้าเขินๆ หลบตา
“มันทำให้พี่คิดถึงน้ำ”

“พี่ต้องมีลิมิตบ้างนะ บางอย่างก็ทำให้ผมตกใจเลยเนี่ย พี่ไผ่ที่เคยเป็นไอด้อลผม”  แล้วผมก็หันไปทำตาดุ  เขาทำหน้าจ๋อยเหมือนเด็กสำนึกผิด  ผมเดินไปนั่งข้างเขา เอื้อมตัวไปหอมเขา

“พี่พยายามอยู่ครับ มันมีบางช่วงที่เหมือนว่า พี่ไม่มีสติ แต่ก็ไม่มีข้อแก้ตัว ทุกอย่างมันเป็นเพราะความคะนองของพี่เอง เอาเป็นว่า ขอให้น้ำเข้าใจ แล้วก็ให้โอกาสพี่นะ” เขาเอื้อมตัวมาหอมผม  ผมจู่โจมดูดไปที่ริมฝีปากของเขา แล้วดันตัวเขานอนลง เอามือดึงเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนของเขาออกจากร่างล่ำนี้ ผมโลมลิ้นไปตามตัวเขาในขณะที่ถอดเสื้อของตัวเองออก

ก็เขานี่แหละคนที่ผมโหยหา คนที่ลาไปเมืองนอกแล้วทำให้ผมคิดถึงอยู่เสมอ
คนที่ชอบผมแล้วทำไมไม่ยอมบอก ปล่อยให้ผมแอบหลงใหลในตัวเขาอยู่คนเดียว 
คนที่ผมต้องคอยแกล้งหาเรื่องผู้หญิงไปปรึกษา ทำให้ผมเมาเป็นบ้าเป็นหลังจนต้องไปลงเอยกันออกัส 
ทำไมเขาไม่พูดมันให้เร็วไปกว่านี้ มันน่าแค้นนัก คิดแล้วก็ต้องแก้แค้น ต้องกำราบสักหน่อย

“พี่พร้อมจะเป็น ภารกิจที่สาม ของผมแล้วใช่ไหม”

ได้ผล..  เขาหน้าซีด มองซ้ายมองขวา เริ่มมีเหงื่อซึมออกมาที่หน้าผาก  ก่อนจะหลับตาปี๋ แล้วถอดหายใจออกมา
“ก็ได้ครับ.. พี่ยอม พี่ยอมน้ำ”

ผมก้มลงไปจูบที่ซอกคอ แล้วเอามือดึงกางเกงกีฬาของเขาออกจากร่าง ไม่ใส่กางเกงในแฮะ แต่ตอนนี้เจ้าตัวใหญ่มันไม่ชูชันเหมือนเช่นตอนที่เราโรมรันพันตูกันสักครู่  มันอ่อนปวกเปียกตั้งแต่ได้ยินคำว่า ภารกิจที่สาม
ผมเตรียมเผด็จศึกพี่ไผ่  นายต้องเป็นเมียเรา หึ สมน้ำหน้า 

ริมฝีปากบรรจงไซร้ตามซอกหู ลงมาที่แผ่นอกล่ำ  ผมลงลิ้นไปที่กล้ามท้อง จับพี่ไผ่ยกขาขึ้นตั้ง  เขามีอาการกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกผิดน้อยลง  อยากไปสุงสิงกับออกัสดีนัก เดี๋ยวจะได้รับรู้รสการเป็นรับ ว่ามันทั้งเจ็บทั้งสนุกแค่ไหน พ่อตัวดี
ผมเอานิ้วเอื้อมไปกดขวดวาสลีนที่หัวเตียง แล้วล้วงทาเข้าไปในร่องก้นของเขา พี่ไผ่ครางแต่ไม่ใช่เพราะความเสียวซ่าน น่าจะเพราะเจ็บและกลัว  เขาไม่กล้าแม้แต่ลืมตาขึ้นมา ผมเริ่มสงสารเขา แต่ผมสงสารตัวเองมากกว่า ที่มัวแต่เป็นบ้ากับผู้ชายคนนี้  ผมคิดแล้วก็อยากจะทะลวงให้หายแค้น  ผู้ชายที่สำส่อน มั่ว มัวเมาตรงหน้า ถึงเวลาแล้ว ต้องอยู่ใต้อาณัติผม

“พร้อมแล้วนะครับ”

“.....”

“พร้อมไหมครับพี่ไผ่”

“...  อืม” มีคราบน้ำตาไหลออกมา  โถ..  กำลังจะเสียซิง  พ่อรุกออรินัลในตำนาน
ผมเพิ่มนิ้วที่สองเข้าไป

“โอ๊ยยยยยยยย”
ผมก้มลงไปจูบ ไปดูดปากเขาอีกรอบ ก่อนจะใช้อีกนิ้วแหย่เพิ่มเข้าไปเป็นสาม

“อ๊ากกกกกกกก”  มันเป็นเสียงเดียวกันกับที่เกิดจาก น้องกันต์ และ ผู้กองจิมมี่

ผมเอาของผมที่สวมถุงยางรอ ไปจ่อไว้แทนนิ้ว พี่ไผ่หลับตาปี๋ ถอนหายใจเฮือกใหญ่เป็นเฮือกสุดท้าย



.....ผมทำไม่ได้

ผมปล่อยมือจากขาของเขาที่ยกขึ้นมาชันไว้  ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนทับบนตัวเขา
กลายเป็นผมที่หลับตาพริ้ม แล้วโอบกอดเขาไว้ เขาลืมตาก่อนกอดผมกลับ เขาจูบผมตรงหน้าผาก เรามองตากัน
พี่ไผ่พลิกตัวเอาผมลงมานอนที่เตียง แล้วเขาก็อยู่คร่อมตัวผม

นี่ต่างหาก.. ที่ผมต้องการ

ผมไม่ได้อยากได้เขาเป็นเมียผม..   แต่ผมอยากเป็นเมียเขา..
เรากอดกันไปอย่างนั้นเป็นชั่วโมงโดยไม่ได้ทำอะไรต่อ  สักพักจนคุณป้าให้หลิวมาเคาะประตูเพื่อทานอาหารว่าง ผมก็ขอตัวไปห้องน้ำเพื่ออาบมัน

ฝักบัวที่เปิดน้ำ พ่นลงมาที่ลำตัวผม ผมหันหน้าไปสู้ละลองน้ำที่ไหลชโลมลงมา เนื้อตัวที่เปลือยเปล่า กับสายน้ำที่ชะล้างคราบไคล มันไหลลงพื้นเข้าท่อระบายน้ำไปพร้อมกับเรื่องติดค้างในใจผมจนหมดสิ้น
ฝักบัวถูกเปิดให้น้ำแรงขึ้นอีกจากชายที่เดินเปลือยเข้ามาสมทบ  พี่ไผ่กอดผมจากด้านหลัง จูบที่ต้นคอ
ผมเข้าใจคำพูดของพ่อ ที่ให้ผมเป็นตัวเอง

แบบนี้ต่างหากที่ผมมีความสุข โดยไม่ขัดขืน  ไม่ฝืนใจ..
เราจะไปสวรรค์ทำไม ถ้าใจเราโหยหาพื้นโลก   
ผมไม่ได้อยากเป็นผัวใครอีกแล้ว.. ผมแค่อยากอยู่กับชายคนนี้ ในฐานะแฟน และมีบทบาทเป็น.. เมีย


คลินิกนิรนาม

เราสองคนที่นั่งจับมือกันในห้องกระจกสีดำ มาทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด เพื่อให้คำมั่นว่า จากนี้ เราจะมีแค่กันและกัน รีสตาร์ทชีวิต ตั้งต้นใหม่ ทิ้งความอัปรีย์ของเราทั้งคู่ไว้เบื้องหลัง
ผมตื่นเต้นที่เราจะมีอะไรกัน  พี่ไผ่เอ่ยปากชวนผมไปต่างประเทศเพื่อใช้เวลากันในวันหยุดสั้น
ในขณะที่ใบหน้าอันแสนสุข ผมก็มีความกังวลกับผลเลือดของพี่ไผ่เหมือนกัน
เขาสำส่อน เขาใช้ชีวิตแบบหลุดกรอบ แม้ว่าจะป้องกันก็ตาม
แต่เป็นความตั้งใจของพี่ไผ่ ที่เขาจะตรวจเลือดเมื่อมอบให้ผมเป็นของขวัญในวันที่เราตกลงจะคบหากัน
ผมก็ทำใจไว้แล้วว่า ถ้าผลเลือดเขาออกมาไม่ดีนัก ผมก็จะอยู่ตรงนั้นกับเขา

ระหว่างที่เรานั่งรอผม ดูเขาตื่นเต้นไม่น้อย  มันเป็นผลของการกระทำอันแสนไร้ขอบ เขาจึงต้องชดใช้ด้วยใบหน้าวิตก
ผมก็จับมือเขา จนพยาบาลเดินมาเรียกให้เขาไปในห้อง
เขาเดินไปอย่างกับคนกำลังจะไปลานประหาร หน้าซีดไม่แพ้ตอนที่นึกว่าตัวเองกำลังจะโดนเสียบ
แต่ก็หันมาชูสองนิ้วสู้กับสิ่งที่กำลังเผชิญ ผมชูสองนิ้วกลับ ให้เขาได้รับกำลังใจ
ช่วงเวลา 5 นาที เหมือนห้าปีในโลกของเมืองลับแล  เวลาเดินผ่านไปเสียช้านาน
ประตูถูกเปิดออก พี่ไผ่เดินยิ้มมา พร้อมชูผลตรวจเลือดให้ดู เสียงหัวเราะดังขึ้น  เรากอดกัน
เขาพาผมเพื่อเดินออกจากประตู  พยาบาลเรียกชื่อให้ไปเอาผลเลือด  ลืมไปเลย ว่ามาตรวจเป็นเพื่อนกัน..


แล้วฟ้าก็ผ่าลงกระบาลผม แบบไม่น่าเชื่อ...  โลกของผมถล่มลงไป


พี่ไผ่นั่งกุมมือผมมาตลอดทาง เขาต้องคอยเรียกสติผมตอนที่ผมนิ่งเงียบไป มารู้ตัวอีกที พี่ไผ่ก็พาผมขึ้นมายังห้องนอน
อุทิศรีบมาพยุงผม แล้วปลีกตัวไปยังห้องนั่งเล่น เพื่อปล่อยให้ผมกับพี่ไผ่มีเวลาอยู่ด้วยกัน
เราปรึกษาว่า จะเอาอย่างไรดี ต้องบอกที่บ้านไหม ดำเนินชีวิตอย่างไร..

เปล่าครับ ผมไม่ได้มีเชื้อ HIV
แต่จะบอกว่า มันก็ร้ายแรงไม่แพ้กัน..   
ผมติด HCV ครับ

คนไทยยังไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ ว่าไวรัสซี มันร้ายแรงแค่ไหน ปกติแล้วก็ไม่ติดกันง่ายนัก ถ้าไม่ใช่ทางเลือด แน่นอนว่าผมไม่เคยผ่าตัดอะไร จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะติดจากใครมา ยกเว้นมันจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์
น่าละอาย ที่คอยจะจับผิดพี่ไผ่ ว่าเป็นคนมั่วเซ็กซ์ สำส่อน นอนกับใครต่อใครไปทั่ว
แต่อย่างน้อยเขาก็ป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี

ผิดกับผม ที่คิดมาตลอด ว่าใส่ถุงยางอนามัย หรือนำน้ำรักมาออกด้านนอก ก็จะไม่เป็นโรค ไม่ติด เฮชไอวี
คุณหมอได้แต่บอกว่า ผมมีเชื้อ HCV เป็น Positive คือมีเชื้อ และสามารถแพร่สู่คนอื่นในการมีเพศสัมพันธ์ได้
โดยเฉพาะแบบชายรักชาย  แม้ว่าโอกาสติดจะน้อย แต่ก็มากกว่าชายหญิง  โดยเฉพาะฝ่ายรับ
เนื่องจากต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้บริเวณช่องรับ อาจติดเชื้อมาได้

ไวรัสซี ร้ายแรงแค่ไหน ผมจะตายไหม.. มีโอกาสสิครับ
ถ้าเชื้อมากกว่า  700,000   IU/ml ก็จะทำให้ผมโดนไวรัสซี โจมตีเข้าที่ตับ ตับจะอักเสบรุนแรงขึ้น มีพังผืดมาเกาะ แล้วกลายเป็นตับแข็งในที่สุด  เมื่อเป็นตับแข็ง ก็อาจเป็นมะเร็งตับ เมื่อนั้น นับถอยหลังได้เลย
แต่ถ้า น้อยกว่า 700,000 IU/ml ก็ค่อยรักษากันไป
ผลเลือดที่บ่งบอกว่า เรามีปริมาณไวรัสอยู่เท่าไหร่ ก็อีกประมาณหนึ่งเดือนถึงจะรู้
ผมรูดบัตรค่าตรวจเลือดเพิ่มไป 7,500 บาท เพราะค่าวิเคราะห์ไวรัสมันแพงมาก

ก็เป็นฝ่ายรับ และโดนแบบสด  มันทำให้ผมนึกถึงคนเดียวเลย นั่นคือ  ออกัส !!

หลังจากไม่ออกไปไหนเป็นเดือนด้วยความหดหู่ มีแต่พี่ไผ่ที่แวะเวียนเข้ามา  แม้แต่อุทิศที่หลังจากกลับบ้านไปแล้ว ก็ส่งไลน์หาผมทุกวัน ผมไม่ได้บอกอะไรน้องแต่น้องคงจับสังเกตได้ว่าผมมีเรื่องในใจ พ่อเองก็ถามอยู่บ่อยว่าผมเหม่อทำไม
ระหว่างนี้ คุณหมอให้ผม งดสุรา 6 เดือน เพื่อเตรียมการรักษา  แล้วก็รอผลไวรัส ว่าเป็นชนิดไหน ใช้ยาอะไร
คุณหมอให้ความหวัง ว่ายังมีหนทางจะหาย ให้ผมเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะการรักษาค่อนข้างใช้เวลาและผลของยา มันก็โหดร้ายอยู่ไม่น้อย

“พี่ว่า น้ำควรจะบอกที่บ้านนะครับ เพราะว่า อาจจะต้องหยุดเรียนบางวัน และ อาจแพ้ยา”

“ผมกลัวพ่อจะด่าน่ะพี่”

“ไม่มีพ่อคนไหนอยากเห็นลูกตายหรอก”

“ผมจะตายใช่ไหม”

“ไม่ครับ พี่พูดรุนแรงไป นี่เดือนที่ผ่านมา พี่ก็ทั้งปรึกษาเพื่อนที่เป็นหมอ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างนั้น”

“พี่ว่า ผมควรบอกพ่อใช่ไหม”

“ใช่ ถ้าเป็นตามขั้นตอน โรงพยาบาลรัฐ ก็ใช้สิทธิได้  แต่ถ้าพ่อน้ำรู้ เอาเข้าเอกชนรักษาแบบเร่งด่วน ใช้ยาดี ก็หายเร็ว”

“พี่อยู่เป็นเพื่อนผมได้ไหม”

“ได้สิ แต่น้ำต้องเชื่อมั่นในตัวเองนะว่าจะหาย เพราะน้ำจะหาย”

“อย่าได้รีบกลัวไป แค่รู้และรักษา ไม่ไปแพร่เชื้อต่อ แค่นี้ก็พอแล้ว”

“ข้อตกลงของเราก็ยกเลิกไปก่อนได้นะพี่ไผ่”

“พูดอะไรแบบนั้น”

“ผมไม่มีกะใจจะมีอะไรกับใคร ตราบเท่าที่ร่างกายผมยังมีเชื้อไวรัสอยู่”

“ไม่มีก็ไม่ต้องมี”

“ถ้าเชื้อมันไม่หายไปไหน”

“ก็อยู่กันไปอย่างนี้ อยู่กันไปอย่างนี้แหละน้ำ” เขาคว้าผมมากอด เป็นกอดที่หนาวและอบอุ่นในคราเดียวกัน มีคนเดียวที่มอบให้ผมได้ คือชายคนนี้นั่นเอง


ไม่ไปแพร่เชื้อต่อ..   ผมรีบยกหู ขอเจอ ออกัส ในทันที


[ TBC ] ต่อด้านล่างจ้า  >_<

หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด ยสตน ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 22-06-2018 16:00:31

[ ต่อ :  Prep 19 ย ส ต น ]

ห้างสรรพสินค้าใจกลางสุขุมวิท
เข้าใจเลือกสถานที่นะมึง กลัวกูวีน โมโห ยกโต๊ะในร้านอาหารคว่ำใช่ไหม สีหน้าที่รู้สึกผิด ไม่ต้องให้เอื้อนเอ่ย ก็แปลได้ทันทีว่า ออกัสมันรู้ตัวเองมาสักพักแล้ว  มันคงเป็นคู่เวรคู่กรรมกับผมโดยแท้  ด้วยความใจดีสู้เสือของมัน ยังคงสั่งเมนูที่แพงที่สุดมาสวาปาม เพราะรู้ว่าผมจ่ายให้ 

“เธอ ใจเย็นก่อนนะ มันมีทางรักษา” ออกัสทำตาแบ๊ว ตักไอศกรีมเข้าปาก พยายามทำสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน

“รู้มานานแค่ไหนแล้ว”

“ก็พักใหญ่แล้ว”

“ตั้งแต่ยังคบกันใช่ไหม”

“....”

“พูด !!”

“เธอ... คนมองใหญ่แล้ว”

“บอกให้พูด !!”

“ก็เออ.. แต่เค้าไม่แน่ใจว่าเธอจะติดไหม  ถ้าถามไป เธอก็รู้สิว่าเขานอกใจเธอ”

“มึงนี่นะ”

“เค้าได้แต่สวดภาวนา ให้เธอไม่เป็นอะไร แต่เธอคงทำบุญมาน้อยไป”

“สัสกัส”

“ใจเย็น เขาพูดให้เธอขำ”

“ขำออกไหมล่ะ”

“เออจริงๆ เราศึกษามาเป็นอย่างดี ระหว่างนี้นะ เธอทำตัวให้แข็งแรง อย่าให้ตับขาดโปรตีนนะ  กินไข่ขาว เช้าสามฟอง กลางวันสามฟอง เย็นสามฟอง ก่อนนอนดื่มนมถั่วเหลืองก่อนนอน พยุงไม่ให้ตับขาดโปรตีน”

“เชี่ยวชาญเชียวดีเนอะ”

“ถ้าเคสเธอ เชื่อว่า ตับยังสภาพดีอยู่ ถ้าแจ็คพ็อตเจอสายพันธุ์ 3a ก็ต้องฉีดยาอย่างเดียวเลย กินยาอาจไม่หาย”

“แล้วกัส เป็นขั้นไหนแล้ว”

“ตับแข็งแล้ว”

“เฮ้ย!!”

