พิมพ์หน้านี้ - Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: aiaea83 ที่ 17-07-2016 18:50:12

หัวข้อ: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 17-07-2016 18:50:12
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


Just you and I เพราะนายคือของฉัน



ก่อนอื่นต้องกราบสวัสดีทุกๆ ค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งลงในนี้ รู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ

หากตรงไหนมีข้อติหรือข้อบกพร่อง ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

หวังว่าเรื่องนี้จะถูกใจทุกคนค่ะ

จากใจถึงใจ



สารบัญ


[Intro]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3425775#msg3425775)
 [1]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3425808#msg3425808)  [2]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3426203#msg3426203)  [3]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3426209#msg3426209)  [4]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3426345#msg3426345)
 [5]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3426524#msg3426524) [6]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3427055#msg3427055) [7]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3427397#msg3427397)  [8]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3428327#msg3428327)
 [9]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3428658#msg3428658) [10]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3430288#msg3430288) [11]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3431290#msg3431290)  [12]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3431658#msg3431658)
 [13]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3432557#msg3432557) [14]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3432996#msg3432996) [15]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3433763#msg3433763) [16]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3434483#msg3434483)
 [17]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3435272#msg3435272) [18]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3435784#msg3435784) [19]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3436665#msg3436665) [20]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3436902#msg3436902)
 [21]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3437473#msg3437473) [22]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3438602#msg3438602) [23]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3439427#msg3439427) [24]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3439827#msg3439827)
 [25]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3440502#msg3440502) [26]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3440872#msg3440872) [27]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3441362#msg3441362) [28]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3441632#msg3441632)
 [29]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3442020#msg3442020) [30]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3442289#msg3442289) [31]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3443010#msg3443010) [32] [END]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3443412#msg3443412)
 [Part Zho l]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3429533#msg3429533) [Part Zho ll]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3430046#msg3430046)


ตอนพิเศษ พี่โช x น้องกลอย

สงคราม  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3443417#msg3443417)
18 อีกครั้ง [Part1] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3444273#msg3444273)[Part2] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3444524#msg3444524)[Part3] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3445044#msg3445044)
 ทะเลาะ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3445352#msg3445352)
 ฝอยขัดหม้อ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3449460#msg3449460)
 พาหมาไปทำหมัน  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3452726#msg3452726)
 งานขาวดำ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3455048#msg3455048)
 วันเกิด  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3455792#msg3455792)
 เหล้ายังไม่หมด อย่าเพิ่งนับศพคนเมา  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3458915#msg3458915)
 งานเข้า  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3461751#msg3461751)
คนละวัน[1] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3464008#msg3464008)  [2] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3464616#msg3464616)  [3]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3465840#msg3465840)
 คำคืนแห่งความวุ่นวาย  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3470343#msg3470343)


ตอนพิเศษ ซัน xจอม

[Part 1]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3445556#msg3445556)  [Part 2]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3446146#msg3446146)  [Part 3]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3446420#msg3446420)  [Part 4]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3447449#msg3447449)  [Part 5]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3448549#msg3448549)
 เปลี่ยน  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3453591#msg3453591)
 เข้าใจ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3466294#msg3466294)


ตอนพิเศษ เบ x ทู

[Part 1] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3449094#msg3449094) [Part 2] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3450141#msg3450141) [Part 3] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54801.msg3451570#msg3451570)





*** หมายเหตุ เนื้อเรื่องและสถานที่ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องสมมตินะคะ***
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>บทนำ<< // [17/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 17-07-2016 18:54:54
บทนำ





         ผมไม่รู้หรอก ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันคืออะไร แต่ที่แน่ๆ มันไม่ดีต่อร่างกายผมแน่ๆ ทางที่ดีผมควรจะอยู่ในที่ของผมนี่แหละ ไม่อย่างนั้น ผมอาจจะซวยได้


   ตอนนี้ผมอยู่ไหนนะเหรอ ผมนั่งหมอบอยู่ข้างถังขยะเปียกในซอยที่แสนจะมืด แล้วผมมานั่งหมอบทำซากอะไรตรงนี้อีกนะเหรอ ก็เพราะผมมาสูบบุหรี่กับออกมาคุยโทรศัพท์กับแฟนของผมเอง ที่เลือกมาหลังไนท์คลับนี้ก็เพราะมันเงียบ ใช่แล้ว ผมแอบแฟนของผมมา ซึ่งเธอไม่ชอบให้ผมออกมาเที่ยวกลางคืน อาจเพราะเธอเป็นเด็กเรียนด้วยละมั้ง


   ผมรู้จักกับแฟนคนนี้เมื่อตอนเรียนมัธยม แม้ผมจะจบโรงเรียนชายล้วนมา แต่มีที่ๆ ผมจะต้องพบเจอสาวๆ มากมาย นั่นก็คือโรงเรียนกวดวิชา ในตอนม.ห้า เพราะถูกเพื่อนยุหรืออะไรก็ช่าง มันทำให้ผมใจกล้าเดินเข้าไปขอเบอร์สาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้ม ตอนแรกดูเหมือนจะอกหักตั้งแต่ไม่ได้เริ่ม แต่ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรโดนใจให้เธอยอมแลกพิณกัน (สมัยนั้นฮิตบีบีนะเออ)


   ผมตามจีบแฟนคนนี้ของผมนานเกือบปีจนเธอใจอ่อนยอมคบกับผม ผมเคยถามถึงอนาคตของเราสองคน เธอตอบเพียงว่า ขอเรียนก่อน จบแล้วค่อยว่ากัน ซึ่งมันก็ดีอยู่หรอก แต่เพราะเธอดูไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลก ทำให้ผมที่คบกันมาเกือบๆ จะสองปี ไม่เคยแม้แต่จะหอมแก้ม เอ่อ ผมนี้โคตรเป็นคนดีเลยเถอะ


   มาเข้าเรื่องต่อ ตรงหน้าของผม ไม่สิ ตรงหน้าของกองขยะเปียกกำลังมีคนต่อยกันอยู่ ฝ่ายที่ดูจะได้เปรียบเพราะมากันอย่างเยอะ แทบจะสิบคนทำเอาซอยนี้แคบไปถนัดตา ส่วนอีกฝ่ายก็ดูจะแพ้ตั้งแต่เห็นจำนวนคนแล้ว


   สองต่อสิบ โคตรลูกผู้ชายเถอะให้ตาย


   ส่วนผมเป็นพวกไม่ชอบใช้กำลัง เลยได้แต่แอบอยู่แบบนี้ไงเล่า    


   เสียงคุยกันเสียงดังพอจับใจความได้ว่า ไอ้สองคนนั้นมายุ่งกับเมียของหัวหน้า เลยถูกลูกน้องมาตามเก็บ เอ่อดีเนาะ หัวหน้าสั่งแล้วสั่งสบายๆ ในร้าน โดยให้ลูกน้องออกมาลำบากเอง


   “มึงจะเอายังไง ผู้หญิงนั่นมายั่วพวกกูเอง” เสียงทุ้มนุ่มชนเคลิ้มดีเหมือนกันนะ ไอ้หนึ่งในสองคนนั้นน่ะ ผมไม่เห็นหน้าพวกมันหรอก เพราะซอยนี้มีแค่ไฟกริ่งดวงเล็กๆ บรรยากาศโคตรสยองเหอะให้ตาย


   “พวกมึงเข้าหาเมียลูกพี่กูก่อน กูเห็น” หนึ่งในกลุ่มหมาหมู่ตะคอกก่อนจะพุ่งขยำคอเสื้ออีกฝ่าย


   “กูว่า พวกมึงควรตัดแว่นนะ สายตาคงจะสั้นเกินไป หึ” ผมแอบมองพวกเขาอย่างลุ้นระทึก ยิ่งพอไอ้คนถูกขยำคอเสื้อพูดจบ มันก็ยกมือขึ้นมาจับมือที่อยู่ที่คอเสื้อมัน ไม่นานก็หมุนร่างยักษ์นั่นติดกำแพงพร้อมกับเสียงโอดโอยเมื่อแขนถูกจับไพร่หลัง


   โคตรเทพอะ มองเกือบไม่ทัน


   แล้วการตะรุมบอลก็เกิดขึ้น ฝ่ายมากกว่าได้เปรียบแน่ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ไม่ถึงนาที ร่างยักษ์ก็นอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ที่พื้นถนน


   ไอ้สองคนนั้นไม่ธรรมดา เป็นพวกเหนือมนุษย์แน่ๆ


   “กลับไปบอกลูกพี่มึงด้วยว่า ดูแลเมียให้ดี เผลอๆ เมียมันอาจกลายเป็นเมียคนทั้งผับไปแล้ว” เพื่อนไอ้คนถูกขยำคอเสื้อพูดพลางใช้เท้าเขี่ยร่างที่นอนอยู่ที่พื้นอย่างสมเพช


   “ไปเถอะ” ไอ้คนถูกขยำคอเสื้อแตะไหล่เพื่อนมันเบาๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณ ทำเอาผมรีบหดหัวแทบไม่ทัน


   ขวัญเอ๊ย ขวัญมา เกือบถูกเห็นแล้วไอ้กลอยเอ้ย


   ผมยกมือขึ้นลูบอกตัวเองเบาๆ เมื่อเกือบถูกสายตานั่นเห็นหัวที่โผล่ไปมอง ดีที่ไถลลงมาทัน แม้กางเกงยีนส์แสนแพงจะถูไปกับส้มเน่าก็เถอะ ไม่นะ ยีสของพ่อ พ่อเพิ่งซักเจ้าไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว นี่จะได้ซักอีกแล้วเหรอ โฮกก


   แต่ก่อนจะดราม่านักกว่านี้ เสียงริงโทนธรรมดาตึ๊ดๆ ก็ดังขึ้นพร้อมกับแรงสั่นในกระเป๋ากางเกง ผมเบิกตากว้างรีบล้วงเข้าไปเพื่อจะกดหยุด ตายแน่ๆ ไอ้กลอยแกตายแน่ แล้วทำไมวันนี้กางเกงมันฟิตเกินไปวะ หยุดร้องๆ โอย พอหยิบได้ผมก็รีบปิดทันที ก็ไอ้พวกเพื่อนผมข้างในมันโทรตาม สงสัยเห็นหายไปนาน แต่พวกมึงไม่ดูสถานการณ์ของกูเล้ย ว่าตอนนี้มันลำบากแค่ไหน


   แล้วแรงสั่นกับเสียงเพลงก็ดังขึ้นอีกรอบในมือทำเอาผมสะดุ้งโหยง เชี่ย ผมนี่กดปิดแทบไม่ทัน


   “ทำไมมึงไม่รับ” เสียงลอยมากับลม


   “เชี่ย ถ้ารับ ไอ้พวกนั้นก็รู้สิว่ากูอยู่นะ...นี่”


   ซวยครับ ผมที่นึกขึ้นได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วเสียงทุ้มที่ได้ยินเคยได้ยินมาจากไหน พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เจอไอ้สองคนที่ใช้แค่มือกับเท้าล้มยักษ์ได้ถึงสิบ


   ผมกระพริบตาถี่ๆ เมื่อถูกนัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมา หนาว ต้องบอกแบบนี้ เพราะอยู่ๆ ขนแขนกลับแสตนอัพขึ้นมาเฉย นี่มันฤดูหนาวหรือเปล่าวะเนี่ย


   “เอ่อ...”


   “มึงเป็นพวกนั้นเหรอ” ผู้ชายอีกคนที่มาด้วยถามพร้อมกับชี้นิ้วไปทางคนที่ยังนอนอยู่ที่พื้นอย่างสบาย


   เอ่อ กูยังไม่อยากสบายตอนนี้


   ผมส่ายหน้าเป็นพลันวัน “ไม่เกี่ยวเลย ไม่เกี่ยวข้องเลยจริงๆ”


   “เหรอ...” ไอ้คนที่ถามพนักหน้ารับเบาๆ ดูคนนี้ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ไอ้คนน่ากลัวมันกำลังจ้องผมอยู่นี่ไงล่ะ จ้องอะไรขนาดนั้นวะ “ไปเถอะ พวกไอ้เบรออยู่” เชิญครับเชิญ รีบๆ ไป กูกลัว


   “เอาไอ้นี่ไปด้วย” ไอ้ตาดุบอกเพื่อนมันทั้งๆ ที่ตายังจ้องผมอยู่ นี่คุณมึงกระพริบตาบ้างหรือเปล่า


   “ห๊ะ” ผมอ้าปากเหวอ จะเอากูไปไหน


   “เอาไปไหนวะ” เออดี กูก็อยากรู้


   “เอาไปที่โต๊ะ” เสียงทุ้มบอกเรียบๆ ก่อนจะยื่นมือยาวมาจับคอเสื้อผมให้ยืนขึ้น


   เชี่ย มันเล่นดึงอย่างแรงจนคอเสื้อจุกคอแทบหายใจไม่ออก แถมยังลากผมให้เดินตามอีก ไอ้บ้านี่มันเป็นใครวะ แล้วมึงจะรีบไปตามควายหรือไง แล้วอยากได้เสื้อกูขนาดจะดึงให้ขาดเลยใช่มั้ยวะ ถ้ารู้ว่าออกมาข้างนอกวันนี้จะต้องเจอเรื่องซวยไปตลอดแบบนี้ ผมน่าจะเชื่อแฟนตัวเองว่าให้นอนตีพุงตบยุงอยู่ที่ห้องดีกว่า ไม่น่าเลยไอ้กลอย พรุ่งนี้อาจมีหัวข้อข่าวพาดหน้าหนังสือพิมพ์ว่ามึงถูกฆ่าหมกป่า ไอ้น่าเลยจริงๆ


...




ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 1<< // [17/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 17-07-2016 19:40:34
Just you and I : 1




        ตุ้บ เสียงตัวผมถูกโยนลงบนโซฟานุ่ม แม้ไม่เจ็บมาก แต่ก็เจ็บ ไอ้บ้าพลังนี่ลากผมจากหลังร้านเข้ามาในไนท์คลับที่ผมกับเพื่อนมาดื่มเที่ยวกัน อาจเพราะมัวสนใจคอกับก้นตัวเองจนลืมสนใจรอบข้าง พอเงยหน้าขึ้นมาผมแทบผงะ ผมกำลังนั่งอยู่ในวงล้อมของพวกผู้ชายที่เหมือนถูกสต๊าฟไว้ บางคนยกแก้วค้างที่ปาก บางคนกำลังจับคางแม่สาวดาวยั่ว บางคนก็อ้าปากค้างรอแมลงวันบินเข้าไปไข่

   พวกนี้คือใครผมไม่รู้จักสักคน เอากูมานี่ทำไมกัน

   แค่ไม่นานทุกคนรอบโต๊ะก็กลับมาโวยวายเหมือนเดิม แต่ก็มีบ้างที่แอบๆ เหลือบตามองผม แปลกนะ ทำไมไม่มีใครถามอะไรสักคน ทั้งๆ ที่มีคนแปลกหน้ามาร่วมโต๊ะแบบงงๆ จนสุดท้ายพวกนั้นก็คงอดที่จะอยากรู้ไม่ได้

   “มึงไปหิ้วเด็กที่ไหนมาวะ ตัวแมร่งขาวเว่อร์” ไอ้คนที่อ้าปากค้างถามไอ้ตาดุเสียงดังตามเพลงที่กระหึ่ม

   ที่จริงผมไม่ได้ขาวมากหรอก อาจเพราะตรงนี้เป็นโซนเก้าอี้วีไอพี เลยมีแสงไฟส่องลงมา แล้วผมก็นั่งตรงแสงกระทบพอดี
 
   “แถวนี้แหละ” ไอ้ตาดุบอกเพื่อนมันก่อนจะยกแก้วเหล้าหลังเพื่อนมันชงให้ขึ้นมาจิบ พลางใช้หางตามองผมนิ่งๆ

   โคตรน่ากลัวอ่ะ   

       “กูก็ว่า พวกมึงหายไปนาน ที่แท้ก็ไปหาเด็กนี่เอง”

   กูไม่ใช่เด็กหิ้วไอ้ห่า ส่วนไอ้ตาดุที่นั่งข้างผมก็ไม่เถียงสักคำ มึงบ้าป่ะถามจริง

   ผมยืดคอมองหาโต๊ะเพื่อนตัวเองที่ดูน่าจะนั่งห่างไกลตรงนี้พอสมควร แล้วยิ่งวันนี้วันศุกร์ คนในนี้เลยแน่นอย่างกับรังปลวก เห็นแต่หัว

   “มึงมองหาอะไร” ไอ้ตาดุถามผมครับ แต่มึงช่วยขยับไปหน่อยก็ได้ กูร้อนครับ

   ‘มองหาพ่อง’ ผมพูดไร้เสียง ไอ้ตาดุมันคงอ่านออก หน้างี้ตึง ตาที่ดุแล้วยิ่งเพิ่มความเย็นชาจนผมเริ่มหนาวขึ้นมาอีก

   “ผะ ผมมองหาเพื่อน” ผมตอบแบบสุภาพเพราะกลัวถูกงับหัว

   ที่จริงพอมานั่งตรงนี้ก็เพิ่งเห็นใบหน้าชัดๆ ของไอ้ตาดุครับ มันจัดได้ว่าหล่อทีเดียว ผมคงบรรยายผู้ชายหล่อไม่ได้เพราะผมก็หล่อเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ มันหน้าตาดีที่สามารถเข้าวงการเป็นดารานักร้องได้เลย เอาจริงๆ พวกเพื่อนมันหน้าตาดีกันทุกคนครับ สงสัยจะเป็นกลุ่มนายแบบแน่ๆ แถมยังมีสาวล้อมหน้าล้อมหลังกันเกือบทุกคนยกเว้นไอ้ตาดุที่นั่งเบียดผมนี่แหละ หน้าตาดีกว่าคนอื่นแท้ๆ แต่ดันไม่มีสาวมาคลอเคลีย แต่ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่เข้าใกล้มันหรอก ดูรังสีที่แผ่ออกมารอบตัวสิ เหมือนมีไอเย็นๆ ลอยอยู่รอบตัว ยิ่งหน้าตาที่ปั้นนิ่งกับดวงตาที่โคตรดุยิ่งการพูดที่ไร้มนุษย์สัมพันธ์ด้วยยิ่งแล้วใหญ่ คนแบบนี้ผมขอบายจริงๆ 

   พอผมพูดสุภาพใส่ ดวงตาดุก็เริ่มเรียบเฉยขึ้น คิ้วที่ขมวดก็ค่อยๆ คลายออก จนผมอยากถอนหายใจ

   “มึงถอนหายใจทำไม”

   ห๊ะ นี่ผมเพียงแค่คิดนะเนี่ย

   “ปะ เปล่า” ยิ้มยิ้มแหยๆ ให้ ก่อนจะสำรวจคนที่นั่งรอบโต๊ะต่อ ก็จะให้ผมเล่นจ้องตาไอ้คนข้างๆ เหรอ มันคงไม่ใช่ แม้จะรู้ดีว่ามันกำลังจ้องผมอยู่ก็ตาม “เอ่อ ผมขอกลับโต๊ะตัวเองได้หรือเปล่า” เหมือนกลั้นใจถามเพราะเริ่มเบื่อ คือผมมานั่งนี่หลายนาที น้ำ เหล้าก็ไม่มีให้ คือผมมาที่นี่เพราะอยากเมา ถ้าให้มานั่งเฉยๆ มันไม่ใช่หรือเปล่าวะ

   “โต๊ะมึงอยู่ตรงไหน” เสียงเข้มมาเลยครับ

   ผมมองหาโต๊ะตัวเองก่อนชี้ๆ ไปมั่ว คือเอาจริงๆ ผมก็จำโต๊ะตัวเองไม่ค่อยได้หรอก เพราะตอนออกไปสูบบุหรี่มันก็เดินวนไปมาจากโต๊ะ แถมยังต้องเบียดคนออกไปอีก พอจะกลับไปนี่คิดหนัก

   “มึงตั้งใจบอกกูหรือเปล่าวะเนี่ย”

   “คือเอาจริงๆ ป่ะ คือผมจำโต๊ะไม่ได้อ่ะ”

   “มึงโคตรโง่เลยว่ะ”

   เชี่ย มันด่าผมว่าโง่อ่ะ แม้จะโดนเพื่อนด่าบ่อย แต่ไอ้นี่ผมไม่เคยรู้จัก เพื่อนก็ยังไม่ใช่ มึงกล้าดียังไงมาด่ากูวะ 

   ผมกัดฟันขบกรามกลั้นความโกรธเอาไว้ เพราะรู้ว่านี่ถิ่นมันครับ ถ้าขืนอาละวาด ผมคงเละแน่ นับจากตีนก็หลายสิบคู่อยู่

   “ขอโทษที่โง่” ผมตอบ ก่อนมือถือผมจะสั่นอีกรอบ ผมยิ้มทันทีที่เห็นชื่อเพื่อนสนิทโชว์หราอยู่ แต่พอจะกดรับ มือถือคู่ใจก็ลอยหวือไปอยู่ในมืออีกคน

   ...และมันก็กดรับ

   “เพื่อนมึงอยู่กับกู โต๊ะพวกมึงอยู่ไหน” นี่มันจะถามหรือจะหาเรื่องวะ

   ระหว่างที่มันนิ่งฟังเพื่อนผมบอก ดวงตาดุมันก็คอยจ้องกดดันผมตลอดเวลา ไม่นานมันก็ครางรับอือแล้วก็วางไป สรุปแล้วโต๊ะผมอยู่ไหนละ

   “เอ่อ...”

   “มึงนั่งนี่แหละ เพื่อนมึงกลับไปแล้ว” เสียงเรียบๆ ตอบมาทำเอาผมเบิกตากว้าง

   ไอ้เพื่อนชั่ว พวกมึงกลับไปทั้งๆ ที่กูถูกกักขังแบบนี้เรอะ

   “เพื่อนผมกลับแล้ว ผมขอกลับได้ป่ะ”

   “ทวนคำที่กูพูดเมื่อกี้”

   ผมกระพริบตามอง คือไม่เข้าใจที่ไอ้ตาดุพูด แต่ก็เผลอทวนคำพูดมันไป “มึงนั่งนี่แหละ...เฮ้ย แต่คือผม...” ผมพยายามจะอธิบายว่าเพื่อนไม่อยู่ ผมก็ต้องกลับไง แล้วผมมากับไอ้ทู มันกลับไปก่อนแล้วผมจะกลับยังไง

   “ผัวเมียคู่นี้ทะเลาะเรื่องไรกันวะ” เสียงล้อเลียนของคนในกลุ่มดังขึ้นทำเอาคนที่นั่งอยู่รอบๆ หัวเราะดังลั่น

   ผัวเมียเชี่ยไรละ ผมส่งสายตาขุ่นมองไอ้คนที่พูด อยากจะเถียงใจจะขาด แต่ไอ้คนนั่งข้างกลับยกแก้วเหล้าจิบแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว คือมึงช่วยอธิบายกับเพื่อนมึงทีเถอะ กูยังอยากมีเมีย ไม่ใช่อยากจะเป็นเมียเสียเอง

   “ไอ้ห่าแทม มึงก็ไปแซวมัน” ไอ้คนที่มีน้องโนตมเกยตักอยู่พูดไปขำไป

   “โด่ มึงก็อยากรู้ ไอ้เบขี้เสือก”

   แล้วพวกมันก็หัวเราะกันทั้งกลุ่มครับ

   “ว่าแต่เมียมึงชื่ออะไรวะไอ้โช” ไอ้ขี้เสือกที่เพื่อนมันด่าถามเพื่อนมันที่นั่งเงียบอย่างเดียว

   ไอ้ตาดุมันชื่อโชนี่เอง

   “กูไม่รู้” เสียงนิ่งๆ ตอบเพื่อนมันครับ เอ่อ ถ้ามึงรู้ก็แปลกละ

   “อ่าว”

   “ฮะๆ พวกมึงก็คิดไปไกล กูกับไอ้โชไปเจอไอ้เด็กนี่ข้างกองขยะเลยหิ้วมาด้วย” เพื่อนไอ้โชที่อยู่ในเหตุการณ์หมาหมู่อธิบายครับ

   “เชี่ย เด็กข้างกองขยะเหรอวะ” เอ่อกูเอง “แมร่ง เดี๋ยวกูต้องไปหาบ้างเผื่อจะเจอแบบนี้สักคน” แล้วเสียงหัวเราะก็ดังลั่น

   พวกมึงไปตั้งคณะตลกไป 
   
      “แล้วมึงไม่เจอแบบนี้อีกคนเหรอวะไอ้จอม”

   “ไม่เจอว่ะ” เพื่อนไอ้โชชื่อจอม หน้าตามันก็สูสีเพื่อนมันแหละครับ แต่ตาไม่ดุเท่า บรรยากาศรอบตัวดูอบอุ่นกว่าไอเย็นเยอะ

   พวกมันคุยเรื่องผมได้อีกหน่อยก็เปลี่ยนมาสนใจสาวๆ ที่เดินเข้ามาหาอีกระลอก โซฟาไม่มีแห้งจริงๆ ไอ้พวกนี้ ที่จริงผมก็แอบอิจฉาอยู่นะ ผมก็อยากมีสาวมานั่งข้างให้ลวนลามบ้าง แต่ติดตรงผมมีแฟนแล้ว ผมรักเดียวใจเดียวครับบอกเลย

   ในระหว่างที่ผมเผลอจ้องหน้าอกสาวที่กำลังเบียดอยู่ที่อกไอ้จอม หน้าผมก็ถูกมือใหญ่จับแล้วหันมาอีกทาง ซึ่งก็หันมาทางหน้าไอ้คนที่ถือวิสาสะนั่นแหละ ไอ้เชี่ยนี่ชอบใช้กำลัง ทำคอผมแทบเคล็ด

   “เชี่ยไรครับเนี่ย” ผมสถบออกมาพร้อมกับยกมือนวดต้นคอที่ถูกหมุนอย่างเร็ว

   “มองทำไม” เสียงนิ่งเย็นจนผมต้องมองหน้า คือมึงโกรธอะไรกูวะ แล้วมันถอนหายครับ “มึงชื่ออะไร”

   ผมมองหน้ามันเพราะกำลังคิดอยู่ว่า จะบอกชื่อจริงๆ หรือบอกมั่วๆ ดี แต่ถ้าบอกมั่วแล้วมันรู้ มันจะต่อยผมหรือเปล่า ชื่อจริงก็ได้วะ

   “ชื่อกลอย”

   “ไม่ได้ตั้งมามั่วๆ แล้วบอกกูใช่มั้ย” นั่นไง ผมว่ามันต้องคิดเหมือนกัน

   “เอ่อสิ ชื่อจริงๆ”

   มันพยักหน้าครับ แล้วมันก็ตะโกนแข่งเสียงโวยวายเพื่อนมันขอน้ำเปล่าให้ผม เอ่อ กูอยากกินเหล้าว่ะ ไม่อยากกินน้ำเปล่า แต่จะให้ปฏิเสธยังไงได้ เลยจำได้ยกแก้วน้ำเปล่าดื่มแทนแล้วจ้องแก้วเหล้าในมือมันแทน ก็ขวดที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะตรงหน้ามันช่วงยั่วยวนเหลือเกิน ยิ่งราคามันเกินกว่าพวกผมจะได้แตะก็ยิ่งอยากลองสักนิด
 
   “อยาก?” มันคงเห็นผมกลืนน้ำลายจ้องแก้วเหล้ามันครับ พอมันถามผมก็พยักหน้าตอบมันไป ไอ้โชเริ่มเหยียดยิ้มจนผมสงสัย แต่ถ้าสังเกตดีๆ ไอ้รอยยิ้มแบบนี้ผมเคยเห็นตอนมันกำลังจะกระทืบไอ้พวกหมาหมู่นั่น แล้วมันก็ยกแก้วเหล้าเข้าปาก ปล่อยให้ผมมองตาละห้อย ไอ้เชี่ยนี่ถามให้อยากแล้วก็ไม่ยอมให้จริง ขี้งก

   ผมค่อนขอดในใจก่อนจะตกใจเมื่อถูกมันดันให้เอนหลังติดผนักพิงโซฟาด้านหลังแล้วมันก็ขึ้นมาคร่อมตัวผม แต่ที่ตกใจมากกว่านั้นคือตอนนี้มันก้มลงเอาปากแดงนั่นประกบกับปากผมอย่างเร็ว มือใหญ่ของมันยกขึ้นมาบีบคางผมเบาๆ ให้ผมรับจูบมันอย่างถนัด ยิ่งตอนนี้มันพยายามจะเอาลิ้นเข้ามาในปาก ผมยิ่งเม้มปากแน่นจนมันส่งเสียงฮึดฮัดแล้วเพิ่มแรงบีบคางจนผมต้องยอมให้มันสอดลิ้นเข้ามา ผมพยายามห่อลิ้นหนีแต่ก็ทำไม่ได้

        เชี่ย จูบแรกของผม....

   ถึงจะยอมรับว่ามันจูบเก่งทำเอาผมเคลิ้ม ยิ่งรสชาติหวานของเหล้าราคาแพงติดปลายลิ้นของมันทำให้ผมแทบจะเมา ขนาดไม่ได้กินสักอึก อีกทั้งหัวใจของผมเต้นแรงเหมือนถูกเครื่องกระตุ้นรัวๆ จนมันแทบอยากออกมาข้างนอก มันไม่ควรเกิดขึ้นกับผมตอนถูกผู้ชายจูบใช่มั้ยครับ คือมันไม่ควรเป็นแบบนี้ ไม่ควรที่จะเคลิ้มไปกับรสจูบของมัน 

   “แฮ่กๆ” ผมหอบเอาอากาศเข้าปอดทันทีที่ถูกถอนจูบออกไป เชี่ย ผมถูกผู้ชายจูบ แถมยังเคลิ้มอีก ผมโคตรอยากซัดหน้าไอ้คนที่ฉวยโอกาสแรงๆ สักรอบ ถ้าไม่ติดที่ภาพยักษ์นับสิบถูกสอยร่วงละก็ ไอ้โชมีเจ็บ

   “เชี่ย พวกมึงร้อนแรงว่ะ” เสียงเซงแส่ดังขึ้นทันทีที่ผมกับไอ้เหี้ยโชผละออกจากกัน คือพวกมึงช่วยดูด้วยว่ากูเต็มใจหรือเปล่า
 
   “กูละอยากบ้าง เห็นละเปรี้ยวปากสัด”

   “โชว์บ้างมึง”

   และยังมีเสียงแซวเป็นระลอกจนผมก้มหน้างุด แต่ก็แอบเสมองไอ้คนข้างๆ อย่างโมโห ยังมาทำตัวนิ่งเฉย เหยียดยิ้มให้กับเพื่อนๆ มันอย่างสบายอารมณ์ เห็นกูเป็นของเล่นหรือไงวะ ยิ่งคิดยิ่งโมโห แล้วผมจะนั่งโง่ให้มันบังคับอีกทำไม มือตีนก็มีเหมือนกันจะไปกลัวทำไม

   พอคิดได้ผมก็ยืนพรวดขึ้นแล้วใส่เกียร์หมาวิ่งหนีครับ ได้ยินเสียงเพื่อนมันโวยวายสักอย่าง แต่ผมไม่สนใจ หนีได้ก็วิ่งอย่างเดียวครับ

   ผมต้องเบียดเสียดผู้คนที่เต้นอย่างสนุกกับเสียงเพลงเป็นจังหวะ คือเหนื่อยมากครับที่ต้องบิดตัวเดินไปเดินมา แม้จะรู้สึกว่ามีหลายมือที่ยื่นมาบีบก้นบ้าง กอดบ้าง ดึงบ้าง แต่ผมก็เดินหน้าอย่างเดียวเลยครับ นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังหนีอยู่ละก็ ไอ้พวกลวนลามคงมีเจ็บตัวกันบ้าง

       ในที่สุดผมก็หนีออกมายืนเกาะราวเหล็กหอบอยู่นอกไนต์คลับได้ เหนื่อยขนาดนี้เหมือนวิ่งมาเป็นสิบกิโลเมตรให้ตาย ไนท์คลับนี้ผมจะจำไว้ว่าจะไม่มาอีก อุตส่าห์มาครั้งแรกและคิดถึงครั้งต่อไป พอเจอแบบนี้กลอยขอบาย

   ผมเดินออกมาที่ถนนใหญ่เพื่อรอโบกแท็กซี่ เพราะถูกไอ้เพื่อนตัวดีเททิ้งซะได้ ไอ้เชี่ย ไม่เคยเป็นห่วงกูเลย ยืนรออยู่นานไม่เห็นแท็กซี่ผ่านมาสักคัน นี่พวกเขาไปส่งรถกันอยู่หรือไงวะ ไนต์คลับนี้ก็ดังจะตาย คนก็มาเที่ยวเยอะมาก แต่ทำไมไม่มีรถแท็กซี่ผ่านมาสักคัน ที่จริงที่แบบนี้แหละที่จะได้เงินเยอะ เพราะเวลาคนขับรถมาแต่เมาก็ต้องเรียกแท็กซี่กลับบ้าน พลาดแล้วครับแบบนี้

   รอนานๆ ผมก็ชักเมื่อยเลยนั่งลงที่ฟุตบาทแทน ดีนะที่ไอ้คนที่ผมหนีมามันไม่ออกมาตาม ไม่งั้นก็คงซะ...ซวย เชี่ย ผมเห็นมันอยู่ไกลๆ ครับ มันกำลังเดินออกมาจากประตูแล้วเดินไปโซนที่จอดรถวีไอพีที่ถูกกั้นให้เด่นอยู่ด้านหน้า หลบสิครับจะนั่งให้มันเห็นเหรอ

   พุ่มไม้ที่ข้างทางเป็นเกาะบังเก้อที่ดีที่สุด แปบเดียวรถสปอร์ตคาร์หรูสีดำมันปราบก็วิ่งฉิวผ่านไป รถสวยสุดๆ ไปเลย ดูท่าทางคงหลักล้านขึ้นแน่ คนอย่างผมคงได้แค่เดินผ่านเท่านั้นแหละ อย่างมากก็มีแค่ฟีโน่คู่ใจที่หรูสุดของผมที่จอดอยู่ที่หอของไอ้ทู ป่านนี้แมร่งคงหลับน้ำลายยืดอย่างสบายละ

   ผมลืมผมก็มีโทรศัพท์นี่หว่า อยู่ไหนวะ ตบกระเป๋ากางเกงซ้ายทีขวาทีก็ไม่มี เหี้ยแล้ว มือถือหาย เดี๋ยวนะ ครั้งสุดท้ายที่ได้จับคือตอนนั้น...

   ชิบหาย มือถืออยู่กับไอ้เหี้ยโช

   ทำไมผมถึงโง่แบบนี้วะ ไม่เอามือถือคืนตอนมันคุยเสร็จ แล้วแบบนี้ผมจะเอาคืนได้ยังไง จะเจอมันที่ไหน เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ยิ่งมือถือนั่นผมต้องใช้แรงกายทำอาหารช่วยม๊าขายอาหารตามสั่งอยู่เป็นเดือน ที่จริงคนงานก็มีครับ แต่ม๊าผมอยากใช้เพื่อให้ลูกรู้ถึงความลำบากของสิ่งของราคาแพงที่อยากได้ แล้วอีกอย่าง ในนั้นยังมีรูปผมที่โคตรซีเคร็ทอะ ไม่ใช่รูปโป้นะ แต่เป็นรูปที่ผมถูกพี่สาวบังคับให้แต่งคอสเพลเป็นผู้หญิงญี่ปุ่นอ่ะ แถมบังคับไม่ให้ลบด้วย ซวยสุดๆ

   ผมเดินคอตกไปตามฟุตบาท จำได้ว่าเห็นป้ายรถเมล์อยู่ไม่ไกล แต่ผมไม่รู้ว่าสายไหนมันไปไหนบ้าง เดี๋ยวค่อยถามเอาก็ได้วะ ผมเดินเอื่อยๆ รับลมเย็นๆ ในตอนดึกไปเรื่อยๆ แม้รอบข้างจะมืดซะจนวังเวง แต่ผมไม่กลัวผีหรอก เอาจริงๆ คนน่ากลัวกว่าเยอะ

   “เฮ้อ” ถอนหายใจรอบที่ล้านแล้วผม

   “มึงเดินหาเหรียญอยู่หรือไง” เสียงที่แหวกมาจากความเงียบด้านหลังทำเอาผมหันไปมองแทบจะทันที

   “ไอ้โช...” ผมครางเสียงเบาหวิวเมื่อเห็นไอ้คนที่ผมหนีมาอย่างยากลำบากยืนอยู่ด้านหลัง มันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ก็ผมเห็นมันขับรถไปไกลแล้ว แล้วรถมันก็ไม่อยู่แถวนี้

   “คิดจะหนีกูมันไม่ง่ายหรอกนะ อะไรที่กูอยากได้ ยิ่งยากกูยิ่งชอบ”

   เชี่ยนี่ต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ

   “กะ กูไม่ได้หนีเว้ย กูจะกลับบ้านต่างหาก ดึกแล้วมึงไม่เห็นเหรอ” อย่างเสียงสั่นสิไอ้กลอย สู้มันๆ “แล้วมึงมาอยู่นี่ได้ไง ก็กูเห็นมึง...” ชิบหายไอ้กลอย มึงพูดงี้มันก็รู้สิว่ามึงหลบอยู่ ไอ้โง่

   “ไม่หนีแต่ก็แอบกูงั้นสิ กลัวกูเหรอมึง”

   “ใครกลัว ไม่มี๊” ผมจะพูดเสียงสูงทำไมวะ แล้วผมต้องเดินถอยหลังเมื่อไอ้โชก้าวเท้าเข้ามาหา กดดันสุดๆ นี่มันจะต่อยผมหรือเปล่าวะ “อะ อะไร”

   “ไม่กลัวแล้วถอยหลังทำไม” ไอ้สัด จะเดินกดดันกูทำไม

   “ก็มึงเดินทำไม”

   “กูเดินก็ผิดเหรอ”

   ดูมันถามครับ น้ำเสียงนิ่งๆ แต่ฟังแล้วกวนตีนชิบหาย

   “มึงต้องการอะไรวะกูถามจริงๆ”
 
   “มึงไง”

        สั้นๆ ได้ใจความ เหี้ยสิครับ

   “มึงเป็นเกย์หรือไงไอ้เชี่ย กูมีแฟนแล้วเว้ย เป็นผู้หญิงด้วย”

   “แล้วไง” ดูมันตอบ

       “ก็ไม่แล้วไง แต่คือกูเป็นผู้ชายเหมือนมึง มีอะไรๆ ก็เหมือนมึง แล้วกูก็ชอบผู้หญิง มึงเข้าใจใช่ป่ะ” ผมถอยจนสุดแล้วครับ ด้านหลังผมเป็นเสาไฟฟ้า พอจะขยับซ้าย ไอ้โชก็ยกแขนขึ้นกั้น จะขยับขวาก็ยกขึ้นมากั้นอีก หมดทางไปต่อเลยผม

   “แต่กูอยากได้ก็ต้องได้มันคือนิสัยกู” นิสัยมึงโคตรแย่กูบอกเลย

   “คนอื่นก็มีมึงก็ไปหาสิวะ กูไม่ได้น่ารักเลยเห็นป่ะ ดูแก้มกูนี่” ผมยืดแก้มป่องให้มันดู “เป็นซาลาเปาเนี่ย ดูท้องกูนี่” ผมเปิดเสื้อโชว์พุงหลามให้มันดู “ดูพุงกูมีแต่ไขมันไม่มีกล้ามเรียบหรอกเห็นป่ะ” ผมเห็นมันมองตามเงียบๆ หวังว่ามันคงเข้าใจ เพราะมันก็ไม่ตอบอะไร “เข้าใจนะ เอ่อ กูขอมือถือคืนด้วย” แล้วหน้ามึงนี่ช่วยเอาออกไปไกลๆ หน้ากูด้วย

   “ไม่มี”

   “ไม่มีได้ไง ก็มึงรับสายเพื่อนกูแล้วเก็บใส่ในกระเป๋ากางเกง”

   “อยากได้ก็หาเอาเอง” มันท้าครับ ผมก็เลยล้วงมือเข้าไปในกางเกงยีนส์เดฟสีดำของมันครับ ซ้ายก็ไม่มี ขวาก็ไม่มี ผมเลยต้องอ้อมมือไปด้านหลังมันเพื่อนคลำกระเป๋าหลัง แล้วก็เจอจริงด้วย มือถือของผม...แต่เดี๋ยวนะ คือตอนนี้เหมือนกับว่าผมกำลัง....กอดมันอยู่

   ผมเงยหน้าขึ้นมองมันทั้งๆ ที่มือยังล้วงอยู่ที่กระเป๋ากางเกงหลังมันอยู่ คือมุมเงยแบบนี้ส่วนใหญ่ถ้าไม่หล่อจริงมีดับ แต่มันนี่หล่อทุกมุมเลยครับ ผมรีบหยิบมือถือออกมาแล้วสำรวจความเรียบร้อย เฮ้อ โล่งอก มือถือยังอยู่ในสภาพดีทุกอย่าง ดีที่ผมตั้งรหัสเปิดเอาไว้ มันคงเปิดดูรูปผมไม่ได้

   “คิดว่ากูโง่เปิดดูรูปมึงที่แต่งเป็นผู้หญิงไม่ได้เหรอ”

   ห๊ะ เมื่อกี้มันพูดว่ามันเห็นรูปผมเหรอ เชี่ย มันเห็นได้ไงวะ ก็ผมใส่รหัสพาร์ทเวิร์ดเอาไว้แล้ว

   “รหัสโคตรปัญญาอ่อน ไอ้หนึ่งสองสามสี่เนี่ย” ผมถลึงตาใส่ไอ้คนด่าผม แม้จะเสียเซลฟ์แต่ผมก็ไม่แคร์หรอก เพราะไอ้ทูก็เคยเห็น มันเคยแต่งด้วยซ้ำแต่ไอ้นั้นมันชอบครับ มันโคตรบ้าอ่ะ

   ผมเบ้ปากก้มหน้าพึมพำบ้าบออยู่คนเดียว ก่อนจะเหลือบเห็นป้ายแท็กซี่ที่วิ่งมาแต่ไกล เจ๋ง พอรถมาใกล้ ผมรีบผลักอกไอ้โชแล้ววิ่งหนีไปโบกรถ พอรถจอดผมก็รีบนั่งเลยครับ ดูไอ้โชก็ไม่คิดจะไล่ตามด้วย สงสัยมันจะเข้าใจที่ผมพูด...ซะเมื่อไหร่ เพราะในมือที่มันชูโบกไปมามันทำให้ผมแทบอยากจะกระโดดเตะมัน แถมมันยิ้มเย้ยหยันด้วย

   กระเป๋าเงินผมอยู่กับมันได้ยังไง แล้วแบบนี้ค่าแท็กซี่ใครจะเป็นคนจ่าย ไอ้เหี้ยโช!!!!!!!!!


... TBC

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 1<< // [17/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 17-07-2016 20:23:15
 :z13:


หูยยกลอยน่ารักจัง :hao6: :hao6:

พระเอกก็เท่ แต่ทำไงเนี้ยกลอยมีแฟนแล้ว555

รอตอนต่อไปจ้า มาต่อเร็วๆนะอิอิ :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 1<< // [17/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-07-2016 21:08:15
เอาล่ะซิพี่โชเขาอยากได้อะไรก็ต้องได้อีกไม่นานกลอยคงได้เลิกกับแฟนแน่ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 2<< // [17/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 18-07-2016 10:10:53
Just you and I : 2



         เช้าวันใหม่ที่ผมไม่ค่อยจะสดชื่น จะให้สดชื่นได้ยังไงในเมื่อตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ผมยังถูกไอ้ทูบ่นตลอดเวลา แม้แต่ตอนกินข้าวมันยังบ่น เพิ่งรู้ว่าไอ้เชี่ยนี่ขี้บ่นก็ตอนนี้แหละ สาเหตุที่มันต้องบ่นก็มาจากเหตุการณ์เมื่อคืน ที่จริงผมต่างหากที่ต้องบ่นจนมันหูชา ก็มันเล่นทิ้งผมไว้ที่ไนท์คลับบ้านั่น ไหงเป็นผมที่ต้องหูชาเองวะ กะอีแค่โทรเรียกให้มาจ่ายเงินค่าแท็กซี่ให้หน่อยทำมาเป็นงก

   “มึงหยุดบ่นสักทีเถอะกูรำคาญ จะกิน จะขี้ จะเยี่ยวมึงก็บ่นๆๆ” ผมเริ่มทนไม่ไหวแล้วครับ

   “ก็มึงจะไม่ให้กูบ่นได้ยังไง มึงโทรให้กูลงมาจ่ายตังค์ให้ แล้วมึงรู้มั้ย เงินค่าแท็กซี่ที่กูต้องจ่ายให้มึง มันเป็นส่วนของค่าหอกู แล้วแบบนี้พรุ่งนี้กูจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย นั่นเงินที่กูขอแม่ด้วย” มาซะยาวเหยียด มึงไม่พักหายใจหรือเว้นช่องไฟบ้างรึไง

   “โธ่ เดี๋ยวกูไปขอม๊ามาคืนไง มึงขี้งกไปได้ นี่ถ้าเมื่อคืนมึงไม่ลืมกูไว้ที่เที่ยวนั่น มึงก็ต้องไม่ต้องมาจ่ายตังค์ให้กู แบบนี้เขาเรียกว่ากรรมตามทันเว้ย”

   “กรรมเหี้ยอะไรล่ะ ก็กูโทรถามว่ามึงจะกลับด้วยหรือเปล่า เพื่อนใหม่มึงบอกมึงอยู่กับมัน กูก็ถามว่ามันจะไปส่งมึงใช่มั้ย มันก็ตอบอือกลับมาไง แล้วแบบนี้มึงจะกูอยู่รอมึงเหรอไอ้เชี่ยกลอย” มันตะโกนโต้ลมอยู่ข้างๆ หูผมครับ ตอนนี้ผมเอามันซ้อนฟีโน่คู่ใจไปเรียน ขืนให้มันเอาไอ้บอลลูน (ชื่อรถยนต์ของไอ้ทูมันครับ) ออกไปมีหวังเข้าเรียนสายแหง ยิ่งวิชานี้อาจารย์โคตรดุ

   “ไอ้สัด มึงก็รู้ว่ากูไม่มีเพื่อนที่ไหนไปเที่ยวไอ้สถานที่ไฮโซๆ แบบนั้น ก็มีแค่พวกมึงนั่นแหละ” ผมก็ตะโกนโต้ลมตอบมันครับ แม้จะมีคนมองบ้างเป็นระยะ อาจเพราะพวกเขาคิดว่าผมกับไอ้คนซ้อนท้ายกำลังทะเลาะกันอยู่ “มึงคิดดู ค่าเหล้าขวดนึงมึงจะกินอยู่ได้ไปเป็นเดือนเลยนะโว้ย” ค่าเปิดขวดที่นั่นแพงมากจริงๆ ครับ พวกผมกะไปลองสักหน่อย เห็นค่าเปิดขวด ค่ามิกเซอร์อะไรไปนี่แทบอยากจะกลับ แต่ลองแล้วก็อยากอยู่ให้นานๆ ก็เลยสั่งที่มันถูกที่สุดมา ซึ่งมันก็แพงอยู่ดี

   “เอ่อ กูก็คิดแบบนั้นแหละ แล้วยิ่งมึงหายหัวด้วย ค่าเหล้าเลยหารแค่สาม เดือนนี้กูแทบไม่มีเงินเหลือ”

   จากนั้นผมกับไอ้ทูก็เงียบกันไป จนมาถึงมหาลัยที่เรียน รถเลี้ยวรถไปตามถนนที่สองข้างทางปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาก่อนเข้าสู่คณะของตัวเองที่ตั้งอยู่เกือบจะหลังสุดของมหาลัย

   หลังจากจอดรถเสร็จ ผมกับไอ้ทูก็เดินหน้าซุยๆ มาที่โต๊ะประจำที่มีไอ้พวกปัญญาอ่อนนั่งล้อมวงกันอยู่ ดูแล้วมันน่าจะมุงดูอะไรกันสักอย่าง ผมเลยค่อยๆ ย่องเข้าไปดู จนเห็นแบบ...อือฮือ...มาเต็มทุกหน้าครับ

   หนังสือโป้

   ไอ้พวกนี้มันไปเอามาจากไหนวะ โคตรแจ่มเถอะให้ตาย แล้วเป็นรูปสีทุกหน้า ไม่มีเซนเซอร์ เชี่ย โคตรโหดอะหนังสือเล่มนี้ ส่วนไอ้พวกล้อมวงดูก็ส่งเสียงซี๊ดซ๊าดกันใหญ่ พวกมึงมาดูในที่สาธารณะแบบนี้ เปิดเผยเหี้ยๆ

   “ไอ้เค มึงไปเอาเล่มนี้มาจากไหนวะ” ไอ้ทูถามขึ้นมาโดยที่ตอนนี้มันไปนั่งข้างไอ้เคเจ้าของหนังสือเรียบร้อยแล้วครับ
 
   ทีงี้ละไหวเชียวนะมึง

   “กูสั่งจากในเน็ตเว้ย ตอนแรกคิดว่ากูโดนต้มแน่ พอมาจริงก็แบบนี้เลยมึงเอ้ย” ไอ้เคว่าครับ มือมันก็ยังพลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยๆ

   “สุดๆ อะเพื่อน กูขอเว็บสั่งมั่งดิ่ อยากได้แบบที่มันเคลื่อนไหวได้อ่ะ” ไอ้ต๋อง เพื่อนอีกคนในคณะทำหน้าเพ้อฝัน น้ำลายไหล

   “พวกมึงนี่ว่างเนอะ งานที่ป๋าเปาให้ทำคงเสร็จกันแล้วอ่ะดิ่” ผมถามไอ้พวกหื่นทั้งหลาย พอพวกมันได้ยินก็นิ่งเงียบกันใหญ่ แล้วก็เหมือนผึ้งแตกรัง เพราะต่างก็วิ่งไปที่ห้องสตู

   นึกว่าจะแน่ ไอ้พวกนี้

   “แล้วมึงทำเสร็จแล้วหรือไงไอ้เชี่ยกลอย” ไอ้สักที่ยังนั่งเอ้อระเหยถาม สงสัยไอ้นี่มันจะทำเสร็จแล้ว

   “นี่ใครครับ นี่กูเอง กูกลอย” ผมชี้ตัวเองพร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ย ก่อนจะวิ่งตามตูดไอ้เพื่อนหื่นเข้าไปในสตู โดยมีเสียงตะโกนด่าตามหลังจากไอ้สัก

   “นึกว่าจะแน่ ไอ้เชี่ยกลอยใจ”

   กลอยใจคือชื่อเล่นจริงๆ ของผมครับ แต่ผมไม่ค่อยชอบให้ใครเรียกเต็มๆ ให้เรียกกลอยเฉยๆ นี่แหละ ผมมีพี่สาวอีกคนชื่อ กิ่งแก้ว ชื่อคล้องกัน (หรือเปล่า) ม๊าบอกว่า ชื่อพี่สาวกับชื่อผมเป็นชื่อที่คุณปู่กับคุณย่าตั้งให้ครับ แต่ผมก็ไม่รู้หรอก ว่าปู่กับย่าอยู่ที่ไหน เพราะตั้งแต่ผมโตมา ผมก็อยู่กับม๊าแล้วก็พี่สาว ส่วนพ่อผมก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน รูปถ่ายสักใบก็ยังไม่เคยเห็น เพียงแต่ม๊าบอกว่า ครอบครัวพ่อไม่ชอบม๊าเพราะม๊าจน ท่านก็เลยต้องเลิกกัน ผมไม่เข้าใจหรอกว่าเป็นเพราะอะไรทำไมคนเราถึงตัดสินความรักจากภายนอก ผมว่า ถ้าเราจะรักใคร เราควรรักที่ตัวตนของกันและกันมากกว่า

   อย่างเช่นผมกับแฟนเป็นต้นไงครับ ผมเป็นคนไม่หล่อ ไม่รวย แต่เธอก็ยังยอมมาคบด้วย ผมเคยถามว่าเพราะสงสารหรือเปล่า เธอตอบว่าเปล่า ช่วงก่อนจะตอบผมแมร่งโคตรลุ้นอ่ะ เพราะตอนที่ผมถาม เธอคิดนานมากถึงตอบออกมา ผมจำได้ว่า หลังจากตอนที่เธอยอมคบ ผมไปกินเหล้ากับพวกไอ้ทูจนเมาค้างไปเรียนโดนครูฝ่ายปกครองเรียกม๊าไปหาเลยครับ ผมคบกับแฟนมาจะครบสามปีแล้ว ตอนนี้ใกล้ครบรอบแล้วด้วย ผมคงต้องเตรียมอะไรเซอร์ไพร์สสักหน่อย ดอกไม้ช่อโตๆ ดีมั้ย...ไม่ดีหรอก ผมไม่มีเงินขนาดนั้น ก็คนมันจน เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยคิด...

   ส่วนตอนนี้ผมเรียนมหาลัยอยู่ปีสอง คณะศิลปกรรม ที่ผมเรียนเพราะผมชอบวาดรูป แล้วก็ไม่ชอบภาษาอังกฤษ ก็มันโคตรยากจริงๆ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบไง จบป่ะ ชีวิตผมช่วงนี้ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ มีเรียน วาดรูป ส่งงาน กลับบ้าน ไปเที่ยวกับแฟนบ้าง (นานๆ ที) จะว่าไปผมไม่ได้คุยกับแฟนผมเลยนะวันนี้ ไม่รู้ตอนนี้จะตื่นหรือยัง

   ผมล้วงเอามือถือตัวเองออกมาก่อนกดไปที่เบอร์สามที่ตั้งไว้เป็นพิเศษ ซึ่งเบอร์หนึ่งเป็นม๊า เบอร์สองเป็นพี่สาว ผมรอสายอยู่นานมากจนมันตัดไป แปลก ทำไมไม่รับ หรือว่ายังไม่ตื่น ผมลองกดโทรไปอีกรอบ รอฟังมันด่าว่าตุ๊ดๆๆ ไปสามครั้งก่อนปลายสายจะครับ

   “ตื่นหรือยังที่ร้ากกกกก” ผมทำเสียงน่ารักทักทายไป แต่ปลายสายกลับเงียบ หรือว่ายังไม่ตื่นจริงๆ “บลูยังไม่ตื่นเหรอครับ หืม นี่กลอยโทรมาปลุกหรือเปล่า” ปลายสายก็ยังเงียบจนผมต้องเอามือถือมาดูอีกรอบว่าวางสายไปหรือเปล่า แต่หน้าจอมันก็ยังโชว์ว่าปลายสายยังไม่ได้ปิด

   “บูล ทำอะไรยะ...”

   “ทำอะไรอ่ะ ห้ามยุ่งนะ”

   หืม ผมได้ยินเสียงบลูหรือแฟนของผมแต่มันดูจะไกลมากครับ ก่อนไอ้คำว่าอย่ายุ่งนะมันจะพุ่งพรวดเข้าเต็มสองหูแล้วสายก็ตัดไป...

   มันคืออะไร หมายความว่ายังไง ไอ้กลอยงงอย่างแรง

   ผมยืนนิ่งจ้องหน้าจอตัวเองอย่างงงงวย บลูอยู่กับใคร หรือว่าอยู่กับเพื่อน แต่เสียงปรี๊ดปรอทแตกเมื่อกี้ผมไม่เคยได้ยินจากปากบลูเลยนะครับ ปกติเธอจะพูดจาอ่อนหวาน หรือเมื่อกี้จะไม่ใช่บลู

   ทะเลาะกับตัวเองสักพักใหญ่หน้าจอก็มีแสงวาบขึ้นมา พอก้มดูก็เห็นข้อความไลน์ที่ส่งมาจากแฟนของผม เธอบอกว่า พอดียุ่งอยู่ ใกล้จะสอบ เลยมานอนหอเพื่อน...นั่นไง เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คนที่รับคงเป็นเพื่อน อืมม

   “มึงเป็นอะไรวะ เดี๋ยวป๋าจะมาแล้วนะเว้ย ไม่เสร็จมึงโดนทำโทษแน่” ไอ้ทูเดินมาตบหลังผมดังป๊าบก่อนจะเดินเลยไปหาไอ้ต๋องเพื่อยืมดินสอบีสองแท่งใหม่ที่มันเพิ่งซื้อมายกกล่อง แถมยังโอ้อวดซะทำเอาไอ้พวกขาดแคลนจ้องตาเป็นมัน

   ผมสะบัดหัวสองสามทีก่อนจะลงมือวาดลายเส้นลงบนกระดาษที่เตรียมไว้ แม้ตอนนี้มันก็ใกล้เสร็จแล้ว แต่ผมยังต้องเก็บรายละเอียดอีกหน่อย

   ผ่านไปห้านาทีป๋าเปาที่พวกผมเรียก หรืออาจารย์ประจำวิชาก็มาครับ แกปั้นหน้าโหดมาแต่ไกล มือยังถือหนังสือเกี่ยวกับการวาดลายเส้นมาด้วย ที่จริงแกก็ไม่ได้ปั้นหรอก แต่หน้าแกดุเอง ถ้าไม่อยากให้แกอารมณ์เสีย ก็ห้ามไปแตะต้องเรื่องแฟนครับ เพราะแกยังโสดสนิท เวลาเพื่อนๆ ผมมันคุยเกี่ยวกับแฟนมัน ป๋าแกจะเดินไปคุมและด่าเนื้องานทันที แม้บางทีงานมันจะเรียบร้อยจนไม่ต้องแก้ เคยมีครั้งหนึ่งไอ้สักมันโม้ว่าแฟนมันทำกับข้าวมื้อเที่ยงมาให้ ป๋าเปาแกเดินมาด้านหลังพร้อมวิจารณ์งานลายเส้นของมันจนมันแทบอยากจะร้องไห้ พวกผมช่วยมันนั่งแก้งาน พอถึงเวลาส่ง ป๋าแกบอกให้เอารูปเดิมมาส่งแทน เพราะอันนั้นมันดีแล้ว พวกผมได้แต่กระพริบตาปริบๆ คืองานแผ่นนั้นมันถูกฉีกทิ้งแล้วไงครับ ไอ้สักเลยซวยได้คะแนนน้อยสุดให้ห้อง

   “งานที่ผมสั่ง พวกคุณทำเสร็จกันหรือยัง” ป๋าแกวางหนังสือลงบนโต๊ะก่อนจะเริ่มเดินตรวจครับ บางคนก็ได้แก้ แต่ของผมผ่านสบายๆ

   วินาทีการตรวจงานของแต่ละคนก็ค่อยๆ กินเวลาจนหมดคาบเรียน ป๋าแกก็ไม่ได้สั่งงานเพิ่มพวกผมเลยสบายตัว หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมไม่พูดถึงผู้หญิงในคณะ หรือว่าคณะจะไม่มีผู้หญิง...คณะผมมีผู้หญิงครับ แต่นิสัยมันไม่อ่อนหวานยิ้มหวาน คือเอาตรงๆ นะ พวกมันโคตรแมนจริงๆ อย่างเช่นตอนนี้ ตรงหน้าผมนี่เลย

   “น้ามึง ช่วยกูหน่อย กูแก้แล้วแต่ป๋าแกบอกมันไม่พลิ้วอ่ะ มึงช่วยกูหน่อยดิ่ ไอ้กลอยน้า” ไอ้สวยครับ มันชื่อสวย หน้าตามันก็สมชื่อนั่นแหละ เป็นดาวคณะด้วย แต่พอพ้นปีหนึ่งมา ผมยาวสลวยของมันก็ถูกหั่นสั้นจนเป็นทรงรากไทร แล้วมันก็เริ่มแมนขึ้นเรื่อยๆ จนพวกผมแปลกใจ ไอ้สวยมันกลายพันธุ์ครับ

   “มึงไม่ต้องไปช่วยมันไอ้กลอย ไอ้เชี่ยสวยมึงไปขอร้องคนอื่นไป๊” ไอ้ต๋องมันเดินโวยวาย

   “กูรู้ว่ามึงจะให้ไอ้กลอยช่วยเหมือนกัน มึงเลยกันกูออก ไอ้สัด กูขอมันก่อนเหอะ” ไอ้สวยด่ากลับ

   “ก็ทำไม กูเพื่อนสนิทมันนะเว้ย มันเคยยืมตังค์กูไปซื้อข้าว เคยเอาโทรศัพท์กูไปโทรหาแฟนมันด้วย” ไอ้เชี่ยต๋องพูดแบบโคตรเป็นต่อ

   เรื่องพวกนี้มึงสมควรพูดมั้ยไอ้เชี่ย เอากูขายหน้าอีก

   “มันเคยขอเบอร์กูด้วย” ไอ้สวยว่า “ไอ้เชี่ยกลอย ถ้ามึงไม่อยากให้แฟนมึงรู้ มึงต้องช่วยแก้งานให้กู” น้ำเสียงและท่าทางข่มขู่ของไอ้สวยทำผมเริ่มเอนเอียงครับ

   ก็อย่างที่มันพูด ตอนปีหนึ่งผมเคยขอเบอร์มันจริงๆ ก็มันสวยโคตรๆ ตอนนั้นผมเผลอนอกความคิดจากการคิดถึงแต่แฟนไปแวบหนึ่ง มาถึงวันนี้ผมโคตรรู้สึกผิดอ่ะ แม้มันจะแค่แปบเดียวก็เถอะ ผมก็ไม่ควรทำ

   “เอาล่ะๆ พวกมึงไม่ต้องทะเลาะกัน งานไหนที่กูช่วยได้กูก็จะช่วย แต่พวกมึงไม่เอาไปให้ไอ้สักมันช่วยวะ มันตัวท็อปเลยนะเว้ย” ผมบอก เพราะไอ้สักมันได้เอวิชาดรออิ่งมา

   “มันคงอยู่ให้ขอหรอกไอ้ห่า เผ่นไปนู้นแล้ว”

   ผมมองตามนิ้วไอ้ต๋องครับ เห็นหลังไอ้สักไวๆ ไอ้เชี่ยนี่ชอบหนีแบบนี้ตลอด พอเพื่อนเดือดร้อนแมร่งไม่เคยช่วย

   “เอาตามนี้แหละ พวกมึงก็ตกลงกันก่อนว่าใครจะให้กูแก้เป็นคนแรก พอตกลงกันได้ก็บอก โอเค๊” ผมสรุป ก่อนเก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่ พลางถอนหายใจฟังไอ้สองคนนั้นมันโวยวายเรื่องผมนี่แหละ “ไปยังไอ้เชี่ยทู กูหิวข้าว”

   “เออๆ แมร่งงานกูอุตส่าห์ว่าเป๊ะ ป๋าพูดทีกูโคตรเสียเซลฟ์อ่ะ” ไอ้ทูบ่นก่อนจะคว้าเป้มาคล้องแขน

   “มึงยังไม่ชินเหรอ ป๋าก็พูดแบบนั้นกับทุกคน” ผมบอก ผมก็เคยโดนแก้งานครับ โดนไปเกือบห้ารอบทำเอาท้อจนอยากจะร้องไห้

   “แมร่ง รู้งี้กูไปเรียนเพิ่มดีกว่า”

   “เอาดิ่ แต่ไอ้ทูเพื่อนรัก” ผมหยุดเดินจนไอ้ทูหันมามอง ผมก็ยิ้มหวานส่งให้มันทันทีจนมันต้องผลักผมเพราะมันขนลุก เออ กูก็ลุกไอ้สัด

   “อะไร มึงไม่ต้องยิ้มแบบนั้นกูกลัว”

   “มื้อนี้กูยืมตังค์มึงก่อนนะ รอกูกลับบ้านกูจะ...”

   “ขอม๊ามาคืน ไอ้เชี่ย วันนี้มึงพูดเป็นร้อยรอบละ เออๆ” ผมยิ้มหวานกอดไอ้ทูเพื่อนรักเลยครับ มันโคตรใจดีอ่ะ ที่จริงมันก็หน้าตาดีนะครับเพื่อนผมคนนี้ แต่มันตัวบางไปหน่อย ขนาดผมยังดูเนื้อแน่นกว่า ปกติมันก็กินข้าวเยอะ แต่ไม่รู้มันเอาไปเก็บไว้ไหนเพราะระบบเผาผลาญมันโคตรดี กินปุ๊บออกปั๊บ ผมโคตรนับถือ ส่วนเรื่องหน้าตามันก็ อืม ตามันก็โตนะ คิ้วมันก็เข้มนิดๆ ปากก็แดงหน่อยๆ จมูกก็พอเป็นสัน โดยรวมก็หน้าตาดีนั่นแหละ มันสูงพอผมเลยครับ ส่วนเพื่อนอีกสองคนที่ไปเที่ยวด้วยกันเมื่อคืนก็เป็นเพื่อนตั้งแต่ม.ต้น แต่ผมกับไอ้ทู สนิทกันตั้งแต่อนุบาล

   พวกผมสองคนเดินไปโรงเรียนใต้ตึก แม้ของกินจะสู้โรงอาหารกลางไม่ได้แต่มันก็คลายหิวได้ แถมไม่ต้องไปเบียดคนให้เหนื่อยอีก ร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำพอเห็นหน้าผมกับไอ้ทูก็บอกเมนูประจำทันที ซึ่งผมกับเพื่อนก็ตอบรับพร้อมรอยยิ้ม รอไม่นานข้าวผัดหมูไข่ดาว (ของไอ้ทู) กับผัดกระเพาหมูกรอบไข่ดาว (ของผม) ก็เสร็จเรียบร้อย

   “ตอนบ่ายเจ้แกงดคลาสว่ะ” ไอ้ทูยัดข้าวคำใหญ่ทันทีหลังพูดจบ สงสัยจะหิว

   “จริงเหรอวะ โคตรสบาย กูจะได้กลับไปนอน โคตรง่วง”

   “กูก็ง่วงไอ้สัด เมื่อคืนกว่าจะได้นอนแมร่งก็เกือบเช้า...เพราะมึงอ่ะ”

   “เพราะกูเชี่ยไร เพราะมึงนั่นแหละกวนกูเอง”

   “กูไปกวนมึงตอนไหน มึงนั่นแหละทำตัวเองไอ้สัด”

   “ก็มึงไม่ยอมตามใจกูนี่หว่า”

   “ตามใจมึงเชี่ยไร มึงก็รู้ว่ากูชอบอะไรไม่ชอบอะไร แล้วมึงก็ยังทำ”

   “กูขอโทษเพื่อนทูสุดที่รัก ต่อไปนี้กูจะ...”

   “นี่พวกมึงกินกันเองแล้วเหรอวะ” เสียงแทรกกลางวงสนทนาทำเอาผมกับไอ้ทูข้าวติดคอเลยครับ

   “อีเข็มมึงมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ข้าวติดคอกูเลยเห็นมั้ย” ผมเหวใส่เพื่อนผู้หญิงในคณะพร้อมกับดื่มน้ำอึกใหญ่ๆ มันชอบแซวผมกับไอ้ทูเป็นประจำ มันบอกเห็นออร่าบางอย่างจากตัวผมกับเพื่อนเลิฟ

   “ก็กูพูดอยู่นี่มันไม่ใช้เสียงเหรอวะ” ดูมันเถียงครับ “แล้วพวกมึงคุยอะไรกันอยู่ ใครกวนใคร ใครไม่ชอบอะไร” หน้าเพื่อนผู้หญิงผมมันโคตรหื่นเลย ทำรูจมูกบานด้วย เหอะๆ มันเคยบอกว่ามันเป็นสาววาย อะไรคือสาววาย

   “มึงนี่มันขี้เสือกจริงๆ” ไอ้ทูด่าครับไม่ใช่ผม

   “อ่าว เรื่องของพวกมึงคืองานเสือกของกูค่า ว่าไงเร็วๆ กูจะได้อัพเดตกับกลุ่มสายวายกู”

   “กูถามจริงๆ เถอะ สาววายมันคืออะไร สาวที่เป็นโรคหัวใจใกล้จะวายเหรอวะ” คือจะว่าผมโง่มันก็ใช่ เพราะผมไม่ค่อยได้ติดตามอะไรมากนัก

   “มึงนี่โคตรโง่เลยว่ะไอ้กลอย” มีคนด่าผมโง่อีกแล้ว “สาววายคือคนที่ชอบจิ้นผู้ชายกับผู้ชายให้เลิฟกันไง อย่างมึงกับไอ้ทูเงี้ย พวกกูกำลังฟินกันอยู่” มันทำหน้าเพ้อฝันมองผมกับไอ้ทูสลับกันไปมา

   บอกเลยขนลุกขึ้นมาเฉย บรื๋ออออ

   “กูมีแฟนแล้ว เป็นผู้หญิงด้วย” ผมว่า

   “แล้วกูก็ไม่ชอบไอ้เชี่ยกลอยด้วย ถ้ากูเป็นเกย์กูก็ขอบายไอ้เชี่ยนี่มึงเข้าใจป่ะอีเข็ม” ไอ้ทูพูดขึ้นเสียงครับ ทำไมต้องโมโหวะ

   “โหยอะไรวะ ดับฝันคู่จิ้นของกูตลอดพวกมึงอ่ะ” หน้าตามันโคตรตอแหลจนผมอยากมอบโล่ให้จริงๆ “พวกมึงยังไม่ตอบว่ากวนอะไรกัน บอกกูมาก่อนไม่งั้นกูไม่ไป” เอากับมันสิครับ

   “ไอ้เชี่ยกลอยมันกวนโมโหกูเพราะมันไม่ยอมอาบน้ำ แล้วแมร่งจะขึ้นไปนอนบนเตียงกู แต่กูไม่ชอบไง เตียงกูสะอาดแต่มันแมร่งโคตรโสโครก เป็นมึงๆ จะให้มันขึ้นไปนอนป่ะล่ะ” ไอ้ทูร่ายยาวจนผมหน้าเสีย เอากูมาประจานสัด

   “อี๋ ไอ้เชี่ยกลอยมึงสกมกอ่ะ เป็นเมะในฝันของพวกกูไม่ได้ละ ลบออกจากลิสด่วน” อีเข็มมันส่งสายตารังเกียจเต็มสตรีมครับ แต่ไอ้เมะมาอีกแล้ว ผมกำลังจะอ้าปากถามมันชิงตอบมาก่อน “มึงจะถามใช่มั้ยว่าเมะคือไร เมะคือผู้ชายที่รุก โอเค๊ กูต้องไปละ คู่หวายดีนรอกูอยู่ที่ห้องสมุด” พูดจบมันก็รีบวิ่งออกไปทันที ผมว่ามันต้องเพี้ยนไม่ก็บ้าครับเพื่อนผมคนนี้

   ผมมองเข็มจนไม่เห็นแม้แต่เงาก็หันกลับมาสนใจจานข้าวที่พร่องไปเยอะ ส่วนของไอ้ทูหมดเกลี้ยงไปแล้ว แต่ทำไมมันทำหน้าเครียดๆ หรือว่ามันไม่อิ่ม หรือว่ามันอยากกินหมูกรอบในจานผมเพราะมันจ้องหน้าผมนิ่งเลย

   “มึงจ้องกูทำไมวะ”

   “มึง...” มันพูดเสียงเครียดมาก คิ้วมันก็เริ่มขมวดเข้าหากัน แล้วมึงจะเว้นวรรคทำซากอะไร รีบพูดเซ่

   “อะไร กูทำไม”

   “ทำไมอีเข็มมองมึงแมนกว่ากูวะ กูไม่แมนเหรอ” เชี่ย ผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง ไอ้สัดทูเครียดเรื่องแมนไม่แมน

   “มึงจะเครียดทำเชี่ยอะไร มึงรู้อยู่แกใจว่ามึงแมนหรือเปล่าไอ้สัด” ผมหัวเราะไปพูดไป แต่ก็ต้องหุบยิ้มเพราะไอ้เพื่อนเลิฟมันนั่งขมวดคิ้ว “หรือว่ามึง...เป็นเกย์วะ” ผมเริ่มคิดหนักละครับ ผมไปนอนหอมันบ่อยโคตรๆ แถมแก้ผ้าอาบน้ำกับมันมาตั้งนานแล้วด้วย

   ไอ้ทูนั่งนิ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา “กูก็ไม่รู้ว่ะ”

   อะไรวะ เป็นเกย์หรือไม่เป็นมันจะไม่รู้ตัวเองได้ยังไง ผมอ่ะเป็นผู้ชายแท้ผมยังรู้ตัวเองเลย ผมไม่เคยเห็นรูปร่างผู้ชายแล้วมีอารมณ์เลย ผมสาบาน

   “เอาน่า ถึงมึงจะเป็นหรือไม่เป็น มึงก็เป็นเพื่อนกูอยู่แล้ว อย่าคิดมาก” ผมตบบ่าปลอบใจก่อนจะจัดการข้าวในจานต่อ ส่วนไอ้ทูเดินไปสั่งรวมมิตรมากินต่อครับ ไอ้เชี่ยนี่ไม่อิ่มจริงๆ

   ผมตักข้าวเข้าปากคำที่สองมือถือในกระเป๋ามันก็สั่นพร้อมเสียงข้อความไลน์ครับ บลูน่าจะส่งอะไรมาผมเลยรีบหยิบมากดดู แต่พอเปิดรูปมาดูมันกลายเป็นกระเป๋าหนังสีน้ำตาลเก่าๆ ซึ่งผมจำมันได้ดีเพราะผมใช้มันมาตั้งแต่ม.ต้น เชี่ย กระเป๋าเงินผม ไม่นานมันก็มีข้อความเด้งมาอีกรอบ คราวนี้เป็นตัวหนังสือที่บอกว่า

   ‘...อยากได้ตัวประกันมาหากูที่มหาลัยxxx ก่อนบ่ายสาม’

   ไอ้โชมันเอากระเป๋าเงินผมไปตั้งแต่เมื่อคืนนี่หว่า จะทำยังไงดี หรือจะปล่อยไว้กับมันนั่นแหละเพราะผมไม่อยากเจอมันครับ รอยยิ้มกับคำพูดมันเมื่อคืนยังดังอยู่ในหูอยู่เลย ไอ้ที่บอกอะไรที่อยากได้มันต้องได้ แล้วสิ่งที่มันอยากได้คือผม มันโคตรโรคจิตนะผมว่า รู้ทั้งรู้ว่าผมชอบผู้หญิง แล้วมันเสือกบอกอยากได้ผม มันโง่กว่าผมอีก

   ผมชั่งใจอยู่ว่าจะเอายังไงดี แต่เพราะรูปภาพและข้อความสุดท้ายที่มันส่งมาทำให้ผมแทบเหาะไปหามันเลยครับ ไอ้เชี่ยนี่มันกำลังขู่ผม ไอ้ชั่ววววววววว



   ‘ถ้ามึงไม่มา รูปคอสเพลนี่กูจะเอาไปปล่อยในเพจมหาลัยมึง’   



... TBC
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 2 , 3<< // [17/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 18-07-2016 10:18:13
Just you and I : 3




       ‘ถ้ามึงไม่มา รูปคอสเพลนี่กูจะเอาไปปล่อยในเพจมหาลัยมึง’


   เพราะข้อความเหี้ยๆ นี่ทำให้ผมบิดรถแทบจะมิดไมล์ของมอเตอร์ไซค์ ถ้าเหาะได้ผมคงเหาะไปแล้ว ไอ้เหี้ยโชมันแอบเอารูปผมออกไปตั้งแต่ตอนไหน รูปที่ผมปิดเป็นความลับ รูปที่ผมโคตรอยากจะเอาหน้ามุดดินตอนถ่าย แต่ไอ้เหี้ยโชพูดออกมาเฉยว่าจะเอาไปปล่อยในเว็บเพจมหาลัย อย่าให้กูได้เจอหน้านะมึง กูจะกระโดดต่อยหน้ามึงเลยไอ้สัด!

   ตอนนี้ความรู้สึกผมมันเดือดปุดๆ ถึงขีดสุด ผมแว้นปาดซ้ายปาดขวาแซงรถที่กินน้ำมันตราเต่าจนถูกบีบแตรไล่บ้าง ตะโกนด่าบ้างผมก็ไม่แคร์ครับ เพราะตอนนี้ผมแมร่งโคตรรีบ ขนาดปวดขี้ผมยังไม่รีบขนาดนี้

   จากมหาลัยผมมาถึงมหาลัยมันก็ใช้เวลาเกือบๆ ชั่วโมง นี่ขนาดปาดแซงทุกคันแล้วนะ ผมเปิดไฟเลี้ยวเข้ามหาลัยที่มีป้ายบอกชื่อขนาดใหญ่โดดเด่นอยู่ด้านหน้า

   นักศึกษาต่างสถาบันพากันเดินไปมา แต่ผมไม่มีเวลามาสนใจหรอกนอกจากจะหาไอ้โชที่ตอนนี้มันอยู่ส่วนไหนของมหาลัยมันก็ไม่รู้.....

   เออว่ะ มันอยู่ตรงไหนของที่นี่วะ

   ผมรีบเบรกรถจนสองล้อปัดนิดๆ ดีนะที่ไม่มีรถขับตามหลัง ไม่งั้นมันชนผมแน่ครับ เพราะผมเบรกกลางถนน...แต่เดี๋ยวนะ ที่นี่มันดูคุ้นๆ เหมือนผมจะมาอยู่หลายครั้ง

   ผมไถมอเตอร์ไซค์ด้วยเท้าเข้าข้างทางก่อนจะมองรอบๆ ที่นี่มัน...มหาลัยของบลูแฟนผมนี่หว่า ทำไมมันบังเอิญแบบนี้วะ หวังว่ามันคงไม่รู้จักแฟนผมหรอกนะ ไม่ใช่กลัวมันจะแย่งแฟนผมนะครับ ผมแค่กลัวมันบอกเรื่องผมไปเที่ยวแล้วก็เอารูปบ้าๆ นั่นให้แฟนผมดู

   พอคิดอีกที เรื่องระหว่างผมกับบลูมีแค่ไอ้ทูกับเพื่อนรักอีกสองคนเท่านั้นที่รู้ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมบลูถึงอยากปิดเป็นความลับ ทั้งๆ ที่ผมก็หล่อขนาดนี้ แต่เอาตามที่แฟนผมสบายใจเลยครับ เธอบอกไม่อยากให้เสียประวัตินักศึกษาว่าที่เกียรตินิยมจบสามปี นี่แฟนผมโคตรเก่ง ต่างจากผมสุดขั้ว

   เรื่องแฟนเอาไว้ก่อน ผมควรตามหาไอ้โชก่อน มือถือๆ ผมรีบพิมพ์ไลน์ไปถามที่อยู่มันครับ นั่งลุ้นอยู่นานกว่ามันจะตอบ

   ‘ใต้ตึกสาม คณะวิศวะ’

   เหยด เรียนวิศวะด้วยว่ะ หน้าตาโคตรไม่เข้า ที่จริงถ้าผมไม่เห็นมันกระทืบคน หน้าตาหล่อๆ ขาวๆ นั่นผมคงคิดว่ามันเรียนหมอไปแล้ว

   “แล้วตึกสามคณะวิศวะมันไปทางไหนวะ” ผมพึมพำกับตัวเองขณะขี่มอเตอร์ไซค์ที่ความเร็วเต่าแซงได้ ถึงจะเคยมาแต่ก็ไม่เคยไปคณะวิศวะสักครั้ง บลูเรียนอักษร ผมก็ไปแต่คณะอักษร แล้วแบบนี้ผมจะไปถามใครละ

   ผมจอดรถอีกครั้งและพิมพ์ถามไอ้คนที่บอกว่าอยู่ตึกสามว่ามันไปทางไหน ให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา หรือว่าต้องตรงไป ครั้นจะถามเพื่อนผมก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวมันถามว่ามาทำไม...อ้อ ผมลืมบอกไปอย่าง เพื่อนผมอีกสองคนก็เรียนที่นี่ครับ พวกมันสติปัญญาดีเลยสอบเข้าที่นี่ได้ ที่จริงเพราะผมขี้เกียจอ่านหนังสือหรอกถึงสอบไม่ติดที่นี่

   เสียงไลน์ดังขึ้นมาพร้อมกับข้อความรายละเอียดถึงที่อยู่ของมัน งงๆ แต่ก็น่าจะไปถูกนะ มันให้ผมเลี้ยวซ้ายตรงมุมสามแยก ก่อนจะตรงไปเรื่อยๆ พอเจอพุ่มดอกสีส้มก็ให้เลี้ยวซ้ายมาอีกที เลี้ยวมาจะเจอป้ายห้ามจอด ไอ้เชี่ย มึงบอกละเอียดเกินไป   
 
   ตึกสามตั้งเด่นเป็นสง่า ข้างตัวตึกมีเลขสามตัวเบ้อเริ้ม อ่อ ที่นี่เองตึกสาม ผมชะลอรถก่อนเลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานจอด นักศึกษาที่อยู่แถวนี้ส่วนใหญ่ใส่เสื้อช็อปสีกรมท่า ตรงหน้าอกมีรูปฟันเฟืองบ่งบอกว่าเรียนคณะอะไร

   ผมพยายามเดินตัวให้ลีบสุดเท่าที่จะทำได้ ก็ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของผม แล้วผมก็มาจากถิ่นอื่น ยังดีที่ผมสวมเสื้อแขนยาวคลุมไว้ เลยพอกลมกลืนได้บ้าง

   ใต้ตึกมีโต๊ะและม้านั่งวางอยู่เกือบๆ สิบโต๊ะ และแต่ละโต๊ะก็มีนักศึกษาเป็นกลุ่มๆ จับจอง บ้างก็ส่งเสียงเฮฮาบ้าบอ เล่นกีต้าร์แซวสาว บ้างก็จมกับตำรา บรรยากาศก็ปกติเหมือนกันมหาลัยของผมนั่นแหละ

   ระหว่างทางที่ผมเดินเข้าไป ผมแอบสังเกตทุกอย่าง โดยเฉพาะสาวๆ เอ้ย ไม่ใช่ พวกเพื่อนของไอ้โชครับ เคยเห็นจากวันที่โดนมันลากไปนั่งด้วย แต่ใต้ตึกดูแล้วไม่มี แล้วมันบอกผมทำไมว่าอยู่ที่นี่วะ หรือมันจะแกล้งผม ไอ้เชี่ย อย่าให้กูได้เจอนะมึง

   “นี่ๆ” แรงสะกิดจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมอง โอ้ว ผู้หญิงครับ แถมยังสวยอีก ตากลมโต ผมยาวปะบ่า ตรงปลายดัดลอนนิดๆ ยิ่งตัดผมหน้าม้าอีก โคตรน่ารักอ่ะ เหมือนผู้หญิงญี่ปุ่นเลยครับ สเป็กผมเลย...

   ผมยิ้มหวานให้กับสาวหน้าญี่ปุ่น และเธอก็ยิ้มหวานตอบมา โอย หัวใจไอ้กลอยกำลังจะละลาย...

   ถ้าไม่ได้ยินประโยคนี้ที่มาพร้อมกับเสียงดังฟังชัด

   “เพื่อนเราชอบอ่ะ ขอเบอร์ได้ป่ะ” สาวหน้าญี่ปุ่นพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่โต๊ะเฮฮาเล่นกีต้าร์แซวสาว ซึ่งพวกนั้นก็ส่งเสียงฮิ้วฮ้าวตามมาติดๆ

   “เอ่อ” ไปไม่เป็นเลยผม

   “น้า เพื่อนเราชอบจริงๆ” สาวหน้าญี่ปุ่นทำหน้าตาแบ๊วกระชากใจผมสุดๆ จนแทบจะควักโทรศัพท์ให้ไปเลย

   “มะ มันแบบวะ...ว่า” ผมเป็นโรคติดอ่างไปเรียบร้อยครับ

   ผมแพ้ทางสาวตัวเล็กน่ารักสุดๆ

   “เธอไม่ได้เรียนคณะนี้ใช่ป่ะ เราไม่เคยเห็นเลย เพราะถ้ามีคนน่ารักแบบนี้อยู่ เราต้องเห็น” เธอยังพูดต่อครับ ดูท่าทางเป็นมิตรสุดๆ นี่ถ้าไม่มีเสียงดีดกีต้าร์กับเสียงโห่ฮิ้วมาทุกๆ ท้ายประโยคมันคงจะดีกว่านี้

   “คะ ครับ ผมไม่ได้เรียนคณะนี้” ผมตอบแต่สายตาพยายามกวาดหาไอ้คนที่เรียกผมมา คือเอาจริงๆ ตอนนี้รู้สึกกลัว ก็สายตาทุกคู่ใต้ตึกเริ่มหันมาสนใจผมกับผู้หญิงหน้าญี่ปุ่นคนนี้ ขนาดพวกจมกับกองหนังสือยังเงยหน้ามาสนใจ

   โคตรอายบอกเลย

   “แล้วเธอเรียนคณะไหนอ่ะ เพื่อนเราจะได้ไปหาถูก ใช่มั้ยพวกมึง”

   “ใช่คร้าบบบบ ฮิ้ววววววววววว”

   ใครก็ได้มาพาผมออกจากที่นี่ที น่ากลัวเหี้ยๆ

   “เธอยังไม่ได้ให้เบอร์เราเลย” สาวหน้าญี่ปุ่นว่าก่อนจะรีบวิ่งไปเอามือถือเพื่อนที่อยากขอเบอร์ผมมาให้กดเลขลงไป

   แม้หน้าตาของไอ้คนที่ขอเบอร์ผมมันจะไม่ได้ขี้เหร่ ออกจะหน้าตาดีหน้าตี๋อินเทรน แต่คือมันเป็นผู้ชายไง ผมไม่ได้ชอบผู้ชายโว้ยยย

   ผมกำลังลังเลว่าจะกดเบอร์ตัวเองใส่โทรศัพท์ที่กำลังถืออยู่ดีหรือเปล่า มือถือที่อยู่ในมือก็ถูกยกลอยออกไปต่อหน้าจนผมสะดุ้ง พอหันไปมองด้านข้างก็เห็นไอ้ผู้ชายหน้าตาดีกำลังยิ้มให้กับสาวหน้าญี่ปุ่นก่อนมือขาวๆ นั่นจะคืนโทรศัพท์ให้ไป

   “พี่จอม” เสียงหวานของสาวหน้าญี่ปุ่นทักทายคนที่มายืนข้างผม

   “ขอเบอร์แทนคนอื่นไม่ดีนะครับน้องแป้ง” ไอ้จอมมันพูดเสียงนุ่มมากครับ

   “แป้งขอให้ไอ้เก้าค่ะ” สาวหน้าญี่ปุ่นชื่อแป้งบอก ดูตาเธอลอยๆ นะ ผมว่าคงจะหลงใหลไอ้คนข้างๆ ผมแน่

   แต่ถ้าเธอได้เห็นตอนมันกระทืบคนคงจะไม่กล้าเข้าใกล้แบบนี้หรอก ผมจำความแรงของตีนมันได้ดี

   “มันก็ไม่ดีอยู่ดี” ไอ้จอมว่า ก่อนปั้นหน้านิ่งมองไอ้กลุ่มที่เมื่อกี้ยังครื้นเครงแซวคนที่เดินผ่านไปมา ตอนนี้กลับเงียบทำตัวเรียบร้อย “อย่าส่งเสียงรบกวนคนอื่นที่เขากำลังทำงาน”

   “คร้าบบบ/ค่า” เสียงกลุ่มนั้นขานพร้อมกันจนน่าแปลกใจ

   เมื่อเห็นว่ากลุ่มนั้นทำตาม ไอ้จอมก็ยิ้มพอใจก่อนจะมองมาที่ผมนิ่งๆ ทำไมสายตาแมร่งดุวะ ติดเชื้อเพื่อนมึงมาหรือเปล่า ทีกับสาวหน้าญี่ปุ่นเมื่อกี้จ้องจนมดจะขึ้นตา

   “อะไร” ผมถาม เล่นจ้องไม่กระพริบแบบนี้มันก็แปลกๆ

   “มาหาไอ้โชไม่ใช่เหรอ แล้วมายืนให้พวกนั้นจีบทำไม” แล้วทำไมต้องดุกูวะ ผมไม่ตอบอะไรเพราะมันเดินหนีไปเฉย ผมก็เลยต้องรีบเดินตาม โดยมีเสียงนินทาระยะเผาขนว่าผมอาจจะมีซัมติงกับไอ้จอมนี่ เหอะๆ แค่คิดขนแขนก็ลุกแล้วครับ

   “มึงจะรีบไปตามควายหรือไง รอกูด้วย” คิดว่ามันจะรอเหรอครับ นู้น เดินไปไกลแล้ว

   ผมเดินตามมันผ่านตึกสามมาอีกตึกหนึ่งซึ่งมีทางเชื่อมกัน ตึกนี้ก็มีโต๊ะม้านั่งหลายโต๊ะและทุกโต๊ะก็มีคนนั่งเป็นกลุ่มเต็มไปหมด


   นี่มันงานวัดหรือใต้ตึกเรียนวะ

   เสียงพูดคุยมันโวกเวกโวยวายจนฟังไม่รู้เรื่อง บ้างก็ด่ากัน บ้างก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง แต่พอทุกคนหันมาเห็นไอ้จอมเดินเข้าไปโดยมีผมเดินตามอยู่ด้านหลัง เสียงดังๆ นั่นก็เงียบลง สายตาทุกคู่หันมามองอย่างสนใจ ผมกวาดสายตามองหาไอ้คนที่เรียกผมมาซึ่งมันนั่งอยู่โต๊ะตรงกลาง หน้าตามันดูเด่นกว่าชาวบ้าน ด้วยความขาวออร่าของมัน ผมทรงอันเดอร์คัทถูกเซ็ทมาลวกๆ แต่แมร่งโคตรดูดี

   “นั่นมันไอ้เด็กที่เจอเมื่อคืนนี่หว่า” คนพูดมันนั่งคนละโต๊ะกับไอ้โชครับ ดูเหมือนน่าจะอยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืน

   “ติดใจเพื่อนกูหรือเปล่า เพื่อนกูลีลามันเด็ดโว้ย”

   “ฮิ้วววววววววว”

   เสียงแซวต่างๆ นาๆ ดังจนผมต้องเอามืออุดหู แล้วเมื่อกี้ไอ้จอมสั่งไอ้พวกด้านหน้าให้เงียบเพราะรบกวนชาวบ้าน กลุ่มพวกมึงนี่ดังกว่าอีก เพื่อนมันอีกคนคงเห็นผมยืนไม่ยอมเดินมันเลยเดินมาดันผมไปหาเพื่อนมัน แม้ผมจะรั้งตัวไว้ แต่ไอ้นี่มันโคตรแรงเยอะ จนตอนนี้ผมมายืนตรงหน้าไอ้โชครับ

   อย่าคิดว่าผมจะไม่ทำในสิ่งที่คิด ที่ว่าจะต่อยหน้ามัน แต่ขอติดเอาไว้ต่อยมันตอนไม่มีเพื่อนแบบนี้แล้วกัน คือผมยังไม่อยากตาย และพอผมมายืนตรงหน้ามันก็จ้องผมอย่างกับไม่เคยเห็น

   “เมื่อคืนเห็นในที่สลัวๆ ว่าน่ารักแล้ว พอเจอตอนกลางวันแบบนี้มันโคตรของโคตรน่ารักว่ะ ไอ้โชแมร่งตาถึงสัด”

   “ถูกของมึงไอ้เบ รู้งี้เมื่อคืนกูออกไปหาแบบนี้บ้างดีกว่า” ผมจำไอ้คนนี้ได้ครับ มันคือคนที่มีน้องโนตมนั่งตัก นี่พวกมันเรียนที่เดียวกันหมดเลยเหรอเนี่ย

   ผมมัวแต่มองคนนั้นพูดทีคนนี้พูดทีจนลืมมองไอ้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม มันจ้องจนตาจะหลุดออกจากเบ้าแล้วครับ ตามันโคตรมีเสน่ห์นะ เวลามองแล้วมันรู้สึกแปลกๆ แต่มันดูดุไปหน่อยเลยกลบความรู้สึกแปลกได้บ้าง

   “มะ มองอะไร” อย่าเสียงสั่นสิไอ้กลอย

   “มึงมาช้า” นี่มันถามผมหรือเปล่า

   “ก็...”

   ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไร ไอ้จอมมันก็โพล่งขึ้นมา

   “กูเจอไอ้เด็กนี่ยืนให้พวกไอ้เก้ามันจีบอยู่หน้าตึก ให้เบอร์ไปแล้วด้วย”

   เชี่ย กูไม่ได้ยืนให้จีบ กูยืนหามึงต่างหาก ไม่ต้องทำหน้าดุจ้องกูเลยสัด

   “มึงให้เบอร์มันแล้ว?” เสียงแมร่งโคตรเย็น

   “กูยังไม่ได้ให้เว้ย” แล้วทำไมผมต้องมาแก้ตัวด้วยวะ “ว่าแต่ มึงมานี่เลย กูมีเรื่องต้องเคลียร์” ผมลากไอ้โชออกมาจากกลุ่มเพื่อนมันครับ ไม่สนเสียงโห่แซวเรื่องลีลาบนเตียงบ้าบอนั่น กูก็เด็ดเหอะ...ไอ้โชมันเดินตามมาแรงลากมาเงียบๆ พอมาถึงที่ๆ เงียบห่างไกลกลุ่มมันผมก็หยุดเดินแล้วหันไปจ้องหน้ามันแทน “มึงลบรูปกูเดี๋ยวนี้ไอ้สัด” 

   ไอ้โชยกมือกอดอก ปากแดงมันเหยียดยิ้มออกมาจนผมขมวดคิ้ว ท่าทางของมันนี่คงไม่ทำตามแน่

   “ไอ้โช กูบอกว่าให้มึง...”

   “เรียกกูว่าพี่”

   “หา?”

   “กูแก่กว่ามึง มึงต้องเรียกกูว่าพี่”

   “ไม่ กูไม่เรียก”

   “งั้นกูจะเอารูปมึงไปปล่อยในเพจ”

   “ไอ้เชี่ย มึงจะเอายังไงวะ”

   “เรียกกูว่าพี่”

   เอากับมัน ผมโคตรปวดหัว แค่จะให้ผมเรียกว่าพี่เนี่ยนะ มันใช่เหรอวะ

   “เออๆ พี่ พอใจยัง”

   “ชื่อกูล่ะ”

   แมร่งโคตรเรื่องมาก

   “พี่โช”

   “หึๆ”

   มันหัวเราะในลำคออย่างพอใจก่อนจะเอามือถือมันออกมา ผมรีบแย่งแต่มันชักหลบเฉย จะว่าเหมือนในหนังในละครมันก็ใช่ เพราะผมพุ่งใส่เต็มแรง ตัวผมเลยชนกับอกมันเต็มๆ แล้วเราก็ล้มไปโดยที่ผมทับอยู่บนตัวของมัน นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นมันเหมือนมีแรงดึงดูดชวนมองให้หลงใหลจนเผลอจ้องอยู่นาน

   เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นเรียกสติของผมให้กลับมา ก่อนรีบผละออกจากร่างของไอ้โชโดยที่ปากผมกับปากมันเกือบจะแตะกันอยู่แล้ว ฟู่ววว เกือบไปแล้ว เกือบจะเสียจูบที่สองให้มันอีกแล้ว

   ผมกับมันยืนขึ้นพร้อมๆ กัน ก่อนพวกเราจะหันไปสนใจเจ้าของเสียงฝีเท้าที่เริ่มเดินเข้ามาใกล้ทุกที ดูเหมือนจะไม่ได้มาคนเดียว แต่นั่นไม่ทำให้ผมตกใจเท่าผู้หญิงที่เดินมาคือแฟนของผมเอง เชี่ยย แจ็คพอต

   ผมรีบหลบหลังไอ้โชทันทีพร้อมกับกำชายเสื้อด้านหลังมันแน่น ดีที่มันตัวหนากว่าผม เลยเป็นที่กำบังได้พอดี ผมภาวนาให้แฟนผมรีบๆ เดินผ่าน...แต่มันก็ไม่เป็นใจเหลือเกิน...

   “อ่าวไอ้โช มึงมายืนทำไมแถวนี้วะ” เสียงผู้ชายที่เดินมาข้างบลูพูดครับ

   “กูมาสูบบุหรี่ แล้วมึงไปไหนมา พวกไอ้เบตามหาอยู่” ไอ้โชถาม

   “กูพาบลูไปกินข้าวมา”

   ใช่บลูแฟนผมจริงๆ ด้วย แล้วทำไมต้องไปกินข้าวกับเพื่อนไอ้โชด้วย

   “พี่โชกินข้าวหรือยังคะ” น้ำเสียงที่ผมคุ้นเคยถามไอ้โช ผมยิ่งกำชายเสื้อมันแน่นขึ้น หัวใจก็เต้นแรงจนแทบจะระเบิด

   หมายความว่ายังไงวะ

   “ยังครับ พี่ทำงานยังไม่เสร็จ” ไอ้โชตอบเสียงนุ่มชวนฝัน ผมแอบโผล่หน้าไปดูสองชายหญิงนั้น ทำให้เห็นหน้าบลูกำลังยิ้มเขินส่งมาให้ไอ้คนที่ผมกำลังกำชายเสื้อมัน

   “ไอ้เหี้ยโชมึงเลิกทำตาหวานใส่แฟนกู ก่อนที่กูจะโมโหไอ้สัด” น้ำเสียงไม่จริงจังเรียกเสียงหัวเราะจากไอ้คนมีชื่อในประโยค

   แต่ผมไม่รู้สึกขำเลยสักนิด

   “งั้นเดี๋ยวบลูกลับคณะก่อน พี่ซันรีบกลับไปทำงานเถอะค่ะ” บลูพูดเสียงหวานกว่าที่คุยกับผมซะอีก เวลาพูดกับผมเธอไม่เคยส่งเสียงฉอเลาะแบบนี้เลย มีแต่ผมที่พูดเอาใจอยู่ฝ่ายเดียว

   “ให้พี่ไปส่งมั้ย” ไอ้ซันถาม ก่อนบลูจะส่ายหน้า “งั้นตอนเย็นเรียนเสร็จโทรมาบอกด้วยนะ พี่จะได้ไปรับ”
 
   บลูส่งยิ้มหวานก่อนจะเดินหันหลังกลับไป นี่เธอคบซ้อนเหรอ ผมยืนนิ่ง น้ำตาก็จวนจะไหลออกมา โคตรเจ็บอ่ะ ได้เห็น ได้ยินแบบนี้ มันมากกว่าได้ฟังมาจากไอ้เพื่อนสองตัวนั่นอีก ใช่ครับ เพื่อนผมที่เรียนที่นี่เคยเตือนผมเรื่องบลูมาก่อน แต่ผมก็ไม่เชื่อ คิดว่าพวกมันล้อเล่น ถ้าล้อเล่นจริงสถานการณ์แบบนี้ ตอนนี้ มันคงเล่นจริงจังไปหน่อย ผมยืนสั่นหงึกๆ อยู่หลังไอ้โชจนเพื่อนมันเห็น

   “แล้วที่หลังมึงนั่นใครวะ” ไอ้ซันชะโงกหน้ามามองผมที่ยืนหลับตากั้นน้ำตาที่มันพาลจะไหลจนไม่โต้ตอบทั้งๆ ที่หมาในปากพร้อมทำงานทุกเวลา “เด็กมึงเหรอ”

   “เออ” ไอ้โชตอบพร้อมกับเอามือมาจับมือผมให้คลายชายเสื้อมัน แล้วมันก็ดึงผมมายืนข้างๆ

   “เปลี่ยนแนวนี่หว่าไอ้สัด แต่ก็น่ารักดี ตาถึงๆ เพื่อนกู” ไอ้ซันมันก้มหน้ามองหน้าผม ก่อนมันจะเดินผ่านเพื่อนมันพร้อมกับตบไหล่แปะๆ

   พอเพื่อนมันเดินไปแล้ว ไอ้โชก็หันมาสนใจผมที่ยืมก้มหน้าอย่างเดียว

   “เป็นอะไรของมึง”

   “เพื่อนมึง...” ผมถามเสียงโคตรจะเบา จนไอ้คนฟังทวนคำที่ได้ยิน

   “เพื่อนกู? ทำไม หรือมึงรู้จักไอ้ซัน”

   “ไม่รู้จัก” ผมตอบเสียงดุนั่น ก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเงยหน้าจ้องไอ้โช “เพื่อนมึงกับผู้หญิงคนนั้นคบกันมานานหรือยัง” แม้ไม่อยากถาม แต่ผมควรจะรู้ใช่มั้ยครับ

   ไอ้โชมองหน้าผมอย่างสงสัย มันคงคิดว่าผมจะอยากรู้เรื่องเพื่อนมันไปทำไม แต่เพราะผมจ้องมันนิ่งไม่มีท่าทีกวนตีน มันเลยยอมบอก

   “น่าจะสองสามปีมั้ง กูเห็นมันควงกันตั้งแต่แฟนมันยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย” คำตอบนั้นทำเอาผมเจ็บจี๊ดจนต้องจับหน้าอกตัวเอง

   “ทำไมถึงรู้จัก” คอผมมันแห้งผาดเหมือนขาดน้ำมาหลายวัน

   “ทำไมถึงอยากรู้”

   “กูถามมึงอยู่ไม่ใช่ให้มึงถามกลับ” ผมเผลอตวาดจนไอ้โชตกใจ “ขอโทษ”

   ดูหน้ามันยิ่งงงหนักแต่มันก็ยอมบอก

   “แฟนมันมาติวเข้าอักษรที่มหาลัย พอดีพวกกูรู้จักกับพวกอักษรก็เลยเจอกัน แต่กูก็ไม่รู้ว่ามันไปจีบกันเมื่อไหร่ เพราะมันก็ไม่เคยเล่า...มึงโอเคป่ะไอ้กลอย ไอ้กลอยมึงฟังกูอยู่หรือเปล่า”

   ไม่ครับ ผมไม่ได้ฟังมันเลย เพราะเสียงมันถูกตัดจากโสตประสาทของผมเรียบร้อย...งั้น แปลว่าบลูก็คบกับผู้ชายคนนั้นตั้งแต่คบกับผมปีแรกๆ แล้วทำไมตอนนั้นเธอถึงยอมมาคบกับผม ทั้งๆ ที่บอกออกมาก็ได้ว่ามีคนคุยอยู่แล้ว ทำไมต้องมาหลอกผม เห็นไอ้กลอยคนนี้โง่มากสินะ

   “พี่โช” ผมเรียกไอ้คนที่ยืนข้างๆ “ช่วยอะไรผมหน่อยสิ” บางทีเรื่องนี้ผมก็คงปิดจ๊อปความโง่คนเดียวไม่ได้ เรื่องนี้มันต้องจบแม้ผมจะเจ็บก็ตาม...



.....TBC
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 2 , 3<< // [17/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 18-07-2016 10:47:27
อ่าวนังบลู มาหลอกน้องกลอยชั้นทำไม  :m31: :m16:

รอตอนต่อไปๆ ค้างอยากอ่านต่อแล้วว ขอบคุณคนเขียนจ้า  :katai1: :katai1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 2 , 3<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 18-07-2016 14:58:58
นังบลูอย่างเลวอ่ะ  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 4<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 18-07-2016 15:23:04
Just you and I : 4




        ณ.เวลานี้อย่าได้ใช้คำว่าวุ่นวายครับ ต้องใช้คำว่าเหนื่อย ต้นเหตุก็เพราะผมโดนลากมานั่งที่โต๊ะของพวกเพื่อนไอ้พี่โชครับ ที่เหนื่อยก็เพราะต้องตอบคำถามซ้ำๆ จนเมื่อยปากแถมต้องคอยหลบแขนยาวๆ ของไอ้คนนั่งข้างๆ ที่มันชอบตีเนียนแอบมาจากด้านหลังโอบไหล่ผมทุกทีเวลาเพื่อนมันเดินเข้ามาถาม

   คนพวกนี้ต้องการอะไรจากผมครับเนี่ย

   “ไอ้เหี้ยโชแมร่งร้ายว่ะ กูนับถือๆ”

   มาอีกคนละครับ คราวนี้เพื่อนต่างคณะที่ถ่อมาซะหลายนาทีเพื่อนมาดูหน้าผม ที่จริงไม่ใช่แค่ไอ้พี่คนนี้หรอก ยังมีอีกหลายคนที่มาเพื่ออยากเห็นหน้าผม พอเห็นต่างก็อมยิ้มแล้วก็เดินจากไป

   รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเมียงู ที่มีแต่คนอยากดู พอเห็นก็แยกย้าย เดี๋ยวสิ ต้องเป็นผัวงูต่างหาก ผมไม่ยอมเป็นเมียหรอก ผมน่ะโคตรแมน

   “พวกมึงจะอะไรนักหนาวะ พวกกูทำงานไม่ได้เห็นป่ะ” ไอ้พี่จอมมันโวยวาย คือมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เจอหน้าผม มันบ้าหรือมันเกลียดผมหรือเปล่า หรือว่า....

   มันจะแอบชอบเพื่อนมัน...ชอบไอ้พี่โช

   “อ่าวไอ้จอม อารมณ์เสียอะไรอีกมึง เมียทิ้งเหรอ” เพื่อนต่างคณะมันพูดทำเอาไอ้พี่จอมตาวาวเลยครับ

   “ทิ้งบ้านมึงสิไอ้เหี้ย ไปไกลๆ ไปไอ้โจ้”

   “ไล่กูตลอด กูน่ารักจะตายมึงเห็นป่ะ” แล้วไอ้พี่ที่ชื่อโจ้ก็ยกฝ่ามือสองข้างแตะคางทำตาปิ๊งๆ ใส่

   ทำไมผมต้องมาเห็นอะไรแบบนี้

   “อุบาทจริงไอ้เชี่ย” พี่เบมันด่าเพื่อนมันพร้อมกับโยนยางลบใส่หัว ซึ่งโดนเต็มๆ
 
   “มึงอย่าไปว่าแบบนั้น แผลมันยังใหม่เว้ย”

   “แผลไรวะไอ้แทม”

   “เมียทิ้ง” แล้วพวกมันก็หัวเราะกันลั่นตึก ผมที่ไม่รู้อะไรยังแอบขำหน้าตาของไอ้พี่จอมที่มันทำหน้าเหม็นเบื่อ

   ...สมน้ำหน้า

   “เชี่ยจอม มึงทำยังไงให้เมียมึงทิ้งวะ หล่อขนาดเทพบุตร รวยขนาดเศรษฐี ผู้หญิงมันโคตรโง่...หรือฉลาดวะ” ไอ้พี่โจ้มันพูดไปหัวเราะไป แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นฉลาดที่ทิ้งเพื่อนมันไป ส่วนไอ้พี่จอมมันก็นิ่งอย่างเดียวไม่ตอบโต้ คงจะจุกอยู่ ฮ่าๆ

   “มันโดนทอมแย่งเว้ย ของแท้ไม่ชอบ ชอบของเทียม กูไม่เข้าใจ”

   “ไอ้เชี่ยเบ มึงไม่เข้าใจความรักเหรอวะ รักโดยไม่แบ่งเพศ จริงมั้ยไอ้โช” คนถูกถามไม่ตอบแต่ยิ้มเหยียด แล้วคุณพี่ไม่ต้องมาทำตามีเลศนัยใส่กระผมแบบนั้นเลย
 
   สงสัยกันใช่มั้ยทำไมผมถึงยอมโดนลากมานั่งด้วย ก็เพราะผมขอร้องให้ไอ้คนนั่งข้างๆ มันช่วยครับ...แต่ยังไม่ใช่วันนี้ ส่วนของวันนี้ผมคิดไว้แล้วว่าจะเอายังไง

   ที่จริงผมก็ไม่ได้โกรธบลูที่คบซ้อนหรอก อาจเพราะผมไม่ดีมากพอที่จะทำให้บลูควงผมออกไปเปิดเผยต่อเพื่อนๆ ได้ แต่มันก็ไม่ควรมาหลอกให้ผมรักแบบนี้ มาทำให้ผมรู้สึกเกลียดตัวเองที่หลงเชื่อขนาดนี้ 

   ระหว่างที่กำลังตัดพ้อตัวเองในใจ ไหล่ผมก็ถูกแขนไอ้พี่โชมันโอบครับ ไม่ใช่ว่าผมจะอยากให้มันโอบหรอกนะ แต่เพราะมันบอกว่าถ้าจะให้ช่วย ต้องทำตามที่มันบอกทุกอย่าง มันโคตรเห็นแก่ตัว นี่ถ้าไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ผมไม่มีทางยอมหรอก

   “คิดอะไรอยู่วะ ไม่สนใจกูเลย” เสียงที่ชิดรูหูจนผมต้องย่นคอหนี ลมหายใจอุ่นๆ ของมันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ โอ้ย อย่าใกล้กูขนาดนั้น

   “ปะ เปล่า แต่พี่ช่วยขยับออกไปหน่อยได้ป่ะ ผมร้อน” เอาจริงๆ คือไม่ชิน

   “แต่กูหนาวว่ะ” เชี่ย หนาวบ้านมึงมีเหงื่อเหรอวะ ผมเห็นเหงื่อเม็ดเป้งเกาะตามไรผมมันอยู่

   “เอ่อพี่ ทำไมพี่จอมถึงไม่ชอบหน้าผมอ่ะ” ผมกระซิบถามไอ้คนบอกหนาว ซึ่งมันก็ขยับห่าง...นิดหน่อย แบบนี้เขาไม่เรียกขยับแล้วเว้ย

   “ตอนไหนมันไม่ชอบมึง”

   “ก็ตอนนี้แหละ”

   ไอ้พี่โชมันหันหน้าไปมองเพื่อนมันที่ทำหน้านิ่งมองผม คือรังสีความไม่พอใจแผ่อยู่เต็มจนส่งมาถึงผมนี่แหละ ตั้งแต่ผมหย่อนก้นลงนั่งแล้ว...พอมันเห็นเพื่อนมัน มันก็หันมายิ้มให้ผมพลางยกมือมาลูบผมของผมเบาๆ

   “มันไม่ได้เกลียดมึงหรอก แค่ไม่ชอบหน้ามึง”

   “ไม่ได้เกลียดกับไม่ชอบหน้า มันอันเดียวกันหรือเปล่าวะ”

   “ก็คงคล้ายๆ ก็มึงดันหน้าคล้ายทอมที่แย่งเมียมันไปนี่หว่า”

   เชี่ย ตรรกะหน้าเหมือนมันทำให้โดนเกลียดได้ด้วยเหรอวะ มิน่าล่ะ ตอนเจอครั้งแรกมันยังดูปกติ แต่พอวันนี้มันกลับเกลียดขี้หน้า แค่ข้ามวันเองนะ

   “ผมคงซวยที่หน้าเหมือนอะนะ” ผมบ่น ไอ้พี่โชมันก็ขำเบาๆ แล้วมันก็หันไปสนใจงานตรงหน้าที่ถูกเอามากอง

   ผมมารู้ว่า พวกที่เอะอะพวกนี้อยู่ปีสี่ ปีสุดท้ายแล้วครับ แต่ก็ยังต้องมาเก็บอีกตัวสองตัวเพื่อจบ อันที่จริงวันเสาร์แบบนี้ไม่มีเรียน แต่นัดกันมาทำงาน ดีเนอะ ไม่เหมือนผมที่มีเรียนวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ดีที่มันไม่มีเรียนวันอาทิตย์ด้วย ไม่งั้นหมดโอกาสตื่นสายเลยทีเดียว

   “เอ่อพี่ ผมจะไปเข้าห้องน้ำอ่ะ” กระตุกแขนเสื้อไอ้คนที่นั่งอ่านหนังสือเล่มหนา ไอ้พี่โชมันหันมามองผมแปบหนึ่งก่อนพยักหน้า ผมก็เลยลุกออกมา โดยมีสายตาไม่ชอบขี้หน้าของพี่จอมตามมาด้วย

   แค้นฝั่งหุ่นสินะ แต่มันไม่เกี่ยวกับผมนะเว้ยเฮ้ย ไอ้พี่นี่แพ้แล้วพาลว่ะ




   ผมเดินผ่านทางเชื่อมออกมาทางด้านหน้าตึกครับ ด้านหน้าไอ้โต๊ะที่จีบสาวหายไปแล้ว โชคดีหน่อย ไม่งั้นต้องปวดหัวอีกแน่ ผมเดินออกมาจนถึงลานจอดรถ พร้อมกับล้วงมือถือตัวเองออกมาแล้วกดหาเพื่อนรักทันที หวังว่าวันนี้มันคงจะไม่มีเรียน...รอสายไม่นานมันก็รับครับ

        “มีไรไอ้เชี่ยกลอย”

   “พูดกับผมไม่เพราะเลยนะคุณอัธ” 

   “อย่ากวนตีน มีอะไรพูดมา กูกำลังทำงานอยู่”

   “กูเจอแล้วว่ะ”

   “เจออะไรวะ”

   “เจอบลูกับคนที่มึงเคยเตือน”

   “เชี่ย ไปเจอที่ไหนวะ แล้วมึงอยู่ไหนบอกกูมาด่วน เดี๋ยวกูไปหา”

   “มึงอยู่ไหน เดี๋ยวกูไปหา กูอยู่มหาลัยมึงนี่แหละ”

   “กูอยู่ห้องสมุดกลาง”

   “บอกทางดิ๊ กูไปไม่ถูก”

   ที่จริงผมน่าจะให้มันมาหามากกว่า แต่ผมก็เลือกที่จะขี่มอเตอร์ไซต์ไปหามันแทนตามทางที่มันบอก เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ตรงไป ข้ามสี่แยก ไม่นานก็ถึงครับ ห้องสมุดกลางที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ผมเลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดที่มีรถไม่มาก อาจเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ด้วยละมั้ง

   ผมจอดรถปุ๊บ ไอ้อัธก็เดินเข้ามาตบหัวผมที่คร่อมมอเตอร์ไซต์อยู่จนรถเกือบล้ม ไอ้นี่ชอบความรุนแรงตลอด มันเรียนคณะนิติครับ มันเห็นพ่อมันเป็นไอดอล คือพ่อของมันเป็นทนายที่เก่ง แถมยังอารมณ์ดี พวกผมไปบ้านมันทีไรถ้าพ่อมันอยู่มีตั้งวงเหล้าทุกครั้ง ชอบก็ตรงนี้แหละ

   “มึงเห็นหัวกูเป็นลูกวอลเล่ย์เหรอสัด”

   “ก็เหมือนดีนะ กลมๆ” มันไม่พูดเปล่า ยังเอาฝ่ามือมาลูบหัวผมวนไปวนมาจนทรงผมที่เซ็ทมาดีๆ ยุ่งไปหมด ผมปัดมือมันออกมันก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก อารมณ์ดีตามรอยพ่อครับไอ้นี่

   “ไหนมึงบอกทำงานไง แล้วนี่ไม่ทำแล้วเหรอ”

   “เพื่อนกูสำคัญกว่างานเสมอ” เกือบซึ้งละครับกับคำพูดมัน “ว่ามาๆ มึงไปเจอแฟนมึงกับคนใหม่ที่ไหน แต่เดี๋ยว กูโทรเรียกไอ้ม่านด้วยดีกว่า นอนตายซากอยู่หอไม่รู้ตื่นหรือยัง” ม่านคือเพื่อนสนิทอีกคนครับ มันเรียนเกษตร มันบอกเรียนจบมาจะเอาไปพัฒนาที่ของบ้านมัน คือพ่อกับแม่มันมีที่ดินที่เกือบๆ ร้อยกว่าไร่ ปัจจุบันทำสวนทำไร่ บ่อยครั้งที่พ่อแม่มันมา พวกผมจะได้ผลไม้สดๆ กลับบ้านคนละลังสองลัง

   “ไม่ต้องโทรหรอก กูโทรหาละแมร่งไม่รับ สงสัยยังไม่ตื่น”

   “เออๆ งั้นเดี๋ยวไปที่โต๊ะกูก่อน”

   ผมเดินตามไอ้อัธไปทางหน้าห้องสมุด แต่แยกลงด้านข้างซึ่งมีลานกว้างที่มีโต๊ะหลายสิบตัว แต่ละตัวก็มีนักศึกษานั่งอ่านหนังสือกันอยู่ สถานที่มันเงียบจนผมคิดว่า ถ้าผมได้มานั่งอ่านตรงนี้ คงต้องพกเสื่อกับหมอนมาด้วย เงียบแบบนี้น่าจะนอนสบาย
 
   ไอ้อัธเดินเข้าไปหาโต๊ะๆ หนึ่งซึ่งคงจะเป็นเพื่อนห้องเดียวกัน ทั้งโต๊ะมีอยู่ห้าคน ซึ่งทุกคนก็หันมามองผมงงๆ ก่อนจะยกยิ้มทักทาย ผมเห็นเพื่อนไอ้อัธกระซิบกระซาบมันแล้วเหล่ตามามองผม คือมึงจะบอกว่ากูคนแปลกถิ่นว่างั้น เพื่อนมันพูดจบก็โดนฝ่ามือไอ้อัธเข้าเต็มหัวจนผมปลิว เจ็บละสิ กูโดนมาก่อนหน้ามึงไม่กี่นาทีนี้เอง พอเก็บของเสร็จ พวกเราก็เดินมาที่รถผมครับ

   “ว่ามาๆ”

   “ตรงนี้เนี่ยนะ” ตรงลานจอดรถเลยนะเว้ย

   “เออ”

   “คือกูเจอที่ใต้ตึกคณะวิศวะว่ะ” ผมรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกเมื่อนึกถึงภาพที่บลูยิ้มให้ไอ้ผู้ชายคนนั้น หรือแม้กระทั่งไอ้พี่โช

   ไอ้อัธพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนคิ้วหนาๆ ของมันจะขมวดมุ่น “แล้วมึงไปทำอะไรที่ตึกวิศวะวะ”

   มันใช่เวลาที่มึงอยากรู้มั้ยไอ้เหี้ยอัธ

   ผมอึกอักไม่รู้จะตอบเพื่อนว่ายังไง จะให้เล่าเรื่องไอ้พี่โชวันนี้ก็คงจะเล่าไม่หมด แถมดีไม่ดี ไอ้อัธมันจะพุ่งไปหาเรื่องแทน ไอ้นี่เห็นอารมณ์ดีแบบนี้เลือดมันร้อนนะครับ เคยมีครั้งหนึ่งไอ้ทูโดนไอ้หัวโจกต่างโรงเรียนรุมเพราะคิดว่าไปจีบเมียมัน ไอ้อัธเห็นสภาพ มันแทบเหาะไปที่โรงเรียนไอ้พวกนั้นแล้วเรียกไอ้คนพวกนั้นออกมา แล้วคือมันต่อยต่อหน้าครูที่ยืนหน้าโรงเรียนเลยครับ ไอ้พวกนั้นถึงกับต้องไปนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ ส่วนไอ้อัธปากแตก หัวแตก แถมยังโดนพักการเรียน ยิ่งไปกว่านั้นคือเกือบจะเข้าไปนอนในคุก ดีที่พ่อมันเป็นทนายไปต่อรองผู้ปกครองฝ่ายนั้น ซึ่งมีหลักฐานว่าเด็กพวกนั้นมาทำร้ายก่อนแถมรุมห้าต่อหนึ่ง ฝ่ายนั้นจึงไม่เอาความ เลยโดนปรับคนละห้าร้อยบาทข้อหาทะเลาะวิวาท

   “กูหลงทางไงสัด” ผมแถจนเลือดออกสีข้าง แต่ดูหน้ามันไม่มีทางเชื่อผมแน่ๆ ครับ แววตาจับผิดแบบนั้น

   “เออ กูจะเชื่อมึงไปก่อน ตอนนี้เอาเรื่องแฟนมึงก่อน...แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่าเป็นคนนั้นจริงๆ กูไม่เคยเอารูปให้มึงดูเลยนะสัดกลอย”

   “ตากูก็มี กูเห็นบลูควงแขนแถมยิ้มให้ด้วย ยิ้มแบบที่ไม่เคยยิ้มให้กู โคตรเจ็บเลยว่ะ” ผมจับหน้าอกตัวเองที่ภายในมันกำลังบีบรัด

   “มึงเจ็บตอนนี้ อีกไม่นานมันก็หาย แล้วนี่มึงจะทำยังไง ยังจะคบอยู่มั้ย”

   “มึงไม่น่าถาม อยากเห็นเพื่อนมึงเป็นควายหรือไงไอ้สัด”

   “เชี่ย กูเจ็บสัด”

   ผมโบกหัวมันไป ความแรงบวกเพิ่มกว่าตอนมันตบหัวผม ได้เอาคืนสักหน่อยค่อยสบายใจ
 
   “กูอยากให้มึงช่วยหน่อย” ผมบอก

   “ช่วยอะไร อัธสุดหล่อคนนี้พร้อมเสมอ เพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นควายต่อไป” มันสาดคำว่าควายใส่หน้าผมเต็มๆ ครับ ไอ้เชี่ยนี่กวนตีนกู

   “พากูไปหาบลูหน่อย”
 
   “คณะอะนะ แล้วยัยนั่นจะอยู่เหรอวะ”

   “อยู่ดิ่ วันนี้บลูมีเรียนถึงบ่ายสาม” ผมก้มมองนาฬิกาตัวเองที่ใกล้จะบ่ายสามเต็มแก่ ประโยคที่ผมได้ยินตอนบลูร่ำลากับไอ้พี่นั่นผมยังจำได้ บลูนัดให้มันไปรับ

   “งั้นก็ไป เพื่อนกันไม่ทิ้งกัน กูแมร่งโคตรหล่อทั้งหน้าทั้งหัวใจว่ะ” พูดแล้วมันก็หัวเราะอย่างกับคนบ้า แม้หน้าตามันจะดูดี ขาว สูง ตาโต จมูกโด่ง แต่สัน...มันโคตรแย่เลยครับ กลอยสุดหล่อคอนเฟิร์ม

   ไอ้อัธพาผมแว้นมอเตอร์ไซต์จนมาถึงคณะอักษร คณะนี้ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะมาบ่อย ตั้งแต่ปีหนึ่งผมก็มารับบลูบ้างถ้าเธอโทรให้มา...จะว่าไป ทุกครั้งที่ผมจะมาที่นี่ บลูจะเป็นคนโทรบอกให้มา โดยที่ผมไม่เคยมาเองเลย ทำไมผมไม่เคยสังเกตเลยวะ เมื่อลงจากรถ ผมกับไอ้อัธก็เดินไปยืนรอหน้าตึกเรียน สาวๆ คณะนี้หน้าตาน่ารักเยอะครับ และตอนนี้หลายคนก็มองมาที่ผมกับไอ้อัธ ที่จริงมองแค่ไอ้อัธ ด้วยความหน้าตาดีเป็นทุน ยิ่งเป็นเดือนคณะตอนปีหนึ่งอีก คือมันเด่นจริงๆ ครับ ผมรากไทรสไตล์เกาหลีย้อมสีเทาทำให้มันโดดเด่นกว่าชาวบ้าน

   “เมื่อไหร่จะมาวะ กูร้อน” ไอ้อัธบ่น มือจับคอเสื้อกระพือไปมา ก็มึงพากูมายืนตากแดดมันก็ร้อนสิวะ อยากจะเถียงมันแต่เพราะผมเห็นบลูเดินมากับเพื่อนซะก่อน

   บลูเดินหัวเราะกับเพื่อนออกมาจนมาเห็นผมเธอก็รีบหุบยิ้มทันที หน้าสวยๆ ตอนนี้ติดบึ้งตึงจนเพื่อนของเธอยังรู้สึกได้ ขาเรียวสวยนั่นลากรองเท้าส้นแหลมมาหาผม ดวงตากลมที่ผมชอบมองจ้องดุมา ทุกทีผมจะกลัวใบหน้าแบบนี้เวลาเธอมองผม แต่ตอนนี้ผมกลับอยากเห็น

   “กลอยมาทำไม บลูไม่ได้โทรเรียกสักหน่อย” เสียงแหลมๆ โวยวายจนเพื่อนสาวที่เดินมาด้วยต้องแตะแขนเพื่อให้ลดเสียง

   “ผมก็อยากมาเซอร์ไพร์สแฟนบ้าง บลูไม่ชอบเธอ” ผมโคตรไม่ชอบน้ำเสียงตัวเองตอนนี้เลยให้ตาย นี่ผมใช้น้ำเสียงอ้อล้อแบบนี้กับผู้หญิงตรงหน้านี่มากี่ปีแล้ว

   “ไม่ชอบ และไม่มีวันชอบด้วย กลอยก็รู้ว่าบลูไม่อยากให้กลอยมายุ่มย่ามที่นี่ถ้าบลูไม่โทรไปเรียก” เสียงแหลมบอก...ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนั้น

   “เพราะรู้ไง บลูอ่า ผมก็แค่อยากพาบลูไปดูหนัง วันนี้เข้าวันแรกเลยนะ หนังโรแมนติคแบบที่บลูชอบด้วย”

   “วันนี้บลูไม่ว่าง...คือบลูต้องไปติวกับแนน ใช่มั้ย” บลูอึกอักก่อนหันไปหาเพื่อนที่ยังยืนยิ้มแหยๆ ให้

   “แน่ใจว่าติวกับเพื่อน” ทั้งผม บลูแล้วก็เพื่อนบลูที่ชื่อแนนหันไปมองหน้าไอ้อัธทันทีหลังมันพูดจบ บลูดูจะเกลียดขี้หน้าไอ้อัธพอดูครับ เคยขอให้ผมอย่าพามันมาด้วย เพราะไม่ชอบ ตอนนั้นผมก็เชื่อครับ ความรักไม่ได้ทำให้ตาบอดนะครับ แต่ผมโง่ที่เชื่อเอง

   “บลูไม่ชอบเพื่อนกลอย กลอยจะพามาด้วยทำไม” บลูพูดหางตาก็เหล่มองไอ้อัธ
 
   “ผมก็ไม่ชอบคุณเหมือนกัน ถ้าเพื่อนผมมันไม่โง่เป็นควายแบบนี้” ประโยคแรกมันพูดเสียงดังครับ ประโยคหลังมันอ้าปากพะงาบๆ เอา ผมอ่านปากมันออกเลยได้แต่ทำตาเขียวใส่ กลัวมันทำให้บลูผิดสังเกต

   “ก็ดี ส่วนกลอย...” บลูมองหน้าผมก่อนจะก้มมองนาฬิกาตัวเอง “กลอยรีบกลับเถอะ เดี๋ยวบลูจะต้องไปติวกับแนนแล้ว รีบๆ ไปเลย” บลูดันหลังให้ผมรีบไปที่รถตัวเองที่จอดอยู่ แม้จะรู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมก็เลือกที่จะคร่อมรถของตัวเองพร้อมดึงเพื่อนที่มันกำลังชะเง้อมองหาอะไรบางอย่าง

   พอผมสตาร์ทรถ บลูก็ยกมือโบกทันที ผมขี่มอเตอร์ไซต์ออกมาจนพ้นสายตาของบลู ผมก็จอดรถแล้วเดินวกกลับไปใหม่จนไอ้อัธมันบ่น แต่มันก็เดินตามผมไป

   “ทำไมมึงไม่เข้าไปหาเลยวะ ไม่ได้ดั่งใจกูเลยไอ้เชี่ยกลอย”

   ไอ้อัธบ่นเมื่อเห็นผมยืนกำมัดแน่นเมื่อเห็นผู้ชายคนที่ชื่อซันเดินเข้ามาหาบลู ถ้าผมอยู่ต่ออีกหน่อยคงเจอหน้ากันพอดี บลูปั้นหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นไอ้รุ่นพี่นั่นมา แขนที่ผมแทบไม่ได้จับยื่นไปคล้องพร้อมออกแรงดึงให้รีบเดิน ทิ้งให้คนที่ชื่อแนนมองตามอย่างละเหี่ยใจ

   “มันยังไม่ถึงเวลา กูอยากรู้ว่าบลูจะทำยังไงกับกูต่อ ดังนั้นมึงช่วยอยู่รอจนจบเกมส์ด้วย” ผมบอกก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงที่สั่นจนขาผมชาไปหมด

   ไม่มองก็รู้ว่าใครโทรมา

   “ไอ้เชี่ยกลอย มึงช่วยกูด้วย กูเจ็บปวด”

   เสียงโหยหวนดังจนแสบแก้วหู ขนาดไอ้อัธยืนอยู่ห่างๆ ยังได้ยิน ไอ้เชี่ยทูมันโวยวายอะไรของมันวะ ผมได้แต่ส่ายหน้า ก่อนพาเพื่อนไปส่งที่เดิมแล้ววนรถคู่ใจมุ่งหน้าออกสู่ถนนใหญ่เพื่อไปหาไอ้คนที่มันร้องขอความช่วยเหลือ นี่ถ้าเรื่องมันไม่ใหญ่ละก็ ไอ้เชี่ยทูโดนผมอัดตายแน่


   ...ว่าแต่ ผมลืมอะไรไปหรือเปล่าวะ





......TBC


อัพวนไปค่ะ ^^

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ^_^)///
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 2 , 3<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 18-07-2016 15:38:41
ชอบมากค่ะ ชอบแนวนี้จังเลย มาต่อไวๆนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 4<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-07-2016 16:33:43
ชอบๆๆๆๆอ่ะ
ต้องมีหลายคู่แน่ๆๆเลย
ลุ้นต่อ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 4<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 18-07-2016 18:23:12
น่าสนุกค่ะ มาต่อบ่อยๆ นะคะ รอติดตาม ค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 4<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 18-07-2016 18:53:40
กลอยลืมพี่โชไปเลย
นังบลูนี่น่าตบจริงๆ นิสัยอย่างนี้ทนมาได้ไงนะกลอย
อยากให้นางโดนเทให้หมดจริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 5<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 18-07-2016 19:13:22

Just you and I : 5



        วันนี้วันอังคารครับ ข้ามวันอาทิตย์กับวันจันทร์เพราะมันไม่มีอะไร เรื่องบลูก็ด้วย เธอปิดโทรศัพท์ตลอด ผมโทรหาไม่ติดเลย ไลน์ไปขึ้นอ่านแต่ไม่ตอบ เธอคงโกรธที่ผมไปหาโดยที่เธอยังไม่ต้องการ ผมผิดเหรอครับที่จะไปหาแฟนตัวเอง พอย้อนกลับไปนึกดู ผมมักจะนอยด์จนกินข้าวกินน้ำไม่ได้ถ้าบลูโกรธหรืองอน แต่คราวนี้ผมยัดได้ทุกอย่าง

   “มึงไปตายอดตายอยากที่ไหนมาวะไอ้เชี่ยกลอย” ไอ้ทูมันทำตาปริบๆ มองผมกินก๋วยเตี๋ยวชามที่สองครับ

   “เรื่องของกู มึงแดกของมึงไป” ผมมองมันตาขวาง หลังจากวันนั้นถูกมันเรียกให้แว้นกลับมา

   เสียเงินในเกมส์ไปจนหมดแล้วมันโวยวายโทรให้ผมไปหา มันใช่เรื่องหรือเปล่า ผมงอนมันไปหนึ่งวันเต็มครับ จนมันยอมเลี้ยงข้าวผมหนึ่งอาทิตย์ผมถึงหายโกรธ ไม่ใช่เพราะเห็นแก่กินหรอกนะ ผมแค่ไม่อยากโกรธมันนานก็แค่นั้นเลยยอม และที่เมื่อกี้มันโวยวายก็เพราะมันเป็นคนจ่าย

   “เดือนนี้เงินกูไม่เหลือแล้วสัด เสียทั้งเงินในเกมส์ เสียทั้งเงินในกระเป๋า” บ่นครับบ่น แต่ผมไม่แคร์ “มึงจะไปไหนไอ้เชี่ยกลอย อย่าบอกจะเอาอีกนะ” ไอ้ทูตาเหลือกที่เห็นผมยืนขึ้น

   “กูจะไปซื้อของหวานสิครับไอ้ทู เงินกูเองมึงไม่ต้องเลี้ยง” พอได้ยินมันก็ถอนหายใจแล้วก้มหน้ากินข้าวของมัน

   ผมเดินมาสั่งรวมมิตรที่ร้านป้าเจ้าประจำใต้ตึกเรียน ผมว่าน้ำหนักผมคงขึ้นหลายกิโล เสื้อมันก็เริ่มคับๆ สงสัยคงต้องไปออกกำลังกายบ้าง แต่เอาไว้ก่อน ตอนนี้ขี้เกียจ...พอได้ของหวานผมก็กลับไปนั่งที่โต๊ะ แต่ไอ้ทูไม่ได้นั่งคนเดียว ข้างๆ ยังมีไอ้คนที่ผมไม่ได้เจอ ไม่ได้ยินเสียงมาสองวันเต็ม

   “พี่มาได้ไงเนี่ย” ผมถามเสียงสูง ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แต่ผมกลัวเพื่อนผมถูกรังสีความเย็นแช่แข็งจนตายไปซะก่อน ไอ้ทูมันนั่งตัวแข็งทื่อ มือก็ถือช้อนที่มีข้าวแต่ไม่ยอมตักข้าวปาก

   คนถูกถามมองหน้าผมนิ่ง ในมือมันกำลังหมุนควงโทรศัพท์เครื่องแพงไปมา พอๆ กับเพื่อนมันที่มองซ้ายมองขวาอย่างกับสนใจ

   “กูโทรหามึงเป็นร้อยสายแต่มึงไม่รับ” เสียงนิ่งกับตาดุมาคู่กันอีกแล้ว

   “มือถือผมชาร์ตแบตไว้ที่ห้องอ่ะ” เรื่องจริงครับ ผมเล่นเกมส์มากไปหน่อย เช้ามาขีดแดงเลยจำใจต้องทิ้งไว้ในห้อง ไอ้พี่โชมันมองเหมือนไม่เชื่อแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนเพื่อนมันเดินไปที่ร้านขายข้าวแล้วครับ หลังจากถามไอ้ทูว่าข้าวแบบมันซื้อที่ร้านไหน
   ผมสอดตัวนั่งข้างไอ้พี่โช วางถ้วยรวมมิตรปุ๊บถูกมันแย่งกินปั๊บ เชี่ย อยากกินทำไมไม่ไปซื้อเองวะ ดูอย่างเพื่อนมัน ซื้อมาแล้วสองจาน จานหนึ่งข้าวผัดปู อีกจานข้าวผัดกุ้ง

   “พี่ทำไมไม่สั่งข้าวผัดทะเลเลยล่ะ จะได้ไม่ต้องกินแยก” ผมถามไอ้พี่จอมครับ มันเงยหน้ามามองด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะมองข้าวสองจานไปมา

   “เออว่ะ”

   ผมควรจะด่าดีหรือเปล่า แต่ไม่ดีกว่า กลัวคอขาด ผมควรหันกลับมาสนใจถ้วยรวมมิตรตัวเองมากกว่า ตอนนี้หมดไปครึ่งถ้วยแล้ว สงสัยมันจะหิว

   “พี่กินข้าวมายัง” ผมถาม ไอ้พี่โชมันช้อนตามองผม สายตามันดูอ่อนโยนมากตอนผมถาม
 
   “กูรอให้มึงถามนี่แหละ” มันตอบพร้อมมุมปากเหยียดยิ้มออกมา

          “เอ๊า” ไปไม่เป็นเลยไอ้กลอย

   “อยากกินอะไรก็ไปซื้อดิ่”

   “มึงกินข้าวแล้วเหรอ” ผมไม่ตอบ แต่พยักพเยิดหน้าไปที่ชามก๋วยเตี๋ยวที่วางข้างๆ มันเป็นคำตอบแทน “ทำไมไม่รอกู”

   “อ่าว ก็ผมไม่รู้ว่าพี่จะมา”

   ผมกับไอ้พี่โชคุยกันไปมา โดยมีไอ้ทูจ้องอย่างสงสัยใคร่รู้ สายตามันฉายแววเสือกออกมา ผมว่ามันต้องถามอะไรสักอย่างแน่หลังจากนี้นะ เพราะถ้าให้ถามตอนนี้มันคงถูกจับหักคอ

         เถียงกันไม่นาน ผมก็ต้องลุกไปสั่งก๋วยเตี๋ยวแบบที่ผมเพิ่งยัดเข้าท้องไป โดยมันให้แบงค์สีเทามาหนึ่งใบ นี่คิดว่าก๋วยเตี๋ยวชามสี่สิบบาทจ่ายแบงค์พันไปกูจะไม่โดนเขาเอาเส้นปาหน้าใส่ใช่มั้ย

    ผมเดินซุยๆ มาที่ร้าน สั่งเสร็จก็จ่ายเงินของผมไป ส่วนแบงค์ของมันเก็บใส่กระเป๋าแทน ไม่ได้อุ๊บอิ๊บหรอกนะ แต่มันเป็นค่าเดินทางและค่าเหนื่อยยกชามไปให้ พอวางมันก็จ้วงเอาๆ สงสัยจะหิว ดูจากเพื่อนมันซัดหมดไปแล้วจานครึ่ง พี่ท่านยัดจนหมดจริงครับ ข้าวผัดพิเศษสองจาน

   “แล้วพี่มาทำไมอ่ะ” ผมถามขณะมันวางตะเกียบ ได้เคี้ยวเส้นกับลูกชิ้นบ้างหรือเปล่าวะ

   “กูก็มาหามึง”

       “มาหาผมทำไม”

   “มึงลืมที่ตกลงกับกูเหรอ” เสียงนิ่งชวนขนลุกมาอีกแล้วครับ

   “ใครลืม ไม่มี!” เสียงสูงได้อีกกู ดูเหมือนไอ้พี่โชมันจะไม่เชื่อ ผมเลยหัวเราะแห้งๆ รับ จะว่าลืมมันก็ใช่อยู่หรอก “แล้วพี่จะให้ผมทำอะไรล่ะ บอกไว้ก่อน อันไหนทำได้ผมก็ทำ อันไหนทำไม่ได้ผมก็ไม่ทำนะเออ” ดักทางมันไว้ก่อน เผื่อมันให้ผมทำอะไรแผลงๆ

   “หึ ฉลาดจริงนะ” มันชมผมทำให้ผมแอบยืดนิดๆ มีคนชมว่าผมฉลาดแล้ว

   “เอ่อ...” เสียงขัดมาจากตรงหน้าเรียกให้ผมกับไอ้พี่โชมอง เสียงพี่จอมครับ มันกำลังจ้องจานข้าวไอ้ทู

   ...นี่พี่ยังไม่อิ่มเหรอวะ

   “พะ พี่มีอะไรกับผมเหรอ” ไอ้ทูเสียงสั่น คงกลัวคนนั่งข้างมันงับหัว

   “มึงไม่กินแล้วเหรอ” มันถามพร้อมชี้ ไอ้ทูมองตามก่อนส่ายหน้า จากนั้นจานมันก็ไปเป็นของไอ้พี่จอม กินเก่งจนผมนับถือว่ะ
 
   “เพื่อนพี่เอาข้าวไปยัดไว้ไหนหมดวะ” ผมกระซิบถามคนนั่งข้างๆ ซึ่งมันก็กำลังมองเพื่อนมันอย่างระอา

   ไอ้พี่จอมตัวมันไม่หนาเท่าเพื่อนหน้าดุมัน แต่สูงพอๆ กัน ส่วนกล้ามเนื้อยังไม่เคยเห็น จะชมว่ามีกล้ามมีแพกคงต้องข้ามไปก่อน

   “แล้วสรุปพี่มาทำไมวะ”

   “กูอยากกินข้าวกับมึงก็เลยมา”

   ผมก้มหน้าเพราะไม่อยากสบตาที่กำลังทำให้ผมใจเต้นแปลกๆ ก็เพราะคำพูดฟังดูเลี่ยนของมันนั่นแหละ ผมเคยตามจีบสาวๆ ประโยคพวกนี้ผมก็เคยพูด แต่ไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งจะถูกบอกแบบนี้เหมือนกัน แถมยังเป็นผู้ชายอีก ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกผู้หญิงที่ถูกบอกถึงต้องก้มหน้าเขิน...มันทั้งเขินและอยากอ้วกไปพร้อมๆ กันจนทนมองหน้าไม่ได้

   “พูดอะไรวะ ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย”

   “มึงน่ารักว่ะ” มันว่าพร้อมกับยกมือมาขยี้หัวผมซะฟูฟ่อง

   ผมอยากหายไปจากตรงนี้สุดๆ ไอ้เชี่ย กูเขินจริงนะเว้ย ไม่ต้องมาว่ากูน่ารักด้วย มันจะทำให้กูห่างไกลจากความมั่นใจว่ากูหล่อออกไปอีก 

   “พวกมึงช่วยไปจีบกันไกลๆ ตากูหน่อย กูแดกเฉาก๊วยไม่อร่อย” ไอ้พี่จอมมันพูดขัดกลางปล้องจนโดนเพื่อนมันเอาน้ำแข็งในแก้วปาใส่หน้า

        …พี่ท่านยังยัดเฉาก๊วยได้อีก! 

   “มึงไปนั่งแดกโต๊ะนู้นเลยไป” ไอ้คนกินเฉาก๊วยไม่ตอบทำเพียงยกเฉาก๊วยเข้าปากแล้วพึมพำคนเดียว เป็นเอามากจริงๆ สงสัยโดนเมียทิ้งจนเพี้ยน

   ก่อนพวกเราทั้งสี่จะหันไปมองเสียงเอ๊ะอะที่ดังจากประตูโรงอาหาร พอกลุ่มคนพวกนั้นก้าวข้ามประตูมา สายตานับสิบคู่มองกราดจนเห็นมีปีอื่นๆ ด้วย เลยพากันเงียบและทำตัวเจี๋ยมเจี้ยม ยิ่งในนี้ยังมีพี่ปีสามที่เป็นพี่ว้ากนั่งอยู่ด้วย ถ้าเกิดมันคึกแล้วเรียกพวกปีสองทำโทษละคุณเอ้ย ต้องโทรเรียกเพื่อนมาแทบไม่ทัน

   พี่ว้ากที่ว่าก็พี่รหัสไอ้ทูครับ พี่แกหน้าโหดแต่โคตรติงต๊อง เมาทีไรพี่แกลุกขึ้นเซิ้งทันที แต่ถ้าเวลาปกติแค่เห็นหน้าแกก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ยิ่งไว้หนวดไว้เครายิ่งแล้วใหญ่ ผมจำได้ว่า ตอนผมปีหนึ่ง พี่รหัสไอ้ทูหน้ายังใสกริ๊งอยู่เลย ผ่านไปปีเดียวแปลงร่างซะแล้ว

   ผมดูเด็กปีหนึ่งเดินสงบเสงี่ยมไปสั่งอาหาร ตาก็คอยหวาดระแวงกลุ่มปีสามที่นั่งกินเงียบๆ ไม่ใช่เพราะเรียบร้อยหรอกนะครับพวกพี่เขาน่ะ แต่เพราะต้องรีบอ่านหนังสือก่อนเข้าสอบคาบที่จะถึง...ผมรู้เพราะไปทักทายมาแต่โดนไล่มานั่งนี่เนื่องจากไปกวน (ตีน) พี่เขา

   “เด็กปีหนึ่งมึงไม่น่ารักสักคนว่ะ” ไอ้พี่จอมมันพูดขึ้นมาครับ ตามันก็มองเด็กๆ ที่พากันมานั่งหลังจากได้ข้าวแล้ว

   “น่ารักๆ มันก็มีว่ะพี่ แต่มีผัวหมดละ” ผมบอก ไอ้พี่โชหัวเราะขึ้นมาพร้อมๆ ไอ้ทู คนโดนหัวเราะหน้าบูดเป็นตูดไปแล้ว ผมโคตรอยากเห็นเมียของพี่แกว่ะ ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหนที่ยอมคบกับคุณพี่ท่าน กินข้าวอย่างกับปอบลง อารมณ์ก็ขึ้นๆ ลงๆ ยิ่งกว่าวัยทอง มิน่าพวกเพื่อนพี่แกถึงบอกผู้หญิงคนนั้นฉลาดที่ทิ้งไป...

   “แล้วเพื่อนมึงนี่ชื่ออะไรวะ” ผมกับไอ้ทูแทบเซตกเก้าอี้เมื่อไอ้พี่จอมมันหันมาสนใจคนนั่งข้างมัน คือมานั่งข้างคนแปลกหน้าไม่พอ ยังแดกข้าวมันอีก แต่กลับไม่รู้ว่าชื่ออะไร

   “ผะ ผมชื่อทูครับพี่” ไอ้ทูมันบอก ไอ้พี่จอมเลิกคิ้วมองก่อนถาม

   “มึงเป็นลูกคนที่สองเหรอ”

   “พี่รู้ได้ไง โคตรเก่งว่ะ” ไอ้ทูมันยกนิ้วโป้งสองข้างอย่างชื่นชม ผมได้แต่ส่ายหน้าให้กับความโง่ของมัน

   “กูรู้ว่ากูเก่ง”

   “พวกมึงไปจีบกันไกลๆ กูไป รำคาญ”

   ประโยคของไอ้พี่โชทำเอาผมตาโตครับ ตรงไหนที่บ่งบอกว่าไอ้พี่จอมมันจีบเพื่อนผมอยู่วะ ใครรู้บ้างช่วยบอกผมหน่อย ผมก็ไม่ต่างจากไอ้ทูที่มันมองอย่างสงสัย

   “เพื่อนพี่จีบเพื่อนผมเหรอ...ตอนไหนวะ”

   “ไม่รู้”

   นี่ผมมึนหรือไอ้พี่โชมันมึนกันแน่ครับ ผมเริ่มจะปวดหัวตุบๆ กับไอ้พี่สองคนนี้ แล้วก็แทบจะระเบิดเมื่อน้องรหัสสุดเลิฟของผมเดินเข้ามาทักทายพร้อมกับวางดอกกุหลาบสีขาวหนึ่งดอกบนโต๊ะ พี่โชมองดอกกุหลาบนิ่งๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองไอ้เด็กปีหนึ่งที่ยังยืนยิ้มแฉ่งให้ผมอยู่...

        เอ่อ มึงไม่เห็นรังสีสีฟ้าที่แสนจะหนาวเย็นเหรอวะ

   “พี่กลอยทำไมมองผมแบบนั้นอ่ะ ผมให้ดอกไม้พี่ทุกวันยังไม่ชินอีกเหรอ” ไอ้คนให้ดอกไม้ทำหน้าระรื่นไม่สนใจคนข้างตัวผมสักนิด แต่ก็แอบเหล่ด้วยหางตาอยู่แวบหนึ่งผมเห็น

   “ไอ้เชี่ยรอน ทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือนะมึง” ไอ้ทูพึมพำขึ้นมา แต่คนที่นั่งอยู่ได้ยินกันหมด คราวหลังมึงช่วยคิดในใจเถอะ

   ผมส่ายหน้ายื่นมือหมายจะหยิบดอกไม้ที่ผมได้เกือบทุกวันแต่ดันมีมือดีหยิบไปซะก่อนแถมยังทิ้งลงบนพื้นต่อหน้าต่อตาไอ้คนที่ให้ซะด้วย น้องรหัสผมย่นคิ้วมองหน้าไอ้พี่โชเลยครับ หว๋าๆ จะเกิดเรื่องหรือเปล่าเนี่ย

   “เอ่อรอน ขอบใจนะเว้ย แต่คราวหลังไม่ต้องก็ได้ กูเกรงใจ มึงเป็นน้องรหัสกู กูต้องเอาของให้ถึงจะถูก” ผมรีบพูดก่อนสถานการณ์จะย่ำแย่ไปกว่านี้ เพราะไอ้พี่โชมันเริ่มจ้อง ภาพมันกระทืบคนยังติดตา ผมกลัวน้องรหัสจะลงไปนอนสบายบนพื้นจนต้องหามไปโรงพยาบาล

   “ผมให้พี่ถูกแล้วครับ ส่วนที่พี่จะให้ผม ผมไม่อยากได้อะไร นอกจากพี่รับดอกไม้ผมทุกวันพอ” รอนพูดแต่ตามันจ้องคนข้างผมอย่างท้าทาย

   “เอ่อ...”

   “มึงนี่มัน...”

   “เฮ้ยพี่โช ผมว่าเราออกไปข้างนอกดีกว่า ผมอยากกินลูกชิ้นทอดหลังมออ่ะ” ผมรีบดึงแขนไอ้คนข้างตัวอย่างไวเพราะมันลุกขึ้นเตรียมคว้าคอเสื้อไอ้คนกล้าท้าทาย แถมหน้ามันบ่งบอกอารมณ์ว่าไม่ได้ทำเล่นๆ มันกำลังจะเอาจริง

   มึงไม่กลัวแต่กูกลัวไอ้เชี่ยรอน

   ผมลากแขนพี่โชมาด้านนอก โดยมีไอ้ทูกับพี่จอมเดินตามมา ดีที่สองคนนั้นยังเดินตามมาดีๆ ส่วนไอ้คนที่ผมกำลังลากมันกระฟัดกระเฟียด แรงมันเหมือนควาย ผมตัวแค่นี้เกือบเอาไม่อยู่ พอออกมาไกลมากพอ สายตาเขียวนั่นก็ส่งมาถึงผมแทบจะทันที...กูไม่เกี่ยวนะเว้ย

   “มันให้ดอกไม้มึงทำไม”

   “ก็มันเป็นน้องรหัสผม”

   “น้องรหัสเชี่ยไรให้ดอกกุหลาบ ไอ้กลอย ถ้ากูเห็นมึงรับของที่มันให้ กูจะตามไปกระทืบไอ้เชี่ยนั่นให้จมดิน” โหมดความรุนแรงมาเต็ม แล้วพี่ท่านจะโมโหอะไรขนาดนั้น

   “โหพี่ จะโมโหทำไมเล่า มันเป็นรุ่นน้องนะ” แล้วคุณพี่ก็เป็นพี่ยังไม่ได้เป็นเมีย นี่แค่คิดในใจผมยังไม่กล้าพูดหรอก

   “อยากข้ามจากน้องมาเป็นอย่างอื่นน่ะสิ”

   พูดจบไอ้คุณพี่ท่านก็จ้ำอ้าวโดยไม่รอใครเลยครับ ผมได้แต่มองตามอย่างเหนื่อยใจ นี่ผมผิดใช่มั้ยที่น้องรหัสเอาดอกกุหลาบมาให้เนี่ย แรงหนักที่แตะลงบนบ่ามาจากฝ่ามือของไอ้พี่จอม ผมมองหน้ามันเห็นมันยิ้มบางๆ มาให้

   “มันขี้หึงเกินไปมึงต้องเข้าใจมันหน่อย กูไปละ เอ่อ ไอ้ลูกคนที่สอง ไว้กูเลี้ยงข้าวคืนค่าข้าวในจานมึงก็แล้วกัน” พี่จอมบอกลาก่อนเดินตามเพื่อนมันอย่างสบายอารมณ์ คือเพื่อนพี่ร้อนเป็นไฟขนาดนั้น พี่แกยังใจเย็นเดินเอ้อระเหยอยู่อีก เป็นเพื่อนสนิทกันได้ยังไงวะ ต่างกันขนาดนี้ 

   แรงสะกิดจากแขนทำให้ผมหันไปมองเพื่อนตัวเองที่มองตาแป๋วแต่ฉายแววเสือกเต็มพิกัด

   “มึงกับไอ้พี่หน้าดุนั่นเป็นอะไรกันวะ”

   “เป็นคนรู้จัก” ผมตอบแทบจะทันทีที่ไอ้ทูถามจบ

   “กูไม่เชื่อไอ้สัด มันทำเหมือนมึงเป็นเมียมันอย่างนั้นแหละ”

   “เมียเชี่ย กูยังบริสุทธิ์ครับไอ้เชี่ยทู”

   แทบสำลักน้ำลายตอนได้ยินคำว่าเมียสาดใส่หน้า ผมต้องเป็นผัวสิ

   “เออๆ แล้วเรื่องแฟนมึงจะทำยังไง วางแผนไว้หรือยัง”

   “กูจะเล่นสงครามประสาท”

   “ยังไงวะ”

   “คอยดูละกัน ว่าแต่ กูอยากกินลูกชิ้นทอดจริงๆ มึงเลี้ยงกูด้วย โทษฐานที่มึงทำให้กูเสียเวลาวันเสาร์ตอนเย็น” ผมยิ้มร่าต่างจากไอ้ทูที่เริ่มบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ผมต้องสนเหรอ ไม่เลยสักนิด เราต้องกินเพื่อให้สมองมันทำงาน

   ...ในเมื่อเขาไม่มาหา เราก็ไปหาเองสิ ไม่เห็นจะยาก
 
   “มึงอย่าทำหน้าแบบนั้น กูเห็นแล้วกูกลัวความคิดเชี่ยๆ นั่น” ไอ้ทูว่าก่อนเดินหนีไป

   ...แล้วผมทำหน้าแบบไหนเหรอ มันก็ต้องทำหน้าแบบผู้ชนะอยู่แล้ว หึๆ ก่อนจะมุ้ยหน้าเมื่อมีกระดาษที่ถูกขยำปาใส่หน้าเต็มๆ ไอ้คนปามันปามาจากรถสปอร์ตคาร์หรูสีดำที่เคยเห็นที่เพิ่งขับผ่านหน้าไป พอคลี่กระดาษดูผมนี่ถึงกับปาลงพื้นพร้อมกระทืบซ้ำๆ




   ‘อย่าอ่อยให้มาก ถ้าไม่อยากเป็นเมียกูในเร็ววัน’



   ผมต้องกลัวมั้ย ตอบเลยว่า...กลัว


....................... TBC


ขอฝากน้องกลอย กับพี่โช ไว้ในอ้อมแขนของทุกคนด้วยนะคะ > / / <

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 5<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-07-2016 20:51:09
พี่โชหึงโหอ่ะ ชอบๆๆๆ อิอิ
น้องกลอยใจวางแผนดีๆๆน่ะ
คู่ต่อไปเชียร์พี่จอมน้องทูน่ะ คิกๆๆๆ
เอาอีกๆๆๆๆ ลุ้นต่อ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 5<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-07-2016 21:22:01
อั๋ยยะะะ.......สนุกมากกกกกก  ชอบบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่โช น้องกลอยใจ  :-[ :o8:
รอคอย ตอนกลอย เอาคืน บลู ฮึ่มมม  :m20:  :z6: :z6:
พี่จอม ถูกตาต้องใจ ต้องร่าง ทู ลูกคนที่สอง แล้วสิ 
รอ อย่างใจจดใจจ่อ  :L1: :L1: :L1:
ไร้ท สุดยอดเลย อ่านไปขำไป :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 5<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-07-2016 21:42:38
#โชกลอย  #จอมทู
รอวันกลอยหวั่นไหวกับพี่โช

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 5<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 18-07-2016 23:20:41
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 5<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 19-07-2016 01:53:12
กร๊าก ปาใส่หน้าเหรอ พี่ช่างสายS!
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 5<< // [18/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-07-2016 08:27:05
พี่โชโคตรขี้หึงอ่ะ 55555
พี่จอมแอบชอบทูป่ะเนี่ย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 19-07-2016 10:05:13
Just you and I : 6



         หิวข้าวครับตอนนี้ แล้วทำไมไม่ไปกินน่ะเหรอ ก็เพราะไอ้คนที่นั่งข้างๆ มันไม่ยอมไปยังไงครับ ผมถูกมันลากมามหาลัยมันตั้งแต่เช้า ทั้งๆ ที่ผมได้นอนตอนเกือบๆ จะตีสามเพราะต้องทำงานส่ง แล้วไอ้บ้านี่มันฟังมั้ย...ไม่เลย คนที่รับกรรมก็ผมนี่แหละ ทั้งหิว ทั้งง่วง แล้วต้องมาทนดูมันนั่งพิมพ์รายงานอะไรไม่รู้ ทั้งที่ใช้เพื่อนมันก็ได้ ไอ้พี่จอมนั่งเล่นเกมส์ในมือถืออยู่ข้างๆ ผมนี่แหละครับ

   “มึงนั่งดีๆ ดิ่วะ กูไม่มีสมาธิ” ไอ้พี่จอมมันบ่น

   “ก็ผมหิวข้าวอ่ะ ไปกินข้าวกันก่อนไม่ได้เหรอ” ผมบอก พร้อมกับกระตุกแขนเสื้อไอ้คนที่แทบจะสิงร่างกับแลปท็อปของตัวเอง “พี่ไปกินข้าวก่อนเถอะ”

   “ไอ้กลอย มึงนั่งยังไม่ถึงชั่วโมงก็หิวอีกแล้วเหรอวะ ตอนลงจากรถกูเห็นมึงถือถุงเซเว่นไปทิ้ง นั่นยังไม่อิ่มเหรอวะ” ทำไมพี่จอมมันชอบขัดผมจัง ผมยังเป็นเด็กวัยกำลังกินไง

   “ก็มันหิวนี่หว่า เมื่อคืนผมกินมาม่าไปกระป๋องเดียวเอง ตื่นเช้ามาเพื่อนพี่ก็ไปลากมาที่นี่เนี่ย” บ่นไปเหล่ตามองคนข้างๆ ไป จนสุดท้ายไอ้พี่โชมันคงรำคาญเสียงผม พี่แกเลยปิดหน้าจอลง

   “มึงได้อิ่มถึงชาติหน้าแน่” ไอ้พี่โชพูดเสียงโคตรนิ่งอ่ะ

   มันขู่ผมด้วยนะเห็นป่ะ

   “งั้นผมไปกินคนเดียวก็ได้ พี่ก็นั่งทำงานนี่แหละ”

   “แล้วมึงจะบ่นทำซากอะไร”

   “ผมก็บ่นคนเดียว”

   “มึงพูดออกเสียงซะขนาดนั้นไอ้กลอย” ไอ้พี่จอมมันพูดขัดก่อนยัดมือถือลงกระเป๋ายีนส์ “กูก็เริ่มหิวว่ะ ป่ะ”

   พวกเราสามคนพากันเดินไปที่โรงอาหารกลางครับ (ตามป้าย) พี่จอมมันโฆษณาชวนเชื่อร้านข้าวขาหมูแสนอร่อย มันว่าเป็นเจ้าประจำแถมได้เยอะด้วยยิ่งไปกว่านั้นเพราะมันหน้าตาดีป้าแกเลยแถมเยอะกว่าชาวบ้าน โคตรขี้โม้ว่ะ แต่ผมก็เดินตามมันไปนะ

   ผมเดินตามหลังพี่จอมมาแต่พี่แกดันถูกสาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้มทัก ผมเลยเดินมาต่อแถวก่อน รอคิวอยู่สองคิวผมก็ได้ข้าวขาหมูพิเศษเพิ่มไข่ต้ม แต่พอถอยออกมาผมกลับไปชนกับใครเข้า ดีนะที่จานที่ผมถืออยู่มันไม่สาดใส่เขา

   “ขอโทษครับ” ผมรีบเงยหน้าพูดเพราะมัวแต่ก้มมองจานตัวเองกลัวข้าวร่วง พอเห็นคนตรงหน้าก็เจอเลย...

   แจ็คพอตจริงๆ

   “อ่าว น้องคนนั้น” เสียงคนที่ผมชนครับ แต่อีกคนที่เดินตามหลังมากลับรีบหลบเมื่อเห็นผม

   “เอ่อ สวัสดีครับ” ผมยิ้มให้เพื่อนไอ้พี่โชที่เคยเจอเมื่อตอนนั้น

   “เอ่อหวัดดี มากินข้าวไกลนะ” พี่โชมันบอกเพื่อนมันว่าผมเรียนที่ไหน

   “พอดีมีคนอวดว่าข้าวที่นี่อร่อยผมเลยมาลองดูน่ะครับ พี่ก็จะกินร้านนี้เหรอ”

   “เจ้าประจำแฟนพี่น่ะสิ อ่าวหายไปไหนแล้ว” พี่ซันมองหาแฟนตัวเอง ผมอยากบอกเหลือเกินว่าหลบอยู่หลังเสานู้น “สงสัยจะไปซื้อผลไม้ แล้วพวกไอ้โชล่ะ” ถามได้แปบเดียวไหล่ของพี่ซันก็มีมือมาวาง
 
   “มีไรมึง”

   “ไอ้โชอ่ะ”

   “ซื้อข้าวแกงนู้น”

   “อ่อ ก็คิดว่าน้องเขามากินกับใคร”

   แล้วพวกเขาสองคนก็มองหน้าผมแปลกๆ แล้วก็พากันหัวเราะแบบโคตรจะเจ้าเล่ห์จนผมทำหน้าเลิกลัก คือแอบกลัวความคิดของพวกเขานะครับ

   ผมรีบเดินหนีมานั่งที่โต๊ะที่ว่าง ข้าวขาหมูกลิ่นหอมยั่วยวนจนผมต้องรีบจัดการ หนังหมูมันเยิ้มเวลากัดคงจะฟิน ยิ่งไข่มะตูมที่ไข่แดงสุกพอดีๆ เข้าปากคงละลายไม่ต้องเคี้ยว ผมจ้วงข้าวขาหมูเข้าปากกำลังจะงับแต่กลับมีคนเดินมานั่งตรงหน้าผมซะก่อน พอเงยหน้ามาผมเลยต้องวางช้อนลง คนตรงหน้าจ้องหน้าผมนิ่ง ใบหน้าสวยง้ำงอ ดูก็รู้ว่าไม่ชอบใจ ก่อนเธอจะพูดประโยคที่ผมโคตรไม่พอใจ

   “บลูสั่งกลอยแล้วไงว่าไม่ให้มาที่นี่ตอนที่บลูไม่ได้โทรเรียก แล้วกลอยมาทำไม”

   ผมได้แต่มองหน้าเธอ ไม่คิดจะตอบ ตอนคบกันบ่อยครั้งที่เธอจะว่าผมแบบนี้เวลาที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ แต่ตอนนั้นผมกลับง้อ ขนาดเคยลงทุนไปยืนคุกเข่าหน้าหอเธอทั้งคืนเพื่อให้หายโกรธ

   ควายนี่หว่าไอ้กลอย

   “กลอยฟังที่บลูพูดอยู่หรือเปล่า ทำไมไม่ตอบ”

   “ถ้าผมตอบไปบลูจะหายโกรธเหรอ” น้ำเสียงผมโคตรจะนิ่งจนผมแทบจะขนลุกกับตัวเอง บลูนิ่งมองก่อนส่ายหน้าตอบแทน “แล้วจะให้ผมพูดอะไร ในเมื่อพูดอะไรไปบลูก็โกรธอยู่ดี...แล้วเมื่อกี้ใครเหรอ” พอถูกถามบลูก็ทำท่าลุกลี้ลุกลนทันที

   “กลอยพูดถึงใคร บลูเห็นกลอยมานั่งที่โต๊ะนี่เลยเดินมาหานี่ไง บลูมากับแนน”

   ผมโคตรเกลียดการโกหก

   “เหรอ”

   “อืม แล้วนี่กลอยมากับใคร ไอ้คนที่เรียนนิติเหรอ บลูไม่ชอบเลยนะที่กลอยไปสนิทด้วย เพื่อนคนนี้ของกลอยไม่ชอบบลู”
 
   “มันเป็นคนดี แต่มันไม่ชอบคนโกหกน่ะ” ดูเหมือนบลูจะโดนคำพูดผมจนจุก ใบหน้าเธอบิดเบี้ยวก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเชิดหน้าเดินหนีไป นับวันผมเริ่มเห็นนิสัยจริงๆ ของเธอ และมันก็เป็นอย่างที่ไอ้อัธบอกทุกคำ

   หลังจากบลูเดินหนีไป ข้าวขาหมูในจานก็ถูกเขี่ยซะเละไปหมด คือหมดอารมณ์จะกินแล้วจริงๆ ทั้งๆ ที่ท้องมันก็ยังร้อง แต่มันกินไม่ลง

   โป๊ก เสียงโลหะกระทบกับของแข็ง ก็หัวผมนี่แหละครับ คนทำก็ไอ้พี่โชนั่นแหละ พี่แกไม่ได้ไปรอคิวซื้อข้าวนะครับ แต่มัวไปยืนคุยกับสาวหุ่นดีที่ทำตาเชิญชวนอย่างเปิดเผย พอๆ กับเพื่อนมันแหละครับ ที่ตอนนี้ไปนั่งกินกับสาวกลุ่มใหญ่กำลังหัวร้อต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนาน

   “เป็นอะไร หิวทำไมไม่กิน”

   “กินไม่ลงว่ะพี่”

   ไอ้พี่โชมันเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย “ทั้งที่เมื่อกี้ร่ำๆ อยากให้กูพามากินน่ะนะ”

   ผมพยักหน้า “เอ่อพี่โช ผมถามอะไรหน่อยดิ่”

   “ว่ามา”

   “ถ้าพี่มีแฟน แล้วแฟนพี่โกหกพี่จะทำยังไง”

   “ก็ต้องดูว่าโกหกเรื่องอะไร ร้ายแรงหรือแค่ไม่อยากให้เป็นห่วง” ดูเป็นคนมีเหตุผลใช้ได้ครับผู้ชายคนนี้

   “ก็แบบ คบคนอื่นไปด้วยคบเราไปด้วยอะไรเทือกนี้”

   “ฆ่าทิ้งสถานเดียว”

   สายตากับคำพูดดูก็รู้ว่าทำจริง ผมนี่ขนลุกทันทีที่พี่โชมันช้อนตาขึ้นมามอง
 
   “โหดว่ะ ใครเป็นแฟนพี่นี่เหมือนเอาชีวิตมาแขวนบนเส้นด้ายชัดๆ”

   “กูไม่ใช่คนไร้เหตุผลแบบนั้น”

   ไม่อยากจะเชื่อ

   “ถ้าพี่เจอแบบนั้นพี่จะทำยังไง จะเลิกเลยมั้ย”

   “คนที่มันนอกใจ ไม่ว่าทำตัวดียังไงมันก็ไป ดูอย่างเมียไอ้จอม มันดูแลดีขนาดออกเงินค่าเช่าคอนโดเดือนเป็นหมื่นให้ทุกเดือน เมียมันก็ยังไปกับคนอื่น”

   น่าสงสารไอ้พี่จอมว่ะ ขนาดพี่แกทุ่มเทขนาดนั้นยังโดนนอกใจ มันก็ไม่ค่อยต่างจากผมเท่าไหร่...ต่างเยอะก็ได้แต่เรื่องเงินนะ ที่บลูไม่อยากไปดูหนังกับผมก็เพราะเธอต้องออกส่วนของตัวเองเนื่องจากผมไม่มีเงิน จะว่าไปก็ทุกอย่างนั่นแหละ ทั้งกินข้าว ฟังเพลง ไปเที่ยว เราหารครึ่งกันหมด อาจเพราะแบบนี้บลูเลยคบกับพี่คนนั้นที่ดูจะรวยกว่า

   “เศร้าเนอะ”

   ผมมองหาคนที่ถูกเมียทิ้งที่ยังคุยเฮฮากับกลุ่มสาวกลุ่มใหญ่ ดูท่าจะเป็นคนคุยสนุกน่าดู แต่ทำไมเวลาอยู่กับผมพี่แกถึงพูดน้อยแถมยังคอยกัดผมตลอด หรือว่า....

   “พี่จอมเขาเกลียดผมเพราะเขาชอบพี่หรือเปล่าวะ”

   พู่ววว เต็มๆ ครับ ข้าวกระจายเกลื่อนโต๊ะ ที่มาก็ไอ้พี่โชที่ยังมีเม็ดข้าวเล็กๆ ติดที่มุมปาก โชคดีผมหลบทัน ไม่งั้นเต็มหน้าแน่

   “มึงเอาสมองคิดแล้วใช่มั้ยที่ถามกูแบบนี้”

   “คิดแล้วสิ โธ่” ผมว่าก่อนกวาดเศษข้าวที่เกลื่อนโต๊ะลงจานข้าวขาหมู ซึ่งมันก็มีเศษของถั่วฝักยาวค้างเติ่งอยู่บนหนังหมู แม้จะเสียดาย แต่ผมต้องจำใจทิ้ง

   “กูกับไอ้จอมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่อยู่ในท้อง โตมาด้วยกัน เคยจีบสาวคนเดียวกัน แต่ไอ้มันมาชอบกูเนี่ยคงจะไม่ใช่”

   “แล้วทำไมพี่เขาไม่ชอบผมอ่ะ”

   “อยากรู้ก็ถามมันดู มันเดินมาละ” ว่าแล้วก็ก้มกินข้าวของตัวเองต่อ

   พี่ไม่คิดจะรับผิดชอบข้าวในจานผมเลยเหรอ อย่างไปซื้อให้ใหม่แบบนี้

   ผมทำหน้ามุ้ยมองคนตรงหน้ากินข้าวอย่างอร่อย ก่อนจะรู้สึกหนักที่คอเมื่อมีแขนยาวๆ มาวางพาด แต่พอพาดได้ไม่ถึงสองวินาที น้ำแข็งปริศนาก็ปลิวโดนหัวเจ้าของแขนเรียบร้อย

   “ไอ้เชี่ยโช มึงนี่โคตรสกปรก” แม้ปากจะว่าให้เขา แต่มันก็ยื่นมือไปหยิบน้ำเก็กฮวยที่ถูกมือจุ่มลงไปหยิบน้ำแข็งมากินไปหลายอึก

   “พี่ก็สะอาดอะเนอะ” พี่โชหัวเราะทันทีที่ผมพูดจบ แล้วผมก็ได้ค้อนใหญ่ๆ จากผู้ชายคนข้างๆ “เอ่อพี่จอม ตอนพี่รู้ว่าแฟนพี่มีคนอื่น พี่ทำไงอ่ะ”
 
   “ไอ้เชี่ย มึงจะพูดขึ้นมาอีกทำไม” โวยวายลั่นโรงอาหารทันทีก่อนพี่แกจะนั่งลงตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องราวให้ฟัง “กูรู้มาสักพักละ แต่อยากลองใจ”

   “ลองใจยังไง”

   “ก็ไม่ไปหาที่ห้องหนึ่งอาทิตย์ พอกูแอบไปหาก็เต็มๆ ขนของเข้ามาอยู่ แล้วมีหน้ามาบอกว่ากูเป็นแค่พี่ชาย พี่ชายเชี่ยอะไรได้กันทุกวัน ลีลายังไงกูจำได้หมด ผู้หญิงแมร่งไว้ใจไม่ได้ บลาๆๆ” แล้วพี่แกก็สาธยายซะจนผมเริ่มเครียดตาม ชีวิตช่างน่ารันทดยิ่งนัก

   ผมตบบ่าพี่แกเพื่อปลอบใจ ผู้หญิงดีๆ ยังมีอีกมาก แค่คนที่เจอมันไม่ดีพอสำหรับเราต่างหาก พี่จอมฟูมฟายไปแปบเดียวก็ปรับหน้าเป็นปกติ แล้วเอาจานข้าวขาหมูผมไปกิน เอ่อ ข้าวในนั้นมันเป็นเศษที่กระจายเต็มโต๊ะเมื่อกี้ แถมออกมาจากปากพี่โชด้วย



   เมื่อกินอิ่ม พี่โชกับพี่จอมก็พากันเดินกลับ ส่วนผมแยกตัวไปห้องน้ำครับ พอทำธุระเสร็จก็เดินมาหาร้านขายของชำเล็กๆ ข้างตึก ขนมปังร้านนี้น่ากินมาก ดูเหมือนจะทำวันต่อวัน ผมเลยเลือกซื้อมาซะเยอะเผื่อหิว แต่พอจะหยิบพายสับปะรดกลับมีอีกมือหนึ่งมาจับด้วย

   เดจาวูจริงๆ คนที่จับอันเดียวกับผมก็พี่คนที่ผมเพิ่งเดินชนในโรงอาหาร

   “อ่าวน้องอีกแล้ว ใจตรงกันตลอดนะ” พูดแบบนี้ผมนี่จี๊ดเลย

   “ขนาดแฟนยังคนเดียวกันเลย” ผมพำพึมกับตัวเองเบาๆ ก่อนฉีกยิ้มให้กับเพื่อนของพี่โช “แฟนพี่ชอบพายสับปะรดเหรอครับ”

   “เปล่า พี่ชอบกินเอง ร้านนี้เขาทำอร่อย” พี่ซันแกก็หน้าตาดีนะครับ หล่อแบบสาวๆ ชอบ ดูเข้ากับคนได้ง่าย เป็นมิตร มิน่า บลูถึงชอบ

   “อ๋อเหรอครับ” ผมโคตรใจกว้างที่กำลังยืนคุยกับแฟนอีกคนของแฟนผมด้วยใบหน้าระรื่นแบบนี้

   “แต่ถ้าน้องชอบพี่ก็ยกให้ พี่กินเบื่อละ” แม้จะเป็นคำพูดเกี่ยวกับขนม แต่ผมโคตรไม่ชอบเลยว่ะ

   “ไม่เป็นไรพี่ ผมเอาอันอื่นก็ได้” ผมบอกพร้อมมือก็หยิบเอาขนมปังหมูหยองแทน จ่ายเงินเสร็จผมก็ยิ้มส่งท้ายแล้วรีบเดินมาใต้ตึกในตอนเช้า

    คือเอาจริงๆ นะ ผมเริ่มกลัวแล้วว่ะ ภายใต้ใบหน้าที่เป็นมิตรนั่นมันดูน่ากลัวกว่าคนที่ทำหน้านิ่งออกมาตรงๆ แบบพี่โชนั่นยังดูน่ากลัวน้อยกว่าอีก

   ผมเดินกลับมาที่โต๊ะก็ไม่เห็นพี่โช มีแต่พี่จอมที่นอนเหยียดยาวอยู่ที่เก้าอี้ไม้

   “มองหาผัวมึงเหรอ นู้น เอางานไปส่ง เดี๋ยวก็กลับมา” ไอ้พี่จอมมันคงว่างปากมากสินะ แล้วมาพูดผัวเผออะไร

   “ผัวอะไรพี่ ไม่มีอะ”

   ไอ้พี่จอมมันรีบลุกขึ้นทำตาโตมองผมครับ คือเหมือนมันตกใจมากหลังจากได้ยินคำตอบ

   “นี่มึงยังไม่โดนอีกเหรอวะ ไม่อยากจะเชื่อ กับไอ้โชเนี่ยนะ” ดูเหมือนพี่แกจะพูดอยู่คนเดียว แต่ดังจนผมได้ยินไปด้วย

   “มันน่าแปลกใจเหรอพี่”

   “เออดิ่ ปกติไอ้โชมันไม่เคยปล่อยให้เหยื่อรอดข้ามคืนหรอก เด็กของมันแทบทุกรายต้องเสร็จตั้งแต่คืนแรกแล้ว”

   นี่ผมควรจะดีใจหรือเสียใจดีครับเนี่ย

   “เพื่อนพี่แมร่งชั่วว่ะ ฟันแล้วทะ...ทิ้ง” หนาวยันไขสันหลังเลยครับ เมื่อคนที่ถูกเผายืนนิ่งอยู่ด้านหลังผม แล้วทำไมไอ้พี่จอมมันไม่ส่งซิกเลยวะ แล้วดูพี่แกล้มตัวลงนอนเล่มเกมส์เหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็เลยได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กับคนข้างหลังแทน “พี่มานานแล้วเหรอ”

   “มาตั้งแต่มึงด่ากูว่าชั่วนั่นแหละ”

   “ผมก็พูดไปตามเนื้อผ้า แหะๆ”

   พี่โชมันไม่พูดอะไรออกมาอีกเลยครับ เอาแต่เก็บของบนโต๊ะ ก่อนจะหันไปร่ำลาเพื่อนที่นอนสันหลังยาวอยู่ ส่วนผมก็ได้แต่เดินตามหลังต้อยๆ ก็ไม่ได้หวังให้ไปส่งหรอกนะครับ ขอแค่ติดรถไปลงหอเพื่อนแถวๆ นี้พอ

        แต่ผิดคาดครับ พอผมสอดตัวเข้าไปนั่ง มันก็ออกรถแล้วขับอย่างไว จะรีบไปไหนครับคุณพี่ เหยียบเบาๆ ก็ได้ ผมนี่นั่งเกร็งตูดไปหมด กลัวว่ามันจะเสยท้ายคันข้างหน้า ยิ่งภายในรถแอร์ถูกปรับให้เย็นเฉียบจนทำให้คิดว่า ถ้าตายศพคงแข็งไว

   รถเคลื่อนไปก่อนเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หลายรอบมากจนในที่สุดก็มาจอดนิ่งสนิทที่ลานจอดรถคอนโดฯ หรูกลางใจเมือง ตึกสูงเงยมองจนคอแทบเคล็ด ราคาก็คงจะทำให้ขนหน้าแข้งผมร่วงหมดแน่ แสดงว่าไอ้พี่โชมันรวยจริง แม้จะเห็นรถมันที่โคตรหรูก็เถอะ แต่สมัยนี้เช่ามาก็มีออกเยอะแยะ

   ผมรีบเดินตามคนขายาวที่แมร่งจะรีบเดินไปหาเห็ดบนห้องหรือไง พอเข้าลิฟท์ได้ก็แทบจะไม่รอผมที่วิ่งกระหืดกระหอบ ใจร้ายเหี้ยๆ

   แต่ทำไมผมต้องตามมันมาด้วย ผมควรกลับห้องไม่ใช่เหรอ
 
   ได้แต่คิดล่ะครับ เพราะตอนนี้ผมมายืนอยู่หน้าห้องมันแล้ว ความสูงก็ใช้ได้ทีเดียวแม้ไม่ใช่ชั้นบนสุด ขืนอยู่บนสุดของตึกลมพัดมาก็คงมีเอนกันบ้าง คิดแล้วก็เสียว ผมเลยเลือกที่จะมองไปรอบๆ ชั้นนี้แทน ชั้นนี้น่าจะมีห้องอยู่ราวๆ สิบห้อง ดูพื้นที่ระหว่างห้องมันน่าจะกว้างขวางเชียวล่ะ ถ้าผมมีเงินเก็บก็คิดจะซื้อไว้สักห้องเหมือนกันนะ

   ผมมัวแต่มองอย่างอื่นจนเพลิน รู้ตัวอีกทีแขนก็ถูกกระชากให้เข้าไปในห้อง แล้วมันก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เพราะเอาแต่จูบบดปากผมอย่างเดียว มันไม่ได้รู้สึกดีนะครับ แต่มันรู้สึกเจ็บ ไอ้เชี่ยกัดปากกู เดี๋ยวต้องเป็นร้อนในแน่ๆ ผมถูกมันกอดรัดฟัดและเหวี่ยงมานอนบนโซฟาโดยที่ร่างมันล้มทับตัวผมอยู่ มือใหญ่ก็พยายามจับมือผมที่ดิ้นสุดแรง แถมตอนนี้ปากมันละจากปากผมมากัดที่คอแทน เจ็บเชี่ย

   “อะ ไอ้เหี้ย มึงทำอะไรวะ” ผมด่าทั้งที่ยังหอบแฮก ตอนนี้ความสุภาพได้หายไปแล้ว เพราะไอ้เชี่ยนี่ไม่สมควรได้...มันจะปล้ำผมแล้วครับ!

   ไอ้เหี้ยพี่โชมันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาจ้องตาผม แม้ในนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนั่นจะมีผมอยู่ แต่ผมเลือกที่จะหลบ ไม่อยากมองหน้ามันสักนิด

   “ก็มึงบอกว่ากูชั่ว ทั้งที่กูยังไม่เคยทำอะไรมึง นี่ไง กูก็กำลังจะชั่วให้มึงได้เห็น” พูดจบมันก็ก้มหน้าไซร้ซอกคอที่ผมพยายามบิดตัวหนี แต่แรงควายแบบมันมีเหรอที่ผมจะสู้ได้ แล้วจู่ๆ มันก็หยุด ก่อนจะจับหน้าผมให้หันไปสบตา หัวแม่มือก็ปาดหางตาของผมที่มีน้ำมาคลอเตรียมไหล

   “ปล่อยกู” ผมจ้องหน้ามัน

   “กูไม่ได้ชั่วขนาดไล่ปล้ำคนอื่น” นี่ขนาดไม่ชั่วนะ “แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ ว่ามึงพิเศษกว่าคนอื่น” นัยน์ตากับน้ำเสียงมันดูอบอุ่นและจริงใจจนผมต้องเบือนหน้าหนี แต่มันก็จับหน้าผมให้หันกลับไปจ้องเหมือนเดิม “กลอย กูไม่เคยบังคับมึงถ้ามึงยังไม่เต็มใจ กูรู้ว่ามึงลำบากใจ แต่กูอยากให้มึงเปิดใจมองกูบ้าง”

   “นี่ขนาดไม่บังคับยังขนาดนี้ แล้วถ้าบังคับพี่จะทำขนาดไหนวะ ผมเป็นผู้ชาย เรื่องแบบนี้มันยอมรับกันง่ายๆ ได้ซะทีไหน ไหนจะแม่ผมอีก พ่อแม่พี่อีก พี่ไม่กลัวพวกท่านเสียใจเหรอ”

   “พ่อแม่กูเขาตามใจกู”

   “แล้วถ้ารู้ว่าพี่จะคบผู้ชาย ไม่มีทายาทให้ เขาจะยังตามใจพี่อยู่เหรอเปล่า”

   “พี่สาวกูมีทายาทให้แล้ว”

   ผมละปวดหัวกับมันจริงๆ ครับ ไอ้พี่โชมันก้มมาจูบปากผมเบาๆ ก่อนมันจะกอดผมทั้งตัว แต่ก็แน่นไปจนผมต้องตีเข้าไปที่ไหล่มันหนักๆ จนมันคลายกอดให้นิดนึง

   “กูไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องเป็นมึง รู้แค่ว่า ต้องมึงเท่านั้น กูจะรอวันที่มึงเต็มใจเป็นของกู”

   ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นหรือเปล่า เพราะตอนนี้หัวใจของผมมันเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่เห็นหน้าคนรักที่กำลังจะกลายเป็นแฟนเก่า เธอหลอกลวงผมมาหลายปีจนผมเริ่มกลัว ผมกลัวที่จะต้องเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ ยิ่งเป็นแบบผู้ชายด้วยกันแล้วผมยิ่งกลัว
 
   “ถ้าวันนั้นมาถึงแล้วผมจะบอก”

   “ขอบใจ กูจะรอวันนั้น”

   อาจเพราะความเหนื่อย เพลีย ง่วง หรืออะไรต่อมิอะไรทำให้ผมเผลอหลับในอ้อมกอดอุ่นๆ นั่นจนตะวันลับลาขอบฟ้า ต่อให้พรุ่งนี้ผมต้องเจอเรื่องแย่ๆ พอไม่นานมันก็กลับมามืดแล้วก็สว่างวนเวียนแบบนี้ไปทุกวัน แล้วไม่นานผมคงจะเปิดใจรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้...สักวัน



......... TBC


หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 19-07-2016 12:29:55
พี่โชตกหลุมรักกลอยง่ายจังค่ะ น้องกลอยก็ตามใจพี่มันจัง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-07-2016 12:42:37
ไม่ใช่ว่าไอ้พี่ซันก็รู้เหรอว่าบลูคบซ้อน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 19-07-2016 12:54:05
เข้าใจกลอย คนมันรักมาตั้งหลายปี สู้ๆ รีบๆตัดใจและจัดการกับนังบลู เกลียดนังนี่มาก :z3: :ling1:

พี่ซันไม่ใช่ว่าชอบกลอยหรอกนะ?? หรือรู้ว่าแฟนตัวเองคบซ้อน

พี่โชเท่นะ แต่อะไรทำให้ตกหลุมรักเร็วขนาดนี้นี่ ///รอๆตอนต่อไปค้า  :L2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 19-07-2016 13:12:48
งืออออน่ารักจังโว้ยยยย5555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-07-2016 14:17:54
อยากให้ซันกับกลอยรวมหัวกันจัดการนาังบลูชะมัดอ่ะ อยากรู้จังว่าจะทำหน้ายังไง :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 19-07-2016 14:20:14
ชอบอ่ะ อ่านเพลินดี ไปๆมาๆอ้าวจบแล้วหรอ? 5555+ รอตอนใหม่ค่ะ ชอบพี่โชโฉดแบบมีสติ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-07-2016 17:34:06
กลอย ทำสงครามประสาทกับบลู ท่าจะยาวนานกว่าจะเห็นผล :hao7:
บลู เก็บกลอยไว้เพื่ออะไร ? เพราะดูซัน เป็นตัวจริงของนาง
อยากเห็นตอน กลอย บลู ซัน ปะทะกัน :ling1: :ling1: :ling1:
พี่โช ทำตัวกับกลอย ต่างจากคนอื่น  :mew1:
แสดงว่าพี่โช เห็นกลอยเป็นคนพิเศษจริงๆ :katai2-1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 19-07-2016 18:20:42
มาต่ออีกเยอะๆ นะค่ะ รอๆ ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 19-07-2016 18:42:30

Just you and I :7



       จะบอกว่างานเข้าก็ได้หรือความซวยมาเยือนก็ได้ ก็เพราะตอนนี้ผมกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงนุ่มแถมยังมีแขนหนักๆ พาดลำตัวจนแทบขยับเขยื้อนไม่ได้ นั่นไม่น่าตกใจเท่าปลายเตียงมีผู้หญิงสวยยืนอยู่ และดูเธอจะอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ดวงตากลมโตเบิกกว้างพอๆ ปากที่อ้ารอแมลงวี่บินเข้าไป

   “แม่คะ คุณน้าคนนี้เป็นใครเหรอคะ ทำไมมานอนบนเตียงกับน้าโช” เสียงใสถามแม่ตัวเองพร้อมกับนิ้วป้อมๆ ชี้มาที่คนแปลกหน้า

   “แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” เธอตอบลูกสาวพร้อมๆ กับยกมือปิดดวงตากลมของเด็กเล็กก่อนเงยหน้ามองคนที่นอนร่วมเตียงกับเจ้าของห้อง “เธอเป็นใครแล้วทำไมมานอนกับโชแบบนี้...หรือว่าแฟน”

   “มะ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่” ผมรีบปฏิเสธจนลิ้นแทบพันกัน แม้สภาพผมกับไอ้คนที่ยังไม่ยอมเอาแขนออกจากเอวผมมันจะโคตรขัดก็เถอะ

   ผมจำได้ว่าตอนง่วงแล้วเผลอหลับ เสื้อผ้าผมยังอยู่ครบนะ แล้วไหงตอนนี้มันเหลือแค่บ๊อกเซอร์ เสื้อกับกางเกงผมหายไปไหน

   “ไม่ใช่แล้วทำไมนอนกันสภาพแบบนี้ พวกเธอคงจะ...ไม่อยากพูด” สาวสวยตรงหน้าที่ผมไม่รู้จักทำท่าทางเหมือนกับขนลุก ก่อนเธอจะเดินดุ่มๆ มายืนข้างเตียงแล้วยกเท้าขึ้นถีบช่วงเอวของไอ้คนนอนขี้เซา

   ผู้หญิงคนนี้โคตรโหด

   “ตื่น โชตื่น ถ้าแกไม่ตื่นฉันจะเอาน้ำมาสาดแก ตื่นโว้ย” เสียงพูดกึ่งตะโกนบวกกับความโหดทำให้ผมแทบอยากจะลุกหนี มือผมพยายามแงะ แกะ งัดแขนหนักๆ “ไอ้โช อย่าให้พี่แกต้องโมโหนะเว้ย”

   ได้ผลครับ ไอ้พี่โชเริ่มขยับ พอลืมตาตื่นขึ้นมามันก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มผมอย่างไวจนผมหลบไม่ทัน เต็มๆ ตาเลยครับ คนปลุกสายโหดอ้าปากค้าง ดีที่เด็กตัวน้อยเดินออกไปข้างนอกแล้ว ไม่งั้นได้อธิบายยาวเหยียดแน่
 
   “นี่แก...”

   “อ่าวพี่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่โชมองสาวสวยที่ยืนข้างเตียงอย่างเรียบเฉย ไม่มีท่าทีตกใจ ต่างจากผมที่เบิกตากว้างจนจะถึงท้ายทอย

   พี่สาว! มิน่าโหดเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง

   “มานานพอจะเห็นแกนอนกอดกับผู้ชายนี่แหละ” พี่สาวคนสวยทำตาดุมองน้องชายตัวเองแล้วเผื่อแผ่มาถึงผม ไม่ต้องทำตาดุใส่ผมขนาดนั้นก็ได้ แค่นี้ก็กลัวจะแย่แล้วครับ “แล้วนี่ แกจริงจังใช่มั้ยถึงพามานอนที่ห้องเนี่ย”

   “ก็อย่างที่เห็น โอ้ย เจ็บนะโว้ย” พี่โชโดนฝ่ามือเน้นๆ ตรงกลางหัวเลยครับ

   “ก็พูดให้มันเคลียร์ๆ หน่อย”

   “ไม่เคลียร์ตรงไหนวะ”

   พูดจบก็โดนฝ่ามืออีกรอบครับแต่เปลี่ยนเป็นหลังแทน ผมละสงสารพี่โชแกจริงๆ พี่สาวคนสวยก็หวดไม่ยั้งจนหลังแดงเถือก ส่วนน้องชายก็ดิ้นหนีไปมาจนกลิ้งตกเตียง

   “เหนื่อย” พี่สาวสายโหดหอบหนักก่อนจะเหล่ตามองผม “ฉันให้เวลาสองนาที แต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเราค่อยคุยกัน” ไอ้ประโยคหลังทำเอาผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว มันเป็นความรู้สึกแบบเดียวกับที่เจอพี่โชครั้งแรกเลย ทั้งสายตา น้ำเสียง ท่าทาง พี่น้องคู่นี้เหมือนกับลอกบุคลิกกันมาเปี๊ยบ

   เมื่อคนให้เวลาเดินออกจากห้องนอน ผมก็ตาลีตาเหลือกมองหาเสื้อกับกางเกงของตัวเอง ซึ่งมันถูกขว้างมาจนถึงประตูห้องน้ำ นี่ผมละเมอมาถอดเองหรือว่าไอ้พี่โชมันถอดวะเนี่ย ผมสะบัดหัวตัวเองก่อนจะรีบเดินตามเจ้าของห้องที่ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงบอล

   ด้านนอก เสียงการ์ตูนดังพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะของเด็กตัวเล็ก แต่ความตลกไม่เรียกความสนใจได้อีกเมื่อเห็นน้าตัวเองเดินออกมา เด็กหญิงตัวน้อยก็รีบวิ่งเข้ามากอดขาพี่โชทันที ผมก็ไม่ได้เกลียดเด็กหรอกนะครับ แต่ทำตัวไม่ถูก ยิ่งโดนมองหน้าแบบนี้ยิ่งทำอะไรไม่ถูก

   “น้าโชขา พี่คนนี้เป็นใครเหรอคะ” เด็กตัวป้อมชี้นิ้วมาที่ผม อามันก็ยิ้มกริ่มก่อนก้มกระซิบทำให้ผมไม่ได้ยินที่มันตอบหลานตัวเอง “อ๋อ แบบนี้นี่เอง...น้าสะใภ้”

   ผมร้องเสียงหลงเมื่อถูกเรียกว่าน้าสะใภ้ ไอ้พี่โชมันไปบอกอะไรหลานมันวะ แล้วหลานมันก็ขยับมาตรงหน้าผม มือป้อมๆ นั่นกวักให้ผมย่อตัวนั่งลง พอผมทำตาม เด็กน้อยก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ ก่อนจะเปล่งเสียงพูดดังฟังชัดทำเอาผมแทบหงายหลังลงไปนั่งกองกับพื้น พร้อมๆ กับเสียงหัวเราะดั่งปีศาจของน้าของเด็กตัวเล็ก

   “รักกันนานๆ นะคะน้าสะใภ้”

   หลังจากพูดจบ เด็กตัวเล็กก็ได้สองนิ้วโป้งจากน้าของตัวเอง แต่ผมแทบอยากจะยกนิ้วอื่นให้น้าเด็กแทน มันต้องสอนพูดแน่ๆ แถมยังต่อหน้าพี่สาวตัวเองอีก ไม่กลัวถูกฝ่ามืออีกหรือไง
 
   แต่ผมคิดผิดครับ เพราะตอนนี้พี่สาวของพี่โชกำลังรื้ออาหารในตู้เย็นออกมากองบนโต๊ะไม่ได้สนใจพวกผมเลย ผมมองถุงที่อยู่บนโต๊ะอย่างงงๆ ทั้งที่ของที่วางอยู่ก็เยอะซะขนาดนั้นแล้ว ไม่รู้จะค้นออกมาทำไมอีก ผมมองไอ้เจ้าของห้องกำลังเล่นกับหลานตัวเองไม่สนใจใคร เลยเลือกที่จะเดินเข้าไปหาพี่สาวคนสวย แม้จะแอบกลัวหน่อยๆ ก็เถอะ ก็ภาพการปลุกด้วยเท้ากับสายตาโหดยังติดตาอยู่เลย
 
   “พี่หาอะไรเหรอครับ” ผมกลั้นใจส่งเสียงออกไป คนถูกถามตีหน้ายุ่งหันกลับมามอง

   “หาซุปไก่ก้อนน่ะสิ จำได้ว่ามาครั้งก่อนซื้อติดตู้เย็นไว้แล้ว”
 
   ผมมองคนที่ก้มๆ เงยๆ หาของก่อนจะชี้นิ้วไปที่ด้านล่างของช่องใส่ไข่

   “ตรงนั้นหรือเปล่าครับ ก้อนเหลืองๆ นั่น”

   “ไหน อ๋า มันอยู่นี่เอง ขอบใจนะ ว่าแต่ทำกับข้าวเป็นหรือเปล่า” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้รอยยิ้มจากพี่สาวของพี่โชบ้าง เพราะบรรยากาศมันดูผ่อนคลายกว่าเดิมเยอะ

   “พอเป็นครับ ผมช่วยแม่ทำกับข้าวขายบ่อย”

   “งั้นก็ทำอร่อยน่ะสิ”

   “ไม่หรอกครับ”

   “งั้นดีเลย มาช่วยพี่ทำหน่อย วันนี้มันรู้สึกปวดเมื่อยจนไม่อยากเดินไปมา ได้เธอมาช่วยฉันจะได้เบาแรง” พี่สาวคนสวยว่า ก่อนเธอจะส่งผ้ากันเปื้อนลายหมีพูให้ผมใส่ “เข้ากับหน้าเธอดีนะ ว่าแต่ชื่ออะไรน่ะเรา พี่ชื่อชีสนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะคบกับไอ้โชได้”
 
   ผมว่าพี่ชีสกับพี่โชเริ่มไม่ค่อยเหมือนกันแล้วล่ะครับ คำพูดน่ะนะ ดูพี่ชีสจะเป็นมิตรมากกว่า แม้ในยามโหดจะเหมือนกันก็เถอะ

   “ผมชื่อกลอยครับ เป็นรุ่นน้องเฉยๆ” ผมตอบตามความจริง แต่พี่ชีสดูไม่ค่อยเชื่อ เพราะเธอเดินมาซะชิดตัวผมจนจมูกโด่งๆ ของเธอแทบจะทิ่มแก้ม

   “หึ” เสียงเค้นหัวเราะจากลำคอของพี่ชีสทำให้ผมมองอย่างสงสัย ก่อนพี่แกจะถอยหลังกลับไปยืนที่เดิม แล้วชี้นิ้วสั่งให้ผมเก็บของสดใส่ตู้เย็น ส่วนของแห้งก็แยกใส่ตู้ลิ้นชัก

   “พี่มีไรกินบ้าง” พี่โชครับ มันเดินอุ้มหลานมันมายืนข้างเคาน์เตอร์

   “มีแต่จานเปล่าๆ จะกินมั้ย” ไม่พูดเปล่านะครับ พี่ชีสแกหยิบจานเซรามิกขึ้นมาให้ด้วยจนพี่โชล่าถอย “เกะกะจริงๆ ไอ้น้องคนนี้ ว่าแต่ชื่อไรเราน่ะ ไม่เห็นตอบ”

       “ผมตอบพี่ไปแล้วเมื่อกี้ แต่บอกใหม่ก็ได้ฮะ ผมชื่อกลอย”

   “โอเค งั้นกลอยก็ช่วยพี่ล้างผักกาดขาวนะ รู้จักใช่มั้ย”

   “อ่า ครับ”

   “เยี่ยม สมแล้วที่จะมาเป็นน้องเขย หรือว่าน้องสะใภ้นะ”

   ไม่ใช่ทั้งสองนั่นแหละครับพี่

   ผมไม่ตอบแต่เลือกที่จะหยิบเอาถุงผักกาดขาวที่มีอยู่สองหัวไปล้าง เด็ดใบที่แก่ทิ้งเหลือแต่ใบอ่อน ผมล้างน้ำสองรอบก่อนจะยกไปวางบนเคาน์เตอร์ ส่วนพี่ชีสก็เริ่มผสมหมูสับกับวุ้นเส้น ดูเหมือนหมูจะถูกคลุกกับรากผักชีกับกระเทียมมาเรียบร้อยแล้ว ผมจ้องมองพี่ชีสอย่างปลื้ม เขาว่าผู้หญิงที่ทำกับข้าวเป็นมักจะมีเสน่ห์ พี่ชีสก็เป็นแบบนั้นแหละครับ

   ใบหน้าขาวเนียนไร้สิว ตัดกับคิ้วที่ถูกแต่งด้วยดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเพื่อให้เข้ากับสีผม จมูกโด่งเป็นสันสวย ปากเคลือบลิปสติกสีชมพูอ่อนๆ พี่ชีสเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ เหมือนกับน้องชายของพี่เขาที่ก็หล่อไม่มีที่ติเหมือนกัน

   ผมช่วยเท่าที่พอจะช่วยได้ จนต้มจืดหมูสับหอมกรุ่นไปทั่วห้อง ผมมองนาฬิกาติดผนังก่อนจะรู้สาเหตุที่ท้องร้อง เพราะนี่มันก็เกือบๆ จะทุ่มหนึ่งแล้ว ผมมาที่ห้องพี่โชตอนบ่ายสามแล้วนอนยาวเกือบทุ่มเลยเหรอเนี่ย

   พี่ชีสตีไข่ไก่ห้าฟองในถ้วยที่ผมตอกให้ ก่อนจะเทลงในกระทะเพื่อทำไข่เจียว กลิ่นหอมที่เล็ดลอดจากเครื่องดูดควันเพิ่มความหิวโหยให้กับผมและสองน้าหลานที่กำลังเกาะเคาน์เตอร์มองกับข้าวตาละห้อย

   “เอาไปวางที่โต๊ะเลยจ้ะ เดี๋ยวพี่ตามไป” พี่ชีสเอาตะหลิวชี้บอก ผมรีบพยักหน้าแล้วยกแกงจืดกับไข่เจียวออกไปวางที่โต๊ะกินข้าวโดยมีพี่โชกับหลานเดินทำจมูกฟุดฟิดตาม

   เห็นท่าทางแบบนี้แล้วตลกดี ไม่คิดว่าจะได้เห็นพี่โชมาดโหดกลายเป็นเด็กเดินตามอาหารแบบนี้

   เราทั้งสี่เริ่มลงมือจัดการกับข้าวบนโต๊ะ ขอบอกว่าอร่อยมากครับ แม้จะเป็นกับข้าวธรรมดาก็เถอะ หรือเป็นเพราะว่าบรรยากาศสนุกด้วยละมั้งครับ พี่ชีสกับพี่โชเถียงกันตลอด ขนาดแย่งหมูก็ทะเลาะกันผมล่ะยอมสองพี่น้องนี้เลย

   “นี่ค่ะ น้องบีมตักให้น้ากลอย” มือป้อมๆ ที่ถือช้อนสำหรับเด็กตักหมูที่ถูกแบ่งครึ่งมาใส่จานผม ผมมองใบหน้าน่ารักที่ยิ้มจนแก้มยุ้ยอย่างแปลกใจ “น้ากลอยไม่ชอบหมูเหรอคะ” คงเห็นผมไม่ยอมแตะเพราะเอาแต่จ้องหน้า

   “อ่า ชะ...”

   “น้ากลอยเขาต้องชอบน้าโชมากกว่าหมูสิคะ”

   เสียงพี่โชพูดแทรกขณะที่ผมกำลังจะตอบว่าผมชอบกินหมูมากที่สุด คำตอบของน้าตัวเองเรียกเสียงหัวเราะคิกคักของหลานพร้อมกับเสียงอ้วกของพี่สาว ส่วนผมน่ะเหรอ ก้มหน้าอย่างเดียวครับ ไม่ใช่เขินนะ แต่อาย มันเหมือนกันหรือเปล่า? ช่างมันเถอะครับ รู้แต่ว่า ผมยังไม่พร้อมมองหน้าไอ้พี่โชได้ในตอนนี้ก็แล้วกัน

   “จะก้มหน้ากินข้าวหรือไง เงยหน้า” ไอ้พี่โชครับ มันพูดพร้อมเอามือมาจับหน้าผมให้เงยขึ้น

   “พี่ก็ วู้” ผมไม่รู้จะตอบอะไรแต่ก็ปัดมือมันออกแล้วกินข้าวต่อครับ

   เสียงหัวเราะของสองพี่น้องประสานกันจนผมอยากจะวิ่งออกจากห้องให้มันรู้แล้วรู้รอด ก็รู้ว่าชอบแต่ไม่คิดว่าจะถูกรุกขนาดนี้ อยากจะรบกวนให้ช่วยเพลาๆ ความเสี่ยวลงหน่อยเพราะผมกลัวจะทนไม่ไหว

   มื้ออาหารหน้าแสนร้อนผ่านไป ผมก็รับอาสาล้างจานให้ ได้ยินเสียงสองพี่น้องคุยกันบ้างทะเลาะกันบ้างก็ตลกดีนะครับ จะว่าไป ผมกับพี่สาวก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ไม่โหดขนาดพี่ชีส โหดสุดก็แค่เอาจานเขวี้ยงใส่หัวผมแตกก็แค่นั้น

   ผมล้างมือหลังจากจานใบสุดท้ายเสียงกับตะแกรง พอเดินออกมาก็เจอดวงตาดุสองคู่มองมาจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก

   “พี่สองคนมีอะไรหรือเปล่าครับ” จ้องหน้าผมซะขนาดนั้นผมก็กลัวน่ะสิ

   “มานั่งนี่” พี่โชบอก มือขาวๆ นั่นก็ตบโซฟาข้างๆ

   ผมเดินซุยๆ ไปนั่งข้างแต่ขยับให้ห่างจนโดนมือขาวนั่นลากให้มานั่งซะจนชิด ถ้าพี่จะให้นั่งตรงนี้ไม่ให้นั่งตักไปเลยล่ะวะ ผมส่งตาเขียวมองแต่พี่โชทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ยิ่งมีสายตาของพี่ชีสจับผิดแบบนั้นยังกล้าทำแบบนี้กับผมอีก เดี๋ยวก็ถูกเข้าใจผิดกันพอดี

   “จะพาเข้าบ้านเมื่อไหร่ แม่บอกรีบๆ หน่อยเพราะอาทิตย์หน้าจะไปเที่ยวยุโรป” ผมฟังพี่ชีสถามน้องชายตัวเองอย่างงงๆ พี่โชจะไปเที่ยวกับครอบครัวเหรอเนี่ย อิจฉาอ่ะ ผมก็อยากไปต่างประเทศบ้าง

   “ไม่รู้”

   “อ่าว ยังไงล่ะพี่บอกแม่ไปแล้วนะ ส่งรูปให้ดูแล้วด้วย แกก็รู้ว่าอย่าให้แม่มาหาเอง”

   “ก็พี่จะบอกทำไม”

   “อ่าว ฉันก็ตกใจสิ นานแค่ไหนที่แกไม่ให้นอนเตียงด้วย”

   ผมมองพี่โชทำท่าทางอึกอักไม่ยอมตอบคำถามพี่สาวตัวเองว่าทำไมถึงยอมให้ผมมานอนเตียง ทั้งที่เป็นคนหวงของ

   “แล้วพี่มาทำไม” เปลี่ยนประเด็นไปซะแล้ว

   “ฉันก็ห่วงน้องชายฉันบ้างไม่ได้หรือไง”

   “เอาเรื่องจริง”

   “รู้ทันตลอด ฉันทะเลาะกับพี่เขยนายน่ะสิ คนบ้าอะไรไม่รู้ มาสั่งให้ฉันห้ามตัดผม ไม่เข้าใจหรือไงว่าฉันอยากปรับลุค บลาๆฯ”

   เหตุผลของผู้หญิงมันช่างยากที่จะหยั่งถึงนะครับ เหมือนความกว้างของท้องฟ้าที่เราไม่รู้จุดสุดสิ้นมันอยู่ตรงไหน ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงผู้หญิงถึงอยากทำโน้นทำนี่ ทั้งที่บางทีทำลงไปแล้วมันไม่มีผลอะไรเลย อย่างเรื่องตัดผม จะผมสั้นผมยาวมันก็อยู่ที่เราจัดแต่งไม่ใช่เหรอ ผมว่า ผมชอบผู้หญิงผมยาวมากกว่านะ

   เรื่องมากมายของพี่ชีสถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโทรศัพท์ของพี่โช ผมได้ยินเสียงปลายสายโวยวายก่อนสายจะถูกตัด ผมว่า คงมีเรื่องเกิดขึ้น พี่โชรีบไล่พี่สาวกลับเพราะต้องไปทำธุระ ซึ่งผมต้องติดไปด้วยอยู่แล้ว คืนนี้ผมก็ต้องกลับไปนอนห้องสิ ผมไม่ได้ใจง่ายหรอกนะ...เอ่อ ง่ายนิดนึงก็ได้

   ใช้เวลาบนท้องถนนไม่นานผมก็พาร่างแห้งๆ มายืนอยู่หน้าสถานีตำรวจ สงสัยคนที่โทรมาอาจมีเรื่องราวใหญ่โต ว่าแต่ใครทำพี่โชต้องรีบเหาะมาแบบนี้ได้

   ถ้าไม่ใช่...ไอ้พี่จอม

   คืออยากจะหัวเราะแต่ก็ไม่กล้า ตอนนี้พี่จอมแกนั่งหัวเราะอยู่ในห้องขัง โหนกแก้มซ้ายมีรอยช้ำ ริมฝีปากก็แตกมีเลือดติดเกรอะ สงสัยฝีมือจะตก เพราะคราวนั้นสิบคนรุมยังไม่มีบาดแผล พี่แกคงคุยกับผู้ต้องขังคนอื่นเพลินเกินจนลืมมองผมที่ยืนหัวโด่อยู่หน้ากรงจนผมต้องกระแอม

   “อ่าว มึงมากับไอ้โชเหรอ” ทักแค่นั้นละครับ พี่แกก็หันไปเล่าเรื่องตลกให้คนอื่นฟังต่อ พี่ครับ พี่ติดคุกอยู่นะครับ ไม่มีท่าทางเสียใจอะไรเลยเหรอ

   ผมยืนเป็นวิญญาณไร้ร่างอยู่สักพักก่อนพี่โชจะเดินมาพร้อมกับคุณตำรวจที่มาเปิดประตูห้องขัง

   “ออกมาๆ”

   “ผมต้องไปแล้ว ไว้จะมาเล่าเรื่องตลกให้ฟังใหม่นะ” คำล่ำลาของพี่จอมกับคนที่ยังถูกขัง
 
   นี่พี่ยังอยากจะเข้ามาอยู่ในนี้อีกเหรอ ยอมเขาเลย

   ระหว่างที่ผมเดินมึนๆ ตามหลังออกมา หูผมก็ได้ยินเหมือนคนเรียกชื่อ จะว่าพี่โชก็ไม่ใช่ เพราะพี่เขาคุยกับพี่จอมอยู่หน้าผมเนี่ย แล้วใครวะ

   หันซ้ายที ขวาที พอมองลึกไปในห้องขังที่พี่จอมเพิ่งออกมา ชัดเลย เต็มสองตา

   “ไอ้อัธ ไอ้ม่าน”

   พวกมันสองคนเห็นผมก็รีบปรี่เข้ามาเกาะซี่กรงทำหน้าตาเหมือนเด็กที่ถูกเอามาปล่อยโรงเรียนแล้วอยากกลับบ้าน

   “พวกมึงเข้าไปอยู่ทำไมในนั้นวะ”

   “พวกกูไม่ได้อยากเข้าโว้ย แค่ตกกระไดพลอยโจร มึงช่วยกูด้วยนะไอ้กลอยใจเพื่อนรัก” ไอ้ม่านโวยวาย ทรุดตัวนั่งดีดดิ้นเหมือนเด็กอยากได้ของ ถ้าเด็กทำมันก็คงน่ารัก แต่ไอ้นี่ทำแล้วดูไม่ได้จริงๆ

   ผมกำลังจะอ้าปากถามเพื่อนแต่อยู่ๆ ไอ้พี่จอมก็ถลาทำหน้าตื่นเข้ามาจนพวกผมตกใจ

   “กูลืมพวกมึงไปเลย ออกมาๆ กูให้ไอ้โชประกันตัวแล้ว”

   “ทำพวกผมเข้ามาในนี้ ทำเป็นลืมนะ”

   “ก็พวกมึงไปนั่งมุมห้องกูก็ลืมสิวะ ออกมาๆ”

   คุณตำรวจเดินมาเปิดประตูห้องขังรอบสอง ไอ้อัธ ไอ้ม่านเดินออกมาอย่างโรยแรง โดยเฉพาะไอ้ม่านที่มันพุ่งเข้ามากอดผมแน่น

   “ไอ้กลอยใจ กูโคตรกลัวเลยสัด” ผมยกมือลูบหัวไอ้ม่านที่มันกำลังเอาหน้ามาเช็ดกับไหล่ผม เลยโดนผมโบกหัวไปทีแต่มันก็ไม่ยอมปล่อย

   มึงเอาขี้มูกมาเช็ดเสื้อกูไอ้สาด

   พวกเราสี่คนเดินออกมาด้านนอกเห็นพี่โชยืนพิงกับรถคู่ใจตัวเองรอ

   “พี่โชแมร่งเท่ตลอดอ่ะสัด” ไอ้ม่านครับ

   “กูเท่กว่าอีก” นี่ไอ้พี่จอมมันเกทับ เลยโดนสายตาดูถูกจากรุ่นน้องไปถึงสามคู่
 
   “แล้วพวกมึงอยู่กับพี่จอมได้ยังไง แล้วทำไมสภาพพี่จอมถึงเละแบบนี้อ่ะ”

   “พี่จอมเป็นเพื่อนพี่รหัสกู” ไอ้อัธตอบผมครับ

   “ส่วนกูรู้จักเพราะพี่เขาเป็นเพื่อนของพี่รหัสไอ้อัธ ซึ่งไอ้อัธคือเพื่อนของกู” อธิบายตามที่มึงเข้าใจเลยไอ้ม่าน
 
   “สรุปว่ารู้จักกัน”

   “เออ” สามเสียงประสานกันจนผมตกใจ

   เดี๋ยวนะ ถ้าพวกนี้รู้จักกัน งั้นเรื่องของผมกับไอ้พี่โชล่ะ ซวยแล้วไอ้กลอยเอ้ย

   “เอ่อกูว่าจะถาม มึงมากับพี่โชได้ไง แล้วรู้จักกันตอนไหนทำไมกูไม่รู้” นั่นปะไร ไอ้อัธมึงไม่ต้องสงสัยทุกเรื่องก็ได้

   “คือกู...”

   “ตอบยากตรงไหนวะ นี่เมียไอ้โชมัน”

   “ห๊า/เฮ้ย/เชี่ย” ทั้งไอ้อัธ ไอ้ม่าน รวมทั้งผมต่างก็อุทานออกมาพร้อมกัน แม้จะคนละแบบก็เถอะ

   “มึงเป็นเมียพี่โช เรื่องจริงเหรอวะ” ไอ้ม่านเบิกตากว้าง ถามอย่างตกใจ

   “เชี่ยไม่ใช่เว้ย”

   “มึงกับพี่โชเนี่ยนะ กูต้องพูดต้องถามแบบไหนดี” ไอ้อัธมันคงสับสน ซึ่งผมก็สับสันเหมือนมันนั่นแหละ

   “กูยังไม่ได้เป็นเมียโว้ย พี่จอมอย่าพูดเรื่องไม่จริงได้ป่ะ ผมเสียหายนะเว้ย”

   “กูพูดผิดตรงไหน”

   “ก็ผิดตรงที่ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับเพื่อนพี่ไงเล่า”

   “อ่าวเหรอ”

   ดูมันครับ พูดเสร็จก็เดินไปหาเพื่อนมันที่ยืนรอ ผมรู้ว่าพี่โชได้ยินทุกประโยค เพราะใบหน้าพี่เขาดูเรียบเฉย ต่างจากตอนที่พวกเราเดินออกมา มุมปากยังมีรอยยิ้ม ผมมองพี่โชด้วยแววตาที่สับสน แค่เสี้ยวหน้าเท่านั้นที่พี่เขามองมาก่อนเดินอ้อมไปขึ้นรถตัวเองโดยมีพี่จอมเข้าไปนั่งแทนที่ที่ผมนั่งมา...

   เสียงกระหึ่มของรถสปอร์ตคาร์ดังลั่นพร้อมกับออกตัวอย่างไว แสงสีแดงของท้ายรถทำเอาผมใจหาย บางทีผมควรจะต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว แล้วผมจะมายืนร้องเพลงทำไมวะ ผมควรสนใจเพื่อนตัวเองที่กำลังจ้องจนแทบจะทะลุร่างของผมอยู่ต่างหาก พวกมึงไม่ต้องทำสายตาเผือกเรื่องกูขนาดนั้นก็ได้




   ผมติดรถของไอ้อัธมาลงที่หอพัก ระหว่างทางมาไม่มีใครพูดอะไรสักอย่าง จนผมลงจากรถ ไอ้อัธกับไอ้ม่านต่างก็เดินลงมาด้วย บอกแค่อยากให้เคลียร์เรื่องของตัวผม คือเรื่องของกู กูไม่รู้อะไรเลยนะ ผมเดินนำพวกมันมาถึงห้อง พวกมันก็แทรกตัวเข้าไปนั่งก่อนผมซะอีก นี่กูเจ้าของห้องนะโว้ย แต่ท่าทางนิ่งเงียบของพวกมันสองคนทำเอาผมไม่กล้าปริปาก จะเครียดอะไรขนาดนั้นวะ

   “กูขอถามเลยนะ เรื่องมึงกับพี่โช” ไอ้อัธเปิดประเด็นทันทีที่ผมหย่อนก้นลงนั่งกับพื้น เพราะโซฟาเล็กๆ ถูกพวกมันนั่งก็เต็มแล้ว “มึงคบกับพี่โชอยู่เหรอวะ”

   “ไม่ได้คบโว้ย” ผมตอบทันที

   “ไม่ได้คบก็ดี ที่กูพูดแบบนี้เพราะกูเป็นห่วงมึง พี่โชน่ะ ไม่เหมาะกับคนธรรมดาแบบมึงหรอก” แม้ผมจะไม่ค่อยชอบคำพูดแบบนั้นแต่มันก็เป็นเรื่องจริง “ถ้ามึงคบกับพี่เขา ชีวิตมึงจะไม่มีความสงบ ผู้หญิงที่วนเวียนรอบตัวพี่เขามันน่ากลัวเกินกว่ามึงจะรู้ ที่มหาลัยผู้หญิงกี่คนที่ต้องตบตีแย่งกัน กูไม่อยากให้มึงเข้าไปเกี่ยว” ไอ้อัธพูดจริงจังจนผมเริ่มคิดหนัก

   จะว่าไปผมก็รู้สึกแบบนั้นตอนไปที่มหาลัยพี่โช ผมยังจำภาพที่พี่โชยืนคุยกับสาวหุ่นดีที่โรงอาหารนั่นได้ เธอถูกกลุ่มนักศึกษาสาวที่นั่งโต๊ะไม่ไกลจ้องด้วยสายตาเกลียดชังและดูถูก ผมรู้ว่าไอ้การมองตั้งแต่ตัวหัวจรดเท้าคือการดูถูก หมายถึงจากคนที่ไม่ชอบกันอะนะ

   “แต่กูก็ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขาจริงๆ”

   “กูแค่อยากให้มึงอยู่ห่างจากพี่เขาบ้าง”

   “ช่าย อย่าทำตัวเป็นไอซ์ศรัณยู” ทั้งผมและไอ้อัธต่างก็มองไอ้ม่านอย่างไม่เข้าใจ

   “อะไรไอซ์ศรัณยูวะ” ไอ้อัธมันถามก่อนผม

   “ก็เป็นคนใจง่ายไง พวกมึงนี่ไม่รู้เรื่องเลย โง่มาก” เอาตามที่มึงสบายใจเลยไอ้ม่าน

   ผมมองเพื่อนสนิทอย่างระอา แต่ก็ดีนะครับ มีมันก็ไม่เหงาดี เวลามีเรื่องเครียดๆ ได้คุยกับมันก็หาย โดยเฉพาะมุกควายๆ แบบนี้แหละ

   “ขอบใจพวกมึงที่เตือน กูจะระวังตัว ไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งอีก”

   “ได้ก็ดี ส่วนเรื่องบลูแฟนมึง กูให้เพื่อนช่วยสืบมาละ” ไอ้อัธว่าพลางยื่นซองสีน้ำตาลมาให้ผม ไอ้นี่เป็นนักสืบเหรอวะ

   ผมเปิดซองแล้วหยิบแผ่นกระดาษด้านในออกมาดู ข้อความมากมายที่บอกว่าบลูไม่ได้ตั้งใจเรียน แถมยังติดเอฟจนแทบจะโดนรีไทร์ ทั้งๆ ที่เธอบอกกับผมว่าถ้าจบภายในสามปีครึ่งเธอจะได้เกียรตินิยม แต่กระดาษแผ่นหลังๆ ทำเอาผมขมวดคิ้ว รูปภาพบลูกับผู้ชายคนอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่เพื่อนของพี่โช

   “มึงได้รูปพวกนี้มาจากไหน” ไม่ใช่ผมคนเดียวสินะที่เป็นควายถูกบลูสวมเขา

   “บอกไม่ได้ว่ะ แต่รูปพวกนี้มาจากเฟซของเจ้าตัวซึ่งมีหลายแอคเคาท์ แต่ละแอคเคาท์สถานะก็จะคบคนต่างกัน อย่างเช่นเฟซที่มึงกับบลูขึ้นสถานะด้วยกัน เป็นต้น” ไอ้อัธร่ายยาวจนผมพูดไม่ออก

   “มึงมันเทพมาเกิดชัดๆ เพื่อนกูครับเพื่อนกู”

   “มึงเพิ่งรู้เหรอครับเพื่อนม่าน” ไอ้อัธยืดรับคำชม ก่อนมันจะหันมาจ้องหน้าผม “ไอ้กลอย ไม่ใช่กูเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ยังมีคนที่ตามสืบเหมือนกันแต่ก็ไม่รู้ว่าใคร ดังนั้นมึงควรรีบเคลียร์ตัวเองจากผู้หญิงคนนี้ซะ แล้วหลังจากนั้นมึงค่อยคิดว่าจะทำยังไงดีเรื่องพี่โชกับความสัมพันธ์ที่มึงเริ่มเป็นไอซ์ศรัณยูแบบที่ไอ้ม่านว่า”

   ผมมองหน้าเพื่อนทั้งสองอย่างกังวล มันไม่ง่ายเลยที่จะต้องเดินไปบอกบลูเรื่องพวกนี้ ผมเคยรักเธอ และตอนนี้ก็ยังคงชอบ ผมอยากกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนครั้งแรกที่รู้จักกัน แต่มันคงจะเป็นไปได้ยาก ถ้าผมเคลียร์เรื่องนี้ได้ ทั้งผมและบลูคงจะเข้าหน้ากันไม่ติด ผมคงต้องรีบทำใจแล้วเดินหน้าต่อ ผมจะได้เลิกเป็นควาย ส่วนเรื่องพี่โช ผมก็คงต้องเลิกเป็นไอซ์ศรัณยูแบบที่ไอ้พวกนี้บอกจริงๆ.....

        แล้วผมจะบ้าจี้กับพวกมันทำไมเนี่ย!!


................... TBC

มีคนเดาถูกเรื่องพี่ซันด้วย แล้วพี่ซันจะทำอะไรกลอยหรือเปล่านี่ไม่รู้ได้ ที่แน่ๆ ความสัมพันธ์ของพี่โชกับกลอยเริ่มสั่นคลอนตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ..

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและรักพี่โชของน้องกลอยนะคะ >w<~~~

... อัพวนไปค่ะ ...
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 6<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-07-2016 18:47:29
กลอยค่อยๆๆเรียนรู้พ่โชไปน่ะ เรารู้ว่าคู่กัน อิอิ
แอบคิดว่าอยากให้พี่ซันคู่อัจจังเลย พี่ศันคงไม่ใช่เบาๆๆแน่ ให้บลูเงินไปเลย ทำกับกลอยได้ พี่จอมคู่ทู มโนไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-07-2016 19:19:25
บูลคบซ้อนอะไรขนาดนี้ ต้องจัดการน่ะ
พี่โชงอนไปแล้วกลอย ฮ่าๆๆๆ กลอยไม่รับรู้ ณ ตอนนี้ อิอิ โลกกลมอ่ะเป็นเพื่อนพี่รหัสซะงั้น รอลุ้นต่อ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-07-2016 19:39:28
บลู ความลับถูกเปิดเผย  ทั้งเรื่องเรียน เรื่องผู้ชาย
ชีคบหลายคน สับรางเก่งจริงๆ ว่าแต่คนที่สืบอีกคน คงเป็นพี่ซัน สินะ
อยากอ่านมุมของพี่โช มุมของบลู บ้าง บลู มีปม หรือโรคจิตป่ะ
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 19-07-2016 20:18:27
ขออีกเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-07-2016 20:57:25
กลอยเปิดใจให้พี่โชสักหน่อยสิ อาจไม่แย่นักก็ได้ :hao3: :hao3:
ส่วนเรื่องนังบลู รีบๆปิดฉากรักร้าวได้แล้วววว :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 19-07-2016 21:26:33
ขอให้นังบลูไม่เหลือใคร  :m31:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 19-07-2016 21:51:34
สนุกกกกกกกกค่ะ บลูเยอะได้อีก :katai1: :katai1:อะไรมันจะขนาดดดดดนั้นนน. รอตอนต่อไปนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 19-07-2016 22:21:39
ตอนใหม่มาเร็วมากกกกก เชื่อเพื่อนค่ะกลอยเชื่อพี่!
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-07-2016 10:28:02
พี่โชคงโกรธน่าดู

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 7<< // [19/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-07-2016 10:56:30
เป็นเรื่องที่สนุกดี  ฮากลอยมากเปิ่นๆงงๆเอ๋อๆ ส่วนพี่โชก็ตามแบบเมะวาย หล่อ รวย แบดบอยแต่เหมือนจะขี้น้อยใจนะ ฮ่าๆๆ เรื่องนี้มีกี่คู่อะอยากให้พี่จอมคู่ทูอะ แล้วซันจะเล่นงานกลอยไหมนี่สิ กลอยไม่ควรยื้อนะเดี๋ยวซวยไปใหญ่
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 20-07-2016 17:50:01
Just you and I : 8



         “กระเพาหมูไข่ดาวโต๊ะสองได้แล้วจ้า” เสียงตะโกนจากหน้าร้านทำให้ผมเดินวนไปหยิบแล้วเอาไปเสิร์ฟ เสียงแม่ผมเองครับ บ้านผมเปิดร้านขายอาหารตามสั่งมาตั้งแต่ผมอายุสิบขวบ...หลังจากตาเสียแม่ก็ได้ส่วนแบ่งมาพอสมควร พวกเราเลยออกจากบ้านเช่ามาซื้อตึกแถวสองชั้นล็อกเดียวแทน เพราะทำเลดี แถมไม่กี่เมตรก็เป็นโรงพยาบาล หากเปิดร้านขายอาหาร ลูกค้าร้านต้องเยอะแน่
 
         และมันก็จริงครับ หลังจากเปิดร้านได้ไม่กี่เดือน ลูกค้าที่ร้านก็เยอะจนโต๊ะนั่งแทบไม่พอ ยิ่งฝีมือการทำกับข้าวของแม่ผมไม่เป็นรองใครด้วยแล้ว แม้ด้านข้างของร้านเขาก็เปิดขายข้าวแกงเหมือนกัน แต่เปิดได้แค่ห้าปี ร้านเขาก็โดนพิษเศรษฐกิจต้องปิดตัวลง แม่ผมเลยตัดสินใจเซ้งต่อ เนื่องจากเจ้าของเขาต้องการเงินไปทำธุรกิจอื่นต่อ

   เมื่อแม่เซ้งร้านข้างๆ ต่อ พวกเราจึงนำเงินที่เก็บตั้งแต่เปิดร้านมาขยายร้านให้กว้างขึ้น โดยทำสองหลังให้เชื่อมกัน ร้านผมเลยกว้างขวางพอที่จะมีโต๊ะรองรับลูกค้าได้มากขึ้น ชั้นล่างทำใหม่แล้ว ชั้นบนของที่นี่เราก็ทำใหม่เหมือนกันครับ คือทำให้มันเชื่อมกันเพื่อทำให้มีพื้นที่กว้างขึ้น และทำห้องส่วนตัวของทุกคน แม้ในตอนแรกเราสามคนแม่ลูกต้องนอนเบียดกันให้ห้องๆ เดียว ด้านพี่สาวผมทำงานแล้วครับ แต่ก็ยังกลับมานอนที่บ้านและช่วยทำงานในวันหยุด ส่วนผมที่มักจะนอนหอพักมากกว่าบ้าน ด้วยความสะดวกในการเดินทาง อีกทั้งหอพักผมไม่ไกลจากมหาลัยมากเป็นการประหยัดเงินค่าเดินทางไปในตัว
 
   วันนี้ผมไม่มีเรียนเลยตัดสินใจกลับมาบ้านเพื่อตั้งหลัก แต่ก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้เพราะผมต้องช่วยงานที่ร้าน เสิร์ฟบ้าง รับรายการอาหารบ้าง ล้างจานบ้าง แม้แม่จะจ้างลูกจ้างช่วยแล้วก็ตาม แต่ผมก็อยากจะช่วยแบ่งเบา ใจจริงผมอยากจะทำอาหารแทนด้วยซ้ำ แต่กลัวลูกค้าติดใจจนไม่กลับมาอีก แบบนั้นมันคงไม่ดีเท่าไหร่

   เสียงตะหลิวกระทบกับกระทะดังขึ้นพร้อมกับกลิ่นฉุนของพริกทำเอาคนที่อยู่ใกล้ถึงกับน้ำตาไหลเพราะแสบตาแสบจมูก แต่ผมว่ามันก็ดีนะ อยากกินก็ต้องทน แค่กๆ ขนาดผมไม่ได้กินยังต้องทนเลยคิดดู
 
   “ตายๆ สงสัยวันนี้ฝนจะตกหนัก น้องชายฉันกลับบ้าน” ผมกำลังเช็ดโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งลุกออกไปก็มีเสียงแหลมดังขึ้นจากด้านหลัง

   “ฝนตกก็ดีสิ ร้อนจะตาย แล้วพี่ทำไมกลับเร็ว ยังไม่ห้าโมงเลยนะ” ผมเงยหน้ามองนาฬิกาติดผนัง

   “ฉันทำงานธนาคารนะยะ กลับแบบนี้ทุกวัน แกแหละ ไม่เห็นหน้ามานานนึกว่านอนขึ้นอืดอยู่ที่หอ โอ้ย แม่ กิ่งเจ็บนะ” พี่กิ่งพี่สาวผมครับ เธอตัวสูงเกือบจะเท่ากับผม ถ้าเทียบกับผู้หญิงถือว่าเป็นคนสูงเลยทีเดียว ส่วนหน้าตาก็ใกล้เคียงกัน ก็พี่น้องกันนี่เนอะ

   “สมน้ำหน้า” ผมแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หลังจากพี่กิ่งโดนแม่หยิกแขน

   “แม่เข้าข้างไอ้กลอยตลอด” งอนไปแล้วครับ แต่ก็รู้ว่าแกล้งทำ

   “ก็เราไปแช่งน้องทำไม น้องมันเรียนหนัก กลับบ้านมาเราควรจะพูดดีๆ กับน้องสิ” แม่เริ่มบ่นครับ แต่ก็ปกติ พี่สาวผมกับผมไม่ค่อยจะพูดหวานใส่กันหรอก ส่วนมากก็พูดแมนๆ ใส่กัน

   จุ๊ๆ อย่าบอกใครนะครับ ว่าพี่สาวผมไม่ชอบผู้ชาย

   เรื่องนี้แม่ผมก็รู้ครับ ตอนพี่กิ่งเรียนปีสาม เธอเข้าไปสารภาพกับแม่ว่าไม่ชอบผู้ชายแถมกำลังดูใจกับผู้หญิง แม่ถึงกับไม่ยอมพูดด้วยเป็นอาทิตย์ จนสุดท้าย แม่ก็เดินเข้ามาบอกว่า แม่รักกิ่ง แค่คำว่ารักมันก็มากพอที่จะมองข้ามเรื่องพวกนั้นไป แล้วเรื่องที่ไม่ชอบผู้ชายมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แม่รับได้ ก็ความรักมันเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะรักในรูปแบบไหน แม่บอกเคยโดนกีดกันความรัก ดังนั้นแม่จะไม่ยอมเป็นคนทำลายความรักของลูกๆ ผมฟังแล้วน้ำตาไหลเลยครับในตอนนั้น
 
   ผมน่ะโคตรรักแม่เลย

   พี่กิ่งเดินขึ้นไปชั้นบนโดยมีผมเดินตามไปต้อยๆ ผมอยากลองปรึกษาใครสักคนเรื่องของบลู และพี่กิ่งนี่แหละเหมาะที่สุด ผมนั่งรอพี่สาวที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ในห้องน้ำ ไม่นานก็เดินออกมา

   “มีอะไรว่ามา” รู้ใจจริงพี่สาวผม

   “พี่จำบลูได้ป่ะ” ผมเข้าเรื่องทันทีครับ

   “แฟนแกอะนะ” พี่กิ่งมองหน้าผม “ทำไม มันนอกใจแกใช่ป่ะ ฉันบอกแล้วว่าเด็กนี่ไม่จริงใจ” ครับ อย่างที่พี่กิ่งบอก ไม่ใช่แค่ไอ้อัธที่ไม่ชอบบลู พี่สาวผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่เป็นคนไม่แสดงออก เวลาพี่กิ่งเจอบลูก็จะทำตัวเป็นปกติ ยิ้มแย้มพูดคุย แต่พอบลูกลับไป ก็พ่นไฟเลยครับ น่ากลัวนะครับผู้หญิงเนี่ย

   “พี่โคตรแม่นอ่ะ” ผมว่าพลางยื่นซองที่ไอ้อัธให้มาให้พี่สาวผมดู พอเธอเห็นก็หัวเราะอย่างเดียวครับ “พี่ว่าไง”

   “จะไปว่ายังไง แกต่างหากที่ต้องว่า”

   “นั่นล่ะที่ผมอยากปรึกษา ผมจะทำยังไงดี จะเดินเข้าไปบอกตรงๆ แล้วเอาพวกนี้ให้ดูดีป่ะ”

   “ไม่ดีๆ ฉันว่าแกควรทำให้ยัยเด็กนี่ได้รับผลกรรมที่หลอกคนอื่นไปทั่ว”

   “ยังไงอ่ะ”

   พี่กิ่งส่งเสียงจิ๊จ๊ะก่อนจะร่ายยาว ผมก็ได้แต่นั่งฟังแผนการเกือบสิบที่ถูกเสนอมา บางอันก็เข้าท่า บางอันก็โหดเกินไป อย่างให้ผมเอารูปพวกนี้ไปประจาน มันเกินไปหน่อยนะผมว่า

   “แกรู้จักผู้ชายคนไหนบ้างล่ะในรูปพวกนี้” รูปห้ารูปถูกยื่นมาตรงหน้า ผมจ้องหน้าพี่สาวก่อนจะจิ้มไปที่รูปของพี่ซัน “งั้นแกไปตีสนิทเขาเอาไว้ ทำให้ยัยเด็กบลูนั่นหัวปั่นไปเลย...อย่าทำหน้าโง่แบบนั้น แกต้องตีสนิทแล้วไปไหนมาไหนด้วย ให้ยัยเด็กนั่นร้อนตัวจนเปิดเผยตัวเองมาน่ะ ทำได้มั้ย”

   ทำไมผมโดนด่าว่าโง่ตลอดวะ ไม่เข้าใจเลย ผมออกจะฉลาด...ใช่มั้ย

   ผมกลับมานอนแผ่บนเตียงของตัวเอง มือก็ยกรูปพี่ซันขึ้นมาดู แล้วผมจะไปตีสนิทพี่แกได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้ผมกับพี่โชไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่วันที่ไปประกันตัวพี่จอม...อาทิตย์หนึ่งแล้วสินะ เหมือนมันจะดีแต่ก็รู้สึกแปลกๆ ยังไงซะ เรื่องผมกับพี่เขามันก็เป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

   แล้วทำไมใจผมมันรู้สึกหวิวๆ สับสนจริงๆ

   เสียงริงโทนของผมดังปลุกให้ผมที่กำลังเคลิ้มตื่น ไอ้เชี่ยม่านโทรมาได้จังหวะพอดี

   “ไรมึงกูกำลังจะนอน” ผมกรอกเสียงไปพร้อมกับหาวเสียงดัง

   “นอนตอนนี้ระวังปวดหัวนะเว้ย”

   “ปวดก็กินยาดิ่วะ แล้วมึงโทรมาทำไม วันนี้วันอาทิตย์”

   “ก็วันอาทิตย์ไง มีของฟรีสนหรือไม่เพื่อนกลอยสุดเลิฟ”
 
   พอได้ยินของฟรีผมก็ดีดตัวขึ้นมานั่งเลยครับ

   “ว่ามาๆ ของฟรีจากไหน”

   “วันเกิดพี่โต๋ว่ะ แกฝากไอ้อัธมาชวน สนใจป่ะ” พี่โต๋คือปู่รหัสไอ้อัธครับ พวกผมเคยไปก๊กเหล้าด้วยกันหลายครั้งเลยสนิทกันพอสมควร

   “สนๆ กี่โมงวะ กูต้องไปซื้อของขวัญด้วยใช่ป่ะ”

   “หกโมงเดี๋ยวกูไปรับที่หอ ส่วนของขวัญก็ไปซื้อเอาดาบหน้า โอเคแค่นี้เลิกกัน”

   ไอ้ม่านวางสายไปผมก็ลุกขึ้นมาเก็บของครับ เสื้อผ้าผมขนมาซักที่บ้านตากไว้ตั้งแต่เช้าตอนนี้แห้งหมดแล้ว พับๆ ไป ประตูห้องผมก็เปิดออก แม่ที่เดินยิ้มเข้ามาทำให้ผมโผเข้าไปกอด
 
   “จะกลับแล้วเหรอ ไม่นอนค้างเลยนะเราน่ะ ไม่คิดถึงแม่บ้างเหรอ”

   “คิดถึงตลอดเวลาเลยครับ” ผมหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ แม้จะมีกลิ่นของอาหารติดอยู่ แต่ผมก็ว่ามันช่างหอมเหลือเกิน

   “มีปัญหาหรือเราน่ะ” มือของแม่กำลังลูบหัวผมอยู่ ความอบอุ่นมันทำให้ผมไม่อยากไปไหน และแม่คือคนที่รู้ทุกอย่างแม้ในยามที่มีปัญหา อย่างคราวนี้นี่แหละ

   “นิดหน่อยฮะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่”

   “เรื่องแฟนล่ะสิ อย่างเราคงไม่มานั่งเครียดเรื่องเรียนใช่มั้ย”

   “โธ่แม่”

   แม่นตลอดครับแม่ผม

   “บอกแม่ได้ตลอดนะกลอย แม้แม่จะแก่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่อย่าลืมว่าแม่ก็เก่งนะ ให้คำปรึกษาได้ดีเหมือนกัน”

   “คร้าบ” ผมหอมแก้มแม่อีกฟอด ก่อนถามเสียงอู้อี้ “ถ้าผมไม่ได้เป็นอย่างที่แม่หวังไว้ แม่จะเสียใจหรือเปล่าฮะ”

   แม่ดันผมออกก่อนมองหน้า ดวงตาที่มักจะมีแต่ความรักให้ผมกับรอยยิ้มสนอบอุ่นที่ผมได้มันมาตลอดสิบกว่าปี “ไม่ว่ากลอยหรือกิ่งจะเป็นอะไร ลูกก็คือลูกของแม่ แม้ว่ากิ่งจะมีแฟนเป็นผู้หญิง หรือแม้แต่กลอยจะคบกับผู้ชาย แม่ก็ไม่โกรธ”

   คำพูดของแม่ทำเอาผมกระพริบตาถี่ ถ้าผมเปิดสำนักดูดวงให้แม่ ผมว่าต้องมีคนสนใจมากแน่ๆ เพราะท่าทางอึกอักของผมแม่ถึงกับหัวเราะออกมา

   “พาเข้าบ้านมาหาแม่สิ แม่จะดูให้ ว่าเขารักลูกแม่จริงหรือแค่จะมาหลอก” แม่ว่าพร้อมรอยยิ้ม

   “แม่อ่ะ ไม่มีหรอกฮะ ใครจะมารักกลอย ขนาดคบกับแฟนมาตั้งนานเขายังไปมีคนอื่นเลย”
 
   “โดนสาวทิ้งหรือเนี่ยลูกแม่”

   “แม่อ่า...กลอยรักแม่นะครับ”

   “แม่ก็รักทั้งกลอยทั้งพี่กิ่งนั่นแหละ” แม่ว่าก่อนจะกลับลงไปข้างล่างเพราะทิ้งร้านไว้ให้ลูกจ้างดูแลแทนเนื่องจากคนเริ่มบางตา แต่ก็ไม่ลืมทิ้งท้ายก่อนจะปิดประตู “อย่าลืมพาลูกเขยมาหาแม่บ้างนะ”

   จะลูกขงลูกเขยก็ไม่มีสักคนนั่นแหละ ถ้าจะมีก็มีลูกสะใภ้เท่านั้น...ใช่มั้ย



   
   ตอนนี้ผมกำลังนั่งรอไอ้ม่านครับ กลับมาจากบ้านครั้งนี้ผมได้ข้าวกล่องกับของแห้งมาตุนไว้เพียบ ต่อไปจะได้ไม่ต้องพึ่งบะหมี่ในยามดึกแล้ว ผมนั่งดูนั่นดูนี่ไปจนไอ้ม่านโทรเรียกให้ลงไปด้านล่างเพราะมันมารออยู่แล้ว พอลงไปก็เจอไอ้ทูที่นั่งยิ้มแป้นแล้นอยู่ข้างคนขับ

   “ไงเพื่อน” ไอ้ทูทักผมทันทีที่ผมสอดตัวเข้าไปนั่งด้านหลัง ทั้งไอ้ทู ไอ้อัธ ไอ้ม่านต่างก็มีรถยนต์ส่วนตัว ต่างจากผมที่มีแค่น้องฟีโน่ ก็เรามันคนจนนี่เนอะ

   “แล้วไอ้อัธล่ะ” ผมถามไอ้ม่านที่มองซ้ายขวาเพื่อจะเลี้ยวออกหน้าหอพัก

   “มันไปอยู่ที่งานแล้ว ครั้งนี้พี่โต๋เปิดบ้านรับทุกคนเลยนะเว้ย” ไอ้ม่านตอบ

   “บ้านที่ซื้อใหม่อ่ะนะ พี่โต๋ก็ดีว่ะ เล่นหุ้นจนซื้อบ้านได้ทั้งที่ยังเรียนไม่จบ” ไอ้ทูออกความเห็นบ้างซึ่งผมก็เห็นด้วย แก่กว่าผมแค่สองปีเองนะ

   “ก็ทั้งบ้านทำงานธนาคารกันหมด ไม่เล่นหุ้นจะให้เล่นหวยเหรอวะ ไม่น่าถามเลยไอ้ทูสมองน้อย”
 
   “มึงสมองใหญ่จริงนะไอ้ม่าน”

   “แน่นอนสิ กูฉลาด”

   “ฉลาดน้อย”

   ผมปล่อยให้พวกมันเถียงกันโดยไม่คิดจะห้ามครับ เพราะมันเป็นเรื่องปกติมาก สนุกด้วยฟังพวกมันเถียงกัน ไม่ง่วงดี

   ขับไปไม่ไกลไอ้ม่านก็เลี้ยวรถแวะห้างสรรพสินค้าเพื่อหาซื้อของขวัญก่อนไปบ้านพี่โต๋ ผมเดินเลือกของอย่างมึนๆ เพราะไม่รู้จะให้อะไรดี ตุ๊กตาจะเหมาะกับพี่เขาหรือเปล่า หรือจะต้นไม้ ไม่ดีๆ พี่โต๋แกไม่มีเวลาดูแลแน่ ไหนจะแฟน ไหนจะเรียน แล้วเอาอะไรดี

   “เลือกได้ยังวะ” ไอ้ทูเดินมาถามผมที่ยังหมุนไปหมุนมาไม่รู้จะหยิบอะไร

   “มึงเอาอะไรให้วะ” มือมันมีกล่องของขวัญที่ห่อเรียบร้อยแล้ว

   “แก้ว”

   “แก้วอะไรวะ”

   “แก้วใส่เหล้าไงไอ้เชี่ยกลอย พี่โต๋มันชอบกินเหล้า เราก็ให้แก้วเหล้ามัน ดีจะตาย” มันก็คิดได้เนอะ ผมคงคิดมากเกินไป
 
   “กูจะให้อะไรดีวะ” ไอ้ทูยักไหล่ก่อนมันจะปลีกตัวไปหาไอ้ม่าน

   ผมเดินมาจนเมื่อยเลยตัดสินใจหยิบตุ๊กตาหมีขนสีน้ำตาลตัวขนาดกลาง แต่ราคาก็แอบสูงอยู่นะ ผมต้องกลั้นใจหยิบไปคิดเงินพร้อมกับให้พี่เขาห่อของขวัญ หวังว่าพี่โต๋มันคงจะชอบนะ และในระหว่างที่ผมกำลังรอพี่เขาติดริบบิ้น ผมก็ดันตาดีเห็นบลูเดินอ้อล้อกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหน้าตาไม่ใช่พี่ซันแน่ นี่ควงคนใหม่แบบนี้เลยเหรอเนี่ย

   ไม่รู้อะไรทำให้ผมเดินตามคู่นั้นที่คงจะเพิ่งดูหนังเสร็จ สนุกกันใหญ่เชียวนะ ปล่อยให้ผมเป็นควายกินหญ้าอยู่ตั้งนาน ความโกรธทำให้ผมยื่นมือจะคว้าแขนของบลูแต่มือผมกลับถูกกระชากพร้อมกับโดนลากให้ออกห่าง ใครมาขัดกูวะ

   “ห้ามทำแบบนั้น” เสียงนุ่มๆ ดังขึ้น ผมเบิกตากว้างมองคนที่ฉุดผมมาที่มุมอับ

   “เฮ้ยพี่”

   “ชู่ว อย่าเอ็ดไปเดี๋ยวไก่ตื่น”

   ผมก็ไม่ได้จะส่งเสียงดังอะไรหรอก แต่พี่ก็ควรจะปล่อยแขนผมหรือเปล่าวะ ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้มือใหญ่ก็รีบปล่อยทิ้งแขนผมทันที

   “พี่ตามบลูมาเหรอ” เสียงไอ้อัธลอยมาเข้าหูที่บอกว่ามีคนตามเรื่องบลูอยู่ก็คงเป็นพี่ซันนี่แหละ...แต่

   “เปล่า พี่มาซื้อของให้ไอ้โต๋มัน เห็นเราเดินตามบลูก็กลัวจะไปทำอะไรรุนแรง” พี่ซันตอบแบบเฉยๆ คือพี่ไม่โกรธสักนิดเลยเหรอวะ เป็นควาย (เหมือนผม) เลยนะ

   “พี่ไม่โกรธ?”

   “เรื่องพี่กับบลูมันมีอะไรมากกว่านั้น”

   “ยังไง”

   “ถ้าบอกแล้วจะได้อะไร”

   ผมโคตรไม่ชอบพวกที่ทำให้อยากรู้โดยที่เราต้องแลกกับอะไรบางอย่างเลย

   “อะไรก็ได้ที่ผมทำได้” ผมตอบ พี่ซันหัวเราะขึ้นมาทันที

   “จะไปงานไอ้โต๋ใช่มั้ย มากับพี่แล้วพี่จะเล่าให้ฟัง” แม้จะงงๆ ผมก็พยักหน้าตกลง

   พี่ซันเดินตามผมไปที่โต๊ะห่อของขวัญที่ตอนนี้ไอ้ม่านกับไอ้ทูยืนกินไอศกรีมกันอยู่ ไอ้พวกนี้ไม่คิดจะซื้อมาเผื่อเพื่อน แล้งน้ำใจสัดๆ ผมมองพวกมันกินอย่างเคืองๆ พอพวกมันหันมาเห็นผมก็ยักคิ้วให้ แต่ไอ้ม่านที่เห็นคนข้างหลังผมก็รีบปรี่เข้ามาหา

   “อ่าวพี่ซัน จะไปวันเกิดพี่โต๋เหรอ” ไอ้ม่านรู้จักพี่ซันด้วยว่ะ

   “อืม แล้วเดี๋ยวเพื่อนมึงจะไปกับกูนะ” พี่ซันบอก ไอ้ม่านถึงกับมองผมสลับกับรุ่นพี่ร่วมสถาบัน

   “พี่รู้จักไอ้กลอยด้วยเหรอ นี่นอกจากพี่โชกับพี่จอมยังสนิทกับพี่ซันด้วย ไอ้กลอยมึงไม่ธรรมดา รู้จักเดือนเด่นของวิศวะตั้งสามคน” ไอ้ม่านมึงก็รู้จัก มึงจะชมตัวเองใช่มั้ยว่าตัวเองก็ไม่ธรรมดา

   ผมส่ายหน้าให้เพื่อนตัวเองก่อนคว้ากล่องของขวัญแล้วลาเพื่อนทั้งสองเพื่อไปกับพี่ซัน บางทีทำตามที่พี่กิ่งบอกก็น่าจะดีนะ ที่ตีสนิทกับพี่ซัน...

   ท้องถนนในยามค่ำๆ รถก็ยังติดหนึบ ผมไม่ชอบเพราะแบบนี่แหละ บางทีน้องฟีโน่ของผมก็มีประโยชน์ในช่วงเวลาเร่งรีบ แสงไฟท้ายรถแดงเถือกจนแสบตา ผมเลยเลือกจะหันกลับมาสนใจรถที่เพิ่งเคยได้นั่ง แม้จะไม่หรูเท่ารถที่ผมเคยนั่ง แต่ก็แพงน่าดู พี่ซันเห็นผมมองนั่นมองนี่ก็หัวเราะขึ้นมา
 
   “พี่ขำไร”

   “มองหาอะไร รถพี่ไม่มีเลขหวยหรอกนะ”

   “ถ้ามีก็ดีดิ่ ผมอยากรวยบ้าง”

   “ฮ่าๆ เอางั้นเลยเหรอ”

   บรรยากาศระหว่างผมกับพี่ซันมันดูผ่อนคลายกว่าอยู่กับพี่โชนะ เพราะพี่โชมักจะเงียบเวลาขับรถทำให้ผมไม่กล้าชวนคุย ขนาดจะเปิดเพลงพี่แกยังเหล่ตามองจนผมต้องปิด แต่กับพี่ซันแกจะชวนคุยตลอดทำให้ไม่เครียดในเวลารถติดแบบนี้

   “เรื่องของบลู...” ผมเริ่มเข้าเรื่องเพราะความอยากรู้ “พี่ได้ตามสืบเรื่องบลูป่ะ” พี่ซันยิ้มก่อนส่ายหน้า อ่าว แล้วใครเป็นคนสืบวะ “ไม่ใช่พี่แล้วใคร ก็พี่เป็นแฟนของบลู”

   “เราเองก็เป็นไม่ใช่เหรอ” คำถามของพี่ซันทำให้แอร์รถหนาวขึ้นมาทันตา “สงสัยละสิว่าทำไมพี่ถึงรู้”

   “อื่อๆ”

   “โทรศัพท์ของบลูมีอยู่หกเครื่อง แล้วแต่ละเครื่องจะตั้งรหัสเอาไว้” พี่ซันบอกดวงตาก็คอยมองดูถนน “หลายครั้งที่เราโทรหาแต่บลูไม่รับ พี่ก็จะเห็นหน้าจอที่โชว์เป็นรูปหน้าเอ๋อๆ พี่ก็เลยรู้ ว่ามีเราอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย”

   “พี่เคยเห็นรูปผม แล้วทำไมที่ตึกวันนั้นพี่ทำเหมือนไม่รู้จักผมล่ะ” ที่เจอครั้งแรกตอนผมไปหาพี่โชที่คณะ
 
   “ก็ไม่ทำไม แค่อยากดูอะไรที่มันสนุกๆ”

   “แล้วมันสนุกป่ะ”

   “นิดหน่อย”

   ที่ผมบอกว่าผมเริ่มกลัวพี่ซัน ตอนนี้บอกได้เลยว่าสมควรกลัวให้มาก พี่คนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ ขนาดรู้จักผมก่อนหน้ายังแสร้งทำเป็นเพิ่งเคยเจอ ผมควรจะอยู่ห่างให้มากที่สุดต่างหากพี่กิ่ง

   “พี่รู้เรื่องบลูคบกับคนอื่นมาตลอด แล้วพี่ก็ไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอ” พี่ซันหันมามองผมแปบหนึ่งก่อนหันไปสนใจการจราจรต่อ

   “รู้แล้วจะทำยังไงได้ ในเมื่อพี่กับบลูไม่ได้คบกันจริงจัง” คำตอบของพี่ซันมันช่างผิดคาด

   “หมายความว่ายังไง”

   “พี่กับบลูเริ่มต้นจากความใคร่ คงจะพูดแบบนั้นได้น่ะนะ” ผมขมวดคิ้วไม่ชอบคำพูดแบบนี้เลย เหมือนไม่ให้เกียรติผู้หญิง “อย่าเพิ่งทำหน้าบึ้งสิ ที่พี่พูดมันคือแบบนั้นจริงๆ บลูมาหาพี่ที่คอนโดเอง แล้วก็เอาไปป่าวประกาศเอง พี่ไม่อยากทำให้เสียหน้าเลยเออออไปก็แค่นั้น”

   พี่ซันแมร่งโคตรเป็นคนดีอ่ะ

   “ไม่ได้รักแล้วพี่จะยอมคบทำไม”

   “คบเพื่อรอคนที่ใช่มั้ง” เอ่อ พี่อย่ามองผมด้วยแววตาเชื่อมด้วยน้ำตาลแบบนั้น ผมกลัว “บลูน่ะ ไม่ได้จริงจังกับพี่มากหรอก ไม่งั้นจะไปคบกับคนอื่นทำไม ว่าแต่กลอยเถอะ เริ่มคบกับบลูนานหรือยัง”

   “ตั้งแต่อยู่ม.หก จีบตอนม.ห้า แต่เพิ่งมารู้ว่าบลูคบกับพี่ตั้งแต่ผมเริ่มจีบใหม่ๆ โคตรเสียใจ” ผมแสร้งทำเป็นเศร้าเลยโดนพี่ซันหัวเราะ “ตอนนี้ผมกำลังจะเลิกแล้วว่ะ”

   “แล้วจะทำยังไง”

   “ไม่รู้อ่ะ พอรู้ว่าพี่กับบลูไม่ได้รักกันจี๋จ๋าแบบที่เห็นก็เริ่มคิดไม่ออก”

   “นี่กะมาตีสนิทพี่เพื่อแก้แค้นเหรอ เสียใจว่ะ”

   “คนแก่ขี้น้อยใจ หัวล้านนะจะบอกให้”

   ผมกับพี่ซันคุยกันตลอดทางสร้างเสียงหัวเราะจนปวดท้องไปหมด จนเมื่อรถหยุดนิ่งหน้าบ้านจัดสรรหลังหนึ่ง หน้าบ้านมีรถจอดเรียงแถวโคตรเยอะ คงจะเป็นบรรดาเพื่อนพี่น้องของเจ้าของงาน ดีที่เป็นโครงการใหม่ ไม่งั้นข้างบ้านคงออกมาโวยที่ไปจอดรถขวางหน้าบ้านเขา

   รถที่ซันจอดต่อท้ายเป็นรถคันที่ผมเห็นบ่อยๆ และเจ้าของก็ยังยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างตัวรถ ผมไม่อยากลงไปเจอตอนนี้ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะพี่ซันเปิดประตูลงไปแล้ว แถมยังส่งเสียงทักทายเพื่อนตัวเองอีก พี่โชพยักหน้าตอบรับเพื่อนก่อนจะหันมาสนใจผมที่เปิดประตูลงไป อาจเพราะมืดเลยไม่เห็นดวงตาดุที่จ้องมาว่ารู้สึกยังไง ผมได้แต่เม้มปากเพราะไม่รู้ว่าจะทักดีหรือเดินหนีเข้าบ้านเลย

   ระหว่างที่ผมลังเล รถไอ้ม่านก็มาจอดต่อท้าย ไอ้ทูเดินลงมากอดคอผมก่อนมันจะเห็นพี่โชที่ยืนนิ่งอยู่ข้างพี่ซัน ส่วนไอ้ม่านเดินมาสมทบแล้วยกมือไหว้รุ่นพี่ที่มันรู้จัก มันคงรู้สึกถึงบางอย่าง มันเลยเดินนำไปหารุ่นพี่ร่วมสถาบันแล้วชวนให้เข้าไป ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เดินตามหลังเพื่อนและรุ่นพี่ที่รู้จัก

   ทำไมถึงรู้สึกอึดอัด ผมคิดถูกหรือผิดเนี่ยที่มางานนี่ เพราะไอ้คำว่าของฟรีมาล่อกิเลสแท้ๆ กลับบ้านตอนนี้ทันมั้ย ... คงไม่ทันสินะ หลบหน้าเอาก็ได้ไม่เห็นจะยาก หวังว่าพอได้ดื่มไปบ้าง ความอึดอัดมันจะเลือนหายไปไม่มากก็น้อย



................... TBC


พี่ซันน้องกลอยพอไหวไหมคะ แต่พี่โชน้องกลอยดีกว่าเนอะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่าาา

อัพวนไปค่า
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 20-07-2016 20:01:12
ขนาดไม่มีบทให้พี่โชพูดยังรู้สึกเท่เลยอะ555555555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 20-07-2016 20:12:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 20-07-2016 20:14:37
พี่ซันก็ดีนะคะ 555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 20-07-2016 20:18:16
ทำไมบทนี้พี่ซันดูดีจัง แอบนอกใจพี่โชไปแว๊บนึง  :hao3: คราวหน้าอาจจะเผลอไปกับพี่จอมกระเพาะอวกาศ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-07-2016 20:56:16
พี่โชเป็นไรก็บอกน้องมันตรงๆสิเอ้อ มาทำงอนแบบนี้ระวังพี่ซันทำคะแนนนะ แอบโล่งนิดที่พี่ซันไม่ได้จะทำไรกลอย รึเปล่านะ ฮ่าๆๆ พี่จอมกระเพาะครากหายไปหนายยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 20-07-2016 21:10:16
พี่ซันชอบกลอยแน่ๆ :a5:

บทนี้พระเอกค่าตัวแพงมาแวปนึง555 แต่ก็เท่นะ อิอิ

จัดการนังบลู :m31: :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 20-07-2016 21:13:29
ไม่เอาพี่ซันค่ะ โละให้น้องไคนอื่นไปเนอะ โชกลอยอะดีแล้วเนอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 20-07-2016 21:27:21
ฮือออพี่ซัน อยากได้ๆๆๆ /ลงไปนอนดิ้น\ 555555555  :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-07-2016 21:43:29
บลู คบทีเดียวหกคน แม่เจ้า  :hao7: ชี ล่าแต้มหรอ  :katai1:
แต่ คนที่ไม่ได้แตะต้องเลย คงเป็นกลอย คนเดียวสินะ แต่แล้ว ชีร้ายเกินไป
พี่ซัน เหมือนจะอ่อยกลอยนะ
พี่โช โกรธแน่เลย เห็นกลอยมากับซัน
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 20-07-2016 21:51:47
ไม่รู้สิ แต่คิดว่าพี่ซันเหม่ะกับพี่กิ่งอ่ะ แบบน่าจะพอฟัดกันได้อ่ะ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-07-2016 22:05:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 20-07-2016 22:24:04
Just you and I : 9




        บรรยากาศงานวันเกิดคึกคักซะจนเหมือนจะเป็นงานวัด แสงสีเสียงจัดเต็มสุดๆ พวกที่มาก่อนหน้าเริ่มได้ที่ก็พาโยกตามจังหวะ นี่คงจะเริ่มตั้งวงตั้งแต่บ่ายแน่ เพราะดูปริมาณขวดที่วางเกลื่อนใต้โต๊ะมันเยอะจนเกินจะนับ ผมเดินข้างไอ้ทู ตาก็คอยจ้องมองแผ่นหลังของคนที่เดินข้างหน้า บางครั้งเหมือนพี่โชจะแอบมองมาผมก็รีบเสหน้าไปมองทางอื่น

   เป็นแบบนี้คงจะดีกว่า ต่างคนต่างอยู่

   พวกผมเดินเข้าไปบริเวณสนามหญ้าที่มีคนนับสิบส่งเสียงโวกเวกจนฟังไม่ได้ศัพท์ พอพวกที่เฮฮาหันมาเห็น ต่างก็ชี้มาที่พี่ซันแล้วก็วิ่งมากอดคอลากเข้าไปในวงเหล้า ส่วนพี่โชก็เดินตามไปนิ่งๆ ผม ไอ้ทู ไอ้ม่านเริ่มมองหาเจ้าของงาน จนเห็นพี่โต๋แกเดินถือยำวุ้นเส้นจานใหญ่ออกมา พวกผมเลยรีบเดินเข้าไปหาพร้อมยกมือไหว้

   “พวกมึงมาช้านะ” พี่โต๋แกทักครับ ส่วนแฟนพี่แกก็ยิ้มทักทายตามประสาแล้วเดินเอากับแกล้มไปวางที่โต๊ะ “มาๆ ไอ้อัธนั่งรอพวกมึงจนจะร่วงอยู่แล้ว”

   ผมถือจานยำแทน เพราะพี่โต๋ต้องเอาของขวัญสามกล่องไปวางกองรวมกับคนอื่นด้านใน แล้วพี่เขาก็ออกมาพาพวกผมไปนั่ง ผมเห็นไอ้อัธนั่งฟุบหน้าอยู่ที่โต๊ะ สงสัยจะถูกมอมหนัก สภาพมันกับเพื่อนอีกสองคนที่นั่งข้างกันนี่ถึงขั้นดูไม่ได้ ผมส่ายหน้าให้กับภาพที่เห็นก่อนจะหย่อนก้นนั่ง

       ...ถ้าไม่ติดเสียงพร้อมแรงดึงให้ยืนจากคนด้านหลัง
 
   “นี่มันเด็กไอ้โชนี่หว่า” พี่ที่ผมไม่รู้จักดึงให้ผมยืนก่อนจะออกแรงลากผมให้มารวมกลุ่มเพื่อนตัวเอง หนึ่งในนั้นมีพี่โชนั่งอยู่ด้วย

   “เอ่อใช่ กูไปดูเมื่อวันนั้น แล้วทำไมไม่มานั่งกับมึงล่ะไอ้โช”

   “สงสัยจะงอนกัน ผัวเมียก็เงี้ย” ไม่ใช่พี่โชตอบนะครับ คนตอบเป็นพี่ที่ชื่อเบ (ฉายาขี้เสือก)

   แล้วพวกเขาก็หัวเราะกันสนุกสนานแต่ไม่ใช่ผมแน่ครับ ผมอยากจะเดินหนีก็ทำไม่ได้เพราะถูกบังคับให้นั่งลงข้างพี่โช ซึ่งพี่ท่านก็ขยับที่นั่งให้อีกต่างหาก

   “เอ้าๆ มึงกินเหล้าเป็นใช่มั้ย” แก้วสีน้ำอำพันที่ผมชอบถูกยื่นมาให้ ผมมองหน้าคนยื่นที่ยิ้มแป้นแล้นก่อนจะยื่นมือไปหยิบ หากไม่โดนมือคนข้างๆ แย่งไปดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วเรียกเสียงเฮได้อีกระลอก
 
   “ไอ้เหี้ยโชมีหวงเว้ย”

   “มันรักของมันมึงก็ไปยุ่ง มานั่งนี่” แม้จะโดนเรียกแต่พี่ที่ลากผมมาแกไม่ยอมครับ คว้าแก้วมาชงให้ผมอีกรอบ แถมคราวนี้เอามาจ่อปากผมเลย และก็ตามเดิม พี่โชยื่นมือมาแย่ง แต่พี่คนชงกลับโยกหลบแล้วเอามาจ่อปากผมอีกรอบ คือพี่สนุกเหรอวะ

   “ไอ้เหี้ยบอม” พี่โชเรียกชื่อเพื่อนเสียงนิ่งมากครับ แต่เพื่อนแกก็ไม่ยอมยังพยายามจะให้ผมดื่ม ผมเลยดันก้นแก้วดื่มเหล้าจนหมด พวกนั้นเลยโฮ่กัน

   “หมดแล้วผมกลับไปนั่งกับเพื่อนได้หรือยัง” ตอนนี้ผมไม่สนุกแล้วครับ อยากกลับโคตรๆ

   “โห ขี้งอนด้วย ไม่งอนสิคร้าบ” พี่ที่ชื่อบอมยื่นมือมาลูบหัวผมไปมาจนพี่โชถึงกับยืนขึ้นคว้าแขนเพื่อนตัวเองแน่น  ท่าทางที่เหมือนจะเอาจริงทำเอาเสียงเฮฮาเมื่อกี้เงียบลงทันที บรรยากาศตอนนี้โคตรแย่ หากไม่ได้พี่โต๋มาห้ามละก็ ไม่อยากจะคิด

   “อ่าวๆ ได้ที่ก็จะตีกันเหรอพวกมึง ส่วนไอ้บอม มึงห้ามรังแกน้องกลอยกูนะเว้ย นี่เพื่อนของหลานรหัสกู” พี่โต๋ดึงพี่บอมไปนั่งที่ตามเดิม ส่วนพี่โชก็ทิ้งตัวนั่งหน้านิ่ง ดูก็รู้ว่ากำลังข่มความโกรธ
 
   “กูก็ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แล้วก็ยังไม่อยากตายก่อนวัยอันควร” พี่บอมบอกครับ แต่ไอ้ประโยคหลังนั่นทำเอาพี่โต๋แกตาโต “กูแค่อยากแหย่เด็กไอ้โชมันนิดๆ หน่อยๆ เอง”

   “เฮ้ย จริงเหรอวะ ไอ้กลอยมึงเป็นเด็กไอ้โชเหรอ” พี่โต๋อย่าไปบ้าจี้กับพวกเขาสิครับ

   “ไม่ใช่พี่” ผมปฏิเสธทันที พี่โชก็ดูจะนิ่งๆ ไม่มีอาการใดๆ กับคำตอบของผม

   “อ่าว” เสียงร้องของบรรดาเหล่ารุ่นพี่หลังจากได้ยินคำตอบของผม

   “เอ่อๆ เรื่องของพวกมึง แล้วไอ้พวกนี้จะไปยุ่งเรื่องเขาทำไม วันนี้วันเกิดกูนะเว้ย แดกๆ”
 
   พี่โต๋ยกแก้วเหล้าตัวเองก่อนคนอื่นจะยกตาม ผมก็เลยแอบเดินตัวลีบกลับมานั่งที่โต๊ะที่มีเพื่อนตัวเองนั่งอยู่ ที่จริงงานนี้คนในงานคงจะเป็นพวกที่เรียนนิติเหมือนพี่โต๋ แต่พอดูอีกทีคณะวิศวะก็เยอะเหมือนกันนะ ที่ผมรู้เพราะผมจำหน้าได้บางส่วน ก็ที่ไปนั่งใต้ตึกคราวนั้นไง พอผมเดินมานั่งปุ๊บ ไอ้ม่านก็รีบคว้าคอผมเข้าใต้รักแร้ทันที

   “สรุปแล้วยังไงวะ มึงกับพี่โชอ่ะ”

   “กูก็ทำตามที่มึงกับไอ้อัธบอกไง”

   “มึงทำได้เหรอวะ”

   ผมไม่ตอบเพราะไม่รู้จะตอบอะไร อยากจะบอกว่าทำได้ แต่ในใจก็รู้สึกแปลกๆ เลยเลือกที่จะเงียบแทน ไอ้ม่านส่งเสียงจิ๊จ๊ะเมื่อไม่ได้ดั่งใจ มันเลยหันไปโซ้ยยำวุ้นเส้นแทน ส่วนไอ้ทูก็กำลังชงเหล้าของตัวเอง ไอ้นี่พอของฟรีหน่อยก็จัดเต็มตลอด และมันคงรู้ว่าผมจ้อง มันเลยส่งแก้วที่ชงแล้วให้ผม ส่วนของมันก็ใช้แก้วใบใหม่



   งานวันเกิดเริ่มคึกครื้นขึ้นเมื่อเจ้าภาพเริ่มเปิดฟลอเพราะได้ที่ เมาขนาดนั้นจะเป่าเค้กได้มั้ยเนี่ย พี่อิงแฟนพี่โต๋คงทนเห็นสภาพอุบาทไม่ได้เลยดึงแขนแฟนตัวเองให้กลับไปนั่ง แต่คิดว่าคนเมาจะฟังเหรอ นั่งแป๊บเดียวก็กลับไปเซิ้ง (เพลงร็อคกลายเป็นหมอลำไปแล้ว) ใหม่ แถมยังมีเพื่อนลุกเซิ้งด้วยหลายคน หนึ่งในนั้นก็พี่จอมครับ พี่แกสายย่อด้วยนะ ย่อจนเข่าแทบจะติดพื้น ผมดูไปหัวเราะไป โคตรฮา

   พอได้ที่เรื่องที่ผมกลุ้มใจก็ถูกดีดปลิวหายเลยครับ ตอนนี้ไม่ว่าใครเดินมาชนแก้ว ผมก็ยกตลอด ขนาดไอ้พี่บอมที่เกือบมีเรื่องเมื่อกี้ยังเดินมาชนแก้วแถมยังเกือบจะลากผมออกไปเซิ้ง ดีที่ไอ้ม่านอาสาไปแทน ตอนนี้เพื่อนผมมันเซิ้งอยู่กลางวง ก็คู่แข่งพี่จอมสายย่อนั่นแหละครับ

   ผมนั่งหัวเราะไปยกแก้วไปจนมีแรงสะกิดจากด้านหลัง หันไปมองก็เจอหน้าพี่ซันที่ทำตาเยิ้มมานั่งข้างๆ ในมือนี่ถือแก้วไม่วางเลยทีเดียว ขี้เมานี่หว่า
 
   “ไม่ออกไปเป็นสายย่อเหรอพี่” ผมถาม พี่ซันแกส่ายหน้าทันทีครับ

   “ไม่ไหวมั้ง ปล่อยพวกนั้นไปเถอะ” ผมกับพี่ซันมองกลางวงเซิ้งแล้วก็พาหัวเราะ ก่อนจะมองหน้ากันเลิกลักเมื่อเห็นพี่จอม (สายย่อ) เดินเซมาทางพวกเรา “มีอะไรมึง” พี่ซันรีบรวบร่างเพื่อนตัวเองที่เซจนเกือบจะลงไปนั่งจับกบที่พื้น

   “กูอยากนั่งเฉยๆ เต้นเหนื่อยเหี้ย” พี่จอมมันหอบหนัก ทำเสียงอ้อแอ้มาก

   “กูเห็นมึงแดกไม่กี่แก้ว เมาน้ำเปล่าหรือเปล่ามึงอ่ะ” คำถามของพี่ซันเรียกเสียงหัวเราะของพี่จอมเลยครับ ก่อนพี่แกจะยืนเหมือนคนปกติจนผมงง สรุปไม่ได้เมา?
 
   “ฉลาดตลอดนะมึงไอ้ซัน” พี่จอมตบบ่าเพื่อนแต่สายตามองมาที่ผมครับ “แต่กูอยากจะเตือนมึงเรื่อง....” ผมได้ยินแค่นั้นก่อนพี่จอมจะกระซิบข้างหูพี่ซันแทน คือพี่มีความลับอะไรกันวะ ผมไม่ได้อยากรู้หรอกนะ แค่อยากมีส่วนร่วมเฉยๆ

   ผมจ้องพี่จอมกับพี่ซันที่ซุบซิบกันแต่ตาเหล่มามองผม แบบนี้จะไม่ให้สงสัยได้ยังไง พอพี่จอมผละออกมาพี่แกก็หันไปสนใจไอ้ทูที่แดกกับแกล้มจนหมดไปหลายจาน
 
   “อ่าว ไอ้ลูกคนที่สอง มึงมาด้วยเหรอวะ ปะ ไปเซิ้งกัน” แล้วก็รอไม่ฟังคำตอบครับ เพราะพี่จอมลากมือไอ้ทูไปทันทีทั้งที่วุ้นเส้นยังคาอยู่ที่ปากอยู่เลย
 
   ยังไงๆ อยู่นะคู่นี้ หรือจะเป็นอย่างที่พี่โชบอก แต่พี่จอมดูจะชอบผู้หญิงนะ คงไม่ใช่หรอกมั้ง...เนอะ

   “คิดอะไรอยู่” ผมสะดุ้งเมื่อโดนมือจิ้มหน้าผาก

   “เล่นแรงว่ะพี่” ผมบ่น “แล้วเมื่อกี้พี่จอมพูดถึงผมป่ะ”

   “ทำไมมึงคิดงั้น” เมื่อเช้าเรียกผมว่ากลอยอยู่เลย ตอนนี้ขึ้นมึงกูเรียบร้อย พอเหล้าเข้าปากคนเราก็เปลี่ยน มันเป็นแบบนี้นี่เอง
   
   “ก็พี่กับพี่จอมมองผมอ่ะ ผมก็อยากรู้ดิ่”
 
   “บอกแล้วกูจะได้อะไร” มาอีกแล้วครับ ไอ้สิ่งแลกเปลี่ยนแบบนี้

   “ไม่อยากรู้ก็ได้” พี่ซันหัวเราะอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับยกแก้วในมือดื่มรวดเดียวจนหมด แล้วหันมายิ้มหวานให้ผมจนผมต้องเบือนหน้าหนี

   แล้วความสนุกก็ถูกเบรกเมื่อพี่อิงประกาศออกไมค์ว่าจะเป่าเค้กแล้ว เพราะเจ้าของวันเกิดดูท่าจะไม่ไหว ถ้าไม่รีบเป่าตอนนี้ คงได้เป่าพรุ่งนี้แทน หลังจากพี่อิงพูดจบ เค้กก็ออกมาโดยมีสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม (น้องพี่อิง) ที่ผมไม่รู้จักชื่อถือออกมาจากบ้าน พี่โต๋ก็ยืนโอนเอนจนถูกมือแฟนตัวเองตีไปหลายรอบ ผมก็ลุ้นว่าพี่โต๋แกจะเอาหน้าจุ่มลงไปในเค้กตอนไหน เพราะหน้าจะทิ่มอยู่เป็นรอบๆ

   แสงไฟในงานถูกดับลงและเริ่มสว่างด้วยแสงเทียนเล็กๆ ที่ปักอยู่บนเค้กแทน ผมยืนปรบมือตามจังหวะเพลงวันเกิด (แบบเพี้ยนๆ) จากพวกขี้เมา ฟังแล้วตลกดี พี่บางคนถึงตะโกนหาบันไดเพื่อมาปีนหาคีย์ที่สูงเกิน เมื่อเพลงจบ พี่โต๋ก็เป่าฟู่เดียวทั้งงานกลับมามืดไร้แสงสว่าง หวังว่าตอนเป่าคงไม่เอาน้ำลายลงไปผสมนะ ไม่งั้นผมคงผ่านว่ะ
 
   เพราะมัวแต่รอแสงไฟเพื่อจะกลับไปนั่งที่โต๊ะ อย่าลืมนะครับว่าเป็นโครงการใหม่ แล้วโซนนี้มีแค่บ้านพี่โต๋ ดังนั้นถ้าไฟในงานถูกปิด ทั่วบริเวณจะมืดจนแทบมองไม่เห็น ขนาดได้ยินรุ่นพี่บางคนตะโกนด่ากันเมื่อโดนเหยียบเท้า ผมยืนรออยู่ข้างๆ ไอ้ม่าน แต่ทำไมไอ้ม่านต้องจับมือผมด้วย ไอ้เชี่ยนี่เมาแล้วเนียนตลอด คงคิดว่าผมเป็นเด็กของมันแน่
 
   “ไอ้เชี่ยม่าน มึงปล่อยมือกูเลย” ผมบอกมันแต่มันกลับเงียบ หรือมันเมาไม่ได้สติ “ไอ้ม่าน มึงเมาเหรอวะ” ไฟก็ไม่เปิดสักที ผมมองไม่เห็นเว้ย

   “กูไม่ใช่ไอ้ม่าน” เสียงกระซิบข้างหูทำเอาผมขนลุก เสียงนี้มัน...

   ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด ผมก็ถูกเจ้าของเสียงฉุด เฮ้ยๆ จะลากผมไปไหนวะ

   “พี่โชจะพาผมไปไหน” มันไม่ตอบ เอาแต่ลากๆ ให้ผมเดินตาม จนไฟในบ้านติด ผมถึงได้เห็นแผ่นหลังคนลาก ไอ้พี่โชมันกำลังพาผมไปที่รถ แล้วมันก็ยัดให้ผมลงไปนั่งข้างคนขับ ส่วนมันก็อ้อมไปนั่งประจำที่แล้วออกรถทันที
 
   “กูมีเรื่องจะตกลงกับมึง” คำตอบของมันพร้อมกับการเหยียบร้อยกว่า ผมนั่งหลับตากลัวมันจะพาผมเสยต้นไม้สักต้น แถมมันยังกินเหล้าไปหลายแก้ว หากมีด่าน ผมกับมันเสร็จแน่
   “เบาๆ หน่อยพี่ ผมขี้จะราดแล้ว” ผมโวยวาย คือมันน่ากลัวจริงๆ นะ มันขับปาดซ้าย ปาดขวารถคันอื่น บางคนบีบแตรลากยาวใส่เลยครับ นี่ถ้ารถพวกนั้นมีปืน คงตามมายิงผมทิ้งไปแล้ว

   ความแรงทะลุนรกค่อยชะลอลงจนจอดสนิทหน้าร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ผมรีบเปิดประตูลงไปโก่งคออ้วกข้างถังขยะทันที ยำต่างๆ กับพวกกุ้งหอยปูปลาทะลักออกจากปากจนท้องเบาโหวงเลยครับ ส่วนพี่โชมันก็ยังนั่งรออยู่ในรถไม่ยอมเปิดประตูออกมาดูสภาพผม แมร่งโคตรใจดำ ทำกับผมขนาดนี้ไม่คิดจะออกมาดูดำดูดี
 
   “เชี่ยอะไรวะ” ผมสะดุ้งเมื่อแก้มถูกของเย็นจัดแนบ พี่โชมันออกจากรถไปตอนไหนวะ
 
   “กินซะจะได้ดีขึ้น” ขวดน้ำที่ถูกเปิดฝาถูกยื่นมาให้ผมอีกรอบหลังจากผมคว้าอากาสเพราะมันดึงคืนกลับ ผมก็ยกดื่มรวดเดียวหมดไปเกือบครึ่งขวด เหลืออีกครึ่งผมก็เอาราดหัวแล้วสะบัด ตอนนี้มันมึนๆ ตื้อๆ สงสัยจะเมารถ
 
   “ขอบคุณครับ” เมื่อกี้ที่ผมด่าขอถอนคำพูดละกัน ผมถูกพี่โชดึงให้ลุกขึ้นยืน ก่อนมันจะพยุงพามานั่งบนรถตามเดิม
 
   แอร์รถเย็นๆ กับยาแก้ปวดที่ผมถูกบังคับให้กินหลังจากกลับมานั่งบนรถเริ่มทำให้ดีขึ้น ผมมองคนที่นั่งอยู่หน้าพวงมาลัยจนมันหันมามองตอบ

   “พี่มีอะไรจะตกลงกับผม”

   “เรื่องกูกับมึง”

   “ผมกับพี่...ทำไม”

   พี่โชจ้องหน้าผมนิ่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนั่นสั่นระริกจนผมอยากหันหน้าหนี แต่ก็ทำไม่ได้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

        “ทำยังไงมึงถึงจะให้โอกาสกู” เสียงที่คล้ายกับอ้อนวอนทำให้ผมอยากขยี้หูตัวเองหลายๆ รอบ
 
   “พี่ว่าอะไรนะ” ผมถามกลับจนพี่โชส่งเสียงฮึดฮัด

   “กูอยากขอโอกาส” ใบหน้าดูจริงจังจนผมต้องกัดริมฝีปากล่างตัวเอง “กูรู้ว่าที่ผ่านมา กูบังคับมึงตลอด แต่ต่อจากนี้กูอยากขอโอกาส”

   “พี่จะขอโอกาสอะไรจากผม พี่คิดจะจริงจังกับผมจริงๆ เหรอ ผมเป็นผู้ชายนะ คนรอบตัวพี่ คนในสังคมของพี่จะรับได้เหรอ แล้วก็ผู้หญิงของพี่มีเป็นร้อยผมสู้พวกเขาไม่ไหวหรอกนะ” คิดแล้วสยองกับฤทธิ์เดชของผู้หญิง

   “กูไม่เคยสนใจคนพวกนั้น”

   “แต่พี่ก็ปฏิเสธคนพวกนั้นไม่ได้อยู่ดี”

   “กูปฏิเสธพวกนั้นไม่ได้ แล้วทำไมมึงถึงปฏิเสธกู” แทบไปไม่เป็นเลยไอ้กลอยกับประโยคนี้

   “ก็...เรายังไม่รู้จักกันดีพอเลยด้วยซ้ำ” ผมบอกเสียงอ่อย
 
   “แล้วมึงไม่อยากรู้จักนิสัยจริงๆ ของกูเหรอ” น้ำเสียงคล้ายกับอ้อนวอนทำเอาใจผมอ่อนยวบลงไปเกือบครึ่ง “กูอยากเริ่มใหม่”

   “เรายังไม่เคยเริ่มต้นเลยด้วยซ้ำ” ผมบอก

   “ขนาดไม่เคยเริ่ม กูยังจูบมึงไปแล้ว”

   เชี่ย แบบนี้มันควรจะให้โอกาสหรือเปล่า

   “ผมขอเวลาอีกหน่อย”

   “ถ้ากูไม่ให้”

   “ไหนบอกจะรอโอกาสจากผมไง”

   “เออ!” พี่โชทำหน้าบึ้งกระแทกเสียงใส่เพราะเถียงไม่ออก

   “ใช่ผมจะเล่นตัวนะ แต่ผมต้องการเคลียร์บางอย่างก่อน พี่ก็ด้วย ผู้หญิงของพี่เยอะจนแทบจะเดินชนกันอยู่แล้ว” ผมย่นจมูกเมื่อนึกถึงภาพคนที่มีสาวๆ ห้อมล้อมในวันนั้น

   “กูไม่เคยมีใคร”

   “ให้มันจริงเถอะ”

   “มึงนั่นแหละ กูรู้เรื่องมึงกับแฟนไอ้ซันแล้ว”

   เหยด คำบอกเล่าของพี่โชทำเอาผมสะดุ้ง มันรู้ได้ยังไงวะ หรือผมเผลอพลั้งปากบอก ไม่น่าจะใช่ แล้วทำไม...

   “พี่รู้ได้ไงวะ”

   “กูเห็นมึงกับเด็กนั่นที่โรงอาหารเลยให้เพื่อนไปสืบมา”

   “พี่เป็นคนส่งคนไปสืบ?” พี่โชพยักหน้ารับ ผมนี่มึนเลย ตอนแรกปักใจคิดว่าเป็นพี่ซัน ไหงกลายเป็นพี่โชไปซะได้ “สืบทำไมอ่ะ”

   “กูอยากรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับมึง กูทำขนาดนี้มึงยังจะใจดำไม่ให้โอกาสกูอีกเหรอ”

   ฉ่า หน้าผมเหมือนถูกเตารีดทาบ มันร้อนวาบขึ้นมาทันที บทมันจะโหดก็โหด บทจะเลี่ยนก็เลี่ยนจนเขิน นี่ผมกำลังจะแพ้ทางผู้ชายเหรอเนี่ย

   “กะ ก็ขอเวลาหน่อยไง”

   “สรุปมึงยอมให้โอกาสกูจีบมึง?”
 
   “พี่จะจีบผม?”

   “มึงโคตรโง่เลยว่ะ” แล้วพี่โชมันหัวเราะออกมาจนผมงง มันคงเห็นผมทำหน้าเอ๋อเลยยื่นมือมาขยี้หัวผมซะฟู “แล้วก็นะ...”

   “หือ...”

   “ถึงมึงเป็นผู้ชาย มึงก็ยั่วอารมณ์กูขึ้นได้เหมือนกัน”

   อารมณ์ขึ้นอะไรวะ ผมทำหน้าเหมือนหมางงหนัก ก่อนสายตาเจ้าเล่ห์ที่มันมองมา จะทำให้ผมเริ่มมองตาม คือมันมองหน้าผมแล้วค่อยๆ ไล่ลงมาที่คอแล้วก็อก...แล้วก็ เชี่ย เสื้อผมเปียกจนแนบกับตัว มันจะไม่เป็นอะไรถ้าเสื้อผมไม่ใช่เสื้อสีขาว ไอ้พี่โชแมร่งหื่นว่ะ กับผู้ชายก็ไม่เว้น


   แล้วกูจะเขินทำซากอะไรเนี่ย โว้ย!!!!!!   



...TBC


พี่จอม (สายย่อ) มาแปบเดียวได้ใจหลายๆ คน เลยพาพี่แกมาราตรีสวัสดิ์ ..

เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^ Love Love
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-07-2016 22:34:47
น้องกลอยเนื้อหอมมม~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 20-07-2016 22:40:29
รีบๆเคลียร์เลยน้องกลอย
พี่โชจะได้เดินหน้าจีบเต็มที่ซักที :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-07-2016 22:41:32
 :ling1: :ling1: :ling1: พี่จอมค้าาาาาาาาาถึงพี่จะหล่อก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้นะคะ เห็นพี่เซิ้งแล้วปวดตับเลยจริงๆ หัวเราะลั่นบ้าน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณที่พาพี่จอมมาส่งเราเข้านอนค่ะ ส่วนพี่โชขอบคุณมากที่พี่ยอมบอกกลอยตรงๆสักที
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 20-07-2016 22:46:00
ฮาาาาพี่จอม สายย่อ  :m20:  พี่โชน่ารักดีจัง มีขอโอกาสซะด้วย หลงงงงงง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 20-07-2016 23:12:49
ยังไงก็อยากได้พี่ซัน55555 *หลบตีน* แต่พี่โชก็สู้ๆนะะะ เป็นกลจ.ให้ เย่ :z2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-07-2016 23:19:34
น้องกลอยเสน่ห์แรง :katai2-1: :katai2-1: ทั้งพี่โชทั้งพี่ซันแต่พี่จอมน่าจะบอกพี่ซันให้รู้แล้วใช่ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 20-07-2016 23:39:26
ชอบๆ สนุกดีค่ะ มาอีกเยอะๆ นะคะ รอติดตามค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-07-2016 00:00:36
อีพี่โชเคลียร์ตัวเองก่อนเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-07-2016 00:25:16
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 21-07-2016 07:35:49
ตามอ่านมาจนถึงเเล้วว  เฮ้ออออ
 :hao6: รู้สึกว่าจะมีหลายคู่เหมือนกันเเฮะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 21-07-2016 08:48:36
อ่านๆมาเจอ "รีบรวบร่างพี่จอม"ของพี่ซัน กรี๊ดเลย ซันจอม!!!! เชียร์คู่นี้ได้ไหม ไหนๆก็โดนสาวทำไม่ดีใส่ทั้งคู่ มีแผลใจก็ช่วยๆกันเลียแผลแบบแมนๆไง นะะะะะะะ #มโนไกล #ทูจงไปคู่คนอื่น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 21-07-2016 21:13:13
พี่โชกับกลอยกำลังจะเริ่มต้นแล้ว
พี่จอมสายย่อ ฮ่าๆๆๆๆ ทูกินตลอด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-07-2016 21:21:17
ให้โอกาสพี่โชไปเถอะ ขนาดตอนนี้น้องกลอยยังแอบแคร์พี่โชเลยนิ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 21-07-2016 22:20:21

Just you and I : Part Zho l




        “ไอ้โช กูโดนทิ้งว่ะ” เสียงเนือยๆ ดังข้างตัวผมหลังจากมันเดินหน้าบึ้งมาจากด้านนอก

   “แล้วมึงแคร์?” ผมเลิกคิ้วถาม

   “นิดหนึ่งว่ะ คนนี้กูอุตส่าห์คบยืดตั้งสามเดือน” ไอ้จอมมันฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วถอนหายใจออกมา ผมได้แต่ส่ายหน้า เพราะรู้ว่ามันไม่ได้เสียใจมากเท่าไหร่ ก็ไอ้การโดนทิ้ง ไม่ก็ทิ้งคนอื่นมันก็เกิดขึ้นเป็นประจำสำหรับไอ้คนขี้เบื่ออย่างไม่จอม
 
   ผมละความสนใจจากเพื่อนที่คบกันมานานมาสนใจผู้หญิงตรงหน้า เธอเดินถือแก้วกาแฟร้านยี่ห้อดังมาวางตรงหน้าผม พร้อมกับวางกล่องขนมเค้ก
 
   “แพรรู้ว่าโชชอบกินกาแฟอเมริกาโน่ แล้วนี่ชีสเค้ก ไม่หวานมาก แพรว่าโชก็น่าชอบเหมือนแพร” หญิงสาวตรงหน้าเธอเดินเข้ามายืนข้างผมพร้อมกับยิ้มหวาน เธอเอนตัวเท้าแขนกับโต๊ะทำให้เสื้อที่รัดรูปมีช่องระหว่างสาบเสื้ออวดอกงามที่แทบจะทะลักออกมาด้านนอก ดูก็รู้ว่าเชิญชวนให้กินอะไรอย่างอื่นนอกจากกาแฟ

   “ขอบคุณครับ แต่ผมไม่ชอบของหวาน” ผมเลื่อนขนมคืนให้แพร เธอทำปากยู่อย่างน่ารักก่อนจะนั่งลงบนต้นขาของผม
 
   “โชอ่า แพรตั้งใจเลือกมาให้โชเลยนะ” เสียงเง้างอดดังข้างหู “แต่ถ้าโชไม่ชอบจริงๆ เดี๋ยวคืนนี้แพรจะหาของที่โชชอบรอนะ” ทั้งสายตา น้ำเสียงเชิญชวนจนผมยิ้ม ผมก็เป็นผู้ชายที่มีความต้องการปกติ

   แพรเป็นสาวสวยคณะอักษร เอาจริงๆ ผมไม่เคยเดินเข้าไปจีบหรือขอเบอร์ผู้หญิงคนไหน ส่วนใหญ่พวกเธอจะเข้ามาหาผมเองซึ่งผมก็ไม่เคยปฏิเสธใคร แต่ถ้าผมไม่เคยจริงจังกับคนไหน เพราะไม่อยากวุ่นวาย ผมเกลียดเรื่องยุ่งยากทั้งหมด
 
   ผมจะเบื่อเสมอเวลาไอ้จอมมาปรึกษาเรื่องแฟนของมัน ผมคิดถูกแล้วที่ไม่ตกลงใจกับใคร ขืนมีผมคงทนไม่ไหวไล่ตะเพิดตั้งแต่วันแรกๆ
 
   “มึงไม่กินงั้นกูกินนะ” ไอ้จอมเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะเมื่อแพรเดินไปแล้ว มือมันคว้าเอาชีสเค้กไปกินเรียบร้อย “เด็กมึงคนนี้แจ่มว่ะ ลีลาเป็นไงวะ” ผมไม่ตอบครับ เพราะผมไม่เคยเล่าเรื่องใต้เตียงให้ใครฟัง แม้ผมจะเลวก็เถอะ “เงียบตลอดสัด เออหิวข้าวว่ะ ไปแดกบะหมี่กัน”
 
   ไอ้จอมมันเป็นพวกกระเพาะหลุมอวกาศกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ตอนเด็กแม่มันเคยพาไปรักษา เพราะมันกินตลอดเวลาแต่ไม่อ้วน หมอบอกระบบเผาผลาญมันทำงานเกินคนปกติ พอโตจะหายเอง ผมก็เห็นว่าทุกวันนี้มันก็กินเหมือนเดิม แต่ยังดีที่มันยังรู้สึกอิ่ม

   ผมพาลูกรักทะยานออกถนนใหญ่ ไอ้จอมนั่งปุ๊บก็เปิดเพลงเสียงดังจนผมหันไปด่า แต่มันก็ไม่ฟังเลยปล่อยให้มันบ้าของมันไป ฝ่ารถติดไม่นานผมก็จอดรถเทียบฟุตบาทหน้าร้านขายบะหมี่เจ้าประจำ ไอ้จอมลงไปโดยไม่รอ มันลงไปสั่งๆ แล้วก็ไปนั่งที่โต๊ะ ผมดับเครื่องยนต์กำลังจะเปิดประตู แต่ภาพที่เห็นผ่านกระจกหน้ารถทำให้ผมต้องดึงประตูรถกลับตามเดิม
 
   เด็กสวมชุดนักศึกษาสองคนกำลังยืนดูอะไรบางอย่างที่ข้างถนน เด็กที่ผอมกว่าชี้ๆ ก่อนจะรับกระเป๋าจากเพื่อนมากอด ผมมองตามร่างเด็กอีกคนที่กำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อจะข้ามถนน ทำไมไม่ข้ามสะพานลอยทั้งที่มันก็ไม่ไกล ผมขมวดคิ้วคอยดูว่าเด็กพวกนั้นกำลังจะทำอะไร จนรถว่าง เด็กที่ไร้สัมภาระก็รีบวิ่งไปกลางถนนจนถึงเกาะกลาง

   แล้วผมจะลุ้นกับเด็กพวกนั้นไปทำไม

ร่างที่ยืนเกาะกลางถนนกำลังก้มเก็บอะไรสักอย่าง แขนเล็กๆ นั่นรวบตัวบางอย่างมากอดไว้ แล้วก็รีบวิ่งกลับมายังฝั่งถนนที่มีเพื่อนรอลุ้นอยู่ อ้อมกอดนั่นคลายออกทำให้เห็นตัวขนปุยสีขาวที่สั่นเทาอยู่ เจ้าของอ้อมกอดยิ้มร่าก่อนส่งตัวขนปุยให้เพื่อนอุ้มแทน อยู่ๆ ผมก็ยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นใบหน้าขาวยื่นหน้าไปจูบจมูกหมาตัวน้อยที่เพื่อนอุ้ม ท่าทางดูบ๊องๆ แต่ก็น่ารักดี
 
   เสียงเคาะกระจกรถทำให้ผมละสายตาจากเด็กคู่นั้นพร้อมทั้งหุบยิ้ม ไอ้จอมมันกวักมือเรียกผมให้รีบลงไปเพราะบนโต๊ะมีชามก๋วยเตี๋ยววางรออยู่นานแล้ว ผมพยักหน้าตอบก่อนจะหันกลับมามองเด็กคู่นั้น แต่ที่ตรงนั้นว่างเปล่า เห็นเพียงด้านหลังที่เดินห่างออกไป...

   “คืนนี้พวกไอ้เบนัดที่เดิมว่ะ” ไอ้จอมพูดทั้งที่มีเส้นหมี่เหลืองคาปาก
 
   “อืม” ผมตอบ

   “อารมณ์ดีอะไรวะ เมื่อกี้กูเห็นมึงยิ้มอยู่คนเดียวในรถ” ไอ้นี่ก็ตาดี

   “ไม่มีอะไร แล้วมึงจะไปยังไง”

   “กับมึงไง หรือมึงจะไปกินตับแทน”
 
   “ทุ่มครึ่งเดี๋ยวกูไปรับ”

   “โอเคจัดไปเพื่อน”
   



   ทุ่มครึ่งผมจอดรถหน้าคอนโดไอ้จอม ซึ่งมันก็ยืนรออยู่แล้ว พอมันเห็นรถผม มันก็เปิดขึ้นมานั่งแล้วบ่นเรื่องไร้สาระ ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้างแต่ถ้ามันถามผมก็ตอบๆ ไป แม้มันจะทำตัวน่ารำคาญในบางที แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม
 
   ไนต์คลับที่รับเฉพาะเมมเบอร์ ผมกับไอ้จอมได้สิทธิพิเศษเพราะเป็นเพื่อนกับน้องชายเจ้าของ บรรยากาศด้านในยังคงคึกคักเช่นทุกวัน หลายครั้งที่ผมเดินผ่านโต๊ะที่มีสาวๆ ผมมักจะได้เบอร์โทรไม่ก็เบอร์ห้องแต่ผมก็ไม่สนใจเพราะวันนี้ผมมากินเหล้าเท่านั้น แม้โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงจะสั่นจนทำผมรำคาญก็เถอะ
 
   “ไอ้โช ไอ้จอม ทางนี้เว้ย” เสียงไอ้เบเพื่อนในคณะ ที่ตอนนี้มันกำลังมีสาวสวยนั่งขนาบข้าง ที่จริงก็ทั้งโต๊ะนั่นแหละ กลุ่มชายหนุ่มนับสิบจะไร้สาวมันก็ไม่ใช่เรื่อง

   “มาๆ มึง” ผมรับแก้วเหล้าจากเพื่อนมาจิบ สายตาก็มองไปรอบๆ จนสะดุดกับหญิงสาวโต๊ะด้านหลัง เธอยกแก้วในมือชูมาทางผม ซึ่งผมก็ยกตอบตามเรื่อง แต่เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เกิดขึ้นจนได้
 
   ผมถอนหายใจหนักๆ แล้วลุกออกจากเก้าอี้เพราะไม่อยากให้เพื่อนคนอื่นๆ เดือดร้อน เมื่อเห็นกลุ่มคนที่ลุกจากด้านหลังโต๊ะของผู้หญิงที่ผมยกแก้วตอบ ผมเดินออกไปด้านหลังร้านโดยมีไอ้จอมเดินตามมาด้วย มันเดินบ่นไร้สาระตามเคยโดยไม่หวั่นพวกกลุ่มคนนับสิบที่เดินตามหลังมา
 
   หลังไนต์คลับเป็นซอยแคบๆ ไร้ผู้คน มีเพียงกองขยะกองใหญ่ที่ถูกวางกองๆ อยู่ พอพวกผมยืนนิ่ง กลุ่มที่เดินตามออกมาก็รีบพุ่งเข้ามาคว้าคอเสื้อผมก่อนมันจะกล่าวหาว่าผมไปยุ่งกับผู้หญิงของเจ้านายมัน
 
   มีตาหรือเปล่าวะ ผมส่ายหน้าให้กับเสียงตะคอกนั่น ถามว่ากลัวมั้ย ตอบเลยว่าไม่สักนิด นานแล้วที่ไม่ได้ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย ไอ้จอมก็คงคิดเหมือนกับผม เพราะมันได้แต่หัวเราะเมื่อเห็นผมถูกขยำคอเสื้อ
 
   “อยากเจ็บตัวนักใช่มั้ย พวกกูจัดหะ...” พูดยังไม่จบไอ้คนพูดก็ถูกไอ้จอมถีบจนตัวงอ ผมจับมือที่กล้าจับคอเสื้อแสนแพงของผม แค่บิดมือมันไขว้หลังมันก็ร้องโอดโอย จากนั้นพวกที่ยืนอยู่ก็กรูเข้ามา ผมแบ่งไอ้จอมคนละครึ่ง อาจเพราะนานแล้วที่ไม่ได้ออกแรงทำให้ใช้เวลาเยอะไปสักหน่อยในการจัดการ

   “ก็แค่นี้ นึกว่าจะสนุกกว่านี้ เซ็งว่ะ” ไอ้จอมบ่นครับ ผมมองไปรอบๆ บริเวณโดยเฉพาะหลังกองขยะ เมื่อกี้ผมเหมือนจะเห็นหัวคนโผล่ขึ้นมา และก็จริง เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมกับไอ้จอมเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ ไอ้คนที่นั่งหลบอยู่หลังกองขยะรีบดึงมือถือตัวเองออกมาปิด แต่มันก็ดังขึ้นอีกแต่เจ้าของก็รีบปิด

   “ทำไมมึงไม่รับ” ผมถาม ดูท่ามันจะยังไม่เห็นพวกผม

   “เชี่ย ถ้ารับ ไอ้พวกนั้นก็รู้สิว่ากูอยู่นะ...นี่” ดูไอ้เด็กนี่จะช็อคไปเมื่อเห็นผมยืนอยู่ ตาโตๆ ของมันเบิกกว้างแถมอ้าปากค้าง ท่าทางโคตรตลก
 
   “มึงเป็นพวกนั้นเหรอ” ไอ้จอมมันถาม ไอ้เด็กนี่รีบส่ายหน้า สงสัยจะกลัวเพราะตัวมันสั่นเหมือนลูกนกตกน้ำ

   “ไม่เกี่ยวเลย ไม่เกี่ยวข้องเลยจริงๆ” น้ำเสียงมันเหมือนจะร้องไห้จนผมอดที่จะขำไม่ได้

   “เหรอ” ไอ้จอมมันพยักหน้า มันคงไม่ได้สนใจจริงๆ จนมันบอกให้ผมกลับเข้าไปข้างใน แต่ผมกลับเอาแต่จ้องหน้าไอ้เด็กที่นั่งสั่นอยู่ข้างกองขยะ

   “เอาไอ้นี่ไปด้วย” ผมบอกนิ่งๆ ไอ้จอมตกใจ แต่ผมไม่สน ผมเดินเข้าไปลากไอ้เด็กท่าทางตลกนี่เข้าไปด้วย ตอนถูกลากมันทั้งอ้อนวอนแทบจะกราบเท้า โคตรตลก ท่าทางต่างจากตอนที่มันไปช่วยหมาตัวเล็กนั่น ตอนนั้นมันดูน่ารักดีนะ
 
   นี่ผมกำลังไม่เป็นตัวเองหรือเปล่า?

   พอกลับมาถึงโต๊ะ ไอ้พวกเพื่อนๆ ก็ต่างพากันมองโดยไม่กล้าจะถาม แต่แล้วก็มีหน่วยใจกล้าเอ่ยถามเกี่ยวกับเด็กที่มานั่งข้างผม ที่มันเอาแต่มองเข้าไปในกลุ่มผู้คน

   “มึงไปหิ้วเด็กที่ไหนมาวะ ตัวขาวเว่อร์” ไอ้เบถามพร้อมสายตาวิบวับ ไอ้นี่มันเป็นพวกไบ หญิงก็ได้ ชายก็โอเค จนเคยมีประวัติในห้องสภาเรื่องชายหญิงต่อยตีกันแย่งมันหน้าคณะ

   ผมมองไอ้เด็กที่เอาแต่ถอนหายใจก่อนตอบไอ้พวกอยากรู้

   “แถวนี้แหละ” แม้ผมจะปล่อยให้มันยืดคอมองนั่นนี่แต่บางทีมันก็รำคาญ “มึงมองหาอะไร” แต่คำตอบที่ไร้เสียงจากปากบางนั่นทำให้ผมแทบขยำคอมัน และมันคงจับความโมโหผมได้ มันเลยตอบแบบกล้าๆ กลัวๆ ว่ามองหาเพื่อนที่มาด้วย ไอ้เด็กท่าทางกวนตีนไม่น้อย

   คุยไปคุยมาเสียงโทรศัพท์มันก็ดัง ผมรีบแย่งมารับเองซึ่งก็เจอแววตาไม่พอใจแต่ดูยังไงก็ตลก ผมฟังเพื่อนมันพูดๆ ก่อนจะบอกไปว่าไอ้เด็กนี่อยู่กับผม เพื่อนมันเลยฝากให้ผมไปส่ง ตอนผมคุยโทรศัพท์ ไอ้เด็กนี่ก็จ้องมาด้วยแววตาอยากรู้ นัยน์ตากลมโตมันดูน่าสนใจดีนะ แถมยังมีผมอยู่ในนั้นอีกด้วย
 
   “เอ่อ” ผมรับคำสุดท้ายก่อนเก็บโทรศัพท์มันใส่กระเป๋าตัวเอง พอมันรู้ว่าเพื่อนกลับไปแล้วก็โวยวายขึ้นมาก่อนมันจะทำหน้างอมองเหล้าขวดแพงที่วางบนโต๊ะ สงสัยจะอยากกิน
 
   แต่ไอ้เบมันไปควงสาวที่ไหนมาไม่รู้เอามานั่งด้วย แถมไอ้เด็กที่นั่งข้างผมยังมองตาไม่กระพริบ ทำไมผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา มันหงุดหงิดแบบไม่รู้สาเหตุ ผมเลยจับหน้ามันหันกลับมามองผม ซึ่งมันก็โวยวายบ้าบอ

   “มึงชื่ออะไร” ผมถามแม้จะได้ยินเพื่อนมันเรียกชื่อแล้ว แต่อยากรู้ว่ามันจะบอกชื่อจริงๆ ออกมาหรือโกหก ดูมันคิดอยู่นานกว่าจะตอบออกมา

   “ชื่อกลอย”
 
   “ไม่ได้ตั้งมามั่วๆ แล้วบอกกูใช่มั้ย”

   “เอ่อสิ ชื่อจริงๆ” มันงอนครับ จมูกรั้นเชิดขึ้นจนอยากบีบให้มันหายใจไม่ออก

   ผมลองยกแก้วตัวเองขึ้นจิบ สายตามันก็มองตาม พอวางแก้วมันก็ยังมองตาม ผมเผลอยิ้มออกมา มันมีอะไรบางอย่างทำให้ผมอยากได้

   “อยาก?” ผมลองถามซึ่งมันก็พยักหน้า ผมยกแก้วขึ้นจิบ มันมองหน้าผมอย่างเคืองๆ แต่ผมไม่สน ผมคว้าคอมันมา มืออีกข้างก็เชยคางมันขึ้นเพื่อรับจูบ มันต่อต้านแต่แรงของผมซึ่งมีมากกว่าทำให้มันหยุดดิ้นแล้วกลืนเหล้าในปากผมจนหมด
 
   เหล้าหวานกว่าทุกครั้งที่ได้สัมผัส

   ดูท่าทางมันตกใจปนโกรธ แต่ไม่กล้าทำอะไรผม มันฮึดฮัดก่อนลุกพรวดหนีออกไปจากโต๊ะ ผมขำเมื่อมันถูกกลืนไปในฝูงชน พอเดินออกมาข้างนอก ผมเห็นมันนั่งหอบ สงสัยจะเหนื่อยหลังจากต้องเบียดคนเมาออกมา มันนั่งหมดอาลัยอยู่ข้างถนนสงสัยจะหารถกลับไม่ได้ ผมเดินไปขึ้นรถตัวเองแล้วขับผ่านร่างเล็กๆ ที่รีบวิ่งไปซ่อน มันคงคิดว่าผมตาบอดมองไม่เห็น

   วันนี้ผมยิ้มบ่อยเกินไปจนน่าแปลกใจ

   ผมขับออกมาไม่ไกลก็ถอยเข้าไปจอดในซอยแล้วออกมายืนรอมันอยู่ และมันก็เดินมาจริงๆ ด้วยท่าทางหงอยๆ เห็นแล้วก็สงสารแต่ก็อยากแกล้ง ผมเดินตามหลังมันไปเงียบๆ จนมันเกือบจะชนกับเสาไฟฟ้าถ้าผมไม่ทักขึ้นมาซะก่อน ดูมันตกใจถอยหลังหนี
 
   “คิดจะหนีกูมันไม่ง่ายหรอกนะ อะไรที่กูอยากได้ ยิ่งยากกูยิ่งชอบ” นี่คือข้อเสียของผมที่ไอ้จอมบอก

   “กะ กูไม่ได้หนีเว้ย กูจะกลับบ้านต่างหาก ดึกแล้วมึงไม่เห็นเหรอ” มันตอบเสียงสั่น แต่ขึ้นมึงกูแบบนี้ไม่น่ารักเอาซะเลย

   ผมเดินเข้าไปหา มันรีบถอยหลัง ท่าทางจะกลัวผมจริงๆ ผมเหมือนฆาตกรขนาดนั้น?
 
   “มึงต้องการอะไรวะ กูถามจริงๆ” สงสัยจะหมดความอดทน

   “มึงไง” สั้นๆ ที่ผมตอบ

   “มึงเป็นเกย์หรือไงไอ้เชี่ย กูมีแฟนแล้วเว้ย เป็นผู้หญิงด้วย”
 
   “แล้วไง”

   ผมไม่ได้จะเอาแฟนมันสักหน่อย มันฮึดฮัดก่อนจะถามหามือถือมันจากผม ผมบอกให้มันหาเองซึ่งมันก็ทำจริง มันเดินเข้ามาจากด้านหน้าแล้วยื่นมือสองข้างอ้อมตัวผมไปคลำกระเป๋ากางเกงด้านหลัง มันคงลืมสังเกตว่ามันกำลังกอดผมอยู่ ก่อนมันจะตกใจแล้วรีบดึงมือถือตัวเองคืนจากกระเป๋ายีนส์ด้านหลัง ผมขำกับท่าทางแปลกๆ เวลามันมองมือถือตัวเอง มันคงคิดว่าผมจะเปิดรหัสที่ตั้งแบบโง่ๆ ไม่ได้ แล้วรูปที่ผมเห็นยิ่งทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองถึงขั้นเซฟในมือถือตัวเอง
 
   “คิดว่ากูโง่เปิดดูรูปมึงที่แต่งเป็นผู้หญิงไม่ได้เหรอ” พูดจบผมก็เห็นมันอ้าปากค้าง “รหัสโคตรปัญญาอ่อน ไอ้หนึ่งสองสามสี่เนี่ย” มันเบ้ปากมองผมก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่ที่นานๆ ทีจะวิ่งผ่านมา

   ไอ้เด็กกลอยมันเข้าไปนั่งในรถได้ก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผมจนผมหัวเราะ แต่แล้วมันก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นผมชูกระเป๋าเงินหนังสีดำมันแกว่งไปมา ผมแอบหยิบตอนมันคลำหามือถือของมัน


 
   ผมบอกแล้วว่า อะไรที่อยากได้ ผมต้องได้ ยิ่งยากยิ่งดี



..........................TBC Part 2


สวัสดีค่า วันนี้เอาพี่โชมาทักทาย พาสของพี่โชจะมี 2 พาสนะคะ จะเป็นช่วงที่เจอน้องกลอยใหม่ๆ จะได้รู้ว่า ทำไมน้า พี่โชถึงตามน้องกลอยขนาดนี้ ...

แค่ช่วยน้องหมาก็หลงรักเลยเหรอ? หรือมีมากกว่านั้น??

ติดตามได้ในพาส 2 ค่าาา  ^^~

....


หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 21-07-2016 22:41:16
ค้างเติ่ง อยู่ตรงเน๊
 :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 21-07-2016 22:45:29
น้องกลอยน่ารักมากกกกก  ช่วยลูกหมาทำให้พี่โชตกหลุมเข้าอย่างจังเลย


สนุกมากๆค่ะ  รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 21-07-2016 22:50:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-07-2016 23:00:48
น้องน่ารัก พี่โชอย่างกวนอ่ะ หลงน้องก็บอกเถอะ โธ่ๆๆๆๆๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-07-2016 23:02:05
นึกเหมือนกัน ว่าต้องมีที่มาที่ไป
ทำไมโช ถึงเอาตัวกลอยข้างถังขยะไปด้วย
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-07-2016 23:05:55
พี่โชมาเอง ถูกใจเพราะน้องช่วยหมาเหรอ :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 8 + 9<< // [20/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-07-2016 23:16:08
พี่โชสู้ๆ นะครับ เดี๋ยวน้องกลอยก็ให้โอกาสเองแหละ ตอนนี้เหมือนจะกำลังเคลียร์ปัญหาคนเก่าอยู่ ^^
ป.ล.หวังว่าพี่โชจะไม่หลอกให้น้องกลอยหลงรักแล้วก็เขี่ยทิ้งนะครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมเองคงจะเสียใจมากที่ตั้งใจเชียร์มาแต่แรก :m16:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 21-07-2016 23:23:18
อ๊ากชอบมาก. สนุดสุดๆ อยากให้ตีพิมพ์เป็นหนังสืออยากซื้อเก็บไว้ถ้าเปิดจองบอกกันด้วยนะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-07-2016 23:42:20
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 21-07-2016 23:43:57
พี่โชคนใจง่าย~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 22-07-2016 01:06:45
เริ่มต้นจากความประทับใจ จากนั้นก็กลายเป็นความรัก..
อ้วกมั้ย อ้วกเหอะ 55555555555555555
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ อ่านรวดเดียวเลยยย
ฮื่อออ หลงน้องกลอย น้องกลอยทำไมเจ้าน่ารักขนาดนี้
คนหลงเสน่ห์น้องเยอะนะ พี่โชนี่ก็หึงหน้ามืดตามัว นี่ขนาดขอโอกาสจากน้องเลยนะ
คนโฉดอย่างพี่โชอ่ะ หูยยยยย รักจริงแล้วมั้งคนนี้เนี่ย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 22-07-2016 08:28:00
รึกว่าเด็กสองคนที่ช่วยหมานั่นเป็นเด็กประถมค่ะ5555555555 น้องกลอยนี่เองงงงง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 22-07-2016 09:10:55
มุมของโช กลอยน่ารักว๊ากกก
มาต่ออีกค่ะ รอๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 22-07-2016 12:55:41
ชอบๆๆมาก อยากให้ตีพิมพ์และเปิดจอง อยากได้เก็บไว้เป็นหนังสือมากๆๆๆ :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 22-07-2016 19:11:22
Just you and I : Part Zho ll




        เช้าวันใหม่กับห้องเดิมๆ แต่เพิ่มเติมคือรูปหน้าจอโทรศัพท์ รูปที่ผมแอบเซฟเก็บไว้เมื่อคืน ร่างเด็กผู้ชายที่ถูกจับให้สวมชุดเมดแบบในการ์ตูนญี่ปุ่น กระโปรงสั้นจู๋จนเห็นต้นขาอ่อนซึ่งเจ้าตัวคงจะเขินเลยเอามือสองข้างดึงลง แม้จะสวมถุงเท้าสีขาวยาวขึ้นมาถึงหัวเข่า แต่มันก็ไม่ทำให้ความเซ็กซี่ลดลงได้เลย ยิ่งใบหน้าที่คล้ายกับจะร้องไห้จนมีน้ำใสๆ คลอที่หน่วยตา ยิ่งทำให้ดวงตากลมโตดูมีเสน่ห์ เพราะรูปๆ นี้ผมให้ผมยิ้มเหมือนคนบ้ามาทั้งคืน

   ทั้งที่ผ่านผู้หญิงมานักต่อนัก แต่กับเด็กคนนี้ทำให้รู้สึกใจสั่น ทั้งที่เป็นเด็กผู้ชายที่ดูไม่น่าสนใจอะไรมากมาย น่าอกก็ไม่มี แถมยังมีพุงยื่นอีกต่างหาก...บางทีผมคงต้องหาสาเหตุว่าเพราะอะไรไอ้เด็กนี่ถึงทำให้ผมอาการหนักขนาดนี้
 
   ผมขับรถออกจากคอนโดมาทำรายงานที่มหาวิทยาลัย แม้ใกล้จะจบเต็มแก่ แต่ก็ยังมีหน่วยกิจที่ต้องตามเก็บ เพราะช่วงเทอมที่ผ่านมา อาจารย์ประจำวิชาเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้พวกผมต้องมาลงเรียนในเทอมนี้แทน ผมต่อสายไปหาไอ้จอม ป่านนี้มันคงนอนก้นโด่งอยู่ที่หอ รอสายอยู่นานมันก็ไม่ยอมรับ บวกกับมีสายซ้อน ผมจึงเลือกวางสายและกดรับคนที่โทรซ้อนเข้ามา

   “ว่าไง”

   (ไอ้โช กูโทรหาไอ้จอมมันไม่รับ มันอยู่กับมึงหรือเปล่าวะ) ไอ้ซันโทรมาแต่เช้า

   “เปล่า มึงลองไปหามันที่ห้องดูสิ ไม่รู้ตื่นหรือยัง”
 
   (กูอยู่หน้าห้องมันเนี่ย กดเรียกแล้วมันไม่ยอมตอบเชี่ยอะไรเลย) แล้วมันจะโวยวายใส่ผมทำไม (หรือมันจะออกไปแล้ววะ แต่รถมันก็ยังอยู่)
 
   “มึงลองลงไปถามข้างล่างดูว่าเห็นหัวไอ้จอมหรือเปล่า” ทั้งที่วันนี้ตื่นมาแล้วอารมณ์ดีแท้ๆ ต้องมาหงุดหงิดกับไอ้พวกขี้โวยวาย

   (เออๆ แล้วเจอกันที่มหาลัย)

   ปวดหัวจริงๆ กับไอ้พวกนี้

   ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานจอดของนักศึกษา พอกดรีโมทล็อกรถเสร็จหันมาอีกทีก็เจอกับร่างระหงส์ของเจ้าของรถสีแดงเพลิงที่จอดอยู่ด้านข้าง ซึ่งเธอคงตั้งใจรอผมแน่นอน ดูจากตัวรถที่เริ่มเย็น

   “เมื่อวานจ๋าโทรหา ทำไมโชไม่รับเลยล่ะ หรือว่าจ๋าไม่สำคัญ” ใบหน้าง้ำงอมาพร้อมกับการตัดพ้อ ผมยกยิ้มนิดๆ เมื่อเธอยื่นมือมาคล้องแขน

   “เมื่อวานผมยุ่งเลยไม่ได้รับ มีอะไรกับผมหรือเปล่า”
 
   “จ๋าแค่อยากดูหนัง เมื่อวานเข้าวันแรกด้วย เพื่อนจ๋าไปดูมาแล้วบอกว่าสนุก วันนี้เราไปดูกันนะ” หัวทุยของเธอซบเข้ากับไหล่ของผม ปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยปฏิเสธใคร หากไม่ใช่เรื่องที่จะนำพาความวุ่นวาย แต่ตอนนี้ผมกลับคิดว่า เรื่องนี้มันจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมา
 
   “ผมต้องทำรายงาน จ๋าไปกับเพื่อนสิ”

   “โชอ่ะ” พอไม่ได้ดั่งใจก็ส่งเสียงดัง ผมไม่ชอบ ยิ่งท่าทางประชดประชันยิ่งทำให้ผมไม่ชอบ “ใช่สิ จ๋ามันเก่าแล้วนี่ ไม่น่ารักเหมือนยัยแพรอักษรนั่นใช่มั้ย เมื่อคืนโชไปนอนกับมันมาใช่มั้ย”

   “อย่าทำแบบนี้ผมไม่ชอบ” ผมบอกเสียงเรียบๆ แม้ในในแทบอยากจะตวาดกลับก็ตาม

   “จ๋าขอโทษ” พอเจอเสียงแข็งของผม เธอก็มีท่าทีที่อ่อนลง “โชอย่าโกรธจ๋านะ จ๋าก็แค่น้อยใจที่โช...”
 
   เสียงสายเรียกเข้าผมดังขัดขึ้น หญิงสาวข้างกายผมทำท่าทางไม่พอใจเมื่อผมยกแขนออกจากการจับกุมแล้วเดินแยกออกมา ปลายสายคือไอ้จอมที่ไร้การตอบรับเมื่อครู่นี้

   “ว่าไง”

   (กูเจอแล้วว่ะ)

   “เจออะไร แล้วนี่อยู่ไหนวะ”

   (เจออดีตเมียกูกำลังนอนกกผัวใหม่ แมร่งเหี้ย หลอกกูมาตั้งสามเดือน)
 
   “สรุปมึงไปหาเมียมึงที่ห้อง”

   (เออดิ่ ตอนนี้กูเอาเงินประกันคืน ปล่อยให้เสวยสุขไป เดี๋ยวโดนไล่จากคอนโดแล้วจะรู้สึก)
 
   ผมส่ายหน้าให้กับความคิดของเพื่อน มันเป็นพวกรักแรง แค้นแรง แต่ไม่นานก็ลืม

   “ไอ้ซันไปหามึงแล้วไม่เจอ มันโทรหามึงหรือเปล่า”

   (กูโทรหามันแล้ว แต่มันไปรับเมียกินข้าว ไอ้นี่ก็อีกคน ด่ากูตลอด เมียกูก็ไม่ใช่ ทำไมไม่ด่าเมียตัวเอง กูเห็นน้องบลูสุดที่รักของมันควงเสี่ยเข้าไปกินชาบูเมื่อวาน) อ่อ ไอ้จอมมันยังขี้ประชดอีกหนึ่งอย่าง เป็นอย่างที่ผมโคตรไม่ชอบ ยังดีที่มันไม่เคยใช้กับผม แต่มันมักจะใช้กับไอ้ซันเสมอ

   “เออๆ แล้วมึงรีบมาด้วย รายงานกลุ่ม ไม่ใช่ของกูคนเดียว แค่นี้กูก็เหนื่อยจะแย่”

   ไอ้จอมไม่ตอบแต่กลับวางสายแทน ไอ้เชี่ยนี่บางทีก็ทำตัวให้น่าโมโห

   ผมเดินเข้าตัวตึกคณะที่นัดกับกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อทำรายงาน เดินผ่านกลุ่มเด็กปีสามที่เอาแต่เล่น พอพวกมันเห็นผมต่างก็รีบยกมือไหว้เลยพยักหน้ารับแล้วเดินไปต่อ ผมว่าตอนนี้อารมณ์ของผมไม่เหมาะกับการทำรายงาน คงต้องหาอะไรมาดับความร้อนในใจให้คลายลง
 
   โต๊ะใต้ตึกเรียนมีกลุ่มเพื่อนของผมจับจองกันก่อนหน้า พวกมันทำรายงานไป คุยเฮฮากันไป ส่วนใหญ่ก็เรื่องไม่เป็นเรื่อง จนได้ยินเกี่ยวกับเรื่องซื้อชุดน่ารักๆ แล้วผมก็นึกขึ้นได้ ผมหยิบมือถือออกมาแล้วส่งไลน์ไปหาคนๆ หนึ่ง พร้อมรูปที่ผมแอบเซฟไว้ ส่วนเบอร์มันผมก็ใช้เครื่องมันโทรเข้าเครื่องตัวเองตั้งแต่เมื่อคืน
 
   รอไม่นานมันก็ขึ้นอ่าน แค่นี้ก็ทำให้ผมยิ้มขึ้นมา สงสัยตอนนี้มันคงรีบจนแทบอยากจะเหาะมา

   “ไอ้เหี้ยโชมึงกินยาไม่เขย่าขวดเหรอวะ” ไอ้เบมันเดินมาจ้องหน้าผมในระยะประชิด ผมเลยผลักหน้ามันจนหงายหลัง “ไม่เชี่ยนี่ชอบใช้ความรุนแรง อูย” 

   “อะไรของมึง” ผมถามตาขวาง

   “ก็กูเห็นมึงเดินมาใหม่ๆ ยังทำหน้าอย่างกับไม่ได้ขี้ แต่ตอนนี้กลับยิ้มเหมือนคนบ้า มึงสติดีอยู่ใช่มั้ย ดึงสติขึ้นมา ฮึบๆ”
 
   ผมมองหน้าเพื่อนที่เริ่มเพี้ยนของตัวเองแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ก่อนเปิดแลปท็อปทำรายงาน
 
   เกือบๆ จะชั่วโมงครึ่ง ไอ้เด็กที่ผมเรียก ก็มายืนทำหน้างออยู่ตรงหน้า มันเดินตามหลังไอ้จอมเข้ามา สงสัยจะหลง ขนาดผมบอกรายละเอียดทางมาที่นี่แล้วแท้ๆ หน้าขาวๆ มันมีเหงื่อผุดกับแก้มแดงๆ ดูแล้วน่ากัด มันหน้างอหนักขึ้นไปอีกเมื่อถูกเพื่อนๆ ของผมแซว จนผมต้องรีบพูดขัดขึ้น

   “มึงมาช้า”
 
   “ก็...”

   มันยังไม่ทันได้ตอบอะไร ไอ้จอมก็บอกว่ามันถูกไอ้เด็กปีสามขอเบอร์ ความรู้สึกไม่ชอบกับความโมโหตีตื้นขึ้นมาจนต้องขมวดคิ้ว

   “มึงให้เบอร์มันแล้ว?” อยากจะเข้าไปเขย่าตัวมันแล้วเอามือถือมันมาเช็ค แต่ก็ทำได้แค่จ้องหน้ามันแทน
 
   “กูยังไม่ได้ให้เว้ย ว่าแต่มึงมานี่เลย กูมีเรื่องต้องเคลียร์” มันรีบตอบก่อนมันจะลากแขนผมให้ออกมาห่างจากกลุ่มเพื่อนที่ส่งเสียงโห่ร้อง “มึงลบรูปกูเดี๋ยวนี้เลยไอ้สัด” สายตามันเหมือนแมวที่กำลังขู่เจ้าของเพื่อให้ส่งปลาทูให้...โคตรน่ารัก

   “เรียกกูว่าพี่” ผมบอก มันทำหน้าเอ๋อจนผมต้องพูดต่อ “กูแก่กว่ามึง มึงต้องเรียกกูว่าพี่”

   “ไม่ กูไม่เรียก” มันดื้อมาก แต่พอเจอผมขู่จะเอาภาพไปปล่อยในเพจ มันก็ลนลานก่อนเรียกผมว่าพี่ แม้เสียงที่พูดจะดูไม่เต็มใจก็เถอะ แต่ผมก็ชอบ

   “พี่โช”

   ผมยกยิ้มแล้วยอมล้วงเอามือถือขึ้นมา ไอ้เด็กนี่ก็รีบเข้ามาคว้า ผมดึงมือหลบ สงสัยมันจะพุ่งเข้าหาผมแรงไปหน่อย เลยกลายเป็นว่า ทั้งผมทั้งมันร่วงลงไปนอนกองกับพื้น โคตรเจ็บ หลังผมคงจะช้ำแน่ ส่วนคนทับมันก็ยังไม่ยอมลุก จนมีเสียงคนเดินมาทางนี้ ผมเลยรีบดันมันให้ยืนขึ้น ไอ้กลอยมันส่งค้อนทางสายตาให้ผมวงใหญ่ แล้วจู่ๆ มันก็รีบมาหลบด้านหลังของผมเมื่อคนที่เดินมายืนอยู่ตรงหน้า มือมันกำชายเสื้อนักศึกษาของผมแน่น เป็นอะไรของมัน

   “อ่าวไอ้โช มายืนทำไมแถวนี้วะ” ไอ้ซันที่ไปรับแฟนมันไปกินข้าวเหมือนที่ไอ้จอมบอก แถมยังให้แฟนมาส่งที่คณะอีก แฟนไอ้ซันชื่อบลู เป็นเด็กสาวที่มั่นใจในตัวเองสูง เสื้อรัดรูป กระโปรงสั้นจนเห็นขาอ่อน ยิ่งสวมรองเท้าส้นสูงยิ่งทำให้เรียวขาดูสวยน่ามอง ดวงตาที่ถูกแต้มด้วยเครื่องสำอางกำลังเชิญชวนผม ผมรู้ดี แต่ผมไม่คิดจะยุ่งกับคนของใคร
 
   “กูมาสูบบุหรี่ แล้วมึงไปไหนมา พวกไอ้เบตามหาอยู่” ไอ้ซันพยักหน้าแล้วหันไปยิ้มให้แฟนตัวเอง ผมทักทายกับแฟนไอ้ซันครู่หนึ่งก่อนเธอจะขอตัวกลับคณะ ส่วนไอ้ซันที่สังเกตเห็นคนด้านหลังผมก็ร้องทัก แต่ผมไม่ชอบที่มันชมไอ้เด็กนี่ว่าน่ารักเลย ทำไมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา อยากจะจับมันซ่อนไว้ด้านหลังตามเดิม

   พอไอ้ซันเดินไป ไอ้เด็กที่ทำให้ผมอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ก็ดูแปลกๆ ท่าทางมันไม่เหมือนกับตอนแรก มันดูเหม่อลอย สติไม่อยู่กับตัว แถมถามเรื่องไอ้ซันกับแฟนมันอีก...บางทีมันน่าจะมีอะไรที่มากกว่าที่เห็น ผมพามันกลับไปที่โต๊ะ แต่นั่งได้ครู่เดียวไอ้กลอยมันก็ขอไปเข้าห้องน้ำ...

   มันไปเข้าห้องน้ำหรือไปสร้างกันแน่วะหายไปเป็นชาติ!


