พิมพ์หน้านี้ - Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: goldfishpka ที่ 27-08-2010 23:41:29

หัวข้อ: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 27-08-2010 23:41:29
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 

AUTHOR's Talk
สวัสดีค่ะ  :pig2:ขอแนะนำนิยายเรื่องใหม่ให้ทุกๆท่านได้อ่านกันนะคะ

(http://i270.photobucket.com/albums/jj87/goldfishpka/JI_toki2.jpg)

เรื่องนี้มีนักเขียนสองคนค่ะ

kuruma & p.k.a

ถ้ายังไงแล้วก็ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้มใจทุกท่านด้วยนะคะ  :กอด1:

สารบัญ...เชิญจิ้มค่ะ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1115961#msg1115961) :pig4:






J - Walk along -infinite mix- (http://www.youtube.com/watch?v=VVB20GUzZhQ)

translated & romanjinized by p.k.a

Owari no nai tabi wo shiteru sonna hibi wo kakae nagara
เดินทางไปอย่างไม่มีจุดหมาย พลาง โอบกอดวันเวลาเหล่านั้นเอาไว้

Kono nagai michi wo ima hitori aruku kimi no moto e
ในตอนนี้เดินไปบนเส้นทางไกล เพียงลำพัง เพื่อไปให้ถึงเธอ
 
How far from here to you?


ima sugoshi dake kikasete okureyo eien ni kienai koe de
ในตอนนี้ แม้เพียงแค่เล็กน้อย ช่วยพูดให้ฉันได้ยินเถอะ  เสียงนั้นที่ไม่มีวันจะขาดหายไป
  
kono omoi wo sora ni kakushite shizuka ni I just walk along
ได้ฝากฝังความคิดคำนึงนี้ เอาไว้กับท้องฟ้า และก้าวเดินต่อไปอย่างเงียบงัน

yukiba no nai mayoi no naka de miushinatta asu wo ekakou
ทั้งที่ยังคงหลงวนเวียนไร้ซึ่งจุดหมายปลายทาง แต่ก็มาร่วมขีดเขียนวันใหม่ที่เลือนหายไปกันเถิด

mada kotae no nai jikan no naka de yumemiru kimi e
ในห้วงเวลาที่ยังไร้ซึ่งคำตอบนี้ จะเดินไปให้ถึงเธอที่ยังคงเฝ้ามองความฝัน
 
How far from here to the dream?

ima sugoshi dake kikasete okureyo eien ni kienai koe de
ในตอนนี้ แม้เพียงแค่เล็กน้อย ช่วยพูดให้ฉันได้ยินเถอะ  เสียงนั้นที่ไม่มีวันจะขาดหายไป  

utsushi dashite sonoashita wo kimi no sono hitomi no naka de
ภาพของวันพรุ่งนี้ที่ สะท้อนออกมาให้เห็น จากในส่วนลึกของดวงตาของเธอ

ima shizukani yoru ga akeru kimi wo tsutsumikomu you ni
ในตอนนี้ ราตรีลาลับค่อยเปลี่ยนเป็นวันใหม่ไปอย่างเงียบๆ ลำแสงแห่งยามเช้านั้นราวกับ จะโอบอุ้มเธอเอาไว้

tsunagi tomete kono omoi wo
ความคิดคำนึงนี้ได้ เชื่อมโยงกันและกันเอาไว้ ก่อนจะหยุดนิ่งงัน

In the sun

ima sugoshi deke kikasete okure yo eien ni kienai koe de
ในตอนนี้ แม้เพียงแค่เล็กน้อย ช่วยพูดให้ฉันได้ยินเถอะ  เสียงนั้นที่ไม่มีวันจะขาดหายไป

utsushi dashite sono ashita wo kimi no sono hitomi no oku de
ภาพของวันพรุ่งนี้ที่ สะท้อนออกมาให้เห็น จากในส่วนลึกของดวงตาของเธอ

I walk along I walk along I walk along asayaka na hikari no naka de
I walk along I walk along I walk along    ท่ามกลางแสงสว่างเจิดจรัส

I'm just walk along Mabayui hikari no naka de
I'm just walk along ท่ามกลางแสงสว่างที่เจิดจ้ายิ่ง

kono mama kimi no soba de
เคียงข้างเธอ เช่นนี้ตลอดไป


######################



"ปิ๊ด ปิ๊ด ปี๊ดดดด "

เสียงเป่านกหวีดยาวเป็นสัญญาณให้ทุกๆคนวิ่งเข้ามารวมตัวกันที่ มุมหนึ่งของสนาม

"เอาล่ะทุกคนหมดเวลาแล้ว มารวมกันด้วย" เสียงนุ่มดังขึ้นพร้อมกับ เสียงตีมือเข้ากับ คลิปบอร์ดแนบรายชื่อนักเรียนในสังกัด
"วันนี้อาจารย์ว่างไปเที่ยวกับพวกหนูไหมคะ? " กลุ่มเด็กสาวมัธยมปลายปี1 วิ่งกรูกันเข้ามาหาอาจารย์สอนพละคนดังของโรงเรียน
"ฮ่ะๆ จะไปเที่ยวไหนล่ะ " อาจารย์สอนพละหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินคำชวนของกลุ่มเด็กสาว
" ถ้าอาจารย์ยอมไป หนูก็ไปนะ " เด็กสาวรีบตอบกลับมา พลางทำหน้าตามีความหวัง ชายหนุ่มมักจะยิ้มหัวเราะแบบนี้ให้กับ คำพูดของเหล่านักเรียนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะมีขนมจีบชิ้นเล็กๆแบบ ปัปปี้เลิฟ มาให้ เป็นประจำ
" ไปร้านเค้กข้างโรงเรียนก็ได้ค่ะ เปิดใหม่ อร่อยมากเลย "เด็กๆ ยังคงพยายามจีบอาจารย์หนุ่มอย่างไม่ลดละ เขาไม่ใช่อาจารย์ฝึกสอน หรืออาจารย์ที่เพิ่งทำงานที่นี่ หากดูแค่หน้าตาที่ดูเหมือนคนที่เพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆแล้วล่ะก็
"ครูไปด้วยเดี๋ยวแฟนเธอก็หึงครูซิ่ แค่นี้ก็จะโดนฆ่าตายแล้วครับ ขอรับไว้แค่น้ำใจก็แล้วกันนะ ยามากูจิซัง" อาจารย์อิโนะอุเอะ คิโยโนบุ ในชุดเสื้อวอร์มสีน้ำเงินเข้มตัดกับผมสีน้ำตาลอ่อนยิ้มให้กับอีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะขอตัวเดินออกมา
"ครูไปก่อนนะ มีประชุมน่ะ " ดูจะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เด็กๆพวกนี้ยอมปล่อยเขาออกมาได้ คิโยโนบุ เป็นอาจารย์สอนวิชาพละที่นี่มาได้สาม ปีแล้ว หลังจากที่ พลาดหวังจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติ ชายหนุ่มก้าวยาวๆเดินไปที่ห้องที่อยู่ริมสุดที่ชั้นหนึ่ง ห้องของครูใหญ่ประจำโรงเรียน
 

..........................................


"ขออนุญาตครับ " เสียงนุ่มว่าพลางเปิดประตูเข้าไปด้านใน
" เชิญ " เสียงของชายวัยกลางคนบอกด้วยน้ำเสียงเข้มงวดเหมือนทุกครั้ง ไม่เคยเปลี่ยนไป แม้จะกี่ปีก็ตาม"นั่งสิ "
"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งตรงเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แสงที่ส่องมาจากด้านหลังทำให้ชายอีกคนดูตัวใหญ่หนามากขึ้นไปอีก เขาดูมีอำนาจเสมอ  ผู้อำนวยการโรงเรียนยื่นแฟ้มให้คนตรงหน้าดู สองสามแฟ้ม นี่คือจุดประสงค์ที่เขาเรียกอาจารย์มาในวันนี้
" ดูซิสิ .. คุณสมบัติดีทุกคน .. เลือกหน้าตาแบบที่ชอบเถอะ "เขาบอก
"คุณพ่อครับ..." เสียงที่เรียกสถานะของอีกฝ่ายกลับมานั้นบ่งบอกได้ถึง ความลำบากใจ ชายหนุ่มไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ เขารู้ดีว่ามันเป็นเรื่องเดิมๆ ของการ "หาคู่"
"ผมยังไม่คิดว่าตัวเอง พร้อมจะแต่งงานนะครับ"
" ก็แค่ไปดูตัว คิดไปถึงไหน ... คิโยโนบุ  "ผู้เป็นพ่อยืนยันคำเดิม
" อิชิดะ ฮิโตมิ , มิซึกิ  ยาสึโกะ , ทาคาฮาร่า  มาอิ ทั้งสามคนนี้ พื้นฐานการศึกษา และพื้นฐานทางบ้านก็ดี แกเลือกเอาคนหนึ่งก็แล้วกัน " ผู้เป็นพ่อว่าท่าทางไม่ได้ใส่ใจนักว่าลูกชายจะเลือกใคร
"ผมน่ะไม่คิด...แต่ทางนั้นเขาน่ะอาจจะคิดครับ...และพ่อเองก็คิด..." ชายหนุ่มพูดออกมาพร้อมกับเหลือบมองแฟ้มทั้งสาม ใบหน้าสะสวยของหญิงสาว กริยามารบาทในการวางท่านั้นแทบจะถอดแบบเดียวกันมา ดูอย่างไรแล้วก็คงจะเป็นพวกคุณหนูจ๋าเหมือนอย่างที่เคยเจอมาทุกครั้ง
"อายุ 30 ไม่น่าคิดบ้างหรือไง แกเป็นพี่คนโตนะ จะให้เจ้าคิระ กับ เคนจิ แต่งงานก่อนรึไง? "ผู้เป็นพ่อขมวดคิ้วกับคำปฏิเสธของลูกชาย " ในเมื่อแกเองก็ไม่ได้คบกับใครที่ไหน แล้วมีอะไรขัดข้องรึไง? " คิโยโนะบุก้มหน้าลงเล็กน้อย สองมือกำแน่น มันเป็น ครั้งที่เท่าไรแล้วที่มักจะถูกพูดด้วยเชิงบังคับแบบนี้

"ครับคุณพ่อ...แล้วผมจะลองไปคิดดูก็แล้วกันครับ"


...........................................


 คำตอบของอาจารย์พละ ลูกชายคนโตของตระกูลอิโนะอุเอะ เจ้าของโรงเรียนมัธยมในคานางาวะ ทำให้เกิดการพบกันระหว่างตระกูลอิโนะอุเอะ และตระกูลอิชิดะในที่สุด ณ โรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองนั้นเอง ท่าทางของครูโรงเรียนมัธยมดูขัดเขินเล็กๆในชุดสูทสีเข้มที่ถูกซื้อมาด้วยเงินที่ พ่อเอามาวางไว้ตรงหน้าด้วยเหตุผลที่ว่า "ไปหาเสื้อผ้าดีๆมาใส่ซะ"
 
"เอ่อ...ได้ยินว่าคุณชอบฟังเพลงคลาสสสิค" คิโยโนบุพยายามจะสรรหาเรื่องมาคุย เขาไม่ถนัดนักที่จะคุยกับผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันแบบนี้...โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วในสถานการณ์แบบนี้ แม้ว่าจะเข้าใจดีว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกินที่ผู้ชายอายุขนาดเขาควรจะตั้งหลักปักฐานเสียที
" ค่ะ ฉันชอบเพลงของโมสาร์ทค่ะ เขาว่ากันว่า ผู้หญิงท้องน่ะ ถ้าฟังเพลงของโมสาร์ทแล้วลูกจะมีพัฒนาการดี คิโยโนบุซังเคยได้ยินไหมคะ? " หญิงสาวผมสีน้ำตาลเข้มในชุดกิโมโนสีเขียวอ่อนตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนหวาน ชายหนุ่มแทบจะกลืนน้ำลายลงไปสามอึกในคราวเดียว


....ลูกในท้อง?....


ชายหนุ่มเลยทำได้แค่หันไปยิ้มน้อยๆให้อีกฝ่ายเท่านั้น
 
"ผมไม่ค่อยทราบเรื่องแบบนี้หรอกครับ... จะรู้ดีก็คงเป็น แค่เรื่องกีฬา"
" กีฬาหรือคะ? ดูเหมือนคุณจะเคยเล่นกีฬาอย่างจริงจังเสียด้วย ถึงได้มาเป็นคุณครูพละใช่ไหมคะ? "หญิงสาวที่ดูยังไงก็เพิ่งจะจบมหาวิทยาลัยมาได้ไม่นาน ถามอย่างแปลกใจ
"อ่ะครับ...ผมเคยอยากจะเป็น..นั่งวิ่งน่ะครับ"
" นักวิ่งหรือคะ งั้นก็เป็นคนวิ่งเร็วมากซี่คะ " ฮิโตมิถามออกมาอย่างสนใจ
"ฮ่ะๆ...." คิโยโนบุ หัวเราะออกมาเบาๆ "ก็ไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอกครับ... ผมแค่ชอบที่จะวิ่งก็เท่านั้นเอง"

การพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ว่าจะส่วนใหญ่จะเป็นการเขินอายกันเองระหว่างหนุ่มสาวทั้งสอง แต่ในส่วนของผู้ใหญ่เองแล้ว กลับมีการพูดคุยกันอย่างถูกคอ


.......................................

 
ตามมาด้วยการนัดพบปะกันระหว่างคนทั้งสอง หลายต่อหลายครั้ง การได้ทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อศึกษานิสัยใจคอ ซึ่งสำหรับอาจารย์หนุ่มแล้ว หญิงสาวคนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก

"ขอโทษนะครับ...ไม่มีที่ไหนจะพาไปเที่ยวก็พามาแต่ที่แบบนี้ " เสียงชายหนุ่มพูดขึ้นระหว่างที่กำลังพาหญิงสาวออกกำลังกายอยู่ในฟิตเนส
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณดูแข็งแรงดีออก อีกอย่าง ฉันก็อยากจะผอมลงกว่านี้ด้วย" ฮิโตมิว่าขณะที่อยู่บนลู่วิ่งข้างๆชายหนุ่มผมสีน้ำตาล
"ถ้าอยู่ด้วยกันต้องโดนหาว่าเป็นบ้านบ้าพลังแน่เลย" ชายหนุ่มพูดก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
" บ้านนี้ก็คงจะมีแต่เด็กแข็งแรงๆ ล่ะค่ะ" เธอรับมุขเขาแล้วลงมาจากลู่วิ่งเพื่อเช็ดหน้า
"ฮ่า....เด็กๆเหรอครับ" ราวกับขาจะหยุดชายหนุ่มแทบจะไหลลงมาพร้อมกับลู่วิ่ง ก่อนจะก้มตัวลงเล็กน้อย เพื่อหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม
"ก็พ่อเขาเป็นนักกีฬานี่คะ "ฮิโตมิเช็ดหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยเหงื่อ และเป็นสีชมพูเธอพูดออกมาราวกับไม่ได้คิดอะไร
"ฮิโตมิครับ..." ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยืนนิ่งอยู่นาน ราวกับจะคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเงยหน้า ที่ยังชื้นเหงื่อเล็กๆ ชายหนุ่มยังหอบหายใจเล็กน้อย เมื่อมองหน้าของอีกฝ่าย
"คะ? " เธอส่งผ้าขนหนูให้กับเขา แล้วยิ้มให้
"ถ้าคุณไม่รังเกียจ..."ชายหนุ่มรับผ้าขนหนูมาซับหน้าเล็กน้อย "เสร็จจากที่นี่แล้ว จะไปดูแหวนกับผมไหมครับ"
" อิโนะอุเอะซัง? "เสียงหวานนั้นเรียกสกุลของอีกฝ่ายอย่างที่เรียกเสมอมาอย่างแปลกใจ
"นะครับ" เสียงนุ่มนั้น เอ่ยอีกครั้งราวกับจะอ้อน
"ดูแหวนเหรอคะ? แหวนแต่งงานเหรอคะ? "เธอถามออกมา ใบหน้ามนเริ่มมีรอยยิ้มน้อยๆ
"ขอหมั้นไว้ก่อนนะครับ...เรื่องแต่งงาน คงต้องบอกให้ทางผู้ใหญ่เขาตกใจกันเล่นก่อน...เพราะคงไม่ใช่งานที่เราจะจัดการกันเองได้แน่..." ถึงแม้ว่าจะพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่พวกเขาทั้งสองคนก็เพิ่งจะคบกันมาได้ไม่เท่าไร เรื่องของการแต่งงานนี่คงไม่ได้อยู่ในแผนชีวิตแน่นอน เรื่องการเงิน จึงไม่ได้ซัพพอร์ตเอาไว้ตรงนี้ด้วย
" ถ้าพวกท่านทราบ คงดีใจแย่ .. แล้วแต่คุณเถอะค่ะ "ฮิโตมิสบตาอีกฝ่าย ใบหน้ามนแดงระเรื่อ
"ถ้าอย่างนั้น ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันดีกว่าไหมครับ" คิโยโนบุชวนอีกฝ่ายใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทีดูมั่นใจ ต่างจากครั้งแรกที่ได้เจอกัน


...คงจะไม่ใช่ก้าวที่พลาด....

...เราจะก้าวต่อไป....


...................................................


ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากนั้น ข่าวคราวกก็แพร่สะพัดไปทั่วถึง งานแต่งงานใหญ่ที่กำลังจะมีของสองตระกูลดังของเมืองระหว่างบ้านอิโนะอุเอะเจ้าของโรงเรียนเอกชนชื่อดัง กับ บ้านอิชิดะซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของงานหัตถกรรมด้านเครื่องเคลือบ
 
"ไม่ทราบว่า ในเรื่องของอาหารนี่ จะเป็นอาหารฝรั่ง หรือ อาหารญี่ปุ่นดีคะ พิธีตอนเช้าก็เป็นแบบญี่ปุ่นแล้ว ... " เสียงเว็ดดิ้งแพลนเนอร์ฝีมือดีที่จ้างมาถามว่าที่คู่บ่าวสาวทั้งสองคนในมือก็เตรียมปากกา กับสมุดคอยจัดรายละเอียด
" เรื่องนี้แล้วแต่ทางเจ้าบ่าวเถอะค่ะ " ฮิโตมิหันไปทางว่าที่สามีของเธอเป็นการขอความคิดเห็น
"อืม...ถ้าจะยกให้เป็นหน้าที่ผมล่ะก็...." ชายหนุ่มก้มลงเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากจะคลี่เป็นรอยยิ้ม ราวกับพอใจอะไรบางอย่าง
"ผมว่าอาหารญี่ปุ่น ก็น่าจะดีนะครับ แบบประยุกต์ จะได้เหมาะกับสถานที่ด้วย เราจะจัดโรงแรมไม่ใช่เหรอครับ ไอซาวะซัง" ว่าพลางก็หันไปถาม คนจัดการเรื่องสถานที่
"ใช่ค่ะ... อาหารญี่ปุ่น เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันคิดว่า ก็พอดีเลย เพราะร้านอาหารญี่ปุ่นที่โรงแรมนี้ขึ้นชื่อมาก"
 "ขอตัวไปจัดการเรื่องชุดก่อนนะคะ " ฮิโตมิกระซิบบอกคิโยโนบุเบาๆแล้วปลีกตัวไปอีกด้าน
"ครับ..." อิโนะพยักหน้ารับคำก่อนจะหันมาหา ไอซาวะซังอีกครั้ง "คือ ถ้าไม่เป็นการกระทันหันเกินไปผมก็อยากจะลองไปทานอาหารที่นั่นดู อยากจะให้คุณติดต่อในเรื่องของพ่อครัวที่จะทำอาหารในครั้งนี้ให้ด้วยน่ะครับ" ชายหนุ่มพูดพลางยิ้ม เขาชอบอาการญี่ปุ่นเป็นที่สุด


....ก็คงจะตั้งแต่ตอนนั้น....


"ได้ค่ะ ดิฉันจะจัดการให้" ไอซาวะรับคำก่อนจะขอตัวไปติดต่อกับพ่อครัวที่จะมาดูแลงานแต่งงานของสองตระกูลดังนี้

ชายหนุ่มเดินสำรวจไปรอบๆ ห้องจัดเลี้ยง เพดานสูงมีโคมไฟระย้า ดูหรูหรา ทางด้านซ้ายเป็นระเบียงเปิดโล่งใช้ชมวิวรอบด้านได้อย่างดี ประตูบานหนึ่งถูกเปิดทิ้งเอาไว้ให้สายลมพัดอ่อนๆ กับเสียงของเมืองเล็ดลอดเข้ามาด้านใน แม้ไม่ใช่ความสงบแบบธรรมชาติเหมือนที่เคยได้สัมผัสตอนเด็กๆ แต่มันก็ สงบมากเลยทีเดียวหากให้เปรียบกับอีกหลายสถานที่ในเมืองใหญ่แบบนี้
" อิโนะอุเอะซัง " ไอซาวะเรียกว่าที่เจ้าบ่าวเมื่อเธอทำสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการเรียบร้อยด้วยการพาเชฟที่จะดูแลงานแต่งงานของเขามาพบ
"อ่ะ...สวัสดีครับ ผมอิโนะอุเอะ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ " ชายหนุ่มรีบก้มหัวลงทำการทักทาบตามมารยาท อีกมือก็ล้วงหานามบัตรพัลวัน
"โอโนเสะครับ " เสียงทุ้มของเชฟคนเก่งดังขึ้นพลางโค้งให้เช่นกัน แต่ต่างจากว่าที่เจ้าบ่าวตรงที่เขาไม่ต้องหานามบัตรให้
" นี่ โอโนะเสะซัง เป็นเชฟอาหารญี่ปุ่นมือดีที่จะมาดูแลอาหารในงานแต่งงานของคุณค่ะ " ไอซาวะเสริม
"โอโนเสะ?...." น่าแปลกที่ชื่อนี้มันฟังดูคุ้นๆหู และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาชายหนุ่มก็ต้องเลิกคิ้ว ร่างสูงของอีกฝ่าย กับดวงตารีเรียวนั่นมันดูคุ้นตาอย่างประหลาด
"เอ่อ...ขอโทษนะครับ โอโนะเสะ จุน.....ใช่ไหมครับ" เสียงนุ่มเอ่ยอย่างไม่แน่ใจนัก
" ครับ?...คุณ.? "เชฟหนุ่มรับคำก่อนจะนึกชื่ออีกฝ่าย .. มันติดอยู่ที่ปากนี่เอง..
"คุณอิโนะอุเอะ..."ไอซาวะจะแนะนำต่อแต่ก็ต้องถูกขัดเมื่อเจ้าของชื่อเอ่ยชื่อขึ้น
"คิโยโนบุครับ...อิโนะอุเอะ คิโยโนบุ...แปลกนะครับผมคุ้นชื่อคุณมากแต่จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินที่ไหน" ว่าที่เจ้าบ่าวชิงแนะนำตัวก่อนหัวเราะออกมาเบาๆ
" เพราะชื่อคุณยาวมาก..เมื่อกี้ผมถึงนึกชื่อคุณออก... "เชฟหนุ่มเองก็ต้องหัวเราะออกมาเช่นกัน
"ชื่อผมยาว?..." ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเอียงคอมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ "แสดงว่าเรา...เคยเจอกัน? " เช่นเดียวกันกับอีกฝ่าย ใบหน้าของชายหนุ่มในชุดพ่อครัวแบบญี่ปุ่นสีขาวสะอาดตา กับ เครา จางๆที่ขึ้นอยู่กับผมที่มัดรวบนั้น ดูคุ้นมากเหลือเกิน แต่ในความทรงจำที่เขาจำได้นั้นมันอาจจะแตกต่างออกไป
"โรงเรียนมัธยมฮิกาชิ จำได้ไหม?"เชฟหนุ่มมีท่าทีสบายๆขึ้นทำให้ไอซาวะต้องโค้งเพื่อขอตัวออกจากบทสนทนาไปจัดการเรื่องอื่นๆต่อ
"ใช่...."ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนที่จะตาโตขึ้นมาอย่างกะทันหัน
"อ๊ะ...ใช่แล้ว....โอโนะเสะ...จุน!"คิโยโนบุตีมือลงกับเข่าอย่างลืมตัว "นาย...เป็นยังไงมายังไงเนี่ย แล้วนี่เป็นเซฟ? ที่โรงแรมเนี่ยน่ะเหรอ..โอ้โห...ไม่น่าเชื่อเลยนี่มันผ่านไปกี่ปีแล้วเนี่ย"
"จำไม่ได้รึไง? ฉันเจอนายก็จำได้แล้ว ถึงจะใช้เวลานึกชื่อหน่อยก็เถอะ...ไม่เปลี่ยนจากเมื่อก่อนเลยนี่หว่า "เชฟหนุ่มหัวเราะกับท่าทางของเพื่อสมัยมัธยมของเขา
"ก็...นาย.." เมื่อเจอพูดเข้าแบบนั้นก็ต้องขายหน้ากับ ตัวเองที่เป็น คนขี้ลืม แม้ขนาดเพื่อนที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่สนิทมากที่สุดอีกคนในสมัย มัธยมปลาย "นายเปลี่ยนไปมากเลยนี่นา..." คิโยโนบุขยับตัวออกมาเล็กน้อยเพื่อพิจารณาอีกฝ่ายเปรียบเทียบกับภาพที่จำได้ในความทรงจำที่เลือนลางครั้งอดีต
"ตอนนั้นนาย...ผมสั้นย้อมทอง...ใครๆก็บอกว่านายเป็นนักเลง มีแก๊งค์เป็นของตัวเอง ขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่มาโรงเรียน.... ใครจะไปเชื่อล่ะว่าจะมาเป็นพ่อครัวแบบนี้"
"นั่นมันก็มีเหตุหรอกน่า " มือแกร่งที่ใช้ทำอาหารรสเลิศยกขึ้นกุมท้ายทอยตนเอง
"นายก็รู้..ว่าเพราะอะไร "
"นั่นซิ่ เพราะอะไร...อย่าบอกนะว่าเพราะเรื่องตอนนั้น" คิโยโนบุยิ้มออกมาเล็กน้อย เพียงเสี้ยววินาทีหนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหม่นแสง เมื่อนึกถึงความฝันที่ดับวูบลงไป
"ออกไปเดินในสวนดีไหม? "เชฟหนุ่มถามขึ้นมาลอยๆเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย
"อืม...ก็ดีเหมือนกัน.."ชายหนุ่มว่าพลางก่อนจะหันไปมองทางหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น ใบหน้ายังคงค่ำเคร่งกับการเลือกแบบชุด "ทางนั้น คงอีกนานเลย" จุนหันไปตามสายตาของเพื่อนเก่า
" เธอ สวยดีนะ..เหมาะกับนายดี "เขาบอกออกไปแบบนั้น

 ..จะแปลกอะไร...อายุ 30 แล้ว…

ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยิ้มน้อยๆ ฮิโตมิเป็น ผู้หญิงที่ดี น่ารัก และมีเสน่ห์ เอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆน้อยที่บางครั้งเขาอาจจะมองข้ามไป เธอน่าจะเป็นแม่ที่ดีให้ลูกของเขาได้
"เอาไว้...เธอเลือกชุดเสร็จก่อนก็แล้วกันฉันจะแนะนำนายให้รู้จัก... "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหันมามองหน้าของอีกฝ่าย สองมือล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง "ไหนล่ะ พาไปดูสถานที่ทำงานหน่อยซิ่ เซฟใหญ่"
"ห้องครัวน่ะเป็นหัวใจของที่นี่เลยนะ เสียใจ คนนอกห้ามเข้า แต่ถ้าที่สวนล่ะก็ ฉันพานายเดินดูได้ ตามสบายเลยนะ "เชฟหนุ่มเดินนำอีกฝ่ายออกไปที่สวน


……………………………………………


"นาย.....ทำงานที่นี่มานานแล้วเหรอ " ดวงตาสีน้ำตาลของว่าที่เจ้าบ่าวมองไปรอบๆสวนแบบญี่ปุ่นใจกลางเมืองนั้นดูจะเป็นอะไรที่ขัดกันไปเสียหน่อย แต่ก็ดูเข้ากันอย่างมากกับคนที่ยินอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดูแปลกตาไปก็เพราะชุดพ่อครัวแบบญี่ปุ่นที่ใส่อยู่หาใช่เสื้อเชิ๊ตหลุดๆลุ่ยๆเหมือนสมัยมัธยมไม่
"ตั้งแต่จบมัธยมปลาย พ่อก็เตะส่งมาฝึกงานที่นี่ กว่าจะได้เป็นเชฟจริงๆก็เพิ่งจะแปดปีมานี่เอง " หนุ่มผมยาวหลับตาลงรับลมเย็นๆที่ปะทะหน้า ปกติแล้วเขาต้องอยู่หน้าเตาและทำงานแข่งกับเวลาเสมอ เพิ่งจะมีตอนนี้ที่ได้ผ่อนคลายบ้าง
"ดีจังเลยนะที่ได้เจอกันอีก...ในโอกาสแบบนี้" เสียงของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆดังขึ้น แผ่วเบา รู้สึกได้ถึงลมที่พัดผ่านผิวกาย คงไม่ใช่เขาอีกแล้วที่ได้พุ่งผ่านม่านอากาศไปจนถึงเส้นชัย
" อืม... "

....ฉันคงดีใจกว่านี้...ถ้านายไม่ได้กำลังจะแต่งงาน...



############to be con...

p.s. ไรเตอร์ขออนุญาติปรับเปลี่ยนเล็กน้อยค่ะ (เกิดจากความผิดพลาดในการโพสต์ของไรเตอร์เอง ขอโทษผู้อ่านที่เข้ามาอ่านก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ )
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 27-08-2010 23:54:41
ว้าว ว้าว ว้าว รักแรกสมัยมัธยมปลาย ของพ่อครัวหนุ่มรูปหล่อ กับ ครูพละสุดเทห์
เอ๋ น่าสนใจจังว่าแต่คิโยจังรู้ตัวอ่ะป่าวหว่า ยินดีต้อนรับเรื่องใหม่คร้าบบบบ :mc4:
อัพบ่อยๆนะคับ อยากรู้อดีตของคู่นี้ แตสถานการณ์ไม่ค่อยดีเลย คิโยจังกำลังจะแต่งงาน
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-08-2010 07:09:24
รักแรกเหรอเชฟ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 28-08-2010 21:04:30
:pig4: :L2: ขอบคุณคอมเม้นต์นะคะ  กอดคนเข้ามาอ่าน   :กอด1:
ไรเตอร์จะพยายามอัพให้ได้ทุกวันค่ะ...เอาล่ะ ไปตามกันต่อดีกว่า ว่าเรื่องของ ครูพละกับเชฟหนุ่มจะเป็นยังไงต่อไป...

#####################


"ว่าแต่พ่อครัวใหญ่ของเราวันนี้มีอะไรแนะนำบ้างครับ...อาหารที่เหมาะกับงานมงคลของเพื่อนเก่าคนนี้"

คิโยโนบุตบมือเข้ากับ ขาทั้งสองข้างก่อนจะหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย

"ยังเรียก...จุน...ได้อยู่ใช่ไหม" อาจารย์หนุ่มถามเพราะเมื่อก่อนอีกฝ่ายจะดูหงุดหงิดทุกครั้งที่อาจารย์ขานชื่อ โอโนเสะ จุน หรือ แม้แต่ใครๆ ที่จะเรียกเขาว่า จุน ก็จะให้เปลี่ยนเป็น เรียกว่า "เจ" ซะทุกคนไป

"เมื่อก่อนล่ะไม่เคยถาม อยากจะเรียกยังไงก็ตามใจเถอะ " ท่าทางเกรงใจของอีกฝ่ายทำให้เชฟหนุ่มต้องหัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทางกับคำพูดแบบผู้ใหญ่นั่นมันช่างขัดกับหน้าตาที่ดูไม่เหมือนคนอายุ 30 ซักเท่าไหร่
"หัวเราะอะไร" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องเล็กน้อย "หรือจะให้เรียก จุนจัง....ป่านนี้แล้ว คงไม่เหมาะหรอกจริงไหม"
" เดี๋ยวว่าที่ภรรยานายจะได้มาฟ้อนเล็บใส่กันพอดี แล้วพาลจะไม่ได้เมียก็คราวนี้ล่ะ "เชฟหนุ่มยักคิ้วให้อีกฝ่าย
"ทำไม ฮิโตมิ จะต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ" คิโยโนบุ เลิกคิ้วเล็กน้อย เหมือนเขาจะตามคำพูดของชายหนุ่มร่างสูงไม่ทัน

...เอ๊ะ ฟังอะไรตกไปหรือเปล่านะ ทำไมถึงพูดแบบนั้น? ...

" ว่าแต่...อยากได้อาหารแบบไหนล่ะ สำหรับงานของนาย "เจเดินไปอีกด้านของสวน นำหน้าเจ้าของงาน
"อืม.. อาหารที่วางลงไปบนจานเครื่องเคลือบสีหม่นๆแล้วมันจะสะดุดตาออกมาล่ะมั้ง " ด้วยความที่ได้เข้าไปคลุกคลีกับฝ่ายพ่อตามามากพอสมควร เขาจึงจำคำที่ว่าที่พ่อตาสอนเอาไว้ได้อย่างดี

....จานไม่ใช่เป็นเพียงภาชนะ แต่มันคือที่แสดงออกถึงหัวใจของนักปั้นและคนครัว...


" แบบ fusion food ก็เป็นที่นิยมนะช่วงนี้ อย่างอาหารญี่ปุ่น จัดจานแบบอาหารฝรั่งเศส อะไรแบบนั้น "เจเสนอขึ้นมา จากข้อมูลของงานแต่งงานที่ไอซาว่าให้กับเขามา ทำให้เขารู้สึกว่าคงเป็นงานแต่งงานที่เป็นทางการมาก แต่อะไรที่ดูเป็นพิธีการมากไปก็อาจจะทำให้มันไม่เหมือนงานแห่งความสุขซักเท่าไหร่
"อืม แบบนั้นก็ท่าจะดี แขกของฝั่งนั้น ก็มีทั้งที่อาวุโสน้อยคละกันไป ได้เห็นอะไรที่เป็นทั้งของดั้งเดิม และสมัยใหม่ ร่วมกันไปก็น่าจะดี" ชายหนุ่มเจ้าของงานพยักหน้าเห็นด้วย สีหน้าดูพอใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย
"ดีจริงที่ ได้เชฟเป็นเพื่อนเก่าแบบนาย"
เจได้แต่หัวเราะในคอ จะรับก็ไม่เชิงเสียทีเดียว

"ฉันเลิกงานสองทุ่ม ... วันนี้ว่างรึเปล่า? "เจเปลี่ยนเรื่อง
"ก็...ว่างนะ ไปส่งฮิโตมิที่บ้านคุณแม่ ก็โอเคแล้วล่ะ เห็นว่าจะไปลองชุดกิโมโนอะไรกันด้วย ช่วงนี้ เขาจะวุ่นๆเรื่องนี้น่ะ ฉันก็ว่างล่ะ "คิโยโนบุรับคำพลางยิ้ม เมื่อนึกถึงท่าทีเจ้าอารมณ์เล็กๆที่ ฮิโตมิเริ่มเป็น ในช่วงก่อนแต่งงาน คุณแม่ของเขาก็เตือนอยู่เหมือนกัน

....ว่าที่เจ้าสาวน่ะ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ...ยังไงก็อดทนหน่อยนะ ...

"ไปดื่มกันไหม? ฉันรู้จักร้านดีๆ พอดีรุ่นพี่เขาแยกไปเปิดร้านน่ะ "หนุ่มผมยาวหันมาถามเพื่อนเก่าด้วยใบหน้าที่ดูจะยิ้มแย้มขึ้นเล็กน้อย
"อื้ม แบบนั้นก็ดีนะ...ที่ไหนล่ะ" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของอีกฝ่าย ท่าทางชอบใจกับไอเดียนี้ไม่น้อย
นามบัตรของร้าน Kamikawa ซึ่งเป็นร้านอาหารกึ่งผับที่รุ่นพี่ของเจไปเปิดอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมมากนัก และกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ถูกส่งให้กับหนุ่มผมสีน้ำตาล
"ชักอยากไปแฮะ...ตั้งแต่เป็น ครูบาอาจารย์กับเขานี่ไม่ค่อยได้ไปดื่มที่ไหนเลย...ดีล่ะ มีเพื่อนไปแล้ว" ชายหนุ่มรับนามบัตรไปดูที่ตั้ง "อืม ไม่ไกลมากด้วย โอเค เลย"
"แล้วเจอกัน " เชฟหนุ่มว่าก่อนจะดูนาฬิกา" คงต้องไปแล้วล่ะ ไว้เจอกัน "

แผ่นหลังกว้างภายใต้ชุดชองเชฟสีขาวท่ามกลางสวนของโรงแรมทำให้เกิดความรู้สึกที่แปลกไปเจ...เปลี่ยนไปจากสมัยมัธยม พอสมควรเลยทีเดียว

"เออนี่...จุน" เสียงดังจากด้านหลังเรียกความสนใจให้ร่างสูงหันกลับมามอง เชฟหนุ่มหันมาตามเสียงเรียก "ดีใจที่ได้เจอนายอีกนะ"ชายหนุ่มพูดพลางยิ้ม ก่อนจะโค้งให้อีกเล็กน้อย แล้วเดินไปอีกทาง เพื่อกลับเข้าไปหาว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง ท่าทางของว่าที่เจ้าบ่าว ทำให้เจต้องยิ้มออกมาแล้วกลับไปทำงานของตนเองต่อเช่นกัน

.................................


ในตอนหัวค่ำของวัน ชายหนุ่มเดินเข้ามาในร้านอาหารกึ่งผับ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของร่างในชุดเสื๊อเชิ๊ตสีอ่อนกับกางเกงสแล็คมองไปรอบๆร้านราวกับจะสำรวจ และมองหาคนที่นัดเขาไว้
"ทางนี้โว้ย "
เจโบกมือเรียก ลักษณะการแต่งตัวของเชฟหนุ่มซึ่งตอนนี้สวมเสื้อยืดพอดีตัวกับกางเกงยีนส์และผมที่รวบเอาไว้อย่างเรียบร้อยนั้นถูกปล่อยออก ดูไม่คุ้นตาเข้าไปใหญ่เลย
"โหย เกือบจำไม่ได้...นายนี่เปลี่ยนลุคได้เรื่อยจริงๆเลยนะ"ชายหนุ่มว่าพลางเดินเข้าไปนั่งข้างๆ
"ก็แค่นึกอยากจะเปลี่ยน ..สั่งอาหารให้แล้ว ขี้เกียจนั่งลุ้นเมนูพิสดารของนาย " เจสั่งอาหารให้เสร็จสรรพไปนานแล้ว และเมื่ออิโนะมานั่งเครื่องดื่มและอาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟอย่างรู้งาน
"พิสดารอะไร...พิสดารนั่นต้องนายไม่ใช่เหรอ...ทำมาให้กินได้..."คิโยโนบุหันไปมองหน้าของอีกฝ่ายเมื่อนึกถึงคำจำกัดความของคำว่าพิสดาร
"แต่นายก็กิน ไม่เคยท้องเสียด้วย นั่นเพราะฉันมั่นใจ.. "เจยักคิ้วใหัอีกฝ่าย"ว่านายกินได้ทุกอย่าง "
"พูดแบบนี้หลอกด่ากันนี่หว่า"คิโยโนบุชกไหล่อีกฝ่ายเบาๆ "ปากเสียแบบนี้ล่ะนะ...กับท่าทางแบบนั้น ชาวบ้านเขาถึงได้กลัวกันน่ะ"
" ฮะ ฮะ ฮะ..ก็มีนี่คนนึงล่ะที่ไม่กลัว "บรรยากาศเดิมๆต้องกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงหัวเราะ ท่าทางสบายๆ พร้อมกับอาหารและเบียร์
"ที่ไม่กลัวเพราะว่าตกใจมากกว่า ตอนแรกที่ได้คุยกับนายน่ะ" ชายหนุ่มพูดพลางยกแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่ม
"ฉันต่างหาก..ที่ตกใจ..เรื่องนั้น ถ้าไม่ใช่... "หนุ่มผมยาวก้มหน้าลงเล็กน้อย  เขาได้ยินมาว่าว่าที่เจ้าบ่าวเป็นอาจารย์ นั่นคงเป็นเพราะเขาเองที่ทำให้คิโยโนบุไปถึงเป้าหมายไม่ได้
"เรื่องมันนานมาแล้ว จุน...ฉันเองก็ยังเดินได้วิ่งได้ปรกตินี่นา..."เขารู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงเรื่องอะไร ภายในจิตใจนึกย้อนไปถึงตอนเย็นวันนั้นหลังเลิกซ้อมจากชมรมที่เขากำลังจะเดินกลับบ้าน มันเป็นฤดูร้อนที่ในอีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะถึงวันแข่งขันระดับอินเตอร์ไฮ  
" แต่...นายก็วิ่งแข่งกับสายลมไม่ได้อีกแล้ว "หนุ่มผมยาววางแก้วเบียร์ลงกับโต๊ะ
"แต่ฉันก็ยังวิ่งไปกับเด็กๆได้..."คิโยโนบุหัวเราะเบาๆ ดวงตาแฝงความเศร้าเล็กๆ เขาพยายามจะลืมมันไป "แล้ว...ฉันเสียสิ่งหนึ่งไป ฉันก็ได้สิ่งหนึ่งมาไม่ใช่รึไง...เพื่อน" ชายหนุ่มว่าพลางหันไปยกแก้วให้กับอีกฝ่าย
" นายไม่ได้อยากเป็นครู นายอยากจะไปให้พ้นจากเงาของพ่อ..นายเคยบอกฉัน " เส้นผมสีดำที่ปกคลุมใบหน้าเรียวถูกเสยออกเบาๆ เมื่อหันมาสบตา" ฉันทำให้นายไปไม่พ้น "
"จุน...นี่นายเป็น คนคิดมากไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย....แต่พอคิดไปคิดมา...เราก็ไม่ได้เจอกันมาตั้งนานแล้วนี่นะ"ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพยายามจะทำให้มันเป็นเพียงแค่เรื่องเล่นๆ ยิ่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดย้ำถึงเรื่องในอดีตแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นห่วง ดูอีกฝ่ายจะมีท่าทางแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่ได้คุยกันเมื่อช่วงบ่าย
" ใช่....ตั้ง 12 ปีแล้ว " ท่าทางที่ไม่คิดมากอะไรนักของอาจารย์พละหนุ่มทำให้เจต้องยิ้มออกมา
"เอาน่า มันผ่านไปแล้ว และฉันก็ดีใจ ที่นายเป็นคนทำ...เพราะถ้าเป็นคนอื่นเขาคงไม่มาดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำฉันหรอกใช่ไหม" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเอียงคอมองหน้าของอีกฝ่ายเล็กน้อย
  " พูดเหมือน ฉันทำนายท้องอย่างงั้นล่ะ ฮะ ฮะ ฮะ " คำพูดที่อิโนะพยายามทำให้เขาสบายใจทำให้เขารู้สึกขำไม่น้อย
"อ้าว นี่ความประทับใจนะ มีคนหน้าตาอย่างกับยากุซ่ามานั่งทำอาหารพิสดารให้กินทุกวันเนี่ย"
" แต่ก็ถือว่าเป็นความดีของนายนะ ที่ทำให้ฉันกลายเป็นเชฟมือดี .. ดื่มให้นาย " เจเทเบียร์ใส่แก้วก่อนจะดื่มให้อีกฝ่าย
"ไม่หรอก...ฉันไม่ได้ทำอะไรตอบแทนนายเลยซักอย่าง" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลส่ายหน้าช้าๆก่อนจะยกแก้วขึ้นชนแก้วกับอีกฝ่าย
" แค่เป็นแรงบันดาลใจให้....นั่นก็มากพอแล้ว ขอบใจมาก "ดวงตารีสบตาอีกฝ่ายนิ่ง มันเป็นประกายอีกแบบ
"อ่ะ....เล่นพูดซะแบบนั้น คนฟังเขินเว้ย" คราวนี้คนหลบตาคงกลายเป็นคิโยโนบุแทน ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด "มา...ดื่มอีกดีกว่า....ให้สมกับที่ไม่ได้เจอกันมานาน"
"ดื่มมากไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ต้องทำงานอยู่นะ นายเองก็จะไปสอนเด็กทั้งๆที่เหม็นเหล้าหรือไง? "มือแกร่งนั้นจับมือที่กำลังจะรินเบียร์เอาไว้
"ข้าราชการครับ พรุ่งนี้วันเสาร์" ชายหนุ่มว่าพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "มอมเหล้าพ่อครัวคงสนุกดี..."
"มอมไปทำมิดีมิร้ายรึเปล่าล่ะ? "เจยักคิ้วให้อีกฝ่ายอย่างกวนๆ เหมือนกับเมื่อสิบกว่าปีก่อน
"อา...ถ้าฮิโตมิรู้คงโดนฟ้อนเล็บ...."ในตอนนั้นเองคำพูดที่อีกฝ่ายเคยพูดไว้เมื่อตอนกลางวันก็หวนกลับเข้ามาในห้วงความคิด 

...อ่ะ..หมายความว่ายังไงกันแน่นะ...

"ทำไม่เป็นหรอก มิดีน่ะ แต่มิร้ายน่ะทำเป็น เพราะเป็น คนดี..." เมื่อเจออีกฝ่ายเล่นคำเขาก็เล่นคำกลับบ้าง
"สมกับเป็นครูจริงๆเลยนายน่ะ " เจว่าก่อนจะหัวเระาออกมา"มุขมีการศึกษาเนี่ย ไม่รู้เรื่องแฮะ "
"อ้าว เป็นงั้นไป... เอาเถอะ ไม่อยากดื่มไม่ต้องก็ได้...ยังมีเวลาอีกเยอะนี่นา...อย่างน้อยก็ช่วงนี้ใช่ไหม"
" ใช่..อย่างน้อยก็ช่วงนี้ละ "เจชนแก้วกับอีกฝ่าย


..................................


12ปีก่อน....


โรงเรียนมัธยมฮิกาชิ เป็นโรงเรียนมัธยมประจำเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของชมรมกรีฑา ที่มักจะทำผลงานที่ดีมาโดยตลอด และในปีนี้ เป็นปีสุดท้ายและเป็นปีความหวังของโรงเรียนที่จะได้คว้าแชมป์การแข่งขันอินเตอร์ไฮอีกครั้งหนึ่งด้วยฝีเท้าของดาวเด่นของชมรม

....อิโนะอุเอะ คิโยโนบุ....สปริ้นเตอร์ระยะ 100เมตร ที่ทำความเร็วได้อย่างน่าตกใจจนมีชื่อเป็นที่รู้จักไปจนถึงในการแข่งขันระดับจังหวัด เด็กหนุ่มมักจะซ้อมจนถึงเย็นเสมอๆ ร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่วิ่งฝ่ากำแพงลมไปนั้นเป็นภาพที่คุ้นตาของใครหลายๆคน และดูจะเป็นภาพที่น่าชื่นชมในสายตาของเหล่าครูบาอาจารย์ไม่น้อยเลยทีเดียว

และเป็นธรรมดาของโรงเรียนมัธยม ต่อให้ดีแค่ไหนก็ต้องมีเด็กอีกประเภท ที่ครูมักจะเรียกว่า " เด็กเหลือขอ " เช่นกัน เด็กกลุ่มนี้ชอบนักที่จะขี่มอร์เตอร์ไซค์คันใหญ่ไปตามท้องถนน ไม่ว่าจะขี่มาโรงเรียน หรือจะแข่งขันกัน แลกเงินเดิมพันต่างๆ และหลายต่อหลายครั้งที่สร้าง “ชื่อเสีย”ให้กับโรงเรียนเช่นกัน
มอร์เตอร์ไซค์คันใหญ่สีน้ำเงินถูกจอดไว้ที่ประจำข้างโรงเรียนโดยที่ถูกดูแลจากร้านฝั่งตรงกันข้าม ด้วยบุญคุณหรือความแค้นใดก็ไม่ทราบ

....โอโนะเสะ จุน ......

เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่กัดเส้นผมเป็นสีทองเด่นสะดุดตา อย่างไม่กลัวใคร ดูจะขัดกับชุดนักเรียนของโรงเรียนฮิกาชิ เหลือเกิน
ใครกันจะไปเชื่อว่าสองความแตกต่างนี้จะเป็นเพื่อนร่วมชั้นเดียวกัน แต่ก็นั่นเองด้วยความแตกต่างนั้นที่ราวกับจะกั้น คนทั้งสองคนจึงไม่เคยเลยแม้แต่จะได้คุยกันตลอดระยะเวลา 3ปี ที่รวมชั้นกันมา 

....ก็อยากจะลองวิ่งผ่านลมไปด้วยเครื่องยนต์แบบนั้นเหมือนกัน....

บางครั้งความคิดแบบนี้ก็เกิดขึ้นในหัวของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเมื่อมองเห็น เพื่อนที่ใครๆต่างก็เรียกว่า "เจ" นั้นบิดมอเตอร์ไซค์คันโตออกไปจากร้านฝั่งตรงข้าม จุดมุ่งหมายนั้นหรือก็สุดแต่จะคาดเดา การใช้ชีวิตของเพื่อร่วมห้องที่ไม่เคยคุยกันคนนี้ ดูจะเป็นปริศนา สำหรับคนที่รู้ว่าตัวเองจะวิ่งไปยังจุดใด

....เส้นชัย...
 
" อิโนะอุเอะซัง " เสียงของผู้จัดการทีมสาวสวยดังขึ้นดึงความสนใจจากดวงตาสีน้ำตาลที่มองออกไปนอกรั้ว ยังบริเวณที่รถมอร์เตอร์ไซค์คันนั้นจอดอยู่
" น้ำกับผ้าค่ะ ... ทำเวลาได้ดีมากเลยค่ะ มีลุ้นอินเตอร์ไฮแน่ๆ "
"อืม ขอบใจนะ เอริกะจัง..." เด็กหนุ่มยิ้มให้กับอีกฝ่ายก่อนจะ หยิบผ้ามาซับเหงื่อ
" พวกแยงกี้ ... คนนั้น เพื่อร่วมชั้นของ อิโนะอุเอะซังนี่คะ? " เอริกะมองตามทีๆนักวิ่งหนุ่มมองอยู่เมื่อครู่
ตัวโต ผมสีทอง ขวางโลก .. น่ากลัวสำหรับเธอเป็นที่สุด
"อื้ม...แต่ไม่เคยคุยกันหรอก... ว่าแต่เวลาเมื่อกี้เท่าไหร่ " ว่าพลางก็ตัดบทโดยการก้มลงไปมองนาฬิกาจับเวลาที่อีกฝ่ายถืออยู่ในมือ
" 11.8275 ค่ะ "
"เหรอ...สงสัยหน้าร้อนนี้ คงต้องซ้อมกันหนักแน่เลย " เมื่อได้ยินเวลาที่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรนักเด็กหนุ่มก็ต้องส่ายหน้า เขาอยากไปให้ได้เร็วกว่านั้น ผ่านสายลมไปให้ได้เร็วกว่านั้น


………………………………………….


" แล้วเจอกันพร่งนี้นะคะ รุ่นพี่ "กลุ่มเด็กสาวแฟนคลับของคิโยโนบุตะโกนเรียกนักวิ่งหนุ่มเมื่อเขากำลังเดินออกไปนอกประตู
"ครับ" เสียงตอบกลับดูไม่สดใสเหมือนทุกวัน ด้วยภายในใจกำลังว้าวุ่นกับเรื่องของเวลาที่ทำได้และเวลาที่ใกล้เข้ามา 



...เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็จะถึงอินเตอร์ไฮแล้ว....
....ยังทำได้ไม่ดีเท่าไร ทั้งๆที่จะมีแมวมองมาดูมากมาย...
...แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าไร....



ช่วงขาเหนื่อยล้าเดินทอดน่องไปเรื่อย เช่นเดียวกับความคิดที่ล่องลอยไป สัญญาณไฟตรงหัวมุมถนนกำลังจะเปลี่ยนเป็นเขียวให้คนเดินข้าม และเมื่อเห็นว่าสัญญาณนั้นเปลี่ยนแล้วก็เดินข้ามทางม้าลายตรงไปยังทางกลับบ้านเหมือนทุกวัน


----- เอี๊ยด----------
-----------โครม!!!!!!!-----------




เสียงเบรกดังลั่นบริเวณตามด้วยเสียงวัตถุบางอย่างชนกัน
ภาพของหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ถูกชนล้มไปอีกทางกับมอเตอร์ไซค์สีน้ำเงินคันใหญ่ที่คนขับที่กลิ้งไถลไปอีกทาง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก และจบลงด้วยความตื่นตะลึง และเสียงกรีดร้องของเด็กนักเรียนๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้น

ความมึนงงคือสิ่งแรกที่คิดออกเมื่อเปิดตาอีกทีก็เจอกับท้องฟ้ายามเย็น ที่เมื่อครู่ยังเห็นอยู่ในอีกระนาบหนึ่ง


...เกิดอะไรขึ้น....

คนที่นอนอยู่คิด แต่ก็ได้แค่คิด เพราะ รู้สึกปวดร้าวไปหมด จะไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงจะเป็นที่ ขาซ้าย


...เกิดอะไรขึ้น???...
เขาพยายามจะขยับลุก

" อิโนะอุเอะ!! อยู่เฉยๆนะอย่าเพิ่งขยับ เรียกรถพยาบาล!! ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลที!!!! " อาจารย์ห้องพยาบาลรีบวิ่งมาดูนักวิ่งของโรงเรียนทันที ก่อนจะเรียกให้คนที่อยู่แถวนั้นเรียกรถพยาบาล
"อยู่เฉยๆจ๊ะ เธอไม่เป็นไรหรอก...ตั้งสตินะ มองหน้าครูเอาไว้!! "

ดูเหมือนทุกคนจะให้ความสนใจกับนักวิ่งหนุ่มมากว่าคนที่ขับรถชนซึ่งก็ดูจะเจ็บเช่นกันเพราะคนที่ถูกชนเป็นถึงความหวังของโรงเรียนในขณะที่อีกคน เป็นแค่ เนื้อร้ายของโรงเรียนที่ใครก็อยากตัดทิ้งทั้งนั้น

"ไม่เป็นไร....."ด้วยความมึนงง เด็กหนุ่มหันซ้ายเหลียวขวา ก่อนตาจะไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างที่หน้าขาของตัวเอง เลือดกองโต กับกระดูกสีขาวที่เคยเห็นเพียงแค่ในหนังทีวีน่ากลัว
"ผม.....ผม........" เนื้อตัวเริ่มสั่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ความเจ็บปวดแล่นลามสะท้านไปทั่วทั้งร่างกายยากเกินจะทานทน


...นั่นขาใคร...นั่นขาใคร....ไม่ใช่แน่ๆ...ไม่จริงใช่ไหม....


"ไม่............................" เสียงร้องลั่นนั่นเป็นเสียงของความเจ็บปวดที่ออกมาจากจิตใจ ดังสะท้อนเข้าไปถึงใจของใครหลายๆคนที่อยู่ในเหตุการณ์ รถพยาบาลเร่งมาในที่สุด เด็กหนุ่มถูกหามส่งโรงพยาบาลเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มอีกคนที่แพทย์ยืนยันให้ไปรับการตรวจพร้อมๆกัน


..................................to be con

P.S. ต้องขอโทษรีดเดอร์ทุกท่านด้วยค่ะ ถ้าเข้ามาก่อนหน้าการแก้ไข แล้วพบว่าข้อความขาดหายไป
เนื่องจากอินเตอร์เน็ตของ p.k.a ย่ำแย่มากค่ะคืนนี้...ของแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (29/08/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 29-08-2010 17:32:14
"กระดูกขาหัก...ดามเหล็กและพักให้กระดูกติดกัน....ซักสามเดือนนะครับ แล้วก็ต้องทำกายภาพด้วย" เสียงคุณหมอว่าพลางมองดูภาพเอ๊กเรย์ของกระดูกที่หักแทงเนื้อออกมาด้านนอก ก่อนจะมองลอดแว่นสายตามายังเด็กหนุ่มที่ดูเหม่อลอยที่เขาเป็นเจ้าของไข้
"แล้วถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เขามีเพื่อนคุยด้วยนะครับ คุณแม่" ซึ่งผู้เป็นแม่ก็ได้แต่พยักหน้า มือก็ลูบไหล่ลูกชายเบาๆ เด็กหนุ่มยังไม่ยอมใช้ไม้ค้ำเพื่อช่วยเดิน ความสดใสดูจะหายไปจากดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นี้

....หลุดลอยไปแล้ว....
....ความฝัน....


"คิโยจัง เดี๋ยวแม่มานะ" เสียงคุณแม่ว่าเมื่อเข็นรถพาลูกชายออกมาที่ทางเดินในโถงของโรงพยาบาล

...................


ภาพของเด็กหนุ่มที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่ที่ห้องโถงอยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มร่างใหญ่ผมทอง .. คนที่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นตลอดเวลา..

... ขอโทษ....

เขาอยากจะเดินเข้าไปบอกแบบนั้น แต่ก็ไม่กล้า ยิ่งดวงตาสีน้ำตาลที่มักจะมีความหวังเสมอกลับดูเลื่อนลอยแบนั้น มือที่เป็นแผลถลอกต้องจับแผลผ่านผ้าพันแผลนั่นเบาๆ .. ยิ่งเครียดเขาก็ยิ่งเจ็บที่แผล..ดวงตารีที่มักจะมองใครต่อใครด้วยสายตาแข็งกร้าวเหลือบเห็นบุรุษพยาบาลที่เข็นรถให้ผู้ป่วย จึงทำให้เกิดความคิดบางอย่าง เขาเดินไปขวางบุรุษพยาบาล พลางทำตาขวางใส่ทำเอาคนที่ถูกขวางต้องหน้าซีดเลยทีเดียว
 

" ขอโทษนะครับ .. จะไปที่ไหนครับ ผมช่วยเข็นให้ " เด็กหนุ่มผมทองพยายามทำเสียงนิ่งๆแบบผู้ใหญ่แล้วเดินไปด้านหลังของรถเข็นของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล มือแกร่งจับที่แฮนด์รถเข็นไว้ดันไปด้านหน้าเบาๆ
"อ่ะ...."เสียงดังขึ้นตกใจเล็กน้อย ก่อนที่คนที่นั่งอยู่จะพิงตัวลงมาเหมือนเดิม
"ดาดฟ้าได้ไหมครับ ผมอยากรับลม" โดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
" ได้ครับ "

ไม่มีบทสนทนาใดๆอีก จนกระทั่งเด็กหนุ่มผมทองได้พาคนที่เขาชนมาถึงดาดฟ้าของโรงพยาบาล

" ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนนะครับ  "บุรุษพยาบาลตัวปลอมเสนอขึ้นมา

...นายคงจะไม่..ฆ่าตัวตายหรอกนะ...


เด็กหนุ่มมองร่างบางของคนป่วยจากด้านหลังพลางคิดแบบนั้นด้วยความเป็นห่วง

"เย็นดีนะครับ" เด็กหนุ่มบนเก้าอี้รถเข็นกับเฝือกหนาที่ขาซ้าย เอ่ยขึ้นเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนปิดลงรับลมฤดูร้อนที่พัดผ่านมา เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนขยับไหวไปตามแรงลม

"โอโนเสะคุง...ใช่ไหม...."



" .............................. " ชื่อของเขาที่ถูกเรียกออกมาดูแปลกหู ในเมื่อพวกเขาไม่เคยคุยกันมาก่อน ทำไม.." รู้ด้วยรึไง? "หนุ่มผมทองพยายามทำเสียงกวนประสาทเสียงดังๆ แบบที่เขาชอบขู่ใครต่อใครนัก
"ห้องเดียวกันมาตั้งสามปี เสียงก็ต้องเคยได้ยินบ้างใช่ไหม" แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ตกใจอะไรนักกับเสียงดังของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มยังไม่ได้หันมามองหน้าบุรุษพยาบาลจำเแลงคนนี้
" หมอว่าไงล่ะ? "หนุ่มผมทองเข้าประเด็นที่เขาอยากรู้
"พักสามเดือน"เสียงนุ่มที่ดังขึ้นสั่นเล็กๆ มือที่จับที่พนักเก้าอี้กำแน่น มันเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็อดโกรธ และเสียดายโชคชะตาไม่ได้
"แล้ว..ไงอีก.. "อันธพาลประจำห้องพยายามทำเสียงเรียบ ทั้งๆที่ในใจของเขากำลังเบาโหวง
"ก็....ทำกายภาพ แล้วก็บอกให้หาเพื่อนคุยด้วย" เด็กหนุ่มหันกลับมามองหน้าของ ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายเมื่อต้องกับแสงแดด
"ทำตามที่บอกเมื่อกี้ได้ไหม"
"ช่วยทำกายภาพไม่เป็นโว้ย ... ไม่ใช่หมอ ทำได้ไงเล่า "ดวงตารีหันไปมองอีกทาง เขาไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายตรงๆเลยและถึงจะทำให้คิโยโนบุหมดอนาคต เขาก็ยังพูดเสียงดังใส่อยู่ดีนั่นแหละ
"เปล่า....ไม่ใช่" มือที่ยังมีรอยถลอกเช่นกันแตะบนท่อนแขนที่ยังมีผ้าพันแผลของอีกฝ่ายเบาๆ
"ที่บอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนน่ะ..." อันธพาลประจำห้อง ชักแขนตนเองออกอย่างตกใจพลางทำหน้าตาตื่นอย่างที่ใครก็ไม่เคยเห็น
" เฮ้ย..ฉันไม่ได้ทำนายหัวกระแทกนะโว้ย หมอตรวจรึยัง? "ช่วงขาเรียวขยับออกห่างรถเข็น

... บ้ารึเปล่าวะ? ..เพื่อนคุย?...ฉันเนี่ยนะ!?...


"ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร...ถือว่าฉันบ้าซะที่คิดว่านั่นคงจะดี เพราะคงไม่มีใครรู้หรอกว่าพวกเรารู้สึกยังไง นอกจากพวกเราเอง" ในทีแรกที่รู้ว่าเป็นอีกฝ่ายที่เข้ามาเข็นรถ ตอนแรกที่นึกตกใจเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะขู่ว่า ไม่ให้เอาเรื่องที่เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนชน แต่ตรงกันข้าม เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายบอกว่า อยากให้อยู่เป็นเพื่อนไหม ...นั่นก็อธิบายอะไรได้หลายอย่างแล้ว
"ฉันแค่..ไม่นึกว่า...นายอยากจะได้เพื่อนเลวๆแบบฉัน "คนก่อเรื่องถอนหายใจออกมาก่อนจะล้วงหาบุหรี่
"อย่างน้อยนายก็ยังมา จริงไหม" คิโยโนบุหันมายิ้มให้กับอีกฝ่าย " คนเลวในความคิดฉัน คือต้องมาขู่ว่า "อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะ" ว่าพลางก็ทำหน้าดุๆล้อเลียน
"ถ้านายทำหน้าอย่างกับจะฆ่าตัวตายแบบเมื่อกี้ ฉันทำแน่ล่ะ จะซ้อมให้น่วมเลยด้วย "หนุ่มผมทองทำหน้าโหดใส่อีกฝ่าย เมื่อนักวิ่งคนดังทำหน้าล้อเลียนเขา ก่อนจะต้องหันไปอีกทางเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น
"ตกลงนะ...จะอยู่เป็นเพื่อนใช่ไหม... หน้าร้อนนี่คงน่าเบื่อแย่เลย ก็ซ้อมวิ่งไม่ได้แล้วนี่...แล้วจะบอกให้ ฉันไม่อยากอยู่โรงพยาบาลนานนักหรอก"
" เออ .. ตามใจๆ ว่าแต่แม่นายไม่ตามหาแย่แล้วรึไง กลับได้แล้วๆ "หนุ่มผมทองตัดบทแล้วถือวิสาสะเข็นรถพาคนเจ็บกลับไปส่งที่เดิม
"ก็นายพามาเอง...ฉันผิดตรงไหนเนี่ย" อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ ก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงเข็นรถของเขากลับลงไปข้างล่าง


………………………………..


"คิโยโนบุ! ..." คุณแม่ปราดเข้ามาหาด้วยสีหน้าตื่นๆ เมื่อหันมาอีกทีก็ไม่เห็นรถเข็นของลูกชาย และถามหากับใครก็ไม่มีใครบอกให้เธอรู้เอาเสียเลย  "ไปไหนมาลูก แม่ตามหาแทบแย่" ว่าพลางก็จับเนื้อตัวลูกชาย ราวกับจะสำรวจ พอได้ข่าวว่าลูกชายคนโตของที่บ้านประสพอุบัติเหตุ หัวใจของเธอก็แทบจะแตกสลายแล้วอยู่ๆยังจะหายไปจากล็อบบี้ของโรงแรมแบบนี้อีก เธอเที่ยวตามหาตัวลูกชายอย่างกับคนบ้าเลยทีเดียว
"ผมไปบนดาดฟ้ามาครับ...แล้วนี่ก็เอ่อ...โอโนเสะคุง"ว่าพลางก็เอี้ยวตัวไปมองหน้าร่างของคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเล็กน้อย เด็กหนุ่มผมทองกำแฮนด์รถเข็นแน่น จนสั่น ก่อนจะโค้งให้คุณแม่ของคนเจ็บเสียต่ำ

....โอโนเสะ?.....

คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น หากว่าจำไม่ผิดชื่อของคนที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลและชื่อเจ้าของรถนั้นเป็นลูกชายของร้านอาหารญี่ปุ่นในเมือง ขึ้นชื่อว่าเกเรสำมะเลเทเมา มีชื่อเสียสะสมเป็นหางว่าว ทำไมถึงมายืนอยู่ข้างหลังลูกชายของเธอได้ ทั้งๆที่เป็นคนทำให้ลูกของเธอเจ็บขนาดนี้แท้ๆ!
"สวัสดีจ้ะ...อาการเป็นยังไงบ้างล่ะ " เสียงที่ถามไถ่อาการออกไปนั้น พยายามทำให้เป็นปรกติที่สุด ดวงตาที่มองอีกฝ่ายนั้น ไม่ต้องสังเกตสังกาอะไรมากก็เห็นได้ว่า เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
" ก็ไม่..เป็นอะไรมากครับ "ดวงตารีหันหน้าไปอีกทาง เขาอึดอัดและหงุดหงิดทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่  ไม่ว่าใครก็ตาม และยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ด้วยแล้ว...
"เรื่องค่ารักษาพยาบาล ถ้าทางบ้านเธอยังไม่มาล่ะก็ ทางนี้จะจัดการให้ก่อนก็ได้นะ...แล้วคราวหน้าคราวหลัง ก็ดูกฎจราจรให้มันดีๆก่อนที่จะหัดขับรถล่ะ...."
"คุณแม่ครับ...นี่โอโนเสะ จุน..เขาเป็นเพื่อน...ของผมนะครับ" แต่ยังไม่ทันที่คุณนายอิโนะอุเอะจะได้พูดอะไรต่อคนเจ็บที่เฝ้ามองปฏิกิริยาของแม่มาโดยตลอดก็พูดขัดพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า "และถ้าคุณแม่ไม่ว่าอะไร ผมขออนุญาตแม่ให้เขามานอนเฝ้าผมที่ห้องนะครับ..."  
"เอ่อ..."เมื่อเห็นว่าลูกชายยังคงยิ้มได้ ทั้งๆที่ตลอดเวลาทั้งวันหลังจากการผ่าตัดใส่เหล็กดามอีกฝ่ายแทบจะไม่หันมาตอบอะไรเธอเลยนั้น ก็ทำให้ต้องมองหน้าลูกชายสลับกับใบหน้าไม่ค่อยจะเป็นมิตรของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังอีกครั้งก่อนจะพยักหน้าลงอย่างช่วยไม่ได้
"จ้ะ...แม่ตามใจเราก็แล้วกัน ถ้าอย่างนั้น คืนนี้ ก็ต้องฝากคิโยโนบุด้วยนะ โอโนเสะ...คุง แม่จะได้กลับไปดูแลเด็กๆที่บ้าน " คุณนายบ้านอิโนะอุเอะฝากฝังลูกชายไว้กับ "คนร้าย" อย่างเสียมิได้
" ครับ..ไม่ต้องห่วงนะครับ .. " ท่าทางของคุณแม่ของอิโนะทำให้เจถอนหายใจออมาอย่างโล่งอก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคุณแม่" ผมจะดูแลเขาเอง "
"ถ้าอย่างนั้น ถ้ามีอะไรก็บอกแม่นะ...ส่วนคุณพ่อ ไปประชุม คงยังไม่ว่างรับโทรศัพท์" มือเรียวของแม่ลูบเบาๆบนเส้นผมสีน้ำตาลนุ่มที่เด็กหนุ่มขยับตัวหลบเล็กน้อย
"แม่...อายเขาน่า" ไม่มีคำพูดอื่นอีกจากหญิงวัยกลางคนก่อนที่จะเดินจากไป

…………………………………..


" ดู แม่นายรักนายดีจังแฮะ "เจเปรยออกมาลอยๆ
"อืม...ลูกชายคนโตนี่นะ แล้วนายล่ะ มีพี่น้องหรือเปล่า" เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"มีพี่สาวคนหนึ่ง แต่ไปเข้ามหาลัยที่เกียวโตแล้ว ดีไหมล่ะ เขาขยันก็มีอนาคตไป" เจว่าขณะที่เข็นรถไปยังห้องพักของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล โดยไม่ต้องถามด้วยซ้ำ
"แล้วนายล่ะ...อยากจะทำอะไร..." เมื่อรถเข็นหยุดลงที่ข้างเตียงเด็กหนุ่มพยายามยันตัวขึ้นลุกด้วยขาขวาข้างเดียวที่ยังเหลืออยู่ แต่ก็ทำไม่ได้มากนัก ก่อนจะนั่งลงกับรถอีกครั้งร่างบางของนักวิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

...แค่ลุกยังจะทำเองไม่ได้เลยแฮะ...

"แข่งรถ " เป็นคำตอบที่ไม่ได้คิดอะไรมากเลย
"เหรอ...นี่  จุน...ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม" ว่าพลางก็ยืนมือออกไป "ช่วยเป็นหลักให้หน่อยจะขึ้นเตียง"
"ค่อยๆนะ " เจมายืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายแล้วจับมือนั้นเอาไว้เป็นครั้งแรกที่เขาได้แตะตัวอีกฝ่ายก่อน ซึ่งปกติเขาไม่เคยช่วยใคร ถ้าจะแตะตัวล่ะก็คงจะเป็นเพราะกำลังจะต่อย หรือถูกต่อยในการทะเลาะวิวาทเท่านั้น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะจับมือที่เป็นหลักให้ยึดเอาไว้แน่นน้ำหนักลงที่ขาขวาและถ่ายน้ำหนักอีกส่วนไปที่อีกฝ่าย อย่างไม่ลังเล แต่กว่าจะขยับตัวขึ้นนั่งบนเตียงได้สำเร็จก็ทำเอาทุลักทุเลพอดู
"ขอบใจนะ" เด็กหนุ่มหันมาบอกอีกฝ่ายหลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อ ขึ้นมาบนเตียงได้เป็นที่เรียบร้อย
"นายคง จะลำบากแย่ โทษนะ "เด็กหนุ่มผมทองถอนหายใจออกมา" แต่..ถ้านายได้กินของดีๆบ้างล่ะก็ อาจจะวิ่งได้ก่อนสามเดือนก็ได้นะ "เขาหันมาสบตาอีกฝ่ายด้วยดวงตาที่เป็นประกายแน่นอน ที่บ้านของเขาทำร้านอาหารญี่ปุ่น ถึงจะไม่ใหญ่โตนัก ก็น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
"อืม...นั่นซิ่นะ ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ก็คิดว่าอาหารโรงพยาบาลนี่ห่วยมากเลย...แบบนี้จะหายไวๆได้ยังไงกัน เนอะ"ว่าพลางก็ยิ้มเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายพูดแสดงความเป็นห่วง
"เราอยู่ห้องเดียวกันมาตั้งสามปี นี่ก็เพิ่งจะได้คุยกันนี่นา...ใช่ไหม " ว่าพลางก็ตบมือลงตรงที่ว่างข้างๆเตียง "นั่งป่ะ ไม่งั้นเอาเก้าอี้มาก็ได้..."
" เฮ้ย ขาเจ็บไม่ต้องมาเชิญชวนเลย " หนุ่มผมทองโวยวายใส่กับท่าทางของอีกฝ่ายก่อนจะไปลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆเตียงแทน

..ตบข้างเตียงเนี่ยนะ?!...
 
"เชิญชวน?...ตรงไหน" แต่ดูท่าว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจเท่าไรนัก แต่เมื่อเห็นว่า เด็กหนุ่มผมทองลากเก้าอี้มานั่ง ก็เริ่มชวนคุยต่อ "แข่งรถเหรอ...นั่นซิ่นะ ท่าทางนายจะชอบรถมากเลยนี่นา"
"ไม่มีตังค์ จะเอาที่ไหนไปแข่งละ เก็บมาทั้งชีวิตก็ได้แค่เจ้าสีน้ำเงินคันเดียว ตอนนี้ก็ต้องซ่อมมันอีก แม่ง "
พอพูดถึงรถคันโปรดก็ต้องสบถออกมาอย่างลืมตัว
"ขอโทษนะที่ทำรถนายพัง"
" เฮ้ย! ไม่ได้หมายความว่างั้นโว้ย " เจโวยวายใส่อีกฝ่ายอีกแล้วแล้วอธิบาย" ที่จริง นายก็เจ็บเพราะฉันไม่ใช่รึไง ไอ้ที่เจ็บนะ คืออนาคตของนายนะโว้ย " ก่อนจะถอนหายใจออกมา"ส่วนไอ้ที่พังของฉัน มันก็แค่ความฝัน จะทำได้รึเปล่า ยังไม่รู้เลย "
"อนาคต...กับความฝัน...มันก็คงไม่ต่างอะไรกันหรอก เพราะตอนนี้ ก็ยังเป็นปัจจุบันอยู่ดี" เด็กหนุ่มยิ้มให้กับอีกฝ่าย พวกเขาต่างฝ่ายต่างก็สูญเสีย สำหรับเด็กวัยเดียวกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝันที่เล็ก เพียงแค่ในวันรุ่งขึ้น หรือฝันยาวไกลไปยัง 10 หรือ 20ปีข้างหน้า มันก็มีค่าทางใจเหมือนกัน
"ดูเหมือนคนที่โรงเรียนจะพูดว่า นายมีหวังถึงทีมชาติ ถ้าได้แข่งอินเตอร์ไฮครั้งนี้ "  เจสบตาอีกฝ่ายนิ่ง
"ก็...." มือข้างซ้ายดึงขากางเกงขึ้นเล็กน้อย เพื่อเกาเบาๆตรงเหนือเฝือกที่ใส่เอาไว้ "เขาก็ว่ากันแบบนั้น"
" แข่งเมื่อไหร่ .. อินเตอรไฮน่ะ? "
"อีก 3อาทิตย์" ว่าพลางก็ยิ้มแห้งๆ เขารู้ว่ายิ่งพูดถึงเรื่องนี้ ก็รังแต่จะทำให้ไม่สบายใจกันไปทั้งสองฝ่ายเปล่าๆ
" ................................ ไม่ใช่ 3เดือนเหรอ?... "หลังจากที่เงียบไปนาน เด็กหนุ่มต้นเหตุของเรื่องเลยถามขึ้นมา แต่ก็ไม่อยากได้คำตอบอะไรอีกเขาลุกขึ้นลากเก้าอี้ไปเก็บ

... 3อาทิตย์ ... อาจจะทันก็ได้...

แม้จะรู้ว่าเป็นความคิดบ้าๆ ลมๆแล้งๆของตัวเองแต่สิ่งที่ตัวของเด็กหนุ่มผมทองคนนี้จะทำได้ คิดขึ้นมาได้ ก็คงจะมีแค่นี้ คิดได้แบบนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ลากมานั่งข้างๆเตียงคนเจ็บทันที

" ฉัน จะกลับบ้าน ไปเอาเสื้อผ้า จะเอาอะไรรึเปล่า? "
"ขนม" คนป่วยที่นั่งอยู่บนเตียงยิ้ม
" เค้ก ขนมปัง ขนมญี่ปุ่น เซมเบ้? แบบไหน? "เจเดินไปที่ประตุห้อง
"เซมเบ้..." อีกฝ่ายตอบทันที
"อีกซัก 2...3ชั่วโมงกลับมา ดูทีวีไปก่อนละกัน "เจว่าแล้วออกจากห้องไปที่จริงกับแค่ไปเอาเสื้อผ้าและขนมให้อีกฝ่ายไม่ได้ใช้เวลาขนาดนั้นหรอก แต่เขากำลังจะกลับไปหาอาหารบำรุงกระดูกให้นักวิ่งต่างหากล่ะ


.........................................


เป็นนานกว่า2ชั่วโมงเสียอีก กว่าที่เด็กหนุ่มผมทองจะกลับมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใส่เสื้อผ้า ของใช้ ถุงชอปปิ้งที่ใส่ขนมเซมเบ้ และปิ่นโตอาหารอีกชุดใหญ่จาก"ร้านโอโนะเสะ"

"ช้าจัง" เสียงคนป่วยบ่นเบาๆ ในมือกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปมา ขาข้างซ้ายถูกวางพาดอยู่กับคานรับน้ำหนัก ระหว่างที่เด็กหนุ่มผมทองไม่อยู่เขาเจอคุณพี่พยาบาลมา เช็ดตัว ดูแลให้เป็นที่เรียบร้อย อาหารโรงพยาบาลถูกวางอยู่บนถาดและยังไม่ได้ถูกแตะต้อง
"ไปหาของอร่อยมาหรอก " เจวางปิ่นโตอาหารลงบนโต๊ะก่อนจะเอากระเป๋าเสือ้ผ้าไปไว้อีกทาง แล้วจัดแจงแกะปิ่นโตให้อีกฝ่าย
"ต้มซุปกว่าจะไขกระดูกมันจะออกมาก็ตั้ง2ชั่วโมงแล้ว ไหนจะอย่างอื่นอีก ใช้ของเปลืองแม่ก็บ่น "เสียงห้าวบ่นเป็นชุด แล้วยื่นช้อนให้อีกฝ่าย " อะ กิน "
"หะ...ไขกระดูก "แค่ได้ยินชื่อก็ทำหน้าเหยเกแล้ว ยิ่งมาเจออีกฝ่ายตักซุปที่จะว่าใสก็ไม่ใช่ขุ่นก็ไม่เชิงมาจ่อที่ปากก็ทำเอา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนต้องมองหน้าอีกฝ่ายอย่างลังเล
"กินเข้าไปก็ไม่ตายหรอกน่า นึกตอนที่เห็นกระดูกขาวๆของตัวเองแล้วก็กินเข้าไปเยอะๆ โว้ย จะได้วิ่งได้เร็วๆ"  มือแกร่งยัดช้อนน้ำซุปใส่ปากคนเจ็บโดยไม่ให้ตั้งตัว
"โอ้ย...ร้อน" แต่อีกฝ่ายกลับร้องออกมาไม่เพียงแค่ช้อนที่กระทบเข้ากับฟันอย่างจังเท่านั้น น้ำซุปยังลวกปากอีกด้วย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่อีกฝ่ายให้เขาจินตนาการถึงกระดูกของตัวเองเลย
"อ้าว ร้อนเรอะ โทษๆ" เจรีบวางช้อนแล้วหากระดาษชำระมาเช็ดปาก เช็ดหน้าให้อีกฝ่าย
"อ่ะ...ไม่ต้องเช็ดเองได้" เพราะดูว่าอีกฝ่ายยิ่งเช็ดจะทำเขายิ่งเจ็บตัวกว่าเดิมมากกว่า เด็กหนุ่มฉวยมืออีกฝ่ายเอาไว้ให้หยุด อีกครั้งที่ถูกจับมือเอาไว้ทำให้เจหยุดมือตัวเองทันที ดวงตารีสบตาอีกฝ่ายนิ่งก่อนจะเสมองไปอีกทาง
"เออ ลืมไปว่านายไม่ได้เป็นอัมพาต กินเองได้เช็ดเองได้ใช่ปะ? .. ไงก็กินให้หมดละกัน "เขาผละออกจากคนเจ็บไปจัดที่นอนสำหรับตัวเอง
"ก็ใช่น่ะซิ่...นายนี่เป็นห่วงเกินไปหรือเปล่า" เห็นท่าทางของอีกฝ่ายแบบนั้นมันช่างตรงกันข้ามเหลือเกินกับภาพที่เคยเห็นที่โรงเรียน เจ เด็กหนุ่มผมทองตาขวางๆทีใครเห็นต่างก็ต้องเดินหนี
"เออ ลืมไป นึกว่าจะเป็นจะตาย  " เจว่าก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนที่เขาจัดไว้ เปิดกระเป๋าแล้วยัดเสื้อผ้าใส่ตู้ ผ้าเช็ดตัว พาดไหล่กว้าง แล้วบ่นพลางเดินเข้าห้องน้ำไป
"อาบน้ำล่ะ แม่งเหม็นซุปจะตาย แม่ยังใช้ให้ต้มคนเดียวอีก" คิโยโนบุมองถ้วยซุปที่อยู่ในมือ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงท้องไปเล็กน้อย จะว่าไปเขาก็หิว แต่กับข้าวโรงพยาบาลนี่ก็แทบจะกลืนไม่ลงจริงๆ...ถึงแม้ว่าหน้าตาจะดูไม่น่ากินเท่าไรแต่น้ำซุปที่อีกฝ่ายต้มมาให้นั้นก็หอมไม่ใช่เล่นเลย

"ทำคนเดียวเหรอ"  เด็กหนุ่มถามก่อนจะพ่นลมเบาๆ พอไล่อุณหภูมิออกไป ก่อนจะดื่มรับน้ำซุปหอมหวานลงท้องไป ...ความหวานของกระดูกทำให้รู้สึกดีไม่น้อย เด็กหนุ่มหันไปหาเป้าหมายต่อไปที่อยู่ในปิ่นโต อาหารญี่ปุ่นหน้าตาห้าวๆ พอๆกับคนทำนอนอวดโฉม...อยู่ในกล่อง มีทั้งไข่หวานที่ทอดรวมกับถั่วมาเมะสีเขียวสดใส...ติดจะเกรียมไปนิดแต่ก็ดูน่าทานไม่น้อย กับปลาทอดกรอบ และสลัดผักที่หั่นแครอทเสียชิ้นโต แม้จะหน้าตาน่ากลัว แต่รสชาตโดยรวมก็จัดได้ว่าอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว เด็กหนุ่มนั่งคีบเข้าปากไปเรื่อยเผลอแผล็บก็ใกล้จะหมดเสียแล้ว

....อร่อยจัง...

เสียงบิดลูกบิดประตูห้องน้ำ ตามมาด้วยเด็ฏหนุ่มผมทองที่ร่างกายดูจะสูงใหญ่ราวกับเด็กมหาวิทยาลัย สวมกางเกงนอนออกมาตัวเดียว มืออีกข้างก็เช็ดผมสีทองของตนไปด้วย

"พอกินได้ไหม? บอกให้แม่ทำให้ก็ไม่ยอมทำ บอกว่า 'ชนเขาก็ทำให้เขากินเอง' ดีแค่ไหนแล้วที่บ้านนายไม่มาเรียกร้องค่ารักษา บ่นเข้าไปๆ เลยทำเอาแม่ง ตัดรำคาญ "เขาบ่นๆ แล้วมายืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายน้ำอุ่นๆกระเด็นใส่ใบหน้าของนักวิ่งหนุ่มเล็กน้อย คนเจ็บไม่ยอมตอบ แต่ยื่นปิ่นโตที่เหลือแต่มะเขือเทศลุกเล็กเอาไว้ให้อีกฝ่ายดูแทนในปากยังเคี้ยวตุ้ยๆก่อนจะพยักหน้ารัวๆ แล้วกลืนลงคอ แต่ก็ดูจะคำใหญ่ไปเสียหน่อย มือเรียวยกขึ้นทุบอก

"อึ่ก....."

"เฮ้ย กินหมดเลย? อ้าว แล้วฉันจะเอาไรกินวะ ไอ้ที่ทำน่ะ มันคอมโบ เซ็ทเลยนะโว้ยยยยยย  " เจโวยวายใส่อีกฝ่าย ก่อนจะต้องรีบเทน้ำใส่แก้วให้ เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลรับแก้วน้ำมาดื่มลงไปอึกใหญ่
"เฮ้อ....นึกว่าจะตายซะแล้ว" คิโยโนบุหันไปยิ้มเพล่ "อ้าว นึกว่าทำมาให้คนเดียวเสียอีก โทษที ปรกติก็กินแบบนี้อ่ะ"
" ช่างเหอะ หาบะหมี่กินก็ได้ เดี๋ยวมาละกัน เอาอะไรดึกๆไหม? "เจเอาเสือยืดมาใส่แล้วถาม
"เอาเซมเบ้..."ยังไม่วายที่จะทวงของโปรด
"ซื้อมาให้แล้วไง หัวเตียง ขยับแข้งขามั่งจะได้วิ่งได้เร็วๆ "เจย้ำประโยคที่กำลังจะเป็นประโยคติดปากของเขาแล้วเดินออกจากห้องไป
"ก็มันพาดอยู่อย่างนี้จะขยับได้ไงเล่า"เสียงคนป่วยตะโกนไล่หลังไม่นานเท่าไหร่เพราะตอนนี้เจกลับมาพร้อมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จราดน้ำร้อนและบะหมี่ถ้วยอีกเป็นโหล เบียร์ และเครื่องดื่มอื่นๆ เขาวางบะหมี่ลงกับโต๊ะ แล้วไปเอาถุงเซมเบ้มายื่นให้อีกฝ่าย
"ขอบใจ"อิโนะยิ้มให้กับเจ ก่อนจะเปิดถุงเซมเบ้ ขึ้นมาเคี้ยวกร้วมๆ "นี่ จุน..."
"อะไร? " เสียงถามห้วนๆก่อนจะซดบะหมี่ของตนเองอย่างหิวโหย
"มาเฝ้าแบบนี้ ที่แกงค์นายเขาไม่ถามหาเอาเหรอ" คำถามนั้นทำเอาเจต้องสำลักบะหมี่
" แค่กๆๆๆ .. อะไรนะ? แกงค์??? "
"อ้าว...ก็นายไมได้มีแกงค์ซิ่งอยู่แถวไหนหรอกเหรอ เห็นใครๆเขาก็ว่ากันอย่างนั้น" คนป่วยเลิกคิ้วก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกล่องกระดาษทิชชู่โยนให้กับอีกฝ่าย
" ไม่มีโว้ย ไม่มีแกงค์อะไรทั้งนั้นล่ะ ก็แค่..ไปแข่งรถทุกวันเสาร์ กินเงินพนันนิดหน่อย แค่นั้นล่ะ "เจเอาทิชชู่เช็ดปากตัวเอง
"เหรอ...อืม..."คิโยโนบุพยักหน้าเข้าใจพลางนึกขำอยู่ในใจที่อยู่ห้องเดียวกันมาก็ตั้งนานแต่ไม่เคยคุย หรือ รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอีกฝ่ายเลยนอกจากข่าวลือที่ลอยเข้าหูอยู่เนืองๆ เด็กหนุ่มขยับ เอาถุงเซมเบ้ไปวางอีกทาง "ง่วงแล้วล่ะ....อ่ะ จุน ช่วยอะไรหน่อยซิ่...." คนป่วยที่เอนเตียงลงไปนอนจนสุดเรียก
"เอาอะไร? จะนอนแล้วเหรอ?"
"อืม...มันคันอ่ะ...ตรงเหนือเฝือกเกาไม่ถึงเกาให้หน่อย" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเเล็กน้อย เพราะคันจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่เพราะขาที่แขวนอยู่กับราวทำให้ขยับได้ไม่ถนัดนัก
"งั้นเจ็บก็บอก " เจว่าแล้วรูดขากางเกงของอีกฝ่ายขึ้นจนถึงต้นขาแล้วไล้ปลายนิ้วยังบริเวณเหนือเฝือก "ตรงไหน? "
"อืม...ซ้ายๆ"เสียงคนที่นอนอยู่กำกับ"ตรงข้อพับด้านใน...ลงมาอีกๆ"เจเกาตรงที่อีกฝ่ายบอกเบาๆ

"ดีจังเลย...."


เสียงคนป่วยครางออกมาเบาๆ เขานึกคันตรงนั้นมานานแล้วแต่จะให้พยาบาลมาเกาให้ก็กระไรอยู่ เสียงครางกับบริเวณที่มือเขาเกาอยู่ทำให้เจต้องมองหน้าคนที่กำลังมีความสุข สลับกับๆที่เขาเกาอยู่
"อย่าร้องแบบนั้นสิโว้ย "เจโวยวายใส่ ใบหน้าเรียวเริ่มเป็นสีแดง"แล้วพยาบาลไม่ใส่กางเกงในให้รึไงหะ? "
"ทำไมอ่ะก็มันดีนี่นา" เสียงอีกฝ่ายถามกลับยังไม่ยอมลืมตามามองหน้า "แล้วฉันก็เป็นคนป่วยนี่...มองเห็นรึไง"
"เห็นแวบๆ " เจบอกแล้วปล่อยมือทันที ก่อนจะห่มผ้าให้อีกฝ่าย " อะ นอนๆๆๆ "
"อย่าเอาไปเปรียบเทียบล่ะ " เสียงคิโยโนบุหัวเราะคิก ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเริ่มเป็นประกายซนเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป
"เออ แค่เกาให้ แค่นี้อย่ามีอารมณ์ล่ะ "เจว่าก่อนจะไปล้างมือ แปรงฟันให้เรียบร้อยแล้วกลับมานอนเหมือนกัน
"ก็ถ้ามีแล้วจะบอก....นายจะได้กลับไปนอนบ้านก่อน" เสียงคิโยโนบุแหย่  แต่ไม่มีคำพูดใดตอบกลับมาแล้ว เพราะในวันนี้หนุ่มผมทองเองก็เหนื่อยมากพอดูสำหรับความเครียดที่ต้องเผชิญมาทั้งวันแล้ว


#####################to be con...
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP 2 posts 30/08/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 30-08-2010 20:48:45


ภายในบ้าน หลังแบบญี่ปุ่นหลังใหญ่ของบ้านอิชิดะ ... ชายหนุ่ม ผู้ที่ได้ชื่อว่ากำลังจะเป็นเจ้าบ่าวนั้น ยืนมอง ผลงานของว่าที่พ่อตาอย่างใช้ความคิด จานถูกปั้นออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เส้นสายที่เกิดขึ้นจากการผสมเนื้อดิน สีอ่อนและเข้มนั้น ดูผสมผสานกลมกลืนกันเป็นอย่างดี ชายหนุ่มตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาก่อนจะเดินไปหา ชาย สูงวัยที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น

"คุณพ่อครับ"

" มีอะไรรึ คิโยโนบุ " ชายวัยกว่าหกสิบในชุดพื้นเมืองหันกลับมาทางว่าที่ลูกเขย

"คือ ผมว่าจะขอยืมจานใบนี้...ไปให้พ่อครัว ดูซักหน่อยน่ะครับ ...มันคงเป็นแรงบันดาลใจที่ดีได้ กับอาหารเมนูแรก "ชายหนุ่มพูดพลางยิ้ม

"พ่อครัว? "ว่าที่พ่อตามทวนคำ ก่อนจะถาม " รู้จักพ่อครัวที่ว่าด้วยรึ? "

"อ่ะครับ...บังเอิญว่าเป็นเพื่อนเก่าสมัยมัธยม ตอนก่อนที่ผมจะย้ายมาอยู่เมืองนี้น่ะครับ"

"พ่อครัวโรงแรมรึ? "ชายชราขยายความตามที่เขาเข้าใจ

"ครับผม คือ พอดีบังเอิญว่าทางคนจัดงานเขาก็พาไปแนะนำพอดี ก็เลย เป็นเรื่อง บังเอิญจริงๆเลยน่ะครับ" ชายหนุ่มหัวเราะยกมือขึ้นแตะหลังศรีษะเบาๆ

"แล้วจะเอาจานนั่นไปทำไมรึ? "พ่อของฮิโตมิดูจะไม่สนใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังถามถึงเหตุผลที่จะยืมจานราคาแพงไปอยู่ดี

"เอ่อ...คือ ผมว่าจะขอยืมจานใบนี้...ไปให้เขา ดูซักหน่อยน่ะครับ ...มันคงเป็นแรงบันดาลใจที่ดีได้ กับอาหารเมนูแรก...น่ะครับ "ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเจอถามจุดประสงค์ซ้ำ 

"จะทำอาหารใส่จานของทาง อิชิดะงั้นรึ? ไม่เลวนิ "ว่าที่พ่อตา ดูจะสนับสนุนกับความคิดนั้น " เลือกไปได้เลย ถ้าจะใช้แบบไหน บอกกับพ่อบ้านเถอะนะ ให้เขาเตรียมไว้ให้ "

"ขอบคุณครับ คุณพ่อ...แต่วันนี้ คงขอไปใบเดียวก่อน ถ้ายังไงแล้ว ...คงจะต้องมาขอรบกวนคุณพ่ออีก " ชายหนุ่มว่า ยังเกรงใจว่าที่พ่อตาอยู่ไม่หาย

"ถ้างานออกมาดี ก็ไม่มีปัญหาหรอก อย่าเกรงใจนักเลย "ว่าที่พ่อตาโบกมือเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร เขาก็เอ็นดู ว่าที่ลูกเขยอยู่ไม่น้อย

"ขอบคุณมากครับ" ชายหนุ่มว่าพลางโค้งให้กับอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม " ถ้าอย่างนั้น ผมคงต้องขออนุญาตคุณพ่อเอาผลงานชิ้นนี้ ของคุณพ่อไปที่โรงแรม บ่ายนี้นะครับ... นี่อาจจะต้องเดินทาง แล้ว ถ้ายังไง ผมคงจะต้องขอตัวก่อน”

หัวหน้าตระกูลอิชิดะพยักหน้าให้อีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ


.......................................



กว่าจะเดินทางไปถึงโรงแรมก็ใช้เวลาไปพักใหญ่ ชายหนุ่มเดินถือกล่องใส่จานใบใหญ่ เดินเข้าไปนั่งในห้องอาหารญี่ปุ่นตามที่ได้นัดไว้

"ขอโทษนะครับ...ผมมาตามที่นัดไว้กับเชฟโอโนเสะน่ะครับ"

"มารอนานรึยัง? " เสียงทุ้มของเชฟหนุ่มผมยาวถามหนุ่มผมสีน้ำตาลหลังจากที่มีคนมาแจ้งว่าคนชื่ออิโนะอุเอะมาขอพบตามที่นัดไว้ ซึ่งงานแต่งงานของคนๆนี้ จะเป็นงานที่เขาได้โชว์ฝีมือเต็มตัวครั้งแรกเลยทีเดียว

"พอดี...ได้โจทย์มาให้พ่อครัวคนเก่งทำแล้ว...."ว่าพลางก็ยกเอา จานออกมาจากกล่อง  "อยากให้ เอา จานใบนี้ เป็นอิมเมจน่ะ...สำหรับจานแรก " ชายหนุ่มว่าพลางวางจานใบสวยลงบนโต๊ะ

"โจทย์? ทำอย่างกับแข่งเกมส์โชว์ " เชฟหนุ่มหัวเราะกับความคิดของอีกฝ่าย แต่ก็รับเอาจานมาดู ลวดลายงดงามแบบกระเบื้องเคลือบญี่ปุ่นแท้ๆ ราคานั้น ไม่ต้องพูดถึงเลยทีเดียว และเมื่อพลิกก้นจานดูก็ต้องพบกับตัวอักษรที่เป็นโลโก้ของตระกูล ว่าที่เจ้าสาว "อิชิดะ"

"อื้อ เอาใจว่าที่พ่อตานี่เอง~ "


"ก็...ไม่เชิงหรอก มันก็เป็นไอเดียด้วยล่ะว่า อยากจะให้ จานที่ได้แต่วางโชว์นี่ได้ทำหน้าที่ของมันบ้าง...และคนที่จะใช้งานมันได้ดีที่สุด ฉันคิดว่า ก็คงจะมีแต่นายเท่านั้นที่ฉันวางใจ" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง
 
"นอกจากจานใบนี้แล้ว แก้วน้ำ ชาม และอย่างอื่นๆ ก็อยากให้เอามาด้วย สำหรับจานใบนี้ .... เอาไว้ทำ จัดออกเดิร์ฟ ก็แล้วกัน"เจพลิกจานนั้นไปมาอย่างใช้ความคิด

"ส่วนธีมสำหรับจานแรก..."ความประทับใจแรก "น่าจะเป็นคำนี้นะนายว่าไหม" อาจารย์หนุ่มเท้าคางเล็กน้อยพลางยิ้ม

"นายกับอิชิดะซัง เจอกันได้ยังไง "หนุ่มผมทองหยิบสมุดโน๊ตเก่าๆ ขึ้นมาจดไอเดีย หากแต่ถ้าลองมองดีๆ นั่นไม่ใช่การจดแต่เป็นการวาดรูปต่างหาก

"ก็...ดูตัว ความประทับใจแรก ก็คงจะเป็น...ตอนที่เขาพูดเรื่องของ เด็กในวันที่เจอกันครั้งแรกมั้ง แทบสำลักน้ำลายเลยล่ะ แต่ก็...นั่นก็แปลว่าเขาเป็นคนอ่อนโยนนะ ฉันว่านั่นมันเป็นเรื่องทีดีทีเดียว หากจะได้คนที่อ่อนโยน มากๆ มาอยู่ด้วยกัน และสร้างครอบครัวไปด้วยกันน่ะ " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลตอบ

 มือที่จับดินสอชะงักเล็กน้อยก่อนจะลากกเส้นต่อไป

"แปลว่า เขาอยากจะมีลูกกับนาย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยงั้นเหรอ? " เสียงนั้นดูเรียบเฉยต่างจากปกติ

"ผู้หญิง..เขาก็คงจะคิดเรื่องแบบนี้กันมั้ง อยากเป็นแม่ อะไรแบบนั้น อาจจะไม่ใช่ว่า อยากจะมีกับฉันหรอก คิดว่าพูดออกมาแบบนั้นคงเป็นเพราะ เป็นเรื่องแบบ ผู้หญิงนั่นล่ะมั้ง" ว่าที่เจ้าบ่าวดูท่าจะสับสน กับคำพูดของตัวเอง จำได้ไม่ชัดเหมือนกันว่า ตอนแรกที่ได้ยินคำนั้นของฮิโตมิเขารู้สึกยังไง จำได้เพียงแค่ว่า คำนั้นมัน ดูจะ ฝังติดใจเขาไปเลย
 
"นายก็เลย..อยากจะเป็นพ่อให้ลูกของเธอ? "รูปร่างของออเดิร์ฟแบบของโต๊ะจีนที่ถูกจัดแบบญี่ปุ่นเริ่มเด่นชัดขึ้นมาบนสมุดจนของเชฟหนุ่ม

"จุน...เป็นอะไรรึเปล่า " คำถามที่อีกฝ่ายตั้งนั้นมันทำให้รู้สึกแปลกๆ

"เปล่า นี่.. เป็นไง? "เชฟหนุ่มปฏิเสธก่อนจะยื่นร่างในสมุดโน๊ตให้อีกฝ่ายดูภาพ"ออเดิร์ฟของทอดแบบจีน จัดแบบญี่ปุ่นในจาน กระเบื้องเคลือบ อิชิดะ "

"อืม...น่าจะดีนะ อันนี้จะทำจากอะไร" ชายหนุ่มว่าพลางชี้ตรงอะไรบางอย่างขยุกขยุยที่อีกฝ่ายเขียน "นายนี่ วาดรูปไม่ได้เรื่องไม่เปลี่ยนเลยนะ "

"รูปร่างไม่ดี แต่ก็กินจนหมดใช่ไหมล่ะ? กินจุขนาดคนสองคนด้วย "เจล้อเรื่องในอดีตของอีกฝ่าย ตอนที่เขาดูแลคนไม่สบาย ก็ต้องทำอาหารสำหรับสามคน มาทุกวัน

"เดี๋ยวนี้กินเป็น คนปรกติแล้วน่า..."คิโยโนบุหัวเราะแก้เขิน จะว่าไปเมื่อก่อนเขาก็กินเกินไปหน่อยจริงๆนั่นล่ะ

"ออ... เหรอ? "การเปลี่ยนแปลงของคนตรงหน้าทำให้เชฟหนุ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก ทุกครั้งที่อิโนะบอกว่า เขาเปลี่ยนไปจากที่เจรู้จัก

"แล้วก็ รักษาหุ่นด้วย ...ฟิต แอนด์ เฟิร์ม...กลัวนักเรียนไม่กรี้ด" ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความแบบนั้นจริงๆหรอก เพราะเขาแค่ไม่อยากเพิ่มภาระให้กับขา ที่นานๆครั้งจะมีอาการเจ็บเกิดขึ้นอีกก็เท่านั้น

"ถึงว่า ไม่ได้ตัวโตขึ้นเท่าไหร่เลย "

"ก็นะ จะให้สูงไปกว่านี้ก็คงจะไม่ได้แล้วล่ะ...หยุดโตแล้ว " ว่าที่เจ้าบ่าวว่าพลางยิ้ม


 ดวงตารีมองอีกฝ่าย ใช่ นักกีฬา ที่ควรจะตัวโตกว่านี้ ราวกับจะหยุดเวลาไว้ที่เดิม เมื่อ 12 ปีก่อน ต่างจากเขาที่เปลี่ยนไปมากเลยดีเดียว

"อิจฉาก็แต่นายล่ะน้า สูงเอาสูงเอามาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหัวเราะออกมาเบาๆ


"พูดแบบนี้ เหมือนฉันใช้ส่วนสูงไม่คุ้มค่า "เจหัวเราะออกมาเบาๆ

"เปล่า ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย " คิโยโนบุ หัวเราะเบาๆ "แต่งานนี้อยากให้ใช้ ให้คุ้มค่านะ"ว่าพลางก็มองสมุดโน๊ตของอีกฝ่าย เล็กน้อยก่อนจะสบตาอีกฝ่าย "ได้เจอกันในโอกาสนี้ทั้งที"

"ต้องเต็มที่อยู่แล้ว .. ฉันอยากเป็นเชฟใหญ่ซักที "เจสบตาอีกฝ่ายอย่างมั่นใจ และมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ

"ฉันดีใจที่นาย...หาสิ่งที่ตัวเองต้องการ และ พยายามมาได้จนถึงจุดนี้..."อิโนะพูดออกไปตามตรง เพราะก่อนหน้านี้คิโยโนบุ เคยเห็นแต่เด็กหนุ่มที่ซิ่งไปกับมอเตอร์ไซค์คันใหญ่...อิสระ เสรีมากเหรือเกิน...

" นั่นเพราะนาย เพราะได้ดูแลนายในตอนนั้น ฉันถึงได้มุ่งมั่นมาทางนี้  "ดวงตารีสบตาของว่าที่เจ้าบ่าวฝ่ายนิ่ง

" ขอบใจ " สายตาที่มองมาทำให้คิโยโนบุต้องเสมองลงมาที่แก้วน้ำที่ตั้งอยู่ตรงหน้าแทน  "รู้สึกว่า ช่วงนี้จะมองแบบนี้บ่อยนะ... สายตานาย...อ่อนโยนขึ้นนะ"

" หืม? อ่อนโยน? " คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างแปลกใจกับคำพูดอีกฝ่าย "อยู่กับอาหาร ก็คงจะดีขึ้นบ้างล่ะ ไม่งั้น ใครจะกินลง "เจหัวเราะออกมาเบาๆ

"เห็น แต่ทำตาขวางๆ ตลอดเลย...จะบอกให้นะว่าเพิ่งเคยเห็นนายยิ้มก็ ตอนที่ได้รู้จักกันนั่นล่ะ ..." ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ "ว่าแต่วันนี้จะได้ ลองชิม ไหม...ที่นาย ออกแบบไว้เนี่ย " ว่าพลางก็ชี้ไปที่รูปภาพขยุกขยุยบนหน้ากระดาษ

" ยืมจานก็แล้วกัน " พูดจบเขาก็ฉวยจานจากมืออีกฝ่ายแล้วลุกขึ้น " อีกครึ่งชั่วโมงจะเอามาให้ดู "

"ระหว่างนี้ให้สั่งอะไรมากินดีล่ะ...แนะนำหน่อยซิ่ ร้านนี้น่ะ" ว่าพลางก็ฉวยเอาเมนูมาดู

" อร่อยทุกอย่าง "คำตอบสั่นๆง่ายๆ ก่อนจะยิ้มอย่างยียวนแล้วออกจากห้องนั้นไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารว่างตามที่ได้ออกแบบไว้ ชายหนุ่มที่นั่งรอก็สั่งอาหารทานเล่นมาสองอย่าง พร้อมกับ แก้วเบียร์ เล็กๆ สำหรับ ยามบ่ายสบายๆ 


………………………………..



"ลองดู "

เสียงประตูเลื่อนดังขึ้น ตามาด้วยจานกระเบื้องเคลือบที่ใส่ของทอดแบบจีนไว้ตรงกลาง ซึ่งมีการจัดผักตกแต่งแบบตะวันตก ส่วนน้ำจิ้มบ๊วยเปรี้ยวหวานที่เพิ่มเติมสีจากบีทรูทสีแดง ถูกราดเป็นลวดลายใกล้ๆกับขอบจาน

"น่าอร่อยจัง..." ชายหนุ่มยิ้ม ดวงตาเป็นประกายอย่างถูกใจ

"การจัดจาน แบบนี้ โอเครึเปล่า? "มือแกร่งเลื่อนจานไปตรงหน้าอีกฝ่าย

"อืม... เดี๋ยวนะ " ว่าพลางก็ดึงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปในมุมต่างๆ

 "เอาไปเสนอเจ้าของจาน ดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่ถูกใจค่อยแก้รูปแบบอีกที"

"อืม เดี๋ยวจะเอาไปถามฮิโตมิดูก็แล้วกัน " ชายหนุ่มยิ้ม อย่างนึกสนุก อีกฝ่ายทำอาหารออกมาได้ ดีขนาดนี้ ทุกคนคงจะพอใจเป็นแน่ แต่ก็แน่นอน ด่านแรก ก็คงจะต้องเป็น ฮิโตมิที่จะตัดสินให้ผ่านหรือไม่ผ่าน เจ้าสาวมักจะ ละเอียดอ่อน ในหลายๆเรื่องเลยทีเดียว

"กินด้วยล่ะ? หรือจะขอสองอีก? "เขาแหย่อีกฝ่าย พลางหัวเระาออกมา เรื่องกินจุนี่ดูจะเป็นเรื่องที่แหย่อิโนะได้เสมอ

"ก็นี่ไง กำลังจะชิม " ชายหนุ่มว่าพลางใช้ตะเกียบคียอาหารที่อีกฝ่ายบรรจงทำมาบนภาชนะสวย เนื้อของทอดกรอบอร่อย และรู้สึกได้ถึงความหวานของอาหารทะเลที่เป็นส่วนประกอบ เข้ากันได้ดีกับรสชาตเปรี้ยวหวาน ของน้ำจิ้มได้อย่างดี ทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด เป้นอาหารถอดที่เหมาะกับเดือนมิถุนายน อย่างมาก

"โอเคไหม? รสชาติ "

"อื้ม อร่อย อร่อยมากเลย สุดยอด" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกาย

"เอาอีกจานไหม? "เจยิ้มออกมาอย่างดีใจ มันเแฯคำชมที่ทำให้เขาเป็นเชฟได้อย่างทุกวันนี้ คำชมแบบเดียวกับเมื่อ 12 ปีก่อน

 "...จะดีเหรอ..." ถามทั้งๆที่ยังเคี้ยวตุ้ยๆ

" ฮะ ฮะ ฮะ " เจระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น เขาเดาไม่ผิดเลยจริงๆ " รอเดี๋ยวละกัน  "ว่าแล้วก็รีบไปเอาอีกจานที่ทำเผื่อไว้มาด้วย

"ขอบใจ" คิโยโนบุ พยักหน้าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ เขาเอง ก็นึกไว้แล้วเหมือนกันว่าอีกฝ่าย ต้องทำเอาไว้เผื่อ



...นายนี่ใจดีไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ จุน...


…………………………….
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP 2 pots 30/08/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 30-08-2010 20:49:57
12 ปีก่อน


เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สำหรับ คนอื่นๆ แต่เป็น ช่วงเวลา เกือบสองเดือนที่นานแสนนาน และน่าเบื่อเหลือเกิน สำหรับ อิโนะอุเอะ คิโยโนบุ  เด็กหนุ่มที่เคยออกไปวิ่งอยู่บนลู่แข่ง กลับ ต้องมานั่ง ติดแหง็กอยู่บนเตียงกับเฝือกอันเขื่องบนขา มีร่องรอยของการขีดเขียน ข้อความลงไปบ้าง จากเพื่อนที่แวะเวียนมาเยี่ยม บางคนกล่าวโทษต้นเหตุ อย่าง โอโนเสะที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ คิโยโนบุไม่ได้คิดแบบนั้น


"ขอบใจนะ วันนี้ก็ทำกับข้าวมาเซ่นอีกแล้ว" เด็กหนุ่มพูดพลางยิ้ม เมื่อ เด็กหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาพร้อมกับ ปิ่นโตเถาใหญ่

" กินเยอะๆ จะได้วิ่งได้เร็วๆ " คำพูดติดปากของเด็กหนุ่มร่างสูงราวกับเป็นหนุ่มเต็มตัวดังขึ้นอย่างทุกที แล้ววางปิ่นโตเถาใหญ่สองชุดลงตรงหน้าอีกฝ่าย

"เหอ... ก็ต้องรอขานี่หายซะก่อนนะ " เด็กหนู่มผมสีน้ำตาลว่าพลางยกขาให้ดูก่อนจะรีบวางลงเหมือนเดิม

"นี่... จุน" คนป่วยถามขณะ แกะปิ่นโตออกดูอย่างตื่นเต้นเหมือนทุกครั้ง

" อะไร? "เจ้าของปิ่นโตดูท่าทางเด็กๆของอีกฝ่าย แล้วยิ้มอย่างโหดๆ เพราะตาขวางๆนั่นดูจะแก้ไม่หาย

"เบื่ออ่ะ" คนป่วยพูดพลางยกชั้นข้าวออกมาวางเรียง ก่อนจะขยับนิ้วให้อีกฝ่ายเอาเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ

" เบื่อ? ได้เลย จะเอาไปกินเอง " เจรวบชั้นข้าวเข้าด้วยกัน

"เปล่าเว้ย ไม่ได้เบื่อข้าว... " มือบางที่ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรมาพักใหญ่ยื้อปื่นโตเอาไว้แน่น ดวงตาสีน้ำตาลมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจ

"โอเค...ฉันเบื่อโรงพยาบาลนี่"

" เบื่อ? มีคนมาเยี่ยมเยอะแยะ วีดีโอก็มีเป็นกอง ขนมสาวๆก็เพียบ เบื่อไปทำมายย "เด็กหนุ่มผมทองลากเสียงยาว แล้วปล่อยปิ่นโตก่อนจะนั่งลงข้างๆอีกฝ่าย

"อยากออกไปสูดอากาศบ้างน่ะซิ่" คิโยโนบุมองหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะทำหน้าเหมือนกับนึกอะไรออก "รู้แล้ว...นายมีมอเตอร์ไซค์นี๋"

" ไม่โว้ย!  " เจปฏิเสธทันที

"นะ...นะ....นะ....ยอมทำให้ทุกอย่างเลย" คนป่วยเริ่มสวมบทบาทใหม่ ทำท่าอ้อนเหมือนที่เคยเห็น ดาราสาวทำในทีวี

" อย่านะโว้ย ขนลุก " เจขยับออกห่าง แล้วใช้นิ้วดันหน้าผากอีกฝ่ายออกจนหน้าผากคิโยโนบุเป็นรอยนิ้วมือเลย

"โอ้ย...ดีดทำบ้าอะไรเนี่ย แค่ขอให้พาออกไปข้างนอกเอง...นะ จุน... "คิ้วเรียว ขมวดเข้าหา กันอย่างช่วยไมได้ "นะนะ... เบื่อจะตายอยู่แล้ว จะแห้งตายแล้วด้วย เอางี้... พรุ่งนี้ไปกัน ทะเล ใกล้ๆนี่ล่ะเนอะ... "

" ทะเล? นายยังเดินไม่ได้เลยนะ อยากให้ฉันถูกพ่อนายฆ่าทิ้งรึไงเล่า  "เจโวยวายใส่คนป่วยเป็นชุด

"แต่ถ้าไม่ได้ออกไป ฉันนี่ล่ะจะตาย" คนป่วยยังคงดื้อดึง เขาเบื่อมากเกินกว่า จะ นั่งนิ่งๆ ทำหน้าเฉยๆ อยู่ใน ห้องแคบๆนี่เสียแล้ว คนดูแลคนป่วยพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียงห้องเพื่อสูบบุหรี่ เหมือนทุกที "จุน...." เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินออกไปแบบนั้น ก็ทำเอา คนป่วยต้องชะโงกหน้ามองตาม บุหรี่มวนนั้นถูกสูบจนเกือบหมดมวนแล้วก็ขยี้มันเอาไว้กับกระถางต้นไม้ที่ระเบียง แล้วกลับเข้ามา

" เออ รู้แล้ว พรุ่งนี้จะพาไป  "เขาทำหน้าเครียดๆ

"เป็นอะไร....ทำหน้าน่ากลัว ....กว่าปรกติ" เห็นอีกฝ่ายทำหน้าแบบนั้นก็อยากจะแหย่ให้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

" ยุ่งน่า "เจตีหน้ายักษ์ใส่อีกฝ่ายแล้วเดินไปเปิดทีวี

"อ้าว...ไม่อยากให้นายอารมณ์เสียหรอกนะ" มือเรียวคว้ารีโมทมาถือไว้ในมือ ก่อนจะเปิดไปช่องกีฬา

" เหอะ ก็ทำให้อารมณ์เสียได้ทุกที "เจบ่นพึมพำแล้วนั่งดูทีวีไป

"นายอารมณ์เสียเรื่องอะไรล่ะ " เด็กหนุ่มที่กึ่งนั่งกึงนอน อยู่บนเตียงของโรงพยาบาลหันไปหาอีกฝ่าย

" ............................. " เด็กหนุ่มผมทองหันมาทางคนถามเล็กน้อยแล้วดูทีวีต่อ ทำเป็นไม่สนใจ

"น่ะ...แล้วนายก็ไม่บอก... "คิโยโนบุว่า "แล้วสรุปจะพาไปไหม "

" ก็บอกแล้วว่าจะไป เลิกเซ้าซี้อย่างกับผู้หญิงซักทีดิ "เจหันมาบอก แล้วทำท่ารำคาญๆ

"ขอโทษ... ฉันแค่อาจจะอยากจะออกไปข้างนอก มากเกินไปมั้ง... " คนป่วยทำหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง


...นี่ฉันเซ้าซี้เหมือนผู้หญิงเหรอ...
คิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์


" กินซักทีซี่ จะได้รีบเก็บ นายมันกินจุเป็นสองเท่าไม่ใช่รึไงกัน? "เจหันมาชี้ที่อาหารตรงหน้าอีกฝ่าย " ทำมาให้ตั้งเยอะ ไม่ขนกลับแล้วนะเว้ย  "

"ก็...กำลังกินอยู่นี่ไง... "เด็กหนุ่มหันมาเถียงพลางพุ้ยข้าวเข้าปากไปคำโต

" กินเยอะๆ จะได้ดูทีวีซักที เฮ้ออ "เจว่าก่อนจะไหลตัวเองไปนอนบนโซฟาที่ห้องพักผู้ป่วย นอนดูทีวีสบายอารมณ์

"อืม..นายก็อย่าหลับล่ะ " เด็กหนุ่มว่าพลางรีีบพุ้ยข้าวกับกับข้าวสำหรับสองคนเข้าปากไปจนหมดในที่สุด

"เฮ้..จุน อื่มแล้ว...นาย...." ขณะกำลังจะหันมาบอกให้อีกฝ่าย รีบกินข้าวเหมือนกัน แต่ เมื่อหันมาก็พบว่า เด็กหนุ่มร่างสูงหลับไปเสียแล้ว "จุน... เฮ้ย...อย่าหลับดิ่... " คิโยโนบุ ว่าพลาง เรียกอีกฝ่ายให้ดังขึ้นหวังจะให้ตื่น

" อะไรเล่า? กินเสร็จก็นอนไปดิ  "เจผงกหัวขึ้นมาโซยวายใส่แล้วหลับต่อ

"โธ่เอ้ย... " คนป่วยโวยเบาๆ ก่อนจะเก็บปิ่นโตเรียงให้เรียบร้อยบนโต๊ะเข็น ก่อนจะพลักโต๊ะออกไปให้ห่าง แรงผลักนั้นแรงพอให้โต๊ะเลื่อนได้นั้นเคลื่อนไปชน โซฟาที่เด็กหนุ่มร่างสูงนอนอยู่เบาๆ แต่คนป่วยก็ไม่สนใจแล้ว เขาเอนตัวลงนอน ตามที่อีกฝ่ายว่า


............................................


กว่าเจจะตื่นก็ใกล้ค่ำแล้ว มือใหญ่ขยี้ตาตัวเองไปมาแล้วลุกขึ้น


" อ้าว..หลับไปจริงๆแฮะ " เขาบ่นกับตัวเอง ส่วนเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเจ้าของเตียงคนป่วยเองก็หลับตานอนนิ่งเช่นเดียวกัน เจมองดูคนที่นอนอยู่ ด้วยอากาศที่ร้อนทำให้คิโยโนบุไม่สนใจจะห่มผ้าให้ตัวเองซักเท่าไหร่ เฝือกที่ขาของเด็กหนุ่มนักวิ่งของโรงเรียนมีแต่รอยปากกา เมจิกหลากสีเป็นข้อความต่างๆ


...หายเร็วๆนะ..
..กลับมาวิ่งเร็วๆ..



เขาอ่านข้อความเหล่านั้น ก่อนจะมาสะดุดกับประโยคหนึ่ง


.. โชคร้ายจะกลายเป็นดี...



... ใช่ .. มันก็แค่โชคร้าย .. ที่เขาขับรถไปชน โชคร้ายของอีกฝ่ายที่ต้องเสียอนาคตไป และโชคร้ายของเขาที่ต้องมารู้สึกผิดอยู่แบบนี้


"อืม... " เสียงครางเครือดังขึ้นเบาๆ จากคนที่นอนอยู่ คิ้วเรียวทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน ใบหน้ามีเหงื่อเม็ดเล็กๆซึมออกมาเต็มไปหมด


....เส้นชัย....
....จะถึงแล้ว....
....ทำไม..ห่างออกไป...
....เส้นชัย....



นั่นยิ่งทำให้เจต้องคิดมาก เขาเดินไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นๆมาเช็ดหน้าและลำคออีกฝ่าย  ให้สบายตัวขึ้นบ้าง ไม่นานคนที่เจ็บขาก็สงบลง เจถอนหายใจก่อนจะมองดูพื้นที่ว่างบนเฝือกของอีกฝ่ายแล้วหยิบปากกาเมจิกสีแดงมาเขียน


.. รีบๆหายแล้วไปทะเลกัน...


"ลายมือสวยไม่เข้ากับหน้า.... " เสียงแผ่วเบาดังขึ้นจากคนที่เพิ่งจะรู้สึกตัว มาเห็น อีกคนกำลังเขียนข้อความอะไรลงไปบนเฝือก นั่นทำเอาเจถึงกับถอยออกมาเลย

" เออ .. เก็บปิ่นโตกลับล่ะ เดี๋ยวไม่ทันมื้อเย็นคนเจ็บจะหิวตายอีก "เด็กหนุ่มผมทองทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเก็บปิ่นโต " เดี๋ยวมา จะเอาอะไรอีกไหม? "

"เซมเบ้" เด็กหนุ่มตอบ พลางยิ้มเริงร่าเหมือนเดิม ราวกับว่า ความฝันเมื่อครู่ไม่ได้งผล อะไรกับเขามากนัก

"เออ...นี่ จุน " ก่อนจะเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ เมื่อ เด็กหนุ่มร่างสูง ทำท่า จะเดินออกไปพร้อมกับ ห่อปิ่นโตที่ว่างเปล่า

" อะไร? "เจหันมาถามทั้งๆที่กำลังเปิดประตู

"พรุ่งนี้ได้ไหม... "ว่าพลาง ก็ชี้ไปที่ข้อความที่อีกฝ่ายเขียน

" ถ้าพร่งนี้ หาย เดินได้ ก็จะพาไป ได้ไหมล่ะ? "เจยิ้มอย่างเป็นต่อแล้วเดินออกจากห้องไป


เมื่อบานประตูปิดลง ข้อความใหม่ที่ถูกเขียน ด้วยลายมือบรรจง ที่ เด็กหนุ่มคิดว่า ช่างไม่เข้า กับท่าทาง ห้าวๆ ของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นในลำคอนั้น ก่อนที่ แผ่นหลังบางจะเอนลงกับเตียงอีกครั้ง  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เหลือบมองข้อความนั้นเล็กน้อย ก่อนจะยิ้ม ออกมา


"ถ้าพรุ่งนี้ ฉันยอมเดินนายจะพาไปใช่ไหม"


คิโยโนะบุ พูดเบาๆ แม้จะรู้สึกหวั่นใจ บ้าง เพราะตั้งแต่เข้ารับการผ่าตัดเพื่อเอาเหล็กเข้าดามกระดูกเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ตัวเขายังปฏิเสธ แม้แต่การจะลุกขึ้น เดินด้วยไม้ค้ำยันด้วยซ้ำไป แต่ในวันนี้ เขากลับมีความรู้สึกว่าอยากจะอย่างน้อยก็คือ ลุกขึ้น และยืนให้ได้ด้วยไม้ค้ำยัน กว่าเด็กหนุ่มจะนำปิ่นโตคู่ใจสองเถานั้นกลับมาถึงโรงพยาบาล ก็ช้าไปเกือบชั่วโมง เป็นเพราะเขานอนเพลินแท้ๆเลยทำให้คนป่วยกินข้าวช้าไปอีกชั่วโมงหนึ่ง


" โดนบ่นแน่เลย  " เด็กหนุ่มผมทองพึมพำแล้วเปิดประตูห้องคนป่วยที่เข้าๆออกๆมาเกือบสามเดือน แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าเตียงนั้นว่างเปล่า


..ไปไหนวะ?...



เขาได้แต่ถามตัวเองอย่างแปลกใจ ไม่เคยมีซักครั้งที่คิโยโนบุจะไม่อยู่รอกินข้าวของเขาที่ห้อง เจ วางปิ่นโตลงบนโต๊ะ ตามด้วยกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้ามาเปลี่ยน แล้วเดินออกไปจากห้อง เจอกับพยาบาลพอดี

" เอ่อ พี่ครับ .. หมอนี่ไปไหนน่ะครับ? " เขาชี้ไปที่ประตูห้อง ตรงที่มีชื่อของคนเจ็บแปะอยู่บนนั้น

"อ๋อ...อิโนะอุเอะซังน่ะเหรอคะ...อยู่ที่ห้องกายภาพตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วล่ะค่ะ" พยาบาลสาวตอบพลางยิ้มให้กับอีกฝ่าย

" หา กายภาพ? " เจทวนคำอย่างไม่อยากจะเชื่อ


..อะไรวะ? เห็นเอาแต่กินๆ นอนๆ เนี่ยนะ?...


แต่ถึงจะสงสัยไปแบบนั้นเขาก็ขอบคุณพยาบาลสาวรุ่นพี่แล้วก็รีบกลับเข้าไปเอาขนมที่คนป่วยบอก น้ำชา แล้วตรงไปที่ห้องกายภาพตามที่อีกฝ่ายบอก
แต่ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้เปิดประตูเข้าไปในห้องกายภาพ บานประตูก็ถูกเปิดออกนางพยาบาล เดินนำออกมาก่อนจะตามด้วย เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล ที่ ใช้สองแขนจับไม้ค้ำยันเอาไว้แน่น ขาข้างที่ใส่เฝือกยกขึ้น และทิ้งน้ำหนักลงไปอีกข้างหนึ่ง ค่อยๆขยับออกมาจากห้องกายภาพ


" เก่งมากเลยค่ะ แค่วันแรกก็ทำได้ขนาดนี้แล้ว " พยาบาลสาวบอกกับผู้ป่วยอย่างชื่นชม การที่เด็กหนุ่มห้อยเฝือกที่มีแต่รอยปากกาเมจิกเขียนอยู่เต็มแบบนี้แปลว่า เขามีเพื่อนฝูงมาก กำลังใจคงมีมากเลยทีเดียว น่าแปลกที่ไม่ยอมฝึกยืนหรือเดินเลย จนกระทั่งวันนี้ถึงจะเอ่ยปากขอมาทำกายภาพเอง

"ขอบคุณครับ... " เด็กหนุ่มยิ้มให้กับพยาบาลสาว ก่อนจะหันไปเจอกับเพื่อนร่างสูง "อ้าว..จุน...มาแล้วเหรอ "ท้ายเสียงนั้นราวกับพอใจเล็กๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองหน้าของอีกฝ่าย ราวกับจะบอกว่า


...ยืน เดินได้แล้วนะ...