“ตอนตรวจเจอ เชื้อเราไป 2 ล้านกว่า แล้ว แต่ว่า หมอบอกว่า ตับแข็งก็จริง แต่ไม่ถึงกับสภาพตับไม่ดี”

“แล้วทำยังไง”

“ก็รักษา เราเข้าสิทธิโครงการรัฐ ก็ฉีดยา พร้อมรับยา อาทิตย์ละครั้ง  เวียนกันไป 48 สัปดาห์”

“น่ากลัวว่ะ”

“ยังก่อน พอฉีดไปได้สักห้าสัปดาห์ ผมจะร่วง ตัวจะผอม แล้วก็ไม่มีแรง”

“เหมือนคนทำคีโมน่ะเหรอ”

“ใช่ คล้ายเลย แต่ไม่ขนาดนั้น มันจะจัดการไวรัส แล้วรีเฟซเลือดใหม่  เห็นไหม ยังมีทาง อย่าไปเครียด ยิ่งเธอมีตังน่ะ ซื้อยาอินเดีย หรือ อเมริกามากิน ไม่กี่หมื่น ไม่กี่แสน ก็หาย เมื่อก่อนเป็นล้าน  เรานี่ ต้องมาใช้สิทธิรัฐ รักษาฟรี ก็ต้องทนกันไป”

“น้องกันต์ล่ะ ติดจากกัสไหม”  ผมรีบถามด้วยความเป็นห่วงน้องกันต์ผู้ใสซื่อ

“ไม่ กันต์ไม่เป็น อาจเพราะกันต์เป็นรุกมั๊ง เวลาอยู่กับเรา โอกาสติดน้อยกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ควรป้องกันแล้วก็ตรวจอยู่เสมอ แต่คิดว่าไม่มีทางติดกันต์แน่นอน พอเรารู้ เราก็ป้องกันแล้วก็ปกป้องคนของเราด้วย”

“กูล่ะกุ้มกับมึงได้ตลอดนะไอ้กัส”

“เค้าขอโทษ เธออย่าโกรธเรานะ ถ้าย้อนเวลาได้ เค้าจะไม่ทำ”



Flashback : เราขอสดกับเธอนะ

“นี่พอแล้ว”  ผมเอื้อมมือไปปัดหน้าของกัสออก หลังจากที่เขาพยายามจะไซร้มาที่ซอกคอ
“อีกรอบนะ วันนี้เธอมันน่ารักเป็นพิเศษ”
“อย่ามาปากหวาน ถุงยางก็หมดแล้ว มา.. เราช่วยให้” แล้วผมก็ก้มลงไปบรรเลงโอษฐกาม แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะเสร็จกิจ เขาเลื่อนหน้าผมขึ้นมาดูดปาก แล้วก็จับผมนอนลง
“เชื่อใจเรานะ”
“แต่เราเพิ่งคบกันได้ไม่นานเอง”
“เรามีเธอคนเดียว เธอเชื่อใจเรานะ”
“กัส..  เราเชื่อเธอได้นะ”
“ได้สิ เรามีเธอคนเดียว..  เราขอสดกับเธอนะ”

ผมปล่อยให้มันผ่านเข้ามา ไม่ฝืดเหมือนตอนมียางเหนียวมากีดกั้น ผิวสัมผัสของมันช่างดีจริง ผมรู้สึกได้ถึงของเขา เส้นเลือดที่มันเต้นแรงอยู่ในร่างของผม เขาขยับมันด้วยอารมณ์ดุเดือดกว่าทุกที เราดูดปากกันไปด้วย เหงื่อเราท่วมทั่ว
กัสบรรจงขยับเอวใส่ผมอย่างแผ่วช้า  มันลึกและแน่นไปหมด แท่งที่ไม่เล็กเลยส่งมาลึกจนผมคราง กัสเกร็งตัวขึ้นเรื่อย หายใจเร็ว เขาหลับตาแล้วก็ส่งเสียงครางเป็นระยะ  ดูเขามีอารมณ์ร่วมมากกว่าทุกครั้ง ผมก็ไม่ปฏิเสธว่า ผมก็รู้สึกเช่นกัน
เราสัมผัสถึงกันและกันโดยไม่มีอะไรมากีดกั้น  มันแน่นหยุ่นอุ่นแนบอยู่ในร่างของผม เขาขยับต่ออีกพักใหญ่ ก่อนจะร้องเสียงหลงออกมา 
ช่องท้องของผมรู้สึกอุ่นร้อน เป็นครั้งแรกที่มีบางสิ่งข้นเหนียวท่วมภายในไปทั่ว  เขาฉีดความรักของเขาส่งมาในตัวผม แล้วผมก็รับมันได้ด้วยหัวใจที่พองโต  เขากดแช่มันไว้อยู่อย่างนั้นอีกสักพัก เราจูบกันอย่างดูดดื่ม แล้วทันใดนั้น ของเขามันก็ตื่นตัวอีกรอบ
กัสพยักหน้าขอต่อผม ผมพยักหน้าตอบ เรารวมเป็นหนึ่งเดียวแบบที่ไม่มีอะไรขวางระหว่างเรา มันเป็นความสุขที่แสนวิเศษ
ความตอดรัดของผม บีบรักเอาน้ำรักเขาไว้ภายใน กัสกับสีหน้าแห่งความสุขที่ผมไม่ลืมเลือน  และจากนี้ต่อไป เราจะไม่มีอะไรมากั้นระหว่างเราอีก..   ผมให้เขาในแบบนี้ต่อมา และจะให้แบบนี้ต่อไป.. 
แล้ววันหนึ่ง เราก็หมดรักกัน..



ห้องนั่งเล่น
ผลเชื้อออกมาแล้ว ไวรัสอยู่ที่ 940,000 นับว่ามาก สายพันธุ์ 3a ซึ่งยังต้องใช้ยาระบบฉีดผสมกับการกิน  พี่ไผ่กับผมนั่งอยู่ที่โซฟาเพื่อรอคุยกับพ่อ  ตอนนี้แหละครับหัวใจอยู่ที่ตาตุ่มเลย  พ่อคงเดาว่าต้องมีเรื่องแน่ พี่ไผ่เลยมานั่งด้วยกันแล้วก็รออยู่เป็นชั่วโมง  พ่อก็วางฟอร์มของพ่อ เข้ามาถึงห้องนั่งเล่นก็วางของลงอย่างช้า ทำทีเป็นหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านไปด้วย
แต่แล้วหนังสือพิมพ์ก็ร่วงลงพื้น สีหน้าของพ่อซีดถึงขีดสุด ผมรีบไปพยุงกลัวพ่อจะล้ม

“พ่อควรเชื่อซินแส ให้เปลี่ยนเลขที่บ้าน  88 นี่มันรวย แต่ต้องเป็นโรคตับ ดูพ่อสิ กว่าจะหายจากตับ ลูกก็มาเป็น” พ่อดูกระวนกระวาย อยู่ไม่เป็นที่ คว้านั่นนี่มาตามประสาคนตกใจ

“พ่อ มันไม่ใช่อะไรหรอก ผมไม่ดีเอง แต่หมอบอกรักษาได้” ผมรีบปลอบโดยมีพี่ไผ่ค่อยๆ ขยับมาใกล้เพื่อให้กำลังใจ

“ลูกไผ่ ลูกอย่าทิ้งน้ำไปนะ  ไม่คบหากันไม่เป็นไร แต่อย่าทิ้งน้ำไป” พ่อคว้าพี่ไผ่มากอด ร้องไห้น้ำตาไหล เป็นอาการที่ผมไม่เคยเห็น ดูพ่อกลัวมาก เสียงสั่นเครือ

“ผมไม่ไปไหนหรอกครับ ผมจะมาเป็นลูกของพ่ออีกคนนะครับ”  แล้วพี่ไผ่ก็กอดพ่อตอบ ทำให้พ่อสะอื้นไม่หยุดไปพักใหญ่




8 เดือนผ่านไป..

หลังจาก อดเหล้าได้ครบ 6 เดือน คุณหมอก็เข้าโปรแกรมรักษาให้ผมทันที แท้จริงแล้ว มียาสูตรที่ทานแล้วไม่ต้องฉีดยา แต่ด้วยค่าเลือดและพังผืดของผม อยู่ในภาวะที่คุณหมอ อยากให้ใช้การรักษาแบบเก่าไปก่อน เพราะว่าแน่นอนกว่า และมีเปอร์เซ็นต์ที่จะหายสูงกว่า ในขณะที่ยาทาน เป็นอีกทางเลือก เมื่อยาฉีดไม่ได้ผล 
พ่อพยายามติดต่อไปยังหมอที่เป็นเพื่อนสนิท เพื่อเอาหมอที่ดีที่สุด หรือแพงที่สุดมาให้ แต่พอก็ให้คำตอบแบบเดียวกัน คือสายพันธุ์ของผม มันใช้ยาฉีดจะดีที่สุด   
ในตอนนี้ ผมฉีดยา ทุกวันศุกร์  เพื่อที่จะไม่สบาย มีไข้สูง และ อ่อนเพลียในวันเสาร์ทั้งวัน ซึ่งเป็นอาการข้างเคียง   พอวันอาทิตย์บ่าย ผมก็ฟื้น วันจันทร์ ถึง พฤหัส ผมไม่มีไข้และใช้ชีวิตปกติ แค่เพลียและอ่อนแรง

ชีวิตผมวนเวียนแบบนี้มาสองเดือนแล้ว

เม็ดเลือดแดงของผมตกวูบ ต้องคอยกินโปรตีนสะอาดเช่นไข่ขาว แบบที่ออกัสบอกไว้เลย
อุทิศแวะเวียนมาคอยเช็ดตัว ดูแลผมทุกวันหยุด แล้วเขาก็พาแม่มาด้วย
แม่มีโอกาสได้คุยกับพ่อบ้าง พอหลายครั้งเข้า พ่อก็เอ่ยปากชวนน้าธนูให้มาทานข้าวที่บ้าน
ถ้าไม่ติดว่าผมกำลังจะเป็นหรือตาย มันคงเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขไม่น้อย


ออกัส เข้ารับการรักษาไวรัสซีจนหายแล้ว อยู่ในระหว่างพักฟื้น แต่ตับของเขาแข็งในระดับหนึ่ง แต่หมอบอกว่า มันไม่ได้อันตรายขนาดนั้น ถ้าเขาหยุด แอลกอฮอล์ไปตลอดชีวิตได้
อันนี้แหละ ทำให้หน้าของเขาบ่งบอกว่า ชีวิตวิกฤตแล้ว
หมอห้าม ไม่ให้ทานพริกป่น [ กัสมันชอบมาก ] ไม่ให้ทานถั่วคั่ว [ ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ ] ห้ามเพราะกลัวจะมีเชื้อรา
ห้ามแอลกอฮอล์ [ ได้ข่าวจากน้องกันต์ว่า มันจะลาตาย ] แล้วก็ ต้องไม่ให้ตับ ขาดโปรตีน
ถ้าปฏิบัติตัวได้ดี ตับที่แข็งไปแล้ว อาจมีโอกาสได้ฟื้น แต่กระนั้น ก็คงไม่ได้กลับมา 100% เพียงแต่ใช้ชีวิตปกติได้
โดยเฝ้าระวัง มะเร็งตับ ทุก 6 เดือน ด้วยการอัลตร้าซาวด์

ทุกวันอาทิตย์ พี่นุดีจะเตรียมอาหารเต็มยศไว้ให้ผม ผมเห็นพี่นุดีน้ำตาไหลทุกครั้งที่แวะมาเยี่ยมในทุกวันเสาร์  วันที่ไข้ผมจะขึ้นตามฤทธิ์ยา  พี่นุดีมาลูบที่หัวเบาๆ กลัวผมตื่น ผมแค่ไม่อยากลืมตาขึ้นมาเพราะไม่มีใจจะสนทนากับใคร
วันนี้ มีสปาเก็ตตี้ที่ผมชอบด้วย แม้ปากผมจะเจ็บ พุพอง ลิ้นแตกไปหมด ผมก็อยากกินมันอยู่ดี
ผมที่ร่วงกับผิวซีดเหลือง และร่างกายอันผอมแห้ง ไม่เจ็บใจเท่ากล้ามเนื้อที่สร้างสมมา มลายหายไปกับการรักษา

พี่ไผ่แวะมาเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ เขาเอาการ์ตูนมาฝากหลายเล่ม ผมค่อนข้างละอายใจ ที่เหมือนเป็นคนสกปรกไม่คู่ควรกับเขา แต่พี่ไผ่ก็ยังคงอดทน เขาไม่ได้มีอะไรกับผม และไม่ได้มีอะไรกับใคร ที่ผมรู้ เพราะเขาย้ายมานอนที่ห้องของผม
ลุงกับป้า ไฟเขียว ให้พี่ไผ่ทำงานน้อยลง ให้เวลากับผมมากขึ้น พวกท่านยังฝากของเยี่ยมมาให้เสมอ 
ผมใช้มือช่วยให้พี่ไผ่ แรกเดิมก็มีปฏิเสธ คงเป็นช่วงที่เราคงเสียใจ ตอนหลังเขายอมไม่ใช่เพราะเขามีอารมณ์อะไรนะผมว่า แต่คงเพราะกลัวว่าผมจะรู้สึกผิดมากไปกว่านี้ เขาเลยยอมให้ผมได้ใช้มือให้เขาได้ผ่อนคลายลงบ้าง

ระหว่างที่เรานอนอยู่ด้วยกัน เขาจะจูบลงมาที่หัว ตรงผมที่ร่วงจนเห็นหนังศีรษะ

เขาจูบอีกที ตรงเอวที่กิ่ว ตรงที่กล้ามหายไปเหลือแต่ซี่โครง

มือเขาลูบไล้ผิวที่คล้ำสาก เป็นขลุยลอกร่อน

เขาจูบมาในปากที่มีแต่แผล มันคงเต็มไปด้วยกลิ่นปาก และความไม่น่าพิสมัย

เขาแค่ทำให้ผม ไม่รู้สึกว่าผมโดนทอดทิ้ง..   
มันเป็นความรักจากชายที่ชื่อต้นไผ่ ซึ่งผมสัมผัสได้..   
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 18 : Hand Job จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ ]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 22-06-2018 16:33:43
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด.. ย ส ต น.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-06-2018 17:26:00
อิ ออ แกนี่นะ :z6:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด.. ย ส ต น.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-06-2018 18:11:37
 :mew6: :mew6: :mew6: ฮืออออออออออ  สู้ๆ น้าาาาา
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด.. ย ส ต น.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Hyenas ที่ 23-06-2018 03:42:20
เป็นบทที่ครบรสมาก
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด.. ย ส ต น.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 23-06-2018 15:17:35
Plot มีความแยบยล บีบอารมณ์ชะมัด
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด.. ย ส ต น.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-06-2018 16:30:23
ไม่กล่าวโทษ โกรธเคือง ให้เรื่องมาก
ปล่อยอดีต ที่ยุ่งยาก ไว้เบื้องหลัง
คนไม่รู้ ไม่ผิดที่ ไม่ระวัง
ฝืนคำสั่ง ดังในใจ ที่ใช่เธอ

ความรักแท้ แน่จริง ไม่ทิ้งฝัน
มันคงอยู่ อย่างนั้น ทั้งวันเผลอ
แต่วันนี้ สองเรานั้น พบกันเจอ
จะไม่มี พลั้งเผลอเรอ เจอเธอแล้ว

love is..
ดีต่อใจ ชุ่มฉ่ำในหัวใจมาก

พี่ต้นไผ่กับน้องน้ำ
เข้าใจกันซะที..รักนี้มีแต่เธอ

ปลื้มมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด.. ย ส ต น.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 23-06-2018 21:15:28
……



ไม่คิดว่าจะมีบทนี้.  แต่มันดีมากอ่ะ

เปลี่ยนมุมให้เห็นว่าพี่ไผ่รักน้ำอย่างไม่มีเงื่อนไข

แล้วยังให้ความรู้ ความเข้าใจ อย่าภูมิใจกับ ยสตน ถ้าไม่ตรวจให้ชัดเจน

หลายๆคนก้อไม่ยอมตรวจ เพราะพร่ำบอกว่าสะอาด แต่จริงๆแล้วมันไม่พอ

เลิกเหอะ  ตรวจก่อน มั่นใจกว่า และจะปลอดภัยกว่าถ้ารักเดียวใจเดียว

 o22.  o22.  o22.  o22.  o22.  o22   o22.  o22





.
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด.. ย ส ต น.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 24-06-2018 12:55:07
ทำไมก่อนเรื่องจะจบ มาตลบด้วยดราม่าซะงั้น 555+ 
นี่นั่งเปิด ดูไวรัสซีในเน็ต น่ากลัวเหมือนกันแฮะ ขอบคุณที่เร้ทพยายามใส่ความรู้ไว้ให้ ได้ป้องกันและระวังกันไว้
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 19 : Bareback ฟหกด.. ย ส ต น.. ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 24-06-2018 23:06:49
ลูกพี่ลูกน้องเราก็เป็นนะ ไวรัสซี ตอนนี้หายแล้ว แต่ตับแข็ง อาการก็ตามี่ไรท์เขียน สมัยนี้ควรป้องกัน สดได้เฉพาะคู่ที่ไว้ใจ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 20 : Mile High Club รัก ระ ฟ้า ] [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 01-07-2018 17:50:26

Prep  20 : Mile High Club  รัก.. ระ.. ฟ้า.. 