 
   
   วันจันทร์ผมไม่มีเรียน เลยคิดอยากจะไปดูอะไรสักหน่อย ผมแต่งตัวธรรมดา เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ขับลูกรักไปที่มหาลัยของไอ้คนที่ขอไปเข้าห้องน้ำตั้งแต่วันเสาร์ จนวันจันทร์ผมยังไม่เห็นหัวมันเลย นี่ถ้าผมรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ผมคงไปหามันตั้งแต่เมื่อวาน รู้แค่ที่ๆ มันเรียน
 
   มหาลัยมันกว้างขวางแต่อาจไม่เท่ากับที่ๆ ผมเรียน นักศึกษาที่เดินไปเดินมาหรือแม้แต่ขับขี่รถราต่างก็พากันชี้มาทางผมที่ขับลูกรักมาจอดที่ลานจอดของนักศึกษา ผมไม่สนใจกับท่าทางพวกนั้นเพราะผมเจอประจำไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ทุกสายตาต่างจับจ้องเวลาผมเดินจากตัวรถเข้าไปยังตึกคณะศิลปกรรม บรรดานักศึกษาที่นั่งอยู่พากันซุบซิบคงหนีไม่พ้นเรื่องของผม
 
   ใต้ตึกเรียนไม่มีไอ้เด็กนั่นอยู่ แล้วมันไปที่ไหนวะ ผมลองเดินเข้าไปถามคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่

   “ขอโทษนะครับ รู้จักคนที่ชื่อกลอยมั้ย” ผมยิ้มน้อยๆ ส่งให้พอเป็นพิธี

   “คะ ค่ะ เอ๋” ดูเธอจะงงกับตัวเองก่อนจะรีบส่ายหัวสองรอบ “ขอโทษค่ะ คือพี่กลอยเพิ่งเดินออกจากตึกไปทางหลังมอเมื่อตะกี้นี้เองค่ะ” คนที่ผมถามเธอยิ้มหวานส่งให้ ดูจากป้ายชื่อที่ห้อยอยู่ที่คอคงจะเป็นเด็กปีหนึ่ง

   “ขอบคุณครับน้องทอย” ผมยิ้มให้อีกทีก่อนจะรีบเดินตามทางที่ถูกชี้มา แม้จะได้ยินเสียงกรี๊ดด้านหลังแต่ผมก็ไม่สนใจ ก็มันไม่ใช่เรื่องของผม

   ทางเดินที่ถูกปลูกต้นไม้ต้นใหญ่เพื่อให้ร่มเงา หากมองไกลๆ แล้วก็เห็นนักศึกษาคนหนึ่งกำลังเดินเอ้อระเหย ยกมือถือถ่ายรูปดอกไม้บ้าง รถที่วิ่งไปมาบ้าง ผมรีบเร่งฝีเท้าให้เข้าไปใกล้มากขึ้น แต่ก็ยังคงรักษาระยะห่างเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ผมเห็นไอ้เด็กนั่นนั่งลงแล้วยื่นมือไปเรียกหมาตัวเล็กๆ สองตัวที่วิ่งเข้ามาหา ผมลองเข้าไปใกล้ขึ้นอีกจนได้ยินเสียงมันคุยอยู่กับหมา

   “ว่าไงสีนิล สีนวล คิดถึงกันหรือเปล่า เมื่อวานไม่ได้มาหา แน๊ คิดถึงละซี้ พยักหน้าด้วย น่ารักจริงๆ” ผมมองมันพูดเองเออเองแล้วก็ขำ ทั้งที่มันเป็นคนจับหน้าของสุนัขพยักหน้ารับแท้ๆ ผมส่ายหน้ามองรอยยิ้มที่มันส่งให้หมาทั้งสองอย่างอิจฉา
นี่ผมอิจฉาแม้กระทั่งลูกหมาเหรอเนี่ย ไอ้โช มึงกำลังบ้า
 
   “แม่แกไปไหน หรือไปหาอาหาร เอาน่าๆ เดี๋ยวพี่กลอยคนนี้จะซื้อลูกชิ้นสุดอร่อยมาฝาก รอตรงนี้นะ แล้วห้ามลงไปที่ถนนด้วย รถจะชน พี่กลอยคนนี้ไม่มีเงินรักษานะจะบอกให้” มันชี้นิ้วสั่งลูกหมาสองตัวที่นั่งจ้องหน้าเหมือนจะเข้าใจ พอมันลุกยืน หมาสองตัวก็ยืนตาม...ตลกดี “ไม่ได้ๆ ไปไม่ได้ อยู่นี่แหละ โอเค๊” แล้วไอ้เด็กบ๊องมันก็รีบวิ่งหนีการวิ่งตามของหมาสองตัว ปากก็ส่งเสียงโวยวายไม่ให้หมาตามมันไป นี่มันจะทำให้ผมขำไปถึงไหนวะ

   ผมเดินตามมันจนมาถึงประตูหลังมหาลัย ด้านนอกมีรถขายของกินอยู่ไม่มาก อาจเพราะยังเป็นช่วงบ่าย ไอ้เด็กบ๊องมันเดินไปที่รถขายลูกชิ้นทอด คงจะเป็นลูกค้าประจำเพราะคนขายเห็นหน้าปุ๊บก็รีบทักทายกันอย่างสนิทสนม ดีที่เป็นผู้หญิง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็ยิ้มให้คนอื่นพร่ำเพรื่อเกินไป
 
   ได้ลูกชิ้นทอดมาสองถุง ตอนแรกผมไม่เข้าใจทำไมต้องซื้อมาสองถุง แต่พอเดินกลับมาที่เดิมที่มีลูกหมาสองตัวผมก็เข้าใจ มือขาวๆ นั่นเทถุงลูกชิ้นใส่ในถ้วย พอลูกหมาได้กลิ่นก็ต่างรุมกินอย่างหิวโหย

   “เห้ย สีนิล อย่าแย่งน้องดิ่วะ” มันอุ้มหมาตัวสีดำออกแล้วแยกลูกชิ้นมาวางอีกที่หนึ่ง ผมมองมันอย่างแปลกใจ ทั้งๆ ที่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่มีใครสนใจ แต่เด็กคนนี้กลับช่วยเหลือ มันทำให้ผมนึกถึงวันที่เจอมันครั้งแรกที่มันข้ามถนนไปช่วยหมาตัวนั้น
 
   “โอ้ย แม่สีครีมมาช้าอะ ลูกๆ ของแม่กินหมดแล้ว” ผมออกจากความคิดของตัวเองแล้วมองภาพตรงหน้าต่อ ตอนนี้แม่หมาเดินกลับมาหาลูก แต่พอเห็นคนอยู่ด้วยมันก็กระดิกหางใส่ สงสัยจะสนิทกัน ผมมองปากแดงๆ นั่นยู่เสียดายอย่างเอ็นดู ก่อนเด็กนั่นจะยกถุงลูกชิ้นอีกอันขึ้นมา “นี่ของพี่กลอย แต่พี่กลอยจะแบ่งให้” มันพูดกับแม่หมาพร้อมกับจิ้มลูกชิ้นเข้าปากแล้วคายออกมาวางบนมือให้แม่หมากิน

   มันโคตรลงทุนจริงๆ

   เด็กชื่อกลอยทำแบบนั้นจนลูกชิ้นหมดถุง สรุปมันไม่ได้กินสักลูกเลยสินะ แต่ดูท่าทางแล้วก็คงไม่เสียดาย เพราะใบหน้ายังมีรอยยิ้มสดใส
 
   “หมดแล้ว เดี๋ยวไว้จะซื้อมาฝากอีก ไปละน้า” มันโบกมือลาหมาแม่ลูกอ่อน ผมที่เดินตามหลังเดินเข้าไปลูบหัวแม่หมาที่คงงงว่าผมเป็นใคร แต่มันก็กระดิกหางใส่ คงจะรู้ว่าผมไม่ทำร้ายทั้งมันและลูก

   คนที่ผมกำลังเดินตามมันเดินไปที่จอดรถ ผมเห็นมันมองรถของผมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนมันจะตีหน้ายุ่งแล้วส่ายหัว คงคิดว่าเป็นรถของคนอื่นเพราะถ้าคิดว่าเป็นรถของผม มันคงหันซ้ายหันขวามองหา แล้วร่างที่เล็กกว่าผมก็ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าผมไปโดยไม่สังเกตมองว่ามีคนยืนจ้องอยู่ไม่ไกล
 


   ผมยังยืนยันคำเดิมว่า ไอ้เด็กคนนี้คือคนของผมแน่นอน ระวังตัวไว้เถอะ   


............


พี่โชพาสจบค่า ต่อไปก็เข้าเมนหลักเหมือนเดิม

อัพวนไปค่าาา ^^~
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 22-07-2016 19:24:33
พี่โชทั้งๆที่ไม่เข้าใจตัวเองแต่ก็ยังตามน้องนะ กลอยนี่น่ารักจริงๆมุ้งมิ้งเชียว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-07-2016 19:42:20
พี่โช ตามติดชีวิตกลอยแล้ว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-07-2016 20:02:20
น้องกลอยน่ารักนะเนี่ย ใจบุญ ใจดีอีกด้วย พี่โชอย่าทำให้น้องเสียใจนะครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 22-07-2016 20:18:01
พี่โช~~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 22-07-2016 22:25:03
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 22-07-2016 22:30:48
 :-[จ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 22-07-2016 22:52:29
งามทั้งกาย วาจา(?) ใจ  :heaven
จะไม่ให้พี่โชหลงหัวปักหัวปำได้ไงเนี่ย ฮื่ออ น้องกลอยคนดีของพี่โช~~~
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll +10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 22-07-2016 22:58:52
Just you and I : 10



        แม้ผมจะขอเวลาพี่โชสักหน่อย แต่ไอ้การที่มันมานั่งเฝ้าผมใต้ตึกเรียนเนี่ย มันเป็นการให้เวลาตรงไหน แล้วยิ่งจ้องจนหน้าผมแทบจะทะลุพี่ต้องการอะไร ต้องการจะให้ผมเขินใช่มั้ย พี่ได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้

   “จะมองทำไมเนี่ย มองไปทางอื่นนู้น” ผมบอกแก้เขิน แล้วพี่แกก็ไม่สนใจเสียงซุบซิบนินทารอบตัวเลย โดยเฉพาะกลุ่มพวกอีเข็มที่กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ แบบนี้คงเอาผมไปเขียนในบล็อกมันสนุกมือล่ะ หมดกัน ฉายากลอยเมะที่อีเข็มตั้งให้
 
   “ให้มองทางไหน ก็คนที่กูจีบนั่งอยู่นี่” พูดเลี่ยนแล้วตายังหวานอีก อ้วก!
 
   ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ทนความเลี่ยนไม่ได้ ไอ้ทูที่นั่งอยู่ด้วยยังหันหน้าหนีเตรียมอ้าปากอ้วก ถ้าไม่โดนสายตานิ่งๆ จ้อง ทำให้มันรีบหันกลับมาแทบไม่ทัน
 
   เมื่อเช้าผมเดินง่วงๆ มาที่ใต้ตึก อยู่ๆ ก็มีเสียงทักทายดังขึ้นมา ไอ้ผมก็เมาขี้ตาก็ตอบๆ ไป ไอ้คนทักมันคงไม่พอใจเลยคว้าคอเสื้อขณะที่ผมจะก้าวเดิน คอเสื้อรัดคอหอยจนไอไม่หยุดตอนนั้น หายง่วงไปเลย ไอ้พี่โชชอบใช้ความรุนแรงตลอด...นั่นแหละครับ ตั้งแต่เช้าลากมาถึงบ่าย โต๊ะประจำที่ผมมักจะนั่งกับเพื่อนๆ จึงเหลือแค่ไอ้ทูที่กล้านั่ง คนอื่นๆ แค่ถูกสายตาพี่โชจ้องต่างก็พากันย้ายตูดไปนั่งที่อื่น

   จะมาจีบหรือมาฆ่าคนตายวะ

   “ให้ผมเขินให้ป่ะ” กวนมันไป เลยโดยดีดหน้าผากเต็มแรง โคตรเจ็บ แบบนี้ต้องหักคะแนนความประพฤติ

   “มึงเลิกเรียนกี่โมง” พี่โชก้มดูนาฬิกาข้อมือแสนแพงของตัวเองหลังจากถามผม
 
   “ถ้ามีพี่ธุระก็รีบไปสิ จะมาอยู่รอผมทำไม”

   “แค่นัดกับพวกไอ้เบไว้” ผมพยักหน้า แต่ตากำลังมองเพื่อนตัวเองที่อยู่ๆ ก็ดูแปลกๆ
 
   “มึงเป็นไรวะไอ้เชี่ยทู ทำหน้าตาตอแหลสัด”

   “ตอแหลบ้านพ่องมึงสิ” มันด่าถึงพ่อเลยไอ้เชี่ยนี่ “กูแค่ลืมเอาการ์ตูนไปคืน งั้นกูไปล่ะ”
 
   “อ่าว” ผมมองตามหลังเพื่อนที่มันลุกขึ้นแล้วเดินหนีไปเลยครับ ปกติมันไม่ชอบอ่านหนังสือการ์ตูนนี่นา มันเล่นแต่เกมส์ แปลกเว้ย “โอ้ยพี่ เจ็บนะเว้ย” จ้องไอ้ทูนานไปจนลืมมองนิ้วที่ยื่นมาที่หน้าผาก เน้นๆ อีกดอก
 
   “มึงสนใจคนอื่นนอกจากกูอีกแล้ว” เอาแต่ใจโคตรๆ

   “ผมเป็นสัตว์สังคมนะครับ ต้องสนคนอื่นบ้างสิ พี่นั่นแหละ อยู่ๆ ทำไมต้องสั่งห้ามนู้น ห้ามนี่ ไม่มีเหตุผลสักนิด”
นั่นแหละครับ ตั้งแต่เช้า มันก็เริ่มสั่งห้าม ข้อแรกห้ามผมยิ้มให้คนอื่นโดยไม่จำเป็น แค่ยิ้มก็ผิดคิดดู ข้อสองห้ามผมไปนั่งโต๊ะรวมกับน้องรหัส นี่มันมีประเด็นตั้งแต่คราวก่อนที่เจอกันแบบไม่ประทับใจ แล้ววันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ดีหน่อยที่ไอ้รอนมันรีบไปเรียน แต่ผมเห็นดอกไม้ที่มันถือมาละ ไอ้พี่โชก็เห็น แถมจ้องซะตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า นี่มันร็อตไวเลอร์รึเปล่า
 
   ข้อห้ามต่อๆ ไปก็ดูไร้สาระครับ อันไหนเห็นไม่ดีก็สั่งห้ามตลอด ผมนี่หมดคำพูด แต่ก็ต้องทำตาม ขอทำเฉพาะตอนอยู่ด้วยแต่ถ้านอกเวลาละก็ ผมจะยิ้มจนปากฉีกถึงหูเลยคอยดู

   “เหตุผลกูมี นั่นคือกูกำลังจีบมึงอยู่”

   “แค่นั้นน่ะนะ”

   “เออ จะเอาแค่ไหน”

   ผมส่ายหน้าให้กับคนเอาแต่ใจ ผมละสงสัย ทำไมลูกคนรวยถึงต้องเอาแต่ใจกันทุกคน อย่างไอ้ทูก็มันใช่นะครับ แต่ตอนนี้มันกำลังโดนดัดสันดารให้ออกมาอยู่คนเดียวแก้ความเอาแต่ใจ ซึ่งมันก็ได้ผลดี
 
   “กูอยากให้มึงจำไว้ ว่ากูไม่ชอบให้คนของกูไปยุ่งกับคนอื่น และคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับคนของกู แล้วก็ รีบๆ ไปบอกเลิกเมียไอ้ซันได้แล้ว ก่อนที่กูจะเป็นคนไปบอกเอง” ผมรู้ว่าพี่โชไม่ได้ขู่ แต่ทำจริงแน่ ใจจริงผมก็อยากจะรีบๆ ทำให้จบ แต่ติดที่ว่า หาโอกาสไม่ได้ แถมไม่รู้จะทำยังไงดี

   “ก็ผมบอกแล้วว่าขอเวลาหน่อยไง” ผมเอาหัวทุยๆ ถูไถไปกับไหล่ของพี่โช ปกติผมไม่เคยทำแบบนี้กับคนแปลกหน้าเลยนะ จะมีแค่แม่ พี่กิ่ง แล้วก็พวกไอ้ทู ไอ้อัธ ไอ้ม่านเท่านั้น
 
   พี่โชถอนหายใจแล้วจ้องหน้าผมนิ่งๆ “กูให้เวลามึงหนึ่งวัน ไม่อย่างนั้นกูจะทำเอง”
 
   เชี่ย หนึ่งวันใครจะไปคิดอะไรได้

   ความเครียดเริ่มเข้าหาผมแล้วครับ เหอะๆ ผมยู่ปากเมื่อถูกจำกัดเวลาที่แสนจะน้อยนิด พี่ไม่คิดว่าสมองของผมมันจะทำงานช้าบ้างเหรอวะ แล้วก็นะ ตอนนี้ผมยังติดต่อกับบลูไม่ได้เลย แล้วแบบนี้จะไปเจอ ไปบอกได้ยังไง

   “ผมติดต่อไม่ได้อ่ะ สงสัยจะบล็อกเบอร์กับไลน์”

   “เดี๋ยวกูพาไปเจอ”

   “หา”

   อึ้งสิครับ อยู่ๆ ไอ้พี่โชก็จะจัดการเองซะงั้น ไม่ๆ จะพาผมไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย บ้าเหรอ ผมยังคิดแผนการหรือคำพูดอะไรไม่ออกเลยนะเว้ย เป็นวัยรุ่นใจร้อนเกินไปพี่คนนี้

   ผมโดนพี่โชรวบของบนโต๊ะยัดกระเป๋าตัวเองเสร็จสรรพ คือ พี่เอาจริงเหรอวะ ไม่ปรึกสงปรึกษาอะไรกันหน่อยว่าต้องทำยังไง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ตอนนี้เป้ของผมไปนอนรออยู่บนรถเรียบร้อย ผมได้แต่เดินคอตกตามหลังไป ก่อนจะโดนมือดีคว้าคอไว้ก่อน

   “เดี๋ยวสิมึง กูขอถามหน่อย” อีเข็มนั่นแหละครับ ผมเห็นมันเตรียมลุกขึ้นตั้งแต่เมื่อกี้ มันดึงแขนผมให้ไปทางกลุ่มมัน ก่อนยืดคอมองดูพี่โชที่เข้าไปนั่งรออยู่บนรถแล้ว

   “อะไร” ผมมองอย่างระแวง ก็สายตาแต่ละคู่ที่มองมา มันช่างสยดสยองเอาขนแขนขนขาลุกเกรียว
 
   “สรุปแล้ว มึงจะเป็นเคะสินะ” อีเข็มทำตาวาวส่งซิกให้อีแป้นจดอะไรไม่รู้ในสมุด “แล้วแบบ มึงกับพี่เขาเจอกันได้ยังไง ที่ไหน แล้วได้กันยัง” รอยยิ้มแสนน่ากลัวกับประโยคสุดท้ายทำเอาผมแทบล้ม
 
   ถามออกมาได้ ว่าได้กันหรือยัง ผู้ชายเหมือนกันมันจะไปได้กันได้ยังไงวะ

   “มีกับเหี้ยน่ะสิ”

   “แน๊ะ แสดงว่ายังไม่ถูกกิน อีแป้นจดๆ” บางทีผู้หญิงก็น่ากลัวเกินไปนะครับ เห็นผู้ชายได้กันแล้วชอบใจ มันควรจะเสียใจไม่ใช่เหรอวะ “อีกลอย ถ้ามึงเสร็จพี่เขาเมื่อไหร่ มาบอกพวกกูด้วย”

   “โอ้ยอีเข็ม มึงไม่ต้องให้มันบอกหรอก ดูท่าเดินก็รู้เอง”

   ผมรีบเดินหนีเลยครับ เสียงหัวเราะโคตรน่ากลัวดังไล่ตามหลังมา ผมไม่ยอมเสร็จไอ้พี่โชหรอก เพราะผมจะมอมเหล้าแล้วกดมันให้ดู ให้สมฉายา กลอยใจเมะสุดหล่อ ฮ่าๆ
 
   “มึงบ้าหรือเปล่า หัวเราะคนเดียว” ผมหันขวับไปมองพี่โชพี่มายืนข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่พอเห็นหน้ามันแล้วก็นึกถึงตอนมันเสร็จผม โอ้ย ฮาอ่ะ ขอหัวเราะอีกรอบ วะฮะฮ่าๆๆ “เอ่อ กูเข้าใจ ว่ามึงสติไม่เต็ม ไปๆ”




   ผมนั่งในรถคันที่พาผมอ้วก แต่วันนี้ขับดีเป็นพิเศษ แถมคนขับยังอารมณ์ดีหันมายิ้มให้ผมบ่อยๆ แรกๆ มันก็ดี พอนานๆ เข้าผมก็เริ่มกลัว หรือพี่โชจะเริ่มได้เชื่อเพี้ยนจากผมไปวะ ผมรีบขยับตัวชิดกับประตูรถแต่ก็ถูกมือใหญ่จับแขนให้มานั่งที่เดิม แล้วเลื่อนมือมากุมมือผมไว้แทน โอ้หัวใจ ไม่ต้องเต้นรัวแบบนั้นก็ได้
 
   เสียงโทรศัพท์ของพี่โชดังขึ้น เจ้าตัวส่งเสียงจิ๊จ๊ะก่อนปล่อยมือผมแล้วหยิบบลูธูทไปเสียบที่หูตัวเอง ผมรอฟังแต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา จะมีก็แค่สายตาที่มองผมเป็นระยะๆ แล้วรถก็ตบไฟเลี้ยวเพื่อจะกลับรถ ผมได้แต่มองไม่ได้ถามอะไร...ในที่สุดรถก็จอดนิ่งในลานของห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง

   ผมเดินตามคนที่พามาอย่างช้าๆ ก็เพราะรองเท้าคู่นั้นมันกำลังส่งเสียงร้องให้ผมเข้าไปหามัน แต่เจ้ากรรมเสียงเงินในกระเป๋าสตางค์ขัดขึ้นมาซะก่อนว่าเหลือติดตัวแค่หนึ่งพันบาท...ไว้เจอกันใหม่รองเท้าจ๋า
 
   ผมบอกลาเจ้ารองเท้าคู่สวย ก้าวขาขึ้นบันไดเลื่อนมุ่งสู่ชั้นโรงหนังที่ผู้คนห่างหาย ด้วยเวลานี้ยังบ่ายนิดๆ แต่ถ้ารออีกหน่อย นักเรียน นักศึกษาคงเดินให้ว่อน ผมเดินตามอย่างสงสัย หรือพี่โชอยากจะดูหนังเลยพาผมมา แต่เอาจริงๆ ผมไม่ชอบดูหนังเท่าไหร่ ปกติเวลามากับบลู เธอมักจะเลือกดูหนังฝรั่งโดยมีซับภาษาไทยอยู่ด้านล่าง ซึ่งผมอ่านไม่เคยทัน

   “พี่โชอยากดูหนังเหรอ” ผมดึงข้อศอกคนที่รีบเดินไปตามเห็ด คนถูกดึงขมวดคิ้วพลางส่ายหน้า แล้วสอดสายตามองไปรอบๆ “พี่หาอะไรอะ” ด้วยความอยากรู้ ผมเลยมองตามอย่างอัตโนมัติ แล้วก็เจอแจ็คพอตเข้าเต็มๆ
 
   “เห็นแล้วใช่มั้ย เข้าไปหาสิ” เสียงเรียบๆ ของพี่โชทำให้ผมหันขวับมองหน้า

   “ตอนนี้เนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะ” คนที่เดินไปเดินมาได้มองกันพอดี ผมไม่ชอบเป็นเป้าสายตาใคร
 
   “หรือจะให้กูไป”

   “อย่าเพิ่งเลยนะ น้า” ผมส่งสายตาปิ๊งๆ อ้อนวอน

   แต่ไม่เคยได้ผล เพราะตอนนี้ผมถูกผลักให้ออกมายืนตรงหน้าบลูกับชายสูงอายุ ผมจำได้ว่าลุงคนนี้เป็นพ่อของบลู ผมเลยรีบยกมือไหว้ แล้วทำไมบลูต้องหน้าซีดแบบนั้น

   “กลอย” เสียงเบาๆ เรียกชื่อผม ผมยิ้มแป้นแล้นให้บลูทันที แต่เธอกลับไม่มีรอยยิ้มใดๆ ใบหน้าสวยตึงเครียดพอๆ กับใบหน้าที่มีรอยตีนกาขึ้นเต็มของพ่อ

   “หวัดดีบลู พาคุณพ่อมาดูหนังเหรอ” ผมถามตามมารยาท เพราะในมือของบลูถือถังป๊อบคอร์นหนังที่เข้าใหม่ บลูเริ่มหน้าซีดหนัก ต่างจากคุณพ่อที่หน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วตวาดใส่บลูเสียงดังจนผมตกใจ

   “พ่อ? หมายความว่ายังไง ไอ้เด็กนี่เป็นใคร!” เสียงตวาดทำให้ผมต้องเรียกขวัญตัวเอง พ่อโคตรดุ สมแล้วที่ลูกสาวสวย บลูอึกอักไม่กล้าพูดอะไร ดวงตาที่ผมชอบมองหันมามองผม แววตาดูจะโกรธมาก ผมทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ ผมเลยรีบนะนำตัวกับคุณพ่อทันที

   “ผมชื่อกลอยครับ เป็นแฟนของบลู” ผมส่งยิ้มประจบให้คุณพ่อ แต่ดูท่านจะไม่ชอบใจ เอาแต่จ้องหน้าบลูอย่างโมโห “เอ่อ คุณพ่อฮะ”

   “กูไม่ใช่พ่อ” ทำไมต้องตะคอกด้วยว้า คุณพ่อของบลู? เดินหนีไปทันที แม้บลูจะตะโกนเรียกก็ไม่หยุดเดิน เธอหันจ้องหน้าผมอีกครั้งก่อนจะรีบวิ่งตามไป
 
   ผมยืนมองอยู่นานก่อนสะดุ้งเมื่อพี่โชมายืนขนาบข้าง
 
   “พ่อบลูโคตรดุว่ะพี่” ผมจ้องหน้าพี่โช แต่สายตาที่มองกลับมาเหมือนกับเหนื่อยใจ อะไรวะ

   “มึงนี่มันโง่จริงๆ หรือแกล้งโง่วะ ดูไม่ออกเหรอ นั่นไม่ใช่พ่อ แต่เป็นผู้ชายอีกคนของเขา”
 
   “เฮ้ย พี่มั่วแล้ว นั่นพ่อบลู” ใช่ครับ ผมเคยเห็น ตอนที่เรียนปีหนึ่ง หลังจากผมกับบลูมาดูหนัง ผมอาสาจะไปส่งแต่บลูปฏิเสธบอกพ่อจะมารับ ไอ้ผมก็คนดีแอบดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ จนเห็นคุณลุงคนเมื่อกี้มารับ บลูเห็นปุ๊บก็รีบเข้าไปกอดแล้วก็หอมแก้ม นี่มันพ่อบลูชัดๆ

   “เอาตามที่มึงสบายใจ” พี่โชเดินหนีเลยครับ อะไรของเขา แต่ไม่ได้เดินหนีไปไหนนะ แค่เดินไปดูโปรแกรมหนังที่กำลังฉาย “อยากดูมั้ย”
 
   “เอาแบบพากไทยได้ป่ะ ผมอ่านซับไม่เคยทัน” มันหัวเราะใส่ผมอ่ะ แต่ก็พยักหน้า

   ผมกับพี่โชแยกย้ายกันไปซื้อของ พี่โชไปซื้อตั๋ว ส่วนผมได้เงินมาซื้อป๊อบคอร์นกับโค้ก เมื่อกี้เห็นบลูถือถังที่มีตัวการ์ตูนแล้วก็อยากได้ แต่มันแพงไปหน่อย แต่ผมก็เลือกอันนั้นแหละ ของฟรีนี่นา ผมถือป๊อบคอร์นกับแก้วโค้กถอยหลังมาได้แค่สองก้าว ข้าวของในมือทุกอย่างก็ร่วงหล่นพื้นพร้อมกับแก้มซ้ายที่ชาดิกไร้ความรู้สึก

   “ทำไมต้องตามบลูตลอดด้วย” เสียงตวาดทำให้ผู้คนรอบข้างต่างพากันสนใจ บ้างก็ซุบซิบนินทา “เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ให้ตาม ไม่ให้เข้าใกล้ ไม่ให้มาหาถ้าไม่เรียก ทำไมไม่เคยฟัง บลูเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ”
 
   “แล้วคิดว่ากลอยทนไหวเหรอ” ผมพูดนิ่งๆ พยายามระงับความโกรธที่พุ่งขึ้นมาจนแทบอยากจะระเบิด

   “ถ้าทนไม่ไหวก็เลิก บลูเกลียดคนอย่างกลอยที่สุด ผู้ชายที่ไม่เคยรักษาคำพูดแบบนี้ เกลียด” จากคำพูดของบลูทำให้คนที่มุงต่างลงความเห็นว่าผมต้องชั่วมากแน่ๆ ยิ่งทำให้ผู้หญิงร้องไห้อีก

   ผมเป็นคนเลวเหรอ

   “เลิกก็ดี กลอยก็ไม่อยากโง่ถูกหลอกซ้ำๆ ซากๆ อีกแล้ว” ผมตวาดกลับจนบลูตกใจ เธอคงไม่เคยเห็นด้านนี้ของผม “บลูทำให้กลอยโคตรสงสารตัวเองที่ยอมให้บลูหลอก ทั้งๆ ที่บลูมีคนคบอยู่แล้ว แต่ยังมาคบกับกลอย ไม่สิ ไม่แค่กลอย ยังมีผู้ชายอีกห้าหกคนที่บลูคบ บลูทำได้ยังไง ไม่สงสารคนที่รักบลูบ้างเหรอ แล้วก็คนเมื่อกี้ก็คงอยู่ในกลุ่มผู้ชายของบลูสินะ ที่โกรธเพราะกลอยทำให้เขารู้ว่าบลูคบคนไม่เลือกใช่มั้ย” ผมรีบหลับตาเตรียมหันแก้มขวาให้ตบ (เมื่อกี้ตบซ้ายไปแล้ว) เมื่อบลูเงื้อฝ่ามือขึ้น

   ทำไมไม่โดนตบสักที

   ผมหรี่ตาข้างหนึ่งมอง ก่อนจะเบิกตาทั้งสองข้างเมื่อเห็นมือที่เงื้อสูงถูกจับด้วยฝ่ามือใหญ่ บลูดูท่าจะตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนห้ามการลงมือของเธอ

   “พี่...โช” เสียงครางเรียกชื่ออย่างแผ่วเบา คนถูกเรียกทำหน้านิ่งไร้รอยยิ้ม “พี่โชมาดูหนังเหรอคะ” บลูปรับสีหน้าให้ดูน่ารักเหมือนเดิม พี่โชปล่อยข้อมือของบลูแล้วพยักหน้าตอบไป “มาดูกับใครเหรอคะ พี่จอมกับพี่ซันหรือเปล่า”
 
   “มากับไอ้เด็กนี่” ผมหันคอแทบเคล็ดเมื่อถูกเรียกว่าไอ้เด็กนี่พร้อมกับชี้นิ้วเจาะจง จนบลูตกใจ
 
   “มากับกลอย พี่โชรู้จักกลอยด้วยเหรอคะ” บลูถามด้วยท่าทางเครียดๆ ผมก็เครียดนะ กลัวมันพลั้งปากบอกกำลังจีบผมอยู่ ผมลุ้นว่าคำตอบจากปากพี่โชจะเป็นอะไร ก่อนถอนหายใจออกมาเสียงดัง

   “อืม” สั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความ

   บลูดูสับสน คิ้วสวยขมวดจนเป็นปม ก่อนฉีกยิ้มแล้วขอตัวกลับบ้าน ผมมองตามอย่างเคืองๆ เธอยังไม่ขอโทษที่ตบหน้าผมเลยนะ รีบชิ่งหนีไปซะงั้น เจ็บตัวฟรีเลยไอ้กลอย

   “เจ็บมั้ย” ผมเหล่ตามองคนที่ถามและทำท่าเหมือนเป็นห่วง
 
   “เจ็บสิ นี่ถ้าถูกตบแบบนี้ก่อนไปถอนฟันนะ ไม่ต้องใช้ยาชาก็ยังได้” ผมตอบพลางยกมือลูบแก้มซ้ายตัวเองป้อยๆ ตอนนี้มันยังชาๆ อยู่เลย อีกเดี๋ยวต้องเจ็บแน่ เกิดมาในชีวิตเพิ่งจะเคยโดนตบ มันเจ็บแบบนี้นี่เอง รสชาติฝ่ามือเน้นๆ

   อยู่ๆ ไอ้พี่โชมันก็หัวเราะเสียงดังจนคนเหลียวมอง พี่เพี้ยนหรือเปล่า อยู่ดีๆ ก็หัวเราะ คนเจ็บอยู่นะเว้ย ผมทำปากยื่นให้รู้ว่าไม่พอใจที่ถูกหัวเราะเยาะจนมันเห็นแล้วหยุด
 
   “ไหนดูซิ เจ็บตรงไหน” ผมถูกพี่โชดึงเข้าไปใกล้ๆ “ตรงนี้ใช่มั้ย รอยฝ่ามือแดงเชียว”

   “เออสิ เจ็บมาก”
 
   “เดี๋ยวพี่จะทำให้หายเจ็บเอง” ใบหน้าหล่อๆ ของพี่โชค่อยๆ ยื่นเข้ามาใกล้จนผมต้องเอนหลังหนีแต่ก็ถูกดึงกลับมา ก่อนจะรู้สึกถึงลมร้อนๆ ที่ถูกเป่าออกมาจากปากกระทบแก้มที่ยังชาด้วยฤทธิ์ฝ่ามือ “หายเจ็บหรือยังครับ” รอยยิ้มนั่นกำลังเล่นงานผมอยู่ พี่โชยิ้มทั้งปากและดวงตา แบบนี้ผมคงต้องเขินแล้วสินะ
 


   อยากบอกว่าโคตรเขินเลย




   ยังๆ ยังไม่จบ ขณะเรากำลังทำเอ็มวีกันอยู่ เสียงเล็ดลอดผ่านเข้ามาพร้อมเสียงกรี๊ดทำให้ผมรีบผละออกมายืนห่าง คือลืมไปว่าตอนนี้อยู่ในโรงหนัง แล้วผู้คนก็มุงอยู่นับสิบ แล้วทุกคนก็เห็น ไอ้แบบนี้น่าอายกว่าเยอะครับ ชีวิตไอ้กลอยเจอเรื่องน่าอายแบบนี้ได้ยังไง
 
   “แก๊ ดูสิ น่ารักอ่ะ ถ่ายรูปสิถ่ายรูป”

   ถ่ายรูปไปทำไมครับ ผมไม่ใช่ดารา

   “พี่คนสูงๆ หล่ออ่ะ อิจฉาแฟนเขา กรี๊ด”

   เอ่อ พอดีผมยังไม่ใช่แฟนพี่เขาครับ

   “แกว่าเขาได้กันยัง”



   ยังโว้ย ยังไม่ได้ และจะไม่มีวันได้ด้วย จบป่ะ เออ แค่นั้นแหละ แล้วไอ้คนทำก็ไม่ต้องมายิ้มหวานด้วย หนังเหนิงก็ไม่ต้องดู กลับบ้าน!         



........................................................ TBC



เจอกันตอนหน้าค่า ^^~
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-07-2016 23:10:08
เสร็จแน่ๆ ว่าแต่กลอยจะเสร็จพี่โชเมื่อไหร่อย่าลืมมาเรียกให้ไปเป็นพยานนะ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 22-07-2016 23:55:37
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 23-07-2016 00:12:27
คราวหน้าถ้าเจอบลูฝากโชโดดถีบทีนึง  :z6:
ข้อหาทำนุ้งกลอยแก้มชา5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 23-07-2016 00:22:55
เมื่อไรบลูจะได้ไปที่ชอบๆสักที หวังว่าพี่ซันจะจัดหนักๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 23-07-2016 00:28:52
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ แต่เอ....พาร์ทโชมีโมเมนต์จอมประชดซันด้วย(เคะนิดๆ) ส่วนซันก็ตามจิกจอม อนาคตไม่แน่นอนใช่ม่ะ ซันจอม หรือ จอมทู ล่ะเนี่ย 5555+
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-07-2016 00:37:08
(นัง)บลูต้องเจอหนักกว่านี้!!! แค่นี้ยังน้อยไป
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 23-07-2016 03:02:02
ยังมีหน้ามาด่ามาตบน้องกลอยของชั้นนะนะนังบลู :m16: :m31: :fire:

ตอนนี้เขิ้นเขิลและแค้นนังบลูสองอารมณ์เลย5555 o13  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho l<< // [21/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 23-07-2016 07:46:27
พี่โชโดนใจ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 23-07-2016 07:58:50
โอ๊ยยย~~. พี่โชน่ารัก~~ :mew3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 23-07-2016 09:00:43
 :o8:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 23-07-2016 09:10:43
ยัยบลู ทำไมยังไม่โดนหนักๆกว่านี้ นี้กลอยทำไมถึงเป็นคนใจไม่เด็ดเลย ทั้งๆที่โดนมาเยอะเหมือนกัน 3 ปีเลยนะกลอย
พี่โช นี้ก็มาอารมณ์ไหน เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย อารมณ์ไหนเเน่
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 23-07-2016 11:38:56
พี่โซรุกจีบกลอยหนัก. ฉันรักพี่โช. มาต่อเร็วๆนะ แล้วผู้เขียนไม่มีแฟนเพจเหรออยากเข้าไปเป็น fc เพื่อมีข่าวคราวการตีพิมและเปิดจองพี่โชน้องกลอย :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 23-07-2016 12:27:02
พี่โช อย่ามาเล่นๆกับกลอยนะ เพราะใครก็อยากได้กลอยทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 23-07-2016 13:43:22
พี่โช คนเท่



พี่โช คนจริง



พี่โช คนเก่ง



โบกป้ายไฟ พี่โชชชชช
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 23-07-2016 20:01:01
พี่โชก็น่ารักน่ะเออ ดีใจเลยกับกลอยเลิกกับบูลสักที
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-07-2016 21:57:02
พี่โชแลน่าเอ็นดูถึงแม้จะขี้หึงขี้หวงบ้าบอไปมากก็เถอะ ส่วนนังบลูนี่น่าจะโดนแฉซะทีนะสงสารผู้ชายที่นางไปไล่ปอกลอกอะ
ปอลิง น้อง?ุเป็นอะไรใครทำอะไรน้องทู อยากรู้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 23-07-2016 22:01:21
โอ้โห นังบลู หล่อนกล้ามากที่มาตบน้องกลอยของฉัน เดี๋ยวจะโดน เดี๋ยวก่อนนนน  :angry2:
อย่างนี้น้องกลอยก็โสดสนิทไม่มีคนผูกมัดแล้ว พี่โชเดินหน้าใส่เกียร์โลดดด
แต่พี่โชอย่าโชว์หวานมากนะ แค่นี้น้องกลอยใจก็เขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว เด็กขี้เขินก็งี้ 5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 23-07-2016 22:53:25
เหอๆๆๆ กลอยตั้งความหวังไม่ดูขนาดตัวเลยเนอะ  :hao3: :hao3:

นังบลูมันน่าจะโดนให้หนักๆหน่อยสิค่ะ ปล่อยไปแบบนี้ได้งายยยยยยยยยยยยยยยย :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 24-07-2016 08:54:17
Just you and I : 11




        “สรุปมึงเลิกกับบลูแล้ว?” ไอ้ทูมันถามย้ำเป็นรอบที่ห้าของวันแล้วครับ

   “เออ ถ้ามึงยังถามอีกรอบกูจะกระโดดเตะมึง” รำคาญโคตรๆ

   “เรื่องนั้นช่างมัน กูอยากรู้ว่า มึงคบกับพี่โชจริงเหรอวะ” ไอ้ม่านขยับมาซะจนชิดกับผม ไอ้เชี่ยนี่ก็อยากรู้ใกล้ไป
 
   ตอนนี้ผมมาอยู่ที่หอไอ้ม่านครับ ที่ต้องมาเพราะไอ้ม่านโทรจิกเป็นไก่เมื่อรู้ว่าผมคบกับพี่โช ที่รู้เพราะไอ้ทูคาบข่าวไปบอก ไอ้สองคนนี้อยากรู้ก็ถามจนฟังไม่ทัน จะมีอีกคนที่ได้แต่นิ่ง มันไม่ยอมปริปากพูดคุยตั้งแต่ผมเข้ามานั่ง มันเอาแต่จ้องหน้าผมจนอึดอัด จะจ้องให้กูท้องเลยหรือไงไอ้เชี่ยอัธ

   “มึงอยากพูดอะไรพูดมา เอาแต่จ้องหน้ากูอยู่ได้ ชอบกูหรือไง”
 
   “มึงอย่าพูดแบบนั้นกูจะอ้วก”   
   
   “ไอ้เชี่ย” ผมยกเท้าใส่ไอ้อัธเลยครับ ส่วนเพื่อนผมอีกสองตัวมันก็หัวเราะหงายหลัง “แล้วมึงจ้องหน้ากูทำไม”
 
   “กูแค่สงสัยว่าทำไมพี่โชเขาถึงชอบมึง”

   “ก็กูมีเสน่ห์”

   “มั่นหน้ากูให้มึงเต็มล้าน” เกลียดมันจริงๆ ไอ้เชี่ยอัธ

   ผมเบ้ปากใส่ไอ้เพื่อนทั้งสาม มันเรียกผมมาซักฟอกจนขาวสะอาด เรื่องบลูตบหน้าผมตอนแรกที่ไอ้พวกนี้มันรู้ มันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่พอรู้ว่าไอ้พี่โชก็อยู่จะไม่คิดจะห้ามตั้วแต่แรกพวกมันเปลี่ยนไปโกรธพี่เขาแทน แม้พวกมันดูจะกวนตีนแต่มันรักก็ผมมาก

   “พวกมึงว่าเรื่องบลูมันจะจบแค่นี้เหรอวะ” ไอ้ม่านเปิดประเด็น ผมหันไปมองหน้ามันแล้วก็สงสัย ก็เลิกกันแล้ว มันก็จบแล้วสิวะ

   “กูก็ห่วงอยู่”

   “อะไรวะพวกมึง บลูคงไม่เหมือนนางร้ายในละครหรอก โกรธกูถึงขนาดจ้างคนมาทำร้าย” พูดติดตลกไปแต่ในใจผมก็หวั่นๆ เหมือนกัน บลูดูโกรธจนน่ากลัว

   “ละครสร้างมาจากเรื่องจริงมึงไม่รู้เหรอ” ไอ้เชี่ยทูอย่าตอกย้ำให้กูกลัว
 
“แล้วคนเดี๋ยวนี้ก็ฆ่ากันเป็นผักปลา แค่มองหน้ากันยังฆ่ากันเลยนะเว้ย” ไอ้ม่านมันขู่เพิ่ม
 
   “พวกมึงอย่าทำให้ไอ้กลอยมันกลัวขนาดนั้นดิ่วะ” ไอ้อัธ ไอ้ฮีโร่ ผมกำลังจะโผเข้ากอดแต่มันกลับพูดออกมาต่อ “เพราะมันจะเจอเรื่องน่ากลัวกว่านั้นเยอะ”

   “ไอ้เพื่อนเหี้ย พวกมึงทำให้กูไม่อยากออกจากห้องเลยสัด” ผมอาละวาดปาหมอนปาขนมใส่ไอ้พวกเพื่อนเหี้ยทั้งหลายที่มันพากันหัวเราะจนท้องแข็ง
 
   “เอาน่าๆ แฟนเก่ามึงคงไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก” ไอ้อัธตบบ่าผม “แล้วก็นะ มึงคบกับพี่โชแล้ว เขาคงไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายมึงหรอก เชื่อกู” ไม่ปล่อยเชี่ยไร เต็มแก้มซ้ายกูเลย
 
   “กูว่า คนที่มึงต้องกลัวไม่ใช่บลูว่ะ มึงควรกลัวผู้หญิงของพี่โชมากกว่า” ไอ้ม่านขมวดคิ้วพูดจริงจัง “เพื่อนกูบอกว่า มีนักศึกษาหญิงมีเรื่องกันที่ลานจอดรถ คาดสาเหตุมาจากพี่โช เห็นว่าคนเก่าคนใหม่อะไรทำนองนั้น เลือดตกเลยนะมึง”
 
   ซวยแล้ว

   “มึงพูดจริงเหรอวะ” ไอ้ทูมันยังสยองแทนผมเลยครับ
 
   “เออดิ่ คนใหม่โดนคนเก่าเอาพวกไปรุม ตอนนี้ยังอยู่โรงพยาบาล ไอซียูเลยนะพวกมึง”

   ผมมองหน้าไอ้อัธเพื่อรอความเห็น มันส่ายหน้าไร้ซึ่งคำพูด ผมไม่ชอบการใช้กำลังที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บ ตอนเด็กผมเคยโดนแกล้งแล้วเผลอต่อยหน้าไอ้บ้านั่น มันกลับเอาพวกมารุมทำร้ายผมในวันถัดมา ยังดีที่พี่กิ่งมาเห็นแล้วเข้ามาช่วย จนพวกผมหนีมาได้ จากนั้นแม่ก็ย้ายผมกับพี่ไปเรียนที่อื่น เพราะคนพวกนั้นเป็นลูกของครูที่นั่น ผมว่ามันไม่แฟร์ ผมไม่ผิดสักหน่อย แต่ผมกลับถูกลงโทษ จากนั้นหากมีอะไรที่จะต้องใช้กำลังทำร้ายใครผมมักจะหลีกเลี่ยงตลอด

   “กูไม่คบพี่เขาดีมั้ยวะ”

   “ไม่ทันแล้วว่ะ กูได้ยินมาว่า พี่เขาบอกปฏิเสธสาวๆ ของเขาหมดแล้ว” ไอ้ม่านว่า
 
   “รุ่นพี่ในคณะกูก็โดน” ไอ้อัธบอก

   “แสดงว่าพี่เขาจริงจังกับมึง” ไอ้ทูออกความเห็นคนสุดท้าย

   ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็ยังลังเล ผมเป็นผู้ชายนะ จะมีอะไรทำให้เขาอยู่กับผม นานสุดจะอยู่ได้กี่วัน ไม่มีทางอยู่ถึงปีหรอก ยิ่งเรื่องบนเตียงอีก มันเป็นไปไม่ได้ ผมกับพี่เขาเนี่ยนะ มันเป็นไปได้เหรอวะ ไอ้กลอยเครียด

   “ไอ้เชี่ยกลอย กูจริงจังกับคำถามนี่มาก มึงต้องฟังดีๆ” ไอ้ม่านถามเสียงเครียด หน้าตามันโคตรทำให้ผมกดดัน จะถามเรื่องอะไรวะ “มึงเตรียมใจแล้วใช่มั้ย” ไอ้เชี่ยนี่จะบิ้วใหญ่ทำไม
 
   “เออ รีบๆ ถามก่อนกูจะหมดความอดทน”

   “มึงคิดว่า...มึงจะเป็นเมียหรือเป็นผัวพี่เขาวะ เชี่ย เจ็บ” มือเน้นๆ เข้ากลางหัวมันเลยครับ ไอ้ห่านี่

   “ถามโคตรเหี้ย อย่างกูเนี่ยนะจะเป็นเมีย” ส่ายหน้าพรืดอย่างเดียว คิดภาพแล้วสยอง

   “มึงจะเป็นผัว? ไม่ดูตัวเองเล้ยไอ้เชี่ยกลอย” ไอ้ทูมันอยู่ไกลมือผมไปไม่ถึงเลยโดนขนมปาหัวแทน

   “จะผัวจะเมีย เดี๋ยวก็รู้” สำหรับไอ้อัธนี่ผมปล่อยสายตาให้ฆ่ามันแทน บอกตรงๆ ไม่กล้าทำร้ายร่างกายมัน ไม่ใช่กลัวมันเจ็บหรอกนะครับ กลัวตัวเองนี่ล่ะ ไอ้นี่มือเท้าอย่างหนัก โดนทีคงหยอดน้ำเข้าต้ม

   “พอเลยๆ เลิกพูดเรื่องนี้ ที่สำคัญ ตอนนี้กูกับพี่เขายังไม่ได้คบกัน พี่เขาแค่กำลังจีบกูอยู่”
 
   “จีบก็จีบ เดี๋ยวแมร่งคอยดู ข้ามจากแฟนไปเป็นเมียเขาแน่” พวกมันสามตัวก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เลยโดนขนมขว้างใส่จนหมดถุง อย่าได้กงได้กินมันแล้วขนมเนี่ย
 
   ผมโมโหอารมณ์เสียเลยจะกลับ แต่ข้อความไลน์ดังแทรกเข้ามาขณะกำลังขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจ
 
   “อะไรวะ” ไอ้ทูมันนั่งซ้อนท้ายผมยื่นหน้าข้ามไหล่ผมแล้วถาม

   “พี่โชให้ไปหาว่ะ” ข้อความมาสั้นๆ ว่าให้ไปหาที่คณะ

   “มึงบอกพี่เขาเหรอว่ามาหอไอ้ม่าน”

   “เออ กูบอกตั้งแต่ก่อนจะมาแล้ว”

   “แหม ละบอกไม่ได้คบ ไอ้ปากแข็ง”

   “ยังเว้ย”

   ผมปฏิเสธเสียงแข็งแต่ก็สตาร์ทรถเพื่อจะไปหาเจ้าของข้อความที่มันบอกรออยู่ แต่แรงดึงเสื้อจากข้างหลังทำให้ผมหันไปมอง ไอ้ทูมันทำคิ้วขมวดจนผมแปลกใจ

   “เป็นอะไรวะ”

   “มึงไปหาพี่เขาเถอะ เดี๋ยวกูกลับแท็กซี่”

   “มาด้วยกันก็ไปด้วยกันสิวะ จะทิ้งกูได้ไง ไม่ต้องชิ่งเลยมึง”

   จะให้ผมเข้าไปคนเดียวไม่เอาหรอก มันแปลกๆ ตอนมาครั้งแรกๆ ผมกับพี่เขายังแปลกหน้าไม่ได้อะไรกัน แต่พอแบบนี้มันรู้สึกเขินๆ พอไอ้ทูพยักหน้าผมก็ออกรถแล้วมุ่งหน้าไปหาคนที่กำลังรอ มันส่งข้อความมายิกๆ เพราะผมไม่ตอบ ข้อความสุดท้ายที่ผมอ่านมันด่าครับ มันบอกว่าผมกวนตีนไม่ตอบ จะให้ตอบได้ไงก็ผมต้องขี่รถ บ้าบอมาก




   ใช้เวลาจากหอไอ้ม่านไปมหาลัยนั่นก็เกือบๆ ยี่สิบนาที ผมพารถคู่ใจจอดที่ลานจักรยานยนต์ ไอ้ทูมองไปรอบๆ ดูเหมือนมันจะกลัวอะไรบางอย่าง ผมว่าผมสังเกตมันว่าสักพักแล้วนะ ช่วงนี้มันแปลกไป ตอนเรียนมันก็ดูซึมๆ เหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ บางทีผมควรจะใส่ใจเพื่อนสนิทให้มากกว่านี้ ไม่แน่มันอาจมีเรื่องไม่สบายใจที่บอกใครไม่ได้ก็ได้
 
   “มึงเข้าไปคนเดียวนะ เดี๋ยวกูรอแถวนี้” ไอ้ทูมันควบหมวกกันน็อคกับกระจกรถแล้วจะเดินหนี ผมก็รีบคว้าแขนมันไว้
 
   “ไปด้วยกันดิ่วะ อยู่นี่ร้อนจะตาย” มีเพื่อนอย่างน้อยก็จะได้อุ่นใจ

   “แต่กู...”

   “ไม่มีแต่”

   ผมลากเพื่อนสนิทให้เดินเข้าไปในตัวตึก และเดินลัดเลาะตามชั้นล่างของตึกไปยังฝั่งตรงข้ามที่ปีสี่มักจะนั่งรวมตัว ซึ่งเสียงเฮฮาดังมาก่อนจะเห็นตัวซะอีก ผมยืดคอมองหาพี่โชอยู่ข้างเสา ไม่กล้าเข้าไป กลัวถูกแซว

   “ทำไมไม่เข้าไป”

   “ไม่กล้าอ่ะ เดี๋ยวก็เรียกพี่เขามะ..มา”

   เสียงที่ถามมาจากด้านหลังผมคิดว่าเป็นไอ้ทู แต่ที่ไหนได้ เป็นคนที่เร่งให้ผมมา มันยืนกอดอกมองผมนิ่ง ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งให้ วันนี้พี่โชสวมเสื้อยืดสีดำคอวีสวมทับช็อปสีกรมท่า กางเกงยีนส์สีดำขาดๆ สวมรองเท้าผ้าใบเก่าๆ แต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน ไม่ต้องมาเขิน ฉันพูดจริงๆ (พี่ป้างเข้าสิงทันทีไอ้กลอย)

   “ทำไมมึงไม่ตอบไลน์กู” เสียงเข้มๆ เล่นเอาผมสะดุ้ง (เพราะมัวเป็นพี่ป้าง)

   “ก็ผมขี่รถอยู่จะตอบได้ไง” ทำไมผมต้องทำเสียงอ่อนด้วยวะ ไอ้พี่โชจ้องนิ่งๆ ก่อนพยักหน้ารับ
 
   ผมกับไอ้ทูเดินตามพี่โชไปที่โต๊ะที่มีเพื่อนๆ พี่เขานั่งอยู่เต็มไปหมด พอทุกคนหันมาเห็นก็โห่ร้องเหมือนลิงเห็นกล้วย ผมที่โดนบ่อยก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ไอ้ทูนี่ดึงชายเสื้อด้านหลังผมเลยครับ ไอ้นี่มันขี้กลัวอยู่แล้ว ยิ่งเจอความเถื่อนแบบนี้น่าจะยิ่งกลัว

   “ฮิ้ว กูก็ว่าทำไมไอ้โชมันถึงเดินไปเดินมา ที่แท้รอเมียมาหานี่เอง” เพื่อนหน้าหนวดที่ผมไม่รู้ชื่อเริ่มเปิดคนแรก จากนั้นก็ตามมาอีกเป็นพรวน

   ผมยกมือไหว้อย่างทั่วถึงแล้วพาเพื่อนตัวเองที่เดินติดผมแบบระยะใกล้มานั่ง ไอ้ทูมันใช้หางตาแลดูนั่นดูนี่อย่างกลัวๆ กล้าๆ นี่ผมพามันมาลำบากหรือเปล่าวะ เห็นแล้วสงสารว่ะ

   “อ่าว ไอ้ลูกคนที่สอง” พี่จอมเดินมาจากด้านหลัง ในมือมีถุงขนมเต็มไปหมด ข้างๆ คือพี่ซันที่ถือแก้วน้ำใส่ถุงหิ้วนับสิบแก้ว พอพี่จอมเห็นไอ้ทูปุ๊บก็รีบเดินมาหา ถุงในมือปลดวางบนโต๊ะก่อนจะยื่นมือมาดึงแก้มไอ้ทูยืดไปมา เอ่อพี่ แก้มเพื่อนผมไม่ใช่ยางยืดนะเออ ไอ้ทูก็ไม่ตอบโต้อะไร สงสัยจะกลัวเพราะมันนั่งตัวเกร็งจนผมแอบขำ

   “มึงไปแกล้งน้องเขาทำไม มานั่งนี่” พี่ซันเอ็ดพี่จอมครับ แต่พอเห็นอีกคนไม่ทำตามก็มาลากไปนั่งข้างพี่โช

   เดี๋ยวนะๆ ผมจับความรู้สึกอะไรได้บางอย่าง

   พี่จอมที่ถูกลากไปนั่งข้างพี่โชก็ฮึดฮัดครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนมากินขนมแทน แต่อยากเปลี่ยนคำว่ากินมาเป็นยัดแทน ขนมพายสับปะรดทั้งถุง ที่แกกินคนเดียวไม่แบ่งใครเลยครับ สงสัยจะหิว

        ...พายสับปะรด

   ผมมองถุงขนมที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ ก่อนเงยหน้ามองพี่จอมที่กินอย่างมูมมามมีเศษขนมติดข้างปากด้วย แต่มีมือขาวๆ มาเขี่ยออกให้ ก็คนข้างๆ เขานั่นแหละครับ ผมนี่จ้องอย่างเดียว ไม่กล้าเอ่ยปากถามอะไรเพราะกลัวโดนด่า และผมคงจะจ้องนานจนคนถูกมองรู้สึกและถามออกมา

   “มึงมองหน้ากูทำไม ชอบกูแทนไอ้โชเหรอ” คำถามนั่นทำเอาผมรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน ก่อนพี่ถามพี่ต้องมองหน้าเพื่อนพี่ด้วยนะ ระวังมันจะงับหัวเอา “แล้วมองกูทำไม กูรู้ว่ากูหล่อ” ผมพยักหน้าไม่ตอบ คือเอาตามที่พี่คิดแล้วสบายใจเถอะครับผมไม่ขัด “เมียมึงโคตรกวนตีน”

   “กูรู้” ผมมองพี่โชตาเขียวปั๊ด ไปเห็นดีเห็นงามกับเพื่อนพี่ทำไม ผมไม่ได้กวนตีนสักหน่อย ใช่มั้ยไอ้ทู อ่าว เพื่อนผมมันก้มหน้ามองหาเหรียญหรือเปล่า

   “เป็นไรวะ” ผมกระซิบถามเพื่อนตัวเองที่เอาแต่ก้มหน้า

   “เปล่า กูอยากกลับแล้ว” ไอ้ทูมองผมด้วยแววตาร้อนรน

   “มึงไม่สบายเหรอ” เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยนะ หรือว่าเจ็บแก้มที่ถูกยืด แต่มันก็ส่ายหน้าตอบผม จนมีเสียงเพื่อนพี่โชดังขึ้นทำให้ผมเงยหน้ามอง

   “ไอ้เชี่ยเบเป็นไร ปวดขี้เหรอวะ”

   พี่เบ (ฉายาขี้เสือก) วันนี้ผมยังไม่ได้ยินเสียงพี่แกเลยนะครับ ก็ว่าทำไมมันเงียบๆ ตอนนี้พี่เบแกตีหน้ายุ่งตลอด ผมแอบมองเหมือนพี่เขาจะเหล่ตามองมาทางผมบ่อยๆ มองผมหรือไอ้ทูผมก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ มามาทางนี้แน่นอน 

   ส่วนเพื่อนผมที่ได้ยินชื่อพี่เบปุ๊บก็แอบกรอกสายตาไปมาทำให้ดูน่าสงสัย เอาแล้วๆ ผมว่า ผมมีเรื่องต้องสืบซะแล้ว มันชักจะยังไงๆ ยิ่งมันได้ยินเสียงพี่เบพูดมันก็ดูลนลาน

   “เปล่า กูแค่เห็นอะไรที่มันเกะกะลูกตา”

   “ลูกตามึงเสือกไปเห็นเองหรือเปล่า”

   “เออ มันเสือกมาอยู่ให้ลูกตากูเห็นไง”

   เฮ้ย ผมว่า ผมเริ่มจะมั่นใจแล้วว่า ไอ้ทูกับพี่เบต้องมีเรื่องกันอย่างแน่นอน เพราะผมลองขยับไปชิดพี่โช (พี่แกก็งงๆ ว่าผมจะนั่งซะชิดทำไม) พี่เบก็ไม่ได้มองตาม งั้นแปลว่า ไอ้ที่บอกเกะกะลูกตา แล้วก็มาอยู่ให้ลูกตาเห็นคงจะเป็นไอ้ทูแน่

   เพื่อนผมมันดูอึดอัดมากจนผมสงสาร ผมกระซิบบอกพี่โชว่าจะกลับแล้ว ก็เลยถูกสายตาพิฆาตทันที จะว่ากลัวก็กลัว แต่ผมห่วงเพื่อนว่ะ

   “กูอุตส่าห์รอมึง กูอยากไปกินข้าวพร้อมมึง” พี่โชบอกน้ำเสียงนิ่งๆ แต่แววตาโคตรอ่อนโยนจนผมหน้าร้อน
 
   “วันอื่นก็ได้ ผมไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย”

   “แต่กูอยากกินกับมึงวันนี้”

   ผมคิดหนักก่อนจะตอบมันออกไป “มื้อค่ำได้ป่ะ ตอนนี้เพื่อนผมมันดูไม่ไหวแล้ว”

   “มื้อค่ำห้องกู” ผมพยักหน้ารับไปไม่ทันสังเกตแววตาเจ้าเล่ห์ ไม่รู้ละ ตอนนี้ห่วงเพื่อนอย่างเดียว

   ผมยกมือไหว้ลาพี่ๆ ทุกคน พี่จอมที่เห็นไอ้ทูจะกลับด้วยก็เดินเข้าไปกอดไม่ยอมให้กลับ ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมหันขวับไปมองพี่ซันอย่างแรก ชัดเลย สายตาไม่พอใจ แต่พอพี่เขาเห็นว่าผมมองอยู่ก็เปลี่ยนมายิ้มแย้มให้ผมแทน พี่ซันกับพี่จอม เฮ้ย จริงเหรอวะ ก็พี่ซันคบกับบลูส่วนพี่จอมก็มีแฟนเป็นผู้หญิง (แม้จะถูกทอมแย่งไปแล้วก็เถอะ) แล้วพี่โชยังเคยบอกพี่จอมจีบไอ้ทู โอ้ย ไอ้กลอยปวดหัว

   พี่จอมไม่ยอมปล่อยไอ้ทูจนพี่ซันต้องมาลาก ผมที่นึกขึ้นได้ก็รีบหันไปมองพี่เบ รายนั้นมองเหมือนมารังเกียจ ทำไมต้องมองแบบนั้นด้วย เพื่อนผมไปทำอะไรให้ ผมจะต้องรู้ให้ได้...ผมดึงเพื่อน (พี่โชช่วยพี่ซันดึงพี่จอมออกอีกแรง) หลุดออกมาก็รีบจูงมือมันกลับไปที่รถ ไอ้ทูมันดูซึมจนน่าห่วง

   “มึงมีอะไรปรึกษากูได้นะ กูเป็นเพื่อนมึงนะ” ผมบอกก่อนจะออกรถไปส่งมันที่หอพัก สงสัยคืนนี้ผมต้องค้างกับไอ้ทูซะแล้ว ผมไม่อยากปล่อยมันไว้คนเดียวเลย เป็นห่วง แถมยังอยากจะรู้เรื่องราวด้วย ว่ามันไปมีเรื่องอะไรกับพี่เบหรือเปล่า รายนั้นดูเฮฮาไม่น่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ แต่ก็ไม่แน่ ขนาดพี่โชที่ดุโหดและโฉดยังมีมุมเลี่ยนได้เลย ไอ้กลอยเจอมาหมดแล้ว



   แล้วมื้อค่ำนั่นยกเลิกไปก่อนได้หรือเปล่า ... น่าจะได้ ไว้คราวหน้าแล้วนะพี่โช



..........TBC


พี่เบกับทู วั๊ยๆ จริงหรือนี่ O[]O!!!!

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า ปลื้มใจ ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาอ่านด้วยซ้ำ (>_<)v


...อัพวนไปค่าาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 24-07-2016 10:05:49
คิดว่าน่าจะไม่ได้นะ ถ้ายกเลิกอีกมีหวังพี่แกอาละวาดแน่

พี่เบทำไรทูอ่ะ สงสัยสุดๆ เฮียซันชอบพี่จอมหรอเนี่ย???

โออ มีแต่ปริศนาทั้งนั้น ยืมตัวเจ้าหนูแว่นมาหน่อยเด่
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 24-07-2016 10:46:37
มื้อค่ำนี่พี่โชจะกินอะไรคะ กลอย? :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 24-07-2016 11:44:36
 :hao3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 24-07-2016 13:47:07
เดี๋ยวพี่โชงอลนะค่ะ จะเลิกมื้อค่ำเนี่ย จะโดนจับกินแทนอะจิค่ะ 55555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 24-07-2016 14:14:16
ซัน-จอม เยี่ยมเลย 
ทู-เบ ก็ชอบ
กลอย-โช ที่สุด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 24-07-2016 14:34:25
สงสารทูจัง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-07-2016 15:20:17
กลอยรีบๆสืบเรื่องพี่ซันพี่จอม พี่เบทูนะ เราก็อยากรู้เหมือนกัน ตอนแรกอุตส่าห์เชียร์จอมทู
ไหงกลายเป็นพี่ซันมานั่งเช็ดเศษขนมที่ปากพี่จอมได้
กลอยจะสืบเรื่องคู่อื่นตอนไหนก็ได้ แต่กลอยจะผิดนัดพี่โชไม่ได้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 24-07-2016 18:07:31
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ แต่เอ....พาร์ทโชมีโมเมนต์จอมประชดซันด้วย(เคะนิดๆ) ส่วนซันก็ตามจิกจอม อนาคตไม่แน่นอนใช่ม่ะ ซันจอม หรือ จอมทู ล่ะเนี่ย 5555+

หุหุหุ ว่าแระ it's gonna be something  :hao3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 24-07-2016 18:09:49
พี่จอมพี่ซัน ใช่เลยมี มีมุมให้คิดมากกกก
พี่เบขี้เสือก น้องเบ อะไรๆๆยังไงๆๆ แถลงด่วน
แต่ที่แน่ๆๆๆคืนนี้พี่โช รออยู่น่ะ จะไม่ไปจริงอ่ะกลอย คิดดีๆๆน่ะ เดี่ยวจะโดนขังไว้ที่ห้องเอาน่ะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 24-07-2016 18:11:41
สนุกชวนติดตามมากครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-07-2016 18:53:25
บลู มีมือถือหกเครื่อง คบแฟนทีเดียวหกคน มีทั้งหนุ่ม ทั้งแก่ :katai1:
ทำไมบลู เป็นคนผิด กลอยกลับถูกตบ ไม่ยุติธรรมเลย :m16:
พี่เบ มีอะไรกับทู
พี่ซัน แอบชอบพี่จอมหรอ
แต่พี่โช ชอบกลอยแล้ว แถมหึงแหลก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11 + 12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 24-07-2016 19:09:25

Just you and I : 12



        ผมมองเพื่อนตัวเองที่นอนหลับไปแล้วอยู่บนเตียง มันร้องไห้จนเหนื่อย เรื่องมันร้ายแรงจนผมไม่กล้าเข้าไปยุ่งเลยได้แต่ถอนหายใจ ตอนแรกพวกไอ้อัธกับไอ้ม่านก็จะมาครับ แต่มันมีเลี้ยงสายรหัสทั้งคู่ ผมเลยต้องประชุมสายคุยเอา พวกมันก็ไม่ออกความคิดเห็นใดๆ เพียงแค่บอกว่า เรื่องนี้ต้องให้ไอ้ทูมันจัดการเรื่องเอง

   เพื่อนมีปัญหา จะไม่ช่วยมันก็ไม่ได้ แต่คิดยังไงก็หาทางออกไม่เจอ

   ไอ้ทูมันเคยเปรยๆ ว่ามันแอบชอบพี่ข้างบ้าน ผมก็คิดว่าเป็นรุ่นพี่สาวสวย บ่อยครั้งที่ผมแซวมัน มันก็ได้แต่ยิ้มไม่เถียงไม่พูดอะไร สรุปไอ้พี่ข้างบ้านคือไอ้พี่เบ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะสถานการณ์มันพาไป ไอ้ทูเสือกไปบอกว่าชอบพี่เขา สิ่งที่ได้กลับมาคือคำด่าที่ยาวเหยียด
 
   ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบก็จบหรือเปล่าวะ ทำไมต้องตามด่า
 
   ผมเอามือถือไอ้ทูขึ้นมาดูเป็นรอบที่สิบ ข้อความไลน์ที่ไอ้พี่เบมันด่ากลับมามันเจ็บแสบซะจริง นี่ถ้าผมโดนผมคงลบไอดีไปแล้ว เป็นเกย์มันผิดจนต้องไล่ไปตายด้วยเหรอวะ ตอนนี้ผมโคตรโมโหอ่ะ ถ้าเจอหน้าจะด่าให้
 
   ความโกรธพาลทำให้ผมโมโหเพื่อนมันที่ส่งข้อความมายิกๆ ที่มันส่งมาก็เพราะตอนนี้มารออยู่ข้างล่างหอนี่แหละครับ ผมบอกไปแล้วว่ายกเลิกนัดกินข้าวแต่มันดื้อไม่ยอมครับ ไอ้พี่โชโคตรเอาแต่ใจ ผมเลยบอกให้รอจนกว่าจะไอ้ทูจะหลับ จากนั้นข้อความที่ส่งมาก็จะเป็นเรื่องเดียวคือถามว่าไอ้ทูหลับหรือยัง

   หรือผมควรจะไปถามพี่เบตรงๆ ไปเลย จะได้รู้ว่าเพื่อนผมมันผิดตรงไหน

   ผมรีบเก็บของลงกระเป๋า ก่อนยืนมองเพื่อนที่นอนอยู่บนเตียง เดี๋ยวกูจะช่วยมึงเอง ผมหันหลังเดินออกจากห้องไม่ลืมลงกลอนให้มัน เดินลงบันไดมาด้วยความคิดที่เต็มสมอง ปกติแม้จะเรียนหนักแต่ไม่เคยคิดมากเท่านี้มาก่อน คิดๆ จนลืมมองทางสะดุดกับขอบประตูจนหน้าคว่ำนอนกองกับพื้น โคตรเจ็บอ่ะ
 
   “ทำไมเดินไม่ดูทางวะ” คนที่ช่วยพยุงบ่น มือก็ดึงให้ผมลุกขึ้นยืน พอยืนปุ๊บ เจ็บเข่าปั๊บ มันแปล๊บๆ จนต้องคว้าแขนพี่โชแล้วงอเข่า “เจ็บขาเหรอ ไปหาหมอกัน”

   “ไม่เป็นไรพี่ สงสัยจะเคล็ด” ผมบอกปัด ผมไม่ชอบโรงพยาบาล ไม่ชอบกลิ่นมัน ไม่ชอบแอลกอฮอล์ ไม่ชอบทุกอย่าง
 
   “งั้นไปนั่งก่อน” ผมกระโดดขาเดียวจะไปนั่งที่เก้าอี้ แต่ถูกคนตัวใหญ่กว่าช้อนอุ้มแนบอก
 
   “เฮ้ย พี่ทำไรอะ ผมเดินเองได้” โวยวายสิครับ ขืนมีคนมาเห็นมันจะไม่ดีนะเว้ย

   “อยู่นิ่งๆ” น้ำเสียงข่มขู่ทำให้ผมเลิกดิ้น พี่โชวางผมนั่งลงที่เก้าอี้ม้าหินอ่อน ก่อนมันจะย่อตัวนั่งลงแล้วดึงขากางเกงผมให้สูงขึ้น ดีที่ใส่กางเกงสแล็ค ถ้าใส่ยีนส์คงต้องไปถอดในห้องน้ำอย่างเดียวเพราะมันจะดึงขึ้นถึงหัวเข่าไม่ได้ ถึงได้ หัวเข่าผมคงช้ำไปซะก่อน
 
   “มันบวมๆ นะ” พี่โชคลำหัวเข่าผมเบามือ ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองด้วยแววตาที่ดูเป็นห่วง “ไปหาหมอเถอะ”
 
   ผมส่ายหน้าลูกเดียว คนตัวใหญ่ถอนหายใจที่ผมดื้อ ขนาดแม่ยังบังคับให้ผมไปโรงพยาบาลไม่ได้เลย พี่โชช้อนร่างผมขึ้นอุ้มตามเดิมแล้วเดินไปขึ้นรถ ผมรีบซุกหน้าเข้ากับอกกว้างทันทีเพราะมีคนเดินมา อายโคตร แต่น้ำหอมอ่อนๆ ที่ติดตัวพี่โชก็หอมดีเหมือนกันนะ สงสัยต้องถามยี่ห้อสักหน่อย

   พี่โชวางบนลงเบาะรถอย่างเบามือก่อนชะโงกหน้าผ่านหน้าผมไปจนผมต้องเอนหลังติดเบาะ มือใหญ่กำลังคาดเข็มขัดให้ผม พี่อย่าอ่อนโยนแบบนี้ดิ่วะ ผมกลัวใจอ่อน ฟู่ว

   “หึ” รอยยิ้มที่มุมปากตอนที่คาดเข็มขัดเสร็จ แต่กลับไม่ยอมถอย ใบหน้าเราอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ แม้ผมจะพยายามไม่มองหน้าแต่ที่แคบๆ มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วทำไมรู้สึกหน้าพี่โชมันเข้ามาใกล้ ผมว่ามันใกล้เกินไปแล้วนะเว้ย จมูกพี่ชนกับจมูกผมแล้ว หัวใจผมเต้นแรงจนเหมือนได้ยินเสียงชัดเจน
 
   “พี่โช” ผมพูดเสียงแผ่วแล้วหลับตาแน่นเมื่อรู้สึกถึงความแผ่วเบาที่ริมฝีปาก

   “ไปซื้อยา แล้วไปกินข้าวที่ห้องพี่กัน” ผมพยักหน้าให้กับเสียงที่พูดชิดริมฝีปาก พอพี่โชขยับถอยผมก็หอบหนักเพราะกลั้นหายใจมานาน เชี่ย เกือบจะตายแล้วไอ้กลอย
 
   รถสปอร์ตคาร์ที่ผมนั่งบ่อยเคลื่อนตัวออกอย่างช้าๆ ผมแอบมองเสี้ยวหน้าของผู้ชายที่แทนตัวเองว่าพี่เมื่อกี้แล้วรู้สึกใจเต้นจนต้องหายใจเข้าออกเป็นจังหวะปรับการเต้นของหัวใจ
 
   “เป็นอะไร ปวดขาเหรอ” พี่โชถามอย่างร้อนรน คงเห็นผมหายใจแรงไปหน่อย

   “เปล่า” ตอบไปแต่ไม่กล้ามองหน้า “เอ่อพี่โช พี่เบมีแฟนหรือยัง” แค่แวบเดียวที่เห็นสายตาไม่พอใจก่อนจะปรับมาเป็นปกติ แต่เสียงพี่ห้วนได้อีก

   “ถามทำไม” อย่าเพิ่งโมโหตอนนี้เด้

   “ก็คือว่า อยากรู้เฉยๆ เห็นพี่แกควงสาวเยอะไง” แถไปให้สุดไอ้กลอย
 
   พี่โชมองหน้าผมแวบหนึ่งก่อนจะตอบคำถาม
 
   “มันไม่เคยคบใคร”
      
   ไม่ได้มีแฟน ไม่ได้คบใคร ถึงแม้ตัวเองจะชอบผู้หญิง แล้วทำไมต้องทำร้ายจิตใจเพื่อนผมด้วยวะ
 
   “พี่เบเขาเกลียดเกย์เหรอ”

   “กูก็เห็นมันควงผู้ชายบ่อย”
 
   เหยด งั้นหญิงก็ได้ ชายก็ดีแบบนี้เหรอ งั้นเพราะอะไร มันต้องมีบางอย่างทำให้พี่เบโมโหขนาดนั้น
 
   ว่าแต่ กูมึงมาอีกแล้ว เมื่อกี้ยังแทนตัวว่าพี่อยู่เลย

   “แล้วพี่เบ”

   “จะถามเรื่องคนอื่นทำไมวะ”

   สะดุ้งเฮือกจนขยับไปชิดประตูเลยผม ตกใจโคตรๆ อยู่ๆ พี่โชก็ตะคอกขึ้นมา พี่โมโหอะไรอีกวะ หรือไม่ชอบที่ผมถามเยอะ แต่เรื่องนี้มันก็ต้องถามดิ่วะ ไม่งั้นจะช่วยเพื่อนได้ยังไง ผมเลยได้แต่ขอโทษเสียงแผ่วๆ แล้วต่างคนก็ต่างเงียบจนรถจอดหน้าคลินิก
 
   พี่โชไม่พูดไม่จาดับเครื่องยนต์ได้ก็เปิดประตูออกไปแล้วอ้อมมาเปิดให้ผมลง ผมกำลังก้าวขาออกจากรถกลับถูกอีกคนรวบตัวช้อนขึ้นแนบอก เชี่ย คนเดินผ่านไปมาอย่างเยอะ ไอ้พี่โชมันใช้เท้าถีบปิดประตูรถตัวเองแล้วกดรีโมทล็อก มันดูไม่สนใจคนที่จ้องมองมาแล้วซุบซิบกัน ขายาวๆ ก้าวฉับๆ เข้าคลินิกโดยที่อุ้มผมในท่าอุ้มเจ้าสาว
 
   ด้านนอกคนว่าเยอะแล้ว ด้านในนี่เยอะกว่า แล้วทุกสายตาหันขวับมามองจนผมต้องรีบซุกหน้าเข้ากับอก บรรดาพยาบาลที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์รีบเดินมาดูผม พี่เขาบอกให้พี่โชวางผมลงมันก็ไม่ยอมวางครับ จนหมอที่เพิ่งตรวจคนไข้เสร็จเดินออกมาเห็นเข้า เลยบอกให้เอาเข้าไปในห้อง ตอนแรกผมก็สงสัยทำไมหมอลัดคิวทั้งที่ผมก็ไม่ได้สาหัสอะไรมากมาย

   “เป็นอะไรมาล่ะเรา” คุณหมอถามครับ ดูจากหน้าตาอายุไม่น่าจะเกินสี่สิบนะผมว่า แถมยังหน้าตาดีอีก
 
   “ล้มฮะ” ตอบไปมองหน้าหมอไป ก่อนโดนคนที่ยืนข้างเอามือปิดตาจนคุณหมอหล่อดุ

   “โช ทำไมทำน้องแบบนั้น”

   “อยากทำ” เสียงนี้นิ่งมาก แต่มือยังไม่เอาออก แม้ผมจะพยายามดึงก็ลำบาก
 
   “พี่โช ปล่อย”

   “ทำตัวเป็นเด็กหวงของนะเรา”

   หมอพูดปนขำ พี่โชก็ฮึดฮัดปล่อยมือออกจากตาผม ทำให้ผมต้องกระพริบตาถี่ๆ ปรับแสง คุณหมอจับหัวเข่าผมยกขึ้นยกลงช้า ผมอยากตะโกนลั่นว่าทั้งเจ็บทั้งอายแต่ก็อายคุณพยาบาลที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู สงสัยจะเห็นศึกปิดตาเมื่อกี้ด้วย

   “แค่เคล็ด เดี๋ยวอาจะให้ยาทาไปก็แล้วกัน แล้วก็หมั่นประคบเย็นบ่อยๆ ไม่เกินอาทิตย์ก็หาย” คุณหมอยิ้มอย่างใจดีให้ผมจนผมยิ้มตาม จะมีเสียงฮึดฮัดส่งมาขัดเป็นระยะๆ “แล้วเราเป็นเพื่อนโชเหรอ”

   “เป็นรุ่นน้องฮะ” ผมเหล่ตามองพี่โชก่อนตอบ จะให้ตอบว่าพี่เขากำลังจีบผมอยู่มันก็ไม่ใช่ คุณหมอได้ยินก็หัวเราะออกมา ผมพูดน่าขำตรงไหน

   “เป็นรุ่นน้องที่หวงมากเป็นพิเศษสินะ” คุณหมอหัวเราะร่วน จนคุณพยาบาลเผลอหัวเราะออกมาด้วยพอผมมองก็รีบปิดปากไว้ แต่ผมเห็นว่ายังแอบหัวเราะอยู่ “คนนี้น่ะเหรอที่ชีสบอก” รู้จักพี่ชีสด้วยอ่ะ คนที่ถูกถามก็พยักหน้ารับไปส่งๆ
 
   “คนนี้แหละ”
 
   “อ่อ อาพอจะเข้าใจ แต่อย่าลืมที่ชีสบอก อย่าให้แม่เราออกโรงเอง”

   “ผมรู้ครับ” พี่โชเหล่ตามองผมที่นั่งฟังแบบมึนๆ “แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
 
   “ก็รีบๆ หน่อย แม่เราใจร้อนจะตาย”

   พี่โชไม่ตอบแต่กลับมาพยุงให้ผมลุกขึ้นแทน หัวเข่าผมมีถุงใส่เจลหรือน้ำแข็งสักอย่างที่โคตรจะเย็นประคบโดยใช้สายรัดยึดติดกับหัวเข่าเอาไว้

   “ช่วงนี้อย่าเดินมากเกินความจำเป็นล่ะ หรือถ้าต้องเดินก็ให้ลงน้ำหนักข้างไม่เจ็บ ไม่นานก็กลับมาวิ่งได้เหมือนเดิม” คุณหมอรูปหล่อยิ้มให้ผมก่อนผมจะยกมือไหว้ขอบคุณ

   พวกเราออกมาจากห้องตรวจ เจอบานประตูห้องตรวจสามเปิดออก มีผู้หญิงสวยมากคลุมชุดกาว ที่คอมีสายฟังหัวใจพาดอยู่ พี่โชเห็นก็รีบก้มหัวทักทาย (มือประคองผมเลยยกไหว้ไม่ได้) ผมเห็นก็รีบยกมือไหว้โดยไม่รู้ว่าเป็นใคร
 
   “อ่าวโช ใครเป็นอะไรล่ะ” คุณหมอสาวสวยทักทายพี่โชอย่างสนิทสนมจนผมอดที่จะเหล่ตามองไอ้คนข้างๆ ที่ยิ้มกว้างให้ เห็นสาวสวยหน่อยเป็นไม่ได้เลยนะ
 
   “พาเด็กดื้อมารักษาครับ”

   “หือ” คุณหมอคนสวยหันมามองผมตาโตแล้วก็รีบสาวเท้าเข้ามาใกล้จนผมต้องเอนหลังหนี “คนนี้ใช่มั้ย แหม ไม่พามาแนะนำกันบ้าง” ผมกำลังถูกคุณหมอคนสวยดึงแก้มเล่นอย่างมันส์มือ

   “พอแล้วยัยสา น้องหน้าเบี้ยวแล้ว” คุณหมอปราม มือขาวๆ เลยถูกเจ้าของชักกลับไปแนบข้างลำตัวเหมือนเดิม
 
   “แหมคุณพ่อ ก็น้องน่ารักนี่คะ มิน่า ถึงทำให้เสือร้ายกลายเป็นแมวเชื่องได้ สมกับที่ยัยชีสไปโพนทะนาซะจริง”

   “เอาล่ะๆ รีบพาน้องกลับไปพักได้แล้ว เดี๋ยวอามีตรวจต่อ”

   ผมกับพี่โชยกมือไหว้คุณหมอทั้งสองก่อนพากันเดินออกมา ยังดีที่ขากลับพี่โชแค่พยุงให้ผมเดิน พอผ่านคนที่มารอคิว หลายคนก็มองด้วยแววตาไม่ชอบใจที่แซงคิว หรือมองแบบจะกินหัวผม ผมไม่ได้ตั้งใจนะ ก็คุณหมอให้เข้าไปเองอ่ะ ก่อนออกประตูผมก้มศีรษะขอโทษทุกคนอย่างรู้สึกผิด พอขึ้นไปนั่งบนรถผมก็รีบถามคนข้างๆ ทันที

   “พี่โชรู้จักหมอสองคนเมื่อกี้ด้วยเหรอ”

   “อาของกูเอง”

   “อ่อ แล้วหมอที่สวยๆ อ่ะ”

   “ลูกของอากู”

   “อ่อ แล้ว...”

   “เลิกถามแล้วนั่งเงียบๆ”

   ทำไมต้องดุด้วยว้า เป็นคนเอาแต่ใจยังไม่พอ ยังเอาใจยากอีกต่างหาก ผมเลยนั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่างแทน บางทีผู้ชายคนนี้ก็ดูน่าเข้าหา แต่บางทีก็ควรที่จะอยู่ห่างๆ นิสัยจริงๆ ของพี่เขาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ เขาว่ากันว่า การปรับตัวเข้าหากันเป็นเรื่องยาก แรกๆ คนมักจะเข้าหากันด้วยความดีและจริงใจ พอนานไปก็แสดงความเหี้ยออกมา แต่ผมว่า พี่โชมีแต่ความเหี้ยที่แสดงออกมา เหอะ ตัดคะแนนความประพฤติอีกสิบแต้ม

   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซึ่งไม่ใช่ของผม เจ้าของเครื่องหยิบมารับและตอบรับไม่กี่คำ หัวรถหรูก็ถูกตีกลับ ผมนั่งมองเส้นทางที่ถูกเปลี่ยนอย่างงงๆ ไม่รู้เจ้าของรถจะพาผมไปไหน แม้หัวเข่าจะไม่ค่อยเจ็บ แต่มันก็ขัดๆ จนอยากนอน

   รถเลี้ยวเข้าไปจอดในโซนวีไอพี ความทรงจำแรกก็แทรกซึมจนเหงื่อไหล ไนต์คลับที่เคยอยากลองเข้าครั้งแรก ผมเดินกระเผลกๆ ตามหลังพี่โชไปอย่างเงียบๆ พี่ท่านโกรธผมเรื่องอะไรอีกก็ไม่รู้ เมื่อกี้ยังประคองผมอย่างดีอยู่เลย หรือกลัวสาวๆ เขาจะเห็น ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่ต้องพาผมมาก็ได้ ไม่ได้งอนนะ แค่ไม่ชอบเฉยๆ

   ภายในร้านคนยังแน่นขนัดเหมือนเดิม ผมเจ็บเข่าเดินไม่สะดวกแต่ก็ต้องพยายามเบียดแทรกฝูงชนที่เต้นรำกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา ชนอะไรได้ก็ชนอย่างเช่นชนผมนี่แหละ ผมเซจนเกือบจะล้มดีที่มีมือข้างหลังมาดันไว้ พอผมหันหน้าไปมองก็รีบก้มขอบคุณ

   ชายหนุ่มที่ยิ้มแล้วมีเขี้ยวเล็กๆ ตรงมุมปากส่ายหน้าไม่ถือโทษเพราะผมคงจะไปชนเขาอีกที ถ้าจะโกรธต้องไปโกรธแม่สาวชุดดำนู้น ชนผมซะกระเด็น

   “เป็นอะไรหรือเปล่า” คนที่ดันผมร้องทัก คงเห็นผมเดินไม่เหมือนชาวบ้าน
 
   “เปล่าครับ ขอโทษแล้วก็ขอบคุณครับ” ผมบอกรัวๆ ก่อนจะเดินออกมา แต่แขนถูกดึงไว้จนต้องหันไปมอง
 
   “ชื่ออะไรเหรอ” ผมมองมือที่จับแขนผมอยู่อย่างลังเล ขืนชักช้าพี่โชได้โมโหอีกแน่

   “ชื่อกลอย”

   “เราชื่อเอ็มนะ ยินดีที่ได้รู้จัก ว่าแต่นายเรียนอยู่ที่ไหน” จะถามมากทำไมเนี่ยคนยิ่งรีบๆ อยู่

   “เรียนที่ม.xxx”

   “อ่าห๊ะ แล้วมีเบอร์โทรป่ะ ขอหน่อยสิ”

   “ขอโทษนะพอดีผมรีบอยู่” ผมบอกพร้อมกับสะบัดแขนให้หลุดก่อนจะรีบเดินไปยังโซนที่พี่โชเคยพาไปนั่ง เพราะโซนนั้นเป็นที่สำหรับวีไอพี เมื่อกี้เห็นพี่โชยื่นบัตรนั้นให้การ์ดดู

   ผมเร่งเท่าที่จะเร่งได้ แถมเริ่มปวดหัวเข่าแล้วด้วย พอมาถึงโต๊ะก็เห็นพี่โชกรอกเหล้าเข้าปากไปแล้ว ไม่รอกูเลยแถมปล่อยให้ต้องเผชิญชะตากรรมนั่นอีก เพื่อนพี่เขาเห็นผมเดินตามมาทีหลังต่างก็แปลกใจแต่ก็เรียกให้ผมไปนั่ง ผมเลยเลือกที่จะนั่งข้างพี่เบที่ตอนนี้เฮฮาโดยไร้สาวข้างกาย เข้าทางละ

   เสียงเพลงกดเป็นจังหวะต่ำๆ ทำให้ทุกคนโยกหัวตาม ผมมองหน้าพี่เบนิ่งๆ จนพี่เขาหันมามองด้วยแววตาร่าเริง แต่พอเห็นผมไม่ยิ้ม คิ้วเข้มนั่นก็เลิกขึ้น

   “มีอะไรกับพี่เหรอจ๊ะน้องกลอย” เพราะเสียงเพลงที่ดังจนต้องตะโกนคุย แต่นั่งข้างกันเลยเลือกที่จะกระซิบข้างหูแทน
 
   “พี่โกรธเพื่อนผมเรื่องอะไร” พอถามจบ พี่เบก็หน้าหุบทันที แต่ผมไม่ยอมแพ้ ยังดึงแขนคนที่หันหน้าหนีให้มาคุยต่อ “พี่เบ เพื่อนผมมันก็แค่บอกความในใจเฉยๆ ถ้าพี่ไม่คิดอะไรจะไปโกรธมันทำไม”

   “เรื่องนี้มึงไม่เกี่ยว” น้ำเสียงกับแววตาที่ขึงขังเริ่มเอาผมแอบกลัว พี่เบเวลาโกรธก็เอาเรื่องเหมือนกันแฮะ “แล้วฝากบอกเพื่อนมึงด้วยว่าอย่ามายุ่งกับกู อย่าให้กูเห็นหน้าอีก” พูดจบพี่เบก็ลุกไปในวงล้อมของสาวๆ ที่เต้นอยู่ด้านหน้าเวทีทิ้งให้ผมมองอย่างขัดใจ

   “สนใจผัวมึงบ้าง จะโดนหมาคาบไปกินอยู่แล้ว” เสียงหลอนๆ ดังข้างหูทำเอาผมสะดุ้งเฮือก ไอ้พี่จอมมันมานั่งแทนพี่เบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แถมยังชี้นิ้วไปทางพี่โชที่เริ่มมีสาวมานั่งข้างๆ เล็บที่เคลือบสีแดงสดค่อยไล้ไปตามอกกว้าง ผมมองภาพนั้นด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย สรุปจะลากผมมาเพื่อให้ดูภาพแบบนี้ เอากันตรงนี้ให้ดูเลยเป็นไง

   “ผมไปเข้าห้องน้ำนะ” ผมกระซิบบอกพี่จอมที่ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ

   ทางไปห้องน้ำอยู่โซนด้านหลัง ใจจริงผมอยากกลับมากกว่า แต่พอคิดดู แท็กซี่แถวนี้ไม่มีขับผ่าน ถ้าจะให้เดินไปก็คงไม่ไหว ขนาดจะลากขาไปห้องน้ำยังลำบากเหี้ยๆ

   ผมวักน้ำขึ้นล้างหน้าล้างตาดับความโกรธในหลายๆ เรื่อง ตอนนี้จะเอายังไงดี จะกลับเลยหรือจะเข้าไปนั่งต่อ ผมเงยหน้ามองดูตัวเองกับกระจกจนไปเจอสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมา ไอ้คนถามมากเมื่อกี้

   “ไง เจอกันอีกแล้วนะ สงสัยจะเป็นเนื้อคู่” เนื้อคี่นะสิ ผมยิ้มทักตอบและจะเดินออกไป ไอ้คนมีเขี้ยวที่จำชื่อไม่ได้เดินมาปิดทาง ผมจ้องหน้าอย่างหาเรื่อง อารมณ์ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะพูดคุยเฮฮา “ทำไมทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นล่ะ ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

   “หลีก” ผมบอกเสียงนิ่งๆ ข่มใจไม่ได้พาลใส่คนอื่น

   “จะหลีกก็ได้ แต่ขอเบอร์ก่อนได้ป่ะ” ไอ้เชี่ยนี่โคตรกวนตีน ผมจ้องหน้ามันอย่างหาเรื่อง ก่อนจะผลักอกมันให้หลีกทาง แต่ขาดันไปสะดุดกับอะไรเข้าจนเกือบจะล้ม ดีที่ไอ้ที่ยืนขวางหน้ารวบตัวผมทัน “โอะโอ สองครั้งแล้วนะที่ผมช่วยคุณ”

   ช่วยหรือทำให้สะดุดวะ ผมว่าผมสะดุดเท้าไอ้เชี่ยนี่แหละ เพราะพื้นไม่มีอะไรขวางอยู่ ผมมองตาขวางก่อนจะตกใจเมื่อถูกใครสักคนกระชากออกจากอ้อมแขน

   “มึงทำเหี้ยอะไร” เสียงตวาดดังลั่นจนคนที่เดินมาห้องน้ำถึงกับสะดุ้ง พี่โชบีบข้อมือผมโคตรแรงจนมันแดงเถือกไปหมด

   “ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” ไอ้คนที่ขอเบอร์ผมมันยังลอยหน้าลอยตาไม่กลัว “นี่แฟนนายเหรอ น่ารักดีนะ ขอได้ป่ะ”

   “มึง” ไปแล้วครับ หมัดตรงเน้นๆ เข้าหน้าจนไอ้นั้นล้มคว่ำ ผมที่ถูกบีบมือไว้ก็ผวาตามแรงจนเซล้ม เชี่ย หัวเข่ากูกระแทกพื้นอีกแล้ว

   ไอ้คนโดนต่อยมันรีบลุกขึ้นจากนั้นก็ซัดกันนัวเนียน ผมที่นั่งอยู่ตะโกนห้ามแต่ก็ไม่มีใครฟัง จนไอ้พี่จอมกับพี่ซันเดินมาเห็นก็รีบเข้าห้าม หน้าของไอ้คนท้าทายเต็มไปด้วยเลือด ทั้งปาก ทั้งจมูก ทั้งคิ้ว ส่วนพี่โชเลือดออกที่คิ้วซ้าย

   “เกิดอะไรขึ้นวะ ใจเย็นๆ” พี่ซันถามอย่างร้อนรน เพราะเริ่มเอาพี่โชไม่ไหว มันจะพุ่งเข้าใส่อย่างเดียว

   “ไอ้เชี่ยนี่ยุ่งกับคนของกู” พี่โชตะคอกพร้อมกับชี้หน้า

   “ใจเย็นไอ้โช” พี่จอมมันพูดขึ้นก่อนปล่อยร่างของไอ้คนที่มันจับอยู่ออก ไอ้นั่นก็สะบัดตัวนิดๆ แล้วยกมือเช็ดมุมปาก

   “คนของมึงแต่มึงไม่ดูแลเองนี่หว่า”

   “ไอ้สัดมึง”

   พี่จอมต้องมาช่วยพี่ซันดึงร่างที่มีแรงมหาศาล ผมก็ได้แต่นั่งดู เหมือนสถานการณ์จะแย่ลงเพราะพี่โชไม่ฟังใครเลย จะพุ่งเข้าใส่อย่างเดียว ไอ้บ้านั่นก็ทำหน้ากวนประสาทไม่ยอมไปไหน อยากตายคาตีนหรือไง นี่ถ้ายังเป็นแบบนี้ผมว่า ไม่นานต้องมีคนเรียกตำรวจ

   “โอ้ย เจ็บ ฮึก” ผมร้องเสียงหลงเมื่อบีบหัวเข่าตัวเองเพื่อให้ร้องไห้ออกมาจริงๆ โคตรทุ่มเทเลยกู ตอนนี้น้ำตาผมไหลไม่หยุดครับ และเป็นพี่โชที่สะบัดตัวออกจากเพื่อนตัวเองแล้วพุ่งเข้ามาหาผม สีหน้าร้อนรนทำให้ผมอยากขำแต่มันขำไม่ออก สงสัยจะบีบแรงไปเลยเจ็บจริง มันปวดหนึบจนขยับขาไม่ได้

   “ไหน เจ็บตรงไหน เชี่ยเอ้ย” พี่โชช้อนผมขึ้นแนบอกแล้วรีบก้าวขาออกจากไนต์คลับ ข้างหลังยังมีพี่ซันกับพี่จอมวิ่งตามมาหน้าตื่น คงตกใจที่เห็นผมร้องไห้เป็นเผาเต่า

   พอมาถึงรถ พี่ซันเป็นคนเปิดประตูข้างคนขับก่อนพี่โชจะค่อยๆ วางผมลงบนเบาะ จากนั้นตัวเองก็นั่งบนส้นเท้าข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งชันขึ้น มือใหญ่ๆ นั่นเลิกขากางเกงผมขึ้นดู ทำให้เห็นว่าเจลที่ประคบมาเริ่มหายเย็นแล้ว พี่จอมกับพี่ซันเห็นก็ตกใจ

   “ไอ้เด็กนี่เป็นอะไรวะ”

   “ไอ้จอม มึงเข้าไปเอาน้ำแข็งมาให้กูหน่อย เร็วๆ”

   คำสั่งเสียงร้อนรนจนคนมีชื่อรีบวิ่งเข้าไป ผมที่ยังร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ได้ผ้าเช็ดหน้าพี่ซันที่ยื่นให้ แม้จะเปื้อนขี้มูกก่อนเช็ดน้ำตาก็เถอะ ตอนผมรับผ้ามาเห็นพี่โชมองตาขวาง แต่ก็ไม่พูดอะไร ไม่นานพี่จอมก็วิ่งออกมาพร้อมน้ำแข็งถังใหญ่ เจลเย็นถูกเอาลงไปแช่ในถัง พี่โชหยิบก้อนน้ำแข็งมาก้อนหนึ่งแล้วเอามันมาห่อกับปลายเสื้อยืดตัวเองก่อนจะยื่นมาประคบที่หัวเข่าผม

   “น้องมันเป็นอะไรวะไอ้โช หัวเข่าแมร่งช้ำขนาดนั้น” พี่ซันชะโงกหน้าถาม ใบหน้ากังวลไม่แพ้พี่จอม

   “ล้ม” สั้นๆ ที่ตอบไป เพื่อนๆ พี่แกก็พยักหน้ารับ

   “น้องล้มมึงก็เสือกพาน้องมันมานะไอ้โช น่าจะพาไปนอน” พี่ซันเริ่มบ่น

   “ที่เดินหน้าบึ้งเข้าไปเพราะทะเลาะกันล่ะสิ” พี่จอมตั้งข้อสังเกต พี่โชก็นิ่ง ผมก็สะอื้นเบาๆ ไม่มีใครตอบ “กูว่าแล้วว่าสักวันความโมโหร้ายกับความขี้หึงของไอ้โชต้องทำร้ายตัวมันเอง”
 
   “ไอ้จอม” พี่ซันปรามนิดๆ แต่พี่จอมก็ยังพูดไม่หยุด

   “ก็จริงนี่หว่า มึงก็เห็น ไอ้เชี่ยโชมันขี้หึง ใครแตะต้องอะไรของๆ มันก็ไม่ได้ ขนาดมองมันยังหวง กูก็คิดไว้แล้วว่าถ้ามันมีแฟน แฟนมันต้องเหมือนตกในนรก”

   “ไอ้จอมหุบปาก” พี่ซันเริ่มขึ้นเสียงนิดๆ แต่อีกคนไม่ยอมหยุด ยังอ้าปากจะว่าต่อ ก็เลยถูกลากเข้าไปข้างในตามเดิม โดยที่คนถูกลากยังตะโกนด่ามาแม้จะมีมือปิดปากอยู่ก็ตาม
 
   ส่วนผมที่นั่งปาดคราบน้ำตาที่แก้มมองคนที่ตั้งใจเอาน้ำแข็งประคบหัวเข่าของผม พี่โชไม่ยอมพูดอะไรออกมาเอาแต่นิ่งเงียบ จนเป็นผมที่ทนไม่ได้

   “พี่เป็นอะไรทำไมไม่พูดวะ คิดอะไร ไม่พอใจอะไรทำไมไม่บอก ผมไม่ใช่เครื่องสแกนความคิดนะที่จะได้รู้ว่าตอนนี้พี่กำลังคิดอะไร กำลังโมโหอะไร ถ้าพี่ไม่พูดออกมาผมก็เป็นแค่ไอ้กลอยที่โง่ๆ คนหนึ่งที่เดาอารมณ์พี่ไม่ถูก พี่สั่งให้ผมเงียบ แต่พี่ก็ไม่ยอมอธิบายอะไร มันไม่ใช่หรือเปล่าวะ” ผมร่ายยาว พี่โชเริ่มเงยหน้ามองผมเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง

   “ถ้าวันหนึ่งเราคบกัน แต่พี่ยังทำตัวแบบนี้ ไม่ยอมพูดความรู้สึกอะไรออกมา ผมว่า เราคงไปด้วยกันลำบากว่ะ ผมเคยโง่มาก่อน ผมเข็ด”

   พี่โชนิ่งไปนานจนน้ำแข็งที่ชายเสื้อละลายจนหมด

   “กูขอโทษ” เสียงแผ่วเบาออกจากปากคนที่ก้มหน้า “กูจะพยายามบอกว่ากูรู้สึกอะไรอยู่”

   “อย่าพูดว่าจะพยายาม พี่ต้องทำเลย อย่างเช่นตอนนี้พี่รู้สึกยังไง แล้วเมื่อกี้มองพี่ซันแบบนั้นทำไม” ผมไล่ต้อนทันที

   “ตอนนี้กูรู้สึกเสียใจที่พามึงมาเจ็บตัวอีก” ผมรอฟังคนที่บอกความรู้สึก “แล้วเมื่อกี้ที่กูมองไอ้ซันเพราะกูไม่ชอบให้มึงไปรับผ้าเช็ดหน้ามันมา กูไม่ชอบ” ความรู้สึกอันหลังนี้ดูเหมือนน้ำเสียงจะแข็งๆ “แล้วกูก็ไม่ชอบเห็นมึงไปยืนคุยกับคนอื่น ไม่ยอมให้ยิ้มกับคนอื่น แค่มองหน้ากูก็ไม่ชอบ” มารัวๆ แล้วครับกับความรู้สึก ทีแบบนี้ใส่มาไม่ยั้งเลยนะ พี่โชหน้านิ่งทำให้รู้ว่าไม่พอใจจริง แต่ผมกลับหัวเราะออกมาจนอีกคนขมวดคิ้ว “หัวเราะอะไร”

   “หัวเราะพี่อะสิ ขี้หึงเกินไปนะ ผมไม่ได้หล่อขนาดนั้นสักหน่อย” พูดไปหัวเราะไปเลยไอ้กลอย น้ำตาเหือดแห้งหายไปแล้ว “แล้วเมื่อกี้ใครวะเอาสาวมานั่งด้วย แทบจะเอากันอยู่แล้ว” ไม่ได้หึงนะครับ แต่มันเกะกะลูกตา

   “หึงกูล่ะสิ”

   “เปล๊า” เสียงสูงเว่อร์เลยกู พี่โชขำก่อนยื่นมือมายีหัวผมซะฟู

   “แค่มึงเท่านั้นที่กูสนใจ มึงสนแค่นี้ก็พอ” รอยยิ้มสวยๆ น่ามองกว่าใบหน้าบึ้งๆ นั่นซะอีก “แล้วตอนนี้กูก็หิวแล้ว ไปกินที่ห้องกูกัน”


   ผมมองพี่โชงงๆ พี่แกรีบเอาเจลในถังออกมายื่นให้ผมประคบกับหัวเข่าแล้วเอาสายรัดเอง เพราะพี่แกรีบไปประจำที่คนขับแล้วออกตัวรถอย่างไว พี่จะรีบไปไหน เฮ้ย เดี๋ยวผมจะปวดขี้อีกนะเว้ย ไอ้คนขับมันไม่สนใจที่ผมโวยวาย มันเอาแต่หันมามองผมด้วยแววตาไม่น่าไว้ใจ รถก็น่ากลัว คนก็ยิ่งน่ากลัว ไอ้กลอยไม่อยากไปกินข้าวแล้ว แต่อยากกลับบ้าน!!



.......TBC  


หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 24-07-2016 19:39:43
มาต่อไวมากค่ะ ขอบคุณมากเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 24-07-2016 19:55:12
 :a5: :a5: :a5: :a5: เป็นการจับคู่ที่พลิกล็อคและช็อคมากกกกกกก พี่ซันกับพี่จอมนี่คู่นี้จะเมะชนเมะเหรอ หืมๆๆๆ ไหนจะพี่เบกับน้องทูอีก แต่คู่นี้ไหงเหมือนเห็นเววดราม่ามาแต่ไกลละเนี่ยมีเรื่องอะไรก๊านนนน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-07-2016 20:15:49
รู้อยู่นะว่าน้องเจ็บเข่าแต่ก็ยังหึงแบบหน้ามืดตามัวทิ้งน้องให้เดินตามทั้งๆที่คนเยอะขนาดนั้น  :fcuk: :fcuk:
ทูทำอะไรให้พี่เบเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า เพราะถ้าแค่สารภาพรักแล้วถึงกับโดนไล่ให้ไปตายนี่
สงสารทูน่าดูเลย :mew6: :mew6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 24-07-2016 20:25:36
พี่โชโคตรหึงหวงมากๆอ่ะ ซันกับจอมนี่ใครจะกดใครนะ น่าลุ้นจริ๊งงงงงงงงงงงง :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 24-07-2016 21:04:00
โถ่ พี่โช~~ :hao4: :mew2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 24-07-2016 21:17:59
พระเอกก็เก็กอยู่นั่นไม่มีเหตุผล  เห้ออออออ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 24-07-2016 21:41:09
พี่โชขี้หึงเว่อร์ 5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 24-07-2016 22:17:43
 :katai2-1: วันนี้อัฟรัวๆ อิอิ
พี่โชนี้ อารมณ์วัยทอง คิดอะไร ไม่เคยพูด
ทีเเรกบอกจะไปกินข้าว ก็พาไปกินเหล้า คือไรพอกลอยมันเจ็บเข่า พามันเดินเบียดเข้าพับ ไหนบอกรัก ไหนบอกจะจีบนี้บทจะโกธรก็ไม่สนใจเลย รักจริงป่ะว่ะ ไม่รู้ดิ อารมณ์แบบนี้ นี้ขนาดยังไม่เป็นแฟนกันนะ
มีความอิน โกธรเเทนกลอย 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 24-07-2016 23:58:58
มาต่อเ็วๆน้าาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: putt__p ที่ 25-07-2016 00:10:11
ชอบมากกกกกกกกเลยฮืออออสนุกมาก
มาต่ออีกเร็วๆนะค๊าาาาาา :hao7: :hao7: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-07-2016 00:21:57
 :hao6:


โดนรวบแน่
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-07-2016 01:43:22
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-07-2016 09:13:07
พี่โช ถ้ากลอยยอมรับเป็นแฟน คงอาการหนักกว่านี้
ส่วนพี่เบกะทู ต้องมีปมอะไรแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>Special : Part Zho ll+10<< // [22/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 25-07-2016 10:26:55
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ แต่เอ....พาร์ทโชมีโมเมนต์จอมประชดซันด้วย(เคะนิดๆ) ส่วนซันก็ตามจิกจอม อนาคตไม่แน่นอนใช่ม่ะ ซันจอม หรือ จอมทู ล่ะเนี่ย 5555+

หุหุหุ ว่าแระ it's gonna be something  :hao3:


แม่นจริงอะไรจริงค่า ตอนแรกก็เห็นแล้วแบบ เฮ้ย มีคนรู้ด้วย >w<
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 25-07-2016 11:47:16
เอาซันจอมอ่ะบอกเลย ส่วนเบ ส่งไปให้ทูจัดการซะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 11+12<< // [24/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 25-07-2016 14:01:50
โดนเเน่หน่องกลอย ฮ่าๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 25-07-2016 19:25:03
Just you and I : 13



        ผมนั่งอยู่บนเตียงนวดแข้งนวดขาเพราะความปวดอยู่บนเตียงของพี่โช ยังครับยัง ร่างกายผมยังปกติดี ยังไม่ถูกจับกินตับแต่อย่างใด ร่างกายยังปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อคืนพี่โชก็แม่งโคตรน่ากลัวจริงๆ นะ ไม่ใช่โมโหแต่มันเหมือนหน้ามืดพยายามจะคลุกวงใน พอมันพาผมขี่หลังขึ้นมาบนห้องตัวเองได้ พี่แกก็เอาผมมาวางบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมทันที ไอ้กลอยตกใจแทบช็อค ก่อนความหื่นจะเหือดหายเพราะขาพี่โชแม่งทับหัวเข่าผมจนผมร้องเสียงหลง น้ำตาไหลพราก นั่นแหละครับเมื่อคืนที่ผ่านมา

   ที่ผมยังนั่งอยู่บนเตียงก็เพราะเพิ่งตื่น วันนี้ผมโดนบังคับให้ลาเพราะหัวเข่ายังบวมไม่หาย ตัวต้นเหตุเป็นคนโทรไปบอกไอ้ทูให้แจ้งอาจารย์ว่าผมป่วย เสร็จแล้วก็รีบออกไปมหาลัยเพราะมีพรีเซนต์งานสิ้นชุดท้าย แถมกำชับว่าให้ผมนอนเยอะๆ อย่าเดินมาก ส่วนข้าวเช้า พี่โชก็อุ่นโจ๊กมาวางโต๊ะข้างหัวเตียงไว้ให้แล้ว ผมจะได้ไม่ต้องเดินไปไกล ตอนเที่ยงก็จะรีบกลับมา

   เรื่องเมื่อวานที่เกิดขึ้น เหมือนทำให้พี่โชค่อยๆ เปลี่ยนไป พี่โชบอกกับผมว่า เขาไม่เคยต้องบอกความรู้สึกกับใคร แต่ถ้าอันไหนเขาไม่ชอบก็จะเดินหนี คนที่ทำก็ควรจะรู้เองว่าเขาไม่ชอบ แต่พอดีไอ้กลอยมันฉลาดน้อยเลยไม่ค่อยรู้ ผมขอโทษด้วย ผมผิดเองที่กินปลาน้อยไป ไม่ใช่ละ
 
   ผมว่า การที่เราจะคบใครสักคนมันก็ต้องบอกกันในทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย ถ้าหากเป็นเรื่องดี เราก็จะได้ยินดีไปกับเขา แต่ถ้าเป็นเรื่องร้าย เราก็จะได้ช่วยกันคิดแก้ไข ถ้าเก็บไว้คนเดียว ปัญหาสุมกองโตจนแก้อะไรไม่ได้ วันหนึ่งมันระเบิดออกมา เหตุการณ์ทุกอย่างมันจะแย่ลง สุดท้ายก็ต้องต่างคนต่างไป

   และเมื่อคืนพี่โชยังทำให้ผมรู้ว่า ผมต้องทำตัวยังไงท่านถึงจะชอบ ที่รู้เพราะคุณชายโชท่านร่ายยาวถึงความไม่ชอบของท่านให้ผมฟัง เช่น ห้ามให้ผมเข้าใกล้คนอื่นเกินความจำเป็น ห้ามให้เขาโดนตัว เลี่ยงได้ก็ต้องเลี่ยง อย่างเช่นที่คลินิก พี่โชบอกไม่ชอบที่ลูกของอาจับแก้มผม แล้วพี่มาโมโหผมมันใช่เหรอวะ หึงแล้วพาลไปทั่ว นิสัยไม่ดีเลย แถมหมอคนนั้นก็ยังเป็นญาติแท้ๆ ด้วยนะ ห้ามผมกระซิบกับคนอื่น อย่างเช่นพี่เบที่ผับ พี่โชบอกเกือบจะลุกมาต่อยเพื่อนตัวเอง แต่ดันมีสาวมานั่งข้างซะก่อน แหม เคลิ้มขนาดนั้นคงชอบล่ะสิ พูดแล้วก็โมโห โมโหแล้วก็หิว โจ๊กมันไม่อิ่มท้องนะสำหรับผม
 
   ผมเดินกระเผลกๆ ไปนอกห้องนอนมุ่งไปที่ตู้เย็น ของกินถูกซื้อมายัดไว้จนเต็มไปหมด ผมว่าคงจะเป็นพี่ชีสที่ซื้อมา เพราะเจ้าของห้องไม่มีทางซื้อของพวกนม ขนมมาเก็บไว้แน่ อ่อ ผมแอบเห็นลังเบียร์ที่ยังไม่ได้เปิดวางซ้อนกันอยู่หลายลัง อันนี้เจ้าของห้องซื้อมาแน่นอน

   ผมเลือกหยิบนมหวานมาขวดหนึ่งพร้อมกับขนมเครปเค้กสีรุ้งก่อนจะมานั่งที่โซฟา แล้วทำลายความเงียบโดนการเปิดทีวีมันซะเลย วันนี้ขอทำตัวเป็นเจ้าของห้องซักวัน
 
   ขนมกับนมหมดไปแล้ว ส่วนผมก็หัวเราะกับมุกแป้กๆ ของตลกที่กำลังเล่นอยู่ในทีวี ตรงหน้ามีขนมขบเคี้ยวสองถุงที่ผมแอบหยิบมาจากตู้เหนือซิงค์ล้างจาน กินไปกินมาก็เริ่มอิ่ม ก่อนจะมีเสียงกดกริ่งหน้าห้อง ผมต้องกระเผลกๆ ไปเปิด เพราะถ้าหากเป็นพี่โชก็ต้องเข้ามาแล้ว พอแง้มดูก็เห็นป้าที่สวมชุดแม่บ้านยืนยิ้มแป้นแล้นให้ ผมได้แต่กระพริบตาปริบๆ มอง

   “เอ่อ ป้ามีอะไรหรือเปล่าครับ”

   “ป้ามาทำความสะอาดของคุณโชค่ะ”

   ผมรีบเปิดประตูให้ป้าแม่บ้านเข้ามาพร้อมรถอุปกรณ์ทำความสะอาด ป้าบอกว่าพี่โชจ้างทำความสะอาดเป็นรายเดือน โดยมาทำความสะอาดสองวันหนึ่งครั้ง แต่ที่น่าตกใจคือค่าจ้างต่อเดือนแพงมากครับ สองหมื่นห้าต่อเดือน ผมนี่อยากทำบ้าง ไม่นานต้องรวยแหงๆ

   “บริษัทป้ารับคนเพิ่มหรือเปล่าฮะ ผมไปทำด้วยสิ เงินดีขนาดนี้” ผมนั่งยกขาอยู่บนโซฟาโดยที่ป้าแกกำลังดูดฝุ่นครับ ป้าแกก็หัวเราะอารมณ์ดี

   “รับสิจ๊ะ แต่ที่อื่นไม่ได้เงินขนาดนี้หรอก ป้าโชคดีด้วยที่คุณโชใจดี” ป้าชื่นชมพี่โชอย่างออกนอกหน้าจนผมเบ้ปาก

   “ใจดีหรือใจดำกันแน่ฮะ” ป้าแม่บ้านหัวเราะร่วนจนผมหัวเราะตาม

   “เธอดูเป็นคนไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ แต่ลึกๆ แล้วเธอเป็นคนดี มีเมตตา ตอนสิ้นปี ป้าเคยได้เงินปีใหม่จากเธอด้วยนะ ตั้งหมื่นนึงแน่ะ”

   “โห ใจป้ำสุดๆ”
 
   “แต่เธอออกจะหวงของไปสักหน่อย”

   “ทำไมเหรอฮะ ป้าเคยโดนด่าด้วยเหรอ”

   “เธอไม่ได้พูดออกมาตรงๆ หรอก แต่ป้าสังเกตเอา ตอนนั้นป้าเผลอทำน้ำหอมเธอแตก หน้าเธอนิ่งมากจนป้ากลัว ป้าขอโทษแต่เธอไม่พูดอะไรออกมา น้ำหอมนั่นเธอก็เอาไปทิ้งถังขยะ ป้ายังคิดเลยว่าถูกไล่ออกแน่ๆ เพราะน้ำหอมดูก็รู้ว่าแพงมากจนป้าไม่มีปัญญาจะซื้อคืน”

   “แล้วป้าทำยังไงต่อฮะ”

   “ป้าก็เตรียมจะลาออกในวันที่จะต้องมาทำอีกรอบ คุณโชดูจะเฉยๆ ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็นิ่งมาก จนมาถึงตอนนี้แกก็ยังไม่ตัดเงินหรือไล่ป้านะ”

   “ผมว่า น้ำหอมนั่นถึงแตกไป คนรวยขนาดนั้นจะซื้อใหม่อีกเป็นร้อยขวดก็ยังได้”

   “หูย เพื่อนป้าไปทำที่อื่น แค่ทำโต๊ะเป็นรอยนิดเดียวยังถูกไล่เลยนะจ๊ะ ป้าถึงบอกว่าป้าโชคดีที่เจอคุณโชแก” ป้าทำหน้าปลื้มพี่โชสุดๆ “นี่ถ้าป้ามีลูกสาวสวยๆ นะ จะยกให้ฟรีๆ ไม่เอาตังค์สักบาทเลย” ผมถึงกับสำลักน้ำลายไอจนน้ำตาไหล มองป้าแกอย่างอึ้งๆ จะยกลูกสาวให้คนอื่นไปฟรีๆ อย่างนี้ก็มี

   “ป้าไม่เคยเห็นพี่เขาอีกด้านล่ะสิ” ผมว่า

   “คนเรามันก็มีสองด้านกันทั้งนั้นแหละ อยู่ที่ว่า เราจะเลือกมองด้านไหน ถ้าเราเอาแต่เลือกมองด้านไม่ดี ชีวิตก็จะระแวงเขาอยู่ตลอด แต่ถ้าเราเลือกมองด้านดีๆ เข้าไว้ มันก็จะดีทั้งตัวเราและเขาเอง”

   ผมนั่งนิ่งนึกถึงคำที่ป้าเพิ่งพูดเมื่อกี้ ให้มองแต่ด้านดีๆ เหรอ พี่โชมีด้านดีกับเขาหรือเปล่าหว่า...

   หลังจากพูดกับผมซะนาน ป้าแกก็เริ่มเข้าไปปัดกวาดในห้องนอน เปลี่ยนผ้าปูเตียงดึงตึงจนผมยกนิ้วโป้งให้ แล้วก็ยกตะกร้าผ้าไปซัก ผมถลาจะไปเอาเสื้อผ้าตัวเองออก ป้าแกบอกไม่เป็นไรเพราะยังไงก็ซักเครื่อง เมื่อคืนผมโดนพี่โชจับอาบน้ำครับ โคตรอายเลยให้ตาย โตมาขนาดนี้เพิ่งเคยถูกคนอาบน้ำให้ แม้จะเคยอาบกับพวกไอ้ทู แต่มันไม่เคยมานั่งขัดหลังให้ ถูนั่นถูนี่ เอาจริงๆ โคตรอายเลย พี่โชก็คงไม่ต่างจากผม มือมันถูแต่ตามันมองที่อื่น สงสัยจะอาย พอผมอาบเสร็จ พี่โชมันก็รีบอาบต่อ เสื้อผ้าที่ผมใส่อยู่ก็ของมันครับ ออกมาหยิบอันไหนใส่ได้ก็ใส่ มันใช้เวลาอาบนานจนผมแทบจะหลับ มารู้สึกอีกทีตอนมันดึงเข้าไปกอดจากนั้นก็หลับไม่เรื่องรู้อะไรเลย

   ป้าแม่บ้านใช้เวลาค่อนวันทำจนสะอาดก่อนจะขอตัวกลับ ตอนแรกจะทำกับข้าวให้ แต่ผมปฏิเสธ เพราะพี่โชบอกจะซื้อเข้ามาให้ พอป้าแกไปแล้วห้องก็กลับมาเงียบ จะเปิดทีวีดูตอนนี้ก็คงจะมีแต่ข่าวฆ่ากันตายซึ่งผมไม่ชอบ ผมเลยเลือกหยิบมือถือมาเปิดดูนั่นดูนี่ จนไปเห็นสเตตัสในเฟสไอ้ทู มันขึ้นว่า ‘คำขอโทษที่เธอไม่รับฟัง’

   นี่ผมมีความสุขโดยทิ้งเพื่อนให้ทุกข์อยู่หรือเปล่า

   ผมไลน์ไปหาไอ้อัธกับไอ้ม่าน มีแต่ไอ้อัธที่ส่งข้อความตอบ ส่วนไอ้ม่านคงจะเรียนอยู่ ผมบอกไอ้อัธว่าอยากจะช่วยไอ้ทู ไอ้อัธก็ได้แต่ส่งรูปตุ๊กตาถอนหายใจมา มันก็คงคิดเหมือนผมแต่ไม่รู้จะทำยังไง แปบเดียวไอ้อัธก็โทรมา สงสัยพิมพ์ข้อความมันไม่ทันใจ

       “มึงสนิทกับพี่เขา มึงก็ถามให้หน่อยสิวะ”

       (กูสนิทก็จริง แต่นี่มันเรื่องส่วนตัวหรือเปล่าวะ)

       “แล้วมึงจะให้เพื่อนมึงเศร้างี้เหรอ ช่วยหน่อยดิ่วะไอ้อัธ”

       (กูว่า ต้องให้ไอ้ทูนัดเจอพี่เขาแล้วตกลงกัน)

      “หน้าไอ้ทูพี่เขายังไม่มองเลยสัด นัดเจอพี่เขาคงจะรีบวิ่งมา”

        (แล้วจะทำยังไง) ไอ้อัธมันถอนหายใจจนผมต้องทำตาม (เอางี้ มึงก็ให้พี่โชนัดเพื่อนพี่เขาสิ แล้วมึงก็เอาไอ้ทูไป แล้วก็ให้เขาคุยกัน)

   “ก็จริง แต่ถ้ามันไม่สำเร็จล่ะ ไอ้เชี่ยทูแม่งไม่ยอมอ้าปากเลยนะ” เหมือนวันที่ผมพาไปหาพี่โช มันเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมเงย
 
   (ถ้ามันไม่คุยก็เรื่องของมัน อุตส่าห์หาวิธีให้เคลียร์แล้ว ทำไม่ได้ก็ช่างแม่ง)

   “พูดง่ายมากเลยสัด”

   (ถ้ามึงนัดวันไหนบอกกูด้วย)

   “เสือกตลอดนะคุณอัธ”

   (เป็นห่วงเว้ย แต่ก็เสือกด้วยนิดหนึ่ง)

   หลังจากวางสายไอ้อัธ ผมก็เริ่มหาวิธีทำให้พี่โชพาพี่เบออกมา แต่จะให้ไปเจอที่ไหนที่สะดวกคุยวะ ถ้าในผับก็คงไม่เหมาะ เสียงแม่งดังเกินไป แถมพี่เบอาจลุกหนีไปหาสาวๆ แบบวันนั้น ไอ้ทูได้ร้องไห้ขี้มูกโป่งพอดี ผมรู้ครับว่าเพื่อนมันชอบพี่เขาจริงๆ มันเคยมาปรึกษาเมื่อนานมาแล้วว่า ถ้าจะไปบอกรักคนแอบชอบจะดีหรือเปล่า ผมก็บอกว่าดี แม่งผลลัพท์กลับไม่ดีซะงั้น

   นาฬิกาผนังบอกเวลาเที่ยงยี่สิบห้า มันเลยเที่ยงวันมาแล้ว ทำไมพี่โชยังไม่กลับ หรือว่าลืมผม ไม่หรอกมั้ง ผมก็อยู่ห้องพี่เขานะ หรือว่าไปกับสาวๆ ไม่สิ ป้าแม่บ้านบอกต้องมองสิ่งดีๆ ของพี่แกเข้าไว้ งานเขาอาจจะยังไม่เสร็จ
 
   เวลาผ่านไปจนเกือบจะบ่ายโมง ผมว่ามันไม่ใช่แล้วล่ะ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ ไม่อ่านด้วย ลืมผมแล้วแน่ๆ เพิ่งจะคืนคะแนนความประพฤติให้หมด งี้ตัดเหมือนเดิมจะดีซะกว่า ผมย่นจมูกยกมือลูบท้องหัวเองวนไปมา หิวครับ ขนมที่ยัดไปเมื่อกี้ย่อยไปหมดแล้ว คงต้องทำกับข้าวกินเอง ขืนรอผมเป็นโรคกระเพาะแน่
 
   ผมค่อยๆ เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบไข่ออกมาสองใบพร้อมกับหัวหอมใหญ่ ผมตอกใส่ไข่ถ้วยเตรียมไว้แล้วใส่เกลือนิดๆ ก่อนซอยหัวหอมให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเทลงไปในถ้วยไข่ คนๆ จนมันเข้ากันผมก็ตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ำมันนิดหน่อยแล้วก็เทลงไป ไข่เจียวฟูฟ่องหอมชวนน้ำลายไหล พลิกไปพลิกมาจนเหลืองนวลผมก็ตักขึ้นใส่จาน ปิดแก็ส เป็นอันเรียบร้อย
 
   ข้าวที่หุงเมื่อเช้าถูกตักใส่จานสองช้อน ผมยกออกมากินด้านนอกพร้อมกับเปิดทีวีหาช่องดูซีรี่ส์หรือหนัง มือที่ตักไข่เจียวกำลังจะเอาเข้าปาก ประตูหน้าห้องก็เปิดออก มีผู้ชายสภาพอิดโรยเดินเข้ามา มือถือถุงอะไรไม่รู้มากมาย
 
   พี่โชวางถุงพวกนั้นลงบนโต๊ะกินข้าวก่อนเดินมาหาผมที่โซฟา

   “กินข้าวแล้วเหรอ พอดีรายงานมีปัญหาเลยแก้นานไปหน่อย” พี่โชบอกแล้วทิ้งตัวนอนราบกับโซฟา หัวหอมๆ นั่นยกมาหนุนขาผม ดีที่ขาข้างนั้นไม่เจ็บ

   “กำลังจะกินแต่พี่เข้ามาก่อน พี่กินข้าวหรือยัง” พี่โชส่ายหัวบนขาผม “งั้นเดี๋ยวไปตักข้าวมาให้นะ”
 
   ผมดันหัวพี่โชให้ยกขึ้นเพื่อจะเดินไปตักข้าว พี่โชกลับจับแขนผมไว้ ผมก้มไปมองเจอสายตาที่กำลังจ้องหน้าผมอยู่

   “อะไร” ผมถาม พี่โชไม่ตอบแต่ยืดแขนยาวๆ มาจับท้ายทอยผมแล้วดึงให้ก้มลงไปจนปากผมชนกับปากพี่โช ผมพยายามจะยกหัวขึ้นแต่มือที่หยัดไว้ที่ท้ายทอยไม่ยอมปล่อย กลายเป็นว่าเราจูบกันท่าแบบนั้นจนคนที่นอนอยู่พอใจจึงปล่อยมือออก
 
   “คิดถึง” เสียงหวานๆ ดังออกมาจากปากบางได้รูป จนผมหน้าร้อน

   “หู้ว พี่ทำอะไรเนี่ย” รีบบอกปัดอย่างเขินๆ

   “ก็บอกพี่เองว่าคิดอะไรก็ให้บอกออกไปตรงๆ” พี่โชพูดไปยิ้มไปจนผมไม่กล้ามองหน้า มันเขินจริงๆ นะเออ

   “ผมบอกตอนไหน พี่มั่วว่ะ ไม่เอาละ ผมจะไปตักข้าวมาให้” ต้องหนีก่อน ไม่งั้นหน้าจะระเบิดเพราะความร้อนอยู่แล้ว

   แต่มีเหรอที่อีกคนจะฟัง พี่โชไม่ยอมขยับหัว แถมยังส่งมือมารัดช่วงเอวผมอีก หน้าหล่อๆ ซุกเข้ากับหน้าท้องผมจนเกร็งไปหมด ดีที่แขม่วพุงทัน แต่ทำได้แปบเดียวก็ต้องปล่อยให้พุงหลามๆ ออกมาจนคนที่เอาหน้าซุกอยู่หัวเราะ

   “ไม่เป็นไร พี่ชอบพุงแบบนี้”

   “โด่ ตัวเองไม่มีพุงก็พูดได้สิ”

   พี่โชหัวเราะร่วนก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยบอกผมจะไปตักข้าวมาเอง และแอบบ่นที่ผมเดินบ่อย ผมมองด้านหลังของคนที่ลุกไป ก่อนคอยสังเกต หัดมองด้านดีๆ แล้วเรากับเขาจะมีความสุข ผมคงต้องมองด้านดีๆ ของพี่เยอะๆ สินะ

   ไข่เจียวของผม มีเพื่อนแล้วครับ นั่นก็คือต้มจืดหมูสับกับผัดผักรวม พี่โชแวะซื้อมา ผมกินข้าวไปแอบมองพี่โชไป ดูพี่เขาก็เหมือนลูกคุณหนู บ้านก็รวย รูปก็หล่อ สาวก็มาให้เลือกไม่ซ้ำหน้า แล้วฉะไหนที่ท่านถึงมาชอบผมได้

   “ทำไมพี่ถึงชอบผมอะ” ผมถามตามที่สงสัย คนถูกถามเงยหน้ามองนิดๆ ก่อนก้มหน้ากินข้าวกับไข่เจียวหัวหอม เพิ่งสังเกตว่าไม่กินอีกสองอย่างเลยทั้งที่มันออกจะอร่อย

   “ไม่รู้”

   “อ่าว ไม่รู้ได้ไง”

   พี่โชเงยหน้ามามองตรงๆ เมื่อผมไม่ยอมหยุดถาม

   “พี่เจอกลอยครั้งแรกตอนวิ่งข้ามถนนไปช่วยหมาที่กลางถนน” พี่โชพูดน้ำเสียงราบเรียบทำให้ผมนึกย้อนตาม “พี่คิดว่า ไอ้เด็กนี่โง่ดี”

   “นี่ด่าใช่ป่ะ”

   “อืม” แล้วพี่โชก็หัวเราะ

   “โห่” หน้าบูดเป็นตูดหมึกแล้วผมเนี่ย

   “ถึงโง่แต่ก็น่ารักดี”

   “พี่ชอบตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอ” แอบเขินนิดๆ นะ ตอนนั้นที่ผมไปช่วยเพราะสงสารลูกหมา ผมเห็นแม่มันถูกชนตายข้างๆ ด้วย ตอนไปอุ้มมันมาจากเกาะกลาง นึกถึงแล้วน้ำตาจะไหล

   “ไม่หรอก แค่ประทับใจละมั้ง”
 
   “ตอนนั้นผมเท่ใช่ป่ะ”

   “หึ” พี่โชหัวเราะขึ้นจมูก “เหมือนเด็กบ๊องๆ คนหนึ่งมากกว่า”
 
   “เอาจริงๆ สิ พี่ชอบผมตรงไหน ผมอยากรู้จริงๆ นะ”
 
   “เดี๋ยวคืนนี้บอกให้” น้ำเสียงกับแววตาโคตรเจ้าเล่ห์ทำให้ผมเบ้ปากใส่ทันที

   “ไม่อยากรู้แล้ว” ผมบอก พี่โชก็หัวเราะอย่างเดียว จนหน้าห้องมีเสียงกริ่งดัง ผมมองหน้าพี่โชซึ่งพี่เขาก็ลุกไปเปิดก่อนกลับมาพร้อมเพื่อนอีกโขยง

   “อะไรวะไอ้โช อยู่กินก่อนแต่งแล้วเหรอ ระวังท้องก่อนแต่งนะเว้ย” พี่หนวดครับ แกเดินเข้ามาก่อนใคร ในมือมีถุงของกินมากมาย

   “ไหนๆ โห ไอ้เชี่ยนี่ ที่ตาคล้ำๆ เพราะเมื่อคืนหนักใช่มั้ยเนี่ย” พี่ที่ผมไม่รู้จักทำหน้าล้อเลียนจนโดนฝ่ามือพี่โชเต็มๆ หัว

   “อ่าว ไอ้เด็กเพี้ยน ย้ายมาอยู่กับเพื่อนกูแล้วเหรอ” ไอ้พี่จอมครับ มันพูดเสร็จก็เดินมานั่งโซฟาแทนที่พี่โช แล้วตักข้าวในจานนั่นกินจนไม่เหลือ ยกเว้นไข่เจียวที่พี่โชรีบคว้าไปถือไว้

   ส่วนพี่ซัน พี่เบ ทำแค่ยิ้มให้เฉยๆ ไม่พูดไม่แซวอะไร ผมมองเพื่อนๆ พี่โชที่เดินเข้ามาแล้วนั่งระเกะระกะเต็มพื้นห้อง หรือว่าจะมาทำรายงานกัน

   “พี่จอมมาทำรายงานเหรอ” ผมถามรุ่นพี่ที่นั่งกินข้าว (จานของผม) อยู่ข้างๆ พี่มันส่ายหัวครับ

   “เปล่า งานพวกกูเสร็จแล้ว ตอนนี้มาพักก่อน ค่ำๆ ค่อยฉลอง”

   พักจริงๆ ครับ ตอนนี้พวกเพื่อนพี่โชเริ่มเอาจานเอาถ้วยมาแกะแล้วกินข้าวกันอย่างเฮฮา อย่างส้มตำปลาร้าที่กลิ่นฟุ้งเต็มห้อง ไก่ย่างร้อนๆ จนผมน้ำลายไหล มีพวกลาบอีสานอีก ไข่เจียวของผมกับกับข้าวที่พี่โชซื้อมานี่เป็นหมันไปเลยทีเดียว (แต่พี่โชก็ยังกินไข่เจียวจนหมดไม่ยอมแบ่งพี่จอมที่เดินไปแย่ง)

   “ไอ้โชแม่งงกว่ะ”

   “นี่กลอยทำ”

   “แหม หวง กะอีแค่ไข่เจียวที่ไอ้เด็กนี่ทำ”

   “เออ

   เถียงกันเรื่องไข่เจียวก็ได้ด้วยเว้ย พี่จอมละความสนใจจากไข่เจียวลงไปจกข้าวเหนียวส้มตำแทน ไม่นานทุกอย่างก็หมดภายในพริบตาก่อนทุกคนจะช่วยกันเก็บเศษซากแล้วนอนสลบเหมือดอยู่ที่พื้น

   กินง่ายนอนง่ายจริงๆ พี่ๆ พวกนี้

   ผมเดินย่องๆ ไปช่วยพี่ซันล้างจาน ตอนแรกผมยืนชิดพี่เขาแต่เสียงกระแอมเบาๆ จากเจ้าของห้องทำให้ผมขยับห่างออกมาจนพี่ซันหัวเราะ

   “ไอ้โชมันก็งี้แหละ ขี้หวงเกินชาวบ้าน”

   “สงสัยบ้านจะตามใจมากไป”

   พี่ซันหัวเราะจนโดนผ้าเช็ดมือปาใส่หัว พอหันไปมองคนทำก็แต่ยักคิ้วแล้วยิ้มเหยียด

   นิสัยเหมือนเด็กจริงๆ พี่โชนี่

   ผมมองเพื่อนพี่โชที่นอนหลับอุตุ ไล่เรียงไปทีละคนจนสะดุดกับพี่เบที่นอนอ้าปากกรนเสียงดัง พี่เบอยู่นี่ ถ้าเอาไอ้ทูมาด้วยน่าจะดี อ่า ได้การ ผมรีบยิ้มย่องพลางเดินกระเผลกๆ ไปหยิบมือถือส่งไลน์หลอกล่อบอกของฟรีให้ไอ้ทูมาติดกับ พร้อมกับบอกไอ้อัธ ไอ้ม่านเรียบร้อย ก็แหม โอกาสดีๆ แบบนี้ไอ้กลอยจะพลาดได้ไง คืนนี้รู้แน่ว่าอะไรเป็นอะไร วะฮะฮ่าๆ




 
   “น้องมันสติดีหรือเปล่าวะ” ซันเดินเรียบๆ เคียงๆ ไปถามเพื่อนตัวเองที่กัดแอปเปิ้ลกรอบๆ ข้างเคาน์เตอร์บาร์

   “สงสัยมันคงร้อน โรคบ้าเลยกำเริบ” โชตอบเพื่อนตัวเอง สายตาดุจ้องมองคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มรักตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ตอนนี้กำลังหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว แถมยังพูดคนเดียวอีก “บ้าแน่ๆ”


..................... TBC


อัพวนไปค่าา ^^~
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 25-07-2016 19:42:31
ไม่มีแล้ววววกู-มึง
มีแต่พี่กับกลอย เนอะะะ :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 25-07-2016 20:44:25
 :katai2-1: เริ่มละมุนเเล้วละสิ อิอิ
มารออยู่ว่าจะมาอัฟอีกป่าว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 25-07-2016 20:52:21
พี่เบอย่าใจร้ายกับทูนะค๊ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-07-2016 21:20:47
"กูไม่ชอบให้มึงไปรับผ้าเช็ดหน้ามันมา กูไม่ชอบ
 แล้วกูก็ไม่ชอบเห็นมึง ไปยืนคุยกับคนอื่น
ไม่ชอบให้ยิ้มกับคนอื่น แค่มองหน้ากูก็ไม่ชอบ"
พี่โช.....น่ารักมากเลย ยึดติด ขี้หึง ขี้หวง
หวงไข่เจียวที่กลอยทำไม่ให้เพื่อนกิน ชอบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่เบ ก็เกินไป ไม่ชอบเขา ก็อย่าไปยุ่ง ไปด่าเขา
ทู เลิกตัดใจดีกว่า เลิกชอบคนบ้าๆ คนนี้ซะ
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-07-2016 21:39:10
พี่โชหวงทุกอย่างที่เป็นกลอย แม้แต่ไข่เจียวที่กลอยทำก็หวงอีกเนอะ 5555 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-07-2016 21:56:03
พี่โชมีความหวงมากมาย
กลอยหลอกทูมาจะมาเคลียร์หรือจะมาตีกันกับพี่เบ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-07-2016 22:03:40
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-07-2016 22:38:58
อิพี่โชขี้หวงจริงๆ กลอยเข้าใกล้ใครไม่ได้เลย
มาลุ้นคู่พี่เบกะน้องทูดีกว่า จะเป็นไง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 25-07-2016 22:52:32
ครบสูตรเลยนะพี่โช ขี้หึง ขี้หวง ขี้ห่วง เอ๊ะ ยังไง 55555555  :o8:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 25-07-2016 23:02:45
กลอยน่ารักดี ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 25-07-2016 23:10:24
ฉันพลาดเรื่องน่ารักๆเรืีองนี้ไปได้ยังไงเนี่ยยย

สนุกมากค่ะ ชอบนิสัยเจ้ากลอยจัง ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13<< // [25/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-07-2016 23:33:25
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 26-07-2016 00:18:21
Just you and I : 14




        ยามค่ำภายในห้องพี่โชกำลังคึกครื้นได้ที่เลยครับ หม้อไฟฟ้า กระทะไฟฟ้าเต็มไปด้วยหมู หมึก กุ้ง และผัก ยิ่งได้เหล้ากับเบียร์ยิ่งทำให้ทุกคนเฮฮา กีต้าร์โปร่งที่ตั้งโชว์ถูกพี่แทม (รู้ชื่อแล้ว) เอามาดีดพร้อมร้องเพลงคลอ คือถ้าพี่ร้องได้ไพเราะผมจะไม่ว่า แต่นี่คีย์เพลงอยู่ตรงไหน

   ผมเป็นฝ่ายเติมครับ กินเบียร์ได้ไม่เกินห้าแก้วนี่คือคำสั่ง โคตรเผด็จการ ตอนนี้ก็จัดไปแล้วสี่แก้วยังแค่กรึ่มๆ เห็นแบบนี้ผมก็คอแข็งนะครับ พี่กิ่งเคยมอมเหล้าผมทุกวันจนเริ่มชิน
 
        ตอนนี้มือคอยเติมหมู ตาก็คอยมองนาฬิกา ไอ้อัธน่าจะไปรับไอ้ทูมาได้แล้วนะ ผมบอกพี่โชแล้วครับว่าชวนเพื่อนมา พี่เขาก็ไม่ว่าอะไร
 
   เสียงกริ่งหน้าห้องดัง ผมก็รีบพุ่งหลาวไปจนลืมว่าหัวเข่าเจ็บ แค่ลงน้ำหนักเต็มแรงผมถึงกับลงไปนั่ง โคตรเจ็บ พี่โชเห็นปุ๊บก็รีบวางแก้วแล้วเดินมาพยุงผมให้ขึ้นไปนั่งบนโซฟาพร้อมส่งสายตาดุๆ มาให้ ก่อนพี่เขาจะเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้เพื่อนผมแทน พวกไอ้อัธมาแล้วครับ หน้าบานพอรู้ว่าเป็นของฟรี โดยเฉพาะไอ้ทูที่หน้าบานดูกระหาย แต่พอเข้ามาจนเห็นว่ามีใครอยู่บ้าง หน้ามันก็เริ่มถอดสี ยิ่งพี่เบเงยหน้าเห็นมันก็เริ่มนิ่ง เมื่อกี้ยังร้องเพลงเสียงหลงอยู่เลย งานจะกร่อยหรือเปล่าเนี่ย

   ไอ้อัธมองหน้าผมนิดๆ ส่วนไอ้ม่านมันพุ่งไปในวงหมูกระทะแล้วครับ ไม่สนอาการเพื่อนมันเลย ไอ้อัธจูงมือไอ้ทูไปนั่งซึ่งมันตรงข้ามกับพี่เบพอดิบพอดี ตะเกียบที่คีบหมูอยู่ถูกโยนทิ้งจนเพื่อนๆ พี่เขามองอย่างงงๆ

   “เป็นไรเชี่ยเบ พวกกูตกใจหมด” พี่ตินหรือพี่หนวดตะโกนซะดังหลังจากตกใจที่ตะเกียบปลิวไปนอนตัก แต่พี่เบไม่ตอบเอาแต่จ้องหน้าแทน “ถามไม่ตอบอีกสัด แดกๆ” บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคักอีกรอบแต่มันก็ยังไม่สุด เพราะพี่เบนั่งกระดกแต่เหล้า ส่วนไอ้ทูเอาแต่ก้มหน้าไม่แตะต้องของกินอะไรเลยจนผมต้องเข้าไปแจม

   “ไอ้เชี่ยทูกินสิวะ ของฟรีนะเว้ย นานๆ กินที” ผมเอาแก้วยัดใส่มือมันพร้อมกับยกชน มันก็ดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ผมก็ซดหมดเช่นกัน ไอ้อัธนั่งข้างๆ มันก็เทให้ใหม่ ผมยักคิ้วเชิงขอบใจมันแต่เจ้ากรรมแก้วของผมถูกยกออกไปเฉย
 
   “อะไรวะ”

   “ห้าแก้วแล้วอย่ามาเนียน”

   “พี่โชอ่ะ เปลี่ยนเป็นสิบไม่ได้เหรอ”

   “โนครับน้องกลอย”

   พี่โชมันเหยียดยิ้มโคตรกวนตีน แล้วมันก็ซดแก้วของผมไม่เหลือ ใจร้าย

   “แหมๆ เมื่อก่อนกูกับมึง เดี๋ยวนี้มีพี่มีน้องกลอย กูขนลุกไอ้สัด” พี่แทมมันวางกีต้าร์มาคีบหมูปิ้งเข้าปากพร้อมแซว

   “หมดกันเพื่อนกู ความเทพ ความโหด ความโฉด หมดกัน” พี่ตินส่ายหน้ากอดคอพี่แทม

   “พอเลยพวกมึง เทพเจ้าของพวกมึงเปลี่ยนไปแล้วเพราะโดนไอ้เด็กเพี้ยนนี่ล้างสมอง” พี่จอมอยู่เฉยๆ ไม่ต้องพูดบ้างก็ได้

   ผมยู่ปากเพราะเถียงไม่ได้และพี่โชก็ไม่ยอมเถียงสักคำเอาแต่ยิ้ม ปกตินี่พี่โชจะต้องด่ากลับไปบ้างนะ ขนาดพี่ซันยังคิดเหมือนผม

   “มึงจะไม่เถียงหน่อยเหรอวะ”

   “ก็ตามนั้น” พี่โชตอบแค่นั้นแล้วยกแก้วเหล้าตัวเองขึ้นจิบ เลยโดนเพื่อนโห่ใส่ ขนาดเพื่อนผมมันยังโห่ตาม
 
   “นี่พี่หลงเพื่อนผมขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ ไอ้เชี่ยกลอย มึงเอายาเสน่ห์ให้พี่เขากินใช่มั้ยห๊ะ” ไอ้ม่านมันพูดไปเขย่าตัวผมไป พี่โชเลยยกเท้าใส่มันเลยครับ มึงไม่รู้ฤทธิ์คนขี้หึงซะแล้ว

   “มีหวงซะด้วย” ไอ้อัธได้ที่ก็เริ่มแซวบ้าง
 
   “มึงไม่รู้อะไร เมื่อกี้มันยังหวงไข่เจียวกับกูอยู่เลย” พี่จอมเคี้ยวปลาหมึกตุ้ยๆ เล่าครับ พวกไอ้อัธไอ้ม่านก็โห่แซว

   “หลงรักมนต์ไข่เจียวหรือเปล่าพี่โช” ไอ้ม่านยกแก้วไปชนพร้อมแซว

   ไอ้พี่โชยิ้มตอบ วันนี้มาแปลก พี่โชยิ้มโคตรเยอะ หรือเริ่มเมาก็ไม่รู้ เล่นดวลกับพี่ตินแล้วก็พี่แทมตั้งแต่บ่ายลากยาวมาถึงตอนนี้

   เพราะความสนุกทำให้ทุกคนลืมสนใจรังสีสีเทาที่แผ่คลุมคนสองคนที่หยุดกินทุกอย่าง จนไอ้ทูมากระซิบบอกผมว่าจะกลับ ผมก็รีบรั้งไว้ โดยหาข้ออ้างว่ากินไม่อิ่มห้ามกลับ ไอ้ทูก็บอกไม่หิว แล้วจะเอาอะไรมาอ้างอีกวะ

   “ไอ้เบมีอะไรกับน้องเขาก็พูดออกมาตรงๆ ดิ่วะ” พี่โชพูดขัดกลางปล้องขึ้นมา ไอ้ทูเงยหน้ามองทันทีครับ รวมถึงคนอื่นๆ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวต่างก็พากันมองอย่างสงสัย

   “อะไรของมึงไอ้โช ไอ้เบกับใคร” พี่แทมเริ่มสนใจเรื่องอื่นนอกจากหาเพลงที่จะร้อง

   “นั่นดิ่ อะไรวะ” พี่ตินถามต่อ แต่พี่โชไม่พูดอะไรอีก แต่พยักเพยิดหน้าไปทางไอ้ทูที่นั่งก้มหน้าอีกแล้ว “ไอ้เบกับเพื่อนเมียมึง?” ผมยังไม่ได้เป็นเมียเพื่อนพี่ครับ อย่าเพิ่งสรุป

   “กูกลับล่ะ” พี่เบเลี่ยงทันทีแต่โดนพี่จอมรั้งไว้ “ปล่อยไอ้จอม”

   “มึงหนีไอ้ลูกคนที่สอง หรือหนีใจตัวเองวะเอาให้แน่” พี่จอมมองหน้าเพื่อนตัวเองนิ่งๆ สิ่งที่พี่จอมพูดทำให้พวกผมมองหน้ากันเลิกลัก หมายความว่ายังไงวะ

   “มึงพูดเชี่ยอะไร”

   “กูพูดตามที่กูรู้สึก” พี่จอมยังคงพูดต่อ “นิสัยเสียของมึงคือชอบหนีปัญหา อย่าเถียงกูด้วย เพราะกูเคยช่วยมึงแก้มาแล้ว”

   “เล่ามายาวๆ สิไอ้จอม ทำไมกูไม่ระ...โอ้ย ไอ้เชี่ยติน ตบหัวกูหาพ่องมึงเหรอ”

   “หุบปากมึงซะไอ้แทม ต่อๆ เพื่อนจอม”

   ผมเจ็บหัวแทนพี่แทมเลยครับ พี่ตินแม่งใส่เต็มแรงจนผมกระจาย เวลาเราอยากเผือกเรื่องคนอื่นนี่มันน่ากลัวนะครับ พี่จอมมองกราดทุกคนก่อนจ้องพี่เบตามเดิม

   “ที่มึงด่าหรือว่าไอ้ลูกคนที่สองเพราะมึงกลัวว่า ถ้ารักไอ้เด็กนี่ไป มึงกลัวว่ามันจะทำให้มึงเสียใจเหมือนตอนที่มึงรักไอ้จีนใช่มั้ย”

   “...” พี่เบไม่ตอบโต้เอาแต่เสหน้ามองไปข้างนอกระเบียงห้อง

   “ถ้ามึงคิดแบบนี้แม่งไม่แฟร์กับเพื่อนเมียไอ้โชเลยนะ” พี่แทมอีกแล้วครับ คราวนี้พี่แกหลบมือของพี่ตินได้

   “มึงก่อกำแพงขึ้นมาเพราะยังลืมไอ้จีนไม่ได้ แถมไอ้เด็กนี่ยังเสือกหน้าคล้ายมันด้วยกูพูดถูกมั้ย อันไหนไม่ถูกมึงก็เถียงกูมา” หน้าตาพี่จอมแม่งเอาเรื่องจริงๆ “ส่วนมึงไอ้ลูกคนที่สอง แม่งชื่อโคตรยาว มีชื่อสั้นๆ ให้เรียกหรือเปล่าวะ” เสียงตะคอกทำเอาไอ้ทูสะดุ้งนิดๆ ก่อนจะบอกชื่อตัวเองแบบสั่นๆ แต่ผมว่าตอนที่เจอครั้งแรก ไอ้ทูมันก็บอกชื่อสั้นๆ ของมัน แต่พี่แม่งเรียกยาวเอง

   “ไอ้ทู มึงน่ะไม่ผิดอะไรหรอก แค่มึงซวยที่หน้าเหมือนไอ้จีน รักแรกของไอ้เบก็แค่นั้น จบนะ นอกนั้นอยากเคลียร์อะไรยังไงก็ไปคุยกันเอง เชี่ย คอกูแห้ง เอาเหล้ามาดิ๊” ไอ้ม่านรีบประเคนเหล้าให้พี่จอม พี่แกก็ยกซดรวดเดียวหมด

   เรื่องที่ได้ฟังจากพี่จอมทำให้ผมเริ่มรู้เรื่องราวมากขึ้น งั้นที่พี่เบทำตาขวางใส่คงเข็ดกับคนหน้าตาแบบไอ้ทูสินะ หรือไอ้ทูมันต้องไปทำศัลยกรรมแบบเล็ทมีอินวะ เอาหล่อแบบเกาหลีไปเลย

   หลังจากถูกลากไส้จนหมด พี่เบก็เลิกทำหน้าบึ้งแต่ก็ยังเงียบ ส่วนไอ้ทูก็ยอมเงยหน้าขึ้นมามองแถมลูกตามันยังคลอไปด้วยน้ำตาจนพี่จอมต้องพุ่งมากอด ผมแอบมองพี่ซันเงียบๆ พี่แกก็ยังเฉย ไม่หึงโหดแบบพี่โชด้วย

   ผมค่อยๆ กระดึ๊บๆ ไปหาพี่ซันที่เริ่มหัวเราะกับเพลงเพี้ยนของพี่แทม พี่ซันคงรู้สึกว่าผมขยับไปหาพี่เขาเลยหันหน้ามามองด้วยความสงสัย ไอ้ผมก็เป็นพวกอยากรู้ก็ต้องถามก็เลยยื่นหน้าไปกระซิบ

   “พี่ไม่หึงพี่จอมบ้างเหรอ” พี่ซันได้ยินก็เลิกคิ้วแปลกใจที่ผมถาม

   “ทำไมคิดว่าพี่ต้องหึงมัน” ตอบธรรมดาไร้ความหึงหวงจริงๆ มันเรียบๆ จนผมเผลอคิดว่าตัวเองคงจะดูผิดเรื่องพี่จอมกับพี่ซัน
 
   “ก็พี่ชอบพี่จอมไม่ใช่เหรอ” คำถามของผมทำให้พี่ซันสำลักเบียร์ที่เพิ่งยกขึ้นจิบ “นั่นแหน่ะ มีอาการด้วย”

   “คิดมากนะเราน่ะ” พี่ซันซ่อนความรู้สึกได้มิดจริงๆ

   “ไม่ได้คิดมาก แต่คิดถูก พี่ซันรุกพี่จอมไปเลย ผมเชียร์นะ” ผมชูกำปั้นพร้อมเขย่าเล็กน้อยเพื่อเป็นกำลังใจให้พี่ซัน แต่พี่ซันกลับหัวเราะออกมาแทน

   “ก่อนจะให้กำลังใจพี่ นู้น มองไปทางนู้นก่อน ตาจะถลนออกจากเบ้าอยู่แล้ว” พี่ซันใช้คางชี้ไปที่พี่โชที่ถลึงตามองผม

   ‘ไม่ชอบให้กระซิบใคร’ ข้อห้ามที่แวบเข้ามาในหัว นี่ผมทำข้อห้ามที่พี่โชไม่ชอบไปแล้วเหรอ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ

   ผมขยับกลับมานั่งที่เดิมพร้อมเติมหมูลงไปในกระทะไฟฟ้าอีกรอบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ว่าแต่  กินหมูกระทะกับน้ำเปล่าโคตรไม่เข้ากันเลยว่ะ แต่นั่นไม่น่าสนใจเท่าตอนนี้พี่เบกระดิกนิ้วเรียกไอ้ทูออกไปที่นอกระเบียง แถมทุกคนในวงเหล้าต่างก็มองตามด้วยความกระสันอยากจะรู้ ถึงขนาดพี่แทมคลานตามแต่โดนพี่ตินคว้าข้อเท้าแล้วลากกลับมา

   ดูเหมือนคนที่ไปคุยข้างนอกจะรู้ว่าคนข้างในรอเผือกเต็มที่เลยดึงม่านพร้อมประตูระเบียงปิดสนิท พวกเราเลยได้แต่เสียดายที่อดฟัง แต่มันก็ดีนะ ให้เคลียร์กันเองจะได้จบเรื่องจบราว


   “เอ่อพี่จอม พี่รู้ได้ไงว่าพี่เบมันยังคิดถึงคนที่ชื่อจีนนั่น” ไอ้อัธเริ่มถามตามนิสัย สมแล้วมันเรียนนิติ มีข้อสงสัยตรงไหนมันก็จะรีบถาม

   “นั่นดิ่ แล้วหน้าเหมือนไอ้ทูมากเลยเหรอพี่ อยากเห็นว่ะ” ไอ้ม่านก็เอากับเขา

   พี่จอมไม่ตอบเอาแต่คีบกินหมูกระทะ เป็นพี่โชที่เฉลยทำเอาพวกผมรวมพี่ตินกับพี่แทมมองตาโต
 
   “ก็ไอ้คนที่ชื่อจีนเป็นน้องไอ้จอม”

   “ห๊า/เชี่ย” คำสถบออกมาจากปากของคนหลายคนรวมทั้งผม

   “รักครั้งแรกของพี่เบคือน้องพี่จอมเหรอ” ผมตาโตเลยครับ

   “แล้วน้องพี่ไปไหนอ่ะ ทำไมถึงทิ้งพี่เบไป” ไอ้ม่านแววตาอยากรู้มากจนโดนพี่จอมเอาตะเกียบจิ้มหน้าผาก

   “น้องกูไปมีผัวอยู่เมืองนอกนู้น” คำตอบพี่จอมโคตรฮาร์ดคอจนพี่โชหัวเราะ พี่ซันก็ยิ้มๆ แสดงว่ารู้กันสินะเรื่องนี้ “ที่มันทิ้งไอ้เชี่ยเบเพราะไอ้เบมันคิดไปไกลเกินจนไอ้จีนมันกลัว”

   “คิดไปไกลยังไงวะ” นั่นดิ่พี่แทม ผมก็อยากรู้

   “คิดถึงขั้นจะพาไอ้จีนไปจดทะเบียนที่ไหน สร้างเรือนหอยังไง แต่งชุดวันหมั้นวันแต่งยังไง” ป๊าดติโทะ นี่พี่เบคิดไปไกลถึงขนาดนั้นเลยเหรอ

   “เขาคบกันนานหรือเปล่า”

   “ประมาณกี่เดือนวะ”

   พี่จอมไม่รู้ แล้วใครจะรู้วะ

   “ตั้งแต่ไอ้เบอยู่ปีหนึ่งหรือปีสองวะ” พี่โชตอบแทนครับ

   “เอ่อ นั่นแหละ เลิกกันตอนไอ้เบอยู่ปีสอง กูรู้แค่นั้น แม่งจำไม่ได้แล้วว่ะสัด”

   “โห” ผมว่า

       “ใช่ที่มันต้องดรอปเรียนแล้วหนีไปบวชหรือเปล่าวะ” พี่แทมพูดแทรกครับ นี่ถึงขั้นไปบวชเลยเหรอ ความรักมันทำให้เราเป็นได้ถึงขนาดนี้

   “เออ”

   “เชี่ย กูก็ว่าทำไมไอ้เบมันไปบวช นึกว่าจะทดแทนให้พ่อแม่”

   “กูเต้นหน้าขบวนจนรองเท้าคู่โปรดกูขาด คิดว่างานบวชเป็นงานบุญก็เลยทำใจ แต่ตอนนี้กูเสียใจว่ะแม่ง รองเท้ากู” พี่ตินคร่ำครวญถึงรองเท้าตัวเองจนผมหัวเราะ

   “แล้วนี่ พวกพี่เขาจะตกลงกับเพื่อนผมถึงกี่โมง พรุ่งนี้ผมมีเทสด้วย” ไอ้อัธเริ่มมองนาฬิกาแล้วครับ

   “กูว่ามึงกลับเถอะ คงอีกนานว่ะ เผลอๆ อาจจบลงในห้อง” พี่ตินครับ กรุณาให้เกียรติเพื่อนผมด้วยครับ

   “ความคิดมึงโคตรจะเหี้ยมากเพื่อน” พี่แทมด่าไปหัวเราะไปดูก็รู้ว่าเห็นด้วย

   สุดท้าย ไอ้อัธก็กลับก่อนจริงครับ มันเอาไอ้ม่านกลับไปด้วยพร้อมเบียร์สามขวด เหี้ยมากไอ้ม่าน มากินฟรีแล้วยังเอาของเขาไปอีก แต่เป็นผม ผมก็เอาครับ ฮ่าๆ

   เวลาผ่านไปนานจนเสียงประตูระเบียงดังขึ้น ทุกคนต่างหันไปมองอย่างสนใจ พี่เบเดินหน้านิ่งออกมาโดยมีไอ้ทูก้มหน้าเดินตาม พวกผมที่นั่งอยู่เห็นชัดครับว่าไอ้ทูมันร้องไห้หน้าตาแดงกล่ำ นี่พี่เบทำเพื่อนผมร้องไห้อีกแล้วเหรอวะ ผมนี่โมโหแทนเพื่อนเลย

   แต่ก่อนที่ผมจะหาเรื่องแทนเพื่อน พี่เบก็คว้ากระเป๋าตัวเองเดินออกจากห้องพร้อมไอ้ทูเดินตามต้อยๆ คืออะไร ตกลงกันได้แล้วเหรอ

   “กูว่าแล้ว ไปจบที่ห้องแน่” ยังครับยัง พี่ตินยังไม่เลิกคิดอีก
 
   “พวกมึงรีบๆ แดกแล้วรีบกลับได้แล้ว กูรำคาญ” พี่โชเริ่มอาละวาดแล้วครับ พี่ตินกับพี่แทมก็บ่นว่ากินไม่อิ่ม ทั้งที่ยัดหมูไปหมดเป็นกิโล ผิดกับพี่ซันที่พี่จอมสะกิดชวนกลับ พี่ซันก็พยักหน้าทันทีแล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากห้องไป

   ปากแข็งจริงๆ แค่นี้ก็รู้ว่าผมคิดถูก อย่ามาดูถูกเซ้นของไอ้กลอยนะครับพี่ซัน

   ส่วนพี่แทมกับพี่ตินจำเป็นต้องออกไปเพราะพี่โชถอดปลั๊กไฟทุกอย่าง แม้จะบ่นแต่ก็ออกไปโดยไม่ลืมหนีบขวดเหล้าออกไปด้วย ท่าจะไปต่อกันแน่ และผมก็ต้องเก็บของ กินก็น้อยยังต้องมาเก็บซากพวกนี้อีก

   ผมยกกระทะไฟฟ้าขึ้นเตรียมจะเอาไปล้างแต่พี่โชก็รีบคว้าไปแทนพร้อมสั่งให้นั่งอยู่เฉยๆ ผมก็ไม่ได้อยากทำตามนะ แต่กลัวพี่โชดุเลยนั่งมองเจ้าของห้องเก็บกวาดคนเดียว ไม่น่าเชื่อว่าคุณชายโชที่ถูกเลี้ยงเอาแต่ใจจะล้างจาน กวาดบ้านเป็น แบบนี้เป็นแม่ศรีเรือนได้เลยนะเนี่ย

   มัวแต่นั่งคิดอะไรเพลินๆ พี่โชก็มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง ผมมองอย่างสงสัยเมื่อมีมือใหญ่ยื่นมาตรงหน้า ผมคิดว่าพี่โชจะพยุงเข้าห้องก็ยื่นมือออกไปจับ แต่เปล่าครับ มันยกผมพาดไหล่แทนแล้วมุ่งเข้าห้องน้ำในห้องนอนทันที

   นี่ผมต้องอาบน้ำกับพี่โชอีกแล้วเหรอวะ ผมยังไม่พร้อมนะเฮ้ย





   “พี่โชเว้ย อย่าถูตรงน้าน”

   “ก็พี่ชอบตรงนี้”

   เชี่ย เอามีดมาแทงผมเถอะ มันเอาสบู่ถูร่องตูดผมอ่ะ ม่ายย ผมยังไม่พร้อม แว้กกก



............. TBC


อัพซะดึกเพราะติดละครค่า แหะๆ

ขอบคุณสำหรับการติดตามและกำลังใจนะคะ พบกันตอนหน้าค่า ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 26-07-2016 00:55:05
โอ้ยรักพี่โซน้องกลอยที่สุด :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 26-07-2016 06:14:14
 :hao7: ลุ้นอยู่นะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-07-2016 06:41:54
พี่โชเก็บเล็กเก็บน้อย :hao6:
ว่าแต่พี่เบก็เกินไปนะฝังใจกับคนรักเก่าแต่ทำไมต้องส่งข้อความไล่ให้ทูไปตายด้วย
แค่บอกไม่ชอบทูก็เสียใจแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 26-07-2016 15:34:42
ไม่ชอบเบเลยแฮะ :(
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 26-07-2016 15:46:50
เล็กๆน้อยๆก็เอานะ พี่โช
ลุ้นให้พี่ซันกดพี่จอมอ่ะ 55555 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-07-2016 18:56:11
 พี่โชตอดเอาทุกจังหวะที่สบโอกาสเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 26-07-2016 21:19:02
โหยเบ  :เฮ้อ: ให้โอกาสน้องทูเถอะนะ
ถ้าน้องมันเลือกหน้าตาตัวเองได้ มันคงไม่เลือกที่จะเหมือนแฟนเก่านายหรอก
หวังว่าที่เรียกออกไปคุย มันคงจะเรียบร้อย
ฮื่ออ สงสารทู การที่เรารักเขาแล้วเขาปฏิเสธ งานน้ำตาก็มาค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 26-07-2016 21:40:58
พี่เบยังไงๆๆๆพาน้องทูไปไหน
พี่ซันอย่าช้าเดี่ยวพี่จอมจะบุกให้ก่อนน่ะ
น้องกลอยร๔ทุกอย่าง ยกเว้นตัวเอง ฮ่าๆๆๆ โดนพี่โชถูซะ อิอิ
เอ๊ะๆๆๆ ยังว่างอีก 4 นิ จับคู่ให้หมดเลยดีมะ คิกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 13+14<< // [25-26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 26-07-2016 23:02:36
ฉันรักพี่โช พี่โชของชั้น :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 26-07-2016 23:16:55

Just you and I : 15




        ตอนนี้หัวเข่าผมเริ่มดีขึ้นแล้วครับ เลยออกมาเรียนได้ตามปกติ แถมยังมีคนขับรถมาส่งอีกด้วย แต่นั่นไม่ได้น่าสนใจเท่ากับคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม ไอ้ทูมันนั่งยัดข้าวผัดจนเกือบจะหมดจาน ที่ผมสนใจก็เพราะอยากรู้ว่า ตอนกลับบ้านกับพี่เบเป็นยังไงบ้าง

   “มึงกับพี่เบตกลงยังไงวะ เล่าให้กูฟังบ้างดิ่ อย่าเงียบ” ผมตบโต๊ะเบาๆ เพื่อให้มันเงยหน้าขึ้นมาสนใจ มันก็เงยแต่แปบเดียวก็ก้มลงไปกินต่อ “ไอ้ทู กูเพื่อนมึงนะ”

   “ก็ไม่มีอะไร” ไอ้ทูตอบเรียบๆ แต่ผมไม่อยากจะเชื่อ มันต้องมีอะไรบ้างละวะ

   “ไอ้ทู” ผมเรียกชื่อมันแบบลากเสียงยาวจนมันรำคาญเอามือยื่นมาปิดปาก

   “พอเลยๆ เรื่องของกูไม่มีอะไรจริงๆ”

   “ไม่มีอะไรก็เล่าสิวะ กูเป็นห่วงนะเว้ย”

   ไอ้ทูมันถอนหายใจเบาๆ แล้วก็เริ่มเขี่ยข้าวในจาน

   “พี่เขาก็แค่บอกยังไม่พร้อมมีใคร” ผมจ้องเพื่อนตัวเองอย่างจับผิดจนมันจ้องกลับ “กูพูดจริงๆ พี่เขายังลืมรักเก่าไม่ได้ บอกให้กูไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า”

   “คนดีสัด แล้วมึงตอบว่าไง”

   “กูก็ไม่ได้ตอบอะไร”

   สรุปนี่คือผมไม่ต้องมานั่งลุ้นไอ้ทูกับพี่เบแล้วเหรอ เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนั้นไปได้

   “แล้วมึงตัดใจจากพี่เขาได้เหรอวะ” ผมถามปุ๊บ ไอ้ทูก็ส่ายหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ “เอาน่ามึง เนื้อคู่มึงอาจยังไม่มาก็ได้ ปล่อยพี่เขาไปที่ชอบๆ เถอะ” ผมตบบ่าเพื่อนเพื่อปลอบใจ แต่ก็แอบเสียดายที่ลุ้นมาหลายวัน นึกว่าจะได้กันแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งซะอีก

   “กูจะพยายาม”

   “ดีมาก เพื่อนกูต้องอย่างนี้สิวะ เดี๋ยวกูช่วยหาเอง มึงชอบแบบไหน ขาวสวยหมวยอึ๋ม หรือมาดแมนแอนด์แฮนซั่มซิกแพกแน่นๆวะ”

   “พอเลยมึง เอาตัวมึงให้รอดก่อนจะมาช่วยกูเป็นพอ”

   ผมถลึงตาใส่ไอ้เพื่อนตัวดีก่อนจะเดินไปสั่งขนมมากิน วันนี้ร้อนจังน้า อยากกินอะไรเย็นๆ ผมเดินไปสั่งน้ำแข็งไส พอสั่งเสร็จก็หันมองนั่นนี่จนไปสะดุดตาใครบางคนที่เหมือนจะจ้องผมอยู่ แต่พอเห็นว่าผมมองก็รีบหลบตาแล้วก้มอ่านหนังสือ คงจะมองเพราะผมเสียงดังเมื่อกี้แน่ผมเลยไม่สนใจ

   พอกินอิ่มมันก็เริ่มง่วง ผมก็เลยแอบงีบหลับในห้องจนเลิกคลาสผมก็ยืดเส้นยืดสายก่อนพวกเพื่อนๆ มันจะเริ่มชวนไปนั่นมานี่ แต่ผมปฏิเสธเพราะอยากกินลูกชิ้นทอด คำนวณเวลาไปซื้อกับเวลาที่พี่โชจะมารับก็คงจะพอดี
 
   ผมส่งข้อความไปบอกว่าเลิกเรียนแล้ว พี่โชก็ตอบตกลงและบอกให้รอ ไอ้ทูแวะขับรถมาส่งผมที่ร้านลูกชิ้นหลังมหาลัยก่อนมันจะขับกลับหอพัก ผมยืนคุยกับเจ้าของร้านที่สนิทสนมจนจะเป็นลูกของป้าแกอยู่แล้ว แต่อยู่ๆ ป้าแกก็แอบเรียกผมเบาๆ จนผมต้องชะโชกหน้าเข้าไปหาเพราะกลัวจะไม่ได้ยินที่ป้าแกพูด

   “เหมือนมีคนตามเลยนะ” ป้าแกกระซิบครับ ผมแทบอยากจะหันไปมองแต่ก็กลัวไก่ตื่นเลยได้แค่แกล้งบิดตัวไปมาแต่ตากำลังมองหาคนที่ป้าบอก

   มันคือคนเดียวกันกับที่จ้องผมที่ใต้ตึก

   เริ่มจะไม่ได้การซะแล้ว ผมรีบรับลูกชิ้นจากป้ามาถือ ก่อนกดส่งข้อความยิกๆ เร่งให้พี่โชมา แต่รถดันมาติดซะอีก ผมเลยจะเดินกลับเข้าไปในมหาลัย แต่กลับถูกรถกระบะคันหนึ่งที่วิ่งมาซะชิดจนต้องหลบ มันตั้งใจจะชนผมหรือเปล่าวะ

   พอจะเดินเข้าไปอีก ไอ้กระบะคันเดิมที่มันจอดอยู่ตรงหน้าก็เริ่มถอยหลังมาที่ผม ขนาดว่าผมเดินบนฟุตบาทมันยังไต่ขึ้นมา มันจะชนผมจริงๆ ด้วย วิ่งสิครับรออะไร แม้หัวเข่าจะยังหายไม่เต็มร้อยแต่เจอแบบนี้มันก็ต้องหายแล้วล่ะ ผมวิ่งตามฟุตบาทเรียบรั้วมหาลัยมาเรื่อยๆ ไอ้รถกระบะนั่นก็ยังขับตามมา คนกับรถมันโคตรจะต่างกันเลย

   วิ่งๆ ไปผมก็เพิ่งนึกอะไรออก ผมรีบเบรกตัวเองให้หยุดแล้วหันหลังกลับทางเดิม พอย้อนกลับมาประมาณห้าเมตร ผมก็รีบวิ่งข้ามถนนเข้าไปในซอยข้างๆ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เหมือนจะโชคดีแต่กลับโชคร้ายเพราะไอ้รถที่มันขับไล่ผมมันเลี้ยวมาตัดหน้าผมอยู่นี่ไง ไอ้กลอยไม่ชอบความรุนแรงทุกประเภทไงไม่เข้าใจเหรอ

   ผมจะเดินถอยหลังกลับชนเข้ากับอะไรนิ่มๆ พอหันหลังไปมอง โอ้ ชนหน้าอกผู้หญิงนี่เอง ผมยิ้มแห้งๆ ให้คนที่มายืนขวาง แต่เธอดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ใบหน้าสวยบึ้งตึงเหมือนกินผึ้งมาเป็นรัง

   “เอ่อ มีอะไรกับผมหรือเปล่าฮะ”

   “แกชื่อกลอยสินะ” เสียงแหลมดังขึ้น ดวงตาที่กรีดอายไลน์เนอร์กราดมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า “หน้าตาก็ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษสักนิด” นี่เธอดูถูกผมอยู่ใช่มั้ย

   “แล้วมีอะไรกับผมครับ” ถามออกไปเหมือนไม่กลัว แต่ขานี้สั่นพับๆ เลยไอ้กลอยเอ้ย

   “แกกล้าดียังไงทำให้โชมาบอกเลิกฉัน ฉันคบกับเขามากี่ปีแกรู้มั้ย ฉันยอมทนให้เขากินผู้หญิงข้างทางเพราะคิดว่าเป็นนิสัยผู้ชาย แต่ที่ไม่เข้าใจคือ...” ผู้หญิงที่บอกเป็นแฟนพี่โชเดินอ้อมมาด้านหลังผม มือขาวๆ นั่นลูบหน้าอกผมจนขนลุกชัน “โชกล้านอนกับผู้ชายอย่างแกได้ยังไง!” ตะโกนข้างหูจนผมตกใจขยับหนีแต่ก็ถูกดึงให้มายืนที่เดิม

   ตอนนี้คนในรถเดินลงมาหมดเลยครับ ผู้ชายสองคน ผู้หญิงอีกสามคน รวมคนที่ด่าผมก็สี่ แต่ผมยังแอบเห็นอีกคนที่ไม่ยอมลงมาจากรถ

   “ผมยังไม่ได้มีอะไรกับพี่โช” ผมโพล่งออกไป แต่ดูสาวสวยตรงหน้าจะไม่เชื่อ มือเรียวยืนมาตบหน้าผมเบาๆ
 
   “แกคิดว่าฉันโง่เหรอ ไม่มีใครหน้าไหนที่จะปฏิเสธโช ชายที่ทั้งหล่อและรวย น้ำหน้าอย่างแกก็คงเอาตัวเข้าแลกสินะ แล้วทำยังไงเขาถึงได้หลงจนกล้ามาบอกเลิกฉัน”
 
   “ผมไม่ได้ทำอะไร” พูดจบแก้มก็ชาเลยครับ ตบมาไม่ยั้ง ครั้งสองกับการถูกตบ ผมหันขวับจ้องหน้าอย่างโมโห
 
   “จ้องหน้าฉันทำไม หรืออยากโดนอีก” หน้าที่ชาถูกบีบคางจนปากห่อ รู้สึกเจ็บร้าวกรามไปหมด แล้วทำไมผมไม่สู้ ก็มือสองข้างผมถูกไอ้ยักษ์จับไว้ “แกใช้ลีลาแบบไหนถึงมัดใจโชของฉันได้ ลองกับลูกน้องฉันให้ดูหน่อยสิ ทำแบบที่ทำให้โชติดใจน่ะ”
 
   เชี่ย ไม่มีอะไรจะเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว ซอยที่ผมวิ่งเข้ามาก็ดูจะไม่ค่อยมีคนสัญจรผ่านซะด้วย แถมไอ้บ้าสองคนนี้ยังแรงเยอะอีก ผมสะบัดทั้งดิ้นทั้งถีบมันไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ไม่ๆ ไอ้กลอยไม่มีทางยอมแน่นอน พอมองไปทางคนที่สั่ง ยัยพวกนั้นรีบยกมือถือของตัวเองเตรียมถ่ายวีดีโอ

   สมองอันน้อยนิดกำลังคิดหาวิธีเอาตัวรอด ผมปล่อยให้เสื้อตัวเองถูกดึงจนกระดุมขาดหมดแถว ไอ้คนที่จับแขนขวาเห็นผมไม่ดิ้นเลยปล่อยแขนและเปลี่ยนมาจูบไล้ตามซอกคอผมแทน ขยะแขยงโคตรๆ

   ผมสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ๆ ก่อนทุ่มแรงยกเข่าใส่กลางเป้ามันเต็มๆ จนคนโดนลงไปนั่งกอง มือมันกุมของสงวนมันแน่น ปากก็โอดโอยร้องลั่น ไอ้คนที่จับแขนอีกข้างก็ดูตกใจจนเผลอคลายแรงจับ ผมใช้แรงที่มีอยู่จับเข็ดขัดมันแล้วยกทุ่มข้ามตัว คงต้องขอบคุณไอ้อัธที่มันชอบไปเล่นเทควันโดทำให้ผมได้ลองไปเล่นยูโดที่ฝึกอีกฝั่ง แม้จะได้แบบงูๆ ปลาๆ แต่มันก็สามารถทุ่มไอ้ยักษ์นี้ลงได้

   พอไอ้ยักษ์สองตัวลงไปอยู่ที่พื้น พวกผู้หญิงก็รีบกรีดร้องแล้ววิ่งตรงเข้ามาหา ผมรีบวิ่งหนีเข้าไปในซอยอีก แต่คนที่ยังนั่งในรถกลับเปิดประตูออกมาขวางพร้อมชะโงกหน้าออกมาดูผมที่ชนเข้าเต็มๆ จนแอบจุก

   “บลู” ผมเรียกชื่อเธออย่างมึนงง บลูที่ตกใจที่ทำให้ผมเห็นก็รีบมุดเข้าไปซ่อนข้างล่างเบาะรถ นี่เธอทำกับผมขนาดนี้เลยเหรอ

   “คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอฮะ” เพราะผมจุกแถมประตูรถยังขวางทำให้พวกผู้หญิงที่วิ่งตามมาเริ่มฟ้อนเล็บใส่หน้า ผมยกแขนเข้าบังจนรู้สึกเจ็บแสบ อาจเพราะโดนเล็บยาวๆ นั่น

   ไอ้กลอยเริ่มโมโหแล้วนะเว้ย

   “เจ็บโว้ย” ผมตะโกนจนพวกที่รุมผงะ ผมเผลอต่อยหน้าเพื่อนคนที่ตบหน้าผมจนเธอล้มลงแล้วร้องกรี๊ดๆ
 
   “มึงทำเพื่อนกู” ความสวยของผู้หญิงก็หมดไปเมื่อกลายร่างเป็นนางมาร ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเพราะความโกรธ

   ผมรีบดึงประตูรถปิดแล้วออกวิ่งทันที ต้องวิ่งเท่านั้น

   “หยุดนะโว้ย” ไอ้ยักษ์สองตัวมันเริ่มกลับมาวิ่งตามผมอีกรอบ ทำให้ผมต้องเร่งซอยเท้ายิกๆ
 
   หัวเข่าจ๋า อย่าเพิ่งเจ็บตอนนี้ได้มั้ย

   ผมที่วิ่งไปเขย่งขาไปบางทีเพราะรู้สึกปวด สายตาเริ่มมองเห็นทางสว่าง สาธุ ขอให้อยู่ทีเถิด ผมรีบเร่งก่อนจะเบรกความเร็วลงหน้าพื้นที่กว้างที่มีพืชผักอยู่เต็มไปหมด

   “ไอ้ต้อม ช่วยกูด้วย!!” ผมตะโกนสุดเสียง ตาก็คอยมองว่าไอ้ยักษ์จะวิ่งมาถึงหรือยัง “ไอ้เชี่ยต้อม!”

   “เรียกกูหาพ่องมึงเหรอไอ้เชี่ยกลอย” เสียงที่ดังแหวกอากาศทำให้ผมเริ่มยิ้มออก โชคดีแล้วไอ้กลอย
 
   ไอ้ต้อมเป็นเพื่อนที่เคยเจอตอนปีหนึ่งครับ ผมกับมันอยู่กลุ่มสีเดียวกันตอนเข้าค่าย แม้มันจะเรียนเกษตรก็เถอะ และที่ผมวิ่งเข้ามาในนี้เพราะผมรู้ดีว่าในซอยลึกแห่งนี้มีแปลงของคณะเกษตรอยู่ ซึ่งผมก็ได้แต่หวังว่าไอ้ต้อมมันจะอยู่ และมันก็อยู่จริงๆ ไอ้กลอยรอดแล้วโว้ย

   ผมรีบเดินข้ามแผ่นไม้เพื่อจะไปที่แปลงเกษตร ไอ้ต้อมเดินหน้าบึ้งออกมาคงเพราะเหนื่อยแถมร้อน แต่พอมันเห็นสภพผมมันก็ทำตาโตแล้วพุ่งพรวดมาจับตัวผมหมุนไปมาทันที

   “มึงไปโดนอะไรมาวะ ทำไมสภาพเป็นแบบนี้”

   “กุโดนรุม มึงช่วยกูช่วย”

   ผมรีบหลบหลังไอ้ต้อมทันทีที่ไอ้ยักษ์กับนางมารวิ่งตามมาถึง ไอ้ต้อมจ้องหน้าคนที่ทำร้ายผมนิ่งๆ
 
   “พวกนี้เหรอวะ”

   “เออ มึงช่วยกูช่วย”

   “มันทำอะไรมึงบ้าง”

   “ตบ แล้วก็จะข่มขืนกู”

   “เลว”

   ไอ้ต้อมกราดด่าไอ้พวกคนชั่ว หน้าตามันตอนนี้เลยจุดเยือกแข็งไปแล้ว ผมรีบซุกหน้ากับหลังที่เต็มไปด้วยเหงื่อเพราะความกลัว ส่วนไอ้พวกที่จะทำร้ายผมพอเห็นไอ้ต้อมมันก็หัวเราะเยาะ

   “มึงอย่ายุ่งดีกว่าไอ้หนู ส่งไอ้เด็กนั่นมาซะดีๆ มึงจะได้ไม่เดือดร้อน” ไอ้ยักษ์ที่โดนผมเตะเป้าพูดเสียงเหี้ยม

   “เร็วๆ ก่อนที่พวกกูจะโมโห” ไอ้โดนทุ่มเสริมเพื่อนมัน

   ไอ้ต้อมมันยังยืนนิ่งจนผมแอบกลัวว่าจะทำให้มันเดือดร้อนไปด้วย

   “หนีเหอะมึง” ผมพูดอู้อี้อยู่ข้างๆ แต่ไอ้ต้อมไม่มองมา

   “จะหนีทำไม แบบนี้สนุกออก” ไอ้ต้อมมันแสยะยิ้มจนพวกที่รอจะทำร้ายผมโมโหจะตามข้ามมา ผมรีบดึงเสื้อไอ้ต้อมเพื่อจะหนี แต่มันกลับตะโกนเรียกคนของมันแทน

   “ไอ้พวกเพื่อนกูทั้งหลาย แมลงบุกโว้ย!!”

   ผมไม่เข้าใจที่ไอ้ต้อมมันตะโกน แต่ไอ้คนที่จะข้ามมากลับชะงักขาซะงั้น แถมพวกมันยังมองไปด้านหลังผมอีก

   “แมลงหวี่เหรอวะ แบบนี้ก็ต้องตบให้ตายหรือเปล่าวะ” เสียงที่ดังมาจากข้างหลังทำให้ผมหันไปมอง

   คนนับสิบออกมาจากไหนไม่รู้ มือแต่ละคนยังถือพวกจอบและเสียมอีก อาวุธครบมือไหมล่ะ

   พอเห็นฝ่ายผมมีคนมากกว่าแถมมีอาวุธ พวกคนชั่วก็ได้แค่ชี้หน้าฝากไว้ก่อน แล้วพวกมันก็รีบเดินหนีไปจนลับตา ผมทรุดลงไปนั่งกับพื้นดินทันที

   “รอดแล้ว ฮึก รอดแล้ว” น้ำตาผมไหลมาจากไหนไม่รู้จนเพื่อนไอ้ต้อมตกใจ

   “อ่าวเชี่ยต้อม มึงทำมันร้องไห้หรือเปล่าวะ”

   “ไอ้สัด กูยืนเฉยๆ พวกมึงก็เห็น”

   “เออๆ ปลอบใจกันตามสบาย แปลงกูงานยังเหลืออีกเยอะ”

   พอเพื่อนมันสลายตัวไป มันก็รีบคว้าผมเข้าไปกอดปลอบ ผมก็ร้องไห้เช็ดขี้มูกกับอกไอ้ต้อม แม้มันจะทำหน้าขยะแขยงแต่ผมก็ปาดขี้มูกไปแล้วมันเลยได้แต่ถอนหายใจ

   “ทำไมพวกนั้นถึงทำแบบนี้กับมึงวะ”

   “กู ฮึก กูไม่รู้”

   “โอ๋ๆ ไอ้กลอยใจ มึงหยุดร้องไห้ได้แล้ว หน้าตาแม่งโคตรตลก”

   “ไอ้เชี่ย”

   ผมต่อยอกมันเบาๆ มันก็เอาแต่หัวเราะ ก่อนเสียงริงโทนมือถือผมจะดัง หน้าจอโชว์ชื่อของต้นเหตุที่ทำให้ผมโดนแบบนี้ แม่งไม่อยากรับเลย

   “ไม่รับละวะ” ไอ้ต้อมมันมองอย่างสงสัย

   ผมมองหน้าไอ้ต้อมนิดๆ ก่อนกดรับ

   “ฮัลโหล”

   “ทำไมเสียงเหมือนร้องไห้ เป็นอะไร แล้วอยู่ที่ไหน พี่รออยู่หน้าคณะเนี่ย” น้ำเสียงมันร้อนรนจนผมสะอื้นออกมาอีกรอบ “เป็นอะไรวะ ร้องไห้ทำไม อยู่ที่ไหนเดี๋ยวพี่ไปหา” ผมได้ยินเสียงปิดประตูรถโครมใหญ่

   “อยู่ในซอยแปลงผักคณะเกษตรหลังม.อ่ะ” แล้วผมก็บอกเส้นทางอย่างละเอียด ไม่นานรถหรูก็จอดเทียบหน้าแปลกผัก
 
   พี่โชรีบออกมาจากรถแล้วพุ่งเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้เตี้ยๆ ที่ไอ้ต้อมมันเอามาให้นั่งรอ ส่วนมันไปลงแปลงของตัวเองต่อ พอพี่โชเห็นสภาพของผมก็กัดกรามจนนูนข่มอารมณ์โกรธ

   “ใครทำ” เสียงนิ่งแถมยังมีรังสีไอเย็นอยู่รอบๆ ตัว มือก็จับหน้าผมหันซ้ายขวาเบาๆ ดูรอยแดง

   ผมเป็นคนดีหรือเปล่า...

   “แฟนเก่าพี่” ผมตอบ พอดีไอ้กลอยเป็นคนสีเทาๆ เลยต้องบอกความจริง

   “จำหน้าได้มั้ย”

   “อืม” ผมพยักหน้ารัวๆ แล้วพี่โชก็เอามือถือตัวเองออกมา เลื่อนไปที่ไอคอนของเฟสบุ๊ค ไม่นานหน้าจอโทรศัพท์แสนแพงก็มีรายชื่อเพื่อนๆ อยู่เต็มไปหมด เพื่อนเป็นพันๆ จะเห็นได้ยังไงวะ

   “คนนี้?” พี่โชเลื่อนภาพผู้หญิงน่ารักๆ สไตล์แบ๊วๆ มาให้ดู ผมก็ส่ายหน้า นี่ก็แฟนเก่าเหรอวะ “คนนี้?” มาอีกคนแล้วครับ แต่มาเป็นแบบเรียบร้อยแต่หน้าสวย ผมก็ยังส่ายหน้า แล้วดูเหมือนพี่โชจะนึกอะไรออก นิ้วยาวกดหน้าจอรัวๆ ก่อนจะยื่นมาให้ผมดู “คนนี้ใช่มั้ย”

   “ใช่เลย คนนี้” ผมจิ้มย้ำๆ ไปที่หน้าจอเมื่อมีรูปคนที่ตบหน้าผม จ๊ะจ๋า เหอะ ชื่อก็ดี หน้าตาก็สวยแต่นิสัยแย่มาก

   “มันทำอะไรบ้าง” หน้าพี่โชที่กำลังสำรวจร่างกายผมด้วยสายตานิ่งจนหน้ากลัว สายตาเหมือนจะฆ่าคนได้

   “ผู้หญิงคนนี้ตบหน้าผม” ผมชี้หน้าตัวเองที่น่าจะยังหลงเหลือรอยแดงๆ “เอาเล็บข่วนแขน” ชูแขนให้ดูสองข้างที่มีรอยข่วนจนเลือดซิบ “แถมจะให้ไอ้พวกยักษ์ที่พามาข่มขืนผมด้วย” บอกให้หมดแม็ก

   แกร๊บ เสียงดังแปลกๆ ดังจากมือพี่โช ทำให้ผมหลุบตามองก่อนจะเบิกตาโต มือถือเครื่องแสนแพงถูกบีบจนหัก ราวกับมันเป็นแค่ใบไม้ที่บีบได้ง่ายๆ นี่ผมทำถูกแล้วใช่มั้ยที่บอกทุกอย่างไป แต่สิ่งที่ผมโดนกระทำมันเกินกว่าจะให้อภัยได้
 
   “อ่อ มีบลูด้วยผมเห็น” พอได้ยินชื่ออีกคน พี่โชก็คิ้วกระตุก

   “พี่ยืมมือถือหน่อย” ผมวางมือถือของตัวเองบนมือพี่โช ส่วนเครื่องของพี่โชได้ลงไปนอนกองกับพื้นเรียบร้อย หมดสภาพเลย ซ่อมไม่ได้ด้วยเพราะมันหักครึ่งแนวยาว

   ผมมองพี่โชที่กดเบอร์ของใครสักคน รอครู่หนึ่งปลายสายก็รับ

   “ไอ้ซัน จัดการเด็กของมึงด้วย”

   (อะไรวะ เกิดอะไรขึ้น)

   “เด็กมึงพาคนมาทำร้ายคนของกู”

   (ทำกลอย? เกิดเรื่องอะไรวะ)

   “ไว้กูจะเล่าให้ฟัง แค่นี้นะ”

   พี่โชคืนมือถือให้ผมแล้วประคองให้ผมยืนขึ้น ไอ้ต้อมที่โผล่หน้ามาพอดีถึงกับมองผมสลับกับพี่โช สงสัยมันจะกลัวว่าพี่โชจะทำร้ายผม

   “มีอะไรหรือเปล่าวะ” ไอ้ต้อมมันเดินมาพร้อมจอบ พี่โชก็จ้องหน้ามันกลับไม่กลัวของในมือมันสักนิด

   “เปล่า นี่พี่โช แล้วนี่...” ผมกำลังจะแนะนำเพื่อนแต่พี่โชกลับถามกลับเสียงนิ่ง

   “มึงเป็นใคร”

   “พี่โช” ผมกระตุกแขนคนที่พยุงผม “นี่ต้อมเพื่อนผมเอง มันช่วยผมไว้” พอได้ยิน ทั้งสายตาและน้ำเสียงพี่โชก็อ่อนลงแต่ก็ยังดูน่ากลัวอยู่ดี

   พอไอ้ต้อมมันรู้ว่าพี่โชเป็นคนที่จะมารับมันก็ยอมกลับไปทำงานของมันต่อ ผมไม่ลืมขอบคุณและจะเลี้ยงตอบแทนมันในวันหลัง (ซึ่งพี่โชจะเป็นเจ้ามือ)

   แอร์รถว่าเย็นแล้ว ยังสู้พี่โชไม่ได้ ตอนนี้พี่โชดูนิ่งจนผมกลัว ผมกลัวว่าพี่เขาจะทำอะไรรุนแรงจนตัวเองต้องเดือดร้อน
 
   “พี่โชจะทำอะไรพวกเขาเหรอ” ผมถามขึ้นมาเพื่อไม่ให้รถดูเงียบเกินไป พี่โชไม่หันหน้ามามองผม แต่ก็ตอบออกมานิ่งๆ

   “ไม่ถึงตายหรอก”

   เชี่ย คำตอบแบบนี้มันยิ่งกว่าตายอีก

   “แล้วพี่จะให้พี่ซันทำอะไรบลูอ่ะ”

   “นั่นมันเป็นเรื่องของไอ้ซัน”

   “แต่ผมไม่อยากให้ทำร้ายถึงขั้นเจ็บตัวนะ”

   “มันทำถึงขนาดนี้ยังจะห่วงอีกเหรอ” ผมสะดุ้งเฮือกหลังจากพี่โชตวาด

   “ผมไม่ได้ห่วงบลู ผมห่วงพี่กับพี่ซันต่างหาก” ความจริงครับ “ถ้าทำรุนแรง พวกพี่จะเดือดร้อนนะ จะเรียนจบแล้วด้วย”
 
   “แต่พี่ยอมไม่ได้ที่มันมาทำแบบนี้กับคนที่พี่รัก” เขินจนไปไม่เป็นเลยไอ้กลอย

   เสียงโทรศัพท์ดังขัด ผมเหล่มองพี่โชนิดๆ พี่เขาหยิบมือถือเครื่องใหม่ขึ้นมารับ มือถือสำรองเครื่องนี้มีติดรถไว้เผื่อจำเป็นครับ พี่โชบอกแบบนี้ และมันก็ได้ใช้จริงๆ พี่โชที่รับแต่ไม่ยอมพูดอะไร บางครั้งสายตาดุก็หันมามองผมสลับกับมองถนน จนวางไปผมก็ยังไม่ได้ยินพี่โชพูดอะไรจนสงสัย

   “ใครโทรมาเหรอพี่”
 
   “ไอ้ติน”

   “พี่ตินโทรมาทำไม”

   “มันเก็บไอ้คนที่จะข่มขืนกลอยได้แล้ว”

   “จริงดิ่”

   ตกใจกับคำบอกเล่ามาก พี่ตินเนี่ยนะ ดูพี่เขาไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย ดูเป็นคนเฮฮาไม่น่าเชื่อว่าจะฆ่าคนได้

   “พี่เขาฆ่าคนเหรอ”

   พี่โชหันขวับมามองผมอย่างแปลกใจก่อนยิ้มออกมา

   “มันไม่โหดขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าเป็นพี่ก็ไม่แน่” พูดซะเอาผมกลัว

   “พี่จะทำอะไรก็ได้ แต่ห้ามทำตัวเองกับเพื่อนเดือดร้อน ไม่งั้นผมจะ...” จะอะไรดีวะ

   “จะอะไรครับ” พูดซะเพราะเชียว

   “จะงอนไปสามวัน”

   พอได้ยินคำตอบ พี่โชก็หัวเราะออกมาทำลายบรรยากาศตึงเครียดไปจนหมด ที่จริงผมก็ยังเครียดอยู่นะ กลัวว่าจะถูกแก้แค้น แต่ก็ต้องดูว่า ที่พี่โชบอกให้เพื่อนจัดการ คืออะไร

   “แต่ตอนมันจะข่มขืนผม ผมโคตรกลัว” หลังพูดจบผมก็อยากตบปากตัวเองที่พลั้งปากออกมา

   “มันทำอะไรไปบ้าง”

   “มะ มันดึงเสื้อขาดนี่ไง” ผมเปิดเสื้อแขนสาวลายสก๊อตของไอ้ต้อมที่ให้ยืมให้พี่โชดู กระดุมทุกเม็ดขาดลุ่ยจนสาบเสื้อเปิดออกโชว์พุงหลาม พี่โชเห็นปุ๊บ คิ้วเข้มก็ขมวดจนแทบจะชนกัน
   
   “แล้วมันทำอะไรอีก”

   “มะ มันจูบคอ เฮ้ย” ตะโกนลั่นรถสิครับ ก็อยู่ดีๆ พี่โชเบรกรถจนคันข้างหลังเบรกตาม เกือบโดนชนตูดด้วย พี่โชหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาแล้วกดโทรออก ก่อนผมจะรีบตะครุบมือถือแล้วรีบกดวาง พี่กำลังสร้างเรื่องเดือดร้อนนะเว้ย



   “ไอ้เชี่ยติน ฆ่าพวกมันสองคนซะ”


.........TBC


ตอนนี้อาจจะมึนๆ อึนๆ หน่อยนะคะ แต่แต่งไปนี่อยากตบนังนีพวกนี้มาก ฮ่าๆๆๆ

พบกันตอนต่อไปค่าา ^^~
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 26-07-2016 23:31:53
เกือบไปแล้วกลอย  แต่อิพี่นี่โหดอะไรเบอร์นั้น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 26-07-2016 23:47:12
พี่โซเกิดมาเพื่อกลอยของแท้เลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 26-07-2016 23:47:32
พี่โชแกหวงของแก ไปทำแบบนั้นคงไม่ตายดีแน่ งานนี้
ส่วนนังบลูนี่ ขอพี่ซันจัดหนักๆเลยนะคะ อย่าให้นางได้ผุดได้เกิดอีกเลย :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-07-2016 23:49:55
ต้องเอาคืนให้หนักเลยนะ  :fire:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-07-2016 00:24:37
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 27-07-2016 00:25:21
หมั่นไส้นัก บังอาจมาทำน้องกลอย  :m31:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 27-07-2016 00:26:37
เกลียดดดดดดด!!!!
บังอาจมาทำกับน้องกลอยได้ยังไง
เอาเลยพี่โชเก็บมันให้หมด อยากจะมุดจอเข้าไปช่วยตบ :beat:
โดยเฉพาะอิบลู แหมมมมม ได้ข่าวว่าสวมเขาน้องกลอยก่อน
ยังหน้าด้านมาทำแบบนี้อีก
ตบมันนนนน /อินจัด  :angry2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Unlimited017 ที่ 27-07-2016 00:30:57
รออ่านตอนต่อไปนะครับบ.  :z3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 27-07-2016 01:20:30
 :hao5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 27-07-2016 02:25:57
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 27-07-2016 06:21:29
รออ่านอยู่ ลุ้นดี 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 27-07-2016 06:21:58
จิตใจหยาบช้ามาก
ถัากลอยวิ่งไม่ไหว
หรือไม่เจอต้อมจะเป็นยังไง

TT  TT
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Red_sister ที่ 27-07-2016 10:45:14
หึงโหดสุดดด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 27-07-2016 11:30:46
ไปสู่สุขติซะ! นางพวกชะนีเลว :angry2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 27-07-2016 14:53:08
พี่โช...โหดมากกกก แต่ก็ร๊ากกก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: thari ที่ 27-07-2016 15:30:19
ชอบที่น้องบอกพี่โชไม่กั๊กนี่แหละ  เรื่องมันเกินกว่าจะยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไร  ยัยบลูกับจ๊ะจ๋านี่จัดการให้ไม่กล้าหืออีกเลยนะ เชือดให้คนอื่นๆ ที่คิดจะแกล้งกลอยให้ดูเลยด้วยว่าถ้ายุ่งกะกลอยแล้วจะเป็นยังไง  ส่วนยักษ์สองคนนั่น ถ้าไม่ตายก็ 'ตัด' ทิ้งซะนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-07-2016 16:30:50
โอย......พี่โช สุดยอด รักโคตร หึงโหด
"พี่จะทำอะไรก็ได้ แต่ห้ามทำตัวเองกับเพื่อนเดือดร้อน ไม่งั้นผมจะ...” จะอะไรดีวะ
“จะอะไรครับ” พูดซะเพราะเชียว
“จะงอนไปสามวัน" ขำ กร๊ากกก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พอรู้ว่ากลอยโดน กระชากเสื้อ จูบซอกคอ
จากที่แค่ซ้อมก็พอ เป็น ฆ่ามันสองตัว  กร๊ากกกก เลย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
สนุกมากกกก ชอบบบบบ  รอ :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 15<< // [26/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 27-07-2016 17:52:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 27-07-2016 22:08:31
Just you and I : 16



        “พวกมึงจะตามกูไปถึงทางช้างเผือกเลยหรือไงวะ” ความรำคาญทำให้ผมต้องบ่นไอ้เพื่อนสองตัวที่ไม่ว่าผมจะขยับไปทางไหนมันก็จะเดินตาม ขนาดเข้าห้องน้ำมันยังตามเข้าไป

   “ตาม/เอ่อ” สองเสียงตอบรับทำให้ผมต้องถอนหายใจให้กับความบ้าของเพื่อนตัวเอง

   ไอ้ทูกับไอ้ม่านถูกพี่โชเรียกให้มาเฝ้าผมครับ พอขับรถมาถึงห้องของผมปุ๊บ พี่แกก็สั่งให้ผมอยู่เฉยๆ จนเพื่อนผมมา พี่โชก็ออกไปทันที พอผมถามก็ไม่ยอมตอบอะไร

   “พวกมึงว่าพี่โชจะไปไหนวะ” ผมเบื่อที่ถูกตามก็เลยนอนแผ่กับเตียงมันซะเลย สงสัยผมต้องเอาผ้าปูเตียงไปซักซะหน่อยแล้ว

   “ไม่น่าถามเลยนะมึง “ ไอ้เชี่ยม่านตอบแบบกวนๆ

   “ถ้ากูรู้จะถามมึงมั้ยไอ้เชี่ยม่าน แล้วมึงแดกแอปเปิ้ลกูจะหมดตู้แล้วสัด” มันเดินไปเปิดตู้เย็นอันเล็กๆ ของผมแล้วหยิบเอาแอปเปิ้ลที่พี่โชแวะซื้อให้ผมก่อนกลับมาที่หอมากัดกิน

   “หวงของกินกับเพื่อนเหรอมึง อย่างกๆ” ไอ้ทูมันเถียงแทนเพราะมันก็เพิ่งกินหมดไป

   “มีผัวรวยซะอย่าง มึงจะซื้อกินตอนไหนก็ได้” แล้วพวกเหี้ยสองตัวมันก็หัวเราะ ฮึ๋ย ถ้าพี่โชกลับมาต้องฟ้องว่าไอ้พวกนี้มันแกล้งผม

   “เอ่อ แล้วไอ้อัธล่ะ มันไม่มาพร้อมมึงเหรอ”

   “พูดถึงมันแล้วก็โมโห กูบอกให้รอๆ จะไปด้วย แต่แม่งหนีไปก่อนเฉย”

   “แล้วมันไปไหนล่ะ”

   “ไปดูคนถูกซ้อมไงสัด อยากเห็นภาพสดๆ บ้าง”

   อ่า นั่นสินะ ไอ้อัธมันเป็นพวกบ้าเลือดซะด้วย อย่างที่ผมเคยบอกเรื่องของไอ้ทูที่ทำให้มันถูกพักการเรียน หวังว่ามันจะไม่ลงมือลงไม้ไปกับเขาด้วย

   “ไม่เห็นก็ดีนะ กูกลัว” ไอ้ทูส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับความคิดของไอ้ม่าน แต่ผมก็อยากเห็นนะ อยากเห็นสภาพไอ้พวกที่มาทำร้ายผมว่าสภาพมันจะหนักขนาดไหน

   “กูมีวิธีเว้ย” ผมยิ้มพรายออกมาจนเพื่อนสองตัวมันมองหน้ากัน “มึงไลน์ไปบอกไอ้อัธ แล้วค่อยเฟสไทม์ไปหา จะได้ดูภาพสดๆ จากที่นั้น”

   “เออจริงด้วยว่ะ แหม เรื่องเลวๆ นี่ฉลาดจริงนะมึงไอ้เชี่ยกลอย”

   “ขอบคุณที่ชมกู”

   “กูด่าไอ้สัด”

   ไอ้ม่านมันกดข้อความยิกๆ แล้งส่งไปหาไอ้อัธที่อยู่ในเหตุการณ์ รอไม่นานก็มีข้อความกลับมาพร้อมกับเปิดกล้องเฟสไทม์ของไอ้อัธ ภาพที่มันกำลังให้ดูคือสภาพของไอ้สองตัวที่มันจะข่มขืนผม แขนสองข้างถูกจับมัดห้อยกับราวเหล็ก เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด ใบหน้านูนบวม หางคิ้วและปากมีเลือดไหลออกมาอย่างน่ากลัว นี่พี่ตินโหดขนาดนี้เลยเหรอวะ!

   “เชี่ย น่ากลัวสัด” ไอ้ทูแม้จะไม่ชอบความรุนแรงแต่มันก็จ้องหน้าจออย่างสนใจ แต่ผมกลับไม่ค่อยกล้ามอง คือมันน่ากลัวแถมยังหวั่นว่าพวกพี่โชจะเดือดร้อนถ้าหากเรื่องนี้ถึงตำรวจ

   ผมมองเป็นพักๆ เมื่อภาพค่อยๆ ถูกซูมเข้าไป ไอ้อัธมันคงเดินเข้าไปใกล้จนได้ยินเสียงคนพูด เสียงคุ้นๆ เหมือนได้ยินอยู่ทุกวัน

   “ถ้ากูฆ่ามึงได้ กูฆ่ามึงไปแล้ว” ตอนนี้มาทั้งภาพและเสียง พี่โชขยุ้มกลุ่มผมไอ้คนที่ไซร้ซอกคอผมให้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าไอ้ชั่วมันน่ากลัวกว่าเพื่อนมันอีก ดูเหมือนฟันจะร่วงไปหลายซี่ “แต่เพราะคนรักของกูขอร้องว่าอย่าทำรุนแรงกับมึง ไม่งั้นมึงจมอยู่ใต้ตีนกูแล้ว” มือที่ขยุ้มกลุ่มผมนั่นผลักจนเจ้าของผมหงายหลัง เสียงพูดดูเย็นชาจนน่ากลัว นี่ขนาดเห็นแค่แผ่นหลังของพี่โชนะ
 
   ว่าแต่ นี่พี่ทำแบบเบาะๆ แล้วเหรอ ดูจากสภาพ นี่ยังไม่รุนแรงอีกเหรอวะ

   “ผัวมึงโหดมาก ระวังตัวไว้มึง มีชู้เมื่อไหร่มึงตายแน่ไอ้กลอย” ไอ้เชี่ยม่านหันหน้ามาบอกผม

   “ผัวพ่องมึงสิ” ด่ามันก่อนจะสนใจภาพสดๆ ต่อ ดูเหมือนในนั้นจะมีแค่ไอ้ร่างยักษ์ แต่ผู้หญิงไม่มีสักคน หรือว่าจะปล่อยไปแล้ว “แล้วแฟนเก่าพี่โชล่ะวะ” ผมถามก่อนไอ้อัธจะก็บอกว่าไม่ได้อยู่ที่นี่

   “แหม หวงผัวละสิ กลัวผัวจะใจอ่อนกับแฟนเก่า”

   ผมส่งสายตาฆ่าไอ้เชี่ยม่านเรียบร้อยครับ

   ไอ้อัธมันเลื่อนหน้าจอให้ดูผู้ร่วมเหตุการณ์ เท่าที่เห็นก็มีไม่กี่คน แต่ที่น่าตกใจคือพี่จอมมันกำลังถือไม้หน้าสามที่เปื้อนเลือดเคาะกับพื้นปูนอยู่ ใบหน้ามันโคตรโหดเหี้ยมจนลืมภาพเพี้ยนๆ ที่เคยเห็น ส่วนพี่ตินกับพี่เบกำลังตบหัวกันเล่น คือพวกพี่อยู่ที่เดียวกันหรือเปล่าวะ สองคน (รวมพี่โช)โหดเหี้ยม อีกสองคนบ้าบอ แล้วพี่ซันกับพี่แทมหายไปไหน

   ก่อนภาพจะซูมหน้าพี่โชจนผมตกใจ ไอ้ม่านกับไอ้ทูก็ยังตกใจตาม ซูมชัดซะจนเห็นรูขุมขน ไอ้เหี้ยอัธมึงทำพวกกูตกใจ ส่วนพี่โชหันมามองกล้องนิ่งๆ ดวงตาดุที่จ้องมาเหมือนกับจะฆ่าพวกผมที่นั่งจ้องอยู่ แต่พอไอ้อัธพูดว่ามีผมอยู่ด้วย มันก็หลับตาลงก่อนลืมตามาอีกที ดวงตาดุนั่นก็เปลี่ยนไป แถมส่งมายิ้มมาให้ด้วย

   (ไอ้เชี่ยโชอย่าเพิ่งสนใจเมีย สนใจไอ้พวกนี้ก่อน) เสียงพี่จอมมันตะโกนแหวกมาจนพี่โชหันไปด่าว่าเผือก (ร้อนๆ)

   (ทิ้งพวกมันไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวกูไอ้ให้เอมาเคลียร์) เสียงพี่เบที่เดินมาสมบทกับเพื่อนตัวเอง หลังจากไปยืนเล่นนางเงือกน้อยกับพี่ตินอยู่หน้าไอ้คนโดนซ้อม

   (กูเห็นด้วยว่ะ แล้วไอ้เชี่ยแทมมันทำอะไรอยู่วะ) เสียงพี่ตินแต่ไอ้อัธไม่ยอมแพนกล้องไปหา เลยกลายเป็นว่าพี่ตินเดินตามกล้องแทน

   พวกพี่จะเอาฮาหรือเอาโหดวะ ตามไม่ทัน

   (คงจัดการเมียเก่าไอ้โชอยู่ เฮ้ย ไอ้พวกที่ดูอยู่ กูหิว ทำกับข้าวไว้รอกูด้วย) มันใช่เวลาหิวมั้ยวะไอ้พี่จอม
 
   พี่โชที่กล้องจับอยู่ยืนนิ่งๆ ไม่พูดไม่จาจนโดนพี่ตินตบป๊าบเข้าหัวก่อนจะโดนตบคืนเต็มแรงจนร้องเสียงหลง เล่นไม่ดูคนเล้ย วอนหาเรื่องเจ็บตัวแท้ๆ

   พอจัดการกับเพื่อนตัวเองเสร็จ พี่โชก็ยื่นมือมาแล้วก็เอามือถือไปถือเอง ผมก็ยังงงๆ พี่โชจะทำอะไร เพราะเล่นเดินมาไกลเพื่อนที่พากันโห่แซว

   (หิวข้าวมั้ย อยากกินอะไรก็คิดไว้ เดี๋ยวเราค่อยแวะซื้อแล้วเอาไปกินที่ห้องพี่ด้วยกัน) เสียงทุ้มน่าฟังกับรอยยิ้มติดมุมปากทำเอาผมเขิน

   “พี่โชขอแปบนะ อ้วกกกกก” ไอ้เชี่ยม่านโก่งคออ้วกจนผมเอาตีนถีบมันปลิว

   (หึๆ)

   ภาพดับไปแล้ว ผมยื่นมือถือคืนไอ้ม่านที่ยังแกล้งถูก้นตัวเองในจุดที่ผมถีบ

   “อย่ามาสำออยไอ้สัด”

   “มีผัวหลงมันก็อย่างนี้แหละเนาะ เพื่อนมันไม่สำคัญแล้ว”

   “กูเห็นด้วยเพื่อนม่าน”

   “พวกเราคงต้องหาบ้างแล้วล่ะ”

   “มึงจะหาผัวเหรอไอ้ม่าน” โดนครับ ไอ้ทูโดนไอ้ม่านถีบจนหงายหลัง “ไอ้เชี่ย ถีบกูหาพ่องมึงเหรอ”

   “ก็มึงพูดไม่ใช้สมอง กูต้องหาเมียสิวะ มึงนั่นแหละ รีบๆ หาผัว”

   “...” พอพูดถึงผัว ไอ้ทูก็เงียบไม่เถียง สงสัยจะยังเฮิร์ตอยู่

   “เอางี้ดิ่วะ” ผมรีบเสนอทันทีเมื่อไอ้ม่านรู้สึกผิดที่ทำให้เพื่อนหงอย “มึงทุบหัวพี่เบแล้วลากเข้าห้อง ชายได้ยอดชายคือสไปเดอร์แมนนะมึง”

   “ไอ้ควายกลอย มึงไปเอามาจากไป สมองไปหมดแล้วเพื่อนกู” ไอ้ทูมันขำไปด่าผมไป “กูไม่เป็นไร ส่วนเรื่องพี่เบก็ปล่อยให้มันจบๆ ดีแล้ว กูจะหาใหม่ให้มันแซ่บกว่าเป็นร้อยเท่า”

   “กูเชียร์มึง” ไอ้ม่านตบบ่าเพื่อนตัวเองอย่างเชื่อมั่น

   “เออ เอาให้แซ่บ พริกซักพันเม็ดเลยเป็นไง”

   “ดีล จัดไป”

   ความเครียดอยู่กับเรานานไปก็ทำให้เราแก่เปล่าๆ สู้มาทำตัวให้สดใสซาบซ่าให้หน้าเด็กลงทุกวันดีกว่า






   ผมนั่งรออยู่นานกว่าพี่โชจะมารับ พวกไอ้ทูกับไอ้ม่านก็ทำตาละห้อยเมื่อพูดถึงข้าว

   “พี่โช พาไอ้พวกนี้ไปกินข้าวด้วยดิ่” ดูพี่โชจะไม่ชอบกับความคิดของผมครับ “นะๆ”

   “แต่พี่อยากกินกับกลอยสองคน” พูดออกมาเสียงดังเลยจนไอ้สองคนที่ยืนอยู่ด้วยทำหน้าเอ๋อ

   “มึงไปกินกับพี่โชเถอะ เดี๋ยวพวกกูไปหาอะไรกินเอง” ไอ้ทูออกตัวพร้อมกับสะกิดไอ้ม่าน

   “เอ่อใช่ ไม่ต้องห่วงกูหรอก”

   ผมจ้องหน้าพี่โชเพราะอยากให้เพื่อนไปกินข้าวด้วย แต่มันก็ยังนิ่งจนมือขาวๆ นั่นล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์หยิบกระเป๋าเงินออกมา

   “ทำอะไรอ่ะ” สงสัยครับ เห็นพี่มันหยิบเอาแบงค์สีเทาออกมาสามใบพร้อมกับยื่นให้กับเพื่อนของผม พวกมันเห็นก็มองหน้ากัน

   “เอาไปกินกับพวกไอ้จอม มันอยู่ที่ร้านหมูกระทะแถวนี้แหละ ลองโทรหาดู ไอ้อัธก็อยู่ที่นั่น” พี่โชบอก ไอ้ม่านรีบคว้าเงินทันที ไอ้เชี่ยนี่เห็นเงินเป็นไม่ได้ พอได้เงินก็รีบออกจากห้องทันที

   แล้วเมื่อกี้หมาตัวไหนมันบอกให้ผมตื้อพี่โชพาไปกินข้าววะ

   พอเหลือแค่สองคน พี่โชก็รวบผมเข้าไปกอด คางแหลมที่วางบนไหล่ของผมจงใจถูไปมาจนจั๊กกะจี๋

   “พี่เล่นอะไรเนี่ย” พยายามจะขยับตัวออกแต่มือที่โอบมันเหนียวจนขยับไม่ได้

   “ไม่ได้เล่น” พูดชิดหูจนขนลุก

   “ไม่ได้เล่นก็ปล่อยเลย แล้วเราก็ไปกินหมูกระทะกับพวกพี่จอมกัน”

   “พี่ไม่อยากกินหมูกระทะ”

   “งั้นไปกินชาบู”

   “ไม่อร่อย”

   “ซูชิ”

   “ไม่อิ่ม”

   “ส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่างมั้ย เอาแซ่บๆ”

   “กินข้าวเหนียวเดี๋ยวง่วง”

   โว๊ะ เรื่องมาก

   “แล้วพี่อยากกินอะไร”

   พี่โชเงียบไปก่อนจะกระซิบเบาๆ

   “เดี๋ยวบอกที่ห้อง กลับห้องพี่กัน”

   พี่โชจูงมือผมออกจากห้องลงไปที่รถที่จอดอยู่ข้างล่าง ผมจ้องมือของเราที่ประสานกันอยู่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ แม้ผมเคยจะจับมือกับบลูแต่มันไม่อุ่นเท่ามือที่กำลังจับอยู่ในตอนนี้ คงไม่ผิดใช่มั้ย ที่ผมจะเลือกจับมือนี้แน่นขึ้นไปอีก

   รถสปอร์ตคาร์ค่อยๆ ขับไปอย่างไม่รีบร้อน คนขับขับไปยิ้มไป มือก็ยังคงจับมือผมไม่ยอมปล่อย จนข้อความไลน์ผมดัง มือที่ว่างอีกข้างหยิบขึ้นมาเปิดดู เป็นวีดีโอครับ ไอ้ม่านส่งมา พอกดเพล์ดูตาผมก็เบิกกว้าง คนในวีดีโอคือคนที่ตบหน้าผม

   รุ่นพี่ชื่อจ๊ะจ๋ากับเพื่อนกำลังถูกหมู่ชายวัยฉกรรจ์รุมล้อม หน้าสวยเปื้อนคราบน้ำตาจนเครื่องสำอางหลุดลอก เสียงในภาพเป็นเสียงของหนึ่งในกลุ่มผู้ชายที่ยืนล้อมอยู่ และพอฟังดีๆ คนที่พูดคือพี่ซัน

   (คงรู้นะว่าต้องพูดอะไร) พี่ซันเสียงนิ่งมาก ใบหน้าไร้คราบผู้ชายอบอุ่นจนผมแปลกใจ

   (แกไม่รู้เหรอว่าฉันลูกใคร ฉันจะเอาพวกแกเข้าคุกให้หมด) เสียงแหลมตะโกนแผดเสียงจนแสบแก้วหู

   (รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ แต่คุณรู้มั้ยว่าพ่อผมเป็นใคร) ไม่ใช่พี่ซันครับ คนที่เดินแทรกเข้ามาเป็นอีกคน (พ่อผมสามารถย้ายพ่อคุณได้ ยิ่งลูกสาวมีคดีติดตัวแบบนี้อีก พ่อคุณก็ช่วยไม่ได้)

   (ฉันไม่ได้ทำอะไร ไหนหลักฐานที่มากล่าวหาฉัน) เธอไม่ยอมรับแถมยังจ้องหน้าท้าทายอีก

   (ภาพกล้องวงจรปิดที่ปากทางเข้าในซอยนั่น ยังมีกล้องที่แปลงผัก กล้องมือถือของเด็กเกษตรกลุ่มนั้น และที่สำคัญคลิปคำสารภาพของลูกน้องพ่อของคุณที่บอกจนหมดว่าทำตามคำสั่งที่ให้ไปข่มขืนแฟนของเพื่อนผม แค่นี้คงพอนะกับหลักฐานที่คุณตามหา) นี่พี่แทมเป็นพี่ระเบียบมาก่อนใช่มั้ยเนี่ย พูดจานิ่มๆ แต่วาจาร้าย

   (อ่อ มึงลืมอีกอันว่ะไอ้แทม กล้องและเสียงของนักศึกษาคณะอักษรที่ถูกทำร้ายที่ลานจอดรถ เอาไปเพิ่มน่าจะดีนะ) พี่ซันยิ้มเหี้ยมจนยัยจิ๊จ๊ะ เอ้ย จ๊ะจ๋าหน้าเสีย

   (พวกแกต้องการอะไร) สุดท้ายก็ยอมจำนน

   (ตอนแรกก็อยากให้ไปกราบขอโทษแบบตัวเป็นๆ อยู่เหมือนกัน แต่กลัวไอ้เด็กกลอยจะอายุสั้นที่คนแก่ไปกราบ งั้นเอางี้ กราบขอโทษมันต่อหน้ากล้องนี่แหละ) พี่แทมชี้มาทางวีดีโอที่กำลังถ่ายอยู่ (ส่วนน้องบลูคนสวย) ผมเพิ่งเห็นบลูครับ เธอร้องไห้จนตาบวม (ถ้ายังไปยุ่งกับไอ้กลอยอีก คงรู้นะ ว่าพวกพี่จะทำอะไร)

   (พวกพี่จะทำอะไร) คำถามปนเสียงสะอื้นมันช่างดูน่าสงสาร หากสิ่งที่บลูทำ มันไม่ได้รุนแรงขนาดจะทำร้ายผม

   (เสี่ยที่เลี้ยงน้องอยู่คงจะดีใจที่ได้รายชื่อคนที่น้องควงทุกคน อ่อ เงินที่เสี่ยให้ด้วย ที่น้องเอาไปโปรยซื้อเด็กมัธยมมาเคี้ยวเล่น คงสนุกเชียวล่ะ)


   เชี่ย บลูเป็นผู้หญิงยังไงวะ


   บลูส่ายหน้าน้ำตาไหลพราก มือที่ผมอยากจะจับตลอดยกมือไหว้ขอร้อง

   (ไม่ค่ะ ไม่ บลูจะไม่ยุ่งอีกแล้ว พี่แทมอย่าทำแบบนั้นนะคะ) ผมมองบลูที่คลานเข่าไปหาพี่แทมก่อนโผเข้ากอดเข่าพี่ซัน (พี่ซันคะ เราเคยรักกันไม่ใช่เหรอคะ)

   พี่ซันช้อนคางของบลูขึ้นมา รอยยิ้มหวานที่ผมเคยเห็นค่อยแปลเปลี่ยนเป็นความเฉยชา

   (เราเคยรักกันด้วยหรือครับ) พี่ซันว่าก่อนจะดึงขาออกจากการจับกุมจนบลูร้องไห้อย่างหนัก ใจร้ายเหี้ยๆ 

   (เอ๊า รีบๆ ขอโทษซะ อยากกลับแล้ว) พี่แทมพูดขัดขึ้น  จากนั้นกล้องก็จับภาพไปที่เหล่าผู้หญิงที่รุมทำร้ายผม พวกเธอมองอย่างเคียดแค้น จนผมกลัวว่าสักวันจะถูกทำร้ายอีก

   ผู้หญิงทั้งหมดก้มลงกราบลงกับพื้นพร้อมกับพูดขอโทษผม และสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับผมอีก ถ้าผิดคำพูดหรือยังกล้าทำอีก ทุกคนก็จะถูกกระทำแบบเดียวกันและหนักเป็นสองเท่า โดยไม่สนว่าจะเป็นผู้หญิงหรือลูกเต้าใคร ก่อนภาพจะเปลี่ยนมาถ่ายพี่แทมกับพี่ซันที่ยิ้มหวานมาให้ผม

   (แก้แค้นให้แล้วนะไอ้น้อง นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นเมียไอ้โช กูยังเดือดร้อนขนาดนี้ ถ้าเป็นเมียมันไปแล้ว กูต้องลำบากกว่านี้แน่) พี่แทมทักทายผมก่อนหันไปคุยกับพี่ซันที่เอาแต่ยิ้ม

   (เอาน่า เมียเพื่อนก็คือเมียเรา) พี่ซันว่าก่อนจะพากันหัวเราะเสียงดัง

   รู้สึกแอร์รถจะเย็นแปลกๆ

   ผมได้จับมือถือตัวเองอีกแค่เสี้ยววินาทีก่อนถูกพี่โชฉกไปแถมยังกดปิดเครื่องอีก เฮ้ย ผมยังดูไม่จบเลยนะ พี่ซันกำลังอ้าปากจะพูดอะไรด้วยอ่ะ

   “พี่เอามือถือผมไปทำไมเนี่ย”

   “ทำไมสนใจคนอื่นมากกว่าพี่” คนแก่มักขี้น้อยใจ

   “ไม่ใช่สักหน่อย” ผมรีบพูด

   “แล้วมันยังไง”

   “ก็ท่าให้สนใจจริงๆ...ผมก็ต้องสนใจพี่มากกว่าอยู่แล้ว” โคตรอายเลยให้ตาย

   “น่ารักเกินไปแล้ว” พี่โชยิ้มจนตาหยี มือขาวๆ นั่นยื่นมายีหัวผมจนฟู

   “พี่โช”

   “ครับ”

   “ขอบคุณนะที่จัดการให้ผม”
 
   “ไม่ได้จัดการให้ฟรีๆ หรอกนะ”

   อ่าว หวังผลนี่หว่า อุตส่าห์ดีใจ

   ผมยู่ปากทันทีที่ได้ยินว่าไม่ฟรี นี่ผมโดนถึงขนาดนี้ แทบจะโดนข่มขืนเลยนะ ยังจะเก็บเงินอีกเหรอ ฮ่วย รู้งี้ปล่อยๆ ไปก็น่าจะดี

   “อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ่ แค่นี้พี่ก็จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” ผมหันไปมองหน้าคนพูดอย่างงงๆ ทนไม่ไหวอะไร อยากได้เงิน? หรือปวดขี้? จะว่าไปผมก็เริ่มรู้สึกหน่วงๆ เหมือนกันนะ สงสัยเพราะกินนมในตู้เย็นแน่ๆ ก็แค่นมจืดที่หมดอายุไปสองอาทิตย์เอง มันยังกินได้ ส่วนที่มันเปรี้ยวๆ ก็คงจะเหมือนส่วนผสมนมเปรี้ยวที่มีแลคโตบาซิลัส ก็นมเปรี้ยวทำมาจากนมบูดอยู่แล้วนี่

   “พี่โช”

   “ครับ”

   “รีบๆ ขับได้ป่ะ”

   “ทนไม่ไหวเหมือนพี่เหรอครับ”

   “อื่อ” ผมพยักหน้า เมื่อขนแขนเริ่มลุกชัน “ผมปวดขี้เหี้ยๆ รีบๆ ขับไปให้ไวเลย ผมจะกลั้นไม่ไหวแล้ว!!”





   “เหี้ย ห้ามตดในรถ”





   พี่โชโวยวายลั่นรถ กระจกสองข้างถูกเปิดทันทีที่ผมเผลอปล่อยก๊าซในท้อง นี่หรือคือตดของคนปวดขี้ หอมเย็นชื่นใจสุดๆ อ้วก!!!!!!!!!



....TBC


เรื่องนี้สาระอยู่ตรงไหน ฮ่าๆๆๆ พี่โชยังนกอยู่ตลอดเลย น่าสงสารจริง

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่าาา LOVE LOVE
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: thari ที่ 27-07-2016 22:11:37
โหดมากกกก ชอบบบบบบ ให้มันรู้ซะบ้างว่าเล่นอยู่กับใคร  หึหึ  ขำพี่โชพอรู่ว่าเมีย เอ๊ย กลอยดูอยู่ด้วยก็ปรับสายตาใหม่ วุ้ยยยย พ่อพระเอกกกกกกก
ตดในรถยังไม่เท่าตดในลิฟท์นะพี่  ถถถถ :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 27-07-2016 22:14:00
ตดในรถยังไม่เท่าตดในลิฟท์นะพี่  ถถถถ


ขมคอในบัดดลเลยค่า T[]T
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-07-2016 22:27:08
 :hao7: นี้ขนาดยังไม่ตกลงเป็นแฟนนะยังขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 27-07-2016 22:41:13
โหดโฉดดีแท้กลุ่มนี้   :m29:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 27-07-2016 22:52:09
ติดหนึบขนาดหนัก พี่โชอดกินกลอยเชื่อมอีกแล้ว. อยากให้รวมเล่มและตีพิมพ์คะ อยากได้เก็บไว้ :mc4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-07-2016 22:52:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-07-2016 23:18:41
โธ่ กำลังซึ้งที่พี่โชทั้งรักทั้งหวงว่าที่เมียแบบโหดๆอยู่เลยแล้วทำไมกลอยต้องมาทำตกม้าตายเพราะตดด้วย
 :pigha2: :pigha2: :pigha2: :pigha2: :pigha2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 27-07-2016 23:27:31
ฮากลอยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-07-2016 23:29:47
โธ่ บรรยากาศดีๆ พังหมดเพราะตดกลอย 5555555555 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 27-07-2016 23:30:20
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 27-07-2016 23:43:44
โธ่ บรรยากาศดีๆ พังหมดเพราะตดกลอย 5555555555 :m20: :m20: :m20:

ลั่นเม้นนี้ 555555
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 27-07-2016 23:56:18
โรแมนติกบ้างก็ได้นะกลอย555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 28-07-2016 00:10:07
โธ่ บรรยากาศดีๆ พังหมดเพราะตดกลอย 5555555555 :m20: :m20: :m20:


เม้นท์นี้ลั่นจริง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 28-07-2016 00:25:37
ตดได้ไม่ดูบรรยากาศเลยยยยยยยยยย 555555555555

 :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 16<< // [27/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 28-07-2016 00:53:28
ฮาตอนจบ 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 17<< // [28/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 28-07-2016 22:52:44
Just you and I : 17



        อีกไม่นานก็จะเข้าสู่ช่วงเทศการสอบไฟนอล เหล่าอาจารย์ที่เคารพรักคงจะรักพวกผมมาก เลยให้งานมาทำจนไม่มีเวลานอน แล้วคนสมองกลวงๆ แบบพวกผมจะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือ คงได้อ่านก่อนเข้าห้องสอบอีกแน่

   อย่างตอนนี้ที่พวกผมกำลังหนีบกระดาษกับขาตั้งเพื่อจะหาทำเลที่มีรูปทรงเหมาะๆ ในการวาดส่งป๋าเปา งานชิ้นนี้อาจจะทำให้คะแนนสอบที่น่าจะโคตรแย่ดีขึ้นมาได้ เพราะคะแนนโคตรเยอะ ดังนั้นพวกผมเลยตั้งใจทำเป็นพิเศษ

   ผมกับเพื่อนๆ เลือกมุมของหอสมุดเก่าที่มีต้นไม้เรียบทางเดินตั้งแต่ถนนยาวไปถึงทางเข้าทำให้บรรยากาศร่มรื่น อีกอย่าง ตัวตึกของห้องสมุดเป็นรูปหกเหลี่ยมหากหามุมวาดดีๆ รับรองคะแนนเต็ม
 
   “ไอ้เชี่ยกลอย คืนนี้ไปไหนวะ” ไอ้เคเพื่อนในคณะเดินมาสูบบุหรี่ตรงที่ผมนั่งอยู่

   “ไปไหนอะไรวะ” ผมถาม มือยังร่างลายเส้นของตึกแบบคร่าวๆ

   “ก็วันนี้เลี้ยงสายรหัส พี่มึงไม่โทรบอกหรือไง” ทำไมพี่รหัสผมไม่โทรหาวะ

   “กูไม่เห็นรู้เลย มึงล่ะ”

   “ร้านหลังมอนั่นแหละ สายกูผู้หญิงเยอะสัด ปีสี่ ปีสาม ปีหนึ่ง มีกูเป็นผู้อยู่คนเดียว เซ็งเหี้ย” มันปล่อยควันให้ลอยสู่ท้องฟ้าก่อนชะโงกหน้ามองแผ่นกระดาษของผม “มุมมึงดีว่ะ เดี๋ยวกูย้ายมานั่งกับมึงดีกว่า”

   “มึงไม่ต้องเลยไอ้สัด อย่าคิดจะให้กูช่วยด้วยข้ออ้างมุมเดียวกัน” มุกเนียนๆ นี่ผมเจอบ่อยครับ โคตรเซ็ง

   “รู้ทันกูอีก” ไอ้เหี้ย พ่นควันใส่หน้ากูอีก

   “พวกมึงซุบซิบอะไรกันวะ ให้กูเสือกด้วยคน” ไอ้เชี่ยต๋องมันมาพร้อมกับแย่งซองบุหรี่ไอ้เค ที่จริงผมก็สูบนะครับ แต่ไม่ได้สูบพร่ำเพรื่อ จะสูบเฉพาะเวลากินเหล้ากับเพื่อนๆ อีกอย่าง แม่ผมไม่ชอบให้สูบ เวลากลับบ้านแล้วแม่ได้กลิ่น ผมจะไม่ได้นอนเลยคืนนั้น เพราะแม่จะมานั่งสวดมนต์ในห้องแล้วบอกว่า สวดให้ผมไปที่ชอบๆ


        ...แม่ผมเป็นคนตลก


   “พี่รหัสมึงพาไปที่ไหนวะ” ผมถามหน้าไอ้ต๋อง มันอัดบุหรี่เข้าปอดอย่างหนัก สงสัยจะเครียด
 
   “ร้านพี่วรรณนั่นแหละ มึงก็รู้ว่าลุงรหัสกูรักเมียแค่ไหน เลี้ยงทีไรพาไปร้านเมียตลอด” ไอ้ต๋องมันทำหน้าเซ็งๆ ร้านพี่วรรณที่ไอ้ต๋องว่ามันก็ร้านเหล้าตองที่อยู่ในเพิงหมาแหงนครับ ที่จริงบรรยากาศมันใช้ได้เลยนะ ผมเคยไป แถมยาดองอร่อยมาก กินแล้วร้อนคอร้อนท้องสุดๆ

   “มึงมาถามคนอื่น แล้วมึงไปที่ไหนวะ” ไอ้ทูเดินตาปรือมานั่งข้างผม มันส่ายหน้าปฏิเสธม้วนบุหรี่ที่ไอ้เคยื่นให้

   “พี่กูเงียบว่ะ สงสัยไม่มีตังค์” ผมว่า

   “กูว่าจะถาม กูได้ยินพวกเด็กเกษตรมันพูด ว่ามึงโดนรุมเหรอวะ” ไอ้ต๋องขมวดคิ้วถามจริงจัง ยังมีไอ้เคกับไอ้สักที่มาสมทบอีก พวกมันจ้องผมซะกดดัน

   “เออ”

   “โดนวันไหนวะ ทำไมไม่โทรเรียกพวกกู”

   “ก็พวกมึงหนีไปเต๊าะหญิงที่โรงยิม อีกอย่างตอนนั้นกูคิดได้แค่วิ่ง” ตอนนี้พอนึกถึงผมยังกลัวอยู่เลย

   “มึงยังโชคดีที่ไอ้พวกเกษตรลงแปลง ถ้ามันไม่อยู่กูไม่อยากจะคิด” ไอ้สักมันว่าก็จริงของมันแหละครับ เพราะซอยนั้นมันเงียบแถมไม่ค่อยมีคนผ่าน ถ้าไม่มีพวกไอ้ต้อม ผมคงเสร็จมันไปแล้ว

   “แล้วมึงรู้หรือเปล่าว่าใครรุมมึง”

   ผมก็อยากจะบอกเพื่อนอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะบอกยังไง จะบอกว่าแฟนเก่าของคนที่กำลังจีบผมตอนนี้มันก็คงแปลกๆ

   “ช่างมันเถอะว่ะ กูไม่เป็นอะไร”

   “ต่อไปมึงก็ระวังตัวไว้ หน้าอย่างมึงเนี่ย ไปอ่อยผัวใครเข้า เดี๋ยวเมียเขาจะตามตบให้” เชี่ย ไอ้เคพูดทำเอาไอ้ทูหัวเราะลั่น
 
   “มึงไกลๆ ตีนกูเลย พวกมึงด้วย ไปทำงานของพวกมึงไป๊” ไล่ครับไล่ พวกมันก็ตบหัวผมคนละทีแล้วก็เดินไป เห็นหัวกูเป็นลูกวอลเลย์ตลอด

   พอไล่พวกเกะกะอารมณ์ไปผมก็ลงมือทำงานต่อ กำลังจะลากเส้นโทรศัพท์ก็ดังขัด ใครวะ แต่พอหยิบมาดูผมถึงกับต้องกระแอมเสียง

   อย่าคิดไกล พี่รหัสผมครับ

   “ว่าไงครับพี่รหัสคนสวย” พี่รหัสผมเป็นถึงดาวคณะเลยนะครับ ไม่ธรรมดา

   (มึงไม่ต้องมาปากหวาน รู้ว่าจะได้กินของฟรีล่ะสิ) แม้เป็นดาวคณะก็ใช่จะหวานนะครับ พี่แกห้าวกว่าผมอีก
 
   “แหมเจ้ รู้ทันตลอด” ผมหัวเราะจนได้ยินอีกฝ่ายด่ากลับ “ว่าแต่ คราวนี้พี่มิกจะพาไปไหนเหรอ” พี่มิกเป็นลุงรหัสผม ตอนนี้แกอยู่ปีสี่ที่แทบไม่เคยเห็นหน้า

   (ร้านหมูกระทะแถวๆ หอมึงนั่นแหละ)

   “โห ผมกินโคตรบ่อยร้านนั้น”

   (งั้นแสดงว่ามึงไม่ไป?)

   “ไปดิ่ ของฟรีนะครับ ฮ่าๆ”

   (ก็แค่นั้น แล้วอย่าลืมโทรหาน้องปีหนึ่งด้วยนะ)

   “โอเค...” หรือเปล่าวะ “เอ่อ เดี๋ยวเจ้ เดี๋ยวผมโทรคอนเฟิร์มอีกทีได้หรือเปล่า”

   (อะไร ห้ามขาดนะเว้ย พวกกูอยากรู้เรื่องที่มึงถูกรุม แค่นี้นะ เลิกกัน)

        เออ เลิกไปเลย แม่ง ผมยัดมือถือในกระเป๋ากางเกงตามเดิม ที่ลังเลก็เพราะทุกวันนี้พี่โชมารับมาส่งผมไง หอผมแทบไม่ได้เหยียบนอกจากไปเอาเสื้อผ้า ยังดีที่พี่โชไม่ให้ผมย้ายไปถาวร ไม่งั้นเวลาโดนทิ้งนี่ไม่มีที่ซุกหัวนอนเลยนะ ว่าแล้วก็โทรถามสักหน่อยดีกว่า

   ผมล้วงมือถือออกมา (แล้วจะเก็บทำไม) เลื่อนๆ หาเบอร์ที่เมมไว้ อย่าคิดว่าผมจะเป็นคนได้เมมชื่อเองนะครับ พี่โชมันคว้าไปเปลี่ยน ตอนแรกผมเมมว่าพี่โช มันแย่งไปพิมพ์ใหม่ว่า MYLOVE ปล่อยไปครับ ผมทำอะไรไม่ได้ พอจะลบพี่แกก็ทำท่าเหมือนจะขย้ำผม...รอสายอยู่นานกว่าปลายสายจะกดรับ สงสัยจะนอนอยู่

   (ว่าไงครับ) เสียงแหบมาเชียว นอนหลับจริงๆ

   “ผมปลุกพี่เหรอ” รู้สึกผิดนะเนี่ย

   (กำลังจะลุกพอดี เลิกเรียนแล้วเหรอพี่จะได้ไปรับ)

   “ยังๆ ผมแค่จะโทรมาบอกว่าไม่ต้องมารับนะวันนี้”

   (ทำไม) เสียงนิ่งๆ มาอีกแล้ว

   “คือวันนี้มีเลี้ยงสายรหัส แล้วผมต้องไป”

   (ที่ไหน มีใครบ้าง กลับกี่โมง) มารัวจนฟังแทบไม่ทัน
 
   “ร้านหมูกระทะแถวๆ หอผมอ่ะ ส่วนกลับกี่โมงผมก็ไม่รู้ เดี๋ยวผมนอนหอเอา”

   (กลอยนอนหอ แล้วปล่อยให้พี่นอนคนเดียวเหรอ) ไปหัดพูดจาแบบนี้มาจากไหนวะเนี่ย

   “พี่ก็นอนคนเดียวมาได้ตั้งนานนี่นา”

   (ใจร้ายว่ะ) มีงอนเว้ยเห้ย (แล้วมีใครบ้าง)

   “ก็สายรหัสผมนั่นแหละ”

   พี่โชเงียบไปพักใหญ่ๆ จนผมคิดว่าสายหลุด พอจะกดวาง ก็มีเสียงเล็ดลอดออกมา

   (ไอ้เด็กที่ให้ดอกกุหลาบนั่นด้วยใช่มั้ย) จำแม่นเชี่ยๆ

   “อืม”

   (อืม)

   เสียงตอบกลับทำเอาผมสบายใจเมื่อพี่โชอนุญาต พอวางสายปุ๊บ ผมก็รีบโทรจิกไอ้รอนทันที ไอ้เชี่ยนี่เวลาผมโทรหาทีไรมันชอบเก๊กเสียงหล่อตลอด แม่งหลอดลมอักเสบหรือเปล่าวะ

   นัดกันเสร็จสรรพผมก็ลงมือวาดรูปต่อ ลมเย็นๆ เริ่มพัดมาจนใบไม้แห้งปลิวว่อนให้ความรู้สึกถึงลมหนาวที่กำลังมา แต่มันจะหนาวได้สักกี่วัน มีปีหนึ่งโคตรหนาว ผมท้าลมหนาวอยู่หลายวันจนเป็นหวัดเลยกลับไปขนเสื้อกันหนาวจากบ้านมาสวม แค่ข้ามวัน เหงื่อเม็ดเป้งไหลย้อยจนผมต้องรีบถอดเสื้อกันหนาวออกก่อนจะเป็นลม มันโคตรอารมณ์เสีย
 
   เอ...หรือหน้าหนาวนี้จะขึ้นเหนือเที่ยวภูเขาเผาข้าวหลามดีวะ



   พวกผมที่นั่งวาดรูปจนเย็นต่างก็พากันเก็บของและเดินเอาขาตั้งไปคืนที่โกดัง ผมเห็นไอ้ทูรีบเก็บของก่อนจะเหลือบมองผมนิดๆ แล้วมันก็วิ่งออกโกดังไปเลยครับ เป็นอะไรของมัน แต่มีเหรอที่ไอ้เคจะไม่เสือก นู้นครับ มันรีบวิ่งตามหลังไปก่อนจะตะโกนเรียกไอ้ทูเสียงโคตรดัง ผมที่วิ่งตามไอ้เคไปติดๆ ก็เห็นไอ้ทูมันรีบเข้าไปนั่งในรถยนต์สีส้มที่จอดรออยู่ ก่อนรถนั้นจะรีบขับไป รถใครวะ แล้วทำไมต้องทำลับๆ ล่อๆ

   “ไอ้เชี่ยทูมันแอบมีแฟนหรือเปล่าวะ” ไอ้เคหันมาถามพวกผม

   “แล้วกูจะรู้มั้ย” กูเห็นด้วยไอ้ต๋อง

   “มึงล่ะ เพื่อนสนิทมัน รู้หรือเปล่า”

   ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ ขนาดเรื่องพี่เบมันยังไม่ยอมเล่า แล้วเรื่องนี้มันจะเล่าเหรอครับ มันเป็นคนที่ชอบคิด ชอบทำอะไรคนเดียว ผมจะรู้ก็ต่อเมื่อมันอ้าปากบอกเอง ไม่ก็เกิดปัญหานั่นแหละครับ

   ระหว่างมองตามท้ายรถสีส้ม แรงสะกิดที่ไหล่ก็ทำให้ผมหันไปมอง ไอ้รอนส่งยิ้มแป้นแล้นจนตาหยี แถมมันยังยื่นมือมาคล้องแขนผมอีก

   “อะไรของมึง”

   “ก็ไปเลี้ยงสายรหัสไง”

   “แล้ว?” ผมมองหน้ามันก่อนก้มมองแขนตัวเองที่ถูกมือไอ้รอนจับ “จำเป็นต้องเกาะแขนกูมั้ย กูร้อน”

   “โด่พี่กลอยอ่ะ ไม่โรแมนติกเลย”

   “โรแมนติกเชี่ยอะไร แล้วมึงเลิกเรียนแล้วเหรอวะ”

   “ถ้าไม่เลิกพี่จะเห็นผมยืนหล่อตรงนี้เหรอครับ”

   กวนตีน ผมพูดไร้เสียงแต่มันคงรู้ หน้ามันก็งอเหมือนเด็กโดนขัดใจ

   “พี่กลอยไปยังไงอ่ะ”

   เออว่ะ ผมจอดฟีโน่ลูกรักที่คอนโดพี่โชนู้น พอไอ้รอนเห็นผมเงียบมันก็ออกแรงดึงครับ

   “อะไรของมึง จะดึงกูไปไหน”

   “ไปกับผมไง วันนี้โชคดีผมเอารถพี่มา พี่ไปกับผม ตอนขากลับผมจะไปส่งพี่เอง” ไอ้รอนยิ้มกว้าง

        ก็ดีเหมือนกันนะ ประหยัดเงินด้วย พอมันเห็นผมพยักหน้ามันก็ทำท่าดีใจเกินเหตุจนโดนฝ่ามือหนักๆ ของไอ้สักเต็มหัว

   “พี่สักตีหัวผมทำไมเนี่ย”

   “มึงจะยืนจีบเพื่อนกูอีกนานมั้ย พวกกูจะปิดโกดังแล้วโว้ย”

   ไอ้รอนมันทำปากยื่นก่อนจะเอนตัวหนีฝ่ามือไอ้สักที่จะฟาดอีกรอบ ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าให้เพื่อนกับน้องรหัส

   พวกผมเดินมาที่ลานจอดรถ ไอ้สักกับไอ้เคต่างก็แยกย้ายไปขึ้นรถตัวเอง เห็นมันกากๆ แบบนี้มันก็มีรถขับเหมือนกัน แม้จะไม่ใช่รถที่แพงมาก แต่ก็แพงสำหรับผม ไอ้ต๋องมันขี่มอเตอร์ไซค์ฮ่างครับ มันบอกว่าคลาสสิกดี แต่แม่งซ่อมบ่อย แบบนั้นเอาเงินที่ส่งซ่อมมาซื้อคันใหม่คงได้เป็นสิบกว่าคัน

   ส่วนผมที่เดินโดยมีไอ้รอนจับไหล่เหมือนเล่นต่อแถวรถไฟ ดูมันร่าเริงเกินเหตุจนเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที ก่อนเสียงหัวเราะใสๆ จะหายไปเมื่อมีรถคันแพงมาจอดเทียบ เจ้าของรถเปิดประตูก้าวเท้าออกมา พอเห็นว่าเป็นใคร ไอ้รอนก็มองอย่างไม่ชอบใจ คิ้วมันขมวดเป็นปม มือที่จับไหล่ผมเปลี่ยนมาเป็นโอบไหล่แทน

   ความรู้สึกบางอย่างพุ่งพรวดจนผมต้องสะบัดตัวออกจากมือของน้องรหัส สายตาพี่โชตอนนี้ไม่ใช่ขู่แต่พร้อมจะเอาจริง ผมยังจำภาพที่พี่โชกระทืบคนวันแรกได้อยู่เลย ยิ่งภาพที่เห็นไอ้สองคนที่ทำร้ายผมอีก สยดสยองเกินหากไอ้รอนจะโดนแบบนั้น

   พี่โชจ้องหน้าไอ้รอนนิ่ง ขายาวๆ ก้าวมาหาผมพร้อมกับยื่นมือมาดึงแขนผมไปอยู่ข้างๆ หน้าไอ้รอนมันดูไม่พอใจเตรียมจะดึงแขนผมกลับ แต่พี่โชดึงหลบ ไม่ใช่ว่าจะมาตีกันที่นี่หรอกนะ คนออกจะเยอะแยะ

   “พี่โช...ผมว่า”

   “อย่าให้กูเห็นมึงอยู่กับแฟนกูอีก” พี่โชไม่สนใจผมครับ พี่เขาเอาแต่จ้องหน้าไอ้รอนจนผมเริ่มกลัว

   “ผมต้องทำตามด้วยเหรอครับ” ไอ้รอนจ้องท้าทายอย่างไม่กลัวตาย

   “มึง” พุ่งครับพุ่ง ผมรีบคว้าร่างที่โชทันทีที่จะพุ่งเข้าไปหาไอ้รอน

   “ไอ้เชี่ยรอน รีบไปก่อนเลย เร็วๆ” รีบๆ ไปไอ้เชี่ย กูจะเอาพี่โชไม่ไหวแล้วโว้ย

   “เห็นแก่พี่กลอยหรอกนะ งั้นผมไปรอที่ร้านนะพี่” ก่อนไปมันยังยักคิ้วท้าทายพี่โชจนผมเกือบล้มเมื่อร่างใหญ่กว่าสะบัดจากการจับ ดีที่มันเข้าไปนั่งในรถก่อน ไม่อย่างงั้นมีมวยสดๆ ให้ดูแน่นอน
 
   พอรถของไอ้รอนขับผ่านไป พี่โชก็ตวัดหางตามองผมทันที ดูเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เลือกที่จะเงียบแล้วอ้อมไปขึ้นรถ ผมมองพี่โชอย่างขัดใจ เอาอีกแล้ว เป็นแบบนี้อีกแล้ว พอผมขึ้นรถปุ๊บก็ออกตัวปั๊บ แถมยังพาไปทางอื่นซึ่งไม่ใช่ทางไปร้านหมูกระทะที่พวกพี่รหัสผมนัด

   “พี่จะไปไหนเนี่ย ผมนัดกับพี่รหัสที่ร้านหมูกระทะนะ” ผมโวยวายแต่อีกคนไม่ยอมพูด ไม่แม้จะชายตามามอง “พี่โช ผมบอกว่า...”

   “หุบปากมึงไปเลย!” ตวาดดังจนลั่นรถ

   “เป็นเหี้ยอะไรทำไมไม่พูดวะ ผมไม่ใช่ถังขยะที่ต้องคอยรับอารมณ์โมโหร้ายของพี่นะเว้ย” ตวาดมาก็ตวาดกลับ พี่โชหักพวงมาลัยเข้าข้างทางก่อนจอดกระทันหันจนผมแทบจะจูบกับกระจกหน้ารถ พอรถจอดสนิทผมก็เปิดประตูลงไปอย่างโมโห

   ผมเดินย้อนกลับไปทางเดิมแม้มันจะยังไม่ไกลแต่ก็ขาลากได้เหมือนกัน ผมลากขาตามทางไปเรื่อยๆ ก่อนจะโดนดึงข้อศอกจากด้านหลัง ผมสะบัดยังไงมือนั่นก็ไม่หลุด และเจ้าของมือคงรำคาญเลยกระชากอย่างแรงจนผมเซไปด้านหลังปะทะกับอกแกร่ง

   “ปล่อย” ผมบอกนิ่งๆ แต่มือที่จับยังคงยึดไว้แน่น “ผมบอกให้ปล่อย”

   “พี่ขอโทษ” มือที่ไม่ยอมปล่อยเปลี่ยนมาดึงผมเข้าไปกอด คางแหลมวางบนไหล่ผมพอดิบพอดี “พี่โมโหไอ้เด็กนั่นแต่กลับมาลงที่กลอย พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่นะ”

   “...”

   “อย่าเงียบใส่พี่สิ พี่ขอโทษ”

   “ผมเคยบอกแล้วว่าไม่พอใจหรือรู้สึกอะไรก็ให้พูดออกมาตรงๆ แต่พี่ก็ยังทำแบบเดิม แล้วก็เอามาลงที่ผมเหมือนเดิม”

   “พี่ผิดไปแล้ว จะตบหน้าพี่ก็ได้นะ” พี่โชจับมือผมขึ้นตบหน้าตัวเอง แม้ไม่แรงมากแต่ก็น่าจะเจ็บเพราะหน้าขาวๆ มีรอยแดง
 
   “เฮ้ยพี่” ผมตกใจรีบชักมือกลับ แม้ผมไม่ได้เป็นคนตบ แต่มือเป็นของผม

   “ยกโทษให้พี่หรือยัง”

   “...”

   “น้องกลอยครับ ยกโทษให้พี่โชคนนี้ด้วยนะครับ”

   “เออๆ ยกโทษแล้ว แต่ถ้ายังทำอีก ผมจะไม่คุยกับพี่อีกเลยจำไว้”

   นี่ผมหายงอนไวเกินไปหรือเปล่าวะ

   พี่โชยิ้มออกทันทีก่อนจะพาผมกลับไปที่รถตามเดิม และผมสั่งให้เลี้ยวรถกลับไปที่ร้านหมูกระทะ แม้จะมีเสียงฮึดฮัดแต่ก็ยอมทำตาม...



   ตอนนี้เลยมีคนแปลกหน้ามานั่งรวมอยู่ที่โต๊ะด้วยหนึ่งคน

   สายรหัสผมเริ่มมองกันเลิกลักเมื่อเห็นคนแปลกหน้ามานั่งร่วมโต๊ะ แม้จะหน้าตาดีจนพี่รหัสและย่ารหัสมองตาละห้อยแต่เพราะแต่ละคนมีคนมาคุมเหมือนกันเลยแสดงออกได้แค่ทางสายตา แต่ที่น่าขำที่สุดคงเป็นป้าสายเทคที่ออกปากแซวแถมยังคอยบริการพี่โชจนพี่มิกด่า

   “เห็นผู้ชายหน่อยไม่ได้นะมึงอีแปร๊ด”

   “แหมพี่มิก ก็ผู้ชายหล่อนี่คะ นานๆ จะหลงมาทีเราก็ต้องเกี่ยวไว้” ป้าสายเทคชื่อแปร๊ดจริงๆ ครับ เป็นสายเฮฮามาก ตอนนี้ก็นั่งรวมสายเทคด้วย แต่ไม่มีใครกล้ายุ่งกับพี่โชเท่าพี่แปร๊ดแก

   “มึงจะเกี่ยวเขา แล้วเขาให้เกี่ยวหรือเปล่าวะ” พี่มิกยังไม่เลิกกัด พวกผมฟังก็ได้แต่หัวเราะ จะมีก็แต่ไอ้รอนกับพี่โชที่นั่งจ้องหน้ากันอยู่ “เขากลัวมึงจนไม่พูดสักคำ” พี่แปร๊ดขี้เกียจเถียงเลยหนีไปตักหมูแทน ส่วนพี่โชก็มีผมที่คอยคีบหมูบนเตาให้

   “พี่โชกินสิ ผมตักให้เต็มถ้วยแล้วเนี่ย” ยื่นหน้าไปกระซิบแต่อีกคนทำแค่ชายตามอง “พี่โช” เสียงนิ่งๆ ทำให้คนที่นั่งนิ่งจับตะเกียบคีบหมูเข้าปาก

   “ทำตัวเป็นเด็กต้องให้คนอื่นคีบให้” ไอ้เชี่ยรอนมันพูดออกมาเลยครับ แม้พวกพี่ๆ เขาจะไม่ได้ยิน (เพราะเถียงกัน) แต่พี่โชกับผมได้ยินเต็มๆ

   “มึง”

   “พี่โชผมขอล่ะ”

   ผมรีบจับแขนพี่โชทันทีกลัวว่าจะลุกเข้าไปต่อยหน้าไอ้รอน

       จนแล้วจนรอด ปาร์ตี้หมูกระทะก็จบลง แม้ผมเห็นพี่ๆ อ้าปากจะถามเรื่องที่ผมถูกรุมทำร้ายแต่เพราะมีพี่โชนั่งตาขวางใส่เวลาผมถูกเรียกเลยไม่มีใครกล้ายุ่ง มื้อนี้เลยจบลงที่แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนไอ้รอนถูกพี่มิกลากกลับไปแล้วครับ สงสัยจะสังเกตเห็นไฟฟ้าที่ออกจากตาปะทะกันจนร้านแทบไหม้

   ผมนั่งเงียบๆ ในรถของพี่โชเพราะพี่เขากำลังคุยโทรศัพท์กับพี่สาว ดูเหมือนจะนัดแนะอะไรกันสักอย่าง พี่โชบ่นว่าไม่อยากไป แต่ก็รับปากในที่สุด ผมไม่ได้แอบฟังนะ มันได้ยินเอง
 
   “พี่จะไปไหนเหรอ” ไม่ได้แอบฟังจริงจริ๊ง

   พี่โชเหลือบตามองผมนิดๆ ก่อนถอนหายใจออกมา “โดนบังคับให้ไปเที่ยวด้วย”

   “ไปเที่ยวที่ไหน”

   “ยุโรป”

   เชี่ย ไปยุโรป ความฝันไอ้กลอยเลย

   “ไปดิ่พี่ ผมยังอยากไปเลย” ผมตื่นเต้นแทนคนจะได้ไป แต่พี่โชกลับส่ายหน้า

   “ไม่อยากไป”

   “ทำไมอ่ะ น่าสนุกออกนะ”

   “ก็ที่นั่นไม่มีกลอย”

   ยังเลี่ยนได้อีกมั้ย เอาให้ไอ้กลอยคนนี้เขินให้ตายไปเลย

   “เลี่ยนว่ะ” ผมแลบลิ้นใส่ พี่โชขำออกมาเมื่อเห็น

   “พี่พูดจริงๆ” เสียงจริงจังทำให้ผมเสหน้ามองทางอื่นเพื่อหลบสายตาจริงใจนั่น “ปิดเทอมไปเที่ยวกับพี่มั้ย”

   “ไปที่ไหน”

   “ที่ๆ กลอยอยากไป”

   “ไปเชียงใหม่มั้ย ผมอยากขึ้นดอยสัมผัสอากาศหนาว” พอได้ยินที่ผมพูดพี่โชก็มองผมตาวาว

   “โอเคครับ เราจะไปเที่ยวเชียงใหม่กัน”

   “เย้ เดี๋ยวผมชวนไอ้ม่าน ไอ้อัธด้วยดีกว่า ไอ้ม่านบ้านมันก็อยู่ที่นั่น เราจะได้พักฟรีไง” สมองเริ่มวางแผนสถานที่เที่ยวที่อยากไป

   “แต่พี่อยากไปกับกลอยสองคนมากกว่า”

   “ทำไมอ่ะ ไปหลายคนสนุกดีออก”

   “อยู่สองคนก็สนุกได้”

   ผมละเกลียดไอ้สายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นที่สุด คงคิดหื่นๆ กับผมละสิ ไม่ได้แอ้มผมหรอก

   “คิดเรื่องบนเตียงตลอดว่ะ” ผมว่า พี่โชหัวเราะเสียงดังลั่นรถ ผมคงคิดถูกล่ะสิ

   “แล้วกลอยไม่เห็นใจพี่บ้างเหรอ นอนข้างคนที่รักทุกวันแถมยังยั่วตลอด”

   “ผมไปยั่วพี่ตอนไหน”

   “ทุกตอน”

   ไปไม่เป็นแล้วไอ้กลอย อยู่เงียบๆ น่าจะดีกว่า

   แต่พอถึงห้องแล้วมันเงียบไม่ได้ เพราะต้องหลบหลีกเจ้าของห้องที่วิ่งไล่ล่าจะเอาผมไปอาบน้ำด้วย อาบด้วยทีไรถูกจับรีดน้ำออกตลอด ขนาดทำเองยังนานๆ ที แต่นี่โดนคนอื่นจับแถมข่มด้วยขนาดอีก แล้วใครมันจะไปอยากอาบด้วยวะ

   “มาอาบน้ำกัน”

   “ไม่โว้ย อยากอาบก็อาบไป ผมยังไม่อาบ”

   คิดว่าจะฟังเหรอครับ ไม่เลย แถมยังรวบผมขึ้นบ่าแบกเข้าห้องน้ำเรียบร้อย เรื่องแบบนี้มือไวตลอด เอะอะถอดเสื้อ เอะอะถอดกางเกง จนบนตัวไม่เหลืออะไรสักชิ้น





   “ห้ามมอง! ห้ามจับ! ห้ามลูบด้วยโว้ย!!”


.....................TBC


LOVE LOVE

**มีเม้นถามเรื่องหนังสือด้วย ยอมรับว่าทำไม่เป็น ฮา มือใหม่หัวใจใสๆ ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้ค่า พี่โชกับน้องกลอยคงดีใจมากที่รู้ว่ามีคนรักขนาดนี้ (กราบขอบพระคุณค่า)**
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 17<< // [28/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: thari ที่ 28-07-2016 23:09:41
อิน้องรอนนี่น่าโบก  ระวังลูก ไปยั่วตี-เขาไว้มาก
ส่วนอิพี่โชนี่เอะอะเต๊าะเอะอะตอด 5555555 นิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดีสินะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 17<< // [28/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 28-07-2016 23:37:31
 :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 17<< // [28/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 28-07-2016 23:46:33
น้องรอนระวังหายตัวอย่างปริศนานะ

กลอยพยายามเข้านะ ถ้าเผลอเมื่อไรเสร็จพี่โชแน่ ดูท่าจะจ้องจับกินทุนาทีนิ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 17<< // [28/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-07-2016 00:05:54
ท้าทายอำนาจมืดมาก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 17<< // [28/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 29-07-2016 00:17:38
น้องรอนนี่วอนโดน_ีนพี่โชมากอ่ะบอกเลย  :z6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 17<< // [28/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-07-2016 00:25:31
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 17<< // [28/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 29-07-2016 02:02:03
เจอห้ามตดในรถนี่ลั่นเลย5555555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 17<< // [28/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-07-2016 09:41:05
รอนก็ขยันหาเรื่องพี่โชเขายิ่งหึงโหดอยู่ด้วย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 29-07-2016 17:18:11
Just you and I : 18



        หัวฟูครับบอกเลย นี่ขนาดแค่สอบกลางภาคผมก็จะตายอยู่แล้ว ผ่านมาได้จนถึงวิชาสุดท้ายแต่ก็แทบจะคลานออกมา ไม่อยากจะคิดว่าถ้าสอบไฟนอลผมจะเหลือแต่ซากหรือเปล่า แล้ววิชาพวกนี้แม่งไม่เคยออกที่อ่าน อันไหนไม่อ่านออกตลอดผมก็ไม่รู้ทำไม

   สภาพผมกับเพื่อนๆ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ละคนนี่หน้าโทรมหมองคล้ำ สงสัยต้องไปซื้อครีมมาทาให้หน้าขาวใสเหมือนเดิม

   “กูเหมือนกำลังจะตาย” อีเข็มเดินออกมากอดเสาแล้วทรุดตัวลงนั่งเลยครับ สภาพความงามได้หายจากมันไปแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ครึ่งคนครึ่งผี หน้าขาวๆ ที่พอกเครื่องสำอางไม่มีเหลือ

   “ทำไมวันนี้มึงไม่แต่งหน้ามาวะ กูเห็นหน้าสดมึงแล้วกลัวสัด” ฐานที่พูดไม่คิด ไอ้เคเลยโทรฝ่าทีนอีเข็มไปเต็มๆ
 
   “อีห่า แค่กูลุกมาสอบได้นี่ถือว่าบุญแล้ว กูนอนแค่สามสิบนาทีก่อนมาเนี่ย” มันโอดครวญกอดเสาปูนราวกับนั่นคือแฟนของมัน

   ที่จริงพวกผมก็ไม่ต่างกันหรอกครับ ผมเนี่ยนอนได้มากสุดก็ชั่วโมงเดียวเพราะต้องรีบปั่นเก็บรายละเอียดงานส่งป๋าเปาที่อยู่ๆ เปลี่ยนใจให้ส่งก่อนสิ้นปีซะปีงั้น เพราะแกจะบินไปนอก แล้วความซวยก็ตกมาที่พวกผม อุตส่าห์นั่งเอ้อระเหยวาดไปกินไปเที่ยวไป ต้องมารีบปั่นจนไม่ได้หลับได้นอน สุดท้ายทุกคนก็เลยต้องลากสังขารโรยรามาสอบหลังจากส่งงานเสร็จ

   “เอ่อไอ้กลอย ทำไมช่วงนี้กูไม่เห็นคนขับรถประจำตัวมึงเลยวะ” อีเข็มมันเงยหน้าจากเสามาจ้องหน้าผมครับ

   พี่โชไปเที่ยวกับครอบครัวที่ยุโรปก่อนผมจะสอบอีก รวมๆ ตอนนี้ก็เกือบจะเดือนหนึ่งแล้ว ไปโคตรนานแล้วไม่ติดต่อมาด้วยนะ แรกๆ ผมแม่งรอโทรศัพท์เผื่อพี่แกจะโทรมาบอกว่าถึงแล้วหรืออยู่ที่ไหนแล้ว แต่กลับเงียบหายจนไร้ร่องรอย แม้แต่ในโลกโซเชียลก็ไม่มีอัพเดตอะไรเลย

   สงสัยติดใจชีสเลยลืมนมจืดๆ แบบผม

   พอเห็นผมไม่ตอบมันก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะจนเพื่อนก๊กมันออกมาก็พากันกลับ ผมยังต้องนั่งรอไอ้ทูที่แม่งจะทำช้าไปไหน ทั้งห้องเหลือมันแค่คนเดียว นี่กะจะเอาคะแนนเต็มหรือไงวะ ผมลองยื่นหน้าเข้าไปดูเห็นมันเริ่มลุกจากที่แล้วมันก็เดินออกมา

   “ช้าว่ะ” ผมบ่นทันทีเมื่อไอ้ทูเดินหน้าเหี่ยวออกมา

   “โทษทีว่ะ กูเผลอหลับตอนชั่วโมงแรก”
 
   อ่าว คิดว่ามันทำได้ ทีแท้แม่งหลับ

   “เออๆ แล้วนี่มึงจะไปหอกูหรือให้กูไปหอมึง” นัดไปหลับครับ ขืนนอนคนเดียวรับรองตื่นอาทิตย์หน้าแน่

   “พอดีกูมีนัดแล้วว่ะ”

   “ใคร? ไอ้รถสีส้มคันนั้นเหรอวะ” ผมจ้องหน้ามันอย่างคาดคั้น ผมเห็นไอ้รถคันนั้นมาเกือบๆ จะเดือนแล้ว แถมเจ้าของมันไม่ยอมลงมา พอส่องก็มองไม่เห็นเพราะติดฟิล์มโคตรดำ “มึงจะไม่บอกกูจริงๆ เหรอว่ามึงไปกับใคร กูเพื่อนมึงนะเว้ย”
 
   “กู...”

   “เออๆ ถ้ามึงพร้อมก็ค่อยบอก แต่กูเพื่อนเป็นมึงนะ” กดดันมันครับ ฮ่าๆ

   “เอ่อน่า ไว้กูจะบอก”

   ผมกับไอ้ทูเดินลงมาจากตึกก็เห็นไอ้รถสีส้มมันมาจอดรออยู่แล้วครับ ถ้ามองดีๆ จะเห็นพวกไอ้เคนั่งอยู่ม้าหินอ่อนใกล้ๆ เหมือนจะนั่งชิวแต่ที่จริงนั่งเสือกอยู่ พวกมันก็อยากรู้เหมือนผมนี่แหละ

   ไอ้ทูมองหน้าผมก่อนมันจะเดินตรงไปขึ้นรถคันนั้น ผมกับไอ้พวกที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ต่างพากันยืดคอยื่นหน้าส่องตอนไอ้ทูเปิดประตู เสี้ยวหน้าที่เห็นมันไม่คุ้นเอาเสียเลย ผมรีบเอามือถือมาถ่ายป้ายทะเบียนรถก่อนส่งไปให้ไอ้อัธพร้อมให้มันลองสืบดูว่าใช่รถหนึ่งในกลุ่มเพื่อนพี่โชหรือเปล่า แม้มันจะสอบเหมือนกันแต่หวังว่าไอ้อัธมันคงไม่ทำให้เสียใจ

   “กูกลับก่อนนะพวกมึง” ผมบอกลาพวกไอ้เค พวกมันก็พยักหน้าแล้วแยกย้ายขึ้นยานพาหนะของตัวเอง
 
   “เอ่อ ทุ่มครึ่งอย่าลืมนะเว้ย ร้านเจ้วรรณยาดอง ปลุกนาฬิกาด้วยนะพวกมึง” ไอ้ต๋องตะโกนครับ

   ก็แหม สอบเสร็จมันก็ต้องฉลองก่อนปิดเทอมช่วงปีใหม่ เหนื่อยหนักมาหลายอาทิตย์เราก็ต้องผ่อนคลายคืนความสบายให้กับคอและท้อง นึกแล้วก็เปรี้ยวปาก แต่ตอนนี้ไอ้กลอยขอไปนอนพักก่อน ขนาดขี่รถยังเหมือนตัวลอยๆ ได้

   ถึงหอผมปุ๊บมือก็ถอดเสื้อกับกางเกงเขวี้ยงทิ้งไปทางไหนสักทาง เหลือแต่อกเปล่าๆ กับบ๊อกเซอร์ เปิดแอร์เย็นๆ โกรกให้สบาย...คร่อก






   
   ‘กลอยครับ’ เสียงแผ่วๆ ดังลอยมากับสายลม เหมือนผมจะได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองอยู่ไกลๆ เรียกหลายครั้งจนผมเริ่มมองหา แสงสว่างที่ตรงปลายทางทำให้ผมเหมือนจะเห็นร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่ คนๆ นั้นยิ้มให้ผมแล้วเรียกให้ผมไปหา

   ‘พี่โชเหรอ’ ผมลองถามออกไปเพราะมองไม่เห็นหน้า แต่ผมว่าน่าจะใช่พี่โช แล้วทำไมผมถึงฝันถึงพี่เขาล่ะ...

   หรือว่าพี่เขาจะจากผมไปแล้ว?

   ไม่จริงใช่มั้ย

   ‘กลอย พี่รักกลอยนะ’ เสียงพี่โชจริงๆ ครับ เสียงมันดูเหงามากจนน่าใจหาย
 
   ‘พี่เป็นอะไร ทำไมผมถึงไม่เห็นหน้าพี่ล่ะ’ พี่โชกำลังยืนอยู่ในที่สว่างแต่กลับมองไม่เห็นตัวและใบหน้า มันเหมือนเงา

   ‘พี่คิดถึงกลอยตลอดเวลา อยากกลับมาใจจะขาด’ ผมลองยื่นมือออกไปสัมผัสร่างในเงามืด แต่กลับคว้าเพียงอากาศ ‘ตอนนี้พี่กลับมาอยู่ข้างๆ กลอยแล้วนะ แล้วจะไม่ไปไหนอีก’ อย่าพูดเป็นลางได้มั้ย ผมใจไม่ดีแล้วนะเว้ย

   ‘พี่หมายความว่ายังไง’ ผมบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นแต่มันก็ลำบากเต็มทน ยิ่งน้ำตามันไหลออกมายิ่งบังคับเสียงยากขึ้น

   ‘เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป พี่สัญญา’ เสียงกระซิบแผ่วเบาครั้งสุดท้ายค่อยๆ เลือนหายไป พร้อมกับแสงสว่างที่ถูกความมืดกลืนจนร่างที่เห็นหายไป

   ไม่จริงใช่มั้ย ผมแค่ฝัน มันไม่ใช่เรื่องจริง ยิ่งร้องไห้ยิ่งอึดอัด ร้องไห้หนักจนหายใจไม่ออก ผมนั่งกอดเข่าตัวเองร้องไห้แทบจะขาดใจ ผมไม่อยากให้พี่จากไป แม้ผมจะปฏิเสธพี่มาตลอด แต่ผมก็ไม่อยากให้พี่จากไป

   สัมผัสแผ่วเบาบนศีรษะทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง แต่ไม่เห็นใครสักคน พอขยับตัวกลับเหมือนถูกเข็มยึดติดไว้จนกระดิกไม่ได้ ทำไม ผมเป็นอะไรไป แล้วทำไมผมถึงหายใจไม่ออก หรือผมกำลังจะตายไปพร้อมพี่โช

   ผมพยายามดิ้นแต่เหมือนยิ่งถูกรัดจนหายใจไม่สะดวก ลมหายใจแผ่วเบาปะทะกับหน้าผาก ลากมาที่แก้ม และรู้สึกถึงความอุ่นแผ่ซ่านที่ริมฝีปาก นี่วิญญาณพี่โชทำอีกแล้วเหรอ ขนาดพี่ตายพี่ยังมาหาผม พี่คงรักผมมากสินะ ผมขอโทษที่ทำให้พี่เสียใจบ่อยๆ...

   แต่เดี๋ยวนะ ไอ้สัมผัสบางอย่างแม้ว่าจะฝันแต่มันก็ไม่ควรหรือเปล่า

   ผมรีบส่งมือตะครุบบางอย่าง (ที่คาดว่าเป็นมือ) ที่มันกำลังคืบคลานเข้าไปในกางเกงของผม จับด้านหน้ามันย้ายไปด้านหลัง พอจับด้านหลังมันก็ย้ายมาด้านหน้า พอจับไว้ทั้งคู่ก็เจ็บจี๊ดที่ต้นคอ

   ...ผมว่ามันไม่ใช่ฝันแล้วล่ะแบบนี้

   พรึ่บ ผมลืมตาตื่นขึ้นมาควรจะเห็นเพดานห้องแต่ไหงเห็นหน้าคนได้วะ แล้วดูรอยยิ้มโคตรชั่วร้าย ใบหน้านี้คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

   “ตื่นแล้วเหรอครับคนดี” พูดเสร็จก็ก้มลงมาจูบที่ปลายจมูกผมอย่างแผ่วเบา

   “พี่โช?” เสียงผมทำไมแหบแห้งแบบนี้ อ่าผมนอนหลับนี่น่า แล้วทำไมเห็นพี่โช หรือนี่ก็ยังเป็นความฝัน “ผมกำลังฝันซ้อนฝันหรือเปล่า” ถามไปทั้งๆ ที่ยังจ้องตาอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ มุมปากค่อยๆ ยกยิ้มแล้วก้มลงมาจูบผมแผ่วเบาก่อนจะเพิ่มความร้อนแรงจนผมต้องกลั้นหายใจ

   “ใช่ความฝันหรือเปล่า” ใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อผละออกไป ดวงตาคมที่มีผมนอนหอบหนักอยู่ข้างในกำลังสั่นไหว “หรือต้องลองอีกสักรอบถึงจะรู้” ใบหน้าหล่อกำลังจะก้มลงมา ผมรีบยกแขนขึ้นกั้นทันที

   “รู้แล้วๆ” พี่โชหัวเราะให้กับคำตอบของผม ว่าแต่ ทำไมแอร์มันเย็นๆ ร้อนๆ หรือมันเสียวะ
 
   ผมมองใบหน้าพี่โชนิ่งๆ ก่อนจะไล่สายตามองดูสภาพตัวเองบ้าง มันก็เหมือนเดิมทุกอย่าง เหมือนตอนที่เข้านอน...ยกเว้นบ็อกเซอร์ เชี่ย กางเกงของผมมันหายไปไหนวะ ผมรีบตวัดสายตาขุ่นมองไอ้คนที่กำลังใช้แขนคร่อมร่างผมไว้กับเตียง

   “พี่ทำอะไรผมเนี่ย แอบลักหลับผมเหรอ” ผมโวยวายทันที มือก็พยายามจะผลักคนที่ไม่ยอมขยับออกให้ผมลุก “ถอยไปดิ่วะ”

   “ไม่” ปฏิเสธออกมาหน้าตาเฉย “พี่ไม่อยู่ตั้งนาน ไม่คิดถึงพี่เลยเหรอ”

   “พี่ก็ไม่คิดถึงผมเหมือนกันนั่นแหละ” ผมเลิกดิ้นก่อนเสหน้ามองไปทางอื่น ไม่ได้น้อยใจนะ แค่ไม่อยากมองหน้าเฉยๆ

   “ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ”

   “ก็พี่ไม่เห็นติดต่อมาเลยนี่หว่า”

   “เด็กน้อย” พี่โชยิ้มกว้าง ก่อนก้มลงมาจูบหน้าผากผมเบาๆ “ที่พี่ไม่ติดต่อมา เพราะกลัวได้ยินเสียงแล้วจะรีบจองตั๋วกลับมาต่างหาก”

   “ขี้โม้”

   “พี่พูดจริงๆ ถ้าไม่เชื่อ ต่อไปพี่จะพากลอยไปด้วย โอเค๊?” ผมเบะปากใส่คนขี้โม้ เหอะ หายไปเป็นเดือนกลับมาพูดแค่นี้คิดว่าจะหายเหรอวะ ไม่มีทางซะหรอก “หายงอนพี่เถอะนะครับ”

   ผมเหล่ตามองคนที่คร่อมผมไว้ พลางแบมือไปตรงหน้าจนพี่โชเลิกคิ้วมอง “ไหนล่ะของฝาก”

   “พี่นี่ไง ของฝาก” มีขยิบตาด้วยว่ะ พี่โชแม่งไปหัดทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

   “พี่กินไม่ได้ ไม่เรียกของฝาก”

   “แต่พี่กินกลอยได้นะ”

   “หยุดพูดจาหื่นเลยนะ คิดแต่เรื่องลามกตลอด ไม่เบื่อบ้างเหรอวะ”

   “ทำไมต้องเบื่อ พี่ไม่เคยเบื่อคนที่พี่รักแม้แต่วินาทีเดียว”

   ขี้โม้ว่ะ แต่ทำไมผมถึงยิ้มจนปวดแก้ม

   ผมมัวแต่เขินจนลืมว่าตอนนี้ตัวเองไร้เสื้อผ้า มารู้ตัวอีกทีก็ถูกคลุกวงในอีกแล้ว ไอ้พี่โชมันจับของๆ ผมอีกแล้ว ของผมก็เหมือนของพี่นั่นแหละโว้ย

   “พี่โช...อือ...อย่าจับ” ทำไมเสียงผมมันเบาหวิวขนาดนั้น

   “ทำไมไม่ให้จับล่ะหืม” อย่าทำเสียงอ่อนแบบนั้นได้มั้ย ผมใจไม่ดี

   “ก็มัน...จะรู้สึกไงเล่า...อือ” เหมือนรู้สึกถึงลางร้ายบางอย่าง เมื่อไอ้บางอย่างของพี่โชมันทิ่มขาผมอยู่ “พี่โชไม่เอานะ ห้องผมมันไม่เก็บเสียง” นั่นไม่ใช่ประเด็น ผมต้องหยุดก่อนมันจะเลยเถิดไปไกล และผมยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ

   “งั้นในห้องน้ำได้มั้ย”

   “นั่นก็ไม่ได้”

   “แต่พี่ไม่ไหวแล้วนะ” ไม่พูดเปล่า พี่โชแม่งเอามือผมไปจับของตัวเองที่มันพร้อมใช้การ

   ทำไมผมไม่ชักมือกลับเหรอ เพราะผมเคยจับแล้วไง ตอนโดนวัดขนาดนั่นแหละ โคตรอาย แต่ถึงตอนนี้มันก็ยังเขินอยู่ดี

   “ไม่ทำได้มั้ย นะ” ผมอ้อนวอนทั้งน้ำเสียงและสายตา

   “แล้วจะให้พี่รอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ”

    เมื่อไหร่ดีวะ

   “มะ ไม่รู้” ปากถามผมแต่มือแม่งยังลูบ โอ้ย ไอ้กลอยจะไม่ไหวแล้วนะ

   “ให้เวลาหนึ่งวัน”

   “แบบนั้นไม่เรียกให้เวลาแล้ว งั้นเดือนหนึ่ง”

   “กะให้พี่แห้งตายเลยหรือไง สามวันก็พอ” มีต่อรองเว้ยเห้ย

   “แต่ผม...”

   “ไม่รู้ล่ะ...งั้นตอนนี้ทำให้สบายตัวก็พอ” พูดจบผมก็ลอยหวืออยู่บนบ่า พี่โชแบกผมเดินเข้าห้องน้ำทันที ก็บอกแล้วว่าห้องน้ำก็ไม่ได้ไงเล่า พูดไม่รู้เรื่อง มันแคบโว้ย!!





   หลังจากถูกรีดน้ำให้สบายตัวไปสองรอบติด ตอนนี้ผมมานั่งอยู่บนรถที่ไม่ได้เห็นมาเป็นเดือน พี่โชพาผมไปตามนัดของพวกไอ้เคครับ ตอนแรกผมจะไปเองพี่แกสั่งห้ามทันที สุดท้ายเลยต้องมาด้วยกันแบบนี้ หวังว่าพวกไอ้เคจะเข้าใจและจะเข้ากันได้กับพี่โช

   “พี่โช” ผมเรียกคนที่ขับรถเบาๆ เมื่อนึกอะไรได้

   “ครับ”

   “เราเป็นแฟนกันแล้วเหรอ” พอผมถามไป พี่โชก็หันขวับมามองหน้าทันที “พี่ยังไม่เคยขอผมเป็นแฟนเลยนะ ผมเลยสงสัยว่าเราเป็นอะไรกัน”

   “ต้องให้พูดด้วยเหรอ”

   “ก็ต้องพูดดิ่ ผมโง่พี่ก็รู้” พี่โชขำหลังจากที่ได้ยินผมด่าตัวเอง ผมทำหน้างอเมื่อถูกหัวเราะเยาะ พี่โชยิ้มนิดๆ ก่อนหักพวงมาลัยจอดข้างทาง “พี่จอดรถทำไมเนี่ย”

   “ยื่นหน้ามาซิ” พี่โชกวักมือเรียกให้ผมไปหา เหอะ รู้ทันหรอก ผมส่ายหน้าปฏิเสธทันทีจนพี่โชหน้าบึ้ง “ยื่นหน้ามาเร็ว” เสียงเริ่มนิ่งแบบนี้ผมไม่ควรต่อรองเลยยื่นหน้าเข้าไป จะจูบ จะหอม หรือจะทำอะไรวะ

   ลมหายใจเบาๆ กระทบกับต้นคอกับความเย็นนิดๆ ทำให้ผมลืมตาขึ้นมา หลังจากเตรียมใจว่าถูกลวนลามแน่ๆ แต่เปล่าเลย เมื่อพี่โชผละออกไป ดวงตาดุกลับเป็นประกาย ผมมองหน้าคนที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนก้มมองดูของบางอย่างที่ห้อยที่คอ
 


   สร้อยคอมีแหวนสองวงห้อยอยู่


   “อะไรอ่ะ”

   “แหวนไง เมื่อถึงเวลา พี่จะสวมให้ใหม่ที่ไม่ใช้ที่คอ” ยังทำหน้างงเหมือนคนโง่ “พี่รู้ว่ากลอยยังไม่มั่นใจในตัวพี่เท่าที่ควร แต่ต่อไป พี่จะทำให้กลอยมั่นใจและเชื่อมั่น แหวนคู่นั้นถึงจะมีค่า”

   เลี่ยนอีกแล้ว สงสัยไปเมืองนอกกินแต่พวกเลี่ยนๆ เลยติดมาเป็นคำพูดแหงๆ

   “วู้ ไม่คุยแล้ว รีบๆ ไปเลย” รีบกลบเกลื่อนความเขินทันที แต่ผมชอบนะ

   รถคันสวยพุ่งทะยานสู่ท้องถนนอีกรอบ ผมยกมือจับแหวนสองวงที่ห้อยอยู่ที่คออย่างเขินๆ แต่ต้องกลั้นยิ้มเพราะกลัวอีกคนจะได้ใจ จนรถจอดนิ่งสนิทที่ลานจอด แม้จะเป็นร้านยาดองเล็กๆ แต่ลานจอดรถโคตรกว้าง

   ผมเดินเข้าร้านพร้อมพี่โช เห็นหัวไอ้สักอยู่ไกลๆ มันสั่งยาดองไว้แล้วอยู่บนโต๊ะ พอพวกมันเห็นผมก็ยกมือโบกไปมา แต่พอเห็นมีคนเดินตามผมด้วย พวกมันก็ยกมือไหว้ทันที แม้จะไม่สนิท แต่พวกมันก็รู้จัก

   “เอ่อ สวัสดีครับพี่ครับ” ไอ้สักทักทายคนแรก หลังจากพี่โชกับผมนั่ง

   “นี่ครับพี่ครับ” ไอ้ต๋องรีบตักยาดองในโหลใส่แก้วเป็กเล็กๆ แล้วยื่นให้พี่โชกับผม เห็นแก้วเล็กๆ แบบนี้แม่งแรงนะครับ กินทีร้อนไปทั่วท้องเลย

   “ขอบใจ” พี่โชตอบรับนิดๆ แต่ยังไม่ยกดื่ม มีแต่ผมที่ยกซดจนหมดแก้ว ร้อนท้องเลย อูย

   “แล้วไอ้เชี่ยทูไม่มาเหรอวะ” ผมถามเมื่อไม่เห็นหัวเพื่อนสนิท

   “มันโทรมาบอกว่าไม่มาเว้ย ไม่เชี่ยนี่ทำตัวแปลกๆ” แปลกอย่างไอ้เคว่า ปกติแบบนี้ไอ้ทูไม่เคยพลาด

   “สรุปมึงรู้หรือยังว่าไอ้รถสีส้มเป็นของใคร” ไอ้ต๋องมันพูดก่อนกระดกแก้วจนหมด

   “ไม่รู้ว่ะ เพื่อนกูยังไม่ตอบ สงสัยอ่านหนังสือหนัก” ไอ้อัธท่าจะยุ่งจริงๆ ไม่อ่านด้วย “เอ่อพี่โช เพื่อนพี่มีใครขับรถสีส้มบ้างหรือเปล่า” ถามคนนี้น่าจะรู้เรื่องที่สุด แต่พี่โชส่ายหน้า

   “พี่จอมขับรถสีอะไร”

   “สีดำ” ไม่ใช่

   “พี่ซันล่ะขับสีอะไร”

   “สีขาว” นี่ก็ไม่ใช่ หรือจะเป็น

   “พี่เบล่ะ” พี่โชเริ่มขมวดคิ้วเหมือนไม่ค่อยพอใจที่โดนถามมากแต่ก็ยังตอบ

   “สีดำ” อ่าว พี่เบก็ยังไม่ใช่ แล้วใครวะ “อ่อ มันมีสีส้มอีกคันมั้ง ทำไมเหรอ” นั่นไงๆ ว่าแล้ว
 
   “ก็เพื่อนผม ไอ้ทูอ่ะ ช่วงนี้มันมีรถสีส้มมารับทุกวัน ผมก็เลยอยากรู้”

   “เรื่องของคนอื่นน่า”

   “นั่นเพื่อนผมนะ ใช่มั้ยพวกมึง” ไอ้พวกเพื่อนๆ มันพยักหน้าครับ

   “ถ้ารู้แล้วจะทำอะไรได้” ก็จริง

   เมื่อปล่อยเรื่องไอ้ทูแล้ว พวกผมก็เริ่มก๊กกันต่อ จนมีคนกลุ่มใหญ่เดินเข้าร้าน พวกไอ้สักก็กวักมือเรียก พอเห็นว่าเป็นใคร ผมก็ยิ้มให้ทันที ที่สำคัญ พี่โชยิ้มให้ด้วยตอนพวกนั้นมันยกมือไหว้

   “นั่งสิ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” พี่โชพูดก่อนพวกเราจะลากโต๊ะมาต่อกันเป็นแถวยาว คนเกือบๆ ยี่สิบคนนั่งเฮฮาบ้าบอจนเมาไปข้างหนึ่ง เหตุเพราะมีเจ้ามือเลี้ยงพวกมันเลยสั่งไม่อั้น หมูปิ้งเอย ไก่ปิ้งอีก เต็มโต๊ะชนิดที่ว่า อิ่มยันชาติหน้า แถมโหลยาดองก็วางเต็มโต๊ะ

   เมาได้ที่ก็ถึงเวลาแยกย้าย พวกไอ้ต้อมก็ยกมือไหว้ขอบคุณ แม้พวกมันจะเดินเซๆ แต่ก็ไหว้ถูกคน แต่ไอ้ต๋องนี่ไม่ไหวจริงๆ มันไปนั่งไหว้หมาครับ โคตรฮา ส่วนผมก็เมาแต่ไม่เหมือนหมา พอประคองสนิทได้อยู่ แม้พี่โชจะยืนลุ้นอยู่ข้างหลังเพราะกลัวผมล้ม อวดเก่งจะเดินไปที่รถเองครับ จนสุดท้ายหน้าคว่ำโคตรเจ็บ

   “ฮึก ฮือออ เจ็บ”

   “เอ๊า ล้มเองแล้วร้องไห้อีก”

   ผมร้องไห้โวยวายจนคนที่กำลังเพิ่งออกจากร้านมามองกันเป็นแถวๆ ไม่รู้ทำไมถึงร้องไห้ขนาดนั้น รู้แต่ว่า มันอยากร้องไห้ ไม่ว่าพี่โชจะปลอบยังไงก็ไม่หยุด สุดท้ายสติก็เลือนหายไปไม่รู้สึกอะไรอีกเลย



   ผมไม่เคยเมานะ อาจจะร้องไห้จนเพลียเลยหลับไปแค่นั้น...จริงจริ๊ง (เสียงสูง) 



....TBC   


อัพวนไปค่า ....

อัพจนจะไม่มีคนอ่าน ไม่จริงใช่มั้ย? (เริ่มบ้า) ^^~

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ LOVE LOVE
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-07-2016 17:27:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: thari ที่ 29-07-2016 17:28:00
ยังอุตส่าห์ #เสียงสูง นะลู๊กกกกกกกกก 55555555

น้องกลอยเป็นคนใสๆ ค่ะ ไม่ชอบเข้าห้องน้ำพร้อมพี่โชเพราะแคบ  ถ้างั้นต้องลองเอาท์ดอร------ /สัญญาณขาดหาย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Red_sister ที่ 29-07-2016 17:31:34
ยังอ่านอยู่ค่าาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-07-2016 18:02:14
จ้ะ เชื่อก็ได้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 29-07-2016 18:22:02
กระเเส เสียงสูงก็มา 555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 29-07-2016 18:27:06
ตามอ่านอยู่นะคะ อย่าเพิ่งไปไหนเด้อ
เขียนวนรัวๆเลยค่ะ เพราะเลื้อยอ่านแถวนี้เหมือนกันค่ะ 5555+



ปล.หน่องกลอยนี่ไสยๆจินะ หึหึ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 29-07-2016 18:41:26
นี่ตามอ๊านนนน << เสียงสูงทำไม 555

ชอบเนื้อเรื่องเรื่อยๆ แบบนี้
บางที...การพัฒนาความสัมพันธ์ก็แค่ใช้เวลา ไม่ใช่เรื่องอุปสรรคอะไรเยอะๆ หรอก เคลียร์ตัวเองให้พร้อมก็พอแล้วเนาะ ^^

แอบสงสัยไปด้วยเรื่องทู...ก็แล้วมันใครมารับ แถมอยากรู้ด้วยว่าน้องจะตัดพี่เบ หรือพี่เบจะว่าไงต่อ ^^"
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 29-07-2016 18:42:38
ติดตามอยู่นะค๊ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 29-07-2016 19:22:25
เมาแล้วขี้แง
น่ารักจั๊งงงงง *เสียงสูง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 29-07-2016 19:51:52
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 29-07-2016 20:35:27
อ่านรวดเดียวสี่ตอนเลย ตอนที่ ผญ มารุมทำร้ายกลอยอะคือไม่ชอบเลยนะที่คิดจะให้กลอยถูกข่มขืนอะมันไม่ถูกนะเว้ยต่อให้เกลียดแค่ไหนคุณก็ไม่ทีสิทธิ์จะมาทำกับเขาแบบนี้ ถ้าเป็นตัวเองโดนบ้างจะรู้สึกยังไงวะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-07-2016 20:41:41
ความน่าเชื่อถือติดลบมาจ้ะ น้องกลอย :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 29-07-2016 20:52:53
พี่โชเลี่ยนได้ตลอด กลอยไม่หลงให้มันรู้ไป
น้องกลอยเมาๆๆแบบนี้ระวังพี่โชไว้ให้ดี ยิ่งหื่นๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ
แอบเผือก พี่เบไปรับทูเพื่อ แถลงด่วนๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-07-2016 20:55:11
ในเมื่อกลอย #เสียงสูง เราเชื่อกลอยก็ได้
 :m4: :m4: :m4:

#เสียงสูง ก็มา :m11: :m11:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 29-07-2016 23:01:09
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 29-07-2016 23:23:16
พี่โชรักน้องกลอยมากจริง ๆ :katai2-1:  แล้วเรื่องหนังสืออยากให้ทำจริงๆนะครับ อยากได้เก็บไว้มากๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-07-2016 00:10:01
พี่โช น่ารัก ยึดติด งอน หึง ปกป้องได้ เชื่อฟัง ครบทุกอย่างเลย   :mew1: :mew1: :mew1:
รอน วอนตีนจริงๆ ถ้ากลอยไม่ห้าม ปลิวตามตีนพี่โชแน่ๆ
ปีสี่แล้ว พี่เบ พี่ติน ยังเล่นนางเงือกน้อย ตบบน ตบล่าง ตบพร้อมๆ กัน
หรือเล่นกับไอ้คนที่ถูกซ้อม  น่าจะเล่นตบไอ้คนถูกซ้อมฝ่ายเดียว กร๊ากกกก
สงสัย ใครน้อขับรถส้มมารับทู?
สนุกมากกกก ไร้ท ลงยาวดี ชอบบบ  อ่านไปหัวเราะไป  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 30-07-2016 03:16:53
ชอบจร้าชอบ อ่านถึงตีสามครึ่งเลยไม่ยอมนอนเพระาอยากอ่านให้จบ ชอบมาก อยากอ่านแนวนี้พอดี เขียนสนุกด้วย มาต่อเร็วๆนร๊า เห็นคนรักกัน เฮฮามีความสุข :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 18<< // [29/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 30-07-2016 03:44:11
พี่โชน่ารักกับน้องกลอยขึ้นเยอะเล๊ย*เสียงสูง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 30-07-2016 17:08:41
Just you and I : 19




        “เมื่อไหร่ไอ้เชี่ยจอมจะมาวะ มึงโทรหาดิ๊” พี่แทมบ่นเป็นรอบที่ล้านระหว่างรอคนมาครบเพื่อที่จะออกเดินทางสักที อันที่จริงก็เหลือแค่พี่จอมนั่นแหละครับ พี่ตินล้วงมือถือออกมาแต่ก็ทำได้แค่เลื่อนชื่อหา เพราะคนที่จะโทรเดินลากกระเป๋ามาแล้ว

   “โห กว่าจะมานะไอ้คุณชายจอม” พี่ตินแขวะทันที แต่คนมาช้ากลับไม่สนใจเดินดิ่งๆ มาขึ้นรถ พี่จอมใส่เสื้อยืดสีดำกางเกงยีนส์สีซีด ที่คอมีผ้าพันคอสีเทาพันมาด้วยคงกลัวหนาว

   ต่างจากเพื่อนๆ ของพี่จอม อย่างพี่แทมกับพี่ตินนี่จัดเต็มมาก แต่งตัวเหมือนจะไปเมืองนอก ทั้งเสื้อโค้ท กางเกงยีนส์สีเข้ม ผ้าพันคออีก ผมแอบเห็นถุงมือกับที่ครอบหูด้วย นี่พี่จะไปเชียงใหม่หรือที่ไหนวะ

   พวกสบายๆ ก็มีอย่างพี่โชที่มาเสื้อยืดแขนยาวกับกางเกงยีนส์สีดำ ไอ้อัธที่ใส่กางเกงสามส่วน เสื้อแจ็คเก๊ตทับเสื้อยืดสีขาว พี่เบกับพี่ซันก็แนวใกล้ๆ กับพี่โช ส่วนพวกที่เหมือนเพิ่งลุกจากเตียงก็มีผม ไอ้ม่าน ไอ้ทู ที่พร้อมใจกันสวมชุดวอร์ม

   พอคนพร้อม รถพร้อม ของพร้อมก็ออกเดินทาง โกๆ ทุกคนขึ้นไปนั่งบนรถตู้ส่วนใหญ่จะทะเลาะเรื่องที่นั่งหลังสุด สุดท้ายก็เป็นพี่ซันที่ไม่ยอมเถียงอะไรกับใครแต่เดินขึ้นไปนอนเหยียดยาวเฉย ทำเอาคนเถียงกันแทบจะเป็นจะตายมองตากันปริบๆ (สมน้ำหน้าจริงๆ) โดยคนขับคนแรกก็คือพี่ติน ส่วนผมไม่ได้ไปนั่งกับเขาหรอก เพราะต้องมาเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้พี่โชที่ไม่ยอมนั่งรถตู้ พี่แกจะเอารถไปเอง ตอนนั้นก็แอบทะเลาะกันนิดๆ สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายต้องยอม
 
   รถที่กำลังขับเคลื่อนไม่ใช่คันที่พี่โชขับทุกที ตอนแรกเห็นก็แปลกใจ เคยชินกับพี่โชขับรถสปอร์ตคาร์ แต่ตอนนี้ขับฟอร์จูนเนอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังเท่อยู่ดี แค่คิดนะครับแต่ไม่ได้พูด กลัวได้ใจ ฮ่าๆๆ

   “มองพี่ทำไม มีอะไรหรือเปล่า” พี่โชถามทั้งที่ตายังมองถนน คงรู้สึกว่าผมจ้อง

   “เปล่า ก็แค่ไม่เคยเห็นพี่ขับรถแบบนี้”

   “แปลกขนาดนั้น?”

   “ก็นิดหนึ่งไง”

   พี่โชหันมายิ้มเท่โปรยให้ผมรอบหนึ่งก่อนสนใจท้องถนนต่อ พวกเราออกจากหอไอ้ม่าน (ที่นัด) ประมาณหกโมงเช้า ตอนนี้ก็ดิ่งมาเรื่อยๆ จนมือถือพี่โชสั่น ปลายสายบอกให้แวะปั๊มข้างหน้าเพราะพี่แทมปวดขี้ รถตู้คันนำหน้าคงหอมชื่นใจเลยทีเดียวเพราะผมเห็นกระจกด้านข้างคนขับเลื่อนเปิดพร้อมกับพี่จอมยื่นหน้าออกมา
 
   พี่โชเลี้ยวตามรถตู้สีขาวเข้าไปในปั๊ม พอรถจอดสนิท ผมเห็นพี่แทมวิ่งหนึ่งคูณร้อยเข้าห้องน้ำทันที สงสัยจะปวดหนักจริงๆ
 
   “หิวมั้ย” พี่โชถามผมขณะผมกำลังปลดเข็มขัดนิรภัย

   “พี่โชหิวเหรอ” คนถูกถามส่ายหน้า แต่ผมหิวอ่ะ

   พอลงจากรถผมก็ตรงเข้าร้านสะดวกซื้อทันที แอบเห็นพี่จอมกับพี่ซันเดินไปเลือกน้ำที่ตู้ ส่วนไอ้ทูกับไอ้ม่านกำลังเลือกข้าวกล่อง แต่ผมอยากกินอย่างอื่นมากกว่า เดินวนจนเจอชั้นขนมขบเคี้ยวพอดีกับพี่โชถือตะกร้ามา ผมก็หยิบใส่ๆ จนพี่โชบ่นว่ากินเยอะจะอ้วน แต่ผมไม่สนใจ พอเลือกเสร็จพี่โชก้เดินไปจ่ายเงิน แอบเห็นพนักงานพากันสะกิดให้มองกลุ่มหนุ่มหล่อที่ยืนเข้าแถวรอจ่ายเงิน ขนาดคุณป้าที่เพิ่งเดินเข้ามายังอุทานซะพวกผมหัวเราะ ‘อุ๊ยต๊าย ดาราหรือเปล่าพ่อหนุ่ม หน้าตาหล่อเชียว’ ผมได้ยินก็แอบหมั่นไส้ ก็เลยหิ้วถุงขนมออกมาด้านนอก ก่อนเดินเลยรถไปที่ลานศูนย์อาหาร

   “หมูปิ้งไม้เท่าไหร่ครับ” นี่แหละที่ต้องการ หมูปิ้งหอมๆ ติดมันนิดๆ ของชอบไอ้กลอยเลย

   “ไม้ละสิบบาทจ้ะ” คุณป้าคนขายยิ้มหวานจนผมต้องเหมามาสิบไม้พร้อมข้าวเหนียวอีกสิบบาท ตอนเดินกลับไปที่รถ เห็นพี่เบยื่นขวดน้ำที่เพิ่งเปิดฝาให้ไอ้ทู เอาแล้วๆ คู่นี้มันยังไงกัน หรือกลับมาสานสัมพันธ์กันใหม่ มัวแต่คิดเพลินๆ ก็ถูกมือใหญ่ตบเข้ากลางหัวเต็มๆ

   “ไอ้เชี่ย” ด่าไปก่อนแม้ยังไม่เห็นหน้า

   “ด่ากูเลยเหรอห๊ะ” พี่แทมโผล่หน้ามาผมรีบยกมือไหว้ขอโทษทันที แต่พี่แกก็หัวเราะแบบไม่คิดอะไร “ว่าแต่มึงมองอะไรวะ” พี่แทมยื่นหน้าไปมองด้วย

   “ไอ้ทูกับพี่เบอ่ะ พี่พอรู้อะไรหรือเปล่า”

   “มีแนวโน้มว่ะ”

   “แนวโน้มอะไรพี่”

   “แนวโน้มว่ากูต้องรีบไปขี้อีกรอบ”

   เชี่ย อุตส่าห์ตั้งใจฟัง พี่แกวิ่งไปเข้าห้องน้ำอีกรอบแล้ว สงสัยจะกินอะไรผิดสำแดง ผมถือถุงหมูปิ้งไปหาพี่โชที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างพี่ซัน แอบเห็นสาวๆ มองกันตรึม ถ้าใจกล้าเข้ามาขอเบอร์นะ ผมจะยกนิ้วให้เลย (นิ้วโป้ง อย่าคิดมาก) พอพี่โชเห็นผมเดินมาก็ขยี้บุหรี่ลงบนถังข้างห้องน้ำ

   “ไปซื้ออะไรมา” ผมรีบยื่นให้ดู “เดี๋ยวก็หลับตลอดทางหรอก”
 
   “ก็ผมอยากกิน”

   “ครับๆ”

   พี่โชผลักหัวผมเบาๆ จนพี่ซันหันเราะออกมาผมเลยหันไปมองแบบงงๆ
 
   “พี่ซันขำไรอ่ะ” คือหัวเราะเกินจนคนมอง ก็รู้ว่าหล่อ ขนาดหัวเราะอ้าปากกว้างก็ยังหล่อ

   “ขำไอ้โช ตั้งแต่รู้จักมันมาเพิ่งเคยเห็นมุมนี้ของมัน” พี่ซันทิ้งบุหรี่ลงบนถังทรายก่อนเดินมาตบไหล่เพื่อนตัวเองเบาๆ “โชคดีที่เจอคนที่รักแล้ว” พี่โชยิ้มรับกับคำพูดของพี่ซัน

   จะว่าไป คู่นี้ก็น่ารักดีนะครับ โชซัน หรือซันโช

   นี่ผมติดโรคมากจากอีเข็มหรือเปล่าเนี่ย ไม่คิดๆ ตบหน้าตัวเองจนพี่โชยื่นมือมาจับก่อนจะพาเดินไปที่รถ คือคนเยอะไง แล้วคนก็มองพี่อยู่ พี่มาจับมือผม คนก็มองกันไง แล้วนั่นอะไร ยกมือถือมาถ่ายทำไม ผมไม่ใช่ดารานะเว้ยเฮ้ย กลุ่มสาวน้อยที่ยืนอยู่ที่ข้างเครื่องชั่งน้ำหนักแอบกรี๊ดเบาๆ ตอนผมเดินผ่าน แล้วมีโบกมือบ๊ายบายผมด้วย ไอ้ผมก็คนอัธยาศัยดีเลยยิ้มทักทายจนได้เสียงกรี๊ดมาอีกรอบ ผมก็มีเสน่ห์เหมือนกันนะ   

   ในที่สุดก็ถึงเวลาออกเดินทางอีกรอบ พี่แทมกินยาแก้ท้องเสียที่พี่ซันเตรียมมาด้วย คือกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นของพี่ซันมีครบทุกอย่าง ตั้งแต่ ยาหอม ยาดม ยาลม ยาอม ยาหม่อง และยาอีกสารพัดโรค นี่พี่เรียนวิศวะหรือเรียนหมอวะ พร้อมตลอด
 
   รถสองคันมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือของประเทศไทย ผมกัดหมูปิ้งคำ จกข้าวเหนียวคำ อร่อยหลาย

   “อ้า” เสียงของพี่โชที่อ้าปากรอ สงสัยได้กลิ่นหมูปิ้งแล้วจะหิว

   ผมยื่นหมูปิ้งให้พี่แกก็ไม่ยอมรับ เลยต้องยื่นไปที่ปากเพื่อป้อนนั่นล่ะถึงจะยอมกิน แล้วยังจะกินข้าวเหนียวอีก ถ้าพี่ง่วงผมเปลี่ยนขับไม่ได้นะเว้ย ไอ้กลอยนั่งได้แต่ขับไม่เป็น



   ใช้เวลาเกือบๆ จะเก้าชั่วโมง กว่าจะถึงบ้านไอ้ม่านที่เชียงใหม่ บ้านมันเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงหลังขนาดพอดี ผมเคยมาประมาณสองครั้งเห็นจะได้ บ้านมันยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เพิ่มเติมคือบ้านปูนหลังเล็กๆ ที่แยกไปอยู่ด้านข้างของบ้าน หน้าบ้านหลังนั้นเขียนชื่อไอ้ม่านไว้ด้วย คงสร้างเผื่อเพื่อนๆ จะมานั่นแหละครับ ไม่ก็ไว้สำหรับเป็นเรือนหอรอรัก

   พอเลี้ยวรถเข้ามาจอด หมาพันธุ์ไทยตัวอ้วนสีดำขาวก็รีบวิ่งมาเห่า พี่จอมลงคนแรกแหกปากจนพวกผมหัวเราะ ก่อนไอ้ม่านจะลงตามไป หมามันถึงได้หยุดเห่า น่าจะจำกลิ่นได้ ผมเดินสะลึมสะลือลงมาจากรถ นั่งหลับมาตลอดทางหลังจากกินข้าวเหนียวไป ตื่นมาบ้างตอนเข้าปั๊ม คือฤทธิ์มันร้ายแรงมากจริงๆ ครับ เหมือนกินยานอนหลับสักสิบเม็ด

   “หน้าบูดเลยมึง เพิ่งตื่นเหรอวะ” ไอ้อัธเดินมากอดคอผมพากันเดินไปที่บ้านเล็กที่ถูกสร้างใหม่ ด้านในก็เตรียมพร้อมปูเตียงนอนปิกนิกอยู่เต็มพื้นที่ จนพวกผมต้องพับเก็บเพราะกลัวเปื้อน

   “แม่ครับ สวัสดีครับ” ไอ้ม่านเดินเข้าไปหอมแก้มแม่มันอย่างคิดถึง พวกผมพากันยกมือไหว้บุคคลอันเป็นที่รักของไอ้ม่าน

   “ขับรถมาเหนื่อยๆ พักก่อนลูก” แม่ไอ้ม่านยกขวดน้ำมาให้พวกผมถึงในห้อง อ่อ ที่แม่พูดภาษาไทยเพราะพวกผมกับไอ้อัธเคยโดนภาษาล้านนาคำเมืองเข้าไปถึงกับเงียบ คือฟังไม่ออกจริงๆ จนอยากจะเปิดกูเกิลหาคำแปล
 
   “แม่ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับเนี่ย” ไอ้เชี่ยทูรีบเข้าไปประจบ ไอ้นี่ลูกรักเลยครับ มาทีไรถูกแม่ไอ้ม่านจองให้หลานสาวตลอด

   “ทูก็หล่อเหมือนเดิมนะลูก” พอถูกชมไอ้ทูก็ยืดจนโดนพี่เบที่กำลังขนของเข้าบ้านตบหัวไปเบาๆ

   แต่ไม่พ้นสายตาของไอ้กลอยหรอก หึหึ

   ป๊าบ เชี่ย ใครวะตบหัวกู

   “ช่วยขนกระเป๋าลงด้วยครับไอ้คุณน้องกลอย” พี่แทมตบหัวผมรอบสองแล้วนะเว้ย ผมได้แต่ฮึดฮัดก่อนเดินไปช่วยขนกระเป๋าสัมภาระ ทั้งที่ของผมมีแค่กระเป๋าเดินทางกับเป้แค่นี้ แล้วนี่กระเป๋าของใครวะ

   “ถือดีๆ นะไอ้น้อง มันแพง” พี่ตินเลยตัวเบาเข้ามา ในมือมีแค่ถุงขนม โคตรเอาเปรียบรุ่นน้องว่ะ แต่เดินไปได้ไม่ไกลพี่ตินก็ถูกพี่โชตบหัวเน้นๆ “ไอ้เหี้ย มึงเข้าข้างเมียมากกว่าเพื่อนเหรอวะ”

   “ก็มึงใช้งานกลอย”

   “นิดๆ หน่อยๆ น่า” พี่ตินเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือที่จะฟาดลงมาอีกรอบ ก่อนเดินไปล้มตัวลงบนฟูกที่ดึงออกมาเอง ไม่นานก็ได้ยินเสียงกรน หลับง่ายโคตรๆ

   เมื่อข้าวของถูกขนมาอยู่ในบ้านเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็แทบหมดเรี่ยวแรงพากันดึงฟูกออกมาแล้วนอนหลับเป็นแถวๆ ส่วนผมนอนมาเต็มอิ่มเลยปล่อยให้พี่โชนอนพัก และออกจากห้องไปกับไอ้ม่านและไอ้ทู ส่วนไอ้อัธมันนอนหลับเป็นตายไปแล้ว คงจะช่วยเปลี่ยนขับกับพวกพี่ๆ แน่

   “แม่ครับ มีอะไรให้ช่วยเปล่า” ไอ้ทูออเซาะทันทีเมื่อเดินเข้ามาในห้องครัว
 
   “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แล้วไม่นอนกันเหรอ”

   “พวกผมนอนบนรถมาแล้วครับ แล้วนี่แม่ทำอะไรกินเหรอ ห๊อมหอม” ผมทำจมูกยื่นไปที่หม้อที่ตั้งอยู่บนเตาถ่าน
 
   “ต้มไก่บ้านจ้ะ เคยกินมั้ย” พวกผมส่ายหน้า มีแค่ไอ้ม่านพี่พยักหน้า “งั้นตอนค่ำก็กินเยอะๆ นะ” แม่ไอ้ม่านพูดไปคนแกงไป หอมจนท้องร้อง

   “แม่ แล้วป้อไปไหน” ไอ้ม่านคุยกับแม่มันครับ นานๆ จะได้ยินมันพูดคำเมือง ที่จริงผมชอบนะ เคยฝึกพูดแล้ว แต่ไอ้เชี่ยม่านสอนคำโคตรเลวเลยเลิกเรียนไป มันบอกว่าคำว่าน่ารักภาษาคำเมืองเรียกว่า ‘จั๊ดง่าว’ ไอ้ผมก็คนไม่รู้เลยไปคุยกับแม่ ถามว่าผมจั๊ดง่าวหรือเปล่า พ่อกับแม่ไอ้ม่านหัวเราะจนท้องแข็ง บอกว่าคำนั้นเป็นคำด่าว่า โคตรโง่ ผมนี่รีบวิ่งหาไม้แทบไม่ทัน

   “ป้อไปดูสวนปุ้น เดียวก่อมาละ เอ่อ มีกาดนัดข้างวัดตวยนา ปาเปื่อนไปแอ่วแล่ ข๋องกิ๋นนักขนาด” คือแม่ไอ้ม่านสปีคมาผมกับไอ้ทูได้แต่มองหน้ากัน ส่วนไอ้ม่านก็ทำตาวาวหันมาทางพวกผม

   “พวกมึง ไปเที่ยวตลาดนัดกัน”

   ตกลงกันได้ รถมอเตอร์ไซค์สองคันก็พร้อมสู่ตลาดนัดแล้วครับ ผมขี่คนเดียว ไอ้ทูไปซ้อนไอ้ม่าน ขณะกำลังสตาร์ทเครื่อง พี่จอมมันเดินหน้างงๆ ออกมาจากบ้านเหมือนหาอะไรบางอย่าง

   “พี่หาอะไรอ่ะ” ไอ้ม่านตะโกนเสียงดังจนพี่จอมหันมามอง

   “หิวว่ะ” เรื่องกินนี่เรื่องใหญ่ตลอด “พวกมึงจะไปไหนวะ”

   “ไปตลาดนัดอ่ะ พี่ไปเปล่า ของกินเพียบน้า”

   “เออ”

   ชวนกันเสร็จ พี่จอมก็เดินมาซ้อนท้ายผมทันที พี่ตัวโตกว่าทำไมไม่ขับวะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อไอ้ม่านออกนำไปแล้ว ผมก็รีบบึ่งรถตามไป

   ถนนในหมู่บ้านลาดยางหมดแล้ว นึกถึงเมื่อก่อนที่มา ดินแถวนี้ยังเป็นดินแดง ฝนตกทีน้ำขังต้องเดินลุยออกไปตลาด ผมเคยลื่นล้มอาบน้ำถนนมาแล้ว ตัวแดงอย่างกับไปสปาโคลนมาอย่างงั้นเลย ระหว่างที่ขับไป พี่จอมก็ยื่นหน้าข้ามไหล่มาถาม

   “มึงกับไอ้โชไปถึงไหนกันแล้ว”

   “พี่ถามอะไรวะ ก็เป็นพี่เป็นน้องไง”

   “กูจะไปบอกไอ้โชว่ามึงตอบแบบนี้” เชี่ย ขี้ฟ้องอีก ผมเลยได้แต่เงียบ “ตั้งแต่ไอ้โชคบมึง นิสัยมันเย็นขึ้น เมื่อก่อนมันไม่พอใจอะไรมันก็เหวี่ยงทันที แถมเก็บความรู้สึกอีก ขนาดกูมันยังไม่ยอมบอกอะไร พออยู่กับมึง มันกลับเผยความรู้สึกทุกอย่าง ดังนั้น มึงห้ามทำให้เพื่อนกูเสียใจ ไม่งั้นกูจะตามไปกระทืบมึง เข้าใจ๊”

   ผมว่าเพื่อนพี่ต่างหากที่จะทำให้ผมเสียใจ

   “เออๆ รู้หรอกน่า ว่าแต่พี่เถอะ กับพี่ซันไปถึงไหนกันแล้ว” ผมโพล่งออกไป พี่จอมยกมือตบหัวผมอย่างแรงจนรถเซเกือบล้ม รุนแรงตลอด แม่ง

   “กล้าถามจริงมึงนี่ ทำไม คิดว่ากูกับไอ้ซันเป็นผัวเมียกันหรือไง” พี่จอมโคตรตรง ผมก็พยักหน้าไป “หึ ไอ้ซันมันเพล์บอย ใครหลงรักก็โคตรโง่ละ” ผมแอบหันไปมองพี่จอมแวบหนึ่ง

   “แต่พี่ซันก็ดูรักพี่นะ”

   “มึงเชี่ยวชาญเรื่องรักหรือวะ เอาตัวมึงให้รอดก่อนเถอะ”

   “เฮ้ยพี่ แต่ผมพูดจริงนะ พี่ซันแคร์พี่จะตายไป” เริ่มออกนอกหน้า พอพี่จอมเงียบผมก็พูดต่อ “พี่คิดดู เพื่อนพี่ไม่มีใครตามใจพี่เหมือนพี่ซันสักคน ตอนเจอแรกๆ พี่ซันบอกแฟนตัวเองชอบกินพายสับปะรด แต่ผมรู้ว่าบลูไม่กิน ดังนั้นพี่ชอบกินมันก็เป็นพี่อะดิ่”

   “มึงมั่วตลอด ขับไปๆ อย่าให้กูล้มนะมึง”

   ผมไม่รู้ว่าพี่จอมทำหน้าแบบไหน แต่ไอ้การเปลี่ยนเรื่องมันก็แอบมีหวังสินะ

   ผมขี่มอเตอร์ไซค์ลัดเลาะเหมือนคันข้างหน้า ไม่นานก็ถึงลานกว้างๆ ข้างวัดที่มีร้านค้าตั้งอยู่เต็มไปหมด ผู้คนมากมายต่างพากันไปซื้อข้าวของ ส่วนมากก็ของกินกับเสื้อผ้า พอผมจอดรถ พี่จอมก็ลงไปยืน ด้วยความที่หน้าตาดีแถมสูงเป็นทุน ทั้งสาวใหญ่ สาวเล็ก ต่างเหลียวมองกันเป็นแถว ทำให้ตลาดนัดมีอาหารตาจนคนซื้อคนขายหยิบของผิด ทอนเงินผิด จนเดินชนกันก็ยังมี

   ไอ้ม่านกับไอ้ทูแยกไปเดินกันสองคน ผมกับพี่จอมก็เลยเดินไปอีกทาง ส่วนใหญ่ก็หาของกิน พี่จอมซื้อเกือบทุกอย่างที่เดินผ่าน อันไหนหอมชวนหิวพี่แกก็ชี้นิ้วจนถุงหิ้วทำให้นิ้วเป็นสีม่วง นี่พี่จะกินยันชาติอนาคตเลยหรือไง

   “อันนี้น่ากินว่ะ” เอาอีกแล้วครับ แวะซื้อปลาหมึกปิ้ง แต่มันก็หอมจริง

   “พี่ซื้อเผื่อผมด้วย ผมเอาอันนี้” ผมบอก พี่จอมหันมองหน้าก่อนซื้อเพิ่มอีกยี่สิบไม้

   “เดี๋ยวกูไปเก็บเงินที่ไอ้โช” โคตรงกว่ะ

   พอได้ของกินเต็มมือ ผมกับพี่จอมเลยเดินเล่นดูเสื้อผ้า ถูกกว่าในห้างด้วยนะ แต่พวกผมก็ไม่ได้ซื้อ เพราะแค่ถุงของกินก็เต็มทุกนิ้วจนไม่รู้จะหิ้วยังไง เดินไปเรื่อยๆ จนเจอไอ้ม่านกำลังเลือกซื้อถุงมือ มันบอกจะขึ้นดอยต้องเตรียมไว้ พี่จอมเลยบอกให้มันซื้อเผื่อ แต่ผมไม่เอาเพราะพี่โชเตรียมไว้ให้แล้ว ทั้งผ้าพันคอ ทั้งเสื้อกันหนาว ถุงเท้า ถุงมือ หมวกไหมพรม คือพร้อมมากจริงๆ

   เมื่อเดินจนเมื่อยพวกผมก็พากันกลับ ขากลับเป็นพี่จอมขี่แทน ยังดีที่รถมีตะกร้าเลยแบ่งถุงของกินใส่ไว้ ถ้าไม่มีนิ้วผมคงม่วงจนขาดเลือดแหงๆ ระหว่างทางผมก็กระตุกเสื้อพี่จอมจนคนขี่หันมามองนิดๆ

   “พี่ว่า เพื่อนพี่ชอบผมจริงๆ เหรอ”

   “ถ้ามึงรักเพื่อนกูก็ต้องมั่นใจ อย่าถามแบบนี้อีก”

   “แล้วพี่รักพี่ซันป่ะ”

   “ไอ้เชี่ยกลอย เดี๋ยวทิ้งไว้กลางทางแม่ง” พี่จอมทำท่าจะจอดจริงๆ ครับ ผมรีบยื่นมือกอดเอวแน่นไม่ยอมปล่อย พูดจริงทำจริงตลอด ฮ่วย

   มอเตอร์ไซค์สองคันขับเข้ามาจอดในบ้าน ตอนนี้พวกพี่ๆ กับไอ้อัธตื่นกันแล้ว แถมเริ่มมองขวดที่ตั้งไว้ข้าง ขวดเหล้าสีใสแต่ข้างในสีขาวขุ่น ดูท่าจะไม่ใช่เหล้าธรรมดาแน่ พอทุกคนเห็นพวกผมต่างก็กวักมือเรียก ผมเดินหิ้วถุงของกินไปวางบนแคร่พวกที่นั่งรอก็พุ่งเข้าใส่เหมือนหิวโหย

   “ไปไหนทำไมไม่เรียกพี่” พี่โชดึงแขนผมให้ไปนั่งข้างๆ

   “ก็พี่ขับรถเหนื่อย ผมออกไปตลาดนัดแถวนี้แหละ” ผมบอก ตาก็มองปลาหมึกปิ้งของตัวเองที่ถูกพี่แทมกินอย่างอร่อย “พี่ตื่นนานแล้วเหรอ”

   “เพิ่งตื่น แล้วทำไมไอ้จอมไปด้วย” พี่โชไม่สนใจเพื่อนตัวเองจนถูกพี่ตินสะกิดให้กินแต่พี่โชส่ายหน้าคนชวนเลยไม่สนใจ

   “พี่จอมตื่นมาพอดีเลยไปด้วย”

   “แล้วทำไมต้องกอดเอวมัน”

   “ก็พี่เขาจะทิ้งผมไว้กลางทางอ่ะ”

   “แล้ว...”