" วันนี้พอก่อนดีไหมคะ? เดี๋ยวนั่งรถเข็นกลับห้องนะคะ " พยาบาลสาวบอกพลางทำท่าจะเข็นรถเข็นนั่งที่เด็กหนุ่มใช้มาเกือบสองเดือนให้

"ไม่เป็นไรครับ... "เด็กหนุ่มหันมาปฏิเสธ "เดี๋ยวผมเดินกลับ กับ เพื่อนก็ได้... แค่นี้เอง"

" ก็ได้ค่ะ "พยายาลสาวหันไปส่งสายตาให้เพื่อนหนุ่มร่างสูงใหญ่ผมทองของคนป่วยราวกับจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง การฝึกการยภาพของคิโยโนบุนั้นดีเลยทีเดียว

" เอ่อ..เดี๋ยวผมดูให้ครับ " ทำให้เจต้องบอกพยาบาลสาวไปแบบนั้นจะได้หายห่วง ในมือที่ถือถุงเซมเบ้กับน้ำชาขยับเล็กน้อยเรียกความสนใจจากคนป่วยได้ทันที

"เอามาให้ด้วยเหรอ... "เด็กหนุ่มว่าพลาง ค่อยใช้ไม้ค้ำยัน ขยับก้าวเข้าไปหาอีกฝ่าย

"ใจดีจังน้า...จุนเนี่ย...แต่คงใจดีกว่านี้ ถ้าทำตามสัญญา" ว่าพลางก็เงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วยิ้มอย่างผู้มีชัย "ฉันเดินได้แล้วนะ"

" เหอะ เดินให้ถึงห้องก่อนละกัน "เจท้าอีกฝ่าย แล้วเก็บถุงขนมไม่ให้คนเจ็บเห็น ไม่อย่างนั้นคงจะคิดว่าเขาเป็นห่วงที่ไม่ได้กินข้าวเลยเอาขนมมาให้แน่ๆ

"ก็คอยดูก็แล้วกัน " ถึงแม้ว่าจะเป็นระยะทางที่ไกลพอสมควร  กว่าจะถึงห้องของตัวเอง และการที่ใช้ไม้ค้ำยัน ก็ ทำให้เจ็บช่วงแขนและขาข้างที่ดีไม่น้อย แต่คิโยโนบุก็เก็บอาการของตัวเองเอาไว้ได้อย่างดี เขาแค่อยากจะให้อีกฝ่ายรักษาสัญญา



...อยากจะออกไปสัมผัสสายลมข้างนอกบ้าง...ก็เท่านั้นเอง...




ไม่นานนักก็กลับมาถึงห้อง คิโยโนบุนั่งลงกับเตียง ก่อนจะมองหน้าของเจราวกับจะถามว่า


...เป็นไง...เก่งใช่ไหมล่ะ....


เมื่ออีกฝ่ายเดินกลับห้องเองได้โดยที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจแต่อย่างใด้ทำให้คนที่สัญญาด้วยปากเปล่า และตัวหนังสือสวยๆสีแดงบนเฝือกอีกฝ่ายต้องถอนหายใจ


" โอเคๆ ตกลงจะไปเมื่อไหร่ล่ะ? "เจถามอย่างจำยอมขระที่ช่วยยกขาที่ห้อยอยู่ขึ้นบนเตียง

"พรุ่งนี้...เป็นไง... หลังพยาบาลเลิกเดินตรวจ หลังเวลาเยี่ยม"

" เอ้านี่ " เขาโยนกระเป๋าเป้ให้อีกฝ่าย " ชุดแล้วก็หมวก " ก่อนจะหันไปสนใจปิ่นโตทั้งสองเถา เจจัดการดึงมันออกมาวางเต็มโต๊ะแล้วเลื่อนโต๊ะไปที่ตรงหน้าคนป่วย " กินซะ จะได้กินยา นอนเยอะๆจะได้มีแรงเที่ยว  "


เห็นกับข้าว ชุดสำหรับใส่ และหมวกกันน็อค แล้ว ก็ต้องฉีกยิ้มกว้าง การที่อีกฝ่ายเตรียมของมาแบบนี้ ก็แสดงว่า อีกฝ่าย ก็คงคิดจะตามใจเขาอยู่แล้ว มือเรียวคว้าตะเกียบมาถือเอาไว้ ก่อนจะมองหน้า เพื่อนร่างสูงนิ่ง

" มองอะไรเล่า? " เจแทบจะโวยวายเมือ่ถูกจ้อง ตั้งแต่รอยยิ้มเมื่อครุ่แล้วที่ทำเอาเขาทำอะไรไม่ถูก ยิ่งถูกมองแบบนี้

"จุนเนี่ย...ใจดีเนอะ...ใจดีไม่เข้ากับหน้าเลย" อดไม่ได้ที่จะแหย่ ก่อนจะพุ้ยข้าวเข้าปาก

" อยากให้โฉดเหมือนหน้าก็ได้นะ " เด็กหนุ่มผมทองทำเป็นเข้ม มือใหญ่ๆนั้นดังกรอบๆ เมื่อเขาหักมันแล้วทำท่าเข้าไปหาคนที่พุ้ยข้าวใส่ปาก" พูดมาก กินเร็วๆ "

"นายไม่ต่อยฉันหรอก...." คิโยโนบุพูดอย่างรู้ทัน ก่อนจะกวาดอาหารขนาดสองคนทานหมดเรียบภายในพริบตา ด้วย ความเหนื่อย จาก การ ทำกายภาพทำให้ ความเจริญอาหารดูจะมีเยอะ มากกว่า ปรกติ

" เอ้า เซมเบ้ น้ำชา "เจวางถุงใส่ขนมกับน้ำที่อีกฝ่ายชอบลงบนโต๊ะ ขณะที่เก็บปิ่นโตลงที่เดิม

"ขอบใจ... นายเองก็กินด้วยดิ่" เด็กหนุ่มชวนอีกฝ่ายกินเซมเบ้ ก่อนที่มือจะกดรีโมทเปืดทีวีเหมือนทุกที  เขาชอบเวลาที่มีอีกฝ่ายมาอยู่เป็นเพื่อน บางครั้งก็ไม่ได้มี บทสนทนาอะไรกันมากมายนัก แต่มันก็คงจะดีกว่าการนั่งป่วย แล้ว คิดอะไร ที่เป็นไปไม่ได้อยู่คนเดียวแน่ๆ



....อาทิตย์นี้ก็จะมีแข่ง ระดับจังหวัดแล้วซิ่นะ...
....เพราะแบบนั้นล่ะ ถึงอยากออกไปข้างนอก....




#################################### to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP 2 posts 30/08/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 30-08-2010 21:22:51
ยาวมากกกกกกกก สะจายสุดๆ :a5:
อืมม มีความหลังกันแบบนี้นี่เอง แต่คิโยจังไม่รู้ตัวเลยนี่นา
จุนจังก็เอาแต่ปฏิเสธความรู้สึกตัวเอง แล้วจะรักกันยังไงเนี้ย
คิโยจังซื้อซื่อ  :pig4:ที่มาต่อให้แบบยาวสุดๆๆ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP 31/08/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 31-08-2010 20:41:11
@@@writer's talk@@@

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ...อาจจะโพสต์ยาวเกินไปทำให้คนอ่านเหนื่อยได้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ
กำลังพยายามหาความพอดีอยู่ค่ะ แต่ก็อยากจะให้ช่วยติดตามเรื่องราวกันต่อไปนะคะ

##############



วันอาทิตย์ที่ คิโยโนบุ รอคอย มาถึงอย่างรวดเร็ว เช่น เดียวกับ จุนที่ ดูจะมาแต่เช้า มันเป็นแฟนการที่ตัวคนป่วยเป็น คนวางเอาไว้เองว่า จะให้ อีกฝ่ายทำทีมาเยี่ยมแต่วันหน่อย ...เพื่อที่จะได้มีเวลา ออกไปด้วยกันให้หนำใจ

"เดี๋ยวอีก3นาที พี่พยาบาล จะมา " เด็กหนุ่มว่าพลาง มองนาฬิกา "พอมา ก็ให้เขาเช็คนั่นนี่ไปล่ะ แล้ว... เราบอกพี่เขาว่าเราจะออกไป เดินเล่นกันที่ สวนเป็นไง" ว่าพลางก็หันไปมองหน้าของคนที่ดูจะทำหน้า เซ็งๆอยู่ข้างๆ

" อือ..อย่าทำหน้าระรื่นนักละกัน มันน่าสงสัย "นิ้วเรียวจิ้มหน้าผากอีกฝ่าย ด้วยว่า รู้สึกหมั่นไส้ท่าทางระริกระรี้นั่น

"อะไร...หน้าเขาระรื่นก็ว่า " เด็กหนุ่มมองหน้าของอีกฝ่าย  "เอาเถอะ...จะ ทำหน้า ซึมเศร้า เหมือนปรกติก็แล้วกัน" ว่าพลางก็นิ่งไปซักพัก จน หน้าตา เป็นเหมือนกับใบหน้าเศร้าสร้อย ที่ เด็กหนุ่มร่างสูงเคยเห็น เมื่อวันที่เกิดอุบัติเหตุ ทำเอาเจต้องยกมือปิดปากเพื่อไม่ให้หลุดหัวเราะออกมา พอดีกับที่พยาบาลเดินเข้ามาในห้อง

"อ้าว ...วันนี้ก็มีเพื่อนมาเยี่ยมอีกแล้วนะ อิโนะอุเอะคุง" พี่พยาบาลสาวเดินยิ้ม เข้ามา ก่อนจะเอาถาดยา ปรอท และเครื่องวัดความดันมา วางลงบนโต๊ะ
"โอเค วัดอุณหภูมิ ก่อนก็แล้วกันนะ " แต่ก่อนที่ตะได้ยื่นปรอทให้กับอีกฝ่าย เด็กหนุ่มที่นั่งบนเตียงก็หันมาทำเสียงอ้อนใส่

"พี่ครับ...เดี๋ยวเสร็จแล้ว ผมกับเพื่อน จะลงไปข้างล่างนะครับ ที่สวน"

"อ้อ..จ้ะ...แต่ก็อย่าลืมกลับมากินยาตอนเย็นด้วยนะ " พยาบาลสาวไม่ได้สงสัยอะไรกับ อาการ กลั้นหัวเราะของคนที่มาเยี่ยมเลย แม้แต่น้อย

พอนางพยาบาลสาวออกไปจากห้อง เพื่อนทั้งสองคนก็ เตรียมตัว โดยเสื้อผ้า ส่วนของคนป่วยจะอยู่ใน กระเป๋าของเด็กหนุ่มร่างสูง โอโนเสะเป็นคนเข็นรถเข็นให้อีกฝ่ายนั่ง ลงมาจนถึงสวนด้านล่าง


"รถนายจอดอยู่ไหน" 

" เดินไหวไหมล่ะ? อยู่ตรงโน้นนะ " เด็กหนุ่มผมทองชี้ไปที่มอเตอร์ไซค์สีน้ำเงินจอดอยู่ไกลจากตรงนี้พอสมควรเลย

"อืม...ไหว... เอาไม้ให้หน่อย" ว่าพลางก็เอื้อมไปข้างหลัง ที่ เขาวางไม้ค้ำยันเอาไว้ข้างหลัง  เด็กหนุ่มร่างบาง ค่อยๆ ใช้ไม้ค้ำยันเดินไปตามทาง โดยทีอีกฝ่ายคอยเดินข้างๆ เช่นเดียวกับการดูต้นทางให้ กว่าจะไปถึงก็ทำเอาเหงื่อไหลไคลย้อยไปตามๆกัน เจถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วให้อีกฝ่ายนั่งพักซักครู่ก่อนจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แต่ก็ไม่วายหันมาถาม

 " จะขึ้นยังไงวะ? "

"เอ่อ.... เดี๋ยวนะ ถือไว้ " เด็กหนุ่มยื่น ไม้ค้ำยันให้กับอีกฝ่าย ก่อนจะเขย่ง ขาเข้าไปใกล้ รถ ก่อนจะเกาะไหล่ของอีกฝ่ายไว้เป็นหลักยึดแล้วขยับตัวขึ้นนั่งไพล่ขาไปด้านเดียวกัน โดยที่ขาข้างที่ไม่เจ็บวางเป็นหลักเอาไว้เพื่อรับน้ำหนักของขาอีกข้าง เสียงอุทานดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับมือเรียวที่ยึด ไหล่แกร่งเอาไว้แน่น
"อ่ะ......โอ..โอเคแล้ว..เอาไม้มา "  เสียงนั้นตะกุกตะกักเล็กน้อย  เจส่งไม้คืนให้อีกฝ่าย

" นั่งดีๆก็แล้วกัน จะไปช้าๆ แต่..นานหน่อยนะเว้ย กว่าจะถึง "เขาหันไปมองหน้าอีกฝ่าย เป็นเชิงถามว่า ยังจะไปอยู่ใช่ไหม

"มองแบบนั้นทำไมเล่า ออกรถเล้ย " ดูท่าว่า จะไม่ได้สะทกสะท้านอะไรนักกับความเจ็บปวด เขาทนได้อยู่แล้ว มันคงดีกว่าการไม่ได้สัมผัสสายลมอีก

" เออ ทนไม่ได้ก็บอกนะเว้ย เดี๋ยวไม่หายซักที "คนขับบอกแกมขู่ก่นอจะออกรถ ดูมันจะผิดวิสัยนักซิ่งมอเตอร์ไซค์อย่างเจที่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ช้าๆ วิวทิวทัศน์จากโรงพยาบาลห่างออกไป กลายเป็นทุ่งหญ้า


"เฮ้อ...อากาศดีเป็นบ้าเลย... " เสียงเด็กหนุ่มที่นั่งข้างหลัง ตะโกนออกมา

" ก็สูดเข้าไปเยอะๆ!! " เจตะโกนตอบกลับมาก่อนจะหัวเราะร่า วิวจากทุ่งหญ้ายังคงมีให้เห็นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงทางแยกไปยังแม่น้ำ ต้องผ่านย่านที่อยู่อาศัยประปราย แต่พวกเขาก็ไม่สนใจที่จะลงแวะซื้ออะไร เพราะเจได้เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว

"จะไปตกปลาหรือไง... " เด็กหนุ่ม ตะโกนถามแข่งกับสายลม บรรยากาศรอบด้าน ทำให้ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เจไม่ตอบอะไร จนกระทั่งเขาจอดรถยังบริเวณใกล้ๆ แม่น้ำ ซึ่งในฤดูแบบนี้มันไม่ได้ลึกมากนัก กอหญ้าที่มักจะขึ้นริมน้ำพริ้วไหวไปตามลม ทำให้ทั้งคู่ได้กลิ่นของธรรมชาติอย่างแท้จริง

"โห.....สวยจังเลย" เด็กหนุ่ม มองไปรอบๆ แม้น้ำใส ที่โอบล้อมรอบด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ เด็กหนุ่มขยับตัวหมายจะลงจากรถ เพราะความตื่นเต้น ทำให้แทบจะลืมไปเลยว่าตัวเองขาเจ็บอยู่

" เฮ้ย เดี๋ยว " เจรีบปราดเข้ามาช่วยอีกฝ่ายลงจากรถ ก่อนจะหยิบไม้ค้ำให้

"อ่ะ...ขอบใจ " มือเรียวข้างหนึ่งยึดไหล่ของอีกฝ่ายเอาไว้ เมื่อ ขยับตัวลงมา ก่อนจะรับ ไม้ค้ำยันมาเพื่อช่วนตัวเองให้ยืนขึ้น เจพาอีกฝ่ายไปนั่งยังบริเวณที่สบายที่สุดสำหรับคนขาเจ็บ ก่อนจะเปิดกระเป๋าใบใหญ่ แล้วนำเบ็ดตกปลาสองคันออกมาประกอบ

" ตกปลาเป็นรึเปล่า? "เจถามอย่างอารมณ์ดี

"ก็... เป็น แต่จะได้ หรือเปล่าไม่รู้" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยักไหล่ ก่อนจะยื่นมือไปรับเบ็ดจากอีกฝ่าย

" ถ้าได้จะปล่อย หรือ จะกิน?   "เจถามขณะที่ประกอบเบ็ดของตัวเอง

..ฉันว่าอย่างหลังว่ะ..

"ถ้านายทำปลาเป็นก็จะขอกินฝืมือนาย... ไม่เคยเห็นนายทำกับข้าวเลย..หรือถ้าฝีมือนายไม่ถึงจับปลามาก็จะเสียดาย ปล่อยดีกว่า "

" อ้าว ดูถูกกันนี่หว่า ขาไม่ดี ปากดีนักนะเว้ย เฮ้ย "เจหันมาทำตาขวางๆใส่

"ฮ่ะๆ ..."คิโยโนบุ หัวเราะเบาๆ ก่อนจะรับเหยื่อมาติดตรงปลายเบ็ดแล้ว เหวียงออกไปยังแม้น้ำ สายลมพัดมาเอื่อยๆ เช่นเดียวกับสายน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ ทุ่นลอยสีเหลือง ลอยตุบป่องอยู่บนผิวน้ำ มีเพียงความเงียบท่ามกลางเสียงของสายลมที่ทำให้ต้นหญ้าริมน้ำเริงระบำ ทำนองของสายน้ำเอื่อย เป็นบทเพลงที่ทำให้จิตใจของพวกเขาสงบได้อย่างประหลาด


"นี่...จุน " เด็กหนุ่มร่างบางส่งเสียง ขึ้นท่ามกลาง ความเงียบ ของธรรมชาติ

" หือ? "เจ้าของชือขานรับโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้า

"นาย... อยากจะเป็นพ่อครัว เหมือนที่บ้านหรือเปล่า ?"

" อยากเหรอ?.. ตอนนี้ไม่อยาก "ดวงตารีมองตามสายเบ็ดที่ยังคงนิ่งอยู่ใต้พื้นน้ำ

"ทำไมล่ะ นายทำกับข้าวอร่อยออก " เด็กหนุ่มว่าพลางยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ "อย่างน้อย นายมีแฟนแล้วนะหนึ่งคน"
" แฟน? " เด็กหนุ่มผมทองทวนคำ

"ฉันไง" เด็กหนุ่มหันไปมองหน้า งงๆ ของอีกฝ่าย "แฟนเบนโตะของนาย..." ทำเอาเจต้องหันไปมองหน้าอีกฝ่ายแล้วก็รีบหันกลับมาสนใจเบ็ดตกปลาทันที

" พูดแปลกๆ เดี๋ยวปลาตกใจ อดกินพอดี "

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพูดแปลกๆเล่า... "อีกคนหัวเราะ ก่อนจะอุทานออกมาเบาๆ "โอ๊ะๆ...สงสัยจะกินเบ็ดแล้ว"

" เอาล่ะ ขาเจ็บ มือไม่เจ็บด้วยใช่มั๊ย จัดการเลย เดี๋ยวเอาถังมาให้ "เจพูดถากถางเล็กน้อยแล้วรีบไปหยิบถังใส่น้ำมาวางใกล้ๆ

"เหอ...พูด..ง่ายนี่ " เด็กหนุ่มร้องเสียงดัง ขาข้างหนึ่งยันพื้นเอาไว้ในขณะที่แขนก็ทั้งดึงทั้งหมุน ให้เอ็นดึงเข้ามา การชักกะเย่อกับปลาเป็นไปได้ซักครู่หนึ่งก่อนที่เจ้าปลาจะยอมแพ้ ถูกลากเข้ามาอย่างง่ายดาย ทันที ที่ปลา แม่น้ำตัวขนาดกำลังพอดีลงถังไป คนที่ชักกะเย่อด้วยก็แทบจะหมดแรงเหมือนกัน
 

"เฮ้อ....เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย ... "

" อื้อ จะปล่อย หรือจะกินล่ะ? " เจมองดูผลงานของอีกฝ่าย นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่คนเจ็บตะลากปลาตัวขนาดใหญ่ใช่เล่นแบบนี้ได้

"นายทำได้ไหม" แต่คำตอบนั้นน่าช็อคยิ่งกว่า เพราะ คนเจ็บ ดูจะอยากกินไม่น้อย"ตัวมันก็....น่าอร่อยดีนะ "

 ว่าที่เชฟมือดีไม่ตอบอะไร เขาปักคันเบ็ดลงกับดินแล้วเดินไปเปิดกระเป่าใบโตเพื่อเอามีดทำปลาออกมา

" คอยดูเบ็ดไว้ล่ะ " เขาว่าก่อนจะจัดการกับปลาเป็นๆนั้นอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะเดินเอาไปล้างน้ำกับน้ำสะอาดที่ไหลมาตามแม่น้ำไม่นานเนื้อปลาสดหวานๆพอดีคำก็มาอยู่ตรงหน้าคนเจ็บ

"ซาซิมิเลยเหรอ" เด็กหนุ่มร่างบางหันไปมองหน้าอีกฝ่าย

"น่าอร่อยดี... " ว่าพลาง ก็ ใช้มือหยิบหายเข้าปากไปอย่างรวดเร็ว ความหวานเพราะปลาที่ได้มานั้น สดมาก  ทำให้ ต้องตาโต มองหน้าคนทำ  "อร่อย...จุน...แน่ใจนะว่าไม่อยากเป็นพ่อครัว"

"ขนาดนั้นเลย? " เด็กหนุ่มผมทองทำหน้าตาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายเชื่อซักเท่าไหร่ เขาเก็บมีดทำปลาของตัวเองใส่กระเป่าแล้วก็ลงไปนั่งรอให้ปลากินเหยื่อต่อ

"ขนาดนั้นซิ่ มันไม่ใช่ ทุกคน หรอกนะ ที่จะแล่ปลาออกมาได้แบบนี้...สถานที่แบบนี้...ฉันว่านายเนี่ย..ออกจะมีพรสวรรค์น้า " เด็กหนุ่มว่า ก่อนจะหยิบชิ้นปลามาอีกชิ้น

"ไม่ลองฝีมือตัวเองหน่อย" แต่พออีกฝ่ายหันมา คิโยโนบุ ก็ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ "จุน...มานี่หน่อย ...มา..ฮ่ะๆ "เรียกพลางกลั้นหัวเราะไปพลาง

" อะไร? มีอะไรตลกรึไง? " คิ้วเรียวขมวดแต่ก็เดินกลับมาหาคนเจ็บอยู่ดี

"หน้าเหมือนฆาตกรใจโหด ที่เพิ่ง ลงมือฆ่าเสร็จ" คิโยโนบุ หัวเราะพลางยื่นมือไปเช็ดรอยเลือดออกจากใบหน้าของอีกฝ่าย สัมผัสนั้นทำให้เจต้องผงะ แล้วถอยออกมาอย่างตกใจ

" เดี๋ยวฆ่าแม่งเลย ..  " เขาพูดออกมาเบาๆ แล้วเดินกลับไปตกปลาต่อ

"เป็นอะไรของเขา " เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลมองอีกฝ่ายเดินจากไป โดยไม่เข้าใจนัก ก่อนจะตะโกนแหย่  "อย่าฆ่าเลยนะ...แค่นี้ก็เจ็บอยู่แล้ว"

" ปากว่างก็กินไป "คนทำปลาดิบเถียงโดยที่หันมามองทางคนเจ็บแม้แต่น้อย

"คร้าบบบ" คนเจ็บยังยียวน พลางหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี  มันนานแล้ว ที่เขาไม่ได้ หัวเราะออกมาแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกสบายๆ แบบนี้


สายลมที่พัดผ่านเข้ามาในห้องของโรงพยาบาลก็ไม่เคยให้ความรู้สึกที่ดีแบบนี้เช่นกัน  เจมองไปตามสายน้ำแล้วก็ต้องยิ้มออกมา พารที่ได้พาคนเจ็บออกมาตกปลามันก็ดีกว่านั่งอุดอู้ กินๆ นอนๆ อบู่ในห้องจริงๆอย่างที่อีกฝ่ายว่านั่นแหละ เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ฝืนแกล้งทำยามที่พยาบาล หรือเพื่อนร่วมชั้นเข้ามาในห้องพัก ทำให้เขาดีใจที่ช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้นได้


"ป่านนี้ คงแข่งเสร็จกันไปแล้ว " เด็กหนุ่มพูดขึ้น หลังจากที่ ปลาย่างแบบง่ายๆ ถูกจัดการจนเรียบ โอโนเสะกับเขาตกปลาตัวเล็กๆ ได้ สี่ห้าตัว.. ซึ่งเด็ฏหนุ่มร่างสูงก็จัดการเอามาย่างได้รสชาตไปอีกแบบ

" แข่ง? " เด็กหนุ่มผมทองทวนคำ

"งานแข่งกรีฑาของจังหวัดน่ะ... " เด็กหนุ่มพูดพลางยิ้ม ในส่วนของงาน อินเตอร์ไฮ ที่ผ่านไปแล้วนั้น เขาแทบไม่อยากจะพูดถึง... ตอนนั้น เขาเข้าผ่าตัดรอบแรก เพื่อที่จะเอาเหล็กเข้าไปดามระหว่างกระดูก

" ไม่อยากดูรึไง? " เจถามอย่างแปลกใจ เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายรักการวิ่งเป็นที่สุด ถ้าแบบนั้น ทำไม?

"ไม่ล่ะ...ดูไปก็ไม่มีผลอะไรแล้ว.. มากินปลากะนายดีกว่า " เด็กหนุ่มว่าพลางยิ้ม

" เสียดายออกนะ .. ได้ดูก็ยังดีนี่หว่า ทำไมต้องหนีด้วยเล่า? "เจถอนหายใจ ถึงจะพูดออกไปแบบนั้น ก็กลับกลายเป็นเขาเองที่หดหู่

"ไม่ได้หนีหรอก... ฉันแค่คิดว่ามีอย่างอื่นที่ฉันทำก็สนุกได้มากกว่าการวิ่งแล้วล่ะ " เด็กหนุ่มตอบพลางยิ้ม

" อะไรล่ะ? " เจใช้กิ่งไม้แห้งๆ เขี่ยกองไฟที่เขาย่างปลา ไปมา

"ก็...อยู่กับนายนี่ไง...สนุกดี" เด็กหนุ่มพูด ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองหน้าของอีกฝ่าย  เจถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมา

" ไม่ใช่ดิ หมายถึงว่า ถ้าไม่ได้วิ่งแล้วจะทำอะไรน่ะ คิดไว้รึยัง? "

"ไม่รู้ซิ่..หลังจากนี้ คงต้องขอแค่ให้ขาแข็งแรง พอให้เดินได้อย่างปรกติซะก่อน... "เด็กหนุ่มพูดพลางมอง เฝือกของตัวเอง

" แล้วถ้าเดินได้ จะกลับไปวิ่งอีกไหม? "เด็กหนุ่มตาเล็กถามพลางจ้องหน้าคนที่นั่งตรงข้ามเขม็ง

"ถ้าทำได้นะ....ถ้าทำได้.... " เสียง ที่ตอบนั้นแผ่วเบา เขาพอจะรู้อาการของตัวเองดี กระดูกที่หักนั้น อาการหนักไม่ใช่น้อย เหล็กหลายชิ้นถูกใส่เข้าไปในขา เพื่อยึดให้มันเข้ากัน แต่มันคงจะไม่เป็นเหมือนอย่างเดิม คุณหมอได้บอกให้ทำใจไว้บ้างแล้ว

" แต่นายกินข้าวบำรุงกระดูกของฉันไปตั้งเยอะ นี่ก็จะเดินได้อยู่แล้วนี่ "เจปลอบอีกฝ่าย เขาไม่น่าถามให้คิโยโนบุสลดเลย

"อืม กับข้าว ของนาย ช่วยฉันได้มากเลย " เด็กหนุ่มตอบพลางยิ้ม



...ที่ใจนะ....



" อยากให้ช่วยได้มากกว่านี้ก็หัดยืน หัดเดินบ่อยๆละกัน "

"อืม... "เด็กหนุ่มยิ้ม พยักหน้าลงน้อยๆ "ขอบใจนะ จุน... ทุกอย่างเลย"

" ไม่เห็นต้องขอบใจเลย ฉันต้องไถ่โทษนายอยู่แล้ว " เจมองไปทางอื่น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกตามเคย คำพูดของอีกฝ่าย ทำให้ คิโยโนบุยิ้ม แต่เป็น รอยยิ้มเศร้าๆ ที่อีกฝ่ายคงมองไม่เห็น


"ฉันแค่อยากให้นายเป็นเพื่อน....เพื่อนที่ดีแบบนี้...ขอแค่นั้นเอง.... " คิโยโนบุพูดขึ้น เบาเสียงจนเสียงนุ่มนั้นลอยหายไปกับสายลม

ดูเหมือนบรรยากาศรอบตัวของทั้งคู่จะดูตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ตามอากาศที่เย็นลงเพราะเริ่มจะใกล้ค่ำแล้ว


" กลับเถอะ เดี๋ยวโดนจับได้พอดี "เจพูดทำลายความเงียบขึ้นมาพลางลุกขึ้นเก็บของ และขยะให้เรียบร้อย

"อ่ะ...อื้ม..นั่นซิ่นะ" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลว่า พลาง พยายามลุกขึ้น  ทั้งๆที่คิดว่าจะเข้าไปพยุง แต่พอเห็นการพยายามลุกขึ้นด้วยตัวเองของอีกฝ่ายแล้ว เด็กหนุ่มร่างใหญ่เลยไม่ค่อยเป็นห่วงนักเขาเก็บของแขวนที่แฮนด์รถ ก่อนจะขึ้นคร่อมแล้วสตาร์ทเครื่อง เสียงของมันดังไปทั่วบริเวณ เด็กหนุ่มร่างบาง เดินตามมาก่อนจะค่อยๆ ขึ้นไปนั่งบนรถเหมือนตอนขามา เสียงอุทานเบาๆ เพราะความเจ็บปวดดังขึ้นให้ได้ยินอีกครั้ง

"เฮ้อ..... "คิโยโนบุ ถอนหายใจออกมาเมื่อจัดท่าทางการนั่งเรียบร้อยแล้ว

" ไปกันเถอะ " เจว่าแล้วขี่มอร์เตอร์ไซค์ออกไปจากริมแม่น้ำ กลับไปสู่บรรยากาศน่าเบื่อของโรงพยาบาล เช่นเดิม



………………………………to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP 31/08/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 31-08-2010 22:00:36
มาแบบยาวๆก็ได้ อ่านได้ไม่เป็นไรเราชอบ o13
ให้กำลังใจคนแต่งฮับ เขียนได้ดีออก แต่อยากได้หวานๆมั่งอ่ะ
 :o8:รึว่าตอนนี้เป็นอดีตมันเลยยังไม่มี สู้ สู้จ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP หวานเล็กๆ? 1/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 01-09-2010 19:40:57
@@@writer's talk@@@

มาแบบยาวๆก็ได้ อ่านได้ไม่เป็นไรเราชอบ o13
ให้กำลังใจคนแต่งฮับ เขียนได้ดีออก แต่อยากได้หวานๆมั่งอ่ะ
 :o8:รึว่าตอนนี้เป็นอดีตมันเลยยังไม่มี สู้ สู้จ้า :กอด1:
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ค่ะ...เป็นกำลังใจมากเลย
ไรเตอร์ขยันอัพทุกวันค่ะ รอว่าจะมีใครเห็นเรื่องนี้ไหมน้า...
ช่วงแรกอาจจะนิ่งๆค่ะ แต่...ช่วงหลังก็ต้องรอดูกันไป
เอ้าเรียกหาหวานๆ ตอนนี้ก็ไม่รู้จะหวานสมใจได้หรือเปล่า...คู่นี้ กว่าจะได้คิสกัน (ตรึง...สรุปว่ารอNC??  :z1:)

################



" จะเข้าไปยังไงล่ะทีนี้?  " เจถามขณะที่เดินตามคนที่ใช้ไม้ค้ำยันได้ไม่ถนัดนัก ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีจังหวะเปลี่ยนเป็นชุดคนป่วยเลย
"คงต้องหลบพี่พยาบาลเข้าไป...หารถเข็นดีไหม อย่างน้อย...เข็นไปก็เร็วกว่า หลบเข้าห้องน้ำ ตรงทางเข้าข้างหลังนี่ก็ได้ จะได้เปลี่ยนชุด" คนเจ็บเสนอไอเดีย  เจยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะเดินไปหารถเข็น ไม่นานเขาก็ได้มันมา
 " อะ นั่ง "
"ขอบใจ " เด็กหนุ่ม ถือไม้ค้ำยันไว้ในมือ ใบหน้า ได้รูปนั้นซีดลงไปเล็กน้อย การเดินด้วยไม้ค้ำยันนั้น ต้องใช้แรงมากพอสมควร
" คงไม่มีใครจับได้หรอกนะ  "เจบ่นเบาๆ แล้วก็ออกแรงเข็นรถเข็นไปยังห้องน้ำ เพื่อส่งอีกฝ่าย เปลี่ยนชุด หลังจากที่ทุลักทุเล อยู่นาน กับ การเปลี่ยนกลับมาเป็น ชุดคนป่วย เจ้าแผนการบอกเส้นทางให้เพื่อนร่างสูง เพื่อที่จะได้พาเขากลับไปที่ห้องพักได้โดยที่ไม่เจอ พยาบาล จับได้ แต่เมื่อออกจากห้องน้ำมาได้ไม่เท่าไร ขณะที่กำลังจะเลี้ยวเพื่อที่จะตรงไปยังห้องพัก

"อ๊ะ...อิโนะอุเอะซัง นั่นไงคะ... " เสียง พยาบาลคนหนึ่งในกลุ่มคนหลาย คนที่ยืนอยู่ที่ หน้าห้องพักของเด็กหนุ่มร่างบางหันมาชี้มาทางทั้งสองคน ทำเอาเจถึงกับลุกลี้ลุกลนไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่โค้งให้ผู้เป็นแม่ของคนเจ็บเสียต่ำ

" เธอเอาลูกฉันไปไหนมา หา!! " เสียงของคุณแม่คิโยโนบุตวาดลั่น นั้นบ่งบอกได้เลยว่า โกรธจัด เขาไม่แน่ใจว่า พ่อของเขามาด้วยหรือเปล่า แต่ การที่ยังไม่เห็น พ่อของตัวเองยืนอยู่แถวนี้ ก็แสดงว่า วันนี้ อาจจะยังพอโชคดีอยู่บ้าง

"แม่... แม่.... " คิโยโนบุร้องพลางยื่นมือไปกันแม่ของเขาเอาไว้

" ไม่ต้องแก้ตัวให้เลยนะ คิโยโนบุ แม่หลงคิดว่าจะไว้ใจได้บ้างซะอีก อันธพาลก็คือ อันธพาล เชื่อใจไม่ได้เลยซักนิด เธอน่ะ.. " คุณแม่ชี้หน้าของเด็กหนุ่มที่เนตัวการให้ลูกชายของเธอเสียอนาคต เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมลูกชายของเธอถึงยืนยันจะคบ อันธพาลแบบนี้เป็นเพื่อน

"แม่...ผมเป็นคนขอให้เขาพาไปเอง... " เด็กหนุ่มร่างบางเอื้อมไปจับเสื้อของแม่เอาไว้ รถเข็นขยับไปตามแรงของเด็กหนุ่ม ที่เอื้อมไปจนเกือบจะสุดตัว นั่นยิ่งทำให้คนเป็นลูกแทบจะเสียหลัก ถ้าไม่ได้มือแกร่งดึงร่างนั้นเอาไว้ แล้วเงยหน้ารับคำต่อว่าแต่โดยดี

" ขอโทษครับ ผมแค่อยากให้เขาเลิกทำหน้าเหมือนจะตายก็เท่านั้น " เด็กหนุ่มบอก อย่างไม่เกรงกลัว  " คุณน้าครับ หมอนี่ไม่ยอมหัดเดินเลยนี่ครับ ผมอยากให้มัน..เอ่อ กลับไปวิ่งได้เร็วๆ ก็เลยบอกไปว่า ถ้าวันนี้มันเดินได้ ผมจะพาออกไปข้างนอกน่ะฮะ .. ผม..เอ่อ .. รู้ว่ามันผิด แต่ผม.. " เพราะว่าไม่เคยขอโทษใครเลยทำให้คำพูดนั้นฟังดูแปลกๆไปบ้าง มันก็ไม่แปลกอะไรถ้าเทียบกับท่าทางแข็งกระด้างแบบนั้น

"แม่ครับ... แม่...ผมดื้อไปเอง ...จุนไม่ผิด... แล้วผมก็กลับมาแล้ว เราไม่เป็นอะไร แล้วนี่..นี่ ผมให้แม่ดูอะไร " คิโยโนบุพูดรัว ก่อนจะ เอาไม้ค้ำยันมา ถือเอาไว้"จุน...นายช่วยหน่อย" เด็กหนุ่มพูดพลางหันไปบอกให้เด็กหนุ่มร่างสูงช่วย เจพยักหน้าแรงๆ ก่อนจะช่วยให้อีกฝ่ายยืนขึ้น
"ขอบใจ" เด็กหนุ่มว่าพลางยืน ก่อนจะเดินด้วยไม้ค้ำให้ผู้เป็นแม่ดู พยาบาลที่เห็น ความพยายามนั้นของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล ก็อดที่จะรู้สึกเห็นใจไม่ได้

"เอ่อ...อิโนะอุเอะคุง... เขาฝึกเดินด้วยไม้ค้ำตั้งแต่เมื่อวานค่ะ เขา...เดินได้ดีนะคะ พยายามมากเลย " เธอพูดขึ้น ก่อนจะต้องก้มหน้าลงเพราะ รู้ตัวว่า เสนอ ความคิดเห็นสอดเข้าไป

" ลูกจะบอกอะไรกับแม่? "ผู้เป็นแม่กอดอกถาม แต่ก็ยังทำตาขวางใส่เจ เช่นเดิม

"ผม...อยากไปเอง...ผมขอให้เขาพาไปเอง เขาพยายามห้ามแล้วด้วยการตั้งเงื่อนไข .. แต่ผมอยากไปมาก...ผมก็เลยหัดเดิน...แม่ จุนเขาแค่รักษาคำพูดของเขา...ผมต่างหากที่ดื้อแพ่งจะไป ถ้าแม่จะว่าใคร แม่มาว่าผมดีกว่า " เด็กหนุ่มพูดในโทนเสียงราวกับจะขอร้อง 


...ผมไม่อยากให้เขารู้สึก แย่มากไปกว่านี้...



" โอ๊ย ทำไมลูกต้องเข้าข้าง ต้องปกป้องเขาด้วย ที่ลูกวิ่งไม่ได้ บางที อาจจะเป็นนักกีฬาวิ่งไม่ได้ไปทั้งชีวิตมันเพราะใครกัน ลูกยังพูดแบบนี้อีกรึไง? " คนเป็นแม่แทบจะตวาดใส่ลูกชาย เธอไม่เคยมองว่าเจเป็นเพื่อนของลูกชายเธอได้เลยซักครั้ง คุณแม่สะบัดหน้าไปอีกทางก่อนจะทิ้งคำพูดเอาไว้ แล้วเดินจากไป "เรื่องของพวกเธอ...ฉันไม่อยากจะยุ่งอีกแล้ว... "


"............"

เด็กหนุ่มหมายจะเรียก แม่เอาไว้ แต่ตอนนี้ คุณแม่ของเขาก็คงจะไม่ฟังอะไรแล้ว คิโยโนบุ คิดว่าไม่นาน เรื่องนี้จะต้องถึงหูของผู้เป็นพ่ออย่างแน่นอน และ มันไม่อยากจะคาดเดาเลย ว่าพ่อของเขาต้องการจะทำอะไร พยาบาล เดินเข้ามาบอกให้เด็กหนุ่มเข้าห้องพัก และ บอกให้ เพื่อนคนป่วยรีบกลับบ้านไปเสีย ท่าทางหัวเสียเล็กๆของพวกเธอสู้ไม่ได้เลย กับ พายุที่เพิ่งจะผ่านไป


"พี่พยาบาลฮะ...ผมขอคุยกับเพื่อนต่ออีกหน่อยได้ไหมครับ...ผมไม่หนีไปไหนแล้ว ผมสัญญา " เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เมื่อนอนลงบนเตียงโดยที่มีเพื่อนร่างสูงยืนอยู่ที่ประตู

" ก็ได้จ้ะ แต่อย่านานนักนะ คุณแม่น่ะ เขาขอไม่ให้เยี่ยมนานน่ะจ้ะ . เข้าใจนะ โอโนะเสะคุง "พยาบาลสาวบอกกับเด็กทั้งสองก่อนจะขอตัวออกจากห้อง

....................................


"จุน....ฉันขอโทษนะ...แม่น่ะ...บางทีเขาก็...อารมณ์ร้อน แต่ปรกติแล้วเขาก็...ใจดีนะ" เด็กหนุ่มพูดรัวออกมา

" แต่ก็เป็นเรื่องแล้ว .. ทำใจได้เลย  " เจยักไหล่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น " ช่างเถอะ ยังไงฉันก็ไม่มีอะไรดีอนู่แล้ว เลวอีกหน่อยจะเป็นไรไปล่ะ "

"ไม่ใช่...." คิโยโนบุ พูดขึ้นมาเสียงดัง "นาย...นายเป็นเพื่อน...ที่ดีมาก" ดวงตาสีน้ำตาล สบตาของอีกฝ่ายนิ่ง

" ฉันก็แค่..ไถ่โทษ บอกแล้วไง "เจหันไปมองทางอื่นอีกแล้ว ทุกครั้งที่คิโยโนบุสบตา น่าแปลกที่เขาสบตาคู่นั้นตรงๆไม่ได้ คำพูดของอีกฝ่ายทำให้คนป่วย ต้อง ถอนหายใจออกมาเบาๆ

"เฮ้อ...จุน...นายมานี่เดี๋ยวได้ไหม..." ว่าพลางก็ตบตรงข้างๆเตียง เก้าอี้ที่อีกฝ่ายชอบนั่งอยู่ตรงนั้น  เจเดินไปนั่งเก้าอี้ที่เขามักนั่งเสมอแทนที่จะนั่งตรงที่ๆอีกฝ่ายตบ บนเตียง

" อะไร? "

"ไม่พูดคำว่า ไถ่โทษจะได้ไหม.... "เด็กหนุ่มถามเสียงเบา  "มัน.. ทำให้ฉันรู้สึกว่า...นาย...ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้...กับฉัน" มือเรียวของคนป่วยยื่นออกไป ราวกับจะขอให้อีกฝ่าย ส่งมือตอบกลับมา

" ก็..ไม่ใช่แบบนั้น..ฉันแค่ " เจเหลือบมองหน้าอีกฝ่ายเล็กน้อย แล้วก็ต้องหันไปอีกแล้ว " อย่าทำหน้าแบบนั้นดิวะ "ใบหน้าเรียวแดงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

"แบบไหน?... นายไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำไปตอนนี้ " เด็กหนุ่มถามกลับ ทำเอาเจต้องหันกลับมาทันทีนิ้วเรียวจิ้มหน้าผากอีกฝ่าย

" แบบเนี้ย .. ทำหน้าอย่างกับจะอ้อนเนี่ย "

"อ้อน?" คิโยโนะบุ เลิกคิ้วถามกลับ ก่อนจะจับนิ้วของอีกฝ่ายเอาไว้ ลดระดับลง เปลี่ยนเป็น จับมือใหญ่นั่นเอาไว้แทน "ไม่รู้ซิ่...แค่รู้สึกแย่ คำว่า "ไถ่โทษ" ของนายนั่นล่ะมั้ง "

" แล้วจะให้พูดว่าไง " ทั้งๆที่ควรจะดึงมือออก เจกลับมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง

"ก็.... " เด็กหนุ่มกรอกตาเล็กน้อย ก่อนจะสบตาของอีกฝ่าย ริมฝีปากได้รูปนั้นหยักยิ้ม  "อย่างเช่น...ทำไป เพราะอยากทำ...ทำไปเพราะ...ได้ชดเชยเวลา3ปีที่เรียนห้องเดียวกันแต่ไม่เคยคุยกัน.....ทำไปเพราะ.....อะไรอีกดีล่ะ" คิโยโนบุมองหน้าอีกฝ่ายเหมือนจะรอฟังคำตอบ

" ก็ ถ้าจะทำให้นายดีขึ้น ก็จะทำ "เจตอบกลับมา พลางมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง

"เหมือน... ถูกบังคับให้ทำเลยนะ..." อดไม่ได้ที่จะแขวะเล็กๆ  เด็กหนุ่มร่างสูงส่ายหน้าไปมา

" พูดจริงๆนะโว้ย "

คำพูดของอีกฝ่าย ทำให้ คนที่กึ่งนั่ง กึ่งนอนอยู่บนเตียงยิ้ม มือเรียวที่จับมือแกร่งนั้นเอาไว้ ออกแรงบีบเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เหลือบมองมือของเพื่อนร่างสูงเล็กน้อย ก่อนจะเบนสายตาขึ้นมาสบตาของอีกฝ่าย

"ขอบใจนะ.... " เสียงนุ่มนั้นแผ่วเบาๆ ราวกระซิบ  เจบีบมือตอบอีกฝ่าย แล้วยิ้มให้

" พรุ่งนี้..พ่อนายอาจจะมาอาละวาดใส่ฉัน  "

"พ่อเหรอ.... "เมื่อพูดถึงคนๆนี้ แล้ว ใบหน้าได้รูปนั้นกลับ เปลี่ยนไปเป็นเศร้าสร้อย รอยยิ้มเลือนหายไป "เขาคงไม่อาละวาดอะไรหรอกมั้ง... สิ่งที่เขาใส่ใจ...มีแค่งาน กับงาน เท่านั้นล่ะ"


คิโยโนบุ รู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง....จากการวิ่ง... จากเพื่อนที่คบกันเพียงแค่ผิวเผิน....และจากครอบครัว จะมีก็แต่คนตรงหน้านี่ล่ะที่ยังไม่ไปไหน แม้จะพูดได้ว่าอีกฝ่าย ผิด แต่ก็เป็นเพียงแค่ อุบัติเหตุ... และอีกฝ่ายก็ไม่ได้หนีไปไหน...ยังอยู่ตรงนี้ และ บอกว่าจะทำเพื่อให้เขาดีขึ้น มือเรียวที่จับมือของจุนเอาไว้สั่นระริกเช่นเดียวกับไหล่บางนั้น


" เฮ้ย..ไม่เป็นไรหรอกน่า " มือข้างว่างตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะขยับไปใกล้ แล้วลากมือไปลูบหลังนั้นเบาๆ เป็นการปลอบ

"อืม.. "ใบหน้า ที่ก้มนิ่งเมื่อครู่ขยับขึ้นมามองหน้าของอีกฝ่าย ในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นเป็น ประกาย ของน้ำตาที่กลั้นเอาไว้อย่างเต็มที่ สะท้อนกับแสงไฟสีขาวซีดบนเพดาน ของห้องพักคนป่วยในโรงพยาบาล  นั่นยิ่งทำให้เจรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย เขาดึงอีกฝ่ายมากอดแล้วลูบหลังเบาๆ

" ไม่เป็นไรน่า..ไม่เป็นไร " มือเรียวยกขึ้นแตะบ่าของอีกฝ่าย หน้าผากมนวางลงบนไหล่กว้างนั้น พิงน้ำหนักลงไป ราวกับจะถ่ายถอดความรู้สึกหนักข้างในอกนี่ลงไปบนไหล่กว้างนั้น ด้วยความเชื่อใจว่าอีกฝ่ายจะสามารถ แบ่งเบามันไปได้ สัมผัสอบอุ่นที่ส่งผ่านฝ่ามือนั้นมาจากด้านหลัง ทำให้รู้สึกอบอุ่นได้...ทั้งกาย ...และลึกลงไปข้างในหัวใจที่เต้น อยู่ในอก ท่ามกลาง ความเงียบ
 
เจเองก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่ทิ้งลงมาบนไหล่นั้น  เขาลูบหลังอีกฝ่ายเบาๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาซักคำ


"......... " คิโยโนบุ ขยับตัวเล็กน้อย หมายจะถอยออกมา  "เสื้อนาย...ยับเลย " เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับใบหน้าที่หันไปจะมองหน้าของอีกฝ่าย แต่ด้วยระยะห่างน้อยนิด ปลายจมูกของเด็กหนุ่มแตะแผ่วผ่านที่ข้างแก้มของเพื่อนร่างสูง  "อ่ะ...ขอโทษ" สัมผัสเบาๆ นั้น ทำให้ เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลต้องเอ่ยออกมาเบาๆ ใบหน้าได้รูปนั้น แดงขึ้นมาเล็กน้อย เพราะสัมผัส ที่เป็นเพียงอุบัติเหตุนั้น  "เออนี่.... "คิโยโนบุเริ่มพูด พยายามจะหาเรื่องพูดแก้เขิน " นาย... เคยจูบใครป่ะ...มี...เอ่อ..มีแฟนไหม"
 

สัมผัสแผ่วเบานั่น ทำให้เจไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่าย ตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้กันเกินไป แล้วยังสัมผัสแบบนั้นอีกมือใหญ่นั้นแตะกับแก้มอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะก้มลงใช้ริมฝีปากสัมผัสกับปากของอีกฝ่ายแทนคำตอบ ดวงตากลมโต นั้น เบิกกว้างด้วยความตกใจ ริมฝีปากบางเผยอขึ้นหมายจะพูดอะไรซักอย่าง แต่ ซุ่มเสียงก็หายลงคอไปเสียหมด  มือเรียวที่แตะไหล่กว้างอยู่เมื่อครู่หมายจะผละหนี แต่ความตกใจก็ชิงเอาแรงหายไปเกือบหมด  ริมฝีปากได้รูป แตะเบาๆ ก่อนจะทำท่าจะถอนออก แต่ริมฝีปากบางคนป่วยกลับ ขยับเข้าไปชิด ราวกลับจะ ลอง...สัมผัสดูอีกครั้ง


...สัมผัสแรก...ที่ไม่เคยทำกับใคร...
...รสชาตของมัน...จะเป็นยังไง...



สัมผัสนุ่มนวลนั้นทำให้เจต้องขบเม้มริมฝีปากนั้นเบา ก่อนจะแตกปลายลิ้นกับริมฝีปากบางของคนป่วยเบาๆ ตามสัญาชาตญาณ สัมผัสของปลายลิ้นแผ่วเบา ยิ่งเพิ่มความใครรู้ ริมฝีปากนุ่ม เผยอขึ้นเล็กน้อย ตอบรับสัมผัส นั้น อย่างไม่แน่ใจ ความกล้า ความกลัว ผสมปนเปกันไปในการทดลองที่เกิดจากความคิดชั่ววูบหนึ่ง  ดวงตาคู่สวยปิดสนิท มีเพียง ความร้อนและชื้นบนริมฝีปากเท่านั้นที่รู้สึกได้  จากจูบที่แผ่วเบา มันกำลังจะกลายเป็นความร้อนในไม่ช้า ถ้าไม่มีเสียงเคาะประตูห้องเสียก่อน


--- ก๊อกๆๆ----


" โอโนะเสะ คุง หมดเวลาเยี่ยมแล้วนะจ๊ะ "

เสียงเคาะประตูทำให้เจผละออกจากอีกฝ่ายทันที ดวงตารีสบตาของคนป่วยอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล ที่ นั่งหน้าแดง มองมาที่ตัวเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"โอโนะเสะ คุง " เสียงเรียกจากหน้าห้องดังขึ้นอีกครั้ง

" ครับๆ จะไปแล้วครับ " เด็กหนุ่มรีบเก็บของแล้วเดินออกจากห้องไปทันที ไม่มีแม้แต่คำลา หรืออะไรที่จะบ่งบอกว่าในวันพรุ่งนี้เขาจะทำอะไรมาให้กิน จะเอาอะไรมาให้ดูอีก
 

เสียงปิดประตูดังขึ้น ก่อนจะทิ้งให้ห้องทั้งห้อง เงียบสนิท มีเพียงแต่เสียงหัวใจของคนป่วยเท่านั้น ที่เต้นรัวเร็วจนแทบจะดังออกมานอกอก ไม่เพียงแค่เพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่หัวใจของเด็กหนุ่มนั้นเต้นถี่เสียงจนในอกรู้สึกเจ็บ ...และกลัว... บางอย่างในใจนึกกลัวว่าเขาจะไม่ได้เห็นแผ่นหลังกว้าง ของ เด็กหนุ่มผมทองคนนั้นอีก
 

…………………………………………….


มีโทรศัพท์เรียกเข้ามาในห้องของโรงพยาบาล เมื่อตอนเช้ามาถึง พยาบาล ที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ยินเสียงโวยวาย จากเด็กหนุ่มเจ้าของห้อง ดังออกมา อารมณ์ที่เกรี้ยวกราดนั้น ได้ยินได้ชัดในน้ำเสียง ที่ได้ยิน แต่เพียงไม่นาน ทุกอย่างก็เงียบลง ราวกับ หมดแล้วซึ่งซุ่มเสียงที่จะเปล่งออกมา สีหน้าของเด็กหนุ่มนั้นเรียบเฉย ดวงตาที่เหม่อลอยออกไปข้างนอกนั้นเศร้าสร้อย เมื่อพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้าไปตรวจ เป็นที่แปลกตายิ่งนัก 

สำหรับ อิโนะอุเอะ คิโยโนบุ ที่มักจะอารมณ์ดีตลอดเวลา แม้จะประสบอุบัติเหตุร้ายแรง แต่อะไรบางอย่างหรือใครบางคนทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ มีกำลังใจ ...ดูเหมือนว่ามันจะเปลี่ยนไปหลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน ในตอนสายของวัน ทั้งคุณและคุณนายอิโนะอุเอะ ก็มาที่โรงพยาบาล ด้วยความที่เป็น ผอ.โรงเรียนชื่อดังในเมือง ทำให้เจ้าหน้าที่หลายคนให้ความเคารพและบริการเป็นอย่างดี...ดีเสียจน การนำตัวคนป่วยออกจากโรงพยาบาลนั้นเกิดขึ้นอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ด้วยเหตุผลที่ได้ฟังเพียงคร่าวๆต้องย้ายบ้านด่วน และ ไม่มีคำพูดอะไรจากปากของเด็กหนุ่ม นอกเสียจากคำว่า   "ขอบคุณมากครับ"    และรอยยิ้มเศร้าๆ ก่อนที่จะถูกเข็นด้วยรถเข็นออกไปจากโรงพยาบาล

ส่วนเด็กหนุ่มร่างใหญ่ผมทองที่มักจะมากับปิ่นโต ด้วยมอร์เตอร์ไซค์สีน้ำเงินเสมอ ก็ยังคงมาเช่นทุกวันในตอนใกล้เที่ยง เพื่อเอาปิ่นโตสองชุดมาสั่งยังห้องผู้ป่วยห้องพิเศษห้องเดิมที่เขามาเกือบจะเข้าเดือนที่สามแล้ว หากแต่วันนี้ มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป

ป้ายหน้าห้องว่างเอาไว้ ไม่มีชื่อของอิโนะอุเอะ คิโยโนบุ ในขณะเดียวกับที่พยาบาลเดินเอาชุดผ้าปูที่นอนเข้าไปเปลี่ยน เตรียมรับคนไข้รายใหม่ที่จะเข้ามา เจขมวดคิ้วก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และภาพที่เห็น ภายในห้องว่างเปล่า ไม่เหลือสภาพของการมีคนอยู่มาก่อน ผ้าปูที่นอนถูกเปลี่ยนออกไป นั่นทำให้ลำคอของเด็กหนุ่มแห้งผากอย่างไร้สาเหตุ มือแกร่งที่ถือปิ่นโตเอาไว้สองชุดตกลงข้างตัว

" พี่ครับ .. หมอนั่น ไปไหนเหรอครับ? "

"อ๋อ...อิโนะอุเอะคุงน่ะเหรอ...คุณพ่อคุณแม่มาพาออกจากโรงพยาบาลไปตั้งแต่เมื่อช่วงสายแล้วล่ะจ้ะ"หญิงสาวหันมาตอบพลางยิ้มหวาน

" ออกจากโรงพยาบาล....เหรอครับ? "เด็กหนุ่ม เท่าที่เขาจำได้ นั่นมันก็อีกเกือบสองอาทิตย์ไม่ใช่หรือไง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานคงเป็นสาเหตุเดียวแน่นอน เขาคิดก่อนจะยิ้มให้พี่พยาบาล แล้วยื่นปิ่นโตทั้งสองชุดให้


" พี่ครับ..ลองกินนี่ดูไหมครับ? "


...ทำมาก็ไม่มีใครกินอยู่แล้วนี่..


"เอ้ะ..อุ้ย ปิ่นโตเหรอจ้ะ...แหม...พี่ก็ยังเข้าเวรอยู่...แต่ก็..รับไว้ก็ได้" พยาบาลสาวหัวเราะคิกคัก

" ครับ " เจโค้งให้อีกฝ่ายเล็กน้อย " ผม..เอ่อ คงต้องไปแล้วล่ะครับ " เด็กหนุ่มร้านโอโนะเสะบอกกับพยาบาลสาวก่อนจะเดินออกไปทันที  ท่าทางของเด็กหนุ่มกับถุงใส่ปิ่นโตกล่องใหญ่ในมือทำให้ พยาบาลสาวอดที่จะถอนหายใจไม่ได้



"น่าเสียดายน้า...สนิทกันขนาดนั้นแท้ๆ.... "



.................................



"เหม่ออะไรอยู่น่ะ..." เสียงของหญิงสาวคนนึ่งดังขึ้น พร้อมกับมือที่โบกไปมาตรงหน้าของชายหนุ่มผมยาว

" เปล่า .. ซุปสาหร่ายอร่อยไหม? "เชฟหนุ่มถามขึ้นมา เธอคนนี้ชอบกินสาหร่าย .. นั่นคงเป็นสาเหตุหนึ่งที่..

"ก็...อร่อยดี แต่เห็นคุณเหม่อๆ" อาการิยักไหล่ ก่อนจะมองหน้าของอีกฝ่ายด้วยท่าทางสงสับ "อาทิตย์นี้เป็นอะไร ท่าทางแปลกๆนะ " สาวผมหยักศกพาทิชิเย่ในร้านขนมของโรงแรมมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง เธอเป็นคนช่างสงสัย ปากร้ายบ้างในบางครั้ง สิ่งที่ออกจะแปลกๆอีกอย่างคงจะเป็นนิสัยชอบกินสาหร่าย จนถึงขั้นบอกว่า ถ้าเอาสาหร่ายมาทำเค้กได้ ในร้านของเธอคงจะเต็มไปด้วยเค้กสีเขียว

" เครียดมั๊ง..เรื่องงานแต่งงานลูกค้า..หมอนั่น.. "เขาเงียบไปเล็กน้อย

" เป็นเพื่อนสมัยมัธยม ผมไม่ได้เจอเขามาตั้ง 12 ปีแล้ว อยู่ๆก็ต้องมาจัดการอาหารในงานแต่งงานให้ "ดวงตารีเหม่อมองไปไกล ก่อนจะเสยผมยาวของตนเองเล็กน้อย

"เพื่อนแต่งงาน? ก็ดีแล้วนี่ มีคนจัดเค้กหรือยัง" อาการิถามทีเล่นทีจริง หญิงสาวยิ้มจนตาหยีก่อนจะยกซุปขึ้นดื่มเสียจนหมดถ้วย

" ไว้เจอจะถามให้นะ " เขายิ้มให้ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นภาพที่คุ้นตา สาหร่ายติดริมฝีปากเธออีกแล้ว

"แล้ว...เมื่อไหร่จะซักทีล่ะ เจน่ะ" หญิงสาวถามพลางลุกขึ้นเอาถ้วยไปล้างในห้องครัว

" เมื่อไหร่? อะไร? "เจช่วยอีกฝ่ายเอาจานไปเก็บที่อ่างล้างถ้วย

"อ่ะ พูดตกอีกแล้ว..โทษที เมื่อไหร่จะว่างซักทีล่ะ เจน่ะ "หญิงสาวหัวเราะเบาๆ ด้วยความที่ว่าเป็น คนพูดเร็ว ทำเอาบางทีก็ไม่ทันสังเกตเหมือนกันว่าพูดอะไรออกไปบ้าง

" คืนนี้ก็ว่างนะ~ "มือไวพอๆกับความคิดตัวเองเลย เพราะตอนนี้เขากอดอาการิจากด้านหลังแล้ว

"ก็รู้ว่าว่าง ไม่งั้น คงไม่มาหรอก แต่จะถามว่า ว่างพอจะไปเที่ยว ไปอะไรกันแบบ วันหยุดน่ะ วันหยุด ได้เมื่อไหร่เจ้าคะ "


สาวผมหยักศกหันกลับมามองหน้าของอีกฝ่ายพลางยิ้ม อาจจะเป็น เพราะ ตั้งแต่คบกันมา เจกับตัวเธอเองยังไม่เคยนัดออกไปไหนมาไหนกันข้างนอก แบบที่เรียกได้ว่า "เปิดตัว" เลยก็ว่าได้ อาจจะเป็น เพราะ หน้าที่การงานที่ต่างคนก็ต่างยุ่ง นานๆถึงจะได้มาหากันที่ห้อง ทำกับข้าว ทำขนมให้กันกิน เท่านั้น

" ให้พูดจริงๆ ก็คงต้องหลังงานแต่งงานของหมอนั่นล่ะ "ริมฝีปากได้รูปแตะที่เส้นผมของหญิงสาวเบาๆ กลิ่นนมเนยยังติดที่อยู่จนกลายเป็นกลิ่นติดตัวไปเสียแล้ว

"ขอให้จริงเถอะ...แต่ยังไงก็พยายามเข้าล่ะ งานนี้ได้โชว์ฝีมือเต็มที่แล้วนี่พ่อเชฟใหญ่" เสียงหัวเราะเบาๆ จากร่างที่ยืนล้างจานอยู่


.... แต่งงานงั้นเหรอ?....


เจคิดในใจ ... จะแปลกอะไร ..ตัวเขาสิ ที่ยังไม่คิดจะสร้างครอบครัวให้จริงจังทั้งๆที่อายุก็ไม่น้อยแล้วแบบนี้ ทำให้เขาต้องหันไปมองอาการิจากด้านหลังอีกครั้ง



………………………………………..to be con...
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP หวานเล็กๆ? 1/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 01-09-2010 22:31:30
อิ อิ ขอหวานๆก็ได้ หว้าน หวาน เขิลอ่ะ  :o8:
จุนอยากทำแต่คิโยจังอยากลอง แถมได้แล้วชิ่งอีกต่างหาก
 :laugh:ฟังเหมือนไปทำใครท้องแล้วไม่รับผิดชอบ

อ้าว จุนจังมีแฟนแล้วอีกตั่งหาก  :serius2: ทำไม
สถานการณ์แย่ขนาดนี้เนี้ย มีพันธทั้งคู่เลยอ่ะ :เฮ้อ:
แล้วจะทำไงต่อดีล่ะยังไม่มีใครรู้สึกตัวทั้งคู่เลยด้วย

 :L1:เพิ่งกลับมาก็รีบเค้ามาเปิดดูเลยนะเนี้ย ดีใจอัพด้วย :pig4:

p.s กว่าจะได้คิสยากจริงๆด้วย จูบทีเดียวหนีไป12ปีเลยอ่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP หวานอีกนิด 2/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 02-09-2010 20:06:59
@@@writer's talk@@@


อ้าว จุนจังมีแฟนแล้วอีกตั่งหาก  :serius2: ทำไม
สถานการณ์แย่ขนาดนี้เนี้ย มีพันธทั้งคู่เลยอ่ะ :เฮ้อ:
แล้วจะทำไงต่อดีล่ะยังไม่มีใครรู้สึกตัวทั้งคู่เลยด้วย

p.s กว่าจะได้คิสยากจริงๆด้วย จูบทีเดียวหนีไป12ปีเลยอ่ะ :o12:

หุหุ เป็นเรื่องอดีตนมนานกาเลของสองหนุ่มค่ะ แหม คิส แล้วทิ้ง มีที่ไหน โชคชะตานำพากลับมาเจอกัน
มีพันธะกันอีกทั้งคู่แบบนี้...เรื่องจะเป็นยังไงต่อไปก็ต้องติดตามนะคะ หุหุ
 :pig4: :pig4: ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ค่ะ เป็นกำลังใจได้มากจริงๆ

################


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ในตอนสายของวันอาทิตย์ ช่วยเรียกให้ชายหนุ่มผมยาวหันมาสนใจเครืองมือสื่อสารแทนที่จะเป็น จอ โทรทัศน์ตรงหน้า

" อ้าว ว่าไง? "ชายหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับหนังสือในมือรับโทรศัพท์แทบไม่ทัน

"เอ่อ...วันนี้หยุดรึเปล่า ? " เสียงที่คุ้นเคยของเจ้าบ่าวหนุ่มที่ถามมานั้น ฟังดูไม่แน่ใจซักเท่าไรนัก

" อื้อ อยู่ที่ห้องน่ะ มีอะไรรึเปล่า? "

"พอดีตอนนี้อยู่หน้าอพาร์ตเม้นท์นายน่ะ มาตามนามบัตร... เปิดประตูข้างล่างให้หน่อยได้ไหม... "  เพราะว่าไม่รู้เบอร์ห้อง รู้เพียงแค่เบอร์โทรศัพท์มือถือ ทำให้ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลต้องเลือกวิธีนี้แทน ในการติดต่อ
" อื้อ " ชายหนุ่มรับคำก่อนจะรีบเปิดประตูห้อง บานประตูที่เปิดออกมาให้เห็นทำให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ยิ้มพลางโบกมือให้อีกฝ่ายเห็นจากข้างล่าง

"เดี๋ยวจะขึ้นไปละกัน " ชายหนุ่มตะโกนบอก ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน "มากวนหรือเปล่า... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลว่าพลาง มองหน้าเจ้าของห้อง

เมื่อเดินขึ้นมาตามบันได ห้องพักของจุนอยู่ทีี่ชั้นสาม หันหน้าออกมาที่ระเบียง ประตูด้านล่างเป็นระบบเปิดล็อคจากในตัวห้อง การรักษาความปลอดภัยของที่นี้ไม่ได้จัดว่าดีเยี่ยมเพราะบางทีก็มีคนสวมรอยเดินเข้ามาพร้อมกับเจ้าของห้องคนอื่นๆ...แต่ก็คงดีกว่าไม่มีอะไรเลย

" เปล่า ไม่ไดกวนหรอก เข้ามาสิ " เจขยับให้อีฝ่ายเข้ามาในห้องก่อนจะถาม " กินอะไรมารึยัง? "

"ยังเลย..." คิโยโนบุ ตอบพลางยิ้ม ก่อนจะ ยกถุงที่หิ้วมาให้อีกฝ่ายดู

"อันที่จริง วันนี้ มีโจทย์ชิ้นที่สองมาให้ เห็นว่ามันสวยดี ก็เลยอยากให้นายดูเร็วๆ ก็เลยรีบตรงมานี่เลย "


จานกระเบื้องเคลือบสองใบถูกวางบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม แน่นอนว่ามันราคาแพงมากเลยทีเดียว ใบหนึ่งลักษณะคล้ายจะเป็นถ้วยน้ำชา มากเสียกว่าจะเป็นจาน ด้วยขอบที่ยกสูง ขึ้น สีม่วงอ่อน กับการวาดลายดอกฟูจิ ดูอ่อนช้อย ทำให้นึกถึงช่วงก่อนหน้าร้อน ที่บ้านเกิดที่จะได้กลิ่น ดอกฟูจิหอมระรื่น มาเสมอเวลา ที่ วิ่งผ่าน ด้านหลังของโรงเรียน  อีกใบหนึ่งเป็นจานใบเล็กๆ น่าจะเหมาะสำหรับวาง ของว่าง ที่เข้าคู่กันกับ ถ้วยน้ำชาใบแรก
 

"คิดว่าไง.. " คนกำลังจะเป็นเจ้าบ่าวยิ้ม

" ขนม... ต้องขนมสิ "ดวงตารีมองจานกับถ้วย  " ถ้วยน้ำชา .. ให้เป็นชาเขียวกลิ่นผลไม้ที่เข้ากับ อะไรดีล่ะ เค้ก? "

"ชาเขียวแบบดั้งเดิมดีกว่าไหม.... เอาใจผู้ใหญ่เขาน่ะ " คิโยโนบุถามกลับ "แต่เรื่องเค้ก.....อืม...เค้กงานแต่งก็ต้องได้กินกันอยู่แล้ว... จัดไว้ท้ายสุดเลยเป็นไง " มือเรียวคว้าถ้วยชามา ดู

"คิดถึงที่โรงเรียนเหมือนกันนะ... เห็นดอกฟูจิแบบนี้...นายกลับไปที่บ้านบ่อยไหม "

" ไม่ค่อยได้กลับหรอก งานยุ่ง เอ่อ เรื่องชากับขนมน่ะ ลองดูก็แล้วกัน นายตั้งโจทย์เองนะ ไหนๆ จะ fusion แล้วนี่ก็เอาให้มันสุดๆเลยแล้วกัน "หนุ่มผมยาวเอาหนังยางที่ข้อมือมารวบผมตนเอง แล้วเดินเข้าไปในครัว ที่มีของค่อนข้างพร้อมสำหรับทำอาหารแต่สำหรับทำขนมแล้วเขาเองก็ไม่แน่ใจ


"เหรอ...จะแปลกไหมนะ ถ้าจะบอกว่า ตั้งแต่ เจอนายเนี่ย ฉันชอบคิดเรื่องเก่าๆเรื่อย" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลว่า พลาง ขยับเอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้ เพื่อมอง ท่าทางของอีกฝ่ายที่อยู่ในครัวได้อย่างถนัดตา มันยังน่าเหลือเชื่ออย่ดีที่เด็กหนุ่มท่าทางเอาแต่เที่ยวแะลเกเกเรคนนั้น จะกลายเป็น เชฟที่ดูเอาจริงเอาจังคนนี้ไปได้


" เฮ้ย ดูเหมือนต้องไปซื้อของเพียบเลยว่ะ "เจหันมาทางคนที่นั่งสบายอารมณ์

"งั้นไปซื้อกันไหมล่ะ ฉันจะได้ดูราคาของด้วย ...คนจ่ายตังค์เขาจะได้ไม่ด่าฉันมากนักถ้ามันไม่เกินงบที่ตั้งไว้" คำพูดนั้นเหมือนจะตลกแต่เป็นการ เหน็บแนมตัวเองเสียมากกว่าที่ต้องให้ ผู้ใหญ่ทั้งหลาย มาจัดการเรื่องงานแต่งงาน 

" งั้นรอแป๊บ " เจว่าก่อนจะถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ออก

"อื้ม.... " ชายหนุ่มรับคำเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองร่างของ ชายหนุ่มร่างสูง พลาง หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกเปรียบเทียบ กับ ตัวเขาเองในตอนนี้ แม้จะเป็น ครูสอนวิชาพละ แต่ตัวเขากลับไม่ค่อยจะมีกล้ามเนื้อแบบที่ชายหนุ่มยาวมีซักเท่าไร  "นี่ใครเป็นครูสอนพละ ใครเป็นพ่อครัวกันแน่เนี่ย ... "

" หืม? " เชฟหนุ่มหันมาแบบงงๆ

"เปล่า.. ก็แค่อิจฉานาย... หุ่นดูดีทีเดียว... " ว่าที่เจ้าบ่าวว่าพลางก็หรี่ตามอง ทำท่ามีเลศนัย เป็นเชิงหยอกล้อ ร่างสูงยิ้มรับคำนั้น แล้วเดินมาอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย

" พ่อครัวไม่ได้ใช่งานสบายๆนี่ครับ อาจารย์ แบกกระสอบข้าวเอย อะไรเอย ผมก็ต้องทำทั้งนั้นล่ะ "

"อ้อ..ขอโทษที ไอ้เรามันก็มองจากฝั่งคนกินตลอด เห็นยิ้มเพล่มาเรื่อย เหมือนไม่เหนื่อย "คิโยโนบุตอบพลางยิ้ม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง
" ไปเถอะ เดี๋ยวอดกินขนม "เจดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น

"พูดเหมือนเป็นเด็กๆกันอยู่ได้นะ..." คิโยโนบุว่าพลางลุกขึ้นตามแรงดึงนั้น  สัมผัสแกร่งบนท่อนแขนนั้นทำให้อดที่จะยิ้มไม่ได้  "เมื่อก่อนนายก็ชอบดึงแบบนี้ "

" ไปได้ยัง ชอบพูดเรื่องเก่าอยู่เรื่อย "ชายหนุ่มตัดบทแล้วเดินนำอีกฝ่ายออกไปนอกห้อง

"เหรอ..โทษทีนะที่ทำให้นายหน้าแดง.. " น่าแปลกที่ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลจะทายความรู้สึกของอีกฝ่ายออกว่ากำลังเขิน

" ไปได้แล้ว โว้ย "

"เอ...หรือว่าที่พูดตัดบทฉันตั้งแต่เมื่อกี้นี่เขินมาตลอดเลยเหรอ... " ชายหุ่มผมสีน้ำตาลรีบเดินตามไปให้ทันคนที่เดินนำหน้าไป


.........................



ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆกับอพาร์ตเมนต์ของเชฟหนุ่มคือที่หมายของพวกเขา เจหยิบเอาโพยวัตถุดิบที่ต้องซื้อออกมาแล้วยื่นให้อีกฝ่าย

" เอา ตามนี้ "

"โห...จุน...ฉัน...ไม่แน่ใจว่าจะแปลหมดนี่ออก " มือเรียวคว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดืนไปไหน เพราะเขา ไม่คิดว่า จะอ่านลายมือของอีกฝ่ายที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ออก...และถึงจะอ่านออก ก็คงจะแปลความหมายไม่รู้เรื่องอยู่ดี

" หืม อ้าว อ๋อ ภาษาอังกฤษนิ โทษนะ มันชินน่ะ เชฟใหญ่เขาเป็นฝรั่ง เลยเขียนภาษาอังกฤษง่ายกว่า "เจรับเอาโพยนั้นมาแล้วเดินนำอีกฝ่ายที่เข็นรถเข็นตามมา
จะว่าไปโรงแรมที่จุนทำงานอยู่นั้นก็ออกจะเป็นโรงแรมที่แปลกไม่น้อย เพราะทำอาหารออกมาแทบจะทุกสัญชาติ และมีเชฟใหญ่เป็นชาวต่างชาติตัวอ้วนกลม ที่ชื่นชอบการใส่ชุดพ่อครัวแบบญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก การทำงานแม้จะเป็นแบบฝรั่งแต่เสื้อผ้ากลับเป็นแบบญี่ปุ่น บางครั้งก็จะมีเสียงบ่นๆจากพ่อครัวอาหารจีนมาบ้างเพราะเวลาจะจับกระทะก็ไม่มีแขนเสื้อช่วยจับตามเคยชิน ใช่ว่าเสื้อผ้าแบบญี่ปุ่นจะเหมาะกับการทำอาหารทุกชนิด
 
"เดี๋ยวนี้ นอกจากจะทำกับข้าวเก่งยังเก่งภาษาอังกฤษอีก...เท่ห์จริงๆเล้ยเพื่อนเรา" เสียงคนเดินตามหัวเราะออกมาเบาๆ

" แป้งเค้กนะ เอายี่ห้อนี้ แล้วก็ ชาเขียว  "เจชี้ไปที่แผนกวัตถุดิบเบเกอรี่

"อื้ม..."คิโยโนบุรับคำพลาง เดินไปหยิบของมาตามที่อีกฝ่ายว่า อดนึกในใจไม่ได้ว่าถูกตัดบทอีกแล้วหรือเปล่า

" แล้วก็ ลูกพลับแห้ง "ชายหนุ่มก้มๆเงยๆ เลือกผลไม้แห้งด้วยตนเอง

"อืมมม.... "ส่วนคนที่คอยเดินเข็นรถตาม ได้แต่มอง วัตถุดิบ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พลางพยายามจินตนาการรสชาตและสีสันที่น่าจะเป็นไป

"อร่อยแน่เลย " คิโยโนบุว่าพลาง จับวัตถุดิบต่างๆ ให้อยู่เป็นระเยียบ "ใช่ไหม "

" กินแล้วนายก็ได้คำตอบเองแหละว่า อร่อย หรือ เอาไปทิ้ง ฮะ ฮะ "เจพูดติดตลก

"ก็เห็นไหมละว่าฉันกินหมดทุกที... "

" นายกินได้ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนกินได้ซักหน่อย ใช่ปะ? ที่งานผู้ใหญ่เยอะนี่  " ชายหนุ่มขมวดคิ้ว " อื้อ รสชาติแบบผู้ใหญ่ๆ "ว่าแล้วก็เดินไปหาวัตถุดิบเพิ่ม
 

 …………………………….


ข้าวของมากมายถูกทั้งสองคนช่วยกันหิ้วและมามันกลับมายังอพาร์ตเมนต์ของเชฟหนุ่ม

" ฟู่~ " มือแกร่งปัดกันไปมาแล้วขยับต้นคอเพื่อคลายความเมื่อย

"มากวนจริงๆด้วยซิ่นะ " คิโยโนบุพูดพลาง ค่อยๆหยิบของออกจากถุง  "วันหยุดของนายแท้ๆเลย  โทษทีนะ "

" ช่างเถอะ งานเพื่อนทั้งที อีกอย่าง ถ้างานนี้ฉันทำสำเร็จ ก็อาจจะได้เป็นเชฟใหญ่เร็วขึ้น " เจเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วเปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม

" มันก็ได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย "เชฟหนุ่มดึงยางมัดผมมามัดผมตนเองสูงขึ้นแล้วเดินไปหยิบตำราเบเกอรี่เล่มเก่าๆ กระดาษ และปากกามาขีดเขียนอะไรบางอย่าง

"เป็นลูกร้านอาหารญี่ปุ่น แต่ก็ทำอาหาร แบบฝรั่งได้ นี่ยังทำขนมได้อีก... " ว่าที่เจ้าบ่าวว่าพลางชะโงกหน้าเข้าไปดู "เขียนอะไรน่ะ "

" สูตร เดี๋ยวนะ " เจไม่เงยหน้าจากกระดาษ ก่อนจะกดฮอตคีย์ที่คุ้นเคย " อาการิ ถามอะไรหน่อยสิ พอดีวันนี้จะลองทำเค้ก เอ่อ รูปโดมน่ะ ใช่ คิดเหมือนกันเลย ราดครีมเกาลัดผสมชาเขียว " ดวงตาของหนุ่มผมยาวฉายแววยินดี เมือ่ปลายสายคิดเมหือนเขา 


ท่าทางในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนั้น ทำให้คนที่นั่งรอ...จะกิน... อดที่จะมองอย่างศึกษาไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายที่มีสีหน้าแบบนี้ซักเท่าไหร่..แต่ก็อย่าให้พูดไปเลย เพราะการที่เขาได้พูดคุยกับอีกฝ่ายแบบใกล้ชิดครั้งสุดท้ายนั่นก็สิบกว่าปีมาแล้วเห็นจะได้  ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ลุกเดินไปสำรวจห้อง ของชายหนุ่มผมยาว เมื่อเห็นว่า บทสนทนาทางโทรศัพท์ในคราวนี้คงจะนานไม่น้อย


" โอเค จะลองดู .. รู้แล้ว จะเหลือให้ พาร์ติเช่ ชิมด้วย ไม่อร่อยอย่าบ่นล่ะ "เจว่าก่นอจะวางสาย " โอเค ต่อไป ตาเจ้าบ่าว นายมาเป็นลุกมือฉัน "เขาเดินเข้าไปในครัวพร้อมกับสูตร แน่นอน เป็นภาษาอังกฤษ

"มีคนช่วยออกความเห็นด้วยเหรอ... " เสียง คิโยโนบุเอ่ยถาม มือยกกรอบรูปของชายหนุ่มกับหญิงสาวผมหยักศกยาวถึงกลางหลัง ...ท่าทางจะเป็นคนร่าเริงและเป็นกันเองไม่เบา 

" เขาเป็นพาติเช่ ของโรงแรม ..จะว่าไงดีล่ะ กำลังดูๆกันอยู่ "ชายหนุ่มยื่นตะกร้อมือกับชามให้อีกฝ่าย " เดี๋ยวตวงแป้ง ผงฟู ชาเขียวใส่ลงไปในนี้ ใช้ไอ้นี่กวนๆ แล้วก็ร่อนแป้งใส่กระดาษไข "

"หา...จะไหวไหมเนี่ย... " คิโยโนบุ พูดเสียงสูงก่อนจะมองข้าวของที่อยู่ในมือ "ไม่เคยทำนะ "

" ลองดู ไม่ใช่เรื่องยากหรอก  " เจว่าก่อนจะฉวยชามอีกฝ่ายมาใส่วัตถุดิบที่เขาตวงไว้

" แล้วนี่ที่ร้อนแป้ง ร่อนเบาๆ ไม่งั้นฟุ้งหมด ใช่ฝ่ามือตบขอบเบาๆ ไม่ใช่เขย่า "

"อา...ฮะ" รับคำพลางก็ลองทำตาม แต่ด้วยว่า มือหนักไปหน่อย ในคราวแรกทำให้ แป้งฟุ้งออกมาไม่น้อย "อุ๊บ...แค่ก... " เผลอสูดเอาแป้งเข้าไปจนได้ แต่เมื่อรู้ว่า ที่กำลังทำอยู่นั้น มันแรงเกินปก็พยายาม เบามือลงอีกซึ่งก็ดีขึ้นไม่น้อย

" โอเค ต่อไป ตีไข่ กับน้ำตาล  " เจตอกไข่ใส่ชาม ตามด้วยน้ำตาลเม็ดเล็กก่อนจะเอาไปตั้งไว้บนหม้อน้ำร้อนๆ แล้วใช้ตะกร้อมืออีกอันคนๆ จนมันมีควันลอยขึ้นแต่ แต่ไข่ยังไม่สุก " เอา ตีแบบนี้ ดูๆ " มือแกร่งจับด้ามตะกร้อมือแล้วหมุนให้ปายตะกร้อเอียงกับก้นชามแสตนเลสก่อนจะตวัดมือขึ้นเร็วๆ
" ตีเร็วๆ หมุนข้อมือเป็นครึ่งวงกลม จนไข่กับน้ำตาลละลาย ตีเร็วๆให้มันข้นเหนียว  "เขายื่นชามพร้อมอุปกรณ์ให้อีกฝ่าย" เร็ว อาจารย์พละ เรื่องแค่นี้ นายทำได้อยู่แล้ว "

"อ่าๆ..."ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลรับคำพลางทำอย่างที่อีกฝ่ายทำให้ดูเมื่อครู่ ตอนแรกแม้จะรู้สึกงงๆ และยุ่งยากไปบ้างแต่ก็ชักจะเริ่มสนุกขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นว่าส่วนผสมเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว "แบบนี้โอเคยัง " ถามพลางก็หันไปถามความเห็น  ส่วนผสมเริ่มข้นแต่ยังไม่เหนียวพอ ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา

" ยัง เร็วกว่านี้ให้เหนียวเลย "

"โอเค.. " ชายหนุ่มเลียริมฝีปากบาง พลางเร่งมือ ตีส่วนผสมนั่นให้เร็วขึ้นอีก  "พอจะโอเคขึ้นยัง " ผ่านไปครู่หนึ่ง ว่าที่เจ้าบ่าวก็หันมาถามความเห็นอีกรอบ เพราะกลัวว่าจะมันส์มือมากเสียจนทำเสียของไปเสีย

" โอเค "เขาขอชามมาจากอีกฝ่ายก่อนจะยื่นช่มแป้งที่ร่อนแล้วให้อีกฝ่าย" ตักใส่ทีละช้อน ฉันเป้นคนผสม "

"ได้ๆ ... "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล รับคำ พลางค่อยๆตักใส่ลงไปทีละช้อนในขณะที่อีกฝ่ายเป็นคนออกแรงต่อ "เออ...แล้ว... ที่ว่า "ดูๆกันอยู่"เนี่ย..เมื่อไหร่จะจริงจังซักทีล่ะ " เมื่อเห็นว่าในห้องครัวไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงของอุปปกรณ์ จึงเอ่ยถามออกไปแบบนั้น ทำลายความเงียบ ทำเอาเชฟหนุ่มชะงักมือเล็กน้อย แล้วสนใจกับการคนแป้งกับครีมอย่างเบามือต่อ

" ไม่รู้ .. ว่าแต่อย่าพูดมากตอนที่กำลังใช้สมาธิซิ "

 "ก็... มันเงียบนี่หว่า แล้วนายก็ทำหน้าจริงจังซะ... เห็นหน้านายตอนจริงจังใกล้ๆนี่มันก็ ..คงไม่มีใครอยากให้อยู่เงียบๆหรอก" คนถามย้อน มือก็ยังตักส่วนผสมใส่ลงไปเรื่อยๆ

" ช้าๆสิ "คนตัวสูงกว่าขมวดคิ้วแล้วค่อยๆคนแป้งนั้นอย่างเบามือ " ใส่เร็วไปแล้ว ถ้ากวนนาน เค้กเหนียวนะ "

"อ่ะ..ขอโทษๆ " คิโยโนบุลดความถี่ในการตักใส่ลงไปให้ช้าลง

" แล้วก็ นม กับเนยในไมโครเวฟ นมนี่เทลงไปเลยนะ ส่วนเนย เอาออกมาคนก่อนแล้วใส่ทีละช้อน ช้าๆ "เขาชี้ไปที่โต๊ะ

"ช้าๆ....ช้าๆ.... "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล พึมพำไปพลางก็ทำตามมขั้นตอนที่อีกฝ่ายบอก "แล้วหลังจากนี้ทำอะไรต่ออ่ะ... "
 
" เทใส่พิมพ์นั่นเลย ฉันทาไขมันไว้แล้ว ค่อยๆนะ "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพยักหน้ารับคำพลาง ค่อยๆเทส่วนผสมลงไป จนเรียบร้อย

"ฟู่...ตื่นเต้นเป็นบ้า" เขาแทบจะปาดเหงื่อเมื่อวางภาชนะว่างเปล่าลงกับโต๊ะ

" เดี๋ยวอบก็รู้ว่า กินได้หรือทิ้ง "ชายหนุ่มไม่วายขู่แล้วเอาใส่เตาอบที่เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่กับมาถึงบ้านแล้วก่อนจะหันไปสนใจกล่องวิปปิ้งครีม

"ขู่อีก... เอาเถอะ ถ้ามันไม่น่ากินนักก็ทิ้ง... มันคงเป็นเพราะฝีมือของฉันมากกว่า " 

" เอานี่ จะสอนตีครีม " อยู่ๆ เจก็เปลี่ยนเรื่อง แล้วยื่นชามแสตนเลสกับตะกร้อมือให้อีก " ตวงครีม เอาทั้งตะกร้อ ครีม ชาม ใส่ช่องฟรีซให้เย็นจัดๆเลย "
"เปลี่ยนเรื่องอีกแล้วนายนี่... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดขึ้นพลางหัวเราะ ออกมาเบาๆ  "นึกว่าจะได้มานั่งคุยด้วยสบายๆนะเนี่ย กลายเป็น ว่าได้มาออกกำลังกายแขนกันซะอย่างนั้น"

" คราวนี้เข้าใจรึยังว่างานทำอาหารเนี่ย ออกกำลังดีๆนี่เอง  "เจหัวเราะเบาๆ " ได้กล้ามด้วย ดีกว่าเล่นเวท เป็นไหนๆ "

"ครับครับ คงไม่สามารถเถียง คนหุ่นดีกว่าได้... " ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ  กลิ่นหอมๆของเค้กชาเขียวตลบอบอวลไปทั่วห้องครัวหลังจากนั้นเพียงสิบห้านาที

" ไปเอาครีมออกมาตีเลย ตีแบบตีไข่เมื่อกี้เลย " ชายหนุ่มที่โดนสั่งส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอาครีมออกมาตีครีมเหมือนอย่าง อย่างที่เคยทำเมื่อครู่

"แล้ว... เธอคนนั้นก็ทำเค้กเหรอ... "

" เก่งเลยล่ะ "เขาอดที่จะชมอาการิไม่ได้ เพราะเธอเก่งมากจริงๆ

"อืม.... " ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน จ้องมองครีมสีขาวที่เริ่มข้นขึ้นเรื่อยๆ  "ก็ดีแล้วล่ะ... ที่นาย มีความสุข "

" พูดอย่างกับตอนนี้นายไม่มีความสุข " เจสวนขึ้นมา " เป็นเจ้าบ่าวนะ ร่าเริงหน่อย ต้องมีความสุขซี่ "

"ก็...นะ จะว่ามีความสุขไหม มันก็มีอยู่หรอก... " ชายหนุ่มโคลงศรีษะเบาๆ


....เพียงแต่มันรู้สึก.....
.....แปลกๆ.....



"เอาเถอะ ฉันเป็นเจ้าบ่าวนี่นา ฉันต้องมีความสุขอยู่แล้ว " ชายหนุ่มตัดบทความคิดตัวเองพลางเงยหน้า ขึ้นมายิ้มให้กับอีกฝ่าย

" ดีแล้ว…. เอาล่ะ รอแต่งหน้าเค้กละกัน สงสัย เค้กจะได้แล้ว " เจว่า ก่อนจะเดินไปเปิดเตาอบ กลิ่นหอมของเค้กชาเขียวอบอวลไปทั่ว

"โห...กินแบบนี้เลยได้ป่ะ... " คนที่กำลังตีครีมอยู่ชะโงกหน้ามาดู "ว่าแต่ครีมนี่พอยังอ่ะ "

" พอแล้วๆ  " เจจัดการคว่ำเค้กลงกับตะแกรงแล้วลอกกระดาษที่ปูฐานเอาไว้ออก " ต้องทิ้งไว้ให้อุ่นหน่อย เดี๋ยวค่อยแต่ง "

"แล้ว...ไงต่อ" คิโยโนบุว่าพลาง วางชามอ่างที่พยายามตีครีมสีขาวนั่นเสียจนเนียนสวยเลยทีเดียว

" ม้วนเค้กนะ ทำแบบนี้ " เขาวางกระดาษไขลงกับโต๊ะแล้วโรยน้ำตาลเล็กน้อย ก่อนจะเอาแผ่นเค้กบางๆนั้นวางอย่างเบามือ " เอ้าปาดครีมบางๆหน่อย "

"หา...ปาด?...เอาอะไรปาด ? ไอ้นี่เหรอ " ว่าพลางก็หยิบเอาไม้พายพลาสติคขึ้นมาด้วยความงุนงง


....เดี๋ยว สรุปใครทำให้ใครกินกันแน่เนี่ย....



แต่ถึงจะคิดไปแบบนั้นก็ไม่ได้ถามออกไปจริงๆ


" ไม่ใช่ อันนี้ สปาร์ตูล่า นี่น่ะ " เจดึงไม้พายออกจากอีกฝ่ายแล้วยื่นที่ปาดครีมแสตนเลสให้แทนแล้วก็ต้องฉวยเอามาทำเองจนได้ " นายไปเอาลูกพลับแห้งไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ " เห็นท่าทางแบบนั้นของ ชายหนุ่มร่างสูงก็ทำเอาผู้ช่วยเชฟจำเป็นหน้าเจื่อนไปไม่น้อย
 
"ฉันคงทำให้นายยุ่งมากกว่าจะช่วยนะเนี่ย " ว่าพลางก็เดินไปเอาลูกพลัมแห้งมา หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตามที่อีกฝ่ายบอก การใช้มีดของครูพละหนุ่มว่าที่เจ้าบ่าวแม้จะไม่ได้เรียกว่าดีนัก แต่ก็ ยังดีที่เจ้าตัวยังไม่ได้ตัดนิ้วตัวเองให้เลือดอาบ

" ได้รึยัง จะม้วนแล้วนะ  "เจเร่งอีกฝ่าย ราวกับกำลังอยู่ในครัวของโรงแรม

"โอ้ย..." ชายหนุ่มที่โดนเร่งร้องเสียงหลง ก่อนจะยื่นถ้วยใส่ลูกพลัมที่สับละเอียดแล้วให้กับอีกฝ่าย ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบเดินที่อ่างล้าง โดนมีดบาดเข้าให้จนได้  นั่นทำให้เจต้องเดินตามไปฉวยมือนั้นเอาไว้ แล้วดึงให้เดินตามไปที่โซฟา
 
" ซุ่มซ่ามชะมัด "  เจส่ายหน้าไปมาแล้วเดินไปหยิบกล่องพยาบาลมาทำแผลให้อาจารย์หนุ่มอย่างคล่องแคล่ว

"ปรกติก็ไม่ได้ซุ่มซ่ามหรอก... แต่พอดีว่าโดนเร่ง เลยเผลอไปหน่อย" คิโยโนบุอดไม่ได้ที่จะกัดพ่อครัวใหญ่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มเมื่ออีกฝ่ายปิดพลาสเตอร์ยาให้บนปลายนิ้ว  "นายนี่ใจดีไม่เปลี่ยนเลยนะ...ใจดีไม่เข้ากับหน้าเท่าไหร่"
 
" แล้วต้องใจร้ายรึไง ถึงจะเหมาะ? "หนุ่มผมยาวสบตาอีกฝ่าย

"อืม...แต่นายก็อดไม่ได้หรอก... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยิ้ม เขารู้ดีตั้งแต่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายจากด้านหลังในตอนที่จุนเข้ามาเข็นรถเข็นให้เขาที่โรงพยาบาลในตอนนั้นแล้ว รอยยิ้มนั่นทำให้เจต้องหันไปทางอื่น

" รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวทำเอง " เขาว่าแล้วก็ลุกไปทำเค้กในครัว

"เยี่ยม... ทีนี้จะได้เห็นฝีมือเชฟของตริงเสียที... " ชายหนุ่ม หัวเราะออกมาเบาๆ  ก่อนจะเท้าคางนั่งมองอีกฝ่าย ทำเค้กต่อไป

" ไม่ต้องมองเลย ไปดูทีวีไป "หนุ่มผมยาวใช้สปาตูล่าในมือที่เลอะครีมชี้หน้าอีกฝ่าย

"อ้าว ไล่ทำไมล่ะ...จะนั่งมองก็ไม่ได้เหรอ ฉันแทบจะไม่เคยเห็นนายตอนทำกับข้าวเลยนะ" คิโยโนบุเลิกคิ้ว ถาม "นั่งดูแบบนี้ล่ะ จะได้ประเมินด้วยไงว่า...เชฟที่จองตัวเอาไว้นี่ ทำกับข้าวแบบ ถูกหลักอนามัยหรือเปล่า... "ก่อนจะพูดต่อแบบติดตลก

" ในครัว เขาไม่ให้ลูกค้าเห็น มันทำลายสมาธิ " เจบอกก่อนจะก้มหน้าก้มตาม้วนเค้กได้อย่างสวยงาม เขาใช้มีดลวกน้ำร้อนตัดเค้กโรลนั้นออกมาได้สิบชิ้น ชายหนุ่มเอาพิมพ์รูปโดมวางเค้กเรียงลงไป ก่อนจะ หันไปจัดการทำมูสถั่วแดงต่อแล้วเทลงไปจนเต็ม เขาเอามันแช่ตู้เย็นเอาไว้แล้วเก็บกวดครัวให้เรียบร้อย

.......................


ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ทำเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนจะเดินปลายเท้าไปนั่งที่หน้าโซฟา เปิดทีวีเสียงเบาที่สุด เชฟใหญ่เสียสมาธิ

"นี่ เชฟโอโนเสะ เสร็จรึยัง... " แม้จะพยายามอยู่เงียบๆแต่ความที่อยากจะเห็นเหมือนกันว่า ของหวานแบบไหนจะถูกเสริฟในจานที่จะนำมาใช้ในงานแต่งงานของตัวเองก็ทำให้อยู่เงียบไม่ได้ซักเท่าไร

เมื่อเจทำความสะอาดครัวเรียบร้อยเขาก็เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วจับพิมพ์นั้นคว่ำกับจานที่คิโยโนบุเอามาให้ คิ้วเรียวขมวดอย่างใช้ความคิดแล้วก็ใช้วิปครีมตกแต่ง โรยด้วยผงชาเขียว และ ถั่วแดงบดที่เหลือจากการทำมูศนั่นเขาก็เอาไปทำซอสด้วยการเพิ่มน้ำและแป้งข้าวโพดลงไป ราดเป็นลายด้านข้างของจาน หนุ่มผมยาวยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะเอาจานขนมใส่ถาด ตามด้วยชาเขียวที่ผสมกลิ่นผลไม้แห้งเอาไว้ เขาเอามันมาวางตรงหน้าคิโยโนบุ


" ถ้าไม่เวิร์กก็จะให้ อาคาริ มาทำให้ล่ะ  "

"ก็....น่าอร่อยดีออก... " ชายหนุ่มมองของหวานตรงหน้าตาค้างไปเลยทีเดียว เพราะมันสวยงามมากเกินกว่าจะคิดว่า ส่วนหนึ่งในส่วนผสมนั้นเขาเป็นคนตี "แน่ใจนะว่า ไม่ได้เป็น คนทำขนมด้วยเนี่ย... อาการิซังนี่สอนนายมาดีชัวร์"

" เขาขอให้ช่วยบ่อยๆน่ะ "หนุ่มผมยาวยิ้มเมือ่นึกถึงเธอคนนั้น

"โอ๊ะๆ...หน้าของคนกำลังมีความรักนี่นา" คิโยโนบุอดจะแซวไม่ได้ก่อนจะตักเค้กเข้าปาก รสชาตของชาเขียวนั้นนุ่มนวลขึ้นมากจากครีมสดและหวานละมุนในแบบที่เป็นรสชาตเฉพาะตัวของคนญี่ปุ่นด้วยมูสถั่วแดง แบบนี้ไม่ว่าแขกจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็คงจะชอบไม่น้อย


"อร่อย...."

" ลูกพลับแห้งนั่นน่ะ เป็นยังไง? "เชฟหนุ่มถามถึงสิ่งที่เขากังวล

"อร่อย... เพิ่มสัมผัสดี.... กินไหม"ว่าพลางก็ตักยื่นให้อีกฝ่ายลองบ้าง

" ฉันไม่ชอบของหวานนี่นะ นายกินเถอะ " เชฟหนุ่มปฏิเสธอีกฝ่าย

"คนทำไม่ชิมได้ไงกัน.... " ชายหนุ่มมองหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะหันช้อนเข้าปากตัวเอง  "แบบนี้เสริฟกับชาเขียวได้สบาย...เหมือนขนมญี่ปุ่น ...........” เสียงพึมพำเบาๆนั้นเงียบไปเมือต้องเคี้ยวขนมหวานแสนอร่อยนั่นให้หมด ก่อนที่จะตักคำต่อไป และต่อไปเรื่อยๆ โดยที่มีคนทำนั่งดูอยู่ไม่ห่าง


"นี่...จุน... จำตอนที่ฉันจะย้ายมาได้ไหม" อาจารย์หนุ่มเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เงียบไปนานพอสมควร

" เรื่องไหนล่ะ? " เชฟหนุ่มหันไปถาม ก่อนจะหยิบรีโมทเปลี่ยนช่องโทรทัศน์และเร่งเสียง

"เรื่อง...จูบนั่นน่ะ" เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นเบาๆ

"หือ? " เชฟหนุ่มหันไปอย่างแปลกใจเพราะเสียงโทรทัศน์ทำให้เขาได้ยินไม่ถนัดนัก

"เรื่องจูบน่ะ..."คิโยโนบุพูดเสียงดังขึ้นพลางขยับเข้าไปใกล้

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง...เขาไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมต้องยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด อันที่จริงเขาลืมเรื่องนี้ไปนานพอสมควรแล้วจนกระทั่งมาเจอหน้าอีกฝ่ายอีกครัง มันเหมือนกับว่า ภาพเก่าๆบางส่วนที่ถูกเก็บเอาไว้ในความทรงจำค่อยๆฟื้นกลับมา อย่างไม่ทราบสาเหตุ  และทำให้ใจของเขาสั่นไหว แปลกๆ เพราะความที่อีกฝ่ายนั้นยังเหมือนเดิมมากเหลือเกิน เทียบกับคนที่อยู่ในความทรงจำคนนั้น

" ทำไมเหรอ? " เจพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งๆที่ตอนนี้เขากำลังมองที่ริมฝีปากที่ขยับเข้ามาใกล้นั่น

"คือ...นายคิดยังไง....ตอนนั้น "  เสียงที่ถามออกไปนั้นฟังดูประหม่าไม่น้อย ในใจของคิโยโนบุได้แต่คิดว่า



 ...นี่จะถามไปทำไมกัน...เรื่องแบบนั้น....ตอนนี้ ...

 

" แล้วนายล่ะคิดยังไง? " เชฟหนุ่มรู้สึกได้ถึงลมหายใจของว่าที่เจ้าบ่าว

"ไม่รู้ซิ่.. ตอนนั้นมันก็แบบว่า ฉันอาจจะกำลังสับสน แล้วมันก็...ยังไงดีล่ะ...เด็กน่ะนะ .... อยากรู้อยากลองล่ะมั้ง... " ชายหนุ่มพูดเสียงเบา ลมหายใจของเชฟหนุ่มนั้นทำให้รู้สึแปลกๆ


...แล้วตอนนั้นฉันก็ไม่มีใคร...
 

ก่อนจะต้องสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด แล้วขยับเข้าไปแตะริมฝีปากกับอีกฝ่ายเบาๆ แล้วถอยกลับออกมา ดวงตาสีน้ำตาลสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง ... ตกใจกับการกระทำของตัวเอง...


..............................................to be con

@@@talk@@@
ตอนนี้ก็หวานนะ....(แน่ละล่อเค้กเป็นก้อน)
:-[
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP หวานอีกนิด 2/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 03-09-2010 00:49:35
http://www.youtube.com/v/AEO2zjpLNZs?fs=1&hl=en_US

เอามาฝาก ฟังแล้วคิดถึงจูบแรกอ่ะ :o8: เพิ่งกลับมาอ่ะพีจัง ฝกตกด้วยเซ็งเลยเนอะ  รอบนี้เค้าเรียกจุ๊บเหอะ  :laugh:

p.s "เยี่ยม... ทีนี้จะได้เห็นฝีมือเชฟของตริงเสียที...  " = "เยี่ยม... ทีนี้จะได้เห็นฝีมือเชฟของจริงเสียที... "
      "เขาเอามันแช่ตู้เย็นเอาไว้แล้วเก็บกวดครัวให้เรียบร้อย" = "เขาเอามันแช่ตู้เย็นเอาไว้แล้วเก็บกวาดครัวให้เรียบร้อย"
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP หวานอีกนิด 2/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-09-2010 13:49:19
เจอกันในช่วงเวลาที่อีกคนจะแต่งงาน  หวานยังงัยก็คงจะไม่หวานไปตลอดแน่ ๆ
เฮ้อ  แค่คิดก็ปวดจิตแล้ว
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP หวานอีกนิด 2/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 03-09-2010 15:44:36
เพิ่งตามมาอ่านครับ ชอบมาก แต่กลัวใจสลายตอนจบจัง ลุ้นตอนต่อไปนะครับ ขอบตุณ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP หวานอีกนิด 2/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 03-09-2010 17:28:46
ชอบน่ะความรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือการ์ตูนเลย อิอิ :L2:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP หวานอีกนิด 2/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 03-09-2010 19:08:58
เจ๋งค่ะ เด๋วขอเวลาอ่านซักครู่เน้อออออออ
+1 เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^_____________^
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP 3/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 03-09-2010 19:44:21
@@@@Writer's Talk@@@@

เพิ่งกลับมาอ่ะพีจัง ฝกตกด้วยเซ็งเลยเนอะ  รอบนี้เค้าเรียกจุ๊บเหอะ  :laugh:

p.s "เยี่ยม... ทีนี้จะได้เห็นฝีมือเชฟของตริงเสียที...  " = "เยี่ยม... ทีนี้จะได้เห็นฝีมือเชฟของจริงเสียที... "
      "เขาเอามันแช่ตู้เย็นเอาไว้แล้วเก็บกวดครัวให้เรียบร้อย" = "เขาเอามันแช่ตู้เย็นเอาไว้แล้วเก็บกวาดครัวให้เรียบร้อย"


ขอบคุณสำหรับเรื่องคำผิดนะคะ จะพยายามไม่ให้ผิดอีกค่ะ และเพลงที่เอามาฝากกันด้วยนะคะ ...แล้วก็ค่ำๆฝนตกเป็นประจำ ยังไงก็ระวังอย่าให้เปียกฝนเป็นหวัดนะคะ...รักษาสุขภาพด้วย :กอด1:
เจอกันในช่วงเวลาที่อีกคนจะแต่งงาน  หวานยังงัยก็คงจะไม่หวานไปตลอดแน่ ๆ
เฮ้อ  แค่คิดก็ปวดจิตแล้ว
เป็นเรื่องยาวค่ะ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามกันต่อไปนะคะ  :pig4:
เพิ่งตามมาอ่านครับ ชอบมาก แต่กลัวใจสลายตอนจบจัง ลุ้นตอนต่อไปนะครับ ขอบตุณ
:pig2:ยินดีค่า ยินดี ....มาลุ้นตอนต่อไปกันนะคะ
ชอบน่ะความรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือการ์ตูนเลย อิอิ :L2:
อุ้ย...พูดแบบนัี้ก็ชักอยากจะเห็นนิยายตัวเองเป็นการ์ตูนเหมือนกันค่ะ ....ใครจะวาดให้หนอ  :monkeysad:
สงสัยต้องขอพระเอกแบบมาดแมน สูงล่ำเถื่อน แบบจุนจังในเรื่องเนอะ หุหุ

เจ๋งค่ะ เด๋วขอเวลาอ่านซักครู่เน้อออออออ
+1 เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^_____________^

ระหว่างที่อ่านไปขออัพตอนใหม่ไปด้วยก็แล้วกันนะคะ จะได้ต่อเนื่อง

เอาล่ะ ไปอ่านตอนใหม่กันเถอะ

###############


"เอ่อ...ขอโทษ...แค่อยากรู้ว่า ตอนนี้มันจะเป็นยังไงน่ะ.... " พูดออกไปก่อนจะคิดได้ว่ามันช่างฟังดูไร้สาระเสียนี่กระไร  

" ตอนนี้น่ะเหรอ... "

เสียงทุ้มขยับเข้าไปกระซิบติดริมฝีปากได้รูปนั้น แล้วใช้มืออีกข้างจับท้ายทอยของอีกฝ่าย แล้วแนบริมฝีปากลงไป อีกครั้งและอีกครั้ง อ่อนหวาน และแน่นอนว่านี่แตกต่างจากเมื่อสิบกว่าปีก่อน สิ่งที่เรียกว่า จูบ นั้นไม่ใช่แค่แตะริมฝีปากหรือไล้เล็มเบาๆเพียงภายนอก อีกต่อไปแล้ว ปลายลิ้นร้อนและเล็มกับริมฝีปากล่างของอาจารย์หนุ่มอย่างยั่วเย้า  สำหรับคิโยโนบุแล้วจูบนั้นให้รสชาตแตกต่างออกไปมากนัก มันไม่ใช้รสชาตแบบเด็กๆที่เคยได้รับ และริมฝีปากของฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้นุ่มและอ่อนหวานราวกับน้ำตาลแบบของคู่หมั้น แต่ถึงกระนั้น ปลายลิ้นของเขากลับตอบสนองจูบนั้นอย่างเต็มใจ ริมฝีปากของอาจารย์หนุ่มเผยอรับเรียวลิ้นนั้นเข้ามาเกี่ยวพัน มือเรียวยกขึ้นโอบรอบไหล่แกร่งนั้นเอาไว้อย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้อากาศระหว่างทั้งสองคนนั้นจางลงมากเหลือเกิน


...บางส่วนในใจของอาจารย์หนุ่มเจ็บแปลบ...  


ริมฝีปากของเชฟหนุ่มถอนออกอย่างอ้อยอิ่ง หลังจากได้ลิ้มรสชาติเค้กที่เขาทำจากอีกฝ่าย ก่อนจะขยับถอยออกไปทันที มือแกร่งกุมศีรษะตนเองอย่างสับสน


" นายกลับมาทำไมกัน... "


"ฉัน?....กลับมา? ..."คำถามของอีกฝ่ายทำให้อาจารย์หนุ่มต้องย้อนถามกลับด้วยความสับสนเช่นเดียวกัน  เมื่อครู่นี้มันคืออะไร...ไม่ซื่ เขาอาจจะต้องถามตัวเองมากกว่านี้ ว่าเขามาที่นี่ทำไมตั้งแต่แรกต่างหาก...เป็นเพราะเขาอยากจะพบอีกฝ่ายมากเหลือเกิน   "ฉันอยู่ที่เมืองนี้มา...สิบปีได้แล้ว...มันไม่แปลกไปหน่อยหรือที่จะถามว่าฉันกลับมาทำไม"

"นายกลับมาอยู่ตรงฉันอีกทำไมกัน .. ทั้งๆที่นายไปแล้ว " คราวนี้เชฟหนุ่มถามออกมาอีกครั้ง จะพูดให้ถูกก็คงถามว่า กลับเข้ามาในชีวิตเขาอีกทำไมเสียมากกว่า

"...พูดเหมือนฉันผิด....เลยนะ" คำถามของอีกฝ่าย ทำให้เขาเข้าใจ ชายหนุ่มขยับถอยไปอีกทาง การกระทำเมื่อครู่ทำให้รู้สึกดี...อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...ราวกับบางส่วนในใจของเขามันเรียกร้องหามานาน.... แต่หากจะให้พูด มันก็ผิด...ต่อหญิงสาวคนนั้นเช่นกัน

" นายไป ทั้งๆที่เราเพิ่งจะจูบกัน นายไม่ให้ฉันได้พูด หรือถามอะไรนายทั้งนั้น .. นั่นน่ะ ไม่ได้ผิดหรอกเหรอ? "จุนสบตาอีกฝ่ายนิ่ง

"...ฉันย้ายมาเพราะพ่อต้องย้ายมาประจำที่นี่ด่วน ส่วนเรื่องนี้...เป็นเพราะในตอนนั้น นายเดินออกไปเฉยๆ...ทั้งที่เราทำแบบนั้น ...ฉัน....คิดว่านายคงจะอยากลืมมัน...จูบนั่น"

" ฉันก็แค่ .. สับสน แต่ก็อยากจะเคลียร์กับนาย แต่จู่ๆ นายก็หนีไป ทิ้งให้ฉันต้องอยู่กับความสับสนนี่คนเดียว!  " เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นราวกับระบายความอัดอั้นที่มีอยู่ในใจมาตลอด 12 ปี  " แต่อยู่ๆ นายก็กลับมา โอเค ชีวิตฉันกำลังไปได้สวย ฉันกำลังจะคบกับใครซักคน แล้วนายก็กลับมา! " ปลายนิ้วของเชฟหนุ่มยกขึ้นชี้หน้าอีกฝ่าย

"อ่ะ.... "คิโยโนบุกำมือแน่น ความรู้สึกเจ็บร้าวแล่นขึ้นมาจากปลายนิ้ว

"ฉัน...มันแย่เอง... " ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหลุบลงต่ำ  "นั่นซิ่นะ...นายเองก็กำลังไปได้สวย ... ฉันเอง....ก็กำลังจะแต่งงาน...ฉันคิดอะไรอยู่..."

"  ฉันไม่ควรรับงานนี้ ฉันไม่ควรทำให้นายเขว .. นายกำลังจะแต่งงาน กำลังจะมีครอบครัวของตัวเอง  "หนุ่มผมสีน้ำตาลดึงหนังยางออกจากผมของตนเองก่อนจะล้วงหาบุหรี่ ด้วยความสับสน เขาอยากจะได้บุหรี่ซักมวน เผื่อว่าจะคิดได้มากกว่านี้   ว่าที่เจ้าบ่าวเองก็นั่งนิ่ง เขาไม่อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้ แต่สมองก็สั่งให้ขาลุกเดินไปไม่ได้

"ฉันรู้สึกผิดไหมที่ทำลงไปเมื่อกี้...ผิด...เพราะฉันกำลังจะแต่งงาน แต่ฉันไม่ได้เสียใจที่เจอนายอีกครั้ง"

" นายจะพูดอะไรกันแน่ " เจไม่ยอมหันไป เขารู้ว่าถ้าเขากันไปจะต้องเจอภาพอะไร และเขาจะเสียความตั้งใจในการเป็นเชฟในงานแต่งงานของเจ้าบ่าวคนนี้

"............" เสียงถอนหายใจดังขึ้น เบาๆ มือเรียวยื่นไปตบไหล่แกร่งของอีกฝ่าย ก่อนจะลุกขึ้นยืน "เค้กอร่อยมาก...ฉันว่านายทำแบบนี้ล่ะดีแล้ว... " ชายหนุ่มพูดก่อนจะหันหลังให้กับอีกฝ่าย "ขอบใจนะสำหรับวันนี้... "

เชฟหนุ่มมองตามคนที่กำลังจะเดินออกจากห้องของเขาไป แต่ที่สุดก็ตัดสินใจลุกตามไปดึงร่างนั้นมากอดไว้จากด้านหลังจนได้ สัมผัสอุ่นจากอ้อมแขนแกร่ง ทำให้ คนที่ถูกดึงเอาไว้ต้องสูดลมหายใจเข้าลึก

"ฉันจะกลับไปอยู่ในเขตของคำว่า "ลูกค้า" ...นายจะได้สบายใจเสียที... " ถึงจะพูดไปแบบนั้นเสียงของเขากลับสั่น ใจอยากจะหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย อยากจะเห็นว่า อีกฝ่าย กำลังมีสีหน้าแบบไหน เหมือนกับตอนนั้น ที่เขาย้ายบ้านออกมา ทั้งๆที่อยากจะไปบอกลา แต่พ่อกับแม่ไม่อนุญาต อีกทั้งเพราะยังเดินได้ไม่ถนัดนัก การสัญจรไปมาจึงเป็นเรื่องใหญ่ อิโนะอุเอะ คิโยโนบุที่วิ่งไม่ได้ จำใจต้องทำตามคำที่ พ่อและแม่บอกแต่โดยดี

" ห้ามหันมา มองตรงไปข้างหน้าซะ  "

อ้อมแขนนั้นกระชับแน่น แขนทั้งสองข้างสั่นด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เจกอดอีกฝ่ายเอาไว้นิ่งและนาน ก่อนจะปล่อยมือพร้อมกับเปิดประตูห้อง

" กลับไปได้แล้ว .. ทิ้งให้ว่าที่เจ้าสาวรอนานแล้วนะ  "

"...เธอไม่ได้สนใจนักหรอกว่าฉันจะอยู่ที่ไหน... "ว่าที่เจ้าบ่าวพูดเค้นเสียงหัวเราะออกมา "ป่านนี้ คงยังวุ่นกับการลองชุดแก้ชุดอยู่นั่นล่ะ "

" อย่าพูดเหมือนกับว่า จะไม่แต่งงานนะ นายขอเธอแล้ว  " คราวนี้เชฟหนุ่มพูดออกมาในฐานะเพื่อน แล้วดันอีกฝ่ายออกจากห้องช้าๆ  " ไว้เจอกัน "

"......นั่นซิ่นะ....เป็นเจ้าบ่าวที่แย่จริง" คิโยโนบุพูดติดตลก ก่อนจะก้าวออกมา เขาไม่ได้หันกลับไปมองหน้าของอีกฝ่าย เพียงแค่เดิน ไปยังบันไดที่เขาเดินขึ้นมาในตอนแรกเท่านั้น


ประตูห้องของเชฟหนุ่มปิดลงแทบจะทันทีที่แขกเดินออกมา เชฟร่างสูงหันหลังพิงกับประตูแล้วหลับตาลงอย่างเจ็บปวด

………………………………………………………………………………….


"เฮ้อ..... "
เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้นที่หน้าประตูอพาร์ทเมนต์ที่เขาเป็นย้ายเข้ามาอยู่ได้ หลายปีแล้วหลังจากที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัย อิโนอุเอะดึงกุญแจห้องออกมา พร้อมกับมืออีกข้างที่จับลูกบิดหมายจะไขเข้าห้อง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อประตูนั้นไม่ได้ ล๊อก

".........................." ในชั่ววูบหนึ่ง ความรู้สึกผิดมันพองโตขึ้นเสียจนรู้สึกเจ็บในอก

"กลับมาแล้ว" แต่ก็เปิดประตูเข้าไปพร้อมกับรอยยิ้ม

" กลับมาแล้วเหรอ? " เสียงหวานของว่าที่เจ้าสาวดังขึ้นในครัว ที่ตอนนี้กำลังทำอาหารเย็น กลิ่นหอมกรุ่น

"วันนี้...ว่างแล้วเหรอ ถึงได้มาถึงนี่... " ชายหนุ่มถาม ซุ่มเสียงแหบแห้งลงคอไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปเปิดประตูตู้เย็น คว้าเอาเครื่องดื่มเย็นๆที่เขาไม่ได้มองด้วยซ้ำไปว่ามันคืออะไรขึ้นมาดื่ม

....เบียร์นี่นา....ก็ดีเหมือนกัน...

" ฉันว่า จะมาซ้อมเป็นภรรยาของคุณน่ะ ซุปได้แล้ว มาชิมหน่อยซี่ "ฮิโตมิตักซุปใส่ถ้วยให้อีกฝ่ายชิม

"อ่ะ...อื้ม ... " ชายหนุ่มเข้าไปยืนซ้อนทางด้านหลัง ก่อนจะรอให้คนที่อยู่ในอ้อมแขนนั้นหันกลับมาป้อน ซุปให้เขาทาน  "อื้ม.....อร่อยดี... "

" ดีแล้ว .. เอ๊ะ.. กลิ่นชาเขียวนี่นา " ฮิโตมิ หันไปจูบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ " ไปกินอะไรมาคะ? "

"เอ่อ.... " คำว่า ชาเขียวทำให้นึกถึงเค้กที่เพิ่งจะกินเข้าไป และ คำว่าเค้กก็ทำให้นึกถึงคนที่ทำมันขึ้นมา....และการกระทำและคำพูดของผู้ชายผมยาวคนนั้น

....นายกลับมาทำไม....

"เอ่อ...เค้กน่ะ...จุน...ผมหมายถึงเชฟโอโนเสะ เขาเป็นคนทำน่ะ อิมเมจจากถ้วยลายดอกฟูจิของพ่อคุณ"

" หาเรื่องให้เชฟได้ปวดหัวจริงๆเลย จะยังไงก็ได้ค่ะ คุณพ่อคงไม่เรื่องมากนักหรอก "ฮิโตมิส่ายหน้าไปมา " ว่าแต่ว่า คุณสนิทกับเชฟขนาดนี้ ไว้คราวหน้าไปคุยเรื่องอาหาร ให้ฉันไปด้วยนะคะ "

"เอ่อ...จะว่าสนิทก็..... " ชายหนุ่มอึกอัก ในใจนึกว่าเขากำลังจะพูดอะไรต่อกันแน่ ปฏิเสธอย่างนั้นรึว่า ไม่ได้สนิทกับคนที่พูดถึง "โอเคครับ เอาไว้คราวหน้าเป็นไง "  ชายหนุ่มยิ้มให้กับอีกฝ่าย มือเรียวยกขึ้นแตะแก้มอิ่มของว่าที่เจ้าสาว ฮิโตมิดูสวยขึ้นมาก...อาจจะเรียกได้ว่าผิดหูผิดตา... หรือเป็นเพราะ อาทิตย์ที่ผ่านมานี่ ใจของเขามัวแต่ไปจดจ่อกับ อะไรบางอย่าง

" ดีค่ะ  "หญิงสาวยิ้ม แล้วยื่นหน้าไปจูบว่าที่สามีเบาๆ " ไปดูโทรทัศน์รอนะ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะเรียก "

"ฮ่ะๆ... เหมือนเป็นสามีภรรยากันเลย... " คิโยโนบุหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะทำตามที่อีกฝ่ายว่า


โทรทัศน์ถูกเปิด อาจจะเรียกได้ว่า ... เปิดให้ดูคนมากกว่า เพราะดวงตาสีน้ำตาลกลับเหม่อลอย ไม่ได้จับจ้อง ณ ที่ใด ที่หนึ่ง รสของชาเขียวที่หญิงสาวสัมผัสได้ นั้น เป็นรสชาตเดียวกับที่เชฟหนุ่มคนนั้นได้ลิ้มลอง สัมผัสบนริมฝีปากของหญิงสาวยังไม่สามารถลบความร้อนที่ชายหนุ่มคนนั้นมอบให้ได้ ใจของเขายังคงเต้นรัว จากทั้งคำพูดของเชฟหนุ่ม และสัมผัส ที่ส่งผ่านมาราวกับว่า

....โหยหามานาน

ยามเช้าที่สดใส ไม่ได้เข้ากับจิตใจที่ขุ่นมัวของเจ้าของ ผ่าม่านที่ถูกปิดไว้ มีแรงรำไรลอดผ่านระหว่างช่องกลางมาทำให้ห้อง นอนดูอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก เมื่อคืนลงเอยที่เตียงนอน ชายหนุ่มเหลือบมองคนที่ยังหลับไม่ได้สติอยู่ข้างๆ แผ่นหลังขาวนวลเผยให้เห็นเพราะผ่าห่มร่นลงไปอยู่เกือบเกือบครึ่งตัวของหญิงสาว ร่องรอยเป็นจ้ำแดงช้ำนั่นเขาเป็นคนประทับลงไปเอง

...ทั้งๆที่เมื่อวานยังใจเต้น และ เร่าร้อน จากสัมผัสของหมอนั่นอยู่เลย...

ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ตั้งแต่เมื่อวานที่เขาเป็นฝ่ายจูบเชฟหนุ่มคนนั้นก่อน ราวกับจะให้มั่นใจว่าไม่ได้รู้สึกอะไร หลังจากผ่านมาหลายปี... แต่ผลที่ได้รับกลับเป็นตรงกันข้าม มันรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ  เป็นอิสระและยั่วยวนได้อย่างที่ หญิงสาวคนนี้ ก็ให้ได้ไม่เท่า

...แต่ฉันกำลังจะแต่งงาน....
...แต่ฉันก็อยากจะ....คุยกับหมอนั่นอีกครั้ง....
...แต่.....  


ในหัวของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลมีแต่ความสับสน มือเรียวคว้าผ้าขนหนู มาพันรอบกายก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง

"ฮิโตมิ.... วันนี้คุณจะไปเจอเชฟกับผมไหม "เสียงนุ่มที่ถามขึ้นนั้นดังพอจะให้คนที่นอนอยู่ได้ยิน...เขารู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้สึกตัวแล้ว... อาจจะยังไม่อยากลุกเท่านั้น

" วันนี้..เหรอ? " ฮิโตมิเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยๆ แน่นอนว่ากว่าเธอจะถูกปล่อยให้ได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบเช้าวันใหม่แล้ว " ไม่ต้องนัดล่วงหน้าหรอกเหรอคะ? "หญิงสาวขยับตัวขึ้นดึงผ้าห่มมาคลุมร่างตัวเองไว้

"โทรไปก็คงได้ เราก็ไปบ่ายๆ..." ชายหนุ่มพูดไม่ได้หันมามองหน้าของอีกฝ่าย ในใจนึกถึงแต่หน้า ของเชฟหนุ่มคนนั้นกับคำพูดของอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะออกมา

.....อย่าหันหน้ามา....

" ถึงจะเป็นเพื่อนคุณ เราก็ต้องเกรงใจนะคะ แต่ไปตอนบ่ายก็คงดีเหมือนกัน ..  "ฮิโตมิขยับตัวเล็กน้อยแล้วก็ต้องอยู่ที่เดิม" ฉันว่าฉันลุกไม่ไหวแล้วล่ะ .. คุณใจร้ายชะมัดเลย "เธอมักจะพูดล้อเล่น หรือในบางครั้งก็จะพูดตรงๆ จนกลายเป็นผู้หญิงสมัยใหม่

"ผมก็ร้ายแบบนี้ล่ะ...จะให้อุ้มไหมล่ะ" ว่าพลางก็เดินเข้าไปหา  ว่าที่เจ้าสาวหัวเราะกับท่าทางของอีกฝ่าย แล้วเอื้อมมือทั้งสองข้างคล้องลำคอแกร่งนั้นไว้

" อุ้มก็ดีนะ จะได้ซ้อมก่อนแต่งงานไงคะ "

"มางั้นจะอุ้มไปส่งให้ถึงอ่างเลย.... " ชายหนุ่มว่าพลางช้อนตัวอีกฝ่ายขึ้นมาในอ้อมแขนก่อนจะอุ้มเดินพาไปส่งที่ห้องน้ำ ยังไม่วายหยอดมุขตลก "แล้วจะได้ออกไปไหมเนี่ย"

" เดี๋ยวจะเรียกให้มารับค่ะ  "ฮิโตมิรับมุกคนที่มาส่ง ก่อนจะเปิดน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายเสียที

"อืม..กินอะไรดี ผมทำให้ "ชายหนุ่มถาม เพราะรู้ว่า ตอนเช้า ฮิโตมิ จะไม่ค่อยทำอะไรเท่าไร ยิ่ง หลังจากคืนแบบนี้

" อะไรก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเราค่อยไปฝากท้องกับเชฟเพื่อนคุณก็ได้นี่ ตอนนี้ทานอะไรง่ายๆก็ได้ค่ะ ไม่ต้องลำบากหรอก " เธอยิ้มให้คนรักที่กำลังจะกลายเป็นสามีในอีกไม่นานนี้


ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม หายไปทันทีเมื่อเดินลับสายตาอีกฝ่ายออกมาด้านนอก ประตูตู้เย็นถูกเปิดออกไข่สองใบถูกหยิบออกมาพร้อมกับเบคอน อาหารเช้าแบบง่ายๆที่ผู้ชายก็ทำได้ถูกเนรมิตขึ้นมาทั้งที่ใจของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยังกังวล  มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์ที่คุ้นเคยในช่วงนี้ ขึ้นมาทันที  รอเพียงไม่นาน ก็มีคนรับสายโทรศัพท์

" โอโนะเสะครับ "เชฟหนุ่มกรอกเสียงทุ้มลงไป

"นี่อิโนะอุเอะ....นะ" เสียงที่ดังขึ้นจากปลายสายนั้นแหบพร่า ราวกับตื่นเต้น และกังวล ไปในคราวเดียวกัน

" เอ่อ .. อื้อ ว่าไงล่ะ มีอะไรหรือเปล่า? " ปลายสายตอบเสียงตะกุกตะกัก

"วันนี้... ช่วงบ่าย พอจะมีเวลาว่างไหม..." คำถามนั้นทำให้เชฟหนุ่มต้องเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะถามกลับมา

" มีอะไรรึเปล่า? "

"ก็คือ... ฮิโตมิเขาอยากจะเจอนายน่ะ คุยเรื่องอาหารในงาน... "


...ฮิโตมิ.....
...พาเธอมาเจอฉันรึไง..