“กูเห็นมึงเป็นขนาดนี้ กูนี่แทบอยากร้องไห้เลยไอ้น้ำ”  เอ ที่มาเยี่ยมผมในวันบ่ายวันเสาร์ บรรจงเอาผ้าชุบน้ำ เช็ดตามตัวที่เปลือยเปล่าของผม นอกจากอุทิศ กับพี่ไผ่ ก็เอ นี่แหล่ะ ที่ผมกล้าโป๊เปลือยทั้งตัวแล้วก็คุยไปด้วยได้
ผลกระทบจาก ไวรัสซี ไม่ได้หนัก เท่ากับเอฟเฟคจากวัคซีนที่รักษามัน ขบวนการกดไวรัสให้อยู่หมัด ทำเอาทุกวันเสาร์ของผมแทบหมดแรง  ร่างกายจมอยู่กับเตียงขยับไปมาไม่ได้  มักนอนฝันร้ายแล้วก็จิตใจหดหู่  ได้การ์ตูนจากพี่ไผ่ มาคอยประคองอารมณ์ แล้วก็มีอุทิศ และเอกับพี่อำนาจ ตลอดจนพี่นุดี แวะเวียนกันมาอยู่เป็นเพื่อน  เขาว่า เราจะเห็นมิตรแท้ตอนเราตกทุกข์  เอาเข้าจริง ผมมีเพื่อนร่วมทุกข์อยู่มากพอแล้ว ผมอยากมีเพื่อนร่วมสุขบ้าง  การร่วมสุขนี่แหล่ะ เป็นการวัดว่า เราอยากอยู่กับใครไปจนวันตาย ผมอยากกลับมามีสุขอีกครั้ง กับพวกเขาเหล่านี้

“ตอนนี้ หมอบอกว่า ไวรัสกูหายหมดเกลี้ยงตั้งแต่เข็มที่สิบแล้ว นับเป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังไงก็ต้องฉีดให้ครบคอร์ส กว่าจะครบ 24 เข็ม กูคงแทบคลาน ถ้าไวรัสกลับมา ต้องฉีดอีก 24 เข็มจนครบ 48 เข็ม”

“เม็ดเลือดแดงมันจะตกลงเรื่อยๆ เลยใช่ไหม”

“อืม บางคนต้องให้เลือดด้วย กูเสียว กูกลัวเข็ม”

“ตอนสด นี่แมร่งไม่กลัวนะไอ้สัส”

“คนล้มอย่าซ้ำสิเพื่อน”

“กูมั่นใจว่ามึงต้องหาย”

“มึงกับพี่อำนาจ สดกันเปล่าวะ”

“...”

“เฮ้ย อย่าโกหกคนป่วย เอาใจคนไข้หน่อยดิ”

“อืม แต่ตรวจเลือดก่อนแล้ว พี่เขาพาไปตรวจทั้งกูและเขา”

“เหี้ยเอ้ยยยย มีกูคนเดียวเหรอวะ ที่ไม่ตรวจเลือดก่อนมีคู่”

“ถึงคบหาก็ต้องระวัง เราไม่รู้ได้เลยว่าคู่ของเราจะนอกใจเราไหม  มึงรู้เปล่า  เมื่อวานตอนที่ไปเป็นเพื่อนมึงฉีดยา กูเห็นผู้หญิงทั้งนั้นเลยที่มารักษา ติดจากผัวกันทั้งนั้นเลย”

“บางอย่าง แมร่ง แล้วแต่บุญแต่กรรมว่ะ”

การติดของไวรัสซี ไม่ใช่ว่าจะติดจากคู่นอนอย่างเดียวนะครับ การถ่ายเลือด การได้รับเลือดนี่สมัยก่อนก็เช็คกันแต่เชื้อเฮชไอวี โดยไม่ได้เช็คไวรัสซี ก็มีติดเหมือนกัน และทำให้แพร่เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะประเทศออสเตรเลีย
ส่วนในไทย สามีใคร ที่ไปผ่าตัดอวัยวะเพศ ฝังมุก ผ่าเบนซ์ แค็ปซูล โมดิฟายด์น้องชายในรูปแบบต่าง ๆ มักจะทำให้อวัยวะเพศของฝ่ายหญิงเกิดบาดแผลระหว่างร่วมเพศ แล้วนั่นก็นำพามาซึ่งไวรัสซีเช่นกัน
การไม่ได้ขริบ หรือ หนังหุ้มปลายมีความหยุ่นหนาจนเกิดการหมักสะสม การมีบาดแผลที่ปลายตอนถูกร่นถอก
รอยสักจากการใช้เข็มสักที่ไม่สะอาด  การใช้ยาฉีด ใช้เข็มร่วมกัน อันนี้ก็ติดกันได้หมด

สรุปแล้วว่า เป็นไวรัสที่ไม่ควรมองข้าม เสียเงินค่าตรวจแค่ 150 บาท แต่อาจปกป้องเรา และคนที่เรารักได้ ถ้าป้องกันทัน
แท้จริงแล้วพอได้ไปรักษา ได้พูดคุยกับคุณหมอ และเพื่อนคนไข้ที่รักษาด้วยกัน คนที่อันตรายจนถึงกับเสียชีวิต มักมาจากการที่รู้ตัวช้าไป จนไวรัสมันกินตับไปหมด ตับเลยแข็งและเป็นมะเร็งตับในที่สุด  ผมนี่ถือว่า รู้ตัวเร็วมาก ถ้าไม่ตามพี่ไผ่ไปตรวจร่างกาย ก็ไม่สามารถรู้เลยว่าตัวเองมีเชื้ออยู่ แถมอาจจะแพร่ไปให้ผู้อื่นอีกต่างหาก



เอกับพี่อำนาจ ดูจะไปกันได้ดีนะ ตอนผมไปมหาวิทยาลัย เอมันประกบผมตลอด ผมได้บอกกับอาจารย์แต่ละรายวิชาไว้ ท่านอาจารย์ทุกท่านเข้าใจดี ถ้ามีตอนไหนรู้สึกว่าเพลียมาก ก็จะลาไปห้องพยาบาล เครื่องปรับอากาศที่เย็นไป มันก็จะทำให้ร่างกายผมแย่เช่นกัน เอดูแลผมอย่างกับเมีย ซึ่งก็เข้าใจว่า มันคงไม่มีโอกาสได้มีเมียแล้วแหละครับ เพราะผัวมันมานู่นแล้ว เดินใส่แว่นดำอย่างเท่ กับรถคันหรู ที่พ่อผมให้ไปใช้ไว้วิ่งรอกงาน

พี่อำนาจถึกมาก ทำงานทั้งกับพ่อผม แล้วก็ไปช่วยงานบ้านพ่อตา ไหนจะมารับมาส่งเอกับผม เอาเป็นว่าถ้าร่างกายไม่แกร่งจริงคงโหมทำแบบนี้ไม่ได้ ไหนจะบ้านช่องของตัวเองที่ต้องดูแล แต่ไอ้พี่มันก็มีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ ผมคิดว่าเป็นช่วงที่สุดพีคทางจิตใจของมันเลยทีเดียว

ผมนัดผู้กองจิมมี่กับพี่กรไว้ หลังจากผมแนะให้เขาไปตรวจไวรัสซี เพราะผมก็ร่วมเพศกับพวกเขาในคืนนั้น พี่กรก็เลยขอนัดผมออกมากินข้าวกันในวันอาทิตย์บ่าย  เพราะทุกวันอาทิตย์จะเป็นวันที่ร่างกายของผมได้ฟื้นไข้แล้ว  เรานัดกันในร้านอาหารริมบึงน้ำ แถวพุทธมณฑล โดยมีพี่อำนาจ กับเอ ขอไปนั่งอีกโต๊ะนึง จู๋จี๋กันสองคน เดินดูนก ชมไม้ พายเรือในบึงน้ำ

“หน้าตาสดใสขึ้นกว่าตอนรักษาใหม่ๆ นะครับคุณนที” พี่กรตักเนื้อปลาส่งมายังจานผม เหมือนพี่ที่คอยดูแลน้อง อารมณ์ไม่เกิน ไม่เลยมากไปกว่านี้ แต่ตอนเขาตักป้อนผู้กองนี่ อารมณ์คนละเรื่องเลย อย่างกับเมียน้อยอ้อนผัว

“แล้วนี่คุณนที ไวรัสเป็นศูนย์ แล้วใช่ไหมครับ” ผู้กองที่เคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก รินเบียร์ใส่แก้วตัวเอง ส่วนผมได้แต่เปรี้ยวปากอยากดื่มบ้าง แต่แอลกอฮอล์กับผม คงเป็นทางขนานกันไปตลอดชีวิตแล้วแหละครับ

“ค่าไวรัสโหลดต่ำกว่า 12 IU คุณหมอบอกว่า เท่าคนปกติ แปลว่าคือหาย แต่ก็ต้องตรวจซ้ำอีก 6 เดือน ถ้าไวรัส ไม่กลับมาแล้วถือว่าหายขาด สายพันธุ์ 3a นี่รักษาโหด แต่บทจะหายขาด คือหายเลย ไม่เหมือน สายพันธุ์ 1 กับ สายพันธุ์ 4 ครับ  รักษาง่าย แต่บทจะกลับมานี่ ตั้งรับไม่ทัน”

“กินยาต้องตรงเวลานะครับ” พี่กรบอก ก่อนจะมองนาฬิกา แล้วคว้ายาเม็ดสีขาวออกมาทาน “ผมนี่ไม่เคยขาดเกิน แม้แต่นาทีเดียวเลย ไม่อย่างนั้น ยาจะดื้อ ต้องคอยเปลี่ยนสูตร เปลี่ยนขนานกันไปเรื่อย ยากต่อแพทย์จะดูแล”

“พี่กร ก็เป็นไวรัสซีเหรอครับ”

“เปล่าครับ พี่เป็น เฮชไอวี”
พอสิ้นเสียงพี่กร ผมนี่รีบมองหน้าผู้กองเลย  แต่จิมมี่ก็คือจิมมี่ ยกแก้วเบียร์เข้าปาก ยักคิ้ว ทำเหมือนกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่มีอะไรทำให้เขาเสียความมั่นใจไปได้สักครั้งเดียว

พี่กรเล่าให้ฟังว่า เขารู้ว่าติดเชื้อ เฮชไอวี มาได้ 6 ปีแล้ว ระหว่างนั้นเหมือนฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย เขาเคยประชดชีวิตด้วยการออกไปทำตัวมั่ว และไม่ป้องกัน เพราะคิดว่า สวรรค์ไม่ยุติธรรมกับเขา  แต่แล้วเขาก็คิดได้ ว่าบางคนไม่สมควรจะต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบเขาเลย

เขาเลยตั้งหน้าตั้งตารักษา แม้ระดับ CD4 จะตกวูบไปอยู่ที่ ร้อยกว่า ซึ่งเป็นค่าที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนมีเชื้อเฮชไอวี
แต่ปัจจุบัน ร่างกายเขาแข็งแรงมาก แล้วก็ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ พี่กรบอกว่า เขารู้ว่า คนเราขาดเซ็กซ์ไม่ได้ อาจไม่ใช่กับพระสงฆ์กับแม่ชี แต่กับคนอย่างพวกเขา เซ็กซ์เป็นกลไกขับเคลื่อน เป็นไฟให้ชีวิต  ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะปลูกฝังให้ทุกคนรู้จักป้องกัน และใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์  พี่กรจึงรณรงค์เต็มที่ และสร้างค่านิยมให้หมู่แฟนคลับของเขาไม่ละเลยในการใช้ถุงยาง  เขาบรรจงเลือกถุงยางมาเป็นสปอนเซอร์คลับ เน้นแนวแฟชั่นเพื่อเข้าถึงผู้คนได้ง่าย ปลูกฝังให้วัยรุ่นได้ใช้มันทุกครั้ง ไม่ว่าจะกับผู้หญิง ผู้ชาย หรือเพศอันใดในโลก

ผู้กองจิมมี่เล่าว่า เขาเปิดกว้างมากกับเรื่องพวกนี้ แล้วเขาก็รักพี่กรเกินกว่าที่จะให้เรื่องนี้มากั้นกลาง แต่การมีเพศสัมพันธ์แบบป้องกัน ก็เหมือนกับที่พี่กรเป็นตัวอย่างที่ดีให้ชมรม ยารีส เอ็กซ์ ไฟว์ และผู้ติดตามร่วมแสน ได้ปฏิบัติตามกัน เขาจะไม่ทวีต หรือ รีทวิต การมีอะไรกันแบบสดเป็นอันขาด

ผู้กองจิมมี่ เล่าถึงโปรเจ็คส์ใหม่ เรื่องการรณรงค์ของพี่กร ในการใช้ยา Prep กับการพลาดไปมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน ซึ่งยา Prep จะมีส่วนช่วยลดภาวะความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเฮชไอวีได้ ถ้าอยู่ในมือแพทย์อย่างเร่งด่วน  ผู้กองจิมมี่ยินดีและขอมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับโครงการนี้


แล้วเขาก็มาเจอกัน ผู้กองจิมมี่ กับ พี่กร มันดูลงตัวจนน่ารัก 
พวกเขาคิดว่า เขาเกิดมาคู่กัน โดยมีผมเป็นตัวเชื่อม
ผมเนี่ยนะ !  ??    ใช่แล้ว พวกเขาย้ำอีกครั้ง  ผมนี่แหละครับ สื่อรักของพวกเขา
อย่างน้อย ถ้าผมจะตาย ก็คุ้มแล้ว ที่ผมก็ได้เป็น กามเทพ ของใครสักคู่บนโลกนี้แล้วล่ะ



ผมก็นึกไปถึงใจของพี่ไผ่  ไม่รู้ว่า เขาจะรังเกียจผมบ้างหรือเปล่านะ แต่จากหลายเดือนที่ผ่านมา ผมรู้สึกรักเขามาเหลือล้น ในยามนี้ พี่ไผ่ยก ฟิตเนสให้ หลิวกับตูน ดูแล เพราะเป็นธุรกิจที่ทำไว้สนองไลฟ์สไตล์ของเขา แม้มันทำเงินมากพอควร
แต่ในตอนนี้ เขากลับไปอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว  เขาร่วมกับพ่อ ทำการปลูกอาคารและแบ่งให้เป็นออฟฟิศเพื่อเช่า ซึ่งเป็นธุรกิจที่บ้านของเขาทำกันมายาวนานตั้งแต่ยุคอากง มีกระจายหลายอาคารในเมืองหลวง

อากงของพี่ไผ่ ได้เงินจากพี่ๆ น้องๆ ที่เมืองจีน ส่งมาให้กู้ด้วยอัตราถูก เพียงร้อยละ 1 % ต่อปี ขอเพียงเป็นคนแซ่เดียวกัน เป็นลูกชายสืบสกุลในสายเลือดของตระกูลลิ้ม ผู้มั่งคั่ง ซึ่งมีธุรกิจสัมปทานกับภาครัฐที่จีน   
บ่อยครั้งที่เห็นพี่ไผ่ กบฏกับตระกูล เพราะว่าเขากับอากง ไม่ค่อยกินเส้นกัน  แต่การลดอีโก้ของพี่ไผ่ลง มันคงแสดงให้เห็นว่า เขายอมอ่อนข้อ  เป็นไผ่ที่ลู่ลม ค้านคำปณิธานของเขา เพียงเพราะเขาอยากเป็นหลักอันมั่นคงให้กับผม
พี่ไผ่ยื่นคำขาดกับตระกูลว่า เขาจะโหมทำทุกอย่างให้ตระกูลได้ภาคภูมิใจ ขออย่างเดียว ขอมีชีวิตส่วนตัวที่อิสระ แล้วเขาก็ลงมือทำมันอย่างจริงจัง

ส่วนฝั่งของบ้านผม มันยิ่งแสนเรียบง่าย  ด้วยไวรัสร้ายที่กัดกินผม กลับทำให้ความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ดูงอกงาม ทั้งคู่กลับมาคุยกัน โดยมีน้าธนู มานั่งกินเหล้ากับพ่อบ่อยขึ้น  แม้ว่าพ่อไม่ใช่คนดื่มจัดหลังจากรักษาตับมายาวนานจนหาย แต่ก็เริ่มจะดื่มบ้าง เมื่อน้าธนู แวะเวียนมา

ต่อให้แม่จะไม่ได้มาด้วย แต่ผมก็จะเห็นน้าธนูกับพ่อนั่งหัวเราะกันหน้าทีวีเสมอ แววตาของน้าธนู มันฟ้องว่าเขามีความภักดีให้พ่อของผมอยู่ด้วยความจริงใจ  อุทิศก็ติดตามน้าธนูมาหาผมเมื่อมีโอกาส  ผมถามอาการของเจ้าหนูที่ขริบไว้ ปรากฏว่า เขาก็อยากจะอวดซะเต็มประดา ทุกครั้งที่แวะเวียนมา เขาจะถอดกางเกง ปั่นมันให้แข็งโป๊ก แล้วโชว์ให้ผมดู  หัวที่เริ่มบานขึ้น หลังจากไม่มีหนังหุ้มปลายมาห่อไว้ มันดูชมพูสวยจนน่าอิจฉา  ผู้เป็นเจ้าของก็ดูเห่อแสนเห่อ แอ่นตวัดมันไปมาจนแทบจะตีหน้าผมอยู่แล้ว  ผมถามว่า อุทิศไปนำร่องกับใครบ้างหรือยัง  เขาบอกว่า หลังจากขริบ เขาก็อยากจะปล่อยพลังเต็มที่ แต่เขาจะเก็บมันไว้ให้คนที่เขาชอบ เขาจะไม่ทำตัวแบบผม  เออ.. ดี  ไอ้น้องเวร หลอกด่ากู



Flashback : ห้องมืดของอากง

“ลื้ออยู่ในนั้นนะ ไม่ต้องออกมา แล้วจำใส่กบาลไว้ว่า อย่ามาทำให้ตระกูลของอั๊วะต้องแปดเปื้อน”
คำพูดของอากงดังมาถึงข้างบ้าน จนผมเองยังต้องกลัวในเสียงนั้น

แม่เล่าให้ฟังว่า พี่ไผ่เอาหนังสือโป๊ของเพื่อนกลับมาบ้าน แล้วถูกอากงจับได้ โดนตีจนน่องเลือดออก แล้วถูกจับขังในห้องมืดในบ้าน คราวก่อนตอนสอบได้ที่ 2 ขัดใจอากง ก็โดนขังแบบนี้มารอบนึงแล้ว อากงเขาโหดชะมัด

ผมที่เข้าออกบ้านของพี่ไผ่อยู่เสมอ ก็เลยถือโอกาสตอนที่อากงกลับไปแล้ว ไปนั่งหน้าห้องนั้นเป็นเพื่อนพี่ไผ่อยู่เสมอ
ผมจะวาดรูป โดเรมอน ซึ่งเป็นตัวละครเดียวที่ผมวาดเป็น สอดผ่านใต้ร่องประตูเข้าไปในห้อง ให้พี่ไผ่ได้วาดหรือเขียนอะไรตอบกลับมา พวกเราไม่กล้าพูดกันเสียงดัง เพราะกลัวว่า อากงจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  แม้แต่คุณลุงกับคุณป้า ก็ไม่กล้าจะทัดทาน  จะเปิดประตูให้นักโทษได้ ก็ต้องฟ้าสางเท่านั้น
มีเพียงผมที่แวะเวียนมาหา ส่วนหลิวนั้น ทุกคนไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ จึงไม่ค่อยได้เล่าอะไรให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กฟังกัน