   “โว๊ะ ไอ้สองคนนี้ไปคุยกันในห้องไป กูให้เวลาครึ่งชั่วโมงจะไม่มีใครเข้าไปกวน” พี่ตินพูดขัดขึ้นเพราะนั่งข้างพี่โช เลยถูกสายตาพิฆาตฆ่าไปเรียบร้อย

   “ไอ้น้องกลอย มึงไปซื้อปลาหมึกที่ไหนมาวะ อร่อยเชี่ย” พี่แทมยังแทะไม้ปลาหมึกของผมจนไม่เหลือ กินไม้ไปเลยยิ่งดี

   “ตลาดนัดอ่ะพี่ ของกินโคตรเยอะ” ไอ้ม่านมันตอบแทน ก่อนพ่อมันจะเดินออกมาพร้อมกับยกถาดกับข้าวมาด้วย ทุกคนเลยขยับเป็นวงกว้างให้มีที่วาง

   “เอ๊า หนุ่มๆ ต้มไก่บ้านมาแล้ว กินข้าวเหนียวเป็นกันใช่มั้ย”

   “คร้าบ”

   “แล้วพ่อไม่กินด้วยเหรอครับ” ไอ้อัธถามพ่อไอ้ม่าน พ่อส่ายหน้าบอกจะไปกินกับแม่สองคน “แหม สวีทกันแบบนี้ทำให้พวกผมอิจฉานะครับ” เพราะแซวไอ้อัธเลยถูกมือตบหลังดังป๊าบ ฮ่าๆ สมน้ำหน้า

   “อิจฉาก็หาสิ ทุกคนก็หล่อกันขนาดนี้ จนแม่มันเรียงลำดับให้หลานสาวจนไม่ทัน” พ่อว่าก่อนขอตัวเข้าไปในบ้านปล่อยให้ทุกคนละเลงต้มไก่บ้านถ้วยใหญ่อย่างหิวโหย

   พี่โชเอาช้อนตักตับไก่มาให้ผมจนพี่จอมมองหน้า

   “ไอ้เหี้ยโช ตับนั่นของกู”

   “มึงช้าเอง”

   “มึงไม่เข้าใจหรือไงไอ้จอม ไอ้โชมันไม่ยอมยกตับให้ใครนอกจากเมียมัน เพราะมันชอบกินตับ ฮ่าๆ” ถ้าพี่แทมสำลักตายผมจะยกมือไหว้เลยครับ เชี่ย แซวจนผมเคี้ยวตับไม่ละเอียดเลย
 
   กับข้าวทุกอย่างหายวับแม้แต่น้ำของต้มไก่บ้านยังไม่เหลือ พออิ่มหนำ พ่อไอ้ม่านก็ออกมาพร้อมกับขวดที่ผมเห็นวางบนแคร่อีกสามขวด พร้อมบรรยายสรรพคุณจนชักอยากลอง

   “เหล้าเนี่ย พ่อเป็นคนหมักเอง ใช้ข้าวหมัก อร่อยมากนะ ปกติจะกินช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่พอม่านโทรมาพ่อก็รีบหมัก อยากให้ทุกคนได้ลอง”

   “ผมลองคนแรกครับ” พี่แทมยิ้มหน้าแป้นแล้นยื่นแก้วไปตรงหน้า พ่อไอ้ม่านก็เทให้ครึ่งแก้ว กลิ่นมันก็หอมดีนะครับ พอพี่แทมมันยกซดหมดแก้วใบหน้าก็บิดเบี้ยวก่อนบอกว่าอร่อย จากนั้นก็พากันกินไปหลายขวด ขนาดพี่โชยังกินไปหลายแก้ว
 
   “อย่ากินเยอะนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องขึ้นดอยอีก” แม่ไอ้ม่านตักต้มไก่บ้านมาเป็นกับแกล้มเริ่มบ่น ส่วนผมก็แค่จิบๆ เพราะเทเยอะก็โดนจ้อง พอยกซดก็โดนมอง ก็เลยนั่งมองคนเมาซะเลย

   เหล้าข้าวหมักออกฤทธิ์จนแต่ละคนเดินไม่ตรง ลำบากใคร ก็ผมเนี่ยแหละครับที่ต้องพยุงทุกคนเข้าห้อง แถมต้องกางฟูกให้อีก คนสุดท้ายก็พี่โช ผมประคองพี่เขาไปนอนฟูกริมกำแพง เนื่องจากเป็นคำสั่งก่อนจะเมา

   “พี่เดินตรงๆ ดิ่วะ หนักอ่ะ” ผมเอาแขนพี่โชพาดไหล่แล้วกอดเอวลากเข้าไปในห้อง พี่โชแม่งเอนตัวมาทางผมจนแทบจะล้มไปหลายรอบ

   “กลอยครับ” พูดยานคางสุดๆ

   “ครับๆ ผมอยู่นี่ครับ”

   “พี่รักกลอยน้า”

   “ครับๆ พี่ครับ รู้แล้วครับ”

   กว่าจะถึงฟูกเล่นเอาเหงื่อตก พอปล่อยพี่โชลงนอนผมก็ทิ้งตัวนอนข้างๆ ผมนอนติดกำแพง ถัดมาก็พี่โช ถัดไปก็พี่ซัน พี่จอม พี่ติน พี่แทม พี่เบ ไอ้ทู ไอ้อัธ ส่วนไอ้ม่านขึ้นไปนอนบนบ้านกับพ่อแม่มัน ผมนอนหันหน้าเข้ากำแพงกำลังจะเคลิ้ม มือคนเมาก็เริ่มอยู่ไม่สุข ยื่นมาป้วนเปี้ยนๆ แถวท้องจนผมต้องจับมือไว้แน่น

   “พี่โชเมาจริงหรือเปล่าเนี่ย” เมาแล้วโคตรเนียน แต่ไม่มีเสียงตอบรับอะไร อาจจะเมาจริง “พี่โชลูบทำไมเนี่ย” ผมต้องกระซิบเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน ตอนนี้พี่โชสอดท่อนแขนเข้ามาใต้คอ ทำให้เหมือนถูกกอดทั้งตัว หลังผมแนบกับหน้าอกของพี่โช ลมหายใจมีกลิ่นอ่อนๆ ของเหล้ามักกำลังรดต้นคอจนขนลุกซู่ ส่วนมือที่สอดใต้คอกำลังลูบหน้าอกผมอยู่

   ผมพยายามดิ้นจนต้องกลับตัวหันหน้าไปหาก็เจอสายตาคู่สวยกำลังมองมา นัยน์ตาคู่นั้นมีผมอยู่ในนั้น มันเหมือนมีมนต์สะกดทำให้ผมต้องอยู่นิ่งๆ รอรับริมฝีปากที่ประทับจนแนบสนิท ไม่ใช่จูบร้อนแรง แต่ก็ทำให้เคลิ้ม

   “เตรียมใจไว้หรือยัง” ทำปรือตามองคนที่มองตาหวานส่งมาให้

   “เตรียมใจอะไร” ผมกระซิบตอบทั้งๆ ที่ปากของเรายังอยู่ชิดกัน

   “เป็นของพี่ไง” คำตอบทำเอาผมแทบจะลุกหนี แต่มือที่กอดไว้ไม่ยอมปล่อย

   “พี่เอาจริงเหรอ ตอนนี้เนี่ยนะ”

   “ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่ก็เร็วๆ นี้”

   พูดจบใบหน้าหล่อราวเทพบุตรขยับใกล้จนผมหลับตารอรับสัมผัส หากทุกอย่างต้องหยุดลงเมื่อรู้สึกหนักๆ ช่วงเอว


   “ไอ้เชี่ยแทม!” พี่โชถีบขาพี่แทมออกเมื่อถูกขาใหญ่ๆ วาดมาวางทับบนเอว มันพาดมาถึงผมด้วยอ่ะ แต่ผมเอาพี่แทมไปนอนอยู่ข้างพี่ติน แล้วไหงมานอนข้างพี่โชได้วะ พี่แทมแม่งทำให้เสียเรื่องตลอด รู้งี้เอาไปนอนริมสุดก็ดี ไม่ใช่เพราะอยากจูบพี่โชนะ ก็แค่รู้สึกดีเฉยๆ พอจัดการพี่แทมได้ พี่โชก็กอดผมแล้วเราก็นอนหลับไปทั้งคู่ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ เจอกันบนดอยนะครับผม


.........TBC


พอดีจะลงตั้งแต่เมื่อคืน พี่โชกับน้องจะได้ราตรีสวัสดิ์กับทุกคน แต่ลูกแมวที่เลี้ยงไว้ตายเลยเปลี่ยนมาวันนี้แทน

แล้วเราจะขึ้นดอยกัน แล้วก็อัพวนไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 30-07-2016 17:22:07

มาเเล้ววววว  มาเเวะดูว่าบ้านนี้ พี่โช จัด NC รึย๊างงง 55555555555  :hao6:  :hao6:   :hao6:
คนอ่านเตรียมใจไว้เเล้วนะกลอย พร้อมยังค่ะ (ป๊าปปป   :z6:  เสียงกลอย กระโดดถีบ)
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 30-07-2016 17:35:04
ทำไมพี่โชมันน่ารักขึ้นจัง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
จะขึ้นดอยกันแล้ว
พี่แทมมาได้ไงเนี่ย หมดเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-07-2016 17:42:36
เล่นเอาจหายวับ นึกว่าจะเล่นกันตอนนี้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-07-2016 18:21:38
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 30-07-2016 18:54:05
พี่โช....ขี้หวง ขี้หึงตลอดดด แลดูร๊ากกก เมียมากกก
แอบคิด...พี่แทมแอบชอบกลอยอะเปล่า 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-07-2016 20:06:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-07-2016 20:42:50
อยากจะบอกคุณแม่ว่าคุณแม่ไม่ต้องเหนื่อยจัดเรียงลำดับให้หลานสาวหรอกค่ะ
เพราะคาดว่าน่าจะมีว่างอยู่ไม่กี่คนเพราะเขาคงกินกันเองอ่ะค่ะ
โดยเฉพาะพี่โชกลอย พี่เบทู และอาจรวมถึงพี่ซันพี่จอม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 30-07-2016 21:07:02
พี่ซันพี่จอมยังไงว้าาาา เป้นคู่ที่ไม่คาดคิดเลยจริงๆ ส่วนพี่โชทำตัวดีๆไปแบบนี้แหละพี่นะอย่าโมโหร้ายให้มาก เหนื่อยแทน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 30-07-2016 21:32:42
กลอยรีบๆใจอ่อนเถอะะะ :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Antisa ที่ 30-07-2016 22:51:38
 :o8:พี่แทมอ่ะ ทำเสียบรรยากาศหมด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 30-07-2016 23:10:27
Just you and I : 20


        ทำไมมันหนาวขนาดนี้ ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาตีห้าครับ ผมตื่นมาหนาวสั่นพับๆ เสื้อกันหนาวสองชั้นยังเอาไม่ค่อยจะอยู่ ที่ผมเคยหัวเราะเยาะพี่ตินกับพี่แทมไว้ผมขอคืนคำ เพราะพี่สองคนดูชิวๆ กับบรรยากาศมาก นั่งละเลียดจิบกาแฟหอมๆ ที่แม่ไอ้ม่านชงมาให้ ส่วนพวกผมเนี่ย ต้องเอาผ้าห่มมาคลุมตัวอีกชั้น

   หลังจากกินกาแฟยามเช้าเรียบร้อยก็ถึงเวลาออกเดินทางขึ้นดอยอินทนนท์ครับ พี่โชเป็นคนขับผมนั่งอยู่ข้างๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็นั่งข้างหลัง ทางขึ้นดอยก็ลาดชันเป็นระยะ แต่ถนนดีเลยขับได้อย่างสบาย แม้เราจะไปเช้าแบบนี้ก็ยังมีรถวิ่งขึ้นก่อนหน้า อาจจะคิดไปสัมผัสอากาศเหมือนพวกผม

   ทางขึ้นติดกับเหวลึกมันดูน่ากลัวแต่ก็สวยเมื่อมีหมอกเรียงรายบังต้นไม้ด้านล่าง ผมเป่าไส้กรอกร้อนๆ จากร้านสะดวกซื้อที่แวะก่อนจะขึ้นมายื่นป้อนพี่โช จนพวกข้างหลังอ้าปากตาม

   “แม่งหวานโชว์แต่เช้า” พี่จอมเปิดก่อนเพื่อน

   “เอาซาลาเปากูเลี่ยนเลยสัด” พี่ตินตามมาติดๆ

   “พวกมึงกินๆ ไปแต่กูจะอ้วก เชี่ยซันขอยาแก้เมาดิ๊ กูจะไม่ไหวแล้วสัด” พี่แทมสูดยาดมมาตลอดทาง หน้าซีดๆ บ่งบอกว่าไม่ไหวจริงๆ

   พี่ซันเปิดกล่องยาตัวเองแล้วยื่นยาเม็ดสีเหลืองให้พี่แทมกิน พี่จอมยื่นถุงให้ด้วยบอกเอาไว้เผื่ออ้วก ผมก็ไม่ชอบนะการเมารถเนี่ย มันไม่สนุกเอาซะเลย ดีที่มานั่งข้างหน้าเลยลดอาการไปได้บ้าง

   เส้นทางขึ้นดอยถ้ามาช่วงต้นปีก็คงได้เห็นดอกพญาเสือโคร่งบาน แต่นี่สิ้นปีมันยังไม่มี เลยได้แต่ถ่ายรูปวิวข้างทางกับหมอกหนาๆ แทน พี่โชขับรถช้าๆ เพราะยิ่งขึ้นมาสูงหมอกยิ่งหนา ผ่านมาหลายต่อหลายโค้งจนถึงพระมหาธาตุดอยอินทนนท์ พี่โชเลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานตรงหน้า พอรถจอดนิ่งพี่ซันก็เขย่าปลุกเพื่อนที่นอนหลับสนิทเพราะฤทธิ์ยา

   ทันทีที่เปิดประตูลงไปเหมือนคนเอาน้ำแข็งปาใส่หน้า คือหน้าผมชามากถึงมากที่สุด มันหนาวตัดขั้วหัวใจมาก คืออยากกลับเข้าไปอยู่ในรถเหมือนเดิม ไอ้ม่านรีบแจกถุงมือที่ซื้อมาให้กับคนที่ไม่มี ส่วนของผมพี่โชปลดเป้ที่สะพายก่อนเอาถุงมือออกมาให้ผมใส่ รวมถึงที่ครอบหู

   “พี่โชไม่ใส่ถุงมืออ่ะ” ผมมองคนที่เอาเป้สะพายบนบ่าเหมือนเดิม “หรือไม่ได้เอามาผมจะได้ไปขอไอ้ม่าน”

   “ไม่เป็นไร” พี่โชว่าแต่ผมเห็นปากสั่นๆ คงจะหนาวเหมือนกัน ผมเลยเอาผ้าพันคอตัวเองให้ ดูเหมือนพี่โชจะไม่เอา ผมเลยพันคอให้เลย ที่จริงผมก็พันมาแล้วผืนหนึ่งแต่ก็เอามาพันอีกชั้น
 
   เวลาเกือบจะแปดโมงเช้าหมอกยังหนายิ่งมีลมพัดยิ่งเพิ่มความสั่นให้กับคนที่มาเที่ยวและอยากสัมผัสอากาศ ขาผมแทบจะก้าวไม่ออกมันหนาวเกินบรรยายอยากให้ทุกคนมาลอง พี่แทมที่ดูมึนๆ แต่ก็เดินยกกล้องถ่ายรูปถ่ายนั่นถ่ายนี่

   ทุกคนที่มาก็มีกล้องประจำตัว ยกเว้นผมนี่แหละครับ ก็ใครจะไปมีเงินซื้อกล้องแพงๆ แบบนั้น กล้องพี่ตินหลักหมื่นแต่กระบอกเลนส์หลักแสน ผมขอบายเลยแบบนั้น เอาเงินนั่นมาใช้ได้เป็นเดือนๆ

   “ไอ้เชี่ยกลอยยิ้มดิ๊” ไอ้ทูตะโกนบอกผมขณะเดินขึ้นเนินด้านหน้า ผมที่ยืนข้างพี่โชก็ฉีกยิ้มเท่าที่หน้าแข็งๆ เหมือนโดนโบท็อกจะยิ้มได้ ส่วนพี่โชก็ทำหน้านิ่งตามสไตล์

   ผมเดินสั่นๆ ขึ้นเนินอย่างยากลำบาก ถ้ารู้ว่าหนาวขนาดนี้ผมจะขนเอาเสื้อกันหนาวมาเยอะๆ เอาผ้าห่มหนาๆ มาคลุม

   “หนาวเหรอ” พี่โชถามขณะเราเดินเคียงข้างกัน เพราะคนอื่นๆ ขึ้นไปถึงด้านบนหมดแล้ว
 
   “มาก” ผมพูดน้ำเสียงสั่นๆ ปากขยับก็ยาก ฟันขบกันกึกๆ

   “แล้วก็บ่นอยากมา เป็นไงล่ะ” ผมค้อนขวับใส่คนซ้ำเติม แต่ก็หันไปมองเมื่อพี่โชยื่นมือมาจับมือผมไปสอดที่กระเป๋าเสื้อโค้ทตัวเอง มือพี่โชที่ไม่ได้สวมถุงมือเย็นมากขนาดผมที่มีถุงมือสวมอยู่ยังรู้สึกได้

   “มือพี่โคตรเย็น”

   “จับมือแบบนี้ก็ไม่หนาวแล้ว”

   ฉีกยิ้มแบบนี้หล่อได้อีกนะ เหอะ แอบอิจฉานิดๆ ยิ่งมีสวยสวยหุ่นดีเดินผ่านลงมามองเหลียวหลังผมยิ่งจ้องหน้าพี่โชเพราะอยากรู้ว่าจะมองตามหรือเปล่า แต่พี่โชกลับมองตรง แต่พอรู้ว่าผมมองก็ก้มลงมามองอย่างงๆ
 
   “มีอะไร”

   “พี่เห็นผู้หญิงคนเมื่อกี้หรือเปล่า”

   “เห็น”

   “สวยป่ะ”

   “ก็ดี”

   “พี่ชอบป่ะ” แล้วผมก็ได้มือเย็นๆ มาดีดหน้าผากแทนคำตอบ “เจ็บนะเออ”

   “ทำไมชอบถามแบบนี้ตลอดวะ” หน้าพี่โชโคตรดุ แถมยังปล่อยมือผมออกแล้วเดินนำหน้าไปลิ่วๆ

   “พี่โช รอด้วย” ผมรีบวิ่งตามพอใกล้ถึงก็รีบคว้ามือใหญ่ๆ หมับ จนคนถูกจับหันมามอง ใบหน้าหล่อมองนิ่งๆ จนใจไม่ดี “พี่โกรธผมเหรอ ผมขอโทษ” คำขอโทษดูไม่ได้ผลเพราะพี่โชยังเดินหน้าต่อไป “พี่โชอ่า อย่าโกรธดิ่ นะๆ”

   “...”

   “พี่โชอ่า”

   “...”

   พอขึ้นมาด้านบน พี่โชก็แยกตัวไปอยู่กับพี่ซัน ผมได้แต่มองตามตาละห้อย

   “เป็นไรวะไอ้กลอย ทะเลาะกับพี่เขาล่ะสิมึงอ่ะ” ผมยู่ปากหันมองไอ้อัธที่เดินมาแตะบ่าผม “หึ มึงคงหาเรื่องเองสินะ”

   “จะซ้ำกูทำไมไอ้เชี่ย”

   “กูไม่ได้ซ้ำ แต่มึงต้องเปลี่ยนนิสัยเสียๆ ของมึงบ้าง ให้พี่เขาเปลี่ยนคนเดียวแต่มึงยังเหมือนเดิม เห็นแก่ตัวว่ะ”

   “กูเพื่อนมึงนะ”

   “ก็เพราะมึงเป็นเพื่อนกูไง” ไอ้อัธส่ายหน้าให้ผมก่อนเดินหนีไปถ่ายรูปน้ำตกข้างๆ ทางขึ้น

   ผมยืนอยู่กับที่มองพี่โชที่ถ่ายรูปให้เพื่อน กับมองพวกไอ้อัธที่ดี๊ด๊าถ่ายรูปดอกไม้กับป้ายชื่อพระมหาธาตุ ผมผิดผมก็รู้ แล้วผมต้องทำยังไง ไม่รู้จะต้องง้อยังไงด้วย เมื่อทำอะไรไม่ได้ผมเลยเลือกจะเดินไปหามุมดอกไม้ถ่ายรูปคนเดียว ดอกไม้หลากสีสวยจนผมอดที่จะควักมือถือออกมาเก็บรูปไม่ได้

   ผมเดินขึ้นพระมหามหาธาตุด้านซ้ายคนเดียวเพราะคนอื่นขึ้นไปพระมหาธาตุอีกด้าน แม้จะมีบันไดเลื่อนแต่ผมก็เลือกที่จะเดินขึ้นบันได เดินมาครึ่งทางก็รู้ว่าคิดผิด รู้แบบนี้ขึ้นบันไดเลื่อนดีกว่า แม่งโคตรเหนื่อย จากหนาวๆ อยู่นี่เริ่มมีเหงื่อเลย สุดท้ายก็ถึงครับ พระมหาธาตุนภเมทนีดล

   ความสวยด้านบนทำเอาลืมความเหนื่อยในพริบตา ทั้งตัวพระธาตุเองและสวนดอกไม้ด้านข้าง ผมรัวกล้องมือถือเก็บภาพสวยๆ ไปอวดแม่กับพี่กิ่งครับ และไม่ลืมเซลฟี่ภาพตัวเองลงโซเชียล ในระหว่างที่ถ่ายๆ อยู่ ขาผมก็มีอะไรมาสะกิดๆ จนต้องก้มมอง ดวงตาใสแป๋วจ้องมองผมอย่างสนใจ เด็กผู้ชายแก้มยุ้ยน่ารักมากจนผมต้องย่อลงไปนั่ง

   “มีอะไรกับพี่ครับ” แม้ผมจะไม่ถูกกับเด็ก แต่ก็ไม่ได้ใจร้ายนะครับ

   “จ๋วย” เสียงที่ออกจากปากเล็กๆ ทำให้ผมกระพริบตาปริบๆ อะไรคือจ๋วย หรือปวดฉี่วะ

   “ปวดฉี่เหรอครับ” ผมรีบมองหาแม่หรือญาติของเด็ก เพราะถ้าให้ผมพาไปอาจโดนแจ้งจับได้ข้อหาลักพาตัว “แม่อยู่ไหนครับบอกพี่ซิ” ผมหันไปหันมา เด็กแก้มยุ้ยจับแขนเสื้อผมแน่น

   “จ๋วย” ยังพูดคำเดิมและผมก็ยังฟังไม่ออกเหมือนเดิม ก่อนจะมีผู้ชายคนหนึ่งก้าวเท้ายาวๆ เข้ามาหา ใบหน้าโคตรหน้าเรื่อง
 
   “คุณทำอะไรน่ะ จะลักพาตัวเด็กงั้นเหรอ” พูดเสียงดังจนคนหันมามองผมกันหมด เชี่ย เด็กจับผมเองนะเห้ย

   “เปล่านะ ผมเห็นเด็กอยู่คนเดียว แล้วแกก็มาจับผมเองเนี่ยเห็นป่ะ” ผมรีบชี้มือเล็กๆ ที่ดึงผมให้ไอ้คนกล่าวหาดู พอมันเห็นก็มองหน้าผมนิ่งๆ “ผมไม่ได้ลักพาตัวลูกคุณเลยนะ”

   “ลูกของพี่สาวต่างหาก”

   “เออๆ นั่นแหละ เหมือนเด็กจะปวดฉี่ด้วยนะ คุณรีบพาแกไปสิ” ผมบอก พอได้ยินไอ้คนแปลกหน้าก็รีบอุ้มตัวเด็กไป แต่ติดตรงที่เด็กร้องไห้จ้าจนคนมองเยอะกว่าเดิม

   “ม่ายอาว แงๆ” ทั้งผมทั้งไอ้คนหน้าดุต่างทำหน้าเลิกลัก

   “รีบทำให้ลูกพี่สาวคุณหยุดร้องดิ่ เร็วๆ”

   “รู้แล้วน่า”

   “รู้แล้วก็รีบๆ ดิ่ คนมองกันใหญ่แล้ว” คือกลัวตำรวจจับเพราะจะเข้าใจผิดนั่นแหละครับ

   น้าของเด็กมันอุ้มเขย่าๆ แต่เด็กก็ยังร้องแถมยื่นมือจะมาหาผม พอดีกับแม่ของเด็กเห็นก็รีบวิ่งเข้ามาแล้วช้อนตัวไปอุ้มปลอบเอง ไม่นานเสียงก็เงียบลง ผมถอนหายใจยาวๆ ออกมา เกือบโดนมองว่าขโมยเด็กซะแล้ว

   พอเด็กเงียบลง แม่ของแกก็พาเดินไป ผมโบกมือบ๊ายบายเจ้าตัวเล็ก แต่คนตัวใหญ่มันยังยืนอยู่แถมมองหน้าผมด้วย
 
   “มีอะไรเหรอครับ” มองจนผมต้องก้มมองตัวเอง

   “มาคนเดียวเหรอ” คำถามถูกตอบกลับมาด้วยคำถามจนผมทำหน้างง

   “มากับเพื่อน” แต่ถึงจะงงก็ยังตอบออกไป “มีอะไรกับผมหรือเปล่า”

   “เปล่า” ไม่มีแล้วมองหน้าผมทำไมวะ

   “งั้นผมขอตัวนะครับ” พอจะเดินหนีมันกลับดึงแขนผมไว้ซะงั้น “ครับ?”

   “เอ่อ ชื่ออะไรเหรอ”

   “ขอโทษนะครับ พอดีผมมากับแฟน ขอตัวก่อน” พอบอกปัดผมก็รีบดึงแขนตัวเองออกและรีบหนีลงบันไดทันที คือผมก็ไม่เข้าใจทำไมถึงมีแต่ผู้ชายถามชื่อ หรือหน้าผมมันกวนตีนเขา พวกเขาเลยอยากรู้ชื่อ

   เดินลงจากบันไดผมก็เจอกับพี่ตินกับพี่แทมที่แวะถ่ายรูปตลอดทาง พี่สองคนเห็นผมก็กวักมือเรียกให้ไปถ่ายรูปให้ พอถ่ายให้เสร็จก็ถูกเฉดหัวส่ง นี่ไม่คิดจะถ่ายรูปผมบ้างเหรอวะ

   ผมย้ายไปขึ้นพระมหาธาตุอีกฝั่งป้ายด้านล่างบอกชื่อพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ด้านบนก็คล้ายๆ กับอีกฝั่ง ผมเดินวนรอบพระธาตุสีเทาและแวะถ่ายดอกไม้สวยๆ ที่ปลูกเป็นขั้นบันได ที่นั่นผมเจอไอ้ทูกับพี่เบกำลังเซลฟี่กันสนุกสนาน เหอะ ยิ้มมีความสุขจริงนะ ทีเมื่อก่อนทะเลาะกันแทบตาย

   พอเห็นคนอื่นมีความสุขไอ้กลอยก็เริ่มพาลไม่อยากถ่ายรูปอะไรสักอย่าง ผมเลยเดินลงไปนั่งที่หน้าร้านขายของฝากข้างๆ ทางขึ้นเนิน เฮ้อ นี่ผมมาคนเดียวหรือเปล่า แล้วพี่โชก็หายไปไหนไม่รู้ กะจะงอนไปถึงเมื่อไหร่ ไอ้กลอยคนนี้ก็ง้อไม่ค่อยจะเป็น พอคิดก็ได้แต่ถอนหายใจเลยฟุบหน้ากับม้าหินอ่อน

   นั่งรออยู่นานไอ้ม่านก็เดินมาเรียกผมไปที่รถ ผมเดินตามเพื่อนตัวเองอย่างเซ็งๆ เห็นพี่โชคุยกับพี่ซันอยู่ไกลๆ พอเห็นผมเดินมาก็รีบเดินไปที่รถโดยไม่รอ

   “มึงทะเลาะกับพี่โชเหรอวะ” ไอ้ม่านใช้ข้อศอกสะกิดผมแล้วถาม

   “เออ” ผมตอบก่อนไม่สนใจไอ้ม่านที่เบิกตามอง

   “เชี่ย กูก็ว่าทำไมพี่โชถึงเดินกับพวกพี่ซัน” ผมไม่ตอบอะไรไอ้ม่านอีก จนเดินมาถึงรถ พี่โชเปลี่ยนมานั่งที่แทนผมโดยมีพี่ซันเป็นคนขับ ผมถูกดันเข้าไปนั่งข้างไอ้อัธและมีไอ้ม่านปิดท้าย จากนั้นรถก็เริ่มเคลื่อนออกเดินทางเพื่อไปจุดสูงสุดของแดนสยาม

   ผมนั่งหลับตาเอนหัวพิงไหล่ไอ้อัธทำเหมือนว่านอนหลับ แท้ที่จริงหูได้ยินคนข้างหน้าคุยตลอด แม้จะเสียงเบาเหมือนกระซิบแต่เพราะมันใกล้กันทำให้ได้ยิน

   “มึงไม่ทำอะไรหรือวะ” เสียงพี่ซันครับ

   “กูไม่ได้ทำอะไรผิด” เสียงพี่โชโคตรนิ่ง เหมือนย้อนกลับไปเป็นเหมือนตอนแรกๆ “ชอบทำเหมือนกูรักคนอื่นง่ายๆ”

   “ก็มึงเคยเจ้าชู้มาก่อนนี่หว่า เด็กมันเลยไม่มั่นใจ”

   “แล้วที่ผ่านมานี่กูทำให้ไม่มั่นใจอีกเหรอวะ”

   “มึงก็ต้องให้เวลาหน่อย”

   แล้วผมก็ไม่ได้ยินพี่โชตอบอะไร ไม่นานรถก็จอดนิ่งที่ลานจอดยอดดอยอินทนนท์ ทุกคนบนรถทยอยลง ผมยืนสั่นเพราะยังหนาวเหมือนเดิม คนอื่นๆ เริ่มเดินเข้าไปยังด้านใน ทางเดินเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาว ต้นไม้ที่ขึ้นระหว่างทางมีมอสสีเขียวคลุมรอบดูสวยแปลกตา ผมเดินอยู่หลังสุดกอดอกเดินมองนั่นมองนี่ บ่อยครั้งที่ไอ้ม่านจะเรียกให้ผมมองกล้องของมัน บรรยากาศดีชะมัด ถ้ามีกระดาษสักใบผมจะนั่งวาดรูปอยู่ตรงนี้คงจะได้รูปสวยๆ

   พอคิดแบบนั้นผมก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปและยืนมองอยู่นาน หันมาอีกทีเพื่อนตัวเองก็หายหมด คงจะรีบไปถ่ายรูปกับป้ายด้านในล่ะสิ ผมรีบก้าวเดินยาวๆ เพื่อตามไปแต่ต้องล้มลงเมื่อมีใครที่วิ่งเล่นกันอยู่ข้างหลังวิ่งมาชนเต็มๆ เจ็บเชี่ยๆ

   ไอ้เด็กสองคนที่วิ่งมาชนมองหน้าผมอย่างลนลานคงกลัวความผิด แต่ก็ยังอุตส่าห์ช่วยดึงผมให้ลุกขึ้น

   “ระวังด้วยดิ่ ทางแบบนี้ใครให้วิ่งเล่นกัน” พอยืนผมก็เริ่มบ่นครับ ไอ้เด็กสองคนก้มหัวขอโทษผมหลายๆ รอบก่อนจะเดินตัวลีบนำหน้าไป เจ็บก้นยังไม่พอ ยังเจ็บมืออีก อาจเพราะเป็นรอยต่อระหว่างแผ่นไม้ทำให้มีปลายแหลมๆ โผล่ขึ้น มือผมก็ดันซวยไปโดน เลือด (ชั่ว) เลยออก นี่ถ้าไม่ถอดถุงมือออก มือก็คงไม่ถูกเศษไม้เกี่ยว

   เหมือนไม่มีใจอยากจะเที่ยว ผมเลยเดินย้อนกลับไปด้านนอก เบื่อตัวเท่าควาย นั่งเซ็งๆ อยู่ด้านหน้ารอพวกที่เข้าไปเที่ยวก็ไม่ยอมออกมาสักที ผมเลยอัพรูปบาดแผลตัวเองลงไอจี ลงข้อความว่า เลือดชั่ว เพียงแปบเดียวอีเข็มก็มาเม้นตอบว่าสมน้ำหน้า

   เลือดถูกความเย็นเริ่มแห้งติดมือ พอดีกับพวกไอ้ม่านที่เดินเฮฮาออกมาพอพวกมันเห็นผมก็รีบปรี่มาหา ถามอะไรผมก็ตอบว่าขี้เกียจเดิน ผมเห็นพี่โชเหล่ตามองมานิดๆ แต่ก็เดินไปขึ้นรถต่อ


   ผมต้องง้อจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย



   รถตู้สีขาวเริ่มออกเดินทาง ครั้งนี้ก็ยังเป็นพี่ซันขับมีพี่โชนั่งข้างเหมือนเดิม แต่ผมเลือกไปนั่งด้านหลังข้างๆ พี่แทมแทน คงเห็นผมเงียบๆ พี่แทมเลยแกล้งดึงแก้มจนผมโวยวายลั่นรถ

   “เป็นไรของมึงเนี่ย กูเห็นเงียบตั้งแต่เมื่อกี้นะ” ผมส่ายหน้าตอบ พี่แทมเลยจะดึงแก้มผมอีก แต่ผมยกมือขึ้นขวาง “เชี่ย มือมึง” มือผมถูกพี่แทมจับแล้วเบิกตาโคตรกว้าง ผมรีบดึงกลับแต่แม่งยึดไว้โคตรแน่น

   “อะไรพี่” ไอ้ทูยื่นหน้ามาดูเหมือนได้ยินเสียงพี่แทม พอมันเห็นคราบเลือดที่มือผมมันก็ตกใจเรียกหากล่องพยาบาล แต่มันแห้งไปแล้วไง

   “ไม่เป็นไรพี่ มันหายแล้ว”

   “หายเชี่ยไร” มันจะไม่หายกับพี่บีบมันนี่แหละ ไอ้พี่แทมมันบีบมือผมจนเลือดเริ่มปริออกมาอีกรอบ

   “ก็พี่บีบเลือดมันก็ออกดิ่วะ” ผมบ่น มองพี่แทมทำแผลให้ “ขอบคุณครับ”
 
   “เออๆ ถ้ามึงไม่ใช่เมียเพื่อนกู กูไม่แลมึงหรอกจำไว้”

   ไม่ได้เป็นแล้วมั้งพี่ ผมได้แต่คิดในใจ ก่อนมองมือตัวเองที่ถูกผ้าพันซะเว่อร์ แผลผมมันไม่ได้ร้ายแรงขนาดต้องพันทั้งฝ่ามือมาถึงแขนมั้ย

   พี่ซันขับรถมาจอดที่ตลาดม้งที่ส่วนใหญ่จะเป็นของป่าและผลไม้ที่สดกว่าในตัวเมือง ผมเดินตามไอ้ม่านไปซื้อผลไม้อย่างลูกพลับกลับบ้านและซื้อของฝากอีกนิดหน่อย

   “มึงๆ อร่อยอ่ะ” ไอ้ม่านเช็ดลูกพลับสีเหลืองส้มผลใหญ่กับเสื้อแล้วกัดคำใหญ่กินอย่างอร่อย คือมันต้องปอกเปลือกก่อนไม่ใช่เหรอวะ

   “มึงไม่ปอกเปลือก?”

   “เออว่ะ”

   ผมส่ายหน้าให้กับความโง่ของเพื่อนแล้วเดินกลับไปรอที่รถ พี่โชเปิดประตูข้างคนขับและตัวเองก็นั่งหย่อนขาลงมา ดวงตาดุมองหน้าผมนิดๆ ก่อนเลื่อนสายตามองมือที่ถูกพันเป็นมัมมี่เหมือนจะพูดอะไรแต่เลือกจะเงียบ ผมพยายามรวบรวมความกล้าจะเดินเข้าไปหา แต่ไอ้พี่จอมกลับเดินตัดหน้าเอาลูกพลับที่ปอกเปลือกแล้วไปให้พี่โชกิน ไอ้กลอยหรือจะสู้ลูกพลับ คนไม่อร่อยก็ต้องเดินขึ้นรถไปตามเดิม

 
   ฮัดชิ้ว ผมจามเหมือนถูกนินทาแต่เริ่มจามบ่อยๆ มันเริ่มเปลี่ยนเป็นหวัดกินแล้วล่ะ คันจมูกด้วย ผมพยายามเอาผ้าพันคอคลุมหน้าตัวเองเพราะกลัวจะเอาเชื้อหวัดมาปล่อย ก่อนขอยาจากไอ้ทูที่ถือกล่องพยาบาล

   “มึงไหวหรือเปล่าวะ” ไอ้ทูมันถาม ผมเลยพยักหน้ากลับไป

   “มึงเป็นเชี่ยอะไรอีก” พี่แทมถามอย่างเป็นห่วง (หรือเปล่าวะ)

   “ไอ้นี่มันขี้โรคพี่” ไอ้ทูตอบแทนผมที่กลืนยาอยู่

   “ขี้โรคเสือกยังจะอยากมาที่หนาวๆ ไม่ดูสังขารเลยนะมึง”

   “เรื่องของผมน่า”

   “เอ่อ เรื่องของมึง”

   ผมเบ้ปากใส่พี่แทมก่อนเอนหัวพิงกับกระจกรถตู้ ไม่สนุกเลยว่ะ อยากกลับบ้านแล้ว



   ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ ผมถูกปลุกให้ตื่นเมื่อรถจอดที่บ้านไอ้ม่านแล้ว อ่าว มาถึงเมื่อไหร่ นี่ผมหลับนานขนาดนั้นเลยเหรอวะ ลงรถได้เหมือนโลกเอียงๆ จนหัวจะทิ่มเลยต้องยันมือกับรถไว้ ทะเลาะกับพี่โชแล้วยังจะเป็นหวัดอีก ไม่มีอะไรดีเลยไอ้กลอย
 
   “เป็นอะไรลูก หน้าแดงๆ” แม่ไอ้ม่านเดินมาถามผมขณะที่ผมยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

   “เปล่าครับ เอ่อแม่พอจะมีเหล้าหมักอีกหรือเปล่าฮะ พอดีผมคงเมารถ ถ้าได้สักนิดก็คงหาย”

   “แหม มีสิจ๊ะ มาๆ”

   แล้วผมก็เดินเซๆ ตามแม่เข้าไปในบ้าน แม่เปิดตู้เตี้ยๆ ข้างตู้เย็นก่อนหยิบขวดเหล้าออกมาพร้อมกับเทให้ผมครึ่งแก้ว กลิ่นหอมเหมือนเดิม ผมยกซดจนหมดแก้วความร้อนแผ่ซ่านจนขนลุกไปหมด

   “ขออีกหน่อยได้มั้ยครับ” ยื่นแก้วไปให้แม่อีกจนถูกหัวเราะ พอได้อีกแก้วผมก็รีบยกหมด มันอร่อยจริงๆ เมื่อวานกินไปนิดเดียวมันไม่รู้รสชาติ พอยื่นแก้วไปอีก ทีนี้แม่ยกขวดให้ผม

   “เอาไปเลยจ้ะ แม่ให้”

   “ขอบคุณคร้าบ”

   ผมหนีบขวดเหล้ามานั่งหน้าทีวี ก็ในบ้านนั่นแหละครับ ได้ถั่วทอดเป็นกับแกล้ม พอยิ่งกินก็เริ่มรู้สึกร้อนไปทั้งตัว ฤทธิ์มันแรงจริงๆ กินแล้วโคตรมึนหัว ก่อนจะหัวทิ่มเมื่อถูกไอ้ม่านตบ ไอ้เชี่ยนี่

   “ดอดมาแดกเหล้าคนเดียวนะมึง คนอื่นเขาเป็นห่วง” 
                     
   “เอามั้ยมึง”

   “ไม่” ไอ้ม่านตอบผมก่อนเดินไปโวยวายแม่มันครับ ได้ยินแว่วๆ ว่าให้เหล้าผมกินทำไม ก่อนมันจะออกมาหิ้วผมกลับไปที่บ้านหลังเล็ก “เชี่ย มึงตัวร้อนนะ”

   “ก็กูกินเหล้า มันร้อนไปทั้งตัวเลยว่ะ”

   “มึงไม่สบายเว้ยไม่ใช่กินเหล้า ขึ้นดอยแปบเดียวแม่งไข้แดกอีก” ไอ้ม่านมันบ่นๆ จนผมนึกย้อนตอนมาบ้านไอ้ม่านครั้งแรกผมก็ขึ้นดอยเหมือนกันฮะ ตอนนั้นไม่หนาวขนาดนี้แต่ลงมาก็เป็นไข้เหมือนกัน    ผมถูกหิ้วกลับมาพอหัวถึงหมอนผมก็โวยวายบ้าบอก่อนจะร้องไห้เป็นเผาเต่า ไม่รู้ร้องเพราะอะไร ในหัวมันมึนไปหมด คิดถึงแม่ คิดถึงพี่กิ่ง คิดถึงบ้าน

   “กลอย ร้องไห้ทำไม กลอย” ได้ยินเหมือนเสียงพี่โชเรียกครับ แต่เป็นไปไม่ได้ก็พี่โชโกรธจนไม่ยอมพูดกับผม พอคิดแบบนั้นผมก็ร้องไห้ออกมาอีก “ไม่เอา ไม่ร้องนะ ชู่วๆ” ผมรู้สึกเหมือนถูกกอด กลิ่นหอมเหมือนพี่โชเลย ฮึก คิดถึงพี่โชด้วย

   “ฮึก พี่โช” ผมสะอื้นหนัก มองเห็นหน้าพี่โชลางๆ

   “ครับ”

   “ขอโทษ ฮึก ผมขอโทษ”

   “ครับ ไม่เป็นไร อย่าร้องนะ ชู่วๆ”

   “พี่ไม่คุยกับผม ฮึก ไม่มองหน้า ไม่ยอมให้เข้าใกล้ ฮึก พี่ ฮึก เกลียดผมแล้วใช่มั้ย ฮืออ”

   “ไม่ครับ พี่ไม่ได้เกลียดเลย อย่าร้องนะ โอ๋”

   “เกลียด ฮึก พี่โชเกลียดผม ขนาดผมเจ็บพี่ยังไม่สนใจ”

   “ใครว่าไม่สนใจ” พี่โชยกมือผมที่ถูกพันเป็นมัมมี่ขึ้นเป่าเบาๆ “เดี๋ยวก็หาย”

   “เจ็บ ฮึก ฮือ” สะอื้นจนตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดของพี่โช ผมกอดเอวหนาแน่น ไม่รู้ว่าฝันอยู่หรือเปล่า แต่รู้แค่ว่าผมปวดหัวหนัก เหมือนมีคนเอาลูกตุ้มมาพันรอบหัว

   “กินยานะ จะได้หาย อ้าปาก” ยาเม็ดเล็กๆ ถูกส่งเข้ามาในปากพร้อมกับน้ำ ผมกลืนโดยไม่รู้ตัวก่อนจะถูกอ้อมกอดอุ่นกอดแน่นแล้วนอนหลับไป แม้แต่ในความฝันอ้อมกอดของพี่โชก็ยังอุ่น ผมไม่ยอมเสียอ้อมกอดนี้ให้ใครแน่ นางงามจักรวาลไอ้กลอยก็ไม่ให้!




   “แม่ง งอแงเป็นเด็กเลยว่ะ เพื่อนมึงอ่ะ” แทมมองเพื่อนตัวเองที่โอบกอดร่างที่ร้อนด้วยพิษไข้นอนบนฟูกอย่างเหนื่อยใจ เพราะตั้งแต่ถูกพาเข้ามา หน้าไอ้เด็กนี่ก็แดงเถือกคงเพราะไข้ขึ้น ที่จริงก็เห็นตั้งแต่ในรถแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ

   “มันก็งี้แหละพี่ ป่วยแล้วงอแง” อัธตอบรุ่นพี่มหาลัย

   “คงเพราะทะเลาะกับพี่โชด้วยแหละ ผมเห็นมันซึมไปเลย โคตรสงสาร” ม่านบอก ตั้งแต่ที่พระมหาธาตุแล้ว เขาเห็นเพื่อนตัวเองทำหน้างอเดินคนเดียว ก็คิดว่าจะไปขอโทษพี่โช แต่กลับทำเป็นเงียบ ปล่อยให้รุ่นพี่งอนอยู่ได้เป็นนานสองนาน

   “เพื่อนมึงโง่ไง” จอมเดินมาสมทบ

   “กวนตีนด้วย” ตินว่า

   “แต่ไอ้โชก็รักมันอยู่ดี” ซันเดินมาปิดท้ายก่อนทุกคนจะพยักหน้าเห็นด้วย และพากันเดินออกไปเมื่อเบกับทูเรียกให้ไปกินข้าว

   “แล้วไม่เรียกไอ้โชเหรอวะ” จอมถามซัน คนถูกถามส่ายหน้า

   “ไม่ต้องหรอก ถ้ามันหิว เดี๋ยวก็ออกไปกินเอง ปล่อยไว้แบบนี้แหละ” จอมกับซันเหลียวมองเพื่อนตัวเองที่นอนหลับพร้อมกับคนเป็นไข้อีกที ก่อนพากันเดินตามคนอื่นไป



   ความรัก กว่าจะเข้าใจมันก็ต้องใช้เวลา ยิ่งนานก็จะยิ่งรู้จักกันมากขึ้น


..................TBC

วั๊ยๆ ทำไมขึ้นดอยมีดราม่าเฉย ไม่หวานเลยโน๊ะ แต่ตอนหน้านี่หวานแน่นอน (รึเปล่า หุหุ)

ขอบคุณสำหรับการติดตามและกำลังใจค่า

LOVE LOVE
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Red_sister ที่ 30-07-2016 23:50:24
ตอนหน้านี่หวานปนเลือดรึเปล่าคะ 55555
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 31-07-2016 00:05:04
อันนี้เห็นด้วยนิ ไม่ใช่แค่โชนะที่ต้องปรับนิสัย กลอยก็ควรทำด้วย แฟร์ๆไงงง o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 31-07-2016 00:33:33
อ้าว ก็ลุ้นว่าขึ้นดอยต้องมีอะไรฟินๆ ไหนพามาต้มมาม่ารอบดึกนะนักเขียนเนี้ย
กลอยก็อ้อนเหมือนเดิม เมื่อไหร่จะเลิกปากเเข็งค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-07-2016 01:14:08
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 31-07-2016 01:49:12
กรี๊ดกร๊าด กรี๊ดกร๊าด วันนี้มาสองตอนเลย ชอบมาก รออ่านตอนต่อไป :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 31-07-2016 01:58:40
น่ารักกก พี่โชดูอบอุ่น ชอบตอนปลอบจังงงง แต่ไม่อยากเห็นน้องกลอยร้องแล้ววว สงสาร
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-07-2016 02:44:07
ดราม่าพอกรุบกริบ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 31-07-2016 06:25:00
ทะเลาะกันอีกแล้ว สงสารกลอยนะแต่ก็เข้าใจพี่โชเหมือนกัน สู้ๆนะทั้งคู่ เรื่องรักไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเหมือนกันถ้าจะพยายาม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 31-07-2016 07:26:24
รอดูพัฒนาการของพี่โชกับน้องกลอย เลิกทะเลาะกันบ่อยๆได้แล้วน้าาาา

:pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 31-07-2016 08:55:01
กลอยรักพี่โชอย่างหนักแล้วน่ะ รู้ยัง ฮ่าๆๆๆ
ขนาดเด็กยังรู้ว่ากลอยสวยเลย เจ้าตัวไม่รู้สักนิด หนุ่มๆๆจะตามจีบ
พี่โชรู้เนี่ยหึงตายเลย ฮ่าๆๆๆ
ค่อยๆๆปรับกันไปน่ะ
รอหวานตอนหน้า
มาเลยมะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 31-07-2016 09:50:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 31-07-2016 10:23:50
 อ่านรวดเดียวถึงตอนที่ 20 รู้สึกได้ว่า พี่โชจริงจังและจริงใจกับน้องกลอยมาก
แล้วก็เห็นอีกว่า กลอยใจมันซื่อบื้อ และไม่ค่อยรู้สึกถึงความน่ารักของตัวเองซักเท่าไหร่นะ ยังสงสัยอยู่อีกว่า ทำไมชอบมีผู้ชายมาขอเบอร์ 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 31-07-2016 12:23:19
สนุกจังเลย อิอิ  o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-07-2016 12:30:17
 :hao4: :hao4: :hao4:
ขึ้นดอยยังจะพกมาม่าไปกินอีกแทนที่จะหวานกันอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 31-07-2016 13:28:05
สนุกมาก น้องกลอยขี้น้อยใจ
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :katai4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-07-2016 13:36:33
กลอย มีเด็กเล็กมาจีบ ชมว่า จ๋วย ซะด้วย :mew1: :mew1: :mew1:
แถม น้าเด็ก ยังมาจีบต่ออีก :เฮ้อ:
แสดงว่า กลอย ไม่รู้ว่าตัวเองหน้าสวย คิดว่าตัวเองหล่ออ่างเดียว :katai1: :katai1: :katai1:
กลอยไม่มั่นใจในตัวโช  ทั้งที่โช แสดงออกอย่างเต็มที่
กลอย ไม่ชอบอะไรในการแสดงออกของโช ยังให้โชปรับเปลี่ยน
กลอย เองก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเหมือนกัน
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 19 + (new) 20<< // [30/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Geemiiz ที่ 31-07-2016 16:45:27
รออออออ  :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 31-07-2016 20:24:31
Just you and I : 21



       อุ่น ความรู้สึกแรกหลังจากรู้สึกตัว พอขยับก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมารัด ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเห็นอกอุ่นๆ ที่ผมกำลังซุกอยู่ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยทำให้เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ยังนอนหลับ พี่โชนอนกอดผมตั้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่รู้พี่เขาโกรธผมอยู่นี่นา ก่อนคนที่กอดผมจะเริ่มขยับตัวผมก็รีบแสร้งหลับตาทำเป็นหลับ ความอุ่นซ่านที่หน้าผากทำให้เผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว

   “ตื่นแล้วเหรอ ยังปวดหัวอยู่มั้ย” เสียงพี่โชพูดชิดกับหน้าผาก ผมยังหลับตาเลยส่ายหัวตอบ “ไม่สบายยังไปกินเหล้า อยากให้พี่โกรธจริงๆ เหรอ” พอได้ยินผมก็รีบลืมตามองคนที่บอกจะโกรธจริงๆ

   “ไม่เอา ไม่ให้โกรธ” ผมบอกเตรียมเบ้หน้า ปกติผมไม่ได้ขี้แยเลยนะ

   “แล้วใครให้ไปกินเหล้า พี่ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง” แม้จะดุแต่น้ำเสียงก็เจือความอ่อนโยนจนผมกระชับอ้อมแขนตัวเองที่กอดรอบเอวพี่โชอยู่

   “ผมขอโทษ ต่อไปจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว” เสียงอู้อี้ติดอก ผมส่ายหน้าบนอกพี่โชจนถูกขำ “ตอนพี่โชโกรธ ผมไม่มีความสุขเลย”

   “พี่ก็ไม่ได้มีความสุข แต่อยากให้กลอยมั่นใจในตัวพี่มากกว่านี้”

   “ขอโทษ” ผมงับเสื้อหอมอ่อนๆ ของพี่โชเล่นจนถูกเจ้าของเสื้อหัวเราะ

   “ลุกไปล้างหน้าล้างตาเถอะ พวกข้างนอกมันคงกินข้าวก่อนเราไปแล้ว” จะว่าไปนี่เช้าวันใหม่แล้วเหรอ ผมเหมือนเพิ่งหลับไปไม่นานเองนะ

   ผมลุกขึ้นยืนอย่างมึนๆ อาจเพราะพิษไข้ที่เล่นงานมาทั้งคืน พี่โชบอกมาแบบนั้น แสงสว่างที่หน้าประตูทำให้ต้องหรี่ตามอง นาฬิกาบนผนังบอกเวลาเก้าโมงยี่สิบ อ่า ตื่นสายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย พี่โชที่พับฟูกเสร็จก็เดินมายืนข้างๆ มืออุ่นยกขึ้นทาบบนหน้าผากของผมเพื่อวัดไข้

   “ตัวยังอุ่นๆ อยู่เลย”

   “อื่อ”

   รู้สึกอยากอ้อน ผมเลยยื่นแขนโอบรอบเอวพี่โชจากด้านหลัง ซุกหน้าเข้ากับแผ่นหลังกว้างเมื่อพี่โชเดินนำหน้าจนต้องหยุดหันมามอง แต่พอผมไม่ยอมปล่อยเราก็เดินออกไปทั้งแบบนั้น พอออกมาด้านนอก เสียงพวกที่นั่งตากแดดอุ่นๆ ก็โห่แซว

   “ไอ้โช มึงเอาลูกมาด้วยเหรอวะ” พี่ตินมาก่อนเพื่อน แต่ผมไม่สนใจปล่อยให้พวกนั้นหัวเราะกันท้องแข็ง

   “ทีงี้มาทำเป็นอ้อน ดีกันแล้วล่ะสิ” ไอ้อัธตะโกนมา ผมเลยชูนิ้วกลางไปให้ “ยกให้กูทำไม เดี๋ยวมึงก็เจอดี” พูดจบมันก็หัวเราะ ไอ้เชี่ยอัธนี่กวนตีนเกินไปแล้ว

   “เมื่อวานหน้าหงอยเหมือนหมาป่วย วันนี้กลายเป็นลูกลิงไปซะแล้ว” พี่แทมครับเสียงแบบนี้

   กว่าผมจะเดินผ่านกลุ่มใหญ่ก็โดนแซวไปหลายแผล แต่นั่นยังไม่เท่ากับคนที่เดินสวนออกมาจากห้องน้ำ

   “มึงจะสิงเพื่อนกูหรือไง” ผมไม่รอฟังพี่จอมพูดจบ รีบเดินเข้าห้องน้ำไปก่อน ส่วนพี่โชก็ยืนคุยกับพี่จอมด้านนอก

   ผมวักน้ำขึ้นล้างหน้า น้ำโคตรเย็นเหมือนเอาน้ำแข็งมาแช่ รู้สึกสั่นทั้งตัว คือมันหนาวจริงๆ ขนาดสายแบบนี้แล้วนะ พอล้างหน้าเสร็จผมก็เงยหน้ามองตัวเองในกระจก ทำไมกูหล่อวะ ขนาดป่วยยังหล่อ ระหว่างหลงตัวเองเสียงเคาะประตูห้องน้ำก็ดัง เสียงพี่โชบอกให้เปิด ผมก็ยื่นมือไปเปิด อย่าคิดไปไกลนะครับ พี่โชแค่เข้ามาล้างหน้า ส่วนผมก็แปรงฟันอยู่ข้างๆ พอทุกอย่างเสร็จสรรพก็ออกไป แต่มีเหรอที่จะพ้นปากเหยี่ยวของพวกที่รอจิก แล้วเสียงโห่แซวก็มาอีกระลอก ไอ้กลอยไม่สนเว้ย

   กับข้าวมื้อนี้เป็นน้ำพริกหนุ่ม แคปหมู กับปูอ่อง คือปูอ่องที่ว่าแม่ไอ้ม่านทำเองครับ โดยเอาปูนาที่ลุงไปจับมาแกะเอากระดองออก แล้วขูดมันปูมาตีรวมกับไข่ไก่ ปรุงรสแล้วหยอดคืนไปในกระดองและเอาไปย่างบนเตาถ่าน มันอร่อยแบบแปลกๆ รสชาติเค็มๆ มันๆ แต่ผมก็ชอบนะ เอาข้าวเหนียวจิ้มกิน อร่อยสุดๆ

   มื้อเช้าค่อนไปทางสายของผมกับพี่โชเรียบร้อย ทุกคนก็ลงความเห็นจะไปไหนกันต่อ แต่พี่โชกับผมไม่ได้ไปด้วยเพราะพวกเราจองโรงแรมในตัวเมืองไว้ก่อนจะมาที่นี่ ตอนแรกที่วางแผนมาเที่ยวเชียงใหม่พี่โชจัดการทุกอย่างหมดแล้ว แต่พอพี่จอมรู้ก็โทรบอกเพื่อนและพากับเฮละโลตามมา ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนนิดหน่อย

   “มึงจะไปเลยหรือไปเที่ยวกับพวกกูก่อน” พี่ซันถามพี่โชที่ยืนพิงกับตัวรถ ระหว่างที่ผมขนของตัวเองใส่ท้ายรถ

   “พวกมึงไปเถอะ กูจะเอาของไปเก็บที่โรงแรมเลย” พี่โชบอกเพื่อนก่อนล่ำลา ผมโบกมือให้เพื่อนและพี่ๆ ที่นั่งอยู่บนแคร่ไม้

   พี่โชขับรถเข้าตัวเมืองเชียงใหม่อย่างช้าๆ ผมว่าเชียงใหม่น่าจะเป็นเมืองรถติดรองจากกรุงเทพเลยนะครับ ติดแหง็ก ขยับได้นิดเดียวก็ติดไฟแดงอีก แบบนี้เมื่อไหร่จะถึงละนี่


   โรงแรมที่เราจองอยู่ใกล้ๆ กับไนท์บาร์ซ่าเพราะจะได้เดินเที่ยวสะดวกๆ แม้ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้จะหาห้องลำบากไปสักหน่อย แต่มันก็ยังพอมีเหลือ ตอนนี้รถเลี้ยวเข้าเส้นไนท์บาร์ซ่าก่อนจะวนไปด้านหลังเพื่อเข้าในโรงแรม เพราะถนนเส้นนี้เป็นถนนเดินทางเดียว เราเลยต้องไปวนก่อน

   พอรถจอดกับที่ พนักงานก็รีบลากที่เข็นมารับกระเป๋า ผมกับพี่โชเดินตรงเข้าไปเช็คอิน ซึ่งห้องที่จองก็เป็นห้องพิเศษ ที่สามารถมองเห็นวิวของดอยสุเทพ ทำให้ราคาค่อนข้างสูงจนผมแทบเป็นลม ถ้าผมเป็นคนจองคงหาที่ถูกๆ นอนมากกว่า
 
        พวกเราขึ้นลิฟท์ไปจนถึงห้อง พนักงานเข็นรถมาจอดอยู่หน้าห้องก่อนยกกระเป๋าเข้ามาให้ พี่โชให้ทิปไปด้วย เมื่อประตูปิดลงผมก็พุ่งตัวลงไปนอนบนเตียงเดี่ยวคิงไซส์ นุ่มมากสมกับราคาคืนละเกือบหมื่น ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมามองพี่โชเก็บของใช้ที่จำเป็นวางบนโต๊ะ พอเก็บเสร็จก็เดินไปเปิดผ้าม่าน ทำให้เห็นยอดดอยสุเทพที่อยู่ไกลๆ ผมก็รีบเดินไปดูด้วย
   
   “สวยอ่ะ” ผมมองภาพด้านนอกตาเป็นประกาย นี่ถ้าไม่ได้มากับพี่โชคงไม่มีทางได้เห็นแน่ๆ พอหันกลับเข้ามาก็เจอสายตาอ่อนโยนของพี่โชจนต้องเสหน้ากลับไปมองด้านนอกตามเดิม

   “ไปเที่ยวกัน” พี่โชจับมือผมก่อนเราจะเดินออกจากห้อง

   ผมเข้าไปถามทางกับประชาสัมพันธ์แสนสวยถึงร้านที่เราจะสามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ พอได้ข้อมูลเราสองคนก็เดินเอื่อยๆ ไปหาร้านเช่าตามที่พนักงานบอก ราคามอเตอร์ไซค์ต่อวันจะว่าแพงก็แพงแต่เพราะเป็นราคาสำหรับนักท่องเที่ยวพวกผมก็เข้าใจ แต่คนไทยด้วยกันน่าจะลดให้สักหน่อย

   หลังจากต่อรองราคาจนได้ส่วนลดนิดๆ (ผมอ้อนเจ้าของร้านจนพี่โชกระแอมไปหลายรอบ) พวกเราก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามถนนรอบคูเมือง ถ้าเป็นไปตามที่เจ้าของร้านรถเช่าบอก เราต้องเลี้ยวขวาหน้าโรงพยาบาลสวนปรุง แล้วตรงไปเรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาลรามแล้วเลี้ยวซ้าย จากนั้นก็ตรงอย่างเดียว

        กับพี่โชจะไปสักการะครูบาศรีวิชัยครับ ตอนนี้เวลาเกือบๆ เที่ยง รถราให้ตัวเมืองก็ยิ่งเยอะ แดดก็ร้อน ขนาดหน้าหนาวแดดยังร้อนแรงขนาดนี้ ขี่มาจนผ่านสวนสัตว์เชียงใหม่ ผมบอกพี่โชให้แวะจะดูหมีแพนด้าแต่พี่โชไม่จอดบอกมันไม่เห็นจะน่ารัก แต่ผมว่ามันน่ารักดีออก หมีตาดำๆ ตัวอ้วนๆ กินแต่ไผ่

        “หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมี หมีแพนด้า~” ผมร้องเพลงระหว่างผ่านสวนสัตว์ พี่โชก็หัวเราะเสียงดัง ผมร้องเพราะผมรู้ ฮ่าๆ


   ทางขึ้นตีนเขาโคตรโหด มันทั้งชันแถมยังเป็นทางโค้ง ผมนั่งไปลุ้นไปกลัวรถจะไม่มีแรงขึ้น สุดท้ายก็มาถึงลานครูบาเจ้าศรีวิชัย พอจอดรถแม่ค้าร้านขายดอกไม้ก็ตะโกนพร้อมยื่นดอกไม้ให้ซื้อ ผมเดินไปซื้อมาสองชุด จากนั้นก็พากันไปไหว้ขอพร ก่อนจะพากันแว้นมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยสุเทพ ทางขึ้นโหดกว่าดอยอินทนนท์อีกนะผมว่า ถนนก็แคบกว่าด้วย และยิ่งเจอโค้งสุดท้ายก่อนจะขึ้นถึงพระธาตุดอยสุเทพ ผมนี่แทบอยากจะเดินขึ้นแทนเพราะมันชันจนผมกลัว พี่โชหัวเราะก่อนจะบิดขึ้นไปจนถึง

   “ฟู่ว” ถอนหายใจเลยไอ้กลอย

   “กลัวเหรอ” พี่โชหัวเราะระหว่างถอดหมวกกันน็อคออก

   “แน่สิ ทางขึ้นโคตรน่ากลัวอ่ะ” ผมว่า

   “ขาขึ้นไม่น่ากลัวเท่าขาลงนะ” พี่โชบอก แล้วเราก็เดินข้ามถนนไปยังประตูทางเข้าเพื่อจะขึ้นไปบนพระธาตุ

   พอเข้าประตูมาก็จะเห็นร้านค้าที่ตั้งอยู่ เดินผ่านไปก็เจอบันไดทางขึ้นที่ทอดยาว
 
   “ผมว่าไปขึ้นกระเช้าเหอะ” ถ้าเดินขึ้นคงเหนื่อยจนขาลากแหงๆ

   “ป๊อดเหรอ” พี่โชบอกพร้อมกับชี้นิ้วไปที่เด็กตัวเล็กที่เดินอยู่ช่วงกลางๆ ของบันได เชี่ย ขึ้นไหวได้ไงวะ “ไปเร็ว ออกกำลังกายไง”

   และแล้วไอ้กลอยก็ต้องเดินขึ้นอย่างเหนื่อยหอบ หยุดพักเป็นระยะๆ กว่าจะถึงแทบขาดใจ จนต้องหาที่นั่งเพราะจะเป็นลม พี่โชแม่งหัวเราะผมอย่างเดียว

   “ไม่ออกกำลังกายเลยล่ะสิ แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว”

   “เออ” งอนครับงอน พอเห็นผมค้อนพี่โชก็ยื่นมือมายีหัวผมซะฟู

   “ไปเร็ว ยิ่งนั่งยิ่งเหนื่อยนะ” มีแบบนี้ด้วยเหรอวะ นั่งก็ต้องหายดิ่ แต่ผมก็ลุกตามแรงดึงเพราะมือจับกันอยู่

   ทางเข้าพระธาตุต้องขึ้นบันไดอีกหน่อยแล้วผ่านประตูไม้เข้าไปก็จะเห็นพระธาตุสีเหลืองทองอร่ามสะท้อนแสงจนแสบตา ผมเดินข้างพี่โชไปซื้อดอกบัวคนละชุดและจะได้บทคาถาท่องโดยให้ท่องแล้วเดินวนรอบพระธาตุสามรอบ แม้แดดจะร้อนแต่ลมที่พัดมาก็ทำให้เย็นเป็นพักๆ หลังจากไหว้เสร็จเราก็เดินออกมาหามุมถ่ายรูปสวยๆ ผมใช้มือถือถ่ายรูปพี่โชโคตรเยอะ แต่ละรูปจะหามุมหล่อๆ แต่ทำไมพี่โชชอบถ่ายผมทีเผลอตลอด โคตรเซ็ง

   ระฆังที่ตั้งเรียงรายมีคนตีอย่างต่อเนื่อง ไอ้ผมก็ชอบทำตามก็เลยเดินไปเคาะบ้าง เสียงดังจนตกใจเพราะใส่หวดเต็มแรง พี่โชเห็นก็ขำผมเลยตีไปแค่อันเดียว

   “จะขำอะไรนักหนา”

   “ก็มันตลก”

   ผมกับพี่โชก็เดินกันไป ถ่ายรูปกันไป ก่อนสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ มีคนมาสะกิดด้านหลัง พอหันไปมองก็เจอสาวกลุ่มใหญ่ยืนยิ้มมองผมกับพี่โชตาเป็นประกาย ผมกระพริบตาปริบๆ มอง ใจแรกก็กลัวนะ กลัวว่าไปทำอะไรผิดหรือเปล่าถึงถูกสะกิด ไม่ก็ตีระฆังแรงไปจนแสบแก้วหู

   “พวกเราขอถ่ายรูปพวกพี่หน่อยได้มั้ยคะ” กลุ่มสาวๆ ที่ร้องขอพูดไปบิดไป
 
   “ครับ?” งงเลยไอ้กลอย อยู่ๆ ก็โดนขอถ่ายรูป แต่ก็เออออไปแบบงงๆ พอถ่ายรูปเสร็จกลุ่มสาวๆ ก็อวยพรให้ผมกับพี่โชรักกันมากๆ


   เขินมากบอกเลย


   เมื่อเดินเที่ยวจนหนำใจ ผมกับพี่โชก็กลับลงไปด้านล่าง ขาลงมันน่ากลัวกว่าขึ้นจริงๆ ครับ ผมกอดเอวพี่โชแน่น ยิ่งทางโค้งก็ยิ่งกลัว พอลงมาถึงด้านล่างเราก็ไปหาอะไรกินเพราะมันจะบ่ายสามแล้ว

   “ไปถนนคนเดินมั้ย” พี่โชตะโกนถามขณะรถวิ่งผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่

   “อื่อ แต่มันเปิดแล้วเหรอ”

   “ไม่รู้”

   แม้ไม่รู้แต่ก็พากันมา พี่โชเอารถไปฝากด้านข้างที่มีร้านรับฝาก ถนนคนเดินตอนเกือบเย็นร้านรวงเริ่มเยอะแล้วครับ และคนก็เริ่มเยอะเหมือนกัน นี่ถ้าตอนดึกคงจะเดินแทบไม่ได้ คงต้องไหลไปสินะ ผมเดินข้ามไปไหว้อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ก่อนพากันเดินดูของที่ตั้งขายบนถนนที่มีทั้งของกินและของฝาก

   ผมเดินจับมือกับพี่โชตามเส้นทางมาเรื่อยๆ แวะร้านนั้นดูร้านนี้ โดยเฉพาะร้านขายรูปภาพที่ผมสนใจเป็นพิเศษ เราเดินจนมาถึงสี่แยกก็ตกลงกันว่าจะเดินตรงไปก่อนเพื่อจะไปวัดเจดีย์หลวง

   เมื่อผ่านประตูวัดเข้ามาจะเจอวิหารหลวงก่อน ด้านซ้ายเป็นวิหารเล็กๆ ที่มีเสาอินทขิล พอเดินเข้าไปด้านในจะเจอพระเจดีย์หลวงสีส้มตั้งเด่น จนต้องควักมือถือขึ้นมาถ่ายเก็บไว้ พอไหว้เสร็จก็ออกมาเดินที่ถนนคนเดินต่อ คราวนี้เราเลือกจะเดินไปทางขวา ด้านนี้คนดูหนาแน่น อาจเพราะเส้นนี้มาจากประตูท่าแพ ผมเดินเบียดคนจนแทบหายใจไม่ออก บ่อยครั้งที่มักจะมีคนมาเบียดจนแทบเดินไม่ได้ (แนะนำหน่อยนะครับ ถ้าเดินเบียดแบบนี้ต้องระวังกระเป๋าเงิน เพราะตอนผมเดินผ่านมา มีคนโวยวายว่าถูกล้วงกระเป๋า) ส่วนพี่โชก็โดนครับ แต่เป็นผู้หญิงซะส่วนใหญ่ บางคนนี้เบียดแบบน่าเกลียดเกินไป ทั้งที่ถนนก็กว้างแต่ยังมาเดินเบียด
 
   “หึงเหรอ” พี่โชถามทันทีที่เราเดินพ้นสาวหุ่นดีที่ให้เพื่อนแกล้งเบียดมาชิด

   “เออ” สั้นๆ ให้ได้รู้ พี่โชก็หัวเราะร่วนจนน่าหมั่นไส้

   ใช้เวลาเดินดูของอยู่นานจนตอนนี้ท้องฟ้ามืดสนิท และท้องก็แน่นมากผมกับพี่โชเลยพากันกลับ เหนื่อยด้วย เมื่อยด้วย อยากกลับไปนอนแช่น้ำอุ่นๆ ตอนเช้าที่เดินดูห้องผมเห็นอ่างน้ำด้วย กลับไปจะเปิดน้ำแล้วลงไปแช่ผ่อนคลายสักชั่วโมง

   จากถนนคนเดินมาที่พักไม่ไกลมาก ใช้เวลาไม่กี่นาทีรถก็จอดที่ลานจอดรถ ผมถอดหมวกครอบกับกระจกรถแล้วเดินนำหน้าพี่โชเข้าโรงแรม ในมือพี่โชหิ้วถุงของกินกับของฝากจนเต็ม ตอนแรกผมก็จะช่วยแต่ถูกปฏิเสธเลยปล่อยให้ถือเองซะเลย

   “เตียงจ๋า กลอยกลับมาแล้ว” ตะโกนเสร็จก็กระโจนลงไปนอนกลิ้งทันที แต่ก็ขัดใจเมื่อพี่โชเดินดึงให้ลุกบอกเตียงจะสกปรก
 
   “เหงื่อเต็มไปหมด ไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมานอน”

   “แต่ผมอยากนอนก่อน นอนแปบนึงไม่ได้เหรอ”

   “ไม่ได้ครับ เร็ว”

   แรงดึงทำให้ต้องลุกตามคนจูงเข้าไปในห้องน้ำ พี่โชเดินไปเปิดน้ำในอ่าง ส่วนผมก็โคตรอยากนอน เลยแก้ผ้ามันซะเลย ไม่อายแล้วครับ อาบด้วยกันโคตรบ่อย เหมือนกับพวกไอ้ทูนั่นแหละ แก้ผ้าเสร็จก็เดินเข้าไปอาบน้ำใต้ฝักบัว สายน้ำอุ่นๆ ผ่านตัวทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่เริ่มรู้สึกไม่สบายเมื่อมีมือคู่หนึ่งที่กอดมาจากด้านหลัง ในมือมีฟองน้ำที่เต็มไปด้วยสบู่กำลังลูบไปทั่วตัวของผม แต่พี่คร้าบ อย่าลูบนานมันหวิว

   ผมตะปบมือพี่โชที่เอาฟองน้ำถูวนที่หน้าอก พร้อมกับมือเปล่าลูบต้นขา พอหันไปมองพี่โชมันถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว ไปถอดตอนไหนวะ แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน ผมควรจะจัดการมือปลาหมึกนี่ก่อน

   “พี่โช” เรียกเสียงแผ่ว คือถูกลูบแบบนี้บางทีมันก็หวิวๆ ในท้อง

   “ครับ” ยิ่งเสียงพูดกับลมหายใจอุ่นๆ ชิดติดใบหูยังรู้สึกแปลกๆ แถมมีบางอย่างกำลังทิ่มแถวๆ ด้านหลังอีก เริ่มใจไม่ดีเว้ยเฮ้ย 

   “คือผม” ยังไม่พร้อมโว้ย

   “หืม” โดนงับหูเบาๆ เลยเอียงคอหนีก็เลยถูกริมฝีปากเลื่อนมาประกบกับปากแทน มือใหญ่จับหน้าให้อยู่นิ่งเพื่อจะได้รับจูบได้อย่างถนัด

   ความร้อนเริ่มเพิ่มขึ้นจนแปลเปลี่ยนเป็นเร้าร้อน มือใหญ่ลูบไปทั่วตัวจนผมต้องรีบจับเมื่อมันเริ่มขย้ำและแตะบริเวณต้องห้าม พี่โชถอนจูบออกดวงตาหวานที่ส่งมาทำให้ไอ้กลอยคนนี้แทบละลาย

   “ไม่เอาในนี้” ผมพูดชิดกับริมฝีปากที่ยังวนเวียนอยู่แถวแก้ม พี่โชยิ้มนิดๆ ก่อนพยักหน้าตอบรับ

   “ครับ”

   มือใหญ่ยื่นไปปิดก๊อกน้ำให้หยุดไหล ก่อนร่างที่เปียกปอนของผมจะถูกผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่คลุมและโดนช้อนอุ้มขึ้นแนบอกโดยคนอุ้มยังมอบความเร้าร้อนจากริมฝีปากให้อย่างต่อเนื่อง


   การเตรียมใจก่อนหน้านี้มันไม่ช่วยอะไรได้เลยเมื่อถูกความเร้าร้อนของผู้ชายด้านบนที่สอนบทรักอย่างไม่หยุดหย่อนจนแทบจะตายคาเตียงเมื่อจำนวนรอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กว่าบทเรียนที่สอนจะจบลงได้ก็เกือบรุ่งสาง และถ้าเป็นไปได้ บทเรียนแบบนี้ ไอ้กลอยคนนี้ไม่อยากเรียนแล้วเว้ย


....(มีต่อ)....
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 31-07-2016 20:36:42
 .
.
.
       
        เมื่อแสงแดดอ่อนๆ ลอดผ้าม่านเข้ามาแยงตาทำให้ผมต้องปรือตาขึ้นมา ภาพแรกที่เห็นคือดอยสุเทพที่เห็นลางๆ ผ่านผ้าม่านสีขาวบาง เหมือนเพิ่งนอนไม่นานก็ต้องตื่น แรงหนักที่วางพาดเอวจนต้องก้มมอง นี่เมื่อคืนผมกับพี่โช... ภาพเมื่อคืนเหมือนถูกกรอกลับเป็นฉาก แล้วอยู่ๆ ก็หน้าร้อน ที่จริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรถ้าไม่โดนไปติดๆ หลายรอบ แม้คนทำบอกว่าจะอ่อนโยนที่สุด แต่ไม่เห็นว่ามันจะอ่อนโยนตรงไหน พี่แกเล่นใส่ไม่ยั้งมาตลอดจนหมดแม็ก

   ผมมุ้ยหน้าทันทีที่ขยับจะพลิกตัว โคตรเจ็บแถมยังขัดๆ ด้วย ปวดเมื่อยตั้งแต่นิ้วเท้ายันเส้นผม แล้วแบบนี้โปรแกรมเที่ยวของวันนี้จะไปไหวมั้ยวะเนี่ย พอผมเริ่มขยับตัว พี่โชก็เริ่มขยับตาม ผมมองคนที่นอนหลับสบายอย่างเคืองๆ หลับดีฝันดีจริงนะ

   เพราะมัวแต่มองหน้าหล่อๆ เลยถูกจูบแบบจู่โจมจนตั้งหลักไม่ทัน

   “อรุณสวัสดิ์” พี่โชปรือตามองพร้อมรอยยิ้มหวาน พี่ทำให้ผมใจไม่ดีนะเว้ย ใจก็เริ่มเต้นแปลกๆ เลยต้องก้มหน้าซ่อนความอาย “ไม่ทักทายพี่เหรอครับ หืม”

   “อะ...อรุณสวัสดิ์” เขินเชี่ย หน้าผมคงแดงเห่อแน่ เพราะมันร้อนผ่าวจนต้องมุดหนีในผ้าห่มสีขาว แต่พอมุดเข้ามาเลยเข้าใจสถานการณ์ว่าตอนนี้ยังเปลือยทั้งคู่ ทำให้ต้องหันหนีไปอีกทาง

   “ไม่ต้องเขินหรอกน่า” พี่โชว่าพร้อมกับขยับมาซ้อนหลัง มือก็โอบเอวผมแน่น

   “ไม่ได้เขิน” เถียงสิครับ แต่กลับถูกหัวเราะใส่จนต้องหันขวับไปมอง “ขำผมเหรอ”

   “เปล่าครับ” พี่โชยื่นหน้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ “เป็นของพี่แล้วนะ ข้อห้ามทุกข้อเป็นผล หากทำข้อไหนจะถูกลงโทษ”
 
   “ไม่เห็นจะรู้เรื่อง” ผมรีบเฉไฉ ก็ข้อห้ามมีเป็นร้อย ใครจะไปจำได้   

   “เดี๋ยวพี่จะบอกตอนถูกทำโทษเอง” พูดเฉยๆ ก็ได้ ทำไมพี่ต้องลูบหน้าท้องผมด้วยวะ

   “พี่โช” ผมร้องเสียงหลงเมื่อถูกมือบุกด่านประตูหลัง “ไม่เอาแล้ว เจ็บ”

   “ไหน เดี๋ยวพี่ดูให้” พูดจริงทำจริงอีกครับ พี่โชแม่งเปิดผ้าห่มออกโคตรไวจนผมคว้าไม่ทัน เลยกลายเป็นว่า กำลังนอนเปลือยอล่างฉ่างจนอยากจะมุดเตียงหนี

   “ไม่ต้อง ไม่เอาเว้ย” พยายามจะคลานหนีเท่าที่กำลังจะพอมีแต่ถูกร่างใหญ่กว่าทับจนขยับไม่ได้ แถมบางอย่างที่ทิ่มก้นผมก็พร้อมออกศึกอีกแล้ว “พี่โช” เรียกอีกรอบแต่ก็ไม่ยอมฟัง เอาแต่กัดตามหลัง ตามไหล่ มือก็ลูบอยู่นั่นจนขนลุก

   “กลอยครับ” เสียงแหบนิดๆ ชิดใบหูทำให้คนฟังอย่างผมเริ่มระทวยโอนอ่อนยอมตามใจ



   Rrrrrr Rrrr Rrrrrrrrrrrrrrrrr


   เสียงอุปกรณ์สื่อสารเครื่องแพงที่วางบนตู้หัวเตียงทำให้กิจกรรมทุกอย่างหยุดลง พี่โชหยุดแปบเดียวก็จะเริ่มต่อ แต่ผมเริ่มขัดขืนจนพี่โชฮึดฮัดแล้วชะโงกตัวข้ามผมไปหยิบมารับ


   “มีเชี่ยไร” เสียงเหวี่ยงได้อีก

   (มึงเป็นไรเนี่ย กูจะโทรบอกว่ากำลังจะถึงโรงแรมพวกมึงแล้ว รีบๆ ลงมา) เสียงพี่แทมโวยวายจนผมได้ยินเว่วๆ

   “เออ” แล้วพี่โชก็กดตัดสายทิ้งอย่างอารมณ์เสีย ดวงตาคมจ้องมาทางผมที่นอนเปลือยมองตาปริบๆ “พวกมันใกล้จะถึงแล้ว” พอได้ยินปุ๊บผมก็รีบดีดตัวขึ้นนั่ง เชี่ย น้ำยังไม่ได้อาบ

   “ผมไปอาบน้ำก่อนนะ” ได้แค่บอกแหละครับ เพราะตอนนี้ผมถูกพี่โชอุ้มเข้าห้องน้ำไปเรียบร้อย กว่าจะออกมาได้ หน้าจอมือถือก็มีสายโทรเข้าเป็นสิบสาย แถมสะโพกยังครากอีก ดูทำคนเดินผิวปากอย่างสบายใจแต่ผมเดินโคตรลำบาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่ก่นด่าในใจ


   ใช้เวลาเกือบๆ จะสามสิบนาทีกว่าผมกับพี่โชจะลงมาด้านล่าง พอมาถึงก็โดนพี่จอมบ่นจนหูชาแต่พอโดนพี่โชตวัดตามองก็รีบหยุดแล้วไปงุ้งงิ้งข้างพี่ซันแทน ผมพยายามเดินให้ดูปกติที่สุด แม้จะช้าแต่ก็ทำได้ คงเพราะผมเดินช้าไปหน่อยเลยถูกไอ้เชี่ยอัธเดินย้อนมาหาแล้วพาดแขนบนคอแล้วดันให้รีบเดิน

   “ปล่อยเลยไอ้อัธ” ผมกัดฟันพูดครับ ไม่ใช่โกรธ แต่เจ็บ

   “เป็นไรมึง หน้าตาแปลกๆ”

   “หน้าตากูก็ปกติ มึงเดินไปก่อนเลย กูร้อน” แถไปครับ

   “ร้อนเชี่ยไร หนาวจะตาย แล้วถ้าร้อนมึงจะใส่เสื้อกันหนาวทำเชี่ยอะไร แล้วยังเสื้อคู่อีก เสล่อเหี้ยๆ” พูดจบมันก็โดนฝ่ามือผมเข้าไปเต็มหัว เดี๋ยวกูจะไปฟ้องพี่โช เพราะพี่โชเป็นคนซื้อให้ครับ บอกจะได้ใส่คู่กัน แต่ไอ้เชี่ยอัธบอกเสล่อ

   วันนี้โปรแกรมเที่ยวคือเส้นแม่ริมครับ จะไปม่อนแจ่มกับไร่สตอเบอรี่ ผมขึ้นไปนั่งรถตู้ชิดหน้าต่างตามด้วยพี่โชกับพี่ซันที่นั่งข้างประตู พอนั่งแคบๆ แบบนี้มันรู้สึกเสียดๆ นั่งไม่ค่อยสบายจนต้องขยับตัวไปมา

   “เจ็บเหรอ” พี่โชก้มหน้ามากระซิบถาม ผมเลยพยักหน้าไป “นั่งตักพี่มั้ย” ตาโตมองคนที่พูด ทำแบบนั้นได้ไงเล่า

   “ไม่เป็นไร” ผมยื่นหน้าแอบมองพี่ซันที่นั่งฟังเพลงอยู่ คงไม่ได้ยินอะไร ผมเลยกระซิบบอก “คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะ เจ็บ”

   “คราวหน้าพี่จะทำเบากว่านี้” ยังคิดจะมีอีก ผมเลยได้แต่ยู่ปาก เพราะถึงห้ามยังไงก็ไม่ได้อยู่ดี



   พี่แทมขับเข้าเส้นแม่ริม วันนี้รถไม่ค่อยติดเพราะเป็นวันจันทร์ ขับไปเรื่อยๆ จนถึงทางเข้าเส้นท่องเที่ยว รถผ่านฟาร์มจระเข้ ฟาร์มงู ฟาร์มลิง ปางช้าง น้ำตก และตรงไปเรื่อยๆ เพื่อไปม่อนแจ่ม เส้นทางขึ้นม่อนนั้นน่ากลัวกว่าดอยที่ไปมาซะอีก เป็นทางแคบๆ ชันเกือบจะตั้งฉาก พี่แทมแม่งร้องโวยวายตอนขาขึ้นจนพวกผมลุ้นตาม พี่ตินที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เริ่มบอกให้เปลี่ยนเกียร์บ้าง เหยียบเบรกบ้าง คือลุ้นทั้งคันจริงๆ กว่าจะถึงก็ต้องเสียเหงื่อไปหลายเม็ด

   ม่อมแจ่มเป็นม่อนที่ปลูกดอกไม้ตามฤดูนะผมว่า แต่หน้าหนาวคือฤดูท่องเที่ยวแถมมีหยุดยาว ดอกไม้ก็ยังสวย ผู้คนเลยหลั่งไหลมาเที่ยว รวมถึงพวกผมนี่แหละครับ พี่แทมที่ขับรถแบบหัวใจจะวายก็มาแอ๊บแบ๊วให้พี่ตินถ่ายรูปให้ ผมได้แต่มองทุกคนถ่ายรูปสวยๆ แต่ตัวเองสังขารไม่ไหว อย่างไอ้ม่านปีนขึ้นไปบนหลังคารถที่นำมาจอดประดับไว้ อย่างพี่จอมก็กระโดดสูงให้เพื่อนถ่ายรูปให้ ขืนผมไปถ่ายแบบนั้นก้นคงฉีกพอดี ส่วนคนที่ทำให้ผมไปไหนไม่ได้ก็นั่งอยู่ข้างผมนี่แหละครับ เราเลยถ่ายรูปอยู่ที่ศาลาไม้ไม่ได้ออกไปไหน

   “ผมโคตรหล่อ” ยื่นหน้าจอที่เพิ่งถ่ายหมาดๆ ให้พี่โชดู คนดูก็ขำ ผมเลยรีบถ่ายตอนพี่โชหัวเราะ “พี่ก็หล่อแบบงั้นๆ”

   “เอาตามที่สบายใจ” หน้าตูมเลยไอ้กลอย

   พอทุกคนได้รูปสวยหนำใจต่างก็พากันไปเล่นรถไม้ที่ไถลลงจากเนิน คนที่ฮาสุดก็คือพี่เบครับ พี่แกอยากชนะพี่แทมเลยเร่งความเร็ว แต่สุดท้ายหน้าคว่ำ โคตรฮา ไอ้ทูก็รีบเอาผ้าไปเช็ดหน้าให้ คู่นี้มีซัมติงแน่

   “แหม ขนาดแพ้ยังกำลังใจดีนะมึง” พี่ตินแซวครับ ไอ้ทูเลยชักมือกลับ แต่ไม่ทันว่ะเพื่อน

   “เชี่ย” พี่เบด่าเพื่อนก่อนจะเดินกลับไปที่รถกัน

   ขากลับเป็นพี่ซันขับแทน เพราะพี่แทมส่ายหน้าอย่างเดียว โคตรตลก แต่เป็นผม ผมก็ไม่เอา มันน่ากลัวจริงๆ แต่เผอิญขาลงเป็นอีกทาง พี่แทมเลยบ่น พอวนรถออกมาเราก็เลี้ยวขวาไปสะเมิงเพื่อจะไปเที่ยวไร่สตอเบอรี่ตามเพจแนะนำ

   เส้นทางคดเคี้ยวพอประมาณแต่ก็แอบมึนหัว ผมเอายาดมคาจมูกมาตลอดทางเพราะเริ่มเมารถ อาจเพราะนอนไม่พอด้วย ยิ่งขับไปไกลรถที่ตามหลังก็เริ่มไม่มี กลายเป็นว่า มีรถตู้ของเราอยู่คันเดียว หวังว่าไร่สตอเบอรี่คงจะมีให้เก็บแบบที่แนะนำนะ ไม่งั้นไอ้กลอยจะร้องไห้ให้ดู

   ทางเข้าไร่เป็นถนนเส้นเล็กๆ สองข้างทางเป็นพื้นที่ปลูกสตอเบอรี่เล็กๆ ไร่ที่เราจะไปอยู่ห่างจากทางเข้าพอประมาณ ก่อนพี่ซันจะเลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานกว้างที่ตรงหน้าเป็นไร่ที่เต็มไปด้วยต้นสตอเบอรี่

   “อากาศดีอ่ะ” พี่จอมลงรถก่อนเพื่อนก่อนบิดขี้เกียจไปมา

   “โห ลูกนั้นโคตรแดง” ไอ้ม่านชี้ลูกที่ห้อยอยู่ที่ต้น

   แต่ละคนก็ตื่นเต้นกันพอประมาณ พวกเราต้องเสียเงินคนละยี่สิบบาทเพื่อจะเข้าไปชมไร่พร้อมถ่ายรูป ปากทางเข้าจะมีถังสีดำไว้ให้คนที่จะเก็บลูกสตอเบอรี่ มีรองเท้าบูทกับหมวกให้ยืมแต่ไม่มีใครใช้ ผมหยิบถังมาหนึ่งใบแต่พี่โชรีบเอาไปถือให้ ผมเลยเดินเข้าไปก่อนพี่โชเดินตามหลัง

   “แหม ไอ้คู่นี้ ได้กันแล้วล่ะสิ เดินตามตูดกันขนาดนั้น” เสียงพี่จอมแหวกอากาศมาผมถึงกับสะดุดก้อนหินถ้าพี่โชไม่รวบไว้คงลงไปนั่งกองที่พื้น พี่โชหันไปด่าเพื่อนตัวเองเบาๆ แล้วดันให้ผมเดินต่อ เชี่ย แม่นโคตรไอ้พี่จอม

   ต้นสตอเบอรี่ปลูกเป็นแถวยาว มีลูกดกเป็นหย่อมๆ บางลูกก็โตสวย บางลูกก็ยังเล็ก ผมจะเก็บแต่ละลูกต้องหันไปถามพี่โชครับ ถ้าพี่แกพยักหน้าผมก็เก็บ แต่ถ้าส่ายหน้าก็เดินผ่าน ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่เก็บทุกลูกอย่างพี่ติน คือพี่เขาเดินตามผมมาแล้วเก็บลูกที่พี่โชไม่ให้เก็บจนเกือบหมด ลูกขาวๆ ก็ยังเก็บ จนพี่โชทนไม่ไหวหันไปด่า

   “มึงตามกูทำไม ไปเก็บแถวอื่นสิวะ”

   “กูจะเก็บตรงนี้ มึงมีปัญหากับกูเหรอวะ”

   “แล้วแต่มึง”

   พี่โชหน้าบึ้งดันให้ผมไปเก็บอีกแถวแทน พี่ตินกำลังจะก้าวตามมาถูกพี่โชชี้หน้าเลยต้องอยู่ที่เดิม พอตามผมไม่ได้ พี่ตินก็เดินไปหาไอ้ม่านแทน แล้วก็ได้ยินเสียงตะโกนโวยวายว่าเจอลูกโคตรใหญ่ ดีที่ตอนนี้คนน้อยเลยไม่ต้องอายเท่าไหร่

   “เพื่อนพี่มีเต็มสักคนป่ะ” ผมถามคนที่เอาแต่เดินตาม

   “ก็อย่างที่เห็น” ผมขำกับคำตอบของพี่โช “ร้อนมั้ย” ลมเย็นนิดๆ มาจากฝ่ามือของพี่โชที่โบกพัดให้ผม ที่จริงตอนขามาใหม่ๆ ก็เย็นๆ นะครับ แต่พอยืนกลางแดดนานๆ ก็เริ่มร้อนจนอยากถอดเสื้อฮู้ดสีน้ำเงินนี่ออก

   “เก็บได้เยอะป่ะพวกมึง” พี่จอมเดินลัดเลาะมาจากอีกฝั่ง พร้อมชะโงกหน้ามามองถังของผมที่มีแต่ลูกสีแดงสด ของพี่จอมก็ไม่ต่างครับ แถมลูกใหญ่กว่าอีก แล้วเราสามคนก็เดินออกไปเพราะร้อน สตอเบอรี่ก็เก็บมาต้องนำไปชั่งครับ กิโลละแปดสิบบาทของผมโดนไปสองร้อยกว่า รออยู่นานกว่าทุกคนจะออกมา ก็โดนคนละหลายร้อยตามที่เก็บ

   “คนเยอะมั้ยครับ” ไอ้คนอัธยาศัยดีอย่างผมก็ชวนคุณป้าเจ้าของคุยครับ ป้าแกกำลังแพคของพี่แทมลงกล่อง

   “ก็เยอะเป็นบางวันนั่นแหละ แต่ช่วงนี้คนเยอะหน่อยเพราะสิ้นปี พวกลูกมาจากไหนจ๊ะ”

   “จากกรุงเทพครับ”

   “มาเที่ยวสิ้นปีสินะ”

   “ครับ”

   ผมก็ถามนั่นถามนี่จนทุกอย่างได้ของครบก็พากันเดินอ้อมขึ้นไปบนร้านอาหาร สั่งกับข้าวมากินจนเต็มโต๊ะ แต่ละคนก็จ้วงกินอย่างหิวโหย

   “ยำวุ้นเส้นสตออร่อยว่ะ”

   “สตอเบอรี่เปล่าวะพี่”

   “เออนั่นแหละ”


   มื้ออร่อยจบลงก็พากันกลับ วันนี้เหนื่อยทั้งวันคงจะนอนหลับยาวแน่นอน พี่โชเปลี่ยนไปขับรถบ้างโดยเอาผมไปนั่งข้างๆ เหมือนเดิม

   ดูเหมือนตอนขากลับจะเร็วกว่าขามา ตัวเมืองแม่ริมรถโคตรเยอะ กว่าจะถึงตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาเป็นชั่วโมง พวกในรถก็นอนหลับกรนแข่งกันจนผมหันไปมองหลายรอบ คือถ้าจะพร้อมใจกรนกันขนาดนี้ สุดท้ายรถก็จอดอยู่หน้าโรงแรมที่ผมกับพี่โชพัก
 
   “พวกมึงจะตามกูไปเลยหรือจะไปเจอกันที่ไหนวะ” พี่ตินถามเมื่อถูกปลุกให้ตื่น

   “กูเก็บของก่อนแล้วจะตามไป” พี่โชว่าแล้วก็พาผมเดินเข้าโรงแรม ปล่อยพี่ตินเดินไปขับรถพาเพื่อนที่นอนหลับกลับไปบ้านไอ้ม่าน หวังว่าจะไม่หลับในนะ

   กลับมาที่ห้องผมก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า พี่โชตามลงมานอนข้างๆ คงจะเหนื่อยกว่าผมอีก

   “เหนื่อยป่ะ” ผมถาม

   “นิดหน่อย หิวมั้ย” ผมส่ายหน้าตอบ แล้วเราก็เงยหน้ามองเพดานและอยู่เงียบๆ แบบนั้นไปพักใหญ่ ก่อนพี่โชจะเลื่อนมือมาจับมือผม “ไว้คราวหน้าเรามากันสองคนอีกเนอะ”

   “แต่ไม่นอนที่นี่แล้วนะ แพงว่ะ”

   “แพงแต่เก็บเสียงนะ”

   “พี่ก็คิดแต่เรื่องแบบนี้ตลอดว่ะ” ยื่นมือไปหยิกแขน “ไม่อยากกลับเลย” ผมว่าก่อนขยับเอาหัวไปซุกกับอกกว้าง

   “งั้นเรายังไม่กลับ ปล่อยให้พวกมันกลับไปก่อนดีมั้ย” พี่โชลูบหัวผมจนแทบเคลิ้มจะหลับ

   “ไม่ดีหรอก ไว้ค่อยมาอีกก็ได้” บอกอู้อี้ก่อนหลับไปจริงๆ




   “มึงยกกระเป๋ากูดีๆ นะไอ้ม่าน ถ้ามีรอยมึงโดน” พี่ตินตะโกนว่า นี่ขนาดต่อหน้าแม่ไอ้ม่านนะครับ

   ตอนนี้พวกเราจะกลับแล้วครับ เวลาก็ประมาณตีสี่ อากาศอย่าได้พูดถึง แต่ละคนมีผ้าห่มคลุมทุกคน แม่ไอ้ม่านตื่นมาช่วยดูจนพวกผมเกรงใจ ข้าวของถูกยัดจนเต็มท้ายรถตู้และแบ่งมาที่รถของพี่โชบ้าง ก่อนจากลาไอ้ม่านเข้าไปกอดแม่และหอมแก้มฟอดใหญ่ พวกผมก็ยกมือไหว้ขอบคุณแม่ที่คอยดูแลเป็นอย่างดี แม่ก็โบกมืออวยพรให้พวกผมเดินทางโดยสวัสดิภาพ

   แล้วเราก็ต้องกลับไปยังจุดที่มาและเริ่มต้นใหม่ในวันปีใหม่ที่จะถึง ตอนแรกผมก็ตั้งใจว่าจะเคาท์ดาวน์ที่เชียงใหม่ แต่ผิดแผนทุกอย่างเมื่อพี่แทมต้องไปนับถอยหลังกับครอบครัว และพี่ตินต้องพาแม่ไปสวมมนต์ข้ามปีที่วัด เลยสรุปกันว่ากลับก็กลับ

        หวังว่าปีใหม่ไอ้กลอยคงไม่เจอเรื่องร้ายๆ อีกแล้วนะ ขอให้เจอแต่เรื่องดีๆ เพื่อนดีๆ แต่คนรักดีๆ ผมมีแล้ว
 
   “ขอบคุณที่พี่พาผมมาเที่ยว ผมมีความสุขมาก”

   “พี่ก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ”



   ผมยิ้มกว้างมองมือที่เราจับกัน มือคู่นี้ผมจะไม่ยอมปล่อยแน่ ไอ้กลอยจะแปลงร่างเป็นตุ๊กแกเกาะให้เหนียวจนแกะไม่ออกเลยทีเดียว ตุ๊ก ตุ๊ก ตุ๊กแก!!!   


.....TBC


ใครหวังฉากเรทต้องขอประทานอภัย คือไม่ไหวจริงๆ T^T แค่พอกรุบกริบยังพอไหว

ขอบคุณทุกๆ คนสำหรับกำลังใจในทุกๆ เม้นท์ อ่านทุกเม้นท์นะคะ เพราะมันคือพลัง (ก้มกราบ)

จะพยายามพัฒนาฝีมือให้ดีกว่านี้ค่า

(เรื่องคู่อื่นๆ ใจจริงไม่อยากเอามารวมกับคู่หลักพี่โชน้องกลอยเพราะกลัวจะสับสน เลยจะแยกพาสต่างหากนะคะ)

ขอบคุณที่รักพี่โชและน้องกลอยค่าาา ^3^~
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: prueksa ที่ 31-07-2016 21:08:30
 :z1: ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 31-07-2016 21:25:43
ในที่สุด กลอยใจเสร็จพี่โชล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
แยกพาร์ทเลยเอาทุกคู่ อิอิ
อ่านตอนนี้แล้วอยากไปเที่ยวเหนือเลย อิอิ
รอพัฒนาการ nc ฮ่าๆๆๆ
ลุ้นต่อ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 31-07-2016 21:49:31
ตามอ่านมาตั้งเเต่ต้นเรื่อง ไม่ค่อยได้เม้นอะไรมาก เเต่นักเขียนบอก อ่านทุกเม้น งั้นมาเป็นกำลังใจให้ค่ะ เขียนได้ดี อ่านเพลินมาก
ทีเเรก ก็หวัง NC 55555 ตามสไตล์สายหื่น
กลอยนี้ จากเเมนๆ เปลี่ยนโหมดเป็นมุ้งมิ้ง ชอบๆ นางเริ่มน่ารัก
อีกเรื่อง ขอชื่นชม ความมีวินัย ของนักเขียนมาก มาอัฟบ่อย ไม่ขาดหาย ไม่ทิ้งคนอ่าน ขอชื่นชมนะค่ะ (เคยรออ่านนิยายของท่านหนึ่ง เเล้วไม่ค่อยมาอัฟ เข้าใจว่ามีเหตุจำเป็น เลยหายไปนาน) ทำให้ค้างมาก เรื่องนี้ อ่านไปอ่านมา คือบางทีมันเรียลนะ อารมณ์เหมือนเรื่องเล่าชีวิตจริงกลายๆ 55555 เป็นกำลังใจให้นะค่ะ การปั่นนิยายอาจทำให้เวลานอนผิดเพี้ยน พักผ่อนด้วยนะค่ะ สู้ๆๆ o22
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Red_sister ที่ 31-07-2016 21:50:53
มุ้งมิ้งสุดด รอดูบทลงโทษ 5555 ทำผิดเยอะๆนะกลอยยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 31-07-2016 21:53:00
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-07-2016 21:55:51
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ตุ๊กแกโดนกินตับแล้วเรียบร้อย :z1: :z1: :z1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 31-07-2016 22:09:33

 ช่วงขอบคุณกำลังใจค่า จุ๊บๆ (นานๆ มาที)


:z1: ติดตามๆ

ขอบคุณที่ติดตามค่า  :กอด1:

...

ในที่สุด กลอยใจเสร็จพี่โชล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
แยกพาร์ทเลยเอาทุกคู่ อิอิ
อ่านตอนนี้แล้วอยากไปเที่ยวเหนือเลย อิอิ
รอพัฒนาการ nc ฮ่าๆๆๆ
ลุ้นต่อ

พี่โชไม่นกแล้วค่า ฮ่าๆๆๆๆ 
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
เรื่องคู่อื่นๆ กำลังจะตามมาค่า  :mew1:

......

ตามอ่านมาตั้งเเต่ต้นเรื่อง ไม่ค่อยได้เม้นอะไรมาก เเต่นักเขียนบอก อ่านทุกเม้น งั้นมาเป็นกำลังใจให้ค่ะ เขียนได้ดี อ่านเพลินมาก
ทีเเรก ก็หวัง NC 55555 ตามสไตล์สายหื่น
กลอยนี้ จากเเมนๆ เปลี่ยนโหมดเป็นมุ้งมิ้ง ชอบๆ นางเริ่มน่ารัก
อีกเรื่อง ขอชื่นชม ความมีวินัย ของนักเขียนมาก มาอัฟบ่อย ไม่ขาดหาย ไม่ทิ้งคนอ่าน ขอชื่นชมนะค่ะ (เคยรออ่านนิยายของท่านหนึ่ง เเล้วไม่ค่อยมาอัฟ เข้าใจว่ามีเหตุจำเป็น เลยหายไปนาน) ทำให้ค้างมาก เรื่องนี้ อ่านไปอ่านมา คือบางทีมันเรียลนะ อารมณ์เหมือนเรื่องเล่าชีวิตจริงกลายๆ 55555 เป็นกำลังใจให้นะค่ะ การปั่นนิยายอาจทำให้เวลานอนผิดเพี้ยน พักผ่อนด้วยนะค่ะ สู้ๆๆ o22

เรื่องวินัยในการอัพนี่พยายามและฝึกตัวเองอยู่ค่า เพราะตัวขี้เกียจชอบเกาะหลังตลอด 555
ขอบคุณสำหรับการติดตามและกำลังใจนะคะ ส่วนเรื่อง nc สไตล์สาววายนี่มันยากจริงๆ นะเออ แบบมันเขินมาก (บ้าไปแล้ว)
ยังไงขอฝากพี่โชกับน้องกลอยด้วยนะคะ

......

มุ้งมิ้งสุดด รอดูบทลงโทษ 5555 ทำผิดเยอะๆนะกลอยยย

ข้อห้ามเยอะเกินไป น้องกลอยตายแน่ค่า 55555
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ  :3123:

....

:pighaun:


ขอบคุณสำหรับการติดตามค่าาา
 :mew1: :mew1:


....

:-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ตุ๊กแกโดนกินตับแล้วเรียบร้อย :z1: :z1: :z1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


พี่โชไม่นกแล้วค่า ฮ่าๆๆ nc มาเพียงนิดๆ กรุบกริบๆ ค่ะ >w<
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-07-2016 22:13:58
ชอบบบบ พี่โช กลอย  :mew1: :mew1: :mew1:
ขำ พวกเพื่อนกลอย อัธ
เพื่อนพี่โช ตลกดี
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 31-07-2016 22:44:44
ตุ๊ก ตุ๊ก ตุ๊กแก.   อึมขุ่นน้องค่ะ.  อิป้าเกลียดตุ๊กแก
แต่ถ้าเป็นตุ๊กกลอยป้ายิขนไปไว้บ้านแทน
ผลั๊วะ. โชตามมาตบ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 31-07-2016 22:45:37
น่าฮักขนาดดดดด

พี่โชอบอุ่นอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 31-07-2016 22:51:11
ในที่สุดก็เสร็จพี่โชจนได้นะกลอย 5555555 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 31-07-2016 23:00:18
คู่พี่โชกลอยน่ารักจัง  :katai4: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-07-2016 23:02:18
เรียก เมีย ได้เต็มปากเต็มคำแล้วสิคราวนี้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 31-07-2016 23:04:44
 o13. เยี่ยมมากเรียนร้องโรงเรียนโชแล้วสิ อิอิ. ชอบๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 31-07-2016 23:29:13
พี่จอมนี่ปากดีจริงๆ เลยน้าาาาา แซวคนอื่นอยู่ได้ แบบนี้พี่ซันจัดสักหน่อยไหม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-08-2016 00:40:22
มาถึงตอนนี้พี่โชคงต้องพาน้องไปพบแม่ และน้องกลอยค้องพาพี่โชไปหาแม่เพื่อแนะนำตัวได้แล้วนะ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 01-08-2016 00:53:16
พี่โซคนหื่น :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-08-2016 03:14:09
เสร็จจนได้นะอิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-08-2016 05:54:41
เรียบพี่โชไปแล้วกลอยคนมึน
เกาะแน่นๆเลยน้อง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-08-2016 09:46:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 21 UP!!<< // [31/07/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 01-08-2016 17:09:26
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 01-08-2016 23:47:43
Just you and I : 22



        กลับมาจากเชียงใหม่ผมก็ถูกคนบ้าอำนาจบังคับให้ย้ายออกจากหอพักเดิม บังคับไม่พอยังไปคืนห้องให้ผมโดยที่ไม่บอกสักคำ แถมไม่ได้เงินประกันคืนเพราะไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ตั้งสี่พันบาท โคตรเสียดาย นี่ผมต้องกินบะหมี่ทั้งเดือนหรือเปล่าเนี่ย สี่พันของผม

   ผมใช้หางตาเหล่คนที่กำลังชี้นิ้วสั่งให้คนมาย้ายข้าวของเครื่องใช้ออกไปจากห้อง นี่ห้องของผมนะครับ ถ้าไม่ให้ผมอยู่นี่แล้วจะให้ผมไปอยู่ที่ไหน ถึงจะเถียงไปก็พาลทะเลาะกันเปล่าๆ อยากทำอะไรก็ทำ เอาตามที่สบายใจ

   “ทำหน้าบึ้งทำไม โกรธพี่เหรอ” พี่โชเลิกสนใจความวุ่นวายตรงหน้ามามองหน้าผม 

   “พี่เล่นมัดมือชกแบบนี้แล้วผมจะโกรธได้ไง ขนออกไปซะหมด แล้วแบบนี้ผมจะไปนอนที่ไหนเล่า” มองถุงเสื้อผ้าเน่าๆ ของตัวเองถูกยกออกไปเป็นถุงสุดท้าย

   “ไปอยู่กับพี่ ก็นอนกับพี่นั่นแหละ” ไม่ต้องมายิ้มโชว์ฟันขาวเลยนะ ผมหน้ามุ้ยมองคนอารมณ์ดีตรงหน้าอย่างเคือง “หรือไม่อยากไปอยู่กับพี่” แน๊ะ จะงอนอีก คนแก่นี่อารมณ์แปรปรวนจริง

   “ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย” ผมรีบกอดเอวคนที่ยืนกอดอกที่พูดเหมือนน้อยใจ “ผมแค่รู้สึกแปลกๆ”

   “แปลกยังไง เมียก็ต้องไปอยู่กับผะ...” ผมรีบตะครุบปากพี่โชก่อนจะหลุดคำบางคำออกมาเพราะพนักงานขนของเข้ามาพอดี เกือบไปแล้ว แต่ถึงจะไม่พูด การที่ผมปิดปากพี่โชอยู่แบบนี้ แล้วยิ่งมือของคนโดนปิดปากรัดเอวผมขนาดนี้ ผมว่า น่าจะให้พูดเลยคงจะดีซะกว่า ส่วนพี่พนักงานขนของได้แต่หัวเราะแห้ง ทำหน้าเสียเหมือนเข้ามาขัดจังหวะ

   “ขอโทษนะครับ ของหมดแล้วให้ไปส่งตามแผนที่เลยหรือเปล่าครับ” พนักงานขนของถาม พี่โชก็พยักหน้าตอบทันที 

   พอคนนอกออกไป คนตัวใหญ่กว่าก็ดึงมือผมออก “เจอดีแน่” คำขู่มาพร้อมๆ กับการก้มมาจุ๊บเบาๆ ที่ปาก “มัดจำไว้ก่อน คืนนี้ค่อยเคลียร์” พูดจบก็หัวเราะร่วนแล้วเดินตามพนักงานขนของออกไป

   นี่ใช่พี่โชที่ผมเคยรู้จักหรือเปล่าวะเนี่ย คนดุๆ โหดๆ โฉดๆ นั่นหายไปไหนแล้ว

   โหมดหวานจนเลี่ยนแบบนี้ไอ้กลอยยังไม่คุ้น!!!

   ผมมองห้องที่อาศัยซุกหัวนอนมาสองปีกว่าอย่างอาลัยอาวรณ์ ห้องนี้ผมผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งท่อน้ำรั่ว ฝ้าเพดานพัง ห้องน้ำตัน ไอ้กลอยผ่านความลำบากกับห้องนี้มาเยอะ ไม่เคยคิดว่าจะต้องจากมันไปเลย แอบทำใจลำบาก ยิ่งระเบียงเล็กๆ ด้านนอกนั่นเคยทำให้ผมเกือบกลายเป็นโรคจิตถ้ำมองเพราะตึกข้างๆ ดันมีสาวแก้ผ้าริมหน้าต่างแล้วหันมาเจอไอ้กลอยยืนหน้ามึนอยู่ แม่คุณรีบโทรแจ้งตำรวจให้มาจับผมเลยอ่ะ ก่อนจะถูกใส่กุญแจมือ ผู้หญิงคนนั้นเดินมาโวยวายพอเห็นหน้าผมเธอก็ตกใจและบอกคนที่ถ้ำมองไม่ใช่ผม คุณตำรวจก็งง ผมก็งง สุดท้ายโรคจิตที่เธอว่าก็คือลุงแก่ๆ ห้องข้างล่างที่กำลังใช้กล้องส่องหาสาวๆ ผมเกือบเป็นแพะได้กินข้าวแดงฟรีอยู่ในคุก

       ลาก่อนห้องที่รักของไอ้กลอย

 

   วันนี้พี่โชดูอารมณ์ดีผิดปกติ เหมือนคนกินยาไม่เขย่าขวด หรือว่าจะกินสตอเบอรี่มากไปทำให้สมองเพี้ยน แต่ก็ไม่น่าจะเกี่ยว ขนาดผมกินจนหมดกล่องสมองผมยังได้เท่านี้ คือยังฉลาดมากอยู่ดี

   “พี่โช” ผมลองเรียกคนที่จัดของนู้นนี่ของผมให้เข้าที่ เสื้อผ้าผมถูกพี่โชพับซะสวยแล้วเรียงไว้ที่ว่างข้างๆ เสื้อของตัวเองในตู้

   “ครับ” เสียงตอบรับแต่ตายังมองเสื้อยืดเน่าๆ ในมือ

   “พี่อารมณ์ดีอะไรบอกหน่อยสิ” ถามโง่ๆ เลย คือจะยิ้มตามแต่ไม่รู้ว่าจะยิ้มให้กับอะไร

   พี่โชหัวเราะก่อนกวักมือเรียกผมให้ไปนั่งบนเตียงข้างๆ พอผมไปนั่งพี่เขาก็ยื่นหน้ามากระซิบเบาๆ แต่ทำให้ผมหน้าแดง

   “จะมีเมียมานอนกอดทุกวันมันก็ต้องอารมณ์ดีสิ จริงมั้ยครับ”

   ผมลุกหนีแทบไม่ทัน คนที่อารมณ์ดีก็เอาแต่ยิ้มจนผมเริ่มกลัว

   “ผมไม่เคยคิดเลยว่าพี่จะโคตรหื่น”

   “ถ้าไม่ใช่กับเมีย พี่ก็ไม่หื่นหรอก” พูดไม่พอยังมีขยิบตาให้อีก

   ว้าก พี่โชบ้าไปแล้ว ผมจะทำยังไงกับพี่แกดี เอามือข่วนหน้าดีมั้ย แต่ไม่ดีหรอก เดี๋ยวโดนทำโทษมันจะไม่ดีกับตัวผมเอง
       
   ผมเลี่ยงเดินออกจากห้องนอนของพี่โชสายหื่นเพื่อมาหาอะไรกิน ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงเต็มที ตั้งแต่เช้าก็มัวแต่ยุ่งกับการจัดของใช้ของผม ข้าวเช้าที่กินไปก็ย่อยหายไปแล้ว

   จะทำอะไรกินดีหว่า

   ในตู้เย็นมีผักเริ่มไม่ค่อยจะสดเพราะซื้อไว้นาน แต่ผมก็เลือกหยิบแตงกวา มะเขือเทศ หมู และหัวหอมออกมา ข้าวผัดหมูน่าจะง่ายสุด ผมเดินเอาข้าวไปหุงใส่ในหม้อ แล้วหันมาปลอกเปลือกหัวหอมและหั่นหมูกับมะเขือเทศ เดินทำนั่นทำนี่ข้าวก็สุก ผมเปิดฝาทิ้งไว้ให้ข้าวเซ็ทตัว และเริ่มตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอเริ่มร้อนก็เอากระเทียมลงไปเจียวให้หอม เอาหมูลงไปผัดจนหมูสุกก็ตอกไข่ใส่ และโปรยหัวหอมนิดๆ ระหว่างทำพี่โชก็เดินออกมาดูหลายรอบ คงจะหิวเหมือนผม

   พอของในกระทะเริ่มได้ที่ผมก็ขดข้าวมาใส่ ผัดๆ คนๆ ปรุงรส พอถึงตรงนี้พี่โชเดินมายืนดูข้างๆ ผมเลยเอาช้อนตักข้าวผัดให้พี่โชชิม ระหว่างที่พี่เขาเคี้ยวผมก็ลุ้นจนหัวใจจะวาย

   “อร่อยป่ะ” รู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าลุ้นหวยรางวัลที่หนึ่งอีก

   “อืม” พี่โชทำหน้านึกจนผมเริ่มใจแป้ว

   “ไม่อร่อยเหรอ” หน้าเสียไปแล้วผม ทำเยอะขนาดนี้ถ้าเอาไปทิ้งก็โคตรเสียดาย เอาใส่กล่องเก็บไปให้หมาแม่ลูกที่คณะดีกว่า “งั้นผมเอาไปให้แม่สีครีมกับลูกๆ มันกินดีกว่า”

   “อร่อยที่สุดต่างหาก” พี่โชยื่นมือมาหยิกแก้มผมจนยืดเหมือนโยโย่

   “นิสัยไม่ดีว่ะ แกล้งผมอ่ะ” ค้อนไปหนึ่งวงก่อนปิดแก๊สแล้วตักใส่จาน

   “งอนพี่เหรอ โอ๋ๆ พี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยน้า” ผมเคยบอกแล้วว่าไม่ชินกับพี่โชแบบนี้เลย เพราะทำให้ผมกลายเป็นผู้ชายขี้อาย ยิ่งตอนนี้มากอดผมจากด้านหลังเอาหน้าถูไถกับไหล่ผมอีก พี่คือคนที่เคยลากคอผมวันนั้นหรือเปล่าวะ

   “พี่โช” ใช้เสียงสูงเรียกเพื่อให้หยุด “ไปปลอกแตงกวาเลยถึงจะหายงอน” ไม่ได้งอนแต่อยากใช้มากกว่า

   “ครับผม” พี่โชยื่นหน้ามาหอมแก้มพร้อมยื่นมือหยิบกะละมังแตงกวาไปด้วย

   รู้สึกใช้งานง่ายจริงๆ ผมเริ่มชอบละ ฮ่าๆ

   เมื่อแตงกวาถูกหั่นเป็นชิ้นสวยงาม ผมก็ยกข้าวผัดไปวาง แล้วเราก็เริ่มลงมือจัดการ ความหิวโหยทำให้รู้สึกว่า มื้อนี้มันโคตรจะอร่อย...

   ถ้าไม่มีประโยคของพี่โชประโยคนี้นะ

   “กลอยทำอาหารแบบนี้พี่ซื้อผ้ากันเปื้อนน่ารักๆ มาให้ดีกว่า”

   “คิดอะไรแปลกๆ อีกแล้วใช่มั้ย” ดักทางไว้เลยครับ ไอ้สายตาโคตรเจ้าเล่ห์มันดูไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่

   “ก็แค่...” ดวงตาคมเป็นประกายจนผมเริ่มเสียวสันหลัง “คิดว่าถ้าใส่แต่ผ้ากันเปื้อนจะเซ็กซี่ขนาดไหน”

   ข้าวผัดในจานแทบจะบิน พี่เอาส่วนไหนมาคิดว่าผมจะเซ็กซี่วะ นมก็ไม่มี ก้นก็แบน ส่วนเว้าส่วนโค้งก็ไม่มี แล้วเอาอะไรมาคิด

   “หมดกันพี่โชที่ผมเคยรู้จัก” ผมส่ายหน้าพูดปลงตกให้กับคนตรงหน้า พี่โชก็เอาแต่หัวเราะ มือตักข้าวผัดเข้าปากคำ ทำตาหวานให้ผมที บ้าไปแล้ว

   ระหว่างกำลังจะเลี่ยนหรือเขิน เสียงเรียกหน้าห้องก็ดังขึ้น พี่โชที่ยิ้มกว้างหุบลงทันที ใบหน้าที่ชวนฝันกลับมานิ่ง ยิ่งคนที่มากดเรียกรัวๆ เจ้าของห้องยิ่งอารมณ์เสีย พี่โชทำหน้าบึ้งลุกไปเปิด


   พายุอารมณ์ของคุณชายโชจะพัดโหมแล้วครับ


   “ทะแด~ สวัสดีตอนเที่ยงเพื่อนโชสุดหล่อ” เสียงพี่แทมดี๊ด๊าสุดพลัง ในมือมีถุงมากมายมหาศาล แต่ผมว่า พี่แกคงลืมมองหน้าคนที่เปิดประตูอยู่ ตอนนี้หน้าพี่โชโคตรไม่รับแขก “ว่าไงเมียเพื่อน” พี่แทมเดินผ่านพี่โชเข้ามาแบบไม่สังเกตนั่นแหละครับ ด้านหลังยังมีขบวนเพื่อนครบแก๊งรวมถึงเพื่อนผมด้วย

   “พวกมึงมาทำเหี้ยอะไรห้องกูวะ” เสียงปิดประตูบ่งบอกอารมณ์เจ้าของอย่างดีครับ ไอ้ทูแม่งสะดุ้งจนเกาะแขนไอ้ม่านเลย

   “เอ้า ก็มึงบอกจะพาเมียเข้าห้อง พวกกูก็มาฉลองไง” พี่ตินว่า มือก็วางถุงที่มีขวดราคาแพงบนโต๊ะ แต่ผมไม่สนใจเท่าพี่จอมครับ

   “หอมว่ะ” นั่นแหละครับ พี่จอมเดินไปเปิดดูกระทะที่มีข้าวผัดเหลืออยู่ “อร่อยด้วย” ตักชิมด้วย

   “ไอ้เหี้ยจอม มึงถอยออกมาเลย” พี่โชเดินปรี่เข้าไปคว้าคอเสื้อเพื่อนตัวเองให้ห่างจากเตา
 
   “ทำอะไรของมึงวะ กูจะกินข้าวผัด”

   “นั่นข้าวผัดของกู”

   “กูเพื่อนมึงนะ”

   “นั่นเมียกูทำ”

   “มึงเอายาเสน่ห์ให้มันแดกใช่มั้ยไอ้กลอย” พอเถียงพี่โชไม่ได้ก็มาเล่นผมซะงั้น

   “ยาอะไรพี่ มั่วแล้ว”

   “ไอ้จอมๆ มึงมาแดกส้มตำดีกว่ามา ปล่อยให้ไอ้โชมันชื่นชมฝีมือเมียมันซะให้พอ” พี่แทมกวักมือเรียกเพื่อนตัวเอง

   ผมมองพี่โชกับพี่จอมยืนจ้องกันแล้วเหมือนเคยเห็นแบบนี้มาก่อน อ่า ตอนแย่งไข่เจียวเมื่อตอนนั้น

   “พี่โช พี่อิ่มแล้วก็ให้พี่จอมกินดิ่ ถ้าพี่อยากกินเดี๋ยวผมทำให้ใหม่” ผมกระตุกแขนเสื้อพี่โชที่จ้องหน้าเพื่อนอย่างไม่ลดละ หวงข้าวผัดก็มีวุ้ย

   พอได้ยินที่ผมบอก พี่โชก็ตวัดสายตามามองจนผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้พี่จอม ผมช่วยได้แค่นี้ว่ะ พี่ไปกินส้มตำที่ซื้อมาเถอะ
 
   “เออๆ กูไม่แดกก็ได้ข้าวผัดเนี่ย หวงอย่างกับมันเป็นทอง” พี่จอมยอมยกธงขาวเดินไปหาพี่แทมที่เริ่มจกข้าวเหนียวส้มตำกับกลุ่มเพื่อน

   พอพี่จอมเดินไปพี่โชก็นั่งกินข้าวผัดตัวเองต่อ แต่หน้าหล่อๆ ติดบึ้งตึงไม่เหมือนช่วงเช้า

   “พี่โชโกรธผมเหรอ” จะหาว่าผมเข้าข้างพี่จอมหรือเปล่าวะ

   “เปล่า” ปฏิเสธเรียบๆ แต่ดูก็รู้ว่าใช่

   “ผมแค่ไม่อยากให้พี่กับเพื่อนทะเลาะกัน ข้าวผัดจะผัดอีกเมื่อไหร่ก็ได้” พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ อย่างน้อยก็ทำให้พี่โชเลิกปั้นหน้าเหมือนเด็กโดนขัดใจ

   “แต่พี่ไม่อยากให้ใครได้กิน” เด็กหวงของว่ะ

   “แค่ข้าวผัดเอง จะหวงทำไม”

   “พี่หวงทุกอย่างที่เป็นของกลอย จำไว้”

   รอยยิ้มบางๆ ของพี่โชทำให้ผมเริ่มยิ้มออก พี่โชจัดการกับข้าวผัดจนหมดจานผมก็เก็บไปล้าง ต้องรีบครับ เดี๋ยวโดนฝาก เพราะอีกกลุ่มก็จ้วงกินจนเกือบจะหมด แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทัน

   “ฝากด้วยนะ เมียเพื่อน” จานส้มตำกับยำแหนมนอนแอ่งแม้งอยู่ในอ่างล้างตรงหน้าผมเรียบร้อย มากินห้องของคนอื่นยังขี้เกียจล้างอีก

   ผมล้างจานเรียบร้อยก่อนจะเดินไปหาพี่โชที่นั่งอยู่กับเพื่อนตัวเอง แต่เห็นไอ้อัธนั่งอ่านหนังสือเล่มหนาผมเลยเดินเลยไปหามันแทน โคตรขยัน ขนาดยังไม่เปิดเรียนยังอ่านล่วงหน้า

   “มึงขยันว่ะเพื่อน” ผมตบไหล่ไอ้อัธ มันเงยหน้าขึ้นมองก่อนบ่นว่าจะมีเทสวันแรกที่เปิด สู้ๆ เพื่อน ผมแยกจากไอ้อัธมานั่งรวมกับพี่โชที่ทำหน้าเซ็งเมื่อเพื่อนยึดรีโมทแถมยังดูการ์ตูนติงต๊องอีก ทีจริงพี่โชก็ชอบดูการ์ตูนนะครับ แต่ดูพวกเซนต์เซย่าอะไรเทือกนั้น แต่ผมไม่ชอบดู

   “พวกมึงมาห้องกูเพื่อดูการ์ตูนกับแดกส้มตำเนี่ยนะ” เจ้าของห้องโวยวายแล้วครับ

   “เอาน่ามึง พวกกูอยากมาผ่อนคลาย” พี่เบนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาว่า

   “ผ่อนคลายเชี่ยไร”

   “หรือพวกกูมาขัดขวางการเข้าหอมาราธอนของมึงวะ” พี่ซันที่สุภาพหายไปไหนวะครับ

   “แหม พวกกูก็ไม่ได้ใช้ห้องนอนมึงนี่หว่า เชิญครับเชิญ พวกกูไม่แอบฟังแน่นอน แต่ขออย่างเดียว อย่าทำเสียงดังก็พอ” พี่แทมเคยกินข้าวเกรียบแล้วตื่นอีกทีที่โรงพยาบาลหรือเปล่าวะ โคตรเสื่อม

   พี่โชคงขี้เกียจเถียงเลยเดินเข้าห้องนอนไปเลยครับ ผมยังนั่งดูการ์ตูนข้างๆ ไอ้ทูก่อนถูกพี่ตินเอาเท้าเขี่ยๆ ผมไม่ใช่ขี้เปล่าวะ เหล่ตามองคนที่เอาเท้าเขี่ยอย่างเคืองๆ

   “ไม่ตามเข้าไปล่ะ มันเข้าไปนอนรอมึงแล้วน่ะ”

   “ตลกแล้วพี่” ผมส่ายหน้าแล้วนั่งดูทีวีต่อ

   การ์ตูนจบไปแล้วพร้อมๆ กับการหลับสนิทของทุกคน ขนาดพี่ซันยังนอนนิ่ง ขายาวๆ มีหัวพี่จอมหนุนด้วย ผมย่องไปเอามือถือมาแอบถ่ายรูปเผื่อจะได้มีภาพยืนยันเวลาคุยกับพี่จอม พี่จำนนด้วยหลักฐานแน่

   ผมเดินเอาน้ำส้มไปให้ไอ้อัธที่นั่งอ่านหนังสือริมระเบียงและอีกแก้วสำหรับคนที่อยู่ในห้องไม่ยอมออกมา ผมเคาะประตูห้องแต่ไม่มีเสียงเล็ดลอด พี่โชอาจจะหลับ ผมเลยเปิดเข้าไป พี่โชนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง น้ำส้มที่ถือมาเลยจัดการซะเองจนหมดแก้ว

   “เอ้อ~” เรอออกมาแล้วเบาท้องเลย ผมวางแก้วเปล่าๆ บนโต๊ะก่อนเลยเข้าห้องน้ำ ทำธุระเสร็จออกมาก็เจอกับสายตาหวานของคนที่นอนบนเตียง “พี่ไม่ได้หลับเหรอ” ผมถามก่อนเดินไปหาคนที่กำลังใช้มือตบเตียงเรียกให้ไปนั่ง

   “พวกมันกลับไปหรือยัง” พอผมนั่งพี่โชก็ขยับตัวมากอดเอวผม หน้าหล่อซุกกับพุงหลาม

   “พวกเขาหลับอ่ะ สงสัยอยู่ยาวแน่เลย” ที่จริงไม่ต้องสงสัยเพราะไอ้ขวดสองขวดที่วางบนโต๊ะเป็นเครื่องยืนยัน

   “น่าเบื่อ รู้แบบนี้ไม่อัพรูปก็ดี” พี่โชบ่นอุบ

   รูปอะไรวะ

   “พี่อัพรูปอะไรอ่ะ” ผมยืดแขนเท่าที่จะทำได้ไปหยิบมือถือพี่โชมาเปิดดู “พี่ถ่ายเมื่อไหร่เนี่ย” แม่ง พี่โชแอบถ่ายตอนผมทำหน้าบึ้งอ่ะ โคตรตลก “ลบเลยๆ”

   “ไม่ลบ”

   “มันตลกอ่ะ พี่เห็นป่ะ” ปากผมเหมือนเป็ดเลยอ่ะ

   “ไม่เห็นจะตลก น่ารักดีออก” พี่โชว่าพร้อมกับชี้ไปที่แคปชั่นที่ตัวเองพิมพ์ไว้

   ไร้คำพูดครับ เพราะคำว่า เด็กขี้งอนกำลังโกรธ หลังข้อความเป็นรูปเป็ดกับรูปเด็กผู้ชายมีหัวใจด้วย แต่นั่นไม่เท่ากับข้อความที่เพื่อนๆ มาเม้นกัน ผมอ่านไปเหลือบตามองคนโพสไป มีคนบอกว่าผมน่ารักเยอะมาก เฮอะ แล้วดูคนโพสใช้มือสองข้างค้ำใต้คางมองผม

   “มองหน้าผมทำไม”

   “มองหน้าเมียผิดเหรอครับ” เกลียดจริงๆ

   “เออไม่ผิด มองให้พอเลยนะ แล้วห้ามไปมองที่อื่น” เคืองมากบอกเลย เขินจนไม่รู้จะปั้นหน้ายังไงแล้ว

   “แย่จัง” อยู่ๆ พี่โชก็ทำหน้ายู่จนผมสงสัย

   “อะไรแย่เหรอ”

   “แย่ที่พี่ไม่ได้อยากมองแค่หน้า อยากมองอย่างอื่นด้วย” มาอีกแล้วสายตาแบบนี้ ผมรีบดีดตัวให้ห่างจากเตียง แต่คิดว่าจะทันเหรอครับ แขนยาวๆ มันดึงเสื้อผมไว้ได้ทัน แถมยังดึงเอาซะผมหงายหลังลงไปนอน

   “พี่โช เพื่อนพี่อยู่เต็มห้องนะเว้ย”

   “ก็บอกเองว่าพวกมันหลับ”

   “ถึงหลับก็ไม่ได้ พี่โชเว้ย” มันไม่เชื่อแน่ครับ มือพี่แกเลื้อยเข้ามาในเสื้อจนจับแทบไม่ทัน ทั้งบนทั้งล่าง มือหรือหนวดปลาหมึกวะเนี่ย “ห้ามลูบเว้ย”

   “ไม่ลูบก็ได้ครับ” ครับ พี่โชไม่ลูบ แต่ขยำ ว้าก มันยิ่งกว่าลูบอีกเว้ย

   “ไม่ อื่อ พี่โช ไม่เอา”

   “เอา”

   ผมดิ้นอยู่บนเตียงพยายามหนีมือที่มันขยำตรงนั้นลูบตรงนี้จนเหนื่อย พี่โชแม่งไม่ฟังจะเอาอย่างเดียวไม่สนคำพูดผมเลย ไอ้เชี่ยอัธมันไม่ได้นอนไงเล่า

   “พี่ช่วยเบาเสียงหน่อยได้มั้ยครับ ผมอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง” ไอ้อัธตะโกนเข้ามาจนผมดิ้นหนีลงเตียงได้สำเร็จแต่เสื้อผ้าแม่งหลุดลุ่ย กางเกงปลิวไปหน้าห้องน้ำแล้วคิดดู มือปลาหมึกไม่พอ ยังไหวอีก

   พี่โชหน้านิ่ง “มึงไปอ่านหนังสือนอกห้องกูไป!” พี่โชตะโกนจนลั่นห้องแล้วก็ล้มตัวนอน มือดึงผ้าห่มคลุมหัวเหมือนเด็กโดนขัดใจ พี่โชหมวดง้องแง้งสินะ อยู่นานเข้าก็เริ่มเห็นหลายมุม มิน่าเขาถึงบอกว่าอย่าเพิ่งตัดสินคนจากการพบเจอครั้งแรก พี่โชเป็นแบบนั้นเลยครับ



   เวลาฝนตกผมมักจะไม่ชอบแต่ตอนนี้กลับรู้สึกสบาย อากาศเย็นๆ ยิ่งได้จิบเหล้าราคาแพงแบบนี้ยิ่งรู้สึกดีครับ วันนี้ผมได้รับอนุญาตให้กินจนหนำใจ เป็นการฉลองที่ย้ายเข้าห้องใหม่ ไอ้กลอยก็จัดเต็มสิครับ    

       “เทมาเพื่อนเทมา” ผมเร่งไอ้ม่านให้เทน้ำสีอำพันสวย รสชาติช่างสมกับราคาจริงๆ

   “กินเยอะระวังเมาเหมือนหมานะมึง” ไอ้อัธเหล่มองผมนิ่งๆ

   “โด่ กูใคร กูกลอยฉายาคอทองแดงนะมึง” ผมยืดเต็มที่อวดฉายาตัวเองที่ได้รับจากพี่กิ่งครับ เพราะผมสามารถทำให้พี่สาวเมาเละก่อนได้

   “ไอ้สักบอกมึงเมาเหมือนหมาตอนไปกินยาดองไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้ทูมันขำผมครับ ข้อมูลโคตรจะมั่วเลย

   “มั่วโคตร กูไม่เคยเมาเหมือนหมาโว้ย” ผมเถียงหัวชนฝา ก็ผมไม่เคยเมาจริงๆ วันนั้นผมยังเดินไปขึ้นรถเองได้เลย และผมคงจะยืดได้มากกว่านี้ถ้าพี่โชมันไม่ยื่นหน้ามากระซิบ

   “รู้สึกวันนั้นพี่จะอุ้มคนเมาขึ้นรถนะ” ผมยู่หน้าเมื่อได้ยิน ผมเมาเละแบบนั้นจริงๆ เหรอวะ ไอ้กลอยคนนี้เนี่ยนะ

   “พี่มั่วหรือเปล่า ผมไม่ได้เมานะ ผมจำได้” หรือเปล่าวะ เหมือนจะเห็นภาพลางๆ

   “หึๆ”

   “ผัวเมียคู่นี้ไปสวีทกันไกลๆ ไป พวกกูจะแดกเหล้า” พี่จอมพูดแหวกอากาศมาเลยโดนพี่โชปาถั่วลิสงทอดใส่หน้า แต่พี่จอมแม่งอ้าปากรับถั่วได้ด้วย เก่งเชี่ย

   “เก่งว่ะพี่” ไอ้ม่านแม่งตบมือกับไอ้ทูชื่นชม กะอีแค่เอาปากรับถั่ว

   “พวกมึงก็เว่อร์เกิน แค่เอาโยนถั่วให้เข้าปาก ใครๆ ก็ทำได้” ผมพูดแขวะทันที

   “งั้นมึงลองทำดิ๊” ไอ้พี่จอมท้าแถมยังโยนถั่วมาแบบไม่ได้บอกล่วงหน้า แล้วแบบนี้ใครจะไปอ้าปากทันวะ “ขี้โม้นี่หว่า”

   “พี่โยนมาใหม่ดิ๊” ผมอ้าปากรอแต่พี่จอมแม่งโยนไปทางอื่นเฉย คอผมไม่ได้เหมือนยีราฟนะเว้ยเฮ้ย “พี่โยนไปทางไหนวะ”
 
   “ก็มึงบอกใครๆ ก็ทำได้” ไอ้พี่จอมแม่งนิสัยเสีย “อ้าปากดิ๊”

   ผมอ้าปากรอถั่วแต่พี่แกกลับโยนเข้าปากตัวเองเป็นกำ ผมหุบปากทันที เชี่ย นิสัยโคตรชั่วช้า พี่โชที่เห็นคงทนไม่ได้เลยเอาถั่วป้อนผมพร้อมกระซิบเบาๆ

   “ไม่ต้องให้คนอื่นป้อน พี่ป้อนได้คนเดียว”

   เพราะสายตาดุของพี่โชนั่นแหละครับทำให้พี่จอมแม่งแกล้งผม กะจะโชว์ความเก่งสักหน่อย

   “ไอ้โช เมียมึงงอน พาไปง้อในห้องไป” พี่แทมกินเงียบๆ ไปก็ดีอยู่แล้วนะครับ “ดูๆ มองกูเหมือนจะกินกูด้วย”

   “จะกินหรือจะถีบวะไอ้แทม” พี่ซันพูดไปขำไป

   “ไอ้ซัน มึงแดกเงียบๆ ไปสัด”

   “เอาน่ามึง น้องมันคงไม่ถีบมึงหรอก แค่คิดเฉยๆ” พี่ตินตบบ่าเพื่อน แต่หน้ากลั้นขำสุดๆ     “ไอ้สัดติน” พี่แทมตบหัวเพื่อนตัวเองฉาดใหญ่จนคนถูกตบหัวรีบยกแก้วอมน้ำแข็งพ่นใส่หน้าแต่มันกลับตกลงไปในแก้วที่พี่เบกำลังจะยกเข้าปาก

   “ไอ้เชี่ยติน กูเกือบแดกน้ำลายมึงแล้วไอ้สัด” ฮาสิครับจะรออะไร แล้วสงครามน้ำแข็งในปากก็เริ่มขึ้น ดูทุกคนสนุกกับการพ่นน้ำแข็งเกร็ดในร้านสะดวกซื้อใส่หน้าคนอื่น แต่ผมไม่สนุกนะเว้ย

   “พวกพี่ออกไปเล่นข้างเลยไป!”

   ไม่ให้โมโหได้ยังไงในเมื่อผมต้องเป็นเช็ดและเก็บกวาด ฟู่ว ไอ้กลอยกะจะเมาสักหน่อย กลายเป็นคนทำความสะอาดซะงั้น ไอ้อัธยื่นมือมาตบไหล่ผมเบาๆ

   “ห้องผัวมึง มึงก็ต้องเก็บกวาด ทำใจนะซะ”

   ก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละครับ เพราะพี่โชแม่งเล่นด้วย แถมยังพ่นใส่หน้าผมอีก สนุกครับสนุก เอาเข้าไป เล่นให้หมดถุงไปเลย ไอ้กลอยเก็บกวาดได้สบายอยู่แล้ว

   “พวกพี่อายุห้าขวบหรือเปล่านะ...” หุบปากไม่ทันแล้วครับ เมื่อก้อนเกร็ดน้ำแข็งจากปากพี่โชพุ่งเข้าปาก เชี่ย ไอ้กลอยอยากกลับบ้าน ไม่ยงไม่อยู่มันแล้วนี่ที่ “เชี่ย เหล้ากู” ปล่อยครับ เหล้าก็ไม่ต้องกินมันแล้ว เศษน้ำแข็งจากปากหลายคนลงไปรวมกันจนเต็มไปหมด



   ตามสบายเลยครับพี่ เอาตามที่พอใจ เอาเล้ย (กัดฟัน)   


.....TBC


มาเกือบข้ามวัน ฮาาา แต่พยายามจะมาทุกวันค่ะ

พี่โชกับน้องกลอยจะได้มาพบกับทุกคนทุกวัน

ขอบคุณสำหรับกำลังใจและการติดตามจากเพื่อนพี่น้องทุกท่านะคะ รู้สึกดีใจไม่คิดว่าจะมีคนอ่านด้วยตอนแรก พอทุกคนชอบก็มีกำลังใจมากเลย

ยังไงขอฝากพี่โชกับน้องกลอยไว้ในซอกมุมของหัวใจด้วยนะคะ

LOVE LOVE
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 02-08-2016 00:18:48
พี่โชคนสิ้นลาย 5555 ติดน้องเหลือเกิ้นนนน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 02-08-2016 00:23:01
พี่โช พอเข้าหอกับน้อง
แล้วรีบพาเข้าบ้านเลยนะ
กลัวน้องหนีรึไง 55+
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-08-2016 01:05:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-08-2016 02:53:41
หึหึหึ :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 02-08-2016 06:56:58
ว๊ายยยยยยย คนเห่อเมีย !!!!!
ตามติดชีวิตน้องกลอย ก็พี่โชนี้แหละ 5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 02-08-2016 09:55:45
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 02-08-2016 12:16:25
พี่โชน้องกลอยน่ารักสุดๆๆๆๆๆ. มีพี่จอมกับพี่ซันแถมป่ะ5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-08-2016 15:39:59
พี่โชน่ารักอ่ะ กั๊กๆๆๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 02-08-2016 16:34:47
หวานจริ๊งงง :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 02-08-2016 20:54:55
สงสารกลอย กลุ่มพี่โชนี่เกรียนจริงๆ  :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 02-08-2016 21:05:37
พี่โชมีหลายมุมมาก น่ารักอ่ะ ชอบพี่โชสายหื่นเป็นพิเศษ อิอิ
แต่คืนนี้ต้องฉลองเจ้าหอน่ะกลอย
กลุ่มนี้เขาน่ารักน่ะ เป่าน้ำแข็ง ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 02-08-2016 22:21:34
พี่โชจากเสือกลายเป็นแมวเหมียวซะแล้ว :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 02-08-2016 22:30:01
ผู้เขียนไม่มีแฟนเพจหรือคะ อย่างให้สร้างแฟนเพจเฟสบุ๊คคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 02-08-2016 22:47:25
 :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 02-08-2016 23:12:52
Just you and I : 23


        เช้าวันสุดท้ายของปี ผู้คนมากมายต่างพาครอบครัวออกเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆ อย่างต่างจังหวัด ต่างประเทศ แต่คงจะมีคนอีกหลายคนที่เป็นแบบผม คือนอนหน้าแห้งอยู่กับบ้าน ไม่ใช่เพราะขี้เกียจแต่เพราะไม่มีที่ไป อีกอย่างผมก็โดนใบแดงสั่งห้ามออกข้างนอกตอนกลางคืน เลยกะจะหลับข้ามปีสักหน่อย


   ผมเดินมึนๆ ลงมาจากห้องด้วยความหิว ตอนนี้ของสดไม่มีเหลือติดตู้เย็นเลย เหตุเพราะเมื่อคืนพวกพี่จอมมาฉลองที่ห้อง กับแกล้มไม่พอต้องเอาออกมาทำ เช้ามาลำบากไอ้กลอยต้องออกไปซื้อของเข้าห้องอีก ดีที่เจ้าของห้องให้เงินไว้ แล้วทำไมผมถึงมาคนเดียวเหรอครับ ก็เพราะพี่โชเมาค้าง เมื่อวานเกิดคึกจัดกินจนเมาหนัก ผมต้องลากขึ้นไปนอนบนเตียงและปล่อยพวกคนอื่นๆ นอนตามพื้นไป ตอนผมออกมายังไม่มีใครตื่นสักคน


   อากาศที่นี่ไม่หนาวเท่าเชียงใหม่ จะว่าไปก็อยากกลับไปอีก ไปเที่ยวครั้งนี้เกิดเรื่องขึ้นทำให้เที่ยวไม่สนุกอย่างที่คิด ฮ้าว~ หาวรอบที่ห้าที่หกก็จำไม่ได้ โคตรง่วง กว่าจะเก็บกวาดห้องที่เปียกเพราะน้ำแข็งได้นอนก็เกือบจะเช้า แล้วยังต้องแบกร่างออกไปซื้อของอีก เหนื่อยจริงๆ


   ผมเดินเอื่อยๆ ตามทางเท้าไปเรื่อยๆ เพราะจากคอนโดของพี่โชไปห้างสรรพค้านั้นไม่ไกลเท่าไหร่ เดินไปคงประหยัดที่สุด ระหว่างที่ผมจะเดินข้ามทางเข้าของคอนโดที่อยู่ใกล้ๆ กัน รถราคาแพงสีดำก็ปาดมาขวางจนผมยกเท้าหนีเกือบไม่ทัน เกือบถูกล้อรถหนีบตีนแบนแล้วไอ้กลอยเอ้ย


   พอจะอ้าปากด่ากระจกรถด้านหลังก็ค่อยๆ เลื่อนลงเผยให้เห็นคุณป้าที่สวมแว่นตาดำที่กำลังมองมาที่ผม ดูเหมือนจะมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้ววันนี้ผมดันใส่เสื้อนักบอลกับกางเกงวอร์มหนีบแตะมาด้วย ก็ออกไปห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ ทำไมต้องแต่งเว่อร์ละจริงมั้ยครับ บ้านๆ สบายๆ ง่ายๆ ดีที่สุด


   ดูคุณป้าแกมองผมแบบนิ่งๆ ก่อนจะพยักหน้าให้คนขับ ผมจะเดินอ้อมไปทางด้านหลังรถเพื่อจะไปซื้อของแต่ดันโดนคนขับรถที่สวมสูทสีดำมาขวาง ลุงคนนั้นยิ้มให้ผมนิดๆ ก่อนผายมือให้ผมไปขึ้นรถ


   เรารู้จักกันด้วยเหรอวะ    


   “คือผม...”


   “เชิญขึ้นรถเถอะครับ”


   ผมกระพริบตามองแต่ขากลับเดินตามไปนั่งข้างคนขับเฉย พอประตูปิดลงผมถึงได้สติว่าทำไมผมถึงขึ้นมา หรือโดนป้ายยาวะ แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีเงินแค่สองพันเองนะ แถมเป็นเงินของพี่โชอีก ตอนแรกจะให้เอามาทั้งกระเป๋า บ้าป่ะ เงินมีตั้งหลายหมื่น ไม่กล้าถือหรอก แล้วรถคันสวยก็ถอยหลังกลับไปที่ถนน และรถก็ขับออกไป...


   ออกไปไหนวะ ชิบหายละไอ้กลอย


   “เออ จะพาผมไปไหนเหรอครับ”


   “เดี๋ยวก็รู้ครับ”


   คุณลุงคนขับตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างใจดี แต่คุณป้าข้างหลังนั่งนิ่ง แต่ผมเห็นดวงตาที่ถูกแว่นตาสีดำบังว่าเธอกำลังจ้องผมอยู่ตลอด รู้สึกโคตรเกร็งเลย บรรยากาศชวนปวดขี้มาก


   ใช้เวลาอยู่บนท้องถนนไม่นานเท่าไหร่ อาจเพราะผู้คนทยอยไปเที่ยวทำให้ตอนนี้รถคันงามเคลื่อนเข้าจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เหมือนผมจะเคยเห็นบ้านหลังนี้ลงหนังสือด้วยนะ เอ หรือในละครหว่า


   “เชิญครับ” มัวแต่มองเหมือนเด็กบ้านนอกเข้ากรุง ประตูรถข้างผมก็ถูกเปิด พอก้าวขาลงเหมือนความเย็นแล่นขึ้นสู่ขั้วหัวใจ รอบๆ บ้านมันสวยมาก ทั้งดอกไม้ที่อยู่ในสวน ตรงหน้าบ้านที่ผ่านมาเมื่อกี้มีน้ำพุพุ่งขึ้นเป็นสาย แต่ที่รู้สึกแบบนั้นเพราะคุณป้าแว่นดำนั่นแหละครับ แกปรายตามองผมนิดๆ แล้วเดินเชิดเข้าไปในบ้าน


   ป้าจะพาผมมาขายหรือเปล่า ผมไม่มีนมนะเว้ยเห้ย ยังมีงูด้วย ขายได้ไม่แพงหรอก


   “ตามคุณท่านเข้าไปเลยครับ” ลุงคนขับเดินมาบอกให้รีบตามเข้าไป


   ผมเดินเงอะๆ งะๆ ตามเข้าไป เหลียวมองดูรองเท้าแตะที่ผมพยายามวางแอบมุมของประตู บ้านหลังงามกับรองเท้าแตะ โคตรไม่เข้ากันเลยว่ะ แล้วเสียงเล็กแหลมก็ดังขึ้นจนต้องหันไปมอง


   “คุณยายขา” เด็กตัวเล็กเท่าเอวผมวิ่งลุนๆ ออกมากอดคุณป้า (ที่ถอดแว่นดำแล้ว) ก่อนดวงตากลมจะเอนหัวมามองผมที่เดินตามหลังเข้ามา “อ๊ะ คุณน้าสะใภ้” ไอ้กลอยอยากตายจริงๆ เสียงเรียกน้าสะใภ้ดังจนมันสะท้อนไปทั่วบ้าน แถมยังวิ่งมาแอคแทคผมจนเกือบล้ม ดีที่ยันขาหลังไว้ทัน


   “ฮะๆ” ผมยิ้มแห้งๆ ส่งให้เด็กตัวเล็กที่เคยเจอที่ห้องพี่โช”


   “คุณน้าสะใภ้มากับคุณยายขาได้ยังไงคะ แล้วน้าโชมาด้วยหรือเปล่า น้องบีมคิดถึง” เสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด ผมแอบมองคุณป้าที่แกเหลือบตามองผมนิดๆ “คุณน้าสะใภ้” เสียงเล็กๆ เรียกผมอีกรอบ




   ว่าแต่...ผมไม่ใช่น้าสะใภ้นะ



   ผมถูกแรงเล็กๆ ดึงให้เดินตามคุณป้าที่ถูกเรียกว่ายาย...แม่พี่โช? ไอ้กลอยโดนแล้วมั้ยละ แม่พี่โชตัวเป็นๆ มิน่าถึงโดนมองด้วยสายตาแรงเบอร์นั้น งั้นบ้านหลังนี้ก็บ้านพี่โชสินะ โดนพาเข้าถ้ำเสือจนได้


   หลานของพี่โชพาผมเข้าห้องๆ หนึ่ง ซึ่งในห้องมีโซฟารับแขกที่หรูอลังการแต่ยังไม่น่าสนใจเท่าบุคคลที่นั่งอยู่ตรงกลางของโซฟา แม้ดูอายุอานามจะมากไม่ใช่น้อย แต่ความหล่อก็ยังคงมีให้เห็น ก่อนดวงตาดุจะตวัดมองผมที่เดินตามหลังหลานสาวของบ้านเข้ามา


   รู้สึกเหมือนโดนรังสีสังหารในแววตาแบบนั้น


   น้องบีมเดินเข้าไปหาพี่ชีสที่นั่งอยู่บนโซฟาด้านขวาของผม เธอยิ้มแย้มโบกมือทักทาย ผมก็ส่งยิ้มกลับไปก่อนจะหน้าหุบเมื่อหันมาเจอคุณลุงที่นั่งอยู่ตรงกลาง โซฟาด้านซ้ายมือมีผู้ชายหน้าฝรั่งนั่งอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาเอาการ น้องบีมคงได้จมูกกับปากจากพ่อแกมาแน่ๆ


   ผมมองคนนั้นทีคนนี้ทีก่อนคุณป้า เอ้ย แม่พี่โชจะพูดนิ่งๆ เรียบๆ ให้ผมนั่งลง ผมยืนอยู่อีกด้านของโต๊ะเตี้ยๆ พอโดนสั่งให้นั่ง ผมก็นั่งลงที่พื้นเย็นๆ ทันที นั่งพับเพียบด้วยนะเออ คือมันเกร็งไปหมด ทุกสายตากำลังจ้องมาเหมือนเป็นผู้ต้องหาคดีพรากลูกชายของบ้านนี้ไป ขนาดบรรดาแม่บ้านยังแอบดูอยู่มุมห้อง
 

   ผมพยายามฉีกยิ้มให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุดแต่มันก็โคตรจะยาก ยิ่งดวงตาประดุจเหยี่ยวจับจ้องยิ่งเกร็งจนเหน็บกินทั้งขา ผมรู้แล้วพี่โชเหมือนใคร


   “ใครสั่งใครสอนให้ไปนั่งตรงนั้น” แม่พี่โชพูดขึ้น ใบหน้าที่ยังคงความสวยเชิดนิดๆ ผมรีบส่ายหน้าเมื่อได้ยินคำถาม แม่พี่โชกำลังถามผมใช่มั้ย


   “ไม่มีใครสอนครับ เคยดูแต่ละครทีวี” ผมตอบ ทุกคนก็เหมือนจะตั้งใจฟังจนผมไม่กล้าจะพูดต่อ
 

   “ดูทีวี?” เป็นพี่ชีสที่แทรกขึ้นมา ผมเหลือบมองพี่สาวคนสวยนิดๆ


   “ฮะ ละครในทีวีถ้าเราไปบ้านคนที่รวย เอ่อ มีฐานะ เราห้ามนั่งเสมอ ต้องนั่งต่ำกว่า ไม่งั้นจะหาว่าเราตีตัวเสมอนาย” ผมพูดตามที่เคยดู แม่ผมชอบดูละครมาก ตอนนอนรวมกันเมื่อก่อน แม่มักจะดูไปด่าไปเมื่อนางเอกหรือพระเอกโง่ ผมนอนดูแล้วก็ผล็อยหลับไปตลอด ละครเวลาเรานอนดูก็เป็นยานอนหลับได้นะครับ ไอ้กลอยเคยลองมาแล้ว
 

   พอผมพูดจบ เสียงหัวเราะก็ดังมาทุกทางก่อนจะรีบกลั้นขำแล้วปั้นหน้านิ่งต่อ


   “ขึ้นมานั่งตรงนี้มา” พี่ชีสกลั้นยิ้มก่อนตบโซฟาใกล้ๆ ให้ผมขึ้นไปนั่ง แต่ใครจะไปกล้าละครับ พ่อพี่โชจ้องซะผมลุกไม่ขึ้น อันที่จริงเหน็บกินขาด้วยส่วนหนึ่ง “มาเร็ว” โดนเร่งแต่ผมลุกไม่ขึ้นอ่ะ หลานพี่โชเหมือนจะรู้เพราะรีบเดินมาหาแล้วดันให้ผมลุก เด็กตัวเล็กแค่นี้แรงช่างน้อยนิดจนพ่อของแกทนไม่ได้เลยเข้ามาช่วยพยุงผมขึ้นไปนั่ง



   ขาไร้ความรู้สึกไปแล้ว 



   ได้ขึ้นมานั่งข้างลูกสาวของบ้านก็แอบใจชื้นนิดๆ ยังไงพี่ชีสก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่เพราะเคยเจอมาแล้ว แต่พอปรายตามองไปที่ประมุขของบ้านก็ต้องรีบหุบหน้ามองตรง เหมือนย้อนไปเป็นเด็กปีหนึ่งที่กำลังถูกรุนพี่เรียกรวมแล้วว้ากใส่หู


   “เธอชื่ออะไร” แม่พี่โชเอ่ยถาม ผมค่อยๆ หันหน้าและคอไปมอง เหมือนโดนตะคริวกินหน้า


   “ชะ ชื่อกลอยครับ” กินปากด้วย แม่งจะสั่นไปไหนไอ้กลอย


   “เรียนที่ไหน ชั้นอะไร คณะอะไร” คำถามรัวจนไม่รู้จะตอบอันไหนก่อน


   “ระ เรียนที่ม.xxx ปี 2 คณะศิลปกรรมครับ”


   “รู้จักโชได้ยังไง รู้จักมากี่วัน กี่เดือน กี่ปี กี่นาที กี่ชั่วโมง” ป๊าดติโทะ ถามถึงขนาดนี้ ยิ่งกว่าตอนสอบสัมภาษณ์เจ้าเรียนอีก


   “รู้จักที่ผับครับ กี่วันนี่ผมก็ไม่ได้นับ ส่วนเดือนถึงมั้ยก็ไม่รู้ กี่นาทีกี่ชั่วโมง เอ่อ...ขอนับนิ้วแปบนะฮะ” ผมยกนิ้วขึ้นมานับจนได้ยินเสียงพี่ชีสขำ พอหันไปพี่แกก็เม้มปากกลั้นยิ้ม “นับแล้วไม่รู้ว่าเท่าไหร่ฮะ”


   “ฮะๆๆๆๆ” พี่ชีสไม่กลั้นขำอีกต่อไป พี่แกจัดเต็มมากครับ อ้าปากหัวเราะจนเห็นลิ้นไก่ ขนาดสามี (น่าจะใช่) ก็หัวเราะ ทั้งที่ตั้งแต่ผมเข้ามาก็ได้แต่ยิ้มเฉยๆ


   “เหมือนกับที่เธอบอกจริงๆ” แม่พี่โชหันไปพูดกับลูกสาว แต่ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มจนผมใจเสีย จนต้องหุบยิ้มอีกรอบ


   “ได้ข่าวมาว่า โชพาไปหาอาหมอด้วยเหรอ” เป็นพี่ชีสที่หันมาถามครับ ผมก็พยักหน้าตอบไป


   “ครับ”


   “เธอรู้ใช่มั้ยว่าโชต้องรับกิจการต่อจากฉัน” เสียงนิ่งๆ เย็นๆ พูดขึ้นทำเอาบรรยากาศขบขันหยุดลง ความตึงเครียดเข้าครอบงำผมทันที


   “ครับ” ใบหน้าของพ่อพี่โชไม่มีเค้าจะพูดเล่นๆ ความกดดันที่แฝงอยู่เรียกเหงื่อเม็ดใหญ่ของผมให้ผุดขึ้นทั้งที่อากาศในห้องนี้อยู่ที่อุณหภูมิเย็นกว่าด้านนอกด้วยซ้ำ


   “แล้วเธอจะทำประโยชน์อะไรให้โชมันได้บ้าง” คำถามที่ผมไม่ได้เตรียมคำตอบมาเล่นเอาคิดหนักเหมือนกัน อย่างผมจะทำประโยชน์อะไรให้กับพี่โชได้บ้างวะ เรียนก็พอผ่านไปได้ ไม่ได้เก่งขนาดอัจฉริยะ


   “ผม...” เม้มปากเพราะกำลังโคตรเครียด จะตอบยังไงดี “ผมทำให้พี่โชหัวเราะได้ครับ” แบบนี้เรียกมีประโยชน์หรือเปล่าวะ


   ดูคำตอบของผมจะไม่เป็นที่พอใจ ใบหน้านิ่งเริ่มขมวดคิ้ว


   “แค่นี้?”


   “ผมไม่รู้เรื่องงานที่พี่โชต้องทำ แล้วพี่โชก็ไม่เคยบอกว่างานเป็นแบบไหน อาจเพราะเราเพิ่งจะตกลงคบกัน แต่ผมจะไม่เป็นภาระให้กับพี่เขาแน่นอนครับ”


   “เป็นคนไม่มีประโยชน์นี่ก็เรียกว่าภาระแล้ว” คำพูดและน้ำเสียงทิ่มแทงจนมีบาดแผล


   “...” ผมไม่มีคำตอบหรือคำพูดใดๆ ออกไปอีก บรรยากาศเริ่มตึงเครียด ทุกคนเริ่มอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง


   “ถ้าเธอยังดิ้นรนคบกันต่อ เกิดวันหนึ่งฉันอยากให้โชมีลูก เธอจะทำยังไง”


   “ผม...” หยิกมือตัวเองจนเจ็บเพราะกำลังเก็บความรู้สึกแปลบๆ ที่หน้าอกตอนได้ยินคำถาม “ผมไม่ทำยังไงฮะ”


   “ไม่ทำยังไง? ไหนเธอบอกว่ารักโช แต่ยอมให้เขาไปแต่งงานมีลูก นี่เหรอที่เธอบอกว่ารักกัน”


   ผมสูดลมหายใจเข้าช้าๆ ก่อนยิ้มให้กับพ่อของพี่โช


   “ถ้าพี่โชบอกให้ผมรอ ผมก็จะรอ ไม่ว่าพี่เขาจะมีลูกกี่คน แต่ถ้าบอกให้ผมรอพี่เขา ผมก็จะยังรออยู่แบบนั้น” ผมเลื่อนสายตามองแม่ของพี่โชที่นั่งอยู่ข้างๆ “แม้ผมจะเป็นตัวภาระที่ไม่มีประโยชน์ แต่พี่โชจะไม่มีวันเสียใจเมื่ออยู่กับผม”


   “เธอยังเด็กก็พูดได้”


   “เพราะผมยังเด็กจริงๆ นั่นแหละครับ แม่ผมสอนเสมอว่า ความรักคือความเชื่อใจ แต่อย่าเอาความเชื่อใจมาทำร้ายกันเท่านั้นเป็นพอ” แม้แม่ของผมจะเคยถูกความเชื่อใจทำร้าย แต่แม่ไม่เคยหนี แม่ผมยังพร้อมที่จะเชื่อใจทั้งผมและพี่สาวอยู่เสมอ


   “ตอบได้ดี” พ่อพี่โชพยักหน้าเบาๆ มุมปากยกขึ้นนิดๆ


   “พ่อคะ ชีสว่าพอได้แล้ว เดี๋ยวน้องเขาก็ขวัญเสียทิ้งโชไปหรอก” พี่ชีสทำปากยู่ “อย่าถือสาพ่อพี่เลยนะจ๊ะ จะเป็นลูกสะใภ้บ้านนี้ทั้งที ก็ต้องโดนซักแบบนี้นั่นแหละ คนนู้นก็โดน” พี่ชีสทำปากยื่นไปข้างหน้าตรงกับพี่ผู้ชายหน้าหล่อนั่งอยู่ ซึ่งคนที่ถูกชี้ก็ยิ้มแล้วพยักหน้ารับ


   “ฉันจะคอยดูว่าที่เธอพูดจะจริงได้สักแค่ไหน” พูดทิ้งท้ายก่อนพ่อของพี่โชจะเดินออกจากห้องไป เหมือนเอาความหนาวเย็นออกไปด้วย พอพ้นประตูเหงื่อผมก็ไหลประหนึ่งยืนตากแดดเป็นชั่วโมง แต่ก็ใช่ว่าจะหมดไป เพราะแม่ของพี่โชยังอยู่ แถมยังจ้องหน้าผมนิ่ง


   “เธอ...” ผมนั่งเกร็งลุ้นคำถามว่าจะโหดหรือเปล่าจะได้คิดเตรียมหาคำตอบไว้ แต่พอได้ยินถึงกับอ้าปากค้าง “เธอทำอาหารเป็นใช่มั้ย”


   “หา? เออ ครับ” เล่นเอาผมงง คำถามชวนตกใจปนฉงน


   “ดี งั้นป้านีจ๊ะ”


   “คะ คุณท่าน”


   “วันนี้บอกแม่ครัวไม่ต้องทำกับข้าวนะ ให้เด็กคนนี้ทำ”


   คุณป้าถามผมก่อนสิครับ อย่าเพิ่งมัดมือชกแบบนี้


   “ได้ค่ะ”


   ผมทำหน้าเหลอหลา แถมทำตัวไม่ถูก อยู่ๆ จะให้ทำกับข้าว ผมไม่ได้ทำเก่งขนาดแม่ ที่ทำก็แค่พอกินได้ อย่างไข่เจียว ไข่ดาวเท่านั้น


   “ไม่ดีมั้งครับ” ขืนทำแล้วมันรสชาติห่วยนี่ผมจะโดนด่าเอา


   “เธอทำอร่อยอยู่แล้วน่า” พี่ชีสให้กำลังใจ แต่มันไม่ดีขึ้นเลย


   “จะเป็นสะใภ้บ้านนี้ต้องทำกับข้าวเป็นนะ ลูกเขยฉันก็ทำเป็น” แม่พี่โชยิ้มแย้ม ผมอยากจะถอนหายใจแต่ทำไม่ได้ เลยได้แต่ยิ้มแหยๆ ทำก็ทำวะ



   “งั้น ต่อไปเราเรียกโชมาเลยมั้ยคะแม่” พี่ชีสจ้องผมอย่างเจ้าเล่ห์ หวังว่าจะไม่ทำอะไรแผลงๆ หรอกนะ


   “จัดไป”


   “น้องบีมขา จัดการค่ะ”


   หลังจากพี่ชีสบอกลูกสาว เด็กตัวเล็กก็เดินอ้อมหลังมาหาผม ทันใดนั้นแขนผมสองข้างก็ถูกมือเล็กจับไพล่หลัง นั่นไง กะแล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆ พอน้องบีมล็อกแขนผมเสร็จ พี่ชีสก็หยิบมือถือขึ้นมากดโหมดวีดีโอ


   “หลังจากพี่นับก็ร้องเลยนะ” พี่ชีสว่า ไอ้ผมก็งงว่าต้องร้องอะไร “ดูทำหน้าเข้า ร้องเรียกอ่ะ เหมือนถูกลักพาตัว เข้าใจหรือยัง จะนับแล้วนะ สิบ...”


   “สามก็พอมั้งยัยชีส” แม่พี่โชพูดแทรก


   “หนูล้อเล่นค่ะ เอาละนะ สาม...สอง...หนึ่ง” ผมมองพี่ชีสที่ยกมือถือมาตรงหน้า ก่อนจะโดนดีดหน้าผาก “โอ้ย ทำไมแกไม่ร้องห๊ะ” ผมต้องร้องด้วยเหรอวะ แล้วพี่ชีสก็เริ่มนับใหม่อีกรอบ เอาวะ ร้องก็ร้อง


   “เริ่ม”


   “พี่โชช่วยด้วยเว้ย!! ผมจะโดนฆ่าอยู่แล้ว โอ้ย เขาจะต่อยผมแล้ว ว้าก จะถอดเสื้อผมด้วย” ผมจัดเต็มเล่นเกินร้อย โวยวายจนพี่ชีสหัวเราะลั่น


   “ขอโทษๆ” แล้วผมก็ต้องโวยวายใหม่อีกรอบโดยที่ชีสกับแม่พี่โชยกมือกลั้นหัวเราะ พอผมเล่นใหญ่เสร็จ น้องบีมที่อยู่ข้างหลังผมก็ตะโกนบ้าง คงเห็นผมเล่นซะเต็มเลยตะโกนจนขี้หูผมเต้นระบำ


   “ถ้าไม่อยากให้น้าสะใภ้ตาย รีบๆ กลับมาบ้านด่วนค่า!” พูดเสร็จพี่ชีสก็กดหยุด


.
.
.

(มีต่อด้านล่างค่ะ ตัวหนังสือเกิน T^T)
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 22 UP!!<< // [01/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 02-08-2016 23:13:35
น้องกลอยเป็นแม่ศรีเรือนต้องอดทนลูก  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 02-08-2016 23:14:06
.
.
.


        ผมเห็นพี่ชีสกดมือถือยิกๆ แปบเดียวเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หน้าจอที่หันมาให้ผมกับทุกคนดูคือชื่อของพี่โชครับ มือเรียวกดรับพร้อมเปิดลำโพง เสียงที่ดังออกมาทำให้ต้องรีบปิดหู

   “ทำบ้าอะไรวะ!”

   “ตะโกนทำไมเนี่ย” พี่ชีสโวยวายน้องชายตัวเอง “แกอยู่ไหนเนี่ย”

   “อยู่กลางถนน” ดูจากน้ำเสียงคงหงุดหงิดจนสามารถฆ่าคนได้แน่

   “ไปอยู่ทำไมกลางถนนวะ” ผมก็สงสัยครับ

   “พี่เอาเมียผมกลับบ้านทำไมไม่บอกผมวะ” คำว่าเมียกระแทกเต็มๆ จนป้าแม่บ้านตกใจ

   “ฉันไม่ได้พามา แม่ต่างหาก รีบๆ มาบ้านเลยนะ ไม่งั้นฉันไม่คืนเมียแกแน่” พูดจบก็กดวาง “เรียบร้อย” ใช่ครับเรียบร้อย ผมนี่แหละ โดนโกรธไปเรียบร้อย

   “เราไปกินเค้กกันดีกว่าหลานยาย” น้องบีมปล่อยมือผมแล้ววิ่งตามยายตัวเองออกไปจากห้อง พี่ชีสก็ตบบ่าผมเบาๆ แล้วก็เดินตามไปที่สวนหน้าบ้าน คงจะไปรอพี่โชแน่ๆ

 

   ทุกคนกำลังทิ้งผมไว้กลางทาง ไอ้กลอยตายแน่



   ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถเข้าจอด มัจจุราชมาแล้วครับ ผมหาหลุมหลบภัยที่ไหนได้บ้าง แต่ดูผมจะไม่โดนคนแรก เพราะน้องบีมเห็นน้าตัวเองปุ๊บก็รีบกระโดดเกาะขาปั๊บ แต่อารมณ์พี่โชดูไม่รับใครเลย หน้าหล่อติดบึ้งตึงจนน้องบีมต้องถอยไปยืนอยู่ข้างหลังแม่ตัวเอง

   พี่โชโหมดนี้ไม่ควรงี่เง่าใส่

   “เมียผมอยู่ไหน” มาถึงก็เรียกหาผมเลย บอกแล้วว่างานนี้ไอ้กลอยซวย พี่ชีสกับแม่พี่โชรีบชี้มาหาผมที่ยืนแอบข้างประตู พี่โชตวัดสายตามองจนผมสะดุ้ง “มึง” ขายาวๆ ก้าวไม่กี่ก้าวก็ถึงผมครับ หนีก็ไม่ทัน เตรียมโดนด่าอย่างเดียว

   “พี่โช” ผมเรียกชื่อเสียงอ่อย คือหน้าพี่โชพร้อมจะแดกหัวผมแล้วครับ

   "กูโทรหามึงเป็นร้อยๆ สาย ออกตามหาจนทั่วกลัวมึงเป็นอะไรไป พอไม่เจอมึงกูก็แทบจะเป็นบ้า แล้วนี่อะไร มาอยู่ที่นี่ทำไมไม่โทรบอกกูสักคำ เห็นกูรักมึงมากจนไม่กล้าทำอะไรมึงเหรอวะ” ตะคอกมารัวๆ จนผมไม่กล้าเถียงสักคำ พี่โชหอบหนักเพราะพูดไม่หยุดพัก พอผมยื่นมือไปแตะแขนพี่โชกลับสะบัดหนีจนผมตกใจ

   “พี่โชผม...”

   “กูจะเป็นบ้าเพราะมึงอยู่แล้ว เชี่ยเอ้ย @3*~!%$#” จากนั้นสารพัดสัตว์ก็ถูกปล่อยออกมาจากปากนุ่ม พี่ชีสที่อยู่ในเหตุการณ์และได้ยินทุกอย่างรีบเดินมาหาน้องตัวเองพลางยื่นมือแตะบ่า

   “อย่าว่าน้องเลย น้องเขาก็ไม่รู้” ผมเงยหน้าที่มีน้ำตาคลอเบ้ามองพี่ชีสสลับกับพี่โช

   “ใช่ แม่เป็นคนพามาเอง น้องเขาไม่รู้เรื่องอะไร” แม่พี่โชเดินมาสมทบ แต่พี่โชไม่ยอมมองหน้าใครนอกจากจ้องหน้าผม

   “มือถือมึงอยู่ไหน” พอพี่โชถาม ผมก็ส่ายหน้า ก็มันนอนอยู่ที่ห้องพี่โชนู้น ผมไม่ได้พกติดตัวเพราะคิดว่าไปซื้อของแปบเดียว “เชี่ยเอ้ย”

   น้ำตาไหลเลยไอ้กลอย หน้าขายหน้ามากที่ต้องมาร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นเยอะขนาดนี้ มันก็เป็นความผิดผมนิดหนึ่ง ที่ผมไม่ยอมโทรบอก

   “ผมขอโทษ” ผมก้มหน้ายกมือเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆ แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งไหล ทำไมผมกลายเป็นคนอ่อนแอขนาดนี้

   พอผมร้องไห้ น้องบีมก็ร้องไห้จ้าจนพี่ชีสต้องรีบเข้าไปปลอบ อาจเพราะตกใจเสียงพี่โชด้วยส่วนหนึ่ง แม่พี่โชพอเห็นผมร้องไห้ก็ลูบหัวผมก่อนจะเดินเข้าบ้านตามพี่ชีสไป ปล่อยให้ผมอยู่กับพี่โชสองคน

   พี่โชยังคงยืนนิ่งจ้องผมด้วยความโกรธ แบบนี้หรือเปล่าที่พ่อพี่โชบอกว่าผมจะกลายเป็นภาระ เป็นตัวไม่มีประโยชน์

   “ผม ฮึก ผมขอโทษ”

   เสียงถอนหายใจของพี่โชทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนมือใหญ่จะยื่นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของผมออก

   “ที่พี่โกรธเพราะเป็นห่วง โทรหามือถือก็อยู่ที่ห้อง หายไปนานจนกลัวจะเกิดอะไรขึ้น พอคิดว่าอาจจะโดนรถชนพี่ก็แทบจะทนไม่ไหว” ผมโผเข้ากอดพี่โชแน่น เมื่อคนตรงหน้าดูอารมณ์เย็นลง

   “ฮึก ขอโทษ” ผมปล่อยน้ำตาไหลเปียกเสื้อยืดหอมๆ ของพี่โช “ผมแค่จะ ฮึก ไปซื้อของ แต่ ฮึก แม่พี่โชบอกให้ผมขึ้นรถ ฮึก แล้วก็พามาที่นี่” เล่าไปสะอื้นไปเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน เพราะมันหยุดสะอื้นไม่ได้

   “ต่อไปจะไปไหน ไม่ว่าใกล้ไกลต้องเอามือถือไปด้วย ไม่ก็เอาห้อยคอไว้ เข้าใจหรือเปล่า”

   “อื่อ”

   พอเห็นพี่โชเริ่มยิ้มผมก็ใจชื้นขึ้นมา แต่ไอ้การที่พี่ยิ้มพี่ก็ไม่ควรบีบจมูกผมแบบนี้ เพราะผมหายใจไม่ออกเว้ย
 
   “จมูกแดงเหมือนลูกเชอรี่เลย” พูดไปขำไป แต่ผมไม่ขำเว้ย หายใจไม่ออก

   ผมสะบัดหน้า ยกมือดึงมือพี่โชออก เจ้าตัวหัวเราะจนน่าหมั่นไส้ เมื่อกี้ดราม่าจนผมเขื่อนแตก พอจะดีก็ดีมาเฉย นิสัยเสียว่ะ
 
   “พี่โชแม่ง”

   “ทำไมครับ พี่ทำไม”

   ทำได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัดแต่ไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวจะเข้าตัวเอง
 
   “พี่ออกมาแล้วเพื่อนพี่ล่ะ”

   “ยังจะมีน่าห่วงพวกมันอีก” พี่โชทำหน้าบึ้งจนผมต้องถูหน้ากับอกที่เปียกน้ำตา (หรือขี้มูก ) ผมเอง “พวกมันยังนอนตายอยู่ในห้อง...ต่อไปห้ามทำแบบนี้อีกนะ”

   “ผมก็ไม่ได้อยากทำสักหน่อย แม่พี่นั่นแหละเอาตัวผมมา”

   “ปฏิเสธคนไม่เป็นเหรอวะ”

   “ใครจะรู้ล่ะ...ขอโทษ”

   “ถ้ามีคราวหน้าอีก พี่จะเอาเชือกมัดกับมือพี่ไว้ ไปไหนพี่จะได้ไปด้วย”

   “พี่บ้าไปแล้ว”

   ผมขยับจะถอยหลังแต่พี่โชยึดตัวผมไว้ซะแน่น พี่โชกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พี่ชีสก็เดินเข้ามาซะก่อน พร้อมกับเรียกพี่โชกับผมให้ตามเข้าไป



   ห้องดูหนังคงเรียกแบบนั้นได้ เพราะจอใหญ่เกือบเต็มผนังกำลังเปิดหนังไทยเรื่องหนึ่งที่ผมไม่เคยดู เป็นหนังเกี่ยวกับครูที่สอนบนโป๊ะในน้ำ พี่โชดึงให้ผมนั่งลงข้างๆ แล้วเราทั้งหมดก็นั่งดูจนจบ หนังที่มีทั้งเสียงหัวเราะและน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง ผมชอบนะ ตอนเข้าโรงภาพยนตร์ใหม่ๆ ผมไม่ได้ไปดูเพราะขี้เกียจ

   “สนุกดีเนาะ” ผมกระซิบพี่โชเบาๆ คนข้างๆ ก็หันมายิ้มให้ ก่อนจะมีแม่บ้านเข้ามาเรียกผมออกไปเพราะของเตรียมครบแล้ว
 
   ถึงเวลาขึ้นเขียงแล้ว

   พี่โชจะเดินตามผมออกมาแต่โดนพี่ชีสคว้าคอไว้ พร้อมกับโดนน้องบีมเกาะขาแน่น เลยได้แต่มองผมตาละห้อย ส่วนผมก็เดินตามคนเรียกมาที่ห้องครัวที่มีผักกับเนื้อสัตว์วางเต็มเคาน์เตอร์

   “เอ่อ ผมต้องทำอะไรบ้างเหรอฮะ”

   “คุณหนูจะทำกับข้าวอะไรบ้างล่ะคะ” คุณป้านี (ได้ยินแม่พี่โชเรียก) ยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร

   “อย่าเรียกผมว่าคุณหนูเลยครับ ฟังแล้วมันแปลกๆ” ฟังแล้วมันกระดากหูครับ ไอ้กลอยไม่ชิน

   “งั้นเรียกคุณกลอยก็แล้วกันนะคะ” มันก็ไม่ค่อยดีอยู่ดี แต่ผมก็พยักหน้ายิ้มให้ป้านีไป “งั้นเราลงมือกันเถอะค่ะ วันนี้ญาติของคุณท่านจะมาด้วย คงเหนื่อยหน่อยนะคะ” ญาติ? ซวยดับเบิ้ลไปอีก

   จากนั้นตั้งแต่หลังเที่ยงผมก็คลุกอยู่แต่ในครัว กลายเป็นนังแจ๋วหัวฟูกับการทำอาหาร แม้จะไม่ได้ทำคนเดียวแต่ก็หนักและเหนื่อยมากจนเหมือนร่างจะฉีก จนในที่สุด กับข้าวสิบกว่าอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ผมกับพี่ๆ ที่ช่วยกันทำต่างก็หัวเราะดีใจ ก่อนพี่สาวใช้ร่างเล็กจะวิ่งเข้ามาด้วยความไวแสงบอกว่าบรรดาญาติพี่น้องของพี่โชเริ่มทยอยมากันแล้ว
 
   “คุณกลอยรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะ” ป้านีบอกแต่ผมส่ายหน้า “ทำไมละคะ”

   “ผมไม่ออกไปได้มั้ยครับป้า”

   “แต่ป้าว่าน่าจะออกไปนะคะ ไม่ต้องกลัว เชื่อป้า”

   ก็อยากจะเชื่ออยู่หรอก แต่ญาติพี่โชเลยนะครับ พวกเขาจะทำหน้ายังไงถ้ารู้ว่าผมกำลังคบพี่โชอยู่

   “ผมกลับก่อนดีกว่าฮะ ฝากป้าบอกพี่โช เชี่ย ปล่อยเว้ย” ไม่ทันแล้วครับ ผมถูกพี่โชแบกขึ้นบ่าแล้วตรงดิ่งขึ้นชั้นสอง ตอนขึ้นบันไดเจอคุณหมอคนสวยด้วย เธอเห็นผมก็ยิ้มโบกมือทักทาย “พี่โชจะพาผมไปไหน” อยากจะโวยวายเหมือนกันแต่กลัวญาติของพี่โชจะได้ยิน

   “ไปอาบน้ำไง”

   “ไม่อาบ ผมจะกลับแล้ว”

   “ไม่ให้กลับ มาแล้วก็ต้องอยู่ให้จบ”

   จนแล้วจนรอดผมก็ต้องออกมานั่งตัวลีบอยู่ข้างพี่โช สายตาหลายคู่จับจองมาที่ผมแต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา ยกเว้นคุณหมอคนสวยที่เดินมานั่งข้างผม มือที่ถือแก้วไวน์มาชนกับแก้วน้ำอัดลมของผม ดวงตาสวยมองผมตาเป็นประกาย

   “ไม่คิดเลยน้า ว่าโชจะพามาเปิดตัวขนาดนี้” คุณหมอพูดครับ

   “แหะๆ” ได้แต่หัวเราะตอบ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี

   คุณหมอคนสวยยื่นมือมาจับคางผมหันซ้ายกำลังจะหันทางขวากลับโดนมือพี่โชดึงออกครับ คุณหมอหน้าบึ้งทันที

   “ทำอะไรของแกยะ”

   “ห้ามจับ”

   “โอ้ย ไอ้เด็กหวงของ แค่จับนิดๆ หน่อยๆ”

   “นั่นก็ไม่ได้”

   “ไว้แอบจับตอนแกไม่อยู่ก็ได้ เชอะ”

   “ไม่มีทาง”


   ผมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพี่โชกับคุณหมอ แล้วเขาสองคนก็ทะเลาะกันข้ามหัวผมไปมา นี่ผมควรจะเข้าข้างใครดี


   เพลงบรรเลงปลุกความหนุ่มสาวของบรรดาผู้สูงอายุจนเริ่มมีคนไปเปิดฟลอร์ ผมมองพี่โชที่ถูกคุณป้าฉุดให้ไปเป็นคู่เต้นรำอย่างขำๆ หน้าพี่โชโคตรบึ้งแต่ก็ต้องเต้น มัวแต่ขำคนอื่นพอถึงตาผม ผมก็ทำหน้าไม่ต่างจากพี่โชหรอกครับ แล้วคนที่ดึงผมออกไปก็คือแม่ของพี่โช แบบนี้ใครจะไปกล้าขัด

   ผมใช้สเตปเต้นรำขั้นเทพจนแม่พี่โชขำ ระหว่างเต้นๆ ไป บรรดาคุณป้าคุณลุงต่างก็ถามไถ่จนอื้ออึง พอแม่พี่โชบอกว่าผมคือว่าที่ลูกสะใภ้ทุกคนก็ตาโตแล้วเข้ามารุมผมทันที คือทำไมพวกเขาไม่โกรธสักนิด และดูรับได้กับความรักของผม

   ผมถูกรุมทึ้งจนพี่โชมาแหวกพาหนีผมถึงรอดออกมาได้ พี่โชพาผมมานั่งอยู่ข้างริมสระน้ำครับ บรรยากาศโคตรดีจนผมเอนไปซบกับบ่ากว้างมองกลุ่มดาวที่เปล่งแสงระยิบระยับบนท้องฟ้า

   “อากาศดีเนอะ” ผมเปรยออกมา

   “นั่นสิ ปีหน้าเราไปเคาท์ดาวน์กันสองคนดีกว่า ไม่เอาแบบนี้แล้ว” พี่โชหน้างอจนผมแอบขำ “คนเยอะ ไม่ชอบ”

   ผมเงยหน้ามองพี่โชที่กำลังยิ้มให้ผมอยู่

   “ผมเชื่อใจพี่นะ” พี่โชเลิกคิ้วขึ้นมอง คงสงสัยว่าทำไมผมถึงพูด

   “เป็นอะไรไปครับ”

   “เปล่า แค่อยากบอกเฉยๆ”

   พี่โชยื่นมือมาบีบจมูกผมเบาๆ “ขอบใจที่เชื่อใจพี่นะ”

   ผมยิ้มให้กับผู้ชายตรงหน้า คนที่ผมไม่คิดว่าจะข้ามเส้นเข้ามาอยู่ในชีวิตของผมได้มากขนาดนี้ ใบหน้าหล่อค่อยๆ เลื่อนเข้ามาใกล้ ผมหลับตาลงรอรับสัมผัสนุ่มนวล ริมฝีปากนุ่มก้มลงมา...

   “น้าสะใภ้ขา ไปเล่นดอกไม้ไฟกันค่า” เสียงเล็กดังขัดจนผมรีบลุกขึ้นยืน ก่อนเจ้าของเสียงจะรีบวิ่งมาดึงผมให้เข้าไปในงานอีกรอบ โดยปล่อยพี่โชนั่งอยู่ริมสระพร้อมเสียงบ่น



   “เพราะแบบนี้ไงถึงไม่ชอบคนเยอะ!” ใบหน้าหล่อบูดบึ้งมองคนที่รักถูกฉุดให้เข้าไปในงาน
   



   เสียงการนับเลขถอยหลังไปจนถึงเลขศูนย์ พร้อมๆ กับเสียงและแสงพลุที่จุดประกายเต็มผืนฟ้ากว้าง ก้าวเข้าสู่วันใหม่ของปีใหม่ และอะไรใหม่ๆ ที่กำลังรอให้ชีวิตได้ก้าวผ่าน

   “สวัสดีปีใหม่ครับ” พี่โชกระซิบเบาๆ 

   “อื่อ สวัสดีปีใหม่” ผมไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเจออะไร ขอแค่วันนี้ เวลานี้มีกันก็พอ

   “อยากจูบอะ” เสียงกระซิบข้างหูยังดังกว่าเสียงพลุที่ถูกจุดรัวๆ




   ปีใหม่แล้วอย่าหื่นเว้ย




        ผมรีบวิ่งหนีพี่โชทันทีที่ได้ยิน ไม่ว่าจะปีไหนๆ พี่โชก็ยังหื่นอยู่ดี เรื่องแบบนี้ทำใจลำบาก




.....TBC      


หากตรงไหนไม่สนุก หรือมีคำติ รับฟังทุกอย่างนะคะ จะได้แก้ไขให้สนุกขึ้นไปอีก รวมถึงคำผิดด้วย พยายามหาก่อนจะลงมาหลายรอบ หากยังมีวานช่วยบอกหน่อยนะคะ

และต้องขอบพระคุณทุกคนจริงๆ ที่ติดตามและรักพี่โชน้องกลอยและทุกๆ ตัวละคร ปลื้มจริงๆ ค่ะ

เรื่องนี้ดราม่ามีพอกรุบกริบ หื่นนิดๆ พอเป็นกษัย เกรียนอาจจะมากหน่อย ได้โปรดให้อภัย เพราะเพื่อนพี่โชนั้นไซร้ มีแต่ความฮา

LOVE LOVE  :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 02-08-2016 23:31:33
มาเร็วมาก อ่านต่อเลย :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 02-08-2016 23:36:45
หวานนิดๆพอกรุบกริบ พี่โชไม่ละความเป็นตัวเองจริงๆ ดุได้ดุดี ฮื้ออ
รับสะใภ้เข้าบ้านเรียบร้อย ปลื้มแทนกลอย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 02-08-2016 23:56:20
เด่วนะ !!!!!!!! น้องกลอยของฉ้านนนนนนนนนนน เเกไปดูละครช่องไหนมาเนี้ยยยยยย ภาพนางทาสนี้ขึ้นเลย หนูไม่ใช่สาวน้อยในเรือนเบี้ยนะค่ะลูก นี้ 2016 ค่ะ 555555555 ขำกร๊ากกกกับความเกรียนของนาง บ้านนี่จริงๆเเล้วเค้าเป็นคนตลกนะ เอ่อสิ (เสียงการะเเม) เเล้วให้ทำคลิปแกล้งพี่โชป่ะ มุงจะเล่นใหญ่ไปไหนนนน มโนว่าตัวเองจะถูกข่มขืนรึยางงงง ฉากหลังก็โลเกชั่นบ้านพี่แกป่ะ นึกว่าพี่โชไม่รู้หรอออ 55555 เอาจริงๆนะ ชอบตอนนนี่มีความตลกกลอยสุดติ่งกระดิ่งเเมว ไม่ถงไม่ถามสุขภาพซ๊ากกกคำ ขำจนกรามจะค้าง 
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-08-2016 00:35:22
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 03-08-2016 00:46:32
จริงๆหื่นมากๆก็ดีนะคะ ไม่ว่าหรอก เหอๆๆๆๆ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 03-08-2016 01:45:47
ไม่เอาดราม่าแล้ววว
เห็นน้องกลอยร้องไห้แล้วใจบ่ดี
อยากแย่งมาปลอบ5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-08-2016 02:15:04
ราบรื่นๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 03-08-2016 06:01:47
พี่โชยังขี้โมโหอยู่เลย ต้องค่อยๆปรับตัวอย่าทำน้องร้องไห้บ่อยน้า
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-08-2016 08:42:19
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-08-2016 09:13:20
พี่โชต้องเบาๆอารมณ์ร้อนของตัวเองลงบ้างนะทำน้องกลอยร้องไห้อีกล่ะ
พยายามใจเย็นแล้วฟังก่อน ขืนเป็นแบบนี้เอะอะพี่โมโหอะไรน้องกลอย
มีหวังถ้ากลอยไม่ร้องไห้ก็อาจเจ็บตัวได้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 03-08-2016 12:32:22
กลอยใจน้อยของพี่ช่างน่ารักเสียนี่กระไร
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-08-2016 12:59:54
กลอยใจ เรียกเสียงฮาได้อีก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่โชชชช..... น่ารักมาก หวงอะไรที่เกี่ยวกับกลอยไปหมด :katai1:
แม้แต่ ไข่เจียว ข้าวผัด
อือ ...กับข้าวที่กลอยทำ รสชาติผ่าน สินะ
ถ้าเพื่อๆพี่โช เพื่อนกลอย มาอยู่ที่บ้านนี้ด้วย คงสนุกสนาน ฮากันแน่ๆ
รอ พี่โช หื่นกับกลอยอีก :mew1: :mew1: :mew1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 03-08-2016 14:27:42
โช อารมณ์รุนแรงเกิ๊นนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 23 UP!!<< // [02/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 03-08-2016 15:37:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 03-08-2016 17:45:32
Just you and I : 24



        ผ่านปีใหม่มาไม่กี่วันผมก็ถูกงานทับถมจนหัวฟูอีกแล้วครับ ขนาดป๋าเปาแกอยู่เมืองนอกยังวีดีโอคอลมาสั่งงานได้ ผมนับถือแกจริงๆ งานมากจนไม่มีเวลาจะนอน หากใครได้เห็นสภาพของพวกผมคงต้องคิดในใจว่าซอมบี้กำลังบุกโลกหรือเปล่า
จะว่าไป อาทิตย์นี้ผมนอนกี่ชั่วโมงวะ เริ่มเบลอ
 
   “พวกมึง ร่างกายกูกำลังอ่อนแรง” ไอ้ต๋องมันทิ้งร่างโทรมๆ ลงไปนอนกองกับพื้นหน้าโกดังเก็บของหลังจากเอาของที่ยืมไปมาส่ง 

   “กูก็กำลังจะตาย” ไอ้สักมันลงไปนอนด้วยใบหน้าอิดโรย

   “ทำไมนิ้วมือข้างซ้ายกูมีสิบนิ้ววะ เชี่ย กูเป็นโรคร้ายแน่เลยไอ้สัด” ไอ้เคนี่ก็หนักเอาการครับ ส่วนผมกับไอ้ทูเรานอนก่อนไอ้สามคนนี่อีก ก่อนจะถึงคาบหน้าขอแค่สักงีบก็คงเพียงพอ

   ขณะกำลังเคลิ้มๆ มือถือของไอ้ทูก็ดังขึ้นมา ผมที่อยู่ข้างๆ ก็นอนปรือตามองมันรับ หูก็ได้ยินแว่วๆ ว่าพี่เบนัดไปที่ไหนสักที่ ไอ้เชี่ยนี่มีอะไรไม่เคยบอกเพื่อน แล้วสติผมก็หายไป กว่าพวกผมจะตื่นก็เกือบเย็น...โดดวิชาคาบบ่ายไปโดยไม่ตั้งใจ ดีที่มีแค่เลคเชอร์ ไม่มีเทส


   ผมเดินง่วงข้างไอ้เคมาที่หน้าตึก พี่โชยืนพิงรถตัวเองก่อนจะหันมาเห็นผม ใบหน้าหล่อก็ยกยิ้มขึ้นมาทำเอาสาวๆ ที่นั่งอยู่แถวนั้นแอบกรี๊ด คงจะเล็งไว้นานแล้วล่ะสิ พอผมเดินผ่าน พวกมันก็ยกมือไหว้แต่ตาไม่ได้มองพวกผมเลย ไอ้เด็กพวกนี้นี่ แล้วยิ่งพี่โชเดินเข้ามาใกล้ กลุ่มสาวๆ ก็พากันจัดหน้าจัดผมให้ดูดี แต่อีหนู ผู้ชายคนนี้เขามีเจ้าของแล้ว

   “ทำไมทำหน้าแบบนั้น” พี่โชคว้าเอาเป้ผมไปถือครับ เด็กปีหนึ่งที่แต่งหน้าเพิ่มความเด้งได้แต่อ้าปากค้างแล้วก็บ่นกัน หึๆ

   “เพิ่งตื่นอ่ะ” ผมว่า ไอ้เคมันยกมือไหว้พี่โชก่อนจะขอตัวกลับ มันว่าจะขอไปนอนข้ามวันข้ามคืนเพราะพรุ่งนี้ต้องมาเรียนอีก ร่างกายคงจะไม่ไหว “พี่มานานแล้วเหรอ” ถามระหว่างเดินไปขึ้นรถ

   “สักพัก” รอยยิ้มหล่อๆ ที่มักจะเห็นในทุกๆ เช้า

   “พี่หิวป่ะ”

   “ถามแบบนี้แสดงว่าหิวล่ะสิ” พอเห็นผมยกมือลูบท้อง พี่โชก็หัวเราะออกมา “ไปกินข้าวร้านแม่ของกลอยกัน”

   “ห๊า” ตกใจสิครับถามได้ จะให้พาพี่โชไปบ้าน ไปหาแม่ ผมยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ

   “หรือไม่อยากให้พี่ไป” ใบหน้าหล่อเริ่มบึ้งตึง

   “ไม่ใช่แบบนั้น” ผมมองหน้าพี่โชที่กำลังตั้งใจขับรถ “แค่กลัวพี่ไปกินแล้วติดใจ” หัวเราะล่วงหน้าไปก่อนจนโดนพี่โชเคาะหัว

   “พี่ไม่ติดใจหรอก” พี่โชว่าก่อนจะหันหน้ามามองผมด้วยสายตาเชิงหยอกล้อ “เพราะพี่ติดใจกลอยคนเดียว”


   ขออะไรเปรี้ยวๆ มาดับเลี่ยนทีเถอะ


   พอเห็นผมทำหน้าเหลอหลาพี่โชก็ขำไม่หยุด เออ หัวเราะซะให้พอ

   อาจเพราะแอร์เย็นๆ กับเพลงสบายๆ ทำให้ผมผล็อยหลับไปอีกรอบ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อพี่โชแตะแขนเรียก ผมปรือมองอย่างงงๆ ถึงไหนแล้ววะ นอนมากไปก็ปวดหัวได้เหมือนกันนะเนี่ย มึนเลย

   ผมสอดสายตามองว่ารถจอดที่ไหนเพราะไม่ใช่ลานจอดรถที่คอนโดแน่ แต่พอหันไปทางซ้ายมือก็เจอกันร้านอาหารตามสั่งที่คุ้นตา คนที่กำลังเคาะตะหลิวกับกระทะก็หน้าคุ้นๆ ผมยิ้มกว้างก่อนรีบเปิดประตูออกไปหาพี่โชที่ยืนรออยู่หน้าร้านแล้ว

   แม่ผมกำลังตั้งใจทำอาหารโดยไม่สนว่าลูกสุดหล่อจะยืนหัวโด่อยู่ พอคะน้าหมูกรอบถูกตักใส่จานนั่นละถึงจะหันมามองผม แม่มองนิ่งๆ ทำเหมือนไม่รู้จักจนผมหน้าเสีย

   “จะสั่งอะไรดีคะคุณลูกค้า” แม่ว่าแต่น้ำเสียงกึ่งประชดนิดๆ

   “เอาอะไรก็ได้ที่มันอร่อยๆ” ผมยิ้มไปพูดไปจนเจ้าของร้านเบ้ปากใส่

   “นึกว่าจะลืมแม่คนนี้ซะแล้ว บ้านช่องก็ไม่ยอมกลับ สิ้นปีนึกว่าจะได้อยู่ด้วยกัน”

   “โหย ก็ใครกันครับที่หนีผมไปเที่ยวตั้งสองอาทิตย์ ไม่ต้องมาพูดเลย เห็นผมเป็นลูกป่ะเนี่ย” ผมแกล้งหยอกแม่จนเกือบจะโดนตะหลิวเคาะหัว พี่โชยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ ยกมือไหว้แม่ของผม

   “สวัสดีครับ” พอพี่โชเงยหน้าขึ้นมาก็ยิ้มให้ แม่ผมมองค้างไปเลย ผมต้องเรียกแม่หลายรอบกว่าจะยอมหันมามอง หลงเสน่ห์พี่โชล่ะสิ

   “ต๊าย หน้าตาหล่อเหมือนพระเอกละครเลย ไม่สิๆ หล่อกว่าอีก” แม่ว่าก่อนกระวีกระวาดวางอุปกรณ์ทำครัวแล้วออกมามองหน้าพี่โชซะจนเกือบชิด

   “แม่ พี่เขาขัดขอหวยไม่ได้นะ” ผมขำก่อนจะเบ้หน้าเมื่อแม่หยิกเต็มแขน โหย เขียวแน่ หยิกซะแรง

   “แกนี่นะปากเสีย มาๆ ลูก เข้ามานั่งก่อน เดี๋ยวแม่จะทำอะไรให้กิน เย็นๆ แบบนี้ต้องกินอะไรให้มันอยู่ท้อง” ผมกำลังจะอ้าปากกวนเรื่องเย็นๆ แม่ก็ชี้นิ้วสั่งให้เงียบจนต้องรีบงับปาก “พาพี่เขาไปนั่งเลย แล้วเอาน้ำให้พี่เขาด้วย เข้าใจมั้ย”

   “ครับๆ ว่าแต่ นี่ลูกนะ” ผมบ่นตอนเดินนำพี่โชเข้าไปในร้าน ส่วนคนที่เดินตามก็เอาแต่ขำอย่างเดียว

   ที่นั่งเหลือไม่กี่โต๊ะ แต่ผมก็เลือกโต๊ะด้านในสุดเพราะดูส่วนตัวดี ผมบอกให้พี่โชนั่งรอเพราะจะไปตักน้ำแต่พี่แกก็ลุกตามครับจนผมต้องชี้นิ้วห้าม ก็ลุกพร้อมกันแบบนี้ เกิดมีคนอื่นเข้ามาเผลอนั่งโต๊ะไปก็ไม่มีที่นั่งกันพอดี พี่โชทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ยอมนั่งลง

   ผมเปิดน้ำเปล่ากับน้ำอัดลมสีดำพร้อมกับแก้วน้ำแข็งเปล่าสองแก้ว พอพี่โชเห็นก็เริ่มบ่นเรื่องน้ำสีดำที่ผมกำลังเทใส่แก้ว ฟองฟู่เต็มจนต้องรีบดูด

   “ข้าวยังไม่ได้กิน เดี๋ยวไส้ก็ทะลุหรอก” บ่นมาแล้วหนึ่งรอบ ก่อนจะเริ่มบ่นอีกสารพัดอย่างตั้งแต่หัวผมจรดรองเท้า ผมใส่รองเท้าผ้าใบที่ผมวาดลายเองกับมือ มันเป็นลายเส้นๆ แบบอาร์ตๆ (ในสายตาของผม) แต่พี่โชบ่นว่ามันไม่สวย โคตรจะเสียเซลฟ์เลยว่ะ “ผมยาวแล้วนะ ไปตัดมั้ย”

   “ถ้าไว้ผมยาวๆ แล้วไถด้านข้างพี่ว่าเท่ป่ะ” ผมเห็นในทีวี คนทำเป็นฝรั่งโคตรเท่เลย

   “ทำแบบนั้นโกนไปเลยเถอะ”

   “โห กะให้บวชเลยว่างั้น”

   “บวชไม่ต้องสึกเลย”

   “ถ้าทำจริงคนแถวนี้จะร้องไห้เป็นเผาเต่าอะสิ” เพราะแซวเลยโดนพี่โชเอาช้อนเคาะหัว แม้ไม่แรงแต่ก็เจ็บนะเว้ยเฮ้ย

   สงครามประสาทของผมกับพี่โชหยุดลงเมื่อแม่ตะโกนเรียกให้ไปเอาข้าว ผมยกถาดข้าวผัดหมูไข่เจียวดาวมาสองจาน เมื่อก่อนแม่เคยด่าผมครับที่ผมสั่งไข่เจียวดาว แม่บอกไม่เคยเห็น ผมเลยทำให้แม่ดู เหมือนในเว็บเป๊ะ จากนั้นแม่ก็เอาไปลงไว้ในเมนู แล้วก็ขายดีมากด้วย

   “มาแล้วๆ” วางจานข้าวลงบนโต๊ะก่อนจะเดินเอาถาดไปเก็บโดยมีแม่เดินตามหลังมา

   แม่เดินตามมานั่งข้างๆ ผม แล้วก็นั่งจ้องหน้าพี่โชจนคนถูกจ้องไม่กล้าตักข้าวเข้าปาก ผมที่มองแม่สลับกับพี่โชอย่างงงๆ หรือว่าแม่จะชอบพี่โชจริงๆ

   “แม่มีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า จ้องหน้าขนาดนั้น” ผมถามพลางตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ โห ข้าวผัดยังอร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความรัก ฮิ้วว

   พี่โชยิ้มให้แม่ผมนิดๆ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเจอคำถามที่พุ่งชน

   แต่ข้าวในปากผมพุ่งกระจายไปแล้ว

   “เป็นแฟนกลอยเหรอ”

   “แม่!” บอกแล้วว่าผมควรเปิดสำนักดูดวงให้แม่ตัวเอง

   “อี๋ สกปรก ไปเอาผ้ามาเช็ดเลยนะ ดีที่ไม่ตกไปในจานพี่เขาน่ะ” โดนหยิกแขนอีกแล้ว ผมหน้างอเดินไปเอาผ้าหลังร้าน แต่ก็ไม่ลืมแอบดูแม่กับพี่โชที่นั่งกันแค่สองคน

   ผมรีบคว้าผ้าแล้วกระดึ๊บๆ มายืนใกล้ๆ เพราะอยากได้ยินว่าคุยอะไรกัน บางทีถ้าผมอยู่แม่อาจไม่กล้าพูดก็ได้ แต่ผมก็คิดผิด แม่เรียกให้ผมไปนั่งข้างๆ ตามเดิมก่อนจะยิ้มให้ผม

   “ทำไมยะ กลัวโดนด่าล่ะสิ”

   “นิดนึง” หัวเราะแห้งๆ ส่งให้แม่ ก่อนพี่โชจะรับคำจนผมรีบหันไปมอง

   “ผมคบกับกลอยอยู่ครับ เลยอยากมารู้จักกับคุณแม่บ้าง” คุณแม่เลยนะเออ ผมตาโตมองพี่โชเรียกแม่ผมอย่างสนิท แถมกล้าบอกต่อหน้าด้วยว่าคบผมอยู่ นี่พี่ไม่กลัวถูกมีดอีโต้ไล่ฟันเลยเหรอวะ

   พอแม่ได้ยินก็แอบตกใจนิดๆ ก่อนยิ้มออกมา

   “ว่าแล้ว ฉันไม่มีลูกสะใภ้แน่นอน ทำไมไม่ถูกหวยแบบนี้มั่งเนี่ย” ผมยื่นมือกอดแม่แน่น “แม่น่ะนะก็ไม่ขัดอะไร ขอแค่ลูกของแม่เจอคนที่รักและดูแลได้แม่ก็ดีใจ เพราะแม่เชื่อใจกลอยว่าจะต้องเลือกคนที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง” แม่พูดไปลูบหัวผมไป แอบน้ำตาคลอเล็กๆ ซึ่งผมก็เห็นที่หางตาแม่เหมือนกัน

   “แม่ ซึ้งอ่ะ” ผมยื่นมือเช็ดน้ำใสๆ ที่คลอหน่วยตาของแม่

   “แน่สิ ฉันดูละครเยอะ ฉันจำมา”

   แม้พวกผมจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง แต่พวกเราก็ร่ำรวยรอยยิ้มและความรัก

   ผมโคตรรักแม่อ่ะ

   “เอ๊า กินข้าวๆ เดี๋ยวข้าวจะเย็นไม่อร่อยพอดี” พูดจบแม่ก็ลุกเพราะมีลูกค้าเข้าร้าน พี่โชที่ยังยิ้มให้กับผมแต่ไม่ยอมพูดอะไรจนผมต้องถามออกมา

   “พี่จ้องหน้าผมทำไม หาหวยเหรอ” เลยถูกช้อนเคาะหัวอีกรอบ คืนนี้ถ้าฉี่รดที่นอนละก็จะสมน้ำหน้าให้ แต่ไม่ดีกว่า ถ้าทำแบบนั้นผมเองที่ลำบากซัก



   ผมกับพี่โชผลัดกันแย่งหมูในจานโดยไม่แคร์สายตาคนอื่นที่มอง แม้แม่จะจัดเต็มซะเยอะแต่การได้กินของคนอื่นมันอร่อยกว่า และส่วนมากผมก็ได้กิน พี่โชได้แต่ส่ายหน้าเมื่อหมูชิ้นสุดท้ายเข้าปากผม

   “อร่อย” ลอยหน้าลอยตาไปมาแบบผู้ชนะ พี่โชหัวเราะก่อนจะทำหน้านิ่งมองไปด้านหลังจนผมต้องหันไปมอง “พี่กิ่ง”

   ผมทักร้องพี่สาวตัวเองที่มายืนปั้นหน้ายักษ์อยู่ด้านหลัง พี่กิ่งจ้องหน้าพี่โชอย่างหาเรื่องจนผมต้องขยับลุกไปยืนข้างพี่โช

   “ใครวะ” คำถามแรกที่ออกจากปากพี่สาวผม

   “นี่พี่โช” ผมแนะนำชื่อ “แฟนผมเอง” ผมพูดเต็มปากเต็มคำจนพี่โชเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้ม

   “สวัสดีครับ” พี่โชทักทายพี่สาวผมที่ยังทำหน้าบึ้ง

   “แฟนแกเหรอวะ”

   “ครับ ผมแฟนกลอยเอง” พี่กิ่งถามผมแต่พี่โชเป็นคนตอบ เลยโดนสายตาตวัดมองด้วยความแรงจนผมต้องร้องอูยออกมา

   “กล้าพาเข้ามาในบ้านเลยนะ”

   “แหม ทีตัวเองยังพามายังไม่มีใครว่าอะไร” ผมแขวะพี่สาวตัวเองทันที พี่กิ่งก็พาแฟนตัวเองมาครับ กำลังช่วยแม่ยกถาดข้าวไปเสิร์ฟโต๊ะด้านหน้าเพราะผู้ช่วยเช็ดโต๊ะอยู่ด้านใน

   “แล้วใครได้ว่าหรือยัง ไอ้น้องบ้า” ว่าผมเสร็จก็ทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ที่ผมนั่งเมื่อกี้ ผมเลยย้ายมานั่งข้างพี่โชแทน “คนนี้ใช่มั้ยที่แกเคยบ่นว่านิสัยไม่ดี” พี่กิ่งยิ้มเยาะแต่ผมตาโตเท่าไข่ช้าง เชี่ย พูดต่อหน้าพี่โชได้ยังไง เดี๋ยวไอ้กลอยคนนี้ก็ซวยอีก

   พี่โชย่นคิ้วมองผมทันที พี่ครับอย่าเพิ่งโวยวาย ก็ตอนนั้นพี่นิสัยไม่ดีจริงๆ นี่หว่า

   “นั่นมันนานน๊านนานมาแล้ว” ผมรีบแก้ต่างก่อนยิ้มแห้งๆ ให้คนที่นั่งข้างๆ

   “กลัวมันอะดิ่ โหไรวะ น้องกูป๊อดชิบหาย” ผมได้แต่กัดฟันมองพี่สาวตัวเองหัวเราะเยาะ เดี๋ยวเถอะ อย่าให้ได้เยาะบ้าง
 
   ผมมองพี่สาวอย่างเคืองๆ ก่อนจะยกมือไหว้แฟนของพี่กิ่งครับ วันนี้ก็ยังสวยเหมือนเมื่อหลายเดือนก่อนที่เจอ ลืมหรือยังครับที่ผมเคยเล่าว่าพี่กิ่งมีแฟนเป็นผู้หญิง แฟนพี่ผมทั้งสวย ทั้งขาว ทั้งหมวย ไม่น่าหลงผิดมารักกับพี่กิ่งได้เลย แล้วดู เจอก่อนปีใหม่ผมพี่กิ่งยังยาวจนเกือบถึงเอว ตอนนี้หั่นซะสั้น

   “พี่ตัดผมทำไมอ่ะ” ผมถาม แต่เป็นแฟนพี่กิ่งตอบแทนพร้อมกับหัวเราะ

   “พี่ให้ตัดเองแหละ ที่บริษัทเขาชวนให้บริจาคเส้นผมให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง พี่จะตัดแต่กิ่งห้าม เลยให้ตัดเองซะเลย” พี่ผิง แฟนของพี่กิ่งว่า พอผมได้ยินก็หัวเราะลั่น จนคนมองทั้งร้าน

   “ใจบุญอะพี่ผิง แต่สมน้ำหน้าพี่กิ่ง” บอกแล้วว่าอย่าให้ได้เยาะ

   “ไอ้กลอย เดี๋ยวโดนๆ” ผมไม่กลัวคำขู่หรอก พี่กิ่งขู่ผมโคตรบ่อยแต่ก็ไม่เคยทำอะไรจริงๆ สักที มีครั้งหนึ่งพี่กิ่งเคยขู่จะขว้างก้อนหินใส่หัวผม ผมก็ท้าแล้วพี่แกก็ขว้างมาจริงๆ เลือดออกโคตรเยอะ พี่กิ่งร้องไห้ยิ่งกว่าคนเจ็บแบบผมซะอีก ดีที่หัวไม่แตก จากนั้นก็ไม่เคยขู่จะเอาอะไรขว้างใส่อีกเลย

   “แล้วนี่...” พี่ผิงหันมาสนใจคนข้างๆ ผมครับ

   “นี่พี่โช” ผมแนะนำไม่จบพี่กิ่งก็พูดแทรกจนโดนพี่ผิงหยิกแขน

   “ผัวมัน...โอ้ย เจ็บนะผิง”

   “ก็ไปว่าน้องทำไม”

   “เดี๋ยวนี้เข้าข้างมันเหรอ”

   “ใช่ ก็กิ่งชอบแกล้งน้องตลอด นิสัยไม่ดี”

   อยากกระทืบไลค์พี่ผิงสุดๆ

   ผมแลบลิ้นให้พี่ตัวเองจนโดนชี้หน้าขู่ แต่ก็ไม่สนใจเพราะพี่ผิงยังดุให้ผมอีกรอบ มีแบล็กดีก็อย่างนี้แหละครับ หึๆ ส่วนพี่โชก็ยิ้มๆ แต่ไม่พูดอะไร เพราะไม่ใช่คนที่จะสนิทกับคนอื่นง่ายๆ ด้วยแหละครับ เวลาเจอคนแปลกหน้าหรือใคร ถ้าไม่ยิ้มให้ก็จะหน้านิ่งใส่

   เมื่อลูกค้าเริ่มซา แม่ผมก็เดินมาหาที่โต๊ะอีกรอบ คราวนี้นั่งหัวโต๊ะครับ ใบหน้าที่มีริ้วรอยตามไวมองพวกเราสี่คนก่อนยิ้มกว้าง
 
   “ฉันไม่มีหลานให้อุ้มแล้วใช่มั้ย” พอแม่พูด พี่กิ่งก็อ้อนแม่ทันที ผมก็รีบลุกไปกอดแล้วหอมแม่ฟอดใหญ่

   “ถ้าแม่อยากอุ้ม เดี๋ยวผมหาให้” เพราะพูดไม่คิดเลยโดนแม่หยิกเข้าที่แขน (อีกแล้ว)

   “พูดอะไรหัดนึกถึงใจพี่เขาบ้าง เลิกนิสัยปากไวกว่าสมองได้แล้วเราน่ะ” ผมหน้างอทันทีที่แม่ว่า พี่กิ่งก็ได้ทียักคิ้วเยาะเย้ย “ส่วนเราก็เลิกแกล้งน้องได้แล้ว ดูผิงเขายังรักกลอยมากกว่าซะอีก”

   “แม่อ่ะ เข้าข้างไอ้กลอยอยู่เรื่อย ผิงด้วย” พี่กิ่งหน้างอโคตรตลก ขนาดพี่โชยังแอบขำจนพี่กิ่งถลึงตาใส่ “โดนรุมตลอดไอ้กิ่ง”

   “ไอ้เรื่องความรักของหนุ่มสาวสมัยนี้แม่ก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ก็ไม่เคยห้ามเคยขัด หากมันอยู่บนความถูกต้อง แม้มันอาจไม่ถูกใจใครหลายคน หากไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ไม่ต้องไปสนใจ” แม่หยิกแก้มผมเบาๆ แววตาที่มีความรักอยู่แน่นล้นจนผมกระชับกอดแม่แน่นขึ้นไปอีก “แม่เคยโดนความรักทำร้ายมาเมื่อก่อน แต่แม่ก็ไม่คิดจะใช้ความรักที่มีไปทำร้ายใคร ทั้งกิ่งและกลอย แม่เลี้ยงด้วยความรักมาทั้งคู่ หากภายภาคหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็อย่าใช้ความรัก ความเชื่อใจที่มีทำร้ายกันและกันเด็ดขาด เข้าใจมั้ย”

   “ครับ/ค่ะ” สี่เสียงประสานกันจนพวกเราหัวเราะ


   หลังจากมื้อเย็นจบลง ผมกับพี่โชก็อยู่คุยกับพี่กิ่งจนดึก และผมก็เพิ่งรู้ว่าห้องของผมถูกยกให้พี่ผิงเรียบร้อย นี่กะไล่ผมให้ออกจากบ้านเลยใช่มั้ย เคืองอ่ะ ส่วนพี่ผิงก็หัวเราะบอกถ้าผมกลับมาก็นอนห้องเดียวกันก็ได้ ผมยิ้มแหยๆ กลัวพี่โชปรี๊ดมากบอกเลย พอถึงเวลาผมก็ยกมือไหว้แม่พร้อมพี่โชก่อนเข้าไปกอดแน่นๆ อีกสักที

   “ขับรถกลับบ้านดีๆ นะลูก ช้าๆ แต่อย่าให้ใครแซงได้” แล้วแม่กับพี่โชก็หัวเราะ มีผมคนเดียวก็ยืนหน้าเอ๋อ คืออะไรวะ ช้าๆ แต่ห้ามแซง “รีบไป เดี๋ยวดึกกว่านี้จะอันตราย”

   ผมกับพี่โชลาแม่ก่อนจะพากันกลับคอนโด เตียงจ๋า รอไอ้กลอยกลับไปนอนอยู่ใช่มั้ย โคตรคิดถึงทุกลมหายใจ

   เสียงหัวเราะเล็กๆ ดังขึ้นจนผมต้องหันไปมอง พี่โชหัวเราะอะไรอยู่คนเดียว

   “พี่ขำไรอะ”

   “แม่กลอยน่ารักดี”

   “แม่พี่ก็น่ารักเถอะ แต่เจ้าเล่ห์ไปนิด พี่โชกับพี่ชีสต้องได้นิสัยแม่มาแน่เลย”

   “สนิทกับแม่พี่ขนาดนั้นเลย?”

   “ก็ไม่เท่าไหร่” ผมยักไหล่ ยักคิ้วจนคนเห็นหัวเราะ “แต่แม่พี่ไม่โกรธเลยที่พี่คบผู้ชายเป็นแฟน”

   “แม่พี่เขาไม่ใช่คนหัวโบราณขนาดนั้น” พี่โชว่า “ทั้งพ่อและแม่ไปอยู่ต่างประเทศมานาน เห็นความรักในหลายรูปแบบ แล้วอีกอย่าง ก็คงคิดเหมือนกับแม่ของกลอยนั่นแหละ”

   “เหมือนยังไง”

   “ก็เราจะเลือกคนที่ดีที่สุดมาเป็นคนรัก” คำพูดและแววตาจริงจังทำให้เขิน

   “ผมแม่งโคตรเป็นคนดีจริงๆ นั่นแหละ” อวยตัวเองหน่อยแก้เขิน พี่โชก็เอาแต่หัวเราะ

   “ครับๆ คนโคตรดี คืนนี้พี่จะให้รางวัลคนดีทั้งคืนเลย”

   ไม่ๆๆๆ ไอ้กลอยไม่อยากได้รางวัล ไอ้กลอยอยากนอนมากกว่า โนววว

   แล้วคิดว่าผมจะหนีพ้นเหรอ




   “พี่โช พอแล้ว เหนื่อย ง่วง” รอบที่สองไปแล้วก็ยังไม่ยอมหยุด

   “พี่บอกจะให้รางวัลทั้งคืนไง” เสียงกระเส่าชิดใบหูทำเอาขนลุกซู่ แถมมือยังลูบจนของๆ ผมมันพร้อมสู้ศึกอีกรอบเหมือนไอ้ที่ยังคาอยู่ในตัวผม มันมาอีกแล้ว

   “ไม่ อะ เอา อื่อ พะ พี่โชโว้ย”

   แล้วเรื่องคืนนั้นก็จบลงเมื่อตอนรุ่งสร่าง ไอ้เด็กกลอยใจนอนเหมือนคนตายอยู่บนเตียง เพียงแค่ขยับตัวนิดเดียวก็สะเทือนไปถึงสมอง รางวัลทั้งคืนแบบนี้ไอ้กลอยจะไม่ขอรับมันอีก เชี่ย วันนี้มีเทสย่อยด้วย แต่สังขารไม่ไหว แค่กระดิกนิ้วเท้ายังร้าวขึ้นมาถึงหัวจนต้องย่นหน้า แล้วแบบนี้จะเรียนจบมั้ยวะเนี่ย เริ่มมองเห็นอนาคตตัวเอง เมื่อเอฟลอยไปมาอยู่ตรงหน้า...แต่ยังไงซะตอนนี้ขอนอนก่อน เพราะไม่ไหวทั้งสมองและร่างกาย เพลีย!!!    



......TBC

ถ้าไม่มีอะไรก็คงจะอัพวนไปค่ะ


ก็ยังขอบคุณทุกคนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความรัก  :mew1:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-08-2016 18:10:39
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 03-08-2016 18:20:50
ครอบครัวกลอยน่ารักกกก
พี่โชก็ให้รางวัลน้องเยอะไปนะ ฮ่าๆๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-08-2016 19:23:34
 :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-08-2016 19:45:09
ครอบครัวทางสะดวกแล้วทั้งสองฝ่าย :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 03-08-2016 21:43:01
เป็นรางวัลที่พี่โชได้ประโยชน์สุดๆอ่ะ  :hao7:

กลอยเดี้ยงคาเตียงไปเรียบร้อยแล้ววววว  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 03-08-2016 21:43:16
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 03-08-2016 21:55:32
พ่อแม่เข้าใจเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 03-08-2016 22:42:45
ทั้งสองคุณแม่น่ารักมากๆๆเลย อยากให้มีหนุ่มๆมาจีบกลอยบ้างจัง หนุ่มคนที่ขอเบอร์กลอยที่เชียงใหม่ที่มากับเด็กที่ทักกลอยว่าจ๋วยอะ เเละคนนี้ก็รักกลอยจริงจังและเอาจริง ถ้าเป็นแบบนี้เนื้อเรื่องจะสนุกขึ้นแน่นอนพี่โชหึงโหดแน่ ถ้ามีบุคคลที่สามจะเข้ามาคอยฉกกลอยตลอดเวลา :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-08-2016 01:19:33
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 24 UP!!<< // [03/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 04-08-2016 01:49:48
เอาคนมาจีบกลอยหน่อยจิ เอาคนที่เจอที่เชียงใหม่ก็ได้ อยากเห็นพี่โชหึงแรงงงงง



ปล.แอบกังวลนิดหน่อยว่าความหื่นของพี่โชจะเป็นอุปสรรคการเรียนของกลอย น้ำตาลใกล้มดมันห้ามใจกันยากกก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 04-08-2016 17:25:05
Just you and I : 25




        ตอนนี้รู้สึกสมองโล่งมาก โล่งแบบเหมือนไม่เคยรู้สึกอะไรมาก่อน แม้แต่ตัวหนังสือที่อ่านมายังไม่มีสักตัว ไอ้กลอยกำลังแย่ครับ โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง ผมอ่านมาแล้วนะครับแต่พอเข้าห้องสอบปุ๊บ ตัวหนังสือมันลอยหายไปหมดเลย

   หลังจากหมดสองชั่วโมง ผมเดินตัวลอยๆ ออกมา ไอ้เคที่เดินออกมาพร้อมกันทรุดนั่งกอดหนังสือที่วางด้านนอกพร้อมกับคร่ำครวญ

   “ไอ้เชี่ยเอ้ย กูอ่านทุกอย่างที่จารย์บอก แต่มันออกทุกอย่างที่กูไม่ได้อ่าน กูอยากตาย” นั่นละครับสาเหตุที่สมองผมโล่ง อ่านตรงที่มันไม่ออก

   “กูอ่านที่ป๋าสั่งให้ขีดเส้นใต้ แต่แม่งไม่ออกสักข้อ กูโดนหลอกใช่มั้ย” ไอ้ทูเริ่มโวยวาย

   “มึงไม่โวยวายเหรอวะไอ้กลอย” ไอ้ต๋องมันถามผมครับ มันคงเห็นผมยืนมองพวกมันนิ่งๆ

   “กูพูดไม่ออกว่ะ บรรยายออกมาไม่ได้” อยากร้องไห้อย่างเดียว สอบไฟนอลปีสองมันยากแบบนี้นี่เอง ในชีวิตไอ้กลอยเพิ่งเคยสอบครั้งแรก

   “ขนาดวันแรกกูก็เหมือนจะตายทั้งเป็นอยู่แล้ว เหลืออีกตั้งหลายวัน พอสอบเสร็จเผากูเลย” ทุกคนในที่นี่พยักหน้าเห็นด้วยที่สุด ขนาดพวกเด็กเรียนยังบ่นเป็นขรมว่าทำไม่ได้

   “อีเข็มมึงทำได้หรือเปล่าวะ” เพื่อนผู้หญิงที่พยายามถามความเคลื่อนไหวผมกับพี่โชอยู่ตลอด

   อีเข็มยกมือขึ้นห้าม ก่อนจะปรายตามองแล้วยักคิ้ว

   “ยิ่งกว่าทำได้อีกค่ะมึง”

   “จริงดิ่ เจ๋งสัด”

   “ยิ่งกว่าทำได้คือกูเททุกข้อ”

   “อี...” ไร้คำด่าเลยครับ

   “ตัวใครตัวมันค่ะพวกมึง อีกหลายวิชาเจอกัน วันนี้กูมีนัด”

   “หน้าแบบมึงมีนัดด้วยเหรอวะ” ไอ้สักมองแบบไม่อยากจะเชื่อ ผมก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน

   “อ่าวไอ้เชี่ย กูผู้หญิงหน้าตาสวยขนาดนี้จะไม่มีผู้ชายได้ยังไง” มันดูภูมิใจกับการมีผู้ชายจีบมาก

   “เขาตาบอดหรือเปล่าวะ”

   “เขาตาบอดสี ถุย เขาปกติทุกอย่างเว้ย พวกมึงชอบชักใบให้เรือเสีย กูไปดีกว่า” อีเข็มโบกมือพวกผม แต่ก่อนไปมันยังวกมาเรื่องผมอีกจนได้ มิน่ามันถึงเรียกตัวเองว่าสาววาย “ไอ้กลอย มึงกับพี่โชช่วยอัพรูปคู่หน่อยสิวะ เพจกูเหงารูปมึงมาก มีแต่รูปเดี่ยวๆ ของมึงพวกกูเบื่อแล้ว”

   ถ้ามันไม่รีบไปผมได้ด่ามันแน่ เพจที่มันว่าเป็นเพจเกี่ยวกับสาววายที่นัดรวมตัวกันครับ ส่วนใหญ่จะแชร์รูปหนุ่มๆ น่ารักๆ กับคู่จิ้น หนึ่งในคู่พวกนั้นก็คือคู่ผมกับพี่โช

   อาจเพราะช่วงแรกๆ พี่โชมารับมาส่งผมทุกวันทำให้เพจมันคึกคักมาก แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะพี่โชเข้าไปทำงานในบริษัทของพ่อเต็มตัว ตอนแรกผมก็ยังคิดว่าพี่โชจะทำได้ยังไง แต่กว่าจะได้รู้คำตอบก็เปลืองตัวไม่ใช่น้อย ทั้งกอด ทั้งจูบสารพัดที่อยากจะแกล้งผม

   พี่โชเข้าไปทำงานในบริษัทตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย เริ่มงานจากระดับล่างสุด พอรู้จักระบบและวิธีแก้ไขก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาฝึกแต่ละแผนก มิน่าถึงมีชื่อเป็นลำดับที่หนึ่งที่จะเข้ารับปริญญาบัตร เกียรตินิยมอันดับหนึ่งลำดับที่หนึ่งเชียวนะครับ
   เรียนยังไง กินอะไรให้ได้แบบนั้นวะ

   หลังจากพี่โชเข้าไปทำงาน ผมเลยต้องมามหาลัยคนเดียวด้วยรถของพี่โช ไม่ใช่รถสปอร์ตคาร์หรอกนะครับ เป็นรถที่ขายทั่วไปที่พี่โชซื้อให้ผม อ๊ะๆ อย่ามองแบบนั้น พี่โชไม่ได้ให้ผมฟรีๆ เขาให้ผมทำงานบ้านและทำกับข้าวเป็นการใช้หนี้ค่ารถที่ซื้อให้ แต่ที่จะได้ส่วนลดเยอะก็คงเป็นเรื่องหื่นๆ ที่พี่แกบอก


   รอบหนึ่งต่อหนึ่งหมื่น แล้วรถแม่งกี่แสนวะ ผมต้องจ่ายกี่รอบถึงจะครบ


   พอนึกถึงก็ทำให้หน้าร้อนวูบวาบ จนต้องสะบัดหัวลบภาพบนเตียงที่แสนเร้าร้อนออก ไอ้เชี่ยกลอยมึงกลายเป็นคนลามกตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าโรคหื่นมันติดต่อวะ

   “พวกมึง คืนนี้อ่านหนังสือใต้ตึกมั้ยวะ” ไอ้แว่นหัวหน้าห้องมันเดินมาคุยกับพวกผมครับ วิชาที่จะสอบพรุ่งนี้โคตรยาก ถ้าเกิดได้คนที่เก่งติวให้ก็น่าจะดีเหมือนกัน

   “แล้วจะตื่นมาสอบทันเหรอวะ” ไอ้ต๋องถาม

   “ก็เลิกสักเที่ยงคืนแล้วกลับไปนอน สอบสิบโมงแน่ะ มีเวลาสบาย” ไอ้แว่นมันว่า มันสบายสิก็ในเมื่อมันเก่งวิชานี้นี่หว่า กลางภาคมันได้เต็มเลยนะครับวิชาพรุ่งนี้น่ะ

   ผมมองหน้าเพื่อนๆ คล้ายกับขอความคิดเห็น จนพวกมันพยักหน้าตกลง ผมก็กำลังจะตกลงแต่หน้าพี่โชตอนชี้นิ้วสั่งข้อห้ามปรากฏขึ้นมาเฉย เลยขอบอกอีกที



   กลับมาถึงห้องก็เกือบจะสี่โมงเย็น พี่โชยังคงไม่กลับ ตอนนี้เห็นว่ากำลังมีโปรเจคใหญ่มากทำให้ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาเจอหน้า หรืออาจจะเจอเฉพาะตอนตื่นนอนไม่ก็ตอนสะดุ้งตื่นกลางดึก แล้วช่วงนี้พี่โชดูซูบผอมไปเยอะ อาจเพราะไม่ได้นอน ผมเห็นบางคืนทำงานโต้รุ่งก็ยังมี ที่จริงชีวิตของผมก็เป็นแบบนั้นนั่นแหละ เคยทำงานโต้รุ่งมาเป็นอาทิตย์จากนั้นก็นอนตายอยู่ในห้อง แม่กับพี่กิ่งมาหาเพราะผมติดต่อไม่ได้ พอเปิดห้องเข้าไปผมโดนด่าซะหูชา เพราะมันไม่มีที่ว่างให้เหยียบเลย ก็ห้องชายโสดนี่หว่า
 
   ผมหยิบมือถือออกมาไลน์หาพี่โช กดข้อความแต่ไม่ได้ส่งไปเพราะกลัวพี่โชจะยุ่ง หรือกลัวว่าจะประชุมอยู่ ผมเลยลบข้อความทั้งหมดไปก่อนจะเริ่มเก็บกวาดห้องที่รก ก้อนกระดาษกลมๆ ถูกปาทิ้งเกลื่อนห้อง มันเป็นกระดาษออกแบบของพี่โช เพราะถ้าเป็นของผม ผมจะเก็บทิ้งไปเรียบร้อย

   กระดาษก้อนกลมๆ มีโครงสร้างของเหล็ก ผมพอมองออกอยู่หรอกแต่ไม่เข้าใจ แล้วที่สำคัญ ลายมือพี่โชควรไล่ไปหัดคัดกอไก่ใหม่ ไอ้ยึกยือๆ แบบนี้มันอ่านว่าอะไรได้บ้าง

   หลังจากเก็บกวาดเสร็จ เสียงประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นพร้อมกับพี่โชเดินเข้ามา ใบหน้าอิดโรยจนผมต้องรีบเดินเข้าไปพยุง พี่โชหันมายิ้มๆ ก่อนทิ้งตัวนอนบนโซฟาตัวยาว

   “พี่กินข้าวหรือยัง หิวมั้ย” ผมยืนข้างๆ คนที่นอนคว่ำอยู่ พี่โชส่ายหน้ากับหมอนอิง “ไม่หิวก็ไปอาบน้ำก่อนจะได้สบายตัว” ผมฉุดคนตัวใหญ่ให้ลุก แต่อีกคนกลับออกแรงดึงจนผมร่วงไปนั่งก่อนจะใช้ตักผมแทนหมอน “ทำอะไรเนี่ย”

   “เหนื่อย” พี่โชบอกเสียงอู้อี้ ดูเหนื่อยล้าจริงๆ จนน่าสงสาร

   “เหนื่อยก็พัก แล้วก็กินข้าวเยอะๆ จะได้มีแรงทำงาน” ผมให้กำลังใจจนพี่โชขำเบาๆ “อ่อ กระดาษที่พี่ปาทิ้งผมเก็บใส่ถังใต้โต๊ะทำงานพี่นะ” ต้องบอกครับ เพราะผมเคยโดนว่า เรื่องเก็บกระดาษทิ้งทั้งที่มันอาจจะยังใช้ได้ แต่มันถูกขยำจนเละหมดแล้ว ไอ้เราก็คิดว่าทิ้ง ที่ไหนได้ โดนด่าเฉย มานึกๆ ก็ยังเคืองไม่หาย

   “เป็นอะไร ทำหน้าบึ้งทำไม” ปากนุ่มๆ ยืดมาแตะปากผมเบาๆ

   “เปล่า พี่โชอยากกินอะไร เดี๋ยวผมทำให้” มัวแต่เก็บของเลยไม่ได้ทำกับข้าวอะไรสักอย่าง อีกอย่างถ้าทำรอไว้ก็ไม่รู้ว่าอีกคนจะกลับมากี่โมง

   “อะไรก็ได้” ตอบแบบผู้หญิงเลยแบบนี้ อะไรก็ได้ แต่พอทำให้ก็ไม่กิน แล้วจะอะไรก็ได้ทำไม

   “ไข่เจียวหมูสับนะ” ผมบอก พี่โชก็พยักหน้าก่อนจะเข้าห้องไปอาบน้ำ

   ผมรีบทำไข่เจียวหมูสับให้เสร็จก่อนพี่โชจะอาบน้ำเสร็จ ไม่นานคนที่ไปอาบน้ำก็เดินตัวหอมออกมา พี่โชใส่เสื้อยืดกางเกงนอนขายาว ใบหน้าดูดีขึ้นกว่าตอนกลับมา

   “งานเยอะมากเลยเหรอ” ผมถามระหว่างกินข้าว พี่โชเงยหน้ามามองพลางพยักหน้า “เอ่อใช่ คืนนี้ผมขอไปอ่านหนังสือกับเพื่อนนะ” พี่โชถึงกับชะงักมือตอนจะเอาช้อนเข้าปาก

   “ที่ไหน”

   “ที่ใต้ตึกในมอนั่นแหละ”

   “มีใครบ้าง แล้วจะกลับกี่โมง ไปเองหรือให้ใครมารับ” คำถามมารัวจนต้องนึกแปบหนึ่งถึงตอบได้

   “ก็มีแต่เพื่อนในคลาส กลับประมาณเที่ยงคืนละมั้ง แล้วเดี๋ยวผมเอารถไปเอง”

   “เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

   “ไม่ต้องๆ พี่ทำงานเหนื่อยต้องพักเยอะๆ ดิ่ ผมไปเองได้” พี่โชดูไม่พอใจเท่าไหร่

   “ก็ได้” พอได้ยินก็ยิ้มสิครับ นานๆ ทีจะได้รับคำตอบแบบนี้ “แต่ให้กลับไม่เกินสี่ทุ่มครึ่ง”

   เฮ้ย นี่มันจะทุ่มแล้วนะ ผมมองนาฬิกาเข็มสั้นชี้เลยเลขหก เข็มยาวชี้เลขเจ็ด

   “พี่โช นี่มันจะทุ่มอยู่แล้ว กว่าจะไปถึงก็สองทุ่มกว่า ผมอ่านได้แปบเดียวก็ได้กลับอ่ะดิ่” บ่นสิครับ แต่พี่โชทำเหมือนไม่ฟังคำบ่น “พี่โช”

   “ทำไมต้องไปอ่านที่อื่น ห้องนี่ก็อ่านได้”

   “แต่เพื่อนผมมันเก่ง มันจะติวให้” พี่โชดูจะลังเลนิดๆ แต่ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม

   “ก็ให้ไปแต่กลับก่อนสี่ทุ่มครึ่ง” พูดจบก็เอาจานไปล้างทันที นี่ผมยังไม่ตกลงโอเคอะไรเลยนะ พอผมกำลังจะอ้าปากพูดพี่โชก็ชูนิ้วชี้แล้วโบกไปมา

   “พี่โช” ร้องเรียกเสียงสูงๆ แต่พี่โชก็เดินเข้าห้องไปแล้ว เอาเถอะ ถึงเวลาค่อยผัดผ่อนก็ได้



   
   ผมเลี้ยวรถเข้าประตูมหาลัยมาเห็นท้ายรถสีส้มคุ้นตาอยู่ด้านหน้า ผมรีบขับตามทันที อยากรู้จริงๆ ว่าใช่พี่เบหรือเปล่า ถ้าพนันผมใส่เต็มร้อยว่าเจ้าของรถเป็นพี่เบแน่นอน

   รถสีส้มขับผ่านตึกเรียนที่เป็นที่นัด ผมขับตามห่างๆ ไปจนถึงลานจอดรถอาจารย์ รถสีส้มยังติดเครื่อง ประตูฝั่งข้างคนขับเปิดออก คนลงมาคือไอ้ทูจริงๆ ผมรีบปิดไฟหน้ารถก่อนจ้องอย่างสนใจ อยากรู้ว่าคนขับจะลงมาหรือเปล่า ผมเห็นไอ้ทูเปิดประตูด้านหลังแล้วหยิบเอาหนังสือเรียนออกมาก่อนจะโบกมือลาเจ้าของรถ สุดท้ายก็ไม่ออกมา...

   มาแล้ว

   ผมยกยิ้มทันทีที่ประตูฝั่งคนขับเปิดออก คนขับร้องเรียกคนที่เพิ่งโบกมือลาก่อนยื่นเอาถุงขนมให้ ไอ้ทูรับถุงขนมมา คนยื่นเลยยกมือยีหัวฟู แหมๆ หวานเชียวนะ แล้วความคิดบางอย่างก็ทำให้ผมรีบเปิดประตูลงไปแล้วตรงเข้าไปหาคู่นั้น

   “ฮั่นแน่ เจอตัวแล้ว” ไอ้ทูดูจะตกใจที่เห็นผมโผล่พรวด แต่พี่เบกลับพยักหน้าทักทาย “มีมาส่งกันด้วย”

   “อะไรของมึง” ไอ้ทูรีบเฉไฉ

   “ไม่ต้องเลย พี่คบกับเพื่อนผมเหรอ” ผมหันไปถามพี่เบแทน ไอ้ทูเบิกตาโตมันมองผม คงไม่คิดว่าผมจะถามออกมาตรงๆ พี่เบเลิกคิ้วนิดๆ ก่อนจะยิ้มออกมา

   “ก็ดูๆ ไปก่อน” เชี่ย ตอบแบบเซเลปด้วย

   “ชาวบ้านแบบผมก็เรียกว่าคบนั่นแหละ โด่ ไม่เห็นบอกบ้างเลย” แกล้งตีหน้าเศร้าเหมือนน้อยใจ

   “มึงรีบไปเลย เดี๋ยวพวกไอ้แว่นจะรอ” ไอ้ทูคงเขินเพราะมันกำลังดันให้ผมเดิน เพื่อนกูก็มีมุมน่ารักนะเนี่ย ผมหัวเราะร่วนรั้งตัวไม่ไปตามแรง

   “มีเขินนะมึง แล้วพี่คบเพื่อนผมจริงๆ ทำไมไม่เปิดตัวอ่ะ เก็บเงียบพวกผมเลยไม่ได้แซวมันจริงๆ จังๆ เลย”

   “ก็ไม่ได้แอบ แต่เพื่อนมึงบอกไม่อยากบอก” พี่เบบอก ผมรีบหันมองเพื่อนตัวเองจนคอแทบเคล็ด

   “มึงเห็นกูเป็นเพื่อนป่ะเนี่ย” ถามเสียงสูงจนต้องกระแอมเพราะเสียงแหบ ผมไม่ได้เล่นใหญ่ไปใช่มั้ย

   ไอ้ทูแม่งส่ายหน้า นี่มันไม่เห็นผมเป็นเพื่อนเหรอวะ ไอ้เชี่ยนี่ ผมสะบัดหน้าค้อนมันวงใหญ่ แต่คำตอบมันเล่นเอาผมหลุดฟอร์มปล่อยเสียงหัวเราะดังจนนกที่เกาะตามต้นไม้บินหนี

   “กูอายไอ้สัด พี่ก็รีบกลับๆ ไปได้แล้ว จะยืนให้ไอ้เชี่ยกลอยมันถามทำไม รีบๆ ไปไป๊” แม้แต่พี่เบยังหัวเราะอ่ะ เพื่อนผมมันน่ารักจะตาย ถ้าพี่ไม่ทำมันร้องไห้ตอนแรกก็มีความสุขไปละ

   “เออๆ กูไปก็ได้” พี่เบบอก แต่ไม่วายหันมาสั่งก่อนจะขึ้นรถ “เสร็จแล้วก็โทรมาล่ะ จะได้มารับ”

   ไอ้ทูพยักหน้านิดๆ ก่อนจะออกแรงผลักผมให้รีบเดิน มึงจะเขินทำไมเนี่ย

   ผมกับไอ้ทูยืนมองรถพี่เบลับตาก็กลับมาขึ้นรถแล้วขับวนมาที่จอดหน้าตึก เปลืองน้ำมันอีก ดีที่พี่โชออกตังค์ให้ เอ่อ ต้องไลน์บอกก่อนว่าถึงแล้ว มัวแต่เล่นลืมดูเลยว่าสองทุ่มกว่าเข้าแล้ว เดดไลน์คือสี่ทุ่มครึ่ง

   หนังสือเรียนถูกวางลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบมือถือออกมากดรูปกล้องแล้วสลับเป็นกล้องหน้า ผมเรียกพวกเพื่อนๆ ให้มันหันมามอง ไอ้พวกบ้ากล้องก็หันมายิ้มบ้าง ชูสองนิ้วบ้าง ผมกดถ่ายรัวๆ แล้วเลือกส่งให้พี่โชบอกว่าถึงแล้ว พอจะเก็บมือถือใส่กระเป๋า ข้อความก็ดังขึ้นมา สงสัยพี่โชจะเห็นผมเลยไม่สนใจ แต่เสียงมันยังดังรัวจนต้องเอาออกมาดู


   ‘ไอ้เด็กปีหนึ่งนั่นไปทำไม ไหนบอกมีแต่เพื่อน?’


   ผมขมวดคิ้วมองข้อความที่พี่โชส่งมา ไอ้เด็กปีหนึ่งที่ไหนวะ พอกดเข้าไปดูรูปที่ส่งให้ก็ไม่น่าจะมี ผมลองขยายภาพจนเต็มหน้าจอ เลื่อนไปมาจนเห็นหัวเล็กๆ ที่อยู่ตรงมุมเสา

   “มึงเห็นไอ้รอนมาหรือเปล่า” ผมสะกิดไอ้เค แต่มันส่ายหน้า “แน่ใจนะ”

   “เออ พวกกูนั่งตั้งนานยังไม่เห็นหัวมันเลย” ไอ้ต๋องช่วยยืนยัน

   แล้วหัวไอ้รอนมันโผล่มาในรูปได้ยังไง

   ผมค่อยๆ เหลียวซ้ายแลขวามองก็ไม่เห็นมันจริงๆ ไม่นะ ต้องไม่ใช่ ผมเดินไปสะกิดไอ้แว่นถามเรื่องไอ้รอน มันก็ส่ายหัว แม้แต่ถามคนอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกันหมด

   ชิบหายละ ไอ้รอนมาจากไหน

   “มึงเป็นอะไรวะ ทำไมทำหน้าเหมือนเห็นผี” ไอ้ทูมันพุดปุ๊บ ผมก็เด้งไปนั่งกลางวงอ่านหนังสือของเพื่อน “เป็นเหี้ยไรของมึงเนี่ยไอ้เชี่ยกลอย” คงเพราะผมกำลังเหยียบขนมมันตอนกระโดดเข้าไป ไอ้ทูเลยโวยวายลั่นตึก

   “พะ พวกมึง ดูรูปดิ่” ผมยื่นมือถือออกไปกลางวง ไอ้พวกสอดรู้ก็รีบยื่นหน้ายื่นหัวมารุมดู พวกมันทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ ผมเลยซูมรูปใหญ่เห็นชัดๆ แล้วชี้ไปที่มุมเสาในความมืดที่เห็นแค่หัวไอ้รอนโผล่มา

   “น้องรหัสมึง?” ไอ้เคมันมองหน้าผม

   “เอ่อดิ่”

   “แล้วทำไมวะ” อีเข็มมันทำหน้างงคงไม่เข้าใจ

   “ก็พวกมึงไม่เห็นมัน แล้วหัวมันมาอยู่ในรูปได้ยังไง” ผมว่า ตายังส่ายไปส่ายมา จะว่าไป นอกจากใต้ตึกที่เปิดไฟ รอบๆ ข้างก็มืดไปหมด โคตรวังเวง ถ้ามีซาวน์หมาหอนนะ ถ่ายหนังผีชัดๆ

   “เออว่ะ มีแต่หัวด้วย ตัวแม่งไม่มี” ไอ้แว่นมันบอก มือมันดันแว่นให้ขึ้นไปที่ดั้ง “ทำไมน้องรหัสมึงถึงมีแต่หัววะ” ความสงสัยของไอ้แว่นคงมีบางคนเริ่มรู้สึกเหมือนผมแล้วครับ เพราะแต่ละคนเริ่มหันไปมองทางนั้นทีทางนี้ที

   “มีแต่หัวไม่มีตัวก็ผีไงไอ้สัดแว่น ตัวท็อปซะเปล่ามึงอ่ะ ชิบหาย” ไอ้สักร่ายยาวก่อนจะทำตาโตในคำสบถสุดท้าย

   พอความคิดตรงกันความหลอนประสาทก็เกิดขึ้น ไอ้เชี่ยรอนมันตายแล้วหรือเปล่า เมื่อเช้าผมเห็นข่าวในเฟซบุ๊คแวบๆ ว่ามีนักศึกษาที่ไหนสักที่ถูกรถชน กระจกหน้ารถพุ่งตัดหัวจนขาด ชีวิตทั้งชีวิตไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจอเรื่องผีสาง และไม่เชื่อว่าจะมีจริง แต่วันนี้คงต้องกลับใจ

   ผมโดนผีหลอก!!!!!

   ไม่รู้สมองแต่ละคนจะจินตนาการไปขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ ทั้งผู้หญิงผู้ชายมันไม่สนใจหนังสือกันแล้ว เพราะพวกมันกอดกันกลมแถมก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองไปรอบๆ แล้วผมมานั่งทำไมคนเดียววะเนี่ย ไอ้ทูแม่งโดดไปกลางวงแบบไม่ชวน

   “ตะเอ๋” พอผมกำลังจะลุก กลับมีมือมาสะกิดที่ไหล่ พอหันไปเจอคนที่เอามือปิดหน้าแล้วเปิดออกพร้อมกับเสียง นั่นไม่ตกใจเท่าหน้าที่โผล่มาคือหน้าไอ้เชี่ยรอน

   “ไอ้เชี่ยรอน” มือมันไปแบบอัตโนมัติครับ ต่อยเข้าเต็มๆ โหนกแก้ม พอพวกที่นั่งกอดกันอยู่ได้ยินชื่อไอ้รอนก็แตกกระเจิงวิ่งหนีคนละทิศละทาง รวมทั้งผม แต่ทำไมผมวิ่งอยู่กับที่วะ

   “ทำร้ายผมทำไมเนี่ย” เสียงโวยวายของผีไอ้รอนผมยิ่งวิ่ง แต่มันก็ยังไม่ออกไปจากที่เดิม

   ทำไมกูวิ่งไม่ไปเนี่ย

   “ไอ้เชี่ย”

   “ตลกว่ะพี่”

   เสียงหัวเราะเยาะทำให้ผมหันไปมอง เห็นเสื้อตัวเองถูกมือผีดึงไว้ มิน่ากูถึงวิ่งไม่ไป...

   ทำไมผีมันจับเสื้อผมได้วะ

   “มึงเป็นผีแล้วทำไมแตะกูได้วะ”

   “ใครเป็นผี ผมเนี่ยนะ”

   “เออ!”

   “เฮ้ย ผมตายแล้วดิ่ ทำไมไม่เห็นรู้ตัว” ไอ้รอนมันตาโตมอง ผมก็เริ่มใจไม่ดี นึกถึงคนที่เขาเล่าว่า ตายวันแรกจะไม่รู้ตัว ต้องหลังพระสวดถึงจะรู้ ชัดเลย ไอ้เชี่ยรอน

   “ปล่อยกู ไอ้เชี่ย” ยังพยายามวิ่งแม้จะถูกแรงดึง มึงแรงควายไปไหน

   “พี่ตลกว่ะ” ไอ้รอนมันหัวเราะไปกุมท้องไป กูตลกนะเว้ย “พี่ฟังผมนะ ผมยังไม่ตาย ยังหายใจอยู่ แล้วก็ยังชอบพี่อยู่ โอเค๊” หยุดดิ้นเลยผมกับประโยคสุดท้ายนั่น

   “มึงยังไม่ตายจริงอะ”

   “จริงดิ่ ไม่เชื่อจับหน้าอกผมดู หัวใจผมมันยังเต้นอยู่เห็นป่ะ” ไอ้รอนมันดึงมือผมขึ้นไปจับหน้าอกด้านซ้าย แรงเต้นเป็นจังหวะในนั้นยืนยันว่ามันยังมีชีวิตอยู่ “พี่รู้สึกป่ะ”

   “เออ หัวใจมึงยังเต้นอยู่” ผมตอบ

   “ใช่ม่ะ แล้วก็เต้นแรงด้วย”

   “เออ เต้นแรง”

   “ที่เต้นแรงเพราะอะไรรู้ป่ะ”

   ผมส่ายหน้าก่อนไอ้รอนจะยื่นมืออีกข้างมาช้อนคางผมขึ้นมองหน้ามัน

   “เพราะพี่กำลังจับมันอยู่ไงล่ะ” แววตาที่พูดดูจริงจังจนผมต้องเอามือตบที่อกมันไปแรงๆ

   “ไอ้เชี่ย” รีบก้มหน้าหนี

   “เขินผมอะดิ่”

   “เขินเชี่ยไร มึงออกไปตามเพื่อนกูเลย”

   “เพื่อนพี่กลัวผมทำไม คิดว่าผมเป็นผีเหรอ” ผมก็พยักหน้า “ทำไมคิดว่าผมตายวะ แช่งผมเหรอ โคตรเสียใจ” น้ำเสียงมันโคตรตอแหลจนผมเตะเจาะยางไปหนึ่งดอก

   ผมยื่นมือถือที่มีรูปติดหัวให้เจ้าตัวมันดู พอเห็นมันก็ทำท่าเหมือนนึกออก

   “อ๋อ เมื่อกี้ผมเดินมาจากโกดังแล้วเห็นใต้ตึกเปิดไฟเลยลองเดินมาดู” ไอ้รอนมันว่า “แล้วเหรียญบาทมันตกอยู่หน้าเสาผมก็เลยก้มเก็บ เห็นพี่ยกมือถือถ่ายรูปเลยหันมายิ้มไง” ผมฟังมันอธิบายแล้วคิดภาพตาม อ่า ตัวมันโดนเสาบังสินะ เลยโผล่ยิ้มมาแต่หัว ไอ้เชี่ยเอ้ย ทำกูหลอน

   เกือบจะยี่สิบนาที เพื่อนๆ ผมก็ทยอยกันเดินมา หน้าตาพวกมันยังดูหลอนๆ จนผมหัวเราะ แต่ละคนทำหน้าอย่างฮา พอมาครบผมก็กะจะบอก แต่บังเอิญว่าหมาแถวคณะหอนขึ้นมา พวกมันก็เบิกตาโตกระโดดกอดกันกลม แม้แต่ผมยังแอบกลัวเลย หมาหอนทำไมเนี่ย

   “พวกพี่กลัวผมเหรอ” อยู่ๆ ไอ้รอนก็โผล่เข้ามาแล้วทุกคนก็แตกกระเจิงอีกรอบ ผมมองเพื่อนตัวเองที่วิ่งกันป่าราบอย่างเซ็งๆ ต่างจากไอ้รอนที่มันหัวเราะไม่หยุด นี่ถ้าไอ้พวกนั้นรู้ ไอ้รอนตายแน่

   สรุป ผมก็ยังไม่ได้อ่านหนังสือสักตัวเพราะมัวแต่กลัวผี จนเวลาสี่ทุ่มหลังจากพวกนั้นรู้เรื่องก็กลับมาอ่านหนังสือต่อ ผมเหลือเวลาแค่สามสิบนาทีมันจะไปอ่านทันได้ยังไง ส่วนไอ้รอนก็โดนตบหัวไปตามระเบียบ แต่มันก็ยังนั่งหน้าระรื่นอยู่ข้างผมไม่ยอมกลับ

   “มึงทำหน้าแป้นแล้นข้างเพื่อนกูทำไม” ไอ้สักคงทนไม่ไหวเลยบ่น คือผมนั่งด้านขวาไอ้รอน ไอ้สักนั่งด้านซ้าย มันคงรำคาญ

   “ไม่ทำไมครับ” ไอ้รอนมันว่า “พี่จะกลับกี่โมงอ่ะ” มันหันมาถามผมแทนจนไอ้สักทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ

   “เดี๋ยวก็กลับแล้ว”

   “กลับยังไงอ่ะ” ผมเริ่มเหล่ตามองเพราะรำคาญมัน

   “กูขับรถมาเอง”

   “โหย กะจะไปส่งสักหน่อย”

   “ไอ้รอน มึงไปเล่นไกลๆ กูไป กูอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง” ไล่ไปเถอะ มันไม่ฟังหรอก แถมยังนั่งทำตาหวานใส่ผมอีก มึงจะเชื่อมกูเหรอวะ

   ผมส่งสายตารำคาญให้มัน ก่อนมือถือผมจะดัง หน้าจอโชว์ชื่อมายเลิฟ ก็พี่โชนั่นแหละครับ ไอ้รอนเริ่มหน้าบูดตอนผมกดรับ
 
   (เลยสี่ทุ่มครึ่งแล้วทำไมยังไม่กลับ) เสียงดุมาเชียวนะ

   “ครับๆ กำลังจะกลับ” ปากก็ตอบ มือก็เริ่มเก็บหนังสือใส่กระเป๋า

   (แล้วไอ้เด็กนั่นไปทำไม ไหนบอกมีแค่เพื่อน ถามไปก็ไม่ยอมตอบ)

   “มันมาทำงานของมัน ไม่เกี่ยวกันเลย” ผมรีบอธิบายก่อนไอ้น้องรหัสผมจะทำให้เสียเรื่องเพราะมันพูดแทรก

   “พี่จะกลับแล้วเหรอ งั้นผมก็ต้องกลับด้วยอ่ะดิ่” ไอ้รอนยักคิ้วให้ ผมเลยถีบมันไปทีมันก็หัวเราะร่า

   (ไอ้เชี่ยนั่นอยู่ด้วยเหรอ) นั่นไง ระเบิดลง

   “อื่อ”

   (ให้เวลาสามสิบนาที ถ้ายังไม่ถึงห้องรู้นะว่าจะโดนอะไร) ขู่แบบนี้คิดว่าจะกลัว?

   “ยี่สิบนาทีก็ถึง แค่นี้นะ จุ๊บๆ”

   ผมรีบกดวางแล้วสะพายเป้ขึ้นมา ไม่วายไอ้เชี่ยรอนถามขึ้นมาอีก

   “ทำไมพี่ต้องส่งจุ๊บๆ ด้วยอ่ะ ทีผมโทรหา พี่ยังไม่เห็นจะจุ๊บๆ แบบนี้” มันโวยวายเหมือนเด็ก

   “ไอ้รอน มึงโตเป็นควายยังงอแงอีก” ผมทำหน้าเซ็ง

   “พี่จุ๊บๆ ผมมั่งดิ่” ปากแดงๆ นั่นยื่นเหมือนเป็ด จนหนึ่งในกลุ่มสาววายต้องตะโกนจนทุกคนหัวเราะ ยกเว้นไอ้รอน รวมถึงผมก็ด้วย แม่ง

   “มึงเป็นผัวมันหรือไงฮะไอ้รอน มันก็จุ๊บๆ กับผัวของมัน มึงไปยุ่งทำไม” สาวหน้าตาธรรมดาชื่อแป้น หรือผมเรียกอีแป้น เลขาของอีเข็ม

   “โห” ไอ้รอนหน้างอไปอีก ผมที่ดูเวลาแล้วน่าจะต้องรีบไป ไม่งั้นไม่อยากจะคิดถึงสภาพตัวเอง พรุ่งนี้ยังมีสอบอีก ก่อนจะสะดุดเสียงกระซิบไอ้รอนจนแทบตกบันได “งั้นพี่ก็ให้ผมเป็นผัวบ้างดิ่ จะได้จุ๊บๆ ผมได้” พูดจบมันก็รีบวิ่งหนีฝ่าเท้าผมที่เตรียมยกใส่


   แค่คนเดียวไอ้กลอยก็จะตายห่าอยู่แล้ว ไม่เอาแล้วโว้ย


   สรุปของสรุปอีกที ผมกลับก่อนสามสิบนาที พี่โชเลยได้แต่เหล่ตามอง มือยังคงวาดอะไรสักอย่างอยู่ที่โต๊ะทำงาน ผมเดินเอานมอุ่นๆ มาวางให้ก่อนจะเข้านอนไปก่อน จนมาสะดุ้งเมื่อที่ว่างข้างๆ ยุบตัว พี่โชสอดตัวลงนอนและไม่ลืมดึงผมเข้าไปกอดเหมือนกับทุกวัน

   “ฝันดีนะ” ผมบอกแม้จะง่วง

   “ครับ”

        ความอุ่นทาบลงมาที่หน้าผาก ก่อนพี่โชจะกระชับอ้อมแขนแล้วพากันจมลงไปในห่วงแห่งความฝันด้วยกัน



....TBC




ถ้าไม่มีอะไรก็อัพวนไปค่ะ จุ๊บๆ  :mew1:

**ขอลบข้อความในส่วนตัวเลือกก่อนนะคะ เพราะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ เรื่องนี้ยืนยันแฮปปี้ค่ะ แต่ดราม่านั้นจะมาเร็วๆ นี้จริงๆ**



เพจที่ทำไม่ค่อยเป็น อิอิ ฝากด้วยค่าาา

>>>  เพจแบบเบาๆ  (https://www.facebook.com/aiaeaaiaea/) <<<
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 04-08-2016 17:50:29
ดราม่าขอไม่เอาหนักๆๆนะ เอาพอเป็นกระไสพอ :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 04-08-2016 18:47:24
จากชื่อเรื่อง...ถ้าไม่แฮปปี้ นี้จะเกลียดพี่โชนะ
คือยังไง...ครอบครัวยอมรับ แถมเข้ามาจีบน้องเองอีก ทั้งที่น้องก็มีแฟนเป็นผู้หญิงมา
สำหรับเรา...ถ้าเลือกเข้าไปจีบไปทำให้รักกัน ก็ต้องหนักแน่นและเชื่อใจพอจะผ่านเรื่องราวต่างๆ ไปด้วยกัน ไม่อย่างนั้น อย่าเลือกที่จะเข้าไปในชีวิตเขาเลยตั้งแต่แรก
เพราะพี่โชยึดน้องมาอยู่ด้วยเองนะ ส่วนกลอย...นี่ว่าเขาเป็นเด็กปกติที่ดูแลคนที่รักได้ดี เลือกแล้วก็คือเลือก ดูยากที่จะเปลี่ยนใจได้
มันใช่ที่ต่างต้องมีทางของตัวเองในวัยทำงาน แต่ถ้ามีความรักกันมากพอ เราจะจัดการชีวิตได้ดี
เพราะการเติบโต...ไม่ใช่แค่เรียนจบแล้วมีงานการที่ดี แต่ควรเป็นการจัดการชีวิตให้สมดุลทุกด้าน

ปล.นี่อินไปมั้ย...ทำไมต้องปรี๊ดกับช้อยส์ ^^"
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-08-2016 19:04:07
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 04-08-2016 19:13:14
เด่วนะ ช๊อคเเพ๊พ นี้ไม่ใช่นิยายโลกสวย ความรักก่อเกิดฟุ้งฟิ้งหรอ
คือ พี่โชออกตัวเเรงตั้งเเต่เเรก เข้ามาหากลอย พี่โชสู้ทุกทางเพื่อให้ได้กลอย ปรับเปลี่ยนนิสัยเพื่อใคร ก็เพื่อกลอย ทำทุกอย่างเพื่อกลอยทั้งนั้น เเละคิดว่าคงไม่มีอะไรมาสั่นคลอน พี่โชกับกลอยได้ กลอยเองก็กว่าจะเปิดใจยอมรับ ทั้งๆที่คิดเเล้วว่า เลืกคนที่ดีที่สุดเเท้ๆ เชื่อไหมคนรักกัน เค้าจะทำทุกๆทางเพื่อที่จะไม่ให้เลิกกัน ถึงต่อให้กลอยทะเลาะกับพี่โชเเค่ไหน จะเลิกกันไปกี่หน เชื่อเหอะเค้าต้องกลับมารักกัน อย่าจบแบบดราม่าได้ไหม ทำใจเสียน้ำตาไม่ไหว เศร้าเลย จะให้กลอยมีคนเเฟนใหม่หรอ ทิ้งพี่โชไว้หรอ ทำไมล่ะ ไหนบอกจะอยู่ข้างพี่โช ทำให้พี่โชยิ้มทุกๆวัน ถ้านักเขียนบอก จะดราม่าขอแบบมีเหตุเเละผลของมันด้วยนะค่ะ ไม่ยากจบแบบค้างคา เเละหน่วงจนปวดไส้ติ่ง เคารพการตัดสินใจของนักเขียนนะ
 :katai1:
ขออภัย พิมพ์ในโทสับ อาจตกๆหล่นๆ อินจัด อยากเม้น เปิดคอมไม่ทันใจ
ปวดไส้ติ่งกันเป็นเดือนเเน่ๆ  :katai1:  :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 04-08-2016 19:56:07
ถ้าไม่จบแบบแฮปปี้ คนเขียนระวังบ้านบึ้ม  o3
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-08-2016 20:58:59
เดี๋ยวๆๆๆ อะไรคือมาม่ากำลังมากันคะ

ถ้าจบแยกทางนี้อาจมีสาดระเบิดใส่บ้านคนแต่งแน่
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 04-08-2016 21:00:38
ดราม่าจะมาแล้วหรอ พร้อมล่ะ จัดมาเลย แล้วจัดหวานมาเลยน่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 04-08-2016 21:11:00
 :mew1:ช
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-08-2016 21:15:30
หัวใจไม่แข็งแรงรับไม่ได้กับมาม่าที่กำลังจะมา :ling3: :ling3: :ling3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 04-08-2016 21:31:02
อ่านไประแวงไป กลัวมาม่าจะมาไม่รู้ตัว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 04-08-2016 23:11:42
Just you and I : 26



        การที่เราได้เข้ามานั่งอ่านข้อสอบถือว่ามีบุญมากพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ข้อความที่เห็นกลายเป็นภาษาของเทพที่คนธรรมดาอย่างผมแปลไม่ออก มันก็ภาษาไทยนั่นแหละครับ แต่ทำไมถึงอ่านไม่เข้าใจสักที เพราะข้อสอบมันมั่วหรือตัวผมรวนวะ

   สอบข้อเขียนสองข้อกับสองชั่วโมง ตอนนี้ปาเข้าไปชั่วโมงกว่าผมยังได้ข้อเดียวอยู่เลย แถมยังตอบวนไปวนมาอีก คือรู้แค่เวิร์ดต้องคำนี้แต่อธิบายไม่ได้ มันเลยวนอยู่ในอ่าง สุดท้ายเสียงออดหมดเวลาก็ดัง ผมวางทุกอย่างลงแล้วนั่งปลงอยู่กับที่สักพักจนโดนอาจารย์คุมสอบแตะเรียก ยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้พร้อมกับลุกออกมา

   นี่คือวิชาสุดท้ายก่อนจะตายวายชีวา ไอ้กลอยทำไม่ได้ครับ

   “พากูไปโยนให้อีแร้งทึ้งกูเลย” ไอ้ต๋องโวยวายใต้ตึก มันทึ้งหัวเน่าๆ ของตัวเองไปมาจนรุ่นพี่รุ่นน้องต่างพากันมอง

   “เอาน่ามึง วิชาสุดท้ายแล้ว” ไอ้ทูตบบ่าปลอบใจ

   “ก็มึงทำได้นี่หว่า” ไอ้ต๋องยังหน้างอ

   “เรียกว่าได้ทำมากกว่าว่ะ” อันนี้เห็นด้วยกับไอ้ทู “ไอ้เชี่ยกลอยตาลอยๆ นะมึง วันนี้มายังไงวะ” ผมได้ยินเสียงเรียกแว่วๆ ก่อนสะดุ้งแรงสะกิดจากเพื่อนตัวเอง

   “หา?”

   “มึงเบลอนะเนี่ย ทำยังไงมาวะ”

   “กูนั่งบีทีเอสมา”

   วันนี้ผมไม่ได้เอารถมาครับ เพราะสอบเช้าแถมยังต้องอ่านหนังสือเพิ่ม เลยเลือกจะนั่งรถประจำทางที่สามารถอ่านหนังสือได้ แต่ก็คิดผิด คนโคตรเยอะจนต้องยืนเบียดแน่น

   “งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง” ไอ้ทูอาสาผมก็พยักหน้าไป ก่อนจะนึกได้

   “มึงขับรถมาเองเหรอ” ต้องถามครับ เพราะตอนนี้พี่เบมันรับส่งตลอด แล้วก็เริ่มใช้รถสีดำของตัวเองแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจทำไมถึงใช้รถสีส้มในช่วงก่อนหน้านี้

   “เปล่า พี่เบมารับ”

   “งั้นเดี๋ยวกูกลับเอง มึงไปเถอะ”

   “แต่มึงไหวเหรอวะ”

   “เออ เดี๋ยวกูจะไปซื้อลูกชิ้นด้วย อยากกิน เผื่อจะได้ตาสว่างบ้าง”

   ผมโบกมือลาเพื่อนตัวเองก่อนเดินหน้ามึนๆ ไปหลังมหาลัย แต่พอเดินไปไม่ไกล ผมก็เห็นหมาแม่ลูกครับ แม่สีครีมกับลูกอีกสองตัวกำลังวิ่งตามผู้ชายคนหนึ่งที่สวมชุดนักศึกษาถูกระเบียบไปมาอย่างคุ้นเคย นี่แม่สีครีมนอกใจผมเหรอเนี่ย

   แม้จะน้อยใจนิดๆ แต่ก็เดินเข้าไปหา สีนวลลูกหมาเหลือบตามามองผมก่อนจะกระดิกหางรัวๆ พร้อมกับวิ่งเข้ามาหา ผมย่อตัวนั่งแล้วยื่นมือให้มันงับเล่น มืออีกข้างก็ลูบหัวลูบตัวมันอย่างคิดถึง ดูอ้วนขึ้นหรือเปล่าวะ สงสัยแม่มันต้องพาไปกินข้าวแน่

   “อ่าว” เสียงที่ดังขึ้นด้านหน้าทำให้ผมเงยหน้าจากเจ้าสีนวล


   เพิ่งเข้าใจทฤษฎีโลกกลมก็ตอนนี้


   “อ่าว”

   ผู้ชายที่สวมชุดนักศึกษาถูกระเบียบเป๊ะมองผมอย่างตกใจ ดวงตาเรียวนั่นเบิกกว้างก่อนเผยรอยยิ้มที่มีลักยิ้มอยู่ข้างแก้ม

   “เจอกันอีกแล้ว” วันนี้เสียงนุ่มทุ้ม แต่วันนั้นทั้งเสียงและหน้าตาเหมือนจะกินหัวผมลงท้อง

   “นะ นั่นสิ แหะๆ” ผมหัวเราะแห้งๆ “นายเรียนที่นี่เหรอ นึกว่าเรียนที่เชียงใหม่” ไม่คิดว่าจะได้เจอด้วยซ้ำ

   “อืม นายก็เรียนที่นี่เหรอ แต่ทำไมไม่เคยเห็นหน้า เรียนคณะอะไร” ถามมาเป็นชุด
 
   “คณะศิลปกรรม นายล่ะ” เขามาดี เราก็ดีตอบ

   “บริหารน่ะ ปีสามแล้ว” อ่าว รุ่นพี่นี่หว่า

   “อ่อ ผมปีสอง” รุ่นพี่บริหารยิ้มโชว์ลักยิ้มแก้มข้างเดียวอย่างเท่หลังจากได้ยินคำตอบ คงคิดละสิว่าไอ้เด็กนี่ปีนเกลียว จากนั้นเราก็เงียบใส่กันจนผมขอตัวไปหลังมอ “งั้นผมไปก่อนนะครับ” เกือบขึ้นมึงกูใส่แล้ว แต่พอผมเดินผ่านก็โดนฝ่ามือใหญ่คว้าหมับเข้าที่แขน

   ถ้าผมสะบัดแขนออกมันจะน่าเกียจเหมือนตอนที่เจอบนดอยที่เชียงใหม่หรือเปล่า

   “เอ่อ พี่ปล่อยแขนผมได้หรือเปล่า” ใจจริงอยากสะบัดออกด้วยซ้ำ แต่ผมเป็นคนมีมารยาท พี่บริหารละสายตาจากหน้าไปที่แขนผมแทน

   “อ่อ โทษที” รอยยิ้มเท่โปรยมาให้อีกรอบ “แล้วจะไปไหนล่ะ สอบเสร็จแล้วเหรอ”

   “ครับ เพิ่งเสร็จเมื่อกี้ ตอนนี้เลยหิวว่าจะไปหาอะไรกินหลังมอครับ” ที่จริงออร่าความเป็นมิตรก็มีนะ แต่ผมรู้สึกแปลกๆ กับสายตาที่มองมา แม้มันจะไม่ดุเหมือนพี่โชตอนที่เจอผมครั้งแรก แต่มันก็ดูไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ เห็นแบบนี้ไอ้กลอยมีเซ้นนะครับ

   “พี่ก็สอบเสร็จแล้ว หิวเหมือนกัน งั้นเดี๋ยวพี่ไปด้วย” ท่าทางกระตือรือร้นทำให้ผมไม่กล้าปฏิเสธเลยพยักหน้าส่งๆ ไป พี่คนนี้ดูคล้ายไอ้รอนเหมือนกันนะ “ที่เชียงใหม่วันนั้น...ไปกับแฟนจริงๆ หรือหลอกพี่กันแน่”

   “ครับ?” เหมือนผมจะเบลอได้ยินคำถาม แต่พอเห็นสีหน้าจริงจังที่มองไปตรงหน้าก็เริ่มกลืนน้ำลาย เริ่มเหมือนพี่โชละ “ก็ทั้งคู่นั่นแหละครับ” ผมว่าควรทำให้มันจบก่อนจะเกิดเรื่องวุ่นวาย แค่นี้ผมก็ปวดหัวจะแย่

   “อ่า แบบนี้นี่เอง” ไม่รู้พี่เขาจะเข้าใจยังไง แต่คงจะไม่มาวุ่นวายกับผมอีก




   ที่ไหน!!!



   เพราะตอนนี้ผมขึ้นมานั่งบนรถของพี่บริหาร (ยังไม่รู้ชื่อ) หรูไม่แพ้รถของพี่โชแต่ก็ไม่โดดเด่นเหมือนสปอร์ตคาร์คันงาม ที่จริงผมไม่อยากขึ้นมาหรอกนะครับ แต่โดนบังคับกลายๆ ...เหมือนกับที่ผมบอกมั้ยว่าพี่คนนี้เริ่มเหมือนพี่โช

   “พี่เปิดแอร์เย็นไปหรือเปล่า” เสียงทุ้มดังขึ้น มือขาวยื่นไปปรับอุณหภูมิให้ลดลง พี่คนนี้คงชอบอยู่ห้องที่มันเย็นจับขั้วหัวใจ ขนาดผมนั่งแปบเดียวยังสั่นขนาดนี้ “หนาวขนาดนั้น” พูดแล้วก็ขำผมด้วย

   “ชาติที่แล้วพี่เป็นนกเพนกวินหรือเปล่าวะ หนาวขนาดนี้อยู่ได้ยังไง” ลูบแขนที่ขนลุกไปมา

   “ฮ่าๆ”

   “หัวเราะที่ผมหนาวเนี่ยนะ”

   “เปล่าๆ แค่หน้าตาเราตลกดี” ขอโทษที่ผมเกิดมาแล้วหน้าตาตลก มีแต่คนชมว่าไอ้กลอยหล่อทั้งนั้น พอเจอบอกหน้าตลกก็เสียเซลฟ์ “ว่าแต่ น้องชื่ออะไร” นั่นไง กว่าจะถาม ผมไม่ยอมถามก่อนหรอก ก็ผมไม่ได้อยากรู้จัก

   “ชื่อกลอยฮะ” แล้วพี่บริหารก็หัวเราะออกมาจนผมทำหน้าบึ้ง “ชื่อผมมันตลกขนาดนั้น?”

   “โทษทีๆ พอดีไม่เคยได้ยินผู้ชายชื่อกลอยน่ะ ก็เลยแปลกใจ”

   “ผมก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อตัวเองนี่แหละครับ”

   “พี่ชื่อฟลอยด์ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับน้องกลอย” ผมยิ้มตอบรอยยิ้มเท่นั่นก่อนจะหันหน้าหนีออกนอกกระจกเมื่อสบตาเป็นประกาย


   เมื่อไหร่จะถึงสักทีวะ


   เสียงโทรศัพท์ของเจ้าของรถดัง ผมเหลือบตามองนิดๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะไม่ใช่เรื่องของผม ได้ยินพี่ฟลอยด์ตอบครับๆ แล้วก็วาง

   “พอดีพี่ต้องเอาของท้ายรถไปให้พี่สาวก่อน ขอวนไปแปบหนึ่งเดี๋ยวขับไปส่งถึงที่เลย” ตอนแรกผมกะจะขอลงแล้วจะนั่งรถกลับเอง แต่ดูเหมือนพี่เขาจะเป็นคนเอาแต่ใจนิดๆ เพราะพี่แกไม่ฟังคำตอบอะไรของผมเลย ก็เลยเชิญ ตามสบายครับพี่ครับ

   พี่ฟลอยด์ดูอารมณ์ดีเพราะร้องเพลงตามแผ่นที่เปิดอยู่ ผมแอบสังเกตหน้าตาที่ดูดีไร้ที่ติ ผิวขาวเนียน ตาเรียวแหลม จมูกโด่ง ปากสีแดงนิดๆ ผมสีดำสนิทยิ่งทำให้ผิวหน้าขาวจนผู้หญิงต้องอิจฉา

   “จ้องพี่แบบนั้น ชอบพี่ล่ะสิ” หน้าหล่อหันกลับมายิ้มให้ผมจนผมต้องรีบเสหน้าออกนอกหน้าต่างเหมือนเดิม     

   “หลงตัวเองว่ะ” ผมว่า พี่ฟลอยด์ขำนิดๆ จนผมเบ้ปาก

   ทนความติดขัดบนท้องถนนอยู่นานรถก็เข้าเทียบจอดที่ลานจอดหน้าตึกสูง ผมเงยหน้ามองความสูงจนปวดตา บริษัทอะไรเนี่ย ทำไมตึกสูงขนาดนี้

   “พี่สาวพี่ทำงานที่นี่เหรอ” ผมถามอย่างสนใจ

   “อืม” พี่ฟลอยด์เปิดประตูรถลงไป ผมก็รีบลงตาม “จะเข้าไปด้วยกันหรือรอตรงนี้?”

   “รอแถวนี้แหละครับ” ผมไม่ค่อยถูกกับบริษัทใหญ่ๆ แบบนี้หรอก พี่ฟลอยด์พยักหน้าก่อนเดินเข้าตัวตึกไป ยามที่อยู่หน้าประตูโค้งศีรษะให้ ที่นี่เขาคงเทรนพนักงานดี ขนาดคนทั่วไปเข้าไปยังต้องทำความเคารพ

   ผมเดินเอื่อยๆ แถวสวนข้างตึกครับ แม้จะอยู่ใจกลางเมืองแต่ก็มีสวนดอกไม้ดูร่มรื่นสบายตา เหมาะแก่การพักผ่อน แต่ถ้าจะให้ดีควรมีหลังคาด้วย แดดแรงๆ นี่คงเหงื่อแตกเหมือนอาบน้ำแน่

   แล้วผมก็เพิ่งสังเกตว่ารถพี่ฟลอยด์มาจอดที่ลานสำหรับผู้บริหาร สงสัยจะเส้นใหญ่พอสมควร ไม่งั้นคงถูกยามไล่ไปแล้ว หือ...ผู้หญิงคนนั้นสวยจัง

   ที่หน้าตึกผมเห็นสาวสวยแต่งตัวหรูตั้งแต่หัวจรดเท้า น่าจะแบรนด์เนมทั้งตัว ใบหน้าสวยแต่งแต้มจนไม่รู้ว่าถ้าขูดออกจะสวยแบบนี้อยู่หรือเปล่า ผมขำกับตัวเองเมื่อนึกถึงเว็บที่เทียบก่อนและหลังแต่งหน้า ผู้หญิงอยากสวยก็ต้องอดทนนะครับ

   แต่ความตลกขบขันก็ค่อยๆ เลือนหายเมื่อผมเห็นผู้ชายหน้าตาคุ้นๆ เดินออกจากตึกมาด้วย ผู้หญิงสวยที่ผมเห็นตอนแรกรีบเข้าไปคล้องแขน ทั้งคู่ยิ้มแย้มให้กันดูมีความสุข ผมมองคู่หนุ่มสาวที่สอดตัวเข้าไปนั่งในรถก่อนรถคันสวยจะพุ่งทยายออกไป

   “มองอะไร” แรงสะกิดกับเสียงเรียกเบาๆ ทำให้ต้องหันไปมอง พี่ฟลอยด์ยืนยิ้มให้นิดๆ ก่อนมองตามทางที่ผมมอง

   “เปล่า พี่ฝากของให้พี่สาวแล้วเหรอ” กระพริบตาถี่ๆ แล้วปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติที่สุด แม้ในใจผมจะวุ่นวายก็ตาม

   “ครับ ไปกันเลยมั้ย เดี๋ยวไปส่งถึงห้องเลย” คำพูดติดตลกทำให้ผมยิ้มตาม

   “เอาจริง?”

   “ถึงเตียงเลยยังได้” พูดแบบนี้ไอ้กลอยไปเองยังดีกว่า เชี่ย ดูเหมือนจะพูดให้ตลก แต่เซ้นบางอย่างมันเหมือนพูดจริง “พี่พูดเล่น”

   “โหพี่ ผมตกใจหมด” แม้จะดูขำฝืดๆ ไปหน่อยมันก็ยังดี

   “แต่ถ้ายอมพี่ก็ไม่ขัดนะ” สายตาแบบนี้อีกแล้ว ไอ้มีประกายแปลกๆ

   “พี่ชอบของแปลกเหรอวะ” พูดให้มันติดตลกเข้าไว้ข่มความกลัวในใจที่มันตีตื้น ผมว่าไอ้รอนมันดูเด็กไปเลยเมื่อเทียบกับพี่ฟลอยด์ แม้น้องรหัสผมมันจะวอแวตามติดจนน่ารำคาญ แต่มันดูไม่กดดันแบบนี้

   “ชอบ” คำตอบสั้นๆ โดยไม่มีเสียงขำเล็ดลอดยิ่งตอกย้ำทำให้ผมกลัว

   “พี่ทำให้ผมกลัวนะ”

   “พอดีพี่เป็นคนตรงน่ะ ชอบก็บอกชอบ”

   “เอ่อ...” ไปไม่เป็นอีกแล้วไอ้กลอย วันนี้ผมสตั้นกับพี่ฟลอยด์ไปหลายตลบจนแทบหาทางกลับไม่เจอ เป็นคนที่รุกได้น่ากลัว กดดันได้รุนแรงจริงๆ “แต่ผมมีแฟนแล้วนะครับ”

   พี่ฟลอยด์มองผมนิดๆ ก่อนเบือนหน้ามองถนนตามเดิมโดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ต่อ เหมือนมันจะจบลงแล้ว

   รถคันสวยจอดหน้าคอนโดที่ผมพัก พี่ฟลอยด์ยิ้มให้ผมโดยไม่บอกลาใดๆ ก็ขับออกไป หรือพี่เขาจะโกรธผมวะ แต่จะโกรธเรื่องอะไร ในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรให้ คิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา แต่พอก้าวขาแค่ก้าวเดียว แขนผมก็ถูกคว้าไปจนตกใจเกือบปล่อยหมัดตรง

   “ใครมาส่ง” เสียงนิ่งๆ ยังไม่เท่าดวงตาดุที่จ้องมา พี่โชในโหมดแบบนี้ควรตอบดีๆ ถ้าไม่อยากถูกด่า

   “พี่ที่คณะ” รุ่นพี่จริงแม้ไม่ใช่คณะผมก็เถอะ แต่ดูพี่โชไม่เชื่อ ตายังเหมือนลอร์ดวอเดอร์มอร์อยู่เลย “จริงๆ” พยายามทำให้พี่โชเย็นลงแต่ดูไม่ค่อยเป็นผล เพราะตอนนี้ผมถูกดึงให้เข้าตึก พอถึงห้องก็ถูกจ้องจนร่างแทบทะลุ

   “บอกมา ไอ้นั่นเป็นใคร” ที่รีบมาเพราะอยากจะคาดคั้นนี่เอง พี่โชกอดอกมองอย่างหาเรื่องสุดๆ

   “รุ่นพี่ที่คณะจริงๆ พี่ไม่เชื่อผมเหรอ”

   “พี่เชื่อกลอย แต่ไม่เชื่อคนอื่น” เจตนาชัดเจนจนผมเม้มปากเป็นเส้นตรง

   “ที่จริงเป็นพี่ที่เพิ่งรู้จักกัน” ผมเลือกจะพูดตามความจริงเพราะคำว่าเชื่อใจ พอเห็นพี่โชเตรียมอ้าปากด่า ผมก็รีบเอามือปิดปาก “ฟังก๊อน พี่เขาแค่อาสามาส่งเพราะทางเดียวกันแค่นั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่” พี่โชยังดูไม่เชื่อผมเลยต้องย้ำจริงๆ เสียงสูงจนแทบทะลุเพดาน

   “ให้มันจริงแบบนั้นเถอะ” สุดท้ายแววตาก็เริ่มอ่อนลงจนต้องถอนหายใจ

   “พี่เถอะ วันนี้ไปเที่ยวกับใครมาหรือเปล่า” ภาพที่เห็นมันทำให้อดไม่ได้ที่จะถาม พี่โชเลิกคิ้วมองก่อนส่ายหน้า

   “พี่ไปทำงานไง” คำตอบที่ออกมาทำให้ผมยื่นหน้าไปจ้องซะชิดกับตาคู่ดุนั่น “อะไร”

   “โกหกผมป่ะ”

   “ไม่เชื่อใจพี่เหรอ หืม” พี่โชกอดเอวผมแล้วออกแรงรัดซะจนแนบสนิทไร้ช่องว่างใดๆ “ว่าไง”

   “เชื่อใจสิ” ผมตอบพลางหนีการรุกรานที่เริ่มเยอะ จากแก้มมาที่ปาก ด้านล่างก็มือลูบไปมาให้รู้สึกวูบวาบ “แต่พี่ห้ามทำร้ายความเชื่อใจผมนะ” พี่โชกำลังใช้ความเชื่อใจของผมผิดบังอะไรอยู่แน่

   “ครับ”

   จูบที่แสนวาบหวามจนเผลอไผลตามได้อย่างไม่ยาก ผมพยายามไม่สนใจกลิ่นน้ำหอมที่ไม่ใช่ของพี่โชแน่ที่มันติดมากับกลิ่นกาย มันฉุนซะจนผมต้องกลั้นหายใจ พี่คงไม่ทำร้าย ทำลายความเชื่อใจของผม...ใช่มั้ย



   ค่ำคืนที่มืดมิด คนข้างผมหลับไปแล้ว ใบหน้าหล่อซูบผอมเพราะทำงานหนัก พี่โชดูเหนื่อยกับงานมากแต่ผมช่วยอะไรไม่ได้ ผมยื่นมือไล้ใบหน้ายามหลับสนิทของพี่โช จากดวงตาที่ซ่อนนัยน์ตาดุแต่ก็มองแต่ผมเพียงคนเดียว ไล่มาถึงปลายจมูกโด่งที่มักจะหอมแก้มผมจนแทบช้ำ และปากอวบที่มันทำให้ผมวูบวาบทุกทีได้ได้สัมผัส


   ผมรักพี่นะ



   แสงและเสียงที่ดังขึ้นบนโต๊ะหัวเตียง ผมยืดตัวข้ามพี่โชไปหยิบโทรศัพท์พี่โชมาดู ดึกดื่นขนาดนี้ใครกันที่ส่งข้อความรัวๆ มาให้ หน้าจอที่ล็อกไว้แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะรหัสคือวันเกิดของผม พอเปิดได้ข้อความไลน์ที่ผมเห็นมันทำให้ผมนั่งนิ่ง



   ‘วันนี้ขอบคุณมากนะคะ พรุ่งนี้เจอกัน แต่เฟิร์นขอเป็นคนเลี้ยงข้าวกลางวันบ้างนะคะ นอนหลับฝันดี แต่อย่าลืมฝันถึงเฟิร์นบ้าง เพราะเฟิร์นจะฝันถึงพี่โช เราจะได้เจอกันในฝัน’ ผมอ่านข้อความเหล่านั้นซ้ำๆ จนจำทุกตัวอักษร



   ...ผมเชื่อใจพี่นะ



....TBC


เจอกันตอนหน้าค่าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 04-08-2016 23:17:07
ก็เข้าใจนะว่าพี่โชเป็นโรคหวงของรักใครก็รักมาก
แต่จะมากไปมั้ย กลายเป็นก้าวก่ายกันมากไปรึป่าว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 04-08-2016 23:27:23
ดราม่ามาตอน 23.27
เเล้วเลาจะนอนหลับไหม T____T
ปวดไส้ติ่งก่อนนอนกันเลยทีเดียว พี่โช อย่าบอกนะสาวคนนั้น รุ้จักฟรอยไปอีก พี่โช ไม่ชอบให้ใครถูกเนื้อต้องตัว พี่โชที่เเสนหยิ่ง เย็นชา คนเดิมไปไหน ทำไมปล่อยเนื้อปล่อยตัว ให้ความหวังคนอื่นป่ะ เกลียดพี่โชเเล้วนะ เด่วจะลักพาตัวกลอยหนีไปอยู่ต่างจังหวัดสัก 4 ปี เอาให้คลั่งเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-08-2016 23:54:28
กลิ่นดราม่ามาแรงมากกกกก :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 05-08-2016 00:49:58
แววดราม่าคงจะแรงน่าดูเลย เบาๆนะสงสารกลอยใจ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Red_sister ที่ 05-08-2016 00:56:07
Whatttttttttttt!!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 05-08-2016 01:10:16
ฟลอยมาแบบไม่ธรรมดานะ มีอะไรแอบแฝงรึป่าว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 05-08-2016 03:44:10
หนุ่มเชียงใหม่มาแว้ววววว มาม่าขอไม่อืดเกินไปนะคะ สงสารกลอย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-08-2016 05:42:20
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-08-2016 12:00:09
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 05-08-2016 12:39:06
กลิ่นมาม่าต้มฉุนมาเฉียว แต่อย่าให้ฉุนเกินไปนะ เดี๋ยวมันจะทานไม่อะอร่อย แต่ที่ชอบที่สุดฟลอยสุดหล่อหนุ่มเชียงใหม่มาแว้ว นี่แหละคนนี้แหนะคู่ฟัดของโชที่สูสีที่สุด  :katai3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 05-08-2016 12:58:29
อิพี่โช!!
อะไรยังไง!
ฮือออ สงสารน้องกลอย  :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-08-2016 13:36:36
จะไม่ทำร้ายกันใช่ไหม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 05-08-2016 14:24:55
"จะไม่ทำร้ายความเชื่อใจกันใช่ไหม"
คือคำนี้มันหน่วง
หวังว่าพี่โชจะยังเหมือนเดิมนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-08-2016 14:54:48
คาดว่าแม่สาวสวยกับพี่ฝอยขัดหม้อน่าจะรู้กัน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 05-08-2016 14:58:38
 :jul3:       
คาดว่าแม่สาวสวยกับพี่ฝอยขัดหม้อน่าจะรู้กัน

เรียกฝอยขัดหม้อ 55555555555

อย่าหน่วงนานนะ น้ำตาจะหมดตัว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: CIndY59 ที่ 05-08-2016 15:10:41
เฟริ์นนี่พี่สาวของฟลอยด์ใช่ไหมเนี่ยยยยย...

พี่โชช่วงนี้ค่าตัวแพง ออกน้อยพอๆกับสีนวล *หลบตีนพี่โชแปป*
น้องกลอยสู้ๆน้าาาาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-08-2016 16:56:03
ไม่เอามาม่าได้มั้ยยยยยยย :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 05-08-2016 17:01:22
สนุกมากเลยค่าาา ชอบมากกก
คนเขียนอัพเร็วสุดๆ
ปล.ตอนล่าสุดขอดองก่อนนะคะ กลัวมาม่า  :hao5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 05-08-2016 19:20:18
Just you and I : 27



        แม้จะสอบเสร็จหมดทุกตัวแต่ผมก็ยังต้องมา ที่จริงต้องบอกว่าถูกบังคับให้มามากกว่า เพราะอีกไม่นานจะมีรุ่นน้องเฟรชชี่เข้าใหม่ แบบนั้นปีสองที่กำลังจะขึ้นปีสามอย่างพวกผมจึงต้องนัดเด็กๆ มาประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อรอรับเด็กปีหนึ่งที่จะมาในอีกไม่กี่เดือน

   พวกแก่ๆ อย่างปีสามถ้าไม่ใช่พวกเฮดหรือพวกกิจกรรมก็ไม่ค่อยสนใจมากหรอกครับ อย่างพวกผมที่มานั่งง่วงฟังไอ้ประธานปีสามที่อยู่เอกอื่นนัดแนะทั้งเข้าค่าย ทั้งการรับน้องยังไงให้สร้างสรรค์ คือผมอะไรก็ได้ไง ขอแค่เด็กสายผมเป็นผู้หญิงน่ารักๆ บ้าง ไม่เอาแบบพี่รหัสผมที่ห้าวกว่าผมอีกนั่นนะ

   ส่วนเรื่องพี่โช ช่วงนี้เราแทบไม่ได้พูดกันเลย อย่าว่าแต่พูด แม้แต่หน้ายังไม่ค่อยได้เจอ โปรเจคใหญ่ที่ว่าคือการสร้างห้างสรรพสินค้าใหญ่ และมันเริ่มมีปัญหามากมายจนทำให้พี่โชยุ่ง แทบไม่มีเวลากลับมาที่ห้อง หรือจะมาก็ตอนดึกๆ ซึ่งผมหลับไปแล้ว พอตื่นอีกทีที่ข้างๆ ก็ว่าง ทุกอย่างวนเวียนแบบนี้มาเกือบจะสองอาทิตย์แล้วครับ

   เรื่องผู้หญิงคนที่ฝากกลิ่นน้ำหอมติดเสื้อพี่โชมา ผมแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอถาม พี่โชก็บอกว่าเป็นลูกสาวเจ้าของห้างซึ่งดูแลโปรเจคนี้ร่วมกัน ผมก็เออออไปเพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาตามมา

   “เป็นไรวะ ช่วงนี้มึงดูแปลกๆ” ไอ้ทูสะกิดถามผม ตามันยังมองไอ้ประธานรุ่นผมคุยโม้ว่างานปีนี้ต้องดีที่สุด
 
   “เปล่า” ขี้เกียจอธิบายเลยปฏิเสธไป แต่ไอ้ทูมันดูจะไม่เชื่อเท่าไหร่

   “กูเพื่อนมึงนะ มีอะไรก็บอกกู เผื่อกูจะช่วยได้” ผมอยากจะด่ามันเหลือเกินว่า ผมก็เพื่อนมัน มันยังไม่บอกเรื่องพี่เบเลย แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มๆ แล้วพยักหน้าไป “ไอ้กลอย มึงอย่าซึมดิ่วะ หมาในปากมึงจะตายห่าแล้ว” นี่มันปลอบหรือด่าผมกันแน่

   “กูไม่เป็นอะไร แค่มึงคบกับพี่เบได้กูก็ดีใจ” เบี่ยงประเด็นเลยโดนฝ่ามือมันเต็มหัว ไอ้เชี่ยทูชอบใช้กำลัง เดี๋ยวสั่งพี่เบจัดการ

   “มึงนี่มัน” ไอ้ทูถลึงตาใส่ ผมก็หัวเราะร่วนเลยโดนไอ้ประธานหน้าตี๋ด่าออกไมค์ คิดว่าผมจะอายเหรอ ไม่มีทาง เพราะผมยังตีหน้ามึนลอยหน้าไปมาจนมันเปลี่ยนเรื่องไปเอง ฮ่าๆ

   ตึ๊ด เสียงข้อความไลน์ผมดัง แต่ผมยังไม่สนใจคงจะเป็นพวกเล่นเกมส์ส่งมา แต่พอมันดังรัวๆ ผมเลยหยิบออกมากดดู ไอ้ทูที่ชอบสอดเรื่องชาวบ้านก็ยื่นหน้ามาดูด้วย มันคงเห้นผมจ้องมือถือนานไปหน่อย พอมันเห็นแบบที่ผมเห็นก็ร้องลั่นจนโดนประธานรุ่นด่าอีกรอบ

   “ไอ้เชี่ย รูปพวกนี้มันอะไรวะ” ไอ้ทูโวยวายแทนผมที่เอาแต่นิ่ง มองดูรูปที่ช็อตจนครบสิบภาพ
 
   รูปพี่โชยืนอยู่ข้างๆ สาวสวย ทั้งคู่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน คงเพิ่งทานข้าวกันมา เพราะรูปที่ยืนถ่ายมาจากร้านอาหารหรูที่ผมไม่เคยได้ย่างกรายเข้าไป และรูปสุดท้ายที่เห็นคือภาพที่ซูมในเห็นใบหน้าของทั้งคู่ที่มองตากัน แววตาของผู้หญิงดูจะสนใจพี่โชอย่างเปิดเผย ติดตรงที่ว่าพี่โชเห็นเฉพาะด้านข้าง เลยไม่รู้ว่าแววตาที่มองกลับเป็นแบบไหน จะลึกซึ้งหรือเปล่า

   “มีคนส่งมาให้กูดูทุกวัน” ผมบอกเนือยๆ

   รูปพวกนี้ไม่ได้มีแค่นี้หรอกครับ รวมๆ เกือบสองอาทิตย์มีเกือบร้อยภาพ มันเป็นภาพตอนที่พี่โชกับสาวสวยคนนี้อยู่ด้วยกัน รูปวันนี้ดูเฉยๆ เมื่อเทียบกับรูปที่ส่งมาให้ผมก่อนนอน...


   รูปพี่โชกอดเอวผู้หญิงคนนั้น


   ผมอยากจะถามพี่โชแต่คนถามไม่อยู่เลยได้แต่เก็บไว้ในใจ ผมมันเป็นคนประเภทไม่ชอบคิดเอง คือถ้าเรามัวแต่คิดเองมันจะปวดหัวเปล่าๆ แม้มันจะทำให้ผมดูโง่ไปสักหน่อยก็เถอะ

   “มึงทนดูได้ไงวะ ทำไมไม่ถามพี่โชให้รู้เรื่อง” ไอ้ทูเอามือถือผมไปเลื่อนดูรูปก่อนหน้าจนผมต้องรีบแย่งคืนมา คือมันจะปามือถือผมทิ้ง ไอ้นี่ชอบทำลายข้าวของ (ที่ไม่ใช่ของตัวเอง)

   “ก็ไม่อยู่ให้ถาม” ผมบอก

   ไอ้ทูกำลังจะอ้าปากถามเลยโดนประธานรุ่นลากออกนอกห้องเพราะคุยเสียงดัง ผมที่มองมันโดนลากได้แต่สงสารปนอิจฉา คือผมอยากออกไปบ้าง

   กว่าจะประชุมเลิก ผมก็แทบจะหมดแรง มันง่วงจนหัวเซไปหลายรอบ พอเดินออกห้องมาก็โดนไอ้ประธานรุ่นตบหัวแบบเบาๆ ส่งท้าย นี่ถ้ามันไม่ใช่เฮดรุ่นนะ ผมไล่เตะมันไปแล้ว บังอาจมาตบหัวกู สงสัยจะอินกับวอลเล่ย์บอล ผมเห็นเฟสมันแชร์แต่รูปสาวๆ นักวอลเล่ย์บอล


   ผมเดินหาเพื่อนตัวเองที่โดนเนรเทศออกมาก่อน ไอ้ทูนั่งอยู่ใต้ตึก มันกำลังคุยโทรศัพท์ ไม่สิ โวยวายใส่โทรศัพท์มากกว่า พอมันหันมาเห็นผมก็รีบวางสายแล้วเดินมาหา

   “ป่ะ” หือ อยู่ๆ มันก็ดึงแขนผมแล้วจ้องหน้า

   “เดี๋ยวๆ มึงจะพากูไปไหน” ผมถามมันโดนที่ขายังซอยถี่เพราะแรงดึงที่กึ่งวิ่งกึ่งเดิน คือมึงจะรีบไปไหนวะ

   ไอ้ทูที่วันนี้เอารถมาเองยัดผมลงไปนั่ง มันไปรับผมมาครับเมื่อเช้า ถึงมันไม่ดึงให้ขึ้นรถ ผมก็ต้องมาอยู่ดี ไม่งั้นจะกลับยังไง พอนั่งบนรถปุ๊บมันก็สตาร์ทแล้วบึ่งรถไปทันที โดยไม่บอกจุดหมายปลายทาง

   มันดูโกรธมากกว่าผมซะอีก

   รถคู่ใจของไอ้ทูจอดที่หน้าร้านห้างสรรพสินค้า ผมมองมันอย่างงงๆ แต่ก็เดินตามมันไป พอเดินไปถึงศูนย์อาหารผมก็เจอไอ้อัธกับไอ้ม่านที่กำลังจ้วงข้าวมันไก่อย่างเอร็ดอร่อย พอไอ้สองคนนั้นเห็นพวกผมมันก็โบกมือตะโกนเรียกจนโดนคนทั้งศูนย์มองหน้า แต่นับว่ายังโชคดีที่หน้าตามันดูหล่อ ถ้าหน้าตาดูไม่ได้นี่มีโดนด่าแน่

   ผมกับไอ้ทูเดินตัวลีบเพราะความอายเข้าไปหา พวกมันสองคนก็บอกให้รอแปบแล้วก็จ้วงข้าวในจานจนหมด นี่พวกมึงไปตายอดตายอยากมาจากไหนวะ กินจนไม่เหลือเศษข้าวสักเม็ด ไอ้อัธยังเหลือผักชี แต่ไอ้ม่านนี่จานเหมือนถูกล้างมาแล้ว สะอาดมาก

   “พวกมึงจะไปไหนกันวะ” ผมมองพวกมันพยักหน้าเหมือนตกลงอะไรกันสักอย่าง คือพวกมันรู้แต่ทำไมผมไม่รู้

   “มาปลดปล่อยความเครียดไง” ไอ้ม่านว่าพร้อมสายตาเป็นประกาย

   เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับเพื่อนพวกนี้

   “ไอ้ทูมันบอกกูว่ามึงเครียด พวกกูเลยจะพามึงมาคลายเครียด” ไอ้อัธพูดบ้างก่อนมันจะเดินนำไปโดยมีพวกผมเดินตาม...

   แอบเห็นกลุ่มสาวน่าตาจิ้มลิ้มมองไอ้อัธแล้วกรี๊ดเบาๆ ด้วย

   หลงผิดทั้งนั้น ผมเตือนไว้ก่อน

   การคลายความเครียดที่ไอ้พวกนี้ว่า ผมว่ามันยิ่งทำให้เครียดกว่าเดิมอีก เพิ่มเติมคือความหนวกหู ตอนนี้ผมกำลังนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาตัวนุ่ม ไอ้อัธนั่งข้างผมกำลังเปิดหนังสือหาอะไรบางอย่าง ส่วนไอ้ม่านกับไอ้ทูมันกำลังแหกปากร้องเพลงที่แทบฟังไม่ออกว่านั่นเสียงคนหรือเสียงควายออกลูก

   “จะโกหกกันไปถึงหนาย~ (ถึงหนาย) แค่พูดว่าเธอรักใครก็ง่ายกว่า (ก็ง่ายกว่า) หมดใจก็พูดเถอะ (พูดเถอะ) ว่าเธอจะเลิกรา (เลิกรา เลิกรา) กล้ารักเขานี่นา (นี่นา นี่นา) ทำไมไม่กล้ารับความจริง~ แค่กๆ กูกินน้ำแปบ ไอ้ทูมึงร้องต่อเลย” แล้วมันก็ดื่มน้ำอึกใหญ่แล้วคว้าไมค์ร้องต่อ

   ไอ้ม่านมันร้องโดยมีไอ้ทูร้องคอรัส แต่ผมว่าร้องรัดคอมากกว่า แม่ง ผมโคตรสงสารเจ้าของเพลง โดนไอ้พวกนี้เอามายำจนเละ

   นี่ผมควรเครียดต่อหรือหัวเราะพวกมันดี

   จากนั้นเพลงยังมาต่อเป็นชุดครับ บางเพลงโดนลากไปร้อง แต่ผมเป็นพวกร้องเพราะไง เลยไม่อยากจะโชว์ความสามารถ เดี๋ยวแมวมองผ่านมาเห็นจะรีบพาผมไปเซนต์สัญญา

   แหกปากเยอะจนเจ็บคอเหมือนกันนะ แต่รู้สึกดีขึ้นเป็นกอง

   ไอ้อัธที่เพิ่งครวญเพลงลูกทุ่งเสร็จก็ทิ้งตัวนั่งข้างผม โดยปล่อยให้ไอ้สองคนนั้นคร่ำครวญกับเพลงอกหักบ้าบอของมันไป ผมมองไปหัวเราะไป แม่งจะฮาไปไหน เพลงช้าแต่เต้นประหนึ่งมันคือฮิปฮอป ไอ้ทูก็เบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้แต่มันคือเพลงรัก

   ผมควรพาพวกมันไปเช็กสมอง

   “ให้กูช่วยมั้ย” ไอ้อัธมันพูดขึ้นจนผมละความสนใจตรงหน้าแล้วหันมามองมันอย่างงงๆ

   “ช่วยอะไรวะ” ไม่มีเกริ่นนำอะไรเลย กูตรัสรู้ไม่ได้ว่ะ

   “ก็เรื่องพี่โชกับผู้หญิงคนนั้น” ไอ้อัธว่า ผมมองหน้ามันนิ่ง

   “ไอ้ทูบอกมึง?”

   ไอ้อัธพยักหน้ารับ “เห็นรูปด้วย”

   มองหันขวับไปมองไอ้ทูที่มันกำลังแหกปากว้ากเพลง ไอ้เชี่ยนี่แอบจิกรูปผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่

   “ไว้กูถามพี่โชเอง” ผมไม่อยากรบกวนเพื่อน อีกอย่างมันก็เรื่องส่วนตัวเกินไป

   “แล้วพี่เขาจะบอกความจริงกับมึงเหรอวะ คนทำผิด ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองทำผิดหรอกนะ” ไอ้อัธมันมองตาผมนิ่ง “กูจะช่วยมึงสืบดู อย่าห้ามกูด้วย มึงเป็นเพื่อนรักกู กูไม่อยากเห็นมึงนั่งหน้าเศร้าเหมือนหมาไม่มีกระดูกแทะ”

   “ไอ้เชี่ย กูเกือบจะซึ้งแล้ว” แล้วผมกับไอ้อัธก็หัวเราะออกมา “ขอบใจนะ แต่ถ้ากูอยากจะให้มึงช่วย กูจะบอกเอง”

   “อืม เบอร์กูไม่เคยเปลี่ยนมึงก็รู้” ไอ้อัธมันเป็นคนที่เท่มากนะครับ ตอนมันเรียนจบมัธยม มีเด็กมอต้นซื้อตุ๊กตาหมีที่ตัวสูงกว่ามันมาให้ แต่ไอ้อัธปฏิเสธ เด็กนั่นก็ร้องไห้ซะเหมือนถูกไอ้อัธข่มขืนแล้ว จนสุดท้าย มันก็เป็นคนไปปลอบและบอกให้เก็บไว้ มันจะรับแค่น้ำใจก็พอ โคตรเท่เลยเพื่อนผม

   “กูรู้ว่ามึงไม่เคยเปลี่ยนเบอร์ แต่มึงเปลี่ยนแค่สาวที่ควงใช่ป่ะ” เพราะแซวเลยโดนจัดเต็มที่หัวป๊าบใหญ่ ผมมุ้ยหน้าแสร้างทำเป็นงอน ก่อนจะโดนไอ้สองตัวที่ยังครองไมค์ลากไปร้องเพลง



   จากตอนเที่ยงจนเกือบจะสามทุ่ม ชีวิตพวกผมก็วนเวียนร้องเพลงจนแทบจะไม่มีเพลงที่อยากร้องอีกเลยพากันออกมา พนักงานมองประหนึ่งว่าไอ้เด็กพวกนี้อาจมามั่วสุม พอพวกผมออกมาก็รีบให้พนักงานเข้าไปดูว่ามีของผิดกฎหมายหรือเปล่า

   นอกห้างในเวลานี้ยังมีแสงสว่างจากหลอดไฟประดับตามท้องถนน วันนี้เป็นวันศุกร์เราก็ต้องไปสุขในสุดๆ พวกเราเลยนัดไปกันเที่ยว เอาแบบให้มันสุดเหวี่ยง เสียงข้อความดังแต่ผมไม่สนใจ ผมขึ้นมานั่งบนรถไอ้ทูตามเดิม มันขับตามรถอีกคันไปจนถึงหน้าผับที่ใหม่

   หน้าประตูมีการตรวจเข้มเรื่องบัตรและอายุ สงสัยกลัวจะโดนตำรวจเพราะช่วงนี้กวดขันเหลือเกิน พอเข้ามาได้ผมก็หาโต๊ะนั่ง วันนี้คนโคตรเยอะ เรียกได้ว่าแทบไม่มีที่นั่ง ยังดีที่เหลือโซนวีไอพีซึ่งไอ้อัธมีการ์ดด้วย ผมองเพื่อนตัวเองอย่างตะลึง ไอ้เชี่ยนี่มีการ์ดผับนี้ได้ยังไง

   “มึงเอามาจากไหนวะ” ไอ้ทูถามก่อนผมซะอีก ไอ้อัธยิ้มๆ ก่อนจะตอบ

   “ผับนี้รุ่นพี่กูเป็นลูกเจ้าของ มันเลยให้กูมา”

   “เจ๋งเชี่ย กูขออันดิ่” ไอ้ม่านตาวาว คือของฟรีมันก็ต้องสนใจ

   “เสียใจว่ะเพื่อน”

   “ไอ้งก”

   บริกรมารับรายการถึงโต๊ะ พวกผมก็สั่งเหล้าดีกรีพอประมาณกับมิกเซอร์ไป ไม่นานก็มาเสิร์ฟ เพลงที่นี่อย่างมัน จังหวะฟังไปโยกหัวไป แถมมีดีเจสาวสวยใส่ชุดล่อแหลมจนหนุ่มๆ ต่างพากันไปยืนอออยู่หน้าเวที หน้าอกนี่อย่างดูมๆ จนละสายตาแทบไม่ได้

   “คนเยอะว่ะ” เสียงที่ดังจากโต๊ะด้านหลังทำให้ผมเหลือบตาไปมอง โต๊ะโซนวีไอพีกำลังถูกจับจองโดยนักศึกษากลุ่มใหญ่ ที่รู้ว่าเป็นนักศึกษาเพราะมีหนึ่งในนั้นยังสวมชุดนักศึกษา แม้มันไม่ถูกระเบียบเพราะกางเกงยีนส์ขาดๆ เสื้อที่ปลดกระดุมคอสองเม็ด

   บังเอิญที่ผู้ชายคนนั้นหันมาเจอกับสายตาผมพอดี มันก็เลิกคิ้วก่อนจ้องมา รอยยิ้มโคตรน่ากลัวจนผมต้องรีบหันกลับมา ความรู้สึกถึงอันตราย

   ผมไม่รู้ว่าไอ้คนนั้ยังจ้องอยู่หรือเปล่า รู้แต่ว่า ผมต้องห้ามหันไปอีก ตาสองข้างเลยจ้องแต่ดีเจสาวสวยเต้นส่ายไปมา ก่อนสะดุ้งเมื่อมีมือมาจับบ่าด้านหลัง

   ไอ้เชี่ยนั่นแน่ๆ

   นับเลขในใจก่อนจะค่อยๆ หันไปมอง รู้สึกผิดคาด แต่ความอันตรายยังคงมีอยู่

   “ว่าไง มาเที่ยวเหรอเรา” พี่ฟลอยด์ยิ้มโชว์รอยบุ๋มที่ข้างแก้ม เพื่อนผมหันมามองก็ทำหน้างงกันใหญ่

   “อ่า ครับ” ตอบรับแบบแกนๆ คือถ้าเลือกได้ไม่อยากจะเจอเลยจริงๆ

   “บังเอิญเจอกันบ่อยไปนะเราสองคนเนี่ย” คำพูดชวนน่าคิดแต่ผมเลือกจะไม่คิด “ไปนั่งกับพี่มั้ย” ผมเหลือบตามองโต๊ะที่พี่ฟลอยด์ชวนไปนั่ง มันคือโต๊ะของนักศึกษากลุ่มใหญ่ด้านหลังผมนั่นแหละ

   “ผมมากับเพื่อน” พวกไอ้ทูก็ยิ้มทักทาย พี่ฟลอยด์มองก่อนยิ้มกลับ “ตามสบายเลยพี่”

   “พี่อุตส่าห์มาชวน ไปนั่งด้วยกันสิ” ตื้อจนผมเริ่มอึดอัดและอยากกลับบ้าน ผมกำลังจะปฏิเสธ แต่พี่ฟลอยด์แม่งดึงผมลุกยืนแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะโดยที่ยังไม่ได้คำตอบอะไร แบบนี้ไม่เรียกชวนแล้ว เขาเรียกบังคับล้วนๆ

   “เฮ้ยพี่ แต่ผมมากับเพื่อน” ผมแย้งและจะกลับไปนั่ง พี่ฟลอยด์ดันตัวผมนั่งตามเดิมก่อนจะนั่งประกบข้างๆ โดยมีเสียงเพื่อนโห่แซว

   “แหมมึง น่ารักนะเนี่ย” ไอ้คนที่ผมมองครั้งแรกยื่นมือมาจับคางผมแต่ถูกมือพี่ฟลอยด์ปัดออก “มีหวงๆ”

   “ไอ้สัด อย่าแตะ” พี่ฟลอยด์มองเพื่อนอย่างไม่ชอบใจ

   ผมก็ไม่ชอบใจว่ะ อยากกลับเต็มแก่แต่ขยับไปไหนไม่ได้ ผมมองเพื่อนตัวเองที่หันมามองเป็นระยะๆ ในใจพาลกลัวไม่อัธจะลุกมาหาเรื่อง ผมไม่ชอบให้ใครมาเดือดร้อนเพราะผม ความเบื่อเริ่มทำให้ไม่อยากแตะน้ำสีอำพันในแก้ว ผมเลยเลือกจะเอามือถือออกมากดดู...แล้วยิ้ม

   อาจเพราะสนใจมือถือเกินไปเลยโดนพี่ฟลอยด์ก้มหน้ามาหอมแก้มโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว เชี่ยเอ้ย กูตกใจ ผมเบิกตามองคนที่อุกอาจหอมแก้มโดยไม่ได้ขออนุญาต พี่ฟลอยด์ก็ดูไม่แคร์เพราะยกยิ้มอวดกับเพื่อน แขนหนักๆ ก็พาดที่ไหล่


   เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ


   “พี่ ผมไปห้องน้ำแปบ” ผมกระซิบบอกพี่ฟลอยด์ที่ยังเอาแขนพาดไหล่ผมอยู่ พี่เขามองผมนิดๆ ก่อนพยักหน้า แต่ก่อนไปพี่เขาขอมือถือผมเป็นตัวประกัน ฉลาดเหี้ยๆ ผมไม่ยอมให้พี่เขาแม่งจะแย่ง ผมเลยทิ้งตัวนั่งตามเดิม
 
   “ไม่ไปห้องน้ำแล้วเหรอ” เสียงกระซิบจนชิดใบหูทำให้ผมต้องย่นคอหนี

   “อื่อ ไม่ไปแล้ว”

   “พี่ขอเบอร์หน่อยสิ” พี่ฟลอยด์ยื่นมือถือเครื่องแพงตัวเองมาให้ผม แม้ไม่อยากจะให้ แต่อยากให้มันจบๆ ไปเลยกดเบอร์ตัวเอง ก่อนจะยิงเข้ามาในเครื่อง พี่ฟลอยด์ดูพอใจ มือใหญ่หยิบมือถือไปพิมพ์ชื่อแล้วหันมาให้ผมดู “ที่รัก” พูดตามที่พิมพ์

   แต่ผมไม่รู้สึกเขินสักนิด

   เหตุการณ์บางอย่างคล้ายกับพี่โช ทั้งโดนคุกคามและรุกรวดเร็ว แต่ผมกลับเขินพี่โชมากกว่าในตอนนั้น อาจเพราะพี่โชดูไม่น่ากลัวแบบนี้ แม้คนนี้จะดูท่าทางเป็นมิตรก็ตาม

   เพลงเริ่มเพิ่มจังหวะตามเวลา ตอนนี้โต๊ะของพี่ฟลอยด์เริ่มมีคนน้อยลงเพราะเพื่อนพี่เขาลุกออกไปเต้นคลอเคลียกับสาวนักเที่ยว พี่ฟลอยด์ยังนั่งข้างผม ดวงตายังคงจ้องผมนิ่งจนผมเริ่มกลัว

   “แฟนของน้องเรียนที่มหาลัยเดียวกันหรือเปล่า” ผมเอนหัวหนีมือที่จับปลายผมผมม้วนไปมา

   “เปล่าครับ” เริ่มไม่พอใจ

   “แล้วเรียนที่ไหนล่ะ หน้าตาเป็นยังไง นิสัยดีมั้ย”

   “มันเป็นเรื่องส่วนตัว ผมไม่อยากพูด” น้ำเสียงเริ่มกระแทกเพราะไม่พอใจ รู้สึกเหมือนโดนก้าวก่ายชีวิต

   “เย็นชาจังน้า พี่ไม่ชอบเลย”

   “พี่กำลังทำให้ผมกลัวอยู่นะ” ผมบอกไปตรงๆ ก่อนจะรีบลุกหนี แขนก็สะบัดมือที่คว้าจับ เดินหนีออกมาจนถึงโต๊ะของพวกไอ้อัธ พอพวกมันเห็นผมหลุดออกมาได้ก็รีบพาผมออกไปทันที พวกมันเช็คบิลรออยู่ก่อนแล้วผมเห็น



   พอเข้ามานั่งในรถไอ้ทู ผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ คนข้างๆ ก็ดูเหมือนจะอยากรู้แต่ก็นิ่ง แต่ตามันเหลือบมองผมเป็นระยะจนอดไม่ได้ต้องถามมัน

   “มึงมองกูทำไม อยากถามอะไรว่ามา”

   “ใครวะคนเมื่อกี้ แม่งกูกลัวสัด”

   “คนเพิ่งรู้จัก”

   “เพิ่งรู้จักแต่แม่งทำเหมือนรู้จักมาเป็นสิบปี” ผมก็เห็นด้วยในจุดนี้ “แล้วพี่โชรู้เรื่องหรือเปล่า เรื่องคนนี้อ่ะ” ผมส่ายหน้าตอบไป ไอ้ทูก็ร้องเสียงหลง “ไอ้เชี่ย มึงระวังตัวไว้ พี่โชยิ่งหึงไม่เหมือนชาวบ้านอยู่”

   “กว่าจะได้หึง ไอ้พี่นี่คงเลิกชอบกูพอดี” ผมบอกอย่างเซ็งๆ ก่อนมือถือจะดัง ไอ้ทูยืดคอมาดูหน้าจอที่โชว์เบอร์และรูป ผมกดรับพลางมองหน้าเพื่อนตัวเอง “พี่โช โทรมามีอะไรเหรอ”

   (อยู่ห้องหรือเปล่า) น้ำเสียงดูเหนื่อยล้ามากจนผมสงสาร

   “เปล่า ออกมากับไอ้ทูอ่ะ” ผมบอกความจริง เพราะไม่อยากโกหก เพราะผมเกลียดคนโกหก

   (....) พี่โชเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ (วันนี้พี่นอนที่บ้านนะ มีเรื่องต้องคุยกับพ่อเรื่องงาน)

   “เข้าใจแล้ว” ผมบอก “พี่โชกินข้าวเยอะๆ นะ จะได้มีเรื่องทำงาน”

   (ครับ รีบกลับห้องแล้วนอนนะ ห้ามเล่นเกมส์)

   “รู้แล้วน่า พี่ก็อย่านอนดึกมากนะ เดี๋ยวไม่หล่อ” ผมหัวเราะจนคนปลายสายหัวเราะตาม

   (ครับๆ ราตรีสวัสดิ์นะ)

   “อื่อ ราตรีสวัสดิ์”

   พอพี่โชวางสายผมก็ถอนหายใจออกมา ไอ้ทูส่งเสียงกระแอมจนผมต้องมองหน้ามัน
 
   “อะไรของมึง อยากเสือกเรื่องกูล่ะสิ” ไอ้ทูพยักหน้ารัวๆ จนผมขำ

   “ดูพี่เขาโคตรปกติอ่ะ”

   “อืม ก็ปกติ”

   “แต่ไม่ปกติตรงมีรูปนั่นแหละ” ไอ้ทูว่า ก่อนจะสนใจข้อความไลน์ที่เด้งขึ้นมา

   รูปที่ถ่ายบรรยากาศตอนค่ำคืนแต่ไม่รู้ว่ากี่โมง พี่โชยืนอยู่ที่กาบเรือกับผู้หญิงคนนั้น ทั้งสองชนแก้วแชมเปญจดูมีความสุข ไอ้ทูเห็นก็สบถคำหยาบอย่างยาวเหยียด จนมองภาพนั้นก่อนถอนหายใจ



   เมื่อไหร่จะจบสักที ผมเหนื่อย 


....TBC


นี่ดราม่ากันแล้วใช่มั้ย ฮ่าๆๆ

ถ้าไม่มีอะไรก็อัพวนไปค่าาาา  :L2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 25 + 26 UP!!<< // [04/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 05-08-2016 19:21:52
คาดว่าแม่สาวสวยกับพี่ฝอยขัดหม้อน่าจะรู้กัน


ขอขำแปบค่า ฮ่าๆๆๆ พี่ฟลอยด์ไปขัดหม้อซะแล้ว 

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-08-2016 19:35:18
 :ling2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 05-08-2016 19:36:07
อิพี่โช แม่งงงงงง อย่ามาหงายการ์ดว่าลูกค้าหรือญาตินะ  :fire: :angry2: :beat:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-08-2016 19:43:51
คาดว่าแม่สาวสวยกับพี่ฝอยขัดหม้อน่าจะรู้กัน


ขอขำแปบค่า ฮ่าๆๆๆ พี่ฟลอยด์ไปขัดหม้อซะแล้ว 

 :laugh: :laugh:

ชื่อพิมพ์ยาก+หมั่นไส้ค่ะ 5555555
พี่โชคงได้รูปกลอยกับพี่ฝอยขัดหม้อแน่เลย
เป็นเราเจอรูปแฟนกะคนอื่นจะส่งไปให้แฟนดูเลย
ให้มันตายกันไปข้างนึง!!!!!!

ก่อนอื่นขอหาแฟนก่อนนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 05-08-2016 19:54:04
พี่โชรีบเคลียร์ตัวเองด่วนเลยนะ พอเถอะนะดราม่าอะ แค่นี้ก็สงสารกลอยจะแย่อย่ามีมือที่สามสี่ห้าเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-08-2016 19:55:27
มันแปลกๆนะ พี่โชน่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 05-08-2016 19:57:20
ฮึบบบบ กลั้นใจอ่าน กลัวน้ำตาหมดตัว ตอนนี้เห้อออออ นึกว่าจะดราม่าเยอะ เอาเป็นว่าพี่ฝอยขัดหม้อมาแบบไม่ดี กลิ่นแปลกๆ พร้อมกับเเคปชั่น มือที่3นั้น เเมร่งรวมหัวกันชัวร์ ป๊าปปปปป กลอยยังใจดีอยู่ นักเขียนช่วนให้กลอยมันวีนเเตกบ้างได้ม๊าาาา กลอยต้องสู้ กลอยต้องสรอง ไหนจะทีมเพื่อนๆกลอยอีก ช่วยกันรวมมือ ให้เรื่องนี้ผ่านไปนะ ไม่อยากจบแบบดราม่าน้ำตาท่วมจอ ขอให้จบตามชื่อนิยายเลย เพราะนายคือของฉัน (คนอื่นห้ามเเย่ง)
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 05-08-2016 19:57:31
ขัดใจๆๆๆๆ กลอยไม่มีปากหรือไง ปิดอะไรกันแน่พระเอก??? เหตุผลทางธุรกิจอีกล่ะสิ เบื่อละเหตุผลแบบนี้ แต่ถ้าทางธุรกิจทำไมสองคนนี้ทำงานที่เดียวกัน? พ่อแม่ทั้งคู่ก็รู้ว่าคบกัน จริงๆมันไม่น่าจะมีดราม่าอะไรด้วยซ้ำนะ เดินเรื่องมาแบบสบายๆ จู่ๆมายัดดราม่า คือเรารู้สึกว่ามันยัดเยียดอ่ะ ทั้งๆที่สองคนนี้รักกันมากแท้ๆ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กะสองคนนี้แล้วล่ะ //กลอยหัดปฎิเสธคนหน่อยนะ งงมากนั่งรถไปกับไม่รู้จัก กล้าเว่อ ยาวมาก อิน :ruready
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-08-2016 19:58:27
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 05-08-2016 20:00:47
ขัดใจๆๆๆๆ กลอยไม่มีปากหรือไง ปิดอะไรกันแน่พระเอก??? เหตุผลทางธุรกิจอีกล่ะสิ เบื่อละเหตุผลแบบนี้ แต่ถ้าทางธุรกิจทำไมสองคนนี้ทำงานที่เดียวกัน? พ่อแม่ทั้งคู่ก็รู้ว่าคบกัน จริงๆมันไม่น่าจะมีดราม่าอะไรด้วยซ้ำนะ เดินเรื่องมาแบบสบายๆ จู่ๆมายัดดราม่า คือเรารู้สึกว่ามันยัดเยียดอ่ะ ทั้งๆที่สองคนนี้รักกันมากแท้ๆ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กะสองคนนี้แล้วล่ะ //กลอยหัดปฎิเสธคนหน่อยนะ งงมากนั่งรถไปกับไม่รู้จัก กล้าเว่อ ยาวมาก อิน :ruready

นักเขียนเเกล้งน้องกลอยยยย เค๊าเสียจุยยยยย   :o12:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: teukpure ที่ 05-08-2016 20:19:24
เลิกค่ะกลอย เลิกไปเลยค่ะ ส่งๆมานี่หลักฐานทั้งนั้น ถ้าไม่เคลียแล้วมันเหนื่อยก็เลิกค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-08-2016 20:23:42
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 05-08-2016 20:27:47
เรื่องจะคลี่คลายก็ต่อเมื่อกลอยเอารูปที่ได้ไปถามโชนะ เพราะเราคิดว่า ทั้งสองคนไม่น่าจะมีใครนอกใจ แต่คงมีมือที่สามพยายามแยกทั้งคู่ ก็หวังว่า พี่โชจะใจเย็นมากๆ ถ้ารู้ว่า มีใครมาตามกลอยอยู่นะ กลัวใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 05-08-2016 21:37:53
โอ้ยพอเหอะมาม่าไม่อยากกินแล้ว สงสารกลอย :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 05-08-2016 21:45:01
ค้างเลย  รอๆๆๆนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 05-08-2016 21:51:05
แอบคิดว่าฟรอยกับผู้หญิงคนนั้นร่วมมือกันยังไงไม่รู้อ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 05-08-2016 21:58:28
ต่อเลยได้ไหม ค้างๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-08-2016 21:59:15
เละๆ เทะๆ


 :m16:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 05-08-2016 22:20:54
เราเห็นด้วยนะคะกับเม้นที่ว่าเหมือนนักเขียนยัดเยีน
ยดให้มันมีดราม่าเลยเนอะทั้งๆที่ก้เป็นเรื่องที่เขียนน่ารักน่าอ่านแต่แรกอยู่แล้วสารภาพเลยค่ะว่าสองตอนที่ผ่านมาที่เอาดราม่าแบยไม่มีที่มาที่ไปมาให้เนี่ยเราอ่านข้ามตลอดแล้วพี่โชนี่ตอนนี้เหมือนคนละคนดันเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 05-08-2016 22:40:30
รู้สึกว่ามันก็แปลกๆเหมือนกัน จู่ๆมาม่าเฉย(?) แต่มันก็จริงแหละที่โชไม่อยู่ให้กลอยถามต่อหน้า เอาจริงเป็นเราก็จะไม่ถามทางอื่นเหมือนกัน คุยกันให้เห็นหน้ากันจะๆไปเลย กลอยมีความอึนมัวๆอยู่

"อย่าทำลายความเชื่อใจกัน" เข้าใจมั้ยพี่โช ถ้ามันเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง พยายามเชื่อยังไงมันก็เป็นแผล
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-08-2016 22:50:40
WTF ไม่ได้อย่างใจเล้ย :fire: :fire: :fire:
เฟิร์น เป็นลูกสาวเจ้าของห้าง ที่พี่โชทำโปรเจ็ค
แล้วชอบโช จีบโช คงสืบเรื่องกลอยแล้วสินะ
แล้ว ส่งภาพมาให้กลอยตลอด สร้างความร้าวฉานหรอ? :katai1:
นิสัยพี่โชที่โหดๆ เอาแต่ใจตัวเอง เปลี่ยนไปหรอ เมื่อทำธุรกิจ
กลอย เปลี่ยนไป เคยบอกอะไรพี่โช
มีอะไรให้พูด แต่กลอยเลือกจะเก็บไว้ :z3: :z3: :z3:
พี่ฟลอยด์ ยังไงกัน ทำตัวคุกคาม บังคับ :z6: :z6: :z6:
กลอยกลัวอะไรนักหนา ยอมเขาไปหมด
แม้ เขาจะหอมแก้ม ขนาดไปกับอัธ
กลอยกลัวอัธเดือดร้อนเพราะตัวเอง งง มากกกก
ไร้ท แฟร์ๆ สร้างความสมดุลมาก
ทั้งพี่โช ทั้งกลอย มีคนเข้าหาทั้งคู่
รอ :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-08-2016 22:57:50
สงสารน้องกลอย T^T
นักเขียนครับ อย่าให้หน่วงไปมากกว่านี้เลย แค่นี้ก็ทำใจลำบากที่จะอ่านแล้วครับ หน่วง + หนึบ ในใจสุดๆ จะต้องเสียน้ำตาหนักมากใช่ไหมครับเนี่ย
น้องกลอยสู้ๆ นะครับ อย่ายอมแพ้ แล้ว(ไอ้)ฝอยขัดหม้ออะไรนั่นก็อย่าให้มันเยอะนักนะ รู้ทั้งรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว ก็อยากจะลองดีอยู่อีก :m16: :m31:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 05-08-2016 22:59:27
ไม่รู้ว่าพี่โชทำแบบนั้ั้นเพราะอะไร และถึงกลอยจะให้อภัยและฟังขึ้นแค่ไหน คนอ่านรู้สึกโกรธแทนอ่ะ ภาพที่ส่งให้กลอยมันมีทั้งตอนพี่โชควงแขนยิ้มแย้มออกจากตึก ,โอบเอวหญิง และยังล่องเรือจิบไวน์ด้วยอ่ะ คือแบบถึงจะเป็นเพื่อนร่วมงานหรือลูกเจ้าของห้างที่ร่วมงานกัน มันจำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นป่ะ อุ้ย พิมพ์ไปก็เคืองไป  :katai4: อิพี่โช~(เสียงสูง)


ปล.ใต้ความเคืองแอบสงสัยตัวผู้(ไม่บอกชื่อ)ที่กลอยว่าอันตรายกว่าฟรอยด์ ท่าจะแซ่บ!!!
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 05-08-2016 23:15:22
Just you and I : 28



      วันนี้วันหยุดควรจะได้นอนพัก แล้วใครกันหนอมาหาผม ในเวลากำลังเคลิ้มชวนฝัน อยู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์คอนโดดังจนผมต้องรับ พี่ประชาสัมพันธ์ข้างล่างบอกมีคนมาหา มาคอนโดพี่โชก็น่าจะมาหาเจ้าของห้องสิ แล้วไหงมาหาผมได้ ถ้าเป็นพวกไอ้อัธมันก็คงจะขึ้นไปหาแล้ว เบอร์ห้องก็รู้

   ผมลากแตะลงมาจากห้อง ผ่านพี่ประชาสัมพันธ์คนสวยที่ยิ้มให้อย่างทุกที ก่อนจะมองหาคนที่ทำให้ผมต้องลงมา ซ้ายไม่มี ขวาก็ไม่มี ใครแกล้งผมหรือเปล่าวะ

   “ไง” เสียงดังจากด้านหลังทำเอาผมสะดุ้งเฮือกกระโดดไปไกล

   “เชี่ย ตกใจหมด” รีบยกมือขึ้นลูบอกเรียกขวัญ แม่ผมเคยบอกว่าให้เรียกขวัญตัวเองไม่งั้นขวัญจะหายแล้วเราจะไม่สบาย (เรื่องจริงป่ะวะ)

   “พูดกับพี่ไม่เพราะเลยนะครับน้องกลอย”

   “พี่ฟลอยด์มาได้ไง”

   แม่ง บุกมาถึงที่ ถ้าพี่โชอยู่มีเรื่องแน่

   “พี่ว่างเลยอยากมารับไปกินข้าว” พี่ว่างแต่ผมอาจไม่ว่างก็ได้นะครับพี่ครับ

   ผมทำหน้านิ่งๆ เพราะสภาพแบบนี้คงไปไหนไม่ได้ เสื้อยืดเน่ากับกางเกงบอลและลากแตะลงมา พี่ฟลอยด์เริ่มไล่มองการแต่งตัวที่มีคราสของผมแล้วก็ยิ้มนิดๆ

   “ใส่เสื้อแบบนี้ก็เซ็กซี่ดีนะ” ก็แค่คอเสื้อเน่ามันย้วยจนเกือบถึงอกก็แค่นั้น

   “ผมต้องขอบคุณที่พี่ชมมั้ย”

   “ฮ่าๆ ตลกว่ะ ป่ะ ไปกินข้าวกัน” ผมยังไม่ได้ตกลงก็เกือบถูกลากให้ออกไป

   “เฮ้ยพี่ ดูผมแต่งตัวดิ่ ไปไม่ได้หรอก” ขืนตัวไว้แทบไม่ทัน พี่ฟลอยด์หยุดมอง มือยกขึ้นกอดอก

   “งั้นพี่ให้เวลาแต่งตัว ถ้ามาช้า พี่จะขึ้นไปหาเอง โอเค๊”

   “ไม่โอเค พี่ต้องการอะไรจากผมวะ” เริ่มโมโหครับ ผมไม่ใช่คนหน้าตาดีขนาดนั้น ไม่ต้องมาจีบผมก็ได้

   “ตรงดี” พี่ฟลอยด์ยิ้มนิดๆ “พี่ชอบอะไรที่มันแปลกใหม่ และกลอยคือสิ่งแปลกใหม่ที่พี่อยากลอง” มาซะไปเกือบไม่เป็น
 
   “ผมไม่ใช่ของแปลก พี่ไปหาของแปลกที่อื่นเถอะ” ผมพูดจบก็หันหลังจะขึ้นห้อง แต่ทำได้แค่ก้าวเท้าก่อนจะถูกยกลอยขึ้นจากพื้น ไอ้พี่ฟลอยด์มันแบกผมขึ้นบ่า “พี่ทำไรวะ ปล่อยเดี๋ยวนี้โว้ย” ผมดิ้น ทุบทั้งมือทั้งเท้า ก่อนจะโดยยัดในรถที่เคยนั่งมาแล้ว ส่วนไอ้คนแบกผมมารีบวิ่งไปนั่งประจำที่แล้วก็สตาร์ทรถขับออกไป

   โกรธจนตัวสั่นผมเพิ่งเคยเป็นครั้งแรก ตอนนี้แม่งอยากจะกระโดดต่อยไอ้คนข้างๆ นี่ให้ตาเขียว ถ้ามันตัวเท่าผมนะ โดนแน่

   “พี่ทำอะไรวะ ผมโคตรไม่ชอบเลย” ผมแหวใส่

   “ไม่นานก็ชอบเองนั่นแหละ” มีเถียงด้วย แถมยังทำหน้าตาไร้สามัญสำนึก นี่ไอ้กลอยปรี๊ดละนะ

   “พี่เป็นเด็กมีปัญหาหรือเปล่า พ่อกับแม่ไม่รักเหรอวะ” อาจจะดูแรงไป แต่ผมโมโหจริงๆ พี่ฟลอยด์ได้ยินปุ๊บ ดวงตาที่เคยเป็นประกายขี้เล่นก็แข็งกร้าวจนน่ากลัว

   “ก็งั้นมั้ง” ตอบมาสั้นๆ แล้วก็เงียบไป ผมเลยได้แต่ฮึดฮัด ขอลงแต่ไม่จอด จะให้เป็นแบบพระเอกในหนังที่เปิดประตูรถลงไปนอนไถลกับพื้นอย่างสวยงามก็คงไม่ได้ เลยได้แต่นั่งหน้าบูดอยู่ในรถ

   เสียงโทรศัพท์พี่ฟลอยด์ดังท่ามกลางความเงียบ ผมแอบมองคนหน้านิ่งรับ ใจความจากคนปลายสายน่าจะเอาของอะไรสักอย่างจากพี่ฟลอยด์ พอวางสายก็ไม่ยอมบอกเหมือนคราวก่อน พี่ท่านเล่นขับไปไม่บอกอะไรเลย


   เราสนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอวะ


   ไม่นานรถก็จอดนิ่งที่ลานจอดของห้างช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ พี่ฟลอยด์เหลือบตามองผมนิดๆ ก่อนเอื้อมเอาถุงกระดาษด้านหลังแล้วเปิดประตูลงไป ผมมองท่าทางที่เหมือนเด็กไม่โตอย่างโมโห ทำไมคนรวยชอบเลี้ยงลูกให้เอาแต่ใจวะ พี่โชแม่งก็เป็น ลำบากไอ้กลอยตลอด

   พี่ฟลอยด์เดินข้ามไปหารถยี่ห้อหรูที่จอดอยู่หน้าประตูทางออกและยืนรออยู่ไม่ยอมเดินเข้าไปในห้าง ผมมองอย่างสงสัย นัดใครไว้ถึงต้องรอ ไม่นานประตูห้างก็เปิดออก ผู้หญิงหน้าตาสวยเดินออกมา พี่ฟลอยด์ยกมือไหว้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้านิดๆ แล้วหันไปหาผู้หญิงที่เดินตามมาด้านหลัง


   เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตจนชาไปทั้งตัว


   คนที่ไม่สมควรได้เจอทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้วะ พี่ฟลอยด์ยื่นถุงกระดาษให้เสร็จก็รีบเดินตรงมาหาผมแล้วเปิดประตูเข้ามานั่ง โดยที่ผมยังนั่งนิ่งเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง

   “เป็นอะไร” เสียงถามจากคนขับรถที่กำลังขับมุ่งหน้าไปที่ไหนสักที่

   “พี่เป็นอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเหรอ” ผมหันไปถามพี่ฟลอยด์ ดูเขาจะงงๆ แต่ก็ยอมบอก
 
   “จะเรียกว่าน้องก็ได้ละมั้ง” คำตอบเล่นเอาผมอ้าปากค้าง จุดไต้ตำตอเหรอวะ บังเอิญจริงๆ คำนิยามของพี่คนนี้

   “พี่เป็นน้องชายเหรอ” เหมือนเสียงจะเบามากในความรู้สึก

   “น้องคนละแม่น่ะ แม่ของพี่เฟิร์นเสียตั้งแต่ยังเด็ก พ่อเลยมาแต่งงานกับแม่พี่แล้วก็เกิดพี่กับพี่สาวมา แบบนี้เรียกว่าน้องได้หรือเปล่า” ผมมองหน้าพี่ฟลอยด์ตลอดเวลาที่พี่เขาพูด ในน้ำเสียงดูเหมือนจะเจ็บปวดจนน่าแปลกใจ

   “อ่า แบบนี้นี่เอง” ผมพยักหน้าครางครับแบบมึนๆ

   “ถามทำไม อยากรู้เรื่องราวของพี่เหรอ” น้ำเสียงเริ่มกลับมาเจ้าเล่ห์อีกครั้งหลังจากนิ่งไปนาน

   “ไม่เลย” ผมตอบ “แล้วคนที่เดินตามนั่นใครเหรอ”

   “เลขาพี่เฟิร์น ทำไมเหรอ”

   “เปล่า แค่คิดว่าสวยดี” ผมยิ้มตอบตามความจริง ก่อนจะนิ่งใช้ความคิดบางอย่าง

   พี่ฟลอยด์พาผมมาที่หมู่บ้านจัดสรรที่ไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือโคตรห่างไกล ดูเหมือนจะเป็นโครงการที่สร้างเสร็จใหม่ๆ บ้านหลังใหญ่ที่สุดของโครงการดูสวยและเรียบหรู บ้านของคนมีเงินสินะ

   “พี่พาผมมาที่ไหนเนี่ย”

   “โครงการของพี่เอง”

   “ห๊ะ”

   โคตรตกใจ ผมหันไปมองคนที่บอกเป็นเจ้าของโครงการ นี่ล้อเล่นหรือเปล่าวะ

   “ล้อเล่นป่ะเนี่ย”

   “พี่พูดจริง โครงการนี้พี่เป็นคนดูแลทั้งหมด” น้ำเสียงและท่าทีดูน่าจะเป็นเรื่องจริง พี่ฟลอยด์ดับเครื่องยนต์ก่อนจะลงไป ผมก็รีบลงตาม พวกเราเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่ถูกตกแต่งไว้เรียบร้อย ราคาคงหลายสิบล้านแน่
 
   ผมมองรอบๆ บริเวณอย่างสนใจ นี่ถ้าผมทำงานมีเงินเดือนก็อยากจะซื้อบ้านแบบนี้ให้แม่อยู่ แม่จะได้สบายไม่ต้องเหนื่อยอีก ผมเดินดูสวนที่ถูกตกแต่งไว้รอบบ้าน ดอกไม้บางต้นเริ่มออกดอก บรรยากาศมันใช่อ่ะ

   “สวยว่ะพี่ ถ้ามีเงินจะมาซื้อสักหลัง พี่คงคิดผมไม่แพงใช่ป่ะ” ผมตาวาวมองบ้าน ตื่นตาตื่นใจไปหมด

   “ถ้าชอบพี่จะยกให้” คำบอกเล่าง่ายๆ แต่ผมแทบไม่เชื่อหู

   “พูดเล่นป่ะเนี่ย บ้านตั้งเป็นล้านให้กันฟรีๆ ได้ไง”

   “พี่พูดจริงๆ อยากได้หลังไหนบอกเลย พี่จะให้ฟรีแถมตกแต่งให้ด้วย”

   “จริงป่ะ พูดจริงใช่ป่ะ”

   “อืม แล้วพี่จะทำบ้านหลังนั้นเป็นเรือนหอ”

   พอเจอประโยคสุดท้ายผมเบรกเอี๊ยดจนพี่ฟลอยด์ที่เดินตามหลังเดินมาชนจังๆ

   “เอ่อ งั้นไม่เป็นไรก็ได้ ผมอยู่แบบนั้นดีแล้ว” เกือบไปแล้วไอ้กลอย แค่ใจง่ายให้เขาพามาก็โคตรโง่แล้ว

   พี่ฟลอยด์เหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่เสียงโทรศัพท์ดังขัดขึ้น ได้ยินเรียกคนปลายสายว่าผู้จัดการ ไม่นานพี่ฟลอยด์ก็ขอตัวไปเคลียร์เพราะคนที่พักในโครงการมีปัญหา ผมบอกจะรออยู่ที่นี่พี่ฟลอยด์เลยตกลงแล้วขับรถวนไปด้านหน้าที่มีออฟฟิสอยู่

   อย่าด่าว่าผมโง่ครับ ผมแค่ฉลาดน้อยเท่านั้น ดีที่หยิบมือถือมาด้วยไม่งั้นคงโดนตราหน้าว่าโง๊โง่ได้ ผมรีบกดไปหาเพื่อนรักที่พร้อมจะช่วยผมทุกเมื่อ รอสายไม่นานมันก็รับ

   “ว่าไงมึง อยากให้กูช่วยแล้วใช่มั้ย” ไอ้อัธถามอย่างรู้ใจ

   “เออ ช่วยกูด้วย” ผมบอก ก่อนกวาดสายตาดูรอบๆ กลัวพี่ฟลอยด์ย้อนกลับมา “มึงรู้จักบ้านจัดสรรโครงการxxxหรือเปล่า”
 
   “อยู่โคตรไกล ทำไมวะ หรือมึงคิดจะซื้อ” ไอ้นี่ถามไม่ดูเงินในบัญชีผมเลย

   “ซื้อห่าไร มึงมารับกูหน่อย รีบๆ มา ตอนนี้เลยนะมึง แล้วกูมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟัง” ผมบอกรัวๆ เพราะโคตรกลัวพี่ฟลอยด์มันกลับมาไว

   “แต่กูยังไม่ได้อาบน้ำ”

   “ไม่ต้องอาบแล้วไอ้เชี่ยอัธ แค่นี้มึงก็เนื้อหอมจะแย่ กูรู้ว่ามึงจะมาถึงภายในสามสิบนาที” บ้านมันไม่ไกลมากจากที่นี่มากถ้าเทียบกับไอ้สองคนนั้น

   “อะไรของมึงวะ เออๆ” ดูมันจะงงๆ แต่ก็รับปาก

   ผมวางสายจากไอ้อัธแล้วก็เดินวนไปวนมาหน้าบ้าน ใจเต้นตึกตักๆ ยิ่งกว่าลุ้นหวยรางวัลที่หนึ่งอีก ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งทำให้ผมกลัว รีบๆ มาสิวะไอ้เชี่ยอัธ

   ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่ใจร้ายกับผม เมื่อเห็นรถไอ้อัธอยู่ไกลๆ แต่ท่านก็ทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อรถที่ตามหลังรถไอ้อัธมาคือรถของพี่ฟลอยด์ เชี่ยแล้ว รีบๆ ขับมาไอ้อัธ

   เหงื่อออกทั้งมือทั้งเท้า พอไอ้อัธปราดเข้ามาจอด ผมก็แทบจะพุ่งขึ้นรถมัน พี่ฟลอยด์มาจอดต่อท้าย ผมก็รีบสั่งให้ไอ้อัธออกรถ ไอ้นี่ก็ไม่รู้อะไรก็ออกรถตามคำสั่ง ผมเหลือบไปมองด้านหลัง เห็นคนที่พาผมมาวิ่งตามมาก่อนจะหยุด คงเพราะเริ่มห่างไกลมากแล้ว เฮ้อ เจอแบบนี้บ่อยๆ ไอ้กลอยก็ไม่ไหว ไอ้อัธเห็นผมถอนหายใจก็ทำหน้างง

   “ว่าแต่ มึงจะให้กูช่วยเรื่องอะไร” ไอ้อัธมันถาม ตามันมองรถที่กำลังแทรกเข้ามาจากด้านซ้าย

   “มึงสืบให้หน่อยดิ่ ว่าบลูทำอะไรอยู่” พอได้ยินไอ้อัธก็เบิกตากว้าง

   “มึงยังสนใจอยู่เหรอวะ ทำมึงขนาดนั้น” ไอ้อัธขมวดคิ้วมองผม “คนที่พาแฟนเก่าพี่โชไปทำร้ายมึง ให้ข้อมูลทุกอย่างก็คือแฟนเก่ามึง” ผมรู้ครับเพราะพี่โชบอกหมดแล้วว่าบลูเป็นคนบอก

   “เอ่อน่า สืบให้หน่อย ตอนนี้เลย”

   “ไอ้เชี่ยนี่ สั่งเดี๋ยวนี้ก็จะเอาเดี๋ยวนี้” ถึงมันจะบ่นแต่ก็เอาบลูธูทขึ้นมา ผมเห็นไอ้อัธกดเบอร์ไปหาใครสักคน พูดอยู่นานกว่าจะได้คำตอบ “บลูลาออกไปแล้ว”

   “เมื่อไหร่วะ”

   “ก็หลังเกิดเรื่องละมั้ง ก็สมควรลาออกหรอก โดนพี่ซันกดดันขนาดนั้น”

   “พี่ซันกดดันยังไงวะ” ในคลิปก็ไม่เห็นจะกดดันอะไรเลย ผมดูหลายรอบด้วย

   “มึงไม่รู้จริงหรือแกล้งโง่วะ พี่ซันเป็นหลานอธิการบดีมหาลัยเลยนะเว้ย” เชี่ยยย ทำไมผมไม่รู้วะ

   “พี่โชไม่เห็นบอกกู”

   “ถึงบอกไปก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับมึง”

        ผมพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะตกใจเมื่อมีไลน์ดังขึ้น ผมเปิดอ่านดูนิ่งๆ ก่อนปิด แล้วมันก็ดังขึ้นมาอีกจนต้องหยิบมาดูอีกรอบ รูปภาพที่มักจะส่งมาตลอดเวลาทีละหลายๆ ภาพ แทบจะทุกช็อตเลยก็ว่าได้ คราวนี้เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยน พี่โชนั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้หญิงที่เป็นพี่สาวต่างแม่ของพี่ฟลอยด์ ข้อความที่อยู่ล่างสุดบอกเพียงว่า


        ‘มื้อสุดหรูกับคนรู้ใจ คงรู้นะว่าใครคือคนที่คู่ควร’


   ผมยื่นรูปให้ไอ้อัธดู มันโวยวายจนผมสะดุ้ง และมันบอกว่ารู้จักร้านนั้น ตอนนี้มันจะพาผมไปหาแน่ๆ ไอ้อัธเป็นพวกที่พุ่งชนกับทุกอย่าง ไม่เหมือนผมที่ชอบนิ่งเฉยจนเหมือนคนโง่



   ร้านอาหารอิตาเลี่ยนสุดหรู ดูจากการตกแต่งร้านก็รู้แล้วว่าผมไม่มีปัญญาเข้ามากินแน่ ยิ่งสภาพการแต่งตัวผมกับไอ้อัธตอนนี้พนักงานยิ่งไม่ให้เข้าครับ เราสองคนถูกดันให้ออกจากร้านแถมยังโดนด่าอีก ไอ้อัธแทบจะเอาบัตรเครดิตสีทองอร่ามแบบไร้วงเงินฟาดหน้าถ้าไม่มีคนเดินเข้ามาเคลียร์ให้และปล่อยให้ผมกับไอ้อัธเข้าไป

   “อยากกินร้านนี้ก็ไม่บอกพี่” พี่ฟลอยด์พูดเล่นแต่น้ำเสียงไม่ใช่ พี่เขาคงโกรธผมนั่นแหละ ใบหน้าหล่อบึ้งตึงแม้แต่ไอ้อัธยังรู้สึก

   พวกเราเดินเข้าไปด้านใน บรรดาคนมีตังค์ที่นั่งกินอาหารจานแพงแต่ดูยังไงก็ไม่อิ่มท้องเริ่มจ้องมองผมกับไอ้อัธ เสียงลอยตามลมที่ผมได้ยินว่าผมเป็นขอทาน เชี่ย ขอทานอะไรหน้าตาดีขนาดนี้วะ ไอ้อัธนี่เหล่แล้วเหล่อีก ความหล่อมันไม่ช่วยอะไรเมื่อมันใส่เสื้อยืดกับกางเกงบอล

   พี่ฟลอยด์พาผมกับเพื่อนเข้ามาด้านในของร้าน และผมเห็นโต๊ะๆ หนึ่งที่อยู่ในภาพที่ผมเห็น สองหนุ่มสาวยังคงละเลียดกินอาหารอยู่ไม่ไปไหน ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ก่อนหันซ้ายหันขวาจนเจออะไรบางอย่าง บางทีผมก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น

   ผมเดินตรงเข้าไปหาพี่โชทันทีโดยที่ไอ้อัธเดินตามและพี่ฟลอยด์ทำหน้างง พอมาถึงโต๊ะ คนที่พาผมเข้ามาก็ร้อง อ่าว เมื่อเจอพี่สาวตัวเอง ส่วนคนที่นั่งอยู่เงยหน้าขึ้นมอง แวบหนึ่งดูพี่โชตกใจแต่ปั้นหน้านิ่ง ไอ้อัธเห็นแบบนั้นก็คว้าคอเสื้อชุดสูทของพี่โชขึ้นจนผมรั้งไว้ไม่ทัน

   สาวสวยที่นั่งด้วยถึงกับร้องกรี๊ดเมื่อพี่โชถูกเพื่อนผมขยำคอเสื้อ ใบหน้าหล่อจ้องมองหน้าไอ้อัธอย่างไม่เกรงกลัว ผมกอดแขนไอ้อัธไว้กลัวจะมีเรื่องบานปลายแล้วมันจะเดือดร้อน

   “มึงจะห้ามทำไม ไม่เห็นเหรอว่ามันกำลังนอกใจมึง” ไอ้อัธตะโกนดังลั่นร้าน พี่ฟลอยด์ดูตกใจที่ได้ยิน แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่สะดุ้งกับเรื่องๆ นี้

   “ไอ้อัธ กูขอ ที่นี่ไม่เอา” เพราะหากเรื่องถึงตำรวจ ไอ้อัธจะเดือดร้อน พ่อมันอีก

   ดูไอ้อัธฮึดฮัดแต่ก็ยอมคลายมือออกจากคอเสื้อ พี่โชขยับปกเสื้อให้เหมือนเดิม ใบหน้าหล่อจ้องนิ่งจนรู้สึกถึงไอเย็น พี่โชเหลือบตามองผมก่อนปรายตามองพี่ฟลอยด์ ดวงตาคมดุจ้องมองหน้าคนที่สูงเท่าๆ กันอย่างประเมินด้วยสายตา พี่ฟลอยด์ก็คงรู้สึกได้เลยมองกลับอย่างไม่กลัว

   ก่อนจะเดินไป พี่โชยังใช้หางตามองผมนิ่งๆ แล้วก็เดินออกจากร้านไปทันที ไอ้อัธสะบัดตัวจากมือผมแล้วจะหันมาโวยวาย ถ้าไม่มีเสียงแหลมเล็กพูดขึ้นมาซะก่อน

   “ตัวจริงหน้าตาธรรมดากว่าที่คิดนะ” สาวสวยขยับริมฝีปากแดงเลือดนก ดวงตาเรียวจ้องมองผมอย่างดูถูก “ต่ำ”

   “พี่!” เป็นพี่ฟลอยด์ที่ตะโกนปรามพี่สาวตัวเอง ผมยืนสั่นเทาด้วยความโกรธ อยากจะไปจากตรงนี้ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว

   “ทำไมยะ ฉันพูดความจริง ไอ้เด็กชั้นต่ำนี่เป็นของบำเรออารมณ์ของโชเท่านั้น” คำพูดดูถูกเหยียดหยามยิ่งทำให้ผมจ้องแทบอยากจะกินเลือด

   “อย่าดูถูกคนของผม!”