" ได้ซี่ .. ช่วงบ่ายที่โรงแรมนะ  " ถึงจะคิดไปแบบนั้น แต่เจก็ตอบตกลงไป ทั้งๆที่รู้ว่า อีกฝ่ายกำลังพาว่าที่ภรรยามาพบ ทั้งๆที่เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาเมื่อวาน

สายโทรศัพท์ถูกวางไปพร้อมกับการนัดพบกันระหว่าง "เชฟ" และ "ลูกค้า" มันเป็น ความต้องการของฮิโตมิ ที่จะไปพบกับเชฟ แต่ลึกๆแล้ว ก็เป็น ความต้องการของเขาเหมือนกันที่จะพบอีกฝ่ายอีกครั้ง อีกไม่กี่อาทิตย์งานแต่งงานก็จะมีขึ้นแล้ว...มัน.... รวดเร็วมากเหลือเกิน แต่ถึงกระนั้นเขาก็อยากจะพบอีกฝ่าย.. ถามให้แน่ใจถึงสิ่งที่อยากจะรู้

.....................................

ห้องอาหารยามบ่ายในโรงแรมใจใหญ่ใจกลางเมืองนั้น พอจะมีแขกเข้ามาใช้บริการบ้าง แต่เนื่องจากพ้นช่วงมื้อเที่ยงมาแล้ว ทำให้ คนบางตาไปเยอะเลยทีเดียว ว่าที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาว นั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างกระจกที่มองออกไปแล้วเห็น เทอเรส ที่จะเปิดบริการในช่วงหัวค่ำ เพื่อชมวิว ...สถานที่ที่ว่าที่เจ้าบ่าวเดินออกไปคุยกับเชฟหนุ่มในวันแรกที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง

เพียงไม่นานหลังจากที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวแจ้งแก่พนักงานโรงแรม เชฟหนุ่มผมยาวที่รวบผมเรียบร้อยในชุดเชฟสีขาวสะอาดก็ออกมาพบกับคนทั้งคู่ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลสูดลมหายใจเข้าลึก นี่เป็น ครั้งที่สามที่เขาได้..เห็นอีกฝ่าย...ในชุดพ่อครัว

"สวัสดี....ฮิโตมิครับ นี่..จะ....เอ่อ...โอโนเสะ " หญิงสาวลุกขึ้นโค้งให้กับพ่อครัว ทำเอาพ่อครัวหนุ่มโค้งตอบแทบจะไม่ทัน

" อิชิดะค่ะ ยินดีที่รู้จัก "

" เอ่อ โอโนะเสะครับ ยินดีที่รู้จัก และยินดีที่ได้รับใช้นะครับ "เชฟหนุ่มพูดจาอย่างเป็นทางการ

"เมื่อวานนี้ โอโนเสะ เสนอว่าจะทำเค้กชาเขียวให้เรา.... ฮิโตมิ " คิโยโนบุ เอ่ยขึ้น พลางหันไปเชิญให้ ทั้งสองคนนั่งลง ฮิโตมินั่งลงข้างๆ กับ คิโยโนบุในขณะที่เชฟหนุ่มนั่งในฝั่งตรงข้าม

" กลิ่นติดตัวคุณเลยน่ะสิ  " ฮิโตมิหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันมาทางเชฟหนุ่ม " กลิ่นหอมมากเชียวล่ะค่ะ ฉันก็เลยอยากจะเห็นเค้กชาเขียวที่ว่าซักครั้ง "

คำพูดกระเซ้าของว่าที่ภรรยาทำเอาเชฟหนุ่มถึงกับสะอึก ความรู้สึกเจ็บแปลบในอกจนอยากจะลุกหนีไปเสีย  ในขณะที่ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของว่าที่เจ้าบ่าวมองหน้าของชายหนุ่มอีกคนนิ่ง ในใจรู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งเมื่อนึกถึงจูบที่ได้รับเมื่อเกือบจะ ยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ผมบอกเขาไปแล้วว่าอยากได้เค้กแบบนี้ในงาน... คุณต้องชอบมันแน่..ฮิโตมิ" ว่าที่เจ้าบ่าาวหันไปยิ้มให้กับว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง

" นั่นแค่ลองทำน่ะครับ จริงๆ ถ้าอิโนะอุเอะ กับอิชิดะซัง คิดว่าไม่เป็นปัญหา ผมคิดว่าเราให้พาติเช่ย์ออกแบบรูปแบบ และการจัดวางให้เข้ากับจานที่นำมาดีไหมครับ? " เชฟหนุ่มหยิบสมุดจดที่มีรูปโพราลอยด์ของเค้กที่ทำเมื่อวานให้ว่าที่เจ้าสาวดู

" สวยมากเลยค่ะ " ฮิโตมิชมเปาะดวงตาคู่สวยเป็นประกายแล้วหันมาทางว่าที่สามี " คุณพ่อต้องชอบมากแน่ๆเลยค่ะ "

"อ่ะ...ใช่...ผมก็ว่าอย่างนั้น" อาจารย์หนุ่มเออออกไปกับคำของอีกฝ่าย หากแต่สายตานั้นยังจับจ้องอยู่มี่ใบหน้าของเชฟหนุ่มผมยาว  "ยังเหลือจานหลัก....อีกจาน...และหากคุณจะใจดี คงดีแน่ถ้าแถมสลัดกับขนมปังให้ด้วย โอโนเสะซัง"

" ขึ้นอยู่กับขนาดของชามที่คุณจะนำมาน่ะครับ ตอนนี้ต้องขอดูโจทย์ก่อน " เชฟหนุ่มยิ้มตอบกลับมา

เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น ชายหนุ่มรีบหันหน้าไปหาว่าที่ภรรยาทันที

 "นั่นซิ่..ผมอาจจะต้องไปขอยืมจานจากพ่อของคุณอีก... คุณเห็นงานของท่านมาบ้าง คิดว่ามีชุดไหนน่าจะเหมาะกับจานหลักของเราบ้างรึเปล่า " ทั้งที่เอ่ยออกไปด้วยท่าทีสุขุมเหมือนเช่นทุกทีแต่ภายในใจกับเต้นระรัว

" เดี๋ยวเราไปดูด้วยกันก็ได้นี่คะแล้วค่อยเอามาให้โอโนเสะซัง "

"อืม...นั่นซิ่นะ... " คิโยโนบุยิ้ม "ไว้ผมเอาจานมาให้คุณดูแล้วที่เหลือก็คงต้องฝากเชฟใหญ่ใช่ไหมครับ" ว่าพลางก็หันไปมองหน้าของอีกฝ่าย

" ฝากไว้ก็ได้ ถ้านายไม่ว่าง แล้วค่อยโทรคุยกัน "เชฟหนุ่มรับคำ

"อืม.... " คิโยโนบุยิ้ม ก่อนจะประสานมือเข้าหากัน "เอาล่ะ... วันนี้ได้เจอเชฟแล้ว รับรองอาหารวันงานต้องออกมาเยี่ยมแน่ สบายใจแล้วหรือยัง "ว่าพลางก็หันไปหา ว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง
 
" ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณเก่งน่ะ ยิ่งสนิทกับเชฟล่ะก็ ทุกอย่างต้องดีแน่ๆค่ะ .. งั้นเอาอย่างนี้ไหม? เดี๋ยวฉันจะเดินเล่นแถวๆนี้ไปก่อน ยังไง คุณก็อยู่คุยกับเชฟก่อนนะคะ เดี๋ยวเจอกันที่รถ " ฮิโตมิเปิดโอกาสให้เจ้าบ่าวได้คุยกับเพื่อนอย่างเต็มที่ บางทีพวกเขาอาจจะอยากคุยเรื่องสารทุกข์สุกดิบกันบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งถ้าเธออยู่ด้วยประเดี๋ยวชายหนุ่มทั้งคู่ที่อาจจะมีเรื่องราวตามประสาชายหนุ่มให้ต้องคุยกันอาจจะรู้สึกอึดอัดได้

"เอ่อ...แบบนั้นก็....คงจะดีเหมือนกัน "คิโยโนบุเหลือบมองบุคคลที่สามเล็กน้อย ก่อนจะ หันไปแตะใบหน้าของ หญิงสาวเบาๆ "ไปเดินเล่น..ซื้อของ..ช๊อปปิ้งก่อนก็ได้..." ว่าพลางยิ้มให้กับอีกฝ่าย

" เสร็จแล้วโทรหานะคะ " ฮิโตมิยิ้มหวานให้อีกฝ่ายแล้วลุกขึ้น " คงต้องขอตัว เพื่อนจะได้คุยกันซักทีน่ะค่ะ ไม่รบกวนดีกว่า "เธอบอกกับเชฟหนุ่ม

" ก็ไม่ได้รบกวนหรอกครับ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เอ่อ .. ถ้าอย่างนั้น " เจลุกขึ้นตามอีกฝ่าย

" ไว้คราวหน้าเจอกันนะครับ อิชิดะซัง "เขาโค้งให้อีกฝ่าย ซึ่งเธอก็รีบโค้งตอบก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้พวกเขาอยู่กันตามลำพัง

..............................................

"นาย...คงไม่ได้โกรธฉันใช่ไหม" เสียงอาจารย์หนุ่มดังขึ้นเมื่อคู่หมั้นของเขาเดินจากไป

" เรื่องไหน? "เสียงทุ้มนั้นดังขึ้นแทบจะทันทีที่อีกฝ่ายถามออกมา

"เรื่อง...ที่ฉัน....มากับเธอวันนี้" ชายหนุ่มตอบ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่าย

" ดีแล้วนี่ .. เธอรักนาย และนายเองก็รักเธอ นั่นแหละ คือสิ่งที่ฉันเห็น แบบนี้ฉันน่าจะโล่งใจกว่าไม่ใช่รึไง? "เชฟหนุ่มยิ้มให้อีกฝ่าย แต่มันก็ยากที่จะคาดเดาว่าจริงๆแล้วเขาคิดยังไงกันแน่

"ปัญหาคือ..เช้าวันนี้...ไม่ซิ่...ตั้งแต่เมื่อวาน...ทุกอย่างมันดูสับสนไปหมด " คิโยโนบุพูดต่อ มือเรียวที่วางประสานอยู่บนโต๊ะนั้นสั่นระริก
 
" นายก็แค่..สับสน "เจสูดลมหายใจลึก " อาจจะแค่เครียดกับการแต่งงาน อยู่ๆก็รู้สึกแปลกๆได้เหมือนกัน .. ใครๆก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น "  เขากำลังบอกให้อีกฝ่ายทำอะไรกันแน่ เลิกคิดมาก และคลายปมที่กำลังจะผูกเข้าหากันก่อนที่มันจะเป็นปมใหญ่จนแก้ไม่ได้งั้นหรือ?

"แล้วนายล่ะ.... ที่ทำนั่น...คิดอะไร"  ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลถามดวงตาสีน้ำตาล จ้องที่ปลายนิ้วของตัวเอง น่าแปลกที่เขารู้สึกเจ็บที่หน้าแข้ง...แผลเก่า...ที่อีกฝ่ายเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้น

" จูบน่ะ .. สำหรับฉัน มันก็แค่สัญชาตญาณ  "เชฟหนุ่มตอบกลับมา

.. ไม่ใช่หรอก ...

เจได้ยินเสียงตัวเองในใจ แต่กลับพูดไปแบบนั้น

" กังวลอยู่เหมือนกันว่านายจะเป็นอะไรรึเปล่า ... ขอโทษก็แล้วกัน "

".....ขอโทษก็แล้วกัน?...อย่าพูดให้เหมือนเรื่องง่ายได้ไหม" อาจารย์หนุ่มพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เสียงของเขาดังจนไปรบกวนแขกในร้านเข้าท่าทางยามที่พูดออกมานั้นสับสน มือเรียวกำแน่น รู้สึกได้ถึงความร้อนที่มีอยู่ในอก มันรู้สึกเหมือนบางอย่างกำลังเผาไหม้และเขาไม่แน่ใจว่ามันใช่ความโกรธหรือไม่

...นายทำฉันคิดไปไกล...เพียงแค่จูบเดียว....
...หรือมันอาจจะคิดมานานแล้ว......


..................................................to be con



หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP 3/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 03-09-2010 23:02:59
พีจังอ่ะน้ำตาซึมแล้วเนี้ย :m15: เครียดแทนเลยทั้งๆที่ทำใจกับสถานะของทั้งคู่ไว้แล้ว
แต่มันอดไม่ได้อ่ะ  :seng2ped: หวานอมขมกลืนมากๆๆๆ
เปียกฝนอีกล่ะ ตัวเองก็เหมือนกันอย่าให้เป็นหวัดล่ะเดี่ยวไม่มีแรงมาอัพ อิอิ
สู้ สู้ จ้าเป็นกำลังใจเน้อส์   o13
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP ขมวันละนิดจิตแจ่มใส 4/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 04-09-2010 21:31:16
@@@writer's talk@@@

พีจังอ่ะน้ำตาซึมแล้วเนี้ย :m15: เครียดแทนเลยทั้งๆที่ทำใจกับสถานะของทั้งคู่ไว้แล้ว
แต่มันอดไม่ได้อ่ะ  :seng2ped: หวานอมขมกลืนมากๆๆๆ

อย่าเพิ่งเครียดนะคะ...ใจเย็นๆค่ะ ...อ่านไปแบบสบายๆ อินได้แต่อย่าอินมากค่ะ คนเขียนเป็นห่วงนะ  :กอด1:


ว่าแล้วก็ไปบีบใจกันต่อ กรั่ก (เหมือนตบแล้วลูบหลังเลย....หุหุ )  :z6: :กอด1:


########################



" มันคงไม่ยากเท่างานแต่งงานที่จะมีในอีกไม่กี่อาทิตย์หรอก นั่นก็แค่ .. สัญชาตญาณ .. " เขาย้ำ แต่จะพูดให้ถูกคือย่ำลงไปบนความรู้สึกของตนเองเสียมากกว่า" ไม่ได้มีความหมายเท่าการแต่งงานของนาย .. เทียบไม่ได้ซักนิด " .. ทั้งๆที่พูดไปแบบนั้น ไม่ใช่แค่อีกฝ่ายเจ็บ ตัวเขาเองก็เจ็บเสียจนอยากจะเดินออกไปเสียให้พ้นๆจากที่นี่ จากที่ตรงนี้เสียด้วยซ้ำ ...

ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหัวเราะออกมาเบาๆ

"ก็งานแต่งงานน่ะ...มันมีความหมายมากกว่า ความรู้สึกของฉันด้วยซ้ำนี่นา...ใช่ไหม" คำพูดของเชฟหนุ่มทำให้เขาต้องคิด การแต่งงานในครั้งนี้...ไม่ซิ่...มันตั้งแต่การดูตัวแล้วด้วยซ้ำไปที่ เขาไม่เคยใส่"ความรู้สึก" ลงไปเลย  ทุกอย่างมันเป็นไปตามลำดับขั้นตอนของความหมายใน "สังคม"ที่เขาอยู่ ลำดับ "ความสำคัญ"ที่พ่อของเขาต้องการ...

" นายเป็นคนเลือกเธอนะ นั่นน่ะไม่ใช่ความรู้สึกหรอกเหรอ? "เชฟหนุ่มเถียงอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันเขาเองก็เจ็บปวด เขาแค่อยากจะเดินออกไปให้พ้นๆ ไม่อยากเผชิญหน้าในตอนนี้ แต่ไม่..เขาทำไม่ได้ ท่าทางเจ็บปวดของอีกฝ่ายทำให้เขาไปไหนไม่ได้

"ความรู้สึกก็มีหลากหลาย... อาจจะไม่ใช่ว่า...รัก...เพียงแต่คิดว่า น่าจะเป็นแม่ให้ลูกได้..."ชายหนุ่มพูด "และผู้ใหญ่เองก็เห็นดี....พวกเขาเห็นดีกับอะไรก็ตามที่ฉันทำตามเขานั่นล่ะ...การย้ายบ้าน เข้ามหาวิทยาลัย สถานที่ทำงาน.... ทั้งหมดนั่นล่ะ" เสียงนุ่มของคิโยโนบุสั่น มีเพียงความเงียบเท่านั้นเป็นคำตอบจากเจ เชฟหนุ่มผมยาวเงียบไปนานก่อนจะถามขึ้นมา

" .......................................... แล้วนาย คิดจะทำยังไง? "

"ฉันอยากรู้...ความรู้สึกของนาย...ความจริง" ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ บาดแผลที่หน้าขาเจ็บแปลบขึ้นมาอีกจนสีหน้าของชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยน

" เฮ้ย..สีหน้าไม่ค่อยดีเลย เป็นอะไรรึเปล่า? " ก่อนที่จะได้ตอบอะไรไป สีหน้าของคนถามที่เปลี่ยนไปทำให้เชฟหนุ่มถามออกมาอย่างเป็นห่วง

"มะ...ไม่เป็นไร...ฉัน...เจ็บขานิดหน่อยน่ะ "มือเรียวโบกปฏิเสธ แต่สีหน้าไม่ได้บอกแบบนั้น

" เจ็บขาเคยหักนะเว้ย  " เจแทบจะโวยวานใส่อีกฝ่าย มือแกร่งฉุดให้คิโยโนบุลุกขึ้น แล้วเรียกพนักงานร้านมาเพื่อบอกว่า เขาขอจัดการธุระซักครู่ " ไปโรงพยาบาลไหม? " มือแกร่งโอบเอวนั้นไว้แล้วค่อยๆพาเดินออกไปข้างนอกห้องอาหาร

"อ่ะ.... จุน...ฉันไม่ได้เป็นอะไร... "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล พยายามจะให้คนที่แทบจะหิ้วปีกเขาเดินออกมาจาก ห้องอาหารของโรงแรมหยุดซักหน่อย


...ก็...หยุดซิ่...พอซิ่...ฉันจะได้ไม่ต้องคิดไปเองแบบนี้.....
...ที่ว่าบางที..นายอาจจะชอบฉัน...
...ที่ว่าบางที...ฉันอาจจะได้ทำอะไรตามใจบ้าง...


มือที่ดันอกเขาออกทำให้เชฟหนุ่มรู้สึกตัว เขาค่อยๆ ปล่อยมือออก

" นายน่าจะโทรบอกอิชิดะซังนะ  "

"อืม...นั่นซิ่นะ..."ทั้งที่ตอบรับไปอย่างนั้น แต่ในใจกลับขอให้ หญิงสาวเจ้าของชื่อ ช่วยเดินไปไกลๆ....ไปช๊อปปิ้ง....ไปซื้อขนม....ไปดูเสื้อผ้าสวยๆ....ไปดูอะไรก็ได้ที่ทำให้เธอสบายใจที่จะอยู่กับมันนานๆ.... มือเรียวดึงโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์สปีดไดอัลเบอร์แรก  ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองใบหน้า ของชายหนุ่มที่ช่วยพยุงเขาออกมาจนถึงข้างนอกนี่  แวบหนึ่งที่เจมีสีหน้าเจ็บปวด ก่อนที่อีกฝ่ายดูจะพยายามปรับให้มันนิ่งเฉย...เหมือนทุกครั้ง
 
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ลงเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น


...ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้น....


เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังให้ได้ยิน.....

....ครั้งที่หนึ่ง....


คิโยโนบุกลืนน้ำลายลงคอ เขาได้ยิน เสียงของเหลวที่กลืนไหลลงไปตามลำคอ มือที่ถือโทรศัพท์นั้นสั่นระริก รู้สึกได้ถึงความชื้นบนฝ่ามือ

....ครั้งที่สอง....

เขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง เต้นแรงจนเจ็บ มือเรียวพับโทรศัพท์ปิด สายถูกตัดไปก่อนที่จะได้ยินเสียงฮิโตมิตอบรับกลับมา

เจมองอาการของอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ

" ทำไมเหรอ? "เขาถามออกไปแบบนั้น เขาเองก็ไม่รู้ว่าอยากจะได้ยินคำตอบแบบไหน ทำไมอีกฝ่ายถึงทำแบบนั้น

"โทรไม่ติดน่ะ... " คิโยโนบุตอบออกไปอย่างนั้น ทั้งๆที่รู้ดีว่านั่นเป็น การโกหกคำโต ..หลายคนอาจจะบอกว่า อดีต คือสิ่งที่ควรจะลืมไปบ้าง..เพื่อก้าวต่อไป...แต่...เขาไม่แน่ใจเลยว่า จะก้าวต่อไปได้ถ้าไม่มองย้อนกลับไปหาอดีต

" งั้นก็แย่สิ .. ทำยังไงล่ะ? ให้ไปส่งไหม? " อยู่ๆ เชฟหนุ่มก็อาสาทำในสิ่งที่เขาไม่ควรจะทำเลยซักนิด อาจจะเป็นเพราะเป็นห่วงอาการเจ็บเรื้อรัง ที่เขาเป็นคนทำให้มันเกิด สิ่งที่เขาทำลายชีวิตช่วงหนึ่งของคนตรงหน้าไป

"อืม.... ไปส่งหน่อยก็แล้วกัน" ชายหนุ่มตอบ แม้จะเจ็บกายแต่ในใจเบิกบานขึ้นมาอย่างประหลาด ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ มันควรจะเป็น ความรู้สึกของคนที่ตกหลุมรักไม่ใช่หรือไง...การได้อยู่กันตามลำพัง... แต่นี่เขาเป็นผู้ชาย...ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานนะ...ชายหนุ่มขยับตัวเดิน แต่ก็ยังลงน้ำหนักไปที่ขาข้างที่เจ็บไม่ได้อยู่ดี ร่างสูงของเชฟหนุ่มเข้ามาประึคองพาอีกฝ่ายเข้าไปนั่งในรถยนต์สำหรับขับในเมืองก่สีดำสนิทคันใหม่ที่เพิ่งซื้อเมื่อไม่นานนี้ก่อนที่เจจะขอตัวเพื่อเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดไปรเวทแล้วขับพาคนเจ็บขาไปส่งถึงอพาร์ตเมนต์
 

จานอาหารเช้าสองชุดยังวางอยู่บนโต๊ะ ทานข้าว เมื่อชายหนุ่มเจ้าของห้องเดินกะเพลกเข้ามาด้านใน  โดยที่คนมาส่งเดินตามหลังอีกฝ่ายเข้ามา ดวงตารีนั้นกวาดสายตาไปรอบห้องแล้วก็ต้องสะดุดกับจานอาหารเช้าและชุดกาแฟสองชุด ... ในใจของเขาเจ็บแปลบ ...แต่จะแปลกอะไรที่คนทั้งคู่จะใช้ชีวิตด้วยกัน อยู่ทานอาหารเช้าด้วยกัน ในเมื่อยังไงพวกเขาก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี

"กาแฟไหม.... " คิโยโนบุถามเมื่อเดินไปที่ตู้เย็น  หยิบเอาไอซ์แพ็คถุงหนึ่งออกมาก่อนจะเดินกลับมา ทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาแล้วพับขากางเกงแล้วดึงขึ้นสูงก่อน เอาไอซ์แพควางลงไปบนท่อนขา
"ไม่เป็นไรหรอก..ของพรรค์นั้น ว่าแต่ขานาย... ปวดบ่อยเหรอ? ถึงต้องมีไอซ์แพคเอาไว้น่ะ? " เจถามพลางเดินตามอีกฝ่ายไปเขานั่งกับพื้นพรมแล้วจับขาอีกฝ่ายวางลงบนตักของเขาเอง ให้ปลายเท้านั่งวางบนหน้าขา ก่อนจะจับถุงน้ำแข็งให้อยู่ดีๆ
"เอ่อ... ก็... มีบ้างน่ะ...เวลาที่...เครียด " ชายหนุ่มพูดเสียงเบา  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองปลายนิ้วของเชฟหนุ่มที่แตะอยู่บนไอซ์แพ็ค และ ท่อนขาของตัวเอง
" งั้นเหรอ? .. นายน่ะ .. อย่าคิดมากเลย " มือแกร่งที่มักจะสร้างสรรค์อาหารรสเลิศนั้นจับไอซ์แพคย้ายไปอีกที่ เขารู้ดีว่าถึงจะบอกไปแบบนั้น เขาก็รู้ดีว่าคิโยโนบุคงเครียดเรื่องจูบนั้นแน่ๆ
"แล้ว...นายล่ะ ...ไม่คิดมากเหรอ.." ชายหนุ่มถามกลับ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึก  เมื่อรู้สึกเสียวแปลบขึ้นมาตามขาเมื่ออีกฝ่ายเลื่อนไอซ์แพ็คไปอีกที่หนึ่ง  บนหน้าแข้งยัง มีรอยแผลใหญ่ ปรากฏให้เห็น
" ถ้าบอกว่าไม่ ก็คงจะโกหก..  " มือนั้นหยุดนิ่งเมื่อืเห็นรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ขาของอีกฝ่าย" เราจูบกันทำไมนะ?..มันเพื่ออะไรกัน? " เขาถามออกมาโดยที่ดวงตารีนั้นยังคงจับจ้องที่แผลบริเวณต้นขาของอีกฝ่าย
"มันเป็นการทดลอง"  ชายหนุ่มตอบเสียงแหบพร่า
"ลองอะไรล่ะ? ลองใจนาย หรือ ใจฉัน? .. หรือทดลองดูว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ใครจะเจ็บปวดบ้าง งั้นเหรอ? " เจถามออกมาเป็นชุด เขารู้สึกเจ็บกับเหตุผลของอีกฝ่าย

...เป็นแค่การทดลอง ของนายคนเดียวงั้นสิ ....


"ฉัน...เองก็เจ็บ...ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้....ตอนนี้ในตอนที่นายเจ็บ ฉันก็เจ็บ...แต่ทำไม.... " มือเรียวแตะเส้นผมยาวสีดำสนิทของอีกฝ่าย ก่อนจะไล้เบาๆ   "ทั้งๆที่นายบอกว่า เป็นสัญชาตญาณ แต่นายก็เจ็บ.... " มือแกร่งที่สากด้าน แต่ทว่าอบอุ่นจับมือของคิโยโนบุเอาไว้ ดวงตารีนั้นสบตากับอีกฝ่าย

" เราจูบกัน แล้วนายก็นอนกับเธอเมื่อคืน .. นั่นก็เจ็บรึเปล่าล่ะ? "

".......ฉันสับสน...." ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลตอบไปตามตรง ในดวงตานั้น บ่งบอกได้ถึงความรู้สึกว้าวุ่นที่อยู่ข้างใน  "ฉัน.....ไม่ได้รู้สึกเร่าร้อนหรืออะไรกับเธอคนนั้น.....เหมือนอย่างทุกที....มือนี้....สัมผัสอะไรไป..." มือเรียวสั่นระริก "ในหัวฉัน.....มีแต่ภาพ....ที่ไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น...ฉัน....." คิโยโนบุเม้มริมฝีปากแน่น


" จินตนาการว่ากำลังมีอะไรกับฉันรึไง? "


คำพูดที่จู่ๆก็ออกมาจากปากของเชฟหนุ่ม ใช่ เขาเป็นคนตรงแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และเขาก็ไม่เคยปกปิดอะไรคนๆนี้เลย

"..............................."

 ว่าที่เจ้าบ่าวหนุ่มเงียบไปในทันที ใบหน้าได้รูปเบือนหนีไปอีกทาง  สิ่งที่อีกฝ่าย พูดนั้นมันตรง และ ฟังดูน่าละอายเสียจนเขาไม่อยากจะตอบ มันเป็นเพียงเพราะจูบเดียว  จูบเดียวเท่านั้น ที่ทำให้เขาเป็นไปได้ขนาดนี้ กับ ความทรงจำดีๆที่ไหลประดังประเดเข้ามา  ทำให้ใจของเขาไขว้เขว ไปในทางที่....น่าละอายเสียเหลือเกิน เมื่อคืนนี้ ในสมองของเขา มีแต่ ภาพและความรู้สึกวาบหวามจากรสจูบของอีกฝ่าย... มันมีมากเสียจน....

" อ่อนไหวชะมัด.. "เชฟหนุ่มเค้นหัวเราะออกมา ก่อนจะจับอีกฝ่ายนอนลงกับโซฟา โดยที่เขาคร่อมเอาไว้ " จินตนาการไปถึงไหนล่ะ? ไปถึงซักกี่ครั้งกัน? "

".........................." ชายหนุ่มเงียบ ไม่ตอบอะไรเพียงแค่เงียบ และมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง ถามว่าตกใจไหมที่อีกฝ่าย ดึงเขาลงมานอนกับโซฟาแบบนี้ ....แน่นอน....  แต่ในใจที่ดำมืดอีกด้านหนึ่งนั้นกลับ เต้นระริก

เจได้แต่สบตาอีกฝ่าย โดยที่คร่อมร่างบางเอาไว้แบบนั้น

...ดิ้นสิ... ปฏิเสธซิ ...

ใบหน้าที่เรียกได้ว่า ดูดีและเด็กกว่าวัยนั้น เขาเพิ่งจะได้มองในระยะประชิด มันไม่ได้ดูดีในระยะไกลมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ในระยะขนาดนี้แล้วก็ยิ่งมีเสน่ห์ และริมฝีปากนุ่มนวลที่เขายังจำรสชาติเมื่อวานนี้ได้

...ดิ้นซี่..... ได้โปรด.......


ร่างบางนั้นไม่ได้ ดิ้น ปฏิเสธ ใบหน้าได้รูป ขยับเข้าไปใกล้ เป็นไปเอง อย่างห้ามใจไม่ได้


..................................................to be con


หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP ขมวันละนิดจิตแจ่มใส 4/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 05-09-2010 00:08:43
พีจังใจร้าย :serius2: ค้างเลยอ่ะ กำลังลุ้นตัดจบซะงั้น
อ้ายยยยย :m14:เค้าล้อเล่น กำลังหนุกเลยเนี้ยเอาใจช่วยทั้งคู่อยู่เลย
แต่ไมไม่ค่อยมีคนเม้นเลยเนอะ ทั้งๆที่เรื่องก็ออกสนุกแท้ๆ
แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี่ยวก็มีคนอ่านเยอะขึ้นเองเเหล่ะ
เค้าจองFC จุนจังไว้ก่อนคนแรกเลยนะ อิอิ  :L1:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP อัพเรียกร้องความสนใจ 4/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 06-09-2010 00:03:15
@@@Writer's Talk@@@

พีจังใจร้าย :serius2: ค้างเลยอ่ะ กำลังลุ้นตัดจบซะงั้น
อ้ายยยยย :m14:เค้าล้อเล่น กำลังหนุกเลยเนี้ยเอาใจช่วยทั้งคู่อยู่เลย
แต่ไมไม่ค่อยมีคนเม้นเลยเนอะ ทั้งๆที่เรื่องก็ออกสนุกแท้ๆ
แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี่ยวก็มีคนอ่านเยอะขึ้นเองเเหล่ะ
เค้าจองFC จุนจังไว้ก่อนคนแรกเลยนะ อิอิ  :L1:
ขอบคุณนะคะ ที่มาให้กำลังใจกันเสมอๆ ต้องช่วยกันโปรโมทกระมังคะ  :monkeysad:ถึงจะมีคนเข้ามาอ่านแล้วใจดีเม้นท์ให้เย้อๆๆ (หุหุ )
แน่นอนค่ะ จะให้ lasom เป็นแฟนครับจุนๆ คนแรกเลย...จุนๆคงดีใจด้วยละค่ะ  :กอด1:

############################


"Tttt Tttt Ttttt!!!!" 


ก่อนที่ริมฝีปากที่ห่างกันเพียงไม่กี่เซ็นติเมตรจะสัมผัสกัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ระหว่างคนทั้งสองคน โทรศัพท์ทั้งร้องทั้งสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงนั่นเองชายหนุ่มผมสีน้ำตาลสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ราวกับ จะระงับ ความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อย เพื่อดึงเอาโทรศัพท์ออกมา

นั่นทำให้เจปล่อยร่างนั้นออกทันทีแล้วลุกขึ้น ทำท่าจะกลับ แต่มือของอาจารย์หนุ่มกลับจับข้อมือของอีกฝ่าย เอาไว้ ก่อนที่จะดึงโทรศัพท์ ออกมาตอบรับปลายสาย

"ครับ"

นั่นทำให้เชฟหนุ่มต้องหันมามองมือสลับกับหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ

...นายจะทำอะไรกันแน่?...


" คิโยโนบุคะ? เห็นโทรมาน่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ? แล้วเสร็จรึยัง? "เสียงหวานที่ลอดออกมาจากโทรศัพท์ เจได้ยินทุกคำ

"เอ่อ...ฮิโตมิ...ผม... " ดวงตาสีน้ำตาล อ่อน มองหน้าชายหนุ่มร่างสูง ที่ยืนอยู่ไม่ห่างออกไปนัก "ผมอยู่ที่บ้านแล้ว
 
" ทำไมล่ะคะ? มีธุระอะไรงั้นเหรอ? ไม่เห็นรอกันเลย " ฮิโตมิถามอย่างแปลกใจปนๆกับต่อว่าอีกฝ่ายเล็กน้อย

"จุน..เอ่อ...โอโนะเสะเขาอาสามาส่งน่ะ พอดี..ผมปวดขา คุณก็รู้... แล้วโทรหาคุณไม่ติดด้วย" ชายหนุ่มให้เหตุผลยาวรัว
 
" แย่จัง ทำยังไงดีคะ? จะไปหาหมอไหม จะให้ไปด้วยหรือเปล่า " เสียงหวานนั้นดูร้อนรน ความเป็นห่วงนี้เกิดขึ้นจริงๆ

"ไม่...ไม่เป็นไร...ผมดีขึ้นแล้ว" ชายหนุ่มตอบเสียงเบา มือยังบีบมือของชายหนุ่มผมยาวเอาไว้แน่น

" งั้นก็ดีแล้วล่ะค่ะ ว่าแต่วันนี้คุณจะแวะมาบ้านคุณพ่อไหมคะ? "

ด้วยระยะที่ไม่ห่างนั้นทำให้คำชวนของฮิโตมิ ดังขึ้นให้ได้ยินกันทั้งสองคน เจรู้สึกว่ามือที่จับเขาอยู่นั้นมันเปียกชื้น แต่เขาก็ไม่คิดจะดึงมือออกตอนนี้

 "ผม....เอ่อ..... " ชายหนุ่มอ้ำอึ้ง "ผมว่าคุณ...คุณเลือกมาดีกว่า...โอโนะเสะเองก็อยากได้ไอเดียจากคุณด้วย"  อยู่ที่ชื่อเขาถูกอ้างในการโกหกครั้งนี้ก้ทำให้เจต้องทำหน้าข่มขู่อีกฝ่ายทันที

" โอโนะเสะซังอยู่ด้วยเหรอคะ? "

"เอ่อ...... " ชายหนุ่มหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะต้อง ปั้น คำโกหกไปอีกรอบ ด้วยไม่อยากจะนึกว่าหากพูดออกไปตามจริงแล้วจะเป็นอย่างไร ต่อไป 

"เปล่า....เขา...กลับไปแล้วน่ะ"

" ได้ค่ะ ถ้าเชฟบอกแบบนั้นจะเลือกไปหลายๆแบบนะคะ ยังไงก็พักผ่อนนะคะ ปวดขาแบบนี้เด๊ยววันงานจะแย่เอานะ " ฮิโตมิบอกว่าที่สามีอย่างเป็นห่วง

"ครับ ครับ ว่าที่เจ้าบ่าวคนนี้ จะไม่ทำให้ คุณว่าที่เจ้าสาวต้องเสียหน้าแน่ครับ" แต่ ถึงจะพูดไปแบบนั้น เขาก็ไม่แน่ใจ ว่า ...เขาจะยังมีหน้าไปยืนใน วันงานพิธี หรือเปล่า
 
" พักผ่อนนะคะ วางเลยก็แล้วกัน " ฮิโตมิกำชับก่อนจะวางสาย และทันทีที่คิโยโนบุกดวางสาย เจก็ดึงมืออกแทบจะทันที

"ขอโทษ...ที่เอาชื่อนายมาอ้าง" ว่าที่เจ้าบ่าวพูดเสียงเบา ก้มหน้าลง ด้วย ความรู้สึก... ผิด

" เพื่ออะไร? นายกำลังจะแต่งงานกับเธอนะ  "เจต่อว่าอีกฝ่ายแล้วหันหน้าไปอีกทาง

"แล้วมันเพื่ออะไร...ที่นายรู้สึกแบบนั้น"

" ที่ฉันรู้สึกแบบนั้นหรืออะไรนั่นก็ไม่ใช่เพื่อใคร มันก็แค่ความรู้สึก เราเลือกได้นี่ว่าจะเก็บมันเอาไว้ หรือทำให้เกิดอะไรขึ้น "เจตอบอีกฝ่าย ก่อนจะถามย้อนไป
" ถ้าเป็นนาย จะเก็บเอาไว้ หรือทำให้มันยุ่งยากไปกว่านี้ล่ะ? "

คิ้วเรียวขมวด เข้าหากันเล็กน้อย คำพูดนั้นเหมือนกล่าวโทษ...ไม่เหมือนล่ะ ใช่เลย

"มันเกิดขึ้นไปแล้ว... " คิโยโนบุตอบเสียงเบา

" นาย.............................. ไม่ได้รักเธอรึไง?  " คำพูดนั้นทำให้เจแทบพูดไม่ออก ก่อนจะถามออกมา

 ".......................รัก.........มันควรจะเป็น ความรู้สึกยังไง"  เขาถามกลับด้วยเสียงที่เลื่อนลอยเช่นเดียว กับ ดวงตาคู่นั้น "อาจจะ...ไม่....เพียงแค่ ต้องเลือกในเวลาที่ใช่"  ชายหนุ่มตอบเมื่อนึกถึงเหตุผลในการเลือกคู่ดูตัวและคู่หมั้น ของตัวเอง

" ฉันอาจจะแค่ทำให้นายเขว .. แต่ก็อยากจะให้คิดดูดีๆ นายไม่ได้เจอฉันมา 12 ปี และ เมื่อ 12 ปีก่อน เราแยกจากกัน ทั้งที่ยังคาใจกับจูบนั่น  "เจถอนหายใจ
" นายอาจจะแค่หวั่นไหว "

"ฉัน.......อาจจะ.....หวั่นไหว....." ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ราวกับจะย้ำคำนั้นให้ลึกลงไปในนใจ

" บางที นายก็แค่ไม่อยากแต่งงานขึ้นมาเฉยๆ แค่เครียดเท่านั้นเอง .. ไม่มีอะไรต้องคิดมากหรอก "มือแกร่งตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ

".....แล้วนายคิดมากไหม" คิโยโนบุถามกลับ พลางหันไปมองหน้าของอีกฝ่ายดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นเป็นประกายที่ทำให้รู้สึกสะท้อนเจ็บเข้าไปในอกอย่างยากจะอธิบาย

" พยายามจะคิดให้น้อยลง "เจยิ้มให้อีกฝ่าย " เย็นแล้วนะ เดี๋ยวทำอะไรไว้ให้กินละกัน  "เขาขอตัวเดินเข้าครัวของอีกฝ่ายไปอย่างถือวิสาสะ

 ดวงตาสีน้ำตาบอ่อนมองแผ่นหลังกว้างที่ตอนนี้อยู่ในห้องครัวของเขาอย่างไม่เข้าใจ เชฟหนุ่มคนนี้เหมือนจะผลักไสเขาไป...แน่นอน...ในสถานการณ์แบบนี้ คงไม่มีใครจะอ้าแขนรับ ความสัมพันธ์ที่ไม่มีความมั่นใจ ไม่ได้เรียกว่ารัก...เต็มไปด้วยความสับสนและลังเลแบบนี้เป็นแน่  แต่....ชายหนุ่มร่างสูงคนนี้ง ก็ยังอยู่ข้างๆ และในบางครั้งก็มีท่าทีราวกับว่า รอคอยอะไรบางอย่างมานาน เช่นกัน

....นายคิดอะไรอยู่กันแน่....
....มันเป็นฉันที่ควรจะถามไม่ใช่หรือไง....


" มาช่วยทำซี่ หุงข้าวเป็นรึเปล่า? " เสียงทุ้มชองหนุ่มผมยาวดังขึ้นมาจากในครัวขณะที่รวบผมไปด้วย

"อ่ะ...อื่ม" เสียงเรียกนั้นทำให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลสะดุ้งขึ้นจากภวังค์ก่อนจะเดินไป หยิบหม้อข้าวมาตวงข้าวสารจากกล่องมาใส่หม้อ

" หุงข้าวเป็นก็ดีแล้ว อีกหน่อยอิชิดะซังจะได้ไม่เหนื่อยมาก " เจพยายามหาเรื่องอื่นๆมาพูดคุยกับอีกฝ่าย

"นานๆ ครั้งเขาถึงจะทำให้หรอก....รายนั้น่ะ"ชายหนุ่มพูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ "บ้านสมัยใหม่ก็อาจจะเป็นบ้านแบบอาหารแช่แข็ง"  ที่พูดก็เพราะ นอกจากพวกซุปง่ายๆ ผัดนั่นนี่ แล้วเขาก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็นมากนัก ไม่ต้องคิดเอาตัวไปเปรียบกับเชฟเลย

" นึกว่านายจะให้เธอลาออกมาเป็นแม่บ้านซะอีก เมื่อก่อนดูออกจะหัวโบราณ... " เจหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วจัดการเอาผักในตู้เย็นมาล้าง

"ก็เขายืนกราน... "ชายหนุ่มพูดพลางถอนหายใจ ราวกับว่า ผู้หญิงคนนี้มีสองด้าน ที่เขาไม่เข้าใจ ด้านหนึ่งคือความอ่อนโยนที่ราวกับจะถอดแบบ "อุดมคติ" ของผู้ชายทุกคนมา   แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นหญิงสาวที่เข้มแข็งและพร้อมจะสู้เพื่อความคิดของตัวเองในแบบผู้หญิงสมัยใหม่
และมีหลายครั้งเลยทีเดียวที่เขาต้องยอมทำตามที่เธอพูด

" ก็ดีแล้วนี่... นายเองก็คงจะกลัวที่จะเดินนำหน้าไปคนเดียว ให้เธอต้องทำตามที่พูดไปเสียทุกเรื่องใช่ไหม? "

"...จะว่ากลัวก็คงไม่....แต่ก็ไม่แน่ใจมากกว่า... บางครั้งฉันก็ไม่ได้เหมาะจะเป็นผู้นำไปในทุกทางหรอก" เขาพูด เสียงเบา

" เฮ้ย! มั่นใจหน่อยดิ นายกำลังจะสร้างครอบครัวนะ นั่นเป็นเรื่องดีไม่ใช่รึไง? ผู้หญิงเดี๋ยวนี้เก่งจนไม่ต้องนำเขาไปหมดหรอก อย่างในวงการเชฟ มีผู้หญิงหลายๆคนที่เก่งกว่าผู้ชายซะอีก " หนุ่มผมทองจัดผักใส่ชามแล้วหันไปสนใจกับกะทะที่จะใช้ผัดแทน

"ฮ่ะๆ........." เสียงหัวเราะราวกับจะเยาะหยันคำพูดของอีกฝ่ายดังขึ้นเบาๆจากร่างของเจ้าของห้อง"เหมือน... อาการิซังน่ะเหรอ"

" ................ ใช่ เธอเก่งมากในฐานะ พาร์ติเช่ย์ " เขาหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง " เตรียมจานหน่อยซี่  "

"อืม.... จานนี้โอเคไหม" ว่าพลางก็ส่งจานสองใบให้อีกฝ่าย  ก่อนจะเดินไปเตรียมถ้วยสำหรับใส่ข้าวกับตะเกียบให้พร้อม... ในตู้ใส่จานมีของใช้เป็น คู่ๆ สีน้ำเงินและสีแดง แม้จะบอกว่า ฮิโตมิไม่ค่อยทำอาหาร แต่ หญิงสาวก็มาทานข้าวและ ค้างที่นี่บ่อยพอสมควร

เสียงตะหลิวกระทบกับกะทผัดผักดังเป็นจังหวะจะโคน ก่อนที่ไฟจะลุกเป็นลุกใหญ่ดูน่ากลัว แต่ดูเหมือนเชฟหนุ่มจะไม่ตกใจกับมันเลยซักนิด ชายหนุ่มจัดการเขย่ากระทะอีกสองสามที  ก่อนจะตักผัดผักสีสวยลงใส่จาน

"นึกว่านายจะเผาบ้านฉันซะแล้ว" เสียงเจ้าของห้องหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นอีกฝ่าย จัดอาหารใส่จานเสริฟ

" ฮะ ฮะ ไว้คราวหน้าจะให้เผาไหมล่ะ? "เจหัวเราะเบาๆ แล้วยื่นจานทั้งสองใบให้อีกฝ่าย " แล้วก็ซุป เต้าหู้ก็แล้วกัน เดี่ยวทำให้ "

"คราวหน้า..... นายจะทำอาหารให้ฉันกินอีกหรือไง" ชายหนุ่มพูด น่าแปลกที่คราวนี้เขายิ้มออกมา

" เรายังต้องได้เจอกันอีกนานไม่ใช่รึไง? ... หรือนายจะย้ายไปเมืองอื่นอีกล่ะ? "เจยิ้มให้อีกฝ่าย

"ก็...คิดว่านายคงไม่......อยากเห็นหน้าฉันอีก"ชายหนุ่มพูด ก่อนจะหัวเราะออกมา "แต่ก็อย่างปรกติเราเจอกันนี่นะ...ฉันก็เพิ่งรู้ว่านายอยู่ที่โรงแรมนั่น... มัน.... เป็นเรื่องของความบังเอิญ......."

" ได้ไงล่ะ อาหารในงานแต่งงานนายคืองานใหญ่ของฉันนะ ต้องเจอสิ " เจพูดให้อีกฝ่ายได้สบายใจ " เราสองคนน่ะ ไม่อยู่ในวัยที่จะหนีอะไรอีกแล้ว "

"นาย... ปลอบใจฉัน หรือ ปลอบใจตัวเองกันแน่..."

เจ้าของห้องพูด ไม่ได้แม้แต่มองหน้าของอีกฝ่าย ร่างบางเดินไปหยิบขวดน้ำมาตั้ง ก่อนจะเดินไปหยิบหม้อข้าวมาวาง เมื่อเห็นสัญญาณว่าสุกเรียบร้อย :

" แล้วนายสบายใจขึ้นบ้างไหมล่ะ? "เหมือนเดิม เจเลี่ยงที่จะตอบคำถามนั้น เขาตอบมันด้วยการย้อนถามอีกฝ่ายแทน เสียทุกครั้ง

"หยุดเลี่ยงไม่ตอบฉันจะได้ไหม... การที่นายพยายามจะบอกฉันว่า ไม่มีอะไร ... มันไม่ได้แปลว่า ....มันไม่เกิดขึ้นหรอกนะ" มือเรียวตบลงบนโต๊ะ เสียงดังพอที่จะเรียกความสนใจจากอีกฝ่ายได้

" โอเค..." เชฟหนุ่มสูดลมหายใจลึกแล้วสบตาอีกฝ่ายนิ่ง " ใช่....ทั้งสองอย่าง ถ้าฉันพูดไปแบบนี้ ฉันกับนายจะเลิกคิดมาก ฉันก็จะพุด พูดให้มันเจ็บกว่านี้ให้มากกว่า ฉันก็ทำได้ "

คำพูดของอีกฝ่ายนั้น ดูจะเป็นอย่างหลังมากกว่าจะเป้นการทำให้สบายใจ เพราะพอพูดถึงเรื่องของการมีครอบครัว แม้จะไม่มีเรื่องของเชฟหนุ่มมาเกี่ยวข้อง เขาก็คงจะไม่มั่นใจ และเป็นแบบนี้ต่อไป...มันไม่ได้ มีพื้นฐานมาจากความรักและความเข้าใจกันตั้งแต่เริ่มแรกอยู่แล้ว เพียงแค่นั้นยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว...ขาที่ทุเลาเจ็บไปก็กลับมาเจ็บอีกครั้ง  ยิ่งถ้าเสริมคิดเรื่องที่ เขาจูบกับอีกฝ่าย และมีภาพของตัวเองจูบกับเเชฟหนุ่มปรากฏขึ้นทุกครั้งที่เขาไล้เล็มริมฝีปากของฮิโตมิในยามที่ร่วมรักเมื่อคืนเข้าไปด้วยล่ะก็....มันคงจะยิ่งเจ็บปวดมากกว่านี้

.....นี่ฉันเป็นอะไรกันแน่...


ชายหนุ่ม เจ้าของห้องผละจากโต๊ะกินข้าวไปที่ห้องน้ำทันที ความปั่นป่วนในหัวมันมีมากเกินไป ... เกินไป....  ฟักบัวถูกเปิดขึ้นใช้ราดศีรษะของตัวเองที่นั่งทรุดอยู่ข้างอ่างอาบน้ำ

"บ้าจริงๆ ....."

" เป็นอะไรรึเปล่า?.. " เสียงนั้นถามออกมาอย่างเป็นห่วง หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ที่ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงของน้ำที่ไหลลงมารดบนศีรษะของว่าที่เจ้าบ่าวที่ดูสับสนคนนี้ ดวงตารีเรียวยืนมองร่างนั้นอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ มือแกร่งเท้าที่ขอบประตูราวกับชั่งใจว่าจะเข้าไปดีหรือไม่

"ฉันคงทำให้นายลำบากซิ่นะ... "เสียงของเจ้าของห้องนั้นตอบกลับมาอย่างแผ่วเบามากเหลือเกิน

" ฉันต่างหากทำให้นายต้องวุ่นวายใจ  " เจถอนหายใจก่อนจะเดินเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะดึงแขนอีกฝ่ายขึ้น" ลุกขึ้นมาเถอะ .. หรือจะอาบน้ำก่อน ฉันจะได้ออกไปทำกับข้าวต่อ " ร่างบางนั้นพิงเข้ากับไหล่กว้างของอีกฝ่ายเมื่อลุกขึ้นมา

"ฉัน................."  มือเรียวแตะที่ไหล่กว้างนั้นเล็กน้อย  "อาบน้ำก่อนก็แล้วกัน " ก่อนที่ผละออกไปเหมือนเปลี่ยนใจไม่พูดเสียดีกว่า

......ฉันทำให้ชีวิตของนายวุ่นวายมากใช่ไหม.....


แม้จะอยากเอ่ยถามออกเช่นนั้นก็เลือกที่จะเงียบเอาไว้ตามเดิมมากกว่า

" งั้นออกไปก่อนก็แล้วกัน " เจพูดแค่นั้นก็เดินออกจากห้องน้ำไปโดยที่ไม่ลืมที่จะปิดประตุให้อีกฝ่าย  ดวงตาสีน้ำตาลปิดลงแน่น... มันเกือบจะมีน้ำตา แต่เขายังพอมีแรงที่จะหยุดมันเอาไว้ได้...

....นี่คือความรู้สึกของคนที่จะเข้าพิธีแต่งงานหรือไงกัน....


...........................................to be con....
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP อัพเรียกร้องความสนใจ 4/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 06-09-2010 00:20:48
จะดีใจดีรึป่าว ทีนอนไม่หลับหลังจากวันนี้ซัดคาปูแก้วใหญ่ไปทั้งๆที่ง่วงแทบตาย
ก็เลยเซ็งจนต้องเปิดเล้าดูอีกรอบ  :mc4: เอิ๊กๆตัวเองอัพด้วยล่ะ ดีใจ
แหม มาแบบสะเทือนอารมณ์มักๆๆ ไม่ว่าทางไหนก็เจ็บเนอะ
 :กอด1:หนูพีแล้วไปนอน
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP 6/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 06-09-2010 21:04:35
@@@WRITER's Talk@@@

จะดีใจดีรึป่าว ทีนอนไม่หลับหลังจากวันนี้ซัดคาปูแก้วใหญ่ไปทั้งๆที่ง่วงแทบตาย
ก็เลยเซ็งจนต้องเปิดเล้าดูอีกรอบ  :mc4: เอิ๊กๆตัวเองอัพด้วยล่ะ ดีใจ
แหม มาแบบสะเทือนอารมณ์มักๆๆ ไม่ว่าทางไหนก็เจ็บเนอะ
 :กอด1:หนูพีแล้วไปนอน

กินกาแฟมากๆตาจะค้างนะคะ...ถ้าอยากตื่นๆ แนะนำฝืนใจกินแบรนด์ตอนท้องว่าง จะตื่นมีแรงทำงานมากๆเลยคะ
พีจังทำบ่อยตอนปั่นรายงาน  :o211: ได้ผลดีนักแล เรามาสู้ๆกันเถอะ หุหุ  :a2:

สาธุ ฮิตจงขึ้นๆ  :call:

////////////////////////////////////////////////


ชายหนุ่มใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำครู่ใหญ่ ก่อนที่จะก้าวออกมา จากห้องน้ำในชุดนอน สบายๆที่ชอบใส่ หวังว่าสายน้ำเมื่อครู่จะพา ความไม่สบายใจออกไปหมดแล้ว..

"จุน....."

" กินข้าวสิ "เชฟหนุ่มนั่งลงยังฝั่งตรงข้ามอีกฝ่าย โดยที่ใช้ชุดจานอาหารสีแดง

ชายหนุ่มมองถ้วยข้าวสีน้ำเงินของตัวเอง ก่อนจะมองถ้วยข้าวในมือของอีกฝ่าย เมื่อนั่งลงกับโต๊ะอาหารเล็กๆในห้องตามคำบอกของเชฟหนุ่ม

"ฮ่ะๆ.... เข้ากันแบบแปลกๆนะ...นายกับถ้วยลายดอกสีแดงนั่นน่ะ"

" ฉันรู้ว่าไอ้สีน้ำเงินนั่นของนาย " เจบุ้ยปากไปที่ชุดอาหารสีน้ำเงินของอีกฝ่าย " ตอนเราอยู่โณงเรียน นายก็ได้แต่ของสีน้ำเงินจากสาวๆทั้งนั้นนิ "

"จำได้ด้วย?......" ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ให้กับคำพูดของอีกฝ่าย

"แต่เวลานายทำปิ่นโตให้ฉัน มาเป็นปิ่นโตสีดำของร้านทุกที..."

" ก็ฉันทำที่ร้านนิ  " ทั้งสองคนดูจะมีความสุขเวลาที่พูดถึงอดีตของพวกเขา 12ปีก่อน วันเวลาที่ไม่ต้องฝืนใจตัวเอง วันเวลาที่ไม่ต้องโกหกใคร แม้แต่หัวใจตัวเอง นั่นคือ ความสุขของการเป็นเด็กอย่างแท้จริง

"......ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากย้ายหรอกนะ...."คิโยโนบุพูดขึ้นมาเมื่อเชฟหนุ่มเริ่มเล่าให้ฟังว่า เทอมสุดท้ายของปีสามที่เขาไม่ได้อยู่ด้วยนั้น ทุกคนสนุกกันมากแค่ไหนกับการไปทัศนศึกษา ที่ ฮอกไกโด

" พวกสาวๆอกหักกันเกือบทั้งห้อง ตอนที่เขารู้ว่านายย้ายไปน่ะ  " หนุ่มผมยาวหัวเราะเมื่อนึกถึง เวลาที่พวกเธอทำหน้าจะร้องไห้ตอนที่เห็นว่าโต๊ะของอีกฝ่ายว่างเปล่า

"เหรอ.... "ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ "ฉันเองก็อยากจะอยู่ที่นั่นกับทุกๆคนเหมือนกัน "

"..............................."

"..............................."

สิ้นท้ายประโยคนั้น ชายหนุ่มทั้งสองคนต่างก็เงียบกันไป จมอยู่แต่ในความคิด...ความทรงจำ...ของตัวเอง ...


Tttt!!....Ttttt!!...



ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ ก็ดังขึ้น จากมือถือของชายหนุ่มผมยาว จนทำให้เชฟหนุ่มดึงสติกลับมารับโทรศัพท์ทันที

" อาคาริ? มีอะไรรึเปล่า? "

"เอ่อ...ก็พอดีแวะมาที่บ้านน่ะ..จะมาดูผลงานเสียหน่อยว่า โรลเค้กเป็นยังไง...แต่เจ้าตัวไม่อยู่ซะนี่ " เสียงหัวเราะอย่างอารมร์ดีดังขึ้นจากปลายสาย  ภายในห้องเงียบๆนั้นเสียงหัวเราะสดใสนั้นสามารถได้ยินชัดเจน อาจารย์หนุ่มหันหน้าไปอีกทาง ก่อนที่จะหันกลับมาเก็บจานชามบนโต๊ะ

" อื้อ กำลังจะกลับแล้วล่ะ แวะกินข้าวที่บ้านเพื่อนน่ะ " ดวงตารีมองตามร่างของอาจารย์หนุ่ม ขณะที่พูดกับคนที่คบหากันอยู่ตอนนี้  เสียงเปิดน้ำล้างจานดังขึ้น ตามด้วยเสียงจานชามกระทบกันเบาๆ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ทำความสะอาดไปอย่างเงียบๆ เงียบมากจนชวนให้อึดอัดจนกระทั่งหนุ่มผมยาววางสาย แล้วเดินเข้าไปในครัว

" คือ .. คงต้องกลับแล้วล่ะ รบกวนนานแล้ว นายต้องพักผ่อนเยอะๆล่ะ "

"อืม.. ก็....เดี๋ยวคงอีกซักพักล่ะ "ชายหนุ่มพูดพลางเช็ดมือกับผ้าที่แขวนเอาไว้ แล้วหันมามองหน้าของอีกฝ่าย "ฝากบอกเธอด้วยล่ะ..ว่า...เค้ก...อร่อยดี"

" ถ้ายังไงให้เธอทำของหวานในงานไหม? " เจตัดสินใจถามออกไป " ฉันเคยทำของหวานให้นายกินรึไงล่ะ? ไม่ค่อยมั่นใจหรอก แต่รายนั้นเก่งมาก "

"เหรอ..."ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนฉายแววที่ดูแปลกตา ริมฝีปากคู่นั้นเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าลง

"เอาแบบนั้นก็ได้... ถามให้หน่อยซิ่ว่าเค้กแต่งงานคิดเท่าไร" ชายหนุ่มพูดพลางยิ้ม

" เหมามาแล้วไม่ใช่รึไง  " เจตอบพลางยิ้มตอบก่อนจะดูนาฬิกา " ต้องไปแล้วล่ะ  ไว้เจอกัน "เขาว่าก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นไป
 
"เอ่อ...นี่....จุน"  เสียงฝีเท้าของเจ้าของห้อง เดินตามไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเสียงที่เรียกชื่อของอีกฝ่ายเอาไว้
 
" อะไร? " หนุ่มผมยาวหันมาก่อนที่เขาจะเปิดประตูห้อง

"เอ่อ..... ขอบใจนะสำหรับ...ที่ขับรถมาส่ง ...ที่ช่วยดูเรื่องขาให้...แล้วก็.....ที่ ยังทำกับข้าวให้อีก "  เจ้าของห้องพูดติดๆขัดๆ เขาไม่แน่ใจนักว่าจะเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ให้รู้สึกแบบนี้อีกทำไม


...อึดอัด...ในใจ...



" ไม่เป็นไร .. ก็นายเป็นเพื่อนนี่หว่า " เขายิ้มให้  เจทิ้งท้ายเอาไว้แบบนั้น ตามมาด้วยเสียงประตูห้องของอาจารย์หนุ่มจะถูกเปิด และปิดลงโดยที่มีเจ้าของห้องยกมือให้เล็กน้อยเป็นการบอกลาให้กับความว่างเปล่า ก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น เสียงทีวีดังขึ้น พร้อมกับ เสียงไฟ


............................................


บรรยากาศที่ร้านเว็ดดิ้ง สตูดิโอแห่งหนึ่งในตัวเมืองนั้น ดูสวยงามสบายตา ปนด้วยความสว่างไสวจากประกายของชุดแต่งงาน หลายชุดที่ถูกนำมาให้ว่าที่เจ้าสาวเลอกสวมใส่  ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล เดินเข้าไปในร้าน ในชุดเสื้อคอโปโลสีครีมกับกางเกงสแล็คสีน้ำตาลเข้ม เข้าชุดกัน ท่าทางจะประหม่าไม่น้อย กับบรรยากาศโดยรอบและพนักงานหญิงที่เข้ามาต้อนรับ

"เอ่อ...ผมมาหาอิชิดะที่มาลองชุดวันนี้น่ะครับ "เขาพูดกับพนักงาน ก่อนจะหันไปเจอว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง ยืนเทียบชุดแต่งงานอยู่ที่หน้ากระจกอีกด้านหนึ่ง เขาโบกมือให้กับอีกฝ่าย ก่อนจะเดืนเข้าไปด้านใน "เลือกมาสามรอบแล้ว...คุณใส่ชุดไหนก็สวยหมดนั่นล่ะ"

" คิโยโนบุ มาแล้วเหรอคะ? เอาชุดไหนดีล่ะ? " ฮิโตมิเดินมาหาว่าที่สามีของเธอก่อนจะหมุนรอบตัวเสียทีหนึ่ง

"...ผมว่าคุณใส่ชุดเปิดไหล่นี่ก็สวยนะ..เซ็กซี่ดี" อดไม่ได้ที่จะแหย่  ชายหนุ่มพูดพลางพิจารณา ชุดที่อีกฝ่ายสวมอยู่

" งั้นให้คุณเลือกนะ "ฮิโตมิว่าพลางหัวเราะคิกก่อนจะตกลงใจเอาชุดที่อีกฝ่ายว่า แล้วขอตัวไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย
ชายหนุ่มยิ้มให้กับท่าทางของอีกฝ่าย ฮิโตมิดูจะมีความสุขมากกับการเตรียมงานแต่งงานในครั้งนี้ แม้ว่าบางครั้งจะมี อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ บ้าง ตามแบบของเจ้าสาวที่กำลังเครียด

"จะกลับบ้านเลยหรือเปล่า ผมจะไปส่ง" ชายหนุ่มว่า เมื่อช่วยอีกฝ่ายถือของมาใส่ในรถ

" ค่ะ ฉันทำอาหารไว้ด้วย "เธอยิ้มให้กับว่าที่สามี ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถของอีกฝ่าย แล้วเดินทางกลับบ้านอิชิดะ

"เอ....ว่าแต่วันนี้ ทำอะไรไว้เหรอ" คิโยโนบุ อดที่จะถามไม่ได้ เมื่อรถจอดเทียบที่หน้าบ้านใหญ่ของบ้านอิชิดะ

" น้ำแกงค่ะ ต้มเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วล่ะ โอโนะเสะซังบอกว่า สูตรนี้บำรุงกระดูก เป็นสูตรพิเศษของเขาเลยล่ะค่ะ " ฮิโตมิว่า ก่อนจะลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ว่าที่สามีเดินถือของตามเข้าไป

....น้ำแกง?....

ชายหนุ่มทวนคำนั้นในความคิด  และแน่นอนว่า ใบหน้าของชายหนุ่มผมยาว คนนั้น ก็ลอยเข้ามาอยู่ในความคิด อีกครั้ง เหมือนในหลายๆครั้ง ในหลายๆวันที่ผ่านมา  เขายังจำได้ กับสูตรน้ำแกงนั้น ที่บางที่ เด็กหนุ่มผมทองคนนั้นก็จะหอบหิ้วใส่ถ้วยพลาสติกเอามาให้ถึงที่โรงพยาบาล

"เป็นสูตรพิเศษที่บอกใครๆ ก็ได้ซิ่นะ" คิโยโนบุพึมพำออกมาเบาๆ ในใจรู้สึกเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก  ก่อนจะรีบเดินถือของเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากคู่หมั้น

อาหารเต็มโตะอาหารด้วยฝีมือของฮิโตมิ และที่พิเศษที่สุด น้ำแกงหม้อโตที่วางอยู่ กลิ่นที่คุ้นเคยทำให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ หญิงสาวตักน้ำแกงใส่ถ้วยแล้ววางตรงหน้าว่าที่สามี

" ทานให้หมดนะคะ  "

"..................." ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ เพียงแค่ยกถ้วยน้ำซุปขึ้น  ปลายจมูกดมกลิ่น ความคล้ายคลึงของกลิ่นนั้นทำให้ยิ้มออกมา แต่ไม่ได้ยิ้มให้กับหญิงสาวคนที่อุตส่าห์ต้มน้ำซุปให้ ริมฝีปากจรดที่ขอบถ้วย ก่อนจะยกขึ้นดื่ม ความหวานหอมนั้นมีอยู่มากเลยทีเดียว

...เหมือนจริงๆ...

 คิโยโนบุคิด ก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันเมื่อรู้สึกว่า ความหวานนั้นมีมากกว่า ต้นตำรับไปซักนิด

...ถ้าเป็นฝีมือหมอนั้น จะให้ความรู้สึกที่เข้มข้นกว่านี้...

"อืม.. " ชายหนุ่มทำเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนจะ วางถ้วยน้ำซุปลง  "อร่อยครับ"  ว่าพลางก็ยิ้ม แต่ดวงตาไม่ได้บอกแบบนั้น มันฉายแววเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

นั่นทำให้ฮิโตมิยิ้มออก บรรยากาศของการทานอาหารมื้อกลางวันระหว่างคนทั้งสองเป็นไปอย่างเรียบๆ ไม่มีมีอะไรพิเศษนัก เหมือนทุกๆครั้ง...


ระหว่างทางขับรถกลับ ไปที่ห้องพัก ความว้าวุ่นมันรบกวนจิตใจชายหนุ่มผมสีน้ำตาล เขารู้สึกเจ็บอย่างประหลาด กับ การที่ชายหนุ่มผมยาวคนนั้น ให้สูตรพิเศษ ของตัวเองให้กับคู่หมั้นของเขา  เขาไม่รู้หรอกว่า เจตนานั้น คืออะไร แต่ มันเหมือนกับ เขาถูกผลักไสออกมาให้ห่าง  สูตรน้ำแกง ที่ไม่ว่าได้ทานเมื่อไรก็จะรู้สึกสบายใจ ในตอนนั้น  สูตรน้ำแกง ที่เขาคิดว่า เขาเป็นคนเดียวที่จะได้ทาน และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำได้ถูกส่งผ่านไปให้ผู้หญิงคนที่ได้ชื่อว่าจะเป็น ภรรยาของเขาในอนาคต  มันอาจจะเป็นเรื่องดี...แต่มันก็เจ็บ....เจ็บมากเหลือเกิน ....และมันน่า โมโหไม่น้อยเลยทีเดียว

"บ้าเอ้ย!! คิดว่าทำแบบนี้แล้วมันจะดีรึยังไง!!"  ชายหนุ่มกระแทกฝ่ามือลงบนพวงมาลัย ก่อนที่จะทันได้คิดอะไร มือก็หักพวงมาลัยเลี้ยว ไปยังอพาร์ตเม้นต์ของอีกฝ่ายทันที
 
ชายหนุ่มยืนรออยู่ที่หนาห้อง ของเพื่อนร่างสูง ท่าทีกระวนกระวาย หัวเสีย แต่บางทีก็ยืนนิ่งและดูเศร้าเสียจนน่าเป็นห่วงนั้น หาก ใคร เดินผ่านไปผ่านมา ก็คงจะเห็นได้ไม่ยาก แต่ทำไมเขาต้องรู้สึกไปขนาดนี้...ความจริง...เขาก็แค่สับสนเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายบอกไม่ใช่หรือยังไง  ถ้าเป็นเพียงแค่สับสน... ทำไมการกระทำและ ตัวของบุคคลๆหนึ่งถึงได้ยังคงอยู่ในความทรงจำ และรบกวนตัวเขามาตลอด ...ดีใจ...เสียใจ...มันก็เพราะคนๆนี้เท่านั้น

"หรือว่า...... " เสียงชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง เขาเหมือนจะนึกคำพูดนั้นออก แต่มันติดอยู่ที่ริมฝีปากเท่านั้นเอง

คิดแบบนั้น ริมฝีปากก็แห้งผาก มือเรียวดึงบุหรี่ขึ้นมาจุด หวังว่า ความขุ่นมัวทั้งหลายในใจจะลอยหายไปพร้อมๆกับควันสีเทาหม่นพวกนี้บ้าง ไม่นาน จำนวนของมวนบุหรี่ที่ถูกทิ้งลง กับ พื้นก็มีมาก...และมากขึ้นเรื่อยๆ


....................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP 6/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 06-09-2010 21:15:40
ช่วงนี้เป็นช่วงสงครามเย็น o22ดูว่าฝ่ายไหนจะทนได้ดีกว่ากัน
เล่นเคลียร์กันแบบไม่เคลียร์งี้ :เฮ้อ: รอๆๆเรารอได้จะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
ถ้ารักกันเมื่อไหร่นะขอชุดหย่ายยยยยยยยเลยนะ  :กอด1:
สู้ สู้ :call:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP เกือบจะNCละ 7/09/2
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 07-09-2010 21:44:03
@@@Writer's Talk@@@

ช่วงนี้เป็นช่วงสงครามเย็น o22ดูว่าฝ่ายไหนจะทนได้ดีกว่ากัน
เล่นเคลียร์กันแบบไม่เคลียร์งี้ :เฮ้อ: รอๆๆเรารอได้จะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
ถ้ารักกันเมื่อไหร่นะขอชุดหย่ายยยยยยยยเลยนะ  :กอด1:
สู้ สู้ :call:


จากสงครามเย็น ...รอบนี้อาจจะ...ร้อนขึ้น? :o8: สุมไฟๆ   :fire:


/////////////////////////////////


จนกระทั่งหนุ่มผมยาวกลับมาจากโรงแรมในตอนดึกของคืนนั้น กว่าครัวจะปิดและจัดการเคลียร์เรื่องต่างๆเรียบร้อยก็กินเวลาไม่ใช่น้อย ช่วงขายาวหยุดเดิน เมื่อเห็นว่าใครกำลังยืนสูบบุหรี่พิงรถของตนอยู่  เสียงฝีเท้าที่หยุดลงทำให้คนที่ยืนรออยู่ต้องหันไปมอง

"สวัสดี"

ว่าที่เจ้าบ่าวหันมาพลาง พ่นควันบุหรี่ออกมา แล้ว โยนบุหรี่ในมือแล้ว ก่อนจะขยี้มันลงกับพื้นด้วยปลายเท้า  เจมองตามพื้นที่มีแต่ก้นบุหรี่ของอีกฝ่าย ก่อนจะสบดวงตาสีน้ำตาลอย่างแปลกใจกับท่าทางแบบนั้น

" จะมาก็โทรบอกก่อนซิ มารอซะดึกเลย  " เขาว่าก่อนจะยักไหล่เป็นเชิงให้คนที่มาหาตามขึ้นไปบนห้อง

"ถ้าโทรไป เดี๋ยวนายก็กระวีกระวาดมาอีก... ลางานบ่อยไม่ดีนี่นะ" ชายหนุ่มพูดพลางเดินตามอีกฝ่ายขึ้นไปบนห้อง

" กินอะไรดี ? " เจถามพลางเดินไปยังห้องครัว แล้วเปิดตู้เย็น " ดึกแล้ว กินอะไรอุ่นๆดีไหม?

"จะให้กินอะไรดีล่ะ.... น้ำซุปสูตรเด็ดของนาย ...เป็นไง" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ก่อนจะกระชากเก้าอี้ ตรงโต๊ะทานข้าวมานั่งลงแรงๆ

" อิชิดะซัง ไม่ได้ทำให้กินหรอกเหรอ? เห็นว่าจะลองทำวันนี้เลยนี่หว่า " เชฟหนุ่มถาม ก่อนจะบ่น ในเมื่อเขาโทรไปหาว่าที่เจ้าสาว แล้วเธอก็ทำท่าดีอกดีใจขนาดนั้น

"ทำให้กินแล้ว" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพูด  "แต่... ฉันไม่อยากกิน...ที่เขาทำ"

" อะไรวะ? " หนุ่มผมยาวปิดตู้เย็นก่อนจะเดินมาที่โต๊ะกินข้าว ยังฝั่งตรงข้ามกับที่แขกผู้มาเยือนนั่งอยู่ " นั่น ภรรยาทำให้กินนะโว้ย  " เขาถอนหายใจ" รสมืออาจจะต่างกันไปบ้าง..แต่.. "

"ไม่... ต้องเป็นนาย ต้องเป็นนายเท่านั้น ไม่เข้าใจหรือยังไง " ชายหนุ่มแทบจะตะโกนออกไปเขาสับสน เขาไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องเป็นชายหนุ่มร่างสูงคนนี้ เท่านั้น ทำไมถึงสำคัญๆได้ถึงขนาดนี้ ทำไมถึงเจ็บแบบนี้ ... "ฉัน...อยากให้เรื่องนี้... ให้ความทรงจำนี้เป็นของ...ฉัน...กับ...นายเท่านั้น "

" คิ..โย... "ชื่อที่ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่แทบเคยเรียก ถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากได้รูป " นาย..พูดอะไรน่ะ "

"ฉันก็...ไม่รู้... ฉันไม่เข้าใจ... แต่ฉันเสียใจที่นายเอาเรื่องนี้ไปบอกเธอ... ฉัน...โกรธ... แต่ฉันก็มีความสุขที่ได้นึกถึงน้ำซุปถ้วยแรกที่นายเป็น คนทำให้ฉันกิน"  ชายหนุ่มยกสองมือขึ้น กระแทกลงบนโต๊ะ ใบหน้ามนนั้น แดงขึ้น เพราะความสับสน มากกว่า ความเขินอาย เขาไม่รู้จะเค้นหาอะไรมาพูดดี อย่างที่บอกว่ามันติดอยู่ที่ริมฝีปากนี่เอง คำที่จะบอกอีกฝ่ายได้ว่า เขารู้สึกยังไง

" ............................... " เจได้แต่ยืนมองอีกฝ่ายนิ่ง สิ่งที่เขาได้ยิน มันทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก ความเงียบทำให้ ชายหนุ่ม ต้อง เงยหน้าขึ้น มอง หน้าของอีกฝ่าย
 
“............................” เสียงลมหายใจของว่าที่เจ้าบ่าวสูดเข้าลึก   "ฉัน....รักนาย... " น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ แผ่วเบา..แต่มันก็ดังพอที่จะได้ยินกันสองคนในห้องเงียบๆนี้

" ไอ้..บ้า .. นายมันบ้าไปแล้ว.. " เจถึงกับอึ้งกับคำพูดนั้นจากอีกฝ่าย เขาได้แต่พึมพำออกมาโดยไม่หลบหน้าไปไหน ในสมองของเขาตอนนี้ว่างเปล่า ได้ยินแต่คำสารภาพที่ทั้งชีวิตก็เคยได้ยินไม่บ่อยนัก

"...โอเค..ฉัน....ฉันว่าฉันกลับล่ะ ฉันคงมานี่เพื่อแค่จะบอกแค่นี้แต่... " ชายหนุ่มลุกขึ้น ทำท่าเหมือนจะหันหลังกลับไป แต่ ก็หันกลับมามือข้างหนึ่งเท้าลงบนโต๊ะในขณะที่มืออีกข้างกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายมา เพิอแตะริมฝีปากของตัวเองกับอีกฝ่าย จูบที่ไม่มีการล่วงล้ำ จูบที่ตั้งใจที่จะจูบ เพราะอยากจะทำแบบนี้ นานอยู่เพียงชั่ววินาทีก่อนที่ริมฝีปากของอาจารย์หนุ่มจะละออกมา

"ฉันกลับล่ะ... "

เสียงนุ่มแหบพร่าลงไปเล็กน้อย ก่อนที่ ร่างเล็กกว่า ของคิโยโนบุจะถอยห่างออกมา   หากแต่...มือที่จับแต่อุปกรณ์ทำครัวนั้นกลับดึงมือของอาจารย์พละเอาไว้ แล้วดึงร่างเล็กกว่านั้นเข้ามากอดทันที
 

"..ไอ้บ้า..นายพูดออกมาทำไม?.... "

"ฉันรู้ว่ามันบ้า.... " เสียงนุ่มดังขึ้น ใบหน้าได้รูปอยู่ชิดติดกับไหล่กว้างของอีกฝ่าย  "แต่ถ้านายจะตอบ นายต้องตอบฉันตอนนี้ ถ้านายจะปฏิเสธ ก็บอกเสียตอนนี้.. ฉัน...ไม่อยากได้ยินคำปลอบใจ คำด่าว่า หรือความเงียบจากนายอีกแล้ว..."

" ฉัน......... " เจซบหน้าลงกับไหล่ของอีกฝ่าย  " ชอบนาย..มาตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้ว "เขาสูดกลิ่นบุหรี่จางที่ผสมกับกลิ่นโคโลญจน์ที่อีกฝ่ายใช้เข้าไป

ดวงตาคู่สวยปิดลงทันทีที่ได้ยินคำนั้น ความรู้สึกโล่งอกอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่า ความหนักอึ้งที่เคยมีอยู่ในตัว ที่เคยมีอยู่ในใจ มันได้มลายหายไป ราวกับว่า เขาวิ่งมาด้วยขาที่หนักอึ้งมาตลอด...จนกระทั่งถึงเส้นชัย เมื่อได้ชัยชนะแล้วมันเปี่ยมสุขมากกว่าวันไหน สองมือเรียวสั่นระริกเมื่อยกขึ้นแตะที่หลังคอของอีกฝ่าย ไล้เส้นผมสีดำสนิทนั้น ก่อนจะกอดเอาไว้

"ฉันเอง....ก็...อาจจะเรียกได้ว่าชอบนาย...มานานแล้ว"

" แต่นายกำลังจะแต่งงาน .. นั่นเรื่องจริง " ดวงตารีนั้นปิดลง พลางกระชับอ้อมแขนของตน

"ใช่...ฉันกำลังจะแต่งงาน...แต่ฉันรักนาย" ท้ายเสียงแผ่วเบา เกือบจะสะอื้นออกมา ในตอนนี้ เขารู้สึกเสียใจ ที่การกระทำของตัวเองในตอนนี้ส่งผล กับใครต่อใครไปทั่ว ...แต่ไม่ได้เสียใจที่บอกอีกฝ่ายไปถึงความรู้สึกของตัวเอง ..."และฉันดีใจที่เรา...ได้คุยกันแบบนี้ " ชายหนุ่มขยับตัวถอยออกมาเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลมองใบหน้าคมของอีกฝ่ายนิ่ง ในระยะใกล้ เขาพิจารณาทั่วรูปหน้านั้น
 
" อิชิดะซังเป็นคนดี " ใบหน้าเรียวของหนุ่มผมยาวขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่าย

"แต่ฉันไม่ได้รักเธอ" คิโยโนบุพูดเสียงเบา ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ ปลายจมุกชนกับปลายจมูกของอีกฝ่าย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน จ้องที่ ริมฝีปากคู่นั้นของร่างสูง

" นายจะแต่งงานกับเธอ " เจเถียงก่อนจะขยับแตะริมฝีปากกับอีกฝ่าย

"มันขึ้นกับฉันที่จะตัดสินใจ" ชายหนุ่มพูดสั้นๆก่อนจะเพิ่มความเร่าร้อนให้สัมผัสนั้น ด้วยปลายลิ้นที่ไล้เล็มริมฝีปากนั้น ก่อนจะแทรกปลายลิ้นเรียวเข้าไปสัมผัสรสชาติของร่างสูง  มือที่โอบรอบคอของอีกฝ่ายอยู่ ขยับเลื่อนลงมาไล้ที่ไหล่แกร่ง
 

เสียงครางเครือเบาๆอย่างพอใจกับสัมผัสนั้น แล้วเพิ่มความร้อนแรงให้มากขึ้น มือทั้งสองข้างไม่อยู่เฉย มันลากไล้ตามผิวกายผ่านเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายสวมอยู่

"อืม....จุน... " เสียงนุ่มครางเครือ ออกมาเป็น ชื่อของชายหนุ่มร่างสูง ลมหายใจของชายหนุ่มร้อนขึ้น เช่นเดียวกับ ผิวกายที่อีกฝ่ายได้สัมผัส เจขยับริมฝีปากออกจากอีกฝ่าย แล้วลากไปตามผิวกาย ลำคอนั้นถูกฝังร่องรอยเอาไว้จางๆ ก่อนจะเลื่อนลงช้าๆ เสียงหอบหายใจดังขึ้นเบาๆ จากร่างของอาจารย์หนุ่ม ร่างเล็กกว่านั้น เกร็งขึ้นเล็กๆ จากสัมผัสวาบหวาม ริมฝีปากของอีกฝ่ายให้ความรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ มือเรียวเลื่อนไปไลจับใบหน้าคมนั้นให้ขึ้นมามองหน้าของเขาอีกที ก่อนที่จะจูบ อีกครั้งบนริมฝีปากที่ไม่ได้นิ่มนวล หากแต่ สากเล็กๆจากรอยเครา สัมผัสเหมือนอีกฝ่ายเพิ่งจะโกนไปเมื่อเช้า

มือแกร่งของเชฟผมยาว จับคนตัวเล็กกว่านั่งลงกับโต๊ะกินข้าวแล้วเท้าแขนกันเอาไว้ ริมฝีปากได้รูปนั้นหอบเบาๆ ก่อนจะ เลิกชายเสื้อโปโลของอีกฝ่ายขึ้นช้าๆ

"จุน... " เสียงที่เรียกชื่อนั้น แผ่วเบา มือเรียวยื่นมาจับข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองราวกับจะถาม


...มั่นใจใช่ไหม...


อดไม่ได้ที่จะถาม เพราะ มันเหมือนตัวเขา ที่เป็น คนเริ่มก่อน... ดึงเอาอีกฝ่ายเข้ามา   เกี่ยวข้อง กับเรื่องนี้.. กับ ความต้องการ ... ความดื้อดึง... ความรู้สึกของตัวเอง  ไม่มีคำตอบ มือร้อนๆ จับอีกฝ่ายนอนลงกับโต๊ะกินข้าว แล้วเลื่อนตัวลงลากไล้กับแผ่นอกนั้น แทะชิม อย่างเอาแต่ใจ
สัมผัสร้อน ทำให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล บิดตัว เล็กน้อย รู้สึกแปลกๆ แต่ก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก... สัมผัสร้อนที่เป็นคนละแบบ กับฮิโตมิ..

"จุน..... "

 มือทั้งสองข้าง แกะกระดุม เสื้อของอีกฝ่ายออก ก่อนจะขยับตัวขึ้น  ฝังปลายจมูกลงที่ซอกคอของอีกฝ่าย สูดกลิ่น บุหรี่ ที่ปนกับกลิ่นโคโลญณ์อ่อนๆ อีกฝ่าย คงเพิ่ง อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนออกมาจากห้อง แต่งตัวของที่ทำงาน  ริมฝีปากได้รูปจูบพร่างพรมลงมา ที่รอยกระดูกไหปลาร้า ฟันคมขบเม้มลงจนเป็นรอย เรียกเสียงอุทานได้เบาๆ ก่อนจะเม้มแน่น ลง นานพอจะทิ้งรอยแดงเป็นจ้ำเอาไว้ ในขณะที่มือก็ค่อย รูดดึงเสื้อเชิ๊ตให้พ้นไหล่แกร่ง บางอย่างในกายพลุ่งพล่าน

" อืม.. "

เสียงครางอย่างพอใจ ใบหน้าได้รูปแหงนขึ้นอย่างพอใจในสัมผัสก่อนจะขยับมือไปที่สะโพกมนของอีกฝ่าย แล้วลากไล้ เย้ายวน

"...จุน.... " เสียงที่เรียกนั้น เป็น ครั้งที่เท่าไร เจ้าของเสียงเอง ไม่อาจนับได้ท่ามกลาง ความเร่าร้อน มือเรียวไล้สัมผัส กล้ามเนื้อบนไหล่แกร่ง  ก่อนจะละเรื่อยมาจนแผ่นอกกว้าง  น่าแปลกเหลือเกิน ที่ครูสอนพละอย่างเขา กลับ ไม่มีกล้ามเนื้อมากขนาดนี้ด้วยซ้ำ จนเมื่อสัมผัสรุนแรงที่รู้สึกได้ผ่าน ผิวผ้า ทำให้ สะดุ้งเล็กๆ
 

.....................................to be con

p.s. ก็บอกแล้วว่าตอนนี้น่ะ "เกือบๆ จะNC ละ" รอดูนะ  :pighaun:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP เกือบจะNCละ 7/09/2010
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 07-09-2010 23:29:34
อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :m3:
โต๊ะกินข้าว   :m30:
สงครามเย็นจบกลายเป็นตัวต่อตัวซะงั้น :-[
พีจังน่าจะใส่ลำดับตอนด้วยนะ ตอน1 ตอน2 ไรแบบเนี้ย
มันสังเกตุง่ายดีว่าอัพรึยัง
 :กอด1: สู้ สู้นะ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 13 8/09/2010
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 08-09-2010 21:41:55
@@@Writer's Talk@@@

พีจังน่าจะใส่ลำดับตอนด้วยนะ ตอน1 ตอน2 ไรแบบเนี้ย
มันสังเกตุง่ายดีว่าอัพรึยัง
 :กอด1: สู้ สู้นะ

จัดให้ค่ะ ทำเป็นสารบัญไว้ตรงหน้าแรกนะคะ กดได้เลยค่ะ  :กอด1:ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ


////////////////////////////////////////

"เอ่อ... "

มือเรียวคว้าเข้าที่มือของอีกฝ่ายทันควัน ใบหน้าแดงก่ำนั้นดูประหม่า และสัมสนเล็กๆ เหมือนถูกดึงออกมาจากอีกโลกหนึ่ง...โลกที่เร่าร้อนแสนหวาน.. ในขณะที่มือร้อนที่จับมือของเขาไว้นั้น กลับรู้สึกได้ถึงความเย็นของแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย


...แหวนแต่งงาน...
...นี่ทำอะไรลงไป กับคนที่กำลังจะแต่งงานน่ะ???.............


จุนมองดูมือนั้นก่อนจะปล่อยมือออกแล้วผละออกจากอีกฝ่ายทันที แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ยอมพูดอะไรเลย

"จุน!!..."

ชายหนุ่มร่างบาง รีบวิ่งตามอีกฝ่ายไปทันที คิโยโนบุ เดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ ก่อนจะดึงเสื้อลง เพื่อปิดรอย แดงที่มองเห็นได้ อย่างชัดเจนบนผิวอก
เสียงฝักบัวถูกเปิดออก จุนใช้น้ำเย็นๆราดตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าทั้งแบบนั้น

"จุน! นายจะทำบ้าอะไรน่ะ!" ร้องออกมาพลางก็วิ่งเข้าไปปิดฟักบัว ดวงตาสีน้ำตาล อ่อน มองใบหน้าของอีกฝ่ายที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เส้นผมยาวๆนั้น เปียกลู่ลงมา ชายหนุ่มร่างสูงไม่ตอบอะไร ดวงตารีมองอีกฝ่ายทั้งๆที่ยังอยู่ภายใต้ฝัดบัวก่อนจะเปิดมันออกแล้วจับฝักบัวรดน้ำเย็นๆใส่อีกฝ่ายทันที

"โอ้ย... จุน...หยุดนะมันเปียดหมดแล้ว " มือเรียวยกขึ้นป้องน้ำ ก่อนจะหันไปปิดน้ำ "เล่นอะไรของนาย" พูดพลางก็ใช้มือเช็ดน้ำออกไปจากใบหน้า

" กลับมาได้แล้ว .. เมื่อกี้ พวกเราน่ะ...ไม่เป็นตัวเองซะเลย "จุนบอกแล้วเสยผมที่เปียกน้ำขึ้น แล้วชนหน้าผากกับผนังห้องน้ำซ้ำๆ อย่างต้องการจะเรียกสติคืนมา

"จุน...เดี๋ยวเจ็บ " คิโยโนบุ เข้าไปดึงไหล่ทั้งสองข้างของร่างสูงให้หันมาหาตัวเอง แทนจะเอาหัวไปโขกกับกำแพง

"ฉันขอโทษ " ร่างบางพูด ก่อนจะกอดอีกฝ่ายเอาไว้  จุนได้แต่ปล่อยให้คิโยโนบุ กอดตัวเองเอาไว้แบบนั้น โดยที่ไม่ตอบสนอง หน้าผากของเขายังคงสัมผัสกับผนังกระเบื้องเย็นๆของห้องน้ำ

".............................................."
".............................................."

 คิโยโนบุกอดอีกฝ่ายเอาไว้เช่นนั้น ไม่มีใครพูด หรือขยับอะไรปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมมีเพียงเสียงของหยดน้ำหยดลงกับพื้นห้องน้ำดังสะท้อน...เข้าไปถึงข้างในอก ความร้อนจากร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ค่อยจางหายไป เหลือเพียงความเย็นจากน้ำที่ยังคงเปียกชุ่มอยู่บนเนื้อผ้าและเส้นผม  ชายหนุ่มร่างบางค่อยลออกมามือเรียวเลื่อนมาแตะบ่าของอีกฝ่ายเอาไว้

"ฉัน...กลับดีกว่า...ขอโทษที่ทำให้นายลำบาก"  ว่าพลางก็ถอยออกมาจากห้องน้ำ

ไม่มีเสียงที่เรียกเอาไว้หรือมือที่ดึงรั้ง เจปล่อยให้อีกฝ่ายออกจากห้องเขาไปเงียบๆ โดยที่เขายังคงยืนนิ่งอยู่ในห้องน้ำแบบนั้น บานประตูปิดลงเบื้องหลัง ว่าที่เจ้าบ่าวเดินเชื่องช้าไปยังรถของตัวเอง เนื้อตัวยังเปียกชื้นแต่เขาไม่ได้สนใจมันแล้ว คิโยโนบุ เปิดประตูรถ ก่อนจะทิ้งตัวลงกับเบาะของคนขับ เสียงถอนหายใจแรงดังขึ้น ก่อนจะตามด้วยแรงกระแทกอย่างแรงบนพวงมาลัย
 
"บ้าเอ้ย บ้าที่สุด บ้าๆ บ้า!!! "  เสียงตะโกน ลั่น ด้วย ความเจ็บปวด ความรู้สึกโล่งอกที่ได้พูดออกไป ความรู้สึกอิ่มเอมกับการสัมผัสหายไป เหลือเพียงแค่ความรู้สึก ผิด... จากการกระทำของจุน มันทำให้เขารู้สึกผิดมากเหลือเกิน  เสียงนาฬิกา ดังขึ้น จากโทรศัพท์มือถือ เป็นเสียงเตือน หากแต่เขาไม่ได้ตั้งเอาไว้ แต่เมื่อหยิบขึ้นมาดู ก็ทำให้สึกแย่มากขึ้นไปอีก

"20 กันยายน... วันแต่งงานของเรานะ อย่าลืม "
 
อีกด้านหนึ่ง...ว่าที่เจ้าบ่าวเดินออกจากห้องเชฟหนุ่มไปแล้ว ทิ้งความรู้สึกที่รุนแรงและอัดอั้นภายในใจออกมาจนหมด ให้เจได้รับรู้และรับมันเอาไว้  หนุ่มผมยาวเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปียกโชกแล้วคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมศีรษะเอาไว้จะให้เขาทำลงไปได้ยังไง ในเมื่อมือข้างซ้ายของคนที่เขากำลังจะกอดอยู่เมื่อครู่มีแหวนสวมอยู่แบบนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บในอก

...Ting...Tong...


เสียงออดดังขึ้นที่หน้าประตู  เรียกให้ เจ้าของบ้านเดินไปเปิดประตูต้อนรับ  แต่กลับไม่มีคนเดินไปรับ จนคนที่มาหาต้องใช้กุญแจสำรองเปิดเข้ามา

"เห็นรถอยู่...ก็นึกว่าจะเดินมาเปิดให้เสียอีก " เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ เมื่อไหล่ล้าถูกปลดปล่อยจากกระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่ชอบหอบไปไหนมาไหนด้วยเสมอ

"...ทำอะไรอยู่น่ะ" ว่าพลางก็เดินไปดูคนที่นั่งอยู่บนโซฟา "ตายแล้ว ทำไมเปียกไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ! " อาคาริถามขึ้นด้วยความตกใจ ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าอีกฝ่าย  "เดี่ยวก็เป็นหวัดหรอกทำไมไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า... ทำอะไรน่ะ ซ่อมท่อน้ำรั่วรึยังไง?!" ที่ถามไปเพราะบางที ชายหนุ่มก็จะซ่อมแซมอะไรด้วย ตัวเองเสมอ

อ้อมแขนแกร่งนั้นดึงร่างของหญิงสาวเข้ามากอดทันที ใบหน้าได้รูปซบกับไหล่บางของพาร์ติเช่ย์สาว..เธอดีกับเขาขนาดนี้..

"จุน...เป็นอะไร" มือเรียวที่ยุ่งกับการทำขนมมาทั้งวัน ยกขึ้นแตะศีรษะที่คลุมด้วยผ้าขนหนูของอีกฝ่าย อย่างเป็นห่วงเป็นใย "มีอะไรหรือเปล่า จะเล่าให้ฟังได้ไหม...คุณไม่พูดแบบนี้ ฉันเป็นห่วงนะ"

" ผมแค่รู้สึกเหนื่อยน่ะ..อาคาริ " จุนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง มือทั้งสองข้างยังคงกอดร่างของอีกฝ่ายเอาๆว้

...ทำให้ผมสงบทีเถอะ อาคาริ ..

"โถ...ซ่อมท่อ จนเหนื่อยก็ไม่บอก "อีกฝ่ายหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะถอยออกมาเล็กน้อยเพียงเพื่อจะขยับเข้าไปจูบริมฝีปากของอีกฝ่าย แผ่วเบา "อาบน้ำอีกรอบไหม... " เสียงที่ถามนั้นฟังดูซุกซนเล็กๆ

" คืนนี้อยู่ด้วยกันเฉยๆได้ไหม? " ชายหนุ่มสูดลมหายใจก่อนจะเช็ดผมตัวเองต่อ แล้วพูดออกมาตรงๆ เหมือนทุกครั้งที่เขาพูดกับคนตรงหน้า ตรงไปตรงมาเสมอ

".....โอเค... แต่คุณต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้เรียบร้อย หน้าร้อนก็เถอะ...เดี๋ยวเป็นหวัดนะ" อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอพร้อมกับรอยยิ้ม ทั้งคู่คบกันแบบนี้ตรงไปตรงมาไม่มีการบังคับหรือฝืนใจใดๆ

................................

"เออนี่ จุน... " หญิงสาวเอ่ย ขึ้นเบาๆ ก่อนจะลุกไปคว้ากระเป๋าใบใหม่มาก่อนจะหยิบเอาสมุดเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ขณะนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงเพื่อดูทีวีกับคนรัก "คุณคิดว่า นี่เป็นไง แบบเค้ก " ว่าพลาง ก็ยื่น แบบเค้กแต่งงาน ให้กับอีกฝ่าย ดู รูปเสก็ตเค้กแต่งงาน ปรากฏตรงหน้าเชฟหนุ่ม พร้อมกับรายละเอียดอธิบายส่วนประกอบและการตกแต่ง นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทั้งคู่ทำเหมือนกัน เค้กแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ ตกแต่งด้วยน้ำตาลปั้นที่ถูกทำให้เป็นดอกไม้ลายวิจิตรแบบญี่ปุ่น คล้ายกับลายของชามประจำตระกูลอิชิดะ

" สวยดี .. เน้นตกแต่งแบบนี้ ข้างในอร่อยรึเปล่าล่ะ? "  ถึงจะชมไปแบบนั้นแต่ก็ยังไม่วายแหย่อีกฝ่ายอยู่ดี

"อ้าว...แล้วสูตรวันก่อน เจ้าบ่าว เขาว่าไงบ้างล่ะ " หญิงสาวว่าพลางยิ้ม แน่นนอว่าพาร์ติเช่คนดังคนนี้ย่อมมั่นใจในฝืมือของตัวเองอยู่แล้วเธอเป็นคนในอาชีพนี้ หนึ่งในไม่กี่คนที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของการเป็น ผู้หญิง ที่ทำอาหาร คำถามของอาการิ ทำให้เชฟหนุ่มต้องนึกถึงผู้ว่าจ้าง คนที่เพิ่งจะเอาความรู้สึกที่ไม่ควรจะเกิดมาโถมใส่เขาลงไปทั้งหมด ใบหน้า แววตา ริมฝีปาก ความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาทั้งดีใจ ปรารถนา เร่าร้อน และเสียใจนั้นยังเด่นชัดในความรู้สึก

" เขา..ไว้ค่อยเอาร่างไปให้เขาดูอีกทีสิ .. ผมตัดสินใจแทนไม่ได้หรอก " จุนตอบหลับมา ก่อนจะขยับตัวลงนอนยังที่นอนข้างๆอาการิ

" นอนดีกว่า " ท่าทางแบบนั้น ทำให้หญิงสาวยิ้มออกมาน้อยๆ

"คุณก็นัดให้หน่อย ก็แล้วกัน... " อาการิ เอาสมุดไปเก็บ  ก่อน จะเดินกลับมา นอนลงที่ข้างๆ ของอีกฝ่าย แขนเรียว ยกขึ้นโอบรอบ ไหล่นั้น ก่อนจะขยับตัวเข้าไปจูบเบาๆ "ฝันดีนะคะ "  ว่าพลางก็กดรีโมทปิดทีวี

" อืม " หนุ่มผมยาวรับคำ แต่ก็ไม่ได้หันไปตอบอะไรอีก เมื่ออาคารินอนลงข้างๆ เขาก็หันหน้าไปอีกข้าง ดวงตารียงคงมองไปเรื่อยเปื่อยอย่างไร้จุดหมาย เหมือนกับใจของเขาตอนนี้
 
................................................
 
ก่อนที่ทั้ง อาการิ และ จุนจะออกไปทำงาน ทั้งคู่มักจะนั่งทานอาหารเช้าด้วยกันเสมอ ไข่ออมเล็ท หน้าตาน่าทาน ไส้กรอกทอด กับ ขนมปังปิ้ง ตามด้วยกาแฟร้อนอีกคนละถ้วยเป็นอาหารเช้าอย่างง่ายๆ ที่อาคาริมักจะทำให้พ่อครัวอาหารญี่ปุ่นคนนี้ทานเสมอ แต่บางครั้ง ชายหนุ่มผมยาวก็จะโชว์การทำอาหารใช้ให้อีกฝ่ายทานเช่นเดียวกัน  

"จุน... ตื่นได้แล้วนะคะ  " เสียงเรียกดังมาแต่ไกลก่อนจะตามด้วยสัมผัสเบาๆบนแผ่นอก

" อื้อ " เสียงครางต่ำๆดังในคอ แต่ก็ยังไม่ค่อยอยากตื่นเท่าไหร่เลย

"จุน.... ไม่ตื่นเหรอ ไปทำงานไม่ใช่หรือไง " หญิงสาวยิ้มให้กับท่าทางแบบนั้น ร่างบางนั้นนั่งลงบนขอบเตียง ปลายนิ้วไล้เล่น บนอกเสื้อ ดวงตาสีดำสนิทไบ้มองใบหน้าของคนรัก ก่อนจะเลื่อนสายตาลงมาเรื่อย ก่อนที่สายตา จะไปหยุดอยู่ที่รอยแดงจางๆ ที่โผล่พ้น เสื้อยืดคอวีที่อีกฝ่ายใส่อยู่
 
....รอยอะไร....

นิ้วเรียวไล้เบาๆ  ความรู้สึกบางอย่างบอกให้เธอคิดไปว่ามันคือรอยอะไรกันแน่

"จุน....ตื่น" คราวนี้ เสียงที่เรียกนั้น ค่อนข้างจะเน้น เสียงนั้นทำให้เชฟหนุ่มค่อยๆลืมตาตื่น เสียงแห้งๆ ทักทายสาวคนรักเบาๆ

" อืม เช้าแล้วเหรอ? " เขาค่อยๆลุกขึ้นนั่งก่อนจะขยี้ผมตัวเองไปมา

"อืม... "หญิงสาวพยักหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะสบดวงตาของอีกฝ่าย

"จุน... ฉันรู้นะว่า ทั้งคุณทั้งฉํนเองก็ยุ่งๆ ช่วงหลังๆมานี่... แค่อยากจะถามน่ะ...ถามเฉยๆนะ ว่า... ได้ มองใครคนอื่นรึเปล่า " หญิงสาวถามออกมา ลังเลเล็กๆ แต่ก็ถามออกมาจนได้

" มองคนอื่น? "
ชายหนุ่มทวนคำถามนั้นพลางเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ" ทำไมถามแบบนั้น? "

"ก็.... เห็นอะไรแปลกๆ นิดหน่อย" หญิงสาวตอบพลางชี้ไปที่ รอยแดงเป็นจ้ำ จนแทบจะเหมือนรอยกัดนั้น  ชายหนุ่มมองตามนิ้วที่อีกฝ่ายจิ้มอยู่ก่อนจะถอนหายใจ แล้วสบตาของหญิงสาว

" ผม..ไม่รู้สิ อาการิ "

".........ไม่รู้ว่ามองหรือเปล่า แต่เธอคงมองคุณแน่ล่ะ... " หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทางเสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง

"แต่คุณ...มองฉัน...แน่ๆ ใช่ไหม..." เสียงนั้นถามขึ้นแผ่วเบา

...... มองแต่ฉันงั้นเหรอ?.....มองทั้งๆที่ยังไม่ยอมถอดแหวนเสียด้วยซ้ำ....เชฟหนุ่มอดที่จะคิดย้อนถึงเจ้าของแหวนวงนั้นไม่ได้ ภาพ สัมผัส และอุณหภูมิเย็นเฉียบของแหวนวงนั้น

" ใช่ .. ผมมองเห็นคุณอยู่เสมอแหละ อาการิ " เจตอบกลับไปอย่างนั้น พร้อมกับยืนยันด้วยการดึงเธอมากอด ทั้งๆที่ในใจเมื่อครู่กลับนึกถึงใครอีกคน

"ขอโทษนะ....ที่ถามอะไรแบบนี้... " หญิงสาวพูดขึ้นเบาๆ ในใจรู้สึกเจ็บ เพียงแค่เห็นก็รู้แล้วว่ามันคือร่องรอยของใครบางคนที่ทิ้งเอาไว้ ด้วยอารมณ์ที่เร่าร้อน ไม่อยากจะนับอีกหลายรอยที่อาจะซุกซ่อนอยู่ข้างใต้เสื้อยืดที่อีกฝ่ายใส่  "แต่บอกไว้เลยนะ...ว่าการปิดบังหรือโกหกอะไร...มันก็จะต้องโกหกไปเรื่อยๆ... "หญิงสาวหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย "และฉันไม่ชอบ..." เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะยิ้มกว้าง "ไปกินข้าวกันดีกว่า "

เจมองตามแผ่นหลังของคนรักของเขา ความเด็ดเดี่ยวของเพศแม่นั้นทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้พูดเล่นๆ การคบกัน พูดกันตรงๆ คือนิสัยของเธอที่เขาชอบ และความเด็ดเดี่ยวนี้ก็เช่นกัน หากว่าอาจารย์พละคนนั้นไม่ได้กำลังจะแต่งงาน เขาก็คงจะพูดความจริงกับเธอไปแล้ว

" นายเองก็ต้องโกหกเธอไปเรื่อยๆเหมือนกันใช่ไหม? " ชายหนุ่มพึมพำก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ

..................................to be con

หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 13 8/09/2010
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 08-09-2010 21:51:54
กดรีเฟรชดูตั้งหลายรอบแนะ เห็นหัวเรื่องเปลี่ยนแต่ไมเนื้อเรื่องยังไม่ขึ้น
นับถือผู้หญิงคนนี้จัง เป็นเราวีนบ้านแตกไปล่ะ o1
นั่นซินะ จะต้องโกหกกันไปจนถึงเมื่อไหร่  :o12:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 13 8/09/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 09-09-2010 00:27:02
อ่านซะเหนื่อเลยไรเตอร์ 

เข้มข้นได้อีก
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 13 8/09/2010
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 09-09-2010 06:53:09
อึดอัดกับเรื่องนี้จริงๆ :เฮ้อ:  ....บรรยายได้ดีมากเลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 13 8/09/2010
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 09-09-2010 10:53:15
เรื่องนี้น่าสนใจมากเลยค่ะ
คนสองคนที่มีอดีตต่อกัน
แล้วมาเจอกันเพื่อทำอาหารให้
อีกคนในงานแต่ง
โห มันเศร้ามาก
แต่เราก็อยากรู้ว่าเรื่อง
จะเป็นอย่างไรต่อไป
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 13 8/09/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 09-09-2010 20:23:36
เรื่องสุดยอดครับ ไม่ว่าจะไปทางไหนก็ต้องมีคนเจ็บครับ
เห็นใจจัง
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 13 8/09/2010
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 09-09-2010 20:48:07
: 222222: รอ รอ รอ: 222222:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 14 9/09/2010
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 09-09-2010 21:19:43
@@@Writer's Talk@@@

กดรีเฟรชดูตั้งหลายรอบแนะ เห็นหัวเรื่องเปลี่ยนแต่ไมเนื้อเรื่องยังไม่ขึ้น
นับถือผู้หญิงคนนี้จัง เป็นเราวีนบ้านแตกไปล่ะ o1
นั่นซินะ จะต้องโกหกกันไปจนถึงเมื่อไหร่  :o12:
ขอโทษนะคะ พอดีใจร้อนไปแก้หัวก่อน หางยังไม่มา...แต่ขอบคุณมากที่คอยนะคะ

อ่านซะเหนื่อเลยไรเตอร์ 

เข้มข้นได้อีก

อึดอัดกับเรื่องนี้จริงๆ :เฮ้อ:  ....บรรยายได้ดีมากเลยค่ะ o13
ขอบคุณค่ะ หวัีงว่าจะชอบนะคะ ช่วยติดตามต่อไปด้วยนะคะ
โห มันเศร้ามาก
แต่เราก็อยากรู้ว่าเรื่อง
จะเป็นอย่างไรต่อไป
ถ้าอย่างนั้นก็มาติดตามกันต่อเลยค่ะ
เรื่องสุดยอดครับ ไม่ว่าจะไปทางไหนก็ต้องมีคนเจ็บครับ
เห็นใจจัง
ต้องคอยดูกันต่อไปค่ะว่า คิโย กับ จุน จะหาทางออกกันยังไงนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้สองคนด้วยค่ะ  :L2:

เอาล่ะค่ะ มีคนมารออ่านแล้ว ....ไปติดตามกันต่อเลยนะคะ

//////////////////////////////////////////////


เสียงเป่านกหวีดหมดคาบ ด่อนที่ออดจะดังขึ้นราว 15 นาที ชายหนุ่มถอนหายใจยาว อากาศในวันนี้ ค่อนข้างร้อน  เสื้อวอนที่ใส่อยู่ เปิดซิปอ้าออกเพื่อระบาย อากาศ
 
"อาจารย์...รอยอะไรที่คอน่ะ " เสียงนักเรียนสาวดังขึ้นแซว ทำเอา คนถูกถามทำหน้าไม่ถูก

"เอ่อ... ไม่มีอะไรนี่" คิโยโนบุว่าหันซ้ายหันความมองแขนเสื้อของตัวเอง "ตรงไหน ไม่เห็นมี"

"โอ้ย อาจารย์นี่ตลกเนอะ ก็ที่คู่หมั้นอาจารย์ฝากไว้ไง ที่นี่น่ะ "เด็กสาวหัวเราะคิกกันทั้งกลุ่ม ก่อนจะชี้ ที่คอของตัวเองเป็นเชิงบอกตำแหน่งให้กับอีกฝ่ายรู้ ทำเอาอาจารย์หนุ่มยกมือขึ้นตอบแทบไม่ทัน

"เลิกเรียนแล้ว รีบๆ ไปเลยไป เดี๋ยวก็คุยกันนาน เข้าวิชาอื่นไม่ทันอีก " คิโยโนบุพูดพลางขมวดคิ้วไล่นักเรียนช่างสังเกตของตัวเองไป ก่อนจะรีบรูปซิปเสื้อปิดขึ้นมาจนถึงคอ...แม้ว่ามันจะร้อนมากก็ตามที

...ต้องปิดไปจนกว่าจะจางใช่ไหม....
...ทั้งๆที่ความรู้สึกนี้มันยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆแท้ๆ....


จนเมื่อกลับถึงบ้าน ประตูที่ไม่ได้ล็อกทำให้ใจของชายหนุ่มสั่นรัว ว่าที่เจ้าสาวของเขามาถึงที่บ้าน โดยที่ไม่ได้ แม้แต่จะบอก ด้วยซ้ำไป

"กลับมาแล้ว" คิโยโนบุ ตัดสินใจพูดขึ้นเสียงดัง เมื่อเปิดประตู

" กลับมาแล้วเหรอคะ? ลืมเอานี่มาให้ค่ะ ชุดของคุณน่ะที่ต้องใส่วันแต่ง  "หญิงสาวเดินมารับกระเป๋าทำงานจากอีกฝ่ายไปเก็บ

"อ่ะ...ขอโทษนะ ลำบากเลย"  ชายหนุ่มว่าพลางถอดเสื้อนอกออก ถึงจะเป็นอาจารย์แต่ไปทำงานแบบเขา ใส่แค่กางเกงสแล็คลำลอง กับเสื้อยืด มีเสื้อนอกทับก็พอดูได้แล้ว เพราะไปถึง ก็ต้องอยู่ในชุดวอร์มที่แทบจะกลายเป็นเครื่องแบบอยู่ทั้งวัน

" ลองเลยนะคะ "เธอว่าก่อนจะยื่นชุดเจ้าบ่าวให้อีกฝ่าย

"เอ่อ...จะดีเหรอ...ผมเหงื่อโชก เดี๋ยวเสื้อเปื้อนหรอก"  ทั้งต้องการจะปิดบังและ กลัวว่าเสื้อจะเปื้อนจริงๆ ชายหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อย

" งั้นอาบน้ำก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวจะไปรอที่ห้องนะคะ " ฮิโตมิบอกอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับชุดแต่งงาน

ชายหนุ่มจำต้องเดินเข้าไปห้องน้ำไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่อีกฝ่ายบอก เขายืนถอนหายใจอยู่ที่หน้ากระจกอยู่หลายครั้ง กับภาพที่เห็นตรงหน้า รอยจ้ำแดง หลายรอยถูกฝากเอาไว้ทั้งที่คอ แผ่นอก ไล่เรื่อย ลงไป จนเกือบจะถึงหน้าท้อง คิโยโนบุถอนหายใจ ก่อนจะคว้าเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขาสั้นมาใส่ ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป

"เรียบร้อยแล้วครับ ให้ลองเลยใช่ไไหม" เขาพูดรัว ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อมา หวังว่าจะรีบๆใส่ ลองให้เสร็จๆไป

" ถอดเสื้อยืดก่อนซิ ใส่เชิ๊ตทับไปแบบนั้นเดี๋ยวก็ไม่พอดีหรอกค่ะ " ฮิโตมิจับมืออีกฝ่ายเอาไว้

"อ้าว...ใส่แบบนี้ไม่ได้เหรอ..." ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม  หัวใจเต้นรัว กลัวว่าอีกฝ่ายจะดื้อดึงให้เขาถอดเสียตรงนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาจะพูดว่าอะไร ชายหนุ่มเหลือบมองใบหน้าสวยของคู่หมั้นเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ แล้วถอดเสื้อออก โยนเสื้อยืดนั้นไปอีกทาง  รอยแดงๆที่ปรากฎตั้งแต่ลำคอถึงช่วงอกแล้วหน้าท้องปรากฏตรงหน้าฮิโตมิ เธอเดินเข้าไปยืนตรงหน้าอีกฝ่ายทันที

" นี่? " นิ้วเรียวจิ้มตามรอยแดงๆนั้น เธอจำได้ว่าฝากร่องรอยเอาไว้บนกายของว่าที่สามีบ้าง แต่แน่ใจว่าไม่มากขนาดนี้

"....." ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่เงียบ และ ไม่ได้สบตาของอีกฝ่าย

....บอกไปซิ่...อะไรก็ได้...
....โกหกไปอีกซิ่...เหมือนคราวก่อน...


" คิโยโนบุคะ? นี่อะไรน่ะ? " นิ้วเรียวลากตามรอยนั้นก่อนจะจิ้มที่คางอีกฝ่ายให้มองหน้าเธอ

"ผม.... เมาน่ะ" ชายหนุ่มตอบ เบือนสายตาไปอีกทาง

" นี่ยังไม่ได้แต่งงานก็กล้าเมาแล้วเหรอ? " คำพูดนั้นเหมือนพูดเล่น เหมือนทุกครั้งแต่ก็ตรงเสียจนน่าตกใจ

"ผมก็เมา... ..ผม...ก็ไปดื่มบ้าง "ชายหนุ่มยังพยายามจะยืนยันคำพูดโกหกของตัวเอง

" จะแต่งงานแล้วนะคะ วันหลังถ้าอยากดื่มนะ ฉันจะไปเป็นเพื่อนค่ะ " เธอจัดคอเสื้อให้อีกฝ่ายดีๆ

".................." ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ถอนหายใจออกมาเท่านั้น


...โล่งอกงั้นหรือ?.... ไม่เลย....
...หนักอกกว่าเดิม...



"ผมอาจจะไม่ใช่ สามีที่ดีนัก...ฮิโตมิ..." ชายหนุ่มพูดเสียงเบา ด้วยความรู้สึกผิดเหลือเกิน กับสิ่งที่ได้ทำลงไป เพราะความรู้สึกและ ความต้องการของตัวเอง

"ไม่เป็นไรค่ะ คนเรา...บางทีก็เดินออกนอกทางได้บ้าง แต่อย่าบ่อยนักล่ะ ไม่ดีหรอกนะ " ฮิโตมิก้มหน้าก้มตาจัดชุดให้อีกฝ่าย

"เดินออกนอกเส้นทางเหรอ.... "ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อลอยไป

....เส้นทางของผม....

.....มันเป็นเส้นทางแบบไหนกันแน่นะ....

 
ชายหนุ่มที่กำลังเหม่ออยู่กับความคิดของตัวเอง คงไม่ได้สังเกตเห็นหรอกว่า มือของว่าที่เจ้าสาวตอนนี้กำลังสั่นเล็กๆ ก่อนจะพยายามให้มันกลับมาเป็นปกติ
 
" คิโยโนบุ.. " หญิงสาวเรียกชื่อของว่าที่สามีเบาๆ

"หืม... "ชายหนุ่มขยับเสื้อเล็กน้อย ก่อนจะมองหน้าของอีกฝ่ายแต่ก็รีบเสมองไปทางอื่น "ฮิโตมิ?"
 
" เรื่องสับสนน่ะ ฉันไม่ว่าหรอกนะ แต่..ต้องไถ่โทษด้วย " ริมฝีปากอิ่มแตะกับอีกฝ่ายเบาๆ แล้วแทะเล็มช้าๆ

"อืม...ผม....วันนี้ผมเหนื่อยนิดหน่อยน่ะ "  ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีสัมผัสนั้น ก่อนจะดันไหล่เล็กของหญิงสาวให้ถอยออกห่าง "คุณเองก็ ทำงาน เหนื่อยมาทั้งวันไม่ใช่เหรอ"

" แต่พรุ่งนี้คุณก็ลางานแล้วนี่คะ? " ฮิโตมิทำท่าไม่ค่อยพอใจนัก

"เรายังมีเรื่อง ที่ต้องเช็คอีกไม่ใช่เหรอ ไหนจะการ์ดเชิญ ... ไหนจะเรื่อง อาหารอีก "  ชายหนุ่มพูดพลางยิ้ม ฮิโตมิหันหน้าไปอีกทาง ดูท่าอารมณ์ขึ้นๆลงๆของเจ้าสาวคนนี้จะเริ่มมาอีกแล้ว"คุณจะร้องไห้เหรอ" เขาถามออกไป...ด้วยรู้ว่ามันจะดักอะไรก็ตามที่หญิงสาวกำลังจะแสดงออกมาให้ย้อนกลับลงไปทางเดิม

" คุณ? " เธอมองเขา ใบหน้าสวยแดงก่ำ คิโยโนบุไม่เคยพูดกับเธอแบบนี้มาก่อน และนั่นก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น " ฉันจะกลับ! " พูดจบ ว่าที่เจ้าสาวก็คว้ากระเป๋าแล้วออกจากห้องที่เธอเคยมาค้างอยู่บ่อยๆ ทันที

ไม่มีการห้าม ไม่มีการวิ่งออกไปตามเหมือนอย่างที่ควรจะเป็น ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เขาเหนื่อยเหลือเกิน ตั้งแต่เมื่อวาน และเมื่อครู่นี้ ใครจะไปคิดกันเล่าว่า การโกหก นี่มันจะใช้พลังงานมากขนาดนี้

"แล้วจะทำยังไงดี...กับฮิโตมิ.... กับจุน..." ชายหนุ่มผมทรุดตัวลงนั่งกับโซฟา ไม่ได้กลัวว่า ชุดเจ้าบ่าวจะยับ หรือเปื้อน

จิตใจเขาตอนนี้ แทบไม่ได้อยู่ที่เรื่องของการแต่งงาน ที่จะมีขึ้นในปลายสัปดาห์นี้ด้วยซ้ำไป

....ฉันรักนาย...


คำพูดของตัวเอง ยังสะท้อนอยู่ในห้วงความคิด เช่นเดียวกับสัมผัสร้อนบนผิวกาย มันเหมือนกับว่า ทั้งตัวเขาและ ชายหนุ่มร่างสูงคนนั้น ได้ สื่อความรู้สึกบางอย่างออกไปถึงกันและกันแล้ว แต่.... มันยังมีบางอย่างที่ เขาไม่แน่ใจ... ไม่เข้าใจ ทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดกัน เชฟหนุ่มร่างสูงคนนั้นจะเป็นฝ่ายผลักตัวเขาออกมาอยู่เสมอ

"ทำไมกัน ทั้งๆที่ฉัน... บอกไปแล้ว นายเองก็เหมือนกัน.... "ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบเข้าไปในอก รู้ดีว่าสิ่งที่รู้สึกและทำอยู่ในตอนนี้มันผิด เขากำลังทำให้อีกหลายๆคนต้องเดือดร้อน แต่ มันก็ห้ามไม่ได้อีกแล้ว ห้ามเอาไว้ไม่อยู่อีกแล้ว...ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น

"นาย...กลัวใช่ไหม จุน รู้สึกผิดใช่ไหม เพราะเรื่องของฉัน" มือเรียวถูกยกขึ้นปิดหน้า  ก่อนที่ประกายสีทองจะสะท้อนเข้ามาเตะตา... ร่างเพรียวผุดลุกขึ้นแทบจะในทันที

...เพราะนี่ใช่ไหม...

คิดได้แบบนั้นก็คว้ากระเป๋าสตางค์โทรศัพท์มือถือและกุญแจรถออกจากห้องไปทั้งๆที่ยังไม่ได้เปลียนชุดสูทสีขาวของเจ้าบ่าวที่ตัวเองใส่อยู่เลยเสียด้วยซ้ำ

...........................

ชายหนุ่มขับรถตรงไปที่โรงแรม ที่ๆเขาจะเข้าพักในอีก สามคืนต่อจากนี้ ฮิโตมิเป็น คนจัดการให้ เขาและเธอได้เตรียมตัว ก่อน ที่จะถึงวันงาน การเตรียมตัวที่ดูจะยาวนาน แต่ในคราวนี้ เขาคงต้องใช้เวลาที่มีเหลือเพียงน้อยนิดนี้ให้เป็นประโยชน์ คิโยโนบุเช็คอินเข้าที่โรงแรม รับกุญแจห้องมา แต่แทนที่จะขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง ร่างบางกลับเดินไปที่ ห้องอาหารของโรงแรมแทน

"เชฟโอโนเสะ อยู่ไหมครับ" เขาเอ่ยถามกับพนักงานต้อนรับที่หน้าร้านอาหาร

"ไม่อยู่ค่ะ เชฟโอโนะเสะได้หยุดสองวันน่ะค่ะ ก่อนจะเตรียมงานแต่งงาน "พนักงานต้อนรับตอบพลางยิ้มให้ว่าที่เจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุด "งานแต่งงานของคุณเหรอคะ? เอ่อ .. ไม่ทราบว่าถ้ามีธุระจะติดต่อเชฟ... " เธอทักขึ้นมา ค่อนข้างแน่ใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังสวมชุดเจ้าบ่าวอยู่เลย" มีเบอร์โทรติดต่อรึยังคะ? "

"ไม่เป็นไรครับ...พอดี...ผมรีบ" ชายหนุ่มยกมือขึ้นปฏิเสธพลางยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินกลับออกมา  มือเรียวดึงเอาโทรศัพท์มือถือออกมากดหาเบอร์ของคนที่อยากจะพบทันที


---RRR---

ชื่อเจ้าของเบอร์ที่โทรมา ทำให้เจ้าของโทรศัพท์ที่นั่งสูบบุหรี่ที่ระเบียงต้องถอนหายใจก่อนจะกดรับโทรศัพท์ มือข้างว่างก็เขี่ยปลายมวนบุหรี่กับที่เขี่ยบุหรี่แก้ว

" ไง? "

"ไง...." น้ำเสียงที่อาจจะแหบพร่าาได้หากไม่ตั้งสติก่อนพูดดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่ ชายหนุ่มในชุดเจ้าบ่าว จะโค้งให้กับ พนักงาน ที่อุตส่าห์ไต่ถามเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกมาจากร้านอาหาร "มีเรื่อง อยากจะขอร้องนิดหน่อย...จะได้ไหม"

" มีอะไรให้ช่วยเหรอ? อยากได้อะไรเพิ่มรึเปล่า? " เสียงของหนุ่มผมยาวดูรนเมื่อนึกถึงเรื่องงาน

"เอ่อ...ไม่ใช่เรื่องอาหารหรอก แต่เป็นเรื่องของสถานที่มากกว่า" คิโยโนบุรู้ดีว่าอีกฝ่ายพูดถึงเรื่องอะไร จึงรีบเข้าประเด็นทันที "อยากให้นายหา...ที่สำหรับ ฮันนีมูนให้หน่อย มีที่ไหน แนะนำไหม"


.............................................. to be con

p.s. ข้อควรระวังขณะจะโพสนิยาย...อย่าดูละคร (เพราะจะโพสช้ากว่าปรกติ)
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 14 9/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 09-09-2010 21:45:07
มาติดตามช้าไปหน่อยก็แต่ เข้ามาอ่านแ้ล้วนะคะ

บรรยากาศอึมครึมมากมาย . . .
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 14 9/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 09-09-2010 22:05:50
"ด่อนที่ออดจะดังขึ้นราว 15 นาที ชายหนุ่มถอนหายใจยาว อากาศในวันนี้ ค่อนข้างร้อน  เสื้อวอนที่ใส่อยู่ "
ก่อนที่ออดจะดังขึ้นราว 15 นาที ชายหนุ่มถอนหายใจยาว อากาศในวันนี้ ค่อนข้างร้อน  เสื้อวอร์มที่ใส่อยู่

ไปหาจุนทั้งชุดเจ้าบ่าว แล้วจุนต้องใส่ชุดเจ้าสาวคู่กันป่ะเนี้ย :m20:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 14 9/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 09-09-2010 23:50:59
เป็น  P.S.  ที่โดนใจมากก 

โอ๊ยยยเดาไม่ถูกเลย
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 14 9/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 10-09-2010 06:48:41
ปกติจะผ่านเลยนิยายที่เป็นชื่อญี่ปุ่น(เพราะขี้เกียจจำชื่อตัวละคร ฮาาา) .....แต่เรื่องนี้.........อ่านมาขนาดนี้คงเรียกว่าผ่านไม่ได้แล้วมั้ง ฮ่าาาาาาา
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 15 10/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 10-09-2010 21:36:43
@@@Writer's Talk@@@

มาติดตามช้าไปหน่อยก็แต่ เข้ามาอ่านแ้ล้วนะคะ
บรรยากาศอึมครึมมากมาย . . .
วันฟ้าหม่นก็มี วันฟ้าใสก็คงใกล้เข้ามานะคะ

ไปหาจุนทั้งชุดเจ้าบ่าว แล้วจุนต้องใส่ชุดเจ้าสาวคู่กันป่ะเนี้ย :m20:

ขอบคุณที่ช่วยแก้คำผิดนะคะ ว่าแต่...ลองจินตนาการหน้าโหดๆของจุนกะชุดเจ้าสาวนี่ พี่จังเริ่มกลัวค่ะ  :sad4:....กลัวใจว่า คิโยจะอดใจไม่ไหว?  :impress2:
เป็น  P.S.  ที่โดนใจมากก 

โอ๊ยยยเดาไม่ถูกเลย
มาดูนะคะ ว่ารอบนี้จะเดาถูกไหม
ปกติจะผ่านเลยนิยายที่เป็นชื่อญี่ปุ่น(เพราะขี้เกียจจำชื่อตัวละคร ฮาาา) .....แต่เรื่องนี้.........อ่านมาขนาดนี้คงเรียกว่าผ่านไม่ได้แล้วมั้ง ฮ่าาาาาาา
ขอบคุณค่ะที่ไม่ผ่านเลยกันไป  :กอด1: กอดหนึบ

////////////////////////////////////////////////////

" ฮันนีมูน? " จุนย้อนถามอย่างแปลกใจ ระคน..เจ็บ.. 

" นายไม่ได้จ้าง wedding planer รึไง? เขาไม่ได้หาให้เหรอ? " มือเรียวกำโทรศัพท์แน่น จนเหงื่อชื้น
"นี่เป็นเรื่องที่ฉันไม่อยากให้ใครรู้น่ะ... นายอยู่ที่บ้านหรือเปล่า ฉันจะไปรับ...ไปตระเวณหากันก็ได้...นี่จุน...จะได้ไหม ในฐานะเพื่อน คนเดียวของฉัน" เสียงที่เอ่ยออกไป คำว่า"เพื่อนคนเดียว"นั้นฟังดูเว้าวอนเหลือเกิน

คิโยโนบุได้ยินเสียงถอนหายใจจากอีกฝ่ายหลังจากที่เงียบเพื่อตัดสินใจอยู่นาน

"มาสิ .. ฉันได้หยุดสองวัน ไปตกปลากันไหม? "
"เหมือน...ตอนนั้นน่ะเหรอ...ไปซิ่ น่าสนุก" ว่าที่เจ้าบ่าวพูดเสียงเบา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม  "งั้นเตรียมตัวนะ เดี๋ยวไปหา "

หลังจากวางหูแล้ว จุนก็ได้แต่นิ่งอยู่นาน เขาพูดอะไรออกไป นี่มันบ้าชัดๆ พ่อครัว? เพื่อน? ที่ต้องไปหาที่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของเพื่อน .. เพื่อนเพียงคนเดียว.. อย่างที่อีกฝ่ายว่า และแน่นอน ก็คิโยโนบุ คือคนที่เขาชอบมากที่สุด ตั้งแต่เริ่มรู้จักความรู้สึกแบบนี้ แถมเขายังชวนอีกฝ่ายไปทำอะไรนะ?...ตกปลา..

