พิมพ์หน้านี้ - >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ลูกกุญแจ ที่ 21-07-2015 14:07:52

หัวข้อ: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 21-07-2015 14:07:52
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 21-07-2015 14:12:01
สวัสดีเพื่อนนะครับ

เรานักผู้แต่งหน้าใหม่ พึ่งลงเป็นครั้งแรก ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ

เราทำอะไรผิดบอกเราด้วยนะเรากลัว


 :-[

                                                                            ตอนที่ ๑


ป่าน  -   แล้วบริษัทโฆษณาที่มึงยื่นไป  ติดต่อมายัง
บีน    -   ยังเลย กูว่าคงไม่ได้แล้ว
ป่าน  -   ทำไมว่าอย่างนั้น
บีน    -   หลายอาทิตย์แล้วนะมึง
ป่าน  -   เออน่า ไม่ต้องกลัว
บีน    -   สองเดือนแล้วนะมึง  ที่กูจบมา อายเพื่อนคนอื่น
ป่าน  -   กูรู้
บีน    -   นี่อีกสี่เดือนกูก็ต้องไปรับปริญญา
             เงินก็จะหมดแล้ว
             ไม่น่าลาออกจากร้านนมปั่นเลย อย่างน้อยก็จะพอมีเงินเก็บ
ป่าน   -  เออน่าไม่ต้องคิดมาก
บีน     -  แล้วงานบริษัทมึงไม่รับพนักงานเพิ่มบ้างหรอ ตำแหน่งอะไรก็ได้
ป่าน   -  ไม่รู้เหมือนกัน
บีน     -  เค้ารับพนักงานเพิ่มก็บอกกูแล้วกัน
ป่าน   -  เออ กูไปก่อนนะ ใกล้หมดเวลาพักแล้ว
บีน    -   เออบาย
ป่าน  -   จ้า       
       ผมหันหน้าออกจากมือถือที่พึ่งคุยกับป่านเพื่อนสนิทตั้งแต่ ม.ปลาย มันเรียนจบมหาวิทยาลัยดัง เรียนเก่ง หน้าตาก็ดี ได้งานดี เงินดี  แต่ผม คือ  ตอนนี้เหนื่อยมากเลย จบมาก็สองเดือนแล้ว หางานทำก็ไม่ได้ ก็อย่างว่าแหละ เกรดจบก็ไม่ได้สวยงาม ยังไงเค้าก็เอาคนแลดูเก่งกว่าอยู่ดี  แม่ก็โทรมาถามว่าได้งานยัง มีเงินใช้ไหม ก็กลัวแกเป็นห่วง  ตอนนี้กังวลไปหมด นี่ก็บ่ายโมงแล้ว ข้าวเช้ายังไม่ได้กินเลย กินรวบกับข้าวเที่ยงเลยละกัน


          โอยยยย  ทำไมร้อนจัง แอร์ก็ไม่มี เหนื่อยๆ นั่นไง   นี่ผมเผลอหลับไปหรอ  จำได้ว่าพึ่งกินข้าวเสร็จว่าจะงีบแป๊ปเดียว
 อ้าวกี่โมงแล้ว  เอิ่บ    ห้าโมงเย็น เฮ้ออออออออออ
ผมเดินไปหยิบมือถือมาเช็คเฟสซะหน่อย อ้าวอิป่านทักมาอะไร
ป่าน  -   มึงงงงงงงงงงงงงงงงงง
             มีข่าวดีมาบอก เรื่องงาน
            คุณสมบัติมึงน่าจะได้
             เห็นแล้วโทรมาหากูด่วน
โถ่ ทักมาตั้งแต่บ่ายสาม ว่าแล้วก็รีบโทรหามัน
 “ ขอโทษค่ะ ยอดเงินของคุณใกล้จะหมด กรุณาเติมเงินด้วยค่ะ”  อืม เดี๋ยวเติมหรอก
 ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดดด ตู๊ดดดดดด
“ เออมึง ทำไมโทรมาช้าจังอ่ะ”
“ เออกูพึ่งตื่น” 
“นอนกลางเป็นเด็กอนุบาลเลยนะมึง  เออเรื่องงานน่ะ”
“ รีบบอกมากูตื่นเต้น”     
“ พี่ปุ๋ยที่เป็นเลขาเจ้านายแผนกกูบอกว่าบอสอยากได้คนว่างงานน่ะ แบบไม่มีไรทำ ต้องเป็นผู้ชาย หน้าเด็กๆหน่อยยิ่งดี มีความรับผิดชอบ มีไหวพริบ อายุไม่แก่มาก” อ่อ นี่อีป่านกำลังชมผม เออดี ฮ่าๆ
“เจ้านายมึงจะเอาไปทำอะไรวะ” แลดูแปลกๆนะ
“กูก็ไม่รู้ สงสัยอยากกินเด็ก  เห็นยังไม่มีแฟนซะที” นี่ก็พูดไป
“มึงก็ว่าไป แล้วมันเหมาะกับกูยังไง”
“เออก็มึงหน้าอ่อนๆ ใสๆ มาเถอะกูบอกเค้าไว้แล้วว่ามึงจะเอา กูเอารูปมึงให้พี่ปุ๋ยดูแล้ว ผ่านค่ะ ” อ้าวมันจะไม่ถามอะไรกันเลยหรอ
“นี่ อีป่าน มึงไม่ถามกูหน่อยหรอ”
“เอาเถอะมึง เห็นว่าน่าจะได้เงินเดือนเยอะนะมึง สงสัยงานยากหน่อย” แล้วโง่ๆอย่างผมจะทำได้ไหมนี่
“เอาไปเป็นเมียหรือเปล่า ว่าแต่เจ้านายมึงหล่อไหมวะ” ถามไว้เผื่อหล่อจะได้ทำใจได้ บีนเอ้ยยย มึงมโนอีกแล้ว
“หล่อสิ มาดแมน ผิวแทน หน้าตา จมูกคม สมเป็นชายไทย” บรรยายมาแบบคล้องจองกันขนาดนี้
“เออ กูต้องทำไง สัมภาษณ์อะไรไหม”
“มาพรุ่งนี้เลยได้หรือเปล่า เอาหลักฐานอะไรมาให้พร้อมละกัน เดี๋ยวกูโทรพี่ปุ๋ยดูก่อนเผื่อมีอะไรเพิ่มเติม”
“เออเดี๋ยวรอ”
เออแล้วตกลงมันตำแหน่งอะไรกันแน่นะ ผมนั่งคิดได้ซักพัก อีป่านก็โทรกลับมา
“เออมึงนอกจากที่กูบอก  ก็มี ใบจบ ม. ๖ อีกอัน มึงยังมีอยู่หรือเปล่า ”   อ้าวเกี่ยวอะไรด้วย
“ทำไมต้องเอาไปด้วย ใบจบ ม.๖ มันก็อยู่บ้านที่บางบัวทองโน่น ”  อย่าบอกนะว่าผมต้องนั่งรถไปเอาที่บ้าน  ไกลมาก
“มันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับงานนี้  พี่เค้าบอกมา อย่าถามมาก  มึงรีบไปเอามาเลย พรุ่งนี้มาบริษัทกูสักบ่ายๆ ก็ได้เดี๋ยวกูบอกพี่ปุ๋ยว่าให้จองคิวสัมภาษณ์ให้”
“เจ้านายมึงจะสัมภาษณ์เองเลยหรอ ”
“ก็คงอย่างนั้นแหละมึง”  พึ่งเจอแบบนี้ปกติ คนอื่นจะสัมภาษณ์
“เออถ้าอย่างนั้นกูรีบกลับไปเอาละกัน”

   



เฮ้ออออออออ  กว่าจะไปถึงบ้าน ดีนะแม่ไม่ถามอะไรมาก  เดี๋ยวงงกันอีก กว่าจะกลับมาถึงห้องพักก็ปาไปสี่ทุ่ม ระหว่างทางผมก็นั่งดูเกรดอันสุดสวยของตัวเองตอน ม.ปลาย ตอนนั้นจำว่าเป็นเด็กเรียนตั้งใจเรียนมาก เกรด ๔ เกือบทุกตัว ยกเว้น ฟิสิกส์ กับ เคมี เออก็มันยากจริง  ไม่ได้สมองทองเหมือนอีป่าน   
เที่ยงวันต่อมา ผมมานั่งกินข้าวกับป่านอยู่ร้านอาหารตามสั่งแถวบริษัทเพื่อเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน
“เออนี่สักบ่ายโมงครึ่งนะมึง ตอนเช้าเจ้านายเขาไปธุระข้างนอก คงเข้ามาช้าหน่อย”
“โอเค แต่กูตื่นเต้นมากเลยมึง  จะให้ไปทำอะไร ตำแหน่งอะไรยังไม่รู้เลย  กดดันจัง”
“เออไม่ต้องกลัว รีบๆกินไป”
.........
“ น้องมาสมัครงานใช่ไหมคะ ” ผมขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นผู้บริหาร ก็ยืนงง พอดีมีพี่ผู้หญิงถามขึ้น
“ ใช่ครับ ” สงสัยคนนี้พี่ปุ๋ย
“อย่างนั้นเดี๋ยวนั่งรอเจ้านายอยู่ตรงที่นั่งมุมตรงนั้นก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่แจ้งไปหาเจ้านายในห้องสักครู่” นางก็ผายมือออกไปตรงมุมนั่งอับๆ มีนิตยสารให้อ่าน อย่างว่าตรงชั้นนี้มันชั้นสูงๆ พื้นที่ใช้สอยมีไม่มี แต่ดูแล้วห้องเจ้านายแกคงกว้างมากๆ
นั่งอ่านข่าวดาราได้ซักพักพี่ปุ๋ยก็มาเรียกเข้าไปในห้อง
ผมลุกแล้วเดินเข้าไป  กำลังจะเปิดประตู
เอาหล่ะ หนึ่ง สอง สาม
หมับ
 ผมยื่นมือไปจับที่ประตู พร้อมออกแรงแง้มประตูเบาๆ

อ้าวตายแล้วลืมเคาะประตู ต้องมีมารยาทสักหน่อย
เอาใหม่ๆ ผมปิดประตูกลับมาอีกครั้ง
พร้อมเคาะประตู    เออแล้วมันต้องเคาะกี่ครั้งนี่  สองครั้งก็น้อยไป สี่ครั้งเอ๊ะเยอะไป
“น้องมีอะไรรึเปล่าคะ ไม่ต้องกลัวนะ เจ้านายพี่เป็นคนใจดี”
“ครับ” ตอบไปแบบปากสั่นๆ
เคาะครั้งเดียวก็พอมั้ง   
ป๊อก
“ขออนุญาตนะครับ”
“เชิญครับ”
โห หล่อคมเข้ม เหมือนที่อีป่านบอกจริงด้วย เอ๊ะแล้วนี่ผมยืมยิ้มอยู่ทำไม
“เชิญนั่งครับ  ที่คุณปุ๋ยแนะนำมาใช่ไหมครับ”
“ครับ” อย่าสั่นๆ ท่องในใจ  ตื่นเต้น
“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มสัมภาษณ์กันเลยนะ เดี๋ยวคุณแนะนำตัวเองแบบคร่าวๆให้ผมฟังก่อน ไม่ต้องตื่นเต้นนะ เอาแบบธรรมชาติๆ”
“ครับ ผมชื่อ นิธาน ปุริม ครับ ชื่อเล่น บีน อายุ ๒๒ ปี จบคณะศิลปศาสตร์ สาขา.... จาก..... ครับ ยังไม่เคยทำงานแบบจริงๆจังมาก่อน ตอนนี้ว่างงานครับ ตอนนี้อยู่คนเดียวที่หอ มีแม่หนึ่งคน น้องชายหนึ่งคน คนพ่อเสียแล้ว ชอบสีฟ้า …
“เอ่อออ พอก่อนครับ” เอ๊ะ ขัดทำไม
“ทำไมหรอครับ มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า”
“คือเอาแบบคร่าวๆสั้นๆ ก็พอครับคุณบีน  คือผมอยากได้ใบเกรดจบ ม. ๖ ได้นำมาด้วยหรือเปล่า”
“อ่อ ได้ครับนี่ครับ” ว่าแล้วก็หยิบใบเกรดให้ว่าที่เจ้านายของผม (คือมั่นว่าจะสัมภาษณ์ผ่าน)
“เกรดดีเลยนะ ”
“ขอบคุณครับ” แฮ่ๆ
แล้วตกลงงานอะไรวะ ว่าแล้วก็ถามแกสักหน่อย
“แล้วตกลงที่ผมมาสมัครงานนี่ เป็นตำแหน่งอะไรครับ ”
“เอาเป็นว่าตอนนี้ผมรับคุณเข้าทำงานแล้วนะครับ”
“ห๊ะ!!!!!  ว่ายังไงนะครับ แล้ว  คือ  ไม่ถามอะไรอีกหรอครับ ” ทำไมรับง่ายจังวะ กรี๊ดด ดีใจ
“ส่วนรายละเอียดของงาน คือ คุณฟังผมดีๆนะ ผมมีหลานชายอยู่หนึ่งคน เป็นลูกของพี่ชายผม เค้าเป็นเด็กเกเร ผมไม่มีเวลาดูแลแล้วเค้า พี่ชายพี่สะใภ้ผมเค้าก็เสียไปนานแล้ว คุณพ่อผมท่านก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะให้หลานผมดูแลกิจการต่อ ผมเลยอยากให้คุณช่วยไปดูแล สั่งสอน หลานผมหน่อย ”
“แล้วยังไงต่อครับ หลานคุณ ... เอ่อจริง คุณชื่ออะไรครับ” คุยกันตั้งนานก็ลืมถามชื่อ
“ผมชื่อ สิทธิคม ครับ เรียกผม บิ๊กก็ได้”
“ครับคุณบิ๊ก หลานคุณเรียนอยู่ ป. ไหนหรอครับ ”
“ไม่ได้เรียนประถมครับ   หลานผมเรียน ม. ปลายแล้ว กำลังจะขึ้น ม. ๕”
“โห โตแล้วนะครับ ผมไม่แน่ใจนะว่าจะทำได้ไหม”
 “ผมว่าคุณน่าจะทำได้นะ ลองดูสิ ”
“แล้วจะให้ผมไปเป็นคนดูแลตอนไหนครับ ตอนเย็นหลังเลิกเรียนหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมจะให้คุณอยู่กับเค้าเกือบจะทั้งวัน”
“แล้วตอนเค้าเรียนที่โรงเรียนหล่ะคุณ”
“ก็นี่แหละคือส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับงานนี้
 ผม
จะให้
คุณ
ปลอมตัว
เป็น
เด็ก ม.๕”

ห๊ะ อะไรนะ  นี่มันอะไรกัน




........................................................


ที่ว่าต้อง กด modify ที่รีพลายแรกหน้าแรกของกระทู้ตัวเอง  ทำตรงไหนครับ กดตรง ตอบหรอครับ

หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^"
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-07-2015 14:29:20
กดตรงแก้ไข ที่ reply แรกน่ะค่ะ มันจะแก้ได้

ติดตามนะคะ :D
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-07-2015 15:05:15
ประเดิมงานแรกก็น่าสนุกเลยนะคะบีน ^^
17 อีกครั้ง ย้อนวัยมากเลยเน้ออ :-[

ติดตามนะค้าา.. :L2:
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-07-2015 15:19:02
 :impress2:  รอดูคนแอ๊บเด็ก
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 21-07-2015 16:43:44
อ๊ายยยย น่าจะฟิน คู่กับเด็กเหรอ
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 21-07-2015 17:20:33
 :hao7: น่าสนุกค่ะ มารออ่านด้วยคน ภาระกิจใหญ่นะ ปลอบตัวเป็นเด็ก ม.ปลายเลย  :mew4:
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Moko1212 ที่ 21-07-2015 18:09:11
ต่อไปจะกินเด็กหรือโดนเด็กกินหนอ  :hao3:
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ziqh.leo ที่ 21-07-2015 18:46:58
อีหรอบนี้ โดนเด็กกินชัวร์ๆ 555555
 :hao6:

รออ่านตอนต่อไปนะคะ มาต่อไวๆน้า
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 21-07-2015 19:12:31
 :mew1:

รอติดตามนะคะ

ลุ้นแทนตอนจะไปโรงเรียน
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: Robinhood.ha ที่ 21-07-2015 20:15:10
น่าสนๆ ติดตาม  :pig2:
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 21-07-2015 21:35:59
รออออ
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๑ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 21-07-2015 21:41:38
เปิดเรื่องมาน่าสนุกมากๆคับ รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร้วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 21-07-2015 22:23:33
มาแล้วครับ ตอนที่ ๒ มาแล้ว

ขอบคุณ คุณ BlueCherries และก็เพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาตอบ ติดตามและก็ให้กำลังใจกันนะครับ

ถึงจะไม่เยอะมากแต่ก็มีกำลังใจมากสำหรับการลงนิยายครั้งแรก 

ตอนเย็นเรานั่งทานข้าวไปยิ้มไป มีความสุขที่เพื่อนๆชอบ

                                                                          ตอนที่ ๒

ผมนั่งงงได้ไม่ถึงห้าวินาที คุณบิ๊กแกก็บรรยายงานต่อ

“ เรื่องการปลอมตัวนั้นผมต้องการแบบเนียนที่สุด ธรรมชาติที่สุด โดยคุณต้องกลับไปเป็นเด็กอายุ ๑๗ ใช้ชีวิตเป็นเด็ก ม.ปลายเลยนะ เรื่องที่อยู่ผมจะเช่าคอนโดให้ เสื้อผ้า ชุดนักเรียน แบบเรียนต่างๆ ทางผมจะจัดการให้ทั้งหมด คุณรอตอนเปิดเทอมได้เลยอีกเดือนกว่าๆ”

ผมก็ได้แค่นั่งฟังและนั่งเอ๋อ  แล้วคุณบิ๊กก็พูดต่อ

“ส่วนเรื่องชื่อ นามสกุลคุณ  ผมจะให้คุณใช้ชื่อ สกุลอื่น เรื่องราวต่างๆ ในชีวิตครอบครัวเดี๋ยวทางเราจัดการให้ ”

“แสดงว่างานแบบนี้มันไม่มีวันหยุดสิครับ”

“มันจะหยุดไปในตัวของมัน คุณก็จะได้พักผ่อนเสาร์ อาทิตย์ไง  คุณก็ต้องตีสนิทกับหลานผม โดยแน่นอน ผมต้องส่งคุณไปเรียนห้องเดียวกับเค้า คุณต้องไปพาเค้าไปในทางที่ดีให้ได้ ทั้งในด้านการเรียน การใช้ชีวิตต่างๆ สรุปคือไปเป็นเพื่อนสนิท โอเคนะครับ”

มันไม่มีวิธีอื่นในการสอนหลาน ที่มันง่ายกว่านี้หรอนี่ อันนี้คิดในใจ
แล้วเงินนี่จะได้เดือนเท่าไหร่ อันนี้ก็คิดในใจอีก

“ส่วนเรื่องค่าตอบแทน ผมคำนวณค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จแล้วผมให้ ๔๐,๐๐๐ ต่อเดือนนะ”
โห   ตอนนี้หูอื้อ ไม่คิดว่าจะได้เยอะ

“๔๐,๐๐๐ แรกค่าขนมเด็ก ม.ปลายนะ ส่วนเงินเดือนคุณจะให้ต่างหากอีก ๔๐,๐๐๐”

“รวมเป็น ๘๐,๐๐๐” อันนี้ผมพูดเองโดยไม่รอให้คุณบิ๊กสรุป นี่มันเยอะมากสำหรับผมเลยนะ ทำยังไงจะใช้หมด  หน้าซีด ปากสั่น มือเปียก จิกเท้า ดีใจสุดขีด ในขณะที่ต้องเก็บความรู้สึกดีใจไว้

“ถ้าไม่พอยังไง  ทำงานไปเดือนแรกก็บอกผมด้วยนะ  นี่คือสัญญางาน อ่านรายละเอียดและก็เซ็นได้เลยครับ”



ผมก้มอ่านกระดาษ  เป็นใบเซ็นสัญญางานสองใบ ที่มีลายเซ็นคุณบิ๊กเรียบร้อยแล้ว แหมอย่างกับวางแผนกันมาตั้งนาน เซ็นก็เซ็น ฮ่าๆ  ในสัญญาบอกไว้ว่าสัญญางานมีกำหนดเวลา ๒ ปีกว่าๆ แสดงว่าผมต้องปลอมตัวจนจบม.๖ สินะ ส่งหลักฐานทุกอย่างเรียบร้อย คุณบิ๊กก็บอกอีกสิ่งที่ผมลืมว่า

“คุณบีนผมลืมบอกไปอีกอย่าง คุณต้องตัดผมรองทรงแบบเด็ก ม.ปลายด้วยนะ” เจ้านายพูดไปมองทรงผมของผมไป

“ห๊ะ เอ่อ ครับๆ” มันก็จริง จะไว้ผมบ๊อบ  ไปเรียนก็ยังไงอยู่ แต่ก็นะ อุตส่าห์ไว้ให้ยาวขนาดนี้ได้ก็นานอยู่นะ

 “แล้วระวังด้วยนะ  เรื่องนี้จะให้คนอื่นรู้มากไม่ได้ ผมให้คนอื่นรู้ได้ไม่เกิน ๕ คนนะ   ไม่นับเราสองคน ก็จะมีเลขาผม เพื่อนคุณรู้ได้ เผื่อมีปัญหาต้องติดต่อ  และก็รองผอ.โรงเรียนที่คุณจะไปเรียน อีกสองคนจะเป็นใครก็ได้แต่ขอให้เป็นคนที่ไว้ใจได้ แล้วพรุ่งนี้รอผมที่หอคุณได้เลยนะเวลาสามทุ่มตรง ผมจะพาไปดูหลานชายผม วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ เชิญได้ครับ”

หลังจากผมให้ที่อยู่หอให้เจ้านายผมก็เดินออกมาจากห้องทำงานเขา
.....................................

นี่ผมเข้าไปคุยงานแค่สามสิบกว่านาทีเองหรอนี่ ทำไมมันดูนานเหมือนเป็นชั่วโมงเลย กลับบ้านก่อนแล้วกันรอป่านมันเลิกงานก็ยังไงอยู่

ผมส่องกระจกโต๊ะเครื่องแป้งในห้องหลังอาบน้ำลองรวบมัดผมไปไว้ข้างหลัง ไม่ให้เห็นปลายผม นึกออกไหมครับ ปกติ ผมจะมัดผมแล้วม้วนมันไว้บนหัวเหมือนก้อนขี้ควายเล็กๆ  เออผมนี่ก็หน้าเด็กอยู่นะ  ถึงจะจบมัธยมมาสี่ห้าปีก็เถอะ โฮะๆ ชมตัวเองมีความสุข ว่าแต่ต้องตัดจริงๆหรอนี่ เอาวะตัดก็ตัด มีเวลาทำใจอีกหนึ่งเดือน

ส่วนเรื่องป่านนั้นผมได้โทรบอกรายละเอียดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แรกๆมันก็ตกใจ อธิบายไปเรื่อยๆถึงเรื่องเงินเดือนมันก็เออออไปตามประสามัน รวมทั้งแม่ก็โทรไปบอกแล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกว่าทำงานนี้นะ โกหกไปว่าทำแผนกธุรการในบริษัทนี้แหละ  เฮ้อ  นึกในใจก็มีความสุขนะ เงินก็ได้เยอะถึงงานมันจะดูยากก็เถอะ ยังไงก็มีเงินกินเงินใช้ ส่งให้แม่ ให้น้องได้เรียน เอาไงเอากันไปเป็นเด็กมัธยม มันจะยากซักแค่ไหนเชียว

...........................................

ครืดดดดดดดดดด

เสียงรถของคุณบิ๊กที่โทรมาถามทางมาหอผมเมื่อสิบนาทีก่อน มาจอดตรงหน้า เหลือบดูนาฬิกาสามทุ่มเป๊ะ

“สวัสดีครับ”ผมพูดพร้อมยกมือไหว้ 

“สวัสดีครับ ไม่ต้องยกมือไหว้ผมก็ได้นะ” แหมก็เห็นแก่กว่าไง

“ครับ แล้วเราจะไปดูหลานชายคุณที่ไหนหรอ”

“ที่ผับ  อยู่ไกลจากที่นี่หน่อยนะ  อืม ฟังเพลงมั้ยครับ” ว่าแล้วคุณบิ๊กก็กดปุ่มเปิดเพลง
แหมก็แทนที่ว่าจะบอกกันล่วงหน้าว่าจะพามาที่คนเยอะๆ ดีนะที่แต่งตัวออกมาดีหน่อย

“คุณครับ คุณบีน ถึงแล้ว” อืม ใครสะกิด ลืมตาซะหน่อย

อ้าว นั่นไงเผลอหลับอีกแล้ว

ไม่น่ากินเลย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หลับลึกเชียว

“เดี๋ยวก่อนคุณ คือแล้วน้องเค้าจะจำผมได้ไหมครับ เผื่อเจอหน้ากันจะๆ”

“ผมพามาแอบดูให้คุณได้รู้แบบคร่าวๆไง ไม่ได้พามารู้จัก  นี่แว่นกันแดด กันไว้เผื่อเจอแบบเลี่ยงไม่ได้ ”

แว่นนี่สวยดีเหมือนกันนะ ลองดูก่อนละกัน 
หล่อเหมือนกันนะนี่เรา ผมคิดในใจตอนลองสวมแว่นแล้วส่องกระจกดู

“อย่าพึ่งสวมตอนนี้ก็ได้ครับ”  ขัดจังหวะจังนะ “เดี๋ยวผมจะไปทานข้าวข้างบนนะ คุณจะไปด้วยไหม ตอนนี้ยังไม่ต้องระแวงนะหลานผมมันคงยังไม่มาหรอก”
“ถ้าอย่างนั้นผมรออยู่แถวนี้แหละ ” ก็กินข้าวมาแล้ว
“ผมว่าคุณขึ้นไปกับผมดีกว่า ป่ะ” ว่าแล้วคุณบิ๊กก็ใช้มือดันหลังผม เชิงบังคับ แล้วจะถามทำไมวะว่าอยากไปไหม

.....................
หลังจากทานข้าวเสร็จ ซึ่งผมนั่งจิบแค่น้ำเปล่า

“ว่าแต่หลายคุณชื่อเล่นว่าอะไรหรอครับ”

“ชื่อ โอ๊ต  ข้าวโอ๊ตนั่นแหละ” อ่อ แค่ชื่อก็ดูดื้อแล้ว เฮ้อ ผมเคยมีเพื่อนชั้นเรียนเดียวกันชื่อโอ๊ต เกเรมาก

“สวมแว่นได้แล้วคุณ” เจ้านายบอกขณะเดินลงมาจากชั้นดาดฟ้า

“เราจะลงไปชั้นสองนะ คุณระวังด้วยนะใครเอาอะไรให้ดื่มอย่าไปดื่มนะ”

ผมก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆตาม ขี้เกียจตะโกนตอบ มันเริ่มเสียงดังมาก

คุณบิ๊ก ก็พาผมไปนั่งในที่นั่งมุมอับๆ แล้วก็เริ่มสั่งเครื่องดื่ม

“คุณดื่มเป็นไหม ” แหมมาถามอย่างนี้ได้ยังไง ผมไม่ได้คออ่อนนะ

“เป็นสิคุณ จัดมาเลย” ว่าแล้วเจ้านายก็ชงเหล้าให้ตามคำสั่ง
....................
 เวลาผ่านไปนานแล้วนะ ผมก็เริ่มตึงๆ เมื่อไหร่หลานเจ้านายจะมานะ

“นี่คุณ เมื่อไหร่หลานคุณจะมาครับ”

“นั่นไงคุณ มาแล้ว”

“ไหนๆ” ก็ทำหน้าตาตื่นเต้น

“คนที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีแสด ที่ยืนข้างๆไอ้เสื้อดำผมรองทรงผิวแทนๆ นั่นไงคุณ ตรงบาร์น้ำ”

โห  สายตาผมจดจ้องมองไปยังไอ้หนุ่มหน้ามน ร่างโปร่ง ผิวขาว หุ่นดี หน้าตาดี ตัดผมทรงสกินเฮด
ใช่ มองยังไงก็รู้ว่าเด็ก ม.ปลาย แล้วเข้ามาผับมาบาร์ได้ยังไง

“ไม่ต้องสงสัยนะคุณ ว่าหลานผมมันเข้ามาได้ยังไง” อ้าว นี่คิดในใจยังรู้อีก

“แล้วเข้ามาได้ยังไงครับ”

“เงินไง  ยัดเงิน  เส้นสาย  ไอ้พวกนี้มันชอบใช้เงินซื้อทุกอย่าง  นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่คุณต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เขาด้วยนะ เค้าจะมาที่นี่ไม่บ่อยหรอก  เผอิญผมไปแอบดูในมือถือหลานผม  เลยรู้ว่าวันนี้เขานัดกันกับเพื่อนที่นี่ สงสัยที่นี่คงเป็นผับของญาติเพื่อนโอ๊ตคนที่มาด้วยกัน”

แหม  เจ้านายผมก็นะ     เฮ้อออ งานแรกก็มาแล้ว

“อ้าวเฮ้ย คุณถอดแว่นทำไมครับ เกิดหลานผมเห็น เรื่องก็แตกกันพอดี”

อุ๊ย ตาย เผลอถอดแว่นตั้งแต่เมื่อไหร่ สงสัยน้องเค้าหล่อ เลยเผลอถอดมองเพลินเชียว ไม่ได้ๆ จะมาหวั่นไหวกับเด็กอายุเท่านี้ไม่ได้ สเปคผมคือคนที่อายุเยอะกว่า
.....

เวลาผ่านไป

“เห็นแล้วพอหอมปากหอมคอ ได้รู้จักหน้าตาแล้วก็กลับกันเถอะคุณ”

อ้าว ว่าไงนะ ทำไมดูเป็นเบลอๆ

“นี่คุณเป็นอะไรทำไงนั่งก้มหน้าก้มตา”

โอย ผมเมาครับ ผมเมา ไม่ได้ ต้องห้ามเสียฟอร์ม

“เอ่อ ผมปวดฉี่ครับ ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะ” ว่าแล้วผมก็ลุกพรวดขึ้น ยืนตรงเป๊ะ
อุ่ย ตายๆ เสียหลักๆ

“เอ้า ล้มๆ คุณ ไหวไหมนี่”   

โถ่ ทักซะตกใจเชียว สะดุดขานิดเดียวเอง  ผมพยายามเดินตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
เหล้าที่กินนี่มันแรงหรือว่าผมคออ่อนกันแน่วะ จะว่าไปก็ไม่ได้แตะแอลกอฮอล์ นานแล้ว
แล้วนี่ห้องน้ำนี่มันอยู่ไหนกัน  คลำไปทั่วแล้วตอนนี้ ถามเด็กเสิร์ฟก็ได้

“นี่  น้อง  น้องคนหล่อห้องน้ำอยู่ทางไหนหรอ” อุ้ย เผลอปากไปเรียกเด็กเสิร์ฟได้ยังไงนี่ คือผมเมาจริงๆแล้ว ควบคุมตัวเองไม่ได้

“ตรงไปสุดซอยแล้วเลี้ยวขวาเลยพี่”  น้องเขาก็บอกยิ้มๆ

“ขอบใจ” ว่าแล้วก็พยุงตัวเองที่เดินโซซัดโซเซ ต่อไป

พู่ ผมเป่าปากตัวเองหลังจากที่ฉี่เสร็จ ล้างหน้าซะหน่อยจะได้หายเมา

“เออ  กูว่าสวย อยากจัดให้ซักครั้ง”

“ดูแล้วอันมันก็ไม่ปฏิเสธมึงนะไบท์”

“คืนนี้เลยมั้ยว่ะ มีถุงยางป่ะกูขอหน่อยกูลืม”

“มีสิ  อ่ะ” 

“แหมๆ มีแต่ไม่ได้ใช้ นี่กี้มันยังไม่ใจอ่อนอีกหรอวะ”

แหมสมัยนี้คนจะไปเอากันนี้เค้าพูดเป็นเรื่องปกติเหมือนจะไปกินข้าวกันเลยหรอวะ ว่าแล้วก็ดูหน้าซะหน่อย
อ้าวเหี้ยแล้ว อีดอก
ไอ้หนุ่มเสื้อแสดหลานคุณบิ๊กนี่หว่า


หลบด่วน  ผมถึงกับสร่างเมากันเลยทีเดียว
เฮ้อ ตกใจหมดดีนะที่น้องเขาไม่มองมาทางผมมาก

“นี่คุณ ยืนทำหน้าตกใจอะไร”

“อ้าว เฮ้ย  ตกใจหมดเลย ป่ะคุณกลับๆ”

..............

“พอดีผมเห็นหลานผมเดินเข้าไปในห้องน้ำกับเพื่อน เค้าไม่ได้มองเห็นคุณใช่ไหม ” คุณบิ๊กถามขณะขับรถไปส่งผมที่หอ

“มองเห็นสิคุณ  แต่ดีนะที่น้องเค้าไม่ได้สังเกต”

“เดี๋ยวก็คงกลับบ้านแล้ว หลานผมมันมาเที่ยวที่นี่เป็นประจำ”

“แต่หลานคนหล่อขนาดนี้  แล้วสาวๆไม่มาติดพันกันเยอะเหรอครับ”

“กับผู้หญิงใช่ไหม เป็นอีกเรื่องที่คุณต้องทำให้เค้าปรับปรุงด้วย ติดหญิงหรือหญิงติดเกินไปมันไม่ดี เสียการเรียน เรื่องนี้ผมห่วงมาก ”

งานที่สองก็มา สงสัยต้องได้จดไว้เป็นข้อๆ

“แล้วนี่หายเมายัง”

“หายแล้วครับ  เฮ้ย นี่คุณ รู้ได้ไง เสียฟอร์มหมด” ไม่น่าเบลอตอบไปเลย ถามทีเผลอนี่หว่า

“ฮ่าๆ คออ่อนก็ไม่บอก ไม่ต้องอายหรอกคุณ ” เออหัวเราะไป ผมงอนแล้วนะ

..........

๒ สัปดาห์ผ่านไป

ตืด ตืด

เสียงไลน์ มือถือเข้า ใครทักมา

บ่นๆในใจ ขณะที่ผมนอนกลางวันอืดอยู่ในห้อง

คุณบิ๊ก     -   พรุ่งนี้ตอนบ่ายโมงคุณปุ๋ย จะพาไปดูคอนโดที่คุณจะไปอยู่
              -   แล้วก็จะนำเอกสารต่างๆ รวมถึงเสื้อผ้า รองเท้าให้คุณด้วย

บีน          -   รับทราบครับ
...................................................
 
เที่ยงครึ่งวันรุ่งขึ้น

ครืดดดดดด  ครืดดดดดด

อ้าว ตายแล้ว  อย่าบอกนะว่ามาแล้ว ผมยังอยู่ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวพึ่งอาบน้ำเสร็จ

“สวัสดีครับ ”

“ค่า คุณบีนใช่ไหมคะ”

“ครับ”

“พี่ปุ๋ยมารอที่คอนโดแล้วนะ พอดีพี่มาถึงเร็ว เดี๋ยวพี่เช็คของรอที่รถนะคะ ไม่ต้องรีบนะ รถฮอนด้าแจส สีขาวนะคะ”

“โอเค ได้ครับ เดี๋ยวผมลงไปบ่ายโมงนะ” เขาบอกไม่ต้องรีบก็ไม่ต้องรีบ



กึก เสียงปลดล็อคของประตูรถพี่ปุ๋ยดังขึ้น เมื่อผมมายืนก้มๆเงยๆดูหน้าคนขับรถ ก็คนมันกลัวขึ้นผิดคัน

“คันนี้ไม่ผิดหรอกค่ะ” พี่ปุ๋ยพูดแบบยิ้มๆ ตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งเบ่ะข้างคนขับ

“สวัสดีครับ” ยกมือไหว้อย่างสวยงาม

“สวัสดีค่ะ เดี๋ยวเราดูของครั้งเดียวตอนที่ถึงคอนโดเลยนะ”

“ครับ”
.............................

และแล้วก็มาถึงคอนโดหรู ย่านใจกลางเมือง ติดกับรถไฟฟ้า

“ของอยู่หลังรถช่วยกันขนนะจ๊ะ”

“ทำไมมีหลายกล่อง หลายถุงจังเลยครับพี่”

“เดี๋ยวค่อยไปเปิดในห้อง ดูเดี๋ยวก็รู้ค่ะ” พี่ปุ๋ยแกก็ดูยิ้มแย้ม อารมณ์ดีเนอะ

ผมก็แอบแง้มๆดู อ๋อ พวกเสื้อ กางเกง นักเรียนนี่เอง

“ห้องนี้ใช้คีย์การ์ดเปิดนะจ๊ะ จะอยู่ชั้น๑๓  ถึงพอดี”  พี่ปุ๋ยแกพูดเสร็จลิฟต์ก็ถึงชั้น ๑๓ พอดี

โอ้โหทางเดินก็ไฮโซโก้หรูขนาดนี้   ประตูหรูหรามีระดับ

ตี๊ด  เสียงเปิดประตู

“เฟอนิเจอร์ต่างๆ ครบครันเลยนะน้องบีน ไม่ต้องเอาอะไรมาเพิ่มนอกจากของใช้”

“โห  ห้องสวยมากเลยครับ” อันนี้มันต้องชมจริงๆนะ ผมเดินเอาของที่ถืออยู่ในมือวางไว้มันกลางห้อง ไม่ถือมันแล้ว  สำรวจห้องก่อน

ส่วนแรกก่อนละกัน  ห้องโถงดูไม่กว้างไม่แคบมาก  ห้องครัวเป็นสัดส่วน มีโต๊ะทานข้าวแบ๊วๆ สองที่นั่ง
ถัดจากห้องโถงอีกด้านเป็นห้องนั่งเล่น รับแขกว่ากันไป ทีวีจอใหญ่เชียว แวบไปห้องนอนใหญ่ ที่เรียกว่าห้องนอนใหญ่เพราะมีห้องนอนอีกห้องเอาไว้รับแขก 

แอ๊บๆ  เสียงสปริงเตียงดัง เพราะผมนั่งขย่มดู สปริงเด้งดึ๋งดีจัง มีทีวีอยู่ปลายเตียง  มีโต๊ะทำงานที่อยู่อีกมุมของห้องนอน

ห้องน้ำที่อยู่ในตัวห้องนอนมีทางเข้าสองทางคือจากข้างเตียงกับจากห้องแต่งตัวก็จะมีประตูเชื่อม ระเบียงมองเห็นทิวทัศน์สวยงามถึงจะไม่กล้าไปยืนก็เหอะ ก็ยังไม่ชินไง ปกติอยู่แต่ชั้นหนึ่ง ชั้นสอง ฮ่าๆ

“เป็นไงบ้างคะ น้องบีน สวยไหมคะ”

“สวยมากครับพี่”

“นี่แค่ห้องธรรมดานะคะ ยังมีหรูกว่านี้อีก ยังไงก็พักผ่อนให้สบาย เตรียมพร้อมสำหรับงานอีกสองอาทิตย์ข้างหน้านะคะ พี่ไปก่อนนะ”

“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะ”

ตี๊ด เสียงปิดประตูลง ผมเดินและนั่งลงกับพื้นเปิดดูของที่ขนมาข้างใน เสื้อ กางเกงนักเรียนสีน้ำเงินตัวอย่างละ ๕ ตัว

รองเท้าหนังสีดำ ๒ คู่ ถุงเท้าหลายคู่ เข็มขัด ชุดพละ   เอ๊ะโรงเรียนนี้นี่มันชายล้วนนี่  เอาแล้วไง  คิดว่าผมต้องเจอสภาพเด็กผู้ชายดื้อๆแก่นๆ กลิ่นตัว กลิ่นเท้าเหม็นๆ หรอนี่ แหวะแค่คิดก็เวียนหัว ผมเคยเรียนแต่โรงเรียนสหศึกษา

ของในกล่องหนักๆนี่หนังสือแน่ๆเลย

แคว๊ก  เสียงฉีกกล่องดังสนั่นห้อง แกะยากแกะเย็นก็ฉีกมันเลย หนังสือเรียนจริงๆด้วย ม.๕ หมดเลย ตายแล้ว  ไม่นึกไม่ฝันว่าต้องมาเรียนอีก จะว่าไปก็เคยเรียนมาแล้วนี่หว่า ผ่านมาแล้วเรียนอีกครั้งอาจจะง่ายก็เดิมก็ได้

อีกกล่องก็เป็นสมุด จะว่าไปเค้าก็จัดมาให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ ห่อปกพลาสติกอย่างดี มีอุปกรณ์เครื่องดินสอ ปากกา ยางลบ น้ำยาลบคำผิด สีแท่ง ครบ

เก็บของเสร็จทุกอย่างแล้วผมก็กำลังจะเอนตัวนอนลง เอ๊ะ เดี๋ยวนะๆ เมื่อกี้แวบๆ ว่าแล้วก็ลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้าอีกที
นั่นไงคิดไว้แล้ว เชียว เสื้อนักเรียนปักชื่อเรียบร้อย 

คุณบิ๊กตั้งชื่อ สกุลใหม่



ให้ผม



“ดนย์ปิยะ  กีรติ”



 :hao7:





หวังว่าเพื่อนๆคงจะชอบนะครับ คืนนี้ฝันดีครับ

หัวข้อ: Re: .....ม.ปลายอีกครั้ง.....^^" ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘ // มาแล้วครับ พร้อมอ่าน
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-07-2015 22:32:20
55555555

โต๊ะทานข้าวแบ๊วๆ สองที่นั่ง << นึกภาพออกเลย เด๋ยวนี้พวกเฟอร์ในห้องทำแบบเหมือนใช้งานจริงลำบากมาก orz


เราว่าถ้าเป็นนักเขียนหน้าใหม่ อาจจะต้องใช้เวลานิดนึงในการดึงคนอ่าน ช่วงแรกๆคนอ่านอาจจะน้อยอยู่ อย่าเพิ่งท้อนะคะ :)

ปูลู หวังว่าน้องเขาจะจำบีนไม่ได้นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาแล้วครับ พร้อมอ่าน
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 22-07-2015 16:38:27
ประเดิมงานแรกก็น่าสนุกเลยนะคะบีน ^^
17 อีกครั้ง ย้อนวัยมากเลยเน้ออ :-[

ติดตามนะค้าา.. :L2:

งานแรกดูเหมือนหนัก แต่เงินดีนะ บีนเป็นคนเห็นแก่เงิน

:impress2:  รอดูคนแอ๊บเด็ก

บีนต้องแอ๊บทั้งวัน คงเหนื่อยแน่ๆ ฮ่าๆ

อ๊ายยยย น่าจะฟิน คู่กับเด็กเหรอ

 คู่นี้แน่ๆ อายุคงไม่ห่างกันมาก มันมีเหตุ ต้องติดตามน้าาาาา




 :hao7: น่าสนุกค่ะ มารออ่านด้วยคน ภาระกิจใหญ่นะ ปลอบตัวเป็นเด็ก ม.ปลายเลย  :mew4:

ภาระกิจอันใหญ่หลวงของน้องบีนนนน มาแล้ววว

ต่อไปจะกินเด็กหรือโดนเด็กกินหนอ  :hao3:

มารอดูครับว่าถ้าโดนเด็กกิน เด็กจะได้กินบีนง่ายๆมั้ย

อีหรอบนี้ โดนเด็กกินชัวร์ๆ 555555
 :hao6:

รออ่านตอนต่อไปนะคะ มาต่อไวๆน้า
สนุกมาก

มารอดูครับว่าถ้าโดนเด็กกิน เด็กจะได้กินบีนง่ายๆมั้ย

:mew1:

รอติดตามนะคะ

ลุ้นแทนตอนจะไปโรงเรียน


คิดหนักไปถึงตอนไป รร. เลยนะ เดี๋ยวรอดูนะบีนจะเจออะไรบ้าง เรื่องนี้เน้น สบายๆ

น่าสนๆ ติดตาม  :pig2:

ขอบคุณครับ

รออออ

มาต่อแล้วน้าาาาา

เปิดเรื่องมาน่าสนุกมากๆคับ รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร้วๆนะคับ

มาต่อแล้วคร้าบบบบบบบ

55555555

โต๊ะทานข้าวแบ๊วๆ สองที่นั่ง << นึกภาพออกเลย เด๋ยวนี้พวกเฟอร์ในห้องทำแบบเหมือนใช้งานจริงลำบากมาก orz


เราว่าถ้าเป็นนักเขียนหน้าใหม่ อาจจะต้องใช้เวลานิดนึงในการดึงคนอ่าน ช่วงแรกๆคนอ่านอาจจะน้อยอยู่ อย่าเพิ่งท้อนะคะ :)

ปูลู หวังว่าน้องเขาจะจำบีนไม่ได้นะ  :กอด1:

ขอบคุณมากครับ สำหรับกำลังใจที่ดี เย่ๆ
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาแล้วครับ พร้อมอ่าน
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 22-07-2015 17:05:24
หลานจะแสบแค่ไหนนะๆๆๆๆ   รอจร้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาแล้วครับ พร้อมอ่าน
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 22-07-2015 17:22:39
มานั่งรอเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาแล้วครับ พร้อมอ่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 22-07-2015 17:50:26
ร.ร. ชายล้วนเสียด้วยนะคะ แล้วแบบนี้บีนจะไม่กลายเป็นแองเจิ้ลที่อยู่ท่ามกลางหมู่มารหรอกเหรอคะเนี่ย >< เพราะเด็กผู้ชายวัยนี้ห่ามๆ กันทั้งนั้น~ :laugh:

ปล. บีนเป็นคนตลกและน่ารักมากๆ เลยค่ะ เราว่าท่าทางคงจะได้ไปทำตัวเปิ่นๆ ให้
ข้าวโอ๊ตดู ก่อนจะได้ตีซี้เป็นเพื่อนกันแน่ๆ
เลยนะค้าา.. :-[
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาแล้วครับ พร้อมอ่าน
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-07-2015 18:07:40
แย่หน่อยนะถ้าชอบคนอายุมากกว่าน่ะ
แต่อีกสักพักสเป็คคงัปลี่ยนเป็นเด็กกรุบกริบเองแหละ.    :impress2: 
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาแล้วครับ พร้อมอ่าน
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 22-07-2015 19:38:17
สนุกคับ ลุ้นเปิดเทอมใหม่จะเป็นยังไง ๕๕๕ จะเข้าไปตีสนิทกับหลานเจ้านายได้ยังไง ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาแล้วครับ พร้อมอ่าน
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-07-2015 21:31:27
จะพาตัวเองไปสนิทกับเป้าหมายยังไงนะ
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๒ ๒๑/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาแล้วครับ พร้อมอ่าน
เริ่มหัวข้อโดย: everlastingly ที่ 22-07-2015 22:44:13
 :hao7: งานนี้สนุกแน่ แต่จะไปสนิทกันยังไง แบบไหน รออ่านตอนต่อไปอยู่นะ
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ )
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 23-07-2015 16:26:06
  ตอนที่ ๓

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

“เอาทรงรองทรงครับพี่  ที่เหมือนเด็ก ม.ปลายครับ แต่ไม่ต้องสั้นมากนะ” 

เมื่อเช้าผมขนของที่จำเป็นมาจากหอเก่าจนเสร็จเรียบร้อยก็ได้รับไลน์เตือนให้ผมไปตัดผมให้เรียบร้อยจากเจ้านาย  ผมก็เลยต้องมาตัดผมในร้านอะไรก็ไม่รู้ ในห้างแลดูน่าจะแพงมาก คุณบิ๊กบอกว่าช่างเค้าฝีมือดี แถมยังต้องไปคุยธุระกับแกต่อ


“เรียบร้อยแล้วครับ” 
ช่างตัดผมบอกว่าตัดเสร็จแล้ว ไอ้เราก็นั่งเกร็ง เพราะกลัวจะตัดออกมาแล้วดูเอ๋อ
แต่เดี๋ยวก่อน  ตายห่าแล้ว   ไหนคุณบิ๊กบอกว่าจะมาจ่ายตังค์ตัดผมให้  หันซ้าย หันขวา  คงไม่แหกกันหรอกนะ หาไม่เจอ

“หาผมอยู่หรอครับ คุณบีน ไม่ต้องกลัวผมจ่ายค่าตัดผมให้แล้ว”  อ้าวโผล่มาเหมือนผี

“ไม่ได้หาซักหน่อยคุณ ผมหมุนคอไปมาดูทรงผมใหม่ต่างหาก” ผมบอกแกไปพลางหมุนทำท่าดูทรงผม กลัวเสียฟอร์มไง

“ เชื่อก็เชื่อ ไปหาที่นั่งคุยกันสบายๆกันดีกว่า” ว่าแล้วก็เดินตามก้นแกไป

.........................................................................

“ผมเอาชาเขียวปั่นครับ”    คุณบิ๊กก็หันไปสั่งพนักงาน

“นี่เป็นบัตรประชาชน  และก็คู่มือนักเรียนที่วันก่อนผมลืมเอาให้ ส่วนบัตรนักเรียนเดี๋ยวค่อยไปทำตอนเปิดเทอม”

คุณบิ๊กยื่นซองสีน้ำตาลหนึ่งให้ผม พูดซะเสียงดังเชียว

“เอ่อคุณ ผมจะโดนตำรวจจับไหมครับ พกบัตรปลอมอย่างนี้”

“ไม่ต้องกลัวหรอก ผมเคลียร์ได้อยุ่แล้ว” คุณเขารับประกันก็ต้องเชื่อเขา

“ว่าแต่ดูไปดูมาก็เหมือนผมพาเด็กมัธยมมาเดินห้างเลยนะ”  คิดว่าผมจะบ้ายอหล่ะสิ

“พอๆ ผมไม่ได้บ้ายอนะคุณ”

..............................

“แล้วผมจะได้รับเงินตอนไหนครับ ให้เอาเลขที่บัญชีให้ไหม”  ไม่ได้งกนะ แต่จะเปิดเทอมแล้ว กลัวไม่มีเงินกินข้าว

“เออใช่ ลืมไป ผมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ผมจะให้เงินคุณเป็นซองนะ เดือนละสองซอง จำนวนเงิน ตามที่กำหนดไว้ อ่ะนี่ซองแรกค่าขนมเด็ก ม.ปลาย ส่วนซองที่สองเงินเดือนรอเอาปลายเดือนนะ”

อ้าว นึกว่าจะให้เงินเดือนล่วงหน้า

“ขอบคุณครับ ” ผมไหว้คุณบิ๊ก ก่อนลงจากรถพร้อมเงิน ๔๐,๐๐๐  กรี๊ด

อยากจะกรี๊ดให้สาวแตก ว่าแล้วพรุ่งนี้ส่งเงินไปให้แม่ดีกว่า เงินเดือนเดือนแรก


เวลาผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์

และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง  ซี๊ดดดดดดดดดดดดดด  อันนี้เสียงเสียวปากสั่นผมเอง อารมณ์มันแบบเหมือนย้ายโรงเรียนใหม่ แล้วต้องเจอเพื่อนใหม่ เพื่อนจะดีไหม จะโดนล้อ โดนแกล้งไหม  คงจะเข้าใจกันใช่ไหมครับ คือ มันตื่นเต้น เมื่อวานคุณบิ๊กก็ได้เข้ามากำชับการทำงานของผมอีกรอบ บอกว่าไม่ต้องเกร็ง คิดว่าตัวเองเป็นนักเรียนพึ่งย้ายเข้าไป จะไม่ให้เกร็งอะไรเลยยังไงเล่า ลองมาปลอมตัวดูเองสิ แกบอกให้ผมเล่าเรื่องราวชีวิตให้แกฟังก่อนจะขึ้น ม.๕ ที่ต้องพูดโกหกขึ้นมาเอง  มันถึงเวลาแล้วหล่ะ

เสื้อผ้าหน้าผมพร้อม ใจพร้อม กายพร้อม เราทำได้ ฮ่าๆผมยืนหัวเราะคนเดียวหน้ากระจกก่อนจะหมุนซ้าย หมุนขวา มองสภาพคนอายุ ๒๑ ย่าง ๒๒ (ผมเข้าก่อนเกณฑ์) ในชุดนักเรียน ม.ปลาย เหมาะสมกับหน้าตาอันใสซื่อบริสุทธิ์จริงๆ

ปิ๊ปๆๆ  เสียงบีทีเอสเตือนก่อนปิดประตู  ผมรีบลงมาจากบีทีเอสเพื่อขึ้นแท็กซี่ต่อไปโรงเรียน  ลงจากรถผมก็เดินไปหน้าประตูโรงเรียน   นักเรียนแถวนั้นก็เริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆ รถก็เยอะ ใจเย็นไว้ไอ้บีน พู่ๆ เป่าลมออกจากปาก


 “อั๊ก ” เสียงผมเอง  ไอ้เด็กบ้านี่   ชนแล้วไม่ขอโทษ เห็นตัวใหญ่กว่าแล้วจะทำไรอะไรก็ได้หรอ ผมบ่นในใจให้เด็กที่มันเดินชน  ว่าแล้วก็โทรหารอง ผอ.โรงเรียนนี้ซะหน่อย ผมดูเส้นใหญ่เนอะ

“ครับ สวัสดีครับ ผมนิธานนะครับ ที่คุณสิทธิคมติดต่อไว้”

“อ๋อครับ เข้ามาที่ห้องผมได้เลยครับ อยู่ที่อาคาร ๑ นะ”
 แล้วอาคาร๑ อยู่ตรงไหน ว่าแล้วผมก็เดินย้อนไปถามยามตรงประตูทางเข้าโรงเรียน

“ตรงไปตามทางนี้นะหนูเลี้ยวขวา เจอสี่แยกตรงไป เลี้ยวซ้ายอีกทีนะ จะเจออาคารหกชั้น มองไปข้างหน้าอาคารจะมีเสาธงใหญ่ๆอยู่ แล้วก็ห้องรอง ผอ.ก็จะมีป้ายติดอยู่ข้างหน้า”

“ขอบคุณครับ”  ขอบคุณยามเสร็จผมก็รีบเดินเร็วไปที่ห้อง รอง ผอ.ทันที เพราะว่ามันใกล้เวลาเข้าแถวแล้ว

“ขออนุญาตครับ”ผมเลื่อนประตูกระจกเข้าไปเมื่อแน่ใจว่าเป็นห้อง รอง

“นิธานใช่ไหม”

“ครับ” ผมตอบอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว

“ไอ้บิ๊กมันตั้งชื่อให้หรอ คนย์ปิยะ  ครูต้องเรียกชื่อนี้สินะ”

รองคนนี้สงสัยรู้จักกับคุณบิ๊กเป็นอย่างดี

“เอาเป็นว่าวันแรกไม่ต้องตื่นเต้นอะไรมากนะ วันนี้ไม่ต้องไปเข้าแถวนะ พรุ่งนี้ค่อยเข้าไป วันนี้คือครูจะให้เราไปที่ห้องเรียนเลย ครูได้ติดต่อครูประจำชั้นไว้แล้วเรียบร้อย เดี๋ยววันนี้เรามานั่งคุยเรื่องต่างๆในโรงเรียนกันก่อนแล้วกัน”

รองแกก็พูดไป กว่าจะเข้าแถวเสร็จ พูดนั่นพูดนี่ คั่นเวลาไปเรื่อยๆ

“อ่ะ ดนย์ปิยะ ถึงเวลาเริ่มทำงานแล้ว สู้ๆนะ ห้อง ม.๕/๕ อยู่อาคาร ๓ ชั้น ๔ นะ ไปถึงครูประจำชั้นก็คงกำลังอบรมนักเรียนพอดี   เชิญครับ”

“ขอบคุณครับครู” ผมไหว้งามๆไปหนึ่งที

“มีปัญหาอะไรติดต่อครูได้นะ”

“ครับ”

ผมเดินออกมากจากห้องรอง พร้อมเดินตรงไปอาคาร ๓ อย่างใจสั่นๆ มันตื่นเต้นจริงๆนะ ไม่รู้ผมเป็นอะไร

ติ๊ง เสียงลิฟต์ ดังขึ้นเมื่อผมถึงชั้น ๔ ของอาคาร ๓ ห้อง ม.๕/๕ ตรงไหนหว่า ขณะที่เดินอยู่ก็มีนักเรียนเดินสวนกันไปมาไม่มาก ที่จริงผมจะถามเค้าก็ได้นะ แต่ไม่ถามดีกว่า ผมเป็นคนชอบค้นคว้า 

เจอแล้วครับเห็นป้ายหน้าชั้นแล้ว ผมถอดรองเท้าก่อน เลื่อนประตูกระจกเข้าไปในห้อง


พรึ่บ  จากในห้องเสียงดังๆอยู่ก็เงียบลง

เสียงนักเรียนชายล้วนในห้องหันมาพร้อม ๆ กันเสียงดังพรึ่บ เอ่อ เอาไงดี ไหว้ครูที่ยืนอยู่หน้าก่อนละกัน

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ ดนย์ปิยะ ใช่ไหมคะ”

“ใช่ครับ”
 
อืม ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมตัวเล็กมาก มองกันมาทางผมคนเดียวเลยทั้งห้อง

“เดินมาแนะนำตัวหน้าห้องนี่เลยค่ะ เอ่อเธอไม่ต้องถอดรองเท้าไว้หน้าห้องนะ ใส่เข้ามาได้เลย ”

อ้าว ไม่ต้องถอดหรอ

“ฮ่าๆๆๆ”

ก็ฮากันทั้งห้องเลยเลยสิทีนี้  แหม ไอ้พวกเด็กเลว  แค่เรื่องรองเท้าก็หัวเราะกันนะ

“สวัสดีนะทุกคน คือ เราชื่อ ชื่อ”  โอ้ยยยย มาติดอ่างอะไรกันตอนนี้   “ชื่อ ดนย์ปิยะ กีรติ นะ เรียกเรา บีนก็ได้”

“ค่ะ เพื่อนใหม่คงตื่นเต้นน่าดู”

หน้าซีดด้วยแหละ ไม่เคยยืนต่อหน้าผู้ชายหลายคนขนาดนี้

“ไปนั่งที่ได้แล้วค่ะดนย์ปิยะ นายปิติพงศ์ใช่ไหม”

ครูถามไอ้เด็กหนุ่มใส่แว่นหน้าตาใสซื่อที่นั่งแถวสอง
 
“ที่ว่างข้างๆเธอว่างอยู่ให้เพื่อนนั่งด้วยนะจ๊ะ”
 
แล้วครูก็บอกให้ผมไปนั่ง ครูผู้หญิงคนนี้เป็นครูประจำชั้นผมเอง ดูใจดี รู้สึกอบอุ่น

ที่นั่งผมอยู่แถวที่สองถัดจากทางหน้าต่าง  ในห้องมีอยู่ ๔ แถว แต่ละแถวนั่งคู่กัน นับได้แถวละ ๑๐ คน ทั้งห้องก็ ๔๐  รวมผมที่มาใหม่ด้วยพอดี

ว่าไปก็หันหน้าไปรอบๆห้องดีกว่า จุดประสงค์คือมองหาเป้าหมาย นั่นไงเห็นแล้ว น้องโอ๊ต นั่งอยู่หลังห้องสุดติดกับประตู ติดถังขยะด้วย  ไม่เหม็นหรอวะ

“ว่าแต่นายชื่ออะไรหรอ”  ผมถามไอ้เด็กแว่นที่นั่งข้างกัน

“กูชื่อ บ๊อบ มึงบีนใช่มั้ย”  เจอกันแป๊ปเดียวขึ้นกูมึง

“ใช่เราบีน ว่าแต่เมื่อไหร่คุณครูจะมาหรอ”

“นั่นไง มึงไม่น่าทักเลย มาแล้ว”  พูดจา ดูมันๆ ไม่ถูกชะตาเลย

ครูวิชาแรกที่จะสอนก็เดินเข้ามาที่ห้อง หัวหน้าห้องก็สั่งเคารพ สองชั่วโมงแรกจากที่ผมดูในตารางสอนเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ตามด้วยชั่วโมงที่สามภาษาไทย ตามด้วยสังคม ตอนเช้าเขาเรียนกันสี่คาบครับ ตอนบ่ายสองคาบ อื้อหือ เอาแล้วไง   ความรู้คืนครูหมดตั้งแต่ ๕  ปีที่แล้ว

แล้วครูก็สอนไปเรื่อยๆ เที่ยงครึ่งก็ถึงเวลาพักเที่ยงของโรงเรียน พอครูเดินออกจากห้องนักเรียนชายทั้งหลายก็ลุกพรึ่บขึ้นเพื่อไปกินข้าวเที่ยง จะว่าไปเดินหนีไอ้แว่นนี่ดีกว่า เผื่อจะได้โอกาสตีเนียนเข้าไปตีสนิทกับน้องโอ๊ต


ผมเดินมาถึงโรงอาหาร   แล้วนี่ต้องเอาเงินเป็นแลกเป็นบัตรเหมือนในห้างด้วยหรอนี่แล้วค่อยซื้อข้าว ซื้อน้ำกิน ดูดีมีระบบ สะอาดสะอ้าน โรงเรียนลูกคุณหนูจริงๆ

ซื้อข้าวแล้วผมก็ยืนมองหาที่นั่ง  ไม่เห็นกลุ่มน้องโอ๊ตจริงๆ คนมันเยอะครับ เพื่อนห้องเดียวกันก็จำหน้าไม่ได้

“นี่แก”  ใครเรียก

“นี่เด็กใหม่ ชื่ออะไรนะ “ ผมหันไปเจอกลุ่มเด็กนั่งโต๊ะเดียวกันเป็นกลุ่มนั่งโต๊ะเดียวกันห้าคน

“เราชื่อ บีน ”  อ๋อ ผมได้แล้วกลุ่มพวกที่นั่งติดหน้าต่าง ห้องเดียวกันกับผมครับ สงสัยจะชวนให้ไปนั่งด้วย

“ไม่มีที่นั่งหรอกนะตอนเที่ยงๆอย่างนี้ มันหมดแล้วจริงๆ เราว่านายไปนั่งที่อัฒจันทร์ก็ได้ ข้างสนามฟุตบอล ใกล้ๆเอง” 

อ้าวก็นึกว่าจะให้นั่งด้วยกัน เห็นว่าว่างอีกที่ ผมมองไปที่ว่าง พร้อมกับจังหวะที่น้องคนนั้นเอาของวางทับไว้ คงไม่อยากให้นั่งด้วยมั้ง

“สงสัยอะไรหรอ” ทำหน้ากวนตีน อดไว้บีน อดไว้

“ไม่มี ไม่สงสัย”

ผมก็ตอบไป ผมเดินออกมาก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก  กินข้างอัฒจันทร์ก็ได้วะ นอกโรงอาหารแต่มองๆไปก็ร่มรื่นดี


...............................................................


ขณะที่นั่งกินข้าว ผมก็กำลังตักคำสุดท้ายเข้าปาก

“นี่นักเรียน มานั่งทำอะไรตรงนี้  ว้าย   มาทานข้าวตรงนี้ไม่ได้นะ เธอไม่รู้กฎระเบียบของโรงเรียนหรืออย่างไร”

อ้าว  ตายแล้วนี่ผมโดนแกล้งหรือนี่

“ขอโทษครับ”  ผมยกมือไหว้ครู น่าจะห้าสิบกว่าแล้ว ดูทรงแล้ว คงเจ้าระเบียบมาก

“ผมพึ่งย้ายเข้ามาใหม่ครับ คนในโรงอาหารเยอะมาก ผมเลยออกมาทานที่นี่ ”  แกก็ทำหน้าเอือมระอา

“คราวนี้ครูยกโทษให้ คราวหน้าทำอย่างนี้ไม่ได้แล้วนะ ”

“ครับๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”
รีบออกมาก่อนโดนบ่น   ผมเดินเข้ามาโรงอาหาร เดินผ่านกลุ่มเด็กเลวนี่ มันก็หัวเราะคิกคักเหมือนเดิม แหมแกล้งคนนี่สนุกกันจังนะ อย่าให้แกล้งคืนก็แล้วกัน

ผมเดินมานั่งตรงโต๊ะม้าหินอ่อนข้างๆสระน้ำในโรงเรียน  ตรงนี้รมรื่นและคนก็ไม่เยอะ เอาหละ ผมคิดว่าต้องหากลุ่มอยู่แล้ว หรือไม่ก็ต้องเข้ากลุ่มน้องโอ๊ต   เอาไงดีคิดไม่ออก  อยากจะร้องไห้  ผมนั่งทำใจ สงบจิตสงบใจแล้วเดินเข้าไปในห้องเรียน  เหลือ
เวลาอีกสิบห้านาทีก่อนเข้าเรียน 

เด็กๆในห้องยังบางตา  ว่าแล้วก็เอาหนังสือที่เรียนเมื่อเช้ามาดูก่อน เพราะว่ามันเป็นคนละเล่มกันครับกับที่เรียนเมื่อ  ๕  ปีก่อน

เฮ้ยๆ ผมเอามือล้วงเข้าไปในช่องใต้โต๊ะ ขยะเต็มช่องเลย ใครเอามายัดอีกหละทีนี้   ฮืมม  ผมถอนหายใจแรง ก่อนเก็บเศษขยะไปทิ้งที่ถังขยะหลังห้อง  มองไปน้องโอ๊ตยังไม่เข้ามาแต่มีน้องที่นั่งข้างน้องโอ๊ตมาแล้ว

“โดนแกล้งหรอนาย” น้องเด็กหน้าใสๆ ดูน่ารักทักผม

“คงงั้นมั้ง” ผมตอบยิ้มๆ

“ชื่อบีนใช่มั้ย เรามิคกี้นะ  เรียกกี้ เฉยๆก็ได้”

ดูแล้วน่าจะนิสัยดีนะ ว่าแต่น้องโอ๊ตไปไหนหละ  ลองถามดูดีกว่า

“แล้วเพื่อนกี้ไปไหนหมดหละ ทำไมมานั่งบนห้องคนเดียว”

“พวกนั้นเตะบอลกัน เราเล่นไม่เป็นหรอก ง่วงด้วย  ว่าจะงีบสักพัก ” 

ยิ่งพูดยิ่งน่ารักเอ็นดูหรือว่าคนนี้แฟนโอ๊ต

“ถ้าอย่างนั้นเราไม่รบกวนนะ” ไปก่อน น้องเขาดูง่วง

“นั่งคุยกันก่อนสิบีน  แล้วทำไมนายถึงได้ย้ายตอน ม.๕ อย่างนี้หละ” นั่นไงคำถามที่คิดว่าต้องได้ตอบแน่ๆ

“อ๋อ  เราย้ายมาจากขอนแก่น  พอดีพ่อแม่เราย้ายไปอยู่อเมริกาแล้วคือเราไม่อยากตามไป  อยู่บ้านก็ไม่มีเพื่อน  ไม่มีญาติ พ่อแม่เราทำงานไม่เป็นที่  เลยย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ  ”

เป็นไง ซ้อมมาดีครับ บอกเขาว่ามาจากขอนแก่นนี่ผมต้องได้ศึกษาจังหวัดนั้นด้วยนะ

โดยคุณเจ้านายก็บังคับให้ผมไปเที่ยวที่ขอนแก่น  ผมก็ขอว่าให้เพื่อนไปด้วยได้ไหมเลยได้ป่านเพื่อนสาวสุดรักลางานไปทัศนศึกษา เผื่อเพื่อนๆถามขอนแก่นเป็นยังไง มีอะไร  จะได้ตอบถูก

“แสดงว่าต้องพูดอีสานได้สิ ไหนพูดให้ฟังหน่อยเราชอบภาษาอีสาน” ตายแล้วพูดไม่เป็น

“ คือพ่อแม่เราไม่ได้สอน  เราก็พยายามหัดพูดนะ แต่พูดไม่เป็นจริงๆ ”
 
ก็เคยได้ยินนะ ประมาณคนภาคต่างๆที่ฟังภาษาถิ่นออก เข้าใจ  แต่พูดไม่ได้เลย  เพราะไม่ได้พูดกันในครอบครัวหรือในหมู่เพื่อน

“หรอน่าเสียดายจัง  นี่บีน  ระวังตัวด้วยนะ  พวกที่นั่งติดหน้าต่างวันนี้โดนพวกเขาแกล้ง วันต่อไปอาจจะโดนมากกว่าเดิมนะ   คือเราอยากเตือน ”  แล้วจะให้พี่ทำยังไงหนูกี้

“แล้วเราต้องทำยังไง ในห้องนี้ดูมีหลายกลุ่มนะ”

“มีสี่กลุ่ม  กลุ่มติดหน้าต่าง  กลุ่มกลางห้อง กลุ่มหลังห้อง แล้วก็กลุ่มเราที่นั่งติดถังขยะ”

“กลุ่มไหนน่ากลัวบ้าง ที่เราต้องระวัง”

“มีแค่กลุ่มที่แกล้งนายนี่แหละ  กลุ่มอื่นไม่น่ากลัวหรอก  แต่ละกลุ่มก็จะมีหัวหน้ากลุ่มนะ กลุ่มเราก็โอ๊ต กลุ่มหลังห้องจะเป็นหัวหน้าห้อง กลุ่มนั่งกลางห้องเป็นกลุ่มเด็กเรียนเก่ง หัวหน้ากลุ่มก็คือ คนที่บีนนั่งข้างๆที่ใส่แว่นนั่นแหละ แล้วก็ติดหน้าต่าง หัวหน้าจะนั่งอยู่หน้าสุด คนที่หน้าตาดีๆ ” 

สงสัยเป็นคนที่แกล้งผมเมื่อเที่ยงนั่นแหละครับ

“สรุปแล้วห้องเรามีหัวหน้าห้อง ๑ คน รองหัวหน้าห้องอีก ๓ คนนะ

“ในห้องดูแบ่งกันเป็นระเบียบดีนะ” 

“เห็นแบ่งกันอย่างนี้แต่ก็เล่นกันได้ทุกคนนะ  กลุ่มหลังห้องเค้าก็จะดื้อๆ ดูแบดบอยหน่อย หัวหน้าห้องเราก็ดูจะชอบพอกันกับหัวหน้ากลุ่มติดหน้าต่าง” 

ไม่น่าหละ ดูแล้วมันใช่ ใช่จริงๆด้วย เรดาร์ผมยังใช่ได้

“ส่วนกลุ่มเราก็สบายๆนะ มีกัน ๔ คน แต่โอ๊ตเค้าเป็นแนวไม่ยุ่งกับคนอื่น ออกแนวเงียบๆ แต่จริงๆโอ๊ตใจดี น่ารักมากนะ  กลุ่มติดหน้าต่างก็ชอบเขานะ แต่เขาไม่เล่นด้วย เอาซะเราก็โดนแกล้งเหมือนกันตอนแรก  เพราะนึกว่าโอ๊ตชอบเรา ทั้งๆที่เรามีแฟนอยู่แล้ว แต่กลุ่มนั้นก็ดูเกรงๆโอ๊ต หลังๆเขาก็ไม่แกล้งเราแล้ว ” 

อ้าวไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกหรอ อ๋อ น้องกี้ที่ผมไปได้ยินเค้าคุยกันในห้องน้ำที่ผับนั่นเอง

“จะเข้าเรียนแล้วเดี๋ยวเราไปนั่งที่โต๊ะก่อนนะ”

คนเริ่มเข้าห้องมาเยอะแล้ว ผมเดินไปทางหลังห้อง ตรงที่กลุ่มเด็กหลังห้องนั่ง

“เดี่ยวหยุดก่อนครับ น้องบีน”

คนในกลุ่มเด็กหลังห้องเอามือกันผมไว้ พร้อมกับเพื่อนมันเอามือมาเขี่ยคางผม ก่อนที่ผมจะย่นหน้าขึ้นหนีมือไอ้เด็กพวกนี้

“ขอมือถือหน่อย” จะเอาไปทำไมวะ

“เอาไปทำไมหรอ”

“เอาไปทำไมหรอ” คนในกลุ่มพูดเลียนเสียงผม

“เอามา ไม่แกล้งหรอก”

หัวหน้าห้องมันพูดขึ้น  พร้อมล้วงเอามือถือผมในกระเป๋ากางเกง มือถือเครื่องนี้เจ้านายเอาให้ผมใช้อีกเครื่องซึ่งยังไม่ได้มีข้อมูลอะไรมาก  มีแค่ไลน์มั้งที่ผมสมัครไว้แล้ว

“รหัสอะไร”  มันปลดล็อคแต่เข้าไปดูอะไรไม่ได้  “ตอบดิวะ”

“๑๒๓๔” 

มันกดเข้าไปในโปรแกรมไลน์ครับ  อันนี้ผมไม่ได้ใส่รหัสไว้ แล้วมันก็กดเข้าไปในคิวอาโค้ด ไอ้เด็กหน้าตาดีในกลุ่มอีกคนก็ยื่นมือถือมันมาถ่ายเอา ทีหลังขอกันดีๆก็ได้เถอะ ไม่เห็นต้องทำอะไรน่ากลัวแบบนี้

“เรียบร้อยครับ คุณหนูบีน  ไม่ต้องตกใจนะจ๊ะ” 

หัวหน้าห้องผมบอก ผมก็รับมือถือเดินออกมา หัวหน้าห้องมันก็บีบก้นผมหมับ ตกใจครับ ผมหันไปค้อนใส่ครั้งหนึ่งก่อนเดินไปนั่งที่โต๊ะ

นั่งลงเก้าอี้ถอนหายใจไปครั้งหนึ่ง ผมก็หันไปมองทางหน้าต่าง หัวหน้ากลุ่มฝ่ายนั้นก็จ้องหน้าผมตาแทบถลน เฮ้อ สงสัยคงเห็นตอนที่สามีนางจับก้นผม ผมก็ทำหน้าเฉยๆ หันมาสนใจคุณครูที่จะสอนในคาบถัดไป

...............................................

เสียงออดโรงเรียนเป็นสัญญาณว่าหมดคาบสุดท้ายแล้ว  เด็กๆก็เก็บของ บ้างก็เดิน บ้างก็วิ่ง บ้างก็กอดคอหยอกล้อกัน วุ่นวายไปหมด หันไปอีกทีกลุ่มน้องโอ๊ตก็เดินออกไปหมดแล้ว เหมือนจะเหลือเพื่อนโอ๊ตอีกคนที่นั่งติดๆกัน ผมจำหน้าได้เพราะเจอน้องเขาที่ผับตอนนั้น  แต่จำชื่อไม่ได้

ผมเก็บกระเป๋าเดินออกมาหน้าห้อง ตรงกับจังหวะไอ้เด็กคนที่เอามือถือมันมาถ่ายคิวอาโค้ดผมไป มันยิ้ม แล้วขยิบตาให้ผม
หล่อตายแหละ ก็หล่อจริงๆแหละ แต่ผมไม่หวั่นไหวหรอก


“เฮ้ๆ  เดี่ยวก่อน เด็กใหม่ๆ ”  ใครเรียกอีกหล่ะ ผมกำลังเดินออกจากลิฟต์ คนก็แน่น เด็กนักเรียนก็ทั้งกวนทั้งแกล้งกันในลิฟต์

“ว่าไง” ผมหันไป น้องคนนั้น น้องคนที่เป็นเพื่อนโอ๊ต

“เห็นกี้บอกว่าเมื่อตอนเที่ยงนั่งคุยกันหรอ ”

“ใช่ๆ”

“เราชื่อไบท์นะ”  อ๋อ จำได้แล้ว คนที่ขอถุงยางจากน้องโอ๊ต  ผมยิ้มไม่รู้จะพูดยังไงต่อ ไบท์เป็นคนหน้าไทย หน้าคมๆ ผิวออกแทนๆ

“แล้วนี่จะกลับบ้านเลยหรอ”

“ใช่  แล้วนายหล่ะ”  ถามไปบ้างก็ดีนะ  บอกตัวเอง

“ว่าจะไปซื้อแบด วันพุธนี้เราคาบเรียนพละนะ ปีนี้เรียนแบดมินตัน”

“จริงหรอ  ดีจัง” ผมออกอาการดีใจจนลืมตัว

“ทำไมดูดีใจขนาดนั้น” ไบท์ถาม

ที่ผมดีใจมากก็เพราะว่าแบดมินตันคือกีฬาประจำตัวผมครับ เล่นในคอร์ทของมหาวิทยาลัย  มาตั้งแต่ปี ๑ จนจบปี ๔ เป็นตัวแทนแข่งกีฬาระหว่างคณะบ่อยๆ นี่คิดว่าจะไม่ได้เล่นแล้วนะ ว่าแต่ไม้แบดก็อยู่ที่หอเก่า ไม่ได้เอามาด้วย

“ปกติเราเล่นแบดประจำ แต่พอย้ายมาที่นี่เลยไม่ได้เล่นนาน  ดีใจที่จะได้เรียน”

“แสดงว่ามีไม้แบดแล้วสินะ ว่าแต่บีนว่างไหม” จะให้ไปช่วยเลือกไม้แน่ๆ เพราะถ้ามือใหม่จะไม่รู้หรอกครับ ว่าต้องเลือกไม้แบบไหน  อันไหน ครั้นจะให้พนักงานแนะนำก็ไม่มั่นใจอีก

“ก็ไม่ว่างนะ”   

“ดีเลย  บีนไปช่วยเราเลือกซื้อไม้แบดหน่อยนะ  เดี๋ยวเราเลี้ยงข้าว”  ตามแผนเป๊ะ ค่อยตีเข้าเรื่อยๆ ทางไบท์ ทางกี้ บ้าง สุดท้ายยังไงก็ต้องได้อยู่กลุ่มโอ๊ต

“ตกลง ไปกันเลยไหม” ผมถาม

“ป่ะ”

....................................................

เราซื้อไม้แบดมินตันเสร็จ  เราก็เดินหาร้านอาหารที่ไบท์จะเลี้ยงผม เอาก็ซื้อด้วยนะ  เห็นแล้วก็อยากได้อย่างใหม่ ไม่ต้องกลับไปเอาที่หอเก่าด้วย  แต่ไบท์นี่เดินไปด้วย เล่นมือถือไปด้วยตลอด สักพักก็มีสายเข้า ไบท์ก็กดรับ พร้อมสะกิดให้ผมหยุดรอ ผมก็หยุดรอทำเป็นยืนมองนู่นมองนี่ แต่หูก็พยายามฟัง

“ครับผม  อยู่ห้าง สักชั่วโมงได้ไหม พอดีไบท์มาซื้อของกับเพื่อน”

“เพื่อน  จริงๆ ” 

“โถ่ เชื่อกันบ้างดิ” ไบท์เริ่มหงุดหงิด

“อย่างนั้น เดี๋ยวไบท์ไปตอนนี้แหละ ไม่เกิน ๒๐ นาที  ฝ้ายรอเราก่อนนะ”  อ้าวแล้วไม่เลี้ยงข้าวกันแล้วหรอ

“บีนๆ วันนี้เราต้องไปก่อนนะ  เราติดธุระด่วน เดี๋ยวติดไว้ก่อน วันถัดไปเดี๋ยวเราเลี้ยง เจอกันที่โรงเรียนพรุ่งนี้เพื่อน”
ไบท์บอกผมอย่างรีบๆ

“โอเค ได้ๆ รีบไปเถอะ  เจอกันพรุ่งนี้”


ผมตอบไป แล้วยิ้มให้ เฮ้อ มองเด็ก ม.๕ ที่วิ่งจากผมไป  อย่างน้อยวันนี้ไบท์ก็เรียกผมว่าเพื่อน กี้ก็มาคุยกับผม ใกล้แล้ว ค่อยๆ ตีเข้าเรื่อยๆแล้วกัน ส่วนวันนี้พอแค่นี้ก่อน  เดินหาร้านอาหารแพงๆ เข้าไปกินตามประสาคนรวยก่อนนะครับ






..........................................................

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามทั้งเข้ามาตอบเข้ามาอ่านนะครับ   :mew1:

วันนี้ตอนใหม่มาแล้ว เดี๋ยวยังไงถ้าเราว่างๆจะเข้ามาตอบทุกคนกลับนะ  :pig4:

วันนี้สวัสดีครับ  :katai5:

หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-07-2015 16:48:06
เปิดเทอมวันแรกก็เจอดีเลยนะคะบีน ^^ สู้ๆ เข้าน้าา~
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-07-2015 17:41:46
สู้ๆนะพี่บีน
กลัวจะโดนเด็กมันแกล้งหลอกจนเสียศูนย์จัง
มีอะไรต้องบอกให้เจ้านายช่วยนะ.  :mew1: 
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Robinhood.ha ที่ 23-07-2015 18:07:02
ใกล้แระๆ 555 กลมกลืนดีจริงๆนะบีน รอตอนต่อไป
+เป็ดให้กำลังใจคนเขียน จะได้มีแรงมาต่อไวๆ  :mc4:
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 23-07-2015 18:50:33
สนุกคับ อ่านแล้วอิจฉาบีนมากๆ อยากทำงานแบบนี้บ้าง ๕๕๕ เปิดเทอมวันแรกก็มีคนขอไลน์เอาไว้จีบซะแล้ว สงสัยจะเสน่ห์แรง
  รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 23-07-2015 20:39:38
สู้เขานะน้องบีน  :laugh:
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ziqh.leo ที่ 24-07-2015 12:04:56
มาเรียนวันแรกก็ดูวุ่นวายเลยนะ 555
คนนั่นแกล้ง คนนี้อ่อย 5555

รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 24-07-2015 19:25:42
เข้ามาไม่ทันไรก็โดนบีบก้นซะแล้ว..  ชีวิตโรงเรียนท่าจะแซ่บหลาย
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 24-07-2015 20:07:01
รองับ
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 25-07-2015 05:17:26
สู้น่ะบีน ติดตามจ้า มาต่อไวๆน่ะ สนุกมาก 5555+
หัวข้อ: Re: >!<.ม.ปลายอีกครั้ง.>!< // ^^" ( ตอนที่ ๓ ๒๓/๐๗/๒๕๕๘ ) // มาลงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 25-07-2015 08:58:57
 :hao3:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ ( ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘ ) / หน้าที่ ๒
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 28-07-2015 15:32:34
ตอนที่  ๔ :katai5:



“เป็นไงบ้างบีน ไปโรงเรียนวันแรก สนุกไหม”

เจ้านายโทรมาหาผม  ขณะที่ผมกำลังจัดตารางเรียนอยู่ ตลกดีนะครับ ถึงภายนอกจะดูเนียนๆไปตามเขาก็เถอะ แต่เด็กโข่งอย่างผมนี่ยังมานั่งจัดตารางเรียน  จัดสมุดหนังสืออยู่

“ก็ดีครับ แต่ผมยังไม่ได้ทำความรู้จักกับน้องโอ๊ตหรอกนะครับ  แต่รู้จักกับเพื่อนในกลุ่มของน้องเขาแล้ว”

“วันแรกๆ อาจต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ก็ได้  สู้ๆนะ”

“ครับ  ขอบคุณครับ”

“ยังไงก็พักผ่อนแล้วกัน มีปัญหาอะไรโทรบอกผมได้ตลอดนะคุณบีน”
แกก็วางสายไป

วันนี้ก่อนนอนผมก็ขอโทรไปคุยกับป่านก่อนดีกว่า  เม้าประสบการณ์การเข้าเรียนโรงเรียนชายล้วนแบบนี้

วันที่สองของการเรียน  วันนี้ผมต้องมาเข้าแถวด้วยครับ  โรงเรียนนี้เขาเข้าแถวในโรงยิม ตามประสาคนไม่เคยเรียนโรงเรียนชายล้วนอย่างผมก็มึนเหมือนกันครับ ผู้ชายเยอะแยะไปหมดอย่างกับตอนไปเข้าค่าย รด. เลย

เคารพธงชาติเสร็จพวกนักเรียนก็นั่งในแถวฟังผู้อำนวยการมาอบรม พูดนู่นนี่ก็ปล่อยเข้าห้อง  ระหว่างทางเดินก็มีอีกเรื่องที่แปลกใหม่ครับ นักเรียนบางคนก็กอดคอกันอันนี้ปกติ แต่ที่ไม่ค่อยได้เห็น  ผมสังเกตเห็นบางคนจับมือถือแขนกันนี่แหละ

“บีนๆ” อ้าวกี้นั่นเอง ตอนเข้าแถวผมนั่งอยู่ข้างหลังเลยไม่เห็นกี้

“หวัดดีกี้” ผมทักกี้ตอบ

“อ๊อฟ โอ๊ต นี่บีน นะ ”

“เออดีหว่ะ” น้องอ๊อฟทักผม หุ่นจะอวบๆหน่อย 

“หวัดดี”

น้องโอ๊ตหันมาทักผม แล้วหันกลับ สีหน้าไม่ได้แสดงว่าเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู  ทำให้ผมเดาใจไม่ออกเลยว่าน้องเขาคิดอะไร ยังไง

“ส่วนนี่ไบท์”  กี้แนะนำผมต่อ

“รู้จักกันตั้งแต่เมื่อวานแล้วกี้ เมื่อวานบีนไปช่วยเราเลือกไม้แบดหน่ะ”

“อ้าวหรอ ดีๆ รู้จักกันไว้” กี้เค้าก็อัธยาศัยดี

เราเดินกันเข้าห้องไปเรียนตอนเช้าก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ถามว่ายากไหม ก็ยากนะเคมี ชีวะ อยากจะร้องไห้
พักเที่ยงก็ตามเดิม  ผมกลัวเขาแกล้งเอาอะไรมายัดไว้ใต้โต๊ะ เลยทำทีเป็นว่าลุกช้า กลุ่มน้องโอ๊ตก็เดินลงไปแล้วทำให้ไม่ทัน

“ ช็อกโกแลต ”

อยู่ดีๆก็มีคนยื่นช็อคโกแลตให้ผม  ผมหันกลับไป  อ้าวนี่มันไอ้เด็กที่แอดไลน์ผมมานี่นา

“ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ” 

ผมยื่นมือรับช็อกโกแลต พร้อมกับถามชื่อน้องเขาไป

“ชื่อ บอย  เมื่อคืนทักไลน์ไปทำไมไม่ตอบวะ”

บอยถามแบบหน้ายิ้มๆ เออนี่มันก็น่ารักจริงๆนะ ไม่ได้ๆ จะเขว ออกนอกลู่นอกทางไม่ได้  เรามาทำงาน  ผมยิ้มตอบ

“ขอบคุณมากนะ เดี๋ยวเราไปกินข้าวก่อน”

“โอเค”    บอยบอกพร้อมยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร เอาเถอะวะเด็กมันชอบ ไม่อยากขัด

ผมเดินเข้าไปโรงอาหาร ซื้อข้าว น้ำ  เรียบร้อย  ก็สู่บรรยากาศเดิมๆครับ  ไม่มีกลุ่ม  ไม่มีที่นั่ง

“เฮ้ย บีน ไม่มีที่นั่งหรอวะ ”
 
อุ้ย ตาเถร  ใครมากอดคอโดยการโฉบมาจากข้างหลัง  ข้าวเกือบหก

“นั่งกับไบท์ก็ได้ ”

ไบท์บอกผมไปด้วย เดินไปด้วย แขนมันก็ลากคอผมให้ไปนั่งด้วย

เดินมาถึงโต๊ะก็เจอเพื่อนๆอีกสามคนครับ มี อ๊อฟ  กี้ และก็น้องโอ๊ต  ค่อยโล่งใจหน่อยวันนี้มีเพื่อนนั่งกินข้าว  แถมเป็นกลุ่มน้องโอ๊ตอีก 

“บีนๆ มานั่งข้างกี้มา”
 
น้องกี้ก็เรียกผมไปนั่งข้างตามประสาเด็กอัธยาศัยดี  ส่วนอ๊อฟก็มุ่งมั่นอยู่กับอาหารเที่ยงสมกับเป็นเด็กอ้วน  ส่วนโอ๊ตก็ดูช้าๆ เนิบๆ เฉยๆ จะดูมีความสุขก็ไม่ใช่ ดูทุกข์ก็ไม่เชิง

“จ้องหน้ากูมีอะไรติดหน้ากูหรอ”  อุ่ย น้องโอ๊ตทักขึ้นมา

“ไม่มีอะไรหนิ  เราดูรูปภาพที่ติดอยู่บนหัวนายหน่ะ”

ผมปฎิเสธไปพร้อมมอบความผิดให้กับรูปภาพผลไม้ที่ติดไว้ข้างฝาผนังโรงอาหาร 

...........................................................................


“เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำก่อน รอกี้ตรงนี้กับเพื่อนก่อนนะบีน”

กี้บอกผมให้นั่งรอกับเพื่อนๆทั้งสามไปก่อน

เด็กพวกนี้หลังกินข้าวเสร็จเขาจะไปนั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนตรงสระน้ำข้างโรงเรียน   บอกว่าร่มรื่นดี
ก็คงดีแหละ วันก่อนผมก็ไปนั่งเซ็งมา

“ป่ะ ไปกันเถอะ”  กี้กลับมาพร้อมน้ำผลไม้  เพื่อนๆก็เดินตามก้นกี้ไป  นี่สรุปใครหัวหน้ากลุ่ม


มาถึงที่  ผมก็นั่งฟังโอ๊ตกับกี้คุยกัน   สายตาผมมองไปทางอื่นนะ แต่ก็เงี่ยหูฟังตามระเบียบ

“วันนี้ไม่ว่างเลยหรอ”   โอ๊ตถาม

“กี้ไม่ว่าง จะไปหาพี่แทน”

“แต่กูอยากดูหนังเรื่องนี้มากเลยนะ”

“ไปดูกับไบท์กับอ๊อฟสิ ”

“ก็กูอยากดูกับมึงไง อยากดูกับคนอื่นกูก็คงชวนเค้าไปแล้ว ไปหาทำไมไอ้แทน มันคิดจะสนใจมึงไหมกี้ ”


“ไปห้องน้ำไหมบีน  ไบท์ปวดเยี่ยว”

ไบท์ชวนผมคงปวดเยี่ยวหรือว่าขี้เกียจฟังคนทะเลาะกันก็ไม่รู้

“เออ ไปๆ” อันนี้ผมปวดจริง

“ไปไหมมึง ” ไบท์ถามอ๊อฟ

“ไม่หว่ะ กูจู๋ใหญ่ กักเก็บฉี่ได้นาน”  ไอ้อ๊อฟนี่ก็สรรหาคำตอบ

“ไอ่สัด อันเท่านิ้วก้อย ฮ่าๆ” ไบท์ก็แหย่คืน   

“ไอ้โอ๊ต มันกะจะเครมกี้อยู่หน่ะ กี้ช่วงนี้มันระหองระแหงกันกับแฟน เป็นนักร้องตามผับ   แต่แม่งไอ้พี่แทนสาวติดเยอะไปหน่อย ไอ้กี้มันก็ขี้น้อยใจ เค้าก็คงขี้เกียจเอาใจ เลยอย่างๆห่าง ตอนนี้ก็ต้องลำบาก  ตามง้อ ตามเฝ้าเค้าถึงห้องซ้อมดนตรี บางวันก็ไปรอเค้าที่ผับ  กูเห็นแล้วเหนื่อยแทน”

ไบท์มันคงเห็นผมทำหน้างง สงสัยในตัวเพื่อนใหม่ที่ทะเลาะกัน    แล้วมันก็อธิบายขยายความต่อ

“แล้วไอ้โอ๊ตก็ลงทุนพาเค้าไปง้อแฟน พาไปส่งบ้าน ไอ้กี้  ช่วงนี้กี้มันฐานะไม่ดีเท่าไหร่ พ่อแม่ก็พึ่งเสียไปช่วงสงกรานต์เมื่อที่

ผ่านมา มันก็อยู่บ้านคนเดียว นานๆป้ามันจากต่างจังหวัด  ”

“แล้วทำไมกี้ไม่เลือกโอ๊ตหล่ะ”  ผมก็ถามไปแบบใสๆ

“ไอ้กี้มันไม่ชอบคนแนว  เจ้าชู้หน่ะสิ ไอ้โอ๊ตมันก็ไม่ได้เจ้าชู้ขนาดนั้น แค่ว่าคนมาจีบมันเยอะ มันเป็นคนที่ปฎิเสธคนไม่เก่งแถมเอาใจคนเก่ง แต่ว่าพี่แทนก็สาวติดเยอะ กูก็งง กี้ก็คงรักพี่แทนมากด้วยหล่ะ”

บีนก็งงนะไบท์

“เด็กสมัยนี้เนาะ” อ้าวพลั้งปาก ตายห่าละ

“พูดเหมือนผู้ใหญ่เลยอ่ะมึง ฮ่าๆ ” เออจริง  ผมก็หลุดไป 

“ว่าแต่ก็มึงนี่  พูดกู  มึง  ได้ใช่มั้ยวะ  คงไม่เป็นอะไรใช่ไหม” 
น้องเขาคงเกรงใจรู้จักกันได้ไม่นานก็ขึ้นกูมึง

“ได้สิไม่มีปัญหา  แต่เราจะเรียกไบท์ว่า ไบท์  แทนตัวเราว่า เรา  แล้วกันนะ  เราไม่ชิน”
ผมไม่ชินจริงๆนะครับ  ที่จริงพวกนี้ผมต้องเรียกเขาน้องด้วยซ้ำ  จะไปพูดกูมึงกับเขาก็ดูแปลกๆ ส่วนเขาจะกูมึงกับเราอันนี้ไม่มีปัญหา เพราะเขาไม่รู้

“โอเค ”  ไบท์ตอบผมพร้อมกับเข้ามากอดคอ

“ขอบคุณมากนะ”
ขอบคุณมากนะไอ้หนู พี่มีที่พึ่งแล้ว เป็นหนุ่มน้อยรูปร่างดี หน้าตาดี แล้วยังใจดีอีกเฮ้อ ทำไม ตอนเรียนมัธยมไม่มีแบบนี้มั่งนะ 

“ไปๆ ไม่ต้องมาทำซึ้ง” 

กลิ่นเหงื่อจางๆของเด็กหนุ่มนี่มันหอมดีจริงๆ 

ไม่ได้นะบีน  จะคิดแบบนี้ไม่ได้



เวลาเริ่มใกล้บ่ายโมงครึ่งพวกผมก็เดินขึ้นมาบนชั้นเรียน

“บีนๆ มึงอยากมานั่งกับพวกกูป่าว เดี๋ยวจัดให้”  อ๊อฟมันถามขึ้นก่อนจะเดินถึงห้อง

“ได้ ขอบคุณมากอ๊อฟ”  ตอบไปอย่างรวดเร็ว อย่างนี้ก็ได้ใกล้เป้าหมาย

“มึงเรียนเก่งหรือเปล่า  กูจะได้ลอก ”

เย้ๆ สุดท้ายโอ๊ตก็พูดด้วยแล้ว ถึงจะถามเรื่องลอกก็เถอะ อย่างน้อยก็เป็นเรื่องเรียน ฮ่

“ก็พอได้อยู่นะ”

ผมตอบไปอย่างนี้เพราะตอบว่าเก่งเดี๋ยวเจอยากๆจริงๆ แล้วจะเงิบเอา

“เฮ้ย สุวิทย์ เห็นมึงบ่นเมื่อเช้าว่ามองไม่เห็นกระดานหรอว่ะ ย้ายไปนั่งแทนไอ้บีนสิ เดี๋ยวกูจะให้บีนมานั่งแทน”

อ๊อฟมันให้สุวิทย์เด็กที่นั่งหลังห้องที่เป็นแถวข้างๆกับแถวของโอ๊ต  นึกออกไหมครับ  แถวติดหน้าต่างคือแถวแรก  แถวที่ผมจะนั่งคือแถวที่สาม ที่นั่งสุดท้ายฝั่งทางขวา ติดกับกี้และก็โอ๊ตที่อยู่แถวที่สี่ติดประตูหลังพอดี  ดีๆ ใกล้ได้อีก

“เรียบร้อยมึง เอาของมานั่งได้เลย เชิญครับ” อ๊อฟผายมือเชิญ

แต่เอ๊ะที่นั่งของสุวิทย์ตรงนี้มันนั่งคู่กับใครนะ  ผมจำไม่ได้   เผอิญคนที่นั่งคู่ข้างๆยังไม่ขึ้นมา  ผมก็นั่งเตรียมตัวเอาหนังสือขึ้นมาเรียน

“บีนๆ สลับที่กันไหม”  กี้ที่นั่งข้างๆผมอีกแถวถามขึ้นมา

“ทำไมหล่ะ” ผมถามกลับ

“ไม่มีอะไรหรอกวันเดียวเอง” 
ผมว่ากี้กับโอ๊ตคงงอนกันแน่ๆ  แล้วยิ่งย้ายที่กันแบบนี้โอ๊ตยิ่งไม่งอนไปมากกว่านี้หรอ

“ได้ๆ”  ยิ่งดีสิครับ  ได้นั่งข้างน้องโอ๊ต

สรุปคือกี้ย้ายไปนั่งแทนผมชั่วคราว  และคนที่นั่งข้างกี้ที่ที่จริงผมต้องนั่งด้วยก็คือ บอย นั่นเองครับ นี่ถ้าถึงพรุ่งนี้แล้วจะมีสมาธิเรียนไหมนี่  หวังว่าเด็กบอยจะคงไม่หยอด  ไม่จีบผมเกินไปนะ

กำลังคิดๆอยู่หันหน้าไปทางกี้  ก็เจอเด็กบอยโผล่หัวออกมาจากหัวของกี้ที่บังอยู่ พร้อมยิ้มให้ผมจนปากแทบฉีก  ผมก็อมยิ้มตอบ  ก็ดูจริงใจดี ถือว่าหาพักหาพวกไว้เยอะๆแล้วกัน

.................................................................................................

จะว่าไปนั่งดูใกล้ๆน้องโอ๊ตนี่หล่อเอาการเลยครับ  หน้าหล่อใสเนียนเชียว ดูเข้ากับผมสกินเฮดที่เริ่มยาวแล้ว ผมกำลังนั่งชมเด็กที่นอนหลับอยู่ ในคาบสุขศึกษา ชั่วโมงสุดท้ายของวันนี้   

เออจริงสิ ตามหน้าที่แล้วต้องปลุก

“โอ๊ตๆ ตื่นๆ เดี๋ยวโดนครูว่านะ”

“อืม”

“โอ๊ต ตื่น” ดึง ดึ่ง ดึง ดึ่ง ดึ่ง ดึง ดึ่ง ดึง อ้าว หมดเวลาพอดี

“อ้าวหมดเวลาแล้วหรอ ขอบใจที่ปลุก ” ไม่ได้จะปลุกอย่างน้านน  จะปลุกขึ้นมาเรียน

“อ้าวเดี๋ยวการบ้านครูจะให้นักเรียนวาดรูประบบสืบพันธ์ของเพศหญิงมานะคะ”
อุ้ยครูสั่งการบ้านจดก่อนๆ   ผมก็ดูจริงจังกับการเรียน

“ฮ่าๆๆๆ ฮิ้ววว” คิดลึกหล่ะสิเด็กพวกนี้ ครูเค้าคงให้วาดช่องคลอด รังไข่ ไปอะไรอย่างนี้

“อะไรคะนักเรียน ครูให้วาดพวก รังไข่ ช่องคลอด มดลูกจ้า ไม่ได้ให้วาดอย่างนั้น” นั่นไงเป๊ะมั้ย คนเค้าเรียนมาก่อน

“อ้าว แล้วนี่โอ๊ตไม่จดการบ้านหรอ ” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นโอ๊ต เก็บของเข้ากระเป๋าเรียบร้อย

“ก็มึงจดแล้วไง อังคารหน้าส่ง เดี๋ยวกูค่อยมาลอก”  โอ๊ตตอบผมหน้าตาเฉย


โอยยย ตายแล้ว จะแก้ปัญหายังไงดีวะนี่


...


หลังจากกลับจากโรงเรียนผมก็กลับไปอาบน้ำพร้อมออกมากินข้าวข้างนอกครับ
ผมกินข้าวเสร็จก็ปาไปสองทุ่มแล้ว  วันนี้ว่าจะเดินซื้อเสื้อผ้าให้ดูสมวัยเด็ก ม.ปลายใส่ก่อน ค่อยจะกลับ แต่เอ๊ะ
สายตาผมมองไปที่ร้านกาแฟชื่อดังที่ผมกำลังจะเดินผ่าน 

อ้าวนี่กี้หนิ  กี้เห็นผมก็โบกมือให้  ผมก็ยืนรอให้กี้เดินออกมากหา เผื่อได้คุยกัน

“ มาทำอะไรหรอบีน”

“พอดีเรามากินข้าว  แล้วนี่กี้มากินข้าวเหมือนกันหรอ”

“ไม่หรอก  เรามาทำธุระที่ที่ทำงาน ”

“อ้าวนี่ทำงานพาร์ทไทม์ด้วยหรอ  เก่งจัง”

เรียนก็เรียนเอกชนนะ อ่อจำได้แล้วที่ไบท์บอกว่ากี้อยู่กับป้า

“เราอยากหาตังค์ใช้เองบ้าง  อยู่กับป้าแล้วเกรงใจ”  อย่างนี้นี่เอง

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวเราไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้นะบีน”

“จ้า เจอกันๆ”

คือน้องเค้าดูเคะมาก ก้มดูตัวเองแล้ว

ผมเองก็เคะตัวแม่เหมือนกันหรอกน่า ฮ่าๆ


และแล้ววันศุกร์ก็มาถึง  วันนี้เพื่อนๆกลุ่มผมชวนกันไปดูหนังกันหลังเลิกเรียน  มีหรอผมจะไม่ไป
รู้จักกันมาได้  สี่ห้าวัน เพื่อนๆก็โอเคดีนะ จากที่ดูว่าเจ้าชู้ หน้าม่อ แต่เห็นอีกด้านก็แมนดีเหมือนกัน อยู่กันง่ายๆสบายๆ ตามแบบผู้ชาย จะติดก็แค่โอ๊ตที่จะดูคุณหนูหน่อย โน่นไม่ได้ นี่ไม่ได้ เดินกอดคอน้องกี้ยังกะกลัวจะพลัดหลงกัน โกรธง่ายหายเร็วกันจริงๆ

แต่สองคนนี้ถึงจะหายโกรธกันแต่กี้ก็ยังไม่กลับมานั่งที่เดิมนะครับ  กลายเป็นว่าผมต้องนั่งเรียนข้างๆ โอ๊ต มาได้สี่วันแล้ว พูดคุยกันบ้านนิดๆหน่อยๆ ก็ดีหน่ะสิ  ตามแผนเลยทีนี้

“เป็นไรหรอมึง ทำไมมองคู่นั้นแปลกๆ”

ไบท์ถามผมขณะที่เรากำลังขึ้นบันไดเลื่อน สองคนนั้นยืนกอดคอกันห่างกับผมหลายขั้น ผมกับไบท์ยืนห่างกันขั้นหนึ่ง ส่วนไอ้อ๊อฟนี่เล่นมือถืออยู่

“หรือว่าอยากมีแบบนั้นบ้าง มาๆเดี๋ยวกูกอดคอมึงเอง”

“ไม่ๆ คือสงสัยเฉยๆ ว่าไม่อายคนอื่นหรือไง”
ผมปฏิเสธ มือไม้ปัดมือไอ้ไบท์ออก นี่จะปีนเกลียวหรอไอ้เด็กม.๕

“กูว่าสนุกนะ  บู๊ทั้งเรื่อง ตื่นเต้นดี”
ไอ้อ๊อฟวิจารณ์หนังขณะที่พวกเรา ๕ คนกำลังสั่งอาหาร ในร้านอาหารซีฟู๊ดสุดหรู โดยโอ๊ต เอ่ยปากว่าจะเลี้ยง  ลาภปากไอ้บีนเลยหล่ะทีนี้

“กูว่าไม่เห็นสนุกเลย  ดูไม่รู้เรื่อง”
โอ๊ตนั่งบ่นน่าเหมือนพึ่งตื่น ขณะมือกำลังปิดเมนูอาหารที่พึ่งสั่งเสร็จไป

“จะสนุกได้ไงหล่ะโอ๊ต กี้เห็นโอ๊ตหลับตั้งแต่กลางเรื่อง ตื่นอีกทีก็หนังจบ แถมเอาหัวมาหนุนไหล่เราอีก  หนักก็หนัก”
ฮ่าๆ นี่น้องมันหลับหรอกหรอ

“ก็ไหล่ตัวเองนุ่มนิ่มดีนี่ครับ”  โอ๊ตบอกกี้ แต่คนในโต๊ะได้ยินหมด พร้อมเอาหัวไปไถไหล่กี้

“พอๆ เลยพวกมึงไม่ต้องมาหวานแถวนี้  โน่นห้องน้ำเลย ไปๆ”   ไอ้อ้วนอ๊อฟ กัดเพื่อนแบบขำๆ

“แต่ก็นะโอ๊ต ทีหลังอย่าหลับในโรงแบบนั้นอีกนะ เสียดายเงิน”  กี้บ่นโอ๊ตเบาๆ

“กับเงินแค่ ร้อยสองร้อย นิดเดียวเอง”
โอ๊ตตอบกี้หน้ามึนๆ แหมเงินตั้งเกือบสองร้อย ไหนๆแล้วก็ขอสั่งสอนหน่อยเถอะ

“ว่าอย่างนั้นมันไม่ถูกนะโอ๊ต เงินสองร้อยนี่คนจนๆ เค้าใช้ได้หลายวันเลยนะ มันมีค่ามากเลยนะ สำหรับคนที่ไม่มีตังค์ ไม่มีข้าวจะกิน เราว่าพวกเราใช้เงินให้รอบคอบจะดีกว่ามั้ย”

ผมพูดจบประโยคด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา คือพูดออกไปไม่รู้จะสอนพวกเด็กๆถูกรึเปล่า แต่ตอนที่พ่อผมเสียใหม่ๆ แม่ที่เป็นแม่บ้านไม่มีอาชีพอะไร ต้องไปรับจากเป็นแม่บ้าน บ้านคนอื่น  กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทลำบากแทบแย่ แถมพ่อยังเป็นหนี้คนอื่นเยอะ มาทวงทุกอาทิตย์ เงินร้อยสองร้อยนี่กินกันได้สองสามวันเลยแหละ

“แล้วมึงคนเป็นคนจนหรอวะ ทำไมรู้ดีจัง” ตายแล้วจะว่ายังไงดีล่ะ

“เอ่อคือพอดีบีนเห็นคนงานที่บ้านเขาใช้เงินกันประหยัด  เลยลองเอามาคิดดู” ผมตอบไปนี่ ตรงคำถามที่มันถามไหมนี่

“แล้วมึงเป็นใครถึงมาสอนกู รู้จักกูได้กี่อาทิตย์เชียว” น้องมันถามแบบกวนตีนๆ แล้วจ้องหน้าผม

“เอ่อ คือ .....” ผมพูดไม่ออก นี่ผมกลัวน้องมันหรอ ไม่นะ  ก็แค่เด็ก ม.๕ เอง

“ก็แค่อยากเตือน” ผมก็ตอบไปข้างๆคูๆ

“พอๆ อาหารมาแล้ว กินกันเถอะ”

ไอ้ไบท์คงเห็นท่าไม่ดี เลยตัดบทไปก่อน

ยอมรับว่ากินไม่อร่อยเลยครับมื้อนี้ ข้าวเค้าก็เลี้ยง ยังจะไปสอนเค้าอีก  แต่คิดอีกด้านมันก็เป็นหน้าที่ผมนะ หรือว่าผมสอนน้องเค้าผิดช่วงไปเอง เฮ้อ เหนื่อย




เช้าวันเสาร์ที่แสนสบายของผม  วันนี้ผมมีโอกาสได้ตื่นสายกับเขาเสียที  ว่าไปแล้วก็บิดขี้เกียจสักสิบรอบดีกว่า  กว่าผมจะทำนู่นทำนี่เสร็จเวลาก็เดินไปถึง สิบโมงเช้าแล้ว  วันนี้ผมแต่งตัวออกจากห้องกะว่าจะไปซื้อของใช้เข้าห้องเสียหน่อย

ติ้ง

บอย  -  บีนๆ บอยเองทำไมไม่ตอบกันเลย”

เด็กบอยเองครับ น้องเขาทักไลน์ผมมาเป็นอาทิตย์  ผมยังไม่ตอบอะไร
บีน    -  ว่าไง

บอย  -  ทำอะไรอยู่  เพิ่งตื่นหรอ

บีน    -  ตื่นนานแล้ว กำลังจะไปข้างนอก

บอย  -  ไปทำอะไร 

บีน    -  ไปซื้องของใช้หน่ะ

บอย  -  แป่ว บอยว่าจะชวนบีนไปดูหนัง

บีน    -  ไว้คราวหน้าแล้วกันนะ  เดี๋ยวเราไปก่อน

บอย  -  เดี๋ยวๆ
           ให้เราไปซื้อของเป็นเพื่อนเปล่า

...............................................................................................