   “คนของแก? ตาต่ำ ชอบไปได้ยังไงได้เด็กโสโครกนี่ แถมยังเป็นของเหลือเดนจากคนอื่นอีก” ใบหน้าสวยๆ ไม่ได้ทำให้จิตใจดีตามสักนิด

   ผมหัวเราะออกมาจนพี่น้องที่เถียงกันหันมามอง

   “หัวเราะอะไรยะ”

   ผมปรายตามองผู้หญิงที่สวยตั้งแต่หัวจรดปรายเท้า พร้อมกับยิ้มเหยียดออกมา

   “ผมเพิ่งจะเข้าใจที่แม่เคยพูด” เดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้ได้ยินชัดๆ “สวยแต่รูปจูบไม่หอม มันเป็นแบบนี้นี่เอง”

   “แกหมายความว่ายังไง” ป้าคนนี้โคตรโง่ว่ะ

   “ก็หมายความว่า ป้าสวยแค่เปลือก แต่จิตใจโคตรต่ำ นี่เห็นเป็นผู้หญิงหรอกนะ ผมเลยไม่ทำอะไร พอดีผมเป็นลูกผู้ชายพอ”

   “กรี๊ดๆๆ แก กล้าด่าฉันเหรอฮะ ไอ้เด็กชั้นต่ำ”

   “ป้าไม่อายเขาเหรอ ร้องกรี๊ดๆ แบบนี้” ผมลอยหน้าลอยตาจนเกือบถูกฝ่ามือตบหน้า ถ้าไม่ได้พี่ฟลอยด์คว้าข้อมือพี่สาวตัวเองไว้

   เกือบไปแล้วไอ้กลอย

   “ห้ามแตะตัวคนของผม” ใบหน้าหล่อของพี่ฟลอยด์ไม่ได้พูดเล่นๆ จนพี่สาวหน้าถอดสี
 
   “มันไม่จบแค่นี้แน่ โชเป็นของฉัน ไม่ใช่เด็กสกปรกอย่างแก” พูดจบก็กระแทกส้นเท้าออกไป

   ผู้หญิงโคตรน่ากลัว ภายใต้ใบหน้าสวย แต่ภายในเราจะไม่รู้เลยว่ามีอะไรซ่อนอยู่

   พี่ฟลอยด์กำลังจะพูดแต่ผมยกมือห้ามแล้วรีบเดินออกมา ไอ้อัธได้แต่มองตามแต่ไม่คิดจะเดินออกมาด้วย มันคงตกใจที่เห็นผมด่าคนอื่น เพราะปกติผมไม่เคยด่าใคร แอบเห็นมัมปรบมือเบาๆ ด้วย

   ผมเร่งฝีเท้าออกมาที่หน้าร้าน สายตามองหารถที่จะพากลับคอนโด ไม่นานก็มีรถมาจอดเทียบเมื่อผมกวักมือเรียก ผมสอดตัวไปนั่งด้านหน้าก่อนรถจะเริ่มเคลื่อน และบอกปลายทางที่จะไป บรรยากาศในรถสุดแสนจะเย็น อาจเพราะด้านนอกเจออากาศร้อนมากพอมาเจอเย็นแบบนี้ก็รู้สึกคัดจมูกจนต้องขอหรี่แอร์ลง

   ฝ่าการจราจรอย่างหนักมานานเกือบชั่วโมง ก็มาถึงคอนโดที่ผมพักอยู่ ผมรีบลงจากรถเมื่อเห็นรอยยิ้มแสนน่ากลัวของคนขับ รอยยิ้มที่โคตรจะสยองจนขนแขนลุก ดีนะที่ผมรีบลงมาก่อน ไม่อย่างงั้นผมละกลัวใจว่าเขาจะทำอะไรผมหรือเปล่า คงไม่หน้ามืดตามัวเพราะเห็นผมเซ็กซี่หรอกนะ ถึงอย่างนั้นก่อนจะลงมาก็ได้ยินเสียงบ่นแว่วๆ แต่ก็ไม่ใส่ใจ ก่อนรถคันที่พาผมมาส่งจะวนกลับออกไปจนลับตา


       ผมจะรุกละนะ สัญญาอะไรนั่นไม่ทำมันแล้ว !!!


....TBC



 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 05-08-2016 23:28:07
 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 05-08-2016 23:31:36
น้องกลอยสู้ๆ ถ้าน้องกลอยไม่ยอม ก็ไม่มีใครสู้ได้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 05-08-2016 23:33:15
 :ling3:มาแล้วกลอยต้องสตรองนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 05-08-2016 23:53:02
ถ้าเหตุผลไม่ดีพอ ก็ปล่อยพี่โชไปเหอะ !!
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-08-2016 00:11:23
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-08-2016 00:13:59
จัดหนักจัดเต็มเลยกลอย ถ้าแย่นักก็ทิ้งมันซะ :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 06-08-2016 00:31:23
ไม่ชอบพี่โชเลย ขอแว้บไปทีมพี่ฝอยแป้ป55555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 06-08-2016 00:36:43
โถ่เอ๊ยพี่โช เด็ดขาดชัดเจนมาเท่าไหร่ ทีกับเรื่องแบบนี้... เฮ้อ เหนื่อยแทนกลอย พี่ฟลอยเท่ค่ะเอาใจไป ถึงพี่จะรุกหนักไปหน่อยก็เหอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-08-2016 01:06:10
พุ่งชนเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-08-2016 03:25:03
น้องกลอยสู้ๆ นะ อย่าไปยอม จัดการคนอื่นให้เรียบร้อยก่อน แล้วพี่โชค่อยเคลียร์ทีหลัง
ห้ามแพ้นะลูก :fire: :m31: :m16:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 06-08-2016 03:53:27
อะไรคือปฏิกิริยาพี่โช
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 06-08-2016 05:30:45
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-08-2016 06:05:49
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 06-08-2016 06:55:27
งงไปหมด ไม่ใช่ไม่ชอบดราม่านะแต่จากโกรธแทนกลอยตอนนี้เปลี่ยนเป็นเฉยๆละ รีแอคชั่นของพระเอกคือ? พ่อแม่ทั้งคู่รู้ว่าคบกัน ถ้าพ่อแม่สั่งให้ทำแบบนี้ คือมันใช่หรอ ต้องเหตุผลอื่นสินะ คนเขียนถามว่าอยากให้จบแบบไหน แสดงว่าเหตุผลพี่โชคงฟังไม่ขึ้นแน่ //เดานะ555 ตอนแทนความเชื่อใจแบบนี้ ถึงจะบอกว่าไม่มีอะไร แต่ที่ผ่านมาล่ะ? เริ่มไม่สมเหตุสมผลขึ้นทุกที  :mew5:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 06-08-2016 07:00:17
เครน้องกลอยสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-08-2016 10:55:12
อืม.....บลู ชักใยเบื้องหลังนี่เอง:z6:
กลอยจะรุกแล้ว   :hao7:
รุกยังไงนะ อยากรู้ :ling1: :ling1: :ling1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 06-08-2016 13:31:38
ตอนนี้เริ่มงงๆกับเนื้อเรื่องแล้ว
ไหนว่ารักนักรักหนาไงพี่โช
ถ้าเหตุผงไม่ดีพอนะ จะยุให้น้องกลอยหาสามีใหม่
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 06-08-2016 13:34:56
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 27 + 28 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 06-08-2016 14:20:30
ดราม่าแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย งงเล็กน้อยถึงปานกลางไหนจะท่าทางพี่โชอีกปรายตามองกลอยคืออะไร ทำหน้านิ่งเฉยใส่คืออะไรขอเหตุผลที่มันฟังขึ้นหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 06-08-2016 16:28:08
Just you and I : 29


         ค่ำคืนของเมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหล แต่นั่นไม่ใช่ผม เตียงนุ่มๆ ผ้าห่มอุ่นๆ กับแอร์เย็นช่ำทำให้ผมกำลังล่องลอยเหมือนอยู่ในอากาศ ก่อนจะเห็นหินก้อนใหญ่สีดำค่อยๆ ลอยมาแล้วก็ทับผมจนหายใจไม่ออก ผมพยายามผลักไสก้อนหินยักษ์ให้หลุดจากตัว แต่ก็ยากเหลือเกิน ยิ่งก้อนหินมันทับขาทำให้ถีบไม่ได้ ฉลาดจริงๆ ไอ้ก้อนหินก้อนนี้

   “อื่อ” ผมครางไม่พอใจเมื่อเริ่มรู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก ขยับก็ไม่ได้ สงสัยตะคริวจะกิน

   “ชู่วว นอนนะครับ” ได้ยินเสียงแผ่วเบาชิดใบหูกับความอุ่นที่รู้สึกที่ริมฝีปาก

   “หนัก” พูดเหมือนจะละเมอ ผมยกมือผลักก้อนหินก้อนใหญ่ให้พ้นตัว

   “ละเมออีกแล้ว” เสียงขำเบาๆ ยังดังอยู่ข้างๆ ยิ่งลมหายใจอุ่นๆ รดต้นคอยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจจนต้องลืมตาขึ้นมา

   ห้องไร้แสงไฟมีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านหน้าต่างพาดมายังเตียงที่ผมกำลังนอนหลับ ดวงตาคู่ดุกำลังจ้องอยู่ในระยะประชิดจนต้องยู่ปาก ปากแดงยิ้มเหยียดพร้อมกับยื่นหน้ามาจุ๊บเบาๆ ที่หน้าผากของผม นี่สินะ ก้อนหินสีดำก้อนใหญ่ที่มันทับตัวผมไว้

   “เสร็จแล้วเหรอ” ผมถามแผ่วเบา คนที่นอนข้างๆ พยักหน้ารับ

   “ครับ”

   “ทำไมช้า”

   “นี่ก็รีบจนไม่ได้นอนตั้งหลายคืน” ผมเลื่อนหน้ารับฝ่ามืออุ่นที่ลูบไล้ใบหน้าของผม “คิดถึง”

   “ผมเกือบไม่ทำตามสัญญาแล้ว”

   “ก็ไม่อยากให้ทำเหมือนกัน”

   “แต่สัญญาไว้แล้วนี่นา”

   “ครับ”

   ผมยิ้มพรายให้กับคนที่นอนข้างๆ ก่อนร่างใหญ่จะสอดตัวลงนอนแล้วยื่นมือมากอดผมแน่น ความอุ่นกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยทำให้ผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย



   เช้าวันใหม่ ผมลุกขึ้นมานั่งบนเตียงมองรอบๆ ห้องอย่างมึนงง กี่โมงแล้ววะ พอเงยหน้ามองนาฬิกาก็ต้องเบิกตากว้าง เชี่ย เกือบสิบโมงแล้ว ผมรีบเด้งตัวจากเตียงแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำทันที ใช้เวลาไม่นานก็ออกมานั่งกินแซนวิชปูอัดทูน่าที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร

   Rrrrrrrrrrr

   ผมเหลือบมองมือถือตัวเองที่วางอยู่ที่โต๊ะหน้าทีวี เสียงที่ดังต่อเนื่องทำให้ต้องรีบคว้ามือถือมากดรับ แล้วหยิบเป้คล้องบ่าวิ่งออกจากห้อง

   “เออๆ กูตื่นสายว่ะ” ผมวิ่งไปพูดไปจนโดนบ่น เมื่อประตูลิฟท์ชั้นล่างเปิด ผมก็เจอใบหน้าบึ้งตึงเสมือนยักษ์หน้าวัดยืนอยู่
 
   “สายตลอดมึงอ่ะ” ไอ้ม่านบ่นครับ มันกอดอกจ้องหน้าไม่พอใจ ผมก้มหัวขอโทษมันนิดๆ แต่มันก็ยังหน้างอ

   “ว่าแต่ ไอ้อัธตื่นแล้วเหรอวะ” ผมรีบเบี่ยงประเด็นจนไอ้ม่านพยักหน้า

   “เออ มันรออยู่ที่หอแล้ว ไอ้ทูก็กำลังไป มีแต่มึงนั่นแหละตื่นสายไอ้สัด” มันยังวกมาด่าผมได้อยู่ ไอ้เชี่ยนี่

   “กูก็ขอโทษแล้วไง มึงอย่าบ่นมากดิ่” ปกติผมจะให้ไอ้ทูมารับ แต่วันนี้ไอ้ทูมันมีคนไปส่งครับ ผมเลยให้ไอ้ม่านมารับแทน

   พวกผมไม่ได้จะนัดกันไปไหนหรอกครับ แต่จะวางแผนอะไรกันสักหน่อย เรื่องนี้ไอ้อัธเป็นตัวตั้งตัวตี โดยมีผมเป็นตัวประสานงาน ไอ้ทูกับไอ้ม่านเป็นตัวลอย สถานที่นัดก็คอนโดไอ้อัธนั่นเอง

   ไอ้ม่านขับรถยิ่งกว่าเต่าจนผมอยากจะไล่มันลงแล้วขับเอง กว่าจะถึงที่หมาย กระบะคันใหญ่ของไอ้ม่านก็ใช้เวลาบนท้องถนนเกือบชั่วโมง มันขับแค่หกสิบ นี่รถยนต์มันกินน้ำมันตราเต่าหรือเปล่า มอเตอร์ไซค์ยังแซงมันได้ทุกคัน

   ลงจากรถมาผมก็เห็นรถสปอร์ตคาร์สีขาวเข้ามาจอดเทียบด้านข้าง ประตูด้านข้างคนขับเปิดออกมาก็เห็นหน้ายุ่งๆ ของรุ่นพี่ที่โคตรจะรักผม?

   “ไงมึง โดนผัวทิ้งเหรอ” นี่คือประโยคที่พี่จอมทักผมคำแรก แถมยังยิ้มเยาะอีก เอ่อ พี่ไม่ต้องมาก็ได้แบบนี้

   ผมย่นหน้าไม่พอใจ แต่ยังดีที่มีคนแก้แค้นให้ พี่ซันเปิดประตูฝั่งคนขับรถลงพร้อมกับตบหัวพี่จอมเบาๆ จนโดนสายตาโหดจ้องจะกินหัว

   “ว่าน้องตลอดนะมึงเนี่ย”

   “เอ่อ กูแตะไม่ได้หรอก ไอ้เชี่ยกลอยเนี่ย” น้ำเสียงพี่จอมเหมือนแอบงอน หน้าหล่อบึ้งตึงจนผมแอบขำ “หัวเราะกูทำเชี่ยไร สมแล้วที่ไอ้โชมีเมียใหม่” พูดเสร็จก็สะบัดหน้าเดินตามไอ้ม่านเข้าไป มีพี่ซันส่ายหน้าอย่างระอา

   “ผมว่าพี่กำลังรับศึกหนักว่ะ” พี่ซันมองผมอย่างไม่เข้าใจ “ก็พี่จอมแม่งโคตรเอาแต่ใจ พี่ต้องเจอศึกหนักไง” อธิบายขยายความอีกนิดจนพี่ซันขำ

   “ครับๆ”

   ผมมองหลังกว้างของพี่ซันที่เดินตามสองคนนั้น ดูเหมือนคนไม่มีพิษสงอะไร แต่ทำไมถึงเอาพี่จอมอยู่ได้ ต้องมีอะไรพิเศษแน่ พี่คนนี้

   ไอ้อัธเดินมาเปิดประตูให้พวกผม พอมองเข้าไปก็เห็นไอ้ทูกับพี่เบนั่งอยู่ก่อนแล้ว ผมเดินอึนๆ ไปนั่งบนโซฟาตัวยาว

   “ไอ้เชี่ยตินกับไอ้แทมอ่ะ” พี่เบถามพี่ซัน แต่พี่ซันส่ายหน้า

   “พาเมียไปเที่ยวมั้ง ไอ้สองตัวนั้น”

   “อ่อ”

   ผมมองคนที่นั่งอยู่ในห้องที่แต่ละคนเหมือนนัดกันมาสังสรรค์มากกว่า พี่จอมเริ่มเดินคุ้ยหาของกินในตู้เย็นโดยมีไอ้ทูเดินตาม คู่นี้ก็ดูรักกันดีนะ คงเพราะไอ้ทูหน้าเหมือนน้องชายที่อยู่ห่างไกลด้วยละมั้ง เวลาเจอไอ้ทูพี่จอมถึงแสดงออกว่ารักขนาดนั้น

   “เข้าเรื่องเถอะพี่” ไอ้อัธคงทนไม่ได้เลยจะเข้าเรื่องสักที “นี่ข้อมูลที่ผมหามาได้” มันวางกระดาษปึกใหญ่ลงตรงหน้า ผมมองอย่างอึ้งๆ นี่เพื่อนผมมันเรียนนิติหรือเป็นนักสืบกันแน่

   “โห เจ๋งว่ะไอ้น้อง” พี่เบยังเอ่ยชม ก่อนทุกคนจะหยิบไปดู

   “ข้อมูลพวกนี้เกี่ยวอะไรวะ” ไอ้ม่านถามไม่คิดเลยถูกฝ่ามือของพี่เบเต็มหัว

   “มึงโง่หรือเปล่า” พี่เบทำหน้าโคตรจริงจังจนผมพยักหน้าเห็นด้วย “กูก็ไม่รู้ว่ะ” กระดาษในมือแทบปลิวหลังจากได้ยิน
 
   นี่ผมไว้ใจพวกนี้ได้แน่เหรอวะ

   “พี่อยู่เงียบๆ ดีกว่าว่ะ” ไอ้ทูบอก พี่เบแม่งทำตาดุใส่ แต่พอไอ้ทูป้อนโยเกิร์ตก็อ้าปากกินเฉย

   “แล้วพี่ซันอ่ะ หาไรได้บ้าง” ผมถามพี่ซัน ซึ่งก็ได้กระดาษมาอีกปึก “โอ่ สมแล้วที่เป็นหลานอธิการ” ผมว่า พี่ซันก็ขำๆ

   ผมเอากระดาษที่มีข้อมูลที่ผมต้องการมาวางกองๆ แล้วเรียบเรียงให้ดูง่ายที่จะเข้าใจ

   “ว่าแต่ ยัยนี่ไปเกี่ยวอะไรด้วยวะ” ไอ้ม่านถามอย่างไม่เข้าใจ

   “เกี่ยวไม่เกี่ยวเดี๋ยวก็รู้” ผมยิ้มเหี้ยมจนไอ้อัธทำหน้าเลิกลัก

   “อย่ายิ้มแบบนั้น หน้ามึงโคตรน่าเกลียด”

   “ไอ้สัด”

   เสียงหัวเราะดังลั่นห้อง พวกผมไม่ได้ซีเรียสมากขนาดนั้นหรอกครับ ก็บอกแล้วว่านัดกันมาสังสรรค์เท่านั้น และห้องไอ้อัธก็เหมาะที่สุด ตอนแรกกะจะเอาหม้อไฟฟ้ามาด้วย แต่บังเอิญต้องไปที่อื่นด้วยเลยไว้ค่อยไปกินที่ร้านเอา

   “แล้วมึงจะไปยังไง” พี่จอมถามผม ดูเหมือนพี่จะสนใจผมมากกว่าโยเกิร์ตแล้วสินะ

   “ต้องรอแปบนึง”

   ผมยังพูดไม่จบดี โทรศัพท์ผมก็ดังลั่น ชื่อที่ผมรอคอยโชว์หรา ก่อนส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบลง

   “ฮัลโหลครับ” ผมรับ พี่จอมแม่งยื่นมือมากดเปิดลำโพงเฉย

   (ครับ)

   “เสร็จหมดทุกอย่างแล้วเหรอครับ”

   (อ่าครับ ตอนนี้กำลังประชุมใกล้ออกมาแล้วครับ ถ้ามาตอนนี้รับรองทันแน่นอน)

   “ขอบคุณครับคุณโชค”

   (ไม่เป็นไรครับ งานของนายคืองานของผม)

   พอวางสายไป พวกพี่เบก็ทำหน้างงเพราะไม่รู้อะไร ผมแสยะยิ้มก่อนให้ไอ้อัธพาไปส่งที่ๆ หนึ่ง แต่บรรดาคนที่อยู่ในห้องอยากไปอยู่ในเหตุการณ์แบบสดๆ ก็ขอไปด้วย ดังนั้นตอนนี้ในรถของไอ้อัธจึงมีคนเต็มรถไปหมด



   หน้าตึกสูงที่ผมเคยมากับพี่ฟลอยด์ รปภ.ไม่ให้ผมเข้า จนคนที่ผมนัดอีกคนมาถึงพวกผมถึงได้เข้าไป แม้จะดูมึนงงแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

   พี่ฟลอยด์มองบรรดาคนที่มากับผมโดยเฉพาะพี่จอมที่เขม่นกันทันทีที่เจอหน้า พี่จอมเป็นพวกหน้าตาหาเรื่องไม่แปลกที่พี่ฟลอยด์จะทำท่าทางไม่ชอบใจ ยังดีที่มีพี่ซันยืนกั้นไว้ พวกผมขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นที่มีห้องประชุม ผมเห็นคุณโชคนั่งรออยู่หน้าห้องอย่างกระสับกระส่าย แต่พอหันมาเห็นผมก็รีบปรี่เข้ามา

   คุณโชคเป็นเลขาของพ่อพี่โชครับ ผมรู้จักเพราะพี่โชเคยพาผมเข้าบริษัท และที่สนิทก็เพราะคุณโชคชอบวาดรูปแต่วาดไม่เก่ง ผมเลยชวนแกคุย จากนั้นก็ดูสนิทกันจนพี่โชบ่นและไม่พาผมไปที่บริษัทอีกเลย ไม่คิดว่าจะได้พึ่งพิง

   “มาพอดีเลยครับ” น้ำเสียงของคุณโชคดูแปลกๆ จนผมและทุกคนแปลกใจ

   “มีอะไรเหรอครับ ทำไมทำหน้าตื่นๆ” ผมถาม เมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของคุณโชค

   “ด้านในทะเลาะกันใหญ่เลยครับ ถ้าผมไม่ออกมารอคุณกลอยคงจะเห็นเหตุการณ์ในนั้น” คุณโชคชี้เข้าไปห้องประชุมครับ แม้ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกัน แต่เสียงก็ดังลอดออกมา

   “คุณเป็นใคร” พี่ฟลอยด์ขมวดคิ้ว เริ่มไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “แล้วกลอยให้พี่พาเข้ามาทำไม แล้วก็พวกนี้คือใคร”

   “เดี๋ยวผมอธิบายอีกทีนะ” ผมบอก พี่ฟลอยด์เหมือนจะพูดอะไรออกมาอีก แต่ต้องเงียบลงเมื่อประตูห้องประชุมเปิดออก ก่อนร่างสูงโปร่งสวมชุดสูทเดินหน้าบึ้งออกมา โดยด้านหลังมีสาวสวยตะโกนเรียกเสียงดังจนทุกคนตกใจ

.
.
.

(มีต่อด้านล่างค่ะ)
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 06-08-2016 16:33:46
.
.

       “หยุดเดินหนีฉันนะ โช! ได้ยินมั้ย!!” พี่สาวของพี่ฟลอยด์ทำหน้าบิดเบี้ยวไม่พอใจ ดูเหมือนจะร้องไห้ด้วยเพราะที่แก้มมีคราบน้ำตา
 
   พี่โชที่เปิดประตูออกมาเจอพวกผมยืนอยู่ก็ดูตกใจไม่น้อย รวมถึงคนที่สวยแต่นิสัยเสียนั่นที่เห็นผมปุ๊บก็ปรี่เข้ามาหาพร้อมกับฟาดหน้าผมซะชา

   ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พี่ฟลอยด์ปราดเข้ามาผลักพี่สาวตัวเองออก ผมยังยืนนิ่งมองอย่างมึนๆ เพราะแรงมือโคตรแรง

   “พี่ทำอะไรวะ” เสียงตะคอกดังจนพนักงานที่มุงอยู่ตกใจ

   “ก็ตบหน้ามันไง ยังจะต้องอธิบายอะไรอีก”

   “ผมบอกแล้วว่าอย่าแตะคนของผม”

   “ไอ้โง่”

   “พี่”

   สองพี่น้องยืนทะเลาะกันท่ามกลางพนักงานกระซิบกระซาบ ส่วนผมก็ลูบแก้มตัวเองช้าๆ ผมว่าผมมาเอาคืนนะ ทำไมโดนตบวะ ส่วนพี่โชที่ยืนนิ่งมองแก้มผมที่แดงเป็นปื้น ใบหน้าหล่อขบกรามจนนูนระงับความโกรธ ผมได้ยินพี่ซันห้ามพี่จอมที่จะพุ่งเข้ามาร่วมและไอ้ทูที่โวยวายว่าพี่โชแม่งไม่ทำอะไรเลย


   ผมรู้ว่าพี่โชไม่ได้อยากอยู่เฉยๆ


   ร่างที่ยืนจ้องผมนิ่งๆ ถูกมือเรียวดึงให้หันกลับไปหา สาวสวยที่มีน้ำตาคลอหน่วยตาให้ดูน่าสงสารกำลังจับมือพี่โชแน่น

   “โช ทำไมต้องทำแบบนี้ เพราะไอ้เด็กโง่คนนี้เหรอ” นิ้วที่ชี้มาทางผม

   “ใช่” พี่โชตอบ

   “เรารักกันไม่ใช่เหรอ เรามีความสุขกันทุกครั้งที่เรา...”

   “ผมว่า เรากำลังทำงานกันตลอดนะครับ” เสียงพี่โชโคตรนิ่งจนน้ำตาไหลอาบแก้มเนียน “ผมไม่เคยแตะต้องตัวคุณเกินความจำเป็น หากคิดว่าผมให้ความหวังคงจะเป็นไปไม่ได้”

   “แต่ทุกครั้งที่เราไปเที่ยวหรือทานข้าว เรามีความสุขกัน โชก็ชอบไม่ใช่เหรอ” เสียงแผ่วเบาเอ่ยถามอย่างน่าสงสาร

   “นั่นเพราะคุณบอกจะคุยเรื่องงาน ผมถึงไป ไม่ใช่เหรอครับ” พี่โชบอกอย่างเย็นชา โดยมีเลขาของพ่อพยักหน้ายืนยัน

   “ไม่จริง”

   “ที่จริง ผมควรตำหนิเรื่องที่คุณทำมากกว่า” ผมมองพี่โชที่ขมวดคิ้วก่อนจะหันหน้ามามองผม “คุณไม่ควรคุกคามคนรักของผม ไม่ว่าจะเป็นรูปหรือที่ทำร้ายร่างกายเมื่อกี้”

   “รูป? รูปอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง โช คุณกำลังพูดอะไร” ปฏิเสธได้หน้าตายจริงๆ พี่สาวของพี่ฟลอยด์ส่ายหน้าปฏิเสธ

   “ผมรู้แต่ที่ไม่ทำอะไรก็เพราะมันคือเรื่องส่วนตัว ผมไม่อยากเอามาปะปนกับงานใหญ่ที่ทำอยู่ แต่นี่หมดหน้าที่ของผมแล้ว ผมก็ควรหยุดทุกอย่าง”

   “ไม่ ถ้าคุณเปลี่ยนคนดูแล ฉันจะยกเลิกงานทั้งหมด” ไม่ใช่แค่ผมที่ตกใจ พนักงานทุกคนและพี่ฟลอยด์ที่มองหน้าพี่สาวอย่างไม่คาดคิด

   “คุณยอมขาดทุนเป็นพันล้านเลยเหรอครับ อุ้ย” คุณโชคพูดแทรกจนโดนดวงตาเรียวตวัดมอง “ขอโทษครับ”

   “โช งานนี้คุณดูแลกับฉันมาตลอด อยู่ดีๆ คุณก็มาทิ้งกันง่ายๆ แบบนี้ คุณใจร้ายเกินไปแล้วนะ”

   “ผมไม่เคยใจดี” เสียงยืนยันจากเพื่อนของพี่โชที่ยืนอยู่ข้างหลังผม “แต่ที่ทำให้คุณคิดแบบนั้นเพราะคุณเชื่อคนอื่นมากเกินไป” ผมเห็นสายตาพี่โชมองตรงไปยังประตูห้องประชุม


   อยู่ตรงนั้นสินะ


   “คุณหมายถึงอะไร ฉันไม่เข้าใจ”

   “เดี๋ยวผมจะบอกเอง”

         ผมเดินมายืนข้างพี่โช ฝ่ามืออุ่นยกขึ้นมาลูบแก้มผมที่มีรอยนิ้วเบาๆ
 
        “แกเกี่ยวอะไรด้วย”

   “ผมจะบอกป้าไงว่าทำไมป้าถึงได้หลงพี่โชขนาดนี้” ผมจ้องสายตาที่โคตรจะเกลียดชังผม เราไม่เคยรู้จักกันแต่ทำไมถึงได้เกลียดกันขนาดนี้

   “กลอย” พี่ฟลอยด์เรียกผมจนพี่โชตวัดตามอง แอบได้ยินพวกข้างหลังบ่นว่า กว่าจะหึงก็เกือบเสียผมไปแล้ว
“เรื่องนี้พี่เกี่ยวด้วยนะ” ผมบอก พี่ฟลอยด์มองอย่างไม่เข้าใจ แม้แต่พี่โชยังมองหน้าผม

   “เอาล่ะ ผมจะค่อยๆ บอกแล้วกันนะ” ผมยื่นมือไปด้านหลัง ไอ้อัธเอากระดาษปึกใหญ่ที่เตรียมไว้วางใส่มือ “ผมรู้ว่าตอนนี้ป้ากำลังจ้างนักสืบอยู่ใช่ป่ะ”พี่สาวพี่ฟลอยด์ทำตาโตมองผมอย่างไม่เชื่อ บอกแล้วว่าไอ้กลอยเก่ง

   “แกรู้ได้ยังไง”

   “ก็ผมเก่ง” ยืดครับ แต่ไอ้อัธบ่นว่าไม่น่าช่วยสืบให้เลย “ป้ากำลังให้นักสืบหาเมียน้อยของพ่อป้าอยู่ใช่หรือเปล่า” เรื่องที่ผมบอกทำเอาทุกคนตาโต รวมถึงพนักงานที่ตั้งใจฟังซะเหลือเกิน

   “เมียน้อย” พี่ฟลอยด์ขมวดคิ้วหันไปมองหน้าพี่สาวตัวเอง ก่อนที่ผมจะพูดต่อ มีสาวสวยหน้าตาคล้ายกับพี่ฟลอยด์เดินมา ดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ยิ้มเก่ง เธอเดินเข้ามาแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น “พี่ฟีน พ่อมีเมียน้อยพี่รู้หรือเปล่า”

   “ฟลอยด์รู้ได้ยังไง พี่เฟิร์นบอกน้องทำไม” ผมว่าเริ่มไม่เรียบร้อยแล้วล่ะ เสียงโคตรดุ

   “ฉันไม่ได้บอก ไอ้เด็กนี่บอก” โยนขี้ให้ผมอีก พี่ฟีนที่พี่ฟลอยด์เรียกตวัดตาดุมองมาจนผมขยับแอบหลังพี่โช “แล้วยังไงต่อ รีบพูดมา ก่อนที่ฉันจะเรียกรปภ.มาไล่พวกแกออกไป”

   “ถ้าผมจะบอกว่ารู้ตัวคนที่คุณตามหาล่ะ” ไอ้อัธมายืนข้างผมแล้วพูดแทน ดูมันจริงจังจนลูกสาวเจ้าของตึกฮึดฮัดไม่กล้าพูดอะไรอีก “เริ่มตั้งแต่รุ่นพี่ผมเข้ามาดูแลโปรเจคนี้ร่วมกับคุณ คุณคงสนใจเขาอยู่แล้ว ยิ่งมีคนคอยบอกเรื่องทุกอย่างยิ่งทำให้คุณคิดว่าต้องได้มาครอบครองแน่นอน”

   “ป้าบอกให้พี่โชไปที่นู้นที่นี่โดยไม่รู้ว่ามีคนคอยถ่ายรูปป้าแล้วส่งมาให้ผมตลอด คนที่ทำคงจะรักผมโคตรๆ” ผมพูดแทรกไอ้อัธ เห็นมันทำหน้าเอือมๆ แล้วปล่อยให้ผมพูดต่อ “ใช่มั้ยบลู” ได้ยินผมเรียกปุ๊บ คนที่ถูกเรียกก็สะดุ้งทันที ผมเห็นคนที่ผมเคยลงทุนจีบยืนแอบอยู่หลังประตูห้องประชุม

   “รู้จักเลขาฉันด้วยเหรอ” ป้าคนสวยถาม ผมก็พยักหน้า ยิ่งกว่ารู้จักอีก

   “ป้าเป็นคนรับเลขาเข้ามาเหรอ” แม้จะมีเสียงจิ๊จ๊ะ แต่ป้าแกก็ตอบว่าเปล่า “งั้นแปลว่าใช้เส้นเข้ามาสินะ”

   “เดี๋ยวนะ น้องพูดแบบนี้หมายความว่า...” พี่ฟีนพูดขัดขึ้น คิ้วสวยขมวดเป็นปมมองไปยังหลังบานประตูที่มีเงาคนยืนอยู่
 
   “เลขาป้าคือคนที่ป้าจ้างนักสืบตามหาอยู่ไง เข้าใจหรือยัง”

   “แกรู้ได้ยังไง เป็นนักสืบหรือไง” ดูเหมือนไม่เชื่อ ผมเลยยื่นเอกสารปึกใหญ่ให้พี่ฟลอยด์ที่ยืนอยู่ใกล้สุด คนตัวสูงรับไปดูก่อนส่งต่อให้พี่สาว “นี่มัน”

   “ข้อมูลของพ่อป้ากับน้องเลขาป้าไง”

   กระดาษในปึกนั้นมีทั้งข้อมูลการเรียน ที่พัก รถ ที่ดิน รวมถึงทุกๆ อย่างที่พ่อของพี่ฟลอยด์ใช้บำเรอเด็กของตัวเอง และยังมีรูปสดๆ ร้อนๆ เหมือนออกจากเตาที่ถ่ายตอนเช้าของวันนี้ที่หน้าบ้านจัดสรร รูปถ่ายที่ทำเอาพี่ฟลอยด์ขยำจนเละคือรูปที่พ่อยืนจูบกับคนที่ยืนอยู่หลังบานประตู ขายาวรีบเดินไปลากคนที่อยู่ในรูปออกมายืนเด่น บลูยืนก้มหน้าตัวสั่นเหมือนนกตกน้ำ

   “อธิบายมา!” พี่ฟลอยด์ดูโกรธจนเหมือนจะฆ่าบลูด้วยมือ

   “ไม่ใช่ ไม่ใช่นะคะ เขาใส่ร้าย” สะอื้นร้องไห้อย่างหนัก รับรางวัลออสสะก้าไปเลย

   “ไม่ใช่ แล้วรูปนี้อะไร ตัดต่อเหรอวะ” เสียงตวาดทำเอาผมสะดุ้งเฮือก น่ากลัวโคตรๆ “เหอะ แอบเล่นชู้กันทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีเมียแล้ว แถมยังนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล เธอยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า!”

   “คุณฟลอยด์คะ คือ...”

   “ไม่ต้องมาจับ กูรังเกียจ”

   “คุณเฟิร์นคะ คือบลู”

   “นังงูพิษ” ฝ่ามือที่ตบหน้าผมตอนนี้ตวัดใส่หน้าของบลูเต็มแรงจนเซไปชนกับโต๊ะ “ฉันไว้ใจแกทุกอย่าง แต่แกกลับแว้งกัดผู้มีพระคุณ เลว”

   “คุณเฟิร์น”

   “อย่ามาเรียกชื่อฉัน”

   พอโดนตวาด บลูก็รีบก้มหน้า แต่ผมเห็นเธอใช้หางตามองผมอย่างโกรธแค้น

   “เพราะแก! แกเข้ามาในชีวิตของฉันทำไม ทำลายชีวิตของฉันทำไม” บลูหันหน้ามาตวาดผมเสียงดัง ดูเหมือนจะเข้ามาทำร้ายผมแต่พี่โชใช้ตัวเองบังผมซะมิด

   “อย่าแตะเขาแม้แต่ปลายเล็บ” เสียงนิ่งทำให้บลูถอยกลับไปยืนตรงที่เดิม

   “แต่มันทำร้ายชีวิตของบลู เพราะมัน”

   “เธอทำลายชีวิตตัวเองต่างหาก” พี่ซันเดินแทรกขึ้นมายืนข้างเพื่อนตัวเอง ดวงตาสวยจ้องมองผู้หญิงที่เคยควงไปไหนต่อไปกันมาหลายปี “ลองทบทวนดูดีๆ ว่าที่เธอทำร้ายใครบ้าง แล้วมีใครได้ทำร้ายเธอบ้าง” บลูเม้มปากเป็นเส้นตรง

   “บลู”

   “เธอเป็นคนถ่ายรูปสินะ” พี่โชพูดบ้าง “ทำไปทำไม”

   “บลูไม่ได้ทำนะคะ”

   เมื่อยังกล้าปฏิเสธ ผมเลยยื่นรูปถ่ายจากกล้องวงจรปิดของร้านอาหารอิตาเลี่ยนให้ดู ภาพโต๊ะก่อนที่พวกผมจะทะเลาะกัน เยื้องๆ เห็นบลูที่กำลังใช้มือถือถ่ายรูปไว้ นี่มาแค่ภาพนิ่งนะ ที่จริงผมมีภาพเคลื่อนไหวด้วย ต้องขอบคุณพี่จอมที่ช่วย ไม่เคยคิดเลยว่าร้านนั้นจะเป็นร้านประจำของพี่แก แถมยังสนิทกับเจ้าของอีก

   “พี่โช...”

   “กลอยส่งรูปมาให้ผมดูทุกครั้งที่ถูกคุณส่งไปให้ และมุมๆ นั้นผมจะเห็นคุณนั่งอยู่เสมอ เรื่องคราวที่แล้วคงไม่ทำให้คุณคิดได้และเลิกทำร้ายกลอยสินะ” คำพูดดูไม่รุนแรงแต่สายตากำลังคุกคามชีวิตแน่ ผมสัมผัสได้ “คงเห็นว่าผมไม่ทำอะไรคุณเลยได้ใจสินะ พาคนมาทำร้าย รุมข่มขืน แล้วยังคุกคามชีวิตอีก คุณอยากให้ผมทำยังไงเพื่อให้จดจำ” ผมรีบดึงตัวพี่โชไว้แน่น กลัวจะทำร้ายบลู ไม่ใช่ห่วงหรอกนะครับ แต่คนจะมองพี่โชไม่ดี

   “บลูแค่ไม่ชอบ! บลูไม่ชอบตั้งแต่เจอมันแล้ว บลูใช้มันให้ทำทุกอย่าง แล้วก็หน้าโง่ทำตาม แต่ทำไมทุกคนถึงอยู่ข้างมันตลอด ชอบมัน รักมัน ทั้งที่มันโง่” พูดจบหน้าของบลูก็หันตามแรง ไม่ใช่ผมที่ตบ และไม่ใช่พี่โช แต่คนที่ฟาดจังๆ เข้าที่หน้าคือป้าเฟิร์น ทุกคนรวมถึงบลูต่างตกใจ

   “นี่แกหลอกใช้ฉันเป็นเครื่องมือทำร้ายไอ้เด็กโง่นี่เหรอ” ป้าเฟิร์นโกรธจนตัวสั่น “ฟีน จ่ายเงินนักสืบด้วย แล้วเธอ เราต้องคุยกันอีกยาวเชียวล่ะ”

   ผมมองป้าเฟิร์นใช้ลูกน้องให้จับตัวบลูเข้าไปในห้องประชุม โดยมีพี่ฟีนตามไป ส่วนพี่ฟลอยด์ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เรื่องราวจบลงแล้ว ตอนแรกถ้าผมไม่โดนกดดันขนาดนี้ก็คงจะอยู่เฉยๆ บลูก็คงไม่เดือดร้อน แต่เธอทำตัวเอง ทั้งที่ผมไม่เคยทำร้ายอะไร กลับเกลียดผมซะอย่างนั้น

   “จบแล้วสินะ” เสียงพี่เบครับ ตอนแรกคิดว่าพวกที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นอากาศที่ล่องลอยไร้ตัวตน
 
   “อื่อ” ไอ้ทูรับคำ ก่อนจะพากันปรบมือ

   “บทจะง่ายก็ง่ายจนน่าใจหายนะพี่” ไอ้ม่านตาลอยๆ คงมึนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

   “ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ จบง่ายๆ ทางใครทางมัน” พี่จอมพยักหน้าเห็นด้วย แต่มือก็ยังปรบมือพร้อมกับพวกนั้น
 
   ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ กว่าจะจบได้เล่นเอาเหงื่อไหล คิดคำพูดมาเป็นฉากๆ พอมาเจอเรื่องจริงกลับพูดไม่ค่อยออก คำพูดที่คิดมามันโคตรสุดยอดเลยนะ แต่ไม่ได้ใช้ พี่ซันกับไอ้อัธมองหน้าพี่โชแล้วยิ้มๆ โดยเฉพาะเพื่อนผมที่เกือบมีเรื่องกับพี่โชในร้านอาหาร มันเดินเข้ามายกมือไหว้ขอโทษพี่โช

   “ขอโทษครับ ผมใจร้อนเอง” ไอ้อัธว่า พี่โชยิ้มบางๆ ให้มัน

   “ไม่เป็นไร ก็มึงโกรธแทนเพื่อนมึงนี่” มีเหล่ตามองมาที่ผมด้วย ผมเลยยิ้มให้ทั้งคู่ ก่อนจะหุบลงเมื่อมองเลยไปเห็นพี่ฟลอยด์ รู้สึกเห็นใจเรื่องพ่อนะ แต่ไม่รู้จะปลอบยังไงดี อ่อ แล้วพ่อพี่ฟลอยด์ก็คือลุงที่ผมเคยยกมือไหว้สวัสดีที่หน้าโรงหนังและคิดว่าเป็นพ่อของบลูนั่นแหละครับ บังเอิญมาก ต่อไปต้องเรียกฉายาพี่ฟลอยด์ว่า เจ้าพ่อบังเอิญ ฮ่าๆ

   ผมเดินเข้าไปหาพี่ฟลอยด์แล้วยกมือตบบ่าปลอบใจ คนที่ดูเศร้ายิ้มบางๆ ก่อนดึงผมเข้าไปกอดแน่น แต่พี่ครับ มัจจุราชประจำตัวผมยืนอยู่ข้างหลัง ผมรีบดิ้นออกจากอ้อมกอดแต่มันรัดแน่นจนดิ้นแทบไม่หลุด พี่โชก้าวเท้าเข้าหาพร้อมผลักพี่ฟลอยด์และดึงผมให้ออกห่าง

   “อย่าเข้าใกล้แฟนกูอีก” พี่โชชี้หน้าคนที่ถูกผลักจนกระเด็น พี่ฟลอยด์แสยะยิ้มแล้วเดินเข้าใกล้ สองคนจ้องตากันอย่างไม่ลดละ

   “ถึงมึงจะมาก่อน แต่กูไม่ยอมแพ้หรอก” พี่ฟลอยด์ตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัว จะว่าไป ทั้งคู่ก็พอสูสีกันทุกเรื่อง ทั้งหน้าตา ฐานะ ที่สำคัญคือนิสัย 

   “มึงไม่มีทางได้แม้แต่ขี้เล็บของแฟนกู” พูดจบก็ลากผมออกไปทันทีโดยมีเพื่อนๆ ของผมและของพี่โชเดินตามเป็นพรวน ผมที่ถูกกึ่งลากกึ่งจูงก็ได้แต่สงบปากสงบคำ พี่โชโหมดนี้ไม่ควรงี่เง่าใส่ถ้าไม่อยากเจ็บตัว (ตอนอยู่บนเตียง)

   ตอนนี้ผมย้ายมานั่งรถพี่โชครับ ส่วนคุณโชคนั้นกลับไปแล้วเพราะต้องรีบทำรายงานการประชุม และเพื่อนๆ ที่มาด้วยก็นั่งรถไอ้อัธ แต่ถ้าจะให้ดี ผมน่าจะกลับกับไอ้อัธถึงจะถูก บรรยากาศในรถแม่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่

   “อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้ไม่เห็นที่คณะนะ” อยู่ดีๆ พี่โชก็พูดขึ้นทำเอาผมหันขวับไปมอง

   “เห็นอะไร” ผมถาม พี่โชหันมามองนิดหนึ่งก่อนหยิบมือถือขึ้นมากดๆ อะไรบางอย่างแล้วยื่นให้ผม

   ชิบหาย

   รูปผมทุกช็อต ตั้งแต่เดิน กิน หรือแม้แต่แทะกระดูกไก่ ที่น่าตกใจคือรูปที่ผมกับพี่ฟลอยด์อยู่ด้วยกัน พี่เขามักจะมาดักรอผมใต้ตึกแทบทุกวัน ว่าแต่ รูปนี้ใครถ่ายวะ พอกดดูที่รูปคนส่ง หน้าอีหัวหน้าเพจวายก็กระแทกหน้าจังๆ อีเข็มยิ้มแป้นเต็มหน้าจอ

   “นี่พี่ใช้มันเป็นสปายเหรอวะ”

   “พี่ไม่ได้ใช้”

   “แล้วทำไมมันถึงส่งรูปให้พี่ทุกวัน”

   “ไม่รู้” หนอย อีเข็ม มึงทำกับเพื่อนมึงได้ลงคอ

   “พี่ทำไมไม่เห็นส่งให้ผมดู ทีผมยังส่งให้พี่ดูทุกวัน” แม่งไม่แฟร์เลย

   พอเห็นผมทำหน้างอพี่โชก็หัวเราะแล้วยื่นมือมาบีบปากเป็ดของผม แหวะ มือโคตรเค็ม

   “ขอบใจที่เชื่อใจพี่”
 
   “พอเห็นรูปทุกวันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน” ผมพูดจริงครับ รูปแต่รูปแม่งก็โคตรจะหวาน เหมือนคนรักกันทุกรูป ไอ้กลอยก็คน มีอารมณ์หวั่นไหวนะเออ

   “แล้วพ่อพี่โชว่าไงบ้าง”

   “ไว้ไปถามเองตอนงานวันเกิดสิ”

   “บ้าเหรอ ไม่เอา ใครจะไปกล้าถาม”

   “เป็นลูกสะใภ้ไม่กล้าถามพ่อสามีได้ยังไง”

   “หยุดพูดเลยนะ เมื่อกี้ปล่อยให้ผมโดนตบหน้า ดูดิ่ ยังชาอยู่เลย” แถไปเรื่องอื่นครับ ที่จริงมันไม่ได้เจ็บแล้ว สงสัยจะโดนจนชิน พอพี่โชจะพูดผมก็รีบห้าม ใบหน้าหล่อๆ ของพี่โชตอนนั้นแทบจะไปต่อยคืนให้ผมด้วยซ้ำ “ขอบคุณนะ ที่ทำเพื่อผม และไม่ทำลายความเชื่อใจของผม”

   “คืนนี้ขอรางวัลทั้งคืนก็แล้วกัน” น้ำเสียงและแววตาเจ้าเล่ห์ที่ไม่ได้เห็นมาเกือบเดือน คนๆ นี้กลับมาแล้ว ผมชูนิ้วกลางใส่คนพูดมากแต่พี่โชกลับคว้ามันไปจูบซะงั้น “หึๆ”

   “เล่นอะไรวะ” หน้าผมร้อนแบบนี้ฤทธิ์ฝ่ามือกำเริบใช่มั้ย

   Rrrr เสียงโทรศัพท์ของพี่โชดังขัด คนโทรก็คือคนที่อยู่ในรถที่ขับตามหลังผมมา พวกพี่จอมสั่งให้แวะกินพิซซ่าก่อนกลับ และวันนี้จะอยู่ฟังเรื่องราวทั้งหมดทั้งคืน พี่โชได้ยินก็แทบเขวี้ยงมือถือออกนอกหน้าต่าง


   ศูนย์ไปละกันรางวัลคืนนี้ ฮ่าๆๆ


....TBC

ไม่ถนัดมาม่าเลย

 :hao7: :hao7:



ถ้าไม่มีอะไรก็จะอัพวนไปค่ะ ^_^;;

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-08-2016 17:26:05
เดอะแก็งค์ของกลอยน่าไปเป็นนักสืบมากอ่ะ อย่างเก่งแถมละเอียด คมชัดมากกกกกกกกกกก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนาอของฉัน >>ตอนที่ 27 UP!!<< // [05/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 06-08-2016 18:01:19
ค้างเลย  รอๆๆๆนะ :ling2: :ling3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 06-08-2016 18:14:24
บอกเเล้ว มาม่ามันไม่มันส์ เอาเกรียนๆตามสไตล์น้องกลอยดีกว่า ดีที่คดีพลิกทันไม่งั้น มีวางระเบิดในเล้าเป็ด เป็นเเน้เเท้ 55555 ชอบเเก๊งค์น้องกลอย เเละเเก๊งค์พี่โช เค้าเป็นทีมเดียวกันมาก ชอบมิตรภาพแบบนี้ที่สุด กลอยยังฉลาดพอที่ส่งรูปให้พี่โช เพราะเรื่องมันจะได้คี่คลายเร็วขึ้น ถ้ารักน้อง พยายามอย่าปล่อยมือน้องนะพี่โช เเฟนคลับพี่คอยเชียร์อยู่ จบไปอีกเรื่องกว่าจะผ่านมาได้ นอนเครียดอยู่ 2คืน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 06-08-2016 18:52:28
คดีพลิกว่ะ ใครทำอะไรนักหนาวุ่นวายแท้ สรุปเราทุกคนโดนน้องกลอยหลอก  :serius2:
แต่ก็โอเค พี่โชรอดตัวไป...  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 06-08-2016 18:59:24
พลิก ต้องแบบนี้ซิ 
รอออออออ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 06-08-2016 19:10:10
คดีพลิก หายเครียดแระ(แต่ยังเคืองพี่โชนิดๆเล่นเนียนไปมั้ย?) รออ่านวนเหมือนกันค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 06-08-2016 19:20:41
คดีพลิกแบบสิบตลบ จู่ๆดราม่า จู่ๆพลิก ว่าละต้องเรื่องงาน(แต่รีแอคชั่นไอ้พี่โชอ่ะ)  :m16: คนเขียนไม่ถนัดดราม่าก็ไม่ต้องมีก็ได้นะคะ5555 เรื่องนี้จู่ๆมาดราม่ามันแบบ  :เฮ้อ: เพราะเรื่องนี้น่ารักใสใส :mew2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-08-2016 19:35:04
ลุ้นจะแย่ ขอให้นับจากนี้ไป เป็นน้องกลอย กับ พี่โช คนเดิมนะครับ อย่าดราม่าอีกเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-08-2016 19:38:53
นี่ไง ก็คิดอยู่ว่าพี่โช ไม่น่าจะนอกใจ แต่ที่คิดไม่ถึงคือบลูอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ งานนี้นางคงไม่โผล่มาสร้างเรื่องอีกหรอกนะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 06-08-2016 19:54:29
เล้าเกือบระเบิดกับมาม่า555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-08-2016 20:04:59
แหม่~~~
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 06-08-2016 20:32:56
 :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-08-2016 20:34:47
    โทษทีพี่ฟลอยด์     กลอยมีเจ้าของ
คงได้แต่มอง             อย่าจ้องเขาหวง
พี่โชรักกลอย             คอยตามคอยห่วง
รักจริงไม่ลวง             หื่นหวงแต่กลอย :กอด1:

    ข้าวผัดกลอยทำ     อร่อยล้ำแค่โช
เพื่อนจอมโมโห         โชหวงอดกิน :m20:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 06-08-2016 20:47:40
ตะไคร้!! เอ้ย! เซอร์ไพรส์  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 06-08-2016 22:08:25
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-08-2016 22:28:40
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 06-08-2016 22:33:26
ต่อไปกลอยต้องระวังไอ้พี่ฟลอยด์ไว้หน่อยนะ ดูไม่น่าจะปลอดภัย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 06-08-2016 22:48:38
โฮ่ ฝีมือนังบลูอีกแล้วเหรอ

ไม่หลาบจำนะนี่  :z6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-08-2016 22:59:36
มารผจญ


 :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 06-08-2016 23:30:17
มาแบบพลิกล๊อคเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 06-08-2016 23:38:20
Just you and I : 30



        “สรุปมึงหลอกกู” ผมกำลังโดนไอ้ม่านหนีบคอด้วยรักแร้ครับ แถมมันยังไม่ยอมปล่อย พี่โชก็กำลังคุยกับเพื่อนตัวเองไม่สนใจผมสักนิด มาช่วยผมก๊อน!

   “กูหลอกมึงตอนไหนไอ้เชี่ย ปล่อยกู” ผมดิ้นจนสุดท้ายมันก็ยอมปล่อย แต่ไม่วายตบหัวก่อนจะเดินไปนั่งข้างไอ้อัธ

   “มึงเล่ามาให้กูฟังเดี๋ยวนี้ ไอ้เชี่ยอัธมึงทำไมถึงรู้วะ เมื่อกี้กูเหมือนอากาศไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม่ง” มันยังไม่เลิกบ่น

   “กูก็ด้วย” ไอ้ทูเห็นด้วย

   “ก็กูไม่เคยบอกว่ากูกับพี่โชทะเลาะกัน” ผมบอก “แล้วพวกมึงก็คิดแทนกูทุกอย่าง”

   “เออว่ะ” ไอ้ทูหันมาเห็นด้วยกับผม

   “แล้วทำไมพี่โชเขาถึงไปนอนที่บ้านวะ” ไอ้ม่านถามผม แต่คนที่มีชื่อในประโยคเดินเข้ามาตบหัวแล้วตอบเอง

   “กูอยู่ที่นี่ไม่มีสมาธิ” พี่โชบอกเรียบๆ แล้วเดินมานั่งข้างผม “เพื่อนมึงทำให้กูไม่มีสมาธิทำงาน”

   “ผมรู้ๆ” อยู่ๆ ไอ้ทูก็ยกมือ พวกผมก็มองงงๆ อะไรของมัน “ไอ้กลอยยั่วพี่ทุกคืนใช่ป่ะ” แล้วมันก็ถูกผมโบกหัวจนสะบัด แต่ก็มีพี่เบคอยลูบหัวปลอบอยู่

   “ยั่วพ่อง กูปกติของกูเถอะ” ผมว่าพลางเหล่ตามองคนที่นั่งข้างๆ “มีแต่พวกที่คิดหื่นๆ นั่นแหละที่จะไม่มีสมาธิ” ผมพูดจบพี่ซันก็หัวเราะ

   “พอรู้แล้วล่ะ ว่าทำไมไอ้โชถึงไม่มีสมาธิน่ะ” พี่ซันรู้อะไรผมไม่เห็นรู้ แล้วผมก็เป็นแบบนี้มันไปยั่วต่อมหื่นตรงไหนไม่ทราบ
 
   “พี่ซันคิดหื่นเหมือนพี่โชเหรอ” ผมถามเลยถูกพี่โชดึงแก้มยืด โคตรเจ็บ เลยดึงแก้มคืนจนพวกพี่ๆ หัวเราะร่วน “สมแล้วๆ” พี่ซันพูดไปหัวเราะไป

   “เดี๋ยวจะโดน” พี่โชขู่แต่ผมไม่กลัว แถมยังยักคิ้วให้อีก

   “แล้วทำไมพี่ต้องเมินไอ้กลอยด้วยวะ” ไอ้อัธมันคงแคลงใจเรื่องที่ไปคว้าคอเสื้อในร้านอาหาร พี่โชมองหน้าไอ้อัธตรงๆ
 
   “ไม่ทำแบบนั้นกูก็อาจจะผิดสัญญา” ผมหันไปยิ้มให้พี่โช

   “สัญญาไรวะ” พี่เบรีบสอดทันที ก่อนจะทำหน้าเซ็งเมื่อพี่โชบอกเบาๆ ว่าความลับ “โห ไอ้เหี้ยโช ทำให้อยากแล้วจากไปไอ้สัด” พวกผมหัวเราะพี่เบที่ทำหน้าผิดหวังก่อนหน้าห้องจะมีเสียงออดดัง

   พี่จอมที่เดินถือไก่ทอดไปเปิดประตูให้ พี่ตินกับพี่แทมโผล่หน้ามามองอย่างสงสัยว่าพวกผมนัดมาทำอะไรกัน

   “พวกมึงนัดกันทำไมไม่บอกกูแต่เนิ่นๆ วะ วันนี้กูต้องพาแม่ไปทำบุญ” พี่ตินทิ้งตัวนั่งลง มือก็เอื้อมไปหยิบไก่ทอดในกล่องแต่โดนพี่จอมตีมือจนหน้างอ “ไอ้จอมแม่งหวงไก่ มึงเอาลงไปกินในน้ำเลยไป” ด่าปุ๊บโดนพี่จอมเตะหน้าขาจนร้องโวยวาย ส่วนพี่แทมก็เดินหน้าเบื่อๆ มานั่ง

   “เป็นไรวะไอ้แทม เมียทิ้งเหรอ” พี่เบทักเพื่อนมันครับ พี่แทมพยักหน้าจนทุกคนทำตาโต “จริงดิ่ เป็นไปได้ไงวะ ออกจะรักมึงขนาดนั้น” พอพี่เบพูดจบ พี่แทมก็สะอื้นจนพวกผมทำอะไรไม่ถูก พี่จอมที่กอดกล่องไก่ไว้ถึงกับเอาน่องอวบๆ ยื่นปลอบใจ

   “อะมึง แดกๆ จะได้ไม่เครียด” พี่แทมเงยหน้าบูดๆ มองพี่จอมแล้วหยิบเอาน่องไก่มากัด พวกผมนั่งมองพี่แทมแทะไก่จนหมด รอเวลาให้เล่าเรื่องราว แต่พอหมดปุ๊บ หน้าพี่แทมก็ยิ้มจนคนใจดีแบ่งไก่เริ่มแปลกใจ “ยิ้มเหี้ยไร”

   “เมียกูทิ้งกูไปเที่ยวจันทร์ว่ะ” นั่นละครับ พี่แทมพูดได้แค่นั้นก่อนโดนพี่จอมใช้เท้ายันเข้าอกจนหงายหลัง
 
   ขอไว้อาลัยแด่พี่แทมครับ

   หลังจากสองเพื่อนซี้เข้ามาก็ทำเอาปั่นป่วน ตอนนี้หม้อไฟฟ้าก็ตั้งแล้วครับ คนออกไปซื้อของคือคนที่แพ้จากการโอน้อยออกนั่นก็คือพี่ซันกับผมนี่แหละ เชี่ย ทำไมผมถึงต้องซวยมาซื้อของด้วย โดนจิกใช้ซื้อของโคตรเยอะ ถึงแม้ผมจะต้องมาซื้อกับพี่ซัน แต่ผมก็ยังมีคนอาสามาหิ้วของให้

   “ไอ้โช มึงจะตามมาทำไมวะ” พี่ซันบ่นครับ เพราะเวลาจะเข็นรถเข็นไปทางไหน พี่โชก็จะเดินตาม แล้วผมหยิบขนมใส่ไป พี่โชก็หยิบออก

   “กูตามเมียกู ไม่ใช่มึง” เสียงนิ่งๆ ตอบกลับ ใบหน้าไร้อารมณ์เพราะคงเบื่อ “รีบๆ ซื้อ ป่านนี้ห้องกูเละหมดแล้ว”

   “สมควรเละ” พี่ซันท่าทางเบื่อไม่ต่างกันขอแยกตัวไปเลือกของเอง ส่วนผมก็เดินโดนมีเงาตามตัวเหมือนเดิม แถมยังยิ้มแย้มต่างจากตอนมีพี่ซันอยู่ด้วย

   ผมเดินเลือกของใช้ที่ใกล้หมด อย่างครีมอาบน้ำ แปลกมากที่ผมใช้ยี่ห้อเดียวกับพี่โช แต่ทำไมกลิ่นถึงไม่เหมือนกัน และครีมทาผิวที่ผมมักจะทาหลังจากอาบน้ำทุกครั้ง ที่ผมติดทาครีมก็เพราะพี่กิ่งเลยครับ ทุกครั้งที่อาบน้ำพี่กิ่งจะลากผมไปทาครีมทำให้มันติดเป็นนิสัย พี่โชก็บอกว่าชอบเพราะผิวนุ่ม เอ่อ เราไม่ควรพูดถึงเรื่องแบบนี้ในห้างสินะครับ

   “พี่เอามาทำไมเนี่ย” ผมโวยวายทันทีที่มีกล่องลักษณะคล้ายกับหมากฝรั่งที่พี่โชแม่งโยนมาทั้งกล่องใหญ่ใส่ตะกร้า แถมยังยิ้มจนน่ากลัวอีก

   “ไม่ชอบให้พี่ใช้เหรอครับ หืม” เสียงกระซิบถามใกล้ๆ พร้อมกับมือตะปบเต็มก้น ผมเลยต้องขยับตัวออกห่าง

   “คิดแต่เรื่องแบบนี้ว่ะ” ผมเอาไปคืนที่เดิมครับ พี่โชแม่งหัวเราะลั่น คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ถึงกับหันมามอง ยิ่งหน้าตาหล่อด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คนสนใจมาก

   ผมเดินหนีคนหื่นผ่านโซนนั้นออกโซนนี้จนมาเจอพี่ซันกำลังเลือกเบียร์ พี่โชเดินเข้าไปหาแล้วพากันเลือก จนมีกล่องสีเขียวรูปดาวเล็กๆ สามกล่องใหญ่ลงอยู่ในรถเข็นเรียบร้อย นี่กะจะเอาไปอาบหรือเปล่า แล้วสองเพื่อนซี้ก็เดินไปจ่ายเงิน

   รถเข็นของพวกผมต่อแถวคิวที่สาม ดูเหมือนจะเป็นที่สนใจจากบรรดาสาวๆ มากทีเดียว อย่างป้าผมม้าที่รออยู่คนละช่องแต่ตาป้าแกมองมาที่พวกพี่โชอย่างเดียวจนโดนพนักงานเรียกให้วางของบนสายพาน แต่ที่อย่างฮาก็เด็กสาวที่มากันสองคน ดวงตาสองคู่มัวแต่มองหนุ่มหล่อ มือคีบกุ้งสดใส่ถุง แต่ถุงกลับยังไม่ได้เปิด คีบใส่ทีก็ร่วงลงกะบะเหมือนเดิม ลุงที่ยืนเลือกข้างๆ มองอย่างขำๆ

   สองคนนี้เป็นอันตรายแก่สายตาผู้หญิงซะเหลือเกิน


   หลังจากได้ของแล้ว เราสามคนก็กลับห้องครับ พี่โชโทรเรียกพี่เบให้มายกกล่องเบียร์ขึ้นห้อง พอลงมาก็บ่นว่าผมก็ยกได้ไม่เห็นต้องใช้คนอื่นเลยโดนพี่โชเตะเต็มๆ

        พอขึ้นมาบนห้อง ผมแทบอยากจะเป็นลม ห้องที่ผมเก็บกวาดทุกวันตอนพี่โชไม่อยู่ ตอนนี้มันเละจนเกินจะจินตนาการ แผ่นซีดีหนังถูกรื้อค้นออกมาเกลื่อนห้อง ถุงขนม เปลือกข้าวโพดวางเต็มบนโต๊ะตัวเตี้ยหน้าทีวี ทั้งที่ถังขยะก็อยู่ใกล้ๆ นะครับพี่ครับ

   ผมวางของลงบนเคาน์เตอร์อย่างโมโห สายตาเหล่มองพวกที่ทำห้องสกปรก แต่ไม่มีใครสำนึกสักคน พี่โชก็ได้แต่มองอย่างปลงๆ กับสภาพห้อง

   “พวกมึงไม่สงสารเมียกูบ้างเหรอวะ ห้องโคตรรก”

   “แหมไอ้โช เมียมึงขยันจะตาย” พี่แทมบอกจนผมถลึงตาใส่

   “ใช่ๆ แต่ขยันงานบ้าน แล้วการบ้านล่ะ ขยันหรือเปล่าเพื่อนโช ฮ่าๆ” พี่ตินพูดเรียกเสียงฮาจากทุกคน ขนาดพี่โชยังหัวเราะ แต่ผมไม่ขำโว้ย การบ้านผมก็ขยันเถอะ ไม่งั้นจะได้บีบวกมาได้ยังไง โด่

   “ปิดเทอมจะมีการบ้านได้ไง พี่ตินแม่ง” ปากผมว่า แต่มือเก็บขยะที่โดนทิ้งรอบห้อง นี่กินหรือยัดวะครับ

   “ไอ้โช เมียมึงโง่จริงหรือแกล้งวะ แม่งฮาสัด” แล้วก็หัวเราะกันต่อ ด่าผมโง่อีกละ พี่โชก็เดินมาช่วยเก็บก่อนจะเอาขยะออกไปวางที่ระเบียงรอเอาลงไปทิ้งด้านล่าง

   พี่จอมที่เอาแต่จัดเตรียมของกินอยู่ในครัวไม่ออกเสียงใดๆ อาจเพราะมีพี่ซันอยู่ข้างๆ บรรยากาศเลยดูหวาน (เหรอวะ) พี่ซันถูกพี่จอมเอาผักบุ้งฟาดหัวจนน้ำกระจายเต็มพื้น แล้วยังดึงผักกาดขาวปาใส่อีก ผมก็ไม่ได้จะขัดหรอกนะ แต่พวกพี่แม่งทำห้องรกกว่าเดิมอีกแล้วโว้ย

   สุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนล้างผักและเนื้อสัตว์เอง แถมยังต้องเช็ดพื้นเก็บกวาดเสียเวลาไปนานจนถูกพวกที่หิ้วท้องรอหม้อไฟบ่น ถ้ายกหม้อบินไปได้คงบินไปแล้ว

   “เมียมึงชักช้าว่ะ” พี่แทมว่า

   “แต่ไอ้โชมันทำให้ชักไวได้นะมึง” พี่ตินเป็นลูกคู่ตามเดิมและเพิ่มเติมคือตะเกียบที่ผมปาใส่กลางวงจนแตกกระเจิง

   ไม่ต้องกงต้องกินสักอย่าง

   พี่โชเอาแต่หัวเราะที่เพื่อนว่าก่อนก็เดินมาช่วยยกของออกไป ไอ้ทูที่เห็นของวางลงก็รีบหยิบลงหม้อทันที ในระหว่างที่รอของในหม้อเดือด ผมก็ถูกบรรดากลุ่มเกรียนแซวบ้างด่าบ้างจนปรี๊ดงับแขนเสื้อพี่โชจนแทบขาด

   “เมียมึงเป็นหมาไปแล้ว ฮ่าๆ”



   เบียร์กล่องที่สามกำลังถูกเปิดครับ สองกล่องแรกหมดไปแล้วอย่างน่าตกใจ คือทุกคนกินไปคุยไปจนไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีก็ตอนเปิดกล่องสุดท้ายนั่นแหละครับ อาการแต่ละคนก็แยกตามความแข็งของระดับคอ พวกคออ่อนอย่างไอ้ม่านกับไอ้ทูก็คอพับไปแล้ว ส่วนสายแข็งอย่างกลุ่มเพื่อนพี่โชหรือไอ้อัธก็ยังคงดื่มกินแบบชิวๆ ส่วนผมก็เหมือนเดิม ลิมิตแค่ห้าแก้ว

   “ตกลงมึงสัญญาอะไรกันวะ มีลับลมคมในแปลกๆ” พี่แทมถาม เสียงยังคงอยู่ในสภาพที่ดีไม่มีอ่อนแรงแต่อย่างใด คอแข็งพอสมควรพี่คนนี้

   “เรื่องของกู” พี่โชบอก ก่อนพี่จอมจะช่วยเสริม

   “อย่าเสือก”

   “ไอ้เชี่ยจอมหุบปากไปเลยมึง” สงสัยจะโกรธที่ถูกถีบยอดอก ฮ่าๆๆ

   “จากการที่พวกมึงเหลา”

   “เล่า!”

       พี่ตินพูดขึ้นแต่คำสุดท้ายทำให้ทุกคนต้องพูดแก้พร้อมกันจนคนพูดขำ

   “เอ่อนั่นแหละ กูว่าสัญญาน่าจะประมาณไม่ให้เข้าใกล้ ถ้าไม่ทำตามจะไม่ให้นอนด้วยงี้”

   “มึงพูดมีเหตุผลว่ะไอ้ติน”

   “พอเลยพวกพี่ เมาแล้วเลอะเทอะว่ะ รีบๆ กลับได้แล้ว” ผมไล่ครับ เมาแล้วพูดไปเรื่อย พี่โชก็ทำตาหวาน วันนี้ดื่มหนักเกิน สงสัยเครียดจากงานมานานเลยอยากปลดปล่อย

   “มึงเป็นเจ้าของห้องหรือไงถึงมาไล่พวกกู” พี่จอมแม่งเมาแล้วโหดตลอด

   “เออ งั้นกินตามสบาย ผมจะไปนอนแล้ว ปิดไฟด้วย” พูดแล้วก็เดินปึงปังเข้าห้อง ดูนาฬิกาก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน ก่อนจะปิดประตูได้ยินพี่โชบ่นใส่เพื่อนที่ทำให้ผมงอน ผมไม่ได้งอน แค่ง่วงเว้ย เข้าใจตรงกันนะ


   ผมอาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อย จะนอนเลยก็กะไรเลยลองเปิดประตูออกไปดูพวกข้างนอกสักหน่อย พอเปิดออกมาก็ไม่มีใครอยู่สักคน มีแค่พี่โชที่กำลังเก็บของอยู่คนเดียว พวกขี้เมานั่นไม่ยอมช่วยเก็บสินะ กินอย่างกับโรคห่าลงแล้วก็เดินตัวปลิวกลับบ้าน มันน่าจะไล่ให้ไปกินที่ร้านนัก จะได้ไม่ต้องลำบากมานั่งเก็บ

   พี่โชหันมาเจอผมที่เดินออกมาก็ยิ้มให้ มือก็สาละวนแยกถ้วยกับตะเกียบลงในอ่างน้ำ ผมทนไม่ได้เลยไปช่วยล้างให้ แล้วให้พี่โชไปอาบน้ำ เพราะวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

   เรื่องสัญญามันไม่ได้ยิ่งใหญ่มากจนไม่สามารถบอกใครได้ แค่มันเป็นสัญญาใจระหว่างผมกับพี่โชเท่านั้น ที่ว่าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อนจนกว่าอีกคนจะขอให้ช่วย ที่ผมเคยบอกว่าเกือบจะไม่ทำตามก็เพราะรู้ว่าพี่โชกำลังถูกแฟนเก่าของผมใช้เป็นเครื่องมือแก้แค้นผม อาจเพราะเรื่องคราวนั้นที่ผมทำให้เธอต้องลาออกจากมหาลัย แต่ผมไม่ใช่คนผิด และไม่คิดว่าตัวเองผิดด้วย ดังนั้นผมไม่เสียใจเลยที่ทำเรื่องในวันนี้ บลูสมควรจะได้รับผลกรรมที่ทำไว้

   วันแรกที่ผมได้รูปจากบุคคลปริศนา รูปพี่โชกำลังยืนดูสถานที่จริงที่จะใช้สร้างห้างแห่งใหม่ ข้างๆ มีป้าเฟิร์นยืนจ้องหน้าพี่โชว์อยู่ ผมมองรูปด้วยความสงสัย แม้จะรู้ก่อนแล้วว่าพี่โชไปที่ไซต์ก่อสร้าง อันที่จริงผมก็รู้ทุกที่ๆ พี่โชไป เพราะพี่เขาจะส่งข้อความบอกผมก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นห้าง ร้านอาหาร หรือท่องเรือสำราญนั่น
 

   แบบนั้นผมถึงไม่กังวลกับอะไรมากนัก


   แต่ผมก็ไม่ลืมส่งรูปที่ได้ทุกวันให้กับพี่โชได้ดู พี่โชจะไม่มีคำตอบใดๆ ให้ เพราะเราเชื่อใจกัน และผมรู้ว่าพี่โชไม่ทำแบบนั้นแน่นอน เราสองคนจึงดูรูปภาพในวันถัดไปแบบขำๆ พี่โชยังแซวว่าคนถ่ายภาพต้องไปเรียนเพิ่มเพราะถ่ายหน้าคนเบลอจนแทบดูไม่ออกว่าใคร

   ผมรู้ว่ามันเสี่ยงกับการเชื่อใจใครสักคน แต่ผมคิดว่าผมเลือกคนไม่ผิด และพี่โชก็ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองคิดถูก เรื่องทุกอย่างอยู่ในสายตาของพ่อพี่โชผมรู้ดี พ่อพี่เขากำลังทดสอบผมกับลูกชายตัวเองอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้คุณโชคเข้ามาช่วยเรื่องนี้ ผมรู้เพราะแอบได้ยินคุณโชคบอกรายละเอียดให้กับใครสักคนทางโทรศัพท์ โดยใช้รหัสลับว่าบรอนด์หนึ่งเจ็ดเจ็ด

   ไอ้อัธคือคนที่ผมเล่าเรื่องราวให้ฟังหลังจากพี่โชขับรถมาส่งเมื่อตอนไปร้านอาหารอิตาเลี่ยนแล้วมีเรื่องกับป้าเฟิร์น วันนั้นผมรีบเดินออกมาก่อนแล้วมองหารถของพี่โช ดูเหมือนเจ้าตัวจงใจไม่เอารถที่ใช้อยู่ทุกวันออกไปขับ พอผมมายืนหน้าถนนผมก็รีบกวักมือเรียก พี่โชก็รีบขับมาจอดเทียบแล้วพากลับห้อง


   และไม่ลืมบ่นเรื่องพี่ฟลอยด์จนหูชา


   ส่วนเรื่องของพี่ฟลอยด์นั้น ผมยังไม่โดนซักฟอกเท่าที่ควร อาจเพราะพี่โชรีบเคลียร์งานในส่วนตัวเองให้แล้วเสร็จโดยไว ก่อนจะส่งงานต่อให้ผู้ดูแลระดับมืออาชีพ ถึงแม้จะจบวิศวะมาแต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมดูแลได้ทั้งหมด เพราะต้องสอบจนผ่านเกณฑ์ที่ทางสมาคมรับรอง

   ผมรู้ว่าพี่โชรีบทำงานหามรุ่งหามค่ำเพราะอยากให้เสร็จไวๆ บางคืนผมรู้สึกว่าพี่โชมาหาแต่พอตื่นมาเตียงข้างๆ กลับว่างเปล่า พอส่งข้อความไปถาม ก็ได้ตัวพยักหน้าตอบกลับมา แสดงว่าผมไม่ได้ละเมอ

   “ยังไม่เสร็จอีกเหรอครับ” เสียงกับอ้อมกอดหอมๆ รัดตัวผมซะแน่น คงเพราะมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ เลยไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู พี่โชหอมแก้มผมซ้ายทีขวาที แถมมือก็เริ่มอยู่ไม่สุข


   คนเมามักหื่น


   ผมรีบจับมือที่ล้วงเข้าไปในกางเกงบอลด้านหน้า มือโคตรไว พอโดนผมจับ อีกข้างก็หายเข้าไปในสาบเสื้อแทน ผมรีบเอามืออีกข้างดึงมือใหญ่ออกมา แต่คนที่สวมกอดดูขัดใจ

   “พี่คิดถึงจะตายอยู่แล้ว” เสียงเบาหวิวกับลมหายใจอุ่นๆ ปะทะกับต้นคอทำเอาสยิวจนต้องย่นคอหนี ยิ่งถูกปากนุ่มไล่เทะเล็มตามซอกคอด้านหลังก็ยิ่งดิ้น

   “พี่โช ผมยังล้างถ้วยไม่เสร็จ” ทั้งบนทั้งล่างไม่รู้จะห้ามอันไหนก่อนดี แถมถ้วยยังเต็มอ่างอยู่เลย “พี่โช”

   “ครับ”

        เหมือนจะฟัง แต่เปล่าเลย เพราะรุกหนักยิ่งกว่าเดิมเพิ่มเติมคือพยายามถอดเสื้อผมออก แรงผมกับพี่โชโคตรจะเท่ากัน เสื้อเน่าๆ ของผมเลยปลิวไปตกข้างตู้เย็นเรียบร้อย มือใหญ่หมุนตัวผมให้ปะทะกับสายตาหวาน พอไร้อาภรณ์ด้านบน มืออุ่นก็ลูบอย่างถนัดมือ ทั้งไล้ ทั้งบีบ ทั้งเค้นซะจนเคลิ้ม ยิ่งถูกลิ้นร้อนไล่ตวัดหน้าอกเรี่ยวแรงที่ขัดขืนก็เริ่มต้านไม่ไหวจนถูกยกตัวลอยนั่งหมิ่นเหม่บนอ่างล้างจาน

   พี่โชดูกระหายจนน่าตกใจ เพราะลิ้นร้อนดูดเค้นหน้าอกสลับกับมือร้อนที่ฟัดเฟ้นนวดอย่างมันส์มือ ขาของผมถูกพี่โชดึงให้เกี่ยวรัดเอวหนาไว้ทำให้สัมผัสถึงของอันตรายบางอย่างที่พร้อมสู้ศึกในครั้งนี้

   “พี่โช อืม” เรียกเบาๆ แต่กลับถูกดูดกลืนด้วยริมฝีปาก รสชาติของเบียร์ยังติดที่ปลายลิ้นที่รุกจูบอย่างรวดเร็วและร้อนแรง     “มะ ไม่เอาตรงนี้” พอปากนุ่มละไปไล้เล็มที่พวงแก้ม ผมก็รีบบอก พี่โชครางรับเบาๆ แล้วตัวผมก็ถูกกระเตงอุ้มเหมือนเด็กตัวเล็กที่เอว ขายาวสาวเท้าเข้าห้องนอนอย่างไว ก่อนหลังผมจะสัมผัสกับเตียงนุ่ม

   อาจเพราะห่างหายจากเรื่องนี้ไปนาน น้ำหนักมือและแรงเคลื่อนกายเลยมากกว่าปกติจนผมต้องทักท้วงหลายต่อหลายครั้ง แม้จะทำตามแต่ไม่นานก็กลับมารุนแรงอีกจนแทบหายใจไม่ทัน ความรู้สึกสุขสมยามมีพี่โชอยู่ในร่างกายมันเหมือนถูกเติมเต็มจนเอ่อล้นด้วยความรัก


   รอบที่เท่าไหร่ผมก็ไม่ได้นับ เพียงรู้แค่ว่า...พรุ่งนี้ผมคงไม่สามารถลุกจากเตียงได้ในเวลาเช้าแน่

   “อึก พี่โช พะ พอแล้ว จะเช้าแล้ว” ผมเริ่มทักท้วงหลังจากได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงก็ถูกปลุกด้วยมือและปาก จนนาฬิกาใกล้เข้าสู่เช้าวันใหม่

   “งั้นอีกรอบนะ” คำพูดก็เป็นแค่คำพูด แต่การกระทำมันโคตรจะขัด จากคำว่าอีกรอบ ผมถูกทำไปเกือบจะสามรอบติด นี่เป็นเรื่องที่ผมเชื่อใจพี่โชไม่ได้ เพราะคนหื่นมันไว้ใจเรื่องบนเตียงไม่ได้


   ความคิดถึงทำให้ผมต้องจำไปอีกนาน และถุงยางอนามัยผมไม่น่าเอาไปเก็บที่เดิม ได้โปรดไว้อาลัยกับร่างกายของผมด้วย....   


.......TBC


พาพี่โชกับน้องกลอยมาส่งเข้านอนค่า

ไม่มีมาม่าแล้ว >w<


เจอกันตอนหน้าค่ะ  :mew1:


(ตอนใหม่รอบสองมาเกือบเที่ยงคืนอีกแล้ว)
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 06-08-2016 23:46:30
    โทษทีพี่ฟลอยด์     กลอยมีเจ้าของ
คงได้แต่มอง             อย่าจ้องเขาหวง
พี่โชรักกลอย             คอยตามคอยห่วง
รักจริงไม่ลวง             หื่นหวงแต่กลอย :กอด1:

    ข้าวผัดกลอยทำ     อร่อยล้ำแค่โช
เพื่อนจอมโมโห         โชหวงอดกิน :m20:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


มีกลอนด้วย ขอบคุณค่าาาา ฮาข้าวผัดจริงๆ อ่านแล้วสงสารพี่จอมเลย  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 07-08-2016 01:00:13
แต่จริงๆกลอยก็ควรวางตัวกับฟอยด์ให้ห่างกว่านี้ป่ะ
แบบนี้เหมือนทำตัวเฟริทใส่เค้าไปเรื่อยเวลาฟอยด์มายุ่งด้วย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-08-2016 02:38:45
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-08-2016 03:24:43
ทานแล้วนะคร้าบบบบบ

พี่โชไม่ไดีกล่าว...แต่กินเลย555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 07-08-2016 04:12:40
พี่โชเอาซะอิ่มเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 07-08-2016 06:42:51
พี่จอมกับกับพี่ซันเขาเป็นอะไรที่นอกเหนือจากเพื่อนปะอยากรู้เหมือนกลอยใจอะ5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 07-08-2016 07:13:31
ใกล้จบเเล้วสินะ อ่านเเล้วมันส์ไปกับเดอะเเก็งค์นี้มาก นี้เเน่ใจว่าเรียนวิวะ ไม่มีคีพลุค แบบเท่ๆ เอิ่มมมนะ เเต่ละคนโคตรเกรียนอ่า 55555 เเก็งค์นี้อย่าได้ไปรวมตัวกันที่ไหน วงเเตกทุกที
เเล้วเรื่องทั้งหมดก็ผ่านไปแล้ว ดีนะที่พี่โชกับกลอยหนักเเน่นพอ เเละไม่ทิ้งกันไปไหน

เห็นนักเขียนบอก จะมีเรื่องใหม่ รอติดตามเลยนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 07-08-2016 09:59:48
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-08-2016 10:14:14
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-08-2016 10:20:58
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 07-08-2016 11:42:06
ชอบบบบ
พี่โชโคตรหื่น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-08-2016 12:17:57
อ้ออออ เป็นแบบนี้นี่เอง ส่วนเรื่องพี่ฟลอยด์สงสารนะเหมือนโดนใช้เป็นเครื่องมือไปด้วยเลยเพราะถึงแม้จะบอกว่าพี่ฟลอยด์นิสัยเอาแต่ใจเหมือนพี่โชแต่คิดว่าถ้ากลอยจะปฏิเสธจริงๆก็ไม่น่ายากนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 07-08-2016 13:15:54
พี่โชไว้ใจได้ทุกเรื่องยกเว้นความหื่นที่ไว้ใจไม่ได้ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-08-2016 16:00:41
อิ่มเลยน่ะพี่โช อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-08-2016 20:53:04
สงสัยกลอยจะหวานกรอบอร่อย
พี่โชถึงชอบกิน หื่นจริงอะไรจริง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 07-08-2016 23:01:43
มารอ  นะมาต่อไว้ๆๆๆๆๆนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-08-2016 23:03:52
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 29 + 30 UP!!<< // [06/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-08-2016 23:35:42
หวานหอมเบาๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 07-08-2016 23:55:53
Just you and I : 31



        “ไอ้กลอย มึงหัดทำเพื่อส่วนรวมบ้างค่ะ อย่าเอาเปรียบและเบียดเบียนผู้อื่นให้มากนัก” ผมกำลังถูกเทศนาโดยอีเข็มครับ หลังจากเจอหน้ามันก็โวยวายเรื่องมันเป็นสปายให้พี่โช แต่พอหลังจากนั้นมันก็ไปบอกไอ้ประธานรุ่นส่งงานให้ผมทำ มันแก้แค้นผมอยู่ใช่มั้ย

   “โธ่ มึง หน้าอย่างกูเนี่ยนะ”

   “ค่ะ หน้าแมวๆ อย่างมึงนี่แหละ อย่าเยอะ”

   งานที่ผมต้องทำคือการไปเป็นพี่ตีเนียนพร้อมรุ่นน้องเพื่อปะปนไปกับเด็กปีหนึ่งที่กำลังจะเข้ามา ที่จริงงานนี้ควรมีแต่ปีสองไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมปีสามอย่างผมต้องทำด้วย ปีที่แล้วก็ผมนี่แหละครับ ไปตีสนิทกับกลุ่มไอ้รอนเลยโดนมันตามเล่นหัวอยู่ทุกวันนี้

   “ทำไมมึงไม่ให้เด็กปีสองไปสองคนละวะ” ไอ้ทูถามครับ ไอ้เชี่ยนี่ลอยตัวไม่ต้องทำอะไร ส่วนไอ้สักมันเป็นพี่ว้าก แต่คณะผมมันว้ากไม่โหดแต่เน้นฮา เอาไอ้สักไปปั้นหน้าโหดก็พอ ตอนนี้มันเริ่มไว้หนวดตามคำสั่งท่านประธานรุ่น

   “ปีสองก็ส่วนหนึ่ง ปีเราก็ส่วนหนึ่ง จะได้รู้อะไรเยอะขึ้นไงคะดอก อย่าถามมาก เซนต์เลยค่ะ อย่าเวิ้น” อีเข็มยื่นเอกสารให้ผมลงชื่อ ปีสามขออยู่แบบสงบๆ หน่อยไม่ได้หรือไงวะ สายตาโหดกดดันให้ผมเขียนชื่อตัวเองลงไปท้ายชื่อน้องปีสอง “เรียบร้อย” พอได้สมใจมันก็ถีบหัวผมส่ง

   เรื่องสปายผมไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย โคตรไม่ยุติธรรม

   “เอาน่ามึง หน้ามึงให้อยู่แล้ว” ไอ้ต๋องตบบ่าปลอบใจผมครับ

   “ใช่ มึงต้องภูมิใจที่หน้ามึงดูอ่อนกว่าวัยที่เกือบจะสามสิบ” สามสิบพ่อง ผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้เชี่ยเคที่หัวเราะคิกคัก

   “แต่กูขออย่างเดียวนะ” ไอ้สักดูเคร่งเครียดจนพวกผมต้องตั้งใจฟังมัน “ขอแค่มึงอย่าหาผัวเพิ่มเป็นพอ” แล้วพวกมันก็หัวเราะจนท้องแข็ง

   “ไอ้เชี่ย ไปไกลๆ ตีนกูเลย ไป๊”

   ไล่พวกมันแต่เป็นผมที่เดินออกมาเอง แล้วจะไล่พวกมันทำไมไม่เข้าใจ แต่ที่เดินออกมานั่นเพราะโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงมันสั่นด้วยส่วนหนึ่ง คงจะเป็นคนที่อีเข็มมันเทิดทูน ผมจำได้ดีกับประโยคก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง

   ‘กูอาสาเป็นให้พี่เขา เพราะพี่เขาคือเมะในฝันของกูค่ะอีดอก’


   ปล่อยมันฝันถึงซะให้พอ


   ผมออกมาหลบหาที่สงบๆ เพื่อจะรับโทรศัพท์ที่ดับไปแล้วหลายรอบ ผมบอกไปแล้วว่าเลิกประชุมประมาณเที่ยงๆ แต่พี่แกเล่นกระหน่ำโทรตั้งแต่เข็มยาวเข็มสั้นซ้อนทับกันมาจนถึงตอนนี้เกือบจะชั่วโมงหนึ่งแล้วครับ โทษผมไม่ได้ที่มันเลิกช้า ต้องโทษไอ้ประธานรุ่นที่มันพูดมาก

   (เลิกหรือยังวะ) มาแบบนี้คงเริ่มอารมณ์เสีย

   “ใกล้แล้ว พี่โชมาแล้วเหรอ” ผมหันซ้ายหันขวามองหาเพื่อพี่แกจะมาอยู่รอ แต่ก็ไม่เห็น

   (กำลังเลี้ยวเข้าไป)

   “อ่อ”

   พอได้ยินผมก็รีบสาวเท้ากลับไปที่ลานใต้ตึกที่เราประชุมกัน หยิบเป้ขึ้นสะพายบ่าปุ๊บก็โดนสายตามองแรงจากเฮดรุ่น แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรนอกจากคุยกันเองมันเลยได้แค่มอง ผมบอกลาเพื่อนๆ แล้วรีบวิ่งออกมา ประจวบที่โชขับรถปาดมาหน้าตึกพอดิบพอดี

   รีบยื่นมือเปิดประตูแล้วสอดตัวลงไปนั่ง ที่ต้องรีบเพราะตอนบ่ายผมมีนัดครับ ไม่ใช่นัดกับพี่โช แต่นัดกับแม่ของพี่เขานั่นแหละครับ คือวันนี้เป็นวันเกิดของพ่อพี่โช และผมก็ต้องไปทำอาหาร จะขัดก็ไม่ได้เพราะเหมือนถูกบังคับกลายๆ จากแม่และพี่สาวพี่โช

   ผมแกะซองขนมปังแล้วยื่นไปจ่อปากคนขับ พี่โชเหล่ตามองนิดๆ ก่อนจะอ้าปากกัดขนมปังไป สงสัยจะหิว เพราะตอนแรกเรานัดว่าจะไปกินข้าวก่อนกลับบ้าน แต่ผมกลับเลิกช้าพี่โชก็คงไม่ยอมกินก่อน ผมเลยไปซื้อขนมปังมาเตรียมไว้ (ฉลาดมากไอ้กลอย) พี่โชเลยดูอารมณ์ดีขึ้นกว่าตอนแรกที่ผมขึ้นมาบนรถ
 

   แอร์รถยังไม่หนาวเท่ารังสีรอบตัวพี่โชเลยครับเมื่อกี้นี้


   “ผมไม่ออกไปเหมือนคราวที่แล้วได้หรือเปล่า” เริ่มชวนคุยเพราะการจราจรมันติดแน่น ปิดเทอมแล้วทำไมรถยังติด ไม่กลอยไม่เข้าใจ

   “ทำไมไม่อยากออกไป” พี่โชถามหลังจากกัดขนมปังที่ผมป้อนอีกรอบ

   “ก็วันนี้คนเยอะแน่เลย ผมออกไปแล้วรู้สึกแปลกๆ อ่ะ” สายตาของญาติพี่โชตอนนั้นดูเป็นมิตรทุกคน แต่วันนี้มีคนอื่นด้วย ผมกลัวพี่โชจะถูกมองไม่ดี

   “ไม่ต้องคิดมากหรอก ก็คนกันเองทั้งนั้น” ได้แต่ทำหน้ามุ้ยหลังจากได้ยินคำตอบ คนกันเองของพี่แต่ไม่ใช่ของผมไง โด่ พี่โชเห็นผมเงียบเลยยื่นมือมายีหัวผมซะฟู “ออกไปก็ยืนอยู่ข้างพี่ตลอดจะได้ไม่ต้องรู้สึกแปลก”

   “นั่นยิ่งแล้วใหญ่เหอะ” ผมว่า “พี่เป็นลูกชายเลยนะ คนต้องสนใจมากอยู่แล้ว” แถมหล่ออีก

   “คิดมาก”

   คิดมากดีกว่าคิดน้อยนะ มันต้องมีพวกบรรดาคุณหญิง คุณนายที่อยากถวายลูก หลานให้แน่ๆ เหมือนแบบในละครที่แม่ผมชอบดู แล้วผมก็จะถูกเหยียดในวงกว้าง ผมไม่ใช่คนติดละครนะ แค่ได้ดูก่อนนอนทุกคืนก็แค่นั้น


   ฝ่ารถติดมาเกือบชั่วโมง รถสปอร์ตคาร์สีดำมันวาวก็จอดนิ่งในโรงจอดประจำ ผมสูดเอาอากาศเรียกขวัญกำลังใจก่อนจะเปิดประตูรถออก แค่ยืนอยู่ข้างรถก็ถูกมองจากคนที่มาช่วยงาน อาจเพราะมากับลูกชายเจ้าของงานด้วย วันนี้แม้จะจ้างโรงแรมทำทั้งหมด แต่ผมก็ยังต้องมาทำอาหารเพิ่มอีก ผมก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไม

   “มาแล้วๆๆ” เสียงร้องดังลั่นทันทีที่ผมก้าวขาเข้าไปในบ้าน คนที่ร้องก็พี่สาวใช้ตัวเล็กที่รีบวิ่งมาจับแขนผมแล้วลากให้เข้าไปในห้องครัว

   ผมยกมือไหว้พี่ๆ ทุกคนที่เตรียมของอยู่ในห้องครับ ป้านีตบไหล่ผมเบาๆ เพราะแกเคยบอกไม่ให้ผมไหว้ แต่ผมเป็นคนมีมารยาท แล้วแม่ก็สอนว่าให้ไหว้คนแก่กว่าเสมอ

   “วันนี้จะทำแกงอะไรเหรอครับ” ผมมองผักที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ มีทั้งมะเขือ ฟักเขียวหรือฟักแฟง ผักคะน้า ดูเหมือนมันไม่เข้ากันเท่าไหร่ เอามารวมกันก็คงไม่อร่อย

   “มะเขือนี่เราจะทำแกงเขียวหวานค่ะ ส่วนฟักเขียวจะทำต้มจืดใส่กระดูกหมู แล้วผักคะน้านี่เอาออกมาเกิน” ป้านีว่า ผมว่าป้าแกก็เป็นคนตลกนะครับ

   จากนั้นผมก็มือไม่ว่าง เพราะต้องช่วยหั่นนั่นปอกนี่ ยิ่งไปกว่านั้นคือป้านีสอนให้ผมแกะสลักฟักที่จะใส่ในแกงจืด ผมอยากจะบอกป้านีว่า ถ้าป้าทำเองคงจะเสร็จไปนานแล้วแถมไม่ต้องเอาทิ้งแบบนี้ ถังขยะมีฟักที่หักสองท่อนค่อนถัง ฝีมือผมนั่นแหละครับ ทุกครั้งที่ต้องเอาทิ้งผมแทบจะร้องไห้

   “ค่อยๆ ทำค่ะ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด” ป้านีปลอบ

   “ครับ” ผมรับคำ “แล้วทำไมเราต้องทำเพิ่มละครับ กับข้าวด้านนอกก็น่าจะเยอะพอแล้วนะ” ถามในสิ่งที่สงสัยแต่ทุกคนในห้องครัวต่างพากันหัวเราะคิกคักจนผมแปลกใจ

   “คุณท่านอยากให้ทุกคนได้ชิมฝีมือว่าที่ลูกสะใภ้ค่ะ” พี่สาวใช้ตัวเล็กกระซิบ (เสียงดัง) บอก

   เอ่อ ใครเอาหน้าผมไปต้มหรือเปล่า รู้สึกร้อนๆ พิกล

   ใช้เวลานานพอสมควรกับการทำแกงเขียวหวานไก่ ผมตำน้ำพริกเอง สูตรของแม่ครับ คราวที่แล้วที่มาก็ทำ ซึ่งลุงและป้าของพี่โชชมกันใหญ่ แถมขอกลับบ้านด้วย แอบภูมิใจนิดๆ ถ้าแม่รู้ว่าทุกคนชอบแม่ผมคงดีใจ ที่สำคัญ มีลูกเก่งขนาดนี้ต้องยืดแน่ๆ
 
   เวลาบ่ายคล้อย หม้อแกงสองหม้อก็ถูกยกออกไปเตรียมไว้ด้านนอกพร้อมขนมจีน ผมแอบมองอยู่ห่างๆ กับพี่สาวใช้ตัวเล็ก อาหารที่โรงแรมจัดมาค่อนข้างดูดี แต่น่าจะไม่อิ่มเพราะปริมาณช่างเหมือนเอามาแค่โชว์ ซึ่งคนที่ดูอยู่ข้างๆ ผมก็พยักหน้าเห็นด้วย
 
   “คุณน้องกลอยไม่ไปอาบน้ำเหรอคะ แขกคุณท่านเริ่มมาแล้วนะ” หน้าบ้านเริ่มมีคนเดินเข้ามาแล้วครับ

   “เดี๋ยวค่อยไปก็ได้ ผมไม่รีบ” และไม่อยากออกไปด้วย เราสองคนแอบดูอยู่อีกครู่ใหญ่ก่อนผมจะขอตัวไปอาบน้ำ ถ้าไม่ไปมีหวังถูกอุ้มพาดบ่าอีกแน่

   ผมค่อยๆ ย่องผ่านห้องรับแขกเพื่อขึ้นไปห้องพี่โชที่อยู่ชั้นสอง แต่ก้าวขาขึ้นบันไดขั้นแรก เสียงกับแรงก็กระแทกตัวผมจนล้มลง ดีที่มันไม่แรงเลยแค่ขัดยอกนิดหน่อย คนที่ชนเป็นสาวตัวเล็กหลานของเจ้าของบ้าน น้องบีมยิ้มโชว์ฟันหลอ
 
   “น้ากลอยมาเมื่อไหร่คะ ทำไมน้องบีมไม่เห็น” เสียงใสถาม ผมลูบหัวน้องเบาๆ เพราะความน่ารักน่าชัง

   “มานานแล้วครับ พี่อยู่ในครัว” แม้น้องบีมจะเรียกผมน้า แต่ผมว่ามันดูแก่ไป เรียกพี่ก็พอ

   “ไปอยู่ทำไมในนั้นคะ น้องบีมเลยไม่เห็นเลย” เสียงเจื้อยแจ้วถามต่อ “น้าโชก็ไม่เห็นบอก น้องบีมต้องไปโป้งน้าโชแล้ว” ปากแดงยู่อย่างน่ารักจนผมขำ

   “โป้งเลยครับ” ผมเห็นด้วย แล้วผมก็ขอตัวไปอาบน้ำ น้องบีมพยักหน้ารับรู้พร้อมกับเดินตามผมขึ้นไปด้วย “มีอะไรเหรอครับ” ผมหันไปถามร่างเล็กที่สาวเท้าสั้นๆ ขึ้นตามมา

   “น้องบีมจะไปนั่งรอน้ากลอยในห้องค่ะ” น้องยิ้มแย้มผมเลยพยักหน้า เพิ่งสังเกตว่าน้องบีมไม่เรียกผมน้าสะใภ้แล้ว เรียกน้ากลอยยังรู้สึกดีกว่า แต่ใจจริงเรียกพี่ดีกว่ามาก

     ผมเคาะห้องพี่โชจนคนด้านในเปิดประตูออกมารับ พี่โชอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย สวมสูทเหมือนกับตอนทำงาน แต่ตอนนี้ดูสบายๆ เพราะไม่ได้ผูกไทด์ พอเห็นผมยืนอยู่หน้าประตู พี่โชก็ยิ้มรับแล้วจะอ้าแขนกอด แต่ผมขยับตัวห่างจนพี่โชขมวดคิ้ว

   “ผมตัวเหม็นจะตาย” พอได้ยินคนหน้าบึ้งเลยพยักหน้านิดๆ แล้วให้ผมเข้าไปอาบน้ำ ขณะพี่โชจะดึงประตูปิด แรงเล็กๆ ยึดไว้จนพี่โชต้องก้มมอง ผมก็ลืมบอกว่าด้านหลังผมมีน้องบีมมาด้วย

   “น้าโชอ่ะ น้องบีมโป้งแล้ว” หลานสาวตัวน้อยยกนิ้วโป้งสองข้างยื่นใส่น้าตัวเอง ผมมองแล้วก็ขำเมื่อเห็นพี่โชเลิกคิ้วมอง

   “มาโป้งน้าโชทำไมครับ” พี่โชนั่งลง ยื่นมือไปลูบแก้มป่องของน้องบีม

   “ก็น้าโชไม่บอกน้องบีมว่าน้ากลอยมา”

   “ก็น้องบีมไม่ถามนี่ครับ”

   “น้องบีมมองไม่เห็นก็เลยไม่ได้ถามนี่นา”

   มองสองน้าหลานพูดกันก็ดูน่ารักดี พี่โชเวลาอยู่กับหลานดูเป็นคนอบอุ่น แววตาอ่อนโยนเหมือนเป็นอีกคน ผมมองอีกครู่เดียวก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย กลิ่นเหงื่อกับกลิ่นแกงเขียวหวานติดตามตัวจนรู้สึกเหม็น พออาบน้ำเสร็จออกมาก็ไม่เห็นสองน้าหลาน คงจะลงไปรออยู่ด้านล่าง

   ชุดที่พี่โชเตรียมไว้ให้เป็นเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนกับกางเกงสแล็คเข้ารูปสีดำ กางเกงก็ไม่ติดใจ แต่ทำไมเชิ้ตผมต้องสีชมพูวะ ของพี่โชเมื่อกี้เป็นสีขาว ผมก็อยากใส่สีขาวอ่ะ แต่เตรียมไว้ให้แล้วไม่ใส่ก็ไม่ได้ ก่อนออกไปก็ทาแป้งเด็ก (ของผม) ที่หน้าสักนิดกลบความมันกับพ่นน้ำหอมกลิ่นที่ผมชอบ ก็ของพี่โชนั่นแหละครับ หอมดี ส่องกระจกเช็คความพร้อมอีกรอบก่อนจะลงไปด้านล่าง


   ด้านล่างผู้คนเริ่มพลุกพล่าน ทั้งหญิงทั้งชายเดินกันจนเต็มสนามหญ้าหน้าบ้าน บางคนผมก็รู้จักเพราะเคยเห็น หรือว่าญาติพี่โชบางคนผมก็พอรู้จัก อย่างคุณหมอสาที่เห็นหน้าผมปุ๊บก็รีบลากส้นแหลมเข้ามา

   “อุ้ย มองหาตั้งนานคิดว่าจะไม่มา” หมอสามาถึงก็ยื่นมือมาควงแขนผมเลยครับ ผมกำลังจะยกมือไหว้เลยได้แต่ก้มหัวทักทายแทน

   “อ่าครับ ผมเพิ่งไปอาบน้ำมา” ผมบอกพลางเอนตัวหนีจมูกโด่งที่ยื่นเข้ามาแถวซอกคอ “เอ่อ”

   “แหม ตัวหอมนะเนี่ย” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ดูแล้วไว้ใจไม่ได้ แต่ก็หนีไม่ได้ “ป่ะ ออกไปรู้จักคนข้างนอกกัน”

   แม้ผมจะพยายามขืนตัวเองแต่แรงดึงก็มากพอที่จะพาผมมายืนยิ้มแหยอยู่หน้ากลุ่มหนุ่มสาวประมาณหกคน ทุกคนมองผมอย่างสนใจ โดยเฉพาะหญิงสาวที่สวมชุดเดรสสีโอรส

   “น่ารักจัง” คำชมที่ผมได้ยินชัดที่สุดจากสาวชุดโอรส หมอสาก็ยิ้มยืดเหมือนโดนชมเอง “ใครอ่ะสา” พอถูกถาม หมอสาก็ยิ้มกริ่มจนผมกลัวคำตอบที่จะออกจากปากสีแดง

   “ว่าที่น้องสะใภ้” นั่นไง ผมคิดไม่ผิด

   “หา?” ทุกคนดูตกใจกับคำตอบ แต่สาวชุดโอรสยิ้มแย้มไม่มีทางทีตกใจ

   “น่ารักเหมือนในรูปจริงๆ ด้วย” คำชมยังออกมาอีกรอบจนผมแปลกใจ รูปอะไรหว่า

   “ใช่มะๆ ฉันบอกแล้วว่าตัวจริงน่ารัก” หมอสาพูดไปยิ้มไป

   “คนนี้เหรอที่ให้ดูรูปน่ะ” ผู้ชายร่างสูง (แต่ปากแดง) มองผมตั้งหัวจรดเท้า ก่อนยิ้มออกมา “ดูดีว่ะ”

   “ใช่มะๆ” หมอสาก็ยังดูชอบใจอีก

   “ชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” สาวชุดสีแดงถามผม ดวงตาดูเป็นประกายจนผมต้องยิ้มกว้างให้

   “เอ่อ ชื่อกลอยครับ” ตอบยังไม่เสร็จดีกลุ่มนี้ก็แอบกรี๊ดเบาๆ จนผมผงะ เริ่มกลัวครับแบบนี้

   “ชื่อเข้ากับหน้าอ่ะ ว่าแต่ คบน้องโชมานานหรือยังจ๊ะ” ดูเหมือนนี่คือสิ่งที่ทุกคนกำลังรอคอย ดูแต่ละคนจ้องอย่างตั้งใจ แล้วพี่โชหายไปไหนวะ ปล่อยให้ผมถูกรุมเนี่ย

   “เอ่อ ไม่นานครับ” แม้จะหวั่นๆ แต่ก็ตอบ ตาก็คอยแลมองหาคนที่พาผมมาเมื่อเช้า

   “นี่ขนาดไม่นานนะแก ป้ายังรักขนาดนี้ แล้วก็แกงเขียวหวานที่บอกอร่อยก็ฝีมือคนนี้นี่แหละ” หมอสาชมผมออกหน้าออกตามากถึงมากที่สุด

   “จริงเหรอ ว้าว อร่อยมากเลยค่ะ พวกเราจัดไปอย่างเยอะจนแน่นท้องไปหมด”

   “นี่ถ้าเอาถุงมาด้วยคงห่อกลับบ้านแล้ว”

    ไม่รู้พูดจริงหรือแกล้งหลอก แต่ผมก็แอบยืดนิดๆ นะ มีคนชมกับข้าวฝีมือผม รู้แบบนี้ตอนแม่สอนน่าจะตั้งใจมากกว่านี้ ผมเลยทำได้แค่ไม่กี่อย่าง

   หลังจากถูกซักไซ้จนพอใจ หมอสาก็พาผมมาอีกกลุ่มซึ่งผมพอจะรู้จักครับ เคยเจอเมื่อตอนงานสิ้นปี หนึ่งในนั้นก็พ่อของหมอสาที่เคยรักษาหัวเข่าให้ผม ผมยกมือไหว้ทุกคนอย่างช้าๆ คือเอาจริงๆ นะ ผมก็ยังแอบกลัวญาติของพี่โชอยู่ดี

   “ไงล่ะเรา หัวเข่าหายดีแล้วใช่มั้ย” พ่อของหมอสาถามผมพร้อมรอยยิ้ม

   “ครับ ขอบคุณนะครับ” ยกมือไหว้อีกรอบจนผู้หญิงที่ยืนข้างๆ หัวเราะออกมา (แม่ของหมอสาครับ)

   “ไม่แปลกที่คุณพี่จะชอบนะคะ” แม่ของหมอสายังสวยสะพรั่งเหมือนสาววัยรุ่นครับ ดูไม่แก่นั่นแหละ หมอสาคงได้แม่มาเยอะ

   “นั่นสิ ตอนแรกก็แปลกใจว่าทำไมถึงยอมให้คบ” คนนี้เป็นลุงของพี่โช เจอครั้งแรกเคยมองผมด้วยหางตา ตอนนี้ก็ยังมองแบบนั้นอยู่ ดีที่หมอสากระซิบว่าแกนิสัยแบบนั้นแต่เป็นคนไม่มีอะไร

   “ก็บ้านนี้เขาไม่หัวโบราณเหมือนคุณนี่คะ” ภรรยาของลุงพี่โชพูดเหน็บสามีตัวเอง คนโดนถึงกับกระแอมเบาๆ “ว่าแต่ หนูทำแกงเขียวหวานใช่มั้ย ฉันจำรสชาติได้”

   “ครับ”

   “ยังอร่อยเหมือนเดิมนะ” แล้วผมก็ยกมือไหว้ขอบคุณ รู้สึกได้ยืดอีกแล้ว


   จากนั้นหมอสาก็พาผมไปที่นั่นที่นี่แล้วก็บอกว่าผมทำแกงเขียวหวาน แล้วก็ได้คำชมจากทุกคนจนแทบจะลอยแทนลูกโป่งอยู่แล้ว

   ไม่นานหลังจากลอยได้ ผมก็ขยับมายืนใกล้หมอสาเมื่อพ่อและแม่ของพี่โชเดินควงกันออกมา ด้านหลังมีพี่โชกับพี่ชีสเดินตาม น้องบีมถูกคุณพ่ออุ้มอยู่ เด็กตัวน้อยโบกมือให้ผมด้วย ทำไมรู้สึกว่างานวันเกิดมันโคตรอลังการดาวล้านดวงขนาดนี้ เหมือนกับเปิดตัวคนสำคัญของประเทศก็ว่าได้ หมอสาแอบกระซิบว่าโคตรเว่อร์ ซึ่งผมก็พยักหน้าเห็นด้วย

   พ่อของพี่โชเดินไปทักทายบรรดาผู้ร่วมงานอย่างเป็นกันเอง แม้แต่แม่บ้านของบริษัท พ่อพี่โชยังคุยอย่างยิ้มแย้ม ผมว่า คนเป็นผู้นำต้องเป็นแบบนี้นะ ไม่ใช่คอยแต่ชี้นิ้วสั่ง คอตั้งตลอดเวลา แบบนั้นลูกน้องไม่รักหรอกครับ ถ้าเราทำให้ลูกน้องรัก งานที่ออกมาก็จะดีตาม ทุกคนก็มีความสุขเวลาทำงาน

   “ไม่ไปหาโชเหรอ มองหาจนคอจะหมุนรอบทิศแล้ว” เสียงหัวเราะเล็กๆ ทำให้ผมยืดคอมองดู และก็จริง พี่โชมองหาบางอย่างจนคอแทบจะหมุนได้รอบ

   “จะดีเหรอครับ” โคตรไม่มีความมั่นใจ

   “ดีสิ ป่ะ เดี๋ยวพี่พาไป”

   ผมถูกหมอสาลากมาหาพี่โชที่ยืนหน้างออยู่ ดวงตาคมจ้องแขนของผมที่มีมือหมอสาคล้องอยู่ ผมรีบลดแขนลงจนหมอสายกมือตัวเองออก คงจะเข้าใจเลยไม่ได้ว่าอะไร

   “ก็ว่าหายไปไหน ที่แท้ถูกเธอลากไปนี่เอง” พี่ชีสว่า ก่อนหมอสาจะควงแขนพี่ชีสไปที่อื่นแทน โดยปล่อยให้ผมยืนอยู่กับพี่โชสองคน

   คนตัวสูงกว่าจ้องนิ่งจนผมต้องยิ้มให้ กลัวจะออกฤทธิ์เดช พี่โชหน้างอเหมือนเด็กโดนขัดใจ

   “พี่โช” ผมเรียกเบาๆ เพื่อเตือนให้รู้ถึงสิ่งที่เคยตกลงกันว่ารู้สึกอะไรให้พูด เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะต้องทะเลาะกันอีก

   “พี่รออยู่ในห้องรับแขกตั้งนาน” น้ำเสียงติดงอนจนผมแอบขำ

   “ก็ผมไม่เห็นนี่ ออกมาก็เจอหมอสาแล้วก็ถูกดึงออกมาเลย” ผมบอก ตอนลงมาก็มองหาแล้วนะ แต่ไม่เห็นใคร “พี่โชกินข้าวหรือยัง แกงที่ผมทำจะหมดแล้วด้วย” เมื่อกี้แอบไปที่โต๊ะมา พี่ตัวเล็กบอกแกงแทบไม่เหลือ

   “ยัง”

   “หิวหรือเปล่า” พี่โชไม่ตอบแต่เดินมาใกล้แล้ววางหน้าผากบนบ่าของผม

   “ค่อยกลับไปกินที่ห้อง”

   “เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก แล้วจะได้กลับกี่โมงก็ไม่รู้” วันเกิดพ่อทั้งทีพี่โชก็น่าจะอยู่และควรจะนอนที่บ้านด้วย
 
   “กลับเลยก็ได้” พูดเหมือนเด็กเอาแต่ใจจนผมต้องส่ายหน้า ก่อนดันให้ยืนดีๆ แม้ตรงที่ผมกับพี่โชยืนจะเป็นมุมสวน แต่คนก็มองเห็นอยู่ดี

   “ได้ไง วันเกิดพ่อพี่ทั้งทีนะ แล้วพี่น่าจะนอนบ้านด้วย” ผมบอก แต่พี่โชส่ายหน้า

   “ถ้านอนนี่ หลานพี่ได้ขอมานอนด้วยแน่”

   “ก็ไม่เห็นเป็นไร” ผมตอบแล้วก็ต้องรีบย่นคอหนีเมื่อมีเสียงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูพร้อมกับเป่าลมร้อน

   “มีคนมานอนด้วยทำอะไรไม่ถนัด”

   “พี่เลิกหื่นสักวันได้ป่ะเนี่ย”

   ผมโวยวายแล้วรีบเดินหนี พี่โชแม่งหัวเราะเหมือนผู้ร้ายแล้วก็เดินตามหลังผมมา บ้าจริงเชียว



   ภายในงานยังคงคึกคัก เพลงที่บรรเลงเพิ่มบรรยากาศให้ดูสนุก เพราะยิ่งดึก ดนตรียิ่งมันส์ แต่งานนี้ไร้แอลกอฮอล์ทุกอย่าง ดังนั้นคนที่เต้นรำในงานจึงเมาน้ำเปล่าไม่ก็น้ำผลไม้ ผมยืนหัวเราะเพื่อน (ปากแดง) หมอสาที่กำลังเต้นเป็นเอลวิสแถมมูนวอร์กแบบไมเคิลด้วย ก่อนจะมีมือเล็กๆ มาสะกิดให้ก้มมอง

   “น้ากลอยคะ คุณยายเรียกค่ะ” คุณยาย...แม่พี่โชสินะ ผมเดินตามหลานพี่โชไปโดยมีพี่โชเดินตามมาติดๆ แต่ถ้าจะให้ดี ไม่ต้องติดขนาดนี้ก็ได้ นี่พี่แทบจะสิงผมแล้วครับ

   “พี่เดินห่างๆ หน่อยได้ป่ะ” กระซิบเบาๆ แต่อีกคนพูดมาผมก็เลยเลือกจะเดินไปเงียบๆ

   “เดี๋ยวพี่หลงทำไง เพราะแค่นี้ก็หลงจนหาทางกลับไม่เจอแล้ว”

   เอาที่พี่สบายใจเลยครับ เอาให้ผมเขินซะให้พอ

   แม่ของพี่โชยืนรอผมอยู่ด้านหลังเวที ไม่ใช่เวทีใหญ่โตเหมือนหมอลำ มีแค่ฟลอร์เล็กๆ วางแล้วตกแต่งดอกไม้กับผ้าสีขาวให้พริ้วตามแรงลมก็แค่นั้น ตรงกลางมีไมค์โคโฟนวางอยู่ ผมยกมือไหว้พ่อของพี่โชที่เดินผ่านหน้าไป ท่านแค่ชายตามองนิดๆ แต่เหมือนดูดกลืนพลังวิญญาณผมไปด้วย

   พอพ่อของพี่โชขึ้นไปยืนเด่นกลางเวที เพลงและเสียงพูดคุยก็เงียบลง ผมยืนมองอยู่ด้านข้าง พี่โชใบหน้าจะคล้ายแม่มากกว่า แต่สายตานี่ถอดแบบของพ่อมาเป๊ะ เวลาที่ท่านจ้องมองไปด้านหน้ารู้สึกถึงพลังที่มันเอ่อล้นออกมา ยิ่งน้ำเสียงเหมือนมีมนต์สะกดทำให้ผู้คนหลงใหล (เริ่มเหมือนหนังจีนกำลังภายใน) ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

   คำกล่าวขอบคุณบรรดาแขกเกรื่อจบลงเรียกเสียงปรบมือดังทั่วสารทิศ แม้แต่ด้านหลังผมก็ยังปรบมือให้ ท่านขอบคุณพนักงานทุกคนแม้แต่พี่ยามกับลุงยามที่พากันน้ำตาไหล ซึ้งในคำพูด ก่อนท่านจะเรียกลูกสาว ลูกชายและลูกเขยให้ขึ้นไปยืนข้างๆ และแนะนำว่าในอนาคตบริษัทจะดำเนินต่อไปโดยรุ่นของลูกๆ ที่ถูกปลูกฝังแบบที่ท่านเคยโตมา ซึ่งพนักงานต่างก็ชื่นชมยินดี

   พอเห็นพี่โชยืนตรงนั้นแล้ว ระยะห่างของผมมันมากซะจริงๆ

   ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นจนจุกทำให้ต้องย่นหน้า ไม่ใช่น้อยใจ แต่หิวนั่นเอง อย่ามองผมด้วยสายตาเชิงตำหนิ ผมไม่ได้เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยแบบผู้หญิงที่กังวลเรื่องฐานะ แล้วผมก็ไม่ใช่คนดีที่จะถอยหลังให้คนที่คู่ควร แต่ถ้าเกิดวันไหนที่ผมจะไป วันนั้นคือวันที่พี่โชต้องเอ่ยปากไล่ผมเอง ไม่งั้นเอาเต่ามาลากผมก็ไม่ไป

   ผมกำลังจะหมุนตัวเดินออกไป แม่พี่โชกลับยื่นมือมาผลักให้ผมเซออกไปยืนข้างกับสามีของพี่ชีส จนทุกคนตกใจ...แต่ผมยิ่งกว่าตกใจอีก แถมไมค์ยังหอนขึ้นมาซะเฉยๆ มันเหมือนเป็นลางไม่ค่อยดี ผมได้แต่ก้มหัวขอโทษทุกคนที่ขัดจังหวะ พอจะก้าวเดินก็ถูกมือใหญ่ดึงไว้ ไม่ใช่มือพี่โชครับ

   “อ่า ผมลืมแนะนำอีกคนไป” พ่อพี่โชพูดออกไมค์ ผมแทบอยากจะแหวกอากาศหนี นี่ถ้ามีประตูวิเศษของโดราเอม่อนคงหยิบออกมาแล้วเดินหนีหายไปแล้ว พี่ชีสช่วยดึงผมอีกแรงแล้วดันให้ไปยืนข้างพี่โช “เด็กคนนี้...” เสียงเว้นวรรคกับสายตาที่ถูกจ้องเล่นเอาน้ำลายเหนียวจนกลืนไม่ลง “ไม่นานจะก้าวเข้ามาในฐานะผู้ช่วยของลูกชายของผม”

   เหมือนจะโล่งอกแต่ก็แอบเสียใจนิดๆ อธิบายไม่ถูก พี่โชจับมือผมไว้แน่น เหงื่อจากมือผมมันชื้นจนพี่โชหันมามอง คือผมตื่นเต้นมากตอนนี้ มันมากซะจนกลัวจะปวดขี้

   “และฐานะคนของตระกูล” คงจะหาคำมาอธิบายสถานะตัวผมลำบาก จะให้บอกว่าลูกสะใภ้มันก็คงกระดากปาก แต่ถึงแบบนั้น ทุกคนก็คงจะเข้าใจดีว่าคนของตระกูลคืออะไร ยกเว้น....

   “คุณตาขา คนของตระกูลคืออะไรเหรอคะ” เสียงเล็กถามตาตัวเอง แต่ติดตรงมันออกไมค์ไปด้วย น้องบีมอยู่ในอ้อมกอดของพ่อแกนั่นแหละครับ

   พอได้ยินคำถามทุกคนต่างก็หัวเราะกัน พี่ชีสเลยยิ้มส่งท้ายก่อนพาสามีและลูกลงไปจากเวที น้องยังจะถามต่อแต่ถูกพี่ชีสปิดปากไว้ 

   แล้วผมลงไปได้หรือยังหว่า

   กำลังจะอ้าปากถามพี่โช เสียงบอกให้สนุกเต็มที่ก็ดังขัดมาซะก่อน ก่อนที่ผมจะลงไปพร้อมกับพี่โช หมอสารีบพุ่งมาหาก่อนใครเพื่อน เธอยื่นแก้วแชมเปญจให้ผมแต่พี่โชกระแอมเลยยกดื่มเอง

   “คุณลุงขา ประกาศแบบนี้เลยนะคะ” หมอสาเอ่ยแซวลุงของตัวเอง (ก็พ่อคนข้างผมนี่แหละ)

   “ก็นิดหน่อย” แล้วก็เหล่ตามามองผม “ทำได้ดี”

   คำชมนั่นผมไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร เลยเงยหน้ามองพี่โชที่ยิ้มให้พ่อตัวเอง

   “ผมทำอะไรดี” ผมรู้ว่าผมเป็นคนดี แต่ไอ้ทำได้ดีมันคืออะไร

   “เรื่องงาน...ไม่เข้าใจเหรอ” พยักหน้ารัวๆ “ไม่เอาเรื่องส่วนตัวไปทำให้งานพี่เสีย” อ่า เรื่องป้าเฟิร์นสินะ หมอสาไม่รู้เรื่องกำลังจะอ้าปากถาม แต่พี่โชชี้นิ้วให้หยุด จนสาวเจ้าหน้างอเดินหนีไป

   “พี่ไปแกล้งหมอสาเขาทำไม”

   “รำคาญเสียง พูดมากด้วย”

   “ผมว่าน่ารักออก โอ้ย เจ็บเว้ย” พอชมคนอื่นเลยถูกบีบปากจนเจ็บ รุนแรงตลอด

   “ห้ามชมคนอื่น จำไม่ได้เหรอ”

   “เออ”

   ผมกระแทกเสียงก่อนเดินหนี คนอะไรห้ามแม้แต่ชมคนอื่น แต่คนอื่นชมผมได้ โดยเฉพาะอาหาร ตอนนี้ไม่ว่าผมเดินผ่านใคร ทุกคนก็จะชมว่าแกงเขียวหวานอร่อย ผมรู้แล้วครับว่าทำไมแม่พี่โชถึงให้ผมทำ เพราะอยากจะอวดผมนั่นเอง (หมอสาเม้าท์ให้ฟัง) แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ แม่พี่โชจะพาผมไปเข้าสมาคมแม่บ้านด้วย คือผมไม่ใช่ผู้หญิงแล้วผมจะไปเข้าสมาคมแม่บ้านได้ยังไง


   ผมคือไอ้กลอยที่เพื่อนๆ เรียก กลอยประเกรียน ผมคือที่สุดของจักรวาล วาล วาล  (ก่อนโดนพี่โชตบหัวเพราะมัวแต่ยืดที่โดนชม)


   “ไปกินข้าว หรือจะไปกินที่ห้อง .. แต่ถ้ากินที่ห้อง ไม่ใช่กินข้าวนะ”

   บุคคลผู้นี้ควรได้รับป้ายติดไว้ที่ตัวว่าเป็นบุคคลหื่นแห่งปีที่ไอ้กลอยเคยเจอมา อยากจะคารวะจริงๆ ว่าท่านกินอันใดมาถึงหื่นได้ทุกเวลาขนาดนี้...


   เอาเป็นว่า ตอนนี้ผมถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการฐานะคนของตระกูล เหมือนเจ้าสำนักเลือกผมเข้าไปในพรรคเพื่อฝึกวิทยายุทธ โคตรเท่อ่ะ


....TBC


วันนี้มาซะเช้า (วันใหม่) เลย เลยพาน้องกลอยมาส่งเข้านอนค่าาา >w<

เจอกันใหม่ตอนหน้า  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-08-2016 00:32:21
 :hao3: :hao3: ปลอดโปร่งทางโล่งสบาย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-08-2016 00:44:45
เรียกว่าเปิดตัวน้องกลอยแบบจริงจังเลยสินะคะคุณพ่อแอบชื่นชมลูกสะใภ้ก็บอกไม่ต้องมาเก๊กหรอกค่ะ ฮ่าๆ ส่วนพี่โชนั้น เอิ่มม ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันนะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: tgtg ที่ 08-08-2016 01:06:04
  :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 08-08-2016 01:34:08
"ตอนนี้ผมถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการฐานะคนของตระกูล เหมือนเจ้าสำนักเลือกผมเข้าไปในพรรคเพื่อฝึกวิทยายุทธ โคตรเท่อ่ะ"
ก็เปรียบไปได้นะ สมกับเป็นกลอยจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-08-2016 01:41:22
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-08-2016 02:14:41
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 08-08-2016 02:59:28
ครอบครัวพี่โชน่ารักดีนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 08-08-2016 09:06:19
กลอย ประเกรียน คู่เเข่ง บอย ปกรณ์

งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา นึกถึงเรื่องนี้จะจบเเล้ว ใจหายยังไง ไม่รู้แฮะ กลอยเกรียน ยังไง ยังเกรียนเสมอต้น เสอมปลายเนาะ บ้านพี่โชนี้ตลกกันทั้งบ้านนะ กว่าจะลุ้นมาถึงปลายทางนี้ เล้าเป็ดเกือบระเบิด 55555555
ยังไง รบกวน นักเขียน รับร่างพิจารณา มาลงสเปเชียลให้อ่าน บ่อยๆได้ป่าว อิอิ 5555 
น้องกลอยต้องมี SS2 ความเกรียน กับความฮานั้น จะยังคงอยู่

รักจ๊ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 08-08-2016 09:15:41
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-08-2016 09:46:22
อะไรคือเอาเต่ามาลากกลอยก็ไม่ไป  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

เปิดตัวสะใภ้เรียบร้อยแล้ววววว :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 08-08-2016 14:59:58
อั๊ยยะ คุณพ่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววววววว :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 08-08-2016 17:20:52
คุณแม่คุณพ่อพี่โชน่ารัก



อิจฉานังกลอยมากเบอร์นี้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 08-08-2016 17:46:05
Just you and I : 32 [END]


        ณ.เพิงหมาแหงน ผมกำลังตักยาดองในโหลแจกจ่ายเพื่อนของพี่โชที่เอาแต่เหลียวซ้ายแลขวามองบรรยากาศ รอบๆ ข้างดูเรียบๆ แถมคนก็ไม่พลุกพล่าน คงต่างจากผับที่พวกพี่เขาไปมากโข โดยเฉพาะพี่แทมที่ตื่นตาตื่นใจกับโหลยาดองที่วางเรียงรายอยู่หลังเคาน์เตอร์

   “แจ่มว่ะ พี่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ด้วย” พี่แทมพล่ามหลังจากลองยาดองมาแล้วทุกโหล

   “นี่พี่อยู่หลังเขามาหรือเปล่า ร้านแบบนี้ที่ไหนก็มี” ไอ้ม่านว่า ซึ่งมันก็จริง แถมต่างจังหวัดก็เยอะจะตายแบบนี้

   “มีแต่กูไม่เคยเข้าไง” หันไปบอกไอ้ม่าน “ที่กูเคยเข้าก็มีแต่ผับแต่บาร์”

   “พวกคนรวยก็เงี้ย” อันนี้ผมพูดลอยๆ เลยโดนลูกคนรวยมองหน้ากันเป็นแถว “ผมพูดความจริง พี่โชมาครั้งแรกยังเกร็งเลย” ผมกระทุ้งศอกสะกิดคนที่นั่งเงียบข้างๆ

        พี่ตินตาโตมองเพื่อนตัวเอง “โห ไอ้คุณชายโชตั้งแต่มีเมียเกรียนก็เปลี่ยนไปนะเนี่ย” พี่ชมผมใช่มั้ย

   “มันก็ต้องรู้จักเปลี่ยนกันบ้าง” ผมตาโตมองพี่โช ไม่คิดว่าจะตอบแบบนี้แถมยังหัวเราะอีก

   พี่เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

   “ต่อไปกูจะไม่นับมึงเป็นไอดอลอีก” พี่ตินว่า เรียกเสียงหัวเราะรอบวง อยากรู้จริงๆ เวลาพี่ไปทำงานจะบ้าบอแบบนี้หรือเปล่า

   “มึงต้องเปลี่ยนไอดอลเป็นกูนี่เพื่อน” พี่แทมยืด ยกมือตบอกตัวเองดังปักๆ

   “ถ้ามึงเป็นไอดอล กูว่า โลกนี้คงอยู่ยากแล้วว่ะ” พี่เบแม่งทำเพื่อนเสียเซลฟ์ แต่ผมเห็นด้วย

   “อ่าว ไอ้เชี่ยเบ มึงหุบปากไปเลยสัด หนอย ริคบเด็กสร้างบ้าน”

   “ข้างบ้านไอ้เหี้ย” พี่เบแก้ประโยคของเพื่อนทำเอาฮาอีกระลอก

   เรื่องพี่เบกับไอ้ทูที่ผมเพิ่งรู้คือ สองคนนี้บ้านอยู่ตรงข้ามกัน มิน่า ไอ้ทูมันถึงบอกชอบพี่แถวบ้าน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนนี้ แถมโลกกลมทำให้ผมมาอยู่ก๊วนเดียวกันอีก

   “พวกมึงไปรักกันไกลๆ เลยไป กูมาแดกเหล้า” นี่ก็ตาขวางเลยครับ สงสัยจะงอนกับพี่ซัน (หรือเปล่า) หลังจากพี่ซันนั่งได้แปบเดียวก็ออกไปรับโทรศัพท์กิ๊กคนใหม่ที่พี่ตินบอกเก็บตกได้ในผับ

   “ไอ้จอม มึงช่วยปรับอารมณ์ไม่ให้มันขึ้นๆ ลงๆ สักทีเถอะ กูตามไม่ทัน”

   “เรื่องของกู”

   “มึงอย่าไปว่ามันแบบนั้นไอ้ติน มึงต้องซื้อนมถั่วเหลืองให้มันแดกแทน”

   “ซื้อให้ทำไมอ่ะพี่” ไอ้ทูถามพี่แทม

   “อ่าวไอ้น้อง ก็มันอยู่ช่วงวัยทองต้องกินถั่วเหลืองเยอะๆ เพื่อปรับอารมณ์” ก็ฮากันไปยกเว้นคนโดนว่าเป็นวัยทองที่แทบจะแดกหัวคนพูด


   ไม่นานพี่ซันก็กลับมานั่ง ผมขยับเก้าอี้ไปจนชิด แม้จะมีเสียงกระแอมกับแรงลากเก้าอี้ให้กลับไปนั่งที่เดิม เอี้ยวตัวไปแทนก็ได้ โด่

   “พี่มีกิ๊กเหรอ” ผมกระซิบถามพี่ซัน พี่แกก็ส่ายหน้าปฏิเสธ “พี่จอมหึงพี่ด้วยอ่ะ”

   “ไม่หรอก คิดมาก” พี่ซันตอบแบบยิ้มๆ

   “ไม่ได้คิดมาก พี่ลุกออกไปพี่จอมก็เหวี่ยงทันที ผมว่าแบบนี้หึงชัดๆ”

   “คนหึงจะทำหน้าตาประมาณไหน แบบนั้นหรือเปล่า” พี่ซันชี้ไปด้านหลังผม ซึ่งผมก็พยักหน้าเมื่อเจอกับหน้าบูดของพี่โช

   “แบบนั้นนั่นแหละ” ยังไม่รู้ถึงชะตาตัวเองครับ เลยโดนแขนยาวๆ ล็อคคอจนแทบหงายหลัง “พี่โชเจ็บนะเว้ย”

   “ขึ้นเว้ยกับกูเหรอ”

   “พี่ก็พูดกูกับผมอ่ะ”

   “อ๋อนี่...”

   “ผัวเมียคู่นี้ไปตีกันที่อื่น รบกวนการดื่มของพวกกู” พี่แทมแม่งพูดเสียงดังจนโต๊ะอื่นๆ หันมามอง แล้วผมเป็นที่รู้จักของที่นี่ด้วย อายยันชาติมะโว้เลยครับ


   แม้เราจะสงบปากสงบคำแต่ก็ยังฟาดฟันกันด้วยสายตา แต่ตาสวยๆ ของผมหรือจะสู้ตาดุเหมือนปีศาจนั่นได้ โคตรขี้โกง
จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่การดวลยาดอง พี่แทมแม่งท้ากับเพื่อนตัวเอง พี่ตินโดนก่อนเพื่อน คือพี่แทมแกคอแข็งมากครับ พอพี่ตินยกธงขาว ไอ้อัธคือเป้าหมายต่อไป ไอ้นี่ก็เหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มันบอกมีเทสย่อย ปิดเทอมมึงมีเทสย่อยได้ไงไอ้นี่ต้องขี้จุ๊แน่ๆ

   “ไอ้อัธ มึงแพ้กูแน่” โดนสบประมาทแบบนี้ไอ้อัธมีหรือจะยอม มันยกแก้วรวดเดียวไม่มีพัก แก้วที่ว่าไม่ใช่แก้วเป็กเล็กๆ แต่เป็นแก้วเบียร์ที่มีหูจับ พี่แทมมองตาโตพลางยกตาม แต่ยกได้ครึ่งแก้วก็อ้วกแทบพุ่งจนต้องยกข้าวเกรียบกับถั่วทอดหนีเกือบไม่ทัน โคตรเรื้อน

   “พี่อ่อนว่ะ” ไอ้อัธซ้ำครับ พี่แทมได้แต่จ้องอย่างไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอ้าปากทีก็เหมือนจะอ้วกอีกรอบ

   “มึงมาเจอกูไอ้เชี่ยอัธ” พี่จอมเอากับเขาด้วย แถมใช้แก้วเดียวกับพี่แทมอีก ที่สำคัญ ตักยาดองใส่จนล้นแก้ว ขาโหดจริงๆ

   “โหพี่” แม้จะโอดครวญแต่ไอ้อัธก็รับคำท้า

   พวกผมมองพี่จอมที่ยกดื่มรวดเดียวจนหมดราวกับว่ามันคือน้ำเปล่า ไม่มีสะเทือนหรืออาการใดๆ ให้เห็น โคตรเจ๋งว่ะ ขนาดผมกินเป็กเล็กๆ ทีเดียวยังร้อนท้องร้อนคอ

   “จัดมาไอ้น้อง” ริมฝีปากบางๆ นั่นยกยิ้มจนไอ้อัธขมวดคิ้วแล้วยกตาม

   ผมว่า มันก็เสียเปรียบสำหรับคนที่ชนะรอบก่อน อย่างพี่แทมตอนชนะพี่ติน แล้วมาสู้กับไอ้อัธ กินมาก่อนแล้วมายัดลงไปอีก มันก็ไม่ไหว อย่างไอ้อัธตอนนี้ก็ยอมแพ้หลังกระดกได้ครึ่งแก้ว

   “ไม่ไหวพี่ เหมือนจะอ้วก ท้องมันร้อนไปหมด” หน้าไอ้อัธมันแดงแปร๊ดเหมือนจะระเบิด

   “ผมสู้เอง” ไอ้ม่านยกมือ แต่โดนพี่จอมส่ายหน้าใส่

   “มึงแดกแก้วเล็กๆ ไปไอ้ม่าน คออ่อนแล้วไม่เจียม” ไอ้ม่านเลยหน้างอ ที่จริงมันก็คอแข็งระดับหนึ่ง แต่ยังสู้ไอ้อัธไม่ได้ ยิ่งคอปรมาจารย์แบบพี่จอมอีก ยกธงขาวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มถูกแล้ว “มึงกล้าป่ะ ไอ้กลอยเกรียน” ฉายาที่ผมได้รับจากพี่จอมครับ

   “ได้เลย ผมรับคำ...” โดนมือดีอุดปากทันที

   “หยุดเลย มึงด้วยไอ้จอม ไปพูดกันให้เข้าใจ อย่าทำตัวเป็นเด็กอนุบาล มึงด้วยไอ้ซัน” ผมพยายามส่ายหน้าให้หลุดจากมือใหญ่ ยิ่งได้ยินที่โชพูดแบบนั้นไอ้กลอยยิ่งดิ้น

   “พูดเชี่ยไร” พี่จอมแหวใส่

   “เรื่องพวกมึงสองคนนั่นแหละ แล้วพวกนี้แม่งเมาเหมือนหมา” พี่โชมองสภาพเพื่อนตัวเอง อย่างพี่ตินที่ฟุบกับโต๊ะ เจอยาดองสูตรพิเศษเต็มแก้วเบียร์ถึงกับไปไม่เป็น พี่แทมที่นั่งคอตกเหมือนคนปลงกับชีวิตผลจากการท้าชาวบ้าน พี่เบแกยังร่าเริงเพราะไม่ได้รับคำท้าจากใคร แต่ที่ลำบากเพราะต้องดูไอ้ทูที่มันแอบดวลกับไอ้ม่านเงียบๆ จนเมาหลับไปทั้งคู่ ส่วนไอ้อัธแค่ทำตาเยิ้มๆ อาการร่างกายยังปกติ

   “ใครว่ากูเมา กูไม่เมา” นั่งคอตกแต่ยังเถียงได้อยู่ แสดงว่าไม่เมาจริง...ซะที่ไหน พูดจบก็ไถลลงไปนอนกับพื้น ลำบากที่ซันที่ต้องไปพยุงลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้

   “กูว่า เอาพวกนี้กลับก่อนเถอะว่ะ แม่งไม่ไหวกันแล้ว” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ซัน ขืนยังอยู่ต่อ รับรองร้านพี่วรรณเละแน่ ไม่ใช่ตีกันนะครับ แต่อ้วกเละแน่

   พี่โชเดินไปเคลียร์บิลที่ด้านในโดยมีผมเดินมาด้วย พอเจ้าของร้านเห็นผมก็ยิ้มให้แล้วลดราคาให้ด้วย แล้วผมก็ปล่อยให้พี่โชยืนจ่ายเงินคนเดียวเพราะผมต้องออกมาช่วยพวกพี่ๆ ที่ยังมีสติลากคนเรื้อนไปขึ้นรถ ดีที่คิดการณ์ไกลกันไว้ เลยเอารถมาแค่สามคัน พี่แทม พี่ติน พี่ซัน พี่จอมมาคันเดียวกัน ส่วนพี่เบกับไอ้ทู วนไปรับไอ้อัธกับไอ้ม่านมาด้วย และผมที่มากับพี่โช

   สภาพแต่ละคนแทบดูไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่ายาดองสูตรพิเศษจะล้มคนคอแข็งอย่างพี่ๆ พวกนี้ลง ชักอยากรู้ซะแล้วว่าใส่อะไรไปบ้าง ที่แน่ๆ ตอนไปจ่ายเงิน ผมแอบเห็นโหลที่กำลังดองมีตัวตะขาบอยู่ด้วย นึกถึงแล้วก็สยอง

   พี่โชออกมาจากด้านใน พวกเราเลยแยกกันกลับ พี่ซันไม่ยอมให้พี่จอมขับรถ เลยทะเลาะกันนิดหน่อย ก่อนพี่จอมจะโดนพี่ซันขู่ด้วยสายตา คนดื้อถึงยอมไปนั่งด้านข้างแทน ผมยืนมองไปยิ้มไปเลยถูกพี่โชดีดหน้าผาก

   “มองพวกมันทำไม ไปขึ้นรถ”

   “ก็แค่อยากรู้”

   “อยากรู้หรือสอดรู้” แบบนี้ด่าผมเผือกยังดีซะกว่า

   “เหมือนกันนั่นแหละ”




   
   ท้องถนนที่รถราหายไปเกือบครึ่งหลังจากเผชิญมาอย่างหนักเมื่อช่วงเย็น ผมขอพี่โชเปิดกระจกรถเพราะอยากรับลมเย็นๆ มากกว่าแอร์ เจ้าของรถยิ้มก่อนเลื่อนบานกระจกให้ พอความเย็นปะทะกับหน้าก็ทำให้รู้สึกดีจนอยากจะโผล่หน้าออกไป แต่โดนดุซะก่อนเลยได้แต่ยื่นฝ่ามือออกไปแทน

   แสงไฟสีส้มบนถนนแม้จะดูธรรมดา แต่เวลาแบบนี้มันกลับดูสวย ผมหลับตาซึมซับบรรยากาศอยู่ครู่ใหญ่จนรู้สึกง่วงจริงๆ พี่โชหัวเราะออกมาเมื่อเห็นผมผงกหัวจะหลับ ฤทธิ์ยาดองกับลมเย็นๆ เริ่มเล่นงานผมแล้วครับ แต่ป้ายสีเขียบนถนนที่บอกปลายทางทำให้หายง่วง

   “พี่จะไปไหนเนี่ย” ถามแม้จะอ่านป้ายแล้ว พี่โชยิ้มบางๆ ไม่ตอบ รถสปอร์ตคาร์ไม่ได้ขับแรงตามเครื่องยนต์ที่ควรจะเป็น แต่ขับไปแบบช้าๆ คงเป็นไปตามอารมณ์ของคนขับ

   รถหรูตีออกนอกเมืองมุ่งหน้าไปสู่สถานที่ที่คู่รักชอบไปเที่ยวกันนั่นคือทะเล ที่จริงผมก็ชอบทะเลนะ แต่ชอบตอนกลางวัน เพราะตอนกลางคืนผมกลัวจะมีผีโผล่ขึ้นมา อย่างผีปะการังแบบนี้

   “อย่าลงไปเลยพี่” ผมรั้งแขนพี่โชที่จับมือผมเดินไปที่ชายหาด แล้วแถวนี้แทบไม่มีแสงไฟเลย หาดทรายเลยมีแค่แสงจันทร์ที่ส่องลงมากระทบผิวน้ำที่เปล่งประกายระยิบระยับแข่งกับแสงดาว

   “พี่อยู่ด้วย ไม่ต้องกลัวนะครับ” เสียงอ่อนโยนทำให้ต้องยอมเดินตามลงไป แม้สายตาจะคอยสอดส่องหาสิ่งผิดปกติ จนพี่โชหัวเราะออกมา

   “ไม่ตลกนะ ผมกลัวจริงๆ”

   “พี่ไม่มีทางทิ้งหรอกน่า เชื่อใจพี่สิ”

   พี่โชพาผมเดินไปที่ชายหาดโดยมีน้ำทะเลซัดสาดมาเป็นระลอก ทะเลในตอนกลางคืนมันดูเงียบสงบจนน่ากลัว ความลึกลับของมันไม่ควรที่เราจะไปลองของ ผมพยายามรั้งพี่โชหลายรอบตอนจะพาลงไปเดินใกล้กับน้ำทะเล

   “ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยเห็นมั้ย” พี่โชว่าตอนขาเราสัมผัสกับน้ำที่ซาดขึ้นมาที่ชายหาด มันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่คนมันกลัวมาตลอด อยู่ๆ จะให้เปลี่ยนเป็นชอบมันก็ไม่ได้หรือเปล่า “เป็นไง”

   “ไม่ได้แย่เท่าไหร่” ยิ้มแห้งๆ ส่งคืนจนคนถามหัวเราะออกมา “พี่อารมณ์ดีจังนะ เมายาดองเหรอ”

   “เพราะคนข้างๆ นี่ต่างหาก” นิ้วชี้ยกมาจิ้มหน้าผากผมซะเกือบหงายหลัง “ยื่นหน้ามาซิ”

   “ทำไม” ระแวงสิครับ อยู่ๆ มาให้ยื่นหน้าไปหา กลัวจะทำอะไรแผลงๆ พี่โชไว้ใจเรื่องความหื่นไม่ได้อยู่ด้วย

   “ยื่นมาเถอะน่า ไม่ทำอะไรหรอก” ผมยังส่ายหน้าไม่ทำตาม “พี่รู้น่า ว่ากลอยชอบให้ทำบนเตียงมากกว่าชายหาดแบบนี้” แทบอยากจะเตะทรายใส่ปาก ทำไมชอบทำให้รู้สึกเหมือนเอาหน้าไปต้มในน้ำเดือดตลอด

   “คิดอยู่แค่เรื่องนี้น่ะนะคนเรา” ผมยื่นหน้าไปใกล้ๆ พี่โชก็ยิ้มๆ แล้วยื่นมือมาที่คอของผม ก่อนปลดสร้อยที่ผมถูกสั่งว่าห้ามถอด แล้วทำไมคนให้ถึงมาถอดเอง “พี่ทำอะไรอ่ะ จะเอาคืนเหรอ” ผมรีบกำไว้ไม่ให้คืน แต่พี่โชส่ายหน้า

   “จำได้มั้ยที่พี่บอกตอนที่ให้ ว่ากลอยมั่นใจและเชื่อใจพี่ตอนไหนถึงจะสวมให้ใหม่” ผมมองรอยยิ้มของพี่โชแล้วก็ยิ้มตาม มันโคตรเขิน แม้แสงจันทร์สลัวๆ ทำให้มองหน้าไม่ชัดก็เถอะ แต่ผมรู้ว่า แววตาที่จ้องผมอยู่มันหวานขนาดไหน

   “อืม” ตอบได้แค่นั้นแหละ เพราะพูดอะไรไม่ออก สมองมันรวนๆ เออเล่อไปแล้ว

   “ตอนนี้กลอยเชื่อใจพี่แล้วใช่มั้ยครับ” ถามเสียงทุ้มจนต้องรีบพยักหน้า “งั้น...” ผมมองดูพี่โชดึงแหวนสองวงออกจากสร้อย ก่อนจะแบมือมาตรงหน้า

   เม้มริมฝีปากก่อนจะวางมือตัวเองลงบนฝ่ามือของพี่โช ความรู้สึกมันอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่า หัวใจของผมมันทำงานหนักไปแล้วจริงๆ

   แหวนเรียบๆ ตัวเรือนทำจากทองคำขาวถูกสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย แสงจันทร์ส่องประกายบนนิ้วทำให้บรรยากาศที่น่ากลัวจางหายไปทันที พี่โชวางแหวนอีกวงบนมือผมพร้อมยื่นมือตัวเองมาตรงหน้าเพื่อให้ผมสวมให้ ไม่รู้เพราะเขินหรือสติหลุด ผมใส่แหวนที่นิ้วกลางจนโดนดีดหน้าผาก และพอใส่ถูกนิ้วพี่โชก็ยื่นหน้ามาจูบหน้าผากผมอย่างแผ่วเบา

   “ขอบคุณนะที่เชื่อใจพี่” ผมยิ้มรับพลางหลับตาเมื่อมีหน้าหล่อยื่นเข้ามาใกล้

   ริมฝีปากถูกประกบจนแนบชิด ท่ามกลางแสงจันทร์และแสงดาว มีท้องทะเลเป็นพยานในความรักของเรา ผมไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าเราจะยังรักกันแบบนี้หรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่า ถ้าเราตั้งใจทำวันนี้ให้ดี พรุ่งนี้หรือปีหน้า เราก็จะยังรักกันเหมือนเดิม

   ความวาบวามที่เกิดขึ้นในใจบวกกับความอ่อนโยนของคนชักนำจนหลังสัมผัสกับพื้นทราย ผมพยายามดันมือที่ล้วงเข้ามาในเสื้อ ผมไม่ชอบความตื่นเต้นแบบเอ้าท์ดอร์ ที่จริงก็ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่กลัวคนอื่นมาเห็นมากกว่า เรื่องแบบนี้มันต้องรู้เห็นกันแค่สองคน แต่คนที่กำลังทาบอยู่บนตัวผมไม่ฟังอะไรเลย ลูบได้ก็จะลูบอย่างเดียว

   “พี่โช~” ผมต้องรวบรวมกำลังแล้วดันหน้าคนที่ซุกซนขบกัดซอกคอ พอโดนขัดก็ทำหน้าไม่พอใจจนผมต้องยื่นหน้าไปจุ๊บปากแดงนั่น “ไม่เอาที่นี่” เหมือนคนมีอารมณ์แล้วโดนขัดใจ พี่โชฮึดฮัดลุกขึ้นนั่งก่อนมองไปที่ทะเล งอนครับ ผมโดนงอน “พี่โชอ่ะ อย่างอนดิ่” ผมเอานิ้วจิ้มไหล่ของคนขี้งอน

   “ไม่ต้องมาแตะเลย” มีสะบัดตัวด้วย พี่โชมุมนี้โคตรน่ารัก

   “อย่างอนดิ่ น้า” ผมกระพริบตาปริบๆ พร้อมกับเอาหัวถูไถที่ต้นแขน จนคนขี้งอนเหลือบตามามอง “นะๆ”

   “ทำไมชอบขัดอยู่เรื่อย”

   “ก็พี่หื่นไม่ดูสถานที่เลยนี่นา”

   “ใครใช้ให้ยั่วพี่ตลอดเวลาทุกสถานที่ล่ะ” ผมยั่วตอนไหนวะครับ
 
   “งั้นต่อไปยั่วเฉพาะในห้องก็ได้ โอเคป่ะ” ได้ยินปุ๊บพี่โชก็มองผมตาวาว เริ่มไม่ค่อยดีแล้วแบบนี้ แถมยังยื่นหน้ามาดูดพลังวิญญาณผมอีกรอบ และอีกรอบจนผมต้องยกมือดันหน้าหล่อๆ ให้ห่าง “พอแล้ว”

   “จูบเอง”

   “จูบก็ไม่ได้”

   “แล้วทำไงถึงได้”

   “ไม่รู้”

   “ทำไมไม่รู้”

   “ก็มันไม่รู้”

   “ไม่รู้ก็จะจูบ”

   เว้ย เถียงเรื่องจูบจนไม่ทำอะไรแล้วครับแบบนี้ ผมเลยจะลุกขึ้นแต่โดนผลักให้นอนราบกับพื้นทรายอีกรอบ

   “ปล่อย”

   “จูบอีกรอบแล้วจะปล่อย”


   ผมมีแต่เสียกับเสียตลอดตั้งแต่คบกับพี่โชเนี่ย ใบหน้าระรื่นของคนที่จ้องลงมาทำให้ต้องพยักหน้าตอบรับ ปากนุ่มก้มลงมาสัมผัสกันจนแนบชิด ก่อนผมจะผลักร่างหนาๆ ให้ตกไปอยู่ข้างตัวจนพี่โชตกใจ

   “อะไรวะ”

   “ผมอยากตกหมึกอะ”

   “ห๊ะ”

   “นู้น เรือไดหมึก อยากตกหมึกอ่ะ”

   “แต่นี่มันเวลานอน”

   “เดี๋ยวค่อยนอนก็ได้ ไปตกหมึกก่อน”

   “ไอ้กลอย ไอ้กลอย” ผมวิ่งไปที่เรือที่กำลังจะออกจากหาดโดยมีพี่โชวิ่งตะโกนตามหลังมา “ให้กูมีช่วงโรแมนติกกับเขาบ้างได้หรือเปล่าวะ”



   ชีวิตเรา เป็นของเราครับพี่น้อง


....... THE END] .......


เดินทางมาจนถึงตอนสุดท้ายแล้วค่าาา ต้องขอบคุณทุกๆ คนสำหรับกำลังใจที่ผลักดันให้มาถึงจุดๆ นี้ ตื้นตัน  :hao5:

ถ้าไม่มีทุกคน พี่โชกับน้องกลอยคงไม่มีวันได้โลดแล่นโชว์ความเกรียนกับพวกเพื่อนๆ ขอบคุณมากๆ ค่าาาาา

ส่วนคู่อื่นๆ ถ้าแบ่งเป็นพาร์ทเล็กๆ ดีกว่า หรือเอาแบบเป็นเรื่องกำลังคิดอยู่ รอแปบหนึ่งนะคะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:


ปอลอ. จบแบบเกรียนๆ หวังว่าไม่โกรธกลอยประเกรียนนะคะ >w<
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 31 UP!!<< // [08/08/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 08-08-2016 17:49:46
พี่โชสายหื่นมากๆๆ :katai5: ใกล้จบแล้วคิดแล้วเศร้ารักในพี่โชและกลอยมาก ผู้เขียนกรุณารวมเล่มและตีพิมพ์เถอะครับ อยากได้เก็บไว้เป็นคุณค่าจริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนที่32+ตอนพิเศษ1 UP!! // [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 08-08-2016 17:52:53
Just you and I : ตอนพิเศษ >> สงคราม <<



        ตอนนี้ผมกำลังปวดหัวจนอยากได้ยาแก้ปวดสักกระปุก เพราะมีเด็กกับเด็กโข่งกำลังทำสงครามประสาทใส่กันอยู่ แล้วคนกลางอย่างผมต้องเข้าข้างใครดี


   เรื่องมันมีอยู่ว่า...


   เช้าวันอาทิตย์ที่แสงแดดจ้าตั้งแต่ลืมตา ผมถูกคนตัวโตอ้อนอยากกินสปาเก็ตตี้ไวท์ซอสครีมเห็ด ที่สำคัญคนอยากกินแวะซื้อของมาตั้งแต่เมื่อวาน จะว่าบอกของไม่มีก็ไม่ได้ ผมเลยต้องลุกจากเตียงมาทำ

   เคาน์เตอร์ห้องครัวมีของบางอย่างที่ผมไม่อยากจะแตะต้อง นั่นคือผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหวว พี่โชนึกครึ้มอะไรไม่รู้ซื้อกลับมาด้วย มันคงจะสวยถ้าไอ้ผ้าผืนนั้นไม่ใช่ผ้าแบบชีฟอง คือมันกันเปื้อนได้ยังไงผมก็ไม่เข้าใจ แล้วก็ยังไม่ได้ถามคนซื้อมาว่าต้องการอะไร

   ผมหยิบของที่ต้องใช้กองมากองๆ บนโต๊ะก่อนจะเริ่มตั้งน้ำเพื่อต้มเส้นสปาเก็ตตี้ โรยเกลือนิดๆ แล้วก็หันมาสไลด์เห็ดแชมปิญอง (ข้างถุงบอกแบบนี้) แฮม แล้วก็เบคอน ระหว่างที่ทำคนอยากกินก็มายืนเอาใจช่วยอยู่ใกล้ๆ

   “พี่โชไปยืนไกลๆ ได้ป่ะ” ผมเหลือบตามองคนที่ยืนใกล้ซะจนจะสิงร่างผมอยู่แล้ว

   “นี่ไม่ไกลอีกเหรอ” กวนอยู่ใช่ป่ะ เดี๋ยวปั๊ดเอาเห็ดฟาดหน้าเลยนี่

   ทำได้แค่คิดแต่มือก็หั่นเบคอนต่อ ผมขยับไปตักเส้นที่สุกแล้วขึ้นมาแช่น้ำแข็งแปบหนึ่งแล้วโรยน้ำมันเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน

   “หอม” พี่โชพูดชิดใบหูของผม ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มทำอะไร ที่บอกหอมคงเพราะผมกำลังหั่นหัวหอมจนคนยืนใกล้แสบตา

   “ไปยืนนู้นเลย” เอามีดชี้ขู่จนคนขยี้ตาต้องออกไปยื่นห่าง

   พอไม่มีคนขัดผมก็เริ่มทำน้ำซอสเพื่อราดเส้นที่เตรียมไว้ ความหอมทำให้พี่โชเดินลอยมาใกล้ๆ แล้วยื่นจมูกดม

   “หิวแล้ว” ไม่ต้องบอกก็พอรู้ เสียงท้องพี่โชร้องโคตรดัง

   “ไปนั่งเลย เดี๋ยวยกไปให้” ผมบอกก่อนจะตักครีมไวท์ซอสราดบนเส้นแล้วโรยเบคอนทอดกรอบกับออริกาโน่ลงไปเป็นอันเรียบร้อย มื้อเช้าสุดหอมจนท้องต้องร้องหา

   พอจานวางลงปุ๊บ พี่โชก็ใช้ส้อมจิ้มแล้วม้วนๆ กำลังจะเข้าปาก บังเอิญเสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น เราสองคนมองหน้ากันทันที เช้าๆ แบบนี้จะมีใครมาหากัน เป็นผมที่เดินไปเปิดประตู

   “สวัสดีตอนเช้าจ้า” เสียงสดใสทักทาย สาวสวยลูกหนึ่งยิ้มร่าเริงพอๆ กับเด็กตัวเล็ก ที่กอดขาผมแน่น

   “น้ากลอย” รอยยิ้มแสนสดใสทำให้ต้องยิ้มตาม

   ผมพาพี่สาวเจ้าของห้องพร้อมหลานเดินเข้ามา พี่โชคาบเส้นสปาเก็ตตี้อยู่ในปากจนพี่ชีสตกใจ

   “รีบกินกลัวฉันแย่งหรือไงฮะ” พี่ชีสมองน้องชายตัวเอง มือที่ถือถุงมากมายก็เอาวางบนโต๊ะ ข้างๆ คนกิน

   “น้าโชขา” น้องบีมหันไปหาน้าแท้ๆ ตัวเองแล้วปีนขึ้นไปนั่งตัก พี่โชเลยต้องวางช้อนส้อมลง ทั้งที่ของในจานเหลือนิดเดียว นี่รีบกินขนาดนั้นดีที่ไม่ติดคอ

   “ขา” ตอบรับแม้จะมีของเต็มปาก

   “น้าโชกินมูมมามไม่ดีเลย แม่สอนไว้ห้ามกินแบบนี้” น้องบีมดุคนโตกว่า ตลกอ่ะ พี่โชโดนบ่นเข้าให้แล้ว

   “น้าโชหิวมากเลยต้องกินเยอะแบบนี้” เป็นการแก้ตัวพี่ผมกับพี่ชีสได้แต่ส่ายหน้าไม่เชื่อ ปกติเวลากินข้าวที่ผมทำ หากมีคนมาหา พี่โชจะรีบยัดใส่ปากเพราะกลัวคนมาใหม่จะแย่งกิน ทั้งๆ ที่ผมก็ทำให้กินใหม่อีกรอบก็ได้ เรื่องนี้ทะเลาะกับพี่จอมบ่อย ทุกครั้งที่พี่จอมมา ผมมักจะทำกับข้าวเสมอ โคตรบังเอิญจนน่าใจหาย เหมือนถูกซ่อนกล้องไว้ในห้อง

   “น้าโชกินข้าวกับอะไรคะ น้องบีมอยากกินมั่ง” เอาแล้ว พอน้องบีมพูดพี่โชก็หุบยิ้ม นี่หลานตัวเองนะ อย่าอาละวาดเชียว แล้วพี่ชีสคงรู้นิสัยน้องตัวเองเลยอุ้มน้องบีมมายืนข้างๆ แต่น้องกลับงอแงจะไปนั่งตักพี่โชแบบเดิม “น้องบีมอยากนั่งตักน้าโช แล้วกินแบบน้าโชด้วย”


   นั่นละครับ จุดเริ่มต้นของสงครามประสาทตอนนี้


   สองน้าหลานจ้องหน้ากันอย่างไม่ลดละจนผมต้องรีบขวาง แล้วจะเอาของตัวเองให้ แต่พี่โชดันแย่งไปจนผมตกใจ

   “พี่โช” ผมร้องขึ้น แต่พี่โชตีหน้าบึ้งจ้องหลานตัวเอง

   “น้าโช น้องบีมจะกิน”

   “ให้แม่ตัวเองทำให้กินใหม่”

   “ไม่เอา น้องบีมจะกินจานนั้น”

   “จานนี้ของน้า”

   “จานนั้นของน้ากลอย”

   “ของน้าแล้ว”

   น้องบีมหันมามองผม ดวงตาใสเริ่มมีน้ำคลออยู่เต็มจนผมแทบอยากจะกัดหัวพี่โชที่แกล้งเด็ก พี่ชีสที่ยืนมองไม่ทำอะไร พอเห็นลูกตัวเองจะร้องไห้ก็ยังทำเฉย

   “น้ากลอย” นั่นครับ เสียงสั่นกับน้ำตาไหลอาบแก้ม ทำไมไอ้กลอยต้องมาเป็นคนกลางแบบนี้ จะเข้าข้างใครก็ไม่ได้

   “เดี๋ยวน้าทำให้ใหม่นะ” ผมบอก แต่น้องบีมส่ายหัวไม่ยอม จะเอาแต่จานที่พี่โชถือ “พี่ชีส ไม่ทำอะไรเหรอครับ” หาตัวช่วย พี่ชีสทำแค่ยักไหล่ไม่สนใจ นี่ลูกตัวเองร้องไห้นะเนี่ย

   “ฮึก น้ากลอย ฮึก น้าโชแกล้ง ฮึก น้องบีม” ไหลเป็นสายเลยครับน้ำตา พอเจอแบบนี้ไอ้กลอยก็ใจไม่ดีสิครับ เลยไปแย่งจานของตัวเองคืน พี่โชมองตาขวางเลย

   “ไม่ให้” เสียงแข็งมาก แถมจ้องจนผมไม่กล้าไปแย่งคืน


   แล้วผมจะทำยังไง ทางออกอยู่ไหนพาผมไปที


   “น้องบีมครับ เดี๋ยวน้ากลอยทำสปาเก็ตตี้หมูสับให้กินดีกว่า อร่อยกว่าจานนั้นอีก เอามั้ยครับ” ดูเหมือนเด็กที่ร้องไห้จนตัวโยนจะแอบสนใจ แรงสะอื้นเริ่มน้อยลง รอดแล้วเว้ย แต่...

   “ไม่ได้ อยากกินก็กลับไปให้แม่ตัวทำให้กินที่บ้าน” พี่โชพูดเสียงแข็งจนเด็กร้องไห้งอแงอีกแล้ว

   “พี่โช” เสียงอ่อนเลยผม แม้ปกติจะเป็นคนเฮฮาแต่เจอแบบนี้ฮาไม่ออก อยากร้องไห้แทน

   “พี่ไม่ให้ทำ” ยังยืนยันเหมือนเดิม ไอ้ผมมันคนอาศัยจะทำอะไรได้

   “พี่ชีส” เลยหันไปหาตัวช่วยอีกรอบ พี่ชีสยังไม่สนใจ ยกถุงที่วางกองๆ ไปใส่ในตู้เย็น ทั้งนม ทั้งเนย มันก็ดีอยู่หรอกที่ซื้อมาให้ แต่พี่ต้องทำอะไรกับเหตุการณ์ตรงหน้านี่ก่อน อย่าทิ้งผมไว้กลางสมรภูมิรบแบบนี้

   “ฮึก น้ากลอย” น้องบีมร้องไห้เสียงดังจนผมโผเข้าไปอุ้มออกจากตัก แขนป้อมๆ กอดคอผมแน่นแถมซุกหน้าร้องไห้ที่ซอกคอจนเสื้อด้านหลังเปียกไปหมด แม่ก็ไม่ใช่ น้าแท้ๆ ก็ไม่ใช่ ไอ้กลอยเอ้ย

   “พี่โชอ่ะ” มองขุ่นไปทางคนตัวโตที่ทำไม่รู้ไม่ชี้กินของในจานตัวเองต่อ โดยมีจานผมวางข้างๆ ไอ้พี่คนนี้นี่ ผมโอ๋น้องบีมจนเริ่มหยุด แต่พอดวงตาเล็กเงยไปเห็นน้าตัวเองสูดเส้นยาวๆ เข้าปากก็โวยวายอีกรอบแถมจะโผเข้าไปนั่งบนโต๊ะกินข้าวจนผมต้องเดินไปวาง คือตัวน้องหนักพอประมาณแถมดิ้นอีก ไม่กลอยไม่ไหวครับ

   “เอามา” แล้วก็เกิดการแย่งกันจนผมตาเหลือก เชี่ย จานของผมข้างหนึ่งมีมือพี่โชดึงไว้ อีกด้านเป็นมือเล็กของน้องบีม แรงเด็กสู้ไม่ไหวแต่ก็ไม่ยอมแพ้ คนตัวโตก็ไม่กลัวถูกมองว่ารังแกเด็กเพราะไม่ยอมปล่อยหรือผ่อนแรงเลย

   “โอ้ยๆ อย่าแย่งกัน พี่ชีส ไม่ทำอะไรบ้างเหรอครับ” ผมตะโกนห้ามแล้วเรียกพี่ชีสที่เดินมาดูแต่ไม่ทำอะไร
 
   “แก้ปัญหาเองนะน้องสะใภ้” ปัดความรับผิดชอบเห็นๆ ไอ้กลอยเหนื่อย

   เมื่อพี่ชีสไม่ช่วย ผมจึงขัดขวางเอง ผมเอามือสองข้างจับขอบจานด้านที่ว่างอยู่แล้วออกแรงดึงขึ้น แต่เพราะแรงน้องบีมน้อยกว่าพี่โช แล้วมีผมดึงอีกแรง มือน้องบีมหลุดจากจานแล้วพี่โชก็ดึงอยู่ ประจวบกับดึงขึ้น จานที่แย่งกันอย่างเอาเป็นเอาตายเลยโป๊ะใส่หน้าผมเต็มๆ

   เส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มไหลย้อยจากหัวลงมาแถวปาก ครีมไวท์ซอสแสนข้นเปรอะไปทั้งหัวทั้งหน้าแล้วไหลไปในเสื้ออีก เสียงหัวเราะของพี่ชีสดังปนมากับเสียงสองเสียงที่ทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย น้องบีมหัวเราะดังลั่นมือก็ชี้มาที่ผมที่มีเบคอนทอดกรอบแปะอยู่ที่จมูก


   หมักผม หมักหน้าในคราวเดียวกัน


   ดูเหมือนสงครามจะจบลงแล้ว แต่ทำไมทหารที่ตายต้องเป็นผม ไอ้กลอยไม่ได้สู่ในสงครามนี้เลยนะเว้ย แล้วผมก็ร้องไห้ออกมา (แหกปากเฉยๆ น้ำตาไม่มี) จนสามคนที่หัวเราะตกใจ พี่โชรีบมาปาดเอาครีมกับเส้นออกจากหน้าจากหัว น้องบีมยื่นกระดาษทิชชู่ให้น้าตัวเอง ส่วนพี่ชีสรีบเอาชามใหญ่ใส่น้ำมาวางแล้วเอาผ้าชุบมาดๆ ส่งให้น้องชาย

   “ถอดเสื้อสิ” พี่ชีสบอกให้พี่โชถอดเสื้อของผมที่เปื้อนออก แต่พี่โชไม่ทำ พี่ชีสเลยยื่นมือแต่ถูกมือน้องชายตีดังเพียะ “ไม่ต้อง เดี๋ยวผมพาเข้าไปล้างในห้องน้ำเอง พี่พาลูกกลับไปได้แล้ว”

   “แกไล่ฉันเหรอยะ ไอ้น้องบ้า”

   “เออ”

   พี่ชีสบ่นอีกหน่อยแต่ก็ยอมพาลูกออกไปจากห้อง น้องบีมยกมือขอโทษผมก่อนออกไป พอประตูปิดผมก็หุบปากแล้วสะบัดตัวออกจากมือพี่โชที่เอาผ้าเช็ดให้

   “ไม่ต้องมาเช็ดเลย” โกรธครับ

   “งอนพี่ทำไม” ไม่ได้งอน แต่โกรธโว้ย

   “ไม่รู้เว้ย” แล้วผมก็สะบัดหน้าไปทีก่อนเดินเข้าห้องเพื่อไปอาบน้ำ ดีนะ เช้านี้ยังไม่ได้อาบ ถ้าอาบแล้วนี่ต้องมาอาบอีกรอบ เปลืองน้ำ

   “กลอยครับ เปิดประตูด้วย พี่อาบด้วย” เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังรัวๆ แต่ผมไม่เปิด แล้วคิดจะใช้กุญแจเปิดก็ฝันไปเถอะ เพราะกุญแจห้องน้ำผมซ่อนเป็นอย่างดี “เมียจ๋า” ใช่ครับซ่อนแล้ว เชี่ย เข้ามาได้ยังไง

   “พี่โชเข้ามาได้ไงวะ” ผมโวยวายหลังจากถอดเสื้อผ้าออกหมด หรือเปลือยนั่นแหละ รีบหันหน้าเข้ากำแพงแทบไม่ทัน ตกใจหมด

   “นี่ไง” ยิ้มฟันขาวโชว์ลูกกุญแจเป็นพวง “พี่ปั้มไว้หมดแล้วทุกดอกทุกห้อง ปั้มไว้อย่างละสองโหล ซ่อนไปเถอะพี่ก็มีอยู่ดี” ว่าแล้วก็โยนกุญแจพวงใหญ่ไปแล้วก้าวเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ แต่โคตรกดดัน “เมียจ๋า”

   “ไม่ต้องมาเรียกเมียจ๋า” ผมตะโกน หยิบฝักบัวอันเล็กเปิดน้ำใส่ “ออกไปเลย ผมจะอาบน้ำ”

   “ก็อาบด้วยกัน ประหยัดน้ำแบบที่เมียจ๋าชอบด้วยนะ”

   “งั้นไม่ต้องประหยัดแล้ว พี่โช อื่อ”

        ตายในสงครามข้างนอกยังไม่พอ ยังต้องมาตายในห้องน้ำอีก ไอ้กลอยเครียด

   “เมียจ๋า”

   “ไม่ต้องเรียกโว้ย”



   แล้วสงครามก็จบลงด้วยประการฉะนี้....



............ END.........


ตอนพิเศษแบบเบาๆ ค่าา แล้วพบกันใหม่ค่าาาาา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-08-2016 18:15:19
จบแล้วววว สนุกมากก สงสารพี่โชจะโชว์หื่น เอ้ย โชว์หวานสักหน่อย ฮ่าๆๆ ส่วนคู่อื่นคงต้องดูที่เนื้อเรื่องค่ะว่ามีมากน้อยแค่ไหนถ้าไม่มากแบ่งเป็นพาร์ทเล์กๆคู่ใครคู่มันก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 08-08-2016 18:27:03
จบแล้ว งื่ออออออ คงคิดถึงความหื่นของพี่โชกับเอ๋อ&เกรียนของกลอยแย่เลย :hao5:

รอตอนพิเศษอีกค่าาาาา

ขออีกนิด อยากอ่านเรื่องพี่ซันกับพี่จอมมากๆเลยค่ะ :mew2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 08-08-2016 18:30:44
บ้านพี่โชน่ารักทั้งบ้านเลยอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-08-2016 18:59:13
ชอบตอนพี่โชเรียกกลอยเมียจ๋าจริงๆ เขินแทนอ่ะ :-[ :-[ :-[ :-[
พี่โชโคตรขี้หวงกับข้าวฝีมือเมียแม้กระทั่งกับหลานยังไม่ยอม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-08-2016 19:19:05
น้าโชก็ยังหวงได้ตลอดเวลา แม้แต่กับหลาน ความซวยเลยตกมาที่น้าสะไภ้กลอย เฮ้อ...
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 08-08-2016 19:41:10
จบแล้วพี่โชหื่นโคตรๆ และฟล์อยจะกลับมาแย่งกลอยอีกไหมต้องคอยดูตอนต่อไป :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-08-2016 19:57:00
เอิ่มมม พี่โชคะนั่นหลานนะจะหวงของกินน้องกลอยขนาดนั้นเลย โถววว หลงเมียขั้นสุดจริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-08-2016 20:49:36
 :mew1:น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 08-08-2016 21:41:49
พี่โชมันหื่นได้ใจ ห่วงทุกอย่าง ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-08-2016 22:05:52
แม้แต่หลานก็ไม่เว้นนะคนเรา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-08-2016 00:05:54
พี่โช พออยู่กับกลอยแล้วกลายเป็นเด็กน้อยเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-08-2016 00:42:19
มาตามอ่านจ้า

อ่านยังไม่ทัน

ว่าแต่เหมือนเคยอ่านเมื่อไม่นานมาแล้ว

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-08-2016 00:53:46
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 09-08-2016 08:19:30
สงสารกลอย 5555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: tgtg ที่ 09-08-2016 08:22:35
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณสำหรับนิยายที่สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 09-08-2016 13:08:17
สนุกมากๆค่ะ ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-08-2016 14:47:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 09-08-2016 18:24:23
จบได้น่ารักดี
อ่านแล้วมีความสุขค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนที่ 32+ตอนพิเศษ1 UP!!<<// [08/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 09-08-2016 18:46:40
โคตรหวง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้ง UP!!//[09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 09-08-2016 20:39:43
Just you and I ตอนพิเศษ : 18 อีกครั้ง [Part1]



       สวัสดีวันเปิดภาคเรียน กระผมนายกลอยประเกรียนกำลังเดินเข้าสู่มหาลัยที่ใช้ชีวิตเกิดตายวนเวียนเข้าสู่ปีที่สาม ผมย่างก้าวเข้าสู่บริเวณที่ถูกนัดเป็นจุดรวมพลในตอนเช้าด้วยท่าทางเงอะงะ เหลียวซ้ายแลขวา มองคนนู้นทีคนนั้นทีจนถูกใครบางคนชนเข้าอย่างจังจนเกือบหน้าคว่ำ

   แว่นแสนแพงเกือบร่วงแล้วมั้ยล่ะ

   “โทษๆ รีบไปเถอะ เดี๋ยวโดนรุ่นพี่ลงโทษ” ไอ้คนที่ชนผมมันก้มหัวขอโทษเล็กๆ แล้วยื่นมือมาดึงแขนผมให้รีบวิ่งไปที่สนามหญ้าหน้าตึกคณะ แต่คนขายาวมาลากคนขาสั้นมันดูไม่สมดุลกันเท่าไหร่ ไอ้คนลากมันหันหน้ามามองผมเป็นระยะ และตำหนิด้วยสายตาว่า มึงวิ่งช้า เออ กูขาสั้นแค่นี้จะให้ก้าวยาวเป็นเมตรหรือไง

   พอมันลากผมมาถึงสนามหญ้าที่นัดชุมนุม (สองคำนี้ดูไม่ปลอดภัยยังไงพิกล) ผมรีบเดินมาเข้าแถวตอนลึกโดยมีไอ้คนที่มันลากผมอยู่ด้านหลัง

   “เกือบไปแล้ว” ผมได้ยินมันพึมพำ

   สนใจไอ้คนข้างหลังได้อีกแปบเดียว พวกที่ยืนอยู่ด้านหน้าแถวกระดานก็ตะโกนสั่งให้นับเลขเสียงดังๆ ผมก็แหกปากเสียงดังจนถูกหันมามอง อะไรวะ ก็บอกให้พูดเสียงดังก็ดังแล้วไง ไม่พอใจอะไรอีก พอผ่านไปแล้ว ไอ้ข้างหลังแอบสะกิดแล้วยกนิ้วโป้งให้ผม ผมเลยยิ้มให้มันทีหนึ่ง ก่อนมันจะกระพริบตามอง

   “สวัสดีครับน้องปีหนึ่งทุกคน” เสียงดังฟังชัดจากปีสองซึ่งเป็นเฮดรุ่น

   “สวัสดีค่ะ/ครับ” เด็กปีหนึ่ง รวมถึงผมขานตอบ

   ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผมถึงมาอยู่รวมกับปีหนึ่ง ผมยังไม่ถูกไล่ออกเพียงแต่ภารกิจที่ถูกมอบหมายให้ก่อนจะเปิดเทอมคือการให้ผมเป็นพี่เนียน แม้จะไม่เห็นด้วยแต่ก็ต้องทำ ผมแปลงกายด้วยฝีมือไอ้ทูกับอีเข็ม พวกมันพาผมไปเลือกซื้อข้าวของ (โดนพี่โชโทรจิกทั้งวัน) สภาพผมตอนนี้เลยเหมือนเด็กปีหนึ่ง (คิดว่างั้น)

   แว่นตาทรงสี่เหลี่ยมอย่างที่ฮิตอยู่บนหน้าบานๆ ของผม แถมผมทรงเห็ดนี่อีก โคตรไม่เข้าใจทำไมต้องให้ตัดทรงนี้ สีผมก็ถูกย้อมเป็นสีน้ำตาลเข้ม และชุดนักศึกษาที่ถูกระเบียบตั้งแต่คอไปถึงเท้า ขนาดตอนปีหนึ่งที่ผมเข้ามายังไม่เป๊ะขนาดนี้

   “เอาล่ะค่ะ พวกพี่จะให้น้องๆ ทำความรู้จักกันก่อน ไม่ว่าจะซ้ายจะขวา จะหลังจะหน้าขอให้รู้จักกันไว้ แม้อีกหน่อยจะเรียนต่างภาคสาขา แต่เราคือคณะเดียวกัน” เตย รองเฮดรุ่นปีสองพูดได้ดีจนผมปรบมือให้ และก็โดนมองอีกรอบ

   ผมเปล่าทำตัวเด่นนะเออ

   จากนั้นความวุ่นวายก็เริ่มขึ้น เมื่อเสียงเจี้ยวจ้าวดังจนทั่ว จนไม่รู้ว่าใครถามชื่อใครก่อน ผมถูกไอ้คนข้างหลังสะกิดก่อนเพื่อน หน้าตามันก็งั้นๆ

   “มึงชื่อไรวะไอ้แว่น” โห ดูมันเรียกผม กูออกจะหล่อเฟี้ยวฟ้าวขนาดนี้เรียกกูไอ้แว่น

   “ชื่อกลอย มึงล่ะ” มันมึงมา ผมก็มึงกลับ พอมันได้ยินก็เลิกคิ้วแล้วหัวเราะ “ขำไรมึง”

   “หน้าตาหงิมๆ ติ๋มๆ ไม่คิดว่าจะพูดมึงกู”

   “อ่าว แล้วต้องหน้าตาอุบาทๆ แบบมึงเหรอ ถึงพูดมึงกูได้” กวนมันแต่มันก็ยังขำ ไอ้เด็กนี่อารมณ์ดีจริงๆ

   “เออๆ กูชื่อเม่น” ผมมองหน้าไอ้เด็กชื่อเม่น สงสัยตอนแม่มันท้องชอบไปดูเม่นที่สวนสัตว์ อ่าว แล้วกูชื่อกลอย แม่ชอบไปดูอะไรวะ...ช่างๆ มันครับ ข้ามไปเถอะ

   “พวกมึงชื่อไรวะ” ไอ้คนด้านซ้ายผมเสนอหน้าเข้ามา หน้าตาทะเล้นขยับไปทางกวนนิดๆ

   “กูชื่อเม่น ไอ้แว่นนี่ชื่อกลอย ชื่อแม่งโคตรลิเก แม่มึงชอบดูลิเกใช่ป่ะ” แล้วไอ้สองตัวนี่ก็ขำ เดี๋ยวกูปั๊ดยันเลยนี่

   หรือแม่ผมจะดูลิเกจริงๆ วะ

   “ฮ่าๆ ตลกว่ะ กูชื่อเบียร์” มันบอก ไอ้เด็กเม่นกำลังจะอ้าปาก ไอ้คนชื่อเบียร์ก็พูดแทรก “แม่กูไม่ได้ชอบกินเบียร์ แต่พ่อกูชอบ กูเลยชื่อเบียร์” ผมก็ขำไปกับพวกมัน

   ปีที่แล้วไม่สนุกเท่านี้ครับ ผมปลอมเข้าไปอยู่กับกลุ่มไอ้รอน แต่มันแม่งจับผมได้อ่ะ โคตรเซ็ง ปีนี้ผมไม่ยอมให้พวกมันจับได้แน่

   “พวกมึงเลือกลงสาขาไหนวะ” ไอ้เด็กเบียร์ถาม

   “กูเรียนจิตรกรรม มึงล่ะไอ้กลอย” เรียกไอ้เต็มปากเต็มคำสุดๆ

   “กูเรียน...สาขาอะไรวะ” จะให้บอกว่าสาขาเดียวกับมึงนั่นแหละก็ไม่ได้ “เอ่อ กูลืมว่ะ”

   “เอ้า ไอ้กลอย มึงโคตรโง่ว่ะ” กูจดทุกคำที่พวกมึงว่ากู ผมหรี่ตามองไอ้เด็กสองคนนี้อย่างเก็บอาการ หนอย ปีนเกลียวรุ่นพี่เหรอวะ โดนจัดหนักแน่

   “กลุ่มพวกมึงตลกดีวะ ชื่อไรกันวะ” มาอีกหนึ่งหนุ่มครับ ไอ้เด็กคนนี้หน้าตาคมเข้มเหมือนสีผิว “กูชื่อไม้นะ สาขาจิตรกรรม” เสียงทุ้มแนะนำตัว ทำไมมีแต่คนเรียนสาขานี้วะ ถ้าเกิดผมไปเรียนบังเอิญเจอก็ซวยอ่ะสิ

   สรุปพวกมันสามคนเรียนสาขาเดียวกันหมด แล้วมีบอกว่าโชคดีมีกลุ่มก้อนหล่อสามเชยหนึ่ง เออ ขอบใจที่ให้กูเชย

   “เอาล่ะค่ะๆ น้องๆ ทุกคนอย่าลืมหาพี่รหัสให้เจอนะคะ คณะเรารับน้องแบบสร้างสรรค์ สโลแกนคือ มันส์ ฮา มาก ตอนนี้ให้น้องๆ ไปเรียนได้แล้วค่ะ อย่าลืมตามหาพี่รหัสด้วยนะคะ” รองเฮดพูดจบพวกปีสองก็เริ่มสลายตัว ผมกำลังจะลุกขึ้นยืนแต่มีเท้าคู่หนึ่งมายืนข้างๆ ผมมองไล่ขึ้นไป เห็นหน้าไอ้คนยืนค้ำหัวคุ้นๆ

   “สวัสดีครับน้อง” ไอ้เชี่ยรอนยิ้มโคตรกวนตีนผมเลย มันข่มผมด้วย เดี๋ยวเถอะ รอให้กูแปลงกายได้ก่อน มึงจะโดน ไอ้เด็กปีหนึ่งสามคนยกมือไหว้ไอ้รอนเป็นแถว ยังมีสาวๆ ปีหนึ่งแอบกรี๊ดมันเบาๆ มันจ้องหน้ากดดันจนผมต้องยกมือไหว้

   “สวัสดีครับรุ่นพี่” ไอ้เบียร์พูดครับ ไอ้รอนแค่พยักหน้าเหลือบมองด้วยหางตา แต่มันจ้องหน้าผมตรงๆ

   “ไปเรียนได้แล้วนะครับ ถ้าไม่รู้จักห้องก็ถามพวกพี่ได้ ส่วนน้อง...ชื่ออะไรเหรอครับ” ตอนนี้ผมยังไม่มีป้ายชื่อครับ จะได้ตอนเย็น เห็นพวกปีสองเตรียมไว้เต็ม

   “ชื่อกลอย” ตอบแบบห้วนๆ แต่ไอ้รอนมันทำหน้าไม่พอใจ ดูก็รู้ว่ามันกวน

   “พูดกับรุ่นพี่ไม่มีหางเสียงเลยนะครับ น้องชื่ออะไรนะครับ” ไอ้เชี่ยรอน
 
   ผมกัดฟันแนะนำตัวอีกรอบ มีเด็กปีหนึ่งกับปีสองยืนมองอย่างสนใจ อาจด้วยหน้าตาไอ้รอนด้วยส่วนหนึ่ง

   “ผมชื่อกลอยครับ” ตะโกนจนไอ้รอนผงะเล็กๆ เล่นกูแล้วไอ้เด็กนี่

   “แหม เสียงดีจังนะ” หน้าตามันโคตรเจ้าเล่ห์ ผมรีบขอตัวไปเรียนไอ้รอนมันก็พยักหน้าแต่ก่อนไปมันขยับมากระซิบเบาที่ข้างหู “พี่น่ารักกว่าปีที่แล้วอีก”

   ไอ้สัด ผมด่าแบบไร้เสียงให้มันอ่านปากเอง มันก็หัวเราะตามหลังผมมานี่แหละ ส่วนได้เด็กปีหนึ่งที่เดินมาพร้อมกับผมมันก็มองหน้าตื่น

   “หน้าตามึงต้องไปกระตุกต่อมอะไรพี่เขาแน่ว่ะ” ไอ้เบียร์ออกความเห็นคนแรก กระตุกต่อมเลวน่ะสิ

   “แต่กูว่า หน้าตามันก็ดู...” ไอ้เม่นจับคางผมหันไปมาจนผมต้องสะบัดหน้าหนี “หน้าตาก็เฉยๆ ดีที่ขาว”

   “ถ้ามันทำทรงผมดีๆ กับเอาแว่นตาออก กูว่า หน้าตาเหมือนผู้หญิงด้วยซ้ำ” ผมหันขวับไปมองเด็กหน้าคม มึงจิตนาการสูงมาก แต่สูงเกินจนมองผมเหมือนผู้หญิง

   พอขึ้นตึก ผมก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ตอนแรกไอ้เด็กเม่นจะมาส่ง ผมก็แหวมันไป คือผมไม่ใช่ผู้หญิง อีกอย่างคือผมมีเรียนเช้าด้วย นี่ก็เกือบจะสาย ถ้าช้ากว่านี้เข้าไม่ทันแน่

   “งั้นรีบๆ ตามมานะมึง อย่าโง่เดินหลงไปที่อื่นล่ะ” แทบอยากต่อยมัน มันด่าผมว่าโง่อีกแล้ว


   พอแยกจากเด็กปีหนึ่ง ผมก็รีบวิ่งไปอีกตึกเพื่อไปเรียน เกือบไม่ทัน ดีที่คาบแรกอาจารย์มาช้า พอมาถึง ผมก็ถูกไอ้พวกเลวโห่รับ

   “อ่าว ไอ้เด็กปีหนึ่งหัวเห็ด เข้าผิดห้องหรือเปล่าวะ” ไอ้เชี่ยต๋องมันปากดีจริงๆ ผมมองตาขวางเก็บแว่นใส่กระเป๋า แล้วดึงไทด์ออก โคตรจะอึดอัดอ่ะ

   “เป็นไงวะ ปีนี้มีเด็กแจ่มๆ บ้างป่ะ” ไอ้เคเสนอหน้ามาถาม

   “ทำไมมึงไปดูเองวะ” รำคาญครับ

   “อ่าว กูปีสามนะ ต้องรออีกแปบพระเอกถึงจะโผล่”

   “ถุย ถ้าหน้าอย่างมึงเป็นพระเอก กูจะเลิกดูละครเลยสัด” ไอ้เคหันหน้าหนีหลังจากถูกไอ้ทูตอกหน้าครับ “ว่าแต่มึง อย่าทำให้เด็กจับได้อย่างปีที่แล้วนะ”

   “เออ กูพยายามอยู่ แล้วกลุ่มที่กูตีสนิทดันอยู่สาขาเราอีก โคตรซวย” ผมบ่น ไอ้ทูแม่งหัวเราะเยาะแถมบอกสมน้ำหน้า หนอย แต่จะด่ากลับก็ไม่ได้ในเมื่ออาจารย์เข้ามาแล้ว ปล่อยมันไปก่อน

   คาบแรกก็ไม่มีอะไรแค่บอกแนวการสอนแล้วก็เช็คชื่อ ใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาทีด้วยซ้ำ พอเลิกพวกผมก็ตรงไปกินข้าวที่โรงอาหารกลาง ที่ไปเพราะต้องหลบไอ้เด็กปีหนึ่ง แน่นอนว่าพวกมันต้องลงไปกินที่โรงอาหารคณะแน่

   บรรยายโรงอาหารโคตรคึกคัก เด็กใหม่ที่ห้องป้ายเดินอยู่เต็ม ปะปนกับพวกปีอื่นๆ

   “ไอ้เชี่ย มึงดูเด็กปีหนึ่งบริหาร แจ่มเหี้ย” ไอ้ต๋องสะกิดพวกผมให้ดูครับ เด็กปีหนึ่งบริหารเดินเข้ามาเป็นกลุ่ม แต่ทำไมผมได้ยินชื่อคณะก็ต้องเสียวสันหลังทุกครั้ง

   “แจ่มจริง ขาวด้วย สวยเชี่ย” ไอ้เคเห็นด้วย และไอ้สักก็พยักหน้าพลางยัดข้าวมันไก่เข้าปาก

   “รีบๆ กินเถอะ ก่อนไอ้กลอยมันจะเป็นบ้าหรือคอเคล็ดไปก่อน” ไอ้ทูมันคงเห็นผมหันไปหันมา ที่ต้องหันเพราะกลัวมีเด็กคณะผมโผล่มา


   หลังจากกินข้าวอิ่มก็ถึงเวลาที่ผมต้องไปเข้าเรียนกับเด็กปีหนึ่งบ้างเพื่อไม่ให้พวกมันสงสัย ซึ่งมันคือคาบว่างของผม แม่งลำบากจริงๆ ถ้าไม่ต้องไปเรียนผมคงไปนอนที่ไหนสักที่แน่
 
   จากการเช็คตารางเรียน พวกปีหนึ่งมีเรียนที่อาคารเรียนรวม สภาพผมกลับมาเป็นไอ้เชยอีกครั้ง หน้าห้องเรียนมีกลุ่มเด็กปีหนึ่งกำลังจับกลุ่มคุยอย่างเฮฮา อาจเพราะเจอเพื่อนใหม่ด้วยเลยต้องสนิทกันไว้ก่อน พอพวกนั้นหันมาเห็นผมก็ยิ้มให้ ผมก็พยักหน้ารับ คือไม่รู้จักชื่อ

   ผมเข้าห้องไป เจอหน้าไอ้เด็กเบียร์ก่อนคนแรก พอมันเห็นผมก็ปรี่เข้ามากอดคอก่อนตบหัวผมโคตรแรงจนผมเห็ดปลิว ซึ่งผมได้จดลงสมุดบัญชีไว้แล้ว

   “หายไปไหนมาวะ คาบที่แล้วแม่งไม่เข้า” มันถาม ผมก็ปั้นหน้านิ่งๆ บอกว่าหลง “กูกับไอ้เม่นว่าแล้วว่ามึงต้องหลง ต่อไปมึงก็ตามพวกกูไว้” ดูมันภูมิใจเหมือนรู้ทุกที่

   “มึงรู้ทุกที่ในนี้หรือไง” ลองถามไป มันก็ส่ายหน้า ไอ้อวดเก่งเอ้ย “แล้วไอ้พวกนั้นไปไหนแล้วล่ะ” ในห้องก็ไม่มี

   “ลงไปซื้อขนมชั้นล่าง มึงรู้จักชั้นป่ะ” ไอ้นี่มึงลองเชิงผมหรือเปล่า
 
   “ไม่รู้”

   “กูว่าละ ไป เผื่อหิว” ไอ้เด็กเบียร์กอดคอผมไปที่ลิฟท์แล้วกดลงไปชั้นที่เจ็ดครับ ตอนนี้ผมอยู่ชั้นแปด

   ลิฟท์เปิดออกพวกผมก็เข้าไป พยายามแงะมือมันออกก็ออกไม่ได้ มึงไม่ต้องกอดกูแบบนี้ก็ได้ จนเสียงลิฟท์ดังเพราะถึงชั้นเจ็ดแล้ว ประตูเปิดออกไอ้เบียร์ลากผมออกมาแต่ผมยังขืนตัวเองไว้ ตาก็มองกลุ่มคนตรงหน้าที่ยืนออจะลงไปด้านล่าง หนึ่งในนั้นก็คือพี่ฟลอยด์


   บังเอิญอีกแล้ว


   พี่ฟลอยด์หันมาเห็นผมก่อนไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าและมาหยุดที่แขนที่ไอ้เด็กปีหนึ่งมันพาดบ่าผมอยู่ สายตามันนี่น้องๆ ของพี่โชเลยครับ แต่ไม่มีรังสีไอเย็น สุดท้ายผมก็ออกมาจากลิฟท์ พวกพี่ฟลอยด์ก็เข้าไปแทนจนประตูลิฟท์ปิด ถอนหายใจแทบไม่ทัน

   พอผมลูกลากมาที่ร้านขายของชำเล็กๆ เจอไอ้เด็กอีกสองคนกำลังหยิบขนมใส่ตะกร้า นี่พวกมึงจะกินยัยชาติหน้าหรือเปล่า เต็มตะกร้าจริงๆ แล้วพอหันมาเห็นผมก็รีบวิ่งเข้ามาหา

   “ไอ้เชี่ยกลอย กูคิดว่ามึงหลงไปอยู่นอกโลกซะแล้ว” ไอ้เม่นกวนทันทีที่เห็นหน้า จดอีกๆ มันเรียกผมไอ้เชี่ย

   “โด่ ใครวะ บ่นตลอดเวลาแถมจะออกไปตามหามันอีก” ไอ้เด็กหน้าคมย้อนเพื่อนมันครับ ผมก็มองๆ ไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้อยากกินขนม

   “พวกมึงซื้อไปทำไมเยอะแยะวะ” ถามเพื่อได้กินของฟรี

   “พวกข้างบนมันสั่งซื้อเพราะขี้เกียจลงมา มึงจะเอาไรป่ะ แต่ออกตังค์เองนะเว้ย” ไอ้เด็กขี้งก

   หลังจากซื้อของเสร็จก็ต้องขึ้นไปเรียน วิชานี้เป็นวิชานอกคณะเลยไม่ต้องกลัวจะเจออาจารย์ที่รู้จัก ผมก็นั่งเนียนๆ ไปเพราะเรียนมาแล้ว วิชานี้ได้เกรดบีนะครับผมเนี่ย ไม่อยากจะโม้

   สองชั่วโมงผ่านไปโคตรจะง่วง ผมกับพวกเด็กปีหนึ่งก็เดินออกมาเพราะตอนนี้เที่ยงพอดี คอผมมีแขนไอ้เด็กเม่นพาดอยู่ มันเฮฮาบ้าบอชวนสาวๆ ในห้องพูดไปขำไป ดูเหมือนจะมีคนสนใจมันมากทีเดียว แต่ผมว่า หน้าตามันก็งั้นๆ


   โรงอาหารคณะ ก็มีแต่คนในคณะผมนั่นแหละครับ ปีสามกับปีสี่ที่ไม่อยากเบียดแย่งเด็กก็จะไปกินที่อื่น ที่ต้องให้เด็กปีหนึ่งกินที่นี่เพราะจะได้รู้จักทุกอย่างของคณะและร้านอาหารที่นี่อร่อยกว่าโรงอาหารกลางแน่นอน ผมเดินมากับไอ้ก๊วนเด็กหนุ่มที่พูดจากวนอวัยวะเบื้องล่าง ผมเห็นกลุ่มปีสองนั่งอยู่ที่ริมสุด พวกมันก็เหล่ๆ ตามอง แต่จะมีไอ้เด็กที่มันไม่ยอมอยู่เฉยที่ลุกออกมาจากกลุ่มแล้วตรงมาที่ผม

   “เฮ้ย” ไอ้รอนมันจับแขนไอ้เด็กเม่นออกจากคอผมครับ หน้าตามันโคตรหาเรื่องจนผมกลัว

   “พี่ทำไรอ่ะ” ไอ้เด็กเม่นขมวดคิ้วจ้องเหมือนไม่เข้าใจ ดูมันไม่กลัวด้วย แต่ผมนี่แหละที่กลัว

   “มึงทำไรวะ กอดคอพะ...เพื่อนทำไม” คำถามโคตรงี่เง่า ผมคิดแบบนั้น ไอ้เด็กพวกนี้ก็คิดเหมือนกัน แถมตอนนี้เรายังเป็นจุดสนใจของคนทั้งคณะ

   “อ่าวพี่ ผมกอดคอเพื่อนผม พี่เกี่ยวไรด้วย” นั่นไง ไอ้เม่นมึงหาเรื่องปีสองนะเว้ย

   “เอ่อพี่ครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ” ผมรีบห้ามก่อนจะเกิดเรื่อง วันนี้เปิดเรียนวันแรกด้วย ขืนมาก่อเรื่องจะวุ่นวาย ไอ้รอนเหล่ตามองผมนิดๆ ก่อนจะพยักหน้า

   “ก็ได้ งั้นกูขอลงโทษมึงหน่อยที่ทำเสียงดัง” ไอ้เชี่นรอนใช้อำนาจในทางที่ผิด มันหันไปสั่งไอ้เม่น “ปั่นจิ้งหรีดยี่สิบครั้งปฏิบัติ” ผมตาโตมองคำสั่งของไอ้รอน เชี่ย แค่สองรอบก็จะตายแล้ว นี่ตั้งยี่สิบรอบ

   ไอ้เด็กเม่นหน้ามันโคตรนิ่ง ก่อนจะยอมทำจริงๆ จนผมตกใจ เพื่อนมันก็ด้วย พอหมุนไปได้สักห้าหกรอบมันก็เริ่มไม่ไหว จนไอ้เด็กไม้ขอทำต่อ แล้วมันก็ทำได้แค่ห้ารอบเช่นกัน ไอ้เบียร์อึกอักก่อนจะขอทำด้วย ซึ่งทำได้แค่สามรอบ ไอ้เชี่ยเอ้ย แล้วผมยืนอยู่ในกลุ่มพวกมันก็ต้องทำด้วย ขณะผมกำลังก้มล้วงมือจับหู ไอ้เชี่ยรอนก็เข้ามาห้าม

   “มึงไม่ต้องทำ” เด็กปีหนึ่งที่ยืนมองต่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงห้าม ผมมองเด็กที่ผมเข้าไปสนิทยืนเซๆ จับโต๊ะก็สงสาร เอาวะ ทำก็ต้องทำทั้งกลุ่ม

   ผมเริ่มหมุน ไอ้รอนร้องเสียงหลงเมื่อเห็นผมทำ หนึ่งรอบพอทน สองรอบก็ยังพอไหว สามรอบโอยโลกหมุน สี่รอบตาลายคล้ายจะเป็นลม ห้ารอบพาผมไปโรงบาลที หกรอบนอนตายอย่างสงบ ผมลงไปนอนที่พื้นโรงอาหาร ในหัวมันหมุนๆ เหมือนอยากจะอ้วก ไม่น่าเกิดมาเป็นคนดีเลยให้ตาย ไอ้รอนตกใจรีบมาประคองให้ผมลุก รวมถึงเด็กปีสองที่รีบวิ่งเข้ามา แต่ที่ทำให้ตกใจคือไอ้รอนถูกเด็กปีหนึ่งผลักครับ คนผลักก็คนที่ถูกสั่งหมุนคนแรก

   “มึงทำไรวะ” ไอ้รอนดูตกใจที่ถูกผลัก

   “ผมจะพาเพื่อนไปห้องพยาบาล” ไอ้เม่นว่า มันจับผมพาดหลังโดยมีไอ้ไม้กับไอ้เบียร์ช่วยดันขึ้นหลัง มันกระชับผมไว้แน่น แล้วมันก็พาวิ่งไปห้องพยาบาลท่ามกลางสายตาตกใจปนตกตะลึง “มึงทำใจดีๆ ไว้นะ อย่าเพิ่งตาย” น้ำเสียงมันดูเป็นห่วง




   เอ่อ กูเนเวอร์ดาย ไม่มีวันตายเว้ย   



....TBC

ตอนพิเศษมาแบบสั้นๆ พาร์ทแรกค่า น้องกลอยแกเนเวอร์ดายจริงๆ ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่าา แล้วเจอกันพาร์ทสองค่าาา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 09-08-2016 20:59:13
เสน่ห์แรงอีกล้าวววว
พี่โชมาปราบด่วนนนนนน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 09-08-2016 21:04:45
ตอนแรกก็งงๆที่แท้ก็อ๋อออ มาเป็นพี่เนียนนี่เองแล้วดูท่าจะเป็นแบบที่สักบอกด้วยละมั้งเนี่ย ที่ว่าหา ผ. เพิ่ม อะ ฮ่าๆๆๆ นี่พี่โชยังไม่รู้ใช่ไหมไม่งั้นไม่น่ายอมอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 09-08-2016 21:07:29
อ๊ายยยยยย มีความเกลียด อิกลอยประเกรียน เเกไปปล่อยฟีโรโมน จนคนชอบอีกเเล้วนะเนี้ยยยยยย ระวังพี่โช ลงโทษสถานหนักนะเว้ยยยย เตือนด้วยความเป็นห่วง 555555 เชื่อดิ เด็กปี1 จีบชัวร์  :hao6:  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-08-2016 21:19:35
อะจ๊าาาา น้องกลอยเสน่ห์แรง
เหมือนเม่น จะถูกใจกลอยแล้วนะ
พี่รอน หาเรื่องน้องเม่นที่กอดคอกลอยซะมีเรื่อง :เฮ้อ:
จะเป็นเรื่องใหญ่ไหมเนี่ย
ถ้าพี่โช กับพวกเพื่อนกลอยปีสาม รู้เรื่อง :z6: :z6: :z6:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 09-08-2016 21:28:24
กลอยเสน่ห์แรง ไม่รู้ตัว พี่โชทำไงดี จัดเลยมะ คืนนี้ก่อนนอน  อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 09-08-2016 21:32:32
 :laugh: :laugh: :laugh: :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-08-2016 21:35:48
แม้แต่เด็กก็ยังหลง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-08-2016 21:36:18
ความจะแตก จะแตกเพราะรอน หรือพี่โช จอมหวง
มาลุ้นกัน เอาใจช่วยกลอยให้ภารกิจสำเร็จ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-08-2016 21:37:07
ถ้าพี่โชรู้ น้องกลอยแย่แน่ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-08-2016 21:43:16
เอาที่กลอยคิดแล้วสบายใจ เนเวอร์ดายแต่กลอยอาจตายถ้าพี่โชรู้ :hao3: :hao3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 09-08-2016 21:58:40
กลอยใขเสน่ห์แรงจริงๆบอกตรงเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 09-08-2016 22:08:19
สนุกมาก รู้สึกพลาดเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-08-2016 23:08:35
เกรงใจบรรดาผู้ปกครอง&สามีน้องกลอยจริงๆอ่ะ นายเม่นจะรอดมั้ยเนี่ย แค่สองก็จะแย่แล้ว ถ้าเจอจอมโหดอีกคน ตายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-08-2016 23:11:17
ยังอ่านไม่ทัน

มาเป็นกำลังใจให้คับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-08-2016 23:13:15
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kanyakorn24 ที่ 09-08-2016 23:15:48
ความจะแตกก็เพราะรอนนี่ละ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >>ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP!!<<// [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-08-2016 23:28:56
ตอนนี้ก็ยังสนุกล่ะ แต่เกิดมีเด็กหลงอีกคน พี่โชคงไม่สนุกด้วยล่ะนะ แค่นี้ก็มีหนุ่มๆมาชอบทุกชั้นปีแล้วนะกลอย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18อีกครั้ง [Part2][09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 09-08-2016 23:42:05
Just you and I ตอนพิเศษ : 18 อีกครั้ง [Part2]



        เข้าสู่อาทิตย์ที่สองของการรับน้อง ผมมีป้ายห้อยคอแล้วครับ ชื่อน้องกลอยใจ ไอ้เชี่ยรอนมันเขียน ผมโดนเด็กๆ ล้อโคตรเยอะ แถมเวลาเดินไปไหนโคตรจะอาย แล้วยิ่งถูกไอ้เฮดรุ่นปีสองสั่งให้เอาผมหน้าขึ้นโดยการมัดจุกเป็นน้ำพุยิ่งโคตรตลก ชีวิตไอ้กลอย ลำบากจริงๆ

   เรื่องพี่เนียนตอนแรกพี่โชโวยวายพร้อมระเบิดลงมาก ผมโยนขี้ให้ไอ้เฮดรุ่นทันที พี่โชก็มาหาถึงที่พร้อมกับยื่นคำขาดไม่ให้ผมเป็น แต่ทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้ว ผมเลยต้องขอร้องอ้อนวอนให้พี่โชอนุญาต แต่กว่าจะได้ ก่อนเปิดเทอมผมก็ถูกจัดหนักมาเยอะ ไม่คุ้มสักนิด

   ผ่านอาทิตย์แรกไปแบบชิวๆ ถ้าไม่มีการปั่นจิ้งหรีด ผมก็ถือว่าสบายๆ พวกเด็กปีหนึ่งก็ดูไม่สงสัย...หรือเปล่า ตอนนี้พวกมันนั่งจับกลุ่มกันอยู่ ผมเห็นน้องมายด์ พี่เนียนปีสองนั่งรวมอยู่ในกลุ่มสาวๆ พยักหน้าเออออไปตาม พอน้องเงยหน้าเห็นผมก็ยิ้มทักทาย

   ผมเดินแยกมาหาไอ้เด็กเม่นที่ก้มอ่านอะไรบางอย่างจนหัวแทบจะติดกับโต๊ะม้าหินอ่อนอยู่แล้ว พอเดินไปใกล้เลยตบหัวมันไปทีหนึ่ง แต่คงแรงไปหน่อย หน้าผากมันเลยเคาะกับโต๊ะดังลั่น

   “เฮ้ยๆ กูขอโทษ” ผมรีบจับหน้ามันเงยแล้วเอามือลูบๆ ตรงที่เคาะ แดงเลย

   “เชี่ย เจ็บโคตร” มันทำหน้ามุ้ย คงเจ็บจริงๆ

   “กูขอโทษ” บอกไปอีกรอบ มันก็ปัดมือผมออกแล้วลูบหน้าผากตัวเองแทน

   “มือหรือตีนวะ หนักเหี้ย” หนักทั้งมือและตีนนั่นแหละ

   “มือดิ่วะ แล้วมึงดูอะไรอยู่” ผมถาม ก่อนยืดคอไปดูกระดาษที่มันอ่าน

   “ข้อความลูกโซ่เว้ย” อะไรวะ ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่อง

   “คือไรวะ”

   “อ่าว ไอ้นี่ จดหมายของพวกปีหนึ่งอ่ะ คณะวิทย์มันบอกว่ามีพี่เนียนปะปนให้ระวังคำพูด พวกกูเจอกระดาษเข้าเลยเอามาดูกัน แล้วกำลังคอยสังเกตว่าคณะเรามีหรือเปล่า” มาซะยาวเหยียด ผมนั่งเกร็งจนไอ้เม่นแปลกใจ “เป็นไรวะ ปวดขี้เหรอ”

   “เปล่า แล้วมึงพอจะรู้ป่ะว่าใคร” ผมลองถามดู เผื่อมันจะสงสัยใคร ดูไอ้เด็กนี่ฉลาดเป็นกรด

   “กูว่า น่าจะเป็นทรายป่ะ” ทรายคือเพื่อนร่วมห้องครับ เป็นเด็กสาวเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ “หรือมึงคิดว่าไง”

   “ไม่รู้ว่ะ” ผมรีบตอบ “แล้วมึงไม่คิดว่าจะเป็นกูเหรอ” ลองหยั่งเชิง ไอ้เม่นเบิกตากว้างก่อนหัวเราะออกมาเสียงดัง

   “ถ้ามึงเป็น กูให้ตบหัวเลยว่ะ หน้าอ่อนๆ แบบนี้ไม่มีทางเป็นแน่” โดนตบหัวแน่ไอ้เด็กนี่

   “หึๆ” ผมขำในลำคอก่อนจะสนใจเพื่อนของเด็กนี่ที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา

   “เชี่ยพวกมึง ปีหนึ่งคณะเกษตรจับพี่เนียนได้เว้ย แล้วพี่เนียนเป็นสาวน่ารักโคตร” ไอ้เบียร์มันพูดรัวครับ แปลว่ามันไปแอบดูพวกนั้นเคลียร์ใจกัน

   การเคลียร์ใจเราจะจัดขึ้นก่อนจะมีการบายศรีสู่ขวัญรับปีหนึ่งในอาทิตย์หน้าครับ ผมเห็นไอ้ต้อมมันอัพสเตตัสว่าซวย ตอนแรกก็งงๆ ถามมันไปแต่มันไม่ตอบ หยิ่งเหี้ยๆ ฮ่าๆๆ

   “เอ่อใช่ กูว่าจะถาม” ไอ้เบียร์มันหันมาถามผมที่กำลังไล่อ่านข้อความที่ปีหนึ่งส่งต่อๆ กัน

   “ว่า”

   “เมื่อวานมึงขึ้นรถใครไปวะ” จดหมายในมือร่วงเลย “กูเห็นที่หลังมอ รถสปอร์ตที่กูอยากได้ ราคาหลายล้านด้วยนะ มึงไปขึ้นรถนั่นได้ยังไง” ผมทำหน้าเลิกลักไม่รู้จะตอบยังไงดี จะบอกว่าพ่อก็ไม่ใช่ คนแก่คงไม่ขับรถแบบนั้น

   “คนรู้จัก” ตอบส่งๆ ไป แต่ดูคนฟังจะไม่เชื่อ ตาสามคู่จ้องซะผมเหงื่อไหล

   “คนรู้จัก...หรือว่ามึงเป็น” ไอ้เบียร์มันหยุดพูดแล้วทำตาโต ไอ้ผมก็ลุ้นจนจะปวดขี้ “มึงเป็นเด็กเสี่ยใช่ป่ะ” ไอ้กลอยแทบตกเก้าอี้

   “เด็กเสี่ยพ่อง” ผมตะโกนด่าจนคนแถวนั้นหันมามอง นี่ผมแอบไปขึ้นหลังมอแล้วนะ โดนพี่โชบ่นแล้วบ่นอีกก็ยังต้องทน เมื่อไหร่จะสิ้นสุดสักที ไอ้กลอยเหนื่อย

   “อ่าว ถ้าไม่ใช่เด็กเสี่ย แล้วมึงขึ้นรถแพงๆ แบบนั้นได้ไง” ไอ้ไม้มันถามครับ ผมก็มองหน้ามัน ไม่ใช่อะไร กำลังคิดหาคำตอบสวยๆ อยู่

   “มึงเป็นเด็กเสี่ยจริงเหรอวะ” ไอ้เม่นมันถามย้ำ ผมก็ตบหัวมันไปทีหนึ่งก่อนปฏิเสธ “ตบหัวกู”

   “รถของพี่ที่รู้จัก เขาผ่านมากูก็เลยขอติดรถกลับบ้าน” แถไปให้สุด

   เมื่อวานพี่โชมารับผม หลังจากเลิกงานไว ผมบอกว่าให้ไปรอหลังมอ พี่โชก็บ่นจนแบตมือถือผมจะหมด แล้วตอนคุยก็ยังอยู่ในห้องเรียน ดีที่เป็นห้องสโลปผมนั่งหลังสุดก็เลยปลอดภัย

   ผมมองเด็กสามคนสุมหัวกันเหมือนวางแผนอะไรบางอย่าง ผมก็ยื่นหน้าเข้าไปบ้าง พวกมันก็เหล่ตาแล้วก็ถอยให้หัวผมเข้าไปสุมด้วย


   พวกมันวางแผนจับพี่เนียนครับ


   “มึงคิดว่าจะทำได้เหรอวะ” ผมถามครับ ดูท่าทางพวกมันมั่นใจมาก

   “เออดิ่ กูนัดกับพวกคนอื่นๆ ไว้แล้ว” เอาละสิครับ มีเฮแน่ ใครกันที่มันพวกจะจับ หวังว่าไม่ใช่ผมหรอกนะ

   จากนั้นก็เริ่มเข้าเรียน ผมโทรบอกให้ไอ้ทูลาเรียนเพราะอยากรู้แผนการทั้งหมด แล้ววิชานี้ดันเป็นป๋าเปาครับ ผมนั่งตัวลีบอยู่ด้านหลัง ป๋าแกก็เหล่ตามองมาเป็นระยะ ผมทำหน้าคล้ายกับจะร้องไห้ออกมาเป็นระลอก กลัวป๋าแกจะบอกความจริง แล้วแผนจับไม่ต้องมีมันแล้ว

   น้องมายด์ยิ่งแล้วใหญ่ กลุ่มสาวๆ นั่งอยู่หน้าเลยครับ น้องมายด์แกเลยโดนป๋าเปาสั่งให้ออกไปวาดลายเส้นบนกระดาน ดูเด็กปีหนึ่งมองอย่างสนใจ เพราะเส้นลายไทยดูพลิ้วไหวจนผมอิจฉา น้องเขาวาดมันดูสวยมาก หลังจากนั้นป๋าแกก็พูดนั่นพูดนี่ไปเรื่อย ทำไมป๋าดูไม่ดุวะ แล้วทำไมกับพวกผมดุเอาๆ

   “เอาล่ะๆ ต่อไปผมจะสั่งงานชิ้นแรกนะ” เสียงโห่ตามมา ผมก็แอบร่วมด้วยเลยโดนป๋าจิกตาใส่ “งานที่ว่า คือหาลายเส้นที่เราชอบแล้วเอามาในคาบต่อไป เราจะได้วิเคราะห์กัน” ป๋าบอก ก่อนจะเริ่มเก็บของ แต่ไม่ลืมเอาแฟ้มชี้มาที่ผม “อ่อ ไอ้เด็กแว่นคนนั้น หลังเลิกมาพบกันหน่อยนะ”


   งานเข้าครับ ไอ้กลอยงานเข้า


   ผมหน้าหงอยเดินออกไปหาป๋าเปาแกที่หน้าห้อง มีแรงตบที่บ่าปลอบใจนิดๆ พอเด็กปีหนึ่งออกไปหมด ป๋าก็เอาแฟ้นเคาะหัวผมเบาๆ แล้วเริ่มบ่น

   “ทำตัวไร้สาระนะ ปีสามแล้วยังทำแบบนี้อีก”

   “โถ่ป๋า ผมโดนสั่งนี่นา”

   “เออกูจะพยายามเข้าใจ” ผมมองป๋าอย่างเคืองๆ กับปีหนึ่งพูดซะเพราะ ทีกับผมกูมึงเฉย “แล้วงานที่สั่งอย่าลืมย้ำเพื่อนด้วย ส่งช้าตัดคะแนน”

   ผมรับคำก่อนช่วยป๋าแกยกกระเป๋า พวกไอ้เม่นก็รออยู่ด้านล่างของตึก พอมันเห็นผมก็รีบเดินเข้ามาหา ป๋าเลยรับกระเป๋ากลับห้องไปเอง

   “เลิกวันนี้ไปกินนมปั่นกัน กูเห็นร้านหน้ามอโคตรอร่อย” ไอ้ไม้ชักชวน

   “เออ กูเอาด้วย ช่วงนี้ขาดของหวาน”

   “แต่กูขอบายว่ะ” ผมรีบออกตัวเลยครับ แม้วันนี้พี่โชจะติดประชุม แต่ผมก็ต้องกลับห้องก่อน ช่วงนี้ต้องทำตัวดีๆ ไม่อย่างนั้นปีศาจจะลงประทับร่างพี่โชแกได้ ยิ่งตอนนี้งานหนัก เครียดอีก ผมไม่ควรเป็นภาระพี่เขา

   พอเอาเข้าจริง หลังเลิกผมก็ถูกไอ้เด็กสามคนนี้ลากมาอยู่ดี

   “เอาน่ามึง เดี๋ยวกูไปส่ง วันนี้กูเอารถมา” ไอ้เม่นมันแกว่งพวงกุญแจรถไปมา

   “ส่งกูด้วย” ไอ้เบียร์ยกมือ

   “กูส่งทุกคนน่า ไอ้กลอย มึงทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” ไอ้เชี่ยเม่นมันตบหัวผมอีกแล้ว

   ร้านนมปั่นหน้ามอเป็นร้านเล็กๆ ที่เจ้าของร้านโคตรน่ารัก ผมมากินบ่อยเมื่อก่อน เดี๋ยวนี้จะเข้าพี่โชก็เขม่นแล้วครับ ผมไม่รู้ว่าจะหวงอะไรหนักหนา ถ้าหน้าตาผมหล่อเหมือนมาริโอ้ก็ว่าไปอย่าง (เก็ก) พวกเด็กปีหนึ่งเลือกนั่งโต๊ะด้านนอกติดกับบานกระจกใสบานใหญ่ รายการของยังเหมือนเดิม และผมก็สั่งแบบที่เคยกิน

   “มึงสั่งเหมือนเคยเลยว่ะ” ไอ้ไม้มันเริ่มจับผิด หรือพวกมันจะจับผมได้แล้ววะ เริ่มกลัว

   “กูก็อ่านบนนั้นไง” ผมรีบชี้ป้ายที่ติดผนังร้าน ไอ้ไม้มองตามก่อนพยักหน้า

   “ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นวะ มีอะไรปิดบังพวกกูหรือเปล่า” ไอ้เม่นมันพูด

   “อะไร บิดบังอะไร” ผมจะร้อนรนทำไมวะ

   ก่อนจะโดนกดดันมากขึ้น ประตูร้านก็เปิดออกพร้อมกับผู้ชายห้าคนกับผู้หญิงอีกสองคน หนึ่งในนั้นผมรู้จักดี มันเคยช่วยผมไว้ ไอ้ที่ผมถามแล้วมันหยิ่งไม่ตอบ พอมันหันมาเห็นผมก็รีบเดินตรงมาจนผมแทบอยากจะหายไปจากตรงนี้

   “อ่าวไอ้เชี่ยกลอย มานั่งเชี่ยไรแถวนี่ กูเห็นไอ้ต๋องมันยัดข้าวอยู่โรงอาหารกลาง” พอไอ้ต้อมพูดจบ เด็กสามคนที่นั่งด้วยเหลียวมองผมทันที ดูเหมือนไอ้ต้อมจะเริ่มรู้ว่ามันทำผิด มันยกมือขอโทษแล้วก็เดินจากไป ทิ้งบอมให้กู

   “หมายความว่าไงวะ” นั่นไง ไม่แตกตอนนี้จะให้แตกตอนไหนวะ

   “มึงกับคนนั้นรู้จักกัน?” ไอ้ไม้ถาม

   “ดูๆ แล้วน่าจะไม่ใช่เด็กปีหนึ่ง” ไอ้เบียร์มันกดดันผม

   “มึงเป็นพี่เนียนใช่ป่ะ” ขนาดถามผมมันยังเรียกว่า มึง อ่ะ

   ผมกำลังจะส่ายหน้าโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้นมาซะก่อน หน้าจอโชว์ชื่อที่ทำเอาขนลุก ผมมือสั่นก่อนเลื่อนรับ โดยมีสายตากดดันสามคู่รอคาดคั้น

   (อยู่ไหน) เสียงห้วนมากถึงมากที่สุด

   “อยู่หน้ามอครับ” พูดเพราะก่อน ดูพี่โชอารมณ์ไม่ค่อยดี

   (ไปทำอะไรหน้ามอ)

   “มากินนมปั่น”

   แล้วก็วางไปทันที วันนี้ไอ้กลอยคงต้องขอลา โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ขอตายดีกว่า

   บนโต๊ะมีนมปั่นที่สั่งมาสี่แก้ว โดยไม่มีใครแตะสักคน แล้วไอ้เด็กสามคนก็ไม่ยอมพูดอะไรอีก จนพี่โชเปิดประตูเข้ามา แอบได้ยินสาวๆ ในร้านกรี๊ดเบาๆ พี่โชหน้าตาบูดบึ้งเดินตรงดิ่งเข้ามาหาผม

   “กลับ” สั้นๆ กระชับ แต่ได้ใจความ

   “เอ่อ พี่ประชุมไม่ใช่เหรอ” ผมถามพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ ให้ แต่ดูพี่โชจะไม่ขำ เพราะกำลังปรายตามองไอ้เด็กปีหนึ่งที่นั่งอยู่ด้วย ดูพวกมันก็สนใจพี่โชเหมือนกัน

   “ใครวะ” ไอ้ไม้ถาม พี่โชตวัดตามองทันที

   พี่โชกำลังจะอ้าปากตอบแต่ผมรีบปิดปากไว้ ถ้าตอบไปมีเรื่องกันแน่ ผมเลยบอกลาพวกปีหนึ่งแล้วลากแขนพี่โชออกมา

   คิดว่าผมจะซวยแค่นี้เหรอ

   ตอนออกมาจากร้าน เด็กปีสองกลุ่มใหญ่กำลังเดินออกจากร้านข้าวหน้ามหาลัย พอพวกนั้นเห็นผมก็ยกมือไหว้ จนผมต้องบอกว่ามีเด็กปีหนึ่งอยู่ในร้านนมปั่น พวกปีสองก็ตาโตพากันมอง รองเฮดรุ่นหน้าเสียไปแล้ว

   “พี่กลอยคะ ทำยังไงดี” น้องเตยถามผมครับ ผมก็อยากจะตอบแต่ติดที่พี่โชหน้าไม่รับแขกยืนอยู่ใกล้ๆ นี่แหละ

   “เอาไว้ไปถามพวกปีสามแล้วกันนะ ตอนนี้พี่กลับก่อน” ผมบอกปัด พวกน้องๆ ก็พยักหน้าแล้วรีบเดินกลับไป

   “เล่นเนียนจริงนะ สมกับเป็นพี่เนียน” เสียงพี่โชครับ พูดพลางเหล่ตามองผมด้วย

   “พี่ชมผมใช่ป่ะ”

   “ด่า”

   อูย ไอ้กลอยเกือบตกร่องถนน ก่อนพี่โชจะดึงจุกน้ำพุผมออกพร้อมกับแว่นตาสี่เหลี่ยม พอไร้แว่นมันก็รู้สึกโล่งๆ แปลกๆ

   ผมเดินกลับเข้ามาในมหาลัย ลานจอดรถด้านหน้ามีรถสปอร์ตคาร์แปลกกว่าชาวบ้านจอดอยู่ รถที่จอดข้างๆ ดูหมองไปทันตา
 
   “เดี๋ยว” กำลังจะสอดตัวลงไปนั่ง มีมือมาจับข้อมือผมจนตกใจ

   “อะไรวะ” ผมถามไอ้เม่นครับ มันจ้องผมแปลกๆ

   “มึงเป็นพี่เนียนจริงๆ เหรอวะ” เมื่อกี้ยังไม่ชัดเจนใช่มั้ย

   “เอ่อ รู้แล้วเงียบๆ ไว้ อีกไม่กี่วันก็จะมีพิธีบายศรีฯ” ผมบอกมัน

   “ถ้ากูเก็บ มึงจะให้อะไรกู” บ่ะไอ้เด็กนี่

   “กูไม่มีอะไรจะให้ อยากบอกก็เชิญ”

   “แต่กู...”

   “จะจับมือคนของกูอีกนานมั้ย” ปีศาจมาแล้วครับ แถมปรี่มาจนผมรีบขวาง ไอ้เม่นเลิกคิ้วมอง

   “หึ” แค่นั้นมันก็เดินไป พี่โชฟึดฟัดยอมกลับไปขึ้นรถ คนซวยก็ผมนี่แหละ โดนบ่นจนหูชา ตั้งแต่ยอมไปนั่งกินนมปั่น ยอมให้มันจับมือ นี่พี่ต้องไปเลิกอาการขี้หวงที่วัดไหนวะ



   
   “พี่โช” ผมลากเสียงอ้อนคนตัวสูงกว่าที่แม่งงอนไม่ยอมคุย ตอนนี้ผมมาเลือกซื้อของสดเข้าห้องครับ สภาพกลับมาเป็นไอ้กลอยสุดหล่อตามเดิม มือใหญ่เลือกแอปเปิ้ลสีแดงโดยไม่สนใจผมที่เดินอยู่ด้านหลัง จับเสื้อก็แล้ว จับแขนก็แล้ว สะบัดออกหมด

   “ทำไมชอบทำให้หวงวะ” พี่โชหันมาพูดก่อนหันกลับไปสนใจเลือกแอปเปิ้ลต่อ

   “พี่อย่าหวงมากดิ่ ผมเป็นแฟนพี่นะ” แอบเขินนิดๆ ตอนพูด

   “ก็เพราะเป็นแฟนนี่ไง ถึงหวง” ชัดเจน

   “แต่ผมก็ไม่ได้มีใครนี่นา”

   “ลองมีเอาตายทั้งคู่นั่นแหละ”

   “ทำไมตอนนั้นพี่บอกเป็นคนมีเหตุผล” ผมเคยถามพี่โชเรื่องแฟนโกหกหรือนอกใจ พี่แกบอกเป็นคนมีเหตุผลพอ แล้วนี่คือคนมีเหตุผลเหรอวะ

   “ก็ตอนนั้นใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่” พี่โชบอก “เอาปลาตัวไหน” อยู่ๆ ก็ถูกเปลี่ยนเรื่องจนผมงง

   “ตัวนี้สดกว่า” ผมชี้ปลาที่ตาใสวางอยู่บนกระบะน้ำแข็ง พี่โชก็คีบใส่ถุง

   “เลิกเป็นพี่เนียนนั่นได้แล้ว ก่อนพี่จะเข้าไปบอกอธิการบดีให้ยกเลิก” โห เล่นใหญ่ว่ะ

   “จับได้ขนาดนั้น คงเป็นไม่ได้แล้วล่ะ” พูดแล้วก็เซ็ง โดนจับได้สองปีซ้อนเชียวนะ อายยันหลาน พี่โชยื่นมือมาบีบจมูกจนแทบหายใจไม่ออก

   “ดีแล้ว พี่ไม่ชอบ แต่งตัวแบบนั้นก็ไม่ชอบ มัดจุกแบบนั้นก็ไม่ชอบ”

   “แล้วพี่ชอบแบบไหน” ผมถามแบบเซ็งๆ อะไรก็ไม่ชอบๆ

   “ชอบแบบ” ผมตั้งใจฟังสิ่งที่พี่โชยื่นหน้ามากระซิบ ก่อนจะปาน้ำแข็งในกระบะใส่หน้าแล้วเดินหนี “ชอบแบบไม่ใส่อะไรเลย”



   คนมันจะหื่น ปลาสดๆ ก็ห้ามไม่อยู่


...TBC



พาร์ท 2 ค่า ยังเหลืออีกพาร์ทนะคะ ยาวเกิ๊นนน

เจอกันใหม่ค่าาา


 :กอด1: :กอด1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 10-08-2016 00:10:32
เอาแล้วๆ มีตัวป่วนมากวนพี่โชเพิ่มอีกคนซะละม้างงง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-08-2016 00:52:37
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 10-08-2016 08:20:03
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 10-08-2016 08:45:26
กลอยใจสเน่ห์แรงเว่อร์ 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 10-08-2016 08:56:02
น้องกลอยหว่านเสน่ห์อีกจนได้สินะ ฮาา พี่โชเจอตัวป่วนอีกตัวแล้วววววความหวงคงยกระดับสิบเลยทีนี้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-08-2016 09:07:39
ระดับความหวง&โหดพี่โชคงอัพเกรดเพิ่มอีกหลายเท่าแน่ งานนี้ :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 10-08-2016 09:10:24
5555555555555555  สมน้ำหน้าอิกลอย โดนจับได้ทุกปี จะหน้าเด็กไปไหน เล่นไปเล่นมา
ระวังรุ่นน้องปีนเกลียวนะแก พี่โช ยู คือ มาย ไอดอล ของฉันน ชอบพระเอกแบบนี้จัง (ที่บ้านเธอ มีอีกไหม มีอีกไหม มีอีกคนไหมเธออออ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 10-08-2016 09:43:06
พี่โชขี้หวงมาก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 10-08-2016 11:30:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-08-2016 14:00:04
แหม่ ไม่น่าโดนจับได้เร็วเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-08-2016 14:04:59
น้องเม่นนี่อยากโดนพี่โชจัดหนักใช่หรือเปล่าครับ ถึงมายุ่มย่ามกับพี่กลอยแบบนี้ ^^"
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-08-2016 14:37:30
รักพี่โชตรง



หื่นไม่สิ้นสุด



นี่แหละ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-08-2016 15:10:57
ถ้าไม่มีต้อมกับเด็กปีสองกลอยก็ไม่โดนจับได้หรอกว่าเป็นพี่เนียน
ไม่รู้ว่ากลับห้องจะได้กินปลาหรือจะถูกกินก่อนปลาเนอะกลอย :oo1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 10-08-2016 15:46:04
เชรี่ย รอนแมร่งปัญญาอ่อน หาเรื่อง เดี๋ยวความก็แตกหรอก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 10-08-2016 18:10:08
พี่โชแกอย่าเพิ่งหื่นได้ไหม อ๊าก ชั้นรักพีโช ชั้นรักผู้ชายแบบ นี้  :katai5: :katai5: :katai5: อย่างเพิ่งจบนะมีตอนพิเศษอีกสัก 20 ตอนไปเลย หรือมีภาค 2 ไปเลย ไม่อยากให้พี่ดชกับกลอยลาจอ อย่่ากอ่านเรื่อยๆๆ ไม่หยุด :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part2] [09/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-08-2016 19:03:00
สนุกมากเลยจ๊ะ  o13
หัวข้อ: Re:Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ18อีกครั้ง UP![Part3][10/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 10-08-2016 21:03:38
Just you and I คนพิเศษ : 18 อีกครั้ง [Part3]



         ผมมามหาลัยในสภาพไอ้กลอย (ประเกรียน) นั่นเพราะถูกจับได้แล้วเลยไม่จำเป็นต้องเป็นไอ้เชยอีก แต่พอคิดแล้วก็เสียใจ จะมีใครที่โดนเหมือนผมหรือเปล่า สองปีซ้อนที่หลอกใครไม่ได้ แต่ก็นั่นแหละ เพราะผมเกิดมาเป็นคนดีเกินไป เลยไม่สามารถหลอกใครได้ พวกคุณต้องยอมรับ

   “ทำหน้าระรื่นเลยนะสัดกลอย” โดนไอ้เฮดรุ่นตบหัวไปหนึ่งทีสมองเกือบจะไหล ผมมองขวางจนเกือบจะโดนอีกรอบ ดีที่หลบทัน

   “ตบหัวกูทำไมวะ เดี๋ยวกูโดดถีบ” ขู่มัน

   “กล้าก็เอาสิ มา” โด่ ไม่ได้กลัวนะ แค่ขาสั้นเตะคอมันไม่ถึง “มึงนี่นะ สองปีซ้อน อายน้องมันบ้างหรือเปล่า” มันด่าผมหรือเปล่า น่าจะใช่ แถมยังชี้ไปที่น้องเนียนปีสองที่นั่งอยู่ในห้องประชุมด้วย

   ตอนนี้ปีสองกับปีสาม มีพี่ปีสี่นิดหน่อย กำลังประชุมเรื่องรับน้องครับ โดยที่ผมโดนเล่นตั้งแต่คนแรก จะโทษผมก็ไม่ได้ไง ในเมื่อผมไม่ได้ทำเรื่องแตก ต้องโทษไอ้เชี่ยต้อม กับเด็กปีสองนู้น เกิดเป็นน้องที่ดีไหว้ผมทุกครั้งที่เห็นหน้า เป็นไงล่ะ ความแตกเลย แล้วไอ้กลอยก็ผิดคนเดียว โคตรยุติธรรม แบบนี้ต้องไปร้องต่อศาลไคฟงขอความเห็นใจ

   “ทำไมกูต้องอาย” ผมสวนกลับ ใช่ ทำไมต้องอาย คณะอื่นก็โดนจับกันเป็นว่าเล่น ไอ้นาย เฮดรุ่น (มันชื่อนาย) ส่ายหน้ามองผมเหมือนรับไม่ได้

   “เรื่องของมึง” แล้วมันก็เดินไปคุยกับคนอื่นต่อ โด่ ไม่แน่จริงนี่หว่า

   ผมนั่งหน้างออยู่ด้านหลัง มีพี่ปีสี่เดินมาตบหัวคนละป๊าบสองป๊าบ ผมได้แต่มองค้อนจนโดนขำ ตบหัวคนอื่นแล้วยังมีหน้ามาขำ รุ่นพี่โคตรใจร้าย

   “มึงนี่น้า หน้าเด็กเสียเปล่า สมองมึงยิ่งกว่าเด็กอีก” พี่แจ็คปีสี่ตบบ่าเพื่อปลอบใจ แต่คำพูดมันด่าผมนี่หว่า

   “ขอบคุณที่ชม” ผมยิ้มรับแม้จะรู้ว่าถูกด่า จนพี่มันหัวเราะก๊ากแล้วก็เดินออกจากห้องไป

   พอปีสี่เริ่มออกไปเกือบหมด เพราะไม่อยากยุ่งเท่าไหร่ ปีสามกับปีสองเลยรวมหัวกันจะรับน้องก่อนที่จะมีพิธีของทางมหาลัย จะจัดหนักก่อนนั่นเอง ซึ่งความเห็นแต่ละคนก็ยากจะหยั่งลึก เอาตามที่พวกมันสบายใจครับ ผมไม่ยุ่ง แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้ว

   ไอ้ทูนั่งเล่นมือถืออยู่ข้างผม มันบ่นบ้าบออะไรไม่รู้ของมัน ใช้เวลาไม่นานก็ทยอยออกจากห้อง ตอนเช้าผมมองซ้ายมองขวาเพราะกลัวเจอกลุ่มไอ้เด็กเม่น หวังว่าตอนเที่ยงแบบนี้คงจะไม่เจอหรอกนะ

   ผมไปกินข้าวโรงอาหารกลางกับเพื่อนตามเดิมและคนก็ยังเยอะเหมือนเดิม บางร้านนี่เข้าไม่ถึงหรอกนะครับ อย่างร้านที่ผมกำลังต่อคิว คนแม่งจะแห่มากินอะไรกันมากมาย รสชาติก็งั้นๆ ระหว่างรอเหมือนโดนสะกิด หันไปก็เจอหน้าไอ้เด็กเกษตรที่มันทำให้ผมต้องถูกด่า

   “เรื่องเมื่อวานโทษทีนะมึง” ไอ้ต้อมมันยิ้มแหยๆ ส่งให้ผม ผมก็ตบบ่ามันไป

   “ไม่เป็นไรมึง” กัดฟันพูด ไอ้ต้อมเห็นก็หัวเราะ

   “มึงไม่บอกนี่หว่า ว่าเป็นพี่เนียน คุยไลน์มึงก็ไม่บอก”

   “มึงเรียนคนละคณะกับกู แล้วกูต้องบอกมึงหรือเปล่า” ด่ามันครับ งอน

   “นั่น ด่ากูอีก เอาน่าๆ งั้นมื้อนี้กูเลี้ยงเอง”

   “แหม เพื่อนต้อม นิสัยดีจริงๆ” แล้วผมกับไอ้ต้อมก็หัวเราะจนพวกที่ต่อแถวหันมามอง คงคิดว่าผมกับไอ้ข้างๆ เป็นบ้า

   พอได้ข้าวแล้วก็กลับไปนั่งที่โต๊ะ บังเอิญที่กลุ่มไอ้ต้อมก็นั่งโต๊ะเดียวกับพวกผม เพื่อนมันก็เฮฮาบ้าบอ พวกนี้ผมเคยเห็นที่แปลงผักกับร้านเหล้าวันนั้น พอพวกมันเห็นผมก็ทักทายธรรมดา แม้พวกเราจะเรียนคนคณะ แต่ความบ้าก็คงมีพอๆ กัน เพื่อนไอ้ต้อมมันเล่าเรื่องตลกทำเอาทั้งโต๊ะหัวเราะจนน้ำตาไหล ก่อนเสียงหัวเราะจะเงียบลงเมื่อมีคนมายืนค้ำหัวผม

   “ที่นี่โรงอาหาร ช่วยเงียบๆ หน่อย” เสียงแบบนี้ไม่ต้องหันไปก็รู้ว่าเป็นใคร

   “ก็โรงอาหาร ใครเขาก็คุยกัน พี่ไม่ไปบอกทุกโต๊ะละครับ” เชี่ย ผมหันไปมองหน้าไอ้ต้อมเลยครับ มันเงยหน้าย้อนคนที่มายืนด้านหลังผมแบบไม่กลัวตาย เจ๋งมากเพื่อนต้อม

   “แต่โต๊ะนี้เสียงดังสุด” เสียงตอบกลับแบบไม่ยอมเหมือนกัน

   “เหรอครับ ทำไมพวกผมถึงไม่รู้” ตอบโต้ทันควันจนอยากจะยกนิ้วให้

   ผมค่อยๆ เงยหน้าไปมอง พี่ฟลอยด์กำลังจ้องตากับไอ้ต้อมแบบจริงจัง เหมือนเห็นไฟฟ้าชนกันด้วย ดูเหมือนคู่นี้จะมีคดีความกันมาหรือเปล่า เจอกันครั้งแรกไม่น่าจะเป็นได้ขนาดนี้ แล้วตอนนี้เพื่อนไอ้ต้อมเริ่มไม่พอใจ ยิ่งพี่ฟลอยด์มาคนเดียวอีก

   “เอ่อ พวกผมขอโทษนะครับ” ผมรีบพูด พี่ฟลอยด์ละสายตาจากหน้าไอ้ต้อมมามองผมแทน รอยยิ้มเล็กๆ จุดขึ้นที่ริมฝีปาก โล่งอก

   “ไม่เป็นไร” พี่ฟลอยด์ว่า ก่อนจะเดินไปยังเหล่ตามองไอ้ต้อมอีก


   มึงกล้าหารมากเพื่อน


   ผมตบไหล่ไอ้ต้อมให้มันเลิกโมโห พอมันหันหน้ากลับมา พวกเราก็เริ่มหาเรื่องคุยกันต่อ แต่ลดเสียงลง เหตุการณ์เมื่อครู่เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเพราะไม่มีใครพูดถึงอีก


   กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายครับ พวกผมมีเรียนที่ตึกคณะ ถึงเวลาต้องประชันหน้าสินะ ยังทำใจไม่ได้เลยอ่ะ มันเหมือนผมทำผิดจนไม่กล้าสู่หน้า แต่พอคิดอีกที ผมไม่ได้ทำอะไรพวกมันสักหน่อย ผมเดินเอื่อยจนโดนไอ้สักลากแขนให้รีบเดิน

   “ทำหน้าตาตอแหลมาก” ดูมันด่าผมครับ

   “ตอแหลพ่อง” ด่ามันไป

   “มึงจะกลัวทำไมวะ ไม่ได้ทำพวกมันท้องสักหน่อย” ก็จริงของไอ้เคมันครับ ถุย ท้องเชี่ยไร จ้องกันไม่ท้องหรอกเว้ย (ยกเว้นจ้องตากับปีศาจที่ชื่อโชนะ เอ่อ ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วกัน)

   “มึงคงไม่ได้ไปอ่อยเหมือนตอนไอ้รอนใช่มั้ย” โดนตบหัวไปหนึ่งดอก ไอ้ต๋องมันมองตาเขียวปั๊ด “มือมึงหนักขึ้นหรือเปล่าวะ เชี่ย เจ็บชิบหาย”

   “พูดไม่คิดมึงอ่ะ” ใช่ครับ พูดไม่คิด ผมเห็นด้วยกับไอ้ทู “อย่างไอ้เชี่ยกลอยไม่ต้องอ่อย มันก็ตามมาเอง” แล้วพวกมันสามสี่ตัวก็หัวเราะจนลั่นตึก

   ไอ้เพื่อนชั่ว

   ไล่เตะไอ้พวกเพื่อนเลวจนเกือบจะชนกับน้องปีหนึ่งที่น่าจะชื่อทราย น้องคนนี้ที่ถูกหมายตาจากเด็กปีหนึ่งด้วยกันเองว่าอาจเป็นพี่เนียน และน้องดูตกใจร้องว้ายเมื่อเกือบถูกชน ดีที่ยั้งตัวไว้ทัน ผมช่วยน้องเก็บสมุดที่ถือออกจากห้องมา อ่า เด็กพวกนี้เรียนห้องนี้สินะ

   “ขะ ขอบคุณค่ะ” น้องทรายยิ้มให้ผม ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าผมระยะใกล้ “กลอยเหรอ” นั่นไง เรียกชื่อผมเฉยๆ

   “อืม เจ็บหรือเปล่า” ผมถาม น้องส่ายหัวน้อยๆ ก่อนยิ้มออกมา ที่จริงพอมองใกล้ๆ น้องเป็นคนน่ารักคนหนึ่งเลยนะครับ “ขอโทษนะ ไม่ทันมอง”

   “ไม่เป็นไร เราก็ไม่ได้มองเหมือนกัน แล้วไม่มาเรียนเหรอ ถามพวกเม่นก็บอกไม่รู้” อ่า นี่ผมฟังผิดหรือเปล่า ทำไมถึงถามแบบนี้

   “แล้วพวกเม่นไม่ได้บอกอะไรเหรอ” ทรายส่ายหน้าครับ หรือว่าไอ้เด็กพวกนั้นมันไม่ได้บอกใคร “ช่างมันเถอะ จะเอางานไปส่งเหรอ รีบๆ ไป” ผมยิ้มให้น้อง ก่อนน้องจะรีบเดินไป

   พอผมยืนขึ้นก็เกือบผงะ ไอ้เด็กปีหนึ่งสามคนยืนเรียงหน้ากระดานอยู่ตรงหน้า มีแบล็กกราวด้านหลังเป็นพวกไอ้ทูที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ เด็กสามคนจ้องหน้าผมนิ่ง ไม่ยอมพูดอะไรออกมาจนผมเริ่มกดดัน

   “มีอะไร” ผมถาม สภาพตอนนี้ของผมไม่ใช่ไอ้เชย พวกมันก็มองตั้งหัวจรดเท้าของผมนิ่งๆ

   “พี่อยู่ปีอะไร” ไอ้เม่นถามครับ มันจ้องหน้าผม

   “สาม” ตอบไปแบบเรียบๆ

   “แก่กว่าจริงๆ สินะ” ไอ้ไม้มันพูดทำให้ผมมองมันตาขวาง ไอ้เด็กนี่ด่าผมแก่ ผมแค่เกิดก่อนมันเอง ไม่เรียกแก่เว้ย

   “เอ่อ รู้แล้วก็ดี” ผมว่า

   “พวกผมยังไม่ได้บอกคนอื่นๆ เรื่องพี่” ทีนี้ไอ้เด็กเบียร์พูดครับ หน้าตามันจริงจัง ไม่ดูทะเล้นเหมือนทุกที “แต่ถ้าพี่อยากให้บอก พวกผมก็จะบอก” อะไรของมัน

   “ก็แล้วแต่พวกมึง อยากบอกก็บอก” ผมบอกปัดๆ เริ่มโมโหนิดๆ คือผมมีเรียนไง

   “พี่จะไม่ห้ามเหรอ” ผมไม่ห้ามก็ผิดเหรอ
 
   “มันอยู่ที่พวกมึงสามคน”

   “ผมจะไม่บอก ถ้าพี่ยอมตกลง” ไอ้เม่นมันว่า ตกลงอะไรวะ

   “ตกลงเรื่อง”

   “ผมจะไม่บอกเรื่องพี่เป็นพี่เนียนกับเพื่อนคนอื่นๆ แต่พี่ต้องยอมไปเดทกับพวกเราสามคน” ไอ้ไม้มันว่า อ่อ

   เชี่ย ผมฟังผิดใช่มั้ย เดทกับพวกมันสามคน

   “มึงพูดผิดหรือเปล่าวะ” ผมกระพริบตาปริบๆ มองไอ้เด็กปีหนึ่งที่บอกให้ผมไปเดทด้วย แถมไอ้พวกข้างหลังมันก็ปิดปากหัวเราะ

   “ไม่ผิดหรอก แล้วผมก็รู้ว่าคนที่มารับพี่เมื่อวานเป็นแฟนของพี่” เออ รู้ก็ดี แต่ขนาดรู้นะ “แต่พวกผมก็มีสิทธิ์ได้เดทกับพี่ เพราะพี่ยังไม่ได้แต่งงานกับใคร” เชี่ย ตรรกะไหนวะเนี่ย ไอ้กลอยมึน

   “พวกมึงเพี้ยนหรือเปล่าวะ กูเป็นผู้ชายนะเว้ย เป็นพี่พวกมึงด้วย โอย กูปวดหัว ไปเรียนๆ” ผมจะเดินฝ่าพวกมันไป แต่โดนมือดึงไว้

   “พวกผมพูดจริง” ดูพวกมันจริงจังจนผมอึกอัก

   “งั้นพวกมึงไปบอกเพื่อนๆ ได้เลยนะ ว่ากูเป็นพี่เนียน โอเค๊ จบ” จะเดินก็ไม่ได้เดินอีกแล้ว ไอ้พวกเพื่อนเลวข้างหลังก็ไม่คิดจะช่วยผมเลย ส่งซิกไปก็ทำเฉย “ได้ งั้นเอาแบบนี้”

   อยากให้เรื่องมันจบ คือแค่นี้ผมก็เหนื่อยจะแย่ มีไอ้รอนกับพี่ฟลอยด์ ผมก็โดนพี่โชบ่นทุกวัน นี่ถ้ารู้ว่ามีเพิ่มอีกสามชีวิตไอ้กลอยหมดหวังแน่ๆ ผมเดินเข้าไปในห้องเรียนเด็กปีหนึ่งที่ทุกคนกำลังนั่งทำงานอยู่ พอเห็นผมไปยืนหน้าห้องต่างก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างสนใจ

   “อ่าวกลอย ทำไมแต่งตัวแบบนั้นล่ะ”

   “ไทด์ก็ไม่ใส่ ป้ายชื่อก็ไม่ห้อย เดี๋ยวก็โดนทำโทษกันหมดหรอก”

   “นั่นสิ แล้วแว่นหายไปไหน”

   คำถามยังดังมาอย่างต่อเนื่อง ผมเหลือบตามองไอ้เด็กที่จะพาผมไปเดทก่อนจะยกมือห้ามเสียงมากมาย

   “เอาล่ะน้องๆ ครับ” พอทุกคนได้ยินผมพูดต่างก็ทำหน้าฉงนสงสัย “พี่ขอโทษนะ ที่ต้องบอกว่า พี่อยู่ปีสาม พอดีต้องมาเป็นพี่เนียนช่วยน้องๆ เลยต้องมาอยู่ปีหนึ่ง” ผมบอก น้องปีหนึ่งทำตาโตอ้าปากค้างกันเป็นแถว รวมถึงน้องมายด์ พี่เนียนปีสองที่ไม่คิดว่าผมจะกล้าพูด

   “เป็นพี่เนียนเหรอ?” เหมือนมีเสียงละเมอถามขึ้นมา ผมก็พยักหน้ารับ

   “ขอโทษนะ ไว้เจอกันตอนรับน้องนะครับ” ผมยิ้มให้ทุกคนก่อนเดินออกจากห้องไป ไอ้เด็กสามคนทำหน้าหงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมได้ยินเสียงคุยดังขึ้นมา คงจะเป็นเรื่องของผมนั่นแหละ

   เดินออกมาจากห้อง พวกไอ้ต๋องก็ยกนิ้วโป้งให้ ผมก็ยิ้มอย่างภูมิใจแต่มันคว่ำนิ้วลง ไอ้เพื่อนเชี่ย ผมเลยวิ่งไล่เตะพวกมันต่อ ไม่ช่วยยังมาซ้ำเติม ไอ้เลว
   



   “สวัสดีครับน้องปีหนึ่ง” เฮดรุ่นปีสองนัดรวมปีหนึ่งเหมือนเช่นทุกที จากวันที่ผมประกาศตัวในห้องไปก็เกือบอาทิตย์แล้ว ชีวิตผมก็ยังปกติสุขดี ไอ้เด็กสามคนนั่นผมไม่เห็นหัวเลยครับ อีกอย่าง ประชุมแบบนี้พวกผมไม่ค่อยจะมากันด้วย แต่วันนี้ต้องมา
 
   “สวัสดีค่ะ/ครับรุ่นพี่ปีสอง” เสียงตอบรับดังจนเฮดรุ่นพอใจ

   “อย่างที่น้องๆ ได้รู้ ว่าอีกไม่กี่วันจะมีพิธีรับขวัญน้องปีหนึ่ง วันนี้เราจึงจะบอกกำหนดการทั้งหมด” แล้วเฮดรุ่นก็บอกรายละเอียดทุกอย่าง ปีสามอย่างพวกผมก็ยืนบ้างนั่งบ้างตามอารมณ์ แต่ผมเห็นน้องๆ ต่างชำเลืองมองผมนิดๆ อาจเพราะบางคนเคยมาบ่นเรื่องรุ่นพี่ให้ฟัง หรือบางคนอาจจะชอบรุ่นพี่แล้วว่าบอกผม

   “เรื่องกำหนดการผ่านไปแล้ว ตอนนี้พี่อยากจะเคลียร์ใจกับน้องๆ ทุกคน พี่ได้ยินมาว่า มีน้องปีหนึ่งไม่พอใจพี่กลอยที่เข้าไปเป็นพี่เนียนเหรอครับ” ผมมองบรรยากาศที่กำลังวุ่นวายหลังจากได้ยินคำถาม ก่อนไอ้สักมันจะเดินหน้าเหี้ยมไปอยู่ข้างๆ เฮดรุ่นปี่สอง

   “ปีสองรวม” มันสั่งเรียบๆ ไม่ได้ว้ากเอะอะ แต่ปีสองก็รีบวิ่งมายืนเข้าแถวรวมอยู่ข้างซ้ายของปีหนึ่ง พวกผมเลยต้องมายืนรอบๆ น้องแทน “เอาล่ะ สวัสดีครับน้องปีหนึ่ง” ไอ้สักทักทาย

   “สวัสดีค่ะ/ครับ คุณลุง คุณป้า” เสียงขานรับดังขึ้น แม้ผมจะไม่ค่อยชอบให้เรียกลุง แต่มันก็เป็นธรรมเนียม เพราะผมก็เคยเรียกลุงรหัสแบบนี้ ปีสองเป็นพี่รหัส ปีสามเป็นลุงกับป้า ปีสี่เป็นปู่กับย่า ปีที่จบออกไปคือทวดทั้งหมด

   “พวกผมรู้เรื่องที่ปีหนึ่งเกลียดเพื่อนผม” ไอ้สักมันว่า ก่อนใช้สายตาเหี้ยมของมันเรียกผมให้ไปยืนข้างๆ “นี่คือเพื่อนของผม พวกคุณอาจจะเคยเรียกมันว่า ไอ้บ้าง มึงบ้าง หรือเคยด่า เคยตบหัวมัน” พอพูดถึงตรงนี้ หน้าของเด็กปีหนึ่งก็เริ่มซีด ผมไม่ได้ขี้ฟ้องนะ แค่บอกความจริง

   “แม้เพื่อนของผมจะไม่สู้คน ถึงอยากสู้ก็สู้ไม่ได้เพราะขาสั้น” ผมหันไปมองไอ้เจที่มันมายืนอีกข้างของผม ไอ้เชี่ยนี่มันอยู่คนละสาขา แต่มึงกล้าว่ากูขาสั้นเหรอวะ แต่มันพูดแบบนี้ บรรยากาศก็ดูดีขึ้นกว่าไอ้สักพูด “ถึงพวกน้องๆ ไม่ชอบมันก็ต้องเคารพมันบ้าง เพราะนี่คือปีสาม”

   “มันเข้าไปเคยสร้างความเดือดร้อนให้ใครมั้ย เคยทำให้ใครรำคาญมีมั้ย เคยไปยุ่งเรื่องส่วนตัวมีมั้ย มันเคยช่วยแนะนำอะไรมากมาย แล้วทำไมพวกน้องต้องไม่ชอบมันด้วย” ไอ้สักว่า แล้วเหล่ตาส่งไม้ให้ผมพูดต่อ

   “พี่ขอโทษน้องๆ ทุกคนที่เข้าตีสนิท พี่ผิดเองที่อยากเข้าไปรู้จักน้องๆ ในฐานะพี่เนียน พี่ผิดเอง” ผมเริ่มดราม่าครับ “หากน้องจะเกลียดจะโกรธ มันก็เป็นสิทธิ์พี่เข้าไปบังคับไม่ได้ แต่น้องๆ ต้องรู้ไว้ ว่าพี่ไม่เคยคิดร้ายกับใคร พี่แค่อยากรู้ว่าน้องต้องการอะไร ไม่เข้าใจตรงไหน จะได้มาบอกให้ทุกคนคอยช่วย อย่างน้อง” ผมชี้ไปทางเด็กผู้ชายร่างอวบค่อนไปทางอ้วน ที่เคยมาบ่นว่าหิวข้าว ทำไมไม่นัดสายกว่านี้สักหน่อยจะได้กินข้าว ผมก็มาบอกไอ้เฮดรุ่นและดราม่าใส่จนมันต้องนัดตอนเจ็ดโมงเช้าแทน “น้องอยากได้เวลากินข้าวเพราะกลัวเป็นลม พี่ก็มาบอกให้ แล้วก็น้อง” ชี้ไปทางเด็กผู้หญิงตัวเตี้ย “น้องอยากให้ปีสองบอกรายละเอียดงานต่างๆ เพราะบอร์ดไม่ยอมขึ้นเลยไม่รู้ พี่ก็บอก ตอนนี้ทั้งบอร์ดหรือรายละเอียดต่างๆ ปีสองก็อธิบายแบบชัดเจน แบบนี้พี่ก็ผิดเหรอครับ” ไม่ว่าจะปีหนึ่ง ปีสอง หรือปีสาม ต่างก็มองผมด้วยแววตาที่หลากหลาย

   “พวกเราขอโทษค่ะ” เสียงน้องปีหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะเริ่มพูดพร้อมกันอีกรอบ บางคนก็เริ่มร้องไห้ด้วย นี่ผมดราม่าเกินไปหรือเปล่า

   “เอาล่ะๆ ตอนนี้ก็เคลียร์ใจกันแล้วนะ หากใครคิดว่าคณะเราต้องมีว้าก มีลงโทษ อยากให้ลองคิดใหม่ คณะทุกคณะไม่เหมือนกัน การรับน้องก็ไม่เหมือนกัน แต่มีจุดประสงค์เดียวกันคือทำให้เกิดความสามัคคี รักใคร่ กลมเกลียวกัน อยากให้น้องๆ เข้าใจ แล้วก็...” ไอ้สักมันชี้นิ้วไปที่น้องมายด์ เด็กปีหนึ่งพากันมองตามหลังที่เดินออกมา “แนะนำตัวหน่อย”

   “สวัสดีค่ะ ชื่อมายด์ ปีสอง ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” น้องมายด์ยิ้มหวาน แต่น้องๆ หน้าเสียกันเป็นแถบ

   ผมยืนอยู่ด้านหลังกวาดตามองเด็กๆ ปีหนึ่ง ก่อนสะดุดกับสายตาสามคู่ที่จ้องมา พวกมันจ้องผมอยู่นานผมรู้สึกได้ แต่ไม่อยากสนใจ ผมว่า ผมต้องมีต่อมอะไรสักอย่างทำงานผิด ถึงมีแต่ผู้ชายมาใกล้ ผมต้องให้พี่โชพาไปหาหมอตรวจดูสักหน่อย
 
   เมื่อเคลียร์ใจเรื่องน้องมายด์เสร็จ พวกปีสามก็ปล่อยให้ปีสองจัดการต่อ ผมถูกไอ้ทูกอดคอ ดูก็รู้ว่ามันจะแซวเรื่องไอ้เด็กสามคนนั่น

   “เอ่อพี่” ไอ้รอนมายื่นดักหน้าผม “วันนั้นผมขอโทษครับ ที่เรียกพี่ว่ามึง แล้วยังลงโทษพี่อีก”
 
   “ช่างมัน ก็มึงต้องทำตามหน้าที่” ผมบอกปัด ก่อนจะเดินออกไป กับไอ้รอนนี่ผมชัดเจนมาก ตอนนี้มันก็เริ่มห่างๆ ไปบ้าง อีกทั้งพี่โชยังกันมันทุกทาง ตอนเลี้ยงสายรหัสก่อนเปิดเทอม พี่โชมานั่งข้างผมแล้วสั่งไอ้รอนห้ามเข้าใกล้ผมเกินจำเป็น ขนาดพวกพี่รหัสผมยังได้แต่กระพริบตา คงไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัว

   พอเดินออกมา พวกผมก็ไปหาอะไรกินที่โรงหารอาหารคณะ พี่โชเพิ่งวางไปบอกว่าจะมารับ นี่ก็มารับทุกวันหลังจากวันที่เจอไอ้เม่นครับ ขนาดประชุมอยู่ยังสั่งให้พี่ซันมารับผม พี่ซันบ่นให้ฟังจนผมได้แต่ขอโทษแทน

   “ผัวมึงจะมารับเหรอวะ” ไอ้สักคาบเส้นก๋วยเตี๋ยวแต่ปากยังพล่าม

   “เออ” ผมกระแทกเสียงตอบกลับ พวกมันสนิทกับพี่โชพอสมควร ไปกินเหล้ายาดองกันก็หลายครั้ง “พวกมึงอย่าบอกเรื่องที่ได้ยินนะ กูหลอนมาหลายวันละ” ต้องสั่งครับ เพราะส่วนมากพี่โชมารับจะไม่เจอกับไอ้พวกนี้ แต่วันนี้พี่แกกำลังเลี้ยวรถจากหน้ามหาลัยแล้ว ต้องสั่งไว้ก่อน

   “เลี้ยงข้าวพวกกูหนึ่งอาทิตย์ด้วย” ไอ้เคมีข้อต่อรอง

   “เออๆ” เลี้ยงข้าวพวกมันยังดีกว่าถูกโมโหนะครับ

   ที่ไม่อยากให้ถูกโมโห ไม่ใช่พี่โชจะตีหรือต่อยผมหรอก แค่จะงอนไม่ยอมพูดด้วย แล้วเป็นผมต้องง้อทุกรูปแบบ คือผมผิดจริงก็ต้องง้อจริง เคยง้อด้วยการปิดบังร่างกายลงพุงด้วยผ้ากันเปื้อนผืนเดียว ครั้งนั้นทำให้จำไปจนตาย แล้วผมก็เผาชุดนั่นไปแล้ว นึกแล้วก็โมโห ทำเหมือนผมเป็นตุ๊กตายางที่ไร้ชีวิต ดีที่ตอนนั้นยังไม่เปิดเทอม ไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิดว่าร่างกายผมจะมาแบบสมบูรณ์ครบสามสิบสองหรือเปล่า

   “ว่าแต่ ไอ้เด็กพวกนั้นมันเอาจริงหรือเปล่าวะ” ไอ้ทูเปิดประเด็น ทำเอาพวกที่กินอย่างหิวโหยมองหน้ากัน “อย่างเมื่อกี้ กูเห็นมันมองแต่หน้ามึง”

   “กูก็เห็น ตอนแรกคิดว่าแค่ไอ้เม่น ที่ไหนได้ มาเป็นแพค” ไอ้เคว่า

   “เคยฟังกูบ้างมั้ยวะ” ไอ้สักมันว่า ผมก็งง “กูเคยบอกมึงแล้วว่าอย่าหาผัวเพิ่ม ไม่เคยฟัง...ชิบหาย” ประโยคหลังมันสบถเบาๆ แต่พวกผมได้ยิน ผมมองหน้ามันอย่างงงๆ ไอ้สักมันไม่ได้มองหน้าผม แต่มันมองเลยไปด้านหลัง...หรือว่า

   ขวับ~ ผมรีบหันหลัง แต่ว่างเปล่า ถอนหายใจแบบโล่งอก ส่วนไอ้สักมันก็หัวเราะงอหงายจนผมต้องกระทืบเท้ามันที่ใต้โต๊ะ ไอ้เชี่ยนี่ทำผมหัวใจจะวาย

   “ฮ่าๆ กลัวผัวนี่หว่า”

   “ไอ้สัด” ด่าไปก็แค่นั้น มันไม่รู้สึก

   Rrrrrrr

   เสียงมือถือผมดังขัด เลยชี้หน้าด่ามัน

   (อยู่หน้าตึก) เสียงทุ้มดังลอดออกมา

   “เดี๋ยวผมไป” ผมว่า แล้วชี้หน้าด่าไอ้พวกเหี้ยนี้ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งออกไป
 
   หน้าตึก ผมเห็นรถสปอร์ตสีดำจอดรออยู่อีกฝั่ง คนขับนั่งอยู่ในนั้นแต่ก็น่าจะมองเห็นผมเพราะกระจกรถเลื่อนลง ผมโบกมือให้พี่โชพร้อมกับจะข้ามถนนไปหา แต่ถูกมือปริศนาดึงไว้ก่อน


   ความซวยมักจะมาเยือนโดยที่เราไม่รู้ตัว


   “พี่ ผมขอพูดด้วยหน่อย” ไอ้เม่นมันดึงแขนผมไว้ แถมด้านหลังยังมีเพื่อนมันอีกสอง

   “อะไร” เสียวสันหลังจริงๆ พี่โชนั่งมองอยู่ที่รถซะด้วย

   “ผมพูดแบบจริงจัง เรื่องเดท”

   “พวกมึงเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ”

   “พวกผมไม่ได้เพี้ยนนะ พวกเราแค่ทำเรื่องที่ตรงกับความรู้สึกก็แค่นั้น” ไม่ต้องพูดจริงจังแบบนั้นก็ได้ “ไปเดทกับพวกผมนะ”

   “อยากเดทกับเมียกูขนาดนั้นเหรอวะ” ปีศาจมาแล้ว ผมค่อยๆ หันไปมองด้านหลัง ตัวเป็นๆ มายืนจังก้าอยู่
 
   ไอ้เม่นมันจ้องพี่โชนิ่ง มือยังไม่ยอมปล่อยแขนผม ทั้งๆ ที่ผมพยายามสะบัดออก แต่มือโคตรเหนียว

   “ปล่อยดิว่ะ” ผมไม่อยากให้เกิดเรื่อง พอไอ้เม่นปล่อย ผมก็รีบดึงแขนพี่โชให้กลับไปที่รถ “พี่โชกลับกัน นะๆ” จ้องตาไม่ยอมถอยเลย ไอ้กลอยกลัว

   “อย่าให้กูเห็นพวกมึงยุ่งกับเมียกูอีก” พี่โชชี้หน้า ก่อนจะยอมเดินตามแรงของผมไปที่รถ โอย กูจะบ้าตาย พอขึ้นรถก็โดนเลย “กี่ครั้งแล้ว” เสียงนิ่งมาก นิ่งซะจนขนลุก

   “อะไรกี่ครั้ง” เสียงสั่นทำไมวะไอ้กลอย ก่อนโดนสายตาเยี่ยงปีศาจจ้อง เหงื่อเม็ดเป้งไหลย้อยลงข้างขมับ “พี่โช พวกมันแกล้งผมเล่น” เอ่อใช่ มันต้องแกล้งผมแน่

   “แกล้งเหี้ยอะไร” ทำไมต้องตวาดด้วยวุ้ย “อย่าให้มันอยู่ใกล้ พูดก็ห้าม จับก็ห้าม เบอร์โทรก็ห้ามมี ไลน์ก็ห้ามไม่ให้ เข้าใจหรือเปล่า” คำสั่งมายาวเหยียด ผมได้แต่พยักหน้ารับคำ ตอนนี้ต้องทำตามครับ ไม่อย่างนั้นปีศาจมันจะอาละวาด ความน่ากลัวมันเกินกว่าพวกคุณจะเข้าใจ

   “พี่ไม่โกรธใช่ป่ะ” ลองถามไปหลังจากรถเลี้ยวออกนอกมหาลัยแล้ว พี่โชเหล่ตามามองนิดแต่ก็ทำใจแป้ว

   “ไม่”

   “โหย นี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”

   “ขนาดไม่ได้ทำ ถ้าทำมันคงตามเป็นพรวน” พูดเหมือนผมเป็นหมาเลย

   “พี่โชอ่า อย่าโกรธดิ่” ง้อครับ ต้องรีบง้อ “พี่พาผมไปหาหมอหน่อยดิ่” ผมบอก พี่โชรีบหันมามองตาโต

   “เป็นอะไร ไม่สบาย ปวดหัว ตัวร้อน มีไข้ ไอหรือ...”

   “ไม่ใช่ๆ” ใบหน้าเป็นห่วงทำเอาผมยิ้มกว้าง ถ้าเป็นเรื่องของผม พี่โชมักจะสนใจมากเป็นพิเศษ “ผมจะให้พี่พาไปตรวจหาต่อมที่ล่อพวกผู้ชายเข้ามาใกล้อ่ะ” พี่โชเบิกตามองผม ก่อนจะค่อยๆ ขำจนกลายเป็นเสียงหัวเราะดังลั่นรถ “หัวเราะทำไม นี่จริงจังอยู่นะ”

   “ไอ้เพี้ยน” พูดไม่พอ ผลักหัวผมอีก “ไม่ต้องไปหาหมอหรอก”

   “ทำไมอ่ะ”

   “เดี๋ยวตรวจให้เอง”

   “พี่เป็นหมอเหรอ” พี่โชส่ายหน้า “แล้วจะตรวจได้ยังไง มั่วว่ะ”

   “แต่พี่ฉีดยาเป็นนะ” ผมมองหน้าคนพูดแบบงงๆ พี่โชแม่งเคยฉีดยาให้ใครวะ ในห้องก็ไม่มีเข็มฉีดยาสักหน่อย มั่วตลอด แบบนี้ไปแจ้งสภาแพทย์ได้เลยนะ ไม่มีใบรับรองแต่รับฉีดยา

   “พี่เป็นหมอเถื่อนเหรอวะ” พี่โชแม่งขำ

   “โง่จริงเมียกู” อะไรวะ “อยากให้ฉีดยาให้ดูมั้ย” ตอนแรกก็งงๆ แต่พอจ้องสายตาปีศาจนานเข้าก็เริ่มเข้าใจ

   “จะมีสักวันมั้ยที่พี่ไม่หื่น” หันหน้าหนี มือก็คอยปัดมือปลาหมึกที่เลื้อยมาจับแถวต้นขา มีลูบด้วย “พี่โชหยุดเลย ขับรถดีๆ”

   “ครับๆ ขับรถดีๆ” พี่โชยิ้มแล้ว คงหายโกรธแล้ว


   “พี่โช”

   “ครับ”

   “ถุงนี่คืออะไร” ถุงที่วางใต้คอนโซลด้านผมครับ ถุงกระดาษสีน้ำตาล

   “อ๋อ ก็..”

   พอเปิดออกมาดูแล้วดึงออกมา รีบเปิดกระจกแล้วโยนมันออกไป เชี่ยมาก ชุดเมดครับ แบบที่พี่กิ่งเคยให้ผมใส่ มีทั้งที่คาดผม ถุงเท้า กางเกงในที่อย่าเรียกว่ากางเกงใน มันเว้าจนเห็นทุกส่วน มีแค่เส้นที่รัด ยิ่งกว่าจีสตริงอีก



   ไอ้หื่น คืนนี้นอนนอกห้องเลยไป๊



         แต่สุดท้าย...ผมก็ต้องใส่ เหี้ยชิบหาย ไม่น่ากลับไปเป็นเด็กอายุสิบแปดปะปนกับไอ้เด็กพวกนั้นเลย ไม่น่าเลย (นอนนิ่งไว้อาลัยร่างกายตัวเอง)


...... จบตอนพิเศษ ........



จบตอนพิเศษนี้แล้วค่าาา ลากยาวมา 3 พาร์ท

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-08-2016 21:18:14
พวกเม่นนี่ตัดใจเถอะอย่าตื้อกลอยมากนักเลยเดี๋ยวองค์ลงพี่โชมาจะซวยกันหมด
ว่าแต่จะให้พาไปตรวจหาต่อมที่ล่อพวกผู้ชายเข้ามาใกล้หมอเขาจะหาเจอไหมล่ะนั่น

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-08-2016 21:19:18
555555555555
กลอยอย่างฮ่า ข่างไม่ทันกับความหื่นของพี่โชเลย
งานนี้ยิ่งโดนจับฉีดยายิ่งเสน่ห์แรงมากขึ้นน่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 10-08-2016 21:24:11
ยอมใจพี่โช  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 10-08-2016 21:43:12
ควมจริงยังไม่อยากให้มีตอนจบตอนที่ 32 ก็ยังไม่อยากให้จบ อยากให้ลากยาวไปเรื่อยๆอย่างตอนพิเศษ3ตอนนี้ก็เป็ตตอนที่ 33 ตอนที่ 34 ตอนที่ 35 และตอนต่อๆไปเพราะมีเรื่องราวใหม่ๆเข้ามาหากลอยตลอด ส่วนคู่อื่นก็เพิ่มเป็นตอนต่อไปเรื่อยๆเพราะยิ่งอ่านยิ่งสนุกไม่อยากให้จบเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 10-08-2016 21:46:25
สงสัยต้อมต้องป๊ะกับฟล์อยแน่ๆคู่นี้เหมาะสมกันอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 10-08-2016 21:50:06
เราเชื่อแล้วว่า กลอยมันอ่อยไม่รู้ตัว 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 10-08-2016 21:55:13
โอ๊ยยยยยย ตูเขียมไอ้กลอยประเกรียน ต่อมฟีโรโมน เรียกผู้เเกท่าจะเสียว่ะกลอยเอ๊ยย ไอ้สามตัวนั้น มันคิดจิงคิดจัง คิดจะเดทกับพี่กลอยประเกรียน ยังอีกไกลโขน้องเอ้ย ไม่ใช่ไร ผัวหึงมากค่ะ 55555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 10-08-2016 21:57:27
ควมจริงยังไม่อยากให้มีตอนจบตอนที่ 32 ก็ยังไม่อยากให้จบ อยากให้ลากยาวไปเรื่อยๆอย่างตอนพิเศษ3ตอนนี้ก็เป็ตตอนที่ 33 ตอนที่ 34 ตอนที่ 35 และตอนต่อๆไปเพราะมีเรื่องราวใหม่ๆเข้ามาหากลอยตลอด ส่วนคู่อื่นก็เพิ่มเป็นตอนต่อไปเรื่อยๆเพราะยิ่งอ่านยิ่งสนุกไม่อยากให้จบเลย


แม้เรื่องหลักจะจบแล้ว แต่ตอนพิเศษยังมาอยู่เรื่อยๆ อย่าเพิ่งเบื่อพี่โชกับน้องกลอยนะคะ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 10-08-2016 22:20:42
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-08-2016 22:27:22
ตื้อหนักๆข้าเดี๋ยวได้เจอพี่ท่านจัดหนักให้หรอก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-08-2016 22:56:30
 :m20:  :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-08-2016 23:02:00
พี่โชหื่นได้ตลอดจริงๆ นะครับ เริ่มสงสารน้องกลอย จะทนความหื่นได้ไหม :jul3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-08-2016 23:37:12
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 11-08-2016 07:13:57
รำ เค้ามีแฟนแล้วยังดันทุรัง
จับมีผัวให้หมดไอ้พวกนี้555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-08-2016 07:24:39
กลอยเอ้ยยยยย55555 มีผู้ชายตามเป็นพรวนเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-08-2016 08:14:43
โอ๊ยพลาดมากพึ่งได้เข้ามาอ่านสนุกมากๆเลยเราใช้เวลา 2 วันกว่าจะตามทันเป็นเรื่องที่น่ารักมากๆเลยเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะสู้ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 11-08-2016 09:39:19
พี่โชแกหื่นมาก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ 18 อีกครั้งUP![Part3] [10/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-08-2016 09:54:43
พวกนายเม่นตัดใจเถอะ ก่อนที่พี่แกจะเชิญปีศาจมาสิงร่าง เดี๋ยวได้นองเลือดกันอีก :hao3: :hao3:
กลอยยังคงไม่ทันพี่โชเหมือนเดิม และยังจบลงด้วยความหื่นพี่โชอีกเช่นเดิม...เอวัง.... :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 11-08-2016 11:56:29
Just you and I ตอนพิเศษ : ทะเลาะ



        ผมเกลียดการทะเลาะกันที่สุด ไม่ว่าจะกับแม่ กับพี่กิ่ง หรือกับพี่โช ตอนนี้ ผมทะเลาะครบหมดทุกคน ไม่รู้เป็นอะไร ทำไมต้องมาทะเลาะกันวันนี้ด้วย

   ทะเลาะกับแม่เรื่องที่มีบุหรี่ติดตัวมา ผมคิดถึงเลยกลับมาหา แต่แม่กลับเจอซองบุหรี่อยู่ในเสื้อแขนยาวลายสก๊อตตัวที่ผมใส่ประจำ ทั้งที่ยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ของผม แต่ทำไมแม่ไม่เชื่อ ไหนบอกเชื่อใจผมมาตลอด ผมเสียใจ

   พอพี่กิ่งกลับมาเห็นผมกับแม่ทะเลาะกันก็เข้าข้างแม่แล้วด่าผม แล้วไล่ผมออกจากบ้าน คนที่เคยเชื่อใจ ไว้ใจไม่ว่าผมจะทำอะไรมาหายไปไหน พี่กิ่งพูดจาทำร้ายจิตใจจนผมร้องไห้หนัก

   โทรเรียกพี่โชให้มารับก็บอกทำงานยุ่งไม่มีเวลา แล้วใครกันที่บอกเห็นผมสำคัญกว่างาน ทำไมทุกคนต้องทำแบบนี้กับผม ผมมันของเก่าใช่มั้ย

   ฮึก แล้วน้ำตาบ้านี่ก็ไหลอยู่ได้ ผมไม่ได้ขี้แยนะ แต่มันก็ไหลไม่ยอมหยุด ถ้าฝนตกเอากล้องมาถ่ายทำเอ็มวีได้เลย ฮึก ผมยกมือปาดน้ำตานับร้อยครั้ง ถนนที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด ผมเดินไปเรื่อยเปื่อย ยังไม่อยากกลับห้อง แม้จะเดินเลยมาแล้วก็ตาม

   ผมเดินผ่านตึกรามบ้านช่องมากมาย ข้ามถนนมาอีกฝั่งเพื่อไปตลาดนัดตอนกลางคืน ยังดีที่ตอนนี้น้ำตาหยุดไหล แม้ตาจะบวมจนคนที่เดินผ่านพากันมองแต่ผมก็ไม่สน

   แมลงทอดบนรถมอเตอร์ไซค์พ่วงส่งกลิ่นหอมจนผมต้องซื้อมาทุกชนิด บางตัวเคยกิน บางตัวก็อยากจะลอง รถด่วนกรอบๆ ที่พี่โชมักจะด่าเสมอเวลาผมกิน ตั๊กแตนทอดคือตัวที่พี่โชชอบ จิ้งหรีดคือตัวที่แม่ชอบ ดักแด้หนอนไหมของพี่กิ่ง ผมจำของชอบของทุกคนได้ แต่ทำไมทุกคนถึงต้องว่าผม

   เดินมองของนั่นนี่ บางร้านก็หน้าแวะ บางร้านก็แค่เดินผ่าน มือยังหยิบแมลงทอดกิน บางครั้งก็เอาแมงดาทอดหย่อนข้างถุง เพราะรู้สึกเหม็น ไม่ถูกปาก ...


   ผมเป็นเหมือนแมงดาทอดหรือเปล่า น่ากินแต่ไม่อร่อย


   ไม่สิ แมงดาไม่น่าเอามาเทียบเท่าไหร่ ผมจะดูไม่ดี แต่มันไม่อร่อยจริงๆ คนที่ชอบคงต้องด่าผมแน่

   ร้านขายสร้อยหินนำโชคหลากสีสันสะดุดตา ผมเดินเข้าไปเลือกดู เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารัก เธอยิ้มให้ผมก่อนจะแนะนำแต่ละสีเหมาะกับใครบ้าง วันไหนสีอะไรให้โชคยังไง แม้ผมจะไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ซื้อมาสี่เส้น ของผมหนึ่ง ของพี่โช ของแม่ แล้วก็พี่กิ่ง ไม่รู้พวกเขาจะใส่หรือเปล่า

   เสียงโทรศัพท์เข้า หน้าจอโชว์ชื่อคนที่บอกงานยุ่ง

   (อยู่ไหนวะ) ทำไมต้องหงุดหงิดใส่ผมด้วย

   “มาเดินตลาดนัด” ตอบไป “พี่เลิกงานแล้วเหรอ”

   (เออ กลับมาไม่เจอ ไปเที่ยวทำไมดึกๆ ดื่นๆ เคยบอกแล้วว่าไม่ให้ไปเที่ยวตอนกลางคืน ทำไมไม่ฟังบ้างวะ) ผมเริ่มหมดความอดทนแล้วนะ

   “นี่มันชีวิตของผม ผมจะเดินไปไหนมาไหนก็ได้ พี่ไม่ต้องมายุ่ง”

   (ไอ้กลอย อย่าให้โมโห รีบกลับมาเดี๋ยวนี้)

   ผมตัดสายทิ้งทันที ไม่อยากได้ยิน คนที่เดินผ่านผมมองด้วยสายตาแปลกๆ อาจเพราะผมพยายามกลั้นน้ำตาจนจมูกแดงละมั้ง

   ใช้เวลาเดินกลับคอนโดไม่นานผมก็มายืนหน้าห้องที่อาศัยมาเป็นปี เมื่อก่อนผมจะมีความสุขทุกครั้ง แต่ทำไมวันนี้ไม่อยากจะเข้าไป เพราะรู้ว่าด้านในมีคนอารมณ์ไม่ดีรออยู่

   เคาะประตูห้องไปสามทีคนด้านในก็เปิดออก พี่โชทำหน้าทะมึนตึงบอกบุญไม่รับ ดวงตาดุจ้องผมราวกับว่าผมทำผิดมากมาย

   “พี่บอกไปเคยฟังบ้างหรือเปล่า” เสียงตวาดมาเอาผมสะดุ้ง

   “เคยฟัง”

   “ถ้าเคยฟังทำไมไม่จำวะ”

   “จำแต่ไม่อยากทำ” ผมพยายามกลั้นน้ำตาที่มันพาลจะไหล โคตรไม่ชอบเห็นตัวเองอ่อนแอเลย

   “อยากให้พี่โมโหเหรอ” พี่โชกัดฟันพูด

   “แล้วที่เป็นตอนนี้พี่ไม่โมโหเหรอ” ผมตวาดกลับไป พี่โชผงะนิดๆ ก่อนจะจ้องหน้าผมนิ่ง คงเพราะน้ำตาผมไหลออกมาไม่หยุด วันนี้แม่งเป็นวันไม่ดีจริงๆ

   “น่าเบื่อ” คำพูดที่ได้ยินเหมือนมีดแทงผมซ้ำแล้วซ้ำอีก

   “พี่ ฮึก เบื่อผม ฮึก เหรอ” น้ำตาไหลเป็นสายน้ำ อาบแก้มหยดลงพื้น

   “ทำไมชอบร้องไห้วะ”

   “ผม ฮึก ไม่ได้อยากร้องไห้”

   “ไม่อยากก็เงียบ หยุดร้อง”

   ถึงแม้จะสั่งแบบนั้นแต่มันหยุดไม่ได้นี่หว่า น้ำตามันไหลออกมาเอง พยายามกลั้นแล้วแต่มันไม่ได้ แล้วผมต้องทำยังไง ไปปาดต่อมน้ำตาทิ้งเลยดีมั้ย

   “มัน ฮึก หยุดไม่ได้” ตอบทั้งที่ยังสะอื้นหนัก พี่โชทำหน้าเบื่อหน่ายพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น

   “งั้นก็ร้องให้พอ เบื่อ” ว่าแล้วก็หยิบกุญแจรถที่วงไว้บนโต๊ะกินข้าว

   “พี่จะไปไหน” ผมรีบวิ่งไปกอดคนสูงกว่าจากด้านหลัง แม้จะถูกดึงมือออกแต่ผมก็ไม่ยอมปล่อย “ไม่ให้ไป”

   “ปล่อย” เสียงตอบกลับแบบนิ่งๆ จนผมเริ่มใจไม่ดี

   “ไม่เอา ไม่ให้ไป” ผมทะเลาะกับแม่แล้วก็พี่กิ่งมา อยากให้พี่โชปลอบ แล้วทำไมต้องมาทำแบบนี้กับผมอีก

   “ปล่อย”

   “ไม่”

   “ไอ้กลอย กูบอกให้ปล่อย” พี่โชสะบัดตัวจนหลุดจากแขนผม แล้วรีบเดินออกจากห้องไปทันที ปล่อยผมให้ทรุดนั่งลงร้องไห้จนน้ำตาแทบจะนองพื้น

   เวลาผ่านไปนาน เมื่อทุกอย่างเริ่มสงบเงียบ ผมปาดน้ำตาออกจากแก้มกลับเข้าไปในห้อง มองเตียงที่เคยนอนกับพี่โชแบบเหงาๆ ถึงแม้หลายครั้งที่ต้องนอนคนเดียว แต่พี่โชมักจะโทรมาหากล่อมให้เข้านอนเสมอ แต่วันนี้มันไม่เหมือนเดิม พี่เขาบอกเบื่อผมแล้ว ผมทำอะไรผิดขนาดนั้นเหรอ

   อาบน้ำเผื่ออะไรจะดีขึ้น ผมสวมเสื้อยืดเน่าๆ ของตัวเองกับกางเกงบอลอย่างทุกที เปิดแลปท็อปตัวเองขึ้นมา ล็อกอินโลกโซเชียลของผม หน้าฟีดมีแต่คนบอกว่าเป็นวันดี ทำไมของผมไม่เป็นแบบนั้น ผมแชร์เพลงทะเลาะไป ไอ้ม่านมากดไลค์คนแรก ก่อนมันจะบอกว่าผมเพ้อเจ้อ

   ฟังเพลงเศร้าๆ ไปจนนาฬิกาบอกเวลาเกือบจะสี่ทุ่ม พี่โชยังไม่กลับ ไม่รู้จะไปที่ไหน ไปกินเหล้ากับพวกพี่จอมหรือเปล่าเพราะเห็นเช็คอินที่ไนท์คลับ

   Rrrrrrrrr

   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมหยิบมาดูเป็นเบอร์ของพี่กิ่ง

   “ฮัลโหล”

   (ไอ้กลอย แย่แล้ว แม่ตกบันได) เสียงร้อนรนจนผมเกือบทำโทรศัพท์ร่วงหลุดมือ วันนี้ผมจะจำขึ้นใจว่า เป็นวันซวยแห่งชาติของไอ้กลอย จะเขียนติดปฏิทินเอาไว้ไม่มีวันลืม

   ผมรีบออกจากห้อง ควบเจ้าฟีโน่เพื่อนรักที่ไม่ได้แตะมานาน ผมรีบบึ่งรถปาดซ้ายปาดขวาเพราะกลัวแม่จะเป็นอะไรมาก มีครั้งหนึ่งเมื่อตอนผมยังเด็ก แม่ขึ้นเปลี่ยนหลอดไฟแล้วตกบันไดลงมา ผมต้องไปเรียกลุงข้างบ้านมาช่วยแบกแม่ไปโรงพยาบาล ถ้าหากตอนนั้นผมโตเท่านี้แม่คงไปหาหมอได้เร็วขึ้น

   เกือบชั่วโมงกว่าจะถึง เสียเวลากับการติดไฟแดงกี่แยกก็ไม่ได้นับ พอมาถึง ร้านปิดไฟเงียบจนผมกลัว ป่านนี้แม่จะเป็นยังไง หรือพี่กิ่งจะพาแม่ไปโรงพยาบาลแล้ว ผมเลยลองโทรหาพี่กิ่ง แต่ไม่มีคนรับ ใจเสียโคตรๆ ตอนนี้ไอ้กลอยเกรียนไม่ออกจริงๆ ผมกลัวว่าแม่จะเป็นอะไรหนัก

   ผมเดินเข้าไปในร้านที่ยังไม่ได้ปิดประตู ภายในร้านถูกเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย โต๊ะถูกยกขึ้นทุกตัว ทุกอย่างดูปกติดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วแม่อยู่ไหน

   “แม่ พี่กิ่ง อยู่ไหน” ผมลองตะโกนแต่ไม่มีใครตอบ “พี่กิ่ง แม่” ลองตะโกนอีกรอบก็ยังเงียบ ผมเลยวิ่งขึ้นไปชั้นสอง เปิดห้องแม่ ห้องพี่กิ่ง แต่สองห้องว่างเปล่า ใจเริ่มเสีย พี่กิ่งต้องพาแม่ไปโรงพยาบาลแน่ หรือจะเป็นโรงพยาบาลใกล้ๆ นี้ น่าจะใช่ เพราะมันใกล้สุด

   ผมรีบวิ่งลงบันไดมาจนเกือบสะดุดขั้นสุดท้าย ดีที่คว้าราวจับไว้ทัน วิ่งเกือบจะออกจากประตูร้านแต่เสียงบางอย่างดังขึ้นทำให้ผมหยุด ก่อนหันหน้าไปมอง ร้านก็ยังเงียบเหมือนเดิม เสียงอะไรวะ พอหันหลังจะออกไปก็ยังได้ยินเหมือนเดิม

   ลองเดินเข้าไปใกล้กับห้องเก็บของ ประตูห้องไม่ได้ปิดแต่ข้างในมืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไร ผมถอยหลังแต่ตายังมองห้องนั้นอยู่ มันแปลกๆ แต่แม่สำคัญกว่า พอผมหันหลังเตรียมวิ่ง เสียงก็ดังขึ้น แต่ครั้งนี้มาหลายเสียงจนต้องหันกลับไปมองและตกใจ



   “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูกลอย~ เย้ๆ”


   แสงเทียนพร้อมกับคนที่เดินออกมา แม้จะเห็นลางๆ เพราะมืดไปหมด แต่หน้าคนถือผมจำได้ดี คนที่บอกว่าเบื่อผม

   “ยืนมองทำไม รีบอธิฐานแล้วเป่าเค้กสิ” พี่กิ่งบ่นก่อนจะเดินมาตบหัวผม “เร็วๆ”

   ผมมองตาปริบๆ สมองกำลังประมวลเรื่องราวทั้งหมด นี่ผม...ถูกชวนทะเลาะเพราะเรื่องนี้เหรอเนี่ย

   “หลอกผมเหรอ” เสียงผมโคตรนิ่ง พี่กิ่งหัวเราะดังลั่นก่อนตอบว่าเออ ผมเปลี่ยนไปมองพี่โชที่ยืนถือเค้ก รอยยิ้มอบอุ่นเหมือนกับทุกที “พี่หลอกผมเหรอ”

   “พี่ทำตามคำสั่ง” รีบบอกปัด ผมเบนสายตาไปมองแม่ แม่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ มองพี่ผิงก็ส่ายหน้าเป็นพลันวัน
 
   “ทุกคนหลอกผมอ่ะ” แล้วก็เขื่อนแตกอีกรอบจนทุกคนตกใจ แม่รีบเข้ามากอดผมไว้แน่น

   “โตขนาดนี้ร้องไห้ไม่อายเด็กเหรอเราน่ะ” แม่ลูบหัวลูบหลังปลอบ (หรือด่า) ผม ด้านหลังแม่มีเด็กตัวเล็กที่กำลังเบ้หน้าจะร้องตามผมอีกคน “เห็นมั้ย น้องจะร้องกับเราแล้ว” เห็นแบบนั้นผมก็เช็ดน้ำตาตัวเอง

   “รีบๆ เป่าได้แล้ว น้องบีมต้องรีบเข้านอน” พี่ชีสเร่งให้ผมเป่าโดยเอาลูกมาอ้าง ห้าทุ่มกว่าแล้วนะครับตอนนี้

   “ใช่ รีบๆ เป่า เดี๋ยวก็เลยวันเกิดหรอก” พี่กิ่งว่า

   นั่นแหละครับ วันนี้วันเกิดผม ผมกะกลับมาบ้านเพื่อมากอดแม่ แต่แม่กลับด่าผม ไม่ให้น้อยใจได้ยังไง แล้วพี่โชก็ด้วย บอกว่าเบื่อในวันเกิดของผม ไม่ให้ร้องไห้เป็นเผาเต่าได้เหรอ

   ผมหน้างอแต่ก็หลับตาอธิฐาน ขอให้แม่อายุยืน ขอให้พี่กิ่งแข็งแรงร่ำรวย และขอให้พี่โชมีความสุขตลอดไป เป่าเค้กรวดเดียวดับหมด จนน้องบีมกระโดดดีใจ พอเปิดไฟผมถึงเห็นว่ามีแม่ของพี่โชอยู่ด้วย รีบยกมือไหว้ทันทีทันใด

   “มีความสุขมากๆ นะ” แม่พี่โชอวยพร ผมก็ไหว้ขอบคุณไปพร้อมกับโดนหอมฟอดใหญ่จนพี่โชหน้างอ “ดูมัน กับแม่ก็หวง” แม่พี่โชหันไปมองแม่ผม แล้วก็พากันหัวเราะ

   ผมเดินเข้าไปกอดแม่แน่นๆ แม่ก็อวยพรผมจนน้ำตารื้น ทำไมวันนี้ผมขี้แยขนาดนี้ แล้วเสียงอวยพรก็ตามมาอีกหลายคนจนมาถึงคนที่บอกว่าเบื่อผม

   “พี่ขอโทษ” เสียงนุ่มบอก มือใหญ่ยื่นมาลูบหัวผมเบาๆ “แต่ที่พี่ทำเพราะแม่พี่สั่ง” พี่โชเหล่ตามองแม่ตัวเองที่ตัดเค้กให้น้องบีมชิ้นใหญ่ “โกรธเหรอ”

   “โกรธมาก” ผมตอบ พี่โชก็หัวเราะ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเจ้าของงานแบบผมสักคน เพราะมัวแต่สนใจเค้กที่พี่ชีสบอกว่า สั่งพิเศษแถมยังแพงมากเพราะผสมผงทองคำอะไรสักอย่าง ไม่รู้มั่วหรือเปล่า

   “งั้นพี่ให้ตีคืน” พี่โชเอามือผมขึ้นไปตีแก้มตัวเอง จนต้องขืนมือไว้

   “ผมไม่ใช่พวกใช้กำลังแบบพี่นะเว้ย” ผมเอ็ดไป พี่โชหัวเราะร่า ไม่มีสำนึก ทำคนร้องไห้น้ำตาแทบนองห้อง

   “ครับๆ พี่ขอโทษนะ”

   “ไม่ได้โกรธแล้ว”

   “จริงอ่ะ”

   “อื่อ”

   “เมียใครวะ น่ารักที่สุด”

   “เมื่อกี้ใครวะ บอกว่าเบื่อ” เถียงทันควันจนถูกขำ

   “ใครพูดวะ ถ้ารู้ว่าใครบอกมาเดี๋ยวพี่ไปต่อยมันเอง” หน้าตาจริงจังเอาผมหลุดหัวเราะออกมา “สุขสันต์วันเกิดนะ” หน้าหล่อๆ กำลังจะยื่นเข้ามาใกล้ก่อนสะดุดลงเมื่อมีแรงดึงที่ขากางเกงของผมและพี่โช พอก้มมองเจอดวงตาใสแป๋ว

   “แม่บอกให้ไปกินเค้กค่ะ” น้องบีมจ้องพวกผมจนต้องรีบผละออกจากกัน พร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะมาจากกลุ่มใหญ่ที่กำลังกินเค้กจนจะหมดก้อน

   ผมรีบเดินตามหลังน้องบีมด้วยอาการหน้าร้อน ลืมนึกไปว่าคนอยู่เต็มไปหมด ก่อนจะได้ยินเสียงบ่นตามหลังมาด้วย


   “บอกแล้วว่าไม่ชอบคนเยอะ เพราะแบบนี้ไงเล่า”


   วันเกิดของผมแม้จะไม่ได้มีงานเลี้ยงใหญ่ มีแค่เค้กก้อนหนึ่ง (ราคาหลายพันแทบอยากจะฟิตไว้ดูต่างหน้า) แล้วก็คนที่รักผม แค่นี้ก็เป็นงานวันเกิดที่แสนวิเศษ ที่ทำให้ผมภูมิใจที่ได้เกิดมา

   “ขอบคุณนะ ที่กลอยเกิดมาเพื่อทำให้พี่รู้จักว่ารักเป็นยังไง” เสียงหวานกระซิบข้างหูท่ามกลางเสียงโวยวายแย่งตุ๊กตาหมีหน้าเค้กของพี่ชีสกับลูกตัวเอง และเสียงหัวเราะของทุกคน



   ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ นะครับ จากไอ้กลอยประเกรียนสุดหล่อ   


........จบตอนพิเศษ.............