" นี่มัน..งี่เง่าชะมัด " เขาหัวเราะให้กับตนเองแต่ก็นึกตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อต้องเดินเข้าไปในห้องเพื่อค้นหาอุปกรณ์ตกปลาที่เก็บเอาไว้
 
.........................................

เป็นครู่ใหญ่ๆกว่าที่จะมีเสียงเคาะดังขึ้นที่หน้าประตูชายหนุ่มผมสีน้ำตาลถูมือลงกับเนื้อผ้าที่กางเกงเล็กน้อย เขาทำอะไรอยู่อีกสามวันเขากำลังจะแต่งงาน แต่ก็มาหาคนที่ชอบที่สุด มันเป็นแผนการณ์ที่แยบยลเสียเหลือเกิน ที่จะพยายามไม่ให้ว่าที่เจ้าสาวรู้ว่า เจ้าบ่าวที่นอกลู่นอกทางของเธอคนนี้ไปไหน...กับใคร...

จุนเดินมาเปิดประตูทันที และสภาพของว่าที่เจ้าบ่าวในชุดเจ้าบ่าวก็ทำเอาเขาถึงกับต้องมองนิ่ง แน่นอน ว่า แวบหนึ่งเขาเจ็บปวด แต่ก็ต้องปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว

" ไอ้บ้า ใส่ชุดแบบนี้ออกมาได้ไง? เข้ามาเลยๆ "  ไม่พูดเปล่ายังฉุดแขนของอาจารย์พละเข้ามาในห้อง แล้วเดินเข้าไปในห้อง หาเสื้อผ้าธรรมดาๆมาให้เปลี่ยน " รู้แล้วโว้ยว่ากำลังจะแต่งงาน ไม่ต้องประกาศขนาดนั้นหรอก " เขาว่า พลางยื่นเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ให้อีกฝ่าย

"อ่ะ...นี่ฉันออกทั้งชุดนี่เลยเหรอ... "ได้ยินอีกฝ่ายทัก ถึงได้รู้ตัว  ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ให้กับความใจร้อนของตัวเอง เขารีบเสื้อผ้ามาจากเชฟหนุ่มก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ชุดสูทสีขาวของเจ้าบางถูกถอดแขวนเอาไว้อย่างเรียบร้อย ก่อนที่คิโยโนบุ จะเดินกลับออกมาพร้อม เสื้อยืด กับกางเกงยีนส์ที่ต้องพับขาขึ้นมาพอสมควร  "ขอบใจนะ จุน"  ชายหนุ่มว่า นึกตื่นเต้นไม่น้อย ที่เข้ามาอยู่ในห้องนี้อีกครั้ง...ต่อหน้า คนๆนี้ เพราะตอนนี้ เขารู้แล้วว่า สิ่งที่เขาต้องการคืออะไร...

" แล้วจะไปแถวไหนล่ะ โรงแรมที่ฮันนีมูน .. อืม บ่อน้ำแร่? " จุนถามขณะที่เดินไปหยิบชาใส่แก้วมาให้อีกฝ่าย

"อืม...ก็น่าจะดี รู้จักที่ไหนบ้างไหม?...ที่ๆเราจะไปได้ทั้งตกปลา ไปดู....โรงแรมด้วย"  ก่อนจะหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย  "เอ่อ...ฉันไม่ได้ อยากจะทำให้นายลำบากใจอะไรนะ... เพียงแค่ ฉันไม่มีเพื่อนที่ไหน"

" ช่างเถอะ ไปกันรึยัง? หาที่ตกปลา คุยกันดีกว่า " จุนว่าก่อนจะถือเบ็ดและอุปกรณ์ที่จำเป็นรวมถึงเสื้อผ้าที่อาจจะต้องใช้เปลี่ยนไว้ในมือ

"อืม...ไปกันเถอะ" ชายหนุ่มยิ้ม ก่อนจะ ลุกขึ้น เดินตามอีกฝ่ายไป ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ทำหน้าที่เป็นฝ่ายขับรถไปโดยที่มีจุนเป็นคนบอกเส้นทาง

...................................

"เห็นว่านาย ลางานแล้ว...เต็มที่เลยนะ วันนั้นน่ะ" คิโยโนบุ พูดพลาง ขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทางออกไปนอกเมือง ที่มีแต่ต้นไม้สีเขียวชะอุ่ม  สถานที่ที่เขาจะไปเป็น บ่อน้ำพุร้อนที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำในเมืองที่อยู่ห่างจากเมืองที่พวกเขาอยู่ออกไปราวชั่วโมงครึ่ง ไม่ไกลมากนักแต่ก็ไกลพอที่จะได้หลบลี้ออกจากความไม่สบายใจทั้งปวง

แม่น้ำเล็กๆ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนักในเวลาทำงานแบบนี้ จุนจัดการกับเบ็ดและเหยื่อตกปลาของตนเองก่อนจะยื่นเบ็ดคันหนึ่งให้ว่าที่เจ้าบ่าว ก่อนจะเหวี่ยงเบ็ดอีกคันหนึ่งของตนไปกลางแม่น้ำ สายน้ำไหลเอื่อย กับสายลมเย็น ของฤดูร้อนที่พัดผ่านมา ทำให้รู้สึกเหมือนกับ ย้อนไปสู่ช่วงเวลาของวันวาน
   
"ยังจำตอนนั้นได้ใช่ไหม"  เสียงชายหนุ่มผมสีน้ำตาล เอ่ยถาม
"ตอนไหน? " เสียงทุ้มนั่นถามกลับมา โดยที่ไม่ละสายตาจากสายเบ็ดด้วยซ้ำ
"ตอนที่นายพาฉันออกมาตกปลา...เหมือนวันนี้" เสียงนั้นตอบกลับมา ใบหน้าได้รูปเปื้อนรอยยิ้มเล็กๆ
"แล้วฉันก็ทำปลาดิบให้นายกิน " จุนตอบกลับมาแล้วหันมายิ้มให้ " 12 ปี มันก็นานแล้วนะ "
"มันนานมาก...แต่ฉันก็ยังจำได้...นายเอง...ก็ด้วย" เพราะคำพูดของอีกฝ่าย ทำให้เขารู้ได้โดยไม่ยาก คิโยโนบุยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
"ฉัน...ชอบนายนะ จุน...ตั้งแต่แรก... และชอบมากกว่าเดิม ในวันนั้น เพราะนาย...เป็นแบบนี้" อาจารย์หนุ่มพูดขึ้นมา ไม่มีทีท่าว่าเคอะเขิน เขาพูดและรู้สึกมันมาจากใจ
"แต่วันนี้ นายก็ใส่ชุดเจ้าบ่าวมาหาฉัน "

จุนหันกลับไปที่แม่น้ำ ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศอีกครั้งยิ่งได้ยิน อีกฝ่ายพูดแบบนี้ ว่าที่เจ้าบ่าวยิ่งรู้สึกว่า ตัวเองคิดถูกที่ทำแบบนี้ ... และมันก็เจ็บ... มากเหลือเกิน  คิโยโนบุ ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขานั่งมองทุ่นเล็กๆที่ลอยน้ำอยู่ไปอย่างเงียบๆ วันนี้ไม่มีปลา หลงขึ้นมาติดเบ็ดซักตัว แต่มันก็ยังให้ความรู้สึกดี เพราะอย่างน้อย เขาก็มากับจุน

"แล้วเรื่อง... ที่พัก จะเอาไง " คิโยโนบุ ถามขึ้นมา พลางช่วยเก็บ เก้าอี้พับ กับอุปกรณ์ตกปลา ใส่ลงท้ายรถ

"ใกล้ๆนี่มีโรงแรม มีบ่อน้ำร้อนส่วนตัว บรรยากาศดี ลองไปไหมล่ะ? " จุนถามความเห็นของอีกฝ่ายพลางกดโทรศัพท์หาเบอร์ของโรงแรมที่ว่า

"อืม ก็ดีนะ...นี่ก็จะมืดแล้ว... ค้างเลยเป็นไงล่ะ...ลองดู "  อยู่ๆ คิโยโนบุ ก็พูดขึ้นมาทำเอา ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อย

"ค้าง? " จุนทวนคำอีกฝ่ายอย่างงงๆ ก่อนจะกดโทรศัพท์ไปที่โรงแรมเพื่อจองห้องพักสำหรับฮันนีมูน " จะจองเลยไหม? หรือเอาคืนเดียวก่อน? "
"คืนเดียวก่อนก็ได้....ตาราง...อะไรๆ ยังไม่แน่นอน" ชายหนุ่มยิ้ม

...รวมทั้งตัวฉันด้วยหรือเปล่านะ...

จุนหยักหน้าเบาๆแล้วจัดการสำรองห้องพักสำหรับคืนนี้ไว้ก่อน และเขาก็บ้าพอที่จะสำรองห้องพักสำหรับฮันนีมูนเสียด้วย

"โอเค เรียบร้อย ห้องพักคู่แบบฮันนีมูน คืนนี้ ลองไปดู "
"อืม...เอาแบบนั้นล่ะ" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลตอบพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะสตาร์ทรถ  "อยู่ใกล้ๆที่นี่ใช่ไหมล่ะ... "
"ใช่ ขับไปตามทางที่บอกก็แล้วกัน"
 
...........................................

โรงแรมที่ทั้งสองคนมาถึงเป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่น ดูแตกต่างจากโรงแรมใหญ่ในตัวเมือง ที่จะเป็นสถานที่จัดงานอยู่มากโข แต่ถึงกระนั้น ความคลาสิคในแบบญี่ปุ่น ก็ถูกสผมผสานด้วยการตกแต่งแบบสมัยใหม่ ที่ทำให้ดูอบอุ่นมากกว่าจะรู้สึกน่าเกรงขามตามแบบฉบับของโรงแรมเก่าแบบญี่ปุ่นทั่วๆไป ทั้งสองคนเข้าพักในห้องพัก ที่มีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งเป็นสัดส่วน  พนักงานในชุดกิโมโนสีหวานออกมาต้อนรับพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม ยื่นรองเท้าสลิบเปอร์ให้ก่อนจะแนะนำว่า ให้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดยูกาตะสบายๆ ก่อนที่อาหารเย็นจะยกเข้าไปเสริฟให้ในห้อง
 
"สาเก อีกไหม" อาหารอร่อย กับเหล้าดีๆ ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย ชายหนุ่ม หยิบขวดเหล้าดินเผาขึ้นมา
"เอาสิ" เพราะว่าเขาเองก็ต้องการดื่มให้ลืมไปว่ากำลังเสียใจ เลยตอบกลับไปแบบนั้น และสาเกก็ช่วยได้จริงๆ คิโยโนบุยิ้มน้อย ๆก่อนจะรินสาเก ให้กับอีกฝ่าย
"อาหารก็อร่อย... ขอบใจนะ...ที่มาด้วยกัน" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นมองอีกฝ่าย ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นเป็นประกาย สะท้อนกับ แสงจากโคมไฟ สีส้ม ที่ตั้งอยู่ที่มุมห้อง
" ก็นายเป็นเพื่อนคนเดียวของฉันนี่ .. แค่นี้เอง.. " มือแกร่งร้อนๆนั่นขยี้ผมอีกฝ่ายเหมือนตอนที่ยังเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่
"เท่านั้นเองเหรอ.. " อีกฝ่ายไม่ได้ ปัดป้อง แต่ถามออกมาเบาๆ  ก่อนจะต้องเงียบไปเมื่อมีพนักงาน เข้ามายกถาดอาหารกลับออกไป เหลือไว้เพียงถ้วยสาเกที่อยู่บนโต๊ะกับชายหนุ่มทั้งสองคนที่นั่งกันอยู่คนละด้านของโต๊ะไม้สีเข้ม


"ทั้งที่นายก็ทำแบบนั้น... เราไม่ได้เป็น แค่เพื่อนกันแล้วล่ะ
"

แม้จะเงียบไป เมื่อมีคนเข้ามาแต่เมื่อในห้องเหลือกันเพียงสองคน ที่ได้ยินมีเพียงเสียงของจักจั่นดังแว่วมาจากด้านนอก

"ไปแช่น้ำร้อนดีกว่า "จุนชวนอีกฝ่ายก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังบ่อน้ำแร่ส่วนตัวสำหรับคู่ฮันนีมูน
"จะให้อาบด้วยหรือไง... " ชายหนุ่มพูดพลางเดินตามไป บรรยากาศ รอบด้านนั้นดูเข้ากับ ชื่อห้อง เสียเหลือเกิน  หนุ่มผมยาวรวบผมตนเองขึ้นแล้วเดินไปชำระร่างกายแทนคำตอบ ตามไปด้วยร่างบางของว่าที่เจ้าบ่าว บ่อน้ำร้อน ถูกปูด้วยหินสีเข้ม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใจกลางธรรมชาติ ด้วยมองไปด้านหน้า ก็เป็นวิวเปิดโล่งให้เห็นแม่น้ำที่ไหลเอื่อย ขนานไปกับแนวสันเขาสูง สายลมฤดูร้อนพัดผ่านมาหอบเอาเสียงจักจั่นแว่วมาให้ได้ยิน ตวบคู่ไปกับเสียงน้ำที่ไหลลงมาจากท่อน้ำร้อนที่แต่งด้วยกระบอกไม้ไผ่

"เข้าใจเลือก จริงๆ เลย... " ว่าที่เจ้าบ่าวหัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทางถูกใจ ไม่น้อยกับบ่อน้ำร้อน มือเรียวขยับผ้าขนหนูเข้ากับเอว ก่อนจะเดินลงไปแช่ในอ่าง บนแผ่นอกบางนั้นยังมีร่องรอยของอีกฝ่ายอยู่ เช่นเดียวกับเชฟหนุ่มที่ยังมี รอยกัดฝังอยู่บนบริเวณกระดูกไหปลาร้า
 
"น้ำร้อนดีนะ... " ด้วยไม่รู้จะพูดอะไรในสถานการณ์ น่ากระอักกระอ่วนเช่นนี้  คิโยโนบุ ถึงได้พูดอะไร ที่ดู... เหมือนบทสนทนา ของชายสูงวัยออกไปอย่างนั้น
" พูดเหมือนคนแก่เลย พวกเราเพิ่งจะ 30 เองไม่ใช่รึไง? "จุนหลับตาลงพลางใช้ผ้าขนหนูเปียกน้ำร้อนๆปิดหน้าไว้ทั้งผืน
"อืม... พวกเราเพิ่งจะ 30 ... หนุ่มเกินกว่าจะหยุดอะไรเอาไว้... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดขึ้นมา อีกฝ่ายเอาผ้าขนหนูปิดตาอยู่  คงไม่เห็นหรอกว่าสีหน้าของเขาในตอนนี้เป็นอย่างไร
 
“.......................” เสียงลมหายใจถูกสูดเข้าไปลึก

"จุน... " เสียงน้ำดังขึ้นเบาๆ ในขณะที่ คลื่นของน้ำ กระทบกายของชายหนุ่มร่างสูง  "ฉันรู้ว่ามันอาจจะฟังดูบ้า... ที่มาพูดแบบนี้ ในสถานที่แบบนี้ แต่ฉัน คงจะไม่โกหกตัวเอง เหมือนที่โกหกใครๆ... ฉันกลับไปคิดดูแล้ว... และฉันได้พูดไปแล้ว...ฉันรักนาย
"นาย..เคยพูดแล้ว " จุนตอบกลับมาทั้งๆที่ยังเอาผ้าขนหนูเปียกๆปิดหน้าตนเอง ราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา "กลับห้องเถอะ" เขาว่าก่อนจะเอาผ้าขนหนูผืนนั้นออกแล้วลุกจากบ่อน้ำขึ้นไปสวมยูคาตะแล้วเดินกลับเข้าห้อง

".............................." เหมือนหัวใจจะจมลงไปในน้ำ ทำไมอีกฝ่ายถึงพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนั้น เสียงถอนหายใจดังขึ้น เบาๆก่อนที่จะลุกขึ้นจากน้ำบ้าง

เมื่อชายหนุ่มร่างบางเดินกลับเข้ามาเห็น เจยืนนิ่งอยู่ตรงกลางห้องในส่วนรับแขกมองเลยเข้าไปก็เห็นบานประตูที่เปิดเเลื่อนออก ฝูกนอนสองที่ถูกจัดวางเอาในความมืดสลัว  ส่วตัวของเจเองก็มองเข้าไปในห้องนอนที่มิดสลัวนั้น สายตานิ่งสงบตรงกันข้ามกับในหัวใจ มือข้างหนึ่งใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมอยู่ก่อนจะเสยให้มันไปอยู่ด้านหลัง หนุ่มผมยาวถอนหายใจเบาๆกับคำพูดที่อีกฝ่ายบอกอีกครั้ง

...ฉันรักนาย...

คิโยโนบุที่ยืนอยู่ด้านหลังพิจารณาภาพของแผ่นหลังที่ดูหนักอึ้งนั้นของเจ มันดูหนัก...เหมือนกับกำลังแบกอะไรเอาไว้ไม่ต่างจากความรู้สึกของเขาในตอนนี้

"ความจริง....วันนี้...ฉันตั้งใจ ที่จะชวนนายมา”



.........................................to be con

หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH15 10/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 10-09-2010 23:00:31
บรรยากาศเป็นใจแบบนี้ จุนจะไปไหนรอด :o8:
be yourself ดีที่สุดมีเวลาแค่สองวันเอง
ผู้ชายยังไงมันก็ต้องคู่กับผู้ชาย :laugh:

p.s ดีใจด้วยจ้าพีจัง มีคนมาอ่านตั้งหลายคนแล้ว :mc4:
เดี่ยวเค้าก็จะหลงรักเรื่องนี้เหมือนเรา สู้ สู้ รู้มั้ย
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH15 10/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 11-09-2010 16:10:49
ถ้าตัดสินใจแล้วก็ลุยเลย อย่าหลอกหญิงให้มารับกรรมด้วย
สนับสนุนครับ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH15 10/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 11-09-2010 18:14:41
บรรยากาศอึมครึมสุด.... ลุ้นไม่ถูกเลยว่า ต่อไปจะเป็นแบบไหน
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH16 จะNCแล้วนะ11/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 11-09-2010 23:20:57
@@@Writer's Talk@@@
ผู้ชายยังไงมันก็ต้องคู่กับผู้ชาย :laugh:
p.s ดีใจด้วยจ้าพีจัง มีคนมาอ่านตั้งหลายคนแล้ว :mc4:

ชอบจริงประโยคหนี...สงสัยต้องช่วยกันจุดธูปเชิญรีดเดอร์เข้ามาอ่านอีกเยอะๆ  :call: :call:

ถ้าตัดสินใจแล้วก็ลุยเลย อย่าหลอกหญิงให้มารับกรรมด้วย
สนับสนุนครับ
:monkeysad: ต้องรอดูกันต่อไปนะคะ เราน่ะ ชอบ อาการิ ที่สุดเลย เป็นผู้หญิงที่เท่มาก

บรรยากาศอึมครึมสุด.... ลุ้นไม่ถูกเลยว่า ต่อไปจะเป็นแบบไหน
ไม่ต้องลุ้นแล้วค่ะ มาแล้วววววว....

////////////////////////////////////


"ความจริง....วันนี้...ฉันตั้งใจ ที่จะชวนนายมา”

เสียงนุ่มของอาจารย์หนุ่มที่ดังขึ้นเรียกความสนใจของร่างสูงในทันที ใบหน้าได้รูปแสดงคำถาม

....ทำไม?...

"ฉัน...ทำไปเพราะฉันหมายความไปตามที่พูด... "คิโยโนบุพูดพลางขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่าย มากขึ้นอีกเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นสะท้อนกับแสงไฟเป็นประกาย "ฉันกลัวนะ แต่ฉันก็ก้าวข้ามมาแล้ว..แล้วนายล่ะ...นาย...กลัวอะไรอยู่." พูดพลางก็ก้าวเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่าย ห่างกันเพียงแค่หนึ่งช่วงแขน เส้นผมสีน้ำตาลนั้นยังเปียกชื้น

"ฉันกลัว? "

"ใช่...ทุกครั้ง... "ชาหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดเสียงดัง "ทุกครั้งที่นายเข้าใกล้ฉัน..สัมผัสฉัน... นายจะถอยห่าง ผลักฉันออกไป...ไม่ใช่แค่การกระทำ คำพูดของนาย... ก็เหมือนกัน..แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น นายก็บอกว่า นายชอบฉัน " ร่างบางขยับเข้าไปหาอีกฝ่าย ก่อนจะยกมือซ้ายขึ้น  "เพราะนี่เหรอ...แหวนนี่ เพราะฉัน มีห่วงคล้องคออยู่ซิ่นะ ...ฉันถอดก็ได้นะ...ถ้ามันจะทำให้นายไม่ผลักไสฉันไป ไม่ว่าจะทั้งการกระทำของนาย หรือคำพูดของนาย... " ว่าที่เจ้าบ่าวดึงแหวนหมั้นออกจากนิ้วก่อนจะยื่นให้อีกฝ่าย

 "เอาไปซิ่ ฉันไม่มีห่วงคล้องอีกแล้ว... "


ดวงตาสีน้ำตาลมองหน้าของอีกฝ่าย ความลังเลใจมันหมดไปแล้ว ไม่มีอะไรให้ลังเลอีกแล้ว เขาตัดสินใจแล้ว ตั้งแต่ตอนที่วิ่งออกจากห้องพักมา

"อย่างน้อย ขอแค่ให้ฉันเป็น อิโนะอุเอะ คิโยโนบุ...ผู้ชายคนหนึ่ง...ต่อหน้านาย....ไม่ใช่อาจารย์ ไม่ใช่ เจ้าบ่าวของใคร นาย...เลิกผลักฉันออกไปจะได้หรือยัง" เสียงนั้นสั่นแต่มันคือความขุ่นเคือง...ความขุ่นเคืองที่แสนเศร้า 

“..............................”  มือแกร่งที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์อาหารมาตลอดดึงมือที่กำแหวนหมั้นวงนั้นเข้ามาหาตัวแล้วกอดร่างที่บางกว่าไว้แน่น ริมฝีปากได้รูปแนบกับไหล่ของคนที่กำลังจะแต่งงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเบาๆ

"นายมันบ้า... เข้าใจรึเปล่าว่าแปลว่าอะไร? ..”  แม้ปากจะต่อว่าอีกฝ่ายไปแบบนั้น แต่ในใจกลับคิดไปอีกอย่าง

..และฉันเองก็บ้าเหมือนกัน...

"ใช่..... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล รับคำเบาๆ

....นายเองก็เหมือนกัน....

"จะให้ฉันเป็นชู้รึไง?" คำถามนั้นยังคงมีขึ้นต่อไป เป็นคำพูดตรงๆเสมอ ริมฝีปากได้รูปกระซิบกับใบหูที่แดงระเรื่อเบาๆ มือแกร่งเลื่อนไปรับแหวนแต่งงานวงนั้นมาจากมือที่กำแน่นของคิโยโนบุ
"ฉันยังไม่ได้แต่งงาน... นายจะเป็นชู้ได้ยังไง.... " เสียงนุ่มกระซิบตอบแหบพร่า  สองแขนยกขึ้นโอบรอบไหล่กว้างนั้นเอาไว้เบียดตัวเองเข้าหา ผิวเนื้อที่ยังชื้นจากการแช่น้ำนั้นรู้สึกได้ผ่านผิวสัมผัสของผ้ายูกาตะ เนื้อบาง เจกอดร่างนั้นเข้ามาหาตัวมากขึ้นแล้วแตะริมฝีปากกับผิวแก้มที่ยังคงอุ่นจากอุณหภูมิของน้ำ
"จุน... ฉันไม่อยากให้นายคิดว่า ทั้งหมดนี่เป็นเพราะฉันสับสน.... " คิโยโนบุขยับเปิดรับสัมผัสนั้นริมฝีปากของเขาเองก็ ขยับเฉียดผิวแก้มของอีกฝ่ายเช่นกันแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่จุดสัมผัสแบบนี้มันไม่ได้ยากที่จะทำ...ให้อีกฝ่ายรู้สึกดีก่อนที่จะถอยห่างออกมาจากร่างสูงนั้นเล็กน้อย "ฉันอยากให้นายรู้... ว่ามันไม่ใช่เพียงแค่คำพูด... "  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบดวงตารีเรียวของอีกฝ่ายนิ่ง  "กลัวอะไร...มาซิ่ .... " คิโยโนบุเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา

เชฟหนุ่มขมวดคิ้วอย่างขัดใจเมื่อถูกท้าทายมาแบบนี้ มือแกร่งจับท้ายทอยของอีกฝ่ายขึ้น มืออีกข้างที่กำแหวนเอาไว้โยนแหวนออกไป แทนคำตอบ ก่อนจะลากปลายลิ้นกับลำคอของอาจารย์หนุ่มอย่างยั่วเย้า

“นายมันบ้า " เจคำรามเบาๆริมฝีปากยังแนบชิดกับผิวเนื้อของอีกฝ่าย
"อืม.... " ทันทีที่อีกฝ่ายสัมผัส เสียงครางเครืออย่างพึงพอใจดังขึ้น มือของชายหนุ่มเลื่อนเรื่อยลงไปตามแผ่นหลังแกร่ง  ก่อนจะเลื่อนกลับมาสอดผ่านสาบชุดยูกาตะเข้าไปด้านใน ไล้เล่น ยั่วแหย่บนแผ่นอกนั้น ก่อนจะขยับให้สาบเสื้อทั้งสองด้านเลื่อนหลุดออกจากไหล่แกร่งไป  มีเพียงแค่โอบิที่พันรัดอยู่รอบเอวที่ยังดึงรั้งชุดญี่ปุ่นเนื้อบางกั้นร่างของเชฟหนุ่มเอาไว้

" ทำแบบนี้..นายคิดดีแล้วใช่ไหม? "   เจซุกไซ้กับลำคอนั้นไปมา พลางถาม มือทั้งสองข้างหยุดที่สาบเสื้อและโอบิของอีกฝ่าย

"ฉันคิดดีแล้ว... ถอดเลยซิ่...ฉันจะช่วย"

นิ้วเรียวสอดเข้าไปเกี่ยวระหว่างปมของโอมิที่มัดอยู่ แต่ก็ค้างเอาไว้แบบนั้น รอให้อีกฝ่ายขยับตาม แต่มือแกร่งของอีกฝ่ายชิงดึงสาบเสื้อให้เปิดออกพร้อมๆกับโอบิ ชุดยูกาตะที่ ว่าที่เจ้าบ่าวสวมอยู่หลุดลงไปกับพื้นอย่างง่ายดาย  เบื้องหน้านั้นคือร่างบางของว่าที่เจ้าบ่าว รอยจ้ำสีแดงยังเห็นชัดเจนนอยู่บนผิวเนื้อนวล ที่ยังคงแดงระเรื่อและเปียกชื้นจากน้ำร้อนของบ่อน้ำพุร้อน  ยิ่งมองตามรอยและผิวกายนั้น ความปรารถนาก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาด  ดวงตารีสบตากับอีกฝ่าย แล้วขยับเข้าประชิดยิ่งกว่าเดิม จนทำให้คิโยบุต้องก้าวถอยข้ามชุดยูกาตะที่กองอยู่กับพื้น ทั้งสองร่างก้าวไปอีกก้าวและอีกก้าว จนร่างของทั้งคู่ข้ามธรณีประตูห้อง ก้าวเข้าไปยังห้องนอน   ยืนอยู่บนฟูกแบบญี่ปุ่นถูกจัดเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้

"........................."
"........................."

ชั้นในสีเข้มเป็นเพียงอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ยังปกคลุมร่างกายของอาจารย์หนุ่ม คิโยโนบุก้มลงมาร่างของตัวเองก่อนจะมองหน้าของชายผมยาวนิ่งสายตาของเชฟหนุ่มที่โลมเลียร่างนั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดาความหมาย ใบหน้าของเจเองก็แดงก่ำ อาจทั้งอุณหภูมิของน้ำ และความต้องการที่ถูกจุดขึ้นคิโยโนบุสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะก้มลงเล็กน้อยเพื่อถอดอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายนั้นออกไปคราวนี้เป็นตัวเขาเองที่หน้าแดงขึ้นมา ...แต่มันก็ถอยไม่ได้แล้ว

"เขินแฮะ...แบบนี้ " เสียงอาจารย์หนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อถูกอีกฝ่ายจับจ้องโชคดีที่ภายในห้องนั้นมืดสลัวพอจะพรางร่างกาย ที่ไม่ว่าจะออกกำลังเท่าไรก็มีกล้ามเนื้อได้เพียงปรกติเท่านั้นเอาไว้ได้ ก่อนที่ถูกมือแกร่งจะจับมือเอาไว้แล้วดึงลงมาจนอยู่บนฟูกนิ่มด้วยกันทั้งคู่

"อืม...แล้วใครจะรุก? "

คำถามมาตรงๆดังขึ้น ขณะที่ร่างสูงคร่อมร่างเปลือยเปล่านั้นเอาไว้ มือแกร่งลากกับผิวกายของคนเบื้องล่างอย่างยั่วเย้า

...........................................to be con
p.s. วันนี้ต้องขอโทษด้วยค่ะที่มาอัพช้า...ไรเตอร์ปั่นรายงานส่งวันจันทร์อยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH16 จะNCแล้วนะ11/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 11-09-2010 23:41:37
ไม่เป็นไรจัหนูพี นี่กะรีเฟรชตรั้งสุดท้ายล่ะเพราะต้องตื่นเช้าไปเรียน
โชคดีจริงๆ อิอิ อ่านไปเขิลไป :o8:รอบนี้คิโยจังแรงได้ใจมาก ชอบบบบบบบ
"อืม...แล้วใครจะรุก? " :m20: เป้ายิ้งฉุบดีมะ :laugh:

เป็นกำลังใจในทุกๆเรื่องจ้า สู้ สู้ รู้มั้ย
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH16 จะNCแล้วนะ11/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 12-09-2010 02:40:11
แล้วใครจะลุก ต้องพี่เจ~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!สิค่ะ เอิ๊กๆ >,,,<
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH16 จะNCแล้วนะ11/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 12-09-2010 07:16:23
สลับกันสิคะ เพื่อความเสมอภาคและสมานฉันท์ คริๆ
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกก้อหื่นซะแล้วเรา 55+
(ยอมรับว่าตอนแรกผ่านเลยไปเพราะชื่อเรื่องที่มีชื่อญี่ปุ่นด้วยนี่แหละ เลยคิดว่าเป็นพวกแฟนฟิคอะไรงี้ ซึ่งอิชั้นไม่สันทัด--"
แต่เห็นเคยฝากทิ้งไว้ในเรื่องหอมกลิ่นกาแฟว่าให้ลองมาอ่านดู เลยลองมาอ่านเนี่ยแหละค่ะ พออ่านแล้วก้อสนุกดี เลยเข้ามาเม้นท์ให้^^)
ชอบเรื่องนี้นะ ดูนายเอกเป็นปุถุชนดี ไม่ได้ดีเว่อร์เลอเลิศสูงส่งเกินไป ยังมีกิเลส มีความเห็นแก่ตัวแบบคนจริงๆ
แล้วก้อทำให้เราแอบลุ้นว่าเมื่อไหร่นายเอกจะงาบพระเอกได้ซะที -////-
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ  ><
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH17 NC 18 12/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 12-09-2010 19:30:49
@@@@Writer's Talk@@@@

"อืม...แล้วใครจะรุก? " :m20: เป้ายิ้งฉุบดีมะ :laugh:

เป็นกำลังใจในทุกๆเรื่องจ้า สู้ สู้ รู้มั้ย
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ สู้ๆค่า  o13 ว่าแต่ ถ้าเกิดคิโยเป่ายิงฉุบเก่ง นี่...เรื่องมีพลิก!

แล้วใครจะลุก ต้องพี่เจ~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!สิค่ะ เอิ๊กๆ >,,,<
อ่ะหุ...งั้นก็มาดูกันนะคะ ว่าจะเป็นอย่างไร

(ยอมรับว่าตอนแรกผ่านเลยไปเพราะชื่อเรื่องที่มีชื่อญี่ปุ่นด้วยนี่แหละ เลยคิดว่าเป็นพวกแฟนฟิคอะไรงี้ ซึ่งอิชั้นไม่สันทัด--"
แต่เห็นเคยฝากทิ้งไว้ในเรื่องหอมกลิ่นกาแฟว่าให้ลองมาอ่านดู เลยลองมาอ่านเนี่ยแหละค่ะ พออ่านแล้วก้อสนุกดี เลยเข้ามาเม้นท์ให้^^)
ชอบเรื่องนี้นะ ดูนายเอกเป็นปุถุชนดี ไม่ได้ดีเว่อร์เลอเลิศสูงส่งเกินไป ยังมีกิเลส มีความเห็นแก่ตัวแบบคนจริงๆ
แล้วก้อทำให้เราแอบลุ้นว่าเมื่อไหร่นายเอกจะงาบพระเอกได้ซะที -////-
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ  ><

ให้พูดกันตรงๆ มันคือ แฟนฟิคค่ะ... :L2: แต่ถ้าเอาคำว่าแฟนฟิคออกไป...ก็ยังอ่านกันได้เรื่อยๆใช่ไหมคะ
เป็นความตั้งใจของไรเตอร์กับโคไรเตอร์ค่ะที่อยากจะให้ดูกันที่เนื้อเรื่องค่ะ ส่วนสำหรับชื่อเรื่องนั้น...
ความจริงแล้วมาจากชื่อเพลงภาษาญี่ปุ่นค่ะ Sonzai no Kakera (เศษเสี้ยวของตัวตน)
ของศิลปินชื่อ INORAN ค่ะ...เอามาปรับใช้กันเล็กน้อย อีกสาเหตุที่ตั้งชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นคือ...พีจังไม่ค่อยถนัดตั้งชื่อเป็นภาษาไทยค่ะ
มันเขินๆพิกล ก็มีซีรีย์หอมกลิ่นกาแฟที่เขียนกับ kuruma  นี่ล่ะค่ะ ที่เป็นเรื่องที่มีชื่อเป็นภาษาไทยและตัวละครไทยครั้งแรก  :o8:

แต่อย่างไรเสียก็ขอให้อ่านเรื่อง Pieces of Time กันให้สนุกและช่วยติดตามต่อไปเรื่อยด้วยนะคะ
เอาล่ะ....ทุกคน ...เตรียมทิชชู่กันพร้อมนะคะ?

///////////////////////////////////////////////////////////


"อืม...แล้วใครจะรุก? "

คำถามมาตรงๆดังขึ้น ขณะที่ร่างสูงคร่อมร่างเปลือยเปล่านั้นเอาไว้ มือแกร่งลากกับผิวกายของคนเบื้องล่างอย่างยั่วเย้า
"เรื่องแบบนี้... ถามได้ยังไง มันต้องใครดีใครได้ซิ่ "
ชายหนุ่มว่าพลางพลิกตัวกลับขี้นมาอยู่ข้างบน ก่อนที่จะก้มลงไล้เล่นที่แผ่นอกของอีกฝ่าย ความรู้สึกเร่าร้อนเริ่มเกิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงครางเบาๆ อย่างพึงใจจากร่างสูง  ก่อนที่มือเรียวจะดึงแก้โอบิออกจากเอวของเชฟหนุ่ม ชุดยูกาตะถูกดึงออกไปให้พ้นทาง เหลือเพียงแค่ร่างสองร่างของชายหนุ่มสองคนที่ขยับเข้าหากันราวกับว่าอากาศข้างนอกนั้นหนาวเหน็บเหลือคณา

"อืม... "สัมผัสร้อน นั้นได้รับการตอบรับด้วยปลายลิ้นไล้เล็มอีกฝ่าย สองมือโอบร่างสูงนั้นเข้าหา ก่อนที่มือเรียวจะดึงผมยาวของเจจากทางด้านหลังให้ใบหน้านั้นละออกห่าง ก่อนที่ริมฝีปากบางจะพร่างพรมจูบเบาๆที่ข้างแก้ม แล้วขยับไปฝังเขี้ยวลงบนรอยเดิมที่เคยทำเอาไว้
" อื้อ..เป็นหมารึไง? " คำถามนั้นดังขึ้นราวกับท้าทาย แต่ต้องอุทานออกมาเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายออกแรงดึงอีกนิดที่ผมจากทางด้านหลัง   ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่าย ก่อนจะขยับตัวขึ้นคร่อมตรงหน้าขาของร่างสูง
"จะช่วย...หรือจะให้ทำ...หรือจะทำให้... " เสียงของคิโยโนบุที่เอ่ยถามนั้น ยั่วเย้า ริมฝีปากคู่นั้นเป็นประกายเล็กๆจากความชื้นที่เรียวลิ้นไล้ไปเบาๆเมื่อครู่
"อยากให้เป็นแบบไหนล่ะ? .. นายมันเอาแต่ใจตั้งแต่ต้นแล้วไม่ใช่รึไง? " เจย้อนถามก่อนจะขยับจากนอนเป็นนั่งให้อีกฝ่ายนั่งคร่อมตักของเขาเอาไว้ มือซุกซนนั้นลูบไล้ผิวกายร้อนก่อนจะ หยุดอยู่ที่สะโพก เขาลูบไล้มันหยอกเย้า ปลายนิ้วเน้นหนักลงไปบนผิวเนื้อแต่มือเรียวของคิโยบุกลับผลักร่างของเจออก
   
"นาย.....ยังถอดไม่หมด”

”แล้วนายจะทำยังไงล่ะ” เชฟหนุ่มถามกลับ ดวงตารีเรียวคู่นั้นมองมาอย่างท้าทายเล็กๆ

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกาย นิสัยที่แย่ของผู้ชาย คือการยอมไม่ได้ที่จะถูกท้า และมันมักจะทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากตามมา ชายหนุ่มขยับถอยออกมาเล็กน้อย ก่อนจะดึงผ้าชิ้นสุดท้ายที่ปิดบังร่างของเจออก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายกับแสงไฟดูยั่วเย้าอย่างบอกไม่ถูก เจดึงร่างนั้นให้กลับมานั่งคร่อมตักของเขาอีกครั้ง มือร้อนๆที่จับคางอีกฝ่ายขึ้นมา แล้วลากปลายลิ้นกับแผ่นอกเบา แล้วแทะเล็มกับยอดอกอย่างยั่วเย้าจนร่างบางเกร็งแน่นกับการหยอกล้อของอีกฝ่าย ก่อนจะพยายามผลักไสริมฝีปากร้อนนั้นออกไป

"ฉันไม่มีหน้าอก... " แม้จะพูดไปแบบนั้น แต่ความเร่าร้อนในร่างกายนั้นก็ถูกจุดขึ้นเสียแล้ว  และดูเหมือนว่าเจจะไม่ได้สนใจคำทัดทานนั้น มือแกร่งเลื่อนจากแผ่นหลังบางลงไปที่สะโพกมนโดยที่ยังไม่ละริมฝีปากออกห่างไปไหน

"อ่ะ...... " เสียงอุทานเบาๆ เมื่อเจอสัมผัสที่สะโพก ชายหนุ่มขยับหนีเหมือนจะห้าม

แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ปลายลิ้นและริมฝีปากร้อนเม้มกับยอดอกทั้งสองข้างอย่างยั่วเย้า การขัดขืนของคิโยโนบุ เมื่อครู่ยิ่งทำให้ต้องเลื่อนมือกลับไปบีบเคล้นหนักๆที่สะโพกมนอีกครั้ง คิโยโนบุเผลอตัวขยับหนีเข้าหาอ้อมแขนอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ต้องสะดุ้งซ้ำสองเมื่อรู้สึกถึงความต้องการของอีกฝ่าย  ใบหน้าได้รูปของอาจารย์หนุ่มแดงก่ำขึ้นมาทันที มือเรียวจะยึดไหล่แกร่งนั้นเอาไว้ ร่างบางพยายามอย่างมากที่จะทรงตัวให้อยู่ ไม่ให้ร่างทั้งร่างสัมผัสกับอีกฝ่ายมากเกินไปดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่ายเล็กน้อย

"ฉัน....ก็ไม่เคยทำให้ใครหรอกนะ..."
"แล้วเคยคิดว่า... จะถูกทำบ้างรึเปล่า? " มือแกร่งลากตามอกนั้นลงตามร่องท้องของอีกฝ่าย สัมผัสกับสิ่งที่แนบกับความต้องการของเขาอยู่เบาๆ ยั่วเย้า
"เอ้ย...... "เสียงอุทานดังขึ้น ก่อนจะเงียบหายไปพร้อมกับเสียงลมหายใจที่สูดเข้าลึก คิโยโนบุสบตาของอีกฝ่าย ก่อนจะเลื่อนมือที่สั่นระริกของตัวเองไปสัมผัสกับความต้องการของอีกฝ่ายบ้าง "....ก็ไม่เคย...จนกระทั่งมาเจอนาย......มีอยู่ชั่วแว่บหนึ่งในสมอง...... มันก็บอกว่า อยากจะลองดูเหมือนกัน" ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มกับมุขตลกของตัวเอง
"งั้น.. มาลองดูไหมล่ะ? " จุนยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วขยับมือมากขึ้น ริมฝีปากร้อนๆ ยั่วเย้าตามผิวกายไปมา
"อื้ม... "

เสียงครางเครือดังขึ้นพร้อมกับร่างที่เกร็งหากแต่ขยับเข้าหาสัมผัสนั้นรุนแรง มือเรียวของตัวเอง ก็ไล้เย้าความต้องการของอีกฝ่ายเป็นจังหวะเช่นเดียวกัน หัวใจของคิโยโนบุเต้นแรง ความรู้สึกเขินอายในยามแรกเปลี่ยนเป็น ตื่นเต้นและเร่าร้อน ราวกับว่าตัวเองเป็นเหมือนกับเด็กหนุ่มที่กำลัง ทดลองเล่นอะไรพิเรนทร์กับเพื่อนสนิท....แต่มันมีมากกว่านั้น ทุกสัมผัสของอีกฝ่าย เอาแต่ใจ แต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก

" อื้อ..คิโย..ให้ฉันทำ..ได้ใช่ไหม? "
เจกระซิบถามเบาๆ มือที่สัมผัสความต้องการที่ร้อนรุ่มนั้นค่อยๆลากนิ้วมายังช่องทางนั้นแล้วสอดนิ้วเข้าไปเบาๆ
"อ๊า...โอ้ย...... "เจ้าของชื่อร้องออกมาแทนคำตอบ... ร่างที่ถูกรุกเร้าเมื่อครู่มาถึงปลายทางของอารมณ์ ความสุขแผ่ซ่านไปทั่วร่างขณะเดียวกันกับที่ความเจ็บปวดที่ยังพอทำเนานั้นคลืบคลานเข้ามาหา ร่างบางกระตุกเกร็งแน่น ก่อนจะผ่อนแรงลงเมื่อเผลอปลดปล่อยออกมา เปรอะหน้าท้องของอีกฝ่าย  "อ่ะ..โทษที.. "เสียงแหบพร่านั้นฟังดูตกใจไม่น้อย 

เจยิ้มเล็กน้อยก่อนถอนมือออกมาจากร่างนั้นและป้ายของเหลวสีขาวขุ่นนั้น แล้วค่อยสอดนิ้วที่เปรอะความร้อนเข้าไปอีกนิ้ว เชฟหนุ่มขยับปลายนิ้วในกายอีกฝ่าย พลางขยับตัวเข้าหาใช้ปลายลิ้นเลียกับแผ่นอกบาง ช่วยกระตุ้นเร้าไปอีกทาง
"อ๊าาาา....จุน...เจ็บ... "ร่างบางผวาเฮือก แต่หากจะขยับหนีไปข้างหน้า ก็แทบจะทาบทับร่างของอีกฝ่ายเอาไว้ทั้งตัว ความตั้งการของตัวเองถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งจากการสัมผัสระหว่างผิวกายที่ไม่ได้ตั้งใจ  "จุน...พอ ออกไป...ฉันยัง.... " อาจารย์หนุ่มพร่ำร้องขอ เขาเตรียมใจมาแล้ว แต่อาจจะเตรียมมาไม่เพียงพอ กับความรู้สึกเช่นนี้...

" ไม่..ไม่ได้ "
เสียงของเชฟหนุ่มขัดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ริมฝีปากได้รูปปิดปากคิโยโนบุไม่ให้ร้องห้ามอะไรได้อีก ในเมื่อตอนนี้อารมณ์ที่อีกฝ่ายกระทำให้เกิดมันยากที่จะหยุดยั้ง ปลายลิ้นร้อนควานค้นเข้าไปภายในอย่างยั่วเย้าเอาแต่ใจ เป็นจังหวะเดียวกับนิ้วที่ขยับเข้าออก เสียงครางเครือดังขึ้นในลำคอ ฟังจับใจความอะไรไม่ได้ แต่มันเป็นจังหวะเดียวกับ ที่อีกฝ่ายรุกเร้า น้ำตาจากความเจ็บปวดเอ่อล้นอยู่ที่ดวงตา แต่อีกฝ่ายคงไม่ทันสังเกต

"จุน....โอ้ย..... "เสียงหอบเป็นห้วง เมื่อความรู้สึกเจ็บเริ่มเลือนหายไปเป็นเพียงความรู้สึกแปลกประหลาดที่หลงเหลืออยู่ มือเรียวเลื่อนลงมาไล้สัมผัสร่างของตนเองพลางขยับเข้าไปจูบเม้มแผ่นอกของอีกฝ่าย "นี่มันบ้าจริงๆ..." เพราะความร้อนในร่างกายกับความปรารถนากำลังทำให้คิโยโนบุควบคุมตัวเองไม่ได้มือเรียวสัมผัสร่างกายของตัวเองกระตุ้นเร้าอย่างสิ้นอาย
"อื้อ..งั้นไปกันเถอะ.. " พูดจบมือร้อนๆของจุนก็กระตุ้นเร้าอีกฝ่ายมากขึ้น ก่อนจะยกร่างของอาจารย์หนุ่มขึ้นเพียงเพื่อจะให้ลดตัวลงมาบนร่างของเขาช้าๆ "อื้ม..ช้าๆ.. " เสียงจุนเอ่ยขึ้นปะปนกับเสียงหอบเหมือนพยายามจะปลอบโยน

"อึ่ก....จุน..... ไม่...ไม่ได้..... "
 คิโยโนบุรู้ว่าเขากำลังจะเป็นหนึ่งเดียวกับ คนที่ตัดสินใจบอกไปแล้วว่ารัก เขาจะแสดงออกให้อีกฝ่ายได้เห็นว่าเขาไม่ได้รักเชฟหนุ่มเพียงแค่คำพูด แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะรับอีกฝ่ายเข้ามาแนบชิด ใบหน้านั้นส่ายหน้าไปมา สองแขนผวากอดคนตรงหน้าแน่น มือเรียวฝากรอยไว้บนแผ่นหลัง ราวกับจะระบาย ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นออกไป

"....จุน ทำซิ่...ทำให้ฉันมีความสุข " เสียงนั้นดังเหมือนคำสั่งมากกว่าขอร้อง เขารอให้ร่างกายของตัวเองชินไม่ไหว ความเร่าร้อนนี้มันมากเกินไป ได้ยินเสียงชายหนุ่มผมยาวสูดลมหายใจลึกก่อนจะค่อยๆกดร่างนั้นเข้าหาตัว แม้ว่ามันจะเรียกเสียงร้องอย่างทรมาน แต่เขาก็ไม่คิดจะหยุดอีกแล้ว

" อื้อ.. คิโย..." เสียงทุ้มห้าวครางเบาๆ พลางหอบหายใจ ความเร่าร้อนในกายของอีกฝ่ายกำลังจะทำให้เขาทนไม่ได้ เชฟหนุ่มได้ยินเสียงของอาจารย์หนุ่มที่พยายามสะกดกลั้น ก่อนจะต้องหันกลับมาหาเมื่อสองมือเรียวของคิโยโนบุจับใบหน้าของเขาให้หันมาเพื่อมอบรสจูบเร่าร้อนให้คงจะเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดนั้นออกไป

"ทำ..... ในแบบที่นายต้องการ " เสียงคิโยโนบุ ดังผ่านไรฟันที่ขบเข้าหากันแน่น

....เพราะฉันต้องการนายมากเหลือเกิน....


เจจูบอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อน ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดกับอีกฝ่ายราวกับจะทำให้ลืมความเจ็บปวดนั้นได้ มือแกร่งขยับสะโพกมนให้ขยับขึ้นลงช้าๆ แล้วค่อยๆเร็วขึ้นเมื่อร่างนั้นเริ่มขยับคล้อยตาม ความเจ็บปวดเปลี่ยนแปลงเป็นความสุขที่ยากจะอธิบาย ร่างกายเบื้องล่างเริ่มขยับตอบรับกับสัมผัสเร่งเร้าจากร่างสูง มือเรียวยังไม่ละหนีไปจากการกระตุ้นเร้าตนเองไปพร้อมกับเอ่ยเรียกนามของเชฟหนุ่ม ราวกับจะบอกใหรู้ว่า สิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดนี้นั้นเพื่อใคร ร่างกายของเขานั้นเป็นสุขได้ขนาดนี้เพราะใคร  ร่างบางเริ่มขยับรับสัมผัสเร่าร้อนนั้นไปตามที่ธรรมชาติเรียกร้อง เสียงอาจารย์หนุ่มดังครางเครือออกมาอย่างช่วยไม่ได้

...ร้อน... ร้อนในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ... 


เสียงหัวใจของชายหนุ่มเต้นรัวเร็ว เมื่ออีกฝ่ายเร่งเร้า  เรียวขาเกร็งแน่น ความรู้สึกสุขล้ำลึกนั้น แปลกประหลาดเหลือเกิน ทั้งๆที่ผู้กระทำนั้นก็เป็นผู้ชาย...เช่นเดียวกัน

"ให้ฉัน.... ทำให้นายบ้าง......ได้ไหม "
เสียงหอบขาดช่วงดังขึ้นพร้อมกับมือเรียว ที่ไล้เบาๆบนแผ่นอกชื้นเหงื่อของอีกฝ่าย หนุ่มผมยาวที่ชื้นเหงื่อเลียริมฝีปากบางนั้นแทนคำตอบ ตอนนี้อารมณ์ของเขากำลังพุ่งสูงเหลือเกิน คิโยโนบุเองก็รู้ดี ชายหนุ่มดันร่างสูงให้นอนลงไปบนฟูก สายตาเย้ายวนภายใต้เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่เปียกชื้นนั้นดูยั่วยวนใจ มือเรียวไล้เล่นที่ยอดอกของอีกฝ่าย ก่อนจะปลายนิ้วขยับบิดแรงๆ ราวกับจะแกล้งให้สะดุ้ง ก่อนที่จะค่อยขยับสะโพกเบาๆ เนิบช้า

"รู้สึกไหม... ความรู้สึกที่อยากให้นายได้รู้” เสียงอาจารย์หนุ่มพูดขาดห้วงเล็กๆเมื่อร่างนั้นยังคงขยับไปอย่างอ้อยอิ่ง และไม่ได้ช่วยให้ชายหนุ่มผมยาวรู้สึกดีขึ้น นอกจากจะทรมานด้วยกันทั้งคู่ เพราะความเร่าร้อนเท่านั้น "จุน.. อ๊ะ....." เสียงครางเครือเมื่อตัวเองได้รับสัมผัสหวามใจนั้นยิ่งฟังยิ่งดูยั่วเย้า เช่นเดียวใบหน้ามนที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์

" อื้อ..คิโย ...อีก... " ร่างบางพยายามขยับตามเสียงเรียกร้องนั้น แต่ยิ่งทำให้ จุนต้องคำรามออกมาอย่างสุดกลั้น เมื่อไม่ได้ดั่งใจ และพลิกให้คนที่อยู่ข้างบนล้มลงไปนอนกับฟูก ไม่มีการผ่อนปรนอีกต่อไปแล้ว ความต้องการของคนที่ถูกกระทำต้องการที่ปลดปล่อยเช่นกัน  ชายหนุ่มขยับร่างจับต้นขาทั้งสองข้างออกกว้างแล้วกดแทรกเข้าไปในร่างนั้นทันที

"อ๊า... เดี๋ยวซิ่...โอ้ย " ด้วยไม่ทันจะตั้งตัวกับแรงกระทั้น ที่อีกฝ่ายรุกเร้าเข้ามาหา สองแขนยึดผ้าบนฟูกเอาไว้แน่นมากเสียจนข้อนิ้วเป็นสีขาว ความต้องการของตัวเองไม่ได้ถูกกระตุ้น แต่ มันก็สุดกลั้นเกินกว่าจะละมือไปสานต่อความรู้สึกของตัวเองได้
"จุน..... " เสียงเรียกนั้นราวจะเว้าวอน ความรู้สึกของเขา คงอยู่อีกห่างไกลหากเทียบกับอีกฝ่ายที่กำลังหาความสุขจากร่างที่ยินดีมอบให้
" อึ่ก..คิโย..คิโย..  " เขาเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างเร่าร้อนพอๆกับแรงที่ส่งผ่านไปยังร่างของเจ้าของชื่อ มือข้างว่างขยับกระตุ้นเร้าเป็นจังหวะเดียวกัน ปากและปลายลิ้น เม้มผิวกายของคนที่ทอดกายให้เขาอย่างเอาแต่ใจ
"จุน.............." เสียงกรีดร้องเป็น ชื่อของอีกฝ่ายยาวขึ้น เมื่อร่างทั้งร่างกระตุกเกร็ง บีบรัดอีกฝ่ายมากขึ้น ก่อนที่ อารมณ์ จะนำพาไปสู่ ภาพหลากสีสัญที่ กระจายไปเหมือน ดอกไม้ไฟบนม่านตา  ความสุขเอ่อล้นเปรอะเปื้อนมือของอีกฝ่ายแต่ ชายหนุ่มร่างบางหาได้เอ่ยขอโทษไม่ ชาย หนุ่ม หอบหายใจรวยรินอยู่ในขณะที่ ร่างสูงยังขยับรุกเร้า ... อีกไม่นานนักหรอก

" คิโย.... "  ชายหนุ่มผมยาวสะบัดหน้าขึ้นครางออกมาอย่างพอใจ ความเร่าร้อนในกายถูกปลดปล่อยออกในร่างของอาจารย์หนุ่มจนเอ่อล้นออกมาภายนอก ร่างบางเกร็งเล็กน้อย เมื่อรู้สึกถึงไออุ่นจากร่างของอีกฝ่าย  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ปรือมองใบหน้าที่เปี่ยมสุขของชายตรงหน้า เส้นผมสีดำยาวที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อกาฬนั้นดูสวยงามเช่นเดียวกับรูปร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามที่มีหยาดเหงื่อเกาะพราว ภาพนั้นทำให้ร่างบางต้องดึงร่างสูงลงมา ริมฝีปากบางเผยอจูบริมฝีปากฉ่ำชื้นนั่นอย่างนุ่มนวล ราวกับจะบอกย้ำอีกครั้งให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เอ่อล้น


....ฉันรักนาย...และฉันไม่เสียใจเลย ที่เป็นแบบนี้....



เจจูบตอบอีกฝ่ายด้วยท่าทีที่ไม่ต่างกัน

"ฉันรักนาย.... จุน.....ใจฉัน ตัวของฉันรักนาย...... " เสียงพูดแหบพร่าและขาดห้วงดังขึ้นราวกับวิ่งระยะไกลมานาน  ริมฝีปากจูบซับเหงื่อที่เกาะพราวบนเส้นผมยาวสีดำของอีกฝ่าย เจถอนกายออกมาก่อนดึงร่างนั้นมากอดเอาไว้อย่างอ่อนโยน อ้อมกอดแข็งแรงนั้น เหมือนกับสมัยก่อนไม่มีผิด ช่วงแขนแกร่งนี้คอยเข้ามาประคองให้เขาเดินต่อไปเสมอ แต่ในตอนนี้มันแตกต่างออกไปแล้ว ความรู้สึกในช่องว่างระหว่างอ้อมแขนนี้ได้รับการเติมเต็มแล้ว

" ฉัน..รักนาย...คิโย.. และฉัน..ก็กอดนายด้วยความรู้สึกนั้นเหมือนกัน " คำรัก ที่ไม่เคยได้พูดออกไป แต่มันชัดเจนหลังจากได้ใช้ร่างกายบอกออกไปในห้องนอนสำหรับคู่ฮันนีมูน...


...กับเจ้าบ่าวของคนอื่น...



................................................ to be con
 


หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH17 NC 18 12/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: kuruma ที่ 12-09-2010 19:47:59
แวะมาให้กำลังใจพีจัง..

สู้ต่อไป .. ไหนๆจุนกับคิโยก็ได้กันแล้ว หุ หุ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH17 NC 18 12/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 12-09-2010 19:52:48
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :m3:

ได้อยู่บนสมใจอยากคิโยจัง :m20:

 :o8:เขิลอ่ะเหมือนแอบฟังผู้ชายบอกรักกันเลย ไม่หวานแต่นี่ล่ะที่รอคอย o13

เก็บตอนนี้ไว้เป็นกำลังใจในการอ่านตอนต่อไปที่ไม่ง่ายนักสำหรับรักนี้
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH17 NC 18 12/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 12-09-2010 22:39:40
หวาบหวามเกินห้ามใจ.....
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH18 13/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 13-09-2010 21:49:30
@@@Writer's Talk@@@
แวะมาให้กำลังใจพีจัง..

สู้ต่อไป .. ไหนๆจุนกับคิโยก็ได้กันแล้ว หุ หุ
แบ่งคนอ่านเรื่องโน้นมาอ่านเรื่องนี้บ้าง หุหุ....จุนกะคิโยได้กันนี่ไม่มีใครดีใจเท่าไรเตอร์

:o8:เขิลอ่ะเหมือนแอบฟังผู้ชายบอกรักกันเลย ไม่หวานแต่นี่ล่ะที่รอคอย o13


นั่งอ่านกันเต็มตาขนาดนี้ยังเรียกว่า แอบ ได้อีกรึเปล่าน้าาาาาาา  :m25:
หวาบหวามเกินห้ามใจ.....
ถือเป็นคำชมที่ทำให้ไรเตอร์ปลื้มมากค่ะ...ขอบคุณค่า  :pig4:

#########################

ความรู้สึกของทั้งสองคนที่ได้แสดงออกไปด้วยการกระทำร่วมกันเมื่อคืน จบลงด้วยความเหนื่อยอ่อนในห้อมกอดของกันและกัน
จนกระทั่งเช้าหนุ่มผมยาวที่นอนกอดร่างบางกว่าค่อยๆขยับตัวก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ มันน่าจะเหมือนทุกเช้า หากแต่เช้านี้มันต่างออกไป ไม่ใช่แค่สถานที่ที่เขาตื่นบนฟูกในห้องสวีทสำหรับคู่ฮันนีมูนเท่านั้น หากแต่คนที่เขากอดอยู่ทั้งคืนยังเป็น...เจ้าบ่าวของคนอื่น..อีกด้วย มือแกร่งไล้กับโครงหน้าได้รูปที่หลับอยู่บนอกเบาๆ

..... ทำไปแล้ว... ทำไปจนได้...

"อืม.... " เสียงครางเครือเบาๆจากร่างนั้นใบหน้าได้รูปนั้นเปื้อนรอยยิ้มจางๆ ความสุขที่ได้รับ จากความอบอุ่นจากร่างของชายหนุ่มร่างสูงนั้นมันทำให้ห้วงแห่งความฝันนั้นยาวนานกว่าที่เคย
" เช้าแล้ว.. "เสียงทุ้มดังที่ข้างหูของคนที่นอนอยู่
"อืม... " ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนค่อยลืมขึ้นมองหน้าของอีกฝ่าย "เช้าแล้วจริงๆด้วย" ริมฝีปากบางขยับเป็นรอยยิ้ม หากแต่เสียงที่เปล่งออกมานั้นเศร้าสร้อย
" เดี๋ยวต้องเช็คเอาท์แล้วนะ " เจนุ่มลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ แล้วขยับตัวออกมาเล็กน้อย
"อืม.. " หากแต่มือเรียวนั้นกลับจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้ "ฉันเอง ก็มีงานแต่งงานรออยู่ ... อีกสองวันซิ่นะ" ชายหนุ่มพูดพลางบีบมือของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะขยับตัวพยายามจะลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องนิ่วหน้า ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองหน้าของอีกฝ่าย  "เจ็บเหมือนกันนะเนี่ย .... "
" นอนต่อก็ได้นะ เดี๋ยวจะให้เขาเอาอะไรร้อนๆมาให้กิน " เขาลูบผมอีกฝ่าย หลังจากที่ได้ทำแบบนั้นออกไป การกระทำก็อ่อนโยนขึ้นโดยอัตโนมัติ การกระทำแบบนั้นทำให้อาจารย์หนุ่มอดที่จะยิ้มไม่ได้
"ไม่เป็นไรหรอกน่า... นายห่วงมากเกินไปหรือเปล่า "
" ก็..เมื่อคืนร้องอย่างกับจะตาย เจ็บไม่ใช่รึไง นายน่ะ? " พอเห็นท่าทางแบบนั้น เจก็ลูบท้ายทอยตัวเองไปมาอย่างเขินๆ
"นั่นก็เพราะใครล่ะ" คิโยโนบุสวนกลับ ทั้งๆที่หน้าแดงไปหมด

...แต่ถึงอย่างนั้นก็มีความสุขมาก...

"นี่ จุน... ถ้าเรามีความสุขมาก แล้วมันจะเศร้ามากไหม ถ้าต้องเสียมันไป"

" ความสุขมันเก็บเป็นความทรงจำดีๆได้นี่ .. เหมือนที่ฉันเก็บเรื่องของเราไว้เป็นความทรงจำดีๆ .. คำพูดของนายเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันทำอาชีพนี้ไง รู้รึเปล่า? " ดวงตารีสบดวงตาสีน้ำตาลอ่อนอย่างมีความหมาย จริงใจ ไม่เปลี่ยน คิโยโนบุจ้องมองกลับ เขารู้ดีเลยทีเดียว
"ขอบใจนะ....ขอบใจนะจุน" ร่างบางขยับเข้าไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้ ร่างเปลีอยเปล่าของทั้งคู่แนบชิด
"ฉันรักนายนะ.แต่ฉันคงพูดได้แค่นี้...พูดได้แค่วันนี้.... และมันคงเป็นเพียงเท่านี้ "
" นายคงไม่อยากให้เธอต้องเสียใจใช่ไหม? " เจถามกลับมา พลางกระชับอ้อมแขน " นายเลือกเธอแล้ว "
"ฉัน...เลือก...เธอแล้ว" ชายหนุ่มทวนประโยคนั้นซ้ำ ก่อนจะกอดอีกฝ่ายตอบ
"บอกฉันซิ่ ว่านายอยากให้ฉันเดินไปบนทางเดินในโบสถ์นั่น... บอกฉันซิ่ว่านายอยากเห็นฉันยืนอยู่ที่หน้าแท่นบูชา ต่อหน้าพระเจ้า...กับเธอ ....บอกฉัน หรือจะโกหก...หรือจะสั่ง ก็ได้...แล้วฉันจะทำ" เสียงของอาจารย์หนุ่มสั่นเครือ มันเหมือนกับว่า หากว่าเดินออกจากที่นี่ไปแล้ว เขาจะต้องลาจากกันไปตลอดไม่มีอีกแล้ว การที่จะหวนกลับมาเจอกันอีกไม่มีอีกแล้ว การย้อนรำลึกถึงภาพคืนวันเก่าๆในอดีต
" นั่นมันชีวิตของนาย .. ฉันเป็นใคร สั่งได้ที่ไหน? ชีวิตของนาย ต้องเลือกเองซี่ " เจลูบแผ่นหลังที่เป็นรอยแดงๆของเขาราวกับปลอบประโลม
"ฉัน....พูดออกไปไม่ได้หรอก...ถึงแม้ว่าจะอยากมากขนาดไหนก็ตาม" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดออกไปตามความจริง "แต่...ฉํนทำไม่ได้... เพราะสิ่งที่ฉันอยากพูด...ก็เกี่ยวกับ ชีวิตของนายเหมือนกัน " คิโยโนบุขยับถอยออกมา เขาไม่กล้ามองหน้าของอีกฝ่าย ...ถ้าเขามองตอนนี้ การตัดสินใจที่เกิดจากการด่วนได้ไปมากกว่านี้ จะทำให้เขาทั้งคู่ยิ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่ ยุ่งยาก และ แย่เสียยิ่ง กว่าจะแก้ไขได้

" ยังไง เราก็ต้องกลับไป ฉันต้องกลับไปทำอาหารงานแต่งงานของนาย มันจะต้องดีที่สุด  "เจยกมือขึ้นแตะผิวแก้มนั้นเบาๆ " และนายก็ต้องกลับไปเป็นเจ้าบ่าวของผู้หญิงที่สวยที่สุดในงานนั้น "
"อืม....ฉันรู้.... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลตอบก่อนจะหันมายิ้มให้กับอีกฝ่าย "ฉันอยากจะลุกไปอาบน้ำเสียหน่อย มันคงดี...ถ้านาย...ช่วยให้ฉันลุกซักหน่อย...เราจะได้รีบกลับ..." เสียงที่ท้ายประโยคขาดหาย

...กลับไปยังชีวิตเดิมๆของเรา และให้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เป็น เพียง ความ ทรงจำ....

เจค่อยๆ พยุงอีกฝ่ายขึ้น รอยช้ำตามตัวทั้งหมด ฝีมือของเขานั้นทำให้เขาถอนหายใจ ก่อนจะค่อยๆพาอีกฝ่ายไปที่ห้องน้ำ ไม่วายที่จะพูดแหย่

" เข้าหอ นายโดนเชือดแน่ ช้ำซะขนาดนี้ "

"....ฉันจะแกล้งตกบันไดเสียสองรอบ..." คิโยโนบุว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วค่อยๆ เปิดฝักบัวน้ำอุ่นราดลงบนร่างของตัวเอง มือเรียวค่อยไล้ไปตามผิวกายที่อีกฝ่ายทักถึงเรื่องร่อยรอย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองอีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้ว ขยับที่ ให้อีกฝ่าย "อาบไหม"
" ชวนอาบ หรืออะไร? " เจเหล่ตามองอีกฝ่ายก่อนจะไล้มองผิวกายเปลือยเปล่านั้นอย่าง ที่เรียกได้ว่า..ลามก..
"ก็...ชวนอาบ...พูดไปตามนั้น "ชายหนุ่มพูด เขารู้ดีถึงความหมายในสายตานั้น ร่างบางขยับหันหลังให้กับผนัง  สบตาของอีกฝ่ายนิ่ง
"มันก็ขึ้นกับคนจะมอง... "ชายหนุ่มว่าพลางฉวยครีมอาบน้ำมาถูไล้ร่างกาย
" อาบให้ด้วยซิ "เจขยับมาอยู่ใต้สายน้ำเดียวกับอีกฝ่าย แล้วจับให้มือนั้นแตะกับแผ่นอก
"....อาบน้ำหรืออะไร " คิโยโนบุย้อนถาม ก่อน จะไล้มือบางกับแผ่นอกของอีกฝ่าย สัมผัสลื่นมือของสบู่ ทำให้รู้สึกดีไม่น้อยไม่ใช่ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากครั้งแรกของกันและกัน หากแต่เป็นประสบการณ์ที่ต่างเคยมี ร่วมกับหญิงสาวอีกคน..ที่รอพวกเขาอยู่ที่บ้าน...

" นายก็รู้ว่าอะไร.. ทำไหมล่ะ? "เจก้มหน้าลงกระซิบถามติดริมฝีปากของอีกฝ่าย
"นายจะอ่อนโยนกันฉัน...อีกไหมล่ะ" คิโยโนบุย้อนถามก่อนจะขยับริมฝีปากของตัวเองให้แตะกับริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วผ่าน
" ที่นี่..ตอนนี้.. ฉันจะอ่อนโยนกับนาย...อย่างคนรัก " เจตอบติดริมฝีปากได้รูปนั้นแล้วกระชับอ้อมแขนเข้ามาหาตัว

บทรักที่อ่อนหวาน หากแต่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาถูกมอบให้กันและกัน ภายใต้สายน้ำและอุณหภูมิที่ร้อนระอุของบ่อน้ำพุร้อนในห้องของโรงแรม เสียงครางเครือดังขึ้นโดยมีเสียง จักจั่นสัญลักษณ์ของหน้าร้อนที่ดังแว่วมาจาก ความเขียวขจีของธรรมชาติที่โอบล้อมโรงแรม ที่พักเอาไว้แต่อีกไม่นานเสียงของจักจั่นเหล่านี้คงเงียบหาย เช่นเดียวกับความร้อนที่ค่อยเจือจาง...ฤดูร้อนที่ทำให้สมองคิดอะไรไม่ค่อยจะออก กำลังจะผ่านพ้นไปในเร็ววัน

เมื่อเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม ทั้งสองคนขับรถกลับมาที่ห้องของเจ คิโยโนบุขอกลับขึ้นไปที่ห้อง เพื่อเอาชุดเจ้าบ่าวก่อนที่เปิดโทรศัพท์มือถือแล้วเห็นว่ามีสายไม่ได้รับอยู่หลายสาย ทั้งหมด มาจากฮิโตมิ ทำให้ต้องจะรีบกลับไปยังที่โรงแรม แน่นอน ว่า ต้องกลับไปพร้อมกับคำกล่าวอ้างที่ปั้นแต่งขึ้นอีกเช่นเคย ...แต่น่าแปลก ที่คราวนี้ เขากลับ มีความสุขมากเสียจน ความรู้สึกผิดในการโกหกนั้นมันลดหายลงไปกว่าครึ่ง

"ฉัน คงต้องไปแล้ว " ว่าพลางก็ถือชุดจ้าบ่าว เอาไว้

" ไว้เจอกันที่โรงแรม พักผ่อนนะ "เจบอกอย่างเป็นห่วง

"อืม...ฉันจะรอ...ดูผลงานของนายนะ" ชายหนุ่มตอบ ยื่นมือไปหมายจะวางบนไหล่แกร่งนั้น แต่ก็หยุดมือของตัวเองเอาไว้ได้ อาจารย์หนุ่มยิ้มให้กับอีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องของอีกฝ่ายไป...

แน่นอนว่าเมื่อกลับไปถึงที่โรงแรมได้ ว่าที่เจ้าบ่าวก็โดนเรียกตัวเข้าประชุมใหญ่ครอบครัวแทบจะในทันที การเตรียมการซ้อมสามวันก่อนวันงาน ไม่มีวี่แววของเจ้าบ่าวทำให้ ทั้งฝ่ายพ่อแท้ๆและพ่อตาที่ต่างก็ทั้งลางาน และยกเลิกนัดมาเพื่อนซ้อม โดยเฉพาะถึงกับหัวเสีย ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าที่เจ้าสาวคนสวย ใบหน้าได้รูปของฮิโตมินั้นคงจะงอง้ำตั้งแต่ เขายังไม่เปิดประตูเข้าไปในห้องประชุมของโบสถ์เสียด้วยซ้ำ

...."แหวนล่ะคะ"....


...................................................to be con

หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH18 13/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 13-09-2010 23:16:00
:pighaun:ไม่อยากจะใช้อีโมนี้แต่ก็นะ หึ หึ
พีจังจิ้นยัยฮิโตมิไปคู่กะอาคาริได้ม่ะ เบื่อยัยนี่แล้วอ่ะ :m16:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH18 13/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 14-09-2010 17:02:15
อ่าวๆๆๆแหวนไปไหนล่ะ...ไม่ได้สวมกลับไปอีกเรอะ...แหมๆๆมัวแต่คิดเรื่องตาเชฟอ่ะดิ
งานนี้จะถูกซักฟอกจนสะอาดเอี่ยมมั้ยเนี่ย? ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH18 13/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 14-09-2010 17:23:22
ทั้งซึ้งใจ ทั้งเศร้าใจ
ชีวิตหนอ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH19 14/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 14-09-2010 21:22:24
@@@Writer's Talk@@@

พีจังจิ้นยัยฮิโตมิไปคู่กะอาคาริได้ม่ะ เบื่อยัยนี่แล้วอ่ะ :m16:
แหม่...ถ้าจิ้นเขาคู่กัน อาจต้องไปหาลงบอร์ดอื่นนะคะ อาจจะต้องตามไปอ่านกันที่ lesla แทน  :o8:

อ่าวๆๆๆแหวนไปไหนล่ะ...ไม่ได้สวมกลับไปอีกเรอะ...แหมๆๆมัวแต่คิดเรื่องตาเชฟอ่ะดิ
งานนี้จะถูกซักฟอกจนสะอาดเอี่ยมมั้ยเนี่ย? ลุ้นๆ
ต้องตามตอนต่อไปค่ะ บางทีมันอาจจะ...

ทั้งซึ้งใจ ทั้งเศร้าใจ
ชีวิตหนอ
ชีวิตต้องมีหลายรสชาตค่ะ...ไรท์เตอร์เชื่อว่าแบบนั้นนะคะ ถ้ามีขม ก็ต้องหวานสลับกันไป ยังไงฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ

ขอบคุณทุกๆคนสำหรับคอมเม้นต์ค่ะ
p.s.  การแก้คำไป...ดูวนิดาไป  ทำให้การโพสต์ล่าช้าได้จริงๆ อ๊า...นางฟ้าของปลาทอง
(ขอโทษค่ะ ชอบทักษอรมากไปหน่อย)  :-[

///////////////////////////////////////////////////


...."แหวนล่ะคะ"....

น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความไม่พอใจของฮิโตมิดังก้องอยู่ในหัวเมื่อกลับมาเอนตัวอยู่ที่ห้องนอน

...แหวนเหรอ ผมเผลอถอดไว้ในห้องน้ำน่ะ...

แก้ตัวออกไปอย่างนั้นทั้งๆที่ นึกออกเพียงอย่างเดียวว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นแหวนสีทองวงนั้นคือในมือของเชฟหนุ่มร่างสูง

..."ช่างเถอะค่ะ..พรุ่งนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นแหวนแต่งงานแล้ว"...

ว่าที่เจ้าสาวเอ่ยอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะหันไปบอกให้บาทหลวงช่วยซักซ้อมประกอบพิธีต่อ


"หมอนั่น...จะเก็บเอาไว้หรือเปล่านะ... "คิดได้แบบนั้น ก็ลุกขึ้นมาจากเตียง มองนาฬิกาหรือก็ดึกมากแล้ว จึงลองกดโทรศัพท์ไปหา


---RRR----


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นข้างเตียงทำให้ชายหนุ่มที่กำลังอ่านอะไรบางอย่างอยู่ต้องวางมันลงแล้วรับสายที่เขาบันทึกชื่อเอาไว้

" ไง "

"นาย..เก็บแหวนของฉันไว้หรือโยนทิ้งไปแล้ว" เสียงที่เอ่ยขึ้นนั้นไม่ได้แสดงอาการห่วงสิ่งของที่พูดถึงซักเท่าไร หากแต่เหมือนดีใจที่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเท่านั้น
พอถามถึงแหวน ดวงตารีก็หันไปทางหัวเตียงทันที แหวนวงนั้นนอนนิ่งอยู่ที่หัวเตียงของเขา เขารู้ดีกว่าอีกฝ่ายต้องการมันจึงเก็บกลับมาด้วย แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จนกว่าอีกฝ่ายจะอยากได้อีกนั่นแหละ ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้นะ

" เอ่อ..นึกว่าไม่ต้องใช่แล้ว นอนที่โรงแรมใช่ไหม? เดี๋ยวเอาไปให้ดีไหม? ยังพอมีรถไฟ " เชฟหนุ่มถามบ่อยครั้งที่บ่าวสาวจะห้องที่โรงแรมเอาไว้ตั้งแต่คืนก่อนหน้างานแต่งเพื่อเป็นการประหยัดเวลาและค่าเิดินทาง แน่นอนว่า ครอบครัวของฮิโตมิยังคงถือเคล็ดไม่ให้บ่าวสาวเห็นหน้ากันช่วงหนึ่งวันก่อนงานแต่ง วันนี้ทั้งวันคิโยโนบุยังไม่ได้พบหน้าว่าที่เจ้าสาวของเขาเลย

"อืม อยู่ที่โรงแรมนี่ล่ะ...จะรอ...อยู่ที่เทอเรสนะ..."คิโยโนบุว่า ก่อนจะวางสายไป

..................................


ห้องครัวของโรงแรมนั้นเงียบสนิทมีเพียงแค่เสียงเครื่องทำความเย็นที่เปิดเอาไว้แรงเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้อง เค้กชาเขียว ที่เป็นส่วนหนึ่งใน เค้กแต่งงานทรงสูง ถูกทำจนแล้วเสร็จ ชามอ่างและอุปกรณ์ต่างๆถูกล้างเก็บ อาการิ พาติเชย์สาวถอนหายใจออกมา เธอยังเหลืองานให้ทำอีกไม่น้อยเพราะต้องไปเตรียมจัดสถานที่ในการวางเค้กพรุ่งนี้
 
"ถึงงานตัวเองใครจะทำให้กินเนี่ย "พูดพลางก็หัวเราะ ออกมาเบาๆ
นึกจินตนาการไปว่า รูปคนคู่ ที่เตรียมเอาไว้นั้น ถึงคราวเธอจะต้องเป็นตุ๊กตาในชุดเชฟทั้งคู่เป็นแน่ ดวงตาสีเข้มมองตุ๊กตาแทนตัวเจ้าสาว และ เจ้าบ่าวของเพื่อนของคนรักพลางยิ้ม  "ว่าแล้วก็ยังไม่เคยเจอหน้าเลยนะ....เจ้าบ่าว...กับ..... เจ้าสาวด้วย " ก่อนที่จะได้ยินเสียงฝีเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งผ่านหน้าห้องครัวไป ร่างสูงเห็นเพียงชั่วครู่แต่ก็จำได้ติดตา "นั่นมัน......"คิดได้แบบนั้น ก็วางตุ๊กตา แล้วรีบเดินตามออกไปทันที

...ลาหยุด แล้วจะมาทำไมนะ....


หนุ่มร่างสูงผมยาวที่รวบผมเอาไว้เพียงครึ่งหนึ่งเดินเข้ามาในโรงแรมอย่างรีบร้อน พลางยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา ช่วงขายาวภายใต้กางเกงยีนส์ขาดๆเดินไปยังเทอเรสของโรงแรม...บริเวณที่เจ้าบ่าวนัดหมายเขาเอาไว้

ด้านนอก เทอเรส ร่างของอาจารย์หนุ่มยืนรับลมเย็นอยู่ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองออกไปยังทิวทัศน์ของเมืองที่เปล่งประกายท่ามกลางความมืด ควันขาวหม่นลอยหายไปตามสายลมเมื่อพัดผ่านมา นิโคตินช่วยให้สงบลงแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาหยุดสั่นได้ นิ่วเรียวสั่นเล็กน้อยนั้นแตะเบาๆ บนขอบรั้วกั้น

....ต้องทำได้ซิ่ พรุ่งนี้แล้วนะ....

" จะเข้าพิธีแล้ว ยังสูบอีกนะ "เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นด้านหลังทำให้คนที่รออยู่ต้องหันมาทันที
"อ้าว...มาแล้วเหรอ... "พูดพลางก็ยิ้ม ก่อนจะยกบุหรี่ที่อยู่ในมือเล็กน้อย ยิ้มเหมือนนักเรียนที่ถูกจับได้ระหว่างสูบบุหรี่แต่ไม่สำนึกเท่าไร "มันก็ช่วยได้"
" เอ้า .. นี่ "ชายหนุ่มวางแหวนหมั้นไว้ที่ข้างๆบนโต้ะที่อยู่ข้างๆร่างบางของเจ้าบ่าว
"อืม..... "เสียงรับคำเบาๆ ดังขึ้น ก่อนมือเรียวจะเอื้อมไปหยิบแหวนมากำเอาไว้ ไม่ได้คิดจะใส่
" ใส่ซะสิ  "ชายหนุ่มผมยาวสั่ง

"............... "ดวงตาสีน้ำตาลมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง "ขอเวลาอีกแป๊บซิ่... "
" พรุ่งนี้ก็ต้องเข้าพิธีแล้วนะ.. "น่าแปลกที่หลังจากที่ได้ถ่ายทอดความรู้สึกออกไปร่วมกัน เจก็ไม่หลบสายตาอีกฝ่ายอีกเลย
"ฉันรู้" คิโยโนบุ เองก็ไม่หลบสายตาของอีกฝ่ายเช่นกัน ร่างบางขยับไปยืนต่อหน้าของอีกฝ่าย

ในขณะที่อีกด้านหนึ่งหญิงสาว ที่เดินตามมา แต่ยังไม่ได้ออกไปยังเขตของเทอเรสยืนหยุดยืนนิ่ง เมื่อเห็นว่าเชฟหนุ่มกำลังพพูดคุยกับใครบางคนที่ดูเหมือนจะมีเรื่องสำคัญจะต้องพูดคุยกันอยู่

...คนนั้น?....เพื่อนที่บอกน่ะเหรอ....

" ก็ใส่ซะสิ "
เจยังคงพูดซ้ำๆ ราวกับบอกว่า หากอีกฝ่ายไม่สวมแหวนในตอนนี้เขาก็จะไม่ไปไหน
"ถ้าฉันใส่..... ฉันก็คงไม่มีหน้าจะยืนหน้านายตรงนี้ได้หรอก "ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง มือขวากำแหวนวงเล็กนั่นไว้แน่น
" งั้น...ใส่แล้วก็กลับไปพักซะ " เจกำมือแน่น แล้วหันหน้าไปอีกทาง ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงอ้อมแขนของว่าที่เจ้าบ่าวดึง เอาร่างสูงกว่าเข้ามากอดเอาไว้แน่น

ภาพนั้นทำให้คนทำให้คนที่ยืนมองอยู่ห่างออกไปอดที่จะแปลกใจไม่ได้

...หืม? ทำไมต้องกอดกันด้วย??...คุยอะไรกัน...


อาการิก่อนจะขยับเข้าไปใกล้อีกนิด หวังว่าจะได้เห็นชายหนุ่มทั้งสองคนให้ใกล้ขึ้นมาอีก แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าของชายหนุ่มร่างเล็กกว่า จากแสงไฟที่สาดลงไปกระบนใบหน้านั้น...คิ้วเรียวของว่าที่เจ้าบ่าวขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากเม้มแน่นราวกับเศร้าและกำลังทรมานมากเสียเหลือเกิน...

" คิโย...พอเถอะ.. "

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่หนุ่มผมยาวก็กอดตอบอีกฝ่ายแล้วบอกอย่างปลอบโยน " พรุ่งนี้นายต้องแต่งงานแล้วนะ ... "

..ถอยหลังไม่ได้แล้ว..

"ไม่...ขอเวลาฉันหน่อย.... อีกไม่นานหรอก...แล้วฉันจะไป ... " เสียงนุ่มสั่นแต่เขาก็พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้มันแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น

ในขณะเดียวกัน ในใจของคนที่ยืนดูอยู่เจ็บแปลบ ไม่ใช่เพราะการที่ได้เห็นว่าคนรักของตัวเองกำลังกอดกับชายหนุ่มอีกคนด้วยท่าทางนั้นบ่งบอกได้ว่าความสัมพันธ์นั้นมากเกินเพื่อนแต่เป็นเพราะ ....ความรู้สึกของว่าที่เจ้าบ่าวที่สื่อผ่านออกมาอย่างเห็นได้ชัดเกินไปต่างหาก
 
.....ห่วงหาจนไม่อยากจะจากไป....

แม้จะไม่ได้ยินบทสนทนา แต่ทุกๆอย่างทั้งสีหน้าท่าทางนั้นมันบอกได้หมดทุกอย่าง

เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ จากร่างของหญิงสาวก่อนที่จะโคลงศีรษะเล็กๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน ล้มเลิกความคิดที่อยากจะเดินเข้าไปทำความรู้จักกับเจ้าบ่าวคนนั้น...อย่างน้อย ก็คงไม่ใช่ในเวลานี้

...........................................


"........................................"
เจปล่อยให้อีกฝ่ายกอดเขาเอาไว้แบบนั้น มือแกร่งลูบหลังเจ้าบ่าวราวกับจะปลอบให้หายกังวล แต่เขาจะพูดอะไรได้ในเวลาแบบนี้ ชายหนุ่มได้แต่หวังว่าคิโยโนบุจะไม่เปลี่ยนใจอีกในเมื่ออีกฝ่ายเลือกแล้ว

"ฉัน... รักนาย...จุน... รักนาย.....รักนาย.... "
คิโยโนบุพูดซ้ำไปซ้ำมา ด้วยเสียงที่แผ่วเบาและอ่อนแรงราวกับว่ามันจะเป็นวันสุดท้ายที่เขาได้พูดแบบนี้

...ซึ่งมันก็จริง....


หนุ่มผมยาวถอนหายใจออกมา เขารู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดแบบนั้นของอีกฝ่ายเหลือเกิน แล้วก็ไม่อยากได้ยินอีกแล้ว จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อยังไงก็ต้องแต่งงานกับคนอื่นอยู่ดี คิดได้อย่างนั้นชายหนุ่มจึงดึงแหวนออกจากมือที่กำไว้แน่น แล้วสวมให้อีกฝ่ายก่อนจะหันหลังเดินออกไปทันที

...ไม่ แม้แต่จะหันกลับมาเสียด้วยซ้ำ ...

ท่ามกลางความมืด ร่างของอาจารย์หนุ่มยืนนิ่ง เจ็บปวด มันเป็นอะไรที่เขาควบคุมไม่ได้ไม่คิดว่าความรู้สึกจากวันคืนเก่าๆจะมีอิทธิพลกับตัวเองมากมายขนาดนี้ ไม่คิดว่าการตัดสินใจที่เคยคิดว่าดีแล้วจะทำให้ตัวเองรู้สึกผิดและเจ็บปวดได้ขนาดนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ณ วันนี้ เวลานี้ ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วเดินกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อพักผ่อนให้เพียงพอ...สำหรับงานแต่งงงานของตัวเอง

..........................................

เช้าวันแต่งงานที่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างวุ่นวาย เมื่อแขกเหรื่อเริ่มที่จะทยอยเข้ามา และเจ้าสาวก็กำลังหงุดหงิดกับชุดแต่งงานที่ยับไปหน่อย ในขณะที่คนที่ดูจะมีความสุขมากคือคนที่เป็นพ่อของทั้งสองฝ่ายที่ยิ้มและยืนพูดคุยกับแขกที่มาในงานอย่างอารมณ์ดี ผิดกับเจ้าบ่าวที่แม้จะยิ้มให้กับใครๆ แต่ในใจกลับรู้สึกไม่สดชื่นเอาเสียเลย ....ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน รอที่จะให้ถึงเวลาอาหาร... แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าจะรอได้ไหม....

เชฟหนุ่มที่ดูแลอาหารในงานเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงที่ถูกจองเอาไว้ทั้งแต่เช้าถึงช่วงดึกของคืนนี้ เพื่อดูพรอพในการจัดวางอาหารว่างแบบ บุปเฟต์ วันนี้หนุ่มผมยาวที่รวบผมเอาไว้ทั้งหมดมาในชุดเชฟแบบฝรั่งสีขาวสะอาดตา ทำเอาโดนเชฟใหญ่กัดอยู่ไม่น้อยแต่เขาก็ยืนกรานจะใช่ชุดนี้ด้วยเห็นว่าอาหารส่วนใหญ่ในงานก็ดูเป็นญี่ปุ่นปนฝรั่งไปหลายจานแล้วจะฟิวชั่นกันจนถึงชุดเชฟอีกซักหน่อยจะเป็นไร เพราะหน้าของเขาเองก็เอเชียมากพออยู่แล้ว ความขาวของชุดนั้นรับกับแสงสะท้อนของแดดอ่อนๆที่ส่องเข้ามาภายในห้องจัดเลี้ยง ช่วยเสิรมสร้างบรรยากาศสดใสไปอีกแบบ

ว่าที่เจ้าบ่าวในอีกไม่กี่ชั่วโมงเองก็ถูกเจ้าสาว คะยั้นคะยอ ให้เดินลงมาตรวจเช็คความเรียบร้อยในขณะที่เธอแต่งตัว ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ผมสีน้ำตาลถูกหวีเสยขึ้นเปิดหน้าผากมนดูเรียบร้อยและเสริมให้ชวนมองกว่าปรกติ ดอกไม้ช่อเล็กๆถูกติดเอาไว้ตรงอกเสื้อกลิ่นหอมอ่อนๆทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นในวันที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดที่ระคนไปความสุข...ของคนอื่น...เช่นวันนี้

ดวงตาสีน้ำอ่อนสอดส่ายเข้าไปด้านใน ส่วนที่เป็นห้องครัว เห็นร่างสูงในชุดสีขาวเดินผ่านบานประตูไปมาให้เห็นบางครั้ง ก่อนที่คนที่เขามองหาอยู่จะเดินออกมาพร้อมกับอุปกรณ์อีกสองสามชิ้นเมื่อออกมาดูเมื่อครู่แล้วพอว่ามันยังไม่ได้ถูกนำออกมาวางเอาไว้  ว่าที่เจ้าบ่าวแทบจะไม่ละสายตาจากการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเลย ชุดพ่อครัวสีขาวที่สะท้อนกับแสดงแดด ให้แสงเงาเช่นเดียวกับชุดที่ตัวเองใส่อยู่...อยากจะรู้ว่ามันจะเข้ากันได้มากแค่ไหน หากได้ไปยืนอยู่ข้างๆ

หนุ่มผมยาวไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่างานที่เขาต้องทำในวันนี้ จะพูดให้ถูกคือ แทบจะไม่ยอมมองไปทางแขกหรือเจ้าภาพขงองานเลยมากกว่า มือแกร่งจัดอุปกณ์บนโต๊ะให้เรียบร้อยตามแผนที่วางเอาไว้

คิโยโนบุได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นรัว ยิ่งเมื่อได้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลัง ทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง อีกฝ่ายกำลังพยายามอย่างเต็มที่ ทำให้อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ หลายคนอาจไม่สังเกตรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความรู้สึกนั้น แต่ เจ้าบ่าวก็ยังมองไปยังเชฟหนุ่มคนนั้นก่อนจะเดินเข้าไปเอ่ยทักทาย...พยายามให้เป็นปรกติที่สุด
 
"วันนี้..... เต็มที่เลยนะ " มือเรียวแตะเบาๆบนไหล่นั้น ก่อนจะรีบดึงออก

" ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว..นายเองก็เหมือนกันล่ะ ตั้งใจแล้วก็ทำให้เต็มที่นะ "เสียงทุ้มนั้นตอบกลับมา ดวงตารีสบตาอีกฝ่ายนิ่ง

"...ฉันว่า เดี๋ยว....ฉันไปทักทายแขกหน่อยดีกว่า เสียงคงใกล้จะมาแล้ว... อีกตั้งชั่วโมงกว่าพิธีจะเริ่ม จัดให้เสร็จก่อนล่ะ" ชายหนุ่มกำชับพร้อมกับรอยยิ้ม ไม่ได้รับปากอีกฝ่ายว่าจะ "ทำให้เต็มที่ " เหมือนจะไปรับศึกอย่างที่อีกฝ่ายว่า ก่อนจะขอตัวเดินออกมาอีกทาง

เมื่อหันหลังให้กับเจ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของคิโยโนบุมองมือเรียวของตัวเองที่แตะลงบนไหล่แกร่งนั้นสั่นระริก ชายหนุ่มฝืนยิ้มมันไม่ควรจะเป็นรอยยิ้มของเจ้าบ่าวในวันแต่ง แต่จินตนาการของเขาที่วาดเอาไว้ ณ วันที่ขอฮิโตมิแต่งงานกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้นั้น...มันช่างต่างกันเหลือเกิน....
 
เจมองตามร่างของเจ้าบ่าวไปด้วยสายตาที่เจ็บปวด แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น ก่อนจะหันมาสนใจกับสิ่งที่ต้องเตรียมต่อ

........................ to be con

หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH19 14/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 14-09-2010 22:30:09
ทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไปได้มั้ย อาจดูใจร้ายแต่ถ้าไปต่อมันก็มีแต่เจ็บกับเจ็บน้าส :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH20 15/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 15-09-2010 22:53:05
@@@Writer's Talk@@@


ขอโทษนะคะวันนี้อัพช้า พอดีออกไปข้างนอกมา และ นั่งดูละครอย่างเมามันส์ ...ช่วงนี้ติดละครจริงๆค่ะ  :-[

ทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไปได้มั้ย อาจดูใจร้ายแต่ถ้าไปต่อมันก็มีแต่เจ็บกับเจ็บน้าส :เฮ้อ:


ถ้าทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไป...แต่ก็ยังคงต้องเดินไปในทางที่ไม่รู้จักซิ่นะคะ
ต้องมาติดตามค่ะว่า...ต่อไปทั้งสองคนจะทำยังไงต่อไป

//////////////////////////////////////////////////////////////


แขกเหรื่อเริ่มทยอยเข้ามาในงาน เกือบทุกคนถามหา เจ้าสาวในงาน

"เดี๋ยวคงลงมาครับ นี่ก็ใกล้ เวลา พิธีแล้ว " ชายหนุ่มตอบพลางหัวเราะ ก่อนจะเชิญแขกทุกคนให้ออกไปรวมกันข้างนอก  บาทหลวงในชุดสีดำสนิท ยืนรออยู่ก่อนแล้ว จะเหลือก็เพียง เจ้าสาวของงานเท่านั้น เมื่อใกล้จะเริ่มพิธี เชฟของงานจึงพยักหน้าให้ทีมงาน และตัวของเขาเองออกจากห้องไป

ชายหนุ่มเจ้าของงานรีบเดินตามไปทันทีแทนที่จะเดินไปตามเจ้าสาวในชั่ววินาทีนั้น แผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มร่างสูงนั้นดูราวกับจะกลืนหายไปกับแสงสว่างรอบตัว แขนเรียวดึงแขนของเชฟหนุ่มเอาไว้

"ขอ....คุยอะไรหน่อยได้ไหม" เสียงที่พูดนั้นไม่แน่ใจเท่าไร ว่าจะได้รับคำตอบรับจากชายหนุ่มร่างสูง
" จะเริ่มพิธีแล้วนะ " เชฟหนุ่มถอนหายใจเมื่อถูกดึงเอาไว้ พร้อมๆกับที่เจ้าสาวออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วกำลังมองหาเจ้าบ่าวของเธอ
"ขอแค่... นาที.... นาทีเดียว" พูดพลางก็ดึงมือของอีกฝ่าย เดินเข้าไปด้านหลัง ใกล้กับห้องที่ใช้เก็บอุปกรณ์

ฮิโตมิทำท่าจะเดินเข้าไปพูดคุยกับเชฟของงานนี้เสียหน่อย แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อจู่ๆ เจ้าบ่าวของเธอก็ดึงเพื่อนสมัยเด็กของเขาไปอีกทาง
หญิงสาวในชุดขาวบริสุทธิ์ที่คิโยโนบุเลือกชุดนี้ให้จึงเดินตามไปอย่างเงียบๆ...

 เมื่อเห็นว่าไม่มีใครดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง มือเรียวที่จับแขนของอีกฝ่ายเอาไว้สั่นเล็กน้อย
 
"รู้สึกไหม... " คิโยโนบุเอ่ยถาม
" ก็ได้แค่รู้สึก "เจจับมือที่จับแขนเขาไว้ มันสั่นเขารู้ดีว่านั่นไม่ใช่เพราะว่าตื่นเต้นกับงานแต่งงาน แต่เป็นความรู้สึกอื่น
"แต่รู้ใช่ไหม " ชายหนุ่มร่างเล็กกว่าถามด้วยคำถามสั้นๆ น้ำเสียงนั้นสั่นเช่นเดียวกับมือที่อีกฝ่ายจับเอาไว้หลวมๆ
" ไม่ต้องพูดถึงมันแล้ว "ชายหนุ่มหันหน้าไปอีกทาง " ไปเถอะ "

แต่ในทันทีที่สิ้นสุดเสียงนั้น ริมฝีปากบางกลับ ขยับแตะที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย มือเรียวนั้นดึงรั้งคอเสื้อของเชฟลงมาจนแทบจะเรียกว่ากระชาก


...จูบ .. นั่นใช่จูบแน่ๆ...!!!

หญิงสาวถึงกับมองตาค้างสิ่งที่เธอเห็นระหว่างว่าที่สามีในอีกไม่กี่นาทีกับเพื่อนวัยเด็กของเขาจูบกัน! หญิงสาวชุดขาวสวยที่สุดในงานยืนนิ่งอยู่ด้านหลังของเจ้าบ่าว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจของหญิงสาวนั้นอยู่ในสายตาของเชฟหนุ่มร่างสูง เขาผลักร่างเล็กกว่าออกทันที เชฟหนุ่มถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว

"ฮิโตมิ!!! " เจ้าบ่าวของงานหันไปมองหน้าด้านหลัง เมื่อเห็นสีหน้าของเชฟหนุ่ม เจ้าสาวของเขายืนอยู่ที่นั่น... "มัน.. เอ่อ... ผม...เอ่อ....อธิบายได้ " อาจารย์หนุ่มอึกอัก...ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่เขาจะอธิบายอะไรได้!

มือที่สวมแหวนเหนือถุงมือลูกไม้ยกขึ้นราวกับบอกว่าเธอไม่อยากฟังก่อนจะหันหลังทำท่าจะเดินกลับไป

"ฮิโตมิ... " ชายหนุ่มหมายจะก้าวตามไปแต่ก็ชะงัก เขาหันไปมองหน้าของร่างสูง ด้วยไม่รู้จะทำอย่างไร แต่สุดท้าย ก็ตัดสินใจรีบเดินตามร่างเล็กของหญิงสาวไป   "ฮิโตมิ ฟังผมก่อน... "

ได้ผลเธอหยุดเดินก่อนจะหันมามองหน้าเขา ใบหน้าสวยที่ฉายแววเอาแต่ใจไปบ้างในบางครั้ง ในตอนนี้กลับเรียบเฉยอย่างที่อเจ้าบ่าวของเธอเองก็จะไม่เคยได้เห็น ก่อนจะตวัดฝ่ามือตบที่ใบหน้าได้รูปจนหน้าหันแล้วเดินหนีอีกฝ่ายเข้าไปในงานแต่งงาน

"เพี้ยะ!!!"

ใบหน้าของเจ้าบ่าวสะบัดไปตามแรง เป็นเวลาเกือบวินาทีกว่าเขาจะประมวลได้ว่าจะมีรอยแดงปรากฏขึ้นเด่นชัดแน่ แต่สิ่งที่ทำตอบนี้คิอต้องไปหยุดร่างบางนั้นเอาไว้ให้ได้ก่อน

"ฮิโตมิ... "คิโยโนุแทบจะตวาดเมื่อกระชากแขนของร่างเล็กดึงเข้ามาหาตัว มันไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาจะใช้กำลัง หรือ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์กับผู้หญิงคนนี้ แต่ในตอนนี้...มันไม่ใช่อีกแล้ว ทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตาท่ามกลางสายตาของแขกเหรื่อที่ลุกขึ้นยืน เสียงตบมือกับรอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของทุกคนเหลือเพียงแค่ สีหน้าของความตกใจ ที่ได้เห็นว่าที่เจ้าสาวทั้งดิ้นทั้งสะบัดให้หลุดจากการเกาะกุมของว่าที่เจ้าบ่าว

"เอ่อ...ลูกเป็นอะไรกันหรือเปล่า " เสียงบาทหลวงถามอย่างไม่แน่ใจ การกระทำของคู่บ่าวสาว ทำให้ ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายต้องลุกขึ้นมาหา

"คิโยโนบุ จะทำอะไรน่ะ นี่มันกลางงานนะ!!! " เสียงทรงอำนาจของอาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนชื่อดังดังขึ้น ฮิโตมิขยับออกห่างจากเจ้าบ่าวของเธอแล้ว กึ่งวิ่งกึ่งเดินกลับขึ้นไปบนห้องทันที

"ฮิโตมิ...ผม" ในน้ำเสียงนั้น มีแต่ความ เสียใจ


....มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้....
....แค่อยากให้มันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจะตัดใจ...
....ไม่ควรเป็นเช่นนี่...



ส่วนเชฟหนุ่มได้แต่ยืนมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป ในชั่ววินาทีมันทำให้เธอเจ็บปวดขนาดนี้ ดวงตารีมองสิ่งที่เจ้าบ่าวกำลังทำเขาพยายามจะทำให้เจ้าสาวหยุดแต่เจรู้ดีว่า อะไรก็ไม่สามารถหยุดเธอได้อีกแล้ว

เจกำมือจนห้อเลือดกับสิ่งที่เห็น เขาอยากจะเข้าไปรับฝ่ามือนั่น อยาจะเข้าไปเจ็บแทนผู้ชายคนนั้นและอยากจะเข้าไปขอโทษเจ้าสาวคนสวยที่ทำให้เรื่องกลายเป็นแบบนี้ แต่ฐานะของเขาในตอนนี้คงได้แต่เพียงเฝ้าดูอย่างเจ็บปวดเท่านั้น

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของเชฟหนุ่มเล็กน้อย แก้มของเขากำลังชา และมันคงจะบวมขึ้นหลังจากนี้ คิโยโนบุไม่อาจจะพูดอะไรได้เมื่อเริ่มมีคนเดินเข้ามาหมายจะดูอาการ ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยให้กับอีกฝ่ายเป็นเชิงบอกว่าขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นและขอโทษที่เขาไม่อาจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายและบอกว่า... ขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องยุ่งอีก...ได้

คิโยโนบุเดินเลี่ยงออกมาจากลุ่มคน ตอนนี้คนที่เขาควรจะพูดด้วยไม่ใช่ชายหนุ่มร่างสูง หากแต่เป็นหญิงสาวคนนั้นที่เขากระทำผิดเอาไว้มากเหลือเกิน แม้จะเห็นแก่ตัวแต่อย่างน้อยแล้ว อยากให้เธอยกโทษให้บ้าง... กับการหลอกลวงทั้งหมดนี้

ที่หน้าประตูห้องที่หญิงสาวเข้าไปถูกปิดเงียบ เต็มไปด้วยญาติของฝ่ายเจ้าสาวที่พยายมเคาะเรียกให้เธอออกมาแต่ก็ไม่ได้ผล

"ไม่ ! ออกไปให้พ้น" หญิงสาวกระแทกประตูกลับมาพลางตวาดลั่นทำเอาผู้เป็นพ่อของเธอต้องปราดเข้ามาผลักว่าที่ลูกเขยออกไปแล้วเคาะประตูแทน
" ฮิโตมิ เป็นอะไรไปลูก เกิดอะไรขึ้น? " เขาถามลูกสาวก่อนจะหันไปมองคนที่เป็นเจ้าบ่าว"หมอนี่รังแกอะไรลูกรึไง? บอกพ่อมาสิ พ่อจะจัดการให้ "
"ผม....ไม่ได้ทำอะไร "เขาเถียงแต่มันก็เป็นคำที่เบาเหลือเกิน

....ผมทำร้ายจิตใจเธอ....
....ทำลายความฝันของเธอ....


" ฮึก ! .. พ่อให้เขาออกไปจากชีวิตหนูซี่! " เสียงของเธอกรีดร้องออกมามันดังพอที่จะทำให้คนที่ตั้งใจฟังนอกประตูหลายคนได้ยิน
" ฮิโตมิ .. ใจเย็นลูก ค่อยๆ คุยกันนะ " เสียงเจ็บปวดของลูกสาวยิ่งทำให้ใบหน้าของนายใหญ่แห่งตระกูลอิชิดะข่มอารมณ์ที่แทบจะอยากฆ่าหนุ่มผมสีน้ำตาลตรงหน้านี้ทิ้ง เขาสบตาอีกฝ่ายนิ่งอย่างเอาเรื่อง " ออกมาคุยกับพ่อก่อน... "
"ผม.... " คิโยโนบุ ยืนนิ่ง เขาไม่อยากจะอยู่ที่นี่ เสียงซุบซิบ มีให้ได้ยินไปทั่ว บ้างก็ถามหาเหตุการร์ว่าเกิดอะไรขึ้น บ้างก็บอกว่าเห็นอะไรบางอย่าง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองรอบๆตัว รู้สึกได้ถึงความรู้สึกด้านลบที่ประเดประดังเข้ามา
" หนูไม่คุย!! หนูไม่อยากเห็นหน้าเขา!! หนูไม่แต่งงานกับเขา!" ฮิโตมิยังคงไม่ยอมท่าเดียว

"ฮิโตมิ...คุณ...เอ่อ... คุณช่วยออกมาคุยกันดีๆไม่ได้ หรือยังไง ให้ผมอธิบายอะไรหน่อยไม่ได้เลยรึไง" คิโยโนบุเดินเข้าไปชิดประตู ก่อนจะกระแทกฝ่ามือลงบนบานประตูไม้เนื้อแข็ง แรงสั่นสะเทือนผ่านบานประตูออกไปนี้คงเป็นได้เพียงคำวิงวอนเดียวที่จะส่งถึงผู้หญิงคนนั้นที่อยู่อีกด้านหนึ่งของบานประตูได้

" เพื่อเห็นแก่หน้าพ่อแม่ฉัน และพ่อแม่คุณ ไปซะ! ฉันไม่แต่ง ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ! " เจ้าสาวพูดก่อนจะเรียกหาผู้เป็นพ่อที่ตามใจเธอเสมอมา" พ่อคะ หนูไม่มีวันแต่งงานกับเขาได้หรอกค่ะ พ่อคะ! หนูไม่แต่ง ! ยกเลิกให้หมด! "ฮิโตมิร้องไห้โวยวายกับผู้เป็นพ่อจนอิชิดะผุ้เป็นพ่อต้องรับปากอย่างเสียไม่ได้
" ได้ ถ้าลูกคิดดีแล้ว พ่อจะยกเลิกงานนี้ซะ อย่าร้องเลยนะลูก .. อย่าร้อง "ถึงจะปลอบไปแบบนั้นแต่สายตาของเขายังคงจ้องหน้าของคนที่ทำให้ลูกสาวของเขาเป็นแบบนี้เขม็ง

"ผม..." คิโยโนบุหมดสิ้นแล้วซึ่งคำพูด มือเรียวกำแน่น
" แก.. ไสหัวออกไป " อิชิดะผู้พ่อผลักว่าที่ลูกเขยออกไป " แล้วอย่าสะเออะ มาให้ฮิโตมิเห็นหน้าอีก! "
"ผมรู้ว่าผมทำผิดต่อคุณ ครอบครัวคุณ ครอบครัวผมเอง...ตลอดมา... แต่เอาเถอะ..ถ้าคุณจะล้มเลิกงานนี้ ผมก็จะไม่ห้ามแล้ว ... "คิโยโนบุเอ่ยเสียงเบา เขาควรจะรีบถอยออกไปจากที่นี่ ให้เร็วที่สุด...

"ถึงแต่งงานกันแล้วก็ยังจะไปหาหมอนั่นอีกใช่ไหม? รักกับผู้ชายงั้นเหรอ?! เชิญไปมีความสุขให้พอเถอะ!! " แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อคำพูดของคิโยโนบุเองก็ได้ทลายความอดกลั้นจากภาพที่เห็น และความอดทนที่จะไม่พูดความจริงของฮิโตมิให้พังลง หญิงสาวออกปากไล่คนที่เธอเลือกจนได้

คำพูดนั้นทำเอาคนรอบข้างที่ตั้งใจฟังอยู่นั้นแทบชอค สายตาที่มองชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าบ่าวนั้น เริ่มเปลี่ยนจากตกใจกลายเป็นสายตารังเกียจ

"ครับ... " ชายหนุ่มรับคำเสียงเรียบ  "ถ้าคุณจะเห็นดีเห็นงามด้วย ผมก็จะไป... ผมขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวัง ...ที่ทำให้คุณเสียใจ.... ขอโทษที่ก่อปัญหาทั้งหมดให้ทุกๆคน...แต่ผมบอกได้เพียงแค่ว่าผมน่ะ...ไม่เสียใจเลยกับสิ่งที่ได้ทำลงไป" พูดจบ ชายหนุ่มโค้งให้กับทุกๆคน ก่อนจะถอดเสื้อสูทสีขาวออก โบว์หูกระต่ายที่ผูกเอาไว้อย่างดีถูกกระชากทิ้งไปอีกทาง เขาไม่เคยรู้สึกซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองจนวินาทีนี้ เขาไม่ใช่เจ้าบ่าวอีกต่อไปแล้ว ชายหนุ่มหยุดก่อนจะถอนแหวนสีทองนั่นวางเอาไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหันกลับมาหาทุกๆคนที่ยืนนิ่งตะลึง

"แหวนนั่นน่ะ... ทิ้งไปก็ได้นะหรือจะเอาไปขายก็ตามใจ อย่างน้อยก็ถือเสียว่า ผมให้คุณ "

แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้เดินไปไหน ทันใดนั้นเจ้าสาวที่ปฏิเสธการจะออกมาพบเจอหน้าของเจ้าบ่าวอีก ก็ออกมาจากห้องแล้วเดินลงไปยังด้านล่างซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน ทำเอาทั้งแขกเหรื่อเครือกญาติคาดเดาไม่ถูกว่าจะมีเรื่องราวอะไรให้ได้ช็อคกันอีก ร่างเล็กในชุดแต่งงานสีขาวสะอาดตาเดินเข้าไปถือไมค์โครโฟนสำหรับบาทหลวงไว้ในมือ แล้วโค้งลงเสียต่ำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา

"สวัสดีค่ะทุกท่าน ดิฉัน อิชิดะ ฮิโตมิ เป็น....เจ้าสาวในงานแต่งงานวันนี้ค่ะ "

เสียงฮิอฮาดังขึ้นจากผู้คนที่เข้ามานั่งอยู่ในลานพิธี ชายหนุ่มผู้ที่ได้ถอดแหวนหมั้นสีทองทิ้งไปได้แต่ยืนเงียบในขณะที่ มีเสียงชองผู้เป็นพ่อแทบจะตะคอกถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเสียงนั้นจะไม่ได้เข้าหูเขาเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจับจ้องอยู่ที่ร่างงามในชุดเจ้าสาวสีขาว ชุดที่เขาเป็นคนช่วยเลือก...ราวกับว่ากำลังชื่นชมงานศิลปะชั้นดี ฮิโตมิยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าทุกคน มือเรียวที่ถือไมค์สั่นระริก
 
" ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่ทุกท่านได้ให้เกียรติมางานแต่งงานในวันนี้ .. แต่..ดิฉันต้องขออภัยจริงๆค่ะ ที่ต้องยกเลิกงานแต่งงานระหว่างดิฉันกับเขา รวมถึงความสัมพันธ์ทุกด้านระหว่างเรา "เธอโค้งให้กับแขกที่มาร่วมงานเสียต่ำก่อนจะวางไมค์แล้วเดินลงจากแท่นทำพิธี ใบหน้าสวยเรียบเฉยจนน่าแปลกใจ เธอไม่หันมาทาง"อดีต"ว่าที่สามีอีกเลย ร่างเล็กเดินกลับเข้าไปในห้อง ส่วนคิโยโนบุก็ตัดสินใจเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไปเพียงลำพัง

"แกจะไปแบบนี้ไม่ได้นะ คิโยโนบุ กลับมาขอโทษฮิโตมิ กับอิชิดะซังเดี๋ยวนี้! " ผู้เป็นพ่อเจ้าบ่าวตวาดลั่น สองขาพยายามก้าวไปให้ทันลูกชาย แต่ชายหนุ่มที่ดูจะก้มหน้าก้มตาเดินคนนั้นก็เหมือนจะไม่ชะลอลงแต่อย่างใด
"คิโยโนบุ!!!"  คราวนี้ได้ผล ร่างในเสื้อเชิ๊ตสีขาวเนื้อดีหยุดนิ่ง ก่อนจะหันกลับมา ใบหน้าได้รูปก้มลงต่ำ ได้ยินเสียงคิโยโนบุถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของชายสูงวัย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของคิโยโนบุพิจารณาท่าทีโกรธเกรี้ยวของผู้เป็นพ่อนั้น ไม่ต่างจากวันที่มาพาเขาออกจากโรงพยาบาลเมื่อสิบกว่าปีก่อน...ไม่ต่างจากหลายๆครั้งที่บังคับให้เขาทำโน่นนี่ตามแต่ใจที่ตัวเองต้องการ เขาโค้งให้กับอีกฝ่ายแล้วกดลิฟท์ให้หยุดแล้วก้าวเข้าไปด้านใน

"แกจะไปไหน คิโยโนบุ! นี่ฉันสั่งแกแล้วนะ!!"

แต่คิโยโนบุก็ไม่ได้ตอบ ดวงตาสีน้ำตาลนั้นจ้องมองมาอย่างคาดเดาความหมายไม่ได้ ริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่บานประตูลิฟท์นั้นจะปิดลง


..คิโยโนบุไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นคนที่เขาทำร้าย เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนั้นอีกนานเพียงใด...

มันเป็นความเอาแต่ใจที่ทำให้เกิดการโกหก ปิดบัง และต้องหลบซ่อนจนท้ายที่สุดแล้วก็ต้องทำให้คนหลายคนต้องเสียใจ

ห้องจัดเลี้ยงเริ่มมีผู้คนบางตา หลังจากที่ได้ยินคำประกาศของเจ้าสาว แต่ก็ยังมีบ้าง บางคนที่ยืนจับกลุ่มคุยกัน

" นี่มันหมายความว่ายังไง เตรียมงานเชิญแขกเหรื่อ มาตั้งเยอะ แล้วนี่ทำไมมันเป็นแบบนี้ "

เสียงญาติของเจ้าสาวเริ่มมีคำถาม ในขณะที่มีเสียง ประสานกลับมาด้วยอย่างจะรู้คำตอบ แต่ก็ไม่มีคำตอบจากใคร มีเพียงคำถามที่มากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้นจนอาจจะเรียกได้ว่า ห้องจัดเลี้ยงทั้งห้องมีแต่เสียงกระซิบกระซาบ ซักถามกันไปต่างๆนานา แลกเปลี่ยนซึ่งข่าวสารข้อมูล...ในไม่ช้า มันคงเปลี่ยนเป็นคำติฉินท์นินทา...


......................................to be con

หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH20 15/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 16-09-2010 08:48:29
ถูกใจอย่างแรง   :mc4:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH20 15/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 16-09-2010 11:15:14
อ่านแล้วเห้นใจทุกฝ่าย แต่ในเมื่อกล้าทำ กล้ารับ ก็ต้องพร้อมเผชิญกับทุกปัญหา
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH21 16/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 16-09-2010 22:09:45
@@@Writer's Talk@@@

ถูกใจอย่างแรง   :mc4:
ถูกใจแบบนี้ ก็ต้องติดตามต่อไปค่ะว่า...ต่อจากนี้จะเป็นยังไงนะคะ หุหุ

อ่านแล้วเห็นใจทุกฝ่าย แต่ในเมื่อกล้าทำ กล้ารับ ก็ต้องพร้อมเผชิญกับทุกปัญหา
ไรท์เตอร์ก็เห็นใจค่ะ แต่ก็อย่างว่า กล้าทำ กล้ารับ...ต่อจากนี้ทางเดินจะเป็นยังไงก็ต้องติดตามกันต่อไปนะคะ

ขอบคุณทุกคนสำหรับคอมเม้นต์และทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาดูนะคะ

/////////////////////////////////////////////


ส่วนเชฟหนุ่มที่กลับมารับผิดชอบหน้าที่ของตนเองนั้นถึงกับนั่งลงกับเก้าอี้ในห้องครัวอย่างอ่อนแรง เมื่อได้ยินคำยืนยันจากฝ่ายประสานงานของโรงเรมว่างานแต่งงานระหว่างคิโยโนบุกับอิชิดะถูกยกเลิก โดยที่เขาไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือกับอาหาร แม้แต่อาหารว่างชุดแรกเสียด้วยซ้ำไป ดวงตารีหันไปมองอาหารและของสดที่ถูกเตรียมเอาไว้พร้อมเสิร์ฟที่เขาใช้เวลาทำตั้งแต่เมื่อคืน...มากมายขนาดนี้ ... มันเป็นการทุ่มเททั้งความตั้งใจและฝีมือทั้งหมดในชีวิตของเขา ...

...งานใหญ่ที่สุดของเขา...

เขาทำอย่างเต็มที่ทุกครั้งเสมอสำหรับคิโยโนบุ

"สุดท้ายก็ไม่ได้โชว์ซิ่นะ...งานของพวกเรา... " เสียงนุ่มของอาคาริดังขึ้นจากด้านหลังหญิงสาวดูอ่อนแรงดวงตาคู่นั้นดูจะบวมช้ำจากร่องรอยบางอย่างราวกับ นอกจากจะอดนอนแล้วอย่างกับว่าเสียน้ำตามายกใหญ่เสียด้วย  "ทั้งๆที่คุณ...ตั้งใจทำเพื่อเขาขนาดนั้นแท้ๆ...." หญิงสาวว่าดวงตาสีเข้มมองไปยังอาหารว่างสีสันสวยงาม ที่เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายบรรจงคิดทั้งเรื่องสูตรและการตกแต่งจานมานานขนาดไหน
" มันช่วยไม่ได้นี่ .. ยังไง ของพวกนี้เขาก็จ่ายเงินมาแล้ว ช่างเถอะ "
เจมองอาหารที่ถูกจัดไว้แล้วอย่างสวยงาม โดยที่ไม่ได้มองหน้าอีกฝ่าย
"เสียดายที่ไม่ได้โชว์ฝีมือ... แต่... คงรู้สึกดีซิ่นะ ที่ เขาเลือกแบบนี้" หญิงสาวพูด พลางเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆนั่งลงข้างหน้าเก้าอี้ของชายหนุ่มร่างสูง

" คุณพูดอะไร อาคาริ?  " คราวนี้เจต้องสบตาอีกฝ่ายทั้งๆที่รู้สึกไม่อยากจะสบตาเธอเลย ความรู้สึกผิดที่นอกใจเธออย่างร้ายกาจนี้ มันทำให้เขาเป็นแบบนั้น
"ฉัน...รู้.... " มือเรียวกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้บีบเบาๆ "ฉันเห็น.... เมื่อคืน"
"สีหน้าของเขา... เจ็บปวดมาก มันเศร้า เกินกว่าที่เพิ่อนจะแสดงให้เห็นในคืนก่อนวันแต่งงาน" หญิงสาวค่อยๆพูดในสิ่งที่เธออรู้และเห็นออกมาให้ อีกฝ่ายฟัง อย่างช้าๆ แม้ว่าในใจของเธอจะเจ็บปวดแต่การที่ได้ปลดปล่อยออกไปเมื่อคืน น้ำตามากมายที่เสียไปนั้นกับการที่ได้เห็นชายตรงหน้าโอบกอดเขาคนนั้น มัน....

" อาคาริ? "เจได้แต่สบตาอีกฝ่าย ริมฝีปากได้รูป หมายจะพูดอะไรออกมา แต่จะให้เขาพูดอะไรได้นอกจาก ... " ผมขอโทษ .. อาคาริ ถึงเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ .. แต่ผมอยากจะยืนยันกับคุณ "มือแกร่งนั้นบีบมืออีกฝ่ายเบาๆ " คุณไม่ได้ผิดอะไรเลย .. คุณทำให้ผมรู้สึกดีเสมอ คนที่เปลี่ยนไปคือผมเอง อาคาริ .. คนที่ผิด คือผมเอง "

คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เจ้าของชื่อต้องหลับตาลง แม้ว่าเธอกับชายหนุ่มคนนี้จะไม่เคยพูดเรื่องของอนาคต แต่ความรู้สึกที่มีให้นั้นมันก็จริงจังมากเสียเหลือเกิน เป็นจริงจนอดที่จะคิดไม่ได้ว่าที่อีกฝ่ายยอมรับออกมาแบบนี้นั้นเป็นเพียงความฝันหรือเปล่าแต่แรงบีบที่มือก็บอกได้ทุกอย่าง
 
"เราคงจบกันแค่นี้" หญิงสาวเอ่ย
" ผมขอโทษ อาคาริ  "เขาก้มหัวให้อีกฝ่ายที่ทำให้เธอต้องเสียใจขนาดนี้ ต้องร้องไห้จนตาบวมขนาดนี้ และทั้งๆที่รู้เรื่องเมื่อคืนแต่ก็ยังทำเค้กแต่งงานถึง 7 ชั้นออกมาได้สวยงามขนาดนั้น

"คำขอโทษ... คงไม่ช่วยอะไรแล้ว...แต่ฉันจะรับมันไว้" หญิงสาวแตะใบหน้าของชายหนุ่มก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ แต่หาใช่แตะริมฝีปากเหมือนอย่างเคย ริมฝีปากบาง เลื่อนไปแตะที่ข้างแก้ม

...ริมฝีปากนี่ไม่ใช่ของฉันอีกแล้ว..


"ลาก่อนจุน... ขอให้โชคดี" หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จากทุกอย่างที่เห็นไม่ใช่ว่าเธอยอมคนง่ายๆ แต่เป็นเพราะรู้และสัมผัสได้ดีว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นระหว่างชายหนุ่มทั้งสองคนนั้นมันเกินกว่าที่เธอจะไปเฝ้าหึงหวง หรือประชดประชันเพียงเพื่อจะเรียกร้องความสนใจของอีกฝ่ายกลับคืนมาได้แล้ว...และอีกอย่างก็คงเป็นเพราะว่าเธอ...ไม่ใช่คนประเภทนั้น

" คุณเองก็เหมือนกัน อาคาริ อย่าร้องไห้เพื่อผมอีกเลย  "ชายหนุ่มขอร้องอีกฝ่าย "เค้กของคุณสวยมาก ทั้งๆที่รู้แบบนั้นคุณก็ยังเป็นมืออาชีพเสมอ "
"แน่นอน...มันคือสิ่งที่รักนี่นา"  อาคาริกลับยิ้มน้อยๆให้กับอีกฝ่าย ทุกผลงานที่ทำออกมานั้นเธอภูมิใจกับมันในทุกๆชิ้น
" ผมนับถือคุณนะ .. "เจยิ้มให้อีกฝ่าย หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่โบกมือให้น้อยๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไป... เธอเองก็เหนื่อยมามากเกินพอแล้ว

.........................................

ชายหนุ่มที่เพิ่งจะยกเลิกงานแต่งงานของตัวเอง ขับรถออกมาจากโรงแรมแต่เขาไม่อยากกลับห้องของตัวเอง หลายสิ่งหลายอย่างในห้องยังมีความเป็น ฮิโตมิ หลงเหลืออยู่ เขาไม่มีหน้าแม้แต่จะส่งของพวกนั้นคืนเธอเสียด้วยซ้ำ อาจจะไม่กล้าที่จะติดต่อไปหาอีกแล้วด้วย สถานที่เดียวที่นึกออกคือ อพาร์ตเม้นท์ของชายหนุ่มร่างสูง เขาไม่มีใครที่ไหนให้พูดคุยหรือปรึกษามีเพียงแค่ โอโนเสะ จุน... เชฟหนุ่มคนนี้คนเดียวเท่านั้น คิโยโนบุยืนรออยู่ที่หน้าอพาร์ตเม้นต์ตรงหน้าประตูห้องของอีกฝ่ายบุหรี่มวนแล้วมวนเล่าถูกจุดขึ้นเพื่อสงบสติอารมณ์

กว่าเจจะกลับจากโรงแรมก็ค่ำมากแล้วเชฟหนุ่มเองต้องสะสางหลายเรื่อง ทั้งเรื่องอาหารงานแต่งงานที่ถูกยกเลิก ที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าจะห่อกลับมาทำไมกัน รวมถึงเสียงซุบซิบนินทาถึงสาเหตุที่งานแต่งงานที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของเมืองในปีนี้ถูกยกเลิก ในวันนี้...อาจจะยังไม่มีใครสงสัยเขา แต่อีกไม่นานหรอก เขารู้ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อกลับมาถึงแล้วพบกับอดีตวว่าที่เจ้าบ่าวของงานมานั่งรอเขาอยู่ที่หน้าประตู ไหล่บางกับช่วงคอนั้นตกลงราวหมดแล้วซึ่งเรี่ยวแรง

" คิโย?.. นาย..มารอเหรอ? "เสียงทุ้มของอีกฝ่ายดังขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเห็นอดีตเจ้าบ่าวรอที่หน้าประตู
"มาจนได้... นั่นล่ะ " ชายหนุ่ม ที่นั่งรออยู่เงยหน้าขึ้นมาพลางยิ้มให้กับอีกฝ่าย ยิ้มแห้งๆ เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่ควรจะมาที่นี่ ไม่ควรจะมาพบอีกฝ่ายอีก เพราะหากมีใครมาพบเข้ามันอาจจะทำให้คนที่เขารัก ...ต้องเดือดร้อนไปด้วย
 
"งั้น...เข้ามาสิ ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม? "เจไขประตูห้องเข้าไปแล้ว เปิดประตูทิ้งไว้ให้อีกฝ่าย ชายหนุ่มร่างบางเดินเข้าไปด้านในมองไปรอบๆ ก่อนจะยิ้มให้กับความรู้สึกของตัวเอง

...น่าแปลกที่เขารู้สึกผิดมากกว่า ตอนที่ ยังสวมแหวนหมั้นอยู่เสียอีก...