“พี่ไผ่หิวไหมเดี๋ยวผมไปเอาขนมมาให้กินไหม”

“แล้วจะส่งเข้ามายังไงล่ะ โง่จริง เจ้าเด็กน้อย”

“ผมจะป่นคุ้กกี้มันให้ละเอียด วางบนกระดาษ แล้วสอดเข้าไปได้ไหม พี่ก็เอามาปั้นเป็นก้อน แล้วก็กินนะครับ”

“ฮ่าๆๆ”  เสียงของเขาดังมาจากหลังประตูทึบนั้น ผมเดาว่า เขานั่งนิ่งและพิงประตูอยู่  “พี่ไม่หิวหรอก น้ำกินไปเถิด”

“พี่ไผ่โดนจับขังในห้องแคบบ่อยจังเลย”

“เพราะพี่เป็นเด็กไม่ดีบ่อยน่ะสิ”

“พี่ไผ่ต้องออกมาเร็วๆนะ น้ำอยากให้พี่ไผ่ออกมา”

“พี่ก็อยากจะออกไปจากที่แคบๆนี้จะแย่ แต่พี่หมั่นไส้อากงว่ะ พี่สนุกดีเวลาเห็นอากงโมโห”

“งั้นพี่ไผ่ก็จะโดนจับอยู่ในห้องนั้นบ่อยๆ น่ะสิ”

“น้ำก็มาหาพี่ให้บ่อย มานั่งเป็นเพื่อนพี่สิ  พี่จะได้ไม่เหงา”

“แต่น้ำกลัวพี่ไผ่ตายอ่ะ”

“พี่ไม่ตายหรอก สักวัน พี่จะเผาห้องแคบๆ นี้ทิ้งเลย แล้วเราก็จะไปอยู่ในที่กว้างๆ ไม่มีอะไรมากั้นพวกเราอีก”

“สัญญานะ”

“สัญญาสิ. พี่ให้สัญญา”


[ TBC ]

หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 20 : Mile High Club รัก ระ ฟ้า ] [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 01-07-2018 18:07:05
[ ต่อ ]


เข็มที่ 20

อีกแค่ 4 เข็ม ก็จบการรักษา  จากการตรวจไวรัส 2 ครั้งล่าสุด ผมไม่มีเชื้อเหลือแล้ว หมอบอกว่า หลังจากสิ้นสุดการรักษา จะตรวจอีกหนึ่งครั้ง ถ้าไม่มีไวรัสคงเหลือ ผมก็หายขาด เคสของผมนี่โชคดีมาก ที่ตับยังไม่แข็ง กระนั้น อย่าประมาท ถ้าเลิกแอลกอฮอล์ได้ คุณหมอก็อยากให้เลิก แล้วก็พยายามไม่เสี่ยงที่จะรับเชื้อเข้ามาอีก รวมไปถึง ขยันออกกำลังกาย กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ และส่งต่อความรู้เรื่องโรคนี้ไปยังคนอื่น ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง 

ผมยกคอร์ส พัฒนาบุคลิกภาพส่วนที่เหลือ ให้กับการ์ตูน ได้ไปใช้บริการ เพื่อตอบแทนในส่วนของงานวิชาการและการเรียนซึ่งตูนช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี  อาจารย์ทั้งหลายที่คอยให้กำลังใจแก่ผม  ทุกครั้งที่เดินผ่านโรงอาหาร จะมีเสียงนินทาล่องลอยมาให้เข้าหู แต่ผมเองก็ไม่ได้เอามันมาใส่ใจเท่าไหร่นัก ลือกันว่า ผมเป็นโรคนั่นโรคนี่ แต่ก็เอาเถิด ไม่ใช่คนที่ผมแคร์ ผมก็เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง  ความสามารถพิเศษนี้ ผมคงได้ทางพ่อมาเยอะ

พ่อเองตอนนี้ ก็ออกไปทานข้าวกับพี่นุดีมากขึ้น จนถึงขั้นซื้อแพ็คเกจไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน อันที่จริงผมเป็นฝ่ายรบเร้านะครับ ผมอ้างว่า ผมจะได้ใช้เวลากับพี่ไผ่มากขึ้นในบ้านโดยไม่ต้องเกรงใจใคร พ่อกับพี่นุดีก็ไปเที่ยวกัน จะนอนห้องเดียวกันหรือเปล่า อันนี้ผมไม่รู้สิครับ 



ครบคอร์ส 24 เข็ม

ร่างกายที่เริ่มฟื้นตัว เนื้อหนังที่กลับมาเข้าที่ ผิวพรรณก็กลับมาผ่องใส แม้จะไม่ได้วิ้งเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมเผ้าก็งอกกลับขึ้นมา กล้ามเนื้อที่หายไป ถูกแทนกลับมาด้วยรูปร่างที่คล้ายก่อนไปฟิตเนส ไม่อ้วน ไม่ผอม แต่ไม่ค่อยมีกล้าม  พี่ไผ่บอกว่าชอบแบบนี้มากกว่า จับแล้วมีเนื้อมีหนัง แต่ก็อยากให้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพบ้าง  ผมก็สัญญากับตัวเองว่าจะว่ายน้ำ วิ่ง แล้วก็เล่นแทมโพลีนเอา เป็นการออกกำลังกายแบบไม่หักโหม 

การเรียนที่เข้าสู่โค้งสุดท้าย หลิวกับตูน ที่ฝึกงานไปล่วงหน้า โดนบริษัทจองตัวให้ทำงานต่อกันทั้งคู่  หลิวอยู่กับรายการทีวีชื่อดังในตำแหน่งพนักงานประชาสัมพันธ์ ที่บ้านก็อยากให้ลองไปเป็นลูกน้องคนอื่นดูก่อน ยามว่าง ก็เข้ามาประชุมที่บริษัทของตัวเอง เพราะหลิวต้องวางการตลาดให้กับฟิตเนส ซึ่งพี่ไผ่ยกให้ดูแล  ส่วนตูนที่เข้าไปช่วยงานของพ่อหลิว ได้รับคำชมจากคณะกรรมการเป็นอย่างมาก ทั้งที่ทุกคนไม่รู้มาก่อนว่าคบหาอยู่กับลูกสาวเจ้าของบริษัท การ์ตูนจึงได้รับการยอมรับจากพ่อของหลิวมากขึ้น แถมยังทำให้หลิวกลายเป็นคนไม่ฟุ่มเฟือย ใช้เงินอยู่บนพื้นฐานความจำเป็น อันนี้ถูกใจแม่หลิวมาก  ตูนสอบผ่านครอบครัวของหลิวด้วยตัวของเขาเอง เป็นความภาคภูมิใจในฐานะของเพื่อนรักคนหนึ่งของตูน และดีใจเป็นสองเท่าเมื่อมองในฐานะเพื่อนรักของหลิวอีกด้วย



กระเช้านองปิง : Nhong Ping 360 องศา ฮ่องกง

จากวันที่เราคบหากันจนถึงวันนี้ ผมกับพี่ไผ่ยังไม่ได้มีเซ็กซ์กันเลยครับ หลายคนรอบตัวเราก็ไม่มีใครเชื่อ ขืนไปเล่าให้ไอ้เอ หรือ ผู้กองจิมมี่ฟัง เขาคงคิดว่า เป็นนายนทีตัวปลอมแน่นอน
ตอนรักษาโรค ผมไม่มีอารมณ์ทางเพศ  ส่วนพี่ไผ่น่ะเหรอ ก็ยังคึกของเขาอยู่  พี่ไผ่นึกว่าผมหลับ เตียงนี่สั่นทุกวัน กระพืออยู่สองรอบตอนดึก กับตอนเช้ามืด ทิชชู่ที่ถูกโยนลงพื้น อ้างว่าเป็นการเช็ดน้ำมูกบ้าง คัดจมูกบ้าง ผมเอามาดมตอนหยิบไปทิ้งให้นี่แบบ กลิ่นคาวชัดเจน พี่ไผ่จัดการตัวเองวันละสองรอบ ถ้าไม่เหนื่อยจนเกินไปตามประสาคนที่เคยหมกมุ่นทางเพศมาตั้งแต่วัยรุ่น  ผมจะไม่ว่าเขาได้อย่างไร ผมมันไม่ดีเอง ช่วยเหลือเขาไม่ได้  ผมยังไม่มั่นใจว่าตัวเองสะอาดพอ เอาเข้าจริงให้พี่ไผ่ใส่ถุงยางอนามัยแล้วก็มารุกผม ก็ย่อมจะทำได้ แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สะอาด ไม่คู่ควร  พี่ไผ่นอนกอดผม หอมจูบ ขลุกไปมาทั้งคืนราวกับว่าผมจะหนีเขาไปไหน ผมก็ชอบให้เขาแสดงความเป็นเจ้าของอยู่อย่างนั้น
ผมแค่กลัวว่าเขาจะหมดรักคนสกปรกอย่างผม..

กว่าจะผ่านความรู้สึกนี้ไปได้จนกล้าหันไปจูบกับเขา ใช้มือให้เขาบ่อย บรรเลงโอษฐ์กามให้  ก็ได้มุมมองจาก พี่กร และ ผู้กองจิมมี่ แบ่งปันแนวคิดมา  ผมเยียวยาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแค่หวังว่า วันหนึ่ง ผมพร้อมจะเป็นของเขาอย่างเต็มใจ


พี่ไผ่ จองทริปฮ่องกงเล็กๆ ในวันหยุดสั้นๆ  ซึ่งผมเองแม้จะมาเป็นร้อยครั้ง แต่ก็มักจะเป็นการมาช็อปปิ้ง ทานอาหาร แล้วก็บินกลับ แต่คราวนี้ พี่ไผ่ชวนมาไหว้พระ ผมก็คิดว่า มันดีเหมือนกัน พอผ่านเรื่องร้าย ๆไป ก็ขอมาตั้งต้นใหม่  เมื่อลงเครื่องเมื่อวาน เขาก็พาผมไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ชายหาด  วันนี้มาไหว้พระที่เกาะลันเตา  พรุ่งนี้เราจะไปดิสนีย์แลนด์ แล้วก็ว่าจะกลับไปทำงานกันอย่างตั้งใจ ผมเองก็มีสอบไฟนอลทิ้งทวน ก่อนจะลามหาวิทยาลัยไปสู่ โลกแห่งการทำงานโดยสมบูรณ์

2,900 ดอลล่าร์ฮ่องกง เสียไปกับค่านั่งกระเช้าลอยฟ้า ไต่ข้ามภูเขา
ทำไมมันแพง ก็นายต้นไผ่ตัวดีจองแบบ เคบินส่วนตัว กระเช้านี้มีแต่เราสอง แถมตรงพื้นก็เป็นคริสตัลกระจกใส โชว์ความโปร่งโล่งในทุกมุมมอง เรามองเห็นยอดขุนเขา จากพื้นที่เรานั่ง พอเข้ามานั่งกันสองคนแบบนี้ ความเสียวจากที่สูง มันกลายเป็นความเสียวแบบอื่นแทน

ไอ้พี่ไผ่ มึงนี่มันร้าย !!

ผมตื่นตัวเป็นอย่างมาก ผมนึกไปว่าผมจะไม่มีอารมณ์ทางเพศได้อีกแล้วในช่วงที่รักษาตับ เหงื่อผมซึมเต็มหน้าผากเลย แต่คนที่นั่งตรงหน้านี่สิ ทำเป็นทางไม่รู้ร้อน เอาเข้าจริง พี่มันเลือกกระจกคริสตัล นี่มันคงรู้ว่า ต้องมีคนเห็นบ้างล่ะ ชาวประมงที่ทะเล คนหาเห็ดบนยอดเขา  คือก็ต้องกระตุ้นอารมณ์มันบ้าง เป้านี่ปูดพองขึ้นมาเชียว หนาวแบบนี้ ใครเขาใส่ขาสั้น คือ เตรียมพร้อมใช่ไหม  คิดได้ยังไง เอา outdoor มารวมกับ mile high club ผมต้องตอบแทนมันใช่ไหม

ผมลงไปคุกเข่าที่พื้นกระจกใสนั้น คลานเข่าโน้มตัวไปที่หน้าขาพี่ไผ่ที่นั่งอ้ารออยู่อีกฝั่งที่นั่ง  เขาก้มลงมาจูบปากกับผม ยิ้มให้อย่างผู้ชนะ ผมก็ยิ้มตอบอย่างผู้แพ้ที่ศิโรราบ ผมดึงกางเกงของเขาออกมา มันชูชันทักทายผมแบบอารมณ์ดี กระเช้าถูกดึงไต่ขึ้นไปอีกฐานหนึ่ง มันกระตุกเล็กน้อยพอจะทำให้อารมณ์ของผมครุกรุ่นขึ้นมา ผมมองไปที่ด้านข้างเห็นปลายยอดเขาอยู่แค่เอื้อม ลืมลมผมฉีดพล่านไปหมด

มือที่ค่อยๆเอื้อมไปกำของแข็งที่อยู่ตรงหน้า ผมก้มลงไปจูบมันหนึ่งที เอามือไปแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของเขาช้าๆ ไม่ถอดหมด พอให้เห็นกล้ามท้อง ผมบรรจบจูบไปทั่วเนื้อทั่วตัวของเขา สูดในกลิ่นความเป็นชายที่หอมหวน ผมตวัดลิ้นไปที่หน้าอกของเขาทั้งสองข้าง พี่ไผ่ก้มลงมาหอมหน้าผากของผม ผมกลืนกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างกระหาย
“เรามีเวลาแค่ ยี่สิบห้านาทีนะครับน้องน้ำ”

ผมเลยเปลี่ยนเป็นหงายนอนตัวลงบนพื้นกระจกใส ที่มีขุนเขาอยู่เบื้องล่าง ผมรอที่จะเป็นของเขาบนที่สูงนี้ พี่ไผ่รู้งานรีบตามลงมาประกบ เราดูดปากกันอย่างเผ็ดร้อน พี่ไผ่ถลกกางเกงวอร์มสามส่วนของผมออก เขาแทรกตัวเข้ามา คว้าเจลที่เตรียมพร้อมมาทาที่ซอกร่อง แล้วชโลมมันไปที่ไผ่น้อยแสนแกร่งนั้น
เราสองคนอยู่ด้วยกันทุกวันตั้งแต่ฟังผลเลือดคราวก่อน  ไม่ใช่ผมที่ต้องมากังวลเรื่องผลเลือดของเขา
แต่เขากำลังแสดงให้ผมเห็นว่า เขาเชื่อมั่นในตัวผม  ส่วนผมก็เชื่อมั่นว่า ผมไม่รอดเนื้อมือของเขาแล้ว..

มันผ่านเข้ามาอย่างช้า อึดใจเดียวแต่ดึงลากความเสียวซ่านไปชั่วกัปกัลป์

มันหน่วง ลึก แน่น แล้วก็เจ็บจนต้องลืมหายใจ แต่น้ำตาผมไหลออกมาด้วยความสุข กระเช้าที่เขย่าสั่นตามแรงสะโพกของพี่ไผ่ที่ขโยกใส่ผม ผมเป็นเมียเขาโดยสมบูรณ์แล้ว เขาเร่งจังหวะจากช้าแต่ลึก ไปเป็นเร็วและรัว เหงื่อของเขาหยดลงบนแก้มผม ใกล้มุมปาก ผมตวัดลิ้นไปเลียมัน พี่ไผ่ส่งยิ้ม หูเขาแดง เขาสั่นเทาไปทั้งตัว เป็นผู้ชายที่ร่วมรักและโปรยเสน่ห์ไปในตัวได้อย่างน่าทึ่ง  ผู้ชายที่ใส่ความเป็นชายมาในตัวของผม คนที่เอาหน้าท้องแกร่งมาเบียดบี้ท้องน้อยของผม  ต้นขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเสียดสีไปมากับแก้มก้นของผม ผิวของเราสำผัสกัน เนื้ออุ่นของเขามันช่างเร่าร้อน  เขาพยายามมองว่ากระเช้าอื่นเห็นเราไหม แต่ชายที่เดินอยู่บนยอดเขามีตะกร้าสะพายหลังไว้มองขึ้นมาแล้วเอามีชี้  พี่ไผ่ยิ้มร่าคล้ายคนถูกหวยสามตัวล่าง เขาเพิ่มกำลังขโยกรัวสะโพกใส่ผมแบบไม่ถนอมจนผมครางสุดเสียง เขาเอามือมาปาดเหงื่อที่ใบหน้าของผม  ก่อนจะเอื้อมมือไปกำของผมขยับตามไปด้วย กระเช้าเลยจุดฐานพักอีกแห่งผ่านใต้อาคารเล็กๆ เงาเพดานปกคลุมเราจนมืด
เราไม่ได้สนใจแล้วว่ามีใครมองไหม พี่ไผ่อดอยากมานาน แต่ผมต่างหากที่ต้องการมากกว่า การรักษาตัวที่ยาวนาน ความเป็นชายที่ไม่ได้ใช้และคล้ายจะถูกพรากไปตลอดกาล มันกลับมาอย่างแข็งแกร่ง และตอนนี้ มันอยู่ในกำมือชายที่ผมรัก

กระเช้าลอยผ่านฝ้าเพดานจากมุมที่ผมเห็น แสงสาดเข้ามา กระเช้าค่อยๆไต่สูงขึ้นไปอีกครั้ง อารมณ์ของผมพุ่งขึ้นสูงไปอีกระดับ แก่นกายของผมพร้อมจะระเบิด พี่ไผ่กำมันแน่นพร้อมขยับมันแรงขึ้น พร้อมกับซอยสะโพกเร็วและถี่ขึ้น เราทั้งคู่หายใจหอบแบบที่กำลังจะเข้าเส้นชัย แล้วในที่สุด ผมก็ปล่อยออกตอนที่กระเช้าทะยานถึงจุดสูงสุดของวัน
“อ๊ากกกกกก”   ผมครางเปล่งเสียงลั่น น้ำตาไหลด้วยความสุข