สุดท้ายผมก็นัดกับเด็กบอยครับ  เรามาเจอกันที่ซูปเปอร์มาเก็ตในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆกับคอนโดผม  ผมเลือกของ เด็กบอยเข็นรถ   สบายดีเหมือนกันนะ

เราคิดเงินกันเสร็จผมก็ออกปากชวนบอยไปหาอะไรกินกัน ยังไงเค้าก็อุตส่าห์ช่วยมาเป็นเพื่อน  เวลาก็เกือบจะบ่ายโมงแล้ว

“แล้วจะทำอะไรต่อจากกินข้าวเสร็จหรอบีน”  เด็กบอยถาม

“เราว่าจะกลับไปห้อง  ยังไม่ได้ทำความสะอาดห้องเลย ” อยู่ห้องมาเกือบเดือนผมยังไม่ได้เก็บกวาดเลยครับ ตั้งแต่มาอยู่ใหม่ๆ

“ให้บอยไปช่วยนะ  บีนอยู่คนเดียวหรอ”  รุกหนัก  พุ่งจริง ครับ

“ไม่เป็นไรดีกว่า  เราเกรงใจเอาเป็นว่า   วันจันทร์เจอกันที่ โรงเรียนแล้วกันนะ”

“โถ่ น่าเสียดาย” บอยทำหน้าเสียดายแบบน่ารักๆ โอย  อดปลื้มไม่ได้ แต่ต้องห้ามใจไว้นะบีน
 

ผมกลับมาถึงห้องก็วางถุงของใช้  ของสอย  ไว้กลางห้องครับ  เปิดตู้เย็นรินน้ำมาดื่ม  พร้อมคิด  จะทำอะไรต่อดี  จัดห้อง จัดของก่อน  หรือทำความสะอาดก่อน

บอย  -  จัดของยังบีน

บีน    -   ยังเลย  ทำไมหรอ

บอย  -  เปล่านึกว่าจัดแล้ว

บีน    -  ต้องมีอะไรแน่ๆ

บอย  -  เปิดดูดิ อยู่ถุงไหนไม่รู้

บีน    -  เอายาบ้ามายัดไว้หรือเปล่านี่

ผมค้นหาของแปลกปลอมในถุง  มันมีตั้งหลายใบ  กว่าจะหาเจอ

นี่ไงเจอแล้ว  กล่องเฟอเรโร่ รูปหัวใจ  ช่วงนี้ยังมีอยู่หรอนี่  มันไปหามาจากแผนกไหน  แล้วเอามายัดตอนไหน

ติ้ง

บอยตอบมา

บอย  -  ให้นะ

บีน    -  รู้ได้ไงว่าชอบช็อกโกแลต

บอย  -  วันก่อนเราให้บีนไป  เราแอบเห็นบีนเดินไปกินไปหน่ะ  หน้าตาตอนกินดูชอบ  วันนี้เราเลยซื้อให้อีก

จริงด้วยที่วันก่อนผมรับช็อกโกแลตจากเด็กบอยมาแล้ว  ตอนที่เดินไปโรงอาหารเกิดหิวข้าวขึ้นมาก่อน  อดใจไม่ไหวเลยกินช็อกโกแลตตอนนั้นเลย ไม่นึกว่าเด็กบอยจะเดินตามแล้วแอบดู

บีน    -  ขอบใจนะบอย

บอย  -  บอยเต็มใจ
           สติ๊กเกอร์รูปหัวใจ

ไอ้เด็กนี่จีบผมแน่ๆ

ผมนั่งจัดแจงของออกจากถุง  พร้อมมองไปที่กระจกที่ตั้งอยู่ตรงห้องรับแขก 




นี่ผมยิ้มหรอ  ยิ้มแบบเขินๆ  :hao7:




..........................................................................
ตอนที่๔  มาแล้วหลังจากหายไปหลายวัน  เพราะติดภารกิจด่วน

สัญญาว่าตอนต่อไปจะรีบมาต่อนะครับ   :mew1:

 :katai3:











หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-07-2015 15:54:15
บีนจะไหวไหมล่ะคะเนี่ย เพิ่งได้พูดอะไรที่เป็นการเป็นงานกับน้องโอ๊ตได้แค่ประโยคเดียวก็ถูกดุเข้าเสียแล้วน่ะค่ะ :mew2:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-07-2015 16:12:04
ง่อววววววว

ตกลงใครพระเอก ตอนแรกเดาว่าเป็นคุณเจ้านาย ><

แต่น้องบอยก็น่ารักนะ!

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-07-2015 16:30:13
อุต๊ะ มีแววจะโดนเด็กกิน
เคะตัวแม่  :hao6: 
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-07-2015 16:36:16
 :mew1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 28-07-2015 16:58:20
รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ ตอนนี้เปิดเทอมใหม่ยังไม่มีอะไรให้คืบหน้า แต่ลุ้นบีนจะโดนจีบซะก่อนนี่ละคับ ๕๕๕ ตอนต่อไปมาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Robinhood.ha ที่ 28-07-2015 19:54:33
แหน่ะ! ชอบเด็กล่ะสิ บอยก้อน่ารักนะ แล้วยังไงล่ะเนี้ย โอ๊ตชอบกี้แบบนี้ จะมีดราม่ามั้ยนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 28-07-2015 20:26:27
 :z13: ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 28-07-2015 21:32:59
ดูคนคิดจะกินเด็ก...
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 28-07-2015 23:21:45
เรื่องนีบีนจะคู่กับใครน้อ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 28-07-2015 23:36:25
กินเด็กเขาว่าจะเป็นอมตะ วินๆทั้งคู่ :hao6:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 28-07-2015 23:58:55
เชียร์ใครดีหล่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 29-07-2015 00:33:33
ลงชื่อติดตามด้วยครับ^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< / ^^ (ตอนที่ ๔ ๒๘/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 29-07-2015 00:49:49
บีนน่ารักดีนะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.<^^ (ตอนที่ ๕ ๓๐/๐๗/๒๕๕๘) หน้าที่ ๒ บีนและเพื่อนๆมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 30-07-2015 14:22:09
ตอนที่  ๕

“ไปไหมคะ  อีนังบีน” 

“กูเหนื่อยจังเลยมึง  กูพึ่งทำงานได้อาทิตย์เดียวเองนะมึง”

“แหม อย่ามาทำสะดีดสะดิ้งค่ะ  กูว่ามึงต้องไปอ่อยผู้ชายในบริษัท  แหงๆ  กูรู้ทัน  ว่าแต่ในนั้นมีหล่อๆเยอะไหม”

“กูไม่สนใจเรื่องนั้นเลยจ่ะอีนัท  แล้วใครไปบ้าง  คืนนี้”

“ก็มีมึง มีกู  มีอีก้อง แล้วก็อีป่าน  กูโทรชวนแล้ว  เหลือแต่มึงนี่แหละ  ตอบตกลง ซะ”

“จ้า ตกลง  เจอกันผับอะไรนะ  เดี๋ยวกูไปเอง”

“ผับ........... ค่ะ สามทุ่มนะ ห้ามสายนะคะ  คืนนี้เราต้องได้ผู้ชาย”

“จ้า เจอกัน”

ผมวางสายจากเพื่อนสาวที่จบจากสาขาเดียวกัน  นางไม่รู้หรอกครับว่าจริงๆผมทำงานอะไร

นางชื่อนัทครับ อีกคนชื่อ ก้อง  ส่วนป่านเรียนคนละคณะกันตั้งแต่ทีแรกแล้ว  ด้วยความที่ผมไปไหนมาไหนกับป่านบ่อย  เลยทำให้ทั้งก้องและนัท  สนิทกับป่านไปด้วย วันนี้นัทนางชวนไปเที่ยวสังสรรค์  สงสัยคงคิดถึงเพื่อนเลยนัดเจอกัน   ผมที่พึ่งเก็บกวาด เก็บห้องเสร็จ ก็ต้องหาชุดไว้เตรียมเที่ยวในคืนนี้

...

ผมนั่งรอหน้าผับที่นัทนัดเพื่อนๆไว้  สรุปคือผมมาถึงคนแรก  แล้วก็ตรงเวลาด้วย  ก้อง นัท  มาด้วยกันพวกนางมีรถขับ  ส่วนป่านขึ้นแท็กซี่มา  ว่าแล้วป่านก็เดินลงจากแท็กซี่ในชุดตัวเก่ง

“แล้วสองนางนั่นหล่ะมึง”  ป่านถามเมื่อเห็นผมนั่งอยู่คนเดียว

“นั่นไงมาพอดี  กูจำรถมันได้”

ผมพยักหน้าไปทางรถเก๋งสีแดงของนัท  ที่มาพร้อมกับก้อง  สงสัยคงเอารถไปจอดก่อน

...

“นั่งตรงไหนดีมึง  ถึงจะได้บริกรหล่อมาบริการ”  ก้องถามขึ้น

“ตรงโน้นดีไหม  เป็นส่วนตัว  ใครอยากเต้นก็ค่อยเดินไปเต้นตรงกลาง” 

นัทแนะนำ  พวกผมก็เออออกันไป  พร้อมสั่งเครื่องดื่ม อาหารกับแกล้ม  กันที่เรียบร้อย  พอนัทกับก้องดื่มย้อมใจกับแล้วพวกนางก็ออกล่าเหยื่อ ไปแด๊นซ์กันอย่างเมามัน  เหลือแค่ผมที่นั่งกินอาหารกับแกล้มมากซะกว่าเครื่องดื่มกับป่านที่นั่งชนแก้วกับหนุ่มโต๊ะข้างๆ

“นักร้องวงนี้หล่อนะมึงอีบีน  มึงไปดูใกล้ๆไหม  กูว่ามึงต้องชอบ”

“ไปเถอะมึง  วันนี้กูอาสาเฝ้าโต๊ะกับป่านให้”

ผมบอกก้องไป มองไกลๆก็หล่ออยู่นะ แต่พวกนักร้องพวกนี้ชื่นชม ชอบอยู่ห่างๆได้อย่างเดียวครับ  ตัวจริงเจ้าชู้ทั้งนั้น

ผมนั่งดื่มนั่งโยกเบาๆตามจังหวะเพลงกับป่านไป ที่จริงถ้าวันนี้ไม่เหนื่อยกับการทำความสะอาดห้องก็จะออกไปโยกสักหน่อยเหมือนกัน ส่วนป่านที่อยากนั่งอยู่เฉยๆก็เพราะวันนี้นางไปแก้งานที่บริษัทคงเหนื่อยเหมือนกัน 

เวลาผ่านไป

“นี่อีก้อง กูไม่ได้เมานะ” นัทมันเมาครับ  เราหิ้วปีกกันมาที่ลานจอดรถของผับ  วงดนตรีของร้านลงได้สักพักแล้ว

“ปากบอกไม่ได้เมา  พอกูปล่อยลงเบาะหลังก็หลับเลยนะมึง” ก้องบ่นให้เพื่อนสาวแบบขำๆ

“แล้วมึงขับไหวใช่ไหม”  ผมถามก้องที่ต้องขับรถให้นัท มันก็บอกว่าไหว ตอนแรกมันบอกให้กลับด้วยกันเดี๋ยวไปส่งแต่ผมก็เกรงใจคนละทางกัน

อีกอย่างตอนนี้พึ่งจะห้าทุ่มครึ่งเอง นัทมันเมาเลยต้องเอามันกลับครับ เดี๋ยวยุ่งยาก  ส่วนป่านนางนั่งกลับแท็กซี่ไปนานแล้ว 


ผมกำลังจะเดินออกจากลานจอดรถ  ซึ่งติดกันกับหลังผับ  ก็ต้องสะดุดกับเสียงเรียกครับ

“บีน”  เฮ้ย  เสียงกี้นี่นา 

“บีน  มาทำอะไรที่นี่  มาเที่ยวหรอ”

ผมกำลังจะทำเบลอเดินหนีไปครับ แต่เจ้าตัวเดินมาถึงผมแล้ว เจอกันข้างนอกอย่างนี้กลัวน้องเขาจับได้จังเลย

“หวัดดีกี้   ใช่เรามาเที่ยว”

“แล้วจะกลับเลยหรอ  ยังไม่ดึกเลย  แล้วเข้าไปได้ยังไงอายุก็ไม่ถึง”  ถามเยอะแยะเชียวหนูกี้

“พอดีพี่ที่มาด้วยเส้นใหญ่หน่ะ แล้วเราก็จะกลับแล้วหล่ะ ”

“ไปนั่งกับเราก่อนได้ไหม  วันนี้มีธุระไปต่อหรือเปล่า  เราสั่งข้าวไว้”

“อ้าว  เออใช่  แล้วกี้มาทำอะไรที่ผับ”

“เรามารอแฟนเราหน่ะ  แฟนเราพึ่งเล่นในผับพึ่งเสร็จ กี้ได้ดูหรือเปล่า”

“ไม่แน่ใจเหมือนกันเราไม่ได้สังเกต”

เราเดินมาถึงหลังผับครับ  กี้สั่งข้าวกล่องจากในครัว  พอดีกี้ได้ข้าวมากำลังจะเปิดกินผู้ชายสี่คนก็เดินมาที่โต๊ะเราที่อยู่หลังผับ

“ป่ะ  กี้ไปกินต่อที่ห้อง ”  สงสัยคนที่ทักนี่คงเป็นแฟนกี้ที่ชื่อ แทน อะไรนั่น

“อ้าว  พี่จะไปเลยหรอ”  กี้ถามแฟน

“ไปๆ เดี๋ยวค่อยไปกินต่อที่ห้อง จะไปดูบอลด้วย พวกนี้ก็จะไป ” พี่แทนแฟนกี้ บอกว่าเพื่อนจะไปด้วย

“แล้วนี่ใครน้องกี้”  เพื่อนพี่แทน สงสัยเป็นพวกวงดนตรีวงเดียวกันชี้มาทางผม

“เพื่อนกี้เอง”  ผมยิ้มแห้งให้ พี่ๆเขา ไม่รู้จริงๆใครพี่  ใครน้องครับ

“ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเรากลับก่อนนะกี้” ผมบอกกี้ ดูท่าไม่ดีแล้ว พวกเพื่อนๆพี่แทนมองผมแปลกๆ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวติดรถเราไปก็ได้  ป่ะบีน  เดี๋ยวเราให้พี่แทนจอดส่ง  จะลงตรงไหนก็บอก” 

เพื่อนที่แทนกับพี่แทนเดินไปโน่นแล้ว  กี้มัดมือชกโดยการจับมือผมแล้วพาเดินที่ที่จอดรถครับ

วงพี่แทนมี  สี่คน เพื่อนแกสองคนไปรถอีกคัน  ผมมานั่งรถกับกี้  แล้วก็เพื่อนพี่แทนอีกหนึ่งคน

“ไปนั่งอะไรข้างหลัง  มานั่งหน้าสิวะ” 
พี่แทนดุกี้ บอกให้ไปนั่งข้างคนขับ  เพราะกี้กำลังเปิดประตูจะมานั่งเบาะหลังกับผม

“ไปเถอะกี้” 
สถานการณ์ทำไมดูเครียดๆ แต่กี้ก็ทำเฉยๆ แล้วยิ้มให้ผม สรุปผมนั่งบข้างหลังกับเพื่อนพี่แทน

“ชื่ออะไรครับน้อง” เพื่อนพี่แทนถามผม

“ชื่อ บีน ครับ”

“พี่ชื่อ ป้องนะ”
สายตาพี่ป้องดูกรุ้มกริ่มยังไงไม่รู้ ลมหายใจก็ได้กลิ่นเบียร์อ่อนๆ

“ทำไมมึงไม่ชวนเพื่อนมึงไปแดกเหล้าด้วยวะกี้  ไปไหมน้อง” พี่แทนถามกี้แล้วก็หันหน้ามาถามผมที่อยู่ด้านหลัง

“ไม่เอาดีกว่าครับเดี๋ยวพี่จอดข้างหน้าเลยก็ได้ครับ  ขอบคุณมากครับ”

“ไอ้แทนไม่ต้องจอด  ไปกับพี่ก่อนสิน้องบีน  กินเหล้า  ดูบอลเสร็จ เดี๋ยวพี่ไปส่ง  นะจ้ะ”
 พี่ป้องบอกพี่แทน ก่อนชวนผมไปต่อไม่พอ ยังเอามือใหญ่ๆ สากๆ มาจับแก้มผมอีก บรึ๋ย  กลัว

“ให้บีนกลับบ้านเถอะพี่  เผื่อบีนง่วง” เออดีๆ กี้ช่วยพูดให้แล้ว

“มึงไม่ต้องเถียงเลยกี้ ก็ดีแล้วไงจะได้มีเพื่อนเล่น ปกติถ้าเพื่อนกูไปห้อง มึงก็นั่งเหงา”

“ครับ”  จบกัน หนูกี้อยู่กับแฟนทำไมหงอยจัง เฮ้อ

..............................................................................................

มาถึงห้องเพื่อนพี่แทนอีกสองคนที่มาคนละคันก็จัดแจง จัดกับแกล้ม เปิดเหล้า เปิดโซดา  เคลียร์พื้นที่หน้า ทีวี เตรียมดูบอล 
ส่วนกี้บอกผมว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ผมทำอะไรไม่ถูกก็ช่วยพี่เขารินเหล้า ผสมโซดาว่ากันไป โดยมีพี่ป้องนั่งอยู่ใกล้ พี่ป้องเป็นผู้ชายตัวขาวๆซีดๆ หน้าตางั้นๆ ดีหน่อยที่ขาว  มือปลาหมึกของพี่ป้องก็เริ่มจากที่กอดคอผม ลูบไล่ไปถึงเอว ขนลุก ไม่ไหวแล้วครับ  ขยับหนีดีกว่า

“จะไปไหนครับ”  ผมในท่าที่จะขยับหนี ก็โดนลากมาเกือบจะนั่งเกยตักพี่ป้อง  เมื่อไหร่กี้จะออกมาจากห้องวะนี่

“ไอ้แทนมันไปไหน”  เพื่อนพี่แทนอีกคนที่นั่งที่โซฟาถามขึ้น

“ก็เห็นเดินเข้าไปในห้อง” พี่อีกคนตอบ

“จุ๊ๆๆ  ลองหรี่เสียงทีวีสิมึง”  พี่ป้องบอกเพื่อน



“โอ๊ยพี่แทน พอก่อน  เพื่อนพี่อยู่ข้างนอกนะ”

“อยู่นิ่งๆ”

“โอ๊ย เจ็บ” 



กี้คงเสร็จพี่แทนไปแล้วหล่ะ  เศร้าจัง  เอาไงดี  ผมอยากกลับแล้ว

พี่ป้องกางขาตัวเองออกแล้วดึงผมเข้าไปกอดแน่นขึ้น  โคตรอึดอัดเลย เท่านั้นไม่พอ  เอาบุหรี่ขึ้นมาดูดอีก พร้อมเป่าลมใส่หูผม 
ไอ้ผู้ชายพวกนี้ทำไมเถื่อนจัง เพื่อนพี่เขาก็หัวเราะที่ผมทำท่าทางกลัว  จังหวะที่แกเติมเหล้าผมก็บอกว่า

“พี่ ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่า”

ผมบอกก่อนฝืนลงขึ้น แต่ไม่พ้นครับ แกเอามือดึงผมไว้ทัน

“จะรีบไปไหน  เดี่ยวไปส่ง”

แกบอกก่อนดึงผมไปกอดตามเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ  มีอะไรสักอย่างทิ่มก้นผมอยู่

“เป็นไร”พี่ป้องถามผม

“ดูดป่ะ”  มันถามอีก อีบ้าเอ้ย  ไม่น่ามากับเขาเลย 




“หมายถึงบุหรี่ ดูดมั้ย”

คุณพระ

โล่งอก



“ไม่  ดูดไม่เป็น” ผมบอกไป

“แล้วถ้าดูดปากหล่ะ”  ไอ้บ้า

ขณะที่ผมคุยกับพี่เขา เพื่อนแกสองคนนั้นก็คุยกับเรื่องพนันบอลครับ  ว่าแล้วไง  รีบมาเชียร์กันขนาดนี้  ยังไงก็ต้องแทงบอล พูดกับต่อครึ่งลูก ควบลูก อะไรของเขา  อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน   

แต่จับใจความได้ว่าพี่แทนแกติดเงินที่โต๊ะเยอะครับ  เป็นโต๊ะของเสี่ยแถวพัทยา  นี่กี้เสี่ยงมากเลยนะที่ คบกับแฟนที่ทำงานกลางคืน ติดหนี้ ติดพนันอย่างนี้ จะช่วยน้องยังไงดีครับนี่ แต่ก่อนอื่นตอนนี้ผมต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน  กี้ยังไม่ออกมาจากห้องเลย จะเดินไหวไหมนั่น 

พู่

ไอ้ป้องมันเป่าควันบุหรี่ใส่หน้าผมอีกแล้วครับ

ฟอดดด

มันหอมแก้มผมด้วย ไอ้บ้านี่

“เอ่อบีนว่า  เดี๋ยวบีนชงเหล้าให้พวกพี่ๆ  ดีกว่า เห็นใกล้หมดกันเลย  เดี๋ยวไปเอาน้ำแข็งที่ตู้เย็นให้ครับ”

คนอื่นก็พยักหน้าเห็นด้วย  จะให้มานั่งให้คนกอดอยู่เฉยๆเป็นตุ๊กตาก็ยังไงอยู่

“เอาอย่างนั้นก็ได้”

เฮ้อ  สุดท้ายไอ้ป้องก็ปล่อยผม  ผมลุกไปเอาน้ำแข็งที่ตู้เย็น  พี่แทนก็เดินออกมาจากห้องพอดี  เหอะคงสบายตัวแล้วสินะ
ยกน้ำแข็งมาเสร็จผมก็ชงเหล้าให้พี่ๆเขา แล้วกลับมานั่งที่เดิม  ไอ้ป้องก็ดึงไปกอดอีก อย่างกับเป็นผัวเมียกัน  ตอนนี้มันเริ่มเมามากแล้วครับ ผมมอมมันเองจะได้เลิกลวนลามผม

“กี้” ผมเรียกกี้ กี้ออกมาจากห้องแล้วครับ

“เราอยากกลับแล้วกี้”

“งั้นเดี๋ยวเราไปส่ง”  เออดี ผมดึงตัวออกจากไอ้ป้อง  ที่เมาอ่อนปวกเปียกไปหมด  แล้วเดินไปหากี้

กี้พาผมลงลิฟต์  ก่อนกดที่ชั้น ๑ 

“อย่าบอกโอ๊ตนะ  เรื่องวันนี้  เราขอ” กี้เป็นไรนี่

“อ้าว  ทำไมหรอ”

“โอ๊ตไม่ให้เรายุ่งกับพี่แทนแล้ว  เรารู้โอ๊ตเป็นห่วงเรา  เราก็พยายามจะบอกเลิกพี่แกหลังจากที่เรามาคืนดีกันได้สักพัก  แต่เราทำไม่ได้สักที ”

“พยายามเข้านะกี้  เราก็เป็นห่วงกี้นะ”  เลิกเถอะหนู  พี่ว่าไม่ค่อยโอเคเลยกับผู้ชายคนนี้

“ขอบคุณมากนะ  กินข้าวซะนะ  ข้าวที่ซื้อมายังไม่ได้กินเลยนี่นา” ผมบอกกี้ไป ก็เล่นให้พี่แทนกินในห้องซะขนาดนั้น

“โอเคๆ เจอกันวันจันทร์”  เราโบกมือลากัน ในเวลาเกือบตีสอง


ผมนั่งแท็กซี่กลับคอนโด  นั่งไปก็คิดไป นี่แหละชีวิต น้องเขาหัวอ่อนเกินไป  แฟนให้ทำอะไร  บอกอะไรไป ก็คงทำตาม เพื่อนเตือนคงไม่ฟัง ที่โอ๊ตคอยบอก คอยห้ามกี้  ก็คงเพราะหวังดี

ในตอนนี้ผมคิดว่าโอ๊ตคงไม่ได้อยากให้กี้มาเป็นแฟนตัวเองหรอกครับ  แต่เป็นห่วงในฐานะเพื่อนมากกว่า  แต่การกระทำที่ทำออกมากลายเป็นว่าดูเหมือนโอ๊ตจะเครมกี้เฉยๆ


...................................................................................................



“อ้าวบอย  มาโรงเรียนแต่เช้าเลย”  ผมเป็นฝ่ายทักบอยก่อน  ในเช้าวันจันทร์  เห็นแปลกมาแต่เช้า  จดอะไรยิกๆคนเดียว

“มาลอกการบ้านหน่ะ  ทำยัง  วิชาคณิต”

เด็กบอยตอบผม ผมทำแล้วครับ แต่ว่าเอ๊ะ กี้มาโรงเรียนแล้วนี่นา ทำไมยังนั่งข้างบอยอยู่ ไม่ไปนั่งข้างโอ๊ต

“แล้วกี้ไปไหน” ผมถามบอย

“มันบอกว่าไปเข้าห้องน้ำ   วันนี้บอยไม่ได้ซื้อช็อกโกแลตมาให้บีนนะ  บอยลืม ไม่ว่ากันนะ” บอยบอกผมอย่างรู้สึกผิด

“เออไม่เป็นไร  เดี๋ยวเราไปหากี้ก่อน”

ผมเดินไปเจอกี้หน้าห้องน้ำ  เราเดินไปนั่งคุยกันแถวโรงยิมที่ต้องเข้าแถว  ถึงเวลาจะได้เดินเข้าเลย

“เราโดนโอ๊ตว่าหน่ะ  เรื่องที่เราไปกับพี่แทนวันก่อน”

“อ้าวแล้วโอ๊ตรู้ได้ไง”

“โอ๊ตถามเราเข้ามากๆ เราก็เป็นฝ่ายบอกเองแหละ  เราว่าวันนี้เราจะไปบอกเลิกพี่แทนแล้ว  เราก็ไม่อยากทนพี่แทนแล้วเหมือนกัน  เพื่อนๆก็เป็นห่วง”

“งั้นก็ดี  ให้เราไปเป็นเพื่อนไหม”

“ไม่ดีกว่า  เราไม่อยากรบกวน เดี๋ยวเราจัดการเอง”  กี้พูดด้วยสายตาแน่วแน่  สงสัยรอบนี้เอาจริงเว้ย


วันนี้คาบที่สามคุณครูไม่มาสอนครับ พวกเราในห้อง  เลยนั่งทำงาน  ทำการบ้าน เล่นเกมส์ ฆ่าเวลากันไป  กี้ให้บอยลอกการบ้านต่อ  ไอ้อ๊อฟก็นั่งลอกการบ้านคณิตเหมือนกัน  เพราะต้องส่งคาบต่อไป  ว่าแต่คนข้างๆ ผมหล่ะ

“โอ๊ต ทำการบ้านคณิตยัง”

“ยัง เอามาลอกสิ”

“เอาสมุดกับหนังสือขึ้นมาก่อน”  น้องมันก็ทำตามผม

“เปิดไปแบบฝึกหัดที่ ๒.๑ อ้าวเขียนโจทย์ก่อน”

“ไหนมึงจะให้ลอก”  น้องมันถามผม

“ใครบอกจะให้ลอก  ทำเองสิ  เดี๋ยวบีนสอน”

“โอย ให้ลอกก็สิ้นเรื่อง จะได้ไม่เหนื่อย”

“ทำเองสิโอ๊ต แล้วถ้าครูสอบเก็บคะแนนจะทำได้ไหม”

“ก็กูขี้เกียจไง”

“เดี๋ยวบีนสอน  มานี่”

สรุปกว่าจะพากันทำเสร็จ  กินเวลาเกือบชั่วโมงพอดีครับ แล้วก็มันไม่ได้ยากเลยครับกับการสอนน้องโอ๊ตทำการบ้าน  แบบฝึกหัดมันค่อนข้างยากก็จริง แต่น้องโอ๊ตเอาเข้าจริงๆนี่หัวไวมาก บอกนิดเดียวก็ทำได้แล้ว  ทันส่งครูพอดี

“ขอบคุณนะ”

“ไม่เป็นไร ” มันเป็นหน้าที่  ผมตอบน้องไป

วันนี้ผมคุยกับโอ๊ตเยอะเป็นพิเศษครับ  ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเรียน  ครูบางวิชาก็ให้นักเรียนที่นั่งคู่กัน ทำแบบฝึกหัด บ้างก็ให้สรุปเนื้อหาเขียนเป็นใบงานหนึ่งแผ่นต่อสองคน   ผมก็มีหน้าที่กระตุ้น  ช่วยน้องทำ  เลยได้รู้ว่าจริงๆน้องมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนี่นา สงสัยคุณเจ้านายแกไม่มีเวลาเอาใจใส่เองมากกว่ามั้งแบบนี้

“วันนี้ไอ้โอ๊ตดูตั้งใจเรียนหว่ะ”  ไอ้อ๊อฟพูดขึ้นขณะที่พวกเราเดินออกมาจากอาคารเรียนกำลังจะกลับบ้าน

“เออใช่” ไบท์ก็สมทบขึ้น

“ก็บีนมันช่วยกู” น้องโอ๊ตพูด  ดีใจ มีส่วนร่วมในวงสักที

“แล้วนี่กี้ไปไหนหรอโอ๊ต” ผมถามครับ เพราะเห็นเรียนเสร็จก็เดินตัวปลิวออกจากห้องไปเลย หรือว่าไปบอกเลิกพี่แทน

“มันไปบอกเลิกพี่แทน” โอ๊ตบอกผม รวมถึงบอกเพื่อนๆด้วย

“อ่าว จริงดิ  ดีๆไปยุ่งกับคนอย่างนั้นไม่ดีเลย” ไบท์บอก

“อย่างกับมึงเป็นคนดี” น้องโอ๊ตว่าให้ไบท์


วันนี้โอ๊ตดูอารมณ์ดีจริงๆครับ  สงสัยกี้บอกว่าจะไปเลิกกับพี่แทน เลยดูสดชื่นขึ้นมาทันที



........................................................................


“เออโอ๊ต โอ๊ตทำการบ้านวิชาสุขศึกษาหรือยัง”

ผมถามโอ๊ตขณะพวกเราห้าคนเดินออกมาจากโรงอาหาร ตกลงกันว่าจะไปหาที่นั่งเล่นกันในเที่ยงวันอังคาร

“เออจริงด้วย กูก็ยังไม่ทำเลยบีน” ไอ้อ๊อฟพูดสวนขึ้นมาก่อนที่โอ๊ตจะตอบ

“กูยังไม่ทำ  สมุดอยู่ในล็อกเกอร์”  โอ๊ตก็ตอบแบบไม่ได้รู้สึกกระตือรือร้นอะไรเลย  เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว

“ไปเอามาทำกันเถอะ โอ๊ต อ๊อฟด้วย เดี๋ยวเราช่วยทำ  ส่งคาบบ่ายนี้แล้วนะ”

กี้บอกเพื่อนให้ไปเอาการบ้านมาทำ พวกเราตกลงจะไปทำกันตรง ศาลาริมสระน้ำหลังอาคารเรียน

เมื่อไอ้อ๊อฟกับโอ๊ตเดินมาถึง ประโยคแรกที่น้องโอ๊ตพูดก็คือ

“นี่บีน เอามาลอกหน่อยสิ ขี้เกียจ” นั่นไง  โอ๊ตพูดยิ้มๆ

“ลอกอะไร”  ผมถามกลับ

“การบ้านไง”

“ไม่ๆ ต้องทำเองนะโอ๊ต งานของโอ๊ตเอง ” กี้บอก

“แล้วจะให้กูทำไงมึง วาดรูประบบสืบพันธ์ของผู้หญิงนี่นะ คือกูเคยเห็นแต่ข้างนอก ข้างในไม่เคยเห็น” ไอ้อ๊อฟมันเถียงขึ้น

“พวกมึงก็ดูในเน็ตเอาสิ  ยากอะไร มันก็จะมีตัวอย่างให้ดูอยู่หรอก กูเกิ้ลไง ” สงสัยไบท์คงเบื่อเพื่อน ฮ่าๆ ดีแล้วจะได้ไม่ต้องบอกยาก

ผ่านไปประมาณ ๑๕ นาที พวกมันก็ทำเสร็จ แถมสวยซะด้วย  พอถึงคาบสุขฯ ซึ่งเป็นคาบสุดท้าย พวกเราก็ส่งกัน

“เป็นไง พอทำเอง ส่งเองแล้วดูสบายใจมั้ยโอ๊ต”
ผมถามโอ๊ตเพราะเจ้าตัวดูสบายอกสบายใจ ตอนที่ส่งงานเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็ไกล้จะเลิกคาบเรียนนี้แล้ว 

ผมว่าที่ทำให้สบายใจมากขึ้นก็เพราะว่ากี้บอกเลิกกับพี่แทนแล้วต่างหาก  ฝ่ายพี่แทนแทนก็ดูโกรธนะ  แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ฟังจากกี้มาครับ ผมว่ามันแปลกๆนะ ดูปล่อยกันง่ายๆ

“สบายใจสิ ทำการบ้านเองทั้งที ขอบใจนะเว้ยบีน ”  ขอบใจอะไรของเขา

“ขอบใจอะไร” ผมถาม

“ ขอบใจที่มึงบังคับให้กูทำไง”

“เออไม่เป็นไร ก็ดีแล้ว แล้วต่อไปวิชาอื่นก็ต้องทำเองด้วยนะ”

“โหย ถ้าอย่างนั้นมึงก็ต้องช่วยกูนะบีน ฮ่าๆ  นะๆ”

มันว่าพร้อมกับเอามือซ้ายมันมานวดคอผม ส่งสายตาหวาน พร้อมกับยิ้ม ใบหน้านวลผ่องเป็นยองใย เฮ้ย นี่สนิทกันถึงขึ้นจับเนื้อต้องตัวกันเลยหรอวะ หรือน้องไม่ได้คิดอะไร  แต่ว่าผมคิดมากไป   ตอนนี้หน้าผมร้อนจัง โคตรร้อนเลย นี่มันเด็ก ม.ปลายนะบีน คิดอะไรอยู่ แล้วกี้นี่ก็เลยตามเลยนะ ไม่เปลี่ยนที่นั่งคืนเลย  สงสารแต่เด็กบอย  วันๆได้แต่ยิ้มเล็กยิ้มน้อยให้ผม แต่ไม่ค่อยได้คุยกัน

“เป็นไร นั่งหลับตาปี๋เลย” โอ๊ตถาม  ก็เขินแกไงโอ๊ต

“เปล่า ไม่มีไร โอ๊ะ ลิ้นชักเรามีเศษกระดาษ เดี๋ยวเอาไปทิ้งก่อน” คือหาอะไรทำแก้เขิน


..............................................


หลังเลิกเรียนผมปลีกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อน   วันนี้ผมว่าผมเองคิดมากไปกับเรื่องโอ๊ต ทั้งสอนการบ้าน  ทั้งสอนนู่นนี่นั่น  เลยเหนื่อย  พูดง่ายๆ คือ รีบกลับไปสงบจิตสงบใจครับ เพราะน้องโอ๊ตมันชวนไปดูหนังด้วย แต่ไปสองคนนะ ไอ้อ๊อฟกับไบท์ไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน กี้ก็รีบกลับบ้าน เลยบอกน้องโอ๊ตมันว่าวันหน้าแล้วกันติดธุระ


หลังจากที่ผมเดินดุ่มๆ ออกจากบีทีเอสอยู่นั้น สายตาหันไปเจอกับใครคนหนึ่ง


เฮ้ย ตายแล้ว ผมรีบเดินจ้ำอ้าวลงบันได ไปทางออก ไม่ได้นะ จะให้มันเจอไม่ได้

แล้วนื่ทำไมคนมันเบียดเยอะจัง ตายห่าแล้ว มันมาแล้ว ม่ายยยยยยยยยยยยย



มันสะกิด


แล้วเอามือจับบ่าผม เชิงบังคับให้หันไปเผชิญหน้ามัน



“ บีน นี่เราแต่งชุดอะไรนี่ ” 


มัน


ที่อยู่ในชุดเทรนเนอร์


ถามผม

.....................................................................


นายเอกเรื่องนี้นอกจากจะเปลืองตัวแล้ว  ยังมีชีวิตที่ดูวุ่นวายเนาะ อิอิ :ling1:

หวังว่าทุกคนจะยังสนุกสนานกับเนื้อหานะ สัญญาว่าจะรีบมาต่อตอนต่อไปครับ

คนที่โผล่มาตอนสุดท้ายเป็นใครน้าาาาาา :katai1:

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๕ ๓๐/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / บีนและเพื่อนๆมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-07-2015 14:35:24
 :mew1: 
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๕ ๓๐/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / บีนและเพื่อนๆมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 30-07-2015 14:58:09
งานที่บีนทำ คงได้เรื่องวุ่นกันอีกยาว แต่งานคืบไปหนึ่งขั้นแบบนี้ก็ดีใจด้วยครับ^^

รออ่านต่อครับผม^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๕ ๓๐/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / บีนและเพื่อนๆมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 30-07-2015 15:21:03
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๕ ๓๐/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / บีนและเพื่อนๆมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-07-2015 16:32:30
เพื่อนป่าน?
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๕ ๓๐/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / บีนและเพื่อนๆมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 30-07-2015 16:51:25
กำลังสนุกเลย รีบมาต่อนะจ๊ะ  :call:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๕ ๓๐/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / บีนและเพื่อนๆมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-08-2015 16:52:04
เป็นห่วงหนูกี้จังเลยค่ะ เราก็คิดเหมือนกันกับบีนที่ว่าพี่แทนดูปล่อยกี้ง่ายเกินไป
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๕ ๓๐/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / บีนและเพื่อนๆมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 01-08-2015 20:01:29
กินให้หมดทั้งห้องเลย 555  บีมคุมสถานการอยู่  แต่กี้ละ  น่าเป็นห่วงที่สุด
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๕ ๓๐/๐๗/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / บีนและเพื่อนๆมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 02-08-2015 00:06:41
กลัวแผนจะแตกเพราะคนรอบข้างบีนเนี่ยแหล่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / เอาบีนมาให้อ่านกัน
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 04-08-2015 01:39:21
ตอนที่ ๖

“ บีน นี่เราแต่งชุดอะไร ”  มันที่อยู่ในชุดเทรนเนอร์ทักผม

“ เอ่อ พี่กฤช สวัสดีครับ” ผมไหว้ทักทาย

“ ครับ ” มันยกมือรับไหว้ เสร็จแล้วก็พาผมไปนั่งร้านกาแฟที่อยู่ในห้างแถวๆนี้แหละ

..................................................................................................

“เป็นไงมาไง ไม่ได้เจอตั้งนาน หายโกรธพี่หรือยัง ”

พี่กฤชนี่แฟนเก่าผมเองครับ คบกันมาตั้งแต่ผมอยู่ปีสอง ตอนนั้นเค้าอยู่ปีสาม เรียนวิทยาศาสตร์กีฬา คบกันได้เกือบสองปีนะ ตอนที่พี่เขาจบเริ่มทำงานที่ฟิตเนส เราก็เริ่มระหองระแหงกัน มีคนมายุแยงตะแคงรั่ว พี่กฤชแกเป็นคนหน้าตาดีดูตี๋แต่ผิวออกเข้ม  แรกๆผมก็หึง สุดท้ายก็ลองปล่อย ไม่ค่อยตามแกมาก

สรุปก็แอบคบกับเทรนเนอร์ด้วยกันเอง ความแตกคือ ผมไปเจอในผับ ทั้งสองเต้นกอดกันกลมเลย วันนั้นผมแทบช็อก วิ่งเข้าไปตบหน้าแกหลายรอบ พวกอีก้องอีนัท แทบจะดึงผมออกไม่ทัน  เห็นแบบจะๆ  แบบไม่ได้เตรียมใจ วันต่อมาพี่แกก็ขอโทษแล้วขอโทษอีก จะไม่ทำอีกแล้ว ยอมรับเลยว่าโกรธมาก  ถีบแกไปครั้งหนึ่งแต่ไม่สะเทือนเค้าหรอก ฮ่าๆ ใช้เวลาเกือบปีกว่าจะมาดีกันได้ คือคุยบ้างในไลน์ แต่ไม่บ่อย

“ก็บอกแล้วไงว่าหายแล้ว แล้วนี่ไม่ได้มากับแฟนหรอ ทำไมมาไกลจัง”  ปกติพี่กฤชทำงานอีกที่หนึ่งนี่นา

“เลิกกันได้เดือนกว่าแล้ว นี่พี่พึ่งมาทำงานที่ใหม่ ได้เป็นหัวหน้าด้วยนะ” หึ เลิกกับแฟนแล้วคิดถึงผมหล่ะสิ

“เป็นหัวหน้าอะไร  หัวหน้าแผนกเพาะกล้ามหรอ” ผมพูดกวนไปอย่างนั้นเฉยๆครับ ไม่รู้เรื่องในฟิตเนสหรอก

“เปล่าๆ ว่าแต่เรา  ทำไมถึงได้ใส่ชุดนักเรียนหล่ะ อุปกรณ์ครบ  หรือว่า แฟนใหม่เป็นพวกซาดิสต์ แบบชอบมีอะไรกับเด็กนักเรียน เลยบังคับให้แต่งก่อนเข้าบ้าน”

โอย คิดไปโน่นแล้ว เรื่องหื่นๆนี่ต้องยอมเลย สมัยคบกันถ้าไม่มีเรียน พี่กฤชแกก็จะมีห้องผม วันนั้นไม่ได้ไปไหนทั้งวันแหละ คิดถึงตอนนั้นแล้วก็คิดว่าทนได้ไงตั้งหลายรอบ ขนลุก  ว่าแต่จะตอบเค้าว่าไงดีหล่ะ เออ ต้องโกหกๆ

“พอดีที่บริษัทมีงานเลี้ยงครับพี่ ตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว ธีมงานเป็นชุดนักเรียน งานเลี้ยงเสร็จบีนก็ออกมาเลย ”

หึ รอด ดูเชื่อด้วย

“แล้วนี่เราทำงานที่บริษัทอะไรนะ”

“บริษัทที่ป่านทำนั่นแหละ ไปทำที่เดียวกัน ” ถามอะไรซอกแซก

“ดีเลย แล้วเรามาลงที่สถานีนี้ทุกวันหรอ วันหลังจะได้นัดเจอ พี่คิดถึงบีนนะ”
อืมนะ คิดถึงตามที่คิดไว้จริงๆด้วย  ไม่ได้ๆ ต้องโกหก  เปลี่ยนสถานที่

“วันนี้บีนมาทำธุระเฉยๆ ปกติลงที่อื่น อยู่แถวที่ทำงานโน่นแหละ”

“อ้าวหรอ เสียดายจัง แต่ว่าเดี๋ยวว่างๆพี่นัดไปทานข้าว ดูหนังด้วยกันนะ พี่คิดถึงบีนจริงๆ”

ก็คงเหงาแหละมั้งผมว่า เลิกกับแฟนไป กะจะมาง้อผมหล่ะสิ เชอะ

“จ้า ได้ๆ งั้นเดี๋ยวบีนไปก่อนนะ ต้องรีบกลับห้อง งานเยอะ”

“แล้วบีนพักที่ไหน เดี๋ยวพี่ไปส่ง”  อ้าวนี่พี่กฤชมีรถด้วยหรอ

“อ้าว จะขับรถไปส่งหรอพี่”

“ป่าว ฮ่าๆ พี่ไม่รวยขนาดนั้นหรอก จะนั่งรถไฟฟ้า ไปส่งนี่แหละครับ”

พูดเพราะ เอาใจเก่งสมกับเป็นพี่กฤช แต่ผมก็ต้องปฎิเสธไปครับ งานนี้ ไม่ได้ เดี๋ยวความแตก

“ไม่เป็นไรพี่ ไว้วันหลังเจอกันดีกว่า ขอบคุณที่เลี้ยงชาเขียวนะ” พี่กฤชเหมือนจะไม่ยอม

“พบกันครึ่งทาง พี่เดินไปส่งเป็นเพื่อนเราดีกว่า ขึ้นบีทีเอสใช่ไหม ”
อ่ะ ยอมในความพยายาม เขี่ยถ่านไฟเก่า ตายแล้วที่จริงคอนโดผมก็อยู่แถวนี้แหละ เอาเป็นว่านั่งไปสักสองสถานี แล้วค่อยนั่งกลับมาอีกทีแล้วกัน

“อย่างนั้นก็ได้ ป่ะ” ผมบอกไปแล้วให้เค้าเดินไปส่ง

...


วันนี้วันดีวันพฤหัสบดีอากาศดี

แต่



รถติด


ผมกะเวลาผิด


มาโรงเรียนสายครับ

ดีที่ว่าวันนี้พี่ยามหน้าโรงเรียนยังไม่รีบปิดประตู ทำตัวเองให้เล็กที่สุด เดินผ่านไปอย่างเฉียดฉิว เสียงเคารพธงชาติเสร็จพอดี 

ผมก็เดินแอบๆ ครู  เนียนๆไปกับเพื่อนขึ้นไปบนห้อง  โดยไม่โดนใครดุหรือว่า นี่แหละคนดีผีคุ้ม
เพื่อนๆทยอยขึ้นห้องกันมาเกือบหมดแล้วครับ

“อ้าวกี้หล่ะโอ๊ต” ผมถามเมื่อขึ้นห้องไปแล้วไม่เห็นกี้  นั่งอยู่ข้างบอย

“มันบอกติดธุระหน่ะ”  อ้าว ไปทำอะไรอีกหล่ะนี่

โอ๊ตก็ดูเศร้าๆด้วย  เป็นอะไรไปอีกคน

ถึงพักเที่ยง  ไบท์กับอ๊อฟรีบไปซ้อมดนตรีครับเห็นว่าใกล้แข่งเดือนหน้าแล้ว

ส่วนผมกับโอ๊ตก็ไปกินข้าวกันสองคน  จังหวะที่เดินไปโรงอาหารผมกับโอ๊ตก็เดินสวนทางกับกลุ่มนั่งติดหน้าต่าง  กลุ่มเกย์หน้าขาว ใจดำ  ผมเดินตามหลังโอ๊ตครับ  โอ๊ตเดินผ่านไปแต่พวกมันเดินมากันผมไว้  เอาไงดี  โอ๊ตก็เดินไปแล้วไม่มองกลับมาด้วย

ผมหลีกไปทางซ้ายมันก็ขยับไปกันไว้  ไปทางขวามันก็กันทางไว้

ผมติดสินใจเดินชนไหล่ทะลุพวกมันไปเลยครับ เอาแบบเด็ดเดี่ยว  ให้มันรู้ว่าใครเป็นใคร 

“เก่งนะนักมึง  ให้เก่งแบบนี้ให้ได้ตลอดเถอะ” 

มันกระชากคอเสื้อผมจากทางด้านหลังแล้วดึงไป กระซิบบอกแบบเหี้ยมๆ แล้วปล่อย 

ผมหันหน้าไปแล้วเบ้ปากใส่ ยักไหล่นิดหน่อยแล้วเดินไปหาโอ๊ต  โอ๊ตนี่คนจะตบตีกันอยู่แล้วก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย

“วันนี้เป็นอะไรหรือเปล่า  ทำไมดูเศร้า”

ผมถามโอ๊ตขณะที่เรานั่งกันอยู่สองคนที่ศาลาริมน้ำครับ เราเอาการบ้านมาทำด้วยกัน  ที่จริงจะทำมาตั้งแต่ที่บ้านก็ได้  แต่โอ๊ตบอกว่าไม่อยากทำที่บ้าน  อยากมาทำที่โรงเรียนมากกว่าจะได้มีเพื่อนช่วยทำ  ช่วยสอน  หึหึ  ได้ผลครับ

“กูก็คิดเรื่องจะตัดใจจากกี้นี่แหละ”  อ้าวนี่ยังไม่ได้ตัดอกตัดใจอีกหรอ

“ยังไม่ตัดใจอีกหรอ”

“ตัดใจแล้ว  แต่กูว่าวันนี้กี้ต้องไปเคลียร์กับพี่แทนอีกรอบแน่ ถึงไม่มาโรงเรียน กูเป็นห่วง” 

“ไม่มีอะไรหรอกโอ๊ต เรื่องแค่นี้เอง  กี้ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ” จริงๆผมห่วงกี้นะ  เอาเป็นว่าเลิกเรียนค่อยโทรหา

“อืม”

“การเป็นเพื่อนกันก็ดีกว่าเป็นแฟนนะ  คิดในอีกทาง  ยังไงเพื่อนก็คือเพื่อน  จะโกรธกันเป็นเดือนเป็นปี  ก็ยังกลับมาคุยกันได้  ให้อภัยกันได้  เพื่อนก็เหมือนพี่ชายน้องชาย  คบกันได้นานกว่าแฟน  ส่วนแฟนหาเมื่อไหร่ก็ได้  เดี๋ยวมันก็มาเอง ”
 
ผมพูดออกไปตามความรู้สึก  ตามประสบการณ์ที่เจอมา

“ให้คิดแบบนี้ก็ได้นะ  กูเองก็ลืมคิดถึงจุดนี้  กี้คงน่ารักน่าทะนุถนอมด้วย  กูเห็นมันโดนพี่แทนทำร้าย  โดนด่า  มันยังไม่แสดงความรู้สึกอะไร  กูกลัวมันเจ็บ  กลัวมันเก็บกด  เลยอยากดูแลมัน  อีกเหตุผลหนึ่งคือกูเหงา”

“ชีวิตยังอีกตั้งไกลนะ  ขึ้นมหาวิทยาลัยไป ทำงานไป โลกกว้างขึ้นเยอะ มองไปข้างหน้าไม่รู้เราจะเจอกับใครบ้าง  บางทีคนที่โอ๊ตถูกใจมากที่สุด  อาจจะไม่ใช่กี้ก็ได้  หรือว่าโอ๊ตอยากรู้จะมีแฟนตอนไหนหรือเปล่า  ไปดูดวงสิ ฮ่าๆ”

“ฮ่าๆ เคยไปดูหรอ แล้วมึงจะมีแฟนตอนไหน”  น้องมันถาม

“ปีนี้ ”  อ่าวผมเผลอตอบ ผมเคยไปดูดวงครับ เขาบอกว่าปีนี้ผมเจอเนื้อคู่แน่ๆ

“ไอ้บอยหรือเปล่าวะ” น้องมันถามแบบขำ แล้วเอามือมาจับหัวผมเล่น นี่แกกำลังจับหัวผู้ใหญ่อยู่นะ

“ไม่หรอก  บอยดูเด็กไป  ชีวิตของเราอะไรตอนนี้ยังไม่ยั่งยืนแน่นอน”

“ใช่  ชีวิตมันไม่แน่นอน  ตอนกูปิดเทอม ป.๖ นะ  พ่อแม่กูรถคว่ำตอนที่พวกแกไปทำธุระที่เชียงใหม่  กูโคตรเศร้า  ชีวิตมันไม่เหลือใครเลย  ยังดีที่กูมีปู่ และก็น้าที่พึ่งจบจากนอกมาช่วยดูแลในช่วงแรก  มึงรู้ป่ะ  กูงอแงไม่ยอมไปเรียน ม.๑ เว้ย ฮ่าๆ วันๆเอาแต่เล่นเกมส์  นอน  ดูทีวี  น้ากูเข้ามาทำงานกิจการที่ครอบครัวกู  ทั้งน้า  ทั้งปู่ กูก็งานเยอะ ดูๆไป  กูไม่มีคนปรึกษาเลยหว่ะ  กูเสียเวลาเรียนไปปีหนึ่ง  ยังดีที่สามเดือน  น้ากูส่งไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียกับญาติ  ก่อนมาเข้า ม.๑  ที่นี่ ”

“เสียใจด้วยนะ” 

เด็กคนนี้เล่าเรื่องเศร้าแต่กลับมีดวงตาประกาย  ริมฝีปากที่มีรอยยิ้มครับ ผมคิดถูกครับว่าคุณบิ๊กไม่มีเวลาเอาใจใส่ดูแลหลานจริงๆ 

“ยังไงก็ขอบคุณมึงนะที่ฟังกู”

“เราเต็มใจ มันเป็นหน้าที่ ”  อุ่ยหลุด

“หน้าที่อะไรของมึง”

“หน้าที่ของเพื่อนไง”

“มึงต้องเรียกกูว่าพี่นะบีน  เดือนหน้ากูก็ ๑๘ แล้วนะ”  โถเด็กน้อย เดือนหน้าพี่ก็ ๒๒ แล้วครับ 

“อ้าวหรอเกิดเดือนเดียวกันเลย  วันที่เท่าไหร่” คุณบิ๊กก็ใส่วันเกิดจริงผมลงในบัตรประชาชนปลอมครับ แต่ พ.ศ. เปลี่ยนเป็นเกิดช้าไปอีก ๕ ปี

“กู ๒๐  มึงวันไหน”

“๒๐ เหมือนกัน”  อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้

“โคตรบังเอิญหว่ะ  เกิดห่างกันปีหนึ่งเต็มเลยนะมึง  ต่อไปเรียกกูพี่นะ  ไม่เรียกกูต่อย”

“เห้ย ได้ไงวะโอ๊ต  คนอื่นยังไม่เห็นเรียกนายว่าพี่เลย”

“บอกให้เรียกก็เรียกสิวะ  เพราะตอนนี้มึงเป็นเด็กในกลุ่มกูแล้ว  ฮ่าๆ ”

“เอาอย่างนั้นก็ได้”  ยอมๆเด็กมันไป

“ว่าแต่พี่โอ๊ต  ทำข้อ ๒ มาสิบนาทีแล้วนะครับ  ยังไม่ถึงไหนเลย”  ผมถามกลับ ฮ่าๆ  มัวแต่ดราม่า  จนลืมทำการบ้าน

“เออๆ จะทำอยู่นี่แหละ”


นั่งทำไปสักพัก  ผมก็เห็นบอยเดินผ่านมาครับ

“ นั่นไงเนื้อคู่มึง ”  โอ๊ตพูด

“ บ้า นายก็พูดไป ”  ผมก็ปรามไป 

“ ทำอะไรอยู่หรอบีน ” เด็กบอยถามผม  ผมไม่ทันตอบ  เด็กบอยก็ยื่นช็อคโกแลตให้ผม

“ ทำการบ้าน  ขอบใจนะ  นี่บอยชอบกินขนมอะไรหรอ  วันหลังบีนจะได้ซื้อมาฝากบ้าง”

บอยทำหน้าคิดสักพัก

“ ชอบกินถั่ว อยากกินมาก ช่วงนี้เห็นถั่วบ่อยมาก  แต่ไม่รู้จะได้กินไหม ” ชอบอะไรที่ดูน่ารักดีจัง

“ได้ๆ วันหลังเดี๋ยวเราซื้อมาให้  เอาหลายๆแบบเลยเนาะ”

“เคๆ เดี๋ยวเราไปก่อนนะ”

เด็กบอยเขาก็เดินไปแล้ว

“นี่  เขาจีบมึงรู้ไหมวะ”

“รู้สิ”  ผมก็บอกไป  ระดับนี้แล้ว

“แล้วที่เค้าบอกชอบถั่ว  มึงไม่ต้องไปซื้อที่ไหนหรอกบีน”  ทำไมไม่ต้องซื้อ

“ชื่อมึง ภาษาอังกฤษแปลว่าอะไร”

“ถั่ว”  ผมตอบอย่างรวดเร็ว 

“เขาอยากกินมึง  วันหลังก็ให้เขากินซะนะ” อีเด็กบอยมันคิดอย่างนี้จริงหรอ

“บ้า  คิดลึกไปหรือเปล่า”  โอ๊ตต้องคิดลึกไป  บอยออกจะใสๆ ถึงจะอยู่กลุ่มหลังห้องก็เถอะ

“มึงหน้าแดง”   จะบอกทำไม

..................................................................

“ให้เบอร์บอยก่อน ไม่อย่างนั้นไม่ลุกให้นะ” บอยมานั่งที่นั่งผมครับ  นี่อยากกินผมจริงๆใช่ไหม

“อ้าว  วันก่อนเรายังไม่ได้แลกกันหรอ”

“เรานัดกันผ่านไลน์ไงบีน”

“รีบๆให้ไปบีน  กูหมั่นไส้คนจีบกัน”  ไอ้อ๊อฟมันหันหน้ามาเร่งผม

“อ่ะๆ เอาเบอร์มาเดี๋ยวยิงเข้า”

ผมขอเบอร์จากบอย   อ้าว แบตมือถือผมหมด  นึกออกแล้วว่าเมื่อคืนลืมชาร์จแบตก่อนมาเรียนครับ

“เดี๋ยวบอยแบตหมด  ส่งเข้าในไลน์ก็ได้”

“ไม่เอาอ่ะ  ส่งเข้าในนั้น  ตอนนี้มันก็ยังไม่ขึ้นว่า  อ่าน  อยู่ดี” 

อ้าว  เด็กนี่ก็คิดแปลกๆ  เด็กบอยพูดจบก็ลุกจากเก้าอี้ผม แล้วฉีกเศษกระดาษมาแผ่นเล็ก  เขียนเบอร์แล้วส่งให้ผม

“โอเคไหม”  เด็กบอย

“เอาอย่างนี้เลย”  ผมยิ้มตอบ แล้วเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง


..................................................................

“อ้าวโอ๊ต  ไหนว่าจะไปดูพวกกูซ้อมดนตรีวะ” พวกอ๊อฟกับไบท์  ถามโอ๊ตตอนที่เรากำลังจะแยกย้ายกันหลังเลิกเรียนครับ

“วันนี้กูติดธุระจริงๆหว่ะ  น้ากูให้ไปออกงานด้วย”  อ้าวคุณเจ้านายแกจะพาหลานไปเปิดตัวหรือนี่

“เออๆ ไป”  พวกผมบอกครับ 

“งั้นกูไปก่อนนะคนที่บ้านมารับแล้ว”  สงสัยคนขับรถมามารับคุณหนูโอ๊ตแน่เลย

“งั้นเดี๋ยวเราก็กลับเลยแล้วกัน” 

กี้โทรมาหาผมครับเมื่อห้านาทีที่แล้วครับ  แต่ผมไม่ได้เปิดเสียง  เลยจะโทรหาสักหน่อย


“เออ  ว่าไงกี้”

“บีน  บีนมาหาเราหน่อยได้ไหม” เกิดอะไรขึ้นอีกหล่ะนี่

“แล้วตอนนี้กี้อยู่ไหน”

“อยู่ห้องพี่แทนหน่ะ  เรามาเคลียร์กับพี่แทนอีกรอบ  แล้วก็มาเก็บของด้วย อึก” ทำไมเสียงเป็นสะอึก สะอื้น

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าๆ เราจะให้มาช่วยเก็บของ  เดี๋ยวเรารอนะ  รีบมานะ”

“จ้ะๆ”

ผมวิ่งย้อนกลับไปเอาของในกระเป๋านักเรียนเก็บเข้าล็อคเกอร์ครับ จะได้ถือเบาๆไปช่วยเพื่อนเก็บของ  กว่าจะฝ่าด่านจราจรติดขัด  ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็มาถึงคอนโด

กี้ในชุดกางเกงขาสั้นเลยหัวเข่า  เสื้อยืด  รองเท้าผ้าใบ  ลงมารอรับผมอยู่ข้างล่าง  แอบเห็นน้องเขาตาแดงๆนี่คงทะเลาะกันอีกตามเคย  อย่างว่าพี่แทนจะปล่อยกี้ไปง่ายๆได้อย่างไร

“เก็บของเสร็จแล้วใช่ไหม”  ผมถาม  น้องก็ได้แค่พยักหน้า

กี้เปิดประตูห้องเข้าไปด้านใน  ไม่ได้มีแค่พี่แทนอยู่ครับ  ไอ้พี่ป้องก็อยู่

“มาแล้วก็  ไปกันได้”  พี่แทนบอก

แต่ของกี้ไม่ได้เยอะเลยครับ เรียกว่าไม่มีอะไรเลย  มีกระเป๋าแค่ใบเดียว   อย่างนี้แปลกๆแล้วครับ  กี้ได้แต่เงียบไม่พูดอะไร
เราขึ้นรถของพี่แทนเหมือนเดิม  นั่งเหมือนเดิม  กี้นั่งข้างคนขับ  ผมนั่งข้างพี่ป้อง

“ พี่แทนจะไปส่งกี้ที่บ้านใช่ไหม ”  ผมถามเพื่อทำลายบรรยากาศในรถที่ดูอึมครึม

กี้หันหน้ามาทางผมแบบเศร้าๆ

“ ใช่ ”  พี่แทนแกตอบแล้วก็นิ่งไป

“ กี้เอามือถือมาให้พี่ ” 

พี่แทนพูดเสร็จ   แต่กี้เฉย  ไม่ยอมให้ไม่ให้  แกจะเอาไปทำอะไร 

สุดท้ายแกก็ใช้มือซ้ายล้วงเอามือถือจากกางเกงนี่  นี่มันไม่ได้แค่ยึดมือถือกันนะ  ทำไมมันดูเหมือนจี้  หรือว่าเรื่องติดหนี้พนันบอล  แล้วต้องการเงินหรือเปล่านี่ แล้วผมจะโดนปล้นไปไหม  มือถือเจ้านายก็ซื้อให้แพงด้วย   ถ้าโดนพวกนี้ปล้นจี้จะบอกว่ายังไง

อ่าว เวรกรรม  กี้เริ่มกระซิกๆ ร้องไห้แล้ว  ผมเริ่มใจไม่ดีครับ  เดาว่าตอนนี้เริ่มซวยแล้วหล่ะ  นี่เราออกมาเริ่มไกลกันแล้วครับ   ถึงแยกบางนาแล้วพี่แกก็เลี้ยวซ้าย นี่มันทางไปพัทยาแบบไม่ขึ้นทางด่วนนี่นา  น่ากลัว  มีแต่รถบรรทุก

“ เอ่อ  บ้านกี้อยู่ทางนี้หรอ ”

“ ถามมาก” ไอ้พี่ป้องพูดขึ้น

“ ถามกี้ต่างหาก ”  ผมสวนกลับ

“เฮ้ย  กี้เป็นอะไรหรือเปล่า  ทำไมร้องไห้ ”  ถามออกไปโต้งๆ นี่แหละครับ ผมเริ่มหงุดหงิด
เงียบ  ไม่มีใครตอบ  เอายังไงดีทีนี้  จะโทรหาคนอื่นก็ไม่รู้จะเป็นใครดี  ผมแอบเอามือถือออกมาไม่ให้พี่ป้องเห็น  จะได้แอบส่งข้อความ

ตายแล้ว ลืมไปว่าแบตหมดตั้งแต่ตอนเที่ยง  ผมกำลังจะเก็บมือถือ ไอ้ป้องมันก็ทักขึ้นมา

“จะทำอะไร  เอามานี่ ” 

นั่นไงมันแย่งมือถือผมไปครับ  ผมพยายามแย่งอย่างสุดพลัง  แต่มันเอามือใหญ่มันรวบแขนสองข้างผมไว้แล้วบีบให้มือถือผมค่อยคลายออกจากมือ  ใช้มือซ้ายมันหยิบมือถือ  เก็บเข้ากระเป๋ากางเกงด้านซ้ายมัน

“เอามานะพี่ ”  คิดว่าผมจะยอมง่ายๆหรอ ผมอาศัยจังหวะที่มันปล่อยแขนผม  เข้าไปประกบตัวกับไอ้ป้อง แล้วเอามือพยายามยื้อแย่งเอามือถือผมที่อยู่ในกระเป๋ามัน


ปึง 


“โอ๊ย”  ผมสู้ไม่ไหวครับ มันผลักตัวผมไปที่นั่งที่เดิม  แรงมาก  จนหัวผมกระแทกกับกระจกรถ

“อ้าวไอ้เหี้ย  กระจกรถกูจะแตก”
คือพี่แทนมันจะรู้ไหมว่าผมหัวเกือบแตก  ตอนนี้ผมมึนหัวไปหมด
มองไปอีกทีก็เห็นพี่ป้องถือกระเป่าตังค์ผมอยู่ครับ  มันล้วงไปตอนไหนนี่

“กูขอนะ” 

มันหยิบเงินออกจากกระเป๋าผมสามพัน ไอ้เลว มันทั้งกระเป๋าผมเลยนะ  ไม่มีเงินติดตัวแน่ๆแล้ว  ตอนนี้  ดีนะที่ผมไม่ได้เอาบัตรสำคัญใส่กระเป๋าตังค์เลย  นอกจากเงิน  บัตรนักเรียน และก็บัตรประชาชนปลอม

มันเก็บเงินใส่กระเป๋ามันแล้วโยนกระเป๋าตังค์ให้ผม  ไอ้พวกเถื่อน

“พี่แทนเอากี้ไปคนเดียวเถอะนะ ปล่อยบีนไปเถอะบีนไม่รู้อะไรด้วย”  กี้เหมือนอัดอั้นมานาน อะไรจะเอากี้ เอาผมไปไหน

เพี๊ย

“เงียบไปมึง”  กี้ก็โดนตบไปอีกราย  ผมนั่งเงียบครับหาวิธี 

ค้นดูในกระเป๋าก็ไม่มีอะไรนี่นา  ลืมเอามือถือเครื่องของผมมาอีกเครื่อง  ผมปิดกระเป๋าเสร็จ ไอ้ป้องก็หยิบกระเป๋าผมแล้วเปิดกระจกเขวี้ยงออกนอกรถ

“เฮ้ย  พี่โยนกระเป๋า ผมทิ้งทำไมนี่” ไอ้เลว ดีนะหนังสือเรียนผมเอาเข้าล็อคเกอร์หมดแล้ว  มีแค่สมุดเปล่ากับปากกา

“กูเห็นแล้วเกะกะตา  แล้วมึงก็อย่ามาลองดีกับกู  มึงจะไม่ได้ตายดีแน่”

ไอ้ป้องเตือนผม  ขณะที่เห็นผมจะกำลังกระโจนใส่แกอีกรอบ  หมั่นไส้  ผมกลับลงมานั่งที่เดิมทำอะไรไม่ได้เลย
พี่แทนตีไฟเลี้ยวเข้าข้างทางเลี้ยวเลี้ยวเข้าปั๊ม  มันเป็นปั๊มน้ำมันร้าง  ขับไปหลังห้องน้ำแล้วจอดเทียบกับรถตู้ที่จอดอยู่ข้างๆ

ถึงจะปั๊มข้างทางแต่ก็อยู่หลังห้องน้ำไกลจะถนนครับ 

“ มึงเฝ้าสองคนนี้ไว้”
สิ้นคำสั่งไอ้พี่แทนที่เดินลงไปจากรถ ไอ้ป้องก็กำข้อมือผมไว้  ส่วนกี้รายนั้นคงไม่กล้าวิ่งหนี

ไอ้พี่แทนลงไปคุยกับใครไม่รู้  ผู้ชายอายุประมาณ ๓๐  คุยได้สักพักก็ส่งสัญญาณให้ไอ้พี่ป้องลงไป  พร้อมล็อคแขนพวกผมทั้งสองไว้ข้างตัวลงไปด้วยแขนสองข้างของมัน  ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด

“สองคนนี้หรือ  มึงติดเฮียอยู่สองแสนห้า  อย่างนั้นกูตีราคาสองคนนี้รวมกันนะ”

มันเอาพวกผมมาขายหรือนี่  ไอ้พวกเลว  ติดพนันแล้วไม่มีเงินจ่าย 

“ให้เท่าไหร่ครับพี่  ปกติเฮียเขาตีราคาเด็กมัธยมเท่าไหร่  สองคนนี้เด็กเอกชนโรงเรียนดังเลยนะ  แล้วผมก็เอามือถือมาให้อีกสองเครื่องครับ  ตีราคารวมกับกันสองคนนี้เลย”

กี้ก้มหน้าแบบหมดหวัง  ทำไมต้องมาเจอแบบนี้วะ จะโทษกี้ก็ไม่ได้ น้องมันคนโดนแฟนมันบังคับ   
แล้วดูพวกมันทำ มันยังจะเอามือถือที่มันปล้นพวกผมเมื่อกี้มาขายกันต่อหน้าต่อตา  แถมยังจะเอามารวมกับค่าตัวพวกผม

“ ถ้ามัธยมอย่างนี้คงขายดี ”

“เท่าไหร่ครับพี่”

“พี่ให้ตามราคาที่เฮียบอกมานะ  แต่เด็กมันดูดีกว่าที่คิด    สองคนนี้บวกกับมือถือสองเครื่องก็  แสนห้า  กูให้สุดๆแล้วนะ  วันนี้กูใจดี”

“ขอบคุณมากครับพี่ขอบคุณมาก  อีกหนึ่งแสนผมจะรีบเอามาใช้ภายในเดือนหน้านะครับ”
ไอ้พี่แทนแทบกราบขอบคุณ  ไอ้ผีพนันเอ้ย

“เออให้มันได้อย่างที่มึงบอกแล้วกัน”

ใจผมนี่ตกไปอยู่ตาตุ่มแล้วครับ  พร้อมกับอาการแดกจุด  พูดอะไรไม่ออก  ผมกับกี้ถูกลูกน้องพี่คนที่ซื้อผมไปสองคนจับตัวให้เข้าไปนั่งในรถตู้   นั่งตรงแถวกลางเพราะถ้าพวกมันให้ผมนั่งใกล้ประตูคงกลัวพวกผมหนี  ผมคงไม่คิดสู้คิดหนีแล้วคิด  จะหนีก็คงวิ่งไปได้ไม่ถึงห้าก้าว  จะสู้ก็คงโดนอ่วมแน่

รถมุ่งหน้าต่อไปทางพัทยา  โดยไม่ถามพวกผมสักคำว่าหิวข้าวไหม  หรือ  ปวดห้องน้ำไหม  ท้องฟ้าเริ่มมืด  เวลาก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว  รู้สึกหมดหวัง  มือถือเครื่องจริงของผมอยู่ห้องและแน่นอนว่าผมจำเบอร์ใครไม่ได้เลยป่าน ก้อง นัท เจ้านาย หรือว่าพี่กฤช  แต่ถ้าจำเบอร์ได้ผมจะไปโทรศัพท์ที่ไหน  ตู้โทรศัพท์สาธารณะก็ไม่ได้มีมากมายเหมือนแต่ก่อน  แล้วจะบอกให้ใครมาช่วยดีครับ  ถ้าเป็นตำรวจเผื่อเขาตรวจบัตรประชาชนปลอม ผมก็ซวยแย่เลย  แต่จะมานั่งร้องไห้ก็ไม่ได้ 

“ขอโทษนะบีน  กี้โง่เอง” ผมมองกี้ด้วยสายตาอ่อน 

“อืม”  ผมตอบไปแค่นั้น  เซ็งครับ   ระหว่างที่ผมเอามือลูบกางเกงนักเรียนตัวเองอยู่นั้น  มือก็ไปโดนกับ

ใช่ 



กระดาษ


กระดาษที่เด็กบอยจดเบอร์ไว้ให้ผม  เอาหล่ะครับ  เอาเป็นว่าผมขอเห็นที่ที่เขาจะพาพวกผมไปขายตัวก่อน
แล้วค่อยหาทางหนี 

ถ้าหนีไม่พ้น  ก็ต้องโทรหาเด็กบอย  ให้มาช่วย  เพราะตอนนี้ผมไม่มีตังค์สักบาท

 :ling3:

ความหวังสุดท้ายอยู่ที่เด็กบอย




.....................................................................

เรื่องมันดูวุ่นวายเข้าไปทุกที  ที่จริงปมมันไม่เยอะหรอกครับ  พยายามเอามารวมๆปนๆกัน แล้วจะคลายให้เร็วที่สุด ฮ่าๆๆ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน  เข้ามาตอบ  เเละเข้ามารอตอนต่อไป ด้วยนะครับ     :ling1: :katai2-1:

วันนี้มาดึก  อรุณสวัสดิ์ล่วงหน้าแล้วกัน
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 04-08-2015 02:05:03
ขอให้บีนกับกี้รอดนะครับ...งานนี้วุ่นกว่าเก่าจริงๆ

ติดตามต่อไปครับผม^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 04-08-2015 04:56:11
เลวจริงๆ กี้ทำไมถึงยอมง่ายเนี่ย ทำบีนลำบากไปด้วยเลย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 04-08-2015 06:37:50
สู้ๆนะกี้ บีน

รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JY_JRB ที่ 04-08-2015 07:17:36
อ้าวกำลังมันส์ ค้างซะงั้น -*-  :ling1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-08-2015 07:23:21
ดีนะคะที่บีนเป็นผู้ใหญ่มากพอก็เลยไม่นึกโทษเด็กกี้ ที่สำคัญยังเข้าอกเข้าใจอีกต่างหาก นี่แหละน้าเพื่อนเตือนตั้งเท่าไรต่อเท่าไรก็ไม่เคยฟัง สุดท้ายก็ไม่ใช่แค่ตัวเองคนเดียวที่เดือดร้อน.. :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-08-2015 07:59:20
น้องกี้อาจจะโดนบังคับว่าถ้าไม่โทรจะทำร้ายร่างกาย

แต่ว่าน้องหลังผ่านเหตุการณ์นี้น่าจะตาสว่างได้ละนะ

ปอลิง บีนช่วยโทรไปบอกเพื่อนตามกระทืบแทนแอนด์เดอะแกงค์ทีสิ แบบนี้ต้องสั่งสอน

ปอลิงสอง บอย(ว่าที่)พระเอก สุ้ๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 04-08-2015 12:08:27
กี้เอ๊ยยยยยย :z3:
หรือน้องบอยจะเป็นพระเอกหว่าาาาา :hao3:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-08-2015 12:10:28
 :L2:   ค้างๆๆๆ รอค่ะรอ

บอยช่วยด้วยว่าแต่แกจะเอาโทรศัพท์ที่ไหนโทรล่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 04-08-2015 20:43:55
ค้างอ่าาาาาาา บีนจิเปนไรไหมเนี่ย >"<

ปล. พึ่งมาอ่านจร้า ติดตามๆๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๖ ๔/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๒ / น้องบีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 04-08-2015 22:04:27
รอ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 11-08-2015 16:43:15
ตอนที่ ๗  :hao7:


ครืน  เสียงเปิดประตูรถตู้


“เฮ้ย  ลงมาได้แล้ว”    พี่ผู้ชายเรียกผมกับกี้ให้ลงไป

“กี้ๆ ตื่น”     น้องมันนอนหลับครับ  สงสัยเหนื่อย

เราลงมาจากรถตู้  พร้อมกับเดินไปยังตึกค่อนข้างใหญ่ครับ  ประมาณ ๑๐ กว่าชั้น 

เหมือนเป็นคฤหาสน์ในละครปกติ  แต่ที่ไม่ปกติ    คือตอนเข้ามารั้วสูงมากและยามหน้าประตูเฝ้าถึง ๔ คน แล้วจะหนีออกไปยังไงนี่

ไม่เหมือนที่ที่เขาขายตัวเลยนี่นา  แต่ทางเข้ามานี่ลึกนะครับ  ไม่ได้อยู่โซนแหล่งที่เที่ยวกลางคืนเลย  แล้วอีกอย่างคือผมก็ไม่รู้ด้วยว่ามันคือทางไหน พัทยาเหนือ ใต้หรือกลาง  อุตส่าห์นั่งมองทางมาตลอด 

พัทยาคือจำได้ที่เดียวเลยคือ  ท่าเรือแถวๆ แหลมบาลีฮาย  เพราะสมัยเรียนเคยไปเที่ยวเกาะล้านกับเพื่อน

พวกลูกน้องของเสี่ยที่เขาพูดกันพาพวกผมเข้าทางหลังคฤหาสน์ครับ 

“เดี๋ยวนั่งรอตรงนี้แล้วกัน  เดี๋ยวมีคนมาหา”

พวกมันบอกผมให้นั่งรอ  ตรงนี้เป็นเหมือนห้องโถงข้างล่างของโรงแรมครับ คล้ายที่มีล็อบบี้แล้วก็มี  โซฟา รองรับแขก
แสดงว่าวันนี้วันหยุดหรือ   ไม่ค่อยมีคน 

“น้องมิคกี้  กับน้องบีนใช่ไหมครับ”  มีพี่ผู้ชายเดินเข้ามาหาพวกผมที่นั่งอยู่ พูดง่ายๆคือเกย์นั่นแหละครับ แต่ดูดีมาก  ดูสง่า  มีอิทธิพล

“ใช่ครับ”  พวกผมตอบพร้อมกัน  กี้มีอาการประหม่าและเกร็งอย่างเห็นได้ชัด  ส่วนผมพยายามทำตัวปกติ

“คนไหนมิคกี้  คนไหนบีน”

“ผมบีนครับ”  ผมตอบไป

“โอเค  ตามพี่มาแล้วกัน”

พี่เขาพาพวกผมเดินไปในตึกครับ เป็นชั้น ๑ นี่แหละ  แต่ดูแล้วค่อนข้างกว้างมีซอก  มีซอย  กว่าจะเดินถึง
สรุปเป็นห้องทำงานของพี่เขานั่นเอง   ผมนั่งลงตรงโซฟา  ส่วนพี่เขานั่งเก้าอี้นวม  พร้อมกับไขว่ห้างเปิดดูแฟ้มอะไรสักอย่าง

“เรียนอยู่มัธยมกันใช่ไหม”

“ใช่ครับ”

“พี่ไม่สนใจหรอกนะว่าพวกเธอมาที่นี่เพราะเต็มใจหรือไม่   เข้ามาได้อย่างไร  แต่ตอนนี้พวกเธอควรรู้ไว้นะว่า  ตัวพวกเธอตอนนี้เป็นของ  ลา กาซ่า เดล อมอร์ ( La casa del amor) แล้วเรียบร้อย ”

ที่นี่คงเป็นแหล่งอโคจรสินะ  คงเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเลยสิท่า  จากนั้นพี่แกก็อธิบายต่อ

“ ต้องทำงานที่นี่  กินอยู่ที่นี่  ค่าใช้จ่าย ฟรีทุกอย่าง  ซึ่งก็หักจากค่าตัวพวกเธอที่ได้ในแต่ละวัน  ๗๐ เปอร์เซ็น  ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่จะให้พวกเราไปพักกันก่อน ” หักแพงจังวะ

ว่าแล้วพี่แกก็ยกหูโทรศัพท์เหมือนกับเรื่องใครสักคนให้พาผมไปที่พัก

“ มาแล้วจ้า” อยู่ๆก็มีเด็กหนุ่มเปิดประตูโผล่เข้ามา  อายุน่าจะประมาณ ๒๐

“พาสองคนไปห้องพักพนักงานนะ”

“ครับพี่” 

พวกผมเดินตามเขาไปครับ  จนเดินออกมานอกคฤหาสน์ไปยังอีกตึกหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นตึกที่เป็นหอพักพนักงาน

“เด็กใหม่หรืออ้น”

“เออใช่” ระหว่างทางก็มีคนมาถามเรื่อยๆ ทั้งสายตาที่ดูเป็นมิตรและเป็นศัตรู

คนที่ชื่ออ้น  พาผมขึ้นมาชั้น ๕ ห้องพัก  หมายเลย ๕๐๕ แล้วเอากุญแจห้องเปิดห้องให้ผม

“นี่เป็นห้องพักพวกนายนะ  มีสองเตียง  เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเช้าไปรับเอาเสื้อผ้าที่ห้องเสื้อผ้าพนักงาน แล้วก็เครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆ  จะอยู่ชั้น ๑ ไปไม่ถูกก็ถามคนแถวนั้น” 

อ้นก็แนะนำ พร้อมยื่นกุญแจห้องให้

“ขอบคุณครับ”  กี้ขอบคุณพร้อมรับกุญแจมา พออ้นปิดประตูก็เดินไปล็อคห้อง

“บีนดูรอบๆแล้วนะกี้  หาทางออกยากมาก”  ผมพูดอย่างหมดหวัง

“ใช่แล้ว  เอายังไงดีบีน  เราไม่อยากทำอะไรแบบนี้เลยนะ  พรุ่งนี้ก็เริ่มงานแล้ว”  เอายังไงดี

“เอาเป็นว่าไปตีสนิทกับพวกรุ่นพี่ที่เคยทำงานที่นี่มาก่อนดีกว่า  เผื่อจะรู้อะไรดีๆ”

“อะไรดีๆงั้นหรือ” กี้ถามแบบงงๆ

อะไรดีๆ ก็คือ  พวกพนักงานที่นี่  มันต้องมีบ้างแหละครับที่หนีเที่ยว  หนีออกไปข้างนอก  อันนี้ผมสันนิษฐานเอาเฉยๆนะ

“ว่าแต่แกมีเงินติดตัวมาไหมกี้”  เงินของผม ไอ้ป้องเอาไปหมดแล้วครับ

“เรามีอยู่ ๕๐ บาทเอง กระเป๋าตังค์อยู่ในรถพี่แทน”

“จริงหรอ”  ผมล้มตัวลงนอนบนเตียง

ห้องเป็นเตียงคู่ครับ  สภาพเหมือนหอนักศึกษาเป๊ะเลย มีเตียงคู่ ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าสองตู้ โต๊ะทานข้าวเล็กๆ ทีวี ๑ เครื่อง โทรศัพท์ประจำห้อง ที่ดูแล้วน่าจะใช้ติดต่อในแค่ในนี้  ตรงระเบียงมีราวตากผ้า

“เอาเป็นว่าตอนนี้เราพักกันก่อนแล้วกัน  ว่าแต่ในกระเป๋ากี้มีเสื้อผ้าอะไรบ้าง”  ผมก็พึ่งสังเกตครับว่ากี้สะพายเป้เล็กๆมาด้วย 

“เออจริง ก็มีเสื้อผ้า ใส่นอน  ที่ชาร์จมือถือ”

“ขอยืมเสื้อผ้าหน่อยนะ  เรามีแค่ชุดนักเรียน”  ตอนนี้ผมไม่มีอะไรติดตัวเลยครับ

“ได้ๆ เอาไปเถอะ  แต่เราก็มีแค่สามสี่ชุดเอง ”

ผมเอาไปอาบน้ำก่อนกี้  เหนียวตัวครับ เหนื่อยมากด้วย  หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็เอาเสื้อนักเรียนไปใส่ไว้ในตะกร้าผ้า แต่ก็ไม่ลืมเอากระดาษที่มีเบอร์โทรของเด็กบอยออกมาท่องจนจำได้  แล้วสอดไว้ใต้หมอน

.................................................................................

กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงง  กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงง

ผมเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกที่ตั้งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนครับ พร้อมปลุกกี้ให้ลุกไปอาบน้ำ 

ตอนนี้เวลาแปดโมงครึ่ง  เดี๋ยวว่ากันว่าจัดการธุระกันเสร็จจะลงไปเอาชุดพนักงาน

“พี่ๆ เอ่อ  ห้องเสื้อพนักงานอยู่ตรงไหนหรอครับ” กี้ถามพี่คนที่นั่งแถวๆตึกชั้น ๑ 

“พวกแกเดินตรงไปทางนี้แล้วเลี้ยวซ้ายนะ  สังเกตห้องเสื้อจะอยู่ด้านขวามือ”

“ขอบคุณครับ”

พวกผมก็เดินไปห้องเสื้อ  ไปถึงห้องก็เหมือนห้องตัดเสื้อทั่วไปครับ  มีเจ๊คนหนึ่งยืนจดอะไรยิกๆอยู่ตรงเค้าเตอร์

“พี่ครับ คือพวกเรามารับเสื้อพนักงานครับ” ผมบอกกับแกไป

“น้อง เอ่อ ” แล้วแกก็ก้มดูหนังสือ เหมือนจดรายการชื่อบอกผมไว้ “ น้องมิคกี้  กับ บีน ใช่ไหมค่ะ”

“ใช่ครับ”

ว่าเสร็จเจ๊แกก็เรียกลูกน้องมาอีกคนมาวัดตัวพวกผมแล้วแกก็จดขนาดรอบอก สะโพก ขา ตามที่ช่างเสื้อเขาวัดกัน
 
“รอประเดี๋ยวนะ” แล้วแกก็หายเข้าไปในห้องเก็บเสื้ออีกที  เข้าไปครู่เดียวก็เดินออกพาพร้อมถุงสองถุง

“อ่ะ คนละถุง  เสื้อได้ไปคนละสองชุด  สองสีนะ ขนาดใสพอดีเชื่อมือเจ๊ได้ค่ะ  นี่พวกเธอเป็นพนักงานที่เข้ามาในรอบหลายเดือนเลยนะ ”

“อ้าว ปกติเขาไม่ค่อยรับคนเข้ามาหรือครับ”

“ไม่ใช่ว่าไม่รับหรอก  เพียงแต่ว่าพวกที่ทำที่นี่บางคนมันชอบหนีเที่ยวไง ไม่เข้าไปทำงานที่ตึกเลยโดนไล่ออกไง พวกข้างบนโน่นก็ไม่รู้ว่าพวกนี้หนีไปทางไหน แต่เจ๊รู้นะ  มันปีนกำแพงออกไป  กำแพงข้างหลังตึกนี่แหละมันต่ำ  แต่ไม่มีคนมาทำใหม่สักทีเพราะว่าตรงนั้นป่ามันรก  ไม่เป็นที่สังเกต ”

“อ่อ  ครับ”  ได้ทางออกแล้วหล่ะ  ไม่คิดว่าจะง่ายขนาดนี้ 

“แล้วเสื้อทำไมสีฉูดฉาดจังเลยครับ” คือเสื้อพี่ผมกับกี้ได้มีแต่สีเหลืองกับแสด

“อ้าวนี่ไม่รู้อะไรเลยหรือ เสื้อสีร้อนสำหรับพนักงานที่เป็นผู้รับบริการแขก  ส่วนเสื้อสีเย็นพวกสีเข้มสำหรับพนักงานที่เป็นผู้บริการแขก” 

อันนี้จะดูงงๆนะครับ คือสีร้อนสำหรับพนักงานที่เป็นรับ เป็นเคะคือ รับบริการแขกนั่นเอง รับใช้แขก  ส่วนสีเย็นนี่สำหรับพนักงานที่เป็นรุกสินะ คอยบริการ  ทำให้แขก อึ๋ย แค่คิดก็นะ   

“แล้วตอนบ่ายๆใส่ชุดแล้วเตรียมตัวไปตึกใหญ่ได้เลยนะ  จะมีห้องเตรียมตัวพนักงาน”

พวกผมรับเสื้อผ้ามาก็เดินไปแวะอีกห้องข้างๆ เป็นห้องสวัสดิการครับ ไปรับพวกข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ  ส่วนใหญ่เป็นพวกของบำรุงผิวหน้า ผิวกาย

...

บ่ายๆ ผมกับกี้ตัดสินใจที่จะทำงานไปก่อน พยายามจะทำให้เป็นปกติ  ไม่โวยวาย   แล้วตอนทำงานเสร็จดึกๆ ค่อยปีนกำแพงหลังตึกพักหนีจากที่นี่     

ตกลงกันแล้วก็เริ่มแต่งตัวกันครับ ชุดก็เป็น ชุดเสื้อเชิ้ตเข้ารูปติดกระดุมเม็ดบนสุด  แล้วใส่เป็นผ้าริบบิ้นที่ผูกกันเป็นโบว์สีขาวแทนการใส่เนคไท  แต่ผมว่ามันเหมือนคอซองยังไงไม่รู้  ส่วนกางเกงเป็นกางเกงสแล็ค  ตรงเอวจะเป็นผ้าแถบพันรอบเอวครับ

“สองคนนี้มาหาพี่ก่อน”

ระหว่างที่ผมสองคนกำลังจะเดินไปห้องเตรียมตัวพนักงาน ที่เป็นเหมือนว่าจะเป็นฝ่ายดูแลพนักงานก็เรียกไป  แกเรียกไปห้องสตูดิโอครับ  ไปถ่ายรูป

ถ่ายรุปเสร็จพี่แกก็ปล่อยผมไปห้องเตรียมตัว  ฟังหัวหน้าแกอบรมนิดๆหน่อยๆ เอาเบอร์ติดไว้ที่ข้อมือเสร็จ  แกก็ให้เข้าไปอีกห้องหนึ่ง  เป็นห้องที่เป็นห้องนั่งเล่นครับ แต่เป็นห้องนั่งเล่นที่มีขนาดใหญ่มาก  เป็นแนวยาว พี่เขาให้พวกพนักงานเกือบ ๓๐ คน นั่งพักผ่อน นั่งเล่น  ดูทีวี เล่นเกม  คุยกัน  ตามอัธยาศัย  เพราะว่าอีกด้านเป็นกระจกใส มองทะลุ

สรุปคือห้องนั่งเล่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับตู้กระจกครับ  ผมกับกี้เรานั่งลงอ่านหนังสือที่โซฟาใกล้กันในตู้กระจก  ไม่ว่าจะนั่งตรงไหนแขกก็มองเห็นพวกเราหมด

เมื่อถึงเวลาที่เปิดบริการ แขกก็เริ่มทยอยกันมาครับ  โดยพวกเขาจะใช้ลูกน้องมาเลิกอีกทีหนึ่ง  แต่เลือกโดยเลือกจากจอทัชสกรีนที่มีอยู่หน้าตู้กระจก  ในนั้นเหมือนมีรูปภาพกับข้อมูลของพนักงานที่อยู่ในตู้กระจก  หมายเลขไหนโดนเลือกก็จะได้ออกไป ของผมหมายเลย  ๒๖ กี้ หมายเลข ๒๗

นั่งนานเกือบสิบกว่านาที  มองดูคนโน้นคนนี้โดนเรียกออกไปเราสองคนก็ได้แต่ภาวนากันครับ  ว่าต้องไม่มีคนเรียกเรา


สุดท้ายก็



หมายเลย ๒๖ กับ ๒๗  ออกไปเตรียมตัวได้



หา นี่โดนเรียกพร้อมกันเลยหรือ ผมกับกี้มองหน้ากัน

“เราสองคนมานี่  พอดีว่าแขกที่มา  เรียกพวกเธอไปพร้อมกัน  ห้องเดียวกันนะ  ยังไงก็รับใช้ ดูแลแขกให้ดี   ไปได้”

“ครับ”  พวกผมตอบ  ดีแล้วที่ได้ไปด้วยกัน

เรากำลังเดินตามแม่บ้านวัยกลางคนที่นำทางพวกผมไปห้องของแขกครับ


ในระหว่างที่เดินอยู่นั้น



ปัง  ปัง  ปัง


กรี๊ดดดดดดด  เฮ้ย  เสียงปืนครับ   พวกผมก้มหลบ 


เสียงปืนมาจากห้องข้างหน้า

ผมกับกี้พยักหน้าแล้วรีบวิ่งกลับไปทางเดิม

ปัง

เสียงปืน ดังขึ้นมากกว่าเดิมเพราะพวกมือปืนออกมาจากห้องแล้ว   

ขณะที่พวกผมกำลังวิ่งเลี้ยวไปอีกทางผมก็เหลือบไปเห็นแม่บ้านที่เดินนำผมตั้งแต่ทีแรก  แกก็วิ่งตามพวกผมมาแต่ก็โดนปืนยิงไปเสียแล้ว

เราตกลงกันว่าอย่างรีบๆ ว่าจะอาศัยช่วงชุลมุนปีนกำแพงหลังหอพักหนีกันออกไป

ตอนนี้ห้องข้างล่างที่รับแขกวุ่นวายกันมาก  ทั้งแขกทั้งพนักงานวิ่งสับสนกันไปหมด

ที่นี่ต้องมีเรื่องที่ใหญ่โตกันแน่  และก็ได้ยินแว่วๆว่า เฮียหนีออกไปได้แล้ว  แสดงว่าพวกที่ยิงปืนนี่มาตามฆ่าเฮียที่คุมที่นี่แน่ๆ 
ทำไมผมต้องมาในช่วงที่เขาจะฆ่ากันด้วยนะ

“อ้าว  สองคนจะไปไหน”  พี่คนที่คุมพนักงานดึงผมไว้  แต่ดึงไม่อยู่ผมกับกี้วิ่งไปอีกทาง  เข้าไปในห้องที่เป็นห้องครัว

ปัง    ปัง     ปัง


“ใครไม่เกี่ยวออกไปจากที่นี่ให้หมด”  พวกมือปืนตามมาขู่ พนักงานถึงที่นี่ 

“เสี่ยพวกมึงอยู่ไหน”   

“เฮ้ย พวกกูถาม” 

มือปืนกำลังถามคนที่อยู่ในโถงรับแขกครับ เสียงดังมาจนถึงห้องครัวที่พวกผมอยู่ 


“กี้  กระโดดออกทางหน้าต่างดีกว่า  ถ้าจะรอออกทางเดิมไม่ได้แล้ว”

เราตัดสินใจกระโดดอกทางหน้าต่างเพราะมันไม่สูงมาก

“เอาอย่างนั้นก็ได้  เอ้าบีนโดดไปก่อน”

อึบ  พวกผมโดดลงมาพร้อมกับดูทางว่าปลอดภัยดี   แล้วก็วิ่งไปทางข้างหลังหอพักพนักงาน

“อ้าวหนูสองคน”  ผมวิ่งไปเห็นจังหวะที่เจ๊ที่อยู่ห้องตัดเสื้อกำลังวิ่งแบกกระเป๋ามาทางหลังตึก

“อ้าวเจ๊  คือพวกผม” 

“ไม่ต้องกลัว จะหนีใช่ไหม  เจ๊ก็จะหนี  ไปกันเร็ว  เดี๋ยวคนมาเห็นก่อน”

พวกเราสามคนรีบวิ่งไปทางกำลัง  กว่าจะเข้าไปได้ป่าค่อนข้างรกครับ  ยุง แมลงหวี่  ทั้งกัดทั้งตอม

เจ๊พาพวกเราออกจากป่าได้ก็เจอกับกำแพง  โห สูงอยู่นะ ไม่เห็นเตี๊ยแบบที่เจ๊แกบอกเลย

“ต้องปีนต้นมะม่วงข้ามไป  แล้วโดดลงหลังกำแพง  พื้นที่อยู่หลังกำแพงจะสูงกว่าที่นี่ไม่ต้องกลัว  ปีนตามเจ๊มา”

“ครับเจ๊”

............................................................................................

เราข้ามกำแพงมาได้ก็ต้องเจอกับป่าอีกครับ  แต่ไม่รกมาก

พวกเราวิ่งตามเจ๊ไป  ด้วยความหวัง  เจ๊แกบอกว่าโทรบอกผัวแกให้มารับเรียบร้อย  เราออกมาถึงถนนก็เจอรถแคปจอดอยู่ข้างทาง

“มานานยังพี่”  เจ๊แกถามผัว ขณะเปิดประตูรถก่อนจะกดเบาะ  เปิดเข้าไปให้พวกผมนั่งเบาะหลัง

“พึ่งถึงเมื่อกี้ แล้วสองคนนี่ใคร”

“ขับไปก่อน”

เราคุยกันไปเรื่อยๆบนรถ  เจ๊แกชื่อเจ๊หนึ่งเป็นกะเทยตัดผ้าที่ระยองมาก่อน  ต่อมาเศรษฐกิจเริ่มไม่ดีแกเลยมาสมัครงานตามใบปลิว  ไม่รู้ว่าทำงานที่ไหน  พอมาเจอก็แรกก็แทบช็อกที่นั่นเหมือนเป็นบ่อน เป็นฮาเร็ม  เจ๊แกจะขอลาออกก็ไม่มีใครยอม  เจ๊บอกว่าคิดถึงผัว 

และแล้ววันที่เจ๊แกรอคอยก็มาถึง   วันที่ที่นั่นกำลังจะล่มสลาย  เพราะเฮียที่คุมที่นั่นมีเรื่องบาดหมางกับเสี่ยที่อื่นเยอะ  แกเลยอาศัยช่วงชุลมุนหนีออกมา

ส่วนพวกผมก็อธิบายให้แกฟังว่ามาที่นี่ได้อย่างไรแบบละเอียด 

ผมได้ยืมมือถือเจ๊หนึ่งโทรหาบอย  บอยดูตกใจมากเพราะติดต่อผมไม่ได้เลยตั้งแต่ตอนเย็นเมื่อวาน  ทั้งโอ๊ตก็ได้ไปแจ้งความคนหายเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา  ผมเลยต้องบอกบอยให้ใจเย็นแล้วให้รีบมารับผมที่เซ็นทรัลเฟสติวัลเพราะผมวานให้เจ๊หนึ่งแวะส่งผมที่นั่นก่อนที่เจ๊แกจะกลับระยองกับผัวแก  ทางนั้นก็ถามผมว่าต้องให้โอ๊ตมาด้วยไหม  ผมตอบไปกว่าจะรอกัน  ให้บอยรีบมารับพวกผมเลยดีกว่า  ส่วนโอ๊ตให้ไปถอนแจ้งความไว้ก่อน

“เจ๊ไปก่อนนะลูก  หวังว่าคงจะได้พบกันอีก  ผัวเจ๊กำลังจะเปิดสวนผลไม้อย่าลืมไปเที่ยวกันนะ”

“ครับเจ๊ขอบคุณมากครับ” 

พวกเราลากันที่หน้าห้างสรรพสินค้า  ก่อนจะเข้าไปนั่งรอในห้างเพราะเรายังผวาเสียงปืนกันอยู่เลย  กลัวคนตามมา
เวลาตอนนี้กำลังจะสี่ทุ่มแล้ว  อีกชั่วโมงห้างก็จะปิด  ผมกับกี้เข้าไปล้างหน้าล้างมือในห้องน้ำก่อนออกมานั่งรอแถวๆประตูทางเข้าห้าง

“ว่าแต่บอยมันขับรถเป็นหรือบีน”

“เออจริงด้วย  พึ่ง ม.๕ เองนี่นา  มันจะไปมีใบขับขี่ได้อย่างไรหรือบีนว่ามันต้องขับเป็นนั่นแหละ ”

“บอยอาจจะให้พ่อแม่พ่อแม่บอยพามาก็ได้  แต่กี้ขอบคุณบีนมากนะที่ดูแลกี้มาตลอด”

“ไม่เป็นอะไรหรอก กี้ก็เพื่อนบีน  ตอนนี้ของีบก่อนนะ  ” 

ผมนอนลงตรงม้านั่งของทางห้างโดยไม่อายใคร  เพราะคนเริ่มที่จะบางตาแล้ว

เหนื่อยมากครับ  แถมแอร์ในห้างยังเย็นชื่นใจออก 


ขอให้เด็กบอยมันมารับพวกผมเร็วๆด้วยเถอะ



 :katai4: :katai4: :katai5:

มาแล้วครับ

หลังจากหายไปหนึ่งอาทิตย์เพราะผู้แต่งพึ่งหายจากไข้หวัด 

ช่วงนี้บางภาคฝนตกบ่อย  ดูแลตัวเองกันด้วยนะ 

บีนก็รอดไปได้ เป็นนายเอกเรื่องนี้ดูยุ่งยากแต่ก็ผ่านไปได้สบาย ฮ่าๆ


 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 11-08-2015 17:15:24
โชคดีมาก หนีรอดออกมาได้ อยากอ่านตอนหน้าไวๆ รีบมาต่อนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 11-08-2015 19:11:00
อุแหม่ บีนค่อดโชคดี


หวังว่าเจ๊กะผัวจะหนีรอปลอดภัยนะคะ


หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 11-08-2015 20:26:43
รอเกาะขอบ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-08-2015 20:39:05
งานนี้มันระทึกจริงๆเลยบีน
กลับไปแกจะถอนตัวไหมเนี่ย แต่คงไม่หรอกเพราะอยากช่วยเด็กสินะ
รอบอยมา ลุ้นต่ออีกแล้ว.  :pig4: 
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 11-08-2015 21:03:19
บีนโชคดีมาก ที่เหลือก็ขอให้กลับอย่างปลอดภัย  :mew1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 11-08-2015 21:52:07
เขียนสนุกมากเลื่อนไหลสุดๆลื่นปรึดๆเลย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 12-08-2015 00:02:46
โชคดีจริงๆ เลยนะคะ ที่คู่อริตามมาถล่มถึงที่นั่น บีนกับกี้ และรวมไปถึงเจ๊ถึงหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย ^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 12-08-2015 01:39:02
สนุกมากค่ะ บีนนิสัยดีมาก โอ๊ตก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด ส่วนกี้เริ่มไม่ชอบ นางดูยอมคน หงอกับพี่แทนจนระอาเลย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 12-08-2015 01:44:52
หวดหวิดๆๆ ไม่มีอะไรให้หักมุมกันต่อนะครับ รออ่านต่อครับผม^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๗ ๑๑/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนกับกี้มาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 12-08-2015 10:28:01
555+ บีนเอ๊ย หนีได้
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 15-08-2015 01:18:07
ตอนที่ ๘ :katai5:


“บีนตื่นๆ ”  หือ  บอยมาแล้วหรอ

“บอยมาแล้วหรือกี้” ผมถามไปแบบเบลอๆเพราะกำลังหลับสบายครับ

“ยังไม่มาหรอก  แต่ยามเดินมาบอกว่าห้างจะปิดแล้วนะ”  ผมหลับไปเกือบชั่วโมงแล้วหรือนี่

“อ้าวจริง  ถ้าอย่างนั้นไปรออยู่ข้างหน้าก็ได้”  แล้วบอยมันจะหาเจอไหมนะ

เราออกมานั่งรอที่ม้านั่งตรงลานหน้าห้าง

“เป็นชั่วโมงแล้วนะกี้” ผมเริ่มเซ็งครับ  ห้างปิดแล้ว คนก็บางตา

“คงอีกสักครึ่งชั่วโมง  ตอนกลางคืนรถไม่ติด  ใจเย็นก่อนบีน” กี้ใจเย็นหรือผมใจร้อน

“ก็คือเรากลัวคนตามมาไง อีกอย่างตอนนี้โคตรเหนื่อยเลย  อยากอาบน้ำ”

“เออจริงด้วย”

“แต่ถ้าคิดอีกแง่  บีนว่าที่นั่นคงเละแล้วแน่ๆ ได้ปิดกิจการก็คราวนี้แหละ ดูมีปัญหากันมาก”

ออกมานั่งรอเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มาครับ

“เออกี้  แกจะเอาอย่างไรกับพวกพี่แทนหรือ”

“หมายความว่าไง” กี้ถามมาใสๆ

“ก็คือ กี้จะจัดการ  ไปรุมกระทืบดีไหมหรือไปแจ้งความจับ”

พูดแล้วก็เจ็บใจ ทั้งมือถือ ทั้งกระเป๋านักเรียน ไหนจะเอาผมไปขายอีก มันน่านัก

“ปล่อยไปเถอะบีน  กี้ไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้ว  พอเถอะ” 

หรือผมจะเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณบิ๊กดี  แต่ทำแบบกี้ก็ดีเหมือนกัน  ดูไม่วุ่นวาย

“ดีแล้ว  ถึงอย่างไรกี้ก็มีเพื่อนอยู่ข้างๆนะ  รู้ใช่ไหมว่าโอ๊ตมันชอบกี้”

“รู้สิ  แต่ตอนนั้นเรามีพี่แทนอยู่ไง”  อ้าวแสดงว่าตอนนี้ไม่มีพี่แทนแล้ว ก็จะไปชอบโอ๊ตตอบสิท่า

“แสดงว่าต่อไปอาจจะให้โอกาสโอ๊ตหรือ”

“จะไปให้ได้อย่างไร  โอ๊ตตัดใจจากเราแล้ว ถึงยังไม่ตัดใจโอ๊ตก็มีคนคุยด้วยอยู่ดี  เด็กโรงเรียน......... ไงล่ะ สวยด้วยนะ”

ฉิบหายแล้ว  ทำไมผมลืมเรื่องที่โอ๊ตเจ้าชู้  คุยกับคนอื่นไปเรื่อยได้  แล้วเรื่องเด็กผู้หญิงโรงเรียนนั้น  ผมก็ตกข่าวสินะ

“แต่โอ๊ตไม่ได้อะไรมากหรอก  แต่ผู้หญิงเขาตื้อ”  กี้บ่นให้ฟังต่อ

“ถ้าตื้อไม่เก่งก็คงตื้อได้ไม่นานหรอกกี้” 

แปะ แปะ

ยุงกัดครับ   

ผมมองไปตรงพุ่มไม้  แถวลานหน้าห้าง  เหมือนมีคนมาด้อมๆ มองๆ

“กี้  เหมือนคนเดินอยู่ตรงนั้น  เหมือนมองมาที่เราเลย”

“เออใช่จริงด้วย  บอยหรือเปล่า”

มันจะใช่ไหมนี่ ดูทรงเหมือนไม่ใช่เด็กมัธยม

“มันเดินไปอีกทางแล้ว” ตอนนี้ระแวงไปหมดแล้วครับ  คงไม่ใช่บอย โอย เมื่อไหร่จะมา  ง่วงแล้วนะ

“แล้วกี้เคยเห็นรถบอยหรือเปล่า”

“ไม่เลย เราไม่สนิทกับบอย  บอยพึ่งย้ายมาตอน ม.๔ เทอม ๒ เอง บอยจะสนิทกับสุวิทย์ที่เราไปนั่งแทน  และก็พวกกลุ่มหลังห้องมากกว่า ”

“อ๋อ”  ที่แท้ก็เด็กพึ่งย้ายมาได้เทอมเดียว

“แต่บอยมันชอบบีนนะ เราดูออก”

“แหมจะไม่ให้คนอื่นดูออกได้อย่างไรกี้  ก็เล่นแสดงออกซะขนาดนั้น”
ฮ่าๆๆ  ขณะที่เรากำลังพูดคุยกันเพลินอยู่นั้น

เฮ้ย  บอย 

เด็กบอยมาแล้ว  วิ่งหน้าตื่นมาเชียว

“อยู่ตรงนี้ก็ไม่บอก”  นี่คือคำทักทาย  แต่ดูหน้ามันแล้วดูเป็นห่วงพวกผมอยู่นะ

“ก็บอกแล้วไงว่า  จะรออยู่หน้าห้าง”

“ก็เล่นซะนั่งหลบมุม  เมื่อกี้ก็เดินมาดูแล้วรอบหนึ่งก็ไม่เจอ” 

อ้าว  สรุปคนที่เดินมาด้อมๆมองๆนี่คือ เด็กบอยหรอกหรอ  แต่วันนี้ดูมันแต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวันที่ไปซื้อของกับผมเสียอีก

“เราว่ากลับกันเถอะ  เดี๋ยวจะดึกไปมากกว่านี้”  กี้แทรกขึ้นมาก

“ป่ะๆ ไปกัน”  บอยบอกก่อนนำทางพวกเราไป 

แต่เดี๋ยวนะ

ทำไมเด็กบอยต้องจับมือผมเดินไปด้วย 

ผมหันหน้าไปมองกี้  กี้ก็ยิ้มให้ผมเล็กๆ 

ยอมให้เขาจับมือแล้วกัน  เด็กมันอุตส่าห์มารับ

......................................................................   