"ฉันขอโทษ ที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเอ่ยขึ้นเบาๆ มือทั้งสองข้างกำแน่น
"นายขอโทษมาทั้งวันแล้ว .. นายไม่ต้องขอโทษฉันหรอก ความผิดมันคนละครึ่ง"เจหันมายิ้มให้อีกฝ่ายขณะที่แกะห่ออาหารงานแต่งงานของอีกฝ่าย"อาจจะรู้สึกแปลกๆนะ แต่จะกินไหมล่ะ? "อาหารทั้งเซ็ทสำหรับงานแต่งงานในวันนี้อยู่ในกล่องที่เจเอามาด้วย รวมถึงเค้กของอาคาริ ทำเอาดวงตาสีน้ำตาลอ่อนต้องสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายแล่นเข้ามาจับที่หัวใจ

...เหมือนจะโล่งอก...แต่ก็ไม่ใช่....
...เหมือนจะรู้สึกดี...แต่ก็เรียกไม่ได้แบบนั้น....


"ต้องกินอยู่แล้ว นายอุตส่าห์ทำนี่นา "ชายหนุ่มว่าพลางเดินเข้าไปช่วย อีกฝ่ายจัดอาหารลงใส่จาน
" เค้กนั่นน่ะ สวยไหม? "หนุ่มผมยาวถามอีกฝ่าย พลางเปิดกล่องเค้ก " อาคาริเขาตั้งใจทำมากเลยทั้ง ทั้งๆที่เขารู้เรื่องระหว่างเราแล้ว .. ทั้งๆที่ร้องไห้จนตาบวมขนาดนั้น แต่เขาก็ตั้งใจมากเลย "
"......................" มือเรียวค่อยวางจานลงบนโต๊ะ เมื่อได้ยินแบบนั้น "ฉัน....ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ ฉันทำให้นายต้องเจ็บทำให้คนที่นายรักต้องเจ็บ...ทั้งๆที่มันควรจะเป็นครั้งสุดท้าย...ฉัน... " คิโยโนบุเม้มริมฝีปากแน่น

...ขอโทษ....



" ฉันเลิกกับเธอแล้ว "เจพูดขึ้นมา " ไม่สิ เธอบอกเลิกกับฉันแล้ว "
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น คิโยโนุ หันไปมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้
"ฉัน....... "  ใบหน้าของอาจารย์หนุ่มนั้นอาจจะเรียกได้ว่าหน้าซีด...ระคนปนเปไปกับความรู้สึกผิดมากนัก
" ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย .. ก็บอกแล้ว ความผิดคนละครึ่ง "มือแกร่งขยี้ผมอีกฝ่ายไปมา คิโยโนบุจับมือแกร่งนั้นมาแตะที่ข้างแก้ม ก่อนจะเลื่อนมาจูบเบาๆ
ค้างอยู่อย่างนั้น ราวกับอยากจะให้ไออุ่นจากฝ่ามือนั้นซึมเข้าไปในร่างกายที่เย็นชืดของตัวเอง เจมองท่าทางของอีกฝ่ายก่อนจะดึงร่างเล็กกว่าเข้ามากอดเอาไว้แน่น อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เขาทั้งคู่รู้สึกดีขึ้นบ้าง

"พวกเรา...จะเป็นยังไง..ต่อไป... "
เสียงนุ่มดังขึ้นแผ่วเบาในอ้อมกอดนั้น
 
" ไม่รู้สิ ..ใครจะรู้อนาคตล่ะ .. แต่เราก็ทำไปแล้ว เรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว "

"เสียใจไหม.... ที่เป็นแบบนี้ " คิโยโนบุเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองหน้าใบหน้าคมของเชฟหนุ่ม
" นายล่ะ? "เจเองก็ก้มลงมาเพื่อมองหน้าของคนที่อยู่ในอ้อมแขน
"ฉัน...เสียใจที่ทำให้คนอื่น.... เจ็บ แต่ไม่เสียใจที่ได้เจอนายอีกครั้ง.... ที่ได้บอกความรู้สึกตัวเอง ออกไปให้นายรู้" คิโยโนบุสบตาตอบกลับไป มีความจริงแฝงอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้น
 
" แล้วนายชอบฉันแบบนี้ตั้งแต่เมือ่ไหร่กัน? "เจถามออกไป ใช่ อีกฝ่ายเคยบอกว่าชอบแต่ความรู้สึกนั้นจะเริ่มพร้อมๆกับเขารึเปล่า? ตั้งแต่เมื่อ12ปีก่อนที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้...เป็นแบบนั้นหรือเปล่า
"ฉัน...ไม่แน่ใจ... แต่รู้แค่ว่าการที่มีนายอยู่ข้างๆ ทำให้ฉันอุ่นใจ....ตั้งแต่ตอนนั้น "
" ฉันดีใจนะที่เราได้รู้สึกแบบนั้น ตั้งแต่เมื่อ 12 ปีก่อน ถึงมันจะหายไปบ้างแต่พอฉันได้เจอนายอีกครั้ง .. ฉันก็รู้สึกแบบนั้นได้อีก "
มือแกร่งไล้กับผิวแก้มของอีกฝ่ายเบาๆ "ไม่สิ..อาจจะรู้สึกได้มากกว่านั้น มากพอที่จะทำให้ฉันบ้าได้ขนาดนั้น "
"ฉันเอง ก็ไม่เคยบ้าได้ขนาดนี้เหมือนกัน " คิโยโนบุว่าพลางก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายอีกเล็กน้อย "เพราะนาย.... " ริมฝีปากได้รูปแตะกับอีกฝ่ายเบาๆ แล้วถอนออก ก่อนจะย้ำลงไปอีกครั้ง"เพราะนาย.... จุน" เสียงนุ่มแหบพร่าลงอีกครั้งและอีกครั้งเมื่อริมฝีปากคู่นั้นสัมผัสลงมา
" ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว "เจกระซิบติดริมฝีปากของอีกฝ่ายแล้วเน้นย้ำรสสัมผัสไปอีกครั้ง

ริมฝีปากบางตอบรับสัมผัสนั้นมือเรียวโอบอีกฝ่ายเข้าหาตัวราวกับว่าไม่กลัวเกรงอีกแล้วที่จะมอบสัมผัสนี่ให้กับจุนมือเรียวเลื่อนมาสัมผัสไล้บนแผ่นอกแกร่งผ่านผิวผ้านั้นอย่างโหยหา  สัมผัสนั้นทำให้เจเข้าใจได้ทันที คนๆนี้เป็นอิสระ เขาเลือกที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อจะมายืนอยู่ตรงหน้า เขาเองก็ไม่ควรจะลังเลอีกแล้ว คิดได้อย่างนั้นหนุ่มผมยาวก็สัมผัสตอบการยั่วเย้าของอีกฝ่ายขาเรียวทั้งสี่ของทั้งคู่พากันเข้าไปยังห้องนอน

ในห้องนอนของชายหนุ่มร่างสูงเสียงผิวผ้าเสียดสี ก่อนจะถูกปลดเปลื้องทิ้ง ร่างสองร่างขยับเข้าชิด มอบความรู้สึกที่ได้แต่เพียงเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึกของจิตใจมานานให้กันและกัน ในเมื่อบัดนี้ทั้งสองเป็นอิสระจากความสัมพันธ์กับใครคนอื่น  ความหวานหวามได้แปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อน ส่งมอบให้กันและกันจวบจนค่ำคืนนั้นล่วงเลยไป  ร่างของอาจารย์หนุ่มเปลีอยเปล่าในอ้อมกอดของชายหนุ่มผมยาว คนที่เขาจะเรียกได้อย่างเต็มปากแล้วว่าเป็น "คนรัก "

"ฉันรักนาย....จุน"  น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปนั้นมั่นใจ เสียเหลือเกิน 
"ฉันรักนาย..คิโย "เจดึงคนที่เขากอดมาทั้งคืนให้เข้ามาแนบชิด  " มาคบกันนะ.. "

"คบกัน?.... แบบ... แบบ.... คนรักน่ะเหรอ" ชายหนุ่มขยับตัวมองหน้าของอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าการกระทำของพวกเขาจะทำให้สถานะที่เป็นนั้นเปลี่ยนไป แต่... การที่พูดออกมานั้นมันต่างกันและนั่นทำให้รู้สึกดีไม่น้อย
"จะยังเป็นเพื่อนกันรึไง? นอนด้วยกันไปตั้งกี่ครั้งแล้ว "เจถามออกมาพลางยิ้มกับคำพูดของอีกฝ่าย
"สาม... " คิโยโนบุตอบพลางหัวเราะออกมาเบาๆ "ฉันไม่รู้หรอกนะว่า จะเป็น คนรักที่ดีของนาย ได้หรือเปล่า.... แต่... ก็ตกลง " มือเรียวจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้
" ถ้านับจากเรื่องอย่างว่า .. ก็ผ่านแล้ว "หนุ่มผมยาวทำหน้าทะลึ่งใส่อีกฝ่าย แล้วดึงมือนั้นมาจูบเบาๆ
"หมายความว่ายังไง" อาจารย์หนุ่มหน้าแดงก่ำ มือที่อีกฝ่ายดึงไปจูบ กำเป็นหมัดยิ่งใกล้ใบหน้าอีกฝ่ายแบบนี้ จะชกลงไปเลยก็คงได้
" นั่นน่ะคำชมต่างหาก "เจพลิกตัวให้อีกฝ่ายลงไปนอนข้างล่าง โดยที่เขาคร่อมเอาไว้
"ชม?...ฉันน่าจะชมนายต่างหากว่า...ทำได้ดีกว่าที่คิดน่ะ" คิโยโนบุย้อนกลับ ดวงตาสีน้ำตาลสบตามองของอีกฝ่าย ก่อนจะเบือนไปอีกทางแต่ก็ยังดื้อดึงกลับมามองอีกครั้ง 
" เก่งใช่ไหมล่ะ? "ชายหนุ่มเบียดขากับอีกฝ่ายจนคิโยโนบุรู้สึกได้กับสิ่งที่ยังคงอุ่นร้อน
"ทะลึ่งแล้ว..ทำอะไรน่ะ... "อาจารย์หนุ่มโวยลั่น แม้จะไม่อาจปฏิเสธคำพูดของอีกฝ่ายได้ แต่ตัวเขาเองก็คงไม่อยากได้ยินคำยกยอปอปั้นนั้นนักหรอก แทนคำตอบนั้น การโลมไล้แล้วจบลงด้วยเสียงครางเครือจากร่างเปลือยเปล่าทั้งคู่อีกครั้ง...กว่าจะสิ้นสุดความเร่าร้อนนั้นก็เกือบเช้าแล้ว ทั้งสองคนนอนอยู่เคียงข้างกันได้อย่างสนิทใจกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของพวกเขาซักที แม้ว่ามันจะทำให้ใครหลายคนต้องเสียใจก็ตาม....


........................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH21 16/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 16-09-2010 23:35:58
นี่ล่ะน้าส์ความรัก :-[
แต่กังวลกับพ่อของคิโยจังอ่ะ ยิ่งมารู้ว่าลูกมีคนรักเป็นป้อจายนะ
อ่อย ไม่อยากจะคิด โดนตัดพ่อลูกแน่เลยอ่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH22 17/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 18-09-2010 00:31:07
@@@Writer's Talk@@@

วันนี้อัพดึกมากต้องขอโทษด้วยค่ะ พอดีเพิ่งจะนั่งรถกลับมาถึงบ้าน ไม่ได้กลับบ้านมาหลายอาทิตย์แล้ว

นี่ล่ะน้าส์ความรัก :-[
แต่กังวลกับพ่อของคิโยจังอ่ะ ยิ่งมารู้ว่าลูกมีคนรักเป็นป้อจายนะ
อ่อย ไม่อยากจะคิด โดนตัดพ่อลูกแน่เลยอ่ะ :เฮ้อ:

ความรักของคนคู่นี้...จะเป็นยังไงต่อไปนี่ไรท์เตอร์ก็มักจะคิดเสมอนะคะ เวล่าดูละครหรืออ่านนิยายที่มีตอนจบแฮปปี้เอนดิ้ง
จีบกันติด แล้ว จะคบกันได้ไหม....เป็นปัญหาคาใจเสมอ....ตอนนี้ คงจะเป็นการตอบเริ่มการตอบคำถามสำหรับตัวไรท์เตอร์เหมือนกันค่ะ

..................................................


ยามเช้าผ่านมาเยือนอีกครั้ง ผ้าม่านที่ถูกดึงเข้าหากันเอาไว้ช่วยกันแสงแดดออกไปจากห้องนอนของเชฟหนุ่มอากาศตอนเช้านั้นเย็นกว่าช่วงกลางวันที่แดดร้อนจัดมากนัก
ร่างสองร่างใต้ผ้าห่มสีเข้มยังตระกองกอดกันเอาไว้หลวมๆ ก่อนที่ร่างเล็กกว่า จะรู้สึกตัว ในคราวแรกนั้นหมายจะขยับหนีแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ต่อให้เขารีบกลับไป ที่อพาร์ตเม้นท์นั่น ก็ไม่มีใครรอรับเช่นเดียวกับหากเปิดโทรศัพท์ ก็คงจะไม่มี สายที่ไม่ได้รับ จำนวนมากรออยู่เช่นวันก่อน เสียงถอนหายใจดังขึ้น ก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะเหยียดเป็นรอยยิ้มเล็กๆ เมื่อมองไปด้านข้างแล้วเห็น ชายหนุ่มร่างสูงยังคงหลับอยู่ มือเรียวตบเบาๆที่ข้างแก้มนั้นเบาๆ

"กินอิ่มเลยตื่นสายหรือ พ่อครัว"
"อื้อ กี่โมงแล้ว?" เจขยับออกจากอีกฝ่ายเล็กน้อยเพื่อลุกขึ้นนั่งบนเตียง เขายังไม่ค่อยอยากตื่นเท่าไหร่เลย วันนี้ การมีเซ็กส์ก่อนวันทำงานเป็นอะไรที่ทรมานคนที่ต้องตื่นเช้าพอดูเลย
"ซัก... หกโมงครึ่งได้.... " ชายหนุ่มขยับไปชะโงกมอง นาฬิกาที่ตั้งอยู่หัวเตียงด้านของเจในทีแรก ก่อนจะต้องครางออกมาเบาๆ เมื่อความปวดร้าวแล่นลามขึ้นมาจากเบื้องล่าง
"ต้องตื่นแล้ว .. ทำข้าวไว้ให้นะ วันนี้ฉันไม่ได้ลาหยุดเหมือนเจ้าบ่าวซักหน่อย "

เจจับให้คนรักของเขานอนดีๆแล้วลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมอาบน้ำแล้วเดินเข้าครัวไปต้มกาแฟ ตามมาด้วยเสียงจุดเตา และกลิ่นหอมๆของออมเลตใส่พามิซานชีสกับแฮม
"นายทำส่วนของนายก็ได้ ฉัน... ทำส่วนของฉันจะได้ไม่กวนเวลา "คิโยโนบุ ค่อย ยันตัวขึ้นมาจากเตียงพยายาม ควานหาเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาใส่ ร่างเพรียวเดินอย่างไม่ถนัดนัก เข้าไปใกล้อีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องครัว โดยที่มีเพียงแค่ชั้นในเพียงตัวเดียว 

"นายทำให้เธอกินทุกเช้าเลยเหรอ" คิโยโนบุเอ่ยถาม

"แล้วแต่อารมณ์" ชายหนุ่มผมยาวตักออมเลตใส่จานแล้ววางตรงหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะทำส่วนของเขาต่อ ส่วนขนมปังโฮวีทก็เด้งออกมาจากเครื่องปิ้งขนมปัง ส่งกลิ่นหอมๆ เข้ากับกลิ่นกาแฟ เจหยิบขนมปังสี่แผ่นใส่จาน และกระปุกแยมมามาเลตวางบนโต๊ะ ก่อนจะเทกาแฟใส่ถ้วยให้อีกฝ่าย
"แค่นี้พอไหม? หรือนายจะกินส่วนของฉันด้วย? "ชายหนุ่มถามติดตลก
"เหนื่อย.... กินไม่ลงเท่าไร นายกินส่วนของนายไปเถอะ "คิโยโนบุ ตอบตามความจริง
" เคยกินอะไรไม่ลงด้วยรึไง? "เจทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะยกมือขึ้นวัดไข้อีกฝ่าย"ตัวก็ไม่ร้อน"
"ลองโดนกระทำบ้างไหม จะได้รู้ว่ามันจะ....เป็นยังไง" คิโยโนบุจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้สายตามองอย่างมีความหมาย "อีกซักพัก คงมีอาการ... ฉันกินยานอนอยู่ที่นี่ก่อนได้ไหม หรือว่า จะมีใครมาเก็บของหรือเปล่า" คิโยโนบุว่าพลาง มองไปยังกรอบรูปของ เจกับ อาคาริ ที่ยังวางอยู่ในหลายมุมของห้อง

"เรายังไม่ได้คิดจะมาอยู่ด้วยกันกับอาคาริน่ะ" ชายหนุ่มดึงมืออกจากอีกฝ่าย แล้วกินกาแฟจนหมดแก้วแล้วลุกขึ้น "ฉันจะไปอาบน้ำล่ะ แล้วก็ต้องไปทำงานแล้ว.. จะยังอยู่นี่ใช่ไหม?" เจเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้หันมาสบตาของอีกฝ่าย

"ถ้าฉันทำนายอารมณ์เสีย ฉันกลับก็ได้นะ... " คิโยโนบุไม่ได้ตอบคำถามนั้น
"ก็ตามใจ ฝากปิดห้องด้วยก็แล้วกัน "พูดจบหนุ่มผมยาวก็เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ แต่งตัวให้เรียบร้อย
อาจารย์หนุ่มที่ยังเหลือวันหยุดอีกหนึ่งวัน นั่งมองอาหารเช้าหน้าตาน่าทานตรงหน้า ก่อนจะตักขึ้นมาทาน

... เหมือนตัวเอง กำลังเรียกร้องอะไร...

เพียงไม่นานหลังจากออกมาจากห้องน้ำ เจก็สะพายกระเป๋า แต่ก่อนจะออกจากห้อง

" คิโย ... "
"อ่ะ...หืม... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหันกลับไปมองหน้าของอีกฝ่าย
"ฝากรดน้ำต้นไม้ด้วยจะได้ไหม?"เขาชี้ไปที่ระเบียง
"อืม....ได้ซิ่....."ชายหนุ่มหันมองตามออกไปก่อนจะหันกลับมายิ้มให้กับอีกฝ่ายก่อนจะรีบเดินเข้าไปหา"จุน... ฉัน... " มือเรียวคว้ามือของอีกฝ่ายเอาไว้ ก่อนที่จะเงียบไป
" ว่าไง? "ชายหนุ่มมองมือที่จับเขาเอาไว้ " ไม่ใส่เสื้อ ไม่หนาวรึไง? " เจพยายามจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น " หรือกะจะยั่วไม่ให้ฉันไปทำงาน? "
".........ฉันยั่วคนบ้างาน แบบนายไม่ขึ้นหรอก... "เขาว่าก่อนจะเร่งอีกฝ่าย "จะไปทำงานไม่ใช่เหรอ.... " คิโยโนบุ ลุกขึ้น เดินกลับเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะเดิน ออกมาพร้อมกับเสื้อ ยืนตัวโคร่ง ของเจ กับกางเกงขาสั้นซึ่งก็เป็นของเจอีก "แบบนี้คงไม่ยั่วแล้ว "

"งั้น ฝากดูห้องด้วย ... อยู่นี่ล่ะ ถ้าไม่อยากกลับห้องจะอยู่ถึงเมื่อไหร่ก็ได้"เจบอกแต่ก็ไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่าย
" ไปนะ "ว่าแล้วก็เดินออกจากห้องไปเลย
"อืม... แล้ว...เจอกัน" ชายหนุ่มพูดพลางมองตามแผ่นหลังของร่างสูงที่เดินจากไป


คิโยโนบุ ที่เหลือเวลาว่างอยู่ทั้งวัน ใช้เวลาหลังจากเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ สำรวจห้องของอีกฝ่ายที่เขามานับครั้งได้อีกครั้ง  เขาจำได้ดีว่าในห้องครัวนั้นเขาเคยช่วยเชฟหนุ่มทำเค้ก ในห้องนั่งเล่นเเองก็เป็นที่ที่เขาได้สัมผัสกับอีกฝ่ายอีกครั้ง ก่อนที่จะเหลือบไปเห็น ต้นไม้ในกระถางที่วางอยู่ด้านนอก แสงแดดที่เริ่มส่องแสงแรงขึ้นทำให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ต้องรีบไปขยับกระถางต้นไม้นั้นเข้ามาในร่มอีกเล็กน้อย ก่อนจะรดน้ำต้นไม้ จนชุ่มตามที่เจ้าของห้องบอกเอาไว้

เสร็จจากรดน้ำต้นไม้ ก็เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งชายหนุ่ม เดินไปค้นจนเจอถุงกระดาษในห้องครัว ก่อนจะพับเสื้อชุดเจ้าบ่าวที่ใส่มาเมื่อวาน ลงใส่ถุงหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วก็ออกจากห้องของเชฟหนุ่มไป

ส่วนเชฟหนุ่มเอง เมื่อไปถึงโรงแรมแล้วก็พบว่าในวันนี้อาคาริได้ลาป่วย นั่นคงจะเป็นเพราะเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องอื่นแน่นอน เธอแทบจะไม่ขาดงานเลย เขารู้ดีว่าวันนี้เธอจะอยู่ในสภาพไหน ชายหนุ่มพยายามทำงานให้หนักเพื่อที่จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน และพยายามไม่สนใจเสียงที่เข้าหูเกี่ยวกับงานแต่งงานเมื่อวานนี้แต่เขารู้ดีว่าอีกไม่นานหรอกที่จะต้องมีคนพุ่งเป้ามาที่เขา

"เฮ้ พ่อครัวใหญ่ อดโชว์ฝืมือเลยล่ะซื่ เมื่อวานได้ข่าวว่า เจ้าบ่าวเจ้าสาวล้มงานมันวันแต่งเลย" เสียงเพื่อนร่วมรุ่น เดินเข้ามาหาพร้อมกับคำถามแทงใจ
" ใช่ " เขารับคำสั้นๆ ขณะเก็บของใส่กระเป๋าสะพาย
"เออ ใช่ได้ข่าวว่าเจ้าบ่าวนั่นเพื่อนนายด้วยนี่นา.. สรุปเรื่องมันเป็นไงมาไงเนี่ย เขาไม่ได้เล่าให้ฟังเลยเหรอ" เพื่อน คนนั้นยังคงถาม
"ได้ข่าวว่า นอกใจผู้หญิงรู้เข้าเลยยกเลิกงานซะ ใจเด็ดจริง" เสียงพ่อครัวอีกคนพูดพลางหัวเราะ "อยากให้ยัยป้าที่บ้านนั่นทำแบบนี้ตอนวันแต่งมั่งวะ"
"ไม่รู้สิ ยังไม่ได้เจอกันเลย" เจรู้ดีว่าเขากำลังโกหกคำโตก่อนจะปิดกระเป๋า" กลับล่ะนะ "พูดจบก็สะพายกระเป๋าแล้วเเเดินออกไปทันที

วันนี้ชายหนุ่มผมยาวกลับห้องเร็วกว่าเวลาปกติเพื่อไปแวะซุปเปอร์มาเก็ต เขาซื้อของสดหลายอย่างไปสำรองไว้ในตู้เย็นาหรับทำอาหารสองที่ ...จากนี้ไป

แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อกลับมาถึงห้องก็พบว่าประตูที่ห้องล็อคและเมื่อเคาะดูก็ไม่มีเสียใดตอบกลับมา

ชายหนุ่มไขกุญแจห้องเข้าไปในห้อง แล้วก็พบว่าอีกฝ่ายเก็บกวาดห้องให้เขาเรียบร้อย และไม่มีแม้แต่เงาของอดีตเจ้าบ่าวอยู่ในห้องแม้แต่น้อย เขาเอาของสดใส่ตู้เย็นแล้วก้าวยาวๆไปหาโน๊ตที่อีกฝ่ายน่าจะทิ้งเอาไว้ให้ แต่ก็ไม่มี ชายหนุ่มได้แต่เค้นเสียงหัวเราะอย่างสมเพชตนเอง ก่อนจะหยิบเบียร์กระป๋องในตู้เย็นมาเปิด ตามมาด้วยบุหรี่ที่ถูกจุด

" แม่งเอ๊ย!
"เขาสบถออกมาดังๆ แล้วบีบกระป๋องเบียร์แล้วขว้างใส่ผนังห้อง กระป๋องแล้วกระเป๋าเหล้า บุหรี่ม้วนแล้วมวนเล่าที่ขยี้ลงกับที่เขี่ยบุหรี่จนเต็มไปหมด


...................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH22 17/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 18-09-2010 00:50:21
นั่นหล่ะปัญหาใหญ่เลยจีบอ่ะมันไม่ยากหรอก แต่คบกันให้รอดเนี่ยดิ อย่างที่บอกชีวิตมันไม่ใช่ละครนี่นา
คิโยจังไปไหนทำไมไม่บอกน้าส เดี่ยวให้จุนจับทำโทษซะเลยนิ

กลับบ้านดึกๆระวังตัวด้วยนะ เดี่ยวนี้โรคจิตมันเยอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH22 17/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 18-09-2010 04:04:46
ดอดมาอ่านได้ซะที คงเข้าเล้าไม่ได้ทุกวันแระ รายงานเยอะ สอบก้อใกล้เข้ามา เฮ้อ...เข้าเรื่องดีกว่า
แอบกรี๊ดกร๊าดตอนแรกที่คิโยไร้พันธะ แต่ไหงแลดูจะมีปัญหาอีกง่ะ หวานให้ครบตอนก่อนไม่ได้รึไงเนี่ย?
แต่ไมเจ๊ฮิโตมิเลิกง่ายเลิกดายจริงหว่า...หวังว่าคงไม่ต้องจองเวรกะทางนั้นแล้วนะT^T
แค่กับคุณป๋าก้อดูท่าว่าจะหนักหนาเอาการอยู่แล้ว อย่าให้ถึงขนาดศึกนอกศึกในโรมรันพัวพันกระชั้นชิดเล้ยยย!!
ลุ้นให้ทั้งคู่ประคับประคองความสัมพันธ์ได้ตลอดรอดฝั่ง...
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH23 18/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 18-09-2010 22:15:36
@@@Writer's Talk@@@

คิโยจังไปไหนทำไมไม่บอกน้าส เดี่ยวให้จุนจับทำโทษซะเลยนิ
กลับบ้านดึกๆระวังตัวด้วยนะ เดี่ยวนี้โรคจิตมันเยอะ :กอด1:

พอดีนั่งติดรถท่านพ่อกลับบ้านต่างจังหวัดนะค่ะ กลับกะพ่อประหยัดตังค์(ตัวเอง) และ ปลอดภัยที่ซู้ดดดด ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ
ว่าแต่ จุนจุนจะลงโทษคิโย หรือเปล่าน้า...

ดอดมาอ่านได้ซะที คงเข้าเล้าไม่ได้ทุกวันแระ รายงานเยอะ สอบก้อใกล้เข้ามา เฮ้อ...เข้าเรื่องดีกว่า
แอบกรี๊ดกร๊าดตอนแรกที่คิโยไร้พันธะ แต่ไหงแลดูจะมีปัญหาอีกง่ะ หวานให้ครบตอนก่อนไม่ได้รึไงเนี่ย?
แต่ไมเจ๊ฮิโตมิเลิกง่ายเลิกดายจริงหว่า...หวังว่าคงไม่ต้องจองเวรกะทางนั้นแล้วนะT^T
แค่กับคุณป๋าก้อดูท่าว่าจะหนักหนาเอาการอยู่แล้ว อย่าให้ถึงขนาดศึกนอกศึกในโรมรันพัวพันกระชั้นชิดเล้ยยย!!
ลุ้นให้ทั้งคู่ประคับประคองความสัมพันธ์ได้ตลอดรอดฝั่ง...

ทั้งๆที่ยุ่้งอยู่แท้ๆยังอุตส่าห์เข้ามาอ่าน ขอบคุณมากนะคะ ส่วนเรื่องของฮิโตมินั้น...อืมมมม จะว่าเลิกไปง่ายๆก็อาจจะใช่
แต่คิดอีกที ลองเจอแบบนั้น คงไม่อยากแม้แต่จะเจอหน้าก็ได้มั้งคะ เจ็บปวดเหมือนกันนะ


.........................................................................


"ก๊อกๆ..... "


จนกระทั่ง เสียงเคาะดังขึ้นที่หน้าห้อง

" อะไร! "
เสียงห้าวตะคอกลั่นขณะที่เดินมากระชากประตู
" จุน?...เมาเหรอ" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ยืนอยู่หน้าประตสะดุ้งเฮือกกับอากัปกิริยานั้นของชายหนุ่มร่างสูง ตกใจกับสายตาของเจที่ทำตาขวางมองมา
" มาทำไม?! "
" ฉัน...ไปเอาของ...เอ่อ...ซื้อของมาให้นายด้วย" คิโยโนบุสะดุ้งอีกรอบเมื่อเจอตะคอกในใจนึกงง คนเมาดึงร่างเล็กกว่าเข้ามาในห้องแล้วปิดประตุดังปัง
" เฮ้ย เจ็บนะ " ร่างเล็กกว่าของผู้มาใหม่ร้องออกมาอย่างช่ววยไม่ได้
"ทีหลังนะ จะไปไหนเขียนโน๊ตไว้เข้าใจไหม! "เสียงนั้นเริ่มอ้อแอ้ด้วยพิษแอลกอฮอลล์
"เดี๋ยว จุน เฮ้... เดี๋ยว ฉันยังไม่เข้าใจเลย.. " คิโยโนบุยกมือเป็นเชิงขอเวลานอก เขาแค่กลับไปที่บ้านเพื่อจะหยิบอะไรติดไม้ติดมือกลับมาที่บ้านของเจ
" แล้วเอาของมาทำไมแค่นี้? ย้ายออกได้แล้ว! "ชายหนุ่มยังไม่เลิกเสียงดังเวลาเมาหรือเวลาโมโหโกรธา...ก็มักจะเป็นแบบนี้เหมือนเมื่อ 12 ปีก่อนไม่มีผิด
"จุน!" คิโยโนบุ คว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้  "ตั้งสติหน่อยซิ่อะไรกันเนี่ย ...นายจะให้ฉันทำอะไรไปไหน " ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองใบหน้า ของอีกฝ่าย ที่แดงก่ำ ก่อนจะ เหลือบมองไปที่พื้นห้อง กระป๋องเบียร์หลายประป๋องนั้นว่างเปล่า "นายคิดอะไรอยู่...คิดอะไร...คิดว่าฉันจะทิ้งนายไปเหรอ... รึยังไง หา" อาจารย์หนุ่มเริ่มใช้โทนเสียงกับอีกฝ่ายบ้าง
" เออ ดิ! "คนเมายอมรับอย่างไม่อาย " ย้ายออก มาอยู่ด้วยกันได้แล้ว "
"......................." คำพูดนั้นทำเอา คนที่มาใหม่ต้องนิ่งก่อนจะยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
"ฮ่ะๆ....ปรกติ เขาก็ต้องให้กุญแจมาก่อนไม่ใช่รึไง...นี่อะไรก็ไม่ให้ โวยวายเมาบ้าไปคนเดียวอีกนะนายนี่ ขี้โวยวายเหมือนเมื่อก่อนไม่ผิด" คิโยโนบุว่าพลางยกมือขึ้นขยี้ผมคนเมาอย่างนึกสนุก
" เมื่อเช้า บอกแล้ว ไม่รู้เรื่องเอง "เจขยับหลบมือของอีกฝ่าย
"บอกว่าอะไรนะ....." คิโยโนบุว่าพลางก็ทำท่าเอียงคอ  "แก่แล้วไม่ได้ยิน"
" มาอยู่ด้วยกัน ตามนั้นล่ะ .. จะมาไหม?! "ชายหนุ่มถามเสียงแข็ง
"ไม่.... " คิโยโนบุตอบ
" ตามใจ "เจตอบแล้วเดินไปหยิบเบียร์จากตู้เย็นมาอีกกระป๋อง
"ถ้าไม่มาอยู่นี่จะโกรธเหรอ... " คิโยโนบุถามพลางเดินไปนั่งที่โซฟา
"มาค้างแค่บางวันไม่ได้เหรอ...บ้านนายนี่ไกลจากโรงเรียนฉันเยอะเลย... " ชายหน่มร่างบางเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงติดจะอ้อนเล็กๆ"วันนี้นะ.... อ้อ หยิบเบียร์ให้ด้วยซิ่... วันนี้นะ กว่าจะถ่อไปเทียวกลับมาได้เนี่ย ก็ใช้เวลา ต้องให้นายรออย่างที่เห็นนี่ล่ะ"  เจโยนเบียร์ให้อีกฝ่ายแทนคำตอบแล้วก็จัดการกับเบียร์ทเหลือของตนเองต่อ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองท่าทางของอีกฝ่าย
"ยังหงุดหงิดไม่หาย?"
" ...................... "เสียงดื่มเบียร์ดังอึกๆ นั่นคือคำตอบของเจ
"จะให้ทำยังไงล่ะ...พูดความจริงไปก็ไม่หายโกรธ" ชายหนุ่มหันไปมองหน้าของอีกฝ่ายพลางเท้าคางมอง
" อยู่ด้วยกัน " เชฟหนุ่มยืนยันคำเดิม
"หัวแข็งเหมือนเดิมเลย.... " คิโยโนบุหัวเราะออกมาพลางส่ายหน้าช้าๆเมื่อได้ยินคำตอบของชายหนุ่มผมยาว "บอกแล้วว่า บ้านไกล...จากที่ทำงาน... "

" จะอยู่คนเดียวใช่ไหม ?
"เชฟหนุ่มถามย้ำ พลางทำตาขวางจากฤทธิ์เหล้า

"ก็แค่บางวัน...อาจจะเฉพาะวันธรรมดา อย่างวันศุกร์เสาร์ อาทิตย์ นี่ก็ได้ ฉันจะมาอยู่กับนาย... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลมองหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ "แบบนั้นไม่ได้รึยังไง ... นายเมาแล้วจุน คุย ตอนนี้ จะรู้เรื่องไหม"
" จะอยู่คนเดียวใช่ไหม? "เจถามย้ำแล้วเอาหัวชนอีกฝ่ายให้ออกไปไกลๆ" ไปเลย .. จะไปอยู่ไหนก็ไปเลย ไป "
"โอ้ย...เจ็บนะ" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่นด้วยความไม่พอใจอีกฝ่ายไม่ฟังคำอธิบายของเขาเลย คิโยโนบุดันอีกฝ่ายออกห่าง "ทำบ้าอะไรวะ...เมาแล้ว ไม่ต้องกินมันแล้ว" ว่าพลางก็แแย่งเอากระป๋องเบียร์มาจากมือของอีกฝ่าย "ฉันก็จะมาอยู่ไง แต่เรื่องงาน ฉันอาจจะไปทำงานสาย.... แล้ว... คน ถ้ามีคนรู้.... "
" ไม่อยากให้ใครรู้ .. กลัว? ฮะ ฮะ ฮะ "เจที่กำลังเมาหนักหัวเราะลั่นแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาเปิดน้ำจนเสียงดังลั่นแถมยังเปียกไปหมดห้องไปหมด
"จุน?...." คิโโนยุ เดินตามเข้าไปด้วยสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร "จุน นายเมานะ เดี๋ยวก็ล้มหัวฟาดหรอก" มือเรียวยื่นไปจับไหล่ทั้งสองข้างของอีกฝ่ายเอาไว้ เจเอาหัวจุ่มน้ำ ก่อนจะดันอีกฝ่ายออกแล้วเริ่มอาเจียน
"เฮ้ย!!! "คิโยโนบุหลบแทบจะไม่ทัน ก่อนจะส่ายหน้ากับท่าทางของอีกฝ่าย อาจารย์หนุ่มนั่งลงข้างๆ อีกฝ่ายก่อนจะลูบหลัง "เออ...เมาแล้วก็อ้วกซะ... แล้วค่อยคุยกันดีๆ" เสียงนุ่มดังขึ้นเบาๆ  ก่อนจะเอื้อมไปหยิบผ้ามาชุบน้ำเช็ดปากให้กับอีกฝ่าย "นายโกรธที่ฉันไม่ย้ายมาอยู่กับนายและกลัวคนอื่นจะเห็น...แต่จุน...นั่นไม่ได้หมายความว่า ฉันรักนายน้อยลงนะ"

เชฟหนุ่มขยับตัวออกจากอีกฝ่าย
" .......... ก็ดีนิ "
"ยังโกรธอยู่ซิ่นะ" คิโยโนบุพูดพลางดันให้อีกฝ่ายนั่งดีๆ "เสื้อนี่ก็ถอดซะ เปื้อนหมดแล้ว... แล้วก็กางเกงนี่ด้วย ล้างตัวซะ จะได้ไปนอน... "
" ไปเลย ไป อาบเองๆ "เจดันอีกฝ่ายออกไปให้พ้นๆ แล้วถอดเสื้อออกตามมาด้วยกางเกง ร่างสูงนั้นเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าคนที่เขากอดมาทั้งคืน แต่เชฟหนุ่มก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก คิโยโนบุมองร่างเปลือยนั้นก่อนจะยืนขึ้นโดยที่ไม่ได้ สนใจอีกฝ่ายเช่นกันในเวลาที่เมาแบบนี้พูดอะไรต่อไปก็เท่านั้น 
"อย่าล้มในห้องน้ำล่ะ... "

เจเดินเซๆไปเปิดฝักบัวแทนคำตอบแล้วเข้าไปอยู่ภายใต้สายน้ำนั้น เขาถอนหายใจออกมา ประตูห้องน้ำไม่ได้ปิด คิโยโนบุออกไปยืนรออยู่ด้านนอก เขากลัวว่า ร่างสูงที่เซไปเซมาใต้สายน้ำนั้นจะล้มลงไปเสียก่อนจึงยืนคอยอยู่ตรงนั้น
 
"อาบเสร็จก็นอนซะล่ะ"

กว่าเจจะอาบน้ำเสร็จก็นานพอดู เพราะกว่าเขาจะทำให้ตัวเองสร่างเมาได้ เขาก็ต้อยืนอยู่กลางสายน้ำเป็นสิบนาทีเพื่อไล่ฤทธิ์แอลกอฮลล์ จนเมื่อรู้สึกดีขึ้นจึงนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ

"เสร็จแล้วเหรอ" คิโยโนบุ ที่นั่งรออยู่ที่หน้าห้องน้ำเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะยิ้ม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะมีสติดีมากขึ้น "คุยกันรู้เรื่องแล้วหรือยัง พวกเรา?"
มือเรียวแตะใบหน้าคมของอีกฝ่ายที่ยังเปียกชื้น เส้นผมยาวนั้นเปียกลู่น้ำลงมา คิโยโนบุใช้ปลายนิ้วจับปอยผมที่ปรกหน้าของอีกฝ่ายอยู่ ขึ้นทัดหูให้เข้าที่เข้าทาง
เจกลับเสยผมขึ้นเป็นอีกทรง ตอนนี้ก็ยังหงุดหงิดเป็นเด็กๆอยูดี

" ต้องคุยอะไร นายคุยเองคนเดียวแล้วนิ "
"แล้วจะให้ทำยังไง...โอเค...ฉันเอาแต่ใจ...แต่นายอยากให้ฉันย้ายมาอยู่เลย.... วันนี้ ตอนนี้ มันก็ทำไม่ได้อยู่ดี"ดวงตาสีน้ำตาลสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง เขาไม่อยากจะทะเลาะกับอีกฝ่ายนัก เพราะเมื่อคิดว่ากว่าจะก้าวมาถึงวันนี้ได้ เขาต้องทำให้อีกฝ่ายเจ็บมานานแค่ไหนต้องทำให้คนอื่นเจ็บมากี่คน แต่เจก็หันหน้าไปอีกทาง
" ก็ตามใจ "เขาตอบกลับมาสั้นๆแล้วเดินเข้าห้องไปเช็ดผมและแต่งตัวให้เรียบร้อย
"ฉัน...จะย้ายมา...สุดสัปดาห์นี้...ขอฉันเคลียร์ของที่ห้องเก็บของแล้วก็จัดการเรื่องเอกสารทะเบียนบ้านอะไรก่อนจะได้ไหมล่ะ" ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้คิโยโนบุ ต้องพูดออกไปแบบนั้น แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าจะจัดการได้ตามกำหนดที่พูดออกไปหรือเปล่า"แบบนี้ โอเคไหม..." ว่าพลางก็เดินเข้าไปหาอีกฝ่ายในห้อง ร่างของอาจารย์หน่มเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย ก่อนจะกอดจากด้านหลังเอาไว้หลวมๆ "ฉันไม่อยากทะเลาะกับนายหรอกนะ"

สัมผัสนุ่มนวลทำให้ร่างสูงต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ

" ฉันอยากให้นายมาอยู่ด้วย........................ไม่ใช่แค่เพราะรักอย่างเดียวหรอกนะ แต่ซักวันต้องมีคนรู้ ถึงตอนนั้นจะอยู่คนเดียวได้รึไง?  " เจจับมือที่กอดเขาเอาไว้บีบเบาๆ " ไม่อยากให้ต้องเจ็บปวดคนเดียว .. ฉันเอาแต่ใจไปรึเปล่า? "
"ไม่เลย" เสียงอาจารย์หนุ่มคอบกลับมา "ขอบใจนะที่คิดแบบนั้น" รู้ว่าอีกฝ่ายที่ดูจะดื้อดึงไป นั่นก็เป็นเพราะว่าเป็นห่วงตัวเอง คิโยโนบุจึงคลายความกังวลลง
"อาจจะย้ายมาช้าไปบ้าง แต่วันนี้ฉันก็เตรียมของมาบ้างแล้วนะ" ก่อนจะพูดแหย่ไปหวังว่าจะให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมาบ้าง

เช้าวันต่อมา ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลขยับตัวลุกก่อนที่นาฬิกาของเชฟหนุ่มจะดัง เขาต้องรีบแต่งตัว และ กลับไปที่ห้อง เพื่อเตรียม อุปกรณ์ ไปสอนนักเรียนที่โรงเรียนของพ่อที่อีกฟากหนึ่งของเมือง ถ้าไม่รีบไปล่ะก็ กว่าจะฝากการจราจรไปได้ล่ะต้องสายเป็นแน่ แต่จะลุกไปเฉยๆ คงไม่ได้การ มือเรียว คว้า ปากกากับกระดาษมาเขียน แปะไว้ที่หน้าผากของคนที่ดูจะเพลียกับเรื่องที่อาละวาดโวยวายเมื่อคืนจนตอนนี้แล้วก็ยังหลับไม่รู้เรื่อง

"บอกแล้วว่า ที่ทำงานอยู่ไกล ไปก่อนนะ"

ก่อนที่มือเรียวจะลูบใบหน้าคมนั้นเบาๆ ก่อนจะลุกออกจากเตียงไป คิโยโนบุ ขับรถกลับไปที่อพาร์ตเม้นท์ น่าแปลกที่คราวนี้ เขาไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นบ้านเหมือนอย่างทุกที ห้องนอนดูเย็นชืดไม่มีชีวิตชีวา เท่าไรนัก อาจารย์หนุ่มจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะ เอาอุปกรณ์การสอนใส่เป้ แล้วเดินออกจากห้องไปทันที

เมื่อมาถึงที่โรงเรียน ทันทีที่ก้าวออกจากรถ เขารู้สึกได้ถึงสายตาจากเด็กนักเรียนหลายคน กลุ่มเด้กสาว ที่เคยเอ่ยทักทายเขาอย่างเป็นมิตร ตอนนี้ กลับหลบสายตา เมื่อเขาหันไปหา ได้ยินเสียงซุบซิบ ที่ฟังไม่ได้ศัพท์ ความรู้สึกแปลกประหลาด จากบรรยากาศโดยรอบ เริ่มพุ่งเข้ามาหาตัว

"อรุณสวัสดิ์ครับ" ชายหนุ่มกล่าวเมื่อเดินเข้ามาในห้องพักครู ดวงตาทุกคู่แทบจะจับจ้องมาทีเขา ก่อนจะละสายตาหนี เหมือนกับว่า เขาไม่เคยอยู่ตรงนั้น หลายคนในห้องไปที่งานแต่งงาน เพราะ พ่อซึ่งเป็น ครูใหญ่ เป็น คนบอกให้เขา เอาการ์ดเชิญ ไปแจกให้กับทุกๆคนเอง ชายหนุ่มวางเป้ลงกับโตีะ เอ่ยทักทาย ทุกคน แม้จะไม่มีเสียงตอบกลับ ก่อนจะขอตัว แม้ไม่มีคำตอบรับ เพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดวอร์ม เตรียมการ สำหรับ สอน พละในคาบแรกของวัน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน ที่เขารับผิดชอบเป็น อาจารย์ประจำชั้น เสียงคุยเซ็งแซ่ เงียบลงทันทีที่เขาเดินเข้าไปด้านใน ผิดวิสัย จากทุกๆครั้งที่เด็กๆ จะคุยต่ออย่างไม่เกรงใจ ก่อนจะเอ่ยแซวในหลายๆ เรื่อง รวมทั้งเรื่องอดีตแฟนสาวแสนสวยของเขาด้วย

...ไอ้ตุ๊ด...

ตัวหนังสือที่ถูกเขียนด้วยชอล์คสีแดง ตัวใหญ่ หนา ถูกเขียนทิ้งเอาไว้บนกลางกระดาน รอบด้าน มีรูปล้อเลียน เขากับผู้ชายอีกคน ภาพวาดที่ดูอนาจารและอุจาดสายตา นั่นทำให้อาจารย์หนุ่มถึงกับหยุดนิ่ง อยู่ที่ หน้าประตูห้อง

................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH23 18/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 18-09-2010 22:31:18
อ้าว ไอ้เด็กเวร ตุ๊ดบ้านแกซิ พ่อแม่ไม่สอนให้เคารพ'จารย์รึงัย(อ่ะเผลอใส่อารมณ์ไปหน่อย) :laugh:
ถึงได้กร้าวร้าวแบบนี้  :angry2:โมโหมาด่าคิโยจังได้ไง  :m16:

555มีสารถีสุดหล่อมารับนี่เอง ดีแล้วจ้า o13
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH23 18/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 19-09-2010 16:05:09
สู้ๆนะ แล้วทุกอย่างจะผ่านไป
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH23 18/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 19-09-2010 23:43:42
: 222222: รอ รอ รอ : 222222:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH23 18/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 20-09-2010 00:37:34
งานเข้าคิโยแต่วันเลย....ว่าแต่.......เจจะนอยเยอะไปมั้ย สาวแตกอย่างงี้เด๋วให้คิโยจับกดเลย 55+
คุณป๋าคิโยจะว่ายังไงล่ะเนี่ย....แค่คิดก้อ...เฮ้อออออ!!
รออ่านตอนต่อไปค่ะ^^

หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH24 20/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 20-09-2010 01:38:20
@@@ Writer'sTalk @@@
ขอโทษนะคะวันนี้มาแบบไม่ได้ตอบคอมเม้นต์ โพสกันมึนๆนะคะวันนี้

...........................................



[size=15pt]...ไอ้ตุ๊ด...[/size]


ตัวหนังสือที่ถูกเขียนด้วยชอล์คสีแดง ตัวใหญ่หนาถูกเขียนทิ้งเอาไว้บนกลางกระดานรอบด้าน มีรูปล้อเลียนเขากับผู้ชายอีกคน ภาพวาดที่ดูอนาจารและอุจาดสายตา นั่นทำให้อาจารย์หนุ่มถึงกับหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้อง ดวงตาสีน้ำตาล มองเข้าไปด้านในเขาพอจะรู้ว่าเป็นฝีมือของใคร สีหน้าของหัวโจกบางคนมันฟ้องเช่นเดียวกับ คนที่ไม่เคยเป็นหัวโจกแต่มีทัศนคติที่ไม่ดีแน่ๆกับสิ่งที่เขาเป็นและกำลังทำอยู
 
"เวรใครลบกระดานวันนี้ ทำไมไม่ลบ" ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ พลางเดินไปที่หน้าชั้น พยายามที่จะไม่สนใจ กับ ตัวอักษรตัวใหญ่ ที่อยู่ที่ด้านหลัง
"....................................."
"....................................."
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากนักเรียนของเขา จนมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นแฟนคลับของเขาทำใจกล้ายกมือขึ้นแล้วยืนขึ้นถาม
" อาจารย์คะ ทำไมอาจารย์ยกเลิกงานแต่งงานล่ะคะ? "
"...." คำถามนั้น ทำให้มือที่กำลังจะเปิดรายชื่อนักเรียนขึ้นเพื่อเช็คชื่อหยุดนิ่ง ก่อนที่จะวางแนบลงกับผิวหน้าเรียบเย็นของโต๊ะ "เมื่อเธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว...แม้ว่าจะมั่นใจแล้ว...บางครั้ง ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนกันได้" เขาตอบเสียงเรียบๆ ไม่ได้มองหน้าของเด็กสาวคนนั้น เด็กคนนั้นอ่านคำที่เขียนอยู่ที่กระดานซ้ำไปซ้ำมา ก่อนจะลุกขึ้นเดินผ่านอาจารย์ของเธอไปลบมันทันที  ทำเอาเด็กหนุ่มที่เขียนมีท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่เด็กสาวไม่สนใจ เธอกลับไปนั่งลงที่เดิมโดยไม่ยอมมองหน้าใครซักนิด

"ขอบใจนะ คิมูระ" ชายหนุ่มยิ้ม ก่อนจะ เงยหน้าขึ้นมอง นักเรียนทุกคน "เอาล่ะ เดี๋ยวจะขานชื่อล่ะนะ อาคาซากะ..... " ชายหนุ่มทำตัวเหมือนปรกติ อย่างน้อย ที่สุดเขาก็พยายามที่ตะเก็บอารมณ์เอาไว้ให้มากที่สุด เพราะอย่างน้อยแล้ว มันก็เป็นหน้าที่ เป็นอาชีพที่เขา จะต้องอยู่กับมัน ต่อไป แม้ว่าจะรู้สึกทรมาน กับสายตามทิ่มแทงเหล่านั้นก็ตาม

"มามิยะ..." ชื่อของนักเรียนชายที่ดูจะเป็นหัวโจก และเป็น ต้นคิดในการเขียนคำบนกระดารถูกขานขึ้น แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมอง คนที่นั่งอยู่ ก่อนจะย้ำอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียง ที่ดังกว่า เดิม" มามิยะ"
" ชิ! "เจ้าของชื่อยกขาขึ้นพาดหน้าต่างแทนการขานรับ แถมยังกระแทกขากับหน้าต่างเสียงดังอีกด้วย ทำเอาคนอื่นกลัวหัวหด
"มามิยะ....ผมรู้ว่าคุณยังติดทัณฑ์บนเรื่องความประพฤติอยู่ไม่ใช่เหรอ" ชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่าย "ก็น่าจะทำตัวให้มันดีๆหน่อย ไม่อย่างนั้น ผมจะรายงานให้กับทางโรงเรียนรู้อีก แล้ว คุณจะถูกพักการเรียนอีกนะ...คราวนี้.... คงไม่มีสิทธิ์จะจบกับคนอื่นเขาแล้วล่ะ"

" ไอ้ตุ๊ด "


มามิยะ สบตาอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัวเลยซักนิด แน่นอน คนอย่างคนนี้น่ะเหรอที่เขาต้องกลัว คนวิปริตแบบนี้รึไง?

"ผมคิดว่านั่นไม่ใช่คำที่เหมาะสมที่คุณจะพูดตอนนี้" ชายหนุ่มกัดฟันแน่น
"เอากับผู้ชายมันดีกว่าจริงเหรอ ครู? "มามิยะ ยังคงถามต่อไป แถมยังทำหน้าระรื่นใส่อีกต่างหาก " ถึงได้เลิกกับคู่หมั้นสวยๆนั่นน่ะ "
".........................." ชายหนุ่มไม่ตอบ ตอนนี้หน้าของเขาแดงก่ำไปด้วยความโกรธ แต่จะโกรธไปทำไม ในเมื่อ สิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นก็เป็นจริงไม่น้อย จริงที่เขารื่นรมย์กับสัมผัสของเชฟหนุ่มคนนั้น แต่ ความรู้สึกของเขาที่มีให้ กับ จุนนั้นก็เป็นอะไรที่จริง มากกว่า ความรู้สึกที่เขา แสดงให้ฮิโตมิเช่นกัน
"ผมจะรายงานคุณให้กับ อาจารย์ฝ่ายปกครอง...เอาล่ะ ทุกคน ...นอกนั้นครูเห็นแล้วว่ามากันครบ ใกล้จะปิดเทอมแล้ว ก็ เตรียมตัว ทำการบ้านปิดเทอมสุดท้ายของพวกเธอให้มันดีๆด้วยล่ะ " ชายหนุ่มพูดพลางหันหลังให้กัอบีกฝ่ายแล้ว เดินไปที่หน้าห้อง "มามิยะ ผมขอลงโทษให้คุณทำความสะอาดห้องคนเดียว วันนี้หลังเลิกเรียนแล้วผมจะมาเช็คความเรียบร้อย"ชายหนุ่มยกสมุดเช็คชือขึ้นขี้หน้าอีกฝ่าย

ตลอดทั้งวัน คิโยโนบุ ต้องทนกับ เสียงซุบซิบนินทา คำถามจากนักเรียน และสายตาที่มองมาอย่างดูถูก

....โฮโม....

...เลิกกับเมียเพราะได้ผัว....

...ผู้ชายดีเหรอ อาจารย์...


โถงทางเดินในตอนเย็นหลังเลิกเรียนเงียบสงัด มีเพียงแค่เสียง ดังแว่วๆ จาก ชมรมกีฬาที่ซ้อมกันอยู่ด้านนอก อาจารย์หนุ่มเดินกลับไปที่ห้องเรียน เพื่อตรวจเช็คความสะอาด ที่เขา สั่งให้มามิยะ ทำเพื่อเป็นการลงโทษแต่กลับไม่มีวี่แววของเด็กหนุ่มเจ้าปัญหาคนนั้นแม้แต่นิด

"เด็กเอ้ย.... ไร้ความรับผิดชอบเป็นบ้า" อาจารย์หนุ่ม มองเข้าไปด้านใน ไม่มีเงาของมามิยะ และ การทำความสะอาด ก็ถูกละเลย ชายหุน่มเดินเข้าไปด้านใน เพื่อปิดหน้าต่างห้องเรียน


--ปัง--

เสียงที่ดังขึ้นทำให้คนที่อยู่ด้านในสะดุ้งก่อนจะหันไปหาต้นเสียงทันที มามิยะที่ตอนนี้ดึงไทค์ออก และเสื้ออกนอกกางเกงนั้นมาในสภาพที่ไม่เหมือนนักเรียนเลยซักนิด ตาที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรนั้นมองครูประจำชั้นตัวเองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรหนักขึ้นไปอีก
"มามิยะ....มาแล้วเหรอ... ไม่ทำความสะอาดห้องล่ะ" ชายหนุ่มพูด พยายามข่มความรู้สึกตกใจเมื่อครู่ให้กลับไปเป็นเหมือนปรกติ "มามิยะ... ครูกำลังสั่งเธออยู่นะ" ชายหนุ่มพูดอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังยืนจ้องหน้าเขานิ่ง
" ครู เป็นเมียผู้ชายนี่ดีกว่ารึไง? "มามิยะถามอีกครั้ง เขาจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง
"นั่นไม่เกี่ยวกับเธอ ...เอาล่ะ ทำตามที่สั่งซะ ครูจะมาเช็คความเรียบร้อยอีกรอบ" ชายหนุ่มว่าพลางเดิน เลี่ยง ออกมา หมายจะเดินออกจากห้องไปให้เร็วที่สุด
" เป็นครูตอบได้หมดไม่ใช่รึไง? รึจะให้ฝึกภาคปฏิบัติด้วย? "มามิยะตรงเข้าไปดึงแขนครูของเขาอย่างแรง ถึงอีกฝ่ายจะอายุมากกว่า แต่ด้วยความที่เขาเป็นเด็กเกเรที่ตัวใหญ่กว่าอีกฝ่ายพอสมควร เขาจึงไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น แรงดึงที่แขน ทำให้ชายหนุ่มเซ ด้วยไม่ทันจะตั้งตัว เขาเกือบจะถึงประตูอยู่แล้วเชียว
"มามิยะ!! ปล่อย" คิโยโนบุขึ้นเสียง พลางดึงแขนของตัวเองออก ความรู้สึก มุ่งร้าย ที่ส่งมาจากแขนของเด็กหนุ่มนั้นรู้สึกได้ในทันที ชายหนุ่ม ขืนแขนของตัวเองออก ก่อนจะขยับถอยออกมา
"คิดจะทำอะไร...ฉันรายงานเรื่องนี้ กับครูฝ่ายปกครองแน่ ถ้ายังคิดจะทำแบบนั้นอีก"
" ฟ้อง? อย่าขู่ ครูก็รู้ว่าผมไม่กลัว "มามิยะกระชากอีกฝ่ายเข้ามาหาตัวอีกครั้งแล้วดึงคอเสื้อของครูประจำชั้นขึ้น เผยให้เห็นรอยแดงๆ ตามตัว
".......ปล่อย...ฉันจะเรียกตำรวจ" คิโยโนบุกัดฟันแน่น ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือ ออกมา หมายเลขสามตัวปรากฏอยู่บนหน้าจอเรียบร้อย มามิยะดึงมือถืออีกฝ่ายออกแล้วโยนทิ้งไปอีกทาง

" สอนผมซี่ .. "ใบหน้าของเด็กหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ มืออีกข้างจับที่เอวกางเกงอีกฝ่าย

"สอนอะไร..." ชายหนุ่มถามกลับ พยายามจะดึงเวลาเอาไว้ เขารู้ว่าถ้าเขาถอยไปอีกหน่อยจะถึงประตูห้องเรียนได้ มามิยะยิ้มอย่างได้ใจ มือที่จับเอากางเกงวอร์มนั้นลากไปที่สะโพกของอาจารย์ประจำชั้น


............................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH24 20/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 20-09-2010 05:01:43
อ๊ากกกกก!!!คิโยถูกเด็กลองของงงงง!!!
มามิย๊า!!นั่นของเจเค้านะ ตัวไม่มีสิทธิ!!
รอลุ้นให้คิโยรอดพ้นจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงจะเสียเลือดนี้โดยเร็ว^^
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH24 20/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 20-09-2010 08:49:19
o22 ใครจะมาช่วยเนี้ย เด็กสมัยนี้ตัวใหญ่อย่างกับควาย
คิโยจังชั้นจะสู้ได้ยังไง :serius2:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH24 20/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 20-09-2010 20:08:10
ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายตอนเลย
เนื้อเรื่องไปไกลมาก
แต่ว่า ก็ดีแล้วล่ะที่ยกเลิกงานแต่งงานไปได้

 :serius2: แต่ตอนนี้ไอ้เด็กบ้า แกคิดจะทำอะไรครูของแก

ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะค่ะ   :L2:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (ทำหน้าสารบัญใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 20-09-2010 23:03:07

ถึงผู้อ่านทุกท่าน.....พีจังมีเรื่องจะประกาศ
เกี่ยวกับเรื่องสารบัญค่ะ
เพราะว่าถ้าใส่ไว้ที่หน้าแรกแล้ว...เนื่องจากอัพเรื่อย ทำให้เนื้อที่ในโพสต์แรกไม่พอค่ะ
ขออนุญาตเอามาไว้ตรงนี้แทนนะคะ อาจจะทำให้ยุ่งยากนิด แต่...ตัวคนเขียนเองก็ไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงดีใครมีวิธีที่กิ๊บเก๋กว่านี้
ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ....  :pig4:


CH1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1081806#msg1081806)/CH2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1082744#msg1082744)/CH3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1083965#msg1083965)/CH4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1086054#msg1086054)/CH4.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1086059#msg1086059)/CH5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1087627#msg1087627)/CH6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1088983#msg1088983)/CH7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1090425#msg1090425)/CH8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1091675#msg1091675)/CH9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1093161#msg1093161)/CH10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1094880#msg1094880)/
CH11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1095944#msg1095944)/CH12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1097576#msg1097576)/CH13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1098937#msg1098937)/CH14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1100411#msg1100411)/CH15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1101828#msg1101828)/CH16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1103276#msg1103276)/CH17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1104260#msg1104260)/CH18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1105921#msg1105921)/CH19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1107244#msg1107244)/CH20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1108672#msg1108672)/
CH21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1109929#msg1109929)/CH22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1111569#msg1111569)/CH23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1112795#msg1112795)/CH24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1114702#msg1114702)/CH25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17960.msg1116151#msg1116151)
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH24 20/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 20-09-2010 23:14:25
อยากช่วย แต่ห่วยไอทีอ่ะ
งั้นเอาใจช่วยให้หาวิธีดีๆได้ละกัน^^
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH25+สารบัญใหม่ 21/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 21-09-2010 01:05:16
@@@Writer's Talk@@@
มาซะดึก...ต้องขอโทษที่ทำให้รอนะคะ ...พอกลับมาอยู่บ้านแล้วตารางเวลามันเปลี่ยนแปลงน่ะค่ะ

อ๊ากกกกก!!!คิโยถูกเด็กลองของงงงง!!!
มามิย๊า!!นั่นของเจเค้านะ ตัวไม่มีสิทธิ!!
รอลุ้นให้คิโยรอดพ้นจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงจะเสียเลือดนี้โดยเร็ว^^
อันนี้ใครจะเสียเลือดต้องติดตามค่ะ...ส่วนสิทธิืในตัวคิโยน่ะเหรอคะ หุหุ อันนี้ยิ่งต้องติดตามค่ะ ! และขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงเรื่องสารบัญ ...ตอนนี้ก็เอาพอแก้ขัดไปก่อนค่ะ  

o22 ใครจะมาช่วยเนี้ย เด็กสมัยนี้ตัวใหญ่อย่างกับควาย
คิโยจังชั้นจะสู้ได้ยังไง :serius2:
นั่นซิ่นะคะ เด็กสมัยนี้โตเร้ว เร็ว แต่ทำไมน้อ น้องหนูที่พีจังชอบมันถึงไม่เห็นสูงขึ้นเลยน้า...

ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายตอนเลย
เนื้อเรื่องไปไกลมาก
แต่ว่า ก็ดีแล้วล่ะที่ยกเลิกงานแต่งงานไปได้

 :serius2: แต่ตอนนี้ไอ้เด็กบ้า แกคิดจะทำอะไรครูของแก

ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะค่ะ   :L2:
ขอบคุณนะคะที่ตามมาอ่านกันจนทัน...เด็กบ้าๆแบบนี้สมควรสั่งสอนซิ่นะคะ มาดูว่าคิโยจะโต้ตอบกลับหรือเปล่านะคะ

///////////////////////////////////////////////////

"มามิยะ!!"

อาจารย์หนุ่มสะดุ้งเฮือก ก่อนจะคว้ามือของเด็กหนุ่มออก สมองสั่งการให้เขาป้องกันตัว มือของเด็กหนุมถูกหักทำมุมที่จะทำให้เจ้าตัวเจ็บอย่างทนไม่ได้

" โอ๊ย! ไอ้บ้าเอ๊ย "มามิยะ สบถกลับดึงมืออกจากอีกฝ่ายก่อนจะกระชากคอเสื้อนั้นมาหมายจะง้างหมัดต่อย แต่อาจารย์หนุ่มใช้จังหวะนั้น จับมือที่ยึดคอเสื้อเขาเอาไว้ กดลงบนเส้นประสาทที่ทำให้เจ็บจนต้องเผลอปล่อยมือ ก่อนจะทุ่มร่างของเด็กหนุ่มข้ามสะโพกลงไปนอนกองอยู่กับพื้น

"ไม่มีใครเคยบอกรึไงว่าอย่าหาเรื่องอาจารย์สอนพละ" คิโยโนบุชี้หน้าของอีกฝ่าย "ทำความสะอาดซะ ไม่อย่างนั้นก็นอนเอาตัวถูพื้นไป" คิโยโนบุ พูด ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องเรียนไป หัวใจของเขาเต้นรัว  ความกลัวแล่นลามเข้ามาจับที่หัวใจ ถ้ามามิยะ มีอาวุธที่หนักกว่าศิลปะการป้องกันตัวพื้นฐานของเขา มันอาจจะนำไปสู่เรื่องที่เลวร้ายมากกว่านั้น  แต่เขาก็แสดงออกมาให้เห็นไม่ได้ ถ้าเขาแสดงความกลัวให้อีกฝ่ายเห็น จะต้องเป็นเรื่องมากขึ้นไปอีกเป็นแน่ คิโยโนบุทำใจ เดินกลับไปที่ห้องพักครู เก็บของลงเป้ไม่ได้ทักทายกับใคร...ที่ดูจะไม่อยากจะทักทายด้วย ชายหนุ่มเดินไปที่รถ ...สตาร์ทมันและออกรถไปทันที

ทันทีที่กลับมาถึงอพาร์ตเม้นต์ของจุน ชายหนุ่มรู้ดีว่าอีกฝ่ายยังไม่กลับบ้าน คิโยโนบุรีบจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะสังเกตเห็นว่าตัวเองมีรอยช้ำอยู่บนแขนทั้งสองข้าง เสียงสบถดังขึ้นเบาๆ เขาไม่อยากให้คนรักได้เห็นรอยเหล่านี้ ไม่อยากทำให้อะไรๆ มันมีปัญหามากไปกว่านี้ แม้จะอากาศอบอ้าว แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะหยิบเสื้อยืดแขนยาวเนื้อบางมาใส่ปิดทับรอยช้ำพวกนั้น อีกเดี๋ยวมันคงจะเริ่มปวด โชคดีที่วันนี้เขาป้องกันตัวเองเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงโดนมากกว่านี้เป็นแน่
คิโยโนบุ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเอาของสดในนั้นออกมาทำ ซุป กับ กับข้าวอีกสองอย่างเตรียมเอาไว้ ่วางไว้บน โต๊ะ ทานข้าว ก่อนที่จะ เดินไปเอนตัว ลงบน โซฟา

....ขอหลับซักหน่อยก็แล้วกัน....

กว่าเชฟหนุ่มจะกลับมาถึงห้องก็ดึกแล้ว ชายหนุ่มผมยาวหมุนลูกบิดประตูแล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อมันไม่ได้ลอค เจเดินเข้าไปในห้อง เขาเห็นไฟที่ห้องครัวเปิดเอาไว้ และมีมื้อเย็นที่คิโยโนบุทำเอาไว้ให้ ก่อนจะเห็นปลายเท้าของคนที่นอนที่โซฟา ร่างสูงเดินเข้าไปหาแล้วโน้มตัวลง มือแกร่งจิ้มแก้มอีกฝ่ายเบาๆ
" ตื่นได้แล้ว "แต่ปฏิกริยา ที่ตอบรัยนั้นกลับแตกต่างไปจากทุกที ร่างบางสะดุ้งแทบจะเรียกได้ว่า ผวา
"................อ่ะ...จุนเหรอ" ใช้เวลาอยู่ชั่วอึดใจกว่าชายหนุ่มจะพูดชื่ออีกฝ่ายออกมาได ท่าทางที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายทำให้หนุ่มผมยาวขมวดคิ้ว
" นายกลับมาห้องฉัน แล้วคิดว่าเจอใครกัน? ลุกมากินข้าวได้แล้ว "เขาดึงแขนของอีกฝ่ายขึ้น ตรงที่เป็นรอยช้ำพอดี
"...............อึ่ก..." ชายหนุ่มส่งเสียงออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบกลบเกลือนท่าทางโดยการดึงแขนออกมาจากอีกฝ่าย "ไม่ต้องดึงก็ได้ ลุกเองได้หรอก "
นั่นยิ่งทำให้เจสงสัยแต่ก็ไม่ว่าอะไร เขาเดินไปที่โต๊ะอาหารอาหารหน้าตาที่เรียกได้ว่าพอกินได้แบบไม่ท้องเสียสำหรับเขานั้นทำให้เขาเงยหน้ามองคนที่กำลังเดินมา
"มีอะไรเหรอ... เอ่อ ถ้าเรื่องอาหาร...ฉันไม่ใช่มืออาชีพนะ" คิโยโนบุพูดพลางหัวเราะแล้ว นั่งลงที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามกับที่อีกฝ่ายยืนอย่ ก่อนจะเอื้อมไปแกะพลาสติกที่หุ้มจานชามออก
" แค่แปลกใจ ที่วันนี้นนายอุตส่าห์ทำให้กิน "หนุ่มผมยาวรวบผมตัวเองด้วยหนังยางที่ติดข้อมือเสมอ แล้วนั่งลงจัดการอาหารเย็นในเวลาดึกแต่ดวงตานั้นก็ยังไม่วายสังเกตท่าทางของอีกฝ่ายเป็นพักๆ
"ก็ฉันกลับมาถึงก่อน...ไม่รู้จะทำอะไร เลยทำกับข้าว " คิโยโนบุตอบพลางพุ้ยข้าวเข้าปาก "กินไม่ได้เหรอ... โทษทีนะ... คงแย่มาก "
" เปล่า ไม่ใช่เรื่องกับข้าว .. วันนี้มีอะไรรึเปล่า? " เจถามอีกฝ่ายไปตรงๆ ท่าทางแปลกๆนั้นเขารับรู้ได้ไม่ยากเลย
"เปล่านี่" คิโยโนบุตอบทันควัน เขารู้ และเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งท่าจะถามมาซักพักแล้ว
" แล้วไปทำงานเป็นไงมั่ง? "ชายหนุ่มถามก่อนจะด้วยซุปขึ้นซด
"ก็.... ดี ไม่มีอะไร เจอถามอะไรนิดหน่อย แต่ก็... อืม... โอเค" อาจารย์หนุ่มตอบ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นห่วง ถึงได้โกหกคำโตออกไป มือเรียวยกแก้วย้ำขึ้นดื่มอึกใหญ่ เพราะอากาศที่ร้อน แต่ตัวเองกลับใส่เสื้อแขนยาว ถึงกระนั้นก็ไม่กล้าถลกแขนเสื้อขึ้นอยู่ดี
" ไม่สบายเหรอ?ร้อนตายห่_ ใส่เสื้อแขนยาว "เจยังคงถามถึงสิ่งผิดปกติของอีกฝ่ายต่อไป
"อื้ม... คงงั้นมั้ง หนาวๆ " ถึงจะบอกไปว่าหนาวแต่บนหน้าผากกลับมีเหงื่อเม็ดโต  เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายชักจะถามมาก เขาไม่อยากให้เป็นเรื่องอีกถ้าเจรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือแค่รู้ว่าเขาไม่บอกอะไรล่ะก็ คงได้โวยวายใหญ่โตเป็นแน่ คิดได้แบบนั้นก็รีบหาทางหนีทีไล่ "ข้าวน่ะ กินไม่ลงใช่ไหม จะได้เอาไปทิ้ง " ว่าพลาง มือก็ เลื่อนไปจับถ้วยข้าวของอีกฝ่ายที่ยังวางนิ่งอยู่บนโต๊ะ

" ของตัวเองยังกินไม่หมดเลย "เจชี้ที่ชามข้าวอีกฝ่าย " ฉันถามแล้วนะ ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร "
"อื้ม... วันนี้ ไม่ค่อยหิวน่ะ " ชายหนุ่มพูดพลางวางตะเกียบลง

มื้อค่ำวันนั้นจบลงด้วยบทสนทนาเพียงไม่กี่คำ คิโยโนบุเหนื่อยมากจนทำให้ผล็อยหลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน  

................................

วันต่อๆ มาของการไปทำงานของคิโยโนบุก็หนัก...และหนักขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่า แทนที่ข่าวจะค่อยๆหายไปตามกาลเวลา เรื่องราวของเขาที่ในตอนนี้ เป็น เพียงแค่ "ข่าวลือ " กลับแพร่สะพัดไปในหมู่นักเรียนอย่างรวดเร็ว เด็กบางคนถึงกับไม่ยอมมาเข้าเรียนวิชาพละในคาบที่เขาสอน เช่นเดียวกับทุกๆเช้าที่บนกระดานดไจะมีคำด่าทอต่างๆ ปรากฏขึ้นแบบควานหาตัวคนทำไม่ได้ แต่อย่างน้อย เขาก็รู้ว่ามีคนๆนึงที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น ผู้รับผิดชอบ ในการก่อความไม่สงบในครั้งนี้
 
"มามิยะ... ครูเบื่อที่จะบอกเธอแล้วนะ ว่าเลิกทำให้ห้องเรียนวุ่นวายเสียที" คิโยโนบุพุดขึ้นต่อหน้าชั้นเรียน ความอดทนของเขาชักจะมีจำกัด เมื่อในวันนี้ตอนที่เขาเดินเข้ามาในห้อง มามิยะก็กำลัง พูดคุยกับเพื่อนด้วยเสียงอันดังว่า รู้ว่าตัวเขากำลังคบกับผู้ชายคนหนึ่งอย่  คิโยโนบุไม่รู้หรอกว่า เด็กหนุ่มคนนี้ไปได้ ข้อมูลนั้นมาจากไหน แต่การที่ มามิยะ เป็นคนที่มีเพื่อนร่วมแก๊งค์ด้วยกันเยอะ ทำให้สถานภาพของตัวเขาในโรงเรียนนั้นเริ่มดูไม่ดีเอาเสียเลย เขายังไม่อยากใหสถานการณ์ที่แย่อยู่แล้วในตอนนี้ต้องแย่ลงไปอีก...อย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่จากปากของเด็กอายุสิบแปดคนนี้

มามิยะ มองครูประจำชั้น แล้วหัวเราะ ก่อนจะยกเท้าขึ้นพาดหน้าต่างเหมือนที่ทำทุกวัน

"มามิยะ... ออกไปจากห้องเรียน เดี๋ยวนี้ !!!" ชายหนุ่มกระแทกแฟ้มลงกับโต๊ะ พลางชี้นิ้ว ไปทางประตทางออก
" ออกไปจากห้องเรียนเดี๋ยวนี้นะยะ~~~ "มามิยะทำเสียงเล็กเสียงน้อย ก่อนจะหัวเราะ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมแกงค์ของเขา เด็กหนุ่มทั้งห้าลุกขึ้นสะพายกระเป๋าแล้วออกจากห้องไป โดยที่มามิยะเดินกระแทกไหล่ครูประจำชั้นเป็นคนสุดท้าย
" โกรธเหรอตัวเอง~~~ หึ หึ หึ " เด็กนักเรียนหนุ่มเย้ยอาจารย์ประจำชั้นแล้วเดินออกไป ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของพวกเดียวกัน

"..........................." คิโยโนบุ กัดฟันแน่น  ก่อนจะหันมายิ้มให้กับ  นักเรียนทั้งหมด "วันนี้ ไม่มีเทสต์ย่อยตอนเช้านะ ครูจะออกไปก่อนแล้ว... พวกเธอก็อ่านหนังสือไปก่อน ที่อาจารย์คาบต่อไปจะเข้าก็แล้วกัน" ว่าพลางก็เก็บของ ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องทันที

คิโยโนบุรู้ดีว่าเด็กหนุ่มทั้งห้าคนจะไปสุมหัวกันอยู่ที่ไหน ชายหนุ่มรีบเดินตามไปพร้อมกับสมุดเตรียมสำหรับจดรายนามของนักเรียนทั้งห้าคน ขอแค่ถ้าจับได้ว่า สูบบุหรี่หรือหนีเรียนอีกครั้ง ทั้งห้าคนจะต้องโดนพักการเรียนอย่างแน่นอน

" ว๊าย กรี๊ด ตามมาเหรอตัวเอง? " มามิยะ เดินมาดักหน้าคนที่ตามหาเขาส่วนเพื่อนอีกสองคนก็เดินตามหลังอาจารย์หนุ่มแล้วจับแขนลอคเอาไว้ เมื่ออีกฝ่ายเดินตามพวกเขามาที่ด้านหลังตึกเรียนที่ลัับตาคน และอยู่ห่างจากห้องเรียนของนักเรียนทุกชั้นปี  

"มามิยะ! พวกนาย!!จะทำอะไร ปล่อย !" อาจารย์หนุ่มในชุดวอร์มสีเข้มเหมือนที่ชอบใส่ทุกครั้งที่มาถึงโรงเรียน พยายามสะบัดแขนของตัวเองออก
" เฮ้ย กูเคยเล่านี่ว่าคราวที่แล้ว กูได้จับก้นมันด้วย "มามิยะพูดเยาะเย้ยอีกฝ่ายต่อหน้าเพื่อนๆแล้วถามอย่างนึกสนุก " เอามาเล่นอะไรดีวะ? "
"งั้นก็คงจะไม่ได้จับอีกหรอก.... " คิโยโนบุ กัดฟันกรอด ก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเต็มแรง ก่อนจะกระทืบเท้าลงบนเท้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่จับแขนของเขาเอาไว้จนเด็กคนนั้น เผลอปล่อยมือ ก่อนที่จะศอกเข้าไปที่ลิ้นปี่ของเด็กอีกคน จนต้องปล่อยเขาเหมือนกัน
 
"ฉันมีสิทธิ์ป้องกันตัว" ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองหน้าของนักเรียนกร้าว สองมือยกขึ้นตั้งการ์ด ในใจหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิชาที่ีเรียนรู้มาจะช่วยป้องกันเขาจากภัยครั้งนี้ได้

" เฮ้ย  จัดการ! "มามิยะ บอกให้อีกสองคนที่กำลังสูบบุหรี่เข้ามาช่วยเขา ก่อนจะเกิดการตะลุมบอน แต่จะพูดให้ถูกนี่เป็นการจัดการแบบห้ารุมหนึ่งเสียมากกว่า
หมัดลุ่นๆ กระแทกเข้าที่ท้องของอาจารย์หนุ่มเสียจนตัวงอ เมื่อร่างนั้นค้อมลง กลับเจออีกหมัดกระแทกเสยจนหน้าหงายล้มลงไปกองกับพื้น ร่างบางลงไปนอน กุมท้องอยู่กับพื้น ความเจ็บแล่นลามไปตามช่องท้องคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแต่ก็ยังไม่มีเสียงร้องออกมาให้ได้ยิน

จนกระทั่งช่วงเปลี่ยนคาบเรียนที่มีนักเรียนลงมาเรียนคาบพละกันแล้วพวกมามิยะจึงรีบหนีออกไปทางด้านหลังโรงเรียน ทิ้งให้อาจารย์พละหนุ่มต้องนอนจุกในสภาพที่คลุกฝุ่นทั้งตัว

"แค่ก.... " คิโยโนบุ ยันตัวขึ้น เล็กน้อย ถ่มน้ำลาย ที่เจือไปด้วยเลือดออกจากปาก ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนแล้วปัดฝุ่นทั้งหลายออกจากตัว เดินฝ่ากลุ่มเด็กนักเรียนที่ยืนกันอยู่ตามทางเดินเรียกเสียงฮือฮาจากกลุ่มนักเรียนได้ไม่น้อย

ชายหน่มเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของอาจารย์ อาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาเป็นเสื้อเชิ๊ตกางเกงสแล็คที่ดูสะอาดตากว่าชุดวอร์มคลุกฝุ่น เมื่อครู่แน่นอน ก่อนจะเดินไปที่ห้องพักครู ใบหน้าที่มีรอยแดงช้ำ และเปื้อนเลือดทั้งจากมุมปากและเลือดกำเดา กับรอยถลอกตามแขนนั้น ทำให้อาจารย์ฝ่ายปกครองที่นั่งอยู่ที่ด้านในสุดของห้องต้องรีบลุกมาดูอาการของ ลูกชายของอาจารย์ใหญ่ ด้วยความรวดเร็ว

"อาจารย์ อิโนะอุเอะ! เป็นอะไรไปครับเนี่ย!? เกิดอะไรขึ้น?? " ชายสูงวัยถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย เมื่อคร่ที่ อาจารย์หนุ่มออกไปยังไม่มีสภาพแบบนี้
"ไม่มีอะไรครับ ถ้าอาจารย์นากาตะไม่ว่า วันนี้ผมขออนุญาตลาป่วยนะครับคาบของผม ยกเลิก ให้เด็กๆอ่านหนังสือเรียนกันในห้องไปก็แล้วกันนะครับ" ว่าพลาง ก็โค้งให้กับอีกฝ่าย ก่อนจะเดินไปคว้า กระเป๋า ของตัวเอง แล้ว เดิน ออกจาก ห้องพักครูนั่นไปทันที

....ต้องรีบกลับ... ทำแผล... ทายา... อะไรก็ได้...ไม่ซิ่ กลับห้องดีกว่า กลับไปที่ห้อง หมอนั่นจะได้ไม่รู้ ....

คิโยโนบุคิดวกวนซ้ำไปมาในหัว ตอนนี้ กลัวเพียงแค่ว่าคนรักจะรู้เรื่องแล้วต้องลำบากใจ


....................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH25+สารบัญใหม่ 21/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 21-09-2010 01:31:27
ไม่ไหวแล้วพีจัง น่าสงสารเกินไปแล้ว :m15:

ไม่ต้องทำสารบัญก็ได้มั่งพีจัง เค้าว่าให้เปิดไล่อ่านทีล่ะหน้าก็ดีแล้วนิ ส่วนตัวเค้าว่ามันน่าติดตามดีนะตรงที่
เวลาเราอ่านตามทันบทนึงเราก็จะได้อ่านเม้นของคนอื่นไปด้วยนะ มันสนุกดีออก แบบคนนี้คิดเหมือนเราเลย
เหมือนได้อารมณ์ร่วมอ่ะนึกว่าอ่านอยู่กับเพื่อนๆอ่ะ แต่ถ้าคิดแบบพีจังมันก็สะดวกดีนะแล้วแต่ล่ะกัน
ที่พีจังคิดมันดีที่สุดล่ะ o13
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH25+สารบัญใหม่ 21/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 21-09-2010 09:20:26
หมาหมู่มามิยะ ฮึ่มมมม!!!
แต่คิโยน่าจะบอกเจนะ ไม่กลับไปห้องเจเดี๋ยวเจก็คิดมากอีกหรอก
ยังไงเจก็ต้องรู้อยู่ดี..ความลับไม่มีในโลกหรอก T^T
รออ่านตอนต่อไปคร่า^^
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 26 22/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 22-09-2010 00:20:20
@@@Writer's Talk@@@

ไม่ไหวแล้วพีจัง น่าสงสารเกินไปแล้ว :m15:

ไม่ต้องทำสารบัญก็ได้มั่งพีจัง เค้าว่าให้เปิดไล่อ่านทีล่ะหน้าก็ดีแล้วนิ ส่วนตัวเค้าว่ามันน่าติดตามดีนะตรงที่
เวลาเราอ่านตามทันบทนึงเราก็จะได้อ่านเม้นของคนอื่นไปด้วยนะ มันสนุกดีออก แบบคนนี้คิดเหมือนเราเลย
เหมือนได้อารมณ์ร่วมอ่ะนึกว่าอ่านอยู่กับเพื่อนๆอ่ะ แต่ถ้าคิดแบบพีจังมันก็สะดวกดีนะแล้วแต่ล่ะกัน
ที่พีจังคิดมันดีที่สุดล่ะ o13

ขอบคุณค่ะ เราก็กะว่าทำสารบัญไว้เผื่อจะมีคนชอบแบบนั้นด้วยนะค่ะ แต่ส่วนตัวก็ อ่านๆไปก็ดีนะคะ

หมาหมู่มามิยะ ฮึ่มมมม!!!
แต่คิโยน่าจะบอกเจนะ ไม่กลับไปห้องเจเดี๋ยวเจก็คิดมากอีกหรอก
ยังไงเจก็ต้องรู้อยู่ดี..ความลับไม่มีในโลกหรอก T^T
รออ่านตอนต่อไปคร่า^^

มามิยะนี่ เจ้าเด็กเกเรค่ะ อย่างนี้มันน่านัก :beat: สั่งสอนนนน

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


....ต้องรีบกลับ... ทำแผล... ทายา... อะไรก็ได้...ไม่ซิ่ กลับห้องดีกว่า กลับไปที่ห้อง หมอนั่นจะได้ไม่รู้ ....

คิโยโนบุคิดวกวนซ้ำไปมาในหัวตอนนี้กลัวเพียงแค่ว่าคนรักจะรู้เรื่องแล้วต้องลำบากใจ

......................................


ทันทีที่กลับ ถึงที่ห้องพักของตัวเอง อาจารย์หนุ่มรีบเอาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมา ทำแผลให้กับตัวเองทายาและทานยาแก้ปวด ลดอาการบวมที่อาจจะเกิดขึ้นและได้แต่หวังว่าร่องรอยจากการถูกรุมทำร้ายนี้ จะมีเหลืออยู่ไม่มากนักอาจจะซักวันถึงสองวันกว่ามันจะหาย ระหว่างนั้นก็ขอแค่จุนจะไม่โวยวายและตามมาดูเขาถึงที่ห้อง ก่อนจะรู้ตัวว่าการที่ตัวเองบาดเจ็บในโรงเรียนนั้น มีเด็กนักเรียนหลายคนเห็นแม้จะไม่เห็นเหตุการณ์ และการที่เขารีบร้อนมากจนไม่ได้หลบสายตาของเด็กนักเรียนนั้นคงจะทำให้ข่าวของเขากระพือหนักเข้าไปอีกคิดแบบนั้นก็ยิ่งปวดหัว
 
"โอ้ย..... " ทันใดความเจ็บปลาบก็แล่นลามขึ้นมาตามขาข้างที่เคยเจ็บ ทำเอาคนที่กำลังจะล้มตัวลงนอนบนเตียงต้องรีบกะเพลกไปที่ตู้เย็นทันที ไอซ์แพ็คของเขาคงอยู่ที่นั่น ท้ายที่สุดแทนที่จะได้นอนบนเตียงชายหนุ่มต้องไปนอนอยู่บนโซฟา แทนเพราะขาของเขาไม่อำนวยให้เขาเดินไปไหนได้ไกลนัก ไอซ์แพ็คถูกวางโปะเอาไว้แบบนั้น ก่อนที่เขาจะหลับไปด้วยฤทธิ์ยา

..... ขอโทษนะ จุน.....
......ฉัน ต้องโกหกนายอีกแล้ว....



---RRR----

เสียงโทรศัพท์มือถือของอาจารย์หนุ่มดังขึ้นที่หน้าโต๊ะรับแขกในตอนดึก
"อืม..... " เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ทำให้คนที่นอนอยู่ต้องงัวเงียลุกขึ้นมาจากฤทธิ์ยา มือเรียวสะเปะสะปะคว้าเอาเครื่องมือสื่อสารที่ทั้งร้องทั้งสั่นอย่บบนโต๊ะ "ฮัลโหล.... " ชายหนุ่มไม่ได้ ดูแม้แต่ชื่อของคนที่โทรเข้ามา
" อยู่ไหน? " เสียงทุ้มห้าวนั้นกรอกลงไปในโทรศัพท์อย่างไม่สบอารมณ์
"อืม..อยู่ที่ห้อง" คิโยโนบุตอบกลับไปเสียงนั้นงัวเงียไม่น้อย "พอดีวันนี้เหนื่อยๆ น่ะ ขับไปถึงโน่นไม่ไหวเลย...นอนอยู่นี่ ขอโทษนะไม่ได้โทรไปบอก"
" อืม อยู่นั่นล่ะ "เจตอบกลับมา ก่อนจะวางสายไปทันที
"จุน?....เฮ้ย...จุน" คิโยโนบุตกใจไม่น้อย เจออีกฝ่ายตัดสายเข้าไปแบบนี้ อีกฝายคงกำลังเดินมายังอพาร์ตเ้ม้นท์ของเขาเป็นแน่


--ปิ๊งป่อง---

เสียงออดที่ดังขึ้น ทำให้เจ้าของห้องสะดุ้งขึ้นจากโซฟาทันที
"ใครน่ะ...จุนเหรอ" คิโยโนบุ ตะโกนถามออกไป ก่อนจะรีบกะเพลกกึ่งจะพยายามวิ่งไปที่ห้องน้ำ...มันเป็นอย่างเดียวที่นึกได้ เงาที่สะท้อนบนกระจกในห้องน้ำนั้นมีรอยช้ำนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน มือเรียวคว้าผ้าขนหนู ออกมาคลุมศรีษะ ทำทีเหมือนเพิ่งจะอาบน้ำสระผมเสร็จ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู

"หวัดดี... " ชายหนุ่มเอ่ยทัก คนที่มาเยือน
" ไง .. เหนื่อยเหรอ? "มือแกร่งนั้นจับผ้าขนหนูที่ปิดหน้านั้นไว้ ทำท่าจะเช็ดผมให้อีกฝ่ายแต่ร่างเล็กกว่าของอาจารย์หนุ่มกลับหลบสัมผัสนั้น
"เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก ทำเองได้  เข้ามาซิ่" ก่อนจะเดินนำอีกฝ่ายเข้าไปด้านในแล้วเลี่ยงเดินกระเพลกเล็กๆไปที่ห้องครัว"เพิ่งเลิกงานล่ะซิ่... เอากาแฟไหม "
" ไม่ต้อง นั่งเถอะ .. นายไปทำอะไรมา? " เจเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ แล้วเข้าเรื่องทันที ท่าทางแปลกๆนั้นไม่ใช่แค่เหนื่อยแน่นอน" ที่โรงเรียนน่ะ.. "
"อ้อ...ไม่มีอะไรหรอก...แค่เหนื่อยน่ะ ลองวิ่งกระโดดข้ามรั้วซัก สี่ห้า คาบดูไหมล่ะ" ว่าพลางก็หัวเราะ เขาโกหกอีกฝ่ายอีกแล้ว วันนี้เขากลับมาตั้งแต่คาบแรกเลยด้วยซ้ำ

" ทำกับข้าวไว้เพียบเลย ถ้าจะไม่กลับก็ส่งข้อความมาก็ได้นี่ เสียดายของ "หนุ่มผมยาวบ่นอย่างไม่จริงจังนัก แล้วกวักมือเรียก" ทายารึยัง? มานั่งนี่มา "
"อ่ะ....อื้ม ก็กลับมากินยาแล้วก็หลับไป..... "ชายหนุ่มว่าพลาง นั่งลงใกล้ๆกับอีกฝ่ายตามที่อีกฝ่ายบอก "ก็จนนาย โทรมานี่ล่ะ"  "โทษทีน้า...ให้ทำกับข้าวรอ "ว่าพลางก็ยิ้ม ก่อนจะตบไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆ "ไว้พรุ่งนี้จะไปกินนะ"
"ทายาให้เอาไหม? "เจดึงอีกฝ่ายมากอดเอาไว้แล้วจูบที่ไหล่เบาๆ
"ไม่..ไม่เป็นไร ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว " หากเป็นปรกติเขาคงไม่ว่าอะไรถ้าอีกฝ่ายจะเข้าใกล้เขาแบบนี้ แต่วันนี้ในวันที่มีแผลเต็มตัวแบบนี้แล้ว ไม่อยากจะให้เห็นหรือแตะต้องเอาเสียเลย อาจารย์หนุ่ม ขยับตัวออกจากร่างของอีกฝ่าย
"นายมีอะไรที่โรงเรียนรึเปล่า? ฉันถามครั้งที่สองแล้วนะ "มือแกร่งนั้นดึงมืออีกฝ่ายเอาไว้ แล้วทำเสียงจริงจัง " อย่าให้ฉันต้องรู้จากคนอื่น " มือของเชฟหนุ่มบีบลงบนแผลถลอกและ รอยช้ำที่เขาอุตส่าห์ ใส่เสื้อแขนยาวทับเอาไว้ คิโยโนบุ ต้องเม้มริมฝีปากแน่น

...โอ้ย....

"ไม่ได้มีเรื่องอะไร.... ไม่มีอะไรเป็นเรื่อง ทั้งนั้นล่ะ"
" งั้น ก็ไปพักเถอะ คืนนี้ นายคงอยากอยู่คนเดียว "เจขยี้ผมอีกฝ่ายอย่างที่มักจะทำเป็นประจำแล้วลุกขึ้นแต่มือเรียวกลับจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้
"พรุ่งนี้หยุดไม่ใช่เหรอ..."
" นายทำเหมือนไม่อยากให้ฉันแตะต้อง ไม่ใช่เหรอ? "หนุ่มผมยาวถามพลางจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง คำพูดของอีกฝ่ายนั้นทิ่มแทง เขาผิดเอง ที่ปกปิดอีกฝ่ายเรื่อง ของ "การต่อต้าน" ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน
"ฉัน...แค่อยากให้นายอยู่ข้างๆ.... "ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของอีกฝ่าย

ผ้าขนหนูที่ใช้คลุมศีรษะเมื่อครู่ เลื่อนตกลงกับพื้นห้อง ใบหน้าได้รูปที่เชฟหนุ่มได้เห็นนั้น มีรอยช้ำจ้ำใหญ่ อยู่ที่มุมปาก
" นายจะบอกว่า .. นี่หกล้มตอนที่สอนรึเปล่า? " มือแกร่งนั้นแตะแก้มอีกฝ่ายเบาๆ แล้วถามออกมา

 ..... อย่าให้ฉันรู้จากคนอื่น .. อย่าโกหกฉัน...


"ฉัน.........." คิโยโนบุหลับตาลง น้ำเสียงที่ดังออกมานั้นสั่นเล็กๆ มือเรียวจับมือของอีกฝ่ายก่อนจะกุมเอาไว้แน่น  "ที่โรงเรียน... ไม่ค่อยให้ความต้อนรับ ครู...ที่....ยกเลิกงานแต่งแล้วมาอยู่กับผู้ชายนักหรอก จุน"
" ใคร? "เสียงนั้นเรียบเย็นอย่างที่คิโยโนบุไม่เคยได้ยิน
"...จุน... ขอล่ะ นายทำอะไรไม่ได้หรอก" คิโยโนบุก้มหน้าลงมือเรียวที่บีบมือนั้นเอาไว้แน่นกว่าเดิม "ฉัน... ไม่เป็นอะไรหรอกน่า... "
" ฉันทำได้..นายรู้ "เสียงนั้นยังคงเรียบเย็น " แต่นายไม่ให้ทำใช่ไหม? "ชายหนุ่มส่ายหน้า
"ไม่...อย่าทำเลย....นายทำอะไรไม่ได้หรอก"

...พวกนั้นเป็น แค่เด็ก....
...ฉันไม่อยากให้นาย ต้องลงมามีเรื่อง....
...เพราะฉัน...


" ฉันจะทำ ถ้ามันเกิดขึ้นอีก ฉันจะทำ! " น้ำเสียงนั้นจริงจังจนอีกฝ่ายยังต้องตกใจ จริงที่เจเป็นเนื้อร้ายของโรงเรียนสมัยเรียน จริงที่เจขี่มอเตอร์ไซค์แข่งขันและเก็บเงินค่าพนัน เรื่องแบบนี้เขาทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว
"จุน...นายน่ะ คงไม่อยากทำให้ตัวเองเสียหรอกใช่ไหม...นายมาไกลเกินกว่าจะทำแบบนั้นแล้ว แค่นี้ฉันก็ทำให้นายปั่นป่วนมามากพอแล้วล่ะ"
" คิโย... ฉันก็แค่อยากจะปกป้องนายบ้าง ไม่เข้าใจรึไง? จะวิธีไหน จะทำยังไงฉันรู้ว่าต้องทำยังไง "เจยังคงยืนกรานในสิ่งที่พูด " ขออย่างเดียว ... อย่าโกหกฉัน อย่าเก็บสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้คนเดียว  ตอนนี้ไม่มีนายแล้ว มีแต่เรา  "
"ถ้าฉันบอกนาย...แต่ฉันขอให้นาย อยู่เฉยๆ นายจะทำให้ฉันได้ไหมล่ะ" คิโยโนบุยื่นเงื่อนไขของตัวเองบ้าง
" ไม่รับปาก "ชายหนุ่มตอบกลับไปทันที ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เขาจะตอบกลับไปคงมีแต่ได้กับไม่ได้เท่านั้น แต่ตอนนี้เขาโตแล้ว คำตอบจึงเปลี่ยนไปด้วย
"........ ฉัน......ก็คงบอกนายไม่ได้....แต่ก็เพื่อตัวนายด้วย" คิโยโนบุ ตอบ ก่อนจะดึงมือของอีกฝ่ายขึ้นมา จูบเบาๆ "มือนี่ เอาไว้ ทำกับข้าว ให้ความสุขคนน่ะ ดีที่สุดแล้ว"
" แค่ให้นายมีความสุขนั่นพอแล้ว "เจดึงอีกฝ่ายมากอดเอาไว้ ก่อนจะนึกได้แล้วปล่อยมืออก" โทษนะ เจ็บรึเปล่า? "
"นิดหน่อย... "คิโยโนบุพูดแม้ว่าความจริงจะเจ็บกว่านั้นมาก "ฉัน... เองก็อยากให้นายมีความสุข ... จุน อยากให้เรา มีความสุข" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลขยับไปแตะริมฝีปากกับริมฝีปากของอีกฝ่าย พวกเขาไม่ได้สัมผัสแบบนี้มานานพอสมควร ก่อนจะต้องนิ่วหน้า เมื่อเจ็บจนแทบน้ำตาไหล  "โอย.... " อาจารย์หนุ่มละออกมา

" แม่ง "เจสบถออกมาแล้วจับอีกฝ่ายให้ตามไปที่ห้องนอน " ดูแผลซิ "เขาว่าก่อนจะจัดการถอดเสื้ออีกฝ่ายออก
"เดี๋ยว จุน ไม่... " คิโยโนบุร้อง ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเสื้อถูกดึงออกจากตัว รอยช้ำปรากฏให้เห็นทั่วไปหมด ทั้งบนท่อนแขนที่มีทั้งแผลถลอกเก่า...ใหม่...  และรอยแดงช้ำใหม่ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นวันนี้ บนแผ่นอกเรียบหน้าท้องรอยช้ำที่ตัดกับผิวขาวของอาจารย์สอนพละคนนี้อย่างเห็นได้ชัด
" จะไม่ให้ฉันทำอะไรเลยรึไง? "เจถามเสียงเครียดเมื่อเห็นรอยช้ำนั้นก่อนจะมองหายาทาแก้ฟกช้ำ เขาถอนหายใจเป็นพักๆ ขณะที่ละเลงยาลงบนผิวกายอีกฝ่าย
"ฉัน......ไม่อยากให้นาย...ต้องเดือดร้อนอีก... " เสียงคิโยโนบุพูดแผ่วเบา  เสียงสูดลมหายใจ ดังขึ้นเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่แผล  "......พวกนั้น......เหมือนนาย.... เมื่อก่อน.... " ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายได้ยินหรือเปล่าแต่การที่มองเห็น มามิยะ เด็กเกเรในห้องเรียนนั้นเหมือนได้มองเห็นภาพในอดีตของคนตรงหน้า เขาอยากจะให้โอกาสเพราะแม้แต่ตัวของจุนเองก็ยังกลับใจทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีมาจนถึงตอนนี้

" คิโย..นายเลือกเอา    "เจพูดเสียงเรียบ " พรุ่งนี้ ยื่นใบลาออกซะ หรือจะให้ฉันเอาเลือดหัวพวกมันออก "
"ฉันรักในสิ่งที่ฉันทำเหมือนนาย ถึงแม้ว่ามันจะไม่เท่ากับการที่ฉันเคยวิ่งได้.... " คิโยโนบุพูดขึ้นเสียงเบา "มันคงจะยากที่จะเลือก แต่ถ้าฉันเลือก นายจะยังทำในสิ่ง ที่นายคิดจะทำหรือเปล่า "
" ................... ฉันพูดไปแล้ว ไปลาออกซะ ไม่งั้น ฉันจะจัดการไอ้พวกเหลือขอนั่นเอง "เจยื่นคำขาด
"....................." เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ จากร่างบาง ก่อนจะจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของอีกฝ่ายไว้หลวมๆ"ถ้ามือนายไม่เลอะยานะ ฉันคงจะจูบมัน แล้วบอกว่า ฉันรักมือของพ่อครัวคนนี้มากขนาดไหน.... " เจนั่งลงตรงหน้าอีกฝ่ายแล้วจับท้ายทอยนั้นเอาไว้ ก่อนจะจูบลงบนริมฝีปากช้ำเบาๆ
" ฉันอยากจะฆ่ามัน .. มันทำแบบนี้ ฉันก็อดกอดนายซิ "
"นายก็ยังกอดฉันได้นี่... "คิโยโนบุกระซิบตอบเสียงเบา สิ่งที่อีกฝ่ายทำนั้นอ่อนหวานกว่าครั้งไหนในความคิดของเขา นั่นทำให้ใจของชายหนุ่ม พองโตอย่างบอกไม่ถูก
" นายเจ็บ "เจอยากจะกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่นๆแต่ก็ทำไม่ได้
"กอดซิ่...ฉัน ไม่ใช่พวกฟูมฟายนี่"  มือเรียวโอบอีกฝ่าย เข้ามาหาตัว
" เป็น มาโซ รึไง? "เจถามออกมาอย่างขำๆ พลางสวมกอดอีกฝ่ายเอาไว้หลวมๆ  " เจ็บก็บอกนะ "
"อืม... เจ็บแล้วจะบอก" ชายหนุ่มพูดพลางจูบอีกฝ่ายที่ขมับเบาๆ เจปล่อยมืออกทันทีที่ถูกอีกฝ่ายจูบ
" วันนี้ไม่ดีกว่า .. ช้ำทั้งตัวแบบนี้น่าทำที่ไหนกัน "เขาบอกแล้วดันอีกฝ่ายให้นอนลงกับเตียง " นอนเถอะ "
"ขอโทษนะ... ที่ตัวมีแต่แผลแบบนี้" อาจารย์หนุ่ม ว่าพลางขยับหมอนหนุน
" ฉันไม่บ้าทำอะไรแบบนั้นหรอก .. นอนซะ "เจเอนตัวลงข้างๆอีกฝ่ายแล้วลูบผมนั้นเบาๆ
"อืม...อยู่กับฉันนะ จุน....อยู่ตรงนี้ล่ะ" ริมฝีปากบางพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหลับตาลง  เจเอนตัวลงข้างๆอีกฝ่ายแล้วลูบผมนั้นเบาๆ

........................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 26 22/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 22-09-2010 00:27:25
แหมมมม :o8:จุนล่ะก็ นานๆทีขอแบบsmบ้างไรบ้าง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 26 22/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 22-09-2010 02:23:55
เจน่ารัก >///<
ห่วงคิโยมากมาย
คิโยเองก้อนะ....ในที่สุดก้อความแตกจริงๆจนได้ จริงๆน่าจะบอกเจตั้งแต่ถูกมามิยะลวนลามนะ เผื่อเรื่องจะไม่ลามขนาดนี้(รึไม่ก้อแย่กว่านี้ ฮ่าๆ)
รออ่านตอนต่อไปคร่า^^
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 26 22/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 22-09-2010 14:58:22
ตอนนี้จุนก็รู้สาเหตุที่คิโยแปลกๆไปแล้วซิ
ก็ดีน่ะทั้งคูจะได้ช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
อ่านตอนนี้แล้วซึ้งกับความรักของทั้งคู่จริงๆ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 27 23/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 23-09-2010 01:23:24
@@@Writer's Talk@@@

วันนี้มาแบบมึนๆนะคะ ไม่ได้ตอบคอมเม้นต์ แต่ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
และเห็นใจกับความรักของ จุนกับคิโยนะคะ  :pig4:

///////////////////////////////////////////////////////

เสียงนาฬิกาจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเมื่อยามเช้ามาถึง ผ้าม่านในห้องที่ไม่ได้ถูกใช้งานมานานหลายวันนั้นถูกดึงเปิดออกเมื่อเจ้าของห้องรู้สึกตัวและลุกขึ้นยืนที่ข้างเตียง รอยแผลเป็นจ้ำนั้นยังไม่เลือนหายไป ตรงกันข้ามมันดูเข้มขึ้นแต่เจ้าตัวก็รู้ดีว่ามันจะหายไปในไม่ช้า หากว่าความคิดต่อต้านที่เกิดขึ้นในที่ทำงานของเขามันจางหายไปด้วยก็คงจะดี
 
"จุน...เดี๋ยวฉันจะไปทำงานแล้วนะ" คิโยโนบุพูดขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปแปรงฟันในห้องน้ำ  ส่วนคนที่ถูกปลุกก็ลุกขึ้นมาเดินเข้าไปในครัวของอีกฝ่าย รื้อของในตู้เย็นมาทำอาหารเช้าโดยไม่ถามอะไร
"นายไม่ต้องรีบก็ได้นะ หยุดไม่ใช่เหรอ" ไม่นานนัก คิโยโนบุก็เดินออกมาจากห้องนอน เตรียมพร้อมจะไปทำงานเหมือนเช่นทุกวัน
" นั่งสิ.. "เจว่าก่อนจะรินกาแฟใส่แก้วให้อีกฝ่าย " นายเอง..ไม่ต้องรีบก็ได้ แค่ไปลาออกไม่ใช่เหรอ? " เขาถามย้อนเป็นการย้ำในสิ่งที่อีกฝ่ายรับปากเขาไปแล้วเมื่อคืน " กินก่อน เดี๋ยวไปส่ง "ชายหนุ่มจัดอาหารเช้าแบบฝรั่งใส่จานให้อีกฝ่ายแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

"ฉัน............. " คิโยโนบุอ้าปากจะพูดแต่ก็รู้ดีว่าต่อให้พูดอะไรต่อไป... มันก็คงไม่สามารถทำอะไรให้มันดีขึ้นได้อยู่ดี

เช้าวันนั้นรถยนต์สีดำของอาจารย์อิโนะอุเอะก็ขับเข้ามายังที่จอดรถของอาจารย์เหมือนทุกวันแต่ที่ต่างออกไปคือวันนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว และคนที่มากับเขาก็ไม่ใช่หญิงสาวสวยที่เคยเป็นคู่หมั้น  แต่กลับเป็นชายหนุ่มผมยาวที่มัดผมเอาไว้ครึ่งหนึ่ง เขาสวมเสื้อยีนส์สีซีดทับเสื้อคอวีสีเข้มกับกางเกงยีนส์ขาดๆ ทั้งสองคนเลี้ยวรถไปจอดอย่างเร็ว เรียกความสนใจของเด็กนักเรียนและอาจารย์ที่กำลังมาทำงานได้ทันที

"จุน...นาย....เอ่อ ขอบใจนะที่มาส่ง แต่ฉันว่านายกลับไปดีกว่า ไม่รู้ซิ่ฉันคิดว่าการมาลาออกแล้วจะออกไปวันนี้เลยมันก็ยังไงๆอยู่ .... " คิโยโนบุยังดูจะเป็นห่วงคนรอบข้าง น่าแปลกทั้งๆที่ตอนที่เขาดึงดันจะเข้าไปหาเชฟหนุ่มคนนี้ นั้นเขากลับไม่ห่วงอะไรเลยด้วยซ้ำ
" ฉันรอได้ .. เพียงแต่ว่า ถ้านายไม่ไปจัดการแล้วออกมาเลย ฉันจะเดินเที่ยวแถวๆนี้ เผื่อจะเจอไอ้เด็กเหลือขอนั่นด้วยก็น่าจะดี "หนุ่มผมยาวยักไหล่ก่อนจะเปิดประตูรถออกมา เขาไม่สนใจเลยซักนิดว่าจะถูกใครมองอยู่หรือเปล่า
".... โรงเรียน....นะจุน ให้คนไม่มีกิจเข้าไม่ได้หรอก.... " คิโยโนบุเดินไปดึงแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่าย "ฉันไม่อยากให้นายมีเรื่องและฉันคิดว่าฉันคงจะทำได้ดีกว่า ถ้า... ฉันไม่ต้องห่วงนายตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง....ครูใหญ่" เสียงนั้นเบาลงเมื่อพูดถึงบุคคลที่สามซึ่งก็คือ พ่อของเขาเอง"ฉัน... ไปล่ะ " ชายหนุ่มว่าก่อนจะปล่อยมือออกจากแขนของอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่ามีคนมองมาเยอะขึ้นทุกที
 
ไม่ได้มีแค่สายตาเท่านั้นมันยังตามมาด้วยเสียงซุบซิบนินทาจนเมื่ออาจารย์พละหนุ่มจากไป หนุ่มผมยาวก็หันไปตามต้นเสียงทันที

" ไม่ทราบว่ามีอะไรสงสัยเหรอครับ? "เสียงห้าวนั้นถาม ทำเอาคนที่ยืนดูพวกเขาอยู่แยกย้ายกันไปหมด

.........................................

ชายหนุ่มเดินเข้าไปที่ห้องของอาจารย์ใหญ่ โดยที่ไม่ลืมที่จะแวะที่ห้องพักครูเพื่อฝากชั่วโมงโฮมรูมกับอาจารย์ท่านอื่นเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยทั้งในเรื่องของ ใบหน้าที่บวมช้ำและชายหนุ่มที่นั่งรอเขาอยู่ข้างล่าง

ก๊อกๆ

อาจารย์หนุ่มทำใจอยู่นานเมื่อเดินมาถึงหน้าประตูไม้สีเข้มนั้นก่อนที่จะยกมือขึ้นเคาะ

"ขออนุญาตครับ " เขาบิดลูกบิดเข้าไปด้านใน

" เชิญ "ชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแท้ๆของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันก็เป็นเจ้านายด้วย อนุญาตให้คิโยโนบุเข้ามาในห้อง " เข้ามาแล้วปิดประตูด้วย "เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่บวมช้ำของลูกชายนิ่ง ชายหนุ่มโค้งให้เล็กน้อย ก่อนที่จะปิดประตูเอาไว้ที่ด้านหลัง แล้ว เดินไปยืนอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่าย
"สวัสดีครับ...."
" ไม่ต้องพิธีมากหรอก นั่งสิ "เขาบอกเสียงเรียบๆ ใบหน้านั้นไม่ได้มีสีหน้าแห่งความยินดีที่ได้พูดคุยกับลูกชายอีกครั้งแม้แต่น้อย หลังจากในงานแต่งงานวันนั้น
"ผม... อยากจะขอโทษ...พ่อ... ในเรื่องที่เกิดขึ้น " คิโยโนบุ ไม่แน่ใจนักว่า เขาเลือกหัวข้อขึ้นมาพูดถูกต้องหรือเปล่าสำหรับคราวนี้ ตามปรกติแล้ว ไม่ว่า เขาจะพูดอะไร เป็นไม่ถูกใจผู้เป็นพ่อไปเสียหมด อีกฝ่ายมักจะบังคับให้เขาเปลี่ยนความคิด... ด้วยคำเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยอำนาจเสมอ

"ผม...ไม่อยากให้มันเป็น แบบนี้นัก ผมรู้ว่า เอาแต่ใจตัวเอง และทำให้พ่อ ต้องเสื่อมเสีย "
" ถ้าอยากจะขอโทษฉัน ก็ไปขอคืนดีกับหนูฮิโตมิ แล้วก็ไปขอโทษ อิชิดะซัง ซะ "ผู้อำนวยการโรงเรียนดังว่า ชายสูงวัยหรี่ตาพิจารณาใบหน้าของูกชายที่บวมช้ำ  " แต่ยังไงก็ทำไม่ได้ใช่ไหม? "
"ครับ... เป็น ครั้งนี้เท่านั้น...ที่ผมต้องขอปฏิเสธ" ชายหนุ่มพูดด้วย น้ำเสียงที่พยายามทำให้มั่นคง "ผม...อยากให้พ่อ...ยินดีกับผมด้วย"
" แกไปอยู่กินกับมันแล้วใช่ไหม? .. ฉันอุตส่าห์จับพวกแกแยกกันตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน แกก็ยัง.. "อิโนะอุเอะผู้พ่อตบโต๊ะดังปัง

คำพูดของอีกฝ่ายทำให้คนที่ฟังอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เชื่อหู เขาคิดมาตลอดว่าพ่อของเขา จำเป็น จะต้องย้ายและพาเขามาที่นี่เพื่อเข้ารับตำแหน่ง

"พ่อจงใจ ?.... ตอนนั้น พ่อจงใจ อย่างนั้นเหรอ?"
" แกคิดว่าฉันที่เป็นพ่อของแกจะไม่รู้รึไง ไอ้เรื่องวิปริตนั่นน่ะ ใช่ ฉันจงใจเอาแกมาอยู่เมืองนี้ มันก็ยังตามมาทำลายทุกอย่าง "
"........." ริมฝีปากเรียวเม้มเข้าหากันแน่น ยิ่งทำให้แผลที่เจ็บระบมอยู่แล้ว ยิ่งเจ็บมากขึ้นไปอีก แต่นั่น ไม่ได้เทียบเท่า ความเจ็บที่อยู่ในใจของเขาเลยแม้แต่น้อย "พ่อบังคับผม.... บังคับมาตลอด... ไม่ว่า จะคิดจะทำอะไร... " มือเรียวนั้น กำแน่น ก่อนจะกระแทกลงบนโต๊ะ  "เพียงแค่ผมวิ่งไม่ได้ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่รู้สึกอะไรนะ!!"

ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาถูกอีกฝ่ายยัดเยียดความคิดชักนำไปในทางที่เขาไม่ต้องการมาโดยตลอด ทั้งๆที่อยากจะหนีไปให้ไกล แต่แม้แต่การเลือกเรียน มหาวิทยาลัย ก็จำเป็นต้องมหาวิทยาลับที่อีกฝ่ายเลือก การทำงานก็ยังต้องอยู่ภายใต้ การบังคับบัญชาของอีกฝ่ายอีกเช่นกัน กี่ปีมาแล้วที่เขาทน...

"ผมไม่ทนพ่ออีกต่อไปแล้ว... "

ทั้งๆที่ในตอนแรกอยากจะพูดด้วย อย่างนอบน้อมใจเย็นและอยากจะยืดเวลาต่อไปอีกด้วยว่าสงสารนักเรียนที่อยู่ ๆจะต้องมาขาดครู แต่ในตอนนี้มันคงจะทนไม่ได้เสียแล้ว

"ผมขอลาออก"

" ............................. " ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย มีเพียงเสียงลิ้นชักที่ถูกดึงออกมา พร้อมกับซองสีขาวหนึ่งซอง  เขาเลื่อนมันไปที่ตรงหน้าอีกฝ่าย
" ในฐานะอาจารย์ใหญ่ ที่ผ่านมาก็ขอบใจมาก "

ชายหนุ่มรู้ดีว่าในซองนั้นคืออะไร  เงินเดือนล่วงหน้า ตามกฏหมายอีกฝ่ายเตรียมไว้แบบนี้คงจะคิดเรื่องนี้มาซักพักใหญ่แล้ว ชายหนุ่มโค้งลง ก่อนจะรับซองนั้นมาถือเอาไว้

...แน่ล่ะ คงไม่มีใครอยากจะให้ ครูแบบนี้มาสอนเด็กของเขาหรอก ...

"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มโค้งอีกครั้งก่อนจะเดิน ออกมาจากห้องนั้นทันทีเขาไม่แน่ใจนักว่าจะได้พบอีกฝ่ายอีกไหม แต่แน่ใจว่าบ้านอิโนะอุเอะคงจะไม่มีชือของลูกชายคนโตคนนี้อีกแล้ว

คิโยโนบุเดินออกมาจากห้องของครูใหญ่ พลางถอดแจ๊คเก็ตและปลดกระดุมบนของเสื้ออก เขารู้สึกเหมือนกับว่าจะหายใจไม่ออกมันเป็นเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีแต่ มันเจ็บปวดมากเหลือเกิน ..กับความจริงที่พ่อของเขา จงใจ ทำให้เขาต้องแยกจาก "เพื่อน" คนเดียวที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ได้รับการสานต่อใครจะรู้กันเล่าว่าต่อมามันทำให้มีคนเจ็บไปอีกกี่คน...เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองออกไปนอกตัวตึก ชายหนุ่มผมยาวยังยืนอยู่ที่นั่น ภาพของคนรักทำให้อดที่จะถามตัวเองไม่ได้

....แล้วจะเป็นยังไงต่อไป...ทางที่เราเลือก....มันจะเป็นยังไง ต่อไป...

ชายหนุ่มเดินลงไปตามบันได ลงไปยังชั้นล่างชายหนุ่มร่างสูง ... คนรัก... ของเขากำลังรอเขาอยู่

" เรียบร้อยดีไหม? "เสียงทุ้มห้าวนั้นถามพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย ขณะที่เดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
"......อืม......" คิโยโนบุพยักหน้าลงเล็กน้อย
"ก็เรียบร้อยดี..ได้นี่มาด้วย " ว่าพลางก็ชู ซองเงินเดือนล่วงหน้าให้อีกฝ่ายดู พลางยิ้มแห้งๆ
" เก็บไว้ดีๆละกัน ไม่ต้องใช้หรอก .. เงินเดือนเชฟน่ะ พอกินอยู่หรอกน่า "มือแกร่งนั้นลูบผมอีกฝ่ายเป็นเชิงปลอบใจ เขารู้ดีว่าในตอนนี้ คิโยโนบุเองก็ยังรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ เขาอยากจะปลอบแบบนี้โดยไม่ต้องสนใจสายตาที่มองมา

และสายตาของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ... มามิยะ ...

คำพูดนั้นทำให้คิโยโนบุหลับตานิ่งก่อนจะมองหน้าของอีกฝ่ายแล้ว หันมองไปตามสายตาที่อีกฝ่ายมอง.... คิโนโยบุถอยออกจากเชฟหนุ่มเล็กน้อย
"มามิยะ...ทำไมเธอไม่ไปเข้าเรียน "ด้วยความที่ ..เคย... เป็นครูชายหนุ่มหันไปเตือนเด็กหนุ่มคนนั้นทันที  เด็กหนุ่มเกเรคนนั้นไม่ตอบคำถาม ใบหน้าที่เป็นรอยช้ำจากการชกต่อยกับอีกฝ่ายเมื่อวานมันก็มีไม่แพ้กัน เขาหันไปมองหน้าหนุ่มผมยาวที่ยืนอยู่กับอาจารย์ประจำชั้นของเขา
"มามิยะ..หมอนี่รึไง? "เจสบตาเจ้าเด็กเกเรคนนั้น ก่อนจะถามคนรักของเขาเสียงเรียบ
"........ไปเข้าห้องเรียนซะ มามิยะ...ฉันขอเตือนเอาไว้ก่อน" คิโยโนบุยกมือขึ้นเตือน "กลับไปซะ ในฐานะที่เคยเป็นครูเป็นลูกศิษย์กัน "
" ครูจะลาออกรึไง? "เด็กหนุ่มหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ..เพราะเขารู้ดีว่ามันเกิดขึ้นเพราะเขา..
"ฉันลาออกแล้ว... " ชายหนุ่มตอบ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองใบหน้าของเด็กหนุ่ม น่าแปลกที่มันเป็นสีหน้าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดเวลาที่เคยสอนอีกฝ่ายมา "และฉัน....อยากให้นาย กลับไปเรียนซะ เดี๋ยวนี้... " อดีตอาจารย์หน่ม เอ่ยเตือน เขาในตอนนี้ ไม่สามารถหยุด ความคิดของคนที่ยืนอยู่ข้างๆได้ และเช่นเดียวกันตัวเขาเอง ก็มีเรื่องที่อยากจะสะสางกับอีกฝ่ายไม่น้อย

เจที่นิ่งฟังสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกัน ก็พอจะทำให้เข้าใจได้ไม่ยากว่า เด็กหนุ่มคนนี้คือคนที่ทำให้คนรักของเขาต้องเป็นแบบนี้ ชายหนุ่มก้าวขาไปข้างหน้าหมายจะเดินเข้าไปหา มามิยะ ที่จ้องหน้าของเขานิ่ง

"จุน.... " คิโยโนบุ คว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้

" ทำแบบนั้นทำไม? "เจดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย พลางถามมามิยะเสียงเรียบ
" ........... นายทำให้ครูเลิกกับคู่หมั้นใช่ไหม? "เด็กหนุ่มถามกลับไป ทั้งๆที่เขารู้สึกได้ถึงอันตรายจากสายตาที่เอาจริงนี้ แต่เขาก็ยังไม่ถอยไปไหน


" นายชอบคิโยใช่ไหม? "


.................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 27 23/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 23-09-2010 09:10:50
ว่าแล้ว :m30:เด็กชะมัดแกล้ง(ซ้อม)คนที่ตัวเองชอบ :z6:

สู้ สู้จ้า :L1:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 28 24/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 24-09-2010 01:23:49
@@@Writer's Talk@@@

ว่าแล้ว :m30:เด็กชะมัดแกล้ง(ซ้อม)คนที่ตัวเองชอบ :z6:

สู้ สู้จ้า :L1:

แบบนี้ต้องสั่งสอนใช่ไหมคะ!

/////////////////////////////////////////


" นายชอบคิโยใช่ไหม? "

คำถามนั้นของ คนรักทำให้ คิโยโนบุ ต้องหันไปมองหน้า ของ มามิยะ อย่างช่วยไม่ได้

".................ไม่....นายเกลียดนี่... คนอย่างพวกฉัน "
" ไม่..คิโย มันชอบนาย มันถึงทนไม่ได้ไง "เจเถียงพลางยิ้มเยาะเด็กหนุ่ม
"จริงรึ....มามิยะ " น้ำสียงที่ถามนั้นฟังดูแปลกหูเด็กหนุ่มไม่น้อย... มัน เย็นชา... "นายคิดกับฉัน แบบนั้น ...อย่างนั้นใช่ไหม"
" แล้วจะมีประโยชน์อะไร? " เด็กหนุ่มยักไหล่แล้วหันหน้าไปอีกทางพลางทำท่าจะเดินออกจากโรงเรียนไป
"มามิยะ... "คิโยโนบุ เดินไปกระชากไหล่ของเด็กหนุ่มให้หันกลับมาก่อนที่มือเรียวจะตบเข้าที่หน้าของอีกฝ่าย

เผี้ยะ!!! เสียงฝ่ามือกระแทกเข้าที่ข้างแก้มของเด็กหนุ่มเสียงดัง

" ทำแบบนี้ กับ คนที่นายชอบเหรอ... ใครสั่งใครสอนมาวะ!"
สิ่งที่คิโยโนบุทำสร้างความแปลกใจให้คนรักของเขาและนักเรียนที่อยู่แถวๆนั้นไม่น้อย
มามิยะหันไปตามแรงตบอย่างแรงนั้น แล้วหันหน้ากลับมา ดวงตาวาววับอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับรอยนิ้วทั้งห้าที่ปรากฏบนแก้ม "ไม่พอใจเหรอ ที่โดนทำร้าย... ไม่พอใจมากใช่ เจ็บ ใช่ไหม ... " คิโยโนบุ ดึงคอเสื้อของอีกฝ่ายให้เข้ามามองหน้า  "กับ คนที่ชอบน่ะ ไม่มีใครเขาทำแบบนี้กันหรอก"

ท่าทางของคนรักทำให้เจต้องเดินมาจับมืออีกฝ่ายเอาไว้ให้ปล่อยมือออกจากคอเสื้อของเด็กนักเรียน

" กลับเถอะ คิโย นายไม่อยากให้ใครมองไม่ใช่รึไง? "เขาบอกเมื่อเห้นเด็กนักเรียนกำลังมุงดูพวกเขาอยู่บนอาคารเรียนในช่วงเปลี่ยนคาบเรียน
"นั่นสิ กลับกันเถอะ... " อดีตอาจารย์หนุ่มว่า พลางละมือจากคอเสื้อของ เด็กหนุ่ม เจดึงอีกมืออีกฝ่ายแล้วจับเอาไว้ก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตาม แล้วหันมาหาเด็กหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่กับพื้นทางเดินระหว่างอาคาร

" เป็นอย่างพวกฉันมันก็ไม่ได้หนักหัวใครไม่ใช่เหรอ? "


เขาทิ้งคำถามไว้แค่นั้น แล้วด็เดินออกไปตามทางเดินโดยไม่สนใจสายตาของใคร และไม่ยอมปล่อยมือจากอดีตอาจารย์หนุ่มของโรงเรียนแม้แต่น้อย เมื่อเข้ามานั่งในรถ เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้น ไหล่ทั้งสองข้างลู่ลงอย่างหมดแรง

"ฉันคงต้องหางานใหม่ เร็วๆนี้ล่ะ..."  มือแกร่งนั้นจึงโอบไหล่อีกฝ่ายเอาไว้ให้ซบกับไหล่ของเขาเบาๆ แล้วลูบผมไปมาอย่างปลอบใจ
" อย่าเพิ่งเลย ฉันว่านายควรจะพักซักหน่อย "
"แต่มันก็มีค่าใช้จ่ายไม่ใช่รึไง... " คิโยโนบุเอ่ยอย่างอ่อนใจ
" ก็บอกแล้วว่าเงินเดือนเชฟโรงแรมนะ ดูแลนายได้สบาย "เจย้ำ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเป็นทุกข์เพราะสายตาที่มองมานักหรอก อย่างน้อยก็อยากจะให้สบายใจไปได้อีกพักหนึ่ง
"ฉันไม่ได้ลาออก ออกมาเพื่อให้นาย หาเลี้ยงหรอกนะ ไม่ล่ะ" คิโยโนบุขยับออกจากวงแขนของอีกฝ่ายแล้วเอนตัวพิงกับประตูรถอีกด้าน
" แค่พักหนึ่ง อย่างน้อยก็รอให้นาย .. รู้สึกดีขึ้น "เจถอนหายใจออกมา " แล้วค่อยไปหางานทำก็ได้ "หนุ่มผมยาวเลี้ยวรถออกจากโรงเรียน " วันนี้จะแวะที่ไหนอีกไหม? "


"นี่...รู้อะไรไหม... พ่อเขา จงใจนะ ตอนนั้น " คิโยโนบุพูดขึ้น ไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่าย
" หืม? " ชายหนุ่มหันมาหาอย่างแปลกใจกับคำพูดที่จู่ๆก็พูดขึ้นมา
"เขาจงใจ ที่จะ..ย้ายมาจากที่บ้านของเรา...ตอนนั้น... " ชายหนุ่มหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย
 "เขาจงใจแยกเรา... ในตอนที่ฉัน ต้องการใครมากที่สุด ในตอนที่ฉันอ่อนแอที่สุด พ่อ.... ทำแบบนั้น ...มัน... "เสียงนุ่มแหบพร่า มือเรียวยกขึ้น ก่ายหน้าผาก 

.....เสียใจ......

" แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ..คิโย เราก็ผ่านมันมาแล้วก็ยังได้เจอกันไม่ใช่รึไง? "ชายหนุ่มเห็นท่าทางแบบนั้นเลยจอดรถที่ข้างทาง
"ฉัน...ที่เข้มแข็งหายไปแล้วล่ะ ตั้งแต่ตอนนั้น " ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนลืมตาขึ้นมองหน้าคนรัก
" ฉันจะทำให้มันกลับมาอีก "เจสบตาอีกฝ่ายนิ่งแล้วโน้มตัวเข้าไปหา สัมผัสริมฝีปากนั้นเบาๆ
"ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่น่าเชื่อว่านายจะพูดอะไรแบบนี้...มันหวาน....มากไปหน่อยว่าไหม" ริมฝีปากนั้น หัวเราะออกมาเบาๆ
" ต่อไป จะไม่พูดก็ได้นะ "หนุ่มผมยาวขมวดคิ้วแล้วกลับมาทำหน้าที่ตัวเองต่อด้วยการขับรถกลับไปยังอพาร์ตเมนต์ของอีกฝ่าย
"ถ้านาย ห้ามตัวเองได้นะ " คิโยโนบุอดไม่ได้ที่จะแหย่ก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง

...........................................


"ขอบคุณมากนะครับ... " คิโยโนบุ เอ่ยพลางเดินออกไปส่งพนักงาน จากบริษัทขนย้ายที่มาช่วยเขาในการขนของออกมาจากห้อง แล้วเอามานำส่งที่ห้องของจุน เพราะว่าลาออกจากงานแล้วคราวนี้ เขาหมดข้ออ้างกับอีกฝ่ายแล้วในเรื่องของการเดินทาง ชายหนุ่มหันกลับไปมอง กล่องที่แพ็คมาวางระเกะระกะในห้อง

"ฉันมาอยู่ด้วย นี่ไม่ทำห้องแคบเลยเหรอ"
" ห้องนี้แคบเหรอ? "เจย้อนถาม ขณะที่จัดกล่องนั้นให้เป็นระเบียบเรียบร้อย " อยู่สองคนได้สบาย ๆ เลย "
"ก็...แคบกว่าเดิมไง" คิโยโนบุพูด ก่อนจะเดินไปยกเอากล่องของจำเป็นมาเปิด "มีที่ให้ฉันเก็บของไหมล่ะ เสื้อผ้า... "
" ห้องนอนไง ถามแปลกๆ "หนุ่มผมยาวดึงแขนอีกฝ่ายให้ตามเข้ามาในห้อง แล้วเปิดตู้เสื้อผ้าขาดใหญ่ที่แบ่งที่ว่างพอให้อีกฝ่ายเอาเสื้อผ้ามาแขวนรวมกันได้
"อ้อ..... แบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย " คนเข้ามาอยู่ใหม่ยิ้ม ก่อนจะมองสำรวจ"เสื้อผ้านาย นี่ไม่ค่อยจะมีเลยน้า.. "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลว่ายิ้มให้กับอีกฝ่าย
" ใส่แต่ชุดเชฟ งานก็มีเกือบทุกวัน จะหาเสื้อผ้าไปทำไมกัน? "
"ก็นึกว่าจะแต่งตัวหล่อไปไหนบ้าง"
" ไม่ได้ไป " อยู่ๆ หนุ่มผมยาวก็ส่งเสียงที่ข้างหูคนที่มาอยู่ใหม่แล้ว อ้อมแขนกว้างนั้นกอดร่างนั้นเอาไว้จากด้านหลัง" แต่ต่อไปถึงจะไม่ได้ไปไหน นายก็จะรออยู่ที่ห้องใช่ไหม? "ริมฝีปากได้รูปเม้มใบหูนั่นเบาๆ
"....ก็...ถ้าเบื่อก็จะออกไปเที่ยว ไม่ต้องห่วงภาพลักษณ์ครูแล้ว " ร่างที่ถูกสวมกอดนั้นพูดขึ้นเบาๆ "เก็บของก่อนดีกว่าไหมมายืนกันอยู่แบบนี้จะ... ได้เก็บของเมื่อไหร่ " ว่าพลางก็ขยับตัวออกจากวงแขนของอีกฝ่าย  เจไม่พูดอะไรต่อในเวลานี้เขามีหนุ่มผมสีน้ำตาลในอ้อมแขนแบบนี้ก็ไม่อยากจะทำอะไรอีกแล้ว
ริมฝีปากได้รูปขยับแทะเล็มลำคอขาวนั่นเบาๆ

"แต่เช้าเลยเหรอ... " คิโยโนบุหัวเราะเบาๆกับสัมผัสนั้น เช้าวันอาทิตย์แบบนี้บรรยากาศมันสบายจนอยากจะนอนมากกว่า...อย่างน้อยถ้าอีกฝ่ายจะยอมให้เป็นแบบนั้น
" ไม่ได้เหรอ? "เจรวบอีกฝ่ายลงกับเตียงแล้ว ปากก็ถามไปแบบนั้น
"นี่ถามไปพอเป็น พิธี....ใช่ป่ะ" มือเรียวแตะใบหน้าคมนั้น ก่อนจะตีเบาๆ มือแกร่งของพ่อครัวจับมือที่แตะแก้วเขาไว้แล้วจูบเบาๆ ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากมาที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย
"ฉันอยู่ที่นี่...ได้ใช่ไหม"  ริมฝีปากบางกระซิบถามเสียงเบา
" จะอยู่จนแก่เลยก็ได้ "เจกระซิบตอบ ปลายลิ้นละเลียดริมฝีปากนั้นเบาๆ
"แก่...เลยเหรอ ไม่ไหวมั้ง" ริมฝีปากนั้น แตะรับปลายลิ้นนั้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัด มือเรียว โอบอีกฝ่ายเข้ามาหาตัว สองร่างโอบรัดเข้าหากัน ภายใต้เตียงที่รับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาจากบานหน้าต่าง กลิ่นกายของทั้งสองคนผสมผสานภายในห้องนอนใหญ่ที่มีเพียงกันและกัน ความรู้สึกที่ถ่ายทอดให้นั้นอ่อนหวานอ่อนโยนเหมือนเช่นทุกครั้ง


........................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 28 24/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 24-09-2010 01:38:44
แต่เช้าอ่ะไม่เท่าไหร่แต่เราอยากรู้ว่ามันจะหยุดตอนไหนมากกว่า :haun5:
ช่วงนี้มาดึกจัง เรียนหนักหรอ ขยันจริงน้าส์หนูพี o13
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 29+ NC18) 25/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 25-09-2010 00:44:37
@@@Writer's Talk@@@
ช่วงนี้มาอัพดึก ไม่ได้เรียนหนักนะคะ ไม่ได้กลับบ้านดึกด้วย
นั่น...สงสัยล่ะซิ่ว่าทำอะไรทำไมมาดึก...
ช่วงนี้ว่างค่ะ อยู่บ้าน...รู้สึกตัวอีกทีก็จะเที่ยงคืนแล้ว .... :laugh:
ว่างเกินไปก็แย่เหมือนกันนะคะ ทำอะไรไปเรื่อยๆจนลืมเวลาตลอดเลย :เฮ้อ:

///////////////////////////

เมื่อเช้าวันจันทร์ผ่านมาถึงคิโยโนบุก็ตื่นขึ้นตามเวลาที่ตัวเองเคยตื่น 6โมงเช้า ลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินไปที่ห้องครัว จะทำอาหารเช้าให้ตัวเองกับเชฟหนุ่ม  ส่วนเจที่ตื่นหกโมงครึ่งก็ลุกจากเตียงพลางขยับคอไปมาแล้วเดินมาหาคนที่ทำอาหาร
" ทำอะไรกิน? "เขาเดินมากอดด้านหลังของอีกฝ่ายพลางถาม
"อาหารเช้า ...ชอบไข่แบบไหน บอกด้วย...เร็วๆล่ะ เดี๋ยวฉันไปทำงานสาย" ชายหนุ่มร่างบางพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้าของอีกฝ่าย
" ทำงาน?...ลืมไปแล้วรึไง นายลาออกแล้ว "เจหัวเราะกับท่าทางของอีกฝ่ายแล้วหอมแก้มเบาๆ " ไม่ต้องรีบหรอก "
"อ่ะ.............น่ะ...นั่นซิ่นะ" มือเรียวที่กำลังจะ พลิกไข่ในกระทะหยุดนิ่งไปนาน กว่าจะพูดอะไรต่อออกมาได้ "นั่นซิ่นะ.... ..ฉันลาออกแล้วนี่นา" ว่าพลางก่อนจะหัวเราะเบาๆ "ถ้าอย่างนั้น นายจะกินไข่แบบไหน " ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง
" ตอนนี้สุกแล้ว "เจชี้ที่กระทะ" แบบนี้ก็กินได้เหมือนกันล่ะ ... เดี๋ยวไปอาบน้ำ แต่งตัวแล้วจะมากิน "พูดจบหนุ่มผมยาวก็ผละออกจากอีกฝ่ายไปเขาห้องน้ำ

มื้อเช้าเรียบง่ายถูกจัดวางเสริฟ คิโยโนบุนั่งอีกด้านของโต๊ะทานข้าว เขารู้สึกแปลกๆที่วันนี้ทั้งๆที่ลุกขึ้นแต่งตัวเสียดิบดีกลับไม่ได้ไปทำงาน และเขาทำอาหารให้กับอีกฝ่ายทานและอดสงสัยไม่ได้ว่าต่อจากนี้ไปเขาจะต้องทำอะไรต่อ

....จัดข้าวของให้เข้าที่? ....
....ซักผ้า?.....
....ทำความสะอาด....อย่างนั้นเหรอ....


" วันนี้ จะกลับดึกนะ มีงานเลี้ยงที่โรงแรม ฉันต้องดูเรื่องอาหารน่ะ "เจบอกขณะที่จิบกาแฟแล้วอ่านหนังสือพิมพ์
"เหรอ...อืม.... " อดีตอาจารย์หนุ่มรับคำพลางฉีกขนมปังเข้าปาก "กินข้าวที่ไหนล่ะ" คิโยโนบุถามพลางมองหน้าอีกฝ่าย
" ไม่ได้กลับมากินด้วยนะ  "ชายหนุ่มตอบกลับมาง่ายๆ " นายจัดการเองแล้วกัน "
"อืม ก็คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว " คิโยโนบุว่าพลางก็ยิ้มให้กับอีกฝ่าย "ไม่รีบไปเดี๋ยวสายนะ"ว่าพลางก็มองนาฬิกา ก่อนจะชี้ให้อีกฝ่ายดู

.......................................

"เฮ้อ..................."
เมื่อเชฟหนุ่มออกจากห้องพักไปแล้ว คิโยโนบุก็ถอนหายใจยาว เขามองเสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้าแล้ว กลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นกางเกงขาสั้น กับเสื้อยืดธรรมดา ชายหนุ่มจัดการรื้อสัมภาระของตัวเองออกมาจากกล่อง จัดแยกของจำเป็นและไม่จำเป็นแยกเป็นหมวดหมู่ ก่อนจะเอาไปจับเก็บโดยต้องแบ่งแยกชั้นวางของทุกอย่างของเจ้าของห้องให้เป็นสองส่วน เมื่อการจัดทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ก็ตามด้วยการจัดเก็บทำความสะอาดขยะ ทั้งหลายให้เรียบร้อย ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ทั้งล้างจานและซักเสื้อผ้านนส่วนของตัวเองและอีกฝ่ายตากเสร็จเรียบร้อยก็เมื่อเวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยงแล้ว ร่างบางทิ้งตัวลงกับโซฟา เหนื่อยมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า เพราะจำนวนของที่ต้องทำนั้นมากขึ้นตามจำนวนคน

"เฮ้อ... " ถึงจะหิว แต่ก็หมดแรง จะลุกไปทำมื้อเที่ยงทาน เปิดทีวีดู ก็มีแต่รายการแบบแม่บ้าน ทำให้อดที่จะขำตัวเองไม่ได้

.... กลายเป็นอะไรไปแล้วเนี่ยเรา...


ทั้งๆที่เพิ่งจะอยู่ด้วยกัน แต่เจก็ต้องรับผิดชอบงานที่โรงแรมหลายงานนัก ในช่วงที่คนส่วนมากมักจะมีเรื่องยินดีอย่างการแต่งงาน หรือการฉลองต่างๆมันเป็นการดีต่อหน้าที่การงานของเชฟหนุ่ม เพราะนั่นหมายความว่า เขาน่าจะมีความโดดเด่นในฝีมือมากพอที่จะรับผิดชอบงานใหญ่ๆได้ และอาจจะได้เป็นเชฟใหญ่ในไม่ช้า แต่มันก็หมายถึงการที่เสียงข้อความในโทรศัพท์มือถือของคิโยโนบุมักจะดังขึ้น พร้อมกับข้อความที่ส่งมาจากเจ

กลับดึก หาข้าวกินแล้วก็นอนก่อนเลย ไม่ต้องรอนะ
J


ข้อความที่ส่งกลับมาในลักษณะนี้นั่นเริ่มมีบ่อยมากขึ้น เขาแทบไม่มีเวลา ได้พูดคุยกับอีกฝ่ายเลย นอกจากตอนเช้า ที่บางครั้งเขาก็จะตื่นไปออกกำลังกายแล้ว กลับมาทำอะไรให้อีกฝ่ายทานบ้าง ก่อนที่เจจะออกไปทำงาน แต่บางครั้ง ถ้าเจ ต้องรับผิดชอบ ออกไปเลือกของที่ตลาดตั้งแต่เช้าตรู่ นั่นก็ทำให้ทั้งสองคนแทบไม่ได้พบหน้ากันเลยทั้งวัน

คิโยโนบุอ่านข้อความนั้นแล้วโยนโทรศัพท์ไปอีกทาง พักหลังมานี่เขาเริ่ม เช่าดีวีดีมาดูเพื่อฆ่าเวลา บางครั้ง ก็ดื่มเบียร์คนเดียว หวังให้สมองปลอดโปล่ง ไม่ต้องคิดอะไรมากนักกับการ ต้องอยู่บ้านแบบไม่มีอะไรให้ทำมากนัก และเดี๋ยวนี้เกือบจะทุกวันเลยทีเดียว ที่จะต้องจิบสาเกญี่ปุ่นซักแก้ว เพื่อให้หลับก่อนที่จะเข้านอน
แต่ในคินนี้ แปลกเหลิอเกินที่ถึงแม้จะดึกแล้ว แต่คิโยโนบุก็ยังไม่นอน จำนวน ดีวีดี ที่เขาเช่ามานั้นมากกว่าทุกวันและเขาก็ยังดูมันไม่จบ

เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นที่ห้อง หนุ่มผมยาวเปิดประตูห้องเข้ามาอย่างแปลกใจที่คิโยโนบุยังไม่ลอคประตูหน้าห้องแล้วนอนอย่างที่ควรจะเป็นร่างที่นั่งนิ่ง อยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์ หันมามอง คนที่เพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน ก่อนจะหันกลับไปมอง ภาพชวนสยดสยอง บนหน้าจออีกครั้งคราวนี้เป็นหนังสยองขวัญจากอเมริกา

" ยังไม่หลับเหรอ? "เจดูท่าทางที่กำลังสนใจหนังของอีกฝ่ายแล้วหันไปดูที่หน้าจอก่อนจะหันไปอีกทาง " หนังแบบนั้น ดูได้ไงวะ กลางคืนเนี่ยนะ "เขาวางกระเป๋าไว้ที่โซฟาแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ

จนเมื่ออีกฝ่ายออกมาจากห้องน้ำคิโยโนบุก็ยังคงนั่งอยู่ที่หน้าจอทีวี จะมีก็เพียงกระป๋องเบียร กระป๋องใหม่ที่ถือเอาไว้ในมือ
" ยังไม่จบเหรอ? มีเบียร์อีกรึเปล่า? "เจถามอีกฝ่าย ขณะที่เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบเบียร์ที่อีกฝ่ายซื้อมาเปิด
"ได้คำตอบ หรือยังล่ะ" คิโยโนบุถามโดยที่ไม่ได้หันไปมอง มือเรียว วางกระป๋องเบียร์เปิดห่อขนมขึ้นมาหยิบทาน
" ในมือนี่ไง  "เชฟหนุ่มนั่งลงข้างๆอีกฝ่ายแล้วพิงศีรษะกับไหล่นั้น " เหนื่อยชะมัด "
"อืม.... " คิโยโนบุรับคำขึ้นด้วยน้ำเสียง ที่ไม่ได้แสดงความห่วงใยมากนัก "ขนมไหม " ก่อนจะส่ง ขนมให้กับอีกฝ่าย
" เป็นอะไร ? "หนุ่มผมยาวเงยหน้าจากไหล่นั้นแล้วถาม " โกรธเหรอ? "
"เปล่า ไม่ได้โกรธ...ที่จริงก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาพักใหญ่แล้ว "คิโยโนบุว่า พลางหันไปยิ้มแบบปั้นยิ้มให้กับอีกฝ่าย แล้วจูบที่หน้าผากของเชฟหนุ่มเบาๆ
" นายก็รู้ว่า .. ฉันงานเยอะ  "เจดึงอีกฝ่ายมากอดไว้แล้วลูบผมเบาๆ " เบื่อล่ะสิ .. อยากจะหาอะไรทำรึเปล่า? "
"ให้พูดความจริง...ฉันเซ็งมาก...กับการ ตื่นมาทำกับข้าว มองนายออกไปทำงาน ทำงานบ้าน ดูหนังบ้าๆ พวกนี้ กินเหล้าแล้วก็เข้านอน" คิโยโนบุพูดออกมาตามตรง "ฉันหมายถึง....ฉันเป็นอะไรของนาย...จุน... ทำเรื่องพวกนี้ซ้ำไปซ้ำมาแล้วให้นายหาเลี้ยง?.... "  คิโยโนบุเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย แต่ดวง ตาสีน้ำตาล คู่นั้นไม่ได้มีแววอะไรฉายอยู่เลย
" นายอยากจะหาอะไรทำงั้นเหรอ? "เชฟหนุ่มถามอีกฝ่าย" ถ้านั่นจะทำให้หายเบื่อนะ จะลองหางานทำดูก็ได้ "
"ฉันเคยมีนะงาน" ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา "แต่ก็ต้องออกมา..... อืม...อย่างฉันจะไปทำอะไรดีล่ะ"
" แล้วสนใจงานแบบไหนล่ะ? ลองหาดูไหม? "ชายหนุ่มว่า แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ให้อีกฝ่าย
".........เดี๋ยวฉัน คง หาอะไรทำได้เองล่ะ" คิโยโนบุว่า "ไม่ต้องรบกวนนายหรอก " มือเรียว คว้ารีโมตมากดปิดหนังที่กำลังดูอยู่ ก่อนจะลุกไปที่ตู้เย็นคว้าเอาสาเกมารินใส่แก้ว ก่อนจะกระดกแก้วดื่มจนหมด "นอนดีกว่า... "
" จะนอนแล้ว..เหรอ? "มือแกร่งจับมืออีกฝ่ายเอาไว้
"ก็.... จะให้ทำอะไรอีกล่ะ "คิโยโนบุหันมามองหน้าของอีกฝ่าย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ริมฝีปากได้รูปแตะแก้มอีกฝ่ายเบาๆ แทนคำตอบ
" ไปนอนไหม? "
"ก็...จะไป นอนนี่ไง" ชายหนุ่มมองหน้าของชายหนุ่มผมยาว ก่อนจะเห็นแววบางอย่างในดวงตา "ไหนว่าเหนื่อย... เหนื่อยก็นอนพักซิ่... "
" แล้ว..ได้ไหมล่ะ? "น้ำเสียงนั้นดูอ้อนเล็กๆ"ถ้าอยากจะมีอะไรกับ คนที่เมานะ.... ก็เชิญ " ชายหนุ่มร่างบางว่าพลาง ดึงเสื้อยืดของตัวเองออก ในขณะที่มือเกียว เข็มขัดของอีกฝ่ายแล้วปลดออก
" อะไรวะ? "เจถามออกมาอย่างงงๆ ก่อนจะลากอีกฝ่ายเข้าห้องไป

"อะไร อะไรล่ะ... " คิโยโนบุมองหน้าของอีกฝ่าย "ก็อยากได้ไม่ใช่เหรอ.... " มือเรียว สัมผัสกับแผ่นอกของอีกฝ่าย ดึงรั้ง ชายเสื้อขึ้น ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้
" ไอ้อยากมันก็อยาก .. แต่นายดูแปลกๆ "เจเถียงไปแบบนั้นแต่มือก็ถอดเสื้อผ้าของตนกับอีกฝ่ายไปด้วย
"บอกว่าเมาไง " เสียงนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะ ขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนชิด จูบเบาๆบนต้นคอ ก่อนจะเม้มแน่นฝากรอยช้ำ และกัดลงไปอย่างแรง
เจส่งเสียงเบาๆ แล้วพึมพำ มือทั้งสองข้างลูบไล้ร่างนั้นไปมา
 " เจ็บ "เขาจับร่างนั้นให้คว่ำลงกับเตียงทันทีที่อีกฝ่ายละริมฝีปากจากคอของเขา
"โอ้ย.....ฉันเจ็บนะ" คิโยโนบุร้อง พยายามจะยันตัวขึ้น  
" นายก็ทำฉันเจ็บ "ริมฝีปากได้รูปขบที่แผ่นหลังของอีกฝ่าย
"โอ้ย...แต่นายก็ทำฉันเจ็บเหมือนกัน ปล่อยนะ.... "คิโยโนบุร้องออกมาเบาๆ ก่อนจะพลิกตัวหนีออกไปอีกทาง แต่เจกลับไม่ยอมปล่อยง่ายๆ มือทั้งของข้างลอคตัวของคิโยโนบุให้อยู่ดีๆ"นายจะทำแบบนี้รึไง.... "คิโยโนบุกัดฟัน

วันนี้เขาอารมณ์เสีย มากับหลายเรื่องแล้วตั้งแต่ เครื่องซักผ้าที่มีปัญหาจนเขาต้องโทรเรียกคนมาดู แถมหนังที่ยืมมายังห่วยเสียจนไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แล้วยังมาเจอกดให้อยู่ในท่าทางแบบนี้อีก....

"ฉันไม่ชอบนะ.... " เสียงนั้นดังอู้อี้เล็กน้อย เพราะหน้าที่คว่ำอยู่กับเตียง ร่างบางยังพยายามจะดิ้น เมื่ออีกฝ่ายดึงกางเกงของเขาออกไปจนพ้นตัว
เจปล่อยมือทันทีที่อีกฝ่ายบอกแบบนั้นแล้วขยับไปนั่งที่หัวเตียง มือแกร่งเสยผมขึ้น แล้วจับคอที่ยังเป็นรอยฟันอยู่เลย

"ใครกันแน่ที่เป็นอะไร... นายจะทำแบบนั้นเหรอ...ฮะ...ชอบรุนแรงนักเหรอ "คิโยโนบุแทบจะตะคอกใส่อีกฝ่าย เมื่อลุกขึ้นมานั่งสูดอากาศได้
" เฮ้ย นายก็กัดฉันนะโว้ย! "เจขึ้นเสียงใส่อีกฝ่าย
"ก็ฉันบอกว่า ฉันอารมณ์ไม่ดี.... แล้วที่กัด ฉันก็กัดทุกที..." คิโยโนบุยักไหล่ "เห็นนายชอบ"
" แล้วพอฉันรุนแรง ไม่เห็นนายชอบเลย "เจขมวดคิ้ว " มานี่มา "
"ทำไม... นายจะกัดฉันเหรอ... "คิโยโนบุถามกลับ แต่ก็ ขยับเข้าไปใกล้ ไม่ได้ ใกล้มากเท่าไร แต่ก็ใกล้มากขึ้นกว่าเดิมเชฟหนุ่มจับให้อีกฝ่ายนั่งคร่อมเขาเอาไว้

" อยู่บน โอเคไหม? "

ท่าทางที่อีกฝ่าย จัดให้นั้น ทำให้คิโยโนบุยิ้ม
"ครั้งแรกเราก็ทำอะไรแบบนี้.... หรือนายไม่ชอบ" อาจจะเป็น เพราะเมื่อได้อยู่ในท่าทางแบบนี้ คิโยโนบุจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองสามารถควบคุมได้ ร่างบางขยับนั่งบนหน้าขาของอีกฝ่าย ปลายนิ้วไล้เบาๆบนแผ่นอกนั้น
" งั้นก็ทำให้ฉันชอบซี่ "ปลายลิ้นเลียริมฝีปากนั้นเบาๆ ก่อนจะกระตุ้นเร้าคำพูดของอีกฝ่ายทำให้คิโยโนบุยิ่งอารมณ์ไม่ดีขึ้นไปอีก เพราะมันเหมือนกับว่า อีกฝ่ายไม่ได้ชอบ "ครั้งแรก " นั้นซักเท่าไร... มือเรียวรุกเร้าอีกฝ่ายก่อนจะขยับตัวเพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี แม้จะเป็นการเร่งเร้าเสียจนจะกลายเป็นเร่งรัด แต่ชายหนุ่มร่างบางได้ยินเสียงครางเครือดังขึ้นจากร่างสูง
"เป็นไง..... "เสียงนั้นแหบพร่า ก่อนที่จะขาดหาย เมื่อร่างบางขยับร่างเข้าหาอีกฝ่าย
" อื้อ "ชายหนุ่มครางเครืออกมาอย่างพอใจแล้วขยับสะโพกกระตุ้นเร้าอีกฝ่าย
"พูดซิ่... "มือเรียวคว้าใบหน้าที่แดงก่ำของอีกฝ่ายให้เงยหน้าขึ้นมามองหน้าของเขา

"ชอบไหม...."
ริมฝีปากบางเปียกชิ้น เช่นเดียวกับ ใบหน้าได้รูปนั้น เส้นผมสีน้ำตาลลู่ลงมา เพราะเหงื่อกาฬที่ผุดขึ้นบนผิวกาย มือแกร่งของเจข้างหนึ่งดึงอีกฝ่ายให้ขยับขึ้นลง พร้อมกับปลายลิ้นที่เลียหยาดเหงื่อที่ยอดอกนั้นยั่วเย้า

" ชอบ "

"เพิ่งจะชอบ....ใช่ไหม" เสียงนั้นถามขึ้น พร้อมเสียงครางเครือร่างกายของเขากำลังจะไม่ทนความรู้สึกเปี่ยมล้นในอกนั้นอีกแล้ว

" อา..ชอบ "ชายหนุ่มผมยาวหอบหายใจหนักขึ้น แล้วจับร่างนั้นให้ขยับแรงขึ้นๆ มือเรียวคว้าร่างของอีกฝ่ายเข้าหาตัว ก่อนจะฝังเขี้ยวลงบนไหล่แกร่งของอีกฝ่าย ร่างบางเกร็งแน่นเมื่อความสุขนั้นเปี่ยมล้นร่างกายปลดปล่อยความรู้สึกนั้นออกมา ก่อนที่จะถอนตัวออกมาแทบจะทันที ร่างบางขยับตัวลงไปนอนบนเตียงหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน  ผิดกับที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ปลดปล่อย

เจคว้าร่างนั้นมาทันที ในตอนนี้อารมณ์สั่งให้เขากระทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ปลดปล่อย ร่างสูงแทรกกายเข้าไปอีกครั้งไม่บอกกล่าวแล้วขยับอย่างรุนแรงทันที
"โอ้ย...ไม่....จุน..." คิโยโนบุ ร้องออกมาด้วยความตกใจมือเรียวปัดป่ายดันร่างของอีกฝ่ายออก แต่เจกลับลอคมือทั้งสองข้างนั้นไว้แล้วกระแทกกายเข้าออกตามใจปรารถนา จนกระทั่งปลดปล่อยเข้าไปในกายนั้นในที่สุด
" อ๊า..คิโย "ใบหน้าได้รูปสะบัดหงายขึ้นอย่างเป็นสุข ผิดกับอีกฝ่ายที่รองรับความสุขของชายร่างสูงเอาไว้ มือเรียวดันแผ่นอกของอีกฝ่ายอกทันที

"ออกไป"

หนุ่มผมยาวถอนหายใจแล้วถอนร่างออกจากอีกฝ่ายทันทีแม้จะไม่เข้าใจอะไรนัก ร่างเพรียวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะคว้าอะไรที่อยู่แถวนั้นเพื่อปิดร่างกาย แต่ก็นั่งอยู่แค่นั้น ร่างบางยังหอบหายใจเหนื่อย

"ครั้งแรก....นายไม่ชอบใช่ไหม.... ฉันพอเข้าใจนะ..."


....ผู้ชาย ทั้งแท่ง นอนด้วยกัน มีอะไรน่าพิศมัยนะ ตอนนั้น....
....แต่ทั้งหมดก็เพราะรักกันไม่ใช่รึไง.....
....แต่ตอนนี้ พอถามถึง เหมือนนายไม่ได้จำมันเลย....


" โอเค..นายอยากคุมเกม "เจถอนหายใจออกมา " เป็นอะไรน่ะ? ไม่ใช่แค่เรื่อง sex แน่ๆ "
"ไม่ใช่......."คิโยโนบุ พูดมือเรียวยังสั่น ทั้งจากร่างกายที่เหนื่อยอ่อนและอารมณ์ ที่พลุ่งพล่าน เขารู้สึกเหมือนควบคุมอะไรไม่อยู่ "ฉัน... เสียใจ ที่ตอนนี้ฉันไม่มีงาน และ ทำหน้าที่เหมือนกับ ภรรยาที่คอยให้นายหาเลี้ยง....ฉันเสียใจ ที่นาย...เมื่อครู่ นายทำเหมือนฉัน ไม่มีความรู้สึกอะไร...ฉันเสียใจที่นาย...พูดเหมือนนายจำไม่ได้ และ นายไม่ชอบว่า ครั้งแรกของฉันกับนายมันเป็นยังไง "
" โอเค เรื่องงานไว้ค่อยคุยกัน ถ้านายอยากไปทำงานฉันก็จะไม่ห้าม ส่วนเมื่อกี้ .. เฮ้อ .. เราปรับเข้าหากันได้นี่นา  "ชายหนุ่มพยายามประณีประนอม
"................." ร่างบางนั่งนิ่งไม่ได้หันไปมองหน้าของอีกฝ่าย" เลิกงอนน่า "มือแกร่งลูบผมอีกฝ่ายอย่างที่ชอบทำ
"......นาย....ชอบทำแบบนี้จริงนะ"  คิโยโนบุพูดก่อนจะหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย "เวลาที่ฉัน เป็นแบบนี้นายก็มักจะทำแบบนี้เสมอ แต่..บางครั้งก็ดีขึ้นนะ" ชายหนุ่มว่าพลางหันไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้
" เลิกงอนได้แล้วใช่ไหม?  "เจกอดตอบอีกฝ่ายแล้วหัวเราะเบาๆ
"ก็บอกแล้วว่าได้ผลบางครั้ง " คิโยโนบุพุดไปแบบนั้น ก่อนจะขยับจูบ ริมฝีปากนั้นเบาๆ แล้วลุกขึ้น เดินเข้าห้องน้ำไป ชำระร่างกาย
ส่วนเจก็ส่ายหน้าไปมาแล้วขยับตัวลงกับเตียงก่อนจะหลับตาลง


...................................to be con

หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 29+ NC18) 25/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 25-09-2010 01:48:58
อืมมมมมมมมม :m21:พูดไม่ออกบอกไม่ถูกอ่ะ o22

อะไรหลายอย่างมันเปลี่ยนแปลงกระทันหันเกินไปคิโยจังเลยปรับตัวไม่ทัน
เหงาก็เหงาแถมจุนก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ เดี่ยวปั๊ดนอกใจซะเลยนิ  :angry2:
เอ๋ รึเปลี่นพระเอกเป็นไอ้หนูมามิยะดีน้าส์ เด็กกำลังโตท่าจะ  :o8:

SM จงเจริญ :laugh:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 30) 26/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 26-09-2010 00:39:26
@@@Writer's Talk@@@

เอ๋ รึเปลี่นพระเอกเป็นไอ้หนูมามิยะดีน้าส์ เด็กกำลังโตท่าจะ  :o8:

พูดถึงผี ผีก็มา...เจ้ามามิยะมัน..........

////////////////////////////////////////////////////////////


หลังจากที่คนรักออกไปทำงานในตอนเช้า คิโยโนบุเอาหนังสือเกี่ยวกับการหางานในเมือง มาเปิดผ่านๆ การทำงานเป็นครูมาหลายปี ต้องทำงาน ต้องใช้แรงทุกวันนั้น ทำให้น่าเบื่อหน่ายไม่น้อยในช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา อาจจะเรียกได้ว่าหงุดหงิดอย่างมากก็เป็นได้ และการที่จะมองหางานใหม่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่ายๆเลย

"ไม่มีงานประจำรึยังไงนะ... " ชายหนุ่มพึมพำพลาง ผลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยจนเจอกับประกาศหนึ่งในหน้ากระดาษ ความคิดฉับไว ทำให้เขารีบหยิบโทรศัพท์ติดต่อไปตามเบอร์โทรที่ให้ไว้ทันที

"สวัสดีครับ ... มิยะฟิตเนส หรือเปล่าครับ คือผมอย่างจะสอบถามเรื่อง เทรนเนอร์ที่ประกาศรับสมัครเอาไว้น่ะครับ... ครับ พรุ่งนี้นะครับ แล้วพบกันครับ"

นานเท่าไรแล้ว ที่ ใบหน้าได้รูปไม่มีรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริงๆ คิโยโนบุวางหูโทรศัพท์ด้วยความหวังที่ว่า ถ้าเขาไปสัมภาษณ์งานในวันรุ่งขึ้นแล้วเขาจะได้งานนี้... เขาต้องได้งานนี้ให้ได้
" วันนี้ดูนายอารมณ์ดีนะ " เจทักขึ้นมา เมื่อวันนี้คนที่ทำหน้าบึ้งมาหลายวันแล้วดูจะอารมณ์ดีขึ้น หลังจากที่เขาไม่"ยุ่ง" ด้วย
"อืม... "คิโยโนบุตอบสั้นๆ ก่อนจะยื่นแก้วกาแฟให้กับอีกฝ่ายในตอนเช้า
" งั้น วันนี้อยากกินอะไรรึเปล่า? "เชฟหนุ่มผมยาวถาม พลางยิ้มอย่างดีใจ
"ทำไมล่ะ ว่าง จะกลับมาทำให้เหรอ.... " คิโยโนบุถามกลับ
" อื้อ ก็งั้นสิ ไม่งั้นจะถามเหรอ? "ชายหนุ่มยักไหล่แล้วอ่านหนังสือพิมพเหมือนที่ชอบทำในตอนเช้า
"อืม.... กินอะไรก็ได้ที่มันให้พลังงานเยอะๆ" ตามปรกติ แล้วไม่ค่อยได้รีเควสอะไรมากนักแต่ก็น่าแปลกที่คราวนี้คิโยโนบุออกปากอยากกิน ก่อนที่มือเรียวจะรวบตะเกียบเข้าหากัน เขาไม่อยากกินอะไรเยอะนักเช้าวันนี้ เป็นการกินเพื่อให้พลังงานเพียงพอ เท่านั้นไม่ใช่กินจนอิ่ม ด้วยรู้ดีว่าอาจะทำให้จุกได้ เมื่อไปถึงที่ทำงาน แล้วต้องเป็นเทรนเนอร์ให้กับแขกที่เข้ามาใช้บริการ

หลังจากที่จุนไปทำงานแล้วคิโยโนบุ เตรียมเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนใส่กระเป๋าก่อนจะขับรถออกไปเพื่อเริ่มทำงานวันแรกในฐานะเทรนเนอร์

ช่วงเช้านั้นไม่มีลูกค้านัดคิวเอาไว้มากนัก ที่จะมีมากหน่อยก็เป็นช่วงบ่ายที่เข้ามาในหลายสาเหต ผู้ชายบางคนอยากมีกล้าม แต่ก็อยากจะได้คนช่วยให้คำแนะนำ และ ดูแลในเรื่องของการออกกำลังกาย แม่บ้านบางคนก็อยากจะมีสุขภาพแข็งแรง และมาเพื่อฆ่าเวลา หญิงสาวมักมาเป็นกลุ่มเพื่อรักษารูปร่าง ในขณะที่หลังเลิกเรียนมักมีเด็กเล็ก มาเป็นนักเรียนให้สอนว่ายน้ำให้

วันแรกของการทำงานนั่นก็วุ่นไม่หยอก เพราะนอกจากจะไม่คุ้นเคยเท่าไร กับการให้การ"บริการ" ลูกค้าแล้วยังมีเรื่องที่ลูกค้าเข้ามาพูดกับเขาด้วยหัวข้อที่เป็นส่วนตัวมากเลยทีเดียว

" คุณ เคยเล่นกีฬาอะไรมาก่อนรึเปล่าเนี่ย? " ชายวัยเกือบสี่สิบ เริ่มบทสนทนาระหว่างที่อีกฝ่ายสอนการใช้เครื่องเล่นบริหารกล้ามเนื้อแขน
"เอ่อ... ก็โน่นนิด นี่หน่อยน่ะครับ... " ชายหนุ่มตอบอ้อมแอ้ม  ก่อนจะคอยระวังเรื่องการผ่อนแรงให้กับอีกฝ่าย 
" คุณ.. ชอบผู้หญิงรึเปล่า? ถามตรงๆคงไม่ว่าอะไรนะ? "คราวนี้เขาเปลี่ยนคำถามใหม่ ถึงท่าทางจะไม่ได้ไปสุดทางซะทีเดียว แต่ก็มีลักษณะบางอย่างที่เขาอยากจะถามไปตรงๆ
"เอ่อ.... " คิโยโนบุหน้าแดงขึ้นเมื่อได้ยินคำถามชายหนุ่ม หันหน้าไปอีกทางก่อนจะสูดลมหายใจให้เป็นปรกติแล้วหันกลับมายิ้มให้กับอีกฝ่าย
"ผม... ผม.... ชอบผู้หญิงครับ เคยชอบ "

" แล้วตอนนี้ล่ะ? มีผู้ชายที่คบอยู่สินะ? "คำถามนั้นตรงเสียจนน่าสะอีก แต่การถามแบบนั้นไม่ได้ทำเพื่อรุก หากแต่เขาสังเกต แววตาที่ไม่ค่อยจะความสุขนัก
"คือ... ก็.... ครับ มีครับ "ชายหนุ่มตอบ ก่อนจะเหลียวมองซ้ายขวา หวังว่าจะไม่มีใครได้ยิน 
" เพิ่งค้นพบตัวเองสินะ  " ลูกค้าคนนั้นถอนหายใจ
" ผมอ่านแววตาคุณออกนะ เทรนเนอร์ .. การเลือกทางนี้มันยากที่จะมีความสุข ผมเข้าใจ "
"..... ขอบคุณครับที่เป็นห่วง "ชายหนุ่มตอบอย่างนอบน้อม ใบหน้าได้รูปเปื้อนรอยยิ้มจางๆ ถ้าอีกฝ่ายเข้าใจก็จะได้ไม่ปกปิดอะไรมาก... อย่างน้อยการได้ปล่อยตัวสบายๆหน่อย ก็คงจะดีกว่าเกร็งระแวงระวังตลอดเวลา
" ความรักแบบพวกเรานะคุณ มันไม่มีอะไรแน่นอนหรอก .. จะรักกันได้กี่วัน กี่เดือน กี่ปี ก็ไม่มีใครรู้  "เขาถอนหายใจ

....จะรักกันได้กี่วัน กี่เดือน กี่ปีไม่มีใครรู้....

 คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เทรนเนอร์ ต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันเล็กน้อย  นึกห่วงความสัมพันธ์ของตัวเอง กับเชฟหนุ่มไม่น้อยระยะหลังๆมานี่ก็ไม่ค่อยมีโอกาสจะได้คุยกันเท่าไรนัก...โต้เถียงกันก็บ่อยครั้ง  แล้วแบบนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดำเนินต่อไปแบบไหนกัน

"ครับ ผมทราบดี... " ชายหนุ่ม ตอบเบาๆ ก่อนจะชักชวนให้อีกฝ่ายพยายามออกกำลังกายให้ครบเซ็ท และนับจากนั้นมาก็ดูเหมือนว่าคิโยโนบุจะได้เพื่อนคุยคนใหม่ไปเลยทีเดียว นอกจากชายสูงวัยกว่าคนนี้แล้ว ก็ยังมีอีกหลายคนที่คุยและปรึกษากับเขา แบบเพื่อน แต่ก็มี อีกหลายคนที่เข้ามาแบบไม่ได้หวังจะเป็นเพื่อนด้วย

หลังจากเริ่มทำงานมาได้เกือบอาทิตย์ตารางงาน ของเขาก็ดูจะเพิ่มมากขึ้น ดูเหมือนว่ามีผู้เข้ามาใช้บริการหลายคนติดใจไม่น้อยกับท่าทางที่อ่อนโยนกับใบหน้าที่เป็นที่กล่าวขานว่าดูดีกว่าใครในฟิตเนส

.............................................

คิโยโนบุเลิกงานช้ากว่าปรกติเพราะว่า เขาเพิ่งจะไปสอนเด็กๆให้ว่ายน้ำในช่วงเย็น วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อเด็กคนหนึ่งทะเลาะกับเด็กอีกคนจนเขาต้องเข้าไปห้ามปรามและอยู่คอยรายงานเรื่อง ให้ผู้ปกครองของเด็กๆฟัง

"เฮ้อ.... "ชายหนุ่ม ถอนหายใจเมื่อเดินออกมาจากห้องล็อคเกอร์ของพนักงาน เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรีบร้อย เตรียมจะกลับบ้านไปให้ทัน ก่อนที่ คนรักจะกลับมา....เขายังไม่ได้บอกอีกฝ่ายเลย ว่า เขาได้งานแล้ว

ที่หน้าฟิตเนสในตอนค่ำกว่าทุกวันเช่นนี้ ระหว่างที่คิโยโนบุกำลังจะกลับ ก็ต้องสวนกับเด็กหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งในชุดนักเรียนที่ไม่เรียบร้อยของโรงเรียนที่เขาเคยสอน
"อ่ะ..... " ชายหนุ่ม เผลอหันไปมองด้วยความเคยชิน  ก่อนจะหัวเราะให้กับความคิดวูบนึงของตัวเอง ที่ตั้งใจจะเอ่ยเตือนไปว่า "แต่งตัวให้มันเรีบร้อยหน่อยซิ่" ชายหนุ่มส่ายหน้าให้กับความคิดนั้นเบาๆ ก่อนจะออกเดิน มือก็ดึงเอากุญแจรถออกมาจากกระเป๋ากางเกง

" เดี๋ยว " เด็กหนุ่มคนนั้นสั่งให้คนที่ออกมาจากฟิตเนสหยุดพลางหันไปหาชายหนุ่มผมสีน้ำตาลคนนั้น เสียงเรียกที่ดังขึ้นเองนั้นก็ทำให้ คิโยโนบุต้องหันกลับไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะต้องนิ่งไปเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนเรียกให้เขาหยุด

"....มามิยะ..."


........................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 30) 26/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 26-09-2010 01:11:27
เข้าไปทำงานในถ้ำเสือจะถูกลูกเสือกินมั้ยเนี้ย :laugh:

เหอ เหอ จิตใจเริ่มโน้มเอียงเหตุเพราะหมั่นไส้ตาบ้าจุน :z6:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 30) 26/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 26-09-2010 19:20:10
เริ่มมีเรื่องที่ทำให้ต้องรู้สึกไม่ดีเลย
เหมือนๆจะเศร้า เลย แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ทั้งคู่แค่ต้องปรับตัวใช่ไหม?

หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 31) 26/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 26-09-2010 23:30:52
@@@Writer's Talk@@@

เข้าไปทำงานในถ้ำเสือจะถูกลูกเสือกินมั้ยเนี้ย :laugh:

เหอ เหอ จิตใจเริ่มโน้มเอียงเหตุเพราะหมั่นไส้ตาบ้าจุน :z6:

แหม่ๆ อันนี้ต้องติดตามนะคะ ว่าจะกินเขา หรือ ถูกกิน หรือ จะโดนพ่อหมาป่าที่บ้านกิน

เริ่มมีเรื่องที่ทำให้ต้องรู้สึกไม่ดีเลย
เหมือนๆจะเศร้า เลย แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ทั้งคู่แค่ต้องปรับตัวใช่ไหม?

การที่คนจะอยู่ด้วยกันนี่ก็ต้องปรับตัวจริงๆซิ่นะคะ ....

เอาล่ะไปติดตามกันต่อเลยนะคะ
///////////////////////////////////////////////////


"....มามิยะ..."

เด็กหนุ่มมองหน้าอีกฝ่ายสลับกับบ้านของเขาแล้วถาม แต่ก็ดูท่าทางไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่
" เป็นลูกจ้างพ่อผมเหรอ? "
"....พ่อเธอ?....นี่บ้านของเธอเหรอ...ให้ตายซิ่" คิโยโนบุตบหน้าผากตัวเองเสียดัง "ฉันน่าจะรู้นะ จะได้ไม่มากวนใจเธออีก" ิ คิโยโนบุพูดประชดชะตากรรมตัวเอง
" ไม่ได้กวนอะไรนิ คุณมาทำงาน ผมก็ไม่ได้เสนอหน้ามากวนคุณนิ "มามิยะยักไหล่ แล้วเสยผมขึ้น " ไปล่ะนะ "เขาว่าแล้วก็เดินเข้าไปในบ้านซึ่งอยู่ติดกับฟิตเนสนั้นทันที

"...ถ้าอย่างนั้นก็ดีไป.... "คิโยโนบุพูดขึ้นมาเบาๆ ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรกับเขา แต่มันก็ไม่แน่อีกฝ่ายไม่เคยพูด และความจริงที่เกิดขึ้นก็คืออีกฝ่ายทำร้ายเขา หนักเอาการ...เขาไม่อยากให้อะไรแบบนั้นเกิดขึ้นอีกเพียงเพราะว่าเขามาทำงานที่บ้านของเด็กหนุ่ม หัวโจกคนนี้  อดีตอาจารย์ถอนหายใจยาวก่อนจะเดินกลับไปที่รถของตัวเอง

.....................................


ส่วนคนที่อุตส่าห์ทำกับข้าวไว้เต็มโต๊ะอย่างเจก็ได้แต่นั่งรออีกฝ่าย เขากลับดึกมาหลายวันแล้วเลยอยากจะกลับเร็วมาใช้เวลาอยู่กับคนรักบ้าง เขาเข้าใจดีว่าคิโยโนบุคงจะเบื่อและอยากจะไปหาอะไรทำบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกลับค่ำมากขนาดนี้ ดวงตารีดูนาฬิกาแขวนผนัง มันบอกว่าเกือบสี่ทุ่มแล้ว

"กลับมาแล้ว"

คิโยโนบุไขประตูเข้าห้อง รองเท้าที่วางอยู่ด้านหน้าทำให้รู้ได้ในทันทีว่า คนรักของเขากลับมาถึงบ้านแล้วชายหนุ่มวางกุญแจรถไว้ที่ตู้รองเท้าเช่นเดียวกับกระเป๋า เสื้อผ้าที่รีบ ยัดใส่ตู้เก็บของหน้าประตูก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน ชายหนุ่มผมยาวนั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว ตรงหน้าามีกับข้าวที่เขาชอบทานหลายอย่างวางอยู่ ...ใบหน้าของจุนนั้น บอกความรู้สึกให้รู้ได้ในทันทีแต่เขาก็ยังทำใจดียิ้มสู้

" กลับดึกนะ "
เจทักอีกฝ่าย ทั้งๆที่เขาอยากจะถามว่า ไปไหนมา เสียมากกว่า" ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว เดี๋ยวจะเอาไปอุ่นให้ "
"กินก่อนได้ไหม หิว...  คิโยโนบุ ยิ้ม  ก่อนจะเดินไปช่วยอีกฝ่ายอุ่นกับข้าว "ขอโทษนะ ทำให้ต้องรอเลย" เจไม่พูดอะไรระหว่างการอุ่นกับข้าวและบรรยากาศการกินข้าวร่วมกันมันก็ไม่ค่อยดีมาหลายวันแล้ววันนี้ก็คงไม่ต่างกัน
"โกรธฉันเหรอ... " คิโยโนบุถามออกไปตรงๆ "บอกได้ไหม เรื่องอะไร"
" ฉัน ไม่ได้ถูกโกรธเหรอ? "เจเงยหน้าจากการก้มหน้าก้มตากินข้าวแล้วย้อนถามอีกฝ่าย " เห็นอารมณ์ไม่ค่อยดี  "
" นั่นซิ่นะ ฉัน...คงจะลืมไป " คิโยโนบุตอบหน้าตาเฉยก่อนจะตักข้าวเข้าปากอาทิตย์ที่ผ่านมา เขามัวแต่วุ่นกับงานประจำที่ทำเสียจนไม่มีเวลาคิดโทษอีกฝ่ายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนเช่นก่อนหน้านี่อาจจะเป็นข้อดีในการที่มีงานทำก็เป็นได้ "แต่กลับมาเห็นนาย ... ไม่พูดไม่จา ทำหน้า งอหงิก ฉันก็นึกว่า นายจะโกรธอะไรฉันอีก พูดแค่เรื่องวันนี้ก็แล้วกัน"
" ไปไหนมา? "เจถามเข้าประเด็น
"ไป....ทำงาน" คิโยโนบุเองก็ตอบไปตรงๆเช่นกัน
" ได้งานที่ไหน? "เจถามกลับไปอีกไม่ได้มีอารมณ์อะไรกับคำถามนั้นด้วย
"ฟิตเนส มิยะฟิตเนส ใกล้ๆนี่ล่ะ เป็นเทรนเนอร์ " ชายหนุ่มตอบรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกสอบปากคำ
" เป็นไง ดีรึเปล่า? "ชายหนุ่มรวบตะเกียบก่อนจะดื่มน้ำ
"ก็ดีนะ ...พา คนอื่นออกกำลังกาย มีเพื่อนคุย ก็ดี" คิโยโนบุตอบยกเว้นเรื่องเดียวที่ มามิยะเป็นลูกชายเจ้าของกิจการ
" ทำแล้ว หายเครียดก็ดีแล้ว "ชายหนุ่มผมยาวยิ้ม แล้วลุกขึ้นเก็บโต๊ะอาหาร คิโยโนบุ เหลือบมองปฏิกริยานั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาเท่าไร...

"วันนี้ ไม่มีเทศน์โปรดเหรอ " และอดที่จะแซวอีกฝ่ายออกไปไม่ได้
" น่าจะบอกตั้งนานแล้ว เรื่องงานน่ะ ปิดกันแบบนี้ ใช้ได้ที่ไหน "พูดจบเจก็บ่นเป็นชุดขณะที่เก็บจานไปล้าง
"อ้าว ก็เดี๋ยวเห็นว่าฉันออกไปอยู่กับใครข้างนอก ก็จะโวยหนักกว่าเดิมไม่ใช่รึไง... นายน่ะ " คิโยโนบุว่า "ก่อนหน้านี้ แค่กลับบ้านช้าก็โวย เมาด้วย... "
" แล้วไปทำงานนะถ้าบอกว่างาน ฉันไม่โวยหรอก "หนุ่มผมยาวเถียงอีกฝ่ายมือก็ล้างจานไปด้วย
"ก็งานมันก็มีคนอื่น... "คิโยโนบุพึมพำ "งานฉันใช่อยู่แต่ในครัวเหมือนนายที่ไหน เกิดไม่เข้าใจขึ้นมาฉันก็จะโดนโวยอีก "

แม้จะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่เข้าใจเขาดีมากที่สุด แต่บางเรื่องจุนก็เหมือนกับเด็กๆไม่มีผิด บางครั้งเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอีกฝ่ายทำความเข้าใจกับด้านที่เป็น ผู้ใหญ่แล้วของเขาแล้วหรือยัง

" อย่าเริ่ม ..  "เจบอกอีกฝ่ายเสียงเรียบ " เอาเป็นว่าตอนนี้นายได้งานแล้ว โอเค ฟิตเนส กลับดึกใช่ไหม? "
"........................" คำพูดที่เหมือนกับดุเขาอยู่นั้นทำให้ คิโยโนบุขมวดคิ้วทันที  "อือ ดึก... "
" แล้ว จะหาอะไรกินข้างนอกมาเอง หรือจะมากินที่ห้อง? "เชฟหนุ่มเรียงจานที่ล้างเรียบร้อยใส่ในที่ผึ่งจานแล้วเช็ดมือขณะที่ถาม
"นายจะกลับมาทำกับข้าวให้รึ...นายยุ่งนี่นะ " คิโยโนบุถามกลับ  ก่อนจะลุกจากโต๊ะกินข้าวไปที่โซฟา ทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงตาสีอ่อนปิดลงด้วยอยากจะพัก
" เหนื่อยก็ไป อาบน้ำ นอน ไป "เจบอกคนที่นั่งที่โซฟา
"ฉันหากลับมากินเองก็ได้ ถ้านายไม่ว่าง... ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนนายหรอก เรื่องกับข้าวกับปลา.." คิโยโนบุพูดขึ้นมาทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาขึ้นมามองหน้าของอีกฝ่าย "ฉันก็รู้ว่านายก็เหนื่อย"คิโยโนบุว่าพลางยื่นมือไปจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมาจูบเบาๆ
" เหนื่อยแล้วก็ไม่ต้องอ้อนเลย หรือนายจะชวน? "ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้เขายิ้มแล้วดึงร่างนั้นมากอดไว้หลวมๆ
"จูบก็ไม่ได้... เข้าเรื่องนี้ตลอดเลย...... นี่ รักฉันเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า... ครั้งแรกก็ไม่เห็นจะถูกใจ " ชายหนุ่มในอ้อมกอดหลวมๆนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ การได้ไปทำงาน ทำให้สมองของเขาปลอดโปล่งขึ้นเยอะ มันไม่ใช่งานที่ต้องใช้สมองอะไรมาก ไม่ต้องแคร์สายตาใครมาก แค่ทำหน้าทีของตัวเองให้ดีก็พอ...พลอยทำให้อารมณ์เขาดีไปด้วย  เสียงหัวเราะดังขึ้นหลังจากประโยคนั้นแล้วก้มลงจูบอีกฝ่ายเบาๆ
" ไม่ต้องทำ แค่อยู่แบบนี้ ก็รู้สึกดีแล้ว "
"ถ้าอย่างนั้นก็.... ดี..... " คิโยโนบุว่า พลางผละออกมาจากอีกฝ่าย "เออ จุน.... " ชายหนุ่มถามก่อนที่จะเดินไปถึงหน้าประตูห้องนอน เพื่อเข้าไปอาบน้ำ ในห้องน้ำ
" อะไร? "
"นาย คงไม่ หึงอะไรฉันหรอกใช่ไหม... ถ้าฉันจะไป ใกล้คนอื่น..."
" ดูก่อน " เจแบ่งรับแบ่งสู้" ถ้าไม่เกี่ยวกับงาน หึงแน่ "
"...นายไม่ได้เห็นอยู่แล้วนี่นา... "คิโยโนบุว่าพลางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
" เฮ้ย มาพูดกันก่อน " คำพูดของคิโยโนบุทำเอาเจอยู่นิ่งไม่ได้เลย เขาเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในห้องน้ำ แล้วโวยวาย ตามประสา ก่อนจะปิดประตุเมื่อเสียงฝักบัวถูกเปิด และเสียงโวยวายก็เงียบลง

..........................................


" อิโนะอุเอะ เจ้านายเรียกน่ะ " เทรนเนอร์รุ่นพี่ เดินมาเรียกหนุ่มผมสีน้ำตาลขณะที่เดินเข้ามาในฟิตเนส

"เจ้านาย?...อ่ะ โอเค เดี๋ยวผมไป " ชายหนุ่มว่าพลางหันไปบอกให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ วอร์มร่างกายรอไปก่อน ที่จะขอตัวเดินไปที่ ออฟฟิศ

"เรียกผมรึเปล่าครับ... " เขาว่าพลางหันไปปิด ประตูออฟฟิศ แล้วหันมามองหน้าคนที่เรียกเขาเข้ามา
" นั่งสิ อิโนะอุเอะ  " มามิยะ เจ้าของฟิตเนสแห่งนี้เชิญให้อีกฝ่ายนั่งลง โดยที่เด็กหนุ่มผมiากไทรร่างสูงเดินเปิดประตูห้องจากอีกด้านเข้ามา
" เรียกมาทำไมน่ะ พ่อ? "
"อ่ะ....ครับ..."ชายหนุ่มมองหน้าคนที่นั่งอยู่กับเจ้านายของตัวเองเล็กน้อย "ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ" คิโยโนบุนึกหวั่นในใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน อาจจะเข้าหูเจ้านาย คนใหม่ของเขาหรือเปล่า
" ได้ข่าวว่า คุณเคยเป็นครูประจำชั้นเจ้าตัวดีนี่ ใช่ไหม? "
"อ่ะ..ครับใช่ครับ" ชายหนุ่มรับคำ เสียงเบา

ผู้เป็นพ่อจับให้ลูกชายนั่งลงเก้าอี้ข้างๆได้อย่างง่ายๆ มามิยะ ผู้พ่อ นอกจากจะเปิดฟิตเนสแล้ว ยังแข็งแรงอยู่มาก เพราะชอบออกกำลังกายด้วย คิโยโนบุเหลือบมองหน้าอดีตลูกศิษย์เล็กน้อย
"เขาก็... พยายามปรับปรุงตัวอยู่น่ะครับ... ผมเองก็ฝากให้ อาจารย์คนใหม่ ช่วยดูแลเคี่ยวเข็ญด้วย "
" พ่อจะเอาไง ว่ามาเลย เข้าเรื่องเถอะน่า "ผู้เป็นลูกบอกอย่างรำคาญ
" โช ต่อไปนี้ ห้าโมงเย็นทุกวันแกต้องกลับบ้านมาเล่นฟิตเนส พ่อจะให้อิโนะอุเอะเป็นเทรนเนอร์ "


...............................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 31) 26/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 26-09-2010 23:45:44
งานหลวง งานราษฏ์ ไม่ไหวจะเคลียร์ o22
จุนจังไม่ต้องห่วงเดี่ยวเค้าเฝ้าให้  :m24: อิอิ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 32) 27/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 27-09-2010 23:54:44
@@@Writer's Talk@@@

กลับมา กทม แล้วค่า เย้ๆ (เน็ตห่วยตามเคย) แต่จะย้ายหอหนีเน็ตก็กระไรอยู่ ฮ่าๆ

งานหลวง งานราษฏ์ ไม่ไหวจะเคลียร์ o22
จุนจังไม่ต้องห่วงเดี่ยวเค้าเฝ้าให้  :m24: อิอิ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม

แบบนี้ซิ่นะคะ เขาเรียกว่า "งานเข้า" ฮ่ะๆ

//////////////////////////////////////////

" โช ต่อไปนี้ ห้าโมงเย็นทุกวันแกต้องกลับบ้านมาเล่นฟิตเนส พ่อจะให้อิโนะอุเอะเป็นเทรนเนอร์ "

"ครับ!?" คิโยโนบุรับคำด้วยเสียงสูง ไม่เข้าใจ ความคิดของผู้เป็นพ่อคนนี้นัก

....รู้หรือเปล่าวว่าผมกับลูกคณเคยมีเรื่องกันเนี่ย.... 


" เฮ้ย พ่อ! "โชอ้าปากจะเถียง แต่สายตาที่ไม่มีทางเปลี่ยนใจทำให้ลูกชายตัวดีต้องนั่งกอดอกอย่างขัดใจท่าทางนั้นทำให้ เทรนเนอร์คนใหม่ของทางฟิตเนส ต้องจำใจก้มหัวรับหน้าที่ใหม่นี้ไปด้วย
"เดี๋ยวผมจะไปจัดการเคลียร์ตารางช่วงนั้น กับ เทรนเนอร์ คนอื่น ก็แล้วกันนะครับ" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลมองหน้าของทั้งสองคน ก่อนจะถามต่อ"ไม่ทราบว่าจะให้เริ่มวันไหนครับ"
" เย็นนี้เลย " เจ้าของฟิตเนสตอบกลับมาง่ายๆ" โช ถ้าแกเบี้ยว แม้แต่วันเดียว ฉันจะหักเงินค่าขนมครั้งละ ห้าพันเยน...เอาล่ะ ไปได้แล้ว "

คิโยโนบุโค้งให้กับเจ้านาย ก่อนจะลุกแล้ว เดินออกมาจากห้อง พร้อมๆ กับ อดีตนักเรียน ที่กำลังจะกลับมาเป็นนักเรียนใกม่ อีกรอบ
 
"โอเค... ไว้เจอกันตอนห้าโมงก็แล้วกันนะ....โชคุง" ท้ายประโยคนั้นมีเสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ เพราะเสียงของมามิยะผู้พ่อที่เรียกอีกฝ่ายนั้น ทำให้อดที่จะขำไม่ได้.

... พ่อเข้มงวดขนาดนี้ ยังกล้าเกเรอีกนะคนเรา...

" เออ! "เด็กหนุ่มรับคำไปส่งๆแล้วเดินออกไปอีกทาง ไม่หันกลับมามองคนที่เขาต้องเจอทุกวัน จากนี้ไปซักนิด ชายหนุ่มยักไหล่เล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองตารางเวลา ของเหล่าเทรนเนอร์ที่ลงเอาไว้บนกระดานตรงโถงทางเดิน ก่อนจะต้องเกาหัวแกรก
"แลกงานกันมันส์แน่เลย" ชายหนุ่มว่าพลาง เดินกลับไปที่ด้านในฟิตเนส ...พยายามจะหาเหยื่อแลกตารางงานด้วย
................................

ใกล้เวลาจะห้าโมงเย็นคิโยโนบุเงยหน้า ขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังห้องสำหรับคลาสศิลปะป้องกันตัว  ชายหนุ่มถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะขอตัวออกมาเตรียมตัวสำหรับ คลาสพิเศษที่เขาจะต้องเป็นเทรนเนอร์ให้กับ มามิยะ โช ลูกชายของเจ้าของกิจการ ชายหนุ่มนั่งรออดีตนักเรียนอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า รอให้เด็กหนุ่มคนนั้น เดินเข้ามาแต่จนแล้วจนรอดเด็กหนุ่มก็ยังไม่มา

เวลาผ่านไปกว่า ยี่สิบนาที แต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะมา คิโยโนบุถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะลุกเดินเข้าไปที่ล็อกเกอร์ เพราะถ้าอีกฝ้ายไม่มาเขาก็ไม่มีคลาสอะไรอื่นจะต้อง สอนอีกแล้วในวันนี้
"ไม่มาก็ดีจะได้กลับ"
" จะอู้รึไง? "เสียงห้าวๆ ดังขึ้นด้านหลัง ของเทรนเนอร์หนุ่ม
"อู้?...เปล่า ก็เห็นว่ามันเลยเวลานัดมานานมากแล้วก็เลยจะกลับ ก็เท่านั้น "คิโยโนบุหันไปตอบ ก่อนจะมองอีกฝ่าน "พร้อมจะออกกำลังกายหรือยังล่ะ "
" พ่อบังคับหรอก จะให้ทำอะไรก็บอก ละกัน เร็วๆ  "ลูกชายเจ้านาย สั่งอีกฝ่ายพลางขมวดคิ้ว
"ถ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ดี... ไปที่ห้องโยคะก็แล้วกันยืดเส้นยืดสายก่อน แล้วเดี๋ยวจะให้ไปวิ่งที่เครื่องอีกสิบห้านาที ค่อยไปยกเวท ...หรืออยากจะทำอย่างอื่น"
ว่าพลางก็ใช้ยกสมุดจดตาราง ในการออกกำลังกายชี้ไปทางห้องโยคะ
 
" โยคะ? เหอะ แต๋วชะมัด "มามิยะทำปากย่น
" ครู หาอะไรให้มันแมนๆหน่อยไม่ได้รึไง?"
"ก็ถ้านายไม่วอร์มร่างกายแบบแต๋วๆ ก่อนนายก็จะบ้าพลังยกเวท จนกล้ามเนื้อฉีกเอาไหม จะได้ยกแขนต่อยหน้าใครไม่ได้ไปอีกหลายเดือน" คิโยโนบุหันมามองหน้า
" เหอะ "มามิยะ บ่นๆๆ แต่ก็เดินเข้าห้องโยคไปจนได้
"ก็เท่านั้นล่ะ...โอเค... ก่อนอื่นก็ยืดเส้นยืดสายกันหน่อย ทำตามนะ" คิโยโนบุว่ายืดแขน แล้วทำให้อีกฝ่ายดู "แบบนี้....หายใจเข้าแล้วก็ออก ทำไปสลับซ้ายขวา ข้างละ 15 ครั้ง" ชายหนุ่มว่าพลางมองหน้าของอีกฝ่ายผ่านกระจก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะกำลังทำประชดเสียมากกว่า
"พ่อบังคับก็เถอะ...แต่ถ้าทำแบบนี้ มีแต่นายจะเจ็บตัว ค่อยๆทำซิ่" ว่าพลางก็เดินเข้าไป จับแขนอีกของเด็กหนุ่มที่กำลังสะบัดแขนไปมาแรงๆ แทนที่จะเป็นค่อยยืดออกตามคำแนะนำ

" เฮ้ย จับทำไม? "มามิยะสะดุ้งเมื่อถูกอีกฝ่ายแตะแขน ระยะห่างมันน้อยเกินไป...สำหรับเขา
"ก็นายกำลังทำร้ายตัวเอง ทางอ้อมอยู่... " คิโยโนบุมองหน้าของอีกฝ่าย "จะให้เทรนให้ หรือ จะ ออกกำลังกายตามมีตามเกิด ...ฉันจะได้ไป " มือเรียวละออกจากแขนของอีกฝ่าย แต่มือที่มีแต่เรื่องชกต่อยมาตลอดนั้นกลับดึงแขนของอีกฝายเอาไว้
" โอเค "เด็กหนุ่มถอนหายใจ " ยังไงก็ได้ คุณชนะ "
"ก็เท่านั้น ..โอเค ทำตามนะ " คิโยโนบุว่า ยืนข้างๆอีกฝ่าย พลางมองหน้าเด็กหนุ่มผ่าน กระจก แล้วเริ่ม ขยับ เพื่อให้อีกฝ่ายทำตาม

การวอร์มอัพจบลง หลังจากผ่านไปสิบนาที เทรนเนอร์หนุ่มนำอีกฝ่ายไปยัง ลู่วิ่ง ก่อนจะบอกให้มามิยะ วิ่ง อีกสิบห้านาที ก่อนจะยกเวท เพื่อบริหารกล้ามเนื้ออีกหลายเซ็ท

"โอเค...วันนี้ ก็พอแค่นี้ ก่อนก็แล้วกัน ... เดี๋ยวจะกล้ามเนื้อจะเจ็บเอาเสียก่อน " ชายหนุ่มว่าพลาง ช่วยยกเหล็กที่อีกฝ่ายกำลังยกชึ้นวาง
" อือ หิวแล้ว ... เออ ครู  เอ้ย คุณ กินข้าวไหม? "มามิยะ ถามทั้งๆที่เช็ดหน้าอยู่
"กินข้าว?... ที่บ้านนายน่ะเหรอ...ไม่ดีกว่า" คิโยโนบุหัวเราะ ก่อนจะส่งขวดน้ำให้กับอีกฝ่าย แล้วเก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่ยังมีแขกเข้ามาใช้บริการอีก แต่สำหรับวันนี้หน้าที่ของเขาหมดแล้ว "อ้อ...วันนี้ ทำได้ดีนะ" คิโยโนบุวางมือลงบนไหล่ของอีกฝ่ายก่อนจะยิ้มให้แล้วละมือออกอย่างรวดเร็ว "แล้วเจอกันพรุ่งนี้ " คิโยโนบุว่า ก่อนจะถือสมุดจดความก้าวหน้า เดินไปอีกทาง

ปล่อยให้เด็กหนุ่มต้องมองตามหลังไปแบบนั้น

......................................


"กลับมาแล้ว หิว หิว หิว... " เสียงนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียง ถอดรองเท้าที่หน้าประตูห้องคิโยโนบุกลับถึงบ้านตอนใกล้จะสองทุ่ม เขาเข้ามาเห็นว่าจุนกลับมาแล้ว
ก็คิดว่า ดีที่วันนี้ตัดสินใจกลับมากินข้าวที่บ้าน เพราะว่าวันนี้เขามีเรื่องจะเล่าให้อีกฝ่ายฟังมากมายเหลือเกิน "กลับมาแล้ว..."ชายหนุ่มตรงไปที่ห้องครัว แต่ก็ต้องหยุด เมื่อเห็นว่า ไม่มีใครอยู่ "อ้าว...จุน?...."  ก่อนจะหันไปเห็นว่า เจ้าของชื่อ นั่งเงียบๆ อยู่คนเดียวที่หน้าทีวี
" มาแล้วเหรอ? " น่าแปลกที่เสียงของหนุ่มผมยาวนั้นเรียบๆ ไม่ค่อยจะยินดียินร้ายซักเท่าไหร่ ขณะที่ดูรายการโทรทัศน์ถ่ายทอดสดกีฬาอยู่
"อื้ม... เอ่อ...กินข้าวแล้วเหรอ...กลับมาเร็วจังนะวันนี้ " คิโยโนบุว่าพลางวางกระเป๋า ลงก่อนจะเดินไปหาน้ำมาดื่ใม ชายหนุ่มเดินถือแก้ว ไปนั่งลง ที่โซฟาตรงหน้าอีกฝ่าย "ถ่ายทอดอะไรน่ะ "
" ก็เรื่อยเปื่อยน่ะ "เจว่าก่อนจะกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ
"เหรอ...."ท่าทางของอีกฝ่าทำให้ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย "อ้อๆๆ วันนี้ สอนคลาสใหม่อีกแล้ว ... คลาสพิเศษ ลูกเจ้าของ ฟิตเนสล่ะ...ทายซิ่ว่าใคร... มามิยะล่ะ...โอ้ย เหนื่อยแทบตาย "คิโยโนบุบ่นออกมายาวเป็นชุด ก่อนจะเอนตัวได้พิงกับพนักของโซฟา อิงตัวไปทางหนึ่งก่อนจะหันหน้าไปทางทีวีสองขายกขึ้นมาไว้บนพนักเก้าอี้
" มามิยะ? "หนุ่มผมยาวหันมามองตามเสียงพูด" เจ้าของฟิตเนส มามิยะ นั่นใช่.....  บ้านเดียวกันเหรอ "
"พ่อลูกกันเลยล่ะ...พ่อเขาสั่งให้ฉันเทรนให้หมอนั่น..." คิโยโนบุตอบยกแก้วน้ำเย็นๆ ขึ้นแตะหน้าผาก "ไม่รู้ว่าเขารู้รึเปล่าว่า เคยมีเรื่องกันมาก่อน  ไอ้เรามันก็แค่ลูกจ้างน่ะนะ จะพูดอะไรก็ไม่ได้ยิ่งไอ้เรื่องที่ว่า เคยต่อยหน้าลูกเขาด้วย...แถมดื้อบอกดีๆ ก็ไม่เอา กระแทกกระทั้นทำไป กล้ามเนื้อได้ฉีกกันพอดี บ้าจริง"
" งั้นเหรอ? "น่าแปลกที่เจเพียงแต่รับคำเท่านั้น " เอ้อ แล้วข้าวน่ะ ฉันนึกว่านายจะหามาจากข้างนอกแล้วก็เลยไม่ได้ทำไว้ "
"อ้าว...เหรอ... นายกินอะไรรึยังล่ะ ถ้ายังไงฉันออกไปซื้อมาเผื่อดีไหม?"
" เบียร์ หมดแล้ว "เจยิ้มให้อีกฝ่าย
"โอเค... เดี๋ยวไปซื้อมาให้ก็แล้วกัน... รอหน่อยนะ" ชายหนุ่มยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้น แล้วบิดซ้ายขวา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

พอคิโยโนบุกลับมาชายหนุ่ม กลับมาพร้อมกับเบียร์ สองแพ็ค กับ อาหารกล่องสำหรับสองคน มีขนมและกลับแกล้ม ติดมือมือเผื่ออีกเล็กน้อย

"นี่จุน ใจคอจะกินแต่เบียร์จริงเหรอ" คิโยโนบุถามพลางมองกับข้าวที่ไม่ได้พร่องไปเลย แม้แต่น้อยตรงหน้าของอีกฝ่าย
" นายทำงานมาเหนื่อยนี่ กินอาหารสองกล่องมันเรื่องปกตินี่ กินซิ "หนุ่มผมยากยักไหล่แล้วเปิดเบียร์อีกกระป๋อง
"ซื้อมาให้นาย ต่างหากเล่า... อีกอย่างนะ ก็กินเหมือนคนปรกติ มานาน แล้ว..." ท่าทางของอีกฝ่ายที่ ดื่มแต่เบียร์ทำให้ ชายหนุ่ม อดที่จะสงสัยไม่ได้ "เป็นอะไรรึเปล่า มีอะไรเหรอ "
" เห็นนายดูโอเคแบบนี้ก็ดีแล้ว "เจว่าแล้วยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม
"...มีอะไรก็อยยากให้บอกกันหรอกน้า... " เมื่อเจออีกฝ่ายพูดแบบนั้นชายหนุ่มก็ ตักข้าวเข้าปากไปเงียบ
" อีกซักพักก็แล้วกัน "ก่อนที่เจจะได้พูดะไรต่อ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ชายหนุ่มรับโทรศัพท์โดยไม่ได้ลุกไปไหน

"เป็นไงบ้าง... " เสียงหวานดังลอดออกมาจากหูโทรศัพทืเมื่อชายหนุ่มร่างสูงกดรับสาย
" อาคาริ? "เจเรียกชื่อของอดีตคนรักของเขาเบาๆ แต่มันก็ดังพอที่จะให้คิโยโนบุได้ยิน ชื่อที่ดังขึ้นทำให้ ชายหนุ่มวางตะเกียบ ลงก่อนจะลุกขึ้นเก็บข้าวกล่องที่ ตัวเองทานหมดเรียบร้อยแล้ว
"แน่ล่ะ ไม่ได้เจอกันพักใหญ่นี่จะลืมกันเลย เหรอ เรื่องนั้นว่าไงล่ะ "
" แล้วอาคาริล่ะ จะทำยังไง? "ชายหนุ่มถามปลายสาย แล้วเดินเลี่ยงไปที่ระเบียง คิโยโนบุได้แต่มองตามร่างสูงนั้นเดินออกไป
"ถ้าได้ก็คงไปนั่นล่ะนะ โอกาสในมาถึงมือทั้งทีนี่นา... เป็นจุนเอง ก็คงจะทำแบบนั้นใช่ไหม...เว้นแต่ว่า...เขา...จะว่ายังไง "
" ยังไม่ได้คุยน่ะ "ชายหนุ่มถอนหายใจ " ดูเขาเองก็มีเรื่องให้คิดอยู่มาก ผม..ไม่อยาก ให้เขามีเรื่องให้คิดมากขึ้นอีก "
"เป็นแบบนี้ล่ะนะ จุนน่ะ...บางครั้ง เพราะแคร์มากเกินไป ก็เก็บเอาไว้...เมื่อไรจะได้พูดกันล่ะ เกิดว่าจะต้องไป...วันเก็บของเลยรึไง"
" มันก็ไม่แน่หรอก ฮะ ฮะ  "เจหัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทางนั้นผ่อนคลายมากขึ้น

ท่าทางที่ จุนเดินออกไปคุยโทรศัพท์ไปพลางหัวเราะไปพลางตรงระเบียงนั้น ทำให้คิโยโนบุต้องหรี่ตามองเล็กน้อย เมื่อมองออกมาจากซิงค์น้ำ
ชายหนุ่มเปิดน้ำให้แรงขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อให้เสียงน้ำดังกลบบทสนทนานั้นไปเสีย

"ยังจะได้เจอกันอยู่ใช่ไหม...งานครั้งต่อไป " เสียงอาคาริดังขึ้น "ถึงคุณจะหักอกฉัน แต่ฉันก็ยังอยากจะร่วมงานกับคุณอยู่นะ "
" ผมก็เหมือนกัน ดีนะที่ได้คุยกันอีก  "ชายหนุ่มยิ้ม " งั้นแค่นี้นะ อาคาริ "
"อืม... แค่นี้นะ " เสียงหวานดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะวางสายไป

............................

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองคนที่ยืนอยู่ที่ระเบียง ก่อนจะหลับตาลง ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นลามมาจับที่หัวใจและเขาอยากจะให้มันหายไป... ก่อนที่มันจะลุกลามมากไปกว่านี้
" ล้างจานเสร็จแล้วเหรอ? "เจเดินกลับมาจากระเบียง แล้วมองจานที่คนรักยังคงถือเอาไว้ที่อ่างล้างจาน
"อ่ะ...อืม เสร็จแล้วๆ " ชายหนุ่ม ล้างฟองสบู่ออกจากจานก่อนจะ วางลงบนชั้นพักจาน ก่อนจะปิดน้ำแล้วเช็ดมือ
"นายจะอาบน้ำรึยัง... ไม่อย่างนั้นฉันจะไปอาบก่อนล่ะ... " เสียงที่พูดนั้น รัวเร็วจนเหมือนกับอยากจะรีบๆไปจากตรงนั้นเสียมากกว่า เจได้แต่มองอีกฝ่ายเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนตัวเขาเองก็ต้องเดินออกไปสูบบุหรี่อย่างเคร่งเครียด

คืนนั้น ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อน แทบจะไม่ได้พูดอะไรกับจุนอีก

...ถ้าพูดล่ะก็...อาจจะต้องถามออกไปแน่ๆ...
...ถ้าพูดออกไปล่ะก็...อาจจะ...ถามไปก้ได้ว่า ใครโทรมา คุยเรื่องอะไร...นั่นมัน...เหมือนผู้หญิงไม่ใช่เหรอ...


ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เหลือบมองใบหน้า ของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆเล้กน้อย น่าแปลกที่ใบหน้าคมนั้น ดูจะเคร่งเครียดกว่าทุกคืนที่ผ่านมา และบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนก็เป็นแบบนี้ ต่อไปอีกหลายวันเลยทีเดียว เชฟหนุ่มที่บางครั้งก็ทอดถอนใจ คิ้วขมวดนิ่งอยู่หน้าทีวีโดยที่ไม่ได้พูดอะไรและคิโยโนบุเองที่ได้แต่นั่งมองภาพนั้น โดยไม่ได้ถามอะไรเช่นเดียวกัน

...................................

"เฮ้อ.... " เสียงเทรนเนอร์หนุ่มถอนหายใจ เมื่อ มามิยะ ยกเวทครบตามเซ็ท ชายหนุ่มมัวแต่คิดเรื่องของคนรัก เกือบจะลืมที่จะไปช่วยอีกฝ่ายยกเหล็กขึ้นวาง
"อ่ะ โทษที เหม่อ ไปหน่อย "
" อะไร คุณทะเลาะกับหมอนั่นรีไง? "มามิยะลองถามดู แล้วค่อยๆลุกขึ้นนั่ง
"เอ่อ... เปล่านี่ ... เอ้ย..."คิโยโนบุหลุดปากไปก่อนจะมองหน้าของอีกฝ่าย
"ทำไมฉันต้องตอบนายเรื่องนี้ด้วยเนี่ย" คิโยโนบุว่าพลาง หัวเราะ เบาๆ แล้วเบือนหน้าไปอีกทาง
" แต่คุณก็ตอบ  "

มามิยะหัวเราะออกมาเสียงดัง เด็กคนนี้ไม่เคยปิดบังอะไรเลยตั้งแต่ที่คิโยโนบุเป็นครูประจำชั้น มามิยะคนนี้ก็เป็นเนื้อร้ายของห้องอย่างเปิดเผยมาตลอดทั้งท่าทาง และการวางตัว ที่เปิดเผยของอีกฝ่าย แม้จะร้าย แต่ สิ่งที่ คิโยโนบุเห็น นั้น ไม่ได้แตกต่างไปจากคนที่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย

"มันก็แค่พลั้งปากหรอกน่า...อย่ามาหลอกถามเลย.... " คิโยโนบุว่าพลางขยี้ผมอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะหยุด เมื่อรู้ว่าลืมตัว ให้ความสนิทสนมมากเกินไปอีกแล้ว เขาเป็นแบบนี้เสมอเมื่อได้ใกล้ชิดใคร

"อ่ะ โทษๆ... เดี๋ยวนาย พักได้นะ แล้ว เดี๋ยวจะยกอีกเซ็ท แล้วจะวอร์มดาวน์ ก่อนจะเลิก"
" เลิกแล้วกินข้าวกับผมนะ "มามิยะ ยังคงพูดคำพูดติดปากเหมือนทุกวัน ทั้งที่ทุกครั้งเขาจะได้ยินคำปฏิเสธ
"ไปกินด้วยได้ แต่ฉันจ่าย โอเค? " คิโยโนบุตอบเมื่อลุกไปดื่มน้ำ เขาไม่ได้หันมามองหน้าของอีกฝ่าย
" ผมเลือกที่กินได้ไหมล่ะ? "เด็กหนุ่มถามขึ้นมา ทั้งๆที่ปกติก็ไม่ได้มีท่าทีเรื่องมากเลยซักนิด
"เลือก? ....อืม ก็ได้ อยากกินที่ไหนล่ะ "คิโยโนบุเลิกคิ้วถาม
" ไว้เดี๋ยวจะบอกทางให้ละกัน "เด็กหนุ่มเดินไปยังอุปกรณ์ออกกำลังอีกเครื่องตามโปรแกรมที่ได้วางเอาไว้

มามิยะออกกำลังกายภายใต้การกำกับดูและของเทรนเนอร์จนเมื่อได้เวลา คิโยโนบุจึงบอกว่าถ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ลงไปเจอกันข้างล่าง
ซึ่งไม่นาน หลัง จากนั้น คิโยโนบุ ก็เดินลงมาที่ด้านหน้าฟิตเนส เด็กหนุ่มลูกชายเจ้าของกิจการยืนรออยู่แล้วเรียบร้อย
" ไปกันเถอะ หิวแล้ว "เด็กหนุ่มร่างสูงที่ร่างดูหนาขึ้นกว่าตอนที่คิโยโนบุสอนอยู่ที่โรงเรียนเดินเข้ามาหา
"อืม... "คิโยโนบุรับคำ ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กๆ

... สงสัยคอร์สเทรนนี่งที่คิดนี่จะได้ผล เกินคาด...

" อีกหน่อยพ่อจะซื้อรถให้ ตอนนั้นค่อยไปกินอะไรกันไกลๆ นะ "มามิยะมองที่รถอีกฝ่ายสลับกับคนเป็นเจ้าของ " แต่ตอนนี้ ก็ไปกินแถวๆนี้ละกัน  "
"แถวๆนี้... โอเค ได้ ก็บอกทางมาก็แล้วกัน " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลว่า พลางพยักหน้าให้อีกฝ่าย ไปนั่งที่ ข้างคนขับเมื่อกดรีโมทปลดล็อครถ คิโยโนบุออกรถ ก่อนจะหันมาถาม
"แล้วอยากไปไหน... ซ้าย...ขวา แถวไหน "
" ตรงไปอีกหน่อย .. ตรงนั้นเลย แถวนั้นมีร้านเจ๋งๆ  "มามิยะชี้ที่ร้านอาหารกึ่งผับที่อยู่ด้านหน้า
"ร้านมีเหล้าขาย... ห้ามสั่งนะ ฉํนยังไม่อยากถูกจับ "คิโยโนบุ รู้ดีถึงนิสัยของอีกฝ่ายว่า คงได้สั่งอะไรแผลง มาให้เขาถูกเพ่งเล็งแน่ จึงพูดดักคอเอาไว้เสียก่อน

ทั้งสองคน เข้าไปในร้านอาหารกึ่งผับที่คิโยโนบุจอดรถเอาไว้ด้านหน้าร้านอาหารที่มามิยะสั่งมามีมากกว่าที่คนสองคนจะกินไหวเสียอีกแต่มันก็ผิดคาดตรงที่ในที่สุดพวกเขาก็ช่วยกันจัดการจนหมดได้คงจะเป็นเพราะ รสชาติ แล้วความเหนื่อยเป็นแน่

"โอ้ย...อิ่ม... "คิโยโนบุ แทบจะหงายหลังลงไปกับเก้าอี้ เพราะ เขาเอง ก็ทั้งกิน และเผลอดื่มเบียร์ไปอีกสองสามแก้วในขณะที่บังคับให้อีกฝ่าย กินน้ำ อัดลม แทน "โอเค... งั้น เดี๋ยวฉัน ไปส่งนาย ที่บ้านก็แล้วกันนะ เดี๋ยวพ่อนายจะว่า เอา ลูกชายหาย"
" ผมอยากไปส่งคุณมากกว่า  "มามิยะมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง


.........................................to be con.
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 32) 27/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 28-09-2010 00:17:53
ทำไม"ช่องว่างระหว่างเรา"ของอีกคนมันถึงเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แต่ในทางตรงกันข้ามของใครอีกคนมันถึงแคบลงโดยไม่รู้ตัวล่ะ :serius2:

ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้า :mc4:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 32) 27/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 28-09-2010 23:44:33
วันนี้ขออนุญาตงดโพสหนึ่งวันนะคะ ...
[/color][/b] :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 33) 29/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 29-09-2010 22:11:20
@@@Writer's Talk@@@
เมื่อวานขอโทษด้วยค่ะ พีจังก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองก็ชอบข่าวเรื่องชาวบ้านเขาเหมือนกัน...นั่งดูแอนนี่...ฮ่ะๆ
ไม่เป็นอันทำอะไรเลยทีเดียว :-[
///////////////////////////////[/color]

" ผมอยากไปส่งคุณมากกว่า  "
มามิยะมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง

"หา.... เฮ้ย ทำไมกลับกันงั้นเล่า นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว นายจะกลับบ้านไงเนี่ย " ไม่รู้วว่าเป็นเพราะท่าทางของอีกฝ่ายหรือยังไงกันแน่ที่ละม้ายคล้ายเหลือเกินกับ คนรักทำให้คิโยโนบุ พูดกับอีกฝ่ายด้วยความสนิทสนม ดูเหมือนว่าความหวาดระแวงเล็กๆที่เคยมีเพราะเคยถูกอีกฝ่ายทำร้ายมานั้นจะค่อยๆ หายไป เพราะตลอด เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา มามิยะไม่ได้มีท่าทีก้าวร้าวใส่เขาเลย นอกจากจะบ่นว่ารำคาญกับคำพูดจ้ำจี้จ้ำไชของเขามากกว่า
 
" แต่คุณดื่มเบียร์นะ ดื่มเบียร์ขับรถ ผิดกฎหมายไม่ใช่รึไง? " เด็กหนุ่มถามแล้วขยับมาดึงกุญแจรถจากอีกฝ่ายไปถือไว้" เผื่อคุณไม่รู้ ผมอายุมากกว่าเด็กคนอื่นในห้อง มีใบขับขี่แล้วและตอนนี้ผมไม่ได้ดื่มเหล้า เพราะงั้นผมไปส่ง "เด็กหนุ่มพูดยาวเหยียด แล้วเรียกพนักงานมาเก็บเงินแล้วเอาเครดิตการ์ดยื่นให้ก่อนที่เทรนเนอร์ของเขาจะทันได้รู้ตัว

"อ้าวเฮ้ย...แค่สามแก้วนี่มันไม่ได้เมาอะไรขนาดนั้นหรอก แล้วนั่นการ์ด มามิยะ...นายคิดอะไรของนาย "คนที่อายุมากกว่าโวยวาย แน่นอน อยู่ๆมาถูกเด็กอายุน้อยกว่าตั้งขนาดนี้ เสนอตัวทั้งจะไปส่ง แล้วยังมาถือวิสาสะเลี้ยงข้าวด้วยแบบนี้นั้น มันดูแย่ไม่น้อยเลยทีเดียว

" หมอนั่นมันบอกคุณแล้วนี่ "เด็กหนุ่มตอบแค่นั้นแล้วลุกขึ้นเดินไปสตาร์ทรถของอีกฝ่าย ก่อนจะบีบแตรเรียก คิโยโนบุได้แต่ส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเดิน ไปขึ้นรถอย่างช่วยไม่ได้ 
"...ฉันมี "เขา"แล้ว... แค่อยากบอกให้นายรู้อีกรอบ" คิโยโนบุหันไปมองหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะหันหน้ามองไปยังถนนเบื้องหน้า ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลนั่งพิงหลังกับพนักเก้าอี้ แต่ก็น่าแปลกที่เขารู้สึกผ่อนคลายกว่าการที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศอึดอัดที่บ้านนั่นไม่น้อย
" ก็ไม่เห็นเป็นไรนิ "เด็กหนุ่มยักไหล่ " คุณทำให้ผมกลายเป็นแบบนี้ไปด้วยแล้วนิ "เขาหมุนพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวออกจากที่จอดรถ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเมนต์ของเจ โดยที่ไม่ต้องให้คนที่นั่งข้างๆบอกทางแม้แต่น้อย

"รู้จักบ้านพวกฉันด้วยรึไง... " คิโยโนบุ หันไปมองหน้าของอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเลี้ยงรถไปตามทางอย่างถูกต้อง
" แหงล่ะ "นี่คือคำตอบของอีกฝ่ายขณะที่เลี้ยวมายังที่จอดรถใต้อพาร์ตเมนต์ก่อนจะดับเครื่องยนต์แล้วยื่นกุญแจรถให้ผู้เป็นเจ้าของ

" ลงมาซิ เดี๋ยวไปส่งที่ห้อง "
"อ่ะ...เอ่อ ไม่ต้องก็ได้มั้ง ดึกแล้ว นายกลับบ้านดีกว่า " คิโยโนบุดึงเอากุญแจมาจากอีกฝ่าย

....ขึ้นไปส่ง เกิดจุนอยู่ก็บ้านแตกซิ่...
.....จุนยิ่งไม่ชอบหมอนี่อยู่ด้วย ...


" ไม่ได้ๆ คุณดื่มเบียร์มานะ "เด็กหนุ่มไม่ยอมท่าเดียว เขาดื้อจะตามไปส่งจนได้นั่นแหละ
"ดื่ม...ก็ยังไม่เมาขนาดเดินไม่ไหว นี่นา" คิโยโนบุก้าวถอยหลัง "นายกลับบ้านไปเถอะน่า ""จะขึ้นไปให้ได้รึยังไง... "
" ส่งหน้าห้องก็พอน่า  "มามิยะบอก " ผมไม่เข้าไปรบกวนเวลาของคุณกับหมอนั่นหรอก "
".....ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะนะ.... "คิโยโนบุกรอกตาเล็กน้อย กับ ความดื้อของอีกฝ่าย ก่อนจะเดินนำอีกฝ่ายขึ้นไปด้านบนจนถึงหน้าห้องพัก
"โอเค... ถึงแล้ว นายกลับไปได้แล้วล่ะ ฉันจะเข้าบ้าน " ที่พูดแบบนี้ เพราะไม่อยากให้ คนที่ อาจจะกลัยมาถึงแล้ว มาเจอคู่ปรับเก่า ที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ว่า จะ"จัดการ"แน่ ...ในตอนที่เรื่องร้ายๆเหล่านั้นเกิดขึ้น

เสียงที่ดังขึ้นที่หน้าห้องทำให้หนุ่มผมยาวที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเดินมาเปิดประตูห้องทันทีและที่เขาเห็นก็คือ คนรักของเขามีเด็กหนุ่มคนนั้น คนที่ทำให้คนรักของเขาต้องลาออกจากโรงเรียนติดตามมาด้วย

"อ่ะ...อ้าว...จุนกลับมาแล้วเหรอ " คิโยโนบุท่าทางเลิกลั่ก

...เอ้า... ยังไม่กลับบ้านอีก...


" โอเค กลับก็กลับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ คุณต้องเลี้ยงข้าวผมด้วย อย่าลืมล่ะ " มามิยะยักไหล่อย่างเซ็งๆก่อนจะเหลือบมองคนที่เปิดประตูเข้ามาเล็กน้อย
"อ่ะ..... " คิโยโนบุ แทบจะตบหน้าผากตัวเอง

....โดนแล้วไหมล่ะ ....
...ที่แท้ นาย แค่อยากแกล้งฉันใช่ไหมล่ะ...
...มามิยะ...


" ไปล่ะ "มือแกร่งของคนตัวสูงกว่าแถมยังเด็กกว่าตบบ่าของเทรนเนอร์แล้วเดินลงบันไดไป....ปล่อยให้คู่รักที่ไม่ค่อยได้คุยกันดีๆ เผชิญหน้ากัน

" เลี้ยงข้าว? กินมาแล้วกับเด็กนั่น? "เจถามก่อนจะเปิดประตูออกกว้าง
"อืม... ใช่ กินข้าวกันมาน่ะ ตอนแรกฉันว่าจะเลี้ยง แต่หมอนั่นมือเร็วกว่า... จ่ายไปก่อน "คิโยโนบุยิ้มเจื่อนๆ
" อ้อ ต้องเลี้ยงด้วยเหรอ? "หนุ่มผมยาวดูจะหงุดหงิด ก่อนจะเดินกลับไปสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ท่าทางแบบนั้นทำให้คิโยโนบุเริ่มอยู่ไม่สุข
"เอ่อ...จุน มันไม่มีอะไรมากหรอกนะ แค่ เลิกแล้ว หิวข้าว ก็เลย ชวนออกมานะ... " คิโยโนบุอธิบายก่อนจะรีบเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปด้านใน
" ต่อไปก็กินข้าวกับมันตลอดงั้นสิ นายหิวประจำ ไม่ใช่รึไง? "เจปิดตู้เสื้อผ้าแล้วคว้าผ้าขนหนูไปเช็ดผมให้แห้ง คำพูดของอีกฝ่าย ทำให้ คิโยโนบุหยุด มองหน้าของคนรักนิ่ง "ทำไม...นายพูดเหมือนฉํนเห็นแก่กิน จนทำอะไรก็ได้อย่างนั้นล่ะ "
" คิดอย่างนั้นก็ตามใจ "ชายหนุ่มเดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง ท่าทางที่เหมือนเดินหนีไม่สนใจเขานั้นทำให้คิโยโนบุต้องถอนหายใจออกมา
"โอเค นายจะคิดอะไรก็ตามใจ.... "  พูดทิ้งท้ายเอาไว้แบบนั้นร่างบางก็เดินเข้าห้องไปใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเป็นนาน เป็นอีกคืนแล้วที่ทั้งสองหมางเมินต่อกัน เป็นนานกว่าที่เจจะเดินกลับไปนอนที่ห้อง ซึ่งคิโยโนบุก็นอนอยู่ก่อนแล้ว...

...................................


เสียงดังกุกกัก ทำให้คนที่ นอนอยู่ก่อน สะลึมสะลืมขึ้นมามองคนที่เดินเข้ามาใหม่  "อืม... เพิ่งจะนอน หรือไง "ว่าพลางก็ขยับพลิกตัวหันกลับมามองก่อนจะเอนตัวลงไปนอนกับเตียงอีกครั้ง  เจนอนลงข้างๆ แต่แทนที่จะหันหลังให้เขากลับรวบร่างเล็กกว่าให้อยู่ด้านล่างทันที
"อื้อ... อะไร... " คิโยโนบุผวาเฮือก เพราะกำลังจะเคลิ้มหลับอีกรอบ แต่กลับถูกรวบตัวอย่างเอาไว้อย่างกระทันหัน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าอีกฝ่ายอย่างขัดใจเล็กที่ถุกกวน "ไม่นอนรึไงเล่า ..มันดึกแล้วนะ "
" ยังไม่อยากนอน "เจโอบเอวนั้นให้เข้ามาแนบชิด  " ทำเถอะ "
"หะ?....จุน...เดี๋ยว...มันดึกแล้ว... "มือเรียวพยายามดึงมืออีกฝ่ายที่พยายามโอบเอวเขาให้เข้าสัมผัสร่างของตัวเองให้มากขึ้นนั้นให้หยุดดึงดัน "นายทำงานมาไม่เหนื่อยรึไง... "
" ช่างมัน  "พูดจบ ริมฝีปากร้อนๆก็ปิดปากคนที่อยู่ข้างล่างทันที
"อื้อ...." เสียงทักท้วงดังขึ้นแทบจะทันทีคิโยโนบุ เหนื่อยมากพอแล้วสำหรับวันนี้ เขาไปออกกำลังกายกับลูกค้ามาแทบจะทั้งวันแถมยังต้องเทรนมามิยะในช่วงเย็นแล้วก็ปวดหัวอย่างรุนแรงกับการกระทำดื้อดึงของเด็กหนุ่มคนนั้นยังไม่พอ ยังมาเจอกับการเอาแต่ใจของคนรักแบบนี้อีก "จุน...วันนี้ฉันไม่..... " เมื่อริมฝีปากได้รูปนั้นละออกไปสัมผัส ส่วนอื่นบนผิวกายของเขา ชายหนุ่ม เอยปฏิเสธไปพร้อมกับมือที่ดันไหล่ของอีกฝ่ายให้ออกห่าง

"ฉันไม่มีอารมณ์... "


มือแกร่งนั้นเลื่อนลงไปปลุกเร้าอารมณ์ของอีกฝ่ายแทนคำตอบนั้น ริมฝีปากได้รูปนั้นขบเม้มผิวกายของอีกฝ่ายอย่างเอาแต่ใจทั้งๆที่คิโยโนบุยังพยายามดิ้นขลุกขลักอยู่อย่างนั้น
"จุน...ไม่เอา..." คิโยโนบุผวาเฮือก มือข้างนึงพยายามดึงข้อมือของอีกฝ่ายออกในขณะที่อีกข้างก็พยายามจะดันหน้าของอีกฝ่ายออกจากการปลุกเร้าร่างกายเริ่มร้อนแต่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ไม่ใช่วันนี้ ...วันที่เขาเหนื่อยมามากแล้วแบบนี้ 

"บอกให้หยุดไง! " คิโยโนบุตะโกนสุดเสียง

--ปัง---


เจทุบฟูกข้างตัวทันทีที่อีกฝ่ายปฏิเสธการกระทำของเขาในวันนี้ ความขุ่นเคืองใจที่เกิดขึ้นมารอบหนึ่งและเพิ่งดับไปกำลังถูกทำให้เกิดขึ้นมาอีกครั้ง เจลุกขึ้นจากเตียง พร้อมกับหอบหมอนและผ้าห่มออกไปจากห้องทันที

"จุน..... " คิโยโนบุ เรียกอีกฝ่ายเอาไว้ ก่อนจะรีบดึงชายเสื้อที่อีกฝ่ายดึงกับขอบกางเกงขึ้นให้เรียบร้อย แล้วเดินตามออกไป เสียงที่กระแทกดังเมื่อครู่ทำให้ไม่สบายใจ แต่อีกใจนึงก็นึกโล่งใจที่อีกฝ่ายหยุดเสียที  "จุน...ฉัน.... นายโกรธอะไร.... เรื่องเด็กนั่นฉันบอกแล้วว่าไม่มีอะไร "
"...................." แต่ไม่มีเสียงตอบรับหนุ่มผมยาวขว้างหมอนใส่โซฟาแล้วนอนลงไปทันที ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรทั้งนั้น
".........นายไม่พูดฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่านายมีอะไรอยู่ในใจ.... ฉันบอกเรื่องของฉันแล้ว.... ก็แค่นั้น" คิโบโยบุถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปปิดไฟที่ห้อง รับแขกให้กับอีกฝ่ายแล้วเดินกลับเข้าห้องนอนไป ระยะหลังๆมานี่เขาไม่เข้าใจการกระทำของอีกฝ่ายเลย  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองร่างของชายที่นอนอยู่บนโซฟาอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วเดินกลับเข้าไปนอนในห้องนอนตามเดิม

...............................

หลังจากคืนนั้นคิโยโนบุก็ไม่เห็น ชายร่างสูงกลับเข้ามานอนที่ห้องนอนอีก แต่จะให้เขาเข้าไปถามไปซักไซ้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวเขาเองก็ไม่กล้าเข้าไปถาม รู้ว่าอีกฝ่ายคงโกรธที่ไปสนิทสนมกับมามิยะ และอีกฝ่ายคงยังไม่พอใจกับเรื่องที่เขาไม่ยอมให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ ชายหนุ่มมักจะนอนคิดสาระตะไปเรื่อยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ มีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่าแต่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปถาม 

.... ทำไมตอนนี้ เราเหมือนเป็น แค่คนสองคนที่อยู่ในบ้านเดียวกันเท่านั้นล่ะ.....


คิโยโนบุอยากจะถามออกไปแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่ยิ่งไม่กล้าเข้าไปใหญ่ทุกวันในตอนเช้า เขาได้แต่เห็นเชฟหนุ่มเดินออกไป โดยมีเพียงแค่คำทักทายสั้นๆให้แก่กันเท่านั้น

........................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 33) 29/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 29-09-2010 22:28:51
:m15:เมื่อไหร่จะคืนดีกันอ่ะ ไม่ไหวแล้วนะตะเอง
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 33) 29/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 30-09-2010 23:28:29
@@@Writer'sTalk@@@

 :L2: :L2:สวัสดีค่ะ พีจังเอง วันนี้ ของดโพสนะคะ...หวัดงอมแงมมากเลยตอนนี้ :sad4:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 33) 29/09/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 01-10-2010 00:49:47
พักผ่อนเยอะๆแล้วก็อย่าลืมกินยาด้วยจะได้หายเร็วๆๆจ้า
เอ๋ ว่าแต่บอกกลับมาอยู่บ้านหรืออยู่หออ่ะ
มีใครดูแลป่าว เป็นห่วงเน้อส์ :L1:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 34) 05/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 05-10-2010 00:15:12
@@@Writer's Talk@@@
กลับมาแล้วค่า ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะคะ
หวัดกิน แถมยังมีโน่นนี่นั่นให้ต้องทำ กลับมาห้องก็สลยเหมือดแล้ว
แต่ไม่ได้ลืมที่จะมาโพสต์แน่นอนค่า ช่วงนี้ฝนตก นักอ่านทั้งหลายรักษาสุขภาพด้วยนะค้า

................................................

.... ทำไมตอนนี้ เราเหมือนเป็น แค่คนสองคนที่อยู่ในบ้านเดียวกันเท่านั้นล่ะ.....


คิโยโนบุอยากจะถามออกไปแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่ยิ่งไม่กล้าเข้าไปใหญ่ทุกวันในตอนเช้า เขาได้แต่เห็นเชฟหนุ่มเดินออกไป โดยมีเพียงคำทักทายสั้นๆให้แก่กันเท่านั้น

"วันนี้ก็พอแต่นี้ก่อนก็แล้วกัน.... "คิโยโนบุพูดเมื่อช่วย มามิยะ ยกเหล็กเก็บเหมือนอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน "อ้อ...พรุ่งนี้ฉันหยุดนะ "
" ไปเดทเหรอ? "เด็กหนุ่มร่างสูงถามขณะที่เช็ดเหงื่อตามใบหน้าของตน
"ไม่มีเดทแล้วล่ะ..."คิโยโนบุตอบเสียงเบา ... จะว่าไป เขากับจุน ก็ยังไม่ค่อยได้ออกไปไหนด้วยกันในฐานะคนรักซักเท่าไรนัก.... คำว่าเดทระหว่างพวกเขานั้นคงห่างไกล ความเป็นจริงเหลือเกิน "พรุ่งนี้ว่าจะนอนอยู่บ้าน "
" เป็นไรไป? " มามิยะดูจะอารมณ์ดีกับท่าทางของอีกฝ่าย " เน่ จะเลิกกันเมื่อไหร่ก็บอกนะ "
"...อย่าพูดอะไรส่งเดชจะได้ไหม " เสียงที่ตอบกลับมานั้นไม่ได้ อารมณ์ดีด้วยเลย คิโยโนบุกระแทกดัมเบลลงกับชั้นวางเสียงดัง

......กว่าจะได้....มาอยู่ด้วยกันแบบนี้น่ะ.....
......มันต้องทำร้ายคนอื่น.....และทรมานมามากขนาดไหน....
....ให้เลิกเหรอ....

"เป็นเด็กน่ะ อย่ามาพูดอะไรส่งเดชเลยน่า.... "เทรนเนอร์ผมสีน้ำตาลว่าพลาง ยกชาร์ตที่ใช้จดสถิติของอีกฝ่ายตีหัวไปเล็กน้อยเหมือนอาจารย์สั่งสอนเด็กหากแต่มือของเด็กหนุ่มกลับจับแขนของอีกฝ่ายเอาไว้

" ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะดีใจสุดเลย "เขายิ้มก่อนจะปล่อยมือ " กินข้าวกันเถอะ "
"กินข้าว...คราวก่อนนายบอกกินข้าวบ้านฉันเกือบแตก.... คราวนี้ ไม่ต้องเล่นอะไรแผลงๆอีกเลยนะ "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ทำเป็นไม่สนใจประโยคก่อนหน้า นั้น ก่อนจะชี้นายของอีกฝ่ายเป็นการเตือนแล้วเดินนำออกไป

" คราวนี้ไปกินที่โรงแรมที่คุณเคยแต่งงานละกัน "เด็กหนุ่มยิ้มราวกับว่าไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
"มามิยะ โช....... " คิโยโนบุ หันมามองด้วย สายตาที่ราวกับจะเตือนว่า ถ้าว่าพูดอะไรแบบนี้อีก จะไม่กลับมาอีกเลย "โอเค เลิกล้อฉันเล่นได้แล้ว อะไรที่มันแล้วมา ก็ให้มันแล้วไป.... เอาล่ะบอกมาจะไปกินที่ไหน "
" ก็ได้ๆ จะไปไหนก็ตามใจคุณเถอะ "เด็กหนุ่มยักไหล่
"ร้านราเม็ง ตรงหัวมุมนี่ล่ะ นายจะได้กิน แล้วก็กลับบ้านเลย "คิโยโนบุพูด ก่อนจะชี้ไปที่ร้านตรงหัวมุมถนนที่มองไปก็เห็น ให้อีกฝ่ายดู ก่อนจะหันมายักคิ้วใส่
เป็นอีกเย็นที่ทั้งคู่ได้กินข้าวเย็นด้วยกัน แม้จะพูดกันบ้าง ไม่พูดกันบ้างแต่บรรยากาศรหว่างทั้งสองคนก็ดีขึ้น ตรงข้ามกับเทรนเนอร์หนุ่มกับคนรัก ที่พูดจากันน้อยคำลงเรื่อยๆ
............................

จนวันรุ่งขึ้นที่ คิโยโนบุได้หยุดอยู่ที่บ้าน  ในขณะที่คนรัก ต้องออกไปทำงาน ข้างนอก
"วันนี้ มีงานช่วงกลางคืนรึเปล่า.... " เขาเอ่ยถามคนที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป
" อืม ช่วงนี้ถี่หน่อยน่ะ "เจหันมาตอบ ก่อนจะหยิบรองเท้ามาสวม
"อืม... ไม่เป็นไรหรอก... เอารถฉันไปใช้ก็ได้นะ วันนี้ไม่ได้ไปไหน " คิโยโนบุว่าพลางยื่นกุญแจรถให้กับอีกฝ่ายที่ปรกติจะขับมอเตอร์ไซค์เสมอ
" วันนี้ลาเหรอ? "เจเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
"หยุดน่ะ.... " ชายหนุ่มยิ้ม เป็นยิ้มที่นานๆ จะมีให้ได้เห็นในช่วงนี้
" แต่ฉันไม่ได้หยุดเลย "ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วลุกขึ้น " ไปนะ "เขาว่าก่อนจะเปิดประตูห้องออกไป
"แล้วเจอกัน " ชายหนู่มพูดออกไปแบบนั้น ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ เมื่อบานประตุปิดลง

...ถ้าไม่ทะเลาะ ก็มีแต่เรื่องงานซิ่นะ พวกเรา....

คิโยโนบุใช้เวลาช่วงเช้า ไปอย่างช้าๆ ไม่ได้เร่งรีบ เหมือนอย่างทุกวัน อาหารเช้าที่ คนรักทำให้ทานนั้นเขาใช้เวลาทาน ลิ้มรสมันไปเรื่อยๆที่หน้าทีวี ดูรายการวาไรตี้ยามเช้าไป เรื่อยๆ

"เฮ้อ....." สลับกับการถอนหายใจเป็น ช่วงๆ เพราะยิ่งทานอาหารเช้าที่ชายร่างสูงทำให้ทานก็ยิ่ง หวนนึกถึงท่าทีของอีกฝ่าย ยิ่งมองไปที่ปลายโซฟาแล้วเห็น ฝูกนอนวางอยู่นั้นก็ยิ่ง รู้สึกเจ็บแปลบในใจ เขาไม่รู้ว่า เชฟหนุ่มเป็นอะไรแม้จะอยากรู้แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะถามออกไป จากคืนนั้น เรื่องก็บานปลายมาจน วันนี้ นี่ก็เกือบจะอาทิตย์หนึ่งเข้าไปแล้ว...

"นายเป็นไป...กลุ้มเรื่องอะไร .. จุน"
คิโยโนบุวางจานข้าวลงบนโต๊ะ ก่อนจะหันไปทางที่นั่งที่ว่างเปล่านั้น ทำท่าเหมือนว่า จ้าของชื่อนั้นนั่งอยู่ตรงนั้นและกำลังฟังคำพูดของเขาอยู่

"...................................... "

แน่นอนว่า ว่ามันเป็น แค่อากาศธาตุเท่านั้น

---Ting Tong---

เสียงออดหน้าห้องนั้นสร้างความแปลกใจให้คิโยโนบุได้ไม่น้อย

"อ่ะ..ใครมาล่ะเนี่ย" คิโยโนบุ พึมพำ เดินเอาจานไปเก็บในครัว ก่อน จะเดินไปเปิดประตู "มาแล้วครับ...." ด้วย ความรีบร้อน ชายหนุ่มเปิดประตูโดยไม่ได้ เช็คก่อนว่า ใครเป็นผู้มาเยือน ในเช้าวันนี้

" โอ้ทส์ " มือใหญ่ๆยกขึ้นเป็นเชิงทักทายก่อนเด็กหนุ่มที่ดูจะมีร่างกายที่หนาขึ้นจะเบี่ยงตัวเบียดคนที่มาเปิดประตูแล้วเข้าไปในห้องทันที
"มามิยะ?... ม...มาทำอะไรที่นี่...??" คิโยโนบุอุทาน ก่อนจะรีบ เดินตามอีกฝ่ายไป ก่อนจะหันกลับมาปิดประตู ที่ลืมเปิดทิ้งเอาไว้ เมื่อกี้
" ก็มาหาสิ ถามได้ .. รีบมายังไม่ได้กินอะไรเลย คุณมีไรให้กินไหมล่ะ? " เด็กหนุ่มถือวิสาสะเดินไปที่ห้องครัวของอีกฝ่าย ไม่รอให้เชิญด้วยซ้ำ
"ก็... เอ่อ... ไม่มีอะไรมาก มีซุปมิโซะ ของเมื่อเช้าเหลืออยู่กินไหมล่ะ... กับผักดอง...ปลาย่างถ้าจะกินจะย่างให้....เอ้ย...เดี๋ยว มาหาทำไมเนี่ย มีธุระอะไรรึเปล่า" คิโยโนบุชักสับสนกับการที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็มาหาถึงบ้าน

...ทำไมจะต้องไปตามใจเด็กนี่ด้วยนะ....

" ธุระ? "เด็กหนุ่มร่างใหญ่ทวนคำ พลางกรอกตาไปมามองเพดานห้อง" ขอกินอิ่มก่อนละกัน "
"................" คิโยโนบุมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะถอนหายใจ "โอเค จะกินให้ได้ซินะ... นั่งซะ แล้วจะทำให้ " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ชี้นิ้วสั่งพลาง หันไปตักซุปมิโซะกับข้าวสวยที่ยังร้อนอยู่ มาวางไว้ให้ตรงหน้าของอีกฝ่าย
" ทำเองเหรอเนี่ย? ... ไม่สิ หมอนั่นทำใช่ปะ? "มามิยะถามเมื่อซดซุปถ้วยนั้นลงคอ
"ก็ใช่ เขาทำกับข้าวเอง เกือบทุกอย่างนั้นล่ะ"

" แปลกแฮะ... "เด็กหนุ่มนั่งลูบคาตัวเองไปมาแล้วสบตาอีกฝ่าย " เวลาคุณพูดถึงหมอนั่น ทำไมทำหน้างั้นล่ะ? "
"ทำหน้ายังไง...." คิโยโนบุ หันไปมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ " เหมือน..จะเลิกกันอะดิ "มามิยะยักไหล่ออกมาราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดา

"เลิก?...ไม่... พวกฉันไม่ได้จะเลิกอะไรกันซักหน่อย อย่ามาพูดอะไรแบบนี้เลย นายไม่รู้อะไรซักหน่อย " ชายหนุ่มว่าพลาง เดินเลี่ยงไปผลิกปลาที่อยู่ในเตาย่าง

.... พวกฉันแค่..... ไม่ได้คุยกันมาซักพักเท่านั้นเอง....
.....ไม่ได้จะเลิกอะไรเสียหน่อย........

คิโยโนบุ จัดการเสริฟ อาหารเช้าให้คนที่บอกว่า กำลังหิวจัดการจนหมด เจ้าของห้องได้แต่นั่งดูอีกฝ่ายกินอยู่ห่างๆ
"กินเสร็จแล้ว ก็กลับไปได้แล้วนะ" คิโยโนบุว่า "เดี๋ยวพ่อนาย รู้ว่า มาอะไรถึงบ้านฉัน จะมาลงที่ฉัน ต้องออกจากงานอีก "

....แค่นี้ก็กลุ้ม จะบ้าอยู่แล้ว....

" เย็นชาจังแฮะ ... ถึงว่าคุณถึงมีปัญหากับหมอนั่น "มามิยะรวบตะเกียบอย่างอารมณ์ดี แล้วดื่มน้ำ
"เย็นชา?... นายจะมารู้อะไรกัน นายก็เป็นแค่เด็กนั่นล่ะ.... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล หันมามองหน้า ขึ้นเสียง ใส่อีกฝ่ายอย่างลืมตัว

....ฉันน่ะเหรอ เย็นชา.....
....ฉัน...เย็นชา......


"ฉันเย็นชาตรงไหนกัน..." ก่อนจะพึมพำออกมาอย่างช่วยไม่ได้
" ไมรู้ดิ .. ไว้ผมเป็นแฟนคุณแล้วผมจะบอก เอาล่ะๆ อิ่มแล้ว ไปล่ะ "มามิยะ ตัดบทแล้วลุกขึ้นก้มหัวให้เล็กน้อย
" พรุ่งนี้เจอกันที่ยิมนะ แฟนคุณทำกับข้าวอร่อยดี ไปล่ะ "มามิยะโบกมืออย่างกวนๆ สองทีแล้วเดินออกจากห้องไป
"......................." คิโยโนบุมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มนั้นเดินจากไป "นึกจะมาก็มา...จะไปก็ไป....นายคิดว่านายเป็นใครกันแน่" คิโยโนบุ ขยี้หัวด้วยความหงุดหงิด พฤติกรรม และการกระทำที่เอาแต่ใจ และไม่ค่อยจะเห็นแก่หน้าใครนี่ทำให้เขารู้สึกเหมือน เห็น คนรักในสมัยก่อน แต่ถึงจะหงุดหงิดเล็กๆ กับ การเข้ามา...ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ของมามิยะ คิโยโนบุ ก็อดที่จะคิดถึงคำพูดของอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี

"เย็นชา........ ฉันเนี่ยนะ " 

ตลอดทั้งวัน คิโยโนบุได้แต่ นั่ง คิดอยู่กับคำๆนั้น เขาไม่เข้าใจ ว่ามันเป็น เพราะเขาเย็นชา อย่างนั้น หรือ เรื่องแบบนี้มันถึงเกิดขึ้น จนกระทั่ง เจกลับมาในตอนดึกของคืนนั้น
" ยังไม่นอนเหรอ? "หนุ่มผมยาวถามอย่างแปลกใจเมื่อคนรักของเขายังคงนั่งดูโทรทัศน์อยู่แบบนั้น

"ฉันเย็นชาเหรอ... จุน"
" หือ? "เจครางในคออย่างงงๆขณะที่เดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำเย็นๆมาดื่มซักแก้ว
"ฉัน...ทำอะไรที่เป็นการเย็นชา ใส่นายรึเปล่า... นายถึง... ต้องออกมานอนข้างนอกแบบนี้ นายโกรธอะไรฉันรึเปล่า... " คนที่นั่งอยู่ตรงทีวี ขยับหันหน้าไปถาม สีหน้าดูกังวลกับสิ่งที่กำลังพูดถึงไม่น้อย
" คนที่โกรธมันคือนายไม่ใช่เหรอ? แต่ก็ช่างเถอะ นายมาถามแบบนี้อยากได้คำตอบแบบไหนกัน? "
"โกรธ?... ตอนนั้นมัน... ฉันเหนื่อยฉัน... ไม่ได้โกรธนาย ฉันแค่พยายามบอกให้นาย หยุด" คิโยโนบุมองหน้าของอีกฝ่าย "ก็เท่านั้น.... แล้ว...นายก็เดินออกมาจากห้อง...ไม่ได้กลับเข้าไปอีก...แล้วอยู่ๆเราก็แทบจะไม่ได้คุยกัน " เทรนเนอร์หนุ่มกอดแขนของตนเองแน่น"แล้วนายก็ทำหน้าเหมือน คิออะไรบางอย่างอยู่ตลอด... ฉันไม่กล้าถาม มีคนบอกว่า  ฉันเย็นชา ฉันเลย ถามนายว่า มันเป็นเพราะฉันเป็นแบบนั้นหรือเปล่า "
" ฉันไม่รู้ว่านายกำลังเครียดเรื่องอะไรคิโย.. นายดูจะ ไม่ค่อยพอใจกับอะไรที่มันเป็นอยู่ ฉันเองก็ไม่รู้จะทำยังไง "เจถอนหายใจ เขายังคงยืนอยูตรงนั้น ราวกับว่าตอนนี้พวกเขาได้ขีดเส้นกั้นไม่ให้เข้าใกล้กันมากเกินไปทั้งๆที่อยู่ห้องเดียวกัน และเป็นคนรักกันแท้ๆ
"ฉันเครียดเรื่อง ที่นาย ไม่ได้พูดกับฉัน... ฉันสงสัยว่า มันอาจจะเป็น เพราะเรื่องของเด็กมามิยะนั่นรึเปล่า "
" ...........................  "เจไม่ตอบอะไร ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้คิโยโนบุถอนหายใจ
"เพราะฉันซิ่นะ... "
" ไม่ใช่หรอก .. ไม่ใช่ความผิดของนายหรือใครหรอก "เจถอนหายใจ
"ก็ถ้าไม่ใช่ เพราะฉันแล้ว....พวกเราเป็นอะไรไปกันแล้วล่ะ... " คิโยโนบุพูดขึ้นเบาๆ
" นายอยากจะให้ฉันทำยังไง " เชฟหนุ่มถอนหายใจ
"ฉันทำอะไร...ผิดไปรึยังไง...บอกกันไม่ได้รึไง " คิโยโนบุ เงยหน้าขึ้นถามอีกฝ่าย "ฉันแค่ไม่ชอบที่มันเป็นแบบนี้... ไม่คิดหรือไงว่า เรา... ไม่เหมือน คนรักกัน...."
" ในตอนนี้นะ .. แค่รักมันไม่พอหรอก คิโย ..  "เจตอบกลับมา" แน่นอนว่าฉันรักนาย .. แต่เราพร้อมที่จะอยู่ด้วยกันแน่แล้วเหรอ? "

"ฉัน... ไม่รู้.... มันอาจจะต้องปรับปรุง..." คิโยโนบุมองหน้าของอีกฝ่าย "ฉันก็ไม่ได้เพอร์เฟค ที่ผ่านมา ฉันเครียดทั้งเรื่องของเราเรื่องงาน ... ตอนนี้ฉันมีงานแล้ว...ฉันคิดว่ามันอาจจะดีขึ้น " ชายหนุ่มพูดไปตามตรง เขาพอรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขาอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ในหลายๆเรื่อง เขาเกร็งไปหมดกับการมาอยู่ร่วมกับอีกฝ่ายในสถานะแบบนี้

" เด็กนั่นน่ะเหรอ? "หนุ่มผมยาวถาม "งานของนาย " ดวงตาคมสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง
"งานฉัน คือทำงานให้ ที่ฟิตเนสของพ่อเด็กคนนั้น " คิโยโนบุตอบทันควัน
" แล้วเลิกงานนั่นใช่ด้วยรึเปล่า? กินข้าวกับมันทุกเย็นน่ะ "ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ พยายามข่มอารมณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
"....มันไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้นนี่...." คิโยโนบุตอบ "นาย..ไม่พูดกับฉัน เพราะ หึง เด็กคนนั้นรึไง"

" นายไม่ยอมนอนกับฉัน "ชายหนุ่มบอกไปตรงๆ " นั่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง ที่ฉันคิดว่า นายเบื่อที่จะอยู่ด้วยกัน " เจตอบแต่คราวนี้เหมือนจะเบนสายตาหนีไปอีกทาง
"ไม่ใช่ว่าฉันเบื่อนาย..." คิโยโนบุ เดินเข้าไปหาอีกฝ่าย "ฉัน...เหนื่อย ฉันบอกแล้ว ไม่ใช่หรือยังไง กัน.... วันนั้นฉันเหนื่อยมาก"ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง "แล้วอีกเรื่องนึงที่นาย คิดว่า ฉันเบื่อคืออะไร..มันยังมีเรื่องอื่นอีกไหม ... "
" แล้วนายล่ะ? อยากจะบอกอะไรกับฉันไหม? "เจถามอีกฝ่ายแทน
"ฉัน... ไม่มี..." คิโยโนบุตอบเสียงเบา "นายถามฉันแบบนั้น คิดว่า ฉัน ปิดอะไรจากนาย รึยังไง "
" เปล่า..หมายถึง นายคิดว่าฉัน มีอะไรที่ไม่ดีรึเปล่า? "เจรีบบอก
".....นาย.....ไม่ชอบพูดความรู้สึกของนาย หรือ แชร์ เรื่องบางเรื่องกับฉัน นายเก็บอะไรไว้คนเดียว... กับเรื่อง บนเตียงที่บางที นายก็ไม่ฟังฉันเลยว่า ฉํน...อยาก หรือไม่อยาก.... " คิโยโนบุนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

" โอเค..ฉันยอมรับ "เจตอบกลับมาอย่างง่ายดาย
"แล้ว... นายแยกห้องกับฉันนี่เพราะเรื่องอะไร... เพราะเรื่อง ของเด็กนั่น เรื่องที่ฉันไม่นอน กับนาย อย่างนั้นเหรอ... จุนฉันไม่อยากให้พวกเราเป็นแบบนี้นะ... มัน...น่าเสียดาย ถ้าเราต้องเป็นแบบนี้ " น้ำเสียงของชายหนุ่มฟังดูเจ็บปวดไม่น้อย "หรือความรักมัน... ช่วยอะไรไม่ได้... อีกแล้ว?"
" ไม่ใช่ว่าเรารักกันไม่พอหรอก คิโย.. ฉันในตอนนี้น่ะ .. คิดว่า เราไม่พยายามจะปรับตัวเข้าหากันเลยต่างหาก "เจเองก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม พื้นที่ระหว่างเขาทั้งสองก็ยังคงมีอยู่เท่าเดิม
"... ..............." คำพูดของอีกฝ่ายทำให้คิโยโนบุคิดมันเป็น จริง ไม่น้อยเลยทีเดียวจนกระทั่งตอนนี้อาหารบางจานของอีกฝ่ายเขาก็ยังทานไม่ได้เหมือนทกที  "เราทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้เลยหรือยังไง "มือเรียวยื่นไปแต่ก็ไม่กล้าที่จะจับมือของอีกฝ่ายเข้ามา...
" แล้วนายคิดจะทำยังไง  "เจก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมทั้งๆที่ถามไปแบบนั้น
"ฉัน..จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้น ถ้านาย... ไม่ชอบที่ฉันไปกับเด็กนั่น ฉัน...ไม่รับงานนี้ก็ได้... เรื่องเงินเดือนลดลงฉันไม่ว่า.. แล้ว...เรื่องอื่นๆ ก็ด้วย " คิโยโนบุ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอ้อนวอนอีกฝ่ายอยู่ มันน่าขันในใจไม่น้อย แต่... เขาแค่ไม่อยากให้ต้องเลิกกันเหมือนอย่างที่ มามิยะ พูดเอาไว้

....ไม่เป็นแบบนั้นหรอก... ไม่มีทาง...