พี่ไผ่ กำของผมแล้วลูบน้ำขาวขุ่นทั้งหมดนั้น มาป้ายใส่ไผ่น้อย ที่เขาเพิ่งถอนออกมาจากกายผม แล้วเอาของเหลวที่เหลือในมือ ป้ายกลับมาที่ร่องของผมจนคราบในมือแห้ง  แล้วใส่แท่งใหญ่นั้นมาอีกครั้ง
“โอ๊ยยยยยยยย”  ผมน้ำตาไหลอีกรอบด้วยความเสียวถึงขีดสุด

พี่ไผ่รัวสะโพกถี่เร็วจนผมตัวสั่นไปหมด เขาลงมาจูบปากผม แล้วสอดลิ้นเข้ามาให้ผมดูดอม  ลิ้นของเขาหวาน ผมตอดแล้วเลียมันไปทั่ว ก่อนจะสอดลิ้นของผมไปให้เขาดูดแลกกัน
ขาของผมถูกยกสูงขึ้นอีก เขาเอามือเท้ากับแผ่นกระจกใสที่พื้นคล้ายกับท่าเตรียมวิดพื้น สะโพกของผมลอยแอ่นขึ้นมา รอยยิ้มที่ไม่จางหาย ส่งสัญญาณว่า เขาเองก็ใกล้แล้ว
เขารัวกดสะโพกลงมาเป็นจังหวะ มันเหมือนหนังเอ็กซ์ในท่ามิชชันนารีที่ผมโปรดปราน โอ๊ยยยย ไอ้บ้า คนอะไรทำผมคลั่ง เขาใส่ผมไม่ยั้งอย่างกับคนที่โหยหา คล้ายชูชกที่ได้โต๊ะจีน  ปากก็ก้มลงมาดูดซอกคอ และเนื้อผมไปทุกส่วน เขาทิ้งสะโพกหนักขึ้น หนักขึ้น ลมหายใจถี่หอบ เหงื่อไหลร่วงใส่หน้าผมเต็มไปหมด ผมผงกหัวขึ้นไปดูดปากเขา แล้วเอื้อมมือไปคล้องคอ 
ก่อนเขาจะกระตุกเกร็งแล้วพ่นน้ำรักมาในตัวผม มันอุ่นร้อนแล้วก็ซาบซ่านกว่าของใครคนไหน ผมก่อนร่างที่ท่วมเหงื่อของเขา เรากอดกันอย่างนั้น พี่ไผ่..  คนกาม ของผม


Flashback : นที คนใต้ถุน

“เร็วสิธนู เดี๋ยวผัวฉันกลับมา” แม่ถอดเสื้อคลุมลงไปกองกับพื้น เผยให้เห็นปทุมถันที่ยังเต่งสาว น้าธนูโจมตีที่คู่อวบตูมนั้นอย่างดูดดื่ม ก่อนจะเปลื้องตัวเองเช่นกัน ผมที่เข้ามานอนเล่นอยู่ใต้เตียงของแม่ ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงเพราะกลัวถูกจับได้ มุมระยะไกล ทำเอาผมเห็นร่างของน้าธนูอย่างชัดเจน  กล้ามเนื้อของเขาแกร่งแน่น สีผิวเข้ม แก่นกายใหญ่โต เขื่องยาว จนกังวลแทนแม่ ได้แต่นอนกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงคออย่างแผ่วเบา

น้าธนูลากแม่มาที่เตียงแล้วบรรเลงกามกิจไม่ยั้ง เตียงที่กระแทกอยู่บนตัวผม สั่นลงมาจนรู้สึกได้ ฟูกมันบี้กับหน้าท้อง ใกล้ทิศทางลมหายใจของผม  เสียงแม่กรีดร้องอย่างเร่าร้อนคู่ไปกับเสียงหายใจหอบของน้าธนู  แล้วความทรงจำก็ดำมืดไป


“ไอ้เด็กไม่มีแม่ไปไหนวะ กูจะได้ไถตังมันซะหน่อย”  เสียงของเด็กข้างบ้านที่ชอบแกล้งผมเป็นประจำลอยมา เขาคงไม่รู้ว่าผมแอบอยู่ในท่อระบายน้ำเก่า ที่ไม่มีน้ำแล้ว ผมเปิดฝา แล้วแอบลงไปเพื่อไม่ให้ใครเห็น โดยเฉพาะเด็กในโครงการหมู่บ้าน ที่ชอบล้อเรื่องที่แม่ผมหนีไปกับผู้ชาย
มีคนเดียวที่มักตามหาผมเจอ แล้วก็ดึงผมขึ้นมา คือเด็กรุ่นพี่บ้านติดกัน ที่แสนจะเข้าอกเข้าใจผมอยู่เสมอ

“ไอ้ลูกไม่มีแม่ไปไหนวะ เห็นแว๊บๆ กูจะเตะมันหน่อย คันตีน” เด็กกลุ่มเดิมที่นั่งบนศาลาเรือนไทย ซึ่งโครงการหมู่บ้านทำไว้ให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อน พวกมันนั่งกันอยู่อย่างนั้นจนนานแสนนานไม่มีทีท่าว่าจะกลับ
ผมที่เห็นพวกมันเดินมาแต่ไกล ก็ได้แต่มานั่งหลบที่ใต้ถุนเป็นประจำ ยุงก็เยอะ น้ำขังแสนเหม็น พงหญ้าแสนคัน ไม่รวมถึงความกลัวงู กลัวกิ้งกือที่ฝังในใจ เด็กกลุ่มเดิมที่ฉี่ใส่พื้นแล้วทะลุกระเซ็นลงมาโดนหัวผมบ้าง  ไหนจะน้ำลายที่พวกมันบ้วน ไม่รวมถึงขยะที่มันปาทิ้งลงมา ผมก็ยังคงหลบพวกมันอยู่ตรงนี้
แล้วเขาคนเดิม เด็กรุ่นพี่คนดี ที่มาไล่พวกมันไป พอเด็กกลุ่มนั้นจากไป เขาก็เอื้อมตัวลงมายังที่ซ่อนของผมอย่างรู้ใจ
พี่ไผ่ ส่งมือมาด้านล่าง ให้ผมคว้าไว้
“อยู่มัวแต่อยู่ข้างล่างเลยนะน้ำ มาอยู่ในที่สูง จงอยู่เหนือทุกคน”




Wishdom Path : ทางเดินแห่งปรัชญา

ผมซึ่งขาแทบลาก ไม่ใช่เพราะแค่จากการเดินลงจากกระเช้ามาขึ้นบรรไดที่สูงลิบเพื่อไหว้พระใหญ่ เทียนถาน [ Tian Tan ] แต่เพราะมันถูกยกละอ้ากว่ายี่สิบนาที คนอะไรอึดชิบหาย  เราใส่เสื้อผ้ากันแทบไม่ทันตอนกระเช้าจอด เจ้าหน้าที่มองหาร่องรอยพิรุธหรือเปล่า มีกล้องวงจรปิดหรือเปล่านะ เราลืมคิดไปเลย อารมณ์มันพาไป คนหนึ่งก็กำลังตื่นเต้นที่สูง อีกคนก็กำลังเริงร่ากับกระจกใสโล่ง มันช่างเป็นยี่สิบห้านาทีที่ไม่รู้ลืม

ผมต้องเดินขมิบไม่ให้ของเหลวที่อยู่ในตัวซึ่งพี่ไผ่ฝากไว้ไหลออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อชำระความโสมมของเราสอง ดีนะที่คนฮ่องกงใช้ฝักบัวชำระเหมือนคนไทย ทุกอย่างเลยง่ายขึ้น  นี่ผมก็ทำความสะอาดพอประมาณ แต่พี่ไผ่ไม่แคร์ เดินกอดเดินหอมผมไปอย่างนั้น  “เห่อเมีย” เขาบอก 

หลังจากไหว้พระ เราก็เดินมาที่ป้าย Wishdom Path เดินไปทางนี้ จะเป็นทางเดินแห่งปรัชญา  ผมไม่เคยไป แต่อ่านจากคู่มือท่องเที่ยว ห่างจากพระใหญ่ไปสิบห้านาทีเอง เราสองคนเลยลองเดินไปชม  ข้างทางมีบ้านผู้คนโบราณอาศัย เป็นเหมือนร้านค้าที่เคยเจริญแล้วร้างลาไป  คิดว่านักท่องเที่ยวเฉยเมยกับงานศิลปะ เลยมีจุดหมายสิ้นสุดที่พระใหญ่ลันเตา แต่ไม่เดินมาถึงตรงนี้  จนผมพบกับซุ้มประตูใหญ่ โอ้โห ก็สวยงามไม่น้อย  มีวัวสามสี่ตัวกำลังกินหญ้า  มีแม่ชีชุดเทาแบบหลวงจีนโบราณกำลังนั่งสมาธิบนเก้าอี้ไม้ไกลออกไป  ตรงหน้า เป็นเสาไม้ทรงแบน ตั้งปักเรียงห่างกันเป็นรูป เลขแปด มีอักษรจีนปักไว้ มีเท่านี้จริงๆ กับ สิบห้านาทีที่เดินมา   
เราจึงเดินถ่ายรูปแล้วก็สำรวจงานศิลปะนี้อยู่สักพัก  มองลงไปที่เวิ้งหุบเขาเบื้องล่างก็พบว่า เราขึ้นมาสูงเหลือเกิน
สูงแค่ไหนน่ะเหรอ  สูงพอที่จะทำอารมณ์ของผมครุกรุ่นอีกครั้ง

เอ๊ะ..  ตับผมคงหายดีแล้ว

ไอ้พี่ไผ่ไม่ต้องพูดถึง เหลือบไปมองแม่ชีที่นั่งสมาธิซึ่งอยู่ห่างไปสองร้อยเมตรได้ หันมายักคิ้ว ไอ้ห่า.. นี่เขตวัดนะโว้ย
แต่ผมเองก็เลวพอที่จะไม่ปฏิเสธ  ผมเลยส่งสัญญาณให้เขาเดินไปที่เสาไม้สุดท้าย ที่อยู่ตรงเชิงหน้าผา วิวมันดีเหลือเกิน สูงแล้วก็เขย่าผมจนเสียวซ่าน  พี่ไผ่ดันตัวผมให้หลังชิดกับแผ่นไม้นั้น เขี่ยกางเกงผมลงพื้น ยกขาข้างหนึ่งผมขึ้นมา เราดูดปากกันครู่เดียว ผมรู้สึกตัวอีกที เขาก็ยัดของเขาเข้ามาแล้ว แม่น และตรงเข้ามาอย่างหนักหน่วง เขาเร่งจังหวะสลับกับหันไปทางแม่ชีที่กำลังนั่งสมาธิเข้าระดับฌานเลยกระมัง ถึงได้ไม่ลืมตามมาดูคู่เรา โอยย.. พี่ไผ่ ทำไมมึงเร่าร้อนขนาดนี้

ผมเองก็ต้องถึงกับโอบมือไปด้านหลังเพื่อเกาะยึดแผ่นไม้นั้น แรงกระแทกจากสะโพกทำเอาผมยืนแทบไม่อยู่ แต่เพราะพี่ไผ่มีมัดกล้ามมากพอ อานิสงส์ของการเปิดฟิตเนส  เขาแบกขาผมไว้ด้วยมัดกล้ามนั้น สะโพกที่ถูกถลกกางเกงลงไป มันเบียดใส่หน้าขาผมเป็นจังหวะ แล้วเขาก็ถอนออกมาระเบิดข้างนอกเพราะกลัวผมเลอะ น้ำขาวขุ่นปริมาณไม่น้อยพ่นไปใส่แผ่นปฏิมากรรมศิลปะที่ผมพิงเมื่อสักครู่  จะว่าเป็นการลบหลู่หรือเปล่า  ตายล่ะสิ..   


วันรุ่งขึ้นเราไปดิสนีย์แลนด์ เพื่อปลดปล่อยความอิสระในใจ  แต่แล้วก็พบว่าไม่ใช่กิจกรรมที่เหมาะกับเรา 
อาจจะเพลียด้วย เพราะพี่ไผ่ถล่มผมทั้งคืน ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ เอาเป็นว่าค่อนข้างชอบ
มันก็ไม่ได้ถึงกับหนักหน่วง แต่ก็มีระบม เพราะของพี่ไผ่มันใหญ่อยู่ เขาแม้จะคล้ายว่าถนอม แต่ก็ย่ำยีอยู่ทั้งคืน
ผมเองก็พยายามกินให้เยอะเพื่อโด๊ปเข้าไว้ เพราะไม่รู้ว่าต้องเจออะไรอีกตลอดทริปที่เหลือ
ดิสนีย์แลนด์แสนใสจึงไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้ผุดผ่องแบบนั้น 
วัดยังไม่ร้อนเท่านี้ เสียงหัวเราะของเด็กน้อย กับรอยยิ้มต่างหาก ไม่เหมาะกับเราเลย
เราเลือกที่จะปิดทริปด้วย The Peak Tower แทนในค่ำนี้


The Peak Tower

จุดชมวิวยอดเขาระดับโลก มีระเบียง Sky Terrace 428 อยู่ และตรงนี้เอง วิวพาโนรามาอันเลื่องชื่อ
มันยากนะ ที่จะขึ้นมามีอะไรบนนี้ ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้สำเร็จ เลยคิดว่า ขึ้นมาจูบกัน แล้วใช้เวลาบนนี้สักพัก ก็พอแล้ว คงเป็นทริปแห่งความทรงจำ 
ระหว่างทางขึ้น ด้วยรถราง Peak Tram คนแน่นมากจนตัวเราที่หันหน้าเข้าหากันต้องเบียดซะหน้าแทบจะจูบกันเลยก็ว่าได้ แล้วเป้าพี่ไผ่ที่อยู่ดีๆ ก็แข็งโป๊กขึ้นมา เสียดสีกับเป้าของผม ผมทำหน้าแบบว่า ทำไมมึงถึงได้หื่นแบบนี้ เขาก็เหมือนเด็กที่โดนดุ แล้วก็พยายามข่มใจไว้ 

เรากะว่าจะทู้อยู่จนใกล้ 5 ทุ่มเพื่อที่จะรอให้คนกลับให้หมดก่อน แต่ปรากฏว่า อยู่ดีๆ ฝนก็ตกหนักคล้ายพายุจะเข้า เล่นเอาคนทุกคนหลบเข้าที่พัก และเตรียมลงรถรางกลับลงไป ทัวร์มีรถบัสมารับ บ้างก็เรียกแท็กซี่ พอคนบางตา เราก็มองตากันเหมือนกับว่าพระเจ้าเต็มใจสินะ

ระเบียง สกาย เทอเรซ 428

เวิ้งพาโนรามาแสนโด่งดังที่ไม่มีคน เป็นไปได้อย่างไรกัน แม้จะมีฝนฟ้ากระหน่ำก็เถิด  แต่ละอองฝนไม่ได้ทำให้วิวของเมืองฮ่องกงสวยน้อยลงไปเลย  วิวทะเล กับตึกที่เปิดไฟสวยงาม อ่าววิคตอเรีย ไหนจะเรือที่ล่องไปมา ผมคึกคักถึงขีดสุด ไม่ต้องพูดถึงพี่ไผ่ที่ยิ้มหวานมีเลศนัยแบบไม่ต้องเดาได้ มันคงเกิดปีกระต่ายที่พร้อมจะซอยได้ไม่หยุดหย่อน
เรามองซ้ายมองขวา แล้วพากันไปมุมที่ลับตาที่สุด ผมเอามือทั้งสองข้างจับราวระเบียงแน่น พี่ไผ่ถลกกางเกงผมลงไป แล้วรีบมาประกบ คนอะไร ตื่นตัวได้รวดเร็วดั่งใจนึก เขาส่งมันเข้ามา ผมยิ้มร่าหลับตาปี๋ สูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะลืมตามาอีกที เพื่อเสพวิวที่อยู่ตรงหน้า 
ผมที่ขึ้นมาในที่สูงกว่าใคร กับชายที่ตัวเองรัก  มองลงไปเบื้องล่างที่บรรจุเรื่องราวของผมไว้มากมาย ลมโชยมาตีหน้า กับน้ำฝนกระหน่ำ ฟ้าที่ร้องคำราม  พี่ไผ่เอื้อมมีผมกำของผมแล้วสาวมือเป็นจังหวะ เราหมายจะเสร็จพร้อมกันในค่ำคืนที่สมบูรณ์ของคนใจซกมกคู่นี้ 

ประตูระเบียงถูกเปิดออก  ฝรั่งในชุดยามเดินเข้ามา  พี่ไผ่ยังไม่ถอนมือ และถอดแก่นกายของเขาออกจากตัวผม  ฝรั่งคนนั้นหันซ้ายหันขวามองว่าไม่มีใคร หันมาขยิบตาให้คนที่ยังฝังเอ็นแข็งอยู่ในตัวของผม  ก่อนที่เขาจะพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งพี่ไผ่แปลให้ผมฟังทีหลังว่า
“คุณต้องรีบนะ มร.ต้นไผ่  ผมจะดูต้นทางให้..    ว่าแต่คุณยังเด็ดเหมือนเดิมเลย ผมเป็นแฟนคลับของคุณ”
เจ้าหน้าที่ผมทองในเอเชียตะวันออก เดินจากไปประจำที่ประตูทางเข้าเผื่อเฝ้ายามให้เรา

พี่ไผ่เหวี่ยงผมไปเกาะที่ระเบียงเหมือนเดิม ก่อนเราทั้งคู่จะระเบิดอารมณ์แบบไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น
ผมเก็บภาพเบื้องหน้าใส่ความทรงจำเอาไว้  เอื้อมมือโอบกอดตัวเองอย่างเร่าร้อนแล้วนึกถึงขวบปีที่ผ่านมา 
ดวงตาก็มองไปที่ท้องนภาตรงหน้า  สลับกับตึกรามบ้านช่องที่อยู่เบื้องล่าง

ทั้งความโง่เขลา และความบ้า ซึ่งไม่ได้น้อยไปกว่าสิ่งที่ทำอยู่นี่
น้องกันต์ ผู้กอง พี่กร พี่อำนาจ ไอ้เอ..  แล้วก็ยังมี เพื่อนพ้องและครอบครัวที่ผ่านอะไรมาด้วยกัน
ผมได้น้องต่างบิดามาเพิ่ม  แล้วก็กำลังจะได้แม่ใหม่
มีเรื่องร้าย มีความหวังใหม่ แล้วก็ได้รับกำลังใจ
เหนือสิ่งอื่นใด ผมต้องขอบคุณออกัส เขาคือ กามเทพของผม
เขานำพาให้ผมมาเจอทุกคน ได้ใช้เวลากับเพื่อนพ้องและครอบครัว
สำคัญที่สุด เขาทำให้ผมมีคนนี้ คนที่กำลังสอดใส่และทะลวงผมอย่างบ้าคลั่ง แล้วผมก็หลงใหลเขาจะแย่

สัญญาว่ากลับไทย เราคงไม่ทำอะไรห่ามกันแบบนี้  ก็คนมีงานมีการทำกันนะโว้ย
แต่ก็ขอบคุณ ขอบคุณเหลือเกิน 
For the good time..
For the bad   time...
ขอบคุณพี่ที่อยู่กับผมเสมอนะพี่ไผ่..
ไม่สิ..  พี่กำลังอยู่ในตัวผม.. โอ๊ยยยย เมื่อไหร่จะเสร็จ

END -
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 20 : Mile High Club รัก ระ ฟ้า ] [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 01-07-2018 18:11:44
Bonus PrepMile High Flight  เมื่อสจ๊วตเป็นใจ



“ชั้น Business เชิญด้านขวาเลยครับ”

“อ้าว” ผมรีบขยิบตาให้พนักงานต้อนรับชายซึ่งเป็นหนุ่มรูปหล่อผู้ที่กำลังผายมือส่งผมไปยังที่นั่งชั้นธุรกิจ ในเที่ยวบินขากลับ ไฟลท์ ฮ่องกง-สุวรรณภูมิ
ผมเมื่อมานั่งคู่กับพี่ไผ่แล้ว ก็คุยกันสักพัก รอให้เครื่องบินขึ้นและตั้งระดับ ก็จะเดินไปเข้าห้องน้ำ โดยมีพี่ไผ่ที่ง่วงและเพลีย ของีบสักหน่อยก่อน เพราะถ้าถึงเมืองไทยแล้ว เขาต้องเป็นคนขับรถกลับบ้านอีก ผมเลยให้เขานอนโดยไม่ปลุกขึ้นมากินอาหารบนเครื่องด้วยซ้ำ



“หายดีแล้วเนอะพี่นที”

“ก็พักฟื้น เลยถือโอกาสมาเที่ยวครับน้องกันต์ ใส่ชุดสจ๊วตแล้วหล่อได้ใจนะเนี่ย”

“ขาดเหลืออะไรบอกนะพี่”

“อืม นี่ว่าจะเข้าห้องน้ำสักหน่อย มันเต็ม เลยเดินมาข้างหลัง”

“หลังสุดมีว่างครับ เดี๋ยวผมพาไปนะ ตอนนี้พี่กลับมาหล่อเหมือนเดิมแล้วพี่นที” 
เล่นชมแบบนี้ ผมก็เขินนะ กันต์ของผมยังคงน่ารักเหมือนเดิม



ระหว่างที่กำลังคุยอยู่นั้น ก็มีมือมาโอบที่เอวของผมไว้
“มีอะไรที่ผมต้องหึงไหมเนี่ย แฟนผมยืนคุยกระหนุงกระหนิงกับสจ๊วตรูปหล่อ”

“สวัสดีครับพี่ไผ่ เพิ่งมีโอกาสได้เจอ ผมกันต์ เองครับ”  กันต์ยกมือไหว้ผู้ที่เพิ่งมาสมทบ 

“ครับ ผมพอจะเดาได้” พี่ไผ่รับไหว้ แต่ก็ส่งยิ้มให้ไม่ได้ถือสาอะไร

“ไม่มีอะไรต้องกังวลครับ ผมกับพี่นที เราคุยกันตามประสาพี่น้อง” กันต์ย้ำ

“ให้มันแน่นะ ผมรักมากเลยคนนี้”  พี่ไผ่โอบเอวผม ดึงมาแนบชิด

“ผมมีแฟนแล้ว ไว้ใจผมได้ ส่วนพี่นที อันนี้ผมไม่แน่ใจ ว่าพี่ไผ่จะไว้ใจได้ไหม”

“อ้าว ทำไมเผากันอย่างนี้ล่ะ” ผมรีบแย้ง

“ฮ่าๆๆๆ  ยินดีที่ได้รู้จักครับ งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อย”  พี่ไผ่ดูผ่อนคลาย และไม่ถือสาอะไร

“พี่ชอบที่แคบตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ”  พอน้องกันต์แซวจบ พี่ไผ่รีบหันมามองหน้าผม เหมือนจะเค้นเอาความจริงว่า น้องกันต์รู้ได้อย่างไรว่า รสนิยมทางเพศของพี่ไผ่เป็นแบบไหน  เอาเข้าจริง ผมกับน้องกันต์เราก็คุยกันสัปดนได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่น้องกันต์คนเดียว กับผู้กองจิมมี่ และกับ ออกัส ผมก็คุยแนวนี้ได้หมด

“ถ้าเลือกได้ พี่ก็ไม่ชอบที่แคบหรอกครับ” พี่ไผ่โต้กลับ ยักคิ้วให้ ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์

“แต่พี่ไผ่อาจชอบที่แคบ ของสายการบินเรานะครับ”

“.....”  พี่ไผ่หันมามองผม เราทั้งคู่อึ้ง

“อภินันทนาการ จากกันต์ณรงค์ แล้วกันนะครับ”  น้องกันต์ขยิบตา แล้วคว้าป้ายพลาสติกสีเหลือง เดินนำผมไปที่ห้องน้ำท้ายสุดของเครื่องบิน  เขายืนรอจนสตรีสูงอายุคนหนึ่ง เดินออกมา  แล้วแขวนป้ายสีเหลือง
ป้ายนั้นแปลเป็นไทยว่า “ชำรุด ขออภัยในความไม่สะดวก”
น้องกันต์แขวนเอาไว้อย่างนั้นแล้วหันมาทางเรา   “พวกพี่มีเวลาแค่ สิบห้านาที อย่านานไปกว่านั้นนะครับ”   
พี่ไผ่ดึงน้องกันต์มากอดหนึ่งที กระซิบขอบคุณ แล้วดึงผมเข้าไปในห้องน้ำนั้น
ผมเองก็หันไปขอบคุณน้องสจ๊วตคนเก่ง กันต์เอื้อมตัวมากระซิบใส่หูผม

“ห้องน้ำท้ายเครื่อง เวลาตกหลุมอากาศเนี่ย มันกระเทือนแรงได้ใจเลยครับพี่ ถูกใจชาว Mile High Club ทุกคนแน่ครับ” 

ก่อนประตูห้องน้ำก็ถูกล็อค เครื่องบินในวันอากาศปิด สั่นสะเทือนเล็กน้อยเป็นระยะ กระตุ้นราคะของผมซะกรุ่นเชียว สัญญาเลยว่า สิบห้านาทีต่อจากนี้ มันจะคุ้มค่า

อย่าเพิ่งมองผมไม่ดีสิครับ..
ขออีกนิดเถิดนะ แล้วทันทีที่เหยียบแผ่นดินสยาม  พวกเราจะเป็นเด็กดี  ผมกับพี่ไผ่  เราสัญญา... 

END -
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 20 : Mile High Club รัก ระ ฟ้า ] [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 01-07-2018 18:18:35
เหลือ Bonus Prep ของใครน้าาาา

อำนาจ - เอ    interacial & uniform

กันต์ - ออกัส  in love and war

พ่อ - นุดี        Scar  & Mature  [ ชายหญิง จะทำเป็นลิงค์แยกให้นะ ]

ตูน - หลิว      Chubby & Madonna Whore Complex  [ ชายหญิง จะทำเป็นลิงค์แยกให้นะ ]

ส่วนของ จิมมี่ กับ กร  แลดูจะเกินเลย กลุ่มผู้อ่านไป เพราะเป็น Fetish

และ น้องอุทิศ  แน่นอนว่า พ่อตัวดี จะต้องมีอะไรที่มันซุกซน ในสายเลือดสินะ  คิ คิ 

เอาเป็นว่า ซนไม่แพ้พี่ชายแน่นอน

ขอบคุณที่อยู่ด้วยกัน กับนักเขียนมือใหม่

ขอบคุณที่ inbox มาคุยกันเสมอ 

รัก..

โตฟูจัง 

หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 20 : Mile High Club รัก ระ ฟ้า ] [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-07-2018 20:35:55
 :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 20 : Mile High Club รัก ระ ฟ้า ] [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-07-2018 01:01:46
ฮือออออออ..จบซะแระ ชอบอ่านเรื่องนี้ รักเรื่องนี้มาก
แต่ก็นะ..จบได้อย่างสวยงาม สมบูรณ์แบบอย่างที่ใจเราอยากเห็นแบบนี้เลย
รู้สึกอิ่มเอมใจ ซาบซึ้งไปกับความรักที่สวยงามของพระเอก+นายเอก

ยิ่งรู้ว่าเค้าสองคนผูกพันกันมานาน ผ่านร้อนผ่านหนาว เพื่อนทุกข์เพื่อนยาก ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก
ทำให้เข้าใจเลยว่ารักของพี่ต้นไผ่กับน้องน้ำนั้นร้อยรัดและมั่นคงเพียงใด สมควรแล้วที่สุดท้ายจะคบหากันอย่างแนบแน่น

เหมือนกล้วยห่าม ยามจะกิน ต้องรอสุก
เหมือนความทุกข์ มักมาก่อน ผ่อนสุขใส
เหมือนน้ำร้อน รอเวลา หาเย็นไป
ความรักไซร้ ใช้ใจบ่ม ห่มรักเรา

 :L1:
Love is.....

ขอบคุณมัก ขอบคุณมากกกกกกกกก
ลัฟยา..คนแต่ง จุ๊บ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 02-07-2018 12:57:22
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ และ สนุกอีกเรื่อง ..
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 04-07-2018 10:25:30
ตอนนี้เฉลยปมหมดเลยทำไมไผ่ชอบ outdoor น้ำชอบที่สูง ขอบคุณคนเขียนจ้าาา เป็นเรื่องที่สอนเราได้หลายๆ อย่างเลยค่าา
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-07-2018 01:33:58
รอตอนพิเศษนะ  อิพี่ไผ่หื่นได้ใจมากกกก 555
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 05-07-2018 12:50:44
 :pighaun:  เลือดกระฉูดเลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 06-07-2018 17:50:12
อ่านไปเกร็งไป. 555 โดนใจสุดๆ
แง่คิดดีๆได้มาเยอะเลย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 07-07-2018 01:37:35
ถึง พี่อำนาจxน้ำ จะเป็นเรือผี แต่เราก็จะขอพายเงียบ ๆ นะ  :o12: ฉากเขาหนุนแขนคุยกันออกจะนุ้งนิ้งนุ้งนิ้ง  :z3:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-07-2018 14:35:14
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 09-07-2018 20:46:24
ตอนแรกก็ลังเลว่าจะอ่านดีไหม ไม่ชอบเรื่องแนวแก้แค้น แต่เห็นสำนวนโอเคเลยลองอ่านดู

อ่านไปสงสารแฟนคนที่ 1 (น้องกันต์)ไป เกือบจะวาง ไม่อ่านต่อแล้ว 555 แต่เห็นว่าตัวเอกยังมีจิตสำนึก มีความกังขาในการกระทำของตัวเอง เลยพยายามอ่านต่อ

พอมาเฉลยแฟนคนที่ 3 ก็ช็อคไป ยิ่งมาถึงตอนตรวจเลือด ช็อคกว่าเดิมอี๊กกก 555 หักมุมๆ

ออกัสแย่มากที่ไม่ยอมบอกใครเรื่องโรค ถ้าน้ำไม่ได้ไปตรวจเลือด อาจจะลุกลามจนเสียชีวิตได้ เราว่าออกัสเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก แต่กลับไม่ได้รับบทเรียนอะไรเลย /คนอ่านขัดใจ  :pigangry2:

โดยรวมสนุกดี ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 22-07-2018 12:49:58
อิ่มเอม ขอบคุณค่ะไร้ท์   :haun4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 27-09-2018 19:47:06
 :katai4: :katai4:

เลือดออกหมดตัว ขอบคุณมาก  แอบเป็นเรือผีหลายคู่ โดยเฉพาะนายน้อยกับพี่อำนาจ
แต่ก็นะ เขาเกิดมาคู่กัน มันชัดเจนจากวันแรกจนวันสุดท้าย  เลิฟนะ จุ๊บจุ๊บ    :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: Wendy ที่ 17-11-2018 02:32:12
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุก ๆ มาให้อ่านค่ะ. หลงเสน่ห์ภาษาคนเขียนจัง. เรื่องก็สมกับที่บอกว่าเป็นนิยายสังวาสที่มีมากกว่าเซ็กซ์. เปิดมุมมองหลายด้านและชอบทัศนคติของน้องน้ำในหลายตอนเลยค่ะ
หวังว่าจะได้ติดตามนิยายเรื่องอื่นๆ อีกนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ.
 :L2:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 20 : Mile High Club รัก ระ ฟ้า ] [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: LovelyPenGirl ที่ 27-06-2019 21:11:00
[ ต่อ ]


เข็มที่ 20

อีกแค่ 4 เข็ม ก็จบการรักษา  จากการตรวจไวรัส 2 ครั้งล่าสุด ผมไม่มีเชื้อเหลือแล้ว หมอบอกว่า หลังจากสิ้นสุดการรักษา จะตรวจอีกหนึ่งครั้ง ถ้าไม่มีไวรัสคงเหลือ ผมก็หายขาด เคสของผมนี่โชคดีมาก ที่ตับยังไม่แข็ง กระนั้น อย่าประมาท ถ้าเลิกแอลกอฮอล์ได้ คุณหมอก็อยากให้เลิก แล้วก็พยายามไม่เสี่ยงที่จะรับเชื้อเข้ามาอีก รวมไปถึง ขยันออกกำลังกาย กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ และส่งต่อความรู้เรื่องโรคนี้ไปยังคนอื่น ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง 

ผมยกคอร์ส พัฒนาบุคลิกภาพส่วนที่เหลือ ให้กับการ์ตูน ได้ไปใช้บริการ เพื่อตอบแทนในส่วนของงานวิชาการและการเรียนซึ่งตูนช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี  อาจารย์ทั้งหลายที่คอยให้กำลังใจแก่ผม  ทุกครั้งที่เดินผ่านโรงอาหาร จะมีเสียงนินทาล่องลอยมาให้เข้าหู แต่ผมเองก็ไม่ได้เอามันมาใส่ใจเท่าไหร่นัก ลือกันว่า ผมเป็นโรคนั่นโรคนี่ แต่ก็เอาเถิด ไม่ใช่คนที่ผมแคร์ ผมก็เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง  ความสามารถพิเศษนี้ ผมคงได้ทางพ่อมาเยอะ

พ่อเองตอนนี้ ก็ออกไปทานข้าวกับพี่นุดีมากขึ้น จนถึงขั้นซื้อแพ็คเกจไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน อันที่จริงผมเป็นฝ่ายรบเร้านะครับ ผมอ้างว่า ผมจะได้ใช้เวลากับพี่ไผ่มากขึ้นในบ้านโดยไม่ต้องเกรงใจใคร พ่อกับพี่นุดีก็ไปเที่ยวกัน จะนอนห้องเดียวกันหรือเปล่า อันนี้ผมไม่รู้สิครับ 



ครบคอร์ส 24 เข็ม

ร่างกายที่เริ่มฟื้นตัว เนื้อหนังที่กลับมาเข้าที่ ผิวพรรณก็กลับมาผ่องใส แม้จะไม่ได้วิ้งเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมเผ้าก็งอกกลับขึ้นมา กล้ามเนื้อที่หายไป ถูกแทนกลับมาด้วยรูปร่างที่คล้ายก่อนไปฟิตเนส ไม่อ้วน ไม่ผอม แต่ไม่ค่อยมีกล้าม  พี่ไผ่บอกว่าชอบแบบนี้มากกว่า จับแล้วมีเนื้อมีหนัง แต่ก็อยากให้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพบ้าง  ผมก็สัญญากับตัวเองว่าจะว่ายน้ำ วิ่ง แล้วก็เล่นแทมโพลีนเอา เป็นการออกกำลังกายแบบไม่หักโหม 

การเรียนที่เข้าสู่โค้งสุดท้าย หลิวกับตูน ที่ฝึกงานไปล่วงหน้า โดนบริษัทจองตัวให้ทำงานต่อกันทั้งคู่  หลิวอยู่กับรายการทีวีชื่อดังในตำแหน่งพนักงานประชาสัมพันธ์ ที่บ้านก็อยากให้ลองไปเป็นลูกน้องคนอื่นดูก่อน ยามว่าง ก็เข้ามาประชุมที่บริษัทของตัวเอง เพราะหลิวต้องวางการตลาดให้กับฟิตเนส ซึ่งพี่ไผ่ยกให้ดูแล  ส่วนตูนที่เข้าไปช่วยงานของพ่อหลิว ได้รับคำชมจากคณะกรรมการเป็นอย่างมาก ทั้งที่ทุกคนไม่รู้มาก่อนว่าคบหาอยู่กับลูกสาวเจ้าของบริษัท การ์ตูนจึงได้รับการยอมรับจากพ่อของหลิวมากขึ้น แถมยังทำให้หลิวกลายเป็นคนไม่ฟุ่มเฟือย ใช้เงินอยู่บนพื้นฐานความจำเป็น อันนี้ถูกใจแม่หลิวมาก  ตูนสอบผ่านครอบครัวของหลิวด้วยตัวของเขาเอง เป็นความภาคภูมิใจในฐานะของเพื่อนรักคนหนึ่งของตูน และดีใจเป็นสองเท่าเมื่อมองในฐานะเพื่อนรักของหลิวอีกด้วย



กระเช้านองปิง : Nhong Ping 360 องศา ฮ่องกง

จากวันที่เราคบหากันจนถึงวันนี้ ผมกับพี่ไผ่ยังไม่ได้มีเซ็กซ์กันเลยครับ หลายคนรอบตัวเราก็ไม่มีใครเชื่อ ขืนไปเล่าให้ไอ้เอ หรือ ผู้กองจิมมี่ฟัง เขาคงคิดว่า เป็นนายนทีตัวปลอมแน่นอน
ตอนรักษาโรค ผมไม่มีอารมณ์ทางเพศ  ส่วนพี่ไผ่น่ะเหรอ ก็ยังคึกของเขาอยู่  พี่ไผ่นึกว่าผมหลับ เตียงนี่สั่นทุกวัน กระพืออยู่สองรอบตอนดึก กับตอนเช้ามืด ทิชชู่ที่ถูกโยนลงพื้น อ้างว่าเป็นการเช็ดน้ำมูกบ้าง คัดจมูกบ้าง ผมเอามาดมตอนหยิบไปทิ้งให้นี่แบบ กลิ่นคาวชัดเจน พี่ไผ่จัดการตัวเองวันละสองรอบ ถ้าไม่เหนื่อยจนเกินไปตามประสาคนที่เคยหมกมุ่นทางเพศมาตั้งแต่วัยรุ่น  ผมจะไม่ว่าเขาได้อย่างไร ผมมันไม่ดีเอง ช่วยเหลือเขาไม่ได้  ผมยังไม่มั่นใจว่าตัวเองสะอาดพอ เอาเข้าจริงให้พี่ไผ่ใส่ถุงยางอนามัยแล้วก็มารุกผม ก็ย่อมจะทำได้ แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สะอาด ไม่คู่ควร  พี่ไผ่นอนกอดผม หอมจูบ ขลุกไปมาทั้งคืนราวกับว่าผมจะหนีเขาไปไหน ผมก็ชอบให้เขาแสดงความเป็นเจ้าของอยู่อย่างนั้น
ผมแค่กลัวว่าเขาจะหมดรักคนสกปรกอย่างผม..

กว่าจะผ่านความรู้สึกนี้ไปได้จนกล้าหันไปจูบกับเขา ใช้มือให้เขาบ่อย บรรเลงโอษฐ์กามให้  ก็ได้มุมมองจาก พี่กร และ ผู้กองจิมมี่ แบ่งปันแนวคิดมา  ผมเยียวยาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแค่หวังว่า วันหนึ่ง ผมพร้อมจะเป็นของเขาอย่างเต็มใจ


พี่ไผ่ จองทริปฮ่องกงเล็กๆ ในวันหยุดสั้นๆ  ซึ่งผมเองแม้จะมาเป็นร้อยครั้ง แต่ก็มักจะเป็นการมาช็อปปิ้ง ทานอาหาร แล้วก็บินกลับ แต่คราวนี้ พี่ไผ่ชวนมาไหว้พระ ผมก็คิดว่า มันดีเหมือนกัน พอผ่านเรื่องร้าย ๆไป ก็ขอมาตั้งต้นใหม่  เมื่อลงเครื่องเมื่อวาน เขาก็พาผมไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ชายหาด  วันนี้มาไหว้พระที่เกาะลันเตา  พรุ่งนี้เราจะไปดิสนีย์แลนด์ แล้วก็ว่าจะกลับไปทำงานกันอย่างตั้งใจ ผมเองก็มีสอบไฟนอลทิ้งทวน ก่อนจะลามหาวิทยาลัยไปสู่ โลกแห่งการทำงานโดยสมบูรณ์

2,900 ดอลล่าร์ฮ่องกง เสียไปกับค่านั่งกระเช้าลอยฟ้า ไต่ข้ามภูเขา
ทำไมมันแพง ก็นายต้นไผ่ตัวดีจองแบบ เคบินส่วนตัว กระเช้านี้มีแต่เราสอง แถมตรงพื้นก็เป็นคริสตัลกระจกใส โชว์ความโปร่งโล่งในทุกมุมมอง เรามองเห็นยอดขุนเขา จากพื้นที่เรานั่ง พอเข้ามานั่งกันสองคนแบบนี้ ความเสียวจากที่สูง มันกลายเป็นความเสียวแบบอื่นแทน

ไอ้พี่ไผ่ มึงนี่มันร้าย !!

ผมตื่นตัวเป็นอย่างมาก ผมนึกไปว่าผมจะไม่มีอารมณ์ทางเพศได้อีกแล้วในช่วงที่รักษาตับ เหงื่อผมซึมเต็มหน้าผากเลย แต่คนที่นั่งตรงหน้านี่สิ ทำเป็นทางไม่รู้ร้อน เอาเข้าจริง พี่มันเลือกกระจกคริสตัล นี่มันคงรู้ว่า ต้องมีคนเห็นบ้างล่ะ ชาวประมงที่ทะเล คนหาเห็ดบนยอดเขา  คือก็ต้องกระตุ้นอารมณ์มันบ้าง เป้านี่ปูดพองขึ้นมาเชียว หนาวแบบนี้ ใครเขาใส่ขาสั้น คือ เตรียมพร้อมใช่ไหม  คิดได้ยังไง เอา outdoor มารวมกับ mile high club ผมต้องตอบแทนมันใช่ไหม

ผมลงไปคุกเข่าที่พื้นกระจกใสนั้น คลานเข่าโน้มตัวไปที่หน้าขาพี่ไผ่ที่นั่งอ้ารออยู่อีกฝั่งที่นั่ง  เขาก้มลงมาจูบปากกับผม ยิ้มให้อย่างผู้ชนะ ผมก็ยิ้มตอบอย่างผู้แพ้ที่ศิโรราบ ผมดึงกางเกงของเขาออกมา มันชูชันทักทายผมแบบอารมณ์ดี กระเช้าถูกดึงไต่ขึ้นไปอีกฐานหนึ่ง มันกระตุกเล็กน้อยพอจะทำให้อารมณ์ของผมครุกรุ่นขึ้นมา ผมมองไปที่ด้านข้างเห็นปลายยอดเขาอยู่แค่เอื้อม ลืมลมผมฉีดพล่านไปหมด

มือที่ค่อยๆเอื้อมไปกำของแข็งที่อยู่ตรงหน้า ผมก้มลงไปจูบมันหนึ่งที เอามือไปแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของเขาช้าๆ ไม่ถอดหมด พอให้เห็นกล้ามท้อง ผมบรรจบจูบไปทั่วเนื้อทั่วตัวของเขา สูดในกลิ่นความเป็นชายที่หอมหวน ผมตวัดลิ้นไปที่หน้าอกของเขาทั้งสองข้าง พี่ไผ่ก้มลงมาหอมหน้าผากของผม ผมกลืนกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างกระหาย
“เรามีเวลาแค่ ยี่สิบห้านาทีนะครับน้องน้ำ”

ผมเลยเปลี่ยนเป็นหงายนอนตัวลงบนพื้นกระจกใส ที่มีขุนเขาอยู่เบื้องล่าง ผมรอที่จะเป็นของเขาบนที่สูงนี้ พี่ไผ่รู้งานรีบตามลงมาประกบ เราดูดปากกันอย่างเผ็ดร้อน พี่ไผ่ถลกกางเกงวอร์มสามส่วนของผมออก เขาแทรกตัวเข้ามา คว้าเจลที่เตรียมพร้อมมาทาที่ซอกร่อง แล้วชโลมมันไปที่ไผ่น้อยแสนแกร่งนั้น
เราสองคนอยู่ด้วยกันทุกวันตั้งแต่ฟังผลเลือดคราวก่อน  ไม่ใช่ผมที่ต้องมากังวลเรื่องผลเลือดของเขา
แต่เขากำลังแสดงให้ผมเห็นว่า เขาเชื่อมั่นในตัวผม  ส่วนผมก็เชื่อมั่นว่า ผมไม่รอดเนื้อมือของเขาแล้ว..

มันผ่านเข้ามาอย่างช้า อึดใจเดียวแต่ดึงลากความเสียวซ่านไปชั่วกัปกัลป์

มันหน่วง ลึก แน่น แล้วก็เจ็บจนต้องลืมหายใจ แต่น้ำตาผมไหลออกมาด้วยความสุข กระเช้าที่เขย่าสั่นตามแรงสะโพกของพี่ไผ่ที่ขโยกใส่ผม ผมเป็นเมียเขาโดยสมบูรณ์แล้ว เขาเร่งจังหวะจากช้าแต่ลึก ไปเป็นเร็วและรัว เหงื่อของเขาหยดลงบนแก้มผม ใกล้มุมปาก ผมตวัดลิ้นไปเลียมัน พี่ไผ่ส่งยิ้ม หูเขาแดง เขาสั่นเทาไปทั้งตัว เป็นผู้ชายที่ร่วมรักและโปรยเสน่ห์ไปในตัวได้อย่างน่าทึ่ง  ผู้ชายที่ใส่ความเป็นชายมาในตัวของผม คนที่เอาหน้าท้องแกร่งมาเบียดบี้ท้องน้อยของผม  ต้นขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเสียดสีไปมากับแก้มก้นของผม ผิวของเราสำผัสกัน เนื้ออุ่นของเขามันช่างเร่าร้อน  เขาพยายามมองว่ากระเช้าอื่นเห็นเราไหม แต่ชายที่เดินอยู่บนยอดเขามีตะกร้าสะพายหลังไว้มองขึ้นมาแล้วเอามีชี้  พี่ไผ่ยิ้มร่าคล้ายคนถูกหวยสามตัวล่าง เขาเพิ่มกำลังขโยกรัวสะโพกใส่ผมแบบไม่ถนอมจนผมครางสุดเสียง เขาเอามือมาปาดเหงื่อที่ใบหน้าของผม  ก่อนจะเอื้อมมือไปกำของผมขยับตามไปด้วย กระเช้าเลยจุดฐานพักอีกแห่งผ่านใต้อาคารเล็กๆ เงาเพดานปกคลุมเราจนมืด
เราไม่ได้สนใจแล้วว่ามีใครมองไหม พี่ไผ่อดอยากมานาน แต่ผมต่างหากที่ต้องการมากกว่า การรักษาตัวที่ยาวนาน ความเป็นชายที่ไม่ได้ใช้และคล้ายจะถูกพรากไปตลอดกาล มันกลับมาอย่างแข็งแกร่ง และตอนนี้ มันอยู่ในกำมือชายที่ผมรัก

กระเช้าลอยผ่านฝ้าเพดานจากมุมที่ผมเห็น แสงสาดเข้ามา กระเช้าค่อยๆไต่สูงขึ้นไปอีกครั้ง อารมณ์ของผมพุ่งขึ้นสูงไปอีกระดับ แก่นกายของผมพร้อมจะระเบิด พี่ไผ่กำมันแน่นพร้อมขยับมันแรงขึ้น พร้อมกับซอยสะโพกเร็วและถี่ขึ้น เราทั้งคู่หายใจหอบแบบที่กำลังจะเข้าเส้นชัย แล้วในที่สุด ผมก็ปล่อยออกตอนที่กระเช้าทะยานถึงจุดสูงสุดของวัน
“อ๊ากกกกกก”   ผมครางเปล่งเสียงลั่น น้ำตาไหลด้วยความสุข

พี่ไผ่ กำของผมแล้วลูบน้ำขาวขุ่นทั้งหมดนั้น มาป้ายใส่ไผ่น้อย ที่เขาเพิ่งถอนออกมาจากกายผม แล้วเอาของเหลวที่เหลือในมือ ป้ายกลับมาที่ร่องของผมจนคราบในมือแห้ง  แล้วใส่แท่งใหญ่นั้นมาอีกครั้ง
“โอ๊ยยยยยยยย”  ผมน้ำตาไหลอีกรอบด้วยความเสียวถึงขีดสุด

พี่ไผ่รัวสะโพกถี่เร็วจนผมตัวสั่นไปหมด เขาลงมาจูบปากผม แล้วสอดลิ้นเข้ามาให้ผมดูดอม  ลิ้นของเขาหวาน ผมตอดแล้วเลียมันไปทั่ว ก่อนจะสอดลิ้นของผมไปให้เขาดูดแลกกัน
ขาของผมถูกยกสูงขึ้นอีก เขาเอามือเท้ากับแผ่นกระจกใสที่พื้นคล้ายกับท่าเตรียมวิดพื้น สะโพกของผมลอยแอ่นขึ้นมา รอยยิ้มที่ไม่จางหาย ส่งสัญญาณว่า เขาเองก็ใกล้แล้ว
เขารัวกดสะโพกลงมาเป็นจังหวะ มันเหมือนหนังเอ็กซ์ในท่ามิชชันนารีที่ผมโปรดปราน โอ๊ยยยย ไอ้บ้า คนอะไรทำผมคลั่ง เขาใส่ผมไม่ยั้งอย่างกับคนที่โหยหา คล้ายชูชกที่ได้โต๊ะจีน  ปากก็ก้มลงมาดูดซอกคอ และเนื้อผมไปทุกส่วน เขาทิ้งสะโพกหนักขึ้น หนักขึ้น ลมหายใจถี่หอบ เหงื่อไหลร่วงใส่หน้าผมเต็มไปหมด ผมผงกหัวขึ้นไปดูดปากเขา แล้วเอื้อมมือไปคล้องคอ 
ก่อนเขาจะกระตุกเกร็งแล้วพ่นน้ำรักมาในตัวผม มันอุ่นร้อนแล้วก็ซาบซ่านกว่าของใครคนไหน ผมก่อนร่างที่ท่วมเหงื่อของเขา เรากอดกันอย่างนั้น พี่ไผ่..  คนกาม ของผม


Flashback : นที คนใต้ถุน

“เร็วสิธนู เดี๋ยวผัวฉันกลับมา” แม่ถอดเสื้อคลุมลงไปกองกับพื้น เผยให้เห็นปทุมถันที่ยังเต่งสาว น้าธนูโจมตีที่คู่อวบตูมนั้นอย่างดูดดื่ม ก่อนจะเปลื้องตัวเองเช่นกัน ผมที่เข้ามานอนเล่นอยู่ใต้เตียงของแม่ ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงเพราะกลัวถูกจับได้ มุมระยะไกล ทำเอาผมเห็นร่างของน้าธนูอย่างชัดเจน  กล้ามเนื้อของเขาแกร่งแน่น สีผิวเข้ม แก่นกายใหญ่โต เขื่องยาว จนกังวลแทนแม่ ได้แต่นอนกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงคออย่างแผ่วเบา

น้าธนูลากแม่มาที่เตียงแล้วบรรเลงกามกิจไม่ยั้ง เตียงที่กระแทกอยู่บนตัวผม สั่นลงมาจนรู้สึกได้ ฟูกมันบี้กับหน้าท้อง ใกล้ทิศทางลมหายใจของผม  เสียงแม่กรีดร้องอย่างเร่าร้อนคู่ไปกับเสียงหายใจหอบของน้าธนู  แล้วความทรงจำก็ดำมืดไป


“ไอ้เด็กไม่มีแม่ไปไหนวะ กูจะได้ไถตังมันซะหน่อย”  เสียงของเด็กข้างบ้านที่ชอบแกล้งผมเป็นประจำลอยมา เขาคงไม่รู้ว่าผมแอบอยู่ในท่อระบายน้ำเก่า ที่ไม่มีน้ำแล้ว ผมเปิดฝา แล้วแอบลงไปเพื่อไม่ให้ใครเห็น โดยเฉพาะเด็กในโครงการหมู่บ้าน ที่ชอบล้อเรื่องที่แม่ผมหนีไปกับผู้ชาย
มีคนเดียวที่มักตามหาผมเจอ แล้วก็ดึงผมขึ้นมา คือเด็กรุ่นพี่บ้านติดกัน ที่แสนจะเข้าอกเข้าใจผมอยู่เสมอ

“ไอ้ลูกไม่มีแม่ไปไหนวะ เห็นแว๊บๆ กูจะเตะมันหน่อย คันตีน” เด็กกลุ่มเดิมที่นั่งบนศาลาเรือนไทย ซึ่งโครงการหมู่บ้านทำไว้ให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อน พวกมันนั่งกันอยู่อย่างนั้นจนนานแสนนานไม่มีทีท่าว่าจะกลับ
ผมที่เห็นพวกมันเดินมาแต่ไกล ก็ได้แต่มานั่งหลบที่ใต้ถุนเป็นประจำ ยุงก็เยอะ น้ำขังแสนเหม็น พงหญ้าแสนคัน ไม่รวมถึงความกลัวงู กลัวกิ้งกือที่ฝังในใจ เด็กกลุ่มเดิมที่ฉี่ใส่พื้นแล้วทะลุกระเซ็นลงมาโดนหัวผมบ้าง  ไหนจะน้ำลายที่พวกมันบ้วน ไม่รวมถึงขยะที่มันปาทิ้งลงมา ผมก็ยังคงหลบพวกมันอยู่ตรงนี้
แล้วเขาคนเดิม เด็กรุ่นพี่คนดี ที่มาไล่พวกมันไป พอเด็กกลุ่มนั้นจากไป เขาก็เอื้อมตัวลงมายังที่ซ่อนของผมอย่างรู้ใจ
พี่ไผ่ ส่งมือมาด้านล่าง ให้ผมคว้าไว้
“อยู่มัวแต่อยู่ข้างล่างเลยนะน้ำ มาอยู่ในที่สูง จงอยู่เหนือทุกคน”




Wishdom Path : ทางเดินแห่งปรัชญา

ผมซึ่งขาแทบลาก ไม่ใช่เพราะแค่จากการเดินลงจากกระเช้ามาขึ้นบรรไดที่สูงลิบเพื่อไหว้พระใหญ่ เทียนถาน [ Tian Tan ] แต่เพราะมันถูกยกละอ้ากว่ายี่สิบนาที คนอะไรอึดชิบหาย  เราใส่เสื้อผ้ากันแทบไม่ทันตอนกระเช้าจอด เจ้าหน้าที่มองหาร่องรอยพิรุธหรือเปล่า มีกล้องวงจรปิดหรือเปล่านะ เราลืมคิดไปเลย อารมณ์มันพาไป คนหนึ่งก็กำลังตื่นเต้นที่สูง อีกคนก็กำลังเริงร่ากับกระจกใสโล่ง มันช่างเป็นยี่สิบห้านาทีที่ไม่รู้ลืม

ผมต้องเดินขมิบไม่ให้ของเหลวที่อยู่ในตัวซึ่งพี่ไผ่ฝากไว้ไหลออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อชำระความโสมมของเราสอง ดีนะที่คนฮ่องกงใช้ฝักบัวชำระเหมือนคนไทย ทุกอย่างเลยง่ายขึ้น  นี่ผมก็ทำความสะอาดพอประมาณ แต่พี่ไผ่ไม่แคร์ เดินกอดเดินหอมผมไปอย่างนั้น  “เห่อเมีย” เขาบอก 

หลังจากไหว้พระ เราก็เดินมาที่ป้าย Wishdom Path เดินไปทางนี้ จะเป็นทางเดินแห่งปรัชญา  ผมไม่เคยไป แต่อ่านจากคู่มือท่องเที่ยว ห่างจากพระใหญ่ไปสิบห้านาทีเอง เราสองคนเลยลองเดินไปชม  ข้างทางมีบ้านผู้คนโบราณอาศัย เป็นเหมือนร้านค้าที่เคยเจริญแล้วร้างลาไป  คิดว่านักท่องเที่ยวเฉยเมยกับงานศิลปะ เลยมีจุดหมายสิ้นสุดที่พระใหญ่ลันเตา แต่ไม่เดินมาถึงตรงนี้  จนผมพบกับซุ้มประตูใหญ่ โอ้โห ก็สวยงามไม่น้อย  มีวัวสามสี่ตัวกำลังกินหญ้า  มีแม่ชีชุดเทาแบบหลวงจีนโบราณกำลังนั่งสมาธิบนเก้าอี้ไม้ไกลออกไป  ตรงหน้า เป็นเสาไม้ทรงแบน ตั้งปักเรียงห่างกันเป็นรูป เลขแปด มีอักษรจีนปักไว้ มีเท่านี้จริงๆ กับ สิบห้านาทีที่เดินมา   
เราจึงเดินถ่ายรูปแล้วก็สำรวจงานศิลปะนี้อยู่สักพัก  มองลงไปที่เวิ้งหุบเขาเบื้องล่างก็พบว่า เราขึ้นมาสูงเหลือเกิน
สูงแค่ไหนน่ะเหรอ  สูงพอที่จะทำอารมณ์ของผมครุกรุ่นอีกครั้ง

เอ๊ะ..  ตับผมคงหายดีแล้ว

ไอ้พี่ไผ่ไม่ต้องพูดถึง เหลือบไปมองแม่ชีที่นั่งสมาธิซึ่งอยู่ห่างไปสองร้อยเมตรได้ หันมายักคิ้ว ไอ้ห่า.. นี่เขตวัดนะโว้ย
แต่ผมเองก็เลวพอที่จะไม่ปฏิเสธ  ผมเลยส่งสัญญาณให้เขาเดินไปที่เสาไม้สุดท้าย ที่อยู่ตรงเชิงหน้าผา วิวมันดีเหลือเกิน สูงแล้วก็เขย่าผมจนเสียวซ่าน  พี่ไผ่ดันตัวผมให้หลังชิดกับแผ่นไม้นั้น เขี่ยกางเกงผมลงพื้น ยกขาข้างหนึ่งผมขึ้นมา เราดูดปากกันครู่เดียว ผมรู้สึกตัวอีกที เขาก็ยัดของเขาเข้ามาแล้ว แม่น และตรงเข้ามาอย่างหนักหน่วง เขาเร่งจังหวะสลับกับหันไปทางแม่ชีที่กำลังนั่งสมาธิเข้าระดับฌานเลยกระมัง ถึงได้ไม่ลืมตามมาดูคู่เรา โอยย.. พี่ไผ่ ทำไมมึงเร่าร้อนขนาดนี้

ผมเองก็ต้องถึงกับโอบมือไปด้านหลังเพื่อเกาะยึดแผ่นไม้นั้น แรงกระแทกจากสะโพกทำเอาผมยืนแทบไม่อยู่ แต่เพราะพี่ไผ่มีมัดกล้ามมากพอ อานิสงส์ของการเปิดฟิตเนส  เขาแบกขาผมไว้ด้วยมัดกล้ามนั้น สะโพกที่ถูกถลกกางเกงลงไป มันเบียดใส่หน้าขาผมเป็นจังหวะ แล้วเขาก็ถอนออกมาระเบิดข้างนอกเพราะกลัวผมเลอะ น้ำขาวขุ่นปริมาณไม่น้อยพ่นไปใส่แผ่นปฏิมากรรมศิลปะที่ผมพิงเมื่อสักครู่  จะว่าเป็นการลบหลู่หรือเปล่า  ตายล่ะสิ..   


วันรุ่งขึ้นเราไปดิสนีย์แลนด์ เพื่อปลดปล่อยความอิสระในใจ  แต่แล้วก็พบว่าไม่ใช่กิจกรรมที่เหมาะกับเรา 
อาจจะเพลียด้วย เพราะพี่ไผ่ถล่มผมทั้งคืน ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ เอาเป็นว่าค่อนข้างชอบ
มันก็ไม่ได้ถึงกับหนักหน่วง แต่ก็มีระบม เพราะของพี่ไผ่มันใหญ่อยู่ เขาแม้จะคล้ายว่าถนอม แต่ก็ย่ำยีอยู่ทั้งคืน
ผมเองก็พยายามกินให้เยอะเพื่อโด๊ปเข้าไว้ เพราะไม่รู้ว่าต้องเจออะไรอีกตลอดทริปที่เหลือ
ดิสนีย์แลนด์แสนใสจึงไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้ผุดผ่องแบบนั้น 
วัดยังไม่ร้อนเท่านี้ เสียงหัวเราะของเด็กน้อย กับรอยยิ้มต่างหาก ไม่เหมาะกับเราเลย
เราเลือกที่จะปิดทริปด้วย The Peak Tower แทนในค่ำนี้


The Peak Tower

จุดชมวิวยอดเขาระดับโลก มีระเบียง Sky Terrace 428 อยู่ และตรงนี้เอง วิวพาโนรามาอันเลื่องชื่อ
มันยากนะ ที่จะขึ้นมามีอะไรบนนี้ ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้สำเร็จ เลยคิดว่า ขึ้นมาจูบกัน แล้วใช้เวลาบนนี้สักพัก ก็พอแล้ว คงเป็นทริปแห่งความทรงจำ 
ระหว่างทางขึ้น ด้วยรถราง Peak Tram คนแน่นมากจนตัวเราที่หันหน้าเข้าหากันต้องเบียดซะหน้าแทบจะจูบกันเลยก็ว่าได้ แล้วเป้าพี่ไผ่ที่อยู่ดีๆ ก็แข็งโป๊กขึ้นมา เสียดสีกับเป้าของผม ผมทำหน้าแบบว่า ทำไมมึงถึงได้หื่นแบบนี้ เขาก็เหมือนเด็กที่โดนดุ แล้วก็พยายามข่มใจไว้ 

เรากะว่าจะทู้อยู่จนใกล้ 5 ทุ่มเพื่อที่จะรอให้คนกลับให้หมดก่อน แต่ปรากฏว่า อยู่ดีๆ ฝนก็ตกหนักคล้ายพายุจะเข้า เล่นเอาคนทุกคนหลบเข้าที่พัก และเตรียมลงรถรางกลับลงไป ทัวร์มีรถบัสมารับ บ้างก็เรียกแท็กซี่ พอคนบางตา เราก็มองตากันเหมือนกับว่าพระเจ้าเต็มใจสินะ

ระเบียง สกาย เทอเรซ 428

เวิ้งพาโนรามาแสนโด่งดังที่ไม่มีคน เป็นไปได้อย่างไรกัน แม้จะมีฝนฟ้ากระหน่ำก็เถิด  แต่ละอองฝนไม่ได้ทำให้วิวของเมืองฮ่องกงสวยน้อยลงไปเลย  วิวทะเล กับตึกที่เปิดไฟสวยงาม อ่าววิคตอเรีย ไหนจะเรือที่ล่องไปมา ผมคึกคักถึงขีดสุด ไม่ต้องพูดถึงพี่ไผ่ที่ยิ้มหวานมีเลศนัยแบบไม่ต้องเดาได้ มันคงเกิดปีกระต่ายที่พร้อมจะซอยได้ไม่หยุดหย่อน
เรามองซ้ายมองขวา แล้วพากันไปมุมที่ลับตาที่สุด ผมเอามือทั้งสองข้างจับราวระเบียงแน่น พี่ไผ่ถลกกางเกงผมลงไป แล้วรีบมาประกบ คนอะไร ตื่นตัวได้รวดเร็วดั่งใจนึก เขาส่งมันเข้ามา ผมยิ้มร่าหลับตาปี๋ สูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะลืมตามาอีกที เพื่อเสพวิวที่อยู่ตรงหน้า 
ผมที่ขึ้นมาในที่สูงกว่าใคร กับชายที่ตัวเองรัก  มองลงไปเบื้องล่างที่บรรจุเรื่องราวของผมไว้มากมาย ลมโชยมาตีหน้า กับน้ำฝนกระหน่ำ ฟ้าที่ร้องคำราม  พี่ไผ่เอื้อมมีผมกำของผมแล้วสาวมือเป็นจังหวะ เราหมายจะเสร็จพร้อมกันในค่ำคืนที่สมบูรณ์ของคนใจซกมกคู่นี้ 

ประตูระเบียงถูกเปิดออก  ฝรั่งในชุดยามเดินเข้ามา  พี่ไผ่ยังไม่ถอนมือ และถอดแก่นกายของเขาออกจากตัวผม  ฝรั่งคนนั้นหันซ้ายหันขวามองว่าไม่มีใคร หันมาขยิบตาให้คนที่ยังฝังเอ็นแข็งอยู่ในตัวของผม  ก่อนที่เขาจะพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งพี่ไผ่แปลให้ผมฟังทีหลังว่า
“คุณต้องรีบนะ มร.ต้นไผ่  ผมจะดูต้นทางให้..    ว่าแต่คุณยังเด็ดเหมือนเดิมเลย ผมเป็นแฟนคลับของคุณ”
เจ้าหน้าที่ผมทองในเอเชียตะวันออก เดินจากไปประจำที่ประตูทางเข้าเผื่อเฝ้ายามให้เรา

พี่ไผ่เหวี่ยงผมไปเกาะที่ระเบียงเหมือนเดิม ก่อนเราทั้งคู่จะระเบิดอารมณ์แบบไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น
ผมเก็บภาพเบื้องหน้าใส่ความทรงจำเอาไว้  เอื้อมมือโอบกอดตัวเองอย่างเร่าร้อนแล้วนึกถึงขวบปีที่ผ่านมา 
ดวงตาก็มองไปที่ท้องนภาตรงหน้า  สลับกับตึกรามบ้านช่องที่อยู่เบื้องล่าง

ทั้งความโง่เขลา และความบ้า ซึ่งไม่ได้น้อยไปกว่าสิ่งที่ทำอยู่นี่
น้องกันต์ ผู้กอง พี่กร พี่อำนาจ ไอ้เอ..  แล้วก็ยังมี เพื่อนพ้องและครอบครัวที่ผ่านอะไรมาด้วยกัน
ผมได้น้องต่างบิดามาเพิ่ม  แล้วก็กำลังจะได้แม่ใหม่
มีเรื่องร้าย มีความหวังใหม่ แล้วก็ได้รับกำลังใจ
เหนือสิ่งอื่นใด ผมต้องขอบคุณออกัส เขาคือ กามเทพของผม
เขานำพาให้ผมมาเจอทุกคน ได้ใช้เวลากับเพื่อนพ้องและครอบครัว
สำคัญที่สุด เขาทำให้ผมมีคนนี้ คนที่กำลังสอดใส่และทะลวงผมอย่างบ้าคลั่ง แล้วผมก็หลงใหลเขาจะแย่

สัญญาว่ากลับไทย เราคงไม่ทำอะไรห่ามกันแบบนี้  ก็คนมีงานมีการทำกันนะโว้ย
แต่ก็ขอบคุณ ขอบคุณเหลือเกิน 
For the good time..
For the bad   time...
ขอบคุณพี่ที่อยู่กับผมเสมอนะพี่ไผ่..
ไม่สิ..  พี่กำลังอยู่ในตัวผม.. โอ๊ยยยย เมื่อไหร่จะเสร็จ

END -

ขอบคุณค่ะ สนุกมาก  :hao5:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 28-06-2019 03:30:15
มันเรียลมากกกกและได้ข้อคิดเยอะมากกก เราชอบและประทับใจมากกมันไม่ใช่นิยายกามๆเฉยๆแบบที่คิดตอนแรกเลยแต่มันมีเนื้อหาสาระที่ดีมาก คือมันสอดแทรกข้อคิดแบบสอนหลายๆเรื่องไปในตัวในทุกอย่าง คำว่ารักนิยามได้หลายรูปแบบมาก ขึ้นกับว่าเงื่อนไขของสองคนจะตรงกันไหม เรานับถือพ่อของน้ำมากที่สุดคุณคือสุดยอดมาก นิยายดีมากค่ะเราประทับใจทุกตัวอักษร  :mew1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 15-10-2019 13:54:59
ตามมาจากเรื่องสั้น เสวนาในบาร์เบอร์นะคะ

อยากบอกว่าเรื่องนี้ สุดติ่งกระดิ่งแมวมากค่ะ
เส้นเรื่องเข้มข้น แถมยังมีฉากซึ้งหลายอัน
มีพิมพ์ผิดอยู่หลายจุด แต่ถ้าได้ออกเล่ม (มั่นใจว่านิยายระดับนี้ต้องได้ออกค่ะ)
คงมีการแก้คำผิด

อยากให้คู่รองมีบทบาทมากขึ้นในตอนพิเศษ
รักพี่อำนาจเฉยเลย
ตอนแรกไม่ชอบออกัสนะคะ แต่ลึกๆ แล้วคิดว่า ออกัสก็แค่คนเหงา
น้ำเองก็มีความทะลึ่งตึงตังปล่อยตัวมากเกินไป
แต่พอบทสรุปสุดท้ายเป็นแบบนี้
มันสมบูรณ์ในตัวมันเองค่ะ

จะติดตามเรื่องอื่นนะคะ แอบเห็นคนเขียนไปโพสต์นิยายชายหญิง
อย่างเพิ่งถอดใจนิยายวายนะคะ
ถึงพวกเราเป็นผู้อ่านเฉพาะกลุ่ม แต่พวกเราอินมากค่ะ อิ อิ

จะติดตามค่ะ   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 08-11-2019 17:42:47
รักนิยายเรื่องนี้มากค่ะ  :3123:

สารภาพเลยว่า นึกว่าจะวาบหวิวเป็นจุดขายหลัก

แต่ที่แท้ เนื้อหามันประทับใจมาก

ชอบคุณพ่อมาก ฉากบนรถตู้ที่เล่าความหลังคือที่สุด  :hao5:


พี่อำนาจก็ชวนจิ้นมากกกกก   :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: DekPed ที่ 13-12-2019 20:06:01

ขอบคุณมากค่ะ ตามมาจากเรื่องสั้น หมอนวดชาย ชอบชุดภาษาที่ใช้ไม่วัยรุ่นเกินไป พล็อตกินใจมาก ขอบคุณค่ะ  ปล.ชอบพี่อำนาจกับคุณพ่อเป็นพิเศษ ปกติไม่ค่อยล็อคอินมาเม้นต์นะคะ แค่อยากมาให้กำลังใจนักเขียน จะรอเรื่องต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 21:00:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ เปิดจอง และของแถมรอบพรี ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 26-07-2020 12:35:31
http://www.bookishhouse.com/product/83

ตอนพิเศษ

1. interracial love & uniform เป็นเรื่องของ พี่อำนาจกับเอ
2. คำสั่งเสียของอากง
3. kiss and lips  เป็นตอนของ อุทิศ ซึ่งจะมีเฉพาะ ของแถม ฉบับ A6 รอบพรีออเดอร์
4. คนราศีสิงห์  เป็นตอนของออกัส  ซึ่งนางผ่านอะไรมา และ กำลังจะไปทิศไทย
5. ทางเดินแห่งอนาคต


สำหรับ หนังสือ และ อีบุ๊คนั้น
มีการรีไรต์ใหม่ โดยเฉพาะชื่อบุคคุล ที่ไปอ้างอิง หรือ พาดพิงคนที่มีตัวตน
จะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

ขอบพระคุณทุกท่านที่ส่งข้อความมาหา หรือตามไปคุยในเพจ

ช่วงนี้ไปเขียน ชาย หญิง อยู่ กำลังส่งที่สำนักพิมพ์
เคลียร์เสร็จจะกลับมาปล่อย วาย ต่อ อีกสองเรื่อง
เขียนเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ รีไรต์

ขอบพระคุณที่ติดตามนะคะ รักหมดใจ

โทฟุจัง

หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 28-07-2020 14:05:03
 รายละเอียดการจองค่ะ

 
http://www.bookishhouse.com/product/83
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ ตอนพิเศษ และ ของแถมพรีออเดอร์ ]
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 29-07-2020 01:07:27
อ่านแล้วคือแบบแซ่บมากกกกกก
พริกร้อยเม็ด สนุกดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ
จะตามอ่านทุกเรื่องเลยค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : Cuckold Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 01-08-2020 02:49:10

แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง พ่อก็พร้อมที่จะปล่อยทุกอย่างไป  เงินก้อนหนึ่งถูกมอบให้ทั้งคู่ได้ดูแลกันและกัน
 
ในตอนแรกบอกเอาไว้ว่าแม่รวยมาก อย่างนี้
"พ่อของผมไม่ใช่มาเฟีย  แต่ว่าท่านเป็นนายทหารใหญ่  เรียกได้ว่าใหญ่มาก จนนักการเมืองต้องมายืมเงินกันบ่อยตอนเลือกตั้ง  ถามว่า ท่านรวยมาจากไหน  รวยมาจากบ้านฝั่งคุณแม่ผมครับ  เพียงแต่ แม่ไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว"
ตกลงแม่จนหรือแม่รวยอ่ะ
หัวข้อ: Re: His Dears Hunter : ภารกิจพิชิตชายชู้ [ Prep 16 : Cuckold Style คนกองหนุน ]
เริ่มหัวข้อโดย: TofuChan ที่ 04-08-2020 22:37:02

แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง พ่อก็พร้อมที่จะปล่อยทุกอย่างไป  เงินก้อนหนึ่งถูกมอบให้ทั้งคู่ได้ดูแลกันและกัน
 
ในตอนแรกบอกเอาไว้ว่าแม่รวยมาก อย่างนี้
"พ่อของผมไม่ใช่มาเฟีย  แต่ว่าท่านเป็นนายทหารใหญ่  เรียกได้ว่าใหญ่มาก จนนักการเมืองต้องมายืมเงินกันบ่อยตอนเลือกตั้ง  ถามว่า ท่านรวยมาจากไหน  รวยมาจากบ้านฝั่งคุณแม่ผมครับ  เพียงแต่ แม่ไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว"
ตกลงแม่จนหรือแม่รวยอ่ะ

มีสิทธิการค้า ในฝั่งบ้านพ่อตาค่ะ แล้วต่อยอด
ตอนแรกมีตอนพิเศษสมัยหนุามสาว
ปัญหาคือ กองบรรณาธิการมองว่า
ควรมีแต่ คู่วาย เลยตัดออกไปค่ะ