วันนี้อัพเร็ว ฮ่าๆๆๆ ลิ้นกับฟันต้องกระทบกันบ้าง ดูเหมือนตอนพิเศษจะเริ่มเดินเร็ว ไม่นานคงจะเยอะกว่าตอนหลักแน่ (คิดหนัก)

อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่าาา  :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 11-08-2016 12:14:43
เกือบร้องไห้ตามแล้วนะ งือออ
จะมีตอนพิเศษซันจอมไหมอ่าาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-08-2016 12:16:07
โอ๋ๆๆๆน่าสงสารกลอยใจของพี่มีแต่คนรังแก่อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 11-08-2016 12:35:25
มาอีกเยอะๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-08-2016 12:37:32
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-08-2016 12:45:40
ตอนแรกนี่สงสารกลอยมากเลย ยิ่งพี่โชบอกเบื่อนี่คิดไปว่าพี่โชพูดจริงหรือพูดเล่น
แบบนึกว่าจะมีมือที่สามเข้ามาหาพี่โชเลยล่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-08-2016 12:49:51
กลอยโดนทุกคนแกล้งซะแล้ว 55555

คนน่ารักมักโดนแกล้งแบบนี้ล่ะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: poppyhigh ที่ 11-08-2016 13:17:54
 o13 o13 โถ เปิดมาก็น่าสงสารมากมายเลยน้องกลอยใจของเจ้ ไปๆๆมาๆๆ หวานซะงั้น น่ารักจริงๆสองครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 11-08-2016 13:55:02
มาอีกเยอะๆมาเป็น 100ๆๆตอนยิ่งดีไม่มีทางเบื่อ  รอคู่ของฟลอยกับต้อม อิอิ หรือฟล์อยกับอัธดีอะ :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-08-2016 14:23:25
กะแล้วเชียวว่าต้องเซอร์ไพรส์วันเกิด คนอย่างพี่โชน่ะเหรอจะกล้าเบื่อน้องกลอยใจ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yysll ที่ 11-08-2016 15:02:46
แนะนำ ให้ทำภาคสองค่ะ  55555  อ่านแล้วไม่เบื่อเลย วางไม่ลง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-08-2016 15:06:08
ว่าอยู่ทำไมแปลกๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 11-08-2016 17:33:55
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ทะเลาะ UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-08-2016 17:43:18
คิดว่าจะไม่มีตอนพิเศษเพิ่มอีกเสียแล้ว ^^
มาต่อหลายๆ ตอนเลยนะครับ ไม่เบื่อหรอก จะรออ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน+จอม [1] UP!// [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 11-08-2016 19:23:02
Just you and I : Part Sun & Jom [1]


[JOM]

        ‘ผมไม่เชื่อในความรัก’ ทำไมน่ะเหรอ เพราะความรักไม่มีอยู่จริงบนโลก มีเพียงแค่ความสัมพันธ์ที่ผูกกันไว้ก็แค่นั้น แบบนั้นผมไม่เรียกว่ามันคือความรัก ใครหลายคนอาจอิจฉาชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนจะสุขสบาย แต่ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังมันเป็นยังไง และผมไม่เคยเล่าให้ใครฟัง

   “จอม เป็นเด็กดีนะลูก ห้ามดื้อ ห้ามซน เชื่อฟังพี่แอนนะ รู้มั้ย” คำสั่งของแม่ก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศกับพ่อ ทั้งคู่ทิ้งให้ผมกับน้องอยู่กับพี่เลี้ยงที่แสนใจดี เธอยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร

   ยืนมองแม่กับพ่อนั่งรถตู้ออกไปจากบ้าน น้ำตาผมไหลออกมาและกอดกับน้องชายไว้แน่น จีน น้องชายของผม น้องยังเด็ก และผมก็ยังเด็ก ตอนนั้นอายุผมราวๆ เจ็ดขวบ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ต้องทำงานหนัก แม่มักจะบอกว่าจะหาเงินให้ผมใช้เยอะๆ แต่ทำไมไม่ถามผมก่อนว่าผมอยากได้อะไร

   ผมกับจีนอยู่กับพี่แอน พี่เลี้ยงที่พ่อจ้างมาจากกรมจัดหางาน เธอดูเป็นคนใจดี แต่ได้ไม่นานเธอก็รีบตีผม และขู่ไม่ให้ผมบอกใคร ผมกลัวจีนจะกลัว เลยยอมอดทน แล้วที่ผมเป็นคนกินไม่ยั้ง นั่นก็เพราะตอนที่อยู่กับพี่เลี้ยง เธอมักจะสั่งให้ผมไปบอกแม่ครัวให้ทำกับข้าวที่เธออยากกิน โดยแต่ละอย่างจะทำมาเยอะจนกินแทบไม่หมด และผมต้องกินต่อจนหมด หากไม่หมดเธอขู่จะให้จีนกิน ผมเลยต้องยัดมันลงท้องจนหมด


   สาเหตุที่ผมกินไม่หยุด


   พอนานวันเข้า จากเดือนเป็นปี ผมต้องทำแบบนั้นอยู่ตลอด พอวันหยุดแม่กลับมาและตกใจที่ผมกินจุเกินเด็กธรรมดา แม่พาผมไปหาหมอเพื่อรักษา แต่คุณหมอบอกเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใต้สำนึก และมันจะหายเองเมื่อผมโตขึ้น

   พี่เลี้ยงมักจะกรอกหูผมเสมอว่า พ่อกับแม่ไม่เคยรักผม และเธอก็ไม่ได้รักผม แต่ที่ทนอยู่ก็เพราะอยากได้เงิน ทุกคนในบ้านก็ไม่มีใครรักผม ทุกคนต้องการเพียงแค่เงินเท่านั้น


   ความรักมันจึงไม่มีอยู่จริง


   ผมไปโรงเรียนและกินอาหารเยอะจนอาเจียนออกมา คุณครูพาผมไปหาหมอและหมอก็เจอรอยช้ำที่ด้านหลัง เพราะแบบนั้นแม่ผมจึงบินกลับมาเพื่อจัดการกับพี่เลี้ยง และได้รู้สาเหตุที่แท้จริงเกี่ยวกับการกินของผม แต่ตอนนี้มันสายไปที่ผมจะกลับมากินแบบคนปกติ นั่นเพราะจิตใต้สำนึกมันสั่งแบบนั้นออกมาตลอดเมื่อถึงเวลาต้องกินข้าว

   ผมเห็นแม่นั่งร้องอยู่ในห้องก็อยากจะร้องไห้ตาม ผมรู้ว่าแม่ห่วงใย และรู้สึกผิดที่ปล่อยผมไว้ ผมรู้ดีว่าถ้าแม่เลือกได้ แม่คงไม่ปล่อยให้ผมต้องเจอเรื่องราวแย่ๆ แบบนั้น

   เวลาผ่านไปจนผมเข้าโรงเรียนมัธยม ผมมักจะไม่มีเพื่อนสนิท เพราะพวกนั้นมองผมเป็นตัวประหลาด แค่ผมไม่ชอบยุ่งกับใครถึงกับมองว่าเป็นตัวประหลาด ตรรกะของคนพวกนี้ช่างไม่น่าคบเอาเสียเลย

   ผมอยู่ตัวคนเดียวภายในโรงเรียนที่แสนกว้าง มองไปทางไหนก็แสนจะน่าเบื่อ จนวันหนึ่ง มีเด็กเข้าใหม่ที่เข้ามาเรียนกลางเทอม เด็กคนนั้นหน้าตานิ่งจนผมแปลกใจ รอบๆ ตัวมันดูไม่น่ามีใครคบแบบผม ก่อนมันจะเดินตรงเข้ามาหาและขอยืมดินสอที่ผมเพิ่งจะเหลาไปเมื่อกี้

   “ขอยืมดินสอหน่อย ลืมเอามา” มันว่า ผมเงยหน้ามองนิ่งๆ ก่อนยิ้ม

   “มึงเป็นเพื่อนกูมั้ย” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมถามมันออกไป มันเลิกคิ้วมองพร้อมจุดรอยยิ้มที่มุมปาก

   “ไม่ขัดข้อง”

   “กูชื่อจอม”

   “กูโช ยินดีที่ได้รู้จัก”

   และนั่นคือเพื่อนคนแรกในชีวิตของผม พอได้รู้จักมันจริงๆ มันก็เป็นเด็กที่ครอบครัวอบอุ่น แต่ชอบทำตัวเป็นปัญหาเอง คงเพราะถูกตามใจมากเกินไป มันเป็นพวกอยากได้อะไรต้องได้เดี๋ยวนี้ อยากกินเค้กต้องได้กินเดี๋ยวนี้ ไอ้บ้านี่แปลกดี

   พวกเราสองคนสนิทกันมากขึ้น อาจเพราะนิสัยบางอย่างที่คล้ายกัน ไอ้โชเป็นเด็กที่ง่ายๆ ทำตัวติดดินไม่เหมือนลูกคุณหนูที่กินข้าวข้างทางไม่เป็น แต่มันกลับรู้จักร้านอร่อยๆ แทบทุกร้าน หลายครั้งที่มันถามเรื่องการกินจุ ผมก็บอกไปตามตรง มันก็ทำหน้าธรรมดาๆ และบอกให้ผมอยากกินก็กิน ไม่อยากกินก็หยุดแค่นั้น


   จนวันที่เราขึ้นมอปลาย และได้เรียนห้องเดียวกัน ไอ้โชเป็นเด็กหัวดีเข้าขั้นอัจฉริยะย่อมๆ คนหนึ่ง แต่มันไม่ค่อยแสดงออก บางครั้งมันไม่ตั้งใจเรียน แต่ผลสอบกลับเป็นที่หนึ่ง มันไม่ชอบคนเยอะเพราะวุ่นวาย แต่ก็มีสาวๆ เข้ามามันมาก ทีเรื่องนี้มันไม่เห็นบ่น

   เพื่อนในห้องส่วนใหญ่ก็มาจากที่เดิมเหมือนพวกผม จะมีอยู่ไม่กี่คนที่เข้ามา อย่างเช่นไอ้คนที่ตัวสูงๆ หน้าตายิ้มแย้ม แต่ผมมองออกว่าภายใต้รอยยิ้มนั่นมันมีอะไรแอบแฝง

   “ไอ้นี่ไม่ธรรมดา” แม้แต่ไอ้โชยังพูดออกมาจนผมพยักหน้าเห็นด้วย

   สาวๆ เข้าหามันมากจนพวกผมเวียนหัว สลับเช้ากลางวัน แถมสับรางเก่งจนอยากจะยกนิ้วให้

   วิชาเรียนบางวิชาต้องทำงานเป็นกลุ่ม และไอ้นั่นก็เดินเข้ามาหาพวกผมแล้วออกปากขออยู่ด้วยพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร

   “ขออยู่กลุ่มด้วยคนสิ” มันยิ้ม แต่ผมมองดูแบบไม่ค่อยไว้วางใจจนมันสังเกต “มองทำไม มีอะไรติดหน้าเราหรือเปล่า”

   “พูดธรรมดาเถอะ แบบนี้กูจะอ้วก” ไอ้โชมันขัดขึ้นจนไอ้คนพูดดีหัวเราะ

   “กะแล้วว่าอยู่กลุ่มนี้ต้องสนุก กูซัน ยินดีที่ได้รู้จัก”

   นั่นคือครั้งแรกที่มันแนะนำตัวกับพวกผม รอยยิ้มแสนใจดีซ่อนความร้ายกาจไว้อย่างมิดชิด หากใครได้ลองหลงติดกับดักนั่น ยากจะถอนตัวขึ้น

   “ทำไมมึงกินเยอะวะ” ไอ้ซันมันถามหลังจากผมกินข้าวจานที่สาม มองหน้ามันก่อนจะบอกว่าหิว แต่มันก็ไม่ยอมหยุดถาม “หิวเชี่ยไร กินเยอะเดี๋ยวก็จุกพอดี แล้วเดี๋ยวมึงก็ไปอ้วกอีก” ผมมองมันตาโต มันรู้ได้ไงว่าผมกินเสร็จแล้วมักจะอ้วก

   “มึงรู้ได้ไง” ไอ้โชมันถามแทนครับ

   “ก็กูเห็น” ไอ้ซันมันจ้องหน้าผมแต่ตอบไอ้โช

   “เห็นที่ไหน” คราวนี้เป็นผมที่ถาม มันก็เปลี่ยนไปจ้องหน้าไอ้โช

   “กูตามมันตอนไปเข้าห้องน้ำ เห็นมันอ้วกทุกอย่างออกมาหมด” มันตอบเรียบๆ “กูสังเกตมาสักพักละ ทุกครั้งหลังกินข้าว มึงเป็นแบบนี้ตลอด ไปหาหมอบ้างเถอะ” น้ำเสียงคล้ายกับเป็นห่วง ผมเลยตบบ่ามันไปที

   “กูไม่เป็นไร”

   “ไม่เป็นไรได้ยังไง แบบนี้เป็นโรคแล้วนะ น่าจะไปหาจิตแพทย์สักหน่อย” ว่าแล้วมันก็หยิบมือถือเครื่องแพงออกมาจากกระเป๋าแล้วมันก็กดๆ แล้วโทรออกจนผมมองหน้ากับไอ้โชแบบงงๆ

   (ว่าไง) เสียงปลายสายที่ลอดออกมา

   “ป้าครับ พวกที่กินแล้วอ้วกเป็นโรคหรือเปล่า” ผมตาโตมองไอ้ซันมันโทรถามป้าตัวเอง

   (อาจเป็นโรคบูลิเมีย อนอเร็กเซีย เป็นโรคเกี่ยวกับการกลัวความอ้วน เวลาเห็นตัวเองแล้วจะคิดว่าอ้วนจึงมักจะหาวิธีทำให้ตัวเองผอม ไม่อดอาหาร ก็กินอาหารแล้วก็ล้วงคออ้วกทีหลัง) คำอธิบายยาวเหยียดดังผ่านลำโพงโทรศัพท์ที่ไอ้ซันเปิดให้ผมฟัง

   “แล้วเป็นยังไงต่อครับ” เหล่ตามองผมขณะถามต่อ

   (คนกลุ่มนี้มักจะกินอาหารแบบที่บังคับตัวเองไม่ได้ ทำให้กินมากเกินไปแล้วจึงอาเจียนออกมา ถ้าไม่รักษาอาจมีผลกระทบที่ไต กระเพาะปัสสาวะ จากอาการขาดน้ำ)

   “แล้วมีแบบอื่นอีกมั้ยครับ”

   (ก็มีนะ กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรค อนอเร็กเซีย เนอร์โวซ่า กลุ่มนี้จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิต อาจเกิดจากการถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจทำให้เป็น ก็ประมาณนี้ ว่าแต่ ถามป้าทำไม หรือเพื่อนเราเป็น)

   “ครับ พอจะรักษาหายมั้ยครับ”

   (ก็หายอยู่ แต่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และต้องดูแลฟื้นฟูสุขภาพจิตให้เข้มแข็ง)

   “ขอบคุณครับ”

   หลังจากวางสาย ไอ้ซันก็จ้องหน้าผมอย่างกับผมเป็นนักโทษ

   “มองทำไม”   

   “กูจะช่วยมึงเอง”

   ผมหัวเราะเสียงดังหลังจากได้ยิน และไม่คิดเอามาใส่หัวสมอง แต่หลังจากนั้นมันทำจริงครับ ทุกครั้งที่ผมกินมากกว่าสองจาน ผมจะถูกไอ้ซันเทข้าวทิ้งจนหมด ไม่ก็บังคับให้ดื่มน้ำขวดสองลิตรจนหมด เป็นแบบนั้นอยู่พักใหญ่ๆ ไอ้โชมันยังอึ้งที่ผมเริ่มลดปริมาณการกินลงได้ แม้จะหักดิบไปสักหน่อย

   แต่มันก็ไม่ได้หายไปหมดซะทีเดียว หลายครั้งที่คนบังคับไปเดท ผมมักจะเผลอกินแบบเดิม แม้จะถูกไอ้เพื่อนหน้าดุสั่งห้ามกิน แต่แปลก ผมไม่เชื่อเลยสักนิด

   พอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย พวกผมสามคนก็ติดคณะเดียวกันหมด ซึ่งจะว่าเบื่อหน้าพวกมันก็ใช่ แต่พอคิดอีกทีมันก็ดี ไอ้โชถูกเลือกเป็นเดือนคณะแต่หน้าตานิ่งเกินไปไม่มีรอยยิ้มเลยไม่ได้เป็นเดือนมหาลัย ตอนนั้นโคตรจะขำ และมันก็บ่นว่าไม่ได้อยากเป็น
 
   วันประกวดพวกผมเจอกับแฟนไอ้ซันครั้งแรก เด็กนั้นใส่ชุดมัธยมปลาย ยิ้มกว้างให้พวกผม ดูก็รู้ว่าเด็กคนนี้คงเป็นเพล์เกิร์ลตัวแม่ ที่รู้เพราะกำลังทำตาเล็กตาน้อยใส่ไอ้เดือนคณะข้างผมนี่แหละ ดูเหมือนคนที่กอดไหล่ก็รู้แต่ดูมันไม่เดือดร้อนอะไร แปลว่าเด็กคนนี้คบเล่นๆ ตามเคยสินะ ผมละสงสารพวกที่เข้าหาไอ้ซันจริงๆ มันเป็นพวกกะล่อนตัวพ่อ

   การรับน้องที่หนักหน่วงเหนื่อยสายตัวแทบขาดกว่าจะผ่านมาได้ แต่ก็ได้มิตรภาพดีๆ จากเพื่อนๆ ร่วมชั้นและพี่ร่วมสถาบัน แม้ผมแทบจะว้ากกลับไปอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ต้องทำหูทวนลม ตอนนี้ได้เพื่อนใหม่มาอีกสาม ไอ้แทม ไอ้เบ แล้วก็ไอ้ติน พวกมันดูเฮฮาบ้าบอเข้ากันได้ดีเหมือนปาท่องโก๋แฝดสาม

   “ทำไมมึงไม่มีแฟนวะ หล่อ รวย เพอร์เฟกขนาดนี้” ไอ้แทมมันถามผมขณะเรากำลังคุยเรื่องกิ๊กของไอ้ซันคนใหม่เป็นดาวคณะนิเทศ มองหน้าไอ้คนถามและคนรอบวง

   “กูหาสเป็กไม่ได้ว่ะ” ผมตอบ

   “แล้วมึงชอบแบบไหน กูรู้จักโคตรเยอะ” ไอ้ตินมันบอก ก่อนจะโดนฝ่ามือของไอ้คนมีกิ๊กเยอะตบเข้าเต็มหัว “ตบหัวกูทำเชี่ยไรวะไอ้ซัน”

   “ไม่ต้องไปแนะนำมันเลย” ได้ยินเสียงไอ้โชหัวเราะเบาๆ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ หรือผมจะลองคบใครดู เผื่อจะได้คลายเหงา

   “ก็ดีนะมึง หาให้กูสักคน เอาน่ารักๆ ตัวเล็กๆ นะ” ผมคิดถึงหน้าน้องชายตัวเองแล้วยิ้มออกมา จีนเป็นเด็กตัวเล็ก สูงแค่ร้อยหกสิบกว่า ตัวขาว ปากแดง เป็นเด็กน่ารักและเป็นมิตรกับทุกคน

   “ได้เลยเพื่อน ไอ้เบ จัดไป” ไอ้ตินมันหลบฝ่ามือที่จะฟาดอีกรอบ “ไม่ได้กินกูหรอก”

   “มึงไม่ต้องไปบ้าตามไอ้พวกนี้” ไอ้ซันมันชี้นิ้วสั่งผมครับ แล้วทำไมต้องฟัง

   “เรื่องของกู มึงไม่เกี่ยว” ตอบไป

   “เยี่ยมมากเพื่อนกู”

   หลังจากนั้นผมก็ได้เบอร์ผู้หญิงมาคนหนึ่ง เธอชื่ออุ้ม เป็นเด็กปีหนึ่งเหมือนกันแต่เรียนคนละที่ หน้าตาน่ารัก ตัวเล็ก นิสัยขี้อ้อนแบบที่ผมชอบ

   “จอมคะ อุ้มว่า เรากินสเต็กดีกว่าเนอะ” นิ้วเรียวชี้ไปที่ร้านสีเขียวด้านขวามือหลังจากผมไปรับอุ้มมาจากหอพัก
 
   “แต่จอมว่ากินชาบูดีกว่า อิ่มกว่าด้วย” ใบหน้าน่ารักง้ำงอ

   “แต่อุ้มอยากกินสเต็กนี่นา” เอาแต่ใจ

   “งั้นอุ้มไปกินสเต็ก จอมไปกินชาบู โอเคมั้ย” ตอบแบบหัวเสีย

   “ก็ได้” แล้วอุ้มก็สะบัดหน้าหนีพร้อมกับเดินเข้าร้านสเต็กไป ผมได้แต่ถอนหายใจ การมีแฟนมันลำบากจริงๆ

   ผมนั่งกินชาบูไปเรื่อยๆ หยิบจานนั้นมาใส่หม้อจนเต็มแล้วยัดเข้าปาก พนักงานเดินมาเก็บจานของผมที่แทบจะล้นโต๊ะ แต่พอจะยื่นมือหยิบเนื้อมาอีก จานนั้นกลับถูกแย่งไป

   “ใครวะ” เหวี่ยงใส่ อารมณ์เสียเวลาจะกินแต่ถูกขัด ไอ้คนหยิบไปจ้องนิ่ง ดวงตาที่เคยอ่อนโยนดุจนผมต้องก้มหน้ากินของในหม้อต่อ

   “กูบอกให้มึงกินน้ำเปล่าก่อนกินข้าว” เสียงดุจนคนนั่งข้างๆ หันมามอง “แล้วนี่อะไร มึงกินขนาดนี้จะอิ่มยันชาติหน้าหรือไง”

   “เรื่องของกู” ผมตอบกลับ ไอ้ซันไม่โวยวายต่อ แต่มันดึงแขนผมแล้วจ่ายเงินทันที พอผมโวยวายมันก็ด่าด้วยสายตาจนต้องหุบปาก “จะพากูไปไหน กูมากับแฟนกู ไอ้เชี่ยซัน” ผมงับเข้าที่แขนคนลากเต็มปาก ดูหน้ามันก็รู้ว่าเจ็บแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย
 
   “พอใจหรือยัง” มันถามเสียงนิ่ง

   “กูมากับแฟนกู” ยังยืนยันคำเดิม

   “เมียมึงไปกับคนอื่นแล้ว” ไอ้ซันมันว่า แต่ผมไม่เชื่อ มันเลยลากผมออกมา

   “พากูไปไหน ไอ้ซันเว้ย” โวยวายเสียงดังจนคนมองทั้งห้าง แต่มันก็ไม่สำนึกเอาแต่ลากๆ จนถึงโซนโรงหนัง พอผมจะโวยวายอีก มันก็ยกมือปิดปาก เอาออกก็ไม่ได้

   “มึงดู นั่นเมียมึงหรือเปล่า” มันชี้ด้วยสายตาไปยังสาวสวยคนที่ผมเลือกซื้อชุดให้ เธอกำลังหัวเราะต่อกระซิกกับผู้ชายหน้าตาเหมือนปลาบู่ชนเขื่อน แต่ทรัพย์สมบัติที่ตัวน่าจะแพงอยู่ “มึงมันโง่ ให้ผู้หญิงหลอก”

   ผมตวัดสายตาใส่ไอ้คนด่า “กูไม่ได้เจ้าชู้ทันคนเหมือนมึงนี่ ไอ้เอาไม่เลือก” ด่ามันแต่มันกลับหัวเราะ

   “ยังไงมึงจะคบใครก็ดูดีๆ เจอแบบนี้จะเสียเงินเปล่า”

   “ยุ่ง”

   “ก็มึงเป็นเพื่อนกู ไม่ให้ยุ่งได้ยังไง” ผมเหลือบตามองไอ้คนพูด แล้วพยักหน้าเบาๆ ส่วนผู้หญิงคนนั้น เธอคือแฟนคนแรกของผม คิดดีๆ ก็มีความสุขบ้าง เบื่อบ้าง อยากเหวี่ยงบ้าง มันก็แปลกดี น่าลอง น่าค้นหาไปเรื่อยๆ

   “ไว้กูจะหาคนดีๆ สักคน” ผมตบหน้าอกเพื่อนตัวเองเบาๆ แล้วเดินจากไป ไม่รู้หรอกว่าไอ้ซันมาได้ยังไง หรือมากับกิ๊กที่ไหน แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ดี แต่ถ้าให้เลือกสนิทที่สุดก็ยังคงเป็นไอ้โชหน้านิ่งอยู่ดี เพราะมันไม่ขี้บ่นจนทำผมหูชาและไม่เป็นจอมบงการชีวิตของผม



   หาแฟนนิสัยแบบไอ้โชดูท่าจะดี



....TBC


พี่จอมพาร์ทแรกค่าา ค่อยๆ ไปเนาะ พี่จอมไม่รีบ อิอิ

เจอกันพาร์ทหน้าค่าา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-08-2016 19:34:14
พีจอมไม่รีบแต่คนอ่านะรีบมาก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 11-08-2016 19:46:46
มาเร็วทันใจ
อดีตจอมน่าสงสารอ่ะ
ซันนี่แอบชอบมานานแล้วป่ะเนี่ย หุหุ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 11-08-2016 20:11:11
เรื่องของคู่นี้ก็น่าสนุก  :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-08-2016 20:26:40
ดูๆตอนแรกเหมือนพี่ซันจะทำท่าจีบพี่จอมก่อนนะไหนจะเรื่องกันท่าอีกแล้วไหงไปๆมาๆพี่จอมถึงแสดงออกว่าแอบชอบพี่ซันมากกว่าละ รอตอนต่อไปๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 11-08-2016 20:58:03
สงสารจอมตอนเด็ก ซันใส่ใจจอมก่อนเลยนิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-08-2016 21:07:51
มีความสุข ได้อ่าน ซัน จอม แล้ว :mew1: :mew1: :mew1:
ชอบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขอบคุณไร้ท ไร้ท น่ารักมากกกก :mew1: :mew1: :mew1:
ตามใจคนอ่าน :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
พี่เลี้ยงเฮงซวย นี่เอง เป็นสาเหตุที่ทำให้จอมกินจุ
ซัน น่ารัก คอยตาม ดูแลจอม ตั้งแต่ม.ปลาย
เข้ามหาลัย ก็คอยดูแล ตอนจอมมีแฟนอีก
ซัน ไม่อยากให้เพื่อนแนะนำหญิงให้จอม
เพราะแอบชอบจอมใช่เปล่า?
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 11-08-2016 21:14:30
เป็นพี่เลี้ยงที่แย่อ่ะ สงสารจอม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-08-2016 21:18:05
คู่นี้มาแล้วววว อยากอ่านมากอ่ะ รอต่อค่าาาาาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 11-08-2016 21:28:16
สงสารจอม  :serius2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-08-2016 21:41:14
 :hao5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 11-08-2016 21:51:22
และแล้วก็ได้รู้สาเหตุที่จอมกินจุ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 12-08-2016 00:10:18
อ่านทีเดยวรวดเลย สนุกมากกกกกกกก

กลอยน่ารัก แต่ชอบ ซันจอมมากกกกกกกกก เบทูด้วย :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-08-2016 00:16:00
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 12-08-2016 00:33:48
กรี๊ด เรารอคู่นี้มาตลอด555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 12-08-2016 01:24:49
คู่ซันจอมมาแล้ว จอมมีปมเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-08-2016 02:34:04
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-08-2016 03:46:38
คนใกล้ตัวไงพี่จอม พี่ซันอ่ะ ^+++^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 12-08-2016 07:53:01
หนีพี่ซันไม่พ้นละค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 12-08-2016 08:42:21
สงสารพี่จอม มีความหลังอย่างนี้นี่เอง ถึงกินเยอะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [1] UP! // [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 12-08-2016 09:06:17
น้องกลอยพี่โช น่ารักมากเลยค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน+จอม [2] UP!// [11/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 12-08-2016 12:36:49
Just you and I : Part Sun & Jom [2]



        ปีหนึ่งผ่านไปแบบสบายๆ ในความคิด แม้ตอนแรกจะหนักกับการรับน้องสุดโหด แต่พอผ่านมาได้ก็สบายครับ ตอนนี้ปีสองและผมก็มีน้องรหัสเป็นผู้หญิงแต่มันกลับไม่อยากเป็นผู้หญิงซะงั้น ไอ้นี่ก็แปลก พี่รหัสผมก็เป็นสาวประเภทสอง ตอนแรกชอบเข้ามานัวเนียจนน่ารำคาญแต่พอรู้จักไปเรื่อยๆ ก็แทบสาบส่งผมตลอด ทั้งที่ผมเป็นคนธรรมดา แค่ปากเสียนิดหน่อยแค่นั้น

   “มึง ให้ทายว่ากูไปเจอใครมา” ไอ้เบทำเสียงดี๊ด๊าจนพวกผมเอือม

   “ตัวเหี้ย” ผมตอบไป ไอ้เชี่ยเบยื่นมือมาตบหัวผมเลยโดนผมสวนกลับไปสองทีเน้นๆ

   “ไอ้เชี่ย ตีนมึงโคตรหนัก” รอบนี้มันหลบพ้นครับ “กูไปเจอเด็กคนหนึ่งโคตรน่ารัก เรียนคหกรรมด้วย”

   “เรียนคหกรรมแล้วไง” ไอ้โชถาม ตามันยังจ้องกับหนังสือที่ใช้ทำรายงาน

   “อ่าว ก็หน้าตาน่ารักไง สเป็กกูเลย เรียนปีหนึ่ง เฟรชชี่เอาหัวใจกูสดชื่น” ไอ้เบทำหน้าเพ้อฝันจนไอ้ตินส่ายหน้าระอาเช่นเดียวกับผม

   จากแฟนคนแรกผ่านมาเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้น ตอนนี้ผมเลยมีกิ๊กอีกเป็นพรวน ส่วนมากพวกเธอจะเข้ามาหาผมเอง น้องๆ ครับ เป็นผู้หญิงอย่าเข้าหาผู้ชายก่อน เพราะเขาจะคิดว่าน้องง่าย พอได้มันก็ทิ้ง อย่างผมนี่แหละ แต่ยังเลวน้อยกว่าไอ้ซันกับไอ้โช ไอ้คู่นั้นมันคบไม่เลือกหน้า ไปไนต์คลับหิ้วกลับทีละสองคนสามคน ถ้ามันไม่ป้องกัน ผมว่าติดโรคไปแล้ว

   Rrrrrrr เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นมา เบอร์ที่โทรเข้าคือน้องชายของผมเอง จีนเรียนปีหนึ่งคณะคหกรรมของที่นี่ เพราะจีนชอบทำอาหารมาก เคยขอให้พ่อกับแม่เปิดร้านอาหารให้หากเรียนจบ

   “อยู่ไหน” ผมกรอกเสียงลงไป สายตาหลายคู่จ้องอย่างสนใจ โดยเฉพาะไอ้ซันที่นั่งข้างผม มันเอนตัวเอาหูมาแนบอีกด้านจนผมต้องตีหัวมันไป

   (อยู่หน้าตึกพี่นี่แหละ กำลังจะเข้าไปหา อ๊ะ เห็นแล้ว) จีนรีบโบกมือให้ผม ทันทีที่ไอ้เบเห็นก็ทำตาโตแล้วชี้มือชี้ไม้ว่าคนนี้ๆ
 
   จีนเดินเข้ามาหาพร้อมยกมือไหว้เพื่อนผมทุกคน รอยยิ้มน่ารักทำเอาไอ้เบแทบละลายไปนอนตายที่พื้น จีนเอาขนมที่ทำในวิชามาให้ทุกคนชิม แต่โดนไอ้เบคว้าไปกินจนหมด จีนเลยหัวเราะ และเพราะความน่ารัก เป็นมิตรของจีน ทำให้เพื่อนของผมหลงหนักมาก ขนาดไปขอเป็นแฟนกลางคณะหลังจากรู้จักแค่สามเดือน

   อาจเพราะไอ้เบเป็นผู้ชายหน้าตาดีนิดหน่อย และเฮฮา จีนเลยยอมคบด้วย ผมก็ไม่ได้ขัดอะไร ดีซะอีกจะได้อยู่ในสายตา เพราะไอ้เบคือเพื่อนของผม ที่จริงมันก็นิสัยดี

   วันนี้ผมแต่งตัวหล่อออกจากห้องพัก ผมย้ายมาอยู่คอนโดสักพักหนึ่งเพราะมันสะดวกกว่าอยู่บ้าน และผมพาน้องมาอยู่ด้วย อย่างวันนี้ผมมีนัดฉลองกับแฟนที่คบกันได้แปดเดือน ส่วนจีนพาไอ้เบมาที่ห้อง ผมสั่งว่าห้ามทำอะไรเกินเลยกับจีน ไอ้เบก็รับปาก
 
   ผมพานุ่นไปกินอาหารญี่ปุ่น ผู้หญิงคนนี้ตามใจผมมาตลอด ไม่ว่าผมอยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรก็ไม่เคยขัด ทำให้ผมอยากจะลองจริงจังดู ผมทำทุกอย่างเพื่อเอาใจนุ่น จนหลังๆ มานี้ ผมมักจะเป็นฝ่ายตามใจเธอเสมอ


   “จอม นุ่นไม่อยากอยู่บ้านเลย มันไกลมาเรียนลำบาก” แฟนผมอ้อนออเซาะจนผมยิ้ม

   “จะให้จอมทำยังไง” ผมถาม

   “นุ่นไปอยู่กับจอมได้มั้ย คอนโดจอมใหญ่จะตาย” ผมเคยพานุ่นไปแต่ไม่ได้พาขึ้นห้องนะครับ เพราะจีนอยู่

   “ไม่สะดวกน่ะสิ เอางี้ เดี๋ยวจอมซื้อห้องให้”

   “จอมพูดจริงๆ เหรอ” น้ำเสียงและท่าทางดีใจทำให้ผมพยักหน้า “ดีใจจัง นุ่นรักจอมมากที่สุดในโลก” ได้รับการขอบคุณจากการโดนหอมแก้มฟอดใหญ่ๆ หลายฟอด

   ผมเคยบอกแล้วว่าไม่ใช่คนดี กับนุ่น เธอกับผมก้าวข้ามคำว่าแฟนไปไกลมาก เรียกสามีภรรยายังได้ มันก็เป็นแบบนั้นกันทุกคน

   เมื่อผมตกลงซื้อห้องให้ นุ่นเลือกซื้อคอนโดหรูด้านหลังติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งราคาก็แพงอยู่แต่ผมก็ซื้อให้ได้ แต่ต้องจ่ายแบบงวดเพราะแม่คงไม่ให้เงินก้อนขนาดนั้น ผมช่วยนุ่นย้ายข้าวของมาที่ห้องใหม่ด้วยรถของไอ้ตินที่ผมยืมมา อาจเพราะผมมัวแต่สนใจเรื่องตัวเอง พอสนใจคนรอบข้างถึงได้รู้ว่า จีนกับไอ้เบทะเลาะกัน

   “จีนทะเลาะอะไรกับเพื่อนพี่เหรอ” ผมถามน้องชายที่นั่งหน้างออยู่ที่ห้อง มือถือมีสายโทรศัพท์ไอ้เบเกือบร้อยสาย

   “ก็เพื่อนพี่จะชวนจีนไปแต่งงานเมืองนอกอ่ะ” ผมช็อกกับสิ่งที่ได้ยิน “จีนบอกพี่เบแล้วว่าให้คบกันไปก่อน แต่พี่เขาเขียนกำหนดการทุกอย่างไว้เรียบร้อย แล้วจะพาจีนไปอยู่เมืองนอกด้วย พี่เขาบ้าไปแล้ว” จีนระบายความอัดอั้นออกมาจนผมเงียบ

   “แล้วจีนตอบไปว่าไง”

   “จีนขอเลิกไปแล้ว ขืนจีนคบต่อ ชีวิตของจีนต้องถูกกำหนดแน่ พี่จอมก็รู้ว่าจีนชอบอิสระ” ใบหน้าน่ารักยู่ลงจนผมไม่รู้จะเห็นใจใครดี เลยกอดน้องตัวเองไว้ “พี่จอมไปบอกเพื่อนพี่ว่าให้เลิกยุ่งกับจีนได้มั้ย ตอนนี้จีนเรียนไม่รู้เรื่องเลย พี่เขาไปหาจีนที่คณะ ขนาดจีนเรียนอยู่พี่เขายังเข้าไป”

   “ไอ้เบทำแบบนั้นเลยเหรอ”

   “แล้วพี่เบก็จะ...” จีนดูอ้ำอึ้งจนผมแปลกใจ

   “จะอะไร”

   “จะปล้ำจีน”



   
   โต๊ะประจำของกลุ่มพวกผม ผมเดินกำหมัดเข้าไปหาไอ้คนที่จีนบอก ผมไม่เคยโมโหแบบนี้มาก่อน แทบจะฆ่าคนได้ พอไปถึงเห็นไอ้แทมกำลังตบบ่าปลอบใจเพื่อนอยู่ ผมคว้าไหล่จนไอ้เบหันมาแล้วซัดหมัดเข้าเต็มโหนกแก้มจนมันลงไปนั่งที่พื้น ผมแทบจะเข้าไปซ้ำถ้าไม่ถูกไอ้ซันรวบตัวไว้ ไม่ว่าสะบัดยังไงอ้อมแขนนั่นก็ไม่หลุด

   “มึงเป็นเหี้ยไรวะ” ไอ้เบมันตะโกนดังลั่น คนที่นั่งอยู่แถวนั้นมองเป็นแถว

   “กูต้องถามว่ามึงเป็นเหี้ยอะไรถึงจะปล้ำน้องกู มึงสติดีหรือเปล่าวะไอ้เชี่ย” ยื่นขาเผื่อจะเตะถึง แต่ถูกขยับถอยหลังจนได้แค่เตะลม พอทุกคนได้ยินถึงกับสบถคนอย่างคำสองคำ

   “กู...” ไอ้เบอึกอัก ก้มหน้ามองพื้น

   “มึงบ้าหรือเปล่าวะ น้องกูไปทำอะไรให้”

   “แต่กูรักจีนจริงๆ” ใบหน้ามันเริ่มบิดเบี้ยว แต่ผมไม่รู้จักคำว่ารัก

   “รักเชี่ยอะไร จะปล้ำน้องกูนี่คือความรักเหรอวะ ถุ้ย”

   “ใจเย็นๆ” ไอ้ซันคอยกระซิบบอกให้ผมเย็นลงแต่มันทำไม่ได้

   “กูขอโทษ” แล้วผมก็ได้เห็นน้ำตาไอ้เบ มันหมดสภาพจริงๆ แม้จะดูน่าสมเพช แต่มันก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับน้องของผม

   “มึงเลิกยุ่งกับน้องกูซะ” ผมชี้นิ้วสั่งเมื่ออารมณ์เย็นขึ้น แต่ยังถูกรัดจากด้านหลังอยู่ “น้องกูเรียนไม่ได้เพราะมึงไปวุ่นวาย ถ้ามึงยังไม่เลิก กูจะทำให้เลิกเอง” ผมสั่งก่อนจะสะบัดตัวแรงๆ จนหลุดแล้วเดินออกจากใต้ตึกไป

   อยากเดินไปที่ไหนสักที่ ที่มันจะทำให้อารมณ์ผมเย็นกว่านี้ พอเดินผ่านร้านขายขนมเล็กๆ ก็ต้องแวะซื้อทุกอย่าง ขนมปังพายสับปะรดผมเหมาหมด ก่อนมานั่งกินที่ข้างสระน้ำกลางมหาลัย ผมยัดจนแทบจะหมด เหลือชิ้นสุดท้ายถูกมือดีแย่งเข้าปากไปซะงั้น

   “มึงขัดคำสั่งกูอีกแล้ว” ไอ้ซันมันเคี้ยวขนมของผม

   “ไม่รู้เว้ย” ตอนนี้ไม่สนอะไรใครทั้งนั้น สนแค่ขนมในมือมัน

   “เอาขนมกูคืนมา” ผมแบมือไปตรงหน้า แต่ไอ้เชี่ยซันยังยกขนมผมขึ้นกัดอีกคำ จะหมดแล้วด้วย “เอาของกูคืนมา” แล้วมันก็ยัดขนมเข้าปาก เหลือโผล่มานิดหน่อย ผมจ้องหน้ามันอย่างโมโห ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกัดขนมที่โผล่จากปากนิดหน่อยของมัน ไม่สนแม้ปากของผมจะชนกับปากของมัน ขอแค่ได้ขนมของผมก็พอ

   ขนมที่ถูกกัดไว้ถูกผมดึงออกมากินอย่างง่ายดาย อาจเพราะไอ้ซันตกใจที่ผมแย่งจากปากมันมา พอกลืนลงท้องหมดก็รู้สึกอิ่ม ตอนนี้ผมเริ่มมีความรู้สึกอิ่มแล้วนะครับ จากเมื่อก่อนกินไม่รู้สึก หากคิดว่าพอก็หยุด แต่ตอนนี้เริ่มอิ่มจริงๆ หันไปมองไอ้คนข้างๆ ก็จ้องหน้าผมนิ่ง

   “มองกูทำไม” ถามไป มันก็ยังจ้อง “ไอ้เชี่ยซัน”

   “ต่อไปมึงห้ามทำแบบนั้นอีกนะ แล้วห้ามทำกับคนอื่นด้วย” มันสั่งจนผมงง อะไรของมัน

   “เรื่องของกู” ประโยคสุดฮิตของผม

   “ไอ้จอม” เสียงนิ่งและเย็นชา

   “มึงไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนกู”

   “กูมีสิทธิ์เพราะกูเป็นเพื่อนมึง”

   “หึ”

   ผมสะบัดก้นที่เปื้อนเศษดินออกแล้วเดินหนีมันไป แม้มันจะนิสัยคล้ายไอ้โช แต่ผมกลับเกรงใจมันมากกว่า ไม่รู้เพราะอะไร แต่ที่แน่ๆ ผมโคตรไม่ชอบที่มันบังคับแบบนี้





   ผ่านไปหลายเดือนมีเรื่องให้น่าตกใจเมื่อจีนพาฝรั่งมาแนะนำกับผมที่ห้อง และบอกนี่คือแฟน ผมมองหน้าน้องชายตัวเองด้วยความรู้สึกหลากหลาย แล้วไอ้เบล่ะ

   “สรุปนี่คือแฟน” ผมถามเสียงเรียบๆ ไอ้ฝรั่งขี้นกมองผมยิ้มๆ จนต้องส่งตาขวางให้มันถึงก้มหน้าลง

   “อืม จีนคบกับโทนี่สองเดือนแล้ว” จีนว่า หน้าตาดูมีความสุข “แล้วจีนก็พาไปให้แม่รู้จักแล้วด้วย”

   “ห๊ะ แล้วแม่ว่ายังไง” ผมนี่งงไปหมด

   “แม่ก็เงียบๆ ไม่ได้ว่าอะไร โทนี่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ชอบมามองจีนทำอาหาร ตอนนี้โทนี่จะกลับแล้ว เลยอยากจะพาจีนไปด้วย” เรื่องนี้น่าตกใจยิ่งกว่า “แม่อนุญาตแล้วด้วย

   “มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ”

   “ไม่หรอก จีนกับโทนี่เราจะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์กันไป ถ้าจีนอยู่ที่นี่เราก็จะทำไม่ได้ จีนเลยตัดสินใจจะไปเรียนต่อเมืองนอก”

   คำบอกเล่าของจีนทำเอาผมพูดอะไรไม่ออก กลายเป็นว่า จีนคบไอ้เบเล่นๆ เท่านั้นเหรอ ไอ้ฝรั่งขี้นกพยายามจะจับมือผมแต่ผมตวาดก็รีบหดหัวอยู่หลังจีน จนจีนดุผม

   “พี่จอมห้ามด่าโทนี่ด้วยสายตานะ”

   “งั้นด่าด้วยคำพูดนี่แหละ ไอ้ฝรั่ง มึงรักน้องกูเหรอวะ” ผมผลักไหล่ไอ้ฝรั่งที่ตัวสูงกว่า

   “เยส ผ๋มร้ากจีนมาก” ไอ้ฝรั่งขี้นกพยายามพูดไทย

   “ถ้ามึงดูแลน้องกูไม่ดี กูจะตามไปกระทืบมึงให้ตาคาตีนเลย จำไว้” สั่งไว้อย่างหนักแน่น จีนหน้างอก่อนจะพาแฟนฝรั่งออกจากห้องไป

   พอจีนบินไปเมืองนอกกับแฟนฝรั่ง ไอ้เบก็หายไป มารู้ว่ามันไปบวช ผมรู้สึกสงสารเพื่อนตัวเองนิดหน่อย มันเป็นเพราะความรักอีกแล้ว ช่างอันตรายซะจริง ดีแล้วที่ผมไม่อยากมีความรัก ขอแค่ความผูกพันธรรมดาก็พอ
 


   ผ่านพ้นช่วงเลวร้ายไป ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง และผมยังคบกับนุ่นอยู่จากปีเป็นสองปีและสามปีตามลำดับ เรียกได้ว่าคบนานที่สุดก็ว่าได้ เมื่อก่อนผมมักจะไปค้างกับนุ่น ก็เรื่องอย่างว่านั่นแหละ แต่หลังๆ มานี่ นุ่นไม่ค่อยอยากให้ผมมาหาสักเท่าไหร่ บอกเรียนหนัก ผมก็พอเข้าใจเพราะเรียนปีสี่เหมือนกัน ไม่ให้ผมไป ผมก็เลยไปเที่ยวกับพวกไอ้โชแทน

   ไนต์คลับที่พวกลูกคนรวยชอบมาเที่ยว เสียงเพลงยังเปิดได้น่าสนใจจนต้องเผลอโยกหัวตามจังหวะ ผมยกเหล้ารสดีขึ้นจิบ ตาก็แอบเหล่มองเพื่อนสนิทที่ลุกตามไอ้นักเลงอีกโต๊ะไปเงียบๆ ผมเลยลุกตามมันไปด้วย ลางสังหรณ์บางอย่างบอกว่าเพื่อนเจอเรื่องเข้าแล้ว

   สุดท้ายก็เกิดเรื่องจนได้ เมื่อเพื่อนของผมหล่อเกินไปจนไปสะดุดตาปลานักเลงเข้าให้ แต่สิบคนมันไม่คณนามือผมกับไอ้โชหรอกครับ นอนตายเรียบร้อยอยู่บนพื้น ก่อนไอ้โชมันจะเดินไปที่กองขยะด้านหลัง เจอไอ้เด็กหน้าขาวนั่งหลบอยู่ ท่าทางโคตรเพี้ยนจนเพื่อนผมต้องลากมันกลับไปที่โต๊ะ

   ท่าทางแบบนี้คงถูกใจล่ะสิ

   ไม่บ่อยที่จะเห็นไอ้โชเข้าหาใครก่อน ถ้ามันไม่สนใจจริงๆ เด็กเพี้ยนคนนี้สงสะดุดตามันสินะ ผมจิบเหล้าไปสังเกตเพื่อนตัวเองกับไอ้เด็กแปลกหน้าไป แน่ครับ ไอ้โชเอาแน่ไอ้เด็กนี่ ได้แต่ยิ้มขำกับเพื่อนที่ฟอร์มจัด

   ผมกลับไปที่ห้องเจอไอ้ซันยืนกอดอกพิงบานประตูอยู่ ใบหน้ามันนิ่งจนผมสงสัย ก่อนผลักมันให้ขยับห่างบานประตู พอเปิดเข้าไป มันก็แทรกตัวไปนั่งที่โซฟา

   “เป็นเชี่ยไรของมึง ขี้ไม่ออกเหรอวะ” ผมถาม ไอ้ซันมันเงยหน้าขึ้นมองผมแต่ไม่ยอมพูดอะไรจนน่ารำคาญ “เป็นเหี้ยไร อยากพูดอะไรก็พูด” ผมว่าพลางถอดเสื้อยืดกับกางเกงออก ทั้งตัวเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว

   “เมียมึงมีชู้” เสียงที่ดังทำให้ผมขมวดคิ้ว

   “พูดอะไรของมึง” เหวี่ยงครับ ก่อนทิ้งตัวนั่งข้างมัน ไอ้ซันเหลือบตามองผมนิดๆ

   “กูพูดจริงๆ ชู้เมียมึงเป็นทอม” น้ำเสียงจริงจังจนต้องเริ่มคิด “พรุ่งนี้มึงลองไปดู แต่ไม่ต้องโทรบอก แล้วมึงจะเห็นเอง”

   “มึงรู้ได้ยังไง”

   “กูรู้ทุกอย่างที่มึงสมควรต้องรู้” มองหน้าไอ้ซันแบบไม่เข้าใจ “พรุ่งนี้อย่าลืมไป” แล้วมันก็เปิดประตูออกไปเลย ผมได้แต่มองประตูที่ไม่มีใคร

   ยิ่งกว่าถูกน้ำเย็นสาดหน้าอีก เมียผมพันผ้าเช็ดตัวคาดอก ด้านในมีทอมที่สวมชุดคลุมอาบน้ำ พอนุ่นเห็นผมก็กระพริบตาปริบๆ ทำเหมือนไม่รู้จัก จนทอมนั่นเดินมาหา

   “รู้จักเหรอ”

   “ไม่รู้จัก” เสียงตอบกลับทำให้ผมแทบอยากฆ่าคนตรงหน้า

   “ไม่รู้จักกูก็ไม่เป็นไร แต่พวกมึงเตรียมไสหัวออกจากห้องกูเดี๋ยวนี้” ผมตะโกนลั่นตึกจนห้องข้างๆ เปิดประตูออกมาดู

   “เข้าใจผิดหรือเปล่า นี่ห้องเมียผม” ผมตาขวางใส่ชู้ทอม มันลอยหน้าลอยตาจนแทบอยากจะต่อย

   “เมียมึงก็เมียกูนั่นแหละ แล้วห้องนี้ก็ยังเป็นชื่อกู มึงรีบเอาเมียมึงออกไปตอนนี้ ก่อนกูจะเหยียบพวกมึงให้จมดิน” เรื่องนี้ต้องขอบคุณไอ้ซันที่มันช่วยให้ผมคิดตอนซื้อ มันบอกให้ผมผ่อนทีละงวดโดยเป็นชื่อของผม ไม่อย่างนั้นห้องนี้คงโดนยึดไปแล้ว
 
   พอเห็นว่าเมียมันเงียบก็ตาเหลือกรีบเข้าไปเก็บข้าวของทุกอย่าง ผมเดินเข้าไปยืนอยู่ สั่งให้เก็บของทุกอย่างตอนนี้ คนที่พักอยู่ชั้นเดียวกันเริ่มออกมายืนดู บ้างก็ด่า บ้างก็สมน้ำหน้า

   ใช้เวลาหลายชั่วโมงจนแตงโมหมดไปหนึ่งลูก ผมนั่งเอาขายาวๆ พาดกับโต๊ะเตี้ยๆ หน้าทีวี พลางเหลือบตามองคนที่กำลังเก็บข้าวของลงกล่อง จนทั้งหมดถูกยกออกจากห้อง ผมก็ลงกลอนและสั่งให้พนักงานมาเปลี่ยนกุญแจใหม่ทันที จากนั้นก็ไปมหาลัย ตอนนี้พวกผมเรียนปีสี่แล้ว ซึ่งเก็บอีกแค่ตัวสองตัวก็จะจบ

   พอเดินเข้าใต้ตึกก็เห็นไอ้เด็กเพี้ยนที่เจอที่ไนต์คลับเมื่อวาน เห็นหน้าขาวๆ ปากแดงๆ ก็รู้สึกหงุดหงิด เลยด่ามันไปนิดหน่อย มันมาหาไอ้โช สงสัยจะติดใจ เมื่อคืนไม่รู้มันไปด้วยกันมาหรือเปล่า แต่ผมก็ไม่สน มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจ

   นั่งทำงานอยู่ก็เจอเบียดจะนั่งด้วย ผมเหวี่ยงตาใส่แต่มันไม่กลัวสักนิด ไอ้ซันมันนั่งทำหน้าตาลอยไปลอยมาจนรู้สึกหมั่นไส้ ก่อนมันจะก้มมากระซิบถาม

   “เจอหรือเปล่า แบบที่กูว่า”

   “เออ” ผมกระแทกเสียงจนมันพยักหน้านิดๆ แล้วขำ

   “กูบอกแล้ว ว่าให้หาดีๆ”

   “อย่าเสือกเรื่องของกู” ด่ามันไป แต่ไม่เห็นมันยักจะโกรธ เอาแต่หัวเราะกับพวกเพื่อนๆ จนหงุดหงิด ทำไมมันเห็นผมเป็นแบบนี้แล้วอารมณ์ดีตลอดวะ แม่ง หงุดหงิด

   “ทำหน้าเหมือนเมนส์ไม่มา” ไอ้เชี่นตินโดนสมุดปลิวใส่หัวทันที โทษฐานพูดไม่ใช้สมอง “เชี่ย ไอ้จอมมึงจะฆ่ากูหรือไง”

   “ปากมึงสมควรโดน” แล้วไอ้ตินก็โวยวายท่ามกลางความเฮฮาที่ไม่มีใครสนใจความบ้าของมัน

   “เอาน่า เดี๋ยวกูหาคนดีๆ ให้” ไอ้ซันมันกระซิบบอก

   “อย่าเสือกเรื่องของกู” ประโยคเดิมบอกไปอีกรอบ มันก็ทำไม่สน

   “กูอยากเสือก” มันยิ้มเลวจนผมมองมันตาขวาง มันไม่ใช่คนดี มันคือไอ้ชั่วตัวพ่อ

   “ไปตายซะไอ้ซัน” ล็อกหัวมันแล้วตบรัวๆ ก่อนจะวิ่งหนีตีนมันไปรอบตึก แม่ง ไอ้เชี่ยซันแรงเยอะมันจับผมได้ก็เหวี่ยงลงไปนอนที่พื้นหญ้าแล้วนั่งทับหลังจนดิ้นหนีไม่ได้

   “แรงอย่างมึงจะสู้กูได้ คิดผิดแล้วไอ้จอม” แล้วเสียงหัวเราะชั่วร้ายดังลั่นพร้อมๆ กับมันตีก้นผมจนต้องโวยวาย


   “ไอ้เชี่ย กูจะฆ่ามึง” 


....TBC

พาร์ท 2 ยังแบบชิวๆ ค่าา พี่จอมเป็นคนมีเหตุผล (?)  :laugh:



**วันนี้มันแม่ ขอให้คุณแม่ของเพื่อน พี่ น้อง ทุกคนมีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทองนะคะ** :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-08-2016 13:18:15
ตกลงพี่ซันชอบจอมก่อนจริงๆใช่ไหม ทำไมกันท่าจังอะแถมทำไม่ยอมรับตอนกลอยทักอีก ส่วนพี่จอมนี่รู้เรื่องอะไรกับเขามั่งนี่นอกจากเรื่องกิน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 12-08-2016 13:20:43
 :mew6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-08-2016 13:25:17
ซันนี่ยึกยักจัง
รักเขาก็พูดไป
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-08-2016 13:34:45
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 12-08-2016 14:13:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-08-2016 14:47:55
พี่ซันจะเสนอตัวเองให้พี่จอมช่ะ ไม่ต้องไปหาไกล o18
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 12-08-2016 14:59:37
ซันต้องชอบจอมก่อนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-08-2016 15:06:11
 :3123: :3123: :3123: :3123:
ตอนนี้ซันยังไม่รู้สึกว่าชอบจอม หรือว่ายังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองกันแน่

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-08-2016 15:41:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 12-08-2016 15:59:32
พี่จอมจะได้ผัวแล้วโว้ย :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 12-08-2016 16:35:20
สนับสนุนให้พี่จอมมีปั๋ววววว555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 12-08-2016 19:41:07
ขอบคุณคนเขียนค่าาาาา  สนุกมากๆๆๆๆ  ขอตอนพิเศษพี่เบน้องทูด้วยน้าาาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 12-08-2016 20:15:26
เราเพิ่งเคยเห็นเรื่องนี้ อ่านได้8ตอนแล้ว
น่าติดตามดีค่ะ ภาษาโอเค ไม่บรรยายมากไป มีมุขบ้างให้ฮา
ตัวละครนิสัยชัดเจนดี
ชอบๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 12-08-2016 20:19:04
พี่ซันซ้อมตีก้นพี่จอมแล้วอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-08-2016 20:26:25
รอต่อๆๆๆๆๆ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-08-2016 20:27:37
ซันช้าอ่ะ แบบนี้จอมก็ลอยไปลอยมาเรื่อยๆ เลยน่ะสิ //จัดการเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-08-2016 20:31:09
ซัน รู้ทุกเรื่องของจอมจริงๆ
เพราะซัน ชอบจอม :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน+จอม [3] UP!// [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 12-08-2016 20:44:42
Just you and I : Part Sun & Jom [3]


[Jom]


          ตั้งแต่ไอ้โชเริ่มเดินหน้าจะคบไอ้เด็กเพี้ยนนั่น บ่อยครั้งมันจะหนีบผมไปด้วย แต่จะไปหรือไม่ก็ตามอารมณ์ผมอยู่เหมือนกัน อย่างตอนนี้อยากมาด้วย มันเลยพาผมมายืนอยู่หน้าตึกคณะไอ้เด็กเกรียนกลอย ไอ้โชทำอย่างกับเคยมาจนผมสงสัย ก่อนจะเห็นมันเริ่มเดินตามร่างแห้งๆ ของเด็กสองคนที่ลงไปที่ใต้ตึก ซึ่งเห็นมีร้านอาหารอยู่ ผมก็เริ่มหิวนะ พอมานั่งที่โต๊ะ เจอไอ้เด็กหน้าเอ๋อคนหนึ่งตกใจพวกผม มือมันกำลังจะเอาข้าวเข้าปากก็หยุดนิ่งจนผมขำ พอเด็กไอ้โชมาผมก็ออกไปซื้อแบบที่ไอ้เด็กเอ๋อนั่นกินมาสองจาน แล้วโดนเด็กไอ้โชแอบด่า แต่ผมก็เฉยๆ เด็กของเพื่อน ปล่อยมันไป

   ไอ้โชจริงจังขึ้นทุกที จนเริ่มจะลืมผม มันมักจะไปรับเด็กนั่น ทำให้ที่ข้างๆ กลายเป็นไอ้ซันแทน อย่างตอนนี้ผมมาหอสมุด มีไอ้ซันเดินมาด้วยและมีเด็กมันอีกคน ผมไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป เด็กของมันชื่อบลู ผมเห็นตั้งแต่เด็กคนนี้ใส่ชุดมัธยมจนมาเรียนมหาลัย เอาจริงๆ ผมก็เห็นเด็กมันควงคนอื่นไปทั่ว มันก็รู้แต่ไม่ทำอะไร ใจกว้างจริงๆ เพื่อนชั่วคนนี้

   “มึงจะตามกูมาทำเหี้ยอะไร ไปกับเมียมึงนู้น” เริ่มโมโห เดินตามแม่งทุกฝีก้าว อะไรของมัน

   “เผื่อมึงเหงาไง” ผมฟาดหัวมันไปที เจอสายตาดุจ้องกลับจนต้องรีบก้มหน้า “อย่าตบหัวกู” แล้วมันก็เดินไป เป็นเชี่ยอะไรไม่รู้

   ไอ้ตินโทรมาชวนผมกินเหล้า แต่สถานที่นัดพบกลับเป็นคอนโดไอ้โซ พวกมันขึ้นไปแบบไม่บอกเจ้าของห้องก่อน หวังว่ามันจะให้เข้าหรอกนะ ผมเจอไอ้ซันรออยู่ในกลุ่มด้วย แต่มันไม่ยอมมองหน้าผมสักนิด พอเปิดประตูเห็นหน้าบึ้งของไอ้โชทำเอาผมขำ พวกไอ้แทมเดินเบียดเจ้าของห้องเข้าไป ในห้องเจอไอ้เด็กเพี้ยนนั่งทำตาแป๋วอยู่ด้วย แต่นั่นไม่น่าสนใจเท่ากลิ่นหอมในห้อง บนโต๊ะมีไข่เจียวกับกับข้าววางอยู่ เสร็จล่ะ กำลังหิวพอดี แต่พอใช้ช้อนจิ้มไข่เจียวคำแรกก็ถูกไอ้โชตีมือจนช้อนแทบร่วง มันหวงผมรู้ แต่นี่ไข่เจียวนะเว้ย

   พอมันไม่ให้ ผมเลยไปนั่งกับไอ้พวกข้างล่างแทน พออิ่มกันก็นอนหลับเป็นตายรอตื่นมากินเหล้าตอนเย็น ไม่รู้ไอ้เชี่ยเบเป็นห่าอะไร แค่เห็นหน้าเพื่อนไอ้เด็กเพี้ยนมันก็หน้าบึ้ง แต่ผมว่า ผมพอจะรู้ ก็ไอ้เด็กนี่หน้าคล้ายๆ น้องชายผม แม้จะไม่เหมือนเป๊ะก็เถอะ

   บางทีเห็นแล้วก็หงุดหงิด มันจะอาลัยอาวรณ์ไอ้จีนอะไรนักหนา ไอ้จีนมันไม่ใช่เด็กใสซื่อ ดูจากสิ่งที่มันทำก็น่าจะรู้ พอผมเหวี่ยงไปไอ้เบก็มองตอบแบบไม่พอใจ แต่มีอะไรก็ต้องเคลียร์ให้เข้าใจดิ่วะ จะมานั่งคิดนั่งกลัวอยู่ทำไม จนแล้วจนรอดมันก็เดินตามกันออกไปหลังจากเคลียร์นอกห้อง ไอ้เบเหลือบตามองผมนิดๆ ผมเลยยักคิ้วส่งคืนไป ก็แค่เนี้ย

   ผมกำลังจะยกแก้วขึ้นมีมือมาสะกิดแขน หันไปเจอไอ้ซันกระซิบชวนกลับ ทีเมื่อกี้ไม่ยอมพูด เฮอะ แม้จะไม่ค่อยพอใจแต่ก็วางแก้วลงก่อนจะพยักหน้าตอบกลับ พวกผมเดินออกจากห้องโดยมีสายตาสอดรู้ของไอ้เกรียนกลอย มันเคยถามผมว่าชอบไอ้ซันหรือไอ้ซันชอบผมหรือเปล่า มันเพี้ยนแบบที่ผมว่านั่นแหละ คิดมาได้ยังไง อย่างไอ้เพล์บอยตัวพ่อเนี่ยนะ แค่คิดก็เป็นไปไม่ได้แล้ว แล้วยิ่งคนที่มันคบมีแต่สาวๆ มันไม่มีรสนิยมแบบไอ้โชหรอก และพอออกมา ถึงรู้ว่าไอ้ซันไม่ได้เอารถมา ผมเลยต้องไปส่งมันที่ห้อง

   บนรถรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ไอ้ซันมันเงียบหลับตาเหมือนจะหลับ ผมยื่นมือไปเปิดวิทยุ แต่มันยืดมือปิด ไอ้เชี่ยนี่กำลังกวนตีนผมอยู่ พอเปิด มันก็ปิดอีก จนทนแทบไม่ไหว

   “มึงเป็นเหี้ยอะไร ไม่พอใจอะไรกูพูดมา”

   “กูเหงา” เสียงเบาที่ออกจากปากมัน ผมเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

   “เหงามึงก็โทรเรียกเด็กมึงมาสิ มีเป็นโหลไอ้สัด”

   “แต่กูอยากอยู่กับมึง” เหลือบตามองไอ้คนขี้เหงาแล้วก็ขำออกมา

   “มึงเพี้ยนตามเด็กไอ้โชหรือเปล่าวะ”

   ไอ้ซันมันนิ่ง “กูพูดจริงๆ” ดวงตาโตของมันลืมขึ้นแล้วเอียงมามองหน้าผม “มึงเคยอยากหยุดอยู่ที่ใครจริงๆ หรือเปล่า” คำถามจริงจังถามมาเลยได้แต่อึกอักเพราะไม่เคยคิด

   “ก็ไม่รู้ว่ะ” เสหน้ามองก็เจอดวงตาเพื่อนตัวเองจ้องอยู่

   “กูไปนอนด้วยดิ่” รอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากของมันมีเสน่ห์พอสมควร ผมเลยหัวเราะและเออออไป สงสัยต่อมเพี้ยนกำเริบ
   บนห้อง ไอ้ซันทิ้งตัวนอนที่โซฟาผมได้แต่ส่ายหน้ามอง หรือมันจะไม่สบาย เห็นเวลาจีนไม่สบายก็จะทำตัวแปลกๆ เดินเลยไปเปิดน้ำกินแล้วกลับมาวางฝ่ามือลงบนหน้าผากมัน ตัวก็ไม่ร้อนเมื่อเทียบกับหัวตัวเอง พอก้มมองหน้ามันอีกทีก็เจอสายตาที่กำลังจ้องมา

   “มึงเชื่อเรื่องความรักหรือเปล่า” สายตาที่จ้องนิ่งทำให้ผมเผลอจ้องอยู่นาน

   “ไม่ว่ะ มันก็แค่ความผูกพันเท่านั้น พอเลิกก็แยกย้าย ไม่ใช่เหรอวะ” ตอบไปตามความคิด

   “แล้วไม่อยากรู้จักมันหน่อยเหรอ” แปลกไปจริงๆ

   “ทำไมอยู่ๆ มึงถึงถามกู โดนสาวในสต็อกทิ้งเหรอวะ” ผมถามมันขำๆ ก่อนหน้าเหวอเมื่อถูกมันดึงลงไปนั่งบนตักเมื่อมันลุกขึ้นนั่ง “ไอ้เชี่ยซัน ทำเหี้ยไรวะ” พยายามดึงแขนออกจากเอวไป ปากก็ด่ามันไป

   “กูแค่อยากหยุดที่ใครสักคน” เสียงทุ้มดังใกล้กับหู เพราะมันวางคางแหลมบนบ่า

   “มึงก็หาคนที่มึงอยากหยุดสิวะ ในสต็อกมึงอ่ะ” แนะนำแต่หน้ามันเหมือนไม่พอใจ

   “แล้วมึงอยากหยุดบ้างหรือเปล่า” ถามมาได้ ตอนนี้ก็แทบไม่ได้คบใครอีก เข็ด

   “ยังไงก็ได้ว่ะ แต่เริ่มกลัว แม่งมีแต่คนอยากได้เงินกู” หัวเสียจริงๆ เมื่อคิดถึงตรงนี้

   “มึงคิดยังไงกับกูวะ” อยู่ๆ ไอ้ซันก็ถามออกมา ผมเอียงหน้ามองไอ้คนที่ก้มหน้าซุกกับหลังผม เหมือนเด็กจริงๆ

   “ก็มึงเป็นเพื่อนกูไง เพื่อนที่แม่งบังคับกูทุกเรื่อง” ตอบพร้อมหัวเราะ แต่ไอ้คนที่อยู่ข้างหลังไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา

   “กูกับไอ้โช มึงชอบใครมากกว่ากัน”

   “ก็ต้องไอ้โชดิ่วะ” อยู่ๆ ก็ให้มาเลือก สงสัยอยากรู้ว่าผมสนิทกับใครมาก่อน “มึงเป็นเชี่ยอะไรวะ”

   “มึงชอบไอ้โชเหรอวะ” คำถามเสียงแผ่ว พร้อมกับอ้อมกอดที่เอวแน่นขึ้น

   “ก็มันเป็นเพื่อนกู แถมไม่บังคับกูเหมือนมึง อะไรเนี่ย เป็นอะไร ไม่สบายเหรอวะ” พอได้ยินผมตอบ ไอ้ซันก็ยิ้มออกมา อะไรของมัน

   “ต่อไปกูจะให้มึงชอบกูมากกว่าไอ้โช” น้ำเสียงมุ่งมั่นจนเรียกเสียงหัวเราะ

   “ถ้าเลิกบังคับกู เดี๋ยวกูเลื่อนขั้นให้” แล้วไอ้ซันก็หัวเราะ “ไปอาบน้ำไปมึง อย่าเนียนไม่อาบแล้วขึ้นนอนบนเตียงกู” ไล่มันไปแต่มันยังไม่ยอมปล่อยมือจากเอว แถมผมยังนั่งบนตักมันอีก โคตรแห่งความรู้สึกแปลกๆ จนมันยอมไปอาบ สงสัยกินเหล้าลืมเขย่าขวด



   ตื่นตอนเช้าก็ออกไปเรียนพร้อมกัน ไอ้ซันดูแปลกไปเยอะ มันตัดสายเด็กในสต็อกที่ชวนกินข้าวเที่ยง แถมยังกอดคอผมอีก พอถึงมหาลัย เจอไอ้โชนั่งจิ้มแลบท็อปของมัน ไอ้นี่ก็ขยันจนอยากจะมอบโล่ แต่ผมรู้หรอกว่ามันรีบทำเพื่อไปรับเด็กมัน

   ไอ้โชเงยหน้าขึ้นมองแปบหนึ่งก่อนจะก้มหน้าทำงานเหมือนเดิม ปกติมันเป็นพวกไม่ยอมบอกความรู้สึกนึกคิด จะบอกทางสายตา ใครไม่เก่งจริงนี่ไม่รู้หรอก บังเอิญว่าเลเวลผมถึงเลยรู้ว่าสายตามันเมื่อกี้กำลังมองผมกับไอ้ซันด้วยความคิดแปลกๆ ตั้งแต่เปลี่ยนรสนิยมเลยจะดึงผมกับไอ้ซันเข้าไปด้วยสินะ ไอ้เชี่ยนี่

   พอผมนั่งลงหยิบแลปท็อปของตัวเองออกจากกระเป๋า ไอ้โชก็หยุดแล้วเรียกไอ้ซันออกไป ผมได้แต่มองตามไม่รู้จะไปไหน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของผม ไม่นานมันก็กลับมากัน พร้อมกับพายสับปรด ของโปรดผมอีกแล้ว ท่าจะให้ดี น่าจะซื้อมาเยอะกว่านี้ แค่ห้าอันจะไปอิ่มอะไร นั่งกินไป ทำงานไป จนไอ้โชเก็บของ อะไรวะ กำลังจะบ่ายสองแม่งรีบไปไหน

   “จะไปไหนมึง” ถามไอ้โช ไอ้ซันเงยหน้ามองด้วย

   “กลอยส่งข้อความมาว่าเลิกเรียนแล้ว” แหม หลงไอ้กลอยเกรียนขนาดนี้สงสัยโดนของ

   “รักจริงนะ ไอ้เด็กเกรียนนี่น่ะ” แซวมันไป ไอ้โชก็ยิ้มนิดๆ ตั้งแต่มันคบไอ้เด็กเพี้ยน เพื่อนผมมันดูอารมณ์ดีขึ้นจนไม่มีเค้าของไอ้โชคนขี้โมโหอยู่เลย สงสัยความรักจะดีจริง

   พอมันไปผมก็นั่งทำงานต่อ มีไอ้สามตลกนั่งเฮฮาบ่นบ้าบอจนแทบอยากจะลุกไปถีบให้หงายหลังลงจากเก้าอี้ เสียงหัวเราะพวกมันทำเอาเสียสมาธิ

   ผ่านไปเกือบสี่สิบนาที มือถือไอ้ซันก็ดัง มันขมวดคิ้วหลังจากรับสาย ดวงตาทะเล้นแข็งกร้าวอย่างน่ากลัว พอวางสายมันก็สั่งให้ไอ้ตินกับไอ้เบไปจัดการกับใครสักคน ผมจะตามไปด้วยมันก็ไม่ยอม แต่ไอ้จอมผู้ไม่เคยฟังใครก็ตามไปได้อยู่ดี ก่อนไปมันสั่งให้ผมอยู่เฉยๆ ห้ามยุ่ง

   แต่ไม่ได้ว่ะ เพราะไอ้ตินกับไอ้เบเกือบจะสู้คนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ แม้จะโดนสวนบ้างแต่ท่าทางก็น้อยกว่าพวกมันโข มีไอ้ยักษ์คนหนึ่งกำลังจะเอาเก้าอี้ฟาดไอ้ติน ผมรีบคว้าไม้หน้าสามท่อนใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ฟาดเสยเต็มหน้าจนไอ้ยักษ์นั่นหน้าหงาย ไอ้ตินทำตาโตก่อนรุมยำอีกรอบ

   ผมรู้จากปากไอ้พวกนี้ว่าถูกลูกสาวเจ้านายจ้างให้ไปฉุดกระทืบและข่มขืนไอ้กลอยเกรียน ผมยิ่งฟาดไม้หน้าสามกระหน่ำจนไอ้ตินต้องรวบตัวผมไว้ มันสมควรจะโดน เลวขนาดนี้ แค่คิดยังว่าเลวแต่นี่แม่งทำไปแล้ว มันไม่ควรมีลมหายใจด้วยซ้ำ

   “พอมึงพอ เดี๋ยวตายพอดี” ไอ้ตินมันว่า ก่อนไอ้เบจะเดินมายืนข้างๆ

   “กูเห็นด้วยไอ้สัด ฟาดไม่ยั้งกลัวแทนจริงๆ”

   พวกผมยืนมองร่างเปื้อนเลือดอยู่ครู่ใหญ่ ประตูโกดังก็เปิดออกพร้อมไอ้โชและไอ้อัธเพื่อนไอ้กลอยเกรียน มันคงรู้เรื่องเพื่อนมันถึงมา ไอ้เด็กนี่ก็โหดเหี้ยมไม่เบา เคยตามพวกผมไปรุมกระทืบพวกหาเรื่องหลายครั้ง

   “โหพี่ สภาพโคตรย่ำแย่ว่ะ” ไอ้อัธเดินเข้าไปใกล้ก่อนใช้เท้าเขี่ยร่างที่ถูกมัดห้อยอยู่

   “เอ่อ แล้วทางนู้นเป็นไงมั่ง” ไอ้ตินถามไอ้โช มันก็ส่งมือถือที่กำลังเฟสไทม์ให้ดู ทางนั้นมีแต่ผู้หญิง เลยได้แค่ขู่ งานขู่ต้องให้ไอ้แทมเพราะพ่อมียศใหญ่ ส่วนไอ้ซันมันเป็นหลานอธิการมหาลัยที่ผู้หญิงพวกนั้นหรือพวกผมเรียนอยู่

   “ทางนั้นงานสบายเหี้ย” ไอ้เบบ่นจนโดนไอ้แทมชูนิ้วกลางให้ ส่วนไอ้ซันเห็นมันมองผมนิดๆ แล้วสนใจกลุ่มตรงหน้ามันต่อ ผมไม่ได้สนใจอะไร ยืนผิงโต๊ะมองไอ้โชจัดการพวกนั้นต่อ แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเพิ่ม เพราะแค่นี้คงเดี้ยงเป็นปี

   จัดการเสร็จ ไอ้โชก็เลี้ยงหมูกระทะ มันโคตรจะเข้ากัน แต่ก็อร่อยดี ผมยัดหมู หมึก กุ้งจนแทบหมดร้าน โดนไอ้ซันตบหัวไปหลายที แบบนี้จะให้ผมเลื่อนขั้นแทนไอ้โชได้ไง แม่งบังคับตลอด สงสัยเก็บกดมาจากที่บ้าน จ่ายเงินเสร็จก็แยกย้าย



   กลับมาถึงห้องที่ไม่มีใครอยู่แบบเหงานิดๆ แม้จะเริ่มชินกับการอยู่คนเดียว เพราะเมื่อก่อนจะมีจีนยิ้มรอตลอด ถ้ามีคนรอกลับห้องทุกวันก็คงดี เดินถอดเสื้อกับกางเกงจนเหลือแต่บ็อกเซอร์เหมือนทุกที ตู้เย็นมีเบียร์กระป๋องแช่อยู่เต็มไปหมด ผมขนออกมาสามสี่กระป๋อง บางทีมันต้องดื่มเพื่อให้นอนหลับสบาย ยิ่งวันนี้ออกกำลังกาย (ฟาดแขน) เยอะไปหน่อย แขนเลยตึงๆ

   เสียงกริ่งหน้าห้องเรียกให้ผมต้องเดินไปเปิดประตู เจอใบหน้าบึ้งของไอ้ซัน มันเดินแทรกเข้ามาแล้วทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา

   “แดกเบียร์คนเดียวอีกแล้วนะมึง” มันเหล่ตามองผมที่เดินมานั่งข้างมัน มือก็เอื้อมเปิดทีวี

   “มาทำไมวะ” ถามแต่ตายังจ้องทีวี รายการเชี่ยไรวะ

   “กลัวมึงเหงาไง” มันเหมือนมีอะไรมาสะกิดในใจ เหงา ใช่ ผมเริ่มเหงา

   “เหงาเชี่ยไร กูปกติสัด”

   “มึงเหงา” บอกย้ำจนต้องหันไปมองด้วยความหงุดหงิด

   “รู้ได้ไงว่ากูเหงา เป็นเมียกูหรือไง” จ้องหน้ามันนิ่ง

   “เพราะกูก็เหงา” ไอ้ซันตอบพร้อมยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก “แต่กูอยากเป็นผัวมากกว่า”

   “ไอ้เชี่ยนี่” กะฟาดเข้าหัวแต่มันไวกว่า หลบตัวแถมยังดึงให้ผมนอนทับขามันอีก ดวงตาที่ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรกำลังจ้องผมนิ่ง แล้วเหมือนจะเริ่มเห็นหน้ามันลางๆ เพราะเริ่มขยับเข้าใกล้ “ไอ้ซัน” พูดก่อนจะถูกปากแดงของมันประกบ เหมือนถูกไฟดูดจนชาไปทั้งตัว จูบที่อ่อนโยนจนเผลอยอม แล้วค่อยๆ ร้อนแรงขึ้น อาจเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้มึนเมายื่นมือคล้องคอมันให้แนบชิด

   ไฟในอารมณ์ลุกโชนจนยากจะดับ ร่างที่หนากว่าขึ้นซ้อนทับบนร่างของผม มือมันลูบไล้ไปทั่วจนรู้สึกแปลกๆ มันรู้สึกดีจนน่าประหลาด แม้จะเคยเป็นฝ่ายรุกกับผู้หญิงมาก่อน แต่มันไม่เหมือนกับตอนนี้ พอปรือตาขึ้นมองเห็นคนที่นั่งทับอยู่บนตัวถอดเสื้ออย่างไว กางเกงยีนส์ถูกปลดกระดุมจนเห็นยี่ห้อกางเกงในแสนแพง

   “จอม” มันก้มลงมากระซิบข้างใบหู ลมร้อนๆ เป่าจนขนลุกชันไปทั้งตัว

   “อะ ไอ้ซัน” เรียกชื่อมันด้วยเสียงสั่นเครือ เมื่อถูกปากกับลิ้นร้อนสัมผัสกับหน้าอก มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้สัมผัส ยิ่งมันเคลื่อนต่ำลงไปยิ่งหายใจไม่สะดวก มันเหมือนกับจะขาดใจไปซะอย่างนั้น “ชะ เชี่ย” แค่มือมันปัดผ่านสิ่งที่กำลังเต้นตุบๆ อยู่ใต้บ็อกเซอร์แบบไม่ตั้งใจก็ร้องเสียหลง นี่ผมมีอารมณ์กับผู้ชายเหรอวะ

   “จอม” เสียงครางต่ำของคนที่กำลังลูบไล้ร่างกายผม ไอ้ซันมันกำลังแกล้งผมให้ขาดใจตายหรือเปล่า ยิ่งตอนนี้มือมันตั้งใจลูบตรงๆ ผมยิ่งดิ้นหนัก ลิ้นร้อนมันวนอยู่รอบสะดือ ความรู้สึกเหมือนตอนจมน้ำเมื่อตอนเด็ก มันหายใจไม่ออก ต้องอ้าปากช่วยหายใจ

   “ซะ ซัน” รีบจับหน้ามันขึ้นมาบดจูบตามความรู้สึก เสียงครางต่ำเมื่อจูบร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับไม่มีใครหยุดมันลงได้ แรงมือที่กระตุ้นด้านล่างยิ่งอยากจูบมากขึ้นไปอีก

   “ถ้ากูไม่หยุดตอนนี้ กูอาจจะเสียใจ รอวันที่มึงจะรู้จักคำว่ารัก ตอนนั้นกูจะไม่หยุดแบบนี้อีก” ไอ้ซันมันถอนจูบออกไปหลังจากผมเหนื่อยหอบเมื่อปลดปล่อยออกมาจนหมด ผมมองหน้ามันอย่างมึนงง ก่อนมันจะลุกเข้าห้องน้ำไปทิ้งให้ผมนอนเปลือยอยู่บนโซฟา

   เชี่ยเอ้ย ผมดันมีอารมณ์กับเพื่อนตัวเอง แถมโดนมันรีดน้ำไปอีก แล้วแบบนี้จะมองหน้ามันติดหรือเปล่าวะ แต่ดูท่ามันคงจะทรมานน่าดู เพราะของๆ มันก็พร้อมสู้รบแล้ว ผมเป็นผู้ชายกับเรื่องเซ็กมันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไอ้ไม่ธรรมดาคือผมมีอารมณ์กับผู้ชายนี่แหละ




   หลังจากชำระร่างกายตัวเองในห้องน้ำด้านในห้องนอนเสร็จ เปิดประตูมาก็เจอไอ้ซันนอนอยู่ก่อนแล้ว มันนอนหันหลังให้ พอผมสอดตัวลงไปนอน มันพลิกตัวมาดึงผมไปกอด

   “ถ้ามึงให้โอกาสกู กูจะทำให้มึงรู้จักความรัก” มันกระซิบจากด้านหลัง
 
   “แล้วมึงรู้จักคำว่ารักด้วยเหรอ ทุกทีกูเห็นมึงเอาอย่างเดียว” โดนมันงับหัวไหล่โคตรเจ็บ

   “เพราะกูไม่คิดจะรักใครเลยแค่เอาไง แต่กับมึงไม่ใช่แบบนั้น” ไม่รู้มันพูดเล่นหรือเปล่า แต่แม่งเขินว่ะ เกิดมาเพิ่งเคยเขินกับผู้ชาย (อีกแล้ว)

   “ไอ้เชี่ย พูดมากว่ะ นอนๆ” รีบบอกปัด ไอ้ซันมันเจ้าเล่ห์ ชั่วตัวพ่อ

   “กูพูดจริงแล้วก็ทำจริง มึงคอยดูไว้” พูดจบมันก็พลิกตัวผมให้หันหน้าเข้าหา ทำให้หัวผมซุกอยู่ที่อกอุ่นของมัน กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มแบบเดียวกันแต่ทำไมกลิ่นไม่เหมือนกันวะ หรือแม่บ้านแยกเสื้อไอ้ซันไปซักที่อื่น แต่ช่างแม่ง ตอนนี้ต้องนอนก่อน แต่ไม่ลืมบอกมันก่อนจะนอน

   “ฝันดีมึง”

   “ฝันดี”   


.....TBC

Part 3 ค่าาา ฉากเรื่องบนโซฟานี่มันยากจริงๆ แค่นี้ยังเครียดเลย ฮ่าๆๆๆ

ส่วนพี่จอมใครคิดว่าจะโวยวายไม่เลย แกสมยอม กร๊ากก  :katai2-1:

ตอนหน้าเป็นของพี่ซันบ้างนะคะ หลังจากถูกเกลียดมามากข้อหาปากแข็ง มันน่าตบ (ด้วยปาก) ซะจริงเชียว

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่าาา หากตรงไหนอ่านแล้วขัดๆ รับทุกคำติค่าา จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นไปอี๊ก *เสียงสูง* (ตกเทรนแล้ว)

 :mew1: :mew1: :mew1:
 
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-08-2016 21:21:24
ชอบคู่นี้หง่ะ เมะชนเมะ แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-08-2016 21:26:42
บทจะยอมก็ยอมง่ายๆ เลยนะพี่จอม แบบนี้พี่ซันมีโอกาสมากในการจีบ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-08-2016 21:43:05
เหมือนจอมเจ้าชู้ตามซันอ่ะป่าว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 12-08-2016 22:06:32
ชอบคู่นีอ่ะ ซันทำให้จอมดูเป็นเคะน้อยไปเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 12-08-2016 22:08:13
ชอบๆ ซัน จอม มาอีกๆ มาเยอะๆ ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: pui_pui_puly ที่ 12-08-2016 22:33:07
ชอบมากคะ  :กอด1: :o8: :-[ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 12-08-2016 22:50:13
น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 12-08-2016 22:51:34
ลึกๆจอมคงรู้สึกอะไรกับซันมั่งแหละ ไม่งั้นโวยวายบ้านแตกไปแล้ว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-08-2016 22:53:02
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
จอมเริ่มเขินซันแล้ว :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-08-2016 23:30:07
ชอบคู่นี้อ่ะ ขออีกค่าาา ขออีกๆๆๆ :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 12-08-2016 23:58:38
น่ารัก
จอมน่ารัก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 13-08-2016 00:13:29
ความอ่อนโยนที่ซันมีต่อจอม :impress2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [2] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 13-08-2016 05:42:15
สนับสนุนให้พี่จอมมีปั๋ววววว555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-08-2016 06:10:30
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 13-08-2016 09:43:10
พึ่งอ่านตอนพิเศษ 2จบ สามก็มาแล้ว เร็วทันใจมากค่าาาาา กดบวกเลยย พี่จอมค่าามีพี่ซันอค่คนเดียวได้คุ้มยิ่งกว่าคุ้มนะค่าา  ทั้งเพื่อนทั้งพ่อทั้งพี่ทั้งครู(สอนเรื่องความรักกก) ทั้งปั๋วเอ้ยแฟน อิอิ ขอตอนพิเศษอีกเยอะๆๆเลยนะค่าาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 13-08-2016 10:56:17
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 13-08-2016 11:12:48
เอาอีกๆๆๆๆ ทำไมเราหื่นจัง ฮ่าๆๆๆๆ
ได้พี่ซันมาพี่จอมสบายเลยน่ะ ไม่ต้องทำอะไรเลย อิอิ

นึกถึงคู่พี่เบน้องทู คริๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-08-2016 11:59:29
 :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-08-2016 13:34:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 14-08-2016 07:01:53
แหมๆ เขาจูบกัน เขากอดกัน.....เขาเขินแทน....คู่ซันจอม ลุ้น ยิ่งกว่าคู่หลักอีกเพราะความซึนของซันเนี่ยแหล่ะ อ่อเขารออ่านอีกคู่นะคู่พี่เบกับน้องทู
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [3] UP! // [12/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 14-08-2016 10:24:27
ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน+จอม [4]UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 14-08-2016 11:06:20
Just you and I : Part Sun & Jom [4]


[Sun]


        ร่างที่นั่งเหม่อลอยอยู่ข้างหน้าต่าง ดวงตาดูเหม่อลอยจับความรู้สึกนึกคิดไม่ได้ นั่นคือภาพแรกที่ผมเห็น และได้รู้จักชื่อ จอม คือชื่อที่มันบอก นิสัยมันก็เพี้ยนๆ บ้าบอ มันมักจะตัวติดกับเพื่อนมันอีกคน ไอ้โช คนที่ทำหน้านิ่งตลอดเวลาจนผมคิดว่ามันจะเมื่อยหน้าบ้างหรือเปล่า นั่นตอนรู้จักตอนมอปลาย แต่ตอนนี้ผมกับพวกมันทั้งสองอยู่ปีสี่ใกล้จะจบเข้าทุกที

   แม้ผมจะพยายามเข้าไปตีสนิทกับไอ้จอมแต่มันก็มักจะมีกำแพงบางๆ กั้นอยู่ตลอด มันบอกผมชอบบังคับ มันก็ใช่ แต่คนแบบไอ้จอมหากมันไม่มีใจจะทำต่อให้ลากมันไปแขวนคอมันก็ดื้ออยู่ดี เข้าใจที่ผมบอกใช่มั้ย ถึงปากมันจะบ่นแต่มันก็ยอมทำตามตลอด

   ครอบครัวของผมเป็นหมอเกือบหมด มีแค่ผมกับพี่ชายที่ไม่ยอมเดินตามทางนั้น ดูเหมือนทุกคนก็พอเข้าใจ ผมเป็นคนง่ายๆ สบายๆ อาจเพราะมีเงินทำให้มีสาวเข้าหามากกว่าปกติ จะบอกว่าหน้าตาดีผมก็มองว่าตัวเองหน้าตาธรรมดา อาจจะพูดดีด้วยส่วนหนึ่ง หากรู้จักผมดี อย่างที่ไอ้โชมันรู้ ผมไม่ได้เป็นคนดีเลิศเลอ ก็แค่ผู้ชายชั่วๆ คนหนึ่ง อย่างที่ไอ้จอมนิยามตัวผม ไอ้โชก็คล้ายๆ ผมนี่แหละ แต่ไอ้จอมก็อย่างที่บอก มันมีกำแพงบางๆ ขวางอยู่ทำให้เข้าถึงตัวตนมันลำบาก


   แต่ก็ไม่ยากหากได้ลองดู


   “มึงเคยอิ่มแล้ว ตอนนี้มึงต้องคิดว่าข้าวสองจานต้องอิ่ม” ผมสั่งให้คนหัวดื้อที่จะกินข้าวจานที่สามต่อ ทั้งๆ ที่สองจานที่ผ่านมาก็เต็มจนพูนจาน ผมรู้ถึงอดีตมันแต่ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ อย่างที่ป้าผมบอก มันฝังอยู่ในจิตใจต้องใช้เวลาในการเยียวยาเป็นเวลานาน ไม่ก็ตลอดชีวิต

   “ทำไมชอบบังคับกูวะ เสือกเรื่องกูตลอด” ถูกมันด่าแต่ผมไม่สน ปากมันร้ายแบบนั้นเพราะปิดบังความอ่อนแอภายในใจ
 
   “ถ้ากูไม่บังคับ มึงจะยอมทำตามมั้ย” ว่าให้มัน เลยถูกดวงตาโตค้อนวงใหญ่ สำหรับผมมันดูเป็นผู้ชายที่พยายามทำตัวเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่มันเป็นคนเรื่องมาก เฉพาะกับผมนะ แต่กับไอ้โชมันดูตามใจไอ้หน้านิ่งมากจนผมไม่พอใจอยู่บ่อยครั้ง เพื่อนเหมือนกันแต่แคร์ไอ้นั่นมากกว่า ยังดีที่ตอนนี้ไอ้โชมันคบกับเด็กต่างมหาลัยทำให้ข้างกายไอ้คนเรื่องมากไม่มีใคร

   “มึงว่า ถ้ากูหันไปคบกับผู้ชายนิสัยแบบไอ้เกรียนกลอยจะดีหรือเปล่าวะ” คำถามที่ทำเอาผมเกือบสำลักน้ำ เชี่ย ดูมันถามผม “กูเห็นไอ้โชคบไอ้เกรียนนั่นแล้วก็อิจฉา หาแบบไอ้เด็กนั่นสักคนคงดี” ผมจ้องหน้ามันทันที

   “จะหาแบบเด็กไอ้โชคงหาไม่ได้แล้วว่ะ” ผมรีบพูดกันท่าทันที ไอ้จอมทำหน้างอแล้วพยักหน้าเห็นด้วย

   “จริงว่ะ เกรียนด้วย เพี้ยนด้วย บ้าด้วย แต่แม่งทำกับข้าวโคตรอร่อย หาไม่ได้แล้วจริงๆ” อยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก ดูเหมือนมันชอบตรงทำกับข้าวอร่อยนี่มากที่สุด

   แต่คิดว่าผมจะยอมเหรอ ผมแค่ไม่พูดออกไป ไม่ใช่ว่าปากหนักหรอกนะ แต่ไอ้จอมมันไม่เคยรู้จักคำว่ารักเลย รู้จักแค่คำว่าชอบกับผูกพันด้านร่างกายเฉยๆ จะโทษจากการเลี้ยงดูก็คงได้ ผมจะทำให้มันค่อยๆ รู้จักคำว่ารักและขาดกันไม่ได้ บ่อยครั้งที่มันบอกเลิกหรือถูกบอกเลิก มันทำแค่มองแล้วก็เดินออกมาไม่มีท่าทีเสียใจหรือฟูมฟายอะไรเลย แม้จะถูกสูบเงินหลายแสนมันก็ไม่รู้สึกอะไร ล่าสุดหมดไปเกือบล้าน ไม่อยากจะเชื่อมันเลย

   ทุกครั้งที่มันคบกับใครก็ตามแต่ มันไม่เคยโทรตามหรือสงสัยอะไรสักอย่าง มีแค่ผมที่คอยตามสืบดูให้มันอยู่ทุกครั้ง ผู้หญิงที่มันคบทุกคนคิดแค่อยากได้เงินและนอนกับมันเท่านั้น เพราะมันเป็นคนดังของคณะ ไม่แปลกที่จะมีคนเข้าหาเยอะ

   “ว่าแต่ มึงเก็บของหรือยัง” ผมถามไอ้คนที่เปลี่ยนจากกินข้าวมากินพายสับปรดแทน มันกัดขนมพร้อมกับพยักหน้าลง “มึงนี่นะ” ผมบ่น มันกินขนมจนเศษเล็กๆ ติดมุมปาก พอชี้มันก็แลบลิ้นออกมาเลียจนผมต้องขมวดคิ้ว ส่วนไอ้คนตรงหน้ายักคิ้วลิ่วตาจนอยากจะเขกหัว

   ผมนั่งมองไอ้คนกินขนมอย่างอร่อย ทำให้ย้อนไปถึงตอนถูกไอ้โชเรียกไปคุยหลังตึกเมื่อก่อนนี้ ถ้ามันไม่มีแฟน ผมคงคิดว่ามันชอบไอ้จอมแน่ ใบหน้าไอ้โชมันดูเรียบเฉย และมันคงรู้ ว่าผมรู้สึกยังไงกับเพื่อนสนิทมัน ดวงตานิ่งๆ ที่ไม่แสดงออกอะไรแต่ภายในคล้ายกับอ่านความคิดคนได้ ไอ้นี่มันน่ากลัว

   ‘มีอะไรกับกูวะ’ ผมถามหลังจากเดินอ้อมมาหลังตึกเรียน ไอ้โชมันจ้องหน้าผมนิ่งก่อนจะแสยะยิ้มออกมาจนผมต้องยิ้มตาม...มันรู้

   ‘มึงก็รู้จักไอ้จอมดี ถ้ามึงไม่เริ่มก่อน มันก็ไม่รู้ตัวหรอก’ ไอ้โชมันว่า ดวงตาดุมันมองไปที่คนไม่รู้อะไรกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดมองกลุ่มปากหมาคุยเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันคงรำคาญอยู่แน่

   ‘มึงรู้จริงสินะ’

   ‘กูรู้ตั้งแต่แรก’ ไอ้โชมันว่า ‘ตาของมันมักจะมองแค่ไอ้จอมเสมอ กูพูดถูกหรือเปล่า’ มันช่างสังเกตจริงๆ ทั้งที่ผมเก็บอาการไว้ตั้งแต่ต้น

   ‘หึๆ รู้ดีจริงนะมึงน่ะ’ ผมชมไอ้โชมันแค่ยักไหล่

   ‘ครอบครัวไอ้จอมมึงก็รู้ ว่ามันถูกเลี้ยงมายังไง ความรักของมันแทบไม่มีความหมายอะไรเลย มันเลยปฏิเสธเรื่องนี้มาตลอดทำให้กลายเป็นคนไม่รู้จักคำว่ารัก ถ้ามึงคิดจะจริงจัง มึงก็ต้องบอกมันตรงๆ กูบอกได้แค่นี้’ มันพูดซะยาวเหยียดขัดกับนิสัยพูดน้อยของมัน

   ‘จะบอกว่าต้องทำแบบมึงงั้นสิ ตามตื้อเด็กนั่นตลอด’ แอบแขวะมันไป มันตามติดไอ้เด็กต่างมหาลัยนั่นอย่างกับเงาตามตัว

   ‘กูแค่ทำตามที่อยากทำและต้องทำ’ ไอ้โชมันยิ้ม ผมเลยตบบ่ามันไป

   ‘เอาไว้กูจะลองทำตามมึง’ ผมว่า ก่อนเราจะหัวเราะออกมา ‘กูต้องเรียกมึงว่าไอดอลมั้ยวะ’

   มาถึงตอนนี้ผมกำลังทำตามที่บอกกับไอ้โชไว้ แต่อีกคนกลับไม่ค่อยยอมร่วมมือสักนิด ขนาดผมเกือบล่วงเกินมันไปก็คิดว่ามันจะอายไม่กล้ามองหน้าผมอีก ทีไหนได้ มันกลับลอยหน้าลอยตาไม่รู้สึกอะไร กลายเป็นผมซะอีกที่อยากหลบหน้ามัน หรือผมลีลาไม่พอที่มันจะติดใจ เอาไว้เจอของจริงก่อนเถอะ

   “ทำตาหื่นนะมึง” เสียงดังแว่วมาทำเอาผมกระพริบตาเรียกสติที่หลุดลอย มันจ้องหน้าขมวดคิ้ว ตาหื่นเป็นยังไงวะ

   “มึงรู้ได้ไงว่ากูทำตาหื่น” ผมถาม ขนาดตัวผมยังไม่รู้ว่ามันทำยังไง จ้องหน้าอยากรู้แต่หูมันกลับแดงจนเห็นชัด หรือมันเขินวะ

   “เชี่ย ก็มันเหมือนตอนนั้น” มันตอบเสียงอู้อี้ ก้มหน้าก้มตากัดถุงขนมที่ด้านในหมดไปแล้ว

   “ตอนไหน” ต้อนมันจนมุมก็สนุกพิลึก

   “มึงจะถามเชี่ยอะไรหนักหนา ก็ตอนที่มึงช่วยกูวันนั้น” ประโยคแรกมันตะโกนจนผมตกใจ แต่ประโยคหลังมันกลับมาอู้อี้ตามเดิม แต่ผมได้ยินชัด มันหูแดงลามมาที่แก้ม น่ารักเหี้ยๆ มันคงนึกถึงตอนที่กำลังนัวเนียอยู่บนโซฟาแน่

   “กูไม่เห็นรู้เลย” ตอบกวนมันเลยโดนถลึงตาใส่ อยู่แบบนี้แล้วรู้สึกดี ผมต้องเรียกไอ้โชว่าไอดอลจริงๆ สินะ

   อีกไม่กี่วันพวกผมจะไปเชียงใหม่ ตอนแรกก็ไม่ได้วางแผนอะไร แต่ไอ้จอมมันเอาเรื่องที่เพื่อนสนิทมันจะพาเมียไปเที่ยวบอกกลุ่มปากหมา พวกมันก็เริ่มสุมหัวนัดแนะกันเรียบร้อย ไอ้โชรู้ก็โวยวายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แถมยังตกลงจะไปนอนบ้านไอ้ม่าน เด็กเกษตรมหาลัยผมนี่แหละครับ



   ทริปเชียงใหม่ก็ไม่มีอะไรมาก ความสนุกมันหมดไปเยอะเมื่อไอ้โชทะเลาะกับเด็กของมัน อารมณ์เสียพากันเซ็งๆ ขนาดไอ้จอมผู้ที่ไม่ค่อยสนใจอะไรยังทำหน้าเหม็นเบื่ออยากกลับตลอดเวลา กว่าจะตกลงกันได้ พวกผมก็แทบหมดสนุกแล้วนั่นพอคืนดีกันปุ๊บมันก็พากันออกไปอยู่โรงแรมที่จองไว้แต่แรกทิ้งพวกผมอยู่ตามกันเอง คนที่ไม่ได้เตรียมแผนการมาก็เลยได้แต่มองหน้ากันไม่รู้จะไปไหน

   “ไปถนนคนเดินกันพวกมึง” ไอ้แทมมันว่า หลังจากเปิดดูที่เที่ยวในเชียงใหม่ “แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปเที่ยวม่อนแจ่ม”

   “ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลยนะพี่ ถนนคนเดินยังไม่มีหรอก” ไอ้อัธมันว่า พวกผมเลยได้แต่ปลงๆ จะให้ไปเที่ยวน้ำตกแบบไอ้ตินว่ามันก็ไม่น่าจะใช่ ก็นี่มันหน้าหนาว มันจะไปเที่ยวน้ำตก ความคิดโคตรประเสริฐ 

   “งั้นก็นอนก่อน ตื่นมาค่อยไปถนนคนเดิน” ไอ้จอมมันออกความคิดเห็นพลางล้มตัวนอนลง แต่ถูกไอ้แทมดึงไว้จนมันส่งเสียงจิ๊จ๊ะ “เชี่ยไรวะ”

   “ไปดูหมาแพนดี้กันมึง อย่าเพิ่งนอน” ไอ้เชี่ยแทมมันว่า ตามันก็ยังจ้องมือถือ

   “หมาแพนดี้เชี่ยไรของมึง” ไอ้เบโวยวาย

   “ก็หมีแพนด้าไงพี่” เป็นลูกเจ้าของบ้านที่เฉลย แม่งมันมาเป็นคำผวน พวกผมก็ตามไม่ทัน

   “ถูกต้องนะครับ ไปกันๆ กูอยากดูมันกินๆ นอนๆ” ดูความคิดของไอ้แทม ไอ้ตินก็พยักหน้าเห็นด้วย ส่วนคนอื่นๆ ก็ได้แต่มองหน้ากัน

   “มึงจะให้ผู้ชายตัวควายๆ ไปดูหมีแพนด้า มึงสติดีอยู่มั้ยวะ” ไอ้จอมเหวี่ยง

   “กูตัวเล็กนะเว้ย ตัวควายๆ ต้องไอ้ติน” เลยโดนไอ้ตินฟาดเต็มหัว ปากแบบนั้นมันสมควรโดน

   “อย่างกูเรียกสมส่วนเว้ย” ไอ้ตินเถียง แต่ผมเห็นด้วยกับไอ้แทมมากกว่า

   “สมส่วนเป็นญาติสมเสร็จใช่มั้ยวะ” สองป๊าบบนหัวไอ้เบ ไอ้นี่วอนเจ็บตัว เด็กของมันก็หัวเราะแต่ก็ลูบหัวปลอบ

   “แหม พอดีกันพวกกูเป็นคนนอกเลยนะมึง” ไอ้แทมเริ่มแซว ปกติไอ้เบมันจะนิ่งๆ เวลาอยู่กับไอ้เด็กนี่ ก็อย่างที่รู้ๆ กัน ไอ้เบมันฝังใจยึดติดกับน้องไอ้จอม ตอนนี้คงปลดล็อคสำเร็จได้แล้ว

   “แน่นอน พวกมึงก็แค่ตัวประกอบ” ดูมันยักไหล่ไม่แคร์แต่เด็กมันหน้าแดงไปแล้ว

   “ใช่ซี้ พวกกูมันไม่สำคัญ เป็นแค่ตัวประกอบ...” ไอ้แทมมันกำลังอ้าปากจะร้องเพลงแต่โดนไอ้จอมเอาผ้าขนหนูอุดปากซะก่อน ไม่งั้นคงต้องออกไปเอาบันไดแม่ไอ้ม่านให้มันปีนหาคีย์ที่เหมาะกับร่องเสียงห่วยๆ

   “ไร้สาระว่ะ” ไอ้ตินมันส่ายหน้า มันลุกขึ้นถอดกางเกงนอนแล้วเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์ สรุปจะไปดูหมีแพนด้าสินะ

   เมื่อมติส่วนใหญ่ รวมไอ้จอมตกลงว่าจะไปสวนสัตว์ ผมก็เลยต้องเออออตามไป แม้ไม่อยากไปก็ตาม สัตว์ในนั้นก็เหมือนที่เขาดินนั่นแหละ ไม่เหมือนแค่มีหมีแพนด้า นกเพนกวิน แล้วอะไรอีกวะ ที่รู้เพราะไอ้จอมมันยื่นมือถือมันมาให้ผมดู ขณะผมกำลังเลี้ยวรถออกถนน

   ใช้เวลาชั่วโมงเศษๆ กว่าจะมาถึงประตูทางเข้าสวนสัตว์เชียงใหม่ จ่ายเงินค่าเข้ากับค่ารถก็ขับเข้าไปจอดด้านใน ไอ้พวกเด็กโข่งตื่นเต้นกันใหญ่ คือหน้าหนาวแบบนี้ อากาศใกล้ดอยมันหนาวจริงๆ ขนาดแค่ตีนเขายังเย็นขนาดนี้ เหมือนอยู่ในห้องแอร์จริงๆ

   “นั่นมึงนั่น ห้องดูหมีแพนด้า” ไอ้แทมแม่งตื่นเต้นมากกับการเห็นห้องที่มีสัตว์ที่อยากเห็น ห้องอยู่ด้านหน้า เดินเข้ามาไม่ไกลก็ถึง โดนค่าเข้าชมไปอีก พอเข้าไปก็เจอ


   หมีหลับในหลุมทั้งสองตัว


   “ไอ้เชี่ยเอ้ย กูเสียเงิน แหกขี้ตามาดูหมีหลับ” ไอ้จอมเริ่มบ่น อยากสมน้ำหน้านะ แต่ไม่เอาดีกว่า

   “เอาน่า อย่าน้อยมึงก็เห็นตัวเป็นๆ ของมัน” ผมกอดคอมันแล้วปลอบ มันเหล่ตามองผมนิดๆ แล้วก็เงียบ แก้มมันแดงจนสังเกตเห็น “แก้มมึงแดงว่ะ”

   “เรื่องของกู” มันไม่ยอมมองหน้าผม

   ผมกอดคอก่อนเลื่อนมาเป็นโอบบ่าแทน สาวๆ ที่เดินผ่านพากันมอง บ้างก็ยิ้มแล้วชี้มา คู่ผมเดินรั้งท้าย ส่วนไอ้เด็กโข่งพวกนั้นมันกระโดดโลดเต้นอยู่หน้ากรงลิงที่ไต่ไปมาบนกิ่งไม้

   น่าจะบอกให้พนักงานเอาพวกมันเข้าไปรวมจริงๆ

   “หิว” เสียงเบาๆ ออกจากปากคนที่ผมโอบบ่าอยู่ หน้ามันงอๆ คงจะหิวน้ำ แม้อากาศจะหนาวแต่พอเดินนานๆ ก็เริ่มร้อนเหมือนกัน

   ผมตะโกนบอกไอ้พวกลิงว่าจะแยกไปซื้อน้ำ พวกมันแค่หันมามองไม่สนใจ เพราะมัวแต่เอาไม้แหย่เข้าไปในกรง อยากเอาป้ายที่ติดด้านหน้าฟาดหน้าพวกมันจริงๆ เขาห้ามแหย่สัตว์ในกรงเว้ย แล้วดู พอลิงยื่นมือมาจับไม้ พวกมันก็โวยวายลั่นแล้วยกกล้องถ่ายรูปถ่ายรัวๆ จนฝรั่งหัวเราะ 

   พอแยกออกมาหาร้านขายของ ผมให้ไอ้จอมนั่งรอ ส่วนผมเดินเข้าไปซื้อของด้านใน แต่พอมองออกมา เห็นมีผู้หญิงสองคนเข้ามานั่งคุยด้วย ไม่พอใจต้องบอกแบบนั้น อารมณ์อยากจะเข้าไปขัดแต่กำลังรอแม่ค้าคิดเงิน

   เดินออกไปแบบหน้าบึ้งๆ แต่เด็กสองคนนั้นกลับยิ้มแย้มเมื่อเห็นผมเดินออกไป เปิดขวดน้ำแล้วยื่นให้ไอ้คนบ่นว่าหิว กลับมีเสียงกรี๊ดเล็กจนต้องมอง

   “พวกพี่เป็นแฟนกันจริงด้วย” เสียงตื่นเต้นของคนที่มานั่งด้วยทำเอางง “พวกพี่เหมาะสมกันมากเลยค่ะ พวกหนูเห็นตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยคะ” คำพูดรัวๆ จนผมเกาหัว ไอ้จอมก็มัวแต่ดูดน้ำเปล่าจนเกือบหมดขวด ก่อนจะยื่นให้ผมทั้งที่เหลือก้นขวด พอรับมาก็ได้ยินเสียงกล้องถ่ายรูปดังรัวๆ “ขอบคุณค่ะ รักกันนานๆ นะคะ พวกหนูเป็นกำลังใจให้” แล้วก็รีบวิ่งไป นี่พวกผมต้องทำตัวยังไง ต้องเขินมั้ย

   “เมื่อกี้ใครวะ มาถามกูเรื่องแฟนกันๆ” แอบขำไอ้คนเบลอ มันหิวสมองก็เลยไม่คิดอะไรมาก
 
   “เขาบอกกูกับมึงเป็นแฟนกัน” ผมบอก ไอ้จอมก็พยักหน้าเบาๆ

   “อ่อ กูกับมึงเป็นแฟนกันตอนไหนวะ” มันถามแบบมึนๆ หรือต้องกินขนมก่อนถึงจะรู้เรื่อง

   “ก็ในห้องวันนั้น...” ผมพูด ไอ้จอมมันคงกำลังคิดภาพตาม “บนโซฟา” หน้าแดงมาอีกแล้ว ฮ่าๆ แบบนี้ไม่ต้องเรียกสติด้วยขนมแล้วก็คงได้

   “พูดเรื่องนี้ตลอดไอ้ห่า ก็แค่มึงช่วยกูรีดน้ำออกก็แค่นั้น” แต่ผมว่าไม่แค่นั้น เพราะตอนนี้หน้าแดงลามไปถึงหูแล้ว ผมเลยก้มกระซิบข้างหูแดงๆ จนมันลุกหนีไป

   “ถ้าครั้งต่อไปไม่แค่รีดน้ำแน่”

   ไอ้จอมมันมีมุมน่ารักนะครับ แค่ไม่ค่อยมีคนเห็น
   


   ดูสัตว์แทบทุกตัวอย่างสมใจ พวกมันก็บ่นเหนื่อย เมื่อย เลยพากันไปน้ำพุร้อน แต่คือมันคนละเส้นทางกันเลย เหมือนจากใต้ขึ้นเหนือแบบนั้น แล้วพวกมันก็ให้ผมขับยิงยาว กว่าจะถึงก็ปวดหลังเมื่อยก้นกันไป

   น้ำพุร้อนหน้าหนาวคนมาเที่ยวกันเยอะ ยิ่งปิดปีใหม่แบบนี้คนยิ่งล้นหลามชนิดที่ว่า แทบไม่มีที่วางขาลงแช่ โคตรเสียเวลา จะให้เหมาแช่ในห้องก็ไม่ได้เตรียมชุดมา เลยได้แต่ซื้อไข่ไปต้มที่บ่อแทน

   มาน้ำพุร้อนได้กินแค่ไข่ต้ม ตลกว่ะ

   ตอนนี้ไอ้ตินเปลี่ยนมาขับ ผมเลยดึงไอ้จอมมานั่งด้านหลังด้วย ปล่อยให้ไอ้แทมไปนั่งข้างคนขับแทน คนข้างผมมันซื้อไข่ถาดหนึ่งแล้วเอาไปต้ม ตอนนี้เริ่มแจกจ่ายให้พวกบนรถ นี่ถ้าตดกันคงไม่รู้ว่าเป็นของใคร

   “มึงกินมะ” ไอ้จอมมันยื่นไข่ที่ปอกเปลือกแล้วมาที่ปากผม ผมก็ยิ้มกัดไปคำหนึ่ง แล้วมันก็เอาที่เหลือไปกิน

   “ไม่ได้ให้กูเหรอ” ถามมัน

   “ให้ชิมเฉยๆ” กินได้ยั่วยวนทางสายตามาก เริ่มไม่อยากกินไข่ต้มแล้ว

   กินไข่ต้มแต่ก็ยังไม่อิ่ม เลยพากันไปหาข้าวกินแถวนิมมานย่านท่องเที่ยวและรถติด ไอ้ตินบ่นจนหูชาว่ารถไม่ยอมขยับ เลยเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทางแล้วไปหาอะไรง่ายๆ กินแถวข้างทางแทน สุดท้ายมาลงเอยที่ร้านก๋วยเตี๋ยว แต่พวกเราทุกคนสั่งข้าวซอยไก่ รสชาติต่างจากร้านใหญ่ๆ ที่เคยไปกิน มันอร่อยกว่า เข้มข้นกว่าต้องบอกแบบนี้

   “ซื้อกลับบ้านกันมั้ยวะ อร่อยว่ะ” ไอ้ตินมันกินไปสองถ้วยยังคิดจะซื้อกลับอีก

   “เอาเลยมึง ซื้อไปหลายๆ ถุงเผื่อตอนกลางคืนด้วย” คู่หูมันเห็นด้วย ส่วนไอ้จอมมันหันมามองผมก่อนแล้วก็เงียบไม่ออกความคิดเห็น

   “พวกพี่อย่าลืมว่าเราต้องไปถนนคนเดินนะ” ไอ้ม่านขัดขึ้นมา แต่ไอ้ตินสั่งไปแล้ว สรุปเลยใส่ถุงมาได้สิบกว่าถุง แล้วมาบอกว่าสั่งแค่นิดเดียว

   กินอิ่มก็เลยพากันไปเดินย่อยบนห้างที่ดูเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ ตึกก่อด้วยอิฐสีส้มดูสะดุดตา แต่บรรยากาศมันไม่ค่อยจะคึกคักเท่าไหร่ ร้านค้าส่วนมากก็เป็นเสื้อผ้ากับโทรศัพท์มือถือ ไอ้อัธชวนผมดวลชู้ตบาสโซนเกมส์ จากนั้นก็แยกย้ายเล่นเกมส์จนแทบลืมเวลา ดูนาฬิกาอีกทีก็เกือบจะทุ่ม พวกที่ร้องคาราโอเกะยังไม่ยอมออกมา จนผมต้องเปิดไปปิดเพลงแล้วลากพวกมันให้ออกมา

   “ไอ้เชี่ยซัน กูกำลังฝึกลูกคอไปประกวดอยู่เลยไอ้เชี่ย” ไอ้แทมมันโวยวายจนคนมองกันเป็นแถว

   “รายการเขาเจ๊งพอดีมึงไปประกวด”

   “มึงไม่เคยให้กำลังใจกู กูเสียไต”

   “เสียใจก็พอไอ้สัด”


   ถนนคนเดินที่แทบไม่ได้เดินต้องบอกแบบนี้ คนทะลักจนไหลไปกับมวลชน ไอ้จอมเริ่มหน้าบึ้งเพราะมันไม่ชอบ ผมเลยชวนมันออกไป ซึ่งมันก็พยักหน้าตกลง เราเลยเดินแยกไปนั่งหน้าอนุสาวรีย์แทน

   “คนเยอะเหี้ย” เริ่มบ่น

   “นั่นดิ่ แล้วพวกไอ้แทมหายไปไหนไม่รู้”

   ผมสองคนนั่งอยู่ม้านั่ง คนที่เดินไปมาต่างก็มองบ้างก็ชี้ๆ เพื่อนให้มอง นี่ผมตัวเหม็นหรือเปล่าวะ แต่ถ้าเหม็น ไอ้คนข้างๆ มันต้องโวยวายแล้วสิ

   “คนมอง” ไอ้จอมมันพูดก่อน

   “นั่นดิ่ มองอะไรวะ”

   “มองกูหล่อ”

   “มั่นมากมึงอ่ะ”

   “แน่นอน” ไอ้จอมมันยิ้มๆ จนผมผลักหัวมันเบาๆ

   “มึงรักกูบ้างหรือยัง” พอได้ยินมันก็หันมามองทำตาโต

   “รักอะไร”

   “ก็กูกำลังจีบมึงอยู่” บอกไปตามตรงแบบไอ้โชมันว่า ไอ้จอมมันมองผมนิ่งๆ

   “จีบกูตอนไหน” อยากจะตบหัวมันแรงๆ สักที ไอ้เชี่ยเอ้ย

   “ก็ทุกตอนนี่แหละ” บอกแบบเหวี่ยงๆ จนไอ้คนฟังมันหัวเราะ

   “ถ้ามึงยอมให้กูก่อน”

   “ยอมเชี่ยไร”

   “ยอมเป็นเมียกูก่อน” ผมเบิกตามองไอ้คนบอกให้ผมยอมเป็นเมียมันก่อน

   “ถ้ากดกูได้ กูก็ยอมเลยไอ้สัด” แล้วเราก็หัวเราะกันดังลั่น สาวๆ ที่เดินผ่านกรี๊ดกันเป็นแถว


   
   เช้าวันใหม่พวกผมแหกขี้ตาไปปลุกไอ้โชกับเมียมัน ป่านนี้แม่งอยู่สวรรค์ชั้นไหนก็ไม่รู้ นั่งรออยู่ด้านล่างโรงแรม พอมันลงมาหน้าเพื่อนผมโคตรบูด สงสัยไปขัดความสวีท กองทัพชายหนุ่มกลุ่มใหญ่บุกเส้นแม่ริมเพื่อไปเที่ยวม่อนแจ่ม ไอ้จอมแม่งให้ผมถ่ายรูปจนเมื่อย เดี๋ยวอยากได้มุมกดบ้าง มุมเงยบ้าง ตามใจโคตรๆ ก่อนปิดท้ายด้วยไอ้เบรถคว่ำลงมาจากเนินหน้าไถลกับดินอย่างฮา คนที่ยืนดูพากันหัวเราะจนมันซอยเท้าหนียิกๆ

   จากม่อนแจ่มเปลี่ยนไปดูสตอเบอรี่ ลูกสดๆ จากต้นมันลูกใหญ่กว่าที่ขายตามร้านทั่วไป พออิ่มหนำกับบรรยากาศก็ถึงเวลากลับ ตอนแรกเถียงกันเรื่องจะเข้าปางช้าง แต่พอจอดถามมันหมดช่วงเวลาไปแล้วเลยได้แต่หน้าจ๋อยกันไป จะเข้าฟาร์มงูก็ไม่ไหว ไอ้เชี่ยแทมกลัว เลยพากันกลับดีที่สุด

   ทริปเชียงใหม่แม้มันจะไปแบบชุลมุนแต่มันก็ทำให้ผมได้บอกไอ้จอมไปตรงๆ และมันก็ตอบรับ คิดว่างั้นนะ แม้มันจะมีเงื่อนไข แต่เชื่อสิ มันทำไม่ได้หรอก ของแบบนี้มันอยู่ที่ประสบการณ์และความไว



   ส่วนเรื่องความรัก ผมจะค่อยๆ สอนไอ้คนไม่รู้เรื่องไปเรื่อยๆ แล้วสักวันมันต้องพูดว่ารักผม


....TBC


พี่ซัน (ฉายา) ปากหนักมาแล้วค่าาาา


ปอลอ. เรื่องของพี่ฟลอยด์กำลังคิดจะผูกเป็นเรื่องยาวสักเรื่อง เพราะพี่แกไม่ยุ่งเกี่ยวกับแก๊งสายฮา หากเอามารวมคงจะไม่ค่อยเหมาะ (เนอะ) << ถามใคร ถถถถถถ

เจอกันพาร์ท 5 ค่า  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 14-08-2016 11:46:37
ทำไมรู้สึกถึงความละมุนของพี่ซัน ฮ่าๆๆๆพี่จอมน้อพี่จอมมึนได้อีกแล้วแบบนี้พี่ซันจะจีบสำเร็จตอนไหนละเนี่ย ส่วนเรื่องพี่ฟลอยด์ทำเป็นเรื่องยาวก็ดีนะคะพี่แกดูเป็นคนดีมากจริงๆถึงลุคจะแบดแต่จิตใจอ่อนโยนมากอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 14-08-2016 11:54:49
ซันสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-08-2016 12:02:52
สู้ๆ นะนายซัน นายจอมนี่คงมึนๆ อึนๆ อีกไม่นานหรอกเนอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-08-2016 12:44:52
พี่ซันสู้นะคะ มึนๆแบบพี่จอมนี่ต้องเดินหน้าตรงๆเท่านั้น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-08-2016 13:20:05
ซัน จอม
ซัน ดูแลจอมมาตลอด ซันคงเริ่มชอบจอมแต่ตอนนั้น?
ซัน รุกจอมแล้ว บอกด้วยว่าจะจีบจอม
จอม จะกดซัน ได้หรือเปล่า
หรือจะสลับกัน ถ้าซันยอม
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 14-08-2016 13:40:51
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-08-2016 14:09:33
 :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 14-08-2016 14:17:22
อ่านจบแล้ว ชอบเรื่องนี้อ้ะ อ่านเพลินๆไม่เบื่อ ฮามากๆ แก๊งเพื่อนๆพี่โชรั่วสุดๆ
เราว่าน้องกลอยโง่เพราะโดนตบหัวบ่อยนะ อันนี้ไม่ดี เอะอะตบหัวตล๊อด ถึงจะเป็นเพื่อนแต่บางทีก็บ่อยไป
พี่โชหื่นมาก ชอบบบบ คึคึ บ้านพี่โชน่ารักทุกคนเลย ชอบน้องบีม
 :o8: :pig4: :L1: o13 :mew1:
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-08-2016 14:34:01
เชียร์ซันกดจอม :oo1: :oo1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 14-08-2016 14:59:17
พี่ซันจัดจอมหนักๆเลย  :katai4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 14-08-2016 15:00:52
เรื่องที่บอกว่าพั่ฟล์อยสร้างเป็นเรื่องใหม่เลยก็ดีนะเห็นด้ว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 14-08-2016 15:51:46
ซันจีบจอม ต้องใช้ความพยายามมากๆหน่อยนะ
เราคิดว่า จอมรับรู้แต่ทำเป็นไม่รู้เรื่องไปงั้นล่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 14-08-2016 15:55:33
จอมมันอึนๆๆไม่ทันหรอก ซันจับกดเลย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-08-2016 16:08:42
ซันมีความอดทนสูง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-08-2016 17:28:25
พยายามเข้านะซัน ต้องมีซักวันที่จอมจะใจอ่อน หรือจะยอมให้จอมกดก่อนดี? :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 14-08-2016 17:52:51
สู้ต่อไปนายซัน  :katai4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 14-08-2016 22:17:38
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-08-2016 23:22:18
พลาดเรื่องนี้ได้ไง

ตามเก็บจนถึงตอนปัจจุบันล่ะ 5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 15-08-2016 00:01:26
พี่จอมยอมเร็วๆๆน่ะะะะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 15-08-2016 00:50:51
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 15-08-2016 02:18:43
 :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 15-08-2016 02:28:05
มึนจริง55555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 15-08-2016 07:41:25
อ่านยิงยาวทันแล้ว รอตอนต่อไปค่ะ

สนุกๆจริง กลอยเกรียน พี่โชสายหื่น
พี่จอมสายกิน พี่ซันคนเนียน
และเดอะแก๊งค์สายฮา
ชอบทุกตัวละครเลยค่ะ

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [4] UP! // [14/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 15-08-2016 16:17:08
รอๆ ศึกชิงความเป็นเจ้ายุทธ ใครกดใครก่อน แอบเชียร์ซัน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน +จอม [5] UP!//[15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 15-08-2016 21:16:23
Just you and I : Part Sun & Jom [5]



[Jom]

         ความรักคืออะไร มันกินได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่ผมคิดมาตลอด ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้ว ว่ามันกินได้ เพราะผมกำลังกินช็อกโกแลตที่เขียนว่ารัก อย่าตลกเพราะมันไม่ตลก คนเอามาให้มันตั้งใจทำ ไม่ใช่ไอ้ซันอย่าเพิ่งคิดไปไกล คนทำคือไอ้กลอยเกรียน มันลองทำแล้วเอามาให้ผมลองกินดู รสชาติก็ธรรมดา ไม่หวาน อาจเพราะไอ้โชไม่ชอบกินขนมหวาน

   “อร่อยป่ะพี่” ดูมันตั้งใจมองผมกิน หน้าตามันโคตรตลก

   “ก็ดีว่ะ แต่แม่งไม่หวานสักนิด เหมือนกินดินน้ำมัน” ผมบอก หน้ามันก็เสียไป

   “พี่พูดจริงดิ่ ผมอุตส่าห์ลดน้ำตาลเผื่อมันจะเป็นแบบดาร์กช็อกอ่ะ” มันลองกินอันอื่นดู แล้วหน้ามันเหยเก “อี๋ นี่มันอะไรวะเนี่ย” มันโวยวายจนผมขำ ไอ้เด็กนี่มันตลก

   “กูแนะนำให้มึงไปซื้อที่ร้านไปให้มันดีกว่า” ไม่เสียเวลา

   “มันต้องทำมาจากใจสิวะ พี่ไม่อยากลองทำเหรอ” มันชวน ตาโตๆ มันเป็นประกายวิ้งๆ

   “กูทำไม่เป็น” ปฏิเสธสิ ทำไม่เป็น กินเป็นอย่างเดียว

   “ทำไม่เป็นก็ลองสิพี่ นะๆ” ดูมันอ้อน เอาหัวมาถูหัวไหล่จนผมสะบัดออก

   “เออๆ” บอกปัดไป แต่ไม่ทำหรอก ยืนมองมันอย่างเดียวก็พอ

   วันนี้ผมมาห้องไอ้โชครับ ไอ้ซันก็มา ไอ้แทม ไอ้ตินมาครบ ยกเว้นเพื่อนไอ้เด็กเกรียนนี่ แล้วทำไมผมถึงมานั่งคุยกับไอ้เด็กนี่ ก็เพราะพวกนั้นกำลังเครียดกับการเล่นไพ่คลายเครียด แต่ที่ได้ยินแม่งโวยวายตลอดนี่มันหายเครียดเหรอวะ ส่วนไอ้โชตอนแรกมันก็ไม่เล่นหรอก บังเอิญว่าขาขาดโดนบังคับเลยเล่นๆ ไป แต่ดันติดลม ไม่ได้เล่นฟรีๆ ด้วยนะ ตาละห้าสิบ

   ผมถูกดึงให้มายืนข้างเตา ไอ้เด็กเกรียนนั่นเริ่มหั่นดาร์กช็อกอันใหญ่เป็นลูกเต๋าเล็กๆ แล้วมันยังสั่งให้ผมหั่นช็อกมิลล์เพื่อจะเอาผสมให้หวาน ไม่รู้ว่าเอาสูตรมาจากไหนหรือแม่งมั่วเอาแต่ดูๆ ก็น่ากินเหมือนกัน ผมยืนดูเด็กเพื่อนเดินไปหยิบช็อกโกแลตชาเชียวออกมาอีกก้อน

   “อย่าบอกว่ามึงจะเอารวมกันหมด ท้องเสียนะมึง”

   “เอาน่า ผมว่ามันต้องอร่อย” ดูท่าทางโคตรมั่นใจจนอยากจะถอนตัว

   หม้อใสสองหม้อถูกใส่น้ำเกือบครึ่ง แล้วมันก็เอาช็อกโกแลตแบบดาร์กกับรสนมผสมใส่รวมกันในถ้วยแก้วแล้วเอาไปวางบนหม้อที่น้ำเริ่มเดือด

   “พี่คนให้มันละลายเลยนะ แต่อย่าให้มันไหม้ โอเค๊” มันสั่งผมอีกแล้ว ไอ้เด็กเชี่ยนี่ “แบบนั้นแหละ” แต่ผมก็ทำตาม ส่วนมันก็ทำแบบเดียวกันแต่เป็นชาเขียว

   คนๆ จนช็อกโกแลตสองถ้วยใหญ่ละลายจนเหนียวข้นไอ้กลอยก็ยกลงวางบนผ้า ผมมองดูมันเปิดลิ้นชักเอาพิมพ์รูปหัวใจที่ทำมาจากยางอะไรสักอย่างสีเขียววางบนเคาน์เตอร์ แล้วมันก็เทช็อกโกแลตชาเขียวลงไปด้านหนึ่ง ก่อนเทอีกด้านด้วยช็อกโกแลตผสม

   “มึงมั่นใจว่ามันจะอร่อย?” ดูจากสีหน้ามันโคตรมุ่งมั่น

   “มั่นใจสิพี่” มันชูกำปั้น ยืดอกจนผมตบเข้าอกยืดๆ ให้แฟบลง “โด่ แล้วอย่ามาติดใจฝีมือไอ้กลอยนะครับ” ขี้โม้เชี่ย

   มันเอาพิมพ์ยางไปแช่ฟิต ระหว่างนั้นมันก็เดินไปดูผัวมันเล่นไพ่ ผมก็เดินตามมันไปนั่นแหละ

   “มึงทำไพ่กันแน่ไอ้เชี่ย ห้ารอบแล้วกูโดนแดกตลอด” ไอ้แทมโวยวายเพราะถูกไอ้โชกินเรียบตลอด

   “ทำไพ่เชี่ยไร กูเก่งเว้ย” ไอ้โชมันขี้โม้เหมือนเด็กมัน ไอ้กลอยก็ปรบมือชอบใจอยู่ข้างๆ “ทำเสร็จแล้วเหรอ”

   ไอ้กลอยมันทำหน้ายู่ส่ายหน้าจนโดนผัวมันบีบจมูก สวีทสัด

   “พวกมึงจะหวานเกินไปแล้ว เห็นหัวกูบ้าง” ไอ้ตินโวยวาย “แล้วไอ้เชี่ยเบนี่แม่งติดต่อไม่ได้ สงสัยไปเดทกับเด็กมัน”

   “เห็นเมียดีกว่าเพื่อน”

   “ใช่ๆ กูเห็นด้วยเพื่อนแทม”

   แล้วพวกมันสองตัวก็กอดคอกัน จนผมต้องเดินเข้าไปถีบหลังไอ้คนดราม่า

   “อย่ามาสำออย เมื่อวานกูเห็นมึงควงสาวหมวยไปแดกข้าวอยู่ไอ้สัด” ผมด่ามัน เมื่อวานไอ้ซันมารับไปกินข้าว เจอไอ้ตินเดินควงสาวหมวยหน้าตาจิ้มลิ้มเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น

   “มันก็ต้องมีบ้างเพื่อนจอม กูก็หน้าตาดีระดับหนึ่ง” ไอ้ตินยืด

   “ระดับหนึ่งในร้อยใช่หรือเปล่าพี่” ไอ้เกรียนกลอยวอนโดนตบหัว ถ้าไม่ได้ไอ้โชมันคงโดนไปแล้ว

   ผมยืนอยู่หลังไอ้ซัน มันเงียบๆ ไม่ค่อยพูดอะไร เพราะหลังจากมันบอกจีบผม ผมก็ไม่เห็นมันจะทำอะไร เพราะที่มันไปรับไปส่งก็เป็นปกติที่มันทำอยู่ทุกวัน ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ผมเลยเตะหลังมันไปเบาๆ จนมันหันมามอง หน้าบูดๆ ทำให้ต้องลงไปนั่งยองๆ ข้างมันเมื่อไอ้โชเริ่มแจกไพ่

   “เป็นเชี่ยไร” กระซิบถามมันไป มันเหลือบตามามองนิดๆ แต่ก็ไม่ยอมพูด “ไอ้ซัน” กดเสียงต่ำให้รู้ว่าไม่พอใจ

   “มึงไปทำอะไรกับเด็กไอ้โช” มันกระซิบถาม ผมจ้องหน้ามันนิ่งๆ

   “มันชวนทำช็อกโกแลต ทำไม อย่างกูทำแบบนั้นไม่ได้เหรอวะ”

   “ทำให้กูกินบ้างสิ”

   “กูยืนดูมันเฉยๆ”

   ผมกับไอ้ซันกระซิบกระซาบกันไปมาจนโดนตีนไอ้แทมเขี่ย เพราะไอ้ซันไม่วางไพ่สักที

   “เริ่มมีกลิ่นแปลกๆ ว่ะสัด” ไอ้ตินมันทำจมูกฟุดฟิดจนต้องทำตาม อืม มีกลิ่นจริงด้วย

   “เชี่ย” เด็กไอ้โชโวยวายจนทุกคนตกใจ แล้วมันก็รีบวิ่งเข้าไปในครัว

   ลืมไปเลยว่ามันตั้งช็อกโกแลตไว้บนเตา ไหม้แล้วมั้งนั่น

   ผมเดินตามมันมา เห็นมันเอาพิมพ์ที่แชร์ฟิตออกมาแล้วกดตัวช็อกโกแลตที่เซ็ทตัวแล้ววางบนตะแกรง ใบหน้ามันโคตรดูมีความสุข กะอีแค่ทำช็อกโกแลตมันมีความสุขยังไงวะ เสียเวลาจะตาย ซื้อกินง่ายกว่า

   ช็อกโกแลตที่ละลายบนเตากำลังถูกเทราดเคลือบไอ้ตัวที่แข็งแล้วจนชุ่ม เออว่ะ น่ากิน ช็อกโกแลตสีดำเคลือบสีเขียว ส่วนสีเขียวเคลือบสีดำ ผมมองมันทำตาโตมองแล้วก็อดขำไม่ได้

   “อะพี่ ลองชิม แล้วจะติดใจในฝีมือของกลอยคนนี้” มันยืดอกยื่นช็อกโกแลตเคลือบชาเขียวให้ผม พอกัดคำแรกแล้วต้องทำตาโต แม่งอร่อยจริงด้วย มันไม่หวานมาก ออกขมๆ คงเพราะรสชาเขียว แต่สีดำมันหวานพอดี “เป็นไง บอกแล้วว่าอร่อย”
 
   “เอออร่อย มึงแบ่งใส่กล่องให้กูด้วย” สั่งมันก่อนจะหยิบอันที่เย็นแล้วติดมือไปด้านนอกสองอัน

   เดินมานั่งข้างไอ้ซัน มันเหลือบตามองนิดหนึ่งก่อนอ้าปากเมื่อผมเอาช็อกโกแลตที่หยิบมาด้วยยื่นให้ มันเคี้ยวๆ แล้วยิ้มให้

   “อะไรๆ กูเหมือนตกข่าว” ไอ้ตินมันเอ่ยขึ้นมา พอเงยหน้าขึ้นมอง พวกมันกำลังจ้องผมอยู่

   “อะไร” ถามเหวี่ยงๆ แต่มันทำตาเล็กตาน้อยจนอยากจะเอาแก้วน้ำปาใส่หัว

   “จะอะไร ก็แค่ดูคนเขาจีบกัน” กล่องสำรับไพ่ปลิวโดนหัวมันเรียบร้อย ไอ้ตินกุมหัวร้องโอดโอยจนไอ้กลอยยกถาดช็อกโกแลตมันมา ไอ้กลุ่มวงไพ่ก็รีบพุ่งเข้าไปหยิบมากิน โดยไม่มีใครสนใจสายตาโหดเหี้ยมของไอ้โชสักคน

   “พวกมึงออกจากห้องกูไปเลยไป๊” นั่นไง ไอ้เชี่ยโชไล่ตะเพิดจนวงแตก มันหวงของกินโดยเฉพาะที่เมียมันทำ แต่นี่ถาดใหญ่เกลี้ยงจนเหมือนไม่เคยใส่อะไรมาก่อน ส่วนเด็กมันก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ กอดแขนไอ้คนโมโห

   พอถูกไล่ออกจากห้อง พวกไอ้แทมก็กอดคอไอ้ตินพาเที่ยวต่อ ส่วนผมจะไปไหนก็ต้องแล้วแต่เจ้าของรถ ผมที่กำลังจะเข้าไปนั่งในรถมองเห็นไอ้ซันถูกไอ้แทมล็อกคอ

   “มึงคบกับไอ้จอมใช่มั้ยตอบ!” ดูมันถาม “อ๊ะๆ อย่าโกหกกู เพราะกูรู้กูเห็น เพราะกูเป็นญาติกับอับดุล” เล่นเองตบเองก็มีในไอ้เชี่ยแทมนี่แหละ

   “เออ” ไอ้ซันตอบผมก็เบิกตามอง

   “มึงไม่บอกปัดหน่อยเหรอวะ บอกแบบนี้กูเซ็งเลย” อ่าวไอ้เชี่ยนี่

   “ก็บอกว่าอย่าโกหก กูก็บอกความจริง มึงจะเอาอะไรอีก” ไอ้ซันยกแขนที่พาดคอออกแล้วสอดตัวเข้ามานั่งในรถ ไอ้แทมมันจะคว้าแต่ถูกปิดประตูใส่หน้าจนหน้าผากชนกับกระจก มันโวยวายอยู่ด้านนอก ผมกับไอ้ซันก็พากันหัวเราะ หน้าผากมันแดงคงจะชนแรงน่าดู

   “หน้าผากมันโคตรแดง” ผมว่า ไอ้ซันก็หัวเราะ “มึงน่าจะทำให้มันแรงกว่านั้น แม่งไม่สะใจ”

   ไอ้ซันส่ายหน้าก่อนยกมือขึ้นยีหัวผมจนฟู ไอ้เชี่ยนี่อยากโดนตบหัว แต่มันหลบได้

   “ไม่ได้ตบหัวกูหรอก” มันยิ้ม “กลอยบอกมึงหึงกูเหรอ” อยู่ๆ มันก็พูด ผมหันขวับไปมอง

   “หึงเชี่ยไร ไอ้เด็กนั่นมันเพี้ยนมึงก็รู้” กะอีแค่ไอ้ซันออกไปคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้นอกระเบียง ทำไมผมต้องหึง แล้วอาการหึงมันเป็นยังไง

   “เหรอ” หน้ามันโคตรกวนตีน

   “เออ” ทำไมต้องรู้สึกแปลกๆ หรือผมเป็นโรคหัวใจ มันกำลังเต้นเร็วผิดจังหวะ

   “มึงหน้าแดง” ไอ้ซันพูด แต่ผมเสหน้ามองออกนอกหน้าต่าง

   “แดงตรงไหน” เม้มปากแน่นเมื่อถูกมืออุ่นยื่นมาจับมือที่วางบนตัก

   “ก็ทุกตรงละมั้ง” เสียงนุ่มของมันยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะพุ่งออกมา เชี่ย ต้องไปหาหมอตรวจ พอมันเงียบไป ผมก็หันหน้าไปมอง ใบหน้าที่ติดรอยยิ้มกำลังมองถนนอย่างตั้งใจ ก่อนจะหันมาสบตากับผมพอดี


   เชี่ย เขินรอบที่เท่าไหร่กับไอ้คนข้างๆ นี่


   “เขินกู แสดงว่ากูจีบมึงติดแล้วสิ” ปากที่มีรอยยิ้มพูด ผมต้องกลั้นยิ้มจนปวดแก้มไปหมด แม่ง ไม่เหมือนไอ้จอมทุกทีเลยว่ะ
 
   “ติดพ่อง” ด่ามันไป แต่ทำไมปากผมถึงยิ้ม ได้ยินเสียงขำในลำคอไอ้คนที่จับมือผมอยู่

   เขินจนต้องหันหน้าออกไปมองข้างนอก ก่อนจะเห็นห้างสรรพสินค้าลิบๆ เลยบอกให้เจ้าของรถเลี้ยวเข้าไปจอด พอรถจอดในลาน ผมบอกให้มันรออยู่ในรถ ไม่อยากให้มันรู้ว่าจะไปซื้ออะไร บอกแค่ว่าหิว

   “ห้ามสั่งมากินเยอะเข้าใจมั้ย” มีสั่งก่อนจะออกจากรถอีก ถ้าตัดเรื่องมันชอบบังคับละก็ คงจะดีไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยอมทำตามทุกที



   ในห้างของบนชั้นแม่งโคตรเยอะ แล้วจะเลือกยังไง หรือต้องโทรไปถามวะ ผมกำลังยืนมองของที่จะใช้ที่วางเรียงกันเป็นแพ ยี่ห้อมีเกือบร้อย อันไหนอร่อยสุดวะ ตัดสินใจไม่ได้ก็ควักมือถือมาโทรถาม รอสายไม่นานมันก็รับ

   (ว่าไง) เสียงนิ่ง คงกำลังเต๊าะเด็กมันอยู่

   “ขอคุยกับไอ้กลอยเกรียนหน่อย” ปลายสายส่งเสียงฮึดฮัดก่อนจะตะโกนเรียกเด็กมันมา ได้ยินบ่นแว่วๆ เรื่องแบ่งช็อกโกแลตให้พวกผมกิน ไอ้นี่หวงของกินตลอด

   (ว๊อท?) ดูมันทักทาย

   “สำเนียงห่วยอย่ามากระแดะไอ้เกรียน” ด่ามันไป มันก็หัวเราะจนไอ้โชตะโกนด่า

   (โห พี่ทำเอาเสียเซลฟ์ว่ะ มีอะไรหรือขอครับคุณพี่จอม) ถ้าอยู่ใกล้ ผมเตะมันแน่ ตั้งแต่สนิทกันนี่ปีนเกลียวตลอดไอ้เด็กนี่

   “มึง...” อยู่ๆ ก็ไม่กล้าถามขึ้นมา

   (ครับ?)

   “มึงซื้อช็อกโกแลตยังไง” ตัดสินใจถาม ไอ้กลอยแม่งหัวเราะอย่างกับควายออกลูก

   (โห พี่จอม ก็ว่าอะไร ถ้าพี่ชอบหวานเอาแบบไหนก็ได้ เพราะต้องเอาละลายอยู่แล้ว อ่อ เอาแบบดาร์กไปด้วยนะ มันจะได้ตัดเลี่ยน) มันพูดไป ผมก็หยิบใส่ตะกร้าไป

   “เอาเยอะหรือเปล่า” แม่งเต็มตะกร้าแล้ว

   (ก็แล้วแต่พี่ ว่าจะทำเยอะหรือเปล่า อย่าลืมซื้อพิมพ์มันด้วยนะ ไม่งั้นจะไม่มีอะไรใส่) ไอ้เด็กเพี้ยนมันแนะนำ ผมก็มองหา แต่มันไม่มี

   “ไม่เห็นมี มึงไปซื้อที่ไหน”

   (พี่ไปดูแถวขายเครื่องครัวอะ ที่มันขายแบบพิมพ์ขนม แต่ผมแนะนำ) ผมตั้งใจฟัง แต่ขาก็เดินหาโซนเครื่องครัว แม่ง เกิดมาเพิ่งเคยมาเดินโซนนี้ (ผมแนะนำว่าหาพิมพ์ที่เป็นรูปหัวใจ พี่ซันจะได้รัก) แล้วมันก็หัวเราะ

   “มึงเคยตายอยู่ข้างโทรศัพท์หรือเปล่าไอ้เชี่ย” ตะโกนใส่โทรศัพท์แล้วกดวางทันที ไอ้เชี่ยนี่น่าโดนถีบจริงๆ ไม่รู้ไอ้โชหลงไปได้ยังไง

   ผมหยิบพิมพ์ยางแบบที่เห็นไอ้กลอยใช้ แต่เอาแบบกลมธรรมดาก็พอ จะเอาหัวใจทำไม ไร้สาระ แต่ก็แอบเหล่ๆ นิดนึง เดินมาจ่ายเงิน พนักงานยิ้มแล้วมองหน้า

   “ชอบช็อกโกแลตเหรอคะ” พนักงานแคชเชียร์ถาม ผมก็ยิ้มๆ ไม่ตอบอะไร แต่ป้าข้างหลังตอบแทน

   “เขาซื้อก็แปลว่าชอบนั่นแหละหนู รีบๆ คิดเงิน มองแต่หน้าลูกค้าแล้วเมื่อไหร่จะคิดเงินเสร็จ” ได้ยินก็รีบก้มคิดเงิน ผมรีบหันไปยิ้มให้ป้าด้านหลัง ป้าแกก็มองแล้วยิ้มตาม

   เดินออกมาจากห้าง เจอไอ้ซันยืนกอดอกพิงรถตัวเองอยู่ แขนมันห้อยถุงไก่ทอดยี่ห้อดังไว้ พอมันหันมาเจอผมก็ยิ้มแล้วเดินปรี่มาช่วยผมถือ

   “มึงซื้อมากินหรืออาบวะเนี่ย” ดูมันทัก

   “กินสิวะ อาบไปมดขึ้นพอดี” ตอบแบบเซ็งๆ แต่มันก็ยิ้มๆ แต่ตามัน...

   “มดขึ้นไม่ทันกูหรอก” มันว่า ผมเลยเตะขามันไปทีหนึ่ง

   “ไอ้เชี่ย” ด่าก่อนจะรีบขึ้นรถ เวลามันทำตาหื่นทีไรผมรู้สึกหน้าร้อนทุกที

   ไอ้ซันขับรถมาส่งผมที่ห้อง มันทำท่าจะกลับ ผมลองชวนมันขึ้นห้องดู มันท่าทางตกใจที่ผมชวน

   “น้ำจะท่วมหรือเปล่าวะ” ดูมันว่า

   “งั้นมึงก็กลับไปเลยไอ้ห่า” เดินหนีเข้าตึก มันก็เดินตามยิ้มร่า แถมยังยิ้มให้ป้าที่เพิ่งลงมาจนป้าแกเกือบเดินชนกระจก “ยิ้มเรี่ยราดนะมึง”

   “หึงกูเหรอ น้องจอมหึงพี่ซันเหรอครับ” ดีดขาใส่ไอ้คนเดินตาม แต่มันหลบได้ทัน กวนตีนมาก ณ.จุดนี้

   ผมไม่ตอบ แต่จิกตามอง พอถึงห้องมันก็ดี๊ด๊าเข้าไปนอนกลิ้งบนโซฟา ส่วนผมก็เดินเอาถุงมาวางบนโต๊ะข้างโซนครัว คอนโดผมไม่ใหญ่เท่าไอ้โช แต่ก็มีข้าวของครบครัน ผมง่วนอยู่กับการอ่านรายละเอียดที่ไอ้กลอยเกรียนมาส่งไลน์มาให้ อย่าคิดว่าผมจะมีไลน์มัน ที่อ่านๆ นี่มาจากชื่อไอ้โชทั้งนั้น กับเพื่อนมันยังหวงบ้าบอคอแตก ปัญญาอ่อน

   เริ่มแกะช็อกโกแลตออกแล้วหักๆ เอา ไอ้เกรียนใช้มีดหั่น แต่พอเอาลงหม้อมันก็ละลายอยู่ดี จะหั่นทำไม หักเป็นท่อนใหญ่บ้างเล็กบ้างง่ายจะตาย ไอ้คนที่นอนกลิ้งคงเห็นผมทำหน้ายุ่งก็เดินมาหา มันเบิกตาโตๆ ของมันมองของบนโต๊ะ

   “อย่าบอกว่าจะทำช็อกโกแลตแบบเมียไอ้โช?” ไอ้ซันถาม มือมันแอบหยิบอันที่ผมหักไว้ในถ้วยไปกิน

   “เออ”

   “ทำให้กูกินละสิ ดีใจเหี้ย” หน้ามันโคตรระรื่น

   “กูทำไว้กินเองเว้ย เรื่องไรจะให้มึงกิน” แม้จะว่าไปแบบนั้นไอ้ซันก็ยังหัวเราะอยู่ “อยู่เฉยทำไม ช่วยทำสิวะ” ต้องใช้ คนโดนใช้หน้างอแต่ก็ทำ มันช่วยหักช็อกโกแลตสีชมพู (ที่ผมชอบ) ใส่ถ้วยแยกไว้ต่างหาก

   “ช็อกโกแลตสีชมพู...” ผมเงยหน้ามอง “มึงชอบกินใช่มั้ย”


   โรคหัวใจกำเริบว่ะ


   “สัด พูดมาก ทำๆ ไป”

   “ครับๆ”

   ผมก็ทำแบบที่ได้อ่าน หลายครั้งก็ยืนมองไอ้คนที่ดูทำเป็นมากกว่า คล่องมือในการจับหม้อจับกระทะซะด้วย ตั้งแต่ผมเป็นเพื่อนกับมันมา ไม่เคยเห็นไอ้ซันทำอาหารสักครั้ง

   “มึงทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ” ลองถามดู

   “ก็พอเป็น” มันตอบ ตากำลังจ้องหม้อที่กำลังละลายช็อกโกแลต

   “ทำไมกูไม่เคยเห็น”

   “กูทำให้เฉพาะคนที่กูรัก” รู้สึกคล้ายกับตอนที่แม่เอากระต่ายมาเลี้ยงแล้วดูแลดีกว่า...น้อยใจ คำนี้ใช้ถูกมั้ย “ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ผมเอนหัวหนีมือใหญ่ๆ ที่จะยื่นมาจับหัว “ไอ้จอม”

   “กูเปล่าเป็นไร”

   “แต่น้ำเสียงกับหน้ามึงบอกว่าเป็น” โดนคาดคั้น แต่ก็ทำเป็นมองหม้อช็อกโกแลต “ไอ้จอม” เสียงมันกดต่ำลง

   “ก็บอกว่าเปล่า” ผมตอบ แต่ไอ้คนถามมันยังจ้อง มือก็หยุดคนจนเหมือนได้กลิ่นไหม้นิดๆ “มึงคนหม้อสิวะ เดี๋ยวก็ไหม้หมด” ผมดันมันให้ออกห่างแล้วเข้าไปคนเอง เชี่ย มีกลิ่นไหม้นิดๆ จะอร่อยหรือเปล่า ลืมถามไอ้กลอยว่าต้องทำยังไง

   “มึง...น้อยใจที่กูพูดเมื่อกี้เหรอ” ไอ้ซันมันพูดเสียงเบาๆ อยู่ด้านหลัง แต่ผมทำเป็นไม่สนใจ “ใช่จริงๆ ด้วย”

   “เชี่ย ทำไรวะ” ตกใจจนทัพพีอันเล็กเกือบร่วงจากมือ แม่งเล่นกอดจากด้านหลังแถมเอาหน้าซบลงที่บ่าอีก “ไอ้ซัน ถอยเลยมึง”

   “น้อยใจกูเหรอ” มันยังถามย้ำ แต่ผมเลือกจะเงียบ กอดได้กอดไป “ที่กูพูดแบบนั้น เพราะกูกำลังจะทำให้มึงกินนี่ไง แม้แต่แม่กู กูยังไม่เคยทำให้กินเลยนะ” เสียงทุ้มกระซิบบอกข้างหูจนขนแขนแอบลุกเบาๆ

   “นั่นก็เรื่องของมึง” หัวใจมันเหมือนได้ลมเป่าให้พองใหญ่

   “เรื่องของกูแล้วมึงยิ้มทำไม” ไม่พูดเปล่า มันยังเอานิ้วจิ้มแก้มผมอีก

   “กูไม่ได้ยิ้ม เดี๋ยวก็เอาช็อกโกแลตราดหัวหรอก ถอยดิ่วะ” ใช้ข้อศอกดันให้มันถอย แต่แขนมันยังรัดแน่น “ไอ้ซัน”

   “เอาราดบนตัวมึงก็ได้นะ กูจะกินเอง” ไม่ต้องรอให้เถียง ทัพพีเปื้อนช็อกโกแลตเคาะบนหัวไอ้คนปากมากจนส่วนที่ละลายไหลลงมาแถวหน้าผาก “ไอ้เชี่ย กูเพิ่งสระผมเมื่อเช้านี้” ไอ้ซันโวยวายแล้วเดินไปหาผ้ามาเช็ดหัว

   “สม”

   สรุปแล้ว ไอ้ซันมันเดินเข้าห้องนอนไป สงสัยจะไปสระผมในห้องน้ำแทน ผมก็เริ่มทำต่อ โดยเปิดอ่านตามที่ไอ้กลอยมันเขียนไว้ ละลายเสร็จต้องเทลงในพิมพ์...กลมกับหัวใจเอาแบบไหนดี

   ลังเลอยู่นาน มือมันเทลงบนพิมพ์ยางรูปหัวใจเอง จนอยากจะตบหัวตัวเอง เทครบก็เอาไปแช่ฟิตไว้ ไอ้คนสระผมแม่งหายเป็นชาติ ไม่รู้ไปผลิตแชมพูเองหรือเปล่า เวลาผ่านไปเกือบๆ ครึ่งชั่วโมง ไอ้ซันก็ยังไม่ออกมา แต่ช็อกโกแลตก็ได้ที่พอดี ผมเลือกเดินไปเปิดเอาของในช่องฟิตแทนจะเข้าไปดูไอ้คนที่หายไปนาน

   ดันช็อกโกแลตที่แข็งตัวออกมา อืม หน้าตาใช้ได้ ผมรีบไปหยิบมือถือมาถ่ายรูปเก็บไว้ นี่คือสิ่งแรกในครัวที่ได้ทำ แม่งโคตรภูมิใจ ถ่ายเสร็จก็เอาพิ้งค์ช็อกที่ละลายเทเคลือบไว้....ภูมิใจ

   ประตูห้องนอนเปิดออก ไอ้ซันพันแค่ผ้าเช็ดตัวที่เอวหมิ่นเหม่ ผมเปียกปล่อยให้น้ำหยดลงบนตัว โคตรเซ็กซี่ มันเห็นผมจ้องก็แสยะยิ้มแล้วเดินมาใกล้ กลิ่นครีมอาบน้ำกับแชมพูของผมทำไมมันหอมขนาดนี้ แต่กลิ่นมันไม่น่าแรงขนาดที่กลบกลิ่นช็อกโกแลตได้

   ผมรีบเอนหลังหนีเมื่อไอ้คนเกือบเปลือยยื่นหน้ามาใกล้

   “หอม” มันพูด

   “ลองกินสิ” ผมยื่นให้มันอันหนึ่ง แต่มันกลับจับมือผมไว้แทนแล้วก็ก้มหน้าลงมากิน พิ้งค์ช็อกที่ราดไปยังติดมือเพราะไม่แห้งสนิท ผมจ้องดวงตาที่เพิ่งรู้ว่ามันมีเสน่ห์ กับปากอวบกำลังดูดกลืนนิ้วมือของผมที่เปื้อนจนสะอาด

   “อร่อย” ขยิบตาซ้ายนิดๆ แล้วยกยิ้ม

   “ไอ้...” พูดไม่ออก สมองเหมือนหยุดทำงานชั่วคราว

   “กูอาบน้ำรอแล้ว” ดวงตาแบบนี้ที่ผมไม่อยากเห็น ไม่ใช่เพราะไม่ชอบ แต่มันทำให้ต้องตกอยู่ในภวังค์ของมัน

   “ระ เรื่องของมึง” ไอ้เชี่ยจอม เสียงมึงจะสั่นทำไม

   “เรื่องของเรา” เสียงทุ้มพูด คราวนี้ต้องยอมรับออกมาเลยว่าเขิน

   เหมือนถูกดึงให้เดิน แต่ก็ยอมเดินตาม มองแผ่นหลังที่สักรูปมังกรอยู่ตรงสะบักหลังด้านซ้ายแล้วนึกอยากจะสักบ้าง ไอ้ซันหันหน้ามายิ้มเท่จนต้องก้มมองพื้นแทนเมื่อผ่านประตูห้องนอนตัวเองเข้าไป หรือแม้แต่ถูกเอนตัวให้นอนราบบนเตียง

   “มองแค่หน้ากู” เสียงสั่งแม้ไม่อยากทำแต่ก็ยอมเงย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมันมีผมอยู่ในนั้น พอหน้ามันค่อยๆ ก้มลงมาก็เริ่มคิดบางอย่าง “โอ๊ะ”

   ผมผลักให้ไอ้ซันนอนราบกับเตียงแทนแล้วขึ้นคร่อม คำพูดที่มันบอกยังดังอยู่ในหู หากผมกดมันได้ มันจะยอมเป็นเมีย

   แม้ประสบการณ์จะไม่มากเท่าแต่ก็มีดีพอ เริ่มรุกจูบจนเคลิ้ม ผมไล้มือไปทั่วแผงอกล่ำๆ ที่เปลือยเปล่า ผิวมันเรียบลื่นอาจเพราะเพิ่งอาบน้ำ กลิ่นหอมที่ซอกคอติดจมูกเมื่อได้สัมผัส ผมยกตัวขึ้นเมื่อถูกคนใต้ร่างถอดเสื้อออก มืออุ่นมันลูบไล้ด้านข้างของผมไปมา เราจูบกันอยู่นานจนรู้สึกตัวอีกทีผมกลับลงมานอนราบกับเตียงอีกแล้ว...ตอนไหนวะเนี่ย

   “ไหนมึงจะให้กูกดไง” ค้อนมันไป แต่หน้ามันไม่มีสลดสักนิด เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

   “กูให้โอกาสแล้วนะ” มันว่า อยากจะเถียงกลับแต่ถูกริมฝีปากอวบก้มประกบจนพูดไม่ออก ได้แต่ครางเถียงแทน

   ไม่รู้ว่าความรีบร้อนหรือเร้าร้อนมันมากกว่ากัน กางเกงยีนส์ตัวเก่งถูกถอดทิ้งอย่างเร่งรีบ จนผมและไอ้คนด้านบนไร้เครื่องปกปิดทุกอย่าง...ร่างกายกำยำมีกล้ามแน่นที่อยู่บนตัวยามเคลื่อนไหวช่างน่ากัดจนต้องงับระบายความรู้สึกแปลกที่ก่อตัวขึ้นเข้าที่แขนที่ค้ำอยู่ข้างตัว คนถูกกัดไม่โต้ตอบแต่กลับก้มลงมาจูบแทน ปล่อยให้ร่างกายเชื่อมต่อกันเป็นจังหวะจนกว่าจะถึงปลายทาง

   “หึๆ” เสียงไอ้คนที่กำลังนอนทับตัวผมขำในลำคอ

   “ขำพ่อง” ด่ามันหลังจากปรับลมหายใจเป็นปกติ

   “พ่อกูก็พ่อผัวมึงนะ” อยากกัดจนหูมันขาด แต่ก็ได้แค่คิด “มึงเป็นของกูแล้วนะ” เสียงกระซิบข้างหู

   “แล้วเมื่อไหร่มึงจะเป็นของกูบ้าง” ผมถาม ไอ้ซันยกตัวขึ้นมาโดยใช้แขนสองข้างค้ำตัวไว้ มันจ้องหน้าผมนิ่ง

   “กูก็เป็นของมึงแล้วนี่ไง” เชี่ยเอ้ย มันไม่พูดเปล่า แต่ไอ้ส่วนร่างแม่งขยับเฉย

   “ไอ้เชี่ยซัน ลุกไปเลย ก่อนที่กูจะโมโห” ด่ามันแต่มันยังหัวเราะอารมณ์ดี

   “เดี๋ยวกูจะทำให้หายโมโหเอง” รอยยิ้มกับตาของมัน...ไม่นะ

   “ไอ้เชี่ย...อื้ออ” ตะโกนด่าแต่แม่งไม่ได้ผล

   ติ๊ง! เสียงข้อความไลน์ของผมดัง แต่ไอ้ซันไม่ให้เอามาดู ยื่นมือไปมันก็ดึงมือผมกลับมาคล้องคอมันเหมือนเดิม ตึ๊ง ตึ๊ง ตึ๊ง แล้วข้อความก็ดังลั่นรัวๆ ได้แต่เหลือบมองเพราะไอ้คนชอบบังคับมันไม่ยอม เชี่ยเอ้ย แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้มันเป็นเมียบ้างวะ ไม่ยุติธรรมเหี้ยๆ

   “กูรักมึงนะจอม” เสียงกระซิบแผ่วเบาพร้อมประทับจูบบนริมฝีปาก ผมไม่รู้ว่านี่คืออะไรแต่ผมก็ยิ้มตอบ

   “กูก็คิดว่า...กูก็รักมึง”







   (ข้อความไลน์ที่ไม่ได้อ่าน)

   : พี่จอมเป็นไงมั่ง

   : พี่จอมโว้ย ช็อกโกแลตกินได้หรือเปล่า พี่ทำแบบที่ผมบอกหรือเปล่า

   : ทำไมไม่ตอบวะ พี่จอม ผมถามทำไมไม่ตอบ มันอร่อยหรือเปล่า

   : ไอ้พี่จอมโว้ย!!!! แม่งไม่สนใจเลย ไอ้กลอยเสียใจ (สติ๊กเกอร์รูปคนร้องไห้หนักมาก)


........ The End .........


จบไปแล้วค่า พาร์ทของพี่ซัน พี่จอม พี่แกไม่ค่อยจะหวานกันเท่าไหร่ ต่างจากคู่หลังนิดๆ (เนอะ)

ส่วนต่อไปเป็นคู่พี่เบน้องทูนะคะ ฝากติดตามด้วยค่าาา คู่นี้แรกๆ อาจมีดราม่านิดๆ (บอกไว้ก่อนเน้อ)

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่าาา


ปอลอ. พี่ฟลอยด์กำลังจะเปิดหัวนะคะ ฮ่าๆๆๆๆ ไม่รู้จะเป็นยังไง ไม่อยากให้อกหักเพราะรักกลอย (เกรียน)  >w<
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-08-2016 21:34:11
กลอยพี่เขาไม่ได้กินช็อกโกแลตแต่เขากินกันเองอยู่เลยไม่ว่างตอบ :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 15-08-2016 21:45:16
คือจอมอย่างน่ารักกกกกกก อ๊ายยยยยยยยยยยยยย :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 15-08-2016 21:54:34
ชอบจอมซัน มีต่อได้ไหม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 15-08-2016 21:59:01
จงรักษาตำแหน่งภรรยาอย่างเหนียวแน่นสะเถอะนะจอม ปล่อยให้ซันทำหน้าที่สามีที่ดีเถอะนะ หุๆ ส่วนกลอยสงสัย
อยากรู้จัดว่าช็อคโกแลตอร่อยมั้ยนั้น ต้องถามซันนะเพราะซันกินช็อคโกแลตพร้อมกับคนทำไปแล้ว อร่อยมั้ยจ๊ะซัน
ติดตามต่อจ้า พี่เบน้องทู คู่นี้ตั้งตารออ่านอยู่จ้า ส่วนเรื่องของพี่ฟรอยด์ เรื่องต่อไปก็รอลุ้นว่าจะเป็นนายเอกหรือพระเอก
กันนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-08-2016 22:02:29
เรียบร้อย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-08-2016 22:09:36
ซัน จอม รักกันแล้ว ไม่เรื่องมากกันทั้งคู่
ซัน หึงด้วยที่เห็นอยู่กับกลอยในครัว
จอม ก็หึงซันตอนแอบไปโทร
ต่างฝ่ายต่างหึงกัน  :katai2-1:
จอม คนกวน ห่าม โหด ก็กลายเป็นจอม คนเขิน แทน
น่ารัก มีค้อนซันด้วย
ทำช็อกโกแลตให้ซันกินด้วย
แล้ว แล้ว ซัน ก็รักจอม  :-[ :-[ :-[
สุดท้าย ซันก็เป็นของจอม กร๊ากกกก (จอมอย่าทำหน้าดุสิ)
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-08-2016 22:23:48
แหมมม นึกว่าจะมีการราดช็อกโกแลตกินกัน :m25: คู่นี้ไม่หวานมากแต่ก็มีเขินตลอด น่ารัก

รอคู่ต่อไปค่ะ  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 15-08-2016 22:25:44
ชอบจอมซันจริงๆนะ อบากอ่านเรื่องสองคนนี้อีกเรื่อยๆ หวังว่าคงมีสักวันต่อนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 15-08-2016 22:46:28
พี่จอมน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 15-08-2016 22:48:31
 :o8:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 16-08-2016 00:07:54
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-08-2016 00:48:41
หวานไปอี๊ก ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 16-08-2016 02:46:22
หวานกว่าเค้กที่ทำอีก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-08-2016 04:18:02
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 16-08-2016 09:25:11
เขินนน คือมันมุ้งมิ้งเหลือเกินตอนนี้เนี้ย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-08-2016 09:49:48
เอร้ยยยย จอม น่ารักจุงเบยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 16-08-2016 11:28:46
พี่จอมน่ารัก :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 16-08-2016 12:23:02
 :mew3:  พี่ซันพี่จอมจบแล้วหรอออออออยังไม่จุใจเลยอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 16-08-2016 12:57:48
อ๊ากจอมเมียซัน คู่นี้มุ้งมิ้งมาก ๆๆ ครบทุกคู่รวมเล่มตีพิมพ์ด้วยเถอะ อยากได้เก็บไว้อ่านอีกสุดๆๆๆ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ ซัน + จอม [5] UP! // [15/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 16-08-2016 16:57:54
พี่ซันกำลังกินอร่อยเลยกลอยเอ้ย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ เบ+ทู [1] UP! // [16/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 16-08-2016 18:36:31
Just you and I : Part Bae & Two [1]


[Two]

       กราบสวัสดีครับ ผมชื่อทู เป็นลูกคนที่สอง มีพี่ชายหนึ่งคนชื่อ วัน มีน้องชายหนึ่งคนชื่อ ทรี พวกเราสามคนพี่น้องหน้าตาดีกันทั้งบ้าน อันนี้พูดจริงมิได้โม้ ที่ผมเรียนศิลปกรรมเพราะสงสารเพื่อนครับ ไอ้กลอยมันเอ๋อๆ ไม่ยอมมาติวเพราะมันน่ะมัวแต่ไปตามจีบสาว พอถึงตอนสอบมันเลยไม่ติดอันดับแรกๆ มันติดอันดับสุดท้ายกับคณะที่มันเลือก ที่จริงผมติดที่เดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่พอได้มองหน้าไอ้กลอยแล้วเลยสละสิทธิ์เลือกเอาคณะเดียวกับมันแทน ผมเป็นคนดีมากๆ เลยเห็นป่ะ

   ครอบครัวผมเป็นเภสัชกรกันหมด น้องคนที่สามก็เริ่มติวค่ายเภสัช คงจะมีผมคนเดียวที่ผิดแปลก ตอนแรกพ่อก็ตัดเงินผมทุกเดือน แถมยังไม่ยอมกินข้าวรวมโต๊ะเดียวกัน คือโกรธมากจนผมไม่กล้าสู้หน้าเลยขอแม่ไปนอนที่หอ ตอนแรกที่ออกมาอยู่คนเดียวโคตรลำบาก ไหนจะที่นอน ไหนจะเรื่องกิน แต่พอนานวันเข้าก็ค่อยๆ ปรับตัวได้ หอผมกับหอไอ้กลอยไม่ไกลกันมาก ทั้งที่ควรจะมาอยู่ด้วยกันก็ได้ แต่เพราะผมอยากหัดทำอะไรเอง

   เทอมแรกของการเรียนมันเป็นอะไรที่อธิบายไม่ได้เลย ที่ผ่านมาได้เพราะมีเพื่อนๆ ช่วย วิชาวาดรูปอะไรนั่นก็ให้ไอ้กลอยช่วย จนผมต้องไปลงเรียนพิเศษเพิ่มเติม คือมันไม่ไหวอ่ะ จะให้เพื่อนช่วยทุกงานมันก็ไม่ใช่ พอลงเรียนไปหลายครอสก็เริ่มง่ายขึ้น จนพาตัวเองมายืนอยู่ในจุดปีสองได้อย่างสวยงาม

   ผมกับไอ้กลอยสนิทกันมานานมาก จนเรียนมหาลัยตัวผมกับมันก็ยิ่งติดกันจนถูกกลุ่มสาวๆ ในห้องเอาไปตั้งกระทู้คู่จิ้นอะไรสักอย่าง ผมก็เฉยๆ นะ แต่ที่ผมไม่ชอบคือทำไมต้องบอกว่าผมเป็นฝ่ายรับ ทั้งๆ ที่ไอ้กลอยมันขี้แยกว่าผมอีก เห็นมันแบบนั้นมันกลัวเงาะนะจะบอกให้ ผมกับพวกไอ้อัธ ไอ้ม่านเคยหลอกเอาเงาะใส่กระเป๋าแล้วให้ไอ้กลอยล้วง พอมันเอามือล้วงกระเป๋าเจอเงาะ มันร้องไห้วิ่งหนีจนถูกมอเตอร์ไซค์ชน จากนั้นพวกผมเลยไม่แกล้งมันอีก

   ส่วนความรักของผมเกิดขึ้นเมื่อมีคนย้ายเข้ามาอยู่บ้านตรงข้าม ที่จริงก็นานแล้วแต่ผมเพิ่งจะเคยเห็น พี่เขาเป็นคนหน้าตาดี อารมณ์ดี ที่บ้านมีหมาตัวใหญ่สองตัวสีดำ ทุกเช้าพี่เขาจะพาหมาสองตัวไปเดินเล่น เคยเห็นหมาหนึ่งในสองอึออกมาแล้วพี่เขาก็หยิบถุงกับที่คีบเก็บอึหมาตัวเอง ช่างเป็นคนที่รับผิดชอบดีจริงๆ

   แม่บอกว่าพี่เขาชื่อเบ รู้จักชื่อตอนที่เอาแกงไปให้แม่ของพี่เขา ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ม.ปลาย มันเหมือนเป็นรักแรกพบ จนผมเข้ามหาลัยก็ต้องย้ายออกมาเนื่องจากพ่อแอนตี้ โคตรเสียใจที่จะไม่ได้เจอพี่เขาอีก

   แต่ที่ไหนได้ พี่ที่ผมแอบชอบย้ายมาอยู่คอนโดข้างหอพักของผม แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมปักใจได้ยังไง วันที่ไปมหาลัยบังเอิญพี่เบขับรถออกมาเจอผมที่ยืนอยู่ พี่เขาอาสาไปส่ง ตอนนั้นรู้สึกดีใจหล๊ายหลาย แอบมองหน้าหล่อๆ ตลอดทาง เรื่องราวทุกอย่างน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี จนผมขึ้นปีสองเริ่มสนิทกับพี่เบมากขึ้นถึงขั้นไปดูหนังหรือกินข้าวกัน อาจเพราะผมคิดไปเองว่าพี่เขาคงจะชอบผม วันนั้นผมเลยตัดสินใจบอกพี่เขาไปตรงๆ


   “ผมชอบพี่ครับ” ผมพูดไปเขินไป เหมือนตัวเองเป็นสาวน้อยในหนังสือการ์ตูนที่อ่าน หน้าพี่เขาที่กำลังยิ้มแย้มค่อยๆ นิ่งจนคิ้วขมวด

   “พี่ก็ชอบน้องนะ” ประโยคที่ทำเอาหัวใจฟู ก่อนมันจะดับอับเฉาลง “แต่ชอบแบบน้อง”


   จ้องหน้าพี่เขาที่จริงจังซะจนพูดอะไรไม่ออก ผมรู้ว่าคู่ควงพี่เขาบางคนก็เป็นเด็กผู้ชายน่ารักๆ เพราะเคยเห็น แล้วผมไม่น่ารักเหรอ อ่า อาจจะน่ารักน้อยกว่าไอ้กลอย แต่ผมก็มีดีของผม พี่เบมองผมนิ่งๆ ยังไม่พูดอะไรจนเป็นผมที่เริ่มระบายทุกอย่าง

   “พี่ไม่ชอบผมแล้วชวนผมไปดูหนังตอนดึกทำไม ไม่ชอบผมแล้วชวนไปกินข้าวสองคนทุกครั้งทำไม ไม่ชอบผมจะชวนผมไปดูทีวีที่ห้องทำไม พี่แม่งโคตรเลว ให้ความหวังทั้งๆ ที่น่าจะรู้ว่าผมชอบพี่ โคตรเกลียดว่ะ ไอ้ทุเรศ” ตะโกนออกไปทั้งน้ำตา ตอนนั้นโคตรเสียใจ อยากระบายความอัดอั้นออกมา

   “มึงด่ากูเหรอวะ” เสียงตะคอกจนผมสะดุ้ง เป็นครั้งแรกที่ได้ยินพี่เบพูดกูมึงกับผม

   “เออ” ตอบกลับทั้งที่ยังร้องไห้สะอื้น

   “แค่เห็นกูทำดีด้วยหน่อยพอไม่ได้อย่างที่หวังก็ด่ากูเหรอวะ ที่กูทำทั้งหมดเพราะเห็นมึงอยู่ตัวคนเดียวแล้วสงสาร กูไม่ได้ชอบมึง”

   “ไม่ต้องมาสงสารกูไอ้เหี้ย กูไม่เคยต้องการความสงสารจากมึงเลย” ตะโกนครั้งสุดท้ายก่อนจะวิ่งหนีกลับหอพักที่สภาพต่างจากคอนโดหรูใกล้ๆ

   ผมวิ่งไปปาดน้ำตาไปไม่สนแม้จะถูกคนใต้หอพักมองอย่างแปลกใจ ไม่สนอะไรแล้ว เหี้ยเอ้ย นี่ผมมันโง่เองที่คิดอะไรไปคนเดียว ทั้งๆ ที่มันก็คบคนไปทั่ว ลืมคิดไปว่ามันก็น่าจะทำกับคนอื่นแบบนี้หมด ไม่น่าหลงดีใจหลงใหลไปกับอารมณ์บ้าๆ นั่น

   วันต่อมาผมขอย้ายจากหอพักไปอีกที่หนึ่ง แม้จะถูกยึดเงินประกันค่าห้องก็ยอม ผมไม่อยากทนอยู่ในที่เดิมๆ ห้องของผมมันก็เคยขึ้นมา ผมโทรเรียกไอ้ม่านให้มาช่วย มันมองหน้าผมอย่างจับผิด ก็ตาบวมขนาดนี้มันก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา

   “มึงทะเลาะกับพ่ออีกแล้วเหรอ” ยังโชคดีที่ไอ้ม่านคิดแบบนั้น

   “อืม”

   จากนั้นมันก็ช่วยเก็บของทุกอย่างใส่ท้ายรถกระบะคันใหญ่ของมัน ข้าวของผมก็มีไม่มากหรอกครับ ก่อนไปผมหันไปมองคอนโดหรูข้างๆ

        ...ลาก่อน

   การเรียนปีสองไม่ได้หนักหนามากมายแต่แทบตายเลยก็ว่าได้ งานถูกสั่งเข้ามาพร้อมๆ กันจนไม่ได้เว้นให้หายใจ ยกเว้นไอ้เกรียนข้างๆ ผมที่ช่วงนี้มีกำลังใจที่ดี หลายครั้งที่มีคนมานั่งเฝ้าพร้อมพูดจาจริงจังปนเลี่ยนจนอยากจะอ้วก รู้สึกจะชื่อพี่โช

   รายละเอียดที่มันเล่ามาทั้งหมดผมก็ว่า พี่เขาโคตรจริงจังกับมัน คนแบบนี้ไม่ต้องมานั่งกลัวเสียใจอะไรเพราะท่าทางที่แสดงออกกับคำพูดมันออกมาจากใจจริงๆ ไม่เหมือนคนที่ผมเจอ พอนึกถึงก็โกรธตัวเองที่ไปหลงคารมเอาซะได้

   พี่โชมีเพื่อนอีกคนที่ผมพอจะรู้จักบ้าง พี่เขาชื่อจอม ดูเป็นคนกินโคตรเก่ง เจอทีไรเรียกผมไอ้ลูกคนที่สองตลอด แต่หน้านิ่งๆ เวลาไม่ยิ้มนี่อย่างดุ ถ้าให้สนิทด้วยผมกลัวจะถูกบีบคอตายเอาสักวัน

   ตอนนี้ผมมาหอไอ้ม่านกับไอ้กลอย คราสเลื่อนเลยพากันมารวมกลุ่มคุยเรื่องไอ้กลอยเลือกกับแฟนที่คบกัน ผมได้ยินไอ้อัธบอกเรื่องแฟนมันมีชู้หลายรอบแต่ไอ้กลอยไม่เชื่อ จนมันได้เห็นเองกับตาและบอกเลิก แต่ท่าทางมันไม่สลดสนิท สงสัยจะเลิกรักไปแล้ว เมื่อก่อนจะไปไหนทีต้องคอยโทรรายงาน

   พอจะกลับผมถูกมันลากไปหาแฟนมัน ไม่ได้สนิทขั้นนั้นผมก็ไม่อยากไป คือมันวางตัวไม่ถูกจริงๆ แล้วยิ่งพี่เขาหน้าตาโคตรดุ เวลาจ้องหน้าหรือโดนพี่เขาจ้องมันขนลุกแปลกๆ รู้สึกถึงรังสีน่ากลัวอยู่รอบๆ คิดแล้วสยอง

   ไอ้กลอยมันดูท่าจะสนิทกับเพื่อนพี่เขาทุกคน ดูมันยกมือไหว้รอบทิศจนเพื่อนพี่เขาขำ ผมกำลังจะทำตามแต่ตาดันไปเหลือบเห็นคนที่ทำให้ผมต้องย้ายออกหอ ตอนนี้มันก็เห็นผมเหมือนกัน ท่าทางที่เห็นคือมันไม่พอใจเอามากๆ แล้วคิดว่าผมพอใจเหรอ ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตา ไอ้กลอยถามอะไรผมก็บอกว่าอยากกลับอย่างเดียว

   “ไอ้เชี่ยเบเป็นไร ปวดขี้เหรอวะ” มีใครถามสักคน ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหรอก แต่น้ำเสียงที่ตอบก็พอจะรู้

   “เปล่า กูแค่เห็นอะไรที่มันเกะกะลูกตา” เสียงเย็นชาที่ตอบผมก็ยิ่งเม้มปาก

   อยากกลับตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย

   “ลูกตามึงเสือกไปเห็นเองหรือเปล่า”

   “เออ มันเสือกมาอยู่ให้ลูกตากูเห็นไง” ประชดสินะ

   ผมรีบกระตุกแขนเสื้อไอ้กลอยทันที มันคงเห็นผมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลยบอกแฟนมัน ผมลุกขึ้นแต่ถูกพี่จอมเข้ามากอดแน่น ความอุ่นวาบยิ่งทำให้น้ำตาจะไหลออกมา แต่พอมีคนดึงพี่เขาไป ผมก็รีบเดินออกมาทันที โดนมีไอ้กลอยเดินแตะบ่าอยู่ข้างๆ

   “มึงมีอะไรปรึกษากูได้นะ กูเป็นเพื่อนมึงนะ” ไอ้กลอยพูด ผมเลยเงยหน้ายิ้มให้มันนิดๆ รู้สึกแสบจมูกไปหมด การกลั้นร้องไห้นี่โคตรจะทรมานเลย ระหว่างซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของไอ้กลอย ผมก็ซบหน้าเข้าที่หลังของเพื่อน มันคงรู้ว่าผมร้องไห้ เพราะเสื้อด้านหลังมันเปียกน้ำตาของผม

   ขากลับมาที่ห้อง ไอ้กลอยไม่พูดอะไร มันกอดคอพาผมขึ้นห้องตัวเอง ตอนแรกมันก็สงสัยทำไมถึงต้องย้ายหอ แต่ผมแค่บอกว่ากลัวผีมันก็เหมือนจะไม่เชื่อแต่ก็ไม่ถามต่อ ขึ้นมาบนห้อง ผมก็รีบล้มตัวนอนบนเตียงแล้วดึงผ้าห่มคลุมหัวจนมิด

   ...ร้องไห้สะอึกสะอื้น

   ไอ้กลอยมันโทรไปยกเลิกกินข้าวแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอม มันได้แต่ถอนหายใจ ผมเลยเลิกผ้าห่มบอกให้มันกลับ แต่มันก็ดื้อ ผมเลยยอมเล่าทุกอย่างออกไป ตอนเล่า ผมเห็นไอ้กลอยขมวดคิ้วบ้าง ทำปากขมุบขมิบบ้าง สุดท้ายมันก็โทรไปหาเพื่อนอีกสองคนที่ไม่ได้มา ได้ยินคร่าวๆ ว่าจะช่วยผมเรื่องพี่เบ แต่ผมว่า อย่ายุ่งกับเรื่องนี้เลย ปล่อยมันไปแบบนั้นดีอยู่แล้ว พี่เขาก็ดูรังเกียจผมขนาดนั้น

   แกล้งหลับจนเพื่อนที่เป็นห่วงลงไปด้านล่างเพราะได้ยินข้อความดังตลอด คงจะมารออยู่แล้ว ไอ้กลอยมันโชคดีที่เจอคนที่จริงใจ แม้ตอนแรกผมจะห่วงมันเพราะพี่เขาก็ดูเจ้าชู้ แต่พอเอาเข้าจริง พี่เขากลับทำตัวเป็นคนใหม่ บอกเลิกผู้หญิงทุกคนเลยก็ว่าได้ โคตรดี

   พอได้ยินเสียงปิดประตู ผมก็เลิกผ้าห่มออกแล้วนั่งอยู่บนเตียงมองรอบๆ ห้อง มันว่างเปล่า เหลือผมคนเดียวอีกแล้วสินะ ผมเหมือนมีปมด้อยที่อยู่ในใจ การเป็นลูกคนกลางมักจะโดนลืมอยู่บ่อยครั้ง พ่อชอบพี่คนโต แม่เอาใจน้องคนเล็ก ส่วนคนกลางอย่างผมได้แต่กอดตัวเองยามต้องร้องไห้

   กล่องขนมที่วางลิ้นชักตู้หัวเตียงมีความทรงจำช่วงที่ผ่านมา ผมลังเลว่าจะหยิบออกมาเปิดดูดีหรือเปล่า แต่ก็ปล่อยมันทิ้งไว้แบบนั้น ตั๋วหนังทุกใบ สลิปใบเสร็จกินข้าวทุกมื้อ รวมถึงรูปถ่ายจากกล้องโพลารอยของผม มันวงปนๆ อยู่ในนั้น ผมยื่นมือหยิบกล้องตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปสภาพแสนจะดูไม่ได้ของตัวเองไว้ เพียงแค่ชั่วครู่รูปที่ถ่ายก็ปรากฏภาพของผมที่ดูแทบไม่ได้ ตาบวมบูด ผมเผ้ารุงรัง จมูกแดงเป็นลูกตำลึง โคตรอุบาทว่ะมึง ไอ้ทู

   ลุกไปยืนดูตัวเองอีกทีหน้ากระจก หน้าตามึงโคตรทุเรศ มิน่าพี่เขาถึงไม่ชอบ ยิ้มสมเพชให้กับตัวเอง พร้อมกับยื่นมือไปลูบหน้าบวมในกระจก ไอ้ทู มึงอย่าเป็นแบบนี้สิ มึงเก่งออกขนาดนี้ พยายามยิ้มให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด ใช่ ผมต้องหาย กะอีแค่เจอคนไม่ดีผ่านเข้ามาทำเอาเสียศูนย์ไปได้ถึงขนาดนี้

   รีบจัดการอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ แล้วเอาถุงชาที่เอามาแช่ประคบตาบวมๆ หวังว่าพรุ่งนี้มันคงจะยุบนะ มีเรียนเช้าด้วย เอาล่ะ ผมจะเป็นคนใหม่ จะเป็นนิวทูให้ได้ จะไปแคร์ทำไมไอ้ผู้ชายแบบนั้น รักแรกมันก็แค่ทางผ่าน ครั้งใหม่หน้าอาจเป็นรักแท้...สู้โว้ย
   


   “ไอ้เชี่ยกลอยล้มมาไม่ได้?” ไอ้ต๋องมันถาม หน้ามันโคตรจะเอ๋อ

   “เออ โทรมาบอกกูเมื่อกี้” ผมบอก ตอนนี้สภาพผมกลับมาดูดี หล่อเฟี้ยวฟ้าวเหมือนเดิม

   “มันเดินโง่ยังไงให้ล้มหัวเข่าบวมวะ” กูก็อยากรู้เหมือนกันและไอ้เค

   “ไม่ต้องเดินมันก็โง่หรือเปล่าวะ” ไอ้สักพูดปิดท้ายเล่นเอาฮายกแผง

   ไอ้กลอยไม่อยู่สักคน กลุ่มก็ยังเฮฮา แม้จะไม่เท่าเดิมก็ตาม ไอ้คนเจ็บมันเป็นตัวน่าแกล้งสำหรับทุกคน แล้วเป็นประเภทยุขึ้น เคยถูกไอ้สักยุให้ไปปีนมะม่วงตอนไปเข้าค่าย ไอ้กลอยมันปีนขึ้นไปแต่ถึงยอดกลับไม่มีมะม่วงสักลูก พวกผมที่อยู่ด้านล่างก็ฮาขี้แตกขี้แตน สุดท้ายมันปัดรังมดแดงตกลงมา พวกผมวิ่งแตกกระเจิงคนละทิศละทาง แก้แค้นได้เจ็บแสบและคันมาก

   วันนี้เรียนไปง่วงไป เพราะเมื่อคืนเผลอสะดุ้งตื่นหลายครั้งเมื่อไอ้ถุงชาที่วางบนตามันไหลลงมาที่ไหล่ เล่นเอาตกใจจนแทบวิ่ง พอเรียนเสร็จก็เดินเบลอๆ จะกลับ ไอ้ม่านโทรมาชวนไปกินของฟรีตอนเย็นผมก็เออออไปไม่ได้ฟังดี กลับมาถึงหอก็หลับเป็นตาย จนเสียงโทรศัพท์ปลุกถึงลุกขึ้นมานั่งหน้าอืด

   “เออๆ”

   “กูกับไอ้อัธอยู่ข้างล่างเนี่ย รีบๆ ลงมา” เสียงไอ้ม่าน ผมเหลือบมองนาฬิกา ตายห่า เกือบจะทุ่มแล้ว นี่ผมนอนยิงยาวแบบนี้เลยเหรอเนี่ย รีบอาบน้ำแต่งตัวใหม่ใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาทีก้เดินหล่อลงไปข้างล่าง

   “ไอ้เชี่ย” ถูกไอ้ม่านตบหัวไปหนึ่งทีจนเกือบจะสวน แต่รู้ว่าทำผิดเลยปล่อยไปก่อน

   “โทษที กูนอนยิงยาวเลยว่ะ” ผมตอบ ไอ้อัธพยักหน้าแล้วมันก็กอดคอผมเดินไปที่รถมัน โดนมีไอ้ม่านคอยเตะขาผมตลอดทาง ไอ้เชี่ยนี่กวนตีน

   นั่งรถมาพวกมันก็เงียบๆ จนผมสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป จนมาถึงคอนโดใครสักคนที่แม่งโคตรหรู แค่ด้านล่างการตกแต่งก็ดูหรูหรา เข้าลิฟท์มาไอ้สองคนนั้นก็ยังไม่ยอมพูดอะไร

   “มึงพากูมาแดกของฟรีที่ไหนวะ” ถามพวกมัน แต่ไอ้อัธแค่เหลือบตามามองนิดๆ

   “ของดีแล้วกันน่า” เป็นไอ้ม่านที่ตอบแทน

   ประตูห้องที่ไอ้อัธเคาะถูกเปิดกระชาก ใบหน้าที่เห็นคือขมวดมุ่นจนตกใจ เชี่ย นี่ห้องแฟนไอ้กลอยเหรอวะ พอพี่เขาเห็นหน้าพวกผมก็ขยับถอยห่างเพื่อให้เดินเข้ามา ผมก้มหัวทักทายไปดูพี่เขาจะจ้องผมแปลกๆ หรือหัวผมเหม็นหว่า
 
   เดินตามไอ้อัธเข้ามา มองหาไอ้เชี่ยกลอยแต่ดันไปเจอกับคนที่ไม่อยากจะเจอที่สุด แถมพอเห็นผมปุ๊บก็หยุดทุกอย่างทั้งที่เมื่อกี้ยังร้องเพลงเสียงหลงคีย์อยู่เลย ผมยืนนิ่งไม่ขยับถ้าไม่ได้ไอ้อัธดึงไปนั่งคงจะยืนอยู่หน้าประตูตลอด

   ผมนั่งก้มหน้าไม่ยอมแตะอะไรสักอย่าง ไม่สนใจว่าอีกคนจะทำหน้าหรือมีอาการยังไง จนไอ้กลอยเอาแก้วมายัดมือผมเลยยกดื่มรวมเดียวหมด ร้อนท้องแบบสุดๆ ข้าวยังไม่ได้กินด้วย เหมือนทุกอย่างจะเริ่มกลับมาเฮฮาหลังจากพี่ๆ ทุกคนเริ่มแซวไอ้กลอยที่นั่งหน้างอ มันโดนสั่งห้ามกินเหล้าเกินห้าแก้ว อย่างฮา ปกติมันไปกินเหล้าไม่เมาไม่กลับตลอด แต่ก็ได้กลับเพราะผับปิด มันมัวแต่เต้นกว่าจะมากินเหล้าก็เกือบผับปิด

   หมูกระทะเริ่มร่อยหรอ ผมคีบกินบ้างนั่งเฉยๆ บ้าง มันไม่มีอารมณ์จะกินจริงๆ ความดี๊ด๊ากับของฟรีมันหายไปจากหัวสมอง จนเริ่มอยากกลับ

   “ไอ้กลอย กูกลับก่อนนะ” ผมกระซิบบอก แต่มันทำตาโตส่ายหน้าไม่ยอมให้กลับ

   “เชี่ย กูเห็นมึงแดกหมูกระทะคำสองคำ ของฟรีนะมึง” ดูมันเอาของฟรีมาล่อ แต่ตอนนี้ไม่อยากว่ะ

   “อยากกลับมากกว่าว่ะ” ผมบอก มันหันไปมองไอ้อัธที่นั่งข้างผมแบบตื่นๆ แล้วมันก็เอนตัวไปมองแฟนมัน จนผมต้องมองตามเมื่ออยู่ๆ แฟนไอ้กลอยก็พูดขึ้น

   “ไอ้เบ มีอะไรกับน้องเขาก็พูดออกมาตรงๆ ดิ่วะ” ตอนนี้ทุกคนอยู่ในความสงบ สายตาทุกคู่จ้องไปทางคนที่นั่งตรงข้ามผม มันกำลังจ้องหน้าผมนิ่ง

   “กูกลับล่ะ” แล้วมันก็เตรียมลุกขึ้นแต่ถูกเพื่อนตัวเองดึงให้นั่งลงตามเดิม

   “มึงหนีไอ้ลูกคนที่สอง หรือหนีใจตัวเองวะเอาให้แน่” พี่จอมพูด ผมตาโตมองพี่เขา ไม่คิดว่าจะรู้เรื่องของผมด้วย หรือไอ้กลอยมันจะเล่าให้ฟัง

   “มึงพูดเชี่ยไร” พี่เบมันถามเพื่อนมัน พี่จอมมองนิ่งจนน่ากลัว

   “กูพูดตามที่กูรู้สึก นิสัยเสียขอมึงคือชอบหนีปัญหา อย่าเถียงกูด้วย เพราะกูเคยช่วยมึงแก้มาแล้ว” พี่จอมจ้องหน้าเพื่อนตัวเองอย่างจับผิด ส่วนคนถูกมองทำตาเลิกลัก “ที่มึงด่าหรือว่าไอ้ลูกคนที่สองเพราะมึงกลัวว่า ถ้ารักไอ้เด็กนี่ไป มึงกลัวว่ามันจะทำให้มึงเสียใจ เหมือนตอนที่มึงเคยรักไอ้จีนใช่มั้ย”

   พี่เบนิ่งเงียบเอาแต่หันไปมองนอกห้อง สงสัยคงไปจี้ถูกจุดสินะ พี่เขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องไปเที่ยวควงใครต่อใครไปทั่ว

   “มึงก่อกำแพงขึ้นมาเพราะมึงยังลืมไอ้จีนไม่ได้ แถมไอ้เด็กนี่ยังเสือกหน้าคล้ายมันด้วยกูพูดถูกมั้ย อันไหนไม่ถูกมึงก็เถียงกูมา” น้ำเสียงเรียบๆ แต่ฟังแม่งโคตรกดดัน ก่อนเสียงเหี้ยมจะหันมาหาผมแทน “ส่วนมึงไอ้ลูกคนที่สอง”

   “คะ ครับ” แม่งโคตรน่ากลัว

   “ชื่อมึงแม่งโคตรยาว มีชื่อสั้นๆ ให้เรียกหรือเปล่าวะ” แม่ง ตะคอกด้วยอ่ะ

   “ทะ ทูครับ”

   “เออ ไอ้ทู มึงน่ะไม่ผิดอะไรหรอก แค่มึงซวยที่หน้าเหมือนไอ้จีน รักแรกของไอ้เบก็แค่นั้น จบนะ นอกนั้นอยากเคลียร์อะไรก็ไปคุยกันเอาเอง เชี่ย คอแห้ง เอาเหล้ามาดิ๊” ผมมองไอ้ม่านรีบยกแก้วให้พี่จอมทันที ผมมองพี่เขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า ไม่ใช่ซึ้งนะ แต่ตกใจที่โดนตะคอกเมื่อกี้ น้ำตามันเลยเอ่อขึ้นมาเอง พอหันไปมองอีกด้านเจอพี่เบกำลังจ้องผมนิ่ง คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะกระดกนิ้วชี้เรียกผมแล้วชี้ออกไปนอกระเบียง

   จะเอาผมไปฆ่าหรือเปล่าวะ

   ผมพยักหน้าลุกขึ้นแล้วเดินตาม โดยมีสายตาสอดรู้อยู่เต็มห้องไปหมด พอออกมาอยู่ด้านนอก ลมเย็นพัดมาปะทะหน้าแล้วรู้สึกสดชื่นดีเหมือนกัน ดูเหมือนพวกที่อยู่ด้านในอยากรู้เหลือเกิน แต่ละคนขยับมาซะชิดเอาแก้มมาแนบประตูบานกระจกจนปากกับแก้มบี้ไปหมด พี่เบเลยเปิดเข้าไปด่าก่อนรูดม่านแล้วปิดบานประตูเหมือนเดิม

   “พะ พี่มีอะไร” เม้มปากเป็นเส้นตรง ยังจำที่ด่าได้ทุกคำ

   “กูมีเรื่องจะตกลงกับมึง” ผมเงยหน้ามองคนที่มีเรื่องจะคุย “อย่างที่ไอ้จอมมันพูดนั่นแหละ รักแรกของกูคือน้องของมัน แต่มันกลับไม่เป็นแบบที่กูหวัง กูเสียใจจนหนีไปบวชมาแล้ว พอออกมาคิดว่าจะลืมได้ แต่พอเห็นหน้ามึง กูก็รู้ว่า จีนยังอยู่ในหัวกู”
   ผมกระพริบตาไล่น้ำใสๆ ที่เริ่มคลอหน่วยตา

   “หลังจากกูเสียใจวันนั้น กูเที่ยวควงใครต่อใครมากมายทั้งชายทั้งหญิงเพราะกูอยากลืม แต่กับมึง เพราะมึงหน้าคล้ายกับจีน แต่นิสัยโคตรต่างว่ะ จีนเป็นคนรักสะอาด ทำกับข้าวเก่ง แต่มึงโคตรขี้เกียจ ห้องมึงสกปรกจนกูกลัวงู”

   “แล้วพี่จะเอายังไง ผมไม่เข้าไปยุ่งกับพี่ ต่างคนต่างอยู่แล้วไง” ผมบอก มือก็ยกปาดน้ำตาที่เริ่มไหล

   “มึงย้ายจากหอเดิมเพราะกูใช่มั้ย”

   “ไม่น่าถาม”

   “มึงนี่มัน!” พี่เบถลึงตาใส่ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ “พอมึงย้ายไปกูก็กลับมาคิดทบทวน กูสับสนไปหมด จนเจอมึงอีกที ไม่สิ หลายที กูก็ยิ่งอึดอัด มันอธิบายไม่ถูก กูยังรักจีนหรือกูแค่ยึดติด”

   “ที่พี่ทำดีกับผม เพราะผมดันหน้าคล้ายกับรักแรกของพี่ใช่มั้ย” แม่งโคตรเจ็บ พอรู้ความจริงแล้วเจ็บจริงๆ

   “ตอนแรกก็ใช่” ผมถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตา

   “ขอบคุณที่บอกความจริง” ปาดน้ำตาจนไม่มีคราบที่แก้ม “เอาล่ะ ผมรู้แล้ว ต่อไปถ้าเจอกันอีก ไม่สิ ต้องเจอบ้างอยู่แล้วเพราะเพื่อนผมคบกับเพื่อนพี่อยู่ ถ้าเจอพี่ไม่ต้องทักผม เราต่างคนต่างอยู่นั่นแหละที่ดีสุด ผมปลดล็อกเรื่องพี่ได้แล้ว ต่อไปผมก็จะมองหาคนอื่น” ผมบอก แม้จะกลั้นน้ำตาไว้

   “มึงจะมองหาคนอื่นทั้งที่มึงชอบกูอยู่เนี่ยนะ” น้ำเสียงแปลกใจ แต่ผมก็พยักหน้า

   “อืม ผมจะไม่เป็นแบบพี่หรอก ผมไม่ยึดติดอะไร ชีวิตของผมวันนี้คือที่สุด พรุ่งนี้เป็นไงช่างแม่ง” ผมยิ้มให้พี่เบอย่างจริงจังเหมือนกับเมื่อก่อน “ขอให้พี่เจอคนที่รักจริงๆ”

   “ไอ้!” พอผมหันหน้าจะกลับเข้าห้องก็ถูกมือฉุดเข้าไปกอดจนแน่นหายใจแทบไม่ออก

   “พี่!”

   “มึงทำให้กูหัวหมุน ทำให้กูไม่ได้นอนหลับสนิทมาเป็นอาทิตย์ ทำให้กูถูกไอ้เชี่ยจอมด่าแล้วก็จะจบจะจากง่ายๆ แบบนี้เหรอวะ”

   “แล้วพี่จะเอายังไง” เชี่ย ผมพยายามผลักคนที่รัดซะหายใจไม่ออก

   “มึงก็ต้องรับผิดชอบสิวะ”

   รับผิดชอบเชี่ยไร พี่เบเว้ย รัดแน่นจนหายใจไม่ออกแล้วเว้ย” โวยวายจนมันคลายอ้อมกอดลง
 
   “กูจะยอมเป็นแฟนมึง”

   “ห๊ะ”

   ไม่รู้ว่าพี่เบทำหน้ายังไง เพราะหน้าผมยังจมอยู่ที่อกคนกอดอยู่

   “กูบอกว่า กูจะยอมคบกับมึง ยอมให้มึงเรียกกูว่าแฟน”

   “สมองพี่เพี้ยนหรือเปล่าวะ” แล้วผมก็ถูกมันดันออก พี่เบจ้องหน้าผมนิ่ง

   “เพราะกูเคยเจอเรื่องแย่มาก่อน ต่อไปมึงห้ามทำเรื่องแย่ๆ เกิดกับกูอีก เข้าใจมั้ย” มีสั่ง

   “เดี๋ยวๆ ผมยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะเว้ย” พูดเองเออเองคนเดียว

   “กูรู้ว่ามึงดีใจ ไอ้ลูกคนที่สอง” พี่เบยกมือขยี้หัวผมซะเละไปหมด

   บทจะคบกันก็ง่ายเกินจนไอ้ทูคนนี้ตามไม่ทัน แล้วพี่เสียน้ำตาจนจะท่วมโลกคืออะไรวะ แม่งไม่เข้าใจเลยสักนิด ไอ้ทูปวดสมอง

   “แต่เดี๋ยวก่อนพี่เบ” ผมรีบดันตัวออกมาแล้วจ้องหน้า

   “อะไร”

   “ถ้าใครมาถาม พี่ต้องบอกว่าเรายังไม่พร้อมคบกัน หรือไม่ก็บอกว่าพี่อยากได้เวลาคิดสักหน่อย โอเค๊”

   “ทำไมวะ คบกับกูเสียหายตรงไหน” พี่เบมันขมวดคิ้วจนแทบจะชิดกัน

   “ก็ไม่ได้เสียหาย แต่ผมไม่อยากถูกไอ้พวกนั้นมันแซว คือมันไม่ชิน” ผมบอกอย่างเขินๆ ไอ้พี่เบมันก็พยักหน้าตกลง

   “จะคบกันต้องลำบากขนาดนั้นเหรอวะ” พี่เบมันบ่นจนผมขำ

   “คิดซะว่า พี่ทำให้ผมร้องไห้มานานไง”

   “กูผิดตลอดตั้งแต่ต้นเรื่อง เดี๋ยวคอยดูว่าจะยันจบเรื่องหรือเปล่า” ผมหัวเราะ ก่อนปรับสีหน้าให้ดูเศร้าแล้วเดินตามพี่เบออกไป


   พวกในห้องจ้องตาแทบถลนเมื่อเห็นผมเดินออกจากห้องพร้อมพี่เบ ฮาสุดต้องไอ้กลอย มันใช้โอกาสคนอื่นเผลอหยิบแก้วเหล้าจะยกแต่แฟนมันเห็นซะก่อนเลยถูกยึดแล้วผลักจนลงไปนอนหงาย เกือบหลุดฟอร์มเศร้าแล้ว ไอ้กลอยมึงไม่ได้แซวกูหรอก หึๆ       


...TBC       


พาร์ทแรกของคู่พี่เบสายฮา กับน้องทูสายเกรียนและมึน คู่นี้เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ มึนๆ งงๆ ตามสไตล์ประจำตัวนะคะ (เตือนไว้ก่อน) 555

น้องทูอารมณ์แบบมีหวังถูกดับไปก็ต้องน้อยใจเป็นธรรมดา >w<

เจอกันตอนหน้าค่า

 :mew1: :mew1:   
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ เบ + ทู 1] UP! // [16/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 16-08-2016 19:08:01
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ เบ + ทู 1] UP! // [16/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-08-2016 20:27:57
พี่เบ - น้องทู อย่าดราม่ามากนะ ใจไม่ค่อยดีเลย ^^"
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ เบ + ทู 1] UP! // [16/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-08-2016 20:48:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ เบ + ทู 1] UP! // [16/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-08-2016 21:08:30
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ เบ + ทู 1] UP! // [16/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-08-2016 21:27:44
เฮ้ยยยๆๆๆ มันตกลงคบกันง่ายๆแบบเน่เรอะ?? o22 o22
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ เบ + ทู 1] UP! // [16/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-08-2016 21:42:45
ในที่สุดพี่จอมก็โดนจับกิน ฮ่าๆๆๆๆ เป็นเมียพี่ซันน่ะรุ่งสุด
คู่พี่เบน้องทูดราม่าแบบแอบฮ่าด้วย จะง่ายก็ง่ายเลย คบกับแล้ว แต่กลัวโดนแซวซะงั้นน่ะทู คิกๆๆๆ
พี่ฟลอยมาเมื่อไรบอกกันด้วยน่ะ
แอบคิดถึงพี่โชน้องกลอยนิดๆๆแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ เบ + ทู 1] UP! // [16/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 16-08-2016 21:57:55
พี่เบน้องทูกริ๊วๆ :mew5: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 17-08-2016 00:01:42
Just you and I ตอนพิเศษ : ฝอยขัดหม้อ



        ฟลอยด์ชื่อที่ดูราคาแพง แต่พอถูกเรียกฝอยขัดหม้อปุ๊บ แทบอยากจะเอาเท้าก่ายหน้าผากหากเป็นชื่อของตัวเอง อยู่ๆ ผมก็ได้ยินพี่โชพูดชื่อนี้หลังจากที่ผมขึ้นมานั่งบนรถจนต้องขยี้รูหูอีกรอบเพราะกลัวจะฟังชื่อผิด

   สาเหตุจากพี่ฟลอยด์มาดักรอผมใต้ตึกแล้วบังเอิญเจอพี่โชมารับพอดี จึงเกิดการปะทะสายตากันเล็กๆ น้อยๆ พี่โชมีแบล็กดีนิดหนึ่งจากกลุ่มสาววายที่ค่อนข้างออกนอกหน้านอกตา

   ผมที่เอนไปทางพี่โชนิดๆ ก็เริ่มเกรงใจ

   พี่ฟลอยด์ที่พวกอีเข็มบอกว่ามาจอดรถดูผมอยู่ทุกวัน อีนี่เป็นสายให้พี่โชด้วย เพราะแบบนี้หรือเปล่าพี่โชถึงดึงดันจะมารับผมให้ได้

   “ทำไมต้องไปคุยกับมัน” มาแล้วครับ พ่อคนขี้หึงเริ่มออกอาการแล้ว

   “ก็พี่เขาคุยมาก่อนอ่ะ” ผมว่า ตาก็มองดูเด็กกินไอศกรีมอยู่ท้ายมอเตอร์ไซค์

   “ใครมาคุยก็ยอมคุยไปทั่วงั้นเหรอ”

   “พี่โชไม่มีเหตุผล พี่เขามาคุยด้วยเฉยๆ”

   “แต่ท่าทางมันไม่เฉย” แน๊ะ ยังมาเถียงอีก

   “เออ ไม่เฉยก็ไม่เฉย” แต่พอยอมพี่แกก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ เอาใจยากจริงช่วงนี้

   “อยู่ให้ห่างไอ้ฝอยขัดหม้อนั่น ห้ามให้มันอยู่ใกล้เกินห้าร้อยเมตร” คำสั่งนี่คิดมาดีแล้วใช่มั้ยครับ

   “พี่โช” ผมเรียกชื่อคนออกคำสั่งเสียงสูง “พี่เขาไม่ได้ชอบผมแล้วจริงๆ นะ” ผมเถียงไปคนข้างๆ ก็ทำหน้าไม่เชื่อ แล้วจะให้ไอ้กลอยทำยังไง

   “คนมันชอบ นานยังไงมันก็ยังชอบ” พี่โชพูดพลางเหล่ตามองผมนิดๆ

   “โหย ไม่หรอก ตอนนี้พี่เขาไปยุ่งกับคนอื่นแทนแล้ว” แม้ไม่เห็นเองแต่ก็พอรู้มาบ้างจากเพจสาววายที่พวกอีเข็มเอาให้ดู
 
   “ใคร” ที่งี้เสียงอ่อนลงเชียวนะ
 
   “ไอ้ต้อม” ผมบอก พี่โชเบิกตากว้าง

   “พูดจริงพูดเล่น” ผมพยักหน้าหนักแน่น “ไม่น่าเป็นไปได้”

   “ทำไมเป็นไปไม่ได้อ่ะ” ผมถาม พี่โชหันมาจ้องผมนิ่งเมื่อติดไฟแดง

   “กลอยกับต้อมไม่เหมือนกันไง” พี่โชพูดเอาผมทำหน้างง ไม่เหมือนยังไงวะ

   “ยังไงอ่ะ”

   “ต้อมนิสัยเป็นยังไง” พี่โชถาม อยากรู้ทำไม

   “มันก็ห่ามๆ ห้าวๆ เหมือนผู้ชายทั่วไป” ผมบอก พี่โชพยักหน้า

   “แล้วกลอยนิสัยยังไง” ผมนิสัยยังไงวะ คิดนานไปหน่อยเลยถูกดีดหน้าผาก “กลอยนิสัยกวนตีน แต่ก็น่ารัก” ตอนแรกเกือบจะงอนแล้วนะ แต่คำชมตอนหลังก็พอยิ้มได้ “ไอ้ฝอยขัดหม้อไม่น่าจะชอบคนห้าวๆ แบบต้อม”

   “พี่โชยังชอบคนเกรียนๆ แบบผมเลย คนเรามันเปลี่ยนกันได้” ผมบอกพร้อมรอยยิ้ม ก็แหม รูปที่โดนแอบถ่ายมันออกจะน่ารัก

   “ยิ้มทำไม” แค่ยิ้มก็ผิดอ่ะ

   “ก็นี่ไง” รีบล้วงมือถือจากกระเป๋าเป้แล้วเปิดเพจให้พี่โชดู พอเห็นก็แทบจะขยี้ตา

   “ตัดต่อหรือเปล่า” แน๊ะ ไม่เชื่ออีก เลื่อนดูรูปอื่นๆ อีกจนพี่โชจ้องหน้าผม “มันเปลี่ยนไปแล้วสินะ”

   “อื่อ บอกแล้ว” ผมยิ้มกว้าง

   “แล้วมันมาจอดรถหน้าตึกทำไม” นั่นผมก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ วันไหนไม่มีเรียนพี่เขาก็มาจอดที่นี่แหละ แต่พอคิดอีกทีก็เหมือนจะรู้อ่ะ ไอ้กลอยเดาเก่ง ขนาดคู่พี่ซันกับพี่จอมยังแม่นขนาดนี้

   พอรถเคลื่อนตัวผมก็ร้องบอกอยากกินไอศกรีม พี่โชมันก็ยอมเลี้ยวเข้าห้าง พี่แกตามใจผมจนผมเริ่มนิสัยเสีย ขนาดแม่กับพี่กิ่งยังว่า ตอนกลับบ้านผมไม่ยอมช่วยงานจนถูกดึงหูแทบยาน ต้องโทษพี่โชสิ ทำให้ผมเป็นมนุษย์ขี้เกียจ

   เดินเข้ามาในห้าง พี่โชก็แอบเนียนยกแขนพาดคอผมเฉย ผมก็หน้ามุ้ยเพราะแขนมันหนัก แต่ก็ปล่อยไว้แบบนั้น ขืนไปขัดใจองค์จะลง เหนื่อยผมอีก เราสองคนเดินเข้าร้านไอศกรีมสีน้ำเงินขาว สั่งแบบเซ็ทใหญ่มาหนึ่งเซ็ทแล้วค่อยกินด้วยกัน ระหว่างรอก็มองนั่นมองนี่

   “อะ” ผมหันมองตรงหน้า พี่โชยื่นดอกกุหลาบมาให้
 
   “นี่มันดอกที่ร้านเขานี่นา” ผมว่า พี่โชก็หัวเราะก่อนเอาเก็บที่เดิม

   “อยากได้เหรอ เดี๋ยวค่อยแวะซื้อ” ผมพยักหน้า แต่เอาดอกไม้ที่ชุบแป้งทอดแล้วกินได้นะ เห็นในเว็บแล้วอยากจะลองทำ ก่อนจะรีบส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินเสียงกระซิบ “พอกลับถึงห้องก็เอาไปโปรยในอ่างน้ำแล้วก็บนเตียง” พูดไปขยิบตาไป โอ้ย ลุงหื่นตลอด ไอ้กลอยรับไม่ได้ มันเขิน       

   ผมรีบหันหน้าหนีเมื่อคนตรงหน้าหัวเราะเหมือนปีศาจหื่น ก่อนจะสะดุดตากับผู้ชายใส่ชุดนักศึกษาสองคนกำลังเลือกซื้อรองเท้า ผมรีบสะกิดพี่โชให้ดู

   “พี่โช ดูนู้นสิ” ใช้ปากชี้ให้ดูคู่นั้น

   “ไอ้ฝอยขัดหม้อ?” น้ำเสียงไม่มั่นใจก่อนจะยืดคอมองตามเมื่อสองคนนั้นเดินเข้าไปด้านในร้าน

   “พี่โชอ่ะ อย่าเรียกชื่อพี่เขาแบบนั้นได้หรือเปล่า ผมฟังแล้วโคตรเสียใจแทน” มันช่างเจ็บปวดจนอยากจะหัวเราะ

   “จะเรียก” เอ่อ เรียกไปเลย

   แล้วไอ้ศกรีมชุดใหญ่ก็มา ผมรีบจ้วงกินเพราะความหิว เมื่อกี้น้ำลายแทบหกตอนเห็นเด็กคนนั้นกิน พี่โชกินนิดเดียวก็วางช้อนลง พี่แกไม่ชอบของหวาน เลยกลายเป็นว่า ถ้วยใหญ่ๆ นั่นผมกินจนหมด

   “อิ่มมั้ย เอาอีกหรือเปล่า” พี่โชถามผมรีบส่ายหน้าทันที กินแล้วมันเย็นที่ท้องสุดๆ พอเดินไปคิดเงินเสร็จผมก็หยุดเดินจนพี่โชหันมามอง “เป็นอะไร”

   “รู้สึกแปลกๆ ว่ะพี่” ผมบอก เอ่อ ขนแขนเริ่มลุกเกรียว

   “ทำไม” พี่โชถามหน้าตาตื่นเมื่อเห็นผมเริ่มหน้าซีด

   “ปวดขี้ว่ะ” บอกไปเบาๆ จนพี่โชขำ ปวดขี้นี่ไม่ขำนะครับ

   “รีบไปห้องน้ำไป” แล้วผมก็รีบวิ่งจนขาแทบพันกัน สงสัยเพราะกินมากไปท้องเลยไม่รับ

   เชี่ย รีบวิ่งเข้าห้องน้ำจนเกือบไม่ทัน ผมนั่งปลดปล่อยทุกอย่างโดยพี่โชรออยู่ข้างนอก ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงถึงออกไป เห็นพี่โชยืนคุยกับไอ้ต้อมอยู่ ไปเจอกันได้ยังไงเนี่ย ผมก็รีบสาวเท้าเข้าไปหา

   “ไอ้ต้อมเพื่อนเลิฟ” ตบบ่ามันไปทีหนึ่ง ไอ้ต้อมก็ยิ้มให้ผม “มึงมาทำไรวะ แล้วมากับใคร” แม้จะรู้แต่ก็อยากจะถาม

   “มาซื้อรองเท้าว่ะ ของกูแม่งขาดตอนลงแปลง” ไอ้ต้อมว่า แต่มันยังไม่ยอมตอบอีกคำถาม จนคนที่น่าจะตอบแทนเดินออกมาจากร้านขายเสื้อยี่ห้อแพง

   “พี่ฟลอยด์มาซื้อเสื้อเหรอ” ผมทักทายอย่างเป็นมิตร พี่ฟลอยด์ก็ยิ้มมาให้หากไม่เจอเสียงขัดกลางปล้องจนหน้าหุบ

   “มันเข้าร้านเสื้อก็ต้องซื้อเสื้อสิ จะให้ซื้อข้าวหรือไง” พี่โชจ้องตาขวางจนผมกลัว

   “แล้วจะทำไม” พี่ฟลอยด์เดินมายืนประชันหน้าจนใจผมเริ่มเสีย ไอ้ต้อมก็เริ่มหน้าเสียนิดๆ คงไม่อยากมีเรื่อง

   “เอ่อพี่โช กลับเหอะนะ” ผมรีบดึงแขนแต่พี่โชไม่ยอมขยับ

   “ไอ้ฝอยขัดหม้อ มึงไปจอดรถหน้าตึกคณะแฟนกูทำไม” ผมเบิกตากว้างมองพี่โชถาม แต่ที่ตกใจคือการเรียกชื่อ พี่ฟลอยด์ขมวดคิ้วแต่ไอ้ต้อมมันหัวเราะ

   “เรียกใครวะ” พี่ฟลอยด์ยังขมวดคิ้ว

   “พี่เขาเรียกพี่นั่นแหละ พี่ฝอยขัดหม้อ” ไอ้ต้อมบอกแล้วหัวเราะเสียงดังจนโดนพี่ฟลอยด์เขกหัว

   “กูชื่อฟลอยด์ไม่ได้ชื่อฝอยขัดหม้อ” ขึ้นกูแล้วแสดงว่าโกรธจริง รีบมองซ้ายแลขวากลัวยามจะวิ่งเข้ามาล็อคตัว

   “กูจะเรียก มึงจะทำไม ไอ้ฝอยขัดหม้อ” ผมหันไปมองไอ้ต้อมที่ยังปิดปากหัวเราะจนโดนถลึงตาใส่อีกรอบจากพี่ฝอย เอ้ย พี่ฟลอยด์

   “พี่โช กลับเถอะนะ เดี๋ยวผมปวดขี้กลางทางนะเออ” หาข้ออ้าง พี่โชเลยก้มมองผมนิดๆ แล้วยอมเดินตามแรงดึง ส่วนพี่ฟลอยด์ก็จ้องไอ้ต้อมที่หัวเราะอยู่ คู่นั้นจะหวานแบบคู่นั้นหรือเปล่าวะ แต่พี่ฟลอยด์ก็นิสัยดีนะ อบอุ่นด้วย




   “ห้ามทำไม” พี่โชกระฟัดกระเฟียดหลังจากกลับมาถึงห้อง

   “ก็จะไปมีเรื่องกับเขาทำไม พี่ก็รู้ว่าพี่เขาไม่ได้ชอบผมแล้ว” แค่เห็นตอนมองไอ้ต้อมผมก็รู้ สายตาแบบพี่ซันเป๊ะ ต่อไปต้องเรียกฉายาใหม่ของผมว่า โคนันกลอยนะครับ

   “เออ ถึงมันไม่ชอบแล้วก็อย่าไปใกล้ มันไว้ใจไม่ได้” สั่งเสียงเข้ม ผมก็เลยล้มตัวนอนเอาหัวหนุนขาพี่โชดูทีวีไป

   “คบกันมาตั้งนาน พี่ยังหวงผมอยู่อีกเหรอ” ผมถามแต่ตายังมองหน้าจอโทรทัศน์

   “ไม่ว่าจะกี่ปีก็ยังหวงตลอดนั่นแหละ” ก้มลงมาจูบหน้าผากผมเบาๆ “แล้วไอ้เด็กสามคนนั้นอีก รีบจัดการก่อนที่พี่จะเข้าไปหาเอง เข้าใจมั้ย” นี่ก็ปวดหัวมากสำหรับผม พี่โชสั่งพวกแฟนคลับกันผมทุกวิถีทางจนพวกเด็กปีหนึ่งเริ่มเข้าหาไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ยอมถอดใจ ผมละเหนื่อยจริงๆ

   “รู้แล้วครับๆ” ผมยื่นมือบีบจมูกโด่งของพี่โชอย่างหมั่นไส้ คนอะไรจมูกโด่งเกิน ได้ยินพี่โชขำให้ลำคอนิดๆ ก่อนยึดมือผมไว้ ริมฝีปากแดงจูบเบาๆ ที่นิ้วให้รู้สึกหน้าร้อนนิดๆ

   “ยั่วตลอด” ผมไปยั่วตอนไหนครับ พี่โชลุกจากโซฟาผมก็มองตามเห็นเปิดเอาอะไรสักอย่างในถุง คงไปซื้อระหว่างรอผมเข้าห้องน้ำ

   “อะไรอ่ะ” ผมพลิกตัวมองดูคนที่จ้องถุงแล้วยิ้ม

   “เดี๋ยวก็รู้” พี่โชว่า ผมก็เลยรีบเดินตามเข้าไปในห้อง มันอยากรู้นี่หว่า

   ในห้องนอน เตียงกว้างสีขาวสะอาด พี่โชล้วงมือเข้าไปในถุงก่อนหยิบของบางอย่างออกมาแล้วโปรยบนเตียง เชี่ย กลีบดอกกุหลาบสีแดงครับ ผมตาโตมอง ไม่ใช่ปลื้มใจหรอกนะ แต่ผมขี้เกียจเก็บ เล่นอะไรวะเนี่ย

   “พี่โช มันสกปรกนะเว้ย” โวยวายไปก็แค่นั้น เพราะคนทำเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว...อย่าบอกว่าจะเอาโปรยในอ่างน้ำจริงๆ แบบนั้นท่อตันพอดี

   อ่างน้ำที่มีน้ำเปิดเต็มด้านหน้าเต็มไปด้วยกลีบดอกกุหลาบ แม้จะรู้ว่าอยากสร้างบรรยากาศ แต่น่าจะหาอะไรที่มันทำความสะอาดง่ายๆ หน่อย พอเห็นผมหน้างอ พี่โชก็เดินมาช้อนอุ้มจนตัวผมลอย ตกใจจนต้องรีบคว้าหมับเข้าที่คอ

   “พี่โช ไม่เอาโว้ย” วางผมที่ยังสวมชุดนักศึกษาในอ่าง ชุดเปียกหมด แบบนี้ไม่ตลกนะเว้ยเฮ้ย พอเงยหน้ามองคนทำก็เอาแต่ยิ้มหื่น ตาเป็นปีศาจจ้องจะกินเหยื่อ

   “มาสร้างบรรยากาศกัน” พูดแล้วค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น ผมยืนมองจนจงใจยั่วทางสายตาแล้วก็แอบเขิน ร่างสมส่วนมีกล้ามนิดๆ เปลือยกายต่อหน้า ขายาวก้าวลงมาในอ่างที่ผมนอนแช่อยู่ทั้งเสื้อกับกางเกง

   “เล่นเป็นเด็กว่ะ” บอกไปแม้จะเขิน

   ความอุ่นโฉบประกบปากจนแนบแน่นปลุกความต้องการให้ลุกโชน เสื้อผ้าของผมเริ่มปลิวกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง มือร้อนไล้ตามหลัง ความรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ

   “อื้อออ” รีบผลักพี่โชให้ออกห่างจนคนจูบแปลกใจ แต่ก็พยายามจะเข้ามาจูบอีกแต่ผมก็ผลักออก

   “อะไร” พี่โชถามเสียงเขียว ดูก็รู้ว่าของอันตรายพร้อมออกศึกเต็มแก่

   “รอแปบหนึ่งได้ป่ะ” ผมบอกยิ้มๆ แต่หน้าพี่โชไม่ยิ้มสักนิด

   “รออะไร พี่จะไม่ไหวอยู่แล้ว”

   “ผมก็จะไม่ไหวเหมือนกัน”

   “ก็แล้วมันอะไร” จะเริ่มเข้ามาคลุกวงในแต่ผมผลักจนกระเด็น

   “ก็ผมปวดขี้อีกแล้ว” ว่าเสร็จก็รีบลุกไปนั่งโถส้วมที่อยู่ไม่ห่างเท่าไหร่ “รอแปบนะ อื้อออ”

   “ไอ้เชี่ยกลอย มึงทำให้หมดอารมณ์ตลอด เหม็นขี้โว้ย” ผมหน้ายู่เมื่อต้องเบ่งความเจ็บปวดออกไป อยากจะขำพี่โชที่พุ่งพรวดออกจากห้องน้ำพร้อมคว้าผ้าเช็ดตัวแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะข้าศึกมันมาเยอะเหลือเกิน โอ้ว



   ไอ้กลอยจะไม่กินไอศกรีมเซ็ทนั้นอีก




   สุดท้ายผมต้องไปนอนให้น้ำเกลือเพราะอาหารเป็นพิษ จบกันไอ้กลอยเกรียน   


................. The End ........................



จัดคู่พี่โช น้องกลอยมาสักหน่อย กลัวจะลืมคู่นี้ค่าาา (ล้อเล่น)

ต้องขอบคุณเพื่อนนักอ่านท่านหนึ่งที่ได้ให้ฉายานี้มา เลยเกิดตอนนี้ขึ้น ขอบคุณค่าาา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-08-2016 00:35:37
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-08-2016 01:02:35
 :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 17-08-2016 06:35:32
 :mew1:ข
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 17-08-2016 06:53:22
...ตกม้าตายตอนจบ ฮ่าๆๆๆๆ เกือบฟินแล้วเชียว  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-08-2016 08:17:14
เป็นเกียรติมากค่ะ :o8: :-[
เหตุเกิดจากฟลอยด์พิมยาก+ช่วงนั้นน่าหมั่นไส้มาก
เลยพิมฝอยขัดหมัอซะเลย55555
จบได้สมกับเป็นกลอยสุดเกรียนมาก :pigha2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-08-2016 08:46:50
ความโรแมนติกยังต้องแพ้ขี้  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 17-08-2016 08:57:14
หมดกันความโรแมนติก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-08-2016 08:57:53
อุตส่าห์บิ้วอารมณ์
โปรยกลีบกุหลาบ บนที่นอน ในอ่างอาบน้ำ
พออารมณ์มา กลอยกลับบอกรอไม่ได้
แต่ปัดมือพี่โชออกตลอด  สงสัย ทำไมรอไม่ได้
ที่แท้ปวดขี้ ฮา ก๊ากกกก ลั่นเลย หมดกัน
พี่โช เผ่นหนีไม่ทันเลย ท้องเสีย เพราะอาหารเป็นพิษ
สุดๆ เลย กลอยเกรียน

ชอบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ไร้ท์ ใส่คิดบวกในเรื่องมาตลอด นอกจากความฮา
-ความเอื้ออาทรต่อสัตว์โลก กลอยดูแลลูกหมา แม่ครีม
-รักหมาต้องรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย พี่เบพาหมาไปวิ่งเล่น
แล้วเตรียมอุปกรณ์เก็บขี้หมาของตัวเอง ใส่ถุงไปทิ้งขยะด้วย
-ความรักของพ่อแม่ที่รักโดยไม่มีข้อแม้ ขอแค่ลูกมีความสุขก็พอแล้ว
ุ-ความไม่ถือโกรธ พยาบาท คิดแค้น กับคนที่ทำร้ายตัวเองของกลอย
-ต้อมดูแลแปลงผักปลอดสารพิษ ที่มีคนไปขโมยผัก แต่ก็ไม่โกรธ
-ต้อมถูกพี่ฝอยขัดหม้อ ถอยรถเหยียบจักรยานเศษเหล็ก
พี่ฝอยชดใช้เงินถึงสามพัน แต่ต้อมไม่ยอมรับเงินเลย อยากได้แค่คำขอโทษ
-ความรักของเพื่อนๆที่มีให้กัน กลอย อัธ ม่าน ทู ต้อม
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 17-08-2016 09:14:33
พี่โช เเกบิ้วอารมณ์ ด้วยการโรยกลีบกุหลาบ อิกลอยเเมร่งกลัวท่อตัน 555555  :laugh:  :laugh: เออออ คิดได้ไง นึกภาพออกเลยทีเดียว เบื้องหลังความโรเเมนติก คือการสวนท่อ 55555555
ฝอยขัดหม้อ ยังไงก็คือฝอยขัดหม้อ เเม้เเต่อิต้อมยังขำ ชื่อดูเเพง เเมร่งเรียกซะฮา ไม่ถงไม่ถามพี่ฟลอยด์ซ๊ากกกกคำ มะคืนแอบหนีไปนอนก่อนไม่ทันอ่าน มาอ่านตอนตี5 ลั่นซะฮา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 17-08-2016 11:40:21
กลอยแกทำให้พี่โซอดอีกแล้วนะ :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-08-2016 14:17:26
 :hao5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-08-2016 17:30:20
น้องกลอยผู้น่าสงสาร แต่!!! พี่โชน่าสงสารมากกว่า หมดกันบรรยากาศที่กำลังสร้าง :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 17-08-2016 17:39:49
กร๊ากกกก สงสารพี่โช ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-08-2016 17:42:50
คราวที่แล้วก็ตด คราวนี้ก็ขี้ กลอยนี่ช่างเป็นตัวทำลายบรรยากาศโดยแท้~~~ :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 17-08-2016 18:50:44
กลอยเกรียนเอ้ย
ทำอารมณ์โรแมนติคพี่โชหดหมด  :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 17-08-2016 19:34:01
ก้ากกกกก ขำ ขำอ่ะฝอยขัดหม้อ  555 น้ น้องกลอยคือความฮาของเรื่องจริงๆกำลังจะเข้าได้เข้าเข็มยังปวดขรี้ได้ถูกเวลาอีก 555 พี่ พี่เบน้องทูก็น่ารักพี่เบนี่ออกจะฮาๆมึนๆกวนกวนนะน้องทูก็กวนกวนเกรียนๆ  พี่เบรับรองไม่ผิดหวังครั้งนี้น้องทูเราไม่เหมือนน้องจีนน้่าาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 17-08-2016 20:42:38
แอร๊ยยยย คู่นี้อร่อยจริงๆ เมะชนเมะคือสุดยอดดดด  o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: ฝอยขัดหม้อ UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 17-08-2016 21:07:27
5555555555
ไม่เหลือ หมดไส้หมดพุงเลย กลอยมันเกรียนได้ตลอด สงสารพี่โชจัง อดอีกแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:Bae &Two[2] UP!// [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 17-08-2016 22:14:03
Just you and I : Part Bae & Two [2]


[Two]

      ผมแอบคุยกับพี่เบตลอด บางครั้งก็ไปกินข้าวกันบ้าง ทำไมต้องแอบนะเหรอ เพราะผมยังไม่พร้อมจะถูกกดดันทางสายตาจากทุกคน แต่แล้วเรื่องของผมก็ถูกลืมเมื่อไอ้กลอยเจอเรื่องโคตรเลวร้าย ผมกำลังนั่งกินไอศกรีมกับไอ้ม่านเพราะมันชวนให้ไปเป็นเพื่อนซื้อของ กินได้ไม่กี่คำไอ้ม่านก็รับโทรศัพท์ คนโทรเข้าคือพี่โชแฟนไอ้กลอย ผมก็มองอย่างไม่เข้าใจ จนไอ้ม่านทำหน้าตื่นแล้วบอกให้รีบลุก

   ระหว่างทางไอ้ม่านมันเล่าเรื่องที่ได้ยินให้ฟังจนผมตกใจ ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ผมเห็นแต่ในละครในนิยายเท่านั้นแบบนี้ ไม่พอใจก็พาพวกไปรุมทำร้าย ถ้าเกิดไอ้กลอยมันหนีไม่ได้ แล้วเพื่อนผมมันตายขึ้นมาล่ะ แค่คิดก็กลัวแล้ว

   พี่โชมองพวกผมสองคนนิ่ง นัยน์ตาคู่นั้นมันน่ากลัว ตอนถูกจ้องเหมือนจะถูกเชือดคอแบบนั้น ก่อนพี่เขาจะออกจากห้องไปโดยฝากไอ้กลอยไว้กับพวกผม พอพี่โชไป ไอ้กลอยก็เริ่มเดินไปเดินมา เสื้อผ้าที่มันถอดทิ้งไว้สภาพย่ำแย่สุดๆ เสื้อถูกดึงจนฉีกขาด นี่กะจะฆ่ากันเลยหรือไง

   “มึงได้ต่อยมันไปหรือเปล่าวะ” ไอ้ม่านถาม มันหยิบเสื้อให้กลอยขึ้นมาดูนิ่ง

   “เออดิ่ แถมกูต่อยผู้หญิงด้วย โคตรแมนอะกู” น้ำเสียงมันเหมือนรู้สึกผิด แต่ผมว่ามันน้อยไปนะ พวกนั้นมันเกินจะเป็นมนุษย์ ทำอะไรไม่คิด

   “มึงทำถูกแล้ว อย่าคิดมาก” ผมปลอบแต่ไอ้กลอยมันยังทำหน้าหงอย มันเป็นคนดี จิตใจดี เพราะแม่มันเลี้ยงและสอนมาดี “เอาน่ามึง” ตบบ่ามันไป

   “เป็นกู กูจะทำยิ่งกว่าต่อยอีกไอ้สัด” ไอ้ม่านว่า มันเดินมาจากโซนห้องครัว ในมือมันถือถุงแอปเปิ้ลมาด้วย ก่อนมันโยนให้ผมด้วยหนึ่งลูก ไอ้กลอยมันเหล่มองแต่ก็ไม่ว่าอะไร

   “นั่นผู้หญิงนะมึง” ไอ้กลอยมันว่า

   “ผู้หญิงมีสิทธิ์ตอบโต้ได้เพศเดียวหรือไงวะ พวกเราก็ต้องป้องกันตัวสิ ไม่ทำก็ควายแล้ว” ไอ้ม่านว่าแต่ไอ้กลอยส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

   พวกผมอยู่กับไอ้กลอยจนมันรำคาญ ก่อนจะเริ่มเฟสไทม์หาไอ้อัธเพราะอยากเห็นสภาพ พอได้เห็นก็แอบกลัว สภาพแต่ละคนเละยิ่งกว่าโจ๊กอีก ผมเห็นพี่จอมถือไม้เปื้อนเลือด พี่โชกำลังบีบคางไอ้คนเต็มไปด้วยเลือด คุยได้นิดหน่อยก็วางไป

   และแล้วพวกที่ทำเพื่อนผมก็ได้บทเรียนที่สาสม กลุ่มผู้หญิงถูกบังคับให้ลากออกทันทีเพราะพี่ซันบอกป้าตัวเองที่เป็นอธิการบดีมหาลัย เล่นเส้นสุดๆ แม้พ่อของหัวหน้าสาวจะมียศใหญ่ แต่เจอยศใหญ่กว่าข่มเลยทำอะไรไม่ได้ โคตรสะใจ ส่วนคนอื่นๆ ก็ถูกตำรวจดำเนินคดี แต่มีอยู่คนหนึ่งที่รอด นั่นคือแฟนเก่าไอ้กลอย และไม่รู้ว่าหายไปไหนหลังจากถูกไล่ออก



   เรื่องราวร้ายๆ ผ่านไป ดูพี่โชโคตรจะห่วงไอ้กลอยมากขึ้น เพราะไปรับไปส่งตลอด แถมยังโทรหาทุกชั่วโมงจนบางทีไอ้กลอยถูกอาจารย์ดุเพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์ ส่วนผมถึงแม้จะเริ่มคบกับพี่เบ แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการมาส่งที่มหาลัยทุกวัน ที่น่าแปลกคือ ทำไมต้องเปลี่ยนรถ

   “ทำไมเอารถคันนี้มาส่งผมอ่ะ” คือปกติรถที่เขาใช้สีดำครับ แต่นี่เอาคันสีส้มมาใช้

   “ก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้ไม่ใช่เหรอ นี่พี่ทำเพื่อทูเลยนะ” พี่เบยิ้มหวานจนผมเขิน “แล้วให้แทนตัวเองว่าอะไร”

   “ทู”

   “ใช่แล้ว”

   ผมขยับหัวหนีเมื่อถูกมือใหญ่ขยี้จนผมเผ้ายุ่งเหยิง

   “ถ้าทูถามเรื่องหนึ่ง พี่เบจะโกรธหรือเปล่า” ผมจ้องหน้า เพราะบางอย่างมันรบกวนจิตใจ

   “อะไร ถามได้”

   “ตอนพี่คบกับน้องของพี่จอม เขานิสัยยังไงเหรอ” ผมไม่อยากทำตัวซ้ำกับเขา เพราะกลัวจะถูกมองเป็นตัวแทน พอผมเริ่มมีคนรักก็อยากทำให้เขารักผมจริงๆ พี่เบเหลือบตามามองผมนิ่งๆ และคิดอยู่นานกว่าจะตอบออกมา

   “จีนเป็นคนน่ารัก ขี้อ้อน” พี่เบยิ้ม คงกำลังคิดถึงหน้าเขาอยู่ แอบเสียใจเล็กน้อยถึงปานกลาง “แต่ก็เจ้าอารมณ์ หากไม่ถูกใจก็จะโมโหร้าย พี่เคยถูกไม้เบสบอลตีด้วย ตอนนั้นทำไมถึงยอมก็ไม่รู้” ผมเบิกตากว้างเมื่อได้ยิน โมโหแรงถึงกับต้องใช้ไม้ตีขนาดนั้นเลยเหรอวะ

   “ไม้เบสบอลตี แล้วพี่ไม่เป็นอะไรเหรอ” พี่เบหัวเราะก่อนจะยกมือสองข้างรองที่หัวด้านหลัง ดีที่ไฟแดงพอดี
 
   “ก็หัวแตก เย็บตั้งสิบกว่าเข็ม” ผมลองยื่นมือไปด้านหลังที่มือพี่เบจับอยู่ “แต่ หายแล้วล่ะ ตอนนั้นเลือดชั่วก็ออกไปเยอะเหมือนกัน”

   “พี่แม่งโง่ว่ะ ให้ตีได้ไง”

   “พี่จะถือว่าเป็นคำชม” แล้วก็หัวเราะเฉย คือผมด่าตรงๆ เลยนะ

   “ทูหน้าตาเหมือนพี่เขาเหรอ พี่เบถึงได้สนใจมากกว่าคนอื่น” ถามออกไปตรงๆ

   “ตอนแรกก็ใช่นั่นแหละ ยังแอบตกใจที่เห็น แต่พอเริ่มสนิทถึงรู้ว่าโคตรซกมก” แล้วก็หัวเราะลั่นรถ

   “นั่นทูก็จะถือว่าเป็นคำชม” ผมบอกออกไปพร้อมหน้ายู่ๆ

   รถคันสีส้มขับเลยหน้าคณะผมมาอีกนิด มองซ้ายมองขวาก่อนจะรีบเปิดประตูลงไป ได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมาแต่ไม่สน กลัวไอ้กลอยมาก่อนแล้วแอบดู ไอ้นี่ยิ่งตามอารมณ์ไม่ค่อยทัน แล้วมันช่างสังเกตมาก แถมเซ้นแรงสุดๆ

   ผมเดินเข้ามาในตึก เจอพวกสาววายนั่งรวมกลุ่มอยู่ด้านหน้า พอเห็นผม พวกนั้นก็ยิ้มกริ่มจนแบบเสียวสันหลังเพราะไม่รู้ว่ามันคิดอะไรกัน แค่เห็นเพจที่ทำให้ไอ้กลอยผมก็ยอมใจ รูปคู่รูปเดี่ยวเอามาตัดต่ออยู่ในรูปหัวใจ มีคนกดไลค์อย่างเยอะ

   “แหม ตั้งแต่ไอ้กลอยมีผัวใหม่ ก็เลยปล่อยให้เมียเก่าเดินร่อนเร่ไปทั่ว” ดูปากพวกมันครับ ไม่อยากต่อปากต่อคำเลยเดินหนีแต่ถูกเลขากลุ่มสาววายรีบดึงแขนไว้

   “อะไรของพวกมึงวะ” ถามอย่างโมโห

   “เมื่อกี้ใครมาส่งมึงวะ” สายตาโคตรเจ้าเล่ห์ เห็นได้ยังไง

   “อะไร” ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

   “อย่าคิดว่าพวกกูไม่รู้ไม่เห็น อีเจนเดินเข้ามาบอกตอนมันจะขึ้นตึก” พยายามจ้องตาให้เหมือนไม่รู้ไม่ชี้ “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นค่ะ กูรู้ทุกอย่างไอ้ทู”

   “ไร้สาระ” ผมบอกปัดแล้วรีบเดินหนี สาววายมักจะได้กลิ่นแรง (อีเข็มบอก)

   พอเดินเข้ามาก็เห็นกลุ่มเพื่อนตัวเองนั่งหลับอยู่ที่โต๊ะ ผมเอากระเป๋าวางกระแทกจนพวกมันปรือตาแล้วก็หลับลงอีก เชี่ยพวกนี้เมื่อกี้เอาแต่เล่นเกมส์แน่ เพราะสภาพแบบนี้ผมเป็นบ่อย

   “ไอ้กลอยยังไม่มาเหรอวะ” ผมถาม ไอ้เคยกมือขึ้นส่ายไปมา ทำไมมาสาย แต่พอนั่งได้แปบเดียวไอ้กลอยก็วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น

   “เชี่ย เกือบมาไม่ทัน” มันหอบหนัก คงวิ่งมาใกล้

   “พี่โชไม่มาส่งมึงเหรอ” ผมถาม ไอ้กลอยส่ายหน้า แต่ยังอ้าปากหายใจอยู่ “มึงเหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

   “ก็กูวิ่งมาจากสวน” ผมขมวดคิ้วมองเพื่อนตัวเอง ไปทำอะไรที่สวน

   “อย่าบอกว่าเอาข้าวไปให้หมา?”

   “เออสิ” มันตอบแล้วก็เงยหน้ามองผมแปลกๆ

   “มองกูทำไม” เริ่มระแวงสิครับ ดูตามันกำลังจ้องจับผิดผมอยู่แน่ๆ

   “มึงมากับใครวะ กูเห็นมึงลงจากรถสีส้ม” นั่นไง อุตส่าห์ดูทางเป็นอย่างดีแต่ก็ยังไม่รอดพ้นอีก

   “คนรู้จัก” แถไปพร้อมกับปลุกไอ้พวกติดเกมส์ตื่นเพราะถึงเวลาไปเรียน
 
   ผมรู้ว่าไอ้กลอยมันจับตามองผมอยู่ มันถามอยู่เหมือนกันเรื่องผมกับพี่เบ แต่ผมบอกปฏิเสธทุกอย่าง ท่าทางมันดูไม่เชื่อ

   “พี่มึงพาไปเลี้ยงที่ไหนวะ” ไอ้กลอยมันกระซิบถามผม แต่ผมส่ายหน้าไป คือพี่รหัสผมไม่มีครับ พี่แกซิ่วไปเรียนคณะอื่น ผมเลยมีลุงรหัสแต่แกก็ทำงานพาร์ทไทม์ไม่มีเวลา รหัสผมเลยไม่ค่อยจะสนิทกันเท่าไหร่

   หลังจากเก็บของในโกดังเสร็จ (โกดังที่เก็บอุปกรณ์วาดเขียนของคณะ) ข้อความไลน์ก็ดังขึ้น ข้อความที่เห็นคือพี่เบมารออยู่แล้ว ผมเหลือบมองเพื่อนตัวเองที่ยังเอ้อระเหยไม่ขยับ ผมเลยบอกลาแล้วรีบวิ่งไป แม้จะรู้สึกว่าไอ้คนไร้ชีวิตชีวาวิ่งตามเป็นพรวนแต่ผมวิ่งเร็วกว่า มาถึงก็รีบเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งทันที

   “ต้องทำถึงขนาดนั้น?” พี่เบขำผม เลยยักคิ้วตอบ “เพี้ยน”

   “นั่นคือคำชม” ยิ้มอย่างอารมณ์ดี พอหันไปมองด้านนอก เห็นไอ้กลอยกับพวกไอ้เคยืดคอส่องเข้ามาในรถ ยังดีที่รถพี่เบติดฟิล์มมืดทำให้มองไม่ค่อยเห็นด้านใน

   “อยากกินอะไร” พี่เบถามขณะหักเลี้ยวรถออกนอกมหาลัยสวนกับรถของพี่โช (เพราะพี่เบบอก) สงสัยจะมารับไอ้กลอย
 
   “กินหมูกระทะ” ผมบอก

   “จัดไปไอ้น้อง”

   เวลายามเย็นกับการปิ้งหมูกระทะบนเตาถ่าน ควันลอยโขมงจนคืนนี้ต้องสระผมอีกรอบ ผมคีบหมูเข้าปากขณะพี่เบกำลังวางหมูลงบนเตา

   “ทำไมไม่กินผัก กินแต่หมูเดี๋ยวก็ท้องอืดหรอก” พี่เบเอาตะเกียบชี้หน้า

   “ทูไม่ใช่หมูนะจะได้กินผัก” ยักคิ้วไป “อะ พี่ก็กินเยอะๆ”

   “เชี่ย ตักแค่ผักมาให้ เห็นพี่เป็นหมูเหรอวะ”

   “อ่าห๊ะ” แล้วก็หัวเราะ พี่เบจ้องผมแล้วคีบหมูบนเตาที่ผมจองเข้าปากเฉย เคี้ยวๆ อย่างเย้ยหยัน

   “หมูนั่นของทู” หน้ายู่มองคนเคี้ยวหมูอย่างอร่อย

   “อ่าวเหรอ”

   “เชี่ย”

   รีบตะโกนเลยครับ พี่เบแม่งจะคายหมูที่เคี้ยวแทบละเอียดออกมา แล้วก็มาด่าผมซกมก ตัวเองโคตรสะอาดว่ะ แล้วดู หัวเราะจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง เศษหมูแอบกระเด็นออกจากปากด้วย โคตรโสโครกว่ะ

   “อี๋” ทำหน้ารังเกียจ พี่เบไม่แคร์คีบผักในถ้วยกินต่อ

   นี่ผมหลงชอบคนผิดหรือเปล่าวะ

   กินจนแทบกระดิกตัวไม่ได้ก็พากันกลับ ผมนั่งนิ่งเพราะมันอิ่มจนอืด ทั้งตัวมีแต่กลิ่นหมูกระทะ

   “แวะร้านขายยาแป๊บได้หรือเปล่า” ผมสะกิดพี่เบเมื่อเห็นร้านขายยาเลยแยกที่กำลังติดไฟแดง พี่เบมองผมอย่างสงสัย

   “เป็นอะไร ปวดท้องเหรอ” ผมรีบพยักหน้าทันที “กินเยอะไง บอกแล้วว่าให้กินผัก กินแต่หมูมันไม่ย่อย” ปกติก็กินทำไมไม่เป็นวะ ผมไม่เถียงไม่พูดอะไรเพราะหมูมันตีตื้นจุกมาแถวลำคอ

   ไฟเลี้ยวกระพริบอยู่ข้างทาง ผมไม่ได้ลงไปซื้อ พี่เบเป็นคนเดินเข้าไปซื้อมาให้ ได้ยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะ ผมเปิดประตูรออยู่ พอพี่เบมาก็รีบรับถุงยามาถือ มือรีบฉีกซองยาลดกรดซองสีส้มแล้วเทเข้าปาก เสียงพี่เบโวยวายแต่ดูเหมือนไม่ทัน เพราะผมเทน้ำตามไปแล้ว...

   ฟองเต็มปากเหมือนกินยาเบื่อหนู แถมสำลักจนหายใจไม่ทัน

   “โง่เหี้ย” พี่เบมันด่า มือก็ตบหลังผมดังปึกๆ นี่จะฆ่ากันหรือเปล่าวะ

   ฟองยังเหมือนจะเต็มปากอยู่เลย รสชาติที่เคลือบตามปากบ้วนน้ำก็ยังไม่หาย ท้องอืดเมื่อกี้หายวับเหมือนได้ยาดี ผมกินน้ำหมดไปหลายขวด

   “รสชาติโคตรไม่อร่อยอ่ะ” ผมว่า พี่เบได้แต่ขำ

   “ใครให้กินแบบนั้นวะ”

   “ก็มันปวดท้องนี่หว่า ได้มาก็ต้องกิน เลยลืมคิดไป” บอกเสียงอ่อย “ว่าแต่ นี่ไม่ใช่ทางไปหอทูนี่” กว่าจะรู้ตัวรถก็แทบจะใกล้ถึงหอเก่าที่ผมเคยอยู่

   “อืม” คำตอบสั้นๆ พร้อมรอยยิ้ม

   “คิดอะไรไม่ดีหรือเปล่าเนี่ย บอกก่อนนะ ไอ้ทูคนนี้ยังไม่พร้อม” รีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน

   “คิดได้เนอะ พี่ไม่ชอบบังคับใครหรอก แล้วก็ เราเพิ่งคบกัน รอนานกว่านี้ค่อยจิ้มก็ได้ พี่รอได้” หน้าตาโคตรเจ้าเล่ห์อย่างไม่น่าไว้ใจ

   “แล้วพี่พาทูมาทำไม” ตอนนี้รถเลี้ยวเข้าไปจอดชั้นล่างของคอนโด พี่เบแตะบัตรจอดไม้กั้นก็เปิด

   “มาเอาของ”

   “ของอะไร”

   พี่เบไม่ตอบแต่เดินจูงมือผมขึ้นไปบนห้อง ผมเคยขึ้นมาบนนี้หลายครั้งสมัยยังอยู่หอพักข้างๆ พอนึกถึงก็รู้สึกไม่ดี เพราะครั้งสุดท้ายที่ได้มาคือตอนผมด่าพี่เบในตอนนั้น ผมยืนนิ่งอยู่กลางห้องรอพี่เบหาของ แต่พี่แกก็ยังยืนนิ่งจ้องผมไม่ยอมขยับ

   “พี่มาเอาของไม่ใช่เหรอ ไหนละ” ผมมองหาแต่ไม่เห็นของอะไรที่ต้องเอา แล้วผมก็ไม่ได้ลืมอะไรไว้ที่นี่ พี่เบจ้องผมแล้วยกยิ้ม

   “ของก็อยู่ตรงหน้านี้ไง”

   “ไหน” ไม่เห็นมีเพราะหน้าพี่เบก็เป็นผม หรือพี่เขามองทะลุร่างของผมได้วะ

   “นี่ไงเล่า” โดนนิ้วยาวจิ้มหน้าผากจนแทบหงายหลัง

   “ทูเหรอ” มองตาโต ผมเป็นของอะไรวะ งงนะเว้ยเฮ้ย

   “เออ” รอยยิ้มนิดๆ ยิ่งทำให้งง

   “อะไรวะ ทูงงหมดแล้วนะพี่เบ”

   “ของที่ว่าก็คือการย้อนเวลา” หา นี่พี่เบดูการ์ตูนมากไปหรือเปล่าวะ

   “ย้อนเวลา? พี่กินผักเยอะไปป่ะ”

   “ก็ตอนที่ด่าพี่ตอนนั้นไง” ผมอ้าปากค้าง พี่เขายังจำได้สินะ ไม่สิ ต้องจำได้อยู่แล้ว อยู่ๆ ก็โดนด่าเฉย ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ตอนนั้นผมคิดเองเออเองแล้วก็ด่าพี่เขา “ย้อนใหม่ แล้วให้พูดอีกที”

   “ให้พูดอะไรอะ”

   “พูดประโยคแรกไง บอกพี่อีกที” คิดย้อนไปในวันนั้น แม้ไม่อยากคิดก็เถอะ พอนึกได้หน้าก็แทบไหม้ “เร็วๆ” มีเร่งอีก ผมก้มหน้ารวบรวมความกล้าอีกที

   “ผมชอบพี่ครับ” ตะโกนเสียงดังจนพี่เบผงะ “ขอโทษที่เสียงดัง” ผมหัวเราะแห้งๆ พี่เบก็เลยหัวเราะจนตัวงอ

   “จริงใจดี ชอบว่ะ” พูดแล้วยกนิ้วโป้งให้

   “ชอบผมแล้วใช่ป่ะ” ยิ้มแก้มปริ

   “เออ ชอบก็ได้” เสียงตอบกลับดังเหมือนกันจนผมตกใจ

   เสียงหัวเราะดังลั่นจากผมกับพี่เบ เหมือนกับวันวานที่ไม่ดีเลือนหายไปโดยมีภาพความสุขเข้ามาแทนที่

   “ขอบคุณแล้วก็ขอโทษที่ทูด่าพี่ไปคราวที่แล้ว”

   “รู้ก็ดี ตอนนั้นอยู่ๆ ก็โดนด่าเฉย ไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด โคตรแย่”

   “ก็ขอโทษนี่ไงเล่า” ผมกระพริบตาปริบๆ “ยกโทษให้ได้ป่ะ”

   “ก็ไม่ได้โกรธอยู่แล้ว”

   ขนาดไม่โกรธนะ ผมยังโดนด่าด้วยสายตาแถมบอกเกะกะอีก ถ้าโกรธสภาพผมคงเละแน่ พี่เบผู้ชายอารมณ์ดี เกรียนหน่อยๆ บ้านิดๆ แต่โคตรใจดี รักสัตว์ และที่สำคัญ


   พี่เขาชอบผมแล้วโว้ย      



....TBC


คู่นี้เหลืออีกตอนเดียวนะคะ เพราะความรักมันสุกงอมแล้ว ฮ่าๆๆๆ เป็นคู่ที่ไม่ค่อยมีอะไร (นอกจากความบ้าและเกรียน)

ขอบคุณสำหรับการติดตามและกำลังใจค่ะ เจอกันตอนหน้าค่าาา :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [2] UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-08-2016 22:26:03
คู่นี้เหมาะสมกันสุดๆอ่ะ ิรอต่อค่าาาาาาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [2] UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-08-2016 22:34:01
พี่เบลงทุนพาทูมาสารภาพว่าชอบตัวเองอีกครั้ง :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [2] UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-08-2016 22:57:42
 :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [2] UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 18-08-2016 00:01:55
คู่นี้ก็น่าาัก :ling1: :ling1: :katai5: :katai4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [2] UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 18-08-2016 04:35:13
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [2] UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-08-2016 05:02:32
พี่เบ - น้องทู ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [2] UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-08-2016 07:16:27
      เบ ทู  ผูกพัน             สุขสันต์ชื่นบาน
หัวใจเริ่มหวาน                 สืนสานการคบ
     ทู อายเพื่อนรัก            ดักตามมาพบ
จึงคอยเลี่ยงหลบ              จบที่รถเปลี่ยน
     เพื่อนกลอยรู้ทัน           ขยันตามเกรียน
สัก เค ก็เซียน                   เพียรตามรถเบ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:       
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [2] UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 18-08-2016 12:52:57
แหมๆ อยากเห็นพี่เบหวานๆ กับทูมากกว่านี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [2] UP! // [17/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-08-2016 19:39:07
คู่นี้เขาไว ขอหวานเยอะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ&ทู[3] UP! //[19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 19-08-2016 21:21:32
Just you and I : Part Bae & Two [3]




        หลังกลับจากเชียงใหม่ก็ใกล้จะปีใหม่เต็มที ผมไปช่วยพี่เบเลือกของเพื่อไปงานแลกของขวัญกับครอบครัว พี่เบสนิทกับพ่อและแม่ตัวเอง ต่างจากผมที่แทบไม่ค่อยได้พูดด้วย

   “เอาตุ๊กตาดีป่ะ ทูว่าหลานพี่น่าจะชอบ” ผมบอก แต่พี่เบขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้า

   “แล้วถ้าพวกคนแก่ได้จะเอาไปทำอะไร” จริงด้วย แล้วอะไรดีหว่า

   “งั้นขนมดีมั้ย” ของกินน่าจะง่ายดี

   “แต่ย่าของพี่จะเคี้ยวได้เหรอ เผลอๆ เบาหวานขึ้นพอดี” ผมเริ่มมองหน้าคนที่ปฏิเสธทุกอย่างที่เสนอ

   “แล้วพี่จะเอาอะไรวะ”

   “อะไรก็ได้” ยกขาเตะน่องไอ้รุ่นพี่ขี้กวนไปทีหนึ่งจนคนถูกเตะขำ “ล้อเล่นน่า งั้นเอาผ้าเช็ดตัวดีกว่า ใครๆ ก็ใช้ได้” มีเหตุผลแต่...

   “พี่จะเอาผ้าเช็ดตัวกี่ผืนถึงจะครบพันหนึ่ง” เป็นครอบครัวที่ตั้งราคาของขวัญโคตรแพง
 
   “จริงด้วยว่ะ”

   เราสองคนเดินหาของขวัญอยู่นานจนมีสาวสวยมาสะกิดพี่เบ พอพี่แกเห็นก็ดูดีใจแถมกอดด้วย ผมมองตาขวาง ก็ไม่ได้ใจดี ใจกว้างเหมือนไอ้กลอย แล้วดูเหมือนผมจะถูกลืม เลยเดินหนีไปทางอื่น

   หน้าร้านขายเค้ก ผมซื้อมาสองชิ้นแล้วนั่งรอแต่อีกคนก็ไม่คิดจะตามหา เริ่มโกรธนิดๆ จากสิบนาทีเป็นครึ่งชั่วโมง ผมนั่งแหง็กอยู่ที่ม้านั่งอย่างเบื่อๆ กำลังจะลุกขึ้น ฝ่ามือหนักๆ กดให้นั่งตามเดิมจนตกใจ ปากก็กำลังจะอ้าด่าเพราะคิดว่าเป็นคนที่ให้รอนาน แต่พอหันไปดู กลับมีรอยยิ้มแป้นแล้นส่งมาให้จนผมยิ้มกลับ

   “มึงมานั่งทำเอ็มวีอะไรคนเดียววะ” ไอ้ป่านเพื่อนต่างคณะทักทายผม เราสนิทกันเพราะไอ้กลอยสนิทกับเพื่อนมัน เราเลยได้ไปเที่ยวกันบ้าง

   “ก็กูหล่อ” ตอบกวนๆ มันหัวเราะ “แล้วมึงมากับใครวะ”

   “มากับสาวเว้ย แต่ตอนนี้สาวยังไม่มา” ผมพยักหน้า เห็นหน้าตาแบบนี้สาวเยอะเหมือนกันนะครับไอ้ป่าน

   “เบี้ยวหรือเปล่ามึง” โดนตบหัวมาทีจนต้องถลึงตาใส่มัน

   “เบี้ยวพ่อง นัดบ่ายโมง นี่มันเพิ่งเที่ยงสิบ กูมาก่อนเวลาเว้ย” มันโวยวาย ผมเลยหัวเราะ

   “เพิ่งจีบอะสิ ลองนานๆ ไปมึงจะเป็นคนมาช้าไอ้ป่าน” แล้วเราก็หัวเราะจนคนเดินผ่านเหลียวมอง รวมทั้งคนที่ปล่อยให้ผมนั่งรอนานแสนนานจนแทบจะกลับบ้านไปแล้ว พี่เบจ้องไอ้ป่านนิ่ง สายตาดูก็รู้ว่าไม่พอใจ ไอ้ป่านมองเราสลับกันอย่างงงๆ ก่อนจะตบบ่าผมแล้วเดินไป

   “ไอ้นั่นเป็นใคร” เสียงนิ่งๆ ถาม แต่ผมกลับไม่ตอบ “ไอ้ทู ไอ้นั่นเป็นใคร” ผมเงยหน้ามองค้อน ตอนนี้โกรธไม่อยากจะพูดผมเลยเดินหนีจนพี่เบต้องเดินตาม


   บนรถ ผมเห็นถุงของขวัญที่ห่อแล้ววางอยู่เบาะหลังรถ คงจะให้ผู้หญิงคนนั้นเลือกให้ ทีกับผมอะไรก็ไม่เอา ปฏิเสธแม่งทุกอย่าง

   “เป็นอะไร” เป็นพี่เบก็ถามผมก่อน ผมก็นั่งกอดอกมองออกไปข้างทาง “ไอ้ทู”

   “สนใจผมด้วยเหรอ” เลือกจะพูดผมแทนชื่อตัวเอง

   “หึงพี่เหรอ” เสียงติดขำยิ่งทำให้ผมหน้าบูด

   “เออ” ยอมรับออกไปตรงๆ พี่เบกลับหัวเราะเสียงดังลั่น

   “เชี่ย นั่นพี่สาวพี่เว้ย” มันยื่นมือมาผลักหัวผมจนโขกกับกระจกรถ เจ็บเหี้ย “โอ๊ะ ขอโทษๆ เจ็บมั้ย”

   “เจ็บดิ่ถามได้” หน้าบูดไม่พอ หัวยังเจ็บอีก

   “ไหนๆ”

   “เฮ้ยพี่เบ” ผมรีบตะโกน เพราะพี่เบละสายตาจากถนนมามองหัวผมแถมยังดึงหัวผมก้มลงไปจนหน้าผากแตะเกียร์รถ แล้วเหมือนจะได้สติก็รีบปล่อย
 
   “โทษทีๆ” เกือบไปแล้ว ได้ยินเสียงบีบแตรด่าด้วย เกือบตายก่อนปีใหม่แล้ว

   สุดท้ายเราก็ขับรถมาถึงบ้านพี่เบ ก็ตรงข้ามกับบ้านผมนั่นแหละครับ วันนี้มากันหลายครอบครัวรวมบ้านผมด้วย นั่นเพราะพี่เบพาผมเข้าบ้านพร้อมกับแนะนำตัว ตอนแรกพ่อพี่เบตกใจจนแทบจะช็อค แต่เจอพี่เบที่ทำหน้าจริงใจเลยบอกให้ดูๆ กันไปก่อน บ้านพี่เบสนิทกันและปล่อยให้ลูกได้ทำอะไรเองแต่หากเกิดอะไรขึ้นถึงจะยื่นมือเข้าไปช่วย ผมว่าถูกเลี้ยงแบบนี้ก็ดีนะ มิน่า พี่เบถึงอารมณ์ดีแบบนี้

   ส่วนครอบครัวผม ผมก็พาพี่เบไปแนะนำ แม่ตกใจจนจะเป็นลม แต่ผมยืนยันจะคบจนพ่อกับแม่ปล่อย อาจเพราะผมไม่ค่อยสนิทกับใครเลยปล่อยง่ายละมั้ง หากเป็นพี่วันหรือน้องทรีคงโดนขัดขวางเต็มที่ไปแล้ว นี่คงเป็นเรื่องที่ดีที่ผมเคยเจอละมั้ง

   เดินเข้าไปในบ้านของคนที่เดินนำ คนคึกครื้นซะเหมือนมาทั้งหมู่บ้าน ทั้งบ้านผมและญาติของพี่เบ ทุกคนพร้อมใจกันเตรียมของขวัญราคาแพงมา ผมแอบเห็นมีคนใส่ซองสีแดงด้วย คงจะมากกว่าราคาที่ตั้งแน่ ซองนี้ต้องเป็นของไอ้ทู

   พี่วันเห็นผมก็รีบกวักมือไปนั่งที่โต๊ะ นี่พี่แกเริ่มดื่มตั้งแต่บ่ายเลยเหรอวะ ไปนั่งลงข้างๆ พี่ชายผมดื่มแล้วจริงๆ แถมยังดวลกับญาติของพี่เบที่ชื่ออาร์ จะคอยดูสภาพตอนเลิกว่าจะยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า

   “ไงมึง ออกไปไหนกับผัวมา” ผมเบิกตามองพี่ชายตัวเอง เรียกพี่เบว่าผัวผมเต็มปากเต็มคำ

   “ผัวอะไรพี่ เมาแต่บ่ายเลยนะ” ผมว่า พี่อาร์แกก็หัวเราะ

   “เอาน่าไอ้น้อง คลายเครียด ใช่มั้ยไอ้วัน” พี่อาร์หัวเราะอารมณ์ดียกแก้วชนกับพี่วัน

   “ตามสบายเลยครับ” ผมเบือนหน้าหนี ไม่อยากเห็นคนกินเหล้า ไม่ใช่รังเกียจหรอกนะ แต่กลัวจะอดใจไม่ไหวขอกรึ๊บสักแก้ว

   เห็นแม่กำลังยุ่งอยู่ในบ้าน คงช่วยกันในครัว ผมไม่เข้าไปยุ่งหรอกครับ ทำอาหารไม่เป็น แต่ถ้าเป็นไอ้กลอย มันทำอาหารอร่อยมาก มองไปอีกทาง น้องชายผมกำลังเล่นหุ่นยนต์ของน้องพี่อาร์ สองคนนั้นเรียนที่เดียวกัน

   “มองหาผัวมึงเหรอ นู้น” พี่วันตบหัวผมแล้วชี้ไปที่พี่เบกำลังต่อสายไฟลำโพง

   “ไม่ได้มองหาโว้ย” โวยวายแล้วก็ลุกหนี ไม่งั้นจะโดนตีหัวอีกรอบ

   เดินมาช่วยพี่เบแต่ดูเหมือนจะเป็นภาระมากกว่า เพราะทำไม่เป็น พี่เบเลยสั่งให้ผมยืนอยู่เฉยๆ ไม่นานไมค์ก็มีเสียง พี่แอนรีบวิ่งมาถือไป พร้อมสั่งให้พี่เบเปิดคาราโอเกะ พี่แอนก็เป็นญาติของเจ้าของบ้านนั่นแหละครับ คือญาติเยอะมาก แต่ละคนไม่เบาเลยทีเดียว ความฮานะ

   “เปิดเร็วๆ ดิ่วะไอ้น้อง ชักช้าไปได้” พี่แอนพูดออกไมค์จนทุกคนขำ

   “มันจะชักไวกับมึงได้ยังไง เมียมันยืนอยู่ตรงนั้นทั้งคน” พี่อาร์ตะโกนมา ผมเบิกตากว้างมองทันที ส่วนพี่แอนก็หัวเราะเสียงแหลมออกไมค์

   “กูก็ลืมไปไอ้อาร์” พี่แอนพูดปนขำ “แล้วก็ พวกมึงแดกแต่หัววัน กลางคืนเดี๋ยวเป็นหมาแน่” พูดออกไมค์เลยครับ หน้าตาสองคนที่กำลังเริ่มกรึ่มๆ ชี้หน้าด่าจนพวกผมหัวเราะ บอกแล้วว่าพวกเขาไม่ธรรมดา

   พอเพลงขึ้น ราชินีเพลงแดนซ์ก็ออกลวดลาย ทั้งเต้น ทั้งร้อง ทั้งเตะขาสูงจนพวกผมหัวเราะน้ำตาไหล เตะขาสูงจนอีกขาลอยเลยล้ม โคตรฮา พอเพลงแรกจบ น้องสาวพี่แอนก็มาแย่งไมค์ต่อ พี่แอนแกถามหาไมค์อีกอัน พอได้ก็นิวจิ๋วมาเลยครับ แต่คีย์เพลงอย่าได้พูดถึง


   ไมค์แทบหอน


   “ไอ้ขี้เมา มึงมาครวญสักเพลงดิ๊” พี่แอนชี้พี่วันให้มาร้อง ที่จริงพี่ชายผมร้องเพลงเพราะมากเลยนะครับ เคยประกวดของมหาลัยได้ที่หนึ่งด้วย แต่ไม่อยากเป็นคนดังเลยไม่ประกวดที่อื่นต่อ

   “จัดไปครับ” พี่วันเดินออกมาครวญเพลงหวาน เด็กๆ หลายคนนั่งฟังแล้วแทบเคลิ้ม เห็นน้องพี่แอนเอามือถือมาอัดวีดีโอด้วย ระวังเมมเต็มนะครับขอบอก

   ที่บอกแบบนั้นเพราะพี่วันจับไมค์ปุ๊บ ไม่ยอมคืนให้ใคร แม้พี่แอนจะมาดึงคืนแต่ก็ไม่ให้ เลยกลายเป็นว่า ร้องเพลงคู่ชายหญิง จากเพลงหวานกลายเป็นเพื่อนชีวิตอย่างหนุ่มบาวสาวปาน จนมาปิดท้ายด้วยเพลงลูกทุ่ง

   “โน้นแน่ะนกเขาคู จุ๊กกรู (จุ๊ก) จุ๊กกรูนกมันเฝ้าคูหาผัว (ชู้) มัน” เพลงเริ่มเพี้ยนตามคนร้อง

   “โถโก่งคอทำเสียงหวาน ช่างน่าสงสาร นกกระไรใจข้า” พี่แอนร้องเขินอาย

   “ก็พี่ปักใจใฝ่รัก รัก เจ้าใยมิเห็นใจเมตตากระผม” พี่วันเติมเองจนพวกผมขำ

   “นกมันรักกัน รักกัน ก็มีแต่จิ๊จ๊ะ (จ๊ะจ๋า) ไม่มีมารยา เสมือนไอ้ลิ้นสองแฉก (เสมือนร้อยลิ้นคนพรำ)” พี่แอนก็ไม่เบา


   กว่าเพลงนี้จะจบก็ทำเอาน้ำตาไหลพรากๆ คือขำจนปวดท้องจริงๆ สองคนบางทีก็โผเข้าหากัน ก่อนพี่วันจะโดนผลักหัวจนล้ม พี่แอนทำเป็นเขิน บ้างก็พี่แอนหน้าหงายเมื่อถูกจิ้มหน้าผาก สงสารเพลงนี้เหลือเกิน ฮ่าๆ

   “พวกมึงฟิเจอริ่งได้ไพเราะมาก ฮ่าๆ” พี่อาร์ปรบมือหลังจากเช็ดน้ำตาที่หางตา

   พวกเราผลัดการโชว์ลูกคอจนค่ำ อาหารที่วุ่นวายแต่เช้าถูกยกออกมาวาง ไม่นานก็หมดเกลี้ยง มีผัดลูกชิ้นหมูของโปรดผมด้วย กินคนเดียวหมดจาน หลังจากอิ่มหนำก็ต้องเคลียร์สถานที่ในการจับฉลาก ที่รีบจับเพราะมีเด็กเล็กๆ หลายคน

   ผมแอบไปเดินมองๆ ซองสีแดง เอามาส่องก็ไม่เห็นว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ไอ้ทรีมันเดินมาข้างๆ จนผมตกใจ มันบอกมันจอง แต่ผมจองก่อน

   “กูจองก่อนเว้ย” ผมบอก

   “ผมอยู่ก่อนพี่ เห็นก่อนพี่ ซองของผมดิ่” ไอ้ทรีมันเถียง

   “งั้นมาดูกันว่าใครจะได้”

   “โอเช”

   สองพี่น้องจับมือกันมั่น ซองนี้ของไอ้ทูแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ไปดูพี่แม่บ้านทำฉลากมา หมายตาเบอร์หนึ่งไว้ ไอ้ทรีไม่ได้แน่นอน

   “เอาล่ะๆ ใครเป็นคนจับคนแรกเอ่ย” คนมากมายต่างก็ยกมือ แต่เป็นเจ้าของรางวัลเลขหนึ่งได้จับก่อน

   พ่อของพี่โชล้วงไปในชามใส พวกผมลุ้นอยู่ว่าของใครจะออก

   “เบอร์ห้าค่า” ของพี่แอนครับ พี่แกพนมมือกราบแล้วส่งมอบของขวัญให้จนทุกคนหัวเราะ แล้วพี่แอนก็จับต่อ

   รางวัลที่หนึ่งยังไม่ออก ของขวัญผมกับไอ้ทรีก็ยังไม่ออก จนพี่อาร์จับได้ของผม ก่อนลุกยักคิ้วให้ไอ้ทรีไป มันยู่ปากใส่ดูเหมือนมันแช่งผมด้วย ไอ้น้องชั่ว

   ล้วงมือจับฉลาก ลุ้นยิ่งกว่าหวยออก ตัวเลขในกระดาษที่ม้วนอยู่ทำเอาลุ้นจนแทบปวดฉี่ แล้วหมายเลขที่ออกคือ....

   “หมายเลขสี่ค่า” แห้วกองโต ไอ้ทรีมันหัวเราะเสียงดังจนผมชี้หน้ามันไป เจ้าของกล่องก็คือพ่อของผมเอง พ่อเดินมาหน้านิ่งจนผมต้องเม้มปาก

   “ขอบคุณครับ” ยกมือไหว้เมื่อพ่อยื่นของขวัญมาให้

   “โชคดีปีใหม่นะ” พ่ออวยพรผม คำพูดที่ได้ยินมันเป็นเรื่องแปลกจนต้องกระพริบตาปริบๆ พ่อยื่นมือมาลูบหัวผมพร้อมรอยยิ้ม “พ่อจะจับรางวัลแล้ว” น้ำเสียงหยอกล้อที่ผมไม่เคยได้ยินมาตลอดในชีวิต น้ำตาแทบไหลถ้าไม่โดนพี่วันลากให้เข้ามานั่ง ผมจ้องกล่องที่ถือนิ่ง จนไอ้ทรีมันมาสมน้ำหน้าที่ผมไม่ได้รางวัลที่หนึ่ง แต่ตอนนี้ผมไม่อยากได้อันนั้นแล้ว แค่กล่องนี้ก็เหมือนเป็นรางวัลใหญ่มากที่สุด

   ผมกอดกล่องนั้นไว้แน่น มองคนที่ออกไปจับเรื่อยๆ ของขวัญก็เริ่มร่อยหรอ ไอ้ทรีเดินยืดออกไปเมื่อรางวัลเหลือแค่สองอัน คือของพี่เบกับของพ่อพี่เบ ไอ้ทรีมันยกมือไหว้จนคนขำกัน พอมันล้วงขึ้นมาหน้าตาดีใจที่พี่แอนบอกเลข

   “หมายเลขนะ...นะ...สิบห้าจ้า” แห้วกองใหญ่กว่าผมอีก ไอ้ทรีมันได้ของจากพี่เบที่เหลือเป็นคนสุดท้าย มันหน้าบึ้งเดินเข้ามาจนผมหัวเราะเยาะ แบบนี้สินะที่เขาบอก หัวเราะทีหลังดังกว่า

   ส่วนซองแดงก็เป็นพี่เบได้ไป พอพี่เบมานั่งผมก็รีบเดินไปหาพร้อมให้เปิดซองดู พี่เบเลิกคิ้วแล้วยื่นซองให้ผม

   “ให้ผมเปิดเหรอ” ตื่นเต้นอะ

   “เปล่า” อ่าว อะไรวะ

   “แล้วยื่นให้ทำไม” หน้าเริ่มบูด

   “เอาให้เลย” แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

   “พี่พูดจริงดิ่” ถามตาโต พี่เบพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ให้จริงอะ” รีบรับมาแล้วลองเปิดออก แบงค์สีเทาห้าใบถูกบรรจุให้ซองสีแดง “ห้าพัน” บอกพี่เบตาโตแล้วรีบเอาคืน

   “ทำไม ไม่เอาเหรอ” พี่เบถามผม มือไม่ยอมหยิบไป

   “มันเยอะอะ พี่เอาไปเถอะ” ผมบอก พี่เบก็หัวเราะแล้วยีหัวผมซะฟู

   “ยังไงเงินนี้ก็ต้องเลี้ยงทูอยู่ดี พี่จะเก็บหรือทูเป็นคนเก็บก็เหมือนกัน” พูดพร้อมยักคิ้ว ผมเลยกอดพี่เบไปทีหนึ่ง

   “ขอบคุณครับ”

   ระหว่างกำลังซึ้งใจก็ถูกดับจนมอดเมื่อพี่แอนพูดออกไมค์จนผละจากอกพี่เบแทบไม่ทัน

   “แหม เบาหวานจะขึ้นแล้วโว้ย เพลาๆ ลงบ้างไอ้คู่นั้น กอดกันกลมเชียว” คำแซวที่ทำเอาพี่เบหน้าแดง แต่ผมยิ้มกว้าง

   “ก็คนเขารักกันนี่นา” ผมบอก ได้เสียงโหรอบทิศ

   “เออ เอาที่พวกมึงสองคนสบายใจ ไม่ต้องคิดว่าทุกคนอยู่ในงาน คิดว่าอยู่กันสองคนก็แล้วกัน” พี่วันตะโกนบอก เลยถูกผมค้อนไปทีหนึ่ง

   บรรยากาศตอนค่ำยิ่งดึกยิ่งคึก เพลงถูกเปิดดังพอประมาณแม้ข้างบ้านที่ขนาบหลังนี้จะเป็นญาติและมาร่วมงานด้วย แต่บ้านหลังอื่นอาจจะรำคาญได้ แต่ถ้ามองดีๆ บ้านแถวนี้ถูกปิดหมดคงไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหมด

   ผมนั่งอยู่ข้างพี่เบหัวเราะพี่แอนกับพี่อาร์ที่ร้องเพลงดวลกัน ขนาดย่าของพี่เบยังหัวเราะจนน้ำตาไหล ย่าพี่เบน่ารักมากครับ เรียกผมลูกด้วย ถึงแก่แล้วแต่ก็ยังสวย

   “ขอบคุณนะที่พี่ยอมคบกับทู” ผมกระซิบบอกท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังจนหนวกหู พี่เบหันมามองผมพร้อมรอยยิ้ม

   “ขอบใจทูด้วย ที่ยอมให้โอกาสพี่” เกือบจะซึ้งแล้วนะ “แต่ทีหลังอย่าไปเที่ยวด่าชาวบ้านทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดนะ มันไม่ดี” พี่เบหัวเราะเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง

   “ไอ้พี่เบ!!” ผมถลึงตาใส่


   ปีใหม่นี้คงจะมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับผม กับพี่เบ แล้วก็กับทุกๆ คน ชีวิตคนเรามันสั้นนัก หากรักใครก็ควรพุ่งเข้าชน แต่ก่อนจะชน ช่วยมองก่อนว่าเขามีเจ้าของหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้องลองดูอีกทีว่าเขาชอบแบบไหน ถ้าใช่ก็ชนเลยครับ


---The End ---

จบแล้วค่า พี่เบกับน้องทู ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ ทุกๆ เม้น เจอกันตอนพิเศษของคู่หลักค่า อาจจะมีปนของพี่ซันจอมบ้าง หรือมีคู่นี้มาบ้าง ถ้ายังไม่เบื่อกันไปซะก่อน

 :mew1: :mew1:



ปอลอ. เหมือนตอนพิเศษจะเริ่มเยอะกว่าตอนหลัก ฮาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: hamony ที่ 19-08-2016 21:53:28
มาต่อตอนพิเศษ ต่อนะรออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-08-2016 22:08:52
ตอนนี้หวานๆอ่ะ รอตอนพิเศษคู่หลักต่อค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-08-2016 22:21:06
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-08-2016 22:54:22
 :L2: :pig4: :L1:

มาเยอะๆเลย มากกว่าตอนหลักก็ไม่เป้นไร ชอบบบบ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-08-2016 23:51:51
อบอุ่นดีนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 20-08-2016 00:40:31
กรี้ดดดด เบทูๆๆๆๆๆ ตอนพิเศษเยอะกว่าตอนหลักได้ค่ะ ยิ่งเยอะยิ่งดีค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-08-2016 01:04:23
ไม่เบื่อเลยครับ มาต่อทุกๆ คู่เลยนะครับ จะรอติดตามผลงาน ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 20-08-2016 01:21:43
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 20-08-2016 05:03:58
พี่เบน้องทูมีงอนกันด้วยครอบครัวก็ฮาๆ ส่วนตอนพิเศษจะกี่ตอนก็จัดมาจะตามอ่านนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-08-2016 06:02:35
ชอบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ทั้งตอนหลัก และตอนพิเศษ :mew1: :mew1: :mew1:
ทู อาจอาจคิดมากเรื่องพ่อรักแต่ลูกคนโต
แม่รักลูกคนเล็ก เป็นการมองจากลูกคนกลาง
ตัวทูเองคงเป็นคนที่ถ้าพ่อแม่ไม่มาสนใจก็จะนิ่งเฉย
พ่อกับแม่ เลยไม่รู้ คิดว่าทูชอบอยู่นิ่งๆ ห่างๆ
ถ้าพ่อไม่รัก คงไม่โกรธที่ทู เลือกเรียนตามกลอย
ไม่ตรงกับที่ทูเลือกตั้งแต่แรก
ถ้าแม่ไม่รักทู แม่จะยึดรถ ทำโทษทูหรอ
ที่ยึดนั่นเพราะห่วงทู นั่นเอง
การที่ทูคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก คงเป็นการคิดจากทูเอง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 20-08-2016 07:25:37
เบทูน่ารัก
ชอบทุกคู่
รอตอนพิเศษทุกคู่ด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 20-08-2016 14:40:57
ไม่เบื่อรอเลย :katai4:  เอหรืออาจจะเขียนเรื่องมาใหม่ให้พี่วันคู่กับพี่แอน แล้วน้องทรีคู่กับอาร์ดีนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-08-2016 14:47:19
ตอนพิเศษคู่หลักนี่สงสารพี่โชหนักมากอุตส่าห์สร้างบรรยากาศ นี่ถึงกับลั่นอะ โถๆๆๆพ่อคุณเจอน้องกลอยเกรียนไปหมดอารมณ์เลบสินะ ฮ่าๆๆๆๆ ส่วนคู่เบทูก็นึกว่าจะดราม่าหนักซะอีกที่ไหนได้สายฮาทั้งคู่เลยสิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 20-08-2016 17:48:16
เอาอีกๆๆๆๆ
ตอนพิเศษดีกับใจทุกตอน
มาเรื่อยๆนะคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 20-08-2016 19:45:51
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 21-08-2016 01:09:41
มาให้กำลังใจคับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 21-08-2016 05:19:49
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษยาวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: เบ & ทู [3] UP! // [19/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-08-2016 14:20:44
พอรักกันแล้วน่ารักมากเลยคู่นี้ ขอบคุณค่ะ สนุกมาก รอตอนพิเศษนะคะ :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP!/[21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 21-08-2016 17:25:58
Just you and I ตอนพิเศษ : พาหมาไปทำหมัน



       แม่หมาสีครีมเป็นหมาตัวเมียอายุประมาณสามปี (คุณหมอบอกว่าแบบนั้น) กับลูกสองตัว ผมยืนมองแม่สีครีมตรวจสุขภาพ เจาะเลือด ตรวจค่าไต ตับ ทุกอย่างเพื่อจะรอการทำหมัน ส่วนลูกๆ ของมันคุณหมอบอกให้ทำวัคซีน ผมหันมองหน้าพี่โชเพราะเป็นคนออกเงิน แม้พี่โชจะดูเฉยชาแต่ก็รักสัตว์นะครับ

   อย่างตอนนี้พี่โชอุ้มทั้งสีนิลและสีนวล สองตัวนั้นก็ดูจะรักคนอุ้ม กอดคอพี่โชทั้งสองตัวจนพี่ผู้ช่วยหัวเราะ คลินิกรักษาสัตว์ที่นี่เป็นญาติกับเพื่อนต่างคณะ ผมขอข้อมูลจากมันมาหลายวันแล้ว แต่พี่โชยุ่งเลยได้พามาวันนี้ แล้วข่าวร้ายคือตรวจก่อนทำ ต้องรอทำวันหลัง นี่แหละครับที่พี่โชแกดูนิ่งไป

   “ทำวันนี้ไม่ได้เหรอฮะคุณหมอ” ผมยืนอยู่ข้างเคาน์เตอร์ที่มีแม่สีครีมนอนให้เจาะเลือดอยู่ คุณหมอสาวร่างอวบเจ้าของที่นี่ยิ้มอย่างใจดี

   “ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะสีครีมไม่ได้อดอาหารมา แล้วนี่ก็ค่ำแล้ว” คุณหมอญาติไอ้ต้อมบอก

   “แล้วจะทำยังไงดี” ผมเหล่ตามองไปยังคนที่ยังอุ้มลูกหมาหลังทำวัคซีนแล้วอยู่นอกห้อง “คือพวกผมหาเวลามาลำบากมากเลย” สำหรับผมไม่ยากเท่าไหร่ แต่คนออกเงินกับรถนี่สิ วันนี้พี่โชเอาคันที่ไปเที่ยวเชียงใหม่มา แถมแวะซื้อที่สวมเบาะกันรถเปื้อนคลุมไว้ด้วย

   “ลองไปถามพี่ชายก่อนดีมั้ยคะ” คุณหมอชี้ไปทางพี่โช ผมมองหน้าคุณหมอแล้วยิ้มๆ นี่ถ้าไม่กลัวคุณหมอตกใจคงบอกไม่ไปแล้วนั่นแฟน ไม่ใช่พี่ชาย

   ผมเดินออกไปสะกิดที่โชที่กล่อมลูกหมาให้นอนหลับ (ความสามารถพิเศษสุดๆ) คนตัวสูงหันมามองผมอย่างฉงน คงเพราะใบหน้ายู่จนดูแปลกใจนั่นแหละ

   “มีอะไร”

   “ยังทำหมันวันนี้ไม่ได้อ่ะ” ผมบอก พี่โชมองเลยเข้าไปในห้องที่ยังรอผลตรวจของแม่สีครีม

   “ทิ้งมันไว้ที่นี้ดีมั้ย” ผมตาโตหลังจากได้ยิน “ถ้ามันดีขึ้นวันไหนค่อยมารับ”

   “ได้เหรอ” ถามน้ำเสียงตื่นเต้น คือกลัวมันแพงนั่นแหละครับ ค่าฝากต่อวันหลายร้อย ถ้าเอาแม่สีครีมฝากไว้เป็นอาทิตย์ต้องหลักพันแน่ ค่ายาอีก ค่าดูแล แล้วก็ค่าแอร์

   “ครับ ลองไปถามคุณหมอดู” พี่โชยิ้มให้ ผมกระโดดกอดไปทีหนึ่งจนคนถูกกอดดุ (เพราะอุ้มหมาอยู่)

   เดินกลับเข้าไปในห้อง คุณหมอยิ้มให้ “ถ้าจะฝากไว้ที่นี่จนกว่าแผลหายนี่ได้มั้ยฮะ”
 
   “ได้ค่ะ” คุณหมอว่า ก่อนจะเดินออกไป แล้วมีคุณหมอคนสวยคนใหม่เข้ามานั่งแทน ผมมองแทบเคลิ้ม คือคุณหมอน่ารักแบบเรียบร้อยๆ

   “มีอะไรหรือเปล่าคะ” คงเพราะถูกมองมากเกินไปเลยถามออกมา

   “เปล่าฮะ แต่คุณหมอน่ารักมากเลย” ผมชมจากใจจนคุณหมอหัวเราะ

   “ขอบคุณค่ะ น้องก็น่ารักนะคะ” คำชมจากคุณหมอมันก็ดีอยู่หรอก แต่ไอ้น่ารักมันทะแม่งๆ อย่างไอ้กลอยประเกรียนต้องหล่อสิครับ

   “พี่ชายก็หล่อมากด้วยค่ะ” เสียงพูดจากพี่ผู้ช่วยดังขึ้น คุณหมอคนสวยยืดคอมองออกไปแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

   “ใช่เลยค่ะ พี่ชายน้องหล่อมากเลย” นั่นไง พากันหลงเสน่ห์พี่โชกันหมด ไม่มองไอ้กลอยคนนี้เลย เศร้าใจ

   “อ่าครับ” ผมตอบอย่างเซ็ง

   “พี่ชายมีแฟนหรือยังคะ” คำถามออกมาจากปากที่เคลือบลิปสติกสีชมพูอ่อน ผมจ้องหน้าคุณหมอคนสวยก่อนยิ้มให้เฉยๆ ไม่ได้ตอบอะไร “แต่หล่อแบบนี้น่าจะมีสาวเยอะแน่เลย” ทำตาเศร้าซะด้วย “ต้องหวงพี่ชายให้มากๆ นะคะ ไม่อย่างนั้นจะถูกคนอื่นแย่งไปได้”

   “แม่สีครีมทำหมันได้วันไหนฮะ” ผมรีบเบี่ยงประเด็น มันรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก คุณหมอมองหน้าผมพร้อมรอยยิ้ม

   “เดี๋ยวรอผลตรวจก่อนนะคะ ว่าแต่ พี่ชายน้องทำงานที่ไหนเหรอคะ” ยังครับ ยังไม่หยุด ไอ้กลอยเริ่มโมโหนิดๆ ละนะ “พี่น้องชื่ออะไรเหรอคะ” ผึ่งงง เส้นความอดทนหมดไปแล้ว

   “ชื่อพี่โช อายุยี่สิบกว่า ทำงานเป็นรองประธานบริษัท สถานะมีเมียแล้ว” ตอบแบบนิ่งๆ ดูได้จากสายตาที่ผมกำลังมองคุณหมอ ซึ่งดูเธอจะอึ้งกับคำตอบยาวเหยียดของผม

   “แต่งงานแล้วเหรอคะ อายุยังไม่เยอะ รีบแต่งงานซะแล้ว” ทำหน้าเสียดายจนผมขมวดคิ้ว

   “เขารักของเขาน่ะฮะ รักมาก” ลากกอไก่ยาวซะจนเสียงแหบ พี่ผู้ช่วยถึงกับหัวเราะ

   “ยาวขนาดนี้ท่าจะรักจริงๆ นะคะเนี่ย” คุณหมอหัวเราะแห้งๆ ให้ผม คงคิดว่าผมหวงพี่ชายละสิ เปล่าหรอก หวงแฟน อะไรนะ ไม่ใช่แฟนเหรอ อ๋อ เมีย บ้า เซเลปเขาเรียกแฟนเฉยๆ (เริ่มบ้า)

   “ฮะ รักมาก ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม แมลงวันนี่ยังบินเข้าใกล้ไม่ได้เลยนะฮะ ตวัดลิ้นกินเลย” พูดให้ดูตลก แต่น้ำเสียงจริงจัง

   “อุ้ย คนหรือเปล่าคะนั่น” แสร้งหัวเราะผมรู้ เริ่มไม่สวยเหมือนหน้าตาแล้วคุณหมออ่ะ

   ผมกอดอกยืนหน้ามุ้ยมองคุณหมอยังสาวตรวจนั่นนี่ให้แม่สีครีมก่อนคุณหมอเจ้าของคลินิกจะเปิดประตูเข้ามา ในมือมีแฟ้มผลของแม่สีครีม ผมเลยกวักมือเรียกพี่โชให้เข้ามาฟังด้วย พอพี่โชเดินเข้ามา คุณหมอยังสาวก็ยิ้มหวานใส่ทันที

   “ผลการตรวจอยู่ในเกณฑ์ปกตินะคะ แต่ผลบางอย่างต้องรอสักวันหรือสองวัน” คุณหมอเจ้าของว่า

   “แล้วแบบนี้จะฝากตั้งแต่วันนี้เลยได้มั้ยครับ” พี่โชถามเสียงเรียบ ไม่รับรู้ถึงสองรังสีกำลังฟาดฟัน รังสีหนึ่งของหมอยังสาวที่ส่งสายตาให้สุดชีวิต อีกหนึ่งก็ของผม ที่พยายามปล่อยรังสีที่เข้มกว่าไปกลบไม่ให้ส่งถึงคนที่ผมยืนบังอยู่ แม้จะบังได้แต่ตัวเพราะหัวผมอยู่แค่คางก็เถอะ

   “ได้ค่ะ เรื่องค่าฝากต้องออกไปคุยกับการเงินด้านหน้านะคะ” คุณหมอเจ้าของว่า

   แน่นอนผมได้ส่วนลดนิดหน่อย

   “แล้วฝากลูกมันด้วยได้หรือเปล่าครับ” ผมหันไปมองหน้าพี่โชทันที พี่โชคงรู้ว่าผมสงสัยเลยยิ้มบางๆ แล้วอธิบายให้ผมฟัง “ก็ถ้าแม่มันอยู่ที่นี่ แล้วเราเอาลูกไปไว้ที่เดิมมันจะอยู่ไม่ได้”

   “เอาไปไว้ที่ห้องไม่ได้เหรอ” ผมถาม พี่โชส่ายหน้าทันที “ทำไมอ่ะ”

   “แล้วใครจะดูแลมัน”

   “กลอยดูได้”

   “ถ้าไปเรียนใครจะดู”

   เงียบไม่มีคำตอบ หน้างอนิดๆ ก็แต่ทำอะไรไม่ได้ ถ้าผมไปเรียนแล้วมันปวดอึขึ้นมาแย่แน่ พี่โชอาละวาดห้องแตก แล้วไอ้กลอยก็จะซวยโดนเช็ดล้างทั้งห้องแน่

   “เอาไงดีอะ” ผมหันไปมองคุณหมอเจ้าของ ก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อถูกทุกคนในห้องจ้องมองกันหมด “มีอะไรหรือเปล่าฮะ” ถามออกไป ทุกคนพร้อมใจกันส่ายหน้า ขนาดคุณหมอยังสาวยังมองแบบตื่นๆ

   “เอาไปฝากไอ้แทมมั้ย” พี่โชพูด ผมเลยหันไปมองอีกรอบ

   “ได้เหรอ”

   “อืม บ้านมันมีหมาหลายตัว เพิ่มอีกสองตัวคงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง” แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์คือพี่แทมสินะ ผมยิ้มตาหยีพยักหน้าเห็นด้วย พี่โชก็ขำออกมา ก่อนลูกหมาสองตัวจะเริ่มดิ้น “ชู่วๆ” กล่อมหมาหลับอีกแล้ว

   “งั้นผมฝากแม่สีครีมไว้ที่นี่นะฮะ” ผมบอกคุณหมอเจ้าของ “แม่สีครีมอยู่ที่นี่ห้ามดื้อนะ เดี๋ยวสุดหล่อจะมาเยี่ยมบ่อยๆ หายแล้วค่อยกลับ โอเค๊” ผมยกมือแม่สีครีมมาไฮไฟท์กันจนคนในห้องขำกันใหญ่

   ค่าเสียหายวันนี้เล่นเอาไอ้กลอยเครียด ค่าวัคซีนสองตัว ค่าตรวจโรคสารพัดโดนไปหลายพัน ทำไมมันแพงกว่าคนไปหาหมออีกเนี่ย พี่โชจ่ายเงินเสร็จสรรพก็พากันออกมา ผมอุ้มสีนิลไว้ ส่วนสีนวลนอนหลับบนตักพี่โชที่กำลังขับรถไปบ้านพี่แทม

   “นอนสบายจริงนะสีนวล” ตบหัวหมาเบาๆ

   “อิจฉาละสิ” พี่โชพูดปนขำ

   “อิจฉาอะไร”

   “ที่ไม่ได้นอนตักพี่น่ะ” ดูพูดเข้า ผมเนี่ยนะ อิจฉาหมา บ้าแล้ว

   “ไม่ได้อิจฉาเลย ไม่ได้อยากนอนตักสักนิดโด่” เบ้ปากใส่จนถูกหัวเราะ

   “ไม่อยากนอนตัก งั้นนอนบนตัวพี่ดีมั้ย” คำพูดกำกวมๆ ฟังแล้วทะแม่งๆ

   “ไปนอนทำไมบนตัวพี่ หนักตายเลย” ไอ้กลอยตอบแบบโง่ๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ “คิดแต่เรื่องพวกนี้นะคนเรา” ใครเพิ่มแอร์หว่า ทำไมมันร้อนๆ

   “ที่ไปทำตาหวานใส่หมอคนนั้นอย่าคิดว่าพี่ไม่เห็นนะ” ทำเสียงเข้ม ผมเลยย่นจมูกใส่

   “แต่หมอเขาทำตาหวานใส่พี่โช ถามมาได้ว่าพี่มีแฟนหรือยัง ชื่ออะไร ทำงานที่ไหน” นึกถึงแล้วก็โมโห

   “แล้วตอบไปว่ายังไง” พี่โชหันมามองนิดๆ

   “ก็บอกไปว่ามีเมียแล้ว หวงมาก ไม่ให้ใครแตะ เป็นไง ตอบดีป่ะ” ยักคิ้วนิดๆ พี่โชหัวเราะดังลั่นรถจนสีนวลสะดุ้ง

   “ตอบดี คืนนี้มีรางวัล” ขยิบตาเจ้าชู้ให้ เลยแลบลิ้นส่งไป




   หน้าบ้านพี่แทม ไม่อยากเรียกว่าบ้านเลยครับ ต้องเรียกว่าคฤหาสน์ แค่ประตูรั้วยังยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้ มองลอดซี่ประตูรั้วไปในตัวบ้านยิ่งอลังการยิ่งกว่า พี่โชบีบแตรไปสองรอบก็เห็นผู้ชายผมเกรียนสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีเขียววิ่งมาเปิด
 
   “มาหาไอ้แทมครับ” พี่โชลดกระจกลงแล้วบอก คนมาเปิดประตูทำท่าเหมือนทหารทำความเคารพด้วยตอนแรก

   “คุณแทมอยู่ด้านในครับ” พี่โชพยักหน้าแล้วขับรถเข้าไป โอ้โห พูดได้แต่คำนี้จริงๆ

   พี่โชขับวนรอบบ่อน้ำพุไปตามถนนก่อนเข้าไปจอดที่ลานจอดรถ อย่างน้อยรถบ้านหลังนี้ก็ไม่ได้หรูหรามากมาย ก็แค่รถนอกทุกคันก็แค่นั้นเอง เชี่ย พี่แทมรวยเกินไปแล้ว

   ผมเปิดประตูมองไปรอบๆ ตัวอย่างตื่นตาตื่นใจ เคยเห็นแต่ในละคร ไม่คิดว่าจะมีคนรู้จักมีบ้านหลังแบบนี้ด้วย ขนาดบ้านพี่โชยังไม่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ พี่แทมเดินลากแตะออกมา ใบหน้ายับยู่ยี่คงเพิ่งตื่นนอน นี่มันจะค่ำอยู่แล้วพี่แกยังนอนได้ ตะวันก็ทับหัวพอดี

   “ไงมึง” พี่แทมทัก ตาจ้องมองสองตัวที่ถูกอุ้มอยู่ “ไอ้สองตัวนี้น่ะเหรอ”

   “อืม” พี่โชพยักหน้า พี่แทมก็เดินมาคว้าหลังคอจนสีนิลที่ผมอุ้มลอยหวือ

   “เฮ้ยพี่ มันเจ็บ” หน้าตื่นสิ อยู่ๆ ก็หิ้วหลังคอจนลูกหมาห้อยต่องแต่งแบบนั้น

   “มันไม่เจ็บหรอก ใครๆ เขาก็จับแบบนี้ ขนาดแม่มันยังหิ้วตรงนี้เลย” พี่แทมบอก ก็อยากจะเชื่อแต่ดูหน้าสีนิลมันเหมือนไม่ชอบให้จับแบบนั้น นี่คิดถูกหรือคิดผิดวะเนี่ย

   “พี่จะเอามันไปไว้ที่ไหนอ่ะ” ผมถาม บ้านสะอาดสะอ้านเกินไปจะมีหมาสองตัววิ่ง

   “อ้อ ตามมา” ผมรีบคว้าสีนิลมาอุ้มตามเดิม เพิ่มเติมคือความหวงจนพี่แทมกับพี่โชหัวเราะ ไม่ตลกนะเฮ้ย หมามันก็เจ็บเหมือนคนนั่นแหละ

   ผมเดินตามหลังพี่แทมมาทางหลังบ้าน ฉีกไปอีกด้านจะมีบ้านขนาดกลาง ประตูกรงถูกปิดอย่างมิดชิด เปิดออกก็ยังมีประตูไม้อีกชั้น เปิดเข้าไปยังมีมุ้งลวด ประตูอะไรจะซับซ้อนขนาดนี้ แต่พอเห็นด้านในยิ่งกว่าบานประตูอีก บ้านโล่งมีกรงถูกวางเรียงกันเป็นตับ บางตัวก็อยู่ในกรง บางตัวก็อยู่ในคอก แค่ผมเดินผ่านกรงบางตัวยังรู้สึกเกร็ง กลัวมันจะพุ่งออกมากัด

   “มันจะกัดผมหรือเปล่าพี่” ถามอย่างเกรงๆ ดวงตาพวกมันจ้องเหมือนเห็นเหยื่อ หรือว่ามันมองสีนิล มันอยากกินลูกหมาผมหรือเปล่าวะ

   “นี่มันหมาฝึกมาแล้ว ไม่กัดคนหรอก ถ้าไม่ได้สั่ง” เชี่ย น่ากลัว “ฮาร์เปอร์” อยู่ดีๆ พี่แทมก็ตะโกนขึ้นมา แค่แปบเดียว หมาตัวโตก็รีบวิ่งเข้ามา หน้าแหลม หูตั้ง หางเป็นพู่ มันวิ่งมาแบบไม่มีลดความเร็วลงจนผมรีบไปหลบหลังพี่โช พอเอนหน้าไปดู ไอ้หมาตัวนั้นมันกระโดดใส่พี่แทมเหมือนดีใจที่มาหา

   “มันไม่กัดเหรอพี่แทม” ถามอย่างสนใจ

   “ไม่หรอก มันใจดี” พี่แทมว่า มือก็ขยี้หัวหมาจนมันงับมือ แต่น่าจะเบาเพราะไม่งั้นคงโดนเตะไปแล้ว “เอาลูกมาวางลง” ตาเหลือกที่ได้ยินพี่แทมพูด เอาวางก็โดนงาบสิวะ แต่พี่โชกลับเอาวาง

   “ไม่เป็นไร” พี่โชบอก ผมเลยจำใจวางใกล้ๆ ตัวผมนี่แหละ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยทัน

   หมาฮาร์เปอร์มองลูกหมาสองตัวที่หางลู่ลงอย่างหวาดกลัว มันเดินเข้ามาใกล้ ใช้จมูกดมๆ ดู เท้าใหญ่ๆ ยกขึ้นเขี่ยจนผมเกือบเผลอตีขามัน เพียงไม่นานลูกหมาสองตัวก็เดินเข้าไปหาหมาตัวโต

   “มันสนิทกันแล้ว” ผมบอก

   “เออ มึงนี่ก็กลัวไม่เข้าเรื่อง” พี่แทมกอดอกว่า “ผัวมึงน่ากลัวกว่าไอ้ฮาร์เปอร์อีก” พูดแล้วก็ขำ เลยโดนพี่โชเตะไปทีหนึ่ง
 
   “ด่ากูเป็นหมาเหรอวะ”

   “แมวมั้งไอ้เชี่ย” ผมยังหัวเราะตามเลยโดนตาดุมาด้วย “ไม่ต้องห่วงหรอก ที่นี่มีคนดูแลให้ข้าวให้น้ำตลอด หากจะเอาคืนวันไหนก็มาเอา”

   “ถ้าเอาไว้ที่นี่เลยได้ป่ะ” อยู่ๆ ผมก็อยากให้อยู่ที่นี่ ดูจากความสุขสบาย มีบ้านหลังใหญ่แบบนี้ไม่ต้องคอยไปหาที่หลบฝนตามต้นไม้หรือใต้ตึกให้คนรังเกียจ มีคนคอยให้ข้าว ไม่ต้องทนหิ้วท้องยามหิวรอในวันที่ผมไม่มีเรียน ไม่ต้องทนร้อนกับอากาศเพราะที่บ้านหลังนี้มีแอร์ปรับอุณหภูมิ ที่สำคัญ มีคนดูแลตลอด แบบนี้จะไม่ได้ต้องโดนด่าว่าเป็นหมาจรจัด

   “คิดว่าอาหารนะเว้ย” พี่แทมว่า ผมเลยย่นหน้าทันที “กูล้อเล่น”

   ผมมองลูกหมาสองตัวก่อนจะเดินตามหลังพี่โช มือจับชายเสื้อพี่โชอยู่ตลอด มันรู้สึกโหวงๆ ผมให้ข้าวมันตั้งแต่เพิ่งลืมตาดูโลกใหม่ๆ เพราะมันเกิดในบันไดตึก ซื้อนมแพะป้อนมันจนตาแตก เดินตามผมตลอดเวลาผ่านไปที่สวน บังคับให้ไอ้สักสร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้มันหลบฝน แต่ถูกพังไปเพราะเกะกะ เก็บข้าวไว้ให้ทุกวันเพื่อไม่ให้มันหิวแล้วออกไปหากินที่อื่น ต่อจากนี้ไม่ได้เจอหน้ากันแบบนั้นแล้ว ผมคงจะคิดถึงมันน่าดู

   สีนิลกับสีนวลเห็นผมกำลังจะออกห้องก็รีบวิ่งมางับขากางเกงตัวละข้าง น้ำตาไอ้กลอยร่วงเลยครับ สงสารด้วย คิดถึงด้วย ไม่อยากจากเลย ผมย่อตัวนั่งลงเอามือลูบหัวมันเบาๆ

   “อยู่นี่นะ เดี๋ยวถ้าแม่หายจะพามาอยู่ด้วย ตอนนี้อยู่กับลุงฮาร์เปอร์ไปก่อน ที่นี่สบายกว่าที่เก่าเยอะ ได้กินอิ่มด้วย ไม่นานเป็นหมูอ้วนแน่ๆ” ผมหัวเราะทั้งน้ำตาจนพี่โชลูบหัว “ไปนะ แล้วจะมาเยี่ยมบ่อยๆ” โบกมือลาก่อนพี่แทมจะเรียกให้ฮาร์เปอร์มาคาบสองตัวนี้ไป ลูกหมาร้องโวยวายแต่พี่แทมก็ปิดประตูแล้ว ผมยืนมองประตูที่ปิดสนิทด้วยความคิดถึง

   “ดราม่าทำไมวะเนี่ย คิดถึงก็มาดิ่ ไอ้โชก็เพื่อนกู มึงก็เมียเพื่อนกู” พี่แทมผลักหัวจนผมเซนิดๆ

   “ก็มันคิดถึงนี่” ยู่ปากใส่เลยโดนหัวเราะ ผมเดินไปเช็ดน้ำตาบนอกของพี่โชจนพี่แทมส่ายหน้ารังเกียจ เพราะมันมีขี้มูกติดไปด้วย ส่วนคนโดนเช็ดเขกหัวผมเบาๆ

   ในบ้านของพี่แทมโอ่อ่าทีเดียว เจอแม่ของพี่แทมด้วย เป็นคุณหญิงที่ยังสวยและใจดี ดูรักพี่โชมากกว่าพี่แทมอีก แต่ตอนนี้กำลังเปลี่ยนมารักผมมากกว่าแล้ว

   “มาเยี่ยมแม่บ่อยๆ นะเรา” แม่พี่แทมกอดผมพลางหอมแก้มซ้ายขวา

   “ฮะ” ยิ้มตาหยี ผมยกมือไหว้ลาก่อนเดินกลับมาที่รถพี่โช มองไปยังทางที่ลูกหมาสองตัวอยู่อย่างอาลัย “แล้วจะมาเยี่ยมนะสีนิล สีนวล” ผมโบกมือลาอากาศพร้อมกับรถเคลื่อนออกจากประตูรั้วบ้าน




   เกือบสองอาทิตย์ที่แม่สีครีมอยู่โรงพยาบาล แผลผ่าตัดหายสนิทชนิดที่ว่าวิ่งกระโดดรอบตัวผมไปมาได้สบาย ผมกอดแม่สีครีมแน่น

   “มารับแล้วนะ” ผมบอกก่อนถูกลิ้นมันเลียตามหน้าตามปากจนพี่โชต้องดึงให้ผมยืนขึ้น

   “ดูร่าเริงกว่าทุกวันเลยนะแม่สีครีม” คุณหมอยังสาวเดินยิ้มหน้าแป้นแล้นออกมา “แผลหายดีแล้วนะคะ” หันไปบอกพี่โชครับ ส่วนผมยืนหน้าบึ้งอยู่จนคุณหมอเจ้าของยิ้มให้

   “ต้อมเพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เอง”

   “ไอ้ต้อมมาเหรอฮะ เสียดายไม่เจอ” ผมว่า น่าจะโทรบอกจะได้เจอกัน

   “มากับเพื่อนที่ตัวสูงๆ หล่อๆ น่ะ เอาแต่เดินตาม ตลกดี” คุณหมอเจ้าของพูดไปขำไป มือก็เขียนบิลไป อืม...สูง หล่อ เดินตาม อย่าบอกนะว่า...

   ผมรีบหันไปมองนอกคลินิกทันที กลัวจะมาปะกันที่นี่ เรื่องไอ้ต้อมกับพี่ฟลอยด์พี่โชก็พอเข้าใจ แต่ไม่รู้ทำไมเห็นหน้ากันแล้วต้องแยกเขี้ยวใส่กันตลอด

   จ่ายค่ารักษาหมดทุกบาทผมก็พาแม่สีครีมมาที่บ้านพี่แทมอีกรอบ คราวนี้แม่สีครีมหวงลูกกับฮาร์เปอร์นิดๆ เพราะดูลูกหมาสองตัวจะรักตัวอื่นมากกว่า สุดท้ายผมก็เห็นไปนอนขดอยู่ด้วยกันสี่ตัว

   ออกมาจากบ้านพี่แทม ผมก็กลายเป็นนิวจิ๋ว (เป็นคนเจ้าน้ำตา) ต่อไปเวลาไปมหาลัยจะไม่ได้เจออีกแล้ว พอคิดแบบนั้นมันก็ไหลออกมาตลอด

   “ดราม่าเยอะไปแล้ว” พี่โชพูด

   “ก็มันคิดถึงอ่ะ” สูดน้ำมูกจนคนข้างๆ ส่ายหน้าพร้อมกับหยิบกล่องทิชชู่ให้ “พี่โช”

   “อะไร”

   “พรุ่งนี้มาหาแม่สีครีมได้ป่ะ”

   “ไม่ได้ พี่มีประชุม”

   “วันมะรืนอะ”

   “พี่ไปดูไซด์งาน”

   “วันมะรื้น”

   “ออกไปดูที่

   “วันมะรื้นของมะรื้น”

   “ไม่ว่าง”

   “โหย แล้วเมื่อไหร่จะว่างวะเนี่ย คิดถึงอะ” ดีดดิ้นอยู่บนรถจนพี่โชเอาผ้าขนหนูอุดปาก “ไออ๊าย (ใจร้าย)” พูดทั้งที่ยังคาบผ้าขนหนู แต่เดี๋ยว ผ้านี้ผมเอาเช็ดขี้มูกไป แล้ว อี๋ เต็มปากเลยว่ะ แหวะๆๆๆๆ



   ถึงพี่โชไม่ว่างมา ผมก็ให้ไอ้อัธพามา มันบ่นแต่พอเห็นหมาตัวใหญ่มันก็อยากมาอีก เพื่อนผมรักหมานะครับ เพราะเป็นหมาเหมือนกัน เชี่ย โดนไอ้อัธตบหัว ผมจะฟ้องพี่โช!!!


.............The End.....................


น้องกลอยประเกรียนมาแบบสั้นๆ เบาๆ ให้หายคิดถึงค่าาา อย่าเพิ่งเบื่อกลอยประเกรียนสุดหล่อนะคะ >w<

แล้วพบกันตอนหน้าค่าาา  :mew1: :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-08-2016 17:59:41
เกรียนประกลอย รักหมามากเลย
พี่โชใจดีพาแม่หมามาทำหมันด้วย
กลอย หวงพี่โชด้วย พอถูกถามเรื่องแฟนพี่โช ตอบซะ...
"รักมาก ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม แมลงวันนี่ยังบินเข้าใกล้ไม่ได้เลยนะฮะ ตวัดลิ้นกินเลย"
พี่ฝอยขัดหม้อเดินตามต้อมไม่ห่างเลย
แสดงว่าเข้าใจกันแล้ว
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 21-08-2016 18:34:29
ภาค2 เถอะค่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 21-08-2016 20:00:19
เอาจริงๆน้องกลอยเกรียนนี่นอกจากพี่โชแล้วก็พี่คนสปอยล์เยอะอยู่นะทั้งจากบรรดาเพื่อนพี่โชและเพื่อนตัวเอง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 21-08-2016 20:04:30
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 21-08-2016 20:42:40
ของแท้ต้องเกรียนถึงจะใช่กลอย รอติดตามตอนพิเศษจ้า ลุ้นๆ คู่ ต้อมพี่ฟอยล์
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-08-2016 20:58:00
มาบ่อยระวังกลายเป็นแทมอัธนะเออ เหอๆๆๆ :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 21-08-2016 21:01:42
แอบคิดว่า พี่โชหวงกลอยกับหมาเบาๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 21-08-2016 21:41:55
น้องกลอย? น่ารัก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 21-08-2016 22:46:00
กลอยเกรียนสมควรโดน :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 21-08-2016 23:08:20
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 22-08-2016 01:00:22
อ่านแล้วหยุดไม่ได้เลยยยย    :hao6:
ชอบมากๆ พี่โชกับกลอยน่ารักมากก   :-[
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 22-08-2016 13:37:10
พี้โชน้องกลอยผู้รักมากคิดถึงคู่นี้สุดๆๆ :katai3: :katai3:  เอผู้เขียนแต่เพิ่มอีกเรื่องก็ดีนะให้อัธคู่กับพี่แทมสักเรื่องก็ดีนะคู่นี้มาป๊ะกันคงจะมันเหมือนกันรักหมาเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 22-08-2016 14:34:27
สนุกมากค่ะ น้องกลอยน่ารักโดนใจมาก ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-08-2016 14:56:51
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
นี่ถ้ากลอยเกรียนบอกพี่โชว่าถ้าพี่ไม่ว่างเดี๋ยวผมให้พี่ฝอยขัดหม้อพามาหาหมา
รับรองได้ว่าพี่โชโคตรว่างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ไม่รู้ว่ากลอยจะมีแรงมาหาหมาหรือเปล่า :oo1: :oo1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:พาหมาไปทำหมัน UP! // [21/08/59] [END]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 22-08-2016 16:10:31
น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซันจอม เปลี่ยน UP!/[22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 22-08-2016 21:40:23
Just you and I : Part Sun & Jom : เปลี่ยน



       ผมอยากได้มีดสักชุด ไม่ได้เอามาปอกอะไร แต่จะเอามาฆ่าคน ถ้าสายตาผมเป็นอาวุธ มันคงตายตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้ว  ไอ้คนที่ผมอยากฆ่ากำลังนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่ เดินผิวปากไปรอบห้องจนอยากจะดึงผ้ามันให้หลุด แล้วผมก็ทำจริง เพราะผ้ามันอยู่ในมือผมนี่แหละ ตอนนี้มันก็เลยเปลือยล่อนจ้อน

   “ทำไร” เสียงไอ้ซันมันถาม หน้าตาไม่ทุกข์ไม่ร้อนที่ต้องมาโชว์ของต่อหน้าผม “อยากเห็นของกูทำไมไม่บอก” แล้วมันก็แอ่นโชว์จนผมยกเท้าจะถีบมันเลยขยับถอยหลังแล้วหัวเราะ

   “มึงไปใส่เสื้อผ้าดีๆ ไป มันทุเรศไอ้สัด” ด่าแต่ไม่มีสำนึก มันยังเดินเปลือยโชว์ก้นขาวๆ ไปทั่วห้อง “ไอ้ซัน”

   “คร้าบๆ แหมดุจัง เมียใครหว่า” มันวิ่งมาหอมแก้มผมก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำ โดยมีผ้าเช็ดตัวปลิวตามหลังไปติดๆ ไอ้เชี่ยนี่

   มันเรียกผมว่าเมียมาตั้งแต่วันที่ผมยอมมัน แม่งไม่น่าเลย ผมน่าจะกดมันก่อน แล้วอย่าคิดว่าผมไม่ยอมกดมันนะ วันไหนมันนอนหลับผมก็รีบลักหลับแต่พอมันรู้ตัวกลายเป็นผมโดนกดตลอด แม่งไม่เข้าใจ เผลอคิดอะไรไปหน่อยรู้ตัวอีกทีก็ถูกมันกอดอีกแล้ว

   “ไอ้เชี่ยซันปล่อยกู” บอกมันไปแต่มันซุกหน้าที่ซอกคอแล้วงับโคตรแรงแล้วมันก็ผละออก “มึงทำเชี่ยไรวะ” ยกมือขึ้นลูบต้นคอ โคตรเจ็บ

   “ทำเครื่องหมาย”

   “เครื่องหมายเชี่ยไร”

   “ว่ากูเป็นเจ้าของมึงคนเดียว” แล้วมันก็วิ่งหนีผมเลยเตะมันไม่ทัน ไอ้เชี่ยนี่มันบ้ามาก

   ตอนนี้มันไปทำงานแล้วครับ เป็นบริษัทก่อสร้างเล็กๆ พ่อมันให้ไปทำบริษัทเพื่อนก็ไม่เอา บอกไม่เท่ ก็เรื่องของมัน ส่วนผมยังอยู่ในช่วงขี้เกียจ แต่ก็ออกไปข้างนอกหาแรงบันดาลใจทุกวัน พกกล้องคล้องคอไปด้วยเผื่อเจออะไรถูกใจ

   เดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ยกกล้องถ่ายรถตุ๊กๆ บ้าง ถ่ายคนบ้าง ถ่ายหนอนบ้าง จนไปเจอคนท่าทางแปลกๆ แต่งตัวดูดี สวมสูทผูกไทด์แต่มายืนอยู่ข้างถนน ท่าทางเหมือนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ผมยกกล้องขึ้นถ่าย ซูมไปทีใบหน้า แค่เสี้ยววินาทีเขาหันมามองผมก็กดถ่าย ก่อนจะพุ่งไปคว้าคนที่กำลังจะเดินออกไปให้รถชน

   “เชี่ย” ผมกอดเขาไว้ทั้งตัวแล้วเอนตัวกลับมาด้านใน เกือบโดนรถกระบะชนแล้ว “ทำไรวะ” ผมตะคอกใส่จนไอ้คนจะฆ่าตัวตายร้องไห้ออกมา อ่าวเวร

   “งานของผม ธุรกิจของผมกำลังจะล้ม” ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร จนผมต้องพามานั่งที่ม้านั่งข้างสวนสาธารณะ พอมันหยุดร้องก็ก้มหน้านิ่ง “ธุรกิจสร้างตั้งแต่รุ่นของปู่กำลังจะล้มในรุ่นของผม แล้วผมจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอพวกท่านบนสวรรค์”

   “ก็หน้าทุกข์ๆ ของมึงนี่แหละ” ผมพูดเสียงเรียบ กล้องยกถ่ายนกพิราบกำลังจิกกินเศษอะไรสักอย่าง “ธุรกิจกำลังจะล้ม แปลว่ายังไม่ล้ม มึงก็หมดหวังซะแล้ว” ไอ้คนหมดหวังมันเงยหน้ามองผม ตาเล็กๆ เบิกโตเท่าที่จะทำได้

   “นั่นสินะ” เหมือนมันครางออกมา

   “คนเราถ้าไม่สู้ มัวแต่คิดว่าจะล้มมันก็ไม่ก้าวเดิน ไม่ใช่หรือไง” ประโยคที่ผมได้จากไอ้ซันถูกถ่ายทอดไปให้คนหมดหวัง

   “ขอบคุณครับที่เตือนสติ” มันยิ้มให้ผม “ว่าแต่น้องชื่ออะไรเหรอ” ดวงตาเรียวเล็กเริ่มมีประกายไฟ

   “ชื่อจอม”

   “พี่ชื่อไฟนะ” ชื่อโคตรร้อนแรงแต่ทำตัวอ่อนแรงสัด

   “อืม” ตอบรับไปงั้นๆ เพราะมันก็แค่คนเคยเจอแล้วคงไม่ได้เจออีก

   “น้องเรียนจบแล้วเหรอ เรียนคณะอะไร” ถามรัวๆ จนผมต้องขมวดคิ้ว ไม่ใช่อะไร เริ่มหิวนิดๆ

   “วิศวะ” ตอบไป ตาเริ่มกวาดหาร้านขายของกิน

   “สนใจมาทำงานเป็นเลขาพี่มั้ย” คำถามแปลกๆ ทำให้ต้องหันกลับไปมอง

   “เลขาเป็นผู้หญิง แล้วผมก็ทำไม่เป็น” มิน่าธุรกิจจะล้ม เอาคนจบวิศวะไปเป็นเลขา ขนาดฟังอาจารย์สอนยังจดไม่ทัน

   “เดี๋ยวพี่ให้คนสอน” น้ำเสียงโคตรกระตือรือร้น

   “ไม่เป็นไร ขอตัวก่อน” ผมค้อมหัวให้นิดๆ กำลังจะเดินไปที่รถเข็นขายลูกชิ้น แต่กระดาษแผ่นเล็กๆ ถูกยัดเข้าที่มือจนต้องก้มมอง “อะไร”

   “นามบัตรพี่ไง ไว้บริษัทพี่เติบโตเมื่อไหร่ก็ติดต่อมานะ” มันว่า

   “เอาพรุ่งนี้ให้รอดก่อนเถอะ” ผมบอก มันก็หัวเราะตามหยี

   “ครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ” ผมโบกมืออย่างไม่สนใจแล้วเดินข้ามไปที่รถเข็นขายลูกชิ้น สั่งมาซะเต็มถุงจนแม่ค้ามอง แต่ทำไมต้องสน


   
   กลับมาห้องซื้อกับข้าวมาเผื่อไอ้คนไม่ยอมกลับห้อง มันไลน์มาบอกจะกลับมาสายสักหน่อย ผมเดินไปเดินมาไลน์ก็เด้ง คนส่งมาไม่ใช่ไอ้ซันแต่เป็นไอ้เด็กเกรียน

   ‘พี่จอม พี่โชชอบอะไรอ่ะ’ ผมมองข้อความมันงงๆ
 
   ‘อะไรของมึง’

   ‘ก็อีกสองวันจะวันเกิดพี่โช ผมอยากหาของขวัญให้อ่ะ’ ไอ้คู่นี้ก็รักกันจริงๆ

   ‘มึงแค่ถอดเสื้อผ้าแล้วเอาริบบิ้นพันรอบตัวเป็นของขวัญ ไอ้โชมันก็ชอบแล้ว’ อยู่ดีๆ มาถามว่าไอ้โชชอบอะไร ผัวมันทั้งคนไม่รู้ได้ไงว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร

   ‘โห แรงว่ะ’ (สติ๊กเกอร์เห็ดทำหน้าสยอง)

   ‘ผัวมึงก็คิดเองสิวะ’ พิมพ์ด่ามันไป

   (สติกเกอร์รูปหมีร้องไห้)

   ‘ไปถามไอ้โชดูว่ามันอยากได้อะไร นั่นแหละดีที่สุด’

   ‘จริงด้วย’ (สติ๊กเกอร์หมียกนิ้วโป้ง)

   แล้วมันก็หายไป ไอ้กลอยเกรียนหลังๆ มานี่ชอบไลน์มาคุยกับผมบ่อย บางทีไอ้โชประชุมเลิกช้าก็มาถามผม แล้วผมจะไปรู้ได้ยังไงไม่ได้ทำงานที่เดียวกัน มันบ้ามาก

   สักพักประตูก็เปิดออก ไอ้ซันเดินโซเซเข้ามาจนผมแปลกใจ

   “เป็นไรมึง” ถามตอนมันเดินมาทิ้งตัวนอนบนโซฟาที่ผมนั่งอยู่ มันเลยเอาหัวมาหนุนขาผม

   “เหนื่อย” คงจะเหนื่อยจริงๆ

   “ไปอาบน้ำไป ตัวโคตรเหม็นเหงื่อ” ไล่มัน แต่มันก็ยื่นหน้ามาจูบปากผม “ไอ้เชี่ยซัน”

   “หายเหนื่อย” มันยิ้มจนไม่กล้าตี “วันนี้ออกไปไหนมาบ้าง” มันถาม ตาก็ปิดสนิท เดี๋ยวคอยดู มันหลับแน่

   “ก็ออกไปถ่ายรูปเรื่อยๆ” ผมตอบ “เอ่อ กูเจอคนจะฆ่าตัวตายด้วย” ไอ้ซันลืมตามองผมทันที

   “แล้วมึงทำไง”

   “กูก็ถ่ายรูปเขาไว้ เชี่ย” โดนมันดีดหน้าผากเลยดีดคืนมันไปที

   “ทำไมมึงไม่ช่วยวะ”

   “ก็มึงไม่ฟังให้จบ กูช่วยเขาแล้ว” ไอ้ซันพยักหน้าเบาๆ “เห็นบอกธุรกิจกำลังจะล้ม กูเลยบอกสิ่งที่มึงเคยบอกกูไป มันเลยขอบคุณกู” ผมบอก ไอ้ซันก็ยิ้มๆ ก่อนจะหน้าบึ้ง “แล้วเขาชวนกูไปเป็นเลขาด้วย ไอ้เชี่ย กูเรียนวิศวะมาให้กูไปเป็นเลขา ไม่รู้ใช้สมองส่วนไหนคิด เฮ้ย”

   กำลังพูดอยู่ดีๆ ถูกไอ้คนนอนหนุนขาดึงให้ลงมานอนแล้วมันนอนทับบนตัว โคตรหนัก

   “มันว่าไงอีก” เสียงเข้มจนผมต้องขมวดคิ้ว

   “ไอ้ซันกูหนัก ลุก” ดันแต่มันไม่ยอมขยับ

   “กูถาม” ตะคอกกูทำเชี่ย

   “พูดแค่นั้น มึงเป็นเชี่ยไรวะ” ตวาดกลับ เป็นบ้าอะไรของมัน

   “เป็นผัวมึงไง” หน้าตึงเลยผม อยู่ๆ มันก็เป็นบ้าขึ้นมา

   “ถ้ามึงยังเป็นแบบนี้ก็กลับห้องมึงไป” บอกนิ่งๆ ไอ้ซันค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ผมก็รีบลุกขึ้น

   “กูขอโทษ” มันบอกเบาๆ

   “เป็นอะไร” ปกติมันไม่เป็นแบบนี้

   “อยู่ๆ กูก็คิดว่า ถ้ามึงจากกูไป กูจะทำยังไง กูจะเริ่มตรงไหน” มันยกมือขึ้นกุมหน้าทั้งสองข้าง

   “มึงเหนื่อยเกินไป ไปอาบน้ำเถอะแล้วมากินข้าว กูซื้อข้าวมาแล้ว” แตะบ่ามันเบาๆ มันก็ลุกเข้าห้องไป ผมมองตามหลังผู้ชายที่มาอาศัยอยู่ห้องเดียวกับผม ตั้งแต่มันไปทำงาน กลับมาก็ดูแปลกๆ

   ไม่นานไอ้ซันก็เดินออกมาพร้อมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ผมวางจานข้าวให้ก็ได้รอยยิ้มกลับมานิดๆ ไอ้ซันที่กวนตลอดหายไป ผมก้มหน้ากินข้าวแต่มันไม่อร่อยเหมือนเก่า อาจเพราะมัวแต่เงยหน้ามองไอ้คนที่นั่งตรงข้าม จนทนไม่ไหวต้องถามออกไป

   “มึงเป็นอะไร” ไอ้ซันเงยหน้ามามองผม แล้วมันก็ส่ายหน้า “มึงบอกว่ารักกู แล้วทำไมมึงไม่บอกว่ามึงเป็นอะไร ไอซัน”

   “เขาจะส่งกูไปดูงานที่ภูเก็ต” มันว่า ผมก็ยังทำหน้างง

   “แล้ว”

   “กูไม่อยากจากมึงไป” ผมหน้ามันนิ่งๆ แล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ไอ้เชี่ยเอ้ย

   “มึงบ้าแล้ว นึกว่าเรื่องอะไร” หัวเราะจนไอ้ซันมันหน้างอ

   “เรื่องใหญ่เหี้ยๆ” มันเถียง

   “ใหญ่ตรงไหนวะ กะอีแค่ไปภูเก็ต”

   “ก็ที่นั่นไม่มีมึง” น้ำเสียงหงอยอีกแล้ว ยิ้มขำท่าทางของไอ้ซัน

   “มึงเป็นลูกกูเหรอวะ ติดกูเกิน”

   “เป็นผัว” สวนกลับมาจนต้องถลึงตาใส่ “ผัวไม่อยู่ แล้วเมียจะอยู่ยังไง” ดูปากมัน

   “กูก็หาผัวใหม่” หน้ามันนิ่งไปทันที มือก็วางช้อนส้อมลง “อะไร”

   “กูฆ่าทิ้งแน่” โหมดโหดมันก็มี “กูพูดจริง อย่างไอ้เชี่ยที่ชวนมึงนั่น ห้ามติดต่อมัน เมียคนเดียวกูเลี้ยงได้”

   “เลี้ยงตัวมึงก่อนเถอะ” ผมส่ายหน้า

   “มึงไปอยู่กับกูนะ”

   “ไม่”

   “ทำไมอะ”

   “ห้องกูก็มี ทำไมกูต้องไปอยู่กับมึง”

   “มึงไม่เหงาเหรอ”

   “ไม่”

   “แต่กูเหงา”

   “เหงามึงก็ออกไปเที่ยวสิวะ”

   “เที่ยวไม่มีมึงก็ไม่สนุก”

   “ไอ้ซัน กูว่ามึงชักอาการหนักแล้วว่ะ”

   “กูเป็นแบบนี้เพราะมึงนั่นแหละ” มันเอาช้อนชี้หน้าผม
   

   กินข้าวเสร็จมันก็นั่งทำงานของมันไป ผมก็นั่งเอารูปที่ถ่ายลงเว็บไป แชทหน้าเฟสเด้งขึ้นมา ใครทักมาวะ ชื่อไม่ใช่คนที่ผมรู้จักแน่นอน

   ‘น้องจอมใช่มั้ย’ รู้จักชื่อผมด้วยว่ะ

   ‘ใครวะ’ ถามกลับ คิ้วเริ่มขมวด

   ‘พี่ไฟเองครับ’ ไฟไหนวะ นิ่งอยู่ครู่ก่อนจะนึกออก

   ‘อ่อ พี่คนสิ้นคิดนี่เอง’

   ‘โห เอาซะพี่โคตรรู้สึกแย่อ่ะ มันแค่ชั่ววูบเอง’

   ‘มีอะไร’

   ‘ยังเย็นชาเหมือนเดิมเลย น้องถ่ายรูปสวยนะครับ ถ้าไม่รู้ว่าเรียนวิศวะคงคิดว่าเรียนถ่ายภาพ’

   ‘ขอบคุณครับ’

   เสียงเฟสดังต่อเนื่องจนไอ้คนนั่งทำงานต้องลุกมาดู พอมันเห็นก็ปิดหน้าจอผมลงจนต้องโวยวาย รูปยังลงไม่หมดเลยนะเว้ย

   “ไอ้ซันทำไรวะ”
 
   “กูบอกแล้วว่าห้ามติดต่อกับมัน แล้วนี่อะไร” เสียงแข็งจนต้องขมวดคิ้วมอง

   “มันทักกูมาเอง กูไม่รู้เรื่อง”

   “แล้วมึงไปคุยทำไม” อ่าวไอ้นี่

   “ก็มันทักมากูก็คุย” เถียงมัน

   “มึงเตรียมเก็บของแล้วไปภูเก็ตกับกู”

   “อะไรของมึง กูไม่ไป”

   “ต้องไป”

   “ไม่เว้ย”

   “ไอ้จอม”

   “กูไม่ไป”

   “แล้วมึงจะอยู่ยังไง” หน้ามันจริงจังมาก

   “กูก็อยู่เหมือนเดิม”

   “แต่กูไปอยู่ที่นู้น”

   “แล้วไง”

   “มึงไม่คิดถึงกูเหรอ” งอแงอีกแล้ว ผมส่ายหน้า ไอ้ซันจะโวยวายแต่เสียงโทรศัพท์มันดังขึ้นมาซะก่อน มันเหล่ตามองผมแล้วเดินออกไปรับข้างนอก

   ผมเปิดหน้าจอแลบท็อปขึ้นมาใหม่ รูปยังคงค้างอยู่เพราะโหลดไม่เสร็จ อีกทั้งยังมีข้อความที่พิมพ์มาอย่างเยอะ กำลังจะพิมพ์ตอบหน้าจอถูกปิดอีกแล้ว ไอ้คนปิดมันหน้างอ

   “อะไร”

   “กู...” หน้าตามันดูกังวลจนผมต้องลุ้นว่ามันจะพูดอะไร “กูไม่ต้องไปแล้วว่ะ” ผมถอนหายใจออกมาแต่มันดึงให้ผมยืนแล้วหมุนไปรอบๆ จนเริ่มเวียนหัว

   “ไอ้เหี้ยซันกูจะอ้วก” ด่ามัน มันเลยหยุดแล้วดึงผมเข้าไปกอดแทน กอดโคตรแน่นจนหายใจไม่ออก

   “กูไม่ต้องจากมึงแล้ว” ผมก็ตบหลังมันไป

   ความรักมันทำให้ไอ้ซันเปลี่ยนไปจริงๆ มันเหมือนไม่ใช่ไอ้ซันที่ผมเคยรู้จัก ไอ้คนขี้เก๊ก ฟอร์มจัด ยิ้มนิดๆ ตามสไตล์ ตอนนี้มันกลายเป็นคนชอบพูดซ้ำตลอดเวลาที่ผมตอบไม่ได้ดั่งใจ กลายเป็นลูกแมวบ้าง เสือร้ายบ้าง ตามอารมณ์มันไม่ถูก หรือว่า นี่คือกรรมที่ผมอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ กับคนอื่นวะ

   “เออๆ กูรู้แล้ว” บอกมันไป แต่มันเล่นแบกผมขึ้นพาดบ่าเฉย “ไอ้เหี้ยซันทำเชี่ยไรวะ”

   “กูดีใจ เรามาฉลองกัน” ตาเหลือกสิถามได้

   “ฉลองเหี้ย ไอ้ซัน ไอ้เลว อื้อออออ”

   ด่ามันไปก็เท่านั้น เพราะมันไม่ฟังหรอก แล้วแบบนี้โอกาสที่ผมกดมันได้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่วะ






   ‘น้องจอมยังอยู่หรือเปล่า พี่ยังรอน้องติดต่อมาอยู่นะครับ’   


...

มาแบบเรียบๆ ค่า คู่นี้เขามานิ่งๆ >w< ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-08-2016 21:58:06
ดูว่างไปนะไอ้คุณเจ้าของบริษัทที่กำลังจะล้มละลาย (ทำไมชื่อยาวจังวะ) เอาเวลาไปคิดว่าทำยังไงไม่ให้บริษัทของบรรพบุรุษล้มละลายดีกว่าไหม ฮึ่ม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-08-2016 22:03:23
งื้อออออ.....พี่ซัน ติด พี่จอม มากกกกก
ทั้งรัก ทั้งหวง พี่จอม :mew1: :mew1: :mew1:
ขำ พี่จอม จะกดพี่ซันกลับบ้าง  กดไม่ได้เลย
ขนาดลักหลับ ก็โดนกดอีก อะร้างงงงง
พี่ซัน สายรุกอย่างเดียว เหมือนพี่โช เลยอ่ะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 22-08-2016 22:12:34
ชอบจอม+ซัน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 22-08-2016 23:02:52
เดี๋ยวซันก็มาแทนตอบว่าจอมกำลังทำหน้าที่"เมีย"อยู่
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 22-08-2016 23:43:25
เหมือนเค้าลางความวุ่นวายจะตามมาเลยอ่ะ  :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-08-2016 04:52:44
อย่าดราม่า ซัน-จอม นะครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-08-2016 09:06:11
ฮ่าๆๆๆพี่ซันอาการหนักนะเนี่ยหลงเมียขั้นสุดขี้หึงด้วยอีกตะหากแต่พี่จอมก็ยังเป็นพี่จอมความรู้สึกช้ายังไงก็ยังงั้นหรือพี่แกเป็นคนไม่คิดอะไรเลยมากกว่านะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 23-08-2016 10:32:53
พี่ซันเอ๋ยอาการหนักมานะแก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 23-08-2016 12:24:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-08-2016 15:15:13
เหมือนจะมาม่าเลยม่าได้แต่อย่าเข้มข้นนะขอมาม่าน้ำใส

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 24-08-2016 05:07:25
เรื่องน่ารักมากค่ะ มีความหลากหลายอารมณ์
กลอยเกรียนจริงๆค่ะ แต่ยังคิดดี มีความน่ารัก น่าฟัด
รักเพื่อนด้วย เซนส์ดีเวอร์ 5555

โชมีความร้าย แต่รักมาก หึงเวอร์ หวงเกิน
แต่ทุกอย่างลงตัวแบบน่ารัก

ซันจอม สุดท้ายก็ลงเอยด้วยดี ซันทำจอมเปลี่ยนได้
รักเป็น เขินเป็น จอมทำซันเปลี่ยนด้วย ห่างกันไม่ได้

เบทู เบบ้ามาก น้องทำผิดอะไร ถูกแล้วที่น้องว่า
ทำให้เค้าคิดไปไกล เบน่ารัก
เข้าใจทูที่ยังไม่อยากบอกใคร

ชอบทีมเมะ คือ เปิดเผยมาก เปิดตัวมาก ดูแลดีมาก
และก็จริงจังมาก 5555

สนุกมากค่ะ จะรออ่านเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 24-08-2016 10:15:21
อ่านรวดเดียวจบเลย
อยากอ่านคู่ต้อม-ฟอยล์แล้วอ่ะ
คู่จอม-ซันก็น่ารัก
ชอบทุกคู่เลย
ขอบคุณที่แต่งมาลงจนจบนะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 24-08-2016 11:38:34
นายหื่นมากซัน  o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ซัน&จอม: เปลี่ยน UP! / [22/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 24-08-2016 15:05:47
ตามอ่านจนจบ ตาแฉะกันไปเลย
น่ารักทุกคน แต่ชอบซัน-จอมมากสุดอ่ะ ถ้ามีเวลาขอคู่นี้อีกนะฮะ ขอบคุณคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานขาวดำ UP! / [24/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 24-08-2016 20:51:02
Just you and I ตอนพิเศษ : งานขาวดำ




          เช้าวันพฤหัสแสนน่าเบื่อ วันนี้ผมมีเรียนตั้งแต่เช้าถึงบ่าย โคตรขี้เกียจ เกิดมาเพิ่งเคยเรียนปีสามเทอมหนึ่งครั้งแรก มันเหนื่อยแบบนี้นี่เอง ตอนนี้พวกผมกำลังเดินไปโรงอาหาร ร่างกายต้องการคาร์โบไฮเดรตครับ ไอ้ทูก็เดินตาปรือมาข้างๆ ส่วนคนอื่นๆ มันกลับหอไปหมดแล้ว ทำไมผมยังไม่กลับน่ะเหรอครับ ก็คนรับยังไม่เลิกงาน เรื่องนี้เคยทะเลาะกันแล้วว่าผมจะเอารถมาเอง แต่พี่โชไม่ให้เอามา

   กะอีแค่เคยเอามาแล้วไปเที่ยวร้านยาดองครั้งเดียวเอง กลับไปมีรอยบุบนิดๆ แน่นิดเดียวจริงๆ ครับ โดนบ่นหูชาสามวันเจ็ดวัน ไม่เข้าใจเลย ใครขับรถแล้วไม่เป็นรอยถือว่าขับไม่เป็นนะไอ้กลอยจะบอกให้

   “กูอยากกินข้าวมันไก่” ไอ้ทูมันนั่งจองโต๊ะ แล้วใช้ให้ผมไปซื้อ นี่เห็นว่ามันติวข้อสอบให้หรอกนะผมถึงยอมเป็นทาสมันแปบๆ

   เดินไปต่อแถวร้านข้าวมันไก่ ด้านหลังไอ้คนข้างหน้านี่มันคุ้นๆ พอมันหันมาก็ยิ้มให้ผมทันที

   “อ่าวไอ้กลอย มึงมาแดกข้าวเหรอ” ไอ้ป่านยิ้มแป้นแล้นให้ผม หน้าตามันหล่อแบบสไตล์เกาหลี พวกสาววายคณะผมชอบมันก็เยอะ

   “กูมายืนต่อแถวร้านข้าวคงมาซื้อปูนไปก่อสร้างมั้งไม่น่าถาม” ไอ้ป่านกรอกตาบนใส่จนผมขำ “แล้วไอ้ต้อมล่ะ” ช่วงนี้ผมไลน์หามันไม่ค่อยตอบเลย

   “อ่อ ช่วงนี้เลิกเรียนปั๊บก็รีบไปช่วยงานศพแม่ผัวปุ๊บ” ผมเลิกคิ้ว ศพแม่ผัว ใครวะ

   “ศพใครวะ”

   “แม่ของรุ่นพี่บริหารไง อดีตกิ๊กมึงอะ”

   “ห๊ะ” โคตรตกใจ “แม่พี่ฟลอยด์เหรอวะ” ไอ้ป่านพยักหน้าครับ ทำไมไอ้ต้อมไม่บอกผมวะ มิน่าไม่ตอบอะไรเลย ผมตบบ่าไอ้ป่านไปแล้วรีบเอาข้าวมันไก่ไปให้ไอ้ทู มันก็มองๆ เพราะเห็นผมไม่ถือจานของตัวเอง

   “ไม่กินเหรอวะ” มันตักข้าวเข้าปาก

   “แม่พี่ฟลอยด์ตายว่ะ” ผมบอก ไอ้ทูคาบช้อนค้าง

   “จริงเหรอวะ” ขนาดไอ้นี่มันยังตกใจ

   “เออดิ่ ไอ้เชี่ยป่านบอก”

   “ไอ้ป่านรู้ได้ไง”

   “ก็ไอ้ต้อมไปช่วยทุกวัน” เรื่องไอ้ต้อมกับพี่ฟลอยด์ผมสังเกตมานานแล้วครับ ยิ่งมีข่าวกระพือออกมาอีกมากมายอีก แบบนี้ผมตั้งสำนักให้แม่แล้วเผื่อที่ของตัวเองด้วยยังได้ ตำหนัก ไอ้กลอยแม่นเว่อร์

   “แล้วมึงจะไปเหรอวะ” ไอ้ทูถาม ผมก็มองหน้ามันนิ่งๆ

   “กูสมควรไปมั้ยวะ”

   “มึงไม่รู้จักแม่พี่เขาไม่ต้องไปหรอก”

   “แต่กูรู้จักพี่ฟลอยด์ไง”

   “งั้นสมควรไป”

   “แล้วพี่โชล่ะวะ”

   “ไม่รู้”

   เริ่มคิดหนักแล้วครับ ถ้าบอกพี่โชไปจะโมโหหรือเปล่า แต่คงไม่หรอกมั้ง

   บ่ายสี่พี่โชมารับครับ ออกมาก่อนเพราะเป็นเจ้าของ ใช้เส้นแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นี่ผมก็เคยบ่น แต่พี่แกทำหน้านิ่งเหมือนไม่เข้าหู ผมเหลือบมองคนขับรถหลายรอบจนโดนดีดหน้าผาก

   “อะไรครับ มองพี่ทำไม”

   “เอ่อ” สมควรพูดมั้ยวะ

   “ครับ”

   “คือ”

   “คือ?”

   เอาวะ

   “ผมขอไปงานศพแม่พี่ฟลอยด์ได้มั้ย” พี่โชหันมามองหน้าทันที ผมเตรียมยกมืออุดหูเรียบร้อยแต่ไม่ได้ยินเสียงอะไร “ได้เหรอ”

   “พี่ก็จะพูดเรื่องนี้เหมือนกัน” พี่โชยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก

   “เรื่องงานศพเหรอ”

   “อืม พอดีเขาเป็นภรรยาลูกค้าของบริษัทน่ะ พ่อเลยให้พี่ไปงานแทน” ผมพยักหน้าฟัง นี่ก็ลืมไปเลยเรื่องที่พี่โชเคยทำงานกับบ้านพี่ฟลอยด์

   “งั้นผมไปด้วยนะ” มีเหล่นิดๆ แต่ก็พยักหน้า




   ผมเปิดประตูลงไป บรรยากาศดูโศกเศร้าเมื่อเป็นงานขาวดำ ผมเดินตามหลังพี่โชที่ถือพวงหรีดเข้าไปในงาน แอบเห็นไอ้ต้อมอยู่ที่เต็นท์ข้างๆ ศาลา อยากจะไปหาแต่ต้องไปเคารพศพก่อน บรรดาแขกเหรื่อเต็มแน่นจนล้นลงมานั่งด้านล่าง ผมแอบมองซ้ายมองขวานิดๆ มันไม่ชินที่ไปงานที่คนเยอะแบบนี้

   พี่โชยื่นพวงหรีดให้กับพี่สาวของพี่ฟลอยด์ ไม่ใช่คนที่เคยด่าผม เธอยิ้มรับพลางขอบคุณ ผมยกมือไหว้เธอก็ยิ้มเผื่อแผ่มาด้วย ก้าวเข้าไปที่หน้าโลงศพที่ถูกจัดดอกไม้จนสวย ผมยืนเม้มริมฝีปากเมื่อพี่ฟลอยด์จุดธูปยื่นมาให้ พี่โชรีบหยิบมาก่อนแล้วส่งให้ผม ใบหน้าหล่อๆ นิ่งแอบมองดุจนผมก้มหน้าไหว้ ส่วนพี่ฟลอยด์ก็มองผมยิ้มๆ ใบหน้าดูอิดโรย

   พอไหว้เสร็จเราสองคนก็ถอยออกมา กำลังจะไปนั่งด้านล่าง ยัยป้าเสียงแหลมก็รีบเดินมาควงแขนพี่โชทันที ผมทำตาโตมอง ป้าแกจิกสายตามองผมเช่นกัน อยากจะโวยวายแต่มันไม่เหมาะไม่ควรเท่าไหร่ เลยได้แต่แอบดึงแขนพี่โชไม่ให้เดินตามแรงของป้า

   “ไอ้เด็กบ้า ปล่อยแขนโชเดี๋ยวนี้นะ” ป้าแกกระซิบว่าผมครับ ต่อหน้าพี่โชเลยด้วย

   “ป้าแหละปล่อย นี่แฟนผม” พูดเต็มปากเต็มคำ แอบได้ยินพี่โชขำด้วย

   “นี่แกกล้าบอกว่าโชเป็นแฟนเลยเหรอ” ยังกระซิบด่าผมอีก

   “หรือป้าจะให้พูดมากกว่าแฟน” ต่อปากต่อคำได้นิดหน่อยก็มีใครสักคนเดินมา ผู้คนที่นั่งอยู่รวมถึงป้าที่ทะเลาะกับผมหันไปมอง แล้วป้าแกก็ปล่อยแขนของพี่โชเดินไปหาทันที

   ผมเจอคนที่ไม่นึกว่าจะได้เจอที่นี่ด้วย...

   บลูมากับลุงคนนั้น...พ่อพี่ฟลอยด์สินะ

   “พานังนี่มาทำไม!” เสียงแหลมตวาดดังลั่น ผู้คนเริ่มสนใจมอง พี่สาวอีกคนของพี่ฟลอยด์รีบเดินลงมาดึงแขนพี่สาว ส่วนพี่ฟลอยด์เดินหน้าบึ้งออกมายืนข้าง

   “เฟิร์น นี่งานศพนะ” คุณลุงทำเสียงเข้ม ก่อนกระแอมนิดๆ เมื่อเห็นพี่โชยืนอยู่เยื้องพี่ฟลอยด์

   “งานศพของแม่ แต่พ่อเอาเมียน้อยมาด้วยไง”

   “เฟิร์น!”