" อื้อ..งั้นก็ดีแล้วล่ะ ฉันเองก็จะพยายาม "เจยิ้มบางๆ แล้วเดินเข้าห้องนอนไปโดยที่เปิดประตูห้องเอาไว้แบบนั้นคิโยโนบุอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แต่มันเป็นเพราะความโล่งใจ เขาเดินไปหยิบหมอนกับผ้าห่มกลับมาให้อีกฝ่าย
"นายลืมหมอน... " คิโยโนบุ พูดก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปด้านใน


....................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 34) 05/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 05-10-2010 00:45:24
วันนี้ตั้งใจว่าถ้ายังไม่มากะจะอ่านของเก่าอีกรอบ แต่แฮะๆๆมาพอดี :mc4:
เย้ๆๆๆยอมพูดกันแล้ว เอาใจช่วยอยู่ตั้งนาน ว่าแต่เดินตามเข้าห้อง อิอิNC :-[
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 34) 05/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-10-2010 09:12:36
เครียดจังครับ อุตส่าห์ฟันฝ่ามาด้วยกันแล้ว อย่ายอมให้มาพังง่ายๆนะครับ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 34) 05/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 06-10-2010 11:53:58
อ้า
เรื่องนี้
เศร้าอีกแล้วนะ
 o18
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 34) 05/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-10-2010 21:31:52
พึ่งเข้ามาอ่านวันนี้เอง อ่านจนทันแระ ใช้เวลานานเหมือนกัน
ก็ดีนะ เรื่องนี้ได้เห็นมุมมองอีกมุมหนึ่งของการอยู่ร่วมกันของคนสองคน
ตอนนี้คนอ่านเองก็รู้สึกอึดอัดกับสองคนนี้เหมือนกัน แล้วก็อยากรู้ว่า เขาทั้งสอง
จะคลี่คลายสิ่งที่กำลังหม่นๆมัวๆนี่อย่างไร (ตรงนี้แหละที่ชวนติดตาม)
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 34) 05/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 07-10-2010 01:01:59
ม่ะมาหรอตะเอง :call:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 35) 08/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 08-10-2010 22:05:49
@@@Writer's Talk@@@
ขอโทษนักอ่านทุกๆคนจริงๆค่ะที่พีจังไม่ได้มาอัพ
พอดีว่าต้องไปเยี่ยมยายที่ต่างจังหวัดค่ะ ไม่มีอินเตอร์เน็ต
มือถือก็เปิดเว็บไม่ได้ (กำลังว่าจะเปลี่ยนใครมีรุ่นไหนแนะนำ ราคา ไม่เกิน หกพัน วานบอก)

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์นะคะ ระหว่างที่หายหน้าไป เห็นบางคนตามอ่านจนทันต้องขอขอบคุณจริงๆค่ะ
เอาล่ะ เรามาต่อกันเลยดีกว่านะคะ ขอบคุณคนอ่านทุกคนอีกครั้งค่ะ
.....................................


คิโยโนบุไปทำงานในเช้าวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่เขาต้องทำคือพยายามทำตัวให้ดีขึ้นปรับตัวเองให้มากขึ้น และที่สำคัญ คงเป็น การพยายามอยู่ห่างๆ มามิยะเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะตามมา
 
"วันนี้ ทำตามตารางนี้ก็แล้วกันนะ เดี๋ยวฉัน จะออกไปดูคนอื่นหน่อยนะวันนี้เทรนเนอร์น้อย..." เขาพูดไปอย่างนั้นทั้งๆที่วันนี้เทรนเนอร์มาครบแทบจะทุกคน

มามิยะหันไปมองหน้าอีกฝ่ายเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ว่าอะไร เด็กหนุ่มร่างสูงอ่านตาราง แล้วเดินไปเล่นเครื่องออกกำลังกายเหล่านั้นด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นดรื่องที่ไม่ควรทำด้วยตัวเองเลย

"เฮ้... อย่าไปเล่นพวกนั้นเองซิ่... " คิโยโนบุ หันมามองแล้วเห็นว่าอีกฝ่ายเดินไปหาอุปกรณ์ยกน้ำหนัก "ทำแค่ส่วนแรกของตารางก็พอ ส่วนที่เหลื่อของหนักๆ นั่นเดี๋ยว จะมาช่วยทีหลังนะ ระหว่างรอก็พักไปก่อน แต่ส่วนแรกต้องครบเซ็ทนะ"
" ก็วันนี้คุณไม่สนใจผมนิ ก็ ไม่เป็นไร ทำเองได้ .. เดี๋ยวเกิดแขนหักอะไรไป คุณค่อยคุยกับพ่อเอาเองละกัน "มามิยะ ยักไหล่ทำเหมือนไม่สนใจ แต่นั่น เขากำลังขู่อีกฝ่ายอยู่
"เฮ้ย... แบบนั้นได้ไง..." คิโยโนบุอุทาน "มามิยะ... นายขู่ฉันเหรอ"
" ถ้างั้นก็อย่าออกไปดูคนอื่นดิ คุณเป็นเทรนเนอร์ "ของผม" ไม่ใช่เหรอ? "เด็กหนุ่มยักคิ้ว กวนประสาทอีกฝ่าย เหมือนทุกครั้งที่เจอกัน
"......นายจะทำร้ายตัวเองเหรอ.... " เทรนเนอร์หนุ่มพยายามที่จะสงบสติอารมณ์ในห้องที่พวกเขาเข้ามาใช้นั้น ไม่ค่อยจะมีคนเพราะในช่วงเวลานี้ของวัน จะไม่ค่อยมีตารางของใครมาเล่นเวทกันมากนัก ดวงตาสีน้ำตาลนั้นมองหน้าของอีกฝ่ายเหมือนกับจะถามว่า...กล้าเหรอ...
 
" คุณว่าผมโง่แบบนั้นเหรอ? "มามิยะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเดินไปที่เครื่องออกกำลังกาย
"เปล่าฉันไม่ได้ว่านายโง่...นายแค่... คิดอะไรแผลงๆ แล้วก็คงจะทำตัวเองเจ็บตัวเหมือนทุกที... " ชายหนุ่มพูดพลางเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่าย "ถ้าจะให้ฉันอยู่ดู ก็คงจะขออยู่ดูวินาทีนั้นล่ะนะ " ชายหนุ่มว่าพลางเดินออกไปจากห้อง....

.................................


" งั้น วันนี้จะไปกินข้าวเย็นที่ไหนกันดีล่ะ? "มามิยะถามขึ้นมาลอยๆ ขณะที่วางเวทยกน้ำหนักลงที่เดิมเมื่อการฝึกของวันนี้จบลง
"ไม่ล่ะ...ฉันต้องรีบกลับ " คิโยโนบุเอ่ปฏิเสธทันควัน
" กลัวหมอนั่นจะเข้าใจผิดรึไง? "เด็กหนุ่มถามขึ้นมา " ว่าแต่มันจะมีเวลามาเข้าใจผิดเร้อ..งานก็ออกจะยุ่ง "
"จะมีเวลาหรือไม่ ฉันก็ไม่อยากให้เขาต้องมาเข้าใจอะไรผิดๆ ... ฉันแค่ทำงาน... ฉันอยากให้มันเป็นแค่นั้น..." คิโยโนบุ รู้ดีว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นจริงมากทีเดียว แต่...ต่อให้จุนจะไม่ได้มารับรู้อะไรด้วย เขาก็ไม่อยากจะมีความลับมาปิดบังอะไรคนรักอีก"ฉันจะไม่ไปกินข้าวกับนายอีก..."
" แสดงว่าหมอนั่นเกิดระแวงผมขึ้นมาเหรอ? "ดูเหมือนนั่นจะทำให้มามิยะชอบใจไม่น้อยเลยเขาลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าพลางถามไปด้วย
".........มันไม่ใช่เรื่องของเด็กหรอก..." คิโยโนบุตัดบท ก่อนจะเดินเลี่ยง อีกฝ่ายจะออกไปจากห้อง ยิ่งคุยกับเด็กหนุ่มคนนี้ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกหยอกล้อ... มันน่าขายหน้ามากเลยทีเดียว

" ถ้าทำได้ก็ดีซิ "มามิยะพูดกับประตูห้องหลังจากอีกฝ่ายเดินออกไปแล้ว

.................................

คิโยโนบุ กลับมาบ้าน ด้วยความเหนื่อยอ่อน เขายัง ต้องใช้พลังงาน มากกว่าเดิม ทุกครั้งในการรับมือกับเด็กหนุ่มจอมกวนคนนั้น ไหนจะยังต้องคอยรับฟังปัญหาของลูกค้าอีกหลายๆคน แม้ว่าเขาจะเป็นที่ปรึกษาให้กับคนอื่นๆได้ค่อนข้างดี แต่สำหรับตัวเขาเองแล้ว กลับไม่มีใครให้ปรึกษาด้วยซักเท่าไร เพราะคนรักของเขา ก็แทบจะไม่มีเวลาให้กันนัก หลังจากวันที่บอกกันและกันว่า จะปรับปรุงตัว จุนดูจะมีงานเข้ามามากขึ้นกว่าตอนที่ห่างเหินกันคราวนั้นด้วยซ้ำไป

เมื่อกลับมาถึงบ้าน พวกเขาทั้งสอง คนก็เหนื่อยเกินกว่าจะ พูดอะไรกันทั้งนั้น มันกลับเข้าไปสู่ บรรยากาศ น่าเบื่อเดิมๆที่เคยเป็น คิโยโนบุ ถอนหายใจบ่อยครั้งขึ้น และบางครั้งก็ลืมตัว เผลอแสดงท่าทีแบบนั้น ต่อหน้าคนที่ดูจะอยากให้พวกเขาทั้งสองคนเลิกกันเหลือเกินอย่างมามิยะ

"เฮ้อ...."
" ถอนหายใจบ่อย แก่เร็วนะ  "เด็กหนุ่มแซวอีกฝ่ายแล้วหัวเราะ ก่อนจะถือวะสาสะ ตบบ่าของเทรนเนอร์" เมื่อก่อน คุณออกจะดูดีกว่านี้ที่โรงเรียนไม่ใช่รึไง "
"..... ฉัน...ก็ยังดูดีอยู่หรอกน่า" คิโยโนบุ ปัดมือของอีกฝ่ายออก "แล้วทำครบเซ็ทแล้วรึยังไง... " เพราะว่ามัวแต่เหม่อทำให้ ลืมที่จะนับไปเลย ว่า อีกฝ่าย ยกไปกี่ครั้งแล้ว
" ครบแล้ว .. ว่าแต่กลับไปแล้วไม่มีคนกินข้าวด้วย ไม่อร่อยหรอกนะ "มามิยะบอกแล้วเริ่มชวนอีกฝ่ายกินข้าวเย็นอีกแล้ว
"ฉันจะกินอร่อยหรือไม่อร่อย มันก็... ไม่ใช่เรื่องของนายไม่ใช่รึไง " คิโยโนบุมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง "นายเองก็หัดกินข้าวที่บ้านบ้างเถอะ " คิโยโนบุหลบสายตาที่มองมา "เอ้า รีบๆ ยกต่อได้แล้ว ไม่งั้นไม่ครบเซ็ทอีกนะ เดี๋ยวต้องออกกำลัง กล้ามเนื้อท้องอีก "เทรนเนอร์หนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนจะหันไปอีกทาง เขารู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นแววตาที่อีกฝ่ายมองมา มันทำให้เขารู้สึกว่าเห็นภาพจุนสมัยก่อนซ้อนทับอยู่กับแววตาของอีกฝ่าย แต่ก็ต้อง ขมวดคิ้วอีก กับ ความคิดของตัวเอง ทำไมเขาจะต้อง มองเห็นเด็กคนนี้ซ้อนกับภาพของคนรักในอดีต ทำไมเขาจะต้องหลบสายตา

.... เพราะว่า เด็กคนนี้เหมือน จุนรึยังไงกัน...

คิดได้แบบนั้นก็รีบ สะบัดความคิดนั้นออกจากหัว


"ไม่ ไม่ ไม่ "คิโยโนบุพึมพำกับตัวเอง ...ฉันไม่ได้จะหลงใครเพียงเพราะแค่ว่าเหมือนจุนซักหน่อย.... "โอเค วันนี้ พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน " คิโยโนบุ พูดขึ้นเมื่อหมดเวลา ในการฝึกให้กับอีกฝ่าย ชายหนุ่มเก็บ ผ้าขนหนู กับขวดน้ำ และ ชาร์ตในการจดสถิติ "เฮ้อ ไปอาบน้ำ แล้วกลับบ้านดีกว่าเรา ไปล่ะนะ ... " ก่อนที่มามิยะจะได้พูดอะไรต่อ คิโยโนบุ ก็เดินออกไปเสียแล้ว

.........................................


"กลับมาแล้ว... "

เสียงชายหนุ่มผมสีน้ำตาลดังขึ้นที่หน้าประตูบ้าน รองเท้าที่ถอดวางอยู่ทำให้รู้อีกคนกลับมาถึงที่ห้องแล้ว
"จุน?...กลับมาแล้วเหรอ" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเดินสะโหลสะเหลไปที่โซฟา ก่อนจะทิ้งตัวลง นอนลงไป กับ โซฟา "เหนื่อยชะมัด "
" อืม เหนื่อยก็ไปอาบน้ำสิ  "เจเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำ และผ้าขนหนูที่เช็ดผมของตัวเองให้หมาดๆกลิ่นหอมของแชมพู และอาฟเตอร์เชฟนั้นชวนให้ชื่นใจไม่น้อยเลย
"อ้าว...อาบน้ำแล้วเหรอ กำลังจะชวนไปอาบพอดี" คิโยโนบุยิ้ม ก่อนจะยื่นมือออกไปให้อีกฝ่ายช่วยดึงให้ลุกขึ้น กลิ่น หอมกับผมที่เปียกชื้น ทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
"กลับมาเร็วนะวันนี้... รอแป๊บนะ เดี๋ยวออกมา กินข้าวด้วย "
" นึกว่ากินมาแล้วซะอีก "หนุ่มผมยาวดึงมือของอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น แล้วดันหลังให้เข้าห้องน้ำไป " ฉันกินมาแล้ว แต่จะทำอะไรไว้ให้กินละกัน "
"ก็ฉันรีบกลับมากินข้าวพร้อมกับนายเลยนะ.... "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกับ ชุดนอนสบายๆ กับผ้าขนหนูที่วางพาดอยู่บนบ่า เขาเองก็สระผมเหมือนกัน
"หิว" คิโยโนบุ เดินลากเสียงออกมา จากห้องนอน เห็นร่างสูงยืนอยู่ในห้องครัวก็แกล้งเดินเข้าไปใกล้ "โห พ่อครัวในชุดคลุมอาบน้ำ~"
" ก็บอกว่ากินมาแล้ว .. เอานี่ไปแล้วกัน ของง่ายๆนะ "เจยื่นอาหารจานเดียวอย่างยากิโซบะให้อีกฝ่าย  แล้วเอากะทะไปล้าง เช็ดครัวให้เรียบร้อย
"อร่อยยยย" คิโยโนบุยิ้มร่า ก่อนจะรีบ จัดการอาหารเย็น จนหมดใน เวลาเพียงไม่นาน"อื่มแล้วครับ" ชายหนุ่มว่าพลาง เอาจานไปล้าง
 
"จุน?...ทำอะไรอยู่น่ะ " คิโยโนบุถามขึ้นหลังจากล้างจานเสร็จก่อนจะเดิน กลับมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งอยู่ที่หน้าทีวีเหมือนทุกที
" ก็ดูซีรี่ส์ ช่วงนี้ CSI miami ออกได้พักนึงแล้วนี่ "เจหันมาทางอีกฝ่ายเล็กน้อย แล้วหันไปดูโทรทัศน์ต่อ
"อ้อ...เลือดสาดนั่นน่ะเหรอ...นั่งดูด้วยได้ป่ะ" คิโยโนบุ ถามก่อนจะนั่งลง ใกล้ๆกับอีกฝ่าย
" ไหนว่าเหนื่อย? "เจถามอย่างแปลกใจกับท่าทางของอีกฝ่าย ไหนจะตัวที่นั่งติดกับเขา ทั้งๆที่ปกติก็รักษาระยะห่างพอสมควร
"ก็... เหนื่อย แต่... ไม่รู้ซิ่... "ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ

....ฉันแค่กำลังกลัวว่า นายจะหายไป....
....แล้วเด็กนั่นก็.....
....จะแทรกเข้ามาให้ได้ล่ะมั้ง....


" งั้น ไป"นอน" ไหม? "อยู่ๆ เจก็หันมาสบตาอีกฝ่าย ด้วยความหมายที่พวกเขาเข้าใจกันดีมืออีกข้างก็กดรีโมท ปิดโทรทัศน์ทันที
"ก็...ถ้านาย.... ไม่ว่าอะไร...." ชายหนุ่มพยักหน้าลงช้าๆ มือแกร่งนั้นดึงมืออีกฝ่ายให้เดินเข้าไปในห้องนอน

.................................

น่าแปลกเหลือเกินที่แม้ว่า การกระทำนั้นจะเร่าร้อน คิโยโนบุกลับดูจะล่องลอยหายไปเป็นพักๆ มือเรียวที่ไล้ กับผิวแกร่งของชายหนุ่มร่างสูงนั้น กำลัง เปรียบเทียบกับร่างของใครอีกคนที่เขาได้ใกล้ชิดด้วย

....ไหล่....ดูจะหนากว่าแล้วนะ.... เมื่อก่อนปิดเทอมยังไม่....ตัวขนาดนี้เลย...
...มือ...จุนใหญ่กว่านิดหน่อย....


ความคิดแบบนี้ดำเนินไปพร้อมกับเสียงครวญครางเบาๆ ที่เกิดขึ้นทุกครั้ง ที่ร่างสูงสัมผัส กระตุ้นเร้า จวบจนความรู้สึกวามหวามนั้นผ่านพ้นไป

.....ทำไม.....

มือเรียวจับใบหน้าของร่างสูงมามองอย่างพิจารณา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูสับสนไม่น้อย

...ทำไมฉันต้องคิดเปรียบไปแบบนั้นด้วย....
...ฉันขอโทษ....


ก่อนจะดึงอีกฝ่ายลงมาจูบ ริมฝีปากบางสั่นระริก เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ซึ่งเจเองก็โอบร่างนั้นเข้ามาหาตัว รับรสจูบนั้นอย่างยาวนาน พอๆกับการมีอะไรกันครั้งนี้ ยาวนานเหลือกเกิน อาจจะเพระาห่างหายไปนาน ก็ได้ แต่แทนที่จะได้พูดอะไรออกมาอีก เชฟหนุ่มกลับเหนื่อยเกินไปที่จะพูดอะไรกับคนรัก เขาแทบจะนอนทั้งๆที่อยู่ในกายของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

"นอนเถอะ..." เสียงนุ่มเอ่ยแผ่วเบาที่ข้างหู ก่อนจะจูบเบาๆที่ขมับ มือเรียวไล้เบาๆ กับเส้นผมยาวที่เปียกชื้น ก่อนจะโอบร่างอีกฝ่ายให้ลงนอนตะแคง
แล้วโอบอีกฝ่ายเอาไว้ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไป

...ฉันเองก็กลัวว่าเราจะหายไปจากกันและกัน....

คิโยโนบุคิดแบบนั้น ก่อนจะหลับตาลง...อย่างน้อยเขาก็พยายามจะข่มตาให้หลับ

.............................................

วันรุ่งขึ้นคิโยโนบุดูอารมณ์ดีกว่าทุกวัน เสียงฮัมเพลงดังขึ้นในล็อกเกอร์ของเทรนเนอร์ที่เพิ่งจะมาถึง คิโยโนบุเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ก็ต้องชะงักเล็กน้อย กับ ร่องรอยที่หลงเหลืออยู่บนแผ่นอก

....จุนเอ้ย.... ทำซะทั่วเลย....

คิโยโนบุหัวเราะก่อนจะรีบเอาเสื้อวอร์มมาสวมทับ เสื้อกล้ามสีดำที่ใส่อยู่ทันที มือเรียวคว้าชาร์ตจดสถิติมา เตรียมพร้อมรับมือกับ ลูกค้าทุกคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่จะต้องมาเทรนในตอนเย็นของทุกวัน
 
" โย่ "มามิยะทักเทรนเนอร์ที่หลังๆ มาช้ากว่าเขาซะแล้ว
".....โย่....." คิโยโนบุเบ้หน้าก่อนจะทำท่าล้อเลียน "วันนี้มาแต่วันเลยนะ..."
" คุณมาช้าไปห้านาที ต่างหาก " มามิยะถอดเสื้อวอร์มออก เหลือเพียงเสื้อกล้ามกับกางเกง เผยให้เห็นแผ่นอกที่มีกล้ามขึ้นมา และไหล่ที่แข็งแรงขึ้น ต่างจากวันแรกๆที่เข้ามาเทรนจริงๆดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองร่างนั้นที่เขาคิดนึกเปรียบเทียบกับชายผู้เป็น เจ้าของหัวใจของเขาในตอนนี้
"จะลองวัดไหมล่ะ รอบอกน่ะ" ด้วยภูติผีวิญญาณร้ายตนไหนกันที่ดลใจให้คิโยโนบุเสนอออกไปเช่นนั้น...แต่มันเป็นเพราะความอยากรู้ ที่อาจจะเรียกได้ว่าดำมืดที่หลบเร้นอยู่ในซอกหลืบของหัวใจของเขาเอง

" เอาสิ .. ก็ดี "มามิยะทำท่าจะถอดเสื้อกล้ามออก " ต้องถอดด้วยใช่มั๊ย? "
"เอ่อ...ก็ตามสะดวก...เดี๋ยวนะไปเอาสายวัดก่อน" ชายหนุ่มละสายตาออกจากแผ่นอกของอีกฝ่าย แล้วเดินไปอีกทาง

...ไม่ ไม่ ไม่ หมอนี่ไม่ได้ คล้ายจุนซักหน่อย ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ...
...แล้วตอนนั้นฉันคิดอะไรแบบนั้น ทั้งๆที่ จุนก็ยังอยู่บนตัวฉันได้ยังไงกัน.....


"โอเค ยกแขนๆ" คิโยโนบุ เดินกลับมาพร้อมกับสาย ที่จะใช้วัดขนาดกล้ามเนื้ออกของอีกฝ่าย
" ยุ่งยากชะมัด "มามิยะบ่นเบาๆ แต่ก็กางแขนออกทั้งสองข้าง
"ก็นะ...." คิโยโนบุพึมพำ ก่อนจะคล้องสายวัดรอบตัวอีกฝ่าย จนเหมือนจะกอดอีกฝ่ายเอาไว้ ชายหนุ่มขยับตัวถอยออกมาเพื่อก้มลง อ่านตัวเลข
"เอ่อ.. ใหญ่กว่าเดิม...2นิ้ว.... " สัมผัสของลมหายใจที่อก เพราะคนวัดนั้นตัวเล็กกว่าเขา ทั้งๆที่อายุมากกว่าตั้งสิบกว่าปี ทำให้มามิยะก้มลงมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะเริ่มนับในใจ

..1..2..3...


ให้ทันกับจังหวะที่เทรนเนอร์หนุ่มเงยหน้าขึ้นมาพอดีกับที่เขาก้มหน้าลงไป..สัมผัสกับริมฝีปากได้รูปนั้นแผ่วเบา เกินกว่าที่จะเรียกว่าจูบ..เด็กหนุ่มแสร้งทำหน้าตกใจก่อนจะถอยหลังออกมาทันที

..............................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 35) 08/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 08-10-2010 22:32:11
หวั่นไหวได้ไงเนี้ยคิโยจังเนี้ย น่าจับมาตีก้นจริงๆๆ :m16:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 35) 08/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 10-10-2010 22:01:50
คิโย อย่าใจแตกนะ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 36) 08/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 10-10-2010 23:41:09
@@@Writer's Talk@@@

มาดูกันนะคะว่า...จะใจแตกไหม

///////////////////////////////////////

..1..2..3...

ให้ทันกับจังหวะที่เทรนเนอร์หนุ่มเงยหน้าขึ้นมา พอดีกับที่เขาก้มหน้าลงไป..สัมผัสกับริมฝีปากได้รูปนั้นแผ่วเบา เกินกว่าที่จะเรียกว่าจูบ..เด็กหนุ่มแสร้งทำหน้าตกใจก่อนจะถอยหลังออกมา ทันที


"............"คิโยโนบุนิ่งไปครู่หนึ่งกับสัมผัสแผ่วผ่านนั้น ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ "เอ่อ... เมื่อกี้วัดถึงไหนนะ อกใช้ไหม..." คิโยโนบุว่าพลาง จดตัวเลขลงไป
"36 นิ้ว.... ผู้ชายอกสามศอกเหมือนกันนี่เรา" พูดพลางก็หัวเราะแก้เขินเมื่อครู่
" แล้วคุณวัดตัวเองได้กี่นิ้วล่ะ? ท่าทางจะน้อยกว่าผม เห็นๆ "มามิยะเองก็ทำเป็นพูดเรื่องอื่นเช่นกัน ..... แต่คิโยโนบุคงไม่ทันสังเกตหรอกว่าเขายิ้มอย่างได้ใจไปเมือ่ครู่แล้ว..
"ก็คนมันพยายามได้แค่นี้ล่ะ... กล้ามเนื้อมันโตให้ได้แค่นี้ ..แต่ก็ธรรมชาติดี สูงขนาดันจะเพาะไปถึงไหน...เดี๋ยวก็ได้ก้ามปูกันพอดี" คิโยโนบุหัวเสียเล็กน้อย เพราะเจอ พูดเรื่อง ตัว อีกแล้ว "เอ้า เอาไปวัดเอง ดีกว่า..." คิโยโนบุว่าพลาง ยื่นสายวัดให้กับอีกฝ่าย "จะวัดอะไรก็วัด แขน ขา... "
" จริงๆแล้วนะ ผมว่า แบบนี้คุณก็ดูดีแล้วนิ มีกล้ามมากไป มันจะไม่เข้ากับหน้าน่ะ ฮะ ฮะ "มามิยะเริ่มแซวอีกฝ่าย เป็นการปิดฉากที่จะทำให้เขาถูกเอาผิดได้ว่า จูบ คนๆนี้ไป
"โทษทีที่เกิดมาหน้าตาดี ไปเลย ไปวิ่งต่อเลย เชิญที่ลู่วิ่งได้...แล้วนี่ก็ตารางที่เหลือ ทำจนครบล่ะ "
" อ้าว .. ไม่อยู่รอล่ะ วันนี้น่ะ.. "เด็กหนุ่มทำหน้าผิดหวัง
"...รอ...รอก็ได้ จะนั่งดู " คิโโนบุว่า พลาง นั่งลงกับ เก้าอี้ ตรงข้างๆ ลู่วิ่ง ของอีกฝ่าย มือปลด ซิปเสื้อวอร์มลง เพราะอากาศ ที่ร้อนมากขึ้น
" ก็ถอดออกซี่ เสื้อนั่นน่ะ "เด็กหนุ่มชี้ไปที่เสื้อวอร์มของอีกฝ่าย
"เออ...นั่นซื่นะ " ด้วยความลืมตัว ชายหนุ่มดึงเสื้อวอร์มออกเหลือเพียง เสื้อกล้าม "ว่าแต่แอร์นี่เร่งได้ไหมเนี่ย..." ชายหนุ่มบ่นก่อนจะ เดินไปเร่งแอร์ให้เย็น ขึ้นอีกคิโยโนบุเดินกลับมานั่งที่เดิมพึ่งแอร์เย็่นฉ่ำ สบายใจ มือขางหนึ่งเลิกเสื้อขึ้นให้ผิวได้สัมผัสกับอากาศเย็นโดยตรง "เฮ้อ.........."
 
เด็กหนุ่มมองสิ่งทีปรากฏอยู่ตรงหน้า เขาคงจะอารมณ์ดีกว่านี้ถ้าไม่ได้เห็นรอยแดงประปรายบนแผ่นอกนั้น เด็กหนุ่มขึ้นวิ่งบนเครื่องออกกำลังกายเร็วขึ้นและเร็วขึ้น โดยที่ไม่พูด ไม่จาอะไรเลยจังหวะ ที่ดังอยู่บนลู่วิ่ง ทำให้เทรนเนอร์ ต้องแปลกใจแล้ว ลุกขึ้นไปดู

"เฮ้ยๆ จะรีบวิ่งไปไหนน่ะ.... ใจเย็นๆซิ่... " หากแต่มามิยะไม่ได้สนใจ เขาวิ่งเร็วขึ้น และเร็วขึ้นอีก"มามิยะ...ช้าลงหน่อย...นายจะเจ็บตัวนะ... " คิโยโนบุ ยกมือขึ้นพยายามจะห้ามอีกฝ่าย แต่เมื่ออีกฝ่ายยังวิ่งไม่หยุดอยู่อย่างนั้น เขาก็๋ไม่มีทางเลือกนอกจากกดปุ่มปิดเครื่อง ทันที "เฮ้...ฟังกันบ้างซิ่ เดี๋ยวก็ได้เจ็บ ตัวหรอก "

" ก็ดีสิ.. "เขาตอบกลับมา แล้วมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง

.....แค่ไม่อยากจะแพ้หมอนั่น .... จะเจ็บตัว หรืออะไรก็ช่าง ..

"นายนี่ท่าจะบ้าไปแล้ว เป็นอะไรเนี่ย... " คิโยโนบุมองหน้าของอีกฝ่าย "ทำตัวขึ้นๆลงๆ ...เป็น คนแก่ไปได้"
" วันนี้ .. คุณไปกินข้าวกับผมนะ "สิ่งที่มามิยะพูดออกมากลับไม่เกี่ยวกับที่อีกฝ่ายต่อว่าแม้แต่น้อย
"ฮะ?...อะไรนะ...มามิยะ ฉันบอกแล้ว ไม่ใช่ เหรอ ว่า ฉันจะไม่ไปกินข้าวกั้บ นายอีก "
" คุณไปไม่ได้เหรอ? .... วันนี้ของทุกปี ไม่เคยมีใครอยู่กับผมเลย "เด็กหนุ่มห้มหน้าลงแล้วเดินลงจากเครื่อง
"อะไรอีกล่ะ...พูดเหมือนจะอ้อน...ไม่เห็นเหมือนนายเลย" คิโยโนบุขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้จะคิดว่า มัน อาจจะเป็นอีกมุขหนึ่งที่อีกฝ่ายสรรหามาแกล้งเขาอีกก็ได้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหาแล้วลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ "เป็นอะไร... "
" วันนี้เป็นวันที่ผมทำให้แม่ผมตาย "ช่วงแขนของมามิยะ กอดคนที่ลูบหัวเขาไว้ทันที  " วันนี้ของทุกปี พ่อจะไม่ยอมมาให้ผมเห็นหน้าเลยซักครั้ง พ่อลืมไม่ลงว่าผมเกิดมาแล้วทำให้แม่ตาย "คำพูดที่ได้ยินนั้นทำให้ คนฟังพูดอะไรไม่ออก
"มามิยะฉัน....ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี...... " ในใจก็นึกไปถึงพ่อของตัวเอง เขาทำชายสูงวัยคนนั้นใจสลาย...เขาอาจจะตายไปจากความทรงจำของผู้เป็นพ่อแล้วก็เป็นได้ มือเรชียวเลื่อนมาแตะไหล่กว้างนั้นก่อนจะบีบเบาๆราวกับอยากจะส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างไปให้
" งั้นวันนี้ คุณจะอยู่กับผมได้ไหม?..จะเป็นคนแรกที่อยู่กับผมในวันเกิดได้ไหม? "มามิยะสบตาอีกฝ่ายนิ่ง
"เอ่อ....แต่....ฉํน.... "แม้อยากจะบอกปฏิเสธ สายตาเว้าวอนแบบนั้น คงจะมองเขาด้วยความผิดหวังแน่ ถ้าเขา บอกว่า "ไม่" ในวันเกิดแบบนี้  "ฉัน...ไปได้แค่ไม่เกิน 3 ทุ่มนะ "  เท่านั้นเองที่ทำให้มามิยะยิ้มร่าแล้วดึงอีกฝ่ายออกไปจากห้องเทรน
" งั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเลย "
"อ่ะ...เฮ้ย .... เปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนเองได้หรอกน่า จะลากไปไหนเนี่ย "คิโยโนบุโวย ก่อนจะ ดึง มือออกมือของอีกฝ่าย "ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า นายก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้านายไป "
" โอเค งั้นเจอกันที่รถคุณ  "พูดจบเด็กหนุ่มก็เดินออกจากห้องเปลี่ยนเสือ้ผ้าไปทันที

"เฮ้อ............" คิโยโนบุถอนหายใจยาว ...ครั้งที่นานที่สุดในรอบวันก็ว่า ได้ เพราะสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นในสมองของตัวเขาเอง

...ไม่น่าเชื่อว่า ฉันจะคิดอะไรบ้าๆ กับอีแค่การวัดตัวให้หมอนั่น....

ความคิดเปรียบเทียบ ร่างนั้นกับเจซึ่งเป็นคนรักดูจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นในวันนี้  "แล้วยัง....จูบนั้นอีก " แม้ว่าจะทำเป็นไม่ได้สนใจ แต่เขารู้สึกได้ถึง สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปาก แผ่วผ่านราวไม่ได้ตั้งใจ ..."หมอนั่นขอโทษนี่นะ คงไม่ไได้ตั้งใจหรอก "

....................................................

"โห...ดูเหมือนวันนี้ จะทำอะไรเร็วไปหมดเลยนะ" เทรนเนอร์หนุ่มเอ่ยทักเมื่อเดินสะพายเป้ใส่อุปกรณ์ ลงมา ถึงที่จอดรถก้เห็นว่า เด็กหนุ่ม ร่างสูงมายืนรออยู่แล้ว
"ว่าไง จะไปกินที่ไหนล่ะ" มามิยะเดินไปหาเจ้าของรถแล้วแบมือขอกุญแจ
" ผมพาไปละกัน "คิโยโนบุ มองหน้าของอีกฝ่าย อย่างไม่ไว้ใจนัก
"ไม่ล่ะ "ในมือถือกุญแจเอาไว้ หลวมๆ หมุนไปมาในมือ
" ไหนๆผมก็ขอให้คุณอยู่เป็นเพื่อนแล้ว อาหารก็สั่งแล้ว โต๊ะก็จองแล้ว ไหนจะเค้กอีก ... เพิ่มหน้าที่ขับรถอีกซักอย่างจะเป็นไรไปล่ะ เอามาเถอะน่า "เด็กหนุ่มยื่นมือมาแย่งกุญแจรถจากมืออีกฝ่าย
"จัดเตรียมไว้หมดเลย... ไม่ใช่ว่า วางแผนหลอกเอาฉันไปแกล้งอีกนะ...มามิยะ..." คิโยโนบุพูดทีเล่นทีจริง ก่อนจะยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเดินไปที่รถพร้อมกับกุญแจ "ขับดีๆล่ะฉันยังไม่อยาก โดน ตำรวจจับ ไปพร้อมๆกับนาย"

........................................................


มามิยะขับรถพาอีกฝ่ายไปถึงที่หมาย ในเวลาไม่นาน น่าแปลกอีกเช่นกัน ที่เขาไม่ยอมพูดอะไรกับคิโยโนบุเลย จนกระทั่งมาถึงสถานที่ที่เขาจองเอาไว้ ทั้งโต๊ะ อาหาร และเค้ก

...โรงแรมที่เจทำงานอยู่...

"....มามิยะ....นาย..คิดอะไรอยู่น่ะ..." คิโยโนบุถามขึ้นทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาจอดที่จอดรถของโรงแรม สถานที่นี้มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องดี เรื่องไม่ดี มักจะเป็นอย่างหลังมากกว่า มันทำให้เขาไม่อยากจะมาเยือนที่นี่ซักเท่าไน นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรู้ว่าวันนี้ จุนมีงาน จนถึงดึกเลยทีเดียว
" ก็กินข้าว ฉลองวันเกิดไงครับ ทำไมเหรอ? "เด็กหนุ่มหันมาถาม สีหน้านั้น แสดงออกมาว่า .. แปลกใจ..
"คือ...ถ้าเป็น ที่นี่คงเข้าไป...ไม่ได้มั้ง...ฉัน... " คิโยโนบุกำมือแน่นด้วยความอึดอัดใจ เขารับปากอีกฝ่ายไปแล้ว แต่ก็รู้นิสัย คนรักดีว่า คงหึงจนลมออกหูทำเอาทะเลาะกันอีกแน่ อีกอย่างเขาบอกจุนไว้แล้วว่า จะพยายาม ห่างเด็กคนนี้เอาไว้

...แต่ดูเหมือนว่าอะไรๆจะ เป็นไปในทางตรงกันข้าม...

" แต่ผมจองโต๊ะที่นี่ไว้แล้ว ไหนจะอาหาร ไหนจะเค้ก .. แล้วคุณก็ตกลงแล้วนะว่าจะมากับผม "มามิยะทำหน้าซึมลงไปทันที เห็นสีหน้าแบบนั้น ก็ยิ่งรู้สึกแย่... เสียงถอนหายใจดังขึ้น ก่อน ที่จะเปิดประตูรถ

"หวังว่าที่นั่ง ที่นายจองไว้ จะไม่เด่นสะดุดตาใครนะ" มามิยะส่ายหน้าไปมาแรงๆแล้วยิ้มอย่างดีใจก่อนจะคว้าแขนอีกฝ่ายให้เดินตามเขาไป ยังห้องอาหารของโรงแรม และโต๊ะที่จองไว้ก็ไม่ได้เป็นที่สะดุดตานัก....


บริเวณระเบียงกว้างของโรงแรมที่ทำให้เห็นสวนสวยแบบญี่ปุ่น บริเวณทางเดินที่ฝังไฟสีนวลตาเอาไว้กับพื้นได้พาให้ทั้งสองคนไปถึงโต๊ะที่จองเอาไว้


"เอ่อ...นี่มาเป็นเพื่อนนะ มามิยะ อย่าคิดอะไรไปไกลล่ะ" ชายหนุ่มเปรยขึ้นก่อนจะนั่งลง
" ครับๆ มาก็ดีแล้วล่ะ "มามิยะรีบบอกก่อนจะหันไปบอกพนักงาน " เอาอาหารมาเลย "
".... "คิโยโนบุ มองตาม พนักงานที่เดินจากไปเล็กน้อย เขาหวังว่า คนที่อยู่ในครัว จะไม่นึกพิสดารอะไรออกมาถามแขกตามโต๊ะว่าได้อาหารครบไหม


.................................................


" ขอพักหน่อยนะ " เชฟหนุ่มบอกกับเชฟคนอื่นๆเมื่อเก็บกวาดวัตถุดิบบนโต๊ะเตรียมอาหารเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินออกมานอกครัว เพื่อไปยังระเบียงใกล้ๆ ในเวลาค่ำๆแบบนี้ ที่ระเบียงแห่งนี้ ลมเย็นๆ อากาศบริสุทธิ์ช่วยให้เขาคลายเครียดจากการทำงานและเรื่องอื่นๆได้มากเลยทีเดียว

"หนีมาพักเหรอ ขี้โกง..." มือเรียวตบลงบนบ่าของร่างสูง กลิ่นนมเนยนั้นฟ้องมาแต่ไกลว่าเป็นใครที่เดินตามมา หญิงสาว ผมหยักโศกรวบผมเรียบร้อยภายใต้ชุดสีขาว
" สูบบุหรี่น่ะ  "เจยื่นซองบุหรี่ขึ้นมาก่อนจะใช้ปากคาบมันออกมามวนหนึ่งแล้วใช้ซิปโป้จุดที่ปลายมวน เขาสูดควันพิษนั่นเข้าไปแล้วพ่นมันออกมา" เป็นไง? "
"ออเดอร์เยอะ... วันนี้ ก็มีสั่งเค้กพิเศษเข้ามา.. แค่ทำตามเมนูทุกวันนี่ก็จะแย่แล้วยังมีออเดอร์เข้ามาอีก...เหนื่อย" อาการิว่าพลาง เท้าแขนลงกับระเบียง ก่อนจะขยับหมุนคอไปมา
" กลิ่นนมเนยแบบนั้นน่ะ อยู่ห่างๆผมไว้จะดีกว่า เดี๋ยวติดกลิ่นไอ้นี่เข้าไปนะ  "ชายหนุ่มบอกติดตลก แล้วมองออกไปนอกระเบียง ฝั่งตรงข้ามจากที่เขาอยู่นั้น คือ ห้องอาหารที่มีบริเวณระเบียงสวย เหมาะแก่การชมวิว ในตอนกลางคืน


...แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องมองนิ่งนั่นก็คือ...


"มองอะไร......" อาการิมองตาม ก่อนจะหันไปมองตามอีกฝ่าย
"นั่นมัน......." หญิงสาวหันไปมองหน้าของ ชายหนุ่มร่างสูง

บุหรี่มวนนั้นยังคงแผดเผาตนเองอยู่ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลางของเชฟหนุ่ม ยาวนานพอๆกับที่เขาเห็นว่าคนรักของเขามาที่นี่กับ เด็กนั่น .. มามิยะ... และมีรอยยิ้ม อย่างที่เขาไม่ได้เห็นมานานแล้วเถ้าบุหรี่ตกลงกับหลังมือของชายหนุ่ม แต่ดูเหมือนเจจะไม่รู้ตัว

"จุน...เดี๋ยวก็ไหม้มือหรอก " มือเรียวปัดบุหรี่ออกจากมือของอีกฝ่าย " เป็นอะไรรึเปล่า " หญิงสาวยกมือของอีกฝ่ายขึ้นมาดูด้วยความเป็นห่วง

สายลมเย็นพัดผ่านมาจากด้านนอก คิโยโนบุหันมองไปยังทิศทางนั้น ก่อนที่จะหยุดสายตานิ่ง เมื่อมองออกไปล้วพบว่ามีใครยืนอยู่ตรงนั้น ชายที่ได้ชื่อว่าเป็น คนรักกำลังยืนอยู่กับหญิงสาวที่ตัวเขาเองทำให้เธอเป็นคนเสียใจ  มือเรียวกับมือแกร่งนั้น กอบกุมมือของกันและกันเอาไว้ และดวงตาคมนั้นก็มอง...จ้องมองตรงมา อย่างไม่กระพริบตา

ท่าทางของคนที่มากับเขาทำให้มามิยะมองตามไปทันที และสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้เขาต้องขยับ ออกจากที่นั่งข้างๆคิโยโนบุแต่มันช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว

.............................................


เจจับมืออาคาริออกเบาๆ ก่อนจะดึงมือของหญิงสาวให้เดินตามเขาไปทันที ภาพนั้นทำให้รู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างในตัวแตกสลายไป ไหล่ทั้งสองข้างลู่ลง ลมหายใจถูกปล่อยออกมายาวราวกับหมดเรี่ยวแรง

"....ฉัน...ทำเรื่องไม่ดีอีกแล้วซิ่นะ...."
" รีบๆตามไปสิ "มามิยะบอก พร้อมๆกับเค้กวันเกิดที่จุดเทียนจำนวน 18 เล่มถูกถือเข้ามาที่โต๊ะ" เอ่อ.. ไปสิครับ "เด็กหนุ่มไม่รู้จะพูดยังไง

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองเปลวเทียนที่สั่นไหวนั้น ก่อน จะกำมือแน่น

...ไปก็ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้แล้วล่ะ...

"เป่าเทียนกันดีกว่า...วันเกิด...ครบสิบแปดของนายทั้งทีนี่นา... "เสียงที่พูดนั้นสั่น แตกต่างจากรอยยิ้มที่พยายามปั้นขึ้นบนใบหน้า
" เป่าพร้อมกัน "เด็กหนุ่มบอก "  อย่างน้อยคุณน่าจะรู้สึกดีขึ้น "
"นายก็...อธิษฐานด้วยล่ะ" ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหลับตาลง แล้วเป่าลมออกไปพร้อมๆกับอีกฝ่าย เทียนทั้งสิบแปดเล่มดับลงพร้อมกัน แสงไฟที่เคยสว่าง ดับวูบลง ทิ้งให้ทั้งสองคนอยู่ในความมืด ที่ทางร้านอาหาร ดับโคมไฟให้

...เลิกกันซะ...

มามิยะนึกในใจก่อนจะลืมตาขึ้นหันไปหาอีกฝ่าย

...กลับมาเถอะ....

คิโยโนบุคิดในใจ

" คุณอฐิษฐานว่าไงน่ะ? " เขาถามแต่คำสุดท้ายนั้นออกจากปากพร้อมกับริมฝีปากที่แตะกับอีกฝ่ายอย่างบังเอิญ ชายหนุ่มที่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าเด็กหนุ่มแต่ก็ต้องหยุดเมื่อริมฝีปากของเขาแตะกับริมฝีปากของอีกฝ่าย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของเด็กหนุ่มนิ่ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนแฝงความสับสน กับเรื่องที่เกิดขึ้น และเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ทำไมเขาถึงต้องใจเต้นรัวในขณะที่ คนรักของเขาก็เพิ่งจะเดินจากไปเมื่อครู่นี้

" อะ..โทษ "มามิยะขยับออกมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถอยออกมาเสียทีเดียวชายหนุ่มผมสีน้ำตาลไม่ได้พูดอะไรตอบดูเหมือนว่า จิตใจของเขาจะล่องลอยไป

...มากับคนอื่นแล้วยังจูบ...
....เขาคงไม่ยกโทษให้หรอก.....


และเมื่อคนที่เขาขอโทษไม่ได้กลบเกลื่อนหรือลีกหนีอย่างทุกครั้ง เด็กหนุ่มวัย 18 อย่างมามิยะจึงทำใจกล้าเข้ามาแตะริมฝีปากกับอีกฝ่ายอีกครั้งแผ่วเบานุ่มนวล ราวกับจะปลอบใจซึ่งคำปลอบนั้น ได้รับการตอบสนองรับโดยริมฝีปากที่เม้มเบาๆตอบกลับมา ความเจ็บในใจไม่ได้หายไปแต่กลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น แต่ริมฝีปากนั้นก็ไม่ได้ละออกห่าง มือเรียวนั้นกำแน่นบนหน้าตักปล่อยให้ปลายลิ้นนั้นล่วงล้ำเข้ามา มือเรียวปละไหล่บางกระตุกเล็กน้อยด้วยความตกใจ ก่อนจะแตะเบาๆที่ใบหน้าคม สัมผัสนุ่มอุ่นทำให้รู้สึกประหลาด ทั้งๆที่อยากจะเลิก อยากจะถอนริมฝีปากออก แต่กลับขยับไม่ได้และสุดท้าย มามิยะ โช ก็ช่วงชิงจูบเร่าร้อนจากเทรนเนอร์หนุ่มของเขาได้สำเร็จ
 
" ผมเสียใจ...ขอโทษ "เขาบอกหลังจากละริมฝีปากออก มือนั้นแตะผิวแก้มของคนอายุมากกว่าเบาๆ
"ฉัน....ก็เหมือนกัน.... " คิโยโนบุพูดก่อนจะมองก้อนเค้กที่วางอยู่ตรงหน้า

...คงจะเป็นฝีมือเธอคนนั้นซิ่นะ...
....คงจะกำลังคุยกันอยู่ซิ่นะ....


"ฉันจะขับรถไปส่งนาย ที่บ้านก็แล้วกันนะ "


..........................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 36) 10/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 11-10-2010 00:09:16
เอาเข้าไป จัดมาเลยอีกกี่เรื่องก็จัดมา เฮ้ออออออออออออ
ตะเองสะกดคำผิดหลายคำเหมือนกันนะ ง่วงหรอ :L2:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 37) 10/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 12-10-2010 00:42:37
ถึงผู้อ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ...
พีจังขอลากิจในการโพสต์นิยายไปซัก สี่ วันค่ะ
ต้องไปเชียงใหม่ค่ะ มีพรีเซ็นต์ (ซึ่งยังไม่ได้เตรียม....กรรมละ)

จึงแว่บมาบอกด้วยประการฉะนี้
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพ CH 37 16/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 16-10-2010 15:04:37
@@@writer's talk@@
กลับมาจากเชียงใหม่แล้วค่ะ
ขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะ

แล้วความจริง อยากจะบอกว่าคอมพิวเตอร์ของพีจังสภาพไม่ค่อยดี นึกจะเปิดติดก็ติดขึ้นมาซะดื้อๆ
(เป็นโรคบลูสกรีนค่ะ กำลังจะส่งซ่อมในเร็ววัน ...) ดังนั้น ถ้าหากว่าในช่วงนี้ไม่ได้อัพ อย่าแปลกใจนะคะ
คอมมันบ้าๆน่ะค่ะ )

ป.ล. เค้กที่เชียงใหม่ อร่อยโฮกกกก..... :laugh: :laugh:
และแน่นอนคิดถึงคนอ่านมากๆเล้ยยยย :กอด1: :กอด1: :กอด1:
//////////////////////////////////////////////////////////////////


"ฉันจะขับรถไปส่งนาย ที่บ้านก็แล้วกันนะ "


ตลอดทางที่กลับไปยังบ้านของเด็กหนุ่ม หรืออีกนัยหนึ่งคือสถานที่ทำงานของคิโยโนบุทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันเลย จนกระทั่งรถคันนั้นมาจอดที่หน้ามิยะฟิตเนส

" นี่... "เด็กหนุ่มเริ่มเปิดปากขึ้นมาก่อน
"หืม?" คิโยโนบุหันไปมองเมื่อดึงเบรคมือขึ้น แสงไฟหน้ารถทอดยาวออกไปบน ถนนหน้าตัวอาคารที่มืดมิด
" คุณรู้แล้วใช่ไหม? ..คุณรับมันไปแล้วด้วย ความรู้สึกของผมน่ะ "เด็กหนุ่มหันมามองหน้าอีกฝ่าย " ผมชอบคุณ  " คำพูดของอีกฝ่ายนั้นไม่เหมือนกับ เด็กนักเรียน ...คนตรงหน้านี้ไม่ใช่เด็กหนุ่มอีกต่อไป แต่พูดออกมาด้วยความรู้สึกของผู้ชายที่โตแล้วคนหนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ไม่กล้า สบตาของอีกฝ่าย
 
"ฉัน...คงจะรับมันมา...ก็จริง...แต่...ฉันคงตอบอะไรให้นายไม่ได้ มามิยะ"
" ผมไม่อยากได้คำตอบ  คุณก็แค่ไม่ยอมตอบผมเป็นคำพูดก็แค่นั้น "มามิยะ เปิดประตูรถก่อนจะหันกลับมามองหน้าเทรนเนอร์หนุุ่ม ผู้ที่เคยเป็นอาจารย์ของเขาเอง " จำไว้ว่า คุณเองก็จูบตอบผมเหมือนกัน "เขาสบตาอีกฝ่ายนิ่ง  " ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิด "พูดจบก็ลงจากรถแล้วปิดประตูเดินเข้าไปในบ้านทันที

....คุณเองก็จูบตอบผมเมือนกัน....

คำพูดของ มามิยะ ดังก้องอยู่ในหัว คิโยโนบุเหมือนถูกกระชากออกมาจากความสับสน และทำให้รู้สึกตัวเขามัวแต่คิด และเสียใจกับภาพของชายหนุ่มร่างสูงที่เดินไปกับหญิงสาวคนนั้น จนความรู้ผิดชอบชั่วดีกับการตอบรับการกระทำของเด็กหนุ่มนั้นถูกบดบังไปจนหมด
 
"....แม้จะตอบ มันก็เพราะสับสน...... ฉัน...ขอโทษ" คิโยโนบุพูดเบาๆกับตัวเอง ก่อนจะออกรถไป

.....ฉันขอโทษ....จุน....
[/i]

...................................


เมื่อขับรถกลับมาถึงที่อพาร์ตเม้นท์ คิโยโฯบุเห็นเมื่อเปิดประตูเข้ามาว่า ไฟถูกเปิดทิ้งเอาไว้

"จุน..... " เขาเอ่ยขึ้นเมื่อผลักบานประตูเข้าไปอย่างแรง แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อ ไม่เห็นรองเท้าของอีกฝ่ายอยู่ที่หน้า ประตูเหมือนอย่างทุกที ไม่มีเสียงทีวี มีเพียงแค่ความ ว่างเปล่าที่ถูกทิ้งเอาไว้ ใต้แสงไฟที่เปิดทิ้งเอาไว้เท่านั้น  "จุน....? " ชายหนุ่มเดินเข้ามา มองซ้ายขวาประตูห้องนอน ถูกเปิดทิ้งเอาไว้แต่มืดสนิท เมื่อหันไปที่ห้องครัวไม่มีอาหารที่ทำเตรียมไว้ บนโต้ะมีเพียงกระดาษแผ่นเล็กๆวางอยู่เท่านั้น บางอย่างในใจของชายหนุ่มผมสีน้ำตาล หล่นวูบลงไปที่ปลายเท้า เขาเดินไปที่โต้กินข้าวนั้นแล้วหยิบกระดาษ แผ่นนั้น ขึ้นมาดู

ไม่ต้องโทรหา  ยังไม่พร้อมจะคุย  แล้วจะกลับมาเอง

ขอโทษ

เจ


ลายมือของเชฟหนุ่มยังคงเรียบง่าย ลงเส้นหมึกชัดเจนไม่มีความลังเลในการเขียนแม้แต่น้อยเช่นเดิม มือเรียวข้างที่ว่าง ค่อยๆควานหาพนักเก้าอี้ ดึงมันออกจากใต้โต้ะ ก่อนที่ค่อยนั่งลง ราวกับหมดเรี่ยวแรง มือข้างที่ถือกระดาษโน้ตแผ่นนั้นเอาไว้เกร็งเข้าหากันแน่น จนกระดาษยับยู่มาตามแรง คิโยโนบุฟุบหน้าลงกับโต้ะ ที่เคยมีทั้งรอยยิ้มและความมึนตึงในความสัมพันธ์ที่ผ่านมาในระยะเวลาไม่กี่เดือนของคนสองคน

.......ฉันขอโทษ.....จุน......ฉันผิดเอง.....

ค่ำคืนผ่านไปด้วยความเปล่าเปลี่ยว เตียงที่เคยนอนกันสองคนไม่เคยกว้างขนาดนี้ ยิ่งเมื่อคิดได้ว่าการกระทำของตัวเองนั่นแลที่เป็น ต้นเหตุทำให้อีกฝ่ายจากไป คิโยโนบุลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้าของวันใหม่ ขึ้นมาพบกับห้องที่มีแต่ความเงียบ ไม่มีเสียงกะทะกระทบกันเหมือนอย่างทุกเช้า ตู้เสื้อผ้า ที่มองไปนั้น ก็มีแต่เสื้อผ้าในส่วนของเขาที่เหลืออยู่ ชายหนุ่มถอนหายใจนับสิบครั้งกว่า จะกลั้นใจแต่งตัวไปทำงาน ...พยายามให้ทุกอย่างเหมือนเป็นปรกติ ทั้งๆที่รู้ว่า มันคงจะไม่เหมือนแบบเดิมอีกต่อไป

...ฉันทำอะไรลงไป กับความไว้วางใจของนาย...
....โอกาสที่นาย บอกว่า จะให้ฉันแก้ตัว.....
....ฉันทำมันพัง....ใช่ไหม....ความรักของเรา...



..............................................................


เวลาผ่านไป เกือบอาทิตย์คิโยโนบุแทบจะเรียกได้ว่า ไม่มีกระจิตกระใจจะทำงาน เขาไม่ได้เจอหน้ากับมามิยะ ด้วยอ้างว่ามีธุระและวานให้เทรนเนอร์คนอื่นไปดูแลแทน ในขณะที่เมื่อกลับถึงบ้านก็ดื่มเบียร์ แทนที่จะทานข้าว หลายคืนที่เขาหลับไปทั้งๆอย่างนั้น จนวันอาทิตย์ผ่านมาถึงเป็นวันหยุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เขานอนเลยเวลาเพราะเป็นวันหยุดแต่อย่างใด....คิโยโนบุ...ไม่อยากจะลุกไปไหนเสียมากกว่า...

---ก๊อกๆๆ---

ประตูห้องถูกเคาะในบ่ายวันอาทิตย์นั้น เสียงวิ่งตึงตัง มาที่หน้าประตูก่อนที่บานประตูจะถูกกระชากเปิดออก

"จุน!!"

น้ำเสียงที่ตะโกนเรียกออกไปนั้นปะปนไปด้วยกับความรู้สึกหลากหลายจนแม้แต่ตัวเองก็ยังประหลาดใจ แต่แล้วเจ้าของห้องก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นชัดเจนว่าเป็นใครที่มาเยือนในยามบ่ายของวันอาทิตย์ ชายสูงวัยเจ้าของตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมชื่อดัง...พ่อ...ของเขาเอง สภาพของลูกชายทำให้ผู้อำนวยการอิโนะอุเอะต้องมองนิ่งก่อนจะถาม

" จะไม่ให้เข้าไปหน่อยรึ? "

"อ่ะ...ขอโทษครับ..."ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าขึ้น สองนิ้วกดบีบขมับหวังจะปลุกตัวเองให้ตื่นมีสติมากพอจะรับแขก  แต่เมื่อพาเดินเข้าไปในห้องรับแขก ก็ต้องรีบกวาดเก็บเอากระป๋องเบียร์ออกไปให้พ้น

"พ่อมากระทันหัน...ผมไม่ทันได้เก็บกวาด ขอโทษด้วย "
" อยู่คนเดียวรึ? "ผู้เป็นพ่อนั่งลงที่เก้าอี้โซฟา สภาพของลูกชายเขา โทรมไปมาก แน่นอนว่าเขาไม่เคยเห็นคิโยโนบุเป็นแบบนี้เลยตั้งแต่เด็้กคนนี้เกิดมา
"ครับ.... " ชายหนุ่มพูด ก่อนจะเดินไปยกน้ำชา มาให้กับอีกฝ่าย  "มีอะไรรึเปล่า ครับมาถึงนี่ "แม้จะไถ่ถามด้วยคำพูดที่ดูดีแต่น้ำเสียงกับสายตานั้นมีความ...เหนื่อยหน่าย...แฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัด

....มาทำไมตอนนี้...จะมาเยาะเย้ยเหรอ....

" งานที่ทำอยู่เป็นยังไงบ้าง? " ผู้เป็นพ่อถามออกมา น่าแปลก ที่พอเขาเห็นลูกชายเป็นแบบนี้แล้ว ท่าทีที่เคยมีมาตลอดก็ค่อยๆหายไป เขารู้ว่าคิโยโนบุคงมีอะไรบางอย่างถึงได้กลายเป็นแบบนี้ "ก็....ดีครับ... พอกินพออยู่" คิโยโนบุตอบไม่ได้สบสายตา
" วันที่ไปลาออกน่ะ ลืมให้นี่มา " ผู้อำนวยการอิโนะอุเอะยื่นซองเอกสารซองใหญ่ให้ลูกชาย " เปิดสิ "

ชายหนุ่มเหลือบมองใบหน้าเรียบเฉยของชายสูงวัยอย่างไม่แน่ใจนัก คิโยโนบุ หยิบซองนั้น ขึ้นมาเปิดดู กระดาษปึกนั้นเป็นเอกสารประกอบ การสมัครเข้าเป็นอาจารย์ในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในจังหวัดโอกินาว่า จังหวัดที่อยู่ทางใต้สุดของเกาะญี่ปุ่น...มันไกลมากจากภาคกลางที่เขาอาศัยอยู่ตอนนี้ ผู้เป็นลูกชายเงยหน้าขึ้นมองหน้าของพ่ออย่างไม่เข้าใจ

" ฉันไม่ได้บังคับแก แต่อยากให้แกลองอ่านดู คิโยโนบุ "ผู้เป็นพ่อสบตาลูกชายนิ่ง " นั่นเพราะแกตัดสินใจชีวิตตัวเองได้แล้ว  "

.......พ่อไม่ได้...........

"ครับ.... ผมจะขอเอาไว้ก่อน ถ้าตัดสินใจได้ยังไง.... ผมจะบอกให้พ่อรู้ครับ" ชายหนุ่ม เก็บกระดาษนั้นลงในซอง ก่อนจะเอามาวางไว้ข้างตัว
" งั้นก็ดี ..เอาล่ะ คงต้องกลับเสียที "ผู้อำนวยการอิโนะอุเอะลุกจากโซฟา
"พ่อครับ... "ชายหนุ่มลุกขึ้นตามอีกฝ่าย ไปที่หน้าประตู  ชายชราหันมาตามเสียงเรียก
"ตอนนี้อาจจะดูไม่เหมือน... แต่ผม... จะมีความสุข ให้ได้ครับ....ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มยิ้มให้กับอีกฝ่าย ก่อนจะก้มลงต่ำ ในหัวใจรู้สึกได้ถึงความปรารถนาดีที่อีกฝ่ายหยิบยื่นมาให้ ในตอนนี้ที่เขารู้สึกเคว้งคว้างเช่นนี้ พ่อของเขาได้ยื่นมือเข้ามาอย่างถูกจังหวะเสียนี่กระไร ผู้เป็นพ่อพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องไป
เมื่อชายสูงวัย เดินจากไป คิโยโนบุ เดินกลับมานั่ง พร้อมกับหยิบเอกสาร นั้นขึ้นมาอ่าน ถ้าเขาได้งานนี้ เขาคงจะต้องไปอยู่ในสถานที่ไกลแสนไกล ไกลจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆที่เขาเคยรู้จักมานานหลายปี และไกลจากคนที่เขารัก และถึงแม้ว่าอยากจะ โทรไปปรึกษา ก็ไม่สามารถทำได้ ชายหนุ่มคว้าปากกา กับตราประทับมากรอกรายละเอียดก่อนจะเซ็นต์ชื่อลงไปทันที

"ฉันเองก็ไม่ได้คิดจะหนี... แต่ถ้ามันจะทำให้ตัวฉันเข้าใจอะไรมากขึ้น ในชีวิตนี้... เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ... ให้มากขึ้นกว่านี้ ฉันก็จะไป "

ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เก็บเอาเสื้อผ้าลงใส่กระเป๋า เช่นเดียวกับของใช้จำเป็น ลงใส่กระเป๋าเก็บเรียบร้อย ก่อนจะวางกระเป๋าลงบนเตียง ที่ ทำเตียงเอาไว้เรียบร้อย ชายหนุ่มเดินเก็บขยะ ที่ทิ้งเอาไว้ให้เรียบร้อย ล้างจานจนสะอาดเอี่ยม ทุกอย่างเข้าที่ทางก่อนจะเช็ดมือแล้วเดินกลับมาหยิบกระเป๋ากุญแจรถกุญแจห้องเดินออกจากห้องไป คิโยโนบุ ขับรถไปที่มิยะฟิตเนสทันที

เขารู้ดีว่ามันเป็นวันอาทิตย์เขาอาจจะเจอกับตัวเจ้านาย หรือไม่เจอก็ได้แต่สิ่งที่เขาจะทำนั้น เขาคงไม่รอคำตอบอะไรจากเจ้านายอีกแล้ว หากว่าไม่เจอ เขาก็คงจะไม่สนอะไรอีกแล้ว เทรนเนอร์หนุ่มเดินเข้าไปที่ประตูหน้า ก่อนจะเคาะประตูหน้าออฟฟิศของผู้เป็นเจ้านาย
 
" เข้ามาสิ "มามิยะผู้พ่อเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารเมื่อลูกจ้างของเขาเดินเข้ามาภายในห้อง" อิโนะอุเอะ คุณมีอะไรรึเปล่า? "
"ผม......" ชายหนุ่มหายใจแรง มือเรียว ชื้นเหงื่อเล็กด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด "ผมอยากจะ....มาขอลาออกครับ"ชายหนุ่มว่าพลาง มองหน้าของอีกฝ่าย นิ่ง เขาพยายาม จะทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ
" คุณมีปัญหาอะไรรึ? "ผู้เป็นเจ้านายถามอย่างแปลกใจ " รึมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานคนไหน ? หรือเจ้า โช? "ลูกชายของเขาก็คือคนที่มามิยะสงสัยเช่นกัน
"เอ่อ.... คือว่า....คุณอาจจะไม่เคยทราบ หรืออาจจะทราบอยู่แล้ว ว่าผมกับลูกชายของคุณเคยมีปัญหากันมาก่อน เราทะเลาะวิวาทกัน แต่การที่ผมได้เทรนเขาก็ทำให้ผมได้เห็นอะไรหลายๆด้านในตัวเขาซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี และผมอยากคุณทราบว่า...มันไม่ได้เกี่ยวกับการที่ผมจะลาออกเลย " คิโยโนบุพูดนิ้วมือที่ประสานกันเอาไว้ที่หน้า่ตักไขว้สลับกันไปมา"ผมมีเรื่องอย่างอื่น ที่อยากจะทำ มากกว่านี้"

" ยังไงก็จะออกให้ได้ใช่ไหม...น่าเสียดายคนดีๆอย่างคุณจริงๆ "เจ้าของโรงยิมถอนหายใจ " ขอให้คุณโชคดี "
"ผมต้องขอโทษคุณด้วย ทีตัดสินใจอย่างกระทันหันแบบนี้ " คิโยโนบุ ก้มหัวลงต่ำให้กับอีกฝ่ายแสดงความเสียใจ  "ผม...ขอตัวนะครับ " คิโยโนบุว่าพลางเดินออกมาจากห้อง ทำงาน ไม่ได้ฝากข้อความอะไรไว้ให้เด็กหนุ่มร่างสูงผู้เป็นลูกชายแต่อย่างใด  แต่เมื่อเดินกลับมาที่รถก็พบว่าเด็กหนุ่มร่างสูงลูกเจ้าของสถานที่แห่งนี้ได้มายืนรออยู่แล้ว

"อ้าว... ว่าไง" คิโยโนบุพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" ยังไม่ถึงเวลางานเลย คุณมาทำไมน่ะ? "เด็กหนุ่มถาม เขาจ้องอีกฝ่ายราวกับกลัวว่าเทรนเนอร์คนนี้จะหายไปไหน
".............ฉันจะไปแล้วล่ะ " คิโยโนบุยิ้มให้กับอีกฝ่าย พลางยกนาฬิกาขึ้นมอง "มันได้เวลาแล้ว... "
" ..จะไปไหน? "เด็กหนุ่มถามขึ้นมา " คุณไม่อยากเห็นผมแล้วใช่ไหม? " น้ำเสียงที่เอ่นถามออกมานั้นแสดงความหวั่นใจของมามิยะ โช ออกมาได้ในแบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

"นายเป็นเด็กดี...โช...." เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้ง ที่ คิโยโนบุเรียกอีกฝ่ายด้วย ชื่อต้น มือเรียวตบเบาๆลงบนบ่าของอีกฝ่าย ก่อนจะเลี่ยงเดินไปที่ประตูฝั่งคนขับ
"ถ้าทำดีกับ คนอื่นๆล่ะก็...นายคงเป็นที่รักมากกว่านี้แน่ล่ะ" ชายหนุ่มว่ามีรอยยิ้มจางๆระบายบนใบหน้าที่เพิ่งจะจัดการโกนหนวดเคราออกไป ได้ยินเช่นนั้นเด็กหนุ่มรีบไปขวางประตูรถเอาไว้

" ผมไม่ใช่เด็กแล้ว! "
มามิยะมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีเดียวกับเมื่อวาน สีหน้าของผู้ชายคนหนึ่ง " เป็นที่รักอะไรนั่นจากคนอื่น ผมก็ไม่ต้องการ  "

คิโยโนบุสูดหายใจเข้าลึก เพราะท่าทีนั้นของอีกฝ่าย ดวงตาสีน้ำตาล อ่อนมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง

"ฉันรับรู้...แต่....ฉันตอบไม่ได้.... "
" แล้วไง ยังไงคุณก็เลิกกับหมอนั่นแล้วไม่ใช่รึไง?! "มามิยะตวาดด้วยอารมณ์ ทำไมเขาจะไม่รู้เรื่องที่เชฟผมยาวคนนั้นอยู่ๆก็หายตัวไปจน คนที่เขาชอบมากที่สุดคนนี้ทำตัวแปลกได้เป็นอาทิตยๆ์ และก็รู้ดีเลยว่าคำพูดที่ตัวเองได้เอ่ยออกไปนั้น ตัวของเขาเองก็ทำร้ายจิตใจของคนที่เขารักไปเสียแล้ว

อีกครั้งที่เทรนเนอร์หนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกเหมือนกันจะระงับอารมณ์บางอย่างเอาไว้ คำว่า "เลิกกัน" เป็นอะไรที่เขาพยายามจะไม่คิดถึงตลอดหลายวันที่ผ่านมา

"นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ฉันไม่รักเขา.... " ชายหนุ่มมองหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะดึงแขนให้เด็กหนุ่มหลบออกไปจากทาง แล้วก้าวขึ้นไปบนรถ ขับออกไป โดย ที่ เหลือบมองร่างสูงที่ดูจะเล็กลงเรื่อย เมื่อรถยนต์แล่นห่างออกมา

....ฉันทำนายผิดหวัง....มามิยะ.....
.....แต่ฉันคงไม่ขอโทษ..เพราะ คนที่ฉันต้องขอโทษ ไม่ใช่นาย....



................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 38) 18/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 18-10-2010 20:19:19
คิโยโนบุ ขับรถไปตามทางหลวง ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้า ออกนอกเมืองไปบนถนนที่ทอดยาวไปเรื่อยเหมือนจะไม่มีวันพบกับจุดสิ้นสุด เช่นเดียวกับที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้พบกับ คนรักของตัวเองอีกหรือเปล่า เขาแวะเข้าพักที่โรงแรมเล็กๆในตัวเมือง ในตอนดึกของวันนั้น เช้าวันต่อมาเขาขับรถออกไปที่โรงเรียนเก่า จอดรถและเดินเข้าไปดูในสถานที่เก่าๆที่เขาคุ้นเคย แม้จะดูเลือนลางในความทรงจำแต่ กลับเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้สัมผัสกับพื้นทรายของสนามที่เคยออกแรงวิ่ง สัมผัสสายลมอยู่แทบทุกวัน

....จนวันที่ฉันได้คุยกันนายวันแรกนั่นล่ะมั้ง....

ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆให้กับตัวเอง ก่อนจะกลับขึ้นรถความทรงจำที่เพิ่มพูนมากขึ้นไปอีกเมื่อผ่านโรงพยาบาลที่ใช้ชีวิตอยู่เกือบสองเดือน ก่อนที่พ่อจะเป็นคนย้ายเขา ออกจากเมืองนี้ไป คิโยโนบุขับรถเรื่อยออกจากเมืองไปตามทางที่ดูจะเด่นชัดที่สุดในความทรงจำ เขาจอดรถที่ข้างทางเมื่อมองลงไป ที่ริมน้ำแล้วเห็นใครบางคน ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงและไหล่กว้างนั่งตกปลาอยู่ริมแม่น้ำ ผมสั้นสีดำถูกเซ็ทให้ตั้งขึ้นเข้ากับอากาศร้อนเป็นอย่างยิ่งและเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาดๆนั่นก็ดูคุ้นตาข้างๆตัวเขามีถังใส่ปลาที่ตกมาได้สองตัวที่ว่ายวนอยู่ในน้ำ อะไรบางอย่างพาขาของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลให้ตรงไปบนก้อนหินริมแม่น้ำนั้น ก่อนจะเอ่ยทัก เมื่อรู้ว่าเสียงก้อนกรวดใต้ฝีเท้าคงจะปิดบังการมาถึงของเขาเอาไว้ไม่ได้

"จับปลาได้กี่ตัวแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ย ก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ กับอีกฝ่ายดวงตามองตรงไปอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำที่ไหลเอื่อยๆ เสียงนั้นทำให้คนที่ตกปลาอยู่ต้องหันไปมองอย่างแปลกใจ แต่ถึงจะแปลกใจแค่ไหนเขาก็เลือกที่จะไม่ถาม
" ในถังนั่นแหละ "
"ฉัน... ขับรถมาเรื่อยๆ... รู้ตัวอีกที ก็เช็คอินที่โรงแรมตรงหน้าสถานีนั่นแล้ว..."คิโยโนบุพูดก่อนจะมองไปอีกด้านเห็นเต้นท์กางอยู่ไม่ห่างออกไปนัก "....ฮ่ะๆ สมกับเป็นนายจริงๆเลยนะ" มือเรียวหยิบหินก้อนหนึ่งขึ้นมาแล้ว ขว้างออกไปไกล  "ฉัน... "ชายหนุ่มก้มลงมองเห็นก้อนกลมอีกก้อนที่อยู่ในมือ " ขอโทษ"

เจโยนคันเบ็ดลงกับพื้นแล้วเทถังน้ำที่มีปลาว่ายวนอยู่ในนั้นสองตัวลงกับแม่น้ำ ก่อนจะเก็บของของตนทันที

"อ่ะ...จุน...."คิโยโนบุสะดุ้งกับ การกระทำของอีกฝ่าย ก่อนจะรีบลุกเดินตามไป แขนเรียวดึงมือของอีกฝ่ายเอาไว้แทบจะทันที "จะกลับแล้วเหรอ... "  ถึงจะถามไปอย่างนั้นแต่ในใจกลับคิดว่าไปอีกอย่าง

....โกรธฉันอีกแล้วเหรอ....

" ใช่ ไม่มีปลาให้กินแล้วนิ "ดวงตารีนั้นมองหน้าอีกฝ่านสลับกับมือที่จับมือเขาไว้
" ขอโทษ... " มือเรียวของคิโยโนบุปล่อยมือจากอีกฝ่ายแทบจะในทันที  "งั้นให้ฉันเลี้ยงข้าวนายแทนจะได้ไหมล่ะ... ไหนๆก็ได้เจอกันแล้วเรา...ไปกินอะไรกันดี" นั่นทำให้ชายหนุ่มผมดำต้องมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง อย่างตัดสินใจอยู่เกือบนาที

" นายเอารถมาใช่ไหม? ขับตามมาก็แล้วกัน " พูดจบก็แบกอุปกรณ์ตกปลาบรรทุกไว้หลังมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่เช่ามา
"เอ่อ...แล้วเต้นท์นี่ล่ะ?" คิโยโนบุว่าพลางหันไปมองเต้นท์ที่อีกฝ่ายกางเอาไว้
" ฝากไว้ที่รถนาย "เจตอบกลับมาง่ายๆ แล้วเก็บเต้นท์ให้เรียบร้อย
"งั้นฉันช่วยเก็บ... " คิโยโนบุรีบเดินไปช่วยอีกฝ่ายขนของไปเก็บที่ท้ายรถทันที

...................................

รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ถูกขับมาจนถึงร้านอาหารญี่ปุ่นขนาดกลางที่อยู่ไม่ห่างจากแหล่งธุรกิจในเมืองนี้นัก

Onoseya


คิโยโนบุเดินตามอีกฝ่ายเข้ามาด้านในซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นขนาดกลาง ด้านหนึ่งของร้านเป็นเคาท์เตอร์มองลึกเข้าไปเป็นห้องครัว อีกด้านหนึ่งเป็นโต้ะเอาไว้บริการลูกค้า

"เชิญเลยค่า..... " เสียงหญิงสูงวัยดังขึ้นอย่างสดใสพร้อมกับร่างเล็กๆ ของเธอที่เดินมาในชุดกิโมโนดูเข้ากับบรรยากาศของร้าน
"อ้าว จุนพาเพื่อนมากินข้าวเหรอลูก"  เมื่อเห็นว่า คนที่เดินเข้ามาใหม่เป็นใคร รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีก
" อื้อ วันนี้ แม่ทำอะไรให้กินหน่อยสิ ผมเหนื่อยน่ะ "เจยักไหล่แล้วหันไปทางคนที่มาด้วย " คิโย..นี่แม่ฉัน "
"คุณแม่?....เอ่อ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผม อิโนะอุเอะ ครับ ต้องขอโทษนะครับ ที่มารบกวนกระทันหันแบบนี้ " ว่าพลางก็โค้งลงต่ำเรียกรอยยิ้มจากหญิงสูงวัยไม่น้อย
"โอ้ ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ นี่ครั้งแรกเลยนะที่จุนพาเพื่อนมาบ้าน... เอาไงดีล่ะจุน...พาเพื่อนไปนั่ง ที่ห้องสึบากิก่อนก็ได้วันนี้ไม่มีคนจองเอาไว้ หนุ่มๆจะได้คุยกันสะดวกหน่อยดีไหม เดี๋ยวแม่ จัดอาหารให้เด็กยกไปให้..."
" เอาแบบธรรมดาก็ได้นะแม่  "เจรีบบอกผู้เป็นแม่ " แต่เอาชุดจัมโบ้มาให้หมอนี่ก็แล้วกัน "
"เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกครับผมขอชุดตามปรกติที่คุณแม่ทำก็ได้...." ถึงจะพูดไปอย่างนั้น แม่ของจุนก็ยกมือขึ้นมาตีไหล่
"จะมาเกรงจงเกรงใจอะไรกันล่ะ...อิโนะอุเอะคุง... เอาไปเป็นว่าไปนั่งรอก่อนไป เดี๋ยวแม่ยกไปให้นะ " ว่าพลางก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดิน กลับไปสั่งการที่ห้องครัว

แต่ยังไม่ทันจะไปถึงห้องสึบากิที่ว่า เสียงเจื้อยแจ็วของเด็กชายตัวเล็กก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ลงมาจากด้านบนของร้านที่เป็นที่พักของสมาชิกบ้านโอโนะเสะ

" น้าจุน!! " เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่กระโดดเข้ากอดขาชายหนุ่มร่างสูง ทำให้คนที่เดินตามมาสะดุ้งเฮือก
" ยูจัง เบาๆหน่อยๆ " เจหัวเราะกับท่าทางของหลานชายก่อนจะอุ้มร่างเล็กๆของยูอิจิขึ้นมา
" น้าจุนกลับมาแล้ว ผมอยากกินครอกเก้ ครอกเก้น้าจุนอร่อยกว่าคุณยายอีกนะฮะ "
"หลานเหรอ..."คิโยโนบุถามขึ้นพลางยิ้ม
" ยูอิจิ นี่ เพื่อนน้า ชื่อคิโยโนบุ "
"สวัสดียูอิจิคุง..." คิโยโนบุยิ้มพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กๆของเด็กน้อย
" หวัดดีครับ น้าคิโย เป็นเพื่อนกับน้าจุนใช่ปะฮะ? "ยูอิจิถามอย่างสนใจ " แล้วๆ น้าคิโยทำกับข้าวเก่งเหมือนน้าจุนไหมฮะ? "
"เอ...ก็พอกินได้ล่ะมั้ง แต่คงไม่อร่อยเท่าที่น้าจุนของยูอิจิคุงทำหรอก...กินข้าวรึยังครับ ไม่กินข้าวกับน้าไหม" ชายหนุ่มว่าพลาง นั่งลงตรงหน้าของเด็กชายนึกเอ็นดูขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
" ไม่เป็นไรครับ ไม่รบกวนน้าจุนดีกว่าครับ แต่ว่า น้าจุนต้องทำครอกเก้ให้ผมกับ ยูมิด้วยล่ะ "ยูอิจิส่ายหน้าแรงๆ แล้วหันไปย้ำกับน้าชาย
"มีหลายสองคนเลยเหรอเนี่ย...เอ้ะ ลูก...พี่สาว?เหรอ...."ฟังคำเด็กชายตัวเล็กพูด ก็ทำให้คิดว่าเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า อีกฝ่ายมีพี่สาวด้วย
" ใช่ ลูกพี่สาวน่ะ ฝาแฝด ยูอิจิเป็นพี่ ยูมิเป็นน้อง "
"เหรอ..." คิโยโนบุพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืน  เจลูบผมเด็กชายเบาๆ
 " ไว้เดี๋ยวน้าคุยกับน้าคิโยเสร็จแล้ว จะไปทำให้กินแล้วกันนะ  "เขาจูงมือเด็กชายไปส่งที่บันไดอีกด้านของร้าน " ไปอยู่กับแม่ก่อนนะ "
" อื้อ " ยูอิจิ พยักหน้าแรงๆ แล้วหันมาทางคิโยโนบุ " กินให้อร่อยนะฮะ น้าคิโย  "พูดจบเด็กชายก็วิ่งตึงตังขึ้นไปบนบ้านทันที


"ฮ่ะๆ เป็นเด็กน่ารักดีนะ "คิโยโนบุพูดขึ้นมาพลางหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย สีหน้าของชายหนุ่มร่างสูงที่คุยกับเด็กชาย ตัวเล็กนั้นเป็นสีหน้าที่เขาไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นบ่อยนัก
" เพราะงั้น ถึงฉันจะไม่แต่งงาน ก็ไม่มีใครว่าอะไรไง "ชายหนุ่มหันมามองหน้าอีกฝ่าย แล้วเดินนำคิโยโนบุเข้าไปยังห้องสึบากิ

ทั้งสองคนเข้ามานั่งในห้องสึบากิที่เป็นห้องเอาไว้รับรองแขกที่มากันเป็นกลุ่มคณะ หรือ ต้องการความเป็นส่วนตัว ในการรับประทานอาหาร
ช่วงกลางวัน วันนี้ โชคดีที่ไม่มีคนจองห้องเอาไว้ จึงมีพื้นที่ส่วนตัวให้ทั้งสองคนได้นั่งพักกันอยู่ในห้องนี้อย่างเงียบๆ
"บ้านนายนี่ดีจังเลยนะ... " คิโยโนบุเหลือบมองหน้าของชายหนุ่มร่างสูง ผมที่เคยยาวถูกตัดเสียจนสั้น"ตัดผมแล้ว...ดูดีนี่..."
"ถ้าย้อมเป็นสีทองก็คงจะเหมือนเมื่อก่อนล่ะนะ "เจหัวเราะออกมาเบาๆ " แต่ฉันก็แก่ลงไปแล้ว "
"....พูดเหมือนเป็นคุณลุงไป  จริงๆ นายยังดูดี...นะ" คิโยโนบุพูดไปตามตรง อีกฝ่ายดูเป็นผู้ใหญ่ สมตัวขึ้นมากเมื่อตัดผมสั้นแบบนี้ ดูภูมิฐาน ผิดไปจากครั้งสุดท้ายที่เคยเห็น

"เอ่อ....จุน...ฉัน...ข..."

...ครืด....

บานประตูแบบญี่ปุ่นถูกเปิดออกพร้อมๆกับพนักงานในร้านที่ ก้มลงต่ำ ในมือถือถาดใส่ ชุดอาหารญี่ปุ่นอย่างดีเอาไว้

"ขออนุญาตค่ะ"

คิโยโนบุสะดุ้ง ก่อนจะ กลืนคำพูดที่กำลังจะ พูดออกไปลงคอ รอให้พนักงานสาวเดินเอา ทั้งหมดมาวางเอาไว้ ก่อนจะออกไป แต่ยังไม่ทันที่จะได้ ถอนหายใจที่โล่งอกเมื่อกี้ออกมา หญิงสูงวัยก็เดินมาในห้อง

"ไง...ได้อาหารแล้วใช่ไหม อิโนะอุเอะคุงวันนี้ มี ซาซิมิปลาไทด้วยนะ... อร่อยเชียวล่ะ แล้วก็ หมูทอด ซอสสูตรพิเศษของแม่เอง แล้วก็มีน้ำซุปกระดูก... "
"ขอบคุณมากครับคุณแม่...." ชายหนุ่ม โค้งให้กับอีกฝ่าย
" แม่..คิโยเขาบอกแล้วว่าไม่ต้องเอาเซ็ทพิเศษมาก็ได้ "หนุ่มผมดำส่ายหน้าไปมา แล้วหันมาทางคนที่มาด้วยกัน
"ก็แหม...จุนไม่เคยพาเพื่อนมาบ้านเลยนี่นา... เด็กคนนี้ไม่ค่อยจะมีเพื่อนอะไรกับเขาหรอกจ้ะ...จะมีก็ช่วงนึงล่ะมั้ง ที่ไปทำเขาเข้าโรงพยาบาลจนต้องกลับบ้านมาเข้าครัว ทำกับข้งกับข้าวไปส่งให้ทุกวันน่ะ..." คุณแม่เล่าอย่างอารมณ์ดี พลางยกมือขึ้นป้องปากยามหัวเราะ คำพูดนั้นทำให้ชายหนุ่มเหลือบมองหน้าของผู้เป็นลูกชายเล้กน้อย ก่อน จะกระแอมเบาๆ
"เอ่อ...คุณแม่ครับ...ผมคือ "เพื่อน" คนนั้น ของเขาเองนั่นล่ะครับ" ชายหนุ่มพูดเสียงเบา
"อ้าว...เหรอจ้ะ... อุ้ยตาย แม่ไม่รู้มาก่อนเลยนะนี่ ไม่อย่างนั้นจะเอากับข้าวมาให้เพิ่มเลย...ต้องขอโทษแทนเจ้าจุนมันด้วยนะ " ผู้เป็นว่าเอ่ยถึงเรื่องเก่าพลางก้มหัวให้กับ "ผู้เสีัยหาย" เมื่อครั้งนั้น
"ไม่เป็นไรหรอกครับคุณแม่ ผมก็เดินไม่ดูทางเองตอนนั้น... "ชายหนุ่มว่าพลางเหลือบมองใบหน้าของจุนเล็กน้อย
" เอ่อ .. แม่ ลูกค้าเยอะไม่ใช่เหรอ ไปดูร้านเถอะ พวกผมอยู่ไม่นานหรอก "เจรีบบอกกับแม่ของตน
"แหม...อายเพื่อนล่ะซิ่ ขอโทษทีนะ แม่มันแก่แล้วก็ช่างพูดไปอย่างนั้นล่ะ...ตามสบายเลยนะ อิโนะอุเอะคุง" คุณแม่ว่างพลางตบหน้าขาชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเบาๆ ก่อนจะลุกเดินออกไป

..............................................................


"คุณแม่...ร่าเริงจังเลยนะ..."
" ฮื่อ .. ร้านเติบโตได้ขนาดนี้ เพราะลูกค้าชอบอาหารของแม่ และแม่ด้วยนั่นแหละ "เจมองไปที่ประตูที่ถูกเลื่อนปิด ก่อนจะกินข้าวไปเงียบๆ คิโยโนบุเองก็ทานข้าวไปอย่างเงียบๆ บรรยากาศภายในห้องมีเพียงแค่เสียงดังมาจากด้านนอกที่สอดแทรกเข้ามาบ้างเป็นบางครั้งและมันก็น่าอึดอัดเสียจนคิโยโนบุต้องวางตะเกียบลง

"ฉัน....ขอโทษนะ.... "


" เรื่องอะไร? "เจถามขึ้นมาแทบจะทันที
"ถ้าบอกว่าทุกเรื่อง จะฟังดูแย่มากเลยรึเปล่า" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่าย
" แล้วนายคิดว่า นายทำอะไรไม่ถูกบ้างล่ะ? "ดวงตารีนั้นสบตาอีกฝ่ายนิ่ง " เรื่องไหนกันที่นายอยากจะขอโทษ "
"ฉัน.... "มือเรียวยกขึ้นเสยผมก่อนจะขยี้หัวเบาๆ  "ฉํนทำผิดสัญญากับนาย ที่บอกว่าจะปรับปรุงตัวแต่ฉันก็ยังไปกับเด็กคนนั้น... พฤติกรรมของฉันมันเหมือน... นอกใจ " ท้ายประโยคนั้น ชายหนุ่มพูดเสียงเบาไม่กล้าสบตาของอีกฝ่าย มือเรียวกำแน่นเมื่อยังไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบรับมาจากอีกฝ่าย ในที่สุดก็สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป
"เด็กคนนั้นจูบฉัน....คืนนั้น ที่นายเห็น... และฉันจูบตอบแต่มัน... เป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ...ฉันสับสน....จุน...ฉันขอโทษ ฉันไม่ควรจะไปที่นั่นไม่ควรจะใจอ่อนอะไรกับเด็กคนนั้นอีก... ฉัน...ขอโทษ"  คิโยโนบุพูดยาว น้ำเสียงขาดเป็นห้วงๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นปิดแน่น เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าของอีกฝ่ายด้วยซ้ำไปเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

" ................................................ " หนุ่มผมดำก้มหน้าลงนิ่ง ..เขาคิด อยู่แม้มันจะไม่กี่นาที แต่สำหรับคิโยโนบุแล้วมันก็แทบขาดใจ
"........ขอโทษ....จริงๆ...... " ในที่สุดคิโยโนบุก็ได้แต่พูดคำซ้ำๆออกไป "ฉัน...เลิกไปทำงานที่นั่นแล้ว.. ฉันลาออก. แล้วกับเด็กคนนั้น ฉัน ปฏิเสธไปแล้ว... ฉันไม่ได้รู้สึกอะไร ฉัน...รักนาย..."  คิโยโนบุเงยหน้าขึ้นมองหน้าอีกฝ่านแม้จะไม่มีน้ำตา แต่ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นก็บ่งบอกได้ถึงความเสียใจ

" ทำไม นายต้องทำขนาดนี้ .. คิโย .. ถ้านั่นเพราะว่ารู้สึกผิด มันก็มากไปนะ " เจตอบกลับมาหลังจากที่คิดอยู่นาน" ไม่ใช่แค่นาย ฉันเองก็ผิดที่พยายามเรื่องของเราไม่พอ "
"แล้วเราควรจะทำยังไง...จุน...ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ นายไม่อยู่...ฉันเอง...ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน..." มือเรียวยื่นออกไป ด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะยื่นมือตอบกลับมา

" ถ้านายลาออกแล้วจะทำอะไร ต่อไปล่ะ? "เจถามอีกฝ่าย
"ฉัน... จะหาทางอื่น .. ที่ฉันทำแล้วสบายใจ แล้วนาย..ก็สบายใจเหมือนกัน " คิโยโนบุตอบพลางยิ้ม เขาไม่ได้บอกอีกฝ่ายเรื่องใบสมัครที่พ่อของเขาเอามายื่นให้เมื่อวาน "ฉันคิดดีแล้ว... จุน....นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ...คราวนี้ฉันจะไม่ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร มันจะไม่มีปัญหาอะไร.. "
" ก็ดีแล้ว ถ้านายจัดการปัญหาของตัวเองได้ ฉันก็จะได้ไม่ต้องห่วงอะไร " มือแกร่งนั้นแทนที่จะเอื้อมไปจับมืออีกฝ่าย เขากลับขยี้ผมสีน้ำตาลนุ่มนั้นเบาๆ แล้วยิ้มให้

ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลก้มหน้าลง รอยยิ้มนั้นทำให้ใจที่เหมือนจะขาดมาตลอดตั้งแต่เห็นอีกฝ่ายอยู่ที่ริมน้ำนั้นเหมือนจะพองโต
"...................... "ไม่มีเสียงอื่นนอกเสียงสะอึกปนสะอื้นเบาๆ คิโยโนบุ เงยหน้าขึ้นมองเพดาน พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายเห็น

" เฮ้ย อะไรเล่า! "เจโวยวายออกมาทันทีที่เห็นน้ำตา " หยุดเลย หยุด "
"ก็...กำลังพยายามอยู่นี่ไงเล่า..." คิโยโนบุโวยกลับ พลางยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตา "โวยวายไปได้"  เจปล่อยมือออกจากอีกฝ่ายแล้วนั่งกินข้าวต่อไปเงียบๆ จนหมด

"กับข้าวคุณแม่อร่อยจังเลย..." คิโยโนบุพูดพลางรวบตะเกียบ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองใบหน้าของอีกฝ่ายเล็กน้อย ปลายนิ้วแตะเบาๆที่ถ้วยน้ำซุปที่ทานจนหมด "รสชาตน้ำซุป...คล้ายกับของที่นายทำเลยนะ"
" ฉันอยากทำให้ของตัวเองต่างออกไปนะ .. เพื่อซักวันจะได้มีร้านของตัวเอง "ชายหนุ่มบอกในสิ่งที่เป็นความฝันสูงสุดของเขา การเป็นพ่อครัวโรงแรมมันก็ดี แต่ถ้ามีร้านเป็นของตัวเอง คงจะดีกว่าไม่น้อย
"ฉันอยากจะเห็นวันนั้นเร็วๆนะ" คิโยโนบุยิ้ม "ฉันรู้ว่านายทำได้แน่นอน"  "ว่าแต่...ค่าอาหารวันนี้... "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล เอ่ยอย่างไม่แน่ใจนักว่า จะเป็นการเสียมารยาท หรือเปล่า กับการ จะมาจ่ายเงิน ให้กับบ้านของ...คนรักของตัวเอง
" นายบอกว่าจะเลี้ยงไม่ใช่เหรอ? "ชายหนุ่มยักคิ้วให้อย่างกวนๆ
"ก็เลี้ยงน่ะซิ่... "ชายหนุ่มว่าพลางหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาวาง "เก็บเงินได้เลย"วางพลาง ก็กดเรียกให้พนักงานขึ้นมาที่ห้อง  ชายหนุ่มจ่ายเงินแม้รู้ดีว่าถ้าเดินลงไป อาจจะโดนเสียงตัดพ้อจากคุณแม่ของอีกฝ่ายแน่นอน

"ฉัน...กลับไปที่โรงแรมก่อนดีกว่า... "ชายหนุ่มว่าพลางลุกขึ้นยืน  "อ้อ... " คิโยโนบุส่งเสียงเหมือนว่าจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เมื่อเดินนำอีกฝ่ายออกมาจากร้าน เขาบอกลาคุณแม่ของอีกฝ่าย เธอดูจะดีใจไม่น้อยที่ได้เห็นหน้าเพื่อนของลูกชาย หญิงสูงวัยไม่ได้เดินออกมาส่งที่หน้าร้าน มีเพียงแค่เขาและจุนเท่านั้น


 " จำตอนนั้นได้ไหม...ที่บอกว่า อยากจะไปทะเล...แต่นายพาไปแม่น้ำแทน " คำพูดนั้นทำให้เจต้องหันมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างแปลกใจในสิ่งที่ได้ยิน บนใบหน้าแกร่งนั้นมีคำถาม "จำไม่ได้เหรอ...ที่ว่าอยากจะไปทะเลน่ะ "คิโยโนบุยิ้ม พลางหัวเราะออกมาเบาๆ "มันก็ตั้งกี่ปีมาแล้วนี่นะ"
 
" เหรอ? "เจยังคงแปลกใจแล้วทำท่าเหมือนพยายามนึก เขารู้ว่ามันจะทำให้คิโยโนบุต้องพูดต่อแน่นอน
"ก็ตอนที่เราหนีออกจากโรงพยาบาล" พูดพลางก็เดินเข้ามาใกล้ "ฉันตื๊อนายยังไงก็ไม่ยอม แล้วนายก็มาตั้งเงื่อนไขว่าถ้าฉันเดินได้แล้วนายจะยอมพาฉันไป...ตอนนั้นบอกว่าอยากไปทะเลนะ แต่ไหงกลายเป็นแม่น้ำก็ไม่รู้ " เสียงหัเราะดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับสายลมของฤดูร้อนที่พัดผ่านมา "คงเพราะฉันมัวแต่ดีใจเลยไม่ได้ท้วง"  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง
"ยังจำไม่ได้? อยากได้หลักฐานไหมจะเอามาให้ ยังเก็บเฝือกเอาไว้อยู่เลย...ที่นายเขียนไว้น่ะ"  คิโยโนบุเริ่มทำเสียงตัดพ้อเมื่ออีกฝ่ายยังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
" อ๋อ..เขียนเฝือก.. "พออีกฝ่ายพูดถึงขนาดนั้นเจก็ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ " จำได้แล้ว ... ไปไหมล่ะ? "

...........ความจริงฉันก็จำได้ทั้งหมดนั่นล่ะ...........

"จะพาไปใช่ไหมล่ะ... "
" พาไป? ยังไง ขับรถนาย? " หนุ่มผมดำชี้ไปที่รถยนต์ของอีกฝ่ายที่จอดหน้าร้าน
"โธ่...ไหนๆก็กลับมานี่ทั้งที...ไปกันแบบคลาสสิคหน่อยไม่ได้เหรอ "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหัวเราะพลางพยักเพยิดไปทางรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่อีกฝ่ายเช่ามาขับ ก่อนจะยักคิ้วใส่อย่างกวนๆ  "ฉันออกค่าเช่าให้อีกวันก็ได้นะ"
" แล้วรถนาย? " เจยังคงห่วงรถของอีกฝ่ายไม่หาย
"จอดไว้ที่โรงแรมก่อน...ก็คงได้มั้ง ไม่มีใครขโมยหรอก...แถวนี้" คิโยโนบุยักไหล่ไม่ยี่หร่ะก่อนจะหันมาสนใจคนตรงหน้า ด้วยแววตาที่เหมือนกับจะตื๊อเอาให้ได้เหมือนตอนเป็นเด็ก "พาไปนะ...ทะเล" เจหัวเระากับท่าทางนั้นของอีกฝ่าย
" เหมือนเด็กเลยให้ตาย " เขาบ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะเอาของที่ไม่จำเป็นออกจากรถไปไว้ที่รถของคิโยโนบุ

"เหมือนอะไรๆมันจะย้อนกลับล่ะมั้ง...บรรยากาศแบบนี้ด้วยแล้ว" คิโยโนบุพูดก่อนจะรอให้อีกฝ่าย พร้อมเขาขับนำไปที่โรงแรม จอดรถเอาไว้ที่นั่นไม่นานก็พร้อมจะออกเดินทางกันในแบบที่เคยทำ

...................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (อัพCH 38) 18/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 18-10-2010 20:59:53
:sad4:ดีกันแล้วใช่มั้ยยยยย แอบกลัวใจเจจัง
มันไม่หวานมาหลายตอนล่ะนะตะเอง จัดมาให้ชื่นใจซักนิดเถอะ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (แจ้งข่าว) 21/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 21-10-2010 20:29:08
:serius2: :serius2: :serius2:

อยากอัพนิยายให้อ่านกัน แต่อัพไม่ได้ค่า...
น้องคอมไวรัสกิน เอาไปส่งโรงหมออยู่ค่า....

ดังนั้นเรามาเล่นเกมส์กันดีกว่า...

ตั้งแต่ต้นเรื่องจน ณ ปัจจุบัน
คิดว่า จะเอาเพลงอะไรมาเป็น เพลงประกอบดีคร้า....
ตอบเล่นๆไปพลางๆก่อนเน้อ อยากรู้ความเห็นทุกคนมากๆ  :L2: :L2:

ความจริงแล้ว คือ อัพไม่ได้ รอ...ซักวันอาทิตย์นะคะที่รัก จุ๊บๆ

ป.ล. ถ้าเอารูปอิมเมจ คิโย กะ จุนมาลง จะยังมีใครอยากอ่านอยู่อีกไหมนะ ฮ่ะๆ (อิมเมจไม่จูงใจซักเท่าไรซิ่นะ)
[/color]
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (แจ้งข่าว เล่น เกมส์) 21/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 22-10-2010 20:07:59
อ่านแล้ว...มันเศร้าลึกๆจัง
เหมือนกับว่าคู่นี้ในที่สุดจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (แจ้งข่าว เล่น เกมส์) 21/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 23-10-2010 19:50:41
ประกาศค่า...
คอมน้อยหอยสังข์ของพีจัง โดนหมอสั่งกักเชื้อโรคอยู่ค่ะ
กว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้คงอาทิตย์หน้าซักวันศุกร์โน่น  :serius2: :serius2:
ทำไมโพสต์เรื่องนี้อาถรรพ์เยอะจริงวุ้ย.... :a5:

เป็นโคไรท์ให้หอมกลิ่นกาแฟซีรีย์ ก็ยังแก้งานกันไม่เสร็จ (แต่ครึ่งแรกคงใกล้จะได้โพสต์แล้วล่ะค่า เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงนะคะ )

วันนี้เลยขอนำเสนอ (แอบมองก่อนว่าพี่ชายจะเข้ามาไล่ที่หรือยังเอาคอมพี่ชายเล่นไปก่อน)

อิมเมจ ของ จุน กับ คิโย ในเรื่อง ส่วนถ้าใครคิดว่า จุนกับคิโย หน้าตาเป็นอย่างไร จากการที่ได้อ่านไปแล้ว ก็ เอามาโพสต์ให้ดูกันได้นะคะ
แต่ถ้าทำต่อมจินตนาการใครเสื่อม ก็.....ลืมๆเขาไปเถอะค่ะ อันนี้ ความสุขคนเขียนล้วนๆ (ขีดเส้นใต้คำว่า ล้วนๆ)

(http://i270.photobucket.com/albums/jj87/goldfishpka/larene4_7.jpg)

INORAN เจ้าของอิมเมจคิโย...อาจารย์หนุ่มที่เจ็บตัวตลอดศก...ใจแตกบ้างในบางครั้ง (ฮา)

(http://i270.photobucket.com/albums/jj87/goldfishpka/28mfv5s.jpg)
และ พี่ J ....ก็นะ...เป็น J นั่นล่ะ ผมยาว ห้าว แต่ลายมือสวยไม่เข้ากับหน้า

เป็นไงกันบ้างหนอ... ใครคิดว่า ตัวละครคนไหนหน้าตาน่าจะเหมือนใครก็บอกด้วยนะคะ...อันที่จริง อยากรู้มะมิยะ มากที่สุด เพราะตอนเขียนก็ไม่ค่อยมีอิมเมจเขาเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (แจ้งข่าว เล่น เกมส์) 21/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 28-10-2010 06:13:44
ชอบเป็นที่สุด ดูเป็นความรักแบบผู้ใหญ่ จริงจัง ไม่ได้หวานแหววหึงโหดตลาดแตกแบบหลายๆเรื่อง
.
.
.
เฮ้ออออ อยากมีชีวิตงี้มั่งจัง
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH39) 30/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 30-10-2010 23:51:33
@@@Writer's Talk@@@
 :pig4: :pig4:ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ
 ส่วนตัวพีจังเองก็ชอบเรื่องนี้มากๆเลยทีเดียว
อย่างที่เคยบอกไปว่าเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคมาก่อน...ต้องขอบอกว่ามันไม่ใช่แนวที่พีจังกับคุรุมะเคยเขียนกันเลย
เสียน้ำตา อึดอัด กันไปหลายรอบมาก...แต่...ก็ยังนับว่าเป็นหนึ่งในใจอีกเรื่องค่ะ

และอยากให้ทุกคนได้ลองอ่านกัน ถ้าชอบ คนเขียนก็มีความสุขแล้วล่ะค่ะ

และต้องขอโทษที่หายไปนาน ตอนนี้ได้คอมกลับมาแล้ว ก็จะโพสต์ต่อล่ะนะคะ

...................................................................................


เชฟหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์ ไปตามเส้นทางที่มุ่งหน้าไปสู่ทะเล โดยที่มีชายหนุ่มผมสีน้ำตาลนั่งซ้อนท้าย สายลมที่สัมผัสกับใบหน้าแทรกผ่านเส้นผมสีดำสนิทของคนที่นั่งอยู่ด้านหน้า ทำให้คิโยโนบุได้กลิ่นกายของอีกฝ่ายคล้ายกับเมื่อสิบสองปีก่อน มือเรียวยกขึ้นยึดไหล่กว้างนั้นเอาไว้เป็นหลักในขณะที่อีกมือ จับที่จับตรงด้านหลังเอาไว้มั่น แม้จะเพิ่มความเร็วซักเท่าไรก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่หวั่น

"ดีจังเลยนะ รอบนี้ไม่มีเฝือก" ยังไม่วายจะตะโกนแข่งกับสายลม ด้วยมุกที่หยิบขึ้นมากัดตัวเองเรียกเสียงหัวเราะได้จากอีกฝ่ายไม่น้อย ก่อนที่สารถีจำเป็น จะจอดเข้าข้างทาง ใกล้ๆกับชายหาดสีขาวสะอาดตา น่าแปลกทั้งๆที่เป็นฤดูร้อน แต่ที่หาดนี้กลับไม่ค่อยมีคน เท่าไรนัก

" ก็มีแต่ทะเล "ชายหนุ่มบ่นแล้วนั่งลงกับพื้นทรายแต่ถึงจะแบบนั้น ดวงตีารีก็ปิดลงรับลมทะเล ที่พัดเข้ามาอย่างสบายใจ
"ก็คงมีแต่ทะเลนี่ล่ะ......" คิโยโนบุพูดขึ้น ก่อนจะนั่งลงข้างๆกับอีกฝ่าย

....ที่จะทำให้..เรา...สงบลงได้บ้าง....

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองออกไปยังท้องทะเลสีครามเบื้องหน้า เสียงคลื่นซัดสาดเข้าหาชายฝั่ง ฟองคลื่นสีขาวสะอาดตาค่อยซับลงไปกับผืนทราย

"ถ้าตอนนั้น...เราไม่ออกมาจากโรงพยาบาลมันจะเป็นยังไงกันนะ..." คิโยโนบุพูดขึ้น
" แต่เราก็ออกมาแล้ว .. แล้วก็ทำไปหลายเรื่องแล้วด้วย.. "เจตอบหลับมาแทบจะทันที " ไม่ต้องไปคิดหรอก .. มันผ่านไปแล้ว "
"นั่นซิ่นะ...มันผ่านไปแล้ว... และมันก็จะกลายเป็น...แค่เศษเสี้ยวของเวลา...ที่เราได้ผ่านมันมา..." คิโยโนบุหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย ริมฝีปากได้รูปนั้น เผยอขึ้นหมายจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เบือนหน้ากลับไปทิศเดิม

....ฉันบอกนายตอนนี้ไม่ได้หรอก เรื่องนั้น....
....ฉันขอใช้เวลา ตรงนี้ให้มากที่สุดก่อนก็แล้วกัน....


" แต่เราก็ได้เจอกันไม่ใช่เหรอ? .. ในช่วงเวลาที่ฉันกับนายลำบาก..สามครั้งแล้ว "เจลืมตาขึ้นแล้วหันไปหาอีกฝ่าย " สิบสองปีก่อน ถึงฉันจะทำให้นายวิ่งไม่ได้ .. แต่ฉันก็ทำให้นายรู้สึกดีขึ้น.... ตอนที่นายจะแต่งงานกับอิชิดะซัง ฉันก็เป็นคนพานายออกมาจากสิ่งที่นายไม่อยากทำ  "ดวงตาสีสบตาอีกฝ่าย " และวันนี้ .... "
"ฉันทำให้นายลำบากใจมาตลอด...ฉันรู้สึกว่า ตัวเองยังช่วยอะไรนายไม่ได้มากนัก...มีแต่จะสร้างปัญหา...ให้กับคนที่ฉํนรัก...ขอโทษ และก็ขอบคุณ..จริงๆ "มือเรียวยื่นไปกุมมือแกร่งของอีกฝ่ายเอาไว้  หนุ่มร่างสูงดึงคิโยโนบุมากอดไว้ทันที

"จุน.... " เสียงเรียกชื่อนั้นดังขึ้นแผ่วเบากับไหล่กว้างของอีกฝ่าย คิโยโนบุหลับตาลง มันเป็นความอบอุ่นที่คงหาอะไร หรือใครมาแทนไม่ได้ อ้อมกอดนี้เป็นเหมือนที่พักพิงให้เขามาโดยตลอด... และเขารักอ้อมกอดของคนๆนี้มากเหลือเกิน "ตอนที่นายไม่อยู่...ฉันคิดถึงนาย"
" ขอโทษนะ "เจตอบกลับมา คำขอโทษของเขาไม่ได้บ่งบอกถึงเหตุผลใดๆ
"ฉันเองก็เหมือนกัน" มือเรียวยกขึ้น โอบไหล่อีกฝ่ายเข้าหาตัว... สูดกลิ่นกายของอีกฝ่ายที่ปะปนกับกลิ่นอายของทะเลลึกลงไปในปอด ก่อนที่จะขยับตัวออกมาเพียงเพื่อมองใบหน้าคมนั้น
"ฉันรักนาย...อาจจะฟังดูน่าเบื่อไปหน่อย..."ริมฝีปากนั้นมีรอยยิ้ม "แต่พูดกี่ครั้งก็เป็นคำเดิม" ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาหน่อยๆ "ฮะ ฮะ......ขอโทษ...ช่วงนี้ ดื่มกับกินขนมมากไป อาจจะเลี่ยนไปซักหน่อย " เห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปกับคำพูดของเชาแบบนั้นก็ต้องรีบหัวเราะแก้เขินให้กับตัวเองทันที คิโยโนบุผละออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย ก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง "พูดไปได้แฮะ น่าอายเป็นบ้า"
 
" นั่นสิ .. นายดูละครน้ำเน่ามากไปรึเปล่าช่วงนี้ วันหลังก็ดู CSI บ้างละกัน "เจเองก็หัวเราะกลบเกลื่อน  ทั้งๆที่เขาเองยังคงใจเต้นกับคำพูดของอีกฝ่าย
"อาจจะดีก็ได้" คิโยโนบุหัวเราะออกมาเบๆ "แต่นายดูบ่อยๆนี่น่ากลัวนะ นายอาจได้มุกในการฆ่าฉันก็ได้...."พูดพลางก็หันไปผลักไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆ

..........................................

บรรยากาศสบายๆที่ห่างหายไปนานเวลาคุยกันกลับมาอีกครั้ง เสียงหัวเราะรอยยิ้ม ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว
การพูดคุยผ่านไปเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ ที่ค่อยผ่านท้องฟ้าไปอย่างช้าๆ

"ไปขับรถเล่นกันต่อไหม... หิวแล้วด้วยเผื่อแถวนี้จะมีอะไรให้กิน " คนช่างกิน เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
" พูดมากก็หิว "เจบ่นก่อนจะลุกขึ้นปัดเศษทรายที่ติดกางเกง แล้วเดินไปสตาร์ทรถ แล้วพาคนรักไปหาอะไรกิน โชคดีที่ด้านหน้ามีงานเทศกาล ซึ่งมีของกินมากมายให้ได้เลือกสรร

เสียงเรียกลูกค้าดังขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับกลิ่นหอมของอาหารหลากหลาย ผู้คนเดินขวั่กไขว่ไปมาหร้อมกับรอยยิ้ม ร้านขายเป็นเพิงตั้งเรียยงขนานกันไปสองข้างทาง คิโยโนบุ หันไปมองหน้าของอีกฝ่าย

"น่าอร่อยเนอะ"
" อยากกินอะไรก็เอาสิ "เชฟหนุ่มหันมามองหน้าคนรักแล้วเดินนำอีกฝ่ายไปยังร้านขายเหล่านั้น
"ยากิโซบะ.... "คิโยโนบุว่าพลาง เดินตามอีกฝ่ายไป "แล้วก็น้ำแข็งใส...แล้วก็ โอโคโนมิยากิ...แล้วก็... "ดูเหมือนเมนู่ละลานตาอยู่ตรงหน้านั้น จะหลุดออกมาจากปาก คนช่างกิน แทบจะทั้งหมด
" ซื้อเอง งานนี้ไม่บริการ "แต่ถึงจะพูดไปแบบนั้น หนุ่มผมดำก็เดินตรงไปที่ร้านยากิโซบะที่มีคุณลุงท่าทางใจดีกำลังเรียกลูกค้าอยู่

"โอ้ว ยากิโซบะไหมพี่ชาย ร้อนๆเลยนะเนี่ย" ลุงเจ้าของร้านเอ่ยทักเมื่อเห็น ชายทั้งสองคนเดินมา เสียงตะหลิวเคาะกับกะทะดังเป็นจังหวะ
" ขอสามที่เลยครับ ลุง " เชฟหนุ่มบอกกับเจ้าของร้าน พลางมองดูส่วนผสมที่ถูกจัดเอาไว้อย่างพิถีพิถัน
"อยากทำเองมากกว่ารึไง... "คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยขึ้นแหย่เบาๆ
" ไม่ล่ะ " เจหันมาตามต้นเสียง " สามที่น่ะ ของนายสอง นะ กินให้หมด "
"อ้อ...แน่นอน กินหมดอยู่แล้ว... " คิโยโนบุตอบ ก่อนจะเดินแทรกเข้าไปอยู่ที่ด้านหน้า "เดี๋ยวช่วยถือ"
 
ยากิโซบะ เส้นยาวๆ ถูกคลุกเคล้ากับซอสและเ ครื่องปรุงต่างๆ จน ส่งกลิ่นหอม ชายสูงวัย จัดการตัดแบ่งเป็นสามส่วนแล้วเอาใส่กล่องพลาสติกมันกล่องด้วยหนังยาวแล้วส่งให้อีกฝ่าย

"เอ้าๆ ได้แล้วๆ ทั้งหมด 1500เยน..."
"ขอบคุณครับ...."คิโยโนบุว่าพลางยื่นสตางค์ให้กับอีกฝ่าย แล้ว รับเอากล่องยากิโซบะ ทั้งสามกล่องมา


ของกินที่ทั้งสองถือมาจะว่าไปมันมากกว่าสำหรับผู้ชายสองคนกินด้วยซ้ำ แต่เจก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย การที่อีกฝ่ายทานได้เยอะนั่นแปลว่าเขา มีความสุข
จนกระทั่งอาหารทั้งหมดกว่า2 ใน 3 ถูกจัดการหมดด้วย คิโยโนบุ

"อิ่มเป็นบ้า.... "คิโยโนบุว่าพลาง ยกกระป๋องเบียร์ที่แวะซื้อระหว่าง ทางที่เดินมานั่ง อยู่ตรงท่าน้ำริมทะเล ไม่ได้ห่างจากโซนงานเทศกาลนัก แต่ก็ ไม่ได้เสียงดังมากจนเกินไป "เอาเบียร์อีกไหม...ยังมีอีกนะ "
" ไม่ล่ะ .. เดี๋ยวนายก็ได้นอนอยู่แถวนี้หรอก ไปหาที่นอนดีกว่าน่า "เจลุกขึ้นเอากล่องอาหารต่างๆไปใส่ถังขยะใกล้ๆ
"ก็จะให้นอนอยู่นี่ก็ได้นะ...ลมเย็นดีออก " คิโยโนบุพูดพลาง ยันตัวลุกขึ้นยืนอย่างอาดๆเหมือนไม่อยากลุกเท่าไร
" งั้น ก็นอนไปคนเดียว "เจเดินไปคร่อมมอเตอร์ไซค์ของตน" ว่าไง? " เขาหันมาถามแล้วบิดกุญแจดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองร่างสูงนั้นก่อนจะยิ้ม
"บ้าชะมัด... นายปล่อยฉํนนอนคนเดียวได้ไงเล่า..." คิโยโนบุว่าพลางเดินไปซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของอีกฝ่าย "เอาล่ะ ไปเล้ย" น้ำเสียงที่ตะโกนนั้นฟังดูร่าเริงไม่น้อย

" แค่นี้ก็เมาแล้วรึไง? "เจหัวเราะกับท่าทางของอีกฝ่ายแล้วออกรถไปอย่างเร็ว เพื่อกลับเข้าสู่ย่านโรงแรมใกล้ๆทะเล
"ดูถูก.... ใครเมากัน"  เสียงคิโยโนบุตะโกนแข่งกับสายลม เมื่อรถมอเตอร์ไซค์แล่นห่างจากงานเทศกาลมา

.............................................................


"โห...หรูซะ "ชายหนุ่มพูดเมื่อเห็น ตึกสวยของโรงแรมที่ตั้งตระหง่านหันหน้าเข้ามาท้องทะเล ของโรงแรม
" เข้าไหม? "เจถามทีเล่นทีจริงแต่ ข้อมือของเขาก็บังคับให้มอเตอร์ไซค์คันใหญ่นั้นเลี้ยวเข้าไปซะแล้ว
"แล้วยังจะถาม... " คิโยโนบุตอบกลับมาด้วยเสียงหัวเราะ
"เหมือนมาเดทเลยนะพวกเรา... อาหารดีๆตอนเที่ยง กินเล่นตอนเย็น ...แล้วก็มาโรงแรม... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหัวเราะเบาๆ
" ไม่เคยได้มาเลยไม่ใช่รึไง? "หนุ่มผมดำถามขณะที่เดินนำอีกฝ่ายไปที่ลอบบี้ของโรงแรม
"อืม...จะว่าไป...ก็คงใช่มั้ง" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เงยหน้าขึ้นมอง โคมไฟสวย ที่แขวนไว้ตรงล็อบบี้ มือเรียวแตะปลายนิ้วของอีกฝ่าย ไม่ได้ขยับเข้าไปจนชิดนัก ทั้งๆที่รู้ดีว่ามันไม่มีอะไรที่จะต้องเก้อเขิน แต่สัมผัสแผ่วเบาบนปลายนิ้วนั้นก็ อบอุ่นมากพอที่จะทำให้รู้สึกดีที่ได้ยืนเคียงข้างอีกฝ่าย

"สวัสดีค่ะ มีอะไรให้รับใช้คะ" พนักงานโรงแรมเอ่ยต้อนรับอย่างเป็นมิตนร
" ไม่ทราบว่าพอจะมีห้องสำหรับคืนนี้อยู่ไหมครับ เตียงคู่นะครับ "เจตอบพนักงานของโรมแรงไปอย่างไม่สนใจซักนิดว่าเธอจะคิดยังไง
"อ่ะ...เอ่อ.... ค่ะๆ ซักครู่นะคะ "หญิงสาวว่าพลาง หันไปตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ "มีค่ะ.... ห้อง 710"
"ผมอยากได้ห้องที่เห็นทะเลชัดๆน่ะครับ "ชายหนุ่มเพิ่มเติมในสิ่งที่ต้องการ
"ขออาหารเช้าไปส่งที่ห้องตอนสิบโมงเช้าด้วยนะครับ"
"ห้อง 710 จะเห็นทะเล สวยมากเลยค่ะ อาหารเช้า ทราบแล้วค่ะ จะจัดให้ตอน 10โมงนะคะ ไม่ทราบชือผู้เข้าพักคือ... " หญิงสาวคีย์ข้อมูลรวดเร็ว ลงใน คอมพิวเตอร์
" โอโนะเสะ จุน "
"ได้ค่ะ โอโนเสะซังนะคะ นี่กุญแจห้องพักค่ะ ในห้องพักจะมีบริการชุดยูกาตะกับอ่างอาบน้ำร้อนส่วนตัวในห้องนะคะ ถ้าอย่างไร เชิญใช้บริการได้ตามสบายค่ะ..." เธอว่าพลางยื่นคีย์การ์ดให้กับอีกฝ่าย
" ขอบคุณครับ "เจรับเอาคีย์การ์ดจากพนักงานมาแล้วหันไปทางคิโยโนบุ พยักหน้าเบาๆ เป้ฯเชิงให้เดินตามมา

".................................."
".................................."

น่าแปลกที่ตอนที่ขึ้นลิฟท์มานั้น ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันเลย คิโยโนบุ รู้สึกได้ว่า หัวใจของตัวเอง เต้นรัว อย่าง น่าแปลกใจ เขาไม่ได้รู้สึก แบบนี้มานานแล้ว

ประตูห้อง 710เปิดออกเผยให้เห็น ภาพวิวของทะเลสวย ที่ยังมีแสงสีส้มจางๆให้เห็นที่ขอบฟ้า ความมืดเข้าครอบคลุม และกำลังจะกลืนผืนน้ำเบื้องล่างให้หายไป แต่ความสวยงามนั้นก็ยังคงอยู่ จากแสงไฟที่เห็นได้จากงานเทศกาลที่จัดอยู่ทีหาดที่มองเห็นอยู่ไกลออกไปทางด้านซ้าย แต่คนที่ชวนเข้าโรงแรมกลับไม่ได้โรแมนติกอะไรด้วยเลย

" อาบน้ำก่อนนะ "เขาพูดสั้นๆแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
"อื้ม...." คิโยโนบุรับคำเบาๆ ก่อนจะ เดินไปที่ตู้เย็น อากาศร้อนด้านนอก ทำให้ อยากจะหาเบียร์อีกซักกระป๋องมาดื่มคลายร้อน ชายหนุ่มเดินไปริมหน้าต่าง เปิดประตูบานเลื่อนกระจก ออกไป เพื่อ รับลมทะเลเย็นๆ ที่พัดผ่านเข้ามากระทบใบหน้า

....สงสัยจะเมาจริง....
....ใจเต้นยังกับรัวกลอง....


ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆกับความคิดของตัวเอง แต่ก็ยังไม่หยุดดื่ม

ไม่นาน หนุ่มผมดำก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยสวมชุดคลุมอาบน้ำเอาไว้ เขาทักอีกฝ่ายที่ยังคงดื่มเบียร์อยู่ริมระเบียง

" เข้ามาได้แล้ว "
"อ้าว...อาบเสร็จแล้วเรหอ" คิโยโนบุหันกลับมา ก่อนจะเดินกลับเข้ามาพร้อมกับ กระป๋องเบียร์ที่อยู่ในมือ


" ตานายแล้ว แล้ว็เลิกกินเบียร์ย้อมใจได้แล้วน่า ไม่ใช่ครั้งแรกซักหน่อย "เจชี้ไปที่กระป๋องเบียร์ของคิโยโนบุแล้วเดินไปนั่งรอที่เตียง
"ไม่ได้ย้อมซักหน่อย... อากาศมันร้อนหรอกก็กินอะไรให้ชื่นใจหน่อย" คิโยโนบุ หัวเราะ ก่อนจะเดินเอากระป๋องเบียร์ที่เหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่งไปวางไว้บนโต๊ะ
"ไปอาบน้ำล่ะ " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลว่าพลางเดิน เข้าห้องน้ำไป อาบน้ำ หลังจากที่ ตากแดด ตากไอทะเล มาตลอดทั้งบ่าย

ไม่นานนัก เสียงน้ำที่ดังในห้องน้ำ ก็เงียบลง ก่อนที่บานประตูจะเปิดออกพร้อมกับ ร่างของชายหนุ่ม ที่เดินออกมาในชุดคลุมอาบน้ำ เช่นเดียวกับอีกฝ่าย ไอน้ำร้อน ลอยตามร่างนั้นออกมา ก่อนจะจางหายไป เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนนั้นเปียกลู่ลงมาเล็กน้อย


"แล้วไงต่อล่ะ..." ชายหนุ่มยักคิ้ว น้อยๆให้อีกฝ่าย


.........................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH39) 30/10/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 31-10-2010 14:43:52
รักกันมากอย่างนี้แล้วจะตัดใจจากกันลงหรือ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH40 NC-18!!) 1/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 01-11-2010 22:45:18
@@@Writer's Talk@@@

รักกันมากอย่างนี้แล้วจะตัดใจจากกันลงหรือ

นั่นซิ่นะคะ จะจากกันไปได้ยังไง....ขมๆกันมานาน คืนนี้มาหวานๆกันหน่อยดีกว่านะคะ  :-[
แล้วก็ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้ว (ที่บ้านพีจังหนาวมาก) ก็ขอกอดคนอ่านให้อุ่นๆ ก็แล้วกันนะคะ ทุกคนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ  :กอด1:

...................................................