“บ้านกี้อยู่แถวไหนบอกบอยด้วยนะ”  บอยเริ่มถามกี้เมื่อเราใกล้จะถึงกรุงเทพ  เวลาตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้วครับรถไม่ค่อยเยอะ

“แล้วป้าอยู่บ้านไหม กี้มีกุญแจหรอ” จำได้ว่าวันก่อนๆ กี้บอกว่าป้าไปต่างจังหวัด

“ป้าไม่อยู่  แต่มีกุญแจสำรองซ่อนไว้ไม่ต้องห่วง”

เด็กบอยมาส่งกี้ถึงหน้าบ้านกี้  ซึ่งกว่าจะเข้ามาถึงก็ดูลึกเหมือนกัน  อย่างว่าช่วงก่อนกี้ทำไมไปนอนห้องพี่แทน ห้องพี่แทนดูจะอยู่ใกล้โรงเรียนกว่า  บ้านกี้ก็ดูดีนะ  แต่ที่รู้มาคือก่อนหน้ามีปัญหาเรื่องเงิน  แต่กี้ก็บอกผมว่าช่วงนี้ดีขึ้นแล้ว  อาทิตย์หน้ากี้ก็บอกว่าจะไปลาออกจากงานพาร์ทไทม์แล้ว

“ไม่มานั่งเบาะหน้าหรอบีน”

“ไม่หรอก  ง่วง  ขอนอนก่อนนะ” 

“เฮ้ย อย่านอนมานั่งบอกทางบอยก่อนสิ  หรือว่าบีนอยากไปนอนห้องบอยจ้ะ”  มันหันมายิ้มกรุ้มกริ่ม  ไอ้เด็กนี่

“บ้า  นั่งก็นั่ง  แกก็ขับไป”

ผมปีนขึ้นไปนั่งเบาหน้า  แคว๊ก

อุ้ย ตาย

กางเกงเป้าแตก  กางเกงนี่มันฟิตไป

“ฮ่าๆ เป้าแตก ไหนดูซิ” อีบ้าบอย  มันทำท่าจะเอามือจะจับดู  แต่ผมตีมือมันก่อน

“บ้า มีอะไรไหม  เอามาปิดก่อน”  อายครับ  ผมเอามือปิดเป้าไว้

“อ่ะ  เสื้อคลุม ”  บอยยื่นเสื้อคลุมมาให้  ผมเอาเสื้อคลุมวางปิดไว้ที่ตักแล้วนั่งบอกทางบอยไป

...............................................................................................


“ขอบคุณมากนะบอย  ที่จริงจอดข้างหน้าก็ได้นะ ไม่เห็นต้องเข้ามาในโรงรถเลย”  บอกให้จอดข้างหน้าก็ไม่ฟังกันครับ

“บอยง่วงอ่ะบีน” นั่นไง  อยากขึ้นไปนอนห้องผมสิท่า

“อย่างนั้นก็เลื่อนกระจกลง  แล้วก็งีบสักหน่อยก็ได้  แล้วค่อยไป  หรือจะแวะไปนอนปั๊มก็ได้”  ผมก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“โถ่บีน  ไม่สงสารบอยหรอ  ทั้งขับไปขับกลับ  เหนื่อยแย่”

“จะขึ้นไปให้ได้ใช่ไหม” หึ ผมหงุดหงิด

“จ้ะ”  บอยตอบแค่นั้นแล้วยิ้มหวานให้

“ อย่างนั้นก็ดับเครื่อง ตามมา” ดีนะเก็บห้องสะอาดแล้ว   

.......................................................................

“ไปอาบน้ำก่อนเลยนะบอย”

เราเข้ามาในห้อง ผมก็ต้องบอกให้บอยเข้าห้องน้ำไปก่อนครับ  เพราะว่าผมจะไปเก็บกระเป๋าอีกใบซึ่งใส่กระเป๋าตังค์กับมือถือตัวจริง  กะว่าจะเอาไปซ่อนไว้ในตู้ก่อน

“ไม่หรอก บอยอาบมาแล้ว  ขอนอนเลยแล้วกัน”  ไอ้นี่  ไม่ได้  กระเป๋าอยู่ในห้องนอน  ผมต้องเปิดดูมือถือก่อน ว่าใครโทรมาบ้าง ถ้ามากดต่อหน้าบอยก็ขี้เกียจโกหก  เพราะผมบอกบอยไปว่ามือถือผมโดนไอ้พวกพี่แทนเอาไป

“ก็จะไม่ล้างหน้า  แปรงฟันบ้างเลยหรือ  ตามมา ”  ผมเดินเข้าห้องนอนแล้วไปหยิบผ้าเช็ดตัว  ผืนที่ยังไม่ได้ใช้เอามาให้บอย

“แปรงสีฟัน  อันที่ยังไม่ใช้อยู่ในตู้ข้างกับอ่างล้างหน้านะ  ไปรีบไป”

“ครับๆ”

พู่ ผมถอนหายใจออกทั้งทางจมูกทางปาก  แล้วรีบไปหยิบกระเป๋าที่วางไว้โต๊ะทำงาน  เปิดออกแล้วรีบหยิบมือถือขึ้นมาครับ  ตายแล้วไม่ได้รับตั้ง  ๓๐ สาย  ๑๕ สายแรกของคุณบิ๊ก พวกป่าน ๑๐ อันหลัง  แม่ผมอีก ๕ สาย เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ค่อยโทรไปเคลียร์แล้วกัน  ผมรีบเอามือถือใส่กระเป๋า  แล้วยัดเข้าไปในตู้เสื้อผ้า  ในชั้นที่สูงและลึกที่สุด

“เสร็จแล้วจ้ะบีน  ทำอะไรอยู่”  เวรแล้ว เด็กบอยทำไมมันออกมาทางประตูห้องน้ำที่เชื่อมกับห้องแต่งตัว

“ตกใจหมด  มาดูชุดนอน  จะใส่เสื้อไหม” ผมมองกลับไปมันใส่แต่บ๊อกเซอร์ออกมาครับ หืม หุ่นมันซ่อนรูปเชียว  ดูแน่น กว่าน้องโอ๊ตมาก

“ไม่เอาหรอก  ถึงเอามาใส่ก็คงใส่ไม่ได้” แหม  เด็กนี่ว่าผมตัวเล็กใช่ไหม

“เอาไปใส่เถอะ  ตัวใหญ่บีนก็มี  เอ้านี่”

ผมหยิบเสื้อตัวที่คิดว่าใหญ่ที่สุดให้มันใส่  บอยมันสวมก็พอดีเป๊ะ ไม่แน่นมาก  ใส่แล้วค่อยดูสบายตาหน่อย  ดีกว่าใส่กางเกงตัวเดียว  เห็นแล้วรู้สึกกลัว  ขนลุก  ผมคิดมากไปหรือเปล่านี่

ผมอาบน้ำเสร็จ  ออกมาใส่เสื้อผ้า  แล้วเดินออกไปดื่มนม  ก่อนนอนครับ  รู้สึกหิว เมื่อตอนเย็นไม่ได้กินอะไรเลย
ออกมากก็เห็นบอย   มันยังมานั่งดูทีวีอยู่เลย ไหนบอกว่าง่วงโกหกกันแน่ๆ

“ไหนบอกว่าง่วง  รีบไปนอนเลย”

“แฮ่ๆ  พอดีบอยล้างหน้าแล้วมันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลยล่ะ” ไอ้เด็กบอยนี่มัน

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวบีนไปนอนก่อนนะ  จะนอนก็ปิดทีวีด้วย  นอนก็ระวังตกโซฟาล่ะ” ผมกำลังจะเดินเข้าห้องนอน

“เฮ้ย  บอยยังไม่ได้บอกเลยว่าจะนอนโฟซา”  สมน้ำหน้า แต่ไม่ทันครับ  มันรีบกดรีโมทปิดทีวีแล้ววิ่งแซงหน้า  ผมเข้าห้องนอนไป  ทำไมดูมันดื้อขึ้น

“แล้วนอนกลางเตียงอย่างนั้นใครมันจะไปนอนได้   ขยับไป”  ผมว่าบอยที่มันนอนกินพื้นที่  พร้อมใช้มือดัน

“ก็มันมีหมอนใบเดียวนี่นา”

“เออเดี๋ยวไปเอาใบอื่นมาให้” 

ผมบอกพร้อมไปเอาหมอนอีกใบมาให้   “เอานี่  แล้วก็ขยับไป  เอาหมอนข้างบีนมาด้วย” 

ผมล้มตัวนอนลง   แล้วเอาขาคาบหมอนข้างที่บอยส่งให้ไว้

“ชอบกอดหมอนข้างหรอ”

“ใช่  ไม่กอดนอนไม่หลับ  แล้วบอยล่ะ  เอาไปกอดนี่ชอบกอดหรอ”  ผมถามมันตอบ

“ไม่หรอก  แต่ชอบกอดคนที่ชอบกอดหมอนข้างอีกทีหนึ่ง” เดี๋ยวนี้มีมุขมาจีบ มาแซะตลอด ผมต้องตั้งสติไว้  เอาล่ะ

“ บอย”  ผมหันหน้าเข้าหาบอย  เรียกชื่อบอยแบบจริงจัง  พร้อมเอามือไปลูบหน้าบอยมัน

“ครับ” บอยมันขานตอบแบบมีความหวัง

“ไปปิดไฟเถอะ  ง่วงแล้ว” ฮ่าๆ

“โถ่บีน  นึกว่าจะบอกอะไร”  มันว่าแบบเซ็ง

“ลุกไปปิดเร็ว  ง่วง”

มันลุกไปปิดไฟแล้วล้มตัวนอนลง  พร้อมกับขยับมาใกล้ๆผมครับ

“นี่ เตียงก็กว้าง  จะเบียดมาทำไม”  ผ้าห่มก็ผืนเดียวกัน  แบบนี้มันเสี่ยงมากครับ

“ก็บอยอยากนอนใกล้บีนไง”

“ขยับออกไปอีกสิ”  ผมพลิกตัวไปทางบอยอีกครั้ง  ขณะที่ขาก็พาดกอดหมอนข้างไว้อยู่  พร้อมกับเอามือดันอกมันออกไป นอนใกล้กันไม่ได้  ผมหวงตัว ผมนี่ก็คิดอย่างกับตัวเองบริสุทธ์  ฮ่าๆ

“นี่  ขยับไปอีกนิด  เออ  เท่านี้แหละ”  ว่าแต่เอามือดันอกมันออกไป  ทำไมอกมันแน่นดีจังเลย ไม่เอาๆ ไม่คิดๆ

“ครับๆ นอนแล้วๆ” บอยพูดเชิงยอมผม   แล้วเราก็หลับไปด้วยความเหนื่อย

...............................................................................................


ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง

อ้าว  ใครมากดกริ่ง  ผมพึ่งนอนไปได้นิดเดียวเอง

ส่วนเด็กบอยนี่นอนหลับไม่รู้เรื่องไปแล้วครับ  ผมเดินออกจากห้องนอน  เพื่อไปดูตรงหน้าจอข้างประตู  จะเป็นกล้องติดอยู่แล้วมีจอให้ดู   

อ้าวก็ไม่มีใครนี่นา


ติ๊ง ติ๊ง


อ้าว  นี่ตกลงใคร  ผมนึกในใจขณะที่กำลังจะเดินไปห้องนอน  ก็ต้องเดินวกกลับไปดูอีก ดูในกล้องก็ไม่มีนะ

แกร๊ก  ผมลองเปิดประตูออกไปดู  หันซ้ายก็ไม่มี  หันขวา  เฮ้ย


“อ้น”  ผมทักไป  อ้นที่ทำงานอยู่ที่ที่ผมหนีมา  ตกใจมันเข้าคอนโดมาได้อย่างไร

“บีน ป่ะ นายต้องไปกับเรา  เฮียบอกให้มาตาม   กี้รออยู่ข้างล่างแล้ว” อ้นพูดแบบไร้อารมณ์ แต่ดูเครียด

“บ้า ไม่ไป  เราไปส่งกี้ที่บ้านแล้วจะออกมาได้ยังไง”

“ก็กูตามไปจับไงล่ะ  มากับกูซะดีๆ เฮียรออยู่ ” อ้าวอยู่ดีๆ ขึ้น กู

“เฮียอะไรของนาย  เราไม่รู้”  ผมตอบไปมั่วๆ ไม่ไปแล้วครับ   ถ้ามันจับกี้ไปจริงๆ ก็ค่อยไปช่วย  จังหวะที่ผมกำลังจะปิดประตู  อ้นกลับดึงไว้  ทำไมมันแรงเยอะอย่างนี้นะ

“อ้นปล่อยสิ  ดึงไว้ทำไมเล่า”  ผมว่าแล้วมันก็ไม่ปล่อย

“มึงต้องไปกับกูสิวะ  อย่าดื้อ” วันว่าพร้อมเอามือมันมาดึงแขนผม

“ไม่ไปโว้ย  บอยช่วยด้วย  แกจะนอนไปถึงไหนวะ” ไม่ปล่อยใช่ไหม  ผมใช้แรงที่มีถีบมันพร้อมกับจะวิ่งเข้าห้อง  ไม่ทำไมผมไม่มีแรงวิ่งล่ะนี่  เป็นเพราะเหนื่อยแน่ๆ

“บอยช่วยด้วย บอย ”  ทำไมมันไม่ได้ยิน

“ไปกับกูซะเถอะ”  อ้นมันว่าพร้อมเอาผ้าขาว ๆ  มาอุดจมูก

“อื้อ”  ทำไมมันล็อคตัวผมไว้แน่นดีจัง  โอย  ผมเริ่มมึนๆแล้วครับ
 
มันประคองผมลงมาทางลิฟต์ครับ  นี่ยามหายไปไหนกันหมด  ตายแล้ว

“ช่วยด้วย”  ผมร้องออกไปแบบเบาๆ ยาไม่ใช่ยาสลบครับ แต่มันชาๆ แรงไม่ค่อยมี

มันเอาผมเข้าไปในรถตู้  เฮ้ย มันเอากี้มาจริงๆด้วย   กี้นอนสลบอยู่เบาะหลัง ไม่ๆ ผมจะไม่ยอมไปอีก ผมต้องสู้
ผมเหลือบไปเห็บปากกาที่ตกอยู่ตรงเบาะรถ  ชั่วอึดใจผมตัดสินใจทำบางสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าทำ

ผมรวบรวมพลังทั้งหมดแล้ว เอาปากกาแทงเข้าที่คออ้น  ปากกาครึ่งด้ามฝังอยู่ในคอมัน

“โอ้ย ไอ้เชี่ย”  มันร้องขึ้น “มึงกล้าทำกูหรอ  มึงตาย”

ผมมัวแต่ตกใจ ลืมหนี  มันกระโจนเข้ามาบีบคอผม  บีบแรงมาก

ผมหายใจไม่ออก

“อ๊อก อ๊อก ”  มือผมพยายามปัดป่ายไปเรื่อยๆ แต่แรงหมดแล้วครับ

เฮือกสุดท้ายของชีวิตเป็นอย่างนี้เองหรือ


แม่ผม น้องผม ป่าน อีก้อง อีนัท



ภาพตรงหน้าดับมืดเป็นสีดำ


........................................................................................


ไม่ๆ



ผมตายแล้วจริงๆหรือ






ทำไมมันมืด
 


เฮือก




เฮ้ย นี่ 

ผมยังอยู่บนเตียง  ข้างๆเป็นบอย



ผมฝันไปหรือนี่  ทำไมมันเหมือนจริงจัง


ฮึก ไม่นะ ผมร้องไห้ครับ ฮือๆ ทำไมมันน่ากลัวจังวะ    ฟืดๆ ผมสูดน้ำมูก  พร้อมกับเช็ดน้ำตาออกจากหน้า

“บีน  เป็นอะไรหรือเปล่า”  บอยที่พึ่งสะดุ้งตื่นเพราะเสียงผมสะอึกสะอื้น  ถามผม

“ฝันร้าย  โคตรเหมือนจริงเลย  ไอ้พวกนั้นมันตามเรามา”

“ไม่ต้องกลัวนะบีน  ไม่มีอะไรแล้ว  บอยอยู่ข้างนี่ไง”

มันปลอบพร้อมเอามือลูบหัวผม  ทำไมรู้สึกอบอุ่นจัง  ถ้าได้กอดจะดูอบอุ่นแบบนี้ไหมนะ  บ้า  ผมก็คิดไปโน่น  ถึงยังไงก็ขอด่ามันเถอะ

“หึ แล้วในฝันนะบีนเรียกก็ไม่ได้ยินสักที   ขอสักทีเถอะ”  แปะ ผมเอามือตีหน้าผากมัน

“โหยนี่ บอยผิดอะไรวะ มันแค่ในฝันนะ  มาๆ บอยมาให้บอยกอดจะได้หายกลัว”

บอยดึงผมเข้าไปกอด  ทำไมมันแรงเยอะล่ะ ดึงผมไปนิดเดียวก็เอาผมไปไว้ในอ้อมกอดมันได้แล้ว
อุ่นจริงๆ  อุ่นทั้งกายอุ่นทั้งใจครับ  ไม่น่าเชื่อว่าเด็ก ม.๕ จะดูเป็นผู้ใหญ่มากถึงขนาดนี้  เรานอนหันหน้าเข้าหากัน ผมซุกหน้าเข้าที่หน้าอกแน่นๆของบอย  โดยมาหมอนข้างที่ผมยังใช้ขาผมคาบไว้อยู่คั่นกลาง ฮ่าๆ  หลับจริงๆแล้วล่ะที่นี้
 
...


อืม อ้าวนี่ใกล้เช้าแล้วหรือนี่ ผมลืมตาขึ้นเห็นแสงพระอาทิตย์ยามเช้าที่ยังไม่สว่างมากส่องเข้ามาที่ผ้าม่านห้องนอน
แล้วหมอนข้างผมหายไปไหน

“อืม ตื่นเร็วจัง”

“อย่างนั้นก็นอนต่อ” ผมบอกบอยไป  มันกระชับกอดผมแน่นเข้า  คือตอนนี้นอนแทบจะสิงกันแล้วครับ  หมอนข้างไปไหน  มันต้องแอบดึงออกแน่ๆ  เรานอนกอดกัน  หันหน้าเข้าหากัน แบบแนบแน่นขนาดนี้  มันเริ่มไม่ใช่ละ

“บีน”  บอยมันเรียกผม

“อะไร” ผมเงยหน้าออกจากอกบอย  จ้องไปที่หน้า

“มีอะไร” ผมถาม บอยพยักหน้าให้ผมเชิงขออะไรสักอย่าง กริยาแบบนี้แฟนเก่าผมเคยทำครับ นี่มันขอมีอะไรกันนี่นา  ผมเหมือนโดนมนต์อะไรสักอย่างสะกดให้หยุดนิ่ง

เด็กบอยใช้ริมฝีปากมันประกบลงที่ปากผม  ความชื้นของน้ำลายที่ติดอยู่ที่ลิ้นของบอย  ถูกป้ายลงที่ริมฝีปากบนผม  มือของบอยลูบหลังมืออย่างปลอบประโลม  บอยพลิกตัวขึ้นคร่อมตัวผม ปากของบอยยังเคลียคลออยู่กับริมฝีปากผมอย่างไม่ห่าง  ไม่ได้ผมจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้  บอยยังเด็กอยู่  ยังไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้ อีกอย่างผมก็ปลอมตัวมาด้วย  ทำไม่ได้

“บอย  พอเถอะ” บอยกำลังใช้จมูกสูดดมที่ซอกคอผม  ยอมรับว่าเสียว ปลุกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี  แต่ต้องห้ามบอยไว้ก่อน

“ให้บอยเถอะนะ  ไม่ไหวแล้ว  จับดูสิ  ปวดไปหมดแล้ว” บอยบอกกับผม ส่งสายตาอ้อนวอน  แล้วเอามือมันมาจับมือผมให้ไปจับของมัน

“บ้า  พอเถอะบอย” บอกไม่ฟังแล้วครับ บอยเริ่มรุนแรง มันใช้ปากตัวเองบดขยี้ปากผม ทั้งสูด  ทั้งดม เหมือนคนตายอดตายอยากมาจากไหน

“พอเถอะ บอย หยุด ” เพี๊ย  ผมตีไปที่หน้ามัน ไม่หยุดครับ มันทำต่อ


เพี๊ย


เพี๊ย




“โอ้ย  บีน  ตบหน้าบอยทำไมนี่”

ห๊ะ ผมสะดุ้งลืมตาขึ้น  อ้าวยังมืดอยู่เลย  ยังไม่เช้า   หมอนข้างผมก็ยังกอด 

บอยก็นอนกอดผมไว้เหมือนเดิม  ไม่ได้กอดแน่นอะไรมาก

“เฮ้ย  บีนฝันหรอนี่  ขอโทษๆนะบอย  โทษที”

ผมเอามือลูบหน้ามันเบาๆ มันจะโกรธไหมนี่  ดูหน้าบูด เหมือนผมไปรบกวนเวลานอนเขา

“โกรธบีนหรือเปล่าบอย  บีนขอโทษ”

“หึ” บอยปล่อยผมจากอ้อมกอดแล้วพลิกตัวหันหน้าหนี

“เฮ้ย  อย่าโกรธสิ  แค่ฝัน ไม่เอานะ ทำหน้าบึ้งไม่หล่อนะบอย ”

“หอมแก้มบอยก่อนสิ ”  บอยพลิกตัวกลับมาอีกครั้ง แต่ยังทำหน้าบึ้งอยู่  ข้อต่อรองเยอะจริง 

เอ้า  หอมก็หอม  กลัวมันโกรธ

ฟอด ไป ๑ ที

“หายยัง”  ผมนี่ก็ทำไปได้ เด็กบอกอะไรก็ทำตาม

“หายแล้ว ป่ะนอนกัน” บอยเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มหน้าบานทันที  นี่มันโกรธจริงไหมนี่

“นี่บอยแกล้งบีนหรือ”  ผมถาม

“เปล่านี่น่า ก็บีนตีหน้าเราก่อน  เราก็ให้หอมคืน  ลบรอยเจ็บ  ก็หายกันแล้วนี่”

หึย  อีเด็กบอย

“อย่างนั้นก็นอนสักที ”





หวังว่าผมจะไม่ฝันอีกนะ 





“กอดแน่นไปไหมบอย”


“ไม่เห็นแน่น  กำลังพอดี”


“โอเค”



ผมเอาแขนผมกอดมันตอบแบบแน่นๆอีกทีหนึ่ง  นี่ประชดนะ  ไม่ได้อยากกอดหรอก




.....................................................................
 :o8: :-[

บีนนี่ขวัญหนีดีฝ่อ ต้องให้เด็กช่วยปลอบซะแล้ว   :katai3:

มาติดตาม มาอ่านกันเยอะๆนะครับ เม้นตอบด้วยก็ยิ่งดีนะ  วันนี้ฝันดีจ้า
 :bye2:


 


หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 15-08-2015 02:00:16
บีนคงเหนื่อยจริง งานนี้ดูว่ากี้จะยังไงต่อ และอะไรๆ ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามอยู่ครับ^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 15-08-2015 10:31:07
เฮ้ย!!! บีนบอยจริงดิ? :hao4:
แล้วโอ๊ตล่ะ :ruready
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-08-2015 11:15:49
อยากรู้จังว่าบีนจะคู่ใคร
จะ     บอย♥บีน
หรือ   โอ๊ต♥บีน
แต่โอ๊ตชอบกี้นี่หน่า
 :katai1: :katai1: :katai1:  อยากรู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :katai1: :katai1: :katai1: 
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 15-08-2015 11:34:57
บีนจะได้คู่กับใครน้อ~ :confuse:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 15-08-2015 11:39:24
บีนเนี่ย สงสัยจะเสน่ห์แรงกับเด็กๆซะแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Mintny14891 ที่ 15-08-2015 13:38:46
เอาให้หมดทุกคนเลยบีน :hao3:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 15-08-2015 13:54:45
ขอ
จะ     บอย♥บีน
หรือ   โอ๊ต♥กี้


 o13
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 15-08-2015 19:31:29
บีน-บอย มีลุ้นจริงป่าว?  :hao7:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๘ ๑๕/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนบอยมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-08-2015 19:39:24
อูย ฝันตื่นเต้นไป๊

กับโอ๊ตนี่ยังมีหวังอยู่ไหม ถ้าจริงจังกับกี้ก็ขอให้ได้ลงเอยกันนะสงสารทั้งคู่
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 23-08-2015 01:01:19
 :katai4:

ตอนที่  ๙

 
 :katai2-1:


“ อื้อออออออ ”  เช้าแล้วหรือนี่

“ตื่นๆ คุณหนูบีน  สายแล้วครับ”    บอยเดินยิ้ม  ออกมาจากห้องแต่งตัว  สงสัยมันเข้าไปอาบน้ำมา

“กี่โมงแล้ว”

“เก้าโมงครึ่ง”  เอ๊ะ  ที่มันใส่อยู่นั่นเสื้อผมนี่

“นี่บอย  ใครให้แกใส่เสื้อฉันวะบอย” 

นั่นมันเสื้อ กางเกง ของผมหมดเลย  ถึงตัวบอยมันจะแน่น จะหนากว่าผมแต่ก็สูงกว่าผมไม่มาก  ดูเด็กบอยมันใส่ก็ไม่ฟิตมาก  สงสัยมันคงไปรื้อเอาตัวที่ใหญ่ๆ

“แหม  ยืมวันเดียวเอง  เดี๋ยวเอามาคืน  ยืมกางเกงในด้วยนะ ตัวเดิมใส่จนเปียกแล้ว ฮ่าๆ ถึงจะแน่นไปหน่อยก็เถอะนะ ฮ่าๆ”

ปึก ผมขว้างหมอนใส่มัน  อีเด็กบอย  กางเกงในมันก็ใส่ของผมได้หรือนี่

“ยืมก็ยืม  แล้วนี่แกจะไปไหนบอย”

“บอยจะไปเรียนพิเศษ  ไปๆ ไปอาบน้ำ  ออกไปหาอะไรกินกัน  บอยมีเรียนตอนบ่าย  วันนี้เปิดคอร์ส”

“ไม่ไปหรอกเหนื่อย  แล้วนี่ไปเรียนกับใครบ้าง”  หรือว่ามันเรียนคนเดียว  เออจริงแล้วพวกโอ๊ตนี่มันไม่เรียนกันหรือ

“กับสุวิทย์”

“ดูแลกันดีนะ”  ผมพูดกับบอย   ก่อนจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ

“แน่นอน พ่อแม่มันฝากให้บอยดูแลมัน  นี่นอกจากต้องไปเรียนพิเศษเอง  ยังต้องไปนั่งเฝ้ามันอีกนะ มันเป็นเด็กติดเกมส์”  เออๆ ไปเถอะ

“ไปเถอะ  เดี๋ยวบีนอยู่ห้องนี่แหละ  ปิดห้องให้ด้วย  จะอาบน้ำ”

“ครับ ไปก่อนนะ เดี๋ยวโทรหานะ”

ปิ๊ป

เสียงสัญญาณว่าประตูปิด  ไปแล้วใช่ไหมวะ

ผมเดินไปหยิบมือถือ  พร้อมกับโทรหาแม่  หาเพื่อน  แก้ตัวไปต่างๆนาๆ กันไป

คนสุดท้ายก็คุณบิ๊ก  ที่แกโทรมาวันก่อนแล้วไม่ติด  แกจะโทรมาถามเรื่องงานเฉยๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ก็ตอบตามจริงๆ แต่ไม่ได้บอกเรื่องที่โดนพาตัวไปขาย  รอปรึกษาเพื่อนในกลุ่มโอ๊ตดูก่อนแล้วกัน

ตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้ว  ผมยังไม่ได้ออกไปครับ  ขี้เกียจ  ทำได้แค่คุ้ยหาของกินในตู้เย็น

แล้วผมก็ลืมนึกไปเลยว่ามันต้องมีงานมีการบ้านนี่นา  ในวันที่ผมขาดเรียน  ไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากหรอกครับ  แต่มาเรียนแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด 

และอีกอย่างเป็นห่วงโอ๊ตด้วย  มันจะทำการบ้าน จดงาน  อะไรหรือเปล่า  ว่าแล้วผมก็ไลน์ไปนัดเพื่อนๆ ในกลุ่ม ให้มาเจอกันที่ร้านกาแฟ เล็กๆ เงียบๆ แถวคอนโดผม ในวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย  จะได้มาทำการบ้าน  พร้อมคุยกันเรื่องที่โดนพาตัวไปขายว่าจะเอาอย่างไร  ทุกคนก็ตกลง  ยกเว้นอ๊อฟที่ต้องไปทำธุระกับที่บ้าน


...................................................................

บอย  -   บีนจ๋า

บอยมันทักมาครับ  ผมกำลังนั่งฟังเพลงไปเรื่อยเปื่อย

บีน   -   อะไร

บอย -   บอยไม่ได้ไปหาบีนแล้วนะ  เดี๋ยววันหลังจะเอาเสื้อผ้าไปคืนนะ

บีน   -   เออ  เอาตามสะดวกเลยแล้วกัน

บอย -  จ้า  โกรธหรือเปล่า 

บีน   -  ไม่หนิ  จะโกรธอะไร  เรื่องที่บอยไม่มานะหรือ

บอย -  ไม่มีอะไร  เผื่อบีนไม่อยู่ห้องไง  ไม่อยากรบกวน 

บีน   -  ค่อยคุยกัน  บาย

บอย –  จ้า  จุ๊บๆ

ตืด  ตืด

อุ้ยตาย  คุณบิ๊กโทรมา

“ออกมาเจอผมหน่อยครับ  คุณบีน”

........................................................................

ทำไมต้องมาห้างนี้ด้วยนะ  ที่นี่พี่กฤชมันทำงานอยู่  กลัวเจอมันจริงๆ

“มีอะไรจะบอกผมไหม  ที่หายไปสองวันนี่  มันแปลกๆนะ  แล้วทำไมไม่ใช้มือถือที่ผมเอาให้”

ถูกคาดคั้นจนได้นะ  บอกก็บอก

“เอ่อ  คือ  ถ้าผมเล่า  คุณสัญญาก่อนนะ  ว่าจะไม่ตกใจ”

ผมเล่าให้คุณบิ๊กฟังทั้งหมดทุกอย่าง   ยกเว้นแค่เรื่องโอ๊ตกับกี้ที่เคยชอบพอกัน

“มันอันตรายกว่าที่ผมคิดไว้นะคุณบีน”

“ใช่ครับ  ก็ดีที่ผมหนีมาได้”

“อย่างว่าล่ะ  วันก่อนตอนดึก  หลานผมดูกระวนกระวาย  เหมือนจะออกไปที่ไหนสักที่   แต่สุดท้ายก็กลับเข้าบ้าน”

“จริงหรอครับ”  โอ๊ตนี่ดูๆไปมันก็ดูไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ

“สรุปคือจะไปตกลงกันกับเพื่อนก่อน  ว่าจะเอาเรื่องไหม  ใช่มั้ย  ยังไงก็ระวังตัวดีๆนะ ชีวิตมัธยม  คงไม่ได้สดใสเหมือนแต่ก่อน
หรอกนะ  เด็กมันเกเรขึ้นทุกวัน  มีปัญหาอะไรก็บอกผมได้  ห้ามปิดบังเด็ดขาด  เข้าใจไหม”

“ครับ  เข้าใจครับ”  ผมก็ก้มหน้าก้มตาตอบรับแก  กลัวเจ้านายดุ  พร้อมกับเดินตามแกต้อยๆ ไปยังร้านขายมือถือ  แกจะซื้อเครื่องใหม่ให้  รู้สึกผิดจัง

...

“ สวัสดีค่า  ยินดีต้อนรับค่ะ  ไม่ทราบว่ามากี่ที่คะ ” ผมบอกพนักงานไป 

“ ๔  ที่ ครับ  อ้าว ไบท์”  แต่คงไม่รบกวนพนักงานแล้วล่ะ  ไบท์ไปนั่งรอที่โต๊ะนั่งมุมร้านแล้ว

เราสองคนรอกันสักพัก  โอ๊ตกับกี้ก็มา คุยกันมันเลยครับงานนี้  เล่าเรื่องที่โดนพาไปพัทยา  ดูจะสนุกตื่นเต้นนะ  ตอนเล่าให้โอ๊ตกับไบท์ฟัง  แต่จริงๆ ไม่สนุกเลย  สุดท้ายกี้ทำการตกลงกับพวกผมว่าจะไม่เอาเรื่องพี่แทน  เพราะพี่เขาย้ายไปทำงานที่ภาคใต้แล้วเรียบร้อย  เออไปเถอะ  ถ้าได้เห็นหน้ากันอีกที่ผมคงวิ่งไปตบตีหรือไม่ก็แจ้งตำรวจจับมันซะ

เราคุยกันถึงเรื่องต่างๆ เสร็จก็ถึงเวลาทำการบ้าน  ตามงานจากที่ผมกับกี้ไม่ได้ไปเรียนมาสองวัน ดีนะแค่สองวัน  ถ้าสองอาทิตย์นี่สยองแน่ๆ

“แล้วเราจะดูงานจากใครล่ะกี้  ไบท์แกได้เอามาหรือเปล่า”

“ไม่ได้เอามา  จะเอามาก็กลัวตัดหน้าเด็กขยันเรียนสิวะ ฮ่าๆ”  ไบท์พูดพร้อมมองไปที่โอ๊ต  โอ๊ตมันยิ้มเกาหัวเบาก่อนที่จะพูดว่า

“เดี๋ยวกูบอกเอง  กูจดงานที่ครูสั่งมาให้  มีจดสรุปกับการบ้านที่กูทำเสร็จแล้ว  ลอกได้นะ ฮ่าๆ”

“โห ไม่นึกไม่ฝัน  เก่งจริงๆโอ๊ต” ผมตกใจไม่นึกว่าจะใส่ใจกับการเรียนไม่พอ ยังทำเผื่อเพื่อนด้วย  ดีจริงๆ เอ๊ะหรือมันตั้งใจทำให้กี้

“อย่างนั้นเราขอลอกแล้วกันนะโอ๊ต  กี้เหนื่อยๆ”  กี้ก็ลอกแล้ว  ผมจะเหลืออะไรล่ะครับ ลอกมันเลย  ขี้เกียจแล้ว  เฮ้อไปสอนเขาไม่ให้ลอกสุดท้ายลอกเอง

เราทำการบ้านกันเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกจากร้านก่อนที่จะแยกย้าย  โอ๊ตก็ยื่นแฟรชไดรฟ์มาให้ผม

“อะไร ”

“งานวิชาสังคม  ครูให้ทำเพาเวอร์พ้อย  พวกกูทำแล้วพวกเนื้อหาเรียบร้อยแล้ว  ส่วนมึงเอาไปตกแต่งนะบีน  ตกแต่งเสร็จส่งให้กี้  ให้กี้ไปปริ้น  ส่งวันพฤหัส”

“โอเคได้”  ผมยืนมองโอ๊ตที่เดินคู่กับกี้  ก่อนที่จะมีรถทางบ้านโอ๊ตรับไป

สบายใจไปอีกเรื่องแล้วครับ  อย่างน้อยโอ๊ตก็รู้จักรับผิดชอบการเรียน  การบ้าน  หรืองานที่ครูสั่ง  ต่อไปมีเรื่องอะไรที่ต้องปรับอีกนะ  ขอเวลาคิดก่อนแล้วกัน  งานสบาย  เงินดี

..................................................................................................



ผมซื้อของมาทำกับข้าวกินที่ห้องครับ  นานๆ ได้ทำทีก็ดูวุ่นวายกับตัวเองไปพักใหญ่  กว่าจะทำเสร็จ  กินแล้วต้องล้างจาน   คงทำกินเองไม่ไหวหรอกครับ  เหนื่อย  ที่สำคัญคือ  มันไม่อร่อย ฮ่าๆ

นั่งๆดูละครหลังข่าว  มือถือผมก็สั่น

เบอร์แปลก


แต่คุ้น

“คุณคะ  คุณใช่เพื่อนคุณกฤชหรือเปล่าคะ  คือตอนนี้ลูกค้าเมาที่ร้านค่ะ  เขาให้ดิฉันโทรมาเบอร์นี้  รีบมารับด่วนเลยได้ไหมค่ะ  เขาไม่มีใครมาด้วย”

“เอ่อ” อิพี่กฤช  มันเป็นบ้าอะไรของมันวะ  แล้วจะไปยังไง  ที่ไหน  สามทุ่มกว่าแล้วนะ  ว่าแต่มันทำไมเมาแต่หัววัน 

“ที่ไหนครับ”  ผมถามพนักงานไป


.............................................................


ผมมาถึงหน้าร้านนั่งดื่ม  บรรยากาศชิลๆ ดีนะวันอาทิตย์ เวลาก็พึ่งจะสี่ทุ่ม  คนเลยไม่เยอะ
นั่นไง  มองไปก็เห็นเลย  ฟุบอยู่บาร์เหล้า

“ผมเพื่อนเขาเองครับ”

“อย่างนั้นรบกวนพากลับด้วยนะครับ  ว่าแต่ทางร้านขอเช็คบิลด้วยนะครับ”  โอย  นี่มันยังไม่จ่ายตังค์เขาอีกหรอ  จ่ายก็จ่าย  แล้วค่อยไปล้วงเอาตังค์ในกระเป๋าพี่กฤชอีกทีแล้วกัน

“พี่กฤชยืนนิ่งๆสิวะ  รอเอาตังค์ทอนก่อน”

ผมพาซากศพออกมารอแท็กซี่หน้าร้านครับ

โบกเกือบคันที่ห้า  ถึงจะมีคันที่ยอมให้คนเมานั่งไปด้วย  สงสัยกลัวอ้วกในรถ ระหว่างทางพี่กฤชก็งอแงง้องแง้ง ตามประสาผมชินแล้วล่ะครับ  เมื่อก่อนเป็นบ่อย  แต่ที่ต้องมาดูแลพากลับห้องตอนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่มันทำให้รู้สึกรำคาญเสียมากกว่า

“ ไหนบัตร สแกนเข้าห้อง”

“อยู่ในป่าวตาง  ที่ตูด”  เรามาถึงหน้าห้องมันแล้วครับ  ย้ายมาที่ใหม่  ไม่ใช่ห้องที่อยู่กับแฟนคนที่แล้วของพี่กฤช

“เดินดีๆ ตั้งสติ จะถึงเตียงแล้ว  มันหนักรู้ไหม” ผมว่าไปเพราะเริ่มหงุดหงิด

ปึก  ผมทิ้งไอ้ตัวใหญ่ลงบนเตียงก่อนจะไปหาเสื้อผ้าสบายๆมาให้ใส่นอน

“เดี๋ยวจะเช็ดตัวให้แล้วกัน  เห็นตัวเหนียวๆ”

“อื้อ  บีนอย่างพึ่งไปไหนนะ  พี่ไม่เหลือใครแล้ว”

เฮ้อ  ผมหยิบผ้าขนหนู  แล้วเอาไปชุบน้ำในห้องน้ำ  บิดน้ำออกพอหมาดๆแล้ว  เดินมานั่งที่เตียง  จับพี่กฤชแก้ผ้าเหลือแต่กางเกงใน  เตรียมตัวสำหรับเช็ดตัว อย่างไม่มีเขินอายครับ  เคยเห็นมาหมดแล้ว

“นิ่งๆสิ  ไม่ต้องถอดหมด” ห้ามไม่ทันครับ มันถอด กางเกงในออก  เพลียจริงๆ

ผมเช็ดตัวเสร็จก็ใส่เสื้อผ้าให้พี่กฤชมัน  ดูพี่มันจะสร่างเมาขึ้นแล้ว  ผมจัดของให้เรียบร้อยจะได้กลับ  กว่าจะถึงห้องก็คงเกือบเที่ยงคืน  ดีว่าอยู่ไม่ไกลกันมาก

ผมเดินไปที่เตียงก่อนที่จะห่มผ้าให้  พร้อมปิดไฟที่หัวเตียง


หมับ


มันสร่างเมาแล้วจริงๆ

“อย่าพึ่งไปนะ พี่ไม่มีใคร  อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อน  แชมป์มันทิ้งพี่ไปแล้ว”

“ก็ไหนว่าเลิกกันหลายเดือนแล้ว”  เบื่อจริง

“พี่รับไม่ได้  เขาไปแอบมีคนใหม่” เวรกรรมตามสนองไง  รู้จักไหม

“เข้าใจความรู้สึกบีนแล้วหรือยังล่ะ”

“บีนทำไมพูดอย่างนั้น”  อีนี่ไม่รู้ตัว

“ก็มันแบบเดียวกันเลย คิดให้ดีๆเคยทำอะไรไว้”  ผมเริ่มเสียงดัง  จะลุกขึ้นมันก็ดึงไว้

“พี่ขอโทษ  อยู่กับพี่นะ พี่เหงา  นอนที่นี่แหละ”

“คนเขามีงานมีการต้องทำ ไม่ได้มีเวลามาโอ๋กันหรอกนะ  ปล่อย  พรุ่งนี้บีนต้องไปทำงานแต่เช้า”  โอ๊ย 
มันดึงผมแล้วมันก็พลิกตัวให้ไปนอนอยู่ใต้ตัวมัน   หนัก  อารมณ์เหมือนโดนผีอำ  ผมเผลอวีนมันไปมันจะตีผมไหม

“หรือว่ามีผัวใหม่แล้ว  ลืมพี่ไปแล้วใช่ไหม”

“แล้วตอนที่พี่แอบไปมีเมียใหม่ตอนนั้นล่ะ  เคยคิดถึงกันไหม เคยคิดไหมว่าบีนจะเสียใจขนาดไหน”

พี่กฤชถอนหายใจยาวรดหน้าผม  ก่อนจะพูดเสียงอ่อนๆ

“จริงสินะ พี่มันบาป  พี่มันคนแพ้ว่ะบีน” พูดจารู้เรื่อง นี่สรุปมันแกล้งเมาใช่ไหม

“เรื่องความรักไม่มีแพ้ มีชนะหรอก เพียงแต่ว่าต่อไปถ้าพี่จะทำอะไร  ก็ให้นึกถึงคนข้างหลังบ้าง  เข้าใจไหม”

“อืม”  พี่กฤชตอบ พร้อมกับพลิกตัวไปนอนข้างผม  ผมลุกขึ้นเตรียมตัวจะกลับ

“จะกลับแล้ว  ทีหลังอย่าแกล้งเมาอีกนะ”  หึ คนเจ้าเล่ห์

“ก็พี่นัดเจอบีนหลายทีแล้ว  ก็มีแต่ติดธุระ”

“นอนพักผ่อนเถอะ  พรุ่งนี้บีนทำงานเช้า  แล้วก็ไม่ต้องคิดมาก ทำงานทำการเลี้ยงตัวเองให้ดูดี มีความสุข  เดี๋ยวก็มีคนมาดามใจเองหรอกหล่อขนาดนี้  ไปก่อนนะ” 

“ขอบใจนะบีน”

ผมพูดพร้อมกับห่มผ้าให้พี่กฤช  หลังจากพูดจบก็เดินออกมาจากห้อง  หวังว่าคงเป็นครั้งสุดท้ายนะ  ที่ต้องมาถกกันเรื่องเดิมๆ กับ คนเดิมๆ

...


ผมทำงานนี้เดือนกว่าๆ แล้วครับ  ไม่นึกว่าจะเนียนได้ขนาดนี้  แต่ก็ยังกลัวคนอื่นจับได้เหมือนเดิม

โอ๊ตกับกี้  ตกลงปลงใจคบกันครับ  แต่ไม่ได้ป่าวประกาศให้ใครรู้มากเท่าไหร่  ก็มีแค่กลุ่มเราแล้วก็บอยที่รู้  ส่วนผู้หญิงที่ตามจีบโอ๊ตก็มีมาเรื่อยๆ แล้วก็หายไป  ไม่ค่อยมีคนมาตื้อเหมือนแต่ก่อน

ส่วนผมกับบอยก็เรื่อยๆ เด็กบอยมันก็หยอด  ก็จีบของมันไป  ผมคงไม่กล้าถลำลึกไปมากกว่านี้หรอก  รอดูไปก่อน  เพราะทุกอย่างของบอยดูมีความเป็นผู้ใหญ่ไปซะหมด ยกเว้นแค่ตอนอยู่ที่โรงเรียน  ตอนเล่นกับเพื่อน  แต่อยู่กับผมนี่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นดี  แต่ก็อย่าลืมว่ามันคือเด็กมัธยม  ที่ยังไม่เจอโลกกว้างสักเท่าไหร่นัก

ระหว่างที่เรานั่งทำการบ้านที่ศาลา  ตอนพักเที่ยง 

“เฮ้ย  บีนวันนี้วันศุกร์ไปเที่ยวผับกัน” ไบท์ชวนผมไปเที่ยว  สงสัยก็คงที่ที่ชอบไปกัน  ที่คุณบิ๊กเคยพาผมไป

“ทำไมถึงชอบไปกันจัง  เราไม่เห็นว่าจะสนุกตรงไหนเลย”

“ก็ไปดูสาวสิวะ มีแต่สวยๆ ไปผ่อนคลายกันหน่อย  ไปเถอะนะๆ กลุ่มเราไปหมดเลยนะมึง” ไบท์เริ่มตื้อผม

“กี้ก็ไปหรอ” ผมหันไปถามกี้  ทางนั้นได้แต่พยักหน้า แล้วยิ้มแห้งๆ

“ไปเถอะบีน  มึงรู้ไหม  ครั้งนี้กี้เป็นคนชวนเลยนะโว้ย” โอ๊ต  เริ่มยุผมอีกคน

“ไปเถอะบีน  หรือมึงจะเอาไอ้บอยไปด้วยพวกกูก็ไม่ว่านะ ใช่ไหมพวกมึง”  ไอ้อ๊อฟเสนอในสิ่งที่จะทำให้ผมสนใจ

“เออใช่ไปเถอะ”

“ไปเถอะมึงผ่อนคลาย”

“ไปกันบีน  สนุกๆ”

“ใช่ๆ”

ถ้าจะชวนกันขนาดนี้นะ  บังคับกันเลยดีกว่าไหม 

“ไปก็ไป  แต่บีนไม่เอาบอยไปหรอกนะ  แต่พวกนายต้องสัญญานะ  ว่าไปแล้วต้องกลับพร้อมกัน  ห้ามเถลไถลหรือเมาเด็ดขาด”

“ครับบีน  มึงเชื่อใจพวกกูได้เลย  ครั้งนี้ไปจิบเบาๆ มองสาวๆ มึงก็มองหนุ่มๆไป ฮ่าๆ” ไบท์ยืนยันอีกที

ถ้าปฏิเสธไม่ได้  หรือบังคับไม่ได้ ก็ต้องตามไปคุมเลยล่ะครับ  โอ๊ตจะได้อยู่ในสายตา  ครั้นจะฝากกี้ให้ดูโอ๊ต  ฝ่ายนั้นก็ดูหัวอ่อนเกิน

..................................................................................................


เรามากันที่ผับย่านดัง  แต่เราก็ยังสามารถเข้าไปได้โดยใช้เส้นสายของไบท์  เรื่องนี้จะแก้ไขอย่างไรดีนะ คุณบิ๊กบอกให้แก้นิสัยแบบนี้ให้เด็กพวกนี้นี่นา  ผมก็ลืมไป

เราสั่งเครื่องดื่มกันมาไม่มาก  ส่วนใหญ่เป็นพวกค็อกเทล  สามหนุ่มก็ออกไปวาดลวดลายกันที่กลางฟลอร์ ส่วนผมกับกี้ก็เฝ้าโต๊ะ
กี้ก็หันว้ายหันขวา  ไม่เคยมาที่นี่หรือเปล่านะ

“เป็นอะไรหรือกี้  ดูกระวนกระวาย”

“ไม่มีอะไรหรอก  เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” 

“เออ  ตามสบาย”  ส่วนสามหนุ่มนะเหรอครับ โน่นไปนั่งคุยกับสาวอยู่ที่โต๊ะอีกฝั่ง ไอ้เด็กพวกนี้  ยิ่งโอ๊ตนะ  ถ้ากี้เห็นจะว่าอย่างไร

ผมนั่งเล่นมือถือ  เล่นโน่นนี่ไป  กี้ก็ยังไม่มาสักที  ทำไมไปนานจังวะ

“เอออ๊อฟ  มาก็ดีแล้ว  เฝ้าโต๊ะให้ก่อน  เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อน”  อ๊อฟมันเดินมาพอดี

ไปไหนหว่า  กี้เอ้ย  ในห้องน้ำก็ไม่มี

หรือว่าเข้าส้วมอยู่  คนที่เปิดประตูจากห้องนั้นก็ไม่ใช่กี้

หรือว่าอยู่หลังผับ  คิดในใจแล้วผมก็ลองเดินไปดู  นั่นไงเจอแล้ว  กี้ยืนอยู่ตรงประตูหนีไฟ

ขณะที่ผมกำลังจะเดินไปหากี้  กับมีผู้ชาย  เดินเข้าไปหากี้ก่อน  พร้อมกับพยักหน้าให้กันเล็กน้อย  แล้วเข้าไปในทางหนีไฟ
เฮ้ย  ไปทำอะไรกันนี่

ผมรีบตามไปดู  พร้อมกับแง้มๆประตู  ไม่มีคนอยู่ในนั้น  อ๋อ  มันมีบันไดขึ้นไปหลายชั้น

ผมพยายามเปิดเข้าไปให้เบาที่สุด  และเดินไปหลบอยู่ซอกใต้บันได  พร้อมกับตั้งใจฟังบทสนทนาระหว่างกี้กับผู้ชายคนนั้น  ที่ยืนทางพักระหว่าง  ชั้นหนึ่งกับชั้นสอง

“ทำไมนานจังวะ”

“ผมเข้าไปแกะในห้องน้ำครับ ตอนเข้ามาเอาพันไว้กับขา” กี้ตอบ

“เอาเงินไป  แล้วมึงรีบกลับนะ  ครั้งหน้ากูจะนัดเอาที่ไหนเดี๋ยวกูจะบอกป้ามึงอีกที”

“พี่แต่ผมไม่อยากส่งยาแล้วนะ  ช่วยบอกป้าผมได้ไหม” ห๊ะ  กี้ส่งยา

“มึงก็ไปขอป้ามึงเองสิวะ  ส่งมาตั้งปีหนึ่งแล้ว  เห็นช่วงหนึ่งมึงก็ใช้เองกับผัวมึงด้วยหนิ”  ห๊ะ จริงหรอ  ผมอุทานในใจ

“แต่ผมว่าจะเลิกแล้ว”

“จะเลิกทั้งสเก็ตแล้วก็โค้กนี่นะ  หรือว่ามึงเลิกกับผัวนักร้องนั่นแล้ว” น้องมันใช้ทั้งยาไอซ์กับโคเคนเลยหรือ  ตายแล้ว

“ใช่พี่เลิกแล้ว  แต่หลังๆผมก็ยังติดไอซ์อยู่ ”

“มึงส่งต่อไปเถอะ  จะได้ใช้หนี้ช่วยป้ามึง  กูไปก่อน”  ผมทำตัวให้เล็กที่สุดใต้ซอกบันได  สักพักกี้ก็เดินเองไป

ผมลุกออกมาจากซอกใต้บันได  พร้อมยืนคิด  ที่กี้ชวนทุกคนมาผับนี่จะได้มาส่งยา แล้วทุกคนก็จะได้ไม่สงสัยใช่ไหมนะ

คุณพระ คุณเจ้า  ปัญหาใหม่มาอีกแล้ว  ถึงจะเป็นเรื่องของกี้  แต่กี้มันเป็นแฟนกับโอ๊ตครับตอนนี้

แล้วอยู่ไปวันดีคืนดี  ยุให้กันเล่นยาขึ้นมาจะว่าอย่างไร  หรือกี้มันชวนโอ๊ตเล่นยาแล้ว


โอ้ย ปวดหัว   
 :ling3:


.......................................................................................

มาแล้วครับ


บีนมาพร้อมกับภารกิจใหม่  ฮ่าๆๆ

หวังว่าจะสนุกกันนะครับ  สันนี้มาดึก  อรุณสวัสดิ์ล่วงหน้าแล้วกัน

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาตอบให้กำลังใจกันนะครับ  o13

 :bye2:



หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 23-08-2015 01:57:51
แอบสงสารกี้...แต่งานนี้คงยุ่งกันต่อไป งานนี้ไม่ง่ายสำหรับบีนจริงๆ

ติดตามต่อไปครับ^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 23-08-2015 02:27:51
ไปกันใหญ่แล้วกี้!!!  :katai1:
แล้วเด็กน้อยใสใส ความรักมุ้งมิ้งของเด็กม.ปลายล่ะ อยู่ไหน? :ling1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 23-08-2015 06:54:56
มีงานใหญ่อีกแล้ว   :katai1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 23-08-2015 09:14:50
 :ling2:

เวรกำ

น้องกี้ทำให้ชีวิตบีนลำบากขึ้นจมเลย จะว่าไปมีเด็กแบบนี้อยู่จริงๆ

มาดูว่าบีนจะแก้ไขยังไง  :call:

ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีเต๊อะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 23-08-2015 09:38:51
กี้นิมันนางร้ายหน้าแบ๊วชัดๆสินะ - -
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 23-08-2015 09:44:59
ว่าแล้วนังกี้ แอ๊บใสน่ะหล่อน
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-08-2015 09:45:40
 :katai1: กี้ ทำไมยันหาเรื่องให้บีนจังเลย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-08-2015 11:29:36
รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ เลยนะคะกี้เนี่ย :freeze:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-08-2015 15:36:16
 :katai1:  นี่หรือชีวิตเด็กม.ปลาย.

กี้เอ๊ย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 28-08-2015 10:21:35
 :pig2:

ตอนที่  ๑๐

ผมนั่งหาข้อมูลพวกยาไอซ์และยาเสพติดที่ฮิตในหมู่วัยรุ่น  พร้อมกับนึกถึงกี้ไปด้วย  แสดงว่าผมมองคนยังไม่ลึกมาก 

คนเราก็อาจจะมีมุมส่วนตัวหรือมุมที่คนอื่นมองไม่เห็นก็เป็นได้  แต่นั่นน้องเขาก็ทำผิดกฎหมายนะ  ถ้าโดนจับขึ้นมาล่ะซวยเลย 
แล้วไหนจะโอ๊ตอีก  ดีนะครับที่กี้ยังไม่ให้เราสลับที่นั่งในห้องเรียนกัน  เพราะกี้เห็นว่าโอ๊ตนั่งกับผมแล้วตั้งใจเรียน  เลยสบายใจไป 

แต่หลังเลิกเรียนนี่สิ  ผมจะตามสองคนนั้นไปก็ยังไงอยู่

ไปเรียนแต่ละวัน  นอกจากจะช่วยกันตั้งใจเรียนกับโอ๊ตแล้ว  ผมก็ตั้งคอยสังเกตกี้อยู่เรื่อยๆ  ทางพฤติกรรมไม่ได้มีพิรุธอะไรมากหรอก  แต่ถ้าสังเกตดูดีๆ  น้องจะเป็นคนขาวซีดจริงๆครับ  หุ่นดี  ค่อนข้างไปทางผอม

ลัการะตามที่ผมอ่านมาจริงๆว่าคนมักเสพยาไอซ์เพราะความเชื่อที่ว่าอยากขาว  หุ่นดี 

“นี่บอย  บอย   บอย”  ตอนเที่ยง ผมปลีกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อน  แล้วมายืนเรียกบอยอยู่ที่เตะบอลพลาสติกอยู่ในสนามฟุตบอลขนาดเล็ก   

“อะไรบีน” บอลวิ่งมาที่ข้างสนามพร้อมถาม

“เอ่อ” เอาอย่างไรดี   จะมาคุยเรื่องยากับบอย  ถ้าถามไปตรงๆ ก็ยังไงอยู่

“มีอะไร  คิดถึงหรอ  หรือว่าอยากกินช็อกโกแลต”

“เออใช่  อยากกินช็อกโกแลต ไปซื้อมาให้หน่อยสิ นะๆ”

“ได้ๆ ป่ะคุณหนู”

บอยพาผมไปซื้อช็อกโกแลต  ผมยังไม่ให้บอยไปเตะบอลต่อหรอก  เรียกมานั่งคุยด้วยที่มุมเงียบๆ

ไม่รออะไรแล้ว  ถามมันเลยแล้วกัน

“เออบอย  คือบีนพึ่งย้ายเข้ามา  แล้วไม่รู้เรื่องบางอย่าง  จะถามอะไรได้ไหม”

“ถามอะไรครับ  ถามได้ตอบได้  ถามมาเลย”  แหม

“คือ  บีนไปได้ยินมาว่า  เด็กมัธยมที่นี่บางคนเขาก็เล่นยากันหรอ”

“ไม่เล่นธรรมดานะบีน  บางคนส่งด้วยนะ”  เออมันรู้จริง “เป็นอะไรหรอ  หรือว่าไปเห็นใครเล่นยามา”

“ไม่ได้เห็น  ถามเฉยๆ”

“หรือว่าไปเห็นใครส่งยา หรือ มีใครมาขายยาให้บีนหรือเปล่า” ถามมากจริง

“ไม่มีหรอก   เอาเป็นว่าแค่สงสัยแล้วกัน  มีอะไรเดี๋ยวบอก”

“แสดงว่ามี”  รู้ดีนักนะ

“เออ รอไปก่อน  ยังไงแกต้องได้ช่วยแน่นอนบอย  ไป  ไปเตะบอลต่อสิ”

“ไม่ไปแล้ว  อยู่กับบีนดีกว่า”  บอยเอียงหัวมาซบไหล่ผม  ผมก็ปล่อยให้เด็กมันอ้อนต่อไป

..............................................................................

“โอ๊ต  กี้ล่ะ ”

“กี้บอกว่าวันนี้ติดธุระกับทางบ้าน  เห็นบอกจะกลับไปบ้านตอนเย็นๆ”

ผมถามโอ๊ตในเช้าวันศุกร์ก่อนเริ่มเรียนคาบแรก 

กี้ย้ายมาอยู่หอแถวโรงเรียนได้เกือบครึ่งเดือนแล้วครับ  โอ๊ตก็ค้างหอกี้บ้างเป็นบางวัน  อันนี้ผมก็ต้องคอยดูอีกเช่นกัน  ว่าจะทำอะไรกันเกินเลยไปถึงขั้นเล่นยากันไหม  กลัวจริงๆนะ  แต่ที่ว่าติดธุระนี่  ผมก็สังหรณ์ใจอีกเช่นกันว่า  ต้องเอายาไปส่งแน่ๆ

ผมจึงถามถึงความสัมพันธ์คร่าวๆของโอ๊ตกับกี้  โอ๊ตก็บอกแค่ว่าไปนอนด้วยกันเป็นบางวัน  เพราะไปค้างที่อื่นบ่อยๆไม่ได้เกรงใจอาที่ไม่กลับไปนอนที่บ้าน  แต่ผมไม่กล้าถามเรื่องยาจริง  และดูเหมือนโอ๊ตจะไม่รู้ว่ากี้ทั้งเล่นและก็ส่งยา

ผมนั่งเหม่อคิดอะไรไปสักพักหลังจากจบเรียนคาบที่สอง

บอย  -  มีอะไรบอกได้นะ

บอยทักมาในมือถือ  นั่งห่างกันไม่กี่เมตร

บีน    -  ทำไมต้องบอก

บอย  - เหมือนมีอะไรบีนอยากให้บอยช่วย

บีน    -  ไปห้องน้ำกัน

บอย  -  จะทำอะไรเค้าหรอตัวเอง

บีน   -  บ้า  ไปรีบ  เดี๋ยวครูมาก่อน

ผมกับบอยไปที่ห้องน้ำ  ตอนนี้ในห้องน้ำไม่มีคนครับ  ผมดูดีแล้วว่าเลยช่วงเวลาเปลี่ยนคาบมาหลายนาทีแล้ว   คนไม่ค่อยพลุกพล่าน  ผมตัดสินใจบอกทุกสิ่งทุกอย่างไป  ไหนๆ บอยก็ดูเหมือนจะอยากช่วยแล้ว  แต่ทุกอย่างที่บอกไม่ได้บอกว่าผมปลอมตัวมาหรอกนะ 

“เอาไงดีบอย”

“โดดเรียน  หมดคาบที่จะเรียนต่อไปก็หนีเลย” 

อ้าว อีบ้า อยู่ดีๆจะมาชวนหนีเรียน  คือเขาจ้างให้ผมมาเฝ้าหลานเขาเรียน  สุดท้ายก็ต้องหนีเรียนเอง

“จะบ้าหรอ  แล้วจะหนีอย่างไร  รู้ทางหนีหรอ”

“รู้สิ  เคยออกไปกับไอ้วิทย์มัน  หนีไปเล่นเกมส์”  ไอ้เด็กพวกนี้ทำไมดื้อกันจัง

“เฮ้อ  ไหนบอกหน่อยสิ  ว่าจะหนีไปทำไม  ไปแอบดูกี้หรือ”

“ถูกต้อง  ขั้นแรกนะ  โทรไปถามกี้ก่อนว่าอยู่ห้องไหม  ถ้าอยู่ก็โอเค กี้อยู่ห้อง  ก็แสดงว่ายังไม่กลับไปที่บ้าน  เราก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ ขับรถไปซุ่มรอดูกี้ที่บ้านป้ากี้  เพราะถ้าตามที่บอยเข้าใจ  กี้ต้องไปเอายากับป้า  แล้วออกไปส่ง  ถึงเวลานั้นเราก็สะกดรอยตาม  ไปดูให้รู้เลยว่ากี้ส่งยาอีกหรือเปล่า  จะได้แน่ใจ  ตามนี้นะ  ตกลงไหม” 

เออจริง มันก็พูดถูก  เล่ามาเป็นฉากๆ ทำไมเด็กมันถึงดูมีสติกว่าผมล่ะนี่

“อย่างนั้นก็ตามนี้แล้วกัน  แต่หนีเรียนนี่  ห้ามให้ครูจับได้นะ ”

“เชื่อมือบอยครับ  อย่าทำตัวเงอะงะแล้วกัน”  เออ  ว่ากันเข้าไป

แล้วผมจะบอกโอ๊ตว่ายังไง  อยู่ดีๆก็โดดเรียน

หมดคาบเรียน  ผมกับบอยเก็บของเตรียมย่องออกจากห้อง

“โอ๊ตขอยืมตัวบีนกลับบ้านไปก่อนนะ  เดี๋ยวเรามีแพลนว่าจะไปดูหนังกัน  ไปก่อนนะ  ป่ะบีน”

“แฮ่ๆ”  ไม่รู้จะว่ายังไง  อีเด็กบอยก็ไปบอกซะอย่างนั้น  อายโอ๊ตจัง 

“อ้าวไปจริงหรอวะ ”  โอ๊ตถามแบบงงๆ  แต่พวกผมไม่ได้ตอบอะไร

เราปีนออกมาทางกำแพงหลังโรงเรียนไม่ได้เตี้ยๆนะครับกำแพง  ต้องขึ้นไปชั้นสองของอาคารที่ติดกับกำแพงแล้ว  ลงมาทางกันสาด ลำบาก  อารมณ์เหมือนหนีออกจากฮาเร็มที่พัทยา

ผมทำการโทรติดต่อกี้ไปแล้วได้ใจความว่าไม่ค่อยสบาย  แต่สักบ่ายสามจะกลับไปทำธุระที่บ้าน  ตามแผนแล้วทีนี้

“อย่างนั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน  จะได้ไม่เป็นที่สังเกตมาก”  บอยบอกผมตามแผน

เราไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่คอนโดของบอย  ห้องเล็กๆที่เช่าเอาไว้เพราะบ้านบอยอยู่ต่างจังหวัด   เสาร์อาทิตย์หรือปิดเทอมถ้าว่างๆ   บอยถึงจะกลับบ้านอีกที  ผมก็ถามไปตอนที่ถึงห้องว่าทำไมไม่ขับรถไปโรงเรียน  มันก็ให้เหตุผลว่ารถติด  ไม่มีที่จอด

..............................................................................................

ตอนนี้เวลาประมาณบ่ายสามกว่าๆ ไกลครับบ้านกี้กว่าจะมาถึง  ดีว่าบอยความจำดี  จำได้ตอนที่มาส่งกี้ครั้งนั้น

“แกว่ากี้จะจำรถแกได้ไหมบอย”

“จำไม่ได้หรอก เคยนั่งครั้งเดียว  แถมนั่งตอนกลางคืนด้วย”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี”  เราจอดรถอยู่ในซอย    จอดเยื้องกับหน้าบ้านเป้าหมาย

“นั่นไง  ใช่ไหม” กี้ลงจากแท็กซี่ แต่ให้แท็กซี่จอดรอ

“ใช่  รอดูๆ  คงเข้าไปไม่นานเพราะให้แท็กซี่จอดรอ”

เรารอกันสักพักไม่ถึงสองนาที

“มาแล้วบอย  เตรียมตัว”  ผมรีบเตือนบอย

เราสะกดรอยตามแท็กซี่คันนั้นไปเรื่อยๆ ตามถนนจากซอยก็ออกไปถนนใหญ่ ขึ้นทางด่วน  ลงทางด่วน จากถนนใหญ่เข้าซอยเล็กๆ ไปจนถนนหมู่บ้านจัดสรรที่อยู่ลึกเข้าไป แถวๆเขตรามอินทรา 

แท็กซี่คันที่กี้นั่งขับเข้าไปท้ายหมู่บ้าน  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านร้างบ้าง  บ้านทำยังไม่เสร็จบ้าง  ตอนนี้ เวลาห้าโมงเย็น  อีกสักพักก็จะมืดแล้ว

“จอดตรงนะแล้วกัน”  บอยเลี้ยวเข้าไปจอดในซอยซึ่งอยู่ห่างจากซอยที่กี้เข้าไปสองซอย

“โอเคๆ ป่ะ รีบไปกัน” เรารีบลงรถพร้อมวิ่งไปซอยที่กี้เข้าไป

“นั่นไงกี้เข้าบ้านหลังนั้น”  ผมบอกบอย

“เงียบๆตามมา”

เราย่องเข้าไปบ้านหลังนั้นแต่เข้าทางประตูหลังนะ  บ้านเป็นบ้านสองชั้น

เราแอบๆเข้าไป  ตอนนี้ชั้นแรกไม่มีใครอยู่แล้ว  เรารีบขึ้นไปชั้นสองก่อนจะเข้าไปหลบในห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

เสียงคนเดินขึ้นมา  พร้อมกับพุดคุยกัน  นั่นเสียงกี้นี่นา  พวกผมมองหน้ากันเพราะนึกว่ากี้ขึ้นมาแล้ว 

“รอบนี้พี่มาช้านะ”

“เออน่า  ช้านิดเดียว  มึงทำเป็นบ่น”

เสียงคุยกันดังเข้ามาเรื่อยๆ  พร้อมมันเลี้ยวเข้ามาในห้องนอนใหญ่ครับ  ซึ่งห้องน้ำที่พวกผมหลบอยู่มันอยู่ในห้องนี้
บอยเอานิ้วชี้จดไว้ที่ปากเป็นสัญญาณว่าเงียบ  พวกมันคงไม่เห็นหรอกครับเพราะพวกผมเข้ามาแอบตรงที่อาบน้ำซึ่งมีอิฐก่อไว้บังไว้อีกชั้นหนึ่ง

“ไหนของ”

“นี่ไง  แล้วเงินล่ะ”

“เอ้า  เอาไปตรวจดู”

“โอเคๆ ครบ”

“เดี๋ยวๆ เดี๋ยวสิวะ”

“อะไร  จะรีบกลับเดี๋ยวมืด” กี้เริ่มขึ้นเสียง

“กูว่ากูให้เงินมึงเกินไปพันหนึ่ง”

“อย่างนั้นก็เอาคืนไป”

“กูไม่เอา  ขอเป็นตัวมึงแลกได้ไหมวะ  เฮ้ย  จับมันไว้”  อ้าวมันจะทำอะไรกี้  อีกอย่างมันมากันสองคนหรอกหรอ

“เฮ้ย  จะทำอะไรปล่อย”

“อยู่นิ่งๆ”

“อย่า  โอ้ย   อย่างนะโว้ย  พวกพี่มีถุงยางไหมล่ะ”

“มีๆกูเตรียมมาเฉพาะมึงเลยนะ”

แล้วเสียงก็เงียบไป  กลายเป็นเสียงเสียวซ่าน  สุขสมอารมณ์หมาย ของเด็กม.ปลายกับพวกรับ - ส่งยา

กี้โดนพวกนั้นข่มขืน  ไม่สิ  น่าจะสมยอมแล้วล่ะ ในบ้านร้าง ซึ่งมีผมกับบอยได้ยินเหตุการณ์ต่างๆอย่างชัดเจน

บอยเอามือสองข้างขึ้นมาปิดหูผม  คงไม่อยากให้ผมฟัง  เราจองหน้ากันสักพัก  ผมก็หลบตา บรรยากาศที่มีคนมีอะไรกันแล้วได้ยินเสียงอยู่ใกล้ๆกันกับเราที่ยืนเบียดๆกันในห้องน้ำสองคน

ผมรู้สึกได้ถึงหัวใจของผมที่เริ่มเต้นแรง  เหงื่อเริ่มไหลตามใบหน้า แผ่นหลัง  แม้กระทั่งรักแร้

บอยลดมือลงจากหูผม  พร้อมกับดึงผมเข้ากอด  เรายืนกอดกันนาน  รอจนกว่าข้างนอกจะทำกิจกามกันจนเสร็จ

ผมรู้ครับว่าไอ้เด็กบอยนี่มันมีอารมณ์  กอดกันแน่นขนาดนี้  ผมเลยรู้สึกได้ถึงไอ้นั่นที่มันแน่นตรงเป้ากางเกงยีนส์ของบอย

เราออกจากบ้านร้างนั้นหลังจากที่พวกนั้นออกไปได้สักพัก

“เฮ้อ”  ผมกับบอยถอยหายใจยาวๆพร้อมกัน  เมื่อเข้ามานั่งในรถ  พร้อมกับเร่งแอร์ในรถให้ทำงานหนักมากขึ้น  เพราะแต่ละคนเหงื่อออกเยอะมาก  ไม่ใช่ว่าอากาศร้อนมากหรอก แต่เหตุการณ์ที่ได้ยินมันร้อนมากต่างหาก

“รีบไปเถอะบอย  กลัว  มันเปลี่ยว”

“อารมณ์เปลี่ยวหรอ” ยังจะมาเล่นอีก

“บ้า  รีบขับไปเลย  จะได้ไปเปลี่ยนชุด  เดี๋ยวดึก” :o8:

“เขินล่ะสิ”

ฮึ่ม  ต้องอดไว้ครับ  ขี้เกียจเถียงกับเด็ก

ผมเร่งให้บอยรีบกลับห้องผมจะได้ไปเอาของ เปลี่ยนเสื้อจะได้รีบกลับห้องไปพัก  วันนี้เหนื่อยมามากพอแล้ว

อย่างน้อยวันนี้ก็ได้รู้ชีวิตอีกด้านหนึ่งของกี้  ว่ากิจการทางบ้านคือส่งยาแน่ๆ 

ต่อไปก็คงเป็นเรื่องเล่นยานี่จะเล่นเองจริงๆเหมือนที่ได้ยินมาจากวันที่ไปเที่ยวผับจริงหรือไม่

ยังไงผมก็ต้องหาเรื่องไปหากี้ที่หอให้ได้  อย่างน้อยก็จะได้ไปเห็น  ว่าห้องหับที่โอ๊ตชอบไปค้างเป็นอย่างไร 

พูดถึงโอ๊ตแล้วก็ส่งข้อความไปถามน้องก่อนครับว่า คาบบ่ายครูได้สั่งงาน การบ้านอะไรหรือเปล่า เป็นการเช็คไปในตัวว่าน้องมันตั้งใจเรียนไหม

...


วันนี้มาสั้นไปนิดหนึ่งนะครับ  คนเขียนต้องรีบไปทำธุระต่างจังหวัด  เลยรีบมาลงก่อนแบบพิมพ์เสร็จสดๆร้อนๆ

อ่านแล้วตอบให้กำลังใจกันด้วยนะเพื่อนๆนักอ่าน นักเขียนทั้งหลาย  ตัวเราเองก็ตั้งใจว่าเวลาไปอ่านเรื่องไหนก็ต้องตอบ ฮ่าๆ บางครั้งก็ลืมตอบไง 

รักทุกคนนนนนนน :กอด1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๙ ๒๓/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๓ / บีนมาแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-08-2015 10:38:40
ไม่สงสัยแล้วค่ะว่าทำไมตอนที่ทั้งสองคนถูกพาไปขายที่พัทยากี้ถึงได้นิ่งนัก ตอนแรกก็คิดว่าที่นิ่ง เพราะอุ่นใจที่มีบีนอยู่เป็นเพื่อน แต่ความจริงแล้วเป็นเพราะของมันเคยๆ นี่เอง หนทางที่จะกู่กี้ให้กลับเข้ามาในเส้นทางเดิมได้นี่ริบหลี่มากเลยนะคะบีน :ling2:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 28-08-2015 11:03:37
รอ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 28-08-2015 11:28:49
บีนต้องปรึกษาคุณอานะ ชอบเสี่ยงจริงๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-08-2015 11:59:16
 :mew6:    ลุ้นอ่า. ทำไมงานมันเสี่ยงขนาดนี้
ไอ้ฐานะเพื่อนมันก็ค้ำคอซะด้วย.  แล้วนี่จะยังไงล่ะบีน.
บอกเจ้านายเถอะ เขาคงคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะหนักหนาแบบนี้
โถๆหลานโอ๊ตที่รัก. คนเขียนสู้
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 28-08-2015 12:20:02
กี้ไม่ธรรมดาจริง งืมๆๆๆๆ  :a5:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-08-2015 12:48:26
เรื่องกี้นี่ไม่ใช่เเล่นๆเลย บีนต้องปรึกษาคุณอาจริงๆแล้วล่ะ ไม่งั้นกี้มีสิทธิ์ทำให้โอ๊ตตกเหวเลยนะเนี่ย


 :z3:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-08-2015 13:11:10
จะกันโอ๊ตออกห่างจากกี้ก็ไม่ได้ เพราะโอ๊ตรักกี้คงไม่ยอมฟังบีนหรอก
เดี๋ยวก็จะหาว่าบีนใส่ร้ายกี้อีก กี้นี่คงเตลิดไปแล้วล่ะ
ไม่มีขัดขืนอะไรเลยแถมยังถามหาถุงยางอีก
ถ้ากี้กลับตัวกลับใจได้ก็ยังพอหยวนๆให้คู่โอ๊ตอยู่หรอกนะ
แต่ถ้าไม่ก็ให้โอ๊ตหลุดพ้นจากกี้ทีเถอะ
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 29-08-2015 04:35:53
บางที งานของบีน อาจไม่แค่ Oat อีกต่อไป...รอดูกี้ว่าจะเป็นไงต่อครับผม^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 29-08-2015 13:21:08
มันเรื่องของกี้ชัดๆ  กั้ไม่สะอาดเลย  แต่ไม่รู้ว่าจากตัวตนจริงๆหรือว่าโดนบังคับให้เป็น
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 30-08-2015 17:19:44
ดูท่าทางคงปล่อยโอ๊ตไม่ได้แล้ว
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๐ ๒๘/๐๘/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนกับบอยพร้อม
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 30-08-2015 19:41:24
 :z13:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 03-09-2015 02:13:01
ตอนที่  ๑๑
 :katai2-1:


สอบกลางภาคของภาคเรียนที่ ๑  ผ่านไป

ช่วงเวลา ๑ อาทิตย์  ก่อนสอบผมไม่ได้ไปตามเรื่องกี้เลย  เพราะต้องตั้งใจติวหนังสือช่วยกันกับเพื่อนในกลุ่ม

แต่ก็พยายามกันโอ๊ตออกจากกี้นะครับ  ในกรณีที่โอ๊ตจะไปนอนกับกี้  อ้างโน่นนี่นั่นไปให้โอ๊ตเปลี่ยนใจหรือชวนโอ๊ตไปอ่านหนังสือดึกๆ โดยที่กี้ก็ต้องไม่เอะใจอะไร

ภาพที่ผมมองมิคกี้ หรือ กี้ เด็ก ม.๕ ใสๆ นั่นเปลี่ยนไปเยอะครับ  กลายเป็นว่าผมมองด้วยความเวทนา  สงสาร  หรือมองด้วยความสับสนว่าที่ทำไปนั่นตั้งใจ เต็มใจ หรือโดนป้าบังคับ

..........................................................................................

“ผลการเรียนก็ดูดีขึ้นนะ โอ๊ตกลับมาเป็นปกติแล้ว  จากที่ขี้เกียจมานาน”

ผมเอาผลการสอบกลางภาคของโอ๊ตมาให้คุณบิ๊กดูครับ  โดยเรานัดเจอกันที่ห้องผมนี่แหละ 

“ครับ”  ผมตอบกลับไปแบบเหม่อๆ จะบอกดีไหมนะ

“อ้าวเป็นอะไร   เมื่อกี้ได้ฟังไหม”  อะไรนะ ผมเหม่อและเบลอจริงๆ

“ครับผมขอโทษครับคุณ”

“เมื่อครู่ผมบอกว่า  อยากให้โอ๊ตเรียนดีขึ้นกว่านี้อีกนะ  ไม่จำเป็นต้องที่หนึ่งหรือที่สองของห้องหรอก  เอาแบบที่อยู่ในกลุ่มที่เรียนดีแล้วกัน  ตกลงนะ”

“ได้ครับ  เอ่อ  คุณบิ๊ก  ผมมีเรื่องจะบอก” ผมเหงื่ออกรักแร้แล้วครับตอนนี้

“เรื่องอะไร  บอกได้  เห็นเหม่อมานาน  มาปัญหาอะไรหรือเปล่า”

“เอ่อ  ที่รู้มาคือน้องโอ๊ต  บางคืนก็ไม่ได้กลับบ้านใช่ไหมครับ” เริ่มแซะๆเข้าไปแล้วกัน

“ใช่จริงด้วย  ผมลืมคุยกับคุณเรื่องนี้”

“คือโอ๊ตไปนอนห้องเพื่อนครับ  แต่มันมีปัญหาตรงที่ว่าเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่”

“ใช่เพื่อนจริงๆใช่ไหม”

“ใช่ครับ  เป็นเพื่อนในกลุ่มนี่แหละครับ”

“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น  ผมตั้งใจจะถามว่า  เพื่อนจริงๆหรือแฟน”  อ้าว คุณบิ๊กรู้หรอว่าหลานตัวเองชอบแบบนั้น

“เอ่อ คือ”

“เล่ามาให้หมด  ไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ผมจะช่วยคุณเอง”

ผมตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ละเอียดอีกที  โดยเฉพาะที่ของกี้ที่ผมรู้มาทั้งหมด

“เฮ้อ” คุณบิ๊กถอนหายใจยาว แล้วทิ้งตัวลงเอนไปกับโซฟาที่ห้องรับแขกของผม หลังจากฟังเรื่องทั้งหมด

“แต่คุณ   มันไม่ใช่ความผิดโอ๊ตหรอกนะ”

“ผมเข้าใจ ขอผมคิดสักครู่แล้วกันว่าจะเอาอย่างไรดี”

“ครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำผลไม้เย็นๆมาให้”

ผมเดินไปเตรียมน้ำให้คุณบิ๊ก   ปล่อยให้ได้คิดดูก่อนแล้วกัน


...................................................................................

“เอาแบบนี้แล้วกันนะ  ฝากโอ๊ตด้วยนะบีน วันนี้ผมกลับก่อน”

คุณบิ๊กกลับไปแล้ว  ผมมานั่งทบทวนเรื่องที่คุณบิ๊กได้บอกผมไปว่าจะจัดการอย่างไร

เริ่มแรกเลย  ต้องหาทางเข้าห้องกี้ไปให้ได้ หาพวกเศษยาถ้าใช้จริงจะพวกอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพ ไฟแช็ค ขวดปอปเปอร์  ถ่ายรูปมาให้หมดนะ  ลองค้นตามถังขยะหรือถุงขยะดู

ส่วนเรื่องกี้ส่งยา คุณบิ๊กจะให้ลูกน้องที่เก่งๆสะกดรอยตามพร้อมกับถ่ายรูปยืนยันเป็นหลักฐานอีกที

ถ้ารู้เรื่องทั้งหมดแน่ๆแล้วว่ากี้ทั้งเสพและส่งยา  คุณบิ๊กตกลงไว้ว่าให้เอาเรื่องนี้ไปตกลงกับกี้ก่อนว่าผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้วนะ  ให้เลิกทำซะ โดยอ้างเหตุผลที่สมเหตุสมผล  พร้อมสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องทั้งหมดกับโอ๊ตและคนอื่นๆ

งานและภาระมาอีกแล้ว  เหนื่อยๆ ขอนอนพักแล้วกัน  วันจันทร์ต้องแอบจิ๊กกุญแจห้องกี้มาให้ได้

..................................................................................................
หลังเลิกเรียนผมก็ออกอุบายให้กี้ไปร้านหนังสือที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งกับผม  วันก่อนไปดูร้านปั๊มกุญแจมาแล้วครับ  ว่ามีอยู่ที่ชั้นใต้ดิน  ไม่แพง  ได้เร็วด้วย

“ซื้อแล้วไปหาอะไรกินกันเนาะกี้”

“ก็ดีกี้ก็หิวๆแล้วเหมือนกัน”

เราสองคนไปหาที่นั่งในฟู๊ดคอร์ท เลิกที่นั่งในมุมลึก  โดยผมให้เหตุผลว่าต้องการที่เงียบ  กี้ก็เออออไป  ผมเลยให้กี้ไปซื้ออาหารก่อน   จะได้เอากุญแจที่อยู่ในกระเป๋าไปปั๊ม  ซึ่งผมแอบมาหาดูก่อนตอนพักเที่ยงว่าอยู่ช่องไหนของกระเป๋า 
เจอแล้ว ผมหยิบมันมันใส่กระเป๋ากางเกงก่อนรูดซิบให้เรียบร้อย

กี้มาพร้อมอาหารแล้วนั่งลงที่โต๊ะ 

“ไปสั่งข้าวไปบีน ”

“โอเค  เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำด้วยนะ  ปวดท้อง”  กี้พยักหน้าตกลง

ผมรีบเดินไป  ก็จะเป็นวิ่งไปที่ชั้นใต้ดินแล้วปั๊มกุญแจ สองดอก  อันแรกเป็นของลูกบิด  อีกอันเป็นของกุญแจคล้องสายยู
เรียบร้อยครับ  ใช้เวลาไม่ถึง ๑๐ นาที  ผมรีบไปสั่งข้าวแล้วกลับไปนั่งทานข้าว

“ทำไมเหงื่อเยอะขนาดนั้นล่ะบีน  ร้อนหรอ”

“อ้าวหรอ  ในห้องน้ำมันร้อน  เออบีนลืมซื้อน้ำ  ฝากซื้อด้วยนะ”

“ได้ๆ เดี๋ยวไปซื้อตอนนี้แหละ”

จังหวะที่กี้ไปซื้อน้ำก็ตามแผนครับ  ผมก็เก็บกุญแจไว้ในกระเป๋าของกี้เหมือนเดิม


เย็นวันต่อมาผมได้ขอให้บอยไปที่ห้องกี้ด้วยกัน  เพราะว่าจะไปตรวจดูในห้องว่ากี้เล่นยาจริงหรือเปล่า

เรายืนกันอยู่หน้าหอกี้หลังเลิกเรียน  ซึ่งตอนนี้กี้ไปดูหนังกับพวกโอ๊ตอยู่  คงกลับช้า

ดีนะครับที่หอไม่ได้หรูหรือแพงมาก  เลยไม่มีคีย์การ์ด ไม่อย่างนั้นคงต้องยุ่งยากมากกว่านี้

“ เอายังไงดีบอย  ค้นดูจากตรงไหนก่อน” ผมถามบอย  เข้ามาในห้องกี้แล้ว  ห้องกี้ก็ห้องพักธรรมดาครับ เล็กๆ มีเตียงใหญ่หน่อย  ตู้เสื้อผ้า  ทีวี  ตู้เย็น โต๊ะทำการบ้าน ห้องน้ำ ระเบียง

“ เดี๋ยวบอยจะไปค้นดูถังขยะก่อน  ส่วนบีนก็ไปดูตามตู้เย็นนะ ”

“โอเค”  บอยไปคุ้ยดูถังขยะ  ส่วนผมหาดูตามตู้เย็น  บนหลังตู้เย็นจะมีกล่องอยู่หลายกล่อง 

ผมเปิดไปมาก็เจอกับหลอดกาแฟ  ที่มีทั้งปากธรรมดาและปากแหลม ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์เสพยาไอซ์  ผมเอามือถือขึ้นมาถ่ายหลอดไว้

“บีนๆ นี่ใช่ไหม”  บอยที่ค้นถุงขยะอยู่ที่ระเบียงเรียกผม

บอยหยิบถุงซิบพลาสติกเล็กๆเปล่า  ที่เหมือนใช้งานแล้ว ขึ้นมามีอยู่สามสี่ถุง  พร้อมกับถ่ายรูปไว้ ผมหยิบถุงที่มีเหมือนเศษผงคล้ายเกร็ดใสๆเหลืออยู่  มาเก็บไว้เป็นหลักฐาน  ก่อนทิ้งถุงซิบอันที่เหลือไปในถุงขยะ

“ค้นดูอีกถุงซิบอย”

บอยมัดปากถุงขยะถุงแรกไว้  ก่อนเดินไปเปิดปากอีกถุง 

และค้นดู

ระหว่างค้นก็เจอทั้งไฟแช็คและก็ซองบุหรี่

“เฮ้ย  ไอ้เชี่ย  แหวะ” บอยร้องขึ้น

“อะไร ”

“ถุงยาง  ใช้แล้วด้วย  จะอ๊วก เดี๋ยวบอยไปล้างมือก่อน ”  อี๋ ถุงยางจริงๆครับ  ของน้องโอ๊ตหรือเปล่านะ

ผมนั่งไปเขี่ยดูต่อก็เจอกับถุงสีดำอีกถุง  แกะดูข้างในมีขวดสีน้ำตาลเล็กๆสี่ขวด

เป๊ะเลยครับ  ตามที่หาดูในเน็ต  นี่มันขวดปอปเปอร์  ที่ใช้ดมตอนที่มีอะไรกัน

ผมเก็บไว้กับตัวเอง ๑ ขวด  ก่อนจะจัดการเก็บของให้เรียบร้อย

“บอยป่ะ”  เมื่อได้เจอของที่ต้องการและถ่ายรูปแล้วผมก็ชวนบอยกลับ

.................................................................................................


“ได้มาแล้วครับคุณบิ๊ก”

ผมโทรหาคุณบิ๊กเมื่อกลับมาถึงคอนโด  แล้ววางพวกของผัก เนื้อ ใข่ ต่างๆ  ที่ซื้อจากซูปเปอร์มาเกต  มาทำกับข้าวกันกับบอย ซึ่งเด็กบอยขอกลับไปเก็บของที่บ้านก่อน  คืนนี้จะมานอนค้างด้วย

คุณบิ๊กก็เซอร์ไพรส์ผมด้วยการมาดูของพร้อมกับรูปถ่ายที่ผมได้มาที่คอนโดผม  พร้อมกับรูปถ่าย ตอนนี้เลยทันที  ให้เหตุผลว่าขับผ่านมาพอดี  ก็ไม่บอกกันเลยนะ 

“ใช่  ยาจริงๆ  ผมไม่สบายใจเลยคุณกับเรื่องแบบนี้  คบกันไม่ว่านะ  แต่มันต้องไม่ใช่อะไรแบบนี้ ”

“ใจเย็นคุณบิ๊ก  น้องโอ๊ตไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก คือตอนนี้เราสบายใจไปเรื่องหนึ่งคือ  โอ๊ตคงไม่ได้เกี่ยวพันกับเรื่องส่งยาหรอก  เพียงแต่ผมห่วงเรื่องที่ว่าเวลาโอ๊ตไปค้างห้องกี้จะเสพยาพวกนี้ด้วยหรือเปล่านี่ล่ะ”

“ช่วงหลังๆโอ๊ตก็นอนที่บ้านตลอดนะ   เอาเป็นว่าผมมั่นใจในระดับหนึ่งนะคุณว่าหลานผมไม่เกี่ยวกับยาเสพติดหรอก”
คุณบิ๊กพูดขึ้นอย่างมั่นใจ  ผมก็คิดแบบนั้นแต่บางครั้งก็อยากเผื่อใจไว้

“แล้วต่อไปก็ตามแผนเลยใช่ไหมครับ” 

คุยกันซะเพลินเลยครับ   บอยถึงไหนแล้วนะ  อาจจะใกล้ถึงแล้วเพราะตอนแยกกันผมยังไม่ได้ไปซื้อของเลย

“ตามนั้นเลยบีน”
.............................................

“จะกลับเลยไหมครับคุณบิ๊ก  ดูคุณเหนื่อยๆ” ต้องเร่ง  เดี๋ยวบอยมาแล้วจะยุ่งยาก

“ใช่ผมเหนื่อย  ขอนั่งพักก่อนแล้วกัน” ตายแล้ว  แล้วบอยมันก็ขึ้นมาเองได้ด้วยนะครับ  เพราะผมแจ้งกับยามข้างล่างไว้แล้ว

“ทำไมเหรอ  ดูแปลกๆ”

“เอ่อ  คุณคือเพื่อนผมจะมาห้องครับ  เพื่อนในห้องม.ปลายนี่แหละ ผมกลัวความลับจะแตก”

“อ้าว  ก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรก  อย่างนั้นเดี๋ยวผมไปก่อนแล้วกัน”

ติ๊ง ติ๊ง

ตายห่าแล้วเสียงกริ่ง  บอยมาแล้ว

เอายังไงดี

“บอกว่าผมเป็นญาติคุณสิ  ไม่เห็นจะยาก  เดี๋ยวผมเปิดประตูเอง”

“เฮ้ยคุณ”

แกร๊ก

“บิ ”  บอยกำลังจะทักผมก็ตกใจ  ที่เข้ามาเห็นคุณบิ๊กยืนอยู่ตรงประตู

“คนนี้ใช่ไหมเพื่อนบีน  สวัสดีครับพี่เป็นญาติบีนเอง ” เนียนจริงนะคุณบิีก

ทั้งสองก็ยืนนิ่ง  มองหน้ากัน เป็นอะไรกันรู้จักกันหรอ

“สะ  สวัสดีครับ”  บอยทักทายคุณบิ๊กแบบยิ้มแห้งๆ

“เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะบีน”  อยู่ดีๆ  ก็รีบไปเลย

“ครับ” บอยตอบคุณบิ๊กก่อนปิดประตู

“ญาติบีนจริงหรอ” บอยถาม

“ใช่ เป็นอะไรหรือเปล่า” ผมก็โกหกหน้าตาย

“ไม่มีอะไร  ทำกับข้าวกินกันเถอะ” ปรับอารมณ์เร็วจังนะ  เด็กมัธยมนี่

..................................................................................................

“ไปไหนกันต่อไหมมึง  กูว่าจะกลับไปก่อนว่ะ”

“อะไรวะ  วันนี้อุตส่าห์มากันครบห้าคน”  โอ๊ตโอดครวญอย่างเสียดาย  เย็นวันศุกร์กลุ่มผมมาทานข้าวด้วยกันที่ห้างครับ  เลิกเรียนปุ๊ปก็มากันเลย  แต่อ๊อฟกลับก่อน

“กูต้องรีบไปเรียนพิเศษ  ลืมไปเลยว่ามีเรียนวันนี้”  ที่บ้านอ๊อฟมันเข้มงวดครับ  จ้างครูมาสอนตัวต่อตัว

“เออ  วันจันทร์เจอกัน”

“แล้วพวกเราเอาไงต่อ” ไบท์ถามขึ้น

“ไปกิน After you กัน”  กี้ชวนพวกผม

“เออจริงด้วย ไม่ได้ไปนานแล้ว”  โอ๊ตก็ดูสนใจ

“กูอยากกิน น้ำแข็งไสที่ korean dessert  มากกว่า” ไบท์เสนอขึ้น  ความเห็นเริ่มไม่ตรงกันแล้ว

“อย่างนั้นก็แยก  ร้านอยู่ใกล้ๆกัน  เดี๋ยวเราไปกับไบท์เอง  แล้วกี้ก็ไปกับโอ๊ต โอเคนะ”

“ตกลงตามนั้น  ป่ะกี้ ”  โอ๊ตตกลง

โน่นเดินกอดคอกันไปแล้ว  รักกันมากจริง  หมั่นไส้

“อิจฉาหรอ” ไบท์ถามผมไม่พอ  เอาหน้ามาใกล้อีก

“ไม่เลย  แค่หมั่นไส้เฉยๆ ในโรงเรียนไม่เท่าไหร่หรอก  พอออกนอกโรงเรียนเท่านั้นล่ะตัวติดกันเชียว  ป่ะ ไปกันเถอะ”

“อารมณ์แปรปรวนจริงนะมึง”
..............................................................................................
หลังจากที่กินอะไรกันเรียบร้อยแล้ว  ผมก็เดินดูเสื้อผ้า  รองเท้า กับไบท์สักพัก 

“แล้วนี่  ช่วงนี้ไม่ไปกับสาวๆบ้างหรือไบท์”

“ช่วงนี้ไม่มีว่ะ  ตั้งใจเรียน  ตั้งแต่มึงย้ายมาแล้วมาอยู่กลุ่มพวกกูนะ กูรู้สึกว่าพวกกูเรียนดีขึ้นว่ะ”

“ก็อยู่ที่ตัวเองด้วย  ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เราคนเดียวหรอก”

“ว่าแต่  มึงรู้หรือยังว่าพรุ่งนี้พวกเราสี่คนจะไปเที่ยวผับกัน”

“อีกแล้วหรอ”

“อืม  สงสัยอะไร”

“ไม่  ก็เห็นไปกันบ่อย  ใครชวน”

“กี้ชวน  เดี๋ยวนี้ดูมันอยากไปบ่อยนะ แต่ว่าช่วงที่คบกับพี่แทนมันก็ไปประจำนะ” 

ส่งยา กี้ต้องไปส่งยาอีกแน่ๆ

ผมเดินกับไบท์สักพัก ก็เลยขอแยกทางกลับ  และโทรหากี้

“กี้ ”

“ว่าไงบีน”

“อยู่ไหนถึงห้องยัง”

“ใช่อยู่ห้อง มีอะไรเปล่า”

“เออพอดี  จะไปหา  มีเรื่องคุยด้วย  อยู่คนเดียวใช่ไหม”

“ใช่”

“เดี๋ยวไปตอนนี้เลย”  ผมวางสายลงก่อนรีบไปที่หอของกี้

ต้องบอกให้ไปหยุดทำครับ  จะยังไงก็แล้วแต่แล้วตอนนี้  จะปล่อยให้ถลำลึกไปแบบนั้นไม่ได้  ยังไงเป็นเพื่อนกันก็ต้องเป็นห่วงกันเป็นธรรมดาและก็กลัวโอ๊ตจะได้รับผลกระทบจากสิ่งที่กี้ทำอยู่ด้วยนี่แหละ

...

“มีอะไรหรือเปล่าบีน  อยู่ดีๆก็มา  แล้วนี่หาหอเจอได้ยังไง”

“โทรถามโอ๊ต” 

“ถามเราก็ได้นะบีน รบกวนโอ๊ตเขา”

“กี้กับโอ๊ตนี่ดูรักกันจริงๆนะ  กี้รักโอ๊ตมากไหม” ผมถาม

“มากสิ โอ๊ตช่วยเราได้มากเลย เราเศร้านะตอนที่เลิกกับพี่แทน  ที่ผ่านมาก็ได้โอ๊ตนี่แหละที่คอยปลอบ  คอยห่วงใย”

“แล้วกี้ทำอะไรให้โอ๊ตบ้างหรือเปล่า” ผมถามกลับอีก

“หมายความว่าไง  แล้วนี่บีนจะมาคุยกับเราเรื่องอะไร” ผมรู้ครับว่ากี้เริ่มหงุดหงิด

“เรื่องนี้แหละ”

“เรื่องอะไร”  กี้ดูหงุดหงิด ไม่ดูใสๆเหมือนอยู่กับโอ๊ตเลย

“เรื่องที่กี้ทำอยู่ไง  มันไม่ดีนะกี้ อย่างน้อยก็เห็นแก่โอ๊ตเถอะ  โอ๊ตไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย”

“เรื่องอะไรก็บอกมาสิบีน” กี้เริ่มถามเสียงดังขึ้น 

“เรื่องยาไง  เลิกส่งและก็เสพเถอะ มันไม่ดี  เรายังเด็กอยู่เลยนะ ไปทำอย่างนั้นได้ยังไง”

กี้อึ้งไปครับ  จากนั้นเราก็เงียบกันไม่ถึงนาที

ฮึก ฮึก ฮืออออ

อ้าวกี้ร้องไห้  เจ้าน้ำตาจริง  เชื่อได้ไหมนี่

“กี้ ฮึก กี้โดนป้าบังคับ  คือ ฮึก บ้านกี้มีปัญหาเรื่องเงิน  ก็เลยต้องส่งยา ”

“แล้วเรื่องเสพยาล่ะกี้”

“บีนรู้ได้ยังไง”

“รู้มาอีกที  ได้ยินพวกกลุ่มฝั่งหน้าต่างเขาคุยกันในห้องน้ำที่โรงเรียน”

อันนี้ได้ยินมาตั้งแต่ผมย้ายเข้าแรกๆเลยครับ  พึ่งนึกได้เมื่อวันก่อน  กลุ่มนั้นเม้าว่า  กี้เล่นยากับแฟนที่เป็นนักร้อง  แต่ผมนึกว่าไม่ใช่มิคกี้  นึกว่าเป็นคนชื่อเหมือนกัน  ไม่รู้ว่าพวกนั้นรู้มาจากไหน

“ฮึก  เรา  ฮึก  โดนพี่แทนบังคับ ”

“เฮ้อ” 

ผมถอนหายใจแล้วนั่งลงปลายเตียงหันหน้าเข้าไปทางตู้เสื้อผ้า ซึ่งมีลวดลายเป็นกระจกเงายาวๆ พอที่จะเห็นหน้ากี้โดยไม่ต้องหันหลังไปมอง  ร้องไห้จริงด้วยแฮะหรือว่าเด็กมันโดนบังคับจริง  แต่เรื่องมีอะไรกับคนส่งยาล่ะ  จะถามก็ไม่ได้  เดี๋ยวจะรู้อีกว่าผมตามไปดู

“เอาเป็นว่าจากนี้ก็พยายามเลิกนะกี้  พรุ่งนี้จะไปผับนี่  จุดประสงค์คืออะไร  ส่งยาใช่ไหม”

ผมถามพร้อมเล่าว่าวันที่ไปผับกันครั้งก่อน ผมบังเอิญไปเห็นกี้ส่งยา

“ฮึก  ฮืออออ”

“เราสัญญานะกี้ว่าจะไม่บอกใคร  ตกลงไหม  แต่กี้ต้องเลิกทุกอย่างนะ  บีนเป็นห่วงโอ๊ต  ตอนนี้โอ๊ตกำลังไปได้ดี”

“ฮึก  ตกลง  เราจะทำตามที่บีนบอก ฮึก”

“เลิกร้องได้แล้ว  พรุ่งนี้ก็ยกเลิกนัดซะ”

“จ้ะ ฮึก” กี้ยังสะอึกสะอื้นอยู่

“ตามนี้นะกี้ บีนเป็นห่วงกี้นะ  อนาคตยังอีกตั้งไกล”

“โอเค  เราเข้าใจแล้ว”  กี้ตอบด้วยน้ำเสียงที่กลับมาเป็นปกติ

“อย่างนั้นเดี๋ยวเรากลับก่อน”  ผมนั่งหันหลังให้กี้อยู่

จังหวะที่ผมกำลังจะลุก  ผมกลับมองเห็นกี้ในกระจก

กี้ที่ทำหน้าเยาะยิ้ม เยาะเย้ย  พร้อมเบ้ปากใส่ผม แบบนางร้ายในละครที่ชอบเล่นกล้องสอง   

กี้มันคงไม่สังเกตว่าผมเห็นเงามันในลายกระจกที่ติดอยู่ตู้เสื้อผ้า  ผมรีบหันหน้าไปทางกี้พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าเรียบๆ

“ต่อจากนี้ก็สู้ๆนะ”

ผมเดินออกมาจากห้องกี้ พร้อมกับปลงและโกรธมาก  สงสัยคงแก้ไม่หายแล้วล่ะ  ไปบอกให้เลิกดีกับมาทำหน้าทำตาใส่  ถึงขาดนี้คงไม่ฟังกันแล้ว  กี้อาจจะมาพาลเกลียดผมไปอีกก็เป็นได้ 


ผมกัดฟันเสียงดังกรอดๆ




ตุ๊ดเด็กนี่มันน่าตบจริงๆ


.....................................................................



ใจเย็นนะบีน  สู้ๆ :katai2-1:

มาดึกๆอีกตามเคย  หวังว่าจะสนุกกันนะทุกคน

 :hao7:

ผู้เขียนต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเข้ามาตอบกันนะครับ :bye2:

 
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 03-09-2015 02:52:37
โอเค...Delete นายกี้นี่เลยดีกว่า...

จบ....

ติดตามตอนต่อไปครับ^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-09-2015 05:52:16
ไม่ใช่น่าตบจ้ะ. น่ากระทืบเลย
แหมคิดแล้วก็ขึ้น. ซวยเพราะอีกี้คนเดียว.  :z6:

ว่าแต่บอยรู้จักเจ้านายเหรอ.
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 03-09-2015 06:06:23
น่าหมั่นไส้จริงๆ นางกี้เนี่ย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-09-2015 08:03:37
เห้ออออ คราวหน้ากี้เกิดเรื่อง บีนจะไปช่วยไหมเนี่ย ไม่งั้นก็แจ้งตำรวจมาบุกจับแทนเลย

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 03-09-2015 08:11:24
เพราะงี้ไงมันหลอกแกไปติดร่างแหด้วย กี้มึงมันกู่ไม่กลับแหล่ะ
บีนอย่าสงสารเลย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-09-2015 09:01:54
 :beat: ครั้งหน้าถ้ากี้มีเรื่องบีนอย่าเข้าไปช่วยนะ
บีนจะสืบเรื่องกี้อะไรยังไงก็ระวังตัวไว้บ้าง
กลัวกี้จะสตอบอกใครๆ ว่าบีนใส่ร้าย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 03-09-2015 10:21:30
ตุ๊ดเด็กนี้มันน่าตบจริงๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 03-09-2015 13:06:35
หมั่นไส้กี้ตั้งแต่อ่านมาแรกๆละจริงๆ เดี๋ยวก็หลอกให้บีนไปหานู่นนี่ แจ้งความให้โดนจับไปเหอะ ถึงจะเป็นเพื่อนเป็นเด็กก็อย่าไปสงสาร :z6:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 03-09-2015 14:32:19
มาเอาใจช่วยเจ้บีนของเรา นังเด็กกี้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ :angry2:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๑ ๓/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๔ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: dekhip ที่ 03-09-2015 19:16:32
กี้นี่น่าหมั่นใส้จริงๆ ตบเลยบีน
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 08-09-2015 14:53:45
 :katai2-1:

ตอนที่ ๑๒


วันถัดมาเป็นวันเสาร์  ซึ่งไบท์ได้บอกผมไปวันก่อนว่า  กี้ชวนไปผับ  แต่ผมก็ขอบายแล้วล่ะครับ  ผมไม่ชอบหน้ากี้ขึ้นมาแล้ว  เด็กอะไรวะ   คือจะไปให้โอกาสกลับตัวกลับใจ  แต่ไม่ได้นำพา  สรุปผมจะไม่เสวนาด้วยหรอกกับคนแบบนี้  จะพูดด้วยเท่าที่จำเป็นแล้วกัน

คุณบิ๊กโทรมาหาผมในเช้าวันอาทิตย์  เรียกว่าโทรมาปลุกจะง่ายกว่ามั้ง  โทรมาเช้าเชียว ผมรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะเจ้านายจะมาติดตามผลการทำงาน

“คือคุณไปบอกเขาแล้ว  แต่ท่าทางเขาคงไม่ทำตามใช่ไหม”

“ใช่ครับ”  พอคุณเจ้านายมาถึง  ผมก็เล่าให้แกฟัง

“เออคุณ  เมื่อคืนนี้  ผมส่งลูกน้องตามไปดูสามคนนั้นไปผับด้วยนะ”

“แล้วเป็นอย่างไรครับ”

“ก็ปกติดี”  อ้าวกี้ไม่ส่งยาหรอกหรอ

“ปกตินี่คือ ไม่มีใครทำอะไรผิดใช่ไหมครับ”

“ไม่ๆ ปกติคือ  สองคนนั้นปกติ  ส่วนเด็กมิคกี้นั่นก็ส่งยาเป็นปกติ” แหม ก็บอกว่ากี้ส่งยาก็จบ

“คงไม่ลด ไม่เลิกมันแล้วล่ะมั้ง  แล้วน้องโอ๊ตนี่เขาไม่รู้หรอคุณว่าแฟนตัวเองส่งยา”

“ผมว่าไม่น่าจะรู้ เอาเป็นว่าปล่อยๆไปก่อน  ปล่อยนี่คือ ไม่ใช่ว่าปล่อยเลยตามเลยนะ  สอดส่องดูแลเหมือนเดิมนะ แต่ไม่ต้องมาก  ใกล้สอบปลายภาคแล้วนี่  เห็นทางโรงเรียนเลื่อนสอบเร็วขึ้น” รู้ละเอียดดีจริง

“ใช่ครับ  เอาเป็นว่าช่วงนี้ผมติวหนังสือกับน้องแล้วกัน  เอาน้องโอ๊ตมาห้องผมได้ไหมครับ”

“เอ้า  ได้สิ  นี่อย่าบอกนะว่าโอ๊ตยังไม่สนิทกับคุณ”

“ก็ไม่ได้ขนาดไปไหนติดหนึบนะคุณ”

“แล้วเด็กที่มาวันนั้นนี่ใคร  เอามาห้องไม่กลัวเขารู้หรอว่าปลอมตัวเป็นเด็ก”

“ไม่รู้หรอกคุณ  ผมเก็บของเป็นระเบียบเรียบร้อยดี  ไม่ใครรู้หรอก  เอาเป็นว่าถ้าโอ๊ตจะไปนอนห้องกี้หรือไปอ่านหนังสือห้องกี้นี่ผมจะชวนมาห้องผมแทนแล้วกัน”

“โอเค ตามนี้”

...