   “เอ่อ บลูไปรอที่รถดีกว่าค่ะ” คนที่ยืนเกาะแขนทำหน้าเสีย คงเพราะเห็นผมยืนจ้องอยู่

   “อืม” คุณลุงพยักหน้า ก่อนไป บลูยังหันมามองผม นี่เธอใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ได้ยังไง

   ก่อนงานศพจะเกิดสงคราม ป้าแกถูกน้องสาวดึงเข้าไปนั่งด้านใน ส่วนพี่ฟลอยด์ก็เดินไปทางเต็นท์ที่ไอ้ต้อมอยู่ คงไม่อยากเจอพ่อตัวเอง

   “มองอะไร” เสียงเข้มทักเมื่อเห็นผมเอนตัวมองไปทางข้างศาลา

   “มองพี่ฟลอยด์” พี่โชกำลังจะว่าผมก็รีบยกมือปิดปาก “นู้น ไปหาไอ้ต้อมนู้น” ผมชี้ไปที่เต็นท์

   ภาพพี่ฟลอยด์เดินตามไอ้ต้อม บ้างก็เรียงแก้วที่มีน้ำเต้าหู้ใส่ในลังแก้ว ไอ้ต้อม เพื่อนของผมที่ผมคิดว่ามันโคตรเท่เมื่อตอนปีหนึ่ง ตอนเข้าค่าย มันห้อยสลิงข้ามฝั่งแม่น้ำไปพาผู้หญิงอีกคนที่ไม่กล้าข้าม มันให้ผู้หญิงกอดมันแล้วก็ห้อยมาพร้อมกัน คือมันเท่มากจริงๆ

   ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้ต้อมที่เห็นในเต็นท์จะเป็นคนเดียวกัน หวังว่าพี่ฟลอยด์คงไม่บังคับฝืนใจอะไรมันนะ ยิ่งเป็นคนเอาแต่ใจเหมือนคนข้างๆ ผมนี่อีก เอาใจยากสุดๆ ปวดหัวโคตรๆ ด้วย

   ระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ ขากางเกงของผมก็มีมือเล็กๆ มาจับ พอมองก็เห็นเด็กผู้ชายแก้มยุ้ยจ้องผมนิ่ง เคยเห็นสินะ เด็กตัวเล็กยิ้มกว้างโชว์ฟันหลอจนผมขำ

   “รู้จักเหรอ” พี่โชเอนตัวมากระซิบ ผมพยักหน้าไป “ที่ไหน”

   “ที่เชียงใหม่” ผมบอก เด็กที่เกือบทำให้ผมเป็นขโมย

   “จ๋วย” คำพูดเดิมที่ผมเคยได้ยิน ผมยิ้มๆ หวังว่ามันจะเป็นคนชม “จ๋วยๆ” ยังมาอีกสองสามคำ ก่อนจะมีผู้หญิงวัยรุ่นรีบเดินมาช้อนตัวอุ้ม

   “ไม่เอาค่ะคุณเฟรม” แต่เด็กตัวน้อยไม่ยอม พยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนแถมงอแงจนคนเริ่มหันมามอง “คุณเฟรมคะ”

   “ไม่เอา ไม่เอา” เด็กน้อยโวยวายยื่นมือมาทางผม

   “เป็นอะไรคะลูก” พี่สาวพี่ฟลอยด์รีบวิ่งมาอุ้มพลางลูบหลังเด็กที่ร้องไห้จนตัวโยน “ไม่ร้องนะคะ โอ๋ๆ แม่อยู่นี่ไง” ปลอบยังไงก็ยังร้อง แถมยังยื่นมือมาทางผมตลอด จนพี่ที่อุ้มยิ้มแหยๆ มาให้ “รบกวนหน่อยนะคะ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร”

   “อ่าครับ” ผมรีบยืนแล้วยื่นมือออกไป พอเห็นผมทำแบบนั้น ตัวป้อมๆ ก็รีบเอนมาหาให้ผมอุ้ม พออยู่ในแขนผมปุ๊บ เสียงสะอื้นก็ค่อยๆ ลดลงจนคนที่เป็นแม่แปลกใจ

   “น้องเฟรมทำไมดื้อแบบนี้ก็ไม่รู้”

   “อ่า ไม่เป็นไรครับ” ผมอุ้มจนเริ่มมีเสียงหัวเราะนิดๆ ก่อนปากเล็กๆ จะยื่นมาหอมแก้มพร้อมน้ำลายที่ไหลข้างแก้มของผม

   “จ๋วย”

   “น้องบอกคุณสวยค่ะ” เฉลยคำที่ผมได้ยินมาหลายครั้งทำเอาปวดหัว เด็กตัวแค่นี้ชมผู้ชายด้วยกันเองว่าสวย ไม่อยากจะคิดว่าถ้าโตมาจะเดินตามรอยน้าหรือเปล่า

   “อ่าครับ”

   แล้วพระก็เดินขึ้นมาบนศาลา ทุกคนเลยเดินกลับไปประจำที่ ส่วนผมก็นั่งลงโดยมีเด็กตัวป้อมนั่งบนตัก พี่โชเหล่ตามองหลายรอบมาก แถมมือสั้นๆ จะยื่นไปตีมือพี่โชที่ยกไหว้ตอนพระสวดมนต์อีก สงสัยจะไม่ชอบสายตาดุ

   “เอาไปคืนเลยนะ” พี่โชกระซิบแล้วต้องรีบเอนหน้าหนีจนเกือบถูกมือป้อมฟาดหน้า ดวงตาดุตวัดมองจนร่างในอ้อมกอดผมเริ่มเบ้ปาก

   “โอ๋ๆ ไม่ร้องครับ เดี๋ยวพี่ตีให้นะ” ผมแกล้งตีพี่โชเบาๆ หน้าเบ้เลยเริ่มดีขึ้น พี่โชตวัดตามองผมเขม็ง

   “คืนนี้โดนดีแน่” ส่งสายตาอ้อนวอนแต่ไม่เป็นผลสักนิด



   สามทุ่มครึ่งเมื่อพระสวดเสร็จ ไอ้ต้อมก็ช่วยยกน้ำเต้าหู้ออกมาแจกแขกที่มางาน ผมทักมันไป มันก็ยิ้มๆ แล้วก็รีบไปแจกคนอื่นต่อ ส่วนเด็กในอ้อมแขนผมหลับไปแล้วครับ คงซึ้งในรสพระธรรม หลับตั้งแต่สิบนาทีแรก ผมเลยส่งคืนพี่เลี้ยงไป พี่โชเดินไปคุยกับพ่อพี่ฟลอยด์ ส่วนผมเดินไปหาไอ้ต้อมในเต็นท์ มันปาดเหงื่อบนหน้าพอผมแตะหลังมันก็สะดุ้งเฮือก

   “เชี่ย กูตกใจสัด”

   “แหม ไอ้ขวัญอ่อน”

   “มึงมาได้ไงวะ” ไอ้ต้อมมันถาม ดูท่าทางมันเหนื่อยมาก

   “กูได้ยินมาจากไอ้ป่าน แล้วพี่โชก็มางานลูกค้าด้วย” ไอ้ต้อมพยักหน้ารับรู้ก่อนจะทำหน้าแปลกๆ เมื่อเห็นผมจ้องนิ่ง “มึงกับพี่ฟลอยด์” ใช้นิ้วชี้สองข้างสูสีกันจนโดนไอ้เชี่ยต้อมตบหัว

   “พ่อง” มันด่าผมว่ะ

   “ไม่ต้องเขินหรอกมึง กูสัมผัสได้” หัวเราะแบบการ์ตูน จนเกือบโดนตบอีกรอบดีที่หลบทัน “กับพี่ฟลอยด์มันเป็นคนดีนะเว้ย”
 
   “ดีแตกน่ะสิ” ไอ้ต้อมเหมือนพูดกับตัวเอง ก่อนจะเงยหน้ามายิ้ม “มึงจะกลับแล้วเหรอ”

   “อืม รอพี่โชคุยธุระเสร็จก่อน แล้วมึงกลับยังไง ให้กูไปส่งมั้ย” ไอ้ต้อมมันเม้มปากเหลือบตามองไปทางพี่ฟลอยด์

   “หรือมึงต้องกลับกับพี่ฟลอยด์วะ” พอผมถามไอ้ต้อมก็หันกลับมาทางผม “ที่เพื่อนกูบอก มึงกับพี่ฟลอยด์อยู่ด้วยกันแบบ...” ไม่กล้าพูดครับ ไอ้ต้อมมันหัวเราะขืนๆ

   “เรื่องมันยาวว่ะ” ดูไอ้ต้อมแปลกๆ

   “กูพร้อมรับฟังมึงเสมอเพื่อน อยากเล่าก็นัดที่เพิงหมาแหงนได้ กินไปเล่าไปเจ๋งสุดๆ” ผมพูดติดตลกเพราะเห็นไอ้ต้อมมันเศร้าๆ พอมันได้ยินก็หัวเราะออกมา

   “เออ เดี๋ยวกูนัดไป อยากกินล่ะสิ พี่เขาคงห้ามมึงสินะ” เหมือนพูดจี้จุดเลยหน้างอ “พี่เขารักมึงก็ต้องห่วงมึงอยู่แล้ว”

   “ห่วงเกินไปสิวะ” หน้ามุ้ยใส่ไอ้ต้อมจนมันขำ “มึงเถอะ พี่ฟลอยด์ไม่ต่างจากพี่โชเลย ระวังไว้”

   ไอ้ต้อมมันขำในลำคอ “เออ”

   เหลือบมองเห็นพี่ฟลอยด์เดินมาที่เต็นท์ ผมยิ้มให้จนพี่ฟลอยด์ยิ้มตอบ

   “เมื่อกี้ไม่ได้ทัก สบายดีมั้ย” พี่ฟลอยด์ถามผม แต่ตาเหลือบมองไปต้อมที่ก้มหน้าก้มตาเก็บของใส่กระเป๋า

   “อ่าครับ ก็เรื่อยๆ เสียใจด้วยนะครับ” พี่ฟลอยด์ก็ยิ้ม ผมคอยสังเกตอาการของสองคนนี้ไป น่าจะมีอะไรกันแน่ๆ ไอ้กลอยสัมผัสได้ “พี่จะไปส่งไอ้ต้อมหรือให้มันกลับพร้อมผมครับ” ถามออกไปพี่ฟลอยด์รีบหันขวับมามองผมแล้วตอบแทบจะทันที

   “พี่ไปส่งเอง” ผมพยักหน้ายิ้มๆ “ต้อมพักอยู่กับพี่น่ะ” นั่นไง คำตอบแบบนี้เอาไอ้ต้อมหน้าบึ้ง

   “อ๋อแบบนี้นี่เอง” ผมยิ้มล้อเพื่อนตัวเอง “ฝากไอ้ต้อมมันด้วยนะ แต่ห้ามทำร้ายมันเด็ดขาด ไม่งั้นผมไม่ยอมนะเออ” ผมว่า พี่ฟลอยด์ขมวดคิ้วนิดๆ แล้วครี่ยิ้มออกมา

   “คงไม่ทันแล้วล่ะ” พี่ฟลอยด์ตอบเสียงอ่อน

   ก่อนผมจะอ้าปากถามมากกว่านี้เสียงแข็งๆ ก็ดังจากนอกเต็นท์ ปีศาจยืนล้วงกระเป๋ากางเกงจ้องมาทางพวกผมนิ่ง ดูแล้วเหมือนจ้องพี่ฟลอยด์มากกว่าคนอื่นจนผมต้องรีบบอกลาแล้วดึงแขนพี่โชให้กลับไปที่รถ


   “กล้าคุยต่อหน้าพี่เลยนะ” พี่โชพูดเสียงเข้ม

   “ไอ้ต้อมก็อยู่ เขาคบกันแล้วน่า ไม่สนใจผมแล้วด้วย” บอกอ้อนเอาหัวถูแขนคนขี้หึง พอเดินไปถึงรถขาผมก็ชะงักเมื่อรถที่จอดเยื้องๆ กันมีคนที่ผมรู้จักมานาน ผมมองหน้าพี่โชนิดๆ แล้วเดินเข้าไปหา “ไงบลู สบายดีหรือเปล่า” เพราะไม่อยากมีอะไรติดค้างเลยทำตัวปกติ

   “ยังทักบลูอีกเหรอ” น้ำเสียงติดหยิ่งนิดๆ จนผมยู่หน้า

   “ทักไม่ได้เหรอ” ถามออกไปตรงๆ บลูเม้มปากเน้น “สบายดีนะ”

   “ก็ไม่ค่อย” เสียงตอบกลับแบบห้วนๆ “ชีวิตเมียน้อยนี่นา จะสบายได้ยังไง”

   “แล้วไปเป็นทำไม”

   “กลอยไม่รู้หรอกว่าชีวิตบลูต้องเจอเรื่องอะไรมาบ้าง ทำไมถึงต้องมาทนให้ลูกสาวเขาเอาคนมาไล่ถึงบ้านทุกวัน” บลูพยายามกระพริบตาถี่ๆ คงไล่น้ำตาที่รื้นขึ้นขอบตา

   “นั่นคือชีวิตที่บลูเลือกเดินเอง คนตั้งหลายคนเจอเรื่องแย่กว่าบลู เขายังไม่เลือกเดินทางนี้เลย บลูต้องโทษตัวเองแล้วล่ะ” ผมบอกด้วยความหวังดี บลูรีบปาดน้ำตาที่ไหลลงมา พี่โชกระแอมจนผมต้องรีบเดินไปหาแล้วขึ้นรถ

   ผมว่า ชีวิตของคนเรา ทางเลือกหรือทางแยกมันก็มีเยอะตามชีวิตของคน อย่างบลู ทางแยกเธอน่าจะเยอะกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ก็เลือกเดินทางนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าข้างหน้าจะเจอกับอะไรบ้างแต่ก็ยังเดินเข้ามา



   “ไม่โกรธเหรอ” พี่โชถามทำลายความเงียบ ผมส่ายหน้า

   “ตอนแรกก็โกรธหรอก แต่กลัวตายไปแล้วเกิดมาจะเจอกันอีก” พี่โชหัวเราะให้กับคำตอบของผม ถึงแม่ผมจะชอบดูละคร แต่วันพระก็เปิดฟังพระสวดนะครับ

   “เมียใครวะความคิดโคตรดี” ผมยู่หน้า

   “เมียปีศาจ” ผมตอบ พี่โชยังหัวเราะอยู่ ตอนนี้อารมณ์ดีสินะ “พี่โช”

   “ครับ”

   “พรุ่งนี้ผมเอารถไปเองได้ป่ะ”

   รอยยิ้มเริ่มเหือดหายกลายเป็นใบหน้าของปีศาจ

   “ไม่ได้ เอาไปชนถังขยะเพราะเมาพี่ยังไม่ได้ชำระความเลยนะ”

   “พี่ต้องโทษถังขยะสิ ก็มันยอมไม่หลบเอง ตะโกนยังไงมันก็ไม่ยอมหลบ”

   “เมียกูตะโกนบอกให้ถังขยะหลบวุ้ย”

   “ก็มันจริง พี่ต้องเห็น มันยืนเรียงกันตั้งหลายอันเลยนะ ขวางไม่ให้ผมไป”

   “จะไปได้ไงในเมื่อรถมันเสยขึ้นฟุตบาทขนาดนั้น” (ล้อหลังติดอยู่ที่ถนนส่วนด้านหน้าอยู่บนฟุตบาท)

   “ไม่รู้ๆ ไม่รับรู้เว้ย ถังขยะแหละผิด”


   รีบยกมือปิดหูเมื่อปีศาจเริ่มบ่น ผมไม่ผิดจริงๆ นะ แค่ไปกินยาดองกับพวกไอ้ต๋องเอง แล้วไม่ได้เมาด้วย เดินไปที่รถแบบฉิวเลย แล้วแบบนี้ผมผิดตรงไหน ถังขยะสิผิด ต้องไปแจ้งความให้จับมันให้หมดโทษฐานที่ขวางทางการจราจรของท่านกลอยประเกรียนจิตสัมผัสแม่นเว่อร์ (ฉายาจะยาวไปไหน)          


...

พากลอยประเกรียนจิตสัมผัสแม่นเว่อร์มาทักทายค่าา ฉายายาวมาก ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณทุกๆ คนนะคะ รักทุกคนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนพิเศษจะเยอะกว่าตอนหลัก  :jul3:
 

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานขาวดำ UP! / [24/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-08-2016 21:37:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานขาวดำ UP! / [24/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-08-2016 22:35:01
ปีศาจ เหมาะกับ ท่านกลอยประเกรียนจิตสัมผัสแม่นเว่อร์ มากกกก
พี่โช แม้แต่เด็ก น้องเฟรม ยังหวง หวงเว่อร์
น้องเฟรม ตาถึงมากก ชมกลอยประเกรียน ว่า จ๋วย ซ้ำๆ ซะ้ด้วย
กลอยอุ้มน้องเฟรม แถมน้องเฟรมหอมแก้มกลอยอีก อะจ๊ากกก พี่โชโมโหแน่ๆ
กลอย ยอดมาก ไม่แค้น โกรธตอบ บลู
ทั้งยังให้คำแนะนำบลู ที่ไปเป็นเมียน้อย โดนไล่ โดนด่า
“นั่นคือชีวิตที่บลูเลือกเดินเอง คนตั้งหลายคนเจอเรื่องแย่กว่าบลู
เขายังไม่เลือกเดินทางนี้เลย บลูต้องโทษตัวเองแล้วล่ะ”
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานขาวดำ UP! / [24/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 24-08-2016 23:53:14
โอยสนุกมากเลยค่ะ โชสายหื่นสินะ :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานขาวดำ UP! / [24/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-08-2016 01:06:14
ยังสนุกเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานขาวดำ UP! / [24/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 25-08-2016 12:48:14
ชอบมาากกกกกก :ling1: อยากอ่านตอนพิเศษอีกกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานขาวดำ UP! / [24/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-08-2016 14:03:59
ทำไมถังขยะไม่หลบท่านกลอย :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานขาวดำ UP! / [24/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-08-2016 19:56:26
กลอยยังคงความเกรียนเสมอต้นเสมอปลายมากอ่ะ คิดได้ไง ถังขยะผิดเพราะไม่หลบ 5555555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 25-08-2016 21:19:50
Just you and I ตอนพิเศษ : วันเกิด




        ย้อนไปเหตุการณ์เมื่อคืนบนเตียงนอนตอนใกล้จะหลับ

   ‘พี่โชอยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิด’ ผมนอนตะแคงถามตาแป๋ว

   ‘ไม่อยากได้อะไร’ พี่โชตอบเสียงเรียบๆ ตายังปิด

   ‘เอาจริงๆ สิ อยากได้อะไร’ เริ่มงอแงจนพี่โชลืมตาแล้วหันมามอง

   ‘อืม...ไม่อยากได้อ่ะ’ ส่ายหน้าบอก

   หน้างอ ‘แต่อยากเอาให้นี่’

   ‘แค่มีไอ้เกรียนคนนี้อยู่ข้างๆ แบบนี้ก็เป็นของขวัญแล้ว’

   พี่โชยิ้มหล่อมือก็ขยี้หัวผมซะจนเละเทะ แล้วเราก็กอดกันนอนหลับไปพร้อมกับคืนนี้หนาวเหน็บของแอร์ พอตื่นเช้ามาพี่โชก็ออกไปทำงาน ผมก็ไปเรียนใช้ชีวิตตามปกติ

   ส่วนวันเกิดของพี่โชดูพี่เขาไม่ค่อยตื่นเต้นหรือพูดอะไรมากมาย ผมถามพี่จอมไปก็บอกแค่ว่า ทุกปีก็พากันไปเลี้ยงเหล้าแล้วก็หิ้วสาวกลับก็แค่นั้น ปีนี้มันไม่เหมือนปีก่อนสิ ลองหิ้วสาวกลับมาดูสิ ไอ้กลอยไม่เอาไว้แน่

   “ทำหน้าโคตรอุบาท คิดอะไรเสื่อมๆ ใช่มั้ยไอ้กลอย” ไอ้สักมันมานั่งสูบบุหรี่ใกล้ๆ ผมนี่แหละครับ มันกวนมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ไม่อยากตอบโต้เพราะกำลังคิดแผนวันเกิด ผมไม่ทำพวกแกล้งทะเลาะอะไรแบบนั้นหรอก ผมไม่ชอบ พี่โชก็คงไม่ชอบเหมือนกัน

   “มึงว่า กูจะเอาของขวัญอะไรให้พี่โชดีวะ” พวกไอ้สักมันรู้จักพี่โชนี่ครับ ไม่แปลกถ้าผมจะลองถามมัน มันทำหน้านึกอยู่นานจนพ่นควันลอยออกมา

   “สาวไง หาสาวเปลือยผูกริบบิ้นให้ รับรองผัวมึงต้องชอบแน่” ผมฆ่ามันด้วยสายตาไปเรียบร้อย “กูล้อเล่นไอ้สัด แหม มองเหมือนกูเป็นขี้”

   “ใครหาของขวัญวะ” ไอ้เคนั่งลง มือยื่นมาขอบุหรี่

   “ไอ้เชี่ยกลอยหาของขวัญให้ผัวมัน” ผมมองหน้าไอ้เคเผื่อมันจะคิดอะไรแจ่มๆ

   “จะไปยากอะไรวะ มึงก็ซื้อเหล้าให้พี่เขาไปสิ” แล้วมันก็ถูกไอ้สักตบหัว “ตบหัวกูทำพ่อง”

   “มึงไม่เห็นโฆษณาเหรอวะ ให้เหล้าเท่ากับแช่ง จะให้ไอ้เชี่ยกลอยแช่งผัวตัวเองหรือไง ไม่คิดเลยมึง ไม่คิด”

   “เออว่ะ ไอ้ต๋อง มึงลองใช้สมองอันน้อยนิดของมึงช่วยไอ้กลอยคิดสิวะ” ไอ้เคโยนขี้ใส่เพื่อนตัวเอง

   “ของขวัญจะไปหาทำไม กูมีวิธีเว้ย”

   แล้วพวกผมก็สุมหัวกัน ไอ้ต๋องมันเอากระดาษแผ่นใหม่ขึ้นมาแล้ววาดๆ พอเห็นเป็นรูปร่าง

   “นี่มึง” มันชี้ที่รูปหัวกลมๆ “มึงแค่พาพี่เขาไปที่เตียงแล้วเปิดเพลง เต้นส่ายสะโพกไปมา มือก็ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นจนหมด แล้วมึงก็หยดน้ำตาเทียนลงบนตัว ใช้แซ่ฟาดพี่เขาให้เสียว แล้วเอากุญแจมือล็อกไว้ หาผ้าปิดตาด้วย เป็นไง เร้าใจสัด”

   แตกฮือสิครับ ความคิดแม่งโคตรระยำ

   “มึงดูเอวีเถื่อนมากไปแล้วไอ้สัดต๋อง” ไอ้ทูบ่น พอๆ กับคนอื่นส่ายหน้า มีแต่ผมที่สมองกำลังนึกภาพตาม “ไอ้กลอย มึงหยุดมโนเลย ลองมึงทำพี่โชเอามึงตายแน่” ผมถลึงตาใส่ไอ้เชี่ยทู

   “กูไม่ได้คิดตามไอ้ต๋องว่า แต่กูหาวิธีได้แล้ว” ผมขยับไปถามไอ้ต๋องเพื่อจะหาของ มันก็ฟังไปพยักหน้าไปแล้วยิ้มกริ่มออกมา

   “ดีล”

   “จัดไป”

   แล้วผมก็พ่นเสียงหัวเราะแบบตัวร้ายในละครจนโดนตบหัวหลายป๊าบ ไอ้เชี่ยพวกนี้ทำสมองผมเกือบไหล




   พี่โชมารับหลังเลิกเรียน ดวงตาดุเหลือบมองของที่ผมถืออยู่เป็นระยะ ไม่บอกหรอก พอถามผมก็บอกของไอ้เชี่ยต๋อง จนมาถึงห้องก็เจอพี่ชีสยืนหน้างอรออยู่หน้าประตู

   “ไงยะ พี่สาวแกมายืนรอเป็นชั่วโมง” พี่ชีสบ่นหลังจากเข้าห้องมาแล้ว

   “มาทำไม” น้องชายสุดที่รักตอบพี่สาว

   “ไอ้โช” เสียงตวาดแหวจนต้องปิดหู “พรุ่งนี้วันเกิดไม่ใช่เหรอ แม่ให้มาถามว่าจะจัดงานให้เอาหรือเปล่า”

   “ไม่เอา” ตอบทันทีจนพี่ชีสทำเสียงจิ๊จ๊ะ

   “ไวเชียวนะ ทำไม กลัวไม่ได้สวีทกับแฟนหรือยะ” ท้าวเอวพูดกับน้องตัวเอง

   “เออ” นี่ก็ตอบแบบไม่คิดเลยถูกฝ่ามือนางมารเข้าเต็มหัวจนผมสงสารแต่ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง

   “พอมีเด็กหน่อยก็ลืมบ้านเลยนะ เออๆ แล้วจะบอกแม่ให้” พี่ชีสว่า แล้วหันมามองผมก่อนจะลากแขนให้เดินออกมานอกระเบียงจนพี่โชต้องชะเง้อคอมองตาม

   “มีอะไรครับ” หน้าตื่นสิผมเนี่ย อยู่ดีๆ ก็ถูกลากออกมา

   “ได้ของมั้ย” พี่ชีสรู้ครับ เพราะผมถามว่าพี่โชชอบอะไร ตั้งแต่เค้กยันของที่ต้องใช้

   “ครับ” ยิ้มแหยๆ แบบไม่มั่นใจ

   “มั่นใจหน่อย รับรองมันต้องชอบ เอาให้สุดๆ เลยนะ อยากเห็นๆ” ไม่นานมานี้ผมเพิ่งเห็นว่าพี่ชีสสมัครเป็นสมาชิกเพจวายของเพื่อนผม ก็คู่ของผมกับพี่โชนั่นแหละครับ “ถ่ายวีดีโอให้ดูด้วยนะ”

   “ไม่ดีมั้งครับ” จะบ้าเหรอ ผมก็อายนะเฮ้ย

   “เสียดายอะ ไม่เป็นไร ฉันจินตนาการออก” แล้วพี่ชีสก็ยิ้มคนเดียวจนผมเริ่มกลัว

   พอพี่ชีสกลับไปแล้วพี่โชก็ถอนหายใจจนผมขำ

   “ทำไมพี่ไม่ให้จัดงานวันเกิดอ่ะ” ตอนนี้เดินมานั่งบนโซฟาที่พี่โชนอนเหยียดอยู่ก่อน พอผมนั่งก็รีบยกหัวมาหนุนขา

   “ทำไมต้องจัด” ถามเสียงนิ่งผมเลยไม่กล้าจะตอบ

   “แล้วถ้าจัดพี่ชอบงานแบบไหน” ลองแกล้งถาม

   “ไม่รู้” ตอบตัดบททำให้พูดไม่ออก “ถามทำไม อยากจัดให้พี่เหรอ” พยักหน้ายอมรับตรงๆ จนเจ้าของงานหัวเราะ

   “ถ้าจัดให้พี่อยากได้แบบไหน” ผมลุ้นเมื่อเห็นคนที่หนุนขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

   “ไม่รู้” ปั๊ดโธ่ อุตส่าห์รอฟัง “แต่ถ้ากลอยจัดยังไงมาก็ชอบหมดแหละ” คำตอบทำเอายิ้มกว้าง



   
   หนึ่งทุ่มหลังจากกินข้าวอาบน้ำ พี่โชก็แยกเข้าห้องน้ำงานที่แปลงจากห้องนอนเล็ก มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่ผมจะรีบจัด ถุงลูกโป่งสีขาวถูกดึงจนขาดเพราะรีบ ผมสูบลมไปแล้วหลายลูก สูบจนหอบ ไม่คิดว่ามันจะกินแรงขนาดนี้

   พอได้จำนวนที่ต้องการผมก็ตัดริบบิ้นมัดปลายแล้วเอากาวสองหน้าติดด้านบนของลูกโป่ง เกิดเป็นคนไม่ค่อยสูงเลยลำบากกับการติดของบนฝ้ามาก เลยต้องใช้ตัวช่วยอย่างไม้เกาหลัง ผมติดลูกโป่งบนฝ้าให้ริบบิ้นมันห้อยลงมาที่เตียง ส่วนบนเตียงมีกลีบดอกกุหลาบสีขาวถูกเรียงเป็นตัวอักษรว่า สุขสันต์วันเกิด

   ปาดเหงื่อเพราะต้องรีบทำแข่งกับเวลา ปกติพี่โชจะทำงานเกินเที่ยงคืนอยู่แล้ว แต่ผมก็ล็อกประตูกันพลาดไว้เรียบร้อย ต่อไปก็โปรยกลีบดอกกุหลาบสีขาวที่เหลือตามพื้น กล่องของขวัญที่แอบซ่อนมาในกระเป๋า แม้จะห่อเล็กแต่ด้านในโคตรมีความหมาย เอาไปวางไว้บนเตียงด้านล่างตัวหนังสือ

   อาจสงสัยทำไมไม่มีเค้ก ก็พี่โชไม่ชอบกินของหวาน เค้กผมจึงตัดไป พี่ชีสก็เห็นด้วย เงยหน้ามองนาฬิกาตอนนี้ห้าทุ่มกว่าแล้ว ใกล้จะถึงวันเกิดของปีศาจแล้ว โคตรตื่นเต้น

   ผมรีบไปอาบน้ำทำตัวให้หอมโดยไม่ลืมคว้าถุงที่แอบไปซื้อมาหลังเลิกเรียนตอนบ่าย ให้ไอ้ต๋องพาไปถึงแหล่ง ตอนไปซื้อโดนเจ้าของร้านแซวด้วย โคตรอาย ดีไอ้ต๋องบอกซื้อไปให้เมีย

   ยืนอาบน้ำขัดๆ ถูๆ ให้สะอาดทุกซอก พอคิดว่าจะต้องทำอะไรก็ยิ่งขัดจนเริ่มแสบผิว เหมือนได้ยินเสียงพี่โชแว่วๆ อยู่หน้าประตู คงเพราะเข้าห้องไม่ได้ แล้วกุญแจที่ปั้มเป็นพวงก็อยู่ในห้อง ผมรีบเช็ดตัวให้แห้งแล้วคว้าถุงที่เตรียมมา สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เอาวะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ไอ้กลอยทำได้ เย้

   ผมปิดไฟในห้องเมื่อเห็นว่าเลยเที่ยงคืนไปแล้วสิบนาที ตอนนี้วันเกิดพี่โชแล้วครับ โคตรตื่นเต้น เสียงเคาะประตูก็เงียบไปแล้ว สงสัยจะโมโหที่เข้าห้องไม่ได้ ผมค่อยๆ แง้มประตูออกไป ไฟด้านนอกก็ปิดแล้ว แต่ยังเห็นไฟริบหรี่ที่ห้องทำงาน

   “พี่โช” ผมเรียกเสียงเบาๆ จนพี่โชปิดโคมไฟในห้องทำงานแล้วเดินออกมา

   โอย จะจำใส่สมองไอ้กลอยเลยว่า ชีวิตนี้มึงเคยทำแบบนี้ พี่โชเดินใกล้เข้ามาที่ผมยืนอยู่ ไฟที่ปิดสนิททำให้อีกคนไม่สังเกตอะไร

   “ล็อกห้องทำไม” เสียงเข้มจนผมยู่หน้า พอพี่โชเปิดประตูห้องนอนเข้าไปในห้องก็มืด ผมแอบเห็นคนที่เดินเข้าไปก่อนชะงัก คงกำลังรู้สึกว่าเหยียบอะไรบางอย่างเข้า แต่มืดแบบนี้มองไม่เห็น พี่โชก้มลงไปหยิบขึ้นมาส่องกับแสงจันทร์ที่สาดผ่านผ้าม่านสีขาวบาง


   พรึ่บ


   ผมเปิดไฟจนห้องสว่าง พี่โชหรี่ตาเล็กๆ ก่อนจะเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า สายริบบิ้นห้อยระโยงรยางค์เต็มบนเตียง กลีบดอกกุหลาบสีขาวถูกโปรยทั้งบนเตียงและรอบห้องและข้อความบนเตียงทำให้เจ้าของวันเกิดเดินเข้าไปดูช้าๆ แอบเห็นมุมปากยกยิ้มนิดๆ

   พี่โชยังไม่เห็นผม

   “นี่ทำให้พี่เหรอ” เสียงถามพร้อมรอยยิ้มที่หันมา...มองตาค้าง

   “เซอร์ไพร์ส” ผมยิ้มหวานยกนิ้วชี้จิ้มแก้มเอียงหน้ายกขาข้างหนึ่งให้ดูแอ๊บแบ๊วเหมือนกระต่าย

   ที่คาดผมมีหูกระต่ายอยู่บนหัว เปลือยอกขาวๆ ที่ขัดขี้ไคล้ออกจนหมด ด้านล่างสวมกางเกงในตัวจิ๋วที่ด้านหลังเว้าจนเห็นซาลาเปาสองลูก โดยที่ขอบกางเกงมีหางกระต่ายปุกปุยน่ารัก ผมยังเอาริบบิ้นสีขาวที่เหลือมาพันรอบๆ ตัวแบบลวกๆ ด้วย มันเลยอึดอัดนิดๆ เวลาทำท่า

   พี่โชยังอ้าปากค้างอยู่บนเตียง จนผมต้องหุบหน้าลงแล้วเดินไปใกล้ ยื่นมือสะกิดจนคนที่เหม่อสะดุ้ง แต่ตายังจ้องผม ดวงตาดุไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหูสวยเริ่มขึ้นสีจนเห็นได้ชัด ไม่ใช่ว่าพี่โชจะเขินอยู่คนเดียว ไอ้กลอยก็โคตรเขินเถอะ ยิ่งมีคนจ้องแบบนี้ด้วย ครั้งเดียวในชีวิตบอกเลย

   พี่กิ่งเคยหารูปแบบนี้มาให้ผมดูด้วยเมื่อตอนหาชุดคอสเพล แต่ไอ้กลอยก็ปฏิเสธมาตลอด ครั้งนี้โคตรจะพิเศษ ถ้าไม่ใช่คนพิเศษจริงๆ ไม่มีวันทำหรอก

   “นี่มัน” กว่าพี่โชจะหาเสียงเจอ ผมก็เริ่มสั่นเพราะหนาว แอร์ที่ถูกปรับต่ำกว่ายี่สิบมันกำลังเล่นงานกระต่ายให้สั่นเทาทั้งตัว ขนลุกด้วยให้ตาย

   “สุขสันต์วันเกิดไง ชอบมั้ย” ทำตาปิ๊งๆ จนเจ้าของงานขำ แล้วกวักมือให้เข้าไปใกล้ยิ่งขึ้น พอเดินไปหาผมก็ถูกมือใหญ่กระชากให้ขึ้นไปนั่งบนตักพร้อมจูบที่เอาแต่ใจ

   เนิ่นนานกว่าริมฝีปากร้อนๆ จะคลายออก ดวงตาพรายยามมองหน้าช่างวาบวามจนต้องหลุบตาต่ำ อาย

   “ชอบมากที่สุด” รอยยิ้มปีศาจเผยให้เห็น ก่อนจะโดนจูบย้ำๆ มือใหญ่ลูบหางกระต่ายก่อนไล้ต่ำไปหาซาลาเปาสองลูก นวดเค้นจนผมต้องขยับตัวไปมาบนตัก ไอ้ตัวร้ายของปีศาจก็ดูจะคึกคักพร้อมรบ

   “อือ พี่โช” มองตาเยิ้มเมื่อถูกถอนจูบ ลิ้นร้อนไล้ตามซอกคอพร้อมขบเม้มจนต้องเอียงคอหนี ผมก้มกัดคอพี่โชระบายอารมณ์ที่ซาบซ่านจนต้องรีบดึงเสื้อพี่โชออก อารมณ์พุ่งพรวดจนต้องขยุ้มกลุ่มผมดำเมื่อถูกหยอกล้อกับหน้าอก

   ผมถูกพลิกให้นอนราบบนเตียงทำให้เห็นสายตาราวกับปีศาจหื่นกระหาย ลิ้นร้อนแลบเลียริมฝีปากตัวเอง มือเริ่มไล้ตามสีข้างผมจนขนลุก ปากบางก้มลงมาประกบ เสียงจูบดังคลอไปกับเสียงหอบคราง



   กริ๊งๆๆๆๆๆๆ

   เสียงกดออดหน้าห้องแบบรัวๆ จนผมต้องดันหน้าพี่โชที่เอาแต่ขบเม้มที่ซอกคอ

   “เสียงหน้าห้องเราหรือเปล่า” ผมถาม พี่โชทำหน้ามุ่ยเมื่อโดนขัดอารมณ์

   “ช่างหัวมัน” บอกอย่างอารมณ์เสียแล้วก้มจัดการหน้าอกผมต่อ แต่เสียงกดออดหน้าห้องยังดังรัวๆ พร้อมกับเสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือ

   “พะ พี่โช อืม”

   “โธ่เว้ย ใครมาวะ”

   สุดท้ายก็ทนไม่ไหว พี่โชหัวเสียรีบดึงกางเกงให้เข้าที่แล้วก็ออกจากห้องไป ส่วนผมนอนหายใจโรยรินเพราะอารมณ์ค้างอยู่บนเตียง กางเกงในหางกระต่ายกองอยู่ปลายเท้า

   เสียงโวยวายหน้าห้องพร้อมกับเงาตะคุ้มๆ หน้าห้องนอน ผมรีบคว้าผ้าห่มคลุมทันที พวกนั้นต้องเข้ามาแน่ บังตัวเองไว้ก่อนดีที่สุด

   “อะไรวะ ทำอะไรกันอยู่ถึงโมโหขนาดนี้” เสียงพี่แทมครับจำได้ เหมือนจะอยู่ในห้องนอนด้วย “เชี่ย นี่จัดงานวันเกิดกันสองคนเหรอวะ ไม่มีชวนเลยนะมึง”

   “จะมาทำพ่องอะไรของพวกมึง ออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้” พี่โชตวาดแต่ไม่มีใครกลัว รู้สึกเหมือนเตียงด้านข้างยวบลง

   “เอ๋ ก้อนนี้ไอ้เกรียนเหรอ ไหนออกมาดูดิ๊ กูเห็นหูกระต่ายกับกางเกงในสุดเซ็กซี่” พี่จอมพยายามจะดึงผ้าห่ม

   จะเปิดได้ไงในเมื่อผมโป้อยู่ เชี่ยเอ้ย

   “มึงออกไปจากห้องกูตอนนี้ ทุกคน” พี่โชยังตวาด แล้วน่าจะเอาพี่จอมออกไปด้วยเพราะเตียงเด้งดึ๋งขึ้นมาเหมือนเดิม

   “พวกกูอุตส่าห์มาเซอร์ไพร์สแล้วจะฉลองให้” พี่ตินโวยวาย

   “เห็นเมียดีกว่าเพื่อนเหรอวะ กูเสียใจ” พี่เบครับแบบนี้ งั้นไอ้เชี่ยทูจะมาหรือเปล่า

   เหมือนมีคนมาสะกิดผ่านผ้าห่ม

   “ไอ้เชี่ยกลอย มึงแน่มาก” เสียงไอ้ทูอ่ะ อับอายได้อีก

   สุดท้ายประตูห้องนอนก็ถูกปิดลง ผมโผล่หน้าออกมาเอาอากาศ จะเอาหน้าไหนออกไปวะ เสียงประตูเปิดอีกทีผมก็รีบมุดเข้าผ้าห่ม แต่คนเข้ามาสะกิดจนผมต้องโผล่หัวออกมาอีกรอบ

   “กลับไปแล้วเหรอ” ผมถาม พี่โชทำหน้าเซ็งแล้วส่ายหน้าช้าๆ “แล้วทำไงดีอะ” คือแม้อารมณ์ที่ค้างมันจะลดลงแต่มันก็ยังกรึ่มๆ ไงครับ พี่โชไม่พูดไม่ตอบแต่ดึงผ้าห่มออกอย่างไม่ใยดี แขนแกร่งตวัดผมจนลอยพาดบ่า “เหวอ อะไรของพี่”

   “ต้องรีบ ไม่งั้นพวกมันมากวนอีกแน่”

   “ห๊ะ”

   “มาต่อกัน แต่เป็นในห้องน้ำนะ ไม่งั้นพวกมันได้ยินแน่”

   “ดะ เดี๋ยว”

   “ไม่เดี๋ยวแล้ว พี่ไม่ไหวแล้ว”

   “แต่เพื่อนพี่อยู่ข้างนอกเต็มเลยนะ”

   “ช่างหัวมัน”

   “ไม่ช่างหัว...อื่ออ”

   จากอารมณ์ที่ใกล้ดับถูกกระตุ้นปลุกขึ้นมาจนพร้อมรบ เราออกรบกันไม่นานเสียงเคาะประตูห้องนอนก็ดังกวนอยู่ตลอด คนที่คุมเกมส์อยู่บนตัวผมไม่สนใจ ดูได้จากการใส่ไม่ยั้งที่ผมแทบหมดเรี่ยวแรง

   “สุขสันต์วันเกิด” ผมกระซิบข้างหูพี่โชพร้อมดึงหน้าหล่อมาบดจูบ ด้านร่างพร้อมสู้รบอีกรอบแต่เสียงเคาะหน้าห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

   “เร้าใจดีนะ” น้ำเสียงและแววตาของปีศาจทำให้ผมส่ายหน้า แม่งไม่เร้าใจเลย แต่กลัวมากกว่า ถ้าเข้ามาได้จะทำยังไงดีวะ
 
   “ไม่ อืออ”




   กว่าเจ้าของงานจะออกจากห้อง คนด้านนอกก็เปิดขวดกันเรียบร้อย ขนมมากมายถูกแกะทิ้งไว้ ทีวีต่อกับเครื่องเล่นเพื่อเป็นคาราโอเกะประจำบ้าน โชเตะเข้าหลังของเพื่อนที่ร้องเพลงเพี้ยนจนคิดว่าคีย์เพลงนี้อยู่ตรงไหนของเสียง

   “แหม กว่าจะออกมานะมึง จัดหนักละสิ” แทมที่ถูกเตะหันมาแขวะ ได้แค่รอยยิ้มมุมปากกลับไปแทนเลยส่งเสียงจิ๊จ๊ะแล้วร้องเพลงต่อ

   “กลอยล่ะ” ซันเอ่ยถาม

   “นอนอยู่” โชตอบ มือรับแก้วที่เพื่อนของคนที่นอนหลับข้างในชงให้

   “พี่เพลาๆ แรงด้วยนะ ผมกลัวไอ้กลอยเอวหัก” อัธ เด็กรุ่นน้องต่างคณะเอ่ย แม้จะดูเป็นห่วง แต่สายตามันอยากกวนมากกว่า
 
   “ไม่หักหรอก กูออมแรงไว้” แล้วเสียงโหแซวก็ดังขึ้น ดวงตาคมหันไปมองบานประตูห้องนอนที่ปิดสนิท “พวกมึงเมื่อไหร่จะกลับ”

   “ไล่กูอีกแล้ว กูเสียใจ” เบหันไปซบหน้ากับบ่าของเด็กตัวเอง คงสำออย

   “รู้ก็ดี” โชว่า มือใหญ่ยกแก้วขึ้นมาจิบ

   งานวันเกิดที่ไม่อยากให้จัด นั่นเพราะว่ามันเป็นวันที่แม่ของเขาเกือบจะตายตอนคลอดออกมา มันเลยไม่ควรมีการจัดงานรื่นเริง ในทุกๆ ปี เขาจะนำพวงมาลัยไปกราบเท้าก็แค่นั้น แต่ปีนี้ไม่เหมือนทุกปี เพราะเขามีคนที่รัก และจัดงานที่เขาชอบ แต่ถึงไม่จัด แค่ได้นอนกอดก็มีความสุขมากแล้ว

   “มึงใส่สร้อยแขนด้วยเหรอวะ สวยดี” จอมเอ่ยทักเมื่อเห็นสร้อยแขนเชือกถักที่มีลูกปัดแซมอยู่ โชยกขึ้นมาดูแล้วยิ้ม

   “กลอยทำให้” ที่รู้เพราะมีการ์ดเล็กๆ เขียนอวยพรและบอกว่าทำเอากับมือ ปกติไม่ชอบใส่เครื่องประดับนอกจากแหวนกับสร้อยคอ

   “แหม หวานจริงนะ” จอมว่า

   “คู่มึงก็หวานเหอะ อะๆ อย่ามาเถียง กูเห็นมึงกับไอ้ซันโอบไหล่กันที่โรงหนัง” ตินว่า จอมถลึงตาใส่แต่ซันกลับยิ้มกริ่มแล้วชูแก้ว

   เสียงเฮฮาดังอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายก็เอาเทียนเล่มเหลืองมาจุดโดยแทมเป็นคนถือ

   “สุขสันต์วันเกิดมึง รีบๆ เป่า น้ำตาเทียนหยดใส่มือกูแล้ว ร้อนชิบหาย”

   “ขอบใจพวกมึง” โชยิ้มพลางส่ายหัวแล้วรีบเป่า

        สายตาคมมองดูเพื่อนที่ค่อยๆ ล้มตัวนอนเมื่อเหล้าหมดไปสองขวดใหญ่ พวกเพื่อนๆ คอแข็งกันทุกคน กว่าจะน็อกได้ก็เกือบเช้า 

   ขายาวก้าวเข้าห้องนอน ดวงตาคมมองร่างขาวนอนซุกอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่ แก้มป่องน่าฟัด ก่อนร่างนั้นจะขยับพร้อมกับปรือตาขึ้นมา

   “นอนนะครับ” โชก้มจูบเปลือกตา คนที่รู้สึกตัวยู่ปากแล้วเปิดผ้าห่มข้างๆ

   “มานอน” กลอยบอกเสียงแหบๆ จนต้องรีบสอดตัวเข้าไปนอนข้างๆ ยื่นแขนไปโอบกอด “พี่โช”

   “ครับ”

   “สุขสันต์วันเกิดนะ ขอบคุณที่พี่เกิดมาแล้วรักกลอย”



   เช้าวันใหม่ ผมกับพี่โชเดินข้ามพวกพี่แทมที่นอนเรี่ยราดเต็มพื้นห้องเพื่อจะไปตักบาตรครับ พอตักบาตรเสร็จพี่โชก็หาซื้อพวงมาลัยมะลิแล้วพาผมกลับบ้าน แม่ของพี่โชยิ้มแย้มเมื่อเห็น คนเกิดวันนี้รีบเข้าไปกอดแม่ก่อนจะพาไปนั่งที่โซฟา

   ผมดูพี่โชก้มกราบเท้าแม่แล้วยื่นพวงมาลัยให้อย่างสุขใจ ผมก็ทำแบบนี้กับแม่ทุกปีเหมือนกัน แม่พี่โชกวักมือเรียกผมเข้าไปหา ผมไหว้ที่ตัก แม่ก็กอดแล้วก้มหอมแก้ม

   “ขอบใจนะ ที่ดูแลลูกของแม่” รอยยิ้มที่ทำเอาผมยิ้มตาม

   “ขอบคุณครับ”

   งานวันเกิดที่มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ทั้งความตื่นเต้น ความดีใจ ความเร้าร้อน และความเซ็งในอารมณ์ยามถูกกวน แต่ผมก็เห็นรอยยิ้มของพี่โชทั้งวัน จากวันนี้ไป หวังว่าผู้ชายคนนี้จะมีแต่ความสุขและอยู่กับผมตลอดไป

   “สุขสันต์วันเกิดอีกทีนะ”

   “ขอบคุณครับ”

   “เลี้ยงข้าวด้วย”

   “ได้อยู่แล้ว”

   “เลี้ยงเหล้าด้วย”

   “อันนี้ไม่ได้”

   “ทำไมอะ”

   “เพราะกินแล้วโวยวายตลอด”

   “โวยวายตอนไหน”

   “ทุกตอน”

   “พี่โช”

   “ไม่ครับ จะกินมั้ยข้าว” หน้างอ “ว่าไง”

   “กิน”


   เดินตามปีศาจเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น แล้วจัดเต็มให้กระเป๋าฉีก แต่กลายเป็นท้องจะแตก ต่อไปจะไม่ยัดสามชุดแบบนั้นอีกแล้ว ไอ้กลอยเข็ดครับ!!!!


...

งานวันเกิดของพี่โชค่าาาา มาแบบเรียบๆ ตามสไตล์  :m20: :m20:

แล้วพบกันใหม่ค่าา จนกว่าตอนพิเศษจะเยอะกว่าตอนหลัก >w<


ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า ปลื้มปริ่มมาก  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 25-08-2016 22:03:20
กว่าจะเรียกฉายาท่านกลอยจบเหนื่อยเลย55555 จะน่ารักไปไหน แค่นี้พี่โชก็หลงตายแล้ว :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 25-08-2016 22:37:34
คู่นี้นี่มันจะได้สวีทกันเต็มๆบ้างไหม มีอะไรมาขัดตลอดสงสารพี่โชอะน้ำตาจิไหล ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 25-08-2016 22:50:40
กลอยโคตรน่ารักเลย  :กอด1: อย่างงี้พี่โชไปไหนไม่รอดหรอก ตายรังอย่างเดียว 5555+
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-08-2016 23:11:36
นี่ถ้าเซอร์ไพร้ซ์ ตั้งแต่หัวค่ำ
 สงสัยกลอยเดินไม่ได้แน่
พี่โช ร้อนแรง เจงๆ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-08-2016 23:46:50
ความหื่นพี่โชนี่ไม่มีวันลดเลยสินะ ยิ่งมีกระต่ายขาวน่าฟัดมาให้ถึงที่ ดีกรียิ่งเพิ่มมมมม :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 25-08-2016 23:47:04
ถ้าเพื่อนไม่มาขัดสงสัยกลอยได้ฟ้าเหลืองแน่
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-08-2016 00:06:35
พี่โชจะกินกลอยแบบเต็มที่จนฟ้าเหลืองทีไรมีก้างตลอด :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-08-2016 03:06:07
จะหวากันให้เตมที่กยังมีมารมาขัดอีกนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-08-2016 06:11:28
มีความหวาน ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 26-08-2016 11:46:25
กล่อยหูกระต่าย 5555 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-08-2016 12:46:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 27-08-2016 01:36:28
พี่โชเท่ กลอยก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 27-08-2016 11:08:17
อ่านจบแล้วนิยายสนุกมากค่ะ  ขอบคุณคนเขียนที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 28-08-2016 00:15:53
อยากจะสงสารพี่โชอยู่นะ แต่ขำแรงมาก  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 28-08-2016 09:12:27
เป็นการจัดงานที่ดีมาก 5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 28-08-2016 13:14:20
กว่าจะตามอ่านทัน เค้าก็จบ จนมีตอนพิเศษบานตะไท
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 28-08-2016 19:00:24
สนุกมากๆๆๆๆๆ ขอบคุณคนแต่งค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-08-2016 20:40:45
สนุกมากๆค่ะ พี่โชหวงเมียมากๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันเกิด UP! / [25/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: moonoy68 ที่ 29-08-2016 17:04:17
อ่านจบแล้วแบบไม่อยากให้จบเลย
ชอบทุกคู่ทุกคนเลย อ่านแล้วฮ่ามาก
โดยเฉพาะคู่เบทู นี้นึกว่าทูถูกกระทำ
ที่ไหนได้นางเป็นคนไปด่าเค้า 555+
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดUP!/ [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 29-08-2016 22:52:33
Just you and I ตอนพิเศษ : เหล้ายังไม่หมด อย่าเพิ่งนับศพคนเมา




          ผมไม่เคยนึกเลยว่าจะต้องมาทนเห็นสภาพห้องที่แสนเรียบร้อย สะอาดสะอ้านต้องมามัวหมองเพราะเศษข้าวของมากมาย ทั้งถุงขนม เศษของกิน รวมถึงน้ำแข็งที่ละลายนองเต็มพื้น จำได้ว่าตอนออกไปตอนเช้ามันยังไม่เป็นแบบนี้

   “พวกพี่...” ผมเบนสายตาจากสภาพห้องมองไปยังกลุ่มคนนับสิบนั่งกินข้าวกล่อง (ของผม) อยู่ที่โต๊ะกินข้าวและโซฟาหน้าทีวี “พวกพี่ทำอะไรกับของห้องผมวะ” ตะเบ็งออกไปสุดเสียง ทุกคนทำแค่เงยหน้าขึ้นมองแล้วก้มหน้ากินข้าวต่อ พี่โชเดินตบบ่าผมนิดๆ แล้วผ่านเข้าไปนั่งเบียดพี่ซันหน้าทีวี

   “ห้องเพื่อนกูต่างหาก ขี้ตู่นี่หว่า” พี่แทมพูดทั้งๆ ที่เส้นสปาเก็ตตี้คาปาก

   “ใช่ครับเพื่อนแทม” ลูกคู่คือพี่ติน

   “พวกมึงก็ เมียเพื่อนนะนั่นน่ะ ห้องของผัว ก็เหมือนห้องของเมีย” พี่เบหัวเราะร่วนแต่ผมไม่ขำเว้ย

   มองกราดไปยังเพื่อนตัวเองที่นั่งกินข้าวอยู่กับพื้น ไอ้อัธยกยิ้มนิดๆ แล้วเบี่ยงเอาข้าวกล่องตัวเองหนีไอ้ม่าน ส่วนไอ้ทูมันกำลังป้อนกระเพาให้แฟนมาดๆ ของมัน

   ไม่มีใครสนใจผมสักคน

   แล้วผมคือคนต้องทำความสะอาด

   ไม่ยงไม่อยู่มันแล้ว

   ทิ้งถุงที่เพิ่งซื้อของสดมาว่าจะทำมื้ออร่อยให้เจ้าของวันเกิดได้กิน พอเจอแบบนี้ไอ้กลอยกลับดีกว่า ผมเดินออกห้องมา กดลิฟท์ชั้นล่างสุด แต่นึกขึ้นได้ว่าลืมกุญแจรถมอเตอร์ไซค์เลยต้องเดินกลับไปเอาที่ห้อง พอเปิดเข้าไป ทุกคนยังนั่งอยู่ที่เดิม หัวเราะกับตลกเหมือนเดิม เหอะ

   เดินไปหยิบกุญแจในตะกร้าที่วางบนตู้ข้างโต๊ะกินข้าว แต่ดูเหมือนจะช้ากว่ามือขาวๆ ของเจ้าของห้อง ผมทำหน้าบึ้งจ้องแล้วแบมือไปตรงหน้า

   “เอากุญแจรถผมมา”

   “จะไปไหน” พี่โชมันขมวดคิ้ว เก็บกุญแจใส่กระเป๋ากางเกง

   “จะกลับบ้าน เอากุญแจมา” ยังไม่ยอม

   “กลับทำไม” ยังมีหน้ามาถาม

   “พี่มีเพื่อนอยู่โคตรเยอะ ก็อยู่ไปสิ ผมจะกลับ เอากุญแจมา” เริ่มตะเบ็งเสียงแข่งกับเสียงตลกในทีวี

   “เป็นอะไร ทำไมต้องกลับ”

   “แล้วพี่จะให้ผมอยู่ทำไม ไม่มีใครสนใจผมสักคน แล้วดูสภาพห้องมันเละแค่ไหน พี่ไม่เคยสนใจ เพราะอะไร เพราะสุดท้ายผมเป็นคนต้องเก็บกวาดทุกอย่าง”

   “ก็ให้แม่บ้านมาทำ” พูดโคตรง่ายว่ะ

   “แล้วแม่บ้านจะมาวันนี้หรือพรุ่งนี้มั้ย? หรือพี่จะปล่อยให้ห้องเป็นแบบนี้จนกว่าแม่บ้านจะมาทำ?” พี่โชดูเงียบไป ทุกคนในห้องเริ่มเคลื่อนไหว ข้าวกล่องที่พากันกินแล้ววางทิ้งไว้เริ่มถูกเก็บทิ้งถังขยะ

   ผมมองเข้าไปยังในห้อง พี่แทมที่ว่าให้ผมเมื่อกี้สะดุ้งกับสายตาของผม มือก็เริ่มกวาดเศษขนมบนโต๊ะลงถังขยะที่พี่ตินถือ

   “มึงถือดีๆ สิวะ เดี๋ยวเศษขนมแม่งมันตกพื้นได้กวาดอีก” ได้ยินพี่แทมบ่นพี่ติน

   หน้าบึ้งแต่ยังไม่ยอมเอามือที่แบขอกุญแจลง พี่โชก็ไม่ยอมพูดอะไรจนสุดท้ายก็คว้าแขนแล้วดึงผมให้เข้าไปนั่งที่โซฟาที่ตอนนี้ทุกคนลุกกันหมด ไม่ได้ลุกกลับบ้านแต่ลุกทำความสะอาด พี่ซันดูดฝุ่นกับเศษขนมบนพื้นพรมโดยมีพี่จอมชี้นิ้วสั่ง พี่เบกับไอ้ทูก็ช่วยกันเอาผ้าแห้งมาเช็ดน้ำที่เปียกบนพื้นจนแห้ง แต่ถ้าจะให้ดี ควรหาเศษผ้าไม่ใช่เอาผ้าเช็ดตัวมาซับ

   ผมกวาดสายตาไปมองทางไหนทุกคนก็จะพากันสะดุ้งแล้วรีบทำในสิ่งที่กำลังจับ อย่างไอ้อัธที่รีบวิ่งเอาถุงขยะสีดำไปวางไว้ที่ระเบียง

   “ไอ้เชี่ยอัธ ห้ามวางถุงขยะไว้นอกระเบียง” ผมว่า เพื่อนมันก็ชะงักมือที่กำลังจะเลื่อนบานกระจก มันหันมามองผมแล้วยิ้มแหยๆ

   “แล้วต้องเอาไปไว้ที่ไหนวะ” มันถามเสียงอ่อย ผมชี้นิ้วไปทางประตูห้อง

   “เอาลงไปทิ้งข้างล่าง” ไอ้อัธมันเบิกตามองก่อนจะรีบพยักหน้าเมื่อผมเริ่มทำหน้าบึ้ง

   เหตุการณ์วุ่นวายเริ่มดีขึ้น พื้นห้องกลับมาสะอาดไม่มีคราบน้ำ บนโต๊ะหรือหน้าโซฟาก็ไม่มีเศษขนมเหลืออยู่ ขยะในห้องทุกถังถูกนำไปทิ้งด้านล่างจนหมด ตอนนี้ทุกคนที่เก็บกวาดก็นั่งที่พื้นพากันดึงคอเสื้อคลายร้อน ผมแอบเห็นพี่แทมสะกิดพี่เบให้ไปเอาน้ำเย็นในตู้แต่ไม่มีใครกล้า แม้แต่พี่จอมก็ยังส่ายหน้าแล้วรับลมเย็นๆ จากฝ่ามือของพี่ซันที่พัดให้

   หวานจริงคู่นี้

   ผมหน้าบึ้งลุกจากโซฟา ดูเหมือนเพื่อนของพี่โชจะรีบนั่งตัวตรงแล้วมองตามผมที่เดินไปที่ห้องครัว เดินกลับมาพร้อมกับขวดน้ำเย็นๆ สี่ขวด พอยื่นให้ปุ๊บเหมือนแร้งลง เพราะทุกคนพากันยื่นมือมาแย่งแล้วยกน้ำดื่มจนหมดทุกขวด

   “ไอ้เชี่ยตินมึงทำน้ำหยด” พี่เบตบบ่าเพื่อนตัวเอง พี่ตินตาเหลือกมองผมก่อนจะรีบเอาขาตัวเองถูๆ จนผมหลุดขำ แล้วกลับมาเก๊กเหมือนเดิม

   “ใช้แรงงานพวกกูขนาดนี้ยังไม่พอใจอีกเหรอวะ” พี่จอมบ่นจนโดนพี่แทมตบหัว

   “พูดทำไมวะ เดี๋ยวมันก็งอนอีกไอ้ห่าจอม”

   ผมเห็นพี่จอมทำปากขมุบขมิบจนหลุดหัวเราะออกมาจริงๆ พี่โชผลักหัวผมจนหน้าคะมำ ทุกคนต่างพากันมองอย่างสงสัย

   “อะไรวะ” พี่ซันถามขึ้นมา “หรือว่ามึงสมรู้ร่วมคิดกันหลอกพวกกูวะ” เริ่มขมวดคิ้วจ้องเพื่อนตัวเองที่ยืนยิ้มหล่อข้างผม พี่โชยักคิ้วนิดๆ แล้วก็มีเสียงโห่ขึ้นมา ผมก็รีบหลบหลังพี่โชทันทีที่เพื่อนและพี่ลุกขึ้นมาจะทำร้าย

   “ไอ้เหี้ยกลอยกูจะฆ่ามึง” พี่แทมวิ่งมาก่อนเบรกตัวเองเมื่อเจอพี่โชยืนเก๊กหน้าดุ “ฝากไว้ก่อน” ได้แต่ชี้หน้า

   ทุกคนพากันล้มตัวนอนลงดิ้นๆ โดยเฉพาะไอ้ม่านที่ต้องแบกถุงขยะสองถุงลงไปกับไอ้อัธ




   (ย้อนกลับไปก่อนจะเข้าห้อง)

   “พี่โช ถ้าห้องเละจะทำไง” ผมถามเจ้าของห้องที่กำลังกดเลขชั้นห้องคอนโดของตัวเองในลิฟท์ พี่โชมองหน้าผมนิ่งๆ แล้วส่ายหน้า ผมหน้ามุ่ยพลางคิดแล้วก็ปิ๊งไอเดีย ดึงพี่โชลงมากระซิบกระซาบ พี่โชเลิกคิ้วแล้วขำออก

   “ต้องทำขนาดนั้น?”

   “อืมๆ เอาแบบนี้แหละ”

   “แล้วถ้าพวกมันไม่ทำล่ะ”

   “เราก็ใส่อารมณ์เข้าไปเยอะๆ ไง”

   “ทำได้เหรอ?”

   “ได้สิ นี่ใคร นี่ท่านกลอยประเกรียนนะ โอ้ย” โดนดีดหน้าผากไปที โคตรเจ็บ


   นั่นแหละครับ แผนการที่ผมเตรียมมากลับพี่โช ที่พี่โชไม่โวยวายอะไรก็เพราะแบบนี้แหละครับ เราต้องปรับอารมณ์ก่อน ถ้าพี่โชไม่นิ่งใส่ผมก็เล่นไม่ออก

   ผมเอาถุงของสดที่ซื้อเข้ามาวางในครัว ไอ้ม่านเดินมาดูผมเลยใช้มัน แม้ปากจะบ่นแต่ก็ยอมยกเขียงกับมีดไปหั่นหัวหอม มันหั่นไปร้องไห้ไป ผมกับไอ้ม่านพากันขำ เห็นพี่เบเดินมาส่องตอนไอ้ทูแหกปากร้องไห้ออกมา พอเห็นก็หัวเราะแล้วเดินออกไป

   “สำออยจริงมึงนี่” ไอ้ม่านด่า มือมันกำลังหั่นหมูยอ

   กับข้าว (แกล้ม) วันนี้ก็มีพวกยำต่างๆ กับข้าวผัดหมูครับ ผมกับพี่โชกลับมาก็บ่ายแล้วต้องมานั่งดูเพื่อนๆ ทำความสะอาดเสร็จจนเกือบเย็น พี่โชกินข้าวตอนเที่ยงไปนิดเดียว ผมเลยรีบทำข้าวผัดก่อน พอยกไปให้ พี่จอมก็รีบมานั่งข้างๆ แต่พี่โชลุกหนี พี่จอมเลยเดินตามผมเข้ามาแล้วขอไปจานหนึ่ง พี่จอมได้ คนอื่นๆ ก็รีบมาขอ แล้วก็กินครบทุกคน

   “กูว่า เปิดร้านให้เมียมึงเถอะ ทำอร่อยสัด” พี่ตินกวาดเศษข้าวจนไม่เหลือติดจาน

   “บ้านไอ้กลอยมันก็เปิดร้านขายอาหารตามสั่งอยู่แล้วนะพี่” ไอ้อัธบอก

   “เออว่ะ กูลืมไป”

   จานที่ไม่มีเศษอะไรถูกพี่ซันยกมาแล้วล้าง พี่จอมหน้างอบ่นกับตัวเองแล้วเดินมาช่วยพี่ซันล้าง ผมมองคู่นี้แล้วก็ยิ้ม ผมมองออกคนแรกถึงความสัมพันธ์ของคู่นี้ เป็นอย่างไอ้กลอยว่ามั้ยล่ะ ได้กันแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งซะด้วย

   “มึงยิ้มโคตรน่ากลัว” รีบหุบหน้าเมื่อถูกไอ้ม่านเอามะเขือเทศปาหัว



   กว่ากับข้าวทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลากินข้าวเย็นพอดี มีแววทุกคนจะสิงห้องนี้ถึงพรุ่งนี้เช้าแน่ พี่ตินกลับมาหลังจากออกไปซื้อของกับพี่เบ ถุงสีขาวๆ เห็นกล่องสีเงินๆ แวบๆ ของเมื่อคืนคงหมดแล้วสินะ

   ทุกๆ คนเดินมาช่วยยกกับข้าว หม้อข้าว และจานออกไป วันนี้คนคึกคัก กับข้าวก็หมดลงอย่างเร็ว ผู้ชายนี่คงใช้กับคำว่ากินไม่ได้ ต้องเรียกว่ายัดทุกคน โดยเฉพาะคนที่พวกคุณรู้ว่าใคร พี่จอมเบิ้ลข้าวเป็นจานที่สามแต่ถูกพี่ซันยกจานหนี ผมไม่รู้พวกเขาตกลงอะไรกันแต่ที่แน่ๆ พี่จอมยอมหยุดกิน

   มื้อค่ำจบลง จานถามทุกอย่างก็ถูกยกไปกองในอ่าง พี่ตินกับพี่แทมเป็นคนแพ้ในการโอน้อยออก ทั้งคู่จึงเป็นคนล้าง แต่สุดท้ายก็เป็นผมที่ต้องไปล้างซ้ำ ‘พวกพี่เล่นล้างแบบลวกๆ ด้านหลังจานก็ไม่ขัด มันยังมันเยิ้มอยู่เลย’ นั่นคือประโยคที่ผมบ่น พี่แทมเลยลองให้ผมล้าง สุดท้ายก็อย่างที่เห็น ผมล้างคนเดียวหมด ทำก็ทำให้กิน ยังต้องมาล้างอีก โคตรไม่ยุติธรรม

   เช็ดมือเสร็จผมก็เดินกลับมายังหน้าทีวี โต๊ะตัวเตี้ยถูกแปลสภาพเป็นโต๊ะเหล้า กล่องเหล้าห้ากล่องถูกวางเรียงราย พร้อมโซดาน้ำแข็ง ยำต่างๆ ถูกตักมาเป็นกับแกล้ม

   “มานั่งมึง” ไอ้ม่านกวักมือเรียกผมไปนั่งข้างๆ มันชงเหล้าให้ผมแก้วหนึ่ง พอผมยกก็เห็นหน้าพี่โชผ่านแก้วเหล้า หน้านิ่งๆ ที่จ้องมาแทบทำให้สำลัก

   “ไอ้เหี้ยโช มึงจะจ้องเมียทำไมเยอะ เมื่อคืนก็จัดเต็มขนาดนั้น” พี่ตินว่าให้เพื่อนตัวเอง

   “แต่ทำไมไม่มีเสียงออกมาวะ” พี่แทมยื่นหน้ามาถามพี่โชจนผมสำลักออกมาจริงๆ ไอ้อัธลูบหลังป้อยๆ

   “สมองมึงหัดใช้บ้างไอ้เชี่ยแทม” พี่จอมด่าเพื่อนตัวเอง

   “แล้วมึงรู้?” โดนถามกลับ พี่จอมมองนิ่งแค่ยักคิ้ว

   “มันก็ทำให้ห้องน้ำสิวะ เก็บเสียง” เป็นพี่ตินที่ตอบแทน พี่จอมยกนิ้วโป้งให้จนพี่ตินยืด ก่อนโดนพี่โชตบหัว

   “เลิกเสือกเรื่องของกูสักที วันเกิดกูยังมายุ่งเรื่องของกูอีก” พี่โชบ่น

   “บอกมาเถอะว่าพวกกูขัดขวางพวกมึงจู๋จี๋ดู๋ดี๋บนเตียง” พี่แทมยิ้มกรุ้มกริ่ม

   “รู้ก็ดี” พอพี่โชตอบพี่แทมก็ปรบมือให้ทันที

   “เพื่อนกูตอบได้ตรงมาก”

   ผมส่ายหน้าให้กับทุกคน ไม่ใช่อะไรหรอก โดนคำสั่งเดิมคือห้าแก้ว ตอนนี้ทุกคนเริ่มคึกด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ คาราโอเกะถูกนำมาเปิดอีกรอบ พี่แทมจับไมค์เป็นคนแรก อยากเป็นบี้เดอะดาว ร้องจนเสียงไมค์หอนแถมยังเต้นซะไมค์ปลิวไปตกที่โซฟา เกือบโดนหัวพี่ซันที่นั่งใกล้ตรงนั้น

   พี่เบรีบโดดไปตะคุบไมค์มาได้ก็อยากเป็นป๋าเบิร์ด พยายามดัดเสียงซะจนไอ้ทูหัวเราะงอหงาย พี่โชยังขำคิดดู พี่จอมพยายามแย่งไมค์อีกอันกับพี่ติน ยื้อกันไปมาจนเสียงไม่ออก ไม่ว่าจะแกะแงะแพะยังไงก็ไม่ดีขึ้น ไมค์อันนั้นเลยถูกทอดทิ้ง

   “ไอ้พวกเพื่อนสารเลว ให้กูขับร้องบัดเดี๋ยวนี้เอิงเอย” พี่ตินลุกขึ้นกางขาตบเข่าแล้วชี้ไปที่พี่เบกำลังร้องเล่าสู่กันฟัง (แบบเพี้ยนๆ) ผมนั่งหัวเราะมอง พวกพี่แกไม่เต็มกันสักคน

   เห็นบอกอยากระบายจากการทำงาน นี่เครียดจนเป็นบ้ากันขนาดนี้ หรือบ้ากันแบบนี้อยู่แล้วก็ไม่รู้

   ผมลุกไปตักยำมาเพิ่ม กลับมาเห็นพี่โชถือไมค์ไว้ อย่าบอกว่าพี่จะร้องเพลง แม้จะเคยได้ยินมาบ้างตอนพี่แกอารมณ์ดีหยิบกีต้าร์มาเกา แต่ร้องแค่อยู่กับผมสองคน

   “ไอ้เกรียนมานั่งนี่เร็วๆ เพื่อนกูจะเห่าให้ฟัง” โดนฝ่ามือพี่โชไปเต็มหัว พี่แทมถึงกับลงไปนอนกองโอดโอยแบบสำออย
   ผมยิ้มแล้วนั่งลงข้างไอ้ม่านเหมือนเดิม พี่โชนั่งตรงข้ามมองผมยิ้มๆ เพลงถูกกดเล่นโดยพี่ซัน เสียงเพลงเล่นไปผมก็เริ่มหน้าร้อนเพราะเขิน

   “ก็ไม่คิดก็ไม่เคยจะฝัน ว่าจะได้เจอกับเธอคนนั้น และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉัน เหมือนเรื่องราวอย่างในนั้น ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหน ก็ไม่รู้จะเป็นไงต่อไป ก็ไม่รู้จะจบลงแบบไหน ฉันเองก็ไม่รู้” พี่โชร้องเพลงไปยิ้มไป ส่วนผมก็นั่งจ้องหน้าบ้างก้มบ้าง ก็มันเขินนี่นา

   “เพื่อนกูๆ” เสียงพี่แทมแทรกขึ้นมาโดนมือพี่โชตบหัวไปแบบเบาๆ “สัด”
   “แต่เราสองนั้นก็ได้มาพบและเจอกัน เธอกับฉันเหมือนว่าฟ้านั้นขีดมาให้พบเจอ และตัวฉันก็ยังถามตัวเองอยู่เสมอ ว่าเธอคนนี้ จะใช่คนนั้นหรือเปล่า” พี่โชยื่นไมค์ไปให้เพื่อนตัวเองช่วยร้องพร้อมๆ กับตัวเอง คงเขิน ผมเห็นหูแดงด้วย “ก็ไม่คิดว่าจะรักเธอคนนี้ ก็ไม่คิดว่าจะรักกับคนแบบนี้ ไม่ใช่แบบที่คิดเลย ก็ไม่ใช่คนที่เคยฝันเอาไว้ ก็ไม่ใช่คนที่ใจอยากยอมรับว่าใช่ แต่รู้ตัวเองอีกทีก็รักเธอ~” พี่โชชี้มาทางผมเอาซะผมเขินตัวแทบแตก ยิ้มจนปวดแก้มไปหมด

   กว่าเพลงจะจบลง ไอ้กลอยก็แทบม้วนเป็นไข่หวาน พี่โชพอจะหวานก็หวานขึ้นมาเฉย ไม่ถงไม่ถามสภาพไอ้กลอยคนนี้สักคำ พี่แทมยื่นไมค์มาทางผม

   “อะไร” ผมมองอย่างงงๆ

   “อ่าว ก็เพื่อนกูร้องเพลงให้มึงแล้ว มึงก็ร้องเพลงให้เพื่อนกูบ้างสิ” พี่แทมว่าแล้วก็พากันปรบมือ แต่พวกไอ้อัธส่ายหน้าเป็นพัลวัน

   “ได้อยู่แล้ว” ผมยื่นมือจะคว้าไมค์แต่โดนไอ้อัธคว้าไปแทน “ทำเชี่ยไรวะ” แหวใส่เพื่อนตัวเอง

   “ผมว่า ถ้าฟังไอ้กลอยร้องนะ เปิดแต่ดนตรียังดีซะกว่า” ไอ้อัธแม่งดูถูกผมว่ะ แบบนี้ยอมไม่ได้ รีบแย่งไมค์มาจนถือครองสำเร็จ ไอ้อัธรีบยกมืออุดหูทันทีที่ผมสั่งเพลงไป

   “ท้องทะเลท้องฟ้ามีเพียงแค่เรา ท่ามกลางหาดทรายขาว” ผมร้องขึ้นอย่างไพเราะจนทุกคนพากันอุดหู “แสงดวงดาวพร่างพราว ประกายสวยงาม ดั่งบนสวรรค์เปิดทาง ให้คนอ้างว่างอย่างฉัน บอกความในใจให้เธอได้ฟัง โอกสอย่างนี้ต้องพูดไป” ผมร้องไปยื้อไมค์ไปเพราะถูกไอ้ม่านพยายามจะดึงออก ถลึงตาไปมันก็ยังไม่ยอม

   “พอเลยไอ้เชี่ยกลอย” ไอ้ม่านว่า มือมันก็ออกแรงดึง แต่ผมยื้อไว้

   “ว่าทั้งหัวใจ มีแต่เธอนั้น อยากให้เชื่อกัน พยานคือฟ้าที่เฝ้าดู แล้วเธอคิดอย่างไรเมื่อได้รู้บอกที อยากฟังจากปากเธอ” ผมร้องยานคางแล้วเริ่มร้องท่อนกลาง ทุกคนพร้อมใจกันยกมืออุดหู ขนาดพี่โชยังปิด “หากเธอก็รัก เธอก็รู้สึกดีๆ เหมือนกัน แต่เธอก็เขินอายอย่างนั้นที่จะต้องพูดมา แค่ร้องว่าอ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา ก็พอ และฉันจะขอเป็นคนนั้นที่ดูแลหัวใจ ไม่เคยบอกรักใครคนไหนเพิ่งจะมีแค่เธอ และฉันก็อ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา เหมือนเธอ แค่เพียงเท่านี้เป็นอันเข้าจาย~” ร้องได้ถึงตรงนี้ผมก็ถูกพี่โชดึงไมค์ออก ได้แต่มองหน้ามุ่ย ทำไมพี่โชได้ร้องจบเพลงแล้วผมร้องไม่จบวะ ลำเอียงชัดๆ

   จากนั้นพวกเสียงเพี้ยนก็ผลัดกันร้อง จะมีคนร้องเพลงเพราะก็พี่ซันที่ร้องซะเคลิ้มกับไอ้อัธที่เสียงดีอยู่แล้ว แต่พอเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็มีแต่เสียงหัวเราะ ผมก็ขำบ้าง บึ้งบ้างเมื่อมองหน้าเจ้าของวันเกิด ผมลุกมาตักยำเพิ่ม พี่โชลากผมเข้าห้องนอนทันทีที่วางจานลงบนโต๊ะ

   “จะไปไหนเนี่ย” ผมว่า พี่โชล็อกห้องเสร็จก็ดึงผมกอด “อะไร”

   “งอนพี่เหรอ” ถามข้างๆ ใบหู

   “งอนเรื่องอะไร” ถามกลับ พี่โชขำเบาๆ

   “เรื่องร้องเพลง” ยู่ปากเมื่อได้ยิน

   “ผมร้องไม่เพราะเหรอ” กล้าถามนะผมเนี่ย

   “มากที่สุด” นี่ก็ไม่รักษาน้ำใจสักนิด

   “ตรงเหี้ยๆ” ผมว่า พี่โชหัวเราะร่วน

   มือที่กอดอยู่ช่วงเอวเริ่มไล้ต่ำลงๆ จนผมต้องตีมือแล้วถอยห่าง จะให้เหมือนเมื่อคืนคงไม่ไหว พี่โชหน้าบึ้งเมื่อไม่ยอม

   “วันนี้วันเกิดพี่นะ” เสียงกับใบหน้าอ้อนสุดๆ

   “แต่เพื่อนพี่เต็มห้อง”

   “ทีเมื่อคืน...”

   “นั่นไม่นับ”

   “แต่...”

   เสียงเคาะประตูดังรัวๆ จนพี่โชต้องเดินไปกระชากแล้วเปิดออก พี่แทมยืนยิ้มแป้นแล้น พี่ตินที่ยืนซ้อนอยู่ชะโงกข้ามตัวพี่โชเข้ามา

   “ก็นึกว่าเล่นจ้ำจี้กัน”

   “พ่องมึงสิ” พี่โชเดินหัวเสียออกไปนั่ง มือยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ส่วนพี่แทมกับพี่ตินก็กลับไปนั่งที่เดิม ผมก็เดินตามไปแอบยกบ้างอะไรบ้างยามพี่โชสนใจเพื่อนตัวเองที่เต้นแร้งเต้นกาให้ดู

   พี่เบยังเก๊กเสียงป๋าเบิร์ดอยู่เหรอวะ ร้องเพลงพริกขี้หนูร้องซีดซ๊าดอู้อ๊าซะกลัวข้างห้องคิดไปไกล ตอนนี้ไมค์อีกอันดีแล้ว นั่นเพราะพี่จอมบ่น พี่ซันเลยเอามาทุบๆ ดูปรากฏว่าดีเฉย

   “มองเชี่ยไร” พี่จอมด่าผม

   “เปล๊า” เสียงสูงตอบจนโดนไมค์เคาะหัว เสียงดังจนลำโพงแทบแตก พี่เบหยุดร้องแปบหนึ่งก่อนกลับมาเต้นอีกรอบ

   ไมค์สองอันร้องประสาน อยากสงสารข้างห้องมาก แต่ผมควรสงสารตัวเองก่อน หัวเราะจนปวดท้องไปหมด เมื่อพี่แทมบีบเสียงเป็นนิว พี่เบเป็นจิ๋ว สองคนดวลเพลงพร้อมเต้นเพลงฮิต ไม่รักไม่ต้อง และคงเต้นเพลินจนไมค์ของพี่เบกระแทกเต็มปากพี่แทม อันนี้ฮาจริง พี่แทมนั่งลงกุมปากที่มีเลือดออกแล้วโวยวาย

   “เชี่ย ปากกู” พี่แทมโวยวาย พี่ตินล้วงเอาน้ำแข็งให้ประคบปากที่โดนฟันกระแทก

   พอนักร้องมือสองเจ็บ มือสามเลยขึ้นครองแทน นั่นคือพี่ติน พี่แกอยากเป็นคนเกาหลี แต่แม่งร้องเพลงอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง ผมได้แต่ขำอย่างเดียว ฟังออกแค่ซอรี่ ซอรี่

   เหล้าค่อยๆ หมดไปทีละขวดๆ พี่ซันจับไมค์ได้ก็ร้องเพลงให้พี่จอมที่ตาหวานเยิ้ม (ด้วยความเมา) ผมมองไปยิ้มไป ชอบดูเวลาคนอื่นเขารักกันนะครับ ดูมีความสุขดี ส่วนไอ้ม่านกับไอ้ทูน็อคไปแล้วครับ แดกไม่ดูสภาพสังขารตัวเอง ตอนนี้เหลือแต่พวกคอแข็ง อยู่ๆ พี่แทมก็หัวเราะขึ้นมาจนผมตกใจ

   “กูมีของดีเว้ย” พูดจบก็เดินไปเปิดเป้ตัวเอง ขวดใสที่มีน้ำสีชมพูไหวอยู่ในนั้น ทุกคนจ้องอย่างสงสัย

   “อะไรวะ” พี่โชถามเพื่อนตัวเองขณะที่คนถือกำลังรินใส่แก้ว

   “ลองสิ ของดีนะมึง” พี่แทมยื่นให้พี่โช คนได้รับมาจิบๆ ดวงตาคมเบิกกว้างแล้วยิ้มออกมา “เป็นไง รสชาติดีใช่มั้ย” พี่โชพยักหน้าแล้วยกรวดเดียว

   การลองของพี่โชผ่านไป ทุกคนก็เริ่มขอบ้าง ขนาดผมยังได้จิบนิดหนึ่ง โคตรอร่อยๆ แต่รสชาติแม่งคุ้นๆ เหมือนเคยกินที่ไหน

   “ยาดอง?” ไอ้อัธเอ่ยถามขณะยื่นแก้วคืน ใช่ๆ รสชาตินี้เลย

   “เก่งมากไอ้น้อง” พี่แทมยกมือให้ ไอ้อัธก็ยักคิ้ว

   “มึงรู้ได้ไงวะ” พี่ตินถาม

   “โหลนี้ผมเพิ่งไปลองมา” ไอ้อัธเหล่ตามองผมด้วย นี่ผมพยายามไม่มองแล้วนะ พี่โชที่เริ่มสงสัยก็จ้องมาทางผมนิ่ง ไอ้อัธวางระเบิดใส่ผมอีกแล้ว แต่โชคดีที่พี่แทมดึงให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม

   “ระวังเมานะพี่” ผมบอก พี่แทมยกนิ้วชี้ขึ้นมาส่ายไปมา

   “เหล้ายังไม่หมด อย่าเพิ่งนับศพคนเมาไอ้น้อง”



   เวลาผ่านไป ทั้งเหล้าแพง ทั้งยาดองเริ่มหมด สภาพแต่ละคนอย่าเรียกว่าเมา ต้องเรียกว่าไร้สภาพความเป็นคน ผมคงนับศพคนเมาได้แล้วสินะ รายแรกพี่จอมที่วิ่งไปโก่งคออ้วกในห้องน้ำ ส่วนคนอื่นๆ นอนตายอยู่ที่พื้น พี่แทมโวยวายอะไรสักอย่าง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องบ้าน พี่ตินก็โวยวายเรื่องเจ้านายบ้าอำนาจ พี่โชก็นั่งคอตก เมาเหมือนเพื่อนตัวเองแต่ไม่ยอมนอนพื้น มือขาวๆ กวักให้ผมเข้าไปหา

   “ไปนอน” เสียงยานคางบอก ผมรีบประคองพาคนเมากลับห้อง ขาพี่โชแม่งแทบไม่ยอมก้าว ผมลากบ้างหยุดบ้างคือมันโคตรเหนื่อย “นอน จะนอน” พอไม่ได้ดั่งใจพี่แกก็โวยวาย

   “ครับๆ ไปนอนๆ” เหนื่อยมากกว่าจะถึงเตียง ผมทุ่มพี่โชลงเตียง พี่แกก็คลานขึ้นไปนอนหนุนหมอน ผมปาดเหงื่อเดินไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้คนเมา นี่คือข้อเสียของคนถูกจำกัดการดื่ม เพราะต้องดูแลคนเมาแทบทุกอย่าง
 
   ขณะกำลังเอาผ้าชุบน้ำ ได้ยินเสียงคนอ้วก พอวิ่งออกมาก็เห็นคนเมาบนเตียงโก่งคออ้วกข้างๆ ยำทุกอย่างกองอยู่ที่พื้น แทบอยากจะเอาผ้าฟาดหน้าหล่อ แต่ก็ทำไม่ได้ กลับหายเมาแล้วจะถูกเอาคืน ผมใช้ทิชชู่ปาดเอาของต่างๆ ใส่ถังขยะ พอเสร็จก็เอาผ้าที่ปาลงพื้นมาเช็ดตัวคนเมา นี่ก็ไม่ยอมให้เช็ด

   “นอนดีๆ สิวะ” พยายามเช็ดทั้งๆ ที่โดนปัดออกตลอด เริ่มโมโหเลยลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ใช้เวลานานพอสมควรผมก็เดินตัวหอมออกมา “เชี่ย” อุทานออกไป

   บนเตียงหอมที่เพิ่งเปลี่ยนมาคลุมเตียงใหม่ มีร่างใหญ่ๆ ของคนเมาสี่คนนอนอยู่ พี่โชนอนริมสุดโดนขาของพี่แทมพาดที่ขา ข้างพี่แทมก็เป็นพี่เบนอนกอดกับพี่ติน

   ถอนหายใจออกจากห้องมาเจอพี่จอมกับพี่ซันนอนกอดกันที่พรม ไอ้อัธนอนข้างกองเหล้า ไอ้ทูกับไอ้ม่านนอนกอดกันบนโซฟาก่อนอยู่แล้ว สภาพห้องที่สะอาดกลับมาเละเทะเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออ้วก อยากจะโมโห อยากจะระบายแต่ไม่รู้จะว่าให้ใครดี

   เก็บซากอารยะธรรมทุกอย่างเสร็จฟ้าก็สว่างพอดี สรุปแล้วผมไม่ได้นอนครับ ได้งีบตอนนั่งที่โต๊ะกินข้าวก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงโวยวาย พอวิ่งเข้าไปในห้องนอน เบิกตากว้างดูพี่ตินโวยวายเป็นบ้าเป็นหลัง

   “อะไรพี่อะไร” ผมถาม พี่ตินถูปากตัวเองไปมา มองตาขวางไปทางพี่เบที่นั่งสะลึมสะลือ

   “ไอ้เชี่ยเบจูบกู ไอ้สัด มึงกล้าจูบกูเหรอวะ” ผมหลุดขำออกมา พี่โชกับพี่แทมก็ปรือตามานั่งมอง สภาพแต่ละคนถอดเสื้อทิ้งคนละทิศละทาง

   “กูจูบมึงเหรอวะ” พี่เบถามงัวเงีย

   “เออดิ่สัด ขนลุกเหี้ย” พี่ตินลูบแขนตัวเอง

   “มึงจะโวยวายห่าอะไร มึงก็จูบไอ้เบคืนสิ จะได้หายกัน” พี่แทมอ้าปากหาววอดๆ

   “พ่องมึงสิ” พี่ตินโวยวายแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ

   พี่โชกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา พอเข้าใกล้ก็ถูกมือดึงไปจูบ เชี่ยเอ้ย ปากยังมีกลิ่นเหม็นบูดของอ้วกอยู่เลย ผมดันหน้าพี่โชออกจนคนถูกดันหน้ามุ่ย

   “ไปอาบน้ำ”

   ทุกคนว่าง่ายมาก ผลัดกันอาบน้ำ พี่จอมปากบ่นปวดเมื่อยเมื่อนอนบนพื้น มือก็หยิบกินขนมปังปิ้งที่ผมปิ้งให้ ทุกคนเตรียมเสื้อผ้ามากันคงคิดอยู่แล้วว่าจะมีสภาพกันยังไง

   “นี่พวกเราเมาแล้วทำความสะอาดห้องกันเหรอวะ ทำไมถึงปวดเมื่อยขนาดนี้” พี่แทมบิดเอวไปมา ผมมองขวับ กล้าพูดมาก เมาแล้วทำความสะอาด

   “นั่นสิ” พี่เบเห็นด้วย

   “เก่งเหี้ยๆ เลยกู” พี่ตินยิ้ม

   “หิวข้าว” พี่จอมบอกพี่ซัน ซึ่งก็พากันกลับ ผมมองตามคู่รักนั้นไป

   “พวกผมกลับนะพี่” ไอ้อัธบอก พี่โชก็พยักหน้า

   “กูกลับก่อนนะมึง”

   สุดท้ายทุกคนก็กลับกันหมด ผมยังเงียบไม่พูดอะไร จนพี่โชดึงไปนั่งตัก

   “เป็นอะไรหื้ม หน้าบึ้งเชียว” โดนบีบจมูก ผมส่ายหน้าตอบ “หน้าบึ้งแบบนี้บอกไม่มีอะไรได้ยังไง ไหนบอกพี่ซิ” ผมก็ยังส่ายหน้า ดวงตากระพริบถี่ๆ

   “พี่โช”

   “ครับ มีอะไร”

   “คือผม”

   “ครับ?” ยื่นหน้าไปกระซิบข้างๆ หู “มีอะไร ทำไมไม่พูด กลอยครับ” แรงเขย่าเริ่มแรงขึ้นจนร่างที่นั่งตักเอนตัวแล้วลงไปนอนกองกับพื้น



   กลอยหลับกลางอากาศไปแล้วจนคนที่ให้นั่งตักตกใจเพราะคว้าไม่ทัน หน้าผากที่กระแทกพื้นเสียงดังลั่นจนเขียว อีกไม่นานคงช้ำแน่ ร่างสูงรีบช้อนร่างที่นอนหลับสนิทที่พื้นเข้าห้อง ก่อนหาน้ำแข็งมาประคบ ใบหน้าขาวที่นอนหลับพริ้มจุดรอยยิ้มบนปากแดงได้ไม่ยาก ก่อนจะรีบหุบเมื่อได้ยินเสียงที่เพ้อออกมา

   “ไอ้ปีศาจโช แม่ง%4#*&@%*)&%#”

   ฟังออกแค่ประโยคแรกๆ จากนั้นพูดไม่เป็นภาษา ใจก็อยากจะโกรธแต่ก็นึกขันไอ้เด็กเกรียนตรงหน้า ตอนร้องเพลงให้ก็อยากจะซึ้งแต่เสียงแม่งไม่ไหวจะฟังจริงๆ แต่แค่นั้นเขาก็ดีใจสุดๆ แล้ว

   “รักนะครับ” โชก้มจูบหน้าผากมนเบาๆ พร้อมยิ้มกว้างเมื่อมีเสียงตอบกลับมา

   “รักเหมือนกันไอ้ปีศาจร้าย” แม้จะนอนหลับสนิทแต่ก็ตอบกลับ มิน่าถึงมีแต่คนบอกว่ามันเกรียน แต่ถึงจะเกรียนก็ยังรักอยู่ดี เพราะมันคือของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุด     



...

พาพี่โชมาราตรีสวัสดิ์ค่าาา มาช้าไปหน่อย ว่าจะลงตั้งแต่เช้าแต่มัวขี้เกียจ (น่าจับมาตีๆ)

แล้วเจอกันตอนพิเศษตอนหน้าค่าาา


**หมายเหตุ เพลงพี่โชร้อง - ไม่คิด ลิปตา เพลงที่กลอยร้อง - อาย สิงโต**    
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-08-2016 23:08:49
งานนี้คนน่าสงสารที่สุดคือกลอยเกรียนหลับกลางอากาศเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 29-08-2016 23:26:41
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-08-2016 23:55:24
กลอยหลับยังเกรียนได้อีกนะ 555555555 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 30-08-2016 00:24:56
แหม น้องกลอยน่าจะโกรธพวกพี่ๆจริงๆเลยก็ดีนะ
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 30-08-2016 01:01:37
ทำความสะอาดนี่มันเหนื่อยจริงๆนะสงสารกลอย โถวว ดูดิหลับกลางอากาศซะหัวกระแทกเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-08-2016 02:24:17
น้องกลอยนี่น๊า แสดงละครเก่งได้อีก พี่โชก็เป็นใจ ตามใจเมียสุดๆ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-08-2016 02:57:02
สงสารกลอยประเกรียนเหลือเกิน ท่าจะเหนื่อยมากๆ ล้มห้วโขกพื้นแล้วยังหลับได้อีก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-08-2016 06:22:51
แค่อ่าน "มึงยิ้มโคตรน่ากลัว" ก็หลุดหัวเราะและ
พี่ซันมีการใช้มือโบกพัดให้พี่จอม หวานได้อีก
(ทำให้นึกถึง วัฒนธรรมเกาหลี พวกไอดอล พอเขิน ก็เอามือพัด โบกใส่ตัวเอง)
พอเมากันแล้ว สภาพน่ากลัวว่าจะเลยเถิดไปอย่างว่า
มีกอดกัน หอมกันผิดคู่
คู่ที่ถูกคือพี่ซัน พี่จอม พ๊่ซันวางแผนไว้ก่อนแน่
จบกัน ความเร่าร้อน สุดเซ็กส์ หื่น ของเจ้าของวันเกิด
ถูกเพื่อนๆ ทั้งของพี่โช ของกลอย ป่วนหมด
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 30-08-2016 12:32:21
กลอยก็ยังเป็นกลอยที่เกลียนและรักพี่โชอยู่เสมอ ส่วนพี่โชก็ยังเป็นปิศาจที่รักน้องกลอยคนเดียวที่สุด :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-08-2016 18:21:33
พี่โชโชคดีมากๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 30-08-2016 22:55:34
อ่านจบแล้ว สนุกมากค่ะ แต่งงกับช่วงดราม่าหน่อยนึง

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 30-08-2016 23:14:02
อร๊าาาาาาาา

คิดถึงเกรียนกรอยมาก กำลังนั่งดูอะไรไปเรื่อยเปิดมาเจออัพพอดี

มาต่อตอนหน้าไวไวนะครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 31-08-2016 01:59:07
เรื่องนี้น่ารักมากกก
ชอบพี่โชกับกลอยเรียนมากก
พี่โชแบบอบอุ่นนอะ แต่ขี้หึง ขี้หวงมากกก
เค้ารักของเค้าอะ ต้องยอมเค้าไป
กลอยก้น่ารักสุดๆเลย รักพี่โชม๊ากกมากก
ทำงานบ้านนี่เหนื่อยมากอะ
ถึงจะเหนื่อยยังไง จะด่ายังไง กลอยก้รักพี่โชที่สุดอยุดี
ขอบคุณค่ะ รออ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 31-08-2016 07:13:23
ตอนพิเศษเยอะจุใจจจจ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 31-08-2016 21:13:21
สภาพแต่ละคนอย่างขำ แต่สงสารกลอยประเกรียนจริงนะนี่  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 01-09-2016 09:33:30
หนูมาถูกทางแล้วลูก กลอยประเกรียน แม่บ้านแม่เรือนของพี่โช ทั้งทำอาหาร เก็บกวาดเช็ดถู ดูแลทั้งสามีเผื่อแผ่ไปยังเพื่อนสามีอีก อย่างนี่จะไม่ให้พี่โชรักหลงได้ยังไง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เหล้ายังไม่หมดฯ UP! / [29/08/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 02-09-2016 04:49:19
ขอบคุณเรื่องดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 02-09-2016 18:51:25
Just you and I ตอนพิเศษ : งานเข้า



       งานมหาลัยที่ผมไม่ค่อยชอบเพราะต้องทำงานหนัก ยิ่งมีผู้คุมที่กำหนดเวลากลับด้วยยิ่งลำบาก บางทีมันต้องทำงานดึกเกินกว่ากำหนด มือถือของผมก็จะสั่นอยู่ตลอดเวลา นานเข้าปีศาจจะก็มาเยือนถึงถิ่นพร้อมใบหน้าที่พร้อมจะเขมือบทุกคน ดังนั้นผมเลยได้อภิสิทธิ์กลับก่อนตลอด

   อย่างวันนี้ แม้พรุ่งนี้จะมีงานแล้วแต่ผมก็ได้กลับก่อนหนึ่งทุ่ม สายตาหลายคู่ต่างมองเหมือนผมเป็นขยะเพราะกินแรง แต่มันไม่มีทางเลือกจริงๆ

   “มึงสบายเกินไปแล้วไอ้เชี่ยกลอย” ไอ้เคบ่น มือมันก็ตอกไม้เตรียมทำกรอบรูป

   “หรือมึงจะให้พี่โชมาเฝ้ากู” ผมบอกพลางสะพายเป้เตรียมตัวรอคนมารับ

   “ให้มันกลับเถอะ กูยังไม่อยากถูกฆ่าด้วยสายตาไอ้สัด” ไอ้สักกำลังเคร่งเครียดในการประกอบไม้เป็นกรอบรูป

   “กูเห็นด้วย” ไอ้ทูรีบพยักหน้าจนผมขำ

   มือถือสั่นผมบอกลาเพื่อนแล้วรีบเดินออกไปหน้าตึก ขากำลังจะก้าวลงบันไดชักกลับแทบไม่ทันเมื่อเจอไอ้เด็กหน้าละอ่อนสามคนเดินมาขวางจนผมตกใจ

   “พวกมึงทำเหี้ยไรวะเนี่ย” ผมตะคอก เกือบตกบันไดแล้วไอ้กลอย
 
   “ทำไมพี่ไม่อยู่ช่วยคนอื่นๆ ทำงานล่ะ กลับก่อนตลอด” ไอ้เม่นมันทำตาขวาง แอบเห็นเหล่ไปที่รถที่จอดอยู่หน้าตึก   “มารับทุกวันเลยนะ” ไอ้เบียร์ทำหน้ามุ่ยมองผม

   “กินแรงเพื่อนทุกวันไม่ดีนะครับ” สุดท้ายก็ไอ้ไม้มันแขวะ

   จ้องหน้าไอ้เด็กปีหนึ่งที่กล้าปีนเกลียวผม เพื่อนผมแม้มันจะด่าจะแขวะแต่มันคือเพื่อนของผมไง แต่ไอ้เด็กพวกนี้ยังอยู่แค่ปีหนึ่งกล้าว่าปีสามแบบผมขนาดนี้

   “เพื่อนกูยังไม่ว่ากูสักคำ” บอกไปงั้น ที่จริงโดนกระหน่ำทุกวัน

   “พี่เขาไม่กล้าว่าต่อหน้ามากกว่า” พวกมันกำลังไซโคผม

   “เรื่องของกู พวกมึงอยู่แค่ปีหนึ่งอย่ามายุ่งเรื่องของปีสาม รีบไปทำงานก่อนกูจะให้เพื่อนกูซ่อมพวกมึง” บอกเสียงนิ่ง แต่ดูไอ้เด็กพวกนี้ไม่กลัวเพราะยังไม่ยอมขยับไปไหน ผมเห็นพี่โชเปิดประตูออกมา ใบหน้าบึ้งตึง “รีบๆ ไปเลยพวกมึงน่ะ” สั่งก่อนรีบวิ่งแหวกไปหาพี่โช ถ้าปล่อยให้มาถึงตัวละก็ มีเรื่องแน่

   วิ่งมาถึงพี่โชไม่ได้มองผมแต่จ้องหน้าไอ้เด็กสามคนที่ยืนอยู่ที่บันได ขนาดผมไล่พวกมันยังไม่ยอมไป สายตาสามคู่จ้องพี่โชอย่างไม่กลัวเกรง ขนาดเพื่อนผมยังกลัว แต่ไอ้เด็กพวกนี้ทำเหมือนจ้องสายตาคนทั่วๆ ไป

   “รีบกลับเถอะนะ ผมหิวข้าวแล้ว” ดึงแขนพี่โชแล้วผลักให้เข้าไปในรถ ผมอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง พี่โชยังหันไปมองก่อนจะออกรถไป

   เกือบไปแล้ว เกือบมีเรื่องแล้ว

   บรรยากาศในรถโคตรอึมครึมไม่สดใส ยื่นมือไปเปิดเพลงเผื่อมันจะดีขึ้น แต่คนขับรถยังนิ่ง
 
   “เอ่อ ผมอยากกิน...”

   “ไอ้เด็กพวกนั้นมันยังมายุ่งอีกเหรอ” เสียงโคตรนิ่งจนขนแขนเกือบลุก ช่วงก่อนพี่โชให้พวกอีเข็มคอยกันท่าก็หายไปสักพัก ตอนนี้พวกมันคัมแบ็คอีกแล้วก็เลยเป็นแบบนี้

   “หา เด็กไหน”

   “ไอ้เด็กสามคนเมื่อกี้” สายตาดุตวัดมองผมเลยยิ้มแห้งๆ พยักหน้า “มันน่าจับไปกระทืบให้นอนโรงพยาบาลสักเดือน” พี่โชสบถยาวเหยียดคล้ายกับปลุกความปีศาจในตัวเอง

   “พวกมันก็แค่กวนตีนผมเฉยๆ ไม่ได้จริงจังหรอก” รีบแก้ตัวให้พวกมัน ก่อนจะโดนอำนาจปีศาจอุ้มหายไป

   “เข้าข้างพวกมัน?”

   “เปล่าเลย” รีบส่ายหัว “พี่อย่าไปใส่ใจพวกมันเลยนะ คิดว่าพวกมันเป็นแฟนคลับผมก็ได้ แบบผมเป็นนักร้องเกาหลีที่ดังมากพวกมันเลยคลั่งแบบนี้น่ะ”

   “หึๆ” ในที่สุดปีศาจก็หัวเราะ ตั้งแต่พี่โชทำงานก็ดูสุขุมขึ้นมาก แต่ความเป็นปีศาจยังคงเดิม

   กับข้าวมื้อค่ำตัดสินใจทำกินเองครับ ขี้เกียจไปเบียดรถติด ทำกับข้าวแบบง่ายๆ สองสามอย่าง พี่โชชอบกินทุกอย่างที่ผมทำและหมดจานทุกครั้ง มันเหมือนเป็นกำลังใจให้คนทำ จนผมวางแผนการล่วงหน้าไว้แล้ว ถ้าเรียนจบจะไปรับช่วงร้านอาหารต่อจากแม่ ไอ้กลอยต้องรวยแน่นอน

   วันนี้เวรที่โชล้างจาน ผมเลยมานั่งแชทหาไอ้ทูที่มันยังอยู่ที่มหาลัย เล่าให้มันฟังว่าตอนหัวค่ำก่อนจะกลับผมเจออะไรบ้าง ไอ้ทูมันส่งหมีหัวเราะมาเกือบสิบอันเลยส่งเสียงด่ามันไป

   “คุยกับใครน่ะ” พี่โชเดินเช็ดมือมานั่งข้างผม หน้าหล่อยื่นมาดูแชทที่ผมกำลังพิมพ์อยู่ ผมวางมือถือลงแล้วหันหน้าไปจ้อง “อะไร”

   “ทำไมพี่ไม่ให้ผมทำงานกับเพื่อนอ่ะ ผมโดนพวกมันด่าทั้งวัน บอกว่ากินแรง” พวกที่สนิทก็คุยง่ายหน่อย แต่พวกไม่สนิทคงมองผมเป็นหลุมดำแน่

   “ก็พี่เป็นห่วง กลับดึกมันอันตราย แล้วงานพี่ก็เยอะ ไปรับดึกๆ คงไม่ไหว”

   “ผมให้ไอ้ทูมาส่งก็ได้ พี่จะได้ไม่ต้องไปรับ แล้วอีกอย่าง ผมเป็นผู้ชายด้วย ไม่มีใครฉุดหรอกนะ” (ทำตาปิ๊งๆ)

   “ไม่ต้องมาอ้อนเลย พรุ่งนี้มีงานแล้ว จะได้ไม่ต้องกลับค่ำอีก”

   “โหย” หน้างอสิครับ พรุ่งนี้กะว่าเลิกงานแล้วจะไปดื่มกับพวกเพื่อนๆ สักหน่อย ไอ้กลอยอดอีกแล้ว

   พี่โชยื่นหน้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ก่อนลุกเข้าห้องทำงานไป ผมก็แชทคุยกับไอ้ทูต่อ พวกมันก็กำลังพัก แล้วถ่ายขวดเขียวมีฟองโชว์ด้วย ยั่วกันชัดๆ




   ตีสี่ผมย่องออกจากห้องเพราะไอ้ทูมารออยู่ด้านล่างแล้ว วันนี้วันงานพวกผมต้องไปเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนงานจะเปิด ไอ้ทูทำหน้ามึนปากคาบขนมปังร้านสะดวกซื้อ

   “กูเพิ่งได้นอนแม่งโคตรง่วง” ไอ้ทูว่า ผมก็ตาเหลือกสิครับ เกิดมันหลับในขึ้นมา ตายคู่เลยนะ

   “แล้วมึงก็ยังขับรถ ไอ้เชี่ยทู” โวยวาย มันก็หัวเราะ

   “เออน่า กูไม่พามึงไปตายหรอก กูกลัวพี่โชตามไปฆ่ากูในนรก” แล้วเราก็พากันหัวเราะลั่นรถ

   มาถึงมหาลัยก็เจอพวกที่มาก่อนไม่กี่คน ผมช่วยยกกรอบรูปออกไปตั้งโชว์ตามจุดที่ถูกกำหนดไว้ จัดนั่นจัดนี่ไปเรื่อยๆ ท้องฟ้าก็เริ่มสว่าง กว่าจะเปิดงานพวกผมก็แทบหาที่หลับ เหนื่อยมาก มิน่าผมถึงโดนด่ากระหน่ำ งานมันหนักและเหนื่อยแต่ผมดันสบายอยู่คนเดียว

   “ผัวมึงจะมามั้ยวะ” ไอ้เคถามผมขณะกำลังยัดหมูปิ้งเข้าปาก

   “ไม่รู้ว่ะ แต่กูชวนแล้วนะ บอกขอดูงานก่อน” เอาแน่เอานอนไม่ได้ครับ บางทีบอกว่างมาก แต่ไม่กี่นาทีงานก็เข้า “แล้วเปิดงานกี่โมงว่ะ กูจะได้หาที่งีบ”

   “แหม ไอ้คุณชาย ทำงานก็น้อยกว่าเพื่อน ยังกระแดะจะหลับนะมึง” โดนครับ ไอ้กลอยโดนอีเข็มเตะหลังแล้วแขวะ ผมหันไปมองตาเขียว อยากจะด่าคืนแต่ด่าไม่ออก “ไม่ต้องจ้องกูค่ะ กูไม่อยากท้องลมกับมึง”
 
   “ท้องลมหรืออ้วนวะ” ไอ้สักเอาไม้ที่ไม่มีหมูปาใส่หน้าอีเข็มจนมันโวยวาย

   “กูอ้วนแต่กูก็สวยค่ะ แล้วมึงทิ้งแล้วต้องเก็บนะคะ ไม่งั้นกูจะฟ้องป๋า” แล้วมันก็เดินเฉิดฉายไปที่อื่น แต่งหน้าจัดเต็มคงกะหาหนุ่มสินะ

   ผมส่ายหน้าแล้วเอนตัวลงนอนราบกับพื้นปูน ก่อนมือถือจะสั่นนิดๆ เปิดดูก็เป็นข้อความที่ขอร้องให้ทำบางอย่าง เบอร์นี้ที่พี่โชเคยลบไปแล้วผมจำได้

   ‘ช่วยอะไรพี่อย่างได้มั้ยครับ’

   ‘อะไรเหรอครับ บอกไว้ก่อน ถ้าผมทำได้ก็จะทำ’ ต้องรีบดักคอไว้ก่อนครับ กลัว ประสบการณ์มันเคยเกิดมาแล้ว ดังนั้นเราต้องรู้จักเอาตัวรอดก่อน พี่ฟลอยด์ส่งรูปหัวหอมหัวเราะมา

   ‘เรื่องต้อมน่ะ’ ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นข้อความ ‘ช่วยพาต้อมมาดูดนตรีที่คณะวิศวะตอนเที่ยงที’ ขมวดคิ้วมองแล้วอ่านข้อความซ้ำไปมา

   ‘ทำไมต้องพามันไปตอนเที่ยง?’

   ‘พี่มีอะไรจะให้ต้อม ได้มั้ยครับ?’ ส่งรูปเด็กพยักหน้าไป ‘ขอบใจนะน้องกลอย’

   “ยิ้มอะไรวะ” โดนไอ้ต๋องตบหัวจนต้องถลึงตาใส่

   “เรื่องของกู”

   “เออ เรื่องของมึง”

   พวกผมหาที่เงียบๆ งีบหลับ ก่อนจะถูกปลุกเมื่อถึงพิธีเปิดงาน ไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะเดินออกมาประจำโซน เพราะผมต้องประสานงานเลยต้องมาอยู่หน้างานด้วย ส่วนมากคนที่เข้ามาดูก็จะเป็นเด็กมัธยมซะส่วนใหญ่ และมักจะถามคำถามซ้ำๆ เรื่องการเรียนบ้าง ต้องทำอะไรบ้างคณะนี้ หรือจะวาดรูปแบบนี้ต้องเรียนยังไง อยากออกแบบบ้านต้องเรียนคณะไหน แต่ผมว่า ไอ้คำถามสุดท้ายต้องไปคณะสถาปัตย์หรือเปล่า เพราะพวกผมไม่ได้ออกแบบบ้าน

   ยืนยิ้มเฉยๆ บ้าง ยืนให้ถ่ายรูปบ้าง ด้วยความที่ผมก็หน้าตาดีเลยมีสาวๆ มารุมถ่ายรูป แต่ถูกดับความฝันเมื่ออีเข็มบอกน้องเขาเป็นสมาชิกเพจของมัน พอเห็นผมทำหน้ามุ่ยมันก็หัวเราะดังนางมารร้าย

   “เอ่ออีกลอย เห็นเพจเอฟทีไอซ์แลนด์ประกาศว่า วันนี้พี่ฟลอยด์ของกูจะร้องเพลงเว้ย” อีเข็มทำหน้าเพ้อฝันมาก

   “ของมึง? แน่ใจเหรอวะ” โดนมันตีแขนไปที “แล้วเพจเอฟทีไอซ์แลนด์อะไรนี่คือเพจใครวะ”

   “ก็เพื่อนมึงไง ต้อมอะ เอฟย่อมาจากชื่อพี่ฟลอยด์ ส่วนทีก็มาจากต้อม” เพื่อนผมอธิบายซะยาวเหยียด ผมก็พยักหน้ารับรู้ไป ใครเป็นคนตั้งวะ ผมว่าของผมเท่แล้วนะ ซีเคแอเรีย

   เดี๋ยวนะ พี่ฟลอยด์จะร้องเพลงแล้วมาขอให้ผมพาไอ้ต้อมไปหาตอนเที่ยง หรือว่าจะร้องเพลงให้ไอ้ต้อม ต้องใช่แน่ ผมสัมผัสได้ แบบนี้ชักสนุกแล้วสิ หึๆ

   “มึงทำหน้าได้อุบาทมาก” อีเข็มว่าทิ้งท้ายแล้วมันก็เดินไป
 
   เงยหน้าดูนาฬิกาเป็นสิบรอบก็ไม่เที่ยงสักที ผมวางแผนไว้แล้วว่าใกล้ๆ เที่ยงผมจะไปหาไอ้ต้อมแล้วชวนมันไปเที่ยว ก่อนจะพามันไปคณะวิศวะ แต่เอาเข้าจริง ผมเห็นคนที่วางแผนไว้มาหาเสียก่อน ไอ้ต้อมมันแทบจะเอาหัวมุดไปในรูปของรุ่นพี่ปีสี่ที่วาดอารมณ์ความรู้สึกภายในใจของมนุษย์ยามมีความสุข ชื่อภาพยาวไปหน่อยแต่ผมว่ามันได้ความหมายดีนะครับ

   “มึงจ้องจนจะสิงรูปอยู่แล้ว” ผมเดินไปหาไอ้คนที่แทบจะเอาหน้าผากเคาะรูป หรือสายตามันสั้นวะ

   “ก็กูดูไม่รู้เรื่อง” ไอ้ต้อมขมวดคิ้ว ผมเลยเดินอ้อมไปหลังรูปแล้วยื่นหน้าไปดูเพื่ออธิบายได้ถนัดๆ

   “เพราะมึงยังไม่เข้าถึงหัวใจของศิลปะไง การดูรูปต้องใช้ใจดูเว้ย ใช้ตาดูไม่ได้” ผมว่าแล้วชี้นิ้วไปที่รูป ไอ้ต้อมมันกระพริบตาปริบๆ เหมือนไม่เข้าใจ ผมเลยต้องอธิบายต่อ “มึงดูรูปนี้ พี่เขาบ่งบอกว่า ตอนที่วาด ในใจพี่เขากำลังอารมณ์ดีสุดๆ ดูจากสีสันที่ใช้ สีสด เข้ม ทำให้ดูสะดุดตา คล้ายกับ...ไอ้เชี่ยต้อม” อ้าปากค้างเพราะพูดคนเดียวมานาน ไอ้เชี่ยต้อมมันเดินไปไกลแล้วครับ เห็นเด็กที่ยืนไม่ไกลหัวเราะผมด้วย อายเหี้ยๆ

   รีบก้มหน้าก้มตาเดินไปหาไอ้คนที่มันปล่อยให้ผมบ้าพูดอยู่คนเดียว

   “ทิ้งกูให้พูดอยู่คนเดียวไอ้สัด” โวยวายแต่ไอ้ต้อมกลับขำผมซะงั้น มันเดินถามรูปที่ตั้งโชว์ ผมก็อธิบายไปเรื่อยๆ มันเหมือนจะฟังบ้างไม่ฟังบ้างแต่ผมอยากพูดแล้วก็นึกออก “เอ่อ แล้วมึงไม่ไปดูดนตรีเหรอวะ เห็นเพื่อนกูบอกว่าพี่ฟลอยด์จะเล่นดนตรีให้มึงฟัง” ลองถามมันครับ ไอ้ต้อมตาโตมองผม

   “เชี่ย เอาข่าวมาจากไหน” ทำตาหลอกแหลกจนผมเกือบขำ

   “จากเพจคู่มึงไง อีเข็มเพื่อนกูวี๊ดว๊ายเป็นปลาไหลถูกขี้เรื่อยตั้งแต่เช้า” พูดไปก็จ้องท่าทีเพื่อนไป ไอ้ต้อมมันขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ผมเลยชวนมันไปเดินเที่ยวแทน เพราะคณะผมก็ไม่ค่อยมีอะไรแล้ว

   ผมกับไอ้ต้อมเดินไปเรื่อยๆ เจอที่ไหนน่าสนุกก็เข้าไปแจม อย่างคณะบริหารที่แม่งมีเกมส์ให้เล่น มันจะดีกว่านี้ถ้าไม่ใช่เกมส์ลับสมองประลองปัญญา ผมไม่ค่อยมีปัญญากับมันสมองเลยส่งไอ้ต้อมไปชิง สรุป ไม่ได้รางวัลอะไรเลย ได้แต่ไลน์มาแทน เชี่ยเอ้ย พี่เขาเห็นลูกกระเดือกผมหรือเปล่าวะ ไม่เข้าใจ

   เดินหน้างอออกจากหน้าตึกบริหาร ไอ้ต้อมก็หัวเราะเยาะผม มันขู่ว่าจะบอกพี่โชจนผมวิ่งไล่เตะมัน ตั้งแต่สนิทกันนี่ผมโคตรหวาดกลัวเลยครับ แค่พวกสปายอย่างอีเข็มก็น่ากลัวพออยู่แล้ว นี่มีไอ้ต้อมอีก คงเอาไว้สืบตอนผมแอบไปกินเหล้าแน่

   เวลาใกล้เที่ยงเต็มแก่ ผมรีบชวนไอ้ต้อมไปคณะวิศวะ แต่ดูมันไม่ค่อยอยากไป

   “หิวมึงก็หาอะไรกินสิวะ จะไปทำไมคณะนั้น” ไอ้ต้อมพูด ผมจ้องหน้ามันนิ่ง

   “คณะนั้นก็มีข้าวไข่เจียวขาย อีเข็มอัพรูปเมื่อกี้ แล้วก็บอกดนตรีเริ่มแล้ว” ผมว่า เมื่อกี้เอามือถือมาดูเวลาเห็นอีเข็มอัพรูปพอดี มันไปกรี๊ดนักร้องนำวงอะไรไม่รู้หน้าเวทีและบอกพี่ฟลอยด์ยังไม่ได้ขึ้นร้อง ข้อความที่พี่ฟลอยด์ส่งมาบอกให้ผมพาไอ้ต้อมไปตอนเที่ยง แปลว่าพี่เขาต้องเล่นตอนเที่ยงแน่

   เดินนำไอ้ต้อมไปแม้มันดูอยากจะกลับแต่ผมดึงแขนมันให้เดินต่อ ได้ยินมันบ่นกับตัวเองไม่รู้เรื่องอะไร หน้าคณะที่มีคนเยอะมากกว่าคณะอื่นๆ ส่วนมากเป็นเด็กผู้หญิงครับ ดูดสาวๆ นี่หว่าคณะนี้ ผมกับไอ้ต้อมเดินเข้าไปด้านในที่จัดงาน ลานกว้างถูกแปลเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดดนตรี ด้านข้างมีร้านขายข้าวไข่เจียว ทาโกยากิ กับน้ำแข็งไส แอบเล็งไว้ทุกร้านแต่ดนตรีที่เล่นก็น่าดู นักร้องที่ร้องหน้าตางั้นๆ (แปลว่าหล่อ) สาวๆ ที่มาดูต่างพากันกรี๊ดบ้าง ร้องตามบ้าง แต่เสียงเพราะจริงๆ
 
   ผมเดินไปลากแขนไอ้ต้อมจากร้านขายข้าวเพื่อมาดูคนที่กำลังเดินขึ้นไปบนเวที เสียงกรี๊ดดังยิ่งกว่าเดิมจนต้องยกมืออุดหู ไอ้ต้อมหน้าบูดนิดๆ คงแสบแก้วหูเหมือนผม ข้างๆ ไอ้ต้อมมีเพื่อนร่วมคณะมันมายืน ไอ้ป่านยิ้มหล่อให้ผมเลยต้องยิ้มให้

   นักร้องนำบนเวทีเริ่มแนะนำตัวคนในวงก่อนจะผายมือไปที่พี่ฟลอยด์ รุ่นพี่บริหารเดินมายืนตรงกลาง รอยยิ้มอบอุ่นกับเสียงพูดนุ่มๆ ทำเอาผู้คนเคลิ้มเป็นแถวๆ สายตาพราวจ้องมาที่คนข้างๆ ของผม

   “เชี่ย พูดซะกูขนลุก” ผมว่า ไอ้ต้อมมันขำนิดๆ

   พี่ฟลอยด์พูดซะดูโคตรหล่อ ไอ้ต้อมมันโชคดีแล้วที่มัดใจพี่เขาได้

   “ห้ามเดินหนีพี่นะ” ประโยคทิ้งท้ายทำเอาผมโห่ร้องตามไปด้วย แม่งโคตรเขินแทน

   เพลงที่ได้ยินเป็นเพลงที่พี่โชเคยร้องง้อตอนผมโกรธแล้วไม่คุยด้วยเกือบอาทิตย์ เพลงมันคงเป็นความรัก เพลงที่ผมโคตรชอบ พี่ฟลอยด์ก็คงอยากร้องให้ไอ้ต้อม พี่เขาอาจจะทำเรื่องบางอย่างให้ไอ้ต้อมมันเสียใจอยู่ก็เป็นไปได้ กลอยประเกรียนคนนี้สัมผัสได้

   “หวานมาก” ผมบอก ยิ่งเห็นพี่ฟลอยด์จ้องมาทางไอ้ต้อมยิ่งเขินแทนมัน แม้ไม่เกี่ยวก็เถอะ “ซึ้งมาก” เคลิ้มหนักก่อนพี่ฟลอยด์จะชี้นิ้วมาทางไอ้ต้อมตรงๆ ชัดเจนเหี้ยๆ

   ช่วงโซโล่ดนตรี ผมรีบดันหลังไอ้ต้อมไปหน้าเวที พยายามก้มหน้าเพราะกล้องมือถือโคตรเยอะ เสียงกรี๊ดก็แยะ ไปถึงหน้าเวทีเจออีเข็มที่ดีดดิ้นเหมือนไส้เดือนถูกขี้เถ้า เลยด่ามันไป ระหว่างที่เดินมา ผมขอดอกกุหลาบเด็กมัธยมที่คงเตรียมมาให้ใครสักคน

   สะกิดให้ไอ้ต้อมยื่นดอกกุหลาบให้คนที่ยืนยิ้มอยู่บนเวที พอพี่ฟลอยด์รับก็ส่งตาหวานให้ผมนิดหนึ่งจนผมต้องรีบถอยหลังไปยืนกับอีเข็ม คนร้องเพลงเพราะกระโดดลงมาจากเวทีแล้วคุกเข่ามอบดอกไม้ให้เพื่อนผม แม่งโรแมนติกสุดๆ

   “ไอ้เหี้ยกลอย เอามีดมาแทงกูที กูตายตาหลับแล้ว” อีเข็มทรุดจนผมต้องรีบประคอง มันทำหน้าเพ้อมาก

   เมื่อทุกอย่างจบลง ไอ้ต้อมก็ถูกจูงมือเข้าไปหลังเวที ผมเดินตามหลังมันไปกับไอ้ป่านเด็กเกษตร เห็นอีกคนที่เดินตาม ตัวโคตรขาวแต่หน้าบึ้งเหมือนโกรธใครมาสักสิบชาติ ผมยิ้มให้พี่แกก็เหล่ตามองแล้วยกยิ้มนิดๆ ที่จริงยิ้มแล้วดูดีกว่าทำหน้าบึ้งอีก

   มาหลังเวทีก็มีคนเยอะมาก ผมไม่รู้จักใครนอกจากไอ้ต้อมที่กำลังล็อกคอผม ผมก็รีบโยนขี้ไปให้พี่ฟลอยด์ พี่แกก็หัวเราะอย่างเดียว พอหลุดมาได้ผมก็ต้องจัดเสื้อใหม่ อยู่ๆ ก็เหมือนมีการทะเลาะกัน ไอ้ป่านมันไปกวนพี่ตัวขาวนั่นจนเกือบถูกต่อย ผมก็ตกใจเพราะถ้าไอ้ป่านโดนต่อย ผมก็อาจโดนลูกหลงเพราะยืนข้างมันเลย

   มือถือในกระเป๋าสั่นรัวจนต้องหยิบออกมาดู ปีศาจ (เมมชื่อนี้) โทรมา

   (อยู่ไหน) เสียงโคตรนิ่ง

   “อยู่มหาลัยสิครับ”

   (ตรงไหนล่ะ ทำไมพี่ไม่เห็น)

   “พี่มาที่คณะเหรอ” ตาโตสิครับ

   (อืม กำลังเดินขึ้นตึก...มาหาพี่กลอยเหรอครับ) เสียงแรกของพี่โช แต่อีกเสียงที่ลอดออกมาอีกเสียงไม่ใช่แน่...หรือว่า

   “พี่รอแปบนะ เดี๋ยวผมรีบไปหา” ซวยแล้วไอ้กลอย

   รีบบอกไอ้ต้อม หน้าตามันดูเป็นห่วงแต่ไม่มีเวลาใส่ใจมากเพราะปีศาจรออยู่ คาดว่ากำลังเผชิญหน้ากับไอ้สามหน่อปีหนึ่งแน่

   ตอนนี้มีกำลังเท่าไหร่ใส่พลังวิ่งอย่างเดียวครับ เหนื่อยแทบขาดใจแต่ก็ต้องวิ่ง รีบโทรหาไอ้ทูระหว่างวิ่งแต่มันดันไม่ยอมรับสาย เพื่อนผมไม่รับสายสักคน กว่าจะมาถึงผมก็แทบไม่มีแรงขึ้นบันได

   “จะรีบไปตายหรือไงวะ” เสียงไอ้เคที่เดินกินไอศกรีมอย่างใจเย็น ผมกอดเสาหอบแฮ่กเถียงไม่ออก “เอาๆ” มันยื่นไอศกรีมมาผมก็อ้าปากรับ

   “เชี่ยเอ้ย โทรหาพวกมึงไม่รับสักคน” ผมว่าหลังเริ่มหาเสียงเจอ

   “อ่าว พวกไอ้ทูมันก็อยู่ในงาน หรือมันไม่เอามือถือติดตัว”

   เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้ผมต้องรีบขึ้นตึกก่อน ไม่รู้พี่โชทำไรไปบ้างหรือยัง จะฆ่าไอ้เด็กปีนเกลียวพวกนั้นหรือยัง

   ดึงแขนไอ้เคเข้าตึกจนมันโวยวายแต่พอบอกมันก็ตาเหลือกทิ้งของกินในมือแล้ววิ่งตาม มองเห็นร่างที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงสแล็คสีดำยืนจ้องหน้าเด็กชุดนักศึกษาสามคนหน้าโซนรูปวาดโชว์

   “เชี่ย” ไอ้เคมันสบถ คงเห็นเหมือนผมนั่นแหละครับ

   ไอ้ทูยืนอยู่ข้างพี่โช ส่วนพี่สักกับไอ้ต๋องก็ยืนอยู่ไม่ไกล ผมรีบเดินเข้าไปหา พี่โชมองผมแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปจ้องหน้าทางเดิม

   “เอ่อพี่โช ไปดูงานกัน” รีบชวนแต่คนโดนชวนไม่ยอมขยับ “มีเรื่องอะไรกันวะ” กระซิบถามไอ้ทูครับ มันหน้าเสียแล้วยื่นมากระซิบตอบ

   “เมื่อกี้เกือบต่อยกันไอ้สัด ดีที่กูห้ามทัน”

   “จริงเหรอวะ”

        “เออสิ ไอ้เด็กสามคนนี่ไม่กลัวเลยนะเว้ย” ไอ้ทูว่าต่อ

   “ก็สามคนกับคนเดียวมันได้เปรียบกว่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้เคยื่นหน้ามากระซิบด้วย

   “แต่คนเดียวโหดกว่าแน่นอน สามคนมันเอาไม่อยู่หรอก” ไอ้ทูตอบกลับ

   “สรุปพวกมึงพูดถึงคนหรือหมาวะ” ผมขัดขึ้น “พี่โช” เรียกคนที่ยืนนิ่ง

   “อย่าให้กูเห็นพวกมึงมายุ่งกับแฟนกูอีก” พี่โชชี้หน้าเด็กปีหนึ่ง พวกมันดูไม่กลัว

   “ทำไมต้องทำตามด้วย” ไอ้เม่นมันถามกลับ พี่โชแทบพุ่งไปหาดีที่ผมกับไอ้เคช่วยกันดึงไว้ แต่ก็เกือบจะเอาไม่อยู่เหมือนกัน

   “พวกมึงจะไปยุ่งกับไอ้กลอยทำไมวะ เห็นๆ อยู่ว่ามันมีแฟนแล้ว” ไอ้เคมันว่า

   “ถึงมันไม่มีแฟน อย่างพวกมึงก็ไม่ใช่สเป็กมันหรอก” ไอ้ทูเสริม

   “ยังไม่เคยคบจะรู้ได้ยังไงว่าไม่ใช่สเป็ก” ตาโตมองคนที่เถียง ไอ้ไม้ทำหน้าตากวนบาทามาก ขนาดผมยังอยากต่อยหน้ามัน
 
   “มึง!” พี่โชสะบัดจนเกือบจะหลุด ผมรีบกอดเอวไว้แน่น

   “ห้ามมีเรื่อง ผมขอล่ะ นะๆ” พี่โชดูสงบลงผมเลยตวาดไอ้เด็กบ้าพวกนี้ “พวกมึงก็ด้วย ชอบมีเรื่องหรือไง หรืออยากถูกไล่ออก พ่อแม่มึงคงภูมิใจที่ลูกมีเรื่องเพราะแย่งผู้ชายไอ้สัด”

   “แต่พวกผมชอบพี่จริงๆ” เสียงยืนยันหนักแน่นจนน่าปวดหัว

   “มึงดูปากกูนะ กูไม่ได้ชอบพวกมึง ถ้าไม่ใช่น้องในคณะกูจะไม่สนใจด้วยซ้ำ ดังนั้นอย่ามายุ่งกับกู แล้วกูก็มีแฟนแล้ว แม้จะเป็นปีศาจแต่กูก็รักมาก เข้าใจหรือยังวะ” หอบหนักเพราะพูดไม่หยุด ดูไอ้เด็กสามคนนั้นจะนิ่งไป “พวกมึงกำลังทำให้กูเดือดร้อน รักกูแล้วทำกับกูแบบนี้เหรอวะ” ไซโคไปจนพวกมันก้มหน้า

   “ขอโทษครับ” เสียงอ่อนลงทันที ก่อนไปเห็นจ้องพี่โชแปบหนึ่ง

   “เฮ้อ” ผมถอนหายใจ เกือบไม่รอด แต่พอเงยหน้ามองคนข้างๆ ก็เจอสายตาดุจ้องนิ่ง

   “เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ” พี่โชบอก ไอ้กลอยอยากจะร้องไห้จริงๆ แต่ผมควรทำให้พี่โชอารมณ์ดีก่อนกลับ ไม่งั้นโดนหนักแน่

   “หิวอ่ะ ไปหาอะไรกินกันเถอะ” ผมดึงแขนพี่โช พวกไอ้ทูรีบทำมือไล่

   “อย่าให้มันเข้าใกล้” เสียงเข้มสั่งจนผมต้องพยักหน้า

   “รู้แล้วๆ”

   ผมพาพี่โชเดินหลายคณะ แวะซื้อผักปลอดสารพิษที่คณะเกษตรถุงใหญ่ เจอไอ้ดอยตักไอศกรีมผมก็รีบเข้าไปหา เพราะความสนิททำให้ไอ้เยอะกว่าคนอื่นๆ

   “เสน่ห์แรงจริงนะ” พี่โชแขวะเบาๆ ก่อนอ้าปากกินไอศกรีมที่ผมป้อน

   “มันมีเมียแล้ว อย่าหวงเว่อร์ได้ป่ะ”

   “เออ อย่าทำตัวน่ารักให้มากด้วย แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่”

   “กินยามั้ย” พี่โชขำออกมา “อารมณ์ดีแล้ว”

   “ใครบอก” หน้าบึ้งเฉย “มีเมียน่ารักยังไงก็ต้องหวง”

   “หล่อต่างหาก พูดผิดพูดใหม่ได้นะครับ”

   “นี่หล่อแล้วเหรอ” พูดปนขำจนผมทำหน้าบึ้ง

   “ด่าผมว่าอุบาทยังง่ายกว่า”

   “หึๆ”

   พี่โชยกแขนพาดคอผมเดินไปทั่ว หลายครั้งมีคนขอถ่ายรูป แปลกที่พี่โชยิ้มแย้มให้ถ่ายจนผมแปลกใจ แบบนี้ผมไม่ต้องถูกลงโทษแล้วสินะ

   “คืนนี้ผมขอไปกินเหล้านะ” ลองขอ พี่โชหน้าบึ้งทันที

   “คืนนี้เรายังต้องคุยกันอีกยาว” เสียงของปีศาจโคตรเหี้ยม “ชอบตีเนียนตลอดนะ”

   “พี่โชก็ เป็นเทวดาหล่อๆ สักวันไม่ได้เหรอ เป็นปีศาจหน้ายักษ์ทุกวันไม่เบื่อเหรอวะ”
 
   “ก็มีแต่คนเล็งเมียตัวเองจะให้ปั้นหน้ายิ้มทำไม่ได้หรอก”

   “เลยต้องทำหน้ายักษ์แทนเหรอ” พี่โชพยักหน้าก่อนฉีกยิ้ม

   “ยักษ์หล่อขนาดนี้ยังไม่พอใจเหรอครับ” ลอยหน้าลอยตาพูดจนผมหันหน้าไปอ้วก “เดี๋ยวจะโดน”

   “คืนนี้พวกเพื่อนมันนัดกัน ผมขอไปนะ นะๆๆๆ” ออกลูกอ้อนเต็มที่ พี่โชทำหน้านิ่ง

   “ก็ได้ แต่พรุ่งนี้...” ปีศาจจ้องหน้าอย่างเจ้าเล่ห์ “ทั้งคืน” ชิบหาย

   “งั้นไม่ไปแล้วเว้ย” โวยวายแล้วรีบเดินหนี พูดกับปีศาจหื่นๆ ก็มักจะได้ยินแต่พวกเรื่องบนเตียงตลอดๆ
 
   “กลอยครับ รอพี่ด้วย”

   “ไม่รอเว้ย”

   ได้ยินเสียงหัวเราะดั่งปีศาจตามมาจากด้านหลัง แต่ถึงจะเป็นปีศาจแต่ผมก็ยังรักนั่นแหละ
 
   “เมียจ๋า รอด้วย”

   “ห้ามเรียกแบบนั้นนอกห้องเว้ย”

   “เมียจ๋า”

   “ไอ้ปีศาจ” เอามืออุดหูแล้วเดินหนี สุดท้ายก็ถูกกอดไหล่เดินรอบมหาลัย พี่โชก็ยังเป็นพี่โช โหดยังไงแต่ก็ใจดีกับผมเสมอ (เวลาที่ไม่โมโหผมนะ) 


...

ตอนพิเศษมาแบบเรียบๆ ตามสไตล์ปีศาจค่า >w<

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-09-2016 21:08:05
อย่างว่า กลอยเกรียนเสน่ห์แรงเกิน พี่โชเลยต้องเชิญปีศาจมาสถิต ณ ร่างเป็นประจำไงจ๊ะ 5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 02-09-2016 22:40:28
แหม น่าจะปล่อยให้ไอ้รุ่นน้องนั่นโดนสักตั้งจะได้เลิกยุ่งกับกลอยปะเกรียน ถาวร :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-09-2016 23:02:21
พวกไม้กับเพื่อนนี่ก็น่าให้พี่โชแกอัดซะจริง พูดไม่รู้เรื่อง :m16: :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-09-2016 00:36:52
ปีศาจยังไงก็รักละว่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 03-09-2016 08:08:41
เมียจ๋าาาาา
เขินนน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 03-09-2016 09:07:57
ตอนพิเศษเยอะจางงงงง :katai2-1:
ขออีกเยอะๆเลยน้าาาาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-09-2016 09:10:14
 :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 03-09-2016 09:38:19
สามหนุ่มรุ่นน้องนี่ ต้องโดยพี่โชจัดหนักๆสักที จะได้เลิกยุ่ง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 03-09-2016 10:48:30
ชอบตอนพิเศษแบบเรื่อยๆ แบบนี้แฮะ ^^
ชีวิตคนเราก็แบบนี้เนอะ ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ

รำคาญอิเด็ก 3 ตัวนี่มาก แค่ปีหนึ่งน่ะ เอาตัวให้รอดก่อนเถอะ
เป็นคนนิสัยแย่ๆ ห่วยๆ มารวมกัน
คนเขามีแฟนแล้วยังคิดจะแย่งได้นี่ไม่ธรรมดานะ ต้องถูกเลี้ยงมายังไงถึงเป็นคนแบบนี้ได้...ทั้ง 3 คนเลย
เขาไม่เล่นด้วยก็ยังตื๊อวนเวียนอยู่ได้ มันน่าโดนแบบที่พี่โชบอกจริงๆ นั่นแหละ

หวังว่ากลอยพูดแล้วจะรู้เรื่อง ไม่งั้น...ไม่น่ารอดมือพี่โช หึหึ

#นี่อินไปไหน #อินอะไรเบอร์นั้น 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-09-2016 20:53:43
ใจจริงก็อยากให้สามคนนั้นโดนรสมือพี่โชสักตุบสองตุบ เผื่อจะพูดรู้เรื่องขึ้นมาบ้างว่าอย่ายุ่งกับเมียกรู
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 03-09-2016 21:37:08
หึงแรง หวงแรง แต่ก็น่าหวงอะนะ มีแต่คนเข้าขนาดนี้

กลอยเซี้ยวมาก แล้วก็น่ารักมากด้วย โชยอมหมด ทำได้ทุกอย่าง
โชเสมอต้นเสมอปลายมากค่ะ รับส่งตลอด ไม่ขาด

ไม่ชอบความรุนแรง แต่อยากให้โชจัดให้สามสลายซักรอบ ยุ่งจริง

น่ารักมากค่ะ ชอบโชฟีลนี้ อินแรงมากค่ะ

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 03-09-2016 23:34:58
ถึงจะเป็นปิศาจแต่กูก็รักของกูนะเว้ย #กลอยกล่าวไว้  #ปิศาจผู้หวงเมียขนาดหนัก :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: monkeytwin ที่ 04-09-2016 00:29:37
น่ารักมาก สนุกมาก

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 04-09-2016 01:41:32
พี่โชน่ารัก  :mew3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 04-09-2016 09:22:22
พี่โชคนจริง หวงกลอยเกรียนแรงมาก o13 o13 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 04-09-2016 13:13:47
อารมณ์นี้อยากเป็นกลอย :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 04-09-2016 22:58:39
3 เด็กเหี้.ยนี่น่าจะโดนพี่โชแจกทีนคนละสี่ห้าทีนะ สันดานแย่ๆงี้พ่อแม่เลี้ยงมาให้เหมือนกันเลยอะ ทั้งสาม เกลียดมานานละ ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่ารักเลย ตั้งแต่เปิดตัว ปีนเกลียว น่าโดนซ่อมให้หลาบ :beat:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 05-09-2016 00:04:27
พี่โชน่าจะจัดไอ้เด็กตัวประกอบ 3 ตัวนี่หน่อยนะ   :m16:
เอาให้นอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลซักเดือนนึงก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 05-09-2016 08:25:58
ขอบคุณคนเขียนค่ะ.. แซ่บๆกันทุกคู่เลย  o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 05-09-2016 08:27:15
ตอนแรกคิดไม่ออกเลยว่าพี่โชจะหื่นแบบไหน
แต่ตอนนี้รู้แล้ว ชอบคอสเพล ฮ่าาาาาา
กลอยตลกอ่ะ ชอบบบบ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 05-09-2016 12:19:07
กลอยเสน่ห์แรง.  มีแต่คนรักคนหลง. พี่โชรักเมียสุดๆ. ตามหึงตลอด. ขอตอนพืเศษอีกเยอะๆ. นะคะ. ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานเข้า UP! / [02/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 05-09-2016 22:40:55
เมียจ๋าาาาาาาาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 05-09-2016 22:54:05
Just you and I ตอนพิเศษ : คนละวัน [1]



       วันหยุดที่แสนน่าเบื่อ พอไม่ได้ไปเรียนมันก็ว่าง กินๆ นอนๆ แค่นั้น กลับบ้านไปหาแม่มาก็แล้ว ไปเที่ยวมาก็แล้วมันก็เบื่ออยู่ดี แล้วพี่โชดันไปดูงานกับพ่อที่เมืองนอก ไอ้กลอยเลยกร่อยเลย รู้ตอนแรกก็ดี๊ด๊าดีหรอกพอไปจริงก็เหงา

   “มึงจะถอนหายทำใจทำไมวะ” ไอ้ต๋องตบหัวผมเต็มมือ โคตรเจ็บ

   “กูเบื่อ” ผมบอก

   ตอนนี้มานั่งแกร่วกับไอ้พวกนี้หน้าคณะครับ อีกอย่าง ต้องมาหาโลเคชั่นในการวาดรูปชิ้นโบว์แดงเพราะคะแนนมากกว่าการสอบอีก

   “ผัวไม่อยู่ก็เงี้ย” ฆ่าไอ้ทูด้วยสายตารอบที่ล้าน วันนี้มันพูดแบบนี้เป็นสิบรอบ

   “เอาน่ามึง พี่เขากลับมามึงค่อยกกทั้งคืน ช่วงนี้ก็เหี่ยวรอไปก่อน” ไอ้สักพูดปนขำ

   “อะไรเหี่ยววะ” ถามเหมือนไม่รู้ แต่หน้าไอ้เคแม่งโคตรกรุ้มกริ่ม

   “อารมณ์ไงสัด” แล้วพวกมันก็หัวเราะ

   เดินหนีพวกมันเพราะรำคาญ อีกอย่างท้องก็เริ่มร้องทั้งที่ตอนเช้ากินข้าวไข่เจียวมาตั้งเยอะ ลัดเลาะไปที่โรงอาหารกลาง เพราะใต้ตึกปิด นักศึกษาหลายคณะบางคนก็มาทำงาน บางคนก็มานั่งเล่นนอนเล่นเหมือนพวกผม

   ซื้อขนมปังเต็มถุง แกะกินระหว่างทางก็อร่อยดี ผมเดินกลับคณะ มีคนทักทายบ้างเพราะความหน้าตาดีแต่มันจะไม่ดีตรงมีคนมาขวางทางนี่แหละ ผมจ้องหน้ามันเช่นเดียวกับถูกจ้องหน้า สายตาสามคู่จ้องด้วยความตัดพ้อ เหมือนผมไปทำผิดกับพวกมัน

   “มองหน้ากูทำไม” ถามออกไป ได้เห็นท่าทางฟึดฟัดจากไอ้เม่น

   “พี่ทำผิดกับพวกผมมากนะ” ขมวดคิ้วหลังจากถูกพวกมันกล่าวหา

   “กูไปทำอะไรผิดกับพวกมึงวะ”

   “ทิ้งพวกผมไง” ไอ้เบียร์พูดใบหน้าจริงจังจนผมอยากทึ้งผมตัวเอง

   “พี่ไม่สนใจความรู้สึกของพวกผมเลย” ไอ้ไม้ว่า

   “พวกผมทำอะไรผิด ถึงไม่มีสิทธิ์ในตัวพี่เหมือนพี่คนนั้น” ไอ้เบียร์เสริม

   “แม้พวกเราจะมาช้ากว่าพี่คนนั้น แต่พวกผมก็จริงใจไม่แพ้กัน” ไอ้เม่นที่ดูจริงจังกว่าเพื่อนเดินมาซะจนชิด ผมต้องรีบเอนตัวหนี

   “อะไรของมึง”

   “ให้โอกาสพวกผมบ้าง”

   “พวกมึงจริงจังจนกูพูดไม่ออก” กัดขนมปังแก้เครียด “เอางี้นะ” พูดไปเคี้ยวไป

   “ผมว่า ไปหาที่คุยเถอะ พี่กินโคตรอุบาท” ชูนิ้วกลางใส่ไอ้เบียร์ไป มันกลับขำ

   ผมถูกพวกมันเดินขนาบซ้ายขวาหนีบมาม้าหินอ่อนข้างตึกวิศวะ ถูกกดดันให้นั่งลงโดยที่พวกมันสามคนยืนค้ำหัวผมอยู่ ทั้งๆ ที่พวกมันอายุน้อยกว่า แต่ทำไมผมรู้สึกกลัว จ้องหน้าพวกมันปากก็งับถุงขนมปังที่ยังไม่ได้แกะ

   “พี่จะเอายังไง” มองตาขวาง ไอ้เด็กพวกนี้มันต้องการอะไรจากผมวะ

   “พวกมึงนั่นแหละ จะเอายังไง”

   “ให้โอกาสพวกผมสิ” มองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที

   “ถามจริงๆ ชอบอะไรกูนักหนาวะ กูกวนตีนขนาดนี้ ปากหมาก็มาก ไม่ได้น่ารักโนเนะอะไรเลย ยังมีพวกน่ารักกว่ากูอีกเยอะ ทำไมพวกมึงไม่ไปชอบวะ” เริ่มโมโหกับการคุกคามจากคำพูดและสายตา

   “พี่ให้โอกาสพวกผมก่อนถึงจะบอก” ไอ้เม่นพูดขึ้น อีกสองก็รีบพยักหน้าเห็นด้วย

   เม้มปากแน่น ช่วงนี้พี่โชไม่อยู่ผมว่า ถ้าจะทำอะไรตอนนี้ทางคงสะดวกไม่น้อย ต้องรีบทำก่อนที่ปีศาจจะกลับ ผมมองหน้าไอ้เด็กสามคนพลางใช้ความคิด โอกาสเหรอ...

   “เอางี้” พวกมันจ้องหน้าผมเหมือนกำลังลุ้นหวย “กูให้โอกาสพวกมึง”

   “จริงดิ่”

   “จริงเหรอ”

   “พูดจริงเหรอพี่”

   “เดี๋ยวๆ” รีบยกมือห้ามพวกที่ทำท่าดีใจยิ่งกว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง “กูให้โอกาสพวกมึงแค่คนละวัน จากนั้นคือจบทุกอย่าง โอเค๊?”

   “ไม่โอเค” ตะโกนพร้อมกันสามเสียงจนผมตกใจ

   “พี่ขี้โกง ให้พวกผมแค่วันเดียว ทีพี่คนนั้นเขายังได้ทุกวัน” เงยหน้ามองกับคำว่าได้ทุกวัน คำพูดโคตรกำกวมว่ะ    “กูให้ได้แค่นี้ ไม่เอาก็ไม่ต้องเอา” จะลุกหนีแต่ถูกมือสามคู่กดให้นั่งลง พวกมันหันหน้าไปปรึกษากันก่อนจะหันกลับมามองผมนิ่ง

   “ก็ได้” ไอ้ไม้รับคนแรก

   “แต่หนึ่งวันพี่ต้องทำเหมือนเป็นแฟนกันจริงๆ โอเคป่ะ” ไอ้เบียร์รับคนที่สอง

   “ไม่มีข้อห้ามทุกอย่าง ต้องเป็นแฟนกันจริงๆ พวกผมถึงจะตกลง” ไอ้เม่นพูดคนสุดท้าย ผมมองหน้าพวกมันอย่างระแวง
 
   “หวังว่าพวกมึงจะยอมจบในวันเดียวนะ” กำชับ พวกมันก็รีบพยักหน้าตกลง ค่อยเบาใจหน่อย อย่างน้อยก็ได้เคลียร์ปัญหาที่พี่โชยังค่อนแคะอยู่ตลอด บ่นร่ำๆ จะมาต่อยไอ้พวกนี้ซะให้ได้

   “เริ่มพรุ่งนี้เลยนะ” พวกมันตาเป็นประกาย พอผมพยักหน้าพวกมันดูดีใจจนเกินเหตุ “งั้นผมเป็นคนแรก” ไอ้เบียร์ยิ้มแป้นแล้น แต่เพื่อนมันหน้าบูดเหมือนนมหมดอายุ

   “พวกมึงไปตกลงกันก่อนแล้วค่อยบอกกู” ผมว่าแล้วเดินหนี

   หวังว่ามันคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกเหนือจากที่คิด




   ...คิดว่างั้น เชี่ย ผมถูกไอ้เบียร์แว้นบิ๊กไบค์คันใหญ่มารับที่คอนโดพี่โช มันแต่งตัวเต็มมาก ตอนนี้มันยื่นหมวกกันน็อกใบใหญ่มาให้ผม เห็นแล้วอยากจะขอกลับขึ้นไปเปลี่ยนชุด ก็ผมใส่กางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดสีเหลืองสะพายเป้สีดำเหมือนแด็กอนุบาล ตอนแรกที่ไอ้เบียร์เห็นมันหัวเราะผมใหญ่ ไอ้เชี่ยนี่กล้าหัวเราะรุ่นพี่

   สวมหมวกแล้วยิ่งเหมือนเด็กหัวเห็ด ขนาดลุงยามยังหัวเราะ ผมเกาะไหล่ไอ้เบียร์แล้วขึ้นนั่ง รถมันก็สูงเว่อร์ไม่เห็นใจคนขาสั้นแบบผมสักนิด 

   “กอดเอวผมแน่นๆ นะพี่ ไม่งั้นจะตกนะ” ไอ้เบียร์พูดพร้อมกับออกตัวอย่างแรงจนผมแทบหงายหลังคว้าเอวมันแน่น เชี่ยเอ้ย
 
   นรกอยู่ตรงหน้าผมแล้ว พยายามสวดมนต์จนครบร้อยรอบ แม้จะเคยนั่งรถยนต์ที่เหยียบนรกมาแต่มันไม่น่ากลัวเท่านี้ แรงลมโต้ซะเหมือนจะปลิว ถ้าผมไม่กอดเอวไอ้คนขี่แน่น ผมคงปลิวตกลงไปแล้ว ไอ้กลอยสาบานเลยว่าจะไม่ซ้อนไอ้รถแบบนี้อีก

   หลับตาตลอดทางจนไม่รู้มันพามาที่ไหน ตอนออกคอนโดประมาณหกโมงเช้า ตอนนี้กี่โมงช่างมันขอชีวิตไม่ลงนรกเป็นพอ ไอ้กลอยเอ้ยมึงไม่น่าเกิดมาหล่อแบบนี้เลย

   “พี่กอดผมแน่นขนาดนี้ รักผมมากเลยเหรอ” เสียงพูดดังขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ ผมหรี่ตาขึ้นทีละข้าง กลัวตอนนี้ร่างจะนอนกองที่ถนน แต่ไม่ใช่ ตอนนี้ผมกำลังเห็นทะเล


   ทะเล! ถูกพาไกลขนาดนี้แบบไม่รู้ตัว


   “มึงมาทำไมที่ทะเลวะ” ผมถามเสียงสั่น ขนาดรถจอดนิ่งแล้วแต่เสียงยังสั่น

   “ก็ผมฝันไว้ ถ้ามีแฟนอยากพามาเที่ยวทะเล” ไอ้เบียร์มองไปที่ผืนทะเลกว้าง

   “มึงไม่เคยมีแฟนเหรอวะ” ถามหลังจากไต่ลงจากรถคันใหญ่ ไอ้เบียร์ส่ายหน้า แล้วหันมามองผม

   “พี่เป็นคนแรก แม้จะแค่วันเดียวก็เถอะ” เหมือนตัวเองโคตรใจร้ายเลย นี่ผมทำถูกหรือผิดวะ 
              
   ไอ้เบียร์จอดรถที่ลานหน้าชายหาด ตอนนี้น่าจะเกือบๆ สิบโมงกว่า ขนาดยังไม่เที่ยงแต่แดดนี่แรงจนผิวแทบไหม้ ไม่ได้ทาครีมกันแดดมาด้วยแถมเสื้อยืดแบบนี้ แขนผมคงไหม้ก่อนเพื่อน

   “หิวข้าวป่ะ” ไอ้เบียร์ถาม ผมก็พยักหน้าก่อนเบิกตาโตมองไอ้คนถาม เพราะมันเอามือผมไปจับ พยายามสะบัดออกก็ไม่หลุดอีก “เป็นแฟนก็ต้องจับมือสิ” ทำใจให้นิ่งไว้ไอ้กลอย เพื่ออนาคตของตัวเองและเด็กตาดำๆ อนาคตของชาติ

   เดินจับมือกันไปตามหาด มีคนมองกันตรึม ผมพยายามก้มซ่อนใบหน้า เราสองคนมานั่งที่เก้อี้ผ้าใบสีรุ้ง พนักงานเดินหน้ายิ้มแย้มมารับรายการ เห็นจ้องผมกับไอ้เบียร์สลับไปมาแล้วก็หัวเราะคิกคักเหมือนคนบ้า ท่าทางอาการหนัก

   “พี่กินส้มตำมั้ย” ไอ้เบียร์ถามหลังจากทำหน้ายู่มองเมนู ผมก็พยักหน้าไป “เอาส้มตำสามรส ไก่ย่าง ข้าวเหนียว แล้วก็น้ำเปล่าครับ” สั่งพร้อมรอยยิ้มหล่อของมัน

   “เอากุ้งด้วย” ผมบอก ไอ้เด็กปีหนึ่งมันขำ คนที่ยืนจดรายการก็ขำด้วย “ขำไม” ยื่นหน้าถามไอ้คนที่นั่งตรงข้าม

   “เปล่า” ปฏิเสธเสียงสูงสุดๆ

   “งั้นรอสักครู่นะคะ ว่าแต่ น้องชายน่ารักมากเลยค่ะ” ไอ้กลอยเงยหน้ามองทันที เขาชมผมหน้าเด็กหรือไอ้เบียร์หน้าแก่วะ

   “แฟนครับ” ไอ้เบียร์หน้ายู่ทันทีที่ผมขำ “แล้วนั่นก็รุ่นพี่ผมครับไม่ใช่น้อง”

   “อุ้ย ขอโทษค่ะ” สาวเจ้ายิ้มแหยๆ แล้วรีบเดินกลับร้าน ผมก็ยังขำจนถูกมือใหญ่ยื่นมาดีดหน้าผาก
 
   “กูรุ่นพี่มึงนะ” ด่ามันไป แต่มันกลับลอยหน้าลอยตา ไอ้นี่ปีนเกลียวตลอด

   ระหว่างรออาหารที่สั่ง ผมก็นั่งจ้องไอ้เบียร์จนมันยิ้มหวานให้

   “พี่หลงเสน่ห์ผมเหรอ จ้องจัง” ดูปากมัน

   “มึงทำไมถึงชอบกูวะ” เข้าประเด็น

   “โคตรตรงว่ะ” ไอ้เบียร์มันขำ “ผมก็ไม่รู้ว่ะ”

   “อ่าวไอ้ห่า ไม่รู้แล้วมาตามจิกกูทำไม”

   “รู้แค่ว่า เวลาคุยกับพี่แล้วจ้องตา เหมือนเห็นลูกแก้วสีใสอยู่ในนั้น”

   “กูต้องอ้วกมั้ย”

   “โธ่พี่ ผมพูดจริง” มิน่ามันชอบจ้องตาผมเวลาพูด

   “แล้วอะไรอีก”

   “อยู่กับพี่แล้วสบายใจ”

   “มึงไม่เคยมีแฟนเพราะมัวแต่อ่อยเขาไปทั่วล่ะสิ” ด่ามันตอนไก่ย่างกับข้าวเหนียวมาเสิร์ฟพอดี ไอ้เบียร์เริ่มจกข้าวเหนียวกิน ผมก็ยังมองหน้ามันอยู่ “มึงนิสัยดีนะ ถ้าเปิดใจจริงๆ คงมีสาวๆ รุมตอมหึ่งเชียวล่ะ”

   “ชมว่าผมเหมือนขี้หรือเปล่าวะ” มันกัดขาไก่ย่างยั่วความหิวของผม

   “มึงตามติดกูแจแบบนี้จะมีใครหน้าไหนกล้าเข้ามา แล้วมึงแน่ใจเหรอว่าชอบผู้ชายด้วยกันเอง”

   “คิดว่า” อยากตบหัวให้ข้าวเหนียวพุ่งออกจากปาก มันดูไม่สนใจผมเลย

   พอส้มตำมาผมก็หยุดพูด ขอกินก่อนครับ ไอ้ปีหนึ่งมันกินน่าอร่อยจริงๆ แต่ผมแอบเห็นมันมองตามสาวนุ่งชุดว่ายน้ำที่เดินผ่านด้วย มันคงชอบผู้หญิงแต่คงกำลังหลงผิดอยู่แน่นอนไอ้กลอยยืนยัน เพราะจิตสัมผัสแม่นเว่อร์ของผมบอก

         กินเสร็จก็นอนเหยียด ผมว่า ถ้าเป็นไปตามที่ผมสังเกต ผมพอมีวิธีให้ไอ้เด็กคนนี้เลิกยุ่งกับผมแล้วล่ะ หวังว่ามันคงจะได้ผล
 
   “ไปเดินย่อยกัน” ผมชวน ไอ้เบียร์กวักมือเรียกพนักงานมาคิดเงิน

   ไม่น่าเชื่อ กับข้าวแค่นี้หมดไปเกือบสามพัน ส้มตำปูม้านี่ไปจับที่นาในอวกาศหรือเปล่า จานละสี่ร้อยห้าสิบ ไอ้กลอยจะเป็นลม ไก่ย่างตัวละหนึ่งร้อยห้าสิบบาท คงเลี้ยงด้วยอาหารเสริมสินะ ข้าวเหนียวสองถุงห้าสิบบาท อยากขย่อนคืนมาก

   “พี่ทำหน้าบูดทำไม” ไอ้เบียร์มันหัวเราะผม

   “มึงดูราคาอาหารสิ แพงเหี้ย” บ่นครับ แม้จะไม่ได้ออกเงินสักบาทแต่มันก็น่าบ่นอยู่ดี

   “เอาน่า นานๆ กินที ไม่เป็นไรหรอก” ถูกไอ้เบียร์จับมืออีกรอบ ความรู้สึกเหมือนถูกน้องจับ มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

   เดินเล่นสักพักก็ต้องหาที่หลบเพราะแดดตอนเที่ยงมันแรงจริงๆ แรงจนอยากจะร้องไห้ แสบหน้าไปหมด ไอ้เบียร์ขำที่เห็นผมลูบหน้าตัวเอง มันปลดเป้ที่สะพายลงแล้วค้นของในกระเป๋า

   “ทำไร” เอนหน้าหนีเมื่อถูกมือที่มีครีมสีขาวยื่นมา

   “ทาครีมกันแดดไง หน้าพี่จะได้ไม่ไหม้”

   “กูทาเอง” หยิบมาทาเอง แค่นี้ผมยังรู้สึกแปลกๆ ถ้าเกิดทำแบบที่คิดละก็... มองซ้ายมองขวาไม่มีคนเดิน “มึงเคยจูบกับผู้หญิงหรือเปล่าวะ” ลองถาม ไอ้คนถูกถามหัวเราะร่วน

   “ต้องเคยสิ ผมก็ไม่ใช่คนอ่อนต่อโลกขนาดนั้น”

   “แล้วมึงเคยจูบกับผู้ชายมั้ย” ไอ้เบียร์ส่ายหน้ารัวๆ ได้ทีผมรีบพุ่งตัวไปคร่อมมันบนเก้าอี้ผ้าใบใต้ต้นมะพร้าว โชคดีแถวนี้ไม่มีคนอาจเพราะเที่ยงด้วย คนส่วนใหญ่ก็ไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารไกลๆ นั่น

   พอผมคร่อมได้ ไอ้เบียร็รีบเบิกตากว้างใช้แขนกับมือยันหน้าผมจนหงาย แต่ผมยังดึงดันเอาหัวมุดแขนจนมันโวยวาย

   “พี่ทำไรวะ เฮ้ย” โดนมันถีบครับ จุกเหี้ย จุกจนร้องไม่ออก

   “ไอ้...อูย” กุมท้องตัวเองบนพื้นทรายเพราะถูกถีบตกลงจากเก้าอี้ผ้าใบ

   “พี่เป็นไงบ้าง ผมขอโทษ” ถูกมันดึงแขนให้กลับไปนั่งที่นั่งของตัวเอง “พี่เล่นจู่โจมผมก็ตกใจสิวะ”

   “มึงถีบกูเต็มแรงไอ้สัด” บ่นมันไป

   “พี่ไม่บอกผมก่อนนี่หว่า”

   “มึงไม่ได้ชอบผู้ชาย มึงแค่หลงตามเพื่อนมึงอีกสองคน” ผมว่า

   “รู้ได้ไง”

   “เพราะถ้ามึงชอบผู้ชาย มึงไม่ถีบกูจนหงายหลังแบบนั้นหรอกไอ้สัด ยิ่งมึงบอกว่าชอบกูด้วย ถ้ากูพุ่งเข้าใส่ มึงต้องปล้ำกูแล้ว” พูดตามความจริงที่เคยเจอ เห็นแบบนี้ผมก็เคยกดพี่โชนะครับ แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ ไม่รู้พี่โชเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนดันผมจนเป็นผมจมเตียงทุกที

   ไอ้เบียร์เงียบแล้วเหม่อมองไปที่ทะเล

   “อาจจะจริง ผมฟังไอ้เม่นกับไอ้ไม้พูดถึงพี่แล้วก็คิดตามพวกมัน”

   “นั่นแหละไอ้น้อง” ผมเริ่มยิ้มกว้างตบบ่ารุ่นน้องไป

   “ขอโทษนะที่ทำให้พี่ปวดหัว” เรียบร้อยไปหนึ่งครับ

   “ไม่เป็นไร ยังไงมึงก็รุ่นน้องกู”

   รอบ่ายนิดๆ ผมกับไอ้เบียร์ก็กลับครับ พอถึงคอนโดไอ้เบียร์ก็โบกมือลาแล้วขี่ออกไป...เหลืออีกสองสินะ หวังว่าจะง่ายแบบนี้       


..... TBC Part2

ตอนพิเศษนี้แบ่งคนละพาร์ทเลยนะคะ น่าจะมีสามพาร์ท

แล้วพบกันพาร์ท 2 ค่า


Ps. (อาจมีคู่ใหม่เกิดขึ้น O_O) <<< สปอยสุดฤทธิ์ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 05-09-2016 23:42:56
รีบจัดการก่อนพี่โชจะกลับนะกลอย 55
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 06-09-2016 00:27:39
ถ้าพี่โชรู้ งานเข้าแน่น้องกลอย  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-09-2016 00:52:51
ถ้าพี่โชรู้นี่ งานเข้า น้องกลอยแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-09-2016 01:22:13
สามคนก็สามวัน พอพี่โชกลับมาน้องกลอยใจอาจจะโดนคุณสามีทำโทษ โดยการกกอยู่บนเตียงสักสามวันสามคืน :z1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-09-2016 01:39:09
 รอรับศึกหนักได้เลยกลอยปะเกรียน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 06-09-2016 06:01:09
คู่ใหม่ 3pมั้ย อิเด็กสามตัวนี่เลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 06-09-2016 07:32:25
พี่โชกลับมา น้องกลอยเกรียน
จะเป็นเกรียมแทนแน่ๆ ไม่ได้เห็นเช้าสดใสแหงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 06-09-2016 07:42:41
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหญิง ที่ 06-09-2016 09:22:22
เหมือนกลอยนอกใจพี่โชเลย - -*
ถ้าโชทำงี้ดราม่าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 06-09-2016 10:36:09
เดี่๋ยวปีศาจกลับ กลอยโดนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 06-09-2016 11:04:01
กลอยทำดีแต่คิดว่าสองคนที่เหลืออาจไม่ง่ายดีไม่ดีโป๊ะแตกพี่โชมาเจออีก ทีนี้ละงานเข้ายาวๆแน่กลอยเอ้ย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 06-09-2016 16:23:18
เปิดเรื่องใหม่ให้น้องเบียร์สักเรื่องเป็นไงครับ :katai2-1: :katai2-1:หรือจะให้น้องเบียร์แล้วมาป๊ะกับอัธสักครู่ก็ดีนะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [1] UP! / [05/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-09-2016 18:45:51
กลอยเอ๊ยยยยยยย พี่โชกลับมาเมื่อไร โดนหนักแน่ :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 06-09-2016 21:44:37
Just you and I ตอนพิเศษ : คนละวัน [2]


        ยามเช้าที่ค่อนไปทางสาย ผมกำลังนั่งรอไอ้เด็กปีหนึ่งที่มันส่งข้อความว่าจะมารับ นี่ผมลงมารอนานหลายนาทีก็ยังไม่เห็นหัว หรือมันหลอกให้รอวะ เดี๋ยวปั๊ดตัดสิทธิ์หนึ่งวันหรอก นั่งบ่นๆ ไปสักพักก็เห็นรถกระบะสี่ประตูป้ายแดงเลี้ยวเข้ามา

   ใช่หรือเปล่าหว่า...

   จ้องจนตาแทบถลน แต่ฟิล์มรถโคตรดำ ไม่รู้จะกลัวแดดไปถึงไหน รถพี่โชยังไม่ดำขนาดนี้ รถใหม่ป้ายแดงจอดตรงที่ผมนั่งอยู่ คนขับเปิดประตูลงมาพร้อมรอยยิ้ม ใบหน้าคมเข้มกับทรงผมที่ถูกเซ็ท ยิ่งแต่งตัวเสื้อยืดคอวีสีขาว กางเกงยีนส์สีดำขาดๆ ยิ่งทำให้ดูหล่อ ขนาดป้าที่เพิ่งลงมายังมองตาค้าง

   “มึงเหมาะไปเป็นดาราว่ะ” ผมทักจนไอ้ไม้มันหัวเราะ

   “แต่พี่เหมาะเป็นเด็กอนุบาลนะ” โดนยิ้มเยาะจนอยากจะเอานมกล่องปาหน้า

   เด็กอนุบาลยังไง ก็แค่ใส่เอี๊ยมยีนส์ขายาวทับเสื้อยืดสีขาวกับรองเท้าผ้าใบเก่าๆ แนวจะตาย

   “กูออกจะดูดีมีสไตล์” เบ้ปากใส่มันแล้วเดินไปขึ้นรถ อย่าหวังว่ามันจะเป็นประตูให้ เพราะคนขับมันเข้าไปนั่งในรถแล้ว พอผมเปิดประตูขึ้นไปก็เห็นไอ้ไม้สวมแว่นตากันแดดสีชา ไอ้นี่มันหน้าตาดีจริงๆ

   รถใหม่เลี้ยวออกถนน เริ่มมองสำรวจ สภาพเหมือนเพิ่งออกจากศูนย์รถ กลิ่นใหม่ยังหึ่งอยู่เลย ดีที่มันติดน้ำหอม ไม่อย่างนั้นผมคงเมารถแน่

   ยื่นมือเปิดนั่นเปิดนี่ ลิ้นชักมีแต่คู่มือกับซีดีเพลงหนึ่งแผ่น ไม่มีอะไรให้ดูเลย ผมค้นจนถูกตีมือเมื่อกำลังจะเอี้ยวตัวไปค้นด้านหลัง

   “พี่เป็นลิงหรือเปล่าวะ อยู่ไม่นิ่ง” โดนดุกลายๆ

   รถพี่โชผมก็ค้นแบบนี้ ยังไม่โดนดุเลย

   “รถมึงสวย” ผมว่า

   “พ่อซื้อให้ตอนสอบติด แต่ผมไม่ได้เอามาใช้”

   “ทำไมวะ”

   “รถมันติด ขี่มอเตอร์ไซค์สบายกว่า”

   ไอ้ไม้มันหันมายิ้มหล่อใส่จนผมต้องเบ้ปาก แม่งเหมือนมันจะเอาความหล่อมาข่ม วันนี้อุตส่าห์คิดหาชุดที่จะเอาไว้ข่มมัน กลับถูกมันข่มเอาซะนี่

   “แล้วนี่มึงจะไปไหน” ถามเพราะไม่รู้เป้าหมายสักนิด

   “ดูต้นไม้”

   “หา?” ทำหน้างงเหมือนหมาสงสัย

   “พอดีบ้านจัดสรรที่พ่อผมซื้อไว้ให้มันไม่มีต้นไม้ใหญ่ๆ เลยจะไปดูสักหน่อย”

   “อ่อ” พยักหน้าตอบรับ ที่จริงเรื่องต้นไม้ผมไม่ค่อยรู้อะไรหรอก เคยไปซื้อดอกไม้ ชี้ไปที่ดอกสีชมพูสดแล้วบอกแม่ค้าว่าเอาลิลลี่ แม่ค้าหัวเราะแบบไม่ไว้หน้าผมเลย ก่อนบอกว่านั่นคือทิวลิป แต่อย่าคิดว่าผมจะอาย แค่เหมาทั้งทิวลิปทั้งลิลลี่มาเกือบๆ ห้าพันบาท โดนพี่กิ่งบ่นไปสองอาทิตย์

   “พี่กินข้าวหรือยัง” นั่งดูข้อความมือถือ พี่โชไม่ส่งอะไรมาเลย แอบงอนนิดๆ พอถูกถามเลยต้องเงยหน้ามอง ไอ้ไม้มันมองถนนไม่ได้มองหน้าผม

   “ยัง”

   “งั้นกินข้าวก่อนแล้วกัน”

   พูดเสร็จมันก็จอดเทียบฟุตบาทที่มีรถจอดเรียงราย ผมเดินตามคนพามา มันเดินเข้าร้านข้าวมันไก่ ผมเคยผ่านนะ แต่ไม่เคยแวะกิน ครั้งหนึ่งพี่โชอยากกินตอนห้าทุ่ม ออกมาหาร้านนั่งกินไม่มีที่ไหนเปิด คนอยากกินแม่งโวยวายจนผมต้องให้พาไปที่ซุปเปอร์สโตร์ ดีที่ปิดเที่ยงคืน ผมซื้อไก่ ข้าว หมู หัวไชเท้า กว่าจะถึงห้อง แล้วกว่าจะทำเสร็จ ได้กินข้าวมันไก่ตอนเกือบตีสี่ ดีที่อีกวันเป็นวันอาทิตย์ ไม่งั้นผมคงไปนอนตายคาห้องเรียนแน่ หลังจากนั้นอยากกินเมื่อไหร่ผมก็จะทำเอง

   “ร้านนี้อร่อยเหรอวะ กูผ่านมาคนแม่งโคตรเยอะ” ผมถามขณะนั่งเก้าอี้ ตาก็มองไปทั่วๆ คนแน่นจริงๆ
 
   “ก็อร่อยอยู่มั้ง” ตอบแบบลังเล

   “อ่าว”

   “ผมเพิ่งเคยกินนี่แหละ” เอาตะเกียบตีหัวคนพามา มันดึงตัวหลบแล้วหัวเราะ

   มองรอบๆ ร้านแล้วก็ดูสะอาดสะอ้านดี มีก๋วยเตี๋ยวขายด้วย พอพนักงานเดินมาหยุดที่โต๊ะผม ก็สั่งข้าวมันไก่กับก๋วยเตี๋ยวไปอย่างละหนึ่ง ไอ้ไม้สั่งข้าวมันไก่พิเศษ หลังจากพนักงานที่มัวแต่จ้องหน้าไอ้ไม้ไม่ยอมจดเดินไป มันก็หัวเราะขึ้นมาจนผมขมวดคิ้ว

   “ขำไรของมึงวะ”

   “ขำพี่นั่นแหละ ตัวแค่นี้กินโคตรเยอะ”

   “กูเอามาชิมเว้ย” ผมว่า “แล้วมึงก็ช่วยลดความหล่อลงหน่อย มีแต่คนมองจนร่างกูจะพรุนแล้ว” ที่พรุนเพราะผมบังไอ้คนหล่อครับ ได้ยินเต็มๆ ว่าไอ้เด็กเอี๊ยมบังไม่เห็น เหอะๆ

   ไอ้ไม้มันเอนตัวมองเข้าไปด้านใน มีเสียงกรี๊ดนิดๆ ด้วย ออร่ามึงเกิดแล้วไอ้น้อง ไม่แน่ ถ้าผมพามันไปเทสงาน ผมอาจจะเป็นดารากับมันด้วย ความหล่อมันเด่นขนาดนี้ พอคิดแล้วก็ขำ พอขำก็ถูกไอ้คนที่นั่งตรงข้ามมองเหมือนเป็นเอเลี่ยน

   พออาหารที่สั่งมาก็ต่างคนต่างกิน ข้าวมันไก่อร่อยดี แต่น้ำซุปผมว่ามันเค็มไป ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นก็กลมกล่อมดี แต่เผ็ดอะ พอกินสลับไปมาแล้วรสชาติดี

   “กินแบบนั้นก็ปวดท้องหรอกพี่” โดนทักแต่ผมก็กินต่อ ก็แค่เอาเส้นก๋วยเตี๋ยวมาแช่ในน้ำซุปกระดูก ท้องไม่เสียหรอก แล้วพอเอาน้ำต้มยำมาราดในข้าวมันไก่ มันก็อร่อยไปอีกแบบ อยากเทรวมกันแต่กลัวหน้าตาออกมากินไม่ได้ เลยแยกแบบนี้ดีกว่า

   มื้อนี้ฟรีอีกแล้ว มันดีตรงนี้ มีเด็กเปย์โคตรสบาย ทุกทีปีศาจจะเปย์แบบมีข้อแม้ตลอด ผมยืนรอเจ้าของรถหน้าร้านขายกล้วยทอด ก่อนขึ้นรถซื้อติดมือสักหน่อย

   “พี่ยังไม่อิ่มเหรอวะ” ไอ้ไม้ทำตาโตมอง

   “นี่กูเก็บไว้กินตอนดึกเว้ย” มัดปากถุงแล้วเก็บไว้ โดนส่ายหน้าใส่เบาๆ แต่ไม่แคร์



   
   รถกระบะขับมาจอดหน้าร้านสวนดอกไม้ (ชื่อร้าน) เป็นร้านที่ดูร่มรื่น ผมเดินเข้าไปด้านในจะเจอร้านกาแฟเล็กๆ ก่อน ต้นไม้ด้านหน้าถูกจัดไว้เหมือนสวมหย่อม มีดอกไม้ มีน้ำพุ ไอ้คนอยากได้ต้นไม้เดินแยกไปอีกด้านของร้าน ผมเดินตามไปเงียบๆ มัวแต่มองต้นไม้ใหญ่ที่ถูกไม้ค้ำไว้ รากถูกพลาสติกหุ้มไว้อยากดี

   กระถางดอกไม้ก็มี สีสันสวยสดใส บางดอกชื่อก็ดี ความหมายก็ดี ถ้าเอากลับไปปลูกที่คอนโดพี่โช มีหวังถูกทุ่มลงพื้นแน่ ไม่ใช่ปีศาจไม่ชอบหรอกนะครับ แต่มันลำบากเวลาดูแล แค่กระบองเพชรที่เรียงรายที่ระเบียงก็แทบไม่มีใครดูแล

   ผมเดินมายืนข้างๆ ไอ้ไม้ที่มันกำลังเปิดดูสมุดแคตตาล็อกต้นไม้ เจ้าของไม่น่าสนใจเท่าลูกสาวที่กำลังตัดใบไม้ที่แห้งออกจากกระถาง น่ารักใสๆ สไตล์ที่ผมชอบเลย

   “อิ๋ม แม่ฝากพี่เขาก่อนนะ เข้าร้านแปบนึง” เจ้าของร้านเรียกสาวสวยที่ยืนตัดใบไม้ เธอรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม มองเพลินเลยผม

   “ต้องการต้นไม้แบบไหนคะ” เสียงก็ใส น่ารักจัง

   “พอดีบ้านผมอยากได้ร่มเงาครับ” ไอ้ไม้เงยหน้ามอง ทั้งคู่ยิ้มให้กันจนผมมองแปลก

   หลงไอ้หล่อ ไม่มองไอ้เกรียนเลย

   “ร่มเงาก็มีหลายแบบค่ะ บลาๆๆ” ผมยืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้ฟังหรอกครับ มารู้ตัวอีกที ไอ้ไม้ก็ชี้นิ้วเลือกแล้ว เจ้าของสาวสวยก็รีบจดๆ แล้วบอกให้รอ

   ผมมองตามร่างเล็กๆ นั่นที่วิ่งไปด้านหลัง แล้วหันไปมองไอ้คนหล่อที่มองตามเหมือนกัน มุมปากมีรอยยิ้มนิดๆ ตอนนี้เริ่มรู้แล้วครับว่าเด็กคนนี้ก็จัดการง่ายยิ่งกว่าไอ้เบียร์อีก

   คิดว่าแค่เลือกต้นไม้ก็จบ เปล่าครับ ไอ้ไม้ยังเดินเลือกต้นไม้เล็กๆ กับดอกไม้อีกเป็นกระบุง มิน่า มันเอารถกระบะมา

   เดินดูจนเบื่อผมเลยเดินย้อนไปนั่งในร้านกาแฟ สั่งชาเย็นมานั่งรอคนที่มัวแต่เลือกไม่สนใจผม แต่ก็ดีแล้วที่มันทำแบบนั้น เพราะจะได้รู้ว่ามันไม่ได้ชอบผม

   “ทานเค้กด้วยมั้ยครับ” เสียงนุ่มทักหลังจากก้มหน้าดูดชาเย็นหวานมัน เงยหน้ามองก็เจอคนที่ชงชาเย็นให้ผมนั่นแหละครับ รอยยิ้มติดลักยิ้มที่มุมปากส่งมาให้

   “อะไรอร่อยบ้างครับ” ยื่นหน้าดูไปที่ตู้ขนมอบ

   “มีเค้กแล้วก็พาย”

   ข้าวที่ผมกินมายังตีตื้นอยู่ที่คออยู่เลย ผมขมวดคิ้วมองหน้าคนตายิ้ม

   “ห่อกลับได้มั้ยครับ”

   “ได้ครับ”

   ผมลุกไปเกาะตู้ขนมดู อันนั้นก็น่ากิน อันนี้ก็น่ากิน จ้องจนคนที่ยืนอยู่หลังตู้หัวเราะ เลยชี้สั่งไปสองอย่าง แล้วกลับไปนั่งที่เดิม ชะเง้อมองไอ้เด็กที่พามาก็ยังไม่แล้วเสร็จ อยู่ปีหนึ่งแต่ทำตัวเหมือนคนทำงานแล้ว

   “นี่ครับ” ถุงเค้กวางตรงหน้า แต่ผมว่า มันมีอะไรแปลกๆ แบบผิดปกติ

   “ผมสั่งแค่สองเองนะครับ” เงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังยิ้มทั้งปากทั้งตา

   “อีกสองอย่างผมให้ลองชิมครับ เพิ่งคิดสูตรได้”

   “อ่า ขอบคุณครับ” ยกมือไหว้ก่อนจะถูกหัวเราะใส่

   “ไม่ต้องไหว้ก็ได้ครับ” ยิ้มแห้งๆ ให้ ก่อนพี่ตายิ้มจะเดินไปประจำเคาน์เตอร์เมื่อมีลูกค้าเข้ามา ดูเหมือนจะเป็นลูกค้าประจำ เพราะสั่งว่าเหมือนเดิม พร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ ผมว่าคงติดใจทั้งของกินทั้งคนทำ

   นานจนผมแทบจะหลับกว่าไอ้ไม้จะเดินมาสะกิดว่าเสร็จแล้ว ผมเดินงัวเงียไปที่รถ กำลังจะเปิดประตูขึ้นไปนั่งก็มีมือขาวๆ ยื่นมาจับไว้จนต้องมองตามมือขาวนั่นขึ้นไป อ่า พี่ตายิ้ม

   “น้องลืมเค้ก”

   “จริงด้วย ขอบคุณครับ”

   “ถ่ายรูปแล้วแชร์มาที่ร้าน ครั้งหน้าเราลดพิเศษด้วยนะครับ”

   “ได้ครับ ผมชอบของลดราคา” ยิ้มส่งท้ายแล้วขึ้นรถ พี่ตายิ้มปิดประตูให้แล้วโบกมือส่ง

   พอขึ้นมานั่งบนรถ ไอ้เด็กไม้ก็ขับออกไป ผมเหลียวมองต้นไม้ที่อยู่ท้ายกระบะกำลังโต้ลม

   “มึงซื้อเยอะขนาดนี้เลยเหรอวะ” ผมร้องทัก ต้นไม้เต็มกระบะเลยนะครับ ไม่ใช่แค่ต้นสองต้น

   “ซื้อทั้งทีก็เอาให้หมดไงพี่” เบะปากใส่ จนไอ้ไม้หัวเราะ “เมื่อกี้ก็ลูกเจ้าของร้านนะพี่”

   “หือ”

   “คนที่มาส่งพี่เมื่อกี้อ่ะ เป็นลูกเจ้าของร้าน”

   “แล้วไง”

   “เขาต้องชอบพี่แน่”

   “มึงบ้าป่ะ แค่เขาเอาเค้กที่กูลืมมาให้จะมาชอบกูได้ไง”

   “พี่มีเสน่ห์ดึงดูดแบบที่ไอ้เม่นบอก”

   “เสน่ห์ดึงดูดอะไร”

   “ดึงดูดคนให้หลงพี่ไง”

   “กูไม่เข้าใจ”

   ไอ้ไม้มันถอนหายใจแล้วมองหน้าผมขณะจอดติดไฟแดง

   “พี่มีเสน่ห์ดึงดูดให้คนมาชอบไง เพราะตากลมๆ นั่นเหมือนกับลูกแก้วใสน่ามอง แล้วพี่ก็มองโลกในแง่ดีด้วย ยิ่งทำให้พี่ดูมีประกาย ไม่รู้ว่ะ ผมพูดตามที่เห็นแล้วก็ไอ้ยินไอ้เม่นมันพร่ำเพ้อ”

   “พูดเหมือนกูมีเวทย์มนต์” ส่ายหน้าให้กับความคิดแปลกๆ

   “แต่ไอ้เม่นมันจริงจังนะพี่ มันชอบคนแบบพี่” หันไปมองคนที่พูด “ผมยอมรับว่าแค่อยากลอง แต่พอเอาเข้าจริง มันไม่เวิร์กว่ะ”

   “เพิ่งรู้เหรอวะ” ทำหน้าเหม็นเบื่อ ไอ้ไม้หัวเราะร่วน

   “แต่พี่ก็น่ารักดีนะ มิน่า พี่คนนั้นถึงหวงนักหนา” มันยิ้มล้อ “ไอ้เม่นอาจจะยากสักหน่อย ถ้าพี่จัดการไม่ดี มันอาจจะตามมากกว่าเดิม”

   “กูก็แอบกลัวเหมือนกัน” เพราะท่าทางมันเหมือนกับไอ้รอน ยิ่งกว่าไอ้รอนตรงที่มันกล้าบอกว่าชอบผมตรงๆ ต่อหน้าเพื่อนผมนี่แหละ ไอ้รอนมันยังบอกแค่กับผมสองคน

   “พี่ลองหาคนเหมือนพี่ให้สักคนสิ ไม่แน่ มันอาจเปลี่ยนใจนะ”

   “กูจะไปหาที่ไหนที่หล่อแบบกูวะ” ได้ยินเสียงอ้วกเบาๆ จนต้องถลึงตาใส่ เอ หรือมีวะ

   “ขอบคุณสำหรับหนึ่งวัน ที่พี่มาเป็นเพื่อนผมเลือกต้นไม้”

   “กูว่า มึงหาคนมาเป็นเพื่อนเพื่อเข้าหาสาวคนนั้นมากกว่า” แซวมันไปแล้วได้ผล หน้าไอ้ไม้ขึ้นสีด้วย “รู้จักเหรอวะ” ยิ่งได้ยินตอนมันบอกว่าพี่ตายิ้มเป็นลูกเจ้าของด้วย ยิ่งทำให้มั่นใจว่ามันต้องรู้จัก

   “รุ่นน้องที่โรงเก่า”

   “พี่คนนั้นเหรอ”

   “พี่ใช้สมองคิดหรือเปล่า” เอ๊ะ ไอ้เชี่ยนี่ด่าผม

   “มึงด่ากูว่าโง่เลยดีกว่า” ไอ้ไม้มันขำ “แต่น่ารักดีว่ะ มึงจีบเลย”

   “พอดีผมหล่อว่ะ” อ้วกใส่หน้ามันไป “ฮ่าๆ เขามาจีบผมก่อนจริงๆ”

   “แต่มึงเล่นตัวว่างั้น”

   “เปล่า ผมแค่อยากให้เขาได้เจอคนอื่นๆ ด้วย”

   “ความคิดหล่อเหี้ยๆ”

   “บังเอิญได้เจออีกทีตอนวันเกิดเพื่อน เราเลยเริ่มคุยกันไม่กี่วันมานี้เอง”

   “ขอให้ได้ ขอให้โดนนะไอ้น้อง”

   “พี่ก็ด้วย ระวังพรุ่งนี้ละกัน ไอ้เม่นมันเอาจริงขึ้นมา ระวังมันปล้ำนะ” ยิ้มๆ อยู่หน้าหุบแทบไม่ทัน พูดเป็นลาง แบบนี้ผมต้องหาวิธีรับมือคนที่หนักที่สุด

   “กูมีวิธีรับมือก็แล้วกัน” ยิ้มย่องเมื่อความคิดบางอย่างผุดขึ้น ไอ้เม่นเสร็จผมแน่ มันต้องล่าถอยไปเช่นเดียวกับไอ้เด็กสองคนนี้ แล้วต้องไปแบบละม่อมด้วย เจอกันไอ้เม่น หึๆ 


   “อย่ายิ้มแบบนั้นสิพี่ มันสยองว่ะ”

...... TBC Part 2 ......



Part 2 มาแบบเบาๆ ค่า เจอกันพาร์ทสุดท้ายค่าาา

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 06-09-2016 22:18:27
สองคนนี้รับมือง่ายศึกหนักจริงๆคงเป็นเม่นสินะกลอยนะจะรับมือได้ไหมหรือจะโดนพี่โชจับได้ก่อน งานนี้มีลุ้น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-09-2016 22:42:37
เหอๆๆๆ ขอให้โชคดีนะกลอย อย่าให้พี่โชจับได้ซะก่อนล่ะ แถมไอ้ยิ้มสยองแบบนั้น คิดอะไรแผลงๆได้อีกล่ะซิ เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-09-2016 22:50:58
รอดูคนรับศึกหนักพรุ่งนี้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 06-09-2016 23:19:10
กลอยจ๊ะกลอยจ๋าาา
ต้องบอกมั้ยว่าถ้าพี่โชรู้จะเกิดอะไรขึ้น
ตายแน่ๆเลยนะจ๊ะ
ไม่โดนโกรธ โดนงอนอย่างจริงจัง
ก้ต้องฟ้าเหลืองแน่ๆเลยจ๊าาาาาา
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 06-09-2016 23:42:44
กับเม่นต้องวางแผนดีๆนะกลอย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 07-09-2016 01:07:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Nuxary ที่ 07-09-2016 10:34:24
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 07-09-2016 10:50:55
กลอยแกมาทำให้พี่ตายิ้มหลงอีกคนแล้วนะ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 07-09-2016 11:14:21
โถโถ ใส่เอี๊ยมมาข่มความหล่อของน้องไม้ ฮ่าาาาาาาา เอี๊ยมเนี่ยมันจะมาข่มเขาได้ยังง้ายยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 07-09-2016 11:37:24
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [2] UP! / [06/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 08-09-2016 09:10:38
คู่ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี่เม่นกับบุคคลปริศนาในอนาคคตหรือปล่าวนะ :hao4: รออ่านตอนพิเศษเรื่อยๆ จ้า ชอบๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 08-09-2016 11:49:58
Just you and I ตอนพิเศษ : คนละวัน [3]



         กลางคืนที่แสนสนุก ผมกำลังนั่งเล่นเกมส์ที่ได้มาใหม่จากไอ้ทู มันเอามาประเคนถึงห้อง มือหนึ่งเล่นเกมส์ อีกมือก็จกกินกล้วยทอดที่ซื้อมา แม้มันจะไม่กรอบแต่ยังอร่อย จังหวะเล่นเกมส์มันส์ๆ ดันมีสายเข้า ยืดคอมองไม่รับก็ไม่ได้ จำใจต้องหยุดเกมส์แล้วรับเฟสไทม์จากทางไกล

   (ทำอะไรอยู่) เสียงพร้อมหน้าของคนที่หายไปไร้การติดต่อ

   “กินกล้วยทอด” คาบกล้วยทอดให้ดูจนถูกหัวเราะใส่ “พี่ทำไรอะ” เห็นพี่โชเดินไปเดินมาจนเวียนหัว คงเอามือถือวางตรงไหนสักที่แหง

   (เก็บของ)

   “เก็บของ? จะกลับมาแล้วเหรอ” ถามแบบตื่นเต้น
 
   (ครับ กลับพรุ่งนี้)

   “อ๋อ...ห๊ะ” ตกใจจนกล้วยทอดพุ่งออกจากปาก ชิบกำลังจะหายครับ พี่โชกลับพรุ่งนี้ แล้วไอ้เม่นล่ะ ผมเริ่มกระวนกระวายเหงื่อแตกซิก หายใจหายคอไม่ทั่วถึง พี่โชกำลังพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเงยหน้ามาจ้องผม

   (เป็นอะไร ทำไมทำหน้าตลก) เสียงปนขำแต่ไอ้กลอยไม่ขำครับ

   “พะ พี่กลับพรุ่งนี้กี่โมง” จะเสียงสั่นทำไมไอ้เชี่ยกลอย ด่าตัวเองครับ

   (ออกจากที่นี่คงเย็นๆ หน่อย) เริ่มลนจนใช้จมูกดูดน้ำอัดลม (จมูกมันดูดน้ำได้เหรอวะ) พี่โชแม่งขำจนเช็ดน้ำตาจากหางตา ส่วนผมก็รีบใช้ปากคาบหลอดดูดเมื่อโดนทัก

   “ถึงกี่โมง” สำลักน้ำอัดลมจนพุ่งออกจมูก คนปลายสายขมวดคิ้วเหมือนเริ่มสงสัยท่าทางของผม

   (คงถึงมะรืนเช้าๆ มีอะไร ทำอะไรผิดไว้หรือเปล่า) เสียงโคตรนิ่ง แต่ผมรีบส่ายหน้ารัวๆ (แน่ใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดลับหลังพี่ ถ้าจับได้โดนหนักแน่) ข่มขู่พร้อมชี้หน้า ไอ้กลอยคนนี้รีบพยักหน้ารัวๆ ไม่ได้ๆ ต้องกลบเกลื่อน

   ผมรีบลุกให้พ้นจากกล้องแล้วกระโดดตบคลายความตื่นเต้น จนครบรอบที่ยี่สิบก็กลับมานั่งหอบแฮกอยู่หน้ามือถือ พี่โชยังเดินไปมา คงจัดของลงกระเป๋า

   “พี่โช” ลองเรียก คนปลายสายเดินกลับมานั่งจ้องเหมือนเดิม “ของฝากผมด้วยนะ” ยิ้มแป้น พี่โชขำก่อนชูถุงบางอย่าง

   (ของฝาก พอมั้ย)

   “พอ” ตาโตสิครับรออะไร ผมสั่งช็อกโกแลตอร่อยๆ นี่คงจะเหมามาทั้งร้านสินะ ถุงโคตรใหญ่ “ไม่ใช่ว่าถุงใหญ่แต่ข้างในมีสองอันหรอกนะ”

   (คิดว่าพี่เป็นคนแบบนั้นเหรอ)

   “ไม่” ยิ้มแป้นแล้นจนถูกขำ “คิดถึง รีบๆ กลับมานะปีศาจ”

   (พี่ก็คิดถึง จะรีบกลับครับ)

   กดวางแล้วถอนหายใจ มาถึงมะรืนไม่ใช่พรุ่งนี้ โล่งอก เกือบไปแล้ว ผมรีบโทรนัดเพื่อนทันที พอมันได้ยินของฟรีก็รีบตกลงทันที หึๆ รีบปิดเกมส์แล้วเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบไปทำภารกิจให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนปีศาจจะมา




   “มึงหัดมีความเกรงใจบ้างนะไอ้เชี่ยกลอย” โดนด่าพร้อมเบ้ปากใส่

   “มึงหวงของกินกับเพื่อนมึงเหรอ” กะอีแค่ขอกินขนมนิดๆ หน่อยๆ

   “ถ้ามึงกินนิดเดียวกูจะไม่บ่นไม่ว่า แต่นี่แม่งกินจนหมดถุงไม่เหลือให้ไอ้คนไปซื้อมาได้กิน มันเกินไป”

   “อ่าวเหรอ โทษทีๆ” หัวเราะแห้งๆ ให้ไอ้เชี่ยม่าน แหม ทีบอกจะพาไปเที่ยวฟรียังรีบแจ้นมาหา นี่ผมแค่กินขนมมันหมดถุงมีหน้ามาบ่นเป็นหมีกินผึ้ง

   “ซื้อมาใช้กูเลยนะ” ดูมันครับ นิสัยไม่ดีสุดๆ

   “เดี๋ยวกูเอาช็อกโกแลตที่พี่โชซื้อมาเอาแบ่งให้” พูดจบไอ้ม่านก็ดี๊ด๊าเป็นปลากระดี่ได้น้ำ “ยิ้มหน้าบานเลยนะมึงได้ของฟรีเนี่ย” แถมแพงอีกต่างหาก

   พวกผมนั่งรอไอ้คนที่จะมารับนานมาก สุดท้ายไอ้เม่นโทรมาว่ารถเสียสตาร์ทไม่ติด แล้วมันก็ไม่โทรมาบอกตั้งแต่แรก ปล่อยให้ผมกับไอ้ม่านนั่งรอรากแทบงอกอยู่ลอบบี้คอนโด

   “เอาไง” ไอ้ม่านหันมาถาม

   “ไปรับมันสิ” ผมบอก

   “รถกู?”

   “เออ”

   “ไอ้สัดเอ้ย ไหนบอกของฟรี แต่นี่รถกูอีก” ไอ้ม่านมันบ่นแต่ก็ยอมลุกออกไป

   นั่งรถกระบะคันใหญ่ของไอ้ม่านมาถึงหอพักที่ไอ้เม่นบอก ก็คล้ายๆ หอพักนักศึกษาทั่วไป โทรหาปุ๊บมันก็รีบออกมายืนยิ้มโบกมือทักทาย แต่มึงควรดูสถานการณ์ก่อนจะยิ้ม ไอ้ม่านหน้าหงิกมากที่สุด ขนาดผมว่าจะออกค่าน้ำมันให้มันยังหน้าบูดอยู่เลย
 
   “สวัสดีครับ” ไอ้เม่นยกมือไหว้เพื่อนผม ซึ่งได้พยักหน้ารับ

   ไอ้ม่านกับไอ้เม่น ป๊าดติโท๊ะ ชื่อคล้องกันสุดๆ

   ไอ้เม่นเปิดประตูขึ้นไปนั่งด้านหลัง รถกระบะสี่ประตูมีชายหนุ่มสามคนนั่งโดยที่จุดหมายคือ...ที่ไหนวะ

   “มึงจะไปไหน” หันไปถามไอ้คนที่นัด ไอ้เม่นยิ้มก่อนส่ายหน้า “อ่าว แล้วนัดกูทำเชี่ย” ด่าสิครับรออะไร

   “โหพี่ งั้นเราไปกินข้าวดูหนังกันดีกว่าเนอะ” มันพูดกับผม แต่ตาเหล่มองไอ้คนขับรถ “แล้วเพื่อนพี่ชื่ออะไรอะ”

   “มันชื่อม่าน ชื่อมอม้าเหมือนมึงเลย ม่านกับเม่น” ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนโดนไอ้ม่านยื่นมือมาตบหน้าผาก
 
   “รอยยิ้มมึงนี่กำลังคิดอะไรแผลงๆ อยู่ใช่มั้ย กูรู้นะมึง” โดนจ้องตาขวางแต่ไม่สน

   “พี่ชื่อม่านเหรอ เรียนที่ไหนอะ” ความช่างพูดของไอ้เด็กปีหนึ่งมันก็ดีแบบนี้แหละครับ เห็นไอ้ม่านเหลือบมองคนข้างหลังผ่านกระจก

   “กูเรียนเกษตรแต่ไม่ใช่ม.มึง”

   “อ่อ ก็ว่าไม่เคยเห็น”

   “แล้วมึงเป็นรุ่นน้องไอ้กลอยเหรอวะ”

   “ครับ แต่ไม่ใช่น้องรหัส อยากเป็นแต่ไม่ได้เป็น เศร้าเนอะ” ไอ้เม่นเหล่ตามามองผมแต่ผมทำไม่รู้ไม่ชี้

   “เหอะๆ ระวังนะมึง ผัวมันดุ” หันขวับมองเพื่อนตัวเองอย่างไว “เคยมีพวกกล้าแหย่โดนผัวมันกระทืบปางตายนอนโรงพยาบาลนู้น กูยังจำติดตาอยู่เลย”

   “กระทืบคนแบบนั้นแจ้งความก็ติดคุกนะพี่”

   “ถ้าเทียบกันไอ้เชี่ยนั้นคงติดคุกก่อน”

   “อ่อ”

   ผมนั่งฟังไอ้สองมอม้าคุยกัน แต่คล้ายๆ ว่าจะไม่ชอบขี้หน้าหรือเปล่า ไอ้ม่านกันท่าผมสุดฤทธิ์ แถมวันนี้ดูดุมาก หน้านิ่งตลอดทาง คงเพราะเคืองเรื่องรถนั่นแหละ

   รถไอ้ม่านเลี้ยวเข้าจอดใต้ห้างสรรพสินค้า พวกผมเดินเข้าห้างกะหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยไปดูหนัง แต่ไอ้ม่านจะดูหนังก่อนเพราะกินข้าวแล้วไปดูหนังมันง่วง เลยต้องเออออกับมันไปเผื่อมันจะอารมณ์ดีขึ้นมา ผมเดินข้างเพื่อนตัวเอง ส่วนไอ้เม่นเดินอยู่ด้านหลัง

   “กินไรวะ” ไอ้ม่านถามผม

   “มึงอยากกินไรเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” ผมว่า

   “โห นี่กูต้องถ่ายรูปเก็บไว้เยอะๆ จะได้เอาไปอวดไอ้เชี่ยอัธว่าได้กินของฟรีจากไอ้เชี่ยกลอย”

   “อย่ามาเว่อร์ได้ป่ะ กูก็สปอร์ตเถอะ”

   “สปอร์ตเหี้ยๆ ขนาดไอศกรีมสิบบาทมึงยังให้กูเลี้ยง”

   “ฝังใจจริง” หน้ามุ่ยใส่เพื่อนตัวเอง “มึงอยากกินไรวะ” หันไปถามรุ่นน้องที่เอาแต่เงียบ

   “สเต็กมั้ยพี่” กำลังจะเดินผ่านร้านเขียวๆ ขายสเต็กฟรีสลัดบาร์ ไอ้ม่านก็พยักหน้า ดังนั้นพวกเราจึงเดินเข้าร้าน พนักงานน่ารักเดินนำไปนั่งโต๊ะ

   เมนูถูกนำมาวางตรงหน้า อันนั้นก็น่ากิน อันนี้ก็น่าอร่อย ผมสั่งเป็นคนสุดท้ายเพราะมัวแต่เลือกมาก ไอ้เม่นกับไอ้ม่านไปตักสลัด พอผมเลือกได้พนักงานก็ยิ้มให้ หันไปมองตรงโซนสลัดบาร์ ไอ้เม่นตักนั่นนี่ ไอ้ม่านก็คอยถามว่ามันอร่อยหรือเปล่า อาจเพราะพวกผมไม่ค่อยมานั่งกินสเต็กกันเท่าไหร่ หากจะไปก็หมูกระทะนู้น

   แอบมองเพื่อนกับรุ่นน้องมันคุยกันเป็นปกติ ไอ้เม่นตักสลัดอะไรสักอย่างใส่จานไอ้ม่าน แต่เพื่อนผมมันก็ตักคืนจนไอ้เม่นขำ เริ่มแล้วๆ ผมมองอย่างมีความหวัง

   หาคนที่นิสัยเหมือนผมจะมีใครนอกจากไอ้ม่าน ความเกรียนสูสี แม้ความหล่อผมจะนำไปหน่อยก็เถอะ พวกมันสองคนเดินกลับมานั่งผมกำลังจะลุก ไอ้เม่นกับไอ้ม่านยังเดินกลับไปอีก แค่เอาจานสลัดมาวาง เพื่อนผมถือจานใบใหม่ มีเด็กรุ่นน้องคีบเส้นสปาเก็ตตี้ให้พร้อมราดน้ำเสร็จสรรพ แถมยังถือถ้วยซุปเห็ดหอมให้อีก แอบมองจนถูกไอ้ม่านตบหัวคางกระแทกกับโต๊ะโคตรเจ็บ

   “ไอ้สัด คางกู” น้ำตาเล็ดเลยครับ ไอ้ม่านมันหัวเราะไม่รู้สึกผิด

   “ไปตักสิวะ นั่งทำซากอะไร” อยากบอกว่ากำลังนั่งจ้องพวกมึงแต่ไม่กล้า

   ผมเดินซุยๆ ไปตักสลัด อันไหนอร่อยบ้างวะ ด้วยความไม่รู้ก็ตักมาแบบมั่วๆ พร้อมซุปเห็ดหอม อร่อยดี กว่าจะได้กินสเต็ก ผมก็อิ่มสลัดพอดี แล้วดันสั่งชุดใหญ่ด้วย เพราะความหิวแท้ๆ

   “ของมึงน่าอร่อยวะ” ผมบอกไอ้ม่านที่จานมันมีปลาชุบเกร็ดขนมปัง มันเหล่ตามองก่อนจะตักให้ผมอันหนึ่ง ผมเลยตอบแทนมันด้วยหมูก้อนหนึ่ง

   “ไอ้สัดกลอย ถ้ามึงจะให้กูขนาดนี้” ไอ้ม่านบ่น มันคงอิ่มสลัดเหมือนผม

   “ช่วยเพื่อนกินหน่อย” ผมว่า

   “กูเอาถุงมา” เบิกตาโตมองเพื่อนตัวเอง ขนาดไอ้เม่นยังเงยหน้ามอง

   “เอาถุงมาทำไม”

   “ตอนแรกจะเอามาใส่ของ ตอนนี้กูกะจะใส่สเต็กแล้วเอากลับไปกินที่ห้อง” อยากจะหัวเราะเพื่อนตัวเองแต่ก็ไม่กล้า มีไอ้เด็กปีหนึ่งมันหัวเราะล่วงหน้าไปแล้ว โดนไอ้ม่านเอามะเขือเทศปาหัวไปหนึ่งลูก “หัวเราะกูไอ้สัด”

   “ก็พี่แม่งตลกว่ะ” ไอ้เม่นพูดไปขำไป

   “กูหล่อด้วยเว้ย” เพื่อนผมเก๊กจนโดนเด็กปีหนึ่งมันขำอีกรอบเลยได้ค้อนไปหนึ่งวง

   “พี่แม่งตลกจริงๆ อะ”

   “เออกูตลก” ไอ้ม่านมีงอนด้วย นี่แหละความเกรียนที่เหมือนผม

   การกินสเต็กกับน้ำอัดลมที่เติมได้ตลอดวิ่งตีขึ้นมาจุกที่คอจนต้องวางมีดกับส้อมลง ไอ้ม่านยังยัดใส่ได้อยู่แต่ก็แค่แปบเดียวมันก็วาง

   “อิ่มป่ะ” ผมถาม ไอ้ม่านหันมาเรอใส่หน้าผมจนต้องหันหน้าหนี

   “ไอ้สัดม่าน” ด่ามันไปแต่มันกลับหัวเราะ ลูกค้าโต๊ะอื่นหันมามองทำหน้ารับไม่ได้เป็นแถวๆ

   “ก็มึงถามว่าอิ่มหรือเปล่า” มันยังหัวเราะร่วนไม่รู้สึกอับอาย

   “พ่องมึง” ด่าแค่นี้มันไม่ระคายผิวหรอกครับ มันด้านมากสุดๆ ไอ้เชี่ยม่าน

   มื้อนี้ไอ้เม่นขอเป็นคนเลี้ยง แต่ราคาเกินพันผมเลยช่วยออกครึ่งหนึ่ง ส่วนไอ้หน้าด้านมันเดินออกไปแล้ว

   “เพื่อนพี่นี่มันสุดยอดเลยว่ะ” ไอ้เม่นกระซิบผม

   “มันทำได้มากกว่านี้อีก ถ้ามึงสนิทกับมัน” ผมบอก คนฟังส่ายหน้าแล้วขำ

   เดินไปดูรอบหนัง มีแต่หนังน่าเบื่อ พวกผมเลยเปลี่ยนไปนั่งร้านกาแฟแทน แม้จะจุกแล้วแต่ผมยังสั่งเค้กมากินพร้อมกับห่อกลับบ้าน

   “เบื่อ” ไอ้ม่านว่า

   “แล้วพี่อยากไปไหน” ไอ้ม่านหันไปมองคนที่บ่นว่าเบื่อ

   “ไม่รู้ว่ะ”

   “ไปสวนสนุกมั้ย”

   “ไปตอนเที่ยงแม่งร้อน”

   “งั้นไปเล่นเกมส์”

   “อิ่มขนาดนี้อ้วกพอดี”

   “โว๊ะ แล้วพี่อยากไปไหนก็บอกมาสิวะ”

   ผมมองคนนั้นทีคนนี้ที มันทะเลาะกันแล้วครับ

   “อยากกลับ”

   “ห๊ะ” นี่เสียงผมครับ อยู่ๆ ไอ้ม่านก็อยากกลับเฉย “อยากกลับทำไมวะ”

   “พรุ่งนี้กูมีเทสสัด นี่มึงลืมที่กูบอกเหรอวะ แม่งไม่สนใจเพื่อนเลย” น้ำเสียงตอแหลมาก

   “นี่มันเพิ่งเที่ยงกว่าไอ้สัด หน้าอย่างมึงอ่านหนังสือก่อนเข้าห้องสอบกูรู้” ไอ้ม่านถลึงตาใส่ผมแต่มันก็หัวเราะ

   “เพราะมึงก็เป็น” ผมก็หัวเราะไปกับมัน แต่มีคนหนึ่งซึ่งมันไม่ยอมขำ มันเอาแต่หน้างอจนผมกับเพื่อนต้องหันไปมอง

   “ไปไรวะ” ไอ้ม่านถามก่อนผมจะอ้าปากอีก

   “เบื่อ”

   “เบื่อไรของมึง หรือเบื่อกูที่กำลังเป็น กอขอคองอเอกอาสอวอ  วะ” ไอ้เม่นส่ายหน้ารัวๆ

   “เปล่าพี่ ผมแค่เบื่อไม่รู้จะพาพี่ไปไหนดี” เพื่อนผมเหล่มองเด็กปีหนึ่ง

   สุดท้ายพวกเราก็วกกลับมาดูหนังเพราะไม่รู้จะไปไหนดี ยังโชคดีที่มาทันรอบพอดีเลยได้เข้าไปดูเลย ผมผลักไอ้ม่านให้ตามไอ้เม่นเข้าไปก่อนส่วนผมนั่งปิดท้าย พอไฟมืดลงก็มีเสียงกระซิบข้างหู

   “มึงไม่ได้คิดโง่ๆ จับกูถวายให้ไอ้เด็กนี่ใช่มั้ย” มันรู้ด้วยอะ

   “เปล๊า” ปฏิเสธเสียงสูง

   “แค่กูเห็นรอยยิ้มมึงเมื่อเช้ากูก็พอรู้แล้วไอ้สัด”

   “แล้วมึงชอบหรือเปล่า”

   “กูไม่ชอบเว้ย แล้วไอ้เด็กนี่มันก็ไม่ได้ชอบกู คนที่มันชอบคือมึง ถึงแม้กูจะนิสัยคล้ายมึงแต่มันไม่ใช่” ไอ้ม่านพูดจนผมหน้างอ

   “ขอโทษว่ะ”

   แผนผมไม่ได้ผลสินะ ระหว่างดูหนัง ผมกินป๊อบคอร์นแบบเซ็งๆ หนังมันเป็นซาวน์แทร็กที่ผมไม่ชอบ มันอ่านไม่ทันอ่ะ อีกอย่าง แผนการผมพังหมด ไอ้กลอยเสียใจ

   กว่าหนังจะจบผมก็หลบไปหลายรอบ ตอนเดินออกมาก็เดินตามหลัง ปล่อยให้เพื่อนตัวเองคุยกับเด็กปีหนึ่งไป พวกมันคงดูหนังแล้วชอบสินะ คุยกันถูกคอเชียว พูดถึงฉากที่ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง ทำไมผมดูไม่รู้เรื่องวะ อ่อ มัวหลับนี่เอง

   “ทำไมทำหน้างั้นพี่” ผมหน้างอมาตลอดทาง พวกเรากำลังจะกลับครับ

   “ก็พวกมึงคุยเหี้ยไรกันกูไม่เข้าใจ” ผมว่า ตอนนี้ย้ายมานั่งด้านหลังแทน

   “อ่าว พี่ไม่ได้ดูหนังเหรอ สนุกออก” ไอ้เม่นมันยิ้ม

   “กูหลับ”

   “โหพี่ หนังโคตรตื่นเต้น หลับได้ไงวะ”

   “หนังทรีดีผีพุ่งเข้าหามันก็หลับ” ไอ้ม่านแทรก แล้วพวกมันก็หัวเราะ เลยแจกนิ้วกลางให้เพื่อนตัวเองไป “แล้วนี่กูต้องไปส่งมึงที่หอใช่มั้ย” คนขับหันไปถามคนที่นั่งข้างๆ แต่ผมรีบเสนอตัวขึ้นมาก่อน

   “ส่งกูก่อน พี่โชจะกลับกูยังไม่ได้เก็บห้อง”

   “อย่าลืมของฝากกู”

   ไอ้ม่านขับมาส่งผมก่อนมันจะไปส่งไอ้เม่นต่อ ผมเดินกลับขึ้นห้องด้วยความง่วง ขนาดนอนในโรงหนังมาแล้วยังง่วง พอขึ้นห้องมาผมก็เริ่มเก็บของ ผ้าปูเตียงแม่บ้านซักแล้วเปลี่ยนให้เรียบร้อย ออกไปรดน้ำกระบองเพชรแต่เริ่มออกดอกเล็กๆ

   มือพ่นฉีดน้ำไปคุยกับกระบองเพชรไป หรือเพราะผมมาพูดกับมันทุกวันมันเลยออกดอก ผมเล่าเรื่องวันนี้ให้ต้นกระบองเพชรฟังแม้ไม่มีเสียงตอบกลับแต่ก็ได้ระบาย พอเดินกลับเข้ามา มือถือก็สั่นพอดี

   ‘ถึงห้องแล้ว’ ข้อความจากไอ้เม่น

   ‘ไม่ได้ตีกับเพื่อนกูใช่มั้ย’ พิมพ์ถามมันไป

   ‘เปล่า’ ค่อยโล่งอก แม้สิ่งที่หวังไม่เกิดขึ้นก็เถอะ ‘ขอบคุณนะครับ’

   ‘ขอบคุณกูทำไม’

   ‘ที่ยอมออกไปเดทด้วยไง’

   ‘เออ จบแล้วนะ คนละวันที่กูให้พวกมึง ทำตามที่ตกลงด้วย แค่นี้นะ กูยุ่งอยู่’ แล้วไอ้เม่นก็ส่งหัวหอมโบกมือส่งท้าย

        ตอนแรกคิดว่าจะยาก พอเอาเข้าจริง ไอ้เม่นก็จัดการง่ายกว่าที่คิด โล่งใจมากในจุดๆ นี้

   ผมจัดการเก็บของทุกอย่าง ปัดกวาดแม้จะไม่มีฝุ่นอะไรเพราะป้าแม่บ้านทำหมดแล้ว ไม่รู้ตอนนี้พี่โชจะอยู่ไหนแล้ว ไม่โทรหาเลย แต่โทรหาคงไม่ได้เพราะคงนั่งเครื่องบินอยู่

   จัดนั่นจัดนี่ไปพอมองนาฬิกาอีกทีก็เกือบทุ่ม ทำไมเวลาเดินไวแบบนี้ มิน่าท้องร้อง ผมทำกับข้าวง่ายๆ กิน เหงาเหมือนกัน ทุกทีจะมีพี่โชคอยตั้งใจกิน พอนึกแล้วก็คิดถึง

   นั่งเล่นเกมส์ไปเรื่อยๆ จนง่วงก็ไปนอน คืนนี้ผมว่าฝนต้องตกแน่ เสียงฟ้าร้องดังมาแต่ไกล อยากมีปีศาจให้นอนกอด



   เสียงฝนตกกระหน่ำจนต้องนอนขด แม้จะเร่งแอร์ให้สูงขึ้นแต่ก็ยังหนาว

   “ชู่ว” ลมหายใจอุ่นๆ รดใบหน้า “นอนนะ”

   ผมปรือตามองเมื่อรู้สึกถูกดึงเข้าไปกอด กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคย

   “พี่โชกลับมาแล้วเหรอ”

   “กลับมาแล้วครับ” เสียงกระซิบพร้อมจูบหน้าผากผมเบาๆ แล้วผมก็ผล็อยหลับในอ้อมกอดอุ่นๆ ไปตลอดคืน ก่อนจะมารู้สึกถูกเขี่ยให้ตื่น ถีบแล้วแต่มันยังมาเขี่ยๆ แถวขา

   “ฮือ” งัวเงียไม่อยากตื่นแต่ไอ้ที่เขี่ยขามันไม่ยอมหยุด จนต้องลืมตาขึ้นมองแล้วเกือบตกเตียงเมื่อเห็นหมูสีขาวตัวใหญ่เกือบเท่าผมที่นั่งอยู่ มันใส่แว่นสวมเสื้อผ้าด้วย หน้าตามันโคตรกวน “หมูเชี่ยไรวะเนี่ย”

   “ของฝาก” เสียงจากด้านหลังหมู

   “ของฝากผมเหรอ” มองอย่างงงๆ “ทำไมต้องหมูอะ”

   “ก็มันเกรียนแล้วก็กวนดี” 

   “แล้วช็อกโกแลตผมล่ะ” พี่โชชี้ในกระเป๋าเสื้อของหมู ล้วงออกมามีแต่ช็อกโกแลตรูปหัวใจ

   “ชอบมั้ย”

   รีบพยักหน้ารัวๆ แล้วกระโดดกอดหมูยืดแขนไปถึงพี่โชแต่ได้แตะแค่นิดหน่อย (แขนสั้น)

   “ขอบคุณครับ” โคตรซึ้งอะ แต่...

   “อธิบายมาด้วยว่านี่คืออะไร” มือถือผมถูกยื่นผ่านไอ้หมูกวนมา ผมก็มองงงๆ จนถูกมือหมูตบหัว “ข้อความในนี้คืออะไร เดทอะไร พี่บอกให้ลบบล็อกไอ้เด็กพวกนี้แล้วไม่ใช่หรือไง” เสียงปีศาจกับตัวเป็นๆ อยู่ตรงหน้า เพราะหมูถูกเหวี่ยงลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้น ความโรแมนติกเมื่อกี้หายวับไปกับตา

   “ไหน ไม่มี๊” ปฏิเสธเสียงสูง แม้หลักฐานนะทนโท่ยากที่จะปฏิเสธ

   “ไอ้กลอย” ใบหน้าหล่อนิ่งจนเหงื่อเริ่มแตก ลืมลบไปเลย มัวแต่เก็บของ ยังดีที่ลบของไอ้เบียร์กับไอ้ไม้ เหลือไอ้เม่นเมื่อคืน

   “พี่ต้องฟังผมก่อน” รีบยกมือห้ามคนที่เริ่มขยับเข้ามาใกล้ “คืองี้นะ ผมให้มันไปเดทกับไอ้ม่าน จริงๆ” ปีศาจไม่เชื่อผมครับ ขายาวๆ ยิ่งก้าวเข้ามาใกล้ ผมต้องถอยร่นไปจนเกือบชิดหัวเตียง

   “บอกความจริงมา หนึ่ง...”

   “พูดจริงๆ ผมจะให้มันไปชอบไอ้ม่านเลยวางแผนไว้เฉยๆ”

   “สอง”

   “พี่โช เชื่อผมสิ”

   “ทำไมต้องให้ชอบม่าน”

   “ก็มันชอบคนเกรียนๆ แบบผม ไอ้ม่านก็เกรียนไม่แพ้ผม”

   “แล้วมันชอบมั้ย”

   “ไม่รู้”

   “จากเหตุผลมันไม่ได้ผลอยู่แล้ว”

   “อยากน้อยก็ทำให้มันเลิกมายุ่งกับผมไง”

   “ถ้ามันไม่เลิกล่ะ”

   “ให้พี่ไปกระทืบมันเลย”

   พี่โชจ้องผมในระยะที่มือคว้าได้ ดวงตาดุกำลังมองอย่างจับผิด แต่ผมทำตาโตจ้องตอบให้รู้ว่าไม่ได้โกหก

   “ถ้าไปกระทืบอย่าห้ามด้วย” โดนจิ้มหน้าผากจนหงายหลังลงไปนอนกองที่เตียง พร้อมกับร่างปีศาจพุ่งมาคร่อม “คิดถึงจะตายอยู่แล้ว”

   “มากด้วย” อ้อนครับ กอดพี่โชแน่น แม้คนที่คร่อมจะสนใจแต่ซอกคอผม

   “พรุ่งนี้มีเรียนมั้ย” คนอยากรู้ถามพร้อมกับมือที่ขว้างเสื้อยืดเก่าๆ ผมไปนอนตายข้างตู้เสื้อผ้า

   “หยุดอีกหนึ่งวัน” ตอบตามความจริง มือก็ถอดเสื้อคนด้านบนออก

   “มีเวลาทั้งวันทั้งคืนสินะ” รอยยิ้มดั่งปีศาจปรากฏขึ้นบนหน้าหล่อ ผมยิ้มมุมปากแล้วพยักหน้า “ลุกไม่ขึ้นแน่ เพราะความคิดถึงของพี่มันเยอะ” กระซิบแล้วขบใบหูจนขนลุกกราว

   “ผมก็คิดถึงเยอะเหมือนกัน” ไอ้กลอยก็ยั่วเป็นนะครับ ผมจับหน้าพี่โชมาจูบเนิ่นนาน ความคิดถึงและความโหยหามันพุ่งพล่านไปทั่วตัว

   “ยั่วเก่งนักนะเรา” โดนกัดจมูกเมื่อริมฝีปากผละออกจากกัน

   “ไม่ชอบเหรอ” ขยิบตาให้จนปีศาจขำ

   “ชอบมาก ยั่วให้ตลอดนะห้ามหยุด”

   “จะยั่วทั้งวันทั้งคืน เอาให้หมดแรงเลยคอยดู”
 
   ปากเก่งไปอย่างงั้นแหละครับ เอาเข้าจริง คงเป็นผมนั่นแหละที่จะหมดแรงก่อน งั้นผมขอเวลาถ่ายทอดความคิดถึงกับพี่โชก่อนแล้วกัน ส่วนใครที่อยากเห็นผมถูกทำโทษละก็ ขอแสดงความเสียใจด้วย พวกคุณผิดหวังแล้วล่ะ เพราะปีศาจรักผมมากกว่าที่คุณคิด วะฮะฮ่าๆๆ



       ห๊ะ อะไรนะ ผมยั่วเพื่อกลบเกลื่อนความผิดเหรอ จุ๊ๆ เดี๋ยวปีศาจรู้ทันมันจะไม่ดี



...

ปีศาจรึจะสู้เกรียนได้ ไม่มีทางซะหรอก ฮ่าๆๆๆๆๆ

เม่นกับม่านสมควรได้ไปต่อมั้ยคะ 555555 >w<   

แล้วเจอกันตอนพิเศษตอนหน้าค่าาาาาาาา       :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-09-2016 12:12:18
รอดไปนะน้องกลอยคนเกรียนนะ งี้แหละพี่โชความหื่นเข้าตาก็ลืมหมดแล้ว แต่เฮ้ยยยย เม่นม่านมันได้อะ ขอพิเศษคู่นี้แถมด้วยได้ไหม รึขอเปิดเรื่องใหม่ดี ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 08-09-2016 12:49:37
สมควรที่สุด เพราะเม่นม่าน คือ ของคู่กัน เนื้อคู่กัน  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 08-09-2016 12:51:27
เม่นม่าน เปิดเรื่องใหม่ ก็ดีเลยนะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 08-09-2016 13:30:30
ดีนะพี่โชหื่น ไม่งั้น น้องกลอยไม่รอด จะว่าไป นี่ก็ไม่รอดเหมือนกันนะ ไม่รอดการหื่นพี่โช :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-09-2016 13:45:01
เกือบไม่รอดแล้วไหมล่ะน้องเกรียน ... เอ๊ย ... น้องกลอย ฮ่าๆ รู้อยู่ว่าพี่โชหึงโหดขนาดไหน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ราตรีสีน้ำเงิน ที่ 08-09-2016 16:26:59
อ่านรวดเดียวจบ
สนุกดีๆ


รอดตัวไปนะกลอย
 :z1:

ลงตอนพิเศษอีกน๊าาา
รอจ้าาา...


 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-09-2016 17:39:50
น่าจะไปเปิดสำนักหมอดูหรือจับคู่อะไรพวกนี้นะน่าจะรุ่ง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 08-09-2016 18:56:11
ขอตอนพิเศษอีกเยอะๆเลยยยย :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 08-09-2016 19:49:28
ต่อสิ เม่นม่าน ต่อเลยๆๆๆๆๆๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-09-2016 21:24:39
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 08-09-2016 21:27:26
เม่นม่าน เหมาะกันและ ชื่อก้อคล้อง 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:คนละวัน [3] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 08-09-2016 22:01:35
555 กลอยยั่วกลบเกลื่อนความผิดนี่เอง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 08-09-2016 23:27:12
Just you and I [Sun & Jom] : เข้าใจ



[Sun]

       การเข้าใจมันเป็นเรื่องยากสำหรับผมในตอนนี้ ในตอนที่คนข้างตัวก้มหน้าเล่นแต่มือถือ ผมเห็นไอ้จอมมันพิมพ์คุยกับใครก็ไม่รู้มาหลายอาทิตย์แล้ว ผมอยากจะเอามาดูแต่มันคงไม่ชอบใจแล้วโมโห ผมเลยเลือกที่จะสังเกตและแอบไม่พอใจเงียบๆ อยู่แบบนี้

   มันบ่นว่าเบื่อผมก็รีบพามันออกมาเที่ยว แต่มันกลับทำตัวเป็นคนสังคมก้มหน้าไม่สนใจใคร ถ้าเป็นคุณจะทำยังไงกับเหตุการณ์นี้ดี

   “มึงเลิกเล่นสักทีได้มั้ย” ผมว่า ไอ้จอมมันเงยหน้ามองนิดเดียวก็ก้มหน้าพิมพ์ข้อความต่อ “จะกินมั้ยข้าวเนี่ย” เริ่มโมโหครับ แม้ผมจะใจเย็น แต่แบบนี้มันเกินจะทนไหว

   “ทำเชี่ยไรวะ” ไอ้จอมตวาดที่ผมดึงมือถือมันมา แม้มันพยายามจะยื่นมือมาแย่งแต่ผมก็เก็บเข้ากระเป๋า “เอาโทรศัพท์กูคืนมาไอ้ซัน”

   “มึงจะสนใจมือถืออะไรนักหนาวะ คุยกับใครถึงกับไม่สนใจกู” ผมเป็นผู้ชายแต่ก็น้อยใจเป็นนะครับ เคยหัวเราะไอ้โชที่มันน้อยใจเด็กมัน วันนี้โดนซะเองขำไม่ออกเลยทีเดียว

   “เรื่องของกู เอามือถือมา” ไอ้จอมไม่ยอม มันลุกขึ้นมานั่งข้างผมแล้วพยายามล้วงเอามือถือตัวเองไป “ไอ้ซัน”

   “กูไม่ให้” ปัดมือที่พยายามล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง “ไอ้จอม”

   “มึงไม่มีสิทธิ์มายุ่งโทรศัพท์กู” ผมหยุดการปัดป้องปล่อยให้มันเอาของๆ มันคืนไป ความรู้สึกเสียใจ ใช่ มันเสียใจ ไอ้จอมไม่สนใจท่าทางของผม เพราะมันยังก้มหน้าพิมพ์มือถือตัวเองยิกๆ

   มื้ออาหารจบไปแบบเงียบๆ ไร้การพูดคุยแม้จะกลับมาถึงห้อง ผมเหนื่อย ทำงานก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว กลับมาก็อยากจะได้กำลังใจจะได้มีไฟในการสู้รบปรบมือกับพวกบรรดาพวกที่คอยข่มเด็กใหม่

   คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานผมก็ออกมานอนบนเตียง ปล่อยไปครับ ไม่สนแล้ว ยิ่งสนยิ่งตามใจผมนี่แหละเหนื่อยเอง ไอ้จอมมันไม่สนใจความรู้สึกของผมเลย กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเตียงข้างๆ ยุบลง มันคงเข้านอน เหลือบมองนาฬิกาปาเข้าไปตีหนึ่ง

   เช้ามาผมก็ออกจากห้องก่อนคนร่วมห้องจะตื่น ผมย้ายมาอยู่กับไอ้จอมเพราะมันไม่ยอมย้ายไปอยู่บ้านผม ตอนนี้ผมซื้อบ้านจัดสรรไว้หลังหนึ่ง หรือบางทีเราควรจะห่างกันบ้าง

   การทำงานที่แสนวุ่นวายและเหนื่อยหน่ายกับการถูกดูถูกดูแคลนจากคนมีประสบการณ์มากกว่า ไม่ว่าผมจะทำอะไรดีเลิศเลอแค่ไหนก็มักจะถูกเหน็บแนมเสมอ

   ผมตัดสินใจอยู่นานกว่าจะเดินเข้าห้องผู้จัดการพร้อมกับยื่นซองขาวให้ เธอเป็นคนเก่งที่รับผมทันทีตอนได้คุยก่อนสัมภาษณ์ด้วยซ้ำ ออกจากห้องผมก็เริ่มเก็บของ เพราะผมยังเป็นแค่พนักงานจ้างชั่วคราว

   เลิกงานผมโทรนัดพวกไอ้แทมไปคลายเครียด พวกมันรีบตกลงทันที รู้สึกอยากปลดปล่อยมากที่สุด เบื่อ เครียด เหนื่อย เอาให้เมาไปข้างหนึ่ง มาถึงที่นัดเจอไอ้ตินมาจองโต๊ะก่อนใครเพื่อน สภาพมันก็คงพอๆ กับผม

   “ไงมึง หน้าโทรมมาเชียว” ไอ้ตินทัก ผมก็ยิ้มๆ ตอบมันไป

   “คนอื่นล่ะ” นั่งลงข้างๆ คว้าแก้วมาชงเอง

   “กำลังมา” ชนแก้วกับเพื่อนแล้วยกซด “เป็นไรของมึง แดกขนาดนี้อยากเมาสินะ”

   “เออ”

   “ทะเลาะกับไอ้จอมมาละสิ” มองขวางใส่ไอ้ติน “มึงก็น่าจะรู้จักมันดี นิสัยมันก็เป็นแบบนั้น”

   “กูก็พยายามเข้าใจมันตลอดเวลา แต่มันไม่สนใจไม่พยายามเข้าใจกูเลย” บ่นจนไอ้ตินตบบ่าปลอบใจ “กูกลับห้องก็อยากจะเจอคนเข้าใจ เอาใจกู แต่กูต้องมานั่งตามใจมันตลอดเวลา กูเหนื่อย”

   “กูไม่รู้จะปลอบมึงยังไงดี ลองถามไอ้คนมีประสบการณ์ดู” ไอ้ตินบุ้ยปากไปทางด้านข้าง ไอ้โชเดินมาพร้อมเด็กของมัน “ไงมึง เอาเมียมาอดเหล่สาวนะมึง”

   “พูดพ่อง” ไอ้โชถลึงตาใส่แต่ไอ้กลอยมันหัวเราะไม่คิดมากแต่พอหันมาเห็นผมก็ทำตาโตถลามานั่งข้างทันทีจนโดนแฟนมันดึงแขนให้ลุกแล้วไอ้โชก็นั่งคั่นกลาง กับผมมันยังหวงอยู่

   “พี่จอมไม่มาเหรอ” ไอ้กลอยยื่นหน้าข้ามแฟนมันมาถามผม ผมส่ายหน้าจนมันยู่ปาก “แล้วพี่จอมไม่รู้ใช่มั้ยว่าพี่มาที่นี่เนี่ย” มันกำลังจับผิดอะไรผมอยู่หรือเปล่า ไอ้เด็กนี่มันเซ้นดี มันดูออกตั้งแต่แรกเรื่องผมกับไอ้จอม แม้จะปฏิเสธแต่มันก็ไม่ยอมเชื่อ

   “อืม” บอกไปตามตรง

   “นิสัยไม่ดี เนอะ” ช่วงแรกดูมันบ่นก่อนจะเงยหน้าถามไอ้โช เพื่อนผมมันก็ยิ้มแล้วพยักหน้าให้

   “ไอ้เหี้ยโช มึงไปเมืองนอกกลับมาไม่มีของฝากให้เพื่อนบ้างเหรอวะ” ไอ้ตินทักขึ้น

   “ไม่มี”

   “ไอ้แล้งน้ำใจ สะกดเป็นมั้ย น้ำใจน่ะ”

   นั่งกินนั่งดื่มได้สักพัก ไอ้แทมก็มาพร้อมไอ้เบและแฟนของมัน มาถึงก็ใส่กันไม่ยั้ง บ่นเรื่องงานกันบ้าง เรื่องครอบครัวบ้าง เรื่องส่วนตัวกันบ้าง ผมก็นั่งฟังไปไม่พูดอะไร จนมีคนเดินเข้ามาที่โต๊ะ ผมกำลังจะเงยหน้าขึ้นมอง แต่โดนหมัดตรงเน้นๆ เข้าหน้าจนมึน

   “เชี่ย ไรวะ” ผมสบถ พวกเพื่อนๆ พากันแตกตื่น

   “เป็นเหี้ยไรของมึงไอ้จอม ต่อยไอ้ซันทำไม” ไอ้ตินดึงไอ้จอมที่กำลังจะพุ่งมาต่อยผมอีกรอบ

   “กูจะต่อย ปล่อยกูไอ้ติน” คนถูกจับพยายามดิ้นแต่ถูกไอ้เบช่วยจับอีกด้านเลยขัดขืนไม่ได้

   “ใจเย็น ค่อยๆ พูดกันสิวะ” ไอ้โชเข้าไกล่เกลี่ย โดยมีเด็กของมันทำหน้าเสีย...รู้ตัวการแล้ว

   “จะใจเย็นได้ไง มึงดูที่เพื่อนมึงทำกับกูสิ เคยบอกกูสักคำมั้ยว่าจะกลับดึกหรือไปไหนมาไหน” ถูกชี้หน้าด่า ผมขมวดคิ้วแลบลิ้นเลียมุมปากที่มีเลือดนิดๆ

   “แล้วมึงสนใจกูด้วยเหรอว่ากูจะไปไหน” ผมพูดอย่างหมดความอดทน “กูพยายามทำทุกอย่าง ตามใจมึงทุกเรื่อง แต่มึงไม่เคยเข้าใจกูเลย”

   “กับกูมึงใช้คำว่าพยายามเหรอวะ”

   “เพราะพี่เอาใจยากไง อุ่ย” เด็กไอ้โชพูดแทรกไม่ดูเวลาเลยถูกผมกับไอ้จอมตวัดสายตามองอย่างขุ่นเคือง มันรีบซ่อนหลังแฟนตัวเองทันที

   “มึงไม่เต็มใจทำให้กูก็บอกมาตรงๆ อย่าพยายามทำเพราะมันไม่จริงใจ” ผมกระพริบตามองไอ้จอมที่เหมือนมีน้ำใสๆ รื้นที่ตา

   “กูไม่ได้หมายความแบบนั้น” รีบแก้ตัว

   “กูเข้าใจแล้ว ต่อไปมึงไม่ต้องพยายามแล้ว กูเข้าใจ”

   “ไอ้จอม” ผมตะโกนเมื่อมันเดินหนีไป

   “พี่รีบตามไปสิ ถามความจริงด้วยนะ” จ้องเด็กไอ้โชที่ยื่นมือมาผลักแขนผม

   ผมรีบวิ่งตามหลังที่เห็นแต่ช้าไปเพราะมันขึ้นรถแล้วขับรถออกไปแล้ว คงร้องไห้ด้วย รีบกลับไปที่รถของตัวเองแล้วขับตามไป ผมคงเหนื่อยเกินไปเลยอารมณ์เสีย เหยียบคันเร่งตามจนเห็นท้ายรถที่คุ้นตา มันกลับคอนโดนั่นแหละครับ

   พอรถคันหน้าจอดที่ลานจอด รถผมก็ไปจอดเทียบ รีบเปิดประตูออกไปแล้วคว้าแขนขาวๆ นั่นไว้แน่น ไอ้จอมพยายามสะบัดแต่ผมจับไม่ปล่อย ออกแรงดึงคนตาแดงบวมเข้าไปด้านใน

   “ปล่อยกู” ไอ้จอมมันพยายามต่อยผม แต่ผมหลบทันและรวบแขนมันไว้ “ไอ้ซันปล่อยกู”

   กว่าจะถึงห้องผมก็เหงื่อตกกับการดิ้นรนไม่ยอมของไอ้จอม ในห้องมีกลิ่นขนมปังที่ลอยแตะจมูกจนต้องเลิกคิ้วมองหา ไอ้คนร้องไห้เดินหนีเข้าห้องนอนไปแล้ว ผมยังเดินอยู่ที่ห้องด้านนอก จมูกตามกลิ่นหอมไปจนถึงโต๊ะที่มีฝาใสครอบตัวบัตเตอร์เค้กอยู่

   ลองปิดออกแล้วชิมดู แม้จะไม่อร่อยเหมือนร้านชั้นนำ แต่สำหรับผมถือว่าอร่อย ยิ่งเห็นสภาพครัวที่เละเทะแล้วก็นึกขำ ข้างๆ เตาอบมีกระดาษเอสี่จดสูตรเอาไว้ คงจะทำอันนี้สินะ เห็นแบบนี้แล้วอยากจะต่อยหน้าตัวเองแรงๆ สักร้อยที

   เดินไปเคาะประตูห้องนอนแต่ไร้เสียงตอบกลับ ผมเลยเดินย้อนไปหยิบกุญแจสำรองมาเปิด ไอ้คนงอนนอนคว่ำหน้ากับหมอน นี่คือท่าประจำทำให้รู้ว่ากำลังงอน ผมเดินไปสะกิดแต่ถูกไหล่สะบัดมือออก

   “จอม” ผมลองเรียกเบาๆ แต่ยังไร้เสียงตอบกลับ “ลุกมาคุยกับกูก่อน”
 
   “ไอ้ (ไม่)” เสียงอู้อี้จากหมอน

   “กูขอโทษ” ผมบอก “กูคงเหนื่อยเกินไปเลยมาลงที่มึง ขอโทษนะ” พูดจบไอ้คนนอนคว่ำก็หันกลับมามอง

   “ไม่รับคำขอโทษ ออกจากห้องกูไปเลย” แล้วก็ซุกหน้ากับหมอนตามเดิม

   “เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกหรอก หันมาคุยกับกูดีๆ มา” ออกแรงพลิกร่างที่บางกว่าผมให้นอนหงาย แม้จะใช้แรงมากสักหน่อยแต่ก็ไม่ยาก “ขอโทษที่ใช้คำว่าพยายาม” ไอ้จอมหน้างอไม่ยอมพูด “จอม”

   “ไม่ต้องเรียกชื่อกู มึงไม่ไว้ใจกูเลย”

   “กูเชื่อใจมึง แต่บางทีมึงก็ต้องบอกกูบ้าง กูอยากรู้ทุกเรื่อง อยากแชร์ทุกเรื่องกับมึง”

   “ก็กูอาย” มันบอกเสียงเบาจนผมขำ

   “ที่คุยนั่น คุยกับเด็กไอ้โชเหรอ” ผมถาม ไอ้จอมก็พยักหน้า “เรื่องทำบัตเตอร์เค้ก?” พยักหน้ามาอีกรอบ

   “กูอยากลองทำเฉยๆ”

   “อร่อย” ผมบอกด้วยรอยยิ้ม

   “อะไร”

   “เค้กมึง อร่อย” ผมว่า แต่ไอ้จอมตาโตเท่าไข่ห่าน ท่าทางตกใจจนผมขมวดคิ้ว “อะไร”

   “มึงกินแล้วเหรอ” ผมพยักหน้า “ไอ้เชี่ย กูยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย” ว่าจบมันก็ลุกพรวดออกจากเตียงพร้อมคว้ากล้องถ่ายรูป ได้ยินเสียงโวยวายแล้วก็อดขำไม่ได้

   เดินออกมาเห็นไอ้คนชอบถ่ายรูปพยายามหามุมที่ไม่เห็นรอยที่ผมบิดไปกิน ท่าทางตั้งใจทำให้ผมรู้สึกหายเครียดเป็นปลิดทิ้ง

   “ขอบคุณที่ทำเพื่อกู” ผมเดินไปสวมกอดคนรักจากด้านหลัง คนในอ้อมกอดดูสะดุ้งนิดๆ แต่ก็ยอมให้ผมกอด “ขอโทษที่ทำตัวงี่เง่าใส่ ต่อไปกูจะไม่พยายามแต่กูจะตั้งใจทำ”

   “ต่อไปกูจะบอกแล้วกันว่าทำอะไรอยู่” เสียงตอบจากคนในอ้อมกอดทำให้ผมยิ้ม

   “แล้วเลิกเล่นมือถือด้วย เล่นทีไรไม่สนใจกูเลย” ผมว่า ไอ้จอมมันขำ

   “เพราะกูถามสูตรอยู่เถอะ มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้เป็นเด็กติดมือถือขนาดนั้น”

   “ครับ” ยื่นหน้าหอมแก้มไปฟอดใหญ่ แล้วพลิกตัวคนในอ้อมกอดมาก็เจอมือยื่นมาจับมุมปาก

   “เจ็บป่ะ” คนต่อยถาม

   “เจ็บสิ ถ้ามึงจูบก็หาย” ยื่นหน้าข้างที่ถูกต่อยให้ ไอ้จอมเบ้ปากแต่ก็ยื่นหน้ามาจูบ ผมรีบจับหน้ามันแล้วจูบตอบหนักๆ จนโดนตีแขนเลยถอนจูบออกมา

   “กินเค้กเลย กูถ่ายรูปแล้ว”

   “ไม่อยากกินเค้ก”

   “อ่าว”

   “อยากกินคนทำมากกว่า”

   “ไอ้เชี่ยซัน”

   ผมแบกร่างคนน่ารักสำหรับผมขึ้นบ่าแล้วตรงเข้าห้อง ไอ้จอมไม่ใช่คนหวาน ไม่ใช่คนแสร้งเขินอาย ความต้องการมันก็มีมากพอๆ กับผม พวกเราไม่มีคำว่าถอยอยู่แล้ว

   จูบพรมไปทั่วร่าง ฝากรอยไปทั่วตัว เพราะมันเป็นของผมคนเดียว ทุกครั้งที่คนใต้ผมส่งเสียงครางแผ่วเบาคล้ายลูกแมวยิ่งกระตุ้นให้ผมอยากขึ้นไปอีก คล้ายกับโรคจิตชนิดหนึ่ง คอผมถูกงับไปทีหนึ่งคาดว่าคงเป็นแผลแน่นอนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ บทรักบรรเลงจนไม่อยากให้สิ้นสุด แต่ผมอยากถนอมร่างนี้ไปให้นานที่สุด

   “กูรักมึงนะ” ผมบอกรักพร้อมจูบพรมที่พวงแก้มใส

   “รู้แล้ว” คนใต้ร่างหน้าแดงสุกปลั่ง “แต่เสียงข้อความเข้าเมื่อกี้” ไอ้จอมยืดมือจะคว้ามือถือแต่ผมรีบจับแล้วสอดเข้าไปที่ๆ เรากำลังเชื่อมกันอยู่ ถ้าคิดว่าบทเพลงจบลงผมจะพอ “ไอ้เชี่ยซัน ไอ้เลว” ถูกด่าพร้อมหน้าแดงๆ ทำเอาหัวเราะลั่น

   “กูตกงานแล้ว มึงต้องปลอบใจกูนานๆ หน่อย” ขยิบตาให้ เลยโดนฝ่ามือตบเข้าแก้มเบาๆ

   “ไอ้หื่น มึงตกงานแล้วใครจะเลี้ยงกูวะ อ๊ะ ไอ้เชี่ย อื้อออ” ปล่อยให้มันด่าแค่นั้นละครับ ผมปิดปากขี้บ่นด้วยปาก บทเพลงรักครั้งนี้ มาพร้อมความเข้าใจของผมกับคนรัก



   ส่วนเค้กคงไว้กินพรุ่งนี้ เพราะคนทำอร่อยกว่าแน่นอนไอ้ซันฟันธง






   (ข้อความที่ไม่ได้อ่าน)

   ‘พี่ลองกินเค้กดูหรือยัง อร่อยหรือเปล่า’

   ‘พี่จอม หรือทะเลาะกับพี่ซันอยู่ แต่ช่วยตอบผมด้วย’

   ‘พอทุกอย่างเสร็จสิ้น ไอ้กลอยคนนี้ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป ตะเตือนไต’ (ส่งสติ๊กเกอร์ลิงร้องไห้)

...


กลอยประเกรียนโดนเททุกรอบเลย ฮ่าๆๆๆๆ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-09-2016 23:52:29
อารมณ์เหมือนกลอยเป็นชู้ที่ต้องคอยแอบเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-09-2016 00:13:38
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-09-2016 00:14:38
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
กลอยต้องตะเตือนไตกี่รอบ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-09-2016 00:36:01
ไม่ต้องเสียใจนะกลอย เดี๋ยวให้พี่โชปลอบสัก 2-3 คืนก็แล้วกันนนนน :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-09-2016 01:28:35
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 09-09-2016 02:07:02
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆ 555+

สนุกสนานอ่านไปเรื่อยๆได้อย่างเพลินๆจริงๆค่ะ

ชอบวิธีกำจัด3ตัวจอมป่วนนั้น

SJก็น่ารัก จอมอะไรจะแม่บ้านแม่เรือนขนาด^^

เม่นม่าน ก็น่าจะสนุกแบบปนแซ่บ ไหม??

ยิ่งอ่านยิ่งเพลิน ไม่หมดได้ไหมคะ ตอนพิเศษ เหมือนได้ค้นพบอาหารจานโปรด อยากจะขอเพิ่มเพราะกินยังไงๆก็ไม่มีวันอิ่ม

ขอบคุณมากๆค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 09-09-2016 16:03:28
จอมแลพยายามมากนะให้ซันพอใจดูน่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 09-09-2016 16:42:23
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 09-09-2016 16:54:29
ลากขึ้นเตียงแต่แรกก็จบ ฮ่าา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-09-2016 18:19:09
น้องกลอยนี่น๊า เกรียนได้ตลอด พี่ๆ เขาคุยกันอยู่ลูก อย่าเพิ่งไปกวน ไปกวนพี่โชก่อนนะถ้าเหงา ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: panda11 ที่ 09-09-2016 18:49:06
เป็นอีกเรื่องที่จะเก็บเป็นนิยายโปรด ไว้อ่านหลายรอบๆ สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 09-09-2016 19:20:55
อยากอ่าน ม่านเม่น ต่อจ้า....ซันจอม ชีวิตคู่ก็เงี้ย ทะเลาะกันยิ่งลูกดก :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-09-2016 19:34:08
จอม ทำเค้กให้ซันด้วย
โอ้....มีความพยายามมาก
จอม น่ารักมากเลยนะ
กลอยประเกรียน ก็เก่ง บอกสูตรเค้กจอม
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 09-09-2016 22:53:25
จอมน่ารักมากเลย ซันด้วยนน่ะ
กลอยหมดคสามหมายแล้วว ฮ่าๆๆๆ ไปฟ้องพี่โชเรฌว อิอิ เอาตอนพิเศษเยอะๆๆๆน่ะ ชอบๆๆ เหมือนได้เห็นช่วงเวลาที่สำคัญทุกรูปแบบเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 10-09-2016 15:30:10
อยากรู้ฟลอย์กับต้อมอะ ว่าเป็นมายังไง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-09-2016 01:46:21
โถวว นึกว่าจะดราม่าซะแล้วววว ส่วนกลอยนี่โดนเททุกรอบยังไม่ชินอีกเหรอ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 11-09-2016 04:34:55
ตอนพิเศษมารัวๆๆเลยย
ดีจังงง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 11-09-2016 12:26:39
ตอนพิเศษมารัวๆเลย
เยอะกว่าตอนหลักอีก 55555
จุใจมากกกก
ฟินกับม่าน-เม่น
คู่นี้น่าจะมีต่อ(เซ้นส์กลอยเกรียนบอกมา 5555)
จะรอตอนพิเศษตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 11-09-2016 20:26:33
กลอยนี่กวนขั้นสุดรึยัง หรอยังพีคได้อีก ชอบๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 12-09-2016 21:11:41
วู๊ๆๆๆพี่จอมน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 12-09-2016 21:23:39
55555555555 กลอยประเกรียนน :hao7:

ปล.ขอตอนพิเศษอีกเยอะๆเล้ยยยย :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เข้าใจ [S&J] UP! / [08/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 12-09-2016 22:10:02
ชอบซันจอมสุด เรื่องนี้555+ :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 13-09-2016 22:45:22
Just you and I ตอนพิเศษ : ค่ำคืนแห่งความวุ่นวาย



       “พี่โช ไอ้ต้อมโทรมา” ผมเกริ่นหลังจากถูกจ้องแล้วจ้องอีกเมื่อวางโทรศัพท์ลง “มันบอกจะเลี้ยงตอบแทนเรื่องข้อมูลที่ส่งให้”

   “ที่ไหน” ถามกลับโคตรไว

   “ร้านเพิงยาดองหลังมหาลัยผมนั่นแหละ พี่โชว่าไง” แอบเหลือบมองปฏิกิริยาของคนข้างๆ
 
   “ชวนมากินที่ห้องนี่แหละ”

   “หา”

   “ก็วันนี้พวกไอ้แทมจะมากินที่นี่อยู่แล้ว ก็ชวนมากินทีเดียว”

   “มันไม่มาหรอกมั้ง”

   “ลองโทรไปชวนก่อน”

   ยู่หน้าให้คนขี้หวง พี่โชเหล่ตามองผมก่อนจะหันไปดูละครจักรๆ วงศ์ๆ ตอนเช้าวันหยุด โตขนาดนี้ยังติดละครอีก ผมจะดูการ์ตูนไม่ได้ดูเลย เซ็ง

   เดินออกมาที่ระเบียง กดต่อสายหาไอ้ต้อม รอสายนานกว่าจะมีคนรับ แต่ปลายสายไม่ใช่เจ้าของเครื่องแน่

   (ครับ)

   “พี่ฟลอยด์?”

   (ครับ)

   “เอ่อ ต้อมไม่อยู่เหรอครับ”

   (ต้อมเอาผ้าไปตาก รอแปบหนึ่งนะครับ) ได้ยินเสียงพี่ฟลอยด์ตะโกนเรียกเพื่อนผม (ว่าไงมึง)
 
   “แหม ขนเสื้อผ้าไปอยู่ด้วยกันแล้วเหรอวะ” แซวมันไป ไอ้ต้อมก็ไม่เถียง มันดีตรงที่ไม่ได้แก้ตัวหากเป็นเรื่องจริง

   (เหมือนมึงนั่นแหละไอ้ห่ากลอย แล้วมีไร)

   “ที่มึงชวน...”

   (พี่โชไม่ให้ไปใช่มั้ย) ไอ้ต้อมรีบขัดขึ้นทันที (กูว่าแล้ว)

   “มึงฟังกูก่อน คือวันนี้พวกเพื่อนพี่โชจะมากินที่ห้อง แล้วพี่โชให้ชวนมึงมาด้วย”

   (แต่กูไม่รู้จักใคร)

   “กูไง ไอ้ทูก็มา พี่โชมึงก็รู้จัก แล้วเพื่อนกูคนที่มันหาข้อมูลให้ก็มานะ มึงอยากเจอมันไม่ใช่เหรอ” รีบหาสิ่งล่อครับ ไม่งั้นไอ้ต้อมไม่มาหรอก มันบ่นอยากเจอไอ้อัธตลอด

   (เอาไงดี...) ได้ยินไอ้ต้อมถามพี่ฟลอยด์ว่าจะมาห้องผม ผมเข้าใจนะ พี่ฟลอยด์กับพี่โชไม่ค่อยถูกกันด้วย ฝ่ายนั้นคงลำบากใจแหง (ไอ้กลอย ที่ห้องมึงกี่โมงวะ)

   “เย็นๆ” ไม่น่าเชื่อว่าพี่ฟลอยด์จะมา

   (อืม เดี๋ยวกูซื้อของเข้าไปด้วย แค่นี้นะ กูตากผ้ายังไม่เสร็จ) ก่อนไอ้ต้อมวางไอ้ยินเสียงมันบ่นคนที่ตากผ้าไม่เป็น ผมหันเข้าไปมองคนที่นั่งดูละครตอนเช้าแล้วแอบยิ้ม อย่างน้อยที่โชก็ตากผ้าเป็น




   ปัดกวาดเช็ดถูห้องก่อนจะเกิดสงครามความเมา ผมชี้ให้เจ้าของห้องดูดฝุ่นพื้นพรมที่ปูด้วย ส่วนผมก็กำลังปัดฝุ่นบนตู้ อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกันทำงานบ้านครับ แฟร์สุดๆ

   คนที่มาคนแรกคือพี่ตินครับ หิ้วถุงที่มีกล่องสีดำเข้ามา ตอนวันทำงานท่าทางโคตรอิดโรย พอจะเมานี่พี่แกดี๊ด๊าสุดๆ หลังจากพี่ตินเข้าห้องยังไม่ทันได้นั่ง พวกไอ้อัธกับไอ้ม่านก็มา มันเอาพวกของสดมาลำบากผมต้องทำกับแกล้มให้อีก จ้องพวกมันตาขวางแต่มันไม่สนใจ

   “ทำให้อร่อยๆ นะเพื่อนเลิฟ” ไล่เตะไอ้ม่านแต่มันวิ่งหนี ทำไมไม่ซื้อที่เขาทำมาแล้วไม่เข้าใจ

   เดินหน้างอหิ้วถุงเข้าครัว คอยดู เดี๋ยวจะเอาให้แซ่บนัวจนลุกเข้าห้องน้ำแทบไม่ทันเลย

   มัวแต่ขลุกในครัวเลยไม่ได้ออกไปรับพี่แทมที่หิ้วกุ้งเผาตัวใหญ่มาเป็นกิโล แถมด้วยส้มตำเจ้าเด็ดอีก รวมกับกุ้งแช่น้ำปลา กับยำที่ผมทำก็กินแทบไม่หมดแล้วขอบอก

   “อร่อย” พี่โชเดินมาหยิบกุ้งแช่น้ำปลาไปกินตัวหนึ่งยกนิ้วโป้งให้ มันแน่นอนอยู่แล้ว นี่ใคร นี่กลอยประเกรียนครับ ทำทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินหน้ามันออกไปนั่งล้อมวงด้วย

   “โห ไอ้กลอย หน้ามึงเอาไปทอดไข่ได้เลยนะ” โดนพี่แทมว่าไปหนึ่งดอก เลยเช็ดหน้ากับหลังพี่โชอย่างเคืองๆ คนโดนเช็ดก็ได้แต่ขำไม่ช่วยด่าเพื่อนตัวเอง

   “มึงไปว่าให้มันทำไมวะ เดี๋ยวก็โดนไล่ออกห้องหรอก ผัวมันดุอย่างกับหมา ไอ้สัด” พี่ตินเหมือนจะเข้าข้างผมแต่มาด่าพี่โชแทนเลยโดนน้ำแข็งก้อนปาเต็มหน้าผาก

   “พี่เก็บน้ำแข็งด้วย ห้ามให้มันละลายบนพื้นนะ” ผมชี้บอกตรงที่น้ำแข็งวางอยู่ พี่ตินทำตาโตแล้วเก็บ

   “ผัวมึงปาหัวกูแท้ๆ” แอบเห็นพี่ตินเอาน้ำแข็งก้อนนั้นหย่อนในแก้วพี่แทมด้วย โคตรสกปรก คนโดนก็ไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่หัวเราะ

   “พวกพี่นี่อะไรไม่รู้ ดูเพื่อนผมนี่ สงบเสงี่ยมไม่โวยวายสักนิด” ใช่ครับ ไอ้อัธกับไอ้ม่านไม่โวยวายเพราะพวกมันกำลังต่อสายพ่วงคาราโอเกะแล้วด่ากันเองเพราะต่อสายผิด ปกติจะเป็นเจ้าของห้องทำ วันนี้พี่แกขี้เกียจเลยใช้คนอื่น สรุปแล้วก็พี่โชนั่นแหละครับที่รำคาญเลยลุกไปทำ

   “ไอ้พวกไม่ได้เรื่อง มาๆ” พี่แทมกวักมือเรียกเพื่อนผมก่อนชนแก้วดังสนั่นจนแก้วแทบแตก

   กำลังจะอ้าปากบ่นเสียงกริ่งประตูดังขึ้นมาซะก่อน ผมรีบวิ่งไปแง้มดู เป็นไอ้ต้อมกับพี่ฟลอยด์ ข้างหลังมีไอ้ทูกับพี่เบด้วย

   “เข้ามาเลยๆ” ผมกวักมือเรียกทุกคนให้เข้ามา ไอ้ต้อมกับพี่ฟลอยด์ดูเกรงใจที่เข้าห้องคนอื่น แต่ไอ้ทูกับพี่เบมาบ่อยจนเดินแทบจะเหยียบหัวผมก่อนเข้าห้องแล้ว “โห เอาไรมาเยอะแยะเนี่ย” รีบเข้าไปช่วยถือถุงจากไอ้ต้อม พอเข้ามาแล้วดูมันตกใจที่เห็นบรรยากาศที่เริ่มตั้งวงกันแล้ว

   “คนเยอะ” ได้ยินเสียงมันพูดเบาๆ ผมเลยยิ้มให้พร้อมกับแนะนำให้รู้จักทุกคน

   “พี่ๆ นี่เพื่อนผมเอง มันชื่อไอ้ต้อม แล้วนี่พี่ฟลอยด์...” ยังพูดไม่จบ พวกขี้เมาก็ไม่สนใจอีก เพราะมัวแต่ยกแก้วชน “นั่งเลยๆ พี่ฟลอยด์นั่งเลย” ผมพาทั้งคู่มานั่งรวมในวงสุราที่เริ่มไปก่อนหลายแก้ว เห็นถุงเมื่อกี้มีเพิ่มมาอีกสองกล่อง คืนนี้คงเมายาวสินะ
 
   เพื่อนพี่โชแกก็ดูแลคนใหม่ของห้องดี พี่ตินดูแลเรื่องแก้วเหล้าจนลามมาแขวะผม อะไรวะ ผมไม่ดีตรงไหน ขยับไปหาพี่โชที่ยกแก้วไปจ้องสมาชิกใหม่ของวงไป

   “จ้องทำไม” ผมกระซิบถาม พี่โชเหล่ตามามองแล้วส่ายหน้า “พี่โช” กดดันทางสายตาให้รู้ว่าต้องพูด

   “แค่แปลกๆ ที่เห็นไอ้ฝอยขัดหม้อมานั่งในห้อง” เสียงกระซิบข้างหูเพื่อให้ได้ยินแค่สองคน ถึงจะพูดดังกว่านี้ก็ไม่มีคนสนใจเพราะมัวแต่ฟังไอ้อัธร้องเพลงคาราโอเกะ

   “วู้วๆๆ” ทุกคนปรบมือพร้อมร้องตามเพลงตัวร้ายที่รักเํธอที่ไอ้อัธกำลังครวญอย่างไพเราะ แต่มีคนหนึ่งที่ไม่สนใจชาวบ้าน...

   พี่แทมนั่นแหละครับ

   พี่แกกำลังเลือกเพลงที่จะร้องแข่งกับไอ้อัธ หวังว่าคงไม่ร้องไล่สมาชิกใหม่ไปหรอกนะ ผมละกลัวจริงๆ คือกลัวเส้นประสาทในหูของไอ้ต้อมกับพี่ฟลอยด์จะขาดไปซะก่อน เพราะต้องทนฟังเสียงผิดคีย์จนแก้วหูจะทะลุ

   “ถึงกูจะร้าย กูก็รักไม่น้อยกว่าเขา แล้วเหตุใดเล่า จึงเป็นตัวเราที่แพ้เสมอ ทุกๆ อย่างทุกการกระทำเพียงหวังให้เธอ หันมาเจอะเจอ หันมาจ้องมองและลองสนใจ” ผมร้องคลอเพลงตามประจวบกับไอ้อัธหันมามองนิดๆ ผมเลยยกนิ้วโป้งให้ มันยิ้มแล้วหันกลับไปมองหน้าจอที่มีเนื้อเพลงอีกรอบ “และตอนสุดท้ายก็คงต้องตายในตอนจบ ไม่มีใครคบ ไม่มีใครเห็น ไม่มีสนใจ ถึงกูจะร้ายแต่ก็รักเธอจนสุดหัวใจ อยากให้รู้ไว้ ถึงฉันจะร้ายแต่ก็รักเธอ”

   กว่าเพลงนี้จะจบ พี่แทมก็ลิสรายชื่อเพลงตัวเองยาวเป็นกิโล พี่ตินตบหัวเพื่อนตัวเองแล้วให้เลือกร้องคนละสองสามเพลง แต่คนที่ชอบร้องไม่ยอมเพราะพี่แกร้องจบก็วิ่งหนีไม่ให้คนอื่นแย่งไมค์ อ้อ เอารีโมทไปด้วยกลัวถูกกดปิด

   “มันคงเป็นความรัก ที่ทำให้ตัวฉัน ยังยืนอยู่ตรงนี้” แค่พี่แทมขึ้นเพลงนี้มา ผมก็หันไปมองไอ้ต้อมกับพี่ฟลอยด์ ความรู้สึกประทับใจที่เคยได้ฟังเพลงนี้มากำลังจะหายไป อีกไม่กี่วินาทีที่จะได้ยิน ความประทับใจจะเลือนหายไปตลอดกาล คนที่สร้างความประทับใจนั้นคงรู้สึกเหมือนกัน พี่ฟลอยด์ถึงขั้นกุมขมับ ไอ้ต้อมขำอย่างเดียว

   “ปวดหูเหี้ย” พี่โชบ่นเมื่อเจอเสียงเพลงสุดเพี้ยนเข้าไป ถึงขนาดเดินไปแย่งไมค์ออกมา “ไอ้ฝอย มึงร้องสักเพลง” พี่โชเอาไมค์ยื่นให้พี่ฟลอยด์ครับ แต่มันไม่ธรรมดาตรงเรียกชื่อนี่แหละ นี่ก็ไม่เคยจะฟัง สั่งห้ามแล้วแท้ๆ เพราะกลัวมีเรื่อง ไม่ได้เป็นห่วงพี่โชเท่าไหร่เพราะถ้ามีเรื่องเพื่อนเยอะไงครับ แต่พี่ฟลอยด์มาคนเดียว สู้ไม่ไหวแน่นอน

   “สรุปมึงชื่อฟลอยด์หรือฝอยวะ” พี่แทมหน้ามุ่ยถาม คงยังเคืองที่ถูกแย่งไมค์ ผมโคตรลุ้นกลัวพี่ฟลอยด์จะโมโห

   “ชื่อฟลอยด์...ครับ” อยากลองตบหน้าตัวเอง (แต่กลัวเจ็บ) พี่ฟลอยด์พูดใส่หางเสียงด้วย แม้น้ำเสียงจะสะบัดๆ นิดหนึ่ง คงไม่พอใจอยู่แล้ว เรียกชื่อซะเสียหายแบบนั้น

   แล้วผมก็โดนดึงเข้าไปเอี่ยวเมื่อพูดเรื่องชื่อ พี่โชยังเฉยแปลว่าไม่โกรธผมเลยรีบขัดขึ้นแล้วบอกไอ้ต้อมเป็นแฟนพี่ฟลอยด์ ทุกคนเลยเปลี่ยนเรื่อง คงกลัวคนทะเลาะกันแน่ เพราะเห็นพี่แทมเหล่มองพี่โชด้วย รู้ฤทธิ์เดชกันอยู่แล้ว

   ทุกคนมัวแต่สนใจเรื่องอื่นลืมสังเกตพี่แทมที่เดินไปขอไมค์พี่ฟลอยด์แบบเงียบๆ ดีที่พี่โชเห็นแล้วชี้นิ้วสั่ง เลยโดนบ่นเงียบไปชุดใหญ่

   “ขัดกูตลอด เซ็ง” พูดแล้วก็กลับไปนั่งที่ตัวเอง มีไอ้อัธตบบ่าปลอบใจ แต่มันขำพี่อยู่นะเห็นปะ

   เพราะไม่รู้จะร้องเพลงอะไร เพลงที่พี่ฟลอยด์ร้องจึงเป็นเพลงที่พี่แทมเลือกไว้ตั้งแต่แรก โปเตโต้มาเชียว แต่ก็เกือบไม่รอดถูกทิ้งไว้กลางทางตามชื่อเพลง แม้เสียงจะเพราะก็เถอะ ดีที่ไอ้อัธช่วยแหกปากร้องด้วยเลยผ่านไปได้ด้วยดี แต่สองคนนี้ประสานเสียงกันโคตรเพราะ คือคนร้องเพราะเจอกัน อะไรก็น่าฟัง

   “เพราะมาก” ไอ้ม่านตบมือเปาะแปะหลังเพลงจบ

   “ทีกูร้องแม่งไล่ลงตลอด กูเสียใจ”     
 
   พี่แทมดราม่าแต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคนชูแก้วขึ้นชนกัน แล้วคนงอนก็รีบยกแก้วตาม สรุปงอนเองหายเอง ผมเริ่มสังเกตเห็นพี่ฟลอยด์เริ่มพูดคุยกับพวกพี่ตินแล้วก็เบาใจ แต่พวกเพื่อนของพี่โชเข้ากับคนง่ายอยู่แล้ว แม้เมื่อก่อนจะเป็นพี่ว๊ากที่น้องกลัวจนหัวหดก็เถอะ ก็เล่นหน้าโหด เสียงดังซะขนาดนั้น

   ผมกำลังจะยกแก้วขึ้น พี่โชก็กระแอมทันที ยู่ปากทำให้รู้ว่าไม่เกินห้าแก้วแน่นอน ระหว่างเหล้าแตะปากตาก็รีบเหลือบมองไอ้ต้อมลุกออกไปพร้อมไอ้อัธ พวกมันไปไหน หันไปมองพี่ฟลอยด์ก็เห็นขมวดคิ้วจ้องแทบจะทะลุกระจก ขี้หวงแต่ไม่แสดงออกสินะ

   นานมากกว่าไอ้สองคนนั้นจะเข้ามา แต่ก่อนหน้านั้นพี่จอมกับพี่ซันก็มา คู่นี้มาสายแถมมามือเปล่าอีก กะมากินอย่างเดียวสินะ พอไอ้ต้อมเข้ามาผมก็กะจะแนะนำ เดินไปคว้าแขนมันแล้วต้องหลับตาปี๋เมื่อหมัดพุ่งเข้ามา

   ไม่เจ็บ...ค่อยๆ ปรือตาทีละข้าง เห็นหมัดไอ้ต้อมอยู่ในฝ่ามือพี่โชที่ยื่นมาบังหน้าผม เข่าอ่อนทันที เชี่ยเอ้ย เกือบเจ็บตัวแล้วไอ้กลอย

   “ไอ้เชี่ยต้อม ใจเย็นๆ มึง กูเองๆ” หลังจากตั้งสติได้ผมก็รีบพูดรัวๆ “กูแค่จะแนะนำให้รู้จัก นี่พี่ซัน แล้วก็พี่จอม” ผมชี้ไปที่คนมาใหม่ พี่ซันยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร พี่จอมก็จ้องนิ่ง “ส่วนนี่ไอ้ต้อม แฟนพี่ฟลอยด์” ผมรีบออกตัวก่อนจะโดนอะไรย้อนเล่นงาน เพราะพี่แทมกำลังจะอ้าปาก ต้องจ้องเล่นผมแน่ พอผมแนะนำแบบนั้นก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะ

   พี่จอมเปิดไมค์รอบสอง แม้ไม่เพี้ยนมากแต่ก็เพี้ยนอยู่ พี่ซันก็เอาแต่คุยกับพี่โชไม่สนใจแฟนตัวเองที่กำลังเต้นโยกเป็นคาราบาวกับพี่ติน

   “ไหวหรือเปล่าพี่น้องคร้าบ” เสียงพี่ตินเรียกความคึกครื้นให้คนเมา พี่ฟลอยด์ยังชูมือเป็นเขาควายด้วย เห็นไอ้ต้อมนั่งหัวเราะแฟนมัน คงเมาได้ที่แล้วสินะ

   ระหว่างที่พวกร้องเพลงกำลังเมามันส์ หันไปมองไอ้ม่านที่กำลังป้องปากคุยโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อกี้ สงสัยกับไอ้เม่นมีความคืบหน้า ถ้าเรียนที่เดียวกันคงรู้มากกว่านี้ แต่มันเรียนคนละที่ แถมนานๆ ผมจะได้เจอไอ้เม่น ส่วนเพื่อนผมแชทไปถามก็เงียบ ซุ่มตลอด แต่ก็ไม่พ้นเซ้นส์ของไอ้กลอยคนนี้ได้หรอก หึๆ ไอ้ต้อมมันขยับตัวห่างผมแต่ผมก็ดึงมันมานั่งข้างๆ เหมือนเดิม มันว่าผมเป็นโรคจิตด้วย ผมเปล่าเป็นโรคจิตนะ...ใช่มั้ย





   ตอนเย็นยังไม่คึกเท่าตอนดึกครับ ยิ่งเหล้าในขวดลดไปเท่าไหร่ ความสนุกยิ่งเพิ่ม ผมรีบเข้าไปในห้องหยิบถุงที่พี่กิ่งฝากซื้อพวกวิกผมที่จะเอาไปใส่ในงานเลี้ยงบริษัทออกมาให้พวกพี่เขาใช้ก่อน แต่ละคนก็รีบหยิบไป เห็นไอ้ต้อมเอาใส่หัวพี่ฟลอยด์อันหนึ่งด้วย น่ารักดีนะครับ แต่ถ้าลองเป็นผมสิ โดนเขกหัวแน่ ไม่ดีๆ

   “พร้อมมั้ยๆ” พี่แทมทำมือแบบฮิปฮอปกวักลงเหมือนเด็กแนว เมื่อเพลงสาละวันถูกเปิด เห็นพี่จอมวิ่งไปดึงพี่ฟลอยด์ออกมาเต้นด้วย ถ้าไม่ใช่พี่จอมคงไม่มีใครกล้าผมว่า

   “เตี้ยลง เตี้ยลง เตี้ยลง เตี้ยลงสาวะลันเตี้ยลง เตี้ยลง เตี้ยลง เตี้ยลง เตี้ยลงสาละวันเตี้ยลง” ทุกคนประสานเสียงร้องพร้อมย่อตัวลง พี่ฟลอยด์ตลกสุดเมื่อย่อลงไม่พร้อม เลยถูกพี่จอมตบหัว ผมควรสงสารใช่มั้ย แต่ทำไมมันขำวะ

   นั่งขำพี่ฟลอยด์ที่เริ่มย่อจนหัวเข่าแทบติดพื้นไปพร้อมกับพวกพี่แทม พี่โชก็ถูกพี่ตินมาลากออกไปพร้อมคำท้าว่าสู้พี่ฟลอยด์ไม่ได้ คนท้าไม่ได้ก็เดินออกไปแบบเท่ๆ แต่ไม่ย่อหรอกครับ แล้วก็ไม่มีใครตบหัว พี่โชเหล่เพื่อนๆ ย่อตัวตามเพลง ก่อนยักไหล่นิดๆ แค่นั้นแม่งก็ขำแล้ว พอเพลงเริ่มคึกก็ยักไหล่เพิ่มขึ้น

   เมื่อเพลงจบทุกคนก็หอบแฮ่ก ขนาดพี่โชที่เต้นไม่ออกแรงมากยังหอบ ผมยื่นแก้วให้ก็รีบยกดื่ม

   “เหนื่อยป่ะ” ผมกระซิบถาม พี่โชพยักหน้าตอบ “เต้นไม่เท่าคนอื่นแต่เหนื่อยว่ะ”

   “เออ” ตอบแบบเรียบๆ จนผมขำ

   หายเหนื่อยพี่จอมก็เลือกเพลงแล้วเอาไมค์ยัดมือพี่ฟลอยด์ เพลงโคตรโหด ร้องไปลิ้นพันกันแน่ ยิ่งคนเมาด้วยแล้ว พี่ฟลอยด์ส่ายหน้าทันที พี่แทมเลยแย่งไมค์ไปให้พี่ซันแทน คนเลือกเพลงส่งเสียงไม่พอใจ

   “ไม่ถามกูสักคำ” พี่ซันส่ายหน้าแต่ก็เริ่มร้องเพลงกรุณาฟังให้จบ มีลิ้นพันกันพอประมาณแต่ก็ยังประคองตัวจนร้องจบ แต่คนร้องตามแม่งมั่วทุกประโยค ขนาดผมยังมั่วเนื้อเลย

   “กูร้องต่อ กูจองแล้ว” พี่ตินรีบแหวกเพื่อนมาแย่งไมค์ทันที “เพลงนี้กูโคตรภูมิใจ เป็นเพลงที่ทำให้กูมาถึงจุดนี้ได้” เพลงบรรเลงขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ พี่ตินยืนตัวตรงก่อนวาดแขนอย่างนักร้องโอเปร่า แต่เสียงที่เปล่งมามันไม่โอนะ ออกแนวปวดแก้วหูมากกว่า แถมตลกด้วย

   เพลงหนึ่งจบอีกเพลงก็ขึ้นวนไปแบบนั้นจนดึกดื่น พี่ฟลอยด์ก็ไปรวมกลุ่มด้วย เมาแล้วนิสัยออกสินะ พี่โชเริ่มไม่เก๊กแล้วด้วย เห็นคุยกันปกติ พอทุกอย่างดีอะไรก็ราบรื่น ตอนนี้ก็นั่งขำลูกเดียว ความเมาไต่ระดับจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน หมดกันคนหล่ออย่างพี่ฟลอยด์ ความประทับใจในเพลงบนเวทีจบด้วยเพลงตุ่มของอะแคปเปร่าเซเว่น

   แอบมองหาเจ้าของห้องที่คงหนีเข้าไปนอนอยู่ในห้องแน่ เวลาเมาหนักๆ มักจะเซไปนอนในห้องตลอด เดินไปเปิดดูก็เป็นแบบนั้นครับ พี่โชนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงแล้ว หันออกมาอีกทีพวกด้านนอกก็เริ่มทิ้งตัวนอนเกลื่อนปล่อยซากของกินกระจายเต็มพื้น ลำบากใคร ก็ไอ้กลอยนี่แหละครับ ยังดีที่มีไอ้ต้อมช่วย มันคงกะจะกลับแต่สภาพพี่ฟลอยด์คงต้องนอนที่นี่

   ตอนแรกมันดึงดันจะกลับ สุดท้ายก็ยอมนอนเพราะคนเมาไม่ยอมลุก มันยืมหมอนกับผ้าห่มไป ผมดูแลคนเมาบนเตียงที่เอามือปัดผ้าเย็นๆ ที่ผมเช็ดตัวให้ ดื้อมาผมก็ตีไปหลายแปะ เห็นไอ้ต้อมมันหัวเราะผมตอนอาบน้ำเสร็จแล้วออกห้อง

   “พี่โชเว้ย อย่าดิ้น” โวยวายใส่คนเมาไปก็แค่นั้น คำตอบกลับมาก็มีแต่เสียงอื้ออึง “โอ้ย เจ็บเว้ย” โดนฝ่ามือตบเต็มแก้ม แม้ไม่หนักแต่ก็เจ็บนะเว้ยเฮ้ย “เดี๋ยวปั๊ดถีบตกเตียง” ถีบจริงนะครับแต่ถีบเบาๆ แต่คนเมาก็ยังไม่ยอมลืมตา

   ผมเดินเข้าห้องน้ำหลังจากลอกคราบคนเมาบนเตียงจนเหลือแต่กางเกงในสีดำ ออกมาอีกทีคนเมาแม่งถอดจนร่างกายเปลือยล่อนจ้อน ดีที่คนข้างนอกเมาปลิ้น ไม่งั้นเข้ามาเห็นคงตกใจเป็นแถวๆ ที่มีมังกรอยู่ในห้อง (อวยแฟนตัวเองก็แบบนี้)

   ค้นเสื้อกับกางเกงบอลมาใส่ให้คนบนเตียงอย่างลวกๆ โคตรเหนื่อยที่ต้องมารับมือคนเมาแบบนี้ ใครไม่เคยก็ไม่ต้องลองหรอกนะครับ ไม่สนุก เพราะกว่าจะเก็บของข้างนอกเสร็จก็ยังต้องมาดูแลคนเมาอีก รู้แบบนี้ไปกินที่ร้านง่ายกว่าอีก ไม่ต้องล้างจานหรือเก็บกวาด

   “อยู่นิ่งๆ นะ ผมจะไปอาบน้ำ” ชี้นิ้วสั่งคนไม่รู้เรื่อง ผมอาบน้ำไม่นานออกมาก็เห็นคนเมาถอดเสื้อกับกางเกงทิ้งข้างเตียงแล้วก็บ่นร้อน แอร์ต่ำกว่ายี่สิบองศานี่ยังบอกว่าร้อน จะทิ้งให้นอนเปลือยก็กลัวเป็นหวัด ผมเลยต้องใส่เสื้อผ้าให้คนเมาอีกรอบแล้วลดแอร์ลง อีกนิดเดียวก็ขั้วโลกแล้วนะ สุดท้ายคนเมาก็สิ้นฤทธิ์นอนหลับไปโดยที่ผมนอนมุดอยู่ในผ้าห่ม แค่โผล่หัวไปก็หนาวยันขา

   กว่าจะเช้าผมแทบหายใจไม่ออก พี่โชยังนอนนิ่งไม่ตื่นแต่ผมต้องตื่นเพื่อทำกับข้าว เดินโซเซออกมาเห็นกองคนเมานอนอยู่ที่พื้น คู่ที่สบายหน่อยก็คู่เดิมนั่นแหละครับ พี่ซันกับพี่จอมที่ยึดโซฟาเป็นเตียง ไอ้ต้อมกับพี่ฟลอยด์ก็นอนกอดกันกลม นอนกันตามสบายนะ ไม่ต้องสนใจไอ้กลอยประเกรียนคนนี้ (พูดทั้งน้ำตาแบบคนดราม่า)

   ผัดนู้นผัดนี่สักพักไอ้ต้อมก็มา มันดูแปลกใจที่ผมทำเยอะขนาดนี้ ไม่อยากจะบอกว่านี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ โดยเฉพาะพี่จอมที่ไม่เคยหยุดแค่จานเดียว ข้าวผัดเสร็จคนขี้เมาก็พร้อมกิน พี่โชเดินมากอดเอวแล้วหอมแก้มผมแบบทุกทีในตอนเช้าแบบนี้

   “อยากกินข้าวต้ม” พี่โชบอกข้างๆ หู

   “ไว้พรุ่งนี้เช้านะ” ผมบอก คนอยากกินพยักหน้าเบาๆ

   “ตอนเย็นอยากกินขนมจีน”

   “อยากกินอะไรที่มันง่ายๆ หน่อยได้ป่ะ”

   “พี่รู้ว่าเมียพี่ทำได้”

   “เหรอ” ลากเสียงยาวเลยถูกบีบจมูก

   ก่อนความสวีทของผมจะทำให้คนในห้องอ้วกเอาข้าวผัดออกมา พี่โชก็แยกไปนั่งกินข้าวกับพี่จอมที่กินเป็นจานที่สองจนเกลี้ยง

   “กูกลับก่อนนะ” ทุกคนเริ่มทยอยกันกลับ ผมยืนล้างจานอยู่ในครัวกับไอ้ต้อม วันนี้มีไอ้ต้อมมาช่วยเบามือไปเยอะ ระหว่างล้างไปก็แอบชำเลืองมองพี่โชกับพี่ฟลอยด์ที่นั่งดูทีวีด้วยกัน

   “ญาติดีกันแล้ว” ผมว่าออกมา ไอ้ต้อมมองหน้าผมก่อนหันไปมองบ้าง

   “ดีแล้ว กูเหนื่อย” หัวเราะให้เพื่อนต่างคณะ

   ยืนส่งไอ้ต้อมกับพี่ฟลอยด์หน้าห้องเป็นคู่สุดท้าย พอปิดประตูห้องก็ถูกพี่โชอุ้มพาดบ่า

   “พี่ทำไรวะ ปล่อย” ดิ้นอยู่บนบ่า

   “อย่าคิดว่าไม่รู้นะ เมื่อคืนถีบพี่ใช่มั้ยห๊ะ” โดนตีก้นไปหลายที

   “เมาแล้วรู้ได้ไงวะ” ถูกอุ้มวางบนเตียง คนอุ้มคลานคร่อมมาจนผมเอนนอนลงบนเตียง “หรือเมาไม่จริง” ไม่จริง พี่โชเมาผมรู้
 
   “เมาจริงแต่รู้หมด” ดวงตาพราวฉายแววเจ้าเล่ห์

   “อ๋อ แกล้งผมใช่มั้ย ที่ถอดเสื้อกับกางเกงก็รู้ตัวสินะ” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มคล้ายกับรับคำถามคือเรื่องจริง “นิสัยไม่ดีแกล้งผมทำไม” เบ้ปากใส่ จะลุกก็ลุกไม่ได้

   “งอนพี่เหรอครับ” พูดพร้อมก้มลงมาแถวซอกหูจนต้องย่นคอหลบ “พี่แค่หยอกเฉยๆ” งับหูซะขนแขนลุกเกรียว

   “อื่ออ ลุกเลยนะ” ดันหน้าออกแต่คนที่คร่อมผมไม่ยอมขยับ

   “จะให้รุกเลยเหรอ จัดไปครับเมียจ๋าของพี่” ผมยกมือตีปากพี่โชเบาๆ ไปที คนโดนตียึดมือผมไว้ก่อนแลบลิ้นออกมาเลียตามนิ้ว


   โคตรเขินเลยให้ตายเถอะ


   “พี่โช” เรียกเสียงแผ่วเบา ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ระยะประชิดจนหน้าเริ่มเบลอ

   “กลอย” ปากแดงแตะริมฝีปากผมเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ดูดดื่ม มือขาวเคลื่อนไปตามสีข้าง ปัดผ่านหน้าอกจนต้องครางออกมา
 
   “พี่โช” เสื้อยืดสีเหลืองของผมถูกถอดออกจากตัวไปแล้ว ต่อไปก็กางเกงวอร์ม มือร้อนรูดลงช้าๆ


   กริ๊งๆๆๆๆ

   เหมือนถูกกดโดนอะไรสักอย่างทำให้การกระทำทุกอย่างหยุดลง พี่โชกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ดวงตาคมจ้องผมนิ่งคล้ายกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง

   “เชี่ยเอ้ย” แล้วก็สบถออกมาพร้อมกับพุ่งออกไปด้านนอก “พวกมึงกลับมาทำเหี้ยอะไรวะ” ตะโกนเสียงโคตรดัง ผมรีบลุกมาใส่เสื้อที่ถูกถอดข้างเตียง

   “ก็กูลืมโทรศัพท์ เห็นป่ะ” พี่จอมเดินผ่านหน้าห้องนอน (ไม่ได้ปิดประตู) “กำลังเอากันอยู่เหรอวะ” ตรงเหี้ยๆ

   “เออ!” นี่ก็ตรงพอๆ กัน

   ได้ยินเสียงพี่ซันหัวเราะ พี่จอมเหล่ตามามองผมก่อนจะเดินเข้ามาหาผมในห้องนอน

   “อะไรพี่” ผมถามอย่างสงสัย

   “หลบไปดิ๊”

   “หา”

   “กูจะนอนด้วย ขี้เกียจกลับ”

   เชี่ย พี่จอมขึ้นมานอนข้างๆ ผมที่นั่งอ้าปากหวอมอง พี่โชกัดฟันจนกรามนูนเป็นสัน มีพี่ซันตบบ่าปลอบใจเพราะคงทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ก็นี่คือพี่จอม

   “ทำใจเถอะว่ะ”

   ก็อยากทำใจอยู่หรอก แต่ทำไมพวกพี่ถึงไม่กลับห้องวะ มานอนห้องคนอื่น บนเตียงคนอื่น แล้วมาขัดคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง หมดกันอารมณ์คึกๆ ตอนนี้หดหายไปหมด ตามสบายครับพี่ นอนเลย นอนข้ามคืนไปเล้ย!! ไม่ต้องกลับแล้วห้องคอนโดนั่น ขายทิ้งไปเล้ย!! (เปิดโหมดดราม่าเต็มสตรีม)     


...

เรื่องนี้เกิดพร้อมกับเหตุการณ์ในเรื่อง No Sugar ไม่หวานก็รักว่ะ ของพี่ฝอยกับน้องต้อมนะคะ เรื่องนั้นต้อมไม่เกรียนเลยเล่าแบบธรรมดาๆ น้องกลอยก็ไม่เกรียนเลยเล่าแบบธรรมดาเช่นกัน ฮ่าๆๆๆ

เจอกันตอนพิเศษตอนหน้าค่าาา กราบขอบพระคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่เปิดเข้ามาอ่าน และทิ้งกำลังใจก้อนโตไว้ให้นังหัวเห็ดคนนี้ ขอบพระคุณค่าาา  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 13-09-2016 23:38:48
สรุปคนเกรียนที่สุดคือพี่จอมสินะ 555 ขัดได้ถูกจังหวะจริงๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 13-09-2016 23:57:16
พี่จอมเข้ามาขัด กลอยประเกรียนอดเลย :mew4: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 14-09-2016 00:16:06
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 14-09-2016 03:04:57
เป็นไม่กี่เรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกอยากได้เป็นเล่ม เขียนดีมากเลยเอาใจช่วยน๊า เป็นเล่มเมื่อไหร่จะรีบสั่งเลยจ้า :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-09-2016 03:34:20
พี่โชอดกินตับเมียเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 14-09-2016 04:31:37
พี่โชอด น้องกลอยก็เซ็ง

แต่พี่จอมกวนทรีนจริมๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 14-09-2016 07:15:31
พี่จอมแม่มโคตรเด็ด ใครก็ขีดไม่ได้ อดไป พี่โช น้องกลอย 5555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 14-09-2016 09:22:05
หลังจากที่ใช้เวลาอ่านมานานแสนนานกว่าจะอ่านจบ
รู้สึกชอบและรักทุกตัวละคร

คู่หลัก กลอยเกรียนสมชื่อ เกรียนแบบเอ๋อ ฮาๆ
พี่โซขึ้หึง ขี้หวง มาก

ซันจอม คู่รักขาโหด? น่ารักดี

เบทู ชอบสุด ดูไม่มีอะไร แต่ชอบ

ขอบคุณที่เขียนเรื่องสนุกเรื่องนี้มาแบ่งปันให้ได้อ่าน

 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-09-2016 11:13:12
กลอยเกรียนยังไม่สู้จอมเกรียน :laugh: :laugh: :laugh:
พี่โชอดเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: monkeytwin ที่ 14-09-2016 11:31:12
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-09-2016 11:43:46
55555 น้องกลอยน่าสงสารเกิ๊นนนนนนน พี่โชอดทนหน่อยแล้วกัน 555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 14-09-2016 11:45:21
พี่โชหงุดหงิดที่อารมณ์ค้างไม่แปลก แต่กลอยเกรียนนี่สิ แกร๊!!! ฮ่าา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-09-2016 11:59:20
ใครก็ทำอะไรจอมไม่ได้แม้แต่เพื่อนสุดโหดอย่างพี่โช
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 14-09-2016 13:45:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ค่ำคืนฯ UP! / [13/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 14-09-2016 19:34:29
ยิ่งได้อ่านยิ่งอยากอ่าน55

ได้สนุกตามทุกคน ได้หื่นตามขี้เ.ี่ยนทั้งหลาย ได้มึนกับพี่ๆสุดกวน

ตอนนี้เพิ่มความดีใจที่ต้อมกับพี่ฝอยได้เข้าก๊วนแล้ว

คาดว่าปาร์ตี้ครั้งต่อๆไป ระดับความมันส์ คงทะลุผนังและเพดาน^^ ขอบคุณมากๆค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 18-09-2016 22:09:33
Just you and I ตอนพิเศษ : การมีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ



      ผมนั่งอยู่ใต้ตึกเรียนมองคู่รักแห่งปีของคณะกำลังนั่งจู๋จี๋กันอยู่ด้วยความรำคาญ ไม่ได้อิจฉาหรอก รักกันใหม่ๆ ก็แบบนี้แหละ ผมผ่านมาก่อน ผมรู้ดี ไอ้การเช้าถึงเย็นถึงแบบนี้ พอคบกันไปนานๆ จะรู้ว่าเช้าหาย เย็นก็หาย

   “หน้าบูดทำไมวะ” ไอ้ทูที่เพิ่งไปซื้อขนมกับไอ้เคสอดตัวนั่งข้างๆ ผม “แล้วอีจอยมันคิดดีแล้วใช่มั้ยที่คบกับไอ้สักเนี่ย” รีบพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อน

   “มึงก็ไปว่าให้มัน ไอ้สักมันตามตื้อมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนะเว้ย” ไอ้เคคาบขนมแท่งเคลือบช็อกโกแลตบอก

   “กูก็คิดว่ามันเล่นๆ ที่ไหนได้ จริงจังนี่หว่า” อันนี้ผมก็เห็นด้วยกับไอ้ต๋องมัน “ว่าแต่มึงเถอะ ช่วงนี้ทำไมมึงเอามอเตอร์ไซค์มาวะ ผัวไม่มารับมาส่งแล้วหรือไง”

   “อย่าเผือกครับมึง” ถลึงตาใส่ไอ้คนปากมาก

   “เอ้า ด่ากู” รีบหลบเมื่อไอ้เชี่ยต๋องขว้างเศษขนมใส่ผม

   “เออใช่ กูได้ข่าวมาว่า เพื่อนมึงโดนรถชนนี่” ไอ้เคพยักพเยิดหน้าถามผม

   “อืม กูถามไปละ แต่พี่ฟลอยด์เป็นคนตอบแทน คงหนักว่ะ” ผมบอกไป เห็นรูปที่ปล่อยตามเพจก็น่าตกใจ สภาพรถจักรยานบิดเบี้ยว คนขี่เลือดออกด้วย อยากจะถามคนถ่ายรูปจริงๆ ว่าทำไมไม่เข้าช่วยคนเจ็บก่อน มัวแต่ถ่ายรูป เกิดมันเลือดออกในท้องตายขึ้นมาจะทำยังไง

   “แบบนี้พี่บริหารก็ต้องดูแลดีสิวะ” ไอ้ทูมันว่า

   “ผัวก็ต้องดูแลเมียสิวะ หรือมึงจะให้ชู้ดูเหมือนไอ้เชี่ยกลอย” โดนแขวะไปหนึ่งดอก

   “แล้วมันเกี่ยวกับกูตรงไหนไอ้เชี่ยเค”

   “ก็มึงปล่อยฟีโรโมนล่อผู้ชายจนผัวมึงจะกลายเป็นฆาตกรฆ่าชู้ไง” พูดจบพวกมันก็พร้อมใจกันหัวเราะ “ว่าแล้วอดีตชู้ก็มา” ถีบขาไอ้เชี่ยเคไปหนึ่งทีจนมันร้องโวยวาย

   พวกผมเบนสายตามองเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งลงจากตึก พวกมันคงเรียนกันเสร็จแล้ว เด็กปีหนึ่งเดินผ่านพวกผมก็พากันยกมือไหว้กันเป็นแถว ไอ้ไม้กับไอ้เบียร์ยิ้มให้ผมแล้วก็เดินผ่านท่ามกลางสายตาของไอ้พวกสอดรู้ จะว่าไป ไอ้เม่นล่ะ ไม่เห็น ไม่เจอมันมาเป็นอาทิตย์ ว่าจะถามเรื่องไอ้ม่านซะหน่อย

   “เพื่อนมึงล่ะ” ไอ้เคถามขึ้นมา ผมหัวขวับมองคนที่อวดรู้ถามหาคนที่หายไป
 
   “อ่อ ไอ้เม่นมันแยกไปแล้วครับ เห็นว่าจะไปมหาลัย XXX” เลิกคิ้วมองไอ้เบียร์ที่ตอบ มหาลัยไอ้ม่านนี่หว่า หรือว่า....

   “มันไปทำไมวะ” ไอ้ต๋องถามได้ตรงใจผมอีกแล้ว ผมไม่กล้าถามเองหรอก กลัวทำให้พวกมันคิดมากอีก ช่วงนี้ผมสงบปากสงบคำกับไอ้เด็กกลุ่มนี้มาก

   “คือมันต้องทำตามความต้องการของใครบางคนที่ให้มันทำ” ไอ้ไม้เหล่ตามองผมนิ่งๆ ในแววตาของมันเหมือนตำหนิผมนิดๆ หรือผมอาจจะคิดไปเอง

   “ใครวะ” เพื่อนผมกำลังมองหน้ากันอย่างไม่รู้อะไร

   “งั้นผมไปก่อนนะครับ” พอพวกมันไป ผมก็เพิ่งรู้ว่ากำลังโดนจ้อง

   “อะไร มองกูทำไม”

   “มึงไม่ได้ทำอะไรแผลงๆ กับไอ้เม่นใช่มั้ย” เชี่ย โดนเฮดว้ากกดดันครับ ไอ้เชี่ยสักมันลุกมารวมหัวพวกนี้เล่นงานผม

   “กูไม่ได้ทำอะไร” ตอบเสียงสูง ปฏิเสธเสียงแข็ง “กูไปดีกว่า เบื่อ” รีบชิ่งหนีก่อนจะโดนสาวไส้ ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ไม่ได้สั่งไอ้เม่นไปตามจีบเพื่อนผมอย่างไอ้ม่านเลย แค่พาไปรู้จักเฉยๆ เบอร์หรือไลน์ผมก็ไม่ได้เอาให้ไอ้เม่นสักอย่าง แล้วแบบนี้จะมาโทษผมได้ยังไง...จริงมั้ย

   เดินไปควบรถฟีโน่คู่ใจที่ร้างลาไปนาน จอดอยู่ที่ใต้คอนโดพี่โชไร้การแตะต้อง พอได้ขี่อีกทีมันรู้สึกแปลกๆ ก็ปกติจะนั่งเบาะรถยนต์สบายๆ มีแอร์เย็นๆ มีกลิ่นหอมๆ ด้วย พอขี่มอเตอร์ไซค์เจอแต่เบาะแข็งๆ ลมแรงตีหน้าจนหนังหน้าแทบปลิ้น แล้วกลิ่นก็มีแต่ควันจากท่อไอเสีย

   ท้องฟ้ายามบ่ายมันดูมืดมนคล้ายฝนกำลังจะตก ผมรีบเร่งความเร็วเพราะอยากถึงคอนโดก่อนฝนตก แต่ดูรถจะไม่เป็นใจเมื่อมันค่อยๆ ชะลอจนขยับลำบาก ผมไถรถด้วยเท้าเข้าข้างทางแล้วก้มดู

      ...ยางแบน

   มีอะไรจะซวยกว่านี้มั้ย

   ...มี

   ผมเดินจูงมอเตอร์ไซค์ยางแบนได้ไม่ถึงห้าก้าว ฝนก็เทลงมาจนแทบมองไม่เห็นทาง เสื้อกันฝนก็ไม่ได้เอามา ยังดีที่ใต้เบาะรถมีที่ว่างให้ใส่กระเป๋าได้ ไม่อย่างนั้น กระเป๋า หนังสือ มือถือคงเปียกจนใช้งานไม่ได้

   ร้านซ่อมมันอยู่ตรงไหนของถนนเส้นนี้เนี่ย ปกติขี่ผ่านไม่เคยสังเกต ต่อไปผมสัญญาว่าจะจดชื่อร้านทุกร้านที่ผ่าน จะได้รู้ว่ามันมีร้านซ่อมรถอยู่ตรงไหนบ้าง

   ยิ่งเดิน ยิ่งเหนื่อย รถมันหนักมากครับ แถมฝนที่ตกมาทำให้เดินช้าลง ผมที่เพิ่งสระเมื่อเช้าไร้ประโยชน์ทันที รู้แบบนี้ไม่สระหรอก เปลืองแชมพูสุดๆ

   ผมเดินผ่านป้ายรถเมล์ที่มีประชาชนหนาแน่นเบียดเสียดเพราะกลัวเปียก แต่มันก็เปียกอยู่ดี เพราะไม่มีใครในนั้นไม่เปียก พอพวกเขาเห็นผมต่างก็มองด้วยแววตาแปลกประหลาด ใจจริงก็อยากจอดรถแล้วเข้าไปหลบด้วย แต่ติดตรงที่ว่า ผมกลัวรถเมล์มันจะวิ่งมาชนท้ายรถผม

   ฟ้ารั่วแน่ๆ ฝนที่ตกลงมากระทบหัว กระทบหน้าจนเจ็บแสบไปหมด หนาวด้วย ปากผมสั่นจนฟันกระทบกันหงักๆ เหมือนคนแก่ อยากจอดรถโทรหาพี่โช แต่มันไม่มีที่หลบฝน เอาวะ เดี๋ยวมันต้องมีสักร้านที่เปิดรอผมอยู่

   “ไอ้หนู” เสียงเรียกดังมาจากร้านรถเข็นที่ขายขนมจีบครับ ผมหันไปมองเห็นคุณป้ายืนกวักมือเรียก ผมก็ค่อยๆ ขยับไปหยุดเทียบฟุตบาท “ทำไมไม่หลบฝนก่อน เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” รู้สึกน้ำตาจะไหลที่ป้าเขาเป็นห่วง

   “ผมหาร้านซ่อมรถครับ ยางมันแบน” ยกมือบาดน้ำฝนที่ชุ่มเต็มหน้าออก

   “โอ้ย เดินอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว ตรงนั้นน่ะ” ผมมองตามนิ้วที่ชี้ไปไม่ไกล เหมือนเห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ “งั้นรีบๆ ไปเลย เดี๋ยวเป็นหวัด” อยากยกมือไหว้แต่ทำได้เพียงโค้งศีรษะให้

   ต่อไปผมจะเขียนชื่อร้านพร้อมพิกัดไว้ และจะมาอุดหนุนป้าใจดีทุกวัน ไอ้กลอยสัญญา

   เดินฝ่าสายฝนไปจนถึงร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ลุงเจ้าของร้านรีบเดินออกมาดู แล้วบอกให้ผมนั่งรอในร่ม ฝนยังตกหนักอย่างต่อเนื่อง กลิ่นน้ำมันเครื่องลอยคละคลุ้งร้านไปหมด แม้จะเหม็นแต่มันก็รู้สึกดีนะครับ ร้านนี้เหมือนสวรรค์ของผมเลย

   “เดินมาจากไหนละพ่อหนุ่ม” คุณป้าเดินออกมาจากหลังร้านถามผม

   “จากหน้ามหาลัยครับ” บอกไป ป้าแกก็เบิกตากว้าง

   “โห จากนั่นมาถึงนี่ไกลมากเลยนะ เป็นกิโลสองกิโล” รีบพยักหน้า คือมันไกลมากจริงๆ “ว่าแต่ ร้านแถวนั้นก็มีทำไมไม่เอาไปซ่อมล่ะ”

   “มันอยู่ตรงไหนเหรอครับ” ย่นคิ้วถามอย่างสงสัย ผมผ่านบ่อยไม่เคยเห็น

   “เอ้า เลยมหาลัยมาไม่กี่สิบเมตรนั่นไง ร้านอยู่ที่ตึกแถวนั่นน่ะ ร้านลูกชายป้าเอง” คุณป้ายิ้มแย้มแต่ผมกำลังอยากเอาไขควงตีหัวตัวเอง ไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ

   “ผมไม่ได้สังเกตเลย” อยากร้องไห้ออกมาจริงๆ ผมมันโง่เอง

   “ต่อไปถ้ารถมีปัญหา เอาไปซ่อมได้นะ ลูกชายป้าเขาจบช่างมา ซ่อมเก่ง” แล้วผมก็นั่งฟังคุณป้าอวดสรรพคุณลูกชายตัวเองอยู่นานจนยางรถเปลี่ยนเสร็จ “หนูนี่น่ารักดีนะ หน้าตาไม่เหมือนเด็กผู้ชายเลย” ยิ้มแหยๆ ให้กับคำชม

   “ไปว่าเขาแบบนั้น อย่าไปถือสาป้าแกเลยนะ”

   “อ่าว ฉันพูดจริงๆ ถ้าไม่เปียกฝนจนเห็นแบบนี้ รับรองป้าต้องคิดว่าหนูเป็นทอมแน่” ผมก้มมองตามที่ป้ามอง เสื้อนักศึกษาสีขาวเปียกฝนจนแนบเนื้อ แม้จะใส่เสื้อกล้ามแต่ก็ยังมองเห็นทะลุปรุโปร่ง

   “เอ่อ ครับ” ไม่รู้จะตอบอะไรไปดีเลยถามราคาแทน พอจ่ายเงินเสร็จผมก็จะขึ้นควบพอดีกับป้ารั้งไว้เพราะฝนยังตกอยู่ แม้จะไม่หนักแล้วก็ตาม

   “รอฝนหยุดก่อนสิ เดี๋ยวเป็นปอดบวมนะ”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมแข็งแรง ขอบคุณนะครับ” รีบควบรถแล้วขี่ออกมา เพราะความหนาวทำให้ปากหมาของผมไม่ทำงาน พอขี่รถเจอความหนาวเหน็บตัวก็ยิ่งสั่น นานแล้วที่ไม่ได้เป็นไข้ เป็นสักหน่อยคงจะดี พอคิดแบบนี้อยากกลับบ้านเลย เพราะเวลาผมไม่สบาย แม่จะทำข้าวต้มทะเลให้ผมกิน แม้จะกินลำบากแต่ผมชอบ

   ขี่มาจอดใต้ตึกฝนก็ซาพอดี ผมเดินกอดตัวเองสภาพสั่นเทาเข้าตึก แค่ผลักบานประตูเข้าไปก็แทบอยากออกไปอยู่ด้านนอกตามเดิม ความเย็นของแอร์ปะทะหน้าจนปากสั่น เดินตัวงอเข้าลิฟต์ กว่าจะถึงห้อง ขาก็แทบก้าวไม่ออก หนาวเหมือนนอนในตู้เย็นสมัยเด็กๆ สมัยยังเป็นเด็กฟันหลอ ผมอยากเป็นนกเพนกวินเลยเข้าไปนอนในตู้เย็น กว่าแม่จะมาเห็นผมก็เกือบแข็งตาย ตอนนั้นไปนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์เพราะปอดบวมเล่นงาน จากนั้นผมเข็ดตู้เย็นไปพักหนึ่งเลยครับ

   เปิดประตูเข้าห้องปุ๊บ ผมเขวี้ยงข้าวของไปบนโซฟาแล้วรีบไปอาบน้ำสระผม เจอน้ำอุ่นแล้วตัวชาไปหมด เหมือนเจอความเย็นจัดมาพอเจอความอุ่นร้อนไปมันเลยชา ยืนให้น้ำอุ่นผ่านตัวอยู่นานมาก ออกห้องน้ำมาส่องกระจกทีนึกว่าผีจุออน หน้าซีด ปากซีด ถ้าผมยาวใส่ชุดขาวไปนอนที่แอร์คงเหมาะ

   รีบมุดเข้าอยู่ในผ้าห่มจนเป็นก้อนกลมๆ ก่อนผล็อยหลับไป รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงพี่โชดังข้างๆ พร้อมแรงดึงผ้าออก เชี่ย ผมกำลังถูกผ้าห่มมัดจนขยับไม่ได้เลย

   “นอนยังไงน่ะ” พี่โชบ่น มือก็ช่วยแกะผ้าห่มออก

   “ก็มันหนาว” บอกพร้อมกับเอาขาถีบผ้าห่มที่หลุดแล้วไปไกลๆ อาจเพราะมุดอยู่ในผ้าห่มตลอดเลยต้องรีบโกยอากาศหายใจ มันควรจะเข็ดผ้าห่มด้วยดีมั้ย

   “วันนี้ฝนตกโคตรหนัก กลอยกลับมายังไง” พี่โชจ้องหน้าผมก่อนยื่นมือมาวางที่หน้าผาก “หน้าแดงๆ นะ ไม่สบายหรือเปล่า หรือวันนี้ตากฝนมา”

   “ก็เอามอเตอร์ไซค์ไป ขากลับเจอฝนแล้วยางรถก็แบน” เป็นคนที่ไม่มีความลับกับพี่โช (ถ้าไม่จำเป็น) คนตาดุมองนิ่งแต่ไม่บ่นออกมาอย่างที่กลัว

   “ไปเรียนขับรถยนต์มั้ย” พี่โชดึงผมให้ลุกขึ้นยืน “เรียนหลายๆ ครั้งก็ขับเป็น จะไม่ได้ต้องขี่มอเตอร์ไซค์”

   “ไม่เอา” ส่ายหน้ากับต้นแขนที่จูงผมออกมาข้างนอก

   “ทำไม”

   “ถ้าขับเป็นพี่โชจะไม่ไปส่งอีก” โดนหัวเราะใส่แต่ไม่ได้โกรธ ก็ผมพูดจริง

   “ช่วงนี้พี่งานยุ่ง ไม่ได้ไปส่งเลย” พี่โชยีหัวผมซะฟู

   “ใช่ ไม่ดีเลย”

   “รอหน่อย อีกเดี๋ยวพอลงตัวพี่ก็ว่างไปรับส่งเหมือนเดิม” พยักหน้าอยู่บนหลังกว้าง “เป็นอะไรหื้ม”

   “ปวดหัว” เปล่าครับ แค่อยากอ้อน

   “ไม่สบายหรือเปล่า ไหนให้พี่ดูหน่อย” โดนดึงมาจ้องหน้า ผมกระพริบตามองคนที่กำลังขมวดคิ้วมอง “ไปหาหมอมั้ย” ส่ายหน้า “งั้นกินข้าวจะได้กินยา” อันนี้พยักหน้า

   ผมนั่งมองพี่โชที่กำลังสาละวนทำข้าวต้ม หลังจากถามว่าผมอยากกินอะไร ได้คำตอบก็รีบทำให้ทันที มีไม่บ่อยครั้งที่จะได้กินข้าวฝีมือพี่โช รู้สึกอยากป่วยไปสักเดือน

   “หิวมากเหรอ แปบนะ ใกล้สุกแล้ว” พ่อครัวหันมายิ้มให้ผม พี่โชก็เหมาะกับผ้ากันเปื้อนเหมือนกันนะ

   มองจนมีถ้วยข้าวต้มกุ้งร้อนๆ มาวางตรงหน้า กลิ่นหอมจนท้องร้องออกมา ลองชิมก็อร่อยดี ผมกวาดข้าวต้มลงท้องจนหมด คนทำก็ยิ้มหน้าบาน

   “ขอบคุณครับ” ผมบอกแต่คนที่ได้ยินดูไม่ชอบใจ พี่โชส่ายหน้าแล้วยื่นปากมาตรงหน้า “ปีศาจ” หน้ามุ่ยก่อนยื่นหน้าไปจุ๊บปากที่รอ

   “รีบไปกินยา เดี๋ยวพี่เก็บของก่อน”

   “อืม”

   เดินไปอย่างว่าง่าย ส่วนยาไม่กินหรอก เพราะไม่ได้ปวดหัวจริง ผมนอนกลิ้งอยู่บนเตียง พอเบื่อก็เอามือถือมากดดูโลกกว้าง เห็นไอ้ม่านบ่นว่ามีปลิงติดขา มันไปเที่ยวแล้วไม่ชวนผมหรือเปล่าวะ ส่วนไอ้อัธก็บ่นว่าทำควิซไม่ได้ ไอ้นี่ก็วิชาการ ส่วนไอ้ทูลงรูปคู่พี่เบอย่างหวานจ๋อย ผมว่า ผมโพสบ้างดีกว่า...เอ ไม่ดีกว่า ป่วยอยู่นี่หว่า เดี๋ยวจะโดนว่าสำออย

   ได้ยินเสียงพี่โชบิดลูกบิดผมก็รีบเอามือถือสอดไว้ใต้หมอนแล้วล้มตัวนอน คนเข้ามาพอเห็นผมนอนก็ขมวดคิ้วอีกรอบ

   “ไปหาหมอมั้ย พี่กลัวเป็นอะไรดึกๆ”

   “ไม่เอา ไม่ชอบ” อ้อนครับอ้อน ผมยกหัวหนุนตักคนที่มานั่งบนเตียง

   “ทำไมดื้อล่ะ ป่วยแล้วดื้อเหรอเรา”

   “ไม่ดื้อสักหน่อย” แค่สำออย

   “เอางี้ เดี๋ยวพี่จ้างคนขับรถให้เอามั้ย” รีบส่ายหน้ารัวๆ

   “ปีศาจห้ามเว่อร์” พี่โชขำออกมา “พี่โช”

   “ครับ”

   “กลอยปวดหัว” โหมดอ้อน

   “ปวดมากมั้ย งั้นไปหาลุงหมอมั้ย”

   “ไม่เอา เดี๋ยวก็หาย...มั้ง”

   “ดื้อนะเราเนี่ย”

   “พี่โช”

   “ครับ”

   “พรุ่งนี้อยากกินข้าวต้มหมู” บอกเมนูไป

   “ได้ครับ เดี๋ยวพี่จะทำไว้เยอะๆ”

   “พี่โช”

   “ครับ”

   “มะรืนอยากกินข้าวผัด”

   “เดี๋ยวพี่ผัดให้กิน”

   “พี่โช”

   “ครับ”

   “มะรืนของมะรืนผมอยากกิน...” โดนก้มจูบปิดปากเพราะพูดมาก

   “อยากกินเยอะขนาดนี้หายป่วยแล้วมั้ง” เออว่ะ คนป่วยห้ามหิวสิ

   “งั้นไม่กินแล้ว” หน้างอแล้วยกหัวหนี

   “พี่พูดเล่น ป่วยแล้วดื้อไม่พอ ขี้งอนอีกเหรอเรา” พี่โชขยับล้มตัวนอนข้างผมแล้วยื่นมือดึงผมเข้าไปกอด “อย่าป่วย อย่าเจ็บ เพราะพี่ไม่ชอบ”

   “ทำไมล่ะ”

   “เวลาเห็นกลอยป่วยหรือเจ็บ พี่จะเจ็บกว่า” โคตรรู้สึกดีเลยตอนนี้ ผมกอดพี่โชแน่น ซุกหน้ากับอกแกร่ง

   “โคตรรักพี่เลย” งับอกแข็งไปที

   “พี่ก็โคตรรักกลอยเลย” โดนบีบก้นไปเต็มมือ ปีศาจก็ยังเป็นปีศาจ ตอดเล็กตอดน้อยทุกครั้งที่มีโอกาส

   ผมกอดพี่โชนอนหลับตาไปเรื่อยๆ มีมืออุ่นๆ ลูบหัวทำให้หลับไปจริงๆ ตื่นมาอีกทีก็ตอนเช้าเพราะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยเข้ามาในห้อง ผมลุกขึ้นนั่ง หัวสมองปลอดโปร่งมาก ทำไมร่างกายผมมันไม่ป่วยวะ โดนทั้งฝน ทั้งแอร์ขนาดนั้น ไอ้กลอยอยากป่วย ดีดดิ้นอยู่บนเตียงก่อนรีบล้มตัวนอนเมื่อพี่โชเปิดประตูเข้ามา

   “กลอยครับ” พี่โชเรียกเบาๆ ผมปรือตาทำเหมือนเพิ่งตื่น “พี่ทำข้าวต้มไว้ให้ ลุกมากินข้าวแล้วกินยานะ อ่อ พี่โทรไปบอกทูให้ลาเรียนให้แล้ว” พยักหน้าลงช้าๆ แล้วหลับตาลงอีกรอบเมื่อถูกยื่นหน้ามาจูบหน้าผาก “พี่จะรีบกลับนะครับ”

   พี่โชไปแล้วเพราะได้ยินเสียงปิดประตูด้านนอก แม้จะรู้สึกผิด แต่ผมก็อยากอ้อนบ้าง ตั้งแต่คบกับพี่โชผมไม่เคยป่วยเลย เพราะอยู่ดีกินดี กินแต่ของดีๆ ทั้งนั้น

   ออกไปกินข้าวต้มหมูที่ผมบอกไว้เมื่อคืนอย่างเอร็ดอร่อย ข้าวต้มที่ทำด้วยความเป็นห่วงถูกผมกินจนหมดหม้อ แม้หลังๆ จะเริ่มกลืนไม่ค่อยลงก็เถอะ อิ่มแล้วก็ไปนอนเลื้อยบนโซฟาหาดูอะไรไปเรื่อย นอนไปนอนมาก็หลับ ชีวิตคน (แกล้ง) ป่วยมันดีแบบนี้นี่เอง

   คล้ายกับถูกสะกิดจนต้องปรือตาขึ้นดู หน้านิ่งๆ ของพี่จอมอยู่แทบติดกับหน้าผม ด้วยความตกใจผมรีบผุดลุกจนหน้าผากกระแทกเข้ากับหน้าพี่จอมเสียงดังสนั่น ความเจ็บปวดแล่นเป็นริ้วๆ ต้องกุมหน้าผากไว้

   “ไอ้เชี่ยเกรียน มึงทำอะไรของมึงวะเนี่ย อูย” พี่จอมลูบหน้าผากตัวเองเหมือนผม

   “ก็พี่เล่นบุกมาเงียบๆ ผมก็ตกใจสิวะ” โวยวายจนโดนตวัดสายตามองแรง

   “ถ้าไอ้โชมันไม่โทรไปบอกให้กูมาดูมึง กูก็ไม่มาหรอกไอ้สัด เจ็บเหี้ย กูจะไปเบิกค่ายากับผัวมึง”

   “เลือดไม่ออกสักหน่อย” พึมพำเบาๆ “แล้วพี่โชล่ะ”

   “มันทำงานสิวะ แล้วนี่ก็บ่ายกว่ามันเลยให้กูมาดูว่ามึงตายหรือยัง”

   “ใกล้ตายเพราะพี่นี่แหละ” โดนตบไปเต็มหัว “เจ็บโว้ย” ผมแหกปากโวยวายก่อนรู้สึกแปลกๆ มันเหมือนมีอะไรพุ่งมาจุกอยู่ที่คอ...แล้วรีบวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำ

   “เชี่ย” พี่จอมยกมือปิดจมูกข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งกำลังลูบหลังผมอยู่

   ผมอ้วกจนท้องโล่งไปหมด อ้วกเสร็จก็ปวดท้อง แสบคอ เป็นอะไรไป เมื่อเช้าผมยังไม่เป็นอะไรเลยนะ หันไปมองหน้าพี่จอมก่อนจะรู้สึกหน้ามืด

   “ปวดหัวว่ะ” ผมว่า

   “สำออยป่ะมึงเนี่ย” โดนใช้ขาเขี่ย ตอนแรกก็สำออย แต่ตอนนี้แม่งเป็นจริงว่ะ ยกมือโบกว่าไม่ไหวแล้ว พี่จอมมันไม่เชื่อแถมยังออกไปรับโทรศัพท์ของตัวเองที่ดังอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

   ได้ยินเสียงแว่วๆ ว่าปลายสายเป็นพี่ซันไม่ใช่พี่โช ผมคลานออกมาจากห้องน้ำเพื่อเข้าห้องนอน ตอนนี้ยืนไม่ไหว เหมือนโลกมันเอียงๆ คลานมาจนถึงเตียงผมก็แทบหมดแรงนอนหอบ พี่จอมเดินเข้ามามองนิ่งๆ

   “ยังไม่เลิกสำออยอีกนะมึง กูรู้ว่ามึงโกหก อยากให้ไอ้โชห่วงละสิ มุกปัญญาอ่อน” โคตรแม่น แต่แค่ตอนแรกนะ

   “ไม่ได้สำออย” ตอบออกไป

   “กูไม่เชื่อมึงหรอก...ฮัลโหลไอ้โช ไอ้กลอยมันหายแล้ว...เออ กูกลับล่ะ เออ” น่าจะคุยกับพี่โช “กูกลับละนะ กับกูไม่ต้องทำสำออย”

   พอพี่จอมไปผมก็นอนงอเพราะปวดท้อง ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อนเลย หรือเป็นไส้ติ่งวะ เคยอ่านมาว่า เป็นไส้ติ่งอาจตายได้ นี่ผมจะตายเหรอวะ ผมพยายามข่มตาหลับลดอาการฟุ้งซ่านแต่มันหลับไม่ได้จริงๆ เพราะปวดท้อง ไม่น่าสำออยหลอกแต่แรกเลย
 
   กว่าพี่โชจะมาก็เกือบหกโมงเย็น ตลอดเวลาผมนอนปวดท้องแทบขยับไม่ได้ มันทรมานเกินจนบางครั้งมีผล็อยหลับแต่ก็ต้องตื่นเมื่อท้องมันดังลั่นแล้วบิด

   “กลอย เป็นอะไรไปหื้ม” พี่โชเดินมาแตะแขนผม “ทำไมนอนตัวงอเป็นกุ้งแบบนั้น”

   “ปวดท้อง” ผมบอก

   “ไปหาหมอมั้ย” คราวนี้ผมรีบพยักหน้าเลยครับ หมดแล้วกับการสำออย

   ผมถูกพี่โชอุ้มขึ้นรถทั้งที่ยังใส่ชุดนอน พี่โชพาผมมาคลินิก แค่เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับหมอสาที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ผมขี่หลังพี่โชสภาพไร้เรี่ยวแรง โดนพาไปนอนในห้อง คุณหมอสาก็ตรวจนั่นนี่ พอกดท้องผมก็รีบงอตัว

   “ไส้ติ่งหรือเปล่า” พี่โชถาม แต่หมอสาส่ายหน้า

   “น่าจะอาหารไม่ย่อยมากกว่า” ผมขมวดคิ้วมองหน้าคุณหมอที่วินิจฉัยโรคออกมา คงเหมือนกับพี่โชที่แปลกใจเหมือนกัน

   “อาหารไม่ย่อย?”

   “ใช่ เพราะถ้าปวดไส้ติ่งจะเจ็บด้านขวาตรงนี้” คุณหมอชี้ตำแหน่งให้ดู “ส่วนตรงนี้เป็นกระเพาะอาหาร”

   “แล้วต้องทำยังไง”

   “กินยาลดกรดก็ดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะมีไข้อ่อนๆ ด้วยนะ”

   “เมื่อวานไปตากฝนมา”

   “อ๋อมิน่าล่ะ คอแดงเหมือนจะอักเสบ”

   “ต้องฉีดยามั้ย”

   “ต้องกินยาต่อเนื่องด้วย”

   ผมเลื่อนตาซ้ายทีขวาทีมองคนที่ยืนค้ำหัวคุยกัน สรุปผมอาหารไม่ย่อย หรือว่ากินข้าวต้มจนหมดหม้อวะ แล้วผมป่วยด้วยเหรอ ทำไมไม่รู้สึกปวดหัวตัวร้อนเลย

   “ฉีดยาแล้วคืนนี้พิษไข้คงออกนะ” พูดจบผมก็ถูกฉีดยาเข้าที่แขน “หายซ่าไปเป็นอาทิตย์แน่”

   เป็นจริงดังคุณหมอสาว่า ผมกลับมาที่ห้องพิษไข้ก็เล่นงานของจริง คราวนี้ต่อมอ้อนไม่ทำงานเลย แถมไม่หิวอะไรด้วย แค่กินน้ำก็ขมไปหมด

   “เป็นอะไร ปวดหัวเหรอครับ” พี่โชเดินมาดูเป็นร้อยกว่ารอบ ทั้งๆ ที่งานเยอะ ผมรีบพยักหน้าพร้อมกับน้ำตาไหล มันปวดหัวไปหมด ปวดจนไม่อยากลืมตา “เดี๋ยวก็หายครับ” โดนกอดปลอบแน่น

   “พี่โช ปวดหัว”

   “ครับ เดี๋ยวก็หาย”

   “พี่โช ปวดท้องด้วย”

   “ครับ เดี๋ยวก็หายปวด”

   “พี่โช...”





(โช)

   ผมมองคนที่นอนหลับไปในอ้อมแขน คงทรมานน่าดู เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่ชอบเห็นกลอยป่วย เวลาน้องทำหน้าทรมานผมทรมานมากกว่าซะอีก ตอนเที่ยงผมอยากมาเองแต่เพราะงานติดพันเลยออกมาไม่ได้ ผมเลยวานให้ไอ้จอมมาดู แต่มันบอกว่ากลอยไม่ได้เป็นอะไรผมก็เริ่มเบาใจ

   แต่พอกลับมา มันไม่ได้เป็นแบบไอ้จอมว่าเลย ตอนแรกที่เข้าห้อง ผมเดินไปดูข้าวต้มก่อนเพราะอยากรู้ว่าคนป่วยลุกขึ้นมากินหรือเปล่า ปรากฏว่าหมดแถมล้างเก็บเรียบร้อย ตอนนั้นคิดว่ากลอยคงหายแล้ว พอเข้าห้องนอนกลับเห็นคนที่น่าจะหายป่วยนอนตัวงอกุมท้องตัวเองอยู่ ใบหน้าขาวมีคราบน้ำตาเปรอะเต็มไปหมด

   ภาพนั้นที่ผมเห็น หัวใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม กลอยดูทรมานจนผมลนลานทำอะไรไม่ถูก พอปลุกให้ตื่น น้องก็ทำหน้าบิดเบี้ยวพร้อมร้องไห้ออกมา และคิดว่าถ้าพาไปหาหมอแล้วจะดีขึ้น แต่ไหงมันแย่ลง กลอยดูทรมานกว่าเดิมเพราะพิษไข้แถมยังปวดท้องอีก คืนนั้นผมแทบไม่มีสมาธิทำงาน แม้จะต้องรีบเคลียร์เพราะอยากไปรับไปส่งน้องเหมือนเดิม

   ผมเข้าๆ ออกๆ ห้องนอนกับห้องทำงานจนเช้า มาดูคนป่วยอีกทีสีหน้าเริ่มดีขึ้นจนถอนหายใจออกมา ลองปลุกคนป่วยดูก็ทำเพียงแค่ปรือตามอง ถามว่าอยากกินอะไรก็เอาแต่ส่ายหน้า ตอนแรกผมก็รู้ครับ ว่าน้องแค่แกล้งป่วยเพราะอยากอ้อนผม คนป่วยหรือไม่ป่วยดูง่ายนะครับ ยิ่งเป็นกลอยยิ่งดูง่าย

   วันนี้ผมโทรเรียกพี่ชีสให้มาดูแลกลอยแทนเพราะต้องเข้าประชุม แม้จะฟังรายงานการประชุมแต่สมองผมกลับมีแต่เรื่องกลอยเต็มไปหมด

   “งานทั้งหมดให้แผนกช่างคุมเลยนะ” รีบโยนงานเสร็จผมก็กลับทันที ใจตอนนี้อยู่ที่ห้องก่อนตัวแล้ว

   กลับมาถึงห้อง พี่ชีสก็นั่งดูทีวีอยู่ ผมถามถึงน้องก็ชี้นิ้วเข้าไปในห้อง พอเข้าห้องไปกลอยยังนอนหลับสนิทจนพี่ชีสเดินเข้ามายืนข้างๆ

   “คนป่วยก็งี้แหละ น้องบีมป่วยบ่อย”

   “แต่ผมไม่ชอบเห็นกลอยป่วย”

   “อย่าเว่อร์น่า ตอนแกป่วยก็แบบนี้แหละ”

   “แต่ผมไม่ชอบจริงๆ”

   “ไม่ชอบก็ดูแลดีๆ พี่ไปละ เดี๋ยวต้องไปรับน้องบีมอีก”

   พี่ชีสออกจากห้องไป ผมก็ยืนมองคนป่วยที่หลับสนิทเพราะเพิ่งกินยาไป พี่กิ่งพี่ของกลอยบอกว่ากลอยชอบแกล้งป่วยบ่อยเพราะขี้เกียจไปเรียน ไม่ก็อยากอ้อนแม่ สุดท้ายก็มักจะป่วยขึ้นมาจริงๆ ทุกครั้ง ที่จริงกลอยป่วยก็เพราะผมด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าผมหาคนขับรถมาให้ กลอยคงไม่ต้องตากฝนแบบนี้

   ผมนั่งลงข้างคนป่วย ใช้หลังมือไล้หน้าคนป่วยเบาๆ แล้วก้มลงจูบซับหน้าผากมน

   “หายไวๆ นะ พี่ไม่ชอบแบบนี้เลย ไม่มีคนคอยพูดกวนประสาทแบบนี้”

   “พรุ่งนี้อยากกินข้าวต้มหมู” เสียงแหบออกมาจากปากที่เริ่มมีสีชมพูอ่อนๆ คนพูดปรือตาขึ้นมามอง “ทำให้กินหน่อย”

   “อยากกินอะไรพี่จะทำให้กินหมดทุกอย่างเลย ดีมั้ย” คนป่วยพยักหน้ารับ “พี่ขอแค่อย่างเดียว รีบหายแล้วห้ามป่วยแบบนี้อีก”

   “เข็ดแล้ว” คนบอกเข็ดย่นหน้าจนผมต้องขำออกมา

   “เข็ดแล้วก็รีบๆ หาย แล้วอย่าทำอีก”

   “รู้แล้วน่า ปีศาจขี้บ่น” ผมยิ้มกว้างเมื่อถูกเรียกปีศาจ

   “ถ้าไม่อยากโดนบ่นก็รีบหายเลย ไม่งั้นจะเป็นปีศาจหื่นด้วยนะ” คนป่วยขำออกมาพร้อมไอ

   “เป็นปีศาจขี้บ่นหรือปีศาจหื่นก็รักอยู่ดี”

   “ครับ พี่ก็รักไอ้เกรียนคนนี้มากที่สุดเหมือนกัน”

   ผมกำลังจะก้มจูบปากสีชมพูระเรื่อแต่ถูกมือดันหน้าไว้

   “ไม่ได้ เดี๋ยวติด”

   “พี่ไม่กลัว”

   บอกไปพร้อมก้มจูบปากสวย คนป่วยดิ้นขืนเบาๆ สุดท้ายก็ยอมรับจูบผมโดยดี

   “ดื้อว่ะ” โดนคนป่วยส่งสายตาค้อนวงใหญ่

   “หายแล้วใช้คืนพี่ด้วย ชุดใหญ่”

   “อย่าหื่นกับคนป่วยได้ป่ะ”

   “ก็คนป่วยกับเมียเป็นคนเดียวกันนี่”

   “ปีศาจไปไกลๆ ไป” โดนโวยวายเสียงดัง ไม่นานคงจะหายแล้ว ต่อปากต่อคำได้ขนาดนี้ ผมยืนมองอยู่นานจนคนป่วยหลับไปอีกรอบ

   “อย่าป่วยอีกเลยนะ”




   “การมีโรค เป็นลาภอันประเสริฐมั้ยล่ะ” ผมพึมพำอยู่บนเตียงหลังจากได้ยินเสียงพี่โชออกจากห้อง ได้ทั้งอ้อน ได้ทั้งคนดูแล แม้มันจะเกินความตั้งใจไปหน่อยก็เถอะ แถมยังต้องมากินยาขมๆ อีก แต่ก็คุ้มกับการป่วยครั้งนี้ ไอ้กลอยประเกรียนสุดหล่อจิตสัมผัสแม่นเว่อร์ยืนยัน แค่กๆ   


........................................................

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 18-09-2016 22:44:26
แกล้งป่วยจนได้เรื่องเลยเป็นไงละ แต่พี่จอมนี่ก็ใจร้ายว่ะไม่นอมดูน้องเกรียนเลยป่วยจริงป่วยหลอกค่อยว่ากันสิแต่ต้องดูจริงๆก่อน เดี๋ยวให้พี่ซันตีเลยนิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 18-09-2016 23:31:57
พี่โชรักกลอยมากจริงยอมใจเลย. ฮือๆอยากได้พี่โชว์มาเป็นสามี จะเเย่งนางกลอย จะเอาเค้าจะเอาพี่โช :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-09-2016 00:59:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-09-2016 07:39:50
ทำไมฉายาหนูกลอยยาวขึ้นเรื่อยๆเนี่ย :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-09-2016 10:09:35
เกรียนตั้งแต่เด็กจริงๆ อยากเป็นนกเพนกวินจนต้องเข้าไปนอนในตู้เย็น  :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 19-09-2016 10:31:34
จริงๆ อยากขอให้มีภาค 2 นะ กลัวว่าตอนพิเศษจะหมดแล้ว เรายังไม่อยากให้จบอะ

ชอบพี่โชกับกลอยมากๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-09-2016 11:06:37
เมื่อความเกรียนไม่หลงเหลือในตัวน้องกลอย เพราะอาการจากพิษไข้ พี่โชดูแลดีๆ หน่อยนะครับ สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 19-09-2016 11:24:22
ก็แค่อยากอ้อนอะนะ น่ารักจริงๆเลยน๊ากลอยเกรียน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-09-2016 12:26:42
น่ารักมากค่ะ อ้อนจนได้เรื่อง  ขนาดป่วยยังต้องเกรียน ความอ้อนต้องมา
โชก็รู้ทันน้องไปหมดเลยนะ ที่บ้านรู้เห็นเป็นใจ

กลอยมีความทะเล้น เป็นลาภเลยเนาะ  ได้อ้อนแถมคนเอาใจ 5555
น่ารักกก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-09-2016 13:50:45
แหม่ ลงทุน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 19-09-2016 14:18:43
กลอยเกรียนเอ้ย แกล้งป่วยได้เรื่องเลย
แต่พี่จอมอ่ะทิ้งน้องเฉยเลยขนาดอาเจียนออกมาขนาดนั้น ดีนะไม่เป็นอะไรมาก

มาต่อตอนพิเศษเรื่อยๆได้มั้ยคะ ชอบมากอ่านเพลินจริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 20-09-2016 10:02:59
แกล้งป่วยสุดท้ายเป็นไงง55555555555
อยากให้มาอัพเรื่อยๆเลยยยยย ชอบม๊ากกก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 20-09-2016 14:14:08
ยังจะมาดีใจ เดี๋ยวใช้ปีศาจให้ปล้ำซะนี่จะได้หายเร็วๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 20-09-2016 22:11:05
 :laugh: :laugh: :laugh:
แกล้งป่วยแต่เป็นจริงๆๆจนได้ น้องกลอยปะเกรียน แต่ได้อ้อนพี่โช ก็ถือว่าคุ้มสุดๆๆเลยเนอะ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 21-09-2016 09:39:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:การมีโรคฯ UP! / [18/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 21-09-2016 12:42:33
พี่โช ทั้งรัก ทั้งหวง ทั้งห่วง ทั้งตามใจ มีความอิจกลอย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 21-09-2016 22:02:04
Just you and I ตอนพิเศษ : งานพิเศษ


        วันเสาร์ที่แสนว่างจนไม่อยากอยู่เฉยๆ ผมขอพี่โชกลับไปนอนกับแม่ที่บ้าน แต่คนอนุญาตกลับจะไปด้วย ทำให้วันนี้พี่โชเกเรงานไปหนึ่งวัน ดีที่ไม่มีงานด่วนอะไร ผมเก็บเสื้อผ้าทั้งของผมกับพี่โชใส่กระเป๋า คนที่จะได้ไปนอนบ้านผมครั้งแรกดูตื่นเต้นจนเริ่มลนลาน พี่โชเดินหานั่นหานี่มาโยนใส่กระเป๋า ทั้งๆ ที่บางอย่างไม่ต้องเอาไป อย่างเช่น เสื้อโค้ทตัวยาว
   “บ้านผมไม่ได้หนาวขนาดนั้น” ผมว่า มือก็ยื่นเสื้อโค้ทคืนคนที่เอาออกจากตู้เสื้อผ้ามา พี่โชกระพริบตามองผมก่อนหยิบเสื้อกลับเข้าไปแขวนใหม่ “ตื่นเต้นล่ะสิ” แซวคนลนลานไป
   “ใครตื่นเต้น ไม่มี” เสียงพี่โชสั่นนิดๆ ดูก็รู้ว่าตื่นเต้น คนขี้โม้เอ้ย
   “เออ ไม่ตื่นเต้นสักนิด” หัวเราะออกมาจนโดนมือยื่นมาปิดปากต้องตบตีให้ปล่อย “ชอบทำรุนแรงตลอดว่ะ” ตวัดสายตาใส่
   “รีบๆ เก็บ เดี๋ยวแม่รอนะ” พูดจบก็ออกไปจากห้อง แต่ผมร้องเรียกไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นละก็ แค่ก้าวออกห้อง คนได้มองเป็นแถวแน่
   “พี่จะใส่กางเกงในไปเหรอวะ แม่ง” คราวนี้หัวเราะลั่นห้องเลยครับ พี่โชเพิ่งอาบน้ำเสร็จก็คว้าเสื้อยืดไปใส่ แต่กางเกงยังไม่ได้ใส่ ขายาวๆ เดินร่อนไปมาโชว์ต้นขาขาวกับกางเกงในสีขาว
   “ชิบหาย” พี่โชก้มดูท่อนล่างตัวเองแล้วรีบเดินมาหากางเกงใส่ ก่อนออกห้องยังก้มหน้ามางับปากผมซะปากแทบแตก “รีบๆ เลย พี่ออกไปรอข้างนอก”
   ส่ายหัวให้กับปีศาจ ผมรูดซิบกระเป๋าเสร็จก็ยกออกจากห้อง พี่โชเดินย้อนมาคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าไปถือแล้วเราก็ออกจากห้องเพื่อกลับบ้านผม บนรถ ผมพยายามชวนคุยแต่พี่โชทำแค่มอง เหงื่อที่ผุดตามไรผมสวนทางกับความเย็นของแอร์ที่ทำงานเป็นอย่างดี รถหรูขนาดนี้ แอร์ต้องแรงอยู่แล้ว
   “แม่ผมพี่ก็รู้จัก จะตื่นเต้นทำไม”
   “ก็คราวนี้ไปนอนไง” สุดท้ายก็พูดออกมาจนผมขำ “ไม่ขำนะ”
   “พี่โชก็ ไม่ได้นอนรวมกับแม่สักหน่อย หรือพี่อยากนอน”
   “กล้าถามนะ” โดนปีศาจเขกหัวซะเจ็บ
   “จะได้รู้ไง ว่าความรู้สึกของผมตอนไปนอนบ้านพี่ผมรู้สึกยังไง” เหล่ตามอง
   พี่โชเคยพาผมไปนอนที่บ้าน คราวนั้นโคตรตื่นเต้น ผมเคยไปเที่ยวแต่ไม่เคยนอนเลยสักครั้ง ทุกครั้งจะกลับไปนอนคอนโด แต่วันนั้นแม่พี่โชชวน ผมเลยไม่กล้าปฏิเสธ ตอนค่ำไม่เท่าไหร่ ตอนตื่นสิครับ ไอ้กลอยโคตรตื่นเต้น บนโต๊ะอาหารที่ทุกคนนั่งรออยู่ พี่โชไม่ยอมเรียกผมตื่นเลยตื่นสายทำให้เราลงมาสายกว่าคนอื่น แต่ดีที่ไม่มีใครว่าอะไร มีแค่พ่อพี่โชเหล่ตามองเท่านั้น
   “หายละ”
   “หา” ผมหันไปมองคนขับรถที่อยู่ๆ ก็บอกว่าหาย อะไรหายวะ
   “แวะซื้อผลไม้เข้าไปมั้ย”
   “เช้าขนาดนี้ร้านไหนจะเปิด ไม่ต้องซื้อหรอก”
   สรุปก็ไม่ได้ซื้ออะไรเข้าไป อีกอย่าง พี่กิ่งมักจะซื้อไว้ให้แม่ตลอด จนแทบเน่าคาตู้เย็นบ่อยๆ ผมให้พี่โชจอดรถที่ลานฝากรถแถวๆ ร้าน ตึกแถวๆ นี้มักจะเอารถยนต์มาฝากที่นี่แทบทุกหลัง
   “โห ไม่เห็นตั้งนาน ตัวเตี้ยลงหรือเปล่าวะ” ผมยกขาเตะไอ้ตั้ว มันเป็นลูกชายของลานฝากรถครับ สนิทกันเพราะบ้านมันมักจะสั่งกับข้าวร้านผมตลอด
   “ปากมึงยังมีหมาตลอดนะ อย่าลืมฉีดยามันด้วยไอ้สัดตั้ว” ด่ามันไปแล้วรีบเดินออกมา ไม่อย่างนั้นปีศาจอาจอาละวาดได้ พี่โชหน้าบึ้งมากที่เห็นไอ้ตั้วปรี่มาจะกอดผม
   เราเดินข้ามฝั่งถนนมาที่ร้านของแม่ เวลาตอนนี้ร้านแม่ผมกำลังจะเปิดร้านครับ เราเลือกมาตอนเช้าเพราะอยากมาช่วยแม่เปิดร้านด้วย วันนี้วันหยุดพี่กิ่งก็อยู่ แฟนพี่กิ่งก็อยู่ สรุปอยู่ครบครับ
   “ไอ้นั่นใคร” เสียงปีศาจโคตรนิ่ง ผมรีบหันไปยิ้มกว้าง
   “เพื่อน สนิทเพราะบ้านมันมาสั่งข้าวที่ร้าน” อธิบายแต่พี่โชก็ยังทำหน้านิ่ง
   “อย่าให้พี่เห็นว่าปล่อยให้มันกอดนะ”
   “รู้แล้วน่า ย้ำตลอดจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้แล้วเนี่ย” พี่โชขำออกมาแต่ผมปั้นหน้าบึ้งแทน
   มาถึงหน้าร้านที่เปิดด้านหนึ่ง ผมเห็นพี่ที่แม่จ้างมาช่วยกำลังกวาดพื้น พอพี่เขาหันมาเห็นผมก็ทักทายตามคนรู้จัก ผมเดินเข้าไปด้านในเพื่อเอาของขึ้นไปเก็บ พี่โชเหลียวมองนั่นมองนี่เพราะไม่เคยขึ้นมา ผมเปิดประตูห้องนอนตัวเองที่ไม่มีอะไรมากมาย พี่โชเดินแทรกผ่านผมเข้าไปยืนหน้าโต๊ะหนังสือ
   “อะไร” ผมถาม พี่โชยื่นมือหยิบกรอบรูปสมัยผมยังเป็นเบบี๋ขึ้นมาดู
   “น่ารัก” คำชมพร้อมรอยยิ้มทำให้ผมยักคิ้วตอบ “โป๊ด้วย อันเล็กอีก” หน้าหุบเมื่อถูกดูถูกอย่างร้ายกาจ แต่จะเถียงก็เถียงไม่ออกเพราะพี่โชเป็นมังกร ของผมก็มังกรนะ แต่เป็นลูกมัน
   อย่างน้อยก็มังกรนะเออ
   “เอาวางเลย นั่นมันตอนเด็กไง” รีบเดินมาแย่งแล้วเอาวางที่เดิม พี่โชหัวเราะร่วน
   “โตมาก็เล็กนะ” นั่นไง
   “อย่าหื่นครับปีศาจ” พี่โชยังหัวเราะจนผมต้องลากออกมาจากห้อง
   ลงบันไดมาถึงชั้นหนึ่ง เห็นแม่ พี่กิ่งแล้วก็พี่ผิงเดินเข้าร้านมา ผมรีบวิ่งเข้าไปกอดแม่ด้วยความคิดถึง หอมแก้มหอมๆ ไปหลายฟอดจนโดนแม่ตีแขน
   “มาแต่เช้าเชียว ไปกวนพี่เขาด้วยใช่มั้ย” แม่ว่า
   “เข้าข้างพี่โชอะ กลอยเป็นลูกนะ” หน้างอจนทุกคนขำ ไม่ตลกนะครับเนี่ย
   “ก็เพราะเป็นลูกนั่นแหละ” ผมหน้างอ พี่กิ่งรีบมาลากแขนให้ออกห่างจากแม่
   “พอเลยแกน่ะ ไม่อายแฟนเหรอวะ” พี่กิ่งดุแต่น้ำเสียงล้อมากกว่า สายตาเหล่ไปทางพี่โชด้วย
   “อายทำไม เนอะ” ยิ้มให้กับคนที่พาผมมา พี่โชก็ยิ้มให้อย่างเดียว เพราะหลังจากยกมือไหว้แม่ผม พี่กิ่งแล้วก็พี่ผิงแล้ว พี่แกก็ยืนเงียบเลยครับ
   “หน้าด้านล่ะสิแกน่ะ โอ้ย ผิงตีกิ่งทำไม” หัวเราะสมน้ำหน้าพี่สาวตัวเองเมื่อถูกตีแขน
   “กิ่งไปแกล้งน้องทำไม นิสัยไม่ดีเลยเนอะแม่” พี่ผิงหาพวกครับ ซึ่งแม่ก็พยักหน้าด้วย พี่กิ่งเลยไม่มีพวก ร่างที่สูงพอๆ ผมเลยเดินหนีเข้าไปด้านในแทน “งั้นเดี๋ยวผิงเอาของไปเก็บให้นะคะ”
   ผมมองพี่ผิงเดินตามพี่สาวตัวเองเข้าไป แม่ผมไปตักบาตรมาครับ พอว่างก็พาผมกับพี่โชไปนั่งที่โต๊ะ แต่ผมบอกจะช่วยเปิดร้าน พี่โชก็เช่นกัน แม่ส่ายหน้าแต่ผมดื้อ ตอนนี้เลยช่วยกันเช็ดโต๊ะ เช็ดเก้าอี้ พี่กิ่งกับพี่ผิงช่วยเตรียมของที่จะต้องใช้อยู่ในห้องเก็บของ ก่อนพี่โชจะเข้าไปช่วยยกออกมา มีทั้งผัก ทั้งหมู
   “ผมว่า น่าจะจ้างผู้ชายมาช่วยด้วยนะ” งานหนักๆ ผู้หญิงจะน่าไม่ไหวนะครับ อย่างยกหม้อ ยกกะละมังแบบนี้
   “ก็อยากจ้างนะ แต่ไม่ไว้ใจ ร้านเรามีแต่ผู้หญิง” พี่กิ่งตอบผมครับ มันก็ใช่
   “งั้นเดี๋ยวผมหาให้ครับ” พี่โชอาสาออกมา ทุกคนเลยมองหน้ากันก่อนพยักหน้าตกลง เพราะถ้าเป็นพี่โชหามาให้เองคงไว้ใจได้
   “หาหล่อๆ นะ” ผมกระแซะไหล่เลยโดนเขกหัว พี่กิ่งอยู่ใกล้ๆ หัวเราะออกมาแถมสมน้ำหน้าผมอีก ทำไมสุดหล่อมีแต่คนรุมแกล้งเนี่ย
   กว่าร้านจะเปิดก็เกือบๆ หกโมงครึ่ง พอร้านเปิดก็เริ่มมีลูกค้าที่รออยู่แล้ว แม่ผมประจำหน้าที่หน้าเตาโดยมีผมเป็นลูกมือ พี่โชจ้องมาที่ผมตาละห้อยเพราะถูกปล่อยให้นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านใน แม่เลยบอกให้ผมไปอยู่กับพี่โชแล้วให้พี่กิ่งมาทำหน้าที่อย่างเคย
   “ดูทำหน้า” ผมมานั่งตรงข้ามพี่โชที่สีหน้าดีขึ้นที่ผมมานั่งด้วย “หิวมั้ย พี่อยากกินอะไร”
   “อะไรอร่อยบ้าง”
   “ทุกอย่าง” แม่ผมทำอร่อยมาก ทุกอย่างด้วย
   “อยาก...” หน้ายิ้มเริ่มหุบเมื่อพี่โชมองมาที่ปากผมแทน
   “เลิกหื่นได้ป่ะ ยังไม่หิวก็ช่วยกันทำมาหากิน...เร็ว” พี่โชขำก่อนจะลุกมาช่วยพี่ผิงเสิร์ฟ
   และดูเหมือนจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าสาวๆ ที่พากันมองหน้าพนักงานพิเศษสุดหล่อตาเยิ้มจนลืมสั่งอาหารแต่อยากสั่งพนักงานห่อกลับบ้านแทน
   “แฟนเราโดนกินทางสายตาแล้วน่ะ” พี่ผิงมากระซิบผมครับ ผมมองนิ่งๆ เพราะไม่ได้คิดอะไร หึงเหรอ ก็มีนะ แต่ผมเชื่อใจพี่โชเสมอ อีกอย่าง เคยผ่านอะไรมาด้วยกันก็มาก เป็นไปไม่ได้ ถ้าพี่โชจะโดนคนอื่นที่เพิ่งเจองาบไป
   ...เหรอ
   “น้องหล่อจังเลยค่ะ เป็นดาราหรือเปล่า” พนักงานสาวสวย (มาก) กำลังนั่งแซวคนหล่อที่รอจดรายการอาหาร
   “พวกพี่มากินร้านนี้บ่อยทำไมไม่เคยเห็น หรือว่าเพิ่งมาทำงานจ๊ะ” เพื่อนอีกคนก็แซวออกมาด้วย พี่โชยังยืนยิ้มให้อยู่
   “ถ้าน้องทำงานที่นี่ พี่จะมาทั้งเช้า กลางวัน เย็น แถมมื้อดึกด้วย ไม่ลดมันละความอ้วน” คนสุดท้ายของโต๊ะครับ ผมนั่งมองพี่โชที่ยิ้มจดอาหารแล้วเดินเอาไปให้พี่กิ่ง ก่อนจะเดินย้อนกลับมาหาผมที่ยืนข้างพี่ผิง
   พี่โชหน้าบึ้งเดินตรงเข้ามาจนพี่ผิงขำแล้วเดินเลี่ยงออกไป เหลือแค่ผมที่ยืนรอคนเดียว พอพี่โชมาถึงก็วางหน้าผากกับไหล่ของผมแล้วถอนหายใจออกมา
   “เป็นอะไร โดนสาวๆ แซวถึงกับเขินเลยเหรอ”
   “ตลก ไม่ชอบเลยอะ” พี่โชเป็นพวกไม่ชอบสุงสิงกับผู้คนเท่าไหร่ คงเพราะพูดไม่เก่งด้วย อีกอย่าง เอาใจใครไม่ค่อยเป็น...
   นอกจากผมคนนี้ (สะบัดผม)
   “เอาน่า นึกว่าทำงานพิเศษไง เดี๋ยวเลิกงานผมเอาเงินให้”
   “ไม่เอาเงินได้ป่ะ” ไม่ต้องถามต่อเพราะมือยาวๆ นั่นอ้อมหลังมาบีบก้นผมแล้ว
   “บอกว่าให้เลิกหื่นไงปีศาจ” พี่โชกลับมาหัวเราะหลังจากหน้างอเป็นกุ้ง
   เพราะพี่โชมาช่วยด้วยหรือเปล่าไม่รู้ ทำให้วันนี้คนเยอะเป็นพิเศษ อย่างตอนเที่ยงนี้ ทุกคนในร้านเดินกันขาแทบขวิดเพราะโต๊ะนั่นก็สั่ง โต๊ะนี้ก็เรียก แต่ดูเหมือนอยากเรียกแค่พนักงานเสิร์ฟสุดหล่อคนเดียว เวลาผมเดินไป ลูกค้าสาวๆ มักจะเอนคอมองหาพี่โชแทน แต่เสียใจ รอบนี้ไอ้กลอยครับ
   “พี่คะๆ” ผมเงยหน้ามองน้องนักเรียนที่สะกิดเรียกผมตอนจดรายชื่ออาหาร “พี่คนหล่อๆ คนนั้นชื่ออะไรเหรอคะ” หันไปมองคนที่น้องถามที่กำลังถูกเด็กนักเรียนอีกกลุ่มจีบโต่งๆ
   “ชื่อโชครับ” ยิ้มตอบ แม้ในใจจะแอบโมโห นี่ผมบอกชื่อพี่โชเป็นรอบที่ห้าสิบแล้วนะครับ ถามทุกคน คำถามเดิมๆ แบบนี้ ไอ้กลอยก็หล่อ ทำไมไม่ถามชื่อผมบ้าง โมโหครับ
   “หูย ชื่อเพราะอะ” เด็กสาวห้าคนร้องออกมาพร้อมกันแล้วพากันยิ้มกริ่ม
   “พี่เขามีแฟนหรือยังคะ” นี่ก็คำถามยอดฮิตครับ และผมก็ต้องตอบคำถามแบบเดิมไป
   “มีแล้ว”
   “เสียดาย” สาวกลุ่มนี้หน้าบูดทันที “แต่เราไม่ได้จะเอาแฟนพี่เขาสักหน่อย”    
   ผมรีบเดินหนีออกมาเลยครับ กลัวจะบอกว่าใครคือแฟน แฟนคือใคร พี่กิ่งเห็นหน้าผมก็หัวเราะเยาะ แต่ผมไม่สนุก
   “หวงล่ะสิ สมน้ำหน้า อยากพามาเอง รู้ทั้งรู้ว่ามันหล่อขนาดนั้น”
   “ใครจะไปรู้เล่า แล้ววันนี้ก็วันเสาร์ ไม่น่าจะมีคนเยอะ”
   “ยิ่งวันเสาร์คนยิ่งเยอะ แกนี่มัน ไปๆ เอาไปเสิร์ฟ” พี่กิ่งยื่นข้าวผัดปูสองจานให้ผม “โต๊ะสิบ”
   เดินหน้าบูดนิดๆ เอาข้าวไปเสิร์ฟ คิดว่าต้องได้ตอบคำถามอีกหรือเปล่า แต่คราวนี้เป็นผู้ชายครับ แต่งตัวดีมาเชียว ไอ้กลอยสัมผัสได้ ถึงเป็นผู้ชายก็อาจได้ตอบครับ...
   “ข้าวผัดปูครับ” ผมยิ้มนิดๆ ให้ พี่ชายสองคนเงยหน้ามองผมนิ่งๆ ก่อนเอนตัวมองพี่โช ว่าแล้วมั้ยละ ผมกำลังเตรียมจะอ้าปากตอบชื่อพี่โช “น้องกับคนนั้นคบกันอยู่ใช่มั้ย” อ้าปากค้างไปแล้ว
   “พี่จับรังสีออร่าบางอย่างได้” พี่อีกคนทำตาเล็กตาน้อยใส่ ผมไม่ตอบแต่หัวเราะแห้งๆ ให้ “เหมาะกันดีนะ น้องคนนั้นก็น่าจะแซ่บอยู่”
   “วันไหนอยากลองเปลี่ยนคู่บอกพวกพี่ได้นะ” ไอ้กลอยไปไม่ถูกเลยทีเดียวครับ ผมผงกหัวให้แล้วเดินหนีออกมาเลย สายตาเมื่อกี้ที่ถูกไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าทำเอาขนลุกอย่างบอกไม่ถูก เหมือนโดนเครื่องสแกนตรวจจนมองทะลุทุกอย่าง
   “เป็นอะไร” พี่โชขยับมาข้างผมแล้วกระซิบถาม “หน้าโคตรซีด”
   “โดนถามมา” ผมว่า
   “ใคร” ผมใช้สายตาส่งให้พี่โชมองตาม “เขาถามอะไร ขอเบอร์หรือเปล่า” เสียงกับหน้านิ่งขึ้นมาแต่ผมส่ายหน้า
   “เขาชวนผมกับพี่ไปสลับคู่” พูดแค่นี้รังสีปีศาจก็ลุกโชนจนผมต้องรีบจับแขนพี่โชไว้ ดีที่จับทันเพราะขาพี่โชก้าวไปแล้วครับ “ห้ามมีเรื่องนะ ร้านของแม่ด้วย” พี่โชชักสีหน้าใส่แล้วลากผมเข้าไปหลังร้านแทน
   “ต่อไปไม่ต้องไปใกล้พวกมันอีก ถ้ามันเรียกก็บอกพี่เลยเข้าใจมั้ย” ผมพยักหน้า “แล้วก็ เลิกทำหน้าน่ารักได้แล้ว พี่ขี้เกียจบอกชื่อเมียพี่ให้คนอื่น”
   “ผมก็ต้องบอกชื่อพี่เหมือนกัน เมื่อยปากหมดแล้วเนี่ย” ทำปากจู๋จนโดนปีศาจโฉบมาจูบไปที “พี่โช เดี๋ยวมีคนเห็น” รีบหันซ้ายหันขวา แม้จะเข้ามาในห้องเก็บของ แต่กลัวพี่พนักงานจะเข้ามา
   “เห็นก็ช่าง อยากดูจะจูบให้ดูมันซะเลย”
   “ตลก”
   ผมแลบลิ้นให้แล้วรีบเดินออกมาก่อนจะโดนปีศาจทำโทษ ออกมาเด็กสาวกลุ่มที่ผมบอกชื่อพี่โชก็กรี๊ดกันเบาๆ แต่ผมก็ได้ยิน น้องๆ กลุ่มนั้นรีบกวักมือเรียกผมเข้าไปหา พอเดินเข้าไปใกล้ก็ถูกดึงแขนให้นั่งลงทันที
   “พี่เป็นแฟนกับพี่โชใช่มั้ยคะ” น้องมีลักยิ้มถามด้วยใบหน้ากระหายอยากรู้
   “พวกเราก็ว่าพี่หน้าคุ้นๆ เปิดดูเพจแล้วมันใช่เลย” น้องผมเปียเสิมเพื่อน
   “หนูเป็นแฟนคลับนะคะ ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอตัวเป็นๆ ขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยคะ”
   จากนั้นความวุ่นวายภายในร้านก็บังเกิดครับ พี่โชเห็นผมถูกกักตัวก็รีบเข้ามาหาแต่กลับกลายเป็นว่า ถูกกักตัวเหมือนกัน ไม่ได้ทำอะไร แต่เป็นกรถูกจับถ่ายรูปคู่ จากกลุ่มเดียวเริ่มมีหลายกลุ่ม ส่วนมากก็เด็กนักเรียน ไม่ก็กลุ่มสาวนักศึกษาที่เดินผ่านพอดี
   ถ่ายรูปจนหนำใจผมถูกพี่กิ่งพาเข้าไปด้านหลังและสั่งห้ามให้ออกมา พี่โชก็ด้วย เราเลยขึ้นไปอยู่บนห้องแทน ผมไม่ได้สร้างปัญหาให้ร้านสักหน่อย ก็แค่คนโวยวายกรี๊ดกร๊าดจนลูกค้าโต๊ะอื่นๆ รำคาญ ผมไม่ผิดนะ
   “เหนื่อย” พี่โชทิ้งตัวนอนลงบนเตียงของผม แล้วตบที่ว่างๆ ให้ผมขึ้นไปนั่ง
   “นี่ทำงานนะ ห้ามบ่นว่าเหนื่อย” ผมตีเข้าที่หน้าท้องแข็งๆ พี่โชยิ้มก่อนกลิ้งมาใกล้ๆ แล้วยกหัวหนุนขาผมแทน
   “คืนนี้กลับไปนอนที่คอนโดมั้ย” ผมก้มมองพี่โชที่จ้องตากับผมพอดี
   “ทำไมอะ ห้องผมมันแคบเหรอ”
   “เปล่า แค่ห้องนี้ไม่เก็บเสียง” ฝ่ามือเน้นๆ ลงที่ท้องครับ คนโดนหัวเราะร่วน
   “คิดมันอยู่แค่นี้นะคนเรา”
   “ก็มีเมียน่ารักนี่หว่า”
   “หล่อบ้างก็ได้”
   “พี่ไปโต๊ะไหนก็มีแต่คนบอกกลอยน่ารัก เกือบได้ต่อยไปหลายคนแล้ว”
   “พี่โชด้วย มีแต่คนชมว่าหล่อ เกือบบอกว่านั่นแฟนแล้ว”
   “แต่พี่บอกไปทุกโต๊ะเลยนะ” ผมมองหน้าคนที่บอกทุกโต๊ะอย่างงงๆ “ที่บอกว่าพี่มีแฟนแล้ว แฟนพี่คือคนที่หน้าบึ้งๆ ตัวเล็ก ปากหมา แต่น่ารัก”
   “นี่ชมแล้วใช่มั้ย”
   “ชมสิ ว่าตรงไหนล่ะ”
   “ทุกตรงนั้นแหละ”
   ผมหน้ามุ่ยแล้วจะลุกหนี แต่กลับโดนมือใหญ่ดึงไว้แถมยังกดหัวให้ก้มลงไปจูบ ปีศาจที่ไม่เคยจูบเฉยๆ กำลังผลักผมลงที่นอนแข็งๆ สายตาที่บ่งบอกถึงความต้องการที่ไม่เคยหมด
   “พี่โช” ถูกจูบซ้ำๆ
   “กลอยครับ” ริมฝีปากนุ่มกำลังจะก้มลงมาอีกครั้ง
   ก๊อกๆๆ
   “มาช่วยเสิร์ฟหน่อย คนเยอะ เร็วๆ” เสียงพี่กิ่งเคาะประตูกับเรียก พี่โชถึงกับเด้งออกไป ผมก็นอนตาค้างกลัวประตูเปิด พวกเรามองหน้ากันนิ่งแล้วก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
   “คืนนี้กลับนอนที่คอนโดเถอะ พี่กลัวคนเปิดเข้ามาเห็น”
   “ก็ได้”
   ตอบตกลงไม่ใช่อะไรนะครับ เพราะปีศาจมันห้ามความต้องการไม่ได้ แล้วใจผมก็ห้ามไม่ค่อยได้เช่นกัน โด่ว ไม่ได้อะไรเลยนะ ไม่ได้ต้องการด้วย จริงจริ๊ง
   และแล้วคืนนี้ตอนกลับคอนโด เราทั้งคู่นอนหลับเป็นตายเพราะกว่าจะช่วยงานจนร้านปิด ทั้งเหนื่อย ทั้งเมื่อย ทั้งเพลีย และทั้งอิ่มกับมื้อค่ำ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันครับ ตราบใดที่เรายังนอนห้องเดียวกัน เตียงเดียวกัน และยังรักกัน เวลายังเหลืออีกถมเถ ไอ้กลอยรอได้อยู่แล้ว 

..........................................................

มาส่งเข้านอนแบบสั้นๆ ค่า  :mew1: :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 21-09-2016 22:53:14
แหม่ กลอยยยยยยยยย ไม่ค่อยเลยนะเราอะ
ใหนทีแรกต้งใจมานอนบ้านไงพี่โชชวนกลับแค่นี้ก็ใจง่ายตามเข้าไปซะงั้น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 21-09-2016 23:05:15
จับพี่จอมมาตีตี ให้เจ็บ เลย ทิ้งกลอยปะเกรียน ได้ไง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 21-09-2016 23:21:25
 :haun4:  พี่โชน้องกลอยน่าร๊ากกกกกสุดๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-09-2016 23:24:18
พี่โชไม่ตื่นเต้นเล๊ยยยยยยยยแค่ใส่แต่เสื้อยืดกับกางเกงในแล้วจะเดินออกจากห้องเท่านั้นเองงงงงงง :m20: :m20: :m20:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 21-09-2016 23:30:44
 o13  o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-09-2016 23:41:08
พี่โชน่ารักอ่ะ 5555 นี่นับว่าปีศาจใจเย็นลงมากแล้วนะ ถ้าเป็นแต่ก่อนคงมีเหตุให้ร้านพังแล้วววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-09-2016 01:26:03
อิจฉาโว้ย!!!!!!
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-09-2016 03:38:54
กลอย น่ารัก งอแง อยากอ้อนพี่โช พี่โชก็รู้
กลอย ว่าพี่โช เป็นปีศาจหื่น :katai1:
แต่กลอยก็หื่น พอกับพี่โชแหละ  :ling1: :ling1: :ling1:
เม่น ม่าน  :mew1: :mew1: :mew1:
ว่าแล้ว เหมือนกลอย ทำตาร้ายๆ
ตอนที่กินเลี้ยงกันที่คอนโดพี่โช
ที่แท้วางยาเม่น ม่าน ให้เม่นมีคู่ นี่เอง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 22-09-2016 06:42:35
ทั้งเกรียน ทั้งหื่น แหละกลอยเอ้ย  :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 22-09-2016 07:29:29
ตลอดดด555 :z2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 22-09-2016 09:18:37
ฮิ้ววว.....555+อุตส่าห์กลับคอนโดก็ยังอดจนได้

แต่ก็อย่างว่า เมื่อไหร่ก็ได้เนอะกลอย ยังไงๆก็นอนข้างกันอยู่ทุกๆคืน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 22-09-2016 09:34:09
หวายๆๆๆ ขี้อวดแฟนกันนี่นา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 22-09-2016 11:12:57
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 22-09-2016 12:47:43
พี่โชไปซื้อตาข่ายมาดักนกไว้เลยนะ นกมันจะได้ไ่ม่บินหนี นกตลอดอะพี่โช :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-09-2016 16:46:03
ความหื่น ความหวงเมียคงที่จริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 22-09-2016 23:54:15
อ่าวจบแล้ว ดีใจเว่อค่ะ ชอบตอนพิเศษนะคะ แรกๆเราว่าเนื้อเรื่องไปไวมาก เราไม่ค่อยอินเท่าไหร่ ไม่ค่อยสมจริง แต่พอมาได้ประมาณกลางๆเรื่องไปจนถึงตอนจบเราชอบมากเลย อินนะสำหรับเรา ชอบตอนที่แต่ล่ะคู่อยู่ด้วยกันไปแล้ว เราติ่งจอมมากอ่า นางเกรียนเราชอบ //ปาใจใส่รัวๆ แล้วเราจะตามไปอ่านผลงานเรื่องถัดไปนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 23-09-2016 00:37:30
ต๊ายยยยยยยยย...ไม่ค่อยแรดเลยค่ะลูกสาวใจง่ายจริงจริ๊ง  :mew5: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 25-09-2016 13:56:30
ไหนตอนแรกจะนอนค้างบ้านแม่
พอปีศาจหื่นเด็กเกรียนสนองซะงั้น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-09-2016 15:55:48
สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวนะพี่โช ชวนน้องกลอยกลับคอนโดจนได้ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 27-09-2016 13:28:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:งานพิเศษ UP! / [21/09/59][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MAILOVEZ ที่ 28-09-2016 14:39:21
สนุกมากเลยค่ะตอนแรกๆ เนื้อเรื่องมันไม่ค่อยสมูทนิดนึงแต่พอผ่านไปเรื่อยๆ มันดีมากชอบมากอ่านแล้วต้องอ่านต่อจนจบเลยชอบพี่โช คนที่มีเรื่องกระทืบคนสิบกว่าคนกับคนที่อยู่กับกลอยนี่อย่างกับคนละคนหลงเมียขี้นแม็กซิมั่มมากๆ มุมอบอุ่นก็โคตรน่ารัก มุมหื่นก็โคตรหื่น (อันนี้เรียกดีไหม ?) แต่ชอบในความรักที่มีให้น้องเสมอหลงมากๆ ก็ตรงนี้เลย

กลอยประเกรียนนี่มันเกรียนสมชื่อโคตรๆ แต่รักนางมากนางคือรอยยิ้มของเรื่องนี้จริงๆ อะไรที่เครียดก็ทำให้ขำได้ตลอดความหล่อไม่มากแต่ความมั่นหน้านี่เต็มสิบหลงตัวเองขั้นสุดด (แซว) แต่สงสารพี่โชกับกลอยตรงที่เวลาจะเข้าด้ายเข้าเข็มนี่มีมารผจญตลอด เป็นนกก็พญาอินทรีละ 555555

คู่ซันจอมนี่แบบโง้ยยย~ โคตรดีพี่ซันคือดีอะ มองจากมุมกลอยดูแบบอบอุ่นแต่พออมาเล่ามุมพี่จอมคือดีกว่าเดิมคูณสิบอยากได้ ชอบเวลาเถียงกันพี่จอมตอนแรกคืออย่างโหดที่ไหนได้นี่มันแมวชัดๆ มึนมากยอมใจแต่น่ารักมาก พี่ซันโคตรเจ้าเล่ห์แบบนี้สิบจอมก็ไม่รอดหรอก 5555

เบทูคือแบบอิพี่เบแม่งโคตรจะหมั่นไส้ช่วงแรกๆ สมควรโดนด่าละผิดที่ให้ความหวังน้องไง #ทีมลูกคนที่สอง ลำเอียงสุดอะแต่พอคบกันแล้วน่ารักพี่เบคือตามใจน้องสุดอะ ดีงามทุกคู่เลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ :เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 28-09-2016 15:51:31
Just you and I [Bae & two] : วันเกิด (วันเละ)


(ทู)

         ลานสนามหญ้าหน้าบ้านพี่เบ ผู้คนกำลังคึกคักได้ที่ นั่นเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของพี่เบครับ ผมก็มาช่วยตามหน้าที่แฟน ยังมีพวกเพื่อนๆ ของพี่เบ แล้วก็เพื่อนของผม ทุกคนดูตั้งใจจะมากิน มาร้องเพลง มาสนุกอย่างเดียว ผมไม่เห็นใครช่วยทำอะไร มีแต่ผมแล้วก็เจ้าของวันเกิดที่เดินทำนั่นทำนี่ ไอ้ทูเหนื่อย

   อย่างตอนนี้ก็มีแค่ผมที่ปิ้งบาร์บีคิวให้พวกขี้เมากิน นี่ขนาดหัววันนะ ยังเริ่มเปิดขวดกันแล้ว

   เหล่ตามองเจ้าของวันเกิดที่เดินร่อนไปทั่วบริเวณ ไม่ได้ช่วยงานผมนะ แต่ไล่ชนแก้วเพื่อนพี่น้องรอบวง ก่อนไปหยุดอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่มากันครบแก๊ง ชิ่งงานนี่หว่า ผมเหล่ตามองพี่แทมที่ดูจะดี๊ด๊ากว่าเพื่อน เห็นบอกว่าเครียดเพราะถูกสั่งให้เรียนปริญญาโทต่อ 

   “คลายเครียดโว้ย” พี่แทมตะโกนจนโดนพี่ซันเอามือปิดปาก คงกลัวถูกครกปลิวมาโดนหัว

   “แหกปากหาพ่องมึงเหรอวะ เดี๋ยวก็โดนตำรวจจับหรอก” พี่ตินด่าเพื่อนแต่มือยังถือไมค์รอร้องเพลงที่ตัวเองเพิ่งเลือกไป ก็คาราโอเกะนั่นแหละครับ กลุ่มนี้ขาดเพลงไม่ได้หรอก

   ไอ้อัธเดินมาช่วยผมปิ้งบาร์บีคิว แต่พอของที่มันปิ้งสุก มันก็เดินไปนั่งที่โต๊ะตามเดิม สรุปคือมาปิ้งเองเพราะผมทำช้าไม่ทันใจ นี่เพื่อนเขาทำกันแบบนี้เหรอวะ

   “ไอ้ม่านล่ะ” ไอ้กลอยเอาน้ำอัดลมสีส้มมาให้ผม มันยื่นมือมากลับของบนเตาหลังจากผมยกน้ำขึ้นดื่ม

   “กูก็ยังไม่เห็น ลองโทรหามันสิ” ผมว่า ไอ้กลอยล้วงโทรศัพท์ออกมากำลังจะกดโทรออก เพื่อนตัวกวนของผมคนสุดท้ายก็เดินเข้ามาพร้อมกับคนที่ไอ้กลอยร้องตกใจดังลั่น

   “ไอ้เชี่ยเม่น” ไม่ใช่แค่ไอ้กลอยที่ตกใจ ขนาดผมยังตกใจ เพราะยังจำถึงสถานการณ์อันร้อนระอุที่เคยเกิดที่คณะในวันเปิดงานมหาลัยได้ดี ตอนนั้นพี่โชเดินเข้ามาถามหาไอ้กลอยกับผม แต่แก๊งสามสหายเดินเข้ามาหาแล้วเปิดประเด็นโดยการขอจีบไอ้กลอยต่อหน้า ก็ดูลูกผู้ชายดีที่กล้าบอกตรงๆ แต่มันลืมนึกไปว่า มันไม่สมควรทำ อีกทั้งคนตรงหน้าพวกมันตอนนั้นคือพี่โช ผู้ชายที่ทั้งโหดและเหี้ยม (พี่เบบอก) ตอนมัธยมเลยกระทืบคนที่หาเรื่องจนเกือบตายคาเท้ามาแล้ว แต่จะทำตัวใจดี น่ารักเฉพาะกับไอ้กลอยเท่านั้น

   “มันมาทำไมวะ” ผมหันไปถามไอ้คนหน้าตาตื่น เห็นไอ้กลอยรีบมองไปที่พี่โช ฝ่ายนั้นก็กำลังจ้องคนมาใหม่อยู่เหมือนกัน “กูว่ามึงไปประจำที่เถอะ เดี๋ยวมีมวยในงานวันเกิดแฟนกู” ผมสะกิดบอกเพื่อนที่ยืนนิ่งไม่ยอมขยับ พอมันตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปหาแฟนมันทันที


   โชคดีเพื่อนเกรียนเอ๋ย


   ปาร์ตี้วันเกิดยังคงคึกคักไม่มีวี่แววจะเกิดสงครามอย่างที่กลัว ไอ้เม่นนั่งข้างไอ้ม่านชนิดที่ว่าแทบจะขึ้นไปนั่งเกยตักกันอยู่แล้ว แถมมันยังเฮฮาไปกับก๊วนพี่โชและพี่น้องของพี่เบ นี่มันไปสนิทกับพี่เขาขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

   “เสร็จยัง” พี่เบเดินมาหาผมที่ยืนหน้ามันอยู่หน้าเตา

   “ใกล้แล้ว ไม่มีใครช่วยทูเลย” หน้างอจนโดนขำ ผมมองคนที่เดินกลับไปที่โต๊ะและกลับมาพร้อมกระดาษทิชชู่ มือขาวๆ ยื่นกระดาษมาเช็ดหน้าให้ผม

   “หน้ามันคั้นน้ำมันพรายได้แล้ว” เช็ดไปว่าไป ผมก็ยิ้มอย่างเดียว “เอาทิ้งไว้นี่แหละ ใครอยากกินก็ปล่อยให้มาทำเอง”

   “อืม” ไม่ปฏิเสธหรอกครับ ผมยืนปิ้งตั้งนานจนขาแข็งหมด

   พี่เบจูงมือผมเข้าบ้านก่อนเพราะหน้ามันจนหมดหล่อแถมตัวยังเหม็นควันไปหมด เข้ามาด้านในก็เจอบรรดาผู้สูงวัยอย่างพ่อกับแม่ของผมแล้วก็ของพี่เบกำลังนั่งหัวเราะกันอยู่ พอผมกับพี่เบเดินเข้ามา พวกท่านแค่ปรายตามองแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร แม้ผมจะถูกจูงมือขึ้นชั้นสองก็เถอะ

   เห็นบ่อยจนชินละมั้งครับ

   “ไปไหนอ่ะ” ผมถามขณะถูกพาเข้าห้องนอน ผมเคยเข้ามาหลายครั้งแล้วครับ แต่เข้ามาเฉยๆ นะ ไม่ได้ทำอะไร

   “อาบน้ำไง ตัวเหม็นขนาดนี้”

   “แต่ผมไม่มีเสื้อเปลี่ยน” 

   “ใส่ของพี่ก่อน”

   ผมยื่นมือรับเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนก่อนเดินเข้าห้องน้ำ อือฮือ ทั้งเสื้อทั้งหัวเหม็นไปหมด ใช้เวลาชำระร่างกายไม่นานก็ออกมายืนหัวเปียกอยู่ด้านนอก พี่เบนั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่หันมาเห็นก็ขมวดคิ้วทำหน้านิ่วเหมือนปวดท้อง

   “ทำไมไม่เช็ดผมให้แห้งวะ” แม้จะทำเสียงเข้มแต่ก็ลุกมาเช็ดผมให้

   ชอบก็ตรงนี้แหละ

   “ก็ผมจะให้พี่เช็ดให้ไง” ผมบอก พี่เบหัวเราะลั่นพร้อมขยี้หัวผมซะโยกจนหัวแทบจะหลุด “แม่ง นี่เช็ดหรือจะถอนหัวผมวะ” ตีแขนคนที่ใช้กำลังมากเกินไป พี่เบผลักหน้าผมซะหงายหลังจนลงไปนอนบนเตียง

   “อย่าอ่อยพี่ให้มากนัก” พอได้ยินผมก็ยักคิ้วให้คนที่ยืนอยู่ปลายเตียงที่เท้าเอวมอง

   “ใครอ่อย ไม่มี๊”

   “เดี๋ยวเถอะ” โดนชี้หน้าแต่ผมไม่กลัวหรอก พี่เบก็แค่ขู่ “ไป พวกนั้นโทรจิกเป็นไก่แล้ว”

   พวกเราสองคนลงไปด้านล่าง พ่อกับแม่ออกไปอยู่ด้านนอกกันหมดแล้ว คงเพราะแดดร่มเหมาะสำหรับการสังสรรค์ ส่วนคนอื่นๆ บอกเลยว่าหลุดโลกไปแล้ว ยิ่งพอผมออกมา พวกพี่แทมพากันโห่ร้อง ถามว่าอายมั้ย...

   ตอบเลยว่า....ไม่

   “แหม หนีขึ้นห้องไปสองคนตั้งนานสองนานนะ เห็นหัวแขกเหรื่อบ้างไอ้เจ้าของงานวันเกิด” พี่ตินพูดออกไมค์จนทุกคนโห่ร้องอีกรอบ

   “อิจฉากูล่ะสิ ไอ้คนไร้คู่” พี่เบตอบกลับอย่างไม่แคร์อะไร แถมยังดึงผมมาหอมแก้มอีกฟอดใหญ่ (จะจูบก็เกรงใจพ่อกับแม่) พวกเพื่อนๆ พี่ๆ เลยพาแยกย้ายไม่มีใครสนใจผมอีก ไอ้ม่านถึงกับยกนิ้วโป้งให้ผม

   ผมเดินมานั่งข้างไอ้กลอย มันรูดกินบาร์บีคิวที่เหลือแต่หมูเข้าปากจนแก้มตุ่ย มันเอาพวกพริกหยวก มะเขือเทศ สับปะรดให้พี่โชกินครับ ดูจากจานพี่เขามีแต่ของเหล่านั้นทั้งนั้น และผมคงมองมันนานไปมันเลยหันมายักคิ้วให้

   “มึงทรมานพี่โชเกินไปหรือเปล่าวะ” ผมว่า ไอ้กลอยขมวดคิ้วหลังจากผมพูดจบ

   “ทรมานอะไรวะ” มันพูดไปเคี้ยวไป

   “ก็มึงเอาผักให้พี่เขากิน แต่มึงกินหมูเนี่ย”

   “แล้วมันทรมานตรงไหน กูรักพี่โชจะตาย อุตส่าห์รับไขมันไว้ไม่อยากให้พี่เขาลงพุง แถมคอลเลสเตอรอลอีก มึงดู หมูติดมันขนาดนี้” ดูเพื่อนผมมันแถครับ

   “สงสารพี่โชจริงๆ ที่ได้มึงเป็นเมีย”

   “พี่เบก็น่าสงสารที่ได้มึงเหมือนกัน”

   “กูมันทำไม”

   “มึงมันเพี้ยนไง”

   “โห มึงไม่เพี้ยนเลยไอ้ห่ากลอย”

   เถียงกันพอหอมปากหอมคอ ผมก็ได้กินผักต่อจากไอ้กลอยนั่นแหละครับ เพราะพี่โชไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ ตัวเองอีกโต๊ะ ผมว่า ผมรู้สึกบางอย่างที่มันผิดปกตินะ

   “ไอ้กลอย มึงไม่ได้ทำอะไรไอ้ม่านใช่มั้ย” ผมถามออกไป วันนี้ไอ้ม่านไม่เฮฮาเหมือนก่อน แม้มันจะหัวเราะแต่มันนิ่งมากกว่าปกติ นิ่งซะจนเหมือนไม่ใช่เพื่อนผม

   “กูทำอะไร มึงใส่ร้ายกูว่ะ” สายตาล่อกแล่กแบบนั้นชัวร์ครับ ไอ้กลอยต้องวางยาไอ้ม่านแน่ ผมว่ามันอาจคิดกำจัดเด็กปีหนึ่งอย่างไม่เม่นโดยโยนใส่ไอ้ม่าน แน่นอนผมว่าผมคิดถูก

   “มึงทำอะไรไม่ถามเพื่อน อย่าเอาความสนุกของตัวเองทำร้ายเพื่อนสิวะ” พูดจริงจังจนไอ้กลอยวางของกินในมือ มันหันมาจ้องหน้าผมนิ่ง

   “กูยอมรับว่าตอนแรกกูทำจริง แต่กูแค่พาไอ้ม่านไปให้รู้จัก แค่นั้น ต่อจากนั้นกูไม่รู้เรื่อง ทุกวันนี้กูยังไม่ได้เจอไอ้เม่นจนมาเจอที่งานนี้ไงไอ้ห่า” ไอ้กลอยทำหน้ามุ่ย “มึงพูดแบบนี้ออกมากูเสียใจ”

   ผมจ้องหน้าเพื่อนที่ดวงตากลมของมันเริ่มมีน้ำใสๆ เอ่อขึ้นมา “อย่ามาดราม่าไอ้เชี่ยกลอย มุกนี้ใช้กับกูไม่ได้”

   “ไอ้...” น้ำใสๆ นั่นหายวับไปเพียงแค่มันกระพริบตาลง ไอ้กลอยมันคว้าของกินที่วางขึ้นมากัดกินต่อ

   นี่ละครับไอ้เกรียน รู้ไส้รู้พุงมันหมดทุกอย่าง อย่าหวังจะใช้มุกน่าสงสารแบบนี้กับผมหรือแม้แต่ไอ้อัธ ไอ้ม่านก็ด้วย แต่สำหรับพี่โช ผมว่าคงได้ผลชะงัด

   “เอาละครับๆ พ่อแม่พี่น้องเพื่อนน้องลูกหลานเหลนโหลนโปรดสนใจคนหล่ออย่างกระผมสักหน่อย” พี่วันของผมได้ครองไมค์เพราะพี่แทมเป่ายิงฉุบแพ้ “วันนี้เป็นวันเกิดของน้องเขยของผม ดังนั้น เราเลยมีงานจัดฉลองเกิดขึ้น เราเลย...”

   “มึงพูดเข้าเรื่องเลยไม่ต้องเกริ่น” พี่แอนตะโกนด่าครับ คู่นี้ด่ากันประจำ สักวันได้กันแน่

   “ชนครับ” นี่คือประเด็นที่จะพูด แต่เกริ่นมาซะยาว สมแล้วที่โดนด่า

   ทุกคนชูแก้วน้ำหลากหลายรสชาติขึ้น ส่วนใหญ่ก็เหล้าเบียร์ทั้งนั้น มีไอ้กลอยกลับเด็กๆ ที่เป็นน้ำอัดลม และเพลงที่พี่วันเลือกเป็นเพลงบอร์ดี้แสลม แต่ขึ้นแค่ประโยคแรกคอมก็ดับครับ ความสนุกกำลังจะปะทุ มอดดับทันทีจนคนเตรียมโยกโวยวาย

   “เปลี่ยนๆ ไอ้เบเอาเครื่องใหม่มาเปลี่ยนด่วน” พี่วันตะโกนสั่งเสร็จเจ้าตัวก็เดินกลับมานั่งทั้งที่มือยังถือไมค์ไว้แน่น หวงกว่าเงิน เพราะถ้าเงินกับไมค์ตก พี่วันต้องหยิบไมค์เชื่อผมเถอะ

   ทุกคนดื่มรอจนเปลี่ยนคอมเสร็จ ซึ่งคอมนี้เป็นของลุงพี่เบครับ ลุงบอกในเครื่องมีเพลงเยอะ ดังนั้นนักร้องและแดนซ์เซอร์ทุกคนเลยตกลงเลืก พอเสียบนั่นนี่จนเสร็จก็เปิด พี่ผมลุกไปเตรียมหาเพลงที่จะร้อง แต่พอเห็นชื่อเพลงทั้งหมดในเครื่องถึงกับนิ่ง

   “มีแต่เพลงลูกทุ่งนะ” คุณลุงพูดกลั้วหัวเราะ ทำเอาคอเพลงวัยรุ่นถึงกับหมดอารมณ์สนุก

   “โหยลุง ทำแบบนี้ได้ยังไง ไม่วัยรุ่นเลย” พี่แอนทำท่าสะบัดผมจนเรียกเสียงหัวเราะ ขาสั้นๆ เดินออกไปยืนข้างพี่วันแล้วแย่งไมค์มาครอง “จัดไปค่ะ”

   อินโทรเพลงขึ้นมาพวกวัยรุ่นคอตกก็พากันเงยหน้าขึ้น ดวงตาหม่นแสงกลับมาลุกวาวอีกครั้ง ผมไม่ได้เว่อร์นะ นี่พูดจริง อย่างพี่แทมที่นั่งอยู่กับที่ก็เริ่มลุกขึ้นไปยืนด้านหลังพี่แอน ยังมีพี่ติน พี่วัน พี่จอม ทั้งหมดพร้อมเต้นแล้ว (แถมเมาจนได้ที่ด้วย)

   “ขอเสียงคนที่ต้องขอใจเธอแลกเบอร์หน่อยค่า” เสียงใสตะโกนออกไมค์ ดูเหมือนคุณลุง (พ่อพี่แอน) จะชอบ เพราะลุกขึ้นปรบมือให้ลูกสาวแล้วชี้เข้าหาตัวเอง ขี้อวดว่ะ 

   ทั้งนักร้องและแดนซ์เซอร์พากันมองหน้าจอและเต้นตาม ทั้งขา ทั้งมือ แรกๆ ดูมั่วไปนิด พอกลางๆ เพลงท่าเริ่มได้ ผมหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง ยิ่งพี่จอมนี่อย่างพลิ้วครับ คู่แข่งกับพี่แอนได้เลย โดยเฉพาะท่อนฮุก ทุกคนพร้อมใจกันยกอกสลับไปมาตามต้นฉบับ

   “ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝาก หัวใจ ลงทะเบียนฝากไว้ตัวเอากลับไปใจให้เก็บรักษา ยอมจำนนเธอแล้ววันนี้แค่แรก เห็นหน้า ฝากไว้กับฉันนะหัวใจของเธอ แลกเบอร์โทร โอ๊ะ โอ๊ะ โอย” ท่าทุกคนเป๊ะมาก เหมือนเดินออกจากเอ็มวีมาเต้นตรงหน้า ยิ่งความแรงในการใส่ท่าเต้นยิ่งนำหน้าแดนซ์เซอร์ตัวจริงในจอไปแล้ว 

   “เชี่ย นี่จ้างเต้นไปเท่าไหร่ว่ะเนี่ย” พี่อาร์หัวเราะจนลืมยกแก้วขึ้นดื่ม

   “ฮากว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” ไอ้กลอยลงไปนั่งหัวเราะที่พื้น พี่โชพยายามดึงให้มันลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ดีๆ “พี่ออกไปเต้นบ้างสิ” พี่โชรีบส่ายหน้าทันที ถ้าพี่โชไปเต้น ไอ้ทูจะยอมกราบเท้าเลยเอ้า

   “ไอ้ม่าน ไม่ออกไปเหรอวะ” ผมถามเพื่อนตัวป่วนในก๊วนอีกคน มันโยกไปด้วยแต่พอได้ยินผมถามมันก็พยักหน้าแล้วลุกออกไป คงรอให้มีคนชวนล่ะสิ เพื่อนผมวิ่งออกไปร่วมวงเต้น มีสายตาคู่หนึ่งมองตามไปติดๆ

   หรือจะเป็นแบบที่ไอ้กลอยว่า มันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวแล้วจริงๆ

   “เอาล่ะค่ะๆ มีแดนซ์เซอร์มาเพิ่มอีกหนึ่งแล้ว ใครอยากเต้นเชิญได้ค่า เพราะเพลงต่อไปนี้ ใครมีผัวไม่ดี เชิญเอาไปเทิร์นใหม่ค่า” พี่แอนพูดออกไปพร้อมส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลง

   เอาผัวไปเทิร์นได้ที่ไหนวะ

   เพลงสำเนียงอีสานที่คนร้องแทบจะดำน้ำเนื้อมัน อาศัยจังหวะสนุกกับท่าเต้นที่กินขาดก็เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี
 
   “เอาผัวไปเทิร์น เอาผัวไปเทิร์น เอาผัวไปเทิร์นสิเอาผัวไปเทิร์น” ยอมรับว่าเพิ่งเคยฟัง พี่แอนร้องได้ทุกเพลง สงสัยจะได้ฟังบ่อย และคงไม่ได้ฟังอย่างเดียว คงฝึกเต้นตามไปด้วย เพราะเต้นเหมือนทุกท่าจริงๆ รองมาก็พี่จอมที่ก็อบได้ทุกท่าส่วนพี่ซันก็นั่งหัวเราะแฟนตัวเองลูกเดียว

   “ผัวใครไม่ดี แต่หน้าตาดีและรวย เชิญเอามาฝากได้ค่า คนสวยรับ” พูดจบ พี่แอนก็ได้เสียงโห่ คนแรกก็พี่วันนั่นแหละครับที่โห่ เลยโดนขาสั้นๆ เตะไปทีหนึ่ง

   “เหนื่อยเหี้ยๆ” กลุ่มนักเต้นพากันกลับมานั่งหอบแฮ่กที่โต๊ะหลังจากพักยก ไอ้กลอยกับผมรีบยื่นน้ำให้ พี่เบเอาแต่หัวเราะเพื่อนตัวเองเลยโดนน้ำแข็งในปากพี่แทมพ่นใส่หน้า

   “ไอ้เชี่ยแทมแม่ง”

   “เออ ทำไม”

   สองเพื่อนรักทะเลาะกันไปมาแต่พออินโทรเพลงใหม่ขึ้น ขาแดนซ์ก็ลุกไปอีกรอบ คราวนี้พี่แทมลากพี่เบออกไปด้วย พร้อมจะตึ้งๆ แล้ว

   “มาลมพัดตึ้งกันค่า ไปโลด”

   อย่าถามว่าได้กินอะไรหรือเปล่า เพราะตอนนี้ทุกคนพากันหัวเราะจนลืมกินทุกอย่าง ทั้งอาหารและน้ำ ขนาดที่ว่า พ่อพี่เบหายใจเกือบไม่ทันเพราะขำคนที่เต้นแข่งกัน

   “ไอ้เชี่ยกลอย มึงออกไปสิ” ใช้ขาเขี่ยเพื่อนตัวเองที่มันเอาแต่หัวเราะ

   “กูต้องคีพลุคเว้ย ต้องดูดี” อันนี้ฮากว่าพวกที่เต้นอีก การคีพลุคมันคืออ้าปากหัวเราะจนเห็นลิ้นไก่ “พี่โชไม่ออกไปเหรอครับ” ใช่ว่าไม่กล้าถาม แม้จะทำใจมากสักหน่อยก็เถอะ

   “ปล่อยพวกมันเถอะ” พี่โชว่า

   ผมละความสนใจคู่หวานที่ไอ้กลอยออเซาะพี่โชให้กินพริกหยวกให้ ขนาดมันหัวเราะมันยังจะกิน ถ้ามันติดคอขึ้นมาจะสมน้ำหน้าให้ดู แล้วพวกพี่เบกลับมานั่งครับ แต่ละคนดูเหนื่อยเหมือนไปวิ่งมาสักสิบกิโลเมตร

   “ไอ้เชี่ยจอมมึงเอวดีเหี้ยๆ” พี่ตินพูดไปหอบไป

   “ไม่งั้นไอ้ซันจะหลงเหรอวะ ปากก็หมา มือก็หนัก เชี่ย” พี่เบหาเรื่องใส่ตัวจนโดนพี่จอมวิ่งไล่เตะรอบบ้าน “ไอ้เหี้ยจอม กูเจ้าของวันเกิด”

   “กูจะทำให้มึงตายวันเกิดด้วยไอ้เชี่ยเบ”

   “ไอ้ซัน เก็บเมียมึงด่วน ไอ้เหี้ย”

   พี่จอมตามจริงแล้วทำจริงครับ เตะขนาดที่พี่เบลงไปนอนกับพื้น ผมรีบวิ่งเข้าไปดูคนที่นอนนิ่ง พี่เบทำหน้าบิดเบี้ยวเพราะจุก ก็โดนถีบท้องอย่างจังขนาดนี้ แต่จะโทษพี่จอมก็ไม่ได้ ในเมื่อคนของผมหาเรื่องเอง

   “เหนื่อย” พี่จอมเดินสะบัดตูดกลับไปนั่งข้างพี่ซันตามเดิมแล้วบ่น

   ส่วนพี่เบของผมก็ยังนอนจุกอยู่กับพื้น มีเสียงร้องเพลงของพี่วันขับกล่อมจนอยากจะนอนหลับ ไม่ใช่แล้ว พี่วันร้องเพลงลูกทุ่งได้โคตรเพี้ยน

   “พี่ลุกเหอะ ทูปวดหู” บอกตอนยกมือขึ้นปิด คือพี่เบล้มข้างลำโพง แล้วเสียงร้องมันหอนมากจนแก้วหูสะเทือน

   กว่าจะผ่านเพลงลูกทุ่งมาได้ ต้องทนฟังคนร้องที่ทั้งเพี้ยน ทั้งมั่วเนื้อ ขนาดมีเนื้อร้องให้ดูยังมั่วเลยคิดดู จนสุดท้าย พี่โชทนดูไม่ได้ก็ลุกไปดูคอมที่เสียให้จนมันใช้การได้ นี่พี่ท่านจะเทพไปไหน แต่ถ้าจะให้ดี น่าจะออกมาซ่อมตั้งแต่แรก

   “ไอ้โชแม่งโชว์พาวว่ะสัด” พี่เบเริ่มแขวะ ผมมองแฟนตัวเองนิ่ง ก็ไปว่าให้เขา ในเมื่อตัวเองทำแบบเขาไม่ได้ ขี้อิจฉาแน่

   “พอดีกูเก่ง” พี่โชยักไหล่

   “เออ ไอ้คนเก่ง ไอ้คนดี ไอ้คนมีเมียเกรียน” แม้จะโดนพาดพิง แต่ไอ้กลอยก็ยังนั่งหัวเราะให้กับคำชมหรือด่าของพี่เบ

   “ถึงเมียกูจะเกรียนแต่กูก็รักของกู” ผมกระพริบปริบๆ เมื่อพี่โชโชว์ความหวานที่นานๆ จะเห็นโจ่งแจ้งขนาดนี้ ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยหรอกครับ แค่ก้มหน้าลงมาจุ๊บปากไอ้กลอยก็แค่นั้น ส่วนไอ้กลอยมันไม่ได้เตรียมตัวแถมปากยังมันเยิ้มเพราะกินบาร์บีคิวอีก

   “บอกว่าห้ามเรียกเมียนอกห้องไงเล่า” ไอ้กลอยมันตีแขนพี่โชดังป๊าบจนแขนแดงหมด พวกพี่เบ พี่แทมก็โห่ร้องอย่างกับวัวจะออกลูก

   “ครับๆ”

   “กูไม่เคยคิดเลยว่าไอ้โชจะกลัวเมีย เมื่อก่อนมันข่มได้ทุกคน วันนี้กรรมตามสนองถูกเมียข่มเฉย”

   “มึงพูดถูกใจกูมากไอ้แทม ชนๆ” พี่ตินยื่นแก้วเหล้าที่ชงใหม่ให้เพื่อน ทั้งคู่พากันยกดื่ม “ว่ามึงเถอะไอ้เบ คู่มึงไปถึงไหนต่อไหนแล้ววะ”

   “ถามทำเหี้ยอะไรของมึงไอ้ติน” พี่แทมแหวเพื่อนตัวเองครับ ก่อนยื่นแขนมาโอบไหล่พี่เบเอาไว้ “อย่างไอ้เบมันป๊อดจะตาย ปลายนิ้วเคยได้สัมผัสหรือยังเถอะ”

   ขำซะให้พอ

   ที่จริงเรื่องบนเตียง ผมก็ไม่ได้อะไรมากมาย ก็คนมันพร้อมเสมอ แต่แค่กับคนที่ผมรักนะ คนอื่นแค่ขาอ่อนผมก็ไม่ได้เห็น อ่อ ยกเว้นพวกไอ้กลอยที่เคยอาบน้ำด้วยกัน

   “ไอ้สัด กูให้เกียรติเว้ย” พี่เบเถียงเพื่อนตัวเอง

   “ให้เกียรติหรือป๊อดวะ มึงดูเทพโช กับเทพซันเป็นตัวอย่าง ได้ปุ๊บ กลัวเมียปั๊บ” ผมว่าพี่ตินคงยังไม่รู้ชะตาตัวเองเมื่อมีพี่จอมยืนอยู่ด้านหลังและถีบจนหน้าชนกับขอบโต๊ะอย่างจังจนพูดไม่ออก

   สมน้ำหน้า

   “กูไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น” พี่จอมว่า และคงเป็นแบบนั้นเมื่อพี่ซันกวักมือเรียกพี่จอมให้กลับไปนั่ง ก็ดูเชื่อฟังพี่ซันดีออก
 
   “ไม่น่ากลัวน้อยน่ะสิ” พี่ตินยังไม่เข็ดเลยโดนข้าวเกรียบกุ้งปาหัวแต่มันเบาไปไม่ถึง ขนมนั่นเลยหล่นแปะบนหัวไอ้กลอย

   ทุกคนจ้องมองคนที่ไม่รู้เรื่องราวว่ามีอะไรอยู่บนหัว ไอ้กลอยมันทำหน้าลอยไปลอยมากินถั่วทอด จนมันคงรู้สึกว่าทุกคนกำลังจ้องอยู่มันเลยเอียงคอมองอย่างสงสัย

   “มองอะไรกันเหรอ”

   “หัวมึง” พี่จอมชี้

   “หัวผม?” ไอ้กลอยมันยกมือจับหัวตัวเอง มือมันจับโดนข้าวเกรียบกุ้งพอดี คนปกติมันต้องปัดทิ้ง แต่ไอ้กลอยมันเอามากินครับ พี่โชถึงกับส่ายหน้าท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ

   “เมียกู”

   “มันไม่ได้เกรียนธรรมดานะ มันซกมกด้วยพี่” ไอ้อัธพูดแทรกเข้ามา

   “เงียบไปเลยไอ้อัธ”

   “เอ้าว่ากู”

   ไอ้กลอยกับไอ้อัธมันทะเลาะกันบ่อยจนเบื่อ แต่ก่อนที่จะนอกเรื่องไปมากกว่านี้ และเวลาจะดึกไปมากกว่านี้ พี่อาร์เลยคว้าไมค์ไปประกาศจะเป่าเค้ก พูดแค่นั้นหลานๆ ของพี่เบก็รีบวิ่งวุ่นหลังจากหายไปนั่งดูทีวีในบ้าน

   ผมเดินเข้าไปเอาเค้กในตู้เย็นโดยมีเจ้าของงานเข้ามาด้วย

   “พี่เดินเข้ามาทำไม”

   “ก็มาช่วยทูไง”

   “ทูยกได้ ไม่ได้หนัก”

   ถึงจะพูดอย่างนั้น พี่เบก็เป็นคนถือเค้กของตัวเองออกไป พี่ซันยืนถือเทียนรออยู่ พอเค้กไปถึงก็ปักเทียนจุดไฟให้ พอไฟในงานถูกหรี่ลง เจ้าของงานก็หลับตาอธิฐานขอพร เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เจอกับสายตาเว้าวอนของเด็กๆ ที่อยากจะเป่าเทียน พี่เบขำก่อนจะย่อตัวคุกเข่าเพื่อให้หลานตัวเองได้เป่าแทน

   “น้องใบบัวของให้อาเบมีความสุขนะคะ” หลานสาวโตสุดในกลุ่มอวยพรพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่จนเจ้าของวันเกิดยิ้มแป้น
 
   “ขอบคุณครับ”

   นี่แหละครับคนที่ผมชอบ พี่เบดูกวนไปบ้าง แต่พออยู่กับเด็ก ผู้ใหญ่และสัตว์ มักจะเป็นคนอ่อนโยนเสมอ แววตาที่ผมชอบมอง ผมก็ไม่ได้หวงเก็บไว้ดูคนเดียว ผมอยากแบ่งปันความสุขให้ทุกคนเพราะยังไงซะ พี่เบก็เป็นของผมอยู่แล้ว จะดูเมื่อไหร่ก็ได้

   พอเทียนเป่าดับหมด ไฟก็เปิดขึ้นมาอีกรอบ ไอ้กลอยรีบดึงเทียนหนึ่งเล่มออกเพราะรู้ว่าพี่เบกำลังจะเละ...เละมากที่สุด ผมรีบวิ่งหนีเมื่อถูกคนหน้าเละเค้กวิ่งไล่ พี่แทมโดนเอาเค้กปาใส่หน้าก้อนใหญ่ ส่วนคนอื่นๆ ก็โดนคนละนิดละหน่อย มีคนหนึ่งที่ขาวสะอาดนั่นคือผมเอง

   “ทูครับ” พี่เบเดินมายิ้มให้ผมหลังจากแก้แค้นเพื่อน พี่ น้องสำเร็จ

   “ครับ” ขานตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อมีก้อนหอมๆ โป๊ะเข้าเต็มหน้า แม่ง หน้าผม “ไอ้พี่เบ มึง” แค้นสิครับ เค้กไม่ต้องกินมันแล้ว

   วันเกิดกับสงครามเค้กเริ่มต้น ณ.บัดนี้

   อ่อ ส่วนเด็กๆ ยังมีเค้กสำรองไว้ในตู้เย็นครับ เพราะก้อนที่เป่าคงกินไม่ได้แล้ว มันเละจนไม่รู้ว่ามันเคยเป็นเค้กมาก่อน แถมหน้าทุกคนยังเปื้อนเค้กไปหมด พี่โชถูกไอ้กลอยโป๊ะเข้าเต็มหน้า ความเงียบปกคลุมเหลือเพียงไอเย็นที่แผ่ออกมา ผมไม่รู้ว่ามันจะถูกพี่โชทำโทษยังไง แต่ที่รู้ๆ ต้องอวยพรให้เพื่อนผมโชคดี

   ผมว่า วันเกิดคงพอแค่นี้ก่อน เพราะมันกำลังกลายเป็นสงครามไปแล้ว ยิ่งพี่วันร้องเพลงปีใหม่อีก สรุป นี่มันวันเกิดหรือวันปีใหม่วะ เริ่มสับสน

   แต่เค้กฝีมือไอ้กลอยอร่อยมาก 



 

   “พี่เบ”

   “ครับ”

   “สุดสัปดาห์นี้ว่างมั้ย ไปเที่ยวกัน”

   “อยากไปเที่ยวที่ไหนล่ะ”

   “ไปทะเลมั้ย”

   “ทูอยากไปเหรอครับ”

   “อืม อยากไป”

   “ไปได้แต่ห้ามยั่วพี่นะแบบคราวที่แล้วนะ กางเกงว่ายน้ำกับเสื้อกล้ามขาวก็ไม่เอา เดี๋ยวตบะแตก”

   “ก็ให้มันแตกไปเลยไง”

   “อย่าทำตา ทำหน้าแบบนั้นได้ป่ะ เดี๋ยวจับจูบซะนี่” พี่เบชอบขู่แต่ไม่ทำอะไร ผมเลยจัดการเอง ดึงหน้าพี่เบมาจูบซะเลย ตอนแรกคนที่โดนดึงลงมาดูตกใจแต่สุดท้ายจูบนั้นก็แทบทำให้ผมหายใจไม่ออก “ไปทะเลพรุ่งนี้เลยดีกว่า พี่ยังไม่ได้ของขวัญจากทูเลย” แววตาพราวพร้อมมือลูบบั้นท้ายผมไปมา

   “จัดไป”


.............................................

นานๆ คู่นี้จะออกสื่อ ฝากพี่เบน้องทูด้วยนะคะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 28-09-2016 18:25:31
คิดถึงพี่เบน้องทู ขอบใจนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 28-09-2016 18:28:42
อยากไปเที่ยวทะเลด้วยจัง คิคิ
ชอบคู่นี้จังน่ารักๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-09-2016 18:50:21
อยากอ่านคู่ของ เม่น ม่าน  :mew1: :mew1: :mew1:
พี่เกน ป่าน
อัฐ จะมีคู่กับเขามั้ยนะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 28-09-2016 19:22:50
แก๊งค์หล่อนี่พอรวมตัวกันทีไรกลายเป็นแก๊งค์บ้าทุกที หัวเราะไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ

ปล.1 อวยพรให้กลอยเกรียนโชคดีเช่นกัน
ปล.2 คนเขียนจะว่าเราไหมถ้าเราอยากรู้คู่ม่านเม่นด้วยอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 28-09-2016 19:28:20
ทูอย่างยั่วนะเธอ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 28-09-2016 20:17:49
ทูรุกเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ พี่เบอย่าช้า จัดเลยดีกว่า อย่าปล่อย อิอิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-09-2016 20:56:53
ขนาดข้าวเกรียบตกบนหัวกลอยยังโชว์ความเกรียนเอามากินต่อเฉยเลย :laugh: :laugh:

รอพี่เบเข้าสมาคมพ่อบ้านกลัวเมีย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-09-2016 22:46:56
ฉันเกลียดโมเม้นกลุ่มนี้ร้องเพลง กรามจะค้าง
งวดหน้าของานบนเตียงของเบทู กรี๊ดดด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 28-09-2016 23:01:05
ให้พี่เบพาน้องทูไปเกาะเสม็ดเลย พี่เบจะได้เสร็จน้องทูไวๆๆ ฮ่าๆๆๆ :katai2-1: ส่วนม่านเม่นคงต้องแบ่งเป็นเรื่องใหม่แน่นอนสินะอยากอ่านคู่นี้แล้วอะ ม่านเม่น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 28-09-2016 23:19:23
รอทริปเที่ยวทะเลลลลลลลลลล
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 29-09-2016 11:45:12
ปุจฉา: นิยายอะไรเอ่ย -ตอนพิเศษสนุกมากมายกว่า เยอะกว่า และคนอ่านรออ่านมากกว่าเนื้อเรื่องหลัก :hao3:
วิสัชนา: นิยายของคุณคนแต่งเรื่องนี้ทุกๆเรื่องเลยค่ะ^^ :mew1:

ยิ่งอ่านยิ่งสนุกค่ะ อ่านแล้วได้ฮาได้ฟินแบบอินฟินิตี้ ยิ่งได้อ่านยิ่งอยากอ่านไปเรื่่อยๆ ขอบคุณมากๆนะคะ :กอด1:
                                   
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 29-09-2016 14:38:45
อยากอ่านม่าน+เม่น เอ๊ะ หรือเม่น+ม่าน  :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 29-09-2016 16:16:14
ตลกตอนมีคาราโอเกะทุกทีอ่ะ ฮามาก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-09-2016 17:27:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 29-09-2016 21:17:19
อย่า. อย่านะพี่เบ. อย่าช้า. ทูได้เอ่ยไว้  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 30-09-2016 15:59:28
กลอยก็ยังเกรียนตลอด

เบ..ทู  รีบมานะอยากเจอทะเลเดือด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-09-2016 20:09:30
อุ๊ยๆ ... ไปทะเลกันเถอะ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 30-09-2016 20:15:00
เดี๋ยวก่อนนะ เราคิดว่าเบทูนี่ก็คบกันมาได้สักพักแล้ว ไอ่เราก็นึกว่าได้กันแล้วซะอีก
 ดีๆทูทำดีแล้วจ่ะ ไปทะเลยั่วให้แตกกันไปข้างนึง หมายถึงตบะแตกนะจ๊ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MAILOVEZ ที่ 01-10-2016 01:02:50
คู่นี้นานๆ มาทีแต่มาแล้วดีมากพี่เบคือน่ารักมากอะเราหลงรักนางอีกแล้วค่ะ นี่ก็จะหลงทุกคนเลยสินะ 555555

คือแบบภาพตอนแรกที่คิดพี่เบต้องคาสโนวาแน่ๆ ทูต้องไม่รอดไปแล้วแต่ที่ไหนได้พี่เค้ายังไม่ทำอะไรน้องเลย คุณพระ !! เรื่องนี้ตกใจจริงๆ ขำตอนบอกเดี๋ยวตบะแตก ทูก็ช่างยั่วต้องจัดอะพี่เบอย่าให้เค้าหยามเราได้แบบนี้

เลื่อนเป็นพรุ่งนี้เลย ความใจร้อนของพี่เบนี้ตอนแรกจะไม่คิดอะไรหรอกนะถ้ามือพี่เบไม่ลูบต่ำแบบนั้น เปิดกล่องของขวัญกันไปค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 01-10-2016 06:36:59
แอร้กกกกกกกก ชอบๆเอาตอนพิเศษมาเยอะๆเลอะะะ :mc4: o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 01-10-2016 10:25:33
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 01-10-2016 23:57:13
Just you and I [Bae & Two] : ทะเล๊ ทะเล



(เบ)

       “ทะเล วู้วววว”

   “นั่งดีๆ”

   ผมหัวเราะให้กับท่าทางตื่นเต้นของไอ้เด็กที่นั่งข้างๆ มันร่ำๆ อยากมาซะเหลือเกิน ทุกวันนี้เราย้ายมาอยู่ด้วยกัน นั่นแหละครับ ความชิบหายของหูของผม มันพูดกรอกหูผมทุกวัน ทั้งวันทั้งคืนจนต้องพามาวันนี้ แต่พอเห็นท่าทางดีใจแบบนี้ผมเบาใจและเบาหู

   แต่ความตื่นเต้นดี๊ด๊าค่อยๆ เลือนหายเมื่อใกล้เข้าสู่ชะอำ ก้อนเมฆสีดำเริ่มตั้งเค้ามาแต่ไกล ใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มเริ่มบูดบึ้งจนผมขำออกมาเลยโดนค้อนมาชุดใหญ่

   “ไม่ต้องหัวเราะเลย ทูจะอดเล่นน้ำแล้วเนี่ย” ท่าทางงอแงเหมือนเด็กไม่รู้จักโต แต่ผมก็ชอบนะครับ “โหย ฝนตกแล้วอ่า”

   “เดี๋ยวก็หยุดน่า” ผมก็ลืมเช็คสภาพอากาศมาซะด้วย รู้แบบนี้น่าจะมาอาทิตย์หน้าดีกว่า

   “ถ้ามันไม่หยุดล่ะ พรุ่งนี้ก็กลับแล้วด้วย”

   “แล้วมาค้อนพี่ทำไมวะเนี่ย”

   “นั่นสิ” ผมหัวเราะลั่นรถเมื่อเด็กที่ถูกเรียกว่าแฟนของผมมันทำหน้าเหวอ

   ขับเกือบๆ จะชั่วโมงก็ถึงที่พัก โรงแรมที่จองไว้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดเล็กๆ อยู่ระเบียงห้อง ราคาห้องก็เอาเรื่องน่าดู แต่เพราะคนที่มาด้วยปิดตาชี้มาที่ห้องนี้ ผมเลยต้องจอง

   “ว้าว เห็นทะเลด้วย” ทูเปิดผ้าม่านมองทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

   “เออ ดูเสร็จแล้วก็เก็บของด้วย”

   “รู้แล้วน่า อย่าขี้บ่นเป็นตาแก่อายุร้อยปีได้ป่ะ”

   ดูเอาครับ ผมไม่ได้บ่นสักคำ แค่บอกเฉยๆ มันน่าจับมาตีก้นซะให้เข็ด

   อ่อ เรื่องบนเตียงผมยอมรับว่าไม่กล้า กับผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่ผ่านเข้ามาผมจัดการเรียบร้อยโรงเรียนไอ้เบคนนี้ แต่กับทู ผมรู้สึกไม่กล้า แค่กอดหรือจูบยังพอได้ แต่ให้ล่วงเกินเลยผมกลัว...

   ...กลัวมันเจ็บ ก็ใช่ หรือกลัวมันไม่ยอม อันนี้ใช่กว่า แต่ถึงอย่างนั้น วันนี้ก็ต้องเตรียมพร้อมครับ เรื่องพวกนี้เราต้องพร้อม

   ผมเก็บเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า เพราะอยู่แค่คืนนี้ เสื้อผ้าเลยมีไม่มาก ของผมมีแค่กระเป๋าใบเล็ก แต่ของทูใช้กระเป๋าเดินทาง ไม่รู้เอาอะไรมานักหนา ซึ่งตอนนี้เจ้าของกระเป๋าเดินมาลากขึ้นเตียงแล้วเปิดออก ผมยื่นหน้าไปดู ด้านในมีแต่ขนมขบเคี้ยว นี่กะเอามากินเป็นเดือนหรือไง แต่เดี๋ยวนะ...

   “นี่อะไรเนี่ย” ผมชูกล่องคอนดอมที่ร่วงลงมาจากกองขนม

   “ถุงยางไง ไม่รู้จักเหรอ” ทูตอบแบบเรียบๆ เป็นผมที่ตาเหลือก “พี่ไม่รู้หรอกว่าผมโดนไอ้กลอยดูถูกแค่ไหน มันเยาะเย้ยว่าผมอ่อน คอยดูเถอะ กลับไปจะไปอวดให้ดู” ปากก็พูดไป มือก็กอบขนมกองใหญ่ไปวางบนโต๊ะ

   “นี่คือกะจะปล้ำพี่เลยเหรอ” ตาโตถาม ไอ้เด็กที่พกถุงยางหัวเราะร่วนแล้วขยิบตาใส่ผมอีก “จะรอดู” ยื่นมือไปขยี้หัวจนผมมันยุ่ง แต่เจ้าของหัวกลับหัวเราะ

   ผมทิ้งตัวนอนลงเพราะปวดขา เพราะเป็นวันหยุดรถก็เลยเยอะ เหยียบจนปวดขาไปหมด ระหว่างกำลังเคลิ้มก็รู้สึกมีมือมาบีบที่หน้าแข้ง ลืมตาขึ้นมองเห็นทูกำลังบีบนวดให้อย่างตั้งใจ

   “ทำดีมาก เดี๋ยวให้รางวัล” ผมว่า ก่อนจะเผลอหลับไปจริงๆ

   สะดุ้งตื่นมาอีกทีก็ไม่เห็นทูแล้ว เห็นแต่กระดาษเขียนว่าออกไปข้างนอก ผมรีบเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วออกไปตามหา พอออกมาด้านนอกเพิ่งรู้ว่าท้องฟ้าเป็นสีส้มแล้วแถมฝนหยุดตกแล้วด้วย ไม่รู้ทูไปอยู่ไหน

   “พี่เบทางนี้ๆ” เสียงตะโกนเรียกจากด้านข้างโรงแรม ผมเร่งฝีเท้าไปหาก็เจอคนที่ผมตามหาอยู่ ทูใส่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงขาสั้นกำลังเล่นน้ำในสระ

   “ลงมาทำไมไม่เรียกพี่” ผมนั่งยองๆ อยู่ริมขอบสระ ทูว่ายน้ำเข้ามาหาพร้อมยิ้มกว้าง ผมมองตาขวางเมื่อเห็นพวกฝรั่งที่เล่นอยู่อีกฝั่งมองคนของผม เสื้อกล้ามสีดำแนบเนื้อไม่พอ ยังไหลลงจากไหล่โชว์ให้เห็นหน้าอกอีก นี่ฝึกความอดทนผมหรือไงวะ

   “ก็พี่หลับ เขย่าแล้วแต่ไม่ยอมตื่น” ทูใช้ศอกค้ำกับขอบสระตีขากับน้ำเล่น ใบหน้าขาวลอยไปลอยมากับปากสีแดงเริ่มซีดจาง

   “ขึ้นจากสระเถอะ เดี๋ยวเป็นหวัด”

   “เดี๋ยวสิ ผมเพิ่งเล่นเอง”

   “ดื้อว่ะ”

   “ไม่ดื้อสักหน่อย อื้อ”

   ผมไม่อยากต่อความยาวเลยยื่นหน้าไปประกบปากนุ่มนั่น ทูตาโตในตอนแรกแต่ก็จูบตอบกลับ ดีที่สระนี้มีแต่ฝรั่ง จูบแบบนี้ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว เพราะไม่งั้น คู่ที่นอนเตียงริมสระคงโดนไปแล้ว คู่นั้นแทบจะเอากันด้วยซ้ำ

   “เล่นไรวะเนี่ย” พอผมถอนจูบ ทูก็วักน้ำใส่หน้าผม แต่ดูก็รู้ว่าชอบใจเพราะรอยยิ้มกว้างนั่น

   “มัดจำไว้ก่อนไง” บอกไปคนยิ้มกว้างก็เขินหน้าแดง

   เดินถอยหลังมานั่งบนเตียงริมสระ ทูยังคงว่ายน้ำไปมาๆ แต่ไม่นานก็กระโดดขึ้นมาจากสระ ผมไล่มองร่างผอมๆ ที่ยืนทำตัวหนาวสั่นอยู่ตรงหน้า

   “หนาว” ปากสั่นกระทบกันจนผมขำ “หนาวเนี่ย”

   “ครับๆ” รับคำก่อนพาคนที่จะลงมาเล่นน้ำแต่ไม่เอาผ้าเช็ดตัวมา ผมโอบไหล่ไม่สนว่าเสื้อที่ใส่จะเปียกไปด้วย

   มาถึงห้อง คนที่ตัวเปียกเป็นลูกนกตกน้ำก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ผมยกหูโทรศัพท์สั่งอาหารไว้รอ หากลงไปกินกลัวคนที่อาบน้ำอยู่จะเป็นหวัด ก็นี่ฝนเพิ่งหยุดตก อากาศด้านนอกชื้น เป็นหวัดขึ้นมาเดี๋ยวก็บ่นนั่นนี่อีก

   ผ่านไปครึ่งชั่วโมง อาหารที่สั่งขึ้นมาส่งได้สักพักแต่คนอาบน้ำยังไม่ออกมา หรือล้มวะ ผมรีบเคาะประตูเรียก แต่ด้านในยังเงียบจนน่าใจหาย

   “ทู” ลองเรียกแต่ก็ยังเงียบ “ไม่เล่นนะเว้ย” ใจคอไม่ดีสุดๆ หรือจะล้มจริงๆ วะ

   ผมรีบเปิดบานเลื่อนที่ไม่มีกลอน พอเข้าไปแล้วก็ได้แต่ยืนนิ่ง คนที่ผมเป็นห่วง ทั้งเคาะ ทั้งตะโกนเรียกกำลังนอนหลับอยู่ในอ่างน้ำ น้ำอุ่นถูกเปิดจนเต็ม คนแช่คงสบายมากสินะ ได้แต่ส่ายหน้าให้คนที่ผมโคตรเป็นห่วง

   “ทู” ลองไปสะกิด คนนอนอยู่ปรือตาขึ้นมาแล้วยิ้ม “พี่เป็นห่วงคิดว่าล้ม”

   “พอดีแช่น้ำอุ่นแล้วเผลอหลับ” ทูหัวเราะแห้งๆ ส่งมาจนผมเขกหัวไปที ชอบให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย

   นึกถึงตอนฝนตกเมื่อคราวนั้น ผมไปรับแต่รอเป็นชั่วโมงก็ไม่เห็น โทรไปหาไอ้โชเพื่อให้มันถามเมียมัน คำตอบคือออกมาพร้อมกันแล้ว ผมมองหาอย่างกังวล เริ่มขับรถวนรอบมหาลัย เกือบๆ ห้ารอบที่ผมวนไปวนมาจนเห็นคนที่ผมตามหากำลังนั่งกินไก่ย่างอยู่ที่ศาลาริมทางข้างตึกคณะ ผมผ่านหลายรอบแต่ไม่เห็น สุดท้ายที่หายไปคืออยากกินไก่ย่าง พอกลับมาก็มานั่งรอ

   มันน่าเตะซะจริงๆ

   “อย่าทำแบบนี้อีก ถ้าพี่ไม่เข้ามาแล้วเกิดจมน้ำจะทำไง”

   “พี่ต้องเข้ามาอยู่แล้วน่า” ผมเอนหน้าหนีเมื่อไอ้เด็กกวนโมโหสาดน้ำใส่

   “เดี๋ยวเถอะ” ยกมือห้ามแต่ก็ไม่ได้ผล ทูยังสาดน้ำใส่จนผมเปียกทั้งตัว “ไอ้เด็กนี่” ผมเดินเข้าไปหาแล้วคว้ามือสองข้างไว้ ออกแรงดึงนิดเดียวร่างที่นอนในอ่างก็ลุกขึ้นยืน

   เหมือนกับลมกำลังออกหู

   ผมไล่มองคนตัวผอมที่ไร้อาภรณ์ทุกสิ่ง มองตั้งแต่เส้นผมที่เปียกแนบหน้าขาว ผ่านใบหน้า ริมฝีปากที่มักจะยิ้มกว้างให้ผม ลงมาที่ลำคอ หน้าอกและ....

   “ลามกว่ะ” เสียงเบาๆ เรียกสายตาของผมให้เงยขึ้นไปสบตากับเจ้าของร่างขาว เอาจริงๆ ตอนนี้ผมเหมือนเป็นลุงแก่ๆ ที่กำลังทำอะไรไม่ถูก ทูยื่นหน้ามาจุ๊บปากผมเบาๆ แล้วยิ้มออกมา

   ทนไหวมั้ย....

   บอกเลยว่า...ไม่

   แทบจะไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าดึงคนยั่วเข้ามาจูบตอนไหน ที่รู้ตอนนี้คือผมอยากจูบ จูบมากขึ้นไปอีก มือข้างหนึ่งไล้ไปทั่วผิวเนียน ทูยกแขนสองข้างโอบรอบคอของผมไว้ ผมเลยยกร่างผอมขึ้นจากอ่างน้ำไปวางบนอ่างล้างหน้าหินอ่อน ด้านหลังเป็นกระจกใสที่กำลังสะท้อนให้เห็นภาพเร่าร้อน
 
   “อืม” เสียงคราวแผ่วเบาหลุดมาจากการจูบของสองเรา ผมเพิ่งรู้ว่าทูก็จูบเก่งเหมือนกัน ดูเหมือนไม่มีประสบการณ์เท่าไหร่ แต่ผมคงต้องคิดใหม่ซะแล้ว

   “หายใจไม่ทัน” ทูหอบหลังจากผมถอนจูบออกมา ใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อ แต่ก็พูดได้แค่นั้นเพราะผมไม่ปล่อยไปง่ายๆ ยั่วดีนัก “อื้อ พี่เบ” เสียงหวานกว่าคนที่ผมเคยเจอมา ผมดูดเม้มแสดงความเป็นเจ้าของทั้งลำคอและหน้าอก

   แม้จะรูปร่างไม่เหมือนหญิงสาวแต่ก็ทำให้ผมแทบคลั่ง หน้าอกขาวไม่ว่าจะกัดเม้มไปตรงไหนก็หอมหวานไปหมด โดยเฉพาะตุ่มไตสองข้าง ทูบิดเร้าทุกครั้งที่ผมใช้ลิ้นร้อนสัมผัส ด้านบนผมปนเปรอด้วยลิ้นร้อน ด้านล่างก็จัดการด้วยมือข้างที่ว่าง ของๆ ทูผมไม่เคยแตะต้อง และผมไม่เคยให้น้องได้แตะของผม แต่วันนี้ผมพาของๆ เราได้สัมผัสซึ่งกันและกัน และผมก็จับมือน้องมาร่วมด้วย

   เสียงครางหวานหูดังตลอดเวลาที่เราขยับมือ ผมดันตัวผอมให้เอนไปด้านหลังพร้อมกับประกบจูบปากนุ่มอีกครั้ง ทูปล่อยมือจากของๆ เรามาคล้องคอผมไว้

   “ของอยู่ข้างนอก” ผมกระซิบติดริมฝีปากนุ่ม

   “ช่างมัน” น้ำเสียงไม่ใส่ใจตอบกลับทันที

   “ได้ไง” ผมยังค้าน

   “ได้สิ เคยดูมา”
 
   “หา”

   ผมกระพริบตามองหน้าขาวที่ยิ้มแปลกๆ

   “ทูเชื่อว่าพี่ไม่มีโรค ทูก็ไม่มีโรค ไม่เป็นไรหรอก” ขมวดคิ้วหลังจากได้ยิน

   “แต่...”

   “เถอะน่า” ผมหมดโอกาสพูดเมื่อทูยื่นหน้ามาจูบปากอีกรอบ

   ความเร้าร้อนกำลังปะทุขึ้นใหม่ และคราวนี้ร้อนแรงกว่าเดิม เสื้อผ้าของผมถูกถอดเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่สนใจว่ามันจะไปแปะอยู่ตรงไหน ผมอุ้มทูกลับมาที่อ่างน้ำตามเดิม น้องเอาขาคีบผมไว้นั่นยิ่งทำให้ของๆ ผมที่พร้อมออกศึกสัมผัสกับก้นนิ่ม

   “นั่น” เหล่หางตามองที่ทูชี้

   “เบบี้ออยล์?”

   “อื่อ”

   หวังว่ามันจะไม่เจ็บนะใช้ไอ้นี่น่ะ ผมยื่นมือไปหยิบออยล์มาเทใส่มือแล้วชโลมของตัวเองให้ชุ่มป้องกันคนรักของผมเจ็บ แต่ก็ยังกังวลอยู่ดีว่ะ

   “พี่ชักช้าว่ะ” โดนบ่นครับ ที่ทำก็เพราะมันเลยนะ

   “นี่ก็เต็มที่แล้วเว้ย”

   “ไม่ได้ดั่งใจเลย”

   “เฮ้ย เดี๋ยวๆๆ”

   รีบห้ามเมื่ออยู่ๆ ไอ้คนใจร้อนมันจับของผมแล้วรูดเบาๆ ท่าทางดูเก้ๆ กังๆ ก่อนจะยกตัวขึ้นแล้วจัดการนั่งทับลงมา แต่แค่นิดเดียวมันก็แหกปากลั่นจนผมตกใจไปด้วย

   “เจ็บเหี้ย!!” มันพูดและไม่ยอมขยับต่อทั้งที่ส่วนของผมเข้าไปแล้ว ผมทรมานกว่ามันอีก เชี่ยเอ้ย

   “แล้วใครบอกให้ทำแบบนั้นวะ ซี๊ด” เจ็บสิครับ ช่องทางด้านหลังมันรัดส่วนหัวผมไว้จนขยับแทบไม่ได้ อีกอย่างมันคงเกร็งไว้ด้วยส่วนหนึ่ง “ลองหายใจเข้า...หายใจออก ดีขึ้นป่ะ”

   “นิดหนึ่ง” คนอวดเก่งไม่มีรอยยิ้มอีกเลย มันพยายามหายใจเข้าออกจนเริ่มผ่อนคลายลง ความเจ็บปวดของผมมันจะต้องทำอะไรสักอย่าง

   “แป๊บเดียวนะ” ผมพูดขึ้น เด็กอวดดีเอียงคอมองอย่างสงสัยก่อนร้องเสียงหลงเมื่อผมพยุงตัวมันขึ้นนิดๆ แล้วดันพรวดเข้าไปครั้งเดียวจนหมด

   “ไอ้เหี้ย กูเจ็บ” โวยวายไม่พอ ไหล่ของผมถูกกัดโคตรเจ็บ ทูมันงับไหล่ของผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ขาที่เคยเกี่ยวเอวผมเริ่มดิ้น เพราะตอนนี้ผมกำลังนั่งขอบอ่างอาบน้ำมีทูนั่งบนตัก ยิ่งของผมอยู่ในตัวมันอีก เพียงแค่ขยับตัวนิดเดียวก็รู้สึก ทูเลยนั่งกอดผมไม่ยอมให้ขยับ

   “เป็นไง” ผมลองถามแม้จะรู้สึกเจ็บ ช่องทางมันรัดผมโคตรแน่น

   “เจ็บ” เสียงอู้อี้ตอบกลับมาทำเอาผมหัวเราะ

   “อยากยั่วดีนัก เป็นไง เจอของจริงเข้าไป” ใจจริงไม่อยากพูดหรอกครับ อยากทำเลยมากกว่า แต่เพราะกลัวมันเจ็บแล้วครั้งหน้าจะไม่มี

   “เจ็บเหี้ย” โดนโวยวายใส่แต่ผมก็ยังขำ “ไอ้เชี่ยกลอยทนได้ยังไงวะ” แม้ทูจะพึมพำแต่ใกล้จนแทบชิดขนาดนี้ผมก็ต้องได้ยินอยู่แล้ว

   “เพราะไม่ดื้อแบบนี้ไงเล่า”

   “นี่ซ้ำเหรอวะ ก็พี่ชักช้า” ยังมีหน้ามาเถียงอีก

   “ถ้าไม่ทำช้าๆ ทูก็เจ็บนี่ไง” ไม่มีเสียงพูดตอบกลับ คงจะเถียงไม่ออก “ขยับได้หรือยัง”

   “ยัง” มันหน้ามุ่ยตอบ แต่ผมไม่ฟังหรอก

   ผมยกตัวผอมๆ นั่นขึ้นยืนจนสองแขนเรียวคว้าคอผมแน่น อุ้มพาเดินออกจากห้องน้ำไปที่เตียงนอน เวลาเดินส่วนของผมก็จะขยับ ได้ยินเสียงด่าเบาๆ ข้างหูตลอดทาง พอผมวางร่างในอ้อมแขนลงก็ได้เห็นดวงตากลมมองค้อน

   “ทำตรงนี้จะได้ไม่เจ็บ” ผมแยกขาขาวให้กว้างขึ้นและหาหมอนมารองสะโพกมน “พี่จะเริ่มแล้วนะ”

   “อืม ทำเลย” แม้จะกัดฟันพูดแต่คนใต้ร่างผมเริ่มผ่อนคลาย ผมเริ่มขยับช้าๆ และยังได้ยินเสียงบ่นเจ็บอยู่ตลอด

   “เดี๋ยวก็ดีขึ้น” กระซิบชิดใบหูขาวพร้อมกับขบเม้ม มือก็ช่วยกระตุ้นด้านล่างของทูเพื่อให้ผ่อนคลายความเจ็บ

   ไม่นานความเจ็บปวดที่มักจะได้ยินแปลเปลี่ยนเป็นครางเสียงหวาน ได้ที่จนผมเริ่มโหนเข้าใส่ อยากจะถนอมแต่อารมณ์มันไม่ไหว ผมตักตวงความสุขจากคนรักอย่างอิ่มเอม ทั้งแกล้งทั้งเอาจริงจนโดนกัดเข้าที่แขนอยู่หลายครั้ง

   “อื้อ พี่เบ อย่าแกล้ง อื้อ น้อง” น้ำตาใสที่คลอหางตายิ่งกระตุ้นความรู้สึก ผมผ่อนแรงลงจนทูขยับเอง “พี่เบ”

   “ไม่เอาครับ” จับมือขาวชูไว้เหนือศีรษะทั้งสองมือ ทูส่ายหน้าไปมาคล้ายทรมานจากการแกล้งของผม ก็มันโคตรน่าแกล้ง ผมอดทนมาตั้งนาน ได้ทีก็ต้องเต็มที่กันหน่อย

   แค่ยกแรกผมพยายามประวิงเวลาจนสุดท้ายก็โหมใส่ไม่ยั้ง ทูปลดปล่อยออกมาก่อนๆ ที่ผมจะตามไปติดๆ

   โคตรสุดยอดเลยว่ะ

   “จุ๊ๆ รอบเดียวแบบนี้ไม่ใช่พี่เบอย่างแน่นอน” ผมเหยียดยิ้มจนคนอวดดีเบิกตากว้าง

   “ทูเหนื่อยแล้วน้า อ๊ะ ห้ามขยับเว้ย”

   คิดว่าผมจะฟังเหรอครับ ไม่มีทางหรอก ครั้งแรกจัดไปแค่สามรอบก็พอ คราวต่อไปค่อยว่ากัน ผมอุ้มร่างกึ่งหลับกึ่งตื่นไปชำระล้างร่างกายจนหมดจดและหาเสื้อผ้าสวมให้



   เด็กดื้อขี้ยั่วของผมหายซ่าไปแล้วครับ






(ทู)

   “เป็นไงบ้างมึง ไปทะเล” ผมหน้ามุ่ยมองไอ้กลอยที่มันทำหน้าตาอยากรู้อยากเห็น “เสร็จป่ะ” น้ำเสียงกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของมันโคตรขัดหูขัดตา

   “เรื่องของกู” ผมบอกไปแค่นั้น จะให้บอกว่าเจ็บก้นเหรอ ไม่มีทางซะหรอก “ไอ้เชี่ยกลอย” อยู่ๆ ไอ้กลอยมันตะปบก้นผมเฉย ความเจ็บปวดวิ่งพล่านจนต้องนิ่วหน้า

   “โหย ไม่เบานี่หว่า ไหนบอกจะมาเล่าอวดให้กูฟังไง ครั้งแรกเด็ดดวงหรือเปล่าวะ”

   “ไม่สักนิด” ผมบอกหน้าตึง “แล้วมึงล่ะ ครั้งแรกของมึง”

   ไอ้กลอยกระพริบตาปริบๆ “เจ็บสิวะ แต่ก็ไม่แย่เท่าไหร่”

   “ไม่แย่เท่าไหร่แต่แย่มาก เชี่ยเอ้ย” ไม่รู้จะอธิบายยังไง จะโทษพี่เบก็ไม่ได้ในเมื่อผมทำตัวเอง แค่อยากเอามาอวดไอ้กลอยว่าผมเจ๋งแค่ไหน แต่ตอนนี้ไม่กล้าพูดเลยสักนิด

   “ทำไมวะ” ทำหน้าตาสอดรู้อีกแล้ว

   “อย่าเสือกครับไอ้เชี่ยกลอย” บอกเสร็จผมก็ลุกจากเก้าอี้เพื่อขึ้นห้อง ไม่อยากจะบอกว่าเดินหนีเหมือนมีอะไรคาก้น แถมยังแสบๆ อีก ขนาดใส่ยามาแล้วนะเนี่ย



   อย่าถามถึงครั้งต่อไปเลยครับ ไอ้ทูคนนี้จะไม่อ่อย ไม่ยั่ว ไม่เอาอีกแล้ว!!!




[Special]

         พี่เบ : ไม่มีทางซะหรอก มีครั้งแรก ครั้งต่อไปก็ต้องมี และต้องดีกว่าเดิม เพิ่มเติมคือจำนวนรอบ

        น้องทู : แบบนั้นไปเอาตุ๊กตายางไป๊

        พี่เบ : มีเมียแล้วจะเอามาทำไม ทำกับเมียดีกว่าเยอะ

   น้องทู : (มองตาขวางแล้วเดินหนี)

   พี่เบ : (หัวเราะร่วนก่อนเดินตาม) ทูครับ ครั้งหน้าพี่จะทำเบาๆ นะ

   น้องทู : หุบปากพี่ไปเลย บอกว่าไม่ก็คือไม่เว้ย 


.....................................................................

สวัสดีเดือนตุลาคมค่าาาา พาคู่ออกสื่อน้อยมาอีกแล้ว มาแบบเบาๆ เช่นเคยค่าาาา

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู UP!< [P.31] [28/09/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 02-10-2016 00:04:52
อยากอ่านม่าน+เม่น เอ๊ะ หรือเม่น+ม่าน  :ling1:
[/quote
ม่านเม่นผู้เเต่งจะแยกเป็นเรืีองใหม่เลยครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 02-10-2016 00:16:49
พี่เบ :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 02-10-2016 07:43:54
จะสงสารน้องทูคนเก่งดีไหม  :z1:  พี่เบฟินไปเลย :hao3:

 :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 02-10-2016 08:15:19
น้องทู ขี้อ่อย พี่เบก็หื่นซะ  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 02-10-2016 09:06:40
น้องทูไม่ฟินแต่พี่เบกะคนอ่านฟินอ่ะ หุ หุ :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-10-2016 11:01:34
55555 โช อะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้น ถ้าออกไปแบบนั้นจริง รับรองไม่รอดกลับแน่

กลอยน่ารัก มีความกวน มีความเซี้ยว รั่วได้ทุกเวลา
ชอบเวลาเค้ามุ้งมิ้งกันค่ะ หวงก็บอก หึงก็บอก ออกอาการชัดเจน ฟินตอนโชนั่งรอหน้าหงอย  :mew3:

เบก็ตลกไปอีก รักทูมากงี้ ยั่วก็แล้ว ยอมก็แล้ว
ทูโดนจัดหนักแน่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-10-2016 12:36:56
ในที่สุด เบ - ทู ก็เป็นฝั่งเป็นฝา เป็นสามี-ภรรยา อย่างเป็นทางการ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-10-2016 13:21:27
พี่เบ น้องทู  ฟินนนน
ทู ทำตัวชิลๆ พกคอนด้อม เพื่อไปคุยกับกลอย
สุดท้าย คนเก่งร้องจ๊าก
ขำกลอย สอดรู้สอดเห็นมากกกกก :ling1: :ling1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 02-10-2016 13:40:50
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
ทูจะไม่ยั่วแล้ว อิอิ
พี่เบจัดแล้ว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 02-10-2016 17:31:06
น้องทูอยากโดน พี่เบก็จัดให้ เป็นไงล่ะ คิคิ
คู่นี้น่ารักอ่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-10-2016 17:39:30
 :m25: เรียบร้อยโรงเรียนพี่เบซินะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-10-2016 17:46:50
คนหนึ่งขยาด คนหนึ่งติดใจ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 02-10-2016 17:56:10
เสร็จอิพี่แล้วจ้าาา :haun4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-10-2016 18:58:24
และแล้วก็เสร็จพี่เบจนได้...
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 02-10-2016 21:21:14
เป็นไงเด็กขี้ยั่ว หายซ่าไปเลยสินะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 02-10-2016 21:53:00

ขำทูอ่ะ แต่ก็สงสารนะครั้งแรกด้วย  :impress2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 02-10-2016 22:38:29
น้องทูคนเก่งงงง555555555555 :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-10-2016 22:57:23
 :pighaun: :pighaun:
อ่อยจนได้เรื่อง งานนี้พี่เบไม่ทน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-10-2016 00:48:22
 :L2: :pig4:

ชอบคู่นี้ จากดราม่า ตอนนี้มาตลก 55
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-10-2016 03:05:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 03-10-2016 06:18:29
  :z1:  โดนจัดหนัก  3  รอบเลยนะน้องทู   :m25:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 03-10-2016 11:29:22
และแล้วทูก็เสร็จพี่เบไปแบบเบาๆ 3 รอบ อิอิ :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 03-10-2016 17:58:43
 :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 04-10-2016 16:16:35
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 04-10-2016 23:44:17
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 05-10-2016 03:59:45
อย่างนี้เค้าเรียกว่ายั่วจนได้เรื่อง  :haun4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 05-10-2016 04:19:26
เอิ่มมมมมม...น้องทูโดนลูกสาวแม่หลอกละค่ะลูก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ: เบ x ทู 2 UP!< [P.32] [02/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 05-10-2016 09:33:34
สนุก ๆ กลอยนีาเกรียนอึนมึนจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP![P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 05-10-2016 13:08:15
Just you and I ตอนพิเศษ : เรียนขับรถกันเถอะ



        เนื่องจากคุณปีศาจห่วงสวัสดิ์ภาพในการขับขี่ยวดยานพาหนะของกระผม ท่านได้สั่งให้กระผมไปเรียนขับรถ ในคราแรกจะปฏิเสธ แต่แววตาดุดันเยี่ยงปีศาจส่งตรงมาทำให้ยากนักที่จะปฏิเสธ แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังถูกบ่นเช้าบ่นเย็น

   หน้าตึกเรียนที่ซ่องสุมกำลังพลของเด็กศิลปกรรมปีสาม พวกผมนั่งหน้าเศร้าเพราะกำลังไว้อาลัยให้คะแนนที่เพิ่งเทสย่อยไป มันก็ไม่ได้ยากหรอกครับ แต่ออกไม่เหมือนกับที่เรียนมาก็แค่นั้น ผมรู้ว่าป๋าแต่ติส แต่แบบนี้มันติสเกินไป นักศึกษาอย่างพวกผมเข้าไปไม่ถึงจิตใจที่เต็มไปด้วยจินตนาการของแก

   “กูถอนหายไปเป็นพันรอบแล้วเนี่ย” ไอ้สักมันบ่นครับ ขานี้ลูกศิษย์คนโปรดแต่คะแนนครั้งนี้อย่างแย่

   “เอาน่ามึง คะแนนไม่ได้มีผลต่อเกรดสักหน่อย” ผมตบบ่าไอ้สักเพื่อปลอบ

   “มึงก็พูดได้ มึงมันผ่านนี่” ไอ้ต๋องมันว่าแทนเพื่อน ไอ้นี่ก็ตก

   “อย่าพูดว่าผ่าน ต้องพูดว่าคาบเส้นตายไอ้ห่า คะแนนกูคาบเส้นพอดี”
 
   “แต่ก็ผ่านหรือเปล่าวะ”

   “เอาน่าพวกมึง อย่าคิดมาก” ผมยิ้มกราดให้เพื่อนที่สอบไม่ผ่าน ก่อนจะสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ มีกระดาษปึกหนาผ่านหน้ามา “อะไรของมึงอีเข็ม” เงยหน้าถามคนที่ถือกระดาษปึกนั้น

   “ก็โบชัวที่เรียนขับรถไง ที่นี่สอนดีนะมึง แล้วที่สำคัญเด็ดมาก” ผมมองแววตาระยิบระยับของเพื่อนอย่างไม่น่าไว้ใจ

   “อะไรเด็ดมากวะ” ไอ้เคมันถามแทน เพราะมันก็เห็นสายตาแพรวพราวนั่น

   “คนสอนไงมึง โคตรเด็ด ถ้ามึงเห็นนะ มึงจะร้องซี๊ด” อีเข็มกัดมุมปากแล้วร้องซี๊ดออกมาเบาๆ พวกผมพากันหัวเราะ

   “ถ้าจะเด็ดจริง ทำให้มึงร้องซี๊ดเหมือนถูกเหยียบตีนได้ขนาดนี้”

   “ไอ้เชี่ยทู หุบปากมึงไปเลย ไอ้พวกสอบตก”

   “ไปไกลๆ เลยอีเชี่ย” จากการด่า แน่นอนว่าอีเข็มผ่าน

   ผมเลิกสนใจเพื่อนที่เริ่มคุยกันถึงวันศุกร์ที่จะถึง ได้ยินแว่วๆ ว่าจะไปกินยาดองที่เพิง โรงเรียนสอนขับรถยนต์ครูนิก น่าเรียนเหมือนกันนะเนี่ย ผมขอให้อีเข็มมันช่วยหาโรงเรียนสอนขับรถให้ครับ เพราะมันก็เพิ่งไปเรียนแล้วสอบใบขับขี่ผ่านตั้งแต่ครั้งแรก แปลว่าโรงเรียนนี้น่าจะเด็ดจริงๆ

   ช่วงบ่ายผมไม่มีเรียนเลยขอให้ไอ้ทูขับรถไปส่งที่โรงเรียนสอนขับรถ พอก้าวเข้ามาในตึก มีหลายคนกำลังลงทะเบียนเรียนอยู่ที่โต๊ะ โรงเรียนนี้อยู่ในตึกสองชั้น ด้านล่างเป็นลานกว้างๆ มีโต๊ะลงทะเบียนแล้วก็มีห้องแบ่งเป็นโซนๆ ดูแล้วน่าจะได้รับความสนใจจากคนขับรถไม่เป็นอยู่มาก ผมเดินมานั่งโต๊ะลงทะเบียนที่ว่างอยู่ ด้านหลังโต๊ะมีผู้ชายหน้าตาดีระดับพระเอกกำลังพิมพ์คอมพิวเตอร์ต๊อกแต๊กๆ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมก็สะดุ้งนิดๆ

   “ครับ?” เสียงทุ้มคล้ายกับละเมอออกมา

   “คือผมมาลงทะเบียนเรียน” ผมบอกออกไป มีไอ้ทูยืนเป็นแบล็กกราวอยู่ด้านหลัง

   “อ๋อ มาลงทะเบียนเรียนนะครับ คนเดียวหรือสองคนครับ”

   “คนเดียวครับ” ยิ้มอย่างเป็นมิตรสุดๆ ให้ไป

   “งั้นรบกวนกรอกเอกสารด้วยนะครับ แล้วขอบัตรประชาชนด้วย” คำอธิบายเกี่ยวกับเอกสารทำให้ผมรีบกรอกลงไป มีช่องให้เลือกคนสอนด้วย แต่ไม่มีหน้าตาครูที่จะสอน แล้วแบบนี้จะรู้ได้ไงว่าคนที่เลือกเป็นใคร

   “เลือกครูที่สอนนี่ต้องกรอกทุกอย่างหรือเปล่าครับ” เงยหน้าถาม

   “ใช่ครับ ที่ให้เลือกเพราะบางคนอยากเรียนกับครูที่มีอายุแล้ว หรือบางคนอยากเรียนกับครูหนุ่มๆ สาวๆ” รอยยิ้มที่ตอบกลับแทบทำให้เคลิ้มเลยทีเดียว

   “ครับๆ” ผมรีบก้มหน้าเลือกคนที่จะสอน ขออายุไม่เยอะ เอาพอดีๆ ดีกว่า

   กรอกเสร็จก็ยื่นเอกสารให้ไปพร้อมบัตรประชาชนและเงิน คนรับไปมองบัตรผมนิดๆ ก่อนจะส่งยิ้มมาให้

   “รูปในบัตรไม่เหมือนตัวจริงเลยนะครับ”

   นี่ด่ารูปในบัตรหรือด่าตัวเป็นๆ ของผมกันแน่วะ

   พอคนรับลงทะเบียนเดินเข้าไปด้านหลัง ไอ้ทูก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนผมต้องเตะขามันไป

   “ขำพ่อง”

   “เขาว่ามึงหน้าเหี้ยว่ะ ไอ้เชี่ยกลอย” แล้วมันก็หัวเราะเยาะผมต่อ เอาเลยมึง หัวเราะให้ตายไปเลย

   นั่งหน้ามุ่ยรอจนคนรับลงทะเบียนกลับมา ผมรีบเก็บบัตรประชาชนใส่กระเป๋าทันทีที่ถูกส่งคืน คนรับเอกสารกรอกนั่นกรอกนี่ก่อนจะยื่นบัตรเล็กๆ มาให้ผม

   “เก็บนี่ไว้นะครับ หากมาเรียนวันไหนยื่นบัตรนี้ให้เจ้าหน้าที่ได้เลย”

   “เรียนวันนี้เลยได้หรือเปล่าครับ” พอดีไอ้กลอยใจร้อน รถที่จอดใต้คอนโดส่งสายตาอ้อนวอนตลอดตอนผมเดินผ่าน

   “แหม ใจร้อนจริงๆ นะครับเนี่ย เรียนวันนี้เลยก็ได้ แต่ครูผู้หญิงไม่ว่างนะครับ” ใช่ครับ ผมระบุอยากได้ครูผู้หญิงสอน ก็อีเข็มบอกครูเด็ด ถ้าผมเห็นต้องร้องซี๊ด

   “เหรอครับ” หน้าสลดแป๊บหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร เรียนกับใครก็ได้ครับ”

   “งั้นก็ได้ครับ” พี่รับลงทะเบียนหัวเราะร่าก่อนจะชี้ให้ผมเดินเข้าประตูกระจกด้านข้างตึกไป เพราะสนามขับอยู่ด้านหลังตึกนี้
 
   ผมกับไอ้ทูเดินไปก็มองไป คือพื้นที่ด้านหลังตึกนี้กว้างขวางมาก กินพื้นที่น่าจะหลายไร่อยู่ ในสนามเรียนมีรถสองคันกำลังหัดขับ ไอ้ทูสะกิดเรียกผมยิกๆ เมื่อมีรถขับผ่านไปอย่างช้าๆ มันสะกิดให้ดูครูที่สอนครับ คือสวยมาก มิน่าถึงบอกว่าเด็ด

   “กูอยากเรียนกับครูคนนั้น” เริ่มงอแงนิดๆ

   “ทำให้กูอยากเรียนขับรถใหม่เลยไอ้สัด” ไอ้ทูก็เคลิ้มครับ แหม ก็สวยจริงสวยจังขนาดนั้น

   มองรถครูคนสวยไปไกล ข้างๆ ผมก็มีคนเดินมาหยุดจนต้องหันไปมอง ก็พี่รับลงทะเบียนเมื่อกี้นั่นแหละ มายืนทำหน้าหล่ออยู่ข้างๆ

   “ไปกันครับ”

   “หา”

   กระพริบตาปริบๆ มอง ก่อนรถที่ผมจะเรียนถูกขับมาจอดด้านหน้า

   “สอนเองเลยนะครับครูนิก” ลุงที่ขับรถมาทักทายคนข้างผม

   “ครับ”

   ตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไรแล้วครับ ความรู้สึกเดียวที่เกิดขึ้นคือตื่นเต้น ไอ้ทูตบบ่าปลอบใจผมเบาๆ แล้วมันก็ถอยไปนั่งที่ม้านั่งยาว ผมถูกใช้ให้ไปประจำที่คนขับ พอสอดตัวไปนั่ง เหงื่อมากมายผุดขึ้นมาจนเสื้อชื้นไปหมด

   “ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก ทำใจให้สบายๆ ไม่ต้องเกร็งนะครับ” น้ำเสียงทุ้มนุ่มทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ผมหันไปยิ้มให้คนที่จะสอนขับ “เอาละนะ เริ่มจากการสตาร์ทรถ เราต้องดูซะก่อนว่าได้ดึงเบรกมือไว้หรือยังเพื่อความปลอดภัยในการสตาร์ทรถ” มองตามมือคนสอนไปที่เบรกมือ รถที่ผมกำลังขับเป็นเกียร์ธรรมดาครับ “ต่อไปให้ดูเกียร์อยู่ในโหมดไหน เราจะรู้ได้จากการลองโยก หากโยกได้แสดงว่าเป็นเกียร์ว่างสามารถสตาร์ทรถได้”

   “ยุ่งยากเหมือนกันนะครับเนี่ย” ผมเกาหัวจนผมยุ่ง

   “ไม่ยากหรอกครับ แต่ปลอดภัยไว้ก่อน ต่อไปก่อนสตาร์ทต้องเหยียบคลัช ใช้เท้าซ้ายเหยียบตรงนั้น ไม่ใช่ครับอีกอัน อันนั้นเบรก” รีบยกเท้าออกแทบไม่ทันจนโดนคนสอนหัวเราะ โด่ ก็คนไม่เคยนี่หว่า “ปรับเบาะให้นั่งสบายที่สุดนะครับ เดี๋ยวเราจะเริ่มกันแล้ว”

   “ครับๆ” โคตรตื่นเต้น มือสองข้างผมมีแต่เหงื่อ

   “เหยียบคลัชไว้แล้วบิดกุญแจสตาร์ทเลยครับ” ผมทำตาม ใจเต้นโครมครามไปหมด ไม่กี่วินาทีเครื่องยนต์ก็สตาร์ทติด ผมหันไปยิ้มให้คนสอนอย่างดีใจ “ดีมากครับ ต่อไปค่อยๆ ปล่อยคลัชช้าๆ รถจะเริ่มเคลื่อนนิดๆ”

   ผมทำตามเสียงที่ได้ยินทุกอย่าง เพราะไม่ได้หันไปมองครูคนสอนเลย ยิ่งต้องเลี้ยว ถอย หรือแม้จะเข้าที่แคบๆ เหงื่อมากมายมหาศาลผุดขึ้นจนคนสอนต้องเอากระดาษทิชชู่มาซับให้

   “ตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอครับเนี่ย” เสียงพูดติดขำหลังจากเช็ดเหงื่อผมเสร็จ นี่ถ้าไม่ได้ขับรถนะ คงมีสวนกลับไปบ้าง

   ใช้เวลาเรียนเกือบสองชั่วโมง พอลงจากรถไอ้ทูก็นอนหลับเฝ้ากระเป๋าผมเรียบร้อย สะกิดเบาๆ จนมันปรือตาขึ้นมาดู

   “เสร็จแล้วเหรอวะ กูรอจนหลับไปหลายตื่นแล้วเนี่ย” อ้าปากหาววอดๆ

   “เออ โคตรตื่นเต้น” คุยกับไอ้ทูได้ครู่เดียว คนสอนสุดหล่อก็มายืนอยู่ข้างๆ “ขอบคุณนะครับ”

   “ไม่เป็นไรครับ แล้วจะมาเรียนวันไหนอีก ผมจะได้จัดตารางไว้ให้” สรุปคือผมก็เรียนกับครูคนนี้นั่นแหละครับ มีครูนั่งไปด้วยทำให้อุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

   “พรุ่งนี้ครับ จะมาทุกวันจนครบเลย” ยิ้มอวดฟันขาว จนโดนหัวเราะใส่

   “ครับๆ พรุ่งนี้พบกัน”

   เดินออกมากับไอ้ทู มันทำหน้ายุ่งจนผมสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมัน ตอนนี้เวลานั่งรถไปผมจะคอยสังเกตเพื่อนขับรถไป แม้รถคันนี้จะเป็นระบบออโต้ แต่ก็น่าจะศึกษาไว้ และผมก็คิดไว้แล้วว่าจบเกียร์ธรรมดาเมื่อไหร่ จะต่อเกียร์ออโต้ทันที



   กลับมาถึงห้อง พี่โชก็กลับมาก่อนหน้าแล้ว แถมยังทำสปาเก็ตตี้ไว้รอแล้วด้วย คนกลับมาก่อนนั่งนิ่งอ่านเอกสารกองพะเนินอยู่หน้าทีวี

   “กลับมาแล้ว” เดินมาทิ้งตัวที่ว่างข้างๆ

   “ทำไมกลับช้า”

   “ก็ไปเรียนขับรถไง ตื่นเต้นสุดๆ” ผมเริ่มเล่าเรื่องที่ไปเรียนขับรถให้พี่โชฟัง ซึ่งคนฟังก็ตั้งใจมาก จากเอกสารบนตักตอนนี้กลายเป็นตัวผมไปซะแล้ว

   “ดีแล้ว พี่เป็นห่วงเวลาเอามอเตอร์ไซค์ไปเรียน ไหนจะฝนตก ไหนจะแดดร้อน” บีบจมูกโด่งๆ เล่น

   “ก็คนแถวนี้ไม่มีเวลาไปส่งนี่หว่า”

   “ขอโทษจริงๆ ช่วงนี้งานพี่เยอะมากเลย” ว่าเสร็จก็หอมแก้มผมฟอดใหญ่

   “เอ่อใช่ ผมถ่ายรูปคู่ครูสอนขับรถมาด้วยนะ หล่อมาก เป็นพระเอกละครได้สบายๆ” รีบกดหารูปที่ถ่ายในรถให้พี่โชดู

   “ก็ดี” น้ำเสียงโคตรนิ่ง ผมจ้องหน้าพี่โชดูเหมือนจะจ้องรูปที่ผมให้ดูเป็นพิเศษ “อย่าเข้าใกล้มันมาก พี่ไม่ชอบ”

   “รู้อยู่แล้วน่า ปีศาจขี้หึงจะตาย” ผมว่าพี่โชคงได้กินสปาเก็ตตี้ช่วงมื้อดึกแน่ เพราะมื้อค่ำปีศาจกำลังจะกินผมเป็นอาหารแล้ว
 
   “ไม่ทำงานแล้วเหรอ” ถามก่อนจะถูกดูดพลังวิญญาณจากปากไป

   “ทำที่หลังก็ได้ พี่ไม่รีบ” งานไม่รีบ แต่เรื่องกินนี่รีบเชียวนะ

   ขอเวลาส่วนตัวแป๊บหนึ่งนะครับ ปีศาจจอมเขมือบกำลังคึก




   ผมมาเรียนขับรถทุกวัน พรุ่งนี้ก็จะครบกำหนดจบ แรกๆ สนุกตื่นเต้น แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้ว ผมถูกพาออกนอกตัวสนามเพื่อให้ชินกับถนนจริง แต่ดูท่าความตื่นเต้นที่หายไปจะกระโดดเข้ามาทับใหม่ เพราะรถด้านนอกติดหนึบชนิดที่ว่า เหยียบคลัชจนปวดขาไปหมด กว่าจะวนกลับมาที่โรงเรียนได้ ขาก็แทบเป็นตะคริว

   “เหนื่อยมั้ย นี่น้ำครับ” ผมยกมือไหว้แล้วดื่มน้ำเปล่าจนหมดแก้ว “แล้วกลับยังไง เพื่อนน้องก็กลับไปแล้ว”

   ไอ้ทูพาผมมาปล่อยครับ วันนี้มันบอกจะรีบกลับเพราะนัดพี่เบเอาไว้ เห็นแฟนดีกว่าเพื่อนตลอด

   “เดี๋ยวมีคนมารับครับ” ครูนิกยิ้มบางๆ ก่อนเดินเข้าไปด้านใน

   นั่งรอคนมารับอย่างเบื่อหน่าย ผ่านไปเป็นชั่วโมงก็ยังไม่มา เดินก็แล้ว นั่งหลับก็แล้ว โทรไปตามก็ไม่ยอมรับอีก หรือจะไม่มาแล้ว

   “รองท้องครับ” เงยหน้ามองครูนิกที่ยื่นแซนวิสมาให้

   “ไม่ดีกว่า ผมยังไม่...เอ่อ” อยากจะปฏิเสธ แต่ท้องดันร้องออกมาซะนี่ “ขอบคุณครับ”

   “รีบๆ กิน เดี๋ยวปวดท้องนะ” คนให้พยายามกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ ผมรีบนั่งหันหลังให้คนใจดี ครูนิกเดินกลับไปนั่งหลังโต๊ะลงทะเบียนตามเดิม นึกถึงตอนมาเรียนสองวันแรก ผมไม่รู้เลยว่าคนสอนจะเป็นเจ้าของที่นี่ มารู้จากไอ้ทูนี่แหละ แถมโดนตบหัวด้วย มันชี้ไปที่รูปเจ้าของให้ผมดู ซึ่งรูปใบนั้นเป็นหน้าครูนิกเลย ไอ้กลอยโง่มาทั้งหลายวัน

   ประตูโรงเรียนเปิดออกพร้อมกับคนที่ผมรู้จักดี พี่โชเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะที่มีครูนิกนั่งอยู่ เห็นขมวดคิ้วจ้องจนผมต้องเดินไปสะกิด

   “มาช้า” ขอบ่นทีเถอะ

   “รถมันติด” พี่โชบอกมือก็คว้ากระเป๋าผมไปถือ “หิวมั้ย” รีบพยักหน้าทันที

   “อยากกินชาบู”

   “ครับๆ”

   “น้องกลอยเดี๋ยวครับ” ผมกับพี่โชรีบหันไปมองครูนิกทันที เอียงคอมองอย่างสงสัย “พรุ่งนี้อย่าลืมนะครับ นัดสำคัญด้วย”

   “ครับ ไม่ลืม” ยิ้มอวดฟันขาวให้ไปแต่ต้องรีบหุบเมื่อพี่โชเดินมาบังจนมิด “อะไรเนี่ย”

   “พรุ่งนี้วันสุดท้ายสินะครับ” พี่โชคุยกับครูนิกด้วยใบหน้าแบบไหนไม่รู้ แต่น้ำเสียงโหมดปีศาจชัดๆ นิ่งๆ เย็นๆ ฟังแล้วเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือ

   “ครับ”

   พี่โชไม่พูดอะไรต่อ มือใหญ่คว้าข้อมือผมแล้วลากออกจากโรงเรียนทันที พอยัดในรถได้ก็ออกตัวอย่างไวจนผมตกใจ นี่พี่เขาโมโหอะไรเนี่ย แม้ปีศาจจะดูอารมณ์ไม่ดีแต่ก็พาผมมากินของที่ผมอยากกิน

   “พรุ่งนี้ไม่ต้องไปแล้วนะ” เสียงนิ่งๆ ดังออกจากปากที่ชอบดูดพลังวิญญาณผม

   “ทำไมล่ะ วันสุดท้ายแล้วนะ”

   “ก็ขับเป็นแล้วไม่ต้องไปหรอก”

   “ได้ไง เสียเงินไปแล้ว”

   “เงินแค่นั้นหาเมื่อไหร่ก็หาได้”

   “พี่โช”

   “พรุ่งนี้พี่ไม่ให้ไป”

   จบครับ ไม่เถียงต่อ ปีศาจสั่งห้ามเสียงหนักแน่นขนาดนี้ไม่เหมาะที่จะขัด แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าสั่งห้ามทำไม ทั้งที่ทุกวันที่ไปเรียนก็ไม่เห็นจะบ่นอะไร แค่กลับห้องก็ถูกกินเป็นมื้อค่ำทุกวันแค่นั้น เอ่อ ร่างกายผมโอเคดีอยู่ครับ ปีศาจไม่ได้โหดร้ายเท่าไหร่ ยังคงถนอมร่างกายของผมอยู่

   สุดท้ายผมก็ไม่ได้ไปจริงๆ ครับ ครูนิกโทรตาม ผมก็อ้างว่าไปไม่ได้เพราะติดเรียนบ้าง สอบบ้าง จนผ่านมาเป็นอาทิตย์ก็ไม่มีใครโทรตามมาอีก

   “ศุกร์นี้ไปฉลองกัน กูสอบผ่านแล้วเว้ย” ไอ้สักโวยวายอยู่หน้าตึก พวกมันสอบซ่อมผ่านกันแล้วครับ คราวนี้ป๋าแกออกตามที่สอนเป๊ะๆ แถมพวกมันได้คะแนนดีซะด้วย รู้แบบนี้ผมสอบตกพร้อมพวกมันด้วยก็ดี

   “มึงเลี้ยงนะ” ผมว่า

   “ไอ้เชี่ยกลอย มึงนี่ชอบของฟรีตลอด” โดนแขวะแต่ไม่สนครับ ผมกะจะเอาที่รักออกมาเฉิดฉายสักหน่อย เคยขับไปห้างกับพี่โช แม้จะค่อยๆ คลานไปแต่ก็ปลอดภัยดี แถมพี่โชชมว่าผมขับดีซะด้วย ตอนนี้ผมไม่เป็นเต่าแล้วนะครับ

   “กูเพื่อนมึงนะ”

   “เชี่ย”

   สรุปแล้ว ไอ้สักก็เป็นเจ้ามือนั่นแหละครับ ตอนนี้พวกเรามานั่งเฮฮาที่อยู่เพิงยาดอง รถของผมจอดอยู่ข้างๆ รถไอ้ทู

   “นี่มึงขับเก่งแล้วนี่หว่า” ไอ้ต๋องมันชม เพราะผมขับนำหน้ามันมา เจอกันที่หน้ามหาลัยพอดี

   “แน่นอนสิ กูกลอยประเกรียนนะมึง กูเก่งเสมอ” ยืดอกอวดจนโดนตบหัว

   ยาดองสองโหลค่อยลดปริมาณลงเรื่อยๆ กินไปคุยไปก็สนุกดีนะครับ แถมยังมีดนตรีเพราะให้ฟังด้วย คนเล่นไม่ใช่ใคร ก็รุ่นพี่คณะผมแล้วก็มีตำแหน่งเป็นแฟนเจ้าของร้านด้วย

   “ระวังด่านนะพวกมึง” โดนอวยพรส่งท้ายก่อนกลับ

   ผมโบกมือลาพวกเพื่อนๆ เพื่อกลับห้อง ระหว่างทางพี่โชโทรมาบอกให้รีบกลับ ผมก็พูดไปด้วยขับไปด้วย แต่เหมือนตามันจะเริ่มมัวก็เลยยกมือขยี้

   “เห้ย”

   อยู่ๆ รถก็พุ่งขึ้นฟุตบาท แล้วจอดคาไว้แบบนั้น ผมขยี้ตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้ยินเสียงพี่โชแว่วๆ จากโทรศัพท์ที่หล่นบนตัก
 
   “โหลๆ พี่โชได้ยินป่ะ”

   (เกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมมีเสียงดัง) น้ำเสียงร้อนรนอยู่ปลายสาย

   “พี่โช”

   (ครับ)

   “ถังขยะมันเดินมาขวางทางอะ ผมขับต่อไม่ได้”

   (หา? ถังขยะเดินมาขวาง คืออะไรวะ)

   “จริงๆ เนี่ย มันยืนขวางจนรถผมไปไหนไม่ได้เลย”

   (อยู่ไหนเนี่ย)

   “อยู่หน้าถังขยะ”

   (เออรู้แล้ว แล้วไอ้ถังขยะมันอยู่ตรงไหน)

   “อยู่แล้วป้ายรถเมลสาย ZX อะ”

   (รออยู่ตรงนั้นนะ) แล้วสายก็ตัดไป นี่ผมไม่ได้เมานะ ยาดองแค่สองโหลเองจะเมาได้ไง

   ผมเปิดประตูลงจากรถเพื่อไปพูดคุยกับพวกที่ขวางทาง พวกมันไม่ยอมพูดอะไรด้วยเลยจนผมต้องเตะมันไป

   “พูดด้วยไม่พูด หยิ่งว่ะแม่ง” เดินกระเผลกกลับไปนั่งที่รถ ตัวโคตรแข็ง เตะไปทีโคตรเจ็บ

   รออยู่นานมากกว่าพี่โชจะมา ผมถูกจับไปยัดในรถประจำของปีศาจ ส่วนรถตัวเองถูกรถอีกคันยกขึ้นจนแทบโผออกไปหา แต่พี่โชคว้าตัวไว้ซะก่อน

   “พี่โช รถผมอะ”

   “เออ เดี๋ยวเอาไปซ่อมก่อน ขับยังไงวะ” แล้วก็โดนบ่นตลอดทางกลับ ฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะง่วงจนเปิดตาไม่ขึ้น รู้อีกทีตอนถูกเช็ดตัว “ดีที่แค่หัวโน”

   “เจ็บ” เหมือนถูกอะไรเย็นๆ แข็งๆ โป๊ะที่หัว

   “หัวโนแล้วไม่เจียมนะ” โดนตีมือจนต้องรีบซุกไว้ใต้ตัว

   “ใจร้าย” ตวาดดังลั่นแล้วก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย




   แดดยามเช้าสาดเข้าเต็มลูกตาทำให้ต้องปรือตาขึ้นมอง เห็นหลังขาวๆ กำลังสาละวนหาเสื้อใส่หน้าตู้เสื้อผ้า พอยันตัวลุกก็เจ็บแปลบที่หัว

   “เจ็บ” หน้านิ่วด้วยความปวด

   “หัวโน เดี๋ยวก็หาย” พี่โชเหล่ตามองมา “เมื่อคืนเมาแล้วทำไมถึงขับรถ”

   “ผมไม่ได้เมา” รีบเถียงทันที

   “ไม่ได้เมาแล้วรถมันขึ้นฟุตบาทได้ยังไง”

   ผมกระพริบตาปริบๆ พยายามคิดว่าเมื่อคืนกลับมายังไง ย้อนไปตั้งแต่ออกจากร้านจนมาถึงสถานที่เกิดเหตุ

   “แต่ผมไม่ได้เมาจริงๆ ตอนนั้นเห็นถังขยะมันเดินมาขวางทางอะ”

   “มันไม่ได้เดินมาขวาง แต่กลอยขับขึ้นไปหามันต่างหาก”

   “ผมเนี่ยนะ” ชี้เข้าตัวเอง “ไม่จริงอะ”

   “จริง แล้วตอนนี้รถก็ซ่อมอยู่ ต่อไปพี่ไม่ให้ขับรถเองแล้ว เพราะเดี๋ยวขับไปชนอีก ยังดีที่ไม่มีคน ขืนขับรถชนคนตายขึ้นมาจะทำยังไง แล้วก็...บลาๆๆๆ”

   ผมปีศาจบ่นตั้งแต่ลืมตาตื่นจนดึกดื่นก็ยังโดน ไอ้กลอยขอลาขาดครับ ไม่ขับก็ได้โด่ แต่วันไหนพี่โชเผลอละก็ จะเอาออกมาเฉิดฉายอีกรอบ


   ว่าแต่ ตอนนี้ซ่อมไปถึงไหนแล้วเนี่ย ที่รักของไอ้กลอยประเกรียน     


................................................................

กลอยประเกรียนมาแล้ว โดนเพื่อนแย่งซีนไปนาน ?  :mew1:


 :pig4: :pig4: :pig4:     
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-10-2016 13:38:25
 :jul3: :jul3: :jul3:
กลอยไม่เมาเนาะ ถังขยะมันเดินมาขวางทางเองเนอะ :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-10-2016 13:54:12
คิดถึงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 05-10-2016 15:08:52
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-10-2016 16:16:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-10-2016 16:37:05
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 05-10-2016 18:01:12
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 05-10-2016 18:55:49
555 ถังขยะเดินได้ 555 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-10-2016 19:09:33
เดี๋ยวๆๆๆ ไอ้มุกถังขยะเดินมาขวางนี่มันคุ้นๆนะ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 05-10-2016 19:44:49
เดี๋ยวๆๆๆ ไอ้มุกถังขยะเดินมาขวางนี่มันคุ้นๆนะ :laugh: :laugh:

ใช่ค่าาา เป็นพาร์ทก่อนงานขาวดำ ที่กลอยประเกรียนเอาไปชนถังขยะ เล่าย้อนหลังนิดๆ ค่าา  :o8:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 05-10-2016 20:54:55
ถังขยะเดินมาขวางทาง โธ่น้องกลอย :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-10-2016 21:01:53
กลอยประเกรียนมาแล้ว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ครูนิก ประทับใจกลอยมาก เช็ดเหงื่อให้
บริการแซนวิช กลอยไม่ได้คิดไร ไม่รู้เรื่องด้วยเล้ย
พี่โช เนียนกินกลอยมื้อค่ำทุกวัน อร่อยแซ่บ
ขำกลอยเกรียนกับถังขยะ มันเดินมาขวางรถ คนอ่านขำกลิ้ง
พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย หยิ่งมาก เตะถังขยะซะตัวเองเดินขากระเผลก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 05-10-2016 21:11:56
ถังขยะเดินมาขวางทางน้องกลอยทำไมเนี่ย  :laugh:

 :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 05-10-2016 23:17:56
กลอยช่างเสน่ห์แรง ไปเรียนสอนขับรถต์ที่ไหน แอบกระซิบบอกเรามาค่ะ!! เราจะตามไปเรียนนนนน ครูหล่อเราต้องช่วยกันดูแล  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 05-10-2016 23:57:15
ปีศาจขี้หึง 555 กลอยเอ้ยกลอย ถังขยะเดินมาขวางเนี่ยนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 06-10-2016 06:07:49
ปีศาจหึงตลอดเว ส่วนน้องกรอยจะเกรียนอะไรเบอร์นั้นคะหนู  :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 06-10-2016 11:37:11
น้องกลอยไม่ได้เมาค่ะลูก โอ๋เอ๋นะ
รอวันกลอยเฉิดฉายอีกครั้ง ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-10-2016 12:32:11
เลิกขับรถเองเถอะน้องกลอย สงสารพี่โช :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 09-10-2016 10:30:34
 :laugh: เมาจนเห็นถังขยะขวางหน้าเลยเน้อ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 09-10-2016 18:35:55
กลอยเอ้ยยย ดีแค่ไหนแล้วไม่ชนคนแล้วยังจะเถียงพี่โชอีก รอบนี้เข้าข้างพี่โชนะจ๊ะ พี่โชพูดถูกแล้ว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 09-10-2016 23:11:26
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 11-10-2016 19:18:06
กลอยเอ้ยยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เรียนขับรถกัน UP!< [P.33] [05/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 11-10-2016 23:20:21
เรื่องสนุกมาเลยค่ะ พี่โชจะหวงน้องไปถึงไหนน 5555555555555
#โชผู้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อมีเมีย 5555555555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงาฯUP!<[P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 19-10-2016 15:52:17
Just you and I ตอนพิเศษ : เด็กขี้เหงา เอาแต่ใจ



       เฮ้อ ผมถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน มันรู้สึกไม่ชอบใจที่เป็นอยู่ในตอนนี้เลยจริงๆ กลอยประเกรียนผู้ซึ่งไม่เคยเบื่อ ไม่เคยเหงา หายไปไหนนะ

   “เฮ้อ” ถอนหายใจอีกรอบ แต่คราวนี้ถูกสะกิดจากด้านหลัง ไอ้ที่สะกิดไม่ใช่มืออย่างแน่นอน ผมตวัดสายตาไปมองด้านหลัง เจอกับคนหน้าบึ้งกอดอกและอวัยวะที่ใช้เขี่ยกำลังขยับไปวางที่เดิมกับคู่ของมัน

   “ถอนหายใจอะไรของมึงวะ หมากูจะเฉาตายเพราะคาร์บอนไดออกไซด์ที่มึงปล่อยออกมาอยู่แล้วเนี่ย” พี่แทมยืนทำหน้าทะมึนตึงกอดอกอยู่ด้านหลัง พี่เขาใช้ขาเขี่ยหลังผมจนหน้าแทบพุ่งไปจูบกับพื้นปูนซีเมนต์

   “พี่อย่ามาเว่อร์ได้ป่ะ” ย่นหน้าแล้วหันกลับไปลูบหัวเจ้าสีนวลที่เริ่มโต แถมอ้วนเกือบจะเป็นหมูแทนหมาอยู่แล้ว ผ่านมาแค่ไม่กี่เดือนถูกขุนให้อ้วนเกิน

   “เป็นอะไร ทะเลาะกับไอ้โชมาเหรอถึงมาหากูถึงที่บ้านเนี่ย” ผมเหล่หางตามองคนที่ยืนอยู่

   “ผมไม่ได้มาหาพี่สักหน่อย ผมมาหาหมาของผม”

   “หมาของมึง? งั้นเอากลับบ้านมึงเลยไป”

   “พี่แทมก็ บ้านผมมีที่เลี้ยงที่ไหนกันเล่า” รีบคว้าขายาวๆ ที่เขี่ยหลังผมมากอด พี่แทมพยายามสะบัดผมออกจากขาจนลงไปนั่งกับพื้นปูน “ใจร้ายว่ะแม่ง ใจร้ายเหมือนเพื่อนพี่เปี๊ยบ”

   “หน้างออีก เป็นอะไรของมึงวะ ไอ้โชไม่ยอมนอนกับมึงหรือไงถึงงอนมันเนี่ย”

   “ปากหมา”

   “เอ้า ด่ากูอีก”

   “เพื่อนพี่ไม่มีเวลาให้ผมเลยนี่ วันๆ เอาแต่ทำงานๆๆ อาทิตย์หนึ่งผมเจอหน้าพี่เขาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น นี่พี่เขาเบื่อหน้าผมแล้วใช่มั้ย เพื่อนพี่เบื่อผมแล้ว”

   ผมคว้าสีนวลมากอด เจ้าหมาตัวอ้วนดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในอ้อมแขน ก่อนมันจะหยุดนิ่งแล้วพยายามเลียแขนเลียหน้าผมเพื่อปลอบใจ มันคงรู้ว่าผมกำลังเศร้าอยู่ โอ๋ๆ สีนวลจ๋า พี่กลอยรักสีนวลมากเลยนะ

   “มึงโคตรเด็กเลยว่ะ” อยู่ๆ เพื่อนของคนที่ทำให้ผมน้อยใจพูดขึ้น

   “เด็กยังไง ผมโตแล้วเว้ย” เถียงกลับ

   “โตอะไรของมึง ท่าทางที่มึงทำอยู่เนี่ย เขาเรียกว่าเด็ก เด็กที่ไม่รู้จักโต เด็กที่ขี้เหงา เด็กที่เอาแต่ใจ มึงน่ะ ติดเพื่อนกูมากเกินไป” โดนพี่แทมใช้นิ้วจิ้มหน้าผากไปหลายจึ๊ก “มึงลองคิดดู หากวันหนึ่งมึงเลิกกับไอ้โช มึงจะมีชีวิตอยู่ได้หรือเปล่า แต่ท่าทางแบบนี้ กูว่ามึงตายชัว”

   “พี่แทม!” ทำปากยื่นเหมือนเป็ดให้รู้ว่าไม่พอใจ

   “กูพูดจริง มึงติดไอ้โชจนเกินไป จนเหมือนขาดมันไม่ได้”

   ผมก้มหน้ามองหน้าหมาที่ผมเคยขอร้องให้พี่โชพามันไปทำวัคซีนและพามาอยู่บ้านหลังนี้ ใช่ ผมติดพี่โชมากเกินไป แต่ผมไม่ได้ผิดสักหน่อย พี่โชเป็นคนผิดทั้งหมด พี่เขาทำให้ผมกลายเป็นคนนิสัยเสีย ผมอยากได้อะไรพี่เขาก็จะหามาให้ ทุกๆ อย่างที่ผมทำ พี่โชจะคอยมองและให้กำลังใจ พี่เขาทำให้ผมรู้สึกว่า หากขาดพี่เขาไป ผมจะอยู่ต่อไม่ได้อีก

   นี่สินะ ที่ทำให้ไอ้กลอยเกรียนหายไป

   นี่สินะ ที่ทำให้ผมต้องแอบนอนร้องไห้อยู่ทุกคืน

   นี่สินะ ที่ทำให้ผมมองหาเพื่อนที่คอยเข้าใจ

   ยื่นหน้าหอมแก้มสีนวลก่อนจะขอตัวกลับ พี่แทมทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วโบกมือไล่ นิสัยเสียเหมือนเพื่อนตัวเองไม่มีผิด ผมยกนิ้วโป้งให้คนที่ไล่แล้วขึ้นควบเจ้าฟีโน่ลูกรักก่อนขี่ออกมา ที่จริง ผมอยากจะขับสุดที่รักมา ติดตรงที่ว่า สุดที่รักถูกเอาไปจอดไว้ที่บ้านของพี่โชแล้ว แม้ผมจะอ้อนวอนยังไง พี่โชก็ไม่ยอมให้แตะอีก

   กะอีแค่เอาไปทักทายฟุตบาทหนึ่งครั้ง จูบกับเสาไฟฟ้าสองครั้ง ไฟท้ายไม่รักดีร่วงลงมาอีกหนึ่งครั้ง ก็แค่นั้นเอง ถึงกับไม่ให้ผมจับสุดที่รักอีก แล้วจะซื้อให้ผมทำไม นิสัยเสียว่ะ

   ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาที่คอนโดที่ผมอยู่ทุกวันนี้ ห้องกว้างเหมือนรกร้างนั่นเพราะผมอยู่เพียงลำพัง เจ้าของห้องนานๆ จะกลับมานอนที่นี่ที นั่นเพราะบ้านใกล้ที่ทำงานมากกว่า ผมยืนอยู่หน้าประตูหลังจากเปิดเข้ามาในห้อง สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณ

   ห้องมันกว้างกว่าผมจะอยู่ตัวคนเดียว

   ผมว่า ผมควรเรียกคนเดิมของผมให้กลับมาสักที ไม่อย่างนั้น อาจเป็นเหมือนที่พี่แทมว่า หากวันไหนผมขาดพี่โชไปจริงๆ ผมคงจะทนอยู่ไม่ได้แน่

   ลองกดโทรหาเพื่อนเพื่อให้มันช่วยหาหอพักใกล้ๆ มหาลัยให้ ไอ้สักแนะนำหอที่มันพัก ก็น่าสนอยู่หรอก แต่ผมว่า มันไกลไปหน่อย แถมราคาก็โหดเกินไป ผมลองโทรไปที่หอพักเดิมที่เคยอยู่ พอดีมีห้องว่างผมเลยได้ที่อยู่ที่คุ้นเคย

   มองรอบๆ ห้องเพื่อเก็บเป็นความทรงจำ หวังว่า เจ้าของห้องคงไม่ปล่อยให้ห้องนี้สกปรก ครัวที่ผมเคยทำรกทุกครั้งตอนเข้าครัว ผมจะคิดถึงมัน พยายามกลั้นน้ำตาที่ตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่อก มือก็เก็บกวาดข้าวของตัวเองใส่กระเป๋า ผมเพิ่งรู้ว่า เสื้อผ้าข้าวของๆ ผมมีมากซะจนขนรอบเดียวไม่หมด ผมเลยเลือกแค่สิ่งที่จำเป็นไปก่อน อย่างเสื้อผ้า ของที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

   ยกเป้ที่มีของๆ ผมขึ้นหลัง ห้องจ๋า ลาก่อน ผมโบกมือให้กับห้องที่อยู่มานานจนเคยชินแล้วรีบเปิดประตูออกไปโดยไม่หันหลังกลับ พอกำลังจะควบรถมอเตอร์ไซค์ ลุงยามที่เพิ่งเดินตรวจตราตะโกนทักทาย ผมยกมือไหว้ลาก่อนจะรีบบิดรถคู่ใจออกมา

   ผมรู้ว่าที่ทำอยู่เหมือนเป็นเด็กเอาแต่ใจ ก็มันเหงานี่นาอยู่ห้องใหญ่นั่นเพียงคนเดียว เหลียวมองไปทางไหนก็มีแต่ความว่างเปล่า

   ไอ้กลอยประเกรียนจงกลับมา

   ขี่รถจนมาถึงหอพักที่คุ้นเคย ผมยกมือปาดคราบน้ำตาออกจากแก้มแล้วยกยิ้มให้กับป้าที่ดูแลหอพักที่เห็นผมก็รีบปรี่เข้ามาหา เมื่อก่อนผมโคตรสนิทกับป้าแกเลย หลายครั้งที่ป้ามักจะหยอดผมไปให้หลานของเขา ผมคงจะดีใจหากหลานป้าเป็นผู้หญิง
 
   หอคุ้นเคย แต่ห้องๆ ใหม่ ห้องที่ผมเคยอยู่ มีพี่ปีสี่เข้าพักและยังไม่ย้ายออก ทำให้ผมต้องมาอยู่ห้องใหม่ชั้นเดิม ตอนเดินผ่านห้องเก่าน้ำตาแทบตก ห้องที่ผมอยู่มาตั้งแต่ปีหนึ่ง โคตรคิดถึงเลยให้ตาย แต่ห้องใหม่ก็ไม่ได้แย่ ผมวางเป้ที่มีของลงบนพื้นแล้วทิ้งตัวนั่งบนเตียงอย่างอ่อนแรง

   เหนื่อย

   น้ำตาที่ไหลมาตลอดทางกลับมาไหลอีกครั้ง คราวนี้ผมปล่อยโฮออกมาเสียงดังเพราะไม่มีใครอยู่แล้ว ผมจะร้องเป็นครั้งสุดท้าย จะไม่มีน้ำตาของไอ้กลอยอีก

   ผมแหกปากร้องไห้อยู่นานจนเริ่มสะอื้น เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้น พอดูชื่อคนโทรเข้ามาผมก็รีบตัดสายทิ้ง ไม่ ผมจะต้องเข้มแข็ง ผมจะต้องทนอยู่ให้ได้ ไอ้กลอยจะต้องกลับมาอยู่คนเดียวให้ได้ แล้วผมก็ปล่อยเขื่อนแตกอีกรอบ

   ไม่รู้เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตื่นมาอีกทีท้องฟ้าก็เริ่มเป็นสีส้ม เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วพากันบินกลับรังนอน ผมเดินตาบวมมาล้างหน้าให้สดชื่น ท้องที่แบนเริ่มประท้วงเพราะความหิว คิดถึงร้านหน้าหอจัง หวังว่าจะอร่อยเหมือนเดิม ผมเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ เสื้อยืดกางเกงบอลแล้วคว้ากระเป๋าเงินติดมือลงไปด้วย

   ห้องที่ผมเคยอยู่เปิดออก พอดีกับผมเดินผ่าน คนที่พักเป็นรุ่นพี่ (ป้าที่ดูแลบอกมา) ดูจากหน้าตาและสภาพ คงจะเรียนเกี่ยวกับพวกวิชาการแหงๆ หน้าขาว ใส่แว่น ทำตาขวางแบบนี้ ผมเดินผ่านพร้อมกับยิ้มให้นิดๆ ก่อนเดินผ่านไป ไม่รู้จักเลยไม่ต้องทักทาย

   ร้านประจำที่ผมฝากท้องบ่อยตอนยังอยู่ที่หอ พี่เจ้าของร้านยังจำผมได้ดี ก็แน่ล่ะ ความหล่อของผมมันยังแผ่ซ่านเป็นที่จดจำของทุกคน

   “หายหน้าไปเลยนะ พี่คิดว่าเราลืมร้านพี่ไปแล้ว”

   “ใครจะไปลืมร้านอาหารที่โคตรอร่อยขนาดนี้ล่ะครับ” ผมว่าพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างจนพี่เจ้าของหัวเราะ

   “ปากก็ยังหวานเหมือนเดิมนะเรา” ยิ้มรับคำชมก่อนสั่งกับข้าวประจำ

   ผมมองรอบๆ ร้านที่ดูกว้างขวางขึ้น สมัยตอนผมอยู่ ร้านนี้มีโต๊ะนั่งแค่ห้าโต๊ะเอง เคยมารอกินกับไอ้ทูเกือบชั่วโมงกว่าจะได้นั่ง ตอนนี้เพิ่มโต๊ะมาอีกตั้งสามโต๊ะ

   ข้าวผัดหมูไข่ดาวไม่สุกหอมยั่วน้ำลายตรงหน้า ผมรีบจัดการอย่างเอร็ดอร่อยไม่สนสายตาของรุ่นพี่วิชาการที่นั่งเยื้องกันอยู่ เห็นพี่เขาหัวเราะตอนผมอ้าปากกินคำใหญ่ เพราะความรีบทำให้สำลักจนเกือบตาย ดีที่มีคนเอาน้ำมาให้ ผมรีบยกน้ำขึ้นดื่มจนหมดแก้ว พอรู้สึกดีเลยหันไปขอบคุณ

   “ขอบคุณครับ...เห้ย” รอยยิ้มที่ฉีกกว้างกลายเป็นอ้าปากแทน คนใจดีที่เอาน้ำมาให้ยืนจ้องหน้าผมนิ่ง แขนสองข้างยกขึ้นกอดอก สีหน้าไม่มีวี่แววว่าจะล้อเล่น

   “เป็นอะไรของมึงวะ” ผมขมวดคิ้วมองพี่โชที่ขึ้นมึงใส่ ไม่บ่อยที่จะได้ยินหากไม่โมโหจริงๆ

   “เปล่า” ส่ายหน้าตอบก่อนจะหันไปกินข้าวตรงหน้า ทำเหมือนมันอร่อย แต่ที่จริงตอนนี้แทบกลืนไม่ลง แค่เห็นหน้าพี่โชเท่านั้นท้องก็ไม่รับแล้ว

   “กลอย อย่าทำให้กูโมโหมากไปกว่านี้” น้ำเสียงเย็นเหยียบชนิดที่ว่า ขนต้องลุกทุกครั้งที่ได้ยิน ผมเหล่มองคนที่ยังยืนปั้นหน้าโหดอยู่ด้านหลัง “กลับไปคุยที่ห้อง เดี๋ยวนี้”

   “แอ่อ๋มอินอ้าวอู่ (แต่ผมกินข้าวอยู่)” ผมยัดข้าวเต็มปากแต่ก็พูดออกมา ได้ยินเสียงกัดฟัน สงสัยคงพยายามระงับความโกรธของตัวเอง ผมไม่หันไปมองหน้าเพราะกลัวจะใจอ่อน

   “ไอ้กลอย!” เสียงตวาดดังลั่นทำเอาคนในร้านพากันสะดุ้งเป็นแถวๆ     
 
   “พี่จะเสียงดังทำไมเนี่ย” ผมว่า ก่อนตัวลอยเมื่อถูกดึงขึ้นจากเก้าอี้ ผมรั้งตัวเพื่อจ่ายเงินให้กับพี่เจ้าของร้านก่อน พี่โชส่งเสียงจิ๊จ๊ะแต่ก็รอ “พี่นี่มัน” จ่ายเงินเสร็จผมก็ตรงดิ่งขึ้นหอ มีปีศาจเดินหน้าบึ้งตาม

   ภายในห้องขนาดเล็กที่ข้าวของยังไม่ได้ถูกจัดให้เข้าที่ มุมห้องมีกระเป๋าเสื้อผ้าของผมวางอยู่ ข้างๆ มีซากเสื้อผ้าชุดเดิมที่ใส่ถอดกองอยู่ ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ปีศาจเดินมาประชิดซะจนผงะ

   “อะไร” เงยหน้าถามนิ่งๆ ซ่อนความกลัวไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย ผมต้องไม่แสดงอาการเดี๋ยวปีศาจจะจับทางได้

   “เป็นอะไร เก็บเสื้อผ้าออกมาจากคอนโดทำไม” ปีศาจถามเสียงแข็ง ดวงตาคมปรายตามองข้าวของๆ ผม “หรือเพี้ยน?”

   “ผมไม่ได้เพี้ยน พี่นั่นแหละทำให้ผมเป็นแบบนี้” แค่เห็นหน้านิ่งๆ นั่นก็ทำให้ความน้อยใจตีตื้นมาจุกอยู่ในอก “พี่ทำให้ผมเหงา พี่ทิ้งผมให้อยู่คนเดียว พี่ทำให้ผมกลายเป็นคนเจ้าน้ำตา” พยายามกลั้นเสียงสะอื้นตัวเองเมื่อน้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม ผมจ้องหน้าคนที่ยังทำตัวเฉยเมย

   “มึงทำตัวมึงเอง” ผมขมวดคิ้วเมื่อถูกโยนความผิดมาให้ ที่ผมเป็นแบบนี้เพราะผมทำตัวเองเหรอ
 
   “พี่โคตรปัญญาอ่อนว่ะ” หัวเราะทั้งน้ำตา

   “ไอ้กลอย”

   “ผมพูดจริง พี่ไม่รักผมแล้วจะเก็บผมไว้ทำไม พี่ควรบอกผมให้ผมรู้ตัวและปล่อยผมไป ผมจะได้เจ็บครั้งเดียว” ไม่สนน้ำตาที่ไหลจนมองเห็นหน้าคนใจร้ายไม่ชัด “ผมรักพี่ แต่พี่ทำแบบนี้กับผมได้ยังไง พี่ใจโหดร้ายเกินไป” รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ความรู้สึกแบบนี้ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องพบเจอ

   “ถ้าอยากฟังก็ได้” ผมแทบกลั้นหายใจเมื่อปีศาจใจร้ายอ้าปากจะพูด อยากยกมือปิดหูแต่ก็ต้องทนฟัง ใบหน้าเรียบเฉยไม่มีท่าทีแสดงอาการเสียใจใดๆ กับการร้องไห้อย่างหนักของผม “กูไม่ได้รักมึง”
 
   เหมือนฟ้าผ่าลงที่กลางหัวสะเทือนไปถึงหัวใจ ผมมองหน้าคนใจร้ายที่บอกไม่ได้รักผม รอยยิ้มที่มุมปากนั่นแสดงให้เห็นว่าพี่เขาไม่ได้โกหก พี่เขาไม่รักผมแล้ว...



   “ไอ้พี่โชใจร้าย ผมเกลียดพี่!!!” ตะโกนออกไปจนสุดเสียง “ผมเกลียดพี่!”









   “กลอยๆ” แรงตบที่หน้าทำให้ลืมตาขึ้นมอง ผมจ้องหน้าคนที่เพิ่งบอกไม่รักผม พี่โชทำตาโตมองหน้านิ่ง น้ำตาที่เอ่อออกมาไหลอย่างไม่กั้นไว้ “ร้องไห้ทำไมเนี่ย” ใบหน้าปีศาจตกใจ ทำท่าทางลนลานดึงให้ผมลุกขึ้นนั่ง

   “พี่ ฮึก พี่บอกว่าไม่รักผมแล้ว” ร้องไห้โวยวายออกมา ผมยกแขนปาดน้ำตาที่ไหลเป็นสาย “พี่ใจร้าย ไม่รักผมแล้ว”

   “บอกตอนไหน ไม่ร้องสิไม่ร้อง” โดนพี่โชดึงไปกอด ผมซบหน้าจนเสื้อยืดสีขาวชุ่มน้ำตาเป็นวงกว้าง

   “เมื่อกี้” ตอบพร้อมเสียงสะอื้น

   “เมื่อกี้? แน่ใจเหรอ” รีบพยักหน้าตอบ “ฝันแล้วล่ะแบบนั้น” ผมผละจากอกอุ่นๆ พลางตวัดสายตามองคนพูดติดขำท้ายประโยค

   “ไม่ได้ฝัน” จริงๆ ผมไม่ได้ฝัน ผมได้ยินพี่โชบอกว่าไม่รักเต็มสองรูหู ว่าแต่...ทำไมผมนอนอยู่บนเตียง แล้วทำไมเตียงนี้ถึงอยู่ในห้องนอนพี่โช “แต่ผมไม่ได้ฝันนะ” น้ำเสียงเริ่มเบาหวิว หรือผมจะฝันไปจริงๆ วะ

   “พี่ไม่มีทางบอกไม่รักกลอยหรอกนะ ดูซิ ฝันเป็นตุเป็นต่ะร้องไห้เป็นเผาเต่าแล้วมาด่าพี่อีก” พี่โชยิ้มอย่างอ่อนโยน นิ้วยาวยื่นมาเช็ดน้ำตาที่แก้มผมออก “ต่อไปห้ามฝันแบบนี้นะ ตะโกนออกมาได้ว่าเกลียดพี่”

   “ไม่ได้อยากฝันแบบนี้สักหน่อย” ตอบกลับคล้ายละเมอ เดี๋ยวนะ ผมฝันตั้งแต่เมื่อไหร่ เรื่องที่เห็นทั้งหมดคือ...ผมฝัน? “ผมไปหาพี่แทมที่บ้านมาหรือเปล่า” จ้องหน้าถามพี่โช คนถูกถามเลิกคิ้วขึ้นมองก่อนส่ายหน้า

   “ก่อนนอนมีแค่กลอยงอแงบอกให้พี่พาไป”

   “แต่ผมไปบ้านพี่แทมนะ ไปกอดสีนวลอยู่เลย” ยังจำกลิ่นหอมติดตัวสีนวลได้อยู่เลยนะ “แล้วพี่แทมก็บอกว่าผมเป็นเด็กขี้เหงาเอาแต่ใจ ทำตัวติดพี่โชมากเกินไป เกิดวันหนึ่งพี่โชเลิกกับผมๆ จะอยู่ไม่ได้”

   “ไอ้เชี่ยแทมมันพูดแบบนั้นเหรอ” หันขวับมองหน้าคนถาม รอยยิ้มอ่อนโยนเมื่อกี้หายวับไปกับตา พี่โชจ้องหน้าผมก่อนชะโงกตัวผ่านหน้าผมไปหยิบมือถือของตัวเองที่อยู่บนโต๊ะหัวเตียงด้านผม (ด้านตัวเองก็มีไม่วางนะคนเรา)

   “พี่ทำอะไร” ผมถามเพราะพี่โชกำลังเลื่อนหาเบอร์ใครสักคน

   “หาไอ้แทม” เชี่ย ผมรีบตะครุบโทรศัพท์เครื่องนั้นมากอด พี่โชขมวดคิ้วมองแล้วแบมือมาตรงหน้า

   “เอามา”

   “ไม่ให้ พี่จะโทรหาพี่แทมทำไม”

   “ก็ด่าที่มันพูดแบบนั้น” สีหน้าของปีศาจดูก็รู้ไม่ใช่แค่จะด่าเรื่องนั้นแน่นอน “กลอย เอามา”

   “แต่...” พยายามหาข้ออ้างจนเหลือบไปเห็นนาฬิกาแขวนผนัง “แต่นี่มันตีสี่นะ พี่แทมหลับอยู่ไม่รับหรอก” พี่โชเหล่ตามองนาฬิกาแล้วพยักหน้า ผมก็รีบเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิมแล้วโผเข้ากอดคนใจร้ายในฝัน

   “อะไรครับ” ฝ่ามือใหญ่ลูบหลังผมไปมา

   “ในฝันพี่โคตรนิสัยเสียอะ” บอกอู้อี้ในอก “พี่ไม่สนว่าผมจะร้องไห้มากแค่ไหน เอาแต่ทำหน้าปีศาจมองแล้วก็บอกว่าไม่รักผม โคตรเลวว่ะ” พี่โชกระพริบตาปริบก่อนปล่อยเสียงหัวเราะออกมา

   “เมียกูฝันแล้วพาลว่ะ” หน้ามุ่ยทันทีที่โดนว่า   

   “ผมว่า ผมต้องลองอยู่คนเดียวบ้าง เผื่อเป็นแบบในฝัน” มันน่ากลัวจริงๆ

   “ทุกเรื่องมาจากไอ้แทมพูดสินะ” ได้ยินพี่โชพึมพำเบาๆ “ฟังพี่นะ พี่ไม่มีวันไม่รักกลอย พี่จะเกลียดหัวใจตัวเองทำไม อย่าคิดมาก เพราะเรื่องนี้ไม่มีวันเกิดขึ้น” เงยหน้ามองคนบอกรักเป็นพันรอบตั้งแต่คบกัน ผมยื่นหน้าไปจุ๊บปากที่ยิ้มให้เร็วๆ แล้วกอดร่างสมส่วนแน่น

   “ขอบคุณนะ ผมโคตรรักพี่เลย”

   ค่ำคืนจวบจนรุ่งสาง ผมกอดพี่โชแน่นไม่ยอมปล่อย พี่โชออกไปทำงานโดยที่ผมกำลังจะออกไปเรียนเพราะมีเรียนสาย ส่วนเรื่องรถสุดที่รักก็เป็นแบบในฝัน ผมถือแค่กุญแจมันไว้ ส่วนตัวรถไปจอดนิ่งสงบอยู่ที่บ้านพี่โชนู้นแล้ว ผมเลยต้องแว้นมอเตอร์ไซค์ตามเดิม




   แดดร้อนทำให้อากาศอบอ้าวจนขี้เกียจออกแดด พวกผมเลิกเรียนวิชาสุดท้ายตอนบ่ายแล้วพากันเดินลงจากตึก ไอ้สักอัพเดทว่าคบกับรุ่นน้องแต่ยังไม่เปิดเผยว่าใครเพราะกลัวอาถรรพ์ ผมกำลังจะยกขาถีบเพื่อนเพราะหมั่นไส้หากไม่ได้เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะ ไอ้สักคงลงไปนอนอยู่ที่พื้นแล้ว

   และถ้าผมรู้ว่ากดรับแล้วจะทำให้ขี้หูแทบไหลผมคงจะไม่รับ

   “ไอ้เชี่ยกลอย ความฝันมึงทำให้กูเดือดร้อน หูกูแทบไหม้เพราะถูกไอ้โชโทรมาด่าตั้งแต่ไก่โห่ กูไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ไอ้เหี้ย กูผิดตรงไหน!”

   ผมหัวเราะแห้งๆ แล้วกดปิดทันที อยากจะก้มกราบขอโทษพี่แทมแทบเท้าแต่ก็อดขำไม่ได้ พี่โชโคตรจะจริงจังกับความฝันของผม เห็นออกจากห้องยังยิ้มแย้มอยู่เลย ไม่คิดว่าจะกลายร่างเป็นปีศาจไปอาละวาดเพื่อนตัวเอง ยังดีที่เรื่องที่เกิดเป็นแค่ฝันไป แต่ถ้าหากเลือกได้ ผมจะไม่ฝันหรอก ไม่ชอบเลยจริงๆ   


.........................

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 19-10-2016 17:05:13
เกรียนไม่หยุดหย่อน กระทั่งฝันก็ยังไม่เลิกเกรียน555+ คุณสามีก็ยังบ้าจี้โทรไปด่าเพื่อน :laugh:
นาทีนี้สงสารพี่แทมอย่างแรง ฮา :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 19-10-2016 18:39:36
เด็กเกรียนร้ายกาจมากฝันเป็นเรื่องเป็นราวเชียว :a5:  พี่โชสามีดีเด่นจริงๆๆ o18

สงสารพี่แทมหนักมาก :mew4:

 :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-10-2016 19:05:20
แค่ฝันยังทำคนอื่นเดือดร้อนได้อีกนะ กลอย....

พี่โชนี่ไม่ยอมปล่อยเลยนะ ถึงเป็นแค่ฝันก็เถอะ 55555555 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 19-10-2016 19:21:19
กลอยแม้แต่ในความฝันแกยังเกรียน555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 19-10-2016 19:31:03
โถวว ความฝันเหรอเนี่ย ไอ่เราก็ตกใจนึกว่าจะดราม่าอะไรอีก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 19-10-2016 20:20:09
เกรียนแตกตลอด
สงสารอิพี่แทม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-10-2016 21:27:29
บ่งบอกว่าพี่โชรักกลอยเกรียนมากถึงกับโทรไปด่าพี่แทมตั้งแต่เช้าเพียงเพราะความฝัน :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-10-2016 21:59:54
พี่โช เป็นคนรักที่ดีของกลอย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
แต่เป็นเพื่อนที่น่าโมโห ของเพื่อน :z6:
เอาความฝันเป็นตุเป็นตะของกลอยประเกรียน
โทรไปด่าพี่แทม ดีที่โทรไปด่าตอนตื่นแล้ว
ถ้ากลอยไม่ห้าม คงโทรไปปลุกด่าตั้งแต่ตีสี่
น่าสงสารพี่แทม ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร โดนด่าเฉยเลย :mew2:
แต่กลอย นี่ฝันเป็นฉากๆ เลย เก่งเรื่องฝันจริงๆ :ling1: :ling1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 19-10-2016 23:25:12
น้องกลอยฝันนี่เอง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 19-10-2016 23:28:00
สงสารแทมอ่าาาาาา :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 20-10-2016 00:23:57
กลอยแกเอาอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-10-2016 00:27:14
 :rureadyพี่โชเนี่ยโคตรรักเมียเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 20-10-2016 01:20:49
ถ้ากลอยจะฝันขนาดนั้น :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 20-10-2016 05:27:15
กลอยเอ้ยฝันเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะ 55
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 20-10-2016 12:43:54
นางกลอยความฝันของแกทำให้พี่แทมดดนด่าเลยนะ พี่ดชนี่ก็รักเมียสุดๆเลยอะ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 20-10-2016 15:30:06
 :m20:   :m20:   โอ๊ยยยยยยยยยฝันแต่ละเรื่องเกรียนเอ้ย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: NOPKAN ที่ 20-10-2016 18:17:45
ตลกกลอย 55555
 
ปล.   “เมียกูฝันแล้วพานว่ะ” พาล ต้องสะกดด้วย ล ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 20-10-2016 18:32:22
ตลกกลอย 55555
 
ปล.   “เมียกูฝันแล้วพานว่ะ” พาล ต้องสะกดด้วย ล ค่ะ ^^


ขอบคุณค่า ตอนนี้กำลังหาคำว่า พาน กับ พาล ใช้ต่างกันยังไงอยู่เลย  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-10-2016 19:13:45
55555 ดีนะแค่ฝัน แต่แทมโดนด่าฟรี กลอยเกรียนสมควรโดนแทมด่า
แต่ทำไงได้เนาะ ถึงจะแค่ฝันแต่โชจริงจัง รักออกขนาดนี้

กลอยเกรียนมาก ขนาดในฝันยังเกรียน พาความฝันออกมาเพ่นพ่านด้วยเฉยเลย
โชทั้งงงทั้งขำ ก็รักอะเนาะ พูดซะหวาน ไม่ทิ้งหัวใจตัวเอง กลอยลอยละมั้ง

น่ารักมาก 55555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 21-10-2016 20:56:03
อยู่กับกลอยมาเลยเกรียนเหมือนกันหรอพี่โช ตั้งฉายาอะไรให้พี่โชดีเนี่ย

     โชจะเกรียน   กร้ากกก :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 21-10-2016 22:10:22
กลอยเอ้ยยย กลอย พี่แทมซวยไป :jul3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 22-10-2016 20:26:50
ขำเว่อวังงงง55555555555555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 23-10-2016 00:24:22
เกือบตกใจ55555555555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 23-10-2016 06:56:49
ผัวเมียคู่นี้รักกันดีจริงๆ หวานเว่อๆ ฝากถึงน้องนักเขียนค่าาาาาา พี่ว่าตอนรวมเล่ม หนูเอาตอนพิเศษเป็นตอนหลัก แล้วเอาตอนหลักเป็นของแถมเลยค่าลูก แต่เจ๊ะชอบนะ เอามาลงอีกน๊าาาาาาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 23-10-2016 07:28:37
ตายๆๆๆๆๆๆ สงสารใครดี  :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 23-10-2016 21:04:57
แม้แต่นอนก็ยังเกรียนเลยกลอย 55555555 โชก็อีกคนจี้ไปตามกลอยเลยนะ ตามใจเมียเกิ๊น แอบสงสารพี่แทม  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:เด็กขี้เหงา ฯ UP!< [P.34] [19/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: monkeytwin ที่ 24-10-2016 08:50:23
 :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ - ไม่เคย UP!<[P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 26-10-2016 21:45:35
Just you and I [Sun & Jom] : ไม่เคย



       ฉันไม่เคยรู้คนที่สำคัญ นั้นมีค่าแค่ไหน ฉันไม่เคยรู้ วันที่สวยงามนั้นมีค่าเท่าไร ไม่เคยรู้เวลาที่เรามีกัน นั้นดีเท่าไร ไม่เคยรู้ว่าความคิดถึงมันทรมานแค่ไหน ไม่เคย ไม่เคย ไม่เคย...

   กระจกบานใสสะท้อนแสงไฟตามตึกรามบ้านช่องจนความมืดแทบถูกกลืนหาย ผมกำลังนั่งมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย มีเพลงจากไอพอตรุ่นเดอะคอยขับกล่อมไม่ให้เงียบเหงา ผมอยากปล่อยสมองให้หยุดคิดเรื่องราวต่างๆ ลงบ้าง เฮ้อ ทำไมผมต้องทำเรื่องแบบนั้นไปด้วย ไม่เข้าใจตัวเอง ในขณะที่ผมกำลังนั่งเหม่อจมกับความคิดของตัวเอง เสียงเปิดประตูจากด้านหลังก็ทำให้ต้องหันไปมอง คนที่เข้ามาสวมชุดขาวไปทั้งตัว ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่เป็นมิตร

   “ขอวัดความดันคนไข้หน่อยนะคะ” เสียงนุ่มดังขึ้น ผมถอดหูฟังวางไว้ที่โซฟาก่อนลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างๆ เตียงคนป่วยที่นอนซมไม่ได้สติ “ความดันปกติค่ะ แต่ไข้ยังมีอยู่นะคะ” หลังจากเก็บอุปกรณ์เสร็จ คุณพยาบาลชุดขาวก็ขอตัวออกไป โดยทิ้งให้ผมยืนมองคนไข้ที่นอนหลับอยู่บนเตียง

   ผมยื่นมือไปแตะแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ หน้ามันร้อน ตัวมันก็ร้อน คงเพราะพิษไข้ที่พยาบาลบอกเมื่อกี้ ผมรีบเอาผ้าชุบน้ำสะอาดในอ่าง บิดผ้าให้หมาดแล้วเช็ดตามซอกคอที่ผมชอบงับเล่นและได้คำชมว่าเป็นหมามาแทบทุกครั้ง ผมเช็ดตัวให้คนไข้แบบนี้มาค่อนคืน ทั้งที่คิดว่าไข้น่าจะลดลงบ้าง แต่มันกลับยังสูงอยู่ ผมยกแขนของซันแล้วเช็ดเพื่อระบายความร้อนตามที่หมอบอกไว้ตั้งแต่ตอนเย็น

   “กูเหนื่อยแล้วเนี่ย” ผมบ่นเบาๆ แม้จะรู้ว่าบ่นไปคนนอนหลับคงไม่ได้ยิน แต่ก็อยากบ่น ที่มันต้องมานอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ก็เพราะผม เพราะความเอาแต่ใจของผมเอง

   จำได้ว่าตอนบ่ายวันนี้ ผมอยากกินส้มตำมาก ชวนใครก็ไม่มีใครไป พอซันกลับมาจากมหาลัย ทั้งที่หน้ามันดูเหนื่อยจากการเรียน แต่พอผมชวน มันก็ยิ้มแล้วพาผมออกไปหาร้านอร่อยๆ อย่างที่เคยทำเป็นประจำ ผมยังจำได้ดี ตอนที่เรานั่งรออาหาร ซันพร้อมจะหลับทุกเมื่อ ผงกหัวไปหลายรอบ ใจหนึ่งก็นึกสงสารแต่อีกใจก็อยากกินส้มตำมาก

        ที่ซันมีอาการง่วงแบบนั้นเพราะมันกำลังเรียนปริญญาโทต่อพร้อมไอ้แทมผู้ซึ่งถูกบังคับให้เรียน ต่างจากซันที่พอออกจากงาน มันก็ขอพ่อกับแม่เรียนต่อเพื่อเพิ่มความรู้ ยิ่งช่วงนี้ใกล้จะสอบด้วย งานมันเลยเยอะ บางคืนผมนอนหลับไปหลายตื่นแต่ก็ยังเห็นไอ้ซันมันนั่งอ่านหนังสือ อันที่จริงมันเป็นคนเรียนเก่งมาก ตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ ไม่เคยได้ดีด๊อกสักตัว 

   “ถ้ามึงไม่รีบหาย กูจะไม่ให้มึงเข้าห้องปีหนึ่งนะ รีบๆ หาย” ผมเช็ดหน้าแดงๆ ของมันแล้วโป๊ะผ้าไว้บนหน้าผาก 

   ส้มตำรสจัดจ้านพริกแทบจะล้นถ้วย ในตอนนั้นผมอยากกินอะไรเผ็ดๆ เลยสั่งแบบใส่ไม่ยั้ง แต่พอมาจริงๆ กินไปแค่คำเดียวก็ต้องวางเพราะมันไม่ไหว แค่กลืนคำเดียวยังแสบร้อนไปทั้งท้อง แต่ไอ้ซันมันกินได้เพราะชอบกินเผ็ด ผมนั่งมองคนพามากินส้มตำพริกด้วยความสงสาร ใบหน้ามันเป็นสีแดงเข้ม เหงื่อไหลตลอดเวลา สุดท้ายมันก็กินจนหมด

   พอกลับถึงห้องได้ไม่ถึงชั่วโมง คนกินเผ็ดก็เริ่มออกอาการ ไอ้ซันวิ่งลอกเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น จนหลังๆ แทบคลานออกมา มันทั้งท้องเสียและอาเจียนจนผมต้องรีบพามาส่งโรงพยาบาลตอนเย็น คุณหมอบอกว่ามันอาหารเป็นพิษรุนแรง ต้องแอดมิทเพื่อให้น้ำเกลือและยา


   ...ถ้ารู้ว่าผมทำแบบนั้นแล้วผมจะต้องมานั่งเสียใจ ผมจะไม่มีวันทำอีก


   เสียงครางเบาๆ กับการขยับตัวนอนงอเป็นกุ้งเรียกสติให้ผมกลับมาสนใจ ใบหน้ากวนๆ ที่ผมเห็นตลอดเวลากำลังบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แขนสองข้างมันกุมท้องเอาไว้จนผมใจคอไม่ดีต้องกดเรียกพยาบาลเข้ามา ผมเห็นไอ้ซันถูกฉีดยาไปสองเข็มไม่รู้ว่ายาอะไร แต่คุณหมอที่เข้ามาด้วยบอกให้ผมเช็ดตัวเพื่อลดไข้ ผมรีบทำทันที เช็ดมันเกือบทั้งคืน บางทีตาแทบปิดแต่พอหัวแตะแขนร้อนๆ ผมก็สะดุ้งขึ้นมาแล้วก็เช็ดต่อ

   กลางดึก คนป่วยที่ผมดูแลปรือตาขึ้นมา ผมอาบน้ำเพิ่งเสร็จก็รีบพุ่งเข้ามาหา ไอ้ซันมองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มที่ดูพยายามมาก

   “ปวดท้องเหรอ” ถามพลางขมวดคิ้ว

   “เปล่า” เสียงแหบแห้งและการขมวดคิ้วทำให้ผมรู้ว่าไอ้ซันมันโกหกอยู่

   “อย่าโกหกกู ปวดท้องใช่มั้ย” ถามย้ำอีกรอบ คราวนี้คนป่วยยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้า

   “ครับ”

   “ขอโทษนะ ถ้ากูไม่เอาแต่ใจมึงก็คงไม่ต้องมานอนโรงพยาบาลแบบนี้” โคตรรู้สึกผิดเลย

   “ไม่ได้โกรธอยู่แล้ว อย่าคิดมาก”

   ยิ้มให้คนที่ปลอบผมในยามที่น้ำตาใกล้ไหล ไอ้ซันพยายามยื่นแขนมาเพื่อจะเช็ดน้ำตาให้ผม แต่เรี่ยวแรงที่น้อยนิดทำให้แขนมันตกลงข้างเตียงแทนจนผมเผลอขำออกมา

   “อวดเก่งนะมึง” ผมว่า มือก็ยกแขนที่ตกไปเมื่อกี้ขึ้นมาจับที่หน้าตัวเอง ฝ่ามือร้อนประกบที่แก้ม ไอร้อนที่ซึมเข้าไปทำให้น้ำตาแทบไหล “ขอโทษที่ทำให้มึงเจ็บ”

   “เมียกูเป็นคนขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” นี่ถ้ามันไม่ป่วย ผมพุ่งศอกใส่มันแน่ๆ พูดอีกไม่กี่ประโยค ไอ้ซันก็ผล็อยหลับไปอีก คงเพราะฤทธิ์ยาและพิษไข้ ผมยืนมองพลางเช็ดตัวคนมีไข้อยู่ตลอด อยากให้มันหายไวๆ ผมโคตรคิดถึงอ้อมกอดของมันเลย



   
       เช้าวันใหม่ หลังจากผมอาบน้ำเพื่อเรียกความสดชื่นให้ตัวเองหลังจากอดนอนมาทั้งคืน ออกมาผมเห็นคนป่วยนอนหลับตาพริ้ม สองขาเดินเข้าไปหา ผมลากเก้าอี้มาข้างๆ เตียง ยื่นมือจิ้มจมูกโด่งๆ ผมชอบหน้ากวนๆ ของมันนอนหลับเพราะดูไม่มีฤทธิ์เดช ปากแดงๆ นี่ก็ไม่อ้ามาบ่น แบบนี้แหละที่ผมชอบ

   “อือ” เสียงแผ่วๆ ดังมาจากคนที่นอนอยู่ ผมลุ้นว่ามันจะลืมตาขึ้นมามองหรือเปล่า ลุ้นอยู่นานแต่มันก็ไม่ยอมลืมตาจนผมนั่งทิ้งตัวนั่งเก้าอี้ข้างๆ มันอีกรอบ “หิวน้ำ” เสียงบอกความต้องการของคนไข้ทั้งที่ตายังปิด ผมรีบเทน้ำใส่แก้วแล้วหย่อนหลอดลงไป
 
   “ค่อยๆ กินนะ” ผมประคองคนที่นอนยกตัวขึ้นมาหน่อยเพื่อให้กินน้ำได้สะดวก พอน้ำไหลลงคอไป ดวงตาที่ชอบจ้องจนผมเขินก็ลืมขึ้น “เอาอีกมั้ย หรืออยากกินข้าว ปวดท้องมั้ยหรือจะ...”

   “ฟังไม่ทัน” เสียงขัดที่แหบพร่าทำให้หยุดพูดทันที

   “ปวดท้องอยู่หรือเปล่า” ผมวางแก้วบนโต๊ะก่อนนั่งจ้องหน้าคนป่วยที่ยิ้มอ่อนๆ มาให้ หน้าตาไอ้ซันดูดีขึ้น คงเพราะได้นอนเต็มอิ่ม

   “นิดหน่อย” พยักหน้าให้กับคำตอบ พอดีกับคุณหมอและพยาบาลเดินเข้ามา ผมก็รีบถอยให้ทันที

   คุณพยาบาลตรวจเช็กนั่นนี่เสร็จก็ขอตัวออกไป เหลือแค่คุณหมอที่ยังยืนยิ้มอย่างอ่อนโยน

   “ไข้ลดลงแล้ว พรุ่งนี้ก็ออกโรงพยาบาลได้ครับ” ผมยิ้มให้คุณหมอ ก่อนมองเลยไปยังคนป่วยที่นอนกระพริบตาปริบๆ

   “ขอบคุณครับ” บอกก่อนคุณหมอจะเดินออกไป ผมเดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม ไอ้ซันมองหน้าผมนิ่งๆ จนอดที่จะถามไม่ได้ “มองทำไม”

   “ยิ้มให้กูคนเดียวพอ” เบิกตากว้างให้สิ่งที่ได้ยินแล้วขำพรืดออกมา

   “มึงหึงกูเหรอ” ถามพร้อมเสียงหัวเราะ แต่คนป่วยกลับทำหน้าบึ้ง “เออน่า ก็แค่ยิ้ม อย่าติดนิสัยขี้หวงมาจากไอ้โชหน่อยเลย” พอนึกถึงวีรกรรมขี้หึงของไอ้โชก็ขยาดขึ้นมา เล่นตามไอ้กลอยเกรียนชนิดที่ว่า เงินมือถือเพิ่มล้านก็หมดภายในวันเดียวประมาณนั้น ตั้งแต่ถูกไอ้เด็กปีหนึ่งสามคนรุมตอมจนมาถึงบุรุษปริศนาส่งจดหมายมาให้ทุกวัน จนผมต้องตั้งชื่อโรคให้เพื่อนตัวเองว่ามันเป็นโรค ขี้หึงขึ้นสมอง หรือขี้หึงริซึ่ม

   “กูมีเมียคนเดียวจะให้หึงใครล่ะ” ไอ้ซันว่า

   “ปากดีแบบนี้วันนี้ก็ออกโรงพยาบาลได้แล้วละมั้ง” เหล่ตามองไอ้คนที่เอาแต่หัวเราะ เห็นว่าป่วยอยู่หรอกนะถึงยอมให้เนี่ย “เอ่อใช่ เมื่อวานพ่อกับแม่มึงมาเยี่ยมด้วยนะ ซื้อซุปไก่มาให้ด้วย”

   “เชี่ย” ผมหัวเราะมันบ้างหลังจากเห็นหน้าตาบิดเบี้ยว ไอ้ซันไม่ชอบซุปไก่สกัดถึงขั้นเกลียดอย่างรุนแรง เพราะมันเคยถูกบังคับให้กินแล้วอ้วก จากนั้นแค่เห็นมันยังไม่ปลื้ม

   “ล้อเล่น แม่มึงซื้อรังนกมาให้ต่างหาก นู้น” พยักพเยิดหน้าไปที่โซฟา กล่องรังนกสีแดงโดดเด่นจนคนป่วยยิ้มออกมา

   “ได้นอนบ้างหรือเปล่า” อยู่ๆ ไอ้ซันก็ถามออกมา ผมมองหน้ามันก่อนส่ายหน้าช้า “แล้วกินข้าวหรือยัง” ก็ยังส่ายหน้าอยู่ “รักกูมากสินะถึงไม่รักตัวเองน่ะ”

   “พออ้าปากได้ก็บ่นเลยนะ” ผมหน้ามุ่ยทันที

   “ก็เพราะเป็นห่วง ไปหาข้าวกินก่อน กูอยู่คนเดียวได้” ทำหูทวนลมจนมีเสียงเรียกชื่อนิ่งๆ “จอม”
 
   “เออๆ แม่ง ขี้บ่นจังวะ”

   “ที่บ่นก็เพราะห่วง”

   “รู้แล้วน่า พูดมาก งั้นกูไป...” ยังไม่ทันพูดจบ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมเสียงโวกเวกโวยวายไม่สนว่าที่ยืนอยู่มันคือที่ไหน เสียงแบบนี้ไม่ใช่คนอื่นแน่นอนนอกจาก

   “ไอ้เชี่ยติน ปากมึงนี่นะ” เสียงไอ้แทมดังมาก่อนตัว มันเบียดแทรกไอ้ตินเข้ามาหลังจากประตูเปิดออก “ไฮ คุณซันเพื่อนรัก ใกล้ตายหรือยัง” ดูปากมัน

   “จะตายเพราะมึงมานี่แหละ” ไอ้ซันตอบกลับนิ่งๆ พวกที่มาด้วยถึงกับหัวเราะ “มาทำไมแต่เช้าวะ”

   “เพราะกูห่วงมึงไงเพื่อน กะจะมาตั้งแต่เมื่อคืน แต่ขี้เกียจ อีกอย่างมึงหนังเหนียวไม่ตายง่ายๆ หรอก” ไอ้แทมทำหน้าลอยไปลอยมา พอเห็นถุงส้มที่วางอยู่มันก็หยิบมากิน ไอ้นี่ตลกแดกตลอด

   “เป็นไงบ้างมึง ไอ้จอมใช้ทั้งคืนเหรอ สภาพโคตรแย่” ผมกระโดดถีบขาคู่ใส่ไอ้ตินทันที ดีมันหลบทัน แต่มีคนโดนลูกหลง ไอ้กลอยเกรียนถึงขั้นจะล้ม ถ้าไม่ได้ไอ้โชรับไว้ แล้วแบบนี้ผมจะเหลือเหรอ...

   “ไอ้เหี้ยจอม เดี๋ยวมึงจะโดน” แม้มาแค่คำพูด แต่สายตามันฆ่าผมเรียบร้อย ส่วนไอ้เกรียนมันก็เบ้หน้าสำออยใส่แฟนมัน

   “อย่าได้ไปแตะเด็กมันนะมึง แค่มันฝันยังทำกูซวยเลยไอ้ห่า” ไอ้แทมพูดไปกินส้มไปอย่างน่าหมั่นไส้

   “ผมก็ขอโทษพี่ไปแล้วไงเล่า” ไอ้กลอยมันว่าก่อนมันจะเดินมายืนข้างเตียง “ผมซื้อเกลือแร่มาฝาก” มือขาวชูถุงเกลือแร่ให้ดู ไอ้ซันยิ้มแล้วขอบใจมันไป เห็นมีคนเต็มห้องผมเลยจะออกจากห้อง

   “ไปไหนวะไอ้จอม” ถูกไอ้ตินร้องทัก

   “หาข้าวกิน” ตอบไปแล้วเดินออกมาไม่ฟังเสียงคนสั่งให้ซื้อของกิน ขี้เกียจเดินก็ไม่ต้องกิน

   ผมลงมาที่ชั้นโรงอาหาร สั่งข้าวไปแล้วนั่งรอ ไอ้ตานี่ก็หนักซะจริงๆ พอนั่งอยู่เฉยๆ ดันง่วงมาซะงั้น มันเหมือนสติจะวูบอยู่ตลอด อยู่ๆ สมองผมก็หยุดทำงาน ภาพทุกอย่างกลายเป็นสีดำ...หิวจนท้องร้องแต่ตาเปิดไม่ขึ้น ได้กลิ่นข้าวขาหมูที่สั่งแต่ยกหัวไม่ขึ้น พอดีกับมีแรงเขย่าที่แขน ผมพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ปรือตาขึ้นมองเห็นแฟนเพื่อนมานั่งจ้องตาแป๋ว

   “พี่หลับโคตรนาน” เสียงไอ้กลอยปลุกให้ผมดันหัวตัวเองขึ้นมา

   “นานแค่ไหน” เสียงแหบเหมือนเพิ่งตื่นนอน

   “สามสิบนาที” แทบไม่อยากเชื่อ แต่พอดูนาฬิกาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ “ข้าวพี่เย็นแล้วหมด รีบๆ กิน”

   “มึงมานั่งนานแล้วเหรอ” ถามพร้อมกับยัดข้าวลงท้อง

   “เดินตามหลังพี่มาเลยเถอะ ถูกใช้ให้มาซื้อของ” ไอ้กลอยทำหน้ามุ่ย ของที่ถูกสั่งซื้อวางอยู่บนโต๊ะ “พี่ดูแลพี่ซันทั้งคืนเหรอ”

   “เออสิ งั้นใครจะดู ถามไม่คิดนะมึง”

   “เอ้า”

   “ปะ ขึ้นไปได้แล้ว” อิ่มแล้วผมก็รีบหิ้วไอ้กลอยขึ้นไป เห็นมือถือตัวเองมีมิสคอลอย่างเยอะ ส่วนใหญ่ก็ของไอ้โชกับไอ้ซัน “มือถือมึงล่ะ” เหล่ตามองคนที่เดินเคียงข้างมา

   “ฝากไว้ที่พี่โช” มิน่าล่ะ มันถึงกระหน่ำโทรหาผม “เดือดร้อนกูตลอด”

   พอมาถึงห้อง ไอ้กลอยก็ถูกแฟนมันบ่นจนพวกผมเอือม ส่วนผมก็ถูกสายตาดุจ้องมา มันไม่กล้าจะว่าผมเท่าไหร่ ไม่ใช่กลัวผมหรอก แค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น เสียงบ่นกับเสียงโวยวายทำให้คนป่วยเริ่มหงุดหงิด

   “พวกมึงออกห้องกูไปได้แล้ว หนวกหูเหี้ยๆ” ไอ้ซันว่า

   “กูอุตส่าห์มาเยี่ยม ไล่กูเหรอ เสียใจ” สีหน้าและน้ำเสียงของไอ้แทมไม่น่าเชื่อถือสักนิด

   “เออกูไล่”

   “เชี่ย กูไปก็ได้” ไอ้แทมสะบัดหน้าทำงอน

   “นัดกิ๊กล่ะสิมึง กูรู้ทัน” ไอ้ตินขัดแล้วเตะขาเพื่อนมัน

   “เออ”

   ผมยืนดูเพื่อนตัวเองที่สติไม่ค่อยจะเต็มออกห้องไป ส่วนคู่รักที่บ่นกันเมื่อกี้ออกไปก่อนหน้าแล้ว พอพวกมันไป ห้องก็กลับมาเงียบงันอีกครั้ง ไอ้ซันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่จนผมขำ

   “อะไร” มีเหวี่ยงด้วยเว้ย

   “เปล่า” ผมว่า

   “ทำไมมาช้าวะ ไปไหนมา” คิ้วเข้มขมวดเป็นปม

   “ก็กินข้าวนั่นแหละ”

   “กินหรือไปปลูกวะ นานเหี้ย”

   “กินแต่กูเผลอหลับที่โต๊ะ ไอ้กลอยไปปลุก” แค่นั้นแหละครับ หูผมก็ชาไป เริ่มเข้าใจความรู้สึกของไอ้เกรียนแล้วเวลาถูกบ่นหนักๆ “ขี้บ่นจังวะ”

   “กูบ่นเพราะ...”

   “ห่วง กูฟังจนจะจำขึ้นใจแล้ว”

   “จำแล้วก็ดี”

   ผมมองหน้าไอ้คนขี้งอน ท่าทางแบบนี้แสดงว่ามันกำลังงอนผมอยู่

   “กูง่วง” บอกพร้อมกับอ้าปากหาววอดๆ ไอ้ซันมองหน้าผม รอยยิ้มที่หายไปกลับมาอีกครั้ง ผมเห็นมันขยับตัวไปชิดขอบเตียงอีกฝั่ง

   “ขึ้นมานอนด้วยกันสิ” คนป่วยตบที่ว่างข้างๆ เบาๆ

   “กูนอนโซฟาได้” ผมบอก แต่คนป่วยย่นคิ้ว “เออๆ” ผมกลั้นยิ้มแล้วขึ้นเตียงไปนอนข้างๆ

   เตียงโรงพยาบาลขนาดเล็กไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยชายกับคนเฝ้าไข้นอนด้วยกัน ผมขยับตัวแทบชิดคนไข้ ไอ้ซันยกแขนที่มีสายน้ำเกลือโอบผมเอาไว้ อ้อมกอดอุ่นๆ กับกลิ่นที่คุ้นเคยทำให้ตาผมหนักอึ้งอีกครั้ง คราวนี้ผมคงนอนหลับได้อย่างสบายสินะ



   คนเอาแต่ใจหลับไปแล้ว ส่วนคนป่วยกำลังมองคนในอ้อมกอดอย่างรักใคร่และหวงแหน เขาไม่ใช่คนขี้บ่น ตั้งแต่เกิดจนโตมา ไม่บ่อยนักที่เขาจะบ่นกับใคร เพราะเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ แต่กับคนในอ้อมกอดทำแบบนั้นไม่ได้ นั่นเพราะมันดื้อ ไม่ใช่ดื้อธรรมดาซะด้วย ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นคนขี้บ่นขึ้นมา

   “มึงนี่นะ ชอบทำให้กูห่วงอยู่เรื่อย” ซันลูบผมนุ่มเบาๆ รอยยิ้มที่จุดประกายมุมปากเรียกสายตาของคนที่เข้ามาใหม่ได้เป็นอย่างดี ดวงตาคมจ้องมองคนที่เข้ามาพร้อมถาดยา

   “หลับปุ๋ยเชียวนะคะ” เสียงติดขำพูดขึ้น “คงไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อคืนก็เช็ดตัวจนถึงเช้า ไข้เลยลดลงไว” ซันเบิกตานิดๆ เมื่อได้ยิน จอมที่รู้จักไม่ใช่คนที่ทำอะไรแบบนั้น มันไม่เคยดูแลใคร ขนาดพ่อแม่ป่วยยังจ้างพยาบาลดูแล แต่กับเขาต้องทำในสิ่งที่ไม่เคย

   “เป็นพวกขี้กลัวเกินเหตุครับ” ซันว่า รอยยิ้มอ่อนโยนจนพยาบาลยังรู้สึกอิจฉานิดๆ แม้จะมีสามีอยู่แล้วก็ตาม

   “น่ารักจังนะคะ เขาคงรักคุณมากแน่ๆ” พยาบาลสาวบอกพร้อมกับขอตัวออกไปหลังจากคนป่วยทานยาอย่างทุลักทุเลเสร็จแล้ว

   เมื่อพยาบาลออกไป ซันก้มมองคนในอ้อมแขนอีกรอบ ฝ่ามืออุ่นเกลี่ยผมที่ปิดหน้าผากมนออก เขายื่นหน้าจูบเหม่งน้อยเบาๆ

   “ขอบคุณนะครับ”







   (กลอยประเกรียนอยากแจม)

   บนรถที่จุดหมายคือคอนโด ผมนั่งทำหน้ามุ่ยมาตลอดทาง นั่นเพราะถูกบ่นเรื่องไปซื้อของแล้วหายไปนาน ไม่ได้ไปไหนเลย แค่นั่งเฝ้าพี่จอมแค่นั้น ผมเดินตามหลังมาไม่นาน พอมาถึงที่โต๊ะก็เห็นพี่จอมนั่งผงกหัวแล้วก็คอพับไปเลย ผมตกใจรีบวิ่งไปหา กลัวจะเป็นอะไร ที่ไหนได้...หลับ

   “อะไรอีก” เสียงพี่โชดังขึ้น ผมหันไปมอง

   “บ่นอะไรอีกปีศาจ” ผมมองตามพี่โชไปด้านหน้า รถที่ติดยาวทำให้ชะโงกหน้าดู “เหมือนรถจะชนนะ”

   “รถติดขนาดนี้ยังมาชนอีก เมื่อไหร่จะถึงล่ะเนี่ย” ปีศาจขี้บ่นเริ่มอีกแล้ว ช่วงนี้พี่โชหงุดหงิดง่าย หรือว่าจะวัยทองก็ไม่รู้ สงสัยต้องหาน้ำเต้าหูมาให้กินเพื่อปรับฮอร์โมน

   ช่วงที่นั่งรอตำรวจเคลียร์สถานที่เกิดเหตุเพราะรถขยับไม่ได้เลย ผมนั่งคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็เอ่ยปากถามออกไป

   “เพื่อนพี่แม่งโคตรเล่นใหญ่อะ” พี่โชหันหน้ามามองอย่างสงสัย “ก็พี่ซัน เล่นโคตรใหญ่ กะอีแค่ท้องเสียเข้าโรงพยาบาล ทำเหมือนเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย”

   “คิดมาได้นะ” เริ่มเห็นรอยยิ้มของปีศาจมาบ้าง

   “ก็จริง ผมก็เคยเหอะ ท้องเสียเข้าโรงพยาบาลเนี่ย ไม่เห็นเป็นแบบพี่ซันเลย”

   “รู้ได้ยังไงว่าไม่เหมือน”

   “รู้สิ ก็ผมนอนแค่วันเดียว พี่เอาแต่นั่งทำงาน อีกวันก็กลับ” พูดถึงก็แอบน้อยใจ

   “พี่เช็ดตัวให้ตลอดเถอะ พอกลอยตื่นมาก็ร้องหาของกิน”

   “มั่ว” ไม่เห็นรู้ตัวเลย

   “ไม่มั่ว” ยืนยันหนักแน่นอีกต่างหาก

   “มั่ว โหย ช้าว่ะ รถติดขนาดนี้” รีบเปลี่ยนเรื่อง ผมเปิดประจกรถแล้วจะยื่นหน้าออกไปดู แต่พี่โชตะโกนว่ามอเตอร์ไซค์ ผมก็รีบดึงหัวกลับเข้ามาแบบไม่ทันระวังตัว...

   เต็มๆ หัวโขกกับกรอบประตูรถเต็มๆ โคตรเจ็บ เสียงดังโป๊กจนพี่โชทำหน้าตาตื่นตกใจถลาเข้ามาดู ผมเหล่ตามองก่อนร้องโอดโอยเต็มที่

   “เจ็บอะ เจ็บโคตรๆ” พยายามบีบน้ำตาแห้งๆ ให้ดูน่าสงสาร พี่โชหน้าซีดไปหมด มือก็ลูบคลำหัวตรงที่ผมชน “พี่โชเจ็บ”

   “ไปโรงพยาบาลมั้ย”

   “ไม่เอา” มุ่ยเมื่อพี่โชจะพาไปโรงพยาบาล พี่โชเลิกคิ้วก่อนหัวเราะร่วนจนผมแปลกใจ “ขำอะไร”

   “ว่าคนอื่นเล่นใหญ่ ตัวเองเล่นเล็กมากเลยนะ” เสียงพูดติดขำของปีศาจยิ่งทำให้ผมหน้ามุ่ย


   “ไม่พูดด้วยแล้ว รีบๆ ขับเลย อยากกลับแล้ว” กอดอกสะบัดหน้าออกนอกถนน รำคาญคนที่รู้ทัน เบื่อปีศาจด้วย ... แต่ผมรู้แล้วว่าทำไมคนป่วยถึงเล่นใหญ่ คงอยากให้อีกคนสนใจ เป็นวิธีการเรียกร้องความสนใจนั่นเอง ซึ่งผมไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ไอ้กลอยประเกรียนเป็นพวกตรงๆ ครับ       


........................................................................

มาเพราะความคิดถึง อั๊ยย่ะ  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-10-2016 22:11:14
กลอยน่ารัก~~~~~~~~~~~
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 26-10-2016 22:16:43
ตอนนี้นี่อ้อนผัวอ้อนเมียกันใหญ่ อิจฉาา
กลอยมันเกรียนทุกตอนจริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 26-10-2016 22:29:01
ตอนเห็นขึ้นต้นนึกว่าจะดราม่าหนักซะแล้ว ที่ไหนได้พี่ซันป่วยนี่เอง ดีแล้วตอนพิเศษต้องหวานๆสิ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-10-2016 22:39:36
อ่านไป ยิ้มไป เวลาเพื่อนๆ พี่โช เขาเจอกัน :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ซัน จอม  :mew1: :mew1: :mew1:
จอม ยิ้มให้หมอ ก็ไม่ได้
ซัน ก็ขี้หึงไม่แพ้พี่โช นะ
อยากรู้ ใครคู่พี่แทม พี่ติน  :ling1: :ling1: :ling1:
พี่โช กลอย หวานรัก พี่โชรักกลอยเกรียนสุดๆ เลย
ยังขำพี่โช อาละวาดใส่พี่แทม
"อย่าได้ไปแตะเด็กมันนะมึง แค่มันฝันยังทำกูซวยเลยไอ้ห่า"
พี่โช ยังหนุ่มแน่น แท้ๆ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ไม่น่าเป็นโรคนี้เลย โรคขี้หึงลิสึ่ม รักกลอยมาก ก็ยังงี้แหละ 
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-10-2016 22:52:13
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 27-10-2016 04:45:05
ดีใจๆๆๆๆคนแต่งมาเพราะคิดถึง คนอ่านก็รออยู่ด้วยความคิดถึงจังเลยค่ะ :กอด1:
จอมน่ารักมากๆขนาดพยาบาลอิจฉา555+อ่านแล้วมีความสุขจังเลยค่ะขอบคุณมากๆนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 27-10-2016 06:03:12
ซัน จอม มุมที่น่ารักๆ  :-[
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-10-2016 12:15:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 27-10-2016 12:28:57
นางกลอยประเกรียน แย่งซีนตลอดๆๆๆ :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 27-10-2016 14:51:03
กลอยนี่มันเกรียนทุกตอนจริงๆ 5555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 27-10-2016 15:29:46
กลอยเกรียนก็เล่นใหญ่มากเช่นกัน ดูซิหัวโขกเลย ถถถ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 27-10-2016 17:01:02
จอมน่ารักจัง
ขอตอนพิเศษอีกเยอะๆเลยนะคะ
ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-10-2016 19:28:58
พี่จอมน่ารักอ่ะ กลอยแค่แจมยังกวนได้อีกนะ o13 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-10-2016 20:15:02
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 27-10-2016 23:20:56
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 31-10-2016 16:25:39
น่ารักทุกคู่เลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 31-10-2016 16:40:54
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:SJ : ไม่เคย UP!< [P.35] [26/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 31-10-2016 17:25:41
ตอนพิเศษดี๊ดี
ถ้าว่างมาต่ออีกนะคะ
คิดถึงทุกคนในเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:Hello.. UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 31-10-2016 20:45:07
Just you and I ตอนพิเศษ : Hello Halloween



       ฟักทอง ฟักทอง ฟักทอง ผมพูดวนคำๆ นี้มาหลายรอบมาก ที่วนหลายรอบเพราะตอนนี้ผมกำลังตามหามันอยู่ อาจารย์ประจำวิชาบอกให้พวกผมตามหาฟักทองแล้วดรออิ้งไปส่งภายในวันนี้ พระเจ้า แค่วันเดียวเท่านั้น หากไม่ทันคะแนนยี่สิบคะแนนจะหลุดลอย แม้มันจะดูน้อยนิด แต่คะแนนนั้นก็สามารถช่วยยื้อชีวิตของไอ้กลอยผู้นี้ได้

   ผมเดินมากับกลุ่มปากหมากลุ่มเดิม พวกมันเอาแต่จิ้มโทรศัพท์ยิกๆ จนไม่ยอมหาฟักทอง แล้วทำไมต้องวาดฟักทอง? ก็เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเดือนตุลาคม สำหรับผมก็แค่วันธรรมดาวันหนึ่ง แต่กับกลุ่มคนมากมายหลายสิบล้านบนโลกอาจจะรู้จักว่ามันเป็นวันฮาโลวีน หรือวันปล่อยผีฝรั่ง ผมว่า อาจารย์ต้องดูหนังมากไปแน่ๆ ถึงได้มาลงกับนักศึกษาตาดำๆ แบบพวกผม

   “พวกมึงไม่ช่วยกูหาเลยรึไง” ผมเหวี่ยงใส่พวกไอ้สักที่มันไม่ยอมเงยหน้าจากมือถือของตัวเอง จะสนใจอะไรนักหนา หรือพวกมันจะโหลดหนังโป๊มาดูแล้วไม่ชวนผมวะ???

   “มึงก็หาไปก่อน กูกำลังคิดเลข” เป็นไอ้ต๋องที่ตอบออกมาแทน ผมทำหน้าฉงนจนมันต้องเงยหน้ามาตอบให้เข้าใจ “พวกกูกำลังคำนวณเลขหวย”

   เข้าใจในบัดดลเลยไอ้กลอย

   คะแนนยี่สิบคะแนนยังสู้เลขเด็ดไม่ได้ อยากจะบ้าตาย

   “พวกมึงเอาไว้คิดวันอื่นสิวะ ตอนนี้ต้องหาฟักทองก่อน” ผมส่ายหน้าให้เพื่อน จนโดนเสยหัวมาทีหนึ่งอย่างเจ็บแสบ

   “นี่สิ้นเดือน พรุ่งนี้หวยออก ไม่หาวันนี้จะให้หาวันไหน” ไอ้สักว่า

   “ใช่ ขืนหาพรุ่งนี้เจ้ามือปิดรับพอดี พวกกูอดแทง” นี่เสียงไอ้เคตอบ แต่ที่น่าตกใจคือไอ้ทูที่มันกำลังยื่นคอเข้าไปดูอย่างสนใจ

   “ไอ้ทู มึงสนใจหวยด้วยเหรอวะ” ถามอย่างสงสัย ไอ้ทูละสายตาจากมือถือไอ้สักมาจ้องหน้าผม

   “เลขมันเด็ดจริงๆ นะมึง ถูกมาแล้วห้างวดติด” ไอ้ทูว่าอย่างตื่นเต้น ห้างวดติดเลยเหรอเนี่ย แบบนี้ก็น่าสนนิดๆ เหมือนกันนะ

   “แล้วงวดนี้เลขอะไรวะ” ไม่ได้อยากรู้มากมายหรอกนะครับ แค่ฟังไปงั้นๆ

   “เห็นว่าเก้ามาแรง”

   “เก้าอะไรวะ”

   “ไอ้สักกำลังคิดเนี่ย”

   แล้วไอ้ทูก็เลิกคุยกับผมเพราะไอ้สักคำนวณได้แล้ว ผมส่ายหน้าให้กลุ่มเพื่อนอย่างระอา สรุปพวกมันชอบทุกอย่าง ทั้งหวย ทั้งบอล ผมละกลัวแทนจริงๆ หากวันไหนล้มมาเจ้ามือเอาเละแน่ เคยได้ยินข่าวแว่วๆ เรื่องเด็กวิศวะมันติดหนี้แล้วถูกเอาตัวไปขัดดอก หูย โคตรน่ากลัว

   แม้วันนี้จะเป็นวันใกล้หวยออก เอ้ย ฮาโลวีน นักศึกษามากมายก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีใครแต่งตัวเป็นผีมาสักคน ก็แหม ขืนแต่งมาถูกพาเข้าห้องมืดแน่ (ห้องมืดคือห้องของอาจารย์ที่ปรึกษาที่ชอบอยู่มืดๆ ไม่ยอมเปิดไฟเพราะกลัวเปลือง)
 
   “เชี่ย นั่นฟักทอง” ผมแหกปากดังลั่นเมื่อเห็นกลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งถือขนมฟักทองสังขยาออกมาจากโรงอาหาร ผมรีบพุ่งเข้าไปหา เด็กปีหนึ่งพากันตกใจจนเกือบจะวิ่งหนี “น้องซื้อมาจากไหนเหรอ” ทำตาเป็นประกายมองขนมในมือของรุ่นน้อง

   “ระ ร้านขนมหวานค่ะ เพิ่งเปิดใหม่” น้องคนที่ถือชี้เข้าไปในโรงอาหารกลางที่พวกผมไม่ค่อยได้มาสักเท่าไหร่เพราะงานล้นจนขยับลำบาก

   “จริงเหรอ ขอบใจนะ” ฉีกยิ้มส่งท้ายก่อนจะวิ่งเข้าไปในโรงอาหาร เสียงวี๊ดร้องเบาๆ ดังมาจากด้านหลัง คงมาจากน้องนักศึกษากลุ่มนั้นแน่ๆ พอผมหันไป น้องเขาก็ส่งยิ้มมาให้ทุกคน

   ผมเดินนำเข้าโรงอาหารไปก่อนพวกที่สุมหัวหาเลขเด็ด ร้านเป้าหมายมีฟักทองที่ตามหาอยู่จริงๆ รีบเดินไปซื้อพร้อมกับแจกยิ้มหวานให้แม่ค้าคนสวย พอเดินกลับมาที่กลุ่มเพื่อน พวกมันก็ยังคิดเลขไม่ลงตัว ไอ้สักทำหน้ามุ่ยคิ้วขมวดจนผมคิดว่า ถ้าส่งมันไปแข่งคิดเลขโอลิมปิกคงได้เหรียญกลับมาแน่ๆ จริงจังสุดๆ

   “พวกมึงสนใจงานบ้างไอ้ห่า คิดเลขหวยอยู่นั่นแหละ” เริ่มโมโห พอผมว่าไปไอ้ต๋องทำแค่เงยหน้าแล้วแลบลิ้นใส่ “พวกมึงไม่ต้องคิดให้ยุ่งยาก งวดนี้กูบอกเลยออกเจ็ดสาม” บอกอย่างเหลืออด ไอ้ทูถึงกับหัวเราะออกมา

   “เออๆ ถ้ากูซื้อเจ็ดสามแล้วไม่ออกนะ มึงเลี้ยงข้าวพวกกูด้วย”




   กว่าจะส่งงานเสร็จก็เกือบเย็น ไอ้ผมก็ไม่เท่าไหร่ แต่พวกคิดเลขมันยังคงวุ่นวายกับหวย พอจะส่งงานที อาจารย์เกือบจะปิดห้อง ยังดีที่ผมใส่เกียร์หมาไปถึงห้องก่อน โดนจิกด้วยหางตานิดๆ แต่ด้วยความที่ผมหล่ออาจารย์เลยยอมให้ส่ง เพราะผมหล่อเลยนะครับเนี่ย (เสยผม)

   วันนี้วันสิ้นเดือน ของในห้องหลายอย่างหมดไปแล้ว ขืนรอไปซื้อพร้อมพี่โชคงต้องรอเดือนถัดไป ผมเลยตัดสินใจไปซื้อคนเดียว ดีที่มีโอกาสได้สุดที่รักคืนมา แม้จะได้แบบชั่วคราวไม่ตลอดไปก็เถอะ เพราะช่วงนี้พี่โชงานหนัก อีกทั้งเดี๋ยวก็ฝน เดี๋ยวก็แดด เดี๋ยวก็หนาว เอาแน่เอานอนกับอากาศไม่ได้ ผมเลยได้สุดที่รักมาใช้ คงต้องขับระวังสักนิดไม่งั้นจะถูกยึดไปอีก

   ห้างซุปเปอร์สโตร์ใกล้คอนโดดูคึกคัดกว่าทุกวัน คงเพราะสิ้นเดือน แต่เอ...สิ้นเดือนก็เหมือนสิ้นใจคงไม่ใช่ หรืออาจจะเป็นวันฮาโลวีน ดูได้จากพนักงานบางคนแต่งตัวเหมือนผีบิดลูกโป่งแจกเด็กๆ แต่ผมว่า แต่งแบบนั้นไม่มีเด็กเข้าใกล้หรอก คงมีเฉพาะพวกจิตแข็งเท่านั้น

   ผมเข็นรถเข็นไปตามโซนต่างๆ จนมาหยุดที่โซนแป้งฝุ่น พอเห็นแล้วก็เกิดไอเดียบางอย่าง ผมหยิบแป้งเด็กกระป๋องสีฟ้าสูตรอ่อนโยนมาหนึ่งแพ็ค แล้วก็ออกตามหาของอื่นๆ ต่อ...พอได้ของครบก็จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตที่พี่โชให้ไว้ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะให้ไม่จำกัดวงเงิน แต่ปีศาจให้วงเงินมาไม่มาก เหตุผลเพราะกลัวผมเอาไปกินเหล้า บ้าแล้ว คิดได้ยังไง ถ้าผมจะกิน ต้องมีคนเลี้ยงสิ ไม่ออกเงินหรอก

   ขับรถกลับคอนโดด้วยความสุข ภาพบางอย่างที่ตั้งใจไว้ฉายเป็นเรื่องราวอย่างน่าสนใจ สนุกแน่วันนี้ ไอ้กลอยคนนี้ไม่ยอมตกเทรนแน่นอน

   ขนข้าวของที่ซื้อมาขึ้นห้อง เสร็จแล้วก็รีบทำกับข้าวไว้รอ พี่โชส่งข้อความมาบอกจะกลับค่ำหน่อย ช่างเหมาะกับแผนการที่คิดไว้ซะจริง ผมตั้งคอนเซปไว้แล้วว่า ฮัลโหล ฮาโลวีน อีน อีน อีน (จะแอ็คโค่ทำไมไอ้กลอยสุดหล่อ)

   ทำกับข้าวง่ายๆ ไว้สองสามอย่างก่อนจะรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะพี่โชออกจากบริษัทมาแล้ว จากที่นั่นมาคอนโดใช้เวลาราวๆ ชั่วโมงครึ่งบวกลบกับการจราจรที่แน่น แบบนี้ต้องทำเวลาสักหน่อย ผมอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณเสร็จก็ออกมาด้านนอก แกะแป้งออกมาแล้วเทมันทั่วตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมว่า งานนี้มีเซอร์ไพร์ส.....

   แต่งตัวทุกอย่างเรียบร้อยก็โทรถามพี่โชว่าอยู่ที่ไหนแล้ว ปลายสายตอบว่ากำลังจะขึ้นลิฟต์ ผมก็ตาลีตาเหลือกวิ่งออกจากห้องทันที ไปแอบอยู่ซอกมุมตึกรอดูการเคลื่อนไหวของคนที่รอ พอประตูลิฟต์เปิดออกผมรีบผลุบเข้าซ่อน แต่ดันไม่ใช่พี่โชซะงั้น เป็นคนที่พักที่นี่เหมือนกัน พอพี่เขาเดินมาเห็นผมเข้า ถุงของใช้ที่หิ้วมาร่วงหล่นเต็มพื้นพร้อมเสียงกรีดร้อง ผมรีบวิ่งเข้าไปช่วยแต่พี่เขากลับถีบเข้าท้องมาเต็มๆ


   โคตรจุก


   อาจเพราะถีบผมได้ พี่เขาเลยเงียบลงแล้วด่าพอเป็นกษัย ผมก้มหัวขอโทษอีกหลายรอบจนพี่เขาเข้าห้องไป นี่ผมแต่งตัวได้น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ไปสมัครเป็นช่างเอฟเฟคเมืองนอกได้เลยนะเนี่ย รู้สึกยืดนิดๆ จนเสียงประตูลิฟต์ดังอีกรอบ คราวนี้น่าจะใช่ ผมรีบกระโดดตีลังกาม้วนหน้ากลับมุมตึกตามเดิม แม้อยากจะร้องใจแทบขาดแต่ก็ทำได้แค่งับปากตัวเองไว้ หัวผมชนกับขอบกระถางต้นไม้เต็มๆ ปูดแน่ๆ ไม่ต้องเดา

   ผมยื่นหน้าไปมองนิดๆ เห็นพี่โชเดินหล่อมาเคาะประตูห้อง แต่ผมอยู่ข้างนอกเลยไม่มีใครมาเปิด ใบหน้าหล่อนั่นเริ่มบึ้งตึง และคงทนรอไม่ไหวก็เลยเปิดเข้าไปเอง ผมได้ยินเสียงพี่โชเรียกผมแว่วๆ ก่อนประตูจะปิดลง ใกล้ได้เวลาสนุกแล้วสิ

   ยืนรออยู่ประมาณสิบนาที ป่านนี้พี่โชคงโวยวายลั่นห้อง เพราะมือถือผมก็ทิ้งไว้ในห้องไม่ได้เอาติดตัวมา โทรให้ตายก็ดังอยู่ในนั้น ผ่านไปอีกสิบนาทีผมก็ค่อยๆ เดินไปที่ประตูห้อง มีคนเดินผ่านมาผมต้องรีบหันหน้าเข้ากำแพง กลัวถูกถีบอีก เจ็บมาก ผมจะไม่ทนแบบนั้นอีก พอมาถึงประตูห้อง ผมก็ย่อตัวนั่งลงเพื่อคนด้านในจะมองผ่านช่องมองประตูไม่เห็น

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก เคาะไปหนักๆ แล้วเอาหูแนบบานประตู ได้ยินเสียงคนเดินมาใกล้ผมก็รีบผละออก ผ้าที่คลุมหัวไว้ถูกดึงมาคลุมจนมิดให้เหลือแค่ดวงตา ในนาทีที่ประตูกำลังจะเปิด หัวใจผมแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ มันตื่นเต้นปนกลัว หวังว่าพี่โชเห็นคงไม่เตะโด่งผมหรอกนะ

   ประตูเปิดออก ผมยืนอยู่ข้างกำแพงเห็นพี่โชยืนอยู่ด้วยใบหน้าบึ้งตึง


   “Trick Or Treat!!”


   “...”

   ผมแหกปากภายใต้ผ้าสีขาวคลุมทั้งตัว คนที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา ทำแค่มองนิ่งๆ ไม่กลัว ไม่ตกใจ ไม่โมโห???

   “เล่นอะไร” เสียงเย็นจนแอร์ยังเรียกทวด

   “ก็วันนี้วันฮาโลวีนไง ฮัลโหลฮาโลวีน” ผมยังพูดผ่านผ้าสีขาวที่คลุมหัวเหลือแค่ตา “เร็วๆ trick or treat”

   “คิดว่าตัวเองตลกหรือไง” พี่โชดูไม่รับมุก แถมยังเหวี่ยงใส่จนผมต้องยู่ปาก ไม่เล่นก็ไม่เล่นวะ

   ผมเปิดผ้าที่คลุมออก แล้วเดินแทรกคนที่ยืนหน้าประตูเข้าห้อง อารมณ์เสียจริงๆ กะจะอินเทรนสักหน่อย แต่ดันไม่รับมุกซะได้ ผมทิ้งตัวนั่งที่โซฟาแล้วกดเปิดทีวี ไม่สนคนที่เดินเข้าห้องนอนไป ได้ยินเสียงอีกทีคือมายืนบังการ์ตูนของผม เงยหน้าไล่มองตั้งแต่ขายาวๆ ไปถึงเป้ากางเกง ก่อนเลยไปถึงหน้าขาวๆ ที่ยิ้มให้

   “หลีก จะดูทีวี” ยิ้มไปก็ไม่ทันแล้วเว้ย ไอ้กลอยหมดอารมณ์แล้ว

   “คิดว่าตัวเองตลกหรือไง” คำถามเดิมถูกถามมาอีกรอบ ผมขมวดคิ้วแล้วจะลุกหนี พี่โชยื่นมือมาดันให้นั่งลงตามเดิม “แต่งเป็นผีอะไรล่ะเราน่ะ ผีแป้งเหรอ” ได้ยินเสียงขำก็ยิ่งทำให้โมโห

   “แคสเปอร์” ตอบพร้อมหน้าบึ้งๆ นั่นแหละ พี่โชเลิกคิ้วมองแล้วหัวเราะร่วน

   “เชี่ย นี่แคสเปอร์เหรอวะ แม่งขำว่ะ” มองคนที่ทิ้งตัวนั่งโซฟาขำจนน้ำหูน้ำตาไหล “นึกว่าผีแป้ง ตายเพราะลงถังแป้งซะอีก”
 
   “ยังอีก” พูดเสียงเรียบ ตาก็เหล่มอง “ยังไม่หยุดขำอีก”

   “เอ้า ก็มันน่าขำ คิดได้นะ แคสเปอร์ตกถังแป้ง”

   “ก็ตัวมันขาว จะเอาสีมาทามันก็ไม่ใช่หรือเปล่าวะ มีแป้งอย่างเดียวนี่แหละ” ผมเอาแป้งฝุ่นเทตั้งแต่หัวลงมา แต่มันไม่ยอมติดตัว เลยต้องเอาแป้งไปผสมน้ำแล้วประตามหน้า มันเลยแตกเป็นริ้วนิดๆ จนเริ่มตึง

   “เมียกู สมองไปหมดแล้ว” พี่โชยังหัวเราะไม่ยอมหยุด แถมยังดึงผมไปยีหัวซะแป้งฟุ้งกระจาย “อยากกินอะไรล่ะ” อยู่ๆ ก็ถามออกมา

   “อะไร” ผมถามเสียงห้วนอย่างคนอารมณ์บ่จอย

   “ก็ให้พี่เลือกไง อยากกินอะไรล่ะ ขนม?”
 
   “พิซซ่าเซ็ทใหญ่” บอกพร้อมรอยยิ้ม ความโมโหเมื่อกี้หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้

   “แล้วกับข้าวบนโต๊ะล่ะ” พี่โชชี้ไปที่กับข้าวที่ผมเอาฝาชีครอบไว้

   “ใส่ตู้เย็นพรุ่งนี้ค่อยกิน ตอนนี้อยากกินพิซซ่า”

   “ครับๆ ผีแคสเปอร์ตกถังแป้ง แม่งจะขาวไปไหน” ผมมองตามคนที่ยังขำกับการแต่งผีของผม พี่โชลุกไปโทรศัพท์สั่งพิซซ่า ในระหว่างรอพี่แกก็เอามือถือมาถ่ายรูปผมโดยให้แต่งเหมือนตอนอยู่หน้าประตู ดีที่มีผ้าปิดหน้าตาบึ้งๆ ต่างจากคนถ่ายรูปที่เอาแต่หัวเราะ

   พอพิซซ่ามาส่ง ผมมองพี่โชที่ยังตอบพวกเพื่อนเลยออกไปรับเอง พนักงานพิซซ่าหน้าตางั้นๆ ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู แต่พอเห็นผมเปิดออกไปก็ผงะจนถาดพิซซ่าในมือเกือบร่วง ยังดีที่ผมคว้าไว้ทัน

   “อะ เอ่อ พะ พิซซ่าครับ” เสียงกับหน้าตาดูสั่นๆ

   “เท่าไหร่ครับ” ผมถามพร้อมตะโกนเรียกพี่โชให้ออกมาจ่ายเงิน

   “ทะ ทั้งหมดก็....” ผมไม่สนราคาเพราะพี่โชเป็นคนจ่าย พอได้ของก็เดินตัวปลิวเข้าห้อง

   พี่โชเดินกลับเข้ามาพร้อมรอยยิ้มขัน ฝ่ามือใหญ่ยื่นมาขยี้หัวผมอีกรอบจนต้องตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ ก็แป้งมันฟุ้ง เกิดโดนพิซซ่าก็หมดอร่อยพอดี

   “เอ่นอะไอไอ้อู้ (เล่นอะไรไม่รู้)” เคี้ยวพิซซ่าตุ้ยๆ จนโดนสายตาดุมอง ผมรีบยื่นพิซซ่าที่คาบอยู่ไปให้คนที่จ้องดุ ได้ยินเสียงขำในลำคอนิดๆ ก่อนหน้าหล่อๆ จะยื่นเข้ามากัดอีกส่วนเข้าปาก “อร่อยป่ะ”

   “อร่อยเพราะคนป้อนนี่แหละ”

   “ก็คนมันหล่อ”

   “อร่อยด้วย”

   สายตาโคตรเจ้าเล่ห์จนผมต้องเอาพิซซ่ายัดใส่ปากตัวเอง พี่โชหัวเราะออกมาก่อนจะยื่นรูปที่อัพลงโซเชียลให้ดู พี่แทมถามว่าใช้อะไรคิด ผมอยากจะบอกว่าก็สมองอันฉลาดนั่นแหละ ส่วนพี่ตินบอกช่างกล้า อะแน่นอน ไอ้กลอยประเกรียนซะอย่าง พี่ซันมาแค่หัวหอมหัวเราะ แต่พี่จอมนี่อย่างโหด บอกให้พี่โชเอาผมลงทอดได้เลยเพราะชุปแป้งไว้แล้ว เคี้ยวคงกรอบเพลินเลย

   “ปีหน้าผมจะเป็นผีเสื้อ” ผมบอกอย่างมาดมั่น แต่พี่โชที่กำลังจะกัดพิซซ่าถึงกับหยุดมอง

   “ผีเสื้ออะไร” มีถามกลับมาพร้อมคิ้วขมวด

   “เอ้า ก็ฮาโลวีนก็ต้องแต่งเป็นผีไง” อธิบายไปแต่คนฟังยังทำหน้าเครียด “โธ่ ก็ผีเสื้อไง ผีอะ ใส่เสื้อ เขาเรียกผีเสื้อ”
 
   “เมียกู สมองไปหมดแล้วจริง”

   โด่ คนแก่ไม่เข้าใจก็งี้แหละ ไม่เข้าถึงวันสำคัญว่ามันมีมนต์คลังแค่ไหน แคสเปอร์เพลีย





   เช้าวันต้นเดือน ผมมาเรียนด้วยสภาพนอนไม่เต็มอิ่ม ไม่ใช่เพราะถูกปีศาจจับขย้ำ แต่เพราะท้องอืด พิซซ่าถาดใหญ่ สปาเก็ตตี้ ปีกไก่ สลัด ไอศกรีม ชีสสติ๊ก และน้ำอัดลม ถูกยัดมาภายในคืนเดียว แค่ผมนอนลงของทุกอย่างก็ล้นมากองอยู่ที่คอจนอยากขย่อน แต่เพราะความเสียดายเลยต้องนั่งหลับเอา พี่โชขำหนักจนน้ำตาไหล

   คาบเช้าผมนั่งหลับๆ ตื่นๆ จนเลิก ช่วงบ่ายว่างเลยได้นอนเต็มอิ่ม ปล่อยให้พวกหาเลขคำนวณไป ขนาดผมบอกเลขไปแล้วมันยังหาจากเว็ปอื่นอยู่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้ตั้งแง่นะครับ อย่างที่เขาว่า คนรวยก็หวังกับหุ้น คนจนก็หวังกับหวย คนเราต้องมีความหวังเสมอ

   พอเรียนอีกทีก็บ่ายสาม ผมนั่งดูภาพสไลด์รูปจากอาจารย์อยู่หน้าห้อง เห็นพวกไอ้สักนั่งสุมหัว หูก็ยัดหูฟังไว้ตลอดเวลา ตาก็มองมือถือที่ยกหนังสือมากั้นไว้ ขณะที่อาจารย์กำลังอธิบายเรื่องราว อยู่ๆ เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นจนทุกคนตกใจ

   “อะไรของพวกเธอ” อาจารย์ประจำวิชาตวาดดังลั่น พวกที่โห่ร้องทำหน้าจ๋อยกันไปหมด ผมนั่งขำพวกมันอย่างสมน้ำหน้า โดนหักคะแนนแน่ไอ้พวกนี้

   หลังจากถูกเตือน พวกมันก็นั่งนิ่งขึ้น แต่หน้าตายิ้มราวกับคนบ้าก็ว่าได้ อย่างไอ้สักนี่ยิ้มแล้วก็พูดคนเดียวจนผมเริ่มกลัว ก็นั่งข้างกันนี่ครับ กลัวมันพูดกับสิ่งที่มองไม่เห็น ส่วนไอ้เคกับไอ้ต๋องก็พากันกลั้นยิ้มสุดพลัง มีไอ้ทูที่นั่งขีดเขียนอะไรสักอย่าง

   ในที่สุด คาบเรียนก็จบลง เพื่อนๆ ในห้องพากันกรูเข้ามาหาไอ้สักที่นั่งข้างผม ทำให้ผมถูกล้อมไปด้วยกลายๆ อีเข็มรีบล้วงเศษกระดาษออกมาก่อนใครเพื่อน

   “อีสัก ออกเลขไรมึง” โพยหวยนั่นเอง

   “เต็มๆ เลยพวกมึง” ไอ้สักว่า ผมก็เอนตัวไปดูกระดาษที่มันจดรางวัล “เจ็ดสาม ทั้งบนและล่าง เต็มๆ ไอ้เหี้ย กูรวยแล้ว” อยู่ๆ มันก็ตะโกนซะดังลั่น ก่อนเพื่อนในห้องจะโห่ร้องจนแสบแก้วหูไปหมด

   ว่าแต่ หวยออกเจ็ดสามทั้งบนและล่าง? เลขที่ผมบอกเมื่อวานเลขไรหว่า จำไม่ได้ด้วยสิ

   “ไอ้เชี่ยกลอย มึงนี่โคตรแม่น งวดหน้าออกเลขไรวะ” อีแป้นเขย่าตัวจนผมมึน

   “อะไรของพวกมึงวะเนี่ย”

   “เลขที่มึงบอกไง พวกกูแทงหมดทุกคน ได้ทุกคน กูรวยแล้ว”

   ผมมองพวกถูกหวยทั้งห้องด้วยความแปลกใจ ผมให้มั่วๆ ไปถูกด้วยเหรอวะ ไม่น่าเชื่อ

   “มึงอยากกินอะไร พิซซ่ามั้ยพวกกูเลี้ยงไม่อั้น” พอได้ยินคำว่าพิซซ่า ภาพเมื่อคืนก็ลอยมาจนอยากจะอ้วก

   “ไม่เอาเว้ย กูไม่กินพิซซ่า” แหกปากดังลั่นห้องพร้อมกับวิ่งหนี เพราะไอ้ผีแคสเปอร์นั่นทำให้พิซซ่าของโปรดถูกจดบันทึกว่างดไปอีกนานแสนนาน



   อวสานผีแคสเปอร์ (ตกถังแป้ง)   


...........................................................................

สวัสดีวันสิ้นเดือนค่าาา พากลอยประเกรียนมาเซย์ไฮวันฮาโลวีนแบบเบาๆ  :o8:

แล้วพบกันใหม่ค่าาาา  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-10-2016 21:02:22
เจ้าพ่อกลอยแคสเปอร์ให้หวยถูกด้วย :call: :call: :call:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 31-10-2016 23:29:16
 :L2: :L1: :pig4:

 
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-11-2016 00:14:34
สมเป็นกลอยประเกรียนจริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-11-2016 02:00:32
ได้อีกอาชีพแล้วกลอย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 01-11-2016 07:51:13
งวดนี้ 73 ไปซื้อกันค่ะ
กลอยแม่นมาก 55
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-11-2016 07:58:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 01-11-2016 10:46:29
กลอยปะเกรียน เกรียนตลอด  :pandalaugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 01-11-2016 12:22:06
จากกลอยประเกลียนกลายเป็นเจ้าแม่กลอยให้หวยไปแล้ว 555 :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 01-11-2016 12:24:55
กลอยเกรียน ทั้งหน้าสงสาร ทั้งน่าขำ 55555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 01-11-2016 17:29:10
ฮ่าๆๆๆๆ กลอยเกรียนเจ้าแม่แคสเปอร์ให้หวยนี่เอง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 01-11-2016 20:30:10
 :m20: :pigha2: :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 02-11-2016 22:55:59
แคสเปอร์ใบ้หวยได้ด้วยวุ้ย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 02-11-2016 23:56:51
นอกจากแคสเปอร์ ปีหน้าจะเป็นผีเสื้อ กลอยเอยกลอย  :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:HelloHalloween UP!< [P.35] [31/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 03-11-2016 05:39:03
น้องกลอยแคสเปอร์ 55555
ให้หวยแม่นอีกต่างหาก
งวดหน้าระวังเพื่อนๆมาถูขอเลขนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 07-11-2016 22:55:49
Just you and I ตอนพิเศษ : ลอย ลอยกระทง



        วุ่นวายอีกแล้ว ไม่ใช่ชีวิตผมหรอกนะครับ แต่เป็นงานของคณะที่วุ่นวาย นั่นเพราะจะมีการจัดการลอยกระทงขึ้น ทางสโมสรคณะสั่งการลงมาให้พวกเราชาวศิลปกรรมช่วยกันจัดซุ้ม เด็กปีหนึ่งปีสองมีตั้งมากมายไม่ยอมใช้ ทำไมต้องให้ไอ้กลอยสุดหล่อมาตัดต้นกล้วย ตัดใบกล้วยด้วยไม่เข้าใจ เกิดผีตานีหลงรักในความหล่อตามติดผมกลับบ้านจะทำยังไง ยิ่งไปกว่านั้น เกิดติดใจปีศาจขึ้นมาด้วยแล้ว ไอ้กลอยปลุกเสกข้าวสารไล่ไม่เป็นด้วยนะเออ

   “ไอ้เชี่ยกลอยกินแรงนะมึง” เสียงไอ้ต๋องมาพร้อมกับเศษต้นกล้วยปาเข้าหัวผม

   “กูกินแรงที่ไหน”

   “ที่นี่แหละไอ้ห่า พวกกูทั้งตัด ทั้งเก็บ มึงเอาแต่นั่งคุยกับมด” คราวนี้เป็นไอ้เคที่มันเอาใบตองมาฟาดหลัง ไอ้พวกนี้ไม่เข้าใจในการผูกมิตรเลย นี่ถ้าผมไม่ตกลงกับมดพวกนี้ ป่านนี้ไอ้พวกที่ตัดต้นกล้วยถูกมดคันไฟกัดไปแล้ว

   “ก็กูหล่อ” เถียงพวกมันไป มือก็รับใบตองที่ฟาดหลังเมื่อกี้มาถือ “พอแล้วมั้ง โคตรเยอะแล้วเนี่ย”

   “ไม่ได้ฟรีนี่ จ่ายเงินด้วย” กั้ง เพื่อนต่างสาขาผมว่า

   สวนกล้วยแห่งนี้ พวกผมไม่ได้ลักขโมยนะครับ แต่จ่ายเงินให้กับเจ้าของเรียบร้อย ซึ่งทางคุณป้าแกก็อนุญาตให้ตัด ที่สำคัญ ป้าแกลดราคาให้ด้วยเนื่องจากลูกชายไม่สบายไม่มีคนช่วยเก็บใบตอง พวกผมเลยอาสาเก็บให้ ทำให้ได้ส่วนลดมาโขเชียว

   “กูรู้ว่าไม่ได้ฟรี แต่พวกมึงแหกตาดู กล้วยป้าเขาจะหมดอยู่แล้ว ไม่คิดจะเหลือให้ป้าเขาดูต่างหน้าเลยเหรอวะ” ผมชี้นิ้วไปรอบๆ เห็นแค่ตอต้นกล้วย พอพวกมันมองตามก็พากันเก็บมีด ส่วนผมก็เดินยกถุงต้นกล้วยที่ตัดเป็นท่อนเล็กๆ สำหรับทำกระทงไปให้ป้าเจ้าของ เห็นว่ามีพ่อค้าแม่ค้ามาสั่งไว้

   กร๊อบ เสียงเอวลั่นขณะผมดึงถุงต้นกล้วยขึ้นบ่าอย่างไอ้เคทำ แต่ทำไมขาผมมันสั่นวะ ก้าวไม่ไปอีกต่างหาก พอเดินไปข้างหน้าตัวก็โน้มไปด้านหลัง แต่พอถอยหลังตัวก็โน้มไปด้านหน้า นี่ผมไม่สบายหรือเปล่า

   “ไอ้เชี่ยกลอย มึงไม่ต้องทำเป็นเท่ วางเลยๆ” ไอ้เคที่เดินไปก่อนหน้าวกกลับมาพร้อมกับแย่งถุงบนบ่าผมไป พอมันยกออกตัวผมเซแท๊ดๆ ไปสะดุดตอกล้วยล้มอีก โคตรเจ็บ


   แต่ไม่เท่าถูกไอ้เพื่อนทรยศทำร้าย
 

   ไอ้พวกมดคันไฟที่ตกลงเป็นมิตรกันแล้วมันรุมกัดมือผมจนบวมไปหมด เหมือนมือถูกเข็มนับร้อยทิ่ม ทั้งปวด ทั้งแสบ ทั้งคัน คอยดูเถอะ ถ้ามาคราวหน้า พ่อจะเอาน้ำร้อนสาดให้หมด ฮึ่ม




   
   “มือเป็นอะไร ทำไมบวมแบบนั้น” พี่โชดึงมือผมไปดู หลังจากขึ้นมานั่งบนรถคู่ใจ เพราะกลับดึกพี่โชเลยโทรหาพี่เบให้มารับผม ไอ้ทูที่มาด้วยบ่นตลอดทางหลังจากออกมาจากคอนโดจนมาถึงมหาลัย ไอ้นี่ไม่แน่จริง ไม่กล้าบ่นต่อหน้าปีศาจ เอาแต่บ่นลับหลัง   

   “มดกัดอะ เมื่อบ่ายบวมกว่านี้อีก แต่เอาน้ำแข็งประคบไว้เลยยุบลง” ผมบอกคนที่กำลังเปิดลิ้นชักรถหายามาทาให้ผม สุดท้ายก็ได้ยาหม่องฉลากสีเหลืองส้ม แต่เอาจริงๆ ผมโคตรซึ้งใจที่พี่โชห่วงผมขนาดนี้ แต่บางทีควรจะเบามือในการล้วงยาหม่องบ้าง ขวดเพิ่งเปิดมาโป๊ะบนมือผมแทบหมด กลิ่นฉุนเต็มรถจนต้องเปิดกระจกแทน ไม่อย่างนั้น คงต้องนั่งน้ำตาไหลไปตลอดทาง ลืมตาแทบไม่ขึ้น

   พอถึงห้อง ผมถูกบังคับให้กินยาแก้แพ้ แก้อักเสบและแก้ปวด

   “ต้องขนาดนี้เลยเหรอ” เงยหน้าถามเจ้าของมือที่ยื่นยาสามเม็ดมาตรงหน้าผม

   “ใช่ ไม่งั้นจะนอนไม่ได้นะ” พี่โชมองดุ ผมมองยาในมือพี่โชอีกรอบ

   “แค่แก้ปวดอย่างเดียวก็พอแล้วมั้ง”

   “ไม่ได้ เกิดอักเสบขึ้นมาจะทำยังไง เกาซะมีแต่แผลขนาดนี้ แล้วแก้แพ้เผื่อพิษมันจะทำให้ไม่สบาย กินได้แล้ว อย่าดื้อ พี่ไม่ชอบ” มีขู่ซะด้วย “จะกินเองหรือให้พี่ป้อน”

   “กินเองๆ” ต้องรีบออกตัวครับ เคยมาแล้วป้อนยาเนี่ย ไม่ได้หวานแหววแต๋วจ๋าแบบในนิยายอื่นๆ ที่ป้อนปากต่อปาก แต่แบบฉบับของปีศาจคือบีบปากแล้วยัดยาและกรอกน้ำ...หาความหวานแทบไม่ได้ให้ตายเถอะ

   ผมกลั้นใจกินยาทีละเม็ด อย่ามองผมแบบนั้น ก็ผมกินทีละเยอะๆ ไม่ไหว ต้องกินมันทีละเม็ด พอหมดก็อิ่มน้ำแทนข้าวเลยทีเดียว พอผมกินหมด พี่โชก็ยิ้มหล่อออกมา

   “ดีมากครับ” ผมเอียงแก้มถูกับมือนุ่มที่ยื่นมาลูบ “เหมือนสีนิลเลยว่ะ”

   หมดกันความหวาน หาไม่ได้จากปีศาจหน้านิ่ง (แต่หื่น) คนนี้

   “พี่โช ลอยกระทงนี้ไปลอยที่มหาลัยกลอยนะ” นั่งหันหน้าเข้าหาคนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ข้างๆ พี่โชหันมายิ้มแล้วพยักหน้า “เย้ ปีนี้ซุ้มคณะกลอยได้ที่หนึ่งแน่นอน” บอกอย่างมาดมั่นและมั่นใจ

   “ทีงี้แทนตัวเองว่ากลอยนะ ทีตอนอื่นผมตลอด” เหล่ตามองคนที่พูดแต่ไม่หันมามองหน้า

   “แล้วแต่อารมณ์และทรงผม” ยิ้มตาหยีส่งให้เลยได้เสียงหัวเราะร่วนกลับมา พี่โชเป็นคนโรแมนติกนะครับ แต่ไม่ค่อยแสดงออกมา ผมเคยถามไปแล้ว พี่โชตอบแค่ว่า ทำบ่อยจะชินจนกลายเป็นเบื่อ นานๆ ทำทีจะได้ตื่นเต้น ไม่ค่อยเข้าใจแต่ผมก็เห็นด้วยนะ




   
   เสียงเพลงบรรเลงดังไปทั่วมหาลัย ผมเดินร่อนไปนั่นมานี่ แต่ละคณะก็ทำซุ้มซะสวย เดินมาถึงคณะเกษตร ผมมองหาไอ้ต้อมแต่ไม่เห็น เจอแต่ไอ้ดอยเพื่อนใต้ตัวคล้ำ พอมันเห็นผมก็ยกมือทักทาย

   “ไงมึง ไม่มีการมีงานทำเหรอวะ” ดูทำทักมัน

   “มี แต่กูทำเสร็จหมดแล้ว” พูดไปยืดไป ไอ้ดอยมองเหมือนไม่เชื่อ

   “ปากดีตลอด”

   “ไอ้ต้อมล่ะ” ถามหาเพื่อนสนิทต่างคณะ ผมรู้จักมันตั้งแต่รับน้องรวมปีหนึ่ง หน้าตามันก็ธรรมดาๆ แต่ปากมันไม่ธรรมดาเลย เจอกันครั้งแรกมันก็ด่าผมแล้ว มันบอกไม่ได้ด่า แต่ผมว่ามันด่า ก็แค่เล่าเรื่องมัธยมให้มันฟังตอนจะนอน ไอ้ต้อมด่าให้ผมนอนแล้วเก็บเสียงไว้วันอื่นบ้าง ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น แต่ผมก็สนิทกับมันอยู่ดี

   “แต่งตัว” ไอ้ดอยบอกสั้นๆ

   “แต่งตัวทำไมวะ”

   “ประกวดนายนพมาสไง มึงไปอยู่รูไหนมา”

   “ห๊ะ ไอ้ต้อมเนี่ยนะ” ขยี้รูหูซ้ำๆ

   “เออ ไม่ได้เอารางวัลที่หนึ่งอยู่แล้ว ขอแค่ขวัญใจก็พอ”

   ผมมองไอ้ดอยที่ยกถังน้ำไปด้านใน ก็พอรู้หรอกว่าแฟนคลับมันเยอะ ผมลองเข้าเฟจคู่ของมันมา คนกดถูกใจโคตรเยอะ คงกะได้รางวัลเพราะแฟนคลับเลยสินะ หัวหมอโคตรๆ

   พอไม่ได้เจอผมก็ผละออกมาและเดินกลับคณะตัวเอง ซุ้มคณะผมถูกตกแต่งด้วยต้นกล้วย ใบทางมะพร้าว ดอกดาวเรืองที่ทำเอาเหลืองไปทั่วซุ้ม ผมว่าดอกมันหอมดีนะ แม้คนส่วนใหญ่ไม่ชอบกลิ่นมันก็เถอะ

   “หายหัวตลอดนะมึงเนี่ย” ถูกไอ้ทูตบหัวไปที กะจะตบคืนแต่พี่เบยืนอยู่ด้วยผมเลยยิ้มร้ายส่งให้แทน ไอ้ทูมันหัวเราะที่ผมทำอะไรไม่ได้

   “ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” คาดโทษเพื่อนตัวเอง “พี่เบไม่ทำงานเหรอ” ดูจากตอนนี้ยังไม่เที่ยงวันเลยด้วยซ้ำ

   “ไม่อะ พี่ลาพ่อไว้แล้ว”

   “ดีเนอะ ทำงานบริษัทตัวเอง”

   “ไอ้โชก็ทำของบ้านมันนี่ แล้วมันไม่มาเหรอ”

   “เย็นนู้น ขานี้งานรัดตัวจนจะแต่งกับงานอยู่แล้ว” ผมว่า พี่เบหัวเราะออกมาก่อนยื่นมือมาตบบ่าผมเบาๆ

   “เอาน่า ที่มันทำก็เพราะอยากพิสูจน์ตัวเองให้พ่อมันเห็น อีกอย่าง เรื่องความรักของมันด้วย” ยู่ปากใส่เพื่อนของพี่โช ก็รู้อยู่หรอกว่าพ่อพี่โชบอกให้โชว์ศักยภาพในการทำงานว่าจะดีสักแค่ไหน ส่วนความรักหากงานดีรักก็จะรุ่ง แต่ทำไมผมได้ยินแค่ว่า ถ้างานดีรักจะร่วงวะ

   “ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่นา”

   ผมเดินเตร่ดูนั่นดูนี่ ช่วยยกของบ้างหากมีคนเรียก เจอไอ้เด็กปีหนึ่งที่ตอนเปิดเทอมใหม่ๆ ตามผมต้อยๆ แต่ตอนนี้พวกมันต่างพาสาวมาเดินควงให้คนอื่นๆ อิจฉา สำหรับไอ้ไม้ ผมเคยเจออยู่ตอนไปเลือกซื้อต้นไม้ แต่ไอ้เบียร์นี่ไม่เคยเห็น แฟนมันก็อกมี ก้นมี หุ่นแซ่บได้ใจ

   เวลาค่อยๆ ผ่านไปเรื่อยจนเกือบห้าโมงเย็น ผมเห็นคนที่รับปากจะมาเดินทำหน้าหล่อเข้ามาใต้ตึก พี่โชทักพี่เบก่อนจะเดินยิ้มเข้ามาหาผม เกลียดจริงๆ ไอ้ท่าทางเก๊กหล่อนั่น ดูสาวๆ ที่นั่งอยู่มองจนตาแทบถลน

   “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” พี่โชเดินมาถึงก็ดึงแก้มผมซะยืด

   “เจ็บนะเนี่ย...ทำไมมาช้า”

   “เคลียร์งานไม่เสร็จน่ะสิ”

   “กินข้าวมายัง”

   “ยัง”

   “ไปหาอะไรกินกัน” ผมลุกจากโต๊ะพร้อมกับพี่โชวางแขนยาวๆ พาดไหล่มา สาวคณะผมพากันกรี๊ดจนต้องหันไปมอง “อย่าทำหน้าหล่อได้ป่ะ” บอกคนข้างๆ ที่เอาแต่ยิ้ม

   “ไม่ได้ทำ แต่มันหล่อเอง” ได้ยินคำตอบผมก็โก่งคออ้วกจนโดนตบหัวผมปลิวกระจาย แม้ไม่แรงมากแต่ก็เจ็บนะเออ

   พอมืดลง ทั่วมหาลัยก็เปิดไฟที่ติดเพื่อประดับทั่วบริเวณ แสงสีแต่ละคณะยิ่งเพิ่มความน่าสนุก ผมพาพี่โชไปที่บ่อน้ำกลางมหาลัยที่เป็นสถานที่จัดงานลอยกระทง บรรดานักศึกษาต่างคณะพากันมาเดินเที่ยว บ้างก็ขายของกินของใช้ ผมเดินเข้าร้านขายลูกชิ้นปิ้งของคณะวิศวะ สาวๆ คณะนี้หน้าตาจิ้มลิ้มซะจริง แต่ทำไมผมถึงไม่ค่อยเจอสาวๆ กลุ่มนี้สักคน จะเจอก็แต่พวกที่แมนพอๆ สาวคณะผม

   “ไงไอ้เกรียน” นั่นไง พูดถึงก็เจอ

   “กูชื่อกลอยเว้ยอีทอง”

   “กูชื่อทอยไอ้ห่า” สาววิศวะที่รูปร่างกะทัดรัดแต่ดูแสนจะแมน “แล้วนี่...อย่าบอกว่า”

   “เก็บอาการมึงด้วย” ผมว่า อีทอยก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับผมครับ ที่ผมรู้จักเพราะมันเป็นเพื่อนอีเข็ม

   ซื้อลูกชิ้นไปหลายสิบ ผมก็ลากพี่โชออกมา ขืนช้ากว่านี้คงถูกพวกนี้รุมทึ้งแน่ คนถูกรุมก็เอาแต่ขำ เห็นผมหัวหมุนละชอบจริงนะแบบนี้...เดินไปทั่วงานจนเริ่มเบื่อ งานประกวดก็ยังไม่เริ่ม

   “เบื่อเหรอ” พี่โชถาม ผมรีบพยักหน้า “งั้นไปที่อื่นมั้ย”

   “ที่ไหน”

   “มหาลัยเก่าพี่”

   มองไปรอบงานผมก็พยักหน้า ดีเหมือนกัน

   กำลังจะเดินออกจากงาน ไอ้ต้อมถูกแต่งตัวซะเต็มยศเดินมากับกลุ่มเพื่อนมัน ข้างๆ มีพี่ฝอย เอ้ย พี่ฟลอยด์ด้วย แต่ทำไมต้องทำหน้าบึ้งคล้ายกับกินรังแตนมา ผมเข้าไปทักทายไอ้ต้อม มันก็ยิ้มให้และกำลังจะอ้าปากพูด รุ่นพี่ด้านหลังก็ลุนหลังมันไปซะก่อน จะว่าไป พอแต่งแบบนี้ มันก็หน้าตาดีเหมือนกันนะเนี่ย นี่ถ้าไม่ตบปากรับคำพี่โชไป ผมคงจะอยู่ดูงานประกวด ต้องมีอะไรสนุกๆ แน่นอน



   ออกจากมหาลัยมาปลายทางคือที่เรียนในอดีตของพี่โช เห็นว่าใกล้จะรับปริญญาแล้ว ผมกำลังหาเงินซื้อของขวัญให้ แต่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ดี พอใกล้ถึงค่อยคิดแล้วกัน

   รถสปอร์ตคู่ใจของพี่โชเลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดคณะ วันนี้รถราค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังมีที่ว่างให้คันสวยจอด ด้านข้างผมจำได้ว่าเป็นรถคันที่ไปรับผมตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนบ่ายๆ ยังเดินร่อนอยู่กับไอ้ทูที่คณะอยู่เลย

   เดินตามพี่โชเข้าไปใต้ตึก ที่นี่ดูคึกคักพอๆ มหาลัยผมนั่นแหละครับ แต่ที่ไม่เหมือนคือผมไม่รู้จักใครนอกจากพี่โชและผองเพื่อน ได้ยินเสียงร้องเพลง (เพี้ยน) ของพี่แทมมาแต่ไกล ผมหยุดเดินเป็นระยะเนื่องจากมีคนรู้จักทักพี่โชมาตลอดทาง บ้างก็คุยสนุกสนาน บ้างก็แค่ยิ้มทักทายเรียบๆ ดังจริงนะคนๆ นี้

   “ไงเกรียน” เสียงพี่จอมพร้อมกับแรงหนักๆ พาดเข้าบ่าจนผมแทบล้ม ดีที่พี่โชดึงแขนพี่จอมออก “หวงตลอดไอ้โช อย่างไอ้เกรียนไม่ใช่สเป็คกูเลย หลับตากูก็ยังทำไม่ลง”

   ป๊าด ดูถูกแท้

   “โหยพี่ พูดงี้ผมเสียหายนะเว้ย” ผมโวยวายใส่

   “แค่ฝันมึงก็ทำไม่ได้หรอกเพราะไอ้นี่ของกู” หันขวับไปมองพี่โชที่ยิ้มร้ายกับเพื่อนตัวเอง พี่จอมขำในลำคอ “ไอ้ซันล่ะ”
 
   “โน้น ไปขายลูกบอลโน้น” พี่จอมแคะจมูกตัวเองแล้วตอบอย่างไม่สนใจ

   จะว่าไป ด้านหน้าที่ผมเห็นมีซุ้มอะไรสักอย่าง ผมทำตาวับวาวจนพี่โชพาไปดู จึงได้เห็นว่า คณะวิศวะของที่นี่มีซุ้มสาวน้อยตกน้ำ เสียงเพลงเพี้ยนจากพี่แทมคงดังมาจากซุ้มนี้ เห็นได้จากการครองไมค์ตะโกนเรียกคนเข้าซุ้ม บ้างก็ร้องเพลงเรียก แต่ผมว่า เหมือนร้องเพลงไล่มากกว่า มีเด็กแก้มยุ้ยยืนอุดหูอยู่ข้างๆ ด้วย โคตรตลก

   “ไอ้โช มึงกรุณามาเหมาลูกบอลหน่อย” พี่แทมพูดออกไมค์ทำให้คนหันมามองกันเป็นแถว พี่จอมรีบเดินหนีทันที ส่วนผมก็ทำหน้าเหลอหลาไม่รู้จะวางหน้าวางตัวยังไง

   พี่โชเป็นคนจ่าย แต่ผมเป็นคนปา ด้วยความแม่นเว่อร์ทำให้ผมปาคนตกน้ำทุกถังจนคนที่มายืนมุงเฮกันลั่น พี่ตินที่ยืนคุมข้างๆ ถึงกับอ้าปากค้างให้ความเก่ง

   “แม่นมากเมียเพื่อนกู” พี่ตินปรบมือให้ พี่โชที่ยืนอยู่ข้างผมก็ด้วย ทุกคนดูชื่นชอบชื่นชมให้ฝีมือของผม “จะลอยแล้ว”

   “ไอ้กลอย กูอยากได้ตุ๊กตา มึงไปปาลูกโป่งให้กูหน่อย” ไอ้ทูเดินมาจากไหนไม่รู้ลากแขนผมออกมา พี่โชเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ผมไม่ได้ยินเพราะถูกลากมาไกลแล้ว

   ซุ้มปาลูกโป่งมีคนมุงค่อนข้างมาก แต่คนปาน้อยเหลือเกิน คงเพราะมันยาก ไอ้ทูบอกพี่เบเสียเงินไปหลายร้อยยังไม่ได้อะไรสักอย่าง เป็นผมคงเลิกเล่นไปตั้งแต่ร้อยแรกแล้ว โคตรเปลืองเงินให้ตาย ผมมองเพื่อนตัวเองที่ดี๊ด๊าเอาเงินไปจ่ายให้คนเฝ้าซึ่งคงเป็นนักศึกษาเหมือนกัน พอได้ลูกดอกมาไอ้ทูก็ยัดใส่มือผมทันที

   “ช่วยกูหน่อย กูอยากได้ นะเพื่อนกลอยสุดหล่อ มึงโคตรแม่นที่สุดในจักวาล” คำชมแทบจะทำให้ผมลอย

   “เออๆ” มั่นหน้านิดๆ แล้วไปยืนตรงจุดที่เข้ากำหนด คนที่เดินไปเดินมาเริ่มมองบ้าง เพราะผมกำลังหลับตาจ้องเป้าหมายอย่างจริงจัง จากการคำนวณทิศทางลม มันต้องกะน้ำหนักประมาณครึ่งหนึ่งของแรง ไม่อย่างนั้นมันจะเด้งกระดอนออกมา

   ผมเล็งลูกโป่งสีเหลืองที่เรียงเป็นตับอยู่ในช่อง ลูกแรกถูกปาออกไปปักเข้าตรงกลางเสียงอากาศที่อัดแน่นในลูกโป่งระเบิดเสียงดังลั่น ไอ้ทูรีบปรบมือทำตาระยับอย่างมีความหวัง ลูกที่สอง สาม สี่ถูกปาอย่างแม่นยำจนผมเริ่มเครียด เหลืออีกสามดอกเท่านั้น

   สติสมาธิผมกำลังจดจ่อจนแทบไม่ได้ยินเสียงไอ้ทูที่พูดเหมือนคนบ้าอยู่ข้างหู ห้า หก ผ่านไปแล้ว ลูกสุดท้ายคล้ายกับเสียงทุกอย่างถูกตัดขาด ทันทีที่ปาลูกดอกออกไปคล้ายกับเห็นภาพสโลโมชั่น ทุกคนที่มุงดูต่างอ้าปากลุ้นไปด้วย ลูกดอกสีเหลืองปลายแหลมพุ่งเจาะกลางลูกโป่งจนดังสนั่น

   “เชี่ย” ไอ้ทูตาโตกระโดดดีใจชี้ไปที่ตุ๊กตาหมี “มึงเจ๋งมากไอ้กลอย กูเพิ่งรู้ว่ามึงแม่นขนาดนี้ ยี่สิบบาทได้ตัวโคตรใหญ่ พี่เบแม่งหลายร้อยลูกอมยังไม่ได้” ไอ้ทูบ่นตลอดทางกลับคณะวิศวะ ผมยิ้มให้ทุกคนที่เดินผ่านที่เขายิ้มให้ก่อน 
                 
   พอกลับมาถึง ไอ้ทูก็รีบเล่าจนผมถูกรุ่นพี่ผู้หญิงรุมเพราะอยากได้ตุ๊กตา ดีที่พี่โชเดินเข้ามามองกราดไปทั่ว คนที่รุมล้อมเลยค่อยๆ หายไปทีละคนสองคน

   “อย่าอ่อยเรี่ยราดได้ป่ะ” เสียงทุ้มติดใบหู ผมเบ้ปากให้ปีศาจจอมหวง

   “อ่อยที่ไหน มั่วว่ะ”

   “อย่ายิ้มเยอะด้วย ขี้เกียจฆ่าคน”

   “หูย ปีศาจขาโหด”

   “ไอ้กลอย เดี๋ยวเถอะ” ถ้าปีศาจได้ขึ้นไอ้นำหน้าชื่อมาแปลว่าห้ามกวน...ต่อ ต้องสงบปากเท่านั้นถ้าไม่อยากกลับห้องแล้วถูกลงทัณฑ์

   “ไปลอยกระทงกัน อยากกลับแล้ว” ผมเปลี่ยนเรื่องทันทีหลังจากดูนาฬิกา เหมือนเพิ่งมาแต่ไหงตอนนี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว

   พี่โชตะโกนบอกเพื่อนตัวเองก่อนจะพาผมไปที่สระน้ำที่ใช้ลอยกระทงของงาน ผู้คนเบียดเสียดจนหายใจแทบไม่ออก พอพ้นช่วงคนเยอะก็ได้เห็นสระน้ำขนาดใหญ่ ตรงกลางมีน้ำพุถูกเปิดมีไฟหลายสีกระพริบไปมา ผมยืนรอพี่โชที่บอกจะไปซื้อกระทง มองนั่นมองนี่จนไปสะดุดกับคู่ๆ หนึ่ง คนหนึ่งผมรู้จักเป็นอย่างดี อีกคนก็ปีนเกลียวผมเมื่อไม่นานมานี้ ไอ้เม่นมาอยู่ที่นี่เอง มิน่าไม่เห็นหัวมันที่คณะ กำลังจะเดินไปหาแต่พี่โชก็กลับมาซะก่อน ผมถือกระทงอันสวยไว้ในมือ

   “ของพี่ล่ะ” ผมเห็นพี่โชถือมาอันเดียว

   “ก็ลอยด้วยกันไง”

   “ประหยัด?”

   “ไม่ใช่”

   “อ่าว”

   “ก็ถ้าลอยสองอัน เกิดมันแยกออกจากกันทำไงล่ะ ลอยอันเดียวนี่แหละดีแล้ว” มาแล้วมุมหวานของปีศาจ ผมยิ้มให้คนพูดแล้วพยักหน้า

   เราสองคนพากันเดินไปที่ท่า พี่โชจุดไฟแช็กที่เทียน ผมเอามือบังลมไว้เพื่อให้เทียนติด ไม่สนคนพูดข้างๆ ถึงผมกับพี่โช แม้จะไม่ใช่คำด่า แต่ผมก็ไม่อยากหันไปมองอยู่ดี ตอนนี้ที่สนคือหน้าของพี่โชมากกว่า ใบหน้าหล่อตามตั้งใจจุดเทียนหน้ามองกว่าเป็นไหนๆ

   เทียนบนกระทงสว่างไสว ผมกับพี่โชก็ช่วยกันถือยกขึ้นเพื่ออธิฐานขอขมาและขอพรจากพระแม่คงคา สาธุ ขอให้พี่โชมีความสุขมากๆ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย มีเงินทองเยอะๆ ที่สำคัญ ขอให้รักผมมากๆ

   “ขออะไร” เสียงกระซิบถาม ผมลืมตามาเจอพี่โชจ้องหน้าอยู่

   “ไม่บอก” แลบลิ้นใส่ไปที พี่โชยิ้มตอบกลับ พรที่ขอไปขืนให้รู้ก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์พอดี

   กระทงใบตองของผมกับพี่โชค่อยๆ ลอยห่างจากฝั่ง แสงเทียนที่ส่องประกายส่งสงระยิบระยับ ยิ่งผืนน้ำเบื้องหน้าที่ถูกแสงจากดวงจันทร์กลมโตสาดส่องยิ่งเพิ่มเสน่ห์และมนต์ขลังให้งานวันนี้ได้เป็นอย่างดี

   “พี่โช” ผมมองกระทงที่ลอยห่างออกไป

   “ครับ” เสียงทุ้มตอบกลับมาทำให้ผมละสายตาจากกระทงที่เริ่มปะปนกับของคนอื่น

   “ปีหน้าเราไปลอยที่อีสานดีมั้ย”

   “ทำไมต้องไปลอยที่อีสานล่ะ”

   “ผมอยากเห็นลูกไฟที่มันลอยขึ้นมาจากแม่น้ำโขง”

   “เดี๋ยวนะเดี๋ยว” พี่โชขมวดคิ้วจนเป็นปม “ลูกไฟขึ้นจากแม่น้ำโขงเหรอ”

   “อื่อ ที่เห็นในมือถืออ่ะ”

   “นั่นมันวันออกพรรษาหรือเปล่าวะ”

   “วันลอยกระทง”

   “ออกพรรษา แล้วนั่นก็เรียกบั้งไฟพญานาค”

   “ไม่ใช่สักหน่อย มีวันลอยกระทงนั่นแหละ เพิ่งดูในเน็ตเมื่อกี้” ผมเถียงทันที ก็เพิ่งดูมาจะผิดพลาดได้ไง พี่โชทำหน้าไม่เชื่อผมเลยล้วงโทรศัพท์มากดๆ ดู

   “ไงล่ะ เงียบไปเชียว” เสียงพูดติดขำดังใกล้ๆ

   “อยากกลับแล้วอะ กลับเถอะ” เว็บนั่นมันหลอกผม ไม่ใช่ มันอยู่ติดกัน ผมคิดว่าไอ้ลูกไฟมันอยู่ในงานลอยกระทงซะอีก ก็ภาพด้านบนมันมีกระทงนี่หว่า

   “เนียนตลอดเมียกู”

   ผมกวักมือเรียกพี่โชที่ยืนยิ้มอยู่ที่ท่า ถึงแม้จะจำผิด แต่ผมก็อยากลอยกระทงกับพี่โชทุกปี




   “ลอยกระทงปีหน้า ไปลอยที่เชียงใหม่มั้ย”

   “พี่จะพาไปเหรอ”

   “ดูก่อน”

   “โหย ดูก่อนแบบนี้อย่าพูดเลยดีกว่า ไอ้กลอยประเกรียนเซ็ง” พูดแบบนี้ทีไรไม่ได้ไปทุกที ขนาดจะไปหาแม่สีครีมยังไม่พาไปเลย ดูก่อนเป็นร้อยชาติแล้วปีศาจคนนี้     


...............................................................

สุขสันต์วันลอยกระทงค่า พาเกรียนมาล่วงหน้าไปสักหน่อยเนอะ ที่มาเพราะความคิดถึง ยังรักเหมือนเดิมค่าาา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 08-11-2016 00:44:53
น้องกลอยเกรียนตลอด
ว่างๆมาปาโป่งให้เจ้บ้างสิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 08-11-2016 01:01:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 08-11-2016 05:55:59
เจ๋งจริงกลอยเกรียน555

แล้วคู่ต้อมล่ะฮะ ไม่เห็นตอนพิเศษเพิ่มเลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-11-2016 09:15:28
กลอยเกรียนปาแม่นจนอยากให้มาปาโป่งเอาตุ๊กตาให้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-11-2016 09:34:52
กลอยน่ารัก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 08-11-2016 09:52:35
น้องกลอยน่ารักตลอดเลย

คิดถึงน้องต้อมกับพี่ฝอยมากๆๆ

 :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 08-11-2016 12:11:17
ูพึ่งรู้นะว่านอกความเกรียน กวน รั่ว กลอยยังมีข้อดีคือความแม่นด้วยยยย o16

พี่โชยังคงความหวง หึง โหด และหื่นเสมอเลยนะคะ o3 o3
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-11-2016 14:59:07
  :pig4::pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 08-11-2016 17:08:02
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 08-11-2016 21:30:42
น่ารักกกก :m3:
เกรียนใส่ผัวคืองานของกลอย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 10-11-2016 22:48:38
ปีศาจก็ยังขี้หวงไม่เลิก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 11-11-2016 19:20:25
ชอบบบบบบบบบบ :ling1: มาอัพเรื่อยๆเลยค่ะ5555555555555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-11-2016 19:50:37
อ๋อยย ไม่น่าเชื่อว่าน้องกลอยเกรียนจะแม่นขนาดนี้ทั้งหวยทั้งเล่นเกม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 11-11-2016 23:24:45
พี่โชว์หึงหวงตลอดๆๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-11-2016 01:18:03
 :L2: :pig4: :pig2:

สกิลแถนี่ไม่เกินใคร ฮ่าฮ่า มั่วตลอด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-11-2016 05:44:06
ดีใจ ได้อ่านเรื่องของกลอย :katai2-1:
กลอยประเกรียน แวะมาลอยกระทงกับพี่โช :mew1: :mew1: :mew1:
กลอย คุยกับมดคันไฟได้ด้วย เก่งจริงๆ
แต่ถูกมดหักหลัง กัดซะมือบวมเลย
แตที่เก่งกว่า คือปาเป้าพี่โช ล้อเล่น :hao3:
เป้าพี่โชไว้ลูบคลำ ทำอย่างอื่น  :o8: :-[ :impress2:
พี่โช น่าพากลอย ไปลอยกระทงที่อิสาน
ที่เขามีบั้งไฟฟญานาคน่ะ ได้สองงานเลย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 13-11-2016 14:20:31
บทนี้สนุกดี
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Katzube ที่ 20-11-2016 00:02:19
กลอยเกรียนตลอดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-11-2016 11:11:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MYYAOI ที่ 28-11-2016 22:58:24
เกรียนยันในฝัน 5555++กลอยเอ้ย แตงานนี้น่าสงสารสุดคือ พี่แทม อิอิอิ :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 28-11-2016 23:29:21
กลอยยยเกรียนน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 30-11-2016 01:05:06
อ่านละขำดีค่ะ น่ารักทุกคู่เลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ASAMENG ที่ 30-11-2016 11:32:55
 :-[ น่าหั่กๆ ทุกคู่เบยนะ  :laugh: สนุกมากๆ เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 30-11-2016 21:24:26
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 07-12-2016 23:38:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 14-12-2016 06:55:36
 กลอยเกรียนมากกก แต่น่ารักมากเช่นกัน :)
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 22-12-2016 23:04:41
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Azuryngel ที่ 31-12-2016 06:13:07
I read this before on Dek-D but came back to comment here.   :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:ลอย ลอยกระทง UP!< [P.36] [07/11/59]
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 31-12-2016 09:58:58
สนุกมากๆเลยคับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 02-01-2017 00:29:52
Just you and I : สวัสดีปีใหม่



        หากจะกล่าวถึงวันปีใหม่แล้ว ทุกคนคงจะนึกถึงความสนุกสนาน แต่สำหรับผม กลอยประเกรียนคนนี้ ไม่มีคำนั้นอยู่ในสมอง ก็เพราะมันปวดหัวจนคิดไม่ได้ นี่สายแข็งอย่างผมต้องมานอนให้พิษไข้เล่นงานข้ามปี คิดดูสิว่ามันทรมานแค่ไหน ไอ้กลอยเศร้าใจ

   หลังจากวันคริสต์มาส ผมก็ใช้ร่างกายหนักไปหน่อย ไม่ได้ใช้กับพี่โชหรอกนะครับ เพราะขานั้นหนักเบาสลับกัน ปั๊ดโธ่ ผมหมายถึงเดินสายไปกินเลี้ยงบ้านคนนั้นที คนนี้ที ก่อนจะป่วยจนร่างกายเปื่อย ผมไปฉลองข้ามคืนบ้านไอ้สักมา พ่อมันจ้างสาวรำวงมาเต้น โอ้โห อย่าให้เซด แม่คุณเกือบควักลูกแตงโมออกมาฟาดหน้าลูกชายเจ้าของงานที่ยื่นแบงค์สีเทาให้

   ยิ่งดึกดนตรียิ่งมันส์ ไอ้ผมก็กินเหล้าไม่ยั้ง คนหนึ่งเท คนหนึ่งชน ไม่รู้ตัวว่าออกไปเซิ้งหน้าเวทีกับพวกลุงๆ ป้าๆ ตอนไหน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนถูกพี่โชลากกลับบ้าน คือคุณปีศาจเขามาส่งแล้วก็กลับคอนโดแล้วก็มารับกลับ ชวนกินด้วยกันก็ไม่เอาบอกจะกลับ พอมาตอนนี้ทำบ่นน่าจะอยู่ด้วย คือมันไม่ทันแล้วไง คนแก่ชอบคิดช้าแบบนี้แหละ

   ก็นั่นแหละ ความเมาบวกกับน้ำค้างแรง เช้ามาลุกไม่ขึ้น คิดว่าถอนก็คงหาย แต่เปล่าเลย หนักกว่าเดิมแถมโดนซ้ำเติมจากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร แต่ผมก็ไม่ว่าอะไร ฟังเสียงบ่นก็เพลินดี ถึงแม้ปีศาจจะบ่นแต่ก็ดูแลดี ป้อนข้าวป้อนน้ำทุกอย่าง

   “พี่โช” เสียงแหบมาก ขนาดจิบน้ำอุ่นตลอดแล้วนะ

   “ครับ อยากได้อะไร” ปีศาจของผมพูดเพราะป่ะล่ะ

   “อยากกินกุ้งเผา” บอกไปปุ๊บ หน้าพี่โชบึ้งทันที นี่ต้องยกมืออุดหูกันไว้ก่อน

   “รอหายก่อนแล้วเดี๋ยวพี่พาไปกินที่ทะเล” ทำตาโตมอง มาแปลกเว้ยเฮ้ย “ไม่นอนเหรอ จะเที่ยงคืนแล้ว”

   “ก็เพราะมันจะเที่ยงคืนแล้วไง ถึงยังไม่นอน” นอนมาทั้งวันเบื่อมากในจุดๆ นี้ “พี่โช” ขออ้อนหน่อย คนป่วยแล้วอ้อนมันน่ารักนะเออ ผมทำบ่อย

   “ว่าไง หื้ม” พี่โชลูบแก้มผมเบาๆ นัยน์ตาระยิบจ้องมองซะผมเขิน

   “ปีใหม่ไม่ได้ไปเที่ยว เบื่อหรือเปล่า” พี่จอมให้พี่ซันมารับถึงห้อง แต่พี่โชห่วงผมเลยไม่ไป พอพี่ซันกลับไปคนเดียวก็ถูกเล่นงานจนต้องโทรมาเรียกอีก แต่พอถูกปฏิเสธ จากนั้นพี่จอมก็ร่ายยาวเลยครับ แถมเผื่อแผ่มาถึงผมด้วย แทบอยากกราบให้หยุด แต่ก็นะ พี่จอมอุตส่าห์เปิดห้องจัดงานแถมเพื่อนครบด้วย ขาดพี่โชไปคงแปลกๆ

   “จะเบื่อได้ไง ไม่เบื่อหรอก ไว้กลอยหายเราค่อยไปเที่ยวก็ได้” พูดดีจนต้องให้รางวัลด้วยกับหอมแก้ม แต่ดูคนพูดดีจะไม่พอใจ พี่โชจับคางผมให้เชิดหน้าแล้วโน้มลงมาจะจูบ

   “แค่กๆ”

   จบเห่ ผมไอออกมาขัดความหวานเฉย พี่โชระเบิดเสียงหัวเราะลั่น ก่อนจะยกแก้วน้ำอุ่นบนโต๊ะหัวเตียงมาให้จิบ

   “พูดมากเห็นมั้ย นอนเถอะ” ตวัดสายตาขุ่นมอง ก็คนจะอยู่รอเคาท์ดาวน์ คนแก่ไม่เข้าใจเลยว่ะ

   “ไม่เอา จะอยู่ข้ามปีกับพี่โชก่อน คนอยากสวีทอะ เข้าใจป่ะ แค่กๆ” นั่น พูดยาวมากก็ไม่ได้ คอแห้งไปหมด

   “เออๆ เข้าใจ” เกลียดนักรอยยิ้มหวานเนี่ย ผมทำหน้าบูดต่างจากคนที่ผมกำลังพิงอกที่ยิ้มแป้น “อยากกินอะไรอีก กุ้งเผาแล้วอะไร”

   “อยากกินปลาเผาด้วย เอาตัวโตๆ เท่าปลาวาฬเลย” นึกแล้วก็หิว

   “ขนาดนั้นเชียว”

   “อืม เอาชุบแป้งทอดด้วยนะ จะได้ตัวพองๆ”

   “ก่อนจะกินปลาวาฬชุบแป้งทอด กินปลาทับทิบนึ่งก่อนดีมั้ย พรุ่งนี้แม่พี่จะนึ่งปลา ไปกินด้วยกันนะ” ก็ว่า เมื่อกี้เห็นพิมพ์ข้อความรัวๆ กับพี่ชีส

   “ไป เอากุ้งเผาด้วย”

   “พี่บอกไปแล้ว มีปลาหมึกด้วย”

   “รู้ใจจริง”

   “แน่นอน”

   ผมนอนมองนาฬิกาบนผนัง รอว่าเข็มยาวจะเดินไปบรรจบกับเข็มสั้นเมื่อไหร่ หากเป็นปีก่อนๆ ผมคงจะไปนั่งเมาที่ไหนสักที่ ไม่ก็เข้าวัดสวดมนต์กับแม่ที่วัด แต่ปีนี้นอนอยู่แต่ในห้อง รอบตัวไม่มีเครื่องดื่มมึนเมาหรือเพลงดังกระหึ่ม จะมีก็แต่คนที่รักผมที่กอดผมอยู่ในขณะนี้ คนที่รักผมและดูแลทุกย่างก้าว หากในตอนนั้นผมปฏิเสธพี่โชไป ไม่รู้ตอนนี้ไอ้กลอยคนนี้จะเป็นยังไง จะใช้ชีวิตไปในทางไหน จะหัวหกก้นขวิดกับใคร

   เสียงจุดพลุเรียกสติให้ผมมองนาฬิกาอีกรอบ คราวนี้เข็มสองเข็มบรรจบกันพอดี ผมเงยหน้ามองเจ้าของอกอุ่น พี่โชก้มมองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว

   “สวัสดีปีใหม่ครับ พี่ขอให้กลอยมีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรง และอยู่ให้พี่รักไปนานๆ” เสียงทุ้มนุ่มลึกบอกออกมาก่อนพร้อมยื่นหน้ามาจูบหน้าผากผม

   “แช่งหรือเปล่าเนี่ย” หน้างอนิดๆ แต่พี่โชยิ้มกว้าง “สวัสดีปีใหม่นะพี่โช กลอยก็ขอให้พี่โชมีสุขภาพแข็งแรง อยู่ให้ไอ้กลอยรักไปนานๆ” ยิ้มโชว์ฟันสามสิบสองซี่ “แล้วก็ ปีใหม่บ่นน้อยๆ ลงหน่อยก็ดี”

   “กลอยก็อย่าทำให้พี่เป็นห่วงด้วยการทำอะไรที่ไม่รักตัวเองสิ อย่างกินเหล้าไม่ดูตัวเอง ถ้าเป็นที่ห้องนี้พี่จะไม่ว่าเลย แต่นี่ไปเมาบ้านคนอื่น” ขอปุ๊บโดนบ่นปั๊บ ผมรีบยกมือขึ้นปิดปากคนบ่น

   “รู้แล้วๆ นี่ก็ถูกลงโทษอยู่นี่ไง” หน้างอรับคำบ่น “ปีใหม่นะ ห้ามบ่นรู้ป่ะ” โดนเขกหัวส่งท้ายอีก

   “เลยเที่ยงคืนแล้วนอนได้หรือยัง” รีบพยักหน้ารัวๆ ที่จริงยามันออกฤทธิ์มานานแล้วแต่พยายามไม่หลับตา ไม่งั้นไอ้กลอยหลับแน่ พี่โชหัวเราะแล้วขยับตัวลงนอนโดยให้ผมซุกอกอุ่น “ฝันดีครับ”





   เสียงดังด้านนอกปลุกให้ผมปรือตาขึ้น นี่เช้าแล้วเหรอ อ่อ ท้องฟ้ามีแสงแดดแปลว่าเช้าแล้วนี่เอง นี่ผมมึนยาแก้ไข้ใช่มั้ยเนี่ย ลุกขึ้นนั่งแช่อยู่บนเตียงแป๊บหนึ่งก่อนจะลุกเข้าห้องน้ำ ตอนนั่งขี้อยู่ได้ยินเสียงประตูห้องนอนเปิด คงจะเป็นพี่โชที่เข้ามาดูผม แต่ทำไมเงียบหว่า

   “ไม่อยู่” เสียงแว่วๆ ที่ผมพอจะได้ยิน ไม่ใช่เสียงพี่โชด้วยว่ะ เสียงคุ้นๆ “ไอ้เกรียนขี้อยู่เหรอวะ” นั่นไงว่าแล้ว พี่จอมเจ้าเดิมที่ชอบบุกรุก

   “ผมขี้อยู่” ตะโกนออกไป

   “ก็ว่าทำไมเหม็น” พี่จอมแม่งโคตรเว่อร์ ห้องน้ำมีระบบระบายอากาศจะเหม็นได้ไง

   ข้างนอกดูเงียบสงสัยจะออกไปแล้ว ผมเปิดประตูห้องน้ำออกแล้วต้องผงะ เมื่อพี่จอมแม่งยืนอยู่ตรงหน้า แถมดึงไอ้ที่เป็นกระบอกสามเหลียมแล้วมีกระดาษพุ่งออกมา เอาซะไอ้กลอยแทบเป็นลมด้วยความตกใจ นี่ถ้ายังไม่ได้เข้าห้องน้ำละก็ ฉี่แตกแน่

   “พี่เล่นอะไรวะเนี่ย” ลูบหน้าลูบอกตัวเอง แต่คนทำเอาแต่หัวเราะงอหงาย

   “ปีใหม่ไง คึกคักๆ สิวะ” พี่จอมไม่มีสลดสักนิดที่ทำให้ผมตกใจ พี่แกวาดแขนมากอดคอผมออกไปข้างนอกห้องนอนที่มีพี่ซันแกะของทะเลเผาบนโต๊ะ กลิ่นหอมซะท้องร้อง “แท่แด เป็นไง ของขวัญของพวกกู”

   “พี่เอาของเมื่อวานมาหรือเปล่า” บอกอย่างรู้ทัน ดูก็รู้ว่าเป็นของเมื่อวาน อย่างปลาเผาแม้จะมาเป็นตัว แต่มีเศษตัวอื่นปะปนอยู่

   “แต่พวกนี้ก็ยังไม่ได้แดกนะเว้ย นี่เห็นแก่มึงป่วยเลยเอามาฝาก”

   “ขอบคุณครับ”

   อย่างน้อยก็มีน้ำใจละวะ ผมนั่งลงข้างพี่ซัน ส่วนพี่โชเดินไปเดินมาหาจานกับช้อนส้อม เห็นเหล่ผมนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร พอมาถึงก็ไล่ให้พี่ซันลุกแล้วตัวเองนั่งแทนที่ พี่ซันมีบ่นนิดๆ แต่ก็เดินไปนั่งข้างพี่จอมแทน ตำแหน่งบนโต๊ะก็พี่โช ผม พี่จอม แล้วก็พี่ซัน

   “เอากุ้งมั้ย พี่แกะให้” รีบพยักหน้าตอบพี่โช อยากกินตั้งแต่เมื่อวานแล้ว “แปรงฟันหรือยัง”

   “พวกมึงจะสวีทให้กูอิจฉาเหรอวะ คู่กูก็มี ไอ้ซัน แกะกุ้งให้กูหน่อย” พี่จอมขี้อิจฉาสั่งแฟนตัวเอง พี่ซันหัวเราะแต่ก็ยอมแกะให้

   จากนั้นไม่ว่าพี่โชจะทำอะไรให้ผม พี่จอมก็จะให้พี่ซันเลียนแบบเสมอ โคตรตลก แต่ก็มีความสุขดี เป็นปีใหม่ที่มีสีสันแบบแปลกๆ

   “แม้จะของเมื่อวานแต่ก็ยังสด ขอบใจพวกมึงมาก” พี่โชเอ่ยบอกเพื่อนตัวเองที่กำลังจะออกจากห้อง

   “เออ ไว้กูจะมาหาใหม่” พี่จอมบอก

   “หายไวๆ นะกลอย” นี่พี่ซันครับ ยื่นหน้าเข้ามาในห้องเพื่อบอกผม ผมก็รีบยิ้มกว้างตอบ

   “ไปๆ กลับห้องพวกมึงได้ละ” เมื่อคู่ฮาร์ดคอกลับไป พี่โชก็เดินเข้ามาในห้อง มือก็แย่งจานที่ผมกำลังถือ “ไปกินยา เดี๋ยวพี่เก็บเอง เดี๋ยวเราต้องกลับบ้านอีก”

   ไม่อยากพูด เลยเดินเข้าห้องไปแบบเงียบๆ กินยาตามที่ซองยาบอก พอดีกับพี่โชเข้ามาขอตรวจดู ไม่ใช่เพราะเป็นคนละเอียดรอบคอบหรอกนะครับ แต่เพราะผมเคยโกงการกินยาแล้วถูกจับได้ จากนั้นมาจะถูกตรวจตลอด ไอ้กลอยเซ็ง

   “กินเยอะขนาดนี้จะไปกินที่บ้านพี่ได้อีกเหรอ”

   “กินได้ แค่กๆ” เจ็บคออีกแล้ว เมื่อกี้กินน้ำเย็นไปนิดเดียวเอง พี่โชเห็นผมไอจนตัวโยนก็รีบจับหน้าผากเพื่อวัดไว้ “ไม่มีไข้หรอกน่า”

   “ใครจะไปรู้ ใส่เสื้อหนาๆ ด้วยนะ”

   “ครับพ่อครับ”

   โดนเขกหัวไปที ด้วยความปากดีของผมเอง ก็แหม ถึงร่างกายจะป่วย แต่ปากไม่ป่วยนะครับ


   วันนี้ถนนโล่งผิดหูผิดตาอย่างกับไม่ใช่เมืองกรุงแสนศิวิไล ทำให้ใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านหลังใหญ่ของพี่โช แม่ผมก็มานะครับ พ่อพี่โชให้คนรถไปรับถึงร้าน ผมกะว่าไปบ้านพี่โชแล้วจะกลับบ้านสักหน่อย แต่แม่มาอยู่ด้วยก็ครบเลย

   “พี่โช” เรียกคนขับที่กำลังดับเครื่องยนต์ “นี่ไม่จัดเต็มไปหน่อยเหรอ” อยากให้พวกคุณได้มาเห็นเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวผม ทั้งเสื้อกันหนาวสองตัว ผ้าพันคอ หมวกไหมพรม กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบ มันเข้ากันเหรอวะ

   “ป้องกันไว้ จะได้ไม่เป็นไข้” ก็อยากชมว่ามองการณ์ไกล แต่มันไกลเกินไปหรือเปล่าวะ

   เดินเข้ามาในบ้าน สิ่งแรกที่เจอเลยคือทุกคนหันมามองผมเป็นแถวๆ พี่กิ่งหัวเราะออกมาก่อนคนแรกแล้วคนต่อไปก็จัดเต็ม ขนาดพ่อพี่โชยังขำอะ บอกแล้วว่ามันจัดเต็มเกินไป

   “นี่คิดว่าอยู่ขั้วโลกเหรอ” โดนพี่ชีสแซวไปหนึ่งดอก หน้างอสิผม “โอ๋ๆ หน้างอซะแล้ว” ถูกพี่ชีสดึงไปกอดแค่แป๊บเดียวก็ถูกดึงออก “กอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้นะแก”

   “ไปกอดของพี่นู้น” พี่โชดึงผมให้เดินตามเข้าไปหาพ่อแม่แล้วก็แม่ผม พอไปถึงพวกเราก็ยกมือไหว้ทักทายแล้วอวยพรปีใหม่พร้อมรับพรกลับ

   “ไม่สบายยังไม่หายเหรอ” ผมเข้าไปกอดเอวแม่แล้วเอาหน้าถูอกอ้อน อยู่กับแม่แล้วน้ำตาพาลจะไหลเฉย “เอ้า ขี้แย”

   “ไม่ได้ขี้แย” ปากบอกเปล่าแต่น้ำตาไหลพรากจนแม่หัวเราะ “มันไหลเอง”

   “แบบนี้แหละค่ะ เวลาป่วยก็ชอบขี้แย” แม่ผมบอกกับทุกคนที่ดูตกใจที่ผมร้องไห้เป็นเผาเต่า จะมีพี่โชแล้วก็พี่กิ่งที่ดูเฉยๆ เพราะรู้อยู่แล้ว คืนที่ผมป่วยแรกๆ ก็ร้อง พี่โชกล่อมจนไม่ได้นอน

   ผมถูกพี่โชพาไปรวมกับพวกพี่ชีสแทน ไม่อย่างนั้นผมอาจร้องไห้ไม่หยุด พอมารวมกลุ่มนี้ก็ถูกล้อทันที เลยต้องซุกหน้าเข้ากับหลังพี่โชไม่ยอมโผล่หน้า เพราะป่วยหรอกนะหมาในปากถึงไม่ทำงาน

   มื้อเที่ยงนี้มีทั้งปลานึ่ง ปลาเผาและอาหารมากมายเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ผมก็ตระเวนกินมันทุกจาน ยัดทุกอย่างที่อยากกิน ตอนนี้เลยมีสภาพคล้ายปลาพะยูนป่วยนั่งพิงโซฟา ที่สำคัญ อาการไอมันกำเริบจนต้องถอยห่างจากคนอื่นๆ กลัวเอาไปติด จะมีแค่พี่โชที่มานั่งใกล้

   “ไปนั่งที่อื่นไป” พยายามกลั้นไอแล้วบอก พี่โชทำหน้าดุแล้วเอาหมวกกับผ้าพันคอที่ผมถอดออกมาใส่ให้อีกรอบ “ปวดหัว”
 
   “กลับห้องมั้ย เอายามาหรือเปล่า” ผมพยักหน้าแทนคำตอบเพราะปากไออยู่ตลอด “งั้นกินยาแล้วกลับห้อง พี่ไปบอกพ่อกับแม่ก่อน”

   ผมมองตามหลังพี่โชออกไปด้านนอก ทุกคนดูจะเข้าใจบอกให้พาผมกลับ งานปีใหม่มันสนุกนะครับ แต่สังขารไม่เอื้อสักนิด พอพี่โชเดินกลับมาหา ผมก็ยื่นมือรอให้พี่โชดึงแต่พี่แกกลับดึงผมให้ขึ้นหลังแล้วแบกผมไปที่รถ ผมซบหน้ากับไหล่อุ่น หัวเต้นตุ๊บๆ เหมือนจะระเบิดชอบกล

   ตอนอยู่ในรถพี่โชพยายามยื่นมือมาจับหน้าผากผมหลายรอบ สุดท้ายก็เลี้ยวเข้าโรงพยาบาลเฉย ไอ้กลอยเกลียดกลิ่นโรงพยาบาลก็โวยวายสิ แม้ไม่มีเสียงพูดแต่ก็โวยวายได้

   “ไม่เอา ไม่ไป” กอดเบาะรถไว้แน่นตอนพี่โชเดินอ้อมมาเปิดประตู คนที่อยู่ด้านนอกมองกันเป็นแถว คงแปลกใจทำไมไอ้เด็กโข่งถึงโวยวายยิ่งกว่าเด็กเล็ก

   “กลอย มาให้หมอตรวจหน่อย เกิดเป็นหนักตอนดึกจะแย่ เร็ว อย่าให้พี่ต้องออกแรงนะ” มีข่มขู่คนป่วย ใจร้ายว่ะ “กลอย” ตอนนี้ทั้งพี่โชแล้วก็บุรุษพยาบาลช่วยงัดแงะผมออกจากเบาะ

   หัวเดียวหรือจะสู้สองแรง ผมนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงฉุกเฉินรอหมอมาตรวจ มีพี่โชยืนกดดันไม่ให้ลุกจากเตียง แม้มีพยาบาลสวยเดินผ่าน ปีศาจยังไม่เงยหน้ามองเลยคิดดู ด้วยความดูดีมีออร่าทำให้เตียงผมถูกคนมองมากที่สุด รออยู่นานกว่าหมอจะมาตรวจ ซึ่งถูกพี่โชเขม่นเรียบร้อย ข้อหาคือช้ามาก

   หมอตรวจนั่น วัดนี่ แล้วผลที่ออกมาคือให้ผมแอดมิทเพื่อรอดูอาการเพราะหมอกลัวจะเป็นไข้เลือดออก คอนโดพี่โชมียุงที่ไหนเล่า ปั๊ดโธ่

   ผมถูกป้าพยาบาลพาไปเปลี่ยนชุดหลังจากพี่โชจองห้องพิเศษไว้ ปีใหม่เป็นไข้ยังไม่พอ ต้องมานอนโรงพยาบาลอีก ผมว่า ผมต้องชงแน่ๆ

   “ปีชงแน่เลย” ผมว่า พี่โชตรวจนั่นนี่ในห้องเสร็จก็เดินมาหาที่เตียง

   “ชงเหล้าน่ะสิ เป็นไงล่ะ ผลของการไม่ทำตามที่พี่ว่า” คำสั่งห้าแก้วในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีไม่เป็นผล “ปีใหม่ก็ไม่ได้เที่ยว ต้องมานอนอยู่ที่นี่”


   “ซ้ำเติมว่ะ ไม่น่ารักเลย” ค้อนไปทีแล้วดึงผ้าห่มปิดหน้า ก่อนยาที่หมอให้กินจะออกฤทธิ์ ผมเผลอเคลิ้มไปแล้วไร้การรับรู้ทุกอย่าง





..............................................





(โช)


   “เป็นหนักเหรอวะ” ไอ้ซันยื่นมือแตะหน้าผากคนของผม แต่ถูกผมปัดมือออก “ไอ้เชี่ยนี่ กูเป็นห่วง”

   “เป็นห่วงแต่ห้ามจับ” ผมบอก ไอ้ซันทำหน้าเหม็นเบื่อก่อนกลับไปนั่งข้างไอ้แทมที่มากินอย่างเดียว แล้วของที่มันกินก็ของที่พวกมันถือมาเยี่ยมไข้เด็กเกรียนของผม

   “แล้วนี่มันไปทำอะไรมาวะ ถึงเป็นไข้เลือดออก กูว่า แจ้งเขตเอายาไปพ่นบนห้องเลยสิ” ไอ้ตินออกความคิดเห็น มันก็คิดดีนะ แต่คิดตื้นไปหน่อย เอายาขึ้นไปพ่นห้องผมๆ ก็ตายสิวะ

   “น่าจะวันไปกินเหล้าบ้านเพื่อนมัน” ผมไม่น่าอนุญาตให้ไปเลย แต่เห็นเป็นปีใหม่เลยยอมปล่อย

   “แล้วหมอบอกแล้วเหรอว่าเป็นไข้เลือดออก” ไอ้แทมเงยหน้าจากส้มมาถาม

   “ยัง รอดูอาการก่อน แล้วผลตรวจเลือดยังไม่ออก” ที่จริงจะไม่นอนก็ได้ แต่ผมไม่อยากกังวลตอนดึกหากกลอยไข้ขึ้น

   “ปีใหม่ทั้งที่ อดเที่ยวเลยไอ้เกรียน” ไอ้จอมส่ายหน้าช้าๆ ปากมันร้ายก็จริง แต่มันก็เอ็นดูคนของผมมากพอดู อย่างเมื่อเช้าที่มันแบกกุ้งแบกปลามาให้ เพราะมันรู้ว่ากลอยชอบกิน แต่ป่วยเลยไปไม่ได้ มันก็เลยหอบมาให้แทน

   “แม่ง ปีที่แล้วอย่างมันส์ ปีนี้อย่างเหงา ไม่มีเสียงบ่นไอ้กลอย” ไอ้แทมปีที่แล้วมันถูกบ่นเรื่องกินแล้วทิ้งไม่เป็นที่ “รอมันหายค่อยนัดเลี้ยงปีใหม่ย้อนหลัง พวกมึงว่าไง”

   “ก็ดีนะ ห้องไอ้โชเลย ห้องกูแม่งเป็นภาระกู”
 
   “น้อยๆ หน่อย กูเป็นคนเก็บกวาด”

   ผมมองไอ้จอมกับไอ้ซันเถียงกัน ก่อนละความสนใจมามองกลอยที่เริ่มขยับตัว มันคงได้ยินเสียงคนคุยกันเลยค่อยๆ ปรือตาขึ้นมา

   “ปวดหัวมั้ย” พอผมถามปุ๊บ ไอ้พวกเพื่อนๆ ของผมมันก็พุ่งมายืนรอบเตียง กลอยดูตกใจนิดๆ คงนึกว่าถูกโจรบุก พอมันมองหน้าทุกคนครบก็ไอทันที

   “อ่าว เห็นหน้าพวกกูแล้วไอ” ไอ้จอมว่าออกมา

   “พวกพี่มาเยี่ยมผมเหรอ” กลอยถามไป ไอไป โคตรน่าสงสาร

   “เออ เห็นมาเยี่ยมหมาเหรอ” ผมเหล่ตามองไอ้ติน ดูเด็กของผมมันจะไม่ถือสาเพราะขำออกมา “รีบๆ หายเลยมึง พวกกูนัดกันแล้วว่าถ้ามึงหายค่อยเลี้ยงถอยหลัง”

   “ย้อนหลังหรือเปล่าวะ” ไอ้แทมรีบแก้ให้คู่หูมัน

   “พวกมึงกลับไปได้แล้วไป กลอยจะนอน” ผมออกปากไล่ พวกมันจิ๊จ๊ะแต่ก็ยอมถอย พอพวกมันไปแล้ว ผมก็รีบเข้าไปหา เด็กของผมทำตาปริบๆ มอง “มีอะไร หรือปวดหัว ให้พี่เรียกพยาบาลมั้ย”
 
   “ไม่ปวดหัว” กลอยว่า “แต่ปวดฉิ้งฉ่อง”

   “เดี๋ยวพี่พาไป” อยากจะหัวเราะ แต่ก็สงสาร กลอยเวลาป่วยมักจะทำตัวเป็นเด็กน้อย ผมพยุงกลอยเข้าห้องน้ำ ยืนรอจนทำธุระเสร็จ “ให้พี่ล้างให้มั้ย”

   “ฉี่ไม่ได้ขี้” มีแรงเถียงกลับด้วยนะ

   ผมพยุงคนป่วยกลับมาที่เตียง พอดีหมอคนที่ตรวจเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม มาถึงก็วัดความดัน วัดไข้ตามปกติ

   “รู้สึกยังไงบ้างครับคนป่วย ปวดหัวมั้ย หรืออยากอาเจียนหรือเปล่า” หมอถามกลอย แต่ทำไมผมตากระตุกวะ

   “ไม่เลย” เด็กของผมก็ตอบเสียงอ่อย ทำตาใสแป๋วให้ดูจนหมอกับพยาบาลหัวเราะออกมา

   “สงสัยจะอยากกลับนะคะ” พยาบาลชุดขาวว่า

   “เป็นไงบ้างครับ” ผมต้องรีบขัด รู้สึกมากกว่าตาแล้วที่กระตุก อวัยวะเบื้องล่างชักอยากทำงานเต็มทีเมื่อหมอจ้องหน้าเด็กของผมมากเกินไป

   “ผลตรวจเลือดออกมาแล้วนะครับ ไม่เป็นไข้เลือดออก” หมอบอกเสียงนุ่มแล้วหันไปจับมือกลอย คิ้วกระตุกอีกแล้ว “เป็นไข้ หากทานยาแล้วก็พักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณอาทิตย์หนึ่งก็คงหายครับ อ่อ จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ จะทำให้หายเจ็บคอ”

   “พาออกจากโรงพยาบาลได้เลยใช่มั้ยครับ” อยู่ที่นี่นานผมอาจได้ต่อยหมอ มองไม่พอ มาจับมือกลอยอีก

   “พรุ่งนี้ก็ได้ครับ ให้น้องนอนที่นี่สักคืน”
 
   “ไม่เป็นไรครับ ผมดูแลไหว ใช่มั้ย” ผมถามกลอยซึ่งขานั้นรีบพยักหน้าเห็นด้วย โชคดีที่กลอยเกลียดโรงพยาบาล ดังนั้นหากเลือกกลับบ้านได้นั่นเป็นสิ่งที่ปรารถนา

   “อ่อ งั้นเดี๋ยวผมจะเขียนใบสั่งยาให้นะครับ คุณพยาบาลฝากด้วยนะครับ” พูดจบก็เดินออกไปทันที พยาบาลรีบยิ้มแห้งๆ แล้วเดินตามออกไป คงสงสัยหมอว่าทำไมต้องทำหน้าบึ้ง

   “หึงอะเด้” เสียงหยอกล้อดังจากบนเตียง กลอยทำหน้าทะเล้นอย่างเคย ใบหน้าแดงกล่ำเมื่อตอนบ่ายหายไปแล้ว คงเพราะไข้ลดลง

   “เออสิ เมียทั้งคน” บอกตามตรง เลยได้นิ้วโป้งสองข้างจากคนป่วย คนเราหึงก็บอกออกไปตรงๆ ไม่มีความจำเป็นต้องปิด “เดี๋ยวพี่ไปจัดการเรื่องค่ารักษาก่อน อย่าลุกออกไปไหนนะ เข้าใจนะ” สั่งก่อนจะเดินออกจากห้อง รู้สึกโล่งอกที่กลอยไม่เป็นอะไรมากนอกจากไข้หวัด



.........................................................



(กลอย)


   “ไปกลับ” ผมกลับมาใช้ชุดของตัวเองหลังจากพี่โชไปจ่ายเงิน ที่จริงหัวก็ปวดอยู่แต่ไม่มากเท่าไหร่ คงเพราะโดนฉีดยาไป เป็นการป่วยที่ไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจเลยหนักกว่าทุกที แหม มาเยี่ยมไม่บอกไม่กล่าว มาทีเซอร์ไพรส์เลย

   “พี่โช จะหมดวันที่หนึ่งแล้วอะ” ผมบอกขณะกลับคอนโด พี่โชเหล่ตามามองนิดๆ “ปีที่ผ่านมาพวกเรามีแต่ความสุขเนอะ ปีนี้ก็ขอให้เป็นแบบนั้น”

   “มันต้องดีกว่าแน่นอน” พี่โชดูมั่นใจมากจนผมหัวเราะ “พ่อชวนไปทำบุญที่เชียงใหม่ กลอยอยากไปหรือเปล่า”

   “ไปๆ พาแม่กับพี่กิ่งไปด้วยได้หรือเปล่า” ผมเคยคิดจะพาแม่ไปเที่ยวมานานแล้ว

   “ได้สิ แต่ถ้ากลอยหายไม่ทันพี่ก็ไม่ให้ไป” ฉิบหาย แล้วต้องทำไงถึงจะหายไววะ

   “จัดไป ยาชุดนี้กินรวดเดียวเลย หายแน่นอน”

   “หายไปจากโลกน่ะสิ เดี๋ยวเถอะ”

   บนรถ ผมแหย่พี่โชบ้างตามที่สังขารจะไหว ได้ผ้าปิดปากมาด้วย เลยไม่กลัวที่จะเข้าใกล้พี่โชเท่าไหร่ แต่ก็ประมาทไม่ได้ ขืนผมแพร่เชื้อไปจะยุ่ง

   “ช่วงนี้ผมจะนอนพื้นนะ เดี๋ยวพี่โชติดหวัด” พูดจบก็โดนสายตาดุตวัดมามอง

   “นอนด้วยกันนั่นแหละ พี่ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”

   “เดี๋ยวพี่เป็นขึ้นมานะ”

   “ก็ปล่อยมัน”

   “ขอบคุณนะ ที่ดูแลผม” บอกอย่างซาบซึ้งใจ ตั้งแต่วันเมาเหมือนหมา พี่โชทั้งเช็ดอ้วก เช็ดตัว แถมยังต้องมาดูแลผมที่เกิดป่วยอีก

   “ขอบคุณทำไม พี่เต็มใจดูแล แต่เมาแบบวันนั้นพี่ไม่อนุญาต” ทำไมต้องวกมาเรื่องนี้วะ แล้วผมก็ถูกบ่นจนถึงคอนโด หูชาบอกเลย

   พี่โชแบกผมขึ้นหลังแล้วพากลับห้อง ผมกอดคอพี่โชแล้วยื่นหน้าหอมแก้มระหว่างอยู่ในลิฟต์สองคน

   “โคตรรักพี่เลยว่ะ”

   “รักพี่ก็ต้องรีบหาย โอเค๊?”

   “รับทราบ...”

   “กลอย กลอยครับ หลับไปซะแล้ว”

   “สวัสดีปีใหม่ รักพี่นะ”

   “หลับแล้วยังพูดได้อีกนะคนเรา”

   ผมไม่รู้ว่าเผลอหลับไปเมื่อไหร่ แต่ผมรู้ว่า ปีใหม่นี้ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ผมมีครอบครัว ผมมีเพื่อน และมีคนรักที่อยู่เคียงข้างผมเสมอ ไอ้กลอยโคตรโชคดีเลยให้ตาย อิจฉาผมป่ะล่า แต่ผมโคตรอิจฉาทุกคนเลย ไอ้กลอยป่วยอดเที่ยว เซ็ง



   สุดท้ายนี้ สุดหล่อของบอกว่า


   ...สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนเฮงๆ รวยๆ


   อ้อ รวยแล้วอย่าลืมมาเลี้ยงผมด้วยนะ ผมกินจุพอประมาณ ที่สำคัญ หล่อมาก ขีดเส้นใต้ใช้ตัวหนา หล่อมาก หลังจากปีใหม่ไอ้กลอยจะโลดแล่นอีกครั้ง แต่ตอนนี้สังขารกระผมไม่ไหว ขอตัวเข้านอนก่อน ราตรีสวัสดิ์ แค่กๆ (ไอ...เลิฟยูรู้ยัง)   


...............................................................


พาเกรียนมาสวัสดีปีใหม่ค่า ป่วยและเปื่อยแบบเบาๆ

 :pig4: :pig4:         
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-01-2017 02:24:17
อิจฉาคนป่วยมีบุรุษพยาบาลดูแลดี
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-01-2017 05:45:58
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากกกกกกกๆ
。◕‿◕。
:L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
พี่โช น่ารัก ดูแลกลอยดีมาก
ขำพี่จอม ที่ให้พี่ซันเลียนแบบ พี่โช กลอย เสมอ
ความหวงพี่โช ไม่ลดลงเลย
แม้แต่พี่สาวกลอย พี่โชยังหวง กร๊ากกกก
พี่โช หึงหมอ ที่จ้องหน้ากลอย ไม่พอ
แล้วจับมือกลอยด้วย พี่โชเท้ากระตุกเลย
หมอน่าจะชอบกลอยนะทำหน้าบึ้งเลย
ดีใจ ไรท์ พากลอยประเกรียน พี่โช มาให้คนอ่านหายคิดถึง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 02-01-2017 06:41:48
อิจฉาหนูกลอยพี่โชดูแลดีจัด :mew1:

สว้สดีปีใหม่ ขอให้นักเขียนมีความสุขมากๆๆ :กอด1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 02-01-2017 07:06:56
ชอบมากเลยค่ะ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-01-2017 07:17:17
อยากได้แบบพี่โชสักคน รักและดูแลกลอยดีมาก :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 02-01-2017 09:15:05
กลอยปะเกรียนอดออกลายซ่าเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 02-01-2017 11:06:59
โถววว เกรียนน่าสงสาร ป่วยรับปีใหม่อดซ่าส์ไปเลยสิ ไม่เป็นไรนะอย่างน้อยก็มีพี่โชอยู่ด้วย ไหนจะเลี้ยงย้อนหลังอีกเก็บแรงไว้ตอนนั้นก็ได้นะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 02-01-2017 17:54:13
กลอยเกรียนน่าสงสาร ป่วยข้ามปี

Happy New Year
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-01-2017 19:13:33
ป่วยยังไม่เจียมอีกนะ กลอย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-01-2017 21:47:09
 :L2: :L1: :pig4:

รักกลอยและผองเพื่อน+พี่โช
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 02-01-2017 22:37:11
ป่วยก็ยังเกรียนเหมือนเดิม กลอยประเกรียน  :hao3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 03-01-2017 00:28:43
อิจฉาาา ใครดี กลอยก็นะป่วยมีคนดูแลอย่างดี พี่โชก็อะไรจะหวงปานนนนนั้น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 03-01-2017 06:02:38
กลอยเกรียนป่วยรับปีใหม่เลยนะ
พี่โชดูแล กลอยดีมากๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 03-01-2017 06:58:18
มีคนดูแลดี 55555
ถึงจะป่วยก็ยังเกรียนอยู่เนอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 03-01-2017 10:30:19
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 04-01-2017 11:49:22
สมน้ำหน้านางกลอยอดเกรียนปีใหม่เลย 5555 :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 11-01-2017 16:01:54
กลอยประเกรียนทำบุญด้วยอะไรเนี่ย ทำไมพี่โชถึงรักขนาดนี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:สวัสดีปีใหม่< [P.37] [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: hyukkiemai ที่ 11-01-2017 21:55:04
ตามอ่านนานมากกกก ใช้เวลาเกือบทั้งสัปดาห์แหนะะะ
ชอบมากกกก อ่านแล้วอบอุ่น ยิ้มตามตลอดดดด กลอยโคดร่าเริงงง
แก๊งโช ก็กรี้ดดด ทุกคนนนน เชียร์คู่ซันจอม สุดฤทธิ์  อยากอ่านคู่นี้อีกยาวๆ
แก๊งกลอย ก็ไม่ธรรมดา ตอนแรกอ่านทูแล้วตอนดราม่าแน่นอน ดันเปนสายฮาซะงั้นนน
นี้อยากอ่านคู่ เม่นม่าน สุดดดดดด อยากรู้ว่าเม่นมันทำไงบ้าง555
ว่าแต่คู่ฟลอยด์ต้อม มีภาคแยกใช่มั้ยยยย เด๋วไปตามหาอ่านให้ทันก่อนนน

รักคนเขียนมากกกก ที่ยังมาต่อพิเศษให้อ่านเรื่อยๆ
อ่านไปยิ้มไป สนุกจริงๆ เปนกำลังใจให้ไรเตอร์นะคะะะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 13-01-2017 21:06:10
Just you and I ตอนพิเศษ : วันเด็ก เอ้ก อี้ เอ้ก


       “อีกลอย” เสียงกังวารประดุจช้างสารร้องหาอาหาร ผมเงยหน้ามองเพื่อนตัวอ้วนที่พูดมาเกือบสามปีว่าจะลดน้ำหนัก ไม่รู้ตอนนี้น้ำหนักมันลงไปกี่ขีด “ทำบุญค่ะมึง เร็วๆ” ผมมองมืออูมๆ ที่กระดิกเร่งยิกๆ มันจะเอาไปซื้อของไปให้เด็กยากไร้ในวันเด็กครับ 

   “มึงแน่ใจนะ ว่าจะเอาเงินพวกกูไปทำบุญ ไม่ใช่เอาไปซื้อสารเร่งเนื้อขาวมาแดก” ไอ้สักวางแบงค์สีฟ้าบนโต๊ะถัดจากผมที่วางแบงค์ห้าร้อย

   “มึงคิดอกุศล เงินมึงเป็นเงินบาป” อีช้างมันชี้หน้าด่า แต่มือมันก็รวบเอาเงินเข้ากระเป๋า “แหม อีกลอย อีคนมีผัวรวย ทำบุญตั้งห้าร้อยบาท”

   “เปล่า กูให้ยี่สิบแต่กูไม่มีแบงค์ย่อย ทอนกูมาด้วย” โดนอีช้างดันหน้าผากจนหงาย แถมไอ้เพื่อนทั้งหลายต่างพากันหัวเราะเยาะ นี่ผมผิดเหรอ ก็ผมไม่มีแบงค์ย่อย แล้วทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีอยู่ห้าร้อย

   ผมได้เงินทอนมาสี่ร้อยบาทถ้วน มันบอกไม่มีแบงค์ย่อยเหมือนกัน เงินแปดสิบบาทค่าน้ำมันรถของผม เหลือสี่ร้อยจะอยู่ได้กี่วันวะ ชีวิตไอ้กลอยช่างลำบากนัก

   “ผัวมึงไม่ให้ตังค์ใช้เหรอวะ” ไอ้ต๋องยื่นหน้ามาถาม มันเห็นกระเป๋าเงินผมเหลือเงินใบสุดท้ายนั่นแหละ

   “เอ่อ” ผมว่าอย่างหัวเสีย พี่โชแม่งงกอะ

   “ทำไมวะ” ไอ้ทูถามบ้าง “หรือมึงไม่ทำการบ้าน” พูดจบก็พากันทำจมูกบาน

   “พวกมึงคิดแต่เรื่องเหี้ยๆ” ด่ากราดจนโดนตบหัว เรื่องถูกหักเงินมันเป็นอะไรที่โคตรเล็กน้อยเลย ผมจะใช้เงินที่แม่ให้ก็ได้ แต่ประเด็นคือบัตรผมทุกใบถูกริบหมด ฝีมือปีศาจหน้าเลือดอีกนั่นแหละ “กูแค่เอาเงินไปซื้อของ พี่โชแม่งยึดบัตรกูหมดไอ้ห่า” เริ่มระบายอารมณ์กับเพื่อน ไอ้เคทำตาโตยื่นหน้ามาสอดรู้เต็มที่

   “มึงซื้ออะไรวะ พี่เขาถึงทำแบบนั้น”

   “ซื้อตุ๊กตา”

   “ตุ๊กตา? แล้วทำไมถึงยึดวะ”

   “ก็กูเห็นในเน็ตแล้วกูอยากได้ ตุ๊กตาหมีนอนขี้เกียจ” ผมว่า “ตัวแค่สองหมื่นเอง”

   “ตั้งสองหมื่น ไอ้เหี้ยกลอย นั่นตุ๊กตาหรือทองวะ” ไอ้ต๋องแหกปากจนผมต้องปิดหู แม่งตะโกนข้างหูเลย

   “ตุ๊กตาอิมพอร์ตจากญี่ปุ่นเลยนะเว้ย”

   เรื่องของเรื่องคือผมนอนรอพี่โชสรุปงานส่ง มือก็กดดูรูปเพื่อนในเฟสบุ๊ค แล้วบังเอิญมันมีเพจขายตุ๊กตา ผมก็ลองเข้าไปดู เลื่อนดูนั่นดูนี่แล้วสะดุดตาต้องใจตุ๊กตาหมีนอนขี้เกียจสีน้ำตาล มันมีหลายขนาด ผมก็วิ่งไปให้พี่โชดูแล้ว อีกอย่างพี่โชก็อนุญาตให้ซื้อ ผมก็รีบติดต่อร้านนั้นโดยใช้เงินในบัญชีที่พี่โชเอาให้ผมรายวัน สั่งเสร็จก็นอนยิ้มเฝ้าฝันหา อยากจะกอดหมีให้อุ่นอกอิ่มอุรา

   ผ่านไปหลายวัน เข้าเป็นหลายอาทิตย์ ผมยังไม่เห็นพัสดุอะไรมาส่ง พี่โชเห็นผมบ่นเลยขอดูข้อความ ปรากฏว่า เจ้าของเพจมันปิดเพจหนี แถมหอบเงินผมไปด้วย เรื่องซวยยังไม่หมด เมื่อพี่โชตรวจเช็คยอดเงินในบัญชี แล้วเกิดโวยวายว่าเงินหายจะไปธนาคารให้ได้ ผมก็รีบบอกว่าผมเป็นคนใช้เอง

   ‘มึงเอาไปซื้ออะไร’ พี่โชขึ้นมึงกูแสดงว่าโมโหสุดขีด

   ‘ก็...ตุ๊กตาหมี’ ผมบอกเสียงอ่อย

   ‘ตุ๊กตาหมี? ไอ้ที่มันปิดเพจหนีน่ะนะ ราคาเท่าไหร่วะ’

   ‘กลอยสั่งไซส์ใหญ่สุดอะ’

   ‘แล้วราคามันเท่าไหร่’

   ‘สองหมื่นเก้าพันบาทถ้วน มันแพงเพราะเป็นของญี่ปุ่นแท้เลยนะ มีคนรีวิวว่านุ่มมากเลย...’

   ท้ายประโยคของผมเริ่มเบาลงเรื่อยๆ เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาดุดัน ปีศาจจะระเบิดตัวเองแล้ว ผมรีบวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำทันทีโดยมีเสียงเคาะประตูจนแทบพัง ผมก็รู้ว่าตัวเองผิด แต่ไม่ควรกดดันแล้วยึดเงินผมไปหมดไง โคตรไม่มีเหตุผลอะ

   “เป็นกูละก็ จะเอาเลือดหัวมึงออกไอ้ห่ากลอย”

   “มึงโคตรโง่เลยว่ะ”

   “สองหมื่นเก้า เกือบได้มอ’ไซค์นะมึง”

   “สมแล้วที่พี่โชดัดสันดารมึง”

   โดนใส่มาเป็นชุด ทำไมไม่มีใครเข้าใจผมเลยวะ กะอีแค่เงิน...สะ สองหมื่นเก้า เฮ้อ

   ผมนั่งทำปากเป็ดให้เพื่อนรุมด่า ที่ผมใช้เงินเปลืองแบบนี้ก็เพราะถูกปีศาจเปย์เยอะไง อยากได้อะไรก็ตามใจ ไอ้กลอยเลยใช้เพลินไปหน่อย...

   ที่จริงตอนนี้ผมได้เงินคืนมาแล้ว ไม่รู้พี่โชไปทำยังไงถึงเจอตัวเจ้าของเพจ ผมไม่อยากเอาเรื่องสักเท่าไหร่ แต่พอเจอเพจอื่นขายตัวไม่กี่พันแล้วอารมณ์พุ่งปรี๊ดแทบจะกระโดดถีบยอดหน้าที่โรงพัก หากพี่โชไม่คว้าแล้วอุ้มผมออกมาซะก่อน กล้ามาหลอกลวงกลอยประเกรียนสุดหล่อแม่นเว่อร์ได้ยังไง

   ก็นั่นแหละ ได้เงินคืนแล้ว แต่ผมก็ยังถูกริบบัตรเหมือนเดิม เซ็ง


   ผมแยกย้ายกับเพื่อนเพื่อไปหาคนริบบัตรผมที่บริษัท ไม่ได้ไปรายงานตัวหรอก แต่เพราะถูกสั่งให้ไป แว้นรถคู่ใจฝ่าแสงแดด ฝุ่นและรถติด กว่าจะถึงก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง พอเปิดดูมือถือเห็นเบอร์พี่โชโทรมาสองสาย คงจะโทรเร่งละสิ ไม่ได้กินไอ้กลอยหรอก เพราะมาถึงแล้ว

   จอดรถที่ใต้ตึกไม่ลืมส่งเสบียงให้พี่ยามที่รู้จัก ผมกระชับเป้เดินเข้าไปด้านใน บริษัทสูงหลายสิบชั้นด้านในแอร์เย็นช่ำจนอยากได้เสื่อสักผืน

   “สวัสดีครับ” ยิ้มแป้นให้พี่พนักงานประชาสัมพันธ์

   “อุ้ย น้องกลอยซื้อขนมมาอีกแล้ว พวกพี่ลดความอ้วนอยู่นะคะเนี่ย” พี่คนสวยพูดจีบปากจีบคอ

   “งั้นผมเอากลับ” แกล้งหยอกแต่อีกฝ่ายดึงลงไปด้านล่าง พวกเราเลยพากันหัวเราะ ไม่สนใจคนที่มองมา “บอสพี่อยู่หรือเปล่าครับ”

   “ค่ะ แต่รู้สึกตอนนี้จะมีแขกนะ เป็นผู้หญิงด้วย สวยมาก” เหมือนถูกจุดไฟกองเล็กๆ ผมขมวดคิ้วนิดๆ “บอสลงมารับเองเลยนะคะ” ไฟเริ่มกองใหญ่ขึ้น

   “งั้นผมขึ้นไปรอด้านบนดีกว่า ไปนะครับ” ไม่ลืมยิ้มโปรยเสน่ห์ให้

   ผมเดินเข้าลิฟต์ ในใจคุกรุ่นได้ที่ มีผู้หญิงที่ไหนมาหาวะ ไม่เห็นพี่โชจะบอกเลย ผมพยายามไม่คิดมากเพราะกลัวคิดไปไกลแต่ไม่มีอะไรจะทำให้ผิดใจกันไปเปล่าๆ มองเลขจำนวนชั้นสูงไปเรื่อยๆ จนหยุดนิ่ง ผมก้าวออกมารู้สึกสั่นๆ ไม่ใช่คิดมากแต่เพราะปวดฉี่ ผมเลี้ยวเข้าห้องน้ำก่อนจะไปห้องพี่โช

   ยืนฉี่เสร็จก็รู้สึกมวลในท้อง ส้มตำคงเริ่มออกฤทธิ์ ผมเข้าไปนั่งในห้องน้ำได้ไม่นานได้ยินเสียงคนเข้ามา เสียงที่ได้ยินไม่คุ้นหูสักนิด ผมคงจะไม่สนใจหากไม่มีชื่อพี่โชอยู่ในนั้น

   “เออสิ คุณโชหล่อมาก สมกับคำเล่าลือเลยแก” หางเสียงดูดี๊ด๊าจนน่าหมั่นไส้ “ใช่ แฟนเหรอ ยังไม่เห็นเลยนะ ดูเหมือนจะเป็นเด็กมัธยมหรือมหาลัยนี่แหละ เออสิ คุณปานดีกว่าเห็นๆ ควงออกงานได้ด้วย เขาสนใจมั้ยนะเหรอ ไม่รู้สิ ก็แค่เอาเงินให้ล้านหนึ่ง แกว่าสนใจป่ะล่ะ”

   ให้เงินตั้งหนึ่งล้าน สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอวะ ผมนั่งกัดฟันรอจนไอ้คนปากมากออกจากห้องน้ำไป ผมกดชักโครกเสร็จก็ออกมายืนมองกระจก เห็นหน้าตัวเองกำลังโมโหได้ที่ กล้าแย่งก็ลองดู ไม่รู้จักกลอยประเกรียนคนนี้ซะแล้ว ผมเดินออกจากห้องน้ำตรงไปที่โต๊ะป้าอ้อย เลขาของพี่โช ป้าแกยิ้มแย้มเมื่อเห็นผมพร้อมๆ กับผมยกมือไหว้

   “ใครมาหาพี่โชเหรอครับ” ชะเง้อมองไปที่ห้องประชุม

   “คุณปานค่ะ แกเป็นเจ้าของมูลนิธิเด็กยากไร้”

   “เรื่องงานวันเด็กเหรอครับ”

   “ค่ะ ท่านประธานให้บอสดูแล”

   ผมทิ้งตัวนั่งข้างป้าอ้อย เมื่อคุณโชคนำเอกสารมาให้ ผมทักทายไปนิดหน่อย เพราะมัวแต่มองไปที่ห้องกระจก รอไม่นานประตูกระจกก็เปิดออก พี่โชเป็นคนเปิดประตูโดยมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยเดินยิ้มแย้มออกมา ด้านหลังมีผู้ชายตุ้งติ้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างน่าหมั่นไส้ ไอ้นี่แน่ที่ผมได้ยินเสียงในห้องน้ำเมื่อกี้

   “ขอบคุณนะคะที่มอบเงินให้มูลนิธิของปานทุกปีเลย” เสียงหวานเอ่ย ดูเขินอายเมื่อถูกดวงตาคมนั่นจ้อง “ปานจะจัดเตรียมของไว้รอนะคะ”

   “ครับ”

   ผมเอาแฟ้มเอกสารบังหัวตัวเอง แต่ก็ยังแอบมองอยู่ตลอด หนอย กล้ายิ้มหวานให้คนอื่นเหรอ ไอ้เกรียนหึงนะเว้ยเฮ้ย ผมหยิบมือถือมาแล้วโทรหา พอเสียงริงโทนดัง พี่โชก็ยกขึ้นมาดูแต่ก็ไม่ยอมรับ แหม พอมีสาวอยู่ด้วยทำเป็นไม่สนใจ

   “เที่ยงกว่าแล้วนะครับ” เสียงดัดให้เล็กดังจากด้านหลังสองชายหญิง พี่โชยกนาฬิกาขึ้นดูก่อนยิ้มอ่อน “คุณโชไปทานข้าวด้วยกันมั้ยครับ”

   “คุณโชอาจจะไม่ว่างก็ได้พี่ชาย” ใบหน้าเนียนยู่ปากนิดๆ อย่างน่ารัก ผมเบ้ปากเมื่อเห็นภาพนั้น แต่เสียงขึ้นจมูกดังมาจากคนข้างๆ ผมหันไปมองป้าอ้อยที่เบ้ปากไม่แพ้ผมสักนิด

   “ก็ได้ครับ แถวนี้มีร้านอร่อยอยู่” แทบทนไม่ไหวเมื่อเห็นพี่โชมองคนสวย ผมยกมือถือมากดโทรออกอีกรอบ คราวนี้พี่โชหันข้างแล้วรับทำเอาแฟ้มในมือผมเกือบร่วง “ว่าไง อยู่ไหนแล้ว” ทีกับผมละเสียงแข็งเชียว
 
   (แว้นอยู่) มุสาออกไปจนป้าอ้อยหันมามอง ผมขยิบตาให้นิดๆ ป้าแกเลยขำเบาๆ แทน (พี่โชอยู่ไหนอะ กลอยหิวข้าว อยากกินชาบู)

   “อยู่บริษัท แต่พี่กำลังจะไปกินอาหารญี่ปุ่น ร้านที่กลอยชอบ”

   (จริงดิ่ ไปกินกับใคร สาวเหรอ) ลองแหยสักนิด อยากรู้จะตอบยังไง

   “ครับ” ผมตาโตมอง “กลอยไปที่ร้านนั่นเลยนะ”

   (เดี๋ยวก็ไปเป็น กขคงจฉชต หรอก) มีใส่อารมณ์นิดๆ พี่โชขมวดคิ้วแล้วเดินห่างออกจากคู่นั้นมา ผมรีบไถลลงไปนั่งกับพื้น

   “พี่ก็คิดว่างั้นแหละ” มือถือในมือสั่นเลยครับ พี่โชแม่งชอบผู้หญิงสวยผมรู้ “รถติดมั้ย”

   (ติดดิ่ ไม่ถึงสักที)

   “เหรอ”

   รู้สึกเสียงไม่ได้มาจากโทรศัพท์ ผมยกมือถือมาดูเห็นหน้าจอวางสายไปแล้ว...แล้วเสียงมาจากไหนวะ

   ป้าอ้อยส่งเสียงกระแอมหลายครั้ง ผมเลยหันไปมองตามสายตาป้าแก ชัดเลย ปีศาจยืนค้ำหัวผมอยู่ พี่โชหน้าโคตรดุเพราะไม่ชอบคนโกหก นี่คือสิ่งที่ผมชอบนะ เพราะพี่โชก็ไม่เคยโกหกผมเลย

   “ไฮ” ยิ้มแหยๆ ให้แล้วค่อยๆ ลุกขึ้น ไม่ๆ โหมดแบบนี้ผมต้องทำให้หายโกรธก่อน สมองคิดหาวิธีทำให้ปีศาจคลายความโมโห สายตาก็มองไปเห็นปลายเท้าตัวเอง เอาวะ ไม่เจ็บหรอก “เชี่ย”

   “เฮ้ย”

   โคตรลงทุน ผมแกล้งลื่นจนก้นกบกระแทกพื้น หัวก็ชนกับขอบโต๊ะดังสนั่น พี่โชกับป้าอ้อยรีบคว้าผมแต่ก็ไม่ทัน เจ็บแต่คุ้ม เพราะพี่โชดูหายโกรธไปแล้ว

   “เป็นอะไรหรือเปล่าคะเนี่ย” เสียงป้าอ้อยดังพอที่จะเรียกเจ้าของมูลนิธิกับเลขามาที่โต๊ะ ผมเหล่ตามองนิดๆ ก่อนทำสำออยลุกไม่ขึ้น “บอสคะ สงสัยจะเจ็บหนัก”

   “ไปโรงพยาบาล” ว่าแล้วผมก็ถูกพี่โชดึงแล้วช้อนอุ้ม

   “เจ็บๆ” นี่ไม่ได้แกล้งเจ็บ แต่เจ็บจริง สงสัยแขนจะฟาดโดนสันโต๊ะ

   “ขอโทษนะครับ ผมคงไปทานข้าวด้วยไม่ได้แล้ว” พี่โชพูดรัวก่อนจะรีบพาผมเดินไป

   มองเอี้ยวคอไปมองคนที่ยืนทำหน้าเสียอยู่ และไม่ลืมแสยะยิ้มให้ คิดจะล้วงคอไอ้กลอย มันไม่ง่ายหรอกเว้ย ผมขยับตัวนั่งในรถมองดูพี่โชที่เคลื่อนรถออกจากออฟฟิต




   เส้นทางที่จำได้ว่าไม่ใช่ทางไปโรงพยาบาล โธ่ ถูกรู้ทันอีกแล้ว ไอ้กลอยเซ็ง

   “หึงพี่เหรอ”

   “เออสิ” ทำหน้างอเมื่อถูกถาม “พี่ทำไมต้องยิ้มหวานให้ป้านั่นด้วย”

   “ก็ตามหน้าที่”

   เบ้ปากไปตลอดทางจนถึงห้าง ผมเหลียวมองไปมาไม่รู้อารมณ์ของคนพามาสักเท่าไหร่ พี่โชเดินนำผมเข้าไปด้านในที่ตอนนี้มีแต่ร้านที่จัดดิสเพล์รูปการ์ตูน อ่า จะวันเด็กแล้วสินะ ผมมองร้านขายของเล่นแล้วก็นึกถึงตอนเป็นเด็ก วัยเด็กของผมแทบไม่ได้เล่นของเล่นอะไรเลยเพราะผมจน

   “เป็นอะไร อยากได้เหรอ” พี่โชคงเห็นผมหยุดเดินแล้วมองไปในร้านขายของเล่น

   “เปล่า แต่กำลังจะดราม่า” ผมบอก พี่โชยกมือยีหัวผมไปมา

   “อยากกินชาบูนี่ ปะ” พี่โชจับมือผมแล้วออกแรงดึง ผมละสายตาจากร้านของเล่น ไม่อยากดราม่ามาก กลัวน้ำตาไหล

   ร้านชาบูตอนบ่ายคนเริ่มบางตา พอได้หม้อปุ๊บก็ใส่ของกินปั๊บ ต้องรีบกินครับเพราะมื้อนี้เราจะอิ่มจังตังค์อยู่ครบ หมูเอย กุ้งเอย ถูกยำรวมกันในหม้อ ส่วนของพี่โชมีแต่ผัก เป็นปีศาจกินพืชจริงๆ

   “พี่โชจะไปงานวันเด็กที่มูลนิธิป้านั่นเหรอ” ถามในสิ่งที่ได้ยิน ซึ่งก็ได้รับคำตอบคือพยักหน้า “ไปด้วยสิ อยากได้ของเล่นแบบเด็กๆ บ้าง”

   “อยากเป็นเด็กโข่งว่างั้น”
 
   “ผมก็ยังเด็กเถอะ”

   “เหรอ”

   เมื่อมื้อบ่ายจบลง ผมเดินลูบพุงโตๆ ของตัวเองตามพี่โชที่มุ่งหน้าไปไหนสักที่ แถมไม่ยอมบอกด้วยว่าจะไปไหน ร่างสูงเดินดุ่มๆ เลี้ยวเข้าร้านขายของเล่นที่ผมยืนจ้องเมื่อตอนขามา สงสัยจะซื้อของเล่นไปให้เด็กที่มูลนิธิ จะว่าไปผมทำอะไรดีหนอ ยืนรอไม่นานพี่โชก็เดินออกมา มือขาวยื่นมาโอบรอบเอวผมแล้วดึงเข้าไปใกล้

   “อะไร” ถามอย่างระแวง ไม่ใช่อะไรหรอก ผมกลัวถูกแกล้ง คนเดินผ่านไปมาเหลือบมองกันหมด กลุ่มเด็กสาวคอซองพากันยิ้มหัวเราะจนผมต้องกระแอม

   “กลับเถอะ” พี่โชยังยิ้มแถมไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอว ทำให้ผมต้องเดินเคียงข้างไปทั้งอย่างนั้น ปกติผมจะเป็นฝ่ายอ้อนมากกว่า สงสัย วิญญาณปีศาจเข้าสิง แล้ววันนี้ก็เป็นวันศุกร์สิบสามด้วย “ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่ชอบที่พี่กอดหรือไง” น้ำเสียงติดน้อยใจจนผมยื่นมือดึงแก้ม

   “ปีศาจชอบคิดมากว่ะ ที่ผมทำหน้าหล่อก็เพราะกำลังคิดจะทำกับข้าวหรือขนมไปงานพรุ่งนี้อยู่ต่างหาก”

   “แล้วไป” พี่โชว่า ก่อนเราจะออกเดินต่อ “แต่พี่ว่า ไม่ต้องทำหรอก ซื้อเอาง่ายดี พี่ไม่ชอบให้กลอยทำกับข้าวให้คนอื่นกิน หวง” คนบอกหวงเบ้ปากนิดๆ ทำเอาผมขำกลิ้ง

   เป็นไงล่า ปีศาจของผม ตั้งแต่ทะเลาะกันรุนแรงเรื่องที่ชอบคิดเองเออเองจนถึงขั้นผมต้องหอบเสื้อผ้ากลับบ้าน พี่โชไปง้อทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น ค่ำ และดึก กว่าผมจะยอมใจอ่อนก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์ ให้รู้ซะบ้าง ว่าอย่าคิดเองแล้วตอบคำถามจากความรู้สึกตัวเอง มีอะไรก็ให้บอกให้พูดออกมา คนอย่างผม กล้าบอกทุกเรื่องอยู่แล้ว ขนาดเรื่องเงินค่าหมีผมยังยืดอกรับเลย

   “นานๆ ทำทีน่า งั้น ทำขนมดีกว่าเนอะ ไปซื้อของกัน โกๆ” ออกแรงดึงร่างสูงกว่า แต่...

   “พี่ยังมีงานต้องเคลียร์” พี่โชบอกนิ่งๆ พอก้มดูนาฬิกาก็เกือบจะบ่ายสาม ตอนออกมาก็บ่ายโมงแล้วด้วย “วันอื่นค่อยเคลียร์ก็ได้”

   “น่ารักที่สุด” ผมยิ้มตาหยีให้คนที่ผมรัก แต่พี่โชกลับทำเอาพองแล้วจิ้มแก้มตัวเอง “ไว้คืนนี้”

   “บอกแบบนี้แล้วหลับก่อนพี่ทุกทีว่ะ” พี่โชทำหน้างอนเดินหนีนำหน้าไปแล้ว ผมหัวเราะแล้ววิ่งตามคนแก่ขี้น้อยใจ ก็ใครใช้ให้ทำงานดึกๆ ดื่นๆ ตัวเองผิดแท้ๆ เนอะ

.
.

(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 13-01-2017 21:11:21
.

(ต่อค่า)   



       ก่อนกลับคอนโด พี่โชพาแวะซื้อวัสดุ อุปกรณ์ทำขนม ผมเลือกที่จะทำบราวนี่เพราะเด็กน่าจะชอบ ถ้าทำเค้กไปต้องมาแต่งหน้าอีก ผมทำคนเดียวคงเหนื่อยตาย แต่พอเอาเข้าจริง บราวนี่เสร็จไวกว่าที่คิด ผมเลยทำเครปเค้กที่เขากำลังฮิต พี่โชเป็นลูกมือในการกวนซอสสตอเบอรี่ที่ซื้อแบบแช่แข็งมากวนเอง

   “ได้ยัง” พี่โชคนไปถามไป สงสัยกลัวมันไหม้ พอผมพยักหน้าก็รีบยกลงแล้วรอให้เย็นเพื่อที่จะตักใส่ถ้วยเล็กที่ซื้อทิ้งไว้ในห้องเมื่อตอนก่อนนู้น กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบตีสาม ทั้งผมและพี่โชต่างก็พุ่งเข้าที่นอน ไม่องไม่อาบมันแล้วน้ำ เหนื่อย ตอนนี้ขอเอาแรงก่อน

   คล้ายกับนอนได้ไม่กี่นาที เสียงโทรศัพท์ก็ดังรัวๆ เจ้าของเครื่องคงจะรำคาญเพราะขายาวถีบผ้าห่มซะกระเด็น พี่โชทำหน้าดุมองโทรศัพท์ตัวเองที่มีสายเรียกเข้า

   “โทรมาทำเชี่ยไรแต่เช้าวะ”

   (นี่กูโทรหาก็ผิดเหรอวะ) เสียงพี่แทมเล็ดลอดออกมา ผมละสงสารพี่แกจริงๆ โทรมาไม่จับจังหวะตลอด

   “มีอะไร” ดูเหมือนจะปรับอารมณ์ได้ พี่โชลูบหน้าลูกตาตัวเอง

   (กูจะโทรบอกว่า กูจะวนไปรับพวกไอ้ซันก่อน ของมึงหลังสุดไม่ต้องรีบ)

   “เออ”

   (แค่นี้แหละ กูเสียใจ)

   ผมเผลอขำออกมาทั้งที่ตายังปิด พี่แทมโคตรน่าสงสารแต่ก็ตลกดี อยากเห็นหน้าแฟนของพี่แกจริงๆ คนประเภทไหนหนอที่จะอยู่กับพี่แกได้

   พี่โชลุกไปเข้าห้องน้ำก่อน เสียงน้ำไหลบอกว่าเจ้าตัวคงกำลังอาบ ผมเดินมึนๆ เข้าไปอาบด้วย ก็แหม บางมุมผมก็อยากสวีทบ้างนิดนึง แต่ก็ไม่นานพวกเราก็ออกมาแต่งหล่อ พี่โชยังแต่งเนี๊ยบเพราะไปเป็นตัวแทนของพ่อ ส่วนผมก็เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ธรรมดา

   เสียงริงโทนเรียกปุ๊บ เราก็พากันหอบถุงมากมายลงไป ยังดีที่พี่โชเรียกให้พี่ซันขึ้นมาช่วย ส่วนคนอื่นๆ ขี้เกียจขึ้นมา แบบนี้ก็มีด้วยว่ะ พอลงมาเจอหน้าพี่แทม พี่แกสะบัดหน้าใส่เพื่อนตัวเองเอาซะผมเผลอหัวเราะ คือกลัวคอพี่แกเคล็ด สะบัดซะแรงเลย

   วันนี้พวกเราจะไปเลี้ยงเด็กที่มูลนิธิที่พ่อพี่โชให้เงินเป็นล้าน วันเด็กทั้งทีก็อยากจัดอะไรให้สนุกสนาน ผมเห็นของขวัญและขนมเต็มท้ายรถตู้ไปหมด ที่สำคัญ ผมจองไม้บรรทัดที่มีน้ำไหลไปไหลมาแล้วด้วย

   พี่แทมให้คนขับรถที่เป็นลูกน้องของพ่อขับมาให้ คงจะได้ของจากบ้านมาด้วยและเจ้าของรถนั่งกินขนมอยู่ข้างพี่โชนี่แหละครับ เมื่อกี้เหมือนผมตาฝาดเห็นพี่แกสะบัดหน้างอน ทำไมตอนนี้คุยกันดีซะแล้ว

   ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะถึง พอรถตู้จอดปุ๊บ คนของมูลนิธิก็ยิ้มแป้นให้เพราะมายืนรออยู่แล้ว หนึ่งในนั้นก็เจ้าของคนสวยนั่นแหละครับ ตานี้มองแต่พี่โชตลอดผมเลยยืนซะชิด

   “หึงผัวเหรอ” เสียงพี่จอมโคตรหลอน ผมหันไปมองเห็นพากันหัวเราะกับเพื่อนตัวเอง โธ่ ก็หวงน่ะสิถามได้

   วันนี้มีแต่เพื่อนของพี่โช เพื่อนของผมแยกย้ายไปคนละที่ ขนาดไอ้ทูยังไม่มามีพี่เบมาคนเดียว ดูแล้วคงจะรั่วได้ไม่ต้องเก๊ก พวกผมถูกพาเข้าไปด้านในซึ่งมีคนของที่นี่ช่วยขนของลงให้ ผมมองถุงขนมตัวเองอย่างกังวล กลัวเขาถือแรงแล้วจะเสียไปซะก่อน เลยย้อนกลับไปช่วยถือเอง

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกผมถือเอง” คนที่บอกดูมีอายุแต่แต่งตัวเนี๊ยบซะจริง ผมยิ้มแป้นให้แล้วบอกช่วยถือจะได้เสร็จเร็วๆ เขาคงเห็นผมห่วงขนมเลยยอมปล่อย “ขนมน่าอร่อยนะครับ” เสียงชวนคุยดังมาจากด้านหลัง ผมหันไปมองแล้วยิ้มให้อีกรอบ

   “ครับ ทำทั้งคืน อร่อยมากไม่อยากจะอวด” นี่ไม่ได้อวดเลยนะ ผมยืดนิดๆ คนฟังเลยขำออกมา “ที่นี่มีคนเข้ามาจัดงานอะไรแบบนี้บ้างหรือเปล่าครับ” เพราะดูจากสถานที่ที่แสนจะกว้างขวาง แถมตึกก็ยังดูใหม่และสะอาดสะอ้านดี

   “ก็บ่อยนะครับ เพราะคุณปานแกรู้จักคนเยอะ แต่ที่ต้องขอบคุณจริงๆ เลยคือคุณโชนั่นแหละครับ” รีบหันไปมองเมื่อพูดชื่อพี่โชออกมา “เมื่อก่อนคุณโชแกก็มาบ่อยนะครับ มากับครอบครัว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมาแล้ว นี่เป็นรอบสี่ปีก็ว่าได้” คนพูดยังมีรอยยิ้มอยู่ “เมื่อก่อนถ้าไม่ได้คุณโช พ่อของเขาก็คงไม่บริจาคเงินทุกปี”

   “ทำไมเหรอครับ” ไม่ได้อยากรู้แค่อยากเก็บข้อมูลเฉยๆ

   “เมื่อก่อน ตอนนั้นมีเด็กสาวอยู่คนหนึ่ง หน้าตาน่ารัก ดวงกลมโต เป็นเด็กนิสัยดีของที่นี่ คุณโชแกเป็นเด็กที่เข้ากับคนยาก เพราะไม่ค่อยยิ้ม เวลามากับครอบครัวทีก็จะปลีกตัวไปนั่งอยู่คนเดียว แต่ไม่รู้เพราะอะไรถึงทำให้คุณโชสนใจเด็กคนนี้ และแกจะยิ้มแย้มให้ตลอด คุณโชแกเลยให้พ่อช่วยเด็กคนนี้และคนอื่นในเรื่องทุนการศึกษา” เหมือนคิ้วผมจะเริ่มกระตุก

   “แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนเหรอครับ”

   “คนนั้นไงครับ” ผมมองตามนิ้วยาวที่ชี้เข้าไป “คุณปานนั่นแหละครับ พอดีเจ้าของไม่มีลูก แล้วเอ็นดูเลยรับเป็นลูกบุญธรรม” คิ้วกระตุกสองข้างทีเดียว “แต่อยู่ๆ คุณโชแกก็หายไปเลย ผมก็ยังแปลกใจ”

   “คุณปานเขามีแฟนหรือยังครับ” ผมเป็นคนตรงไง อยากรู้ก็ต้องถาม

   “เธอแต่งงานแล้วครับ” นั่นไง “แต่หย่าแล้ว” เหมาะเจาะฉิบหาย

   “เหรอครับ” ผมว่า ผมรู้มากไปแล้ว หากรู้มากกว่านี้ผมอาจเก็บเอาไปคิด แล้วพาลโมโหพี่โชได้ ไม่ดีๆ

   ขนมกับของเล่นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินเข้ามากับพี่เลี้ยงคู่สุดท้ายเลยถูกจ้องจากทุกคน แต่สายตาคู่หนึ่งที่มองมา ทำท่าว่าจะพุ่งเข้ามาหลายรอบ แต่ต้องรักษาฟอร์มไว้ ผมเดินไปยืนข้างพี่โชหลังจากจัดกล่องขนมเสร็จ พอมายืนปุ๊บถูกดึงจมูกปั๊บ

   “กล้าคุยกับคนอื่นต่อหน้าพี่เลยเหรอ” เสียงกระซิบที่ได้ยินแค่สองคน ผมยักคิ้วให้ไม่กลัว เพราะคนเยอะขนาดนี้ พี่โชไม่กล้าทำอะไรผมมากหรอก “ถึงห้องโดนแน่”

   พี่โชหยุดค้อนผมเมื่อเจ้าของมูลนิธิเรียกให้ไปคุยกับเด็กๆ ผมมองพี่โชยืนเคียงข้างกับผู้หญิงคนนั้นแล้วเกิดหมั่นไส้ แต่ออกท่าทางไม่ได้เลยได้แต่เสหน้ามองทางอื่น แต่พอมองอีกทางก็เจอเพื่อนพี่โชยืนมองหน้าผมอยู่ พี่จอมดึงแขนพี่ซันให้หลบแล้วมายืนข้างผมแทน

   “กูจับสายตาของผู้หญิงได้ ไอ้เกรียน อย่าไปยอม” เหล่ตามองคนยุ แต่สำหรับผม มีแต่ความเชื่อใจเท่านั้น ใครจะยุแหย่ไม่ได้ผลหรอก มีคิ้วกระตุกบ้างบางเวลา “มึงนี่นะ”

   “ผมไม่สนว่าเขาจะมองเพื่อนพี่ยังไง แต่ที่ผมรู้ เพื่อนพี่รักผมเว้ย” เกทับนิดๆ พี่จอมหันหน้าไปโก่งคออ้วก “ตอนนี้ผมสนของรางวัลมากกว่า”

   “นั่นพวกกูเอามาให้เด็ก”

   “ผมก็เด็ก”

   “เด็กผีน่ะสิ”

   “ขอโทษทีผมไม่ได้เชียร์แมนยู” เสียงผมกับพี่จอมคงจะดังมากไปหน่อย เลยถูกคนมองกันตรึม “เพราะพี่เลย”

   “อ่าวไอ้เกรียน” ถูกพี่จอมตบหัวจนหน้าคว่ำ คราวนี้คนก็พากันมองอีกรอบ เลยได้ขอโทษขอโพยกันไป



   หลังจากกล่าวคำทักทายและให้โอวาทเสร็จ ก็เริ่มแจกขนมพร้อมกับเริ่มเล่นเกมส์ และเกมส์แรกคือเก้าอี้ดนตรี พี่แทมกับผมร่วมเล่นด้วย เอาสนุกแต่โคตรจริงจัง ผมไม่มีทางยอมแพ้พี่แทมหรอก เมื่อเก้าอี้ค่อยๆ ถูกดึงออกทีละตัว เด็กๆ ก็ได้แต่มองกันเพราะเหลือแต่ผมกับพี่แทมสองคนเพื่อแย่งเก้าอี้ตัวสุดท้าย

   “ที่ของกูไอ้กลอย” พี่แทมชี้หน้าผม

   “ของผมต่างหาก” ไม่ยอมหรอก พอเพลงขึ้น การส่งสายตาฟาดฟันจึงเริ่มต้น เด็กๆ ก็พากันหัวเราะ เมื่อผมกับพี่แทมทำท่าจะนั่งหลายรอบแต่เพลงก็ไม่หยุดสักที ทั้งดึงหัวดึงเสื้อ เมื่อเพลงหยุดก็พากันลืมจนเด็กที่ดูตะโกน ทั้งผมและพี่แทมก็พุ่งเข้าไปนั่ง...สุดท้ายเก้าอี้ล้มพร้อมๆ กับผมกับพี่แทมล้มไปด้วย

   “ไอ้เชี่ยกลอยลุก กูหนัก” ผมนั่งทับพี่แทมครับ ขาก็เกี่ยวเก้าอี้ไว้

   “ผมชนะเว้ย”

   “มึงโกงกู”

   “ใครโกง ไม่มีเลย”

   ของรางวัลก็เป็นชุดสมุดดินสอครับ ผมไม่เอาหรอก ก็คืนให้น้องคนก่อนที่ผมกับพี่แทมจะเหลือสองคนไป ทำไมผมใจดีขนาดนี้เนี่ย

   เกมส์อื่นๆ พวกพี่ติน พี่ซัน พี่จอมก็รวมด้วย นั่นคือม้าส่งเมือง อันนี้ฮาครับ พี่ตินแบกพี่เบ แต่ถูกพี่แทมขัดขาล้ม โคตรสงสาร แล้วคนทำก็ถูกไล่เตะ คู่รักฮาร์ดคอก็ทะเลาะกัน พี่จอมจะเป็นม้าให้พี่ซันขี่ แต่แบกไม่ไหวก็ไม่ยอมออกสตาร์ท งอแงกันไปพอสมควร ปวดหัวแทนพี่ซันจริงๆ

   แล้วพี่โชละวะ

   ผมยืดคอมองหาคนของผม มองหาจนเจอ ตอนนี้พี่โชนั่งคุยกับเจ้าของสาว ท่าทางดูนิ่งๆ ยิ้มบ้างแต่ดูอึดอัดมากกว่า พอเที่ยงวัน อาหารที่สั่งไว้ก็มา เด็กๆ ก็กินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย ผมเดินแจกขนมที่ผมทำมาด้วย มองไปที่โต๊ะ เห็นกลุ่มเพื่อนพี่โชจ้วงกินเครปเค้กอย่างอร่อย เดี๋ยวๆ ผมทำมาให้เด็กนะเว้ย

   ยังดีที่ทำมาเยอะ เลยพอสำหรับทุกคน ผมมองดูเด็กๆ กินขนมที่ผมทำแล้วมีความสุข มีชมว่าอร่อยด้วย ดีใจจริงๆ ที่ผมคิดทำมา

   “อร่อย” พี่แทมเลียกล่องเครปเค้กจนครีมไม่เหลือ พี่ตินคงทนไม่ได้เลยเลียตาม เดี๋ยวสิ ผมว่ามันต้องห้ามไม่ใช่เหรอวะ “ไอ้เกรียน กูสั่งมึงทำได้ป่ะวะ”

   “ขนมเหรอพี่ เอาไปทำอะไร”

   “งานวันเกิดพ่อกู”

   “เมื่อไหร่”

   “ปลายปี”

   แทบตกเก้าอี้ พี่จองผมไว้นานเกินไปหรือเปล่าวะ พี่โชที่ผละออกมาเดินมานั่งเบียดเก้าอี้ผม ดวงตาก็จ้องดุเพื่อนตัวเองที่เปิดกินอีกอัน ท่าจะอร่อยจริง

   “กินข้าวยัง” ถามคนของตัวเอง พี่โชพยักหน้านิดๆ ที่จริงก็เห็นว่านั่งกินกับเจ้าของมูลนิธิ แต่ก็อยากถาม “กินขนมป่ะ”
 
   “ไม่เอา” พอพี่โชปฏิเสธปุ๊บ ขนมในมือผมก็ถูกพี่เบแย่งไป มีบอกจะเอาไปฝากไอ้ทู แบบนี้ก็ได้เหรอ

   เมื่ออิ่มหนำกันทุกคนและได้ของขวัญกันถ้วนหน้า ก็ถึงเวลาลากลับ ก่อนกลับเด็กๆ ในมูลนิธิก็พากันร้องเพลงขอบคุณ ผมมองแล้วน้ำตาซึม รู้สึกดีใจ ตื้นตันและสงสาร บางคนน่ารักมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกทอดทิ้ง ผมเริ่มเข้าใจพี่โชแล้วว่าทำไมอยากจะช่วยเด็กๆ ทำไมแฟนผมเป็นคนดีแบบนี้วะ

   บอกลากันเสร็จ ผมได้กระดาษเอสี่มาหนึ่งแผ่น บนกระดาษมีรูปของทุกคน แม้ฝีมือจะไม่ได้ แต่ความตั้งใจไอ้กลอยให้เต็มร้อยเลย

   พี่แทมวนส่งผมกับพี่โชเป็นคู่สุดท้าย ก่อนไปยังมิวายบอกให้ผมคิดเมนูเค้กอร่อยๆ สำหรับวันเกิดพ่อตัวเอง อยากจะขำนะ แต่ดูจากความตั้งใจผมก็เลยขำในใจแทน




   “เหนื่อย” ผมบ่นตอนอยู่ในลิฟต์ พี่โชขำออกมาแล้วดึงแขนผมให้ขึ้นหลัง “จะแบกเหรอ ใจดีว่ะ” ไต่ขึ้นหลังอุ่น ผมกอดคอพี่โชไว้ แล้วยื่นหน้าหอมแก้มหลายๆ ฟอด

   มาถึงห้อง ผมก็รีบเลื้อยนอนบนเตียง ปวดขาไปหมด คงเพราะเล่นเกมส์มากไปหน่อย โดนเฉพาะเกมส์เหยียบลูกโป่ง ถูกพี่ตินกระทืบมาเต็มๆ โคตรเจ็บ และพี่ตินก็ถูกสายตาพี่โชฆ่าตายเรียบร้อย

   “กลอยครับ ไปเอาของให้พี่หน่อย ที่ระเบียงน่ะ” ผมกลิ้งอยู่บนเตียง พี่โชเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมาแล้วนั่งลงข้างผม

   “เอาอะไร ออกไปเอาเองดิ่” เหนื่อย ปวดขาด้วย ไม่อยากลุกเลย

   “นะ”

        เห็นสายตาอ่อนโยนก็ทำให้ต้องลุก ผมเปิดประตูระเบียงออกไป มองซ้ายมองขวาไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่กล่องอันใหญ่วางอยู่

   “กล่องใหญ่นี่เหรอ” ผมตะโกนเข้าไปถาม หนักหรือเปล่าวะ ได้ยินพี่โชตอบรับเลยยกเข้าไป แอบหนักนะเนี่ย กล่องอะไรวะ “อะไรอะ”

   “เปิดสิ” เงยหน้ามองพี่โช “ของขวัญวันเด็กของกลอยไง”

   “จริงดิ่” ทำตาโตแล้วรีบเปิด ทันทีที่ฝากล่องถูกเปิด ผมก้มมองของด้านในแล้วจู่ๆ น้ำตาก็ไหล “พี่โช”

   “ร้องไห้ทำไม ไม่ชอบเหรอ”

   “ชอบสิ มากด้วย โคตรชอบ” ผมดึงตุ๊กตาตัวใหญ่ออกมา เป็นตุ๊กตาที่ผมอยากได้ เกือบเสียเงินเป็นหมื่นสั่งด้วย “พี่ให้ผมจริงๆ เหรอ”

   “หรือไม่เอา”

   “เอาๆ” ผมกอดตุ๊กตาแน่น ขนมันนุ่มมากถึงมากที่สุด ดูแล้วน่าจะมาจากญี่ปุ่นด้วย “พี่โชซื้อมาจากไหน”

   “ก็ร้านของเล่น พี่เห็นเขาขายด้วยก็เลยซื้อมา”

   “โคตรรักพี่เลย” ทิ้งตุ๊กตาลงบนเตียงแล้วพุ่งกอดพี่โชจนหลังกว้างแนบกับเตียง ผมนอนอยู่บนอกของคนรัก หน้าที่แนบได้ยินเสียงหัวใจเต้นอย่างชัดเจน “ทำไมพี่ถึงไม่ไปที่มูลนิธินั่นอีกล่ะ”

   “ไปได้ยินมาจากไหน” ผมเงยหน้ามองพี่โช เห็นรอยยิ้มนิดๆ ติดมุมปาก “พี่ไม่ไปเพราะหลายเรื่องน่ะ”

   “ฟังได้” ตอนนี้หมีขี้เกียจไม่น่าสนใจเท่าไหร่

   “เมื่อก่อนพี่ไปเพราะอยากคุยกับคนๆ หนึ่ง พี่เห็นเขาเป็นเหมือนน้องสาว แต่วันหนึ่งพี่ได้ยินกับหูว่าเด็กคนนั้นเที่ยวบอกใครต่อใครว่าเป็นแฟนกับพี่และใช้คนอื่นทำงานทุกอย่าง”

   “พี่โชผิดหวังเหรอ”

   “ก็ใช่ พี่ไม่คิดว่า การที่พี่สนิทด้วยจะทำให้เขาเข้าใจผิด”

   “ก็พี่โชใจดีเอง” ยื่นมือบีบจมูกโด่ง “ที่กลอยมาถามเนี่ย เพราะอยากได้ยินจากปากพี่”

   “หลังจากพี่ไม่ไปปีหนึ่ง ก็ได้ยินว่าเขาแต่งงาน”

   “ทั้งที่ยังเด็กเหรอ” แรงเหมือนกันนะเนี่ยผู้หญิงคนนี้ ท่าทางเรียบร้อยแท้ๆ

   “อืม แต่พี่ก็ไม่ได้สนใจ” เผลอนึกถึงใบหน้าสวยที่ดูแล้วไม่น่าทำตัวแบบนั้น “ไม่สนใจพี่เลย” ถูกรุกจูบแถมยังลงมานอนราบกับเตียงแทน

   “ยังบ่ายอยู่เลยนะ” ดันหน้าปีศาจหื่น สายตาจ้องจะเขมือบผม

   “ทำอย่างกับไม่เคย” โห เอาซะไอ้กลอยหน้าร้อนเลย “ขอของขวัญวันเด็กพี่บ้าง”

   “พี่โชแก่แล้ว...อุ๊บ”

   ถูกจูบจนพูดอะไรไม่ได้อีก เป็นการรุกจูบที่เร่งรีบแต่ก็อ่อนโยน พี่โชดึงเสื้อยืดผมทิ้ง พอๆ กับผมที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตคนด้านบนออก กล้ามเนื้อแน่นแม้จะไม่ได้เข้าฟิตเนส มองแล้วก็อิจฉา พยายามอยากจะมีกล้ามหน้าท้องบ้าง แต่ของกินล่อกระเพาะทำให้ทำไม่ได้ มือเย็นลูบไล้จนขนลุก แต่ลิ้นร้อนกลับทำให้ขนลุกมากกว่า ผมปล่อยให้มือเย็นนั่นปลดกระดุมกางเกงแล้วดึงลง

   “มีคนมา” ผมบอกเสียงสั่น กางเกงเกือบหลุดออกจากก้นแล้ว

   “ช่างมัน” พี่โชไม่สนใจ มือก็ดึงกางเกงยีนส์ผมลง แต่เพราะเสียงกดกริ่งหน้าห้องติดกันรัวๆ ทำให้เราต้องหยุดทุกอย่าง แม้จะยากจนต้องปรับอารมณ์กันนานพอสมควร

   ผมเดินออกจากห้องเมื่ออารมณ์สงบ คนมาไม่ใช่ใคร ก็พี่สาวพี่โชที่พาลูกและสามีมาด้วย พี่โชหน้าหงิกหน้างอกระแทกตัวนั่งโซฟา

   “ดูมันทำหน้าเข้า พี่จะมากินข้าววันเด็กด้วยน่าจะดีใจ” พี่ชีสจัดแจงกับข้าวที่ซื้อมาจนแทบล้นโต๊ะ “ถ้าพ่อกับแม่ไม่ไปเที่ยวละก็ พี่ไม่มาหรอก”

   “ไม่มาก็ดี” โดนครับ พี่โชโดนพี่ชีสฟาดไปเต็มฝ่ามือ แต่นั่นไม่ทำให้ผมหัวเราะได้ เมื่อน้องบีมเดินเข้าห้องแล้วอุ้มตุ๊กตาของผมออกมาแล้วขอเฉย

   “ไม่ได้ ตัวนั้นไม่ได้” ผมรีบเข้าไปแย่ง แต่น้องบีมกลับกอดไว้แน่น ปากเล็กก็ร้องลั่น
 
   “ของน้องบีมนะ”

   “ขี้ตู่ นี่ของพี่กลอย เอามาเลย”

   “ของน้องบีม แม่ขา” มีเรียกพักพวกด้วย

   “ของพี่กลอย” ยื้อยุดไปมา แรงของผมมากกว่าอยู่แล้วเลยดึงคืนมาได้ ผมกอดแล้ววิ่งหนีน้องบีมรอบห้อง หลานพี่โชก็ร้องไห้วิ่งตาม “ไม่ให้ นี่ของพี่กลอย”

   “เอาของน้องบีมมา” มือเล็กจับชายเสื้อผมได้ผมเลยหยุดวิ่งแล้วยกตุ๊กตาวางบนหัว น้องบีมกระโดดดึ๋งๆ แต่ก็เอาไม่ได้ “ของ น้อง บีม” เสียงเน้นทีละคำมาพร้อมกับเขี้ยวที่จมเข้าที่สะโพก

   “เจ็บ” ผมแหกปากตะโกนเมื่อน้องบีมไม่ยอมปล่อย สามีของพี่ชีสรีบวิ่งมาอุ้มลูกออกไป พอๆ กับพี่โชที่พุ่งเข้ามาเปิดดูสะโพกของผม รอยเขี้ยวครบทุกซี่ปรากฏอยู่เด่นชัด
 
   พี่ชีสคงเห็นท่าไม่ดีเลยพาลูกพาสามีกลับ ปล่อยให้ผมแหกปากร้องไห้เพราะความเจ็บ รอยฟันทุกซี่มีเลือดออกซิบๆ กับรอยช้ำเป็นจ้ำ


   วันเด็กที่ถูกเด็กกัด ไอ้กลอยจะไม่เล่นกับเด็กอีกแล้ว


....................................

สวัสดีวันเด็กค่า ขอให้เด็กๆ มีความสุขมากๆ เป็นเด็กดีของครอบครัวนะคะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: veevee ที่ 13-01-2017 21:29:19
อ้ออ่อย...  สงสารกลอย  วันเด็กที่จบด้วยน้ำตา 
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 13-01-2017 21:36:50
สนุกอ่ะ วันเด็ก โดนเด็กกัด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 13-01-2017 22:10:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-01-2017 22:11:05
เด็กเกรียนน้ำตาแตกวันเด็กเพราะเด็กกัดเอา  :กอด1: :กอด1: :กอด1: ให้พี่โชทายาให้นะกลอย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 14-01-2017 05:14:02
สงสารกลอย นึกว่าโดนเอาตุ๊กตาไปละ ปกป้องตุ๊กตาสุดฤิทธิ์  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 14-01-2017 07:57:26

กลอยของเจ้ช่างน่าสงสาร
 :mew4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-01-2017 08:45:09
โอ๊ยยยยน้อออ สงสารกลอยเกรียน พี่จะหวงบ้าง ทำไมน้องบีมทำแบบนี้ 55555

กลอยเอ้ยยย ซื้อขนาดนั้น แถมปิดเวบหนี สมควรแล้วที่โชยึดบัตร ยังหาว่าเค้างกอีก
โชชัดเจนมาก แค่น้องสาวนะคะ ดีที่กลอยแค่คิดแต่ไม่ระแวง ยังไงกลอยก็มาก่อนเสมออยู่แล้วสำหรับโช

ขนาดกับพ่อแม่พี่น้องยังหวง นับอะไรกับคนอื่น โชไม่แคร์จ้า 5555

กลอยน่ารัก ยังเกรียนไม่ผิดเลเวล ความหึงของโชยิ่งพุ่งค่ะ รอๆๆๆตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: panda11 ที่ 14-01-2017 10:18:49
ถ้ามีกลอยใจอยู่ด้วย วันไหนๆ พี่โชก็ไม่เหงา เพราะเกรียนกลอยจะหาเรื่องใส่ตัวตลอด 5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 14-01-2017 10:44:16
ไม่รู้จะสงสารเด็กหรือสงสารกลอยดี  :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 14-01-2017 12:11:00
โธ่ กลอยประเกรียน น่าสงสารจริงจริ๊งงง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-01-2017 12:54:50
 :กอด1: กอดปลอบ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 14-01-2017 13:03:08
กลอยเอ้ยน่าสงสารจริง   :laugh: พี่โชจะนกไหมน๊อน้องเจ็บแบบนี้


 :กอด1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 14-01-2017 13:47:58
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 14-01-2017 15:34:32
พี่โชน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 14-01-2017 16:13:53
น้องกลอยยยย แย่งตุ๊กตาจนโดนกัด 555  :hao3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-01-2017 17:58:47
สงสารทั้งน้องบีม ทั้งกลอย อ้อ....พี่โชด้วย  :mew2: :mew2: :mew2:
กลอย พี่โช ถูกขัดจังหวะรัก  :ling1: :ling1: :ling1:
แล้วกลอยถูกน้องบีมกัดอีกด้วย
ไม่เป็นไร ยังไงพี่โช ทายา ลูบยาให้บรรเทา
คิดว่าพี่โชไม่แค่ลูบไล้ยาหร้อก คงลูบ.....แหละ
แล้วก็ปลอบขวัญกลอย ทั้งคืน อะจ๊ากกกกก :ling1: :ling1: :ling1:
อ่านไปยิ้มไป กลอยแข่งเก้าอี้ดนตรีชนะพี่แทม
แล้วยกรางวัลสมุด ดินสอ ให้น้อง
แล้วชมตัวเองว่าทำไมช่างใจดีอย่างนี้ กร๊ากกกกก
ขำพี่แทม พี่ติน อร่อยขนมที่กลอยทำถึงขั้นเลียกล่องเลย
แล้วพี่แทมสั่งขนมกลอยแต่ต้นปี ทั้งที่งานมีปลายปี ฮ่า ฮ่า ฮ่า
คิดถึงกลอยประเกรียน พี่โชกับผองเพื่อน
ขอบคุณไรท์ มาลงให้หายคิดถึง
คนอ่านมีความสุขมากๆ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-01-2017 19:32:00
โธ่ กลอยประเกรียนช่างน่าสงสารรรรรร
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-01-2017 23:58:25
 :L2: :L1: :pig4:

รักคู่นี้
รักความเป็นกลอย  เอ่อ เอิงงง เงยยยยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-01-2017 05:48:00
กลอยเอ๊ยย ให้ปีศาจุ๊บปลอบเนอะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 15-01-2017 11:54:07
 :laugh: ก็น่าสงสารกลอยอยู่นะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 15-01-2017 16:57:41
นึกว่าจะดราม่าวันเด็กซะละ ฮาา แต่กลอยเกรียนนี่ก็นะโดนหลอกขายของเลยดีระพี่โชตามเงินมาได้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 15-01-2017 21:19:51
ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี กลอยเอ๊ย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 16-01-2017 12:57:18
กร๊ากนางกลอยโดนเด็กกัด  ส่วนพี่โชเลี้ยงนกอีกแล้ว :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 17-01-2017 10:42:27
โถ่วววววว เกรียนกลอยผู้น่าสงสารถูกเด็กกัด แต่ทำไมเราขำ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 21-01-2017 17:11:04
สงสารกลอยจัง :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: white feather ที่ 03-02-2017 01:14:51
โดนกัดจมเขี้ยวเลย
สงสารกลอยจัง 555555555
 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-02-2017 14:38:48
เด็กโข่งกับเด็กน้อยแย่งของกันซะงั้น กลอยต้องหวงอยู่แล้ว พี่โชหามาให้ทั้งที

น้องบีมไปนะคะ กัดจมเลยอะ 55555

โชน่ารักนะนี่ ทำขรึมแต่ใจดี ต่อไปใจดีกับกลอยคนเดียวพอนะ เห็นไหมกับคนอื่นทำแล้วคิดไกลน่ะ
กลอยน่ารัก นอยด์แต่รับฟัง

รอตอนวันวาเลนไทน์จ้า เย้เย้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 05-02-2017 18:10:03
น่ารักกกก :ling3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 06-02-2017 22:22:53
ไปอ่านคู่พี่ฟลอยกับต้อมมาก่อนจะอ่านเรื่องนี้ เบลอมากที่ตอนแรกนึกไม่ออกว่า Universe เดียวกัน
ผ่านไปครึ่งเรื่องถึงนึกออก ตลกตัวเองดี
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ หวังว่าจะได้เห็นเรื่องอื่นๆ มาให้อ่านอีกนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 06-02-2017 22:26:59
ไปอ่านคู่พี่ฟลอยกับต้อมมาก่อนจะอ่านเรื่องนี้ เบลอมากที่ตอนแรกนึกไม่ออกว่า Universe เดียวกัน
ผ่านไปครึ่งเรื่องถึงนึกออก ตลกตัวเองดี
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ หวังว่าจะได้เห็นเรื่องอื่นๆ มาให้อ่านอีกนะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 03-03-2017 12:59:32
      :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 07-03-2017 02:16:20
น่ารักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน >ตอนพิเศษ:วันเด็ก< [P.37] [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 18-03-2017 17:00:54
เรื่องนี้น่ารักค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์ [P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 10-04-2017 21:02:28

Just you and I ตอนพิเศษ : วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ




       เทศกาลแสนสนุกกลับมาอีกครั้ง แบบนี้จะให้ไอ้กลอยพลาดได้ยังไง ผมเลือกซื้อปืนฉีดน้ำ เสื้อลายดอกสีแดงแปร๊ดเข้ากับรองเท้าฟองน้ำสีเขียว ยังเหลือหมวกสีเหลืองอีกใบ แต่บังเอิญพี่โชให้ยืมมาก่อน ไม่อย่างนั้นละก็ ไอ้กลอยก็ไฟจราจรนี่แหละครับ

   “งานด่วน” อยู่ๆ พี่โชก็หันมาบอกหลังจากวางสายโทรศัพท์ ผมที่กำลังลองเสื้อ ลองกางเกงถึงกับพุ่งหลาวไปหาที่โซฟา

   “พี่ว่าอะไรนะ งานด่วนอะไรวันไหน” ไม่ได้นะเฮ้ย ผมเตรียมตัวอย่างดีแล้ว อุตส่าห์เอาตัวเข้าแลก เอ๊ย พูดชักแม่น้ำทั้งสิบสายเพื่ออ้อนวอนพี่โชให้ยอมไปเที่ยว

   “พรุ่งนี้” เหมือนถูกฟ้าผ่าเปรี้ยงลงกลางหัว “เอาไว้ไปเล่นวันอื่นดีไหม”

   “ไม่ดี” รีบส่ายหัว ส่ายหน้าจนคอแทบหลุด “ก็นัดพวกพี่จอมไว้แล้วจะเบี้ยวได้ไง” หน้างอยิ่งกว่าปลาทูอีกผมตอนนี้ พี่โชขมวดคิ้วทำหน้าเครียด “เลื่อนไม่ได้เหรอ”

   “ไม่ได้จริงๆ ประชุมด่วนด้วย” เบ้หน้า (แกล้ง) จะร้องไห้ พี่โชรีบดึงผมให้ไปนั่งบนตักแล้วกอดแน่น “พี่ขอโทษ” ผมจ้องหน้าพี่โช ในสมองก็กำลังคิดหาทางจะไปเล่นน้ำตามแผนให้ได้ “อย่าคิดที่จะไปเที่ยวกับพวกไอ้จอมแค่คนเดียว พี่ไม่ยอมแน่ๆ” แม่ง รู้ความคิดด้วยว่ะ

   “รู้ได้ไงว่ากลอยคิดอะไรอยู่”

   “เพราะกลอยคือคนรักของพี่ไง”

   “น่ารักจริงปีศาจคนนี้”

   ยื่นหน้าไปจุ๊บปากคนทำตัวน่ารัก แต่เรื่องเล่นน้ำผมยังไม่ยอมแพ้แน่นอน นัดแล้วต้องได้ไป เตรียมตัวขนาดนี้ ไฟแดงเขียวเหลืองมาซะขนาดนี้จะพังไม่ได้

   “เอางี้ไหม” อยู่ๆ พี่โชก็เรียกความสนใจ “กลอยก็ไปเล่นน้ำหน้าบริษัทของพี่แทน”

   มองหน้าคนเสนอความคิดปริบๆ เออว่ะ บริษัทพี่โชอยู่ใจกลางเมือง คนต้องผ่านเยอะแน่นอน มันก็ต้องสนุกไม่ต่างจากไปเดินตามที่ท่องเที่ยว

   “ไปๆ เอาถังน้ำใบใหญ่ๆ นะ” ผมว่าอย่างตื่นเต้น พี่โชยื่นหน้ามาจะหอมแก้ม แต่ผมพุ่งไปหยิบโทรศัพท์แทน เลยได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้ปีศาจ ไว้หอมช่วงอื่นแล้วกัน ตอนนี้เล่นน้ำสำคัญมากกว่า

   ผมโทรศัพท์นัดแนะพี่จอมอีกรอบ แถมเปิดลำโพงให้พี่โชได้ยินคำชมของเพื่อนตัวเองด้วย พี่จอมด่าเร็วยิ่งกว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูง เอาซะฟังคำด่าไม่ทัน เลยคิดว่ากำลังฟังเพลงแร็ปแทน   

   “มึงด่าให้กูฟังรู้เรื่องบ้างไอ้ห่าจอม” พี่โชตอบกลับหลังจากอีกฝั่งเงียบ คงกำลังเร่งหายใจอยู่แน่นอนเพราะได้ยินเสียงหอบหนักมาก

   (ไอ้เหี้ย) ชัดเจนเต็มๆ สองหู

   “รู้เรื่องยัง” ผมลองถามแหย่พี่โช เลยถูกเคาะหน้าผากอย่างแสบสัน

   (สรุป มึงจะให้กูแบกถังน้ำไปบริษัทมึง ไอ้ห่า ห้องกูจะมีถังน้ำไหม) คราวนี้เป็นพี่ซันครับ คงให้พี่จอมไปพัก ดูจากจังหวะหายใจยังไม่คงที่กลัวจะช็อกตายไปซะก่อน

   “มึงก็ไปซื้อสิวะ กูมีประชุม” ผมปล่อยให้เพื่อนเขาคุยกัน แต่ก็ไม่ได้ลุกไปไหนเพราะเกิดมาเป็นสายเผือกมัน เลยเกาะติดแอบฟังอยู่ข้างๆ

   (มึงประชุมแล้วโยนภาระมาให้พวกกู โคตรดีไอ้โช) โดนประชดไปปีศาจไม่สะทกสะท้าน พี่โชยังหัวเราะเยาะเพื่อนตัวเองอีก (เดี๋ยวกูให้ไอ้แทมแบกมา บ้านมันน่าจะมีถังน้ำที่ไว้ใช้อาบน้ำลูกๆ มัน)

   “ถังอาบน้ำหมานะพี่ซัน บ้าเหรอ” อดไม่ได้ที่จะตะโกนแทรก เกิดสาดปุ๊บหมัดกระเด็นใส่ โคตรสยอง ไอ้กลอยรับไม่ได้จริงๆ
 
   (พี่พูดเล่น บ้านมันมีถังน้ำอยู่แล้วน่า ไม่ก็ไอ้เบหรือไอ้ติน) ความคิดของพี่ซันดีมาก การโยนภาระให้คนอื่นช่างเป็นการใช้สมองที่ฉลาดมากจริงๆ

   “ตามนั้น มึงโทรบอกพวกมันด้วย กูต้องไปเตรียมเอกสาร”

   (แม่ง ใช้กูตลอด)

   โทรศัพท์วางสายไปแล้ว พี่โชยังคงจ้องหน้าผมอยู่

   “หูตึงเหรอถึงฟังใกล้ขนาดนั้น” โดนไปหนึ่งดอก ถึงแม้จะเปิดลำโพงแต่มันตื่นเต้นไง

   “ตึงทุกส่วนนั่นแหละ” แหย่เสร็จก็วิ่งหนีขาที่ยกเตรียมถีบ ช่วงนี้ปีศาจชอบใช้กำลังที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก วันก่อนเตะก้นผมโดยไม่ออมแรง ผลเป็นไงล่ะ จูบกับประตูไปสิ เกือบได้ไปเสริมจมูกใหม่ที่เกาหลีแล้วไหมล่ะ น่าโมโห

   พี่โชลุกไปเตรียมเอกสารอย่างที่บอกในห้องทำงาน ส่วนผมก็ย้อนกลับไปลองเสื้อลายดอกที่ซื้อมาเป็นคู่ ตัวหนึ่งของผม อีกตัวของพี่โช ตอนแรกจะซื้อสีน้ำเงิน แต่มันไม่สะดุดตา เดี๋ยวสาวๆ จะไม่เห็นความหล่อที่โดดเด่น ผมเลยเลือกสีแดงมาแทน โดนปีศาจกระแอมหลายรอบตอนหยิบ แต่สนไหม...ไม่เลย

   ลองเสื้อเสร็จก็เอาไปซักตาก รอพรุ่งนี้ถึงจะได้ใส่ไปอวดความหล่อระดับพันล้าน (กีบ) พอนึกถึงความสนุกก็แทบนอนไม่หลับ มันต้องสุดเหวี่ยงแน่นอนให้ตาย





   
   เช้าที่ไม่ควรจะต้องตื่นเช้าขนาดนี้ ผมนั่งตาปรืออยู่ที่โซฟารอพี่โชเข้าไปหยิบกระเป๋าเอกสาร ที่จริงควรปล่อยให้ผมนอนแล้วเรียกพี่จอมมารับน่าจะดีกว่า แต่พี่ท่านไม่ยอม จะเอาผมไปด้วยให้ได้ ทำไงได้ล่ะ กระผมก็ต้องทำตาม แม้หัวจะฟูเป็นรังนก เสื้อผ้าหน้าผมก็ไม่ได้จัดให้เต็มแบบที่วาดฝันไว้เมื่อคืน

   ไอ้กลอยเซ็งครับพี่ครับ

   ปืนฉีดน้ำกระบอกใหญ่ถูกกอดไว้แน่นยามนอนเคลิ้มในรถ ความเย็นของแอร์และความหอมของน้ำหอมทำให้จมดิ่งไปกับการนอน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนพี่โชปลุก

   “ขึ้นไปนอนในห้องพี่ก่อน” พี่โชว่า ผมก็พยักหน้าเดินสะลึมสะลือตามเข้าไปในตึก ก่อนพี่โชจะแยกไปห้องประชุม ส่วนผมแยกมาที่ห้องทำงาน เจอพ่อของพี่โชด้วย จำไม่ได้เหมือนกันว่ายกมือไหว้ท่าไหนเพราะได้ยินแต่เสียงหัวเราะ (ตาปิดเพราะง่วง) ผมเดินซุยๆ เข้าห้องแล้วทิ้งตัวนอนบนโซฟา ขอให้ได้นอน ตื่นมาค่อยว่ากันอีกที

   หนัก...ความรู้สึกเหมือนถูกก้อนหินหนักๆ ทับที่ท้อง หรือผมจะถูกผีอำ ฉิบหายแล้ว พอจะลืมตาก็ลืมไม่ขึ้น นั่นไง ผีบริษัทหลอกเข้าซะแล้ว

   “จะสวดมนต์ทำไมเนี่ย” เสียงพูดติดขำผ่านทะลุโสตประสาท ผีพูดกับผมด้วย
 
   “สวดให้มึงไง” ผีไม่ได้มาตัวเดียวด้วย เพราะมันกำลังเยาะเย้ยพวกเดียวกันอยู่
 
   “ตื่นเว้ย” เสียงระดับล้านเดซิเบลตะโกนทำให้ผมสะดุ้งเฮือกลืมตาตื่น และตกใจยิ่งกว่าเห็นผี “ดูทำหน้า”

   “พวกพี่ไม่ใช่ผีเหรอ” แหกปากแล้วลูบหน้าลูบตา โคตรกลัวเลยเมื่อกี้ ความคิดของผมโคตรไปไกลจนไม่คิดจะย้อนกลับได้ ใจเต้นแรงไปหมดเพราะกลัว

   “ผีห่าอะไรจะหล่อขนาดนี้วะแม่ง” พี่ตินจกขนมในซองกินไป ปากก็พูดไป “ไอ้เชี่ยแทมจะเอาถังมากี่ใบวะ”

   “กูรีเควสไปละห้าถัง” พี่ซันว่า พลางยิ้มเมื่อได้คำชมจากเพื่อนตัวอวบ

   “ทำได้ดี ว่าแต่มึงเถอะ ใส่เสื้อไม่ดูหนังหน้าเลยนะ” พี่ตินจ้องผมแล้วพูด “ลายดอกสีแดง เสร่อ”

   “โห มึงไม่เสร่อเลยนะ เสื้อลายดอกสีเหลือง กางเกงสีเขียว แว่นสีแดงเนี่ย” ได้พี่จอมช่วยชีวิตไว้ เพราะลำพังผมคงสู้ไม่ได้แน่

   “เออ พ่อคนแต่งตัวดี ไอ้ห่าจอม” เมื่อเถียงไม่ได้ก็ต้องยอมรับ

   “พี่จอม” ผมพูดขึ้น คนที่ช่วยผมก้มหน้าลงมามอง

   “ถ้าจะขอบใจกูละก็ไม่ต้อง เพราะกูชอบช่วยเหลือสัตว์อยู่แล้ว” โคตรซึ้งเหี้ยๆ

   “ไม่ได้ชม แต่จะด่า พี่ลุกออกจากตัวผมสิวะ หายใจไม่ออกแล้วเนี่ย” ที่รู้สึกหนักๆ ที่ท้องก็เพราะพี่จอมนั่งทับนั่นแหละครับ แม่ง ตัวไม่ใช่น้อยๆ

   “ก็มึงเล่นยึดโซฟาหมด กูไม่มีที่นั่ง” ก็เลยนั่งบนตัวผมเลยสินะครับ สบายซะจริง “ไอ้โชจะออกมากี่โมง”

   “ไม่รู้” พูดหลังจากขยับลุกขึ้นมานั่ง “พวกพี่มานานหรือยัง”

   “เออ กินข้าวจนอิ่มแล้วเนี่ย” พี่จอมชี้ไปที่กล่องโฟมที่วางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะ “ของมึงไม่มีนะ เพราะไม่ได้สั่ง”
 
   “ขอบคุณ” ประชดไป แต่โดนหัวเราะกลับมาซะงั้น

   “อย่าไปเชื่อมัน พี่ซื้อมาให้กลอยด้วย บนโต๊ะโช” แลบลิ้นปลิ้นตาใส่พี่จอมแล้วรีบวิ่งไปกินข้างกล่อง พี่ซันโคตรใจดี ยกให้เป็นพี่ชายสุดหล่อใจดีอันดับหนึ่งในใจไอ้กลอยประเกรียนคนนี้เลย


   วันนี้ทุกคนใส่เสื้อลายดอกตามที่นัดแนะไว้ครับ ผมกับพี่โชเป็นดอกสีแดง สีตินก็ดอกสีเหลืองอ๋อย ส่วนพี่ซันกับพี่จอมมาเป็นคู่กับลายดอกไม้สีน้ำเงิน ไม่รู้คนที่เหลือจะซื้อสีอะไรกันบ้าง ว่าแต่ อย่ามาโทษว่าผมเป็นคนเลือกให้ซื้อนะครับ ไม่ใช่ผมเลย คนบังคับคือพี่จอมนู้น และทุกคนก็ดูจะเต็มใจเชื่อ

   หลังจากผมกินข้าวเสร็จ พวกที่เหลือก็โทรมาหาและบอกรออยู่ด้านล่าง ทุกคนเลยเฮละโลลงไป ขยะบนห้องก็เป็นผมนี่ละที่เก็บ นี่ขนาดไม่ใช่ห้องนะ ไอ้กลอยยังต้องเป็นคนทำความสะอาด ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย

        พอทุกอย่างสะอาดเรียบร้อยก็รีบลงไปด้านล่าง เจอพี่เบกับไอ้ทูที่สวมเสื้อเหมือนไม่ได้นัดกัน พี่เบสีเขียว ไอ้ทูสีเหลือง ได้ยินพี่เบแขวะว่านอกใจไม่อยู่กับพี่ติน โคตรตลก ส่วนพี่แทมสีม่วงมาเชียว ทุกคนกำลังช่วยกันยกถังน้ำพลาสติกลงจากหลังกระบะ

       “ไอ้กลอยอย่าอู้ ไปเอาสายยางมา” ถูกใช้ให้แบกสายยางสีน้ำเงินลงจากหลังกระบะ ไม่พอแค่นั้น ยังถูกใช้ให้ไปต่อกับก๊อกน้ำข้างตึกอีก ระยะทางอย่างไกล วิ่งไปวิ่งมา ผอมพอดี

   น้ำพร้อมแล้ว ถังน้ำก็เต็มแล้ว เหลือแค่ผู้ร่วมสนุกที่ยังประชุมไม่เสร็จ

   “เล่นก่อนเลยไหมวะ” พี่ตินโยกหัวตามจังหวะเพลงของอีกฝั่งถนน ซึ่งเล่นสาดน้ำโครมๆ แล้ว ที่สำคัญ มีฟลอเต้นด้วย สาวๆ งี้แต่งสั้นซะผมกลัวการลวนลามแทน

   “ไม่ดีมั้งพี่ เดี๋ยวพี่โช...” พูดไม่ทันจบ พี่แทมก็สาดผมจนหน้าชา แล้วไหนจะน้ำเข้าปากอีก “พี่แทม แม่ง” ทำปากยื่นไม่พอใจ คนทำไม่สนใจเอาแต่หัวเราะ

   “กูขอเอาคืนหน่อยเถอะ มึงทำให้กูเดือดร้อนหลายรอบ หูกูจะตึงอยู่แล้วถูกไอ้เหี้ยโชด่า” พูดไปหัวเราะไป...ได้ “เชี่ย” เสียงโหยหวนดังจนอีกฝั่งหันมามอง เพราะผมคว้าถังน้ำของพี่ตินสาดเข้าใส่พี่แทมจนตัวปลิว เอาซี่ ใครจะแน่กว่ากัน “ไอ้เชี่ยกลอย มึงโดนกู...”

   “ว๊าก” วิ่งหนีสิครับรออะไร พี่แทมแม่งวิ่งโคตรไว ผมเกือบสะดุดอยู่หลายรอบ แขนยาวๆ นั่นแทบจะคว้าคอเสื้อผมได้อยู่หลายครั้ง ดีที่มีสเต็ปการหลบหลีกขั้นเทพเลยรอดได้ จนพี่ซันทนไม่ไหวเลยเข้ามาห้าม

   เมื่อเปียกแล้วพวกเราเลยพากันเล่นน้ำโดยไม่รอคนที่ยังประชุม ตอนนี้บรรดารถที่พาคนไปเล่นน้ำ ไม่ว่าจะกระบะหรือมอเตอร์ไซค์ก็ไม่รอดกองทัพของพวกผม โดยเฉพาะกลุ่มที่เพิ่งเดินผ่านไปไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา

   กลุ่มคนต่างชาติกลุ่มใหญ่ซึ่งมีแต่สาวสวยหุ่นดีแต่งตัวน้อยชิ้นเดินผ่าน พวกเธอถือปืนฉีดน้ำฉีดใส่กลุ่มของผม คงมาท่องเที่ยวเทศกาลนี้นั่นแหละ แล้วกองทัพของพวกผมจะพลาดได้ยังไง โดยเฉพาะพวกรุ่นพี่ที่ไปสปีคอิงลิช ผมเพิ่งรู้ว่าทุกคนทักษะพูดขั้นเทพ เห็นพี่แทมไม่เต็มบาทแบบนั้นแต่สำเนียงนึกว่าเป็นลูกครึ่ง ผมนี้แทบปรบมือให้เลยครับ

   ถึงแม้หลายคน (รวมทั้งผม) จะชอบใจที่ได้เล่นน้ำกับสาวสวย แต่มีอยู่คู่หนึ่งที่กำลังเกิดพายุสงครามความเย็นของน้ำ

   “หุบปากมึงไป กูไม่อยากฟัง” เสียงพี่จอมโคตรเหวี่ยง แถมยังเดินหน้างอไปอยู่หลังพี่ติน คนทำให้งอนก็เดินตาม บ้างก็เอาปืนฉีดน้ำคอยฉีดแล้วยิ้มให้ ส่วนสาเหตุคงเพราะก่อนกลุ่มสาวต่างชาติจะไป ทุกคนพากันหอมแก้มพี่ซันครับ แล้วหอมแก้มคนเดียวด้วยนะ เอาซะทุกคนอิจฉา ยกเว้น...คนที่คนรู้ว่าใคร

   “จอม กูไม่ได้บอกให้เขาทำเลย มึงก็เห็น อย่าโกรธสิวะ” พี่ซันเดินหน้าง้อด้วยการเอาปืนฉีดน้ำฉีดตามตัว ง้อตลกดี
 
   “กูบอกให้หุบปาก ไอ้ติน มึงเดินไปที่ถังน้ำดิ๊ ปืนกูน้ำหมด” คนออกคำสั่งตบแขนเพื่อนตัวเอง แต่พี่ตินชักสีหน้ามองเพื่อนรักทั้งสอง

   “พวกมึงจะงอน จะง้ออะไรกูไม่เคยว่า จะรักกันปานแหกตูดดมกูก็ไม่สน แต่ขออย่าเอากูไปยุ่ง กูอิจฉา” ไปแล้วครับ พี่ตินเดินไปตักน้ำราดตัวเอง พี่คนนี้ก็ตลก

   นี่เพื่อนพี่โชมีเต็มกันบ้างไหมเนี่ย

   “ไอ้กลอย พรุ่งนี้มึงไปเล่นที่ไหนวะ” ไอ้ทูถาม มือมันก็สูบกระบอกปืนฉีดน้ำ

   “ไม่ไปว่ะ กูจะกลับบ้านไปหาแม่” นัดกับพี่โชแล้วด้วยว่าจะไปบ้านพี่เขา “แล้วมึงล่ะ”

   “อาจจะสีลม ถามพี่เบก่อน” โคตรอิจฉาไอ้ทู พี่เบไม่เคยขัดเรื่องเที่ยว ตามใจทุกอย่าง ลองเป็นพี่โชสิ ไม่ ไม่ ไม่ อย่างเดียว

   “แล้วไอ้ม่านกับไอ้อัธละวะ แม่งนัดแล้วไม่เคยว่าง ติดเด็กกันหมด” ขอบ่นหน่อยครับ ไอ้ม่านตั้งแต่คบเด็กก็หายเข้ากลีบเมฆ ส่วนไอ้อัธอยู่ๆ ก็เกิดอาการเก็บตัว บ้ามาก

   “มึงก็รู้เหตุผลแล้วจะถามกูทำไม ไอ้ควาย” โดนด่าไม่พอ ยังโดนน้ำฉีดใส่ปากอีก ไอ้เพื่อนชั่ว

   ในระหว่างที่พวกผมเล่นน้ำสาดผู้คน ประตูบริษัทเปิดออกพร้อมกับมีคนเดินมา พี่โชเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อลายดอกสีแดงทับเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำ ชุดนี้ผมเตรียมให้เลยนะครับ หล่อวัวตายหมาออกลูกเลยทีเดียว

   “แหม เพื่อนโช ดอกแดงเชียว” พี่จอมทักเพื่อนตัวเองที่เดินยิ้มเข้ามาหาก่อนจะหน้าหุบหลังจากได้ยิน

        ดอกแดงนั่นคือคำชมใช่ไหม

   “พวกมึงเล่นไม่รอกูเลยนะ” พี่โชบ่น มือดึงแขนผมไปอยู่ข้างๆ “ใครบอกให้ใส่เสื้อข้างในสีขาววะ” นั่นแหละครับสาเหตุที่ดึงไปยืน ที่จริงขามาผมกลัดกระดุมเลยไม่เห็นเสื้อที่อยู่ด้านในว่าสีอะไร

   “เอาน่า ไม่มีใครเห็นหรอก เสื้อดอกนี่บังเห็นแค่พุงเนี่ย” นี่คือเรื่องจริงที่ไร้คำโต้แย้ง พี่โชชักสีหน้านิดๆ เพราะทำอะไรไม่ได้ และผมเพิ่งสังเกตเห็นบรรดาพนักงานเดินตามออกมาด้วย “นี่พี่ให้พี่เขามาเล่นด้วยเหรอ” ผมถาม พี่โชก็พยักหน้า

   “ครับ” รอยยิ้มแสนดีแบบนี้ชักอย่างให้รางวัลซะจริง ผมเลยฉีดน้ำใส่หน้าไปเป็นการตอบแทนความใจดี “อ๋อ นี่กล้าทำแบบนี้กับพี่เหรอ”

   “รางวัลต่างหาก ใจดีนะเนี่ยเราเนี่ย” ตบอกพี่โชเบาๆ

   “พวกมึงไปสวีทไกลๆ ตีนกู” ถูกพี่จอมขัดซะได้ แหม ตัวเองก็หวานไม่น้อยหน้ากันหรอก



   จากกลุ่มไม่กี่คน ตอนนี้มีเกินสิบ บรรดาพนักงาน แม่บ้าน รวมทั้งรปภ ต่างพากันออกมาเล่นอย่างสนุกสนาน พี่โชเห็นว่าเงียบเกินไปเลยให้ลุง รปภ ไปขนเครื่องเสียงออกมาเปิด ตอนนี้เสียงเพลงสองฝั่งเลยฟาดฟันกันอยู่ กระหึ่มจนยืนเฉยๆ ไม่ได้ ต้องโยกไปมาให้เข้าจังหวะ

   “น่าจะมีไมค์ กูอยากร้องเพลง” พี่แทมพูดลอยๆ ขึ้นมา พวกเราแกลงทำเป็นไม่ได้ยิน เกิดให้ร้องละก็ คนได้วิ่งหนีกันหมด

   ความคึกคักเริ่มมากขึ้นเมื่อคนอีกฝั่งของถนนวิ่งข้ามมาหา และยังเป็นสาวนุ่งสั้นจนด้านบนล่างเกือบปลิ้นออกมาเขย่าต่อมหื่น บรรดาหนุ่มๆ ต่างส่งเสียงซี๊ดซ๊าดรวมทั้งผม ก็แหม ขาวขนาดนั้น หากไม่ถูกสกัดจากปีศาจละก็ ผมคงไปยืนรุมสาดน้ำพวกเธอแล้ว

   “คนนั้นน่ารัก” สะกิดให้พี่โชดู คือผมยืนอยู่ห่างจากกลุ่มนั้นประมาณสิบกว่าก้าวได้ โดนปีศาจดึงมาโคตรไกล

   “คนยืนข้างพี่น่ารักกว่า” นั่น ถูกหยอดเข้าไป ไอ้กลอยเขินเลย “อย่ามองมาก เดี๋ยวพากลับ”

   “ขู่ตลอดนะคนเราเนี่ย” บ่นเสร็จก็เดินไปรดน้ำที่บ่าคุณยายที่เดินผ่านพร้อมอวยพรให้สุขภาพแข็งแรง คุณยายหัวเราะแล้วอวยพรผมกลับ “เดินดีๆ นะครับยาย” โบกมือลาคุณยาย

   “น่ารักจริงนะคนนี้” พี่โชเดินมาประกบแล้วยื่นหน้ามากระซิบ ผมยักคิ้วให้แล้วตักน้ำสาดต่อ

   เสียงเพลงกระหึ่มกับคนอีกฝั่งที่มาเพิ่ม นี่กองทัพเราเริ่มจะปะปนมั่วไปหมดแล้ว ที่สำคัญ เริ่มมีการแบทเทิลเรื่องการเต้นด้วย

   “แม่ง มาข่มว่ะ” พี่ตินเลยมาที่ผมยืนอยู่

   “ข่มขืนเหรอ” ย้อนแบบกวนไป เลยเจอสายตาดุร้ายตวัดมอง “ล้อเล่นเฉยๆ”

   “เอาเด็กมึงไปเก็บในโอ่ง” โหย โหดร้ายว่ะ พี่โชก็เอาแต่หัวเราะ

   “ไอ้เหี้ย” เสียงแจกสัตว์เลื้อยคลานลากยาวจนมาถึงพวกผม พี่แทมหน้าบูดมาพร้อมกับดึงแขนของผม
 
   “อะไรของมึง” ดีมีพี่โชรีบดึงกลับ ไม่งั้นผมคงตัวปลิวตามแรงดึงนั่น

   “ต้องไอ้กลอยเท่านั้นถึงเอาอยู่” พี่แทมพูดรัวๆ แล้วดึงแขนผมโดยที่พี่โชก็ยังไม่ยอมปล่อย กะจะฉีกร่างผมหรือไงวะเนี่ย “อะไรของมึงวะไอ้โช นี่งานแห่งศักดิ์ศรี มึงเข้าใจป่ะ” พี่แทมว่า ถ้าผมหยอดมุก สักขาวดำไป จะโดนกระทืบเพราะมุกแป้กไหม

   “ไม่เข้าใจ” เสียงปีศาจนิ่งได้อีก

   “ไอ้โช ขอไหว้ละ กูยอมไม่ได้...ไอ้จอมเว้ย มาจัดการที” นั่นไง พอทำไม่ได้ก็เรียกพรรคพวก พี่จอมเดินแหวกกลุ่มคนมาหา สีหน้าโหดเหี้ยมไม่สนปีศาจ มือขาวๆ มาดึงแขนพี่โชออกแล้วแทบจะแบกผมขึ้นบ่า พอพี่โชจะคว้าก็ถูกพี่แทมขวาง

   เอาเข้าไป หัวเดียวหรือจะสู้สองหัว งานนี้ปีศาจแพ้ครับ

   ผมถูกพี่จอมพามาในวงล้อม บอกได้สองคำคือ อื้อฮือ คนเยอะเหี้ย พอได้มายืนอยู่ตรงนี้ สายตาทุกคนต่างก็พุ่งมาที่เป้า เอ้ย พุ่งมาที่ผม นี่ให้ผมมาทำไมเนี่ย

   “สู้ๆ เว้ย ไอ้เกรียน” พี่จอมให้กำลังใจก่อนเดินไปอยู่ข้างพี่ซัน

   เดี๋ยวๆ แล้วให้ผมมายืนตรงกลางทำไม แล้วผู้หญิงตรงหน้านี่คือใคร แต่แบบขอเถอะ ชุดที่เขาใส่ทำให้ผมใจสั่น คิดดีๆ ไม่ได้เลยให้ตาย เสื้อกล้ามสีขาวเวลาเปียกน้ำ มันก็เห็นทะลุเนื้อหนังจนเห็นเสื้อชั้นในสีดำ สำหรับผมที่เป็นผู้ชายก็ไม่ปฏิเสธที่ชอบดู แต่สำหรับผู้หญิง ผมว่ามันอันตรายไม่ปลอดภัยสำหรับเทศกาลแบบนี้ มันดูไม่ดีว่ะ

   “ไหวรึเปล่าไอ้อ้วนเตี้ย” คำทักทำให้ความคิดเป็นห่วงหายจากสมอง คนดงคนดีไม่ต้องมีละไอ้กลอย ด่าเตี้ยพออภัย แต่อ้วนนี่รับไม่ได้ ผมไม่ได้อ้วน แค่อวบเท่านั้นโปรดเข้าใจ

   “เพลงมา” ผมตะโกนปุ๊บ เพลงจากเครื่องเสียงก็ดังปั๊บ สาวเข้าก็ออกลวดลายเซ็กซี่เรียกเสียงซี๊ดซ๊าด นั่นน่ะเหรอเด็ด เดี๋ยวไอ้กลอยประเกรียนคนนี้จะโชว์ความเทพในการแดนซ์ให้ดู

   เริ่มจากมูนวอร์คไปรอบๆ วงเพื่อเรียกเสียงฮือฮา เสร็จแล้วก็บอดี้เวฟ คือทำแขนเป็นคลื่น ต่อด้วยป๊อบปิ้ง กระตุกเต้นเหมือนถูกไฟดูดไปหน่อยแต่ก็เหมือนในยูทูปสุดๆ แล้ว นี่ดูแค่ครั้งเดียวนะ ถ้าดูสักอาทิตย์ ไอ้กลอยจะไปประกวดเต้นแน่นอน

   ท่าเต้นสามท่าถูกเต้นวนไปรอบวง สาวเซ็กซี่ที่เต้นเริ่มหยุดแล้วจ้องผมอย่างเดียว เป็นไงล่ะ เจอขั้นเทพเข้าไปถึงกับอึ้ง

   “กลับดีกว่า” อ่าว ผมถึงกับเต้นค้างเมื่อกลุ่มอีกฝั่งพากันยกโขยงกลับ เดี๋ยวสิวะ ยังไม่ได้ตัดสินเลยว่าใครชนะ เฮ้ย

   ตอนนี้ไร้เสียงพูดคุย มีแต่เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มจนผมต้องเต้นอีกรอบ

   “เจ๋งมากไอ้เกรียน” พี่จอมดูจะได้สติไวสุดรีบเดินมาตบบ่าผม “กูคิดถูกแล้วที่เลือกมึง”

   “พี่ไว้ใจถูกคนแล้ว” ยืดอกเต็มที่เมื่อได้คำชม

   “แต่เป็นกู กูก็ยอมว่ะ เต้นเพลงจี่หอยซะกลายเป็นเพลงของจัสตินบีเบอร์ ไอ้ห่า คิดได้ไงวะ” พี่แทมปรบมือรัวๆ เลยครับ ท่าจะชื่นชมผมมากจริงๆ นี่ก็ยิ่งทำให้ยืด

   “เก่งไง คำเดียวเลย” ยิ้มกว้างให้กับคนที่ไว้วางใจใช้บริการกลอยประเกรียน

   “กูประชดไอ้เชี่ย” แล้วพวกเขาก็พากันหัวเราะ อกยืดแฟบเลยทีเดียว


   ศึกแห่งศักดิ์ศรีจบลงด้วยชัยชนะของผม ต่อจากนั้นก็กลับมาสาดน้ำกันอย่างเมามันส์จนท้องแต่ละคนเริ่มร้อง พอดีรถลูกชิ้นทอดผ่าน ผมก็วิ่งหนึ่งคูณร้อยไปเรียก รถลูกชิ้นอาจตกใจแต่ก็ยอมเลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานหน้าบริษัท จากนั้นก็ต่างคนต่างสั่ง ลูกชิ้นเต็มกระทะหมดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน (ลุงแกว่ามาแบบนั้น)

   “ลุงครับ ผมสั่งตั้งเยอะ แถมให้หน่อยสิ นะครับ” ตอนนี้ลุงแกเพิ่มลูกชิ้นลงไปทอดใหม่อีกรอบ แล้วการที่ผมอ้อนแบบนี้ก็เพื่อปากท้องของพี่น้องเพื่อนๆ ทุกคน ลุงคนขายแกหัวเราะออกมาเมื่อเจอรอยยิ้มและการกระพริบตาปริบๆ เพื่ออ้อน (กระซิบ เกือบถูกพี่โชอุ้มหลายรอบมาก มาหาว่าผมอ่อย)

   “ก็ได้ๆ เห็นว่าน่ารักนะ ลุงจะแถมให้เยอะๆ” ลุงแกพูดเสร็จก็คีบลูกชิ้นใส่ถุงเพิ่มให้อีก ผมยกมือไหว้พร้อมเอียงหน้าสี่สิบห้าองศาเพื่อโปรยยิ้ม

   “เพราะแบบนี้ไง ไอ้โชถึงหลงจนถึงขั้นโทรมาด่ากู” เสียงพี่แทมลอยมาให้ได้ยิน แต่ผมยังไม่สนใจ พี่เขาคงพูดกับเพื่อนนั่นแหละ

   “ทำไมวะ” นี่เสียงพี่เบครับ

   “แค่ฝันร้ายมีกูอยู่ในนั้นก็โทรมาด่า แล้วแค่จะมาบ้านกูแต่กูไม่อยู่บ้านก็โทรมาจิก กูถ่ายรูปกับข้าวลงไอจีก็โทรมาตวาดหาว่ากูทำให้เด็กมันงอแง ไอ้เหี้ย กูทำอะไรก็ผิด นี่กูเป็นชู้มันหรือเปล่ายังงงๆ” มีความระบายครับ ผมยิ้มแหยๆ พลางยกมือไหว้ขอโทษ ก็แหม ผมไม่ได้บังคับให้พี่โชทำสักหน่อย

   “ให้กูเป็นชู้กับมึง กูไปบวชดีกว่า” พี่โชพูดหลังจากผมป้อนลูกชิ้น (ที่เป่าจนเย็นแล้ว)

   “กูหมายถึงไอ้กลอยเว้ย กับมึงกูก็ไม่เอา” เหมือนพูดสะกิดต่อมปีศาจ พี่โชรีบวิ่งไล่เตะพี่แทมไปรอบลาน พวกผมก็พากันหัวเราะ

   แต่พี่แทมเนี่ยนะจะเป็นชู้กับผม...แค่คิดก็ปวดหูแล้ว (หมายถึงต้องทนฟังเพลงน่ะนะ)

   วันนี้เป็นวันที่โคตรมีความสุข ได้อยู่กับคนรัก เพื่อน พี่ และบรรดาป้าๆ ลุงๆ ที่น่ารัก พี่โชไม่ถือตัวเลยเท่าที่ผมสังเกต แต่นอกเวลางานนะ ถ้าเป็นในเวลาทำงานคำว่าโหดยังน้อยไป...กว่าพวกเราจะเลิกเล่นน้ำก็เริ่มค่ำ ทุกคนเก็บของกลับ เหลือแค่ผม พี่โช แล้วก็พนักงาน

   “ขอบคุณนะคะที่ให้พวกป้ามาเล่นด้วย ไม่ได้เล่นสงกรานต์มานานมากเพราะมัวแต่ทำงาน” ป้าแม่บ้านยกมือไหว้พี่โช และคนถูกไหว้รีบไหว้กลับ

   “ไม่เป็นไรครับ ปีใหม่ทั้งที กลับบ้านกันดีๆ นะครับ” พี่โชพูดพร้อมรอยยิ้มหล่อประจำตัว แฟนผมโคตรดี เลือกไม่ผิดจริงๆ แม้ตอนแรกจะดูหยิ่ง ดูนิ่ง แต่จริงๆ โคตรใจดี “นี่ก็หน้างออีก เดี๋ยวแวะซื้อใหม่ที่ร้านสะดวกซื้อก็ได้”

   “มันเหมือนกันที่ไหนเล่า” งอแงครับ พี่โชเอาลูกชิ้นทอดแบ่งให้พนักงานหมดเลย ไม่ได้โกรธที่ให้หรอกนะครับ แต่น่าจะแบ่งไว้บ้าง

   “บ่นอยากกินซาลาเปาไม่ใช่เหรอ แล้วเมื่อกี้ก็กินเยอะแล้วด้วย” นี่คือคำพูดง้อเหรอเนี่ย

   “เออก็ได้” ผมไม่ได้เห็นแก่กินนะครับ แต่ซาลาเปามันอร่อยก็เท่านั้น




   ค่ำคืนที่อิ่มหนำกับซาลาเปาห้าลูกและขนมจีบอีกหลายไม้ ทำให้วันนี้ผมนอนหลับสนิทจนไม่อยากตื่น แต่ก็ต้องตื่นเพราะปีศาจทั้งฉุดทั้งลาก นี่มันเพิ่งตีสี่เองนะ เหมือนเพิ่งนอนไปเมื่อกี้นี้เอง


   “ไปอาบน้ำ เดี๋ยวไม่ทันแม่ใส่บาตรนะ...กลอย อย่าดื้อ” คนฉุดคงอาบน้ำแล้วเพราะกลิ่นแป้งกับน้ำหอมลอยเข้าจมูกตลอดเวลา

   “รู้แล้วๆ”

   “ลืมตาด้วย อย่าพูดเฉยๆ”

   สุดท้ายก็ต้องไปอาบน้ำทั้งที่ตายังปิด แอบเดินชนประตูด้วย แม่งโคตรเจ็บ ทีนี้ตาสว่างเลยทีเดียว

   พี่โชขับรถพาผมไปหาแม่ที่ร้าน ก่อนพากันเดินข้ามฝั่งไปรอพระเพื่อตักบาตรวันมหาสงกรานต์ พอตักบาตรเสร็จพี่โชก็แยกไปเอาของที่รถ ผมกับพี่โชเลือกซื้อกระเช้าสำหรับไหว้ขอพรแม่ ส่วนพี่กิ่งเตรียมน้ำไว้รดน้ำขอพร ความรักของครอบครัวเป็นอะไรที่ดีที่สุด ผมกอดแม่เมื่อได้คำอวยพรที่แสนศักดิ์สิทธิ์

   เมื่อได้พรจากแม่ของผมแล้ว พี่โชก็พาผมกลับบ้านเพื่อไปขอพรพ่อแม่ตัวเองบ้าง ซึ่งคำอวยพรไม่ได้มีแค่คำพูด เพราะยังมีซองหนาๆ ให้อีกคนละซอง ไอ้กลอยแทบกราบเท้าเลยครับ

   “อย่ากินเยอะล่ะเรา พุงยื่นแล้ว” แม่พี่โชหยิกพุงผมแล้วล้อ

   “แม่อ่า ด่าอ้วนยังไม่เจ็บเท่าพุงยื่น” ทำปากยื่นจนคนอื่นพากันหัวเราะ

   “อ่าว งั้นหรือ” ผมโผเข้ากอดแม่พี่โชแน่น พูดขอบคุณเป็นล้านรอบก็ไม่พอสำหรับความรักที่ให้ผม “วันนี้ไปเที่ยวไหนล่ะเรา”

   “พี่โชไม่ให้ไป เพื่อนกลอยไปสีลม กลอยอยากไปมากเลย” รีบฟ้องครับ มีเสียงคนไม่ให้ไปกระแอมเบาๆ

   “ดีแล้ว เล่นน้ำมากๆ เดี๋ยวก็เป็นหวัด หรือถ้าอยากเล่น ก็เล่นกับน้องบีมที่บ้านนี้ก็ได้ นู้น เตรียมสระน้ำไว้แล้ว” แม่พี่โชชี้ไปอีกฝั่งของบ้าน ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ ตั้งแต่เจอหลานพี่โชกัดจมเขี้ยววันนั้นยังจำฝังใจไม่หาย สะดุ้งทุกครั้งที่น้องเข้าใกล้

   “ผมว่าจะพาไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยตามพวกไอ้เบไปที่สีลมน่ะครับ” พี่โชว่า คงเห็นผมมองหลานตัวเองที่ยิ้มแป้นมานั่งข้าง เดี๋ยวนะ ไปสีลมเหรอ “ตาวาวเชียวนะ” เสียงกระซิบไม่ทำให้หุบยิ้มหรอก

   “งั้นก็กลับเถอะ เดี๋ยวไปสายรถติด” พ่อพี่โชพูดบ้างหลังจากนั่งฟังอยู่เฉยๆ ไม่อยากบอกว่าผมเคยได้ทองแท่งจากพ่อพี่เขาด้วย กัดจนฟันแทบหักกลัวว่าจะเป็นของปลอม


   ผมไหว้ลาทุกคนก่อนจะตามพี่โชมาขึ้นรถ พออยู่บนรถปุ๊บก็รู้สึกระริกระรี้ทันที




   “ไปสีลมๆ”
 
   “พูดไปงั้นแหละ”

   “หือ หมายความว่าไง”

   “ก็พูดไปงั้น ไม่ไปหรอก คนเยอะพี่ไม่ชอบ”

   “ได้ไง พูดแล้วห้ามคืนคำสิ ไอ้กลอยไม่ยอมนะ”

   “คนเยอะ รถแยะ อยู่บ้านตากแอร์นั่นแหละสบาย”

   “พี่โชอ่า”

   “ตามนั้นครับน้องกลอย”

   “ปีศาจ กลอยจะไป ฮือ”

   ดีดดิ้นอยู่บนรถ พูดให้อยากแล้วก็จากไปแบบนี้ได้ยังไงเล่า ไม่ย๊อม ไม่ยอม

   “บุฟเฟ่ต์ซูชิดีไหม หรือสเต็กดี”

   “สเต็ก”

   เรื่องไปสีลมถูกลืมไปทันทีที่สมองนึกถึงเมนูสเต็ก ไก่หรือหมูดี แต่เฟร้นฟรายก็อยากกิน สลัดไม่เอามันมีแต่ผัก เอ..หรือกินซูชิดีนะ ผมควรกินอะไรดีครับ   



..................................................................

สวัสดีปีใหม่ไทยค่า มาด้วยความคิดถึงและยังรักทุกคนเหมือนเดิม  :mew1: :mew1:     
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-04-2017 21:39:39
ไม่เห็นแก่กินเลยนะ กลอยย :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-04-2017 21:41:53
คิดถึง กลอยประเกรียน พี่โช  :mew1: :mew1: :mew1:
ก็มาเล่นสงกรานต์กันให้เย็นชื่นฉ่ำใจ
มาพร้อมๆเพื่อนๆพี่โช
กลอยยังคงน่ารักแม้ว่าเริ่มมีพุงหน่อยๆ
พี่โชยังคงหลงกลอย ไล่เตะพี่แทม สนุกสนานมาก
ขอบคุณไรท์ มาลงให้คนอ่านมีความสุข
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 10-04-2017 21:48:16
หนูกลอยอ้วนจริงๆๆเหรอพี่โช

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่า :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 10-04-2017 22:23:22
 :m20: ของกินสกัดได้ทุกอย่างซินะ... :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 10-04-2017 22:32:50
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 10-04-2017 23:29:21
 :laugh:  น้องน่ารักตลอด กินเก่งระวังพุงหลามนะ :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-04-2017 03:16:43
ยังเรียกเสียงฮาได้เช่นเคยสำหรับกลอยปะเกรียน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-04-2017 04:43:03
พี่โชเลี้งเมียเหมือนเลี้ยงลูกจริงๆ แอบขำพี่แทมบ่นเรื่องความซวยจากนังกลอย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 11-04-2017 07:43:16
55555 โชนอกจากจะรู้ใจแล้ว ยังรู้ทางด้วย
กลอยงอแงให้สมอยากหน่อย แพ้ของกินได้ไง อดเลยเห็นไหม สีลม

น่ารักมากเลยค่ะ โชเอาใจมาก ห่างตัวไม่ได้เลยนะ

รอเทศกาลต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 11-04-2017 13:01:49
นางเกลียนเอ๊ยแพ้ของกินลาบคาบเลยนะ  :ling1: :ling1: :ling1: ปล.เมื่อไรหนังสือจะออกวายขายสักทีนะ อยากด้ทั้นางกลอยน้องต้อมเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-04-2017 14:40:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-04-2017 16:48:06
เห็นแก่ของกินจริงๆเล๊ย กลอยเอ๊ย
จากกลอยเลยจะเป็นกลมกลิ้งซะล่ะมั้ง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 11-04-2017 22:18:58
คิดถึงกลอย  เกรียนอย่างสม่ำเสมอ  ชอบมาก
รวมเล่มเถอะ อยากได้มาสะสม ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 13-04-2017 22:58:14
เจ้ากลอยเกรียน นี่โชมันลงไปได้ยังไง กร๊ากกกกกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 13-04-2017 23:32:04
สนุกมาก ๆ ครับ ชอบทุกคู่เลย พี่โช-กลอยประเกรียน น่ารักมาก



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 14-04-2017 12:19:16
555555555555555555555555555+
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-04-2017 01:06:20
เกรียนอย่างเดียวไม่พอต้องเห็นแก่กินด้วย อุ๊บบส์
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Katzube ที่ 15-04-2017 11:45:41
กลอยประเกรียนนนนนนนนนนน
เกรียดตลอดเว

คิดถึงกลุ่มนี้จัง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 16-04-2017 07:02:04
กลอยเอ้ย เกินคำว่าอวบแล้วนะพุงยื่นเนี่ยะ
เป้าหมายแรงกล้าหรือจะสู้ของกินแพ้ทางตลอด



หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryu7801 ที่ 17-04-2017 13:31:38
กลอยโดนปิศาจหลอก 555555 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 17-04-2017 16:13:34
อ่านตอนพิเศษแล้วรู้สึกรักกลอยเป็นพิเศษน่ารักจริงๆๆๆๆเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันสงกรานต์แสนชุ่มฉ่ำ[P.38] [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: hyukkiemai ที่ 19-04-2017 21:27:19
กลอยบวมแล้วลูกกกกก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและ...[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 30-06-2017 23:02:19

ตอนพิเศษ : เด็กน้อยและแมวเหมียว




       “ไอ้แมวดำ แกคิดว่าแกแน่หรือไงวะ”

   “ไอ้เชี่ย นั่นพูดหรือท่องวะ”

   “กูทำเต็มที่แล้วเนี่ย ผ่านๆ เถอะ กูเหนื่อย”

   “กูเหนื่อยกว่ามึงร้อยเท่าไอ้ห่า”

   เสียงคนทะเลาะกันฟังแล้วโคตรไม่ลื่นหูสักนิด ผมกรอกตาไปมามองคนซ้ายที่เถียงคอเป็นเอ็น คนขวาเถียงตาจะถลน มันคงจะไม่หนักอะไรผม หากพวกมันไม่ด่ากันข้ามหัวผมแบบนี้

   ทนไม่ไหวแล้วโว้ยย

   “จะทะเลาะกันทำแมวอะไร คนที่เหนื่อยสุด ลำบากสุด ทรมานสุดก็คือกูนี่” ผมแหกปากโวยวายพร้อมลุกขึ้นยืน “มึงดู กูต้องทนร้อนเพราะชุดที่พวกมึงให้กูใส่ หัวเข่ากูด้านเพราะพวกมึงให้กูคลานไปคลานมา แล้วมึงดู มึงดูนี่ มือนุ่มๆ กูเป็นแผลเพราะต้องไถไปมา แล้วกูบ่นไหม ก็ไม่ ไอ้พวกห่า”

   พอกันที ความอดทนไอ้กลอยก็มีจำกัดนะครับ ผมโคตรเบื่อที่ต้องมาทนฟังเพื่อนทะเลาะกัน แต่ที่ทนก็เพราะเป็นละครของคณะ ขนาดโดนชี้นิ้วสั่งให้เล่นเป็นแมวดำยังไม่บ่นสักคำ นี่ยังไม่รวมชุดแมวร้อนๆ นี่นะครับ ผ้าอย่างหนา พอคลานทีเหมือนกระรอกบินกลายๆ ก็แขนขามันมีผ้ายาวๆ ไอ้กลอยเครียด

   “ไอ้กลอย กูขอโทษ เอาใหม่ๆ มึงเล่นดีๆ สิวะไอ้เค” ไอ้ต๋องหน้าเสียไปแว๊บหนึ่ง ก่อนยิ้มแหยๆ สั่งคนที่เล่นเป็นเด็กเกเรของเรื่อง

   เราเล่นเรื่องเด็กน้อยกับแมวเหมียวครับ บทละครมาจากคนในคณะที่ช่วยกันเขียนขึ้นมา ผมมีหน้าที่เป็นแมวก็เป็นไปไม่มีสิทธิ์เถียงหรือออกความคิดเห็น ถึงจะออกก็ถูกตัดบททุกที

   “เออ อย่าให้กูต้องบ่นอีก” ผมว่าอย่างอารมณ์เสีย ก่อนลงไปคลานเป็นแมวตามเดิม


   ชีวิตไอ้กลอย ปากมีหมาไม่พอ ตัวยังต้องเป็นแมวอีก แล้วมันต้องร้องรวมกันยังไงดีวะ


   เพื่อนๆ ทุกคนต่างก็เริ่มทำงานในหน้าที่ของตัวเอง พวกนักแสดงก็ซ้อมไป ผมก็คลานไปตามคำสั่งของผู้กำกับอย่างไอ้ต๋อง นี่ก็เหมือนกัน ใครเลือกมันเป็นผู้กำกับวะ

   พวกเราวุ่นอยู่กับการเตรียมงานที่จะมีในวันพรุ่งนี้ สงสัยคืนนี้อาจไม่ได้นอนด้วยซ้ำ ผมเดินหน้าง่วงมานั่งจุ้มปุกอยู่ข้างไอ้ทูที่กำลังอ่านสคริป มันเป็นพิธีกรคู่อีเข็มครับ สองคนนี้ไอ้ประธานรุ่นมันบอกเข้าขากันดี อยากถามเหลือเกินว่าเอาอะไรมองครับพี่ครับ
 
   “ง่วง” ผมว่า หัวก็เอนไปพิงไหล่เพื่อนสนิท

   “อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว...มั้ง” ไอ้ทูก็อ้าปากหาวไม่ต่างจากผม หรือมันติดจากผมวะนั่น “แล้วมึงขอพี่โชหรือยังว่าจะนอนคณะอะ” คำถามที่ทำเอาผมถอนหายใจออกมา “เออ ไม่ต้องตอบก็พอรู้”

   “ก็นั่นแหละ กูลงทุนคลานเข่าเข้าไปขอร้องแต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย” บอกอย่างเซ็งๆ หน้าตึงของปีศาจยังเด่นชัดอยู่ในความทรงจำ

   “คบกันเป็นปี ยังไม่เลิกหึงเหรอวะ” รีบพยักหน้ารัวๆ ตอบเพื่อน “โห...”

   “ถ้ากูหน้าตาดีแบบมาริโอ้จะไม่เถียงสักคำ แต่ดูกู หน้ากลมๆ แก้มก็มี พุงก็ยื่น แล้วจะเอาอะไรมาหึงกูว้า” ทำปากยู่เมื่อนึกหาเหตุผลของการหวง พี่โชชักจะหวงหนักขึ้นทุกวัน บางวันผมไม่มีเรียนก็จะหอบไปที่ทำงาน ไม่ก็หิ้วผมไปไว้กับพี่สาว รู้ทั้งรู้ว่าผมกลัวน้องบีมกัด อดีตฝังใจมิเคยลืมเลือน แผลเป็นยังมีนิดๆ อยู่เลยนะครับ ฟันคนหรือฟันปลาปิรันย่าก็ไม่รู้

   “เสน่ห์ของมึงอยู่ที่....” ไอ้ทูเปรยออกมาเรียกความสนใจของผม “อยู่ที่ปากหมาๆ”

   “ขอบคุณที่ชม”

   “อ่าวไอ้ห่า กูพูดจริง”

   ผมเดินหนีเพื่อนสนิทที่หัวเราะไล่หลังมาติดๆ ไอ้ทูมันก็คบกับพี่เบช่วงระยะเวลาใกล้ๆ กัน แต่พี่เบไม่เห็นหึงหวงบ้าบอขนาดปีศาจเลยให้ตาย แถมวันนี้ไอ้ทูยังนอนที่นี่ได้อีก โคตรไม่ยุติธรรม

   พักให้คลายเหนื่อยเสร็จก็กลับมาซ้อมใหม่ ผมต้องคลานเข้าไปหาคนนั้นที คนนี้ที คลานจนหัวเข่าด้านหมดแล้ว มีครีมตัวไหนแก้ความด้านลงได้บ้างครับเนี่ย

   “ไอ้เชี่ยกลอยระวัง!” หลายเสียงเรียกแต่ไม่ทันแล้วครับ ความมึนที่ต้องคลานวนไปมาทำให้สมองเบลอจนคลานไปชนกำแพงเสียงดังลั่น

   “เชี่ย เจ็บ” น้ำตาแทบเล็ดบอกเลย “ทำไมไม่เรียกกูวะ” ลูบหน้าผากป้อยๆ ไม่รู้แตกหรือเปล่า

   “เรียกแล้วแต่ไม่ทัน ซอรี่เพื่อน” ไอ้ต๋องว่า ก่อนพวกทีมงานมันจะมาดูหน้าผากผม “โหย ไม่มีรอยอะไรสักนิดน่า" เคยเห็นเพื่อนตัวเท่ามดไหมครับ แทบอยากจะขยี้ๆ บี้ให้แหลกคามือ

   กว่าจะซ้อมเสร็จก็ปาไปตีหนึ่ง ผมเดินง่วงๆ ลงจากเวที แล้วเหมือนตาจะเบลอที่เห็นปีศาจหน้าหล่อยืนกอดอกจ้องผมอยู่ พอเดินเข้าไปใกล้พร้อมยกมือลูบๆ

   อืม...คนจริงๆ นี่หว่า

   “ทำอะไร” เสียงนิ่งพอๆ กับหน้า ผมฉีกยิ้มเท่าที่จะมีแรง วันนี้พลังงานหมดไปเยอะจนแทบจะหลับกลางอากาศอยู่แล้ว “กลับได้แล้ว”

   “อุ้ม” ไม่รู้อะไรดลใจให้พูดออกไป หรือเพราะความง่วง “อุ้มกลอยหน่อย ขี้เกียจเดิน” ตาก็ปิด แขนก็ยืดออกไป ไม่รู้พี่โชทำหน้ายังไง

   “ครับๆ” คำตอบรับพร้อมเสียงขำขึ้นจมูกเบาๆ

   ผมตะกายขึ้นหลังกว้างที่คุ้นเคย กลิ่นน้ำหอมแสนแพงของพี่โชลอยเตะจมูกจนอดที่จะถูหน้าบนหลังไม่ได้ นี่ถ้าไม่ง่วง อาจมีกัดไปแล้วด้วย เพราะผมชอบกัดบ่อยเวลากอดพี่โชจากด้านหลัง







   
   ไม่รู้นอนหลับไปนานเท่าไหร่ มารู้สึกตัวตอนถูกน้ำอุ่นๆ ราดบนตัว ผมปรือตาขึ้นมองเจอหน้าขาวที่เริ่มมีไรหนวดนิดๆ ดูเซ็กซี่ พี่โชตั้งใจอาบน้ำให้ผมจนลืมดูว่าผมตื่นแล้ว

   ตั้งแต่พี่โชทำงานหนัก เราสองคนแทบจะไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวที่ไหนนานๆ มีบ้างแต่ก็ไปกลับตลอด และทุกครั้งที่กลับไป อีกวันพี่โชจะกลับห้องดึกมาก เพราะแบบนั้นผมถึงไม่ค่อยงอแงอยากให้พาไปเที่ยว

   ที่จริงก็แอบไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยๆ รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะครับ

   ผมจ้องหน้าขาวที่เริ่มขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นฝ่ามือผมมีแผลถลอก หัวเข่าก็มีรอยช้ำเป็นจ้ำๆ

   “ได้แผลตอนไหนวะ” เสียงเหมือนพูดกับตัวเอง แต่ผมอยู่ใกล้ไม่ได้ยินก็หูตึงแล้วครับ

   “ตอนคลาน” ตอบออกไป คนที่สนใจแผลถึงกับเงยหน้าขึ้นมามอง ผมรีบฉีกยิ้มให้ทันที ไม่ใช่อะไรนะครับ เราต้องยิ้มสู้ปีศาจ

   “คลานอะไรทำไมมีแต่แผล แล้วรอยแดงๆ ที่หน้าผากไปโดนอะไรมา” พอถูกถามปุ๊บ ผมก็รีบยกมือจับปั๊บ ไหนพวกไอ้ต๋องบอกไม่มีแผลไง แม่ง โกหกกูได้

   “ชนกำแพง” ตอบเสียงเบาหวิว

   “ไปทำอะไรถึงโขกกำแพง” อยากตอบให้ตลกว่ามีมาริโอ้เป็นไอดอล (เกมส์สมัยก่อน มาริโอ้เก็บเหรียญ) แต่ใบหน้าโหดๆ ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “กลอย”

   “ซุ่มซ่ามเอง” ยิ้มแห้งๆ ให้กับความโง่ของตัวเอง พี่โชเหมือนไม่เชื่อ แต่พอผมไม่หลบตาก็เลยถอนหายใจออกมาแทน “ชนไม่แรงนะ แต่ทำไมมีรอยก็ไม่รู้” และพรุ่งนี้ต้องช้ำแน่นอน ไม่ต้องฟันธงไอ้กลอยก็รู้

   “เสร็จจากพรุ่งนี้ก็ไม่มีแล้วใช่ไหม” ผมพยักหน้าให้กับคำถาม มือพี่โชจับฝักบัวมาล้างฟองสบู่บนตัวผม “ดีแล้ว พี่ไม่ชอบเห็นกลอยมีแผล ถ้าไม่เห็นว่าเป็นงานคณะละก็...”

   “จะไปกระทืบคนสั่ง พี่พูดคำนี้โคตรบ่อย โอ๊ย” ถูกเขกหัวเฉย ดีไม่โดนซ้ำแผลเดิม

   “ก็เพราะเป็นห่วงนั่นแหละ” แม้ปีศาจจะบ่นหรือดุมากไปหน่อย แต่ก็โคตรน่ารักเลย ว่าไหมครับ

   “โหย รู้แล้วว่าปีศาจเป็นห่วงแถมหวงมาก” ผมโผเข้ากอดเอวพี่โชพร้อมซบอกด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเงยหน้ามองคางที่เริ่มมีเคราบางๆ “แต่ลดบ้างก็ดี แบบเหมือนห้างไง มีช่วงเซลล์งี้”

   “ตลกไหม...”

   “ตอบเลยว่าไม่” โดนขัดมุกตลอด “พี่โช พรุ่งนี้อย่าลืมไปดูนะ”

   “ดูแมวดำที่โผล่มาไม่กี่นาทีน่ะเหรอ” ร้ายว่ะ แฟนใครวะ ผมยู่ปากเมื่อถูกหัวเราะเยาะ แต่ไม่นานปากยู่ๆ ก็ถูกกดจูบหนักๆ หลายรอบ “ไม่พลาดแน่”

   “เอากล้องมาอัดวีดีโอด้วยนะ จะเก็บไว้ดู” ผมว่า พี่โชก็รีบพยักหน้า

   การอาบน้ำของวันนี้จบลงอย่างดีและไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยความเหนื่อย ง่วง และเพลียของผม ปีศาจเลยไว้ชีวิตให้ ไม่อย่างนั้นน่ะเหรอ...ผมหลับคาอ่างแน่

   “ฝันดีไอ้แมวดำเกรียน” พี่โชบอกก่อนจะมีความอุ่นวาบที่หน้าผาก

   “อย่าลืมกล้องนะ” บอกไปพร้อมตาที่ปิดสนิท ฝันดีครับ






   ครับ ฝันดีมาก ฝันดีซะจนผมกำลังจะไปสาย แม่งเอ๊ย มัวแต่นอนหลับใต้ผ้าห่มอุ่นกับอ้อมกอดแสนคุ้นเคย รู้ตัวอีกทีนาฬิกาก็บอกเวลาหกโมงเช้า ทั้งที่เพื่อนนัดตีสี่ ชีวิตนี้ของไอ้กลอยจะเหลือรอดปลอดภัยไหมครับเนี่ย

   ผมวิ่งผมกระเซอะกระเซิงมาที่หลังเวที ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมของ บ้างก็แต่งหน้าท่องบท พอทุกคนหันมาเจอผม สายตาเยี่ยงอสูรร้ายก็พุ่งมาทะลุร่างจนแทบพรุน ผมยกมือไหว้รอบทิศก่อนถูกคาดโทษไว้ก่อนเพราะเดี๋ยวไม่ทัน ดีที่เป็นแมว มีชุดใส่ มีหมวกคลุมเลยไม่ต้องแต่งหน้า

   “มึงเล่นดีๆ นะเว้ย เขาซ้อมก่อนขึ้นมาสองสามรอบแล้ว ถ้ามึงเล่นไม่ดี ทุกคนจะโทษมึงคนเดียวเลย” อยากใช้หมาในปากให้เป็นประโยชน์ แต่ตอนนี้ผมควรสงบปากกับไอ้ประธานรุ่นก่อน

   ช่วงเวลางานคณะกำลังจะเริ่มแล้วครับ ตอนนี้บรรดาอาจารย์ นักศึกษาทั้งในและนอกคณะนั่งอยู่จนเต็ม คนนอกที่มาก็นั่งปะปน เรียกได้ว่า ละครเวทีคณะผมก็มีคนสนใจไม่น้อยหน้าคณะอื่นเลยก็ว่าได้ การเริ่มพิธีดำเนินไปอย่างแบบแผนที่ถูกเตรียมไว้ พิธีกรคู่ก็ดูเข้าขากันอย่างลงตัวแบบที่คนเลือกว่าไว้ (ไอ้ประธานรุ่นตาถึงว่ะ)

   เสียงหัวเราะเริ่มดังขึ้นไม่ขาดสายเมื่อไอ้ทูกับอีเข็มปะทะคารมกันไปมาเพื่อจะเข้าละคร ผมแอบมองเห็นพี่โชที่พาเพื่อนตัวเองมาด้วย เดี๋ยวนะ ผมจะถูกพี่จอมล้อปะเนี่ย

   “ถึงเวลาแล้ว ขอเชิญทุกท่าน รับชม ละครเวทีเรื่อง เด็กน้อยกับแมวเหมียว ได้เลยค่า”

   สิ้นเสียงอีเข็ม ม่านที่แดงก็ค่อยๆ เปิดออก ปิ่นเพื่อนคนละสาขาที่รับบทเป็นเด็กน้อยตัวเอกของเรื่องเดินยิ้มร่าออกไปหน้าเวที ด้วยใบหน้าที่แสนสวยทำให้คนมองยิ้มตามได้แทบทุกคนอย่าง ขนาดปีศาจของผมยังยิ้ม


   อันนี้เริ่มไม่โอเคแล้วว่ะ กลับไปมีเคลียร์แน่


   เด็กน้อยแสนสวยเดินเข้าไปในป่า เจอก้อนหินใหญ่ก็นั่งลง ผมเห็นก้อนหินมีสั่นน้อยๆ เมื่อถูกนั่งทับ ไอ้พันเพื่อนในสาขาตัวผอมบางแต่ถูกเลือกเป็นก้อนหิน สงสารอะ (แต่ก็ขำ) พอบทพูดจบ ตัวร้ายอย่างไอ้เคก็เดินออกไป มันแต่งตัวโคตรตลก เหมือนเด็กที่กระเดียดไปทางคนบ้า

   “เฮ้ย นังเด็กหัวแดง”

   “หัวทองย่ะ”

   แค่มุกบ้านๆ คนยังขำ ผมยิ้มกับบทพูดนี้ด้วยก็เพราะเป็นคนเติมมุกไป บอกแล้วว่าผมไม่ใช่คนเล่นอะไรแล้วแป้ก ไอ้กลอยประเกรียนซะอย่าง ไว้ใจได้เสมอนะครับ พอเด็กเกเรเริ่มจะแกล้ง ก็ถึงเวลาที่ผมต้องคลานออกไปช่วย

   “เหมียว” ผมพยายามร้องเสียงแนวข่มขู่แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องตลก ก็ทุกคนขำกันหมด “เหมียว”

   “เจ้าแมวเหมียวมาช่วยเราแล้ว” เด็กสาวกระโดดดีใจ ผมกำลังจะร้องรับตามบทกลับต้องงับปากตัวเองแทน “เย้ๆ เจ้าเหมียว”

   “เหยียบมือ” ผมกัดฟันพูดเบาๆ ให้ปิ่นได้ยิน แต่เธอเอาแต่กระโดดเหยียบมือผมซ้ำๆ

   จะมีใครรันทดกว่านี้อีกไหม

   “ไอ้แมวดำ แกคิดว่าแกแน่หรือไงวะ” ช่วงเวลาหาจังหวะดึงมือออก ไอ้เคก็เดินมาถีบที่ไหล่ แม้จะตามบท แต่แรงมันส่งมาโคตรแรง และผมก็ออกแรงดึงมือพอดี ผลเลยกลายเป็นว่า แมวดำอย่างผมลงไปนอนหงายขาชี้ฟ้าเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้อย่างดี

   ก็ดีนะ แต่มันไม่ดีมากกว่า

   ผมรีบกลิ้งมาคลานเข่าตามเดิม อยากสะบัดมือแต่ก็ทำไม่ได้ นอกจากขยับไปมาแค่นั้น ทรมานได้อีก

   “อย่าทำร้ายแมวของเรานะ” พอปิ่นผลักไอ้เค ผมได้ทีเลยใช้หัวพุ่งไปชนมันเพื่อแก้แค้น แต่ไอ้เคถูกปิ่นผลักไปอีกทาง ผมที่พุ่งเต็มแรงถลาเอาหัวโขกกับเข่าของไอ้สักที่เล่นเป็นต้นไม้ดังปึ๊ก มึนมาก มึนไปทั้งหัว แต่มันกลับแย่งซีนจากตัวเอก เมื่อทุกคนชี้มาทางผมที่ใช้มือกุมหัวตัวเองนอนอยู่ที่พื้น ส่วนไอ้ต๋องทำหน้าแบบเจ็บปวดอยู่หลังกระดาษที่ตัดเป็นรูปต้นไม้


   เพื่อนสัก กูขอโทษ กูรู้ว่ามึงเจ็บ แต่กูเจ็บกว่า ฮือ


   แต่เราต้องไปต่อครับ ผมลุกขึ้นมาก่อนคลานกลับไปหาปิ่นที่ยังถูกไอ้เคแกล้ง ตามบทผมต้องไล่งับขา แต่พออ้าปากงับ ไอ้เคมันก็ดึงขากลับ เป็นแบบนี้เกือบห้ารอบ จนผมเหนื่อยเลยหยุด พอหยุด ขาที่ไล่งับก็ซัดเข้ามาเต็มคาง

   เชี่ย มันแกล้งผมนี่หว่า

   แล้วบทของผมนั่นคือการถูกไอ้เคลากกลับเข้าหลังเวที มันลากแบบไม่ทะนุถนอมร่างกายของผมเลย ลากอย่างกับผมเป็นไม้กวาด กว่าจะเข้าหลังเวที ขาผมคงมีเลือดแน่นอน

   “มึงแกล้งกู” พอพ้นหน้าเวทีผมก็แหวออกมา

   “พวกกูซ้อมบทใหม่เมื่อเช้า กูเล่นตามบทเป๊ะ”

   “นี่กูผิดเหรอ”

   “เออ!”

   เสียงทุกคนตอบแบบเดียวกันหมด ไอ้กลอยหัวเดียวแบบนี้จะไปสู้อะไรได้ เลยได้แต่บ่นกับตัวเอง โธ่


   ไม่นานก็ถึงบทผมอีกแล้วเมื่อไอ้เด็กเกเรถูกนางฟ้าลงโทษ ผมต้องเข้าไปเพื่อจบเรื่อง โดยต้องไปนอนขดตัวอยู่ข้างต้นไม้ ทำให้เหมือนไม่สบายเพราะถูกเด็กเกเรทำร้าย ต้องคลานโซซัดโซเซอ่อนแรงไปนอนหมอบที่ข้างไอ้สัก

   “เหมียว” บทพูดทำไมมีแค่นี้วะ

   “โอ๊ะ เจ้าแมว” เสียงของปิ่นร้องพร้อมวิ่งเข้ามากอดผมก่อนดึงให้ผมหนุนตัก...นี่คือบทที่ชอบที่สุดในเรื่อง ปลื้มมาก “เจ้าคงเจ็บน่าดู เราขอโทษนะที่ดูแลไม่ดี เจ็บมากไหม”

   “เหมียว” ผมยกมือไปแตะหน้าปิ่นคล้ายเช็ดน้ำตา “เหมียว”

   “ขอโทษนะ” ไม่รู้เพราะอะไรทำให้ปิ่นร้องไห้ออกมาจริงๆ และดูเหมือนคนดูก็จะพากันน้ำตาซึมตาม ผมยกมือขึ้นอีก แต่สุดท้ายก็ร่วงลงเมื่อถึงเวลาตาย “ฮือ”

   น้ำตาแตกครับ หน้าผมมีหยดน้ำหล่นเต็ม เรียกได้ว่านองหน้าเลยทีเดียว ปิ่นแสดงดีมาก ดูเข้าถึงอารมณ์เสียใจที่แมวตายได้แบบลึกซึ้ง ขนาดผมเป็นแมวที่ตายยังรู้สึกเสียใจที่ตัวเองตายเลย หืม ทำไมดูงงๆ แต่ก็นั่นแหละครับ จากนั้นม่านก็ค่อยๆ ปิด ก่อนจะเปิดมาอีกทีเมื่อผมต้องไปคุกเข่าอยู่บนก้อนหินที่เบากว่าตัวเองเพื่อเป็นรูปปั้นอนุสรณ์ไว้นึกถึง

   ช่วงจังหวะที่ทุกคนลุกขึ้นปรบมือท่ามกลางความดีใจที่ละครจบได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันคงจะเป็นอย่างนั้นถ้าไอ้ก้อนหินบางๆ มันไม่อ่อนแรงล้มลงพร้อมกับพาร่างของผมล้มไปด้วย ตัวผมกลิ้งลุนๆ ไปหน้าเวที เสียงทุกเสียงเงียบงันจนน่าตกใจ


   ซวยแล้ว


   ผมกรอกตามองเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ พวกมันก็ทำหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่ คงเพราะความเงียบนั่นแหละครับ ผมเลยสูดเอาความกล้า ค่อยๆ กลิ้งไปมาหน้าเวที ก่อนกระโดดเพื่อจะยืนแบบเท่ๆ แต่คงประเมินความสามารถตัวเองสูงไปหน่อย เลยล้มหลังกระแทกพื้น เรียกได้ว่า อายเอาหน้ามุดดินยังน้อยไป

   ความเงียบทั่วหอประชุมถูกเสียงขึ้นจมูกจากใครคนหนึ่งนำทาง ก่อนจะมาพร้อมการระเบิดเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือจากทั่วทุกสารทิศ

   รอดตัวไป ไอ้กลอย

   ผมถูกเพื่อนๆ ดึงให้ยืนขึ้น ก่อนพวกเราจะจับมือแล้วโค้งแสดงความขอบคุณที่ทุกคนมารับชมการแสดง แม้บทพูดผมจะน้อยนิดก็เถอะ น่าจะให้แมวพูดภาษาคนได้บ้าง นี่พูดแต่เหมียวๆ ไม่แฟร์เลย หลังละครเวทีจบ ผมก็เดินเซๆ ไปหากลุ่มพี่โชที่ยืนอยู่

   “ไอ้เกรียนกู” พี่จอมเดินมากอดคอผมคนแรก “มึงโคตรตลกไอ้ห่า”

   “แสดงดีอะ โคตรเหมือนจริง โดยเฉพาะตอนหัวชนต้นไม้กับล้มเมื่อกี้ แม่งสุดยอด” พี่แทมว่าพร้อมชูนิ้วโป้งให้

   “แน่นอน อินเนอร์ล้วนๆ” ผมว่าพร้อมยืด 

   “แต่กูว่าแม่งผิดคิวชัว” อกยืดแฟบทันทีเมื่อพี่ตินขัด ทำไมรู้ทันวะ “หน้าอย่างไอ้กลอย แสดงไม่ดีหรอก แต่นางเอกแม่งโคตรน่ารัก”

   “กูยังน้ำตาจะไหลเลยไอ้ห่า” พี่แทมรีบเสริมเมื่อพูดถึงปิ่น “แล้วไอ้เชี่ยโชเป็นอะไร เป็นใบ้เหรอมึง” ใช่ครับ พี่โชเงียบไม่พูดอะไร มีแต่ตาดุๆ ที่มองผม

   “เสือกตลอด” แล้วพี่แทมก็ถูกพี่ซันด่า “มันเป็นห่วงกลอยนั่นแหละ รู้ว่าเจ็บจริง”

   “การแสดง เจ็บตัวเป็นเรื่องธรรมด๊า” พยายามทำให้เป็นเรื่องตลก แต่พี่โชไม่ตลก “พี่โช กลอยแสดงดีป่ะ” ยิ้มอ้อล้อไปครับ
 
   “เอาความจริงหรือเปล่า” พูดโคตรนิ่งจนใจไม่ดี พอพยักหน้า พี่โชยิ่งจ้อง “ก็....”

   “ก็อะไร”

   “ก็....” ลุ้นจนจะปวดขี้ “ก็แสดงดีที่สุด ถ้าไม่มีเจ็บตัวแบบนั้น”

   “นักรบก็ต้องมีบาดแผลสิ เนอะ” รีบหาพวกครับ แต่ไม่มีพวกกับเขาเลยได้แค่ยิ้มแห้งๆ อย่างเดียว “เดี๋ยวกลอยไปเก็บของช่วยเพื่อนก่อนนะ”

   “อืม เดี๋ยวเสร็จแล้วไปหาอะไรกินกัน”

   “รับทราบ”

   ของกินๆ วันนี้กินอะไรดีวะ แค่คิดก็หิวแล้ว ผมรีบไปช่วยเพื่อนเก็บของ แม้จะใช้เวลานานไปสักหน่อยแต่ก็เสร็จ ผมเดินหน้าเบลอๆ ออกมาหาคนรอ กลุ่มพี่โชไม่มีใครแล้ว รวมทั้งไอ้ทูที่หายไปกับพี่เบ ทิ้งตลอด

   “เหนื่อยไหม” พี่โชถามนิ่งๆ แต่โคตรอบอุ่น

   “มากที่สุด เจ็บด้วย” ผมตอบ ร่างกายช้ำไปทุกส่วนจริงๆ ผมเอนตัวซบกับอกอุ่นๆ ของพี่โช “กลอยแสดงดีป่ะ” ถามย้ำอีกรอบตอนไม่มีคนอื่น พี่โชขำในลำคอจนต้องเงยหน้าขึ้นมอง “ไม่ดีเหรอ”

   “ดีสิ แต่พี่ไม่ชอบฉากหนึ่ง”

   “ฉากไหน”

   “ก็ที่หนุนตักนางเอก”

   “แล้วใครกันที่เห็นนางเอกครั้งแรกก็ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู ทำมาเป็นพูดว่ะคนเรา”

   “หึงเหรอ” พี่โชถามขำๆ พอผมพยักหน้าก็ยิ่งขำ “หึงมากป่ะ”

   “มากที่สุด ของที่สุด”

   “น่ารักจริงๆ” ยิ้มตาแทบปิดเมื่อถูกบีบจมูก

   “เออ...” เสียงขัดที่ทำเอาผมรีบผละออกจากอก คนขัดคือแอดมินเพจคู่ผมเอง หรือที่ทุกคนรู้จักชื่อว่าเข็ม เพื่อนผมเองครับ ใบหน้าแป้นแล้นและท่าทางขวยเขินของมันโคตรอยากมองบนใส่  “เข็มขอถ่ายรูปกับพี่โชได้ไหมคะ”

   “ทำไมต้องดัดเสียงเหมือนนิสัยวะ” แขวะเพื่อนสาวไปเลยถูกถลึงตาใส่ พี่โชอยู่มันไม่กล้าทำอะไรผมหรอกครับ

   “รูปเมื่อวาน พวกเราลงเพจแล้วนะคะ ถ้าพี่หรือมึง” จากเสียงหวานพอมองผมแม่งเข้มสุดๆ “ช่วยเม้นท์เรียกความฟินลูกเพจให้ด้วยนะคะ พลีส”

   “รูปอะไรเหรอครับ” พี่โชถามอย่างสุภาพ เพราะถ้าเป็นผม มันจะไม่ได้คำตอบดีๆ แน่นอน

   “ก็...เมื่อวานที่พี่โชแบกไอ้แมวดำขึ้นหลัง คือมันแบบ น่ารักมาก” กอไก่ที่ได้ยินนับเป็นร้อยๆ ตัว “เข็มลงไปแค่สองนาที คนกดไลค์เป็นพันเลยนะคะ” อยากจะด่าว่าขี้โม้ แต่หลักฐานความหล่อมันคาตา “นะคะ อย่าลืมเม้นท์”

   “กูคิดเงิน...”

   “กูพูดกับพี่โชเว้ย” ถูกสวนกลับทันทีเลยต้องหุบปาก พี่โชยิ้มน้อยๆ ก่อนพยักหน้ารับ “ขอบคุณนะคะ พี่โคตรหล่อ ใจดี แถมเป็นคนดีสุดๆ”

       คำเยินยอกับเสียงชัตเตอร์ก็เริ่มรัวครับ ผมยืนหน้าเหม็นเบื่อรอคนถ่ายรูปพี่โชอยู่นานกว่าจะได้กลับ

   “ฮอตตลอด” แขวะเบาๆ ให้คนกอดคอผม

   “มีผัวหล่อก็อย่างนี้แหละ” เบ้ปากใส่คนมั่นหน้า แต่เรื่องจริงเลยเถียงไม่ออก “อยากกินอะไร”

   “ชาบู” ตอบแบบไม่คิด

   “กินได้แต่ห้ามตดในรถอีก โอเค๊”

   เอาซะภาพพจน์ไอ้กลอยประเกรียนคนนี้เสียหาย กะอีแค่ตดเบาๆ ไม่กี่ครั้งเอ๊ง

   “รู้แล้วน่า เดี๋ยวขอถุงเขาด้วยตอนขากลับ”

   “เอาถุงไปทำไม ห่อของกลับไม่ได้นี่”

   “ไม่ได้เอาห่อของ แต่เอาห่อตด อยากตดก็ตดใส่ถุงไง ดีจะตาย พี่โชไปไหน พี่โชรอด้วย ปีศาจรอคนขาสั้นด้วย ปีศาจ”



   ความคิดผมไม่ดีเหรอครับ...มันออกจะดี เนอะ



...

มาด้วยความคิดถึงค่าา อย่าเพิ่งลืมกลอยประเกรียนกันนะคะ แม้หนังสือจะช้าไปสักหน่อย คาดว่าปลายปีนู้นเลย (มีเวลาเก็บเงิน)

*หมายเหตุ ตอนนี้ไม่รวมอยู่ในเล่มค่า*

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 30-06-2017 23:37:03
555 นางเกลียนเอ้ย :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-07-2017 04:24:34
เรียกเสียงฮาได้เสมอ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 01-07-2017 10:30:00
กลอยประเกรียนจริง ๆ เลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-07-2017 11:06:36
กลอยประเกรียนนี่ไม่มีเลิกเกรียนจริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 01-07-2017 13:22:33
เกรียนตลอดนะนู๋กลอย

 :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 01-07-2017 14:01:23
เราก็คิดถึงมากมายด้วย :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 01-07-2017 21:30:47
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-07-2017 22:42:07
กลอย ทำไมเกรียนตลอด 55555
แล้วดูเพื่อนแกล้งให้เป็นแมว น่าสงสารจริง

โชก็ห่วงมาก หวงมาก ทำไงได้เนาะ รักมากไง

น่ารักมากจริงๆค่ะ อยากอ่านอีก มาอีกนะคะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 02-07-2017 00:34:40
ฮ่าๆๆๆโถวววเกรียนเอ้ยย เกือบจะดีแล้วเชียว พี่โชต้องเอือมขนาดไหนกับความเกรียนของกลอยเนี่ย หืมม?
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: FRXNKP ที่ 03-07-2017 16:14:03
ดีมากอะชอบๆ คอมเมดี้แบบโคตรๆไม่ต้องเครียดเลย 55555555555

คาเรกเตอร์ดีนะชอบคนกวนๆโหดบังคับกับคนมึนๆ อยู่ด้วยกันแล้วมีออร่าแปลกๆ

พออ่านๆไปก็หวัง NC แซ่บๆดุดัน ต้องบอกว่าผิดหวังนิดหน่อยแต่ก็กลมกล่อมแล้วแบบนี้

สู้ๆต่อไปเด้อจ้า

 :z13: :z10:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-07-2017 16:50:21
ก็ยังเกรียนเหมือนเดิม แต่เหมือนจะหนักกว่าเดิมตรงตดใส่ถุงเนี่ยแหละ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 04-07-2017 14:49:37
คิดถึงเด็กเกรียนขาสั้น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 05-07-2017 15:11:34
เกรียนเอ๊ย :jul3:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 05-07-2017 19:17:42
ฮาได้ทั้งเรืีอง อ่านแล้วไม่เครียด
นั่งหัวเราะคนเดียวจนคนอื่นมอง
ว่าบ้ารึเปล้า เหอๆๆ เพราะกลอยคนเดียวเลย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 16-07-2017 22:24:27
 :hao5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:เด็กน้อยและแมวเหมียว[P.39] [30/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 23-07-2017 13:29:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 12-08-2017 21:38:32

ตอนพิเศษ วันแม่ที่รัก




       “กลอย โต๊ะสอง กระเพาไข่เจียว” เสียงของแม่ดังขึ้น ผมก็รีบพยักหน้ารับ “กลอย โต๊ะห้า คะน้าหมูกรอบ”

   “ครับๆ” ขานรับแต่ก็ไม่ได้หันไปมอง ก็ตอนนี้ในมือผมไม่ว่าง ตาก็ต้องคอยมองข้าวผัดในกระทะเพราะกลัวว่าจะไหม้ไปซะก่อน

   “น้องกลอยคะ โต๊ะสิบ ข้าวกระเพาทะเลค่ะ” เสียงใสดังขึ้น ก่อนคนพูดจะเสียบใบเมนูที่วางบนโต๊ะ

   “ครับๆ ได้ครับ รอแป๊บหนึ่ง” ถึงกับต้องยกแขนขึ้นปาดเหงื่อ ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้เนี่ย

   “กลอยๆ” เสียงแม่เรียกอีก คราวนี้ผมหันไปมองเพราะแม่เรียกจนสะดุ้ง “นั่นใบโหระพาลูก ไม่ใช่กระเพา ทำจนเบลอแล้วมั้งเนี่ย” แม่ขำเบาๆ ให้ได้ยิน ไอ้ผมก็รีบหยุดมือที่กำลังจะโยนใบโหระพาลงกระทะ

   “ทำไมวันนี้คนเยอะแบบนี้ละแม่” เริ่มบ่นสิครับ

   “ก็วันนี้วันหยุด แถมยังเป็นวันแม่อีก แล้วแถวนี้ก็มีวัด คนเลยมาทำบุญกันเยอะ” เป็นพี่กิ่งที่ตอบแทนพร้อมกับเสียบใบรายการอาหารมาอีก

   ไอ้กลอยตายพอดี ตอนนี้หน้ามันจนทำน้ำมันพรายได้แล้ว

   “มาๆ เดี๋ยวแม่ทำเอง ไปพักเถอะลูก” แม่ผมเดินมาเบียดข้างๆ แต่ผมก็ไม่ยอมขยับ

   “กลอยทำได้น่า แค่นี้เอง” ปากเก่งไปงั้น ที่จริงมือสั่นจนตะหลิวแทบร่วง

   “แม่รู้ว่ากลอยทำได้ แต่นี่ยืนมาตั้งแต่เช้ายังไม่ได้พักเลยนี่นา อีกอย่าง แม่ก็ทำเก่งกว่ากลอยเยอะ”

   “โห แม่ บลัฟกันเห็นๆ” พูดให้แม่ขำแต่กลับถูกตีเข้าหัวไหล่ดังป๊าบ

   “ไปล้างหน้าล้างตาไป หน้ามันหมดแล้ว” คราวนี้แม่ดึงผมออกจากหน้าเตาเลยครับ พอผมถอยออกมา แม่ก็ลงมือผัดต่ออย่างว่องไว

   สมกับที่โม้ไว้จริงๆ แม่ผม



   ผมถอยออกมายืนอยู่ไม่ไกล เห็นแม่หยิบจับอะไรดูคล่องแคล่วไปหมด พอมองดูไปนานๆ ภาพในวันเก่าๆ ก็ปรากฏขึ้นมา ผมเห็นแม่ทำอาหารอยู่หลังเตาแบบนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก จนถึงตอนนี้แม่ก็ยังทำอยู่ ความเหนื่อย ลำบาก ที่ผู้หญิงตัวคนเดียวต้องเผชิญ คงหนักหนาสาหัสน่าดู กว่าผมกับพี่กิ่งจะโตอีก



   น้ำตามาแล้วครับไอ้กลอย



   “เป็นไรวะ” ผมรีบเช็ดหยดน้ำตาทันทีที่พี่สาวสะกิด “ร้องไห้เหรอ?”

   “ใครร้อง ไม่มี๊ แม่ผัดกระเพาไง มันฉุน” แถครับ และพี่ผมก็เชื่อ พอพี่กิ่งบอกรายการอาหารเสร็จ ผมก็รีบดึงแขนพี่สาวไปด้านหลังร้าน แม้จะมีเสียงโวยวายแต่ผมไม่สน

   “อะไร ลากเข้ามาทำไมเนี่ย”

   “กลอยอยากให้แม่เลิกเปิดร้านอะ”

   “หืม ทำไม”

   “ก็ขนาดกลอยยืนทำแค่ไม่กี่ชั่วโมงมือยังสั่น ขาก็ชา แล้วแม่ทำแบบนั้นมาเป็นสิบปี กลอยสงสารแม่” พูดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหล “พี่กิ่งเห็นด้วยป่ะ”

   “ไอ้เห็นด้วยก็ใช่ แต่แม่ไม่ยอมเลิกไง พี่เคยขอแล้ว แต่แม่ก็บอกจะรับลูกจ้างมาทำแทน พอรับมาจริงๆ ก็ให้เสิร์ฟ ให้ล้างจาน แต่กับข้าวก็ยังจะทำเอง”

   “ทำไงดีอะ” ผมยืดคอมองออกไปด้านนอก เห็นแฟนพี่สาวกำลังมองหาพวกผม

   “แกก็รีบเรียนให้จบสิ” พี่กิ่งว่า

   “นี่ก็รีบแล้ว”

   “เหรอ” น้ำเสียงโคตรจริงใจสุดๆ “ไม่แกก็กลับมานอนที่บ้านสิ จะได้ช่วยแม่อีกแรง” คราวนี้ผมหันมามองหน้าพี่สาว พี่กิ่งจ้องมาอย่างนิ่ง “ห่างผัวไม่ได้ล่ะสิ”

   “ไม่ใช่เว้ย” รีบปฏิเสธแทบจะทันที

   “ไอ้ลูกหมา ไปทำงานๆ”

   “พี่กิ่งอะ”

   เรียกไปก็เท่านั้น พี่สาวผมเดินออกไปแล้ว เหลือแค่ผมที่ยังแอบดูแม่ทำกับข้าวอยู่หน้าร้าน หรือผมจะกลับมานอนบ้านอย่างที่พี่กิ่งว่าจริงๆ

   ผมรีบไปล้างหน้าล้างตา พักเรื่องปวดสมองเอาไว้ก่อน ตอนนี้ต้องช่วยทำงานที่ร้านก่อน ซึ่งกว่าคนจะซาก็ปาไปบ่ายแก่ๆ

   “เหนื่อย” พี่กิ่งบ่น ที่จริงอยากอ้อนแฟนตัวเอง ผมรู้

   “แม่เมื่อยหรือเปล่า เดี๋ยวกลอยนวดให้” ผมรีบเดินไปประคองแม่ให้มานั่ง และปล่อยให้พวกลูกจ้างของร้านเก็บกวาดและปิดร้าน “แม่มานั่งนี่ เดี๋ยวกลอยสุดหล่อจะนวดให้”

   “เมาน้ำเปล่าหรือเปล่าเนี่ย” แม่หันไปมองหน้าพี่กิ่งแล้วขำออกมา ยิ่งผมทำหน้างอ สามคนก็ประสานเสียงหัวเราะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

   “แม่อ่ะ นี่กลอยจริงจังนะ” ว่าแล้วก็ออกแรงบีบขาของแม่ “ฝีมือนวดไม่ธรรมดานะจะบอกให้” นี่ไม่ได้อยากจะอวดหรือจะโม้หรอกนะครับ แต่มันคือเรื่องจริง พิสูจน์แล้วจากปีศาจ

   “แล้วพี่เขาจะมารับกี่โมงล่ะ” คำถามของแม่ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง

   “กลอยจะนอนบ้านกับแม่ต่างหาก” ตอบออกไป แต่แม่กลับยิ้ม “จริงๆ”

   “ไม่ใช่เหมือนคราวที่แล้วนะ หนีกลับไปเฉย” ถูกพี่สาวแขวะซะได้

   “นั่นไม่นับ” เบ้ปากให้คนหัวเราะเยาะ “พี่โชก็กลับไปนอนที่บ้านเหมือนกัน”

   “อ๋อ ถ้ามันไม่ไปนอนที่บ้าน แกก็จะกลับไปใช่ป่ะ”

   “พี่กิ่ง” ถลึงตาใส่พี่สาว “แม่ดูดิ่ พี่กิ่งว่ากลอย”

   “เถียงกันตั้งแต่เด็กจนแก่ ไม่เบื่อบ้างเรอะ” แม่หยุดสงครามพร้อมหัวเราะออกมา “ไปๆ แยกย้าย ร้านก็ปิดแล้ว ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว”

   ถูกไล่ปุ๊บ ทุกคนก็แยกย้ายกลับขึ้นห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่ ปกติร้านจะปิดค่ำกว่านี้ แต่วันนี้ของหมดไวเพราะคนเยอะ แล้วก็ ที่พวกผมไม่ออกไปกินข้าวข้างนอก ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินหรืองก แค่ฝีมือแม่อร่อยกว่าร้านพวกนั้นก็เท่านั้นเอง


   นี่ไม่ได้อวดหรือโม้นะ





   ทุกคนที่ตัวหอมฉุยลงมานั่งล้อมวงกินอาหารฝีมือแม่ วันนี้มีปูผัดผงกระหรี่ ปลานึ่งมะนาว แล้วยังมีฉู่ฉี่ปลาทูอีก ของอร่อยทั้งนั้น พวกวัตถุดิบก็มาจากพี่โชที่ซื้อมาให้เมื่อตอนมาส่งผมเอง ไม่ใช่พี่เขาใจดีหรอกนะครับ แต่ผมอยากกินเลยแวะซื้อ

   “ปูสดมากอะ” พี่กิ่งแกะเนื้อปูให้แม่และแฟนตัวเอง

   “แน่นอน กิโลหนึ่งอย่างแพง” ชอบที่สดแต่ไม่ชอบที่แพง คือราคามันทำเอาผมเซเกือบล้มอะครับคิดดู แต่พี่โชกลับควักเงินออกมาจ่ายอย่างไม่คิด


   สายเปย์สุดๆ


   มื้อค่ำในวันแม่จบลง ผมกับพี่ๆ ช่วยกันเก็บจานไปล้าง แล้วพากันพาแม่ขึ้นห้อง ถ้าถามหาดอกมะลิ พวกเราไม่มีกันหรอก ก็วันนี้แทบกระดิกตัวออกร้านไม่ได้ พอขึ้นมาบนห้องนอนของแม่ ทั้งผมและพี่สาวก็รีบจับแจงหากะละมังใส่น้ำเพื่อจะล้างเท้า


   โหมดซึ้งให้กลอยก็มีนะครับเนี่ย


   ค่ำคืนแสนสุขกำลังค่อยๆ ผ่านไปเรื่อยๆ คำอวยพรของแม่มีค่ากว่าสิ่งของใดๆ ซะอีก ยิ่งอ้อมกอดของแม่ยิ่งอบอุ่น ขนาดผ้านวมสิบๆ ชั้นยังสู้ไม่ได้

   “กลอยรักแม่มาก” ลากกอไก่ยาวซะจนถูกขำ

   “แม่ก็รักทั้งกลอย ทั้งกิ่งนั่นแหละ” มือหยาบของแม่แต่ช่างอบอุ่นทุกครั้งที่ถูกจับแก้ม “แม่ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขมากๆ เพราะถ้าลูกมีความสุข แม่ก็มีความสุข”

   “เปิดโหมดดราม่าแป๊บ” ผมพูดออกมาเพื่อสกัดน้ำตาตัวเอง ที่จริงก็ไม่อยากให้แม่ร้องไห้ด้วยแหละ และมันก็ทำได้จริงเมื่อแม่ขำออกมา

   “ไปๆ กลับห้องกันได้แล้ว แม่จะยืดหลังสักหน่อย เมื่อยเต็มทน”

   “เดี๋ยวกลอยนวดให้”

   “ไม่ต้องหรอก แม่ยังแข็งแรงขนาดนี้ พักแป๊บเดียวก็หาย”

   “นี่ไม่เชื่อฝีมือกลอยประเกรียนลูกแม่เหรอ”

   “ไม่ใช่ไม่เชื่อ กลอยใจของแม่เก่งทุกด้านอยู่แล้ว”

   “แถมขี้โม้ด้วย”

   “พี่กิ่ง!” ผมหน้างอส่งค้อนวงใหญ่ๆ ให้พี่สาว นี่ถ้าแฟนพี่กิ่งอยู่ละก็ จะฟ้องเลยคอยดู “แม่อย่าขำกลอยดิ่” แม่ก็พลอยเป็นไปกับพี่กิ่ง


   คนหล่อถูกรุมอะ ใจร้าย


   “ไปๆ กลับห้อง”

   “ครับๆ กลอยรักแม่นะ รักมาก” พูดเสร็จก็หอมแก้มฟอดใหญ่ และถูกหอมกลับฟอดใหญ่เหมือนกัน วันแม่สำหรับผม ไม่ได้มีแค่วันเดียว แต่มีไปตลอดจนกว่าผมจะตายไปนั่นแหละ

   ผมแยกกับพี่สาวหน้าห้องของแม่ พอกลับเข้าห้องนอนตัวเองถึงได้เห็นว่าโทรศัพท์มีสายเข้า หน้าจอมีชื่อของคนที่น่าหมั่นไส้ที่สุดในแปดโลก

   “สองโหล” รับแบบกวนๆ พร้อมทำหน้าทะเล้น คนอีกด้านที่วีดีโอคอลมาถึงกับด่าว่าบ้า ผมหัวเราะชอบใจ นี่เหมือนผมเป็นโรคจิตนิดๆ ที่ชอบถูกปีศาจด่า

   (ทำอะไรอยู่ถึงมารับช้า พี่โทรหาเป็นร้อยรอบ) บ่นครับ ปีศาจเริ่มบ่นอีกแล้ว หน้าตาก็ยับยู่ยี่

   “เพิ่งกินข้าวเสร็จ แล้วก็ไปบอกรักแม่มา” ผมล้มตัวนอนคว่ำบนเตียง เอาโทรศัพท์พิงไว้ที่หมอนข้าง “พี่โชกินข้าวหรือยัง”
 
   (กินแล้วครับ) รอยยิ้มที่เห็นทำเอาต้องเบ้ปากหมั่นไส้ในความหล่อเกินหน้าเกินตา

   “พี่บอกรักแม่หรือยัง” ถามไปเมื่อพี่โชไม่ยอมคุยต่อ พี่แกเอาแต่จ้องหน้าผมนิ่งอะ

   (บอกแล้วสิ) รีบพยักหน้าเมื่อได้ยิน (เอาการ์ดกลอยให้ด้วยนะ แม่บอกจะเลี้ยงซีฟู้ดมื้อใหญ่ถ้ากลอยว่าง...)

   “พรุ่งนี้เลยก็ได้ ว่างเสมอ” พอได้ยินเรื่องของกินละหูจะผึ่งนิดๆ พี่โชหัวเราะลั่นคงเห็นผมทำท่าทางเป็นผู้หิวโหย “แต่ปูที่พี่ซื้อวันนี้ก็อร่อย แม่กลอยก็ชอบ เอ่อ แม่ฝากบอกว่ารักพี่โชมากเหมือนกัน แต่น้อยกว่ากลอยหน่อยนึง” ยิ้มยืดอย่างผู้มีชัย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องน่าอวดสักเท่าไหร่

   (ครับๆ พี่ก็รักแม่ของกลอยมากเหมือนกัน ฝากบอกท่านด้วยนะ) วันนี้ปีศาจมาในมาดคุณชายพูดเพราะด้วย แต่ก็นะ อยู่ไกลกันก็แบบนี้ ถ้าอยู่ใกล้ มีกวนกลับมาแน่นอน


   พี่โชไม่ได้น่าสงสารอย่างที่ทุกคนคิด ผมต่างหากที่ควรถูกสงสาร


   “บอกรักแม่แล้ว แล้วบอกรักเมียหรือยัง” ถามว่ากระดากปากไหมที่พูด ตอบเลยว่ามาก แต่ระดับความหนาของหน้าทำให้ดูบางเบาลงเยอะ พี่โชที่อยู่อีกด้านขำออกเสียงทันที คุณชายแต่งชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงนอน คงอาบน้ำรอนอนเหมือนกัน “ไม่ใช่ตลกในคาเฟ่นะ”

   (ก็ไม่ใช่ไง)

   “ไม่ใช่แล้วขำทำไม”

   (ขำเมีย) ยิ่งพูด พี่โชก็ยิ่งขำ

   “ถ้าไม่หยุดจะวางนะ” ขู่ครับ และก็ได้ผล ปีศาจหยุดขำทันที “คิดถึงกลอยป่ะ” ลองถามดูไปงั้นๆ

   (แล้วกลอยคิดถึงพี่หรือเปล่า) มีถามกลับอีก

   “ถามก่อนก็ต้องตอบก่อนดิ่” เราจะไม่ยอมโดนเอาเปรียบแน่นอน “คิดถึงกลอยป่ะ?”

   (มาก) แม้จะเป็นคำสั้นๆ แต่ก็ทำให้ผมยิ้มออกมา (กลอยล่ะ คิดถึงพี่ไหม)

   “ไม่” สั้นๆ เหมือนกัน พี่โชถึงกับขมวดคิ้ว “ไม่ใช่น้อย” แต่พอได้ยินประโยคถัดมา หน้าบึ้งก็เริ่มมีรอยยิ้ม

   (โอ๊ย อย่าทำให้พี่คิดไปรับกลับห้องได้ป่ะ) ปีศาจเริ่มหัวเสียแล้วครับ โคตรตลก หน้าตาของพี่โชตอนนี้เริ่มยุ่งอีกรอบ (ทำไงดีเนี่ย)

   “ก็ไม่ทำไง ต่างคนต่างนอนไง” ยิ้มตาปิดส่งให้ไป แต่พี่โชดูจะไม่มีอารมณ์ร่วม

   (คิดจริงๆ นะเนี่ย)

   “คิดอะไรจริงๆ”

   (ไปพากลับห้องไง)

   “ตลกแล้ว นอนด้วยกันทุกวันยังไม่เบื่ออีกหรือไง” ไม่ได้นะครับ พี่โชเป็นพวกคิดแล้วลงมือทำ อย่างที่บอกจะมารับก็คือมารับจริงๆ ท้าไม่ค่อยได้ปีศาจคนนี้

   (ไม่เบื่อ)

   “แต่กลอยเบื่อ เหม็นหน้าด้วย คนอะไรหล่อแม้แต่ตอนนอน” ผมเคยแอบถ่ายพี่โชตอนหลับสนิทลงอินสตาร์แกรม กะจะแกล้งแต่คนที่มาเม้นท์กลับชอบใจกันใหญ่

   ไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่

   (เหม็นหน้าแต่หอมแก้มพี่ทุกวันเนี่ยนะ)

   “เหม็นหน้าไม่ใช่หน้าเหม็นไหม คนละความหมายแล้วปีศาจ” ว่าแล้วก็ขำ พี่โชนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา คงจะเล่นมุกแต่กลับถูกมุกตัวเองฆ่าตายด้วยความมึน

   (คิดถึง) น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความรู้สึกทำให้ผมหยุดขำ (คิดถึงอีกแล้วว่ะ) เลิกคิ้วมองหน้าคนอีกด้าน (คิดถึงจริงๆ นะเนี่ย)

   “ย้ำจริง รู้แล้วว่าคิดถึง” จิ๊ปากเบาๆ “อย่าบิ้วให้คิดถึงมากด้วยได้ป่ะ”

   (ก็มันคิดถึง คืนนี้จะหลับหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ไม่ได้กอดเมียแบบนี้)

   “กอดหมอนข้างนั่นไปก่อน” ผมชี้หมอนข้างบนเตียงสีน้ำเงิน “คิดซะว่ามันคือกลอย”

   (คิดไม่ได้ เพราะมันเอาไม่ได้) แทบสำลักน้ำลายเมื่อได้ยิน (โอ๊ย คิดถึงอีกแล้วเนี่ย อยากกอด อยากหอม อยากดม อยากกัด อยากขย้ำให้จมเตียง อยาก...)

   “พอๆ อย่าติดเลทยี่สิบบวกตอนดึกนะปีศาจ” รีบห้ามก่อนจะได้ยินมากไปกว่านี้

   (พี่ไปรับไหม)

   “ไม่เอา พี่ก็นอนที่บ้านนั่นแหละ พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน”

   (กลอย)

   อย่าเรียกด้วยเสียงอ่อนแบบนี้ ไอ้กลอยจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว...หมายถึงคิดถึงจนทนไม่ไหว

   “ฮ้าวว ง่วงแล้ว วันนี้ยืนทำกับข้าวทั้งวัน เหนื่อยมาก” รีบแถก่อนพี่โชจะบึ่งรถมารับจริงๆ “นอนแล้วนะ พี่โชรีบนอน อย่าฟุ้งซ่าน”

   (....)

   “พี่โชได้ยินป่ะ”
 
   (อืม)

   “จ้องหน้าทำไม”

   (พยายามจ้องให้หายคิดถึง)

   “โว๊ะ ปีศาจอย่าชวนเลี่ยนตอนดึกได้ป่ะ” มันเขินจริงจังนะเนี่ย

   (แค่นี้นะ ถ้าช้ากว่านี้พี่ไปรับกลอยแน่ๆ)

   “เออ...”

   ยังไม่ทันได้ตอบ พี่โชก็วางสายไปเฉย ก็เข้าใจความรู้สึกเหมือนกัน เพราะผมก็เป็น ถึงบอกให้รีบวาง คนมันเคยนอนด้วยกันทุกวันทุกคืน พอห่างแบบนี้ก็ต้องมีเหงาบ้าง โหยหาบ้าง


   นี่ผมไม่ได้ติดพี่โชนะครับ อย่ามองผมในแง่ไม่ดี


   ผมนอนกลิ้งบนเตียงไปมาเพราะนอนไม่หลับ หมุนไปหมุนมาจนสุดท้ายก็ลุกไปหาแม่ที่ห้อง แม่นอนหลับบนเตียงสีขาว คงจะเหนื่อยมากจริงๆ เพราะขนาดผมเข้ามาแม่ยังนอนไม่ขยับ มีเพียงแค่เสียงกรนเบาๆ ให้คลายความกังวล

   “กลอยนอนด้วยนะ” ค่อยๆ ล้มตัวลงนอนข้างแม่ ก่อนวาดแขนโอบร่างอวบของแม่ไว้ ดูเหมือนแม่จะรู้สึกตัวเพราะแม่ก็ขยับตะแคงมากอดผม “นอนด้วยนะ”

   “อืม” ตอบรับเบาๆ คล้ายละเมอ แต่มุมปากของแม่ติดรอยยิ้มบางๆ

   “รักแม่นะ”

   “แม่ก็รักกลอย”

   ความอบอุ่นจากอ้อมกอดแม่ทำให้ผมนอนหลับสนิท อ้อมกอดนี้มีแต่ความรัก ความปรารถนาดี อ้อมกอดที่คอยปกป้องผมและพี่สาวมาตลอด

   กลอยโคตรรักแม่เลย


       ปล. อยากร้องเพลงให้แม่เหมือนกัน แต่กลัวแม่ซึ้งเลยไม่ร้องดีกว่า



.....................

กะว่าจะไม่มาแล้วเชียว แต่ก็อยากเก็บความรักในวันแม่ของกลอยมาฝากค่า

สุขสันต์วันแม่นะคะ ขอให้คุณแม่ของทุกคนรร่ำรวยไปด้วยทรัพย์สินและความสุข

LOVE LOVE LOVE

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-08-2017 21:49:07
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 12-08-2017 22:14:02
ขอบคุณมากๆๆค่า    เกรียนน้อยของพี่โชน่ารักมากตอนนี้


 :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 12-08-2017 22:25:45
นักแม่  รักผัวนะนางเกลียน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-08-2017 23:13:43
โหมดรักแม่ของกลอยใจ น่ารัก~~~
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-08-2017 08:15:07
 :z13: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 13-08-2017 13:11:01
กลอยประเกรียนก็มีมุมน่ารักกับเขาเหมือนกันน้าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 16-08-2017 03:02:29
ตอนพิเศษของลูกสาวม่ามี๊นี่มีความเมียความสาวระดับสูงมากเลยนะค๊าาาาาาาาาาา แล้วทำมาเป็นรับไม่ได้ตอนเรื่องหลัก อิแม่เพลีย  :mew5: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 16-08-2017 19:40:36
           :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 16-08-2017 22:56:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 17-08-2017 03:32:56
ถ้ากลอยร้องเพลงแม่อาจไมเกรนขึ้นได้ 55
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Minoru88 ที่ 17-08-2017 09:06:55
คิดถึงกลอยปะเกรียน
กลอยยังน่ารัก น่าเอ็นดูเหมือนเดิมเลยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 17-08-2017 14:26:47
อ่านโมเม้นกลอยกับแม่แล้วซึ้ง
มาอ่านโมเม้นกลอยกับพี่โชก็เขินตาม
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 26-08-2017 20:38:46
สนุกมากค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-09-2017 00:00:39
ง่อวววเพิ่งได้อ่านตอนพิเศษนานๆๆๆๆๆๆทีนังเกรียนมันจะมีสาระกับเขาบ้าง กลอยโหมดซึ้งนี่ไม่คุ้นเลยจริงๆ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 16-09-2017 15:28:27
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ที่รัก [P.40] [12/08/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 17-10-2017 21:02:31
พี่โช น้องกลอย น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก อ่านแล้วอิจฉาเบาๆ(ถึงหนักมาก)  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 31-10-2017 20:42:29

ตอนพิเศษ วันรวมผี




         วันสิ้นเดือนตุลาคมแม้จะเป็นวันสุดท้ายของเดือนที่หลายคนกำลังหาเลขเด็ด ยังมีอีกเทศกาลหนึ่งที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับคนไทย แต่คนไทยก็อยากมีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างเช่นพวกผมตอนนี้

   พี่จอมเกิดคึกอยากจัดงานวันฮาโลวีน เลยนัดรวมเพื่อนพี่น้องทุกคนที่ห้อง โดยมีชื่อคอนเซ็ปว่าวันรวมผี ทุกอย่างดูราบรื่นและเป็นที่ถูกใจของทุกคน ยกเว้นผม

   “ทำไมพี่ไม่ซื้อวะ ไม่ก็สั่งก็ได้” บ่นไป มือก็ทอดเฟรนช์ฟรายส์ (ที่เจ้าของห้องอยากกิน) ไป ละสายตาก็ไม่ได้เดี๋ยวไหม้ แถมคนอยากกินก็สั่งนู้นสั่งนี่มาตั้งแต่เช้า

   แล้วทำไมผมถึงบ่นเหรอ ก็เพราะผมถูกหิ้วมาจากห้องทั้งที่ยังตื่นไม่เต็มตาด้วยซ้ำ แม้พี่โชจะโวยวายด่ากราดยังไง พี่จอมก็ไม่สนใจ จนสุดท้าย ไอ้กลอยคนนี้ก็ต้องมายืนหน้ามันเยิ้มให้เขาใช้งาน

   มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของไอ้กลอยเนี่ย

   “ก็สั่งไปมันไม่อร่อยเหมือนมึงทำไง” ดูเหมือนเป็นคำชมใช่ไหมครับ แต่คนพูดไม่ได้ใส่ใจในประโยคนั้นสักเท่าไหร่ สิ่งที่สนใจคือแท่งมันฝรั่งที่เพิ่งทอดสุกนี่ต่างหาก “เอาจุ่มชีสคงอร่อย เออใช่ กูให้ไอ้ซันไปซื้อดีกว่า” หลังจากกินไปอันหนึ่ง พี่จอมก็เดินไปหาแฟนตัวเองที่นั่งต่อสายไฟหน้าทีวี

   นับถือพี่ซันโคตรๆ คบกับพี่จอมมาได้จนป่านนี้

   ผมถูกสั่งให้ทำกับข้าวและกับแกล้มสำหรับค่ำคืนวันรวมผี จากเช้าถึงบ่าย พี่โชก็มารับครับ คนนี้ก็กว่าจะมา ไอ้กลอยเกือบจะเป็นทาสรับใช้อยู่แล้ว

   “ทำไมเพิ่งมา” หน้างอใส่สักหน่อย ให้รู้ว่างอน แต่พี่โชไม่ตอบ เพราะมัวแต่เอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ผมอยู่ เช็ดจนจะลอกหนังหน้าอยู่แล้วเนี่ย ถูจนแสบ “ทำไมเพิ่งมา กลอยรอตั้งนาน”

   “พี่ก็มัวไปซื้อของที่ไอ้จอมบอก” ก็คงอย่างนั้น เพราะตอนพี่โชเข้าห้องมา พี่จอมก็ปรี่เข้าไปหา พร้อมแย่งถุงในมือไปค้น “ของแต่ละอย่างอยู่คนละที่เลย เหนื่อยไหม”

   “มาก” ขออ้อนหน่อยเถอะ ผมเอนตัวเอาหน้าผากซบกับอกของพี่โช ได้ยินเสียงขำน้อยๆ จากคนที่ผมซบอยู่ “กลับไหม อยากอาบน้ำมาก”

   “ครับ กลับก็กลับ” นี่แหละคือแฟนของผมเอง น่ารักเสมอ

   พี่โชเดินไปหา แล้วเอาเท้าสะกิดเจ้าของห้องที่มัวแต่สนใจของ พี่จอมไม่ตอบอะไรแต่ก็พยักหน้ารับรู้ พอผมกับพี่โชเดินออกมาก็สวนกับพี่ซันที่หิ้วถุงชีสเต็มไปหมด

   “กลับแล้วเหรอวะ” พี่ซันถามเสียงเนือยๆ

   “เออ” ไม่ใช่ผมที่ตอบนะ แต่เป็นคนพี่โช “มึงอย่าตามใจไอ้จอมมันมาก พวกกูเหนื่อย” พี่ซันได้ยินก็หัวเราะออกมา

   “กูก็ไม่ได้ตามใจอะไรเลย” ตาผมแทบถลนออกมาจากเบ้า เมื่อได้ยินแฟนคนเอาแต่ใจบอก ขนาดไม่ตามใจยังขนาดนี้นะครับท่านผู้ชม “ขอบคุณนะกลอย เหนื่อยมาตั้งแต่เช้า”

   “เฟรนช์ฟรายส์ที่เหลือ ตอนเย็นค่อยทอดนะครับ” ผมฉีกยิ้มตอบไป พี่ซันเป็นผู้ชายที่ยิ้มสวยมาก สวยจนคนข้างๆ ผมอิจฉาถึงกับเอามือปิดปากเพื่อนตัวเอง

   คนขี้อิจฉาก็งี้แหละ



   พี่โชพาผมกลับห้องก็ไม่ได้คิดจะนอนพักเอาแรงอะไร เพราะต้องมานั่งคิดว่าจะแต่งเป็นผีอะไรดี ขืนแต่งเป็นผีแคสเปอร์หน้าขาวอีกโดนล้อแหงๆ จะให้ออกไปซื้อของก็เสียเวลา ผมเลยต้องเดินหาแรงบันดาลใจในการเป็นผีสักหน่อย เดินวนไปรอบห้อง เห็นเศษผ้าสีดำที่เคยซื้อมาทำงานก็นึกออก ผีนี้แหละ เหมาะกับไอ้กลอยที่สุด ว่าแต่ พี่โชล่ะ จะเป็นผีอะไรดี

   “มองหน้าพี่ทำไม” ดูเหมือนเหยื่อจะรู้ตัวครับ ผมแสยะยิ้มออกมาแล้วเดินเข้าไปหา พี่โชก็รีบขยับตัวหนีทั้งที่นั่งชิดกับที่วางแขนโซฟาแล้ว “คิดอะไรแปลกๆ อยู่ใช่ไหม”

   “แปลกที่ไหน พี่โชไม่อยากรู้เหรอว่าจะแต่งเป็นผีอะไร” ยิ้มปากจะฉีกถึงรูหู แต่ก็ถูกฝ่ามือใหญ่ดันหน้าจนหงายหลัง

   “อย่าคิดทำอะไรกับพี่แบบนั้น”




*******


   เวลาเกือบบ่ายสี่ ผมกับพี่โชก็เริ่มเดินทางไปจุดนัดพบ ไม่รู้คนอื่นจะแต่งเป็นผีอะไรกัน แต่แอบเห็นของพี่จอมเป็นชุดผีดิบจีน ใส่แล้วคงกระโดดดึ๋งๆ ทั้งงานแน่

   รถของพี่โชถอยเข้าจอดข้างรถของพี่ซัน ดูเหมือนคนอื่นๆ จะยังไม่มากัน เพราะถ้าหากมาละก็ โซนที่จอดรถนั้น จะเหมือนโชว์รูมขายรถหรูเลยทีเดียว ก็น่าอิจฉาอยู่หน่อยๆ แต่ถ้าเกิดเสียหรือเฉี่ยวชนละก็ ซ่อมกระเป๋าฉีกแน่นอน พอจอดรถเสร็จผมก็เดินตามพี่โชขึ้นไป พอมองคนตัวสูงด้านหลังแบบนี้ก็อดที่จะขำไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจว่าขำออกเสียงไม่ได้เลยได้แต่ปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะ โคตรทรมาน

   พอมาถึง ห้องพี่จอมกลายเป็นห้องโล่งๆ โซฟาโดนขยับไปชิดผนัง ดูแล้วคงจะเป็นฝีมือพี่ซันแน่นอน หากพี่จอมทำละก็ คงไม่เดินเอ้อระเหยเป็นผีดิบครึ่งท่อนแบบนี้

   “อ่าวพวกมึงมาก็ดีละ โอ้ว” พี่จอมมัวแต่ชี้นิ้วสั่งแฟนตัวเอง พอหันมาเห็นก็ถึงกับร้องเลยทีเดียว ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ไอ้โช มึงเป็นคนแบบนี้เหรอวะ” ว่าแล้วก็ไปเรียกพี่ซันที่นอนหมดแรงให้ลุกขึ้นมาดู และแน่นอนว่าต้องหัวเราะเหมือนกัน
 
   พี่โชไม่ตอบ แต่เหล่ตามองผมแบบเคืองๆ อะไรกัน อุตส่าห์ช่วยคิดช่วยทำ แต่งเป็นผีที่หล่อขนาดนี้จะเอาอะไรอีกครับพี่ครับ

   ด้วยความที่มาเช้ากะจะมานั่งกินขนมเล่น กลายเป็นว่าถูกใช้งานเฉย ยังจำเฟรนช์ฟรายส์ได้ใช่ไหม ตอนนี้ผมได้มาทอดอีกแล้ว นี่แต่งเป็นผีมาแล้วไง อิดออดนิดหน่อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ รู้แบบนี้มาดึกๆ ก็ดี

   “ไอ้เกรียน มึงทอดแบบเมื่อเช้านะ ไอ้ซันแม่งทอดโคตรแข็ง” ตวัดสายตามองคนบอก ถ้าพี่อยากกินแบบถูกใจก็ทอดเองสิครับพี่ นี่แค่คิดนะครับ แต่ไม่ได้พูด ขืนพูด หน้าผมได้จุ่มน้ำมันแทนมันฝรั่งแท่งแน่

   “พี่ซื้อฝักทองมาเหรอ” ระหว่างทอดผมก็ถาม ตอนเข้ามาว่าจะถามแต่ก็ลืม ในห้องมีฝักทองแกะเป็นรูปหน้าผี มีเทียนเล็กๆ วางอยู่ด้วย ถ้าปิดไฟแล้วจุดเทียน คงจะสวย

   “เปล่า” คำปฏิเสธแบบเอื่อยๆ “กูให้ไอ้ซันแกะ”

   “พี่ซันแกะ” ตาแทบถลนแล้วผม “พี่ซันแกะเป็นด้วยเหรอ”

   “เป็นดิ่” พี่จอมมองหน้าผมนิ่ง “กูเปิดคลิปให้มันแกะตาม”

   นั่นไง เพราะพี่จอมต้องการไง ไหนบอกไม่ตามใจไงวะ แม่งขี้จุ๊ว่ะ

   ตอนนี้ทั้งพี่โช พี่ซันช่วยกันจัดห้อง ไฟกระพริบดวงเล็กๆ ถูกติดที่ผนัง มีตัวหนังสือแปะด้วย แถมยังมีรูปผีติดอีก ดีที่เป็นตัวการ์ตูน ถ้าเป็นรูปผีจริงๆ ผมขอตัวกลับก่อน ไม่ก็ดึงทิ้งแน่ 

   จากการทอดเฟรนช์ฟรายส์เริ่มมีอย่างอื่นมาเพิ่มอีกแล้วครับ

   “กูซื้อปูมาแล้ว ผัดให้อร่อยๆ นะ” คนสั่งพูดจบก็เดินไปสั่งคนอื่นต่อ คือพี่จอมครับ เกิดมาเพื่อเป็นคนสั่งใช่ไหมครับ แล้วไอ้กลอยเกิดมาเพื่อเป็นคนใช้ ไม่ยุติธรรม แบบนี้ต้องไปฟ้องท่านเปาปุ้นจิ้น ขอซาวน์เพลงด้วยครับ อ้อ มุกแป้ก ไม่ขำ




   จากบ่ายแก่ๆ ก็เริ่มมืด ผมยังสาละวนอยู่ในครัวอยู่เลย เจ้าของห้องสองคนหายไปในห้องเพื่อแต่งตัว แล้วผมละครับพี่ครับ หน้ามันจนจะใช้ทอดไข่ได้แล้วเนี่ย

   “ไปล้างหน้าไป” พี่โชเดินมาหา มือก็หยิบเฟรนช์ฟรายส์จุ่มชีสกิน ยังดีที่ป้อนผมด้วย

   “เหลือยำวุ้นเส้น” ตอบไปอย่างเซ็งๆ “พี่โชยกไปที่โต๊ะนั้นให้หน่อย” มาแล้วก็ต้องใช้ครับ คนโดนใช้ก็หัวเราะแต่ก็ช่วย

   พอดีกับประตูห้องถูกเคาะเรียก คนมาใหม่ ไม่สิ ต้องเรียกผีที่มาคือ

   “ไอ้เชี่ย” พี่โชโวยวายอย่างตกใจแล้ววิ่งเข้ามายืนกลางห้องเลยครับ ผมรีบเงยหน้าดูว่าเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าใครเดินเข้ามาก็เข้าใจ “มึงเล่นใหญ่เกินไปไอ้เชี่ยเบ”

   พี่เบนั่นเองครับ แต่งเป็นผีกระหัง แขนสองข้างมีกระด้งอันใหญ่กระพือไปมาคล้ายกับจะบิน สวมเสื้อยืดสีขาว โจงกระเบนสีแดงที่น่าจะเป็นแบบสำเร็จรูป คนเดินเข้ามาด้านหลังคือเพื่อนผมเอง ไอ้ทู ที่แต่งตัวไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มันแต่งเป็นผีกระสือ เสื้อยืดสีดำเอาไฟกระพริบห้อยคอลงมาแปะที่ท้อง พอเข้าห้องมา มันก็เปิดไฟกระพริบ โคตรตลก


   ถ้ามีธูปผมจะวิ่งไปขอหวยแล้วครับผีคู่นี้


   “นี่กูยังไม่แอดว๊านซ์จะมึง ยังไม่ได้แต่งหน้า” พี่เบทำหน้าเซ็งก่อนถอดกระด้งวาง

   “ขืนพี่แต่งหน้ามา คนนั่งเก็บเงินทางด่วนคงช็อคตายพอดี” ไอ้ทูเหล่มองแฟนตัวเองแล้วขำออกมา “ว่าแต่ อะไรเกาะหลังพี่โชเหรอ” พอไอ้ทูถามปุ๊บ คนถูกถามก็หันมามองผมทันที พร้อมบุ้ยปากให้มาถามผมซึ่งเป็นคนแต่งให้ “มึงทำอะไรกับพี่โชวะ”

   “กูไม่ได้ทำ ก็พี่โชไม่คิดไงว่าจะเป็นผีอะไร กูก็คิดให้” ว่าไปยิ้มไป

   “แล้วมันเป็นผีอะไร” พี่เบถาม มือก็จับสิ่งที่เกาะอยู่ที่บ่าพี่โช

   “ผี...พ่อลูกอ่อน”

   ทั้งพี่เบกับไอ้ทูพากันหัวเราะแล้วจับตุ๊กตาคนที่ผมเอามาเกาะหลังพี่โช โดยเอาแขนตุ๊กตามามัดติดกันเพื่อให้มันเกาะอยู่ที่คอ เหมือนลูกน้อยห้อย ส่วนเสื้อผ้าก็ตามใจเจ้าของร่าง ขืนบังคับมากเดี๋ยวโดนถีบ

   “มึงช่างคิดจริงๆ ว่ะ” ถูกพี่เบชมก็ต้องยิ้มหน้าบาน “คิดได้สมกับเป็นมึงจริงๆ”

   “ขอบคุณที่ชม ผมรู้ ว่าผมฉลาด”

   “กูหมายถึงปัญญาอ่อนไอ้กลอย” สิ้นคำชมของพี่เบ ทุกคนก็พากันหัวเราะ เอาเถอะ ปัญญาอ่อนก็จะถือเป็นคำชมเหมือนกัน ผมไม่ถือ ผมรับได้ “แล้วนี่ เจ้าของห้องอยู่ไหนวะ”

   “ในห้อง”

   ผมเลิกสนใจทุกคนเพราะต้องลงมือทำยำวุ้นเส้นตามคำสั่ง ไอ้ทูเดินแยกมานั่งตรงหน้า มือก็หยิบกินมันฝรั่งทอดไป แล้วก็จ้องหน้าผมไป

   “อะไร” ถามเสียงแข็ง

   “มึงเป็นผีอะไรวะ ผีหน้ามัน?” ว่าแล้วมันก็ขำ ไอ้นี่วอนถูกส้อมจิ้มตาแล้วไหมล่ะ

   “กูแต่งเป็นผีแด๊กเว้ย” เสื้อผ้าที่ผมใส่เป็นเชิ๊ตขาว กางเกงยีนส์ดำ ที่จริงมีพร็อบผ้าคลุมสีดำด้วย แต่ต้องถอดออกก่อน ไม่งั้นเปื้อนแน่ แถมร้อนด้วย

   “ผีแด๊ก? แด๊กคิวล่าอะเหรอ” ไอ้ทูคงงง มันชะโงกหน้ามองการแต่งตัวของผม แต่พอผมส่ายหน้ามันก็ตีหน้างงเหมือนหมาสงสัย “อ่าว ไม่ใช่แด๊กคิวล่าแล้วอะไรวะ”

   “ผีแด๊ก...แด๊กตลอดงานไงไอ้ห่า” พูดจบก็ขำตัวเอง แม่งคิดได้ไงวะ โคตรฉลาด

   “แด๊กของที่มึงทำเองเนี่ยนะ ไอ้ประสาท” พอได้ยินก็เหมือนเตือนสติ

   เออว่ะ...ของทุกอย่างแม่งผมทำหมดเลย จะแดกตลอดงานได้ไง ไอ้กลอยขอเศร้าแปบ




   หลังจากผีกระหังกับผีกระสือมาแล้ว ผีตัวต่อไปก็มาครับ คราวนี้เป็นผีมัมมี่พันผ้ามาทั้งตัว เห็นแล้วอึดอัดแทนจริงๆ ไอ้อัธก้าวขาช้าๆ มีไอ้ม่านประคองอยู่ข้างๆ

   “ไอ้เชี่ยม่าน มึงเป็นผีอะไรวะ” คือมันแต่งตัวคล้ายกับพี่เบเลยครับ ติดอยู่ที่มันไม่มีกระด้ง แต่มีหม้อดินอยู่ในมือ

   “พ่อมาก” ไอ้ม่านตอบไป ตาก็ยังต้องมองไอ้อัธ คือคงกลัวเพื่อนล้มนั่นแหละครับ อยากรู้ว่าใครพันตัวให้ไอ้อัธ “เชี่ยอัธ กูว่ามึงเอาผ้าออกเถอะ สงสารสังขารมึงบ้าง” ม่านคงเต็มทนแล้วจริงถึงพูดออกมา คนอื่นก็พากันขำ

   ผีสองชาติเข้ามาไม่นานประตูก็เปิดอีกรอบ คราวนี้ผีเต้นเบรกแด๊นซ์เข้ามาครับ พี่ตินสวมชุดที่มีลายเป็นโครงกระดูกสีขาว ผมเคยเห็นนะ ถ้าอยู่ในที่มืด ไอ้ลายโครงกระดูกจะเรืองแสง แต่ประตูที่ยังไม่ปิดก็เรียกความสนใจของผีตัวอื่นๆ ให้มอง รวมผมด้วย พี่ตินเต้นเสร็จก็ผายมือไปที่ประตู

   “เชี่ย” คำอุทานนี้ออกจากปากทุกคนเมื่อเจอผีตัวใหม่

   ผีจอมยุทธ์ร่ายรำกระบี่ไม้เหาะเข้ามา ที่เป็นแบบนั้นได้เพราะยืนอยู่บนสเก็ตบอร์ดที่ไถตั้งแต่หน้าประตูนั่นแหละครับ

   “ไอ้แทม มึง...” พี่เบกำลังจะพูด แต่พี่แทมยกมือให้หยุดครับ ก่อนจะลงจากสเก็ตบอร์ดแล้วทรุดตัวนั่ง

   “พวกมึง กู...” ผีจอมยุทธ์พูดคำสองคำก็กระอักเลือดออกมาแล้วล้มตัวลงนอน “แก้แค้นให้กูด้วย” พอแน่นิ่งปุ๊บ เท้าหลายขนาดก็ลงไปที่จอมยุทธ์จนต้องลุกขึ้นมาโวยวาย


   คืออยากถามจริงๆ ว่าพี่จะเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์กันไปทำไมวะเนี่ย


   ผีหลายตัวมากันครบแล้ว ก็เหลือแค่เจ้าของห้องที่ยังเก็บตัวเงียบ กับข้าว กับแกล้มทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผมจะแปลงร่างเป็นผีแด๊กสักที คนอื่นแม่งจัดเต็มกันมาก เอาซะผมหมองเลยให้ตาย

   รู้แบบนี้เป็นแคสเปอร์หน้าขาวอีกปีก็ดี

   ด้านนอกมืดสนิทแล้ว แต่เจ้าของห้องก็ยังเงียบ ผมก็เอาผ้าขึ้นคลุมเป็นท่านแด๊กเต็มตัว ช่วงที่สาละวนชุดตุ๊กตาที่หลังพี่โช เสียงข้อความผมก็ดัง พอเปิดดูก็เจอคำสั่งให้ปิดไฟ ผมมองหน้าพี่โชงงๆ แต่ก็ยอมเดินไปทำตาม พวกที่กำลังเฮฮาถึงกับอุทานตกใจที่ไฟดับ

   เสียงเปิดประตูห้องนอนมาพร้อมกับแสงไฟฉายที่ส่องจากด้านหลัง ผีดิบจีนแปะหน้าด้วยผ้ายันต์กระโดดออกมาดึ๋งๆ หากมองไม่ผิด คนออกมาคือพี่จอม ส่วนคนถือไฟฉายส่องให้คือพี่ซัน ที่จริงก็แต่งตัวเหมือนกัน แต่ถ้ากระโดดออกมาคู่ก็จะไม่มีไฟส่องด้านหลังให้เด่น


   เล่นใหญ่ไม่แพ้คนอื่น


   เมื่อวันรวมผีครบทุกตัวแล้ว ปาร์ตี้ก็เริ่มขึ้น แสงไฟในห้องถูกปิด มีเพียงแสงเทียนที่อยู่ในฝักทองและไฟกระพริบดวงเล็กๆ ที่ติดรอบห้อง บรรยากาศก็ดีไปอีกแบบ แอบหลอนนิดๆ เมื่อหน้าผีดิบแต่งขาว แก้มกับปากแดงๆ เดินไปมา แต่ที่สร้างเสียงตลกคงเป็นผีจอมยุทธ์ที่แย่งกระด้งไปใส่

   คือพี่ครับ ผีจีนมีกระด้ง จะเรียกอะไรดีครับพี่

   ผมเดินไปหาไอ้ม่านที่นั่งกินเหล้าไปหัวเราะพวกรุ่นพี่เถียงกันไป พอมันเห็นผมก็ยิ้มๆ

   “มึงไม่เอาไอ้เม่นมาด้วยล่ะ” ถามหารุ่นน้องในคณะที่กลายเป็นแฟนเพื่อนผม

   “มันไปกับเพื่อน” ดูเพื่อนผมแล้วก็คงมีความสุขดี ติดตรงมันมีแฟนแล้วหาตัวยากนี่แหละ “เอ่อ เห็นมันไปยืนใบลาออกแล้วนะ”

   “ลาออก? อ๋อ ที่มันจะไปเรียนมหาลัยมึงอะเหรอ” ไอ้เม่นนี่รักจริง ถึงกับย้ายไปเรียนที่เดียวกับไอ้ม่าน พอเพื่อนผมพยักหน้า เลยอวยพรสักหน่อย แต่แก้วในมือถูกแย่งไปเฉย “พี่โช กลอยยังไม่ได้กินสักแก้วเลยนะ” ชื่อคนที่ผมเรียกนั่นแหละครับ แย่งไป

   “กินข้าวก่อนแล้วค่อยกิน” โหมดเผด็จการมาอีกแล้ว ไอ้ม่านหัวเราะเยาะเลย “ไม่กินข้าวพี่ไม่ให้กิน โอเค๊”

   “ก็ได้ คุณผีพ่อลูกอ่อน” ตามใจเขานั่นดีที่สุดครับ

   “เดี๋ยวจะโดน” ถูกนิ้วจิ้มหน้าผากซะหน้าหงาย



*****


        
   ยิ่งดึกยิ่งมันส์ครับ คาราโอเกะก็ยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับงานนี้ และถือว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ ทั้งผีจีน ผีไทยแย่งไมค์กันจนมันหอนแสบแก้วหู

   “อ่าวๆ ขอเสียงสายตื๊ด สายย่อหน่อยครับ” พี่แทมพูดออกไมค์ ก่อนทำนองเพลงที่เปิดในผับจะดังขึ้น ไมค์ที่แย่งกันก็ถูกทิ้งทันทีเมื่อคนชอบไมค์เดินมาเต้นกลางวง

   ตอนนี้รู้แล้วครับ ทำไมถึงเอาโซฟาไปชิดกำแพง เพราะจะเปิดพื้นที่ให้สายแด๊นซ์นี่เอง

   ยิ่งทำนองเพลงอัดแน่นเท่าไหร่ พวกที่กรึ่มๆ ก็ยิ่งเต้น พี่แทมกับพี่ตินยังเป็นผู้นำด้านนี้ เต้นจนไม่มีใครอยู่ใกล้ ทั้งวาดแขน ยกขา ใครอยู่ใกล้ก็เจ็บตัวแน่นอน

   “โห่ ฮี้ โห่ ฮี้ โห่.....ฮิ้ว” มีโห่ด้วยนะ เหมาะแล้วที่เคยเป็นต้นเสียงของขบวนแห่นาคสมัยพี่เบบวช

   ผมนั่งจิบเหล้าไปหัวเราะไป ดูแล้วโคตรตลก พวกพี่แกแม้จะเรียนจบแยกย้ายไปทำการทำงาน แต่พอได้รวมตัวกันอีก ความบ้าก็ยังบังเกิดอยู่ตลอด คงเพราะเก็บกด

   “ไอ้โช อย่าเนียน มึงมาเต้นเลย ไอ้ผีพ่อลูกอ่อน แม่งปัญญาอ่อนมาก คิดได้ไง” ทำไมพี่ตินด่าพี่โช แล้วผมต้องรู้สึกเจ็บปวดวะ คงเพราะผมเป็นคนครีเอทผีนั้นให้ละมั้ง

   และพอพี่โชเข้าไปรวมกลุ่มด้วยยิ่งตลก แม้จะถูกมอมเหล้ายังไงพี่โชก็ยังคงเต้นแบบนิ่งๆ เหมือนเพลงจังหวะช้าๆ ทั้งที่เสียงเบสแทบจะควักหัวใจของผมออกมาเต้นด้านนอกอยู่แล้ว

   “อ่าว สายย่อมาๆ” ละสายตาจากพี่โชไปมองพี่แทมก็ยังคงมีเสียงหัวเราะ ชีวิตพี่เขาต้องกดดันแค่ไหนถึงได้ปลดปล่อยออกมาขนาดนี้ สงสารพี่เขานะครับ “สายย่อๆ”

   ไอ้ทูหัวเราะจนหงายหลังเมื่อพี่แทมแข่งย่อกับพี่เบ ทั้งคู่ย่อซะก้นแทบจะติดพื้น พอพี่เบขยับขึ้น พี่แทมก็ยังย่อเหมือนเดิม

   “อ่าวไอ้นี่ ข่มกูเหรอ” พี่เบหันไปมองเพื่อนตัวเองแล้วขยับย่อใหม่

   “ไม่ใช่ไอ้เหี้ย” เสียงพี่แทมตะโกนแข่งกับเสียงเพลง

   “อ่าว แล้วทำไมมึงไม่ขยับ นั่งย่อข่มกูแบบนี้คิดว่าเท่หรือไง” พี่เบเท้าเอวมองเพื่อนตัวเองที่นั่งย่อ

   “ไม่ใช่กูไม่อยากขึ้น แต่ตะคริวกินขากู เชี่ย ลามไปที่ก้นกูแล้ว เอากูขึ้น” สีหน้าพี่แทมดูเจ็บปวดสุดๆ ต่างจากทุกคนที่ปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่นห้อง


   ผมจะไม่ไหวกับพี่แทมแล้วนะครับเนี่ย หัวเราะปวดท้องหมดแล้วเว้ย

 
   “คิดว่าเทพไอ้ห่า” พี่ตินยืนหัวเราะมองเพื่อนตัวเอง

   “เทพแน่ โอ๊ยๆ ไอ้ซันกูเจ็บ” ยังจะเถียง แต่พี่ซันนวดให้เลยต้องหยุด “มึงๆ ตะคริวที่ก้นกู โอ๊ย เป็นก้อนแข็งเลย เจ็บๆ”

   แล้วเทพสายย่อก็ต้องถอยครับเมื่อเจอตะคริวกินขา กินก้น

   และผมก็เพิ่งมารู้ว่าทำไมทุกคนถึงแต่งตัวแบบจัดเต็ม ที่แท้มีประกวดชุดด้วย ทำไมไม่บอกกันบ้าง ปล่อยให้ผมกับพี่โชแต่งเหมือนไม่ได้แต่ง

   “หน้างอทำไม” พี่โชเอนมากระซิบข้างหู

   “ทำไมไม่บอกว่ามีประกวดชุด” ตอบแบบไม่มองหน้าคนถาม เคืองครับ แถมตอนนี้ยังมาขำอีก “พี่โชไม่อยากได้รางวัลเหรอ”

   รางวัลคือเบียร์สี่ลังเลยนะครับ

   “แค่เบียร์ อยากกินค่อยซื้อก็ได้” ดูคนรวยเขาพูดครับ...แค่เบียร์ ไม่อยากจะเชื่อ “แล้วคิดเหรอ ว่าคนอื่นจะได้ไป” ผมตีหน้างงใส่ ไม่เข้าใจความหมาย แต่พี่โชกลับยิ้มแล้วพยักพเยิดหน้าไปด้านหน้า “คอยดู”

   กว่าจะเข้าใจก็ตอนที่พี่จอมประกาศชื่อคนที่แต่งตัวยอดเยี่ยม ตอนนี้พี่แทมเอากระบี่ที่ทำมาจากไม้กวัดแกว่งไปมาจนทุกคนต้องขยับหนี กลัวหัวแตกครับ พี่เบก็เอากระด้งมาใส่แขนแล้วกระพือ นี่ก็ไม่ต่าง คนก็ถอยห่างเหมือนกัน ผมว่าคู่นี้สู้กันคงจะตลกดี คนอื่นๆ ก็ไม่ได้เล่นใหญ่ไปกว่านี้แล้ว

   “คนที่ชนะได้แก่” ทุกคนตั้งใจฟังมาก “กูเอง”

   เสียงโห่ดังทันทีที่พี่จอมประกาศ กระบี่ไม้ถึงกับถูกขว้างลงพื้นไปกองรวมกับกระด้ง

   “ถ้าผลจะเป็นแบบนี้ มึงไม่ต้องบอกว่าจะประกวดไอ้ห่า กูอุตส่าห์จัดเต็ม” พี่แทมโวยวาย

   “จริง กูอุตส่าห์ไปซื้อกระด้งที่ตลาด” พี่เบงอนครับ ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมด “เอาตังค์ค่ากระด้งกูคืนมาด้วย”

   “ดีนะที่กูเอาชุดหลานมาใส่ ไม่เสียเงิน” พี่ตินยิ้มๆ อย่างผู้มีชัย ซึ่งก็รวมผมกับพี่โชด้วย ที่ไม่ได้แต่งอะไรที่เปลืองเงิน ส่วนไอ้อัธกับไอ้ม่านคู่นี้ก็เอาแต่หัวเราะ เพราะไม่ได้เสียเงินมากเหมือนกัน


   ปาร์ตี้รวมผีสิ้นสุดก่อนเที่ยงคืน แม้งานจะจบ แต่ทุกคนก็ต้องช่วยกันเก็บห้องก่อนเพราะเจ้าของห้องทำคนเดียวไม่ไหว คือตอนทำก็ทำได้ พอเก็บกลับบอกว่าไม่ได้ ซึ่งใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงถึงแยกย้าย ผมบอกลาเพื่อนๆ และรุ่นพี่มาขึ้นรถที่ตอนนี้พี่โชติดเครื่องรออยู่แล้ว

   “ยังไม่เมาเลยอะ” ผมบ่นขณะรถติดไฟแดงอยู่ที่แยกสักแยก

   “เดี๋ยวค่อยไปกินที่ห้อง วันนี้พี่จะให้ปล่อยผีสักวัน” ตาวาวเมื่อได้ยินคำอนุญาต ผมรีบหันไปเกาะแขนพี่โชทันทีพร้อมส่งตาหวาน จังหวะที่เกาะแขนหันไปมองเบาะด้านหลัง มีกล่องเบียร์สองกล่องวางอยู่ “ไอ้ซันเอามาให้ เป็นค่าที่กลอยช่วยงานทั้งวัน”

   “จริงดิ่ เมื่อไหร่ทำไมกลอยไม่รู้” ตอนออกจากห้องมา พี่ซันก็ไม่ได้ลงมาด้วย

   “ตอนหัวค่ำที่มันลงมา” ผมพยักหน้าเมื่อพี่โชบอก “ซึ่งสี่กล่องบนห้องของมัน มีสองกล่องที่เป็นกล่องเปล่า”

   “ฮะ? จริงอะ” แบบนี้พี่ซันก็มีความเสี่ยงมากที่จะถูกด่า

   “หรือกลอยจะให้พี่เอาไปคืน”

   “ไม่คืน ของฟรีกลอยชอบจะตาย” ส่วนพี่ซันก็ขอให้ไม่เป็นอะไร “เมาแล้วดูแลกลอยด้วยนะ ที่จริงกลอยเมาเรียบร้อยจะตาย”

   “เรียบร้อยจนตายต่างหาก” ยู่ปากทันทีที่ถูกว่า แค่ไม่กี่ครั้งเองที่ผมเมาแล้วเรื้อน โด่ว ทำมาเป็นว่า “แล้วจะซื้ออะไรก่อนเข้าห้องไหม”

   “ซื้อกับแกล้ม เอาหมึกย่างอร่อยๆ แต่ไม่เอาร้านที่เคยซื้อนะ” มีครั้งนึงจำฝังใจมากว่าซื้อหมึกปิ้งมากิน พอกินไปสักสี่ถึงห้าไม้ท้องก็บิด ดีที่มีปั้มไม่งั้นผมได้ปล่อยบนรถแน่ ถ่ายท้องจนหมดไส้หมดพุง พี่โชบอกว่าน้ำจิ้มมีไข่แมลงวัน จากนั้นผมไม่เคยเหลียวมองร้านนั้นอีกเลย

   “แล้วเอาอะไรอีก”

   “เอาลูกชิ้นทอด หอยทอดด้วย เพิ่มผัดไทกุ้งสดด้วยก็ดี เอาเกี๊ยวปูอีกสักถุง แล้วก็...”

   “ที่บอกมาทั้งหมดคือจะกินคืนนี้?”

   “อืม นี่ใคร นี่กลอยประเกรียน วันนี้เป็นท่านแด๊ก”

   “แด๊กให้หมด ถ้าไม่หมดท่านแด๊กจะถูกเตะ”

   อยู่ๆ ผมก็หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินพี่โชพูดว่าท่านแด๊ก คือหน้าตาอะไรนี่เท่นะครับ แต่พอพูดแบบนี้แล้วตลกอะ ไม่รู้เพราะอะไร แต่มันตลก ผมจ้องหน้าครึ่งซีกของพี่โชนิ่งๆ รู้สึกสุขใจจริงๆ ฮาโลวีนปีหน้าและปีต่อๆ ไปไม่ขออะไร ขอแค่มีพี่โชอยู่ข้างๆ แบบนี้ก็พอ เป็นผีพ่อลูกอ่อนของผมตลอดไป

   อ้อ ที่จริงผมคิดจะเป็นผีเด็กเกาะหลังพี่โชนะ แต่กลัวหลังพี่โชจะหัก เลยใช้ตุ๊กตาแทน ความดีของผมก็ยังมีนะครับเนี่ย พูดแล้วรู้สึกหล่อเลย

   “ผีพ่อลูกอ่อน นั่นร้านลูกชิ้น จอดๆๆ”

   “ตกลงจะซื้อหมดตามที่บอกจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”

   “แน่นอนอยู่แล้ว”

   “นี่วันปล่อยผีหรือปล่อยหมู”

   “อย่าบ่น ปีศาจอย่าบ่น จอดๆ”

   “เมียกูจะกลายเป็นหมูก็คราวนี้แหละวะ”

   ถึงเป็นหมูก็เป็นหมูที่กอดอุ่นนะเออ อุ่นเสร็จพร้อมกินด้วย หมายถึงหมูทอด นั่นแหน่ะ คิดลามกกันล่ะสิ ไม่ไหวเลยนะทุกคนเนี่ย ไอ้กลอยรับไม่ได้     



......

สวัสดีวันฮาโลวีนค่าาา เรื่องนี้ตอนพิเศษอาจเยอะไป ต้องขออภัยด้วยค่ะ   แต่อยากให้มีเสียงหัวเราะกัน แล้วกลอยประเกรียนกับพ้องเพื่อนก็เหมาะที่สุด

แล้วพบกันปีหน้าค่า กับเกรียน2 จุ๊บๆ

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 31-10-2017 21:25:34
เกรียนกันทั้งนั้น 55555 ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่เ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 31-10-2017 22:15:30
ยอมใจจริง ชอบชอบ :m20: :m20: :m20:คุณแอ้เจ๋งมาก o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 31-10-2017 22:21:24
 :o8: เหมือนเป็นครอบครัวของกลอยกับโช ที่ต้องมาอัพเดทความเคลื่อนไหวทุกเทศกาล แล้วก็สนุก น่ารักทุกเทศกาลเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 31-10-2017 22:44:15
เกรียนกันทั้งแก๊งจริงๆค่า  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 31-10-2017 23:01:39
ขอกราบท่านแด๊ก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-10-2017 23:43:47
โอยๆ............ชอบบบบบบ  :katai2-
อ่านไปหัวเราะไป สนุกมากกกกก  :laugh: :laugh: :laugh:
ขำมากตอนเต้นสายย่อ พี่แทม ที่ดูเหมือนเต้นย่อเทพมาก
เล่นเอาพี่เบ แข่งเต้นย่อแบบไม่ยอมแพ้
กลายเป็นพี่แทม ย่อแล้วลุกไม่ขึ้นเพราะเป็นตะคริว  กร๊ากกกกกก
 
กลุ่มเพื่อนๆพี่โช นี่รักกัน ผูกพันแน่นเหนียว
มีจัดงานรวมผีด้วย
พี่จอม เป็นจอมสั่งจริงๆ
พี่ซัน ก็ตามใจซะทุกอย่าง
ที่แน่ๆ กลอยประเกรียนเหนื่อยหน้ามัน
ทั้งทำกับข้าว ทั้งเก็บของ

พี่โช กลอย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์มากกกก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: korner ที่ 01-11-2017 00:16:19
ยังคงรักษาความเกรียน 55555  ขอบคุณค่ะสำหรับตอนพิเศษ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-11-2017 01:53:54
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-11-2017 10:48:41
กลอยยังคงเกรียนเหมือนเดิม พอๆกับยังคงเป็นนายซินก้นครัวรับหน้าที่ทำของกินเหมือนเดิม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-11-2017 13:01:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-11-2017 15:49:21
 :pig4: มาให้หายคิดถึง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-11-2017 19:18:07
ช่างคงความเกรียนคงเส้นคงวาจริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 01-11-2017 20:20:50
 :a5: เกรียน2  o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 02-11-2017 20:18:02
ความเกรียนของกลุ้มนี้สุดๆๆจริงๆๆ   :m20:

 :กอด1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 04-11-2017 15:18:18
กลับมาอ่านอีกรอบครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-11-2017 13:38:45
ตอนพิเศษมาอีกค่ะ เราชอบ ไม่เยอะเลย มาได้เรื่อยๆ รออ่านตลอด พลาดไปสองสามตอนหลังนี่เอง

เรื่องเกรียนไม่ต้องบอก เรื่องกินไม่ต้องขอ เรื่องฟรีไม่ต้องรอ มีหมด คุ้มทุกอย่างกลอยใจของปีศาจ
555 ตลกโช คือหลง คือรักหนักมาก จริงๆ หวงทุกเวลา คิดถึงแทบอยากผูกติด น่ารักดี

มีกลอยคือชีวิตมีสีสันมาก แถมทำมุกหล่นตลอด โชจะหนีไปไหนรอด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 08-11-2017 21:45:04
ตอนพิเศษ..คิดถึง  :a1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 19-12-2017 09:05:39
สนุก น่ารักมาก ๆ กลอยก็ยังเกรียนเหมือนเดิม



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 21-12-2017 09:09:19
ชอบมากกกกกกกก ชอบสุดๆค่ะ
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 04-02-2018 15:30:08
กว่าจะยอมลงกันนะ อุปสรรคมากมาย รักกันนานๆเลย
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: smilepengy ที่ 19-02-2018 07:33:20
โอ๊ย สนุกมากคะ ชอยน้องกลอย พี่โ และปองเพื่อนมาก ขอบคุณครเขียนนะคะ สนุกจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 20-02-2018 01:56:11
คิดถึงกลอยปะเกรียนแฮะเมื่อไรหนังสือจะออกน้า :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 27-02-2018 07:18:23
อ่านรวดเดียวจบ สนุกมากกกกกกกก

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 27-02-2018 22:25:04
ละมุนละไม

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Exsosis04 ที่ 04-03-2018 23:04:28
สนุกมากชอบทุกตัวละครเลย
ชอบที่สุดคงเป็นพี่แทม สายฮามาเต็มตลอด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันรวมผี [P.40] [31/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 27-03-2018 23:02:21
ทำไมเพิ่งมาเจ๊ออออ ต้องขอบคุณกระทู้นิยายแนะนำมากมาย

สนุกมาก โคตรฮา  :laugh: กลอยเอ๋อ อิพี่โชก็โคตรคนหวงเมีย

ขอบคุณมากๆนะ  เราตามอ่านตั้งแต่เมื่อวาน อ่านไปขำไป  :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 18-04-2018 19:59:20

ตอนพิเศษ ควันหลงสงกรานต์เดย์






        สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับ ผมนายกลอยประเกรียนสุดหล่อแม่นเว่อร์มารายงานตัว ปีนี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลย ก็เพราะมีคนเป็นหวัด จากที่นัดแนะไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าสงกรานต์ปีนี้จะล่องใต้ ที่ไหนได้ พอถึงเวลาจริงกลับล่องไห้ (ร้องไห้) ซะอย่างงั้น ไอ้กลอยโซแซดมากครับบอกเลย

   ตอนนี้คนเป็นหวัดสวมผ้าปิดปากนั่งไอโขลกๆ อยู่หน้าทีวี ผมถูกสั่งห้ามเข้าใกล้เกินสามเมตรเพราะเดี๋ยวจะติด เอาจริงๆ นะ ถ้าจะติด อยู่ไกลแค่ไหนมันก็ติด ในเมื่อเรายังใช้อากาศห้องเดียวกันแบบนี้ ผมพูดถูกหรือเปล่าล่ะ

   “พี่โชกินข้าวต้มหรือโจ๊ก” ผมตะโกนถามหลังจากดูของที่ติดตู้เย็น

   “เบื่อ” เสียงอู้อี้ตะโกนกลับมา ก็นะ สมควรที่จะบอกแบบนั้น พี่โชกินข้าวต้มสลับกับโจ๊กมาเกือบสี่วันแถมวันละสามมื้อ ไม่เบื่อก็ให้มันรู้ไป “อยากกินอะไรเผ็ดๆ บ้าง”

   ผมเม้มริมฝีปากมองของที่อยู่บนโต๊ะ ทำกระเพาไข่ดาวคงจะง่ายสุด แต่ขอพูดหน่อยเถอะครับ ผมว่ามันก็แปลกอะ ก่อนวันสงกรานต์ พี่โชยังเป็นปกติ แข็งแรงเดินเหินไปไหนมาไหนสบายๆ แต่พอเข้าวันแรกของเทศกาลปุ๊บ อาการก็ออกเลย ทั้งไอ ทั้งไข้ ไม่รู้ไปทำอะไรมาถึงเป็นหนัก

   หรือแอบไปลงอ่างมาวะ โดนเย็นๆ แล้วไข้กินแบบนี้

   หมูที่มีอยู่ไม่มากถูกสับอย่างละเอียด ทั้งพริกทั้งกระเทียมกำลังลงผัดจนกลิ่นฉุนเล็ดลอดจากเตาดูด ทำเอาคนป่วยที่ปิดหน้าอยู่ไอออกมาอีก

   “ไม่เปิดที่ดูดควันเหรอ” เสียงตะโกนถาม

   “เปิดแล้ว แค่กๆ” พอได้พูด กลิ่นพริกก็เข้าคอเล่นเอาซะสำลัก
 
   พี่โชป่วยทีไรชอบกลายร่างเป็นปีศาจตลอด เหวี่ยงบ้าง งอนบ้าง แต่ที่หนักสุดคือใจน้อย น้อยใจ พูดอะไรกระทบจิตใจนิดหน่อยก็ดราม่าออกมาเลย ถ้าไม่ใช่ผู้ชายคงคิดว่าเป็นวันนั้นของเดือนแหงๆ ไอ้กลอยตามอารมณ์ไม่ค่อยจะถูก

   หลังจากทนกลิ่นฉุนๆ มาได้ ก็ได้กับข้าวกลิ่นหอม ผมยกมาเสิร์ฟให้คนป่วยที่รีบผลักผมออกให้ห่าง นี่กลัวผมติดหวัด หรือรังเกียจ หรือหวงของกิน ชักจะงงๆ ผมยืนมองพี่โชกินข้าวผัดกระเพาอย่างเอร็ดอร่อยเอาซะกลืนน้ำลายลงคอเลยทีเดียว

   “เมื่อกี้ได้ยินเสียงไลน์ พี่โชคุยกับใคร” ที่จริงเสียงเตือนมันเบามาก แต่เห็นคนถือกดพิมพ์ยิกๆ เล่นเดาว่าน่าจะคุยกับใครสักคน “มีกิ๊กเหรอ”

   “ไอ้จอม”

   “พี่โชเป็นกิ๊กกับพี่จอมเหรอ” อูย ด้วยความปากไวเลยถูกสายตาโหดตวัดมอง “พี่จอมมีอะไร” ต้องรีบทำกลบเกลื่อนก่อนที่จะมีคนดราม่า

   “เดี๋ยวพวกมันจะมาหาที่ห้อง”

   “มาทำไม”

   “ไม่รู้” พยักหน้ารับโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอถูกพี่โชจ้องก็เลยเกิดความสงสัยจนต้องเอียงคอมอง “ไปแต่งตัวให้มันดีไป”

   “หา?”

   อยู่ๆ ก็ถูกดุให้ไปเปลี่ยนชุด แล้วชุดที่ผมใส่มันสกปรกตรงไหนวะ กางเกงบ๊อกเซอร์กับเสื้อยืดเนี่ย ซักสะอาดมาก แม้ตอนนี้จะมีกลิ่นกระเพาก็เถอะ

   “ไปใส่กางเกงในห้องใหม่”

   “โหย ไม่มีใครสนใจหรอก” ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ ความหวงก็ไม่เคยคลายลงสักที

   “ไม่มีใครสนใจก็ต้องเปลี่ยน”

   “เผด็จการจังวุ้ย ครับๆ”

   เปลี่ยนเสร็จก็ออกมามาจะนั่งดูทีวี แต่กลับถูกเนรเทศให้ไปนั่งติดจอแทน มันจะมากไปแล้ว รังเกียจใช่ไหมแบบนี้เนี่ย คนอะไรกลัวติดขนาดนี้วะ ระหว่างขุ่นเคืองเสียงกริ่งหน้าประตูก็ดัง ผมวิ่งออกไปดูก็เจอกลุ่มชายฉกรรจ์ยกพวกมายืนอยู่หน้าห้อง พอเปิดประตูเท่านั้น ทั้งกลุ่มก็เฮละโลเข้ามาและทำเหมือนมองไม่เห็นคนเปิดอย่างผม
 
   “อ่าวไอ้กลอย มึงไปยืนหน้าประตูตั้งแต่เมื่อไหร่” ดูพี่แทมทักผมสิครับ กวนชัดๆ

   “เพิ่งรู้ว่าพี่ตาบอด” ตอบแบบเรียบๆ แต่เรียกเสียงหัวเราะได้ดี “พวกพี่ขนอะไรมาเยอะแยะวะ”

   “เอ๊าไอ้นี่ ตาบอดเหมือนกูละสิ ถึงดูไม่ออกว่าพวกกูเอาอะไรมา” โดนดอกที่สองไปพอเจ็บแสบ พี่แทมหัวเราะงอหงายให้กับประโยคของตัวเองโดยไม่มีคนอื่นสนใจ น่าสงสารพี่เขานะครับ

   มาถึงก็ใช้ให้ผมเอากับแกล้มไปใส่จาน นี่ผมเจ้าของห้องนะเว้ย แต่ทำไหม ก็ทำ ผมยกถุงกุ้ง หมึก หอยไปใส่จานให้บรรดาเพื่อนๆ ของพี่โชที่ตอนนี้เอาน้ำสีอำพันวางเรียงรายอยู่หลายขวด ของนอก ของแพงทั้งนั้น กะกินจนน็อคสินะครับ

   “พวกพี่กินได้ แต่ห้ามให้พี่โชกินนะ” รีบตะโกนบอก เห็นนะครับว่าคนป่วยกำลังยื่นมือไปรับแก้วเหล้าที่พี่ซันชงให้

   “ทำไมวะ เพื่อนกูทั้งคน” พี่ตินถามกลับพร้อมเอาแก้วยัดใส่มือเพื่อน

   “ก็พี่โชไม่สบาย ไอมาหลายวันแล้วเนี่ย” รีบยกจานออกมาวางแล้วดึงแก้วจากมือพี่โชออก “พี่ห้ามกิน”

   “ไม่เป็นไรหรอก” คนถูกห้ามตอบกลับมา ไหนว่าป่วยจนไม่ให้ผมเข้าใกล้เพราะกลัวติดไงวะ

   “เป็นสิ พี่ห้ามกิน นี่คือคำสั่ง” เอาสิ เคยสั่งห้ามผมกินยังไง วันนี้ไอ้กลอยจะห้ามบ้าง และตอนนี้คนถูกห้ามก็หน้าบึ้งหน้างอเป็นปลาทูแม่กลองไปแล้ว

   “วันนี้ไอ้เกรียนมาแนวดุเว้ยเฮ้ย” พี่จอมเหล่ตามองผมแล้วยิ้มออกมา

   “ไอ้โชๆ” เสียงพี่แทมเรียกเพื่อนตัวเองดึงความสนใจของทุกคน รวมทั้งผม “ระหว่างไอ้กลอยกับหมา ใครดุกว่ากันวะ”

   “พี่แทม!”

   ผมได้แต่โวยวาย ต่างจากพี่โชที่ยื่นขาไปถีบให้ สมน้ำหน้า นี่กลอยประเกรียนสุดรักสุดหวงของปีศาจนะครับ ว่าไม่ได้

   “เตะกูทำไมเนี่ย”

   “อย่าพูดความจริง”

   “อ่าว”

   คนสุดท้ายคือผมเอง หน้าเหวอเลยที่พี่โชพูดแบบนั้น แต่ทุกคนกลับหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง

   “พวกมึงดูหน้าน้องเขาด้วยไอ้ห่า” พี่ซันยังคงเป็นเทพบุตรของผมเสมอ ผมเลยเลือกจะเดินไปทิ้งตัวนั่งข้างๆ แต่นั่งยังไม่ถึงนาทีก็ถูกมือดีลากให้ไปนั่งด้วย “ขี้หวงไม่เคยหาย”




   ความวุ่นวายต่างๆ กำลังเริ่ม คาราโอเกะคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ และเสียงเพี้ยนๆ ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน พี่แทมครองไมค์อยู่หน้าจอ โดยที่คนอื่นไม่สนใจเพราะกำลังคุยกันเรื่องไปเที่ยวหลังจากนี้ เพราะช่วงสงกรานต์คนหยุดเยอะ หากไปเที่ยวก็จะเจอแต่คน ดังนั้นถ้าไปช่วงนอกเทศกาล คนก็จะน้อย ที่กิน ที่เที่ยวก็มีให้เลือกเยอะกว่า และผมก็ว่ามันเข้าท่านะ เคยไปเที่ยวทะเลกับพวกไอ้อัธตอนมัธยม แม่เจ้า หาดทรายแทบไม่มีที่เดิน คนเยอะยิ่งกว่าเม็ดทรายซะอีก
 
   “พี่โช” กดเสียงต่ำเรียกขณะหางตาแอบเห็นคนป่วยยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ หลังจากผมห้าม พี่ซันก็เทแต่โซดาให้แทน ที่จริงอันนี้ก็ห้ามอะ เพราะมันใส่น้ำแข็ง แต่ความสงสารก็เลยปล่อยไป

   “นิดหน่อยเอง” คนป่วยพูดเสียงอ่อน เห็นพี่โชลอบกลืนน้ำลายลงคอตอนเพื่อนๆ ยกแก้วกัน

   “ทำไมดื้อจังฮะ” แกล้งดุไป เลยถูกบีบจมูกจนแทบหายใจไม่ออก

   “กูเป็นผัวมึงนะ”

   “ไอ้คู่นี้ จะเอากันไปที่ห้อง พวกกูจะคุยเรื่องเที่ยว”

   ความหวานหายไปเมื่อถูกพี่จอมขัด นี่คือข้อเสียอย่างหนึ่งเวลาเพื่อนมาเที่ยวห้อง

   ซึ่งหลังจากตกลงนัดแนะกันเสร็จ วงเหล้าก็กลับมาคึกครื้นอีกรอบ คราวนี้ไมค์ที่พี่แทมถือครองตกทอดมายังคนที่เสียงดีที่สุดอย่างพี่ซัน แบบนี้ค่อยลื่นหูหน่อย ความเพราะของเพลงเข้ากับบรรยากาศได้ดีทำให้ผมเผลอ คนป่วยยกเหล้าขึ้นกี่แก้วก็ไม่รู้ มาเห็นอีกทีก็ตอนหน้าพี่โชเริ่มแดงๆ

   “พี่ไข้ขึ้นหรือเปล่า” ถามด้วยความเป็นห่วง แต่พอแตะหน้าผากดูก็ไม่ได้ร้อน

   “ก็เล่นยกติดๆ กัน มันก็เมาเร็ว” พี่ตินพูดไม่ดูสายตาเพื่อนตัวเองที่แทบหลุดออกจากเบ้า คงไม่ได้เตี๊ยมกันสินะแบบนี้ ก่อนจะรีบออกตัวล้อฟรี “กูไม่เกี่ยว”

   “ถ้าคืนนี้ไข้ขึ้น ก็ดูแลตัวเองไปเลย”

   “ไอ้กลอย” พี่แทมเรียกหลังจากผมบ่นพี่โชไป พอหันไปมองก็เจอพี่แทมจ้องหน้านิ่ง เหมือนมีเรื่องเครียด “มึง...”

   “อะไรพี่ ผมเครียดตามแล้วเนี่ย” เสียงนิ่งๆ นั่นทำเอากลัวเหมือนกัน

   “มึงไปลวกหอยแครงให้กูเพิ่มหน่อย ไอ้ตินแย่งกูกินหมดแล้ว”

   “ปั๊ดโธ่”

   แล้วเปลือกหอยก็พุ่งไปหาทั่วทุกทิศ คนพูดหัวเราะจนหงายหลัง ชอบนักที่จะแกล้งผมเนี่ย ปล่อยให้ใจไม่ดีอยู่ตั้งนาน นึกว่ามีเรื่องคอขาดบาดตาย ผมลุกไปในครัว หยิบถุงหอยแครงสดที่พวกพี่เขาซื้อมาไปล้าง ก่อนตั้งน้ำให้เดือด เทน้ำส้มสายชูลงไปตามด้วยหอยแครง



   “ไม่ต้องเอาสุกมากนะ” เสียงพูดชิดใบหูกับลมเบาๆ เป่าทำเอาขนลุกซู่ พี่โชมายืนซ้อนหลังพร้อมรวบเอวผมไปจนแทบจมอกตัวเอง

   “พี่ทำอะไรเนี่ย เมาแล้วใช่ไหม” เมาแล้วหื่นไม่เคยเปลี่ยน ถ้าเมาแล้วไม่หื่น แสดงว่าหนัก

   “นิดหน่อย” ขนาดนิดหน่อย กลิ่นละมุดยังมาขนาดนี้ “ไม่ได้กอดตั้งนาน อ้วนขึ้นหรือเปล่า” พูดจบก็ดึงพุงผมเล่นซะงั้น

   “ไม่ต้องมาทำเนียน กลอยบอกว่าห้ามกินไง ทำไมดื้อวะ”

   “ดื้อที่ไหน พี่ออกจะเชื่อฟังเมีย”

   เกลียดนักเวลาเมาแล้วพูดอ้อนแบบนี้ เพราะมันทำให้ผมใจอ่อน

   “ถ้าเชื่อฟังแล้วทำไมยังกิน”

   “ก็กินกับเพื่อนแค่นิดเดียว”

   “เชื่อตายล่ะ เฮ้ย พี่ทำอะไรเนี่ย ห้ามล้วงไข่ เอามือออกไปเลย พี่โช”

   “นิดเดียวเอง อยากรู้ว่ามันได้ที่หรือยัง”

   “ห้ามล้วงไข่กลอย”

   “อย่าหวงสิวะ ไข่ของกลอยก็เหมือนไข่ของพี่”

   “พี่โช ไม่เอา ห้ามล้วง พี่โชเว้ย”

   “พวกมึงล้วงไข่อะไรกันอยู่ กูอยากใส่ใจ” เสียงพี่แทมดังมาในระยะใกล้

   “หรือเรียกสั้นๆ ว่าเสือกนั่นเอง” ตามมาด้วยพี่ตินที่ทำตาแวววาวพร้อมยิ้มกริ่ม

   “จะล้วงไข่ ควักไข่อะไรก็น่าจะไปทำในห้อง ถึงจะไม่เห็นหัวพวกกูที่นั่งหัวโด่อยู่ก็เถอะ” ปิดท้ายด้วยพี่จอมที่ตอนนี้เข้ามาประชิดตัวผมกับพี่โชเรียบร้อย “ไหนไข่ไอ้กลอย”

   ผมว่า พวกเขากำลังคิดเรื่องใต้เข็มขัดอยู่แน่

   “นี่ไง” ไม่รู้จะตอบยังไง พี่โชเลยตอบให้แทน ด้วยการชี้ไปที่หม้อเตาข้างๆ ที่กำลังต้มไข่อยู่

   “ไข่ไอ้กลอยที่ว่า...” นี่พี่แทม

   “ที่ไอ้โชมันกำลังจะล้วง...” นี่พี่ติน

   “แต่ไอ้กลอยไม่ให้ล้วง...” และนี่พี่จอม

   “คือไข่ต้มเหรอวะ!!”

   สามคนมาคนละประโยค แต่ลงท้ายอย่างพร้อมเพรียง ผมกับพี่โชพยักหน้ารับ คนอยากรู้ก็แตกพ่ายย้ายกลับไปนั่งในวงเหล้าต่อ มีพี่ซันกับพี่เบหัวเราะเยาะอยู่ ผมว่าพี่เขาสองคนก็คงอยากรู้เหมือนกัน แต่ไม่อยากเป็นทัพหน้าไง เห็นพี่ซันขำจนเหล้าที่เพิ่งกระดกแทบพุ่ง ส่วนพี่เบถึงกับร้องเพลงดำน้ำเพราะรอฟัง


   สมแล้วที่เป็นเพื่อนกันมานานหลายปี


   ลวกหอยแครงได้ที่ก็ยกมาให้วงเหล้า ผมวางถ้วยไข่ต้มสองฟองไว้ด้วย ทุกคนถึงกับเบือนหน้าหนี เรื่องล้วงไข่คงทำให้เซ็งในอารมณ์ไม่หาย แล้วผมผิดตรงไหนที่ห้ามไม่ให้พี่โชล้วงไข่ที่มันกำลังเดือด

   “พี่กินด้วย ขอคำนึง” กัดไปได้คำหนึ่งก็ถูกมือใหญ่ของพี่โชดึงไป เคยไหมครับ เวลากินขนมหรืออะไรก็ตามแล้วมีคนขอกินคำหนึ่ง ซึ่งคำๆ เดียวนั้นของๆ เราแทบหมด อย่างเช่นไข่ต้ม พี่โชกัดไปจนเหลือแค่ปลายที่ผมถือ ถ้าจะกินขนาดนี้ก็กินไปทั้งใบเลยเถอะ “อย่างกน่า” คงเพราะเห็นผมหน้าบูด พี่โชเลยขำออกมา

   “พวกมึงก็ดูรักกันดีนะ” อยู่ๆ พี่แทมก็พูดออกมา ผมหันไปมองหน้าพี่โช ก่อนจะหันกลับไปมองคนพูด “กูจำวันแรกที่เจอไอ้กลอยได้อยู่เลย ไอ้โชบอกหิ้วมาจากกองขยะ”

   “ข้างถังขยะ” รีบแก้ให้ พี่แทมพูดซะเหมือนผมเป็นขยะเปียก

   “นั่นแหละ ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่ตอนนั้นมาถึงตอนนี้ ไอ้เด็กข้างถังขยะจะทำให้เพื่อนกูรักได้มากขนาดนี้ ปรบมือสิ รออะไร”

   แล้วทุกคนก็บ้าจี้ปรบมือกัน พี่โชถึงกับยิ้มกว้าง แต่ก็จริงอย่างที่พี่แทมว่า ผมไม่เคยคิดเลยว่า ไอ้หน้าโหดที่หิ้วคอเสื้อผมเข้าผับในวันนั้น จะกลายมาเป็นคนรักของผมอย่างทุกวันนี้ พูดแล้วก็เขิน

   “เพื่อความรักของกู ชนๆ”

   “เนียนได้อีก”

   ถอนหายใจเมื่อมีคนเนียนกินเหล้า แต่ห้ามไปก็เท่านั้น ผมเลยปล่อยตามใจ และพอตามใจ คุณชายก็ยกเอาๆ พี่ไปอดอยากมาจากไหนวะ เมื่อคนในวงกรึ่มได้ที่ ภาพเดิมที่คุ้นตาก็เกิดอีก เสียงเพี้ยนๆ กับคู่หูคู่เดิม หลายครั้งมีปากเสียงกันเพราะเลือกเพลงไม่ถูกใจอีกฝ่าย แต่สุดท้ายก็ร้องกันทุกเพลงอยู่ดี

   “พี่กินเยอะไปแล้วนะ” กระซิบบอกพี่โชที่หัวเราะเพื่อนร้องเพลงเพี้ยน “เดี๋ยวก็เมาเละหรอก”

   “เมาเหล้าไม่มากเท่าเมารัก” หันมาทำตาเยิ้มพูดเลี่ยนไปอีก “กลอยครับ พี่เมา”

   “เห็นแล้วว่าเมา”

   “ทำไมพูดห้วนจัง ไม่น่ารักเลย”

   “เมาแล้วเข้าไปนอนไหม”

   “ไม่ไป”

   กำลังจะอ้าปากพูดต่อ แต่เสียงของพี่แทมที่พูดออกไมค์ก็ดึงความสนใจ ด้วยประโยคที่ว่า มีเพลงที่ฟังแล้วร้องไห้ทุกครั้ง ชักอยากรู้ว่าพี่แทมจะร้องไห้ให้กับเพลงอะไร

   “โด เร มี โด เร มี”

   “เพลงอะไรของมึงวะ”

   “กูวอร์มเสียงไอ้ห่า รอแป๊บ”

   น้ำที่กินไปแทบพ่นออกปากหลังจากพี่แทมตอบคำถามพี่ซัน ส่วนคนถามถึงกับเบือนหน้าหนี

   “วัน ทู วัน ทู โฟร์”

        “ทรีละวะ”

         “มุกเว้ย เอาใหม่ วัน ทู ทรี ...ห้ามใจเท่าไหร่ หัวใจก็ยังไม่ฟัง ยังหวัง ว่าเธอจะเห็นใจ” พออินโทลเพลงจบ ประโยคแรก (เกือบร้องไม่ทัน) ขึ้นมา ก็ทำเอาผมขนลุก “ทั้งๆ ที่เธอ เห็นเราไม่มีความหมาย แต่ไม่อาจตัดใจ ให้ลืมเธอลง เขียนลงกระดาษ เขียนลงไปหมดทุกอย่าง ความหลัง ที่เธอทำช้ำใจ ย้ำเตือนความจำ ไว้ตรงประโยคสุดท้าย ขีดเส้นใต้เอาไว้ ว่าเธอไม่รัก” พี่แทมร้องมีเสียงสะอื้นเบาๆ คลอ เพิ่งเคยเห็นคนร่าเริงก็มีมุมเศร้า “เขียนทุกอย่างไว้เตือนให้ใจมันจำ ย้ำข้อความสำคัญ ย้ำไว้อ่านสอนใจทุกวัน คงพอทำให้ลืมเธอ” น้ำตาของพี่แทมเริ่มคลอ และพร้อมจะไหลลงทุกเมื่อ แม้จะร้องเพี้ยน แม้เสียงจะไม่เพราะ แต่ทำไมผมถึงอินทุกคำร้องวะ เอาซะผมจุกไม่กล้าเอ่ยแซว “แม้มันจะเจ็บ แม้มันจะทรมาน และมันจะทำเราร้องไห้ เพราะคือความจริง เรื่องจริงที่เจ็บปวดใจ ขีดเส้นใต้เอาไว้ ว่าเธอไม่รัก”

   สีหน้าคล้ายเจ็บปวดของพี่แทมทำให้บรรยากาศรอบห้องดูทึมๆ คนเมาทั้งหลายก็ดูสงบลง โคตรไม่ชินที่เห็นพี่แทมเศร้า ผมชอบที่พี่เขาบ้าบอมากกว่าอะ

   “มึงอกหักเหรอวะ” พี่เบถามออกมาหลังจากพี่แทมหยุดร้อง “มีอะไรทำไมมึงไม่บอกเพื่อน”

   “นั่นสิ กูเรียนกับมึงเกือบทุกวัน ทำไมมึงไม่บอก” พี่ซันทำหน้าเครียด คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเหมือนคนข้างตัว

   “หรือมึงไม่เห็นพวกกูเป็นเพื่อนวะ พวกกูมีประโยชน์เฉพาะตอนกินเหล้าแค่นั้นเหรอไอ้ห่าแทม” ประโยคของพี่จอมทำให้พี่แทมส่ายหน้ารัวๆ “ถ้าไม่ใช่ แล้วมึงมีอะไรทำไมไม่บอก”

   “มึงไปแอบรักเมียชาวบ้านหรือเปล่า” พี่ตินพยายามทำให้เหมือนตลก แต่ตอนนี้ดูจะไม่ค่อยเข้าท่าสักเท่าไหร่ “กูปากหมาเอง”

   “ที่กูไม่บอก...” ได้ฟังคำตัดพ้อจากเพื่อนหลายๆ คน พี่แทมที่เงียบไปนานก็เริ่มพูดบ้าง “คือกูแบบ”

   “มีอะไรก็เล่ามาสิวะ”

   “พี่บอกผมได้นะ”

   “ขอบใจพวกมึงมาก มึงด้วยไอ้กลอย” พี่แทมมองเพื่อนทุกคนด้วยแววตาซาบซึ้ง “ความรักของกูมันโคตรเจ็บ”

   “ทำไมวะ เขาไม่รักมึงเหรอ” พี่แทมพยักหน้ารับเมื่อถูกพี่โชถาม “ใครวะที่ไม่รักมึง พวกกูรู้จักไหม” คราวนี้ส่ายหน้าตอบ “งั้นใครวะ”

   นั่นสิ ใครวะ ขนาดพวกพี่โชก็ไม่รู้จัก

   “กูเคยเจอไหม” พี่ซันถามออกมา เพราะเรียนปริญญาโทด้วยกัน แต่พี่แทมก็ส่ายหน้าตอบ “แล้วมันใครวะ รีบๆ บอก”

   “เรื่องมันเศร้าเหี้ยๆ”

   “เออ เรื่องเศร้าเหี้ยๆ ของมึงพวกกูอยากรู้ รีบๆ บอก เผื่อพวกกูจะไปช่วยเกลี้ยกล่อมให้เขารับรักมึงไง” เห็นด้วยกับพี่ติน หากได้กลุ่มสุดหล่อนี้ไปพูด รับรองคนที่พี่แทมชอบต้องรับรักแน่

   “เขาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับกู” พอพี่แทมเริ่มพูด ทุกคนก็รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ รวมทั้งผมด้วย “เรียนห้องเดียวกัน ไปกินข้าวพร้อมกันทุกวัน”

   “ห้องเดียวกัน กินข้าวด้วยกัน ใครวะ เชี่ย” พี่เบถูกพี่ตินตบหัวจนหน้าคว่ำเพราะพูดขัด ก่อนทุกคนจะพากันเงียบอีกครั้ง “เล่าต่อๆ”

   “กูไปกินข้าวกับเขา นั่งข้างเขา ตักไข่พะโล้ให้เขา” ว่าแล้วก็เหล่ตามองไข่ต้มในถ้วยของผมที่เหลืออีกหนึ่งใบ “เขากินไข่พะโล้ของกูอย่างอร่อย” ผมว่า มันเริ่มแปลกๆ “เราเข้านอนพร้อมกัน กูไปนอนข้างเขา แต่เขากลับไม่สนใจกู สุดท้ายกูก็บอกว่าชอบเขา แต่เขาบอกกับกูว่า...”

   “ว่า??”

   “ความรักคืออะไร กินได้เหมือนไข่พะโล้ไหม กูโคตรเศร้า...ขีดเส้นใต้เอาไว้ ว่าเธอไม่รัก”

   เรื่องเล่าของพี่แทมกำลังทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่สับสน ผมกำลังประมวลผลในการรับรู้ของตัวเองอย่างหนัก เรื่องที่ฟังเมื่อกี้ มันคือเรื่องอะไรวะ

   “สรุปคือ คนที่ไม่รักมึง เขารักไข่พะโล้เหรอ ไอ้เชี่ย กูงง” พี่จอมโวยวายแทนทุกคน

   “เขาคือรักแรกของกู ตอนนี้เขากำลังจะแต่งงาน” พี่แทมว่า

   “รักแรก?”

   “อืม สมัยอนุบาล”

   “อนุบาล!”

   วงแตกของจริง สรุปเรื่องดราม่าเศร้าๆ เคล้าน้ำตาที่เล่าออกมาให้ทุกคนฟังนี่คือเรื่องสมัยอนุบาลเหรอวะ แล้วคนดราม่าก็ถูกน้ำแข็งขว้างใส่ มันคงจะไม่เป็นอะไรหากพี่แทมไม่วิ่งรอบห้อง น้ำแข็งก็ถูกปาไปรอบห้อง ใครล่ะที่จะเหนื่อย ก็ผมนี่ไง น้ำตาซึมให้กับดราม่าสมัยปีมะโว้แล้วยังต้องมาทำความสะอาดห้องเพิ่มมากกว่าเดิมอีก เป็นไอ้กลอยนี่เหนื่อยตลอด


   และวันนี้วงเหล้าเลิกเร็วกว่าทุกครั้ง คงเพราะทุกคนสมองเบลอจากเรื่องเล่าของพี่แทมแน่ ตอนออกจากห้อง พี่จอมยังทำหน้างงตามอารมณ์ไม่ถูก จะว่าไปก็อยากเห็นคนที่พี่แทมชอบเหมือนกันนะครับ อยากรู้ว่าจะเป็นคนยังไง จะเพี้ยนเหมือนกันไหม เพราะดูแล้วหากนิสัยต่างกันสุดขั้วคงอยู่ด้วยกันลำบาก ผมหมายถึงแฟนพี่แทมอะที่ลำบาก

   “พี่โชรีบไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวไข้ก็ขึ้นหรอก” บอกคนที่ช่วยผมเก็บเศษขนมที่ตกตามพื้น วันนี้ผมไม่ต้องทำความสะอาดคนเดียวนะครับ ดีจริง “พี่โช เดี๋ยวที่เหลือกลอยทำเอง”

   “พี่รออาบพร้อมกลอย” พี่โชเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้หนึ่งที ก่อนจะก้มลงไปเก็บขวดเหล้าต่อ

   “รออาบพร้อมกันทำไม พี่ไปอาบก่อน”

   “อยากเล่นสงกรานต์กับกลอยก่อน”

   “สงกรานต์อะไร นี่มันเลยวันแล้วไหมล่ะ”

   “ก็สงกรานต์ของเราสองคน ในอ่าง” ว่าแล้วก็ขยิบตาส่งมาให้

   “พอเลย ทั้งเมา ทั้งป่วยยังจะมาหื่นอีก” ขืนรออาบพร้อมกัน ไม่ได้แค่อาบน้ำแน่ ผมหมายถึงต้องมีแช่น้ำอุ่นอย่าคิดลึก แบบนั้นแล้วหวัดพี่โชไม่ต้องหายกันพอดี

   “หายแล้วน่า” พูดจบ คนหายป่วยก็จามออกมาเสียงดัง “ไอ้พวกนั้นนินทาพี่อยู่แน่ๆ” ว่าแล้วก็จามติดๆ กันออกมาอีก

   “กลอยว่า ไม่ได้ถูกนินทาแล้วล่ะ ไข้กลับแน่แบบนี้”

   “ไม่หรอก พี่หายแล้วจริงๆ ฮัดชิ้ว”

   นี่คือคนที่หายแล้วเหรอ

   จากนั้นพี่โชก็จามอยู่ตลอด จามจนจมูกแดงไปหมด นี่ละ ผลของการไม่เชื่อฟัง จากที่ใกล้จะหาย กลายเป็นว่าอาการหนักกว่าเดิม แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ผมจะได้เข้าใกล้พี่โชล่ะ นอนกอดหมอนข้างมาหลายคืน มันไม่อุ่นเหมือนกอดปีศาจนี่นา แถมไม่มีคนให้กู๊ดไนท์คิสด้วย แย่อะ

   “พี่โชไปอาบน้ำได้แล้ว กินยาด้วย”

   “พี่หายแล้วจริงๆ ฮัดชิ้ว เชี่ยเอ้ย ใครนินทากูวะ ไอ้แทมแน่ เดี๋ยวมึงเจอกู ฮัดชิ้ว”

   บางทีพี่โชก็เป็นคนตลก แต่ผมว่า เราควรสงสารพี่แทมมากกว่า โดนทุกทีเลย

        แม้สงกรานต์ปีนี้จะไม่ได้ออกไปเล่นน้ำเหมือนปีก่อนๆ แต่ก็มีความสุขดี ได้กลับไปหาครอบครัว ผมไปนอนบ้านพี่โชวันนึง อีกวันพี่โชก็ไปนอนบ้านผม อยากให้เห็นคุณชายโชแต่งชุดนอนลายยีราฟของผมซะจริง ขากางเกงสั้นเต่อขึ้นหน้าแข้ง โคตรตลก แต่คุณชายก็เอาอยู่ แม่ผมกับแฟนพี่กิ่งออกปากชมกันใหญ่ว่าหล่อ จะมีแค่ผมกับพี่กิ่งที่หัวเราะใส่ ผมไม่ได้แกล้งนะ ก็ไม่เตรียมชุดนอนมาเอง ช่วยไม่ได้

   ปีใหม่ไทยนี้ ผมขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ นะครับ ร่ำรวยความสุข (เหมือนผม) มีคนรักที่ดี (เหมือนผม) ขอให้อย่าเจ็บ อย่าป่วย (เหมือนพี่โช) ขอให้เป็นปีที่ดีของทุกคนครับ ไอ้กลอยคนนี้รักทุกคนเสมอดัง...ฟ้าดินแยกเราเท่าไรไม่ขาด ภพชาติพรากเราห่างกันไม่ได้ เมื่อบุพเพสันนิวาสมั่นหมายให้เจอ ผู้ใดเข้ามาไม่เคยไหวหวั่น เหมือนใจฉันเกิดมาเพื่อเป็นของเธอ รอวันพบเจอ เคียงข้างรักเธอ...นิรันดร์

   สวัสดีปีใหม่ไทยครับ



.......

สวัสดีค่า คราวนี้พากลอยประเกรียนมาช้ากว่าทุกที ปกติต้องมาช่วงเทศกาล นี่ย้อนหลังหลายวัน ขอโทษค่าา
ผ่านช่วงสงกรานต์มาอย่างเปื่อยๆ ไม่ได้เล่นน้ำจนเปื่อยนะคะ นอนจนเปื่อย แฮ่ (อยากเป็นตลกในคณะพี่โช)
และขออภัยหากเรื่องนี้ไม่ค่อยมีสาระ เพราะเราเน้นสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนเหมือนเดิมค่ะ
หวังว่าเราจะได้เจอกลอย2 ในไม่ช้า (เอากลอย1 ให้รอดก่อน)
แล้วเจอกันใหม่ในเทศกาลหน้าค่าาาาา จุ๊บบบ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 18-04-2018 20:39:19
 :L2: ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะค่ะ สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 18-04-2018 20:51:58
กี่ปีผ่านไปกลอยก็ไม่เคยฮาน้อยลง ถึงได้โดนแกล้งตลอด
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 18-04-2018 21:11:34
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 18-04-2018 22:31:37
คิดถึงกลอย ชอบมาก ๆ ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 18-04-2018 23:20:54
ฮาดราม่าอีพี่แทมอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 19-04-2018 01:01:29
อิพวกบ้า 55555 รวมตัวกันทีไรนึกว่าสมาคมคนบ้า  :laugh: 

ฮาตล๊อดดดด หาสาระไม่ได้เลย ว่าแต่กลอยๆๆ  :z13:

อย่าว่าแต่พวกสามคนนั้นเลยที่คิดว่าล้วงไข่แบบไหน นี่ก็คิดว่ะ

 :jul3: มีอย่างที่ไหน ดูพูดกันสิ กระซิบกระซาบ ทำเป็นมีความลับ  :pigha2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-04-2018 03:19:11
ขอบคุณมากค่ะที่พากลอยกลับมาเจอกันอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 19-04-2018 10:10:29
คู่นี้ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-04-2018 17:09:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-04-2018 20:13:06
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: npsp2555 ที่ 20-04-2018 20:32:24
ชอบๆ กลอยน่ารักที่สุด :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 21-04-2018 09:22:43
ชอบทุกคู่เลย น่ารักมากๆ

มีเรื่องของพี่ฟลอยด์ไหมอ่ะ อยากอ่าน
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-04-2018 10:53:10
5555 สงสารกลอย ดูแลคนป่วยไม่พอ ยังต้องมาต้อนรับทีมคนป่วงอีก
โชคะ ทำตัวเหมือนแกล้งป่วยเลยนะ ตอนดื่มนี่ฟินเลย
ความรั่วของแต่ละคนไม่เคยมียั้ง อย่างฮา
เรื่องไข่ก็แล้ว เรื่องแทมก็แล้ว ให้ได้แบบนี้สิ

ขอบคุณนะคะ กลางปีมาอีกนะคะ เทศกาลมิดเยียร์เซลล์
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 23-04-2018 15:20:07
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 27-04-2018 17:04:25
เกรียนน้อยน่ารักเสมอรวมตัวกันที่ไรเหมือนจะโดนแกล้งตลอดเลย

 :pig4:  :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:ควันหลงฯ [P.41] [18/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 10-08-2018 10:34:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ: วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 12-08-2018 12:13:39

ตอนพิเศษ วันแม่ 2018






        “แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล” เสียงอันไพเราะของผมกำลังขับกล่อมให้แม่ฟังในวันสำคัญ “แม่เราเฝ้า โอละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล~”

   “เพราะ” แม่แทรกเข้ามาใบหน้านิ่งๆ คงจะซึ้งกับเสียงเพลงของผมแน่

   “ใช่ไหม กลอยร้องเพลงเพราะ” ฉีกยิ้มกว้าง รู้สึกภูมิใจในตัวเอง ก่อนที่จะ...

   “เพราะอะไรถึงร้อง”

   “แม่!”

   โดนหัวเราะเยาะใส่จนอยากมุดลงโถส้วม ทั้งแม่ พี่กิ่งแล้วก็พี่ผิงจับท้องตัวเองอย่างทรมานในการล้อผม อิจฉาเสียงผมก็บอก โธ่

   “แล้วโชจะมากี่โมง” แม่หยุดขำก่อนใครเพื่อนพลางเอ่ยถาม ผมหน้างอแต่ก็ยอมตอบ

   “เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” ตอบไป เหล่ตามองแรงไปยังพี่สาวที่ยังขำไม่หยุด หัวเราะกรามค้างเมื่อไหร่ ไอ้กลอยจะซ้ำเติมให้ดู
 
   เพราะครอบครัวพี่โชไปเที่ยวเมืองนอกทุกคน ลูกชายคนเล็กของบ้านงอแงเล็กน้อยที่ถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง ก็ใครใช้ให้ติดแฟนล่ะ เลยอดไปเที่ยวเลย ผมว่า แฟนพี่โชคนนี้ต้องหล่อมาก นิสัยต้องดีสุดๆ พี่โชถึงได้ติดขนาดนี้ หรือไม่ก็ ชาติที่แล้วเกิดเป็นกาวตราช้าง พี่โชถึงได้ติดทนนาน


   เล่นตัวเองจะได้เจ็บน้อยที่สุด ผมรู้ดี


   ช่วงที่รอพี่โช ผมก็ไม่อยากให้บ้านเงียบเลยร้องเพลงแม่อีก แต่ก็ถูกพี่กิ่งยื่นมือมาอุดปาก พอดิ้นก็ถูกขาขัดไว้ไม่ให้ขยับ
 
   “แม่ พี่กิ่งทำร้ายกลอย” รีบฟ้อง แต่แม่กลับหัวเราะ มีพี่ผิงแฟนของพี่กิ่งนั่นแหละที่เข้ามาห้าม ผมแอบเห็นนะว่าหัวเราะผมน่ะ “ชอบทำร้ายน้องสุดหล่ออยู่เรื่อย”

   “ถ้าแกหล่อ ไอ้มอมข้างบ้านก็หล่อมากเหมือนกัน”

   “พี่เปรียบผมเหมือนหมาเหรอ”

   “ไอ้มอมเป็นหมาเหรอ”

   “สาบานว่าไม่รู้?”

   เถียงกันไปมาจนมีคนเดินเข้าหน้าร้าน ผมรีบวิ่งเข้าไปหากะจะฟ้อง แต่พี่โชดันเดินผ่านผมไปหาแม่พร้อมยกมือไหว้ ก่อนจะหันกลับมาทำสีหน้าคล้ายกับว่าเพิ่งเห็นผม 


   ทำไมทุกคนต้องรังแกผมด้วยครับ ไม่เข้าใจ ผมทำอะไรผิด!


   “โกรธพี่เหรอ” โดนข้อศอกสะกิดยิกๆ แต่ผมก็ทำเมิน “กลอย พี่แค่แกล้งเฉยๆ ใครจะไม่เห็นเมียตัวเอง ตัวอ้วนขนาดนี้”

   “ตลกไหม ก็ไม่”


   ผมว่า พี่โชควรอยู่ห่างพี่แทมกับพี่จอมให้มากกว่านี้สักหน่อย



   วันนี้พี่โชรับอาสาเป็นคนขับรถให้โดยที่ผมแทบไม่ต้องร้องขอ แค่บอกจะพาแม่ไปกินข้าว พี่โชรีบออกปากว่าจะพาไป ตอนแรกพี่กิ่งจะเอารถตัวเองไปอีกคัน ก็ถูกแม่บ่นว่าเปลือง ตอนนี้เลยนั่งหน้าบูดอยู่ด้านหลัง

   “จะไปที่ไหนกัน” แม่ถามขณะรถเริ่มออกตัว

   “กลอยจะพาแม่ไปกินอาหารทะเล” หันไปบอกด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะจิ้มลูกชิ้นทอดเจ้าประจำหน้าคอนโดพี่โชเข้าปาก สิ่งนี้แหละที่ทำให้ผมหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง เพราะลูกชิ้นจะเยียวยาทุกอย่าง ผมเหล่ตามองคนขับที่เหลือบมามองผมเป็นระยะ รู้ว่าต้องการอะไร แต่นี่มันต่อหน้าแม่ผมไง “อะ” ยื่นถุงลูกชิ้นให้พี่โช แต่มือผมกลับถูกตีจนถุงเกือบร่วง “แม่ตีมือกลอยทำไม”

   “พี่เขาขับรถอยู่ไม่เห็นเหรอ ป้อนพี่เขาสิ” แม่ว่าพลางทำหน้าดุ ผมได้แต่ขยับปากบ่นไม่มีเสียง มือก็จิ้มลูกชิ้นทอดจ่อปากพี่โช “เราไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ”

   “โธ่ แม่ก็รู้ สมองไอ้กลอยเท่าเด็กอนุบาล” พี่กิ่งได้ทีรีบแขวะผม โดยที่ผมตอบโต้อะไรไม่ได้เลย นอกจากด่าด้วยสายตา







   ร้านอาหารที่พี่โชพามาตั้งอยู่นอกเมือง บรรยากาศดีมีสระน้ำกว้างอยู่ตรงกลาง ทันทีที่คนหล่อเดินเข้าร้านก็เรียกสายตาได้เกือบหมด ขนาดวันนี้แต่งตัวแบบธรรมดาด้วยเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงสามส่วน รองเท้าผ้าใบสีขาวมีตัวการ์ตูนที่ผมเพ้นส์ ยิ่งทรงผมไม่ได้เซ็ทเลยทำให้หน้าดูเด็ก


   เริ่มหวงขึ้นมานิดๆ เลยเดินชิดซะเลย


   พี่โชมองอย่างงๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนแขนยาวจะยกขึ้นมาพาดบ่าผมแทน เราสองคนเดินรั้งท้ายปล่อยให้สาวๆ เป็นคนเลือกที่นั่ง พี่กิ่งพาแม่ไปนั่งข้างสระน้ำ ลมเย็นอ่อนๆ พัดโยนรู้สึกเย็นสบาย แต่พอได้เปิดดูราคาที่ติดตามเมนูแล้ว เหงื่อแตกกันเลยทีเดียว

   “มันแพงไปนะลูก” แม่แอบกระซิบเพราะกลัวพนักงานจะได้ยิน “แม่ว่าไปกินอย่างอื่นเถอะ”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งใจพาแม่มาทาน” พี่โชบอกพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งพี่กิ่งก็พยักหน้า ได้ยินว่าจะจ่ายคนละครึ่ง “แม่เลือกเลยครับ อาหารทะเลที่นี่สดทุกอย่าง”

   “พี่เคยมาเหรอ” ถามด้วยความสงสัย อยู่กับผมแทบตลอดเวลาทำไมผมถึงไม่เคยมา

   “ลูกค้าพามาน่ะ”

   “ผู้หญิง?”

   “ก็มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย”

   “แน่ใจ?”

   “ไปหึงกันที่บ้าน กินข้าวไม่ลง” พี่กิ่งแทรกเข้ามา แต่ก็โดนฝ่ามือพี่ผิงเข้าเต็มแทน คนนี้แหละ แบ็กผมล่ะ “ผิงชอบเข้าข้างมันตลอด” มีการหันไปว่าให้แฟนตัวเอง”

   “ก็กิ่งไปแกล้งน้องทำไม” คนแกล้งผมหน้างอไม่กล้าต่อปากต่อคำ แต่แอบเห็นนะ ว่าพี่ผิงปลอบใจด้วยการโอบเอวด้านหลัง

   ตัวก็หวานเหมือนกันนั่นแหละ ทำมาว่าคนอื่น

   จากราคาที่ค่อนข้างสูง แม่เลยปล่อยให้ทุกคนเป็นคนสั่ง ผมเลือกปูก่อนเป็นอันดับแรก มาทั้งปูนึ่ง ปูผัดผงกระหรี่ ส่วนพี่กิ่งเลือกกุ้งกับปลา พี่โชไม่เลือกอะไรเพราะผมเลือกไว้แล้ว ช่วงรออาหารแม่ก็ถามพี่โชเรื่องทั่วๆ ไป ทั้งงาน ทั้งส่วนตัว ก่อนจะวกมาบ่นว่าไม่ให้ผมทำตัววุ่นวายให้พี่โชปวดหัว

   “กลอยไม่เคยสร้างปัญหาให้พี่โชปวดหัวเลยนะ ใช่ไหม” พูดเสร็จก็หันไปถามคนข้างๆ พี่โชยิ้มพลางพยักหน้าลง “จริงจังหน่อย กัดฟันใช่ไหมในปาก”

   แม่ส่ายหน้าน้อยๆ คงจะระอา แต่ก็ยิ้มออกมาในตอนท้าย บางทีผมก็คิดว่าแม่อาจจะอยากมีหลานน่ารักๆ สักคน แต่พอไปถาม แม่กลับบอกว่า ไม่อยากให้ผมทำอะไรที่ฝืนความรู้สึก เพราะไม่มีใครอยู่กับเราไปตลอดทั้งชีวิตนอกจากคู่ชีวิต แม้แต่แม่เอง ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน แม่ให้ผมเลือกความสุขด้วยตัวเอง ถ้าผมมีสุข แม่ก็มีสุข


   ผมว่า ผมกับแม่ต้องเป็นญาติกับนักข่าวแน่ๆ ... มีสุข


   ไม่นานกับข้าวก็เริ่มทยอยออกมาวาง หน้าตาดูน่าอร่อยทุกอย่าง ผมตักปลานึ่งให้แม่เพราะแม่ชอบกินปลา ส่วนผมชอบกินปู รู้เลยว่าทำไมถึง...ฉลาด บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็เรียบๆ เราพูดคุยกันไม่มาก เรื่องรสชาติอาหารก็สมกับที่ถูกอวดอ้าง

   “อร่อยดีนะ” แม่ชมออกมา

   “เราขอสูตรกลับไปทำที่ร้านดีไหมคะ” พี่ผิงว่าขำๆ ซึ่งแม่รีบพยักหน้าเห็นด้วย เรียกเสียงหัวเราะได้รอบวง “กลอย พี่ว่า ถ้าไม่ไหวก็วางเถอะ”

   “ได้น่าพี่ผิง กลอยซะอย่าง” ตอบไป แต่ตายังคงมองปูในมือ คนอื่นหัวเราะกัน มีแต่ผมที่หน้าเครียด

   ก็เพราะปูนึ่งที่สั่งมันแกะยาก ปกติแล้วเขาต้องทุบมาให้ก่อนไม่ใช่เหรอ แต่นี่มาเป็นตัว ปูม้าไม่เท่าไหร่ แต่ปูดำที่นี่ แงะยังไงก็แงะไม่ออก

   “ต้องหาอะไรทุบก่อน” พี่โชว่า ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงาน ซึ่งได้คำขอโทษว่าลืม ด้วยความเป็นคนดี ทุกคนก็เลยไม่ว่าอะไร มีแต่พี่โชที่หน้าตึง

   “แกก็แกะเอากระดองออกก่อนสิ จะไปกินก้ามมันทำไม” พี่กิ่งว่า มือดึงกระดองปูออกแล้วส่งให้แฟนตัวเอง

   “ก็ผมชอบกินก้ามมัน” รีบบอก “แม่กินไหม เดี๋ยวกลอยแกะให้” ว่าแล้วก็รีบงัดกระดองปูดำนึ่งออก พลางหักกลางโดยไม่รู้ว่าปูมันมีไข่ ทันทีที่หัก ไข่ปูกระเด็นใส่มือพี่กิ่ง “ไข่มันเด้ง” รีบแถ แม้จะโดนสายตาตวัดมอง “แม่ครับ เนื้อปูหวานๆ”

   “กลอยไม่ต้องแกะให้แม่ก็ได้ลูก” ไม่รู้เพราะแม่สงสารที่เห็นผมแกะลำบาก หรือเพราะกลัวขี้มือของผมก็ไม่รู้

   “ไม่เป็นไร กลอยตั้งใจแกะให้แม่” ว่าแล้วก็งัดอีกตัว คราวนี้ฝากระดองปลิวไปตกข้างพี่กิ่งตามเดิม “ปูมันนึ่งไม่สุกแน่ มันไม่ตาย”

   “มันไม่ตาย แกนั่นแหละจะตายไอ้กลอย หยุดเลยๆ อย่าจับ” พี่กิ่งชี้นิ้วสั่งพร้อมถลึงตาใส่ ผมเลยต้องวางปูในมือลง “วุ่นวายจังวะ”

   “ก็มันชีฟฮาร์ด ชีฟคลู” บ่นไป มือก็ยัดปูที่พี่โชทำให้เข้าปาก

   “อะไรชีฟฮาร์ด ชีฟคลู” พี่ผิงถามกลับแทบจะทันที

   “แกะยาก แกะเย็น” ตอบปุ๊บ เงียบทั้งโต๊ะ “ขอโทษ มุกผมแป้ก” แค่นั้นแหละ ทุกคนพากันหัวเราะหมด ขนาดพี่กิ่งที่ปั้นหน้าดุยังหัวเราะออกมา

   พนักงานของร้านเดินออกมาขอจานปูไปทุบให้ เพราะไม่สะดวกเอาที่ทุบให้ ผมก็ได้แต่นั่งกินที่พี่โชทำให้ เห็นพี่โชกับพี่กิ่งแกะให้แม่ด้วย คงจะแข่งกัน ตอนนี้จานของแม่เลยเต็มไปด้วยปู กุ้ง ปลา



   มื้ออาหารแห่งความสุขผ่านพ้นไป พี่โชกับพี่กิ่งหารครึ่งออกค่าอาหารครั้งนี้ แม้ตอนแรกพี่โชอยากจะเลี้ยงก็เถอะ แต่พี่กิ่งไม่ยอมเลยสรุปแบบนั้นไป พี่โชแอบถามผมว่าอยากพาแม่ไปเที่ยวซื้อของ แต่ผมว่า แม่คงไม่อยากไปหรอก เพราะของขวัญอะไรก็ไม่สุขใจเท่าอยู่พร้อมหน้า นี่ผมไม่ได้พูดเองหรอกนะครับ แต่ทุกปีแม่จะบอกผมแบบนี้เสมอเวลาถามว่าอยากได้อะไร

   ดังนั้นปลายทางของเราคือบ้าน พอมาถึง แม่ก็ถูกพี่ผิงพาไปนั่งที่ม้านั่ง ก่อนพี่กิ่งจะยกกะละมังน้ำออกมา ผมมองภาพพี่สาวกับแฟนล้างเท้าให้แม่น้ำตาคลอ แม่อวยพรให้ทั้งคู่มีความสุข และพี่กิ่งก็ปล่อยโฮออกมา หน้าตาดูไม่ได้

   “เดี๋ยวพี่มา” พี่โชกระซิบซึ่งผมก็พยักหน้า เพราะรู้ว่าจะไปไหน

   ช่วงที่รอพี่โช ผมก็เข้าไปประจบแม่ จังหวะที่แม่ถามหาพี่โช คนถูกถามหาก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกระเช้าผลไม้ พี่โชเดินเข่าเข้ามาหาแม่ผม โดยที่ผมช่วยประคองกระเช้าด้วย ซึ่งมันหนักมากจริงๆ

   “อะไรเนี่ย” แม่ว่าออกมาพร้อมรอยยิ้ม

   “กลอยเลือกเองกับมือเลยนะแม่ ให้พี่โชจ่าย” พูดติดตลกเพราะยังไม่อยากร้องไห้ ผมกระพริบถี่ๆ เพื่อให้น้ำตามันกลับเข้าไป แต่ก็ไม่เชื่อฟังซะเลย จะไหลลงมาให้ได้ “สุขสันต์วันแม่ครับ กลอยรักแม่ที่สุดในโลกล้านภาลัย อุ่นใดๆ”

   “พอๆ แม่ฟังจนทำนองมันเพี้ยนหมดแล้ว” แม่ผมก็เป็นคนตลกเหมือนกัน “ขอบใจลูกทั้งสองมากนะ แม่ก็ไม่มีอะไรจะให้ นอกจากความรัก ความปรารถนาดี และคำอวยพร” มาแค่นี้น้ำตาผมก็แตกแล้วครับ พี่โชสะอื้นเบาๆ ส่วนพี่สาวผมก็ร้องไห้อีกรอบ “แม่ขอให้กลอยกับโชมีความสุขมากๆ ร่างกายแข็งแรง คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนานะลูก”

   “แม่ต้องบอกรวยๆ ด้วย” สูดขี้มูกพลางพูดออกมา โดนแม่เคาะหันไปหนึ่งที
 
   “เงินทองถ้าใช้มันก็หมด ความสุขยิ่งมีมาก ยิ่งสุขใจ”

   “นี่แม่หรือมีดเนี่ย คมมาก”

   “ดูมัน”

   แล้วทุกคนพากันหัวเราะทั้งน้ำตา

   จะวันพ่อ วันแม่ หรือวันไหนๆ สำหรับผมแล้ว แค่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก ในทุกๆ วันก็ถือเป็นวันสำคัญที่แสนพิเศษ

   “อุ่นใดๆ”

   “ไม่อุ่นแล้ว ร้อนจะตาย”

   “แม่ พี่กิ่งขัดกลอย”

   “พี่เขาทำถูกแล้ว”

   ทำไมทุกคนต้องทำร้ายจิตใจของผมด้วย ผมร้องเพลงไม่เพราะเหรอ...






......


   วันนี้ทั้งวัน พี่โชคลุกตัวอยู่ที่บ้านผม กว่าจะมีเวลาโทรไปหาแม่ตัวเองก็ตอนค่ำ ปลายสายคงกำลังเที่ยวอยู่ เสียงหัวเราะร่าเริงมาก ทำเอาคนไม่ได้ไปหน้าคว่ำเลย

   “สุขสันต์วันแม่ครับ กลอยขอให้แม่มีความสุขมากๆ สวยกว่าเดิมเป็นพันเท่า” ตะโกนบอกไป ได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมาจากปลายสาย “รักแม่น้า”

   “ขอบใจจ้า แม่ก็รักกลอยนะ ฝากดูแลโชด้วย”

        ‘ใครกันแน่ที่เป็นคนดูแล’ ได้ยินเสียงเบาๆ จากคนหน้าบูด

   “แม่สนุกไหม อย่าลืมของฝากกลอยด้วย” นี่คือประเด็นหลัก ไม่สิ ผมไม่ได้หวังของฝาก..จริงๆ นะ

   “แม่ซื้อขนมไปฝากเยอะแยะเลย” แทบกระโดดหลังจากได้ยิน ก่อนจะมีเสียงเล็กๆ ดังแทรกเข้ามา ‘น้องบีมจะกินให้หมด น้ากลอยเอาไปนิดเดียวพอ’

   นอกจากจะกัดผมจมเขี้ยวแล้ว น้องยังจะแย่งขนมผมอีกเหรอ

   “รักษาสุขภาพด้วย แก่แล้วยังไปเที่ยวเมืองหนาวๆ อีก” พี่โชว่า ไม่นานก็ถูกแม่ตัวเองบ่นจนหูชาก่อนปิดท้ายด้วยคำอวยพรดีๆ ทำเอาคนหน้าบูดยิ้มกว้าง “มองอะไร” เสียงเข้มมาเชียว หลังจากวางสายแม่ตัวเอง

   “คนเรานี่นะ ไม่ไปเองก็ทำมาเป็นงอน”

   “ก็เพราะล่ะ ทำให้พี่ไม่ไป”

   “กลอยผิดเหรอ”

   “ไม่”

   ก่อนพี่โชจะลุกจากโซฟา ผมก็รีบกอดรัด ทั้งมือและเท้าจนคนตัวหอมขยับไม่ได้

   “ขอบคุณนะที่วันนี้พี่โชไปอยู่กับกลอย” เอาหน้าผากถูๆ กับไหล่แน่นๆ

   “พี่ก็อยู่กับกลอยมาตลอดนั่นแหละ” พี่โชพูดปนขำ “อ้อนแบบนี้อยากได้อะไรหรือเปล่า”

   “อย่ารู้ทันสิ” ทำหน้างอ ปากยู่ ก่อนถูกปากแดงยื่นมาจุ๊บ “กลอยไม่อยากได้อะไรหรอก เพราะมีทุกอย่างแล้ว” พูดจบก็ยื่นหน้าไปจุ๊บปาก “พี่โชคือทุกอย่างเลย”

   “นึ่งซาลาเปาเก่ง”

   “อะไรซาลาเปา พี่โชอยากกินเหรอ”

   “ซึ้ง”


   แป่ว แวว แวว ผมว่า พี่โชอยู่ใกล้พี่แทมมากเกินไปจริงๆ ครับ


   “เดี๋ยวนี้ตลกนะเรา”

   “ก็มีเมียตลกก็ต้องพัฒนาตัวเองสิ เดี๋ยวกลอยเบื่อ”

   “ใครจะไปเบื่อปีศาจกล้ามแน่นๆ แบบนี้ได้เล่า ดูสิ กล้ามแน่นกว่าก้ามปูที่กินอีก” ว่าแล้วก็งับซะเลย คิดว่ารัดตัวพี่โชไว้แล้วจะตอบโต้ไม่ได้

   ที่ไหนได้ ถูกสลัดทีเดียวหลุดเลย ตอนนี้เลยถูกคนกล้ามแน่นคร่อมไว้ทั้งตัว สายตาแวววาวจนขนลุก ลิ้นสีแดงแลบเลียริมฝีปากตัวเอง

   “พี่โช” เรียกเบาๆ พลางยื่นมือไปจับหน้าหล่อ พี่โชจุ๊บฝ่ามือผมทั้งสองข้าง ทำตาเชื่อม “ขอเวลาครู่หนึ่งได้ป่ะ แล้วค่อยกลับมานึ่งซาลาเปาใหม่”

   “ทำไม”

   ไม่มีคำตอบใดๆ นอกจากเสียงลมที่อัดแน่นแหวกอากาศออกมา กลิ่นทำลายล้างจนคนที่คร่อมผมดีดตัวหนีแทบไม่ทัน

   “สงสัยน้ำจิ้มซีฟู้ดจะเล่นงาน ขอเวลาแป๊บนะ”

   “ซึ้งทีไร แม่งปวดขี้ทุกที”

   “พี่โชอย่าว่ากลอย”

   “รีบๆ ขี้ แล้วทำไมไม่ปิดประตู กูเหม็น”

   “เดี๋ยวพี่โชคิดถึง”

   “ไอ้กลอย”

   ไม่มีเสียงอะไรให้ได้ยินอีก ก่อนหน้านี้มีเพียงเสียงประตูปิดลงแค่นั้น สงสัยจะหนีเข้าห้องทำงานตัวเอง ไม่ก็ห้องนอน ทีเมื่อก่อนสั่งนักสั่งหนาว่าอาบน้ำก็ห้ามล็อก มาตอนนี้ขี้อยู่ไม่ล็อกประตูกลับโดนด่าซะงั้น พี่โชนี่เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ


   คนปวดขี้ผิดด้วยเหรอครับ กลอยคนนี้ไม่เข้าใจ...กลิ่นแม่งขมคอเลยเว้ย     



.....


สวัสดีวันแม่ 2018 ค่าาาาา
พากลอยมาทักทายในวันสำคัญ คิดแล้วคิดอีกว่าจะพามาดีหรือเปล่า หรือจะพาใครมาทักทายดี
สุดท้ายก็ลงเอยที่กลอยประเกรียน...

เนื่องจากวันแม่ ขออนุญาตอวยพรคุณแม่ค่า ขอให้คุณแม่ของเพื่อนๆ ทุกคน หรือทุกคนที่เป็นแม่ มีความสุขมากๆ
สุขกายสบายใจ ไม่เจ็บไม่ป่วย มีเงินทองไหลเข้ามาอย่าได้ออกไป มีโชคถูกหวยรวยเบอร์รางวัลใหญ่ๆ ค่า
ความสุขไม่จำเพาะต้องเป็นเกิดในวันสำคัญ จงทำทุกวันให้มีแต่ความสุขค่ะ
รัก.......

 :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 12-08-2018 12:44:25
เกรียนน้อยยังกวนเหมือนเดิม พี่โชน่ารักมากๆๆที่ทนเกรียนน้อยได้นานป่านนี้ :katai2-1:

 :pig4: :กอด1: :L1:

หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 12-08-2018 13:18:45
กลอยก็ยังเป็นกลอย  :laugh: :laugh: :laugh: เฮ่อชักสงสารพี่โชขึ้นมาแล้วสิ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-08-2018 14:13:05
 :man1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-08-2018 14:40:24
นังกล๊อยยยยยยนี่อกจะไม่เกรียนสักเทศกาลนึงไม่ได้เลยรึไง หืม? สงสารพี่โชจริงๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-08-2018 23:26:40
คราวก่อนก็ตด คราวนี้มาขี้อีกหรอ กลอยยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-08-2018 06:32:22
คิดถึงงง
กลอยปะเกรียนเสมอต้นเสมอปลาย
พัฒนาด้วยมุกแป๊กของหลัวพี่โช
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-08-2018 20:32:10
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-08-2018 22:43:54
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-08-2018 22:49:44
คิดถึงกลอย  กลอย ก็มา   :mew1:

นึกว่าจะได้อ่านอะไรที่เลือดพุ่งกระฉูด   :z1: :haun4:
กลอย ทำให้ผิดหวังอีกและ  :z3:
กลอย ก็ยังเป็น กลอยประเกรียนเสมอต้นเสมอปลาย   :z3:
ไอ้ที่กินเยอะ กินจนท้องเสีย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แล้วยังไปว่าพี่โชอีก ว่าพูดไม่เป็นพูด  :laugh: :m20: :laugh:
ขนาดตัวเองยังบอก กลิ่น......ขมคอเลยเว้ย  :serius2:

พี่โช  กลอย   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: kamol1620 ที่ 13-08-2018 23:53:59
สนุกมากค่ะ เกรียนได้อีก  :pighaun: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-08-2018 00:15:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 14-08-2018 21:22:45
 :hao5:  :hao5: :hao5: :hao5: อยากให้มีต่อไปเรื่อยๆๆๆเลยชอบบบบ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 14-08-2018 22:25:46
ปูมาอย่างดีตอนท้ายนี่คืออะไรนังกลอยเอ้ยย
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 15-08-2018 09:05:25
 :m1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: P.S. ที่ 29-08-2018 18:55:36
ติดตามจ้า :mew2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน ตอนพิเศษ:วันแม่ 2018 [P.42] [12/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 30-08-2018 15:52:45
 o13
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน **แจ้งเรื่องหนังสือค่า** [P.42] [20/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 20-10-2018 19:35:41
ขออนุญาตแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือเรื่อง Just you and I เพราะนายคือของฉัน ค่าา

**วางขายวันแรกที่งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 23 ตั้งแต่วันที่ 17-28 ตุลาคม 2561**



(https://pbs.twimg.com/media/Dp2n0bXUcAANLEL.jpg)



รายละเอียด :

เรื่อง Just you and I เพราะนายคือของฉัน
ผู้เเต่ง aiaea
ในเล่ม ที่คั่น โปสการ์ด
ของแถมพิเศษ : ที่คั่นจิบิไดคัตพลาสติกพี่โชน้องกลอย 1 คู่ ( มีจำนวนจำกัด )
ราคาหนังสือ 2 เล่มจบ : 700บาท Boxset : 900 บาท
ราคาพิเศษหน้างาน และ หน้าร้าน That’s Y : หนังสือ 2 เล่มจบ : 630 บาท Boxset : 800บาท
วันที่จำหน่ายทั้งหน้างานและหน้าร้าน That’s Y : ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2561
รอบไปรษณีย์ที่เว็บ www.hermitbookshop.com :จะแจ้งกำหนดภายหลัง
----------------------
เมื่อ"กลอย"ไปอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่
แถมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็ทำให้หนีไปไหนไม่ได้
เลยต้องทนอยู่อย่างนั้น
แล้วความอยากรู้อยากเห็นก็ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับ "โช"
ชายหนุ่มที่แค่ถูกมองหน้าก็ทำให้ขนลุกไปทั้งตัว
เพราะรังสีความเย็นที่แผ่ออกมานั้น
ยิ่งกว่าพัดลมเบอร์สามเสียอีก
ยิ่งมีสายตาคมดุที่แช่แข็งไม่ให้ขยับไปไหน
แต่ที่มากไปกว่านั้นคือการกระทำที่แสดงออกอย่างชัดเจน
นั่นยิ่งทำให้หมดทางหลีกหนี
ชีวิตของกลอยกำลังจะเปลี่ยนไป
เพราะผู้ชายคนนี้น่ะเหรอ?
อีกทั้งแฟนที่คบกันมานานก็กำลังนอกใจ
แล้วแบบนี้กลอยจะจัดการทั้งสองเรื่องที่เข้ามาพร้อมกันได้ยังไง
ให้อะไรทายได้บ้างนะ?


.....................................

ขอฝากพี่โช กับ น้องกลอยประเกรียน ด้วยนะคะ พาน้องสุดหล่อแม่นเว่อร์กลับบ้านด้วยนะคะะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ งานหนังสือฯ] [P.42] [22/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 22-10-2018 20:50:34
ตอนพิเศษ งานหนังสือแสนหรรษา





       ใครหลายคนชอบบอกว่าผมขี้เกียจ ซึ่งมันไม่จริงเลยสักนิด ผมออกจะขยัน หนังสือในตู้ผมอ่านหมดทุกเล่ม แต่ละหน้าก็อ่านแล้วอ่านอีก อ่านซ้ำไปซ้ำมาจนเล่มมันเยินชนิดที่บางหน้าต้องพึ่งสก็อตเทปแปะไว้ แล้วแบบนี้จะมาหาว่าผมขี้เกียจอ่านหนังสือได้ยังไง ชอบใส่ร้ายคนดีอยู่เรื่อย กลอยประเกรียนคนนี้น้อยใจ

   ด้วยความที่ผมอ่านหนังสือจนหมดตู้แล้ว วันนี้เลยอยากได้เพิ่ม เลยอ้อนวอนขอร้องให้พี่โชพามาซื้อที่งานมหกรรมหนังสือที่เพิ่งเริ่ม อาจเพราะยังเช้าแถมเป็นวันแรกๆ คนเลยไม่มากเท่าไหร่ ทำให้พอเดินสะดวก มีอากาศถ่ายเทพอให้ผมหายใจได้บ้าง

   “คนเยอะ” เสียงบ่นลอยมาจากด้านหลัง ผมหันไปมองกลุ่มคนที่พ่วงมาทำหน้าบึ้งตึง “แค่กูเจอหนังสือสอบเล่มสองเล่มกูก็เครียดจนจะตายอยู่แล้ว” พี่แทมบ่นเป็นหมีกินผึ้งตั้งแต่เหยียบเข้างาน

   “แล้วมึงจะเสือกมากับพวกกูทำไม” และจะเป็นใครไม่ได้ที่กล้าด่าแบบนี้ พี่จอมคนโหดนั่นเอง เห็นพี่ซันว่า เมื่อคืนรู้ว่าจะมา พี่จอมก็จดรายชื่อหนังสือที่อยากได้ และไม่รู้ด้วยว่าหนังสืออะไร เห็นขลุกอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอด

   “ก็พวกมึงเล่นมาเป็นโขยง แล้วจะทิ้งกูให้โดดเดี่ยวอยู่บ้านได้ยังไง ไอ้เพื่อนชั่ว คิดจะทิ้งกู” ตีหน้าเศร้าโยนความผิดให้คนอื่น และคงจะมีแค่ผมคนเดียวที่สนใจ เพราะคนอื่นพากันเดินไปข้างหน้าหมดแล้ว “มึงเข้าใจกูใช่ไหมไอ้กลอย”

   “เปล่า” ตอบพลางส่ายหน้ารัวๆ

   “แล้วมึงมายืนมองหน้ากูหาผัวเหรอ” ปากคอเราะร้ายจนหมาในปากผมแทบโดดออกมา “ยังจะมองหน้ากูอีก ผัวมึงเดินไปนู้นแล้ว เดินไปสิ”

   “ก็อยากจะเดินไปข้างหน้าเหมือนกัน ถ้าพี่ไม่เหยียบส้นรองเท้าผม” ไม่ว่าเปล่า ยังชี้ลงไปที่รองเท้าแตะที่ถูกเหยียบส่วนปลายส้น “ดูดิ่ ตีนผมจะทะลุออกด้านหน้าแล้วเนี่ย”

   “ก็ไม่บอกตั้งแต่แรก” คนเหยียบตีหน้าตายขยับเท้าออก พลางเดินตามเพื่อนตัวเองโดยไม่สนผมเลยสักนิด

   ไม่เว้นช่องไฟให้พูด ใครมันจะไปพูดแทรกได้วะ ไอ้กลอยไม่เข้าใจ

   ผมเดินอ้อยอิ่งมองหนังสือบูธนั้นที บูธนี้ทีโดยไม่ได้เร่งรีบตามพวกพี่โชแต่อย่างใด เพราะมั่นใจว่าจะไม่คลาดหรือหลงกันแน่ ในเมื่อกลุ่มนั้นเดินไปทางไหน ก็จะมีคนแหวกทางให้เดิน หรือแค่มองหาออร่าที่เปล่งประกายออกมา นั่นแหละ จะเจอพวกเขาที่นั่น

   นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ไม่อยากพาพวกพี่ๆ เขามาด้วย ไปที่ไหน เด่นที่นั่น

   “ดูอะไร” เสียงทุ้มดังอยู่บนหัว ผมเงยหน้าขึ้นมองเห็นพี่โชจ้องหนังสือในมือผมอยู่ “การ์ตูนอีกละ วันๆ อ่านแต่การ์ตูน หัดอ่านหนังสือเรียนบ้าง” 

   “ผ่อนคลายไง พี่โชก็น่าจะรู้ว่ากลอยเครียด”

   “เครียดเรื่องเรียน?”

   “เปล่า เรื่องเกมส์”

   ถูกเคาะหัวข้อหากวนตีน ผมยื่นหนังสือที่อ่านให้กับพนักงานในบูธ สาวหน้าตาจิ้มลิ้มหุ่นอวบอัดมองผมกับพี่โชสลับไปมาแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนผมต้องขยับหนังสือว่าจะซื้อ เธอถึงรีบหยิบไปคิดเงินแล้วยื่นมาให้

   “แล้วแวะมาอีกนะคะ” คำทิ้งทายจากพนักงานของบูธ ผมยิ้มกว้างส่งให้ ต่างจากอีกคนที่จ่ายเงินเสร็จก็รีบดึงแขนผมให้ออกมา

   ช่างเป็นคนไม่มีมนุษยสัมพันธ์เอาเสียเลย

   สำนักพิมพ์มากมายตั้งเป็นบูธติดๆ กัน ซึ่งหนังสือก็หลากหลายแนวจนไม่รู้จะเลือกเข้าร้านไหนดี แถมไม่รู้ทางด้วย ผมเลยให้พี่โชเดินนำแทน จนคนนำทางพุ่งเข้าไปที่บูธๆ หนึ่ง เป็นร้านที่ขายหนังสือเกี่ยวข้องกับงานธุรกิจเกือบทั้งหมด

   ผมคิดผิดใช่ไหมที่ไว้ใจปีศาจนำทาง

   พี่โชเลือกหนังสืออย่างใจเย็น ต่างจากผมที่สอดสายตามองหาบูธหนังสือการ์ตูน จนเห็นสิ่งที่ตามหาและป้ายด้านหน้าบอกลดราคา แน่นอนว่าผมไม่พลาดอยู่แล้ว เลยสะกิดเรียกพี่โชยิกๆ

   “อะไร?”

   “กลอยไปร้านนู้นนะ”

   “รอพี่ก่อน”

   “แต่พี่โชเลือกช้า”

   “ก็พี่ต้องหาเล่มที่มันได้ใช้”

   “ก็นั่นแหละ มันช้า เดี๋ยวการ์ตูนลดราคาจะหมด”

   คราวนี้พี่โชเหลือบสายตามองไปที่ร้านที่ผมว่า ก่อนดวงตาดุจะตวัดมาจ้องหน้าผม

   “ถ้าหมด เดี๋ยวพี่ซื้อเล่มที่ไม่ลดให้”

   ดั่งสวรรค์มาโปรด ผมเลยพยักหน้ารัวๆ แล้วยืนรอต่อ ได้ของแถมเงินไม่ออกกระเป๋า แบบนี้แหละ ที่ไอ้กลอยชอบนักล่ะ ระหว่างยืนหันหลังชนกับพี่โชโดยที่ไม่ได้มองหาร้านไหน เลยได้สังเกตเห็นสายตาของคนที่เดินผ่านไปมา พวกเขามองผมหรือร้านหนังสือก็ไม่รู้นะ แต่บางคนผมก็พอรู้ว่ามองผมนี่แหละเพราะส่งยิ้มมาให้ แถมบางคนกระซิบคุยกันว่าผมเป็นดาราเล่นซีรี่ส์อะไรหรือเปล่า เกิดเป็นคนหน้าตาดีนี่ช่างลำบากจริง แบบนี้ต้องยืดซะหน่อย (อวยตัวเองคืองานถนัดนักล่ะ)



   นานกว่าพี่โชจะเลือกหนังสือได้ หนังสือห้าเล่มที่คุณชายเลือกมีเนื้อหนาที่ดีและแน่น แถมจำนวนความหนาก็เกินหนังสือเรียนผมไปไกล

   “มองอะไร” พี่โชถามพลางหรี่ตามองผม

   “ดูคนขยันไง กี่วันถึงจะอ่านหมด”

   “สองวันก็น่าหมดนะ” ทำตาเหลือกมอง ก่อนจะรีบเดินหนีเมื่อถูกปีศาจแขวะเข้าเต็มๆ “พี่ไม่ได้ขี้เกียจเหมือนกลอย เปิดหนังสือเรียนหน้าแรกก็หลับแล้ว”

   เปิดช่องให้ตัวเองโดนด่าตอนไหน ปีศาจจะใส่ไม่ยั้งนะครับขอบอก

   ผมเดินนำพี่โชมาที่ร้านหนังสือการ์ตูนลดราคา และที่นี่ก็ได้เจอกับพี่แทม พี่ตินที่หยิบการ์ตูนใส่ตะกร้าซะเต็ม ไหนบอกไม่อยากมาไงวะ

   “โหพี่ ซื้อขนาดนี้เอาไปถมที่หรือไง” แกล้งแซวไป พี่แทมตวัดสายตามามองแต่ไม่ได้ตอบอะไรเพราะกำลังค้นการ์ตูนในกองลดราคา “เฮ้ยพี่ เล่มนี้ผมก็ชอบ หาซื้อโคตรยาก”

   “ที่นี่มีและกูก็ซื้อยกชุดเลยเว้ย” พี่แทมว่า พลางชี้ไปโต๊ะอีกฝั่งที่ว่างเปล่า “แต่เสียใจด้วย ของกูชุดสุดท้าย”

   “แล้วมึงจะพูดทำไมไอ้ห่า” เป็นพี่โชที่ด่าแทนผม คงเพราะผมหน้ามุ่ยหลังจากถูกหลอกให้อยากได้ แล้วถูกพังความหวังเดี๋ยวนั้น “ซื้อเรื่องอื่นสิ เต็มร้านเลยเนี่ย”

   เงยหน้ามองคนปลอบ “พี่ออกเงินให้ใช่ไหม”

   “เออ ทีงี้แม่งรีบยิ้ม”

   ถูกหัวเข่ากระทุ้งเข้าที่ต้นขาเบาๆ หลังจากยิ้มกว้างเกินไป ผมรีบผละไปหยิบตะกร้ามาใส่การ์ตูนที่อยากได้ แม้จะเกรงใจคนอื่นๆ แต่ถ้าไม่เบียด ผมก็ไม่ได้

   “ขอโทษครับ” เผลอไปชนมือกับคนอื่นจนต้องรีบขอโทษ

   “มะ ไม่เป็นไรค่ะ” เด็กสาวที่น่าจะอยู่วัยมัธยมรีบส่ายหน้ารัวๆ พลางก้มหน้าเลือกของต่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจนผมตกใจ “เอ่อ”

   “ครับ?”

   “พี่น่ารักจังเลยค่ะ” แม้เสียงในร้านจะดังจอแจ แต่เพราะบูธไม่ใหญ่ ทำให้คำชมนี้ คนทั่วร้านก็ได้ยิน จนทุกสายตาถึงกับหันมามอง “หนูพูดจริงๆ นะคะ พี่ใช่คนที่เล่นซีรี่ส์เรื่อง...”

   “จำผิดแล้วครับ พี่เป็นแค่คนธรรมดา” รีบออกตัวเพราะเกรงสายตาปีศาจที่จ้อง “ขอโทษนะครับ” ถอยทัพครับ ผมทำเป็นขยับเดินหนีมาอีกที่ ซึ่งน่าจะปลอดภัยมากกว่า...มั้ง

   “โปรยเสน่ห์อีกแล้วนะมึง ระวังผัวมึงจะต่อยเอา” พี่ตินพูดลอยๆ จากด้านหลัง ผมรีบหันไปมองพี่โชก่อน แต่ท่าทางก็ดูปกติ เลยหันไปถลึงตาใส่คนพูด “กลัวเพื่อนกูนี่หว่า”

   “พี่ไม่ได้แปรงฟันมาใช่ไหม ปากเหม็นเชียว” เน้นประโยคและน้ำเสียงทุกคำ จนคนถูกว่าตาเหลือก ก็นะ เล่นกับใครควรดูด้วย

   นี่ใคร..นี่กลอยประเกรียนสุดหล่อแม่นเว่อร์นะครับ

   เลือกการ์ตูนได้มาถุงใหญ่ ก็เริ่มอารมณ์ดี ผมเดินนำทุกคนออกมาเพื่อตามหาคนอื่นๆ แล้วก็เจอพี่เบกับไอ้ทูอยู่ที่บูธหนังสือปรัชญา คำคม แถมเพื่อนผมยังไปยืนเข้าแถวรอลายเซ็นจากนักเขียนที่มานั่งในร้านอีก เอากับมันสิ

   “พวกไอ้จอมล่ะ” พี่โชถามหาคนที่ยังหาไม่เจอ พี่เบบุ้ยปากไปทางด้านข้าง ด้วยความที่พี่ซันตัวสูง แถมออร่าความขาวของพี่จอมอีก เลยมองหาตัวได้ไม่ยากหากอยู่ในระยะไม่ไกลจนสายตาจะมองเห็น

   “พวกมันซื้อหนังสืออะไรวะ” พี่แทมถามขณะขยับมือคลายความปวดจากการหิ้วถุงการ์ตูน

   “ไม่รู้ว่ะ กูรอไอ้ทูขอลายเซ็นนักเขียนจนไม่ได้ไปไหนเลยเนี่ย” พี่เบว่าอย่างเซ็งๆ ก่อนหยิบการ์ตูนเล่มละสิบบาทของพี่แทมมาเปิดอ่าน “ไอ้แทม มึงอ่านแบบนี้ด้วยเหรอวะ”

   “แน่นอน กูรักการอ่านจะตาย”

   “รักการอ่านแบบสิบแปดบวกน่ะสิมึงน่ะ”

   ว่าแล้วก็อดที่จะยืดคอมองด้วยความอยากรู้ไม่ได้ การ์ตูนที่พี่เบเปิดผ่านๆ ตัวการ์ตูนเป็นผู้หญิงก้นใหญ่ นมใหญ่ ออกแนววาบหวิว ซึ่งผมก็ว่ามันปกตินะ เพราะผมก็อ่านตอนเป็นเด็ก ตอนนี้เหรอ อย่าหวัง ปีศาจเอาไปเผาทิ้งแน่ ขนาดการ์ตูนในตู้ก็เกือบถูกเอาไปซ่อนแล้ว แค่เกรดเทอมที่ผ่านมาผมลดลงนิดเดียวเอง ทำไมถึงใจร้ายกับผมแบบนี้

   พวกเรายืนรอไอ้ทูจนมันหน้าบานออกมา แล้วคนหน้าบานก็ถูกหนังสือการ์ตูนฟาดเข้าหัวจนหน้างอ แต่ก็เท่านั้น เพราะมันรีบขยับเอาลายเซ็นบนหนังสือปรัชญามาอวดผมแทน ผมเลยเออออชมเพื่อนตัวเองไป

   ไอ้ทู เรามันคนละแนว คงไปด้วยกันไม่ได้ว่ะ




   จากนั้นพวกเราทุกคนก็พากันเดินส่องบูธนั้นนี้ ส่วนใหญ่ที่มีคนมุงเยอะๆ จะเป็นบูธเกี่ยวกับหนังสือนิยาย ซึ่งผมก็ลองเข้าไปเบียดดูบ้าง อยากรู้ว่ามันดียังไงคนถึงเยอะขนาดนี้

   “เล่มไหนสนุกวะ” พึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่คนที่ยืนใกล้คงได้ยิน กลุ่มผู้หญิงกลุ่มใหญ่หันมายิ้มให้ผมพลางขายนิยายให้ผมเต็มที่ แต่ที่ทำเอาคิ้วกระตุกนิดๆ คือเล่มที่พวกเขาแนะนำหน้าปกเป็นผู้ชายกอดกัน มันเหมือนตอนที่เข็ม สาววายตัวแม่ที่เป็นเพื่อนในภาคอ่านแล้วมาพร่ำเพ้อให้ผมฟังเป็นฉากๆ

   “พี่ลองเล่มนี้ไหมคะ นายเอกเหมือนพี่เลย”

   “นายเอก?” หมายถึงนางเอกใช่ไหมวะ แล้วเหมือนพี่นี่คืออะไรวะ?

   “ค่ะ นายเอกเล่มนี้ ตัวขาว ตาโต น่ารักเหมือนพี่เลย แถมพระเอกก็รักมาก หวงมาก” ผมมองหน้าคนแนะนำที่ทำตาเป็นประกายอย่างเพ้อฝัน “พี่ลองซื้อไปอ่านสิคะ อ่านแล้วจะติดใจ”

   “ไม่ดีมั้งครับ” มองชื่อหนังสือนิยายเรื่อง Just you and I เพราะนายคือของฉันในมือของเขาแล้วก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งให้ ก่อนจะถอยออกมาหาพี่โชที่ยืนขำอยู่ “ไม่ขำสักนิด” รีบคว้าถุงการ์ตูนในมือของพี่โชมาถือ แล้วเดินหนีแก้เก้อนำหน้าทุกคนมาจนถึงบูธที่พี่ซันกับพี่จอมอยู่ เห็นทั้งคู่กระซิบถามกันกระหนุงกระหนิงไม่สนสายตาคนรอบข้างที่มอง

   หนังสือที่ทั้งคู่ยืนเลือก เป็นหนังสือเกี่ยวกับการประดิดประดอยและการทำอาหาร ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่จอมจะสนใจหนังสือประเภทนี้ สงสัยจะเริ่มติดใจหลังจากมาขอให้ผมสอนทำอาหารนั่นนี่ แม้รสชาติจะยังไม่อร่อยเหาะ แต่ผมว่า พี่ซันคงจะชอบมากทีเดียว

   “ไอ้เกรียน” พี่จอมที่หันมาเห็นผมรีบกวักมือเรียก “มึงช่วยกูตัดสินใจหน่อย ว่าเล่มไหนดี” มองหนังสือทำอาหารสองเล่มที่พี่จอมเลือกไว้ “ว่าไง”

   “มันก็ดีทั้งสองเล่มนะ” ตอบแบบกลางๆ เลยโดนสันหนังสือเคาะหัว คนที่อยู่ข้างๆ ถึงกับตกใจในการกระทำอันอุกอาจ “เจ็บนะพี่” ลูบหัวตัวเองป้อยๆ น้ำตาแทบเล็ด

   “กูให้มึงเลือก ดันบอกดีทั้งสองไอ้ห่า” โดนเหวี่ยงจากคนอยากได้หนังสือ “ไอ้ซัน เดี๋ยวมึงก็โดนดีหรอก” ตีหน้างงหลังจากพี่จอมพูด ก่อนจะเข้าใจ เมื่อมือพี่ซันที่ลูบหัวผม ถูกปัดออกจากคนที่เพิ่งเดินตามมา

   “เมียกู” เสียงเข้มบอกสั้นๆ แต่ได้ใจความ พี่ซันถึงกับหัวเราะออกมา

   “มึงซื้อไปแล้วทำเป็นเหรอวะ” เสียงพี่แทมแทรกขึ้นมา ทำเอาหนังสือในมือพี่จอมเกือบหลุดมือ “กูพูดผิดอะไร”

   “ไม่ผิด” พี่ตินว่า

   “ใช่ไหม กูก็ว่า กูพูดไม่ผิด”

   “ไม่ผิด แต่มึงไม่ควรเผยอริมฝีปากพูด มึงกำลังทำให้เพื่อนมึงเสียเซลฟ์เห็นไหม ไอ้จอมมันทำอาหารไม่เป็น มึงไม่ควรไปจี้จุดมัน คิดดู ไข่เจียวยังไหม้”   

   “เออว่ะ กูแม่งไม่น่าพูดให้เพื่อนคิดมากเลย”

   “กูว่า ถ้าพวกมึงสองคนยังไม่หยุด ไอ้จอมกระทืบแน่” พี่เบรีบห้ามทัพคู่หูสุดฮา พลางส่งซิกให้ดูอาการคนใกล้สติแตก พี่จอมบีบหนังสือในมือจนยับไปหมด

   ไม่รู้จะตายหรือหยอดน้ำข้าวต้มดีนะครับเนี่ย 

   พี่ซันคงกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดี เลยรีบคว้าหนังสือสองเล่มที่พี่จอมลังเลไปจ่ายเงิน ก่อนจะลูบหัว ลูบไหล่พี่จอมให้อารมณ์เย็นลง จะมามีเรื่องที่นี่ไม่ได้นะครับ
 
   “ผมว่า เล่มนี้น่าสนใจ ดูทำง่ายเหมาะกับมือใหม่” เมื่อเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี ผมเลยรีบยัดถุงการ์ตูนให้พี่โชถือ แล้วแทรกตัวเข้าไปที่บูธพลางหยิบหนังสือทำอาหารมาให้พี่จอมดู

   “ดูน่าอร่อยนะเว้ย” พี่ซันเสริม หลังจากผมขยิบตาไปมาให้ช่วย “มึงทำอะไรมา กูก็ชอบทั้งนั้นแหละ ไข่เจียวไหม้ก็กูชอบ”
 
   อื่อฮือ แทบอยากจะมอบโล่แฟนดีเด่นให้เลย ถ้าปรบมือให้ได้ผมทำไปแล้ว

   “ดูนี่สิ แกงเขียวหวานปลากรายที่พี่ซันชอบ ผมมีสูตรของแม่ด้วยนะ รับรองทำง่ายแถมอร่อย” ดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้ดี หากไม่มีใครบางคนพูดแทรกเข้ามา

   “รู้ได้ไงว่าไอ้ซันชอบกินอะไร” มาแล้วครับ เสียงและหน้าโหดๆ ขยับเข้ามาใกล้ ผมรีบกระพริบตาถี่ๆ ตีเนียนยิ้มอย่างเดียว “เดี๋ยวจะโดน” ยังดีที่พี่จอมหยิบหนังสือจากมือผมไปดูพลางยื่นไปให้พนักงานเพื่อซื้อ ผมเลยแกล้งตีเนียนเปลี่ยนเรื่อง เลยถูกพี่โชใช้ถุงหนักที่ถือฟาดเข้าก้นมาทีหนึ่งโคตรเจ็บ

   เมื่อได้หนังสือที่ต้องการแล้ว พวกเราก็ยกโขยงออกจากบูธ และดูเหมือนยิ่งบ่ายแก่คนจะยิ่งเยอะ จากที่เดินสะดวก ตอนนี้ค่อนข้างแออัดพอสมควร เลยตกลงว่าจะแยกย้ายกันกลับ ผมเดินตีคู่มากับพี่จอมที่เปิดดูหนังสือแล้วถามผมทุกหน้า

   “พี่โคตรจริงจัง คิดจะเปิดร้านป่ะเนี่ย” ถามด้วยความสงสัย พี่จอมพับหนังสือเสียงดังจนผมสะดุ้ง “ผมไม่ควรถามใช่ไหม”

   “กูแค่อยากจะหัดไว้ทำกินเอง” นึกว่าจะโดนด่า แต่เปล่าเลย พี่จอมกลับตอบเรียบๆ พลางยิ้มมาให้ แต่ทำไมผมกลับรู้สึกสยองวะ “กูจะให้มึงสอนแล้วก็ชิมจนกว่ามันจะอร่อย”

   “ขอแค่สอนได้ไหม” อยากจะหนีมาก แค่คอถูกล็อคจากแขนพี่จอมแน่น “ให้พี่ซันชิมแทนสิ ขนาดไข่ไหม้ยังกินได้เลย”

   “ก็มึงสอนกู มึงก็ต้องชิม” ส่ายหัวพรืดใหญ่ ยังจำรสชาติต้มข่าไก่ใส่กะทิคราวนั้นได้ ผมถึงขั้นต้องนอนดมยาดมเพราะอ้วกหลายรอบ “กูจะปรับสูตรจนมันถูกปากกู”

   “ถูกปากพี่ แต่ไม่ถูกปากคนอื่น แถมไม่ปลอดภัยต่อกระเพาะด้วย” โดนแขนงัดจนเงยหน้า มือก็กวักเรียกพี่โชให้มาช่วยแต่ก็ไม่ได้รับการสนใจแต่อย่างใด
 
   “มึงไม่มีทางเลือกอื่นไอ้เกรียน แล้วก็ เตรียมตัวมานอนห้องกู ไม่สิ ไอ้โชมันต้องไม่ยอมแน่ งั้นเดี๋ยวกูเอาของไปห้องมึงเอง” พูดเองเออเองแบบรวบยอดโดยที่ผมไม่ได้พูดสักคำ “เจอกัน แกงเขียวหวานปลากราย”

   อ้าปากพะงาบๆ จะคัดค้าน แต่ไม่ทันซะแล้ว เมื่อพี่จอมทำหน้าลั้นลาไปหาพี่ซันพลางแยกไปที่รถตัวเอง เหมือนกับคนอื่นๆ ที่เดินไปหาที่จอดรถของตัวเอง ส่วนผมเดินตีคู่กับพี่โชที่หิ้วถุงหนังสือคนเดียว จะช่วยก็ไม่ยอม

   “การ์ตูนพวกนี้พี่จะให้อ่านวันละเล่ม” เสียงเข้มดังขณะผมปลดล็อกรถให้ “จนกว่ารายงานเล่มที่ต้องทำจะเสร็จ ถึงจะให้อ่านทั้งวันเหมือนเดิม”

   “พี่โชอ่า อย่าใจร้ายกับกลอยสิ” แกล้งบีบน้ำตาแห้งๆ แต่มักจะใช้ไม่ได้กับคนข้างๆ นี่ พี่โชวางถุงหนังสือไว้ที่เบาะหลังรถแล้วอ้อมมานั่งประจำที่ตัวเอง “พี่โช”

   “ไม่มีข้อต่อรองครับน้องกลอย” ถูกมือขาวยื่นมาบีบแก้มจนปากยื่นเหมือนเป็ด “ใกล้จบแล้วขยันๆ หน่อย”

   “ทำไมขี้บ่นจัง เมื่อก่อนไม่เห็นบ่นขนาดนี้” พูดเสียงอู้อี้เพราะปากจู๋จากการบีบ

   “ถ้ากลอยไม่เอาแต่อ่านการ์ตูนจนไม่สนใจหนังสือเรียนพี่ก็จะไม่บ่นแบบนี้”

   “บางทีมันก็ต้องคลายเครียดบ้าง”

   “เครียดยังไง พี่ไม่เคยเห็นกลอยเครียดเลย”

   “มีสิ เวลาขี้ไม่ออกไง มันต้องอ่านการ์ตูนเพื่อผ่อนคลาย พี่โชไม่เคยเหรอ”

   “พี่ปกติ”

   “กลอยก็ปกติ”

   “เกินคนปกติน่ะสิ”

   “หิวแล้ว”

   “หิวขี้?”

   “ตลกไหม ก็ไม่ กลอยหิวข้าว ไม่ได้หิวขี้” แล้วพี่โชก็หัวเราะออกมาที่แกล้งผม แม้จะแป้กแต่เจ้าตัวก็คงคิดว่ามันขำ “อยากกินชาบู”

   “ไม่เอา เดี๋ยวมาปวดขี้บนรถอีก พี่ขี้เกียจดมตด”

   “อย่ามาใส่ร้าย กลอยไม่เคยตดบนรถ...ก็แค่ ครั้ง สองครั้ง” ถูกสายตาดุจ้องเลยรีบแถ “นิดเดียวเอง...งั้นไปกินซูชิ” พี่โชส่ายหน้าช้าๆ “หมูกระทะ?” นี่ก็ส่ายหัว “งั้นพี่โชอยากกินอะไร”

   “ของที่พี่ชอบกลอยไม่รู้เหรอ” แม้ท่าทางจะดูเป็นปกติ แต่น้ำเสียงผมว่าเริ่มจะไม่ปกติ “ทีของที่ไอ้ซันชอบ กลอยยังรู้เลย ทำไมนะ” นั่นไง คิดแล้วไม่มีผิด โดนตีรวนเข้าให้แล้ว

   “มีเนื้อปูแช่ฟิตอยู่ เดี๋ยวกลอยทำไข่เจียวปูให้ เมนูโปรดของพี่โช กลอยจำแม่นมาก” ลากเสียงยาวจนคนชอบไข่เจียวปูยิ้ม “โอเคนะ”

   “น่ารักจริง”

   ชมอย่างเดียวคงไม่พอ ยังยื่นมือมาดึงแก้มผมอีก

   “แก้มจะยานแล้วเนี่ย ออกเงินค่าดึงแก้มให้เลยนะ”

   “พี่ก็ดึงได้ แป๊บเดียว ก็ตึงเหมือนเดิมแล้ว”

   “มันคนละดึงไหมล่ะ”

   ผมหน้ายู่มองคนหัวเราะชอบใจ จะว่าไปผมคบกับพี่โชนานเหมือนกันนะครับเนี่ย จากที่กังวลตอนแรกๆ ว่าจะถึงสามเดือนไหม แป๊บๆ จะสองปีแล้ว ตั้งแต่ผมอยู่ปีสองใช่ไหมนะ

   “พี่ซื้อนิยายเรื่องนี้มาด้วยเหรอ” เอี่ยวตัวมองไปที่กองหนังสือหลังรถ เห็นหนังสือนิยายที่ผมถูกคะยั้นคะยอให้ซื้อวางอยู่ในถุงด้วย “พี่อ่านนิยายวายด้วยเหรอ”

   “ก็แค่ลองซื้อมาดู เห็นเขาว่าคนที่หน้าปกเหมือนกลอย” ผมละสายตาจากหน้าพี่โชมามองหน้าปกหนังสือนิยาย รูปปกคือผู้ชายสองคนนั่งบนโซฟา คนเสื้อน้ำเงินกอดคอคนที่ตัวเล็กกว่า “แต่พี่ว่า กลอยน่ารักกว่าเยอะ”

   “พูดดีต้องมีรางวัล”

   ผมวางหนังสือไว้ที่เดิม ก่อนใช้จังหวะที่รถติดไฟแดงยื่นมือสองข้างดึงหน้าพี่โชมาจูบปาก คนได้รางวัลทำตาโตพลางขำเบาๆ ระหว่างที่ปากยังชิดกันอยู่

   “ไข่เจียวไม่กินแล้วได้ไหม กินกลอยแทนน่าจะอิ่มกว่า”

   “รอหลังกลอยทำรายงานเสร็จนะ เพราะต้องอ่านหนังสือเรียนหนัก” พูดจบก็ผมก็ผละตัวออกมาแล้วหัวเราะลั่นรถ พี่โชหน้าบึ้ง มือก็ยื่นมาขยี้หัวผมซะยุ่งหมด

   “พูดแล้วก็ทำให้จริง ไม่งั้นการ์ตูนที่ซื้อจากงานหนังสือทั้งหมดนั้นพี่จะเอาไปบริจาค”

   ตาละห้อยมองกองหนังสือหลังรถ ก่อนจะแอบยิ้มมุมปาก งานหนังสือไม่ได้มีวันนี้วันเดียว ผมจะแอบมาซื้ออีกกี่เล่มก็ได้


        งานยังไม่จบ เงินยังไม่หมด ก็ช็อปต่อ ไม่ต้องรอนะครับผม


.......

งานฮาร์ดเซลล์ก็มา.... ขอฝากกลอยประเกรียนไว้ในอ้อมอกทุกคนด้วยนะคะ (ก้มกราบงามๆ)

แล้วพบกันวันฮาโลวีนค่า  :mew1: :mew1:


หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ งานหนังสือแสนหรรษา] [P.42] [22/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 22-10-2018 21:41:22
กลอยปะเกรียนยังน่ารักเหมือนเดิม   :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ งานหนังสือแสนหรรษา] [P.42] [22/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 22-10-2018 22:24:57
ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ งานหนังสือแสนหรรษา] [P.42] [22/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 23-10-2018 14:49:03
อูวววว ขายของเก่ง...อิอิ

แต่นี่ก็ไปสอยมาแหละ หยิบแบบลิสต์มาแล้วจนคนยืนเลือกอยู่ก่อนตกใจ 555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ งานหนังสือแสนหรรษา] [P.42] [22/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-10-2018 22:21:03
แหม ขายของเก่ง
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ฯ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 31-10-2018 18:41:43

ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ




        สิ้นเดือนตุลาคมแบบนี้ สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่คิด ก็คงจะเป็นเรื่องเงินเดือน รองลงมาก็เป็นวันคำนวณเลขเด็ดวันสุดท้าย และท้ายสุดคงเป็นเทศกาลฮาโลวีนของต่างชาติที่คนในประเทศอย่างผม รวมทั้งหลายๆ คนก็อยากมีส่วนร่วม ก็ใครล่ะอยากจะพลาดความสนุกสนานกับการคิดงาน รวมทั้งเลือกชุดที่จะใส่ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว

   ตอนแรกพี่แทมเสนอให้ไปจัดงานบ้านตัวเอง แต่พี่ๆ คนอื่นๆ พากันส่ายหน้ารัวๆ ไม่รู้มีประสบการณ์อะไรถึงพากันปฏิเสธโดยพร้อมเพรียงกันแบบนี้ ส่วนพี่จอมก็รีบออกตัวไม่เอาห้องตัวเองอีก เข็ดกับการทำความสะอาด ก่อนจะโยนขี้ก้อนเบ้อเริ้มมาให้พี่โช ขานี้ก็ไม่เคยเถียงเพื่อนตัวเองชนะ ความซวยเลยมาตกลงที่ผมอีก

   ทีกับเพื่อนยอมทุกครั้ง ทีกับผมด่าตลอด สองมาตรฐานชัดๆ

   ผมตื่นนอนแต่เช้า จัดแจงทุกอย่างเองเพราะเจ้าของห้องต้องไปทำงาน แต่ก็สัญญาว่าจะกลับมาช่วย ผมขยับโต๊ะกับโซฟาไปชิดผนัง ให้มีที่ว่างสำหรับการตั้งวง ส่วนการตกแต่งห้องก็รอพี่โชมาช่วย จากความสูงของผมคงทำอะไรไม่ได้มาก เลยเลือกทำงานที่ถนัดมากกว่า อย่างเช่นทำกับข้าวและกับแกล้ม

   ผมเตรียมข้าวของไว้หมดแล้ว รอแค่บ่ายแก่ๆ ค่อยลงมือทำ ขืนทำตอนนี้ มีหวังข้าวผัดหมูเย็นชืดหมด ดังนั้นผมเลยมีเวลาทำขนม แต่วันฮาโลวีนทั้งที จะทำขนมธรรมดาก็ไม่ใช่เรื่อง มันต้องทำอะไรที่หลอนๆ สักหน่อย แค่คิดก็สนุกแล้ว

   ฟักทองที่พี่โชซื้อมาเยอะ ผมแบ่งเอามาทำขนมบัวลอยเพราะคนซื้อเบื่อบวชฟักทอง ทั้งที่ทำออกจะง่าย ผมปั้นแป้งที่ผสมเนื้อฟักทองเป็นรูปต่างๆ ดีที่ผมเก่งด้านปั้น ผลงานเลยยอดเยี่ยมแทบทุกชิ้น ปั้นมากๆ เข้าก็เริ่มขี้เกียจ เลยปั้นเป็นลูกกลมๆ เหลี่ยมๆ แบบง่ายๆ แทน ก่อนจะเคี่ยวน้ำกะทิใส่ใบเตยจนหอมทั่วห้อง

   “หอม” เสียงดังใกล้หูจนผมสะดุ้ง พี่โชมาตอนไหนวะ “หิว”

   “พี่เข้ามาตอนไหนทำไมกลอยไม่ได้ยิน”

   “ก็พี่ชอบเห็นกลอยตั้งใจทำอะไรสักอย่าง เลยเข้ามาเงียบ”

   “หลงเสน่ห์ผมล่ะสิ”

   “ไม่หลงคงไม่เอาหรอก”

   “ตรงดี”

   เราหยุดต่อปากต่อคำ พี่โชไปเปลี่ยนชุดก่อนจะมาช่วยผมทำขนม ดูไม่เข้ากับปีศาจสักเท่าไหร่ แต่เห็นแบบนี้ ทำกับข้าวอร่อยมากจริงเชียว หลังจากบัวลอยเสร็จ พี่โชก็เปิดชิมเป็นคนแรก ซึ่งได้นิ้วโป้งกดไลค์มารัวๆ

   “แล้วแป้งนั่น เอาไว้ทำอะไร”

   “ขนมปัง”

   “ก็มีบัวลอยตัดกำลังแล้ว ยังมีขนมปังอีกเหรอ”

   ลืมบอก วันนี้โนแอลกอฮอร์นะครับ เพราะพี่ซันเพิ่งไปผ่าไส้ติ่งกลับมา จะพากันกินเหล้าก็สงสารคนกินไม่ได้ เลยตกลงว่างานนี้มีแค่น้ำเปล่ากับน้ำอัดลม แต่ผมว่า พวกพี่แทมก็เมาได้...เมาดิบยังเคยมาแล้ว

   ผมลงมือทำขนมปังที่คิดไว้ โดยให้พี่โชไปแต่งห้อง เสียงตะโกนถามมาหลายรอบว่าเอานั่นเอานี่วางไว้ไหนดี นี่ผมไว้ใจปีศาจได้ไหมเนี่ย พี่โชเงียบหายไปสักพัก ก่อนจะมีแรงสะกิดบ่าผมเบาๆ

   “เชี่ย” ตกใจจนเกือบช็อค พี่โชแม่งเอาหน้ากากผีตาโบ๋มาใส่แล้วแกล้งผม “ถ้ากลอยเป็นลม พี่รับผิดชอบด้วย” หน้างอพลางปัดมือที่ลูบหัวออก พี่โชขำในหน้ากากที่แกล้งผมได้ “ไปจัดห้องไป”

   หันกลับมานวดแป้ง มือสั่นนิดจากการตกใจ เมื่อกี้ตกใจจริงๆ นะครับ ไม่ใช่แค่มือที่สั่นอะ ใจก็สั่น เล่นอะไรก็ไม่รู้ พยายามรวบรวมสมาธิใหม่แล้วนวดแป้งต่อ พอแป้งได้ที่ก็ต้องพัก แล้วหันมาทำไส้ อร่อยแน่งานนี้






   บ่ายคล้อยจนท้องฟ้าสาดแสงสีส้มผ่านประตูกระจกเข้ามา ผมก็เริ่มผัดข้าว ไม่แน่ว่าอาจจะมีใครมาก่อนเวลาที่นัด ซึ่งมันก็จริง เสียงกดออดหน้าห้องดังพร้อมกับพี่โชเดินไปเปิด คนมาเช้าโบกมือทักทายยิ้มแฉ่งให้ผมที่ยังง่วนอยู่หน้าเตา

   “กลิ่นโคตรหอม” ไอ้อัธวางถุงน้ำอัดลมลง แล้วทำท่าจะเดินมาหาผม แต่ถูกพี่โชล็อกคอไว้ซะก่อน “อะไรของพี่”

   “ช่วยกูก่อน” นั่นล่ะ มาก่อนก็ต้องซวยก่อน ผมหัวเราะเมื่อเห็นไอ้อัธถูกเจ้าของห้องใช้ แม้มันจะทำหน้าเซ็งแต่ก็เต็มใจทำให้ทุกอย่าง “มึงไม่พาเมียมึงมาด้วยเหรอ” คำถามของพี่โชที่ส่งไปหาเพื่อนผม ทำเอาหูผมตั้ง

   “เมียคนไหนล่ะพี่” ตอบสมเป็นไอ้อัธ

   “ที่ซุกไว้ที่ห้องมึงอะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้” หูตั้งไม่พอ หางเริ่มกระดิก อะไรวะ ไอ้อัธไปซ่อนเมียตอนไหน
 
   “หูตายังเป็นสับปะรดเหมือนเดิมนะพี่น่ะ” ไอ้อัธยกนิ้วโป้งให้คนรู้ทัน นี่หากผมไม่ผัดข้าวอยู่ละก็ ไอ้อัธต้องโดนเค้นมากกว่านี้แล้ว

   ขัดใจๆ

   หลังจากข้าวผัดหมูหม้อใหญ่เสร็จ ผมก็เรียกให้พี่โชมายกไปวางที่โต๊ะที่เตรียมไว้ ข้างๆ ข้าวผัดมีหมูทอด ขนมบัวลอย ดูแล้วเหมือนงานเลี้ยงวันเกิดซะมากกว่า

   “มึงเป็นผีอะไรวะ” ผมถามเพื่อนตัวเองที่ตักข้าวผัดเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

   “ผีง่ายๆ”

   “อะไรคือผีง่ายๆ วะ”

   “ก็เป็นผีก็ได้ ไม่เป็นก็ได้ ขี้เกียจคิดว่ะ งานกูเยอะ มาได้ก็ดีแล้ว”

   “งานเยอะหรือมัวแต่กกเมีย ไอ้ห่า อย่าให้กูได้ไปสืบ” หรี่ตาจับผิด ไอ้อัธแกล้งหันหนีไปเฉย

   เนี่ย มันมีพิรุธ

   พอเค้นเพื่อนไม่ได้ เลยเข้าไปอาบน้ำ พี่โชตัวหอมฟุ้งออกมายิ้มแป้นให้ผม แต่ผมรู้สึกเคืองนิดๆ จากที่โดนแกล้ง เลยเดินผ่านไปเฉยๆ พอออกมาก็แทบผงะ เมื่อเจอกับ...

   “พี่แต่งอะไรเนี่ย” กระพริบตาถี่ๆ มองพี่แทมยืนกอดอกอยู่กลางห้อง

   “ก็แต่งเป็นผีไง นี่มันวันฮาโลวีน” พี่แทมตอบพร้อมฉีกยิ้มแป้น

   “แล้วผีอะไร ผีขี้?”

   “ผีขี้ผัวมึงสิ ผีตองเหลืองเว้ย”

   “...แต่ผีตองเหลืองเป็นคนไม่ใช่เหรอ”

   เงียบครับ หลังจากผมถาม คนแต่งมาถึงกับทำใบตองในมือร่วง พร้อมๆ กับพี่โชหัวเราะเสียงดังลั่นห้อง

   “เป็นคนแล้วทำไมเรียกผีวะ หรือข้อมูลกูจะผิด” พี่แทมกระแทกตัวนั่งลงที่เก้าอี้แล้วจิ้มมือถือยิกๆ ผมมองคนเปลือยอก ทาทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นสีเหลือง มีใบตองคาดเอวกับหัวด้วยความทึ่งปนขำ กล้าแต่งแบบนี้ออกมาจากบ้านได้ไงวะ

   “พี่ใช้อะไรทาตัวอะ กลิ่นแปลกๆ” ถามขณะทำจมูกฟุดฟิด พี่แทมตวัดสายตาจากหน้าจอขึ้นมามอง “กลิ่นเหมือน...ขมิ้นเลย”

   “ก็เออสิ จะเอาสีทาบ้านทาก็กลัวผิวเสีย กูเลยซื้อผงขมิ้นในร้านสะดวกซื้อมาผสมน้ำแล้วทา เป็นไง ไอเดียกูบรรเจิดปะ?”

   “บรรเจิด” ผมว่า คนโดนชมฉีกยิ้มยืดอกอย่างภูมิใจ ก่อนอกฟูๆ จะเหี่ยวลงเมื่อได้ยินประโยคถัดมา “แต่ไม่ใช่ผี”

   “ไอ้สัด”

   โดนด่ามาเต็มๆ หน้า พี่โชกับไอ้อัธพากันขำ สองคนนี้ไม่ช่วยยังจะมาขำอีก ระหว่างนั้นเสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้น ผมชะโงกหัวยืดตัวรอดูคนจะเข้ามา ลุ้นมาก อยากรู้ว่าผีที่จะมา คือผีอะไร หวังว่าข้อมูลจะแน่นกว่าผีตองเหลืองขมิ้นของพี่แทมนะ
 
   “ฮัลโหล ซิดนีย์” ตาเหลือกวิ่งมายืนซ้อนหลังพี่โช ไอ้อัธเดินไปเปิดประตูให้ แต่กลับไม่มีใครยืนอยู่ แล้วจู่ๆ ก็มีสิ่งแปลกปลอมสีดำๆ พุ่งเข้ามาในห้อง ใบหน้าถูกปิดบังด้วยหน้ากากไอ้ผีฆาตกรในหนังเรื่อง scream ผมโคตรไม่ชอบมันเลย แม้จะเป็นหนังตลกก็เถอะ แต่ผมกลัว

   “ไอ้เชี่ยติน กลอยกลัวมึงเห็นไหมเนี่ย” พี่โชโวยวาย จนพี่ตินลดเลื่อยกระดาษที่ถือมาด้วยลง ก่อนขายาวจะสาวเท้าเข้ามาหาผม แต่ผมมุดหน้ากับหลังพี่โช “ไปห่างๆ เลยมึง”

   “สำออยหรือเปล่าวะ ทีผีอื่นไม่เห็นกลัวไอ้ห่า แล้วไอ้แทม มึงแต่งเป็นผีอะไร ผีกล้วยไข่เหรอวะ เหลืองเชียว” แล้วคนพูดก็หัวเราะ ต่างจากคนโดนทักที่หน้างอ เพราะข้อมูลตัวเองผิดพลาด


   เริ่มสงสารพี่แทมเหมือนกันนะครับ





   เวลานี้ด้านนอกเริ่มมืดสนิท ไฟในห้องก็ถูกหรี่ลง พี่โชเปิดไฟกระพริบดวงเล็กๆ ที่ยืมมาจากห้องพี่ซัน คนที่มาถึงก่อนเริ่มดื่มด่ำกับอาหารและขนม มีเพลงเปิดคลอเบาๆ คงเพราะไม่มีเหล้า เลยไม่ค่อยคึกเท่าปีก่อนๆ

   “ไอ้จอมกับไอ้ซันยังไม่มาอีกเหรอวะ” พี่ตินคาดหน้ากากไว้บนหัว ปากก็กินบัวลอยเป็นถ้วยที่สอง

   “ไอ้ซันมันเพิ่งหายดีไง” พี่โชบอก ขณะกัดขนมปังที่ผมทำ แต่ก่อนหน้านั้นเห็นถ่ายรูปรัวๆ ลงพื้นที่ส่วนตัว คนติดตามแห่มาติดไลค์เป็นพัน เป็นหมื่น พ่อคนฮอต “นั่นไง”

   พี่โชพูดไม่ทันไร ก็มีเสียงดังหน้าประตู ผมเดินไปเปิดให้เมื่อคนอื่นสนุกกับการกิน เปิดปุ๊บผมก็วิ่งกลับเข้าห้องปั๊บ ทำเอาคนในห้องสะดุ้งไปด้วย

   “โอ้โห พี่” ไอ้อัธปรบมือให้เมื่อเห็นคนมาใหม่เดินหน้าบึ้งเข้ามา

   “ลงทุนสัดไอ้ห่า” พี่ตินออกความเห็น

   “ดีๆ” พี่แทมที่แม้จะชม แต่ผมว่า คงแอบเฟลเมื่อเห็นเพื่อนมาแบบท็อปฟอร์มกันแทบทุกคน

   “แต่งหน้าแม่งโคตรนาน กูหิวจะตาย” พี่จอมก็ยังคงเป็นพี่จอม มาปุ๊บก็พุ่งไปหาข้าวกินก่อน ไม่สนหน้าตาที่ถูกเครื่องสำอางแต่งซะหน้าเละเหมือนผี ต่างจากพี่ซันที่เดินช้าๆ มาหาพี่โช “ข้าวผัดอร่อยว่ะไอ้เกรียน ไม่เหมือนทุกทีเลย”

   “ผมใช้เนยผัด” บอกขณะหน้าตึงๆ หลังจากถูกไอ้อัธหัวเราะเยาะ คนกลัวผีมันน่าขำตรงไหน

   ว่าแต่ ทำไมวันนี้ทุกคนแต่งผีน่ากลัวกันหมด ปีก่อนๆ มีแต่ขำๆ ทั้งนั้น แบบนี้ไอ้กลอยไม่ชอบ คืนนี้จะนอนหลับไหมเนี่ย แล้วนี่ยังเหลืออีกตั้งหลายคน ไม่รู้จะเป็นผีแบบไหนมาอีก หวังว่าจะมีตลกๆ มาตัดความน่ากลัวบ้าง

   “ไอ้ม่านคงไม่มา” อยู่ๆ ไอ้อัธก็พูดลอยๆ แต่ผมดันได้ยินเพราะอยู่ใกล้

   “ทำไมวะ” ถามปุ๊บฝ่ามือก็ฟาดเข้าหัวปั๊บ เห็นพี่โชแหล่มองแวบหนึ่งแต่ก็คุยกับพี่ซันต่อ ไอ้อัธเกือบเรียกตีนปีศาจแล้วไหมล่ะ 

   “เด็กมันงอแง”

   “งอแงหรือสำออยอยากอ้อนไอ้ม่านวะ”

   “กูว่าทั้งสอง”

   แล้วเราสองคนก็หัวเราะขึ้นมา ตั้งแต่ไอ้ม่านคู่หูคู่ฮาของผมมีแฟนไป มันก็ไม่ค่อยมีเวลามาเฮฮาปาจิงโกะกับคนอื่นๆ นอกรอบ โทรชวนทีไรก็หาข้ออ้างตลอด เห็นเด็กดีกว่าเพื่อน ไอ้คนลืมเพื่อน

   “ไอ้เบมาแล้วมั้ง” พี่ตินกะจะแกล้งคนมาช้า รีบดึงหน้ากากตัวเองลงแล้วไปแอบที่ประตู จังหวะเปิดออกเตรียมโผล่ไปทักทาย แต่ดันโดนคนเข้ามาหลอกกลับซะงั้น วิ่งหนีแทบสะดุด

   ผมขยับไปยืนซ้อนหลังไอ้อัธ ขนาดพี่ตินยังกลัว แปลว่าต้องน่ากลัวมากแน่ คนมาใหม่ค่อยๆ เดินเข้ามา แต่กะความสูงไม่ถูก เลยชนเข้ากับขอบบนของประตูจนเกือบหงายหลัง ใช่ครับ พี่เบกับไอ้ทูต่อตัวกัน คนด้านบนคงจะเป็นเพื่อนผมแน่ มันใส่หน้ากากผีของการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ผมเคยดู รู้สึกเหมือนชื่อผีไร้หน้าอะไรทำนองนี้

   ทำไมวันนี้มีแต่คนแต่งตัวหลอน

   “ลงทุนเหี้ยๆ” พี่ซันเงยหน้าขึ้นมองก่อนเดินเข้ามาจับผ้าสีดำที่คลุมไว้ เหมือนกับพี่โชที่มายืนข้างๆ ก่อนทั้งคู่จะกระเจิงเมื่อคนที่เป็นฐานคงทนรับน้ำหนักไม่ไหว เอนตัวไปมาคล้ายจะล้ม “เฮ้ยๆ”

   ไอ้ทูเกือบหล่นหัวฟาดพื้น หากไม่ได้พี่ซันเข้าไปรับ ลงทุนเกินไปแล้วคู่นี้ และพอแยกกัน ผมก็คิดว่าหน้ากากจะมีแค่ไอ้ทูที่ใส่ ที่ไหนได้ พี่เบก็ใส่ไว้ด้านใน มิน่าเดินเซแปลกๆ แยกร่างได้นั่นเอง

   “อ่าว ไอ้ก้อนเหลืองๆ นี้มีไว้ทำอะไรวะ” พี่เบใช้นิ้วจิ้มพี่แทมที่นั่งกองอยู่ที่โซฟา “มึงเป็นผีอะไรวะ”

   “ตองเหลือง” ตอบแบบนิ่งๆ มาก

   “ผีตองเหลือง? แต่นั่น...” พูดไม่ทันจบ พี่ซันก็ลากคนอยากรู้ออกห่าง คงเพราะกลัวพี่แทมเสียเซลฟ์มากไปกว่านี้ แค่นี้งานก็กร่อยแล้ว “ขนมอะไร ทำไมมันน่ากลัวมากกว่าน่ากิน” ถึงจะพูดแบบนั้น ผมก็เห็นพี่เบหยิบขนมปังเข้าปาก ก่อนจะทำตาโตเท่าไข่ห่าน “อร่อย”

   “ขนมลูกตานี่ก็อร่อย มีไส้ช็อคโกแลตกับแยมสตอเบอรี่ด้วย” ไอ้ทูออกความเห็น

   ใช่ครับ ขนมปังที่ผมทำนั้น ผมปั้นเป็นรูปมือบ้าง นิ้วบ้าง หลอนๆ หน่อยก็ลูกตา แอบเปิดดูวิธีในเว็ปด้วย เพื่อให้มันดูสมจริง ด้านในมีหลายไส้ แต่นิ้วมือส่วนใหญ่เป็นไส้แยมสตอรเบอรี่

   “ถ้าไม่ติดว่ามันจะเหม็น ผมเอาเลือดหมูใส่เป็นไส้แล้ว” บอกพลางกัดขนมปังนิ้วโป้ง แน่นอนว่าทุกชิ้นพี่โชถ่ายรูปไว้หมด

   “ถึงกูจะกินไม่เลือก แต่ขนมปังไส้เลือดหมูกูขอผ่านคนแรกเลยไอ้ห่า คิดได้ไง” ไอ้จอมว่า ก่อนจะเขี่ยขนมปังรูปลูกตาไปมา “กูกินไม่ลง”

   “กินบัวลอยแทนสิ” พี่ซันไม่ว่าเปล่า ยังตักมาให้แฟนตัวเองถ้วยใหญ่ สมแล้วที่ผมอยากเอารางวัลแฟนดีเด่นแห่งปีให้ ขนาดเพิ่งผ่าตัดไส้ติ่งมานะ นี่ถ้าไม่รู้ จะคิดว่าพี่จอมเป็นคนเจ็บ

   งานฮาโลวีนปีนี้ค่อนข้างนิ่งๆ คงเพราะพี่แทมหมดความมั่นใจในผีตัวเอง เลยไม่ยอมจับไมค์สักรอบ ทั้งที่แต่ก่อนแทบอยากกลืนกินลงท้องด้วยซ้ำกันคนมาแย่ง

   “ไอ้แทม มึงไม่เปิดสักเพลงเหรอวะ” พี่ตินที่เป็นคู่หูก็พลอยหมดสนุก

   “นั่นสิ กูอุตส่าห์เสียเงินแต่งหน้าเป็นผีมาเนี่ย” พี่จอมเสริม มือยกน้ำอัดลมเข้าปากอย่างเซ็งในอารมณ์

   “ก็พวกมึงแต่งเป็นผีจัดเต็มขนาดนี้ แล้วดูกูสิ แม่งเอ๊ย” พี่แทมตีหน้าเศร้า จนทุกคนหันมองหน้ากันเลิกลัก

   “พี่ก็เปลี่ยนชื่อผีสิ” ทนกับความอึดอัดไม่ไหว ผมก็โพล่งออกมา พี่แทมหันมามองหน้าด้วยความสงสัย “จากผีตองเหลือง เป็นผี...” ผีอะไรดีวะ คิดไม่ออก

   “ผีขี้ไหม” พี่จอมออกความเห็น

   “กูว่าผีผงกระหรี่ดีกว่า” พี่ตินขัด

   “พูดซะหิวปูผัดผงกระหรี่เลยไอ้ห่าติน” พี่เบแทรก

   “แต่ผมว่า เป็นผีต้นกล้วยก็น่าจะไหวนะ มีใบตองเป็นพร็อบอีก เข้ากันสุด” ไอ้อัธว่า

   “พอ หยุด กูจะไม่เป็นผีขี้ ผีกระหรี่อะไรทั้งนั้น” พี่แทมยกมือขึ้นห้ามทุกคน พลางกวาดสายตามองคนที่นั่งอยู่ “กูจะเป็นผี...” แล้วเสียงพูดก็หยุดลง ทำเอาคนที่อยากรู้พากันเงียบและตั้งใจฟัง “ผี...”
 
   “ผีอะไรวะ”

   “กูจะเป็นผี...อะไรก็เรื่องของกู”

   หลังจากพี่แทมพูดจบ ทุกคนก็เงียบ ยกเว้นผมที่ถามออกไป

   “ทำไมชื่อผีของพี่โคตรยาว”

   “มันด่า!” เสียงพูดโดยพร้อมเพรียงกัน หลังจากผมถามจบ

   ทำไมต้องร้ายกับผมด้วย ผมผิดอะไรเนี่ย



   หลังจากที่เลิกคิดเรื่องผีตองเหลืองของตัวเองว่าทำไมไม่ใช่ผี พี่แทมก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง พาบรรยากาศสนุกให้กลับมา เสียงหัวเราะมาพร้อมกับเสียงเพลง แต่ผมแอบกลัวว่าข้างห้องจะมาด่าเพราะเพลงที่พี่แทมร้อง มันมีร้องอุ๊ย อุ๊ย อุ๊ย อุ๊ย แถมครางด้วย เพลงโคตรเรทสิบแปดบวกสุด ท่าเต้นก็อีโรติกเลื้อยตัวไปมา แต่ผมว่า พวกพี่เขาเหมือนหนอนมากกว่า กระดึ๊บๆ
 
   “กลอย” มัวแต่หัวเราะ ได้ยินเสียงกระซิบข้างหูเลยหันไปดู

   ช็อคสิครับ เมื่อหันมาเจอหน้าผีอยู่ในระยะประชิด ใบหน้าที่ถูกวาดให้เป็นโครงกระดูก ใต้ดวงตามีสีแดงคล้ายเลือดไหลลงมา ที่ปากมีเส้นด้ายสลับขึ้นลงเหมือนถูกเย็บ ปากนั้นกำลังคาบลูกตาไว้ ทันทีที่ผมหันไปมอง ปากก็งับ กัดจนไส้สีแดงด้านในกระเด็นมาโดนหน้าผม แล้วภาพทุกอย่างก็ค่อยๆ เบลอจนถูกตัดไปราวกับห้องถูกปิดไฟ...





   
   กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยติดชิดอยู่ที่ปลายจมูก ผมขยับทำจมูกฟุดฟิดพลางถูไถหน้าไปมา ความอุ่นทำให้เขยิบเข้าไปใกล้กว่าเดิม...แต่เดี๋ยวนะ ผมอยู่ในงานวันฮาโลวีนที่ห้องนี่ พี่แทมกำลังเต้นเลื้อยๆ อยู่ แล้วกลิ่นนี้กลิ่นอะไรวะ

   “พี่โช?” ปรือตาขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็น คืออกแน่นๆ ที่เอวมีแขนรัดอยู่ แล้วที่ๆ ผมกำลังนอนอยู่คือห้องนอน

   ห้องนอน???

   พอคิดแบบนั้นได้ผมก็ลุกพรวดจนมึนศีรษะ พี่โชสะดุ้งตกใจลุกขึ้นมานั่งด้วย

   “เป็นอะไร”

   “กลอย...” มองไปรอบๆ ห้องด้วยความสงสัย ข้างนอกห้องมืดมิด ไร้เสียงก่อกวนใดๆ “กลอยฝันไปเหรอ” ถามพลางมองหน้าพี่โช

   “ฝันอะไร? ฝันร้าย?”

   “กลอยฝันว่า ห้องเราจัดงานวันฮาโลวีน ทุกคนแต่งตัวเป็นผีหมด แล้วก็...” ขยี้ผมตัวเองไปมาพยายามทบทวนความฝัน “จำได้ว่า ภาพสุดท้ายที่เห็นคือหน้าผีมาอยู่ตรงนี้” ยกฝ่ามือมาประกบหน้าให้รู้ระยะความใกล้ไกล “กลอยฝันอะไรเนี่ย”

   “พี่ว่า กลอยไม่ได้ฝันหรอก” คำพูดของพี่โชทำเอาผมหันไปมองด้วยความสงสัย

   “ไม่ได้ฝัน? ก็แล้วทำไมกลอยมานอนในนี้ล่ะ”
 
   “จำไม่ได้เหรอ” ส่ายหน้ารัวๆ “กลอยตกใจจนเป็นลมไป”

   “กลอยเนี่ยนะ เป็นลม พี่โชล้อเล่นหรือเปล่า” ทำตาเลิกลัก อย่างผมเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้ “พี่โชอำกลอยแน่เลย” นั่นสิ ทำไมผมไม่เห็นรู้ตัวว่าจะเป็นลม

   “ก็ไอ้จอมมันแกล้ง มันเอาหน้าไปใกล้ แล้วกลอยก็ตกใจจนเป็นลม งานเลยหยุด พี่ก็อุ้มกลอยเข้ามานอนในห้อง” กระพริบตามองพี่โชอย่างงงๆ “ของด้านนอก พี่ให้พวกนั้นช่วยเก็บกวาดหมดแล้วด้วย”

   “พี่โชพูดจริงเหรอ” ถามย้ำ ซึ่งก็ได้คำตอบคือการพยักหน้า “แล้วทำไมเสื้อผ้ากลอย...”

   “ก็พี่เช็ดตัวให้ ตัวกลอยเหม็นกับข้าว”

   “พี่ไม่ได้หลอกจริงๆ ใช่ไหม”

   “นี่ไง”
 
   ตกใจจนถอยเกือบตกเตียง อยู่ๆ นี่โชก็เอามือปลอมขึ้นมาวาง แต่พอตั้งสติได้ มันเป็นขนมปังที่ผมทำเอง เพื่อเอาไว้แกล้งคนอื่น

   “ขนมปังมือของกลอยนี่ แปลว่าไม่ได้ฝันไปจริงๆ” ตบแก้มตัวเองเบาๆ เรียกสติ “ปีหน้าไม่เอางานแบบนี้แล้วนะ ไม่เอาผีน่ากลัวๆ แล้ว”

   “กลัวผี แต่ก็ยังอยากจัดงานผี”

   “ก็ทุกที ไม่มีใครแต่งผีน่ากลัวเลยนี่” คราวนี้ จัดเต็มแม่งทุกคน ผมล้มตัวนอนลงพลางส่งสายตาเคืองไปยังคนที่นั่งอยู่ “เอาขนมปังมือไปทิ้งเลย หลอน”

   “ทำเองนะ”

   “ก็นั่นแหละ ตอนแรกไม่กลัว แต่ตอนนี้กลัว”

   “อร่อยออก”

   “พี่โช” ผมโวยวายเมื่อพี่โชกัดขนมปังมือจนนิ้วชี้ขาด ไส้แยมสตอเบอรี่ก็ทะลักไหลออกมา “เอาไปเก็บ!” ได้ยินเสียงหัวเราะของคนขี้แกล้ง ผมรีบดึงผ้าห่มคลุมหัว ไม่อยากเห็น


   ผมเป็นลมไปจริงๆ เหรอเนี่ย โดนทุกคนล้อแหงๆ โว๊ยย







   “ไหนพี่บอกว่าให้เพื่อนพี่เก็บของหมดแล้วไง” ตะโกนถามคนที่นั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา ผมยืนเท้าเอวอยู่หน้าอ่างล้างจานที่ตอนนี้จานชาม แก้วน้ำทุกอย่างกองอยู่ในนี้หมด

   “ก็เก็บแล้ว” พี่โชตะโกนกลับมา “เก็บ แต่ไม่ได้ล้าง พี่บอกไม่หมด”

   ฟองน้ำในมือถูกบีบจนแน่นมาก ปีหน้าไม่เอาผีน่ากลัว ไม่เอากับข้าว ไม่เอาขนม ไม่เอาอะไรสักอย่าง ไม่จัดมันไปเลย จบ!

   “เชี่ยย”

   จานแทบร่วง ใครเอาขนมปังลูกตามาแช่น้ำวะ สยองคูณล้านล้าน ทั้งอืด ทั้งยุ่ย น่ากลัวเกิน อยากตบกะโหลกคนทำ...ผมเองนี่หว่า ว่าแล้วก็ตบหัวตัวเองไปที ข้อหาทำของน่ากลัว ปีนี้ฮาโลวีนของผมค่อนข้างเรียบๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะเป็นลมไปเสียก่อน


   ฮาโลวีนปีนี้ โคตรอับอายขายขี้หน้าจริงๆ อยากจะมุดรูดินกลายเป็นโกโก้ครั้น...ใช่เหรอวะ   

....

สวัสดีวันฮาโลวีนค่าาาา ตอนแรกคิดว่าจะไม่ลง แต่ก็อยากลง เอ๊ะ ยังไง มันอาจไม่ขำเหมือนปีก่อนๆ ต้องขออภัยด้วยค่า T^T

และนี่เป็นตอนพิเศษตอนสุดท้ายแล้วที่จะลงในภาคนีี้ เพราะต่อไปเราจะเจอกันภาคสอง ออง ออง (เอคโค่เพื่อสีสัน)

ยังไงแล้ว ขอฝากกลอยประเกรียน2 ด้วยนะคะ (ก้มกราบงาม)

รักกกกกกก
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 31-10-2018 20:00:18
 :pig4: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 31-10-2018 20:03:32
ขำจริงจัง นี่อ่านไปขำไป น้องก็นั่งเหล่ว่ามันอ่านอะไรวะ ขำตัวสั่น 5555

โถๆๆ สงสารพี่แทมเขานะคะ...ผีตองเหลืองอาบขมิ้น
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 31-10-2018 20:16:03
กลอยเอ๋ยกลอย  :laugh: :laugh: :laugh: แต่กลอยจะเป็นยังใงเราก็รักกกกกกกกกกก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 31-10-2018 20:20:54
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-10-2018 21:11:31
กำลังคิดอยู่เลยว่าเกรียนกลอยจะมาไหม  :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 31-10-2018 21:45:11
โธ่...น่าสงสารกลอยยย 555555
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 31-10-2018 21:48:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-10-2018 21:57:55
ไรท์ ทันสมัยมาก มีเพลงคราง........ซะด้วย   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ขำพี่แทม แต่งผีฮัลโลวีน เป็นผีตองเหลือง  :m20: :laugh: :pigha2:
พี่ซัน ยกให้เป็นคนรักดีเด่นแห่งชาติ ดูแลพี่จอมดีจริงๆ
กลอย ทำอาหารเก่งมากๆ น่าเปิดร้านอาหารซะเลย จะได้ไปอุดหนุน

พี่โช กลอย   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์มากๆ มาทำให้หายคิดถึง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-11-2018 00:24:20
ว่าแล้วว่าต้องมีตอนพิเศษมา อิอิ
รอความเกรียนภาค 2 ค่า
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 01-11-2018 20:50:55
โดนแกล้งจนเป็นลมแล้วตื่นมายังต้องล้างจานอีก สงสารกลอยประเกรียนเลย   :ruready
แต่ก็บันเทิงดี  :hao7:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 02-11-2018 09:45:26
กลัวผีจนเป็นลม  :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 02-11-2018 18:33:03
  :pig4:ขอบคุณค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 02-11-2018 23:41:06
กลอยใจไม่ได้สวีทกับพี่โชเลย หลอนจนไม่ลม :laugh:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: konfaibint ที่ 04-11-2018 12:28:51
 :pig4: :pig4: :pig4:สนุกอยู่นะเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 04-11-2018 14:05:44
กลอยเอ้ยยย 55 สงสาร พี่แทม พี่ตองเหลือง ขมิ้น  :m20:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 15-02-2019 03:47:49
เป็นอีกคู่ที่ถูกใจ  พี่โช  และ กลอย  พี่โชน่ารักมากๆๆๆๆ รู้จักปรับตัวเพื่อนคนที่รัก
และ แนวหึง...ถูกใจใช่เลย  เพื่อนๆ น่ารักทุกคนทั้งเพื่อนพี่โช และเพื่อนกลอย

ขอบคุณนักเขียนมากๆๆ และ เป็นกำลังใจให้ จะติดตามอ่านทุกเรื่องน้าาาาา

 :pig4: :pig4: :pig4:
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poontriple ที่ 15-04-2019 13:52:21
 o13 o13 o13 o13 o13
 :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-05-2019 18:08:35
แวะมาอ่านอีกรอบ..เพราะความคิดถึง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 08-05-2020 20:59:36
เอามาอ่านอีกรอบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: palmsawich ที่ 16-08-2021 11:45:20
เป็นนิยายที่ตัวละครเมาเก่ง :katai5:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-02-2023 10:04:17
มาอ่านใหม่ ยังเฮฮา ขำตลอดอ่ะ สนุกจริงๆ
ขอบคุณไรท์มากๆ
     :pig4: :pig4: :pig4:
 :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 13-02-2023 00:20:31
กลอย น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Sunset and Eeyore ที่ 18-03-2023 05:14:24
น่ารักมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: habanice ที่ 05-11-2023 15:00:04
 :oo1:
หัวข้อ: Re: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 03-03-2024 12:32:34
ทรู ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps(เม็ก) เน็ตอย่างเดียว นาน 30 วัน ราคา 482 บาท

https://www.youtube.com/watch?v=c8Z68L98B70 (https://www.youtube.com/watch?v=c8Z68L98B70)