"แล้วไงต่อล่ะ..."
ชายหนุ่มยักคิ้ว น้อยๆให้อีกฝ่าย

เพลงที่เปิดคลอนั้นแทนที่จะเป็นเพลงหวานโรแมนติก แต่นี่ไม่ใช่เลยเพลงร็อคของวงร็อคอเมริกันชื่อดังแม้ว่ามันจะเก่าไปบ้างแต่ก็เป็นสไตล์ที่เจชอบนัก เขาหันมามองตามต้นเสียงขณะที่นั่งอยู่ที่ปลายเตียง

"โห...เพลงนี่มันกี่ปีมาแล้วเนี่ย..." คิโยโนบุหันไปมอง ทางเครื่องเสียงที่กำลังแผดเสียง กีต้าร์ โซโล่ คละเคล้าไปกับจังหวะเร้าใจ
" แต่ก็เจ๋งใช่ไหมล่ะ? "เจขยับศีรษะไปมาตามจังหวะดนตรี
"ใช่... ไม่ได้ยินมาตั้งนานแล้ว... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ว่าพลางก็โยกหัวตาม ก่อนจะร้องคลอออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ตามด้วยเสียงห้าวที่ร้องประสานขึ้นมา นั่นเป็นเพลงโปรดสมัยพวกเขายังเป็นวัยรุ่นกันเลยทีเดียว คิโยโนบุหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย รู้สึกทึ่งๆเล็กน้อยกับน้ำเสียงที่อีกฝ่าย ร้องขึ้นมา

"เสียงดี...นี่นา... " คิโยโนบุร้องก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ คว้าเอารีโมทแอร์ที่อยู่ใกล้ๆเอามาทำเป็นเหมือนไมค์ยื่นให้กับคนรัก "คอรัสหน่อยซิ่... " คิโยโนบุพูดแทรกขึ้นมาเมื่อถึงท่อนคอรัส ใบหน้าได้รูปยื่นเข้าไปใกล้ กับไมค์จำเป็น
" นายนี่มันร้องไม่ได้เรื่องเลย เสียงโคตรๆโมโนเลยว่ะ "แทนที่จะร้องเจกลับวิจารณ์เสียงร้องอีกฝ่ายซะยับ ก่อนจะเริ่มหยิบหมอนมาทำเป็นกีตาร์
"ขอโทษที่โมโน... แต่นายก็เสียง ห้าวซะ... ดีนะเพลงร็อคนะนี่" คิโยโนบุ หัวเราะ ก่อนจะทำท่าตีกลองให้เข้ากับจังหวะ มือทำท่าตีกลองไม่พอเท้ายังขยับจะเต้นอีกต่างหากด้วยจังหวะเพลง ที่เร้าใจทำให้ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่มีอาการมึนเมาอยู่ก่อนแล้วเซจะล้ม

"โอ้ะ...." มือเรียวคว้าไหล่ของชายร่างสูงลงไปบนเตียงด้วย
"เฮ้ย "เจโวยวายเมื่ออีกฝ่ายเสียงหลักแล้วยังดึงเขาล้มลงไปทับด้วย"บอกแล้วว่าอย่ากินเบียร์เยอะ" เจดุคนรักแล้วทำท่าจะลุกขึ้นหากแต่คิโยโนบุกลับไม่ยอมให้เจลุกไปไหน
"ไม่ได้กินเยอะซักหน่อย" เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นมองอย่างมีความหมาย "ก็แค่พอให้อารมณ์ดี....ขึ้นกว่าเดิม" คิ้วเรียวยักขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่มือนั้นจะไล้เส้นผมสีดำตัดสั้น ของอีกฝ่าย"ไม่เสียดายรึไง...ไว้มาตั้งนาน "
" ถึงเวลาต้องตัด มันก็ต้องตัดน่ะแหละ "เจตอบอีกฝ่าย แต่สายตากลับมองริมฝีปากที่กำลังถามอยู่เมื่อครู่
"ก็ดีนะ.. สบายหัวดีใช่ไหมล่ะ" มือเรียวขยี้เบาๆ กับเส้นผมที่แม้ว่าความยาว จะเปลี่ยนไปแต่ความนุ่มมือนั้นดูจะยังเหมือนเดิม หนุ่มผมดำจับมืออีกฝ่ายเมาไว้ แล้วสบตาคู่นั้นอย่างมีความหมาย

คิโยโนบุยิ้มก่อนจะขยับตัวจูบริมฝีปากของเชฟหนุ่มแผ่วเบา ละออกมาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะทำให้จูบนั้นเร่าร้อนขึ้นด้วยปลายลิ้น ไล้เล็มอย่างเอาแต่ใจ
มือเรียวไล้เบาๆ บนไหล่กว้างก่อนจะปลดเสื้อคลุมนั้นออกจากร่างท่อนบนของอีกฝ่าย แล้วเลื่อนเรื่อยไปบีบหยอกเย้าที่บั้นสะโพก ผ่านผิวผ้านุ่มของ เสื้อคลุม อาบน้ำ เจครางออกมาเบาๆ แล้วเริ่มปลดเปลื้องเสื้อคลุมอาบน้ำที่อีกฝ่ายสวมอยู่ออก

"จุน.... " เสียงเรียกชื่อดังขึ้นพร้อมกับร่างบาง ที่ขยับเข้าหาร่างของอีกฝ่าย ริมฝีปากได้รูปจูบเม้มแน่นลงบนแผ่นอก หยอกเย้าที่ยอดอกนั้น เวลาเดียวกับที่ มือเรียวสอดผ่านชายเสื้อคลุมเข้าไปไล้กับแผ่นหลัง และสะโพกเปลือยเปล่า ก่อนมืออีกข้างจะดึง เสื้อคลุมออกไปให้พ้นร่างนั้น ในตอนนี้มีเพียงร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่ที่บดเบียดเข้าหากันภายใต้แสงไฟนวลตานี่เท่านั้น

ริมฝีปากละออกมาจากผิวกายของอีกฝ่ายหอบหายใจแรง ก่อนจะสบตาเรียวของเจนิ่ง

".........." มีเพียงแค่เสียงลมหายใจร้อนเท่านั้น ที่ดังออกมาจากร่างของชายหนุ่มผมสีน้ำตาล แต่หากเจตั้งใจฟังดีๆจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัว มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ใบหน้ามนแดงก่ำหยดน้ำที่เกาะพราวเมื่อคราวเดินออกมาจากห้องน้ำ ถูกแทนที่ด้วยหยดเหงื่อจากความร้อนระหว่างทั้งสองร่าง

" วันนี้..จะบริการ..เองรึไง? "
จุนเริ่มท้าทายขึ้นมาแล้ว จังหวะเพลงรอคอเมริกันช่วยบิ้วอารมณ์คึกคักของคนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี

"ก็...จะให้...ทำไหมล่ะ" คิโยโนบุยิ้ม มือเรียว ไล้ลงไปบนสะโพกของร่าง ที่ทาบทับอยู่ ก่อนที่จะ ดึงตัวเองออกมาจากการทาบทับของอีกฝ่าย ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ผลักไหล่ให้ร่างสูง นอนลงกับเตียงก่อนจะขยับลงไปนั่งตรงกลางระหว่างช่วงขาทั้งสองข้าง  มือเรียวไล้เบาๆที่ต้นขาด้านใน "บอกมาก็แล้วกัน.... ว่าอยากให้บริการ ยังไง "
" นั่นไง "ชายหนุ่มมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะมองสิ่งที่คิโยโนบุกำลังนั่งทับอยู่แล้วยิ้มอย่างท้าทาย ปลายลิ้นเลียริมฝีปากได้รูปของตนเบาๆ

".... อืมมม " คิโยโนบุ มองหน้า ของอีกฝ่าย มือเรียวไล้เล่นจากต้นขาด้านใน ขึ้นไปแตะไล้ ก่อนจะกระตุ้นเร้ายั่วเย้าให้อีกฝ่าย ส่งเสียงออกมาอย่างพึงใจ
ก่อนที่ร่างบางจะขยับตัว ลงไป ริมฝีปากร้อนรับเอาความต้องการของอีกฝ่ายมาหยอกเอิน ไม่ได้มีการเคอะเขินแม้ว่า เขาจะไม่ได้ทำแบบนี้ให้กับอีกฝ่ายบ่อยมากนัก
" อา.. " ได้ผล การกระทำของคิโยโนบุเรียกเสียงครางอย่างพึงใจของเจได้ทันที มือแกร่งที่ชื้อนเหงื่อนั้นลูบผมอีกฝ่ายเบาๆแล้วลากไปที่ผิวแก้มที่ขยับไปมา ใบหน้าได้รูปสะบัดไปมา เมื่อถูกยั่วเย้ามากขึ้น

"พอก่อนดีไหม.... "เสียงหอบเครือดังขึ้นเบาๆ คิโยโนบุมองหน้าของอีกฝ่ายราวกับจะยั่ว มือเรียวที่ไล้หยอกเย้านั้น หยุดนิ่ง

" มา..นี่มา.. "เสียงห้าวนั้นขาดห้วงแล้วหอบแรงก่อนจะดึงคนที่ปลุกเร้าให้เข้ามาในอ้อมแขน แล้วจูบอีกฝ่ายอย่างรุนแรง  มือทั้งสองข้าง ลากไล้ไปทั่ว ก่อนจะจับขาทั้งสองข้างนั้นให้แยกออก แล้วขยับมือไปกระตุ้นอีกฝ่าย
"อื้ม... "เสียงครางเครือดังขึ้น มือเรียวหยอกเบาๆ บนแผ่นอกกว้างของอีกฝ่าย ในขณะที่ ขยับร่างเข้าเบียดกับสัมผัสของร่างสูงอย่างเร้าร้อน ไม่นานสัมผัสนั้น ก็ทำให้คิโยโนบุแทบจะทนไม่ได้ ริมฝีปากเปียกชื้นละออกจากริมฝีปากของอีกฝ่าย มือเรียวผวากอดร่างของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
"จุน....จุน.... " มือแกร่งที่สัมผัสกับอีกฝ่ายเลื่อนไปตามรอยแยกของสะโพกก่อนจากลากนิ้วไปมายังบริเวณที่อุ่นร้อนนั้น
" ว่า..ไง? " เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูอีกฝ่าย ก่อนจะสอดปลายนิ้วเข้าไปเล็กน้อย
".............." คิโยโนบุ สูดหายใจเข้าลึก ร่างทั้งร่างเกร็งแน่น ดวงตาสีน้ำตาล สบตาของอีกฝ่าย "...ทำซิ่...แกล้งกันได้อะไรเนี่ย.." ชายหนุ่มแทบจะตะโกนใส่อีกฝ่าย พวกเขาห่างกันไปนานไม่น้อยกับการ...ร่วมรัก... ที่ทั้งสอง พร้อมที่จะให้กันและกันอย่างนี้...

"แต่ฉันอยากเห็นตอนนาย need สุดๆนี่ "เจยังคงแกล้งอีกฝ่ายด้วยการขยับนิ้วมากขึ้น และเพิ่มจำนวนมากขึ้นด้วยปลายลิ้นร้อนๆก็ลากไล้กับแผ่นอกที่กระตุกเกร็งนั้นอย่างยั่วเย้า
"โธ่...อ้ะ...จุน....บ้าชะมัด... " คิโยโนบุกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะกระตุ้นเร้าตัวเองด้วยปลายนิ้ว สะโพกมันขยับตอบรับการกระทำของอีกฝ่าย
" ฮะ ฮะ ฮะ  " คงจะน่าแปลกพิลึก ที่เจจะหัวเระาออกมาระหว่างมีอะไรกับคิโยโนบุ แต่เขาก็ทำไปแล้วจริงๆ
"หัวเราะ...ทำ...บ้า....อะไรอีกเล่า... " เสียงแหบพร่านั้น ต่อว่าแต่ร่างของชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ยังไม่หยุดที่จะสนองความเร่าร้อนในร่างของตัวเอง ร่างสูงถอนปลายนิ้วออกจากช่องทางที่กระตุกรับแล้วดันร่างตนเองเข้าหาอีกฝ่ายทันที รวดเร็วและร้อนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ
"อ้ะ...อ๊า...จุน จุน..." คิโยโนบุร้องออกมาเป็นชื่อของอีกฝ่าย สองแขน ดึงร่างของเจ้าของชื่อเข้ามากอดเอาไว้แน่น ร่างบางเกร็งแน่น เขาต้องปรับตัวให้เข้ากับร่างของอีกฝ่ายไม่น้อย  เจขยับร่างเข้าหาคิโยโนบุเป็นจังหวะร้อนแรง เช่นเดียวกับเสียงเพรียกหาเขาอย่างต้องการขนาดนั้น คิโยโนบุตอบรับสัมผัสนั้นอย่างร้อนแรงนั้นไม่ได้ต่างไปจากอีกฝ่าย
"จุน... "ริมฝีปากได้รูป หอบคราง ก่อนที่จะ จูบเจ้าของชื่อ ปลายลิ้นเกี่ยวพัน ราวกับจะขอร้องให้อีกฝ่ายเพิ่มสัมผัสนั้นให้มากขึ้นไปอีก
ซึ่งเจก็จูบตอบอย่างเร่าร้อนเช่นกัน เบื้องล่างเพิ่มสัมผัสที่เร่าร้อน รุนแรงขึ้นขึ้น

ความร้อนที่เหมือนจะแผดเผาร่างทั้งร่าง ทำให้คิโยโนบุทนไม่ไหว ริมฝีปากบางละออกห่าง ส่งเสียงบางอย่างที่ฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อร่างทั้งร่างนั้นกระตุกเกร็ง แผ่นหลังบาง แอ่นโค้ง ก่อนที่จะปลดปล่อยความต้องการของตัวเอง ออกมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้ ความเร่าร้อนนั้น เปรอะเปื้อน ทั้งตัวเอง และอีกฝ่าย ร่างนั้นยังเกร็งแน่นจนสั่นระริก ดวงตาสีน้ำตาลปิดสนิท ภายในม่านตา เห็นแต่แสงสีขาวโพลนที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้  ส่วนเจก็จับร่างนั้นให้ขยับตามที่ใจเขาต้องการก่อนจะกระตุกเกร็งแล้วครางอกมาอย่างสุดกลั้น เมื่อปลดปล่อยในร่างของคนรัก

"อ๊า..... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ร้องครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงความต้องการของอีกฝ่าย ร่างนั้นเกร็งแน่นอีกครั้ง และแทบจะทรุดลงซบกับร่างของอีกฝ่าย ถ้าไม่ได้แขนที่ยันกับฟูกนุ่มของเตียงเอาไว้ได้ทัน คิโยโนบุหอบหายใจ แรงก่อนจะจูบเบาๆลงบนแผ่นอกนั้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าของอีกฝ่าย  "บริการ พอใช้ได้ไหมล่ะ..."

หนุ่มผมดำค่อยๆ จับร่างอีกฝ่ายให้นอนลงดีๆ แล้วค่อยๆถอนกายออกไม่สนใจสิ่งที่เปรอะเปื้อนผ้าปูที่นอนแม้แต่น้อย มือแกร่งรั้งร่างนั้นมากอดไว้แน่นก่อนจะหลับตาลง

" ไม่น่าถาม.. "
"ก็...กลัวจะ...ไม่สมใจ" เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ ริมฝีปากบางจูบอีกครั้งบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อนเช่นกัน...

ราวกับบทเพลง ที่เปิดคลออยู่ตลอดนั้นจะเป็นใจ ความเร่าร้อนของเพลงร็อคแอนด์โรวจบลง และถูกแทนที่ด้วยความละมุนละไม ของเพลงบัลลาดย้อนยุคที่ดังขึ้น ช่วยกล่อมให้ผู้ที่อ่อนล้าทั้งสองก้าวเข้าสู้ห้วงแห่งความฝันแสนหวานที่มีเพียงแค่พวกเขาสองคน....
 

...........................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH40 NC-18!!) 1/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 02-11-2010 13:29:48
เลือดไหลไม่หยุดเลย!!!!!!
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH41) 2/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 02-11-2010 21:49:22
@@@Writer's Talk@@@

เลือดไหลไม่หยุดเลย!!!!!!
ขอบคุณครับ

เป็นไงกันบ้างคะ หากระดาษซับเลือด กับ เลือดเสริมทันหรือเปล่า....หุหุ :impress2: ....เอาล่ะ ไปอุ่นๆกันต่อดีกว่านะคะ  :กอด1: :กอด1:

///////////////////////////////////////////////////


เสียงเนื้อผ้าเสียดสีกันเล็กน้อยเมื่อ รู้สึกตัวตื่นชายหนุ่มผมสีน้ำตาลมองหน้าของชายหนุ่มผมสีดำที่ยังนอนอยู่ข้างๆ  มือเรียวไล้เบาๆกับเส้นผมสีดำที่ตัดเสียจนสั้นดูแปลกตาไปไม่น้อย ก่อนเลื่อนมือเรื่อยลงมาที่ใบหน้าแล้วยกมือขึ้นแล้วตบหน้าของอีกฝ่ายเบาๆ
 
"ตื่นได้แล้ว..."

แทนที่จะเป็นการปลุกแบบดีๆ แรงตบ แม้มันจะไม่แรงพอที่จะทำให้เจ็บ นั่นก็ทำให้จุนต้องขมวดคิ้วแล้วลืมตาตื่น ตามมาด้วยเสียงโวยแทนที่จะเป็นการบอกอรุณสวัสดิ์แบบอ่อนหวาน

" ไรวะ? ปลุกดีๆดิ ไอ้บ้า "คำพูดนั้นทำเอาคนปลุกหัวเราะออกมาเบาๆ
"งั้น...แบบนี้....ดีไหม.... " เสียงพูดนั้นแผ่วเบาก่อนจะขับเข้าไปจูบต้นคอของอีกฝ่าย มือซนไล้เล่นเย้าเบาๆที่สะโพกของอีกฝ่าย
" อืม..ก็ดี " หนุ่มผมดำครางออกมาเบาๆก่อนจะดึงท้ายทอยอีกฝ่ายออกเล็กน้อยก่อนจะกระซิบ" แต่ถ้ามีอีกรอบ เช็คเอาท์ไม่ทัน นายต้องจ่ายส่วนที่ทำให้เสียเวลานะ "
"อืม...นั่นซิ่นะ" ดวงตาสีอ่อนมองหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มแล้วขยับถอยออกมา "งั้นก็ลุกดีกว่า ก่อนที่ฉันจะต้องเสียเงินเพิ่ม โรงแรมจองไว้ที่โน่นก็ไม่ได้นอน..."

คิโยโนบุพูดก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แม้ไม่ได้ว่ารวดเร็วนัก แต่ก็ยืนขึ้นแล้วก็เดินด้วยท่าทีแปลกๆ ไปยังห้องน้ำ ส่งผลให้เจ้าของร่อยรอยต่างๆตามร่างกายของคิโยโนบุนั่งลูบคางตัวเองไปมาแล้วยิ้มกับผลงานของเขา ตามมาด้วยเสียงหัวเราะกังไปถึงคนที่เดินไปห้องน้ำ

"ได้ยินนะ....รับผิดชอบดีจริงๆ คนเรา" เสียงตะโกนกังออกมาจากในห้องน้ำ ก่อนจะได้ยินเสียง น้ำจากฝักบัวดังขึ้น เสียงสายน้ำที่ตกลงมาเป็นจังหวะนั้น พอทำให้จินตนาการเพลินเลินไปได้ไกลไม่น้อย

ไม่นานนัก คิโยโนบุ ก็เดินกลับออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับผ้าขนหนูที่พันท่อนล่าง ปล่อยให้แผ่นอกเรียบเต็มไปด้วยรอยจ้ำแดงจากฝีปากของใครบางคน สัมผัสกับอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้อง ผ้าขนหนูถูกดึงออกจากเส้นผมเปียกชื้นลงมาเช็ดเบาๆที่แผ่นอก
 
"เอ้าไปอาบได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่ทันเช็คเอ้าท์หรอก " ส่วนหนุ่มผมดำก็เอาเสื้อคลุมมาสวมแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป คิโยโนบุจัดแจงแต่งตัว เสร็จสรรพก่อนจะเดินออกไปสูบบุหรี่ รออีกฝ่ายอยู่ที่ด้านนอก ระเบียง

" เฮ้ เป็นเทรนเนอร์ เป็นนักกีฬา เขาสูบบุหรี่กันด้วยรึไง? ว่าจะถามมานานละ "จุนเดินตามมาที่ระเบียง วิวทะเลตอนเช้าๆกับลมเย็นๆทำให้พวกเขารู้สึกดี
"ก็เริ่มสูบหลังจาก...เข้ามหาลัยล่ะมั้ง" คิโยโนบุพูดพลางมองปลายบุหรี่ที่ยังค่อยๆไหม้ต่อไปอย่างช้าๆ
" ตอนนั้นฉันก็สูบน้อยลงแล้ว เพราะเริ่มคิดจะเป็นเชฟแบบจริงจัง "จุนเริ่มพูดถึงเรื่องตัวเองแล้วหัวเระาออกมาเบาๆ"แปลกดีแฮะ เริ่มสวนทางกันแล้ว "
"อืม...นั่นซิ่นะ...สวนทางเหรอ... "ท้ายประโยคนั้นของคิโยโนะบุเบาเสียงลงไปไม่น้อย  "แต่ก็ดีกับนายแล้วนี่นา... " มือเรียวตบไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆ "คุณเชฟใหญ่" จุนหัวเราะกับคำพูดอีกฝ่ายเบาๆ
" ยังหรอก..แต่ซักวันล่ะนะ "เขาสบตาอีกฝ่ายนิ่ง

..นายจะรอฉันไหม?...

คงได้แต่ตั้งคำถามนี้ในใจเท่านั้น

"อืม...." น้ำเสียงที่รับคำของคิโยโฯนบุนั้นเหมือนกับมั่นใจว่าวันนั้นของอีกฝ่ายจะมาถึงในเร็ววัน

...เราคงจะได้มาฉลองด้วยกันใช่ไหม....นาย กับ ฉัน.....


" เอาล่ะ เช็คเอาท์เถอะ มีที่อยากจะไปรึเปล่าวันนี้? "เจเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายที่แสดงความเป็นกังวลก็เบือนหน้าไปอีกทางพลางเปลี่ยนเรื่อง ร่างสูงกลับเข้าไปในห้องแล้วเดินไปเก็บของ
"มีนะ...ที่นึง...อยากไป แต่ยังไม่เคยไปเลย" คิโยโนบุพูดพลางยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาดับบุหรี่กับที่เขี่บุหรี่ที่อยู่ในห้อง
" โอเค ไปนั่นแหละ "หลังจากเช็คเอาท์แล้ว จุนก็พาคิโยโนบุไปยังที่หมายตามทางที่อีกฝ่ายบอก

...............................................


สนามกีฬาที่ใช้คัดตัวนักวิ่งระดับมัธยปลายเพื่อการแข่งขันทั่วประเทศ ที่คิโยโนบุเคยกลาดไปเมื่อ12ปีก่อน เมื่อก้าวเข้ามาด้านในสนามกีฬาล้อมรอบด้วยที่นั่งของผู้ชม กลิ่นของหญ้าจากตรงกลางสนามและกลิ่นของลู่สนามที่ทำขึ้นจากวัสดุพิเศษ มันนานมากเหลือเกินที่เขาได้กลิ่นนี้ แต่มันยังคงฝังอยู่ในความทรงจำ คราวที่เขาเป็นเพียงแค่เด็กมัธยมปลายปี2 ที่มาดูรุ่นพี่ในชมรมคว้าชัยชนะให้กับโรงเรียน เขาพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้ลงแข่งในปีถัดมา แต่เหตุการณ์หนึ่งก็ได้เกิดขึ้นอุบัติเหตุ ที่ทำให้ เกิดเรื่องราวต่างๆอีกมากมาย

".........................."

คิโยโนบุเดินไปยืนอยู่ตรงจุดปล่อยตัวกางแขนออกกว้าง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกสายลมเย็นรื่นที่พัดผ่านมาทำให้ลืมความร้อนจากดวงอาทิตย์เบื้องบนลงไปได้เลย

"จุน...."  ตัวต้นเหตุที่ทำให้คิโยโนบุไม่สามารถวิ่งแข่งได้อีกต่อไปหันมาตาเสียงเรียก"วิ่งแข่งกันไหม" เสียงอดีตนักวิ่งเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้ม
" หะ? วิ่งแข่ง?กับฉันเนี่ยนะ? "จุนชี้ที่ตัวเองอย่างแปลกใจ
"เอาน่า...นิดหน่อย...ให้หัวโล่งๆ หรือว่าคนที่เคยวิ่งหนีอาจารย์ฝ่ายปกครองสมัยก่อนจะวิ่งได้ไม่ไวอีกแล้ว..." คิโยโนบุตีไหล่อีกฝ่ายเบาๆ

...มันคงจะอีกนานเลยทีเดียวกว่าจะหาเวลากลับมาจากที่นั่น แล้วอยู่กับนายแบบนี้อีก....

" อย่าท้านะเว้ย "จุนชี้หน้าอีกฝ่ายแล้วเดินไปที่จุดสตาร์ท
"อ้อ...ก็ไม่ได้ท้า ชวน ต่างหาก " คิโยโนบุว่าพลางหัวเราะ เดินตามอีกฝ่าไปยังจุดสตาร์ทสะบัดแขนขาเพื่อยืดเส้นสายเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงมือเรียว วางทาบลงบนเส้นสีขาวที่เขาอยากจะสัมผัสมานานแสนนาน ซึ่งจุนก็มองท่าของอีกฝ่ายแล้วทำตามแบบเก้ๆกังๆ

"พร้อมไหม...." น้ำเสียงนั้น เหมือน กับ จะถามทีเล่นทีจริง แต่ดวงตากลับมองตรงไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น
" อือ "ชายหนุ่มมองหน้าอีกฝ่าย เขาไม่เคยเห็นคิโยโนบุวิ่งแบบนี้ไกล้ๆมาก่อน จะว่าไม่เคยสนใจก็คงจะถูก"เข้าที่.....ระวัง....... " ร่างกายของชายหนุ่มเคลื่อนไหวอย่างถูกระเบียบ

"ไป!!"

เสียงตะโกนดังขึ้นก่อนที่ร่างเพรียวนั้นจะพุ่งออกไปข้างหน้า สองขาพาร่างนั้นวิ่งฝ่าอากาศธาตุและสายลมที่พัดผ่านมาไปด้วยความรวดเร็ว คิโยโนบุวิ่งและวิ่งต่อไป ดวงตาสีน้ำตาลนั้นราวกับจะมองเห็นเส้นชัยสีขาวคาดอยู่เบื้องหน้า เพียงไม่กีเมตร ก่อนที่เขาจะวิ่งผ่านมันไปภายในเวลาไม่กี่วินาที

"............................." คิโยโนบุวิ่งไปจนสุดเส้นชัย ชายหนุ่มสูดดมเอา "ชัยชนะในจินตนาการของตัวเอง" เข้าจนเต็มปอด ก่อนที่เสียงปรบมือของหนุ่มผมดำดังขึ้นที่จุดสตาร์ท จุนไม่ได้วิ่งตามอีกฝ่ายไปด้วยว่าสายตาที่มุ่งมันและพลังในการวิ่งของคิโยโนบุนั้น มันสะกดจนเขาต้องยืนนิ่งดูการวิ่งที่สวยงามและเจิดจ้ามากเหลือเกินท่ามกลางแสงอาทิตย์แบบนี้

...เขาเป็นคนดับแสงนี้ด้วยมือของเขาเอง...


เสียงปรบมือที่ดังก้องเพราะความกว้างของสนาม ทำให้คนที่วิ่งไปจนถึงเส้นชัยต้องหันกลับมามองสองแขนกางออก ก่อนจะโค้งลงราวกับจะกล่าวขอบคุณ ก่อนที่ร่างบางจะเดินกระเพลกเบาๆ ไปล้มตัวลงนอนบนพื้นหญ้า อยู่ๆจะมาออกแรงสปริ๊นท์ตัวขนาดนี้ ก็หนักไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

"โอย......." เสียงโอดครวญดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยรอยยิ้มทั้งที่ยังหอบเหนื่อย ดวงตา่สีอ่อนมองขึ้นไปยังดวงอาทิตย์ยังทอแสงอยู่กับท้องฟ้าสีครามก่อนจะมีเงาของชายหนุ่มบังแสงอาทิตย์เอาไว้แล้วนั่งลงข้างๆ
" วิ่งแบบนาย ใครจะไปทำได้กัน? "นี่คือเหตุผลที่เขาไม่ยอมวิ่งที่จุนบอกกับคิโยโนบุ
"โทษทีนะ อยู่ๆก็ชวนอะไรบ้าๆขึ้นมา" คิโยโนบุว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
" ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้น ชีวิตนายคงไปได้สวยแน่ๆ "จุนเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะนอนลงข้างๆอีกฝ่าย" แต่รู้ไหม ฉันดีใจที่ได้เห็นกับตาว่านายยังวิ่งได้นะ "มือแกร่งยกขึ้นปิดตาตัวเอง" ดีใจมาก..ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด "

"จุน?...เฮ้... นาย...." คิโยโนบุตกใจไม่น้อยกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ชายหนุ่มลุกขึ้นมามองหน้าของอีกฝ่าย
"ฉัน...วิ่งได้ ...แต่ไม่เคยอยากจะวิ่ง....แต่วันนี้ ฉันอยากจะวิ่ง ก็เพราะว่าฉันมีนาย..."
" ให้ตายสิ..อย่ามองนะเว้ย หันไปทางอื่น "หนุ่มผมดำขยับตัวออกห่างพลางสั่งอีกฝ่าย เขาไม่อยากให้คิโยโนบุเห็นเขาในตอนนี้
"โอเค...ไม่มอง....ไม่มอง...."แต่คิโยโบุกลับเท้าแขนล้อมกรอบร่างของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วโน้มตัวลงมาชิด ใบหน้าเอียงไปด้านหนึ่งเพื่อจะได้ไม่ต้องมองหน้าของคนรักตามที่อีกฝ่ายต้องการ  ก่อนที่จะกอดอีกฝ่ายเอาไว้เหมือนอย่างที่อีกฝ่ายเคยกอดเขาเอาไว้...ในหลายๆครั้งที่ผ่านมา
"ไม่เป็นไรแล้วน่า......เรา...ไม่เป็นอะไรแล้ว..."
" ฮะ ฮะ .. "ชายหนุ่มที่ถูกกอดหัวเราะเสียงแหบพร่าแล้วสูดลมหายใจลึก" ใช่..นายวิ่งได้ นายไม่เป็นไรแล้ว "เขายกมือกอดตอบคนรัก
"นายไม่ได้ผิดนะ..จุน..ฉันไม่เคยคิดว่านายผิด.... เลิกโทษตัวเองได้แล้ว" คิโยโนบุกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
 
" ขอบใจ..คิโย "จุนกระซิบบอกอีกฝ่าย "ที่นายวิ่งให้ฉันดู ขอบใจ "
"ขอบใจ....ฉันก็ขอบใจนายเหมือนกัน"คิโยโนบุเอ่ยตอบสองแขนกระชับไหล่กว้างของจุนเข้าหาตัวแน่น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองออกไปยังท้องฟ้าสีคราม...มันไมเคยสวยขนาดนี้มาก่อนเลย...

.................................................

ทั้งสองคนกลับไปที่บ้านของจุน แวะกล่าวลากับแม่และครอบครัวของเชฟหนุ่มก่อนที่จะแยกกันขับรถของตัวเองออกมาจากเมืองพร้อมๆกันและแวะพักเหนื่อยที่จุดแวะพักข้างทางเมื่อขับมาได้ถึงคครึ่งทาง

"เอ้า...กาแฟหน่อย เติมพลังๆ " คิโยโนบุหัวเราะก่อนจะโยนกระป๋องกาแฟเย็นให้กับชายหนุ่มร่างสูงแต่ก่อนที่จะได้เดินเข้าไปคุยด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เบอร์ที่ไม่คุ้นเคยทำให้ต้องขมวดคิ้วก่อนจะรับโทรศัพท์

"ครับ...อิโนะอุเอะ ครับ"
"สวัสดีครับ อาจารย์อิโนะอุเอะใช่ไหใครับ ผมชิมะบุคุโระ จากโรงเรียนชิมะนากะ  โอกินาว่านะครับ "เสียงจากปลายสายนั้นเหมือนจะดึงเขาออกจากความฝันที่เป็นอยู่ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเผลอมองหน้าของชายคนรักด้วยสายตาหวั่นไหวอย่างช่วยไม่ได้

"ครับ... "

"คือ..ทางเราตัดสินใจที่จะให้คุณมาสอนวิชาพละให้กับทางเรานะครับ...ตั้งแต่เทอมหน้าเป็นต้นไป... อ่ะ ..ผมนี่เสียมารยาทจริง ไม่ทราบว่า ตอนนี้สะดวกคุยหรือเปล่าครับ.... "
"อ่ะ...ครับเอ่อ... ต้องขอโทษนะครับทั้งๆที่อุตส่าห์โทรมา... แต่พอดีตอนนี้ คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไร ไม่ทราบว่า เช้าวันจันทร์ผมจะติดต่อกลับไปอีกทีจะได้หรือเปล่าครับ " คิโยโนบุขยับถอยห่างออกมาจากชายคนรัก ก่อนจะกรอกเสียงลงไปตามสาย...แผ่วเบา...ราวกับกลัวว่าคนรักจะได้ยิน  ชายหนุ่มพยักหน้าลงอีกสองสามครั้ง ก่อนจะถอนหายใจเมืออีกฝ่ายเข้าใจว่าเขายังไม่  "ว่าง" พอที่จะคุยเรื่องของการงานในเวลานี้ ถึงแม้จะดีใจว่าตัวเองได้รับเลือกให้กลับเข้าไปทำงานสอนที่คุ้นเคยอีกครั้งแต่กลับรู้สึกกังวลไม่น้อยเมื่อหันกลับมามองหน้าของชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนรออยู่ นั่นทำให้หนุ่มผมดำต้องหันไปมองท่าทางแปลกๆของอีกฝ่ายเล็กน้อยแล้วเดินเลี่ยงไปดื่มกาแฟอีกด้านเพราะเข้าใจว่าคิโยโนบุไม่สะดวกจะให้เขาได้ยินนัก

"โทษทีๆ... กินหมดยัง กาแฟน่ะ"คิโยโนบุ เดินกลับมา พร้อมกับรอยยิ้มที่พยายามปั้นขึ้นมา
" อื้อ .. จะไปรึยัง? "เจคว่ำกระป๋องกาแฟเปล่าๆให้อีกฝ่ายดูแล้วโยนลงถัง " เดี๋ยวไปถึงค่ำ "
"อื้ม... โทษทีๆ นายจะนำไปก่อนก็ได้นะ...ถ้าอยากซิ่ง" เขารู้ว่าอีกฝ่ายอยากจะขับรถมอเตอร์ไซค์คันนั้นให้ได้ตามแรงของเครื่องยนต์ นั่นขนาดไหน
" ตามมาละกัน "มือแกร่งเคาะหัวอีกฝ่ายเบาๆ แล้วเดินไปสวมหมวกกันนอค ถุงมือ แล้วสตาร์ทเครื่องรอ
"เคาะหัวกันเป็นเด็กๆไปได้..." ชายหนุ่มโคลงศรีษะเล็กน้อย "เฮ้...จุน" อะไรบางอย่างในแผ่นหลังกว้างนั้นทำให้เขาต้องร้องเรียกเอาไว้"ฉัน...ไม่เป็นไรหรอก นายขับไปก่อนนะ ขับดีๆล่ะ"ซึ่งชายหนุ่มร่างสูงได้ทำมือเป็นตัวโอแทนคำตอบ ก่อนจะขับออกไป

เห็นแบบนั้นคิโยโนบุก็ยิ้มออก ก่อนจะเดินควงกุญแจรถกลับไปที่รถของตัวเองบ้าง บางทีการที่เดินทางแยกกันแบบนี้ ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อย ระหว่างทางเขาก็จะได้ทีเวลา คิด...ตัดสินใจ...อะไรบ้าง...............


............................to be con



หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH41) 2/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 02-11-2010 22:34:40
พลาดไปตั้งหลายตอนแนะเลยต้องตามเก็บให้ทัน โทดทีนะ
หวานขมยังไงไม่รู้เนอะช่วงนี้ อย่างกับแต่งต้อนรับลมหนาวอ่ะ
 :กอด1:กอดกันให้หายหนาว
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH42) 6/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 06-11-2010 21:34:44
@@@Writer's Talk@@@

@lasom กำลังจะส่งข้อความไปตามพอดีเลย ไม่เห็นมาเม้นท์กัน พีจังคิดถึงนะ ฮ่ะๆ
กอดกันให้หายหนาวดีกว่าเนอะ :กอด1: (ว่าแต่กรุงเทพฯไม่ค่อยหนาวเลย ตอนนี้เปิดแอร์)

..................................................


แน่นอนว่าหนุ่มผมดำขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงก่อน โดยที่แวะซื้อของมาทำอาหารเย็นชุดใหญ่ให้อีกฝ่ายด้วย

"กลับมาแล้ว... "คิโยโนบุเปิดประตูเข้ามา พร้อมกับร่างที่แทบจะทรุดลงหน้าประตู "เมื่อยยย...."ชายหนุ่มพาตัวเองไปนั่งที่โต๊ะในห้องครัว มองไปก็เห็นว่าอาหารชุดใหญ่ กำลังถูกปรุงอยู่บนเตา ชายหนุ่มร่างสูง มีท่าทีเหนื่อยอ่อนให้เห็น"ช่วยไหม... " เขาเอ่ยถามออกไป

" ก็ดี "เสียงของเชฟหนุ่มดังมาจากในครัว ไม่หันหลังมาซักนิด "งั้น...หั่นผักช่วยนะ อันนี้ ซอยเลยใช่ไหมกะหล่ำเนี่ย"  มือหนึ่ง ถือมีดมือหนึ่งถือผัก ถามหาคำชี้แนะ" ทำหมูห่อกะหล่ำ ทำแบบนี้นะ "เจใช้มีดเจาะขั้วกลีบกะหล่ำปลีออก " แล้วใส่ลงในน้ำร้อนนี่ ลวกมันแล้วแกะออกทีละกลีบ  "
“อ้อ... โอเค... ดันลืมถามไปว่าจะทำอะไร..."คิโยโนบุหัวเราะออกมาเบาๆ เจหัวเระาออกมาเบาๆเช่นกัน แล้วจัดการเอาหมูมาหมักกับเครื่องเทศก่อนจะต้องมองหน้าอีกฝ่ายที่เริ่มเหม่อมองใบกะหล่ำที่ได้ที่แล้วอยู่ในหม้อ

" คิโย? "
"อ่ะ...หืม " เจ้าของชื่อหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย
"จะเละแล้ว เอาขึ้นมาดิ "แต่อีกฝ่ายยังคงไม่ได้ทำตามที่เขาบอก หนุ่มผมดำจึงใช้กระชอนช้อนผักขึ้นมาใส่ชามที่แช่น้ำแข็งเอาไว้" นายดูเหนื่อยนะ ไปพักไป "
"นายเองก็เหนื่อย... ฉัน...รบกวนนายอีกแล้ว"
" เพราะเหนื่อย ถึงต้องกินไม่ใช่รึไง? "เจยิ้มให้อีกฝ่าย " เลิกพูดเหมือนเป็นคนอื่นซักที "เขาหยิบกะหล่ำปลีกลีบใหญ่มาวางบนถาดแล้วหยิบหมูปรุงรสมาใส่ด้านในแล้วห่ออย่างชำนาญ

"อืม... งั้นเดี๋ยวฉัน เตรียมจานรอ ก็แล้วกัน จะดื่มอะไรไหม.. " คิโยโนบุยิ้ม ตบมือลงกับผ้าเช็ดมือที่แขวนอยู่ ก่อนจะหันมาหาเมื่อเดินไปที่ตู้เย็น
" เบียร์ดิ ถามได้ "เจตอบกลับมาแล้วหันไปสนใจการเตรียมอาหารเย็นของเขาต่อ ถึงจะไม่มีคิโยโนบุอยู่ไกล้ๆ เขาก็สามารถทำทั้งหมดนี้ได้คนเดียว มันเป็นความเคยชินของวิชาชีพ
"โอเค..เบียร์ได้แล้วครับ " เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับ กระป๋องเบียร์ที่ยื่นให้กับเชฟใหญ่ประจำห้องครัวนี้  แล้ว เดินกลับไปเตรียมจานสำหรับใส่อาหาร เอามาวางไว้ ใกล้ๆ เผื่อว่าอีกฝ่ายจะได้หยิบใช้ได้อย่างสะดวก  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมอง ใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่มร่างสูงเล็กน้อย
"นายที่ไม่มีหางจุกเนี่ย ยังดูแปลกตาจริงๆเลยให้ตายเหอะ" เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง

... ถ้าไปโน่น แล้วกลับมาอีก จะไว้ยาวอีกหรือเปล่านะ...

" หาง? ... ไม่ได้เป็นหมานะโว้ย "เชฟหนุ่มขมวดคิ้วทำหันไปทำตาขวางๆใส่อีกฝ่ายยิ่งเสียงหัวเราะนั่นอีก
"ฮ่ะๆ..ไม่ใช่หมา ก็ได้...กระรอก?..." ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ตามอง "โอ้ ไม่ ตัวใหญ่เกินไป น่ากลัวทีเดียว" ท่าทาง ที่ดูนิ่งเงียบก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นร่าเริงอย่างประหลาดนั้น คงจะทำให้เจรู้ตัวได้ไม่ยาก ว่าคิโยโนบุ กำลังประหม่า หรือคิดมากกับ อะไรก็ตามที่ยังอยู่ในใจ ทุกรั้งที่ คิโยโนบุอ้าปาก มันเหมือนว่าเขากำลังพยายามจะบอกอะไรบางอย่างแต่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่าจะบอกดีหรือไม่ แต่เจก็เลือกที่จะไม่ถาม

จนเมื่อมื้อค่ำเสร็จสิ้นลง คิโยโนบุยังคงคิดไม่ตกว่าเขาจะบอกอีกฝ่ายตอนไหนดี จะให้รอจนกระทั่งเขาจะต้องโทรไปหาชิมะบุคุโระอีกครั้งในตอนสายพรุ่งนี้หรือ... แต่เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะพูดออกไปตอนนี้ มันเหมือนกับว่าตัวเองจะทำลายบรรยากาศดีๆตอนนี้ไป

"เบียร์อีกไหม... หรือจะอาบน้ำ"
" อาบน้ำกันดีกว่าไหม?  "เจเดินเข้ามานัวเนียใกล้ๆ
"อาบน้ำซิ่... " คิโยโนบุหัวเราะออกมาเบาๆ "อย่าบอกว่าจะให้...เข้าไปอาบ...ด้วยกันน่ะ" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของอีกฝ่าย " ตัดผมแล้ว...ดูจะเด็กลงรึเปล่า..."
" งั้นต่อไปจะไม่ไว้ผมยาวแล้วดีปะ? "เจหัวเราะกับคำพูดอีกฝ่ายแล้วออกแรงดึงให้เข้าไปห้องน้ำด้วยกัน

.......................................


"เอ้าๆ หันไปๆ ... จะถูให้สบู่ให้ " คิโยโนบุ ว่าพลางจับไหล่ ของคนที่เริ่มจะขยับเข้ามาใกล้ให้หันไปอีกทาง หนุ่มผมดำหันหลังให้ปล่อยให้อีกฝ่ายถูสบู่ให้กับเขา แผ่นหลังกว้าง แม้ว่าจะผอมลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง และรอยสักรูปซาตานตนนั้นก็ยังคงเด่นชัดบนผิวกายที่คล้ำลงเล็กน้อยจากการนั่งริมทะเลเมื่อวันก่อน
"คิดไงไปสักเนี่ย... " คิโยโนบุถาม มือเรียวไล้เบาๆบนไหล่แกร่ง "เจ็บไหม... "
" มันก็เท่ห์ดีไม่ใช่รึไง? .. ตรงนี้ต่างหากที่เจ็บจริง " ว่าแล้วก็จับมือของอีกฝ่ายให้อ้อมมาจับที่อกขวาของตนเอง
"นี่ล่ะ อุตริทำไปได้..." คิโยโนบุหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงห่วงเล็กๆ บนอกขวา ของอีกฝ่าย ก่อนจะจูบเบาๆลงบนรอยสักของอีกฝ่าย
"เอาล่ะ อาบน้ำๆ" ทั้งๆที่หมายจะดึงมือออกจากการเกาะกุมนนั้น แต่ ก็ทำไม่ได้ เจหันมามองอีกฝ่าย หยดน้ำที่เกาะตามผิวหน้ากระทบกับหน้าของหนุ่มผมสีน้ำตาลตามมาด้วยริมฝีปากที่แนบลงมาสองแขนเรียวโอบ ร่างนั้นเข้ามาชิด ใต้สายน้ำ ที่ตกลงมากระทบร่าง ร่างบางถอยหลังไปชิด กับผนังห้องน้ำที่อยู่ด้านหลัง ก่อนที่จะปล่อยให้จิตใจเลือนลอยไป พร้อมกับ สัมผัส ที่เร่าร้อนและลากไล้ไปทั่วร่างของตัวเอง

ฝักบัวถูกหมุนปิดก่อนที่เจจะพาอีกฝ่ายออกมาจากห้องน้ำ ตามมาด้วยสัมผัสของพื้นเตียงกับแผ่นหลังของคิโยโนบุดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองใบหน้าของอีกฝ่าย ยิ้มให้ก่อนที่จะสัมผัสจากหน้าผากไล้เรื่อยลงมาจนถึงปลายคางนั้นด้วยริมฝีปากร้อนของตัวเอง

.....ขอแค่ตอนนี้ก่อนเถอะ.....
......ไว้พรุ่งนี้ ค่อยตื่น......


แต่เมื่ออีกฝ่ายเริ่มรุกไล้มากขึ้นสองมือเรียวกลับลดลง วางที่ข้างตัวคิโยโนบุยกมือขึ้นกัดเล็บเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองไปร่างนั้นไม่ได้ตอบสนองกับ สัมผัสของคนรัก จิตใจของเขาล่องลอยไปอีกแล้ว นั่นทำให้เจหยุดการกระทำทุกอย่าง ตามการหยุดนิ่งของอีกฝ่ายก่อนจะถอนหายใจเบาๆแล้วดึงมือของคิโยโนบุออกจากปาก ริมฝีปากร้อนๆ จูบหน้าผากมนเบาๆแล้วนอนลงข้างๆ หลับตาลง คิโยโนบุขยับผลิกตัว แขนหนึ่งวางพาดลงบนอกของชายหนุ่มร่างสูง  ริมฝีปากบางจูบเบาๆลงบไหล่แกร่ง ก่อนจะขยับถอยออกมาเพียงเพื่อให้มีที่พอที่เขาจะนอนลงข้างๆอีกฝ่ายไปอย่างนั้น

.....................................


คิโยโนบุรู้สึกตัวตื่นก่อน คนรักของเขายังคงหลับนิ่งอยู่เคียงข้าง อาจจะเป็นเพราะเหน็ดเหนื่อยมาจากการเดินทางที่ทำให้ เชฟที่มักจะตื่นเช้าอยู่ เสมอ คนนี้ ยังคงนิ่งอยู่ภายใต้ผ้าห่มที่คลุมไว้เพียงครึ่งล่าง เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่คิโยโนบุ จะขยับตัวลุกออกจากเตียง ไปอาบน้ำ ก่อนที่จะไปหาอะไรมาทำเป็นอาหารเช้าให้กับอีกฝ่ายได้ทาน

เสียงต้นหอมถูกซอย ดังขึ้นเป็นจังหวะ เช่นเดียวกับหม้อซุปเต้าเจี้ยวที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วห้อง กลิ่นอายของอาหารที่เข้ากับยามเช้าของวันสบายๆ
กลิ่นนั้นเตะจมูกคนที่กำลังหลับอยู่บนเตียงไม่น้อย เชฟหนุ่มเหลือบมองดูนาฬิกาข้างเตียงแล้วลุกขึ้นดึงมาเช็ดตัวมาพันกายแล้วเข้าห้องน้ำไป
เสียงบานประตูห้องน้ำที่ดังขึ้นทำให้คนที่อยู่ในห้องครัว หยุดมือลงเล็กน้อย ที่เขาตื่นเช้ามากวันนี้ก็คงจะเป็นเพราะว่า นอนคิดมาตลอดทั้งคืน ก็เป็นได้

...ฉันรู้ว่านายจะเข้าใจ.จุน...

ไม่นานเจก็เดินออกมาในชุดที่พร้อมจะออกไปทำงานเช่นทุกเช้า เขาเดินมายังโต๊ะกินข้าว อาหารเช้าแบบญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่คิโยโนบุมักจะทำให้เขาทาน ผิดกับเขาที่มักจะทำแต่อาหารเช้าแบบอเมริกันง่ายๆเสียมากกว่า

" มีอะไรกินมั่ง? "
"ซุปเต้าเจี้ยวใส่หอยอาซาริ... หมูทอด...สลัดมันฝรั่ง...บ๊วยดอง..." คิโยโนบุตอบ มือเรียวจัดแจง ตักหมูทอดที่หั่นเอาไว้ลงใส่จาน ที่มีสลัดมันฝรั่งนอนรออยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะหันเอากลับไปวางบนโต๊ะ ตรงหน้าของอีกฝ่าย แล้วหันกลับไปตักซุป ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลวางทัพพีลง ในมือยังคงถือถ้วยซุปเอาไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจ

"ฉัน...ได้งานสอนล่ะ ที่โอกินาว่า "

"............................"เจเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะคีบหมูทอดใส่ปาก"ก็ดีแล้วนี่ .. นายชอบมันไม่ใช่รึไง? "
"อืม...ใช่...เขาบอกให้ไปเริ่มงานได้เลย เทอมหน้า... ก็คงอีกซัก เดือนนึงล่ะมั้ง ..."ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล หันมายิ้มแต่ก็ไม่เชิงว่า จะมองหน้าคนรักเลยเสียทีเดียว
"ก็...ไว้...นายบินไปหาฉันที่โน่น เราไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ทะเลที่นั่นสวยนะ" คิโยโนบุยิ้มพลางชวนอีกฝ่ายคุยถงเรื่องของอนาคต
" คิโย.. "เจเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนที่คิโยโนบุจะพูดอะไรไปมากกว่านี้
"หืม... " ชายหนุ่มรับคำ ก่อนจะมองหน้าของอีกฝ่าย "มีอะไรเหรอ..." เขายิ้ม

" นายรู้จักสถาบันการทำอาหารนานาชาติ อเมริกา ไหม? "หนุ่มผมดำสบตาอีกฝ่าย

"เอ่อ.....คิดว่า...ไม่นะ...ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้หรอก" คิโยโนบุส่ายหน้าก่อนจะสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง ".....มีอะไรเหรอ.... " บางอย่างในสายตาของเชฟหนุ่ม ทำให้เขารู้สึก....แปลกๆ
" ที่นั่นเป็นสถาบันสอนการทำอาหารที่มีชื่อที่สุด ฉันคิดว่าถ้าได้มีโอกาสได้เข้าไปซักครั้งก็คงจะดี  "เชฟหนุ่มเริ่มใช้ตะเกียบเขี่ยอาหารตรงหน้า" แต่มันยากมาก เรื่องที่จะเข้าไปเรียนที่นั่นน่ะ ... แต่ฉันก็.. "หนุ่มผมดำถอนหายใจ แล้วมองหน้าอีกฝ่าย  " เดือนหน้าต้องไปแล้ว... "

".......................อ้อ........."เป็นนาน กว่าที่คิโยโนบุจะพยักหน้า และ รับรู้ถึงข้อความที่อีกฝ่ายส่งมา "นายเอง...ก็รักอาชีพนี้...ไม่ใช่เหรอ" มือเรียวยื่นไปหยุดมือที่กำลังใช้ตะเกียบเขี่ยอาหารมันเป็นท่าทางที่คิโยโนบุไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก
"ไม่เป็นไรหรอกนะ...ฉัน...ไม่เป็นไรหรอก และฉันรู้ว่านายเองก็จะทำได้ดีด้วย"  แม้จะรู้สึกเจ็บแปลบข้างในอก แต่ เรื่องที่ทั้งเขา และอีกฝ่าย จะต้องทำนั้น มันมีความหมาย ต่อพวกเขาทั้งคู่มากกว่าการที่จะร้องขอว่า อย่าไปเลย เพียงเพื่อจะคงอยู่ในแต่โลกที่มีแต่พวกเขาทั้งสองคนแบบนั้น มันอาจจะไม่เรียกว่า รัก ก็เป็นได้

แต่นี่เป็นเพราะรัก... และเข้าใจดี...

หนุ่มผมดำยิ้มให้อีกฝ่ายแต่เพียงเท่านั้น ก่อนจะเห็นว่านาฬิกาข้อมือของเขาได้บอกเวลาที่ควรจะไปทำงานได้แล้ว

" อื้อ..งั้น ฉันไปทำงานล่ะนะ "จุนลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าว
"อื้ม.... "คิโยโนบุรับคำ แต่ก่อนอีกฝ่ายจะลุกไปไหน
 "จุน.... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลดึงอีกฝ่ายเอาไว้ แรงกดจากปลายนิ้วลงบนท่อนแขนนั้น กดลงไปแรงไม่ใช่น้อยนั่นทำให้จุนต้องหันมามองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจนัก
" อะไร? "

......เวลา เหลืออีกแค่เดือนเดียวเอง....


"หยุดไปหลายวันแบบนี้ นายจะยังมีวันหยุดอยู่อีกไหม" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองหน้าของอีกฝ่าย
" คิดว่าไม่..แต่ก็ไม่แน่ใจนะ "จุนบอกไปตามตรง  มือแกร่งลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ
"อื้ม...เข้าใจแล้ว... เอาล่ะไปทำงานไป เดี๋ยวสาย" คิโยโนบุปล่อยแขนของอีกฝ่าย ทิ้งรอยแดงไว้บนท่อนแขนนั้น ก่อนที่จะตบมือลงบนบ่นของเชฟหนุ่มเบาๆ
"อ้อ...แล้วเมื่อคืน..ขอโทษด้วยนะ... " จุนโบกมือไปมาเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไรแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางเร่งรีบขึ้นเล็กน้อย
คิโยโนบุมองร่างสูงที่เดินออกจากห้องไปก่อนที่จะถอนหายใจ อะไรๆ ที่คิดเอาไว้มันไม่ได้เป้นไปอย่างที่คาดหวังเอาไว้ซักเท่าไร แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นมันก็เป็นการตัดสินใจของพวกเขาทั้งสองคน

.................................................to be con
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH42) 6/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 08-11-2010 03:06:01
อะไรกันเพิ่งจะปรับความเข้าใจเสร็จ ก็จะจับแยกกันอีกล่ะ มันส์ล่ะทีนี้
ไม่ไปเหล่ไอ้หนุ่มละอ่อนโอกินาว่า ก็หนุ่มฝรั่งตาฟ้าหัวบลอนด์ตามจีบอีกล่ะ
เอาให้มันส์กันไปเรยยยยย โอยยยย กลับมาเจอหลายตอนคอมโบเซ็ต สะจายยยยยยย
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH42) 6/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 08-11-2010 21:40:12
หาทู้ไม่เจอ ก็ว่าพีจังหายไปไหน
ชีวิตคู่นี่เข้าใจอยาเนอะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH42) 6/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 09-11-2010 18:00:17
แยกกันไปซักพักไปตามหาความฝันของตัวก้อาจเป็นคำตอบที่ดีครับ เมื่อพร้อมจริงๆแล้วค่อยกลับมาหากันก็ยังไม่สายครับ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH43) 9/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 09-11-2010 21:59:19
@@@Writer's Talk@@@
หายไปหลายวัน บางวันก็กลับดึก บางวันก็เน็ตล่มเลยไม่ได้อัพ ต้องขอโทษทุกๆคนด้วยนะคะ
และก็ขอบคุณมากๆค่ะที่ติดตามอ่านกัน...ช่วงนี้ของเนื้อเรื่อง ...อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโค้งสุดท้ายก็ได้
อย่างไรแล้วก็ขอให้ติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ (และหากจะมีเรื่องอื่นๆมาลงอีก...ก็ฝากไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ)

อะไรกันเพิ่งจะปรับความเข้าใจเสร็จ ก็จะจับแยกกันอีกล่ะ มันส์ล่ะทีนี้
ไม่ไปเหล่ไอ้หนุ่มละอ่อนโอกินาว่า ก็หนุ่มฝรั่งตาฟ้าหัวบลอนด์ตามจีบอีกล่ะ
เอาให้มันส์กันไปเรยยยยย โอยยยย กลับมาเจอหลายตอนคอมโบเซ็ต สะจายยยยยยย
หุหุ จะไปตามหาละอ่อนที่โอกินาว่า หรือ จะมีละอ่อนตามไปหากันแน่นะ (อันนี้ก็ต้องลองเดาๆกันต่อไปค่ะ)
ส่วนคุณจุน นั้น....ในเนื้อเรื่องไม่แน่ใจว่าจะมีไหม แต่ในชีวิตจริงของต้นแบบพี่จุนนั้น....มีฝรั่งล้อมหน้าล้อมหลัง  :o12:

หาทู้ไม่เจอ ก็ว่าพีจังหายไปไหน
ชีวิตคู่นี่เข้าใจอยาเนอะ :เฮ้อ:

ที่หาไม่เจอเป็นเพราะพีจังเองล่ะค่ะ ไม่ได้อัพเลยนิเนอะ ถ้าไม่ได้แรงคอมเม้นต์ดันเอาไว้ คงหายไปโน่นนนนนแล้วล่ะค่ะ
ต้องขอบคุณไว้อีกรอบ ณ ที่นี้ค่ะ  :pig4:

แยกกันไปซักพักไปตามหาความฝันของตัวก้อาจเป็นคำตอบที่ดีครับ เมื่อพร้อมจริงๆแล้วค่อยกลับมาหากันก็ยังไม่สายครับ
ต้องรอวันนั้นซิ่นะคะ.... ว่าแล้วก็รอบ้าง .... (ไม่ได้รอจะได้กลับมาเจอนะคะ....รอว่าเมื่อไรจะมีกับเขาบ้าง ฮา.... :z3:)

////////////////////////////////////


คิโยโนบุเอาเสื้อผ้าที่ยัดใส่กระเป๋าตอนออกเดินทางออกมาจากกระเป๋า เมื่อวานมันเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรได้จริงๆ วันนี้เขาจึงตั้งใจว่าจะจัดการงานในบ้านให้เรียบร้อยเสียก่อนจะออกไปทำธุระอย่างอื่นต่อ เสียงเครื่องซักผ้าทำงานไปเรื่อยๆ คิโยโนบุตั้งโปรแกรมเอาไว้จนกว่ามันจะอบเสร็จก็คงจะใช้เวลาอีกไม่น้อยเป็นแน่
 
"เอาล่ะ..ปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ เดี๋ยวค่อยกลับมา ดีกว่า.. " ว่าพลางยิ้มก่อนจะคว้าเสื้อนอกมาใส่แล้วคว้ากุญแจกับกระเป๋าตางค์ออกไปข้างนอกทันทีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ศูนย์การค้ากลางเมือง

....จะไปทำงานต่างถิ่นทั้งที หาหนังสือสอนภาษาถิ่น มาอ่าน ฆ่าเวลาหน่อยจะเป็นไร...


ชายหนุ่มยื้มให้กับวิธีการฆ่าเวลาระหว่างรองาน ก่อนจะเดินเข้าไปรับฮีทเตอร์อุ่นในห้างสรรพสินค้าเพราะตั้งแต่เมื่อคืนอากาศก็ทำท่าเย็นขึ้นมากระทันหันเป็นสัญญาณบอกได้เลยว่าฤดูใบไม้ร่วงได้มาเยือนแล้วโชคยังดีที่ปีนี้ไม่มีฝนตกพายุเข้ายามเปลี่ยนฤดูเหมือนเช่นทุกที ที่หน้าร้านขายหนังสือมีหนังสือวางเรียงรายอยู่ตรงหน้ากระจกหลายเรื่องเป็นหนังสือที่กำลังได้รับความนิยมซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ค่อยจะสนใจอะไรเท่าไรนัก แต่ก็ยืนมองไปเรื่อย เขาไม่ต้องรีบอะไรมากอยู่แล้ว
ก่อนจะต้องเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านเมื่อได้ยินเสียงเคาะกระจกตรงหน้า

--ก๊อกๆๆ--

ใบหน้าของคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของบานกระจก ทำให้ต้องผงะถอยหลังไปเล็กน้อย

"อ่ะ...อ้าว... มามิยะ?" แม้จะตกใจแต่มือเรียวก็กวักมือเรียกให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาด้านใน

เด็กหนุ่มร่างใหญ่สวมเสื้อกล้ามกับกางเกงยีนส์เดินเข้ามาในร้านหนังสือ กล้ามเนื้อที่ช่วงอกและแขนยังคงอยู่แม้ว่าจะไม่มีเทรนเนอร์ดูแลอย่างใกล้ชิดแล้วก็ตาม

" ไม่ได้เจอนานเลย " เด็กหนุ่มเอ่ยทักบนใบหน้ามีรอยยิ้มระบายอยู่อย่างเห็นได้ชัด
"ก็ซักพักแล้วซิ่นะ...." คิโยโนบุยิ้ม "ก็ยังออกกำลังกายดีนี่นา..."
" เจ๋งใช่มั๊ยล่า? "มามิยะเบ่งกล้ามแขนให้อีกฝ่ายดู  " อุตส่าห์เพาะมาได้ขนาดนี้แล้ว จะปล่อยมันเหี่ยวไปก็น่าเสียดายนี่นะ "
"ฮ่ะ...นั่นซิ่นะ ใส่เสื้อกล้ามแต่แขนเหี่ยวก็คงไงๆ อยู่"อดีตเทรนเนอร์ยิ้ม
"แล้วนี่คุณมาทำอะไรที่ห้างล่ะ ...มาเดท? แล้วหมอหายไปไหนล่ะ" มามิยะถามพลางหันซ้ายขวามองหาบุคคลที่สามด้วยท่าทีกวนๆเหมือนเคย  คิโยโนบุไม่ตอบแต่ยิ้มอีกครั้งก่อนจะชี้นิ้วไปทางด้านหนังสือท่องเที่ยว
"มาคนเดียว...นี่ว่าจะเดี๋ยวเดินไปดูอะไรตรงนั้นหน่อย... ว่าแต่ มาซื้อของเหรอ "
" แล้วจะไปไหนล่ะ? "มามิยะกลับถามย้อนแทนที่จะตอบ
"โอกินาว่า น่ะ" ชายหนุ่มยิ้มพลางหยิบเอาหนังสือนำเที่ยวเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิด ภาพท้องทะเล สีฟ้าคราม และ ภาพของหมู่เกาะตอนใต้นั้นดูอย่างไร ก็ไม่เหมือนประเทศญี่ปุ่นซักเท่าไร  คำตอบของอีกฝ่ายทำให้เด็กหนุ่มใจเต้นระรัวอย่างดีใจ
" มาคนเดียว แล้วยังจะเดินทางไกลอีก อย่างงี้ก็...เลิกกับหมอนั่น..แล้ว? "เด็กหนุ่มแทบจะดึงแขนอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยซ้ำ

คิโยโนบุเหลือบมองท่าทางของอีกฝ่ายเล็กน้อยการแต่งตัวของเด็กหนุ่มนั้น ดูคลับคล้ายคลับคลา กับคนรักของเขาอยู่ไม่น้อย รูปร่างสมส่วนที่โชว์อยู่ภายใต้เสื้อกล้าม ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดูกับท่าทางไม่แคร์อะไรแบบนั้นของมามิยะ 

....พอจะเข้าใจหรอกว่าทำไมตอนนั้นถึงสับสน...


"การย้ายที่อยู่ที่ทำงาน ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเลิกกันเสียหน่อยนี่" ริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหยักยิ้มน้อยๆ ก่อนจะมองหน้าของอีกฝ่าย
" ขนาดอยู่ด้วยกันก็ยังทำท่าจะเลิกกันไม่ใช่รึไง? "มามิยะพูดขึ้นมาลอยๆ " ยิ่งอยู่ห่างหันแบบนี้ รั้งเอาไว้ก็แค่นั้นล่ะ "


หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงจะหวั่นไหวไปกับคำพูดของเด็กหนุ่มร่างสูงคนนี้ไม่น้อย แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว ทั้งเขาและจุนเข้าใจกันมากขึ้นจนไม่ว่าจะมีใครพูดอย่างไร ก็คงจะไม่ทำให้ไขว้เขวไปได้อีกอย่างน้อย... ก็ไม่มากเท่ากับตอนที่ไม่เข้าใจกันเลย
 
"คนเราก็มีบ้างที่เข้าใจ และไม่เข้าใจกัน... เรามีทางของเรา" ชายหนุ่มพูดพลางยื่นหนังสือเล่มที่เพิ่งจะอ่านเมื่อครู่ให้เด็กหนุ่มถือเอาไว้ "แต่...นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดพลางยิ้ม ก่อนจะขยับลึกเข้าไปด้านในระหว่างชั้นหนังสือ  มามิยะก้มลงอ่านปกหนังสือเล่มนั้น

...โอกินาว่า...

เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเอามันไปจ่ายเงินแล้วออกจากร้านไปโดยไม่ได้ฟังคำพูดของคิโยโนบุและไม่เลยที่จะบอกลา จนเมื่อคิโยโนยุที่กำลังเลือกหนังสือเพลินๆหันกลับมาอีกที พร้อมกับหนังสืออีกหลายเล่มในมือก็พบว่าเด็กหนุ่มที่คิดว่ายืนอยู่ตรงนั้นตลอดนั้นได้หายตัวไปเสียแล้ว
 
"อ้าว...หนังสือนั่นฉันจะซื้อนะเว้ย เด็กบ้า "  คิโยโนบุส่ายหน้าด้วยความระอา ก่อนจะก้มลงไปหยิบ หนังสือเล่มเดียวกัน ที่ยังเหลืออยู่บนชั้นไปจ่ายสตางค์

........................................


หลังจากนั้น คิโยโนบุ ใช้เวลา ส่วนใหญ่ไปอย่างสบายๆ กับการ เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของหมู่เกาะโอกินาว่า และดูเหมือนว่าเขาจะตกหลุมรักสถานที่นั้นไปโดยที่ตัวเองก็ยังไม่เคยจะไปที่นั่นด้วยซ้ำ   ควบคู่ไปกับการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เขาก็ยัง ให้เวลาบางส่วนไปกับการ ฟิตร่างกายให้กลับมาเหมือนเดิม โดยการออกวิ่ง ในช่วงเช้าหลังจากที่ คนรักออกไปทำงาน และก่อนที่ จุนจะกลับมาในตอนค่ำ ไม่มีเสียงของการทะเลาะ หรือคำพูดชวนหาเรื่องที่เกิดจากอาการหงุดหงิดให้ได้ยินอีก
 
"กลับมาแล้วเหรอ... " ทั้งๆที่ตัวเองเพิ่งจะกลับเข้ามาถึงหลังจากการออกไปวิ่งจ๊อกกิ้ง แต่กลับถามคนที่ยืนอยู่ในครัวเหมือนตัวเองอยู่ที่ห้องมาตลอดทั้งวัน
" กลับมาแล้ว ..ไปวิ่งมาแล้วก็ไปอาบน้ำไป "หนุ่มผมดำบอกทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าจากกะทะ
"กินก่อนไม่ได้รึไงกัน... "คิโยโนบุ หัวเราะ ก่อนจะเดินไปที่ห้องครัว ฉวยเอาขวดน้ำชามาดื่ม แล้วโฉบไปหยิบปีกไก่ทอดที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำมันขึ้นมากัดเข้าไปคำโต  "อร่อย...เตรียมกับแกล้มได้เลยนะเนี่ย"
" ไปอาบน้ำเลยไป  "เชฟหนุ่มหันมาบอกเสียงแข้ม ท่าทางเหมือนแม่จะดุลูกก็ไม่ปาน
"ครับๆ..." ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล กินปีกไก่ทอดนั่นจนหมด ก่อนจะเดิน หายเข้าไปในห้องนอน ไม่นานก็เดินกลับออกมาพร้อมกับผมเปียกชื้นและเสื้อยืดสีฟ้าอ่อน กับกางเกงขาสามส่วนเข้ากับหน้าคืนหน้าร้อน แบบนี้ "ให้ช่วยมา... " คิโยโนบุเดินเข้าไป เปิดคับบอร์ดหยิบเอาจานชลงมานให้กับอีกฝ่าย ที่กำลังง่วนกับการปรุงรสชาต

" ช่วยกินน่ะดิ "จุนย้อนแล้วจัดการกับอาหารต่อจนเสร็จ
"อ้าว...ก็ช่วยนะเนี่ย ไอ้เรื่องกินน่ะไม่ต้องห่วงหรอก หมดแน่..." คิโยโนบุยิ้ม ก่อนจะฉวยปีกไก่เข้าปากไปอีกอัน
" เฮ้ๆ ให้มันน้อยๆหน่อย ไปสอนพละ อ้วนเป็นหมูไม่ได้นะโว้ย "เจปรามคนที่ดูจะมีความสุขกับการกินเหลือเกิน
"ก็วิ่ง เผาผลาญออกหมดอยู่ดีนั่นล่ะ ...มีที่ไหนเล่าพุงน่ะ " คิโยโนบุว่าพลาง ดึงชายเสื้อขึ้นโชว์กล้ามเนื้อที่เริ่มเข้าที่เข้าทาง ให้อีกฝ่ายดู เจยิ้มก่อนใช้นิ้วเรียวลากกับหน้าท้องที่เริ่มเป็นลอนกล้ามของคิโยโนบุ

" หนึ่ง..สอง..สาม..สี่ ยังไม่ครบ หกเลยแฮะ "จุนพูดเหยียดๆ ออกจะยั่วโมโหซะมากกว่า

"ก็คงมันรามือไปนี่นา... หรือจะให้ออกกำลังกายให้มากกว่านี้..." ชายหนุ่มคว้ามือของอีกฝ่ายเอาไว้ "งั้นให้ไปช่วยยกกระสอบที่ทำงานก็ได้นะ นี่คงไม่มีใครหุ่นดีเท่านายหรอกใช่ไหมที่นั่นน่ะ" อดไม่ได้ที่จะประชดปนอิจฉาเล็กๆกับรูปร่างของเชฟหนุ่ม
" เซ็กส์ .. ช่วยได้ไหมล่ะ อาจารย์? " เจยื่นหน้าไปกระซิบกวนอีกฝ่ายเบาๆ
"............." คำพูดของเจทำให้ต้องมองหน้าของเชฟหนุ่มอย่างช่วยไม่ได้ "คนเรานี่ตัดผมแล้ว....บ้าขึ้นนะ" ก่อนจะเสมองไปอีกทางบนใบหน้านั้นมีผิวแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  "หิวแล้วๆ กินข้าวๆ"  ว่าพลางก็ดันตัวพ่อครัวออกไปอีกทาง แล้วยกจานปีกไก่ทั้งจานมาวางไว้ตรงหน้า ก่อนจะหันไปตักข้าวใส่ถ้วยมาสองถ้วย สำหรับเขาและอีกฝ่ายโดยไม่ลืม ที่จะเอาเบียร์เย็นๆออกมาจากตู้เย็นแล้ววางใว้ให้อีกคนละกระป๋อง  "จะให้รินเสิรฟ ให้ด้วยรึเปล่า..."
 
" ถ้าจะกรุณานะครับ "เจหัวเราะกับท่าทางของอีกฝ่าย
"โอเค งั้นฉันมีความกรุณามากพอ" คิโยโนบุพูดก่อนจะรินเบียร์จากกระป๋องใส่ในแก้วให้กับอีกฝ่าย  "โอเค ไม่ต้องเสริฟอะไรแล้วนะจะได้กินข้าว" คิโยโนบุพูด แต่ก็ไม่ได้มองหน้าอีกฝ่าย พอจะเดาออกเลยว่า คำตอบจะมาประมาณนั้น ริมฝีปากได้รูปยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพุ้ยข้าวเข้าปาก

" ไม่ต้องเสิร์ฟตอนนี้ก็ได้ " จุนมองท่าทางของคนที่ก้มหน้าก้มตากินข้าว น่าแปลกที่ตอนนี้ พวกเขาเหมือนคู่รักใหม่เลยทีเดียวเพราะตัวเขาเองแหย่คนรักได้บ่อยๆ เรียกปฏิกิริยาแบบที่เมื่อก่อนไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนักจากคิโยโนบุ "เสิร์ฟตัวเองเลย คืนนี้ "

คำพูดนั้นทำเอาตะเกียบที่ถืออยู่ในมือของคิโยโนบุหยุด ข้าวที่กำลังจะกลืนเข้าติดอยู่ในคออย่างช่วยไม่ได้
 
"แค่ก.... เฮ้ๆ.... ให้มันน้อยๆหน่อย ช่วงนี้ บ่อยนะ... "คิโยโนบุมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง แต่เมื่อเจอสายตานั้นก็ต้องเลิกคิ้ว  "เอาจริงซิ่..."
" รึไม่อยาก? .. ไม่คิดจะตุนเอาไว้เวลาไม่ได้อยู่ด้วยกันบ้างเหรอ? " ดวงตารีสบตาอีกฝ่ายแล้วถามหน้าตาเฉย
"ลองเปลี่ยนกันบ้างไหมล่ะ...ลำบากเหมือนกันนะฝั่งนี้น่ะ "ชายหนุ่มพูดพลางยื่นหน้าไปมองหน้าของอีกฝ่าย "กล้าเปล่า... "ท้าทายไม่พอ ยังยักคิ้ว แล้วพุ้ยข้าวใส่ปากไปอีกคำโต "ตุนกับข้าวดีกว่า..."
" ฮะ ฮะ กินเข้าไปเยอะๆเลย ฉันจะไม่ได้ไม่ต้องได้ยินเสียงท้องร้อง ตอนกำลังอย่างว่าเหมือนทุกที "ได้ทีเจก็ยิ่งแหย่อีกฝ่ายเขาชอบปฏิกิริยาจากคนรักแบบนี้ที่สุด มันทำให้เขาได้หัวเราะเสมอ โดยเฉพาะในช่วงนี้
"บ้าน่า ไม่เคยซักหน่อย ... มั่วนี่หว่า" ปลายตะเกียบชี้หน้าเชฟหนุ่ม "กินๆไปเลยไป แล้วจะทำอะไร ค่อยว่ากันอีกที "

คิโยโนบุอมยิ้มเล็กๆ เขารู้สึกดีที่ได้พูดคุย หยอกล้อกับอีกฝ่ายแบบนี้ สบายใจที่จะพูดคุยด้วยในหลายๆเรื่องมากขึ้นกว่าเดิม เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

.............................................


เหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนที่จะถึงเวลาที่พวกเขาทั้งสอง จะต้องแยกจากกันไปคิโยโนบุนึกอยากจะทำอะไรให้จุนเป็นพิเศษ จะว่าไปแล้วเขาเองก็ยังไม่ได้แสดงความยินดีกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ที่ผ่านการคัดเลือกให้ไปเข้าโรงเรียนสอนทำอาหารที่มีชื่อของอเมริกา

"ปาร์ตี้ หน่อยจะเป็นไร... "คิโยโนบุว่าพลางเดินเข้าไปในโรงแรมที่คนรักทำงานอยู่ แต่ไม่ได้เดินเข้าไปในร้านอาหารชายหนุ่มผมสีน้ำตาลในเสื้อโปโลสีขาวเข้ารูป เดินเข้าไปยินอยู่ที่หน้าตู้กระจกที่มีเค้กเรียงราย

"ขอโทษนะครับ ขอซื้อเค้กหน่อย"
" เชิญเลยค่ะ "พนักงานขายแผนกเบเกอรี่ของโรงแรมเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้ดูเค้กได้ตามสบาย
"เอ่อ... เค้กที่ ไม่หวานมาก... น่ะครับ "ชายหนุ่มกะด้วยสายตาแล้ว แต่ละอย่างก็คงหวานอยู่ไม่น้อย แต่ จุนไม่ชอบทานของหวาน

...คิดผิดหรือเปล่าเนี่ย ...


" ค่ะ เค้กที่ไม่หวานมาก ก็จะมีชอคโกแลต ไม่อย่างนั้นก็เป็นพวกมูสผลไม้นะคะ "เธอเผยมือไปที่เค้กที่ตัวเองแนะนำ
"เอ่อ.. ถ้าอย่างนั้น ขอเป็นชอคโกแลตก็แล้วกันนะครับ...แล้วเอ่อ...เขียนข้อความให้ด้วยได้ไหมครับ..." ชายหนุ่มเอ่ยถามท่าทางขัดเขินอยู้่ในที 
"เขียนว่า...ยินดีด้วย กับ โรงเรียน สอนทำอาหาร... " ชายหนุ่มบอกชื่อสถาบันที่ เจจะไปเรียน ก่อนจะจดข้อความลงไป ในกระดาษแล้วยื่นให้กับอีกฝ่าย
 
" โรงเรียนสอนทำอาหาร.... อุ้ย บังเอิญจัง " หล่อนรับเอากระดาษเขียนข้อความมาอ่าน ก่อนจะอุทานออกมาพอให้ลูกค้าได้ยิน
"ครับ? " เสียงอุทานนั้นทำให้อาจารย์หนุ่มหันกลับไปมอง
" ก็ พาติเช่ต์คนเก่งของเราสิคะ กำลังจะไปเรียนที่นี่เหมือนกันค่ะ คนนั้นน่ะค่ะ "ว่าแล้วหล่อนก็ชี้รูปของเชฟที่ติดอยู่ตรงผนังร้านให้อีกฝ่ายดู

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหันมองตาม ก่อนจะพบกับรูปของหญิงสาวผมหยักศก ที่มีรอยยิ้มเปิดเผย แม้จะเคยพบหน้ากันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เขาคงไม่มีทางลืมเธอได้ แน่นอน เธอคือ คนที่เขา ทำร้ายเธอไป เช่นเดียวกับคู่หมั้นของตัวเอง โดยการขโมยคนรักของเธอมาเป็นของตัวเอง

...อาการิซัง...


............................................to be con


หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH43) 9/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 11-11-2010 15:23:24
โอ้ววววๆๆๆๆๆ อาการิตามไปด้วยยยย จะมีอะไรมั้ยน้าาาาาาาาา???
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH44) 12/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 12-11-2010 21:41:36
...อาการิซัง...

"จะไปกับ...จุน...เหรอเนี่ย..." พลันในหัวก็มีภาพของชายหนุ่มผมสีดำคุยโทรศัพท์กับหญิงสาวคนนี้ท่าทางสบายใจ กับภาพของจุนที่อยู่กับเธอคนนั้นที่ระเบียงในคืนนั้น... ความกลัวบางอย่างวิ่งเข้ามาจับใจแต่... ถ้าเขาหวั่นไหวตอนนี้ ความรู้สึกดีๆที่ผ่านมา การกระทำทุกอย่างที่ผ่านมา มันก็จะไม่มีความหมายอีกเลย คิดได้แบบนั้นคิโยโนบุจึงกลับมาสู่ความจริงตรงหน้าอีกครั้ง
 
"ครับ... เอ่อ... ผมนั่งรอได้เลยหรือเปล่าครับ " คิโยโนบุเบนสายตาออกมาจากภาพนั้น

" ได้ค่ะ งั้นรอซักครู่นะคะ "

พนักงานขายเลื่อนถาดขนมเค้กก้อนนั้นออกจากตู้โชว์แลวหายไปที่หลังร้าน ราวกับปล่อยให้เวลามันผ่านไปช้าๆ กับความคิดที่เริ่มฟุ้งซ่านของคิโยโนบุ
นิ้วเรียวสลับไขว้ไปมา ปลายเท้าขยับ กระทบกับพื้นเป็นจังหวะ ท่าทางที่กระวนกระวายนั้นหากเจมาเห็นเข้าก็คงจะถามอย่างแน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะมันดูแปลกตาไปไม่น้อย หลังจาก ที่คิโยโนบุดูจะสงบและมีความสุขมาตลอดหลายอาทิตย์


คิโยโนบุรับเค้กออกมาจากร้าน ก่อนจะตรงไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของที่เขาคิดว่าจะเอามาทำเป็นอาหารเย็นให้กับคนรัก ส่วนใหญ่แล้วเขาจะเป็นคนทำอาหารเช้า และ ปล่อยให้เจโชว์ฝีมือในช่วงเย็นแทน แต่วันนี้เขาชายหนุ่มเลือกเครื่องแกงแบบไทย เขาเคยเห็นจากรายการทำอาหารในช่วงกลางวัน และมันก็ดูน่าอร่อยไม่น้อยเลยทีเดียว จึงอยากจะลองทำให้อีกฝ่ายได้ทาน

"จะอร่อยรึเปล่าก็ไม่รู้ล่ะ... "คิโยโนบุยิ้ม ก่อนจะเดินหยิบหาของที่ต้องใช้อื่นๆ ใส่ตระกร้าไปเรื่อย เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยก็รีบตรงกลับไปที่บ้านเพื่อลงมือทำทันที
กว่าิเจจะกลับมาจากทำงานก็ค่ำมากแล้ว แล้วเขาก็ต้องแปลกใจยื่งกว่าเก่าเมื่อเปิดประตูห้องแล้วก็ได้กลิ่นเครื่องเทศแบบไทย ถ้าจำไม่ผิด
 
" แกงเขียวเหรอ? "หนุ่มผมดำพึมพำที่หน้าประตูพลางทำจมูกฟุดฟิด
"อื้อ... กลับมาแล้วเหรอ " คิโยโนบุ เพิ่งจะล้าง หม้อเสร็จ ก็หันมา ในมือยังมีผ้า เช็ดมืออยู่
"ใส่เนื้อน่ะ.. เอาไวน์ไหม "คิโยโนบุว่าก่อนจะเดินไปหยิบ ขวดไวน์ออกมาจากตู้เย็น
" ก็ดี ขอไวน์แดงๆ แก้วนึงก็แล้วกัน "เชฟหนุ่มวางกระเป๋าไว้ที่โซฟาแล้วเดินกลับมานั่งดูคนที่กำลังตักแกงเขียวหวานแบบไทยเสริฟ

เมื่อเจเดินกลับมาอีกที ก็ทีแก้วไวน์ วางรอเอาไว้อยู่แล้ว พร้อมกับ ร่างของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลนั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งจองโต๊ะ

"นั่งซิ่... วันนี้ฉลองกันหน่อย"
"นึกยังไง ลุกมาทำอาหารไทยเนี่ย? แพงมากไม่ใช่รึไงกัน? ไวน์อีก? "เจถามอย่างแปลกใจ
"ฉลองไงล่ะ "ชายหนุ่มพูดพลางยิ้ม "ยังไม่มีโอกาสได้ยินดีด้วยเลย ที่จะได้ไปอเมริกาน่ะ"  หนุ่มผมดำยิ้มกับเหตุผลของคิโยโนบุแล้วนั่งลงยังที่ที่จัดไว้ มือแกร่งหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม ให้รสของมันไหลลงคอ

"เฮ้.. ไม่ชนแก้วเลยนะ.." ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลขมวดคิ้วขึ้นท้วง ก่อนจะยื่นแก้วออกไป  "ยินดีด้วย...ขอให้ได้เป็นเชฟใหญ่เร็วๆนะ" ท้ายเสียงฟังดูสั่นเครือ เมื่อรู้ว่าคนรักจะออกเดินไปทาง พร้อมกับคนรักเก่าแต่คิโยโนบุกลับกลืนความรู้สึกหวั่นไหวนั้นลงคอไป

" ฮ่ะๆขอโทษที แล้วก็ใจนะ...เอ้า ชนแก้วกันหน่อย "มือแกร่งยื่นแก้วไวน์ไปหาอีกฝ่าย
"กินไปจนจะหมดแล้ว...บ้าจริงนายนี่..." คิโยโนบุยิ้ม แต่ก็ยื่นแก้วไปใกล้กับแก้วตอบ  "แด่...อะไรดีล่ะ...อนาคตของพวกเรา" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองลึกเข้าไปในดวงตาของเจ ที่สบตามองกลับมานิ่ง

..ไม่มีคำตอบของสิ่งที่คิโยโนบุได้พูดไป..

เจยื่นมือไปชนแก้วกับอีกฝ่ายเบาๆ คิโยโนบุยิ้มก่อนจะดื่มไวน์ในแก้วอึกเดียวหมด เขารู้ดีว่าคำตอบของอีกฝ่ายเป็นอย่างไร แต่...คำว่า อนาคต ที่เขาพูดถึงนั้น....ก็เป็นอนาคต...ของพวกเขา..แต่ละคน ชายหนุ่มกลืนความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเวลาที่ยังเหลืออยู่ลงไปพร้อมๆกับรสชาติของไวน์แดง

"อย่าเพิ่งกินจนอื่มล่ะ...มีเค้กอีก "
" เค้ก? "หนุ่มผมดำทวนคำพลางเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ พลางใช้ช้อนตักข้าวหุงกับแกงเขียวหวานเนื้ออย่างไทยใส่ปาก
"อื้ม" คิโยโนบุรับคำ "ก็ปาร์ตี้นี่ก็ต้องมีเค้กซิ่"

น่าแปลกที่ไม่ค่อยมีการพูดคุยกันอย่างทุกที สำหรับจุนแล้ว มันคงเริ่มตั้งแต่อีกฝ่ายพูดคำว่าอนาคต จนกระทั่งข้าวหุงร้อนๆกับแกงเขียวหวานเนื้อในจานหมดลงไวน์แดงในขวดพร่องลงไปมากแล้ว

"เค้กไหม... ไม่หวานมากหรอก "ชายหนุ่มพูดพลางเดินไปยกเอาเค้กที่ซื้อมาจากร้านของอาการิ ออกมาจากตู้เย็น "หรือจะเอาไวน์อีกขวด"
" เค้กนั่น? "เชฟหนุ่มทักขึ้นเมื่อเห็นรูปแบบของเค้ก

..อาการิ...

"อืม... ก็ฉันไม่รู้จะไปที่ร้านไหนนี่นา..." คิโยโนบุยิ้มเขินๆ  "ลองหน่อยไหม...ของเขาน่าอร่อยดีนะ" ว่าพลางก็ลงมืดตัดลงไปบนเค้ก ตัดใส่จานแล้วยื่นให้กับอีกฝ่าย
" อ้อ.. แล้วได้เจอเธอรึเปล่า? "เจเริ่มชวนคุย เขารู้สึกว่าบรรยากาศมันเงียบเกินไป และเขาไม่อยากให้มันกลับไปเป็นอย่างเดิมๆในเวลาแบบนี้
"เปล่า...ไม่ได้เจอหรอก...คิดอยู่เหมือนกันว่า จะได้เจอไหม... "
" อยากเจอเขาเหรอ?  "ชายหนุ่มผมดำถามแล้วรับเอาจานเค้กชอคโกแลตมา
"อืม...ถ้าได้เจอก็คงดีล่ะมั้ง  ฮ่ะๆ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จะพูดว่าอะไรน่ะนะ... ขอโทษล่ะมั้ง"คิโยโนบุหัวเราะออกมาเบาๆ "แต่ก็ดีแล้วนะ....ดีแล้ว" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบดวงตารีเรียวของอีกฝ่าย

....ดี...ที่อย่างน้อยนายไป ก็ยังมีคนที่รู้จัก สนิทสนม ...
...ไม่ว่าจะเป็นยังไง...เธอก็จะได้ดูแลนายได้.....



" เรื่องขอโทษนั่น ฉันพูดไปแล้วและเราก็เป็นเพื่อนที่ดีอย่างที่เคยเป็นมา" มือแกร่งนั้นจับกับมืออีกฝ่าย สัมผัสอุ่นที่มือนั้นทำให้คิโยโนบุรู้ได้ว่าิเจก็พอจะมองเห็น ความรู้สึกของเขาอยู่เหมือนกัน คิโยโนบุยิ้ม ใบหน้า ของ อาจารย์หนุ่มเปลี่ยนสีสันไปจากเดิมเพราะไวน์ที่ช่วยกันดื่มเข้าไปกับคนรัก เขาบีบมือของอีกฝ่ายเอาไว้

"ไม่ได้เรียนอยู่ด้วยกันหรอกนะ กับอาการิน่ะ "ชายหนุ่มบอก " ถึงจะเป็นที่เดียวกัน และไปด้วยกันก็เถอะ "
"...รู้หรอกน่า.... เห็นฉันเป็นอะไรเนี่ย...นี่ฉันคงไม่ได้หึง หน้ามืดตามัวอะไรขนาดนั้นหรอกใช่ไหม " หัวเราะพลางตบมืออีกข้างลงบนมือของเจ
" นั่นสินะ..ไม่เห็นเคยหึงเลยนี่หว่า "เชฟหนุ่มหัวเราะเบาๆกับคำพูดของอีกฝ่าย นั่นทำให้เขาสบายใจได้มากเลยทีเดียว
"มีแต่นายนั่นล่ะน้า....." คิโยโนบุเปรย พลางลอยหน้า... คิดในใจเหมมือนกันว่าจะบอกดีไหม กับการที่เขาไปเจอกับมามิยะเข้าโดยบังเอิญ
" ใช่ ฉันโคตรขี้หึงเลย " มือแกร่งขยี้ผมอีกฝ่ายอย่างที่ชอบทำประจำ
"ถ้าบอกว่าไปทำอะไรที่ทำให้หึงมาโดยไม่ได้ ตั้งใจ นี่ จะโกรธฉันไหม...จะโกรธฉันไหมถ้าฉันพูดความจริง"
" หึง? ..ไปเจอใครมารึไง? "ได้ผล คำพูดของคนรักทำให้จุนเริ่มซักไซ้ทันที
"ก็...เมืองมันเล็ก...ไปเจอมามิยะ มาที่ร้านหนังสือ...เมื่อซักอาทิตย์ก่อนได้"  คิโยโนบุเล่าพลางยิ้ม "หมอนั่นตัวใหญ่ขึ้นเยอะเลย เห็นแล้วตกใจ...ตอนฉันเทรนไม่เห็นได้แบบนี้มั่ง ฮึ่ย" มือเรียวตบตักเบาๆ ด้วยความเจ็บใจ เพราะตอนเขาเป็นคนเทรนเด็กคนนั้นมัวแต่จะเล่นอยู่ตลอด

" อ้อ ชอบตัวใหญ่ๆว่างั้น? "   ชายหนุ่มพูดแทรกขึ้นมาทันมีแล้วก้มลงดูตัวเอง ถึงจะมีกล้ามเนื้อในแบบของคนทำงาน แต่คงจะสู้คนที่ออกกำลังกายในยิมไม่ได้
"ก็...นายตัวใหญ่นี่..." คิโยโนบุอ้อมแอ้มพูด ยกแก้วไวน์ขึ้นก่อนจะดิ่มอีกครั้ง"ตั้งแต่ตอนนั้น...."
" เจ้าเด็กนั่นก็ตัวใหญ่ "หนุ่มผมดำทำหน้าไม่สบอารมณ์เลย
"อ้าว...งอนซะแล้ว...ก็นายนั่นล่ะทำให้ฉันมองแต่คนตัวใหญ่ๆ นายเป็นต้นเหตุเลยนะรู้รึเปล่า แต่ถ้าตัวใหญ่แล้ว.....ไม่ใช่นาย...มันก็" มือเรียวคว้าขวดไวน์มารินใส่แก้วให้กับอีกฝ่าย "มันก็...ไม่ได้เหมือนกันนั่นล่ะ"
ท่าทางเขินของคิโยโนบุทำให้เจยิ้ม
" เอาเถอะ ช่างมัน "มือแกร่งขยี้ผมอีกฝ่ายแล้วลุกขึ้น " ฉันจะอาบน้ำ ตามมาไถ่โทษซะดีๆ "พูดจบก็เดินเข้าไปในห้อง
"อีกแล้ว?..." คิโยโนบุโวยวาย "ช่วงนี้ บ่อยจริงนะ.... " ถึงอย่างนั้นก็เก็บจานชามลงอ่างแช่น้ำไว้ก่อนจะเดิมตามเข้าไปในห้องอยู่ดี  "ทำตัวเป็นหนุ่มๆไปได้...." แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะบ่นต่อ

....................................................


ภาพเงาร่างที่เคลื่อนไหวใต้แสงไฟหยุดนิ่ง ร่างสองร่างบนเตียงขยับแอบอิงข้างกัน คิโยโนบุเสยเส้นผมที่เปียกชื้นของตัวเอง ขึ้นก่อนจะขยับเข้าไปอยู่ใกล้กับ คนรัก มือหนึ่งดึงแขนของชายหนุ่มร่างสูง มาจูบเบาๆ แล้ววางมือนั้นคืนลงบนแผ่นอกกว้าง
 
" เป็นอะไร  วันนี้แปลกๆนะ "เจผงกหัวดูอีกฝ่ายเล็กน้อยแล้วดึงร่างที่ชื้นเหงื่อมากอด
"แปลก?....ตรงไหนกัน" คิโยโนบุหัวเราะออกมาเบาๆ "ฉันจะทำดีๆกับนายไม่ได้เลยเหรอ.... "  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนปิดลง เมื่อขยับเข้าใกล้ร่างนั้นกลิ่นกายของเจนั้นชัดเจนเมื่อสูดลมหายใจเขา้าลึก มันคงอีกนานหรือ...อาจจะไม่มีเลยที่จะได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดแบบนี้อีก
 
" เปล่า แค่รู้สึกว่าวันนี้ นายหวานกว่าปกติอะ "เจว่าแล้วก็จูบเบาๆบนหัวไหล่ที่มีรอยแดงจางๆที่เขาฝากไว้เมื่อครู่
"เพราะเค้กมั้ง.... " คิโยโนบุหัวเราะออกมาเบาๆ "เมาด้วย... "

....ถ้าพูดออกไป เดี๋ยวนายก็จะห่วงอีก...

ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้ว่าทุกการแสดงออกของตัวเองนั้นอีกฝ่ายจะรับรู้ได้ทั้งหมด

"ไม่ดีหรือไง... พูดก็ดี...ทำก็ดี.... ให้ฉันเป็นคนดี ....หน่อยเถอะก่อนที่นายจะไป"
" อื้อ~ แต่นี่ก็ดีแล้วนะ..ว่าง่ายดีออก "เขาจับให้คิโยโนบุหันมามองหน้าแล้วจูบเบาๆที่ริมฝีปากที่ยังคงฉ่ำชื้นคู่นั้น
"รู้สึกว่าจะชอบแต่ตรงเรื่องแบบนี้ใช่ไหมล่ะ "มือเรียวเริ่มซน ไปไล้หน้าขาของเจเบาๆ "เอาเถอะ อีกหน่อยก็ไม่ได้เจอกันแล้ว นายก็โน่น...อเมริกา... สาวๆก็สวย หนุ่มๆ...ก็....อืม ผมทองตาสีฟ้า.... "คิโยโนบุว่าก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง  "อาจจะน่าสนใจกว่า ครูสอนพละที่พยายามฟิตหุ่นอย่างฉันก็ได้"

....แต่ฉันก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น หรอกนะ....

" แต่ไม่ใช่กับอาการิแน่ๆ " มือแกร่งของหนุ่มผมดำจับให้คนรักพลิกขึ้นมานั่งอยู่บนตัวของเขา ส่วนตัวก็ขยับลุกขึ้นเพื่อจะได้ไล้ผิวแก้มร้อนนั่นเบาๆด้วยปลายจมูก
ริมฝีปากได้รูปเปื้อนยิ้ม มือของอาจารย์หนุ่มยื่นไปลากลงเบาๆบนใบหน้าคมของอีกฝ่าย

"ฉันรู้....ฉันรู้.... ฉันไม่เป็นอะไรหรอก...." คิโยโนบุกระซิบตอบแผ่วเบา
" คิโย..ฉันจะไม่ห้ามนายหรอกนะ "ดวงตารีนั้นสบตาอีกฝ่ายนิ่ง " ชีวิตเป็นของนาย "
"ฉันก็ไม่หยุดนายเหมือนกัน...." ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง  "ชีวิตของนาย... ฉันเอาไปไม่ได้หรอก... " ชายหนุ่มพูด ก่อนจะขยับร่างเข้าไปโอบรอบคอของเจเอาไว้ในอ้อมแขน เมื่อแนบชิดกันแบบนี้ได้ยินเสียงลมหายใจและหัวใจที่เต้นอยู่ในอกของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

"เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน... ให้ฉันได้รักนายแบบนี้ล่ะนะ... ฉันก็ให้นายรักฉันแบบนี้ล่ะ... "
" อื้อ " เจรับคำแล้วโอบเอวอีกฝ่ายเข้ามาแน่น สัมผัสที่โอบรัดแน่น ขึ้นทำให้คนที่อยู่บนร่างของอีกฝ่ายอดจะหัวเราะออกมาด้วยความจั้กกะจี้ไม่ได้
"ฮ่ะๆ...อย่าจับตรงนั้นซิ่ โอ้ย... "
" งั้นเอาตรงนี้ไหม? "เจหัวเราะเบาๆกับท่าทางของคนรักแล้วเปลี่ยนมาจับตรงที่ๆนั่งทับเขาอยู่ เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
"เฮ้ย...ตรงนั้นไม่ได้.... ไม่เอาแล้ว... ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้..."คิโยโนบุ สะดุ้งเฮือก สัมผัสจากอีกฝ่ายเมื่อก่อนหน้านี้ยังหลงเหลืออยู่เลย
" โอเค พอก็พอ "เจหัวเราะยิ่งได้แกล้งอีกฝ่าย แล้วก็ต้องจับให้คิโยโนบุนอนข้างๆ แล้วกอดเอาไว้  " นอนเถอะ "
"อืม...นอนดีกว่า.... นอนให้พอ..." เสียงนุ่ม ดังขึ้นแผ่วเบาในอ้อมแขนของชายร่างสูง

...นอนแล้วก็ฝันว่าเวลาจะยืดไปอีกซักหน่อย....


ไม่นานคิโยโนบุก็ผล็อยหลับไป ตรงกันข้ามเจเองก็ยังมองเพดานห้องอย่างครุ่นคิด...


........................................................to be con


หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH44) 12/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 15-11-2010 14:35:24
มาต่อแร้ววว
ได้บรรยากาศผู็ใหญ่ดีชะมัด เฮ้ออออ
พอไปจริงๆแล้วจะเป็นไงต่อน้าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH44) 12/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 18-11-2010 00:22:42
"...พักนี้บ่อยนะ"  :-[กิ้วๆๆ
พีจังไม่รู้เราคิดไปเองป่าวแต่ชื่อเรื่องพีจังมันทำให้คิดอ่ะ
อย่าจบแบบที่เราคิดน้าส์ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 21-11-2010 03:02:51
เอกสารการเดินทางของเชฟหนุ่มได้รับการเดินเรื่องเรียบร้อย เช่นเดียวกับข้าวของหลายอย่างที่ถูกแพ็คลงใส่กล่อง ห้องดูโล่งตาไปทีเดียว เมื่อเหลือเวลาอีกเพียงแค่ไม่ถึงสองวัน ก่อนจะถึงวันเดินทางคิโยโนบุนั่งอยู่ที่กลางห้องมองซ้ายขวา ไม่เห็นข้าวของหลายอย่างที่คุ้นเเคยก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้

"เราจะทำยังไงกับห้องนี่ล่ะ...ชื่อคนเช่าเป็นชื่อนายนี่นา... "
" อื้อ.. ไว้คิดดูก่อนละกัน "เจ้าของห้องตอบออกมาอย่างง่ายๆแล้วเดินเข้าครัวไปทำข้าวเย็นให้เขาและอีกฝ่าย แล้วจึงหยิบหม้อต้มน้ำแกงในตู้เย็นออกมาอุ่น
" สูตรที่ฉันให้ยังอยู่ใช่ไหม? "เชฟหนุ่มถามขณะที่คนน้ำแกงร้อนๆ
"นาย...ให้กับ ฮิโตมิไปนี่นะ.... "ชื่อของอดีตคู่หมั้นถูกเอ่ยขึ้น แม้จะรู้สึกผิดแต่จากข่าวคราวที่ได้ยินมาก็รู้สึกว่าลูกสาวของศิลปิน ชื่อดังคนนั้นเพิ่งจะประกาศงานหมั้นกับคู่หมั้นคนใหม่ไปเมื่อเร็วๆนี้ ...แน่นอน มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อย พ่อแม่ของฝ่ายหญิงคงจะพยายามเป็นอย่างมากที่จะกู้หน้าของตนเองและลูกสาวกลับคืนมาให้ได้เร็วที่สุด

สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงแค่การส่งการ์ดอวยพรเล็กๆไปให้พร้อมกับดอกไม้ที่ฝ่ายหญิงชอบ ไม่ว่ามันจะถูกส่งไปถึงมือหรือลงเอยลงที่ถังขยะก็ตามที ...เขาแค่อยากจะส่งความคิดคำนึงดีๆไปให้ก็เท่านั้น

"จดให้ใหม่ซิ่... แล้วจะเก็บไว้...อย่างดีเลย" ชายหนุ่มยิ้มหลังจากนิ่งไปนานเมื่อนึกถึงเรื่องของอดีตคู่หมั้นพลางลุกเดินข้ามห้องไปหาอีกฝ่ายที่อยู่ที่หน้าเตา
" งั้นก็เอากระดาษมาจดเลยมา "เจขยี้ผมอีกฝ่ายเบาๆเป็นเชิงปลอบ
"อื้ม... "ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะหายเข้าไปในห้องเพื่อเอาสมุดบันทึกสำหรับจดตารางงานส่วนตัวมาให้อีกฝ่าย  "เขียนสวยๆล่ะ... ลายมือสวยๆไม่เข้ากับหน้าของนายน่ะ" อดไม่ได้ที่จะแหย่ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่าย เจทำตาเขียวใส่อีกฝ่ายแล้วเขียนส่วนผสมลงไป แต่แล้วก็ต้องเผลอเขียนภาษาอังกฤษลงไปจนได้ สุดท้ายก็เลยต้องขีดฆ่าแล้วเขียนภาษาญี่ปุ่นกำกับ

" อ้าว โทษๆ "แม้ปากจะเอ่ยขอโทษขอโพยแต่ก็ไม่วายยังหันมาสั่งอยู่ดี  " พอเริ่มเข้าหน้าหนาว ต้มหม้อใหญ่ๆไว้เลยนะ "
"ครับผม... จะทำตามที่สั่งไว้แน่ล่ะ " คิโยโนบุพูด ก่อนจะชะโงกหน้าไปดูหม้อที่ต้มเอาไว้แล้วกลิ่นหอมที่คุ้นเคย รสชาตนั้น คงหวานละมุนลิ้นไม่น้อย "ฉันคงคิดถึง ฝีมือนายแน่ล่ะ... เล่น ทำกับข้าวเลี้ยงซะจนเสียคนหมดแล้วเนี่ย... "
"นายก็ซึมซับพรสวรรค์ของฉันไปบ้างไม่ใช่รึไง? "เจยิ้มพลางส่งสมุดจดคืนให้อีกฝ่าย  " เริ่มหนาวแล้ว ดูแลกระดูกดีๆล่ะ "

"ต้องบอกว่า ดูแลตัวเอง ดีๆไม่ใช่รึไงกัน " คิโยโนบุหัวเราะออกมาเบาๆ พลางรับสมุดจดนั้นมาดู นิ้วเรียวไล้เบาๆ กับรอยกดของปากกาบนหน้ากระดาษ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง  "ขอบใจนะจุน...ทุกอย่าง"  ซึ่งเจเองก็สบตาเขาตอบเช่นกัน ดวงตารีเรียวคู่นั้นมองหน้าเขาอย่างมีความหมาย

"ฉันเองก็ต้อบขอบใจนายเหมือนกัน...ขอบใจนะ..ที่ทำให้ความรักครั้งแรกของฉันกลับมา"

คำพูดของเจทำให้ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้แล้วพิงศีรษะลงบนไหล่กว้างนั้นเหมือนหลายๆครั้งที่ชอบทำ

"อืม... นายก็เหมือนกัน...เป็นรักของฉัน... ตลอดมา" คิโยโนบุเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะปิดตาลงเพื่อเปิดรับสัมผัสอบอุ่นจากอ้อมแขนของเจ ราวกับจะขอจดจำมันเอาไว้...เหมือนอย่างทุกๆครั้งที่สวมกอดอีกฝ่าย...มัันเป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้น...เขารู้ดีมาโดยตลอด

....การจากลา...


..............................................


เสียงเตือนเรียกผู้โดยสาร สายการบินต่างๆดังขึ้นให้ได้ยินตลอดตั้งแต่เดินเข้ามาในตัวอาคาร ผู้โดยสารขาออกเสียงรถเข็นที่ดังเอี้ยดอ๊าดเพราะน้ำหนัของกระเป๋าใบใหญ่ของผู้ที่กำลังจะเดินทางหลายๆคนที่เดินวนล้อมอยู่รอบๆกาย ทำให้ใจของคนที่มาส่งสั่นไหวแต่กระนั้นก็สะกัดกลั้นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

"มา เดี๋ยวแคร์รี่ออนนี่ฉันถือเอง " เจ้าของกระเป๋าเดินทางฉวยของที่อีกฝ่ายช่วยเขาถือเอาไว้แล้วเดินนำไปจัดการกับตั๋วโดยสารและโหลดกระเป๋าลงเครื่อง ข้าวของของเขานั้นมีไม่มาก เจไม่ใช่คนที่มีของติดตัวอะไรเยอะอยู่แล้ว ครั้งที่แม้จะเป็นการเดินทางที่ยาวนาน เขาก็ไม่มีของอะไรติดตัวเยอะเช่นกัน...หรืออาจจะพูดได้ว่าเพราะมันเป็นการเดินทางครั้งที่ยาวนานนี่ล่ะ...เขาถึงไม่เอาอะไรติดตัวไปเลย

" เดี๋ยว เดินไปรอ ด้านโน้นนะ" คิโยโนบุเอ่ยไล่หลังอีกฝ่าย พลางชี้นิ้วว่าจะเดินไปอีกทางก่อนจะรีบเดินอ้อมไปรออีกทาง เมื่อจัดการกับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็ยังเหลือเวลาก่อนจะเข้า gate เกือบชั่วโมง

"ไม่ได้ลืม พาสปอร์ตเอาไว้ตรงไหน ใช่ป่ะ" คิโยโนบุแหย่ ให้คนที่กำลังจะเดินทางตกใจเล่น ใบหน้ามนเปื้อนรอยยิ้มที่ปั้นขึ้นมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ เขาฝึกมาบ้างแล้ว และคิดว่าอีกฝ่ายจะจับไม่ได้หรอกว่า เขาเองก็กำลังหวั่นไหวอยู่มากเหมือนกัน แต่ในเมื่อมาถึงวันนี้แล้ว มันไม่มีอะไรให้ต้องกลัวอีกแล้ว...คิโยโนบุพยายามบอกตัวเองแบบนั้น สิ่งที่รออยู่นั้นมีแค่อนาคตที่ต่างคนต่างเลือกเพื่อที่จะเดินไปข้างหน้าเท่านั้น
 
" ไม่ลืม เมื่อคืนก็เช็ค เมื่อเช้าก็เช็คแล้ว "เจไม่มีทางหลงกลง่ายๆ ชายหนุ่มร่างสูงยิ้มมุมปาก นึกขำกับมุกตื้นๆของอีกฝ่าย " เหลือเวลาอีกตั้งเกือบชั่วโมงไปนั่งร้านกาแฟไหม? "
"เห..เอาแบบนั้นเหรอ... ก็ได้นะ" คิโยโนบุว่า "กินอะไรก่อนขึ้นเครื่องก็ดี เผื่ออาหารบนนั้นไม่อร่อย นี่..นายไปแย่งพ่อครัว เขาทำงานไม่ได้นะ" คิโยโนบุกำชับเชฟหนุ่มพลางหัวเราะ ก่อนจะ คว้าแขนของอีกฝ่าย เดินไปที่ร้านกาแฟ


บรรยากาศร้านกาแฟในสนามบินนั้นไม่ได้เงียบสงบ หากแต่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน มีแต่เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ ทั้งเสียงภาษาบ้านเกิดและภาษาของคนต่างชาติ แต่ทั้งคู่ก็ยังมีกระใจสั่งกาแฟมาดื่มกันคนละแก้ว ถึงเจจะบอกว่าจะไม่เอาแต่คิโยโนบุก็ยืนกรานจะสั่งแซนด์วิซมาให้อีกฝ่ายอยู่ดี

" เดี๋ยวขึ้นเครื่องไป แอร์สวยๆ เขาก็เสริฟแล้วน่า "เจไม่วายจะแหย่อีกฝ่าย ก่อนจะสบตาอีกฝ่ายนิ่ง" คิโย.. "
"...อะไร...." คิโยโนบุมองหน้าอีกฝ่าย คำว่าแอร์สวยๆ ทำให้หงุดหงิดเล็กๆ แต่เขาก็ว่าอะไรไม่ได้หรอกชายหนุ่มว่าพลางขยับเสื้อแจ๊คเก็ตที่ใส่มากันหนาวเข้าหากันเล็กน้อย  

" ฉันยกห้องให้นายนะ "เจว่าพลางดึงเอากุญแจห้องออกมาจากอกเสื้อแล้วแล้วยื่นกุญแจห้องของตัวเองให้กับอีกฝ่าย

"เห?...เอ้ย...แล้ว.... " คิโยโนบุอุทาน แต่เมื่อมองเห็นสายตานั้นของอีกฝ่าย เขาก็ยิ้มและรับกุญแจมาโดยดี มือเรียวกำโลหะชิ้นเล็กนั้นไว้แน่นจนมันแทบจะฝังลงไปในมือ มันเจ็บ...ใช่...เขารู้ดี  

....นาย...อาจจะไม่กลับมา...ซิ่นะ...


"โอเค เดี๋ยวฉันจัดการให้...นายไม่ต้องห่วงนะ " มือเรียวอีกข้าง ยื่นไปกุมมือของเจเอาไว้เอาไว้ รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในมือแกร่งนั้น และตัวเองก็ส่งมอบอุณหภูมิของร่างกายไปให้กัอบอีกฝ่ายด้วย
 
" แล้วค่าประกันห้อง มัดจำ อะไรนั่น ฉันก็ยกให้นายด้วย "เชฟหนุ่มยิ้มให้คนรัก คำพูดนั้นเขาตั้งใจจะให้แบบนั้นจริงๆ
"เอางั้นเลย?... โอเค... จะเอาไปซื้อ กระดูกหมูมาต้มซุปตุนไว้ตอนหน้าหนาวก็แล้วกัน "คิโยโนบุพูดพลางหัวเราะ ก่อนจะบังคับให้อีกฝ่าย กินแซนดฺวิชที่สั่งมาให้หมด

พวกเขาใช้เวลาอยู่ที่ร้านหาแฟไม่นานนัก ตอนนี้เหลือเวลาอยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว...


" เอาล่ะ ไปกันเถอะ "หนุ่มผมดำลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งก่อน เจดูสงบลงมากอันที่จริง เจมีท่าทีสงบและดูเยือกเย็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไรกัน...ความคิดนี้ทำให้คิโยโนบุแปลกใจ...แต่มันก็เป็นความแปลกใจในทางที่ดี เพราะอย่างน้อย ความเยือกเย็นสุขุมของอีกฝ่ายนี่ล่ะที่ทำให้เขารู้สึกอุ่นใจ

ทันทีที่เจลุกจากเก้าอี้ มิอเรียวของคิโยโนบุเอื้อมไปจับมือใหญ่ของเชฟหนุ่มเอาไว้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองมือแกร่งนั้นสลับกับใบหน้าของชายหนุ่มผมดำก่อนที่ตัวเขาเองก็จะลุกขึ้นยืนเหมือนกัน
 
"เดินไป...แบบนี้นะ"

" เหมือนเด็กๆเลย "หนุ่มผมดำยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วบีบมือนั้นเบาๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามมา...เหมือนอย่างที่เคยทำ


จนเมื่อถึงหน้าเกท เสียงประกาศดังขึ้นเรียกผู้โดยสารที่จะไปอเมริกา หลายคนสะพายกระเป๋าเดินเข้าไปบ้าง ลากกระเป๋าเข้าไปบ้างมีอีกลายคนที่มาเพื่อบอกลา เช่นเดียวกับพวกเขาทั้งสองคน...เวลาเริ่มนับถอยหลังไปช้าๆไม่ถึงยี่สิบนาทีด้วยซ้ำ

" คิโย "เจหยุดเดินแล้วหันมาหาอีกฝ่าย ดวงตารีเรียวหากแต่มีพลังเมื่อสบตามองนั้น มองหน้าของอีกฝ่ายที่หันมาตามเสียงเรียก อะไรบางอย่าง ทำให้ทั้งคิโยโนบุและเจเองต้องหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คนที่เดินกันขวั่กไขว่ไปมา ท่ามกลางเสียงประกาศเรียก และเสียงพูดคุยกันในสนามบินนัั้้น ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนนั้นมีมากพอที่จะให้เกิดพื้นที่ที่เงียบที่สุดระหว่างสองใจขึ้นมาได้

หนุ่มผมดำกลืนน้ำลายที่รู้สึกคล้ายจะกลายเป็นก้อนแข็งๆลงคออย่างยากเย็นก่อนจะตัดสินใจพูดบางสิ่งที่เขาเฝ้าคิดทบทวน แต่ก็ได้แต่เก็บงำเอาไว้ในใจออกไป

" ...เราเลิกกันเถอะนะ... "


ถึงจะพูดไปแบบนั้นมือแกร่งของเจก็ยังไม่ยอมปล่อยมืออกจากอีกฝ่าย...ทั้งๆที่เขากำลังบอกเลิกกับชายหนุ่มผมสีน้ำตาลคนนี้อยู่แท้ๆ

"..... อืม....... "


ทั้งๆที่ตอบออกไปแบบนั้น แต่มือเรียวของคิโยโนบุกลับยึดมือแกร่งของเจเอาไว้แน่นเช่นกัน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนปิดลงเขาได้ยินเสียงตัวเอง สั่นมันสั่นมาจากข้างในอก


"เรา... เลิกกัน...เถอะ.... " คิโยโนบุเอ่ยซ้ำคำของอีกฝ่ายอีกครั้ง ภาวนาในใจให้อีกฝ่ายเป็นคนปล่อยมือจากเขาไปเสียก่อน

" เพื่อให้ฉันและนายเดินไปข้างหน้าได้อย่างไม่ต้องห่วงอะไรอีก..ฉันคิดแบบนี้..และอยากให้นายเข้าใจ "เสียงทุ้มของเจดังขึ้น เสียงนั้นช่วยเรียกให้คิโยโนบุลืมตาขึ้นสบดวงตาของคนที่เขารักจนสุดหัวใจอีกครั้ง
"ฉันเข้าใจ.... ฉันเอง ก็อยากให้เราเป็นแบบนั้นเหมือนกัน " มือเรียวบีบมือของอีกฝ่าย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของเจนิ่ง "บอกฉันซิ่ ...ว่านายจะไม่เป็นไร... " คิโยโนบุพูดออกไปแบบนั้น...เขาแค่อยากจะมั่นใจ ก่อนที่จะปล่อยมือแกร่งนี่ไป  

" ใช่ ฉันจะไม่เป็นไร จะเรียนให้จบแล้วกลับมาเปิดร้านของตัวเองให้ได้  "

...ซักวันนะ...


" นายก็เหมือนกันใช่ไหม? "เจยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะเป็นฝ่ายถามบ้าง

"อืม...ฉันจะไม่เป็นไร...เพราะฉันก็อยากจะเป็นครูที่ดี ที่ให้เวลากับนักเรียน...จะพาเด็กไปแข่งอินเตอร์ไฮให้ได้เลยคอยดู " ชายหนุ่มมองหน้าของอีกฝ่าย เป็นเหมือนจังหวะที่รู้กันเองในใจ สองมือปล่อยออกพร้อมกัน  พร้อมๆกับที่หน้าจอที่ปรากฏสถานะของเที่ยวบินได้กระพริบตัวอักษร Finall call แล้ว
หนุ่มผมดำยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินเข้าไปเพื่อต่อแถวตรวจเอกสารเตรียมพร้อมที่จะขึ้นบินโดยที่ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น....

เขา....ไม่สามารถบอกลาคิโยโนบุได้จริงๆ

คิโยโนบุเองก็หันหลังกลับโดยที่ไม่ได้บอกลาอีกฝ่ายเช่นกัน เขาทำไม่ได้หรอกกับการต้องบอกลากับ...คนที่เขารักมากที่สุด

แต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ร่างบางก็ต้องหยุด ก่อนจะหันกลับไปมองด้านหลัง ชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อโต๊ตตัวบางสีเข้มสำหรับฤดูใบไม้ร่วง ร่างสูงนั้นเดินตรงไปพร้อมกับกระเป๋าใบเก่งที่สะพายไปข้างกาย แผ่นหลังกว้างดูมาดมั่น...ยืดตรง ใบหน้านั้นคงมองตรงไปข้างหน้าไปสู่อนาคตของอีกฝ่ายที่เฝ้าฝันหามานาน


"โชคดีนะ...."



คิโยโนบุยิ้มชายหนุ่มมองภาพนั้นนิ่งราวกับจะจำภาพของชายหนุ่มร่างสูงคนนั้นเอาไว้ แล้วหันกลับไปยังประตูทางออก เพราะเขาเองก็มี ทาง ที่จะต้อง ไปเหมือนกัน

ส่วนจุนเองก่อนที่จะพ้นเข้าไปด้านใน เขาก็หันมามอง อดีต คนรักของเขาอีกครั้ง แต่สิ่งที่เห็นนั้นมีเพียงแผ่นหลังของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ค่อยๆเล็กลงเรื่อยๆเท่านั้น

... ซักวัน ฟ้าอาจจะทำให้เราได้พบกันอีกนะ .. คิโย ...
.......ซักวัน... จนกว่าจะถึงวันนั้น...ฉันจะพยายามต่อไป...



" โชคดี.. "


เขาพึมพำให้กับภาพของแผ่นหลังแบบบางนั้นแล้วหันหลังกลับเดินไปยังประตูทางออกที่จะเข้าสู่เครื่องบินโบอิ้งลำใหญ่ของสายการบินนานาชาติที่จะพาเขาไปสู่ฝัน ที่อเมริกา แน่นอนว่าไฟลท์นี้ของเขา เป็นการเดินทางเพียงลำพังเท่านั้น



Inoran / Walk along (http://www.youtube.com/watch?v=VwKNR29_pp8)

(romanijinized and translated by p.k.a)
 
幼い頃によく見ていた風景は なぜかセピア色に変わっていて
osanai goro ni yoku miteita fuukei wa naze ga SEPIA iro ni kawatteite
ภาพทิวทัศน์ที่มักคอยเฝ้ามองเมื่อครั้งยังเยาว์วัย ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นสีซีเปีย

それは今 見えている この鮮やかな景色を重ね合わせる為に
sore wa ima mieteiru kono asayakana keshiki wo kazaneawseru tameni
นั่นเป็นเพราะภาพที่มองอยู่ตอนนี้ คือ ภาพสีสดของทิวทัศน์ที่ซ้อนทับกัน

walk along 立ち止まらずに歩いてゆくんだ
walk along tachidomarazu ni aruite yukunda
walk along ก้าวเดินต่อไปไม่มีหยุด

grow tall 振り返らずに超えてゆくんだ
grow tall furikaerazu ni koete yukun da
grow tall ก้าวข้ามผ่านไปโดยไม่มีวันเหลียวมองด้านหลัง

何もかもがうまくいっているわけじゃないけど
nanikamo ga umakuitteru wake janai kedo
ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไปอย่างที่วาดฝัน

今こうして緩やかな気分でいられる
ima koushite yuruyakana kibun de irareru
แต่ในตอนนี้ ก็ยังรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนแบบนี้ได้

それはそう 明日への希望
sore wa sou ashita e no kibou
นั่นเพราะมีความหวังที่จะก้าวไปสู่วันพรุ่งนี้

渇いた喉を潤してくれるように
kawaita nodo wo uruo shite kureru you ni
เป็นเหมือนความชุ่นชื้นให้กับลำคอที่แห้งผาก

明らかな理想を見つけて きっときっと出来る
akirakana risou wo mitsuke kitto kitto dekiru
ค้นพบภาพฝันที่แจ่มชัด จะต้องทำได้ซักวัน จะต้องทำได้แน่นอน

walk along 立ち止まらずに歩いてゆくんだ
walk along tachi domarazu ni aruite yukun da
walk along ก้าวเดินต่อไปไม่มีหยุด

grow tall 振り返らずに超えてゆくんだ
grow tall furikaerazu ni koete yukun da
grow tall ก้าวข้ามผ่านไปโดยไม่มีวันเหลียวมองด้านหลัง

時は姿を変えてしまうけど 焦がれた心では奪えない
toki wa sugzta wo kaeteshimau kedo kogareta kokoro de wa ubaenai
แม้ว่าเวลาจะแปรเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเราไป แต่ก็ไม่สามารถช่วงชิงเอาหัวใจที่เฝ้าถวิลหานี้ไปได้

Walk along

立ち止まらずに歩いていきたい
tachidomarazu ni aruite ikitai
อยากจะก้าวเดินต่อไปไม่มีหยุด

明日へと続く かけがえのない
ashita e to tsuzuku kekagae no nai
เรื่อยไปยังวันพรุ่งนี้ที่ไม่มีอะไรจะมาแทนที่ได้

すべてが 癒えるまで
subete ga ieru made
จวบจนวันที่ทุกสรรพสิ่งจะได้รับการเยียวยา


END



@@@@ Writer's Talk @@@@

เผลอกันไปแป๊บเดียว...จบซะแล้ว...
พีจังยังตกใจ... ตกใจจริงๆ ตอนจะโพสต์แอบมีอึ้ง :a5: นึกมุกคุยไม่ออกกันเลยทีเดียว
จบแล้วจริงๆค่ะ ความรักของคนสองคน เป็นยังไงกันบ้างคะ คิดว่าไม่ได้หักดิบจบกันเกินไปนะ ฮ่าๆ
ถ้าเป็นไปได้ พีจังก็แอบอยากให้ผู้อ่านเข้าไปฟังเพลงที่แปะไว้ให้ทั้งตอนต้นเรื่อง กับจบเรื่องนะคะ
ในยูทูบ มีแน่นอน หุหุ ...ถ้าได้ฟัง อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกใหม่กับ เรื่องนี้ขึ้นมาก็ได้

ต้องขอขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่ะ ที่ติดตามและให้กำลังใจ พี่เจเองก็ดี คิโยเองก็ดีมาโดยตลอด หรือแม้แต่ตัวไรท์เตอร์กับโคไรท์เตอร์ เองก็ดี

พวกเรา kuruma & p.k.a ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกคนเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:

และอาจจะกระทันหันไปซักหน่อย แต่.....

มีเรื่องใหม่มาให้อ่านกันด้วยล่ะ !! คอยติดตามอ่านกันนะคะ พวกเราพยายามที่จะเขียนกันให้ได้ หลากๆแนวๆ หลายๆอารมณ์ค่ะ ฝากไว้ด้วยนะคะ  

COMING SOON!!!

(http://i270.photobucket.com/albums/jj87/goldfishpka/touchingyou.jpg)
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 21-11-2010 13:35:31
เง้อ จริงๆๆด้วย :o12:เลิกกันทั้งๆที่ยังรักกัน
มีตอนพิเศษมั้ยอ่า 5ปีให้หลังไรแบบเนี้ย จบแบบนี้มันสมเหตุสมผลดี
แต่มันไม่ใจอ่ะพีจัง วันนี้ในเล้ามีแต่เรื่องเศร้าอ่านมาสองเรื่อง
น้ำตาแตกไปล่ะเจอพีจังเข้าไปอีก o22
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-11-2010 14:09:12
จบแบบนี้
เหตุผลได้
แต่ใจไม่รับอ่ะ  :a5:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 21-11-2010 17:01:27
ใจสลายครับ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 29-11-2010 17:39:53
ก็ดีนะ เรียบง่ายดี เฮ้อออออออ~
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Beerkuran ที่ 03-05-2011 00:04:53
อ่านจบแล้วร้องไห้เลย

อินไปไหมเนี่ยเรา

หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 05-05-2011 22:06:56
เออ คือว่าคือ ไม่มีแบบ กลับมาอยู่ด้วยกันเหรอออออออออออออ :monkeysad:
ขอบคุณค่ะ  :L2: :m15:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 06-05-2011 17:14:43
เราว่าจบแบบนี้ดีแล้วหล่ะ
สงสารเจ
ส่วนตัว เรารับไม่ได้กับคนไม่ซื่อสัตย์
เผลอใจทำไปครั้งหนึ่ง สักวันก้อต้องทำอีก

เมื่อไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน เลิกกันหน่ะดีแล้ว
ตอนจบถูกใจเค้ามากค่ะ กลับมาเป็นเพื่อนกันหน่ะดีแล้ว
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 11-10-2011 12:42:15
อ๊ากจบแบบนี้ เศร้าเลย อยากให้มีตอนพิเศษ หรือภาคต่ออะ
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 13-10-2011 17:45:00
เป็นเรื่องที่จะมาร์กติดดาวในใจเลยค่ะ

ชอบวิธีการเขียนที่ดูสมจริงนะคะ เรื่องการสื่ออารมณ์ความสับสนของตัวละครนี่ทำได้เยี่ยมไปเลย ขาดก็แค่ว่าอยากให้รีไรท์ดูเรื่องคำผิดกับเรื่องการไฮไลท์ตัวอักษรหน่อยน่ะค่ะ รู้สึกบางทีมันดูเยอะเกินไป

จบแบบนี้ก็ดีค่ะ เพียงแต่...อยากรู้ช่วงเวลาหลังจากนี้อีกอ่ะ!

มามิยะตามไปจีบถึงโอกินาว่ามั้ย

จุนได้เจอใครที่นู่นรึเปล่า

พอจุนกลับมาจะไปหาคิโยมั้ย

อยากรู้ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 20-10-2011 19:31:50
เป็นเรื่องที่จะมาร์กติดดาวในใจเลยค่ะ

ชอบวิธีการเขียนที่ดูสมจริงนะคะ เรื่องการสื่ออารมณ์ความสับสนของตัวละครนี่ทำได้เยี่ยมไปเลย ขาดก็แค่ว่าอยากให้รีไรท์ดูเรื่องคำผิดกับเรื่องการไฮไลท์ตัวอักษรหน่อยน่ะค่ะ รู้สึกบางทีมันดูเยอะเกินไป

จบแบบนี้ก็ดีค่ะ เพียงแต่...อยากรู้ช่วงเวลาหลังจากนี้อีกอ่ะ!

มามิยะตามไปจีบถึงโอกินาว่ามั้ย

จุนได้เจอใครที่นู่นรึเปล่า

พอจุนกลับมาจะไปหาคิโยมั้ย

อยากรู้ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะ
เรื่องนี้ เขียนกันสองคน กับ kuruma ค่ะ
คนเขียนก็พยายามจะเขียนออกมาให้ดีที่สุดค่ะ
สำหรับเรื่องของคำผิด คงต้องขอเวลาซักหน่อยนะคะ จะพยายามแก้ไขค่ะ
และเรื่องของการเน้นคำ ...ส่วนตัวพีจัง ที่เป็นคนโพสต์ ต้องขอโทษที่อาจจะทำให้รบกวนการอ่านนะคะ
แต่ก็คิดว่าส่วนหนึ่งมันอาจสื่อถึงน้ำหนักของเสียง หรือ คำๆนั้นได้มากกว่าเดิมค่ะ เลยต้องเน้นลงไป

และต้องขอบคุณที่อยากทราบเรื่องราวต่อไปของตัวละคร ส่วนตัวคิดว่านิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของ จุน กับ คิโย เสียมากกว่า
เมื่อความสัมพันธ์นั้นจบลง เรื่องราวคงต้องจบลงไปด้วย ถามว่าเคยคิดอยากเขียนตอนพิเศษกันไหม ก็ยอมรับว่าเคยค่ะ
แต่เรื่องมันอาจจะ "ไปกันใหญ่" มากกว่านี้ก็เป็นได้ พีจังคิดว่า พอแล้วล่ะค่ะ แอบสงสาร จุนกับคิโย สองคนนี้เจออะไรกันมามากเกินพอแล้วล่ะค่ะ

คนโพสต์ p.k.a
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 31-05-2013 22:02:43
หวังว่าซักวัน เขาสองคนจะกลับมาเจอกันนะคะ :)
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 16-11-2015 08:18:48
อ่านจบแล้วอธิบายไม่ถูก เรน่าเคยผ่านช่วงต้องห่างคนรักเป็นปีมาแล้ว เลยเข้าใจความคิดเรื่องบอกเลิกเพื่อปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ ถ้ามองอีกด้าน มันก็เหมือนกลายเป็นคนแปลกหน้า แยกชีวิตออกจากกัน แยกทางกันเดินโดยสิ้นเชิง (พอจุนกลับมา จะหากันเจอหรือเปล่ายังไม่รู้เลย)

ส่วนตัวเรน่าคิดว่าความผูกพันสำคัญ ถ้าขาดตรงนี้ไป กลับมาต่อให้ติดในอนาคตยากมาก

เขียนได้ดีนะคะ มีด้านเทาๆ มีช่วงที่อ่านแล้วอึดอัด อยากจะว้าปเข้าไปตบหัวตัวละคร 555
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: w-for-winnie ที่ 19-11-2015 16:04:15
สนุกดีค่ะ อารมณ์เทาๆของเรื่องดูเรียลดี

แต่อยากให้มีตอนพิเศษมากๆเลยค่ะ เพราะรู้สึกเหมือนว่าตอนจบจะออกแนว Cliff hanging ซะหน่อย เพราะจุนบอกว่าจะกลับมาเพื่อเป็นเชฟใหญ่ เราเลยอยากอ่านตอนที่จุนบรรลุเป้าหมายนั้น หรือจะยอมแพ้แล้วไม่ยอมกลับมา (แต่เราหวังว่าจุนจะบรรลุเป้าหลายของตัวเองนะ)

อยากรู้ว่าถ้าจุนกลับมา ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะเป็นยังไง จะกลับเหมือนเดิมหรือเปล่า หรือจะเป็นแค่คนรู้จักจะต่างคนต่างดำเนินชีวิตของตัวเองให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองแล้วเก็บ 'เศษเสี้ยวเวลา' ที่เคยมีร่วมกับอีกฝ่ายให้เป็นแค่ความทรงจำดีๆ

รู้สึกค้างจริงๆนะ  :katai1: :katai1: :katai1:

ขอตอนพิเศษนิดนึง สั้นๆก็ยังดี แต่ยาวๆก็จะดีมากกว่า  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Pieces of Time - Toki no Kakera - (เศษเสี้ยวเวลาของเราสองคน) (UP CH45 END จบแล้วค่า) 21/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 25-06-2017 11:29:47
 :mew1: