พิมพ์หน้านี้ - “•” -- ขอได้ไหม .. จะรักนายอีกครั้ง --“•”
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: centinel ที่ 14-07-2007 11:45:33
-
เรื่องราวเด็กมหาวิทยาลัย เรื่องราวบางส่วนที่นำมาจากชีวิตจริง
... ไม่อยากเก็บความคิดและความรู้สึกดีๆ ไว้กับตัวเอง
อย่างน้อยก็ขอบรรยายลงในพื้นที่ของเวบบอร์ดดีๆ แห่งนี้ อิอิ
เผื่อมีใครผ่านเข้ามาอ่าน.. ก็อาจจะได้รับความรู้สึกดีๆออกไป :m4:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 1
" อีกะเทยน้อย.. มาซื้ออะไรยะ " เสียงแว๊ดๆ ของยายแก่ชาวบ้าน
" ว๊าย .. กะเทย " ยายแก่ยังพ่นน้ำหมากไม่หยุด ไม่มีเสียงอะไรที่ดัดจริตได้น่าเกลียดไปกว่านี้อีกแล้ว
เสียงนั่นทำให้โอ๋ต้องก้มหน้าเศร้า เดินมาออกพร้อมกับถุงกับข้าว
การเป็นลูกครูผู้มีหน้ามีตาในหมู่บ้าน มันทำให้กลายเป็นจุดสนใจของชาวบ้าน
โดยเฉพาะลักษณะคล้ายผู้หญิงที่ติดตัวโอ๋มาตั้งแต่เกิด
และคำพูดแสบๆ อย่างแม่ค้าปากตลาดแบบนี้ ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเป็น "ยายตี้"
ถึงแม้แกจะเลิกขายของในตลาดแล้วก็ตาม แต่แกก็ยังปากตลาดเหมือนเดิม
ใจจริงโอ๋ก็อยากตะโกนเถียงออกไปดังๆ ว่า ' อีแก่มึงอย่ามายุ่งกะกู!! '
โอ๋ไม่อยากมาซื้อกับข้าวร้านนี้ก็เพราะยายแก่ข้างร้านนี่แหละ ที่คอยถากถางเด็กที่ยังไม่รู้จักรักใคร่
ยังไม่รู้จักชอบผู้หญิงหรือชอบผู้ชาย แต่นั่นก็คงเป็นท่าทางกระตุ้งกระติ้งของโอ๋เองกระมัง
ยิ่งโตเท่าไหร่โอ๋ยิ่งถูกล้อเลียนแบบนี้บ่อยขึ้น แต่โอ๋ก็เลือกที่ใช้ความอดทนมากกว่าการตอบโต้กลับไป
โอ๋กลับมาถึงบ้านพร้อมถงุกับข้าว 2-3 อย่าง และเข้าครัวไปเตรียมสำรับกับข้าวช่วยแม่ แล้วยกมาตรงที่พ่อนั่งรออยู่แล้ว
พ่อของโอ๋ บุคคลที่ยืนอยู่บนคำยอของคนอื่น โดยเฉพาะคนนอกบ้าน
พักหลังพ่อเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างกับคำพูดของชาวบ้านที่ว่า ' ได้ลูกชายคนเดียวดันเป็นกะเทย '
แล้วมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อขายหน้าได้มากอยู่
คำพูดจากปากพ่อคำแรกพร้อม ๆ กับข้าวคำแรกที่โอ๋กำลังเคี้ยวอยู่
" ถ้ามึงเป็นกะเทยเหมือนที่ชาวบ้านเขาว่ากัน มึงไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้แน่ "
โอ๋แทบกลืนข้าวคำนั้นไม่ลง และเป็นข้าวคำเดียวที่ทำให้รู้สึกอิ่ม
ด้วยการเลี้ยงดูแบบที่เรียกได้ว่าจับขาให้เดินตามเส้นที่ขีดไว้แล้วที่ทำให้โอ๋ไม่กล้าโต้แย้งอะไรออกไป
คำพูดของพ่อนั้นถือเป็นการจบ และการตอบโต้กลับไปถือเป็นการโง่ที่สุด
บรรยายกาศการทานข้าวเย็นมื้อนี้เงียบงัน ไม่มีเสียงสนทนาของน้องสาวอีกสองคนแม้แต่น้อย
และโอ๋ก็ต้องรับบทลูกที่ต้องนั่งทานข้าวเย็นมื้อนี้ต่อไปอย่างปกติที่สุด ทั้งที่ข้าวแต่ละคำมันกลืนแทบไม่ลง
ทำไมชาวบ้านถึงมีอิทธิพลต่อความเป็นไปของบ้านหลังนี้เสียจริงนะ
ก็คงเป็นเพราะผู้นำครอบครัวกระมัง บริบทแห่งชีวิตในวัยเด็กของพ่อที่โอ๋เองก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่า
อะไรที่ทำให้พ่อกลายเป็นคนที่ตัดสินใจด้วยคำวิพากย์วิจารณ์ของคนอื่น โดยเฉพาะคนนอกบ้าน
แทนที่จะคิดและตัดสินเรื่องของตัวเองและครอบครัว ด้วยความคิดของตัวเอง
ครอบครัวที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์แบบ การโต้เถียงของพ่อกับแม่ที่เกิดขึ้นในเกือบทุกวัน
มันงี่เง่ามากที่พ่อแม่เถียงกันแบบนั้น โอ๋ไม่รู้หรอกว่า ทำไมพ่อแม่ถึงไม่สามารถเคลียร์ปัญหาที่โอ๋ก็ยังไม่เข้าใจได้ซักที
การพูดกันตรงๆ บอกกันตรงๆ มันช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นได้แน่นอน
" ไอ้โอ๋! มึงอ่านหนังสือ.. ไม่ใช่นั่งเหม่อโว้ย " เด็กหนุ่มคนหนึ่งพยายามตะโกนใส่หูเพื่อนแบบเงียบๆ
" เออๆ ขอบใจอาร์ต กูกำลังง่วงอยู่พอดี " หนุ่มน้อยแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ตามเคย
โอ๋ไม่ได้ง่วงหรอก แต่เวลาที่ทำอะไรเงียบๆ คนเดียว โดยเฉพาะเวลาที่อ่านหนังสือ
เรื่องที่ไม่ดีตั้งแต่ก่อนเก่ามันชอบวิ่งเข้ามาในหัวทุกที
" เอ่อ อาร์ต กูขอนอนซักงีบได้ป่าววะ ง่วงจริงๆ " โอ๋ขอคำอนุญาติจากเพื่อนที่สนิดที่สุด
" อ่าว ไอ้เวร ก็แล้วแต่มึง .. มึงไม่อ่านก็ทำข้อสอบได้อยู่แล้วหนิ " เป็นคำพูดประชัดประชันของอาร์ตที่เป็นความจริง
โอ๋เป็นคนมีสมาธิสูงในช่วงเลคเชอร์ แต่ติดตรงที่เป็นคนขี้เกียจ โอ๋ไม่ค่อยตั้งใจอ่านหนังสือก่อนสอบนักหรอก
แต่ถ้าหากโอ๋ใสใจกับการอ่านหนังสือมากกว่านี้ก็อาจจะเป็นคนที่เก่งที่สุดในชั้นเรียนเลยก็ได้
แล้วโอ๋ก็ฟุบลงกับหน้าหนังสือที่ยังเปิดค้างไว้อยู่ ปล่อยให้อาร์ตอ่านหนังสือคนเดียวต่อไป
" เอ่อ... กูก็ง่วงเหมือนกัน " ซักพักอาร์ตก็บ่นงึมงัมกับตัวเอง
กดโทรศัพท์ตั้งปลุกไว้ที่ ตี 2 นับไปอีก 1 ชั่วโมงจากเวลานี้ แล้วก็ฟุบลงไปกับหนังสือวิชาอีกคน
เด็กมหาวิทยาลัยสองคนที่นอนฟุบแข่งกันน้ำลายยืด กับอีกหลายๆ คนที่ยังคงอ่านหนังสือต่อไปภายในโรงอาหารคณะ
แล้วไอ้โอ๋ กะไอ้อาร์ต มันจะเรียนจบกับเขาไหมน้า.. เฮ้อ..
และเวลา 1 ชั่วโมงมันก็ช่างสั้นเหลือเกิน
" ตื้ด ตื้ด ตื้ด ... ... ตื้ด ตื้ด ตื้ด ... ... " เจ้าของโทรศัพท์ที่ปลุกด้วยเสียงระดับดังสุดยังไม่ตื่น
แต่คนนั่งโต๊ะข้างๆ ที่กำลังอ่านหนังสืออย่างมีสมาธิเริ่มแสดงอาการหงุดหงิด
สายตาทุกคู่ที่อยู่ในโรงอาหาร มองมาที่โต๊ะของอาร์ตกับโอ๋อย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
" เอ่อ ทะ โทษครับ " ไม่นานนักอาร์ตก็ลนลานทั้งที่ยังลืมตาขึ้นไม่หมด
มือหนึ่งควานหาโทรศัพท์พร้อมกดปิด อีกมือหนึ่งปาดน้ำลายที่เยิ้มเป็นวงอยู่ข้างแก้ม
แล้วทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ ทุกคนกลับไปมีสมาธิกับการอ่านหนังสือเหมือนเดิม
อาร์ตตั้งสติและบิดขี้เกียจอย่างมีความสุขมากเป็นพิเศษ
ทุกครั้งที่อาร์ตได้ออกมาอ่านหนังสือกับโอ๋
ซึ่งมีโอกาสเทอมละครั้งเท่านั้นที่เขาจะได้แอบนั่งมองโอ๋ตอนหลับ ทั้งที่บางทีโอ๋มีจะน้ำลายเยิ้มอาบแก้มก็ตาม
" มึงน่ารักจริงๆ ไอ้โอ๋ " อาร์ตเคลิบเคลิ้มจนหลุดปากพูดอย่างลืมตัว
แต่โอ๋คงไม่ยินหรอก ขนาดเสียงปลุกดังขนาดคนทั้งโรงอาหารได้ยินโอ๋ก็ยังไม่สะดุงสะเทือน
" อื้มมม ... " โอ๋ครางเหมือนเด็กที่กำลังจะตื่นนอน แล้วทำปากแจ๊บๆ ดูน่ารัก ดีที่ไม่มีน้ำลายยืด
แต่จริงๆ ไม่ใช่หรอก น้ำลายมาแห้งไปแล้วส่วนหนึ่ง สังเกตุได้จากหนังสือที่เปียกเป็นวงเล็กๆ
พอรู้สึกตัวได้ โอ๋รีบก้มดูหนังสือที่รองแก้มตัวเอง และพยายามปิดก่อนที่ไอ้อาร์ตมันจะเห็นเข้า
" กูเห็นละ มึงไม่ต้องปิดหรอก ไอ้ทุเรดนอนน้ำลายเยิ้มเลยมึง " อาร์ตเนียนแบบที่เนียนมาตลอด ที่จริงตัวเองก็ไม่ต่างกัน
" เออๆ มึงอย่าให้กูรู้นะว่ามึงก็เยิ้มเหมือนกัน ปะโธ่ " โอ๋ฟึดฟัดแบบงอนเล็กน้อย
โอ๋ยังคงไม่ชอบการถูกล้อเลียน ไม่สามารถยอมรับกับชีวิตสมัยเด็กที่ถูกล้อเลียนมาตลอดว่าเป็นกะเทย
ถึงแม้โอ๋จะเป็นจริงๆ ก็ตาม แต่โอ๋ก็ไม่ชอบและไม่อยากให้พ่อรู้ว่ายังมีคนที่ล้อว่าโอ๋เป็นกะเทยอยู่
ในขณะที่อาร์ตไม่มีปัญหาเหล่านั้นเลย แต่อาร์ตก็ไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเอง
เหมือนกับอาร์ตไม่ยอมรับตัวเองว่าชอบเพื่อนมากกว่าการเป็นเพื่อน
อาร์ตคิดว่าโอ๋คือเพื่อนแท้และเข้าใจว่ามันคือความรักที่มีให้เพื่อน เพื่อนที่อาร์ตรักมากที่สุดคนหนึ่ง
จะว่าไปตอนนี้ก็ไม่มีเพื่อนคนไหนในมหาวิทยาลัยที่จะมาล้อเลียนว่าโอ๋เป็นกะเทยอีกแล้ว
อาจจะเป็นเพราะที่นี่เป็นสังคมในเมืองมากกว่าบ้านเกิดเมืองนอนที่โอ๋เคยอยู่มาก็เป็นได้
ในมหาวิทยาลัยแทบจะไม่มีใครสนใจใครอยู่แล้ว จะมีก็แต่เพื่อนในภาควิชาเดียวกันที่ยังสงสัยว่าโอ๋เป็นเกย์ เป็นอีแอบ หรือป่าว
โอ๋รู้ใจของตัวเองมาตลอด แต่ความกลัวและเกลียดการถูกล้อว่าเป็นกะเทยมันผลักดันให้โอ๋ต้องปรับปรุงบุคลิก
ให้เป็นแมนได้อย่างที่คนในครอบครัวและใครหลายๆ มั่นใจได้ว่าโอ๋มันไม่ใช่กะเทย
แต่ก็ยังเคลือบแคลงสงสัยในตัวโอ๋อยู่ ซึ่งอาร์ตก็เช่นกันที่ยังคงสงสัยมาตลอดเนื่องจากเหตุผลหลายๆ อย่าง
เช่น โอ๋แทบจะไม่ชายตามองผู้หญิงสวยๆ น่ารักๆ ที่เดินผ่านไปมา ไม่เคยพูดเรื่องผู้หญิงให้อาร์ตฟังเลย
อย่างมากก็แค่อือๆออๆ ด้วยเวลาที่อาร์ตชี้ให้ดูน้องผู้หญิงหน้าตาน่ารักในคณะ
............................................................................................
ในที่สุดการสอบปิดภาคเรียนที่ 2 ก็ดำเนินมาจนถึงวันสุดท้าย
เด็กปี 2 ต่างพากันขมักขะเม่นก้มหน้ามุดหนังสือกับเวลาน้อยนิดก่อนที่จะเข้าห้องสอบ
โอ๋นั่งอ่านหนังสือเพื่อเก็บรายละเอียดด้วยคำจำระยะสั้นซึ่งทำให้เขาทำคะแนนสอบได้ดีกว่าใช้ความจำระยะยาว
มีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในชั้นปีเดียวกันที่วันนี้อยู่ๆ มันก็เดินเข้ามาถามเอาดื้อๆ ว่า
" โอ๋!! แกชอบผู้ชายด้วยกันหรือป่าว!! " โอ๋เงยหน้าขึ้นและตกใจนิดๆ ..ถึงเวลาที่จะต้องใช้ความเนียนเพื่อเอาตัวรอดแล้ว
" 5555 แกจะบ้าเหรอ ... กูไม่ใช่อีแอบนะปุ๊ก ถ้าอยากรู้ก็พิสูจน์ดูได้นะ ไม่คิดตังค์ " โอ๋ยิ้มไปพูดไป
ทำให้เพื่อนๆ บางคนที่ได้ยินอดหัวเราะไม่ได้ .. แล้วโอ๋ก็ก้มหน้ามุดหนังสือต่อไป
" อีก 15 นาทีบ่ายโมงจ้าา ทุกท่านค้าา ขึ้นไปรอสอบวิชาสุดท้ายได้แล้วค้าา "
เสียงตะโกนน่ารักๆ ของยัยแอ้นต์(ant)คนเก่ง หัวหน้าห้อง มีความรับผิดชอบสูง น่ารัก นิสัยดี ตัวเล็กๆ
เวลาไปไหนมาไหนหล่อนไม่เคยเดิน หล่อนวิ่งตลอด วิ่งด้วยท่าทางร่าเริงๆ ของหล่อนนั่นแหละ
ร่าเริงสดใสตลอด แต่หน้ามันไม่สดใสเท่าไหร่ ใช้โฟมหรือโลชั่นอะไรสิวก็ยังผุดเหมือนเดิม
คนๆ นี้เพื่อนทุกคนในห้องจะรักมาก เพราะว่าหล่อนเป็นคนคอยถ่ายเอกสารบทเรียนของอาจารย์ทุกท่านแจกเพื่อนและเก็บตังค์อย่างไม่มีตกหล่น
คือถ้าไม่มีแอ้นต์ทุกคนก็อาจจะเรียนไม่จบ - -* ว่าไปนั่น
" ไปไอ้โอ๋ .. มึงต้องให้กูลอกด้วย วิชาสุดท้ายแล้ว " ถึงแม้อาร์ตจะพูดแบบนั้น แต่อาร์ตไม่เคยคิดที่จะลอกโอ๋จริงๆ เลย
อาร์ตเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ก็ทำทีแกล้งพูดไปอย่างนั้นแหละ
" อืมๆ " โอ๋ยังก้มหน้าดูดเอาตัวหนังสือเข้าหัวด้วยความจำระยะสั้นเพื่อใช้เฉพาะกิจในการสอบ
" ไปได้แล้วมึง " อาร์ตดึงศอกโอ๋ลากขึ้นไปชั้นบน ทิ้งให้พวกผู้หญิงที่เหลือ 4 - 5 คน ซุบซิบกันในประเด็นอาร์ตกะโอ๋เป็นคู่ขากัน
" ฉันว่าเหมือนแฟนเลยอะเธอ "
" ฉันก็ว่างั้น "
" มันเป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ ..ไม่อยากจะเชื่อ โอ๋มันหน้าตาดีนะฉันแอบกรี๊ดมันอยู่เนี๊ยะ " เพื่อนชะนีนางหนึ่งแสดงตัวว่าแอบชอบเพื่อนตัวเอง
" แย่จังเลยเนอะ ผู้ชายคณะเรายิ่งน้อยๆ แล้วมาชอบกันเองแบบนี้ "
" เฮ้อออ .. !! " แล้วทั้งหมดถอยหายใจพร้อมๆ กัน
" นี่ แม่ 5 สาว เบบี้วอกซ์ อาจารย์เรียกแล้ว เรววๆ " ยัยแอ้นต์ตามจิกเพื่อนทุกคนครบถ้วน ไม่เหลือแม้แต่ 5 สาว CNN ประจำห้อง
" จ้าาา ... " แล้ว 5 สาวก็คว้าอุปกรณ์การสอบรีบวิ่งตามกันไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
-
:impress2: ในที่สุดก็มาลงแล้วนะคับ
มาตัดริบบิ้นรอเลยครับ อิอิ
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
-
ดีใจๆๆๆๆๆๆๆ :m4:
นึกว่าจะไม่ได้อ่านเรื่องนี้อีกแล้ว แล้วจะมาต่อจากตอนที่ค้างไว้หรือป่าวหว่า :confuse:
แต่ยังไงก็ดีใจ :m4:
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
:m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
มาอ่านด้วย :m13:
-
เย้ :m11: มาแล้วๆ ยังไม่ได้อ่านแต่มาลงชื่อไว้ก่อนด้วยความดีใจ :m3:
ได้อ่านแย้ว ขอบคุณคนเขียน คนโพสท์ มั่กๆนะจ้ะ :m3:
-
:m9: ตามมาอ่านเหมือนกัน น้องเอซบอกว่าหนุก :m13:
-
มาเป็นกำลังใจให้เช่นกันจ้า
:m11:
-
ตามมาอ่านด้วยคนจ้า :m11: :m11: :m11:
-
และแล้วก็ถึงเวลา ที่จะได้อ่านต่อสักที อิอิ
แล้วอย่า แอบหนีหายไปอีกนะ พี่ Centinel
-
ตามอ่านเรื่องใหม่จ้า เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ :m4:
-
อ่านตอนแรกก็เริ่มสนุกแล้วคร้าบ.....
งั้นขอตามอ่านด้วยคนน้า.....อิอิ........
-
หนุกๆๆๆๆ :impress: :impress:
จะรออ่านต่อนะจร๊า ขอมารอด้วยคน :m3: :m3:
-
ชอบครับลงเยอะๆเลย :m13:
-
:impress2: ในที่สุดก็มาลงแล้วนะคับ
มาตัดริบบิ้นรอเลยครับ อิอิ
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
และแล้วก็ถึงเวลา ที่จะได้อ่านต่อสักที อิอิ
แล้วอย่า แอบหนีหายไปอีกนะ พี่ Centinel
อิอิ ฉานกลับมาแระ กั๊กๆๆ
:m7: << ไอ้ลิงน้อยนี่มันน่ารักจริงๆ อะ
ขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่ติดตามนะครับ
-
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 2
" ก๊อก ก๊อก " เสียงเคาะที่ประตูห้องพักของโอ๋
" ไอ้โอ๋ !!! ... ตุ้ม!! ตุ้ม!! ตุ้ม!! " เสียงของเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนชั้นปีเดียวกัน ตะโกนเข้ามา คราวนี้มันคงทุบประตูแล้วมั้ง
" เออๆ กำลังไปเปิด " โอ๋ขยี้ตางัวเงียลุกขึ้น เดินไปเปิดประตู โดยที่ไม่รู้ตัวเองว่าอยู่ในสภาพร่างกายที่มีเพียงกางเกงในตัวเดียว
ก็เพราะการนอนหลับพักผ่อนแบบล่อนจ่อนหลังวันสอบวันสุดท้าย มันเป็นอะไรที่มีความสุขมากจนทำให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
อาร์ตและเพื่อนอีก 3 คน ยืนยิ้มหัวเราะ หึ หึ อยู่หน้าห้องกับภาพตลกๆ ของโอ๋ที่ใส่กางเกงในตัวเดียว
โอ๋เดินกลับไปนอนคว่ำบนเตียงเหมือนพวกขี้เมา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในกลุ่มเพื่อนผู้ชายด้วยกัน
คงมีแต่อาร์ตคนเดียวรู้สึกมากกว่านั้น ภาพที่เห็นทำให้อาร์ตอยากกระโดดลงไปนอนบนเตียงเดียวกันนั่น
และกอดโอ๋ไว้ทั้งตัวเหมือนกับที่อาร์ตเคยแอบทำตอนโอ๋เมา พฤติกรรมนั้นใครจะรู้นอกจากอาร์ตเพียงคนเดียว
ความรู้สึกทั้งหมดที่อาร์ตรับรู้และสับสน ความรัก ความห่วงใย ความห่วง และความคิดถึง
ด้วยความคิดถึงที่เกิดจากความห่างไกลที่ใกล้กันแค่เอื้อมมือ ความคิดถึงที่อาร์ตมีให้โอ๋ตลอดเวลา
โดยที่อาร์ตไม่สามารถให้คำจัดกัดความได้อย่างชัดเจนว่ามันคืออะไรกันแน่
อาร์ตไม่รู้ว่าตัวเองถลำลงไปในความรู้สึกแบบนั้นลึกขนาดไหน
" ไอ้นี่ .. ดูมันทำ " เพื่อนคนหนึ่งบ่นขึ้น
" ไอ้อาร์ต มึงปลุกมันตามไปทีหลังละกัน เดี๋ยวคนหารไม่ครบ " เพื่อนอีกสั่งอาร์ตให้ทำหน้าที่นี้เพราะสนิดกับโอ๋มากที่สุด
ไอ้คนนี้บ้านมันขายของ สัญชาติญาณเรื่องเงินเต็มเปี่ยม
" โธ่ .. กูนึกว่ามึงห่วงเพื่อน ...พวกมึงไปก่อนเลยเดี๋ยวกูแบกมันไปเอง " อาร์ตต่อว่าแบบยิ้มๆ
" โอเค .. "
แล้ว 3 คนนั่น ก็เดินออกไปจากประตูห้องของโอ๋ในชุดพร้อมเที่ยว
ทุกครั้งที่การสอบปิดภาคเรียนจบลงเพื่อนๆ ทั้งชั้นจะยกโขยงไปเธคที่ประจำ
และโอ๋ก็ชอบที่จะเมาและแดนซ์กระจาย เป็นความสุขและความสนุกที่โอ่ชอบที่สุด เพราะนานๆ ทีถึงได้ไป
อาร์ตก็เช่นกัน อาร์ตรู้สึกดีที่ได้ดูแลเวลาที่โอ๋เมาจนหลับไม่รู้เรื่อง
เวลาที่อาร์ตมั่นใจได้ว่าโอ๋จะไม่รู้สึกตัวที่อาร์ตแอบหอมแก้มและแอบกอดโอ๋
เป็นเวลาที่อาร์ตได้ใกล้ชิดโอ๋มากที่สุด แต่อาร์ตคงทำได้แค่นั้น และโอ๋คงไม่มีวันรู้
" ไอ้เวร มึงตื่นเลย ไปอาบน้ำ มึงอยากแดนซ์ไม่ใช่รึไง "
อาร์ตหยิบผ้าเช็ดตัวไปปิดตัวโอ๋และช้อนไหล่ทั้งสองข้างขึ้น โอ๋ยังทำคอตกอยู่ที่หมอนเหมือนเดิม
" เออใช่!! กูจะไปแดนซ์ " ตกลงคือมันลืมว่าวันนี้นัดไปเที่ยวกัน พอคิดได้ก็ลุกขึ้นอย่างว่องไว จนกระทั้งรู้สึกตัวเย็นๆ ชอบกล
" อ่าว!! กูอยู่สภาพนี้ได้ไงวะ มึงทำไรกู ! " โอ๋ทำท่าตกใจแล้วแกล้งพูดไปเนียนๆ
" ไอ้บ้า มึงไปอาบน้ำเลยมึง " อาร์ตตวาดเล็กน้อยแบบติดตลก
" 555 .... รอกูแปปนึง " โอ๋รีบพันผ้าเช็ดตัวรอบเอว หางตาที่เหลือบไปเห็นสายตาอาร์ตที่มองมาแบบแปลกๆ
เป็นครั้งแรกที่โอ๋เพิ่งสังเกตุเห็นสายตาแบบนั้นของอาร์ต ซึ่งความจริงอาร์ตก็แอบโอ๋แบบนั้นมาตลอด แต่โอ๋เองที่ไม่เคยเอะใจ
ในขณะที่อาบน้ำ โอ๋คิดทบทวนถึงตอนที่เจออาร์ตครั้งแรกตั้งแต่ปี 1
ด้วยสัญชาติญาณส่วนตัวในการตรวจจับสายตาเกย์ของโอ๋ซึ่งมีความแม่นยำสูงถึง 95 %
ทำให้แน่ใจได้ว่าอาร์ตไม่ใช่เกย์อย่างแน่นอน หรืออาร์ตจะเป็นอีก 5 % ที่เหลือ
แต่ในระยะเวลาสองปีที่เป็นเพื่อนกันมาโอ๋ก็ไม่พบสัญญาณอะไรที่จะสื่อได้ว่าอาร์ตเป็นเกย์หรือสนใจผู้ชายด้วยกันแต่อย่างใด
นี่แหละน้า ที่เขาเรียกว่า ' ถี่ลอดตาช้างห่างลอดตาเลน '
" ไม่หรอก .. มันคงไม่คิดอะไรกับกูหรอกน่า " โอ๋พูดกับตัวเองเบาๆ ในขณะที่กำลังเช็ดตัว แล้วเดินออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวพันอยู่ที่เอว
" แล้วรูมเมทมึงหละ " อาร์ตนอนไขว่ห้างอยู่บนเตียงของโอ๋
" ไอ้น้ำมันกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานละ คณะมันสอบเสร็จก่อนคณะเรา "
โอ๋ตอบพลางใส่กางเกงยีน พอดีรูดซิบกางเกงก็หันหลังให้อาร์ตไปหยิบแป้งฝุ่นมาทาตัว
" ไอ้น้ำมันเป็นคนที่ไหนวะ "
" เป็นคนเชียงราย .. ไกลขนาดนั้นมันยังดั้นด้นมาเรียนขอนแก่น " โอ๋ตอบพลางทาแป้งทั่วตัว
อาร์ตลุกขึ้นมานั่งขอบเตียง ยังไม่ทันจะพูดตอบกลับไป สายตาก็วิ่งไปสะดุดที่แผ่นหลังของโอ๋ที่กำลังมีความสุขกับการทาแป้ง
ผิวขาวสะอาด เป็นสีขาวอมเหลืองที่ไม่ใช่ขาวจนซีด มันบ่งบอกได้ว่าโอ๋ไม่ใช่คนภาคกลางอย่างแน่นอน
รูปร่างเล็กๆ ที่อยู่ในกางเกงยีนสีเข้มที่ขับให้สีผิวของโอ๋ดูสดใสน่าเสน่หา
กล้ามเนื้อที่มีอย่างพองามทำให้ดูไม่ผอมจนเกินไป และทำให้อาร์ตรู้สึกหลงใหลในตัวโอ๋ขึ้นมาจับใจ
อาร์ตจินตนาการไปถึงตอนที่โอ๋อยู่สภาพเปลือยปล่าว ตัวเองกำลังสัมผัสลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างที่นุ่มแน่น
ดอมดมเรือนร่างที่มีแต่กลิ่นหอมแบบที่เป็นโอ๋เท่านั้น และลูบไล้ไปที่หัวนมทั้งสอง ไปที่หน้าท้อง
และลงไปที่ .... ทันใดนั้น!! โอ๋ก็หันกลับมาเพื่อจะหยิบเสื้อยืดตัวเก่ง
โอ๋ตกใจกับสายตาเคลิ้บเคลิ้มของอาร์ตที่กำลังมองมา สายตาที่จับจ้องอยู่ตามเนื้อตัวของโอ๋อย่างพิสมัย
แต่อาร์ตตกใจเล้กน้อยเหมือนถูกจับได้ว่าทำผิด และรีบเก็บอาการได้รวดเร็วพร้อมลุกขึ้น หันหน้าไปอีกทาง
" ทำไมมึงแต่งตัวช้าจริงวะ " อาร์ตพูดไปทั้งที่ใจยังสั่น ถึงแม้คำพูดมันจะดูเนียน แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ต่างฝ่ายยังคงตกใจ
" กูก็เร็วที่สุดของกูนี่แหละ " โอ๋พลางใส่เสื้อ และหยิบกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์
" เอ้าเสร็จแล้ว ไปๆ " โอ๋พยายามพูดแบบธรรมดาเพื่อให้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ
" กระเป๋ากะมือถือ เอายัง?! ไอ้เปี๊ยกมันยิ่งกลัวคนหารไม่ครบ "
" กูเอาละ ไอ้เปี๊ยกนี่มันงกเหมือนเดิม .... แล้วเอารถใครไปอะ "
" เอารถกูไป กูเติมเต็มถังไว้แล้ว "
" เออดี ฮะฮะ "
" แหม .. ชอบเชียวนะ มึงกะไอ้เปียกก็งกพอกันแหละ "
" กูไม่ใช่คนแบบนั้นนะ " โอ๋แสดงอาการงอนนิดๆ ก็อย่างนี้แหละ ดูน่ารักน่าเอ็นดู แล้วอย่างนี้อาร์ตจะไม่รู้สึกมากไปกว่าเพื่อนได้ยังงัย
" 555 " อาร์ตหัวเราะอย่างมีความสุข
มหาวิทยาลัยอยู่แยกออกมาจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร ถ้าขับรถจักรยานยนต์ก็ใช้เวลาไม่นานหรอก
ตลอดทางที่ขับรถมาที่เธคที่ประจำ โอ๋พยายามบอกตัวเองว่าอาร์ตคงไม่ได้คิดอะไรกับตัวเอง
สำหรับอาร์ตแล้ว อาร์ตเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ไม่เคยสงสัยในความเป็นมาของโอ๋เลย
อาร์ตยอมรับในทุกอย่างที่โอ๋เป็น ถ้าจะพูดไปอาร์ตเหมือนเป็นพี่ที่คอยดูแลโอ๋มากกว่า
สิ่งที่โอ๋เชื่อมาตลอดคือ ชีวิตแบบนี้เป็นมันไม่มีความมั่นคง ไม่มีความยั่งยืน
ทุกคู่ที่คบกันไม่นานก็จะเกิดการเลิกรา ด้วยความเจ้าชู้ประตูดินของเพศที่สาม
โดยเฉพาะพวกเกย์นี่แหละ ที่แสวงหาเพียงความสุขทางร่างกายและไม่มีทางอิ่มกับสิ่งเหล่านี้อย่างแน่นอน
โอ๋เคยคิดว่าถ้าหากวันหนึ่งที่ความสัมพันธ์ของโอ๋กับอาร์ตเปลี่ยนจากเพื่อนไปเป็นอะไรที่มากกว่านั้น
สุดท้ายวันหนึ่งก็คงต้องเลิกรากันไป แล้วโอ๋จะหาเพื่อนที่ดีๆ แบบอาร์ตได้จากไหนอีกหละ
และที่สำคัญที่สุดคือโอ๋ก็ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นกับอาร์ตเลย เนื่องจากมีอะไรหลายๆ อย่างในตัวอาร์ตที่บอกได้เลยไม่ใช่สเป๊กของโอ๋
จนทั้งสองเดินทางมาถึงที่หมาย พอจอดรถเรียบร้อย โอ๋ก็รีบเดินไปแสดงบัตรประชาชนแล้วก็เดินหายแวบไปกับแสงไฟวูบวายโดยทันที
" ไอ้โอ๋มันจะคิดยังงัยว้า " อาร์ตบ่นกับตัวเองแบบกลุ้มๆ ความจริงตลอดเส้นทางที่ขับรถมา ความคิดของเขาวนเวียนอยู่กับโอ๋
" กูชอบ เพื่อนตัวเองเหรอเนี๊ยะ " แล้วยกมือขึ้นกุ้มขมับตัวเอง สงสัยวันนี้ได้เมาหนักแน่ๆ
อาร์ตรีบตามเข้าไปข้างใน ไม่ได้มาแค่ 2 เดือน เขาเปลี่ยนประตูทางเข้าเป็นแบบอุโมงค์
ขนาดยังเข้าไปไม่ถึง เสียงดนตรีดังๆ มันสั่นสะเทือนเข้ามาถึงหัวใจ จังหวะเต้นหัวใจมันไปกับจังหวะเพลงเลยในทันที
รู้สึกคึกคักอยากจะแดนซ์แข่งกับไอ้โอ๋จริงๆ แต่คงไม่ไหวขานั้นมันแดนซ์เก่งจริงๆ เพลงช้ามันยังเต้นได้ไม่หยุด
เดินเข้าไปถึงห้องโถงใหญ่ แล้วพวกมันอยู่กันตรงไหน เพราะว่าเขาจัดสถานที่จัดโต๊ะใหม่หมด แบ่งเป็นชั้นเล็กชั้นน้อยอีก ก็ดูสวยขึ้นแต่มันสับสน
ซักพักมองเห็นที่พวกมันเต้นกันทั้งกลุ่มขนาดดีเจจัดเพลงแบบออเดิฟไม่เร็วมาก
แน่นอนนั่นคือกลุ่มเพื่อนของอาร์ตนั่นเอง เดินแทรกเข้าไปในกลุ่มคนและหมอกควันบุหรี่จางๆ เหล่านั้น
ทั้งชั้นปีก็มี ประมาณ 30 คน ที่เป็นผู้ชายก็เท่าที่เห็น มีกัน 5 คน นอกนั้นผู้หญิงหมด
พวกผู้ชายต้องคอยดูแลพวกผู้หญิงเดี๋ยวมีพวกเสี่ยพวกนักเลงมาเกาะแกะ
ต้องคอยทำตัวเป็นไม้กันหมา โดยเฉพาะเพื่อนคนที่สวยๆ นี่ต้องระวังเยอะหน่อย เดี๋ยวจะถูกว่าว่าเป็นผู้ชายไม่รู้จักปกป้องผู้หญิง
พวกผู้ชายจะนั่งโต๊ะรอบนอก ไอ้โอ๋ก็เหมือนกันแต่มันปกป้องใครไม่ได้หรอก ตัวเล็กกว่าเพื่อน
แต่ในสายตาเพื่อนผู้หญิงมันก็เป็นสุภาพบุรุษที่น่ารักคนหนึ่ง ก็มีมันนี่แหละที่หน้าตาดูดีกว่าคนอื่นหน่อย
แต่ทุกครั้งที่มาเที่ยวแบบนี้ ไอ้โอ๋ก็มักจะทำให้เพื่อนหลายๆ คนแปลกใจอยู่เสมอ กับการซดเหล้าของมัน
" มึงจะรีบซดทำไมวะ กินช้าๆ ดิ ไม่รู้มันจะรีบไปไหน " ไอ้เปี๊ยกพูดกะไอ้โอ๋ แล้วก็หันไปขอความเห็นกับเพื่อนคนอื่นๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นห่วงเพื่อน
แต่จริงๆ คือมันไม่อยากสั่งดริ๊งค์เพิ่มอีก เพราะไอ้เปี๊ยกมันไม่ค่อยกินมันมาเหล่หญิงมากกว่า
" กูรีบกิน รีบมึน รีบเมา จะได้แดนซ์มันส์ๆ ฮะฮะฮะ " โอ๋พูดด้วยท่าทางกวนๆ แสดงว่าเริ่มมึนหน่อยๆ ละ
เสร็จแล้วมันก็จะแด้นซ์กระจายแบบไม่สนใจใครตามสเตบของมัน
ความสนุกสนานคึกคะนองของกลุ่มเพื่อนๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีเรื่องราวอะไร
ทุกคนอยู่ในสภาพมึนๆ รวมถึงอาร์ตด้วย ซึ่งปกติอาร์ตจะไม่กินหนักเพราะว่าต้องเป็นคนขับรถ ไม่งั้นคงนอนกองเป็นศพข้างทางเป็นแน่
แต่วันนี้อาร์ตก็เมาได้ที่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่หนักเท่าไอ้โอ๋ มันเครียร์พื้นที่รอบตัวมันเอากว้างหน่อยจะได้เต้นสะดวกๆ
จนกระมั่งล่วงเลยมาถึง ตี 1 โอ๋เริ่มหมดแรงมันคงจะฟุบกับโต๊ะซักพัก แล้วก็เซถลาไปเข้าห้องน้ำอย่างแน่นอน
นั่นแสดงว่ามันจะไปอ๊วก แล้วมันจะกินทำไมเสียดายเหล้า - -*
" กะ กะ กู ไป ห้อง น้ำ แปปป น้าาา .. " โอ๋หันมาทำตาพริ้มๆ บอกอาร์ตเสียงลากๆ แล้วก็เดินตุปัดตุเป๋ชนคนระหว่างทางไปขอโทษไป
มันคงไปถึงห้องน้ำอยู่หรอกนะ .... อาร์ตมองตามจนมันเข้าห้องน้ำ ..มันคงรอดแล้วหละ
เพื่อนผู้หญิงมาบอกกลุ้มผู้ชายว่าจะกลับละ อีก 30 นาที เป็นอันว่าโอเค จะได้กลับไปนอนกันซักที
พอดีรอไอ้โอ๋มันกลับมาจากเข้าห้องน้ำ แต่ผ่านไปจะ 20 นาทีแล้ว ยังไม่ออกมา
" เดี๋ยวกูไปดูไอ้โอ๋แปป พวกมึงพากันออกไปก่อนก็ได้ " อาร์ตบอกเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ
" ถ้างั้นพวกกูกลับก่อนเลยนะ แล้วมึงไหวป่าว " เพื่อนเห็นว่าอาร์ตก็เมาเหมือนกัน พูดด้วยความเป็นห่วง
" ไหวๆ กูไม่ได้เมาขนาดน้าน "
" เออๆ ถ้ามีปัญหาอะไร โทรมาบอกกันนะโว้ย "
" เออๆ "
ทุกคนทยอยลุกและเดินออกไปกันเป็นกลุ่ม ส่วนอาร์ตก็เดินไปที่ห้องน้ำ คิดว่าโอ๋คงเอาหัวพาดโถส้วมห้องใดห้องหนึ่งนั่นแหละ
เดินไปถึงห้องน้ำอาร์ตก็ตรงไปเคาะประตูห้องน้ำทีละห้องโดยทันที
" ไอ้โอ๋ๆ มึงอยู่ห้องไหนวะ ตื่นได้แล้วโว้ย " สายตาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายสองคนยืนกอดกัน
คนหนึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยรู้เรื่องเนื่องจากฤทธิ์น้ำเมา อีกคนก็ไซร้ใหญ่เลย
' แม่งบัดสีชะมัด เมืองขอนแก่นนี่มันเป็นกันขนาดนี้แล้วเหรอวะ '
อาร์ตเคาะประตูต่อไป ยังไม่มีเสียงตอบของโอ๋กลับมา แล้วก็เคาะประตูที่สาม มันใกล้ไอ้สองตัวนั่นเข้าไปทุกที
หางตามองเห็นกางเกงของไอ้ที่ถูกไซร้ หันกลับไปมองชัดๆ อีกที ไอ้โอ๋นี่หว่า !
" เฮ้ยมึงทำอะไรเพื่อนกูวะ " อาร์ตกระชากคอเสื้อด้านหลังไอ้หื่นนั่นซึ่งมันยังไม่ทันตั้งตัว
พอดีเห็นหน้ามันแวบๆ แม่งหน้าตาก็ดีแต่หื่นชะมัด ดูท่าทางไอ้นี่ก็เมาอยู่เหมือนกัน
ตอนนี้ไอ้อาร์ตมันสร่างเมาแล้วด้วยความโมโห อาร์ตซัดไอ้หื่นนั่นเข้าที่หน้ามันมัดเดียวเต็มๆ
จังหวะนั้นโอ๋เอนหลังไปพิงกับผนังกำลังจะทรุดตัวลงกองกับพื้นแบบหมดสภาพ
" เมาหนักเลยมึง จะโดนอัดตูดยังไม่รู้ตัวอีก " อาร์ตจับแขนโอ๋ข้างหนึ่งพาดบ่า แล้วมืออีกข้างหนึ่งกอดเอวโอ๋ไว้ กึ่งพยุงกึ่งลากออกไป
ส่วนไอ้หื่นนั่นก็ทั้งเมาเหล้าเมามัดด้วยนั่นแหละ ดีที่มันไม่สร่างเมาพาพวกวิ่งตามออกมา
อาร์ตกึ่งอุ้มกึ่งลากเพื่อนขี้เมาออกมาจนถึงที่จอดรถ ตอนนี้พวกในเธคก็เริ่มทยอยกันออกมาแล้ว
ความหนักใจของอาร์ตที่สุดตอนนี้คือไอ้โอ๋นี่แหละ จะเอามันกลับยังงัยไอ้เวรนี่ตัวเล็กๆ ทำไมมันหนักงี้วะ
เพื่อนคนอื่นๆ ก็กลับกันหมดแล้ว ไวชิบหาย เพื่อนบางคนเอารถยนต์มา ถ้ายังอยู่ก็คงฝากโอ๋กลับได้
ทันใดก็ฉุกคิดถึงเรื่องกระเป๋ากับมือถือขึ้นมาได้ เมาแบบนี้ถ้าโดนล้วงกระเป๋ากะมือถือไปคงไม่รู้ตัวแน่ๆ
" ไอ้โอ๋ มึงยืนดีๆ ดิ กระเป๋ากะมือถือมึงอยู่ป่าว " โอ๋ไม่ตอบโต้ แล้วก็ทำคอพับลงแบบหมดแรง ดีที่ยังพอมีแรงยืนอยู่หน่อย
อาร์ตเลยล้วงๆ ไปดูที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง ประมาณว่าได้จับก้นแน่นๆ ของโอ๋มันไปด้วย
ไอ้โอ๋ตัวอ่อนพับคว่ำมาซบ-อกพอดี .... อ่าว ..ไม่มีกระเป๋า มือถือก็ไม่มีอยู่
" ไอ้เวร หรือมันเอาไว้ข้างหน้าวะ " อาร์ตเอามือมาล่วงกระเป๋ากางเกงด้านหน้า
พอดีมีวัยรุ่นชายหญิงกลุ่มหนึ่ง เดินจะมาเอารถแถวที่ใกล้กันนี่พอดี มันมองการกระทำของอาร์ตแล้วซุบซิบกันใหญ่
' เพื่อนกุเมาโว้ย ' ... มันไม่หยุดมองอีก อาร์ตยังหากระเป๋าไม่เจอเลย ไอ้โอ๋ก็ตัวอ่อนทรุดลงอย่างรวดเร็วร่างเล็กๆ นั่นแทบกองลงกับพื้น
ใบหน้าโอ๋เกือบจะถึงเป้ากางเกงอาร์ตอยู่แล้ว มันเป็นท่าทางที่อาร์ตอยากให้เกิดขึ้นในห้องนอนมากกว่า
' โอ๋มึงน่าจะอ้าปากงับเอาน้องชายกูซะเลยจะดีกว่าไหม ' อาร์ตคิดในใจทั้งที่สถานการณ์ยังคาราคาซังอยู่
อาร์ตเอามือช้อนใต้แขนไอ้ขี้เมาดึงขึ้นมาซักก่อน ส่วนกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมก็ยังจ้องมาแบบไม่เกรงใจ ทำปากซุบซิบนินทาอย่างเมามันส์
ไม่รู้มันคิดอะไร พวกเวร รีบๆ กลับไปซักที มองอยู่ได้ .. โอเคเจอละ ทั้งกระเป๋าทั้งมือถือ มันไหลไปอยู่ใกล้ๆ เป้าไอ้โอ๋
ไหนๆ ก็ไหนๆ จับเป้ามันซักทีเลยดีไหม ... ไม่ได้ๆ เดี๋ยวพวกนั้นจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ต้องพูดแก้ตัวซักหน่อย
" ไม่มีอะไรครับเพื่อนผมมันเมาหนักไปหน่อย "
พวกนั้นมันค่อยหยุดคุยกัน แต่ก็ยังมองมาด้วยสายตาแปลกๆ เพิ่งถูกมองแบบน่ารังเกียจสุดๆ ก็คราวนี้แหละ
พวกมันคงคิดว่าเป็นคู่เกย์หื่นกามโชว์สยิวหน้าเธคหรือไง - -*
อาร์ตจับโอ๋นั่งข้างหลัง ดึงแขนสองข้างมากอดตัวอาร์ตไว้ มือข้างหนึ่งบิดแฮนด์รถ มืออีกข้างจับแขนโอ๋ไว้
ดีหน่อยที่โอ๋ออกแรงกอดเอวอาร์ตไว้เล็กน้อย คงยังไม่สติส่วนหนึ่งที่รับรู้ได้ว่าอาร์ตกำลังจะพากลับหอพักแล้ว
โอ๋ไม่เคยเมาหนักขนาดนี้ ' ก็ดี..อย่างน้อยกูก็ถูกมันกอด ถึงแม้มันจะไม่ตั้งใจกอดก็ตาม '
ลมเย็นๆ ตอนเวลาตีหนึ่งแบบนี้ กับคนรักที่นั่งซ้อนรถกอดกันแบบนี้ .. เฮ้อ.. มีความสุข
ใจจริงอาร์ตอยากผ่อนแรงบิดแฮนด์รถลงให้ถึงหอพักช้าๆ โอ๋จะได้กอดอาร์ตนานๆ แต่ก็กลัวโอ๋จะพลัดตกจากเบาะหลังลงไปข้างทางซะก่อน
ถ้าแฟนในอนาคตกลายเป็นคนพิการขึ้นมาคงรับไม่ได้ เร่งความเร็วให้ถึงหอพักไวๆ จะดีกว่า
ส่วนโอ๋ก็นอนซบหลังอาร์ตไปจนถึงหอพัก โดยที่มันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ดีที่มันไม่อ๊วกใส่หลังให้
..... แล้วก็มาถึงหอซักที อาร์ตเริ่มหมดแรงแล้ว จะแบกมันขึ้นไปยังงัย ตัวเล็กๆ ทำไมหนักชิบหาย
" ไมตัวมึงหนักงี้วะ ตัวก็เล็กแต่หนักชิบหาย หรือหนักไข่ ไข่มึงใหญ่นักหรืองายยย.. " เออ เอ้า บ่นไปแบกไป
อาร์ตทั้งพยุงทั้งแบกโอ๋ขึ้นไปขั้น 2 ดีที่ห้องพักอยู่ชั้นไม่สูง พอดีมีเพื่อนเดินแซงขึ้นมา ไอ้คนนั้นมันหันหน้ามาดูให้ชัดๆ ว่าใช่เพื่อนมันจริงป่าว
" อ่าว!! อาร์ต .. ไม่ได้อยู่หอนี้นี่ ... แบกใครมาส่งอะ " เพื่อนคณะเดียวกัน แต่คนละภาควิชา ทักทายแบบงงๆ แล้วนี่ทำไมมันยังไม่นอนวะ จะตี 2 แล้ว
" เอาไอ้โอ๋มาส่ง เมาไม่รู้เรื่องเลย " อาร์ตทำสีหน้าแสดงความหนัก ส่วนโอ๋ก็ยังคอพับอยู่เหมือนเดิม
" เฮ้ย โอ๋มันกินเหล้าเป็นด้วยเหรอ ดูมันออกจะเรียบร้อย " นั่นเป็นความรู้สึกของเพื่อนหลายๆ คนที่คิดว่าโอ๋เป็นแบบนั้น
" เดี๋ยวแบกมันเข้าห้องก่อนนะ ตัวเล็กๆ หนักชะมัด " อาร์ตตัดบทจะได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จซักที
" โอเคๆ เราไปละ " แล้วต่างฝ่ายแยกกันไป
กว่าจะเข้ามาในห้องได้ก็ต้องล้วงเป้าโอ๋อีกรอบ เพราะกุญแจห้องโอ๋จะเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์
ทำให้อาร์ตมีจินตนาการตะเลิดเปิดเปิงตอนที่ล้วงๆ ไปใกล้เป้าไอ้โอ๋มันอีก
พอลากกันเข้ามาในห้องแล้ว อาร์ตก็ทิ้งโอ๋ลงไปบนเตียงแบบไม่นุ่มนวลเท่าที่ควร แต่โอ๋ก็ไม่สะดุ้งสะเทือนซักนิดหลับไปซะอย่างนั้น ... ' ไม่เข้าใจมันเล้ย '
ดีที่โอ๋ไม่อ๊วกซักแอะ สงสัยอ๊วกไปหมดแล้วที่ห้องน้ำในเธค คิดกลับไปที่เหตุการณ์ในห้องน้ำ อาร์ตก็ฉุนขึ้นมานิด ' น่าจะเป็นกูนะที่ไซร้ไอ้โอ๋มัน '
โอ๋นอนตะแคงหลับปุ๋ยหน้าแดงเรื่อๆ มันหลับสนิดแบบแอบอึ้บแล้วไม่รู้ตัวเลยมั้งนี่
อาร์ตนั่งอยู่เตียงฝังตรงข้าม ลุกมานั่งขอบเตียงที่โอ๋นอนสลบสไลอยู่
" เฮ้อออ.... " ถอนหายใจยาวๆ ดังๆ แบบไม่ต้องกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน สายตาของอาร์ตที่ออดอ้อนแบบนั้นที่โอ๋คงจะไม่มีวันได้เห็น
" กูชอบมึงจริงๆ วะ " สารภาพแบบนี้ มันตบมือข้างเดียวชัดๆ แล้วมันจะดังได้ยังงัยกัน
" ถ้ามึงท้องได้เหมือนผู้หญิง .. เรียนจบกูจะพาพ่อแม่ไปขอมึงเลย "
ความเป็นจริงที่ทำให้อาร์ตพยายามยับยั้งตัวเองไม่ให้ถลำลึกไปมากกว่านี้ ... แต่จริงๆ ก็มาลึกมากแล้วหละ
นั่งนิ่งไปซักพัก อาร์ตก็ก้มลงยื่นหน้าไปใกล้ๆ แก้มโอ๋ กะว่าจะหอมแก้มก่อนที่ตัวเองจะแยกไปนอนอีกเตียง
แต่โอ๋ก็พลิกตัวไปอีกทางพอดี เพื่อนผู้น่าสงสารเลยจูบได้แต่ลม
" เอ๊ะ .. มึงแกล้งหรือมึงเมาวะ " ได้แต่ฉุนและหมั่นไส้อยู่คนเดียว
อาร์ตมองตามใบ้หน้าแดงระเรื่อที่พลิกตะแทงไปอีกทาง .. อดใจไม่ได้แล้ว
วันนี้ไอ้โอ๋เมาหนัก มันคงไม่รู้เรื่องอะไรหากอาร์ตจะแอบนอนกอดมัน และรีบตื่นก่อนที่มันจะรู้ตัวในตอนเช้า
ฝ่ายโอ๋ถึงแม้จะอยู่ในความมึนเมามากขนาดไหน แต่โอ๋ก็พอรู้สึกได้ว่าตัวเองกลับมาที่เตียงนอนในห้องพักแล้ว
ส่วนจะกลับมาได้ยังงัยไม่สนใจ ตอนนี้เหนื่อยแล้วอยากนอนมากที่สุด
รู้สึกเหมือนว่ามีคนกอดตัวเองจากด้านหลัง ก็คงเป็นไอ้อาร์ตนั้นแหละ ชั่งมันกูจะนอน มันคงจะเมามากเหมือนกูมั้ง
เป็นอันว่าทั้งสองคนก็กอดกันกลมอยู่บนเตียงนอนของโอ๋และหลับไป
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
ลางร้าย อ่านไปแล้วเหมือนจะเจอแต่เรื่องใหญ่
:sad3: :sad3: :sad3:
-
ดีครับบบบ
ผมติดตามเรื่องนี้ มาตั้งแต่เวปg-moveแล้วครับ ชอบมากเลย ตั้งแต่เวปเก่าปิดไป ก้อติดตามหา แต่ไม่เจอ
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
รีบๆๆ อัพนะครับ อยากให้ถึงตอนมียัยตัวร้ายเข้ามาไว้ๆ จาติดตามต่อไปนะครับ แต่ช่วงนี้ คงไม่ได้เข้ามาอ่าน เพราะสอบอยุ่นะครับ
แนทครับผม อยากรู้จักคนแต่งน้า อิอิ
:m1: :m3: :m5: :m2: :m11:
-
ลางร้าย อ่านไปแล้วเหมือนจะเจอแต่เรื่องใหญ่
:sad3: :sad3: :sad3:
เวอร์ซะไม่มีเลยตานี่
ปล. จะเข้ามาติดตามเรื่อยๆ นะเคอะ :m13:
-
ขอให้ฟ้าเป็นใจ
:m2:
-
...........ตามมาเป็นกำลังใจด้วยคนคับ.......... :m13: :m13: :m13:
-
หุหุ ยังตามอ่านอยู่น้า :m11: :m11: :m11:
-
ติดตาม ติดตาม :impress2:
-
เหอๆๆๆ.....มาต่อแล้ว...ดีใจจัง :m11: :m11:
จะติดตามอ่านต่อไปน้อ สู้ๆๆ จร๊า :m3:
-
ติดตามด้วยคน มาต่อเร็วน้า :m4:
-
:impress: ดีใจจัง มีท่านผู้อ่านล้นหลาม
ดีครับบบบ
ผมติดตามเรื่องนี้ มาตั้งแต่เวปg-moveแล้วครับ ชอบมากเลย ตั้งแต่เวปเก่าปิดไป ก้อติดตามหา แต่ไม่เจอ
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
รีบๆๆ อัพนะครับ อยากให้ถึงตอนมียัยตัวร้ายเข้ามาไว้ๆ จาติดตามต่อไปนะครับ แต่ช่วงนี้ คงไม่ได้เข้ามาอ่าน เพราะสอบอยุ่นะครับ
แนทครับผม อยากรู้จักคนแต่งน้า อิอิ
:m1: :m3: :m5: :m2: :m11:
ชาบชึ้ง มากๆ ติดตามมาตั้งแต่ g-move เลย ... แต่ที่เอามาลงใหม่ที่ thaiboyslove นี่ ผมขออ่านและแก้ไขก่อนลงอีกรอบนะครับ
อาจจจะไม่ได้เร่งอัพให้ถึงตอนล่าสุด ขอบคุณมากๆ คับที่ติดตาม และไม่ลืมโอ๋กะอาร์ต อิอิ
ขอบคุง ๆ ๆ ๆ ๆ ทู้กท้านเยยย อิอิ
-
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 3
เป็นอันว่าทั้งสองคนก็กอดกันกลมอยู่บนเตียงนอนของโอ๋และหลับไป
ผิวกายของสองชายหนุ่มที่สัมผัสกันมันเป็นเหมือนเรื่องต้องห้าม
ไม่กี่นาทีที่แผ่นหน้าอกและกล้ามท้องของอาร์ตแนบชิดกับแผ่นหลังเนียนนุ่มของโอ๋
ความร้อนที่แผ่กรจายเข้ามา ระบุไม่ได้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศอบอ้าว หรือเป็นความร้อนจากภายในตัวของอาร์ต
อาร์ตซะลึมซะลือคลานไปข้างเตียงด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังตกข้าอยู่ในสมองเล็กน้อย
เขาควานหาพัดลมในความมืด คลำหาปุ่มที่ฐานพัดลมและกดเปิดเบอร์ 1
เพราะว่าอายุการใช้งานที่นานมากแล้วจึงไม่สามารถเพิ่มระดับความเย็นไปได้มากกว่านี้
อาร์ตคลานกลับมานอนกอดโอ๋อีกครั้งอย่างสนิดใจว่าโอ๋คงไม่รับรู้ว่าเขากำลังล่วงละเมิดร่างกายของโอ๋จนเกินความเป็นเพื่อนไปแล้ว
ชายหนุ่มยิ้มไปอย่างมีความสุข เป็นการกอดเขาข้างเดียวที่ช่างมีความสุขอะไรอย่างนี้
อาร์ตปลาบปลื้มได้ซักพัก ก็เกิดการเคลื่อนไหวของหนุ่มน้อยที่นอนคุดคู่อยู่ในอ้อมแขน
เป็นสัญญาณว่าโอ๋กำลังจะรู้สึกตัว .. เอ๊ะ ! มันจะมันตื่นเหรอ .. หรือว่ามันปวดฉี่ ..จะลุกไปฉี่เหรอ
โอ๋พลิกตัวหันมาทางอาร์ต ส่วนอาร์ตได้แต่ยกแขนขึ้นจากตัวของเพื่อนสนิด และนิ่งดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ
หากโอ๋ตื่นขึ้นมาตอนนี้คงต้องแกล้งทำเป็นเมากลบเกลื่อน
แต่โอ๋กลับก้มหน้าซบลงตรงอกของอาร์ต และยังคงหลับอยู่เหมือนเดิมอย่างน่าเอ็นดู
ความมึนเมามันช่างเป็นใจอะไรเช่นนี้ แล้วโอ๋จะได้ยินเสียงหัวใจของอาร์ตที่สั่นรั่วและเต้นไม่เป็นจังหวะไหมนะ
" มึงชอบกูหรือป่าว .. ทำไมมึงทำแบบนี้วะ .. กูชักมีอารมณ์ขึ้นมาแล้วนะเว้ย " อาร์ตบ่นเบาๆ ให้กับเพื่อนรัก
ถึงอย่างไรก็ตามมันเป็นความสุขที่สุดที่อาร์ตได้รับในคืนนี้ ถึงแม้จะเป็นอาร์ตฝ่ายเดียวที่ต้องการการสัมผัสแบบนี้
อาร์ตสัมผัสถึงความน่ารักน่าถนุถนอมในตัวโอ๋ ความจริงแล้วโอ๋เป็นคนขี้เหงา
ความเหงาและความหว้าเหว่ในใจของโอ๋ที่อาร์ตสัมผัสได้ในคืนนี้
เหมือนโอ๋ต้องการความรักความอบอุ่นอย่างมาก มันเป็นสิ่งโอ๋ขาดแคลนจากครอบครัว
ในวัยเด็กสภาพแวดล้อมแบบนั้นทำให้โอ๋เป็นคนใจเด็ด ใจแข็ง เก็บความรู้สึกมากเกินไป หรือจะเรียกเก็บกดก็ได้
เวลาที่ถูกกระแนะกระแหนแบบน่ารำคาญ โอ๋ไม่เคยต่อว่ากลับไปในทันที
ซึ่งโอ๋จะถูกกระทำแบบนั้นเป็นประจำเพราะว่าโอ๋เองที่ไม่ยอมตอบโต้
2 ปีที่เป็นเพื่อนกันมา เคยเห็นโอ๋ระเบิดความโมโหใส่เพื่อนคนหนึ่งที่แสดงความเห็นแก่ตัวหลายครั้ง
เป็นปัญหาเกี่ยวกับการทำงานกลุ่มที่อาจารย์มอบหมายให้ในเทอมแรกของปีนี้ ไอ้คนนั้นก็คือไอ้เปียกนั่นแหละ
วันนั้นไอ้เปียกมันรู้สึกเสียหน้ามากๆ ก็โดนด่าต่อหน้าเพื่อนทั้งห้อง ดีที่ไอ้เปี๊ยกมันไม่ชกหน้าเข้าให้
ส่วนไอ้โอ๋มันก็สำนึกผิดทีหลัง เพราะแทนที่จะเคลียร์กันดีๆ พูดกันตรงๆ กลับเลือกวิธีแบบใช้อารมณ์
ทั้งๆ ที่มันเคยบอกว่าเกลียดที่พ่อแม่เถียงกันยังกะเด็ก แต่เวลาก็ช่วยให้มันสองคนกลับมาคุยกันเหมือนเดิมตามปกติ
ไอ้เปียกไม่เคยแสดงความเห็นแก่ให้เพื่อนเห็นอีกเลย ยังหลงเหลืออยู่แต่ความงกของมันนั่นแหละที่ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง
ส่วนโอ๋มันก็เป็นของมันเหมือนเดิม ..เก็บกดเหมือนเดิม ( - -") ไม่รู้ว่ามันจะระเบิดใส่ใครอีกวันไหน
อาร์ตคิดไปและดอมดมกลิ่นกายเพื่อนชายอย่างสุขสม คงจะหลับไม่ลงเป็นแน่ ...
ตอนนี้อะไรบางอย่างที่อยู่ในเป้ากางเกงของอาร์ตมันตุงซะจนซิบกางเกงแทบจะปริ
ทันใดนั้นเอง โอ๋มีอาการกระตุกนิดๆ ..แล้วนิ่งไป .. และกระตุกอีก .. แล้วหยุดไปอีก
หวังว่าโอ๋คงจะไม่ตื่นนะ มันคงเป็นอาการของคนที่มีความหลังฝังใจ
คนที่เก็บกด คนที่คิดมาก เวลานอนจะมีอาการกระตุกๆ คล้ายกับสั่นนิดๆ
เหมือนกับว่าฝันถึงอะไรบางอย่างที่มันค้างคาใจมาตลอด แต่พอตื่นมาจะจำไม่ได้หรอกว่าตัวเองฝันอะไร
กลิ่นตัวหอมๆ ปนกับกลิ่นเหล้าจางๆ มันชั่งรันจวนใจอาร์ตจริงๆ
ชายหนุ่มคิดภาพตัวเองกำลังเล้าโลมเพื่อนชายแบบอารมณ์พาไปจนเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหน
จนจินตการอันเร่าร้อนก็มาสะดุดตรงที่จุดสำคัญ ....
' ถ้าถึงตอนที่จะต้องสอดใส่แล้วจะเอาเข้ายังงัย ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันนี่หว่า
เคยได้กับแฟนผู้หญิงตอนเรียน ม.ปลาย หลายครั้ง แต่นั่นก็ผู้หญิงมันมีรูของมันอยู่แล้ว
แต่ไอ้โอ๋นี่ ถ้าจะเอามันจริงๆ ก็คงต้องเข้าข้างหลัง ที่เขาเรียกว่าอัดถั่วดำนะเหรอ ทำไมกูคิดทุเรดแบบนี้วะ
อ่าว !! .. ตกลงกูเป็นเกย์หรือนี่ เฮ้ย !! กูไม่อยากเป็นเกย์ !! ... กูคงเป็นไบมากกว่า ' ....
ความคิดของลื่นไหลไปตามเหตุผลที่เขาพยายามสรุปว่าตนเองยังเป็นชายแท้ แต่มือของเขาก็ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างเพื่อนสนิด
แผ่นหลังเนียนแน่นและนุ่มน่าสัมผัส มันทำให้อาร์ตไม่อยากปล่อยอ้อมแขนนี้ออกเลย
แต่ตอนนี้เขาอยากสัมผัสผิวกายด้านหน้าของโอ๋บ้าง อาร์ตจับร่างเล็กๆ นั้นพลิกไปอีกทาง ซึ่งเจ้าของร่างก็พลิกตามมือไปโดยง่าย
ทันที่ที่เขาประกบฝ่ามือลงที่แผ่นหน้าอกของหนุ่มน้อย ความคิดเรื่องแบบนั้นก็วิ่งเข้ามาในหัวของเขาอย่างรวดเร็ว
ความเสน่หานำทางความปราถนาให้เขาสัมผัสลูบไล้เรือนร่างของคนที่เขาแอบรัก
อาร์ตลูบไล้อยู่บริเวณหน้าอกนุ่มแน่นของหนุ่มน้อย ซุกไซร้ใบหน้าอยู่ที่ลำคอด้านหลังอย่างลืมตัว
เขาได้กลิ่นหอมจากเรือนร่างที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา... กลิ่นหอมของผู้ชายมันต่างกับกลิ่นผู้หญิง มันเร้าใจไปอีกแบบ
มือข้างนั้นยังลูบไล้ไปทั่วและเลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ ผิวพันธุ์เนียนนุ่มกล้ามเนื้อตามตัวแน่นมือในแบบผู้ชาย
ชายหนุ่มลูบไล้ด้วยแรงกดเบียดหนักขึ้น การสัมผัสและการเบียดเสียดระหว่างร่างกายของสองหนุ่มเกิดเป็นความร้อน
ความเร่าร้อนในใจที่ไม่อาจจะหยุดยั้งได้ อาร์ตไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ณ ตอนนี้ ไม่สนใจว่าโอ๋มันจะตื่นมาหรือป่าว
ไม่ว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ณ ตอนนี้ จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่คนๆ นี้คือคนที่เขาต้องการที่สุด
' โอ๋ .. กูทนไม่ไหวแล้ว มึงเป็นของกูเถอะนะ '
อาร์ตตวัดลิ้นร้อนๆ ลากจากลำคอขาวสะอาดของโอ๋ ลากขึ้นไปที่ติ่งหูและข้างแก้ม
รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของโอ๋เล็กน้อยเหมือนเป็นตอบรับอย่างไม่รู้ตัว
กลิ่นหอมๆ กับรสชาติหวานๆ ของโอ๋ มันทำให้อาร์ตไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว
จะว่าไปแล้วที่สิ่งอาร์ตกำลังทำก็คือ ' การลักหลับ ' แต่จะเรียกว่าอะไรก็ช่าง
ในเมื่อความต้องการของอาร์ตที่อดกลั้นมานาน คืนนี้อาร์ตไม่ขอใช้ความอดทน
มือข้างถนัดที่ลูบไล้อย่างหื่นกระหายไปทั่วร่งกายของโอ๋ไม่เป็นทิศทาง โอ๋บิดตัวไปมาเหมือนให้ความร่วมมือ
อาร์ตล้วงลงไปด้านล่างตรงไปที่จุดสำคัญ .. ที่เป้ากางเกงของโอ๋ เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสอวัยวะส่วนนั้นที่ไม่ใช่ของตนเอง
ท่อนเนื้อนั้นตื่นตัวอยู่ภายในกางเกงยีนจนรู้สึกได้ อาร์ตกดมือลงกับเป้ากางเกงแรงขึ้น เคล้าคลึงมันอยู่ในฝ่ามืออย่างเมามัน
สัมผัสแห่งแก่นกายชายในอ้อมกอด มันเร่งเร้าอารมณ์ของเขาไถลไปไกล
อาร์ตลุกขึ้นจากเตียง จับพลิกโอ๋นอนหงาย เลิกเสื้อยืดของโอ๋ขึ้นจนเห็นแผ่นหน้าอกขาวสะอาดและหัวนมสีชมพู
หน้าท้องแบนราบนวลเนียน มีขนรำไรเป็นเส้นเล็กๆ อยู่ใต้สะดือใกล้เป้ากางเกงที่ตุงขึ้นเป็นลำชัดเจน
จนต้องปลดกระดุมและถอดเครื่องแต่งกายส่วนล่างของโอ๋ออกให้หมด กระทั่งเหลือแต่เรือนร่างช่วงล่างเปลือยปล่าว
ภาพที่อาร์ตเห็นอยู่ด้านหน้ามันเร้าอารมณ์ให้อาร์ตต้องบรรเลงบทรักกับโอ๋จนอิ่มเอมใจ ให้สมกับที่เขาอดกลั้นมานาน
อาร์ตรีบลอกคราบตัวเองอย่างรวดเร็วจนไม่เหลือเสื้อผ้าแม้ซักชิ้น เขาเบียดเสียดกล้ามเนื้อหน้าอกกับผิวตัวเนียนน่มของโอ๋
ซุกไซร้ใบหน้าและซอกซอนจมูกสูดกลิ่นกายเร่าร้อน เขาสัมผัสรสชาติแห่งเรือนร่างสุดเสน่หาด้วยการตวัดลิ้นไปทั่ว
ตั้งแต่ซอกคอ ไล่ไปที่หน้าอก ไปที่หัวนม ที่หน้าท้อง จนแทบจะกลืนโอ๋ลงได้ทั้งตัว กระทั่งปลายลิ้นร้อนผ่าวมาหยุดก่อนที่จะถึงจุดสำคัญ
ชายหนุ่มไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาถามตัวเองว่า เขากำลังจะทำในแบบที่พวกชายรักชายเขาทำกันหรือ ?
เขาเงยหน้ากลับขึ้นไปมองใบหน้าแดงระเรื่อของหนุ่มน้อยที่กำลังเคลิ้บเคลิ้มกับสิ่งเขากำลังทำให้
หน้าตายั่วยวนของโอ๋แบบนั้นทำให้อาร์ตไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว
อาร์ตเรียนรู้บทรักระหว่างชายครั้งแรกด้วยตัวของเขาเอง .. มันเป็นไปพราะความรู้สึกที่เรียกรักก็ไม่อาจจะทราบได้
ความสัมพันธ์ทางกายระหว่างเขาทั้งสองดำเนินไปจนถึงขั้นสุดท้าย
ในขณะที่โอ๋ถูกเล้าโลมและลุกล้ำอยู่ด้านล่าง เขารู้สึกเหมือนกับมีใครที่กำลังร่วมรักกับเขาโดยที่เขาไม่ได้ยินยอมตั้งแต่ต้น
ความมึนเมาทำให้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมาก โอ๋กำลังถูกลุกล้ำจากทางประตูหลัง
ก็เป็นครั้งแรกของอาร์ตที่มีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน เขาเดาไม่ได้ว่านี่เป็นครั้งแรกของโอ๋หรือไม่
แต่ที่อาร์ตรู้สึกได้คือผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกันมาก.. ความเร่าร้อนรุนแรงจากผู้ชายด้วยกันที่เขาพึงพอใจมากกว่า
และโอ๋ ผู้ที่กำลังอยู่ในความฝัน มันคงเป็นการฝันเปียกที่สมจริงสมจังมากที่สุด
โอ๋รับสัมผัสของความสุขที่ใครบางคนส่งผ่านมาให้ด้วยจังหวะอันร้อนแรง
ภาพของคนๆ นั้น คืออาร์ต ... แน่ใจได้เลยว่าเป็นอาร์ต มันเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ ....
ในใจส่วนลึก โอ๋ก็โหยหายความสุขแบบนี้ แต่โอ๋คอยปิดตัวเอง เพราะกลัวความผิดหวังหลังความสัมพันธุ์อันฉาบฉวย
กลัวการถูกปฏิเสธในภายหลัง และการถูกประจานว่าโอ๋รักผู้ชาย เสียตัวให้ผู้ชายด้วยกัน ...โอ๋เป็นกะเทย
แต่ความรู้สึกเบื้องลึกบอกโอ๋ให้อยู่ตรงนี้ต่อไป รับสัมผัสแห่งความสุขที่เร่าร้อนนั้นให้เต็มอิ่ม
โดยไม่ต้องสนใจว่าคนๆ นั้นจะเป็นอาร์ต หรือเป็นใครก็ตาม ในขณะที่อาร์ตกลับทำสิ่งนั้นลงไปด้วยความรักและเสน่หา
นานพอควรที่กิจกรรมรักระหว่างสองคนจะดำเนินมาถึงจุดท้าย ความมึนเมาทำให้ครั้งแรกของทั้งสองยาวนานเหลือเกิน
จนกระทั่งเรี่ยวแรงของอาร์ตที่เทลงไปให้กับโอ๋หมดลงพร้อมกับความสุขสุดท้ายที่พรั่งพรุเข้าไปภายในตัวของโอ๋จนหมดทุกหยาดหยด
เขาทรุดตัวลงนอนเอื้อมแขนไปกอดโอ๋จากด้านหลัง มีอะไรบางอย่างที่เหนียวหนืด เปื้อนอยู่ที่หน้าท้องของโอ๋
ทั้งที่อาร์ตหลั่งน้ำรักของเขาภายในตัวโอ๋... นั่นก็คงแสดงว่าโอ๋ก็ถูกระทำจนถึงจุดสุดยอดไปพร้อมกับเขา
รับรู้อย่างนั้นแล้วอาร์ตยิ้มอย่างมีความสุข น้ำรักของโอ๋เลอะฝ่ามือใหญ่ๆ ของอาร์ตเต็มไปหมด
แต่ตอนนี้เหนื่อยมากจริงๆ ปล่อยให้มันเลอะไปเถอะ ไม่ไหวแล้ว นอนเถอะนะโอ๋ ...
" ผมรักโอ๋นะครับ "
ชัดเจนแล้วหละกับความรู้สึกที่มีให้กับคนๆ นี้
แล้วอาร์ตก็หลับไปในคืนแห่งความสุขนี้ ไม่มีอะไรจะเทียบได้อีกแล้ว
ส่วนโอ๋ที่ยังอยู่ในสภาพนอนหลับ กับสิ่งที่เขาถูกระทำในคืนนี้เขาจะรับรู้และยอมรับมันได้หรือไม่ ...
..........................................................
แสงแดดจากด้านนอกสาดผ่านกระจกหน้าต่างมัวๆ นั่นเข้ามา
โอ๋ขยี้ตา บิดตัวไปมาเหมือนจะตื่นแล้ว แต่ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัวทำตัวคุดคู้อยู่ครู่หนึ่ง
ภาพเหตุการณ์ขาดๆ เกินๆ วิ่งเข้ามาต่อกันเป็นฉากในหัว จนต้องตกใจตื่น
" ไอ้อาร์ต!! มึงทำอะไรกู!! ไอ้สัด!! " โอ๋พลิกตัวกลับมาพร้อมชี้นิ้ว ออกไปทางอาร์ตที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วยความโมโหสุดขีด
.... แต่ไม่มีอาร์ตนอนอยู่ข้างๆ หรือที่เตียงของรูมเมท ... มองไปที่ห้องน้ำที่เปิดประตูไว้ คงไม่มีอาร์ตอยู่ในนั้น
ไม่มีแม้แต่รองเท้าของอาร์ตที่ประตูห้อง อาร์ตไปแล้ว โอ๋นั่งขัดสมาธิก้มหน้า ยกมือขึ้นกุมหัว ทั้งปวดหัวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
และปวดก้นจนรู้สึกระบมไปโดนรอบบริเวณนั้น ... ทั้งสับสนและทั้งโกรธ
ตอนนี้โอ๋พอจะมั่นใจแล้วว่าสายตาของอาร์ตตอนก่อนไปเที่ยวเมื่อคืน มันหมายความว่าอย่างไร
แต่โอ๋ไม่ได้ชอบไม่ได้รักอาร์ตเลย เมื่อคืนที่โอ๋ปล่อยเลยตามเลยเพราะความมึนเมา
ว่าแล้วก็เลยพยายามจะลุกไปเข้าห้องน้ำปลดปล่อยแอลกอฮอล์ที่ยังตกค้างอยู่ในกระปัสสาวะออกซักหน่อย
" โอ๊ย!! .. " เจ็บแปร๊บขึ้นมาในทันที ปวดหัวมันไม่เท่าไหร่ แต่ปวดก้นนี่สิ โอ๋เดินถ่างๆ เข้าห้องน้ำไปอย่างทุลักทุเล
.... " กูจะทำไงดีว่ะ..!! " ...
อาร์ตบ่นกับตัวเองดังๆ จนแทบจะเป็นการตะโกน อยู่ที่ห้องพักของตัวเอง อาร์ตลุกขึ้นมานั่งแล้วเริ่มบ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่คนเดียว
" จะไปหามันดีไหมวะ ... มันจะให้กูพูดด้วยหรือวะ .. แต่เมื่อคืนมันก็ไม่ขัดขืน..
หรือมันชอบกู .. หรือเป็นเพราะมันเมาหนัก ....... หรือจะโทรไปหามันก่อน ถ้ามันด่ากู โกรธกู แล้วเลิกคบกูหละ
กูไม่น่าใจร้อนเอามันเลย .. ดูท่าทางคงเป็นครั้งแรกของมัน เมื่อคืนมีเลือดติดออกมาด้วย
... หึ้ย!! กูจะบ้าาา ..!! .. " ชายหนุ่มทุบ-อกชกตัวเป็นการใหญ่
อาร์ตตัดสินใจที่จะใช้เวลาของการปิดเทอมเพื่อรักษาระยะห่างกันไว้ซักก่อนจะดีกว่า
เพราะมั่นใจได้ว่าโอ๋คงไม่ยอมรับกับการกระทำของอาร์ตอย่างแน่นอน ถ้าจะเข้าไปเจรจาตอนนี้คงจะมีแต่แตกหัก
..........................................................
.... เวลาของการปิดภาคเรียนก็มาถึง... อีก 2 - 3 วันนับจากนี้ หอพักต่างๆ จะว่างเปล่า
ไม่มีเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจของเหล่านักสึกษา ไม่มีเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ขับรถจักรยานยนต์สวนกันไปมาให้วุ่น
ปิดเทอมครั้งนี้โอ๋กับอาร์ตยังไม่มีการฝึกงานในช่วงซัมเมอร์
คงจะเป็น ปี 3 โน่นแหละ ที่จะต้องออกไปฝึกงานที่โรงพยาบาลต่างๆ ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หลังจากสอบปิดภาคเรียน นักศึกษาก็คงต้องแยกกันกลับบ้าน เก็บเกี่ยวกำลังใจจากบุพการี, พี่น้องและญาติ
เพื่อที่จะต่อสู้กับบทเรียนและการฝึกฝนวิชาความรู้อย่างเต็มกำลังกายและกำลังสมอง
เพื่อสิ่งสูงสุดที่นิสิตนักศึกษาต้องบรรลุคือใบประกาศปริญญาบัตรที่แสดงถึงความรู้ความสามารถ
และความพร้อมที่จะออกสู้สังคมแห่งวัยทำงานต่อไป
และแน่นอนทั้งอาร์ตและโอ๋ก็ต้องกลับบ้านเช่นกัน อาร์ตตัดสินใจปล่อยปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนไว้ก่อน
เพราะโอ๋คงไม่ยอมที่จะพบอาร์ตอย่างแน่นอน ส่วนโอ๋ยังคงโกรธอาร์ตที่ทำแบบนั้น
มันคงทำให้ทั้งสองคนมองหน้ากันไม่ติดไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้
เอาเป็นว่า เอาไว้เจอกันตอนเปิดเทอมเทอมแรกของปี 3 ก็แล้วกัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
โหฟันแล้วหนี o12
-
นึกว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะบอกรักซะอีก เฮ้อ
:เฮ้อ:
รอตอนต่อไปคับ
:m13:
-
..........หวังว่าจะเป็นความพลั้งพลาด....ที่ได้มาซึ่งความสุข.... :undecided: :undecided:
-
เห็นภาพทุกช็อต
:pighaun: :pighaun: :pighaun:
ทำแบบนี้ยิ่งจะมองหน้ากันไม่ติดนะนี่
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ผิดก็ยอมรับผิดดีกว่า ปล่อยให้คิดไปไกล
:freeze: :freeze: :freeze:
-
แหม....เห็นหลายคนในนี้เริ่มติดใจและ o3
-
อ้าว
แล้วไหงหนีไปซะงั้นอ่ะ
:serius2: :serius2: :serius2:
-
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 4
" .... เมื่อไหร่จะเปิดเทอมซักที "
อาร์ตบ่นหลังจากที่นั่งเหม่ออยู่หน้า TV และกดเปลี่ยนช่องไปมาไม่ดูช่องไหนเป็นจริงเป็นจังซักที
จิตใจล่องลอยไปถึงแต่เพื่อนรักที่ตอนนี้เขาไม่อยากให้เป็นแค่เพื่อน
" อะไรนะลูก .. ไปเรียนมหาลัย 2 ปี ลูกเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเนี๊ยะ "
คุณแม่วางนิตยสารลงบนตักเบาๆ ด้วยความประหลาดใจพร้อมทั้งปลาบปลื้ม
" แม่ครับ อาร์ตขอเข้า ม. วันเสาร์นี้นะครับ อาร์ตจะได้ไปเตรียมตัวให้ดีๆ ก่อนเรียน "
คำเสนอตัวของอาร์ตยิ่งทำให้คุณแม่ประหลาดใจเข้าไปใหญ่ คุณแม่รู้สึกว่าลูกชายมีลับลมคมในอะไรบางอย่าง
" แล้วอาร์ตจะรีบไปเตรียมตัวอะไรเร็วขนาดนั้น เปิดเทอมวันที่ 3 เดือนหน้าไม่ใช่เหรอลูก อีกตั้งเกือบสัปดาห์แหนะ "
หลังจากเอ็ดลูกชายจนหน้าง๋อย คุณแม่ก็เงียบไปครู่หนึ่ง และเริ่มขมวดคิ้วลงเป็นปมจ้องหน้าลูกขี้อ้อนไม่ละสายตา
" .... นัดสาวไว้ใช่ไหมเนี๊ยะ " คุณแม่พูดให้ข้อหาในทันที
" ป่าวคร้าบบบ .. ถ้ามีสาวผมจะรีบพามาไหว้คุณแม่เลยหละครับ " อาร์ตใช้สายตาออดอ้อนแบบน่าหยิก
" ผมขอไปเสาร์นี้นะครับ "
" ถ้าอยากไปก็ได้ แต่ถ้าเสาร์นี้มันคงเร็วไป เป็นพุธหรือพฤหัสฯ ก็แล้วกัน อาร์ตจะได้อยู่คุยกับญาติๆ ก่อน "
" ขอบคุณครับแม่ " อาร์ตกระโดดมากอดแม่เป็นการตอบแทน ( - -*)
โซฟาที่แม่นั่งอยู่ยุบตามน้ำหนักของอาร์ต ถึงจะไม่ใช่คนร่างสูงใหญ่มากนัก แต่อาร์ตเป็นหนุ่มนักกีฬา หุ่นดูสมส่วน ออกจะเป็นชายชาติทหารไปในทางนั้น
เขาวิ่งขึ้นไปชั้นบนในทันทีปล่อยแม่ออกจากอ้อมกอด
" อ่าวแล้วจะไปไหน TV ก็ไม่ปิด แม่ไม่ได้ดูด้วยซักหน่อย "
" ผมจะไปเก็บกระเป๋าครับ!! " เขาตะโกนกลับมาจากบันได ด้วยน้ำเสียงระรื่น
" สงสัยจะติดสาว .. ลูกเราจะเรียนจบหรือป่าวนะพ่อ "
คุณแม่ถอนหายใจแล้วมองไปที่รูปสามีในชุดนักธุรกิจรูปใหญ่ดูสง่างาม
อาร์ตเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของแม่ที่ต้องทำงานหนัก แม่ต้องดูแลลูกทั้ง 2 คน เพียงลำพัง
ดีที่ธุรกิจส่วนตัวขนาดย่อม ไม่หายไปกับชีวิตของสามีที่แสนดี
ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตตั้งแต่ตอนที่อาร์ตและโอ๊ตยังเรียนประถม
การที่อาร์ตชอบดูแลคนที่อ่อนแอกว่าโดยเฉพาะคนที่น่ารักในสายตาของเขา
ก็อาจจะเป็นเพราะการเลี้ยงดูแลของแม่ด้วยที่คอยบอกให้อาร์ตดูแลน้องช่วยเหลือน้องอยู่เสมอ
และเป็นการเติมเต็มส่วนที่อาร์ตขาดมาตลอดด้วย อาร์ตเจ็บใจทุกครั้งที่โรงเรียนสมัยประถมและมัธยมจัดงานวันพ่อ
เป็นความรู้สึกที่แม่ไม่อาจจะทดแทนให้กับลูกคนโตได้ซักที
แต่สำหรับโอ๊ตผู้เป็นน้องชายกลับต่างกันเพราะโอ๊ตมีพี่ชายที่คอยปกป้อง พี่ชายที่เข้มแข็งอย่างอาร์ต
บริบทต่างๆ นานาในชีวิตของอาร์ตที่ทำให้อาร์ตได้มาเจอกับโอ๋ และทำให้อาร์ตรู้สึกว่าต้องปกป้องดูแล
เป็นการทดแทนความรู้สึกในวัยเด็กของอาร์ตที่ต้องการป้องปกดูแลจากผู้เป็นพ่อ
แต่ก็ไม่มีทางที่จะหาอะไรมาทดแทนได้เลย นอกจากการมอบสิ่งเหล่านั้นกับคนที่อาร์ตมีความรู้สึกดีๆ ให้
เลือกที่จะเป็นผู้ก่อนจะได้เป็นผู้รับ
.....................................................
และแล้วอาร์ตก็เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยตั้งแต่ 5 วันก่อนเปิดภาคเรียน
เขารีบเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว แล้วขับรถจักรยานยนต์คู่ใจออกมาที่หอพักของโอ๋ เดาไว้ว่าโอ๋คงยังไม่กลับมาหรอก
แต่ที่ระเบียงห้องกลับมีเสื้อผ้าตากไว้เหมือนมีคนอยู่ ใช่แล้วโอ๋กลับมาแล้ว กลับมาก่อนอาร์ตด้วยซ้ำ
นั่นก็เป็นการดีที่อาร์ตจะได้มีเวลาปรับความเข้าใจกับโอ๋มากขึ้น ก่อนที่จะถึงวันเปิดเทอม
..... วันนี้แน่ใจได้ว่าโอ๋คงยอมคุยกับเขา ....
แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มพูดกับมันยังงัยดี นับตั้งแต่วันนั้นก็เดือนกว่าๆ แล้ว โอ๋น่าจะมีอารมณ์เย็นลงบ้างแล้ว
ฝ่ายโอ๋ที่นอนสติฟุ้งซ่านคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องสมัยเด็ก และรวมถึงเรื่องของอาร์ตด้วย
พอได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์เสียงทุ้มๆ แบบนั้นก็รู้แล้วว่าคงเป็น TENA ของไอ้อาร์ตนั่นแหละ
ซักพักก็มีเสียงเคาะที่ประตู
" ก๊อก ก๊อก ก๊อก .. "
โอ๋ลุกขึ้นไปเปิดประตูแบบก้มหน้า พยายามเก็บอารมณ์ไว้ ความรู้สึกของคนที่ถูกเพื่อนตัวเองลักหลับนี่ไม่รู้จะอธิบายยังงัยละ
ใจจริงโอ๋อยากกระโดดขึ้นบีบคออาร์ตให้มันตายเสียเต็มที ' ไอ้สัดอาร์ต!! มึงทำกูนั่งไม่ได้ แถมถ่ายเป็นเลือดอีกตั้ง 4 - 5 วัน ไอ้เหี้ย!! '
แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้ก่อน เรื่องมันผ่านไปแล้ว พยายามไม่คิดถึงมันอีกจะดีกว่า ยังงัยก็ต้องเป็นเพื่อนกันต่อไป
" มาไวเชียวมึง " ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน ... ทำบทสนทนาหยุดชะงักไปในทันที
" เข้ามาดิ " โอ๋เดินนำเข้ามาในห้อง อาร์ตมองโอ๋อย่างคิดถึงสุดใจ จริงๆ อยากวิ่งเข้าไปกอดมันให้หายคิดถึง
ตอนนี้อาร์ตอยากเอายางลบก้อนใหญ่ๆ ลบคำว่าเพื่อนระหว่างทั้งสองคนออกไปให้หมดจด แล้วบอกโอ๋ไปตรงๆ ว่า ' กูรักมึง '
แล้วจะทำได้ยังงัยเล่า โอ๋มันคิดยังงัยไม่รู้เลย จะถามก็ถามไม่ได้ คำว่า ' เพื่อน ' มันจิ้มคออยู่
เงียบกันไปทั้งคู่ จนบรรยากาศภายในห้องเริ่มมืดครึ้ม อาร์ตเริ่มบทสนทนาด้วยการชวนออกไปข้างนอก
" กูหิวข้าววะ มึงออกไปกินกะกูหน่อย " เริ่มต้นคำถามธรรมดาๆ เป็นการดูเชิงว่าโอ๋จะปฏิกิริยากับเขายังงัย
" อืม ...... " โอ๋พูดสั้นๆ เหมือนไม่เต็มใจออกเสียง พร้อมแสดงสีหน้าไร้อารมณ์
อาร์ตหน้าจ๋อย ยืนนิ่งคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อไป เขาไม่เคยถูกโอ๋เมินเฉยกับเขาขนาดนี้
" เออ .. กูก็หิว ยังไม่กินอะไรตั้งแต่เช้า " โอ๋ทำท่าลูบวนๆ ที่ท้อง เห็นได้ชัดเจนว่าโอ๋พยายามพูดให้เป็นปกติจนรู้สึกขัดๆ
โอ๋ยังไม่อยากขุดเรื่องวันนั้นขึ้นมาทะเลาะกันให้อารมณ์เสีย และอาร์ตก็เป็นเพื่อนสนิดคนเดียวที่โอ๋ไม่อยากผิดใจด้วย
มันคงยังไม่ถึงเวลาที่ทั้งสองจะมาคุยกันเรื่องนั้น นอกจากอาร์ตจะพยายามทำให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง โอ๋คงต้องทำอะไรซักอย่าง
" เออดี .. กูอยากกินก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊หมูวะ " การตอบรับของโอ๋ทำให้อาร์ตใจชื้นขึ้นมา
แต่เดาได้เลยว่าโอ๋มันคงเก็บความโมโหและอะไรหลายๆ อย่างไว้ในใจและไม่ลืมง่ายๆ
" ร้านมันจะเปิดให้มึงหรือ ยังไม่เปิดเทอมเลย เหลืออีกตั้ง 5 วัน "
" เออๆ เอาเหอะน่า ไปดูก่อนก็แล้วกัน แม่งแล้วรีบมาไว อะไรนักหนา "
" มึงก็เหมือนกันแหละ " โอ๋ค้อนควับ
" แล้วนี่ .. พ่อแม่มึงเป็นไง " อาร์ตเปลี่ยนเรื่องโดนทันที ก่อนที่มันจะอารมณ์เสีย
" ก็ยังเถียงกันดีเหมือนเดิมแหละ กูถึงรีบหนีออกมานี่ไง "
" อืม .. เหรอ .... เออ กูเปลี่ยนใจละไปกินข้าวร้านเดิมดีกว่า เมื่อกี้กูเห็นมันเปิดละ "
" ตามใจมึง "
..............................................
ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งกินข้าว ความเงียบระหว่างเขาทั้งสองถูกทำลายลงด้วยความคิดถึง
โอ๋ยังคงคิดเพื่อนคนนี้ ถึงแม้มันจะทำชั่วไว้กับเขาจนไม่สามารถให้อภัยได้
อาร์ตก็คิดถึงคนรักในคราบเพื่อนสนิดมาก โดยเฉพาะหลังจากที่โอ๋ตกเป็นของเขาแล้วในคืนนั้น
สองหนุ่มเริ่มกันคุยสนุกสนานเหมือนกับที่เคยเป็นมา บรรยากาศเสียงหัวเราะคิกคักตามประสาเพื่อนกลับมาอีกครั้ง
จู่ๆ ก็มีเงามืดดำพาดเข้ามาที่โต๊ะ พร้อมรังสีความร้อนที่ไม่อาจระบุที่มาแผ่ซ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียง ...
" พวกแกสองคนแอบนัดมาจู๋จี๋อะไรกันยะ!! อีกตั้งหลายวันกว่าจะเปิดเทอม !! "
เสียงเล็กๆ ได้ยินแล้วมันจี๊ดเข้าไปในสมอง มันเป็นเสียงของยัยปุ๊ก หนึ่งใน 5 สาว เบบี้วอกซ์
โอ๋กับอาร์ตเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง ... โหย... มันมากันครบเลย
" คนเป็นแฟนกัน เขาก็ต้องหาเวลาจู๋จี๋กันเด้ .. เนอะตัวเอง " อาร์ตทำหน้าตาน่าหมั่นไส้ แล้วโยนมุขไปทางโอ๋
แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากโอ๋แม้แต่น้อย ก็คำว่าแฟนนั้นที่โอ๋ไม่อยากได้ยิน
" พวกแกสองคนทำตัวน่าสงสัยนะ " ยัยปุ๊กคนเดิมยังต่อแยไม่หยุด
" ใช่!! " อีก 4 คนพูดเสริมมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
" รีบกลับมาไวๆ จะได้มาอี๋อ๋อกัน ชะม้าย " หนึ่งสาวในกลุ่มเสริมขึ้นมาอีกคน
" พวกแกก็มาไวเหมือนกันนั่นแหละ นัดหนุ่มไว้รึงายย " อาร์ตเริ่มเถียงไม่สู้แล้ว
" ทุเรด!! พวกฉันไม่ได้แรดอย่างนั้นนะ " ยัยปุ๊กมันเริ่มนั่งลงข้างโอ๋ แล้วกวักมือชวนเพื่อนๆ ลงนั่งที่โต๊ะเดียวกัน
แล้วทั้งหมดก็เริ่มคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ
" พวกแกไม่ได้ลงเรียนวิชาสหกรณ์ ของคณะเกษตรฯ ตอนซัมเมอร์หละสิ พวกชั้นได้ .... A ง่ายๆ เลยน้าา "
" ป่าว ก็ไม่รู้นี่หว่า แล้วเพื่อนห้องเรา ลงเรียนกันเยอะไหม " โอ๋แสดงความสนใจหลังจากที่เงียบไปนาน
" ก็ประมาณครึ่งห้องนะ "
" แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกพวกแกค่อยมาลงเรียนตอนซัมเมอร์ของปี 4 ก็ได้ ฉันเจอพี่ปี 4 มาเรียนกันหลายคนอยู่ "
" เออ ดีๆ " โล่งอกไปทีนึกว่าจะเสียเปรียบซะแล้ว
" โอ๋ไม่ต้องกังวลหรอกนะ เดี๋ยวเค้าลงเรียนเป็นเพื่อนตัวเองตอนปี 4 อีกทีก็ได้ " ยัยจอยสาวน้อยที่เงียบที่สุดในกลุ่มเบบี้วอกซ์
จอยชอบพูดแทะเล็มโอ๋เป็นประจำ เพื่อนทั้งห้องเลยรู้ว่ามันแอบชอบโอ๋จริงๆ ถึงแม้มันจะอ้างว่าพูดเล่นก็ตาม
" ขอบคุณครับที่รัก " โอ๋ยิ้ม หันหน้าไปแสดงบทบาทที่รักกับจอยที่นั่งอยู่ติดๆ กัน
" แต่เค้าพูดเล่นนะ " แหมเขารู้กันหมดแล้วหละ
แต่คำว่า ' ที่รัก ' ที่โอ๋พูดเล่นกับจอย อาร์ตอยากให้คำนั้นมันกลายเป็นคำที่โอ๋พูดกับอาร์ตมากกว่า
แล้วอาร์ตก็เข้าสู่พวังความคิดของตัวเองปล่อยให้เพื่อนๆ คุยกันสนุกสนาน ความรักมันทำให้คนเราเปลี่ยนไปจริงๆ
โอ๋สังเกตุได้ถึงสีหน้าอาการของอาร์ตที่ซึมลงในทันที พอเดาได้ว่าเป็นเพราะเรื่องตั้งแต่ก่อนปิดเทอมนั้นแหละ
โอ๋เองก็ลำบากใจมากที่รู้ว่าเพื่อนสนิดแอบชอบตัวเอง ถ้าโอ๋ชอบอาร์ตบ้างก็คงจะดี สถานการณ์มันก็คงดูไม่เป็นปัญหาแบบนี้
ถึงแม้โอ๋จะกลัวมีการมีคนรัก แต่โอ๋ก็เหงาและอ้างว้าง โอ๋ต้องการคนที่คอยดูแลให้ความสุขอย่างใกล้ชิด
เติมช่องว่างในใจให้มันเต็มขึ้นมาซักนิดก็ยังดี แต่ถ้าจะให้คนๆ นั้นเป็นอาร์ต โอ๋คงรับไม่ได้เพราะว่า อาร์ตคือเพื่อนแท้
" ไม่ตื่นเต้นกันเหรอ จะได้รับน้องใหม่แล้ว โอ๋...แกต้องคุมน้องลีดฯ ปี 2 หนิ ..เหนื่อยแย่เลย " จอยพูดจาแบบจ๊ะจ๋า
" เฮ้อ... ฉันเชื่อต้องแสดงละครหลอกเด็กวะ ไม่ชอบเลย " ปีนี้โอ๋ต้องรับหน้าที่ประธานเชียร์ลีดเดอร์
เนื่องจากพี่ปี 4 จะไม่ลงมายุ่งเรื่องรับน้องอีกแล้วเพราะต้องเอาเวลาไปทุ่มเทกับการเรียนอย่างเต็มที่
ดังนั้นแม่งานที่รับผิดชอบการรับน้องจึงเป็นนักศึกษาปีที่ 3 สำหรับโอ๋กิจกรรมรับน้องของคณะมันเครียดตรงที่ต้องหลอกให้น้องปี 1
ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ให้หลงเชื่อและคล้อยตามไปกับสถานการณ์ที่รุ่นพี่สร้างขึ้น
" 555 แต่กูชอบวะ โอ๋ " อาร์ตหัวเราะเสียงดังอย่างคึกคัก เพราะว่าปีนี้ก็เขาจะได้ทำหน้าที่ ' พี่สต๊าฟว๊าก ' สุดโหดเหมือนเดิม
ก็คณะเรามันมีผู้ชายอยู่แค่นี้ แล้วไอ้โอ๋มันก็แยกตัวออกไปเป็นลีดฯ ซะอีก
ที่เหลือเลยต้องเป็นสต๊าฟว๊ากกันหมด สต๊าฟว๊ากต้องคอยพูดเสียงดังและทำหน้าเหี้ยมๆ อยู่ตลอดเวลา
ซึ่งอาร์ตมันก็หน้าเหี้ยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
" แหม ไอ้อาร์ต .... ปีนี้แกอย่าแกล้งน้องหนักนะ " ยัยปุ๊กรีบแสดงบทบาท ' พี่สต๊าฟปลอบ ' โดยทันที
" อ่าวทำไมหละเจ๊ "
" ก็ปี 1 ที่จะเข้ามาใหม่เนี๊ยะ มีน้องผู้ชายเกือบ 10 คนแหนะ ฉันกลัวน้องๆ จะกลัวแกจนลาออกกันไปหมดหนะสิ "
ยัยปุ๊กพูดเล่นแกมจริงพร้อมแสดงสีหน้าอยากปลอบน้องใหม่เต็มที่ โดยเฉพาะน้องผู้ชาย
ทุกคนนั่งคุยกันต่อไม่นาน ก็แยกย้ายกันกลับ
" เจอกันวันเปิดเทอมนะคะที่รัก " ยัยจอยยังหันมาหยอดทิ้งท้าย
" คร้าบบ " โอ๋ตอบกลับไปโดยไม่ได้หันไปมอง
อีก 5 วันก็จะถูกเรียกว่า ' พี่ปี 3 ' แล้ว และการฝึกงานที่ตึกเวชกรรมฟื้นฟูก็จะเข้มข้นมากขึ้น คิดแค่นี้ก็ปวดหัวแทบแย่แล้ว
แล้วไหนจะวิชาภาคนิพนธ์ ที่รุ่นพี่ขู่ไว้ว่ายากนักหนา ยากเสียจนไม่มีคำบรรยาย
ก็ต้องสู่ต่อไป ทั้ง 30 คน นั่นแหละ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็เอาให้มันพอผ่านอย่าให้ถึงขนาดต้องได้เรียนซ้ำเลย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
:sad3: :sad3: :sad3:
จะเริ่มต้นยังไงดี
ว่าแล้วจับกดเท่านั่น
:m3: :m3: :m3: :m3:
-
เฮ้อ โอ๋ยังไม่มีใจ
อาร์ตจะทำยังไงต่อไป
:undecided:
-
............เก็บกดต่อไป........เพื่อรอวันระเบิด.......... :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ต่างฝ่ายต่างก็รักษาฟอร์มตัวเอง :เฮ้อ:
-
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 5
สองนักศึกษาหนุ่มที่ติดกันแจยังกะปาท่องโก๋ ถ้าเจอคนหนึ่งก็ต้องเห็นอีกคนหนึ่งอยู่ใกล้ๆ ชั่งน่ารักน่าชังและน่าสงสัย
คนหนึ่งร่างกายสูงใหญ่กว่า แต่ก็ดูไม่แตกจากอีกคนจนเกินไป หุ่นนักกีฬา ท่าทางทะมัดทะแมง และเป็นสุภาพบุรุษ
มีรุ่นน้องผู้หญิงบางคนมาแอบชอบอยู่เหมือนกัน และกับอีกคนรูปร่างสมส่วน ตัวเล็กกว่าผอมกว่าเมื่อเทียบกับคนแรก
ดูไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสเท่าไหร่ แต่ด้วยเป็นคนหน้าตาน่ารัก จึงทำให้มีคนแอบรักแอบชอบอยู่เยอะ
แต่ก็เห็นว่าติดเพื่อนคนที่ตัวโตกว่านั่นแจ จนไม่ยอมเปิดโอกาสให้สาวๆ ได้เข้ามาจีบมาคุยซักที
จนกลายเป็นข้อคระหานินทาอยู่เป็นประจำ ทั้งสองคนตกเป็นขึ้ปากของเพื่อนในชั้นจนชินไปซะแล้ว
' ก็ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยคิดอะไรกันเกินเพื่อนอยู่แล้ว ... จะบ้าหรือไงผู้ชายด้วยกันจะรักกันได้ไง '
แต่ตอนนี้ก็คงบ้าไปแล้วนั่นแหละ คงหนีข้อกล่าวหาไม่พ้นแล้ว ..ได้กันแล้วหนิ - -*
แต่ถึงอย่างไรเรื่องของคืนนั้นก็ไม่มีใครรู้หรอกนอกจากพวกเขาทั้งสองคน
กับซัมเมอร์อันแสนร้อนระอุที่กำลังจะผ่านไป ถึงแม้มหาวิทยาลัยแห่งนี้จะมีต้นไม้ใหญ่เยอะแยะมากมาย
แต่ก็ไม่อาจจะต้านทานความร้อนที่มีอยู่ในทุกพื้นที่ได้ วันนี้อากาศร้อนอบอ้าวคล้ายกับจะมีฝนหลงฤาดูตกลงมา..
ตกลงมาก็ดีสิ ร้อนจะตายอยู่แล้ว
เหมือนอาร์ตคิดผิดที่เขารีบมาหาโอ๋ไวเกินไป หลังจากคืนนั้นความรู้สึกของอาร์ตมันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ความทรมานที่อาร์ตยังต้องทำตัวเป็นเพื่อนเหมือนเดิม ยังต้องเรียกสรรพนามแทนโอ๋ว่า ' มึง '
ทั้งที่ในใจอยากพูดว่า ' คุณ ' หรือ ' ที่รัก ' ยังต้องรักษาระยะห่างให้เท่ากับคนที่เป็นเพื่อนกัน
ทั้งที่อาร์ตอยากจะจับมือโอ๋เดินไปด้วยกัน หลายครั้งที่อาร์ตพยายามบอกโอ๋เป็นนัยน์ๆ ถึงความจริงในใจ
อาร์ตได้อยู่กับโอ๋เต็มวันช่างมีความสุขจริงๆ ต้องใช้เวลาทั้ง 5 วันก่อนเปิดเทอมให้คุ้มค่าที่สุด
สองหนุ่มก็ยังคงไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นมา ยังคงนั่งกินข้าวด้วยที่หลังมอในทุกเย็น
" โอ๋ กุอยากกินน้ำผลไม้ปั่น เด๋วกูจะซื้อมาให้มึงด้วย " อาร์ตให้ข้อเสนอหลังจากที่สั่งอาหารตามสั่งแล้ว
" เออ ... งั้นกูเอา ... " โอ๋ยังไม่ทันบอกว่าจะเอาผลไม้อะไร อาร์ตเดินออกไปก่อน
ไม่ถึง 2 นาที อาร์ตก็เดินกลับ แล้ววางน้ำมะนาวปั่นลงตรงหน้าโอ๋ 1 แก้ว มีหลอดเสียบอยู่ 2 อัน
โอ๋มองดูหลอดสองหลอดที่อยู่ในแก้วเดียวกัน ' มึงจะให้กูดูดน้ำปั่นแก้วเดียวกับมึงอะเหรอ ... มึงคิดอะไรของมึง '
" ไมมึงซื้อมาแก้วเดียว ... จะให้กูกินแก้วเดียวกะมึงอะนะ กูไม่กินด้วยนะเว้ย "
อาร์ตเดาไว้แล้วว่าโอ๋คงตอบกลับมาอย่างนี้ แล้วเขาก็วางแก้วน้ำแครอตปั่นอีกแก้ว แล้วแบ่งหลอดจากอีกแก้วมา
" มึงคิดว่ากูจะกินน้ำแก้วเดียวกะมึงหรือไง .. "
" มึงเล่นเสียบสองหลอดในแก้วเดียวจะให้กูเข้าใจยังงัย "
" เออๆ กูไม่ได้ตั้งใจ ..... กูขอโทษนะ " อาร์ตเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นแบบจริงจัง
และสายตาเศร้าๆ ที่มันส่งผ่านมาให้โอ๋ คงแปลว่า ' กูขอโทษที่กูทำผิดกับมึงในคืนนั้น '
แต่โอ๋ไม่อยากคิดถึงเหตุการณ์นั้นอีก อยากปล่อยให้มันเลือนหายไปกับกาลเวลา แล้วให้อาร์ตและโอ๋เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
อาร์ตนิ่งรอคำตอบจากโอ๋ ทุกอย่างที่อยู่รอบข้างเงียบลงเหมือนเป็นใจ แต่ถึงอาร์ตอ้อนวอนยังงัยโอ๋ก็คงไม่ยกโทษให้อาร์ตแน่นอน
แล้วพอดีอาเจ๊ก็เอาข้าวผัดกุ้งกับหมูทอดกระเทียมที่สั่งไว้มาเซิร์ฟ โอ๋เลยถือโอกาสตักข้าวคำใหญ่ๆ อุดปากตัวเองซะเลย
' มันไม่ตอบ .. แสดงว่ายังโกรธกูอยู่ ก็สมควรแล้ว ก็กูทำกับมันขนาดนั้น ' .. อาร์ตก้มหน้าทำตาละห้อย
แล้วตักข้าวเข้าปากเคี้ยวความน้อยใจและกลืนลงกระเพาะพร้อมข้าวทุกๆ คำ
' ทำไมกูต้องมาหลงรักเพื่อนตัวเองด้วยวะ.. เพื่อนผู้ชายอีกต่างหาก .. ไอ้โอ๋.. มึงรู้ไหมกูคิดถึงมึงขนาดไหน
กูรอแต่จะให้ถึงวันเปิดเทอมไวๆ กูอยากเจอหน้ามึง ... แต่พอก็เจอมึงกูก็ต้องทำตัวเป็นเพื่อนมึง
กูไม่อยากเป็นแบบนี้ รู้ไหมมันทรมานขนาดไหน เวลา 1 เดือนที่ห่างกัน มันทำให้กูรู้จักตัวเองมากขึ้น
วันนี้กูเข้าใจตัวเองแล้ว พอกูได้เห็นหน้ามีงอีกครั้ง กูก็มึงในใจเลยว่า ' กูรักมึง ' .. "
" ไอ้อาร์ต!! มึงเป็นอะไร!! มองหน้ากูอยู่ได้ มึงจะกินไหมข้าวหนะ "
เสียงของโอ๋ปลุกให้อาร์ตตื่นจากพะวังความคิด เขาเผลอนั่งเหม่อและปล่อยสายตาลอยไปมาอยู่ที่ใบหน้าของโอ๋
" เอ่อ .. อืม .. " อาร์ตตอบเลิกลั่กแล้วก้มหน้ากินข้าวต่อไป สายตามันเศร้าจนน่าสงสาร
' กูไม่อยากทรมานแบบนี้ ... กูจะหาโอกาสบอกให้มึงรู้ ... ถึงมึงจะไม่รักกูตอบ แต่กูก็จะรักมึงต่อไป '
กับท่าทีของเพื่อนรักที่แปลกไปขนาดนั้น โอ๋ก็พอจะรู้ว่าอาร์ตกำลังสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น
' ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่าอาร์ตจะเป็นเกย์ หรือว่ามันแค่เมา แต่ถึงแม้จะเมามากเท่าไหร่
ผู้ชายแท้ๆ ก็คงไม่ลักหลับผู้ชายด้วยกัน ... แล้วทำไมต้องเป็นกูด้วยหละอาร์ต มึงรู้ไหมว่ากูเจ็บขนาดไหน
เจ็บทั้งตัวและเจ็บทั้งใจ มึงเป็นเพื่อนกูแท้ๆ ทำไมมึงทำกูได้ลงวะ มึงคงจะอ้างว่ามึงเมาหละสิ ไอ้เพื่อนเลว
กูไม่อยากบอกเลยว่า กูให้อภัยมึงได้ แต่กูไม่มีวันหายโกรธมึงเรื่องนี้แน่นอน
และอย่าหวังว่าตั้งแต่นี้ไปมึงจะได้มานอนห้องกูอีก ถึงแม้ว่ากูอาจจะเหงาถ้าไม่มีมึงอยู่ใกล้ๆ เหมือนเดิม
กูคงหาเพื่อนดีๆ อย่างมึงไม่ได้อีกแล้ว แต่มึงกลับกระทำการสุดชั่วกับกูไว้แล้วก่อนจะปิดเทอม '
" ไอ้โอ๋ !! มึงเหม่ออะไรวะ !! " คราวนี้เป็นอาร์ตที่ทำให้โอ๋รู้สึกตัว
" เอ่อ .. กูอิ่มแล้ว .. "
" ไม่ใช่... กูถามมึงว่ามึงเหม่ออะไร "
" อะ เอ่อ ... กู .. ก็แค่ถึงเรื่องรับน้อง ตอนเปิดเทอมก็เท่านั้น " โอ๋อ่ำๆ อึ้งๆ แล้วตอบไปมั่วๆ
" เออ! เฮ้ย รับร้อง... กูดีใจหวะ กูชอบรับน้อง " พอพุดถึงเรื่องรับน้อง อาร์ตก็แสดงสีหน้าร่าเริงขึ้นมาทันที
อาร์ตเป็นสต๊าฟว๊ากที่บ้าบิ่นที่สุด บ้ากว่ารุ่นพี่หลยาๆ คนที่เคยเป็นมา
" มึง ... อย่าบ้านักเลยน่า " โอ๋ตอบกลับไปอย่างคนรู้ใจ
" เออน่า กูไม่แกล้งน้องโหดมากนักหรอก "
" ระวังน้องบาดเจ็บก็แล้วกัน และอย่าประมาท กูไม่อยากเห็นใครตายในกิจกรรมรับน้องคณะเราเหมือนมหา'ลัยอื่น "
" พวกกูไม่แกล้งน้องหนักขนาดนั้นหรอก อย่างมากก็แค่ไฮเปอร์เวนฯ** " อาร์ตทำหน้าตากวนๆ
" เหรอ ถ้าเกิดมีน้องที่เป็นโรคหัวใจแต่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนหละ
รับน้องอยู่ดีๆ แล้วหัวใจล้มเหลวกลางห้องเชียร์ จะทำยังงัย นักศึกษากายภาพฯ ปี 3 อย่างเราจะทำไรได้ "
โอ๋วางช้อนตักข้าวลง ทำหน้าจริงจัง พูดยาวแบบไม่หยุดเว้นวรรค
" โหย ไอ้โอ๋ มึงคิดมากกก.... เมื่อไหร่มึงจะหายไอ้โรคคิดมากเนี๊ยะ ... "
อาร์ต อดหมั่นไส้คนคิดมากไม่ได้ เขาเผลอเขกหัวโอ๋เบาๆ อย่างเอ็นดู ทั้งที่ไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อน แล้วรีบดึงมือกลับมาทันที
" เออ .... ปีนี้กูกะมึงสงสัยได้ตีกันในห้องเชียร์แน่ๆ " อาร์ตรีบคุยต่อเป็นการแก้เขิน
" อ่าวไมเป็นมึง ต้องเป็นไอ้เจมส์สิ มึงเป็นหัวหน้าสต๊าฟว๊ากตอนไหน "
" ป่าว .. ไอ้เจมส์ยังเป็นประธานสต๊าฟว๊ากเหมือนเดิม "
" อ่าว ! แล้วไมจะมึง.... "
" กูขอไอ้เจมส์ไว้แล้ว ... 5555 " อาร์ตพูดตัดบททั้งที่โอ๋ยังพูดไม่จบ
" ไอ้เวร แล้วกูจะสู้แรงมึงได้เหรอวะ ไอ้เจมส์ว่าไปอย่าง มันตัวพอๆ กันกะกู "
" เออน่า ... กูไม่ทำมึงแรงหรอก ไม่ต้องกลัวจะเจ็บหรอก "
ประโยคสุดท้ายที่อาร์ตพูดทิ้มเข้าไปในใจของทั้งคู่
' แต่มึงรู้ไหมว่าหลังจากคืนนั้นกูเจ็บขนาดไหน กูเจ็บใจที่เพื่อนอย่างมึงมาทำกะกูได้ ' โอ๋ได้แต่ด่ามันในใจ
" กูอิ่มละ ... กูจ่ายตังค์ก่อนนะ " แล้วโอ๋ก็ลุกขึ้นตรงไปหาแม่ค้าในทันที
" กูอยากถอนคำพูดคืนจริงๆ วะ " อาร์ตกัดลิ้นกัดฟันด่าตัวเองเบาๆ แล้วรีบดูดน้ำแครอตปั่นอย่างรวดเร็ววิ่งตามหลังโอ๋ไป
... วันสุดท้ายของการรับน้อง คือการสอบเพลงเชียร์เพลงสำคัญ นั่นก็คือเพลงประจำคณะ
แผนเดิมๆ ที่ใช้กันมาทุกรุ่นทุกปี ก็คือน้องใหม่จะต้องร้องเพลงสุดท้ายไม่ผ่าน
และเกิดความวุ่นวายของเหล่ารุ่นพี่จนถึงขั้นชกต่อยกันในห้องเชียร์จนเลือดตกยางออก
เพื่อเป็นการสร้างความสะเทือนอารมณ์ให้กับน้องใหม่ และตัวละครตำแหน่งเดิมๆ ที่จะต้องชกต่อยกันก็คือ
พี่ประธานเชียร์ พี่ประธานสต๊าฟว๊าก และพี่ประธานลีด ก็แล้วแต่ว่าจะวางแผนให้แตกต่างจากปีที่ผ่านๆ มายังงัย
อาร์ตเดินตามมาจนถึงห้องของโอ๋ เขาคิดว่าวันนี้ก็คงไม่ต่างกับวันที่ผ่านมา
ก่อนที่จะเปิดประตูห้อง โอ๋พูดดักคอเป็นการแสดงท่าทีว่าอยากอยู่ตนเดียว
" เออ .. อาร์ต ห้องกูยังรกอยู่เลย กูยังไม่ได้เก็บของตั้งแต่กลับมาถึง มึงกลับไปนอนห้องมึงเถอะ "
" .. โหย แค่ห้องรก มันจะนอนไม่ได้เชียวเหรอ กูไม่อยากกลับไปอยู่ห้องคนเดียว "
" แต่วันนี้กูอยากอยู่คนเดียว "
อาร์ตหยุดและอึ้งกับที่ไอ้โอ๋มันพูด ' มันไม่เคยพูดกะกูอย่างนี้ .. แล้วทำไมกูยังหน้าด้านอยู่ให้มันรำคาญ '
" เอ่อ ก็... แล้วแต่มึง "
อาร์ตก้าวถอยหลัง ทำหน้าไม่เป็นสี ' มันกำลังจะตีตัวออกห่างจากกู '
มองเห็นโอ๋ไม่ยอมเปิดประตูห้องซักที คงยืนรอให้อาร์ตลงไปซักก่อน ' มึงคงเกลียดกูมากเลยใช่ไหม ถึงไล่กูแบบนี้ '
อาร์ตก้าวเท้าช้าๆ ไปที่บันได ' ตอนกินข้าวก็ยังคุยกันดีๆ อยู่ พอจะเข้าห้องกลับถูกมันไล่ซะนี่ ..
กูกำลังจะกลับเหรอ วันนี้ไม่ใช่เหรอที่กูจะบอกความจริงกับมัน ถ้ากูกลับ กูก็นอนไม่หลับ
กูคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน ... ไม่ได้ๆ กูจะไม่กลับ '
" โอ๋ ! " อาร์ตหันกลับมาเรียกโอ๋ที่ยังอยูตรงนั้น โอ๋ยังนิ่งอยู่ไม่ไหวติง
" กูลืมกุญแจรถไว้ในห้องมึงวะ " โอ๋เงียบไปซักครู่ รู้สึกขัดใจที่อาร์ตยังหาเรื่องเข้าห้อง
" เออ ... หยิบเอาแล้วก็รีบกลับ " โอ๋เปิดประตู แล้วอาร์ตก็เดินตามโอ๋เข้าไป
พออาร์ตเข้ามาได้ก็กดล็อคลูกปิดประตูให้เบาที่สุดในทันที
" กูไม่กลับละ กูจะอยู่กะมึง กูกลับไปก็คงนอนไม่หลับวะ "
อาร์ตล้มตัวลงนอนที่เตียงของโอ๋เหมือนกับที่เขาเคยทำ แต่คนที่ไม่พอใจที่สุดคือโอ๋
อาร์ตเอื้อมไปกดเปิด TV ของรูมเมต ที่ปลายเตียงแล้วทำเป็นนอนดูอย่างสบายใจ
โอ๋มีรูมเมตที่น่ารักคนนึง เขาเป็นหนุ่มน้อยหน้าสวย ชื่อว่า ' น้ำ '
แต่น้ำมักจะใช้ชีวิตอยู่นอกหอพักเสียมากกว่า โอ๋เองไม่เคยถามว่าเวลาที่น้ำไม่กลับมาห้อง น้ำไปนอนที่ไหน
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่อาร์ตมานอนที่ห้องโอ๋ได้บ่อยๆ บางวันอาร์ตก็มาอาบน้ำที่ห้องโอ๋
ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกัน และใส่กางเกงโอ๋ด้วย
หลังจากที่โอ๋ออกมาจากห้องน้ำ และเปลี่ยนชุดสบายๆ สำหรับอยู่ห้องเรียบร้อย
อาร์ตก็ลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำบ้าง
หลังจากที่อาร์ตออกมาจากห้องน้ำ เขาหยิบกางเกงขาสั้นและเสื้อตัวใหญ่ที่สุดของโอ๋มาใส่ แล้วนอนอยู่ที่เตียงของน้ำ
โอ๋ปล่อยให้ TV เป็นคนที่พูดอยู่คนเดียว ความจริงโอ๋ไม่ชอบดู TV แต่วันนี้เขาใช้ TV เป็นข้ออ้างที่จะไม่พูดกับอาร์ต
จนกระทั่งดึกมากแล้ว โอ๋จึงพูดขึ้นเป็นครั้งแรกใน 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
" กูง่วงละ ... " แล้วลุกขึ้นเปิด TV ปิดไฟ โดยไม่สนใจอาร์ตที่นอนอยู่อีกเตียง
อาร์ตเงียบไม่ปริปากอะไร ก็มาอยู่ห้องเขาหนินะ ทั้งที่เจ้าของห้องก็ไล่แล้วแต่ก็ยังหน้าด้านอยู่อีก
ความมืดภายในห้องไม่ได้ทำให้อาร์ตรู้สึกง่วงแต่อย่างใด ได้แต่นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
' มันเป็นเมียกูแล้วแท้ๆ แต่ก็ไม่กล้ากอดมันอีก .................. '
ซักพักโอ๋ลุกขึ้นมาคลำหาพัดลมตั้งโต๊ะตัวเดิม กดเปิดเบอร์ 1 แล้วหันมาทางตัวเอง เพราะว่ามันหมุนไม่ได้
" ขอโทษนะอาร์ต มึงก็รู้ว่ามันเสีย " แล้วทิ้งตัวลงเตียง พลิกตะแคงตัวหันหน้าหนีไปอีกทาง
ในฐานะของผู้อาศัย อาร์ตได้แต่เงียบ ไม่โต้แย้ง อากาศที่ร้อนมากขึ้นทำให้อาร์ตต้องลุกถอดเสื้อแล้ววางไว้บนหัวนอน
มันไม่ได้ช่วยให้เย็นขึ้นมาเท่าไหร่เลย เหงื่อเริ่มผุดขึ้นที่หน้าผาก และที่แผ่นหลัง มันร้อนเกินไปแล้วหละมั้ง
" ไอ้โอ๋ กูร้อน เขยิบดิ ให้กูนอนด้วย " อาร์ตลุกขึ้นมาต่อรอง เพื่อรับส่วนแบ่งความเย็นจากพัดลมตัวเดียว
โอ๋เขยิบตัวไปชิดฝาทั้งที่ยังหลับตา เตียงยุบลงเล็กน้อยตามน้ำหนักตัวของอาร์ตที่ทิ้งลงมาเบาๆ
หัวใจโอ๋ตกวูบตามจังหวะที่เตียงมันยุบตัวลง แล้วหัวใจก็สั่นอยู่อย่างนั้น
โอ๋หลับตาแน่นและถามตัวเองว่า เกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกของตัวเอง ทำใมหัวใจเขาถึงสั่นไม่เป็นจังหวะ
' กูกลัวไอ้อาร์ตมันจะทำอะไรกูอีก แต่ถ้ามันจะทำ กูชกหน้ามันและเตะมันแรงที่สุดเท่าที่แรงกูมี '
อาร์ตเริ่มพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ความร้อนของอากาศมันถูกสายลมจากพัดลมช่วยบรรเทาไปได้มาก
แต่ความรุ่มร้อนที่มันกำลังเผาใจอาร์ตอยู่มันทำให้อาร์ตไม่อาจอยู่นิ่งๆ ได้
เขาอยากจะเอื้อมไปกอดโอ๋เหมือนวันนั้น แต่ก็ไม่กล้า.. เขาจะไม่อาจทำผิดต่อโอ๋เป็นครั้งที่สองทั้งที่ครั้งแรกก็ยังไม่ได้ขอโทษ
' ... ที่กูทำกับมึงไว้ ทำไมมึงไม่ด่ากูวะ .. หรือแปลว่ามึงไม่โกรธ แปลว่ามึงไม่เกลียดที่กูทำแบบนั้น
แปลว่ามึงชอบกูหรือป่าว กูคิดไปเองอีกแล้ว ถ้ามึงคิดแบบนั้นจริงๆ ชีวิตกูคงเป็นสุขไปทั้งชาติ '
อาร์ตไตร่ตรองถึงที่สุดและตัดสินใจที่พูดถึงเรื่องคืนนั้น ไม่อยากทนเป็นคนที่แอบรักเพื่อนตัวเองแบบนี้
" โอ๋ .. มึงหลับยังวะ " อาร์ตถามขึ้น โดยที่ทั้งสองนอนหันหน้ากันไปคนละทาง
" .... ยัง " โอ๋นิ่งไปวักพักหนึ่งก่อนที่จะตอบ
" กูนอนไม่หลับวะ "
" นอนๆ ไปเถอะเดี๋ยวก็หลับ "
ทุกอย่างเงียบงัน มีแต่เสียงของสนทนาของสองหนุ่ม
" .... โอ๋ "
" ... มึงอยากพูดก็พูดดิ มึงจะเรียกทำไม "
" เอ่อ .. กูขอโทษ "
" ....... " โอ๋ได้แต่เงียบ
" เรื่องคืนก่อนที่จะปิดเทอมหนะ.. กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ " อาร์ตพูดนำเสียงเศร้า ๆ แล้วนิ่งรอคำให้อภัยจากโอ๋
โอ๋ไม่รู้จะพูดยังงัย จะบอกว่าไม่เป็นไรได้ยังงัย ในเมื่อตัวเองถูกลักหลับจนแทบนั่งไม่ได้
" กูขอโทษจริงๆ กูรู้ว่ามึงยังโกรธกูอยู่ กูไม่สบายใจที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้ ... มึงยกโทษให้กูเถอะนะ "
เสียงอ่อยๆ แบบนั้น ฟังดูก็น่าสงสารอาร์ตเหมือนกัน
" แล้วมึงจะรื้อฟืนมันขึ้นมาทำไม .. มึงน่าจะปล่อยให้มันจบๆ ไป "
โอ๋พูดตอบกลับไปนิ่งๆ มันไม่ได้แปลว่ายกโทษให้ แต่หมายถึงให้ลืมมันไปซะ
" ขอบใจนะที่มึงยกโทษให้กู .... โอ๋ ... ขอกูถามอะไรซักอย่างได้ไหม.... "
" ........ ก็ถามมาสิ "
อาร์ตเงียบไปนานกว่าจะถามคำถามสำคัญออกไปทั้งที่ใจสั่น
" ....... ถ้ากูไม่ได้คิดกับมึงแบบเพื่อนเหมือนเดิมหละ มึงจะโกรธกูไหม "
" ............ " โอ๋อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะพูดแบบนี้
อาร์ตพลิกตัวหันมาทางโอ๋
" โอ๋ ... กูขอโทษนะที่กูรักมึง "
เขาพยายามคว้าไปที่มือของโอ๋ แต่โอ๋ดึงมือหนี
" ถ้ามึงไม่คิดเหมือนกับที่กูคิดมึงก็บอกมาตรงๆ .. กูขอร้อง " เขาถามทั้งที่รู้ว่าโอ๋จะตอบกลับมายังงัย
อย่าน้อยคำตบมันก็จะได้ตอกย้ำในใจและทำให้เขาตัดใจจากโอ๋ได้ง่ายขึ้น
แต่โอ๋กลับนิ่งไป ไม่รู้ว่าในใจมันคิดอะไรอยู่ ซักพักโอ๋ก็พูดความใจในออกมา
" กู.... คิดว่ามึง .... ยังเป็นเพื่อนของกูเหมือนเดิม "
" เหรอ ... " อาร์ตเสียงสั่นด้วยความเสียใจ
" กูขอกอดมึงได้ไหม.... ครั้งสุดท้ายที่กูจะได้อยู่ใกล้ๆ มึงแบบนี้ "
อาร์ตเอื้อมแขนข้ามตัวโอ๋มาและเขยิบตัวเข้าไปใกล้ ประทับรอยแขนลงบนตัวโอ๋อย่างเกรงใจและนุ่มนวลที่สุด
เขากดแขนลงบนตัวเพื่อนสนิดเล็กน้อย เป็นกอดที่อบอุ่นที่สุด อ่อนหวานที่สุด
ความอบอุ่นนั้นแทรกซึมเข้าไปจนถึงหัวใจของโอ๋ ความอบอุ่นที่โอ๋เองก็โหยหา
ช่างเป็นความสุขที่สุด เหมือนโอ๋เจอสิ่งที่หัวใจของเขาตามหามานานแสนนาน แต่สิ่งนั้นกลับอยู่ใกล้ๆ เขานี่เอง
โอ๋ลืมคำพูดของพ่อที่เคยพูดขู่โอ๋ไว้ ลืมคำพูดล้อเลียนต่างๆ นานา ลืมคำพูดที่บอกกับอาร์ตไปเมื่อกี้
เขารับรู้ได้แต่ว่ามีไออุ่นจากชายหนุ่มที่เพิ่งบอกรักเขาที่กำลังมอบความสุขและความสบายใจให้กับเขา
โอ๋จับแขนของอาร์ตแล้วกดลงเบาๆ อย่างลืมตัว เขาเพียงแค่ต้องการที่จะรับไออุ่นนี้อีกซักพัก
ก่อนที่จะปล่อยให้อาร์ตกลับไป เหตุใดโอ๋ถึงยังไม่ยอมรับและเปิดใจให้กว้างซักที
สัมผัสของโอ๋ที่แขนของอาร์ต ทำให้อาร์ตสับสน ตกลงโอ๋คิดยังงัยกันแน่ เหมือนโอ๋ต้องการที่จะให้เขากอด
หรือความจริงแล้วโอ๋ก็ไม่อยากปฏิเสธเขา เหตุผลอะไรที่ทำให้โอ๋พูดไม่ตรงกับใจตัวเอง
อาร์ตลองประทับริมฝีปากลงที่ซอกคอด้านหลังของโอ๋เบาๆ โอ๋สะดุ้งเล็กน้อยเหมือนตื่นจากพวัง
และแสดงอาการขัดขืนเล็กน้อย แต่อาร์ตกลับซุกไซร้ริมฝีปากและจมูกดอมดมกลิ่นกายโอ๋อย่างนุ่มที่สุด
จนโอ๋ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเพราะโอ๋เองก็ต้องการอาร์ตอยู่ลึกๆ ใช่ไหม
อาร์ตลืมคำปฏิเสธที่โอ๋พูดไว้ ... คืนนี้เขาจะมอบความสุขให้กับโอ๋อย่างทนุถนอมที่สุด
ความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง มันเป็นไปด้วยความรักที่แท้จริงของอาร์ต
แต่สำหรับโอ๋คงจะเป็นเพราะความเหงาหรืออะไรอย่างอื่นที่ไม่ใช่ความรักอย่างที่อาร์ตรู้สึก
............................................................
แสงแดดสาดส่องเข้ามาในห้อง แสดงถึงวันใหม่ที่ผ่านเข้ามาแล้ว
แต่สองหนุ่มยังนอนแลกไออุ่นกันไม่ยอมตื่นซักที อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเปิดภาคเรียนแล้ว
ดังนั้นวันนี้จึงเป็นที่รูมเมตของโอ๋น่าจะกลับมาถึงหอพักแห่งนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเทอม
" ก๊อก ก๊อก ก๊อก .. " ใครบางคนกำลังเคาะประตู หากแต่ว่าทั้งโอ๋และอาร์ตไม่มีใครรู้สึกตัว
" โอ๋คงตื่นไปหาอะไรกินแล้วมั้ง สายแล้วหนิ " น้ำ รูมเมตของโอ๋บ่นกับตัวเองอยู่ที่ด้านหน้าประตู
น้ำเสียบลูกกุญแจแล้วบิดเพื่อปลดล็อค เธอเปิดประตูแล้วลากกระเป๋าเข้ามา
กำลังถอดรองเท้าแถวหน้าประตู สายตาเหลือบเห็นพัดลมถูกเปิดทิ้งไว้ แล้วน้ำก็มองตามทิศทางของกระแสลมไป
จนเห็นรูมเมตของตัวเองและเพื่อนนอนอยู่บนเตียง ในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่ามีผ้าห่มที่ปิดขึ้นมาถึงระดับเอวพอดี
น้ำมองเห็นชายหนุ่มที่หุ่นดีเป็นบ้า หน้าตาคุ้นๆ นอนกอดรูมเมตของตัวเองอยู่ตรงหน้า นึกชื่อออกแล้วคนนี้ชื่ออาร์ตที่เป็นเพื่อนสนิตของโอ๋
แต่ภาพที่เห็นฟ้องว่าตอนนี้มันสองคนไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไปแล้ว ถูกเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ยังทันไม่เปิดเทอม
น้ำทิ้งกระเป๋าไว้ตรงนั้นและรีบย่องถอยหลังออกไปเบาๆ อย่างรวดเร็ว ก่อนที่หนิ่งในสองคนนั้นจะตื่น
คงยังไม่มีใครตาไวมองเข้ามาเห็นหรอกนะ น้ำรีบปิดประตูห้องพร้อมกดล็อค ยืนตั้งสติครู่หนึ่ง แล้วก็พูดบอกตัวเองว่า
" ชั้นไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ชั้นไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น " น้ำเดินออกไปจากประตู โดยที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะไปไหน แต่ขอไปจากตรงนี้ก่อนเถอะ ...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
มันโคตรๆๆๆ
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
ขอให้รักกันเสียที
o9 o9 o9 o9
-
เขียนออกมาได้ดีมากเลยครับ
ดูน่าเชื่อถือ มีน้ำหนัก และก็นุ่มนวลมากเลยทีเดียว
เป็นกำลังใจให้นะคับ
:m1:
-
เคยเป็นเหมือนน้ำเลย เข้าไปแล้วเห็นเพื่อนนอนกะแฟน
แล้วรีบออกมาแล้วบอกตัวเองว่ามะเหน ทั้งๆที่เหนชัดเตมตาเพราะมันมะห่มผ้าเอิ้กกกก
แล้วมาบอกมานทีหลัง เหออๆๆๆมันอายม้วนเรย 555 ขู่มันไปได้อีกนาน
เรื่องนี้หนุกดีนะ รู้สึกว่ามันเปนเรื่องที่แบบ ซับซ้อน คิดในใจ คิดเอาเอง
แต่ยังไงสุดท้ายก้ออยากให้ทั้ง 2 คนรักกัน นะ
:m5: :m5: :m5: :m5: :m5:
-
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 6
" แกร๊ก .. " เสียงลูกปิดประตูห้องปิดลงด้วยความพยายามของใครบางคนที่จะให้มันเงียบที่สุด
โอ๋ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงนั่นทำให้โอ๋สะดุ้ง รีบดีดตัวขึ้นโดยไม่ทันสังเกตุว่าตัวเองถูกพันทนาการไว้ใต้อ้อมแขนของอาร์ต
ลุกไม่ขึ้น.. โอ๋ถูกอาร์ตรัดแน่นขึ้นอีก กอดไว้ทั้งตัวแบบนี้จะหลุดออกไปได้ยังงัย
โอ๋แกะมือใหญ่ๆ กับแขนแน่นๆ ออกไปจากตัว สติวิ่งกลับไปที่ประตู ' ไอ้น้ำมันคงกำลังยืนมองอยู่แน่ๆ จะแก้ตัวยังงัยดี!! '
ไม่มีน้ำยืนอยู่ตรงนั้น แต่เป็นกระเป๋าใบนั้น กระเป๋าของน้ำ มันไม่ต่างกันเลย นั่นแสดงว่าน้ำเห็นทุกอย่างแล้ว
และน้ำคงหนีออกไปที่ไหนแล้ว ใครหละที่ผิด ก็เป็นกูเองนั่นแหละ ที่ยอมให้ไอ้อาร์ตมันทำอะไรบ้าแบบนี้อีก
โอ๋เดาไม่ออกว่าน้ำจะเอาเรื่องที่มันเจอวันนี้ไปบอกใครหรือป่าว ถ้ามันเป็นอย่างนั้นหละ น่าขายหน้าที่สุด
คำพูดกระแนะกระแหนดูถูกเหยียดหยามของเพื่อนๆ วิ่งเข้ามาอัดในหัว เจ็บใจตัวเองชะมัด
โอ๋ลุกขึ้นนั่งนิ่งบนเตียง แต่ในหัวของเขากลับสับสนวุ่นวายไปหมด
ซักพักอาร์ตก็ตื่นมาพร้อมกับความสุข ก่อนที่จะลืมขึ้นเขาเอื้อมไปกอดโอ๋ที่นอนอยู่ข้าง ไม่มีโอ๋ !
เขาลืมตาดวานหาโอ๋ไปทั่ว ...อ่อ ไอ้โอ๋มันตื่นแล้ว นั่งซึมอยู่บนเตียง อาร์ตเดาไม่ออกที่โอ๋ยอมให้เขาเมื่อคืน
เป็นเพราะอะไร ทั้งที่โอ๋บอกว่า เป็นเพื่อนกัน แต่การตอบสนองของโอ๋เมื่อคืนมันเหมือนกับโอ๋ต้องการอาร์ตมากขนาดไหน
อาร์ตมองดูแผ่นหลังขาวเนียนที่อยู่เบื้องหน้าแล้วย้อมแก้มปริ อยากจะลุกตามขึ้นไปกอดโอ๋เป็นการทักทาย
แต่ดูเหมือนโอ๋กำลังเพ็งมองอะไรสักอย่าง อาร์ตมองไปที่ปลายสายตาของโอ๋จนเห็นกระเป๋าใบนั้น พอเดาได้ว่าคงจะเป็นของรูมเมต
อาร์ตตกใจจนสะดุ้ง โอ๋กระโดดข้ามตัวอาร์ตไปแบบโทงๆ เมื่อรู้ตัวว่าอาร์ตตื่นแล้ว อยากหนีออกไปจากตรงนี้ให้ไกลๆ
แต่ก็ทำได้แค่วิ่งเข้าในห้องน้ำ ปิดประตูเสียงดังสุดแรง ปล่อยให้อาร์ตเครียดอยู่กับกระเป๋าเจ้าปัญหาใบนั้น
อาร์ตเห็นกระเป๋าใบนั้น คงเป็นกระเป๋าของรูมเมต เออ.. แล้วไง มันเห็นก็ช่างมัน ถ้าน้ำมันเอาไปบอกใครมันตายแน่
แต่สิ่งที่อาร์ตแคร์มากกว่าคือความรู้สึกของโอ๋ รีบกระโดดขึ้นไปเคาะประตูห้องน้ำ
" ก๊อก ก๊อก .. ไอ้โอ๋ เป็นไรหรือป่าว ... " ไม่มีเสียงตอบกลับออกจากห้องน้ำ
" ... ก๊อก ก๊อก ไอ้โอ๋ " อาร์ตใจสั่นไม่เป็นจังหวะ ยังยืนเฝ้าอยู่ที่ประตูห้องน้ำ
" กูขอคนเดียวอยู่นะอาร์ต.. มึงกลับไปเถอะ " ซักพักโอ๋ก็ตอบกลับมาด้วยเสียงเศร้าๆ
อาร์ตเก็บใส่เสื้อผ้าที่ตกเกลื่อนอยู่ตามพื้นและที่เตียงลงตระก้า และใส่ชุดของเขาเมื่อวาด
หันมองมาที่ประตูห้องน้ำก่อนที่จะเดินก้มหน้าออกจากห้องไป
' ถ้าโอ๋มันไม่เป็นคนคิดมากแบบนี้ อะไรๆ มันก็คงง่ายขึ้น .. อย่างน้อยวันนี้กูก็รู้ว่าโอ๋มันคงมีใจให้กูอยู่บ้าง
ถ้าไม่อย่างนั้นมันก็คงไม่ยอมกูเป็นครั้งที่สองหรอก .. คงจะดีกว่าที่จะให้มันยอบรับความรักของกูไปทีละนิด
มันคงรับไม่ได้ที่อยู่ๆ เพื่อนสนิดอย่างกูก็บ้าบอกรักมัน แถมกูก็เป็นผู้ชายอีก ... เฮ้อ ... '
ภายในห้องน้ำ โอ๋นั่งกอดขาหลังชิดฝา ก้มหน้าลงจนหน้าผากชิดหัวเข่า
เริ่มคิดตัดพ้อต่อว่าโชคชะตาของตัวเอง ไม่เคยมีอะไรดีซักอย่าง ไม่เคยมีอะไรที่ราบลื่น
ชีวิตมีแต่ปัญหา ทำไม... ทำไมฉันถึงต้องเจอเรื่องอับอายขายหน้าแบบนี้อยู่เสมอ
ทำไมฉันจะต้องถูกหัวเราะเยาะเหยียดหยาม ทั้งโกรธทั้งเจ็บใจ อยากจะร้องไห้ แต่น้ำตามันอัดอยู่ข้างใน
โอ๋กำมัดไว้แน่นด้วยความแค้น ไม่ใช่ความแค้นที่มีต่ออาร์ตหรือน้ำหรือใคร แต่แค้นโชคชะตาที่คอยกลั่นแกล้งโอ๋ตลอดมา
ถึงแม้จะกำมัดแน่นจนปลายนิ้วมันจิกเข้าไปในฝ่ามือจนเจ็บ มันก็ไม่ได้ช่วยให้ความแค้นลดลงได้เลย
โอ๋ลุกขึ้น ยืนมองตัวเองที่อยู่ในกระจก นัยน์ตาแดงก่ำ และกัดฟันแน่น
" อ้าาาาาาาาา..... !!!! " โอ๋ตะโกนอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจว่าคนที่อยู่ห้องถัดไปจะได้ยิน
ยกมัดขึ้นชกหน้าตัวเองในกระจก เห็นหน้าตัวเองดูเหมือนไม่ใช่คนในกระจกที่แตกร้าวเป็นชิ้นๆ
มีเศษกระจกชิ้นเล็กๆ ร่วงลงที่พื้น ผิวบางๆ ของโอ๋ถูกคมกระจกบาดจนเป็นแผลง่ายเหลือเกิน
เลือดซึมออกจากแผลที่ข้อนิ้วมือและไหลหยาดอาบชิ้นกระจกลงไปเป็นสายสีแดงสด ตัดกับสีขาวของผนังห้องน้ำ
ความรู้สึกเจ็บแสบที่ข้อนิ้วมือมันช่วยลบล้างความเจ็บใจของโอ๋ไปได้เยอะทีเดียว
คิดอะไรไม่ออกแล้ว อะไรหลายๆ อย่างวิ่งวุ่นวายอยู่ในหัว
" ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้ .... "
...................................................
หลังจากที่น้ำระงับความตกใจด้วยก๋วยเตี๋ยวน้ำตกฝีมือเจ๊หมูเจ้าเก่า
เป็นเวลา บ่าย 2 กว่าๆ แล้ว น้ำตัดสินใจว่าคงต้องกลับไปที่ห้องพักได้แล้วหละ
ป่านนี้ทั้งสองคนก็คงตื่นแล้วก็มีอะไรกันอีกซักรอบก่อนที่ออกไปข้างนอก มันสองคนคงไม่อยู่ในห้องแล้ว
น้ำเคาะประตูดังๆ ก่อนที่จะเปิดเข้าไป
" เข้ามาเลย! ฉันไม่ได้ล็อค! " เสียงตอบรับที่ดังมาจากในห้อง รูมเมตของน้ำนั่นเอง
เสียงมันแหบพร่า สงสัยเมื่อคืนคงไม่ได้หลับไม่ได้กันเลยหละสิ ..แหม รีบกลับ ม. มาพรอดรักกันแบบนี้ ... โอ๊ย อิจฉาเพื่อน
น้ำเดินเข้าห้องและทำทุกอย่างให้เป็นปกติ
" หวัดดี น้ำ " ได้ยินเสียงแหบๆ ของโอ๋ทักทายมา น้ำหันไปมองเห็นโอ๋นั่งหันหลังให้อยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือ
" อื้ม หวัดดี " พยายามพูดไปด้วยน้ำเสียงเรียบ อ่าวมันไม่เป็นอย่างที่คิดไว้แฮะ
" แกเป็นไรป่าวโอ๋ เสียงแหบๆ ..เป็นหวัดเหรอ " เมื่อคืนแกกะไอ้อาร์ตคงสนุกกันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยละสิ
" อื้ม เป็นหวัดนิดหน่อย " พร้อมกับทำจมูกฟุดฟิด
" ฉันทำกระจกให้ห้องน้ำแตกนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันซื้ออันใหม่มาเปลี่ยน "
" เหรอ ไม่เป็นไรหรอก พวกเราส่องกระจกบานเล็กที่ระเบียงหลังห้องไปก่อนก็ได้ "
แล้วน้ำก็เดินไปที่ระเบียงเพื่อดูสภาพของกระจกที่ไม่เคยถูกเช็ดเลยตั้งแต่ซื้อมา เพราะว่าใช้แต่บานที่อยู่ในห้องน้ำตลอด
น้ำเดาไม่ออกว่ากระจกบานนั้นมันแตกได้ยังงัย แต่ตรงพื้นที่ระเบียงมีอะไรบางอย่างสะดุดตา
เศษกระจกชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของปิ๊กดีดกีตาร์ โอ๋มันคงเก็บเศษกระจกไม่หมด
แต่ดูเหมือนมีอะไรสีแดงสดเปื้อนอยู่ ...นั่นมันเลือดหนิ น้ำหันควับไปทางโอ๋
โอ๋ทำทีเป็นอ่านหนังสือทั้งที่ยังไม่เปิดเทอม ... น้ำก็รู้ว่าโอ๋เป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ
โอ๋พยายามเอามือข้างหนึ่งซุกไว้ใต้ปกหนังสือ แต่ผ้าก็อตสีขาวมันดันโผล่พ้นขอบหนังสืออกมา
มันอะไรกันแน่!! โอ๋เป็นรูมเมตที่น่ารักของน้ำมาตลอด ไม่เคยทำเรื่องวุ่นวาย เป็นเพื่อนที่ดีสุดคนหนึ่งของน้ำ
จับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว น้ำรี่เข้าไปหาโอ๋ที่นั่งตาช้ำอยู่ที่เดิม ปัดหนังสือที่ปิดมือโอ๋ออกไป
มีผ้าก็อตที่พันมือโอ๋อยู่แบบรุ่งริ่ง มีเลือดซึมทะลุผ้าก็อตออกมาให้เห็น ไอ้โอ๋มันชกกระจกแน่ๆ !!
" ไอ้โอ๋ !! .. มันเกิดอะไรขึ้น !! " น้ำหลุดถามออกไปเสียงดังด้วยความตกใจ
โอ๋ก้มหน้าลงหงึกๆ เหมือนสะอื้น ไม่ยอมพูดอะไร
" แกบอกชั้นมาสิ .. มันอะไรกันแน่ .. ไอ้อาร์ตมันทำอะไรแก "
" น้ำ ..... ฮือ ฮือ " โอ๋พูดไปสะอื้นไป เหมือนจะกำลังจะร้องไห้โฮ
" แกอย่าพูดเรื่องชั้นกับไอ้อาร์ตให้คนอื่นฟังนะ ฉันขอร้อง ... ฮือ ฮือ ฮือ ... " แล้วโอ๋ก็ร้องไห้โฮไม่หยุดอย่างน่าสงสาร
น้ำพูดอะไรไม่ออกด้วยความสงสาร แกเป็นเพื่อนฉันนะ ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังงัย
" ไอ้โอ๋ .. " น้ำย่อตัวลงโอบไหล่เพื่อนที่น่าสงสาร
" ฉันม่เคยคิดที่จะทำร้ายแกเลยนะโอ๋ "
โอ๋อยากพูดขอบใจน้ำแต่น้ำตาที่ไหลมันหยุดไม่ได้แล้ว
" อื้ม ... ฮือ ฮือ.. ฮือ ฮือ.. " โอ๋สะอื้นจนพูดอะไรไม่เป็นคำ
" แล้วแก... ชกกระจกทำไม "
" ฮือ ฮือ ฮือ ... "
" เออ .. แล้วค่อยบอกฉันทีหลังก็แล้วกัน "
น้ำกอดโอ๋ไว้ เพื่อนที่แสนดี ... เทอมนี้มีเรื่องวุ่นวายตั้งแต่ยังไม่เปิดเทอมเลยหรือเนี๊ยะ
แกร้องไห้ให้สบายใจก่อนเถอะแล้วค่อยเล่าให้ฉันฟังที่หลังว่ามันเเกิดอะไรขึ้น
อะไรที่มันร้ายแรงจนทำให้แกต้องทำร้ายตัวเอง ฉันไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้เลยนะโอ๋
..
-
ชอบมากเลยอ่ะคร้าบ......ฝากตัวเป็นแฟนเรื่องนี้ด้วยคนนะคร้าบ....
เป็นกำลังใจให้แล้วก็ขอบคุณมากๆคร้าบ....
-
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
-
ตามมาทันแระ
ท่าทางจะวุ่นวายน่าดู ถ้าโอ๋ยังไม่เปิดใจให้ตัวเอง
เป็นกำลังใจให้คร้าบบบบบบบบบบบบบบ
:yeb:
-
เหล้านี่มันเป็นภัยต่อมนุษย์จริงๆ.....มีอะไรกันอย่างมีความสุข
แต่สุดท้ายมาโทษเหล้า...ศาลท่านจะรับฟังไหมอะ.....
ปล. แสบสู้เพื่อเหล้า............. :oak: :oak: :oak: :oak:
-
อินมากกก
:m15: :m15: :m15:
-
เหอๆๆๆๆๆๆ ......ม่ะน่าเรย หากว่ายอมรับไรได้มากก่านี้คงจะดี....สู้ๆ น้อ อย่ากลัวการที่จะรักเลย
เป็นกำลังใจให้น้อ :m1: :m1:
-
อื้อหือ.....มีคนอ่านเยอะนะนี่ เป็นกำลังใจเยอะๆเลย อิอิ
-
อ่านแล้วอึดอัดนิด ๆ แฮะ คงเพราะทั้งสองคนยังไม่พูดอะไรให้ชัดเจน ได้แต่คิดอยู่ในใจ :m2: :m2:
-
ตามอ่านทันแย้วววว :m3: :m3: :m3:
สนุกดี รับรู้อารมณ์ของทั้งโอ๋และอาร์ทเลย โดยเฉพาะโอ๋ครอบครัวมีส่วนสำคัญนะเนี่ย
รออ่านต่อน้า เมื่อไหร่โอ๋จะยอมรับตัวเองเนี่ย :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้คนแต่งน้า สู้ๆ
-
(ต่อบทที่ 6 คับ)
โอ๋ก็เริ่มสบายใจมากขึ้น ก็ด้วยความปรารถนาดีของเพื่อนผู้แสนอย่างน้ำนี่แหละ
น้ำ หนุ่มน้อยร่างผอมเพรียว หน้าตาดีออกไปทางสวยเสียมากกว่าหล่อ น่ารักสไตล์ดาราเกาหลีหนะ เป็นคนคล่องแคล่วว่องไว
ปราดเปรียวด้วยทรงผมแอบเปรี้ยวนิดๆ ก็ตามประสาเด็กคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
เนื่องจากเป็นคนพูดเก่งเข้าคนง่าย การได้พบค้นมากหน้าหลายตา
ทำให้น้ำเป็นคนที่มีกาละเทศะ ซึ่งเป็นสิ่งที่น้ำมีให้กับทุกๆ คน ทั้งเพื่อน พี่ อาจารย์ หรือแม้แต่คนที่เพิ่งเคยรู้จักกันใหม่ๆ
" ฉันไปอาบน้ำก่อนนะโอ๋ .. เดี๋ยวมาคุยด้วย "
น้ำลุกขึ้นแล้วหยิบผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่รูมเมตหยุดสะอื้นแล้ว
ซักพักก็มีเสียงออกมาจากห้องน้ำ มันทำรู้สึกสนุกนานทุกครั้งที่ได้ยินน้ำพูดเสียงอ้อนแอ้น
" แก .. ฉันว่าพรุ่งนี้เราไปซื้อกระจกอันใหม่ก็ดีเหมือนกันนะ "
" ... อื้ม " โอ๋หายสะอื้นและยิ้มที่มุมปาก ฉันว่าแล้วมันต้องทนไม่ได้ ไก่จะงามก็เพราะขน ถ้าคนจะงามก็ต้องแต่งใช่ไหมน้ำ
45 นาทีเป๊ะๆ ที่น้ำใช้เวลาในห้อง โดยที่ยังไม่รวม ใส่เสื้อผ้า ทาครีมและโลชั่น หวีผมก่อนนอน
รวมถึงนั่งมองหน้าตัวในกระจกพกเล็กๆ ต่ออีกประมาณ 10 นาที สงสัยจะมีนัดแน่ๆ
น้ำหย่อนก้นลงที่เก้าอี้ตัวเดิม และเริ่มกิจกรรมเสริมความหล่อ เอ๊ะ.. หรือเสริมความงามกันแน่
โต๊ะเครื่องแป้งที่ถูกดัดแปลงมาจากโต๊ะอ่านหนังสือ
บรรจงแต้มครีมราคาแพงที่อ้อนให้เภสัชกรหนุ่มวัย 30 ซื้อให้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอย่างพอเพียง
ปล่อยให้โอ๋นั่งคนเดียวไปซักก่อน ซักพักมันก็จะเล่าเรื่องวันนี้เองแหละ
" แก... " โอ๋อดไม่ได้แล้วที่จะเก็บความในใจ ... ' เห็นไหม มันจะเริ่มเล่าแล้ว '
" อื้ม... " น้ำรีบตอบรับทันที มือก็ถูๆ ลูบๆ ครีมไปให้ทั่วใบหน้า
" ฉันโดนไอ้อาร์ตลักหลับ .. " โอ๋พูดแบบชัดเจน จนน้ำต้องหยุดทาครีม มือค้างอยู่ตรงหน้า
มันไม่ใช่อย่างที่เดาไว้เลย น้ำนึกว่าเพื่อนสองคนนี้รักกัน ถึงได้เกิดเหตุการณ์นั้น
" ... แล้วกะ " น้ำกำลังเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย ว่าแกสองคนคุยกันเรื่องนี้หรือยัง แต่โอ๋พูดสวนมาก่อน
" คืนวันสอบวันสุดท้ายก่อนฉันจะกลับบ้านหนะ " มันทำให้น้ำทั้ง-งงและตกใจ X 2 ( ทวีคูณ )
" .... แล้วที่ฉันเห็นเมื่อตอนกลางวันหละ.... ฉันเริ่มงงแล้วนะแก "
น้ำหันหน้ามาทางโอ๋ ทั้งที่ครีมยังเปลอะอยู่ตรงปลายจมูกและปลายคาง
" อืม .. เมื่อคืนฉัน.. ....ฉันสมยอมมันเองแหละ .... ฉัน... ฉันก็ไม่รู้... "
แล้วโอ๋ก็ก้มหน้าลง หน้าแดงมาถึงหูจนน้ำสังเกตุได้
" อ่าว ... ฮะ ฮะ ..เอ่อ แสดงว่าแกก็ชอบมันหละสิ "
น้ำเข้าใจว่าโอ๋คงชอบอาร์ตเหมือนกันนั้นแหละ หล่อนจึงเริ่มทาครีมต่อไป
" ... ไม่ ..ฉันไม่ได้ชอบมัน ..มันเป็นเพื่อนฉัน "
โอ๋พูดน้ำเสียงเศร้า ใบหน้าสีแดงเปลี่ยนเป็นสีหมองๆ แต่ก้มหน้าลงไปต่ำกว่าเดิมอีก
น้ำหยุดทาครีมและลดมือลง ทำไมสถานการณ์มันยุ่งเหยิงอย่างนี้นะ
มิน่าหละกระจกในห้องน้ำมันถึงแตกเป็นชิ้นๆ แบบนั้น ฉันกลุ้มแทนแกจริงๆ
ถึงอย่างไรก็ต้องช่วยมันเคลียร์ปัญหาให้ได้ อย่างน้อยโอ๋มันก็จะควรชัดเจนในความรู้สึกของตัวเองให้มากที่สุด
" แล้วอาร์ตมันชอบแกไหม " น้ำถามเสียงนิ่ง
" ..... ไม่ " โอ๋ก็ตอบแบบนิ่งๆ น้ำทำสีหน้าหายเครียดขึ้นมาหน่อย
" เออ..แล้วไป "
" มันไม่ได้ชอบฉัน .. แต่เมื่อคืนมันบอกรักฉันแล้ว .. " โอ๋พูดแบบขาดๆ หยุดๆ
เพราะตัวเองก็ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ น้ำแสดงสีหน้าเครียดหนักกว่าเก่า
" แล้วที่แกบอกว่าไม่ได้ชอบมันหละ หมายถึงแกไม่ได้รักมัน.... ใช่ไหม " น้ำพูดเป็นคำๆ แบบช้าๆ
" อื้ม .. ฉันไม่ได้รักมัน...... แล้วฉันจะทำยังงัยดีหละน้ำ " โอ๋เงยหน้าขึ้นมองเพื่อน สายตาละห้อยน่าสงสาร
" แกไม่ได้รักมัน แต่ก็ได้เสียกับมัน ... ตายระเพื่อนกู .... " น้ำสะบัดเสียงอย่างได้อารมณ์
" อื้มม ... "
" ถ้าอย่างนั้น แกก็อย่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ป่านนี้ไอ้อาร์ตมันคงคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว "
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของน้ำ คือความเป็นผู้ใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในบุคลิกน่ารักๆ แบบนั้น มิน่าหละพี่เภสัชกรสุดหล่อถึงหลงนักหลงหนา
" เฮ้อ ... " ถึงจะถอนหายใจแรงขนาดไหน ก็ไม่ช่วยให้ความกลัดกลุ้มของโอ๋ลดลงไปได้เลย
" .. ฉันจะหาโอกาสบอกมัน "
" ดีแล้วหละ แล้วก็พยายามอย่าเครียดมาก เดี๋ยวปัญหามันก็จะผ่านไปแล้วหละ "
โอ๋มีเพื่อนที่ดีๆ ไม่กี่คนหรอก ...ขอบใจมากนะน้ำ ฉันเองก็ไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ อย่างอาร์ตหรอก
" ว่าแต่แกแน่ใจนะ ว่าไม่ได้รักไม่ได้ชอบไอ้อาร์ตมันจริงๆ "
" อื้ม ... "
น้ำแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จเรียบร้อย ทั้งหล่อแล้วก็สวยด้วย ( - -" เอ๊ะ ยังงัย ) ก็เพราะว่านัดกับพี่เภสัชกรคนนั้นไว้หนะสิ
ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเดือน อีกฝ่ายคงคิดถึงใจแทบขาดแล้ว ยังงัยก็รักษาสุขภาพช่วงล่างหน่อยละกัน ( อิอิ )
น้ำนั่งรอให้ถึงเวลานัด ระหว่างนั้นก็คุยกับโอ๋ไปเรื่อยๆ ก็ดูโอ๋อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย
" นี่แก! สวยหมายย..... " น้ำหยิบชุดถ้วยจานลายคลาสสิค ดูท่าจะเป็นของมียี่ห้อราคาแพง
มีจานกับถ้วยหลายขนาด รวมกันประมาณ 7-8 ใบ ความจริงน้ำไม่ใช่คนฐานะดีหรอก แต่ที่ซื้อได้ก็เพราะแฟนให้เงินใช้ตลอด
น้ำซื้อมาก็คงไม่ได้ใช้หรอก เพราะว่าน้ำไม่ค่อยได้อยู่ห้องอยู่แล้ว น้ำฟุ่มเฟือยมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่คบแฟนคนนี้
" อื้ม น่ารักดี " โอ๋หันมามองและชมตามมารยาท
" อิอิ น่ารักโน้ .. ต่อไปเราก็ซื้ออะไรมาทำกินสนุกๆ ก็ได้ ฉันเลยซื้อมีดกะเขียงมาด้วย 55555++ ดี ที่ฉันไม่ซื้อครกมากด้วย.. "
" ก็ดี " โอ๋ไม่ได้ยิ่มหรือหัวเราะไปพร้อมกับน้ำ เพราะว่าโอ๋ไม่ได้สนับสนุนให้น้ำฟุ่มเฟือยแบบนี้ แต่พูดอะไรไม่ได้
จนกระทั่งเสียงเพลง Toxic อันเร่าร้อนของ Britney Spear ก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์ NOKIA N70
" อ่าว... ทุ่มครึ่งแล้วเหรอเนี๊ยะ "
น้ำต้องวิ่งไปดูด้านนอกระเบียง พี่เภสัชกรคนนั้นคงขับ Vios คันงามมารับแล้วหละ
มองลงไปเห็นหนุ่มตี๋ ขาว หน้าตาดีจนเรียกได้ว่าหล่อไม่แพ้กัน ..เขาออกมายืนอยู่ข้างรถเก๋ง 4 ประตูสีดำ กำลังส่งยิ้มขึ้นมาให้น้ำ
จังหวะนั้น น้ำมองเห็นอาร์ตกำลังจอด Tena ไว้ตรงที่จอดรถจักรยานยนต์
' แฟน เอ้ย! เพื่อนไอ้โอ๋มันงกงี้นะ ฐานะทางบ้านออกจะดีแต่ขี่มอ'ไซต์ ..
ความจริงไอ้อาร์ตมันก็หน้าตาดีนะ หุ่นก็ดี และที่สำคัญมันนิสัยดีมากๆ
ส่วนไอ้โอ๋มันก็ไม่รู้จะซื่อสัตย์กับความเป็นเพื่อนอะไรนักหนา มันน่าจะรักๆ กันไปซะ ไอ้อาร์ตมันก็ดีขนาดนั้น
ใช่!! เดี๋ยวฉันจะส่งเสริมให้มันรักกันซะเลย ไอ้โอ๋ยังงัยมันก็หนีไปไม่พ้นไอ้อาร์ตหรอก ฉันว่านะ ' ..
น้ำวิ่งกลับมาที่เตียง ยกจานชามีดเขียงไว้บนเตียง เพราะว่ารู้ว่าถ้าไอ้อาร์ตมาถึง มันจะต้องนอนที่ต้องของน้ำแน่นอน
' ทิ้งข้าวของไว้แบบนี้แหละ เผื่อไอ้อาร์ตจะใช้เป็นข้ออ้างนอนเตียงไอ้โอ๋ได้ 555555+++ '
" ไปก่อนนะโอ๋ .. เอาอะไรไหมจะเข้าไปในเมือง " ถามไปงั้นแหละ ฉันรู้ว่าแกประหยัด ฉันน่าจะได้อย่างแกซักครึ่งก็ยังดี
" ไม่เอาหรอก .. ขอบใจ " ฉันรู้ว่าแกจะตอบอย่างนั้น
" ไปละ "
" อื้ม .. "
แล้วน้ำวิ่งไปที่ประตู คว้ามือถือในจังหวะที่วิ่งผ่านโต๊ะเครื่องแป้งพอดี และออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
น้ำลงมาถึงบันไดชั้นล่างสุด อาร์ตเดินสวนขึ้นมา อาร์ตทำสีหน้าเขินๆ
" หวัดดีอาร์ต " น้ำยิ้มให้อาร์ต
" เอ่อ .. หวัดดี.. น้ำ " อาร์ตหน้าแดงแต่ยิ้มไม่ออก พูดแบบตะกุกตะกัก
ทั้งเขินทั้งขายหน้า อดคิดไม่ได้ว่าน้ำจะปากโป้งเรื่องที่น้ำเห็นเมื่อตอนกลางวันหรือป่าว
น้ำวิ่งผ่านตรงไปหาที่รักของตัวเอง ถ้าแถวนั้นไม่มีคน น้ำคงกระโดดกอดกันกับพี่เภสัชฯ ไปแล้ว
อาร์ตหันกลับมามองน้ำกับแฟนทำท่าทางกุ๊กกิ๊กใส่กันน่าอิจฉา
" ทำไมกูกะไอ้โอ๋ ไม่เป็นอย่างนั้นมั่งวะ "
อาร์ตเดินง๋อยๆ ต่อ มีคนที่เขารักแต่คนนั้นไม่รักเขารออยู่ข้างบน
น้ำหันกลับไปมองอาร์ตที่กำลังเดินขึ้นบันไดด้วยความเป็นห่วง
' คุยกันดีๆ นะอาร์ต '
" ฮึ้ม!! " เสียงขู่ดังมาจากหนุ่มเจ้าของรถคันนั้น
" .... 555 พี่เชนคิดอะไรอะ ... คิดว่าเค้าเหล่หนุ่มเหรอ " น้ำหัวเราะร่าเริง
" แล้วใช่ไหมละ!! " ชายหนุ่มพูดเสียงทุ้มหนักแน่น พร้อมขมวดคิ้วนิดๆ ดูเป็นการงอนที่เท่ห์มากๆ
" แหงะ เป็นงี้อีกแล้ว ... จะรักใครซักคนนี่มันเรื่องเยอะจริงๆ งอนไม่เข้าท่า " น้ำทำหน้าหงุดงหงิด แล้วเดินอ้อมไปที่ประตูรถอีกฝั่ง
" อะไรนะ รักใครนะ " ชายหนุ่มทำหน้าทะเล้นๆ ...แหมเมื่อตะกี้ ยังงอนอยู่แท้ๆ
" ไปเหอะ เร็วๆ หิววววววข้าวววววว " จริตน่ารักๆ แบบนั้น ทำให้พี่เชนยืนใจละลายอยู่กับที่
" พี่ไม่อยากกินข้าวอะ ... อยากกินเรามากกว่า " พี่เชนรีบเปิดประตูแล้วทรุดตัวลงนั่งทันที
น้ำเถียงต่อไม่ทัน เพราะอีกฝ่ายหลบออกจากระยะการโต้กลับไปแล้ว จะยอมได้ยังงัย น้ำรีบเปิดประตูแล้วลงนั่ง
Vios คันงามเคลื่อนตัวออกไป โปรยละอองความหวานไปตลอดทาง
กว่าจะถึงร้านอาหารในเมืองมดก็คงจะเต็มถนนหน้าหอพักหมดแล้ว
หอพักที่มีแต่เรื่องวุ่นๆ แห่งนี้ หอพักที่โอ๋และกะอาร์ตเคยคลุกอยู่ด้วยในฐานะเพื่อนสนิด
แต่พอมาถึงวันนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นอีกแล้ว ใครจะรู้ว่าเหตุการ์ที่ไม่คาดคิดกำลังจะเกิดขึ้น
อนุภาพแห่งความรักมันมากมายจนใครบางคนทำอะไรที่เหลือเชื่อได้อย่างง่ายดาย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
อ่า.....มีนํ้าคอยสนับสนุนด้วยอ่ะ....แล้วเรื่องจะเป็นยังไงต่อน้า.....
อยากรู้อ่ะ...มาต่อเร็วๆนะคร้าบ......
เป็นกำลังใจให้คร้าบ..........
-
โอ้ว :sad3: 45 นาทีในห้องน้ำ สาบานได้นะว่าอาบน้ำอย่างเดียว :freeze:
หุหุ รอลุ้นต่อจ้า :m1: :m1: :m1:
-
:m4: :m4: :m4: :m4: :m4:
ขอบคุณกำลังใจจากผู้อ่านทุกท่านครับ
มันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นนะครับ อาจจะดูไม่สมจริงเท่าไหร่ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย อิอิ
แต่ก็มีบางฉากที่เป็นเรื่องจริงนะ (เหตุการณ์จริงประมาณ 20 %)
ขอบคุณคับ
:m5:
:m7:
-
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 7
หอพักของเปี๊ยกกับโรจน์อยู่ห่างจากหอพักของอาร์ตไม่มาก แต่จะอยู่ไกลจากหอพักของโอ๋มากหน่อย
ผู้ชายในชั้นปีเดียวกันมีกัน 5 คน 4 คนอยู่อยู่หอในฯ กันหมด มีแต่ไอ้เจมส์คนเดียวที่มันออกไปอยู่หอนอกคนเดียว
เอ่อ .. มันอยู่กับเมียมัน เมียที่เป็นผู้หญิงจริงๆ หนะนะ ได้ข่าวว่าปิดเทอมนี้มันให้เมียกลับ
แล้วแอบเมียน้อยมานอนกกสบายใจเฉิบเลย ไอ้นี่มันร้ายมาก
ส่วนไอ้เปี๊ยกกับไอโรจน์ มันยังไม่เมียกันทั้งคู่ (หรือว่ามันจะแอบเป็นผัวเมียกันไปแล้ววะ.. อิอิ พูดเล่น)
" ช่วยส่งใครมาร้ากฉ้านที .. อยู่ตรงนี้มันหงาวเกินไป อยากจะ ... "
เปี๊ยกร้องเพลงแบบไม่ได้เรื่องด้วยความสบายใจหลังจากอาบน้ำเสร็จ
" พอๆ ... กูขอหละ " คำขอจากโรจน์รูมเมตและเพื่อนร่วมชั้นเรียนผู้หน้าสงสาร ..ก็เป็นแบบนี้ทุกทีแหละ - -*
" อยากจะรู้ว่ารักมันเช่นไร มีจริงฉะหมายยยย " เปี๊ยกยังดึงดันที่จะร้องต่อหน้าตาเฉย
" ตุ๊บ!! " เสียงหมอนที่ฟาดเข้าใบหน้าของเปี๊ยกแบบเต็มๆ
คิดว่าคงจะหยุดร้องแล้ว แต่ยังได้ยินเสียงเบาๆ คล้ายกับว่ายังพยายามร้องต่อ
" ไอ้เหี้ย กูจะนอน เพิ่งกลับมาถึงแล้วมาเจอเสียงควายออกลูก กูเซ็ง " ว่าแล้วโรจน์ก็ขยับตัวหาท่าที่จะหลับสบายที่สุด
" จั๊ด จา ด่า ด๊าว .. จั๊ด จั๊ด จา ด่า ด๊าว .. "
" ไอ้เวร .. มึงอยากโดนตีนกูก่อนอนหรือไงวะ " โรจน์ลุกพรวดจากเตียง กำลังยกเท้ามาทางเปี๊ยก
" ไอ้บ้า นั่นมาเสียงโทรศัพท์กูโว้ย "
เปี๊ยกรีบคว้าโทรศัพท์อย่างรวดเร็วหวังว่าคงเป็นสาวๆ ที่มันแจกเบอร์ให้ตั้งแต่วันก่อนปิดเทอม
แต่ไม่ใช่ มันขึ้นชื่อไอ้โอ๋
" วันดีคืนดีไม่เคยโทรมา มันนึกพิสวาศอะไรกูวันนี้วะ
หรือมันจะชวนกูไปสวิ้งกับไอ้อาร์ตด้วย กูไม่ใช่แบบพวกมึงนะเว้ย "
" ฮัลโหล "
" เปี๊ยก!! ... " โอ๋ตะโกนสั่นๆ เหมือนคนที่ตกใจมากๆ
" มึงพูดเบาๆ ก็ได้ ไอ้เวร "
" มึงเอารถมารับไอ้อาร์ตไปโรงพยาบาลที "
" เฮ้ย!! ไอ้อาร์ตมันเป็นอะไรวะ!! "
" เออ! ... มาก่อนเถอะน่า! เลือดมันไหลจะเต็มห้องอยู่แล้ว! "
" เวร!.. อะไรวะ พวกมึง .. อะ เออๆ แล้วมึงสองคนอยู่ไหนกันวะ "
" อยู่ห้องกู "
" เออๆ ได้ๆ เดี๋ยวกูไป " เปี๊ยกรีบกดวางสาย และหันมามองโรจน์ที่ทำหน้าตกใจอยู่ใกล้ๆ
" อะไรวะ! "
" ไม่รู้ ไอ้โอ๋บอกไอ้อาร์ตเลือดออกเต็มห้องเลย กูงง! " เปี๊ยกเดินไปคว้ากุญแจรถเก๋งคู่ใจถึงแม้จะดูเก่าแต่ก็ยังใช้งานได้ดี
" เวร .. จะรับน้องอยู่แล้วแท้ๆ มาหาเรื่องอะไรตอนนี้วะ "
" กูก็ว่างั้น "
ทั้งสองรีบวิ่งลงไปที่รถด้านล่าง พอออกรถได้ ก็บ่นไปตลอดทาง
ทันทีที่จอดรถหน้าหอไอ้โอ๋ มันสองคนก็กระโดดลงจากรอบวิ่งขึ้นไปห้องไอ้โอ๋เร็วที่สุด
เปิดประตูเข้าไป สิ่งที่เป็นเห็นคือไอ้อาร์ตนั่งหมิ่นๆ อยู่บนเตียงรูมเมตของไอ้โอ๋
ดูบรรยากาศภายในห้องแล้วคงไม่มีการทะเลาะวิวาทหรือชกต่อยอะไรกันเกิดขึ้น .... แล้วมันเกิดอะไรขึ้นวะ
อาร์ตก้มหน้าลงตอนที่เปี๊ยกกับโรจน์เปิดประตูเข้ามา พยายามหลบไม่ให้เห็นหน้า
แค่แวบเดียวก็รู้แล้วหละว่าไอ้อาร์ตมันร้องไห้น้ำตานองหน้าเลย
แต่ที่สำคัญคือมีผ้าสีขาวดูเหมือนจะเป็นเสื้อของไอ้โอ๋มากกว่าพันอยู่ที่ข้อมือข้างซ้ายของไอ้โอ๋
ตอนนี้ผ้าขาวมันแดงฉ่ำไปหมดด้วยเลือดที่ซึมออกมาไม่หยุด .... เพื่อนสองคนหันไปดูไอ้โอ๋
ไอ้โอ๋ไม่ได้ร้องไห้ ตาแดงก่ำเหมือนคนที่กลั้นน้ำตาไว้
ไอ้โอ๋มันเดินเข้าๆ ออกๆ ห้องน้ำ และกำลังเช็ดเลือดของไอ้อาร์ตอยู่ตรงพื้น
" เป็นอะไรกันวะ " เปี๊ยกพูดขึ้น
แล้วทั้งไอ้อาร์ตกับไอ้โอ๋ก็เงียบไปทั้งคู่ เหมือนมีความผิด
" เกิดอะไรขึ้น พวกกูอยากรู้นะเว้ย " โรจน์ฉุนนิดๆ
" อุบัติเหตุ .. มีดโดนข้อมือไอ้อาร์ต " โอ๋ตอบเสียงค่อยอยู่ในลำคอ เสียงมันสั่นๆ
พอไอ้โอ๋มันพูดจบ ไอ้อาร์ตก็ก้มหน้าต่ำลงไปอีก มันทำหน้าตาบิดเบี้ยวเหมือนคนจะร้องไห้(อีกรอบ)
แล้วมันสองคนก็เงียบไปอีก
" พวกกูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย มีปัญหาอะไรก็เล่าให้กันฟังสิวะ " ไอ้เปี๊ยกพูดเสียงอ่อนลง
แต่ไอ้สองคนนั้นก็ยังเงียบกันอยู่อีก ไอ้อาร์ตก็ก้มหน้าสะอื้นเหมือนเดิม คราวนี้มันสะอื้นหนักขึ้นจนตัวมันสั่นเลย
ไอ้เปี้ยกนั่งลงข้างๆ ไอ้อาร์ต .. จับไล่มันเป็นการปลอบ ซักพักตัวโตๆ ของไอ้อาร์ตก็ซบลงมาตรงไหล่ไอ้เปี้ยก
ทั้งไอ้เปียกกับไอ้โรจน์ตกใจ ไอ้อาร์ตไม่เคยเห็นไอ้อาร์ตเป็นขนาดนี้ มันซบไหล่ไอ้เปี้ยกร้องไห้ไม่หยุด
" รีบพาไอ้อาร์ตไปโรงพยาบาลเถอะ... " ไอ้โอ๋พูดเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้อีกคน
ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ต้องพาไอ้อาร์ตไปโรงพยาบาล ก่อนที่เลือดมันจะไหลออกมาหมดตัว
เปี้ยกกับโรจน์พาอาร์ตออกมาจากห้อง โอ๋เดินตามมาแบบเงียบๆ
ทั้ง 4 คนไม่ปริปากพูดอะไรทั้งสิ้นในขณะที่นั่งรถไปโรงพยาาล ไอ้เปี้ยกกับไอ้โรจน์หันไปมองหน้าไอ้อาร์ตกะไอ้โอ๋เป็นระยะ
แผลที่ข้อมือไอ้อาร์ตเกิดจากอุบัติเหตุ โดนมีดบาด แต่ทำไมพวกมันต้องร้องไห้เสียใจเป็นวรรคเป็นเวรขนาดนี้
คงไม่ใช้อย่างที่ไอ้โอ๋มันบอกแน่ๆ มันคงทะเลาะกันจนเกิดการนองเลือดอย่างที่เห็น
พอมาถึงแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลศรีนครินทร์ พี่พยาบาลในแผนกก็เข้ามาดูแลแบบไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
ที่แรกพี่พวกเขาเข้าใจว่ากินเหล้าเมาชกต่อยกันมา แต่พอรู้ว่าไม่ใช่ ก็รีบรายงานแพทย์ให้มาดูอาการอย่างรวดเร็ว
เรื่องราวเหมือนจะไม่มีอะไรใหญ่โต ก็แค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งมีแผลที่ข้อมือซ้าย
แล้วก็มาทำแผล-เย็บแผลที่แผนกอุบัติและฉุกเฉินของโรงพยาบาล
ถึงแม้แผลจะไม่ลึก แต่ถ้าหากเจ้าตัวกดใบมีดหนักกว่านี้เล็กน้อย
เอ็นกล้ามเนื้อและเส้นเลือดที่ข้อมือก็คงจะถูกตัดจนขาดอย่างแน่นอน
แต่กระนั้นแล้วก็มีเอ็นกล้ามบางเส้นที่โดนคมมีดบาดลงไปลึกเกือบครึ่ง
แพทย์เจ้าของเวรเย็บแผลให้อย่างสวย พร้อมให้แนะนำเมื่อทำแผลเสร็จเรียบร้อย
แต่อาร์ตยังต้องถูกซักประวัติด้านจิตเบื้องต้นโดยแพทย์เจ้าของเวรในห้องแยกเป็นส่วนตัว เนื่องจากมีการทำร้ายตัวเอง
อาร์ตยอมรับว่าทำไปเพื่อประชดคนที่รัก เนื่องจากความน้อยใจที่ถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ
และไม่ได้มีความตั้งใจที่จะฆ่าตัวตายด้วยวิธีการดังกล่าว
แต่ทำไปเพียงเพื่อเรียกร้องความเห็นใจเท่านั้น และไม่คิดที่จะทำร้ายตนเองอีก
" หมอคงต้องแจ้งอาจารย์ที่ภาควิชาของคุณนะคะ เพราะว่ายังอยู่ในความดูแลของอาจารย์ "
คุณหมอผู้หญิงอายุ คงมากกว่าอาร์ตไม่เกิน 5 ปี พูดด้วยสีหน้าแจ่มใสทั้งที่ตอนนี้ก็เกือบจะข้ามไปวันใหม่แล้ว
ดูคุณหมอมีความสุขกับการทำงานมากๆ
" ไม่แจ้งได้ไหมครับ " อาร์ตก้มหน้าเล็กน้อยไม่กล้ามองหน้าคุณหมอ
" แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณไม่จะทำมันอีกครั้ง หมออุส่าห์ไม่ส่งคุณไปพบผู้ให้คำปรึกษาทางด้านจิตนะคะ ...
.. เพราะเห็นว่าคุณยอมรับและมีสติอยู่ตลอดในขณะที่เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้น "
ดูคุณหมอเย็นใจมากๆ ดูสุขุมเกินกว่าอายุ
" ครับ " อาร์ตยังคงก้มหน้า สายตาอยู่ที่โต๊ะ
" เรื่องบางเรื่องเราควรที่หาคนช่วยคิดนะคะ อย่างน้อยก็ควรที่จะระบายกับคนที่เราไว้ใจได้ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบวันนี้ "
คุณหมอบิดตัวเหมือนกำลังจะลุกขึ้น แต่หันกลับมาทิ้งท้ายด้วยสีหน้าแห่งความเมตตาเหมือนกำลังสอนน้องชายคนหนึ่งอยู่
" รู้ไหมเขาคนนั้นก็ยังเป็นคนสำคัญของคุณเสมอ ถึงแม้คุณไม่ใช่คนสำคัญของเขาก็ตาม ..
คุณควรว่าหัดมองเห็นความสำคัญของตนเองให้เป็นนะ " คุณหมอยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะ
แล้วดึงแขนเสื้อกราวน์สีขาวสะอาดขึ้นจนปลายแขนเสื้อพ้นข้อมือ พร้อมกับพลิกหงายข้อมือขึ้น แล้วดึงแขนเสื้อปิดลงในทันที
" รู้ไหมมันไม่คุ้มค่ากันหรอกที่คุณทำแบบนั้น "
ถึงแม้จะแค่แวบเดียว แต่อาร์ตก็มองเห็นแผลที่ข้อมือของคุณหมอ มันลึกและยาวน้อยกว่าแผลของอาร์ตเล็กน้อย
แต่แผลประมาณ 4 - 5 แผลนั่น มันพาดทับกันไม่เป็นระเบียบ จนรู้ได้ว่าแผลแต่ละเส้นมันไม่ได้ถูกกรีดพร้อมกันในครั้งเดียว
" คุณหมอคะ... มีเคส head injury ค่ะ " พยาบาลคนหนึ่งเดินมารายงานผู้ป่วยให้คุณหมอทราบ
แล้วคุณหมอก็ลุกขึ้นอย่างคล่องแคล่ว เดินออกไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ
" น้องคะ .. กลับได้เลยนะคะ เพื่อนของน้องไปรับยาให้แล้ว "
พยาบาลคนเดิมทำให้อาร์ตรู้สึกตัวขึ้น หลังจากที่อึ้งกับแผลบนข้อมือของคุณที่ยังติดตาอยู่ไม่หาย
" คะ .. ครับ "
อาร์ตเดินอุ้มมือซ้ายออกมาจากห้องแยก เห็นไอ้เปี้ยกไอ้โรจน์ยืนรออยู่ตรงนั้นสองคน ไม่เห็นไอ้โอ๋
เปี้ยกกับโรตน์ยืนรอทำสีหน้าเดาไม่ออก มันสองคนทั้งสงสัยทั้งตกใจและเป็นห่วง
" เป็นไงมึง " เปี้ยกถามพร้อมจับไหล่อาร์ตเบาๆ
" ดีที่เอ็นกล้ามเนื้อไม่ขาดนะมึง ... พวกกูเป็นห่วงแทบแย่ ..ยิ่งไอ้โอ๋นะมันแทบจะร้องไห้ " โรจน์เสริม
แต่อาร์ตไม่อยากรู้สึกอะไรกับโอ๋อีกแล้ว ถึงแม้จะได้ยินว่าอย่างนั้น
" ว่าแต่.. พวกมึงพอบอกได้หรือยัง.. ว่ามันเกิดอะไรขึ้น "
ไอ้สองคนนั้นก็เงียบกันไปอีก นานพอควรกว่าที่ไอ้อาร์ตจะตอบออกมา
" ...... กูมีปัญหาที่บ้าน " พอได้ยินคำตอบแบบนี้ ทั้งเปี้ยกกับโรจนก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัวไปแล้วหละ
" อืม กูเข้าใจ .. แต่เพื่อนทุกคนเป็นห่วงมึงนะ "
" ใช่ .. มึงมีปัญหาอะไรถ้าพอเล่าให้เพื่อนฟังได้ มึงอย่าเก็บไว้คนเดียวจะดีกว่า อย่างน้อยมึงก็ระบายให้ไอ้โอ๋มันฟังก็ดีนะ "
แต่สำหรับอาร์ตต่อไปนี้คงจะพูดคุยกับโอ๋น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ความเจ็บที่อาร์ตรู้สึกมันมากมายจนต้องขอไม่เจอกันอีกนานแบบไม่มีกำหนด
โอ๋เดินเข้ามาพร้อมถุงยา ด้วยสีหน้าของคนสำนึกผิด แล้วยื่นถุงยาให้อาร์ตแบบเก้ๆ กังๆ
บรรยายกาศดูมันเครียดชอบกล นานพอสมควรที่อาร์ตยืนมองถุงยาในมือโอ๋
จนเปี้ยกสะกิดให้อาร์ตหยิบถุงยาและพากันเดินกลับไปขึ้นรถ ไม่มีคำพูดใดเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางกลับพอพัก
จนกระทั่งอาร์ตลงจากรถและขึ้นหอพักไป เปี้ยกขับรถมาส่งโอ๋ที่อีกหอพัก
" ไอ้โอ๋ มึงเล่ามาเลย " เปี้ยกถามโอ๋ตั้งแต่ยังไม่เหยียบเบรค เดาได้เลยว่าโอ๋มันต้องรีบหนีขึ้นห้องแน่
" กูจะรีบ.. " โอ๋กำลังจะหนีออกจากรถ เนื่องจากไม่มีคำตอบที่เปี้ยกต้องการ แต่โดนดักคอครั้งที่สอง
" ไอ้โอ๋ !! กูขอหละ!! มึงอย่าหนี " เปี้ยกตะโกนเหมือนพี่กำลังว่าน้อง
" กูก็ไม่รู้ !! ตั้งแต่มันกลับจากบ้านมามันก็ไม่ได้เล่าอะไร ..มันคงมีปัญหากับพ่อแม่มันมั้ง "
ดวงทั้ง 2 ข้างที่มองหลบลงด้านล่างยังแดงช้ำอยู่ เสียงโอ๋ยังสั่นอยู่นิดๆ
" กูไปได้ยัง " ไม่อยากให้พวกมันถามอะไรอีก โอ๋เปิดประตูโดยใช้มือซ้ายผลักประตูออกไป แล้ววิ่งขึ้นหอพัก
" ดูมัน .. ยังกะผู้หญิง " โรจน์บ่นและมองตามไอ้โอ๋ที่กำลังวิ่งขึ้นบันไดไป
เปี้ยกเคลื่อนรถออกจากหน้าหอพักโอ๋ จนกลับมาถึงที่จอดรถที่พอพักของพวกเขา
" มึงเห็นอะไรไหม ที่มือไอ้โอ๋ "
" เห็นอะไร "
" มันมีแผลที่หลังมือมัน... มือซ้ายอะ กูเห็นมันพันผ้าก็อตไว้ มีเลือดซึมแดงๆ "
" เหรอ ... ไอ้สองคนนี้มันยังไงกันวะ "
" หลังๆ มานี่พวกมันสองคนดูสนิดกันดีกว่าเก่า แล้วไหงมาวันนี้เป็นแบบนี้วะ ...
กูว่ามันคงจะโกรธกันวะ ไม่ใช่หรอกที่ไอ้อาร์ตมีปัญหาที่บ้าน "
" อืม ..อีกอย่างไอ้คนที่โกรธกันจนกรีดข้อมือตัวเองนี่ มันพวกทำประชดแฟนนะเว้ย "
โรจน์วิเคราะห์จนเข้าทางที่เปี้ยกสงสัยไว้
" กูสงสัยพวกมันมานแล้ว .. มันต้องแอบรักกันแน่ๆ "
" เฮ้ย .. อะ ....... เฮ้อออ " โรจน์ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน แต่พอรู้สึกว่ามันจะโอกาสเป็นจริงสูง ก็ตกใจจนพูดไม่ออก
ทั้งสองคนลงจากรถ แล้วเดินขึ้นห้องพักไปพร้อมกัน
" แต่มึงอย่าเพิ่งปากบอนไปบอกใครนะไอ้โรจน์ "
" เออๆ กูไม่พูดหรอกน่า ถ้ามึงหยุดร้องเพลงก่อนนอนนะ กูปิดปากเงียบแน่นอน ไม่เชื่อมึงลองดูดิ "
" ไอ้เวร ได้ทีเลยนะมึง "
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
อาร์ตฆ่าตัวตายประชดโอ๋ :try2: :try2:
-
:o7: :o7: :o7:
-
อาร์ตทำ หรือ โอ๋ทำ
โอ้ยยยยยยย เครียดดดดดดดดดดดด
:m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
-
ไม่เจอกันซักพักก็ดี :m8: :m8:
จาได้กลับไปคิดทบทวนกัน 55
รออ่านต่อน้า Centinel :m1: :m1: :m1:
-
ความตายเท่านั้น ที่จะทำให้เธอจดจำฉันตลอดไป
:o7: :o7: :o7:
-
:sad5:
-
ถอยออกมาคนละก้าวก่อนครับ
:m8: :m8: :m8:
-
อ่าน้อ....มันไม่คุ้มกันจริงๆ อย่างที่คุณหมอเขาว่าอ่าละ
ลองคิดดูว่า...ถ้าเราตายคนเสียใจที่สุดคือใคร....พ่อ และ แม่ ต่างหากล่ะ
เหอๆๆ แต่ก็ดีนะ ที่ไม่ปล่อยให้ถามจนเลือดหมดตัวก่อนค่อยไปรพ.
ลุ้นมากๆ รออ่านต่อน้อ สู้ๆ :m13:
-
:เฮ้อ: ทำไมนะ ถึงคิดแบบนี้กัน
รออ่านต่อนะจ๊ะ :m1:
-
เรื่องมันเศร้าจริงๆ
:m15:
-
:เฮ้อ: ทนๆ อ่านกันหน่อยนะคับ นักประพันธ์มือใหม่ก็งี้แหละ อิอิ
ขอออกตัวไว้นีสนึงนะครับ .. เรื่องนี้น้ำเน่ามากๆ ขอบอก
แต่ผมชอบอะ นั่งเขียนไปร้องไห้ไป ได้อารมณ์มากๆ
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ นะคับ จุ๊บๆ
:m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:
-
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 8
" อาร์ต!! ปล่อยกู!! "
โอ๋ตวาด และสะบัดตัวออกอ้อมแขนของเพื่อนสนิด
ตั้งแต่เข้าห้องมา อาร์ตก็พยายามแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวโอ๋
อาร์ตปล่อยแขนออกจากตัวโอ๋ ความจริงแค่เขาออกแรงกอดรัดอีกซักหน่อย โอ๋ก็ดิ้นไม่หลุดแล้ว
" มึงกลัวอะไรโอ๋ .. มึงเลิกปิดตัวเองซะทีเถอะ ... ปากมึงก็บอกเป็นเพื่อนกู
แล้วเมื่อคืนที่มึงทำกะกูหละ ที่มึงยอมกูง่ายๆ แบบนั้น .. ถ้าใจมึงไม่ได้คิดอะไรกะกู
มึงกะกูคงไม่ได้กันครั้งที่สองหรอก "
คำพูดทุกอย่างดูมีเหตุผลหนักแน่น มันทิ้มเข้าไปในใจโอ๋ทุกๆ พยางค์ จนโอ๋เองก็เถียงไม่ออก
" มึงจะเอาเหตุผลอะไรมาอ้างอีกหละ! "
" กูไม่รู้โว้ย .. !! กูรู้แค่กูเป็นเพื่อนมึง!! "
" แต่กูไม่ได้คิดว่ามึงเป็นเพื่อนกู! กูรักมึงไง ไอ้โอ๋ มึงได้ยินไหม.. "
" แต่กูไม่ได้รักมึง! ...... ที่กูทำกับมึงก็แค่.. อารมณ์ชั่ววูบ!! "
" กูไม่เชื่อ! .. กูรู้จักมึงดี มึงกลัวคนรู้ว่ามึงเป็นเกย์ .. แค่นั้นหนะเหรอที่มึงกลัว "
" ไม่ใช่!! ถึงกูจะกลัว ... แต่กูก็ไม่เคยคิดที่จะรักเพื่อนตัวเอง "
การโต้เถียงระหว่างคนสองคนที่ ณ ตอนนี้ ระบุความสัมพันธ์ไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างใช้อารมณ์
แทบจะไม่ได้ฟังคำพูดของอีกฝ่ายที่ตวาดกลับมา
ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ โอ๋ก้มหน้าลงพยายามสงบสติอารมณ์
" ผิดที่กูเอง ที่กูยอมมึงก็แค่ความพลั้งเผลอ ..
แต่กูพูดจริงๆ กูไม่เคยรักมึงเลย .. ทุกอย่างที่มึงคิดมันไม่ใช่นะอาร์ต "
" กลับไปเถอะอาร์ต "
โอ๋หันหลังให้กับอาร์ตเป็นการบอกลา แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมง่ายๆ
" กูไม่กลับ "
ทันทีที่พูดจบอาร์ตก็คว้าโอ๋เข้ามากอดไว้อีกครั้ง แขนทั้งสองข้างรวบรัดไว้อย่างหนาแน่น
เขาซบลงตรงซอกคอของคนรัก แต่เจ้าของร่างเล็กๆ นั่นกลับก้มหน้าลงต่ำ
" ปล่อยกูเถอะอาร์ต " โอ๋พูดเสียงอ่อน
" ไม่ ... กูจะไม่ยอมปล่อยคนที่กูรัก "
" ตั้งแต่กูเข้ามหา'ลัยมา ชีวิตของกูก็มีแต่มึง กูจำไม่ได้ว่ากูไปอ่านหนังสือก่อนสอบกับใครนอกจากมึง .....
กูจำไม่ได้ว่ากูนั่งกินข้าวเที่ยงกับใครนอกจากมึง กูจำไม่ได้ว่าใครนั่งซ้อนรถกูนอกจากมึง
กูไม่รู้ว่าจะอยู่ยังงัยถ้าไม่มึง .. โอ๋.. มึงรู้สึกเหมือนกูไหม "
น้ำเสียงของอาร์ตเริ่มสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ
" ถึงมึงจะทำยังงัยกูก็รักมึงแบบนั้นไม่ได้หรอกอาร์ต .. ปล่อยกูเถอะ "
" ไม่... "
" ปล่อยกู " โอ๋พยายามดิ้นอยู่ในอ้อมแขนที่รัดแน่นมากขึ้น
อาร์ตไม่พูดอะไร เขาได้แต่กอดคนรักแน่นมากขึ้น
โอ๋พยายามแกะแขนของอาร์ตออกจากตัวด้วยมือที่ยังพันก็อตเปื้อนเลือด
ทันทีที่อาร์ตเห็นแผลที่มือนั่น เขาปล่อยโอ๋ออกแล้วดึงมือข้างนั้นมาขึ้นมาดูอย่างเจ็บช้ำ
" มือมึงเป็นอะไร!! " เขาตวาดและเพ็งไปที่ดวงตาแดงช้ำของโอ๋
" บอกกูมาสิ !! ... ใครทำอะไรมึง! .. หรือมึงทำร้ายตัวเอง.. ใช่ไหม!! "
ทุกอย่างที่เป็นตัวโอ๋เป็นทุกอย่างที่อาร์ตหวงแหน เจ็บใจที่สุดที่เห็นคนรักต้องบาดเจ็บ
" ปล่อยกู!! " โอ๋ดึงมือกลับ แขนอีกข้างหนึ่งผลักอาร์ตเซล้มลงไปที่เตียงของรูมเมต
ถ้วยชามที่ตั้งวางไว้บนเตียงเป็นชั้นๆ ล้มลงตามแรงชนของอาร์ต
โอ๋พลิกตัวหันหลังให้อาร์ตก้มหน้าสะอื้นเหมือนกำลังจะร้องไห้ ดูทุกอย่างมันเลวร้ายลงเรื่อยๆ
เขาคิดว่าอาร์ตน่าจะยอมรับได้และกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลย
ตอนนี้อาร์ตเหมือนคนบ้าที่ไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น
อาร์ตพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
" กู... รักมึงมาก รักมากกว่าที่มึงคิด กูทำได้ทุกอย่างเพื่อมึง แม้แต่เลือดเนื้อของกู ก็แลกได้เพื่อมึง "
กว่าโอ๋จะหันกลับมาดูอาร์ตที่อยู่ด้านหลัง คมมีดก็ถูกกดลงบนข้อมือข้างซ้ายของอาร์ตแล้ว
เป็นมีดที่น้ำเพิ่งซื้อมาวันนี้ ความคมของมันที่ถูกใช้งานครั้งแรกกับข้อมือของอาร์ต
โอ๋ก้มลงไปมองมีดที่ถูกกดเน้นลง คมมีดจมลงไปในผิวหนังของอาร์ต
เขาดึงรูดมีดออกไปด้านข้างเกิดรอยเนื้อสีขาวๆ เป็นทางยาว
มองเห็นเส้นเอ็นกล้ามเนื้อหลายๆ เส้นที่พาดอยู่ภายใต้ผิวหนัง
ไม่กี่วินาทีต่อมาเลือดเริ่มไหลซึมออกจากรอยแยกของผิวหนัง
อาร์ตก้มลงมองดูแผลของตนเองที่มีเลือดไหลซึมออกอย่างช้าๆ ใบหน้าของอาร์ตเปลี่ยนเป็นสีซีดลงจนเห็นได้ชัด
น้ำตาสีแดงไหลออกมาจากข้อมือของผู้ชายคนนั้น เลอะเปื้อนที่นอน และหยาดลงที่พื้น
น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มของผู้ชายคนเดียวกันที่นั่งอยู่บนเตียง ...
เขากำลังบอกว่าความรักของเขานั้น ... มากมายขนาดไหน
" กูรักมึงมากนะโอ๋ " เขาร้องไห้นิ่งๆ ทั้งเลือดและน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
" อาร์ต!! มึงทำอะไรของมึง มึงทำอย่างนี้ทำไม ! " โอ๋ทั้งตกใจและน้ำตาไหลมาคลออยู่ที่เปลือกตาในทันที
อาร์ตยกคมมีดขึ้นเหนือแขนซ้าย เขากำลังจะกรีดลงไปบนข้อมือครั้งที่สอง
โอ๋โผตัวเข้าไปแย่งเอามีดออกมามือของอาร์ตแล้วขว้างมีดออไปที่ระเบียง
เลือดจากข้อมือไหลออกมามากขึ้น มันหยาดตกลงที่พื้นไปเป็นวงๆ ผ้าปูเตียงสีฟ้าของน้ำเปื้อนสีแดงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
เลือดยังคงไหลออกมากขึ้นเรื่อยๆ โอ๋รีบวิ่งไปคว้าเสื้อในตู้เสื้อผ้า
เขาเอาเสื้อมัดคลุมแผลที่ข้อมือเพื่อนสนิดจนแน่นเพื่อห้ามเลือด
โอ๋เงยขึ้นเห็นอาร์ตหน้าซีด สีริมฝีปากจางลง เหมือนคนจะเป็นลม
สายตาที่อาร์ตมองกลับมาเต็มไปด้วยความหวงแหนคนรัก ตอนนี้เขามีสติไม่อยู่กับตัวเต็มร้อย
" กูรักมึงมากนะโอ๋ " อาร์ตยังบ่นเพ้อออกมาเบาๆ
ไม่คิดเลยว่าอาร์ตจะทำขนาดนี้ น้ำตาที่คลออยู่ที่เปลือกตาของโอ๋ หยาดผ่านแก้มลงมา
" ทำไมมึงไม่ยอมรับนะอาร์ต ... ฮือ ฮือ.. "
" โอ๋ โอ๋ !! ... ไอ้โอ๋ !! แกร้องไห้ทำไม แกฝันร้ายเหรอ "
เสียงของน้ำที่กำลังพยายามปลุกโอ๋ตื่นจากฝันร้าย ตอนนี้ก็เลยตี 1 ไปไม่กี่นาที
" ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ .. " โอ๋ลืมตารับรู้แล้วตัวเองฝันไป แต่ยังคงร้องไห้อยู่
" เป็นอะไรโอ๋ฉันได้ยินแกละเมอเสียงดังเหมือนทะเลาะกับไอ้อาร์ต "
" ใช่ ..ฉันทะเลาะกับไอ้อาร์ต ฮือ ฮือ.. "
" ก็เป็นแค่ฝันนั่นแหละ ไม่เป็นไรแล้ว "
" ไม่ ฉันไม่ได้ฝัน มันเป็นเรื่องจริง "
" หา!! ... แล้ว..แล้ววันนี้ที่พวกแกคุยกันแล้วเป็นยังงัย .. พวกคุยกันแล้วใช่ไหม "
" วันนี้ไอ้อาร์ตมันหาฉันที่ห้อง แล้วมันก็กรีดข้อมือ ฮือ ฮือ .. ฮือ ฮือ .. " โอ๋ร้องไห้หนักมากขึ้นอีกรอบ
" อะไรนะ!! "
อะไรมันจะวุ่นวายมากมายขนาดนี้นะโอ๋ ฉันก็ไม่คิดว่าไอ้อาร์ตมันจะรักแกมากขนาดนี้
ฉันผิดเองที่เร่งรัดให้แกไปตกลงกับไอ้อาร์ตมัน ฉันขอโทษนะ แล้วจะแก้ไขปัญหากันยังงัยต่อไป
จะเปิดเทอมอยู่แล้ว แต่ทำไมเหตุการณ์มันยุ่งเหยิงเสียจริง ไหนจะต้องรับน้องอีกหละ
เพราะความรักนี่หละมั้ง ...ความรักเป็นอันตรายที่สุดสำหรับคนอ่อนแอ
บางคนดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้เงาของความรัก ปล่อยให้อำนาจด้านมืดแห่งความรักควบคุมจิตใจ
จนทำอะไรที่อันตรายร้ายแรงออกไป อย่างที่เคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์บ่อยๆ นั่นแหละ
บางคนมองเห็นความรักเป็นอันตรายเกินไป ทั้งวาดกลัวทั้งโหยหา
อยากได้ความรักมาชื่นชม แต่เห็นคนอื่นเป็นบ้าเพราะความรักมามาก
คิดห้ามใจตนเองมาตลอดที่จะไม่รักใคร แต่สุดท้ายก็ห้ามใจไม่ได้อยู่ดี
บริบทแห่งชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ขัดเกลาจิตใจให้คนทุกคนแตกต่างกัน
แล้วคนเราจะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างเหล่านี้ได้อย่างไร... หากไม่เปิดใจ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
เมื่อไหรโอ๋จาเปิดใจให้เต็ม 100 นะ :m13:
-
อาจเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของโอ๋ ที่กัวคนอื่นจะว่าให้ตัวเอง
เลยพยายามคิดกับอาร์ตแค่เพื่อน ทั้งที่จิงๆแล้ว โอ๋ก้อรักอาร์ดมากๆๆ งงวุ้ย
ปล.รอตอนต่อไปค้าบ แฮ่ๆๆอย่าเอาให้เครียดมากจิ๊คับคุณผู้แต่ง เค้าเศร้าอ่ะ
:m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8:
-
กระชากอารมณ์อย่างแรง :m8: :m8: :m8:
-
กระชากอารมณ์มากๆ เลยครับ
เส้นทางของทั้งสองคนจะมาบรรจบกันได้หรือไม่
โปรดติดตามตอนต่อไป
:m15:
-
บริบทแห่งชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ขัดเกลาจิตใจให้คนทุกคนแตกต่างกัน
แล้วคนเราจะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างเหล่านี้ได้อย่างไร... หากไม่เปิดใจ
:m4: :m4: :m4: :m4:
พูดได้เยี่ยม
ก่อนอื่นเราต้องยอมรับความแตกต่างของแต่ละคน
ไม่สามารถเป็นได้ดั่งใจเราต้องการ
เราไม่สามารถขีดเส้นให้ใครเดินได้
เมื่อรักจงกล้าที่จะเสี่ยงกับมัน
เมื่อไม่รัก ก็อย่าทำให้เขาคิด เพราะมันจะดูเหมือนเขานั้นไร้ค่า
:m15: :m15: :m15:
-
.........."ความรักเป็นอันตรายที่สุดสำหรับคนอ่อนแอ"..........
..........ฉะนั้นจึงต้องอยู่กับมันอย่างมีสติและเข้าใจ......... o7 o7
-
อีกเดียวก็ดีเอง o13
-
สงสารอาร์ต อ่ะ :m15: :m15: :m15:
-
สงสารโอ๋อ่ะ :m15: :m15: ขัดแย้งในใจตน :m15: :m15:
-
5 5 5 5 5 :m11:
น้ำเน่าได้สะใจดีจริงๆ แบบนี้แหละหนูช้อบชอบ
กว่าโอ๋กะอาร์ตะจะลงเอยกัน ก็บทที่ 13 โน้นแหละ
ยึ้ย!! :o เลข 13 - -* ไม่ชอบเลขนี้เลย
อดทนกันหน่อยนะคับ อิอิ ( แม่งน้ำเน่าจริงๆ 55555 )
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคับ จุ๊บๆ
:m4: :m4: :m4:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 9
" โย โทรตามคนอื่นที่ยังไม่มาด้วยนะ .. "
" ครับพี่โอ๋ "
ประธานลีดฯ สั่งการน้องลีดปี 2 ให้ติดตามเพื่อนที่ยังมาไม่ถึงสถานที่ฝึกซ้อม
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับน้องที่จะมีขึ้นในวันเปิดเทอม ทุกๆปีบรรดาลีดฯ ประจำคณะ
จะต้องมาซ้อมท่าลีดประกอบเพลงนับ 20 เพลง ที่ลานชั้นสองของตึก 8 ชั้น
โอ๋ ทวนท่าประกอบทุกเพลงให้กับลีดรุ่นน้องไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่น้องๆ ก็จะจำกันได้หมดแล้ว
เพราะซ้อมกันไว้แล้วตั้งแต่ก่อนไฟนอลของเทอมที่ผ่านมา
เหลือก็แต่ความพร้อมเพรียงที่จะต้องมันปรับกันใหม่ หลังจากที่ห่างเหินการซ้อมมือไปนาน 1 เดือน
หน้าที่ของประธานลีดฯ คือ จัดน้องลีดปี 2 ทั้ง 12 คน เป็นกลุ่มๆ
แบ่งให้รับผิดชอบการกำกับเพลงในห้องเชียร์ให้เหมาะสม
น้องลีดปี 2 ทุกคนจะต้องได้เป็นลีดนำอย่างน้อย 1 เพลง ลีดนำหมายถึงลีดที่ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับเพลงหลักในแต่ละเพลง
ยังดีที่วันนี้มียัยออยที่มาคอยฝึกซ้อมและจัดกลุ่มช่วย ปีนี้ยัยออยต้องทำหน้าที่เป็นเทคนิคเชียร์คู่กับยัยฝน
ซึ่งเทคนิคเชียร์จะเป็นคนแนะนำและแสดงเนื้อเพลงให้น้องใหม่ในห้องเชียร์
เริ่มซ้อมกันตั้งแต่ 13.00 น. จนกระทั่ง 17.00 น. ก็คงเพียงพอแล้วสำหรับการทบทวนท่าทางต่างๆ
ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ โอ๋ต้องกำชับน้องลีดปี 2 เรื่องการวางตัวในช่วงที่มีการรับน้องที่คณะ
" น้องๆ ลีดฯ ทุกคนครับ ก่อนจะกลับวันนี้ พี่กับพี่ออยขอย้ำเรื่องการวางตัวกับน้องใหม่นะครับ
เราก็รู้ว่าพี่ลีดทุกคน ทั้งลีดปี 3 หรือปี 2 จะมีบทบาทในการรับน้องไม่น้อยกว่าพี่สต๊าฟว๊ากเลย
ดังนั้น พี่ขอให้น้องๆ วางตัวนิ่งๆ รักษามาดพี่ลีดฯ ให้ดี วางตัวเป็นกลาง อย่างน้อยก็ให้น้องใหม่ยำเกรงเราบ้าง
ช่วงที่รับ 4 สัปดาห์ ก็ต้องลำบากเก๊กโหดกันหน่อยนะ พอรับน้องเสร็จแล้วค่อยทำตัวตามสบายนะครับ "
โอ๋พูดยาวเยียดจนน้องบางก็คนทำหน้าเอือมๆ โดยเฉพาะน้องนัดที่ทำท่าขยุกขยิก
" นะครับน้องนัด ! .. ถ้าเราทำเสียแผนคนเดียว ก็อาจจะกระทบคนอื่นด้วย "
" ค้าบบบบ !! " ไอ้น้องนัดลีดฯ ปี 2 ที่ดื้อที่สุด และเป็นลีดผู้ชายที่ตุ้งติ้งน้อยที่สุดแล้วในบรรดาลีดผู้ชายปี 2 ทั้ง 5 คน
ตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารัก ดูไปดูมาหน้ามันเหมือนลิง นัดเป็นคนเดียวที่ไม่ใช่ตุ๊ดหรือเกย์ในบรรดาลีดฯผู้ชายทั้ง 5 คน
" ส่วนถุงมือลีดฯ ให้น้องลีดฯ มารับและใส่ซ้อมในวันพรุ่งนี้ ..เวลาเดิม ... มีใครสงสัยอะไรไหม "
น้องลีดฯ ทุกคนนิ่งเงียบ คงจะเหนื่อยกับการฝึกซ้อมทั้งบ่ายและอยากกลับกันแล้ว
" พี่ออย มีอะไรจะฝากน้องไหมคับ " โอ๋หันหน้ามายัยออย ที่ยืนกอดอกอยู่ด้านข้าง
" สำหรับน้องลีดผู้หญิง เรื่องกระโปรงกับรองเท้า ให้ตกลงกันเองนะคะ
ควรจะใส่ให้แบบที่คล้ายกัน ร้องเท้าห้ามใส่แบบสายรัดข้อเท้ายาวนะคะ "
" มีอะไรสงสัยอีกไหมคับ "
" ไม่มีคับ / ค่ะ "
" วันนี้ขอบใจน้องลีดฯ ทุกๆ คนนะครับ กลับได้แล้ว "
อาร์ตกับออยหันหน้าเข้าหากันเพื่อตกลงเรื่องถุงมือลีดที่ต้องซื้อเพื่อใช้ในการฝึกซ้อมและใช้จริง
ปล่อยให้น้องลีดฯ คุยกันเสียงเจี๊ยวจ๊าว ดูท่าทางคงจะคิดถึงกันมากๆ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเดือนกว่าๆ
" โอ๋แกไปซื้อถุงมือนะ ฉันไปเบิกเงินกับเหรัญญิกมาแล้ว อะนี่ "
ยัยออยยืนเงินและหน้าที่มาให้โอ๋ แบบยัดเยียด
" อ่าว .... แกก็รู้ว่าฉันไม่มีรถ สหกรณ์มหา'ลัยก็ยังไม่เปิด ฉันต้องเข้าไปซื้อในเมืองนะ "
" แกก็ให้แฟนแกพาไปซื้อเสะ ... "
" แฟนฉัน !! ใคร.?.. "
" ก็ไอ้อาร์ตงะ 5555 ... "
" นี่ๆ จะบ้าเหรอ ฉันกับมันเป็นเพื่อนกัน "
" ก็แล้วแต่แก .. ฉันดูตาเดียวก็รู้แล้วว่าไอ้อาร์ตมันคิดยังงัยกับแก "
" จ๊ะ ! ... แม่เทพธิดาพยากรณ์ "
" 555 แน่นอนฉันรู้ทุกอย่างนั้นแหละ .. แล้วไอ้อาร์ตมันไปไหนแล้วหละ
ปกติมันต้องมันนั่งรอแกตั้งแต่ตอนซ้อมใกล้เสร็จหนิ "
" ฉันกับมันคงไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วหละ ... คือพวกฉันมีเรื่องกันนิดหน่อย "
โอ๋ทำหน้าเศร้า จนยัยออยไม่กล้าถามต่อว่าเกิดอะไรขึ้น
" ก็ดีเหมือนกัน เพราะยังงัยช่วงรับน้องประธานลีดฯ กับ สต๊าฟว๊าก
ก็คงไปไหนมาไหนด้วยกันให้น้องใหม่เห็นไม่ได้หรอก.. เป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน " โอ๋พูดเสริมตัวเอง
" ถ้าอย่างนั้นฉันไปซื้อเอง เอาเงินคืนมา "
" ไม่เป็นไร.. เดี๋ยวฉันออกไปซื้อกับรูมเมตก็ได้ "
โอ๋ขอรับหน้าที่นี้ไว้เหมือนเดิม ทั้งที่ยังไม่แน่ใจเลยว่าน้ำจะตกลงพาโอ๋ไปหรือป่าว
" แก ... แน่ใจนะ "
" แน่สิ "
" งั้นฉันกลับแล้วนะ บะบาย "
" อื้ม "
แล้วยัยออยก็วิ่งแทบถลาไปหาชายหนุ่มที่กำลังชะเง้อหน้าพ้นบันไดออกมาให้เห็นพอดี
ยัยออยกับแฟนคบกันมาตั้งแต่ปี 1 ทั้งสองคนเจอกันตอนเข้ากิจกรรมเชียร์กลาง
ซึ่งเป็นกิจกรรมเชียร์รวมน้องใหม่ทั้งมหาวิทยาลัย เป็นเวลาประมาณ 4 สัปดาห์
หลังจากนั้นถึงจะเป็นกิจกรรมรับน้องคณะอีก 4 สัปดาห์
พอเห็นคู่รักเขากระหนุงกระหนิงกันแล้ว โอ๋รู้สึกแปลกๆ เหมือนเหงา เหมือนน้อยใจ
มันก็เป็นอย่างที่ยัยออยพูดนั่นแหละ ถ้าเป็นแต่ก่อนป่านนี้ไอ้อาร์ตก็มานั่งรอรับโอ๋ไปกินข้าวแล้ว
และกลับไปนอนคลุกบนเตียงดู TV และคุยกันที่ห้องแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงชวนกันออกไปดูหนังในเมือง
หรือไม่ก็ไปนั่งเล่นเกมส์ที่ร้านเน็ต .. โอ๋คิดไปเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาจนถึงชั้นล่างตั้งแต่ตอนไหน
เย็นป่านนี้แล้วจะมีรถโดยสารให้โอ๋ขึ้นกลับหอหรือป่าวนะ โอ๋ยืนรอที่ข้างทางมองซ้ายมองขวา
ดูท่าทางรถโดยสารจะหมดแล้ว สงสัยจะได้เดินกลับหอพักแน่ๆ
" พี่โอ๋ค้าบบบ !! " เสียงดื้อๆ ของไอ้น้องนัด
โอ๋หันกลับไป ไอ้น้องนัดวิ่งหน้าตาทะเล้นตรงมาหา
" พี่โอ๋จะกลับยังงัยคับ "
" พี่ว่าจะขึ้นรถโดยสาร แต่มันคงไม่มีแล้วหละ "
" อ่าว .. แล้วพี่อาร์ตหละคับ ไม่มารับพี่เหรอ "
แม้กระทั่งน้องนัดก็รู้เหรอว่าอาร์ตจะต้องมารับ..
" ไอ้อาร์ตมันติดธุระ พี่ต้องกลับเองคับ " โอ๋พูดยิ้มๆ
" นัดไปส่งพี่โอ๋ก็ได้ครับ "
" อืม ... ก็ดี "
" รถนัดจออยู่หลังตึก "
พอพูดจบไอ้น้องนัดก็หันกลับหลังนำทางโอ๋ไปที่ที่จอดรถ
แต่ทันใดนั้น ใครบางคนขับรถ TENA มาจอดเทียบตรงขอบทางใกล้กับที่โอ๋ยืนอยู่เมื้อกี้
เสียงเครื่องรถจักรยานยนต์คันนั้น ดึงความสนใจให้น้องนัดและโอ๋หันไปมอง
อาร์ตนั่งอยู่บนรถทำหน้าบูดเหมือนไม่สบอารมณ์ที่จะต้องมาทำหน้าที่อะไรบางอย่าง
โอ๋ไม่คิดว่าอาร์ตจะยอมมาเจอโอ๋อีก ดีใจอยู่ลึกๆ
อย่างน้อยอาร์ตก็ไม่ได้โกรธและเกลียดโอ๋มากจนไม่ยอมมาเจอหน้ากันอีก
" จะกลับไหม " อาร์ตพูดขึ้นมาโดยไม่หันมามองโอ๋
" อ่าว .. พี่โอ๋ .. พี่อาร์ตมารับแล้ว ... "
แต่โอ๋ยังยืนค้างอยู่ตรงที่เดิม เขาไม่กล้าที่จะไปพึ่งพาอาศัยรถ TENA คันนั้นอีก
ในเมื่อเขาทำให้เจ้าของของมันเจ็บปวดแทบปางตาย
" พี่โอ๋ ... งั้นนัดกลับแล้วนะครับ " แล้วไอ้น้องนัดยกมือขึ้นไหว้รุ่นพี่แล้ววิ่งหายไปที่หลังตึกในทันที
โอ๋ยังยืนนิ่งอยู่อยู่ที่เดิม ไม่กล้ามองหน้าไอ้อาร์ต อาร์ตเองก็มองแต่ถนนไม่ยอมมองหน้าโอ๋
" จะกลับไหม " ประโยคเดิมที่อาร์ตพูดซ้ำโดยไม่ได้หันมามองโอ๋
โอ๋เดินไปที่รถคันนั้นแล้วก้าวขาขึ้นนั่งที่เบาะหลัง รักษาระยะห่างออกจากตัวอาร์ต
เป็นระยะห่างที่โอ๋เว้นไว้เพราะความผิดที่ตัวเองทำให้อาร์ตเจ็บปวด
เป็นระยะที่ห่างที่อาร์ตวางความน้อยใจและความเสียใจขั้นไว้
นานเหลือเกินกว่าอาร์ตและรถคันเดิมจะพาโอ๋มาถึงพอพัก มันอึดอัดที่ไม่รู้จะพูดอะไร
โอ๋รู้อาร์ตยังโกรธอยู่ .. ได้แต่แอบมองไปที่ข้อมือข้างซ้ายของอาร์ตที่ยังมีผ้าก็อตพันอยู่
' มันคงจะเจ็บแผลมาก มันถึงกำแฮนด์รถแบบหลวมๆ ... เพราะกูที่ทำให้มันเจ็บ กูขอโทษ ... อาร์ตกูขอโทษ '
อาร์ตเหยียบเบรคและจอดรถที่หน้าหอพักของโอ๋ โอ๋ก้าวลงมายืนอยู่ข้างๆ
ไม่รู้ว่าจะพูดคำว่า ' ขอบคุณที่มาส่ง ' หรือคำว่า ' ขอโทษ ' ก่อนดี
ดูเหมือนอาร์ตไม่อยากหยุดรอฟังว่าโอ๋จะพูดอะไรต่อ โอ๋ก็ได้อ้ำอึ้งไม่พูดอะไรซักที
" คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ.... "
อยู่ดีๆ อาร์ตก็พูดประโยคนั้นออกมา ไม่คิดเลยว่าอาร์ตจะพูดแบบนั้น
' คำบอกลาของอาร์ต '
โอ๋มองไปที่ใบหน้าของเจ้ารถคันที่พาเขามาส่ง คนๆ นั้นทำหน้านิ่งเหมือนไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น
แต่โอ๋ต่างหากที่ตอนนี้ตามันไหลมาคลออยู่ที่เปลือกตา มีอะไรบางอย่างวิ่งมาจุกอยู่ที่ลำคอ
พูดอะไรไม่ออก สมองตื้นไปหมด เสี้ยวความคิดที่แวบเข้ามา.. ' มันคงไม่อยากเจอหน้ากูอีกแล้ว '
อาร์ตเหยียบเกียร์และบิดคันแรงเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง
โอ๋เดินแบบไร้สติกลับขึ้นไปที่ห้องพัก น้ำตามันหยาดผ่านแก้มลงมาแบบไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดง่ายๆ
" ทำไมกูถึงร้องไห้เพื่อมึงขนาดนี้วะ .. "
ความสับสนวิ่งวนวุ่นวายอยู่ในใจของโอ๋ จะทำยังงัยดีกับใจที่มันทรมานแบบนี้
มันก็แค่เพื่อนคนหนึ่งที่ตอนนี้ไม่ใช่เพื่อนอีกแล้ว ... กูกะมันก็แค่เพื่อนสองคนที่เลิกคุยกัน มันก็แค่นั้นไม่ใช่เหรอ
ทำไมกูถึงเจ็บปวดทรมานขนาดนี้ ...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
โอ๋ จ๋า รีบๆรู้ใจตัวเองหน่อย ช้าไปจะไม่ทันการณ์นะ
สงสารอาร์ตจัง เศร้า อีกแว้ว
รีบๆคืนดีกันนะคร้าบ
:m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8:
-
" คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ.... "
.............โอ๋คราบ......อย่าปล่อยอาร์ตไปนะ...... :o12: :o12: :o12:
-
ทำไมเรื่องมันเศร้าอย่างเนี้ย
:m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
-
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
ทำผิดแล้วแค่พูดคำว่าขอโทษ มันช่างยากเหลือเกิน
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
:sad4: อาร์ตแค่งอนและน้อยใจ โอ๋ไปง้อเดี๋ยวก็หาย o7
-
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
-
เมื่อใจตรงกัน แล้วจะหลอกตัวเองกันไปใย........ :o10:
-
ระยะห่างระหว่างใจ :m15: :m15: :m15:
ปล. คนแต่งสปอยคนอ่านทำม้ายยยย :sad5:
-
ขอบคุณทุกกำลังใจนะค้าบบบบ
กำลังใจล้นหลาม อิอิอิ จุ๊บๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 10
( ใครที่เคยผ่านเชียร์โหดๆ มาก่อน อย่าว่ากันนะครับผมคงบรรยายความประทับใจในห้องเชียร์ได้ไม่หมด ... ขออภัยล่วงหน้า )
' วันเดือนเคลื่อนไป การหลอกลวงผู้มาใหม่ ก็ใกล้จะสิ้นสุดลง '
ระยะเวลา 4 สัปดาห์กับแผนการร้ายระดับเซียน ที่ทั้งพี่ปี 2, 3 และ 4 ร่วมกันว่าแผนไว้อย่างแยบยล
หล่อลวงให้เหล่าน้องๆ ที่เข้ามาเรียนใหม่ ตกอยู่ในสภาพการแห่งปัญหาและความเครียด ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
ความรัก ความเคารพ และความสามัคคีเท่านั้นที่จะช่วยให้น้องใหม่ทุกคนผ่านปัญหานี้ไป
น้องๆ จะได้เรียนรู้ประสบการณ์ดีๆ จากกิจกรรมหฤโหดแสนหวานและได้พบเพื่อนแท้ที่แสนดีมากมาย
เหมือนกับที่ทำให้อาร์ตและโอ๋ได้เจอกันนั่นแหละ
พอขึ้นปี 2 โอ๋ผันตัวเองมาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ผู้มีมาดนิ่งและนุ่มนวล มีความสุขุมน่าหลงไหล
ส่วนอาร์ตกลายมาเป็นพี่สต๊าฟสุดโหด เคร่งครัด เข้มแข็ง ดุร้ายและเกรี้ยวกราดอย่างมีเหตุผล
แต่ปีนี้พิเศษที่สุด ความตึงเครียดระหว่างโอ๋กับอาร์ตแผ่กระจายสู่จิตใจพี่สต๊าฟเกือบทุกคน
เนื่องจากมีเพื่อน 2 คนในชั้นปีเดียวกำลังเคียดแค้นกันยังกับว่าพวกเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาตั้งชาติปางไหน
ทั้งในห้องเชียร์และนอกห้องเชียร์ที่ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยสายตาและอาการเหมือนทำสงครามเย็นกันอยู่ 2 คน
ทั้งที่พวกเคยเป็นเพื่อนรักสุดชีวิตกันมาก่อน นับตั้งแต่วันเปิดเทอมวันแรก พวกเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ทุกคนเข้าใจว่านั่นเป็นการแสดงที่ทั้งอาร์ตและโอ๋ทุ่มเทเพื่อความสมจริงในการเป็นพี่ประธานลีดและสต๊าฟว๊าก
แต่ใครจะรู้นอกจากเปี้ยกกับโรจน์ ว่าความจริงแล้วสายตาเย็นชาที่เขาสองคนมีให้กันมันเป็นความรู้สึกโดยแท้
สำหรับการรับน้องปีนี้ เหตุการณ์หลอกลวงหลายๆ อย่างจึงดูสมจริงกว่าการรับน้องปีที่ผ่านๆ มาเป็นอย่างมาก
... และในวันสุดท้ายของการเชียร์ โอ๋ พี่ประธานลีดฯ ได้ทำให้ทั้งน้องใหม่และพี่สต๊าฟด้วยกันต้องผวาสุดขีด
เพลงคณะเพลงสุดท้ายที่น้องๆ จะต้องร้องให้ดีที่สุดเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าพวกเขาจะได้รับการยอมรับจากรุ่นพี่หรือไม่
ให้ได้ชื่อว่าพวกเขาได้จะเป็นพี่น้องกับรุ่นพี่ที่บังคับให้พวกเขาทำอะไรบ้าๆ อย่างเคร่งครัดมาตลอด 4 สัปดาห์
ท่ามกลางความตรึงเครียดและเงียบสงัดของห้องเชียร์ น้องใหม่ถูกจดจ้องด้วยสายที่พวกเขาไม่อาจจะเงยหน้าขึ้นมามองได้
" ขอเชิญพี่ลีดฯ ค่ะ/ครับ " เด็กน้อยสีหน้าตื่นตระหนก ทั้งชายและหญิงยืนตะโกนเสียงดังอย่างพร้อมเพรียง
เพื่อเป็นการเชิญพี่ประธานลีดฯ ...พี่ลีดที่เยือกเย็นและเย็นชาที่สุด
คนที่ไร้ซึ่งความรู้สึกร้อนหนาวหรือความรู้สึกใดๆ จนน้องๆ หวั่นเกรงอย่างบอกไม่พูด
พี่คนนี้เป็น 1 ใน 3 ของผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินว่าน้องใหม่จะได้รับการยอมรับหรือไม่
แต่การตัดสินใดๆ ภายในห้องเชียร์จะต้องเกิดขึ้นจากเป็นมติเอกฉันท์ของ ประธานเชียร์ ประธานสต๊าฟและประธานลีดฯ
เสียงเท้านุ่มนิ่ง เดินลงมาจากบันไดบนสุดด้านหลังของห้องสโลบที่ถูกเรียกว่าห้องเชียร์ จนมาหยุดอยู่ด้านหน้าสุด
น้องใหม่มองเห็นด้านหลังของพี่ประธานลีดฯ มีถุงมือสีขาวสะอาดสวมอยู่บนมือทั้งสองข้างอย่างพอดีถูกวางไว้ด้านหลังอย่างเป็นระเบียบ
เขายืนนิ่งแทบไม่ไหวติง จนแทบมองไม่เห็นจังหวะการหายใจของเขา
น้องบางคนเริ่มมีอาการขาสั่นและเริ่มเครียด พี่คนนี้กำลังจะตัดสินพวกเราทุกคน
ถ้าเพลงต่อไปนี้ที่พวกเราจะร้องอย่างสุดความสามารถกลายเป็นความไม่พอใจของเขาหละ จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา
ทันใดนั้นเกิดการเคลื่อนไหวของพี่ประธานลีดฯ เขาก้าวเท้าออกไปเล็กน้อย พลิกตัวกลับมาและชิดเท้าอย่างกระชับและนุ่มนวล
ใบหน้าที่เย็นชากับสายตาที่เคร่งขรึมจนจับอารมณ์ไม่ได้ ทำให้น้องใหม่หวั่นใจอย่างหนักจนแทบจะลืมเนื้อเพลง
แขนทั้งสองวาดออกมาจากด้านหลัง กวาดขึ้นจากด้านข้างพร้อมกัน และวาดมือมาวางอยู่ด้านหน้า
ลักษณะนิ้วมือที่แสดงอยู่อย่างชัดเจน เป็นสัญลักษณ์ของเพลงสุดท้าย
เขาหยุดนิ่งและแสดงสัญลักษณ์เพลงอยู่ซักพัก แล้ววาดแขนกลับไปที่เดิม
ต่อไปนี้พี่เขาคงจะเริ่มให้จังหวะการนับสำหรับการร้องเพลง
พี่ประธานลีดฯ วาดแขนขึ้นเหนือศรีษะค้างไว้เป็นรูปตัววี น้องใหม่รอสัญญาณการนับเพื่อเริ่มต้นร้องเพลง
เขากำมือด้านขวาอย่างรวดเร็ว ดึงแขนทั้งสองเข้าหากัน ฝ่ามือซ้ายชนกับสันมัดด้านขวาเสียงดัง " ตุ๊บ!!! " ถือเป็นจังหวะนับ 1
บิดตัวออกด้านข้างเล็กน้อยพร้อมกับวางมือทั้งสองข้างด้านหลังศรีษะ ถือเป็นจังหวะนับ 2
และบิดตัวกลับพร้อมกางแขนออกมาเป็นรูปตัววี ถือเป็นจังหวะนับ 3
พี่ประธานลีดฯ เริ่มวาดแขนและสบัดข้อมือ ท่วงท่าสง่างามเป็นจังหวะสอดคล้องต่อเนื่อง .....และต้องหยุดอย่างกระทันหัน
เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้น คือความเงียบ ... ไม่มีเสียงร้องเพลงของน้องใหม่ ... สร้างความหงุดหงิดให้กับรุ่นพี่ที่ยืนจ้องอยู่รอบข้าง
" เป็นอะไรกัน!!! เป็นอะไรกัน!!! ทำไมไม่ร้อง!!! " เสียงตะวาดดังออกมาจากพี่สต๊าฟว๊ากคนหนึ่งที่ยืนเยื้องออกไปด้านหน้า
คงจะเป็นเสียงของพี่อาร์ตพี่สต๊าฟว๊ากปี 3 ที่โหดที่สุด คนที่มีเฝือกแบบอ่อนสีขาวมัดยึดไว้จากข้อมือจนมาถึงข้อศอก
" เพลงสุดท้ายนะน้อง!!! จะเอายังงัย!!! " มีพี่สต๊าฟอีกคนเสริมขึ้น
ตอนนี้พี่ประธานลีดฯ เก็บแขนลงด้านหลังไปแล้ว
" เหลือโอกาสอีก... 2 ครั้งนะครับน้อง " พี่ประธานลีดฯ ที่อยู่ด้านหน้าเอ่ยบอกแบบนิ่งๆ
ไม่แสดงถึงความห่วงใยน้องใหม่แต่อย่างใด กลับเป็นคำขู่ที่ทำให้น้องหลายๆ คนเริ่มอยู่ไม่นิ่ง
บางคนถอนหายใจแรงอย่างลืมตัว เสียโควต้าไปฟรีๆ เลย 1 ครั้ง
พี่ประธานลีดฯ ให้สัญลักษณ์เพลงเป็นครั้งที่ 2 เพื่อดึงเวลาให้น้องใหม่ตั้งตัว
เก็บแขนลง ... วาดขึ้นเป็นตัววีอีกครั้ง .. และดึงฝ่ามือซ้ายกับมัดขวากระทบกันเสียงดังเป็นจังหวะ 1
วาดแขนต่อเป็นจังหวะ 2 และจังหวะ 3 ตามลำดับ เสียงเพลงดังขึ้นขึ้น
พร้อมกับจังหวะการเคลื่อนไหวของพี่ประธานลีดฯ ถึงมันจะเริ่มต้นด้วยความไม่พร้อมเพรียงก็ตาม
การร้องเพลงของน้องใหม่ดำเนินต่อไปภายใต้การควบคุมของเขาเพียงคนเดียว
เสียงเพลงประจำคณะกำลังดังสุดกู่อยู่ในห้องเชียร์แห่งนี้
และทันใดนั้นมันเริ่มไม่เพรียงพร้อมมากขึ้นอย่างชัดเจน เขาหยุดการเคลื่อนไหวใดๆ กางแขนไว้ในรูปตัววีและเก็บแขนลง
น้องใหม่ทุกคนต้องหยุดการร้องเพลงลงในทันที
" ไม่ต้องเป็นพี่เป็นน้องกันแล้ว!!! พอๆๆ!!! ไม่ต้องเชียร์!!! " เสียงของพี่สต๊าฟว๊ากคนที่ยังยืนจับผิดน้องใหม่อยู่ตรงที่เดิม
" น้องคะน้องทำได้แค่นี้เหรอคะ .... นี่เพลงสำคัญที่สุดของคณะเรานะคะ น้องไม่มีความตั้งใจเลยเหรอคะ "
คราวนี้เป็นเสียงของพี่สต๊าฟปลอบที่น้องๆ รักที่สุด .... พี่ปุ๊กที่เคยพาน้องๆ ร้องเพลงสนุกคลายเครียด
แต่ตอนนี้พี่ปุ๊กกำลังผิดหวังที่สุดกับสิ่งที่น้องใหม่ทำไม่ได้ดั่งใจ
เริ่มมีน้องผู้หญิงบางคนแสดงอาการคล้ายกับจะร้องไห้ ซึ่งนั่นก็แสดงว่าแผนที่วางไว้กำลังเข้าที่เข้าทาง
บรรยายกาศภายในห้องเชียร์เงียบลงอีกครั้ง
" โอกาสครั้งสุดท้ายนะครับน้อง " แล้วพี่ประธานลีดฯ ยังคงพูดแบบนิ่งๆ เหมือนเดิม
เขาวาดแขนขึ้นเป็นตัววี โดยไม่ได้แสดงสัญลักษณ์เป็นครั้งที่ 3 และเริ่มให้จังหวะการนับ 1 2 และ 3
ในขณะที่สันมัดกระทบกับฝ่ามือแรงสะแทกนั่นทำให้โอ๋รู้สึกเจ็บแปร๊บไปถึงแผลบนหลังมือ
ถึงแม้แผลจะหายดีแล้ว แต่ทุกครั้งที่ใช้งานหนักๆ ก็รู้สึกปวดจนแทบทนไม่ได้
4 สัปดาห์หลังเปิดเทอม โอ๋ก็ต้องให้จังหวะเพลงแบบนี้ไม่รู้กี่ครั้ง ในการฝึกซ้อมให้น้องลีดปี 2
นับมาจนถึงวันนี้ ต่อให้รู้สึกเจ็บที่หลังมือก็ยังเท่าไหร่ ก็คงต้องอดทนต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดกิจกรรมเชียร์
มีเสียงร้องเพลงของน้องใหม่พร้อมกับโอ๋แสดงท่าทางควบคุมการร้องเพลงอย่างเยือกเย็นทั้งที่ยังคงเจ็บแผลไม่หาย
รู้สึกเหมือนแผลเป็นที่หลังมือมันขูดกับถุงมือตามจังหะการเคลื่อนไหว มันเจ็บแปร๊บมากขึ้นและถี่ขึ้น
จนบางจังหวะโอ๋ก็ไม่สามารถจะรักษาหน้านิ่งๆ ไว้ได้ ทั้งน้องใหม่และพี่สต๊าฟหลายคนเริ่มเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
อาร์ตเริ่มสังเกตุเห็นสายตาแปลกๆ ของเพื่อนสต๊าฟ ที่จ้องมองไปที่โอ๋
เขาหันไปที่โอ๋ ไม่สามารถเก็บสายตาหวงใยที่กำลังควานหาสิ่งผิดปกติในตัวโอ๋
อาร์ตไม่รู้ว่าโอ๋มันเป็นอะไร รู้แต่ว่าโอ๋ไม่เคยพลาดทุกครั้งใส่ถุงมือลีด แต่วันนี้เหมือนมีอะไรบางอย่างรบกวนสมาธิโอ๋
น้องใหม่เริ่มร้องไม่เป็นเพลงตอนที่เพลงใกล้จบ ทำนองเพลงเริ่มผิดเพี้ยน
พี่ประธานลีดฯ หยุดและเก็บแขนลง เสียงเพลงที่ดังกึกก้องหยุดลงในทันที
ตามแผนที่วางไว้ โอ๋จะตัดสินใจใช้อำนาจเกินตัวด้วยการให้โอกาสน้องใหม่เป็นครั้งที่ 4
ซึ่งจะทำให้พี่สต๊าฟว๊ากคนหนึ่งโมโหขึ้นมาอย่างรุนแรงซึ่งนั่นก็คืออาร์ต อาร์ตจะวิ่งเข้ามาผลักโอ๋ล้มลงและเกิดการชกต่อยเกิดขึ้น
โอ๋ยังคงสวมบทบาทเป็นพี่ประธานลีดฯ ต่อไป ทั้งที่เจ็บแผลเก่าตรงหลังมือ
น้องใหม่หน้าเสียหน้าซีดกันเป็นแถบๆ พี่จะทำอะไรกับพวกเราต่อไป ครบ 3 ครั้งแล้ว
พวกเราทำไม่สำเร็จ พวกเราร้องเพลงคณะไม่จบ มีน้องผู้หญิงบางแทบจะกลั้นร้องไห้ไม่ได้แล้ว
" พี่จะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย " ไม่น่าเชื่อกับความใจดีของพี่ประธานลีดฯ ที่ให้โอกาสน้องใหม่
น้องผู้หญิงที่กำลังจะร้องไห้เลิกทำหน้าเบี้ยวในทันที มีเสียงบ่นของรุ่นพี่ดังงึมงัมอยู่ทั่วห้อง
คล้ายกับว่าพี่ประธานลีดฯ ล้วงล้ำหน้าที่ของตัวเองออกไปแล้ว
" ไม่ยอมโว้ย!!! ประธานลีดฯ ไม่มีสิทธิ์ตัดสินให้โอกาสน้อง!!! " เสียงตะคอกของพี่สต๊าฟว๊ากคนเดิม
อาร์ตสังเกตุเห็นพี่ประธานแอบบีบมือเบาตอนที่ไขว้มือไว้ด้านหลัง
' ไอ้โอ๋มันคงเจ็บมือแน่ๆ ไอ้เวรนี่อ่อนแอจริง 2 เดือนแล้วมึงยังไม่หายเจ็บอีก ... เฮ้อ.. ไม่รู้ว่ามันเจ็บมากไหม '
อาร์ตอยากจะให้มันจบลงเร็วๆ ไม่อยากเห็นโอ๋ต้องทนเจ็บอีก
พี่ประธานลีดฯ ไม่สะดุ้งสะเทือนกับเสียงของพี่สต๊าฟว๊ากคนนั้น แล้วเขาก็วาดแขนขึ้นเป็นตัววี
ในจังหวะนั้นที่โอ๋กำลังจะชกกำปั้นขวากับฝ่ามือเพื่อให้จังหวะเริ่มร้องเพลง
" ไอ้พี่ลีดฯ ... มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลย!! " อาร์ตวิ่งถลาเข้าไปผลักโอ๋ล้มลงกับพื้นด้วยแขนขวาตามบทบาทที่เตรียมกันไว้
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้น้องใหม่ตกใจอย่างแรง มีเสียงดัง ฮื้อ ฮ้า พวกพี่ๆ กำลังจะตีกันอยู่ตรงนั้น
แต่สำหรับอาร์ต แค่เห็นโอ๋มีเลือดตกยากออกแบบนั้นก็เจ็บใจมากเกินพอแล้ว
แต่อาร์ตยังต้องสวมบทบาทผู้ที่จะทำร้ายพี่ประธานลีดฯ ต่อไป
อาร์ตย่อตัวคร่อมตัวโอ๋ไว้ กำมัดข้างขวาอย่างแน่นและเงื้อขึ้นให้น้องใหม่เห็นเหตุการณ์ได้ชัดเจน
เกิดเสียงกรีดร้องของน้องใหม่ด้วยความตกใจ ปนกันกับเสียงกรีดร้องของพี่ๆ เพื่อสร้างสถานการณ์
มีพี่คนอื่นๆ ที่ยืนใกล้ๆ กำลังวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะแยกทั้งสองคนออกจากกัน
แล้วทุกอย่างในห้องเชียร์มืดลงในทันที มีบางคนปิดไฟเพื่อที่จะไม่ให้น้องใหม่เห็นเหตุการณ์ที่รุนแรง
ในความมืดมีเสียงดังเอะอะโวยวาย เหมือนพี่สองคนนั้นกำลังชกต่อยกันอยู่
คล้ายกับว่าจะเป็นพี่ประธานลีดฯ มากกว่าที่เป็นฝ่ายถูกทำร้าย
เสียงกรีดร้องยิ่งดังมากขึ้น แล้วก็มีเสียงการดึงลากกันออกไปด้านนอก เสียงประตูถูกกระชากเปิดออกกว้างที่สุด
เสียงพี่สต๊าฟคนอื่นๆ ดังมาจากด้านหน้าห้องเชียร์ทั้งที่ยังมืดอยู่อย่างนั้น
" จับไอ้อาร์ต!! จับมันไว้ก่อน!! "
" อาร์ตใจเย็นเว้ย!! ..ใจเย็น!! "
" ...เอาไอ้โอ๋ไปโรงพยาบาล!! เอาไปโรงพยาบาล!! เร็วๆๆ!! "
สิ้นประโยคสุดท้าย น้องใหม่ทั้งกรี๊ด ทั้งร้องไห้ พี่ประธานลีดฯ โดนหนักขนาดนั้นเลยเหรอ
ในห้องเชียร์ระงมไปด้วยเสียงร้องไห้ของเด็กที่ถูกหลอกมาเต็มๆ 4 สัปดาห์ โดนต้มซะเปื่อยเลย
เหตุการณ์ดูเหมือนสงบลง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ของรุ่นพี่
น้องใหม่ถูกทิ้งไว้ในห้องมืดๆ นั้น ตามลำพัง นั่นหรือคือรางวัลของการร้องเพลงประจำคณะไม่ผ่านภายใน 3 ครั้ง
พวกเราคงถูกพี่ทิ้งไปหมดแล้ว เด็กน้อยเงียบเสียงลง ยังมีหลายคนที่ยังร้องไห้ฮือฮือ
" พี่คะ!! พี่คะ!! พี่ค้า!! " มีเสียงน้องผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ตะโกนไปร้องไห้ไป น่าสงสารมากๆ
แล้วน้องคนอื่นๆ ก็เริ่มเรียกหาพี่ๆ ตามกัน มั่วไปหมดฟังแทบไม่รู้เรื่อง
ทันใดนั้นแสงไฟก็สว่างขึ้น.. สว่างไปทั้งห้อง แต่ไม่มีใครอยู่ตรงหน้าห้องเชียร์
มีลอยเลือดเปลอะเปื้อนอยู่ตรงพื้นที่พี่สองคนนั้นชกต่อยกัน
เด็กๆ มองซ้ายมองขวา ไม่มีพี่คนไหนอยู่ในห้องเลย .... แล้วก็มีเสียงเพลงประจำคณะของพวกเขาดังขึ้น
เป็นเพลงที่ร้องได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน และร้องได้พร้อมเพรียงมากที่สุดจนขนลุก
เป็นเพลงประจำคณะที่เพราะที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา
เสียงประสานระหว่างวัยรุ่นชายหญิงที่ดังมาจากด้านนอก คงเป็นเสียงของพี่ๆ
มันดังเข้ามาในห้อง ดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็เพราะมากขึ้นเรื่อยๆ
พี่ๆ เดินเข้ามาพร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงอยู่ในมือกันคนละดอกสองดอก
และที่สำคัญที่สุด พี่ทุกคนยิ้มด้วยความยินดีให้กับน้องๆ ทุกคน ทั้งพี่สต๊าฟว๊าก พี่สต๊าฟปลอบ และพี่ลีดฯ
" ยินดีต้อนรับน้องเทคนิคการแพทย์รุ่น XX ทุกคนคร้าบ / ค้าา " เสียงดังกึกก้องไปทั้งห้องเชียร์
น้องบางคนยังร้องไห้ต่อแอบอึ้งๆ แล้วก็ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ
บางคนทำหน้าเหลอหลาน้ำตาอาบแก้ม ยังงงๆ อยู่เลย
ความปิติยินดีเต็มเปี่ยมไปทั่วทั้งห้อง ทั้งรอยยิ้มและความสุข คงลืมไม่ลงกับ 4 สัปดาห์ที่ผ่านและวันนี้ด้วย
ยกเว้น ... ด้านนอกห้องเชียร์ ..ยัยปุ๊กกับยัยจอยกำลังรุมให้การปฐมพยาบาลกับโอ๋
ส่วนอาร์ต หลังจากที่อุ้มโอ๋ออกมาไว้ข้างนอกแล้วก็หลบหน้าเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว
แต่คงไม่ได้เข้าไปในห้องเชียร์หรอก เพราะเห็นอาร์ตเดินไปอีกทาง
" โอ๋แกเป็นอะไร ตอนคุมเพลงอยู่ในห้องเชียร์ เหมือนแกไม่มีสมาธิ " ยัยปุ๊กเริ่มขึ้นมาก่อน
" อ่อ ... ฉันเห็นหน้าน้องๆ ที่กำลังร้องไห้ แล้วฉันสงสาร " โอ๋แก้ตัวไปตามน้ำ ความจริงเขารู้สึกเจ็บแผลเก่าที่หลังมือ
" แหม.. อ่อนไหวจังเลยนะแก " ยัยปุ๊กแซวต่อหน้า
" สมจริงมากๆ เลย แกกับไอ้อาร์ตหนะ จนฉันคิดว่าพวกแกโกรธกันมาเป็นปีเป็นชาติแล้ววะ "
" 55555 ก็อาจจะใช่นะ " โอ๋พูดเป็นปริศนา
" อ่าว ... หมายความว่าไงวะ " ปุ๊กขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
" ป่าว ไม่มีอะไรหรอก ... เข้าห้องเชียร์ได้แล้ว ไปรับน้องใหม่กัน เร็วๆ "
โอ๋รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งเข้าไปในห้องเชียร์โดยไม่รีรอ แล้วพี่สต๊าฟดูแล 2 คน ก็วิ่งตามกันเข้าไปในห้องเชียร์
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 11
เพื่อนหลายคนแปลกใจที่หลังจากจบกิจกรรมเชียร์คณะแล้ว เหตุใดอาร์ตกับโอ๋ยังไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม
ทุกครั้งที่ถูกถามทั้งโอ๋และอาร์ตก้ได้แต่ปฏิเสธหรือแก้ตัวไปเรื่อยๆ
เขาสองคนไม่ได้นั่งรถคันเดียว ไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกัน ไม่ได้เข้าเรียนพร้อมกัน
ดูทุกอย่างเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มีแต่ยัยปุ๊กกับยัยจอยนั่นแหละที่พยายามซักถามความจริงจากโอ๋
แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยแม้แต่น้อย ไอ้โอ๋นี่ปากแข็งจริงๆ
หลังจากปิดเชียร์ นี่ก็ 1 เดือนพอดี รวมเวลาที่โอ๋กับอาร์ตไม่ได้คุยกันก็ 3 เดือนพอดี
ไม่รู้ว่าทั้งสองคนจะแอบคิดถึงกันบ้างหรือป่าวนะ
...........................................
เช้าวันใหม่ที่แสนจะสดชื่น ..เช้าวันเสาร์ที่เต็มไปด้วยสีสันและการพักผ่อน
และวันนี้ก็เป็นวันคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของโอ๋
แต่โอ๋กลับลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเหงา รู้สึกเหมือนทุกวันนี้กินข้าวไม่อิ่ม
นอนหลับไม่เต็มที่ เหมือนมีอะไรที่มันขาดหายไป เหมือนใจมันโหวงๆ ได้ยินเสียงแกร๊กๆ อยู่ที่มุมห้องอีกฝั่ง
" ฉันฝันถึงมันอีกละ " โอ๋พูดเสียบแหบเหมือนคนที่เพิ่งตื่นนอน
" ฉันรู้ละ ... เพราะว่าเมื่อคืนแกก็ละเมอเป็นชื่อมัน " น้ำนั่งประทินผิวอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง พูดโดยไม่หันกลับมามองโอ๋
" จริงๆ เหรอ ... "
" แน่นอน ... แล้วก็แกฝันว่ายังงัยหละ ... ฉันว่าแกต้องฝันเปียกถึงไอ้อาร์ตแน่ๆ โฮ้ โฮ้ โฮ้ " หยุดทาครีมเพื่อหัวเราะเล็กน้อย
" จะบ้าเหรอ .. ฉันฝันว่ามันเดินจากฉัน ฉันฝันซ้ำๆ กันแบบนี้มาตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องแล้ว " โอ๋ยังนอนอยู่บนเตียงและบ่นต่อไปเรื่อยๆ
" เหรอ... "
" อื้ม "
" แล้วทำไมแกถึงฝันแบบนั้นหละ "
" ฉันก็ไม่รู้ .. คงเพราะเคยไปไหนมาด้วยกันตลอดมั้ง ..เลยลืมไม่ลง " โอ๋สะดุดกับคำพูดของตัวเอง
ฉันเองก็ไม่ต่างกับไอ้อาร์ตเลยใช่ไหมที่ลืมกันไม่ลง ไม่อยากยอมรับเลยว่าฉันสงสารไอ้อาร์ตมากๆ .... และฉันก็คิดถึงมันด้วย
2 เดือนที่ผ่านมา ฉันได้อยู่กับตัวเอง โต้เถียงกับความคิดของตัวเองมาตลอด และฝันถึงอาร์ตแบบนั้นเรื่อยมา
" แล้วแกรู้ไหม ว่าทำไมแกถึงลืมมันไม่ลง " น้ำเริ่มทำหน้าที่ศิลาณี ผู้ให้คำปรึกษาได้ทุกด้าน โดยเฉพาะด้านความรัก
" ไม่รู้สิ " โอ๋พูดสั้นๆ และไม่ได้คิดว่าน้ำจะตอบกลับว่ายังงัย
" คนมันรักกัน มันจะลืมกันได้ยังงัยละจ๊ะ " ตวัดหางเสียงเล็กน้อย
" แต่ฉันรักมันแบบเพื่อนนะ " โอ๋ลุกขึ้นนั่งบนเตียง รีบเถียงเหมือนเด็กๆ
" แกบังอาจมาเถียงเทพธิดาพยากรณ์ได้ยังงัย ..ฮึ " น้ำตรวจตราความเรียบร้อยบนใบหน้าขาวใสด้วยกระจกพกเล็กๆ แล้วลุกขึ้น เดินมาทางโอ๋
" อยากรู้ไหม 2 - 3 คืนหลังมานี้ แกละเมอว่าอะไร ก่อนที่แกจะพูดชื่อไอ้อาร์ต " น้ำยักคิ้วทำตาถลึงมาทางโอ๋
" .... " โอ๋เงียบ ไม่กล้าถามต่อไปว่า ' แล้วฉันละเมอว่าอะไรหละ ' เลยเปลี่ยนประเด็นไปเลยซะงั้น
" แกตื่นมาฟังฉันละเมอทุกคืนหรือไง " โอ๋ค้อนนิดๆ
" ฉันยังไม่หลับด้วยซ้ำ ..ส่วนแกพอหัวถึงหมอนไม่ถึง 30 นาที แกก็เริ่มบิดตัวไปมา เหมือนกำลังโดยใครปล้ำอยู่อย่างนั้น " น้ำลงนั่งที่เตียงของตัวเอง
" จะบ้าเหรอ " โอ๋เถียงเสียงแข็ง
" ฉันจะโกหกแกไปทำไม " พร้อมส่งสายตาเขม็งตวาดมาทางโอ๋
" เฮ้อ.. จริงเหรอแก ... ฉันก็จำพอลางๆ หนะนะ ในฝันเหมือนฉันโดยไอ้อาร์ตกอดไว้ แล้วฉันก็ดิ้นหลุดออกมา "
" เหรอ .. เห็นไหมฉันเดาไว้ไม่ผิดเลย ... แต่ที่แกละเมอมันไม่จบไม่แค่นี้นะ " โอ๋เงยหน้าขึ้นตั้งใจฟัง
" พอแกบิดไปมาได้ซักพัก แกก็แน่นิ่งไป ตอนนั้นฉันคิดว่าแกคงโดนปล้ำจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปแล้ว "
น้ำยิ้มไปพูดไป ทำให้โอ๋เคลือบแคลงสงสัย แต่แล้วก็ทำหน้าตาจริงจังขึ้นมาในทันที
" แต่ที่สำคัญ ประโยคที่แกพูดเมื่อคืนนี้ตอนแกละเมอ ... ฉันเองก็อึ้งไปเหมือนกัน .. ความในใจที่ตัวแกเองปฏิเสธมาตลอด "
" อะไร " โอ๋กลืนน้ำลาย หัวใจเต้นแรงตุ๊บๆ
" แกพูดว่า ' อาร์ตมึงอย่าหนีกูไป กูก็รักมึง กูขอโทษ ' .. แล้วแกก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
ในฝันแกคงเห็นมันเดินจากแกไปหละมั้ง แกถึงได้พูดออกมาอย่างนั้น "
" ... ไม่หรอกมั้ง " โอ๋ตกใจและสับสน พูดปฏิเสธอยู่ในลำคอ ไม่อยากเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่ตัวเองพูด โอ๋ไม่อาจยอมรับมันได้
" ฉันอยู่ข้างแกมาตลอดนะโอ๋.... ครั้งนี้ฉันจะไม่แนะนำว่าแกควรทำยังงัยกับไอ้อาร์ต " น้ำเดินไปหยิบอะไรซักอย่างแล้วเดินมานั่งข้างโอ๋
" เพราะฉันคิดว่าแกรู้ ว่าควรทำยังงัย .. แต่สิ่งหนึ่งต้องทำก่อนเป็นอันดับแรก คือหยุดกลัวซะ "
โอ๋นั่งนิ่งฟังเพื่อนผู้ผ่านความรู้สึกเหล่านี้มามากกว่า
" ฉันรู้ว่าแกกลัวการถูกทิ้ง แต่ความรักมันสวยงามกว่านั้นมากมายเลยนะ ...
แกรู้ไหมว่าพี่เชน แฟนของฉัน ไม่ได้มีฉันคนเดียว ฉันรู้มาตลอด แต่ฉันก็รักเขา และยังคบกับพี่เขามา 2 ปีแล้ว
แต่ไอ้อาร์ตหละ คนที่มีแต่แกคนเดียวมาโดยตลอด ...คิดดูสิอาร์ตไม่มีแฟนผู้หญิงซักคนทั้งที่เรียนมาจนขึ้นปี 3 แล้ว เพราะอะไร
ฉันคิดเดาเอาเองนะ... คงเป็นเพราะมันมีแกอยู่แล้วทั้งคน .. คนที่มันรักก็คือแกคนเดียว " น้ำทั้งแนะนำและสารภาพเรื่องของตัวเองไปในตัว
โอ๋ถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินเรื่องของน้ำกับพี่เชน น้ำไม่เคยบอกโอ๋เรื่องนี้มาก่อน รู้สึกสงสารและทึ่งในตัวน้ำมากที่ยังคบกับพี่เชนได้นานขนาดนั้น
และทั้งหมดที่น้ำพูดมา ..ก็ทำให้โอ๋รู้สึกคิดถึงอาร์ตขึ้นมาจับใจ ..อยากเจออาร์ต อยากเห็นหน้าอาร์ต และอยากขอโทษอาร์ตด้วย
" เออนี่ๆ ดูไรนี่สิ " อยู่ดีๆ น้ำก็ทำลายบรรยากาศเศร้าๆ ด้วยกล่องอะไรบางอย่าง
" หึม!! " โอ๋มองดูกล่องที่ห่อกระดาษลายสวยๆ ด้วยความงง
" สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะเพื่อนรัก!! " น้ำยิ้มและยื่นของขวัญวันเกิดให้โอ๋
" .... อะ เอ่อ ขอบใจนะน้ำ " โอ๋ถูกเซอร์ไพรส์ ยิ้มกว้าง น้ำตาคลอ รับของขวัญมากจากน้ำ
ต่างคนต่างยิ้มให้กัน ไม่มีคำบรรยายใดๆ ที่จะบอกความหมายของคำว่าเพื่อนระหว่างทั้งสองคนได้
" อื้ม .. มันอาจจะไม่ใช่ของราคาแพงนะ ... ก็ฉันมันจนหนินะ ฮะฮะ " น้ำหัวเราะร่าเริง
" แค่แกจำได้ว่าเป็นวันเกิดฉัน ฉันก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องให้ของขวัญก็ได้ "
" ไม่เป็นไรหรอก นานทีปีหน ... "
" ปิ๊ก!! ปิ๊ก !!! " เสียงแตรรถดังมาจากหน้าหอ แล้วน้ำก็รีบลุกขึ้นในทันที นั่นคงเป็นรถของพี่เชนอย่างแน่นอน
" ฉันไปก่อนนะ ... คงได้กลับมาเย็นวันอาทิตย์ จะไปเที่ยวบ้านพี่เชนที่อุดรฯ " น้ำยิ้มดีใจอย่างเห็นได้ชัด แล้ววิ่งไปที่ประตู
" เออ ... เมื่อเช้ามีคนมาเคาะห้อง ฉันเปิดออกไปก็แต่เห็นกล่องของขวัญวางหน้าห้อง ..ฉันเอาไปวางไว้ตรงโต๊ะแกอะ ไปก่อนนะ "
แล้วน้ำก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ซักพักก็ได้ยินเสียงรถที่จอดหน้าหอเคลื่อนตัวออกไป
..ใครนะที่ส่งของขวัญมาเซอร์ไพรส์ หรือจะเป็นอาร์ต ทำไมวันนี้ใจมันพะวงถึงแต่อาร์ตนะ
โอ๋พุ่งตัวหยิบกล่องของขวัญอีกใบมานั่งชื่นชมที่เตียง ไม่มีชื่อเสียงเรียงนามติดมาด้วย
มีน้ำหนักเบา แต่ก็ไม่กล้าเขย่า กลัวของข้างในจะเสียหาย แกะเลยดีไหมนะ ... แล้วจะอดใจไว้ทำไมหละแกะเลยดิ
โอ๋ใจสั่น ตื่นเต้นเหมือนเด็กกำลังแกะกล่องของขวัญใบแรกในชีวิต ภาวะนาขอให้เป็นของที่อาร์ตเป็นคนส่งมา
ฉีกกระดาษที่ห่อไว้ออกอย่างรวดเร็ว เปิดฝากล่องที่อยู่ข้างใน ภาพของสิ่งที่อยู่ข้างหน้ามันทำให้โอ๋หยุดนิ่ง
คิดกลับไปถึงวันสุดท้ายของกิจกรรมสอบเพลงเชียร์ของน้องใหม่ ..โอ๋จำไม่ได้ว่าใครเก็บถุงมือลีดฯ ของโอ๋ไป
แต่ก็คิดว่าคงหายไปแล้วหละ เสียดายมากๆ เพราะเป็นถุงมือที่ใส่ในวันสำคัญแบบนั้น
โอ๋น้ำตาคลอ เมื่อเห็นถุงมือสีขาวที่วางอยู่บนสุด โอ๋หยิบมันขึ้นมา แน่ใจแล้วมันเป็นถุงมือของโอ๋
ภาพของอาร์ตวิ่งเข้ามาในหัว คงจะเป็นอาร์ตที่เก็บไว้และอาร์ตคงซักมันด้วยตัวเอง
ยังมีของอยู่ในกล่องอีก เหมือนเป็นผ้าที่พับไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย สีของมันดูคุ้นตา
แล้วน้ำตาโอ๋ก็หยาดผ่านแก้มลงมาในทันที มันเป็นเสื้อตัวเก่งของโอ๋ที่โอ๋ใช้มัดห้ามเลือดให้อาร์ตเองกับมือ
ถึงแม้มันจะถูกซักแล้วแต่ก็ยังมีคราบเลือดของอาร์ตเป็นวงๆ เล็ก ติดอยู่ที่ตัวเสื้อ 2 - 3 แห่ง
ของทั้งสองอย่างที่อาร์ตเก็บไว้ให้ และเลือกที่จะส่งมาให้ในวันนี้ มันหมายถึงอะไร อาร์ตหมายถึงอะไร
หรือเป็นการบอกลา ... ไม่จริงนะ น้ำตาของโอ๋หยาดผ่านแก้มลงมาเรื่อยๆ
ยังมีของชิ้นสุดท้ายที่อยู่ในกล่อง โอ๋ก้มลงมองเห็นนาฬิกา CITIZEN เรือนเล็กสวย สีดำ เรียบและมีสไตล์ บรรจุในกล่องพลาสติกใส
ภาพของเหตุการณ์หนึ่งไหลเข้ามาในหัว จำได้ว่าเป็นวันที่โอ๋กับอาร์ตไปเดินซื้อของด้วยกันที่ห้าง ' โอเอซิส '
" ไอ้โอ๋ ทำไมมึงไม่ชอบใส่นาฬิกาวะ มันเสริมบุคลิกให้ดูดีขึ้นนะเว้ย "
" กูไม่ชอบ ... กูเคยซื้อนาฬิกามาใส่แล้วมันไม่เข้ากะกู ..คงเพราะแขนกูเล็กเกินไป ..ไม่มีนาฬิกาผู้ชายที่กูใส่แล้วดูดีหรอก "
" เหรอ ... นี่ๆ มึงมาดูนี่ CITIZEN รุ่นนี้ มันน่าจะเหมาะกับมึงนะ "
" จะบ้าเหรอ นั่นมันของผู้หญิง "
" เรือนนี้ของผู้ชายค่ะ ..ทำออกมาคู่กันกับอีกเรือนซึ่งเป็นของผู้หญิง สไตล์คล้ายๆ กันค่ะ " พนักงานขายยิ้มไปพูดไป
" ครับ .. " อาร์ตตอบสั้นๆ เป็นการขอบคุณที่ให้ข้อมูล
" หึหึ .. แพงโคตรๆ ตั้ง 5,000 ... คงต้องรอเรียนจบมีงานทำซักก่อนถึงซื้อของแพงๆ แบบนี้ใช้ "
" แล้วมีงชอบไหมละ "
" ชอบ... มันสวยดีนะ สวยเรียบๆ เรือนเล็กหน่อย ถ้ากูใส่ก็คงดูไม่เกะกะ "
ภาพนาฬิกาเรือนนั้นที่อยู่ในตู้กระจก เป็นแบบเดียวกันกับที่อยู่ในกล่องตรงหน้าตอนนี้
โอ๋แกะนาฬิกาออกจากกล่องลองใส่ดู มันเข้ากับข้อมือเล็กๆ ของโอ๋พอดี โอ๋ยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความทราบซึ้ง
มีกระดาษสีขาวๆ วางอยู่ที่ก้นกล่อง โอ๋รีบหยิบมันขึ้นมาคลี่อ่าน แค่ประโยคแรก ก็ทำโอ๋ร้องไห้โฮออกมาทันที
ในฐานที่กูเคยเป็นเพื่อนมึง
ขอให้มึงเก็บเวลาที่มีกูอยู่ไว้ได้ไหม
และกูขอเก็บเวลาที่มีมึงไว้ได้ไหม
เพราะกูเจ็บทุกครั้งที่พยายามจะลืมมึง
ขอให้กูได้รักมึงก็พอ
โอ๋อ่านข้อความทั้งหมด ด้วยความซาบซึ้ง ในความรู้สึกและการกระทำทุกอย่างที่อาร์ตเคยทำให้
พร้อมกับความสำนึกผิดที่ทำให้อาร์ตต้องจมอยู่ในความเจ็บปวดที่โอ๋เป็นคนทำไว้
" กูขอโทษ " โอ๋ร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดบอกกับอาร์ต ทั้งที่ไม่มีอาร์ตอยู่นั้น .... อาร์ตมึงอยู่ที่ไหน
โอ๋ก้มหน้าร้องไห้กับกระดาษแผ่นนั้นอยู่เป็นวรรคเป็นเวรพักหนึ่ง
จนกระทั่งตั้งสติได้ คิดถึงคำพูดที่น้ำบอกไว้ว่า " ฉันคิดว่าแกรู้ ว่าควรทำยังงัย "
โอ๋รู้แล้วว่าต้องทำยังงัยต่อไป แต่ตอนนี้คงต้องลุกไปอาบน้ำล้างตัวล้วงน้ำตาซักก่อน
โอ๋ถอดนาฬิกา วางไว้บนถุงมือและเสื้อตัวเก่ง ... หันกลับมาด้วยความดีใจ ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 12
ตั้งแต่ที่อาร์ตไม่สามารถมีโอ๋อยู่ในชีวิตได้อีก อาร์ตก็ไปไหนมาไหนกับเปี๊ยกและโรจน์ตลอด
คนเราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเพื่อน .. แต่ส่วนโอ๋ อาร์ตก็ไม่เป็นกังวลหรอก เพราะว่าคงมีน้ำเป็นคนดูแลโอ๋อยู่
ถึงแม้จะรู้สึกว่าไม่เหงาเพราะมีเพื่อน 2 คน อย่างเปี๊ยกกับโรจน์ ชวนคุย ชวนกิน ชนไปเที่ยวด้วยกัน
แต่มันก็ไม่เหมือนโอ๋ ก็นี่มันเพื่อน นั่นมันคนรัก ถึงแม้จะเป็นรักเขาข้างเดียวก็เถอะ
ความรักที่แอบอยู่เบื้องหลังความเป็นเพื่อน ไม่รู้มันก่อตัวขึ้นมาเมื่อไหร่
โชคร้ายที่มันเกิดในใจของคนๆ เดียว แต่อีกคนที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนกันเมือนเดิม
ส่วนคนที่มันรู้สึกเปลี่ยนไปแล้วหละ.. ' ตายทั้งเป็น ' คงเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุด
จนถึงวันนี้ การตัดสินใจของอาร์ตก็ดูเป็นทางถูกต้องที่สุดแล้ว คือการเลิก เลิกคิดที่จะเป็นแฟนและเลิกคิดที่จะเป็นเพื่อน
เหลือไว้แต่ความรู้สึกที่ดีๆ ... ความทรงจำของคนเรา ถึงจะเป็นความทรงจำอะไรก็ช่าง มันไม่มีทางลบไปได้หรอก
มันจะติดอยู่ในใจของเราตลอดไป ถ้าเรายอมรับมันไม่ได้ เราก็จะเจ็บบางตายอยู่คนเดียวแบบนั้นตลอดไป
ทุกครั้งที่เราพยายามลบคำว่า ' รัก ' ที่ถูกเขียนไว้ใจโดยใครบางคน ก็มีแต่จะทำให้ใจเราถลอกเป็นแผลเรื้อรังเจ็บไม่หายอยู่อย่างนั้น
ดังนั้นอาร์ตจึงยินยอมให้ตัวเองรักโอ๋ต่อไป จะไม่พยายามทำใจให้ลืมโอ๋อีกแล้ว จะคิดถึงโอ๋ทุกครั้งที่อยากคิดถึง
อย่างน้อยอาร์ตก็ยังไม่เวลาอีกตั้ง 2 ปี กว่าจะเรียนจบ มากพอที่อาร์ตจะทำหน้าที่แอบดูแลโอ๋อยู่ไกลๆ
แต่ในใจลึกๆ ก็ยังหวังอยู่เสมอ.. ถ้ามีปฏิหารย์ก็ขอให้มันเกิดซักทีเถอะ
" โอย.. อิ่ม.. " โรจน์เอนหลังอย่างมีความสุข
" มึงกินทุกอย่าง แบบนี้.. ไม่อิ่มก็เกินไปละ " เปี๊ยกบ่นและเอนหลังไปอีกคน
" กูก็ว่างั้น .. " อาร์ตเสริมขึ้นมาสั้นๆ แล้วหันไปดู TV ที่ติดไว้ภายในศูนย์อาหาร
รายการ ' ก่อนบ่ายคลายเครียด ' ดูแล้วเพลินใจดี แต่มันน่าจะช่วยคลายร้อนได้ด้วยนะ
แล้ว 3 หนุ่มก็นั่งยิ้มเพลินกับตลกใน TV จนเกือบจบรายการ
" เออ ... ตกลงพวกมึงจะเอาไหมหนังสือวิชาออโธฯ พาโธฯ " อาร์ตพูดขึ้นเมื่อฉุกคิดได้เดี๋ยวนั้น ดึงสมาธิเพื่อนออกมาจาก TV
" เออๆ .. แต่แม่ง อาจารย์น่าจะทำชี๊ตแจก ให้มาถ่ายเอกสารเองเป็นเล่มเนี๊ยะนะ " เปี๊ยกบ่นทำหน้าเบี้ยว
" เอาเถอะน่า มึงอย่า-งกนักเลย การศึกษาคือการลงทุน " อาร์ตพูดต่อรองแทนอาจารย์
" ปะ ... ไปเอาหนังสือกัน จะได้ไปถ่ายเอกสารเลย " โรจน์ออกความคิดเห็นและลุกขึ้นในทันที
เป็นการบังคับเพื่อนอีกสองคนต้องลุกขึ้นตามกัน
สามหนุ่มเดินเกาะกลุ่ม สนทนาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาตลอดทาง ไม่เกิน 5 นาที ก็ถึงหอพักของอาร์ตแล้ว
เดินมาจนถึงบันไดหอพัก อยู่ดีๆ โรจน์ก็หยุดเดินไปซะงั้น แล้วทำท่าคลำเป้าคลำตูดอยู่ตรงนั้น สงสัยจะลืมอะไรซักอย่าง
" มึงลืมอะไรละสิ " เปี๊ยกทำหน้าเซ็งๆ
" เออ .. กูลืมมือถือไว้ที่ศูนย์อาหารวะ " มันทำหน้าตกใจ ตาถลน
" ไอ้เวร .. กลับไปเอาดิ "
" มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ ..นะ " โรจน์ยิ้มแห้งๆ
" อาร์ต .. มึงขึ้นไปรอเลย เดี๋ยวพวกกูมา "
" เออๆ "
แล้วสองหนุ่มก็เดินฝ่าแดดร้อนๆ กลับไปที่ที่เพิ่งจากมา เปี๊ยกยังบ่นโวยวายเบาๆ ไปตลอดทาง
พอสองคนนั้นไม่อยู่ด้วย อาร์ตก็รู้สึกขึ้นมาทันว่าเวลาไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ แล้วมันรู้สึกโหวงๆ
ทำไมไม่มีคนตัวเล็กๆ ยืนเกาะติดอยู่ข้างตัวเหมือนเดิมนะ ... คิดถึงไอ้โอ๋จัง T-T
อาร์ตเดินขึ้นมาชั้น 3 เลี้ยวขวา เดินไปอีก 3 ประตูก็ถึงห้องแล้ว
หยุดเดินก้มหน้าล้วงกระเป๋าหากุญแจห้อง .. ไม่ใช่กูลืมกุญแจอีกคนหรือไงวะ โดนไอ้เปี๊ยกบ่นแน่ๆ
อะ.. เจอ-ละมันเลื่อนไปอยู่ใกล้เป้าซะนี่ พอคิดถึงเรื่องใกล้เป้า ก็คิดถึงวันที่ไอ้โอ๋เมาอยู่หน้าเธคขึ้นมาทันที
เฮ้อ ... คิดถึงมันอีกละ อยากไปหามันจัง แต่มันคงไม่ยอมเจอกูหรอก
แล้วกล่องของขวัญที่เอาไปวางไว้เมื่อเช้า มันจะเปิดดูหรือป่าวก็ไม่รู้
อาร์ตกำกุญแจไว้แล้วดึงออกมา ก้าวเท้าเดินตรงไปที่ห้องของตัวเอง และยังก้มหน้าเดินคิดถึงไอ้โอ๋อยู่
แล้วอาร์ตก็ต้องหยุดเดินในทันที เมื่อสายตาเคลื่อนไปชนกับเท้าของใครบางคนที่ยืนหันหลังมา
แค่เห็นรองเท้าก็รู้แล้วว่าเป็นใคร อาร์ตมองไล่ขึ้นเพื่อตรวจสอบว่าใช่คนที่เขาคิดไว้หรือป่าว
คนตัวเล็กๆ ที่อยู่ในกางเกงยีนสีเข้มๆ กับเสื้อที่ใส่พอดีตัว
และมีนาฬิกาสีดำเรือนเล็กนั่นอยู่ที่ข้อมือด้านซ้าย คงจะเป็นนาฬิกา CITIZEN ที่อาร์ตห่อใส่กล่องเมื่อคืน
เหมือนฝัน ...... มันเป็นความจริงหรือป่าว เขาคนนั้นมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม มาเพราะคิดถึงหรือมาเพื่อการบอกลา
แต่ถึงอย่างไรอาร์ตก็ดีใจ ที่เขาคนนั้นมายืนอยู่ตรงหน้าห้องของอาร์ต ..
นานเท่าไหร่แล้วที่โอ๋ไม่ได้มาหาอาร์ตที่นี่ คงเป็นเพราะอาร์ตเป็นฝ่ายไปหาโอ๋ก่อน
อาร์ตยิ้มน้ำตาคลอ ความสบายใจที่ผุดขึ้นอย่างมากมาย
ความผ่อนคลาย ความโล่งอก ความดีใจ และความหวัง อาร์ตรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นโอ๋อีกครั้ง
อาร์ตคลายมือที่กำกุญแจออกโดยไม่รู้ตัว เกิดเสียงเบาๆ " คลิ๊ก.. "
โอ๋คงได้ยินเสียงเบาๆ นั่น .... ร่างกายของโอ๋ ค่อยๆ พลิกกลับหันมาทางอาร์ต
เป็นโอ๋จริงๆ โอ๋ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น ดวงตาเป็นประกายด้วยน้ำตาแห่งความดีใจและความคิดถึง
อาร์ตคิดถึงโอ๋มากๆ เลยรู้ไหม คิดถึงที่สุดเลย ขอบใจมากที่โอ๋กลับมาหาอาร์ต
โอ๋เข้าใจอาร์ตแล้วใช่ไหม โอ๋ถึงมาที่นี่ .. อาร์ตรอโอ๋อยู่ที่นี่มาตลอดเลย .. มันนานมากๆ เลยรู้ไหม
นานมากที่อาร์ตรอ .. นานจนเหมือนเป็นไปไม่ได้ โอ๋เข้ามาใกล้ๆ อาร์ตหน่อยสิ
เข้ามากอดอาร์ตไว้ที อยากให้โอ๋กอดอาร์ตบ้าง อยากรู้ว่าโอ๋จะรักอาร์ตขนาดไหน..
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ในความรู้สึกของโอ๋ การรอคอยที่ยาวนานที่สุดของโอ๋ได้จบลงแล้ว นานเหลือเกินกว่าที่อาร์ตจะกลับมาตรงนี้
รู้ไหมโอ๋มายืนรออยู่ตรงหน้าห้องนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว ตั้งแต่ที่โอ๋ได้เปิดกล่องของขวัญกล่องใบนั้น ใจของโอ๋ก็มายืนรออาร์ตอยู่ตรงนี้แล้ว
รู้ไหมว่าตอนที่ไม่มีอาร์ต โอ๋ต้องอดทนขนาดไหนที่ต้องอยู่กับความเหงา
อาร์ตเดินจากโอ๋ทุกคืนในฝัน โอ๋ร้องไห้ทุกคืนในฝัน ร้องไห้อยู่คนเดียว เจ็บใจตัวเองที่ทำให้เราสองต้องเป็นแบบนี้
ก็เป็นเพราะโอ๋เอง ที่ทำให้อาร์ตต้องเดินจากโอ๋ไป โอ๋ขอโทษนะ ที่ทำให้อาร์ตเสียใจ แต่โอ๋จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว
โอ๋ก้าวเท้าเดินเข้ามาหาอาร์ตที่ยืนเปิดอ้อมแขนรออยู่
ขอโอ๋กอดอาร์ตหน่อยได้ไหม และขอซบลงตรงนี้อีก
" โอ๋ขอรักอาร์ตอีกครั้ง ... ได้ไหม "
ความรักที่ปราศจากคำว่าเพื่อนที่ปิดกั้นหัวใจของโอ๋ไม่ให้มองเห็นความจริงระหว่างเราทั้งสองคนมาโดยตลอด
ต่อไปนี้เราจะเป็นคนรักกันจริงๆ แล้วนะ และจะไม่มีเวลาของโอ๋หรือเวลาของอาร์ต จะไม่แต่เวลาของเราสองคน ...
สิ่งรอบตัวถูกลบออกไปหมดสิ้น เหลือเพียงคนสองคนที่กอดกันอยู่ตรงนั้น
โอ๋หลับอยู่ในอ้อมกอดของอาร์ต ได้ยินเสียงหัวใจอาร์ตเต้นอยู่ข้างหู ได้รับสัมผัสแห่งความอบอุ่นจากตัวของอาร์ต
อาร์ตอยากกอดโอ๋ไว้อย่างนั้น ไม่อยากปล่อยให้โอ๋หลุดออกจากอ้อมกอดนี้ไปอีก
ท่ามกลางความเงียบและความอบอุ่น สติและความคิดของอาร์ตวิ่งกลับไปที่เพื่อนอีกสองคน ป่านคงเดินมากลับถึงชั้นล่างของหอพักแล้ว
แต่มันไม่ใช่อย่างที่อาร์ตคิด .. เบื้องหลังของอาร์ตในตอนนี้คือ เปี๊ยกและโรจน์ยืนตะลึกกับภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น
อาร์ตได้ยินเสียงเหมือนสองคนนั้นกระชากลากถูกันลงไปชั้นล่าง ส่วนโอ๋ก็คงได้ยินแต่เสียงหัวใจของอาร์ตเต้นที่เต็นอยู่ข้างหู
โอ๋คงจะไม่รับรู้ว่าความเป็นส่วนตัวของโอ๋กับอาร์ตถูกล่วงละเมิดด้วยสายของเปี๊ยกกับโรจน์เป็นการเรียบร้อยแล้ว
ถึงอย่างไรเพื่อนสองคนนั้นก็เห็นไปแล้วหละ ก็คงต้องรอรับสถานการณ์กันต่อไป
อาร์ตคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไขกันไปตามสภาพการณ์
" โอ๋ ... เดี๋ยวมีใครมาเห็น " อาร์ตพูดเสียงแหบ
" อื้ม .. " โอ๋ปล่อยมือออกจากตัวอาร์ต
อาร์ตเดินมาเสียบลูกกุญแจที่ลูกบิดประตู โอ๋เดินมาตามติดๆ แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์สายเข้าของอาร์ต
ล้วงออกมาจากกระเป๋า ยกขึ้นดูเห็นชื่อไอ้เปียกโทรเข้ามา
" ฮัลโหล ... "
" เออ ไอ้อาร์ต พอดีพวกกูเจอ อีปุ๊ก ที่ศูนย์อาหารวะ กูเลยฝากให้มันถ่ายเอกสารให้ กูคงไม่ไปหามึงแล้วนะ "
" อืมๆ โอเคๆ "
" แค่นี้นะเว้ย "
" อืมๆ "
มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน อาร์ตยังเดาไม่ออกว่าระหว่างไอ้โรจน์กับไอ้เปี๊ยก ใครที่จะเป็นคนเอาเรื่องของเขาทั้งสองคนไปพูด
ถ้าเรื่องนี้แดงขึ้นและเพื่อนทั้งห้องรับรู้ว่าโอ๋กับอาร์ตไม่ได้คบกันแบบเพื่อน ก็คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้
ให้เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นบทพิสูจน์ใจของเพื่อนร่วมชั้นแต่ละคน ว่าใครที่จะเป็นเพื่อนแท้ ที่จะไม่รังเกียจและยังมองว่าโอ๋กับอาร์ตยังเป็นเพื่อนของเขาอยู่
และที่ชั้นล่างสุดของหอพัก หลังจากที่เปี๊ยกกดวางสายโทรศัพท์จากอาร์ต
" มึงทำอะไรของมึง กูไม่เข้าใจมึงเลยวะ มึงลากกูลงมาทำไม .. ทำไมมึงไม่ทำให้พวกมันรู้ว่าพวกเรารู้เรื่องของมันแล้ววะ "
โรจน์ต่อว่าเพื่อนด้วยน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจ
" แล้วมึงจะทำอย่างนั้นไปทำไม " เปี๊ยกขมวดคิ้วสวนกลับไป
" แล้วมึงอยากเห็นเพื่อนมึงเป็นเกย์นักหรือไงวะ " โรจน์เถียงออกไปด้วยความคิดที่เกิดจากการไม่ยอมรับ
" มันสองคนจะเป็นอะไรก็ปล่อยมันไปมึงจะไปยุ่งอะไรกับพวกมัน "
" ไอ้เหี้ย!! มึงปกป้องพวกมันดีจริงวะ .. มึงเป็นเกย์เหมือนพวกมันเหรอวะ "
" ไอ้โรจน์ .. มึงฟังกูพูดดีๆ นะ ... กู!! ไม่ใช่เกย์!! แต่กู!! เป็นเพื่อนมันโว้ย!! "
เปี๊ยกเน้นเสียงเป็นจังหวะ พยายามกระแทกความคิดดีๆ เข้าไปในหัวของไอ้โรจน์ จนไอ้โรจน์มันอึ้ง ยืนเงียบเถียงไม่ออก
" แต่ .. เฮ้ย .. " โรจน์พยายามจะเถียงตามหลังไอ้เปี๊ยกที่เดินออกไปจากตรงนั้นแล้ว แต่ก็ไม่มีรู้จะเอาอะไรมาเถียง
อย่างน้อยเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ได้พิสูจน์เพื่อนแท้ได้แล้ว หนึ่งคน นั่นก็คือ เปี๊ยก
คนที่งกที่สุดในห้อง ..เป็นคนที่มีน้ำใจยอมรับความเป็นตัวตนของเพื่อนได้มากที่สุด
การมีน้ำใจ เป็นบุคลิกภาพทางความคิดอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถสร้างได้ถ้าเรารู้จักเปิดใจ เปิดกะลาที่คุมหัวตัวเองออกไป
สังคมไทยขาดน้ำใจ อย่างที่เราเห็นคนไทยไล่ฆ่ากันอยู่ทุกวันนี้นี่แหละ ...
ยินดีด้วยนะโอ๋และอาร์ต ไม่มีใครที่จะโชคดีเท่ากับนายสองคนอีกแล้ว
ยินดีด้วยที่พวกนายหากันเจอ ต่างกับคนอื่นๆ ที่ยังหาไม่เจอซักที อาจจะเป็นเพราะเลือกมากเกินไปหละมั้ง
ความรักคือเรียนรู้กันและกันจนถึงวันสุดท้าย แล้วพวกนายจะไม่รู้เสียดายที่เกิดมาชาตินี้เลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
จบแล้วค้าบบบบบบบบบ
อดใจไม่ไหว เลยตัดย่อ ให้จบในบทที่ 12
ดีใจจังจบแล้ว อิอิ เอามาลง 3 บททีเดียวรวดเลย
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคับ
:m4: :m4: :m4: :m4:
-
จบแล้วจริงๆ หรอ มาประเดิมตอนจบก่อนใคร คิคิ :m23: มีเรื่องต่อไปอีกปะ :m12:
-
เหอเหอ
รีบจบทามมายยยยย
ยังไม่จุใจเลยคร้าบบบบบบ
:m19: :m19: :m19:
--------------------------
ขอบคุณ centinel สำหรับเรื่องราวดีๆ
ขอบคุณ เรย์โก๊ะ สำหรับที่วิ่งเล่น
ขอบคุณ เซ็งเป็ด ที่ทำให้เรารู้จักกัน
ขอบคุณ เพื่อนๆ สำหรับมิตรภาพ
ขอบคุณครับ
o14 o15
-
:m4: ตามมาอ่านตอนจบทีเดียวรวดเยย ซึ้งๆๆ แต่เราก็หากันจนเจอ.... :m2:
ยินดีด้วยที่พวกนายหากันเจอ ต่างกับคนอื่นๆ ที่ยังหาไม่เจอซักที อาจจะเป็นเพราะเลือกมากเกินไปหละมั้ง <<<<<ขนาดไม่เลือกยังไม่เหงจามี
:m17:
ความรักคือเรียนรู้กันและกันจนถึงวันสุดท้าย แล้วพวกนายจะไม่รู้เสียดายที่เกิดมาชาตินี้เลย<<<<<ถูกกกกก
:m19:
เรื่องนี้จบได้น่าประทับใจมากมาย จบแบบสั้นๆรวดเร็วกระชับฉับไวดี ชอบๆๆ
ขอบคุณcentinelมากเยยจ้าสำหรับเรื่องนี้
:m1:
-
..........ขอบคุณมากมายนะคราบ........... :m3: :m3:
..........สุดท้ายก็หากันจนเจอ.......... :m17: :m17:......เมื่อไหร่จะหาเจอบ้างหนอ......
-
มีตอนพิเศษป่าวคับ
ยังมะได้หวานกันเลยอ่ะ
:m1:
-
สร้างบรรยากาศการรับน้องได้เข้าถึงอารมณ์จริงๆ
เหมือนเข้าไปอยู่ในบรรยากาศกดดันเลยทีเดียว
:m24: :m24: :m24:
รีบจบจังเลย กำลังสนุกดีเดียว
:m21:
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆครับ
ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนตามคนเขียนมาโพส
:m13:
-
ทำไมสั้นจัง ตอนที่อ่านใน g-move มีมากกว่านี้อีกนะครับ ช่วยนำมาต่อด้วยนะครับขอร้อง
-
ขอบคุณมากที่เอาเรื่องราวน่ารักๆมาให้อ่าน จบแบบนี้ ช๊อบ ชอบ :m3:
-
จบแล้ว :m3: :m3: :m3:
เรื่องนี้น่ารักดีอ่ะ ชอบมั่ก ๆ :give2: :give2:
ขอบคุณคนแต่งสำหรับเรื่องราวดี ๆ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ o1
-
ทำไมสั้นจัง ตอนที่อ่านใน g-move มีมากกว่านี้อีกนะครับ ช่วยนำมาต่อด้วยนะครับขอร้อง
เรื่องของ เจนนี่ หายไปไหนอะ ขอร้องน้าพี่ ชอบเรื่องนี้ตั้งแต่ g-move แล้ว
อยากติดตามต่ออะ เพราะอยากบอกว่า เรื่องต่อจากนี้ที่พี่เขียนก็ดีมากๆ
น่าเสียดายนะ ถ้าจะมีคนไม่ได้อ่านอีกหลายคน :m8:
-
เพิ่มตอนพิเศษ อิอิ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 13
" .. มึงมาหากูทำไม " อาร์ตพูดเสียงอ้อนๆ ฟังแล้วมันขัดกับคำพูดที่ยังดูเหมือนเป็นเพื่อนกันอยู่
ตอนนี้โอ๋เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของอาร์ตไปแล้ว หลังจากที่ปิดประตู อาร์ตก็ไม่เปิดโอกาสให้โอ๋ได้เดินสำรวจห้องเลยแม้แต่น้อย
" ก็คิดถึง .. ไม่ได้เจอกันนาน " พูดจบโอ๋ก็หน้าแดงขึ้นมาถึงหู
" จริงเหรอ.. กูนึกว่ามึงจะมาลากูซะอีก " อาร์ตทำเสียงซึ้ง
" จะให้ลาไปไหนหละ ยังงัยก็ต้องเรียนให้จบ อีกตั้ง 2 ปีแหนะ "
" กูกลัวว่าจะมึงลาออก หนีกูไปเรียนที่อื่นนะสิ "
" จะบ้าเหรอ จะให้หนีไปอีกละ คนที่เราคิดถึงก็อยู่ที่นี่ " โอ๋พูดแบบเขินๆ หน้าแดงเป็นตำลึง
" อะไรนะ .. " อาร์ตฉีกยิ้มดีใจแทบถึงใบหู
โอ๋หน้าแดงเงียบ ไม่ตอบอะไรด้วยความเขิน
อาร์ตเริ่มกอดโอ๋แน่นขึ้น เอาคางมาเกินอยู่ตรงไหล่ของโอ๋ ซุกจมูกลงไปตรงซอกคอ แล้วกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู
" มึงรักกูหรือป่าว.. "
โอ๋ผลักอาร์ตออกเบาๆ ขอมองหน้าอาร์ตให้ชัดๆ
" อื้ม..! "
" อื้ม?? มันแปลว่าอะไร .. "
" ก็แปลว่า ... รัก .. " โอ๋พูดเบาและชัดเจน แต่มันดังเข้าไปจนถึงใจเบื้องลึกของอาร์ตและยังก้องอยู่ในนั้น
สายตาที่อาร์ตมองมาดูมีความสุขและดีใจที่สุด ไม่คิดว่าจะมีวันนี้จริงๆ
อาร์ตดึงตัวโอ๋เข้ามากอดไว้แนบแน่น เป็นเวลาที่หัวใจสองดวงอยู่ใกล้กันที่สุด
ฟังเสียงหัวใจสองดวงเต้นเป็นจังหวะสอดคล้องกัน มันคงกำลังคุยกันและบอกรักบอกคิดถึงกันอยู่หละมั้ง
" อาร์ต.. " โอ๋พูดเสียงลากเล็กน้อย
" หื้ม " อาร์ตยังไม่อยากปล่อยโอ๋ อยากกอดต่ออีกนานๆ
" รูมเมตของอาร์ต .. จะกลับมาตอนไหน "
สิ้นคำถาม อาร์ตก็ปล่อยโอ๋ออกจากอ้อมกอดอย่างเสียดาย จับแขนซ้ายของโอ๋ขึ้นมาดูเวลาที่แสดงอยู่บนปัดนาฬิกาเรือนนั้น
แล้วจุมพิตเบาๆ ลงไปที่หลังมือ ส่งสายตาหวาน จนทำให้โอ๋หน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ
" เดี๋ยวรูมเมตของอาร์ตะจะกลับมาละ "
" อะไรนะ " โอ๋ทำหน้างง ไม่เชื่อหูตัวเอง
" อะไร.. ก็บอกว่ารูมเมตกำลังจะกลับมาแล้ว ..งงอะไร " อาร์ตยิ้มงงๆ กับคำถามของโอ๋
" ไม่ใช่ เมื่อกี้อาร์ตเรียกแทนตัวเองว่า ' อาร์ต ' นะ "
" ......อืม ..ก็เป็นแฟนกันแล้วจะให้พูดกูๆ มึงๆ ได้ยังงัยหละ "
โอ๋ไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้ม
" โอ๋กินข้าวมายัง? " อาร์ตเดินไปที่โต๊ะหยิบเอากุญแจรถ
" ยัง .. ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย "
" อย่าว่าโอ๋มายืนรออาร์ตตั้งแต่เช้าแล้วนะ " อาร์ตหันกลับมาถามในทันที
" .. ชะ ใช่ " โอ๋มารออาร์ตตั้งแต่เช้า แล้วก็ไม่ได้เดินไปไหนเลย จนกระทั่งอาร์ตมานี่แหละ
ไม่มีคำพูดใดเกิดขึ้น อาร์ตมาเดินจับไหล่โอ๋ทั้งสองข้าง บรรจงจูบเบาๆ ลงที่หน้าผาก
ตอนนี้อาร์ตแน่ใจแล้วหละว่าโอ๋ก็รักอาร์ตมากเหมือนกัน อาร์ตจับมือโอ๋ พากันเดินออกจากห้องไป
ทั้งสองเดินลงมาจนถึงรถคันเดิมที่เคยนั่งซ้อนกันไปไหนมาไหนเป็นประจำ
" จะพาไปไหน "
" จะพาไปขาย .. น่ารักแบบนี้คงขายได้ราคาดี "
" พูดเป็นเล่น "
" แล้วจะพูดเล่นทำไมอะ ... ไม่มีตังค์ใช้แล้ว เมื่อวานซื้อนาฬิกาหมดตูดเลย "
" อ้า.. เอาคืนไปเลย "
" อ่าวๆๆ ... อย่าถอดออกนา ถ้าไม่อยากโดนจูบตรงนี้ ..เป็นแฟนกันวันแรก อย่าทำเป็นงอนเก่งนะ ไม่ง้อหรอก "
" .... "
" เอ้านี่ ... หมวกกันน็อคใส่ซะ ..ไม่อยากเสียค่าใบสั่ง "
" .... "
" ใส่เร็วๆ ดิ "
" จะพาไปไหนหละ "
" ไปกินข้าวคร้าบบบ เจ้านายย "
อาร์ตบิดคันเร่งวิ่งปราดออกไปอย่างรวดเร็ว .. ว่าแต่จะพาโอ๋ไปกินข้าวกันที่ไหนละ
ถ้าบังเอิญมีเพื่อนมาเห็น โอ๋กับอาร์ต กลับติดมากันเป็นปาท่องโก๋เหมือนเดิมแล้วจะว่ายังงัยนะ
แต่ก็ชั่งมันเถอะ จะเห็นจะคิดยังงัยก็ชั่งเขาเถอะ
เฮ้อ ... กว่าจะฝ่าแดดมาถึง ' โอเอซิส ' ได้ ก็อาบเหงื่อต่างน้ำไปเลย คราวหน้าขึ้นรถโดยสารมาดีกว่านะโอ๋
หรือเราจะอ้อนแม่ซื้อรถ 4 ประตูให้ซักคัน จะได้ไหมน้า ..สงสารเมีย
ไอ้โอ๋มันอุส่าห์ยอมรับและตกลงจะเป็นเมียเราแล้ว ต้องดูแลดีๆ
โอ๊ย..ไม่อยากคิดถึงคืนนี้เลย ไอ้โอ๋มันจะได้ทำหน้าที่เมียเพื่อเราอีกครั้ง .. คิดแล้วมันเคี้ยวชะมัด
พามันมาเดินห้างฆ่าเวลา รอให้พระอาทิตย์ตกดิน มืดเมื่อไหร่ไอ้โอ๋เสร็จแน่ ... แล้วเมื่อไหร่มันจะค่ำละวะเนี๊ยะ
เข้ามาในห้างเจอแอร์เย็นๆ แล้วชื่นใจจริงๆ แปปนะโอ๋
" โอ๋ๆ นั่งก่อนๆ ขอตากขนแปป " ว่าแล้วก็นั่งลงตรงม้านั่งใกล้ทางเข้าเลยทันที
" เราหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว .. เราเดินขึ้นไปก่อนนะ "
" ไม่ได้ๆ รอกันก่อน ปล่อยให้ไส้ขาดไปเลย เดี๋ยวเราต่อให้ "
" คนมันหิวนะโว้ย .. "
" อ่าว .. เดี๋ยวดิ..รอด้วย "
สองหนุ่มวิ่งๆ เดินๆ ตามกันมาจนถึงชั้น 5 .... มุ่งตรงไปที่ศูนย์อาหาร
คนเยอะจริงๆ วันนี้วันเสาร์นี่หว่า ดีแล้วจะได้ช่วยพลางตัว เผื่อมีคนรู้จักมาเห็นเราสองคนกระหนุงกระหนิงกัน
ดูไอ้โอ๋มันไปแลกคูปองแล้วก็ซื้อมานั่งกินคนเดียว ไม่มีกะใจจะถามกันเลยใช่ไหมว่า ' อยากกินอะไรจะซื้อให้ '
ทำไมแฟนกู ทั้งโหด ทั้งเย็นชา งก ขี้งอน ..แต่มันก็น่ารัก อยากจับมือมันเดินอวดคนทั้งห้างซะเลย
" อร่อยไหมกินคนเดียว "
" อร่อย .. อ้าว อาร์ตหิวก็ไม่บอก จะได้ซื้อมาให้ " ก็ยังดีที่มันถามทีหลัง
" อาร์ตจะเอาอะไรหละ "
" ไม่เป็นไรหรอก โอ๋หิวก็กินไปเถอะ กินเยอะๆ นะคืนนี้จะได้มีแรงสู้กัน "
" อาร์ต!! "
" ไปซื้อน้ำดีกว่า "
อาร์ตลุกขึ้นไปซื้อนาที ไม่ถึงนาทีก็เดินกลับมาพร้อมน้ำแก้วเดียว - -*
" แทนที่จะซื้อมาให้ด้วย "
" หึหึ ..สมน้ำหน้าโดนเอาคืน "
แล้วโอ๋ก็ลุกพรวดขึ้นทันที หมุนตัวออกไปทางร้านค้า สงสัยจะไปซื้อน้ำ งอลซะงั้น
อุส่าห์หยิบหลอดมา 2 หลอด กะจะจู๋จี๋กันกะมันอดเลย เอามาแล้วก็เสียบมันลงไปในแก้วทั้ง 2 หลอดนั่นแหละ
แล้วโอ๋ก็เดินกลับพร้อมกับข้าวอีกจาน ..เฮ้ย มันคงหิวจัด ก้มดูจานข้าวจานเก่าหมดเกลี้ยงเลย มันเคี้ยวไหมนั่น หมดไวชะมัด
ก็มันยืนรออยู่หน้าห้องกูตั้งแต่เช้า ทำไมต้องทำเพื่อกูขนาดนั้นด้วยน้าาา
" มองไร "
" ป่าว .. เอ้านี่น้ำ กินช้าๆ ก็ได้ ..เดี๋ยวติดคอ "
" มัน อิ๋ว อี่ หว่า " พูดทั้งที่ข้าวยังเต็มปากยังกะเด็กๆ
แล้วเสียงโทรศัพท์ของอาร์ตก็ดังขึ้น อาร์ตกยกขึ้นมาดู เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก
" ฮัลโหลครับ "
" ........ฮะ ... ครับ ............... ใช่ครับ "
" อ่าว ......................... เจนนี่ !! ........ อะ เอ่อ อืม ครับ "
เหมือนมีใครโทรมาเซอร์ไพรส์ อาร์ตเริ่มเปลี่ยนสีหน้า ทำตาหลุกหลิก
พยายามบิดตัวหลบ และพูดเสียงค่อยลง เหมือนไม่อยากให้โอ๋รับรู้เรื่องราว
" ......................หา!! เจนนี่มาเรียน มข. อ่าวไหนว่า................................. อ๋อ.. "
" ตอนนี้อยู่กับเพื่อนครับ ................ อ่า ครับๆ ...................... ครับ "
อาร์ตหันกลับมา เห็นโอ๋จ้องมาด้วยสายตาเคียดแค้นน่ากลัว ในแก้มยังมีก้อนข้าวที่ยังเคี้ยวไม่หมด
" โอ๋ .. ฟังก่อนนะ น้องสาวเราเอง "
" เรารู้ว่าอาร์ตมีน้องคนเดียว เป็นผู้ชาย!! " แล้วโอ๋ก็งอนสบัดออกจากโต๊ะไปโดยทันที
... อ่าว เวร มันเสือกรู้อีก มันรู้ได้ไงวะว่ากูมีแต่น้องชาย ไม่น่าตอบไปอย่างนั้นเลย ...ซวยแน่
" เดี๋ยว โอ๋ ฟังก่อนซี้ "
เอ้าวิ่งตามไปง้อกันให้ได้ละกัน โจทย์เก่าโผล่มาแล้ว โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ น่าจะเขียนจดหมายมาบอกก่อนนะ - -*
แหมไอ้อาร์ต แกนี่มันเสือลายพาดกรอนหนังกลับแท้ๆ
ไม่อยากเลยเชื่อว่าหน้าเหี่ยมๆ แบบนี้จะมีสาวติดแอบตามมาถึงที่นี่
............................
เห็นไหมโอ๋ สิ่งที่แกกลัวไม่ได้อยู่ไกลแกเลย คนที่โทรมาหาอาร์ต คงเป็นแฟนที่คบกันมาก่อนแล้ว
แต่อาร์ตยังมาข้องแวะอะไรกับเราอีก .. ' เสือไบ ' เหรอ .. คงจะใช่ พวกนี้ไม่มีความมั่นคงด้านความรักแม้แต่น้อย
คงจะเล่นๆ กับเรา ปากบอกว่ารัก แต่ใจจริงก็เห็นเราเป็นที่ระบายอารมณ์ก็เท่านั้น เอาความเป็นเพื่อนมาบังหน้าเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้
คำว่ารักของอาร์ต มันไม่ใช่ความจริง มันไม่มีความหมายอะไรนอกจากการหลอกลวง
" เดี๋ยวก่อนโอ๋ " อาร์ตเดินตามโอ๋มาอย่างรวดเร็ว
โอ๋เร่งฝีเท้า แต่ก็ยังไม่ถึงกับวิ่ง ไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว จะหนีไปให้ไกลที่สุด
" โอ๋ !! หยุด!! " อาร์ตเริ่มโกรธและพูดเสียงดัง ยังคงก้าวเท้าเร็วๆ ตามโอ๋มาติดๆ
" ไอ้โอ๋!! " โอ๋ก็ไม่สนใจ คำพูดแบบนั่นยิ่งให้โอ๋เร่งฝีเท้าไวขึ้น
" ขอร้องหละ ... อย่าหนีเราไปไหนอีกเลย!! " อาร์ตพูดเสียงเครือและดังพอที่จะทำให้ที่คนแถวนั้นหยุดและหันมามองเป็นตาเดียวกัน
ซึ่งก็รวมถึงโอ๋ด้วย น้ำเสียงนั่นเหมือนอาร์ตเจ็บปวดมากที่โอ๋เอาแต่หนี และทิ้งให้อาร์ตไขว่ขว้าหาโอ๋มาตลอด
ใช่.. เราเองที่ไม่ยอมฟังหน้าฟังหลังให้ดีๆ แต่เราไม่อยากให้อาร์ตมีคนอื่นนอกจากเรา คำว่ารักของอาร์ตควรเป็นของเราคนเดียว
" โอ๋ ... เรากับเจนนี่ เลิกกันไปนานแล้ว "
" จริงๆ เหรอ "
" อื้อ "
" ................ ขอโทษ "
บรรยากาศที่ทั้งสอง ถูกจับตามองด้วยผู้คนรอบข้าง บางคนแสดงสีหน้ารังเกียจ บางคู่กระซิบกระซาบกันอย่างไม่เกรงใจ
ตอนนี้ การหนี กลับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อาร์ตก้าวท้าวไปขว้าแขนโอ๋ รีบพาออกไปจากรัศมีสายตาของคนเหล่านั้น
ต่างฝ่ายต่างกังวล หวังว่าคงไม่มีคนรู้จักมาเห็นเหตุการณ์นี้เข้าหรอกนะ อุส่าห์หนีออกมากจากมหาวิทยาลัยไกลขนาดนี้แลัว
" อาร์ต ถ้าเมื่อกี้ ... " โอ๋ถามในขณะที่อาร์ตพาเดินตรงไปที่บันไดเลื่อนขึ้นชั้นบน
" ไม่หรอก เราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก "
..อย่างน้อยเราสองคนก็ถูกความโชคร้ายเล่นงานไปแล้ว โอ๋คงไม่รู้ว่าไอ้โรนจ์กับไอ้เปี๊ยกเห็นเรากอดกันอยู่หน้าห้อง
" อื้ม "
" ไปดูหนังกันไหมโอ๋ " อาร์ตไม่รอฟังคำตอบของโอ๋ แล้วก้าวเท้าขึ้นบันไดเลื่อนไปโดยทันที
พ้นสายตาพวกนั้นมาแล้ว ไม่มีใครอยู่บนบันไดเลื่อน อาร์ตเอื้อมมือไปกุมมือโอ๋แล้วเขยิบเข้ามาเอาตัวบังไว้
อาร์ตบีบมือโอ๋เบาๆ และถอนหายใจยาว ..รู้สึกว่าคิดผิดแล้วที่พาโอ๋มาที่นี่
พวกเรายังปรับตัวไม่ได้กับความสัมพันธ์แบบคนรักในสถานที่แบบนี้ ..ก็เพราะไม่มีใครยอมรับความรักแบบนี้
เป็นเพราะเราผิดปกติหรือเป็นเพราะความไม่มีน้ำใจของสังคมกันแน่ อาร์ตก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
" อาร์ต ถึงแล้ว " โอ๋รีบดึงมือออกจากมืออาร์ต ก่อนที่บันไดเลื่อนจะพาพวกเขาขึ้นถึงจุดสูงสุด
แล้วอาร์ตก็ถอนหายใจอีกรอบ ปลอบใจตัวเองด้วยการหันมาส่งยิ้มหวานๆ ให้โอ๋
รู้ไหมว่าเราอยากจูงมือโอ๋เดินให้มันทั่วห้างให้มันรู้กันไปเลย แต่ก็ไม่กล้าหรอก
แต่เราแน่ใจว่าสายตาของคนที่เราไม่รู้จักไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกที่เรามีต่อโอ๋เลย
โอ๋น่าจะคิดเหมือนเราบ้างนะ เราอยากให้โอ๋เลิกเป็นคนขี้กลัวซักที
" อาร์ต จะดูเรื่องอะไรดี " นั่นแสดงว่าไม่มีเรื่องไหนที่โอ๋สนใจ ถ้าไม่อย่างนั้นมันก็จะบอกว่า ' ดูเรื่องนี้นะ '
" โอ๋ "
" ฮะ .. อะไร " อืมดูมันอารมณ์ดีขึ้นมาละ แต่ตอนนี้เราไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้วนะโอ๋
อยากพาโอ๋หนีไปอยู่ในที่ที่เราสองคนจะทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องแคร์สายตาใคร ..
อาร์ตไม่รู้ตัวว่ากำลังจะคิดเหมือนโอ๋มากขึ้นทุกวัน คิดเหมือนกับเกย์ที่พยายามปิดตัวเอง
อาร์ตกวาดสายตาไปที่โปรแกรมหนังที่จะฉายในวันนี้
" ไม่มีเรื่องที่น่าดูเลย ... " มิน่าหละไอ้โอ๋มันถึงถามว่าจะดูเรื่องไหนดี
" อื้ม .. "
" งั้นเรากลับกันเถอะ " อาร์ตชวนกลับในทันที
" อ่าว ... นั่งรถมาตั้งไกล กินข้าวจานเดียวก็กลับนะเหรอ " ..
ไม่คุ้มเลย น่าจะเลี้ยงหนังเราซักเรื่องก็ยังดี ถึงแม้จะหนังมันจะไม่โดนเท่าไหร่แต่มันก็พอดูได้นะ
" จานเดียวที่ไหนละ ... สองจาน ภายใน 5 นาที อีกต่างหาก.. มีใครทำได้ไหม
เพิ่งรู้ว่าแฟนตัวเองเป็นชูชก ฮือ ฮือ กูไม่น่าเสียตัวให้มันเลย "
อาร์ตทำท่าร้องไห้ เผลอกระหนุงกระหนิงกันจนลืมตัว
สาวสวย 2 คนที่กำลังดูโปรแกรมหนังอยู่ใกล้ๆ ถึงกับหันมามองด้วยสีหน้าเดาไม่ออกว่าตกใจหรือรับไม่ได้กันแน่
" อาร์ต.. " โอ๋เรียกเสียงลากๆ พยายามให้อาร์ตรู้ตัว
พอฝ่ายถูกเรียกได้สติขึ้นมาหน่อย ก็ทำเก๊กหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็นสองสาวนั่นมามองแบบแปลกๆ
" งั้นเรากลับกันเถอะ " อาร์ตหมุนตัวกลับก้าวลงบันไดเลื่อนอีกตัว โอ๋กระโดดลงบันไดเลื่อนตามมาติดๆ ..
สองสาวยังมองตามมา ด้วยในใจเสียดายในหน้าตาของสองหนุ่ม
มองอะไรวะ พวกกูเป็นแฟนกัน ได้เสียกันแล้ว มันแปลกตรงไหนวะ
อาร์ตคิดในใจเหมือนกับว่าตัวเองไม่เคยชอบผู้หญิงซะอย่างงั้น ( กู่ไม่กลับแล้วมั้งเนี๊ยะ )
โอ๋ตามมาไวๆ นะ .. ถ้าเอาเชือกมันโอ๋ติดไว้กับตัวอาร์ตได้คงจะดี อาร์ตไม่อยากให้เราห่างกันแม้ซักวินาทีเลยนะ รู้ไหม ^^
เดินลงมาจนถึงชั้นล่างๆ มีร้านขายของกระจุกกระจิกเยอะแยะเลย
" โอ๋ๆ .... "
ไม่มีเสียงตอบรับจากโอ๋ พอหันกลับไปก็เห็นมันยืนอยู่หน้าร้านขายของกระจุกระจิกทำหน้าตาอยากได้เอามากๆ
หวังว่ามันคงจะไม่อยากได้กิ๊ฟติดผมนะ - -* ถ้ามันเปลี่ยนตัวเองเป็นแบบสาวแตกเปรี๊ยะๆ กูจะทำไงวะ
แต่กูก็รักมันไปมากแล้ว คงถอนตัวไม่ทัน อาร์ตเปลี่ยนทิศทางการเดิน มาทางร้านที่โอ๋กำลังเลือกของอะไรบางอย่างอยู่
อาร์ตก้มหัวลงไม่กล้ามองหน้าเจ๊เจ้าของร้าน .... ไม่ดีกว่ายืนหันหลังดีที่สุด ให้มันเลือกของมันไป ..
คิดภาพไม่ออกตอนมันติดกิ๊ฟเดินเล่นอยู่ในห้อง - -*
" พี่มีสีดำไหมครับ "
มันจะซื้อกิ๊ฟสีดำไปทำไม มันจะไม่กลืนกับผมดำๆ ของมึงเหรอวะ แถมผมมึงก็สั้นจนแทบจะหนีบไม่ได้อยู่แล้ว
" เท่าไหร่ครับ "
" 200 บาทค่ะน้อง " กิ๊ฟอะไรของมึงวะไอ้โอ๋ แพงโคตรๆ อย่าบอกว่ามันมีกากเพชรติดอยู่ด้วยนะ
มันคงจะสะท้อนแสงเป็นประกายสวยงามมากสินะ T-T .... ฮือ ฮือ ... กูไม่น่าเลย
" 150 ได้ไหมพี่ " .. ไอ้โอ๋ มึง .... งกชะมัดเลย .. มึงบอกเจ๊แกไปเลยสิว่ามึงอยากได้ฟรี .. ถ้ามึงเป็นผู้หญิงแม่กูคงชอบมึงมากๆ
" โหยน้อง พี่ไม่ไหวหรอก นี่ของคุณภาพนะค่ะ " ... กิ๊ฟยี่ห้อนี้คงคุณภาพสูงจริงๆ แค่ราคาขายก็ 200 แล้ว
" 180 ละกันนะคะน้อง "
" คับๆ " เออดี ซื้อเสร็จซักที จะได้รีบๆ ไป .. อีกไม่นานกูจะได้เห็นมันใส่กิ๊ฟน่ารักๆ นั่นอวดกู
แล้วกูก็จะชมมันว่า ' น่ารักจังเลย ' .... ฮือ ฮือ T-T
.. เสร็จแล้วใช่ไหม กูเดินไปก่อนนะ ขอรักษาระยะ 2 นาที ให้กูทำใจก่อน
โอ๋เดินตาม ... ไม่ใช่ มันวิ่งตามมาติดๆ >.<
โอ๋ยื่นถุงพลาสติกสีทึบที่มีกิ๊ฟอยู่ข้างในให้อาร์ต อาร์ตหันกลับไปมอง พยายามทำหน้านิ่งๆ แล้วกลืนน้ำตาลงไปให้หมด
" อะไรเหรอ " มึงจะเอามาอวดกูทำไม มันคงจะสวยถูกใจมึงมากเลยใช่ไหม
" เอาดิ .. เราซื้อให้ " แล้วไอ้โอ๋มันก็ยิ้มแถมให้ด้วย แต่กูไม่อยากติดกิ๊ฟสีดำนะ มันคงจะเข้ากับมึงกว่า
อาร์ตหยิบถุงพลาสติกจากโอ๋ ปั้นหน้ายิ้มไม่ติด แล้วก็ถือมันไว้ข้างตัวเดินต่อไป
" อ่าว .. เปิดดูก่อนดิ ..อยากให้อาร์ตใส่ให้ดู " .... จริงๆ เหรอโอ๋ ..
ตอนนี้กูยังไม่พร้อม ขอร้องหละนะ กูสัญญาว่ากลับถึงห้องแล้วจะติดให้มึงดูซัก 10 วินาทีก็คงพอ
โอ๋ก้มหน้าลง ทำสีหน้าสุดเซ็งออกไปในทางงอนมากกว่า อดสงสารมันไม่ได้ทุกทีเลยเวลาเห็นมันน้อยใจ
กูคงต้องเปิดดูของในถุงนี่ แล้วชมว่า ' สวยดี ' อย่างน้อยมันคงหายงอนได้บ้าง .. การเป็นเกย์นี่มันยากอย่างนี้นี่เอง
อาร์ตหยุดเดิน แล้วเปิดดูของในถุงพลาสติก มันเป็นสีดำจริงๆ แต่มันดูใหญ่กว่ากิ๊ฟทั่วไป มีลักษณะคล้ายผ้า
หรือมันจะเป็น ... กิ๊ฟโบว์สีดำใหญ่ๆ ตอนนี้อาร์ตตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่ ปีเตอร์ เคราว์ ทำแฮททริคให้ตัวเอง
พาทีมลิเวอร์พูลชนะอาเซนอล 4 - 1 ในการแข่งขันบอลพรีเมียร์ชิปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาซะอีก
อาร์ตหลับตาหยิบโบว์สีดำขึ้นมา แต่ถ้าไม่ลืมตาดูก็คงจะชมว่าสวยไม่ได้
แต่มันที่เห็นอยู่ในมือไม่ใช่กิ๊ฟหรือโบว์อย่างที่คิดไว้เลย แต่มันเป็นผ้าพันข้อมือสีดำ ผ้าเนื้อดี นุ่มมือ ใส่แล้วคงรู้สึกสบาย
อาร์ตฉีกยิ้มดีใจจนแทบถึงหู แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่โอ๋ทำให้อาร์ตก็เป็นปลื้มมากแล้ว
หยิบมันออกมาจากถุงแล้วก็ใส่ปิดแผลที่ข้อมือซ้ายในทันที
หันมายิ้มให้โอ๋อีกที .. ขอบใจนะ อยากหอมแก้มเป็นการตอบแทนจริงๆ
ส่วนโอ๋ พอเห็นอาร์ตยิ้มแบบนั้นก็พอใจแล้ว นั่นแสดงว่าอาร์ตคงจะชอบ โอ๋ขอโทษนะ โอ๋ไม่มีเงินที่จะซื้อของแพงๆ
แต่โอ๋จะพยายามทำตัวดีๆ ไม่ทำให้อาร์ตเจ็บปวดเหมือนที่ผ่านมา เป็นการตอบแทนก็แล้วกัน
" เฮ้ย .. คุ้มจริงๆ เลย " อยู่ดีๆ อาร์ตก็เบรคความเงียบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
" อะไรๆ "
" แลกกะ CITIZEN ของกูเหรอเนี้ยยยยะ.. "
" ไม่เอาก็เอาคืนมา " โอ๋คว้าไปที่ข้อมืออาร์ตพยายามดึงเอาผ้าพันข้อมือออก อาร์ตพยายามวาดแขนหนี
" เฮ้ยๆ ทำไรอะ ให้แล้วก็ให้เลยดิ อาไรว้า "
พอเห็นว่าตัวเองคงยื้อแย่งกลับคืนมาไม่ได้ โอ๋จึงหยุดและเงียบไป.. ซักพักก็พูดออกมาแบบน้อยใจ
" เดี๋ยวคราวหน้าเราจะพยายามเก็บตังค์ซื้อของทีแพงกว่านี้ให้ก็แล้วกัน " พอได้ยินโอ๋พูดแบบนั้นอาร์ตก็รู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ
" .. รู้ไหมแค่มีโอ๋อยู่กับเราก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีอะไรมากไปกว่านี้เลย " อาร์ตลูบผมโอ๋เบาๆ อย่างเอ็นดู
" ปะ กลับกันเถอะ .. กลับไปนอนกอดกันที่ห้องดีกว่า " แล้วอาร์ตก็ชวนกลับในทันที
แล้วทั้งสองก็แทบจะอุ้มกันไปขึ้นรถ แล้วเดินทางกลับมหาวิทยาลัยไปในเวลาพลบค่ำ
เวลาที่อาร์ตรอมานาน คืนนี้ไอ้โอ๋เสร็จแน่ ๆ อิอิ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-
ทำไมสั้นจัง ตอนที่อ่านใน g-move มีมากกว่านี้อีกนะครับ ช่วยนำมาต่อด้วยนะครับขอร้อง
ทำไมสั้นจัง ตอนที่อ่านใน g-move มีมากกว่านี้อีกนะครับ ช่วยนำมาต่อด้วยนะครับขอร้อง
เรื่องของ เจนนี่ หายไปไหนอะ ขอร้องน้าพี่ ชอบเรื่องนี้ตั้งแต่ g-move แล้ว
อยากติดตามต่ออะ เพราะอยากบอกว่า เรื่องต่อจากนี้ที่พี่เขียนก็ดีมากๆ
น่าเสียดายนะ ถ้าจะมีคนไม่ได้อ่านอีกหลายคน :m8:
ต้องขอโทษจริงๆ คับ คงจะไม่ได้แต่งต่อแล้วหละฮะ
อิอิ ติดภาระกิจอื่นอยู่เลยแต่งต่อไม่ได้ แล้วก็ปวดหัวด้วยเจนนี่นี่แหละตัวการ
เจนนี่แผนเยอะ คิดไม่ไหว อิอิ
ขอบคุณทุกๆ ท่านเลยนะคับที่ อ่านเรื่องสั้นของผม
เอ่อ เรื่องสั้น แฟนตาซี จะมีคนชอบแนวนี้ไหม
คืออยากเขียนแนวแฟนตาซีอะ คับ อิอิ
-
หุหุ :m3: :m3: :m3: ตอนพิเศษก็ได้ใจมั่ก ๆ :m3: :m3:
-
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
ได้ใจมากมาย หุหุหุ...น่ารักมากๆ ชอบๆๆ :m4:
-
น่ารักมั่กๆ เลยคับ
ยังไม่อยากให้จบเลยอ่า
:a9:
-
ตอนพิเศษ หุหุ หลับฝันดีแระ :a12:
-
OK รับทราบ o7
ปล.แต่มาต่ออีกตอนนึงจะดีมาก เพราะจำได้ว่าเป็นตอนที่สำคัญมากๆๆๆๆๆ :m10:
:oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:
-
อ่า ขอบคุณคร้าบสำหรับเรื่องดีๆๆ
แต่น่าจายาวกว่านี่สักหน่อยอ่ะ
ให้มีตัวโกงจาได้ลุ้นมันส์ๆๆ
:m26: :m26: :m26: :m26:
-
ตอนนี้น่ารักมากๆ :m3:
มีต่ออีกสักตอนมั้ยเพราะมันถึงตอนที่มืดแว้ว :m10: อยากรู้ว่าอาร์ตจาทำไรต่อ :m26:
-
โห ไม่น่าจบแบบนี้เลยนะครับ
ตอนที่อ่านในจีมูฟมันยาวจริงๆ แต่ชอบนะ มันสนุกดี แต่ก้อแล้วแต่คนแต่งน้าครับ เสียดายจัง
ติดตามเรื่องต่อไปนะครับ
:m5:
-
อ่านรวดเดียวเรย...หุหุ
กว่าจะผ่านพ้นเรื่องราวกันมาได้ :o12:
-
อยากให้มีต่ออครับ
-
อยากให้มีต่ออ่ะมาอ่านรวดเดียวเลยหนุกมากคร้าบ
-
อ่า จบแล้วหรอ น่าจะมีต่ออีกซะตอนน๊า :m21:
-
วะ ฮะ ฮ่า :a10: :a4: :a11: มาเป็นกำลังใจครับ อ่านตอนนี้แล้วยิ้ม คนเดียว :give2:
ใครจะว่าบ้าไหมนอออออ
จามารออ่านตอนที่ทัง ฉองคนกลับมาถึงห้องอ่ะ เห้อ เหอ เหอ :m10: :m10:
-
มันยังไม่จบนิครับเท่าที่ผทเคยอ่านมามันยังอีกยาวเลยนะครับ.....ใครมีอีกช่วยต่อให้ด้วยนะครับ
-
o9 o9 o9 แอ้ ๆ ๆ ๆ ยังไม่ได้อ่านเลยอ้า ไม่ย้อมมมมม ต้องรีบไปอ่านคืนนี้ :a12:
-
:m1:
:m25:
:serius2:
:o8:
:m15:
:oni1:
อ่านเรื่องนี้แล้วหลายอารมณ์มาก สนุกมากเลยคับ ขอบคุณคับ
-
อ่านรวดเดียวจบเลยเรื่องน่ารัก ชอบจัง
-
>>> อ่านรวดดดดเดียวจบ!!! :a2:
ตั้งแต่บ่ายๆจนจะหัวค่ำละ มาราธอน สนุกดี
พอเป็นแฟนกันเต็มตัว(???) แล้วมีหวานๆใส่กันด้วย ห้าๆๆ น่ารักกกกก
อยากให้มีตอนพิเศษต่ออีก :m1:
-
:angry2:
ชอบจัง :-[ :impress2:
-
กว่าจะได้รักกันลุ้นแทบแย่ :m4: :m4:
ดีแล้วหละที่ไม่มีเจนนี่เข้ามาไม่งั้นคงจะน่าปวดหัวนะดู o2 o2
ขอบคุณนะครับที่แต่งเรื่องดีๆให้ได้อ่านกันครับ :m5: :m5:
-
:serius2: ตอนพิเศษจบแล้วหรอ ไอ้เราก็จินไปซะ :m29:
-
อยากบอกว่าอ่านรวดเดียวจบเลยค๊า :m1: :m1:
:m13:อยากได้ตอนพิเศษต่อจากนี้อีกสักตอน อิอิ
-
อ่านรวดเดียวจบเลยครับ
น่ารักจังเรื่องนี้
แถมเกิดที่หมาวิทยาลัยที่เราเรียนอีก อิอิ :m1: :m1:
-
:m4:ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m4:
-
สุดท้านก็ HAPPY :m1:
ถ้าจะให้ดีกว่านี้อีกนิดหนึ่ง
ขอตอนพิเศษเพิ่มอีกสักสี่ห้าตอน
ไม่รู้ขอคนเขียนมากไปหรือเปล่า... :m23:
-
ผิงเคยอ่าน
นานแล้วเหมือนกัน
รู้สึก เรื่องยาว ก่านี้น้า
เคยอ่านตอนเว็บ จีมูฟง่ะ
ชอบจางงง :o8:
-
โห ขอบคุณคร๊าบ แต่จบจริงเหรอคับ
รู้สึกเหมือนยังไม่จบเลยครับ
-
พึ่งเคยอ่าน ชอบที่สุดเลยยยย
แอบมีความสุขไปด้วย
-
น่ารักดี... แต่สงสารอาร์ตมากในช่วงแรก..โอ๋นี่ก็..ได้อีกพี่น้อง...
กว่าจะหวานก็ตอนสุดท้ายฮือๆ..อ่านะ.. ยังไงก็สนุกดี..บีบคั้นด้วย
เศร้าตอนแรกๆที่โดนยายล้อมาก..สงสารโอ๋ดี เข้าใจถึงความเก็บกดที่เกิดนะ
ส่วนอาร์ตก็นะ... น่ารักใช่ได้...
ปล. โรจน์นี่นะ..ถ้าจะถูกเปี๊ยกจับทำเมียให้รู้แล้วรู้รอด..ฮุฮา ฮุฮา ..ๆ :laugh:
-
น่ารักดีครับ น่าอิจฉาเจงๆๆ :L2:
-
:o8: :o8: :o8: น่าจามีต่ออะคัฟ หนุกๆ
-
น่ารักๆๆๆๆๆ :m12: :m12: :m1:
-
อ่านจบแล้วฮับ สนุกดี ซึ้งดี แต่สั้นจัง ชอบฮับ o13 o13
-
สนุกจังเลย ขอบคุณนะครับสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้
:m4: :m4: :m4: :m1: :m1: :m1: :mc4: :mc4: :mc4:
-
เป็นความรักที่ต้องพยายามมากครับ
ในการแอบรักเพื่อนตัวเอง
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆนะคับ
-
ซึ้งมากๆๆๆอ่า
-
น่ารักง่า แต่กว่าจะแฮปปี้ได้ เล่นเอาใจหายใจคว่ำ :really2:
-
:sad11:ซึ้งอ่ะ
:z3:ทำไมคนอื่นถึงไม่รู้จักยอมรับบ้างน้าา :z3:
:เฮ้อ:ว่าเกย์ก็คนเหมือนกัน :angry2:
o13ชอบเรื่องนี้จัง :กอด1:
อิอิ :z2:
-
จบลงไปอย่างดีอีกเรื่อง...แม้จะแลกมาด้วยเลือดและน้ำตา
สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ "การยอมรับตัวเอง" :teach:
คงไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้โลกรู้...แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่
ถึงขนาดบอกให้ใครรู้ไม่ได้...
:L2:
-
:o12: :o12: :o12:
-
:L2: แหะๆ แวะมาอ่านแบบรวดเดียวจบบบบบ ขอบอกว่าสนุกมากค่ะ อ่านแล้วชวนติดตามดีจริงๆ
งืมๆ อาร์ตน่ะดีทุกอย่างเลยน้า แต่เราแอบเคืองแทนโอ๋ที่อาร์ตฟันแล้วหนีอ่ะ น่าจะอยู่เคลียร์+ดูแลโอ๋ก่อนอ่ะ
โอ๋ก้อเหมือนกัน จะกลัวอะไรนักหนา ทำร้ายทั้งตัวเองและคนที่ตัวเองรัก แถมยังไม่รู้ใจตัวเองอีก ต้องให้น้ำมาบอกซะงั้น :m16:
แต่จบได้น่ารัก น่าประทับใจมากค่ะ แอบชอบเปี๊ยกนะเนี่ย เพื่อนที่แสนดี คนที่ดี ไม่มองคนที่ภายนอก :L1:
:pig4: สำหรับเรื่องดีๆ ค่ะ
-
:กอด1:
ขอบคุณครับ
สำหรับเรื่องราวดีๆ
-
อ่านแล้วซึ้งมากเรย
เกือยน้ำตาไหลช่วงที่ลากันแน่ะ
:z13:
คิคิ
-
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ
กรี๊ดดังๆ 20 ที
>0<
ชอบมากมายมหาศาลบานตะไท!!
อ่ารวดเดียวจบเลยอ่ะ
อยากได้สเปเชี่ยลเพิ่มค๊า
>.<
-
เรื่องนี้น่ารักดีจังเลยค่ะ อ่านแล้วลุ้นไปยิ้มไป :impress2:
-
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ
เฮ้อ
แอบลุ้นตอนจบ
นึกว่าจะมีเอ็นซี
แต่ก็ชอบมากๆ
น้ำตาก็ไหลเลยด้วย
-
ชอบจัง น่าจะมีต่ออีกซักเล็กน้อยอ่ะ :z3:
-
:เฮ้อ:อ่านรวดเดียว อยากอ่านเพิ่มอีกจังจ๊ะ
-
ชอบจัง ขอบคุณครับ
-
:pig4: คะ
กว่าจะรู้ใจตัวเองนี่ก็ เกือบจะเสียคนที่เรารักและรักเราไปแล้วนะ :เฮ้อ:
-
:-[ กว่าจะรู้ตัวเองได้่น้อออออ
:m16: แทบแย่หนะน้องโอ๋ของเรา
อิอิ :monkeysad:
ขอบคุณสำหรับนิยายซึ้งๆคะ
-
พอรักกัน โลกนี้ก็สดใสขึ้นเยอะเลยนะค๊า
ขอบคุณไรเตอร์ค่า ที่แต่งนิยายน่ารักๆให้อ่าน >///<
-
กว่าจะเข้าใจกันก็เกือบตาย แต่น่ารักดีน่ารักทั้งคู้
-
ซึ้ง กรี้ดด หนูชอบ อร้ายยย
น้ำตาซึมแต่อมยิ้ม ขอบคุณมาก ๆ เลยที่เอามาให้อ่าน อิอิ
สนุกมากก
:กอด1:
-
สนุกอีอ่า
ซึ้งด้วย
กว่าจะปรับความเข้าใจกันลุ้นสะ
-
สนุกอ่ะคะ
ทำไมไม่แต่งยาว ๆๆๆ
อยากอ่านอีกนะคะ
ปล.อย่าทะเลาะกันบ่อย ๆ นะคะ ไม่คุ้มเลยยย
-
เรื่องน่ารักดีอ่า ขอบคุณมากๆ นะค่ะ
อย่ากลัวที่จะแสดงความรักกันนะค่ะ เชียร์ๆๆๆ ^^
-
อ่า าาา กว่าจะลงเอยกันได้จริงๆ
หึ้ย ยยย น่าสงสารทั้งโอ๋แล้วก้ออาร์ต
แต่ตอนสุดท้ายนิหวานๆกันโน๊ะ :กอด1:
-
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
-
:monkeysad: หาอ่านมานานล่ะ เรื่องนี้ โคตรชอบบบบบบบบบบเลย :man1:
-
สนุกมากเลยค่ะ อ่านแล้วเจ็บจิ๊ดๆ เลยอ่ะ :monkeysad:
-
เฮ้อ กว่าจะจบ บีบหัวใจเหลือเกิน
ไม่ได้หมายความว่าอยากให้จบนะครับ
คนแต่งเล่าเก่งมาก อินมันทุกตอนอ่า o13
-
ชอบมวากกกกกค่ะ
สนุกสุดๆ ลุ้นมันทุกตอน
สงสารอาร์ตมากๆ
ในที่สุดโอ๋ก็รู้ใจตัวเองและเปิดใจยอมรับอาร์ตซะที
ขอบคุณคนเขียนมากนะค่ะ o13
-
สนุกมากค่ะ
-
สนุกจังเลยอ่ะ ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆ o13
อ่านไปก็แบบ...เหมือนไรโอ๋กับอาร์ตจะปรับความเข้าใจกัน
แบบอ่านไปก็แบบลุ้นไป อิอิ
ดีใจที่โอ๋็ยอมรับไเ้สักที
ว่าตัวเองก็ชอบอาร์ตเหมือนกัน ^O^
-
ชอบอะ
....แต่ รู้สึกว่าจะเสียเลือดเสียเนื้อเยอะนะ
-
แน่หรือคับว่าผมว่ายังนะคับเป็นไปไม่ได้นะคับอยากให้มาต่อเพิ่มอีกนะคับ :z3:
-
ขอบคุณคร้าบน่ารักกันทั้งคู่เลยยย
-
หนุกคับ เพิ่งอ่าน
ตอนแรกก็สงสัยว่าสมัยนี้ยังต้องกลัวคนมองขนาดนั้นหรอ
แต่พอดูว่าโพสต์ตั้งแต่ปี 2007 เลยพอจะเข้าใจ
ถ้าเป็นสมัยนี้นะ บอกได้เลยว่า แคร์หรอ :z2:
-
ชอบมากๆเลยคับ น่ารักที่สุด
-
เนื้อเรื่องน่ารัก น่าอ่าน มากๆๆ เลยค่ะ อยากอ่านต่ออีก
-
o13 o13 o13
-
o13 o13 o13
-
ชอบๆ o13
-
สนุกมากเลยค่ะ o13 o13 o13
-
สนุก และซึ้งไปกับความรักของโอ๋อาร์ต
รักและดูแลกันดีๆนะคะ :กอด1:
-
ขอบคุณครับ
:impress2:
-
o13 สนุกมากๆค่ะ ซึ้งจริงๆ :กอด1:
-
โอ๋ อาร์ต น่ารักกกก
-
มาอ่านอีกรอบ
-
อ่านแล้วอ่านอีก ซึ้ง...
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารัก ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟ
-
อาร์ต นาย เกียร์มัว อ่ะ
-
รู้สึกเหมือนยังมีปมในใจขอรับ
พ่อกับแม่ของโอ๋จะว่ายังไงถ้าเรื่องถึงหู
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่แบ่งปันขอรับ
-
อาร์ตตลกอะ อยากให้โอ๋ซื้อกิ๊ฟให้ติดจริงๆ :hao6:
-
:pig4:
-
:mew1:
-
น้ำ รูมเมตของโอ๋บ่นกับตัวเองอยู่ที่ด้านหน้าประตู
น้ำเสียบลูกกุญแจแล้วบิดเพื่อปลดล็อค เธอเปิดประตูแล้วลากกระเป๋าเข้ามา
กำลังถอดรองเท้าแถวหน้าประตู สายตาเหลือบเห็นพัดลมถูกเปิดทิ้งไว้ แล้วน้ำก็มองตามทิศทางของกระแสลมไป
จนเห็นรูมเมตของตัวเองและเพื่อนนอนอยู่บนเตียง ในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่ามีผ้าห่มที่ปิดขึ้นมาถึงระดับเอวพอดี
น้ำมองเห็นชายหนุ่มที่หุ่นดีเป็นบ้า หน้าตาคุ้นๆ นอนกอดรูมเมตของตัวเองอยู่ตรงหน้า นึกชื่อออกแล้วคนนี้ชื่ออาร์ตที่เป็นเพื่อนสนิตของโอ๋
แต่ภาพที่เห็นฟ้องว่าตอนนี้มันสองคนไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไปแล้ว ถูกเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ยังทันไม่เปิดเทอม
น้ำทิ้งกระเป๋าไว้ตรงนั้นและรีบย่องถอยหลังออกไปเบาๆ อย่างรวดเร็ว ก่อนที่หนิ่งในสองคนนั้นจะตื่น
คงยังไม่มีใครตาไวมองเข้ามาเห็นหรอกนะ น้ำรีบปิดประตูห้องพร้อมกดล็อค ยืนตั้งสติครู่หนึ่ง แล้วก็พูดบอกตัวเองว่า
" ชั้นไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ชั้นไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น " น้ำเดินออกไปจากประตู โดยที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะไปไหน แต่ขอไปจากตรงนี้ก่อนเถอะ ...
น้ำเป็นผู้หญิง!!! แล้วมาอยู่ร่วมห้องกับผู้ชายได้ยังไง
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:-[