ช่วงติวหนังสือ  พวกผมห้าคนก็ติวกันอย่างตั้งใจ  มีช่วยกันทำโจทย์  แยกกันไปอ่านแต่ละหัวข้อ  แต่ละวิชา  แล้วมาสรุปให้เพื่อนฟัง  หรือแม้แต่สอนกันในกระดานไวท์บอร์ดเล็กๆ

ที่ติวส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ด  ห้องผมบ้าง  หรือแม้กระทั่งบ้านของโอ๊ตเอง  ผมก็พึ่งรู้ว่าบ้านโอ๊ตใหญ่มาก  แต่คนอยู่กันนิดเดียว  มีแค่คุณพ่อคุณบิ๊กหรือปู่โอ๊ต คุณย่า  คุณบิ๊ก   คุณลุง คุณป้า พี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของโอ๊ตอีกหนึ่งคน และก็น้องโอ๊ต  สรุปคือ ไม่ถึงสิบ  นอกนั้นก็แม่บ้าน 

ตอนแรกผมก็คิดว่าดูอบอุ่นดีนี่นาถึงโอ๊ตจะไม่มีพ่อแม่แล้ว  แต่จากที่ไปคลุกคลีสองสามวันก็ได้ความมาว่า  ต่างคนต่างอยู่ครับ คุณบิ๊กก็ทำงาน  คุณลุงคุณป้ากับลูกสาวเขาก็อยู่ในส่วนของเขา  คือ  จะเจอกันแค่ทานอาหารเย็นของเย็นวันศุกร์  เสาร์   นอกนั้นตามสบายใครจะทำอะไรก็ทำ  จะมีแค่คุณปู่กับคุณย่าที่ดูจะใกล้ชิดน้องเขามากและดูท่าแล้วจะตามใจมากด้วย ตามประสาคนแก่รักหลาน

ส่วนเรื่องโอ๊ตกับกี้นี่  ก็ดูปกติดีครับ  แต่ไม่ดูหวานเหมือนตอนแรก  โอ๊ตดูจะไม่ติดกี้ แต่มาติดผม ติดไบท์ อ๊อฟแทน  ไม่รู้ว่าช่วงติวด้วยหรือเปล่า  แถมบางครั้งมีหงุดหงิดและดุกี้ด้วย  ผมเห็นก็จะไปทำหน้าสะใจใส่ก็ไม่ได้เพราะกี้นึกว่าผมยังไม่เห็นธาตุแท้ของเขา 

การสอบผ่านไปด้วยดีครับ  ทุกคนตั้งใจและมีเสียใจมากๆกับบางข้อที่ทำไม่ได้เพราะคิดไม่ออก  วันสุดท้ายของการสอบกลางภาคก็มาถึง  วันนี้มีสอบสามวิชาครับ ตอนเช้าสอง  ตอนบ่ายหนึ่งวิชา ขณะนักเรียนในห้องนั่งรอครูส่งข้อสอบ  ผมก็ได้รับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น  ผมหันหลังไปก็เจอกับเด็กบอยที่อยู่ด้านหลัง  พร้อมกับพูดแบบไม่ออกเสียงว่า “ สู้ๆนะ” พร้อมกับส่งจูบให้ เด็กน้อยเอ้ย

“ขอโทษครับ”  โอ๊ตยืนอยู่หน้าประตูห้อง

“ทำไมมาช้าล่ะคะ  นี่จวนจะสอบอยู่แล้ว  ไปนั่งที่เลยค่ะ”

อ้าวผมนึกว่าน้องโอ๊ตมานานแล้ว  ก่อนเข้าห้องสอบผมก็มัวแต่ดูหนังสือและก็งีบหลับ  ไม่ได้คุยกับเพื่อนคนอื่น เลยไม่ได้สังเกตใคร   ดูสีหน้าน้องแล้ว  ดูไม่ค่อยดีเลยครับ  เหมือนกับตื่นสาย  คิ้วขมวดกันเป็นปมเหมือนคิดอะไรอยู่  เป็นอะไรหรือเปล่า
หรือว่าจะกังวลเรื่องสอบ  หรืออาจจะเป็นเรื่องกี้ 

เราสอบกันสองวิชาตอนเช้า  พอเที่ยงก็พัก  โอ๊ตหายไปครับ  พวกผมนั่งกินข้าวกันสี่คน  ไบท์บอกว่าโอ๊ตส่งข้อความมาว่า  ไปหามุมอ่านหนังสือ  ยังไม่เข้าใจบางหัวข้อ  ในวิชาที่จะสอบตอนบ่าย

กี้ก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นั่งกดมือถือเล่นไป  นี่จะไม่เป็นห่วงแฟนตัวเองเลยหรอ

“สอบเสร็จไปเจอที่ดาดฟ้าตึกห้า” เสียงที่โอ๊ตเดินมาพูดข้างๆหูกี้  ก่อนจะเข้าห้องสอบ ผมเดินผ่านกี้ไปพอดี  ซึ่งโอ๊ตน่าจะไม่ได้ระวังว่าผมจะได้ยิน

เรียกไปคุยเลยหรอ  อย่าบอกนะว่าเรื่องยาจริงๆ

สอบเสร็จวิชาสุดท้ายของภาคเรียนนี้ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
คงเหลือแต่  โอ๊ตที่เดินหายไปทางอาคาร ๕ และกี้ที่กำลังจะเดินตามไป

ผมรีบไปกระซิบบอย  วานให้บอยไปด้วย  ทางนั้นก็ไม่ปฏิเสธอะไร

เราเดินตามกี้ไปห่างๆ ก่อนที่กี้จะขึ้นไปถึงดาดฟ้า  เราก็ขึ้นบันไดตามไปเงียบแล้ว  ยืนแอบอยู่ที่ประตูทางออก

“ มันได้ยินเสียงไม่ชัดว่ะบอย ”

“ค่อยๆ แง้มดูสิ บอยว่าสองคนนั้นไม่อยู่แถวนี้หรอก” 

เราแง้มประตูอออกไป  ก่อนจะเห็นว่าข้างหน้าเราไม่มีใคร  โอ๊ตกับกี้คงอยู่อีกฝั่ง 

พวกผมเลยย่องไปแอบหลังแท้งค์น้ำถังใหญ่  ก่อนจะแอบส่งผ่านช่องระหว่างแท้งค์น้ำสองถัง นั่นไงโอ๊ตกับกี้กำลังยืนมองหน้ากัน

ได้ยินเสียงชัดแจ๋วครับ

“มีอะไรปิดบังกันหรือเปล่ากี้”  โอ๊ตเอ่ยปากขึ้นก่อน

“ เรื่องอะไร  กี้ปิดบังอะไรหรอ” กี้ดูเหมือนร้อนตัว  ไม่เนียนเลย

“ พูดกันตรงๆนะ  กูรู้หมดแล้วว่ามึงทำอะไรบ้างกี้”

“ เรื่องอะไรโอ๊ต  กี้ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา”

“ ก็เรื่องที่มึงส่งยาไงล่ะ  กูเห็นครั้งแรกก็ไม่คิดอะไร  แต่นี่มันสี่ห้าครั้งแล้ว  ไปติวที่ห้างมึงก็แอบหนีไปส่งยา  แล้วอ้างว่าเข้าห้องน้ำ ไปผับก็อ้างว่าไปห้องน้ำ  กูเห็นกูรู้หมด  มันบ่อยไปแล้ว ”

“ใครบอก  มันต้องมีคนเอาไปบอก ไม่ได้เป็นอย่างที่โอ๊ตเห็นนะ”

“กูบังเอิญไปเห็นยาที่มึงซ่อนไว้  ในห้องมึง  กูก็รู้แล้วว่ามึงเล่นยา  ใช่แต่ก่อนกูชอบมึงแต่ไม่ได้คลุกคลีมากเพราะมึงมีแฟนอยู่  แต่พอกูได้เข้าไปรู้จักมึง  มึงก็แค่คนที่  สวยแต่รูป จูบไม่หอม”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะโอ๊ตกำลังเข้าใจผิดเรานะ”

“อย่าแทรกยังพูดไม่จบ  แล้วเรื่องเอาผู้ชายคนอื่นไปนอนหอก็เลิกเถอะ  เป็นแฟนกับกูแต่เสือกไปนัดคนอื่นมาเอาที่ห้องนี่ใช่เรื่องไหม  หรือถ้ามึงจะทำก็ไม่เนียนเลย  เศษถุงยางที่ใช้แล้วไม่ใช่ว่ากูไม่เห็น  กูกับมึงมีอะไรกันนับครั้งได้นะ  มึงทำไมเลวอย่างนี้ว่ะ ” 

แสดงว่าที่คบกันสองเดือนกว่านี่ โอ๊ตก็เริ่มรู้ความจริงแล้ว  กี้นี่ทำไมมันร่านผู้ชายจังนะ

“อีบีนมันบอกโอ๊ตใช่ไหม  มันกำลังใส่ร้ายกี้นะโอ๊ต  มันไปพูดกรอกหูโอ๊ตใช่ไหม  ”  นี่เรียกกันขึ้นอีเลยใช่ไหม

“กูรู้เอง  กูบอกกูรู้เอง มึงหูแตกหรือไง  ไปเอาคนอื่นมาเกี่ยวทำไมวะ  คนอย่างมึงทำเรื่องไม่ดี  ไม่ซื่อสัตย์  ทำผิดกฎหมาย  กูก็ขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยแล้วกัน”

โอ๊ตระเบิดอารมณ์ออกมา  พร้อมกับหันหลังให้แล้วเดินออกมา

แต่สิง่ที่กี้พูดต่อ  กลับทำให้โอ๊ตต้องหยุดชะงัก

“เออกูมันไม่ดีเอง  เล่นยา ขายยา มั่วผู้ชาย  แต่มึงมันโง่ไงโอ๊ต  มึงยังโง่ที่มาชอบกู  รู้ไหมตอนที่กูคบกันไอ้แทน  กูก็ได้กับเพื่อนมันหมด  ชีวิตกูมันก็เท่านี้แหละ  กูมีความสุขแบบนี้แล้วจะทำไม”

กี้ที่เริ่มหงุดหงิดและไม่พอใจ ก็เล่าความจริงออกมาซะหมดเปลือก  เออดีไม่ต้องแอ๊บแล้ว  ก่อนที่กี้มันจะเข้าไปใช้มือทุบตีโอ๊ตที่หันหลังให้

“สุดท้ายมึงก็ยอมบอกความจริง”  โอ๊ตหันหน้ามาแล้วรวบมือที่ไม่หยุดทุบตีไว้  “ทำไมมึงเลวอย่างนี้วะกี้”

“ก็มึงมันโง่ยังไงล่ะโอ๊ต  มึงไม่เข้าใจหรอกว่ากูต้องใช้เงิน ”

“เรื่องนั้นมึงก็ทำงานพิเศษ  เอาก็ได้”  เออจริง  ช่วงก่อนเห็นกี้มันทำงานพิเศษ

“ก็มันไม่พอให้กูซื้อยายังไงล่ะ  ป้ากูก็ทำ  ตอนคบกับพี่แทนกูก็ติดยา  จะให้กูทำยังไงวะ”

“ กูรับไม่ได้ว่ะ  กูไม่รู้จะพูดยังไงกับมึง”  โอ๊ตดูเหนื่อยใจ

“ก็มึงมันไม่มีน้ำยาไง  มึงมันให้ความสุขกูไม่ได้  กูอยากได้คนที่เอาเก่งๆ มึงมันไม่ได้เรื่อง  รู้ไหมว่าเวลาไปเที่ยวกลับมาห้องกูก็นัดให้ผู้ชายมาหากูหลังจากที่แยกกับพวกมึง” 

“ไอ้เชี่ยเฮ้ย” เพี๊ย โอ๊ตตบหน้ากี้ไปหนึ่งครั้งก่อนพูดขึ้นว่า

“ชาตินี้นะ  กูกับมึงขาดกัน  มึงไม่ต้องมาคุยด้วย  ไม่ต้องมีส่วนร่วมอะไรกับชีวิตกูอีก”

“เออ กูก็ไม่ได้อยากมีผัวห่วยๆแบบมึงหรอก” 

โอ๊ตที่เดินจากไปพร้อมกับเสียงตะโกนไล่ 

ก่อนที่กี้จะยืนอยู่สักพักแล้วค่อยเดินลงไปจากดาดฟ้า








“เฮ้อ  ปวดหัว  สงสารโอ๊ตว่ะบอย”  ผมเอามือกุมหัว  ต่อไปโอ๊ตจะเป็นอย่างไรนะ

“เออน่า  บีนก็ดูมันดีๆแล้วกัน  ดีนะว่าปิดเทอมแล้ว  ไอ้โอ๊ตมันคงมีเวลาทำใจ”

“เดี๋ยวเรากับเพื่อนจะช่วยให้โอ๊ตมันดีขึ้นเอง”

“อย่าลืมบอยนะ  บอยพร้อมช่วยเสมอ” เด็กบอยมันบอกพร้อมยื่นหน้าจะมาหอมแก้มผม  ก่อนที่ผมจะผักหน้ามันออกไป

“ลงไปได้แล้ว  อยากกลับแล้ว”

“ถ้าลงไปแล้ว  วันนี้ไปทำกับข้าวกินกันที่ห้องบีนนะ  แล้วก็ขอนอนด้วยนะ”  จะว่าไปผมก็ไม่ได้ทำกับข้าวกินกับบอยนานแล้ว

“ดีๆ แต่ต้องทำตัวดีเหมือนครั้งก่อนนะ ไม่งั้นไม่ให้นอนด้วย ”

“ครับผม”

บอยไปนอนห้องผมได้สามสี่ครั้งแล้วครับ  แต่ก็ไม่ได้เกินเลยอะไรมาก  นอกจากนอนกอด

แถมตื่นมาอีกทีผมก็นึกว่าบอยจะกอดผมตลอดคืน แต่กลายเป็นว่ามันนอนหันหลังให้ผมหรือไม่ก็นอนคอตกหมอนเสียเอง  ดูไปมันก็น่ารักดี  ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้ตกลงคบกันเป็นแฟน แต่อยู่แบบนี้ก็ดีนะ

...

วันปิดเทอมวันแรก  ผมก็ออกไปเที่ยวกับบอยครับ  แต่ก็ไม่ลืมที่จะตามดูความเคลื่อนไหวของโอ๊ตนะครับ  เปิดไปดูในไอจีก็เห็นโพสต์ภาพเศร้า  พร้อมข้อความภาษาอังกฤษลง  เพื่อนในกลุ่มก็ถามในไลน์กัน  โดยที่ไม่กลัวว่ากี้จะรู้  เพราะรายนั้นออกจากไลน์กลุ่มไปแล้ว  แถมก่อนออกทิ้งท้ายด้วยว่า  ไปเที่ยวภูเก็ต  แหมคงไปส่งยาล่ะสิ  ขอให้โดนตำรวจจับทีเถอะ

ทั้งอ๊อฟและไบท์รู้กันแล้วว่าโอ๊ตกับกี้เลิกกัน  แต่โอ๊ตไม่ได้บอกเพื่อนเรื่องยาหรอกครับ  บอกแค่ว่ากี้มันนอกใจ  สองคนนั้นดูตกใจกันมาก  เพราะไม่คิดว่าคนที่ภายนอกใสๆซื่อๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้

วันนี้ผมกับบอยไปวัดพระแก้วมาครับ  เพราะว่าไม่ได้ไปหลายปีแล้ว  บวกกับบอยที่ไม่เคยไปเพราะย้ายมาจากต่างจังหวัด เที่ยวเสร็จก็ไปหาอะไรกินกันแถววังหลัง  กว่าจะถึงห้องก็มืดพอดี  โดยที่บอยไม่ตามผมมา  มันขอกลับไปนอนที่ห้อง

ผมหยิบมือถือเครื่องที่คุณบิ๊กซื้อให้ออกมาพร้อมกับสายที่ไม่ได้รับห้าสาย  มีคุณบิ๊ก และก็ไบท์ ที่โทรมา  ผมติดนิสัยชอบปิดเสียงมือถือครับ  เป็นเพราะว่าสมัยเรียนมือถือเคยดังในห้องแล้วโดนครูดุ  เลยติดว่าต้องปิดเสียงตลอด  เพราะจะปิดๆเปิดๆก็กลัวว่าเข้าห้องเรียนแล้วลืมปิดเสียง  พอปิดเสียงตลอดจะมาเปิดเสียงอีกที  ก็ชอบตกใจเวลาได้ยินเสียงเรียกเข้า  ยิ่งถ้ามือถืออยู่ในกระเป๋าแล้วก็ยิ่งแล้วใหญ่  เลยไม่ค่อยได้รับสายถ้าไปไหนมาไหน

ผมเลือกโทรไปหาคุณบิ๊กก่อน ซึ่งแกก็บอกว่า  แกจะโทรมาถามว่าน้องโอ๊ตเลิกกับกี้แล้วใช่ไหมอะไรยังไง  ผมก็ตอบไป  พร้อมกับคุยอะไรนิดหน่อยๆ สุดท้ายเจ้านายก็ย้ำกับผมว่าถึงปิดเทอมแต่แกก็จะยังจ่ายค่าขนมกับเงินเดือนเหมือนเดิมนะ 

รายต่อไปคือ  ไบท์  ได้ความว่ามันโทรมาชวนไปฉลองปิดเทอม  มีสามคนโอ๊ต ไบท์ อ๊อฟ  แล้วก็ผมด้วย  ผมเลยขอบายพวกนั้นไป  เพราะเหนื่อยจากการไปเที่ยว 

หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็แกะบะหมี่เกี๊ยวที่ซื้อมาใส่ถ้วยแล้วเอาเข้าไปเวฟ   นั่งกินไปก็นึกไป   ว่าจริงๆตามหน้าที่แล้วผมต้องตามไปดูโอ๊ตนี่นา  แต่ก็นะ ตอนนี้เกือบสามทุ่มแล้วยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย  ผมเลยทำได้แค่โทรไปบอกให้อ๊อฟกับไบท์  ช่วยดูโอ๊ตด้วย  คนพึ่งเลิกกับแฟนคงจะดื่มหนักมาก

...

ผมสะดุ้งตื่นเพราะมือถือสั่นอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง  ผมเอื้อมมือไปหยิบมา  ภาพหน้าจอโชว์ว่าไบท์โทรมา 

“เฮ้ย บีน  นอนยังวะ” 

“อืม  ว่าไงไบท์”

“มึงช่วยมาดูโอ๊ตได้ไหม  มันเริ่มหนักแล้วมึง  ตอนนี้ซดเหล้าเพียวๆหมดไปเกือบขวดแล้ว  มันเริ่มเมาแล้วมึง”

“แล้วทำไมพวกนายไม่ดูโอ๊ตวะ  บอกให้ดูเพื่อนแล้วนะ”

“โถ่บีน  มาเถอะ  มาช่วยกัน  เดี๋ยวออกค่าแท็กซี่ให้”

“นี่กี่โมงแล้ว”  ผมรู้สึกเหมือนตัวเองนอนไปนาน

“จะเที่ยงคืนแล้วว่ะ” ไปก็ไป

“เออ  ดูโอ๊ตไว้  เดี๋ยวไป” ผมตอบไปแบบหงุดหงิด

“โอเคๆ  รีบมาๆ ผับ.......นะ”

โอย  ผมรีบลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา  เปลี่ยนเสื้อผ้า  ก่อนที่จะโทรไปบอกพี่ยามข้างล่างให้โบกแท็กซี่ไว้รอ

...

“อยู่ส่วนไหนของผับ”  ผมกรอกเสียงไปตามสาย

“อยู่ชั้นสาม  เดี๋ยวกูออกไปรับ”

“เดี๋ยวเข้าไปรอแถวๆประตู”

ผมเอาบัตรประชาชนตัวจริงให้เจ้าหน้าที่หน้าผับตรวจ  ก่อนที่เดินเข้าไปรอไบท์ข้างใน

เราขึ้นมาที่ห้องคาราโอเกะ  เป็นห้องที่หรูเลยทีเดียว  ดูเป็นส่วนตัว  เดินเข้าไปก็เจอโอ๊ตที่ดูจะยังไม่หยุดดื่มเหล้า  เพราะมือที่เอื้อมจะไปหยิบขวดเหล้าที่เหลือมาเทใส่แก้ว  โดยทั้งสองข้างของน้องโอ๊ตขนาบข้างไปด้วยสองสาว  คงเป็นเด็กนั่งดริ๊งที่มาบริการ   ผมหันไปอีกมุมก็เจอเด็กผู้หญิง ดูแล้วน่าจะอยู่ ม.ปลาย 

“นี่เพื่อนกูเองนะบีน  ชื่อฟ้า ” ไบท์แนะนำเด็กคนนั้นให้ผมรู้จัก

“อืม”  ผมตอบรับสั้นๆ  ก่อนเดินไปหาโอ๊ต

“เอ่อพี่  เดี๋ยวผมดูเพื่อนผมต่อก็ได้ครับ  ไม่รบกวนพี่สองคนแล้ว”

“ไม่เป็นไรค่ะ  เดี๋ยวพวกพี่ดูให้เอง”  แหมพวกนี้เห็นผู้ชายหล่อเป็นไม่ได้เชียว

ผมเดินไปหาไบท์อีกมุมที่นั่งสวีทกับเพื่อนหญิงอยู่

“ไบท์  อ๊อฟล่ะ  หายไปไหน ”

“มันกลับตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่งแล้ว  แม่มันโทรมาตาม”  แล้วคู่นี้ถ้าเดาไม่ผิดก็ต้องไปกันต่อ เลยโทรมาให้ผมเอาโอ๊ตกลับใช่ไหม

“ให้ทิปพี่สองคนนั้นหรือยัง ”  ผมถามไบท์เพราะถ้ายังไม่ให้ก็คงยังไม่ไป  แล้วถ้าให้นั่งต่อโอ๊ตคงได้เมียเป็นเด็กนั่งดริ๊งแน่ๆ

“ยังเลย  จะกลับแล้วใช่ไหม”

“ใช่ โอ๊ตเมาหนักแล้วนะนั่น”

“เออจริง เงินค่าแท็กซี่ที่กูบอกว่าจะออกให้ไม่มีแบงค์ย่อยว่ะ” 

ไบท์มันยื่นค่าแท็กซี่ให้ หนึ่งพัน  รวยนักนะ  ผมรับจากมันแล้วยื่นไปให้สองสาวที่นั่งข้างโอ๊ต

“ทิปครับ  เดี๋ยวพวกผมจะกลับกันแล้ว”

สองคนนั้นรับแล้วออกไป ไบท์บอกผมว่าจะไปเคลียร์บิลกับแฟน ให้ผมกับโอ๊ตไปรอข้างนอก

ผมประคองโอ๊ตออกมาจากผับอย่างทุลักทุเล  เวลานี้ผับใกล้จะเลิกแล้ว  แต่คนก็ยังแน่นอยู่ 

น้องโอ๊ตมันตัวหนาและใหญ่ครับ  เวลาใส่ชุดนักเรียนนะเสื้อจะคับแน่น แขนขาก็ดูแน่นไปหมด  เหมือนคนมีกล้ามเนื้อที่สมส่วน ออกกำลังกายเป็นประจำ  ได้ข่าวว่าคุณปู่ของโอ๊ต  เห็นหลานอยากออกกำลังกาย ก็ทำห้องฟิตเนสให้หลานที่บ้าน  พร้อมจ้างเทรนเนอร์มาเอาใจหลาน  ทุ่มทุนจริงๆ กับเด็กคนนี้ เด็กที่ตอนนี้นับฟุบอยู่โต๊ะม้าหินอ่อน  แถวที่จอดรถ

“แล้วปกติ  โอ๊ตมันเมามากขนาดนี้มันจะอ้วกไหมไบท์   อยู่นิ่งๆโอ๊ต” 

ผมถามไบท์ขณะที่มันขับรถอยู่  ส่วนโอ๊ตก็เมาไม่รู้เรื่อง  มือไม้ปัดไปมา  เราตกลงกันว่าจะไปที่หอผมซึ่งอยู่ใกล้กว่าบ้านโอ๊ต  คืนนี้ก็คงให้โอ๊ตนอนที่ห้องผมนี่แหละ  ผมส่งข้อความไปบอกคุณบิ๊กแล้วครับว่าโอ๊ตจะค้างที่หอผม  หวังว่าเจ้านายคงเข้าใจหลานนะ

พวกเราสามคน  รวมทั้งฟ้าช่วยกันแบกโอ๊ตมาที่ห้องผม  จะพูดจริงๆคือ ผมกับไบท์ช่วยกันคนละปีก  ส่วนสาวน้อยคนนั้นเดินตามมาเป็นกำลังใจ  เราเอาโอ๊ตนอนลงบนเตียง  ไบท์ก็ขอกลับ  ผมเดินไปส่งข้างล่างก่อนกลับขึ้นมาที่ห้อง  แล้วตรงไปที่ห้องนอน
ก็เห็นว่าเด็กมัธยมตัวใหญ่นอนตกเตียง  คงเมามาก  ดิ้นไปมา  เอายังไงดี

“โอ๊ตลุก  โอ๊ตลุก  ขึ้นไปนอนบนเตียงดีๆ ลุก อึ๊บ”

ผมดึงโอ๊ตขึ้นมา  ซึ่งก็ดึงได้แค่แขนข้างเดียว

“โอ๊ต  นี่เมามากขนาดนี้เลยหรอ  ลุกขึ้นแปปเดียวนะๆ”

“อื้อ”  โอ๊ตส่งเสียงในลำคอประท้วงเชิงหงุดหงิด   แต่ก็ยอมตะกายขึ้นไปบนเตียงแล้วนอนแผ่อ้าซ่าอย่างสบายใจ

เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนแล้วกัน  ผมคิดอยู่ในใจก่อนจะไปเอาผ้าขนหนูผืนเล็ก ไปชุบน้ำในห้องน้ำ  แล้วนั่งลงที่เตียงก่อนจะเอื้อมมือที่มีผ้าขนหนูอยู่  แตะลงไปที่แก้มข้างซ้ายของโอ๊ต  โอ๊ตสะดุ้งเล็กน้อย  แล้วปล่อยให้ผมเช็ดต่อ
โอ๊ตสะดุ้งอีกที่เมื่อผมเปลี่ยนมาเช็ดที่ลำคอ  แต่รอบนี้น้องมันลืมตาขึ้นปรือๆ แล้วเอามือมาจะแขนผมเป็นสัญญานเชิงบอกให้หยุด 

“นี่ใครวะ” น้องมันถามเสียงเมาๆ

“บีนเอง  นี่ไปรับมาจากผับเลยนะ  อย่าบอกนะว่าตลอดทางจำไม่ได้”

“ไม่รู้วะ ไม่ใช่กี้ใช่ไหมวะ”

“บีนๆ บีนเอง”

“อืม  ขอบใจมากว่ะบีน”  ดูสร่างเมาขึ้นแล้ว  คงเป็นเพราะเช็ดหน้าเช็ดหน้าให้ “ ดีแล้วที่  ฮึก กูเมาแล้วมาเจอมึง ไม่อยากเจอคนที่ทำให้กูเจ็บ”

“ไม่ต้องคิดมากนะ  เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ  นอนพักก่อนเถอะ”  ผมกำลังจะลุกเอาผ้าขนหนูไปตาก

“กูเหนียวตัวว่ะ  เช็ดตัวให้หน่อยสิ  จะขอบคุณมาก” น้องขอร้องผม คือ เหมือนจะพูดรู้เรื่องนะครับ แต่เสียงที่พูดนี่ดูไม่ค่อยมีสติ เป็นลิ้นรัวๆ

“เอ่อ  ไหวไหม  เดี๋ยวไปเอาผ้ามาให้  เช็ดเองได้ไหม” ผมยืนถามน้องอยู่ข้างเตียง  เผื่อจะเปลี่ยนใจเช็ดเอง

“นะๆ มึง เช็ดตัวให้กูหน่อย  กูเหนียวตัว  แต่ลุกไม่ไหว  ปวดหัว  พอลืมตา  เพดานห้องมึงก็หมุนติ้วๆเลยว่ะ” ผมแอบขำครับ น้องมันขอร้องผม ขณะที่ตายังหลับอยู่ 

ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม  แล้วเอาน้ำอุ่นใส่กะละมังเล็กๆมาวางไว้ข้างเตียง  ใช้ผ้าชุบน้ำลง
ก่อนจะนั่งลงข้างเตียง  แล้วแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตโอ๊ตออกจนหมด  เอื้อมมือไปบิดผ้ามาเช็ดที่ลำคอโอ๊ต ไล่มาที่หน้าอก ไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าท้อง  ทุกอย่างดูแน่นไปหมด  สมกับที่จ้างเทรนเนอร์ไปฟิตหุ่น  แสงไฟสีทองส้มนวลๆ ส่องมายังซิกแพคของโอ๊ต  หุ่นนี่เหมือนกันนายแบบในทีวีเลย

“เช็ดต่อดิบีน”  ผมลืมตัวไป  มัวมองแต่หุ่น

“ช่วยถอดเสื้อให้หน่อยนะ” โอ๊ตพลิกตัวตะแคงก่อนจะยกแขนขึ้นอย่างทุลักทุเล  ผมดึงเสื้อเชิ้ตออกจากตัวน้อง  ก่อนที่เจ้าตัวจะพลิกตัวกลับมานอนหงายเหมือนเดิม

ผมเช็ดท่อนบนจนเสร็จ  ก็เตรียมที่จะเอาของไปเก็บ  โอ๊ตก็พูดแบบไม่ลืมตาขึ้นอีกว่า

“ช่วยถอดกางเกงให้หน่อยสิบีน  เช็ดข้างล่างให้ด้วย”  ผมถอนหายใจยาว  ก่อนนั่งลงแล้วปลดเข็มขัดราคาแพง แกะยังไงวะ  ดึงอยู่ตั้งนานก็ไม่ออก

“โอ๊ต  เข็มขัดนี่ปลดออกยังไง”

“อื้อ  ดึงตรงนี้” เอาจนปลดได้

ผมก็รูดซิบกางเกงก่อนดึงลงจุดสุดปลายเท้า  ถามว่าตื่นเต้นไหม ตื่นเต้นนะครับ  ปกติถ้าไม่ใช่แฟนหรือแฟนเก่า  ผมไม่ทำให้ขนาดนี้นะ  โอ๊ตใส่กางเกงในทรงทรังค์  คือมันจะไม่อะไรเลยครับ  ถ้ากางเกงในที่ใส่มันไม่แน่นมากจนแทบทะลุ  ทรงนี้คือดูแล้วรู้เลยว่าไอ้นั่นที่อยู่ใน กกน.คงอยากจะออกมาสูดอากาศของนอก

อ่ะ เช็ดก็เช็ด ผมก้มหน้าก้มตา เช็ดท่อนล่างของโอ๊ต  โดยพยายามเลี่ยงไม่ให้ไปใกล้ส่วนนั้นมากที่สุด

“เสร็จแล้ว  เดี๋ยวนอนนะ  จะห่มผ้าให้หรือจะใส่เสื้อไหม”

“ไม่ว่ะ  ขอบคุณนะ”  ผมดึงผ้าห่มมาคลุมตัวโอ๊ตที่ไม่ใส่อะไรเลยนอกจากกางเกงใน  ก่อนจะเอาของไปเก็บแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  เตรียมนอน

ผมแทรกตัวลงนอนข้างๆโอ๊ต  ดีว่าเตียงใหญ่  จึงไม่ได้นอนเบียดมาก  แต่กลายเป็นว่าผมนอนไม่หลับครับ คนที่นอนข้างๆก็ดิ้นไปมา  ดิ้นมา  ก่อนจะทำตัวขยุกขยิกใต้ผ้าห่ม  คือเราห่มผ้าผืนเดียวกันเลยรู้สึกได้  อ้าวนั่นโอ๊ตดึงอะไรออกจากใต้ผ้าห่มแล้วขว้างไปที่ปลายเตียง

“ นั่นอะไรโอ๊ต ”

“ อึดอัดว่ะ ”  ผมชะโงกลงไปดูปลายเตียง 

อีบ้า  น้องมันถอดกางเกงในออก  โอย  น้องมันดิ้นไปดิ้นมาอีกแล้วครับ  พร้อมกับครั้งนี้ที่ไม่ดิ้นธรรมดา  แต่ขยับตัวมาชิดกับตัวผมซะงั้น  นี่คงลืมไปว่าตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลย

“ดีขึ้นหรือยังโอ๊ต”

“เหมือนจะหายเมาแล้วว่ะ  แต่ปวดหัว”  พูดได้ชัดขึ้นแล้วครับ  สงสัยหายเมาแล้วจริงๆ

“กูไม่ดีจริงๆหรอว่ะบีน  กี้ว่ากูไม่เอาไหน  ไม่มีน้ำยา” โอ๊ตถามก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้ผมมากขึ้น  ก่อนจะลดหัวตัวเองมาซบที่ไหล่ผม

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกโอ๊ต  ในชีวิตโอ๊ตมีใครว่าโอ๊ตแบบนี้บ้าง  มีใครว่าโอ๊ตแบบนี้กี่คน”

“ก็มีแค่มิคกี้”

“ก็แค่กี้คนเดียว   แสดงว่าคนอื่นเขาอาจจะไม่ได้คิดแบบกี้ก็ได้  ถึงโอ๊ตจะเป็นยังไงแต่โอ๊ตอย่าลืมว่าโอ๊ตยังมี คุณปู่ คุณย่า คุณอา และก็เพื่อนๆนะ  ไม่ต้องเศร้าแล้ว  เดี๋ยวคืนนี้ก็ผ่านไป”

“อย่างนั้นหรอ  บีนมึงต้องอยู่ข้างกูนะ”

“อยู่แล้ว  สัญญานะว่าพรุ่งนี้ต้องไม่เศร้า  พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วโอ๊ตต้องยิ้มให้บีนดูนะ”

“ยิ้มตอนนี้ก็ได้นะ  นี่ไง” โอ๊ตเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มให้ผม

“นี่มันยิ้มแบบคนเมาหื่นๆว่ะ  ฮ่าๆ”

“ฮ่าๆ”  โอ๊ตหัวเราะได้แบบนี้ผมก็เบาใจขึ้นหน่อย

“เอ้า  นอนดีๆได้แล้ว   ไม่เครียดแล้วนะ”

ผมพยายามผลักโอ๊ตเบาๆให้กลับไปนอนหนุนหมอนตัวเอง

“บีน  ทำไมตัวมึงถึงอุ่นจังเลยวะ” โอ๊ตพูดขึ้น

“ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”

“หรอ” โอ๊ตพลิกตัวแล้วหันมาทางผมก่อนที่จะดึงเอาตัวผมเข้าไปกอด

“เฮ้ย”

“นะๆ กอดหน่อยนะ  ครั้งเดียว”

“แต่นี่ลืมไปแล้วหรอว่าตัวเองไปใส่อะไรเลย” 

ผมพูดกับโอ๊ต ซึ่งตอนนี้คือหน้าแทบจะติดกัน แต่ตัวนี่นอนแนบชิดตัวกันเป็นปาท่องโก๋ไปแล้วเรียบร้อย อะไรต่อมิอะไรก็เสียดก็โดนกันไปหมด

“ไม่เป็นไรหรอก หายเมาแล้ว  ไม่มีอารมณ์แบบนั้นหรอก  เอาน่าไม่บอกบอยหรอก  กอดวันเดียวเอง กูรักมึงนะบีน นอนๆ”

โอ๊ตจับหัวผมลงให้ซุกกับอกแน่นๆของน้องมัน  ก่อนที่ผมจะเริ่มง่วงและช่วงที่ใกล้จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่นั้นกลับได้ยินเสียงโอ๊ตพูดเบาๆ

“ขอบคุณนะบีน มึงดีกับกูมาก”



พร้อมกับริมฝีปากที่ประทับลงบนหน้าผากผม 


ก่อนกระซิบเบาๆปิดท้ายอีกว่า










“กูเริ่มชอบมึงแล้วว่ะ กูอิจฉาไอ้บอยจังเลย”





นี่ผมฝันใช่ไหมครับ








ขอให้เป็นแค่ฝันเถอะนะ

 :hao6:




..........................................................................................



นี่ตกลงใครเป็นพระเอกกันนะ ฮ่าๆ

หรือคนอ่านรู้อยู่แล้ว  บีนดูจะยุ่งขึ้นอีกหรือเปล่านะ

ช่วงนี้ขอพัก  ขอตัดเอากี้ออกไปสักพักก่อนนะ  ให้มันไปขายยาและหาผัวใหม่ก่อน

หวังว่าคงจะสนุกกันนะ

บ๊ายบาย  เจอกันตอนที่ ๑๓ ครับ :bye2:

 :pig4:
 


   






หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-09-2015 15:13:27
 :mew1:   ฟินสิคะงานนี้ บีนเอ๋ยมีเด็กมาติดอีกแล้ว สองคนเลยนะทำไงดีล่ะ.   :impress2: 
ชอบโอ๊ตอะ ไม่โง่นะ เรื่องน้ำยารอพิสูจน์ในอนาคตนะ
ขอสาบส่งอีกี้ดัวยคนขอให้มันเจอตำรวจจับสักทีเถอะ ไม่เลวเฉยๆยังร่านด้วย จะจบที่เอดส์หรือคุกก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-09-2015 15:46:44
แล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอาไงล่ะทีนี้หนูบีนบอยก็ชอบบีนโอ๊ตก็เริ่มมีใจให้
ว่าแต่บีนระวังบอยมาเจอภาพที่ชวนเข้าใจผิดเพราะความอึดอัดของโอ๊ตนะ
กี้ก็ไปแล้วไปลับอย่ากลับมานะกลับมาเดี๋ยวมาพาบีนซวยอีก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 08-09-2015 15:48:05
 :-[
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 08-09-2015 16:58:12
สรุป... คุณบิ๊กคือพระเอก 555
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: dekhip ที่ 08-09-2015 18:18:16
เอาล่ะสิ โอ๊ตเริ่มชอบบีนแล้ว
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 08-09-2015 20:39:51
ตัดออกจากวงโคจรถาวรก็ดีน่ันังกี้น่ะ

เลือกไม่ถูกจะเชียร์โอ๊ตหรือบอยดี หรือคุณบิ๊กดีน่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 08-09-2015 21:06:04
กี้ หลุดพ้นไปได้ก็ดีแล้วละ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 08-09-2015 22:28:10
ขูดกำแพงงงง รอออ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๒ ๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเองนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 11-09-2015 12:49:37
 :z1:ขอบคุณมากครับ
อยากให้บอยเป้นพระเอก
ผมว้าบอยก้อต้องปลอมตัวมาแน่เลยจริงมั่ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนและผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 12-09-2015 00:47:26
 :กอด1:


ตอนที่ ๑๓


ผมตื่นมาเราก็ยังนอนอยู่ท่าเดิม  มันคงไม่ดีเท่าไหร่มั้งนอนท่านี้  ผมเลยพลิกตัวกลับไปอีกทาง  เลยกลายเป็นว่าโอ๊ตกอดผมจากทางข้างหลัง

“อื้อ”  เสียงโอ๊ตประท้วงเบาๆจากในลำคอ  พร้อมกับกระชับผมให้แน่นขึ้น สงสัยคงเพราะผมขยุกขยิกเมื่อกี้

หลับไปสักพัก  ตื่นมาอีกที  ผมก็เอื้อมไปเอามือถือที่อยู่โต๊ะเตียง  แต่ไม่ไหวครับ รู้สึกหนักๆหัว  ร้อนๆหนาวๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว ต้องเป็นไข้แน่เลยอาการแบบนี้  เมื่อวานเดินตากแดดเยอะไปหน่อย  และอีกอย่างจะให้น้องกอดผมต่อไปก็ไม่ได้แล้วครับ  เดี๋ยวก็ได้ติดไข้กันพอดี

“อึ๊บ”  ได้มือถือมาแล้ว ดูเวลา ๑๐ โมงตรง

“โอ๊ตๆ ตื่นได้แล้ว” 

“อื้อ  นอนต่ออีกหน่อยน่า”

“ไปอาบน้ำ”

“นอนกอดอีกหน่อยนะๆกำลังอุ่นๆเลย”  อุ่นๆนี่ตัวผมร้อนเพราะเป็นไข้ต่างหากล่ะ  ไม่ฟังกันครับ อีกทั้งยังกระชับกอดให้แน่นขึ้น  พร้อมกับเอาปืนมาจี้ที่ก้นผมอีก จริงสิ  ลืมไปว่าน้องไม่ได้ใส่อะไรนอน


ผมนอนไปอีกสักพัก  ก็รู้สึกเหมือนมีคนเอาผ้าเปียกๆ มาทาบไว้บนหัว  โอยหนาว  ปวดเนื้อ  ปวดตัวไปหมด

“อ้าวโอ๊ต  ตื่นนานแล้วหรอ”  ผมค่อยลืมตาขึ้น  เห็นโอ๊ตนั่งอยู่ริมเตียงใกล้กับผม ดูท่าสงสัยอาบน้ำแล้วเรียบร้อย  น้องนั่งกดมือถือยิกๆใส่เสื้อผ้าตัวเดิมที่ใส่มาเมื่อวาน  ก่อนหันหน้ามายิ้มให้ผม 

“รู้ตัวไหม  ว่าเป็นไข้”

“รู้สิ”

“เดี๋ยววันนี้กูดูแลมึงเอง  ตอนแทนกัน”

ผมพยักหน้าตอบก่อนที่จะบอกให้โอ๊ตเดินปิดแอร์  แล้วเปิดระเบียงให้ลมเข้า  ช่วงปลายฝนต้นหนาวอากาศไม่ร้อนมาก

ผมหยิบมือถือมาเช็คดูว่ามีใครโทรมาบ้าง เด็กบอยทักแชทมาหาตั้งแต่เช้าว่าจะมาห้องผม  ผมเลยตอบกลับไปว่าไม่สบาย กลับเป็นการไปกระตุ้นให้อีกฝ่ายอยากที่จะมาห้องผมมากขึ้น  เอายังไงดี  เลยบอกไปว่าไม่ต้องมาดูแลตัวเองได้  อีกฝ่ายกลับส่งมาแค่สติ๊กเกอร์ที่มีตัวการ์ตูนและตัวหนังสือว่า  งอน  แล้วก็หายไปเลย  เฮ้อ  แล้วโอ๊ตไปไหนล่ะ

“โอ๊ต”  ผมพยายามเรียก  สงสัยดูทีวีข้างนอก  “โอ๊ต”

“ว่าไงมึงดีขึ้นยัง”  น้องเดินเข้ามาในห้องนอน

“ไปทำโจ๊กให้กินหน่อยเร็วจะได้กินยา   ยาลดไข้อยู่ในกล่องยาสามัญที่วางอยู่ตรงตู้หนังสือนะ”

“กูทำโจ๊กไม่เป็นว่ะ”  โอ๊ตตอบพร้อมกับท่าทางเขิน  เกาหัวแกรกๆ “เดี๋ยวไปเอายามาให้กินก่อนแล้วกัน”

“ไม่ได้ๆ”  ผมร้องห้ามคนที่กำลังจะเดินออกจากห้อง  “ต้องกินข้าวรองท้องก่อนกินยาสิ  ทำไม่เป็นก็ต้องเป็น  มันมีโจ๊กซองอยู่ในตู้บนซิงค์ล้างจานนะ  เสียบกาน้ำร้อน  เทผงโจ๊กลงไปในถ้วย  รอให้น้ำเดือดแล้วก็กดน้ำใส่ให้พอดี  คนๆสักสองนาทีก็ได้แล้ว”

“ง่ายขนาดนั้นหรอว่ะ กูไม่เคยทำว่ะ”  น้องมันถามอย่างประหลาดใจ

“เออ  ลองทำดู  วิธีทำก็อยู่ข้างซอง  ไปเสียบกาน้ำร้อนนะ  แล้วก็ไปเอากล่องมาสามัญมาให้เราก่อน”

ที่ให้เอามาทั้งกล่องเพราะถ้าให้ไปเอาแค่ยาลดไข้ก็คงจะไม่รู้อีกล่ะครับ  ว่าอันไหน  แผงไหน ยี่ห้อไหน  ให้เอามาทั้งกล่องนี่ล่ะ  เดี๋ยวผมเลือกเอง

“มาแล้วครับโจ๊กร้อนๆ ฝีมือกูเอง”

“ไปเอาน้ำมานะ  น้ำไม่เย็น  เอามาสองแก้ว”  ผมสั่งคนที่พึ่งเอาถ้วยโจ๊กมาวางไว้โต๊ะข้างเตียงให้ไปเอาน้ำ

ผมขยับตัวลุกขึ้นเอาหมอนพิงไว้กับหัวเตียง  ให้นั่งพิงอีกที   ก่อนจะหยิบถ้วยโจ๊กมา  ตักคำแรกกำลังจะเข้าปาก  ก็สะดุ้งขึ้นเพราะโอ๊ตมันโวยวาย

“เฮ้ย  บีนมึงทำอะไรนั่น” 

“ก็กินโจ๊กไง  มีอะไร”

“มึงไม่ให้กูป้อนหรอกหรอ”

“ไม่เป็นไร  พอมีแรง”

“แต่ว่ามันร้อนนะมึง  เอามาให้กูเป่าให้ดีกว่า  มาๆ”

“ไม่ๆ กินเองได้  เป่าเองได้  นี่ไง  พู่ พู่”  ผมเป่าโจ๊กให้โอ๊ตดู  ก่อนจะก้มหน้าก้มตารีบกินให้เสร็จ  เพราะกินอะไรตอนเป็นไข้นี่ไม่อร่อยหรอกครับ 

“ขอน้ำๆ”

“เดี๋ยวป้อนนะ”

“ป้อนยังไง  ไม่มีหลอด  เดี๋ยวก็หกเลอะหมด”

ผมแย่งแก้วน้ำที่อยู่ในมือโอ๊ตมาดื่ม  โอ๊ตมันดูแปลกๆไปนะหรือปกติก็แบบนี้

“ไม่ต้องดูแลตอบแทนขนาดนี้ก็ได้โอ๊ต”

“ไม่ได้ตอบแทนเลย นี่กูเต็มใจต่างหากล่ะ” น้องมันพูดก่อนเอาหลังมือมาแตะหน้าผากผม

“อืม  เดี๋ยวตอนเย็นก็หาย” ผมบอกโอ๊ตไป

“ยาสองเม็ดนี้ใช่ไหม  อ้าปากสิ”

“อ่ะ”  สุดท้ายก็ต้องยอมครับ  ไม่ได้ป้อนข้าว  ก็หันมาป้อนยาแทน  พอยาสองเม็ดเข้าปากผมก็รีบดื่มน้ำทันที

“เก่งจังมึง  กูเกลียดยาที่สุดเลย  ปากเลอะน้ำว่ะ”  พูดจบประโยคโอ๊ตก็เอามือมาเช็ดน้ำที่เลอะขอบปากผม “นอนๆ เดี๋ยวบ่ายๆกูปลุกอีกที”

โอ๊ตพูดพร้อมกับประคองตัวผมที่นั่งพิงอยู่ให้กลับไปอยู่ในท่านอน  ก่อนจะเอามือมาลูบหัวผมเชิงกล่อมให้นอน  สบายดีแฮะมีคนมาลูบหัว





ติ๊ง ติ๊ง   




ติ๊ง ติ๊ง



ตายแล้ว  อย่าบอกนะว่ามาจริงๆ


“ใครมาวะ  เดี๋ยวโอ๊ตไปเปิดให้”

“สงสัยบอยมา”  พอผมพูดเสร็จ  โอ๊ตที่กำลังจะเดินออกจากห้องนอนก็ชะงัก  แล้วเดินกลับมาหยิบหมอนหนุนใบที่อยู่อีกฝั่งของเตียงถือออกไปด้วย


“อ้าว   มาอยู่นี่ได้ไงวะ”


“พอดีเมื่อคืนกูเมาว่ะ  ไม่กล้ากลับบ้าน  เลยมานอนห้องบีนมัน  ดีที่มันใจดีให้นอนโซฟา”

สองคนนั้นพูดคุยกันเล็กน้อย  อ๋อที่ถือหมอนอีกใบไปนี่เอาไปวางไว้ที่โซฟาห้องรับแขกแน่เลย  สงสัยโอ๊ตกลัวบอยเข้าใจผิด  ฉลาดเหมือนกันนะ

“ไปไงบ้างเอ่ย  ที่ไม่อยากให้บอยมานี่เพราะว่ามีคนดูแลอยู่แล้วใช่ไหม”  เด็กบอยเดินมานั่งข้างเตียงพร้อมกับเอาหลังมือมาวัดไข้

“เปล่าซะหน่อย  เดี๋ยวโอ๊ตมันก็กลับแล้ว  ที่ไม่ให้มาก็เพราะกลัวติดไข้ต่างหาก”

“จะติดได้ยังไงบอยแข็งแรงขนาดนี้   มาๆเดี๋ยวนอนด้วย  เมื่อเช้าตื่นเช้าไปหน่อยเริ่มง่วงแล้ว”  พูดจบได้แปปเดียว บอยมันก็ถอดกางเกงยีนส์ที่ใส่มาออก   กระโดดขึ้นเตียงแล้วเข้ามานอนกอดผมไว้จากทางด้านหลัง

“นอนนะคนดี  หันหน้ามาหาบอยเร็ว  เดี๋ยวบอยลูบหลังให้”  ผมก็เริ่มง่วงครับเลยทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย  หันหน้าไปซบที่อกบอย  แล้วบอยก็เอื้อมมือมาดึงเสื้อผมขึ้นพร้อมกับลูบหลังเบาๆ

“เอ่อ  เดี๋ยวกูกลับก่อนนะ  บีน  บอย”  อุ้ย  ลืมว่าโอ๊ตยังอยู่

“เออ  กลับดีๆ”

ผมหันไปมองโอ๊ตที่มองมาทางผม  ทำไมมันดูเศร้าๆวะ   อาจจะเห็นบอยนอนกอดผมแล้วนึกถึงกี้หรือเปล่า


...


ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์สำหรับการปิดเทอมเล็ก  ผมยืนถือถุงของใช้ส่วนตัวที่พึ่งซื้อเข้ามาจากซูปเปอร์มาเก็ตกับสะพายกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้าสองชุดอยู่ในลิฟต์เพราะว่าเมื่อสองวันก่อน  ผมกลับไปนอนที่บ้านครับ  แม่ผมก็ปิดเทอมเช่นกัน  เพราะแกเป็นครูสอนที่โรงเรียนมัธยมแถวๆบ้านครับ  ซึ่งก็เป็นโรงเรียนเดียวกับที่น้องผมเรียนอยู่  สองคนนั้นเลยไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวัน  ไอ้บีมน้องชายผมออกจะสนิทกับแม่มากกว่าผมด้วยซ้ำ  ปีนี้แม่ก็เน้นการเรียนลูกชายคนเล็กหนักหน่อยเพราะว่า ม.๖  แล้ว  อีกเดี๋ยวก็จะมีสอบโน่นนี่นั่นเยอะแยะไปหมด

ระหว่างที่นั่งแท็กซี่มาจากบ้าน  ผมก็โดนล็อคคิวโดยโอ๊ตทันที  เพราะทางนั้นโทรมาบอกว่าวันนี้กลุ่มเพื่อนๆจะไปนั่งชิลกันที่ร้านเหล้าบรรยากาศดีๆ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ครับ  เพราะผมก็อยากตามไปดูเด็กๆเหมือนกัน  กลัวว่าจะเมาปลิ้นเหมือนครั้งก่อน  เพื่อให้แน่ใจผมเลยโทรไปปรึกษาเจ้านายอีกรอบ   คุณบิ๊กแกก็คิดเหมือนผมยังไงช่วงนี้ก็ปิดเทอม  ถ้าเด็กมันอยากไปนานๆครั้งก็ให้ไปได้  แต่ก็ต้องดูแลไม่ให้ดื่มมากไปเพราะวันนี้น้องคงเอารถไปเอง  พร้อมกำชับว่าถ้าดึกมากก็ให้นอนที่คอนโดผมก่อน  ไม่ต้องให้น้องกลับไปบ้านก็ได้

เวลาสามทุ่มพวกเราก็มานั่งอยู่ร้านเหล้าครับ   บรรยากาศดีจริงๆครับ  ดูไม่หรูมาก   คนไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไป  รู้สึกดีกว่าตอนไปผับเสียอีก 

ถึงปุ๊ปพวกเด็กๆก็สั่งเครื่องดื่มปั๊ป  แหมคล่องแคล่วดีจริงๆ  เสียดายที่ผมชวนบอยมาด้วยแต่บอยไม่ได้มาด้วยเพราะว่ากลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดอีกสองสามวันถึงกลับอีกที

“อ้าว  พวกมึงกูชงให้ครบแล้ว  ยกๆชนๆ”  ไอ้อ๊อฟที่วันนี้นานๆมาเที่ยวแบบไม่เครียดเพราะพ่อแม่มันไม่อยู่บ้าน  จะกลับบ้านหรือนอนห้องเพื่อนก็ได้ 

“บีน  มึงแดกได้นะ  อ๊อฟมึงชงให้บีนมันเข้มหรือเปล่าวะ” ไบท์มันถามอ๊อฟที่เป็นคนชงเหล้าให้

“แก้วไอ้บีนอ่อนๆ ชนๆ  โอ๊ตชนมึง” 

แกรก 

แกรก   

แกรก    เสียงชนแก้วครั้งแล้วครั้งเล่า  ผมที่ไม่ได้ดื่มบ่อย  ตอนนี้ตัวเริ่มร้อนวูบวาบแล้วครับ  เหงื่อที่ชอบออกที่รักแร้ก็ไหลหยดไล่ลงไปจนถึงสะโพกแล้ว

“บีน  หน้ามึงแดงแล้วว่ะ  เลิกกินๆ”  โอ๊ตห้ามผมขณะที่ผมกำลังจะยกหมดแก้ว  แก้วนี้น่าจะแก้วที่สิบได้แล้วมั้ง

“อืม  แก้วนี้แก้วสุดท้าย ”  ผมยกจนหมดแก้ว  แล้วตักยำเข้าปากอีกสองช้อนเข้าปากไปเป็นกับแกล้ม  เฮ้อ  สบายดีจริงๆ ผมเอนไปกับเก้าอี้ที่นั่งที่มีพนักพิง  พร้อมกับเอาแขนวางไว้กับที่ท้าวแขน    โต๊ะที่เรานั่งเป็นม้านั่งกับเก้าอี้ยาวสองข้าง    ผมกับโอ๊ตนั่งฝั่งเดียวกัน  อีกฝั่งก็ไบท์กับอ๊อฟ

ช่วงสี่ทุ่มกว่าๆก็มีวงดนตรีมาเปลี่ยนครับ  วงนี้จะเน้นสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นกว่าวงก่อนที่ดูจะเรียบๆง่ายๆ พวกเราจะได้นั่งโยกตามเพลง  ตามจังหวะที่โจ๊ะๆ มันๆ ร็อกๆบ้าง สนุกดีเหมือนกัน  บางเพลงพอถึงท่อนฮุก  เราก็นัดกันลุกขึ้นเต้น ฮ่าๆ มันดีครับ  แบบนี้สนุกกว่าในผับอีกหลายเท่า  สาวๆแถวๆโต๊ะเราก็มองไบท์กับโอ๊ตกันตาเป็นมัน  ดีนะที่ไอ้อ๊อฟมันไม่หล่อ หุ่นมันออกอวบๆระยะสุดท้ายได้  ผมเลยมีเพื่อน

“มึงไม่ต้องดึงบีนไปโอบขนาดนั้นก็ได้มั้งโอ๊ต  เกรงใจไอ้บอยมันบ้างสิวะ  ถึงมันจะไม่มาก็เถอะ”

“ไม่ได้ๆ มันไม่มากูยิ่งต้องดู  ตอนนี้ไม่กอดไม่ได้แล้วว่ะ  ดูท่าจะไม่ปลอดภัย”

โอ๊ตตอบกลับไปก่อนจะกระชับมือที่โอบอยู่ที่ไหล่ผมให้แน่นขึ้น  ไม่ปลอดภัยตรงไหนวะ  ผมคิดอยู่ในใจหรือว่าโต๊ะถัดไปนี่นะหรือ  โอ๊ตมันก็คงคิดเหมือนกับผมครับว่ามีคนมองผมอยู่  ก็คงจริง  โต๊ะข้างๆนี่สงสัยพึ่งเลิกจากทำงานเพราะเห็นยังใส่กางเกงสแล็คกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวแต่พับแขนขึ้นซึ่งหนึ่งในโต๊ะนั้นคือก็มีคนนั่งมองผมอยู่จริงๆ ตั้งแต่เรามาถึงแล้ว  โดนมองอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ไร้เดียงสาหรอกครับว่าเขาชอบ  แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นว่าต้องดึงผมเข้าไปโอบ

“น้องคะ  เพื่อนพี่ฝากให้มีขอไลน์ค่ะ  เฟสก็ได้หรือไอจีก็ได้”

คงไม่ใช่ผมหรอกครับที่ผู้หญิงจะมาขอเฟสขอไอจี  แต่เป็นโอ๊ตต่างหาก  ผมว่าผู้หญิงคนนี้อยากได้เองแต่เอาเพื่อนมาอ้างมากกว่า 

“บีน เขยิบไปนิดสิบีน  ให้พี่เขานั่งด้วย” 

โอ๊ตกระซิบบอกกับผม  เอาจนได้  ดูท่าเธอคนนี้คงไม่ธรรมดา  หาเรื่องนั่งคุยจนได้
ทั้งอ้างเรื่องน้องชายที่จะมาเข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับพวกเรา  เรื่องเที่ยวตอนปิดเทอม   หล่อนก็เล่าเม้าซะเมามันอย่างกับว่ามาด้วยกัน  นี่ไม่คิดจะกลับไปที่โต๊ะเลยใช่ไหมวะ

“ไปเยี่ยวก่อนนะ”  ผมบอกกับไบท์ที่นั่งฝั่งตรงข้าม  โดยที่โอ๊ตก็ไม่ได้สนใจผมเลย  มัวแต่คุยกับพี่สาวที่หิวเด็กมัธยม

เฮ้อ  ผมทำธุระเสร็จก็ออกมาล้างหน้าล้างตาสักหน่อย

“มากับเพื่อนหรอครับตัวเล็ก” หืมไหนใครตัวเล็ก ผมสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบนะ

ผมหันมองหน้าคนที่ทักผม  แล้วยกมือใช้นิ้วชี้ชี้เข้าตัวเองเป็นเชิงถามว่า  จะคุยกับผมหรอ

“เรานั่นแหละ  ออกมาจากโต๊ะนี่เบื่อหรอครับ” พี่โต๊ะข้างๆที่นั่งมองผมตั้งแต่เข้ามาในร้านนั่นแหละครับ

“มาฉี่ครับ”  ผมตอบแค่นั้นก็เดินไปอีกฝั่งซึ่งอยู่ตรงข้างกับห้องน้ำ  เป็นสวนเล็กเอาไว้นั่งพักครับ  กะว่าจะนั่งตรงนี้สักพักแล้วค่อยกลับไปโต๊ะ

เฮ้อ  เอายังไงดีครับ  ที่คนที่ทักผมเมื่อกี้เดินมาทางนี้แล้ว  ตรงนี้ไม่มีคนด้วยสิ 

ผมเลยตัดสินใจเดินสวนออกไป  แต่ออกไปไม่ได้ครับเพราะพี่คนนั้นเขายืนกันทางไว้อยู่

“จะไปไหนตัวเล็ก  นั่งคุยกันก่อนสิครับ”  ผมเลยหลบไปทางขวาก็มันก็ตามมา  หลบไปทางซ้ายก็ตามมากั้นไว้ “เถอะนะ  คุยเดี๋ยวเดียว  พี่ไม่ทำอะไรหรอก”  ยอมมัน  ผมเลยกลับไปนั่งที่เดิม  มันก็มานั่งข้างๆ

“เราชื่ออะไร”

“บีนครับ” ผมตอบนะแต่ไม่ได้มองหน้ามัน 

“พี่ชื่อกอล์ฟนะครับ” ใครถามวะ  “ทำไมตัวหอมจัง  ขอดมหน่อยนะ”  ไม่ทันครับ  มันรวบตัวผมเข้าไปกอดแล้วใช้จมูกไซร้คออย่างรวดเร็ว  ผมตกใจและดิ้นแรงๆให้ตัวหลุดจากมือมัน  แต่ไม่หลุดครับมันยังจับแขนผมไว้แล้วดึงตัวผมเข้าไปใกล้ๆ

นี่คือข้อเสียของผมครับ  เวลาเกิดอะไรแบบนี้ผมไม่ค่อยกล้าต่อยหรือท้าตีคนอื่นสักเท่าไหร่  จำขึ้นใจมาตั้งแต่ตอนเด็กๆเพราะเคยต่อยกับเพื่อนแล้วแพ้  เลือดกำเดาไหลเป็นทางเลย  เลยทำให้ผมกลัวไม่กล้าต่อยคนอื่น  กลัวฝ่ายตรงข้ามจะสวนกลับมา  ยกเว้นแต่ว่าจะโกรธจริงๆ 

“ปล่อยเถอะพี่  เพื่อนผมรออยู่”

“อยู่เล่นกับพี่ก่อนสิครับ ตัวเล็ก  พี่ขอนะ  เดี๋ยวพี่ให้เล่นลูกกอล์ฟหรือจะจับไม้ตีกอล์ฟก็ได้” ผมดึงมือผมไปแตะที่เป้ามัน  ไอ้ทุเรศเอ้ย  ผมเอายังไงดี

“เฮ้ยพี่อย่าดึงสิ  จะไปไหน  ปล่อยสิวะ”  มันดึงผมไปหลังต้นไม้ที่อยู่ลึกไปอีก 

“พี่ขอเถอะนะ  แปปเดียว” ว่าแล้วมันก็กอดผม  พร้อมกับใช้มือสองข้างล็อคหน้าผมเตรียมที่จะจูบ

ก่อนที่มันจะชะงักแล้วหันหลังกลับไป  เพราะมีความผิดปกติในร้าน

เสียงดนตรีหยุดลง


เพล้ง


ว้าย   


ผมได้จังหวะที่มันยังสนใจว่าในร้านมีอะไรวิ่งหนีออกมา

“เฮ้ย” มันอุทานเมื่อผมวิ่งออกจากที่นั่น

หวังว่าคงไม่ใช่โต๊ะผมนะที่มีเรื่องทะเลาะวิวาท



ผมวิ่งไปทางโต๊ะที่ผมนั่ง  พร้อมกับเห็นทั้งไทยมุง  หวังว่าเพื่อนผมจะเป็นไทยมุงนะ  อย่าให้เป็นคนที่เขามามุงอีกทีเลย



คงใช่แล้วล่ะ  โต๊ะผมจริงๆ



“จำไว้นะมึงนี่แค่สั่งสอน  เป็นแค่เด็กมัธยม   อย่าเสือกมาลองดี  นี่เมียกู  อย่าคิดมาจีบมาแตะต้อง”

ผมฝ่าวงล้อมเข้าไปก็เห็นไบท์กับอ๊อฟช่วยกันหิ้วปีกโอ๊ตลุกขึ้น  ใบหน้ามีร่องรอยของการถูกต่อยที่ตาขวาและแก้มด้านซ้าย ส่วนคางเป็นรอยข่วนมีเลือดออกนิดๆ ผมมองไปที่คู่กรณีสงสัยเป็นขาใหญ่ของแถวนี้  มีพวกเยอะเชียว  ดีนะมันไม่รุมตะลุมบอน  แต่เมียมันนี่สิ  ก็คืออีนังพี่สาวคนที่มานั่งด้วยเมื่อกี้นี่นา  แต่เมียมันมาหาพวกผมก่อนนะ

“แต่พี่สาวคนนี้มาหาเพื่อนผมก่อนนะครับ  มาขอเฟสเพื่อนผมก่อน เพื่อนผมนั่งอยู่เฉยๆ” ผมพูดออกไปขณะที่พวกมันกำลังจะหันหลังกลับ  ผมคิดว่าหล่อนต้องแหลให้ผัวตัวเองฟังแน่ๆว่าโอ๊ตไปเกาะแกะมันก่อน

“แล้วนี่มึงยุ่งอะไรด้วยอิตุ๊ด” ปึก มันขว้างขวดน้ำโค้กขนาดเล็กใส่ตัวผมแล้วเดินเชิ่ดหน้าออกจากร้านไปกับผัวตัวเองและลูกน้อง  โดนลูกหลงไปด้วยเลย  ขวดโค๊กนี่มันเป็นขวดแก้วเสียด้วยดีนะมันไม่แตก

“เป็นอะไรมากไหมโอ๊ต” โอ๊ตมันนั่งลงกับเก้าอี้  ดูสีหน้าก็รู้ว่าเจ็บหน้า

“จุกตรงท้องว่ะ  ต่อยแรงชิบหาย  นี่ขนาดกูมีกล้ามนะ” โอ๊ตตอบผมขำๆ เหมือนกับว่าเป็นเรื่องเล่นๆ

“แล้วมันเป็นมายังไงไบท์  ทำไมเขาถึงมาต่อย” 

ผมถามไบท์ไป  มันก็เล่าให้ฟังว่า  ระหว่างที่ผมไปเข้าห้องน้ำ  พวกเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆอยู่ดีๆพี่สาวคนนั้นจะบอกว่าเวียนหัวแล้วขอซบไปที่ไหล่ของโอ๊ต  ซึ่งแฟนพี่เขาเดินมาพอดี  ก็เลยเกิดทะเลาะกัน  ทางเราพยายามจะบอกว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายเข้ามาก่อน  แต่ทางนั้นไม่เชื่อ  โอ๊ตเลยโดนต่อย

“อย่างนั้นก็กลับเถอะ  โต๊ะเละไปหมดแล้ว”  ผมบอกกับเด็กๆ

“ยังกินไม่สุดเลยว่ะ”

“ก็เก็บเหล้าที่เหลือไปด้วย  เดี๋ยวบีนไปเคลียร์กับเจ้าของร้านให้  พวกนายไปรอที่รถก่อน”

“ไม่เป็นไรบีน  เดี๋ยวกูไปจ่ายเอง ” ไบท์บอกกับผมอย่างเกรงใจ

“ไม่ได้บอกว่าจะจ่ายเอง  เดี๋ยวเราจะไปจ่ายก่อนแล้วค่อยมาหารกัน  ไปรอที่รถไป”

ผมเดินไปที่เคาเตอร์จ่ายเงินที่ร้าน  ก็เจอกับพี่ผู้หญิงที่นั่งอยู่คงเป็นผู้จัดการร้าน

“พี่ครับ  พวกผมจะกลับแล้ว  ขอคิดตังค์เลยแล้วกันครับ”

ผมจ่ายเงินเสร็จ   ก่อนกลับเลยเอ่ยปากขอโทษทางร้านสักหน่อยแล้วกัน

“พี่ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับที่ทำให้ร้านวุ่นวาย ”

“จ้า  ไม่เป็นไรพวกเรายังเด็กอยู่  ทีหลังระวังตัวให้ดีนะ เดี๋ยวนี้นักเลงมันเยอะเราไม่หาเรื่องก่อนมันก็มาหาเรื่องเราก่อน  ดีนะที่ไม่รุนแรงมาก”


ผมเดินกลับไปที่รถ   เด็กๆก็ติดเครื่องรถไว้รออยู่  จึงเปิดประตูเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ  อ้าวรอบนี้ไบท์ขับ  ส่วนรถนั้นจริงๆเป็นของโอ๊ต


“จะกลับกันเลยหรอวะ  เหล้ายังเหลือนะเว้ย” อ๊อฟบ่นขณะรถกำลังจะออกตัวจากร้าน

“เออจริง  ไปต่อกันไหมบีน” ไบท์ถามผม

“ไปต่อร้านอื่นหรอ  ดูหน้าเพื่อนด้วย  เละแล้วตอนนี้  ไปทำแผลก่อนดีกว่า” ตอบบอกไบท์กับอ๊อฟไป

“ไม่น่ามาซวยเลยว่ะ  กูขอโทษพวกมึงด้วยแล้วกัน” โอ๊ตพูดแบบรู้สึกผิด  ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดน้องมันเลย

“ไม่ใช่ความผิดมึงเลย  ไม่ต้องมาขอโทษ” ไบท์บอกกับโอ๊ต

“ใช่” อ๊อฟช่วยยืนยันอีกคน

“เอาอย่างนี้  ไปห้องบีนดีกว่าถ้าจะไปกินต่อ  เดี๋ยวไปซื้อโซดาน้ำแข็งแถวๆหอ  โอ๊ตจะได้ทำแผลด้วย ตกลงไหมทุกคน”

“เออความคิดดีว่ะ ไปๆ ”

“อย่างนั้นคืนนี้พวกกูขอนอนห้องมึงนะบีน” ไบท์บอกกับผม

“ตามสบายเลย”  ผมมองโอ๊ตที่เงียบไปผ่านกระจกมองหลัง  ฝ่ายนั้นได้แต่อมยิ้มเล็กๆ แล้วยักคิ้วให้ผม 

..........................................................................................


“มาทำแผลก่อนเลยโอ๊ต  เอาน้ำแข็งมาด้วยสองสามก้อน  ตามมา”

ผมบอกโอ๊ตให้ตามผมมาที่ห้องนอนก่อนจะให้น้องมันหยิบน้ำแข็งมาสองสามก้อน  แผลช้ำต้องเอาน้ำแข็งประคบไว้ก่อน   ผมเอาผ้าบางๆให้โอ๊ตห่อน้ำแข็งไว้แล้วนั่งประคบอยู่ในห้องน้ำ  ก่อนที่จะลืมว่าตัวเองยังไม่ได้หยิบกล่องยาเข้ามาด้วยเลยออกไปเอากล่องยา  ก็เห็นอ๊อฟกับไบท์นิ่งกินเหล้ากันต่อแล้ว  พร้อมดูบอลไปด้วยอย่างสบายอารมณ์

“เฮ้ย  ยาแดงหรอวะ  ไม่เอาว่ะกลัวแสบ”

“แสบนิดเดียวไม่ตายหรอกโอ๊ต”

ผมล้างมือก่อนไปหยิบยาแดงเปิดฝาออกแล้วหยดใส่สำลี  เอื้อมมือที่มีสำลีติดน้ำยาแดงไปว่าจะซับเบาๆที่คางน้องมัน  แต่โอ๊ตกลับเบี่ยงหน้าออก  ดื้อจริงๆ

“ตรงคางมันเป็นแผลต้องทา  มันมีเชื้อโรค  เร็วๆยื่นหน้ามือ”  น้องมันยื่นหน้ามาหา  ผมก็กดสำลีลงไปเบาก่อนอีกฝ่ายก็ส่งเสียงซี๊ดเกินจริงไปสักนิด

“ก็แค่นี้”

“เสร็จแล้วหรอ”

“เดี๋ยว  ทายาแก้ฟกช้ำก่อน”  ผมบีบยาออกมาจากหลอดก่อนจะแตะนิ้วมือที่มียานวดไปที่แก้มด้านซ้ายเบาๆ ก่อนจะย้ายไปทาที่ขอบตาด้านขวาอย่างระวังเพราะกลัวเข้าตา

“เสร็จแล้ว   ป่ะออกไปกัน   น้ำแข็งก็ประคบตลอดนะ  ห้ามกดแรง  ประคบแบบนี้เดี๋ยวทำให้ดู”

ผมแย่งที่ประคบมาก่อนจะสาธิตวิธีประคบไปที่แก้มด้านซ้าย 

“มึงนี่ใจดีจริงๆ  น่ารักว่ะ”

“เออรู้แล้ว  ป่ะ  ออกไปกัน” ผมลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป 

“อยากได้มึงมาดูแลกูจัง”

“ก็ดูแลอยู่ทุกวันนี่ไง  ไปๆอยากกินขนมแล้ว  ซื้อขึ้นมาเยอะเชียว” ผมรู้ครับว่าน้องหมายความว่าอย่างไร  แต่ก็แกล้งเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไป

“เดี๋ยวสิ  ขอตอบแทนมึงก่อนนะ” โอ๊ตดึงผมเข้าไปกอด

“ตอบแทนด้วยการกอดนี่นะ”

“ไม่ใช่ซะหน่อย  หอมแก้มต่างหาก  มึงน่ารักจริงๆ กูรักมึงนะบีน” ฟอด พูดจบก็หอมตอนนั้นเลย  แล้วเดินออกไปจากห้องน้ำทันที

ผมยืนนิ่งมองเศษผ้าที่ห่อน้ำแข็ง  ผมตกใจกับการกระทำของโอ๊ตจนทำน้ำแข็งตกพื้นเลยหรือนี่  เด็กมันคงรักเพื่อนจริงๆมั้ง   คงไม่คิดอะไรเกินเลยหรอก  ตอนนี้คือพยายามคิดไปในมทางที่ดีก่อน

เดินออกไปที่ห้องรับแขกเด็กก็นั่งจิบเหล้ากันพร้อมกับดูบอลไปเพลินๆ

“แล้วนี่ต่อไปเราจะไปเที่ยวไหนดีวะ  ถ้าเบื่อๆ ไปตรงนั้นก็ไม่ได้  ไปอีกที่ก็มีปัญหา  กูเริ่มเบื่อแล้วว่ะ”  อ๊อฟมันพูดขึ้นแบบเบื่อๆ

“ก็เที่ยวตอนกลางวันสิวะ” ไบท์บอก

“เบื่อกรุงเทพแล้วว่ะ” โอ๊ตพูดก่อนหยิบถั่วเข้าปากไป  เคี้ยวไหวหรือนั่น

หรือว่าเอาแบบนี้ดีไหมนะ 


ผมคิดอยู่ในใจพร้อมเสนอความคิดเห็นออกไป




“ไปเที่ยวทะเลกันไหม”





ผมพูดออกไปด้วยตาที่เป็นประกาย 





....................................................................................


บีนกำลังกุ๊กกิ๊กกับบอย  อยู่ๆโอ๊ตมาจากไหนไม่รู้  กลับมารุกหนักซะงั้น

บีนปวดหัว  บีนไม่ได้พักเลย

..........................................


สวัสดีทุกๆคน  วันนี้มาดึก 
หวังว่าทุกคนจะยังสนุกสนานกับเรื่องราวของบีนและผองเพื่อนนะ ฮ่าๆ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านทุกคนนะ  และผู้ตอบกลับแสดงความคิดเห็นด้วยเด้อ o13
 
เจอกันตอนที่  ๑๔ ไปเที่ยวทะเลกันครับ 

บ๊าย บายยยยยยยยยย

 :bye2:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเเละผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 12-09-2015 06:59:38
เฮฮฮฮฮฮฮฮ ทะเลลลลลลลล

น่าจะมีบอยติดไปด้วย โอ๊ตจะรุกบีนต่อหน้าบอยไหมเนี่ย??

ตกลงใครพระเอกกกกกกก (ชอบบอยนะ เด็กมันน่ารัก  :-[)
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเเละผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-09-2015 07:22:27
แหม. บีนนี่น่ารักน่าฟัดตอดเวลา.
หนุ่มๆเล็กหนุ่มใหญ่มะรุมมะตุ้มนางตลอดๆ. บอยเอ๊ยช้าอดทำคะแนนนะ
รอสวีทที่ทะเลจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเเละผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 12-09-2015 14:04:32
ตั้งแต่แอ๊บเด็ก เสน่ห์แรงเลยน่ะบีน
บอยหรือโอ๊ตดีล่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเเละผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-09-2015 14:51:01
 :confuse:  เอาล่ะสิทีนี้พี่บีนคนสวยเส่ห์แรงจนโอ๊ตมาตกหลุมรักอีกคนแล้ว  :katai2-1:
ตอนแรกก็เชียร์โอ๊ตบีน แต่พอรู้ว่าโอ๊ตชอบกี้ ก็เชียร์บอยบีนเชียร์มาจนถึงตอนนี้ :กอด1:
แล้วนี่โอ๊ตมาตกหลุมรักบีนอีกจะทำไงล่ะทีนี้  3P เลยไหม :o11:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเเละผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 12-09-2015 17:39:14
แอ๊บเด็กเลยจะได้กินเด็กละสิ อิอิ :hao3:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเเละผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 12-09-2015 18:33:40
โอ๊ตหรือบอยน้า~  :mew3:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเเละผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: jamesnaka ที่ 12-09-2015 18:54:19
จากใจสั้นๆ สนุกค่ะ  o13

รอตอนต่อไปจ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเเละผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 12-09-2015 21:52:29
บีนนี้เสน่ห์แรงมั่กกก :hao7: สนุกค่ะชอบมากๆ  :impress2: อยากอ่านต่อเร็วๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเเละผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 12-09-2015 22:42:04
รอ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 18-09-2015 11:27:43
 :katai4:



ตอนที่ ๑๔

“ไปเที่ยวทะเลกันไหม”

ผมพูดออกไปด้วยตาที่เป็นประกาย  เด็กสามคนทำหน้าครุ่นคิดเหมือนจะไปดีไหมวะ

ก่อนที่อ๊อฟมันจะพูดขึ้นว่า

“ไปที่ไหนวะ พัทยา บางแสน เกาะล้าน เกาะเสม็ด  กูก็เคยไปมาแล้ว” 

“อืมใช่หัวหินก็ไปมาแล้ว” ไบท์พูดขึ้นอีกคน

“หรือเกาะสมุย เกาะพงันกูไปมาหมดแล้วนะบีน” อ้าวโอ๊ตก็ไปมาครบแล้วหรอ

“อ้าวจริงหรอ” เอายังไงดี  ช่วงนี้ผมอยากไปทะเลด้วยสิ ใช่แล้วถ้าไปอ่าวไทยครบแล้วก็ไปอีกฝั่งสิ “ก็ไปอีกฝั่งสิ  พวกนายเคยไปกันยัง”

ผมรีบไปเปิดคอมหาข้อมูลทะเลฝั่งอันดามัน   ส่วนใหญ่สามคนนั้นเคยไปเล่นทะเลฝั่งอันดามันมาแล้วครับแต่ยังไม่เคยไปเที่ยวเกาะกัน  เลยช่วยกันหาข้อมูลเกี่ยวกับเกาะที่น่าสนใจ  เลยได้จุดหมายที่เราจะไปกันนั่นก็คือ   เกาะตาชัยที่พึ่งเปิดได้ไม่นานกับเกาะสิมิลัน 

แต่ถ้าจะข้ามไปเที่ยวก็ต้องไปกับทางบริษัททัวร์เท่านั้น  ผมจึงได้รับหน้าที่เป็นคนติดต่อสอบถามข้อมูลกับทางบริษัททัวร์เกี่ยวกับทริปท่องเที่ยว  ที่พัก ค่าใช้จ่าย

ก่อนจะจองทัวร์ก็เป็นที่แน่นอนว่าผมต้องโทรไปชวนเด็กบอยให้ไปด้วย   ซึ่งสามคนนั้นก็อนุญาตผมแล้วว่าให้บอยไปด้วยได้   ผมคุยกับบอยเรื่องไปเที่ยว  เด็กบอยมันก็เสนอว่าให้ไอ้วิทย์เพื่อนสนิทมันไปด้วยได้ไหม  เพราะมันชอบถ่ายรูปอีกทั้งอยากพามันไปเที่ยวบ้าง  เนื่องจากเทอมที่ผ่านมาไอ้วิทย์มันดูตั้งใจเรียนเป็นพิเศษเลยอยากให้มันพักบ้าง  ผมก็เออออไป  ดีเหมือนกันจะได้มีเพื่อนเยอะๆแถมยังจะมีคนถ่ายรูปให้ด้วย

สรุปผมกับบอยเป็นคนจัดแจงจองทัวน์สำหรับเที่ยวไว้แล้วเรียบร้อย  อีกสามวันเราจะออกไปเที่ยวกัน  ผมได้จองทัวน์เป็นแบบวันเดย์ทริปไปเที่ยวเกาะแบบไปเช้าเย็นกลับ  สี่วันสามคืน  วันแรกลงเครื่องที่ภูเก็ตตอนบ่ายๆ แล้วไปพักที่เขาหลัก  ก่อนที่เช้าวันรุ่งขึ้นเราจะไปเกาะสิมิลันกัน   ส่วนอีกวันไปเกาะตาชัยแล้วกลับมาบนฝั่ง แล้ววันสุดท้ายเป็นวันเดินทางกลับ  แต่ทางเพื่อนๆ ก็มีการเกริ่นๆกันไว้ก่อนแล้วว่าอาจจะเที่ยวภูเก็ตต่ออีกสักสองสามวันแล้วค่อยกลับกัน

ผมจัดการจองทัวร์  โอนเงิน ส่งหลักฐานใบเสร็จให้ทางทัวร์เป็นที่เรียบร้อย  ขั้นตอนต่อมาก็การซื้อของใช้ส่วนตัวสำหรับการไปเที่ยว  ทั้งกางเกงเล่นน้ำ  เสื้อสวยๆสำหรับ  แว่นตา รองเท้า ครีมกันแดด สมัยก่อนถ้าจะไปกันแต่ละทีผมคงไม่ซื้อเยอะขนาดนี้หรอกครับ  แต่ช่วงนี้มีเงินใช้เองแล้วก็ขอให้ให้เต็มที่แล้วกัน  ส่วนเก็บก็เก็บส่วนใช้ก็ใช้  ถึงสัญญางานจะสองปีก็จริง  แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าถ้าเผื่อมีคนจับได้ว่าปลอมตัวมาแล้วต้องออกจากงานนี้จะมีงานอื่นรองรับไหม  แล้วจะเอาอะไรกิน

..............................................................................................

พวกเราสี่คน  อ๊อฟ ไบท์ โอ๊ตและก็ผมกำลังยกกระเป๋าลงจากรถของไบท์ที่มันอาสาขับไปรับพวกผมที่บ้าน  ที่คอนโดทีละคนแล้วเอามาจอดที่สนามบิน   ตอนนี้บอยกับวิทย์ถึงสนามบินแล้วแต่ว่ามันรอให้พวกเราไปครบก่อนจึงจะเช็คอินกันทีเดียว

เราเช็คอินเรียบร้อยก็เข้ามานั่งในห้องรองรับผู้โดยสาร  ก่อนจะเดินขึ้นเครื่องที่ตามที่พนักงานสาวสวยแจ้งไว้ว่าต้องเดินไปเกตไหน  ใช้เวลานั่งบนเครื่องเกือบหนึ่งชั่วโมง  พวกเราก็มายืนรอรับกระเป๋า  บอยโทรนัดแนะกับทางรถตู้ของบริษัททัวร์ที่จะมารับเราที่สนามบินไปส่งที่โรงแรม  โดยใช้เวลาเดินทางจากสนามบินภูเก็ตไปยังเขาหลักประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็มาถึงโรงแรมที่ได้จองเข้าพัก 

ผมกับบอยได้เลือกโรงแรมที่นี่ไว้เพราะบรรยากาศดีมาก  สถานที่ตั้งโรงแรมอยู่ที่ริมหาดบางเนียง,เขาหลัก  การตกแต่งของโรงแรมอาจจะไม่หรูหรามาก แต่ดูแพง  เน้นไปทางรูปทรงเลขาคณิตแบบสี่เหลี่ยม  ห้องพักที่เป็นวิลล่าเกือบทุกห้องที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวมีหญ้าสีเขียวปกคลุมอยู่ข้างบน  ประเภทห้องที่ได้จองไว้เป็น  Studio Pool Villa ครับ ผมพักกับบอย  โดยบอยขอให้วิทย์ไปพักกับอ๊อฟซึ่งทางนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร  จะมีก็แค่โอ๊ตที่ตอนแรกน้องมันนึกว่าจะได้นอนกับผมเพราะเห็นว่าบอยมากับวิทย์  แต่ก็ยอมตกลงนอนห้องเดียวกับไบท์ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

เย็นนี้พวกเราหกคนนัดกันว่าจะไปเล่นน้ำที่สระน้ำของทางโรงแรมกัน   ส่วนตอนนี้แต่ละคนก็เอาของไปเก็บกันที่ห้องพัก บอยเดินนำหน้าผมเดินไปเปิดประตูตามชื่อของวิลล่า(ห้อง)ที่ได้   เข้าไปสิ่งแรกที่เจอก็คือสระว่ายน้ำเล็กๆครับ  เราเดินข้ามสระน้ำเล็กๆที่สามารถลงเล่นได้  เปิดเข้าไปในห้องก็เจอกับเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่  ห้องตกแต่งแบบเรียบง่าย  ฝาผนังเป็นไม้  พื้นเป็นพื้นปาเก้  ห้องเป็นทรงแนวยาวโดยเข้ามาในห้องจะเจอเตียงก่อน   เดินลึกเข้าไปจะเป็นห้องแต่งตัว  แขวนเสื้อผ้าและถัดไปสุดท้ายเป็นห้องน้ำ  แต่ห้องน้ำไม่มีประตูปิดนะครับ  จะมีแค่แผ่นกระจกใสๆบังไว้อยู่  ซึ่งถ้าไม่สังเกตก็จะไม่โป๊หรอก

ผมนั่งลงตรงปลายเตียงแล้วหยิบเครื่องดื่มในมินิบาร์มาดื่ม  ทางพนักงานได้แจ้งไว้แล้วว่าของกินในตู้เย็นจะฟรีหมดรวมกับค่าที่พักแล้ว  ยกเว้นแค่ไวน์เท่านั้นที่จะคิดเพิ่ม  รู้สึกตัวอีกทีบอยก็มาปลุกผมซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปบีน  อีกชั่วโมงค่อยไปเล่นน้ำกับเพื่อน”

“อืม”

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินกลับมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอน  ก่อนจะโดนคนที่นอนอยู่ก่อนดึงไปให้นอนหนุนแขนตัวเอง  ด้วยความที่เหนื่อยจากการเดินทางผมเลยไม่ได้ขัดขืนอะไรมากจึงผล็อยหลับไป

จุ๊บ


จุ๊บ จุ๊บ

อื้อ  ผมส่งเสียงครางในลำคอพร้อมเอามือดันหน้าเด็กบอยออก  ปลุกดีๆเถอะครับ  ปลุกแบบใช้ปากจุ๊บทั่วหน้าผมนี่มันจั๊กกะจี้ยังไงไม่รู้

ผมไปเปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงว่ายน้ำก่อนสวมกางเกงบอลทับอีกทีแล้วจึงเดินออกจากห้องไปหาเพื่อนๆที่สระว่ายน้ำกับบอย
เดินไปถึงก็เจอพวกนั้นเล่นอยู่ก่อนแล้ว  ผมจึงถอดกางเกงกับเสื้อที่ใส่ทับออกแล้วลงเล่น

ตู้ม   บอยโดดลงไปก่อนแล้วเรียกผมให้โดดลงไป  ตายแล้วน้ำลึกไหมล่ะนั่น  ผมก็ลืมไปว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น

“ไม่ลึก  กูเหยียบถึง  ลงมา”  ไบท์บอกกับผมว่ามันเหยียบถึง 

“เออ”  ผมค่อยหย่อนตัวลงไปแล้วเอาเท้าเขี่ยๆที่พื้น  เออยืนถึงพื้นจริงแต่น้ำสูงปริ่มๆคางผมเลยนะ

บรรยากาศตอนนี้ดูสวยมากๆ สระน้ำของโรงแรมอยู่ติดกับชายหาดเพราะฉะนั้นพวกเราจึงได้สัมผัสบรรยากาศตอนเย็นๆ ดูพระอาทิตย์สวย  วิทย์ที่ทำหน้าเป็นตากล้องก็ไปเรียกพนักงานมาช่วยถ่ายรูปรวมให้  บอยดึงผมที่ว่ายน้ำไม่เป็นว่ายไปทั่วสระ  ก่อนที่ผมจะขึ้นสระไปหยิบห่วงยางที่ทางโรงแรมเตรียมไว้มานอนลอยไปเรื่อยๆ ให้เพื่อนๆดึงไปทางนู้นบ้างดึงไปทางนี้บ้าง   

พวกเราเล่นน้ำกันชั่วโมงกว่าก็กลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด  เรานัดกันว่าจะไปทานข้าวที่เลานจ์ของโรงแรม

เช้าวันต่อมาทางรถตู้ของทางบริษัททัวร์ก็มารับพร้อมเราตามที่ได้โทรมานัดหมายไว้ตั้งแต่เมื่อวาน  วันนี้เราไปเที่ยวเกาะสิมิลันกัน  เด็กๆทุกคนดูตื่นเต้นมาก  ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงที่ท่าเรือทับละมุ  บอยได้ต่อแถวทำการเช็คอินรับหน้ากากดำน้ำ  และรับสายริสแบนด์สีเหลืองมาใส่ข้อมือคนละอันก่อนที่ไกด์สาวสวยผิวแทนตัวสูงโปร่งจะประกาศว่า

“ท่านลูกทัวร์คนไหนมีสายริสแบนด์สีเหลืองที่จะไปเกาะสิมิลันวันนี้  ออกไปต่อแถวข้างนอกเลยค่ะ  ตามดิฉันมาเลยค่ะ”

เราได้นั่งเรือสปีดโบ๊ทขนาดสองเครื่องยนต์ครับ มีลูกทัวร์ทั้งคัน ๒๕ คน  อันนี้ไกด์นางอธิบายให้ฟัง  โดยทางทัวร์จะพาไปที่เกาะสี่ก่อน  ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมงก็ถึงเกาะสี่  เราลงเล่นน้ำกันพอเป็นพิธี   แต่ดูจะเน้นไปที่ถ่ายรูปมากกว่า น้ำที่นี่ใสมากครับ  มองเห็นปะการังสวยมากและอีกอย่างคือเค็มมาก  เค็มกว่าฝั่งอ่าวไทย   

หลังจากไกด์ได้ปล่อยให้ลูกทัวร์ไปพักเล่นน้ำถ่ายรูป  ก็ถึงเวลาข้าวเที่ยงเราจึงไปนั่งทานข้าวกันที่โรงอาหารของอุทยาน
ผมนั่งอยู่ระหว่างโอ๊ตกับบอย  บอยกำลังเดินไปตักข้าวให้ผมอยู่ซึ่งผมก็ทำตัวเป็นประโยชน์โดยการไปเอาน้ำผลไม้มาให้

“นี่มึงใส่สั้นๆไม่อายคนอื่นหรือไง”  พอผมเดินมาถึงโต๊ะ  โอ๊ตก็ถามผม

“ก็ไม่เห็นสั้นหนิ  คนอื่นก็ใส่กัน  ดูคนจีนสิใส่แค่กางเกงว่ายน้ำ”  ผมก็ว่าตัวเองไม่โป๊นะ  กางเกงที่ยาวได้ครึ่งหนึ่งของขาอ่อนดูยังไงก็ปกติสำหรับมาเที่ยวทะเล “ว่าแต่โอ๊ตเถอะ  เล่นน้ำเสร็จตั้งนานแล้วยังจะถอดเสื้ออยู่อีก  โชว์สาวล่ะสิ” น้องมันถอดเสื้อตั้งแต่ไปเล่นน้ำแล้วครับ

“กูใส่ก็ได้  หวงกูล่ะสิ”  ดูมันพูด

“ข้าวมาแล้วจ้าบีน” บอยถือข้าวมาสองจานพร้อมเสิร์ฟ

“ขอบคุณมากบอย” ผมขอบคุณเด็กมันไป

“ดูแลกันดีจริงโว้ย  คู่นี้  น่าอิจฉา” ไอ้อ๊อฟแซว

เรากินข้าวกันเสร็จก็แจกยากันคนละเม็ดครับ  ไม่ใช่ยาบ้านะ  ยาแก้เมาเรือเพราะว่าต้องไปอีกสามเกาะกันไว้ดีกว่า
เรือสปีดโบ๊ทพาพวกผมกับลูกทัวร์คนอื่นไปดำน้ำตื้นดูปะการังกันอีกสองเกาะ 

ช่วงนี้แหละครับเป็นช่วงที่ผมกังวลมากที่สุดเพราะผมว่ายน้ำไม่เป็นเลย  มีไอ้อ๊อฟด้วยที่ว่ายไม่แข็ง  หลังจากใส่เสื้อชูชีพกับหน้ากากดำน้ำแล้ว  เราตกลงกันว่าจะแยกกันไปเป็นสองกลุ่ม  วิทย์  ไบท์  อ๊อฟไปด้วยกัน  เพราะอ๊อฟมันว่ายน้ำไม่แข็ง 

บอยกับโอ๊ตก็ลากผมตามๆเพื่อนไป  ที่จริงมันไม่จมหรอกนะครับ  ใส่เสื้อชูชีพไว้อยู่  แต่ด้วยความที่ว่ายน้ำไม่เป็นเลยรู้สึกระแวงเหมือนจะจมอยู่ตลอดเวลา  พวกเราว่ายออกจากเรือไปดูปลากับปะการังกันไม่ไกลครับ  แรกๆผมก็ใช้ไม่เป็นหรอกนะไอ้สน็อกเกิ้ลนี่  เพราะเอาหน้าจุ่มลงไปครั้งแรกก็ลืมระวังไปว่าน้ำมันจะไหลเข้ามาทางช่องอากาศแล้วไหลเข้ามาที่ปาก   ทุลักทุเลมากกว่าจะได้ส่องดูปลากัน

เราขึ้นเรือกันมาพร้อมเดินทางไปเกาะที่แปดเกาะสุดท้ายที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปหินเรือใบ  เรือจอดเทียบฝั่งเราก็ลงไปถ่ายรูปกันที่เห็นเรือใบโดยที่ต้องเดินขึ้นเขากันเล็กน้อย  แต่ก็คุ้มครับ  วิวสวย  บรรยากาศดีมาก  ในชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้มากที่แบบนี้ครั้งหน้าผมก็คิดว่าจะชวนแม่กับน้องมาด้วยกันคงสนุกไปอีกแบบ  บอยหยิบมือถือตัวเองมาถ่ายรูปกล้องหน้าคู่ผมเสร็จแล้วยื่นมือถือมันให้ผมถ่ายรูปให้  พวกเราหกคนใช้เวลาถ่ายรูปข้างบนกันเกือบสามสิบนาทีก็ลงมาเดินเล่นชายหาดถ่ายรูปกันข้างล่าง  ก่อนที่จะเตรียมตัวขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง   





“โอยเหนื่อยว่ะบอย   กี่ทุ่มแล้วอ่ะ”

“สามทุ่มตรง  นั่นหัวแห้งหรือยังไปหนุนหมอนเดี๋ยวก็เปียกหรอก  มานี่” บอยเด็กผมขึ้นจากที่นอนแล้วเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัวที่เปียกให้  พวกเรากลับเข้ามาที่ท่าเรือ  ขึ้นรถตู้กลับโรงแรม  ทานข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับห้องใครห้องมันครับ  แต่ละคนดูแล้วเหนื่อยเอามากๆ  คงมีแต่เด็กบอยนี่แหละมั้งที่ยังดูเฉยๆไม่เหนื่อย  ไม่บ่น 

“เหนื่อยตรงไหนบีน  บอยว่าสนุกดีออก”

“เหนื่อยดิ  ปวดตรงขาว่ะบอย  สงสัยจะปวดจากตอนที่ดำน้ำตื้นนั่นแหละ”

“ไหนมาให้เค้าดูซิ ” บอยเดินมาที่เตียงแล้วลงมานั่งขัดสมาธิข้างตัวผมแล้วดึงขาข้างว้ายผมไปวางไว้บนตัก”ตรงไหน  ตรงนี้หรอ”

“อืม ใช่  จะนวดให้หรอดีจัง”

ว่าแล้วบอยก็นวดตรงต้นขาให้ผมครับ 

เฮ้อมีเด็กมาคอยดูแลมันก็ดีแบบนี้นี่เอง

“ลึกไปแล้วบอย  จะทำอะไร”  บอยมันนวดขึ้นมาเรื่อยจนกางเกงนอนขาสั้นผมเลิกขึ้นแทบจะเห็นกางเกงใน

“นี่ใส่กางเกงในนอนด้วยหรอว่ะบีน”

“ก็เออดิ  ทำไมแปลกตรงไหน”

“นึกว่าจะได้เห็นหนอนน้อยของบีนเสียอีก”

“บ้า  พอเลยๆ  ง่วงแล้วขอนอนก่อนนะ”

ผมยกขาออกจากตักบอยแล้วดึงผมห่มมาห่ม  ทางนั้นก็นอนลงตามผมแล้วก็กอดจากด้านหลัง

“อย่าพึ่งนอนสิยังไม่ดึกเลย  อยู่เล่นกับบอยก่อนนะ”

“เล่นอะไรเล่า”  ผมถามอย่างหงุดหงิดเพราะว่าเหนื่อยจริงๆ

“หันหน้ามาก่อนถึงจะบอกว่าเล่นอะไร”

พอผมหันไปเท่านั้นล่ะ

อุ๊บ

อื้อ

เด็กบอยจูบผม  จูบครั้งแรกระหว่างผมกับเด็กม.ปลาย  ครั้งนี้ไม่ใช่ฝันแน่นอน
บอยใช้ริมฝีปากทั้งบนล่างล่างขบเบาๆที่ปากผมอย่างนุ่นนวลก็ถอดจูบออกแล้วมองหน้าผมก่อนพูดว่า

“ชอบไหม”

ผมยิ้มให้บอยก่อนจะถามแทนคำตอบไปว่า “เล่นจูบกันนี่นะ”

“อืมใช่  เป็นไงชอบไหมคนดีของบอย”

เด็กบอยไม่รอให้ผมตอบ มันจูบผมอีกครั้งแต่ครั้งนี้หนักหน่วงและรุนแรงกว่าครั้งก่อน  เหมือนอัดอั้นมานาน  เหมือนตายอดตายอยากมาจากไหน

ด้านมือของเด็กมันก็ไม่อยู่นิ่ง   สองมือนั้นดึงเสื้อผม  ก่อนที่จะใช้หัวแม่มือเขี่ยหัวนมทั้งสองข้างเป็นการปลอบประโลมอย่างพร้อมเพรียงกัน   

ผมใช้มือผลักอกบอยออกเบาๆ พอเด็กมันถอนปากออกผมก็บอกว่า “อื้อ  บอยพอแล้ว”

“บอยไม่ไหวแล้วบีน  บอยอดมานานแล้ว”

“บอย  เรายังไม่ได้ตกลงกันเลยนะ  ว่าเราอยู่กันแบบไหน  สถานะระหว่างเราสองคนคืออะไรเพื่อน  เพื่อนสนิทหรือว่าแฟน”

“หืม  เสียใจจัง  บอยนึกว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเสียอีก”

“อย่าพึ่งตัดสินใจอะไรตอนนี้เลยบอย  อนาคตมันไม่แน่นอน”  ใช่ครับ  ผมตอบไปแบบนั้นก็เพราะเผื่อไว้จริงๆมาทำงานแบบนี้มันไม่ควรจะสานสัมพันธ์กับใคร  ยอมรับเลยครับว่าผมก็ผิดเองที่เปิดโอกาสเด็กมันเข้ามาในชีวิต  แต่ถ้าจะถลำลึกไปถึงว่าเป็นแฟนกันหรือมีอะไรกันลึกซึ้งลงไปอีกอันนี้ก็ต้องขอหยุดไว้ก่อน  ขอคบกันเป็นเพื่อนคู่คิด  เป็นคนที่ดูแลกันจะดีกว่า

“เฮ้อ  ก็จริงอย่างที่บีนบอก  ถ้าเราจบมัธยมไปแล้วก็ต้องเจออะไรอีกมากมายสินะ”

“ใช่ถ้าจบไปจริงๆก็คงไม่เจอกันแล้ว”  ถ้าผมทำงานนี้เสร็จก็คงต้องหนีไปทำงานที่อื่นหรือไม่ก็ต้องตัดขาดการติดต่อกับเด็กๆพวกนี้  คิดแล้วก็น่าใจหายนะครับ

“อย่างนั้นบอยขอนอนกอดบีนเหมือนเดิมนะ”

“อืม”  ผมยิ้มให้ก่อนขยับตัวไปนอนหมอนเดียวกับบอย


แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ



.....................................................................................

เช้าวันรุ่งขึ้น  วันนี้เราไปถึงท่าเรือนั่งรอไม่นานก็ได้ขึ้นเรือไปเกาะตาชัยเลย  โดยไกด์ประจำกลุ่มได้ชี้แจงว่าเราจะอยู่เกาะตาชัยตั้งแต่ไปถึง  ยาวไปถึงตอนบ่ายๆแล้วจะพาไปดำน้ำตื้นดูปลากันอีกทีก่อนกลับเข้าฝั่ง
วันนี้เต็มที่ครับวันสุดท้าย  หาดที่เกาะตาชัยน้ำใสและสวยจริงๆน้ำเค็มชนิดที่ว่าผมว่ายน้ำไม่เป็นแต่ก็พอลอยตัวได้  เราเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน  วิ่งไล่กันบ้าง  แกล้งวิ่งไปจับเพื่อนแล้วเหวี่ยงลงไปในน้ำหรือให้ไอ้อ๊อฟที่โดนเพื่อนแก้งบ่อยๆมันนอนแล้วเอาทรายถมมัน  โดยมีวิทย์เป็นตัวแทนเก็บภาพสวยๆของบรรยากาศที่เกาะนี้

“คราวนี้ต้องมั่นใจนะมึง  มันไม่จมหรอกเชื่อกู”

“เออก็รู้  แต่คนไม่ว่ายน้ำไม่เป็นไง  ถ้าใส่เสื้อชูชีพในสระว่ายน้ำก็คงตีขาไปอยู่หรอก  แต่นี่มันทะเลนะโอ๊ต  มันมีคลื่น”

ผมนั่งถกประเด็นเรื่องกลัวจมน้ำกับโอ๊ตก่อนที่เรือสปีดโบ๊ทจะจอดให้ลูกทัวร์ลงดำน้ำตื้น  ที่เรียกว่าดำน้ำตื้นนี่ไม่ใช่ว่าลึกแค่เมตรสองเมตรนะครับ  ความลึกนี่ประมาณสะพานลอยเลยล่ะ

“ตามมาๆ เฮ้ยบอยไม่ต้องลากให้บีนมัน”  โอ๊ตตะโกนบอกบอยที่ดึงผมให้ว่ายไปตาม   โอ๊ตบอกให้แต่บอยปล่อยผมแต่ตัวเองตอนที่เราส่องดูปลากันน้องมันก็แอบเอามือมาจับผมไว้นะ  ก็ไม่เข้าใจ

สรุปก็สนุกดีครับ  ถึงจะเหนื่อยก็เถอะ  แต่การได้มาเที่ยวกับเพื่อนๆแบบนี้มันทำให้ผมเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง  อารมณ์มันดูร่าเริงไปหมด  ไม่ต้องคิดมากเรื่องต่างๆที่จะเกิดขึ้นในชีวิต  ขอแค่ได้อยู่กับเพื่อนเที่ยวให้สนุกก็เป็นพอ

...

เช้าวันต่อมาเราเดินทางกลับเข้าตัวเมืองภูเก็ตกันเพราะเพื่อนๆตกลงกันว่าจะเที่ยวที่ภูเก็ตก่อนสักสองวันค่อยกลับ  วันแรกเราจึงเข้าไปเที่ยวที่ตัวเมืองภูเก็ตกันก่อน  วันถัดไปจึงจะไปเที่ยวตามชายหาดป่าตองหรือไม่ก็ชมวิวแหลมพรหมเทพ
เราเข้าพักที่เกสท์เฮ้าส์ใจกลางเมือง  บ่ายๆจึงเดินชมเมืองถ่ายรูป  หาของกินอร่อยๆ 

“คืนนี้ไปร้านเหล้ากัน  กูเห็นร้านน่านั่งตอนเรานั่งรถไปกินติ่มซำ” คำเชิญชวนของอ๊อฟ ที่เพื่อนๆก็ดูสนใจและตกลงกันว่าจะไป



เราหกคนนั่งที่ร้านเหล้าใจกลางเมืองภูเก็ต  ที่ร้านคนไม่เยอะมากเพราะเป็นวันธรรมดา  ผมสั่งเหล้าปั่นมากินก่อนที่จะปวดฉี่จึงบอกเพื่อนว่าจะไปห้องน้ำ


ทางเข้าห้องน้ำอยู่ลึกเข้าไปในร้าน 


ผมเดินไปก่อนจะเห็นหนุ่มหล่อดูมีภูมิฐานใส่เสื้อหนังกางเกงยีนส์แต่คนที่เดินมาติดๆเขานี่สิ


กี้

กี้จริงๆด้วย

กี้เห็นผมนะแต่ทำเหมือนไม่เห็นแล้วเดินผ่านไป


ผมก็เดินงงเข้าห้องน้ำไป  จริงด้วยสิตอนที่เลิกกับโอ๊ตหลังสอบจำได้ว่าไบท์บอกว่ากี้มาเที่ยวที่ภาคใต้  มาไม่นานนี่ได้แฟนใหม่แล้วหรอวะ


ผมเข้าไปฉี่  ล้างหน้าล้างตาก่อนเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าคนที่เดินสวนกันไปเมื่อครู่  ยืนกอดอกกันทางไว้อยู่

“ไม่เจอกันนานนะบีน  ออกไปคุยกันข้างนอกหน่อยสิ”

“ไปคุยอะไร”

“เฮ้ย  เป็นเพื่อนกันก็อยากคุยด้วยเฉยๆ ไม่มีอะไร  ออกไปคนเดียวนะไม่ต้องบอกเพื่อนคนอื่น  ไม่อยากเจอ”

ผมเดินตามกี้ห่างๆก่อนเดินไปบอกเพื่อนๆที่โต๊ะว่าจะไปเดินเล่นข้างนอก 

ไปถึงก็เห็นกี้มันนั่งรอที่โต๊ะข้างนอกแถวๆที่จอดรถ  ตรงนี้ดูบรรยากาศเงียบๆไม่มีคน  ได้ยินแต่เสียงดนตรี

“นั่งสิบีน”

“มีอะไร”

“ไหนว่าจะไม่บอกไง”

“หืม  บอกเรื่องอะไร”

“ก็เรื่องกูขายยาไง  ไหนว่าจะไม่บอกคนอื่น  ตอแหลทำตีหน้าซื่อ”  อ้าวอีนี่มาเป็นชุดเลย  ต้องใจเย็นไว้บีน  หายใจเข้าลึกๆ

“ไม่ได้บอกนะ  ใจเย็นก่อน  โอ๊ตรู้เองหรือเปล่ากี้ ”

“โกหก” กี้อยู่ดีๆก็โมโหรุนแรง  มือดันโต๊ะเหล็กสามขาจากด้านมันให้มันกระแทกเข้ากับตัวผม  อีบ้านี่

“นี่พูดดีๆสิ  อย่าพาล  อย่าทำแบบนี้”

“แล้วกูพูดดีๆแล้วมึงตอบดีๆไหมบีน  อย่าทำเป็นคนดีหน่อยเลย  ทำไมวะ  พอมึงมาคนอื่นก็ดูสนใจมึงไปหมด  ทั้งเพื่อนๆในกลุ่ม  ทั้งไอ้บอยนั่นที่ก่อนมึงมาก็ดูไม่สุงสิงกับใคร  ไหนจะโอ๊ตที่ปกป้องมึง  ทั้งๆที่มึงเอาเรื่องกูไปบอก”

“เดี๋ยวนะ  พูดดีๆไม่เข้าใจใช่ไหมก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เอาไปบอก  โอ๊ตมันอาจจะรู้เอง”

“ไม่ต้องมาทำตัวเป็นคนดีเลยบีน  กูรู้ว่ามึงคิดยังไง  มีบอยคนเดียวไม่พอ  มึงมันร่านอยากได้โอ๊ต  ไบท์ด้วยใช่ไหมที่มึงก็อยากได้  เสียใจด้วยนะไบท์มันเป็นผู้ชาย”  พูดไปทั่วแล้วครับ  เด็กนี่มันสติแตกไปแล้ว

“แล้วแกคิดว่าตัวเองดีพอที่จะให้คนอื่นมาสนใจไหมล่ะกี้”

“นั่นไง  สุดท้ายก็ยอมรับว่าตัวเองร่าน”  อ้าวอีเด็กนี่  ผมจะไม่ทนมันแล้ว

“นี่กูถาม  ไม่ได้ให้มายอกย้อน  มึงก็เป็นแค่เด็กที่หลงระเริงไปกับแสงสีกับเงินทอง   เลิกกันไปแล้วก็แล้วกันไปสิวะ  ไม่ต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้อง  มันจะผิดก็ผิดที่ตัวมึงเองเข้าใจไหม  ถ้ามึงไม่ทำอะไรผิดโอ๊ตมันจะไปว่าอะไรมึงได้”

“กูไม่ผิด  ยังไงกูก็ไม่ผิด” กี้มันลุกขึ้นก่อนเดินมาผลักผมที่นั่งอยู่ล้มลงไปกับเก้าอี้ “โชคดีนะมึง  กูลาออกจากโรงเรียนนั้นแล้ว  ไม่มีคนไปขัดมึงแล้ว  แดกผู้ชายได้ตามสะดวก”

ว่าเสร็จมันก็เอาเท้ามายันผมก่อนจะเดินหันหลังไป  หึ คิดว่าคนอย่างบีนจะยอมหรอไม่ทนมันแล้ว  ตบก็ตบ ต่อยก็ต่อย

“หยุดก่อน  คิดว่าคนอื่นร่านเหมือนตัวเองหรอกี้”  ผมลุกขึ้นเรียกกี้ให้หยุด  ก่อนมันจะหันมาไม่ทันระวังผมก็ตบหน้ามันไปหนึ่งครั้งดัง  เพี๊ย จนหน้ามันไปตามแรงตบที่ออกมาจากแรงโกรธ

“นี่มึงตบกูหรอบีน”  มันหันหน้ากลับมาถามผม

“เออ”  เพี๊ย  เพี๊ย  ตบตบหน้ามันอีกสองครั้ง  หน้ามันหันไปทั้งซ้ายและขวา  หึมันมือดีจริง

“อีบีน”

มันกระโจนเข้ามาจะบีบคอผม  ผมก็กระโจนเข้าไปปะทะกับมัน  กำกำปั้นต่อยไปที่หน้าอีกี้จนมันเสียหลัก  ถีบมันจนล้มแล้วตามลงไปนั่งคร่อมมัน  ก่อนออกแรงจิกหัวมันขึ้นแล้วจะกระแทกกลับไปที่พื้น  หึหัวไม่แตกก็ให้มันรู้ไป

“โอ๊ย  อีบีนกูเจ็บ”

“ก็กูทำให้มึงเจ็บไง  มึงจะได้จำ”  ผมดึงหัวมันขึ้นจากพื้นก่อนจะกระแทกกลับไปอีกครั้ง  แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็วิ่งมา

“เฮ้ยบีน  หยุดก่อนๆ ใจเย็นๆ”  ไอ้เด็กบอยมันวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วดึงตัวผมออกจากกี้

“ปล่อยสิ  มาห้ามทำไมวะ”  ผมพยายามจะดิ้นให้หลุดจากตัวของบอย

“กูฝากไว้ก่อนนะมึง”  กี้มันลุกขึ้นมาจากพื้นก่อนชี้หน้าผม  แล้วก้มลงไปกำเศษดินปาใส่ผมก่อนจะวิ่งหนีไป

“เออฝากไว้แล้วก็มาเอาคืนด้วยแล้วกันอีกี้” ผมตะโกนตามหลังมันไม่

“ไม่เอานะบีนใจเย็นๆสิ  เด็กมันก็คือเด็ก  อย่าไปร้อนรนตามมันเลย” มีหน้ามาบอกคนอื่นเด็ก  แกมันก็เด็กเหมือนกันแหละ 

“ก็มันทำบีนก่อน  หยุดได้แล้วเลิกกอดซะที  จะไปล้างหน้าล้างแขนเปื้อนไปหมดเลย” ว่าเสร็จผมก็ดิ้นออกจากตัวบอย
“ลงไปทำซะขนาดนั้นจะไม่ให้ไม่เปื้อนได้ยังไง  จำไว้นะบีน  บางครั้งเราก็ไม่ควรเอาตัวเข้าไปยุ่งขนาดนั้นก็ได้”

“ก็มันว่าบีนก่อน  แถมมันเอาเท้ามันยันบีนอีก  จะให้ทำยังไง  จะให้ร้องไห้แล้ววิ่งไปฟ้องบอยหรอ”

“บอยไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ไอ้เด็กนี่ตกลงจะเอายังไง 

“พอเลย  ถ้าไม่เข้าข้างกันก็เงียบไป  แล้วนี่ข้างในกินกันเสร็จยัง”

ผมเดินไปล้างแขน  ล้างหน้าในห้องน้ำ  ก่อนที่จะกลับไปที่โต๊ะด้วยสีหน้าเฉยชา  เพื่อนในโต๊ะไม่ได้สังเกตอะไรระหว่างผมกับบอยได้หรอกครับ  จะมีก็แต่โอ๊ตที่ดูออกว่าผมคงทะเลาะกับบอยมา  คืนนั้นเลยกลายเป็นว่าผมกับบอยไม่ได้คุยกันเลย

วันต่อมาที่ไปเที่ยวผมกับบอยก็ยังไม่ได้คุยกันมาก  จนถึงช่วงตอนเย็นที่พวกเราไปถ่ายรูปดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพกัน

“บีน  มาถ่ายรูปกับบอยหน่อยสิ” บอยเดินมาทางข้างหน้าผม  ขณะที่ผมกำลังใช้มือถือถ่ายรูปอยู่

“อืม”  ก็ไม่รู้ว่าจะงอนมันนานไปมาก

เราสองคนยืนจับมือดูพระอาทิตย์ตกกันอย่างเงียบ


โดยมีเพื่อนเรายืนถ่ายรูปกันอยู่ใกล้ๆกัน

มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขนะ 

ถึงจะมีเรื่องกี้มาทำให้เราสะดุดไปนิดหนึ่งก็เถอะ


ทำยังไงผมถึงจะได้อยู่กับบอยตลอดไปครับ 




งานที่ทำมันมีกำหนดเวลา 



แล้วมิตรภาพระหว่างบอยกับผมหรือกับเพื่อนๆ
มันจะหมดไปตามสัญญางานหรือเปล่านะ



...............................................................................................


นี่บีนจะรีบดราม่าไปทำไมนะ  สัญญางานได้ข่าวเหลือตั้งปีกว่าๆ


ขอโทษผู้อ่านด้วยนะที่หายไปนาน  ช่วงแรกๆของตอนนี้นี่คือ  ถ้ามีรูปภาพประกอบก็คือ  กระทู้รีวิวเที่ยวดีๆนี่เอง

ยังไงก็หวังว่าจะสนุกไปกับบีนเรื่อยๆนะครับ  วันนี้มาตอนเที่ยงของให้ทานข้าวให้อร่อยนะ



ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเข้ามาตอบนะครับ  เจอกันใหม่ตอนที่ ๑๕  สวัสดี


 :bye2:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-09-2015 13:46:24
บีนชอบบอยอ่อคะนี่ ถ้าคู่กันได้ก็จะดีมากกกกกกก

(แต่สงสัยว่าบีนชอบใจเต้นกับโอ๊ต มันคืออะไรรรร  :ling1:)

ปอลิง กี้ลาออกจากโรงเรียนแล้ว ซึ่งก็ดีนิดนึง แต่กลัวมาอีกทีจะร้ายกว่าเก่า แถมตอนนี้ทำตัวเลวลงเรื่อยๆเลยนะเนี่ย

เฮ้อออ ท่าจะฉุดน้องไม่ขึ้นซะแล้ว
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 18-09-2015 13:54:11
พระเอกคือครายยยยยย :katai1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 18-09-2015 14:46:54
ว๊าาาาาาาาาาาาาาาาากำลังสนุกเลยอ่ะ  เอาอีกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-09-2015 14:47:28
 o13  ดีค่ะ ปรบมือ บีนทำดีมากกกเรื่องบอยและเรื่องที่ล้างแค้นอีกี้ให้คนอื่นด้วย 555  อีนี่มันหมาบ้าจริงๆสันดานเอ๊ย เสียดายที่เพื่อนคนอื่นไมไ่ด้มาเห็นธาตุแท้ของมัน ชิ

เราก็กลัวใจเหมือนกันนะเรื่องโอ๊ตกับบอย วางตัวลำบาก กลัวว่าเรื่องจะแตกก่อนหมดสัญญาหรือไปเจอกันข้างนอกในสถานะที่บีนคนทำงานกับเพื่อนๆที่เป็นเด็กนักศึกษา ต่อให้ผิดใจกันแต่เราว่าบีนทำดีที่สุดแล้วนะ เพื่อนๆต้องเจ้าใจแน่ บีนสู้ๆ
บอยมันน่ารักนะ เด็กดี โอ๊ตก็ด้วย น่ารักน่าเลี้ยง 555
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 18-09-2015 15:59:09
บอยนี่เหมือนบีนหรือเปล่า ปลอมตัวเป็นเด็กเหมือนกันมาดูแลสุวิทย์  o8
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-09-2015 16:15:13
อยากรู้ววววววว ว่าใครเป็นพระเอก :ling1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 18-09-2015 17:24:47
 :z13: บีนทำดีมากๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 18-09-2015 17:34:38
อยากให้คนอื่นๆเห็นธาตุแท้กี้ แล้วจัดการมัน

กลัวแต่มันจะกลับมาร้ายกว่าเดิม :hao4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 18-09-2015 17:51:19
แหมๆ ไมได้คบกันก้อเหมือนคบอ่ะเนี่ยยยย
จะทำให้ยากทำไมกัน? 55555
แต่บอกเลยนะ ว่าเราสงสัยบอยอ่ะ เหมือนจะมาทำงานคล้ายกับบีนรึเปล่า -_-???
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๔ ๑๘/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนเที่ยวทะเล
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 18-09-2015 20:08:20
บอยไม่ธรรมดาน่ะ ปลอมตัวมาเหมือนบีนเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 22-09-2015 14:53:18
ตอนที่ ๑๕

หลังจากดูพระอาทิตย์ตกเสร็จ   พวกเรากลับมามานอนพักที่โรงแรมที่จองไว้ใหม่แถวหาดกะตะเพราะพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวป่าตองกันแล้วกลับเที่ยวบินตอนสี่ทุ่ม

“นี่พวกมึง  กูมีอะไรใหม่ๆมาให้พวกมึงเล่นกัน  อย่าพึ่งแจกคีย์การ์ดห้องนะบอย” โอ๊ตเปิดบทสนทนาเรียกร้องความสนใจจากพวกผมที่กำลังจะรับคีย์การ์ดเอาไปเปิดห้องนอน   

“ทำอะไรวะ” ไบท์ถามโอ๊ตอย่างงงๆ

“จับฉลากไง  จับคู่กันว่าใครจะได้นอนห้องเดียวกัน”

“อ้าว  มึงจะเปลี่ยนทำไมวะ   ก็อยู่แบบเดิมก็ดี” อ๊อฟทักท้วงขึ้น

“เออน่า  กูเบื่อๆ  จับๆ  กูทำม้วนกระดาษมาให้พวกมึงจับสลากแล้ว” โอ๊ตล้วงเอากระดาษม้วนเล็กๆที่บอกว่าตัวเองทำเตรียมไว้แล้วขึ้นมาแล้วเอาอุ้งมือห่อไว้ให้เพื่อนจับแต่น้องมันไม่ยื่นให้ผมจับเสียที  ระหว่างที่ยื่นให้เพื่อนจับผมก็เห็นถึงความปกติเพราะโอ๊ตใช้นิ้วโป้งหนีบสลากอีกสองม้วนไว้โดยที่เพื่อนมันก็ไม่ทันได้สังเกต  ผมได้จับคนรองสุดท้ายกับโอ๊ตที่จับคนสุดท้าย  ก็แน่ล่ะเหลือสองม้วนที่เด็กมันใช้นิ้วหนีบไว้  ผมหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับเห็นจุดสีดำเล็กๆที่ม้วน

เราหกคนเปิดออกพร้อมกัน   ผมได้หมายเลย ๓

“ใครได้หมายเลยอะไรบ้างวะ  กูได้ ๑” อ๊อฟถามเพื่อนขึ้น

“อ้าว ได้เหมือนกู”  ไบท์ได้หมายเลยหนึ่ง

“กูได้หมายเลข ๓” โอ๊ตบอกกับเพื่อนด้วยสีหน้ายิ้มร่าอารมณ์ดี  ก็ใช่สิเล่นจุดสีไว้แถมตอนเพื่อนจับก็หนีบเอาไว้คู่กัน   

“อืม  เราได้ ๓”

เราต่างแยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องมันกับคู่นอนคนใหม่

“เฮ้อ   สบายจังเลย” โอ๊ตวิ่งไปนอนลงบนเตียง  ถุงเท้าก็ยังไม่ถอด

“สบายใจจังนะโอ๊ต  ขี้โกงคนอื่น”

“ขี้โกงอะไร   อย่ามาว่าคนอื่นนะบีน  ดวงเรามันสมพงษ์กันเองต่างหาก”

“เออๆ ตามใจเถอะ”


ผมเดินออกไปนอกระเบียงก่อนที่มือถือจะสั่งเพราะมีสายเข้า
บอยบอกให้ผมไปหาที่จุดชมวิวของโรงแรมครับ  จะอยู่ประมาณชั้นกลางๆพนักงานได้แนะนำไว้ก่อนแล้วว่าบรรยากาศดี  ผมจึงเดินเข้าห้องแล้วตะโกนบอกโอ๊ตที่อาบน้ำอยู่ว่าจะออกไปข้างนอกสักพัก


“บอยๆ มาแล้ว”

“มานี่ๆ  มาตรงนี้”  บอยจับมือผมแล้วมือเดินไปที่ระเบียงชั้น ๕ ของโรงแรม  มุมนี้เงียบไม่มีคน

“เงียบดีเนาะ”

“จับมือกันไว้นะ”

เรายืนจับมือยืนดูทะเลตอนกลางคืนจากระเบียงกันเงียบๆ  เราไม่พูดอะไรกัน  เราไม่มองหน้ากัน  เราแค่สัมผัสกันที่มือ  เราก็รู้ว่าตอนนี้มีความสุขมากแค่ไหน  ทำไมผมถึงห้ามใจไว้ไม่อยู่นะ 
คนนี้สินะคนที่ดี  คนที่ช่วยทุกๆอย่าง คนที่อยู่เคียงข้างเสมอ  หกเดือนที่รู้จักกันมันนานเกินพอนะที่ผมจะยอมรับในตัวบอย

“บีน  บอยขอกอดบีนหน่อยนะ” เราต่างโผเข้ากอดกันกอดที่แน่นกว่าทุกครั้ง  กอดที่มันดูอบอุ่น  กอดที่ดูเหมือนกอดธรรมดาแต่มันมีความรู้สึกแปลกไป  กอดที่เหมือนจะไม่มีวันได้กอดอีก

“เป็นอะไรไปบอย” ผมลดมือออกจากตัวบอยแล้วผลักตัวบอยออกเบาๆให้เราได้มองหน้ากัน

“บอยแค่กลัวจะไม่ได้อยู่กับบีนเฉยๆ”

“ฮ่าๆ เราแค่ไม่ได้นอนด้วยกันแค่คืนนี้เอง  กลับไปอีกหนึ่งอาทิตย์ถึงจะเปิดเทอมบอยก็ไปนอนห้องบีนก็ได้”

“จริงหรอ” บอยยิ้มออกมาสีหน้าเศร้าเมื่อกี้หายไปในพริบตา

“จริงดิ”

“บีน”

ผมได้ยินเสียงนั้นเป็นเสียงสุดท้าย  ก่อนที่สติผมจะหลุดไปกับจูบที่บางเบาๆแต่มีน้ำหนักของเด็กบอย
เรายืนจูบกันนานแทบจะไม่หยุดเปิดปากหายใจ  จูบที่บอยย้ำว่าตอนนี้ผมคือคนของเขา
จูบของบอยที่ดูมีความสุขแต่สายตาบอยกลับวิตก

บอยเป็นอะไรไปนะ

“บีน  ต่อไปนี้บอยขออยู่ใกล้ๆบีนนะ   ขออยู่ในนี้ตลอดไป” 

เจ้าตัวพูดพร้อมเอานิ้วจิ้มที่หน้าอกด้านซ้ายของผม

“ได้สิ  แต่คืนนี้นอนแยกนะ  พรุ่งนี้ถึงกรุงเทพประมาณเที่ยงคืนกว่าๆเราค่อยนอนด้วยกัน  ป่ะไปนอนกันเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย”

“ครับ”  เราเดินจูงมือกันไปตามทางเดินของโรงแรมแต่ผมกลับเห็นโอ๊ตยืนหันหลังหลบอยู่อีกมุม  นี่คงตามผมมาข้างล่างด้วยสินะ

ผมยืนรอโอ๊ตที่กำลังเดินไล่ๆกันมาอยู่หน้าห้อง

“ออกไปทำอะไรหรอโอ๊ต”

“ไม่มีอะไร”  ติ๊ด


ผมเดินไปเอาของใช้  เสื้อผ้าก่อนเข้าไปในห้องน้ำ  หลังจากอาบน้ำเสร็จออกมาโอ๊ตก็หลับไปก่อนแล้ว  ผมจึงรีบเก็บของชาร์ตแบตมือถือก่อนนอนลงไปที่เตียงแล้วหลับไปด้วยความเหนื่อย


...

ผมกับเพื่อนยืนต่อแถวเช็คอินตอนหนึ่งทุ่มครึ่งพร้อมที่จะกลับบ้านกัน  หลังจากเมื่อเช้าไปเที่ยวหาดกะตะแล้วไปเที่ยวต่อที่หาดป่าตองตอนบ่ายๆเล่นน้ำ ทานข้าวเสร็จจึงรีบมาที่สนามบิน  พวกเรามาถึงดอนเมืองกันก็ประมาณห้าทุ่มรอรับกระเป๋าก่อนจะแยกย้ายกันกลับ  ส่วนผมก็มีบอยกลับไปนอนที่ห้องด้วย ๑ คน   

เช้าวันใหม่ที่สดใสผมลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุก  เอามือวาดไปข้างก็ไม่เจอคนที่นอนด้วยอยู่แล้ว  กลับเห็นแต่ถ้าม่านที่อยู่ที่ระเบียงเปิดแง้มๆไว้  สงสัยอยู่ที่ระเบียง

“ตื่นนานยังบอย”  ผมเปิดระเบียงก็เห็นบอยยืนคุยโทรศัพท์อยู่อย่างเคร่งเครียด

บอยยิ้มให้ผมก่อนพูดกับคนในสายว่า

“เพื่อนครับพ่อ” บอยเอามือถือไขว้ที่แล้วพูดกับผมเบาๆว่า  “เดี๋ยวบอยขอคุยโทรศัพท์ก่อนนะ”

ผมเดินเข้ามาในห้อง  คงเป็นเรื่องส่วนตัว  เรื่องในครอบครัว

ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์จนถึงวันนี้เช้าวันพุธ  ผมหมกตัวอยู่ในห้องกับบอยมาตลอด  นอนกอดกัน  ดูหนังด้วยกัน  จะมีออกไปนอกห้องแค่ซื้อของมาทำกับข้าวกินกันเอง  เช้าวันพุธแบบนี้ผมกะว่าจะชวนบอยไปดูหนังเสียหน่อย  วันนี้ตั๋วหนังถูก

“บอยๆ  บอย”  ผมเดินออกจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ  เรียกหาบอยก็เจอเจ้าตัวนั่งเหม่ออยู่ที่ระเบียง

“บอยๆ วันนี้ไปดูหนังกัน” 

“เรื่องอะไรหรอ  เรื่องนั้นหรือเปล่าที่พึ่งเข้าอาทิตย์ก่อน”

“ใช่  ป่ะไปอาบน้ำ”ผมดึงตัวบอยขึ้นจากพื้นระเบียง

“คือบอย  วันนี้บอยไม่ว่างแล้วบีน  พ่อแม่จะมาหาบอยที่หอ  บอยต้องไปหาพ่อแม่”

“อ้าวหรอ”

เออจริง  ปิดเทอมถ้าไม่กลับบ้านพ่อแม่ก็ต้องมาเยี่ยมมาหาบ้างล่ะ
ก่อนบอยกลับไปที่ห้องเด็กมันก็เก็บของ  แบกกระเป๋าไปที่ประตู  ผมก็เดินไปส่งพร้อมเปิดประตูให้

“บีน”  บอยเรียกแค่ชื่อผมก่อนจะสวมกอดผม  ผมดันบอยออกเล็กพร้อมกับยิ้มงงๆ

“เป็นอะไรหรือเปล่าบอย  ดูแปลกๆมาหลายวันแล้วนะ”

“ไม่มีอะไรหรอก  บอยจะรีบกลับมานะ”  บอยยิ้มให้ผมอ่อน  ก่อนจะเดินออกจากห้องไป







“ขอโทษนะที่สองสามวันนี้ บอยไม่ได้ไปหาบีนหลายวันเลย  ช่วงนี้ยุ่งๆ”

“หืม  มีอะไรหรือเปล่าบอย” สองวันผ่านไปผมก็ได้แต่คุยกับบอยทางโทรศัพท์เพราะเข้าใจบอยว่าพ่อแม่มาหาคงอยากใช้เวลากับครอบครับ

“เอ่อคือ  ช่วงนี้เรากำลังเก็บห้องนะ  ห้องรก”

“อ้าว  แล้วพ่อแม่กลับแล้วหรอ”

“ใช่กลับแล้ว  พรุ่งนี้บอยจะไปหาบีนนะ”

“อืม  มาเลยๆคิดถึง”

ดีใจจังพรุ่งนี้บอยจะมาหาแล้ว  ผมก็เตรียมห้องไว้รอเลยครับ  ซักผ้า  ล้างจาน  ดูดฝุ่น  ถูพื้น  ขัดห้องน้ำ  เรียกว่าทำทุกอย่างไว้รอบอย  ก็สงสัยตัวเองเหมือนกันนะแต่ก่อนไม่เคยจะทำแบบนี้  อยู่ๆก็อยากเตรียมอะไรดีๆให้คนที่เรารู้สึกดีด้วย


วันเสาร์ตอนบ่ายๆ ผมเปิดประตูรับบอยที่มากดกริ่งอยู่หน้าห้อง  บอยมาในชุดเสื้อคอปก  กางเกงยีนส์  รองเท้าผ้าใบและสะพายกระเป๋าเป้มาหนึ่งใบ

“เอาเสื้อผ้ามาด้วยหรือบอย   จะอยู่ถึงวันจันทร์เลยใช่ไหม”

บอยเดินมาสวมกอดผมจากทางด้านหลังแล้วตอบ  วันจันทร์ที่จะถึงก็จะเปิดเทอมแล้วครับ

“เปล่า  ชุดนักเรียนค่อยกลับไปเอาอีกที  เดี๋ยวพรุ่งนี้บอยก็จะไปแล้ว” 

“อ๋อ  อย่างนั้น  วันนี้ทำกับข้าวกินกัน” 

เราทำกับข้าวทานกันก่อนช่วยกันล้างจานแล้วมานั่งดูทีวีที่โซฟา  ผมนอนลงเอาหัวหนุนตักเองบอยไว้  ฝ่ายนั้นก็ไม่ปฏิเสธอะไร  พร้อมกับเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ





“บีน”

“หืม”

“ถ้าบอยไม่ได้อยู่กับบีนแล้ว  บีนจะคิดถึงบอยไหม”

“อ้าว  ทำไมบอยจะไม่ได้อยู่กับบีนล่ะ”

“ก็ถ้าเผื่อว่าจบ ม.๖ไป บอยไปเรียนที่อื่นไกลๆ  แล้วไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกอย่างนี้บีนจะคิดถึงบอยไหม  บีนจะอยู่ได้ไหม”

“ไม่รู้สิ  ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆก็คงต้องมีช่องทางติดต่อบ้างแหละ   บอยจะไปไหนจะไม่บอกบีนบ้างเลยหรอ” ผมตอบไปตบท้ายด้วยประโยคเชิงคำถามก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแก้มของเด็กบอยเบาๆ

“อนาคตบางครั้งมันไม่แน่นอนจริงๆเนาะ   สิ่งที่แน่นอนมันคือความไม่แน่นอนจริงเหมือนกับที่เราคุยกันเมื่อวันก่อน   ว่าเราต้องเจอกับคนอีกหลายคนชีวิต  เจอกับปัญหาอีกหลายอย่างที่จะเข้ามาในชีวิต”

“เป็นอะไรไปบอย  อยู่ๆทำไมช่วงนี้ชอบพูด  ชอบทำอะไรแปลกๆ ” ผมถามบอยไปด้วยน้ำเสียงเชิงปลอบประโลม

“ไม่มีอะไรหรอก” บอยตอบก่อนยิ้มหวานให้ผมทีหนึ่ง

“ขอให้วันนี้ตอนนี้บีนมีบอยอยู่ข้างๆก็พอนะ” 

ผมตอบไปตามความรู้สึกที่เป็นอยู่  ไม่ใช่ว่าวันต่อไปไม่อยากมีบอยนะ  เพียงแต่ว่าไม่อยากนึกถึงมันมากกว่าว่ามันจะเป็นอะไรจะดีขึ้นหรือเลวลง  จากแต่ก่อนที่ผมเคยคิดเล็กคิดน้อยว่าการจะเริ่มต้นกับคนๆหนึ่งมันเป็นเรื่องที่ยาก  เพราะเราไม่รู้ว่าจะคบกันอย่างไร   คบกันถึงตอนไหน  คนๆนั้นจะทำให้เราเสียใจไหม  เอาเป็นว่าตอนนี้ผมตัดเรื่องอดีต  อนาคตต่างๆออกก่อนแล้วกัน 

“บอยชอบบีนนะ  บีนน่ารัก  บีนเข้มแข็ง  บีนดูเก่งไปหมดทุกอย่าง  ไม่เหมือนบอยที่ยังต้องให้คนอื่นมากำหนดชีวิตตัวเองอยู่”

“พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงหรอ  โดนพ่อแม่ดุมาหรือเปล่า”

“เปล่าหรอก  บีนง่วงยัง  เราไปนอนกันไหม”

“เออไปสิ  จะได้ปรับเวลานอนด้วย  เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าๆ”

เวลาสามทุ่มกว่าเราเลือกที่จะนอนเร็วขึ้นเพื่อที่เวลาเปิดเทอมไปแล้วจะได้ปรับตัวไม่ให้นอนดึก  ผมกับบอยนอนลงบนเตียงก่อนหันหน้ากอดกันไว้  บอยประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากหนึ่งครั้งเป็นเชิงบอกว่าฝันดี  ผมไม่อยากยอมแพ้เลยดึงหน้าบอยมาหาผมแล้วจุ๊บที่ปากเบาๆ  บอยยิ้มให้ผมก่อนเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง  แล้วผมก็หลับไปในอ้อมกอดที่อบอุ่น


................................................................................................

อากาศหนาวเย็นที่เกิดจากแอร์ทำให้ผมต้องดึงผ้าห่มที่ตัวเองถีบลงไปไว้ใต้เท้าขึ้นมาก่อนจะวาดเขียนไปทางซ้ายเพื่อจะกอดบอยไว้  แต่กลับมีแต่ความว่างเปล่าและได้ยินเสียงน้ำไหลในห้องน้ำ  บอยมันจะรีบอาบน้ำไปไหนนะ  ผมก็ไม่ได้สนใจมากจึงตั้งใจนอนต่อ

“บีนครับ”  อืม  ทำไมต้องมาปลุกกันด้วยนะ  เคยเป็นไหมครับเวลาคนมาพูดกับเราตอนนอนอยู่มันน่าหงุดหงิดจริงๆนะ 

“บีน   บอยต้องไปแล้วนะ”

“อืม  บอยจะไปไหนหรอ” ผมถามไปทั้งๆที่ตาก็ยังไม่ลืมและตัวเองก็ยังเบลอๆอยู่

“บอยต้องไปแล้ว  ดูแลตัวเองด้วยนะ”


“อืม  เดี๋ยวโทรหานะ”



เตียงที่ยวบลงเมื่อกี้เพราะบอยนั่งลงกลับเด้งขึ้นอีกครั้งเพราะเด็กบอยเหมือนเดินไปเอาของแล้วกลับมายืนข้างๆเตียง  ดึงผ้าห่มตัวผมให้เป็นระเบียบอีกครั้ง


“อืม  ขอบคุณนะ  ปิดห้องให้ด้วย”  ผมพูดไปทั้งที่ยังหลับตาอยู่และหลับลงอีกครั้งก่อนจะได้ยินเสียงที่พูดของบอยที่ผมฟังไม่ค่อยถนัดนัก



บอยก้มหน้ามาใกล้ผมก่อนใช้มือลูบที่หัว


“ดูแลตัวเองนะบีน   คนดีของบอย  บอยต้องกลับไปอยู่ที่ของบอยแล้ว”



ความที่ไม่ได้ใส่ใจบวกกับความที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม



ทำให้ผมไม่ได้สนใจอะไรในสิ่งที่บอยพูดมากนัก

 

“พี่รักบีนนะ”



...

บีนทำไมต้องขี้เซาช่วงนี้ด้วย  บอยมีอะไรในใจ  บอยเป็นใคร  บอยจะไปไหน 
 :ling3:

ผู้อ่านสองสามท่านที่สังหรณ์ใจแล้วทายอะไรเกี่ยวกับบอยนั้นจะคิดถูกหรือไม่  :katai2-1:

โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ 

ขอบคุณมากๆนะครับที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นกัน  รักคนอ่าน  :mew1:

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 22-09-2015 15:16:35
 :o8:

โอ้ยยย

บอยเป็นใครเนี่ย ทำไมเรียกตัวเองพี่??

เฉลยทีเต๊อะะะะ

 :katai4:


(ช็อตนี้แล้วอยากให้บอย-บีนจริงๆ ถึงแม้ตอนแรกจะให้โอ้ตเป็นพระเอกก็เถอะ อิอิ)


ปอลิง ยังไม่ลืมกี้นะ = =* ทำไว้แสบมาก
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 22-09-2015 15:34:17
บอยดีกว่าโอ๊ต
 โอ๊ย บอยเป็นใครเนี่ย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-09-2015 15:41:29
บอยค้าบ บอยไปไหน  :o12: บอยเสร็จงานแล้วหรือว่าไปต่างประเทศ ใจหายอะ
เศร้าไปกับทั้งสามคนเลย โอ๊ตแบบน้องยังเด็กอะ น้องชอบบีนแต่ต้องมาเจอภาพบาดตาแบบนี้
ได้นอนด้วยกันก็แค่ใกล้ตัว เห้อ สงสารปนหน่วงนิดๆ  :mew5:
 :กอด1:

ปอลิง ยังคาใจไม่หายนะ ตอนที่บอยป๊ะกับเจ้านายที่หน้าห้อง บอยแอบมีพิรุธอ่า
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 22-09-2015 16:07:54
BB เท่านั้น
ไม่ใช่ OB
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 22-09-2015 16:13:21
สรุปแอ๊บเด็กเหมือนกันซะงั้น
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-09-2015 16:32:32
 :ling1: บอยจะไปไหน อะไรยังไงเนี่ย อยากรู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: wnkth ที่ 22-09-2015 19:06:31
บอยเป็นใครเนี่ย อยากรู้แล้ว
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 22-09-2015 19:43:59
พี่อะไรกานนนนนนนนนนน ถูกส่งมาแอ๊บเด็กเหมือนกันเรอะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 22-09-2015 19:47:17
บอยเป็นครายยยยย!
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-09-2015 20:30:32
บอย นายเป็นใคร แล้วทำไมเรียกตัวเองว่าพี่ มาแอบเนียนเป็นเด็กมอปลายเหมือนกันเหรอเนี่ย :katai1:
คือสรุปพวกโอ๊ตนี่หน้าแก่เอง จับไม่ได้ว่าบีนกับบอยอายุเยอะกว่าตัวเอง :m20:
ว่าแต่บอยจะไปไหน ทำไมอยู่กับบีนไม่ได้ ไม่ยอมบอกความจริงอีกต่างหาก :katai1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: clock_nuchchee ที่ 22-09-2015 20:52:57
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: บอยเป็นใคร หรือบอยถูกส่งให้มาทำคดียาเสพติดให้โรงเรียน หรือบอยถูกส่งมาแบบบีนแต่ไม่สำเร็จ โอ๊ยยยยยยย งง
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 23-09-2015 07:34:40
แบบนี้ต้องพูดว่า "ตูว่าแล้วววววววววว"
แต่บอยไปเร็วกว่าที่คิดนะเนี่ย
ได้กลิ่นมาม่า TT.TT
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: CheeRss ที่ 23-09-2015 12:48:41
บอยเป็นใคร บอยจะไปไหน ฮืออ ไม่เอามาม่านะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 23-09-2015 15:46:27
 :really2:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและก็แสดงความคิดเห็นกันนะ

ที่จริงบอยไม่ได้หน้าแก่นะ   o22บอยในจินตนาการของผู้แต่งจะประมาณนี้เน้อ :hao7:

https://www.youtube.com/embed/Gh5F02B9sXo   

หน้ายังละอ่อนอยู่   ใครอยากรู้บอยเป็นใคร   :ling3:   รออ่านตอนต่อไปได้แล้วนะทุกคนนนนนนน  ไม่มาม่ามากหรอก  มั้ง?

นิยายตอนต่อไปไม่เกิน ๒๔ ชั่วโมง ได้อ่านแน่นอน  :katai4:
     
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / เรื่องบอย
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-09-2015 20:53:22
 :ling3: :ling3: :ling3:

บอกว่าไม่มาม่า ทำไมต้องมีมั้งด้วย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๕ ๒๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / เรื่องบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 23-09-2015 20:54:48
 :z13: จิ้มๆ รอๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 24-09-2015 00:24:12
เหตุการณ์ในเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ยังอยู่ใน  พ.ศ  ๒๕๕๕ นะครับ 
ที่กำหนด พ.ศ.เพราะว่าผู้แต่งกลัวตัวเอจะงหลงๆลืมๆ เรื่องอายุของตัวละคร


ตอนที่ ๑๖    :mc4:


สายๆวันอาทิตย์ผมตื่นมาเพราะเสียงเรียกเข้าของมือถือที่ผมดันลืมปิดเสียงแต่กลับไม่ใช่คนที่นึกว่าจะโทรมา  กลับเป็นป่านที่ไม่ได้คุยกันนาน  ผมกับนางเลยนัดเจอกัน  กินข้าว  ดูหนังกันทั้งวัน  จนลืมคิดถึงเรื่องบอยไปชั่วขณะ

ตั้งแต่เมื่อเช้ามืดที่บอยบอกว่าต้องไปนี่เด็กมันจะไปไหนนะ  ด้วยความสงสัยผมจึงกดหาเบอร์บอยแล้วโทรออก   

ไม่รับ


โทรติดนะครับ


แต่ไม่รับ


ผมกดโทรออกเป็นรอบที่ห้า  แต่ก็ไม่รับ


รอบที่สิบเปิดลำโพงไว้ก็ไม่รับ   บอยจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ  ผมเริ่มคิดไปต่างๆนานา  รถชน  อันนี้คงไม่ใช่หรอกถ้าชนต้องมีคนโทรมาแจ้งหรือว่าล้มในห้อง


ผมตัดสินใจส่งข้อความทางไลน์ไปว่า 

-    อยู่ไหนบอย 

-     จะมาห้องบีนไหม

บอยอ่าน  แต่ไม่ตอบ  ผมพยายามคิดในแง่ดีอาจจะยังไม่ว่าง   

ยิ่งคิดมากยิ่งฟุ้งซ่าน  ผมเลยหาอย่างอื่นทำจัดกระเป๋า  ขัดรองเท้า  เตรียมเสื้อผ้าชุดนักเรียนที่จะไปเรียนพรุ่งนี้  พรุ่งนี้โรงเรียนคงปล่อยเร็วขึ้นมาสักหนึ่งชั่วโมงเพราะเปิดเทอมวันแรก


เสียงสัญญาณของโรงเรียนเป็นที่รู้กันว่าต้องไปเข้าแถวในโรงยิมขนาดใหญ่  ผมรีบวางกระเป๋าไว้ในห้องก่อนจะมองไปที่โต๊ะบอยซึ่งไม่เพียงแค่โต๊ะของกี้ที่ไม่มีกระเป๋ามาวางเป็นเชิงบอกว่าลาออกแล้ว  แต่เป็นโต๊ะบอยด้วยที่ว่าง  เมื่อเช้าก่อนมาโรงเรียนผมก็โทรหาไปอีกครั้งแต่ก็เหมือนไม่มีสัญญาณซะอย่างนั้น 

“สุวิทย์ๆ  เห็นบอยไหม  มันไม่มีเข้าแถวหรอ”

“กูไม่เห็นเลยบีน  ครั้งสุดท้ายที่กูคุยกับมันก็สามวันก่อน  กูนึกว่าอยู่กับมึงเลยไม่ได้ถามอะไรมันมาก”

“อ้าว  นี่บีนโทรไปไม่รับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  เมื่อเช้าโทรก็ไม่ติด”
ขนาดเพื่อนสนิทจริงๆมันยังไม่รู้เลย

“เฮ้ย  มันจะเป็นอะไรหรือเปล่าวะบีน”  ระหว่างทางที่เดินขึ้นห้องวิทย์มันก็มาถามผมอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง

“ไม่รู้สิ  ใจไม่ดีเลย”  ตอนนี้กังวลไปหมดแล้วครับ  จะไปไหนทำไมไม่บอกกัน

ทางพวกโอ๊ต  ไบท์  อ๊อฟ  เห็นผมหน้าเครียดๆก็ถามกัน  วิทย์เลยอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟัง  เพื่อนๆก็ต่างพากันปลอบผมว่าบอยคงติดธุระ  ผมก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับพร้อมกับคิดไปในทางที่ดี  บอยคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ

“สวัสดีค่ะ  วันนี้เปิดเทอมวันแรกนะคะ  ครูเลยเอาตารางเรียนมาแจกนักเรียนกัน  อ้าวสมชายช่วยครูแจกหน่อยลูก”

ครูก็พูดไปเรื่อยๆ  พูดโน่นพูดนี่ผมไม่ได้สนใจอะไรหรอก  แต่สิ่งที่ครูพูดต่อไปนี้ทำให้ผมตกใจมากและเสียใจมากที่สุด

“เรื่องสุดท้ายนะคะ  มีเพื่อนเราลาออกจากโรงเรียนสองคนนะ  คนแรกณัฐชัยนะ  เพื่อนเขาไปเรียนที่ภูเก็ต” อีกี้นั่นเอง

“อีกคนคือ  ภัทรพล  นะคะ”  ผมจุกครับ  ถึงกับพูดไม่ออก  ได้ยินแต่เสียงฮือฮาของเพื่อนและก็เสียงของสุวิทย์ที่ถามครูขึ้นก่อน
ที่ครูจะเดินออกจากห้อง

“บอยเขาได้บอกไหมครับครู  ว่าจะไปเรียนที่ไหน”

“เอ่อ  อันนี้ครูก็ไม่รู้เหมือนกันนะ  เหมือนไม่ได้ให้เหตุผลที่ลาออกไว้”

ผมคงทนนั่งต่อไปไม่ได้  จะทำยังไงกับความรู้สึกที่เหมือนจะเป็นลมแขนขาอ่อนแรงเป็นเพราะเมื่อเช้ากินแค่ขนมปังแผ่นเดียวเพราะตื่นสายบวกกับเรื่องของบอยที่ทำให้ผมสับสนกระอักกระอ่วนใจ  ทำไมบอยไปแบบนี้นะ  ทำไมบอยไม่บอกกันก่อน  ทำไมกัน

ผมลุกขึ้นว่าจะไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำเสียหน่อย  แต่จังหวะที่ลุกขึ้นหูกับอื้อไปซะดื้อๆ  ตาเริ่มพล่ามัว  ได้ยินแต่เสียง

โอ๊ตเรียก บีน บีน ก้องอยู่ในหัว 

ก่อนตัวจะเซเตรียมจะล้มลงกับพื้น


เหมือนมีคนแบกผมไว้  ความรู้สึกเป็นแบบนั้น

เตียง

ห้องพยาบาล 

ผมพยายามลืมตาขึ้น  ก็มีคนเอาอะไรมาให้ดม  ปลดกระดุมเสื้อกับเข็มขัดให้คลายออก

“ดีขึ้นยังบีน”  นี่โอ๊ตนี่นา

“อืม”  โอ๊ตลูบหัวผมเบาๆ

น้ำตาไหล  ผมน้ำตาไหลครับ  แต่พยายามพลิกตัวไปอีกทางไม่ให้โอ๊ตเห็น 
พยายามบอกตัวเองว่าต้องอดทนไว้  บอยอาจจะยังคงอยู่ที่หออยู่ก็เป็นได้

ผมนอนอยู่ห้องพยาบาลถึงเที่ยงก็ออกมาแล้วขึ้นไปเรียนที่ห้องต่อ 
คนที่นั่งอยู่ข้างกันก็ตกใจพร้อมกับดุเล็กๆว่าทำไมรีบขึ้นมา


“โอ๊ต  โอ๊ตพาเราไปหาบอยหน่อยนะ”

โอ๊ตมองหน้าผมก่อนจะบอกว่า “ได้สิ”

หลังจากเลิกเรียนโอ๊ตจึงบอกกับคนขับรถมารับกลับบ้านให้พาไปที่หอบอยก่อน
ผมถึงหอเปิดประตูรถก็เปิดประตูออกทัน  โอ๊ตก็วิ่งเหยาะๆตามมาติดๆ  ผมเดินไปถึงหน้าประตูอพาร์ทเม้นท์ก็ต้องชะงักลง  จริงด้วยสิมันต้องใช้คีย์การ์ดเข้า  แต่ว่าผมจำเบอร์ห้องได้

ผมเลยกดเลขห้องที่โทรศัพท์หน้าประตูโทรเข้าไปที่ห้อง  แต่ไม่มีใครรับสักคนจึงเดินไปที่อ๊อฟฟิศของอพาร์ทเม้นนี้

“พี่ครับ  ขอรบกวนหน่อยครับ  คือผมจะมาหาเพื่อนที่ห้อง๓๐๑  แต่ว่าเข้าไม่ได้พี่ช่วยไปดูที่ห้องให้ได้ไหมครับ” ผมเรียกแม่บ้านที่ดูแลที่นี่  ก่อนวานให้ช่วย

“ห้อง ๓๐๑ เหรอน้อง  เอ๊ะ ห้องนี้เขาย้ายไปตั้งแต่เช้าวันเสาร์แล้วน้อง” 
คำตอบที่ทำผมงงไปอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันนี้  แสดงว่าเย็นวันศุกร์ที่บอยบอกว่าเก็บของนี่คือเก็บของย้ายห้องหรอกหรือ

“อ้าว  ย้ายไปไหนครับ  เขาได้บอกอะไรหรือเปล่า”  โอ๊ตที่ยืนอยู่ข้างๆถามขึ้น

“พี่ไม่รู้นะน้อง  น้องเขาไม่ได้บอกไว้นะ  แต่เห็นบอกว่าย้ายด่วนเหมือนจะกลับไปต่างจังหวัด  พ่อแม่มาช่วยขนด้วยนะ เดี๋ยวพี่เอาใบเซ็นชื่อให้ดูนะ”

“ครับ” ดีนะครับที่ให้ดู  บางหอจะไม่ให้ดูพวกใบสัญญษของคนอื่น

“บีน  กูลืมเอามือถือในรถ  เดี๋ยวกูไปเอาก่อนนะ” โอ๊ตเดินกลับไปที่รถซึ่งจอดอยู่อีกฝั่ง

“นี่ค่ะน้อง” 

ผมรับใบสัญญาหอของบอยมาดู  ก็ไม่ได้บอกข้อมูลอะไรมาก  แต่ที่งงก็คือตรงเซ็นชื่อมันไม่ใช่ชื่อของบอย
บอยชื่อ ภัทรพล  ประเสริฐสุข   แต่ชื่อกลับเช็นว่า ธีระพล  แจ่มจันทร์  แต่มันก็เป็นลายมือบอยนะผมจำได้  กระดาษอีกใบที่ติดมาด้วยเป็นสำเนาบัตรประชาชนของบอยเซ็นสำเนาถูกต้องแล้ว  แต่ชื่อก็เป็น  ธีระพล  แจ่มจันทร์  ผมรีบพับสำเนาบัตรยัดใส่กระเป๋ากางเกงก่อนเดินไปคืนใบสัญญาเช่าให้กับแม่บ้าน 

“ได้ดูยัง”

“ดูแล้วก็ไม่มีอะไร” 

ผมว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรแน่ๆหรือบอยจะปลอมตัวมาแบบผม  แต่จะปลอมตัวมาเพื่ออะไรล่ะ  ตำรวจมาจับยาเสพติดอย่างนั้นหรอหรือว่ามาทำแบบเดียวกับผม

ผมนั่งคิดไปตลอดทางไม่พูดไม่จา   โอ๊ตไปส่งผมถึงหอก่อนที่ผมจะบอกว่าไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้กลับไปเถอะ  ผมถึงห้องก็รีบถอดรองเท้าวางกระเป๋าก่อนจะหยิบสำเนาบัตรประชาชนที่บอยเซ็นกำกับไว้  ใต้ชื่อก็ธีระพล  ในบัตรก็ธีระพล  แจ่มจันทร์  เกิดวันที่  ๓ ธันวาคม  ๒๕๓๐  นี่ผมดูไม่ผิดใช่ไหมครับ  บัตรของเด็กบอยบอกว่าเกิดปี ๓๐
ปี ๓๐ แสดงว่าปีนี้บอยก็ต้องอายุ  ๒๕  แล้วใช่ไหม

แสดงว่าวันที่ผมได้ยินแว่วๆเมื่อเช้ามือวันก่อนว่า 

พี่รักบีน 



ก็คือ


ติ๊ง  ติ๊ง

ติ๊ง ติ๊ง

ใครมาหาอีกนะ  ผมรีบพับกระดาษแล้วเอาแก้ววางทับไว้  ขณะที่ผมเดินไปประตูก็ยังไม่สามารถบอกอารมณ์ของตัวเองได้ถูกว่าจะเศร้า  เสียใจ  สงสัย  หรือจะโกรธดี  มันตีกันไปหมดในหัวสมอง


“คุณบิ๊ก”

“สวัสดีครับ”       

“........” ผมไม่พูดอะไร  เดินไปเปิดตู้เย็นก่อนจะรินน้ำส้มมาให้เจ้านายหนึ่งแก้ว

“เป็นอะไร  ทำไมทำหน้าอย่างนั้นหรือว่าผมไม่ได้แจ้งว่าจะมาเลยโกรธ”  ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อยเจ้านาย 

“เปล่าครับ”

“หรือว่าซ่อนใครไว้ในห้องนี้หรือเปล่า”

“ไม่มีหรอกครับ”  ผมเดินอ้อมไปแล้วนั่งลงที่อีกฝั่งของโซฟา  “ผมขอถามหน่อยนะครับคุณบิ๊ก”

“ถามว่า”

“นอกจากผมแล้ว  มีใครทำงานแบบเดียวกับผมไหม  ที่ต้องปลอมตัวแล้วไปดูแลลูกคนอื่น”

“มีสิ  อ้าวนี่ดูไม่ออกหรอ”

“เหมือนความว่ายังไงครับ” อย่าบอกนะว่าบอย

“ก็ไอ้คนที่คุณบอกว่าจะมาห้องคุณวันก่อนๆนั้นไง  คนที่ผมเปิดประตูออกไปแล้วไปเจอพอดี”

“บอยนั่นเหรอครับ” 

“เออใช่ๆ นายบอยนั่นแหละ  บอยมันรู้จักผมนะเพราะผมเคยไปคุยเรื่องปลอมตัวด้วย  แต่มันก็คงแสดงสมบทบาทไปหน่อย”

ผมนั่งอึ้งไปนึกถึงเรื่องที่ผ่านๆมา  ไม่น่าล่ะ  ถึงบอยจะดูหน้าเด็กก็เถอะแต่ดูจากลักษณะแล้วมันดูเป็นเหมือนผู้ใหญ่  ความคิดความอ่าน  การพูดจา  การกระทำต่างๆแต่ผมก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากเพราะบางครั้งก็ยังติดนิสัยขี้เล่นเหมือนเด็กเวลาอยู่ใกล้ๆผม  แสดงว่าสุวิทย์ก็คงเป็นแบบโอ๊ต

“แสดงว่าบอย”

“ใช่ ถูกต้องตามที่คิด”

“งานของคุณผมก็ไม่ได้คิดเองหรอกนะ  ไอ้วิธีแปลกๆแบบนี้  แต่ผมเห็นคุณอาสุพจน์ที่เป็นกรรมการผู้บริหารแกเป็นคนทำ  พอดีผมกับคุณอาแกสนิทกัน  แกบอกว่าคุณแม่น้องวิทย์คือคุณรัชนีแกเป็นคนจัดการทุกอย่าง  แกเอาลูกน้องในบริษัทผมนี่แหละปลอมตัวไป  เพราะเห็นว่าบอยนี่มันนิสัยดี”

“แล้วยังไงต่อครับ”

“มันก็ได้ผลสิ  วิทย์จากเด็กติดเกมส์  นอนดึก  ไม่ไปเรียนพิเศษ  อยู่ก็ก็เริ่มหันมาสนใจการเรียนเพราะว่าติดเพื่อนใหม่ที่ชื่อบอย  ซึ่งย้ายเข้าตอน ม.๔ เทอมแรก   บอยนี่แหละที่ผมเอามาเป็นตัวอย่างแล้วผมก็ทำตามที่แม่ของวิทย์ทำทุกอย่าง  สุดท้ายโอ๊ตมันก็ดีขึ้นอย่างที่เราเห็นกัน”

“แสดงว่าบอยก็ต้องอายุมากกว่าผมล่ะสิ ” 

“ใช่  ถูกต้อง  นี่เจอกันอีกทีคุณก็ต้องเรียกบอยว่าพี่แล้วนะ ฮ่าๆ” ผมไม่ตลกตามเจ้านาย  คุณบิ๊กแกเลยหุบยิ้มไป

ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษที่มีแก้วเปล่าทับไว้แล้วคลี่ออก  พร้อมอ่านให้คุณบิ๊กฟัง

“นายธีระพล  แจ่มจันทร์  เกิดวันที่ ๓ ธันวา ๒๕๓๐  ที่อยู่ตามสำเนาคือที่จังหวัดหนองคาย ”

“อ้าว  แล้วนี่ไปเอาสำเนาบัตรของบอยมาจากไหนบีน”

“จิ๊กมาจากหอบอยครับ  บอยย้ายออกจากโรงเรียนแบบไม่บอกไม่กล่าวเพื่อนๆสักคำ  แม้กระทั่งผมก็ไม่บอกรายละเอียดอะไรเลย   มีแค่บอกว่าบอยต้องไปแล้วก็แค่นั้น”

“อ้าวเหรอ  แต่ที่จริงสัญญางานบอยมันสองปีนะ  สงสัยคงมีธุระต้องกลับบ้านหรือเปล่า”

“ผมไม่รู้”

“นี่เราตกหลุมรักเขาหรือเปล่าบีน”
 
“ก็ประมาณนั้น  คงไม่ใช่ผมคนเดียวแต่เป็นบอยด้วยที่ดูเหมือนจะรักผม  ผมคิดว่าเขาก็คงรักผมด้วยแต่ทำไมเขาทำแบบนี้ล่ะ  เขาทำให้ผมเจ็บนะจะไปก็บอกกันบ้างสิ   ไม่ใช่ว่าหนีหายไปเลย  ถึงจะไม่ได้บอกว่าทำงานแบบเดียวกันแต่ก็ขอให้บอกว่าจะกลับบ้านก็ได้”

พูดไปก็จุกที่คอ  เหมือนจะร้องไห้  ปวดที่ใจแต่น้ำตากลับไม่ไหล

“ใจเย็นๆก่อนคุณบีน  บอยมันอาจจะมีเหตุผล  เอาอย่างนี้ไหมล่ะ  ลองคุยกับคุณรัชนีดูไหมเผื่อนายอยากรู้เรื่องของบอยเพิ่มเติมว่าเป็นใคร  มาจากไหน  ทำไมลาออก  คุณรัชนีเป็นแม่ของสุวิทย์นั่นแหละ  คุณอาแกเป็นคนใจดีไม่ต้องกลัว  แกก็พอรู้ๆจักคุณจากผมอยู่บ้างเพราะมีแค่คุณคนเดียวที่ปลอมตัวไปทำงานแบบบอย”   

“อย่างนั้นก็ดีเหมือนกันครับ” 

คุณบิ๊กหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกหาคุณรัชนี  ได้ใจความว่า  นัดคุณรัชนีไว้พรุ่งนี้ตอนเย็นที่ร้านอาหารในห้างหรู



.............................................................................................

ผมรอเวลาเลิกเรียนอย่างใจจดใจจ่อ  พอถึงเวลาก็รีบกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  แล้วไปที่ที่นัดคุณรัชนีไว้ก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงด้วยความที่อยากรู้ความจริงแบบละเอียด 

ผมนั่งรอแถวๆร้านอาหารราคาแพงเกือบหนึ่งชั่วโมงก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา

“คุณบีนใช่ไหมคะ  พี่เป็นเลขาของคุณรัชนี    คุณบีนแจ้งชื่อคุณรัชนีที่ร้านแล้วเข้าไปนั่งรอได้เลยค่ะ  เดี๋ยวคุณรัชนีจะตามเข้าไป”

“ครับ  ขอบคุณครับ”

ผมแจ้งชื่อคุณรัชนีไป  เด็กเสิร์ฟก็พาผมเข้าไปนั่งในห้องรับประทานอาหารส่วนตัว
รออยู่ไม่นาน  คุณรัชนีก็เข้ามาเธอยังดูไม่แก่มากคงประมาณสี่สิบปลายๆ  ท่าทางดูใจดี

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ  น้าเป็นแม่น้องวิทย์เองนะ” แกดูเป็นคนใจดีจริงๆ ดูไม่ถือตัว

“ครับ”

“อยู่โรงเรียนวิทย์เป็นอย่างไรบ้าง  ดื้อไหม”

“ไม่นะครับ  เดี๋ยวนี้ออกจะเงียบๆนั่งแถวหน้า”

“โอเค  เรานัดน้ามานี่อยากรู้เรื่องของบอยใช่ไหม  เห็นคุณบิ๊กบอกมาแบบนั้น  น้าก็พอจะเข้าใจความรู้สึกหนูอยู่นะ”

นี่คุณบิ๊กคงไม่ได้ไปบอกคุณรัชนีหรอกนะว่าผมกับบอยสนิทกันเกินเพื่อน

“ประมาณนั้นครับ  อยู่ๆก็หายไปเลยเลยอยากรู้ว่ามันยังไงกันแน่”

“อืม  เอาไงดี  ตอนแรกบอยเขาเป็นพนักงานในส่วนแผนกที่น้าดูแลนี่ล่ะ  น้าก็เห็นบอยผ่านๆคือ  ย้อนไปเมื่อตอนสองปีก่อนบอยเขาเป็นเด็กจบใหม่  แต่ด้วยความที่มาทำงานไม่ตรงสายเลยได้ทำแค่งานธุรการ  แต่ความที่ว่าเป็นเด็กดี  ขยัน  ถึงแม้ว่าเงินเดือนจะน้อย  น้ากับเด็กๆในแผนกเลยเอ็นดูบอย  เช้าๆบอยก็จะชงกาแฟ  ทำขนมปังให้พี่ทานกัน  ดูนิสัยดีมาก”

แล้วแกก็เล่าต่อไปว่า “ด้วยความที่บอยเป็นเด็กดีแต่ลูกน้านี่สิ  ไม่ค่อยมีเพื่อนเอาแต่ติดเกมส์  ไม่ตั้งใจเรียนเลยอยากให้บอยไปเป็นเพื่อนกับวิทย์  น้าเลยคิดแผนการนี้ขึ้นมา  ซึ่งมันก็ได้ผลนะตอนวิทย์ขึ้น ม.๔  น้าก็ให้บอยปลอมตัวเป็นเด็ก  ม.๔ ไปเป็นเพื่อนกับวิทย์เสียเลย  ทางบอยก็ยินดีรับทำนะเพราะเห็นว่าเงินดีด้วย เพราะทางบ้านบอยที่อยู่ต่างจังหวัดก็ไม่ได้รวยอะไรมากแถมช่วงนั้นก็มีปัญหาเรื่องเงิน   แล้วบอยก็ทำงานนี้ออกมาได้ดีด้วย  ควบคุมความประพฤติลูกน้าได้เป็นอย่างดีแต่บอยก็มีบอกกับน้านะว่าพ่อแม่เขาก็บ่นอยากให้เขากลับไปทำงานแถวๆบ้าน   น้าก็ไม่ได้อะไรมากถ้าอยากไปน้าก็จะให้ไป  แต่มีข้อแม้คือต้องห้ามติดต่อกับเพื่อนในชั้นเรียนอีกเดี๋ยวความแตก  อันนี้หนูบีนเข้าใจใช่ไหมลูก”

“เข้าใจครับ  แล้วรถยนต์นี่เป็นของใครครับ”

“อ๋อ  รถยนต์เป็นของทางเราเอง  คือบอยเขาไม่อยากจะไปอยู่หอแพงๆเลยอยู่หอที่เคยอยู่อยู่แล้ว  ทางน้าก็กลัวว่าจะเดินทางไปลำบาก  คุณพจน์พ่อน้องวิทย์เลยไปเอารถมือสองจากเต้นท์เพื่อนเขามาให้บอย  นี่วันก่อนน้ายังบ่นให้บอยอยู่นะว่าทำไมไม่ค่อยใช้รถ  แต่อาทิตย์ก่อนบอยก็มาคืนรถให้น้าแล้วล่ะ  น้าเองก็ยังอดใจหายไม่ได้นะ”

“ครับ  บอยได้บอกไหมครับว่าเหตุผลที่เขาออกคืออะไร”

“เหตุผลหรอ  เอ่อ  บอยบอกแค่ว่าพ่อแม่ให้กลับไปทำงานแถวบ้านนะ  รู้สึกบ้านบอยจะอยู่หนองคาย  แล้วก็มีปัญหานิดหน่อยที่ต้องไปเคลียร์  จำได้ว่าบอยบอกแค่นี้นะหนู”

“มีปัญหาที่ต้องเคลียร์เหรอครับ  อาทิตย์ก่อนพ่อแม่บอยก็มานะครับ”

“ใช่ๆ พ่อแม่มาเก็บของกลับไปก่อน  นี่ยังเสียดายเลยนะบอยยังทำงานไม่ครบสัญญาเลย  แต่ทางน้าก็ให้เงินไปอีกก้อนหนึ่ง  เผื่อจะได้ใช้ในตอนที่ขัดสน”

“คุณน้าใจดีมากเลยนะครับ”

“โอ๊ย  ไม่ได้ใจดีมากหรอกหนู  น้าเห็นคนมันนิสัยดี  ตั้งใจทำงานก็อยากช่วย  ว่าแต่เราจะทำอย่างไรต่อไป”

“ผมอยากไปหาบอยครับ  อยากไปถามเหตุผลให้ชัดเจน  อยากได้คำตอบ”

“บอยก็นะ  ดีหมดทุกอย่าง  อยู่ๆทำไมมาตัดสินใจอะไรแบบนี้นะ  แทนที่คนทำงานเหมือนๆกันจะบอกกันบ้างก็ไม่ได้  สงสัยจะเชื่อน้ามากเกินไปว่าไม่ให้ติดต่อกับใครถ้าทำงานนี้เสร็จ   เมื่อวานวิทย์ลูกน้าก็บ่นๆนะว่าอยู่เพื่อนสนิทอยู่ๆก็ลาออกไปเฉยๆ น้าก็สงสารวิทย์มันเหมือนกัน  ยังไงก็ฝากดูวิทย์ให้หน่อยนะลูก”

“ได้ครับ  ขอบคุณคุณน้ามากนะครับ  ที่ช่วยอธิบายเรื่องของบอยให้ผมฟัง  ถ้าผมเจอบอยจริงๆแล้วบอยถามว่าใครบอกผมจะไม่บอกแล้วกันว่าคุณน้าเป็นคนบอก”

“ไม่เป็นไรๆบอกไปเลยก็ดี  ถ้าบอยมันกล้าโกรธเดี๋ยวน้าจะโทรไปด่ามันเอง” 

คุณรัชนีหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะบอกให้ผมทานข้าวที่สั่งมาได้แล้ว   เรานั่งทานข้าวกันคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ก่อนที่จะแยกกันกลับ

หนองคายอย่างนั้นหรือ  ผมเปิดข้อมูลการเดินทางวางแผนไว้พร้อม 

ที่อยู่ตามบัตรประชาชนและก็ที่อยู่ของบอยอย่างละเอียดที่คุณรัชนีให้ผมไว้ก่อนกลับ 
แต่เรื่องนี้ผมคงต้องฉายเดี่ยวแล้วล่ะจะให้โอ๊ตหรือเพื่อนๆ รู้ไม่ได้ว่าไปไหน  ยังไงเรื่องของบอยก็คงต้องปกปิดกันต่อไปเพราะถ้า
เพื่อนๆรู้ว่าบอยปลอมตัวมากลัวว่าความจะแตกโดนซักมาจนถึงตัวผมอีก


ขออย่างเดียว 

ขอรู้เหตุผลว่าทำไมต้องหายไปอย่างนั้น


วันศุกร์นี้แหละคือวันเดินทาง  ขาดเรียนสักวันคงไม่เป็นอะไรหรอก


“สู้ๆนะบีน  ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย”


ผมบอกกับตัวเองในใจก่อนหลับไปบนเตียง  เตียงที่ไม่มีบอยมานอดกอดผมเหมือนเดิมแล้ว



...



สุดท้ายก็  พี่บอย  :katai2-1: นะทุกคน  ไม่ใช่เด็กบอยอีกต่อไป  แหมนึกว่าบีนจะได้กินเด็กแล้วซ :rureadyะอีก

แล้วบีนจะไปเจอบอยไหมนะแต่ระดับบีนเก่งอยู่แล้ว  เรื่องกี้เล่นยายังไปสืบมาได้  เรื่องหาที่อยู่ตามทะเบียนบ้านแค่นี้  คงหมู

จากเรื่องวัยรุ่นใสๆ จะไปสู่โหมดมาม่าได้หรือไม่   :katai1:แบบนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปนะจ้ะ  จะไม่สัญญานะว่าจะรีบมาต่อเพราะเคยสัญญาแล้วมาต่อช้ามาก ฮ่าๆ   :katai3:

รักคนอ่านทุกคนเด้อ 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นกันทุกครั้งเลยนะครับ :mew1:

ฝันดีนะครับ  บายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 :bye2:

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: M i l k T e a ที่ 24-09-2015 00:41:38
ง่อววว งี้พระเอกคือบอยรึป่าว(?) แต่ยังเชียร์โอ๊ตนิดๆนะ ถ้าเกิดบอยกลับบ้านเพราะทำผู้หญิงท้องแล้วต้องแต่งงาน(?) #มโนหนักมาก//โดนตบ รออ่านต่อค่า
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 24-09-2015 00:54:37
กรี๊ด พี่บอยทำแบบนี้ได้ไง
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-09-2015 05:56:58
เง้อ. ซะอย่างนั้นนะคุณเจ้านาย
สงสารหลายคนเลย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 24-09-2015 06:07:57
เชียร์บอยนะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 24-09-2015 13:23:30
บีน-บอย  :mew1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 24-09-2015 19:14:31
สรุปคือ พี่บอย :hao3: คงไม่ใช่กลับบ้านไปดูลูกหรอกนะ :m16:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: 아틷 ที่ 28-09-2015 21:37:37
รอครับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: clock_nuchchee ที่ 28-09-2015 22:27:15
นั้นไง ว่าแล้วเชียว พี่บอย นะพี่บอย  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 29-09-2015 04:21:53
แอบสงสัยบอย แต่ไม่นึกว่าจะสถานะเดียวกับบีนด้วย

รออ่านต่อเช่นเดิมครับ^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๖ ๒๔/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๖ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 29-09-2015 11:44:36
รีบมาเลยครับ
เค้ารอกันเต็มแล้วเนี่ย
ไม่ไหวๆๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 30-09-2015 11:16:50
 :hao3:

ตอนที่  ๑๗

ผมเดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินนานาชาติอุดรธานีและรีบเดินออกมาจากตัวอาคารเพื่อจะไปขึ้นแท็กซี่ไปที่สถานีขนส่งในเมืองแล้วขึ้นรถตู้ต่อไปหนองคาย  เมื่อวานผมหาเรื่องโกหกโอ๊ตแทบจะเอาตัวไม่รอดครับ  ว่าต้องขาดเรียนไปทำธุระจริงๆ ผมเข้าใจโอ๊ตนะว่าเป็นห่วงกลัวผมจะทำอะไรแบบคิดสั้นหรือหนีหายไปอีกหนึ่งคนเลยไม่ค่อยอยากให้ผมอยู่คนเดียว

กว่าจะถึงหนองคายซึ่งระยะไม่ไกลกันมากครับแต่ที่ลำบากก็คือ  รถตู้ไปส่งไม่ถึงในตัวเมืองครับ  ส่งแค่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่นอกเมืองออกมาอีกนิดๆผมเลยต้องขึ้นรถสายไปลงท่าเสด็จเพราะว่าผมค้นที่อยู่ตามชื่อถนนแล้วบ้านบอยจะอยู่ใกล้ๆกับท่าเสด็จ

“อ๋อซอยนี้อยู่ติดๆกับซอยริมโขงเลยครับน้อง   คงจะมีบ้านเลขที่ติดอยู่  ถ้าพี่จำไม่ผิดตรงนี้ที่น้องจะไปมันเป็นเกสท์เอ้าส์นะ”

“ครับๆ ขอบคุณมากครับพี่”  ผมเอาที่อยู่ให้พ่อค้าแถวๆนั้นดูก่อนจะเดินสะพายเป้ไปตามถนนริมโขงแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่ตามหาไป

เดินมาถึงประตูรั้วบ้านที่คิดว่าเป็นบ้านของบอย  บ้านเลขที่ถูกต้องตามที่อยู่ที่ได้มา  ผมตีระฆังที่ห้อยไว้เป็นสัญญาณแทนกริ่ง
สักพักก็มีหญิงวัยกลางคนเดินออกมาจากตัวบ้านซึ่งดูแล้วมันไม่น่าเหมือนเกสท์เฮ้าส์เลยสักนิด

“สวัสดีค่ะ  มาหาที่พักเหรอคะ”

“เปล่าครับ  พอดีผมมาหาบอยครับผมเป็นเพื่อนบอย” ผมยกมือไหว้แก ผู้หญิงคนนนี้น่าจะเป็นแม่ของบอยนะดูจากหน้าตาแล้ว  แต่แกก็ยังทำหน้างงๆแล้วพูดออกมาว่า “แต่บอยไม่ได้บอกแม่ไว้เลยนะลูกว่าเพื่อนจะมา”

“ผมมาเองครับ  ไม่ได้นัดกับบอยไว้  พอดีผมโทรหาบอยไม่ติดด้วยเลยไม่ได้บอกไว้ก่อน”

“อ้าว  ถ้าอย่างนั้นก็เข้ามากินน้ำในบ้านก่อนลูก  เดี๋ยวแม่จะโทรหาบอยดูก่อน  ว่าแต่หนูชื่ออะไร”

“ชื่อบีนครับ”

“เดี๋ยวแม่ไปโทรหาบอยก่อนนะ   พ่อ พ่อ พ่อ  เพื่อนไอ้บอยมันมาหา  เอาเบอร์ลูกมาให้แม่หน่อยมันเปลี่ยนเบอร์เมื่อวานเบอร์มันว่ายังไงนะ”

ถึงว่าบอยมันเปลี่ยนเบอร์เมื่อเช้าก่อนขึ้นเครื่องผมโทรหาแต่ว่าไม่ติดเลย

“ขอบคุณครับ”  ผมไหว้ขอบคุณคนที่เอาน้ำมาให้ผมซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นพ่อของบอย

“เป็นเพื่อนไอ้บอยมันหรอไอ้หนู   ทำงานที่เดียวกันใช่ไหม”

“ครับ  พอดีผมอยากมาเที่ยวต่างจังหวัดแต่ไม่ได้บอกบอยไม่ก่อน”

“ดีๆพักที่นี่ก็ได้  ดีนะที่มาช่วงนี้  ถ้ามาช่วงอาทิตย์ก่อนนะคนเยอะมากเพราะมันเป็นวันออกพรรษา เ กสท์เฮ้าส์ของลุงที่เปิดให้แขกเข้าพักก็เต็มแล้วเต็มอีก”

“ผมพึ่งรู้นะครับว่าบ้านของบอยเป็นเกสท์เฮ้า”

“บ้านเราก็ไม่ได้เปิดแบบทางการหรอกไอ้หนู  ถ้าช่วงเทศกาลถึงจะรับแขก   วันนี้ก็พักที่นี่แล้วกันลุงให้อยู่ฟรี”

“ขอบคุณครับ”

“แม่โทรบอกบอยให้แล้วนะบีน  บอยมันไปโรงไม้อยู่เดี๋ยวมันบอกจะเข้ามาแล้วล่ะรอก่อนนะลูก บ่ายโมงกว่าๆแล้วกินข้าวมาหรือยัง”

“กินมาแล้วครับ” ผมคงกินอะไรไม่ลงหรอกครับ   กำลังคิดอยู่ว่าถ้าบอยมาจะทำหน้ายังไงอยู่  ผมนั่งรอบอยเกือบชั่วโมงก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดที่โรงรถ

“บอยมาแล้วบีน  เดี๋ยวแม่ไปรับมันก่อนนะ”  แม่ออกไปรับบอยหน้าบ้าน  ผมได้ยินเสียงแม่พูดกับบอยว่าผมนั่งรออยู่ข้างใน
บอยเดินเข้ามาในบ้านก่อนมองมาที่ผม  ผมก็มองไปที่บอยเรามองหน้ากันไม่นานแม่ของบอยก็พูดขึ้นมา

“พาเพื่อนเอาของไปเก็บในห้องพักก่อนก็ได้บอย    บีนเขาเดินทางมาเหนื่อยๆเผื่ออยากนอนพัก”

ผมยืนรอบอยที่ไปเอากุญแจห้องพักที่ทางเดินก่อนที่บอยจะเดินผ่านแล้วนำหน้าผมไปแล้วเปิดประตูห้องพัก  กดเปิดแอร์  ผมเดินตามเข้าไป  ถอดรองเท้า  วางกระเป๋าไว้ที่เตียงและถอดเสื้อคลุมที่เปียกเหงื่อออกเหลือแค่เสื้อกล้าม
บอยยังคงเช็คของในห้องก่อนจะเดินมาหาผม  เราไม่พูดกัน  ไม่มีคำทักทายจากผมและจากบอย  เรายืนจ้องหน้ากันมาสองนาทีแล้วและเป็นผมที่เคลื่อนตัวเข้าหาบอย   ก่อนจะกอดบอยแล้วเอาหน้าซบลงที่บ่าของบอย

“บีนมาเหนื่อยๆนอนพักก่อนนะ”

“อืม” ผมตอบก่อนคลายกอดออกจากตัวบอยแล้วเดินไปไปล้างหน้าล้างตา  เปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงสบายๆในห้องน้ำก่อนที่จะออกมาแล้วพบว่าบอยไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว

ผมนอนหลับไปเกือบสองชั่วโมงและจะรู้สึกตัวขึ้นเมื่อมีคนเข้ามาในห้องแล้วนั่งลงอยู่ที่โซฟา 
ผมลืมตาขึ้นแล้วมองดูบอยนั่งกดมือถือที่โซฟาอย่างเบื่อ q


“ตื่นแล้วหรอ  ไปล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าไป  เดี๋ยวบอยจะพาไปนั่งเล่นริมโขง”


...



เราเดินออกมาจากซอยบ้านบอยไม่ไกลก็มาถึงริมแม่น้ำโขงที่มีม้านั่งเล็กๆให้นั่งชมวิวทิวทัศน์กับอากาศที่เริ่มจะเย็นแล้วในเวลาห้าโมงเย็น  ผมนั่งลงกับม้านั่งก่อนมองไปที่แม่น้ำโขงเห็นมีเรือนำเที่ยว เรือหาปลาเล็กๆ มองข้ามแม้น้ำไปก็เป็นฝั่งประเทศลาวดูไปแล้วที่นี่ก็สงบดี  แต่ผมเชื่อว่าผมและคนข้างๆที่พึ่งนั่งลงจิตใจคงไม่สงบอยู่แน่ๆ


“บอยมากลับบ้านทำไมไม่บอกบีน” เงียบมานานกว่าสิบนาทีผมก็เลยทำลายความเงียบด้วยคำถามเบาๆเหมือนเพื่อนงอนกันเพราะไม่บอกว่าจะไปไหน

“บอยบอกแล้วไง  วันที่บอยกำลังจะกลับแต่บีนนอนอยู่”

“บอกแล้วแต่บอกไม่ละเอียดหรือเปล่า”

“............”  ได้ยินแต่เสียงถอนหายใจเบาๆจากบอย  แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเราเงียบกับไปอีกรอบ  ไม่ได้แล้วผมจะปล่อยให้เงียบไปอีกไม่ได้ 

“บอยต้องกลับบ้านมาเพราะอะไรหรอ”

“............”

“บอย  บีนมาไม่ได้มาฟังบอยถอนหายใจนะ  บอกอะไรบีนสักอย่างสิ  อะไรก็ได้” ผมเริ่มโมโหนิดๆ

“บีนรู้เรื่องเราหมดแล้วใช่ไหม  รู้แล้วใช่ไหมว่าเราไม่ใช่เด็กมัธยม   เราโกหกบีนไหนจะยังหนีบีนมา   บีนก็ยังอุตส่าห์ตามมา  บอยรู้สึกว่าตัวเองแย่ว่ะ”

“เราเป็นเพื่อนสนิท  เป็นคนรู้ใจกันนะบอย  เอาจริงๆบีนโกรธนะตอนแรกที่รู้ว่าบอยทำอาชีพเดียวกันกับบีนแต่ไม่ยอมบอก  แต่บีนก็เข้าใจว่ามันเปิดเผยไม่ได้  แต่ถ้าต้องเลิกทำก็น่าจะบอกกันบ้างหรือบีนเข้าใจผิดไปเองว่าบอยมีความรู้สึกที่พิเศษเศษกับบีนมากกว่าคนอื่น ”  ผมพูดออกไปอย่างน้อยใจ

“บอยก็พึ่งรู้ว่าต้องลาออกจากงานแล้วต้องกลับบ้านก็ตอนเราไปเที่ยวนั่นล่ะ   บอยปฏิเสธพ่อแม่ไม่ได้เพราะเคยสัญญากับท่านไว้ว่าถ้ามีงานทำที่หนองคายจะกลับมาทำ  แม่บอยอยากให้ทำงานใกล้บ้านมากกว่า”

“เรื่องแค่นี้เองบอย  บอยก็น่าจะบอกกัน  บอยไม่สงสารเราบ้างหรอที่อยู่ดีๆคนที่เรารู้สึกดีด้วยก็ดันหายไปเฉยๆรู้ไหมว่าเราและเพื่อนๆเป็นห่วงมากขนาดไหน  บีนไม่โอเคเลยนะกับการที่บอยหนีปัญหาออกมาเลยนะ”

“เรากลัวบีนเสียใจ”  นี่คือเหตุผลของบอยเหรอนี่  เหตุผลของคนอายุมากกว่าผม

“มีแค่นี้จริงๆใช่ไหมเหตุผลของบอย   มองหน้าบีนสิบอย” บอยหันมามองหน้าผมแบบไม่สู้ดีนัก “บอย  แล้วบีนต้องทำยังไงต่อไป”

“บอยอยากให้บีนลืมบอยนะ  ลืมไปเลย  เราก็เหมือนเพื่อนร่วมงาน  งานที่มันไม่มีอยู่จริงเมื่อเลิกทำก็ควรเลิกติดต่อ  เลิกรู้จักกัน  บอยอ่อนแอเกินกว่าจะคบกับบีนแล้วพัฒนาความสัมพันธ์กับไปเรื่อยๆ”

“บีนต้องลืมยังไงวะบอย  ลืมคนที่เข้าหาเราก่อนโดยที่เราไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย  ความรู้สึกมาสวนทางกันมากเลยนะบอยมาเต็ม ๑๐๐ แต่บีนเริ่มจาก ๐ แต่ตอนนี้บีนเต็ม ๑๐๐ นะบอย  ไม่อย่างนั้นไม่มาถึงขนาดนี้หรอกหรือว่าบอยไม่ได้คิดอะไรกับเราแล้ว  บอยตัดใจง่ายขนาดนั้นเลยหรอ” บอยยังคงนั่งก้มหน้ารับฟังผม

“บีนโกรธบอยมากไหม  บอยไม่อยากให้บีนรู้สึกแบบนั้นนะ”

“ไม่ได้โกรธ  แต่มันเจ็บใจเข้าใจไหม  มันติดอยู่ที่ใจเหมือนมันลบไม่ออก”

“บีนอาจต้องใจเวลา  ไม่ใช่ว่าเราตัดใจได้เลย  บอยก็พยายามอยู่  เชื่อบอยตอนนี้เราไม่เหมาะกันแล้ว  ด้วยระยะทาง ด้วยความเข้าใจ  ด้วยเหตุผลที่มันซับซ้อน”

ผมลุกขึ้นและเดินออกมาจากริมทางเดินก่อน  ผมคงต้องกลับแล้วล่ะครับ  คงไม่มีประโยชน์แล้วถ้าพูดกันแล้วไม่ได้เหตุผลอะไรที่มันเพียงพอ  บอยบอกว่ามีเหตุผลของเขาที่ผมฟังดูแล้วมันไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่แล้วเหตุผลที่ซับซ้อนคืออะไร

“จะไปไหน”  บอยรีบวิ่งตามผมมาก่อนจะจับแขนผมดึงไว้ไม่ได้เดินต่อ

“จะกลับแล้ว  พอก็พอบอย  บีนเหนื่อยแล้ว” ผมเหนื่อย  อยู่ดีๆก็อยากยอมแพ้ขึ้นมา  อารมณ์ตอนนี้ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้วมันจุกขึ้นมาที่คอ  ขืนยังพูดกันอีกผมคงได้ร้องไห้แน่ๆซึ่งมันเป็นอารมณ์ที่ผมไม่อยากให้ใครมาเห็น

ผมเดินเข้าบ้านแล้วตรงไปที่ห้องก่อนจะเจอกับแม่ของบอย

“อ้าวกับมาแล้วหรอหนู  มาๆมากินข้าวกัน  วันนี้แม่ทำหลายอย่างเลย  นานๆทีไอ้บอยมันจะมีเพื่อนมาที่บ้าน  ข้าวเหนียวก็มีกินไม่ได้แม่ก็มีข้าวสวยร้อนๆให้”  แม่ดึงตัวผมเข้าครัวไปก็เจอพ่อบอยนั่งรออยู่แล้ว

“อ้าวไอ้บอยละหนู”

“สงสัยกำลังเดินมาครับ”

“มาๆบอยมากินข้าวลูก”  แม่เรียกบอยให้มานั่งข้างๆผม

“อันนี้อร่อยนะลูกลาบหมู”  แม่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมแกตักลาบหมูให้ผม

“เออเราชื่อบีนใช่ไหม” พ่อถามผม  ผมพยักหน้ารับแล้วแกก็พูดต่อ “เดือนหน้าจะมาบ้านบอยอีกไหมบีน    เดือนหน้ามีงานใหญ่นะ”

“งานอะไรหรอครับ” ผมถามพ่อบอยไป

“อ้าวไอ้บอย  แกยังไม่บอกเพื่อนแกหรอวะ”

“พ่อ” บอยดูตกใจแล้วเรียกพ่อเหมือนจะห้ามๆไว้ไม่ให้บอกผม

“เดือนหน้าบอยจะแต่งงานแล้วบีน  นี่เดือนหน้าอย่าลืมมานะกินข้าวเสร็จเอาที่อยู่มานะเดี๋ยวแม่ส่งการ์ดไปให้”
สุดท้ายแม่ก็พูดเอง  แม่บอกเรื่องที่บอยยังไม่บอกผม  เหตุผลที่มันคงดูยากเย็นบอยถึงไม่ยอมบอกผม

“...................”

“..................” ทั้งผมกับบอยนั่งเงียบไม่มองหน้ากัน  ไม่ตอบโต้  ไม่คุย

เคยเป็นไหมครับ  เวลาโดนดุ โดนว่า หรือมีเรื่องเสียใจตอนเรากินข้าวอยู่  เราจะกลืนข้าวลงคอไม่สะดวกเลยต้องอมไว้ในปาก  ซึ่งตอนนี้ผมก็เป็นแบบนั้น  กว่าจะกลืนได้แต่ละคำก็แทบแย่

“บอยเขาแต่งกับเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กนั่นแหละ  เป็นคู่หมั้นกัน  พ่อฝ่ายเจ้าสาวก็ชอบบอยนะอีกทั้งยังให้งานมันด้วย  มันเลยต้องรีบกลับมาทำงานที่บ้านนี่แหละ” 

ผมรับฟังผู้ใหญ่สองคนที่อธิบาย  เล่าเรื่องราวของลูกชายตัวเองกับว่าที่ลูกสะใภ้อย่างภูมิอกภูมิใจ   ก็แน่ล่ะลูกชายคนเดียวของบ้านกำลังจะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา

ผมรีบกินข้าวให้หมดจานแล้วขอตัวพ่อกับแม่กลับไปที่ห้อง  จะกลับก็กลับไม่ได้หรอกครับตอนนี้รถสาย  รถเมล์  ตามจังหวัดที่ไม่ใหญ่มากมักจะหมดเร็วเป็นธรรมดา  ผมกลับมาที่ห้องด้วยอาการที่เสียใจก็ไม่ใช่  จะทุกข์ใจ  เศร้าก็ไม่ใช่ 


ยิ้ม 

ผมยิ้ม  ผมยิ้มให้กับตัวเองที่กระจกห้องน้ำ 

ผมยิ้มแบบเหนื่อยๆให้กับตัวเองที่ตามผู้ชายมาถึงบ้าน  ผู้ชายที่เขาหนีผมมา  ผู้ชายที่เขากำลังจะแต่งงานอยู่แล้ว 

หึ หึ ผมขำออกมาด้วยอารมณ์เบื่อหน่ายกับชีวิต  ถ้ามีแฟนอยู่แล้วแล้วมาให้ความหวังกันทำไมวะบอย  คงรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าเร็วๆจะได้รีบไปจากที่นี่แล้วกลับไปตั้งใจทำงานเสียที




ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมที่นอนอยู่บนเตียงดิ้นไปดิ้นมาเพราะนอนไม่หลับ  อยู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

แกร๊ก  เมื่อผมไม่เดินไปเปิดมันก็เปิดเข้ามาเอง  ผมแกล้งหลับในขณะที่บอยเดินเข้ามาแล้วนั่งอยู่ที่ริมเตียงก่อนจะโน้มตัวเข้ามาแล้วเอามือลูบหัวผม  พูดกับผมเบาๆว่า

“พี่ขอโทษนะบีน  พี่รักบีนนะ  แต่มันเป็นไปไม่ได้แล้ว”

ผมค่อยๆลืมตาขึ้น  ทำเหมือนพึ่งตื่น  เรามองหน้าหันสักพักก่อนที่บอยจะนอนตะแคงลงข้างๆผมแล้วดึงผมเข้าไปกอด  ผมมองที่ใบหน้าของบอยที่ตอนนี้ผมคงหอมคงจูบไม่ได้แล้วเพราะว่าบอยมีเจ้าของแล้ว

“มีแฟนแล้วไม่ใช่หรอ  มากอดทำไม”

“พ่อแม่ก็พูดไปแบบนั้น  ผู้หญิงคนนั้นชื่อดา  ดาเป็นเพื่อนกับเราตั้งแต่เด็กๆแล้ว  พ่อของเราเป็นเพื่อนกันเลยหมั้นกันไว้แบบเล่นๆว่าถ้าลูกชายลูกสาวโตแล้วจะให้แต่งงานกัน”

“จะบอกว่าตัวเองโดนคลุมถุงชนว่างั้น”

“แม่ก็พึ่งบอกบอยวันที่ไปเยี่ยมบอยเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เอง  บอยกลัวบีนเสียใจ ผิดหวังเลยไม่บอกบีนไง”

“ถ้าบอกก็คงทำใจไปนานแล้ว  คงไม่ต้องมาถึงขนาดนี้หรอก  คนจะแต่งงานกันเราไม่ห้ามหรอกนะบอย  ได้เป็นลูกเขยโรงค้าไม้นี่ไม่ธรรมดานะ”  ผมพูดออกไปด้วยอารมณ์เหนื่อยๆ

“บอยก็ไม่ได้รักเขามากขนาดนั้นหรอก  แต่ก็คงอยู่กันไปเพราะมันปุบปับทางนั้นอยากแต่งก็แต่งเลย  แถมค่าสินสอดก็ออกให้เองตั้งครึ่งนึง”

“เขาคงอยากได้บอยมาก  บีนจะทำใจแล้วกัน  แต่บอยอย่าหายไปจากบีนได้ไหม” สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายง้อบอย

“อยากให้เป็นอย่างนั้นหรอ”

“อย่างน้อยก็มีเบอร์มีถือไว้ก็ยังดี  เผื่อได้คุยกันทางไลน์บ้างเวลาคิดถึงนะ”  อยู่ดีๆน้ำตาผมก็ไหล  ไม่เอานะผมปลอบตัวเองในใจ  ไม่ร้องไห้สิบีน

“อย่าร้องสิครับคนเก่งของพี่”

“ฮึก ฮือ” ยิ่งปลอบยิ่งร้อง  ผมร้องโฮออกมากหลังจากที่เก็บไว้นาน  ร้องนานเป็นสิบกว่านาทีก็ยังไม่หายสะอื้น

ผมเริ่มหยุดร้องก่อนที่บอยจะคลายกอดจากผมออกเล็กน้อยแล้วเอามือมาเช็ดน้ำตาผมออกจากหน้า

“ร้องไห้ตาบวม  ไม่น่ารักเลย”

“ก็เพราะใครล่ะ”

“บอยจะยังติดต่อกับบีนนะ  แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือบอยต้องแต่งงานแล้วนะ”

“เข้าใจ  ขอแค่อยู่ในฐานะอะไรก็ได้”

“เราก็เป็นเพื่อนกันต่อไปหรือบีนอยากให้บอยเป็นพี่    จริงสิบีนอายุน้อยกว่าเราตั้งสองปี”

“สามปีต่างหาก  บอยอย่าหายไปอีกนะ  ขอเถอะถือว่าสงสารกัน”

“ได้ๆ  เดี๋ยวเอาเบอร์ให้  ป่ะนอนกันคืนนี้บอยจะนอนลูบหลังให้” ผมทำตามบอยอย่างว่าง่าย  ทั้งที่ยังเศร้าเสียใจกับเรื่องของบอยและหลับไปกับเรื่องที่เราคุยกันไว้ที่ดูเหมือนจะคลี่คลายไปได้ด้วยดี

...



“จองตั๋วไว้แล้วหรือยัง” บอยเดินเข้ามาในห้องพักแล้วตรงเข้ามาลูบหัวผมขณะที่ผมกำลังยัดเสื้อใส่กระเป๋าเป้

“จองไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

“เมื่อคืนหลับสบายไหม”

“สบาย” แต่ตื่นขึ้นมาแล้วใจมันหวิวๆนี่สิ  ปกติถ้านอนด้วยกันตื่นมาบอยจะนอนอยู่ข้างผมถึงจะไม่ได้กอดกันก็เถอะ  แต่นี่ตื่นมาแล้วบอยดันหายไป  ผมต้องทำใจแล้วสินะ

“เดี๋ยวบอยขับรถไปส่งนะ   ใกล้ๆเองจะได้ไม่ต้องรีบ”

ผมได้ตั๋วเครื่องบินรอบเที่ยงครับ  เรากินข้าวเช้ากันประมาณเก้าโมงก็ออกเดินทางไปยังสนามบิน

“หาบ้านบอยเจอได้ยังไงหรอ  ทำไมเก่งจัง”

“ก็ไปที่หอบอย  แล้วมันมีที่อยู่บอกในใบสัญญาเช่า”

“ขอบคุณนะบีนที่มาหาบอย  ทั้งที่บอยก็ไม่น่าทำให้มันยุ่งยากแบบนี้เลย”

“บางอย่างถ้าเรารู้อยู่แล้วก็คงไม่ทำหรอก  ถ้าอย่างนั้นคนคงไม่บ่นกันหรอกว่า  ถ้ารู้อย่างนี้นะ”

เหมือนผมก่อนที่จะรู้เหตุผลของบอยก็เคยบ่นกับตัวเองนะว่าถ้ารู้อย่างนี้นะว่าผมกับบอยจะลงเอยกันแบบนี้  คงไม่ไปยุ่งกับบอยหรอก  แต่ตอนนี้ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้  ผมก็คงอยากจะรู้จักกับบอยเหมือนเดิม  คิดเสียว่ายังไงก็ได้เพื่อนเพิ่มแล้วกัน  คิดไปแล้วทำไมผมเป็นคนหายโกรธง่าย  ให้อภัยคนง่ายอย่างนี้นะ

“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม  ตอนนี้ก็เกือบสิบโมงอีกตั้งนาน” บอยถามผมที่พึ่งไปเช็คอินมาก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา

“แล้วจะให้ทำอะไรรอ  บอยรีบกลับไปเถอะเผื่อมีงานต้องทำ”

“วันนี้วันอาทิตย์นะ  ไม่มีหรอกงาน”

“เผื่ออยากพักผ่อนไง  เดี๋ยวเราไปนั่งรอที่ห้องพักชั้น ๒”

“อืม  เอาอย่างนั้นก็ได้  ถ้าบอยจะไปกรุงเทพแล้วไม่มีที่นอนจะโทรหาไลน์หานะ”

“โอเค  เจอกันใหม่อีกทีแล้วกัน”

ผมเดินขึ้นบันไดเลื่อนที่มันเลื่อนขึ้นเรื่อยๆช้า  เหมือนความห่างเหินของเราที่เริ่มห่างกันมากขึ้นช้าๆ  มันก็เป็นธรรมดาของโลก  มีพบก็ต้องมีจาก  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำใจยากสำหรับผมนะ  ถึงจะบอกกันว่าพบกันใหม่นะแต่ต่างฝ่ายก็รู้ดีว่ามันอาจจะไม่มีทางพบกันอีกก็ได้   ผมขึ้นบันไดเลื่อนมาจนสุดท้ายแต่ไม่หันหลังกับไปดูบอยเพราะกลัวตัวเองจะรับไม่ได้เสียเองว่าหันไปแล้วจะไม่เจอบอย  จะเจอกับความว่างเปล่า

เครื่องบินกำลังเคลื่อนตัวอยู่บนรันเวย์ก่อนที่มันจะเหินตัวขึ้นไปบนฟ้า 


ผมมองลงไปที่สนามบิน 



ตอนนี้บอยจะกลับหรือยังนะ  บอยจะยังยืนมองเครื่องบินที่ผมนั่งอยู่หรือเปล่า

...

https://youtu.be/6NypylpPPQI   เพลงที่คิดน่าจะเข้ากันดีกับตอนนี้  "พบกันใหม่"

...


มาแล้วหลังจากหายไปนานเกือบหนึ่งอาทิตย์  ขอโทษที่ทำให้รอกันนะครับ  เอ๊ะหรือว่าไม่มีคนรอ ฮ่าๆ

อยากบอกว่าที่บีนไม่เรียกบอยว่าพี่เพราะไม่อยากให้บอยเป็นคนอื่นนะครับ  อยากให้บอยเป็นบอยที่เคยรู้จักกัน :katai1:

บีนเป็นคนง่ายๆบางครั้งก็ดูยอมง่ายเกินไปเนาะ แต่ก็นะบีนเป็นคนมีความเป็นผู้ใหญ่สูงที่จะเข้าใจอะไรที่มันยากๆให้ง่ายได้นะ  แต่คนจะไปก็ต้องไป คนมันจะแต่งงานแล้วจะให้บีนร้องกรี๊ดๆเอาพวงหรีดไปงานแต่งก็ยังไงอยู่  บีนยอมแต่บีนก็ยังเสียใจอยู่ :hao5:

วันนี้มาสายๆ ฝนที่บ้านเราก็ตกปรอยๆ  ช่วงนี้มรสุมเข้าๆออกๆ ปลายหน้าฝนฝนก็เร่งตกกลัวมันจะขึ้นหน้าหนาวไปก่อน  ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ 

รักคนอ่านและคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยเช่นกัน  จุ๊บๆนะ :mew1:


หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-09-2015 11:31:47
 :z3:   ปล่อยเขาไปเถอะบีน  วันนึงเราจะทำใจได้เอง
เขาไปแต่งงานแล้วเราก็เป็นแค่เพื่อนเนอะ เซ็งบอยอะ ถ้าไม่ตามไปชาตินี้คงไม่รู้อะนะว่าแฟนตัวเองหายไปไหน รักแล้วทำงี้เหรอ  :mew5: บอกให้ลืม แสรด

ตอนนี้ทีมโอ๊ตเต็มตัวแล้ว ทั้งสองฝ่ายกลายเป็นคนอกหัก งั้นไปรักกันเถอะไป 
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 30-09-2015 13:18:23
ช้า แต่ ซึ่ง มากอ่ะ
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 30-09-2015 13:22:59
 :ruready เหตุผลตลกเนอะง่ายๆจริงด้วย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 30-09-2015 13:29:17
อืม บอยมาให้ความหวังบีนทำไม
ดีแล้วที่ตัดใจบีน เจ็บวันนี้ดีกว่าทรมานไปจนตาย
ผู้ชายมีเยอะแยะหาใหม่เลย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-09-2015 13:44:04
 :fire:

บอยแม่มเลวมาก

ทำงี้กะบีนได้ไง ห๊าๆๆๆๆๆ


เซงฟร่ะ เปลี่ยนพระเอกเป็นโอ๊ตเลยค่ะ  :hao3: เอ๊ะ หรือจะเป็นคุณบิ๊กดีน้ออออ  :laugh:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: pim14 ที่ 30-09-2015 14:19:52
รมณ์เสียอ่ะ แรกๆก็แอบียร์โอ๊ต แต่เห็นว่าบีนเอียงมาทางบอย ก็เลยตามมาเชียร์บอย สุดท้ายมาตกมาตายแบบนี้ สงสารบีนนะ เอาล่ะ กลับมาตั้งสติใหม่ สรุปว่าบทพระเอกจะตกที่ใคร ชีวิตของน้องบีนช่างมีคนมาพัวพันมากมาย หวังว่าคนต่อไปน่าจะเป็นตัวจริงเสียงจริงนะคะ เพี้ยง ขอให้คู่กับโอ๊ตละกัน สมฐานะดี อิอิ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-09-2015 15:16:36
ตอนแรกที่บีนรับงานคอยดูแลโอ๊ตนี่เชียร์ให้ โอ๊ตบีน คู่กันนะ
พอเจอบอยที่คอยมาทำดีมาเอาใจมาคอยเป็นที่พึ่งและบีนเองก็มีใจให้นี่ทุ่มใจให้ บอยบีน เต็มที่
แต่พอเจอแบบนี้จุกฉิบหายเลย  อยากโดดถีบขาคู่ใส่บอยมากกกกกกกกกกก :fire: :fire: :fire:
บีนตัดใจให้ขาดมองคนใหม่เถอะ รักษาใจตัวเองให้หายดีแล้วมีชีวิตที่ทำให้บอยต้องเสียใจ
ที่บอยเลือกที่จะแต่งงานจนยอมทิ้งบีนให้เสียใจ

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 30-09-2015 17:18:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: Anonimo ที่ 30-09-2015 17:46:13
อุตส่าห์เอนมาทางบอย  อย่าเสียใจไปเลยบีนยังมีโอ๊ตอยู่นะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 30-09-2015 21:04:51
คงไม่ใช่เนื้อคู่กันเนอะ อย่าเสียใจเลยนะบีน :กอด1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 30-09-2015 21:05:02
สรุป โอ๊ตเป็นพระเอก?
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: clock_nuchchee ที่ 30-09-2015 21:39:16
เข้าใจความรู้สึก บีนเลยอะ แบบว่า เริ่มจาก 0 มาจน 100 แต่สุดท้าย ต้องลดไปเหลือ 0 อย่างเดิม แม่งโครตยาก  ส่วนบอย ถึงจะเข้าใจแต่ก็ไม่ชอบอยู่ดี ทำไมไม่บอกบีนไปเลย ต้องให้บีนมารู้จาก พ่อแม่ ตัวเอง ซะงั้น เห้อ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: daboo ที่ 30-09-2015 22:13:14
เกือบร้องไห้แน่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 03-10-2015 23:47:52
ทีม โอ๊ต555
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 04-10-2015 01:20:20
เจ็บเเทนบีน
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๗ ๓๐/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนบอย
เริ่มหัวข้อโดย: pancakesexy ที่ 07-10-2015 12:59:27
อ่านแล้วน้ำตาไหลตามบีนเลย เข้าใจความรู้สึกนี้ดี ฮืออออออ

ช่างมันเถอะนะบีน เอาล่ะถึงคิวหนุ่มโสดคนต่อไปปปปปปปปปปป

#ทีมโอ๊ต
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๘ ๗/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีน...
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 07-10-2015 13:48:03
ตอนที่ ๑๘

อย่างที่มีคนเคยบอกไว้  งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา  มีพบก็ต้องมีจาก  มันเป็นเรื่องธรรมดาและมันก็คือความจริงของชีวิตที่ต้องสู้และอยู่ให้ได้  ต้องขอบคุณแฟนคนก่อนๆที่ทำให้ผมรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ควรทำตัวอย่างไรไม่ให้คิดฟุ้งซ่านเกี่ยวกับเรื่องความรักที่ผิดหวัง

งานของผมช่วงนี้ก็เป็นไปอย่างราบรื่นครับ  จากที่ผมได้รับมอบหมายให้มาดูแค่โอ๊ต  แต่สุดท้ายเด็กๆในกลุ่มผมก็ได้รับผลดีไปด้วยทั้งอ๊อฟที่พ่อแม่บังคับให้ไปเรียนพิเศษ  อ่านหนังสือก็เรียนดีขึ้นหรือไบท์ที่ดูจะขยันอยู่แล้วก็ช่วยส่งเริมเพื่อนๆในกลุ่มให้เรียนดีขึ้นเรื่อยๆ นี่ยังไม่รวมวิทย์ลูกของคุณรัชนีที่มาเข้ากลุ่มผมเพราะไม่มีเพื่อนสนิทอย่างบอยเหมือนแต่ก่อน ผลลัพธ์ของการทำงานของผมออกมาเป็นแบบนี้ผมก็โล่งใจเป็นอย่างมากจากที่ตอนแรกๆกลัวว่าจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำ

“นะๆมึง   ไปดูหนังเรื่องนี้กับกูก่อนนะ  เดี๋ยวกูบอกให้คนขับรถไปส่ง”

“ก็บอกแล้วโอ๊ตไงว่าบีนไม่ชอบหนังแนวนี้”

พักหลังโอ๊ตเริ่มที่จะเข้ามาใกล้ชิดกับผมมากขึ้นกว่าเดิมครับ  จากแต่ก่อนที่ผมมีบอยอยู่นั้นผมก็ดูออกว่าเด็กคนนี้คงไม่ได้คิดกับผมแค่เพื่อนแน่ๆและยิ่งตอนนี้ผมก็ดูไม่มีใครโอ๊ตก็เริ่มรุกเข้ามาเรื่อยๆ  แต่ผมก็ยังไม่ได้ตอบสนองเด็กมันไปมากนัก  ก็คนมันไม่ได้ชอบนี่นา  อีกอย่างนี่มันหลานเจ้านายตัวเองนะบีน  ผมย้ำกับตัวเองเสมอ

“ไปนอนในโรงก็ได้  กูไม่มีเพื่อนจริงๆ”

“นี่โอ๊ต พวกไบท์มันก็ยังไม่ไปดู  ทำไมถึงไม่ชวนล่ะ” ผมยืนกอดอกคุยกับโอ๊ตอยู่หน้าโรงเรียน  คนขับรถขับมารับโอ๊ตแล้วแต่น้องมันยังไม่ขึ้นไปเสียทีเพราะว่ายังยืนตื๊อให้ผมไปดูหนังหุ่นยนต์ด้วยกัน  แต่ที่ผมไม่อยากไปก็เพราะว่าวันนี้ตั้งใจว่าจะไปซื้อ
ของเข้าห้อง

“พวกมันกลับไปแล้วนี่หว่า  ป่ะๆ ไปกันเดี๋ยวขากลับไปส่ง”
เป็นแบบนี้เกือบมาเกือบเดือนแล้วครับที่โอ๊ตกับผมจะไปดูหนังด้วยกัน  ดูเสร็จน้องมันก็บังคับให้ไปกินข้าวด้วยแบบที่ผมก็ขัดไม่ได้

วันเสาร์ผมตื่นสายๆก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำแล้วเดินออกมาที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะยืนคิดอยู่ในใจคนเดียว  จะใส่ชุดอะไรไปดี  วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของไบท์  ไบท์ชวนผมและเพื่อนๆไปปาร์ตี้วันเกิด 

...

งานวันเกิดไบท์จัดที่บ้านของพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของไบท์ครับ  เห็นโอ๊ตบอกว่าพี่ของไบท์แล้ว  มีบ้านส่วนตัวเลยมาจะที่บ้านที่ดีกว่าเพราะมันไม่อยากไปรบกวนพ่อแม่  พูดง่ายๆจัดที่บ้านพี่จะได้ฉลองกันให้เต็มที่ 

โอ๊ตไปรับผมที่คอนโดก่อนที่เราจะมาถึงบ้านพี่ไบท์  บรรดาเพื่อนในห้องทั้งเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่เพื่อนประถมมัธยมไบท์ก็มาเต็มกันไปหมด  ดูจากสายตาน่าจะเกือบ ๕๐ คน 

“บริการตัวเองเลยนะมึงวันนี้เพื่อนกูเยอะ ส่วนของขวัญขอบใจมากนะโอ๊ต  บีน  พวกไอ้อ๊อฟมันอยู่ข้างๆสระว่ายน้ำเห็นมันรอพวกมึงอยู่”  ไบท์ออกมารับพวกผมหน้าบ้านก่อนที่จะรับของขวัญไป

“เออได้  มึงรับแขกไปเถอะ ป่ะบีน”

“เดี๋ยวๆไม่ต้องจูงมือก็ได้  อายเขา” ผมทักท้วงน้องก่อนจะดึงมือออกจากมือโอ๊ตเบา  แต่มันไม่ฟังและจับมือผมแล้วจูงมือเดินต่อไป

“พี่อิฐสวัสดีครับ” โอ๊ตปล่อยมือผมก่อนจะยกมือไหว้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า

“สวัสดีครับ  เจอไบท์มันแล้วใช่ไหม”

“เจอแล้วครับ”  เดาไม่ผิดคนนี้ต้องเป็นลูกพี่ลูกน้องของไบท์แน่ๆหน้าตาคล้ายๆกัน

“แล้วนี่เพื่อนใหม่หรือ  พี่ไม่เคยเห็นหน้า” 

“สวัสดีครับ  ผมชื่อบีนครับ”ผมยกมือไหว้แกก่อนจะบอกชื่อแกไป

“บีนย้ายมาได้เทอมกว่าๆแล้วครับ”

“น่ารักดีนะ” ใช่  ใช่ไหม  อยู่ๆคือมาชมกันต่อหน้าตาต่อตา ด้วยสายตากรุ้มกริ่มไม่ธรรมดาผมมองออก

“ถ้าอย่างนั้นผมเข้าไปหาเพื่อนๆก่อนนะครับ”

“เชิญครับ”

โอ๊ตรีบจูงมือผมไปที่สระน้ำทันที  “ระวังไว้นะบีน  ไอ้ไบท์มันเคยบอกว่าพี่มันชอบเด็กมัธยม   อย่าอยู่ใกล้มันเด็ดขาด”

“เข้าใจ”  ผมก็ตอบไปอย่างว่าง่าย

ไปหาเพื่อนเราก็คุยกันเฮฮา  พวกเพื่อนกลุ่มผมก็แนะนำผมให้รู้จักกับเพื่อนคนอื่นๆหรือเพื่อนเก่าของไบท์  ก่อนที่ผมจะเดินไปตักอาหารกินบ้าง   ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าเพราะมัวแต่นอน

“ตักกินเยอะๆนะ  อยู่ต่างจังหวัดคงไม่เคยมางานวันเกิดแบบหรูๆแบบนี้สินะ” ผมหันหน้ามองไปตามเสียง  อ๋อ แบงค์  ตุ๊ดเด็กหน้าขาวหนึ่งในสมาชิกกลุ่มติดหน้าต่างที่เคยแกล้งผมเมื่อตอนต้นๆเทอมแรก
ผมไม่ตอบโต้อะไร  เดินถือจานฮอทดอกก่อนจะเดินไปหยิบเอาแก้วน้ำส้ม

“นี่คนพูดด้วยทำไมไม่ตอบ  หยิ่งนักหรอ”

“ไปพูดกับเพื่อนนายเถอะแบงค์  เราไม่มีอะไรจะพูดกับนาย”

“เพื่อนกูนะมี  แต่กูสงสัยว่าเพื่อนชายคนสนิทของมึงนี่หายไปไหนหรอ  ได้ข่าวว่าลาออกไปโดยไม่บอกใครสักคำ  แม้กระทั่งมึงที่คั่วกับมันอยู่”

“นี่  จะมาพูดมาถามเรื่องแค่นี้ใช่ไหม  ไร้สาระ”

“ก็เพื่อนแค่เป็นห่วงก็แค่นั้น  ทำไมต้องพูดเสียงแข็งด้วย  ไม่ดีเลยนะบีน”

“จะมาหาเรื่องก็บอกเถอะ  เราแค่เพื่อนร่วมห้องกันไม่ได้สนิท  ต่างคนต่างอยู่  จบนะ”

ผมพูดเสร็จก็หันหลังกำลังจะเดินกลับไปหาเพื่อนแต่กลับลืมระวังตัวเอง  โดนแบงค์ยื่นขามาจากข้างหลังมาขัดขาผมทำให้ผมล้มหน้าคะมำไปกับพื้น  ขนม ฮอทดอกหล่นกระจายไปหมด  ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเด็กหนุ่มทั้งหลายที่มีร่วมงาน  นี่จะเอาให้อายกันเลยใช่ไหม  ดีนะกำแก้วไว้แน่นเลยไม่แตก  ผมรีบลุกขึ้นเพราะอายคนพร้อมกับหันไปประจันหน้ากับแบงค์

“นี่จะมาแกล้งกันทำไม  มีเหตุผลอะไร”

“แกล้งอะไร  ล้มเองจะมาบอกว่าคนอื่นแกล้งได้ยังไง” แบงค์ยืนกอดอกพูดหน้าตาใสซื่อ

“หาเรื่องกันใช่ไหม”  ผมเดินเข้าไปผลักอกแบงค์จนมันเซไปด้านหลัง 

“เฮ้ยๆ บีนใจเย็นๆ ”  อ๊อฟกับวิทย์เดินมาดึงตัวผมเอาไว้  “เป็นอะไรกันวะ”

“อยู่ๆบีนมันก็มาหาเรื่องแบงค์ก่อน  แล้วก็มาผลักอกแบงค์  พวกนายดูเพื่อนตัวเองให้ดีๆเหนื่อยสิ  อย่าให้เที่ยวกัดคนอื่นไปทั่ว”

“นี่พูดดีๆนะ  ใครหาเรื่องใครก่อน  ที่ล้มลงไปทุกคนก็เห็น  นายต่างหากที่อยู่ดีๆก็มาขัดขาเรา”

“เงียบไปเถอะบีน  คนทั้งงานเขาก็เห็นว่าแกล้มลงเอง  จะมาว่าแบงค์ได้ยังไง” เพื่อนของแบงค์เดินเข้ามาเถียงช่วย  แต่ผมกลับเห็นพวกเพื่อนในกลุ่มมันยิ้มเล็กยิ้มน้อยเหมือนสะใจอะไรบางอยาก

“โน่น  กล้องวงจรปิดแน่จริงก็ไปดูกันสิ  ใครหาเรื่องใครก่อน”  ผมตาไวชี้ไปที่กล้องวงจรปิดที่ติดไว้ริมสระว่ายน้ำ

“กลุ่มโน้นทำอะไรกันครับ  จะเป่าเค้กกันแล้ว  มารวมตัวกันได้แล้วครับ” 

สงสัยเสียงเพลง  เสียงดนตรีจะดังเลยทำให้อีกฝั่งไม่เห็นว่ามีกลุ่มเล็กๆกำลังยืนทะเลาะกันอยู่   พิธีกรประจำงานจึงเรียกกลุ่มผมที่ยืนเถียงกันให้ไปรวมตัวร้องเพลงฉลองวันคล้ายวันเกิดให้ไบท์ 

ส่วนโอ๊ตนี่ก็หายไปเลยหลังจากที่เจอเพื่อนเก่าสมัยประถมก็ไหลไปตามเพื่อนไม่มีท่าทีว่าจะมาอยู่ข้างๆผม  เราร้องเพลงเป่าเค้ก  กินเค้กกันเสร็จบางคนก็กลับไปก่อน  แต่ก็มีอีกส่วนที่ยังอยู่เพื่อรอช่วงเวลาของแอลกอฮอล์ การฉลองแบบจริงจังของหนุ่มวัยมัธยมขบเผาะ   หลายคนยกเพียวแก้ผ้าลงเล่นน้ำกันร้องโหวกเหวกโวยวายตามประสา  บ้างก็ยืนเต้นบนขอบสระ  อย่างกับปาร์ตี้ของฝรั่ง ส่วนผมนั่งจิบฟูลมูนเป็นเพื่อนวิทย์กันสองคนก่อนจะย้ำกับวิทย์ว่าอย่าเมานะ  เพราะดูทรงคุณรัชนีแกจะค่อนข้างเป็นห่วงลูกชาย  วันนี้วิทย์บอกว่าคุณแม่จะมารับด้วย

“นี่เดี๋ยวบีนไปล้างมือก่อนนะวิทย์  ว่าแต่โอ๊ตมันไปไหนแล้ววะ”

“โน่น  กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ในสวนฝั่งโน้น” วิทย์ชี้ให้ผมดูโอ๊ตที่ตอนนี้นั่งคุยกับเพื่อนเก่าอยู่ในสวนอีกฝั่งของสระน้ำ  ผมจึงเดินเข้าไปล้างมือที่ถลอกนิดๆจากที่ล้มเมื่อกี้ที่ห้องน้ำซึ่งมันอยู่ในตัวบ้าน

แสบเหมือนกันนะนี่  ผมคิดอยู่ในใจคนเดียวก่อนจะเอามือที่เปียกไปกับผ้าเช็ดมือ



“อุ้ย”  ตกใจหมด

“อ้าว  ไม่ไปเล่นกับเพื่อนข้างนอกหรอครับน้องบีน”  พี่อิฐที่เดินผ่านห้องน้ำมาก็เจอกับผมที่ออกมาจากห้องน้ำพอดี

“มาเข้าห้องน้ำครับ”  ผมว่าพร้อมกับจับที่มือขวาของตัวเองเพราะอยู่ๆมันก็แสบขึ้นมา

“มือเราเป็นอะไรหรือเปล่านั่น”

“อ๋อ  พอดีมันถลอกนิดหน่อยครับไม่เป็นอะไรมาก” ผมยกมือขวาขึ้นโชว์พี่อิฐ  ก่อนที่แกจะยิ้มๆก่อนถามผมขึ้นว่า

“พี่ขอดูหน่อยนะครับ”  ว่าแล้วแกก็ดึงมือผมไว้ดู  “ทายาไหมเดี๋ยวพี่มียา ไปเล่นซนอะไรมา  หืม”

“ไม่รบกวนดีกว่าครับ”  ผมตอบไปอยากเกรงใจก่อนดึงมือตัวเองกลับเบาๆ

“ไม่เป็นไรหรอกน่า  พี่เต็มใจยาอยู่ชั้นสอง  ไปด้วยกันสิเดี๋ยวพี่ทาให้”

“เอ่อ”  ผมมัวแต่อึกอัก  ไม่ทันแล้วครับแกดึงมือผมให้เดินตามขึ้นไปบนชั้นสองก่อน

ชั้นสองของบ้านก็มีโถงที่เป็นเหมือนห้องรับแขกแต่เปิดแค่ไฟมืดๆสลัวๆไว้เท่านั้น
“นั่งตรงนี้ก่อนนะ  พี่ไปเอายาก่อน” แกคงไม่ทำอะไรหรอกมั้ง  ผมคิดปลอบใจตัวเอง  ไม่น่าขึ้นมากับเขาเลย

“นิ่งๆนะ  เอามือมา   ไม่แสบมากหรอกครับพี่เป็นคนมือเบา”

“ผมไม่ได้กลัวยาแดงเหมือนเด็กเสียหน่อย   แผลไม่ต้องติดผ้าก็ได้ครับ  รอให้มันแห้งเองดีกว่า”

“อ๋อ  อย่างนั้นหรอ  ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่เอายาไปเก็บก่อนนะครับ” 

ระหว่างที่พี่อิฐแกเอาของไปเก็บผมก็เดินดูของตามชั้นหนังสือที่ดูแล้วน่าจะเป็นตู้เก็บของสะสม
หืม  นี่แฟ้มอะไรนะ  ผมหยิบแฟ้มที่มีโปสเตอร์หนังติดอยู่หน้าแฟ้มออกมากจากตู้ก่อนจะเปิดออกดูอย่างไม่เกรงใจ

“ชอบสะสมตั๋วหนังไหมครับ”

“อุ่ย”  ทำไมแกต้องโผล่มาแบบน่ากลัวด้วยนะ  แล้วไม่พูดแบบปกติด้วยนะครับ  ชอบมาชอบใกล้หู  ขนลุก “ชอบสะสมครับ  แต่ปกติบีนจะเก็บตั๋วใส่ถุงใสไว้แยกเป็นปีๆ  ไม่ได้เอาใส่แฟ้มให้ดูเป็นระเบียบแบบนี้”

“อืม  แต่ก่อนที่ก็ทำแบบนี้นะ  ว่าแต่เราชอบดูหนังแนวไหนหรอ”

“ได้ทุกแนวครับ  แต่ช่วงนี้จะไม่ค่อยดูหนังแอ็คชั่นสักเท่าไหร่  เบื่อๆ”  ผมตอบแล้วยิ้มให้แกก่อนที่จะเก็บแฟ้มไว้ที่เดิม “เดี๋ยวผมลงไปหาเพื่อนก่อนนะครับ”

“เดี๋ยวสิ  อยู่คุยกันก่อนนะ  คุยกับเราแล้วสนุกถูกคอดี”  มันสนุกตรงไหนวะ ผมก็พูดๆไปงั้นๆ

“เอ่อ  ครับ”  ผมยอมกลับไปนั่งคุยที่โซฟากับพี่อิฐอย่างว่าง่าย  เหมือนแกมีแรงดึงดูดอะไรสักอย่างให้ผมไม่กล้าปฏิเสธ  พี่อิฐต้องชอบผมแน่ๆ

“ดูหนังไหมหรือจะเล่นเกมส์”

“ผมเล่นเกมส์เพลย์ไม่เป็นหรอกครับ  ขอเป็นดูหนังก็ได้ครับ”

“แต่หนังต้องไปดูที่ห้องพี่นะครับ ในห้องพี่เจอใหญ่กว่า” แกพูดเสร็จก็ยิ้มแบบยิ้มปกติ  แต่ดวงตาแกมีเลศนัย

“ผมคงไม่รบกวนพี่ขนาดนั้นหรอกครับ  ผมลงไปข้างล่างก่อนนะครับ”

“เดี๋ยวสิ  อย่าพึ่งลุก  อยู่กับพี่แล้วกลัวแฟนหึงหรอครับน้องบีน” 

“แฟน  เอ่อ  ผมไม่มีแฟนนะครับ”  โอ๊ตนะเหรอ  พี่อิฐแกคงเข้าใจผิด

“อ้าวพี่ก็นึกว่าโอ๊ตเป็นแฟนเราเสียอีก  อย่างนั้นพี่ก็มีโอกาสสินะ”

“พี่ผมหิวข้าว  ให้ผมลงไปข้างล่างเถอะนะ”  ผมดึงมือออกจากมือแกแล้วรีบลุกขึ้นแต่ไม่ทันพี่อิฐกอดตัวผมจากข้างหลังแล้วเอาผมเข้าไปนั่งตักกอด 

“เอ่อพี่ปล่อยเถอะ  มันหนัก”

“อยู่นิ่งๆสิบีน  ตัวหอมจังเลย”




“พี่อิฐ”  ทำอะไรครับ   

โอ๊ต  โอ๊ตเดินขึ้นมาชั้นสองก็เจอกับพี่อิฐที่กำลังจะหอมแก้มผม ดีที่แกก็ตกใจไปเสียก่อนจึงรีบปล่อยตัวผม  ผมไม่รอช้ารีบลุกขึ้นวิ่งไปหลบอยู่หลังโอ๊ต

“ก็ไม่มีอะไรครับ  พี่ชวนน้องบีนเขามาคุยด้วยเฉยๆแต่น้องคงไม่มีแรง  คงหิวข้าวและก็หน้ามืดจะล้ม  พี่ก็เลยประคองไว้”

“จริงหรอบีน”  ถ้าผมขี้ฟ้องว่าพี่อิฐคิดกับผมเกินน้องนุ่ง  เรื่องราวคงไปกันใหญ่แน่

“จริงๆ ลงไปข้างล่างกันเถอะ” ผมก็ยอมโกหกโอ๊ตไป

“อืม  อย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ  กลับบีน”  พี่อิฐมองตามผมอย่างเสียดาย  ก็ต้องขอบคุณโอ๊ตนะที่มาได้จังหวะพอดี   




“วันนี้กูขอนอนกับมึงนะบีน”

“อะไรนะ   ลุงชัยก็มารับโอ๊ตแล้วไง  ทำไมต้องไปนอนห้องบีนด้วย”

“เถอะนะๆ  เดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นๆค่อยให้ลุงชัยมารับกูกลับบ้าน”

“สงสารลุงมา  ทั้งไปรับไปส่ง  ทีหลังถ้าจะนอนค้างที่อื่นก็นั่งแท็กซี่เอาก็ได้”

ผมนั่งบ่นให้โอ๊ตขณะที่เรากำลังนั่งอยู่บนรถ  โดยมีลุงชัยเป็นคนขับ

“ไม่หรอกมึง  ลุงชัยแกไม่เหนื่อยหรอก  ใช่ไหมครับลุง”

“ใช่ลุงได้ตามสบายเลยครับคุณหนู  อยู่บ้านลุงก็ไม่มีอะไรทำ  คุณท่านให้ลุงทำแค่ขับรถรับส่งคุณหนู”



เอากันเข้าไป  ให้มันได้อย่างนี้สิ






“หลับยังมึง” ผมกับโอ๊ตกลับมาจากงานวันเกิดก็รีบอาบน้ำนอนเพราะว่ามันค่อนข้างดึกแล้ว  แต่จังหวะที่ผมจะเคลิ้มหลับโอ๊ตมันก็ถามขึ้นมา

“อืม  กำลังจะหลับมีอะไรอีก  เฮ้ย  อย่าเข้ามาใกล้สิ”  ถามเฉยๆไม่พอทำไมน้องมันต้องขยับเข้ามาใกล้ผมด้วย

“กูแค่จะบอกมึงว่า  กูเป็นห่วงมึงนะบีน  แล้วก็ไม่ต้องระแวงกูหรอกว่ากูจะทำอะไร  ทีคนอื่นมึงไม่ระวังตัวเลยนะบีน”

“เออรู้แล้ว  ต่อไปจะระวังตัว  แต่บีนไม่ใช่ผู้หญิงนะโอ๊ต”

“ก็ไม่ได้บอกว่ามึงเป็นผู้หญิงนี่หว่า   กูจะบอกว่ามึงน่ารักต่างหาก  คนอื่นถึงอยากเข้าใกล้มึงนัก  แล้วไหนที่บอกว่าเจ็บมือ  ไปทำยังไงให้ล้มไปแบบนั้น”

“ชั่งมันเถอะ  แผลเด็กๆแค่หกล้ม  เฮ้ยไม่ต้องเป่า  ไม่เจ็บแล้ว”  น้องมันดึงมือผมไปจ่อไว้ที่ปากมันแล้วเป่าแต่ก็ต้องหยุดเพราะผมห้ามไว้

“ก็แค่อยากทำให้หายเจ็บนี่นา”

“........................................” จริงหรอโอ๊ต    ผมคิดในใจแต่ไม่พูดออกไป

“ มึงหายเจ็บหรือยังวะบีน”

“ ยังหรอก  ยังแสบๆอยู่ถ้าไปโดนแผล  ยิ่งนายจับมือเราที่เป็นแผลมันก็จะยิ่งเจ็บนะ  ปล่อยให้แผลมันแห้งเองเถอะ”

“ มึงเป็นคนเข้มแข็งนะบีน  แต่กูก็ยังอยากช่วยมึงให้หายเจ็บ ”

“ ช่วยยังไง ”

“ ช่วยอยู่ใกล้ๆไง ”  โอ๊ตดึงผมเข้าไปกอดซึ่งผมก็ลืมที่จะขัดขืน  ก่อนน้องจะพูดต่อว่า “ กูรู้ว่ากูอาจจะแทนคนนั้นไม่ได้  แต่กูจะไม่มีวันหนีไปไหนนะบีน ”

ทำไมต้องพูดแบบนี้  ทำไมต้องมาสัญญากับผมด้วยนะ
“ มีพบก็ต้องมีจาก  มันเป็นเรื่องธรรมดา  สักวันเราก็ต้องแยกย้ายไปในเส้นทางที่เหมาะสมกับเรานะโอ๊ต ”

“ กูจะช่วยทำให้มึงลืมเองนะ ”

“ ไม่ต้องช่วยอะไรมากหรอกโอ๊ต  เพราะทุกวันที่ทั้งนายและเพื่อนๆก็ช่วยเราให้ลืมเขาได้อยู่แล้ว ”

เพื่อนๆมีส่วนช่วยมากเลยนะครับ  เวลาเราอกหักแล้วได้อยู่กับเพื่อน  อย่างน้อยก็ทำให้เราลืมเรื่องที่ไม่สบายใจไปได้

“  กูเต็มใจ  นอนเถอะบีน  กูจะกอดมึงไว้ทั้งคืนไม่หนีหายไปไหน ”

ไม่ได้นะโอ๊ต   โอ๊ตจะเข้ามาเป็นเครื่องมือของผมที่ทำให้ผมลืมบอยโดยไม่รู้ตัว



แล้วถ้าวันหนึ่งผมไม่เสียใจ  ไม่อกหักและลืมบอยไปแล้วล่ะ  จะทำอย่างไร



ถ้าผมต้องเลิกทำงานนี้แล้วเลิกติดต่อกับโอ๊ตไป  ความรู้สึกมันจะเป็นอย่างไร  โอ๊ตจะเสียใจแบบผมไหม
ที่ผมยังคิดมากอยู่แบบนี้ก็เพราะกลัวว่าสักวันผมอาจเป็นคนทำร้ายโอ๊ตที่เต็มใจจะเข้ามาช่วยทำให้ผมลืมบอยนั่นเอง




...

บีนจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ   แต่ที่แน่ๆคงต้องใช้เวลา  โดยบีนก็คงเลี่ยงที่จะให้โอ๊ตมาใกล้ชิดกับตัวเองมากเพราะกลัวโอ๊ตที่เป็นแค่เครื่องมือที่ทำให้บีนลืมบอย  แต่บีนก็ยังเผลอให้โอ๊ตมาอยู่ใกล้ๆอยู่ดี

คนเราที่ภายนอกดูเข้มแข็ง  แต่ที่จริงมันอ่อนแอมาก



...


สุดท้ายก็กลายเป็นว่าเราลงนิยายอาทิตย์ละตอน  ฮ่าๆ ตอนนี้ผู้แต่งยุ่งๆนะ  เดินทางบ่อย  แต่ก็เข้ามาอ่านนิยายเรื่องอื่นในเล้าอยู่เรื่อยๆ  ยังไงก็ขอให้ติดตามเรื่องราวของบีนกันต่อไปนะครับ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะครับ   ยังรออ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆอยู่นะครับ  ตอบกันมาเลยจะด่าใคร  จะให้กำลังใจตัวละครไหน  เต็มที่  วันนี้ไปก่อนนะ  บ๊ายบาย  จุ๊บเหม่งคนอ่านสิบเอ็ดที :mew1:


 :katai2-1:

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๘ ๗/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีน...
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-10-2015 14:17:35
 :mew1:  เชียร์บีน-โอ๊ตต่อไป
กินเด็กเป็นอมตะ ท่องไว้ๆ
คนเขียนดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๘ ๗/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีน...
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 07-10-2015 14:19:55
 :-[

/ยื่นเหม่งให้จุฟ 55+

ชอบบีนนะ รุ้ตัวเอง รู้ว่าอะไรควรไม่ควร

แต่โอ้ตเนี่ย .......พระเอกเปล่าน้อ  :o8:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๘ ๗/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีน...
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 07-10-2015 15:41:50
บีนสู้ๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๘ ๗/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีน...
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 07-10-2015 16:23:54
ไม่มี บอยบีน แล้ว
เป็น บิ๊กบีน ละกันนะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๘ ๗/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีน...
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-10-2015 18:50:33
ไม่รู้จะเชียร์ใครมีแต่คนมาหลงเสน่ห์หนูบีน

แต่คนที่หนูบีนรักดันเป็นบอยที่เลือกจะทิ้งหนูบีนไปแต่งงานแต่งการ

เอาเป็นว่าขอให้หนูบีนเจอคนที่หนูบีนรักและคนนั้นก็รักหนูบีน

ไม่ทำให้หนูบีนต้องเป็นนายเอกมิวสิคPOTATO เหมือนอย่างที่บอยทำ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๘ ๗/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีน...
เริ่มหัวข้อโดย: patoya ที่ 07-10-2015 22:46:18
หักมุมสุดๆ ช็อกมากตอนที่บอยจะแต่งงาน
เชียร์พี่บิ๊กนะ เพราะโอ๊ตท่าทางครอบครัวจะหวงสุดๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๘ ๗/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีน...
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 08-10-2015 10:43:44
เชียร์พี่บิ๊กแทนโอ๊ตได้ม่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๘ ๗/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีน...
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 11-10-2015 00:22:10
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๙ ๑๔/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 14-10-2015 23:52:22
ตอนที่ ๑๙
วันอาทิตย์  คือ วันพักผ่อน

แต่วันอาทิตย์ของผมนี่มัน   

“โอ๊ต   เมื่อไหร่จะให้ลุงชัยแกมารับหรอ  นี่ก็จะเที่ยงแล้วนะ” 
ผมเดินไปเขย่าตัวเด็กม.๕ ที่นอนกอดผ้าห่มอยู่บนเตียงไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

“เออน่า  เดี๋ยวเย็นๆโน่นแหละ  กูอยากอยู่กับมึงนานๆว่ะ ”

“พรุ่งนี้ก็ได้เจอกันอยู่แล้ว  ลุกไปล้างหน้าล้างตาไป  เดี๋ยวบีนจะถอดปอกหมอนไปซัก  ไปๆ”
ผมจัดการทำความสะอาดห้องนอนเสร็จ  เด็กตัวโตก็เดินออกมากจากห้องน้ำ  พันผ้าขนหนูปิดท่อนล่างไว้ตัวเดียว  มือก็ถือเสื้อที่ใส่นอนเมื่อคืน

“มีเสื้อให้กูยืมไหมบีน”

“เดี๋ยวบีนไปเอาให้แล้วกัน”  เด็กบ้าอะไรว่ะหุ่นดีชะมัด  ถึงผมจะเคยเห็นมาแล้วก็เถอะแต่มันก็อดหน้าร้อนไม่ได้เมื่อมาอยู่กันสองต่อสอง

เอ  ไอ้เสื้อตัวใหญ่ๆอยู่ไหนนะ  อยู่ชั้นข้างบนแน่นอน  ผมเขย่งเท้าขึ้นเพื่อเอื้อมมือไปหยิบเสื้อจากชั้นบนของตู้เสื้อผ้า แต่พยายามเอื้อมก็เอื้อมไม่ถึง

“มานี่เดี๋ยวหยิบให้”

“เออดี  แต่นี่ให้บีนออกไปก่อนสิ  อย่าดัน” โอ๊ตที่โผล่พร้อมกับดันตัวมันเองเข้าข้างหลังผมมือซ้ายมันกอดผมไว้  ส่วนมือขวาเอื้อมไปดึงเสื้อด้านบนและเสื้อที่มีอยู่ห้าหกตัวก็ตกลงมาใส่หน้าพวกผม

“ดึงแรง  เสื้อตกหมดเลย  เลือกเอาแล้วกันนะ  แล้วนี่กางเกงหัวยืด  คงใส่ได้นะ”

“ขอบใจว่ะ”

...................................................................................................

“บีน  บีน”

“อะไรโอ๊ต ”  ผมยืนล้างจานข้าวที่โอ๊ตใช้กินข้าวเที่ยงไปเมื่อกี้  สงสัยต้องหัดให้น้องมันล้างจานบ้างแล้วล่ะ   

“มีคนโทรมา  ไม่มีชื่อว่ะ  เบอร์แปลกเดี๋ยวกูรับให้นะ”

“อ่ะ  ไม่ต้องล้างเสร็จพอดี ” 
ผมวิ่งจากครัวไปหยิบมือถือ  เอ๊ะเบอร์ใครวะ

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีครับ”

“ขอสายใครครับ”

“ก็คนที่พูดอยู่ไง”

“นี่ใครครับ” ผมถามไปเพราะสงสัย  นอกจากเพื่อนๆก็ไม่มีใครรู้จักเบอร์นี้แล้วนะ

“จำพี่ไม่ได้หรอครับน้องบีน  เมื่อคืนพี่ยังทายาให้อยู่เลย”
อ่อ  พี่อิฐ  แต่เอ๊ะ  พี่แกเอาเบอร์มาจากไหน  แต่ก่อนที่ผมจะถามกลับไป  ผมก็เดินเลี่ยงจากโอ๊ตที่นั่งดูทีวีเพลินๆอยู่เข้ามาคุยในห้องนอน

“พี่เอาเบอร์มาจากไหนครับ  ใครให้”

“ไม่ต้องรู้หรอกครับ  ว่าแต่เราทำอะไรอยู่หรอ  จะรบกวนหรือเปล่าถ้าพี่จะชวนไปทานข้าวด้วยเย็นนี้ ”  นี่ถ้าให้เดาคงเป็นไบท์แน่นอนที่ให้เบอร์ผมไป  ผมต้องโทรไปด่ามันแล้วล่ะ

“เอ่อพี่อิฐ  คือผมยังไม่ได้ทำการบ้านเลยครับ  กลัวว่าถ้าออกไปข้างนอกจะเสร็จไม่ทัน”

“อ้าวหรอ  ถ้ากลัวไม่ทันอย่างนั้นก็ทานแถวๆ คอนโดบีนก็ได้”

“เดี๋ยวนะพี่  พี่รู้จักคอนโดผมด้วยหรอครับ”

“รู้จักสิ”

“พี่ไปถามไบท์มันใช่ไหมครับ”

“อย่าไปว่าไบท์มันเลยครับ  เอาเป็นว่าห้าโมงเย็นเดี๋ยวพี่ไปรอเราที่ข้างล่างคอนโดนะ  เดี๋ยวถึงแล้วจะโทรไปหาอีกที  อยากทานอะไรคิดไว้เลยครับ  พี่เลี้ยง”

“เอ่อ พี่  เดี๋ยวๆๆ”  ตู๊ดๆๆๆ   ตัดสายไปแล้วครับ  ไบท์นะไบท์

ผมกดเบอร์โทรไปหาไบท์ด้วยอาการโมโหลมออกหูทันที

“นี่ไบท์”

“เฮ้ย  มึงกูขอโทษ  กูไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆว่ะ  แต่กูให้พี่เขาสัญญากับกูแล้วนะเว่ยว่าห้ามทำอะไรล่วงเกินมึงเด็ดขาด”
นี่ขอโทษขอโพย  ร่ายยาวมาเป็นชุดขนาดนี้ก็รู้แล้วครับถึงตัวต้นเหตุ

“แล้วพี่เขาไปบังคับอะไรนายหรอไบท์”

“ก็เมื่อวานกูแอบเอาสาวมานอนที่บ้านแต่พี่อิฐแม่งเสือกจับได้สิวะ  มันเลยเอาเรื่องนี้มาต่อรอง  ถ้ากูไม่ให้เบอร์มึงมันจะบอกพ่อกู”

“เออเอาเถอะ”  ผมล่ะเหนื่อยใจกับเด็กพวกนี้  ถ้าผมไปกินข้าวกับพี่อิฐสักมื้อก็คงไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกมั้งนะ 

“มึงไว้ใจพี่อิฐได้นะ  พี่เขาไม่ทำอะไรมึงหรอก  ถ้าเขาล่วงเกินมึงบอกกูได้เลยเดี๋ยวกูจัดการพี่กูให้เอง”

“แล้วนายจะไปจัดการอะไรได้วะ  แต่ว่าเรื่องนี้อย่าไปบอกโอ๊ตมันนะ”

“เออๆ ได้ๆ  เจอกันพรุ่งนี้มึง”

ผมวางสายไปก่อนที่จะเดินออกไปนอกห้องนอนแล้วมองไปที่โอ๊ตที่หลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวี   อย่างแรกคือต้องปลุกโอ๊ตแล้วให้เด็กมันกลับบ้านไปก่อนที่พี่อิฐจะมา

“โอ๊ต  ตื่นๆ กลับบ้านได้แล้ว  บ่ายสองแล้ว”

“อ้าว  กูเผลอหลับไปหรอวะ  เดี๋ยวโทรหาลุงชัยก่อน ” โอ๊ตโทรหาลุงชัยก่อนที่จะได้ความว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะมาถึงเพราะลุงแกขับรถออกมาจากบ้านโอ๊ตก่อนหน้านี้แล้ว

ไม่นานลุงชัยก็มาถึงคอนโดผม  ผมจึงเดินไปส่งโอ๊ตหน้าประตูห้องและสิ่งที่เด็กมันทำกับผมคือ


ฟอด

“ไปก่อนนะมึง  เฮ้ย  กูแค่หอมแก้มเฉยๆทำไมต้องหน้าแดงว่ะ”   หอมแก้มนี่เป็นเรื่องปกติหรอกหรอ  มันใช้คำว่า เฉยๆ

“เปล่าซะหน่อย  รีบไปเลย”  ผมรีบปิดประตูแล้ววิ่งไปส่องกระจกดูหน้าตัวเองในห้องน้ำ  ไอ้เด็กบ้าเอ้ย  ผมหน้าแดงจริงๆ


...


“เสร็จหรือยังครับน้องบีน”
ผมยืนส่องกระจก  สำรวจดูเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองพี่อิฐก็โทรเข้ามาหาพอดี

“เสร็จแล้วครับ  เดี๋ยวลงไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ”

ผมเดินลงไปหน้าคอนโดก็เจอกับรถยุโรปคันหรูบีบแตรส่งสัญญาณให้ผม  คงเป็นคนนี้แหละ
“สวัสดีครับพี่อิฐ”

“สวัสดีครับ  คิดไว้แล้วหรือยัง  ว่าอยากทานอะไร”

“เอ่อ  ยังนึกไม่ออกเลยครับ แล้วแต่พี่อิฐเลยครับ”

“แล้วพี่จะรู้ได้ยังไงครับว่าเราชอบอะไร  ไม่ชอบอะไร  ให้บีนเลือกเองดีกว่านะ”

“อย่างนั้นก็  อาหารญี่ปุ่นแล้วกันครับ  ขอเป็นร้านที่เงียบๆเป็นส่วนตัวแล้วกันครับ”  เพื่อตัดปัญหา  ผมตัดสินใจบอกอาหารที่พึ่งนึกได้ว่าอยากกินไป  เอาวะอย่างน้อยก็ของฟรี  พี่อิฐก็ดูเต็มใจเลี้ยงด้วย

“โอเคครับ   อย่างนั้นเป็นร้าน...........นะ  บรรยากาศดี  หวังว่าคงจะยังไม่เต็ม” ร้านนี้แพงมากนะครับ  ผมเคยได้ยินชื่อในเน็ต 


เราเดินทางมาถึงร้านก็พบว่ายังมีโต๊ะว่างอยู่มาก  ร้านออกแนวดูเงียบๆไม่วุ่นวาย  พี่อิฐเลยขอเป็นห้องส่วนตัวเป็นห้องมิดชิด  มีโต๊ะญี่ปุ่นตั้งอยู่ตรงกลาง  ผมกับพี่เขานั่งลงตรงข้ามกันก่อนที่จะมีพนักงานเดินเลื่อนประตูเข้ามาเสิร์ฟน้ำชา

“สักครู่จะมารับออเดอร์นะคะ” พนักงานยื่นเมนูอาหารมาให้แล้วเดินออกไป 

ตายแล้วมีแต่ของแพงๆ

“หึหึ  ทำไมเห็นเมนูแล้วทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ  สั่งได้เต็มที่เลยนะ  ไม่ต้องเกรงใจ  เหลือก็ห่อกลับไปทานที่ห้องได้”

“ครับ” ผมตอบพร้อมกับยิ้มเขินๆ
ของแพงๆนี่ก็สั่งได้อยู่หรอกนะ  ชื่อเมนูก็มีภาษาไทยเขียนกำกับไว้อยู่  แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าไม่เคยกินสักอย่างนี่แหละ  จะมีแค่ซูชิที่อยู่หน้าหลังๆที่ว่าเคยกินมาก่อนแล้ว 

ครืดๆ  พนักงานเปิดประตูมารับออเดอร์แล้วครับ  ผมก็อาศัยดูภาพอันไหนน่ากินก็จะสั่งอันนั้นแหละ

สั่งๆไปตามเมนูตามภาพพนักงานก็เดินออกไป  ถึงเวลาที่ต้องอยู่กันสองคนอีกครั้งผมก็อดประหม่าไม่ได้  พี่อิฐแกเป็นนักธุรกิจหนุ่มหน้าตาดี  ดูมีภูมิฐาน  มีความเป็นผู้ใหญ่  ผมรู้นะว่าแกชอบผมเลยนัดมากินข้าวด้วยกันแต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้ผมกลัวคือนัยน์ตาของพี่แกดูแล้วแกเป็นคนดูมีแผนการซ่อนอยู่ตลอดเวลา

คนแบบนี้น่ากลัว  อ่านใจยาก

“จ้องหน้าพี่  มีอะไรติดหน้าพี่หรือเปล่าครับ”

“โอ๊ะ  เปล่าครับ” ผมเผลอจ้องหน้าพี่อิฐไปเสียนาน

“ไม่ต้องกลัวพี่นะ  พี่ไม่ทำอะไรหรอก  เมื่อวานนี้พี่ขอโทษด้วยนะครับ  ตัวเราหอมไปหน่อยพี่ก็เลยเผลอตัวจะหอมแก้ม” คนจะหอมแก้มกันนี่เขาเรียกว่าเผลอกันด้วยเหรอครับ

“ไม่ใช่ตัวผมหอมหรอกครับ  หอมน้ำยาปรับผ้านุ่มมากกว่า”

“ฮ่าๆ อย่างนั้นเองหรอกหรอ  แล้วนี่เราย้ายมาจากที่ไหนหรอ  ไอ้ไบท์มีเพื่อนน่ารักแบบนี้ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย”

“ย้ายมาจากขอนแก่นครับ”

“แล้วเรายังไม่มีแฟนจริงเหรอ” เมื่อวานก็บอกไปแล้วไงวะ

“ยังครับ   ถามทำไมหรอครับ”  จะจีบล่ะสิ  แต่พี่แกจะกล้าพูดตรงๆหรือเปล่านะ

“จะจีบไง  ให้โอกาสพี่นะครับน้องบีน  ตอนนี้พี่ก็โสดเหมือนกัน  ไม่เชื่อถามไบท์มันได้พี่กับมันค่อนข้างจะสนิทกัน  ถึงจะอายุห่างกันสิบกว่าปีก็เถอะ”

“เอ่อ  แต่ว่า”

“หืม  หรือว่าพี่แก่เกินไปครับ  เถอะนะๆ พี่ยังไม่ ๓๐ นะครับ”

“อย่างนั้นก็ดูๆกันไปก่อนแล้วกันครับ” ไม่กล้าปฏิเสธไปตรงๆครับ  ยอมรับเลยว่าเกรงใจ  ข้อเสียอีกอย่างของผมคือถ้าเจอคนที่ดูมีทั้งวัยและความคิดที่ดูแก่กว่า  มีอายุมากกว่า  ผมจะดูอ่อนลงไปเลย  ใจไม่แข็งเหมือนกันตอนอยู่กับคนที่เด็กกว่า

“ขอบคุณมากนะครับ”  ถ้าหลังจากนี้แกนัดอะไรหรืออยากพาผมไปไหนก็ค่อยๆบอกว่าไม่ว่างก็แล้วกัน  เดี๋ยวพี่แกก็คงจะเลิกสนใจผมไปเอง

หลังจากกินข้าวเสร็จพี่อิฐก็มาส่งผมที่คอนโดปกติ  ไม่มีอะไรมากและแกก็ไม่มีท่าทีว่าจะล่วงเกินผม สงสัยคงรอจังหวะที่เหมาะๆแน่ๆ ยังไงผมก็ไม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้อยู่ดี  ขอรอดูต่อไปก่อนแล้วกัน

...............................................................................................


รายงานสังคม  พร้อมพรีเซ้นต์หน้าห้องสั่งวันอังคาร  ส่งวันศุกร์  ครูแกจะรีบไปไหนครับ 

ครูประจำวิชาให้นักเรียนจับกลุ่มกันเอง  กลุ่มละ ๔  คน ก็ได้พอดี ๑๐ กลุ่ม ๑๐ หัวข้อ  โดนผมก็ต้องเป็นตัวแทนของกลุ่มไปจับ

หัวข้อและลำดับการพรีเซ้นต์

และแจ็กพ็อตก็แตก
ผมจับได้กลุ่มที่ต้องพรีเซ้นต์กลุ่มแรก

“นี่พวกนายไม่ต้องมามองแบบนี้เลยนะ  รีบแบ่งเลยใครจะไปหาข้อมูลเรื่องอะไร” เด็กสามคนมองหน้าผมเหมือนกับคิดว่า  มึงไม่น่าจับได้กลุ่มแรกเลย

“กูว่าอะไรมึงไม่ได้อยู่แล้วครับบีน”  ไบท์ที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็มีแต่ต้องยอมๆผมไป

“กูว่าเดี๋ยวเราดูเนื้อหาก่อนแล้วค่อยแบ่ง” อดปลื้มใจไม่ได้ครับ  ที่โอ๊ตมีความเป็นผู้นำขึ้นเยอะ

“แล้วถ้าได้ข้อมูลมาแล้ว  เราจะทำยังไงต่อวะ” อ๊อฟที่นั่งดูเนื้อหาที่ได้แล้วถามขึ้นมา

“วันนี้เราแยกกันไปทำ  พรุ่งนี้เอาเนื่อหามารวมเป็นรายงาน   แล้ววันศุกร์เราไปซ้อมพรีเซ้นต์ด้วยกัน”  โอ๊ตนั่งบอกแผนการทำงานของกลุ่มเรา

“จะไปซ้อมที่ไหนดีวะมึง” 
ผมฟังเด็กๆมันแบ่งงานกัน  แล้วสามคนนั้นก็มองมาที่ผม 

“ห้องมึงได้ไหมบีน”  อ๊อฟถามเชิงขออนุญาต

“เอาเป็นบ้านกูดีกว่า  บ้านกูมีห้องฉายโปรเจคเตอร์  วันพฤหัสไปค้างบ้านกูกัน  โอเคนะ  งานที่แบ่งก็ตามนี้  พรุ่งนี้หอบโน๊ตบุ๊คมาด้วยทุกคน”




เย็นวันพฤหัสบดีผมกับเพื่อนก็มาถึงบ้านโอ๊ตที่ไม่ได้มาสองสามเดือนได้ 

วันนี้จะเจอคุณบิ๊กไหมนะ  ปกติมาเจอแต่คุณปู่กับคุณย่าและก็พวกแม่บ้าน

“อ้าวมาแล้วเหรอโอ๊ต”

“สวัสดีครับคุณย่า” 
พวกผมสามคนเดินเข้าไปในโถงบ้านก็เจอกับคุณย่าของโอ๊ตที่นั่งดูทีวีจอใหญ่อยู่พอดี

“สวัสดีจ้ะเด็กๆ  ทานอะไรกันมาหรือยัง  มาๆมานั่งกับย่าก่อนนะเด็กๆ  เดี๋ยวย่าบอกให้แม่บ้านไปเอาของว่างมาให้”

“ขอบคุณมากครับคุณย่า  เดี๋ยวโอ๊ตพาเพื่อนไปทำงานข้างบนห้องก่อนดีกว่า  แล้วอีกสักชั่วโมงถ้าได้เวลาทานข้าวเย็นค่อยขึ้นไปเรียกพวกผมก็ได้ครับ”  แหม  ทำไมโอ๊ตอยู่กับครอบครัวมันดูสุภาพจัง

พวกผมขึ้นไปข้างบนห้องนอนโอ๊ตก็แยกย้ายกันหาที่นั่งทำงาน

“ที่นั่งมีเยอะแยะนะโอ๊ต  ห้องก็กว้างมาเบียดทำไม”

“กูแค่จะมาดูงานของมึง  เสร็จยัง”

“เสร็จแล้ว  นี่ตรวจอยู่จะได้เอาไปรวมกัน  ว่าแต่ของนายเถอะ  พาวเวอร์พ้อยที่จะพรีเซ้นต์น่ะเสร็จยัง”

“เสร็จแล้ว  ก็เลยมากวนมึงได้ไง  อากาศหนาวขอกอดหน่อยสิวะ”

“เฮ้ย  ไม่เอาอายเพื่อน  ปล่อย” โอ๊ตไม่แค่จะกอด  แต่เหมือนน้องมันจะตะครุบตัวผมเหมือนหยื่อ

“เฮ้ย  ไอ้โอ๊ต   มึงมาแก้หน้าพรีเซ้นต์หน้านี้เลย  เลิกกวนไอ้บีนมันได้แล้ว” ไบท์เรียกโอ๊ตไปแก้งานได้ถูกเวลาพอดี


ก๊อกๆ

แกรก


อุ่ย

คุณบิ๊ก 

ทำอะไรไม่ถูกครับ  ได้แค่ยกมือไหว้หน้าตื่นๆ  ปกติเจอกันแค่คอนโด  อยู่ที่บ้านน้องโอ๊ตไม่ค่อยได้เจอเท่าไหร่

“สวัสดีครับคุณอา”  สองคนนั้นยกมือไหว้

“ พาเพื่อนๆไปทานข้าวกันได้แล้วโอ๊ต  คุณย่าให้มา”

“ครับ  เดี๋ยวผมลงไป”

คุณบิ๊กหันหลังกลับจะเดินออกจากห้องไปก็ไม่วายยิ้มเล็กๆให้ผม    เดี๋ยวความก็แตกกันพอดี

หลังจากทานข้าวกันเสร็จพวกผมก็ย้ายห้องทำงานมาที่ห้องทำงานของคุณบิ๊กที่มีโปรเจคเตอร์  คุณอาก็ไม่วายมาป้วนเปี้ยนช่วยหลานชายต่ออุปกรณ์  ก่อนโอ๊ตจะบอกว่าที่เหลือจัดการเองได้จึงยอมออกไป  ดูไปแล้วความสัมพันธ์ของอากับหลานคู่นี้ก็ไม่ได้ห่างเหินกันมากนะครับ  อาจเป็นเพราะคุณบิ๊กแกคงไม่ได้มีเวลามาดูแลน้องโอ๊ตมากกว่า

พวกเราใช้เวลาซ้อมพรีเซ้นต์งานที่ใช้เวลาพรีเซ้นต์จริงแค่สิบนาทีและยังไม่รวมตอบคำถามเพื่อนอีกห้านาที  เกือบชั่วโมงครึ่ง   ซ้อมหลายๆรอบจนพอใจกันทั้งสี่คนก็ถึงเวลาอาบน้ำเข้านอนกัน 

“แล้วจะให้พวกกูนอนไหนวะ” อ๊อฟถามโอ๊ตขณะที่เรากำลังเก็บคอมเข้ากระเป๋า

“เตรียมห้องไว้แล้ว  เดี๋ยวแม่บ้านกำลังจะมา  ส่วนมึงนอนกับกูนะบีน” ผมไม่รอดหรอกครับ  ตามที่คิดไว้มาก่อนหน้านี้

“คุณหนูขา  พี่ต้องขอโทษ  พี่ลืมทำความสะอาดห้องรับแขกค่ะ”

“อ้าวพี่แป้ง  ผมบอกล่วงหน้าสองวันแล้วนะ”

“พี่ขอโทษจริงๆค่ะ  เดี๋ยวพี่จะรีบไปทำไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็เสร็จค่ะ”

“เออๆไม่เป็นไรโอ๊ต  เอาเป็นว่าเดี๋ยวพวกผมนอนรวมกันที่ห้องโอ๊ตก็ได้ครับ ”  ผมเสนอวิธีแก้ปัญหาไป

“เอาอย่างนั้นก็ได้  นอนรวมกันสนุกดีๆ” ไบท์สนับสนุนความคิดผม

“แต่ว่า”

“ไม่มีแต่”  ผมพูดขึ้นพร้อมมองหน้าไปที่โอ๊ตเชิงบอกว่าห้ามเถียง

“เดี๋ยวพี่แป้งไปเอาหมอน  ผ้าห่มกับเบาะปูนอนมาให้คุณหนูนะคะ” 

แม่บ้านที่ชื่อแป้งรีบไปเอาอุปกรณ์หมอนผ้าห่มมาให้พวกผม  ในขณะนั้นผมก็เข้าคิวกันอาบน้ำโดยอ๊อฟมันเข้าไปอาบก่อน  ส่วนโอ๊ตขออาบคนสุดท้ายแล้วก็ลงไปที่ฟิตเนส  สงสัยไปออกกำลังกาย  ในห้องเลยเหลือแค่ผมกับไบท์สองคน

“เมื่อวานเป็นยังไงบ้างวะมึง”  ไบท์ก็ใช้โอกาสนี้ถามเรื่องผมกับพี่อิฐ

“ก็ไม่มีอะไร  กินข้าวกันเฉยๆ  เออจริง  แต่พี่อิฐเขาบอกว่าจะจีบเรานะไบท์”

“กูว่าแล้วไง  พี่กูแม่งหัวงูเห็นเด็กเป็นไม่ได้  ปกติมันไม่ได้เป็นแบบนี้นะมึง  เห็นคบแต่กับคนที่อ่อนกว่ากันไม่มาก”
ถ้านับจริงๆ พี่อิฐก็แก่กว่าผมแค่ห้าหกปีเองหรอก  เฮ้อ  “แล้วมึงตอบมันว่ายังไงวะ  ตอนที่มันบอกจะจีบ”

“ก็บอกว่าดูๆไปก่อน  เราไม่กล้าปฏิเสธวะไบท์  อยู่ๆก็เกรงใจขึ้นมา  ข้าวฟรีด้วยยิ่งไปกันใหญ่”

“เออๆ เดี๋ยวกูบอกมันเองว่าไม่ให้ทำอะไรมึงมาก  แล้วนี่ถ้าไอ้โอ๊ตมันรู้เข้าจะทำยังไงวะ”

“ไม่รู้สิ  ตอนนี้คิดไม่ออก  เอาว่าสนใจเรื่องเรียนกันดีกว่าแล้วกัน  เดี๋ยวเรื่องนี้เราว่าเราจัดการได้”  ผมตอบไบท์ไปอย่างมั่นใจ  แต่ก็จริงว่าตอนนี้ผมมั่นใจว่าน้องโอ๊ตมันก็ชอบผม  พี่อิฐก็ชอบผม  เอาแล้วไง  งานหนักมาอีกแล้ว

...........................................................................................

“โอ๊ตก็นอนบนเตียงคนเดียวเลย  เดี๋ยวเราสามคนจะนอนข้างล่างเอง”

“เออจริง  มึงเป็นเจ้าของเตียงก็นอนเถอะ”

“บีนมันก็บอกแล้วว่ามันไม่ชินที่  กว่าจะนอนหลับคงดิ้นไปดิ้นมา  เดี๋ยวจะกวนมึงเปล่าๆให้มันนอนข้างล่างกับกูที่แหละ  พี่แป้งแกอุตส่าห์เข้ามาปูให้ซะกว้าง” ไบท์พูดจบก็นอนแล้วห่มผ้าเตรียมตัวหลับ

“แต่เตียงกูกว้างนะมึง  นะๆบีน  มึงขึ้นมานอนเป็นเพื่อนกูเถอะ” โอ๊ตอ้อนผมดูวุ่นวายไม่เลิก  ผมส่ายหน้าขี้เกียจต่อปากต่อคำ

“นอนๆ เหนื่อยแล้ว  เฮ้ยๆแล้วนี่ลงมาทำไม”  ผมกำลังจะห่มผ้านอนแต่โอ๊ตก็ลงจากเตียงมานอนเบียดข้างๆผม

“กูว่าเอาแบบนี้  ไอ้ไบท์ ไอ้อ๊อฟมึงไปนอนข้างบนเตียง  ส่วนกูกับบีนจะนอนข้างล่างเอง”

“มากเรื่องนะมึง  เห็นว่าเป็นบ้านมึงหรอกนะ  ไปๆไบท์ขึ้นไปนอนเตียงมัน  มันจะได้จู๋จี๋กับบีน” อ้าวทำไมอ๊อฟมันว่าง่ายขึ้นมาล่ะ

“เฮ้ยไปหมดเลยหรอ”

“จะกลัวอะไรบีน  เดี๋ยวโอ๊ตไปปิดไฟก่อนนะ” โอ๊ตมันลุกขึ้นไปปิดไฟก่อนจะลงมานอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมตัวผมกับน้องมันไว้แล้วดึงผมไปกอดแน่นๆ แน่นจริง

“กอดแน่นไปโอ๊ต  ปล่อย”

“ไม่ปล่อย ”

“อย่างนั้นก็คลายออกหน่อย  อย่ากอดแน่นสิ”

“ได้แต่หันหน้ามาก่อน”

“หันไปทำไม  แล้วอย่าทำอะไรเรานะเดี๋ยวเพื่อนเห็น”

“เออน่า  พวกมันหลับเร็วจะตายหันมาก่อน”


ผมก็พลิกตัวหันไป  น้องมันก็คลายกอดออกจริงๆครับ  แต่


อุ๊บ


ไอ้โอ๊ต

โอ๊ตมันจูบผม  น้องมันจูบผม  ผมพยายามเม้มริมฝีปากไว้แต่ต้านไม่ไหวครับ  โอ๊ตใช้ลิ้นเข้ามาเลียลิ้นผมพร้อมกับขบปากเบาๆ ก็ไม่ได้ห่วยเหมือนที่อีกี้บอกนี่นา  แต่เดี๋ยวนะผมที่นึกไปถึงเรื่องที่กี้บอกว่าโอ๊ตห่วยเรื่องนี้จนลืมตัวจูบตอบโอ๊ตไปด้วย  เด็กมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยผมด้วย  เราจูบกันจนอิ่มน้องมันก็ถอนปากออกก่อนจะจูบที่หน้าผากผมอีกครั้ง  ดึงผมเข้าไปกอด  ก่อนบอกกับผมว่า

 “นอนเถอะ” 


หน้าผมที่ซุกอยู่กับอกของโอ๊ต  ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ครับว่าตัวผมเองยิ้มที่มุมปากเล็กๆ


โอ๊ตเลิกเสื้อที่หลังผมขึ้นแล้วเอามือลูบหลังเบาๆกล่อมผมนอน

นี่ผมมาให้หลานเจ้านายกอดถึงบ้านเขาเลยหรือนี่

เขาจ้างมาให้ดูแล

หรือว่าผมดูแลดีเกินไปหรือเปล่านะ


...


บีนมีคนมาชอบอีกแล้วนะทุกคน  เอายังไงดีน้อ  แล้วพี่อิฐนี่จะมาดีหรือเปล่า
โอ๊ตนี่จะจัดการยังไงดี  เด็กมันดื้อเงียบบอกไม่ฟังเหมือนจะติดใจบีนไปซะแล้ว
และคุณบิ๊กล่ะ  นานๆทีออกมา  ออกมาก็มานิดเดียว  ฮ่าๆ  แต่ก็ยังมีคนเชียร์บิ๊กบีนอยู่  คุณบิ๊กนี่แฟนคลับเยอะจริง :ling1:


...


สวัสดีนักอ่านทุกคนนะครับ
วันนี้คนเขียนมาดึกๆ หวังว่าจะยังมีคนอ่านเรื่องนี้อยู่นะ  เราหายไปเป็นอาทิตย์เลย  ต้องขอโทษด้วยนะครับ
งานยุ่งเดินทางบ่อยไม่ได้เอาคอมไปด้วย  ยังไงก็อยากให้ติดตามกันตลอดนะ  เนื้อเรื่องสบายๆ ไม่มีดราม่าอีกหรอกม้างงงงง

 :katai2-1:ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันทุกคนนะครับ  เดี๋ยวจะรออ่านคอมเม้นของเพื่อนๆนะ  คิดเห็นอย่างไรอยากด่าคนเขียน  ชมหรือเชียร์ใครในเรื่องก็ตอบกันมาได้เลย  คืนนี้ฝันดีจ้า :mew1:
 :mew1:


หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๙ ๑๔/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 15-10-2015 06:53:52
บิ๊กบีนนนนนน
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๙ ๑๔/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-10-2015 10:39:10
บอกทีว่าใครเป็นพระเอก  :mew1:
 :katai3:  เสน่ห์แรงเหลือเกินค่ะคุณน้องบีนขา เรายังเชียร์โอ้ตอยู่นะ อยากให้บีนเป็นอมตะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๙ ๑๔/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-10-2015 10:56:10
เราจะเชื่อได้ไหมที่ว่าเนื้อเรื่องสบายๆ

แล้วไม่มีดราม่าอีกหรอกม้างงงงงนี่คืออะไร

เราว่าต้องมีมาม่าอีกเพราะโอ๊ตยังไม่รู้ความจริงเรื่องบีน

ไหนจะอิฐที่เข้ามาจีบบีนที่ไม่รู้ว่าจะจริงจังหรือว่าหลอก

เพราะฉะนั้น รีบมาต่อเร็วๆนะเราจะได้หายสงสัยเรื่องมาม่า  :m18:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๙ ๑๔/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 15-10-2015 13:07:42
ตกลงใครเป็นพระเอกเนี่ย ? 
หรือจะเป็นบิ๊กบีน  :hao7:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๙ ๑๔/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๗ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 20-10-2015 17:02:06
ช่วงบีนเสน่ห์แรง คุณบิ๊กก็ขยันเนียนน่ะเนี่ย โอ๊ตเอ๊ยรุกเร็วมาก
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๐ ๒๑/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนกลับมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 21-10-2015 09:58:05
ตอนที่ ๒๐

“ทานเยอะๆเลยนะครับ  เป็นยังไงบ้างได้ข่าวว่าเมื่อวานสอบเสร็จแล้วใช่ไหมครับบีน”

“ใช่ครับ”

“อย่างนั้นช่วงปีใหม่ก็มีเวลาว่างล่ะสิ”

“บีนต้องกลับต่างจังหวัดครับ”

ผมนั่งอยู่ในร้านอาหารย่านธุรกิจโดยคนที่นั่งคุยด้วยและเป็นคนเลี้ยงข้าวก็คือ พี่อิฐ  สงสัยพอรู้ข่าวจากไบท์ว่าผมสอบเสร็จก็รีบไปรับผมที่คอนโดมาทานข้าวด้วยทันที  โดยวิธีไปดักรอแล้วพี่แกก็ไปดักรอถูกจังหวะเสียด้วยและโอ๊ตก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดีว่าพี่อิฐพยายามจีบผมอยู่ 

“อ้าวหรอ  พี่นึกว่าเราจะไปเที่ยวกับเพื่อนเสียอีก”

“พวกนั้นยังตกลงกันไม่ได้เลยครับว่าจะไปไหน  บีนเลยจะกลับไปบ้านก่อน”

“ให้พี่ไปส่งไหม  ช่วงนี้พี่ก็ลางานยาว” คือจะเอาให้ได้เลยใช่ไหม

“ไม่รบกวนดีกว่าครับ”

“อันนู้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้  แต่วันนี้บีนต้องดูหนังกับพี่นะครับพี่จองไว้แล้ว”

“ได้ครับ”

เอาวะอย่างน้อยก็แค่ดูหนัง   

ตายแล้วโอ๊ตโทรมาครับ

“พี่อิฐบีนไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” พี่แกก็แค่พยักหน้าให้ 

ก่อนจะออกมาจากห้องน้องมันก็โทรมา  ผมก็บอกน้องไปแล้วนะครับว่าจะมาซื้อของกลับบ้าน
ผมกดรับน้องมันก็พูดขึ้นมาเลย ”เออมึงกูลืมบอก  วันนี้กูไปนอนห้องมึงนะ”

“ไม่ได้  พรุ่งนี้บีนจะกลับไปบ้านต่างจังหวัดตั้งแต่เช้าเลย”

“อ้าว  เมื่อเช้าตอนโทรไปไม่เห็นมึงบอกกูเลย”

“ญาติๆพึ่งโทรมาบอกให้กลับบ้านน่ะ”

“เออมึง  แต่เพื่อนเรามันตกลงกันว่าจะไปเขาค้อนะมึง  ไปเค้าดาวน์ที่นั่น”  เขาค้ออย่างนั้นหรอผมเริ่มลังเลแล้วสิครับ  อากาศคงเย็นสบาย  ไปกับเพื่อนก็สนุกดี

“เดี๋ยวขอกลับบ้านไปก่อนนะ  จะลองไปคิดดู”

“คิดถึงมึงนะบีน”

“เมื่อวานก็เจอกันอยู่แค่นี้แหละ” ทางนั้นวางสายไปผมรีบเดินกลับไปที่ร้านอาหาร



“อิ่มแล้วใช่ไหมครับ  พี่เช็คบิลแล้วนะ”

“ครับ”

“อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาดูหนัง” พี่อิฐแกก้มดูนาฬิกาข้อมือ  ผมก็มองตาม  เออนาฬิกาสวยแฮะคงเรือนละหลายหมื่น “เดี๋ยวไปฟิตเนสข้างบนกับพี่ก่อนนะ”

“หืม  จะไปออกกำลังกายหรอครับ”

“เปล่าครับ  พี่จะคุยกับเทรนเนอร์  พอดีจะไปจัดตารางออกกำลังกายของปีหน้าน่ะ”

“อ่อครับ”

ผมเดินตามพี่อิฐไป  ไม่กล้าเดินข้างๆหรอกครับดูแล้วแตกต่างกันเกินไป เราขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นสูงสุดที่มีฟิตเนสเปิดอยู่  ไม่รวยเป็นสมาชิกไม่ได้นะนี่  ค่าสมัครคงแพงน่าดู

“เรารอนั่งตรงนี้ก่อนก็ได้  ดีนะวันนี้คนไม่เยอะมาก  พี่นัดหัวหน้าเทรนเนอร์ไว้”

“ครับ” เราเข้ามานั่งในห้องรับรอง  ผมไม่มีอะไรทำเลยหยิบหนังสือที่วางอยู่ที่ชั้นขึ้นมาอ่าน  ส่วนพี่อิฐนั่งกดมือถือรอ

“สวัสดีครับคุณอิฐมารอนานหรือเปล่าครับ”

“ครับ  สวัสดีคุณกฤช  รอไม่นานครับ” กฤช  กฤชไหน

ผมเงยหน้าขึ้นจากนิตยสารที่อ่านก่อนมองไปที่เทรนเนอร์ประจำตัวพี่อิฐ  หัวหน้าเทรนเนอร์ 
ไม่ผิดคนครับ  ยังไงผมก็จำแฟนเก่าตัวเองได้  ถึงแม้จะไม่เจอกันนานหลายเดิน  ครั้งสุดท้ายก็คงเป็นตอนที่ผมแบกพี่กฤชไปส่งที่ห้อง  เราจ้องหน้ากันนานพอสมควร  อารมณ์อึ้งมากกว่า

ทางนั้นคงแค่คิดว่าผมเป็นแฟนกับพี่อิฐ  แต่ผมนี่สิคิดไปถึงว่าความต้องแตกแน่ๆ  ห้ามทักนะพี่กฤช  ห้ามทักผมเด็ดขาดนะ

“รู้จักกันหรอ  สองคนนี้” พี่อิฐทำหน้างงแล้วถามผมสองคนที่ยืนมองหน้ากันพร้อมกับชี้นิ้วไปมา

“เอ่อ  รุ่นน้องที่..”

“เอ่อ  คุ้นๆหน้าครับ  แต่ไม่รู้จักกัน”

“อ้าวหรอ  งั้นเดี๋ยวเราไปคุยเรื่องโปรแกรมกันต้องนู้นดีกว่า  น้องบีนรอพี่แปปนะครับ”

“ครับ”
ตายแล้ว  เกือบแล้วไหมล่ะ  สาธุ  ขออย่าให้พี่กฤชปากโป้งหรือขออย่าให้พี่อิฐสงสัยเรื่องของผมเลยนะ


“ป่ะ ไปดูหนังกัน   ผมไปก่อนนะครับคุณกฤช”

“ครับ”  พี่กฤชมองผมไม่วางตา  พี่อิฐก็ดูเงียบขึ้นกว่าเดิม  บอกเลยผมกลัวมาก

“เป็นอะไรครับ  มือเปียกจัง  กลัวอะไรหรือเปล่านี่หนังตลกนะ”  พี่อิฐถามผมเบาๆในโรงหนังขณะที่ยื่นมือมาจับมือผม  กลัวพี่รู้ความจริงแล้วมันจะรั่วไปถึงหูเพื่อนผมไงครับ  อยากจะตอบไปแบบนี้เพื่อระบายความเครียดที่มีแต่ทำไม่ได้นี่สิ


สองวันครับ  ผมกลับบ้านได้แค่สองวันก็ต้องรีบกลับมาที่คอนโด  ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะอยู่ฉลองปีใหม่กับแม่และก็น้องแต่กลายเป็นว่าแม่กับน้องผมจองทัวร์ไปกับญาติๆในช่วงหยุดปีใหม่เสียแล้วและแน่นอนว่าแม่ไม่ได้จองเผื่อผมเพราะแกนึกว่าผมจะอยู่ฉลองกับเพื่อนๆ ผมก็เลยต้องกับมาที่คอนโดเพราะไม่มีที่ไป  เพื่อนที่เรียนมหาลัยมาด้วยกัน  เพื่อนสาว  เพื่อนชายทั้งหลายก็ไม่ได้ติดต่อกัน

“ สรุปมึงไปใช่ไหมว่ะบีน”

“ เออ  ไปๆแล้วมีใครไปบ้าง”  ผมนั่งคุยกับโอ๊ตอยู่หน้าทีวีที่ห้องผม 
โอ๊ตพอรู้ข่าวว่าผมกลับมาจากบ้านก็วิ่งแจ้นมาที่คอนโดผมโดยไม่ฟังคำอนุญาต

“ก็มีมึง  กู  ไบท์  แค่นี้แหละ”

“อ้าวอ๊อฟล่ะ”

“มันก็อยู่กับพ่อแม่มันสิวะ”

“แล้วนายไม่อยู่กับคุณปู่  คุณย่าบ้างหรอ”

“โอย  กูก็อยู่มาทุกปี  ปีนี้ปู่กูอนุญาตว่ะ  อากูอนุญาต  เพราะผลการเรียนกูดี  แล้วกูก็เป็นเด็กมาตลอดเทอม  ก็ต้องขอบคุณมึงด้วยนะเว้ยที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตกู  มึงมีส่วนช่วยกูมากเลยนะมึงรู้ไหมบีน”  น้องมันชมผมพร้อมกับเอามือมาลูบหัว

“เออ  ชมกันจนจะลอยติดเพดานอยู่แล้ว   แล้วจะไปกันยังไง  ไปกี่วันจองอะไรยังไงไว้หรือยัง”

“จองรีสอร์ทไว้น่ะ  แล้วก็มีวันที่ต้องนอนเต้นท์ด้วยนะมึง  จะได้สัมผัสบรรยากาศหนาว   ไปวันที่ ๒๙  กลับวันที่ ๑ โอเคป่ะ”

“อืม  อีกสามวัน”

“ไปรถกูนะ  เดี๋ยวไบท์มันขับ  ไปตอนกลางคืน  จะได้ถึงเช้าพอดี”

“มั่นใจนะว่าขับกันได้  แล้วนายขับเป็นไหม”

“เคยหัดว่ะ  แต่ไม่ได้แตะนานแล้ว ”
..............................................................................................

“ไปนะครับ  น้องบีน  เป็นงานปาร์ตี้ธรรมดาเหมือนๆกับงานวันเกิดของไบท์นั่นแหละ” พี่อิฐเองก็ยังไม่เลิกมาวุ่นวายกับผม  หลังจากที่โอ๊ตกลับบ้านไปแล้ว  เย็นๆพี่อิฐก็ขึ้นมาถึงหน้าห้องผมก่อนขอร้องให้ผมไปงานเลี้ยงฉลองขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนพี่แกที่เป็นตำรวจอยู่ภาคใต้  แต่มาซื้อบ้านที่กรุงเทพเอาไว้

“ไปไม่นานนะครับ ”  ตื้อมากๆผมก็แพ้   สังคมไฮโซ  ผมไปคงไม่ไปเจอคนรู้จักหรอก

เรามาถึงบ้านเพื่อนพี่แก  ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเจ้าของงานข้างในบ้านซึ่งก็มีข้างอยู่ไม่มากไม่น้อย  ยืนประปรายอยู่ตามตัวบ้าน
“ไอ้แชมป์   กูมาแล้ว”

“เฮ้ย  ขอบใจว่ะ”

“คิดยังไงมาซื้อบ้านในกรุงเทพว่ะ”

“เผื่อมีธุระว่ะ  เข้ามาพักผ่อนตามประสาคนบ้านนอกอยากเข้ากรุงว่ะ  ฮ่าๆ  แล้วนี่เด็กใหม่มึงหรอ”

“เฮ้ย  เด็กใหม่อะไรวะ   กูจีบยังไม่ติดเลย  นี่เพื่อนพี่ครับน้องบีนชื่อ แชมป์   แชมป์นี่น้องบีน  เพื่อนน้องกูเองกำลังจีบว่ะ”

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีครับน้องบีน   เข้าไปข้างในบ้านก่อนแล้วกัน”

“แล้วเด็กมึงล่ะวะ  อยู่ไหน  เห็นมึงอวดนักอวดหนาว่าเด็ด”

ผมเดินตามผู้ชายวัยทำงานสองคนเดินคุยกันเรื่องเด็กของแต่ละคน  อีตาพี่แชมป์นี่แกเลี้ยงเด็กเหมือนกันหรือนี่  แต่พี่แกดูหน้าคุ้นๆนะครับ  เหมือนผมเคยเห็นที่ไหน

“อยากดื่มอะไรหยิบตามสบายนะครับน้องบีน  เดี๋ยวพี่ขอตัวไปตามแฟนพี่ก่อน  น่าจะเรียนอยู่รุ่นๆเดียวกับเรา”
พี่แชมป์พาผมกับพี่อิฐมาส่งที่โต๊ะที่วางแก้วน้ำผลไม้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ให้เลือกมากมาย  ก่อนที่จะขอตัวไปตามแฟนที่พี่แกพึ่งจะอวดพี่อิฐไปเมื่อสักครู่ว่าเด็ดนักเด็ดหนา

พี่แชมป์เดินกลับมาพร้อมกับเด็กหนุ่มหน้าตาดีและดูสดใสอยู่ตลอดเวลา
หน้าแบบนี้มีคนเดียวในโลกครับผมจำได้ดี  หน้าตาที่ทำใสซื่อ  แต่ตัวจริงมันร้ายเสียยิ่งกว่าอะไร

“ นี่กี้   แฟนกูเองไอ้อิฐ ”

“ สวัสดีครับพี่อิฐ ”

“ อยู่ ม.๕  น่าจะรุ่นๆเดียวกับน้องบีนนะใช่ไหม”

“ ครับ ”  ผมตอบแบบฝืนยิ้มไป

“ ถ้าอย่างนั้นพี่ๆไปคุยกัน  ไปหาเพื่อนๆคนอื่นเลยก็ได้ครับ  เดี๋ยวกี้จะอยู่เป็นเพื่อนบีนเอง” ท่าทางอัธยาศัยดีของกี้  ถ้าผมไม่รู้จักมาก่อนก็คงนึกในใจว่า  เด็กคนนี้ทำไมช่างพูดช่างจา  กริยามารยาทดีเสียจัง  แต่มันก็เป็นแค่หน้ากากที่สวมไว้
กี้ใช้มือที่ดูบอบบางแต่แรงเยอะดึงข้อมือผมเหมือนคนจูงมือกันธรรมดาๆออกมาข้างนอกตัวบ้าน  แล้วพาเดินไปที่ที่ไม่มีคน

“จะพาออกมาข้างนอกทำไม”

“แหมบีน  ไม่เจอกันนาน  แทนที่จะถามข่าวคราวกัน”

“แล้วนี่จะเรียกมาถามเรื่องอะไร”

“ก็แค่อยากรู้ว่าเพื่อนสบายดีกันหรือเปล่า  แล้วทำไมถึงได้มากับพี่ชายของไบท์ได้ล่ะ”

“รู้จักกับพี่อิฐด้วยหรอ”

“กูรู้จัก  แต่พี่อิฐแม่งไม่เคยสนใจกูหรอกและนี่ก็คงจำหน้ากูไม่ได้แน่ๆ  หึ  ที่จริงที่ก็เคยอยากได้นะ  แต่เสียดายไม่ค่อยได้คลุกคลีกับไบท์มากเท่าไหร่   แล้วนี่มึงมากับเขาแล้วโอ๊ตล่ะ  มึงไม่สนใจมันแล้วหรือ  เอ๊ะหรือมึงก็เบื่อมันแล้ว  หรือว่ามันไม่ได้ชอบมึง  ฮ่าๆ  ถึงได้มากับหนุ่มวัยทำงาน  หวังจะเกาะคนรวยล่ะสิท่าเกาะคนนู้นไม่ได้  คนนี้ก็ไม่ได้  ลำบากหน่อยนะบีน   สรุปว่าทั้งกลุ่มนั่นก็คงยังไม่ได้สักคนเลยสินะ  ไม่เหมือนกูไปไหนก็มีแต่คนสนใจ  นี่พี่แชมป์ก็เป็นถึงตำรวจหนุ่มไฟแรง  หนุ่มในเครื่องแบบเท่ห์จะตาย   ชาตินี้ทั้งชาติมึงก็คงหาไม่ได้หรอกมั้ง  ฮ่าๆ”

เพี๊ย 

ผมมือไวตบเข้าไปจังๆที่ปากของอีกี้   

“โอ๊ย  นี่มึงตบปากกูทำไมห๊ะ  อีบีน”

“คนปากไม่ดีอย่างแกก็ต้องโดนตบปาก   ไม่เจอกันนานถามข่าวคราวน่ะถูกแล้ว  แต่ไม่จำเป็นต้องมายกตนข่มท่านแล้วก็ไม่ต้องมาพูดถากถางกัน  เข้าใจไหม”  ผมว่าก่อนจะเลี่ยงและเดินหนีออกมา

“จะไปไหน”  เพี๊ย

อีกี้ตบหน้าผม  ผมก็ผลักมาล้มลง   แล้วสงครามระหว่างผมกับกี้ก็เกิดขึ้นเงียบๆที่หลังบ้าน
ผมอาศัยแรงที่เยอะกว่าจับกี้กดลงกับพื้นพร้อมกับจิกผมมันขึ้นมาเตรียมจะกระแทกหัวมันลงกับพื้นแต่อีกี้ก็ร้องขึ้นก่อน

“ อย่าๆบีน  พอแล้วๆ กูยอมแล้ว ”

“ หึ เป็นไง  ตอบกูมาก่อน  ต่อไปนี้ห้ามมายุ่งกับกูอีกเด็ดขาด  เจอกันที่ไหนก็ไม่ต้องทักทายกัน  เข้าใจไหมว่ากูเกลียดมึง”

“กูก็เกลียดมึงอีบีน  ปล่อยสิวะ”

“กูก็ปล่อยแล้วล่ะ   อย่าทำปากเก่ง   จำไว้ถ้ามึงทำตัวปากดีอีกกูจะจับหัวมึงโขกกับพื้นเหมือนตอนที่อยู่ภูเก็ตอีก ”
ผมปล่อยอีกี้แล้วยืนปัดตามเนื้อตามตัว  ส่วนมันจะรีบวิ่งเข้าบ้านไป

“อ้าวน้องบีน  เห็นกี้ไหมครับ”  พี่แชมป์ที่สงสัยเดินหากี้ทั้งงาน  เดินมาทางหลังบ้านเห็นผมยืนอยู่เลยวิ่งมาถาม

ผมก้มลงเก็บกระเป๋าตังค์ที่ตัวเองทำตกก่อนจะตอบแกไปว่า  “ไม่เห็นเหมือนกันครับ  ขอตัวก่อนนะครับ”
ผมเดินออกมาจากมุมหลังบ้าน  แต่พี่แชมป์ก็ไม่วายเดินตามผมมา

“น้องบีนครับ  นี่ใช่ของน้องบีนหรือเปล่า”  พี่แชมป์ยื่นบัตรสีฟ้าๆให้ผม  นี่มันบัตรประชาชนนี่นา

ตายแล้ว  ตำรวจเขาจะดูออกไหมนี่ว่าเป็นบัตรปลอม

หลังจากรับบัตรจากพี่แชมป์มาผมก็รีบเก็บมันเข้ากระเป๋าแล้วไปนั่งกินขนมเงียบๆอยู่คนเดียว  มองดูบรรดาแขกที่มางานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของตำรวจหนุ่มไฟแรง  พี่คนนี้ก็คือคนที่เดินกับกี้ในร้านเหล้าที่ภูเก็ตนั่นแหละครับ  พอนึกขึ้นก็จำหน้าได้

“ว่าไง  อยากกลับแล้วหรือยัง”

“ครับ” ผมพยักหน้าให้คนที่ถามเพราะเริ่มเบื่อ

“อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ไปบอกเพื่อนก่อนแล้วกัน ”

พี่อิฐเดินกลับเข้าไปบอกเพื่อนว่าจะกลับแล้ว  ส่วนผมก็เดินออกไปรอที่หน้าประตูบ้าน 
“ป่ะ”  พี่อิฐแกเงียบไปอีกแล้ว  ไปอะไรไปนะ

.................................................................................................

รถเคลื่อนตัวเข้ามาจอดในที่จอดรถคอนโด  ซึ่งผมก็บอกว่าจอดแค่ข้างหน้าก็ได้เดี๋ยวเดินเข้ามาเอง  แต่คนขับกลับเงียบไม่ตอบอะไร  พอพี่แกจอดรถสนิทผมก็เตรียมจะปลดล็อคประตูแล้วรีบเปิดออกไป  แต่เปิดยังไงก็เปิดไม่ได้เพราะพี่อิฐแกไม่ปลดล็อคให้ผม

“เอ่อพี่  ผมจะลงแล้ว”  ตอนนี้ผมเริ่มกลัวแล้วครับ  โอย พี่แก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย

“จะรีบลงไปไหน  อยู่ตอบคำถามพี่สักข้อก่อนสิ”

“ตอบอะไร”

พี่อิฐเอามือขวาอ้อมมากดเบาะผมให้เอนลงแล้วคร่อมตัวผมไว้



“ตกลง

นายเป็นใครหรือบีน”


...........................................................................................


ตายแล้วบีนจะทำยังไงดี  คำถามของพี่อิฐมันคืออะไรกันแน่  แต่ที่แน่ๆตอนนี้บีนโคตรซวย  ศัตรูเก่าก็กลับมา
เรื่องปลอมตัวก็วับๆแวมๆเหมือนจะเดินเปิด  ยังไงก็เอาใจช่วยบีนกันด้วยนะครับ :เฮ้อ:



เจอกันวันพุธอีกแล้ว   หวังว่าผู้อ่านจะสนุกสนานกันเหมือนเดิมนะครับ   :katai2-1:
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านและเข้ามาตอบกันทุกคนเลยนะครับ  ไปก่อนละน้า เจอกันตอนหน้าครับ  :mew1:
 :katai4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๐ ๒๑/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-10-2015 10:18:18
 :z3:  อ้าว ค้างนี่นา
พี่อิฐนี่แผนของพี่ใช่ไหมเนี่ย

ชีวิตบีนเริ่มยุ่งรุงรังขึ้นอีกแล้ว จะโป๊ะแตกไหมนะ   :hao7:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๐ ๒๑/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 21-10-2015 12:24:06
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๐ ๒๑/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 21-10-2015 13:24:17
แสดงว่าอิฐรู้แต่แรกหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๐ ๒๑/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-10-2015 21:53:14
กฤชคงบอกอิฐแล้วซินะ ถึงได้ถามบีนแบบนี้

ชีวิตบีนนี่ยุ่งเหยิงอิรุงตุงนังน่าดู

ต้องปลอมตัวมาดูแลโอ๊ต มีเรื่องกี้มาให้ปวดหัว

อกหักถูกบอยทิ้ง ทั้งโอ๊ตทั้งอิฐเข้ามาพัวพัน

ไหนจะเจอะหน้าแฟนเก่าตบตีกับกี้ที่รีเทิร์นกลับมาในชีวิตอีก

ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเข้ามาให้เคลียร์อีก :เฮ้อ: :เฮ้อ:

แต่ที่อยากให้เข้ามาคือพระเอกอ่ะ อยากรู้ว่าเป็นใคร :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 26-10-2015 22:27:38
ตอนที่ ๒๑

“ตกลง

นายเป็นใครหรือบีน”


ผมถึงกับลืมหายใจกับคำถามของพี่อิฐ
ผมต้องสู้จ้องหน้าแกกลับ  พยายามไม่หลบสายตา  “เป็นใครอะไร  พี่ถามเกี่ยวกับอะไรครับ”
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย  พี่ถามว่านายเป็นใคร  ทำไมต้องมาทำตัวเป็นเด็กมัธยม  ไปโรงเรียน  เรียนหนังสือ”

“ผมไม่เข้าใจคำถาม  ปลดล็อคประตูให้ผมเถอะ”  ขอหนีแบบหน้าด้านๆก็แล้วกัน  ผมเริ่มจะหาทางออกไม่เจอ
ปื้ด

พี่อิฐแกดึงเข็มขัดนิรภัยที่ผมพึ่งถอดออกกลับมาคาดล็อคตัวผมไว้เป็นการสั่งแทนคำพูดว่า  ยังไม่ให้ลง 
“พี่อิฐ  ปล่อยผมเถอะ”

“แล้วทำไมต้องใช้บัตรประชาชนปลอม”

“ห๊ะ”

“พี่ถามว่าทำไมต้องพกบัตรปลอม  มันผิดกฎหมายนะ”

“พี่รู้ได้อย่างไรว่ามันปลอม”

“พี่รู้แล้วกัน”  เฮ้ย  ต้องเป็นตอนที่พี่แชมป์เก็บบัตรผมได้แน่ๆเลย  สุดท้ายตำรวจก็ดูออกจริงๆว่ามันปลอม  ไม่น่าไปต่อปากต่อคำกับอีกี้เลย  ไม่อย่างนั้นกระเป๋าตังค์ของผมก็คงไม่ตกพื้น บัตรก็คงไม่หลุด

“ก็พอดีอันเก่ามันพัง  เลยใช้ใบนี้ไปก่อนไง  บีนยังไม่มีเวลาไปทำ”

“หึหึ  โกหก  คิดว่าพี่เชื่อหรือครับ”

“ไม่เชื่อก็ตามใจ”

“จบมหาวิทยาลัยแล้วนี่  ทำไมต้องมาเรียนอีก  นี่แหละที่พี่สงสัย”

“..........................”
กึก   เสียงปลดล็อคประตู  พี่อิฐปล่อยผมแล้ว 

ผมก็ตีมึนกำลังจะเปิดประตูออกไป  พี่อิฐก็พูดประโยคที่ทำให้ผมหยุดฟังว่า

“แล้วถ้าเพื่อนนายๆรู้ว่านายปลอมตัวมาหลอกลวงพวกมันล่ะ  นายจะทำยังไง”

“พี่อิฐ” ผมที่กำลังจะปิดประตูรถ  แต่ก็ต้องหันหลังกลับไปมองหน้าคนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับ

“จะว่าอย่างไรครับ  เรามาทำข้อตกลงกันดีกว่า  พี่ไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นใคร  ทำแบบนี้ทำไม  แต่ที่แน่ๆนายคงไม่อยากให้เด็ก
พวกนั้นรู้ความจริงใช่ไหม” พี่อิฐหันมาถามผมที่กลับขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับอีกครั้ง

ผมที่ตกอยู่ในสถานะที่ต้องจำยอมทุกข้อกล่าวหาเพื่อที่จะปกปิดความลับนี้เอาไว้  ในเมื่อมีคนรู้เพิ่มขึ้นผมก็จะปล่อยให้มีไป  แต่พี่อิฐต้องเป็นคนสุดท้ายที่ต้องรู้เรื่องนี้

ผมพยักหน้าให้พี่อิฐหนึ่งครั้งเป็นคำตอบและคำสารภาพว่าทั้งหมดทั้งมวลที่พี่อิฐสงสัยและได้ถามเป็นเรื่องจริง
“พี่จะไม่บอกใครเรื่องนี้และจะไม่ถามว่าทำไม  แต่ต้องแลกกับความต้องการของพี่แค่ ๑ ข้อเท่านั้น”

“อะไรหรือครับ” ผมถามไปด้วยน้ำเสียงที่แหบเบา 

“ต้องทำตามที่พี่บอกทุกอย่าง  ง่ายๆไม่ยาก  เช่น  ตอนนี้พี่จีบนายอยู่  นายก็ต้องให้พี่จีบ  ไปทานข้าว  ดูหนังหรือว่าเที่ยวด้วยกัน”

“แต่ผมกลัวเพื่อนจะรู้” ที่จริงผมกลัวโอ๊ตจะรู้นั่นแหละครับ  ประเด็นสำคัญ  น้องโอ๊ตมันชอบผมจริงแล้วครับตอนนี้ 

“รู้ว่า”

“รู้ว่าผมกำลังคุยๆกับพี่อยู่”

“เฮ้ย  เรื่องแค่นี้เอง  เพื่อนในกลุ่มจะมีแฟนมันจะเป็นอะไรนักหนา  พี่ก็เป็นพี่ไอ้ไบท์มันด้วยหรือว่ากลัวโอ๊ตมันหึง ”

“เอ่อ  พี่อิฐ” เดาเก่งจังเลยนะพี่อิฐ  ผมจะทำอย่างไรดี  ตอนนี้ชีวิตโอ๊ตกำลังไปได้ดีทั้งเรื่องเรียน  เรื่องชีวิตต่างๆและดูสดใสเวลาที่น้องมันอยู่ใกล้ผม  ผมไม่อยากให้โอ๊ตเสียใจอีกเพราะกลัวน้องมันจะเขว

“เลิกยุ่งกับมันสิ  เออไม่ได้สินะเป็นเพื่อนกัน  อย่างนั้นก็ห่างๆกับมันก็แล้วกัน  ไปไหนก็อย่าไปกันสองคนเข้าใจไหม  อย่าอยู่กันสองต่อสอง  อย่าทอดสะพานให้มัน”

“............................................” อยากจะร้องไห้  ปัญหารุมเร้า  จะทำอย่างไรดี

“ที่สั่งไปเข้าใจไหม  ตอบ”  พี่อิฐใช้เสียงดังบังคับให้ตอบ

“เข้าใจครับ”  จำใจตอบไปเพราะหมดทางเลือกจริง  ชีวิตมืดมน  มืดแปดด้าน

“ไปได้แล้ว  เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาหา”

“ครับ”

ผมเดินล่องลอยเหมือนลอยได้  รู้ตัวอีกทีก็มาถึงหน้าห้องแล้ว  เข้าห้องไปผมก็ไปหยิบมือถือเครื่องจริงของผมกดเบอร์พี่กฤชทันที

“อ้าวบีน  ว่าไง”

“พี่กฤช  รู้จักกับเอ่อ คุณอิฐหรอ”

“ก็ใช่สิ  รู้จักกันหลายเดือนแล้ว  แกจ้างพี่เป็นเทรนเนอร์ให้แก  แล้วนี่ยังไงบีนวันก่อนที่เจอกันทำไมบอกว่าไม่รู้จัก” 

“ไม่มีอะไรหรอก  แต่ที่โทรมามีเรื่องจะถาม”

“นี่คุณอิฐเป็นแฟนใหม่บีนหรอ” พี่กฤชก็เป็นฝ่ายตั้งคำถามถามผมก่อนเสียเอง

“ไม่”

“หึๆ  ถึงบีนจะบอกว่าไม่รู้จักแต่ตอนที่เข้าไปคุยเรื่องงาน คุณอิฐก็ถามพี่อีกครั้งว่าพี่รู้จักบีนหรือเปล่า  พี่ก็บอกไปว่าเป็นรุ่นน้องที่มหาลัย  ไม่ต้องกลัวหรอกนะ  พี่ไม่บอกแฟนใหม่เราหรอกว่าเคยเป็นแฟนกับพี่  พี่จะพยายามแยกแยะ”

นี่ถ้าผมอยู่ใกล้พี่กฤชคงวิ่งเข้าไปตีแล้วถีบให้ล้มไปกับพื้นแล้วนะนี่  เวรกรรม
เข้าใจว่าแกก็คงงงๆว่าทำไม่ผมบอกไม่รู้จักและไม่มีเจตนาที่จะแกล้งอะไรผม  ทำไมโลกมันกลมอย่างนี้วะ  ทำไมพี่อิฐต้องมีเทรนเนอร์เป็นพี่กฤชด้วยและทำไมต้องเป็นพี่แชมป์ที่เก็บบัตรปลอมผมได้
ผมวางสายจากพี่กฤชไปก็ล้มตัวลงนอนไปกับเตียง  คืนนี้คงต้องพึ่งยานอนหลับ

........................................................................................


“หืม  ครับ  ยังไม่ตื่นครับ  ห๊ะ  อยู่หน้าห้องแล้ว  รอแปปนึงนะครับ”

ผมนอนหลับเสียยาว  ตื่นมาตอนเช้าก็เพราะว่าคุณบิ๊กโทรมาแล้วบอกกับผมว่าอยู่หน้าห้องแล้ว  คุณบิ๊กนี่ก็เป็นคนที่ไม่ค่อยบอกกันเลยนะครับว่าจะมาหาตอนไหนอะไรยังไง  คิดจะมาก็มา

แกร๊ก

“หัวยังยุ่งอยู่เลย  ฮ่าๆ  ไปหวีผมก่อนก็ได้คุณ  ถ้าเป็นตอนกลางคืนผมคงตกใจแย่”

“คุณก็เล่นมาหาผมตั้งแต่เช้าเลยนะครับเจ้านาย” ผมเดินไปหยิบน้ำรินใส่แก้วแล้วเดินถือแก้วน้ำไปให้เจ้านายที่โซฟา

“รู้จากโอ๊ตน่ะว่าคุณกลับมาแล้ว  เป็นอะไรหรือทำไมกลับบ้านไปสองวันเอง”

“เขาไปเที่ยวกันหมดครับ  ไม่มีคนอยู่บ้าน  เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ ” ผมกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำก็หยุดเดินก่อนจะถามคุณบิ๊กถึงจุดประสงค์ว่าทำไมถึงมาหาผม “แล้วคุณบิ๊กมีอะไรหรือเปล่าครับ  ถึงมาหาผมตั้งแต่เช้า”

“มาเล่นๆ”  ผมมองอ่อนไปที่คุณบิ๊กก่อนเจ้าตัวจะตอบใหม่ว่า  “มาเยี่ยมเฉยๆน่ะ”  ก็ไม่ต่างจากคำตอบแรก

“นี่คุณช่วงนี้งานราบรื่นดีใช่ไหม” คุณบิ๊กตั้งคำถามกับผม  ผมฟังแล้วถึงกับสะดุ้งขณะกำลังจะรินนมใส่แก้ว “เป็นอะไร  ทำไมถึงสะดุ้ง  แล้วนี่เรียกว่าวิ่งผ่านน้ำเถอะคุณบีน  อาบเร็วเกิน”

“แขกมาก็ต้องรีบมาอยู่ด้วยสิครับ”

“ยังไม่ตอบเลยงานราบรื่นดีใช่ไหม” อุ่ย  จะตอบว่ายังไงล่ะครับ  เบื้องหน้าดูราบรื่นมาก  แต่เบื้องหลังนี่สิจะโป๊ะแตกเมื่อไหร่ก็ได้เลยล่ะ “เป็นอะไร  คิดอะไรอยู่”

“ก็ดีครับ  โอ๊ตก็ทำข้อสอบได้เยอะกว่าตอนสอบมิดเทอมเทอมก่อน”

“อย่างนั้นก็ดี  รอดูคะแนนต้นปีหน้า  เออได้ข่าวว่าจะไปเขาค้อกันเหรอ”

“ครับ”

“ผมอยากไปด้วยอยู่นะ  แต่กลัวคุณอึดอัด”

“ครับ”

“เหม่ออะไร  หืม หรือว่าป่วย” ผมไม่ทันสังเกต  เจ้านายก็เดินมาประชิดตัวผมก่อนจะใช้หลังมือแตะที่หน้าผากผมเพื่อวัดไข้
ผมก็สะดุ้งนิดหน่อยเพราะคุณบิ๊กไม่ค่อยได้แตะเนื้อต้องตัวผม “ไม่เป็นอะไรครับ”

“ต้องมีสิ  ผมดูออก  ยังไม่หายเศร้าเรื่องบอยอีกหรือ  โอ๊ะ  ขอโทษนะที่ถามตรงไป”

“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับคุณบิ๊ก  ไหนๆก็ไหนๆแล้วคุณอย่าด่าผมนะครับ  เพราะคุณเคยบอกผมว่าถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับงานให้บอก  เรื่องน้องโอ๊ตนั้นผมจัดการได้ครับ แต่อยู่ๆก็เหมือนมีคนรู้ว่าผมปลอมตัวมาเป็นเด็กมัธยม”
ผมตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดกับผมแล้วก็พี่อิฐโดยละเว้นเรื่องที่โอ๊ตชอบพอกับผมไว้หนึ่งเรื่อง


“อย่างนี้นี่เอง” คุณบิ๊กพยักหน้าเบาๆแต่คิ้วขมวดกันเป็นปม “แสดงว่าคุณก็ต้องทำตามเขาหมดทุกอย่างล่ะสิ  ถ้าเขาสั่งอะไรคุณ”

“นี่ล่ะครับที่ผมกลัว”

“คุณอยากให้ผมช่วยใช่ไหม”

“ครับ  ผมยอมรับนะคุณบิ๊กว่าผมผิดที่ไม่ระวังตัว” ผมสารภาพผิดยอมรับ  ก้มหน้าก้มตา

“เอาล่ะ  จะมาให้ผมถือโทษคุณมันก็ไม่ใช่เรื่อง  เอาเป็นว่าคุณก้พยายามอย่าให้เขาทำอะไรมากก็แล้วกัน”

“ครับ”

“ผมคิดไว้แล้วว่าต้องมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น  งานนี้คุณอาจจะได้ทำไม่ถึงสองปีตามที่สัญญากำหนดนะ  ถ้าเรื่องมันจะถูกเปิดเผยขึ้นมาผมก็จะให้คุณหยุดทำ  แต่ก็จะมีเงินชดเชยให้  จะหางานใหม่ให้ทำก็แล้วกัน  งานในเครือบริษัทผมนี่แหละ”
หยุดทำอย่างนั้นหรือ  ถ้าวันหนึ่งผมต้องเลิกทำแล้วหายตัวไปดื้อๆ  ความรู้สึกของเพื่อนๆหรือโอ๊ตก็คงไม่ต่างกันกับผมเมื่อสองเดือนก่อน

“ครับ” ผมยกมือไหว้ขอบคุณเจ้านายที่ยังเมตตากันอยู่

“เอามือลงๆ” คุณบิ๊กเอามือทั้งสองของแกมาจับที่มือผมซึ่งยังพนมอยู่ลงแล้วบีบนวดเบาๆให้ผมผ่อนคลายพร้อมกับเขย่าเบาๆ

“สู้ๆนะบีน”

“ครับ  ขอบคุณครับ” ผมดึงมือออกจากคุณบิ๊กเบาๆ  ก่อนหันหน้าไปจ้องหน้าทีวี  อย่างน้อยก็ยังมีคนให้กำลังใจเราอยู่

ติ๊ง  ติ๊ง  ติ๊ง

“เฮ้ย  ใครมา”  ตายแล้วครุบคุณบิ๊กอยู่ในห้องกับผมแบบนี้  ถ้าเป็นน้องโอ๊ตมาซวยแย่เลย  แต่รายนี้ถ้าจะมาต้องโทรมาบอกก่อน

นี่นาหรือว่า

พี่อิฐ

ผมส่องดูหน้าจอหลังประตู  เป็นพี่อิฐจริงๆด้วย  ผมจึงรีบวิ่งกลับไปบอกคุณบิ๊ก

“คุณๆ คุณอิฐมา  ไปซ่อนก่อนเร็ว  ในตู้เสื้อผ้าในห้องแต่งตัวก็ได้ไป  เร็วๆ”

“โอเค  มันหายใจในนั้นได้ใช่ไหม”

“ครับๆ  เดี๋ยวผมหาทางให้เขากลับไปเอง”




“ช้า”

“ขอโทษครับ”  มาถึงก็ทำหน้าโหดใส่  สงสัยคงรอนาน

ใช่สิครับคนมันถือไพ่เหนือกว่า

“ทานอะไรหรือยังครับน้องบีน”

“กินนมไปแล้วครับ  เช้าๆยังไม่หิวมาก   ว่าแต่วันนี้พี่อิฐมาไม่เห็นโทรมาบอกกันก่อนเลย”

“พี่โทรมาแล้วนะบีน  แต่เราไม่รับสายพี่เอง” เออจริงด้วย  มือถือผมยังวางอยู่ในห้องนอน “ที่มานี่จะมาบอกว่า  พี่จะไปเขาค้อด้วยนะครับ”

“หืม  จริงหรอครับ”  ที่ถามออกไปไม่ใช่ว่าดีใจนะครับ  ตกใจมากกว่า

“จริงสิ  พี่เลยจะชวนเราไปซื้อของกัน  ที่นั่นคงหนาวน่าดู”

“ซื้ออะไรหรอครับ”

“ซื้อเต็นท์ไง  เห็นไอ้ไบท์มันบอกว่าจะมีนอนรีสอร์ทหนึ่งคืน  อีกสองคืนนอนเต็นท์  ไปนะเลือกช่วยกัน”

“แต่ว่า”

“แต่ว่าอะไรครับ  ลืมข้อตกลงของเราแล้วหรอ”

“วันนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายครับพี่  ครั่นเนื้อครั่นตัวยังไงไม่รู้  เลยไม่อยากออกไปไหน  กลัวหายไม่ทันไปเที่ยวนะครับ”

“ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา”

“แต่มันปวดตามตัวครับ  เดี๋ยวขอกินยาก่อนนะ  ผมจะได้นอนพัก” ผมไม่ว่าเฉยๆ  ลงทุนเดินไปเอายามากินต่อหน้าต่อตาพี่อิฐสองเม็ด

“อย่างนั้นก็เข้าไปนอนในห้องไป  เดี๋ยวพี่ไปห่มผ้าให้”
พี่อิฐจัดแจงห่มผ้าให้ผมเสร็จก็เอามือลูบหัวผมเบาๆ “นี่  ไปเที่ยวนอนเต็นท์เดียวกันกับพี่นะ  อากาศหนาวๆนอนกอดกันคงอุ่นดี”

“......................” ผมยิ้มมุมปากให้พี่อิฐ  ไม่อยากรับปากแกสักเท่าไหร่  ไม่น่ามาซวยแบบนี้เลย  เจอคนที่ไม่ได้ชอบมาจีบ  แถวยังโดนเขาบังคับแล้วยังต้องทำตามอีก

“ยิ้มเฉยๆไม่ตอบนี่แสดงว่าอะไร”

“ง่วงแล้วครับ  พี่อิฐออกไปล็อคห้องให้ด้วยนะ”

“ก่อนออกไปขอหอมแก้มให้ชื่นใจหน่อยเร็ว”  พูดไม่ทันจบพี่แกก็หอมแก้มผมซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว  ก่อนที่จะจับหน้าผมไว้ตรงแล้วเตรียมที่จะประกบปากลงมา  แต่มาไม่สุดทางผมก็ใช้มือดันหน้าพี่อิฐออกเบาๆ “ทำไมล่ะ  หืม”

“เดี๋ยวติดไข้ครับ”

“ไม่เป็นไรหรอก  พี่แข็งแรง”
อุ๊บๆ   ต้านไม่อยู่หรอกครับ  ที่เหลือคือห้ามตัวเองมีอารมณ์ร่วมไปกับคนที่บดจูบลงมาอย่างบางเบาๆแต่แฝงไปด้วยความหื่นกระหาย 

“อา  ฝากไว้ก่อนนะ  เดี๋ยววันไปเที่ยวพี่เอาคืนแน่ๆ”

“ครับ”  ตอบไปแค่นั้นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆครับ  งานนี้ผมเปลืองตัวเสียจริง

“นอนพักผ่อนซะนะ  เดี๋ยวบ่ายพี่โทรมาหา”

พี่อิฐออกจากห้องไปแล้วผมจึงลุกไปเรียกคุณบิ๊กที่แอบอยู่ในห้องเสื้อผ้า
“คุณๆ พี่อิฐไปแล้วครับ”

“เฮ้อ  ค่อยยังชั่ว  แล้วนี่ผมแอบเห็นนะทำไมไม่ระวังตัวเลย  ไปให้เขาจูบได้ยังไงกันหรือว่าสมยอม”

“บ้าหรอคุณบิ๊ก   ซวยแล้วไงครับพี่อิฐจะไปเที่ยวเขาค้อด้วย”  ผมคิดหนักเข้าไปกว่าเดิมอีก  ตอนนี้หนาวๆร้อนๆเหมือนจะเป็นไข้จริงๆแล้ว

“เอาเป็นว่าผมจะกำชับให้โอ๊ตดูแลเพื่อนมันให้เอง” ฝากผ่านโอ๊ตมาดูแลผม  แต่ผมก็ต้องทำตามคำสั่งของพี่อิฐอยู่ดี  เฮ้อ  ชีวิต

...


วันเดินทางเราออกจากกรุงเทพประมาณห้าทุ่มตรง  เราสี่คน มีพี่อิฐ  ไบท์  โอ๊ตและก็ผม  ตกลงกันว่าจะออกเร็วเพราะไม่อยากจะขับรถเร็วมาก  ตั้งแต่ขึ้นรถมาพี่อิฐก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะบังคับผมแต่อย่างใด  ด้วยความที่ว่าอยู่กับคนอื่นด้วยมั้ง  ผมจึงได้นั่งเบาะหลังกับโอ๊ต  ซึ่งโอ๊ตก็ขอเอาหัวตัวเองมาหนุนที่ตักผม  จนมีสายตาพิฆาตมองผ่านกระจกหลังมาจนได้

ผมหลับไปได้สักหนึ่งชั่วโมงก็ตื่นมาถามไบท์ว่าถึงไหนก็ได้ใจความว่า  อยู่ปั๊มทางออกจากจังหวัดสระบุรี  พี่อิฐจอดแวะเข้าห้องน้ำ  ส่วนโอ๊ตยืนคุยโทรศัพท์อยู่นอกรถ

“ไม่ไปเข้าห้องน้ำหรือครับน้องบีน” พี่อิฐที่ขึ้นมานั่งฝั่งคนขับก็ถามผม

“ยังไม่อยากเข้าครับ” ผมตอบแล้วยิ้มแห้งๆไป 

“ว่ายังไงวะมึง  ใครโทรมา”  ไบท์ที่นั่งอยู่ข้างคนขับเปิดกระจกถามโอ๊ตที่พึ่งคุยโทรศัพท์เสร็จ


“เอ่อ  คือ” โอ๊ตเดินเข้ามาใกล้กับตัวรถก่อนโผล่หน้ามาที่กระจกแล้วพูดกับพี่อิฐว่า “พี่อิฐครับ  รออาผมอีกสักหนึ่งชั่วโมงก่อนได้ไหมครับ  พอดีอาผมอยากไปด้วย”




ห๊ะ   คุณบิ๊กจะมา
เจ้านายผมจะไปด้วยทำไม

...............................................................................................


อิจฉาบีน  ผู้ชายล้อมรอบ  แต่ใครจะรักบีนจริงๆแล้วใครกันที่สรุปแล้วบีนจะรักตอบ 
อันนี้ก็ต้องลุ้นกันต่อไปนะคุณผู้อ่านทุกคน
ตอนนี้มาเร็วกว่าที่เคยมาสองวัน  หวังว่ายังจะมาคนติดตามนะ 
เข้ามาดูการตอบกลับ  การแสดงความคิดเห็นของผู้อ่านที่น้อยลง  รู้สึกใจหายจัง  :o8:
หรือว่าเราลงแต่ละตอนช้าไปหรือเปล่าน้อออ   เข้ามาอ่านมาตอบกันเยอะๆนะครับ  เราอ่านทุกอันที่ตอบกลับมานะ
วันนี้ไปก่อน บ๊าย  บายยยยยยย   :katai2-1: :mew1:

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 26-10-2015 23:26:58
3p ขอโอ้ตกะบิ๊ก~
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 26-10-2015 23:50:08
บิ๊กบีนนนนน

ตกลงบอยไปแล้วจริงๆ ไม่กลับมาแล้วหรอครับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 27-10-2015 00:13:05
ติดตามอ่านทุกตอนจ้า ไม่รู้ใครเป็นพระเอกเรื่องนี้กันแน่ หรือว่าเรื่องนี้ไม่มีพระเอก 555 มาต่อไวๆ นะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 27-10-2015 03:24:04
เชียร์คุณบิ๊กดีกว่า อิจฉาบีนจริงๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 27-10-2015 06:23:12
เชียร์คุณบิ๊ก   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-10-2015 07:14:46
ปวดหัวแทนบีน. คุณบิ๊กมาช่วยก็ดีแล้วไงถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ยังมีคนเคลียร์ให้
ยังทีมโอ๊ตบีนอยู่นะ. ลุ้นพระเอกกันต่อไปเนอะคนเขียน.  :L2:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 27-10-2015 10:03:01
มีแต่คนเข้ามาชอบ อิจฉาจริงๆเลย แต่ก็ไม่เอาอ่ะ ดูวุ่นวายสุดๆ รอติดตามตอนต่อไป :hao7: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 27-10-2015 10:17:49
ติดตามทุกตอนจร้า เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-10-2015 10:59:14
โอ้โห!!! บีนเสน่ห์แรงน่าดู ใครๆก็มาพัวพันชีวิตยุ่งเหยิงไปกันใหญ่

แต่ละคนก็ไม่รู้ว่าจะเข้ามาทำให้บีนเสียใจหรือจะมาดูแลใจบีน

โอ๊ตรักบีนแต่ก็ยังถือว่าเด็กกว่าบีนยังมีโอกาสเจอคนอีกมาก

อิฐก็กลัวว่าจะจีบเล่นๆ เพราะความเจ้าชู้ แต่ถ้าเจอบีนแล้วหยุดความเจ้าชู้ได้ก็อาจมีลุ้น

คุณบิ๊กถ้ามาหลงเสน่ห์บีนอีกคนจริงๆ ก็คงยุ่งเพราะต้องมีปัญหากับหลานชายแน่ๆ

เพราะฉะนั้นมาต่อเร็วๆ นะ เราอยากรู้ว่าใครคือคนที่ใช่สำหรับบีน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๑ ๒๖/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บบหรือบอ
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 27-10-2015 14:03:43
ไม่ได้เห็นหัวเรื่องนี้นานนึกว่าไม่ได้อัพ  แต่พอเข้ามาอ่านโหย  ได้อ่านจุใจมากๆ  ตั้งแต่ตอนบอยละ  เดาผิดแค่คิดว่าบอยเป็นตำรวจปลอมตัวมาเท่านั้น  เรื่องแต่งงานเดาถูกเป๊ะ  แ่านไปจะอิจฉาบีนที่น่ารักเกินขนาดจนคนมารุมชอบ หรือสงสารดีที่ความน่ารักเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวต่างๆนี่   ฝู่ชายเยอะเกิน  โดนกอดโดนหอมโดนจูบตลอด 
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๒ ๒๙/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 29-10-2015 13:55:57
ตอนที่  ๒๒

คุณบิ๊กมาช่วยผมแน่ๆนั่นคือสิ่งที่ผมคิดได้ขณะที่เดินดูของในร้านสะดวกซื้อที่ปั๊มน้ำมันเพื่อรอเจ้านาย  ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะครับแต่ในสถานการณ์แบบนี้มีคนมาช่วยก็ดี  ยิ่งเป็นเจ้านายตัวเองก็ยิ่งดีไปใหญ่

ผมเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อถือหนังสือการ์ตูนเล่นละ ๑๕  บาทขึ้นมาอ่านพลางๆ ไบท์กับพี่อิฐนอนเอาแรงในรถเพราะจะต้องเปลี่ยนกับขับ  ส่วนโอ๊ตก็นั่งเล่นเกมส์มือถืออยู่เก้าอี้ตัวถัดไปจากผม

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงคุณบิ๊กก็มาถึง  ผมกับโอ๊ตจึงลุกไปหาคุณอายังหนุ่มที่กำลังเปิดประตูรถออกมา
“อาขอโทษด้วยนะโอ๊ตที่ให้รอ  อาพึ่งรู้ว่าตารางงานช่วงนี้ว่างน่ะ” คุณบิ๊กขอโทษหลานตัวเองอย่างรู้สึกผิดที่ให้รอ  แต่โอ๊ตก็ไม่ได้มีทีท่าหงุดหงิด  กลับรู้สึกดีใจที่มีคนไปเที่ยวเพิ่ม

“ไม่เป็นไรครับอาบิ๊ก  เดี๋ยวอย่างนั้นผมย้ายไปนั่งเป็นเพื่อนอานะ”

“เออดีๆ  น้องบีนก็มานั่งกับอากับโอ๊ตก็ได้นะ” คุณเจ้านายหันมาพูดกับผม  มองตาแกก็รู้ครับว่ากันไม่ให้ผมอยู่ใกล้พี่อิฐ  ดีๆ  ค่อยโล่งใจหน่อย

“มานั่งกับกูนะบีน  เดี๋ยวไปปลุกพี่อิฐกับไอ้ไบท์ก่อน” ว่าแล้วน้องมันก็เดินไปเคาะกระจกรถ  ส่วนผมก็เดินไปเอากระเป๋าสะพายข้างที่ใส่พวกมือถือกระเป๋าตังค์ออกมาเตรียมจะย้ายไปนั่งรถเจ้านาย

“พี่อิฐ  อาผมมาแล้วเดี๋ยวผมย้ายไปนั่งกับอานะครับ”

“โอเคครับ” ตอบโอเค  แต่พี่อิฐมองหน้ามาทางผมอย่างกับหมายโทษเอาไว้  อาการไม่สบายใจก็กลับมาอีกครั้งครับ  หลังจากที่เมื่อครู่ดีขึ้นมาหน่อย

“อ้าว  อาบิ๊กมาแล้วหรอว่ะ  เดี๋ยวกูไปล้างหน้าก่อนนะบอกอามึงว่าขับตามๆกันไปนะ  จะได้ถึงพร้อมๆกัน  พี่อิฐผมไปล้างหน้าก่อนนะ  ผมเดี๋ยวมาขับให้” ไบท์ที่พึ่งตื่นก็พูดกับโอ๊ตกับพี่อิฐก่อนที่จะเดินลงจากรถไปเข้าห้องน้ำ  ผมไม่รอช้าตัวก็ย้ายมานั่งที่เบาะหลังของรถเจ้านายเป็นที่เรียบร้อย  ส่วนน้องโอ๊ตก็มานั่งเบาะหลังด้วยจนเจ้านายอดถามหลานขำๆไม่ได้ว่า

“นี่ตกลงอามาเป็นคนขับรถให้ใช่ไหมโอ๊ต”

............................................................................................

พวกผมมาถึงเขาค้อกันตอนเกือบๆเจ็ดโมงเช้าครับ  จึงแวะทานข้าวเช้ารองท้องแถวๆที่ว่าการอำเภอ   เวลาเช็คอินเข้ารีสอร์ทก็ตอนเที่ยงพวกเราเลยตกลงกันว่าจะเอารถไปฝากไว้ที่รีสอร์ทหนึ่งคันก่อนจะไปเที่ยวแถวๆนี้กันแล้วจึงจะกลับมานอนกันตอนบ่าย

คุณบิ๊กเป็นคนอาสาให้ใช้รถตัวเองเที่ยวรอบๆเขาค้อโดยเราเลยขึ้นไปพระตำหนักเขาค้อก่อน  แล้วลงมาที่หอสมุดนานาชาติ  พิพิธภัณฑ์อาวุธ  และอนุสรณ์สถานเป็นที่สุดท้าย  ก็ถึงเวลาที่จะได้เช็คอินเข้าห้องพักอาบน้ำอาบท่านอนพักตอนบ่ายแล้วเย็นๆค่อยดูพระอาทิตย์ตกกัน  ส่วนห้องผมต้องขอเตียงเสริมคุณบิ๊กครับเพราะแกมาแบบไม่ได้จองอะไรเลย 

“ โอ๊ต  เดี๋ยวอานายก็ออกมาเห็นหรอก” โอ๊ตที่พึ่งอาบน้ำเสร็จก็กระโจนลงเตียงเข้ามากอดผมนี่ถ้าไม่เกร็งท้องไว้คงจุก

“ออกมาเห็นได้ไงว่ะ  อาบิ๊กพึ่งเข้าไปอาบน้ำ  มาๆมาให้นอนกอดให้ชื่นใจหน่อยเร็ว ”

ผมก็ยอมไม่ขัดอะไร  “ที่พักสวยดีเนาะ”  ผมมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง  อดชื่นชมไม่ได้ว่าที่นี่ก็มีรีสอร์ทสวยๆสไตล์คันทรีอิงลิชอยู่  ต้องยกเครดิตให้ไบท์ที่เป็นคนจอง “พอได้แล้วโอ๊ต  เดี๋ยวอาจะออกมาแล้ว”  ผมบอกให้โอ๊ตคลายกอดจากตัวผม  เพราะเดี๋ยวคุณ

“ได้   แต่คืนนี้ต้องให้กอดนะ”

“เดี๋ยวอาก็เห็น”

“เออน่า  อากูไม่ว่าอะไรหรอก”

เราสามคน  ผม โอ๊ตและก็คุณบิ๊กนอนสลบกันในช่วงบ่ายก่อนที่จะทยอยกันตื่นตอนสี่โมงเย็นแล้วออกเตรียมตัวไปดูพระอาทิตย์ตกก่อนจะไปหาอะไรกินกัน  ส่วนพี่อิฐแกดูเงียบๆไม่ค่อยพูดกับผมสักเท่าไหร่  สงสัยคงไม่กล้าบังคับผมเพราะคนอยู่กันเยอะ 
บรรยากาศครื้นเครงในร้านอาหารที่เขาค้อ  ยิ่งช่วงปีใหม่นี้คนยิ่งเยอะไม่ใช่เยอะธรรมดานะครับ  คนหนาแน่นมากรถติดเป็นสายเลยก็ว่าได้  ดีนะที่พวกผมขับมาตอนกลางคืน ดูๆแล้วคนก็มาจากเมืองกรุงเสียส่วนใหญ่

ผมยืนอยู่ที่จุดชมวิวของร้านปล่อยให้หนุ่มๆ ๔ คนนั่งดื่มกันไปเพราะว่าผมไม่อยากดื่มเบียร์สักเท่าไหร่  ไม่ค่อยชอบกลิ่นมัน
“ไม่ดื่มเบียร์กับเพื่อนๆหรือน้องบีน” เรียกผมว่าน้องบีนแบบนี้คงมีคนเดียว  พี่อิฐ

“ไม่ชอบครับ”

“แล้วถ้าเป็นนมข้นอุ่นๆล่ะครับ  ชอบไหม” อีกฝ่ายถามกลับด้วยสายตาหื่นกระหาย

“ไม่ชอบครับ   ทำไมหรอครับ”  ผมรู้ครับว่าหมายถึงอะไร  แต่ทำเป็นไม่รู้จะดีกว่า  ยิ่งไปตกใจทำหน้ากลัวพี่แกยิ่งจะได้ใจ

“นมข้นนี่ไม่ต้องกินก็ได้ครับ  ให้พี่ฉีดราดหน้าน้องบีนดีกว่า” พี่อิฐก้มหน้าเข้ามากระซิบที่หูผมก่อนจะใช้มือจับที่บ่าผมบีบเบาๆ “คืนนี้อาจจะรอด  แต่คืนหน้าไม่รอดแน่ๆ  หึหึ”

ผมปล่อยให้ผู้ชายที่ตอนนี้เหมือนคนโรคจิตเดินกลับไปที่โต๊ะก่อนผมจะเดินตามไปแล้วก็พบว่าเพื่อนกำลังเช็คบิลกันพอดี  พอถึงรีสอร์ทก็แยกย้ายกันพักผ่อนแล้วนัดพบกันพรุ่งนี้ตอนเก้าโมง  ไปหาที่กางเต็นท์เพราะไม่ได้จองที่กางเต็นท์ของรีสอร์ทไว้ตั้งแต่ทีแรก

มือเย็นๆสอดมาที่เอวผมในขณะที่ผมกำลังจะหลับ
“ไม่ต้องขัดขืนอากูหลับแล้ว  ดูสิ  แถมนอนตะแคงไปอีกทางไม่เห็นเราหรอก  หันหน้ามากอดกันเร็ว”

ผมดูแล้วคุณบิ๊กหลับจริงๆเลยหันหน้าไปให้น้องโอ๊ตกอดก่อนจะซุกหน้าไปที่อกของน้อง 

โอ๊ตหลับไปแล้วครับแต่ผมนี่สินอนไม่หลับเพราะไม่ชินที่  จึงพลิกตัวไปอีกทางอย่างลำบากเพราะโอ๊ตกอดผมไว้อยู่  แต่พอพลิกตัวไปผมก็ตกใจยิ่งกว่าเห็นผีเพราะผมเห็นคนบิ๊กนอนหงายกดมือถือตัวเองอยู่  แสดงว่าเจ้านายก็ต้องเห็นผมกอดกับหลานตัวเองอยู่ล่ะสิ  คุณบิ๊กตอนนี้คงรู้แล้วครับว่าผมนอนไม่หลับเพราะจังหวะที่หันมาแกก็ดันหันมาสบตากับผมทันที  ถึงห้องจะมืดก็เถอะแต่ก็พอมองเห็นกันอยู่  เจ้านายผมชี้ไปทางประตูเป็นสัญลักษณ์ว่าให้ออกไปคุยกันข้างนอก

เราออกมายืนกันที่จุดชมวิวของรีสอร์ท  คนไม่ค่อยพลุกพล่านสักเท่าไหร่  ผมที่เดินตามเจ้านายมาอย่างกล้าๆกลัวๆ ทั้งปากกับตัวที่ยังสั่นหาสาเหตุไม่ได้ว่าสั่นเพราะหนาวหรือกลัวโดนดุ

“นานเท่าไหร่แล้วหรอคุณที่คุณคบกันกับหลานผม”

“เอ่อ  ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะครับคุณบิ๊ก”

“หืม  แล้วจะให้คิดยังไง”  คุณบิ๊กที่เมื่อกี้หันหลังคุยกับผม  หันหน้ามามองผมแล้วกอดอก

“คือ  เรายังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันครับ”

“แสดงว่าก็ดูๆคุยๆกันอยู่อย่างนั้นสินะ”

“อย่าว่าผมว่าหลานคุณเลยนะครับ  คือ  ตอนแรกผมก็ไม่ได้ชอบน้องหรอกแต่น้องชอบผมก่อนแล้วผมก็เลยตามเลยเพราะผมต้องดูแลน้องบ่อยๆทั้งเรื่องเรียน  การบ้าน  รายงาน  ติว  คืออยู่ติดตัวกันตลอด  ผมเลยไม่ได้ปฏิเสธน้องไป”

“อืม  นะ”

“ผมกลัวน้องเสียใจถ้าผมบอกว่าไม่ได้ชอบเลยพยายามยอมน้องไปครับเรื่องไหนที่ยอมได้  เรื่องไหนที่ไม่เหมาะผมก็พยายามสอน  พยายามบอกเขานะ”

“แล้วคุณคิดว่าผมต้องทำยังไงกับเรื่องนี้”

“เอ่อ  คุณบิ๊ก  ผมขอโทษนะครับ  ถึงมันเป็นวิธีที่ทำให้น้องเบี่ยงเบนทางเพศแต่ข้อดีคือน้องก็ไม่ได้ไปเที่ยวบ่อยเหมือนแต่ก่อนแล้วนะครับ  ไม่ได้ไปนอนกับคนอื่น” ผมพยายามบอกข้อดีไปกลัวเจ้านายจะโกรธ

“นี่อย่าบอกนะว่ามีอะไรกันแล้ว”

“ยังครับยัง  ผมก็เผื่อๆไว้  คงไม่ตกลงเป็นแฟนอะไรกันหรอกครับ  เผื่อวันดีคืนดีผมได้ออกจากงาน  น้องโอ๊ตคงจะต้องเสียใจมากแน่ๆ”

“เฮ้อ  แต่ยังไงคุณก็เป็นคนดีผมไม่ว่าอะไรหรอก” ดูเหมือนคนบิ๊กจะใจเย็นลง  คุณบิ๊กถอนหายใจขึ้นบนฟ้าแล้วมองลงพื้นดินอย่างรวดเร็ว

“ทำไมทำหน้าเศร้าแบบนั้นล่ะครับ  ถ้าผมทำให้คุณคิดมากล่ะก็ผมขอโทษจริงนะครับ  นะๆ” ผมไหว้ไปที่ไหล่ของคุณบิ๊กก่อนที่เข้านายจะทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด

คุณบิ๊กลดมือของผมที่ไหว้แกลงแล้วโอบเอวผมเข้าไปกอดแล้วซุกหน้าตัวเองไว้ที่ไหล่ผม
“ผมจะช่วยคุณให้อยู่กับโอ๊ตได้นะแต่ไม่รู้ว่าจะนานเท่าไหร่  เรื่องนี้ต้องมีคนเสียใจแน่ๆไม่ใช่แค่หลานผม  คุณเองก็ต้องเตรียมใจไว้   ผมเหนื่อยจังเลย ” คุณบิ๊กพูดเสียงอู้อี้ในลำคออย่างเหนื่อยก่อนจะคลายกอดออกจากผม

“คุณสบายใจได้ครับ  ผมจะดูแลหลานคุณเอง”

“คุณก็สบายใจได้นะ  ผมจะช่วยไม่ให้อิฐล่วงเกินคุณเอง”

“ขอบคุณครับ”  เจ้านายดึงตัวผมเข้าไปกอดอีกรอบ  ไม่นึกไม่ฝันว่าคนอย่างคุณบิ๊กจะมากอดผม  คงไม่ใช่กอดเพราะความพิศวาสหรอกนะ

.................................................................................................

เวลาสิบโมงเช้าพวกผมเช็คเอ้าท์ออกจากรีสอร์ทก่อนจะไปจองที่กางเต็นท์ที่ไปรษณีย์เขาค้อ  ดีว่ายังมีที่ของคนที่มากางเมื่อวานแล้วออกไปพอดี   พวกเราจึงไปขนของเอาอุปกรณ์มากางเต็นท์กัน

“อ้าวมึง  ทำไมเอาเต็นท์มาล่ะ” โอ๊ตที่กำลังขนของอยู่ถามผมขึ้นอย่างงงๆ

“ก็เต็นท์นายมันนอนได้สองคนไง  นายก็นอนกับอาไง” น้องมันเดินมากระซิบผมสงสัยกลัวอาจะได้ยิน

“ไม่เอาว่ะ  กูจะนอนกับมึง  แล้วให้อานอนเต็นท์มึง”

“เต็นท์เราเล็กนิดเดียวเองเกรงใจอาตัวเองหน่อยสิโอ๊ต  อาบิ๊กอุตส่าห์มาเที่ยวด้วย  ตังค์ค่ากับข้าวเราก็ยังไม่ได้ออกสักบาท  อาบิ๊กเลี้ยงหมด  นอนไปเถอะเมื่อคืนก็ได้กอดแล้วไง” โอ๊ตทำหน้างอไปแล้วครับ  ผมขี้เกียจง้อเลยกางเต็นท์ต่อเพราะว่าถ้าสายไปแดดมันร้อน

ส่วนเรื่องผมเอาเต็นท์มานอนต่างหากนี่ก็เพราะอยากอยู่ห่างโอ๊ตไว้ตามที่พี่อิฐสั่งไว้ครับ  ถ้าคุณบิ๊กไม่มาด้วยพี่อิฐแกก็คงวางแผนว่าจะนอนคนเดียวแล้วให้ไบท์มานอนกับโอ๊ต  ส่วนผมก็จะขอนอนคนเดียวพี่อิฐแกจะได้จัดการผมตอนกลางคืนได้  แต่คุณบิ๊กมาช่วยผมไว้พี่อิฐเลยต้องนอนกับไบท์  แต่กลางคืนผมก็ยังคิดว่าไม่ปลอดภัยอยู่ดี  พวกเรากางเต็นท์จองที่กันเสร็จจึงตกลงกันว่าจะลงไปเที่ยวไร่ผลไม้และไปซื้อของมาทำกินกันตอนเย็น

เนื้อหมูหมักไว้แล้ว  บาร์บีคิวก็หมักแล้ว  เครื่องดื่มน้ำแข็งพร้อม  ตอนนี้พี่อิฐกำลังแบกเตาย่างปิคนิคลงมาจากรถเพื่อย่างเนื้อกับบาร์บีคิวกินกัน  ส่วนผมก็เป็นเด็กชงเหล้าให้ผู้ใหญ่ๆ   ไบท์กับโอ๊ตก็โดนคุณบิ๊กห้ามไม่ให้ดื่มเหล้าเลยตกมาซดน้ำโค้กกับผม   
พวกเราใช้เวลาปิ้งย่างกันอย่างสนุกสนานเกือบสองชั่วโมงก็เริ่มอิ่มผมกับเด็กสองคนจึงเก็บของเก็บเศษขยะ  ทำพื้นที่นั่งทานข้าวให้สะอาด  ส่วนผู้ใหญ่สองคนก็ยังดื่มกันอยู่แต่พี่อิฐดูจะหนักไปหน่อยเพราะคุณบิ๊กบริการชงเหล้าให้พี่อิฐแบบไม่ขาดปาก  ดื่มแบบไม่ได้พักซึ่งทางนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะปฏิเสธหรือหยุดดื่ม

“เริ่มเมาแล้วคุณไม่ต้องห่วงนะ”

ผมกำลังแปรงฟันอยู่ที่ห้องน้ำคุณบิ๊กก็เดินมาล้างหน้าข้างๆกันก็บอกผมว่าพี่อิฐแกเริ่มเมาแล้ว  นี่อย่าบอกนะว่า

“คุณมอมเหล้าพี่อิฐเหรอครับ”

“ใช่  กลางคืนเขาจะไม่ได้ทำอะไรคุณยังไง”

“เออจริงด้วย  ขอบคุณนะครับ   แต่หวังว่าจะไม่เมาแล้วยิ่งหื่นกว่าเดิมนะ”

ผมเดินกลับไปที่เต็นท์ก่อนคุณบิ๊กแล้วเข้าไปจัดที่นอนในเต็นท์เองก่อนจะออกมาฟังเพลงที่ไบท์ลงทุนเอากีต้าร์มาเล่นด้วย  แต่เนื่องจากว่าอากาศที่หนาวขึ้นเรื่อยๆ น้ำค้างก็แรงเลยทำให้ร้องได้สองสามเพลงก็ต้องแยกย้ายกันไปนอนส่วนพี่อิฐแกก็เมานอนในเต็นท์ไปแล้วครับ

ผมนอนเหงาๆในเต็นท์คนเดียวบวกกับอากาศที่หนาวจัดกว่าวันก่อนที่นอนในรีสอร์ทก็เริ่มคิดแล้วว่านี่ตัวเองคิดผิดหรือเปล่าวะที่แยกมานอนคนเดียว

ฟื๊ด 

เสียงรูดซิปเต็นท์ผมดังมาจากปลายเท้า  อ้าวพี่อิฐ
“เฮ้ยพี่”  ผมตกใจแต่พยายามคุมเสียงที่ออกมาให้เบาๆ

“จุ๊ๆ  เงียบๆ  ขอหน่อยเถอะ” พี่อิฐว่าแค่นั้นก็กระโจนเข้าหาผมก่อนจะใช้จมูกของพี่เขาสูดดมที่ซอกคอผม  ส่วนมือก็ไม่อยู่นิ่ง   สอดเข้ามาในเสื้อพร้อมกับคลึงหัวนมผมอย่างเมามัน  ผมพยายามผลักตัวพี่อิฐออกไปแต่สู้แรงไม่ได้สักที  แกก็คงนึกรำคาญจึงจับมือผมที่ดันตัวแกข้างนึงไปจับไว้ที่เป้าที่แน่นตุงของแกไว้   จะร้องก็ร้องไม่ออกครับ  พี่อิฐเล้าโลมผมเหมือนไปอดอยากปากแห้งมาจากที่ไหน

“นิ่งๆสิวะ  อยากให้คนอื่นรู้ความลับของนายเหรอ  อึก” คนเมาเริ่มดึงเสื้อผมขึ้น  ลวนลามผมอย่างสะเปะสะปะแล้วใช้ปากครอบลงที่หัวนมด้วยว้ายผมอีกครั้งกดจะดูดแรงๆไปทีหนึ่งแล้วทุกอย่างก็เงียบลง

พี่อิฐหยุดนิ่งแต่ปากยังคาบหัวนมผมไว้อยู่  ตัวแกนอนทับผมลงน้ำหนักตัวเต็มที่  มือไม่ขยับเท้าไม่ขยับ  หัวนมผมที่อยู่ในความควบคุมในปากแกไม่มีลิ้นเขี่ยไปมา  มีแต่เสียงหายใจเบาๆจากคนเมา  สรุปพี่แกเมาแล้วหมดแรง  เฮ้อ  ครั้งนี้ผมจึงรอดตัวไป 

“ไบท์ๆ  ไปช่วยเอาพี่อิฐหน่อยสิ  พี่แกหลงเต็นท์น่ะ” ผมไปเกาๆปลุกไบท์ที่เต็นท์แล้วแต่งเรื่องโกหกไปเพราะไม่อยากให้ทุกคนแตกตื่น

“อ้าว  บอกกูว่าไหวๆจะไปฉี่แล้วเปิดเข้าเต็นท์ผิดนี่นะ   พี่กูทำอะไรมึงหรือเปล่า”

“ไม่ได้ทำอะไร ”

“เป็นอะไรหรือบีน” โอ๊ตได้ยินเสียงผมคุยกับไบท์ก็โผล่หน้าตัวเองออกมาจากเต็นท์

“พี่กูเข้าเต็นท์ผิดแล้วก็หลับไปเลยน่ะสิ  ไปช่วยแบกกันหน่อยโอ๊ต”ไบท์ตอบคำถามของโอ๊ตแทนผมแล้วเราก็ช่วยแบกพี่อิฐกลับไปนอนเต็นท์ของไบท์เสร็จทุกคนก็แยกย้ายกลับไปนอนที่นอน

ผมเคลิ้มๆกำลังจะหลับก็ได้ยินเสียงรูดซิปเต้นผมขึ้นอีก  ใครอีกล่ะนี่
“ขอนอนด้วยนะมึง  มึงนอนคนเดียวคงหนาวแย่น่ะ”

“เฮ้ยโอ๊ต  บอกแล้วไงว่านอนคนเดียวได้”  แล้วออกมานี่คุณบิ๊กรู้หรือเปล่า

“ไม่เอาน่า  อย่าเรื่องมากสิบีน  มาๆหันหน้ามากอดกัน”  ผมโดนน้องมันบังคับให้หันหน้าไปนอนกอดกันกลมในเต็นท์ที่ดูจะคับแคบไปสักนิดสำหรับการที่จะเข้ามานอนเบียดๆกันสองคน  แต่มันก็อุ่นดีเหมือนกัน



และหวังว่าตื่นมาคุณบิ๊กคงจะไม่ว่าอะไรผมนะ


...


มาเที่ยวครั้งนี้นายเอกของเราโดนผู้ชายลวนลามตลอด  แต่คุณบิ๊กนี่ตั้งใจกอดหรือว่ากอดเพราะเหนื่อยใจกันแน่นะ
ดีนะที่พี่อิฐเมาแล้วเลยไม่มีพิษภัยอะไร :ling3:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและเข้ามาให้กำลังใจกันนะครับ  :mew1: ใครแฟนคลับคุณบิ๊ก  ใครแฟนคลับน้องโอ๊ตก็ต้องติดตามกันต่อไป  เจอกันตอนหน้าครับ  สวัสดี :katai5:

ปล. มีคนถามหาบอย  บอยคงไม่ไปแล้วไปลับนะครับ  อาจจะกลับมาก็เป็นไปได้
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๒ ๒๙/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-10-2015 14:13:09
มะรุมมะตุ้มของแท้เลยนะบีน
ขยะแขยงพี่อิฐว่ะ ผู้ชายด้วยกันก็เถอะ แลดูโคตรโรคจิตเลย
เอาแล้วไงคุณบิ๊ก อย่าบอกนะว่า........ เราชอบโอ๊ตง่ะแต่บางทีโอ๊ตมันก็ดูเด็กมากเลย
บอยนี่ไงก็ได้แต่อย่ามาทำให้บีนช้ำใจอีกล่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๒ ๒๙/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 29-10-2015 14:56:18
ถ้าไม่ บอยบีน ก็เป็น บิ๊กบีน ละกัน
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๒ ๒๙/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-10-2015 16:24:49
พี่อิฐไม่โอ
บอยไม่โอ

คุณบิ๊กกะโอ๊ต+บีน=3p โอเคค่าาาาาาาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๒ ๒๙/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 29-10-2015 23:03:56
มะรุมมะตุ้มของแท้เลยนะบีน
ขยะแขยงพี่อิฐว่ะ ผู้ชายด้วยกันก็เถอะ แลดูโคตรโรคจิตเลย
เอาแล้วไงคุณบิ๊ก อย่าบอกนะว่า........ เราชอบโอ๊ตง่ะแต่บางทีโอ๊ตมันก็ดูเด็กมากเลย
บอยนี่ไงก็ได้แต่อย่ามาทำให้บีนช้ำใจอีกล่ะ

พระเอกหวยจะออกที่ใครล่ะเนี่ย อีกไม่นานรู้แน่ครับ

ถ้าไม่ บอยบีน ก็เป็น บิ๊กบีน ละกัน

แฟนคลับบอยเอนมาทางคุณบิ๊กซะแล้ว อิอิ

พี่อิฐไม่โอ
บอยไม่โอ

คุณบิ๊กกะโอ๊ต+บีน=3p โอเคค่าาาาาาาาา  :hao7:

3pที่เต็นท์ในวันเค้าดาวน์เลยไหมครับ5555
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๒ ๒๙/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-10-2015 00:11:09
อั๊ยย่ะ ใครจะได้ใจบีนไปครองนะ

โอ๊ต & บีน

บิ๊ก & บีน

แล้วยังมีเค้าลางว่าบอยจะรีเทิร์นมาอีกเหรอ  :a5:

กลัวจะกลับมาทำให้บีนเสียใจ ไหนจะโอ๊ตอีกคนที่ต้องเสียใจถ้าบอยกลับมา

พี่อิฐจิตหงุดเงี๊ยวนี่ดันตกขอบโลกไปเลยเถอะ ส่ออาการโรคจิตกับนมข้น

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๒ ๒๙/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 30-10-2015 00:33:55
เลือกยากกกก สามพีไปเลย ฮึ่ย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๒ ๒๙/๑๐/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 31-10-2015 00:49:34
เห็นใจอาหลานจริงๆ

จะเชียร์ 3P ก็กลัวบีนจะรับไม่ไหว 555+
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๓ ๓/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 03-11-2015 14:13:29
ตอนที่ ๒๓

เสียงจุดพลุ  จุดดอกไม้ไฟ  ดังสนั่นหวั่นไหวบวกกับเสียงไชโย  สวัสดีปีใหม่จากนักท่องเที่ยวรอบข้างทำให้บรรยากาศการฉลองปีใหม่บนภูเขาที่ตอนนี้ลมแรงและหนาวมากอบอุ่นขึ้นมาทันตา  ผมกับผู้ร่วมทริปอีกสามคนก็ยืนถือไฟเย็นคนละอันแล้วมองดูดอกไม้ไฟบนท้องฟ้า  ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอยู่ตรงจุดชมวิวแถวๆไปรษณีย์

“มีความสุขจัง” โอ๊ตที่ไฟเย็นหมดแล้วก็เอามือข้างที่ว่างมากอดคอผม   ผมก็แค่ยิ้มตอบไปเพราะการกระทำต่างๆของโอ๊ตตอนนี้ไม่ได้มีแค่พี่อิฐที่จับตาดูอยู่คนเดียว  คุณเจ้านายของผมก็แอบมองดูอยู่ห่างๆ ส่วนไบท์ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะเป็นตัวแทนเก็บรูปสวยๆให้พวกผม

“ดื่มเบียร์สักกระป๋องไหมครับคุณอิฐ”  อ้าวคืนนี้คุณบิ๊กก็กะจะมอมพี่อิฐอีกแล้วหรือ

“ไม่เป็นไรครับ  ไม่อยากเมาไม่รู้เรื่องเหมือนเมื่อวานอีก” ทางนั้นก็ปฏิเสธไปเหมือนมีแผนอะไรบางอย่าง

“อาบิ๊กครับผมดื่มเบียร์ได้ไหมครับ” โอ๊ตขออนุญาตอาดื่มบ้าง  ฝ่ายคุณอายังหนุ่มก็ไม่ปฏิเสธคำขอหลาน

“เดี๋ยวคืนนี้กูไปนอนกับมึงนะกูบอกอากูแล้ว  อากูไม่ว่าอะไร” คุณบิ๊กนะคุณบิ๊ก  แทนที่จะเบรคหลานตัวเองสักหน่อย
ผมถอนใจสั้นๆ  ถ้าถอนยาวกลัวอีกฝ่ายจะงอน

“ไม่อึดอัดแน่นะ  แล้วก็เอาผ้าห่มมาเผื่อด้วยของเราที่ห่มเมื่อคืนมันผืนเล็กไป” ผมสั่งน้องก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปก่อนปล่อยให้โอ๊ตล้างหน้าแปรงฟันอยู่กับไบท์สองคน



“พี่คงไม่มีบุญจริงๆสินะ” พี่อิฐโผล่ออกมาจากพุ่มไม้แล้วยืนดักผมไว้  อย่างกับตัวร้ายในละคร “เล่นเอาคนอื่นมากันไว้อย่างนี้พี่จะเข้าไปหาน้องได้ยังไงล่ะ”

“ผมไม่ได้ทำอะไรนะ  คนอื่นเขาก็มาเอง”

“มานี่เลย” พี่อิฐดึงผมไปหลังพุ่มไม้ก่อนจะเอามือมาบีบหน้าผมไว้ “อย่าทำปากเก่ง  พี่จะบอกความลับของนายให้คนอื่นฟังก็ได้นะแต่ว่าจะไม่ทำ  เพราะจะเอาไว้ต่อรองเรื่อยๆพี่อยากเมื่อไหร่เดี๋ยวจะไปหาที่คอนโดเองแล้วกัน  คืนนี้ฝันดีนะครับ” ผมสะบัดหน้าตัวเองให้หลุดออกจากมือของพี่อิฐก่อนจะรีบเดินไปนอนที่เต็นท์  ซวยจริงๆเลย  ผมก็ลืมคิดไปว่าบนนี้อาจจะรอดแต่กลับไปกรุงเทพก็อาจจะไม่รอดเหมือนเดิม   คิดแล้วก็หนักใจเหมือนมีภูเขาทับอยู่บนอก


“อุ่นไหม”

“อืม   แล้วนี่ไปกินมาอีกกระป๋องหรือเบียร์อ่ะ  ทำไมได้กลิ่นเบียร์ไหนว่าแปรงฟันแล้ว” ผมหันหน้าไปถามคนที่นอนกอดผมจากทางด้านหลัง

“เออน่า  นานๆที  เหม็นหรอที่รัก”

“ที่รักอะไรกัน  ไม่ได้เหม็นหรอก  นอนเถอะหนาว” ผมตอบโอ๊ตแบบปัดๆไป

“จะนอนแล้วหรอ  อยู่เล่นกันก่อนสิมึง”’

“เล่นอะไร”

“กูมีอารมณ์ว่ะ” ผมหันหน้าไปทำหน้างงๆปนตกใจ  ไอ้เด็กบ้านี่ “จริงๆนะ  ยิ่งมึงดิ้นก้นมึงยิ่งสีกับเป้ากูจนมันปวดไปหมดแล้ว  จริงๆนะ”

“อย่างนั้นก็ไม่ต้องกอด  นอนดีๆ” ผมดึงมึงโอ๊ตออกจากตัวผมก่อนจะขยับออกจากตัวน้องมัน

“ไม่เอาๆจะกอด  มึงอย่าดึงมือกูออกสิวะ”

“ปล่อย  ทำไมเป็นคนแบบนี้” ผมบอกให้โอ๊ตปล่อยมือทิ้งสองข้างที่เกาะเอวผมไว้อยู่

“ไม่ปล่อย”

“ปล่อย”

“ปล่อยก็ได้” โอ๊ตปล่อยมือออกจากตัวผมก็จริงแต่กลายเป็นว่าน้องดันผมให้นอนหงายแล้วตามมาคร่อมตัวผมไว้  ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงสองนิ้ว “ขอจูบนะ” โอ๊ตไม่ฟังว่าผมจะอนุญาตหรือไม่ก็ประทับริมฝีปากตัวเองลงมาแล้วขบเบาๆที่ริมฝีปากล่างผม 

“โอ๊ต” ผมผลักอกโอ๊ตออกจากตัวผมเบาๆ อีกฝ่ายก็ยอมถอนปากออกไม่ขัดอะไร

“ทำไม”

“เรื่องบางเรื่องก็ต้องยับยั้งชั่งใจ  เราจะทำตามใจตัวเองไปหมดไม่ได้หรอก”

“หมายความว่าไงวะ  กูรักมึงนะบีน”

“รักแล้วต้องทำยังไง  ต้องทำแบบนี้หรอ  คิดดูให้ดีว่ารักคืออะไร  ความหมายของมันคืออะไร  การมีความสัมพันธ์ทางกายมันแค่ส่วนหนึ่งนะโอ๊ต  แล้วที่เหลือมันคืออะไร ”

“ทำไมวะบีน  เรามีความสุขด้วยกันก็ดีแล้วนี่”

“แล้วไม่กลัวสักวันมันจะกลายเป็นความทุกข์หรอ  เราต้องเจออะไรอีกหลายๆอย่างในชีวิตนะ  โอ๊ตอาจจะเจอคนที่ดีคนที่พร้อมกว่าเราก็ได้”

“ไม่รู้ว่ะ  ตอนนี้กูชอบมึงกูจะไม่ทำอะไรกั๊กๆหรือกลัวว่าวันหนึ่งเราจะเลิกรากันไป  กูขอทำให้เต็มที่ดีกว่า  จะได้ไม่เสียใจทีหลัง  อย่างน้อยกูก็ทำเต็มที่  รักมึงเต็มที่  กูไม่ขอสนอนาคตแล้วกันว่ามันจะเป็นยังไง”

ตอนนี้เด็กม. ๕ ที่ล้มตัวลงไปนอนหงายอยู่ข้างผมกำลังบอกถึงความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้  ซึ่งคิดดูแล้วมันก็ถูกนะ  แต่ผมขอพบกันครึ่งทางน่าจะดีกว่า

“เราก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ  แต่เราอย่าพึ่งมีอะไรกันเลย  บีนยังไม่พร้อม” อีกฝ่ายมองหน้าผมแล้วพยักหน้าหลับตาลงเบาๆเป็นการตกลงตามที่ผมขอ

“อย่างนั้นก็นอนกันเถอะ  มาๆกอดกันจะได้ไม่หนาว”  นี่ก็เป็นข้อดีของโอ๊ตมั้งครับที่ถึงแม้จะดูเด็ก  ความคิดอาจจะดูเด็ก  แต่ก็ยอมเปิดใจรับฟังกัน  บางครั้งน้องมันงอนง่ายไปหน่อยแต่ก็หายเร็วดี  ผมอยู่ด้วยแล้วก็สบายใจ


..............................................................................................


หลังจากกลับจากเขาค้อก็มีเวลาพักอีกสี่ห้าวันครับก่อนจะเปิดเทอม ๒  ช่วงนี้โอ๊ตก็ย้ายตัวเองมาขลุกอยู่ที่ห้องผม  มาทำการบ้านที่จะส่งครูบ้างล่ะ  มาอ่านหนังสือหรือแม้กระทั่งให้ผมช่วยเลือกคณะที่น่าสนใจ  พอมาถึงการเลือกคณะซึ่งปีนี้โอ๊ตก็ต้องสอบรับตรง โควต้าหรือไม่ก็แอดมิดชั่นกันแล้วผมก็ใจหวิวๆ  งานผมใกล้จะเสร็จแล้วหรือนี่

“หรือว่ากูจะเรียนบริหารธุรกิจวะมึง  จะได้ไปช่วยอา  ปู่กูก็แก่มากแล้วคงทำงานอีกไม่นาน”

“อย่างนั้นก็ดีนะ  โอ๊ตชอบไหมล่ะ” ต้องชอบแล้วล่ะครับงานนี้  ผมจำได้จากที่คุณบิ๊กเคยเล่าให้ฟังว่าคุณปู่อยากให้หลานตัวเองนั่งเก้าอี้ประธานบริษัท

“ก็โอเค  กูก็มาทางด้านนี้แล้ว  ถ้าไปพวกสายวิทย์ก็ไม่น่าจะไหวว่ะ  ที่คะแนนวิชาพวกนั้นดีก็เพราะว่ามึงด้วย”

“ดีเลย  อย่างนั้นก็ดูๆไว้ตามนี้แล้วกัน  ใกล้ๆค่อยมาดูอีกที”

“มึงนี่น่ารักจังเลยนะๆ  ไม่ค่อยขัดกูเลย   มีอะไรก็แนะนำตลอดแถมบางครั้งสอนกูอย่างกับเป็นแม่กู ฮ่าๆ”น้องมันว่าแล้วเอามือมาหยิกแก้มผมเบาๆ

“ก็ไม่ขนาดนั้น”

“อยู่กับกูไปนานๆนะ  เข้าคณะเดียวกันกับกูก็ได้  นะๆ  จบมาไม่ตกงานแน่นอนเข้าทำงานที่บริษัทกูได้เลย”

“..................................”ผมตอบอะไรไม่ได้หรอกครับ  ได้แต่ยิ้มให้น้อง  ผมไม่น่าเอาเรื่องการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยมาพูดเลย 

“ไม่ตอบแสดงว่า  อยากโดนหอมแก้มสินะ”

“ไม่  เปล่า” น้องโอ๊ตจากที่กอดเอวผมที่โซฟาก็เอนตัวมาทับผมไว้แล้วห้อมแก้มซ้ายขวาสลับกันไม่ต่ำกว่าสิบรอบ  เราเล่นหยอกล้อกันในห้องอยู่นานก็ง่วงเลยนอนกลางวัน  ตกเย็นว่าจะออกจากห้องไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน




“อือ” ผมลืมตาขึ้นมองนาฬิกาที่ติดอยู่ผนังห้องก่อนจะพลิกตัวไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ “อ้าว  ตื่นนานแล้วหรือ”

“อืม”  ทำไมดูเงียบๆแปลกๆ

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า  ไปล้างหน้าล้างตากันป่ะ  จะได้ไปกินข้าว”

“โอเค”

เราออกจากคอนโดมาหาอะไรอร่อยๆทานที่ตลาดนัดแถวคอนโด  ผมพาโอ๊ตมาใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆบ้าง  เดินดูของไปมือก็ถือขนมกินไปด้วยก่อนที่จะไปจบลงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ

“บีนกินข้าวเสร็จไปสวนหลวงใต้สะพานพระราม๘ ไหม  กูว่าวิวดีว่ะ”

“อืม  ไปๆยังไม่เคยไปสักที”

“จริงหรอ  อย่างนั้นก็รีบๆกิน”


“อากาศเย็นสบายดีเนาะ” เราลงจากรถแท็กซี่ก็เดินเข้าไปในสวนทะลุออกไปนั่งยืนอยู่ริมแม่น้ำ

“ตอนเด็กๆพ่อแม่กูเคยพามาว่ะ”

“หืม”

“กูไม่น่าพูดเรื่องเศร้าเลย ฮ่าๆ”

“เป็นอะไรหรือเปล่าโอ๊ต” ผมเอื้อมมือไปจับใบหน้าเนียนใสของโอ๊ต “มีอะไรไม่สบายใจก็บอก”

“กูแค่คิดมากน่ะ   ก่อนหน้านี้กูเคยมาที่นี่แค่สองครั้ง  มากับพ่อแม่ครั้งนึงและก็กับกี้ครั้งนึงและทุกคนก็จากกูไป  กูก็พึ่งนึกได้ตอนที่มาถึงแล้ว  กูไม่น่าพามึงมาเลย”

“เฮ้ย  อย่าคิดมากสิ  เราอยู่ตรงนี้ยังไม่ไปไหน”

“แล้วในอนาคตมึงก็ห้ามจากกูไปไหนนะ” และคำขอของโอ๊ตก็ทำให้ผมจุกอยู่ที่ลำคอ  พูดไม่ออกบอกไม่ถูกและไม่สามารถตอบน้องได้ “ตอบกูสิมึง  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมึงอย่าไปจากกูนะ  กูรักมึงนะ  มึงสำคัญกับกูนะบีนทั้งที่เรารู้จักกันไม่ถึงปีแต่มันเหมือนกูขาดมึงไม่ได้ว่ะ”  โอ๊ตดึงผมเข้าไปกอดแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

ถึงจะมีอา  มีปู่ย่าคอยดูแลแต่ยังไงโอ๊ตก็เหมือนจะขาดความอบอุ่นอยู่  เมื่อตอนกลางวันที่โอ๊ตพูดเล่นว่าผมเหมือนกับแม่ของโอ๊ตนั่นคงไม่ได้พูดเล่นสินะ 

“กูมีเรื่องจะปรึกษามึง”  น้องคลายกอดผมออกแล้วพูดกับผม “คือ...”

“คืออะไร”

“เมื่อตอนบ่ายตอนที่เรานอนกลางวัน  อยู่ๆก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาหากู  กูรับสายเลยรู้ว่ากี้โทรมาหากู”
อะไรนะ  กี้โทรมาหาโอ๊ต  เด็กนั่นมันจะโทรมาทำไม

“แล้วกี้โทรมาทำไม”

“กี้บอกว่าอยากเจอกู   อยากให้กูกับมันนัดเจอกันมันมีเรื่องจะบอก  มันสำคัญมาก”

“เรื่องอะไร” ผมคิดออกไปเป็นคำพูดก่อนจะตัวผมหยุดนิ่งและชะงักไปพร้อมกับความคิดที่ประมวลผลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  แฟนกี้ก็คือคนที่เก็บบัตรประชาชนตัวจริงผมได้ แฟนกี้รู้จักกับพี่อิฐแสดงว่าว่ากี้ก็ต้องรู้เรื่องนี้ว่าผมไม่ใช่เด็กมัธยม  เฮ้ย  ซวยแล้ว

“เป็นอะไร  บีน  บีน” โอ๊ตเขย่าตัวผมที่นิ่งไปสักพัก

“ไม่มีอะไร   เอ่อ  โอ๊ตไม่ต้องไปหรอกนะ  เชื่อเรา  กี้มันเป็นคนพาลไปแล้วมันไม่ได้มาดีหรอก”

“อืม  กูก็คิดอย่างนั้นแหละเลยจะมาปรึกษามึง  กูคงไม่ไปหรอกแต่ตอนที่มึงไปเข้าห้องน้ำตอนที่เรากินก๋วยเตี๋ยวกันอยู่ๆไอ้ไบท์มันบอกว่ากี้ก็อยากเจอมันเหมือนกัน  มันบอกไบท์ว่าจะไปพร้อมกันกับกูก็ได้”

“ไม่ต้องไปนะ  อย่าไปเลย” ผมออกคำสั่งกับโอ๊ตไปด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเรื่อยๆ จะให้พูดอะไรล่ะครับ  สิ่งที่ผมกลัวมันจะเกิดขึ้นหรือเปล่าไม่รู้  ไม่รู้ว่ากี้จะรู้ความจริงไหม  แต่ตอนนี้ผมต้องยื้อไว้ก่อน 

ความคิดตอนนี้ผมสับสนไปหมดว่าทำไมผมต้องยื้อไว้  ทำไมนะ  เพราะโอ๊ตรักผมผมเลยต้องยื้อไม่ให้รู้ความจริง กลัวว่าโอ๊ตจะเสียใจและผมก็คงปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้ตัวเองมีความรู้สึกเอ็นดูกับเด็กคนนี้  อยากอยู่ด้วยใกล้ๆไม่อยากจากไปไหน

“เดี๋ยวกูจะบอกกี้เองถ้ามันโทรมาอีก ว่ากูไม่ไป”

“ฝากบอกไบท์ด้วยนะว่าไม่ต้องไปหรอก”

“โอเค  ขอกอดหน่อยสิ” เรายืนกอดกันริมแม่น้ำเจ้าพระยา  อากาศเย็นเป็นใจ  บรรยากาศดี  ทุกสิ่งทุกอย่างดูภายนอกมันดูดีและสงบไปหมดแต่ในใจผมนี่สิมันตรงข้ามกันไปเสียทุกอย่าง

...


เคยเป็นไหมครับ  เราเคยคิดเคยคิดยึดติดว่าต้องไม่ทำสิ่งนั้นตอนนี้  จะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดแต่แล้วกลับต้านความต้องการของคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ไหวและต้านความต้องการลึกๆของตัวเองไม่ได้เช่นกัน




ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้คือ  ความอาย เมื่อตัวเองนอนอยู่บนเตียงตัวเปล่า  ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าหรือกางเกงในปกปิดร่างกาย  สิ่งที่กระตุ้นให้หัวใจผมยิ่งเต้นรัวๆมากขึ้นอีกก็คงเป็น  เด็กหนุ่มวัยยังไม่บรรลุนิติภาวะกำลังยืนแกะดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองออกทีละเม็ดแล้วเหวี่ยงทิ้งก่อนจะปลดเข็มขัดรูดกางเกงลงจนเหลือแค่กางเกงบ็อกเซอร์ทรงบรีฟ  แล้วสิ่งที่ทำให้ผมใบหน้าผมหน้าร้อนขึ้นกว่าเดิมก็คงเป็นเพราะเจ้าตัวดึงกางเกงบ็อกเซอร์ลงจนน้องชายตัวน้อยรูปทรงกระบอกที่หน้าตัดและฐานเป็นรูปวงกลมขนาดเท่ากันดีดขึ้นอย่างแรงจากที่ขอบบ็อกเซอร์พึ่งกดปลายหัวมันลงไป  ผมมองท่อนลำที่มีพื้นผิวเรียบโค้งสีน้ำตาลอ่อนก่อนมีจะคลื่นเข้ามาใกล้ตัวผมเรื่อยพร้อมกับเจ้าตัวที่เข้ามาคร่อมที่ตัวผมไว้และทุกอย่างก็เป็นไปตามสัญชาตญาณ 



ตามที่เคยได้ยินมาว่าเด็กหนุ่มวัยรุ่นเป็นวัยที่มีความกำหนัดแรงสูงพอมาเจอกับตัวถึงรู้ว่ามันก็เป็นจริงตามที่เขาว่ามา  เมื่อคืนโอ๊ตแสดงความรักของตัวเองที่มีต่อผมถึงสามครั้งด้วยกัน  ทำเอาผมนอนสลบไสลจนตื่นมาอีกทีก็เที่ยงวันแล้ว  มือปัดป่ายไปหาคนที่นอนกอดกันทั้งคืนไม่เจอจึงลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะเดินออกไปข้างนอกห้องได้ยินเสียงทีวีเปิดไว้อยู่

“อ้าว  ตื่นแล้วเหรอ  กูกำลังว่าจะไปปลุก” โอ๊ตกำลังยืนค้นอะไรสั่งอย่างอยู่ในครัวแล้วหันมาทักผมพร้อมกับเกาหัวตัวเองแกรกๆแล้วยิ้มอย่างเขินอาย  คนที่อายควรเป็นผมไม่ใช่หรอ

“อืม  แล้วนี่จะทำอะไร”

“หาโจ๊กซองอยู่ว่าจะทำให้มึงกิน  นี่ไงเจอแล้ว  รอแปปนะ”
ผมเดินไปหยิบน้ำส้มในตู้เย็นมานั่งดื่มอยู่โซฟาหน้าทีวี

“อ่ะนี่  เสร็จแล้ว” โอ๊ตยกถ้วยโจ๊กมาให้ผมกิน  ก่อนตัวเองจะนั่งลงข้างๆ

“แล้วนี่โอ๊ตกินอะไรยัง”

“กินแค่โอวัลตินแล้วก็ขนมปัง  มึงไม่ต้องห่วงกูหรอกกูอิ่มแล้ว”
โอ๊ตนั่งอมยิ้มนั่งมองผมกินโจ๊กจนหมดถ้วย  เป็นบ้าหรือเปล่าวะมองคนกินโจ๊กก็ยิ้ม

“ตอนนี้กูเริ่มหิวแล้วว่ะ”


“อ้าวจะกินอะไรล่ะทีนี้  มาม่าก็ไม่มีนะ”

อื้ม  น้องมันดึงหน้าผมไปจูบอย่างรวดเร็วแล้วถอนปากออกก่อนพูดว่า  “ขอกินมึงแล้วกันนะ”



และแล้วโอ๊ตก็มองความรักของตัวเองให้ผมอีกสองสามครั้งบนโซฟา  ถึงจะเหนื่อยแต่ผมก็อดทนรับมันด้วยความเต็มใจ







ผมคิดว่าผมตกหลุมรักน้องเข้าแล้วล่ะครับ


........................................................................................


ตายๆบีนอุตส่าห์อดทนอดกลั้นไม่กินเด็กมาตั้งนาน  สุดท้ายก็ตกม้าตายแต่ไม่ตายหรอกเพราะกินเด็กมันทำให้เป็นอมตะนะผู้อ่านทั้งหลาย ฮ่าๆ  :hao7:

แล้วคุณบิ๊กจะว่ายังไงนะ  คนเขียนจะโดนแฟนคลับคุณบิ๊กรุมกระทืบไหมน้อ อิอิ
ต้องติดตามกันต่อไปนะครับ  ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันนะครับ  จะรออ่านคอมเม้นท์อยู่นะถ้าเค้าว่างเค้าก็จะตอบเม้นท์ด้วยแหละ  สำหรับวันนี้สวัสดีครับ บ๊าย บาย :katai2-1:


ปล. ไม่เคยเขียนฉาก NC มาก่อนนะครับเลยมาได้แค่นิดเดียว และก็ที่บีนรู้สึกแปลกใหม่เพราะว่าไม่เคยมีอะไรกับเด็กนะครับ :mew1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๓ ๓/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-11-2015 14:22:39
 :haun4:  เด็กมันแรงดีจริงๆ ไม่เสียแรงที่เชียร์   :katai2-1:

บอกน้องมันเถอะนะ ปรึกษาคุณบิีกด้วย มาถึงขั้นนี้แล้วอะ
ถ้าจะโกรธจะเกลียดก็เอาเลย เจ็บไปครั้งเดียว เด็กมันรักดีอยู่แล้วคงไม่เสียศูนย์จนเสียคนหรอก
อย่าให้อีกี้หรือพี่อิฐมาขวางได้นะ พวกคนเลวๆแบบนั้นไม่ต้องไปใส่ใจเลยบีน
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ การลุ้นพระเอกจบลงแล้วใช่ไหมคะ 555 เป็นโอ๊ตเถอะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๓ ๓/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 03-11-2015 15:59:10
โถ่ คุณบิ๊กๆๆๆๆๆ
อย่าเศร้าเลยมาให้เราปลอบใจก็ได้
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๓ ๓/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-11-2015 16:27:50
บีนโดนเด็กกินแล้วววววว  :z1: :z1: :z1:

ว่าแต่บีนบอกโอ๊ตเถอะนะ ลองเสี่ยงดูสักครั้ง

รู้จากปากคนที่รักดีกว่ารู้จากปากนังกี้นะ ไม่รู้ว่าจะแหลใส่ไฟยังไงบ้าง

อย่างน้อยถ้าบีนบอกโอ๊ต อาจจะมีเคืองนิดๆหน่อย ถ้าโอ๊ตรับได้ก็ยังจะช่วยให้บีนรอดพ้นมืออิฐนะ

เอ๋ หรือคนแต่งจะให้คุณบิ๊กกลายเป็นม้ามืดได้บีนไปครอง หรือจะให้บอยกลับมาคู่กับบีน

อาจจะให้โอ๊ตรู้จากปากนังกี้แล้วโกรธจนเลิกกัน

ว่าแล้วก็รีบพาบีนตอนใหม่มาเร็วๆนะ เราอยากรู้แล้ว  :z3: :z3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๓ ๓/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 03-11-2015 22:22:51
:haun4:  เด็กมันแรงดีจริงๆ ไม่เสียแรงที่เชียร์   :katai2-1:

บอกน้องมันเถอะนะ ปรึกษาคุณบิีกด้วย มาถึงขั้นนี้แล้วอะ
ถ้าจะโกรธจะเกลียดก็เอาเลย เจ็บไปครั้งเดียว เด็กมันรักดีอยู่แล้วคงไม่เสียศูนย์จนเสียคนหรอก
อย่าให้อีกี้หรือพี่อิฐมาขวางได้นะ พวกคนเลวๆแบบนั้นไม่ต้องไปใส่ใจเลยบีน
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ การลุ้นพระเอกจบลงแล้วใช่ไหมคะ 555 เป็นโอ๊ตเถอะ

นั่นสินะ  ต้องปรึกษาเจ้านายแต่เจ้านายจะว่ายังไงล่ะทีนี้
ต้องรอดูจุดจบของกี้ครับ ฮ่าๆ ส่วนการลุ้นพระเอกเกือบแล้วๆครับ

โถ่ คุณบิ๊กๆๆๆๆๆ
อย่าเศร้าเลยมาให้เราปลอบใจก็ได้

ต้องรอดูครับว่าคุณบิ๊กจะว่ายังไง อิอิ

บีนโดนเด็กกินแล้วววววว  :z1: :z1: :z1:

ว่าแต่บีนบอกโอ๊ตเถอะนะ ลองเสี่ยงดูสักครั้ง

รู้จากปากคนที่รักดีกว่ารู้จากปากนังกี้นะ ไม่รู้ว่าจะแหลใส่ไฟยังไงบ้าง

อย่างน้อยถ้าบีนบอกโอ๊ต อาจจะมีเคืองนิดๆหน่อย ถ้าโอ๊ตรับได้ก็ยังจะช่วยให้บีนรอดพ้นมืออิฐนะ

เอ๋ หรือคนแต่งจะให้คุณบิ๊กกลายเป็นม้ามืดได้บีนไปครอง หรือจะให้บอยกลับมาคู่กับบีน

อาจจะให้โอ๊ตรู้จากปากนังกี้แล้วโกรธจนเลิกกัน

ว่าแล้วก็รีบพาบีนตอนใหม่มาเร็วๆนะ เราอยากรู้แล้ว  :z3: :z3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

โห  หรือว่าคนอ่านจะอยากได้แนวม้ามืดกันน้าาาา ฮ่าๆๆ
รอบอยกันครับ  ว่าบอยจะมายังไง
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๓ ๓/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๘ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 04-11-2015 01:19:20
   สนุกคับ ในที่สุดโอ๊ตก็รวบหัวรวบหางบีนไว้แล้ว ฮ่าๆ ฮ่าๆ
      อย่าบอกนะว่าจะมีหักมุมอะไรอีกคับ แต่บีนรักโอ๊ตไปแล้วนะ ก็ต้องอยู่กับโอ๊ตดิ ๕๕๕
     ตอนต่อไปมาเร็วๆนะคับ รอ รอ รอลุ้นว่าจะเป็นไปทางไหน
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 07-11-2015 01:42:44
ตอนที่  ๒๔

“กูบอกไบท์แล้วนะบีนว่ากูไม่ไป” ผมตื่นได้สักพักแต่ยังนอนอยู่บนเตียง

“โอเค  แล้วนี่จะไปไหนแต่เช้า”

“กูว่าจะกลับบ้านว่ะ  กลัวที่บ้านว่าว่ามาอยู่ห้องเพื่อนนาน”

“มาอยู่ขนาดนี้แล้วยังกลัวโดนว่าอยู่หรอ”

ผมว่าเสร็จน้องมันก็กระโดดขึ้นเตียงมากอดตัวผมไว้ “ไว้พรุ่งนี้จะมาใหม่แล้วกัน”  จุ๊บ  โอ๊ตพูดเสร็จก็หอมแก้มผมหนึ่งครั้งก่อนจะเตรียมตัวออกจากห้อง
“ลุงชัยมารับหรอ”

“ใช่  ไปก่อนนะ”

“เจอกันโอ๊ต” ผมเดินมาส่งโอ๊ตที่หน้าประตูก่อนที่น้องจะหันมากอดผมอีกครั้ง

“กูรักมึงมากนะบีน”

“อืม  รู้แล้ว  เจอกันพรุ่งนี้”

ผมส่งน้องกลับบ้านหน้าประตูห้องก่อนจะเข้าไปอาบน้ำแล้วมาทำอะไรกินรองท้องตอนเช้า


ติ๊ง  ติ๊ง

อ้าว  ใครอีกล่ะ  อย่าบอกนะว่าพี่อิฐ

ผมเดินไปดูจอตรงประตูอย่างกล้าๆกลัวก่อนจะพบว่าคนที่มาหาผมก็คือ เจ้านายนั่นเอง

แกรก

“ผมเป็นคนบอกให้โอ๊ตกลับบ้านเอง”

“อ๋อครับ”

“อยู่นานๆเดี๋ยวกลัวหลานผมจะทำอะไรล่วงเกินคุณ” ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่เหงื่อที่รักแร้จะไหลออก  แบบนี้คงไม่มีพิรุธหรอกนะ 

“แล้วอยู่ด้วยกันในห้องสองต่อสองทั้งวันเลยเหรอคุณ”

“เปล่าครับ  ก็มีออกไปเดินห้าง  ดูหนัง ฟังเพลงตามประสาวัยรุ่นนี่แหละ  ไม่ได้อยู่แต่ในห้อง” ผมจำเป็นต้องโกหกออกไปเพราะเมื่อวานผมกับน้องเล่นด้วยกันในห้องทั้งวัน

“อืม  แล้วอิฐนั่นเป็นยังไงบ้าง”

“เห็นบอกว่างานยุ่งๆครับ  เลยไม่ได้มาหา  ก็ดีแล้วล่ะครับ”  แต่ผมยังอัดอั้นตันใจเรื่องกี้อยู่  จะปรึกษาเจ้านายตอนนี้เลยจะดีไหมนะ

“มีอะไรหรือเปล่า” คุณบิ๊กเดินมาถามผมใกล้ๆ

“เอ่อ  คือ”

“ตะกุกตะกักแบบนี้  พูดมาเถอะ  อยากปรึกษาเรื่องอะไรหรือเปล่า”

ผมตัดสินใจเล่าเรื่องของกี้ไปทั้งหมด  รวมทั้งเรื่องที่แฟนกี้กับกี้อาจจะรู้ความจริงเรื่องผม
เจ้านายผมพอฟังก็ถอนหายใจยาวๆก่อนทิ้งตัวลงไปนอนที่โซฟา
“คุณโกรธผมหรอ”

“ไม่หรอก  ยังไงงานนี้ก็คงทำไปตลอดไม่ได้  คุณก็ไม่น่าซุ่มซ่ามทำบัตรหล่นเลยนะ”

“ขอโทษครับ” ผมยกมือไหว้คุณบิ๊กก่อนที่เจ้าตัวจะเรียกผมเข้าไปนั่งใกล้ๆ

“สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ต้องเข้าใจผมนะบีน   เสร็จจากเรียนเทอม ๒ นี้เสร็จแล้ว  คุณคงต้องเลิกทำงานนี้”
ผมแทบจะหมดแรงเมื่อได้ยินคำนี้  ถึงแม้ว่าจะทำใจมาสักพักแต่พอได้ยินคำสั่งจากปากคุณบิ๊กก็ตกใจอยู่ไม่น้อย

“คุณต้องเลิกติดต่อกับเด็กๆที่คุณรู้จักทั้งหมดรวมทั้งโอ๊ตด้วยเข้าใจนะ”

“ครับ”

“เรื่องงานไม่ต้องห่วง  เดี๋ยวผมหางานหาที่พักให้  แต่อาจจะเป็นแถวรอบนอกเป็นบริษัทในเครือผมนี่แหละ  ทำๆไปก่อน”

“...............................................” ผมจุกที่คอพูดไม่ออก  รู้สึกอีกทีน้ำตาผมก็ไหลออกมาเต็มหน้า

“เฮ้ย  ร้องไห้ทำไมคุณ  หืม   ทำใจไม่ได้หรือยังไง” คุณบิ๊กเอามือมาปาดน้ำตาที่เลอะหน้าผมออกแล้วดึงผมเข้าไปกอด “ เฮ้อ  อย่าเศร้าไปเลย  คุณทำดีที่สุดแล้ว  อย่างน้อยคุณก็ได้ช่วยเด็กคนหนึ่งให้เขาได้มีชีวิตที่ดีขึ้น  ผมเป็นหนี้บุญคุณคุณอยู่นะบีน  ผมไม่ทิ้งคุณไปไหนหรอก”

“แต่ผมทำใจไม่ได้ที่ต้องทิ้งเพื่อนๆไป” ผมพยายามกลั้นใจพูดให้เสียงเป็นปกติที่สุดพร้อมกับข่มใจไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอีก  ทำไมช่วงนี้อารมณ์ผมมันอ่อนไหวจัง

“เดี๋ยวเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง  ไม่ต้องกลัวหรอก  ทำงานที่นั่นเดี๋ยวผมจะไปหาบ่อยๆ” ผมก็ไม่ได้ต้องการให้คุณบิ๊กไปหาบ่อยซะอีก  ผมกลัวที่ต้องหนีจากโอ๊ตไปเฉยๆ “เข้าใจไหม”

ผมก็จำใจพยักหน้าตอบไปแล้วพยายามลุกออกจากอกของคุณบิ๊กที่เจ้าตัวโอบผมไว้อยู่  แต่เจ้านายกลับดึงผมกลับไป  เราสองคนจ้องหน้ากันก่อนที่คุณบิ๊กจะโน้มตัวและหน้าเข้ามาใกล้ๆหน้าผม  จะจูบแน่ๆทำแบบนี้คงไม่ได้จะทำอะไรนอกจากจูบ  ผมผลักคุณบิ๊กออกเบาๆก่อนที่เจ้าตัวจะกลับไปนั่งถอนหายใจเบาๆ แล้วถามคำถามที่ฟังแล้วเจ้านายคงไม่คิดกับผมแค่ลูกน้องแน่ๆ

“หรือว่าคุณรักโอ๊ตไปแล้ว”  ผมไม่ขอตอบคำถามแต่เป็นฝ่ายตั้งคำถามกับคุณบิ๊กต่อ

“คุณคิดกับผมยังไงหรือครับ  แค่ลูกน้องจริงๆใช่ไหม” ผมกลั้นใจถามคำถามที่ในชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้ถามเจ้านายตัวเอง

“ตอนแรกก็คิดแค่ลูกน้อง  แต่ผมห้ามใจไม่ไหวจริงๆผมพยายามรักษาระยะห่างๆไม่มาหาคุณบ่อยๆแต่ก็ยังตัดใจไม่ได้” เจ้านายชอบผมหรือนี่  ผมที่กำลังอึ้งอยู่เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าคนขนาดคุณบิ๊กจะมาชอบลูกน้องธรรมดาๆแบบผม “ผมเสียใจนะที่รู้ว่าหลานผมชอบคุณ แต่ก็ทำใจได้แล้วล่ะ ”

“คุณบิ๊ก” ผมเอามือตัวเองไปกุมมือเจ้านายไว้  ทำไมผมรู้สึกสงสารเจ้านายขึ้นมาล่ะ

“อย่างนั้นเรื่องหลานผมกับคุณผมขอเวลาคิดดูก่อนแล้วกัน  ตอนนี้ผมเหนื่อยขอเข้าไปนอนในห้องคุณได้ไหม”

คุณบิ๊กดูท่าทางเพลียๆขึ้น  อาจจะเป็นเพราะคิดมากถึงมากที่สุด  ผมจึงปล่อยให้เจ้านายเข้าไปนอนในห้องผม  ส่วนผมก็ดูทีวีเล่นมือถืออยู่ข้างนอกเพราะกลัวว่าถ้าเข้าไปในห้องอาจจะรบกวนเวลาพักผ่อน

...................................................................................


“บีนๆ ลุกขึ้นมาคุยกันซิ” หืม  ผมเผลอหลับไปบนโซฟาก็ต้องตื่นขึ้นเพราะเจ้านายเดินออกจากห้องมาปลุกด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“ครับ”  ผมขยับที่ให้คุณบิ๊กนั่ง

“ตอบผมมาตามตรงนะ  ความสัมพันธ์ของคุณกับหลานผมนี่ถึงขั้นไหนแล้ว”

“เอ่อ  คุณบิ๊ก  ผมก็ตอบไปแล้วนี่ครับทำไมอยู่ถึงถามอีก”

“ก็อยากได้ยินอีกครั้ง  ตอบสิบีน  เจ้านายถามต้องตอบ” คุณบิ๊กพูดเสียงดัง  ทำผมตกใจใจหายตกไปอยู่ตาตุ่ม  ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน

“ผมขอโทษครับ”

“คุณสองคนรักกันแล้วใช่ไหม  คุณรับรักหลานผมแล้วใช่ไหม”

“ผมคิดว่าตอนนี้

เรา

รักกันครับ ”

ผมก้มหน้าพูดออกไปช้าๆ

“เงยหน้าขึ้นมามองตาผม  ผมจะถามว่าถึงขั้นมีอะไรกันเลยหรือ”

“คุณบิ๊ก”

“ผมถามให้ตอบ  ไม่ใช่ให้มาเรียกชื่อผม” คนตรงหน้าไม่เหมือนเจ้านายผมเลย  ผมรู้สึกจุกขึ้นมาที่คออยากจะร้องไห้อีกแล้วแต่ต้องกลั้นไว้

“ครับ  ผมยอมรับว่ามีอะไรกันกับน้องแล้ว  แต่ผมไม่ได้ขัดใจน้องหรือน้องขัดใจผมนะครับ  เราสมยอมกันทั้งคู่”
เจ้านายถอนหายใจออกแรงๆก่อนจะปรับสีหน้าเครียดๆของตัวเองให้ดูเป็นหน้าตาปกติ

“เอาเถอะ   ผมรู้นิสัยหลานผมดี”

“คุณบิ๊กรู้ได้ยังไงครับ”

“เศษถุงยางที่ใช้แล้วอยู่ข้างๆเตียง  ทำอะไรกันทำไม่ไม่ทิ้งให้ดีๆ” คำตอบของคุณบิ๊กทำเอาเสียผมหน้าแดง

“ขอโทษครับ”

“ผมก็เลยต้องคิดใหม่  วิธีแรกที่จะให้คุณทำที่บอกว่าให้ตัดขาดกับโอ๊ตไปเลยผมว่าคงไม่เหมาะแล้วล่ะ”

“หืม  หมายความว่ายังไงครับ”
เจ้านายเอนตัวลงพิงโซฟาเต็มแผ่นหลังก่อนจะหันมามองมาที่ผมที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วตอบคำถามผมว่า

“ก็หมายความว่าจะเปลี่ยนวิธี   ถ้าหลานผมมันชอบคุณไปแล้วและก็เอ่อ  ไปกันถึงขั้นกันนั้นแล้วโอ๊ตมันคงไม่ยอมให้คุณหายไปเฉยแน่ๆ อีกอย่างถ้าทำตามวิธีแรกหลานผมคงกลุ้มใจ  เสียใจไม่เป็นอันเรียนแน่นอน ”

“ผมก็เคยคิดแบบนี้  แล้วต้องทำอย่างไรหรอครับ”

“ เราต้องรับผิดชอบด้วยกันคือ  ผมก็จะบอกความจริงกับเขา  คุณก็ต้องบอกความจริงกับเขา คุณต้องบอกความจริงทั้งหมดว่ามันเป็นยังไง  คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร”

“ก็เพื่อที่จะช่วยให้น้องเรียนดีขึ้น” ถึงเหตุผลแรกมันจะมาจากอยากมีงานทำและอยากมีเงินใช้ก็เถอะ

“ ถ้าเขาเกลียดคุณผมจะช่วยคุณเอง”

“ อ้าวคุณบิ๊ก  แล้วถ้าเขาโกรธคุณบิ๊กด้วยล่ะจะทำยังไง”

“ เราก็ช่วยกันไง  คุณก็ต้องพูดถึงผมว่าผมหวังดีจะให้เขาเป็นเด็กดีขึ้น  เข้าใจไหม”

“ เข้าใจครับ  แล้วต้องบอกตอนไหนหรือ”

“บอกก่อนที่เด็กที่ชื่อว่า  มิคกี้  จะบอกความจริงกับโอ๊ต  รีบบอกไปเลยก่อนที่ความรักของพวกคุณจะพังลง  ไม่ต้องห่วงไม่ต้องพะวงผมจะช่วยคุณเต็มที่  คุณเป็นคนดีผมก็อยากให้หลานผมมีความสุขและมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต”

คุณบิ๊กทำไมใจกว้างขนาดนี้นะ  นี่ถ้าโอ๊ตไม่มาชอบผมและผมรู้ว่าคุณบิ๊กมาชอบ  ผมอาจจะลงเอยกับเจ้านายตัวเองก็ได้ใครจะเป็นรู้

“ผมขอบคุณคุณบิ๊กมากเลยนะครับ  นอกจากครอบครัวผมแล้วไม่เคยมีใครดีกับผมขนาดนี้มาก่อนเลย”

“ไม่เป็นไรหรอก  อย่างน้อยการที่ได้เห็นคนที่ผมรักและเอ็นดูทั้งสองคนได้รักกันไปนานๆผมก็มีความสุขแล้ว”

“คุณบิ๊ก”

“หึหึ  ไม่ต้องกลัวผมเสียใจหรอกคุณผมทำใจมานานแล้วและที่สำคัญผมไม่ขี้แยเหมือนคุณหรอกนะ ฮ่าๆ”
จากเศร้าๆผู้ชายต้องหน้าผมก็ทำให้ตัวเองมีรอยยิ้มขึ้นมาได้เอง  อย่างนี้สิคือพ่อของลูก  ใครได้เป็นแฟนคงโชคดี

..................................................................................................

เช้าวันเสาร์นอกจากสภาพอากาศจะร้อนไม่เป็นไปตามฤดูแล้วจิตใจผมตอนนี้ก็ยังร้อนไปด้วยเพราะใจอยากจะบอกความจริงกับ
โอ๊ตตั้งแต่เมื่อวานที่คุณบิ๊กได้วางแผนกับผมไว้

วันนี้โอ๊ตบอกว่าจะมาหาผมนี่นาก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำผมจึงโทรหาน้องจึงได้ใจความว่าน้องจะมาหาตอนบ่ายเพราะว่าตอนเย็นมีนัดกินเหล้ากับไบท์เลยจะเอาผมไปด้วย

ผมรีดเสื้อผ้ากางเกงรวมทั้งจัดแจงหนังสือสมุดเตรียมพร้อมที่จะไปเรียนหนังสือในวันจันทร์นี้  คุณบิ๊กบอกกับผมไว้เมื่อวานว่าถึงจะบอกความจริงกับโอ๊ตไปแต่แกก็ขอให้ผมเรียนให้จบเทอมนี้ไปก่อน  น้องรับได้ไม่ได้ยังไงก็ต้องง้อให้ถึงที่สุด  อย่างน้อยคุณบิ๊กก็เชื่อว่าหลานตัวเองคงไม่ใจดำทิ้งคนที่ตัวเองรักหรอกถึงจะปลอมตัวมาหลอกก็เถอะแต่ก็ปลอมตัวมาเพื่อความหวังดี  ผมก็คิดในใจนิดๆว่าน้องอาจจะโวยวายเสียใจแต่ก็คงจะเข้าใจ

ติ้ง ติ้ง ติ้ง

แกรก

อืม  น้องมาถึงก็ดึงหน้าผมเข้าไปจูบแทนคำทักทายก่อนที่ผมจะโดนลากเข้าไปห้องนอนแล้วเล่นกันกับโอ๊ตบนเตียงหนึ่งรอบ

“ตอนเย็นไปกับกูนะ  ไบท์มันนัดกูไว้ว่ะแต่มันไม่ได้บอกให้ชวนมึง  แต่กูจะเอามึงไปด้วย”

“อ้าว  จะไปดื่มตามประสาผู้ชายหรือเปล่า”

“หืม  แล้วมึงไม่ใช่ผู้ชายหรอว่ะ  ไอ้นี่ก็มี”

“เฮ้ย”  โอ๊ตพูดไม่พอล้วงมือเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วกำไปที่ส่วนที่อ่อนไหวของผมเป็นเชิงหยอกล้อ

“มันบอกว่ามีมันกับพี่อิฐและก็เพื่อนของพี่อิฐที่เป็นตำรวจ  กูก็ไม่รู้จักเขาหรอก”

“เพื่อนที่เป็นตำรวจหรอ”  คนที่เป็นตำรวจ  เพื่อนพี่อิฐ 
ตายแล้ว  อีกี้ต้องวางแผนล่อทั้งไบท์ทั้งโอ๊ตไปฟังความจริงแน่ๆอย่างว่าล่ะถึงไม่ได้ชวนผมไปด้วย  นี่คงให้แฟนตัวเองมาชวนอีกทีสินะ  ผมจะทำยังไงดีล่ะทีนี้

คิดอะไรไม่ออกจริงๆผมเลยถามโอ๊ตไปว่า “โอ๊ตจะไปจริงๆหรอ”

“ถามอะไรแปลกๆหรือมึงไม่อยากให้กูไปวะ  กูกินไม่เยอะไม่เมาหรอก  มึงก็ไปด้วยนี่หว่า”

“แต่เขาไม่ได้ชวนบีนหนิ” ผมบ่นเชิงน้อยใจก่อนจะหันหน้าไปกอดโอ๊ตที่นอนอยู่ข้างๆ อ้อนซะหน่อย

“เออน่า  ไม่มีใครว่ามึงหรอก  ไปกันนะๆ”
หรือว่าผมคิดมากไป  คิดในแง่ดีอีกี้อาจจะไม่มาก็ได้  ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ


ลุงชัยพาเรามาส่งถึงร้านแนว Bar & Bistro สุดหรูใจกลางเมืองก่อนที่โอ๊ตจะให้ลุงแกไปหาข้าวทานแถวนี้แล้วจึงมารอรับพวกผมว่าแล้วผมกับโอ๊ตก็เดินเข้าไปในร้านก็เจอกับพี่อิฐและก็ไบท์นั่งรอเรากันอยู่แล้วทั้งสองคน

“อ้าวไม่เห็นบอกว่าบีนจะมาด้วย”

“เซอร์ไพรส์ไง คนพิเศษของกูขนาดนี้ก็ต้องมาด้วยกันสิวะ” โอ๊ตทักทายเพื่อนอย่างอารมณ์ดีก่อนที่เราสองคนจะยกมือไหว้พี่อิฐแล้วนั่งลงเก้าอี้ฝั่งเดียวกัน   และดูท่าทีแล้วไบท์คงไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆพี่อิฐก็ดูไม่รู้อะไร  ถ้ามันจะมาจริงๆนะผมก็มีแผนรองรับไว้เหมือนกัน

“รอเพื่อนพี่ก่อนนะครับมันกำลังจอดรถเดี๋ยวก็เดินมาแล้ว  จะได้เปิดไวน์พร้อมๆกัน  ร้านนี้พึ่งเปิดใหม่ได้ข่าวว่าบรรยากาศดีไวน์ก็รสชาติดีเลยอยากชวนน้องมา” พี่อิฐพูดขึ้นบ้าง

“เอ่อโอ๊ต  ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ  อยู่ๆก็มวลๆท้องน่ะ”

“หืม  ไม่สบายหรือเปล่า”

“คงไม่เป็นอะไรมากหรอก” ผมรีบเดินไปทางห้องน้ำแล้วแอบดูตรงลานจอดรถเพราะมันอยู่ใกล้ๆกัน

ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่ผมคิดเอาไว้มันผิด  มันมากับแฟนมันจริง

ดูท่าทางรีบร้อนเสียด้วย  ผมรีบหยิบแผ่นพลาสเตอร์บรรเทาปวดตราเสือออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำ  แผนนี้คงใช้ได้นะ

แผ่นพลาสเตอร์ตราเสือสูตรร้อนที่ติดอยู่บนหน้าผากผมกำลังแผ่ความร้อนเข้าหน้าผากผมแบบร้อนได้ที่  ผมจึงโทรหาโอ๊ตที่นั่งอยู่ข้างนอก  ฝ่ายนั้นก็คงกระอักกระอ่วนใจที่ได้เจอแฟนเก่าที่มากับแฟนใหม่

“โอ๊ต  เรารู้สึกไม่สบายแล้วอ่ะ”

“อ้าว  เป็นอะไรมาหรือเปล่า”

“มารับเราในห้องน้ำหน่อยสิ  เราอยากกลับห้องแล้ว  พาเรากลับเถอะนะ”

“ได้ๆ” โอ๊ตมารับผมที่ห้องน้ำก่อนพาผมออกไปอีกทางพร้อมกับบอกว่าได้ลาพี่เขาออกมาแล้ว

“เฮ้ย   มึงตัวร้อนจัง” โอ๊ตแตะที่หน้าผากผมก่อนจะพูดออกมากด้วยความตกใจ

“ไปหาหมอไหมมึง  เดี๋ยวกูบอกลุงชัยให้พาไป  แกกำลังจะเข้ามารับเรา”

“ไม่หรอกกินยาคงหาย  ว่าแต่โอ๊ตนอนกับบีนได้ไหมคืนนี้”

“เอาอย่างนั้นหรอ” ถึงจะถามแบบนั้นก็โอ๊ตก็ดูยิ้มมีความสุข

“อืม  ขอแค่โอ๊ตอยู่กับเรา” ผมตอบไปแบบอ้อนๆ


ลุงชัยมารับพวกผมหน้าร้านก่อนที่โอ๊ตจะบอกให้ไปส่งที่คอนโดผมแล้วโอ๊ตก็ฝากลุงไปบอกคนที่บ้านว่าวันนี้จะนอนห้องผม

“มึงอยากกลับก็ดีแล้ว  มึงรู้ไหมนอกจากเพื่อนพี่อิฐแล้วใครมาด้วย”

“ใครหรอ” ผมแกล้งถามที่จริงก็รู้ว่าใคร

“กี้  กูโคตรเกลียดขี้หน้ามันเลยมันมากับแฟนใหม่ หึ กูก็มีแฟนใหม่เหมือนกันล่ะวะ  ดีแล้วล่ะกูก็ไม่อยากอยู่เหมือนกัน”

“อืม  อยู่ห่างๆเขาไว้เถอะ ยังไม่ได้คุยอะไรกันใช่ไหม”

“ไม่ว่ะ  กูไม่อยากคุยกับมัน”

ผมต้องบอกความจริงกับโอ๊ตแล้วสินะ  คงต้องวันนี้แล้วล่ะที่ต้องบอก
ก่อนที่โอ๊ตจะไปรู้มาจากคนอื่นแบบนั้นคงจะไม่ดีสักเท่าไหร่  ถึงห้องค่อยคุยแล้วกัน


“มึงเช็ดตัวเสร็จแล้วใช่ไหม”

“อืม”

“นี่ยากับน้ำ” โอ๊ตที่อาบน้ำก่อนผมสงสัยรีบอาบเพราะรีบไปเตรียมน้ำกับยามาให้ผมก่อนที่ผมจะเช็ดตัวเสร็จ  แกล้งป่วยนี่ก็แกล้งให้ถึงที่สุดสินะ

ใจผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อรู้ว่าต้องบอกความจริงแล้ว
“เป็นอะไรหรือเปล่า  ตัวมึงสั่นๆ  หนาวหรือเปล่า”

“ไม่หนาวหรอก”

เราปิดไปนอนไปแล้วสักพักแต่ก็ไม่มีใครนอนหลับ
“โอ๊ต  ถ้าเกิดบีนไม่ใช่เด็กมัธยมโอ๊ตจะรักบีนไหม”

“รักสิ  มึงเป็นอะไรก็รักหมดแหละ  ถามแปลกๆ ขอให้มึงรักกูและเป็นมึงแบบนี้ก็พอ”

มันจะง่ายขนาดนั้นจริงหรือ

“ถ้าบีนมีเรื่องปิดบังโอ๊ตล่ะ”

“ถามอะไรแปลกๆวะ  กินยาแล้วเพี้ยนหรือเปล่า  นอนเถอะ”

“โอ๊ต”  ผมกอดน้องแน่นขึ้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองคนตรงหน้า “บีนมีเรื่องจะบอกแต่ขออย่างหนึ่งนะ  อย่าทิ้งบีนไปไหน”

“เรื่องอะไร”

“สัญญาก่อนสิว่าอย่าทิ้งบีนไปไหน”

“สัญญา”

โอ๊ตสัญญาด้วยการประทับปากตัวเองลงบนปากผมอย่างนุ่มนวล  ถึงเวลาแล้วสินะ
แล้วผมก็พูดประโยคแรกออกไป


“โอ๊ตฟังให้ดีนะ  บีนไม่ใช่เด็กมัธยม”




...............................................................................

นี่เราแอบย่องมาตอนดึกๆนะ  :katai5:ไม่รู้จะมีใครรออ่านหรือเปล่านะ  ขอเสียงคนอ่านหน่อยเร้วววววววว

คุณบิ๊กเป็นคนดีทั้งภายนอกภายในเลยเนาะ อิอิ  สงสารอยู่นะนิดนึง
เรื่องปูมาขนาดนี้ก้คงไม่ต้องเดากันแล้วนะครับว่าใครเป็นพระเอก  แต่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คงเป็นบททดสอบสำหรับคู่พระ นาย ของเราแล้วกัน  มาดูกันตอนหน้าว่าโอ๊ตจะว่ายังไงบ้าง

สำหรับวันนี้ฝันดีครับ  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเข้ามาเม้นนะครับ :กอด1:

รักคนอ่าน o13
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: Psongtt ที่ 07-11-2015 02:08:45
อย่าปล่อยให้ค้างจังซี่~
มันเฟร้งฟร้าง 555+
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 07-11-2015 03:59:15
โถ่ บอกตรงก็ดีบีน อย่าปล่อยให้โอ๊ตรู้จากคนอื่น
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 07-11-2015 06:42:45
โธ่ๆๆๆๆ


คุณบิ๊กช่างเป็นพระรองยอดเยี่ยมแห่งปี

หาคู่ให้ฮิมเถอะค่ะ พลัส~
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-11-2015 07:34:23
ดีมากบีน นอนคุยกันนี่แหละดีแล้ว สัญญาแล้วนาา
โถุคุณบิ๊ก
ขอบคุณค่ะ มาต่อไวๆนะค้างแรง
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 07-11-2015 09:09:00
ทำดีขนาดนี้ได้เป็นแค่พระรองสินะคุณบิ๊ก
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 07-11-2015 09:54:13
            บีนบอกไปตรงๆอ่ะดีแล้ว ดีนะที่ไม่ชอบขี้หน้าแฟนเก่า ๕๕๕ บอกความจริงแล้วจะเป็นไงอ่ะ ผู้แต่งไม่น่าตัดเลย ลุ้นจริงๆ
       ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ รอ รอ รออ่าน
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-11-2015 13:07:35
มาตัดฉับให้ค้างกลางทาง :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

โอ๊ตสัญญาแล้วต้องรักษาสัญญานะ :n1: :n1: :n1: :n1:

กลัวใจพระเอกอย่างโอ๊ตจริงๆเลย โอ๊ตอย่าโกรธบีนเลยนะ เพี๊ยง!!

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 07-11-2015 23:09:15
อย่าปล่อยให้ค้างจังซี่~
มันเฟร้งฟร้าง 555+

เดี๋ยวรีบมาต่อครับ รอหน่อยน้าาาา อิอิ

โถ่ บอกตรงก็ดีบีน อย่าปล่อยให้โอ๊ตรู้จากคนอื่น
เอาใจช่วยบีนกันนะครับ กำลังปั่นบีนอยู่55
โธ่ๆๆๆๆ


คุณบิ๊กช่างเป็นพระรองยอดเยี่ยมแห่งปี

หาคู่ให้ฮิมเถอะค่ะ พลัส~

เอาใครดีน้อ คุณบิ๊กนี่แกเหมาะกับใครในเรื่องนะ
ดีมากบีน นอนคุยกันนี่แหละดีแล้ว สัญญาแล้วนาา
โถุคุณบิ๊ก
ขอบคุณค่ะ มาต่อไวๆนะค้างแรง
คนแต่งก็ค้างแรงเช่นกันครับ. รอบีนหน่อยนะครับ

            บีนบอกไปตรงๆอ่ะดีแล้ว ดีนะที่ไม่ชอบขี้หน้าแฟนเก่า ๕๕๕ บอกความจริงแล้วจะเป็นไงอ่ะ ผู้แต่งไม่น่าตัดเลย ลุ้นจริงๆ
       ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ รอ รอ รออ่าน
ตอนหน้ามาเต็มแน่นอนครับ รู้สึกผิดเลยนะเนี่ย งื้มๆ
มาตัดฉับให้ค้างกลางทาง :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

โอ๊ตสัญญาแล้วต้องรักษาสัญญานะ :n1: :n1: :n1: :n1:

กลัวใจพระเอกอย่างโอ๊ตจริงๆเลย โอ๊ตอย่าโกรธบีนเลยนะ เพี๊ยง!!

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
มาดูกันต่อไปครับว่าพระเอกจะนิ่งไหม
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 08-11-2015 01:21:28
ค้างงงงงงงคาจายยยยยยยย ><//นี่อ่านรวดเดียวเลยนะค่ะ นี่ไม่ยากจะเชื่อเลยว่าเป็นเรื่องแรก เขียนได้ดีมากเลยค่ะ นอกจากการเขียนแล้ว เราว่าแนวของเรื่องดูแปลกแหวกแนว น่าสนใจมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๔ ๗/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 08-11-2015 10:39:08
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๕ ๑๐/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 10-11-2015 23:06:43
ตอนที่  ๒๕
 
“โอ๊ตฟังให้ดีนะ  บีนไม่ใช่เด็กมัธยม”
ผมพูดออกไปแล้วจ้องหน้าโอ๊ตอย่างจริงจัง  โอ๊ตก็จ้องหน้ามองผมแต่กลับยิ้มหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆ นอนเถอะบีน  เพ้อเกินไปแล้ว  มาๆนอนกอดกัน”

“นี่ไม่เชื่อกันใช่ไหม” น้องมันไม่ฟังเด็กผมเข้าไปกอด “ถ้าอย่างนั้นบีนจะพูดต่อแล้วกัน  ความจริงคือเราไม่ใช่เด็กมัธยม   เราเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว” ผมไม่สนใจโอ๊ตจะฟังหรือเปล่า  รู้แต่ว่าโอ๊ตคงยังไม่หลับจึงพูดต่อไปอีก
“หลังจากเรียนจบใหม่ๆ เรายังไม่มีงานทำ  อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนเราบอกว่าเจ้านายกำลังหาคนไปทำงาน  เราจึงไปสมัครแต่เจ้านายกลับบอกว่างานนี้ต้องปลอมตัวเป็นเด็ก ม.๕  เข้าไปเรียนหนังสือห้องเดียวกับหลานของเจ้านายแล้วไปตีสนิทเป็นเพื่อนเพื่อที่จะช่วยน้องเขาในเรื่องการเรียน  คนที่เราต้องไปช่วยก็คือโอ๊ตไง” คนที่กอดผมอยู่เริ่มคลายมือออกช้าๆ ผมสัมผัสได้ถึงหัวใจของโอ๊ตที่เต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ
“ที่บอกเพราะว่าเราอยากให้โอ๊ตรู้จากปากเราเองไม่อยากให้คนอื่นมาบอก  การปลอมตัวมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆตอนนี้มีคนรู้เรื่องบีนแล้วและก็พยายามจะมาบอกโอ๊ต”

“ถ้ามันจริงแล้วใครจะมาบอก”

“กี้น่ะ”
โอ๊ตปล่อยผมออกจากอ้อมกอด  ใจผมเริ่มเบาหวิวขึ้นเรื่อยๆและน้องเองก็พลิกตัวไปนอนหงาย  สายตาที่ปรับเข้ากับความมืด
ตอนนี้ทำให้ผมมองเห็นหน้าโอ๊ตได้อย่างชัดเจน  หน้าตาที่ตอนนี้ครุ่นคิดและดูสับสน

“แล้วจะให้กูทำยังไง  กูต้องทำตัวยังไงต่อไปหรอ  กูต้องเรียกมึงว่าอะไร  มึงไม่ได้โกหกกูเล่นใช่ไหมวะ  มึงเป็นเด็กมัธยมธรรมดาคนหนึ่งใช่ไหมวะ  มึงย้ายมาจากต่างจังหวัด  มึงไม่ได้ทำอะไรแบบที่มึงพูดมาใช่ไหมบีน   มึงตอบกูมาสิว่าเมื่อกี้มึงแค่พูดเล่น ”  น้องพลิกตัวตะแคงซ้ายมาทางผมอีกครั้งก่อนมือสองข้างจะกุมไหล่ผมไว้แล้วเขย่าคาดคั้นเอาความจริง

“เราพูดเรื่องจริงทั้งหมดนะโอ๊ต”

“แล้วมึงมาหลอกกูทำไมวะ”

“เพื่อจะทำให้โอ๊ตมีชีวิต มีการเรียนที่ดีขึ้นยังไงล่ะ”

“การกระทำต่างๆทั้งช่วยเรียนช่วยทำการบ้านติวหนังสือของมึงนี่  มึงคงไม่ได้ตั้งใจทำจากใจจริงสินะ  มึงก็ทำตามที่เจ้านายมึงสั่งเท่านั้น”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะโอ๊ต  โอ๊ตจะไปไหน” น้องดูเหมือนจะโกรธและดูสับสนอยู่  แต่ผมต้องยื้อน้องไว้ “โอ๊ต  อย่าไปไหนนะ”

“ปล่อย  ยิ่งมึงพูดความจริงออกมาเท่าไหร่กูยิ่งทำตัวไม่ถูก  จะให้กูพูดกับมึงว่าอะไร  แทนตัวเองว่า  ผม  แล้วเรียกมึงว่า  พี่อย่างนั้นหรอ   มันไม่มีบีนคนเดิมของกูอีกแล้ว” น้องเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่เตรียมตัวที่จะออกไปจากห้อง  ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนดู  เคยคิดถึงใจโอ๊ตนะครับว่าถ้ารูความจริงแล้วคงต้องสับสนแน่ๆ คิดเล่นๆดูว่าถ้ามีเพื่อนย้ายมาใหม่แล้วดีกับเรามากๆวันหนึ่งก็ตกลงคบกันแต่มารู้อีกทีเขาไม่ใช่คนๆนั้นจริงแต่ปลอมตัวมาเราจะมีความรู้สึกอย่างไร  คงสับสนเหมือนโอ๊ตตอนนี้

“โอ๊ต  พรุ่งนี้ค่อยกลับนะ” ผมเดินไปกุมมือโอ๊ตขึ้นมาหวังว่าจะยังฟังกันนะ

“มึงบอกว่า  เออไม่สิ  ผมคงต้องเรียกว่า คุณ สินะ  ผมจะไปหาอาแล้วถามเรื่องของคุณแล้วกัน”
คุณ งั้นหรอ  วันนี้มาถึงจนได้  วันที่ผมดับเครื่องชนเข้ากับความจริงที่ต้องเจอ มึง สรรพนามที่เด็กๆใช้เรียกกันมันยังเพราะกว่าคำที่โอ๊ตใช้เรียกผมตอนนี้

“อาเขาหวังดีกับโอ๊ตนะ  ถึงจะทำแบบนี้ก็เถอะแต่ทั้งอาและก็เอ่อ” ผมจะแทนตัวเองว่ายังไงดีล่ะ “แล้วก็พี่อยากให้โอ๊ตให้อภัยพวกเรานะ” ผมกลั้นใจแทนตัวเองว่าพี่ออกไป  ทำไมความรู้สึกมันช่างต่างกันนักนะ  ความรู้สึกนี้ไม่เหมือนกับสิบนาทีก่อนที่เรายังนอนกอดกันอยู่เลย

“พอก่อน  พอ  ตอนนี้ผมเป็นเหมือนไอ้โง่คนหนึ่งเท่านั้นแหละที่คุณสองคนปั่นหัวผมเล่น  สนุกนักใช่ไหมกับการมาใช้ชีวิตแบบนี้  มาล้อเล่นกับความรู้สึกผมแบบนี้”

“ขอโทษ  พี่ขอโทษ”

“ไม่สงสารผมบ้างหรอ  ทำไมทำแบบนี้วะ” ปึก  ถึงจะไม่เปิดไฟแต่เสียงสะอึกจากโอ๊ตก็ทำให้รู้ว่าน้องร้องไห้ก่อนที่จะยกกำปั้นขึ้นชกที่ผนัง

“ไม่เอาอย่าทำแบบนั้น” ผมดึงมือน้องออกก่อนที่เจ้าตัวจะเหวี่ยงผมออกจากตัวจนผมเซไปข้างๆแล้วเดินออกจากห้องนอน  ผมก็
ไม่รอช้ารีบตามออกไปทันที


ติ้ง  ติ้ง  ติ้ง


เสียงสวรรค์  ขอให้คนที่กดออดเป็นเจ้านายด้วยเถอะนะเพราะหนึ่งชั่วโมงก่อนผมส่งไลน์ไปบอกคุณบิ๊กว่าผมจะบอกความจริงกับน้องทั้งหมดในคืนนี้

“ อย่าพึ่งไปไหนนะโอ๊ตฟังอาพูดก่อน”

“ นี่คืออะไรครับอาบิ๊ก  นี่นัดกันรวมหัวแกล้งผมหรอ  ผมไม่สนุกด้วยนะ”

“ใจเย็น  อาเข้าใจโอ๊ตนะแต่อาก็มีเหตุผลเหมือนกัน  ขอให้อาได้ทำความเข้าใจกับเราหน่อยนะ ”  อาหลานยืนคุยกันอยู่หน้าประตูก่อนที่คุณบิ๊กจะดุนหลังน้องเข้ามาในห้องผม

“บีน  มานั่งตรงนี้  โอ๊ตนั่งตรงนี้  นั่งข้างๆกันนี่แหละ”
เจ้านายให้ผมกับโอ๊ตนั่งโซฟาข้างๆกันก่อนที่เจ้าตัวจะไปนั่งโซฟาอีกตัวแล้วเริ่มพูด

“ทีแรกอาก็ไม่คิดจะทำแบบนี้หรอก  แต่เพราะอากังวลและไม่มีเวลาดูแลหลาน  ปู่กับย่าเราก็แก่แล้วอีกห้าหกปีก็จะวางมือจากบริษัท  อาเห็นโอ๊ตดูไม่ตั้งใจเรียนมาตั้งแต่ม.ต้น  อาไม่รู้จะทำยังไงจริงๆเพื่อนโอ๊ตอาก็รู้จักแค่ผิวเผินก็คงต้องเป็นวิธีนี้แหละ  ถึงมันจะแปลกๆไปหน่อยก็เถอะ  อาทำเพราะว่าหวังดี  บีนเขาก็เป็นคนดี อาไว้ใจเขา  ถ้าเราจะคิดว่าบีนทำไปเพราะมันเป็นหน้าที่มันก็ถูกส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนถ้าเขาไม่มีใจทำ  ไม่มีใจรักในการดูแลเอาใจใส่เราจริงๆโอ๊ตก็คงไม่กลับมาเป็นเด็กดีการเรียนดีขึ้นหรอกนะ  ให้บีนดูแลเราดีแล้ว  เข้าใจไหม” คุณบิ๊กเหมือนเทวดามาช่วยผมจริงๆ

“ผมสับสน  ผมรู้สึกเหมือนตัวเองโง่” แต่โอ๊ตก็คงยังรู้สึกแย่อยู่

“ไม่มีใครว่าเราโง่หรอก  ทุกๆเรื่องในชีวิตก่อนที่เราจะรู้เราก็ไม่รู้มาก่อนทั้งนั้นแหละ  อารู้นะว่าเรารักบีนเกินเพื่อน  บีนเขาก็สารภาพกับอาว่าเขาก็รักเรา  อาก็ไม่ว่าอะไร  ออกจะเห็นด้วยด้วยซ้ำ”

“ผมยังทำใจไม่ได้” โอ๊ตลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะพูดต่อว่า “ผมอยากกลับบ้าน”

คุณบิ๊กถอนหายใจก่อนจะบอกหลานว่า “อย่างนั้นไปรออาข้างนอกก่อนนะ”

น้องเดินออกไปนอกห้องแล้ว  เจ้านายเบนสายตามาทางผมก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆผมแล้วกุมมือผมไว้เชิงให้กำลังใจ

“ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง  หลานผมต้องเข้าใจ  พรุ่งนี้ไปโรงเรียนตามปกตินะบีน”

“แล้วถ้าน้องยังโกรธผมอยู่ล่ะครับ”

“อดทนนะบีน  ไม่นานหรอกเดี๋ยวโอ๊ตก็เข้าใจเอง  ผมจะช่วยพูดกับเขาอีกทีเดี๋ยวก็ใจอ่อน  เชื่อผม”

“ขอบคุณครับ  กลับบ้านดีๆอย่าทะเลาะกันนะ”

“โอเคครับ”

เจ้านายเดินออกไปจากห้องแล้ว   สภาพห้องผมก็กลับมาสู่ความเงียบงันและว่างเปล่าอีกครั้ง  โอ๊ตกลับไปด้วยความรู้สึกใหม่ว่าผมไม่ใช่บีนอีกแล้ว  ถ้าในหนังจีนผมเป็นหมาจิ้งจอกปลอมตัวเป็นมนุษย์ตอนนี้หางคงโผล่แล้วสินะ  คิดแล้วก็ปวดหัว  ไม่ใช่ว่าโอ๊ตฝ่ายเดียวก็คิดหนักว่าต้องทำตัวยังไงเมื่อรู้ว่าผมไม่ใช่เด็กวัยเดียวกัน   ผมก็คิดเหมือนกันว่าต่อไปผมต้องทำตัวยังไงกับโอ๊ตถ้าพรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน  ไม่สินะ  ผมต้องเจออยู่แล้วที่นั่งติดกันขนาดนั้น


...................................................................................................


ดูท่าแล้วจะไม่ใช่แค่โอ๊ตนะครับที่รู้ว่าผมไม่ใช่เด็ก ม.๕  เพราะว่าเพื่อนในกลุ่มอีกสองคนไบท์กับอ๊อฟที่มีท่าทางเบลอ ตีมึนใส่ผม  ไม่คุยด้วยตั้งแต่เข้าแถวจนถึงตอนเที่ยงและสุดท้ายก็คงไม่มีใครกล้าไปนั่งกินข้าวกับเพื่อน   ถ้าเพื่อนไม่คุยกับเราทั้งกลุ่ม
ผมซื้อขนมกินพออิ่ม  ยัดๆมันเข้าปากเร็วๆแล้วรีบเดินออกจากโรงอาหาร   การไม่มีเพื่อนคบนี่มันน่ากลัวจริงๆคนอื่นก็ไม่มีใครสนใจ  ก็จะมีแค่กลุ่มนั่งติดหน้าต่างที่ดูทำหน้าตาอย่างกับสะใจเพราะเข้าใจว่าโอ๊ตกับผมนั้นเลิกกัน


ผ่านไปห้าวันกับการที่โอ๊ตและเพื่อนอีกสองคนไม่พูดกับผมเลย   ผมย้ายไปนั่งโต๊ะที่ว่างข้างๆที่บอยเคยนั่งอยู่ตั้งแต่วันอังคารจนมาวันนี้วันศุกร์เมื่อจบคาบสุดท้ายผมก็เก็บของและลุกออกไปจากห้องเงียบๆถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปผมคงเป็นฝ่ายขอหยุดงานนี้ไปเองก็เป็นได้     ผมออกจากโรงเรียนยังไม่อยากกลับห้องเลยไปที่ที่หนึ่งที่เคยไปมาแล้วคือสะพานพระราม ๘    เพราะวิวที่นี่สวยดี   หลังจากครั้งแรกมากับโอ๊ต เฮ้อ  การได้มาที่แบบนี้คนเดียวถึงแม้มันจะเหงาก็เถอะ  แต่มันก็ทำให้นึกถึงโอ๊ตตอนนั้นอยู่ดี  โอ๊ตที่ยังไม่ทำเย็นชาใส่ผม  แล้วเมื่อไหร่โอ๊ตถึงจะเข้าใจและยอมให้อภัยผมนะ

ผมโทรไปถามความเคลื่อนไหวของน้องกับคุณบิ๊กทางนั้นก็บอกแค่ว่าหลานตัวเองช่วงนี้ก็ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง  เสร็จจากฟิตเนสก็ทานข้าว  เข้าห้องไปทำการบ้านอ่านหนังสือหนักกว่าเดิมอีก  แกบอกว่าที่หลานทำไปคงไม่อยากคิดฟุ้งซ่านเรื่องผมก็เป็นได้  ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะครับ  ผมจึงวางสายจากมือถือนั่งกินข้าวคนเดียว  ดูหนังละครคนเดียว


อย่างกับตอนเลิกกับแฟนใหม่ๆหรือไม่ก็ตอนที่บอยหายจากผมไปแต่มันไม่เหมือนตรงที่ว่าผมเข้มแข็งขึ้นจากเดิมแต่ก็ยังกังวลอยู่ซึ่งอาการกังกลนี้เองที่เป็นต้นเหตุของการนอนไม่หลับมาห้าคืนแล้วสำหรับผม ในหัวมันมีแต่ โอ๊ตจะเป็นยังไง โอ๊ตจะคิดยังไง โอ๊ตจะตัดขาดไม่พูดไม่จาไม่เสวนากับผมไปตลอดเลยหรือไม่  คิดแบบนี้จนกว่าจะหลับไปเองก็ปาเข้าไปตีสามแล้วยังต้องตื่นไปเรียนตอนหกโมง  ดีว่าวันนี้วันศุกร์จึงทำให้ผมคิดถึงโอ๊ตได้ตามสบาย

ติ้ง  ติ้ง  ติ้ง

ขณะที่ผมนอนมองดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาที่บอกว่าตอนนี้เวลาสี่ทุ่มครึ่งเสียงออดก็ดังขึ้น  คุณบิ๊กอีกแล้วสินะ  คนที่คอยช่วยเหลือผมทุกอย่าง


แกรก


ผมแทบจะหยุดหายใจ  คนที่ผมรอให้มาหาเกือบหนึ่งอาทิตย์ยืนอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะแทรกตัวผมเข้าที่ห้องถอดถุงเท้ารองเท้าออก  แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน  ผมจึงปิดประตูแล้วเดินตามเข้าไปในห้องก็พบว่าโอ๊ตที่ถอดกางเกงออกเหลือแต่บ็อกเซอร์กับเสื้อกำลังจะขึ้นไปนอนบนเตียง

“มองดูอะไร  จะนอนแล้วไม่ใช่หรอ” เป็นประโยคที่ตีความหมายได้ว่า  มานอนด้วยกันสิ  ผมไม่รอช้ารีบขึ้นเตียงไปนอนข้างน้องแต่ก็ต้องเก็บอาการดีใจไว้ข้างใน  ก่อนที่น้องจะดึงผมเข้าไปกอดแล้วบอกกับผมว่า “ รีบนอน ”

คืนนี้คงไม่ต้องคิดมากแล้วครับ คนที่คิดถึงมากอดผมให้หายเหงาหายคิดถึงถึงที่ขนาดนี้  เรานอนกอดก่ายและหลับลงไปในที่สุดก่อนที่ผมจะตื่นขึ้นมาตอนสายๆแล้วเจอกับโอ๊ตที่กำลังใส่กางเกงอยู่

“เดี๋ยวคืนนี้จะมานอนด้วยอีก”


โอ๊ตไม่รอให้ผมถามหรือคุยด้วยสักคำก็รีบออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว  ปล่อยให้ผมที่พึ่งตื่นนอนงงอยู่บนเตียงคนเดียว


 



“หึหึ  นี่ต้องขอบคุณผมนะที่พูดนำทางเขาไว้”

“พูดว่าอะไรครับ”  คุณบิ๊กมาหาผมตอนบ่ายๆก็สอบถามผมเรื่องเมื่อคืนก่อนที่เจ้าตัวจะพูดอ้างบุญคุณขึ้นมา

“ก็บอกว่า  ถ้าคิดถึงมากก็ไปหาเขาสิ  อารู้นะว่าเรานอนไม่หลับ  พูดแค่นี้แหละ  พอตอนสี่ทุ่มแอบไปเปิดดูห้องโอ๊ตผมก็ไม่เห็นเขาเสียแล้ว ฮ่าๆ”

“..................” ผมได้แต่ยิ้มให้เจ้านายก่อนที่แกจะพูดต่อว่า

“แล้วโอ๊ตมาพูดอะไรบ้างไหม”

“ก็แค่ถามว่าจะนอนยังอะไรประมาณนี้แหละครับและตอนเช้าก็บอกว่าคืนนี้จะมานอนด้วยใหม่”

“ฮ่าๆ หลานผมมันปากแข็งอย่างนี้แหละอย่าถือสาเลย  เดี๋ยวมันก็ใจอ่อนเอง  แล้วคุณไม่ทำอะไรให้หลานผมยอมใจอ่อนบ้างหรอ”

“ทำอะไรหรอครับ”

“ก็อย่างเช่น  เรื่องแบบนั้นน่ะ  ลองอ้อนลองพะเน้าพะนอดูสิ  หลานผมชอบให้เอาใจนะ  รับรองหายงอนคุณแน่ๆ”

“เอาอย่างนั้นจริงๆหรอคุณ” ผมถามไปด้วยอาการที่หน้าร้อนเพราะเขินอายไปด้วย

“เชื่อผม”

...

“นอนเถอะ” คืนนี้โอ๊ตมาหาผมอีกครั้ง  ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็กระโจนลงบนเตียงก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดแล้วก็กดผมให้ซุกไปกับอกของตัวเอง  ผมตัดสินใจแล้วว่าจะทำตามวิธีที่คุณบิ๊กบอกจึงฝืนแรงมือที่กดหัวผมเงยหน้าขึ้นไปจ้องหน้าโอ๊ตก่อนที่เจ้าตัวจะลืมตาขึ้นมามองผมอย่างงงๆ

ผมเอื้อมมือซ้ายขึ้นไปลูบหน้าของน้องอย่างเบามือก่อนจะยื่นหน้าตัวเองเข้าไปจูบที่แก้มน้องซ้ายขวาแล้วประทับริมฝีปากตัวเองลงบนกลีบปากของโอ๊ต  ซึ่งแรกๆเจ้าตัวก็พยายามปฏิเสธด้วยการไม่เปิดปากจูบแต่ต้องยอมแพ้ด้วยลิ้นของผมที่ดุนดันริมฝีปากให้เปิดออก  ผมใช้แรงทั้งหมดพลิกตัวน้องให้นอนหงายก่อนที่ผมจะย้ายร่างตัวเองขึ้นไปนอนทับตัวน้องที่นอนหงายอยู่  เราจูบกันอย่างดูดดื่มและกระหายหลังจากห่างเหินเรื่องแบบนี้มาเกือบอาทิตย์  มือของเราสองคนที่ปัดป่ายลูบไล้กันไปมาช่วยสร้างอารมณ์ให้พลุกพล่านบวกกับส่วนล่างของเราที่บดเบียดขยี้กันผ่านกางเกงตัวเดียวก็ยิ่งทำให้เราต้องการกันและกันมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสองสามเท่า 

มืออีกข้างที่ว่างของผมเลิกเสื้อกล้ามสีขาวน้องขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มหงุดหงิดแล้วถอดเสื้อเหวี่ยงทิ้งลงที่พื้นเอง  มือผมซึ่งประคองจูบอยู่ก็ลากไล้ละจากใบหน้าของน้องมาเขี่ยตุ่มหรรษาสีชมพูเข้มตรงหน้าอกน้องทั้งสองข้างก่อนที่เจ้าตัวจะครางออกมาอย่างสุขอารมณ์ทั้งที่ปากเรายังหยอกล้อกันอยู่ 
ผมถอนจูบออกมาเมื่อคิดว่าเพียงพอแล้วและมุ่งตรงสู่หน้าอกด้านซ้ายของน้องก่อนจะห่อปากครอบสิ่งที่แข็งเป็นไตอยู่ขณะนี้ไว้หลวมๆแล้วใช้ลิ้นตัวเองเลียไปรอบๆอย่างเบาๆสามสี่ทีก่อนจะดูดขึ้นแล้วปล่อยปากออกก่อนจะเปลี่ยนไปทำอีกข้างเหมือนกันและทำสลับกันไม่ต่ำกว่าห้ารอบ

เยี่ยมชมและชิมรสนมของโอ๊ตแล้วผมก็เลียไล่มาตั้งแต่กลางอกจนถึงกลางสะดือแล้วใช้จมูกกดและดมวนอยู่ตรงท้องน้อยที่แข็งแกร่งของโอ๊ตจนเจ้าตัวเกร็งท้องขึ้นไปเพราะความเสียวอยู่พักหนึ่งแล้วเลื่อนหน้าตัวเองมาที่จุดสำคัญที่สุด 
ผมค่อยๆดึงกางเกงบ๊อกเซอร์น้องลงไปจนสุดเท้า  ความแข็งแรงของอาวุธประจำตัวของโอ๊ตดีดเด้งขึ้นมาด้วยความสดใหม่ที่มีความทั้งความต้องการ  ความกระหายอัดแน่นอยู่ในส่วนเดียวกัน  ผมไม่รอช้าก็ครอบปากกลืนส่วนปลายแล้วดูดเม้มเบาๆก่อนจะครอบปากลงไปจนเกือบสุดโคนแล้วรูดขึ้นมาเบาๆอย่างใจเย็นขึ้นๆลงๆเม้มหนักเม้มเบาแล้วแต่จังหวะ  ถ้าเป็นไอติมคงรีบมากกว่านี้เพราะกลัวละลายแต่นี่ผมทำอย่างใจเย็นเผื่อจะได้มีนมข้นหวานให้ได้ทานก่อนนอน

ผมทำความรู้จักกับน้องชายของโอ๊ตพอใจแล้วก็ไล่ลากไซร้ลูกบอลสองลูกก่อนเลียเคลียขาอ่อนทั้งสองข้างของน้องแล้วกลับขึ้นไปหาน้องชายเจ้าตัวอีกรอบแต่หัวผมก็โดนโอ๊ตบังคับจับประคองให้อยู่กับที่แล้วโอ๊ตก็ดันเอวตัวเองแทงส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดเข้ามากระทุ้งในปากผมจนพอใจแล้วจับตัวผมขึ้นไปจูบจนปากแทบเปื่อยนี่คือจุดเริ่มต้น  ต่อไปก็เป็นบทรักของโอ๊ตที่มอบให้กับผมตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นเดียวกับผมที่ทำให้โอ๊ตก่อนหน้านี้และเราสองคนก็ลงท้ายด้วยการประสานร่างกายของกันและกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งคืนไม่ว่าจะเป็นบนเตียง ในห้องน้ำ โซฟาหน้าทีวี  หรือแม้แต่กระทั่งบนเคาน์เตอร์ครัวต่างสร้างสุขให้เรากันเกือบทั้งคืนโดยส่งเสียงครางอย่างอิ่มเอมใจแทนการพูดคุยกันหรือสายตาเย้ายวนของเราที่มองก็รู้ว่ายังไม่อิ่มพอ    การทำกิจกรรมของเราสองคนทั้งคืนก็ทำให้หลับเป็นตายในอ้อมกอดของกันและกันอย่างไม่รู้ว่าจะตื่นอีกทีตอนไหน

.....................................................................................



เวลาบ่ายโมง

ผมลืมตาขึ้นมาก่อนจะขยี้ตาให้ตัวเองตื่น  เมื่อคืนนี้คงหนักไปจริงๆจนโอ๊ตเองก็ยังนอนอยู่ข้างๆผม  ผมจึงลุกไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน  ทำธุระส่วนตัวของตัวเองแล้วกลับมานั่งข้างเตียงก่อนจะลูบหัวน้องเบาๆอย่างเอ็นดู
นอนหลับแบบไม่มีเสื้อผ้าใส่  มีแต่ผ้าห่มคลุมตัวไว้ก็น่ารักไปอีกแบบ  เฮ้อ  ตื่นขึ้นมาน้องจะยังคุยกับผมไหมนะ  อุตส่าห์ทุ่มเทไปทั้งคืน  แต่เดี๋ยวนะ

ผมแตะไปที่หน้าผากของน้องก่อนจะดีดมือตัวเองออกมาเพราะว่าตัวน้องร้อนจี๋เลย  ผมเดินไปปิดแอร์ก่อนจะไปเปิดประตูระเบียงให้ลมพัดเข้ามาแล้วเอาผ้ามาเช็ดตัวโอ๊ตก่อนที่น้องจะรู้สึกตัวขึ้นมา

“ปวดหัวไหม”

“ปวดหัวนิดหน่อย  แต่ปวดตัวมากกว่า”

“ปวดตัวแบบครั่นเนื้อครั่นตัวหรอ”

“เปล่า” โอ๊ตอยู่ดีๆก็หน้าแดงขึ้นมาก่อนจะตอบต่อมาว่า”คิดว่าปวดตัวเพราะว่าเมื่อคืนนี้หนักไปมากกว่า”

ผมอยากจะหัวเราะให้ดังๆแต่กลัวว่าน้องจะอายหรือโกรธผมไปอีกเลยได้แค่ยิ้มแล้วบอกไปว่า

“เดี๋ยวเช็ดตัวเสร็จจะทำโจ๊กให้แล้วก็กินยานะ จะได้นอนพัก”

“อืม”


หลังจากเช็ดตัวเสร็จผมเดินออกไปจากห้องด้วยความดีใจอย่างเก็บเอาไว้ไม่อยู่  ที่พูดด้วยนี่แปลว่าหายโกรธแล้วใช่ไหม  ที่เคยคิดว่าน้องโกรธง่ายหายเร็วนี่ก็คงจริงๆนั่นแหละ  คอยดูนะเด็กคนนี้ผมจะไม่ปล่อยให้หลุดมือเป็นอันขาด  จะดูแลให้ถึงที่สุด



...............................................................................................

  :katai2-1:นี่คนที่หื่นที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหนเลย  นายเอกของเรานี่เอง

ได้กินเด็กทั้งตัวแบบนี้คงมีชีวิตเป็นอมตะแน่ๆ
เรื่องอื่นนายเอกอาจจะป่วยหลังจากหักโหมมีอะไรกับกับพระเอกแต่เรื่องนี้ขอเปลี่ยนเป็นพระเอกป่วยแทนแล้วกันนะครับ อิอิ


ขอบคุณทุกคนที่ให้การติดตามตามการกันตลอดมานะครับ  ทั้งผู้อ่านหน้าเก่าหน้าใหม่  ทั้งคนที่คอมเม้นต์ด้วยนะเดี๋ยวเราจะตามตอบ   ถ้าเราไม่ได้ตอบใครก็อย่าน้อยใจกันนะ  คืนนี้ไปก่อนนะครับ  นอนหลับฝันดีทุกคน จุ๊บๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๕ ๑๐/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 11-11-2015 02:19:10
   ผมชอบที่ผู้แต่งบรรยายการเขี่ยหัวนม เป็น ตุ่มหรรษาสีชมพู มากๆคับ ๕๕๕  เข้าใจใช้คำดี
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๕ ๑๐/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 11-11-2015 06:05:34
ค่อยโล่งหน่อยค่ะ นึกว่าจะเลิกกันแล้ว แต่ต้องขอบคุณคุณอานะค่ะ ชี้ทางสวรรค์
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๕ ๑๐/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-11-2015 09:17:29
คุณอาคืิอกามเทพตัวจริงเลยนะเนี่ย โล่งอกที่คู่นี้คบกันอุตส่าห์ให้คู่กัน ดีใจๆๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๕ ๑๐/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-11-2015 09:20:26
บีนสบาย บีนชิลเพราะบีนเป็นอมตะไปแล้ว
ไม่เสียแรงที่เชียร์โอ๊ตมาตลอด
กราบแทบอกคุณบิ๊ก. ขอให้เจอคนดีๆมีแฟนไวๆค่ะคุณอา
ปล. ชอบฉากรักแบบนี้ ไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องมีเสียงพั่บๆ อ๊ะอิ๊อะไรเลยแต่มันคือการบรรยายของผู้กระทำจริงๆที่เล่าออกมา
  :mew1:   น้องโอ๊ตจะป่วยก็ไม่แปลกหรอก ห้าวันที่ผ่านมาทั้งหักโหมออกกำลัง เรียน เครียด แถมยังนอนไม่หลับอีก
ส่วนบอยถ้าจะกลับแล้วมีเรื่องยุ่งก็ไม่ต้องกลับมาก้อได้นะ พวกแก๊งคนจัญไร (นังกี้กับผัวใหม่และไอ้หื่น) นี่ก้ออยากให้ไปไกลๆสักที
 :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๕ ๑๐/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 11-11-2015 10:08:46
ยกนี้ต้องขอบคุณเฮียบิ๊ก พระเอกได้อีก
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๕ ๑๐/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-11-2015 13:17:53
เฮ้อ บอกตามตรงว่าแอบหวั่นนะว่าโอ๊ตจะโกรธแบบไม่แลบีนแล้ว

ยิ่งมานอนแล้วเช้าก็ไป โดยไม่พูดคุยเคลียร์กับบีนให้เข้าใจนี่ยิ่งคิดว่า

โอ๊ตโกรธแล้วจะเอาคืนทำให้บีนเสียใจหรือเปล่า แต่พอเขาง้อกัน :oo1:

ถึงขนาดที่โอ๊ตไข้ขึ้นแล้วก็เบาใจ  :pighaun:

ว่าแต่เราอยากอ่านในมุมของโอ๊ตบ้างนะ ว่ารู้สึกยังไงที่ได้รู้ความจริงเรื่องบีน

หายปวดเนื้อปวดตัวแล้วก็คุยกันให้รู้เรื่องนะโอ๊ต

จากนี้ไม่รู้ว่า นังกี้ อิฐ และบอย จะเข้ามาวุ่นวายอะไรในชีวิตบีนอีกบ้าง


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๕ ๑๐/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 12-11-2015 00:21:29
   ผมชอบที่ผู้แต่งบรรยายการเขี่ยหัวนม เป็น ตุ่มหรรษาสีชมพู มากๆคับ ๕๕๕  เข้าใจใช้คำดี
   ผมชอบที่ผู้แต่งบรรยายการเขี่ยหัวนม เป็น ตุ่มหรรษาสีชมพู มากๆคับ ๕๕๕  เข้าใจใช้คำดี

นี่เราก็นั่งพิมพ์ไปหน้าแดง เหงื่อตกไป เขียนฉากแบบนี้มันร้อนๆยังไงไม่รู้55


ค่อยโล่งหน่อยค่ะ นึกว่าจะเลิกกันแล้ว แต่ต้องขอบคุณคุณอานะค่ะ ชี้ทางสวรรค์

ตามรูปแบบพระรองมั้งครับ นิสัยเลยดี๊ดี อิอิ

คุณอาคืิอกามเทพตัวจริงเลยนะเนี่ย โล่งอกที่คู่นี้คบกันอุตส่าห์ให้คู่กัน ดีใจๆๆ

คือไม่กล้าดราม่ามากหรอกครับสงสารพระนาย555

บีนสบาย บีนชิลเพราะบีนเป็นอมตะไปแล้ว
ไม่เสียแรงที่เชียร์โอ๊ตมาตลอด
กราบแทบอกคุณบิ๊ก. ขอให้เจอคนดีๆมีแฟนไวๆค่ะคุณอา
ปล. ชอบฉากรักแบบนี้ ไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องมีเสียงพั่บๆ อ๊ะอิ๊อะไรเลยแต่มันคือการบรรยายของผู้กระทำจริงๆที่เล่าออกมา
  :mew1:   น้องโอ๊ตจะป่วยก็ไม่แปลกหรอก ห้าวันที่ผ่านมาทั้งหักโหมออกกำลัง เรียน เครียด แถมยังนอนไม่หลับอีก
ส่วนบอยถ้าจะกลับแล้วมีเรื่องยุ่งก็ไม่ต้องกลับมาก้อได้นะ พวกแก๊งคนจัญไร (นังกี้กับผัวใหม่และไอ้หื่น) นี่ก้ออยากให้ไปไกลๆสักที
 :pig4:

ฉากอย่างว่าตอนกดตั้งกระทู้ตอนนี้คือคิดอยู่นะครับว่าเฮ้ย หรือว่ามันโป๊ไป แต่ถ้ามีคนชอบก็ดีใจฮ่าๆ ขอบคุณมากนะครับ ส่วนกี้ อาจจะมีมานิดๆ ส่วนบอยนะหรอ หึหึ ขออุบไว้ก่อนนะครับ55

ยกนี้ต้องขอบคุณเฮียบิ๊ก พระเอกได้อีก

เนอะ เป็นคุณอาที่ดีมากกกกเลยล่ะครับ แต่ทำไมไม่มีแฟนนะ


เฮ้อ บอกตามตรงว่าแอบหวั่นนะว่าโอ๊ตจะโกรธแบบไม่แลบีนแล้ว

ยิ่งมานอนแล้วเช้าก็ไป โดยไม่พูดคุยเคลียร์กับบีนให้เข้าใจนี่ยิ่งคิดว่า

โอ๊ตโกรธแล้วจะเอาคืนทำให้บีนเสียใจหรือเปล่า แต่พอเขาง้อกัน :oo1:

ถึงขนาดที่โอ๊ตไข้ขึ้นแล้วก็เบาใจ  :pighaun:

ว่าแต่เราอยากอ่านในมุมของโอ๊ตบ้างนะ ว่ารู้สึกยังไงที่ได้รู้ความจริงเรื่องบีน

หายปวดเนื้อปวดตัวแล้วก็คุยกันให้รู้เรื่องนะโอ๊ต

จากนี้ไม่รู้ว่า นังกี้ อิฐ และบอย จะเข้ามาวุ่นวายอะไรในชีวิตบีนอีกบ้าง


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ในส่วนของโอ๊ตอาจจะมีมาครับแต่ยังไม่ยืนยันร้อยเปอร์เซ็น แต่ถ้าโอ๊ตระบายสิ่งที่โอ๊ตคิดทั้งหมดกับบีนเองอาจจะไม่ได้เห็นตอนโอ๊ตครับ ยังไงก็ขอบคุณนะครับ จะรับไว้พิจารณาครับ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๖ ๑๕/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 15-11-2015 00:40:37
ตอนที่ ๒๖

“ตัวไม่ร้อนแล้ว  โอ๊ตจะกลับบ้านเลยไหม”  ผมนั่งลงข้างๆเตียงถามโอ๊ตที่พึ่งตื่นขึ้นมาแล้วใช้มือวัดไข้ดู   น้องไม่ตอบแต่พลิกตัวมากอดเอวผมไว้   ผมเลยเอามือลูบหัวเบาๆก่อนถามต่อว่า “ เป็นอะไรหืม ”

“ขออาบน้ำก่อนแล้วกัน  ดีขึ้นแล้ว” ว่าเสร็จเจ้าตัวก็ดึงผ้าห่มออกแล้วลุกออกจากเตียงในสภาพเสื้อผ้าไม่ได้ใส่เดินเข้าไปห้องน้ำก่อนจะโผล่หน้าอีกครั้งแล้วพูดว่า “เอ่อ  ขอผ้าเช็ดตัวหน่อยสิ”

“ทำไมไม่เดินออกมาเอาเอง”

“อายว่ะ” ผมยิ้มให้น้องที่ยืนเขินอยู่ตรงประตูห้องน้ำแล้วจึงลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ราวตากผ้าไปให้


ผมอุ่นไข่ตุ๋นที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อไว้รอคนที่กำลังอาบน้ำอยู่  เมื่อเสร็จจึงเปิดไมโครเวฟแล้วหยิบออกมาก่อนที่น้องจะเดินเข้ามากอดผมจากทางด้านหลังแล้วพูดขึ้นว่า “ ขอโทษนะ ”

“ ขอโทษทำไม   บีนเสียอีกที่ต้องขอโทษโอ๊ต ”

“ ถ้าจริงเราก็ไม่ได้ทำผิดทั้งคู่นั่นแหละ  กู เอ่อ โอ๊ตคิดว่าถ้าเรารักกันจริง  แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเราต้องผ่านมันไปให้ได้ ”  น่ารักจริงๆ  ผมหันตัวมามองหน้าน้องที่ยังประคองเอวผมไว้อยู่

“ดีกันนะโอ๊ต  อย่าทำเมินบีนอีกนะ  เห็นแล้วใจไม่ดีเลย” ผมพูดไปพร้อมลดมือลงมากำมือทั้งสองของโอ๊ตไว้แน่นๆและมั่นคง

“ขอโทษที่ทำแบบนั้น  ตอนนั้นทำใจอยู่และก็อยากลองอยู่ห่างๆดูว่าจะทนได้ไหม  สรุปแล้วทนไม่ได้จริงว่ะ  ไม่มีครั้งไหนที่จะนอนหลับสนิทเลยถ้าเรายังคาราคาซังกันอยู่แบบนี้  โอ๊ตเข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว” น้องระบายเรื่องในใจและเหตุผลต่างๆออกมาจนหมด  ซึ่งดูแล้วมันก็คงต้องใช้เวลาจริงๆสำหรับการยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น

“ขอบคุณมากนะที่เข้าใจกัน  เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องใช้เวลาบีนเข้าใจ  ขอให้โอ๊ตกลับมาแล้วเราก็รักกันเหมือนเดิมก็พอแล้วเนาะ”
เราสองคนยืนกอดกันนานก่อนผมจะบอกกับน้องว่า “มากินไข่ตุ๋นกัน”

“ทำเองหรอ”

“เปล่า  ไปซื้อมา”




“บีน   คือโอ๊ตขอไม่เรียกบีนว่าพี่ได้ไหม  ขอเรียกบีนเฉยๆนะ”

“ได้  ไม่มีปัญหาแล้วเวลาที่โอ๊ตแทนตัวเองว่าโอ๊ตแทนคำว่ากูก็น่ารักขึ้นเยอะเลย”

“จริงหรอ  ทำไมไม่พูดให้พูดตั้งแต่ทีแรกวะ”

“แล้วเพื่อนๆจะว่ายังไงเหรอ”

“พรุ่งนี้ก็ไปเคลียร์กัน”

...


“ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่พูดมาทั้งหมดนี่แหละ  หวังว่าจะเข้าใจกันนะ” ผมนั่งเล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับงานของผมให้ไบท์กับอ๊อฟฟังหลังจากไปกินข้าวเที่ยงกันมา

“ถ้าไอ้โอ๊ตมันรับได้  พวกเราก็รับได้ครับพี่” อ๊อฟตอบผมยิ้มและไม่ลืมแซวผมโดนการเรียกว่าพี่

“แล้วต้องเรียกพี่ไหม  เอ่อกู เอ่อผมไม่ชิน” ไบท์ก็ดูสับสนกับสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวเอง

“เรียกบีนเฉยๆก็ได้   ไม่ต้องเรียกพี่หรอก  แล้วถ้ากลัวไม่สุภาพก็แทนตัวเองเป็นชื่อเล่นก็ได้”

“โอเค  อย่างนั้นพวกเราสี่คนมา” อ๊อฟลุกขึ้นแล้วอ้าแขนออก

“ทำอะไรวะ”

“กอดกัน” อ๊อฟตอบโอ๊ตที่ถามอย่างงงๆก่อนที่พวกเราจะยืนกอดกันกลมทั้งสี่คน  เฮ้ย  สบายใจแล้วล่ะที่ทุกคนเข้าใจกัน


เย็นๆวันศุกร์เพื่อนในกลุ่มนัดกันมาสังสรรค์และดูบอลห้องผมตามคำแนะนำของผมเองเพราะไม่อยากให้เด็กๆมันไปผับไปบาร์และในขณะที่ พวกเราสี่คนช่วยกันทำอาหารเตรียมสถานที่ในตอนเย็นๆก็มีข่าวในโทรทัศน์ที่ทำให้ผมถึงกันหันไปจ้องที่หน้าจอ

“รวบ ร.ต.อ. หนุ่มร่วมกับคู่ขาวัยเพียง ๑๗  พร้อมกับพรรคพวกค้ายาบ้ากว่า ๖ แสนเม็ด ยาไอซ์อีก ๓๐ ก.ก. รวบมูลค่ากว่า ๒๐๐ ล้านบาท ”

“เฮ้ย  พวกนายมาดูข่าวเร็ว” เพื่อนๆสามคนที่ช่วยกันทำยำอยู่ในครัวต่างวิ่งมาดูข่าวที่ตอนนี้ผู้ที่ถูกจับกุมสองหัวเรือใหญ่คือนายตำรวจหนุ่มยศร้อยตำรวจเอกกับเด็กมัธยมปลายที่เราทั้งสี่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีถึงแม้จะใส่หมวกปิดบังใบหน้าไว้ส่วนหนึ่งก็เถอะแต่ผมก็จำพี่แชมป์แฟนหนุ่มของกี้ได้

“เฮ้ย  นั่นพี่แชมป์เพื่อนพี่อิฐนี่นา   แสดงว่าข้างๆนั่น”

“กี้ไง   กูเคยบอกเคยเตือนแล้วให้เลิก  มันไม่เชื่อเอง” โอ๊ตบ่นส่ายหน้าหนีก่อนจะหยิบรีโมตทีวีมาเปลี่ยนช่องแล้วเดินไปทำอาหารต่อ

“ก็สมควรแล้วล่ะป่ะมึง” ไบท์บอกให้อ๊อฟไปช่วยทำอาหารต่อ  ทุกคนดูตกใจกับข่าวนี้แต่ความรู้สึกมันบอกว่าจะให้ทำยังไงล่ะ  ก็กี้มันเลือกไปทางนั้นเอง  หลังจากนี้กี้คงไปอยู่ที่สถานพินิจหรือคุกเด็กแน่ๆเลยคิดแล้วก็น่ากลัว


เรานั่งทานข้าวดูทีวีกันโดยไม่มีใครพูดถึงกี้อีกเลย  สักพักมีบอลพวกเด็กก็ซื้อน้ำอัดลมมานั่งกินกับขนมกรุบกรอบเป็นกับแกล้ม  ส่วนโอ๊ตก็มีสายเข้าทางนั้นจึงออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง  จะว่าไปมันก็นานแล้วนะครับ  ปกติไม่เห็นคุยนานแบบนี้

ผมชะเง้อมองไปดูตรงระเบียง  คิดเล่นๆว่าน้องคงยังไม่ตกลงไปหรอกนะ

“แปลกๆ ปกติก็ไม่คุยนานอย่างนี้นะบีน” ไบท์เหมือนจะอ่านใจผมออกและคงสงสัยเหมือนๆกับผม

“เออจริง   มันแอบคุยกับสาวที่ไหนหรือเปล่าวะบีน  ไอ้นี่แต่ก่อนก็หญิงติดเยอะนะ  มาห่างๆก็ช่วงที่กี้เลิกกับแฟนแล้วก็มาคบกับมันนี่แหละ”  จริงด้วยสิถ้าเป็นอย่างที่อ๊อฟเสริมขึ้นมาเมื่อกี้ล่ะ      ผมก็ลืมคิดไปเพราะตั้งแต่โอ๊ตเลิกกับกี้ไปแล้วมาคลุกคลีกับผมก็ไม่เห็นว่าจะมีใครมาทวงสิทธิ์หรือมาติดต่อข้องเกี่ยวกับโอ๊ต  หรือว่ามีอยู่แต่เด็กนี่ไม่สนใจ  เอ๊ะหรือว่าจะเป็นอารมณ์แบบอยู่ดีๆนึกจะมาก็มา  อย่างหลังนี่น่ากลัวสุด

ครืดดด

เสียงเปิดประตูกระจกของคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่นานก่อนที่เจ้าตัวจะมานั่งข้างๆผมแล้วพูดขึ้นมาว่า

“กิ๊บโทรมาว่ะ”

หืม  ผมทำหน้างงแล้วมองไปที่หน้าโอ๊ต

“กิ๊บ  เอ่อ  กิ๊บที่เคยจีบมึงแบบกระหน่ำไม่ยอมแพ้นั่นน่ะหรอ” ดูอ๊อฟจะความจำดีกว่าไบท์ที่ตอนนี้ก็ได้แค่ทำหน้าเออออไป

“เออนั่นแหละ” โอ๊ตตอบก่อนหันหน้าที่ยิ้มเจื่อนๆมาที่ผม “ ไม่มีอะไรหรอกนะบีน  เราไม่ได้คิดอะไรกับเขาหรอก”

“เออก็ไม่ได้ว่าอะไร”

“แต่สีหน้าบีนดูตกใจและดูหึงหวงนะ” อ้าว ไบท์ จะมาจับผิดอะไรกันตอนนี้

“บ้า  ไบท์ก็พูดไป  พอๆเอาเป็นว่าถ้าเขาไม่มายุ่งกับเราก็ดีไป”

“กลัวจะมายุ่งนี่สิบีน  อยู่ๆก็กลับมา  แล้วกิ๊บนี่มันดูมีเหตุผลไหมว่ะว่าทำไมถึงโทรมา” อ๊อฟเตือนๆผมก่อนที่จะหันไปถามสาเหตุของการกลับมาของบุคคลที่ผมก็ไปได้รู้จัก

“เหมือนกิ๊บพึ่งจะรู้ว่ากูเลิกกับกี้แล้วอ่ะ  ก็เลยโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบ  ที่จริงเขาก็เคยส่งข้อความส่งไลน์มานะ  แค่กูไม่ได้ตอบเลยไม่ได้คุยกัน”

“มึงก็น่าจะตัดปัญหาโดยการไม่ต้องไปรับสาย”  ไบท์บ่นให้เพื่อนอย่างอารมณ์เสีย

“เออน่า  ก็กูไม่รู้ว่ากิ๊บไหนไง  กูลืม”

“หืม  กิ๊บไหนนี่หมายความว่ามีหลายกิ๊บหรอที่รู้จัก  ทำไมถึงเนื้อหอมจังเลยเนี่ย” ผมเอามือไปหยิกแก้มน้องก่อนที่เจ้าตัวจะกลัวความผิดจึงดึงมือผมไปจุ๊บสองสามทีแล้ววางลงก่อนจะโดนเพื่อนอีกสองคนบ่นให้อีก

หลังจากช่วยกันเก็บของให้เรียบร้อยไบท์กับอ๊อฟกลับบ้านไป  โอ๊ตจึงขอตัวเข้าไปอาบน้ำ  ส่วนผมก็เตรียมชุดนอนมาให้โอ๊ตใส่ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงข้อความไลน์ดังขึ้น  พร้อมกับโชว์บนหน้าจอขึ้นว่า  “ฝันดีนะคะ” เจ้าของข้อความที่ส่งก็คือกิ๊บ   เออเอาสิ  ไม่รู้ว่าน้องเขาจะมาดีหรือมาร้ายผมก็ต้องบอกตัวเองให้ใจเย็นๆก่อน  ตอนนี้เวลานี้ผมคบกับโอ๊ตไม่ใช่เวลามาหาประสบการณ์เกี่ยวกับความรักแน่นอนแต่จะนำประสบการณ์ที่เคยมีแฟนมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด  ในใจตอนนี้คือคิดแบบนี้

............................................................................................

สองอาทิตย์ก่อนสอบกลางภาคก็อยู่ในช่วงติวหนังสือกัน  เราสี่คนก็ใช้แผนการเดิมที่เคยทำแล้วได้ผลคือ ใครถนัดวิชาไหนออกมาติวให้เพื่อนฟัง  สถานที่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านโอ๊ตเสียมากกว่าเพราะห้องมีพร้อมรวมทั้งอาหารที่บ้านก็อร่อย  แต่วันนี้วันเสาร์พวกเราก็นึกแปลกเลยนัดกันมาติวที่ร้านกาแฟที่เปิดตลอด ๒๔ ชั่วโมงเพราะวันนี้ตกลงกันว่าจะอยู่ดึกหน่อย

ในระหว่างติวด้วยความที่ผมเป็นคนที่ถ้าไม่มีขนมหรือขนมหมดก็จะไม่มีความสุขในการอ่านหนังสือจึงลุกไปสั่งขนมกับชาเขียวปั่นแล้วยืนรอรับที่หน้าเคาเตอร์ก่อนจะมองไปที่โต๊ะก็เห็นน้องผู้หญิงหน้าตาดูน่ารักน่าเอ็นดูเดินเข้ามาทักเพื่อนๆผมก่อนที่เข้าไปนั่งข้างโอ๊ตและเลื่อนหนังสือสมุดดินสอผมไปไว้ข้างๆแล้วเอากระเป๋าสะพายกับหนังสือของตัวน้องเขา ๑ เล่มวางแทนที่ซึ่งมันเป็นเก้าอี้นั่งของผมครับ  แล้วโต๊ะนั้นมีเก้าอี้แค่สี่ตัว  ตายแล้วแม่คุณมาทีหลังทำไมไม่ลากเก้าอี้มานั่งเอง  เก้าอี้มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมาก  ผมมองอยู่อย่างนั้นจนพนักงานเรียกเป็นครั้งที่สองว่าขนมกับชาเขียวได้แล้วผมจึงถือไปที่โต๊ะก่อนที่เดินไปข้างน้องผู้หญิงแล้ววางของลงก่อนจะพูดกับหล่อนว่า

“ นี่เธอ  นี่มันที่ของเรา  ขอโทษด้วยนะขอเรานั่งได้ไหม”

“ นี่เพื่อนใหม่โอ๊ตหรอ  กิ๊บไม่คุ้นเลย”

“ เอ่อ ใช่ครับ”  ไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดานะ  ใจเย็นๆไว้บีน

“ เอ่อ  เราขอนั่งหน่อยนะ  ส่วนนายไปเอาเก้าอี้มาไป”

“ เราว่าเธอควรไปเอาเก้าอี้มานั่งถึงจะถูกนะ  เธอมาทีหลัง”

“ นี่นาย  ฉันบอกให้ไปเอามานั่งเองก็จบ  พูดไม่รู้เรื่อง” อ้าว ยัยเด็กนี่  ไม่ได้ผมจะมายอมเรื่องแบบนี้ไม่ได้ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆก็เถอะ  ผมมองไปที่เพื่อนสองคนที่นั่งตรงข้างก็ได้แค่ก้มหน้าก้มตาอ่าน  นี่ไม่คิดจะช่วยกันเลยใช่ไหม  โอ๊ตนี่ก็ใบ้กินอย่างกับพระเอกละครน้ำเน่า

“แล้วนี่ใครเลื่อนหนังสือเรามาไว้ตรงนี้นี่  เลอะน้ำหมดเลย  เฮ้ยเปียกด้วย” ผมแกล้งถามแต่พึ่งสังเกตว่ามันเปียกน้ำ  ยัยเด็กกิ๊บมันไม่ดูไม่อะไรเลย  ทำหนังสือผมเปียกผมถือนะหนังสือเรียนของผมนี่ต้องสะอาดเป็นระเบียบอย่างดีที่สุดเท่าที่จะรักษาได้

“ฉันเป็นคนเลื่อนเอง  ช่วยไม่ได้นะโต๊ะมันเปียกเอง” ลมเริ่มออกหู  ผมเริ่มจะไม่ทนแล้วมองหน้าไปทางโอ๊ตทางนั้นก็ได้แค่ทำหน้าเจื่อนแล้วพยักหน้าให้ผมยอมๆคนชื่อ กิ๊บ นี้ไป  จะไปยอมได้ยังไงล่ะ

“ออกไปเถอะ  มาทีหลังก็ต้องหาที่นั่งเอง  ตรงนี้เรานั่งอยู่แล้ว  ลุก” ผมบอกไม่พอแต่กลับไปหยิบกระเป๋ากับหนังสือของกิ๊บไปวางไว้ที่มุมหัวโต๊ะ

“เอ๊ะนี่  อยู่ดีๆมาจับกระเป๋าฉันไปวางแบบนั้นไม่ยังไง  ใครอนุญาต”

“แล้วอยู่ดีๆทำไมเธอถึงมาดึงหนังสือเราออกจากที่ของเราล่ะ  เธอมาจับมาแตะของเราก่อนเองนะ  ลุกสิ   บอกให้ลุกหูหนวกหรือไง ”

ผมสั่งเจ้าหล่อนเด็กสาวที่ดูแล้วน่าจะอยู่ ม.๕ เหมือนกับเด็กๆสามคนนี้ด้วยน้ำเสียงที่ดูเบาๆแต่หนักแน่น  ก่อนที่เด็กสาวจะลุกออกไปหาเก้าอี้แล้วลากมากับพื้นเสียงดังไปทั่วร้านมานั่งตรงหัวโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์

แต่ก็ดูจะเปลี่ยนอารมณ์ให้กลับมาอารมณ์ดีได้เหมือนเดิม  เพราะตั้งแต่หล่อนเปิดหนังสือขึ้นมาหน้าแรกก็ไม่มีทีท่าว่าจะอ่านแต่กลับคุยไม่หยุด  คือตั้งใจจะมาคุยกับโอ๊ตโดยเฉพาะ  โอ๊ตก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างและดูเพื่อนๆจะหงุดหงิดและรำคาญสาวน้อยคนนี้ขึ้นไปอีกผมเลยถามคำถามไปว่า

“นี่เธอมาอ่านหนังสือจริงหรอ”

“ถามอะไรแปลกๆนี่ไง  ฉันก็เปิดหนังสืออยู่นี่ไง”

“เปิดหน้าคำนำอ่านเป็นสามสิบนาทีนี่นะ  ขอเถอะถ้าจะมาคุยกันทีหลังไปคุยกับเพื่อนกับเพื่อนเธอเถอะนะ  รู้ไหมมันรบกวนสมาธิคนอื่น”

“แหม  ทำอย่างกับตัวเองดีนักแหละ  พูดฉอดๆอยู่นี่ก็รบกวนคนอื่นเหมือนกันนั่นแหละ  โอ๊ตดูเพื่อนคนนี้ของโอ๊ตสิ  คบไปได้ยังไงหรอ  นิสัยไม่ดีเลย  ดูมันด่ากิ๊บสิ”

โอ๊ตไม่ว่าไม่ตอบโต้อะไร  แต่ก็คงอยากตัดบทเสียมากกว่า “ โอ๊ตว่าวันนี้พอแค่นี้แหละ  เดี๋ยวเก็บของแล้วก็กลับกันแล้ว”
เพื่อนสองคนพอโอ๊ตพูดเสร็จก็เก็บของกันอย่างรวดเร็ว “ ดีเลยเดี๋ยวเราไปหาร้านนั่งดื่มชิลล์ๆกันนะโอ๊ต” หล่อนยังไม่ล้มเลิกความพยายาม

“วันนี้โอ๊ตเหนื่อยแล้วอ่ะ  ขอกลับไปนอนก่อนนะ”

“อะไรกัน  พึ่งห้าทุ่มครึ่งเอง”

“เราไม่ค่อยไปนั่งร้านแล้วล่ะเดี๋ยวนี้  จะสอบเข้ามหาลัยแล้วเลยจะลองตั้งใจเรียนเสียหน่อย  ถ้าอย่างนั้นเราไปก่อนนะ”

เราสี่คนเดินออกจากร้านพร้อมกันแล้วก็แยกย้ายกันกลับและปล่อยให้กิ๊บนั่งงงอยู่ในร้านคนเดียว  ดีนะไม่วิ่งออกมาไม่อย่างนั้นคงจะซวยกว่านี้


............................................................................................


“บีนไม่โกรธโอ๊ตใช่ไหม”

โอ๊ตที่พึ่งอาบน้ำเสร็จทีหลังผม  พันผ้าขนหนูตัวเดียวเออกมาจากห้องน้ำ

“หึ  ไม่อ่ะ  ถ้าจะโกรธโกรธคนที่ชื่อกิ๊บมากกว่า  ดูพูดไม่เข้าหูไม่มีเหตุผล”

“โอ๊ตเข้าใจ”

ผมหันหน้าไปหาคนที่กอดจากข้างหลังก่อนจะใช้มือประคองไปที่แก้มที่สองข้าง “แต่ขออย่างหนึ่งนะ  ถ้ากิ๊บหรือใครคนอื่นมาทำอะไรเกินเลยกับโอ๊ตแบบนี้อีกก็ขอให้โอ๊ตรีบปฏิเสธเขาไปเถอะ  ไม่ต้องกลัวว่าใครมันจะหน้าแหกหรืออายหรอก  เราคบกันเราก็ต้องเป็นห่วงความรู้สึกกันเข้าใจไหม”

“เข้าใจๆ”

“บีนก็ไม่อยากระเบิดอารมณ์ให้มันเสียบรรยากาศตอนนั้นหรือต่อๆไปถ้าหากมีอะไรแบบนี้อีกหรอกนะ ”

“เอาเป็นว่าวันนี้โอ๊ตขอไถ่โทษโทษด้วยการบริการบีนทุกสัดส่วนเลยดีไหม  หืม  บีนนอนเฉยๆเดี๋ยวโอ๊ตจัดการเอง”

ว่าไม่ทันขาดคำผมก็โดนผลักลงไปที่เตียงเด้งดึ๋งก่อนที่เจ้าตัวจะตามขึ้นมาคล่อม

“เห็นบีนบอกว่าคันหูนี่นา  เดี๋ยวโอ๊ตเอาก้านสำลีโอ๊ตแหย่เข้าไปให้หายคันแล้วกันนะ”


ม่ายยยยยยยย 


มันไม่ใช่แบบนี้



.............................................................................


นี่บีนคงลืมไปว่ารักเด็กมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆสินะ ไหนจะยุงมาไต่ไรมาตอมเต็มไปหมด

จุดจบของกี้ก็มีเท่านี้แหละเนาะปล่อยๆนางไปเถอะส่วนพี่อิฐคงไม่มาทำอะไรบีนแล้วล่ะเพราะหมดข้อต่อรองแล้ว

วันนี้เรามาดึกๆแฟนๆนิยายเราจะนอนหรือยังน้อ  เข้ามาอ่านเข้ามาเม้นกันนะครับ  เดี๋ยวจะกลับมาอ่านมาตอบเช่นเคยนะ

วันนี้ขอตัวไปนอนก่อนนะ  พึ่งไปถอนฟันมาสองซี่เมื่อตอนเย็นตกใจก็ตรงที่กว่ายาชาจะหมดฤทธิ์ต้องใช้เวลาเกือบสี่ห้าชั่วโมงเรานี่จะร้องไห้ ฮ่าๆ  ฝันดีๆขอตัวไปกินยานอนก่อนครับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๖ ๑๕/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 15-11-2015 03:31:30
หมั่นไส้เด็กกิฟท์มากอ่ะ ค้ค้าจะอ่านหนังสือกัน เสียอารมณ์เลย แต่โอ๊ดต้องปฏิเสธนะ แล้วเวลาที่มีคนมาวุ่นวายมาว่าบีน โอ๊ดต้องช่วยบีนสิ แต่บีตจัดการได้โอเคนะ อีคิวสูงฝุดๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๖ ๑๕/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-11-2015 05:40:02
โอ๊ตนี่พอมีความรักแล้วมุ้งมิ้งปนหื่นนะ
หูไม่ดีเหรอเขาบอกว่าพูดไม่เข้าหูไม่ใช่คันหู. 555. บีนสะอาดเอี่ยมแน่ๆเลย
ขอบคุณคนเขียนค่ะ. โล่งอกมากมาย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๖ ๑๕/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-11-2015 10:05:15

“แล้วอยู่ดีๆทำไมเธอถึงมาดึงหนังสือเราออกจากที่ของเราล่ะ  เธอมาจับมาแตะของเราก่อนเองนะ  ลุกสิ  แบบให้ลุกหูหนวกหนูไง ”

ต้องเป็น บอกให้ลุกหูหนวกหรือไง หรือเปล่า
โอ๊ตไม่เด็ดขาดอ่ะ ตอนที่กิ๊บโทรมาก็ออกไปคุยไม่ให้บีนได้ยิน
ตอนกิ๊บมาที่ร้านกาแฟก็ไม่พูดอะไรปล่อยให้บีนเถียงกับกิ๊บ
โดยที่โอ๊ตแค่นั่งเฉย พอถามว่าเพื่อนก็ตอบว่าใช่ ทำไมไม่บอกไปล่ะว่าแฟน
ในเมื่อกิ๊บก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าโอ๊ตเองก็เคยมีแฟนเป็นชายอย่างกี้น่ะ
แล้วเรื่องเก้าอี้ก็ยังทำท่าจะให้บีนยอมให้กิ๊บอีก
โอ๊ตคิดว่าถ้าตัวเองไม่เล่นด้วยกิ๊บจะเลิกตามตื้อเอง ถ้าบีนมีคนมาตามตื้อ
แบบที่กิ๊บทำบ้าง โอ๊ตจะรู้สึกยังไง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๖ ๑๕/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 15-11-2015 10:17:27
เดี๋ยวโอ๊ตเข้ามหาวิทยาลัย จะยิ่งมีเรื่องให้บีนปวดหัวกว่านี้อีกซะละมั้ง
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๖ ๑๕/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 15-11-2015 10:39:10
แม้โอ๊ต ยอมเป็นคอตอลบัตเลยเหรอ 55555+
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๖ ๑๕/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 15-11-2015 12:09:39
      ชอบฉากบีนต่อว่าให้น้องกิ๊บอ่ะ บีนเรียบร้อยๆแต่เป็นแบบน้ำนิ่งไหลลึก ๕๕๕ ไม่ยอมคนดี 
     ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๖ ๑๕/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๙ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 15-11-2015 22:49:29
หมั่นไส้เด็กกิฟท์มากอ่ะ ค้ค้าจะอ่านหนังสือกัน เสียอารมณ์เลย แต่โอ๊ดต้องปฏิเสธนะ แล้วเวลาที่มีคนมาวุ่นวายมาว่าบีน โอ๊ดต้องช่วยบีนสิ แต่บีตจัดการได้โอเคนะ อีคิวสูงฝุดๆ

โอ๊ตยังเด็กบีนก็เลยต้องได้เตือนอยู่ตลอดเลย555
แต่บางครั้งก็นะมันก็ต้องบอกไปเลยใช่ไหมครับ อิอิ

โอ๊ตนี่พอมีความรักแล้วมุ้งมิ้งปนหื่นนะ
หูไม่ดีเหรอเขาบอกว่าพูดไม่เข้าหูไม่ใช่คันหู. 555. บีนสะอาดเอี่ยมแน่ๆเลย
ขอบคุณคนเขียนค่ะ. โล่งอกมากมาย

กับกี้โอ๊ตก็หวานนะ แต่กับบีนจะออกแนวตกเป็นมวยรองเสียมากกว่า
เพราะรู้ว่าตัวเองเด็กกว่าจะมาออกคำสั่งหรือกล้าหือกับบีนไม่ได้นะ555


“แล้วอยู่ดีๆทำไมเธอถึงมาดึงหนังสือเราออกจากที่ของเราล่ะ  เธอมาจับมาแตะของเราก่อนเองนะ  ลุกสิ  แบบให้ลุกหูหนวกหนูไง ”

ต้องเป็น บอกให้ลุกหูหนวกหรือไง หรือเปล่า
โอ๊ตไม่เด็ดขาดอ่ะ ตอนที่กิ๊บโทรมาก็ออกไปคุยไม่ให้บีนได้ยิน
ตอนกิ๊บมาที่ร้านกาแฟก็ไม่พูดอะไรปล่อยให้บีนเถียงกับกิ๊บ
โดยที่โอ๊ตแค่นั่งเฉย พอถามว่าเพื่อนก็ตอบว่าใช่ ทำไมไม่บอกไปล่ะว่าแฟน
ในเมื่อกิ๊บก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าโอ๊ตเองก็เคยมีแฟนเป็นชายอย่างกี้น่ะ
แล้วเรื่องเก้าอี้ก็ยังทำท่าจะให้บีนยอมให้กิ๊บอีก
โอ๊ตคิดว่าถ้าตัวเองไม่เล่นด้วยกิ๊บจะเลิกตามตื้อเอง ถ้าบีนมีคนมาตามตื้อ
แบบที่กิ๊บทำบ้าง โอ๊ตจะรู้สึกยังไง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณมากๆครัย เราพิมพ์ผิดแบบไม่น่าให้อภัยจริง
ยอมรับว่ารีบลงกลัวมันดึกเลยได้ตรวจแค่ครั้งเดียว แก้ไขแล้วนะครับ
หวังว่าครั้งต่อไปถ้าพิมพ์ผิดหวังว่าจะเมตตาคนเขียนโดยการเม้นบอกอีกก็ได้นะครับ

เดี๋ยวโอ๊ตเข้ามหาวิทยาลัย จะยิ่งมีเรื่องให้บีนปวดหัวกว่านี้อีกซะละมั้ง

ต้องติดตามครับ ว่าจะเป็นแบบไหนต่อไปใครจะจิตแข็งกว่ากัน

แม้โอ๊ต ยอมเป็นคอตอลบัตเลยเหรอ 55555+

นี่เราก็นึกไปถึงตัวก้านสำลีของโอ๊ตเลยนะ555

      ชอบฉากบีนต่อว่าให้น้องกิ๊บอ่ะ บีนเรียบร้อยๆแต่เป็นแบบน้ำนิ่งไหลลึก ๕๕๕ ไม่ยอมคนดี 
     ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ

นี่ถ้าเป็นเกย์เหมือนกันอาจจะทึ้งกันกลางร้านก็เป็นได้555
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๗ ๑๙/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 19-11-2015 00:35:33
ตอนที่  ๒๗

 :mc4:



“ บีน  วันนี้โอ๊ตนัดกิ๊บไว้ที่ร้านไอติมนะ” อยู่ดีๆโอ๊ตก็บอกผมขณะที่เรากำลังเก็บสมุดหนังสือเข้ากระเป๋าเตรียมกลับบ้าน

“ อ้าวแล้วทำไมหรอ ”  ผ่านมาจากวันที่กิ๊บไปวุ่นวายที่ร้านหนังสือ  ยัยเด็กคนนี้ก็พยายามเข้าหาโอ๊ต  ผมก็ได้แค่ดูอยู่ห่างๆจะลองดูว่าโอ๊ตจะแก้ปัญหายังไง  ดีที่โอ๊ตไม่ได้ไปหากิ๊บหรือกิ๊บเองก็ยังไม่พุ่งเข้าหาโอ๊ตแบบขั้นสุดยอด

“ จะให้ไปด้วย ”

“ แน่ใจหรอ ”

“ แน่ใจว่าไงวะบีน  งง ”

“ ก็เผื่ออยากคุยส่วนตัวไง ”

“ ไม่อะ  ให้บีนไปเป็นเพื่อนดีกว่าและก็ไปเป็นแฟนด้วย ”  น่ารักจริงผมเอื้อมมือไปเกาคางโอ๊ตโดยไม่อายนักเรียนคนอื่น




“อ้าว   กิ๊บนึกว่าโอ๊ตจะมาคนเดียว ” เด็กสาวใส่ชุดนักเรียนแขนยาวนั่งรออยู่ก่อนแล้วแต่ก็ต้องทำหน้าตาผิดหวังเมื่อผมเดินตามก้นโอ๊ตแล้วเข้าไปนั่งโต๊ะเดียวกัน

“ โอ๊ตก็ไม่ได้บอกนี่นาว่าจะไม่มีเพื่อนตามมาด้วย ”

“ อ่ะๆกิ๊บไม่เถียง ” กิ๊บทำท่ายอมๆโอ๊ต  ก่อนจะหันมาทางผม “ อ่ะนี่เธอสั่งไอติมให้ฉันกับโอ๊ตทานด้วยกันหนึ่งถ้วยนะ  เออว่าแต่วันนี้มีอะไร  หรือว่าคิดถึงเรา”  กิ๊บหันมาสั่งงานผม   ผมจึงเลือกรสไอติมแล้วเขียนบิลส่งให้พนักงานไปหนึ่งถ้วย

“ ใช่เราคิดถึงกิ๊บเลยชวนมา  เรามีเรื่องจะถามและก็มีเรื่องจะบอก ” ถ้าไม่มีประโยคหลังนี่ผมคงส่งสายตาพิฆาตไปหาโอ๊ตแล้วนะ

“ มีเรื่องอะไรจะถามหรอ  แต่กิ๊บว่ามันไม่ส่วนตัวเลยนะมีคนอื่นอยู่ด้วย ” กิ๊บบ่นกับโอ๊ตก่อนจะมองมาที่ผม  ผมที่หล่อนคงคิดว่าเป็นส่วนเกิน  ผมก็ได้แค่ยิ้มนิดๆให้กิ๊บเพราะเตรียมกับโอ๊ตไว้ว่าจะไม่เถียงกับกิ๊บเป็นอันขาด

“ ไม่เป็นอะไรหรอกบีนเขาไม่เอาไปบอกใครหรอก  บีนเป็นคนไม่เรื่องมาก ”

“ แน่นะ  แหมวันก่อนยังเถียงกับเราฉอดๆเลย ” กิ๊บบ่นอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะถามโอ๊ตว่าจะถามว่าอะไร “ ว่าแต่โอ๊ตจะถามเรื่องอะไรหรอ”

“ อืม  เราจะถามว่ากิ๊บรู้สึกอย่างไรกับเราหรอ  คือเราอยากรู้จะได้ทำตัวถูก ”

“ ถามตรงๆแบบนี้ก็เขินแย่สิ  อ่ะๆตอบก็ได้ ” กิ๊บมีท่าทีเขินที่ผมดูแล้วก็แทบกลั้นขำไม่อยู่ “ กิ๊บชอบโอ๊ตและก็ชอบมานานแล้วด้วยตั้งแต่โอ๊ตยังไม่ไปเป็นแฟนกับกี้  คือกิ๊บไม่ซีเรียสนะที่โอ๊ตเคยคบกับเกย์มาก่อน  โอ๊ตคงโดนหลอกแน่ๆกิ๊บคิดว่าอย่างนั้นนะ  มันแค่ครั้งเดียวกิ๊บไม่ว่าอะไรหรอกเพราะยังไงโอ๊ตก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ ”

“ อ่าฮะ  แล้วคือจะจีบเราหรอ ”

“ แหมโอ๊ต  โอ๊ตก็ไม่เห็นจีบเราก่อนเราก็เลยจีบโอ๊ตก่อนเลยไง  เราว่าเราเข้ากันได้นะ ” กิ๊บตอบด้วยตาที่เป็นประกายอย่างมีความหวัง

“ ใช่  เข้ากันได้ถ้าอยู่ในฐานะเพื่อนนะ”  กิ๊บตกใจทำหน้านิ่งไปก่อนที่โอ๊ตจะพูดต่อ  “ เราห้ามไม่ให้กิ๊บหยุดชอบเราไม่ได้หรอกนะ  แต่ถ้ากิ๊บอยากจะจีบเราอันนี้เราคงให้จีบไม่ได้เพราะโอ๊ตมีแฟนแล้ว ”

“ ห๊ะ  อะไรนะ  โอ๊ตมีแฟนแล้ว  ใครอีกล่ะโอ๊ต  ทำไมเราไม่รู้ ”

“ นี่ไงแฟนเรา ” โอ๊ตวาดแขนมาโอบไหล่ผม “ เราคบกันมาจะสองเดือนแล้ว ”

“ ไม่เชื่ออ่ะ  กิ๊บไม่เชื่อ  โอ๊ตอย่ามาอำกันนะ ”

“ ไม่ได้อำครับ ” โอ๊ตตอบไปซึ่งตรงกับจังหวะที่พนักงานมาเสิร์ฟไอติมพอดี

“ นี่ตกลงโอ๊ตเป็นเกย์จริงๆหรอ  นี่โอ๊ตเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรอ  กิ๊บไม่เข้าใจจริงๆว่ามันดีมากเลยหรือไงกับการที่เดี๋ยวนี้พวกเกย์พวกผู้ชายถึงชอบคบกัน  ทุเรศ  กิ๊บรับไม่ได้ ”  กิ๊บบ่นอย่างๆไม่พอใจแล้วกอดอกมองไปนอนร้าน

“ ถ้ารับไม่ได้อย่างนั้นเราขอตัวก่อนนะ ป่ะบีน” โอ๊ตสะกิดผมให้ลุก

“ โอ๊ต ” กิ๊บเรียกโอ๊ตแต่ทางนั้นไม่มีท่าทีสนใจแล้วเดินออกจากร้านไป  เหลือแต่ผมยังไม่ลุกจากเก้าอี้เพราะอยากจะคุยกับกิ๊บสักหน่อย

“ ไอติมที่สั่งให้เป็นรสเรนโบว์นะ” ผมเลื่อนถ้วยไปใกล้ๆฝั่งกิ๊บก่อนจะบอกต่อว่า “ กินเลยนะไอติมสีรุ้ง  จะได้เข้าใจพวกรักร่วมเพศอย่างเราๆมากขึ้น ”

ผมพูดเสร็จก็ยิ้มมุมปากเล็กๆ  เอียงคอไปทางซ้ายนิดๆเป็นเชิงบอกว่า  พี่ชนะหนูนะ  แล้วเดินออกไปหาโอ๊ตอย่างสบายใจโดยที่อีกฝ่ายก็ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรเพราะยังช็อคอยู่ 


.........................................................................................


“ มีเรื่องอะไรหรอครับอาบิ๊ก ”
อยู่ๆ คุณบิ๊กก็นัดผมกับโอ๊ตไว้ให้ไปเจอกันที่คอนโดผม  พอคุณบิ๊กมาถึงโอ๊ตก็เดินไปเปิดประตูพร้อมกับถามอา

“ เออเดี๋ยวอาจะคุยตอนนี้แหละ ” คุณบิ๊กถอดรองเท้าก่อนเดินเข้ามานั่งที่โซฟา “ คือว่าอาจะให้บีนเรียนเป็นเพื่อนเราเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายนะ ” จริงด้วยคุณบิ๊กเคยบอกกับผมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว  ผมก็ลืมไปเลย

“ อ้าว  ทำไมไม่ให้เรียนจนจบ ม.๖ไปด้วยกันล่ะครับ ”

“ มันมีเหตุผล  มันปลอมแปลงยากขึ้นเพราะถ้าขึ้นม.๖ เราก็ต้องสอบนู่นนี่นั่นเยอะแยะ  สอบเข้ามหาลัยบางอย่างมันต้องใช้คะแนนที่มาจากการสอบบังคับ   แล้วคือบีนจะไปแอบอ้างเป็นนักเรียนไม่ได้แล้ว  อาไม่ได้เส้นใหญ่ขนาดจะให้บีนสอบโอเน็ต  แกตแพตได้  เข้าใจนะ ” โอ๊ตที่ตอนแรกเหมือนจะไม่เข้าใจเหตุผลแต่พอได้ฟังก็ยอมอ่อนลง

“ แล้วจะให้บีนทำอะไรต่อครับ ”

“ ก็ต่อไปก็ปิดเทอมพักผ่อนแล้วพอเราเปิดเทอมอาจะให้บีนไปทำงานที่บริษัทเราเป็นไง  โอเคไหม ”

“ ก็โอเคครับ  แต่อาไม่ต้องให้บีนไปทำแผนกที่งานหนักนะ  ตอนเย็นๆหรือวันหยุดผมอยากเจอบ้าง ”

“ ได้  บีนก็โอเคนะ  พักสักสองเดือนก่อนแล้วค่อยทำงาน  คอนโดนี้จะให้อยู่ฟรีเหมือนเดิมแล้วกัน ”

“ ขอบคุณคุณบิ๊กมากครับ ”

“ ไม่เป็นไร   ยังไงหลังเลิกงานบีนก็ต้องช่วยโอ๊ต  ไม่สิ  ควบคุมโอ๊ตให้ทำการบ้านส่งครูเหมือนเดิมด้วยอยู่แล้ว ”


ดีว่าทุกอย่างมันเริ่มจะผ่านไปด้วยดีเพราะผมได้เจอคนดีๆอย่างคุณบิ๊ก  โอ๊ตและก็เพื่อนๆ  นี่ต้องโทรไปขอบคุณป่านมันอีกทีเลยนะว่าถ้าไม่ได้มันชีวิตผมก็คงไม่ได้ดีขนาดนี้ 


วันต่อมาผมก็บอกอ๊อฟกับไบท์ว่าคงไม่ได้เรียนต่อ ม.๖ แล้ว สองคนนั้นก็บ่นเสียดายแต่พอรู้ว่าผมไม่ได้ไปไหนไกลก็โล่งใจ  ช่วงอาทิตย์สุดท้ายของการเรียนก็คือช่วงสอบคุณบิ๊กก็ทำเรื่องลาออกให้ผมพร้อมบอกเหตุผลว่าผมย้ายไปเรียนที่ต่างจังหวัดแต่เรื่องนี้คงเก็บเงียบไม่ให้เพื่อนในห้องรู้ก่อนจะถึงเปิดเทอมหน้า




และแล้วก็ถึงวันสอบเสร็จโอ๊ตได้ชวนผม ไบท์และก็อ๊อฟไปทานข้าวที่บ้านของโอ๊ตเองเพราะวันนี้คุณปู่คุณย่าท่านได้เป็นคนชวนและได้สั่งแม่บ้านให้ทำกับข้าวชุดใหญ่เพื่อฉลองที่หลานและเพื่อนๆสอบจบ ม.๕  กันเสร็จ  เราสี่คนนั่งทานข้าวกันกับคุณปู่กับคุณย่าของโอ๊ตซึ่งพวกท่านใจดีมากพร้อมกับบอกว่าวันนี้ไม่ต้องกลับบ้านให้นอนที่บ้านโอ๊ตนี่แหละ  เสียดายแค่คุณบิ๊กที่ไม่ได้มาฉลองด้วยเพราะติดงานด่วนที่ต่างประเทศ 

“ วันนี้แม่บ้านทำความสะอาดห้องรับแขกแล้วนะ   พวกมึงสองคนไปนอนได้เลย ” โอ๊ตบอกไบท์กับอ๊อฟขณะที่พวกเรากำลังจะเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำนอน

“ แหมกูรู้แล้วล่ะครับโอ๊ต ” อ๊อฟตอบโอ๊ตขึ้นทันควัน   

“ หลับให้สบายนะบีนคืนนี้ ” ไบท์บอกกับผมแล้วยักคิ้วกวนๆก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าห้องไปทั้งสองคน  ได้ทีแซวใหญ่เลยนะเด้กพวกนี้ 



“  โอ๊ตไปอาบก่อนเถอะ ”

“ อย่างนั้นก็ได้  เสื้อผ้าอยู่ในตู้นะ   ค้นๆดูอันไหนใส่ได้บ้าง ”
ผมที่กำลังค้นเสื้อผ้าอยู่ก็ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น  ใครโทรมานะ  ว่าแล้วก็เลยเดินไปดูมือถือที่วางอยู่ยนเตียง

“ สวัสดีครับ ” เป็นเบอร์แปลก

“ บีน ”

“ ใครหรอ ” ปกติไม่มีใครรู้จักเบอร์ปลอมผมนอกจากเพื่อนพวกนี้นะ




“ บอย ” 
ผมตกใจและนิ่งไปชั่วขณะก่อนคนในสายจะพูดต่อ  “ ตอนนี้บีนสะดวกไหม  บอยมีเรื่องจะพูดด้วย ”

“ เอ่อ  ได้ ” ผมเดินออกไประเบียงห้องก่อนจะพูดกับบอยต่อ “ แต่ไม่นานนะบอย  บีนง่วงแล้ว” ผมโกหกไปว่าง่วงเพราะกลัวโอ๊ตจะออกมาจากห้องน้ำก่อน

“ ได้ๆ  คือบอยจะไปกรุงเทพพรุ่งนี้นะ  ลงเครื่องประมาณ ๑๑ โมง  บีนอยู่ห้องไหม  มีเรื่องจะปรึกษาและบอยก็อยากเจอบีนด้วย  ”

“ บอยมีปัญหาอะไรหรือเปล่า  บอกทางนี้ก็ได้ไม่ต้องมาหรอก ”

“ ทำไมหรอบีน  ดูเหมือนบีนไม่อยากให้เราไปหา  ให้เราไปเถอะนะเราจองตั๋วไว้แล้ว ”  ถ้ามาก็ยุ่งอีกล่ะสิ  กลัวโอ๊ตจะรู้เข้าและถ้าโอ๊ตเจอบอยล่ะ  คงต้องได้อธิบายกันยาวแน่ๆ

“ เออได้ๆ  อย่างนั้นเจอกันที่ห้องเรานั่นแหละ ” ผมต้องโกหกโอ๊ตเสียแล้วว่ากลับบ้านไปหาแม่

.........................................................................................

วันรุ่งขึ้นผมออกจากบ้านโอ๊ตไม่สายมากเพราะกลัวว่าบอยจะมาถึงคอนโดก่อนโดยไม่ลืมที่จะบอกกับโอ๊ตว่าจะกลับบ้านไปสักสองวันทางนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร  ลืมบอกไปครับว่าโอ๊ตรู้แล้วนะครับว่าบ้านผมอยู่ที่แถวนน

ติ้ง  ติ้ง ติ้ง

ถึงห้องได้ไม่ถึงสองชั่วโมงบอยก็มากดกริ่งหน้าห้องผมจึงออกไปเปิดประตู


แกรก


ผมมองคนที่อยู่ตรงหน้า  นั่นคือ คนที่ผมเคยรักมาก่อนถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานเท่าไหร่  บอยดูผมยาวขึ้นและดูผอมลงกว่าเดิม  หน้าตาดูซีดเซียวขอบตาคล้ำๆดูเหมือนคนนอนไม่หลับมาหลายวัน

“ เข้ามาในห้องก่อน ”  บอยเดินสะพายเป้เข้าไปในห้องก่อนที่ผมจะปิดประตูลง

“ อยู่คนเดียวหรอ ปิดเทอมยัง แล้วยังทำงานนี้อยู่อีกหรอบีน ”

“ ปิดเทอมแล้ว  เราก็อยู่คนเดียวในห้องปกติอยู่แล้ว  ส่วนงานก็เลิกทำแล้วแต่คุณบิ๊กให้อยู่ห้องนี้ต่อเพราะคุณบิ๊กจะให้เราไปทำงานบริษัทแทน ” ผมตอบบอยไปตามที่เจ้าตัวถามมา

“ อ้าว  ถ้าบีนไปทำงานบริษัทคุณบิ๊กไม่กลัวว่าโอ๊ตจะเห็นหรอ ”

“ เด็กรู้ความจริงแล้ว ”

“ จริงหรอ  แล้วน้องเขาไม่โกรธบีนหรอ ”

“ ไม่หรอก  น้องเขาเข้าใจ ” ผมพยายามจะเลี่ยงไม่บอกความสัมพันธ์ของผมกับโอ๊ตตอนนี้ว่าไปถึงไหนเพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะบอกแต่ตอนนี้ที่อยากรู้คือบอยมาทำไม “ ว่าแต่บอยมากรุงเทพทำไมหรอ ”

บอยถอนหายใจยาวก่อนจะค่อยพูดขึ้นมา “ ความจริงก็ไม่ได้อยากมารบกวนอะไรบีนหรอกนะ  แต่เราไม่รู้จะไปไหนจริงๆ ”

“ เล่ามาเถอะ ” บอยดูเหนื่อยลงทันทีเมื่อต้องเล่าเรื่องที่ดูจากท่าทางแล้วคงไม่สบายใจ

“ บีนจำได้ใช่ไหมว่าเราแต่งงานไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนแล้ว เพราะทางพ่อแม่เราไปปรึกษากับทางพ่อตาแล้วเขาบอกว่ามีฤกษ์แต่งดีเลยเร่งให้เราแต่ง  พอแต่งไปได้เดือนกว่าดาก็คลื่นไส้และบอกเราว่าท้องเพราะไปตรวจมาแล้วกะจะเซอร์ไพรส์เราทีหลัง  ตอนนั้นคือบอยดีใจมากนะที่มีลูก  พ่อแม่ของบอยและก็พ่อของดาก็ดีใจ  ทุกคนคอยประคบประหงมดาเป็นอย่างดีแต่เรื่องมันก็มาเกิดเมื่ออาทิตย์ก่อนตอนที่เรากำลังนอน  อยู่ๆก็ตื่นขึ้นมากลางดึกและไม่เห็นดานอนอยู่ข้างๆเลยว่าจะลงไปกินน้ำที่ครัวแล้วจะไปหาดาด้วยว่าอยู่ไหน  แต่ก้าวบันไดลงไปไม่ถึงสามขั้นก็ได้ยินเสียงดาคุยกับพ่อของดาอยู่ชั้นล่างของบ้านเราเลยชะงัก  พ่อของดาถามดาว่า สรุปไอ้ชายมันจะไม่มายุ่งกับแกแล้วใช่ไหม  แล้วดาก็ตอบว่า  ไม่แล้วล่ะพ่อให้เงินมันไปเป็นแสน ประโยคคำถามโต้ตอบกันนี้คงไม่ทำให้บอยแทบจะล้มทั้งยืนถ้าสองพ่อลูกไม่พูดกันต่อว่า  ทีหน้าทีหลังก็คิดดีๆนะดาก่อนจะทำอะไรลงไป  ดีนะที่ได้บอยมันมาช่วยรับลูกในท้องและบอยมันก็ไม่สงสัยอะไรเลยทั้งๆที่มันก็รู้ว่าแกพึ่งเลิกกับไอ้ชายก่อนแต่งไปไม่นาน  บอยได้ยินเท่านี้  เท่านี้จริงๆบีนแล้วบอยก็หูอื้อไปเลย  แทบจะเดินกลับห้องไม่ได้  ไม่มีคืนไหนเลยที่บอยจะหลับสนิทและตอนกลางวันยังต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้  ต้องยิ้มแย้ม  ต้องทำตัวเป็นลูกเขยที่ดีทดแทนบุญคุณพ่อตาที่ออกสินสอดให้ทั้งหมดในวันแต่งงานแลกกับการที่บอยไปช่วยกิจการที่บ้านของดา ” 

น้ำตาของคนที่โดนหลอกไหลออกจากดวงตาไม่ขาดสายขณะที่บอยเล่าโดยไม่มีเสียงสะอื้นใดๆ  ผมที่นั่งฟังอยู่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น  ใช่ว่ารีบแต่งงานกันมันก็ต้องมีเรื่องให้นินทากัน เช่น ท้องก่อนแต่ง ซึ่งทางนั้นก็คงท้องก่อนแต่งจริงๆ แต่พ่อของเด็กกลับกลายเป็นคนอื่น

“ ทุกวันบอยต้องฝืนมองหน้า ร่วมโต๊ะอาหารหรือไม่ก็นอนเตียงเดียวกันกับเมียตัวเองที่เป็นคนหลอกลวง  ซึ่งมันเจ็บนะ  บอยเหมือนตกอยู่ในสถานะที่ทำอะไรไม่ได้เลย  ถ้าบอยโวยวายบอกทุกอย่างไปว่าบอยรู้ความจริงหมดแล้วมันจะเป็นอย่างไรหรือบีน ”

“ บอย  ถ้ามันอัดอั้นมากก็ร้องเถอะร้องไห้ออกมาให้เต็มที่ ”

“ บีน ” 

บอยขยับมากอดผมที่นั่งอยู่ข้างๆ  กอดที่รู้ว่าต้องการให้ผมกอดปลอบประโลมตอบ  ผมกอดบอยตอบก่อนจะพูดกับคนที่ร้องไห้จนไหล่ผมเปียกว่า

“ ไม่เป็นอะไรแล้ว  ไม่ต้องกลัวบีนอยู่ข้างบอยเสมอ ”

ผมนั่งโอ๋ไปพร้อมกับคิดไปว่าถ้าบอยขอหย่าล่ะ  มันก็ต้องรอให้เด็กคลอดแล้วไปตรวจดีเอ็นเอก่อนสินะ  ผมอยากให้บอยมีชีวิตที่ดีกว่านี้ซึ่งตอนที่ผมทำใจเรื่องบอยไปแต่งงานได้ใหม่ๆก็คิดเหมือนกันนะว่ามันเร็วไปหรือเปล่ากับการที่ต้องมีแต่งงานในช่วงที่บอยก็ไม่ได้โตพอ  แถมแต่งในลักษณะคลุมถุงชนอีก  บางครั้งการเป็นลูกที่ดีเชื่อพ่อแม่มากเกินไปจนลืมจุดยืนของตัวเองว่าต้องการอะไรในชีวิตมันก็ทำให้เขวได้นะ

“ เหนื่อยไหมบอย ”

คนที่พึ่งหยุดร้องไห้ลุกขึ้นนั่งท่าปกติแล้วเช็ดหน้าที่เปื้อนน้ำตา  “ เหนื่อย ”

“ ถ้าอย่างนั้นไปนอนก่อนก็ได้ ” ดุแล้วบอยยังคงเหนื่อยจากการเดินทางอยู่

“ ขอบคุณนะที่เป็นห่วงเรา ”
 

ผมเดินตามบอยที่เดินเข้าไปนอนบนเตียงนอนผมก่อนจะนั่งลงริมเตียง

“ นอนให้เต็มอิ่มนะ  เดี๋ยวอีกสักสองชั่วโมงเราจะมาปลุก ”

“ ขออย่างหนึ่งได้ไหมบีน ”  บอยยังไม่ได้บอกว่าอยากได้อะไรแต่เจ้าตัวกลับดึงตัวผมที่นั่งอยู่ให้ล้มลงไปแล้วนอนกอดผมไว้  ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ “ กล่อมเรานอนหน่อยนะ  เราคิดถึงบีน  คิดถึงกอดของบีน ” พูดเสร็จบอยก็ยื่นหน้าเข้ามาเตรียมจะจูบแต่ผมใช้มือบังไว้ทัน

“ นอนเถอะนะ  กอดเราได้แต่อย่าทำอย่างอื่นเลย ” บอยฟังผมเสร็จก็ส่งสายตาผิดหวังปนรู้สึกผิดกลับมา

“ ขอโทษนะ  เราคงไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้เพราะเราเลือกที่จะหนีบีนไปเอง ”

“ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามารื้อฟื้นอดีตกันหรอกนะ  นอนเถอะ ” ผมเอามือลูบไปที่หัวคนที่แก่กว่าสามปีจนหลับไปอย่างรวดเร็วก่อนจะ
เอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อหยิบมือถือมาตอบไลน์ที่เตือนมาเมื่อกี้


โอ๊ต  -  ถึงบ้านหรือยัง

บีน  -   ถึงแล้ว

โอ๊ต -  โอเค  คืนนี้ขอไปเที่ยวกับไบท์นะ

บีน  -  ได้  ดูแลตัวเองด้วย

โอ๊ต - รักครับ




เฮ้อ  นี่ถ้าโอ๊ตรู้เข้าว่ามีคนนอนกอดผมอยู่ตอนนี้คงโดนโกรธอีกแน่ๆ 



.....................................................................................


โจทก์เก่ากลับมาแล้วนะครับ  น่าสงสารบอยเนอะโดนสองพ่อลูกต้มตุ๋นจนเปื่อยแต่จะทำยังไงได้ล่ะใครแฟนคลับบอยแสดงตัวหน่อยเร้ววววววววว

บีนนี่ก็ใจกว้างจริงเพราะบีนก็คงสงสารบอยจริงๆ

มาช่วยลุ้นกันว่าบอยจะมาทำให้ชีวิตบีนวุ่นวายไหมแล้วโอ๊ตจะว่ายังไงถ้าเกิดรู้ว่าบอยกลับมาเพราะโอ๊ตยังคงคิดว่าบอยเป็นเด็กมัธยมอยู่นะ

ขอบคุณผู้อ่านทุกๆคนเช่นเคยนะครับที่เข้ามาอ่านเข้ามาเม้นเดี๋ยวจะตอบกลับคนที่มาเม้นเช่นเคยนะ  น่าจะดึกๆของพรุ่งนี้
วันนี้ย่องมาดึกๆ ฝันดีนะทุกคน

เจอกันตอนที่ ๒๘ จ้า  :bye2: :pig4:




หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๗ ๑๙/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: Psongtt ที่ 19-11-2015 00:51:48
บอยอดทนได้ขนาดนี้ถือว่า เก่ง แต่ก็น่าสงสารนะ
คนเขียนบอกว่าฝันดีแต่ความจริงคงนอนอ่านนิยายโต้รุ่งสินะ
ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นครับ
นอนตีพุงรอตอนต่อไปเน้อ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๗ ๑๙/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 19-11-2015 02:56:18
ชีวิตต้องเดินหน้าบอย สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๗ ๑๙/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 19-11-2015 06:05:11
สู้ๆนะบอย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๗ ๑๙/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-11-2015 06:47:16
สงสารบอยอะ น้ำท่วมปาก ไหนจะสถานะครอบครัวอีก
เราแค่หวังว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้นนะทั้งฝั่งบีนและบอย
โอ๊ตเป็นเด็กดีไปตลอดนะ โอเค๊. ฮ่าๆ  :mew1:   อย่าให้เสียแรงที่เชียร์
ขอบคุณคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๗ ๑๙/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 19-11-2015 08:16:11
      ตอนแรกๆก็ไม่รู้จะแก้ไขยังไงหรอก พอเวลาผ่านไปสักพักบอยจะรู้วิธีแก้ปัญหาเองแหละ ใจเย็นๆบอย ไม่แน่บอยอาจจะเจอแฟนใหม่ก็ได้หนา   รอ รออ่านตอนใหม่ มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๗ ๑๙/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-11-2015 10:18:26
“ บีน  วันนี้โอ๊ตนัดกิ๊บไว้ที่ร้านไอติมนะ” อยู่ดีๆโอ๊ตก็บอกผมขณะที่เรากำลังเก็บสมุดหนังสือเข้ากระเป๋าเตรียมกับบ้าน >>> เตรียมกลับบ้าน
“ ไม่อะ  ให้บีนไปเป็นเพื่อนดีกว่าและก็ไปเป็นแฟนด้วย ”  น่ารักจริงผมผมเอื้อมมือไปเกาคางโอ๊ตโดยไม่อายนักเรียนคนอื่น

คิดว่าถ้าโอ๊ตรู้แล้วโกรธบีนอาจทำให้โอ๊ตต้องปวดตัวจนไข้ขึ้นอีก  :oo1: :oo1: :oo1:
สงสารบอยนะ แต่บอยเลือกเองที่จะทิ้งบีนไปแต่งงาน
และดูท่าคงจะมีความสุขถ้าเป็นลูกของตัวเอง ไม่ใช่ลูกของแฟนเก่า
ถ้าไม่ทุกข์บอยคงไม่กลับมาหาบีน
หวังว่าโอ๊ตจะยอมฟังโกรธน่ะได้แต่อย่าโกรธจนเลิกกับบีนนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๗ ๑๙/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 19-11-2015 10:48:03
บีนน่าจะบอกน้องโอ๊ดนะว่าจะไปเจอกับบอย มาม่า มาแต่ไกล
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๗ ๑๙/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 19-11-2015 23:55:38
บอยอดทนได้ขนาดนี้ถือว่า เก่ง แต่ก็น่าสงสารนะ
คนเขียนบอกว่าฝันดีแต่ความจริงคงนอนอ่านนิยายโต้รุ่งสินะ
ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นครับ
นอนตีพุงรอตอนต่อไปเน้อ

รู้ได้ไงเนี่ยว่าเมื่อคืนเราลงนิยายเสร็จก็นอนอ่านนิยายคนอื่นต่อ
ฮ่าๆ ขอบคุณมากนะครับ

ชีวิตต้องเดินหน้าบอย สู้ๆๆ

ติดตามบอยกันต่อไปครับ บอยมาให้ทุกคนหายคิดถึง
สู้ๆนะบอย

ติดตามบอยกันต่อไปครับ ขอบคุณที่ติดตามกันนะครับ

สงสารบอยอะ น้ำท่วมปาก ไหนจะสถานะครอบครัวอีก
เราแค่หวังว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้นนะทั้งฝั่งบีนและบอย
โอ๊ตเป็นเด็กดีไปตลอดนะ โอเค๊. ฮ่าๆ  :mew1:   อย่าให้เสียแรงที่เชียร์
ขอบคุณคนเขียนค่ะ

ขอบคุณคนอ่านครับ  เอาใจช่วยว่าโอ๊ตกับบีน 

เมื่อมีบอยเข้ามาจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ

      ตอนแรกๆก็ไม่รู้จะแก้ไขยังไงหรอก พอเวลาผ่านไปสักพักบอยจะรู้วิธีแก้ปัญหาเองแหละ ใจเย็นๆบอย ไม่แน่บอยอาจจะเจอแฟนใหม่ก็ได้หนา   รอ รออ่านตอนใหม่ มาเร็วๆนะคับ

จะพยายามรีบมาต่อนะครับ  ขอบคุณมากนะครับ

“ บีน  วันนี้โอ๊ตนัดกิ๊บไว้ที่ร้านไอติมนะ” อยู่ดีๆโอ๊ตก็บอกผมขณะที่เรากำลังเก็บสมุดหนังสือเข้ากระเป๋าเตรียมกับบ้าน >>> เตรียมกลับบ้าน
“ ไม่อะ  ให้บีนไปเป็นเพื่อนดีกว่าและก็ไปเป็นแฟนด้วย ”  น่ารักจริงผมผมเอื้อมมือไปเกาคางโอ๊ตโดยไม่อายนักเรียนคนอื่น

คิดว่าถ้าโอ๊ตรู้แล้วโกรธบีนอาจทำให้โอ๊ตต้องปวดตัวจนไข้ขึ้นอีก  :oo1: :oo1: :oo1:
สงสารบอยนะ แต่บอยเลือกเองที่จะทิ้งบีนไปแต่งงาน
และดูท่าคงจะมีความสุขถ้าเป็นลูกของตัวเอง ไม่ใช่ลูกของแฟนเก่า
ถ้าไม่ทุกข์บอยคงไม่กลับมาหาบีน
หวังว่าโอ๊ตจะยอมฟังโกรธน่ะได้แต่อย่าโกรธจนเลิกกับบีนนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ขอบคุณที่ช่วยตรวจคำผิดให้นะครับ  ตอนนี้แก้ไขแล้ว
ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อไปนะครับ  ขอบคุณมากๆครับ

ปล. โอ๊ตต้องเป็นเด็กดีของบีนครับ อิอิ

บีนน่าจะบอกน้องโอ๊ดนะว่าจะไปเจอกับบอย มาม่า มาแต่ไกล

คนเขียนไม่ชอบกินมาม่าครับ555 แต่อาจจะมีติดมานิดๆนะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๘ ๒๔/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 24-11-2015 22:35:35
ตอนที่  ๒๘


ผมตื่นเช้ามาก็โดนคนที่นอนข้างๆแย่งผ้าห่มไปผมเกือบหมดผืนจึงลุกขึ้นไปปิดแอร์แล้วเปิดระเบียงให้อากาศระบายก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ  ออกมาบอยก็ไม่อยู่บนเตียงแล้วแต่ได้ยินเสียงทีวีข้างนอกห้องเปิดอยู่

“ เราปลุกบอยหรือเปล่า  นอนอิ่มไหม ”

“ อืม  เราดีขึ้นแล้ว ”

“ ไปอาบน้ำก่อนไป  เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินแถวนี้กัน  พอดีของในตู้เย็นมันหมด ”
บอยว่าง่ายเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำก่อนจะแต่งตัวออกมาใช้เวลาไม่เกินสิบห้านาที

“ กินอาหารตามสั่งแถวๆคอนโดแล้วกัน ” ผมเดินนำบอยลงลิฟต์มาชั้นล่างก่อนจะเดินไปกินข้าวแถวๆคอนโด 
หลังจากสั่งอาหารกันเสร็จผมก็รินน้ำให้บอยและตัวเองก่อนที่บอยจะพูดขึ้นว่า

“ คิดถึงตอนที่เรายังเรียนด้วยกันนะ   ตอนนั้นเย็นๆถ้าไม่ได้ทำกับข้าวเราก็จะมากินที่นี่ ”

ผมยิ้มให้บอยที่ดูท่าทางสภาพจิตใจจะดีขึ้นกว่าเมื่อวานนี้มาก “ ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่ ”

“ บอยตัดสินใจแล้วนะบีน  บอยว่าจะรอให้เด็กคลอดออกมาแล้วขอตรวจดีเอ็นเอ  ถ้ามันไม่ตรงจริงๆตามที่เราคิดก็คงจะขอหย่า ” ลืมไปว่าบอยจดทะเบียนสมรสด้วยแฮะ

“ แล้วทางพ่อตาจะไม่ว่าอะไรหรอ ”

“ ไม่รู้สิ  บอยจะลองสู้ดูสักครั้ง  ยังไงมันก็เป็นความจริง ”

“ แล้วถ้าหย่าแล้วจะไปอยู่ไหนพ่อแม่บอยก็แก่แล้วนะ ”

“ พ่อแม่น่าจะอยู่ได้  บอยว่าจะกลับมาสมัครงานที่บริษัทคุณบิ๊กนี่แหละ บอยอยากให้บีนช่วยพูดให้หน่อยเพราะกลางๆปีบอยก็มาแล้ว  บอยอยากกลับมาหาบีน ” บอยไม่พูดเปล่าแต่เอามือมากุมมือผมที่วางอยู่บนโต๊ะไว้

ผมค่อยๆดึงมือตัวเองออกมาจากมือบอย “ บอย  ตอนนี้ระหว่างเรามันเป็นได้แค่เพื่อนนะ ” ระหว่างที่พูดแม่ค้าก็มาเสิร์ฟข้าวพอดี “ กินข้าวก่อนเถอะแล้วค่อยคุยกัน ”




“ บีน ” บอยเรียกผมทันทีที่เรากลับมาถึงห้อง

“ มาๆ มานั่งคุยกันก่อน ” ผมเรียกบอยให้ไปนั่งคุยที่โซฟา

“ บอยยอมรับว่าบอยทิ้งบีนไปแต่บีนให้โอกาสบอยได้กลับมาแก้ตัวอีกครั้งได้ไหม  ขอแค่รอเราหน่อยสักห้าหกเดือน ”  ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาที่อ้อนวอนของบอย

“ คงไม่ทันแล้วล่ะบอย ”

“ หมายความว่ายังไงบีน  บีนมีคนอื่นแล้วหรอ   มันเป็นใคร ”  ดุท่าแล้วบอยก็น่าจะเดาออก

“ โอ๊ต   ตอนนี้บีนคบกับโอ๊ต ” บอยหยุดนิ่งไปทันทีที่ผมเฉลยความจริงออกไป “ บอย  ไม่ต้องเสียใจหรือตกใจหรือจะไปคิดว่ามันเป็นความผิดของใครหรอกนะ  ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ”

“ คบกันมานานแล้วหรอ ”

“ จะสองเดือนแล้ว ”
บอยก้มหน้าลงมองพื้น  ผมจึงเอื้อมมือไปจับที่ปลายคางให้เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มให้บอย

“ ไม่ต้องเศร้า  บอยคิดดีแล้วใช่ไหมที่จะกลับมาหรืออยากกลับมาเพราะว่าเรา ”

“ ก็มันไม่ใช่ลูกของบอย  บอยเหมือนถูกหลอก ”

“ แล้วบอยจะปฏิเสธไหมว่าถ้าในท้องนั้นเป็นลูกของบอย  บอยก็คงจะอยู่ที่หนองคายอย่างมีความสุข  เราอยากให้บอยกลับไปที่นั่นนะเพราะมันอยู่ง่าย  กลับมานี่มันลำบาก  ไปอยู่ที่หนองคายดีไม่ดีบอยอาจได้สืบทอดกิจการของทางพ่อตาก็เป็นได้  เรื่องลูกมันไม่สำคัญหรอกถ้าเด็กเกิดมาแล้วเรียกเราว่าพ่อ  บอยก็คือพ่อ ”

บอยพยักหน้าตามผมอย่างเนือยๆ “ บอยกลับไปนะ  ไปคุยกับดาให้รู้เรื่อง  คุยตอนที่คลอดก็ได้ถ้ากลัวทะเลาะกัน  เราอยากให้บอยบอกไปว่าบอยรู้ความจริงหมดแล้วแต่บอยก็ยอมรับเด็กคนนั้นเป็นลูก  แค่นี้ก็ยิ่งมีแต่ได้กับได้นะบอยเพราะทางนั้นเขาก็ดูรักและเอ็นดูบอย ”

น้ำตาจากการที่อัดอั้นตันใจของบอยไหลมาเต็มหน้าอย่างไม่ขาดสาย

“ เราเป็นห่วงบอยนะและหวังว่าบอยจะเข้าใจ ”

“ ขอบคุณมากนะบีน  เอาเป็นว่าเราจะจองตั๋วกลับพรุ่งนี้ก็แล้วกัน  ไม่อยากรบกวนบีนนาน ”

“ สู้ๆนะบอย  มีปัญหาอะไรก็โทรหาเรา  คืนนี้ก็นอนที่นี่ต่ออีกคืนแล้วกัน ” ความใจดีของผมก็ลืมไปว่าบอกกับโอ๊ตไปว่าพรุ่งนี้จะกลับจากบ้าน  ถ้าโอ๊ตเกิดดันมาหาที่คอนโดตั้งแต่เช้าล่ะ

ผมจึงรีบโทรไปหาโอ๊ตว่าจะกลับมาจากบ้านเย็นๆ ไม่อยากให้รถไฟชนกันโดยไม่มีเหตุจำเป็น


........................................................................................


ผมเดินลงมาส่งบอยขึ้นแท็กซี่ที่หน้าคอนโดตั้งแต่เก้าโมงเช้าเพราะบอยเองก็ดูอยากรีบกลับบ้านเมื่อได้รับคำแนะนำจากผม  ผมมองบอยที่นั่งอยู่ในแท็กซี่ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป  ตอนนี้เราอยู่ในสถานะเพื่อน ผมจึงกล้ามองบอยจากไปจนกว่าจะลับสายตา  สักวันก็ต้องได้เจอกัน



เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว กลางเดือนธันวาคมอากาศในกรุงเทพก็หนาวได้ไม่กี่วัน  ผมอยู่ในคอนโดกับโอ๊ตที่งอแงอ้อนผมให้ช่วยติวหนังสือให้  แต่ผมก็คงช่วยอะไรไม่ได้เท่าไหร่เพราะมันสอบคนละแบบกันกับที่ผมเคยสอบมาจริงๆพูดง่ายๆรุ่นผมมันแก่แล้วบวกกับเด็กมันพัฒนาขึ้นเยอะมากๆครับ  ข้อสงสัยหรือคำถามที่น้องมันไม่ได้  อันนี้มันก็เกินความสามารถผมและผมก็หาคำตอบให้น้องไม่ได้เช่นกัน   

เกรดที่เห็นว่าได้เยอะขึ้นตอนเรียนด้วยกันตอนนี้โอ๊ตขึ้นมาติดหนึ่งในสิบของห้องแล้วนั่นมันคือสัญญาณที่ดีและมันก็ดีมากขึ้นไปอีกเมื่อโอ๊ตสอง GAT/PAT ไปเมื่อต้นเดือนก็เห็นบอกว่าทำได้นะ  ผมจึงทำได้แค่เป็นกำลังใจให้กับการเตรียมสอบ ๗ วิชาสามัญในต้นปีหน้าก็คงพอ

ในส่วนของงานของผม  คุณบิ๊กก็ให้ผมไปเป็นผู้ช่วยของเลขาแกอีกทีหนึ่งก็คือ พี่ปุ๋ย นั่นเอง  งานก็ไม่หนักไม่เบามากแค่นั่งประจำออฟฟิศช่วยงานพี่ปุ๋ย   ถ้าพี่ปุ๋ยไปข้างนอกกับคุณบิ๊กผมก็ต้องนั่งรับงานดูงานแทนทั้งสองที่ออฟฟิศ  ผมสบายใจขึ้นนะได้ทำงานแบบจริงๆจังๆไม่ต้องปกปิดปลอมตัวให้เหนื่อยอีก 

แต่บางวันนั่งทำงานก็ไม่วายมีเด็ก ม.๖ มานั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆไม่ก็มากวนผมทั้งๆที่เมื่อก่อนโอ๊ตไม่เห็นเข้ามาในออฟฟิศเลยจนผมโดนเพื่อนร่วมงานแผนกอื่นแซวกันเกือบทุกวันว่าเส้นใหญ่บ้างล่ะ  หลานสะใภ้บริษัทบ้างล่ะ โดยหัวโจกในการมาแซวกันอย่างสนุกปากก็คือป่านนั่นเอง  ตอนแรกก็อายๆหลังเฉยๆครับ  มีแค่โอ๊ตที่โดนอาดุบ้างว่าอย่ามากวนบีนเขา 

แต่ถึงที่สุดแล้วความตั้งใจในการเรียนของโอ๊ตก็ไม่สูญเปล่า   โอ๊ตสอบได้ในคณะและสาขาบริหารธุรกิจบัณฑิตตามที่อยากเรียนแถมยังเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดังด้วย  ผมกับไบท์ อ๊อฟ ก็มาฉลองกันที่บ้านโอ๊ต  คุณปู่คุณย่าท่านดีใจมากๆ เมื่องานเลี้ยงใกล้จะจบคุณบิ๊กจึงเรียกผมกับโอ๊ตไปนั่งคุยในห้องทำงานด้านบนของบ้าน

“ มาแล้วครับ ”  ผมกับโอ๊ตเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับคุณบิ๊ก

“ ที่เรียกมาคุยตอนนี้เพราะมีเรื่องอยากให้บีนทำนะ  คือ  ผมจะให้บีนหยุดทำงานไปก่อนนะเพราะมีหน้าที่อยากให้ทำ ”

“ ทำอะไรครับ ”

“ ผมอยากให้บีนไปเรียนต่อเกี่ยวกับบริหารธุรกิจเหมือนๆกับโอ๊ตนี่แหละ  ต่อโท  จะเรียนไหม ”

“ เอ่อ ” เอายังไงดี

“ เรียนเถอะบีน  นะๆ เรียนไปด้วยกัน  อาบิ๊กจะให้เราไปเรียนที่เดียวกันเลยจะให้บีนหยุดทำงานไปก่อน ”

โอ๊ตเองก็ช่วยอาโน้มน้าวจิตใจผมอีกคน  แต่ถ้าเรียนก็ไม่เสียหายนะ  มีความรู้ติดตัวเพิ่มขึ้นอีก

“ ได้ครับ  ผมจะเรียน ”

“ เย้ๆ ” โอ๊ตกระโจนเข้ามากอดผมอย่างดีใจ

“ เฮ้ยๆใจเย็นโอ๊ต ” คุณบิ๊กเบรคหลานก่อนจะพูดต่อว่า “ เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วงนะ  เดี๋ยวผมจะออกให้หมด   แต่ถ้าไปเรียนกับโอ๊ตก็ขอฝากหลานผมไว้กับคุณเหมือนเดิมนะบีน ”

“ ได้ครับ ”  ตายแล้ว  ทำไมสองปีมานี้ผมโชคดีจังเลย

“ แล้วโอ๊ตไปอยู่กับบีนได้ไหมครับอาบิ๊ก ”

“ ไม่ได้  โอ๊ตก็อยู่บ้านนี่แหละ  คิดถึงค่อยไปหากันเข้าใจไหม  ยังไงในหนึ่งอาทิตย์ก็คงมีเรียนตรงกันอยู่หรอก”

“ ครับ ” โอ๊ตตอบไปอย่างเสียดาย  ดีแล้วล่ะครับ  แยกกันอยู่จะดูดีกว่าเพราะถ้าอยู่ด้วยกันคงเบื่อกันแน่ๆ

“ อีกเดือนโอ๊ตก็จะจบ ม.๖ แล้ว บีนก็เหลือเวลาทำงานอีกหนึ่งเดือนเหมือนกันนะ  ระหว่างที่ปิดเทอมก็พักผ่อนให้เต็มที่แล้วกัน  จะไปเที่ยวกันก็ได้แต่ต้องปลอดภัยนะ ”

วันนี้เป็นวันดีจริงๆครับ  นอกจากโอ๊ตจะมีที่เรียนต่อแล้ว  ผมก็จะได้เรียนต่อปริญญาโทด้วย  มหาลัยเดียวกันอีกต่างหาก
“ นอนกันดีกว่าบีน  มาๆมากอดกัน  พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาเลือกที่เที่ยวตอนปิดเทอมกันโอเคไหม ”

ผมนอนหลับไปในอ้อมกอดของว่าที่นิสิตใหม่ป้ายแดง  ต่อจากนี้ก็เป็นการเริ่มต้นในอีกเส้นทางแล้วสินะผมเองก็สัญญากับตัวเองว่าจะตั้งใจสอบเข้าเรียนแล้วก็จะตั้งใจเรียนให้จบไม่ให้คนส่งเรียนต้องผิดหวังเป็นอันขาด


...


ปลายหน้าหนาวและต้นฤดูร้อน ผมกับโอ๊ตนั่งศึกษาข้อมูลการเดินทางและวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวอันไหนก่อนหลังดี  ผมนั่งมองโอ๊ตที่ดูจริงจังกับการแบ็คแพ็คไปเที่ยวกันสองคนโดยเราตกลงกันว่าจะไปภาคเหนือกันก่อน  ทั้งจังหวัดแพร่และน่าน  ดูแล้วโอ๊ตดูจะตื่นเต้นกว่าผมอีกที่จะได้ออกผจญภัย

“ เราต้องจัดกระเป๋ากันนะบีน  โอ๊ตไปอ่านมาในเน็ตแล้วต้องมี  ยา  แผนที่  ไฟฉาย  มีดพกเอนกประสงค์  พวกของใช้ส่วนตัว ”

“ อย่างนั้นก็จัดกันเลย  ขาดเหลืออะไรจะได้ไปหาซื้อตอนเย็น ”


การที่ผมกับโอ๊ตไปเที่ยวภาคเหนือครั้งนี้โดยผมก็แกล้งโง่  ทำเป็นไม่หาข้อมูลหรือไม่ค่อยได้แสดงบทบาทการเป็นผู้นำก็เพราะอยากเห็นโอ๊ตได้ฝึกในเรื่องการวางแผนการเป็นผู้นำศึกษาเส้นทาง  มันเป็นการฝึกอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ให้เจ้าตัวนั้นรู้ตัวซึ่งก็ได้ผลออกมาดีมาก  อีกทั้งโอ๊ตไม่เห็นจะบ่นจะเรื่องมากเหมือนสมัยแต่ก่อน  กินนอนอยู่แบบวิถีชาวบ้านก็ยังได้  กลายเป็นผมเสียอีกที่บางครั้งต้องเดินแบ็คแพ็คไกลๆก็เป็นฝ่ายที่ขอหยุดพักเสียหรือไม่ก็อู้เสียเอง

“ ต่อไป  ไปไหนดี ” ปลายเดือนมีนาหลังจากผมสอบภาษาอังกฤษเพื่อเอาคะแนนไปยื่นสมัครเรียนปริญญาโทเสร็จโอ๊ตก็ถามถึงการเดินทางของเราต่อ

“ ไปใกล้ๆนี่แหละโอ๊ตเมืองกาญไหมล่ะ  ไปเที่ยวรถไฟสายมรณะ  ช่องเขาขาดอะไรแบบนี้  ได้ความรู้ด้วย ”

“ เออดีๆ ครั้งนี้จะชวนไบท์ไปด้วยแล้วกัน  เสียดายไอ้อ๊อฟว่ะแต่ก็หมั่นไส้มัน  มันหนีไปเที่ยวกับญาติมันที่สิงคโปร์โน่น ”

ครั้งนี้ไปเที่ยวกาญจนบุรีสามสี่วันก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งและผมก็ยังเป็นตัวถ่วงเด็กอีกสองคนเหมือนเดิมในการที่ต้องเดินไกลๆ นี่กลับมาครั้งนี้ต้องออกกำลังกายให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนตอนที่เรียนป.ตรีเสียแล้ว



“ นี่ถ้าไม่ได้ลุงชัยไปรับมาผมก็ไม่รู้ว่าจะออกมาจากซอยหน้าบ้านผมยังไงเหมือนกันครับ  รถก็ไม่ค่อยมี  เดินไปอีกนิดก็คงเปียก ”  ลุงชัยแกรับคำสั่งจากโอ๊ตว่าให้ไปรับผมจากบ้านที่นนท์ให้ไปส่งที่คอนโดซึ่งโอ๊ตก็ไปรอผมที่คอนโดอยู่แล้ว

“ ไปเล่นเถอะนะๆบีน ”

“ แล้วถ้าไปเจอเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันล่ะโอ๊ต ”

“ ก็ไม่เห็นยาก  ก็บอกว่ากลับมาเที่ยวกรุงเทพก็แค่นั้น ”
โอ๊ตยังไม่หยุดอ้อนให้ผมไปเล่นสงกรานต์ด้วยตั้งแต่ก่อนผมกลับไปบ้านเมื่ออาทิตย์ก่อน  กลับมาที่คอนโดก็ยังตามตื้ออยู่

“ ไม่เอา  ไม่อยากเปียก ” ผมตอบออกไปก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว

โอ๊ตก็เดินตามก้นผมมา  “ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวโอ๊ตโดนสาวที่ไหนดึงไปปะแป้งหรือดึงไปกอดไม่รู้ด้วยนะบีน ” จริงด้วยสิ  เด็กสมัยนี้ยิ่งกล้าๆกันอยู่

“ อย่างนั้นก็ไป  โอเคไหม ” ผมรีบตอบกลับไปทันทีที่คิดได้

“ เย้ๆ ”

“ เออ บีนเปลี่ยนชุดก่อน ”

ผมเปลี่ยนใส่กางเกงว่ายน้ำขาสั้นแทนกางเกงในก่อนจะใส่กางเกงผ้าขาสั้นทับอีกรอบ  แบบนี้ค่อยไม่คันไม่ชื้นเวลาเปียกน้ำนานๆ เรื่องอุปกรณ์เล่นน้ำไม่ต้องห่วงครับทางโอ๊ตเตรียมปีนฉีดน้ำมากดดันผมให้ไปด้วยตั้งแต่แรกแล้ว 

“ แล้วจะไปกี่โมงล่ะ  นี่พึ่งสิบเอ็ดโมงเอง ”

“ เถอะน่าบีนไปเล่นที่ข้าวสารก่อนแล้วกัน  มีถุงใส่มือถือแล้วใช่ไหม ”

“ เออจริงไม่มี   เดี๋ยวค่อยไปซื้อ ”




เราไปเล่นน้ำที่ถนนข้าวสารกันก่อน  เดินๆฉีดน้ำใส่คนโน้นคนนี้ไปเรื่อยๆก็เย็นและสนุกดีครับ  ส่วนโอ๊ตนั้นจะเป็นที่สนใจของสาวๆเป็นพิเศษถึงผมจะคิดว่าดูไปดูมาโอ๊ตก็ไม่ได้หล่ออะไรเหมือนสมัยที่เจอกันครั้งแรกๆก็ตาม 

“ หาอะไรกินกันบีนหิวแล้ว ”

“ กี่โมงแล้วล่ะ ”

“ บ่ายโมง   อย่างนั้นไปกินไก่กัน  กินเสร็จแล้วไปเล่นที่สีลมแล้วกัน ”

การเล่นสงกรานต์ก็เหมือนการผจญภัยในฝูงชนขนาดใหญ่ครับ  ไปสองคนนี่กลัวหลงกันมากจนบางครั้งต้องจับมือกันไว้  บางคนก็มองเราด้วยสายตาแปลกๆไม่ก็มองยิ้มๆ  เอาจริงๆก็อายนะเพราะเวลามีแฟนผมไม่ค่อยชอบจูงมือกันเท่าไหร่



หลุด


ในที่สุดตรงสีลมมันเบียดเสียดกันมากจนมือเราหลุดจากกันครับ  ผมจึงเดินออกมาตรงข้างทางมองดูโอ๊ตที่ไหลไปกับผู้คน  รอสักพักคงโทรมา

“ เดี๋ยวบีนรออยู่หน้าซอยแล้วกันโอ๊ต ”  ผมรับสายโอ๊ตก่อนจะเดินย้อนกลับไปยืนรอใกล้ๆหน้าซอย

“ มาคนเดียวหรอครับน้องหรือว่าหลงกับเพื่อน ” ผมหันไปทางพี่ผู้ชายสองสามคนที่นั่งกินเบียร์อยู่ตรงเก้าอี้ทางเดิน  ท่าทางคงจะเมานิดๆ  ด้วยความที่ไม่อยากพูดกับคนแปลกหน้าและกลัว  ผมเลยยิ้มๆแล้วจะเดินเลี่ยงออกแต่โดนหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมาดึงแขนไว้เสียก่อน

“ จะไปไหนครับถามไม่ตอบ  มากินเบียร์กับพี่ก่อนเร็ว ” นี่ไม่ใช่ดึงแขนแล้วครับเรียกว่าลากมากกว่า  พี่ผู้ชายกอดอกผมด้วยแขนข้างเดียวจากข้างหลังแล้วดึงผมไปนั่งตักตัวเองที่เก้าอี้ก่อนจะขยำนมผมแรงๆหนึ่งที

“ ปล่อยก่อนพี่  ผมรอเพื่อนผมอยู่ ”

“ มาให้หอมแก้มก่อนนะมาๆ ” ฟอด หอมไปแล้วหนึ่งที  “ ท่าทางอ้อนแอ้นแบบนี้มีจู๋ไหมนี่  มึงลองจับดูซิ ” ไม่นะมันบอกให้เพื่อนเอื้อมมือมาจับที่เป้าผมแต่ผมยังคงมีบุญอยู่เมื่อมีเสียงทักขึ้นมาก่อน

“ ไอ้ตี๋  มึงทำอะไร ”

“ อ้าว  สวัสดีครับพี่กฤช ”
 
“ มึงปล่อยน้องเขาก่อนสิวะ  กูรู้จักน้องเขา ”  พี่กฤชจริงๆไม่ได้เจอกันนานอยู่นะ  พี่แกมากับเพื่อนอีกสามสี่คนท่าทางดูมีอำนาจถึงกล้าสั่งพี่พวกนี้ได้

“ ปล่อยแล้วครับพี่ ”

“ แล้วมึงไปทำเหี้ยอะไรน้องเขาวะ ”

“ ก็ผมเห็นน้องมันน่ารักดีเลยอยากแกล้งเสียหน่อยก็แค่นั้นเองพี่  ขอโทษครับ ”
ท่าทางพี่ผู้ชายที่ชื่อตี๋คงกลัวพี่กฤชเอามากๆ

“ ลูกน้องเก่าพี่เอง  ขอโทษด้วยนะบีน ” เป็นหัวหน้าฟิตเนสนี่มีอำนาจขนาดนี้เลยหรอวะ

“ ขอบคุณครับ ”

ผมยกมือไหว้ก่อนจะหันหน้าไปมองดูโอ๊ตว่าออกมาหรือยัง  นั่นไงเดินมาพอดีอยู่ห่างๆไปประมาณ๑๐๐เมตร  โอ๊ตมองมาทางผมแล้ววิ่งเหยาะๆมาก่อนที่ผมจะโดนพี่กฤชดึงตัวไปกอดคอแล้วขู่กับลูกน้องเก่าอีกว่า

“ คนนี้เด็กกู  เห็นที่ไหนก็ห้ามยุ่ง  เข้าใจตรงกัน ” พี่กฤชพูดออกมาอย่างไม่เกรงกลัวใคร  เสียงดังฟังชัด  นี่มันนักเลงขึ้นมากเลยนะนี่ไม่เหมือนสมัยก่อนเลย

“ บีนไปก่อนนะพี่  ” ผมบอกพี่กฤชแค่นั้นก็วิ่งไปหาโอ๊ตที่หยุดยืนห่างจากผมไม่ไกล  หวังว่าคงจะไม่ได้ยินนะว่าใครเป็นเด็กใคร

“ โอ๊ต  คือ เราเจอคนรู้จักน่ะเลยคุยกันนิดหน่อย  ป่ะ ”

โอ๊ตมองหน้าผมนิ่ง  เหมือนจะโกรธอะไรสักอย่าง


“ กลับ  เรามีเรื่องต้องคุยกันนะบีน ” กำข้อมือผมแน่นแล้วพาเดินออกไปขึ้นรถกลับคอนโด



เฮ้ย  นี่โอ๊ตจะไปเข้าใจผิดเรื่องที่ผมเป็นเด็กพี่กฤชไม่ได้นะ  จะว่าไปก็ไม่กล้าอธิบายหรอกครับหน้าโอ๊ตตอนนี้จะกินผมไปทั้งคนก็ยังได้  หน้าโหดเย็นชาสุดๆ ถึงคอนโดค่อยพูดกันดีๆจะดีกว่า




.........................................................................................


บีนมาแล้วพร้อมเคลียร์ปัญหาชีวิตให้บอย  ได้เรียนต่อโทอีกแต่ก็ยังไม่วายมีปัญหาเล็กๆน้อยๆเข้ามาอีก
 
อย่างนี้แหละนะคนเป็นแฟนกัน ฮ่าๆ

วันนี้มาไม่ดึกมาก  ไม่ดึกสำหรับเรานะ  ยังไงก็ขอบคุณที่คอยติดตามกันมาตลอดนะครับ เรื่องนี้ใกล้จะจบแล้วนะครับ

ฝากเม้นแสดงความคิดเห็นกันได้เลยเดี๋ยวเราจะมาตอบกลับ  คืนนี้ฝันดีครับ  ส่วนเราแอบไปอ่านนิยายคนอื่นต่อก่อนแล้วกัน จุ๊บๆ


 :bye2: o13

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๘ ๒๔/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 24-11-2015 23:02:11
หื้มมมม อีตากฤชนี่มายังไง ชอบบีน?

นึกว่าจะได้สวีทกับโอ๊ตต่อแล้วเชียว



(คุณบิ๊กนี่พ่อพระรองดีเด่นเหลือเกิน~)
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๘ ๒๔/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 25-11-2015 02:26:21
อ้าวเด็กหึงซะแล้ว 55555+
ทำไมบีนมันไม่สู้คนที่มาลวนลามเลยเห็นหลายทีแหล่ะ
กับพวกเด็กๆ เก่งจัง 555555+
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๘ ๒๔/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-11-2015 05:53:35
เราว่าบีนทำถูกนะ. เข้าข้างสุดๆ
เรื่องบอยก็ทำถูก มีระยะห่างแถมชี้ทางให้ อย่าทำให้เขากลายเป็นคนหนีปัญหาเลย ต่อไปจะดูแลใครได้
เรื่องโอ๊ต. ตามเด็กไปเรียนด้วย ไปดูแลก็แค่บทบาทหนึ่ง แต่ในฐานะแฟนต้องยอมแกล้งโง่บ้าง อ่อนแอบ้างให้เขาเอาใจเรา. กราบขอบคุณคุณบิ๊กคอยสนับสนุนหลานสะใภ้มาตลอด อิอิ
อีกเรื่องก็ที่สีลม แก๊งนั้นมีมีดมีปืนมียาหรือเปล่าไม่รู้ตัวคนเดียวอ้อนแอ้นแบบนั้นสู้แรงเขาไม่ไหวหรอก ค่อยๆใช้ไม่อ่อนก็ถูกแล้ว
พอเจอพี่กฤชแล้วรีบชิ่งแต่ก็ใช้ประโยชน์จากการที่เป็นเด็กพี่กฤชเอาตัวรอดมาได้. ที่เหลือก็อ้อนเด็กโอ้ตมันเข้าไป. เอาให้ไปไหนไม่รอดเลย. ฮ่าาาาา. เสร็จบีนหมด. แฟนเก่าก็ดูท่าจะอยากรีเทิร์นนะ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๘ ๒๔/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-11-2015 10:33:08
โอ๊ตระหว่างทางที่กลับ ก็คิดให้ดีก่อนที่จะโกรธบีนเรื่องกฤชนะ
หึงได้แต่ก็ให้รับฟังเหตุผลด้วย เดี๋ยวจะโกรธจนปวดตัวอีก :oo1:
ว่าแต่คุณอายอมรับเรื่องโอ๊ตบีน แล้วคุณปู่คุณย่าน้องโอ๊ตล่ะรู้เรื่องรึยังว่า
หลานชายหาหลานสะใภ้มาไว้รอแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๘ ๒๔/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 25-11-2015 12:24:57
โอ๊ดได้ยินชัวร์ ท่าจะโกรธบีนด้วย ยังงัยก็อย่ารุนแรงกับพี่บีนนะค่ะน้องโอ๊ด^^ :hao3:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๘ ๒๔/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 26-11-2015 13:42:43
หื้มมมม อีตากฤชนี่มายังไง ชอบบีน?

นึกว่าจะได้สวีทกับโอ๊ตต่อแล้วเชียว



(คุณบิ๊กนี่พ่อพระรองดีเด่นเหลือเกิน~)

คุณบิ๊กคือคนที่ดีเกินไปไหมครับ ฮ่าๆ รอดูว่าพี่กฤชแกทำไปทำไม

อ้าวเด็กหึงซะแล้ว 55555+
ทำไมบีนมันไม่สู้คนที่มาลวนลามเลยเห็นหลายทีแหล่ะ
กับพวกเด็กๆ เก่งจัง 555555+

เป็นจุดอ่อนของบีนที่บีนได้บ่นๆให้ฟังในตอนก่อนหน้านู้นนนนนน  ว่า

เจอเด็กกล้าข่ม  แต่กับคนที่แก่กว่านี่ไม่กล้าหือเลย

เราว่าบีนทำถูกนะ. เข้าข้างสุดๆ
เรื่องบอยก็ทำถูก มีระยะห่างแถมชี้ทางให้ อย่าทำให้เขากลายเป็นคนหนีปัญหาเลย ต่อไปจะดูแลใครได้
เรื่องโอ๊ต. ตามเด็กไปเรียนด้วย ไปดูแลก็แค่บทบาทหนึ่ง แต่ในฐานะแฟนต้องยอมแกล้งโง่บ้าง อ่อนแอบ้างให้เขาเอาใจเรา. กราบขอบคุณคุณบิ๊กคอยสนับสนุนหลานสะใภ้มาตลอด อิอิ
อีกเรื่องก็ที่สีลม แก๊งนั้นมีมีดมีปืนมียาหรือเปล่าไม่รู้ตัวคนเดียวอ้อนแอ้นแบบนั้นสู้แรงเขาไม่ไหวหรอก ค่อยๆใช้ไม่อ่อนก็ถูกแล้ว
พอเจอพี่กฤชแล้วรีบชิ่งแต่ก็ใช้ประโยชน์จากการที่เป็นเด็กพี่กฤชเอาตัวรอดมาได้. ที่เหลือก็อ้อนเด็กโอ้ตมันเข้าไป. เอาให้ไปไหนไม่รอดเลย. ฮ่าาาาา. เสร็จบีนหมด. แฟนเก่าก็ดูท่าจะอยากรีเทิร์นนะ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ  รอดูเหตุผลพี่กฤชกันว่ามันจะเป็นยังไง

โอ๊ตระหว่างทางที่กลับ ก็คิดให้ดีก่อนที่จะโกรธบีนเรื่องกฤชนะ
หึงได้แต่ก็ให้รับฟังเหตุผลด้วย เดี๋ยวจะโกรธจนปวดตัวอีก :oo1:
ว่าแต่คุณอายอมรับเรื่องโอ๊ตบีน แล้วคุณปู่คุณย่าน้องโอ๊ตล่ะรู้เรื่องรึยังว่า
หลานชายหาหลานสะใภ้มาไว้รอแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

นั่นสินะ  คุณปู่คุณย่าจะว่ายังไงล่ะทีนี้

ขอบคุณครับ


โอ๊ดได้ยินชัวร์ ท่าจะโกรธบีนด้วย ยังงัยก็อย่ารุนแรงกับพี่บีนนะค่ะน้องโอ๊ด^^ :hao3:

คนที่รุนแรงอาจจะเป็นบีนก็ได้นะ ฮ่าๆ บีนชอบเก่งกับเด็ก

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๘ ๒๔/๑๑/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / บีนโอ๊ต
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 01-12-2015 01:45:18
ดันๆๆๆ รอมาต่ออยู่น่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๙ ๓/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 02-12-2015 23:59:23
ตอนที่ ๒๙

ความเงียบที่อยู่ในห้องผมขณะนี้มันไม่สัมพันธ์กันกับบรรยากาศข้างนอกห้องที่มีแต่คนสนุกสนานกับงานเทศกาลสงกรานต์สักเท่าไหร่   เราสองคนกลับเข้าห้องมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันได้สักพัก  โอ๊ตก็ได้แต่เปิดทีวีดูแล้วเล่นมือถือไปด้วย   จากการเดาของผมน้องคงอยากจะฟังเหตุผลสินะ 

ผมเดินเข้าไปนั่งข้างโอ๊ตก่อนจะดึงมือถือออกจากมือหนุ่มน้อยเบาๆแล้ววาดแขนไปกอดคอ  ขยับตัวมาใกล้ๆกัน

“ เป็นอะไรไป ”

“ พี่คนนั้นเป็นใคร ”

“ แฟนเก่า   ได้ยินหรอว่าเขาพูดว่าอะไร ”

“ พูดดังเสียขนาดนั้น  ไม่ได้หูหนวกสักหน่อย ”  โอ๊ตหน้างอคอหักเป็นปลาทู 

“ โอ๊ต  นั่นแฟนเก่าบีนนะ  แล้วพี่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรจริงจัง  ที่พูดออกไปว่าบีนเป็นเด็กพี่เขาเพราะเขาต้องการจะปกป้องเบีนจากไอ้พวกที่มันนั่งกินเบียร์กันอยู่ตรงนั้น  พอดีบีนก็ยืนรอโอ๊ตนั่นแหละแต่มันมาลวนลามเรา   เข้าใจยัง ”

“ อ้าว  แล้วบีนเป็นอะไรไหม ”  น้องหน้าตาตื่นหันมาถามผม  นี่หายโกรธหรือยัง  “ แล้วจะมั่นใจได้ยังไงว่าพี่คนนั้นไม่อยากจะมาขอคืนดีกับบีน ”

“ มั่นใจสิ  นี่ดูๆจะเปิดเฟสพี่กฤชให้ดูแล้วกัน ”

ผมหยิบมือถือมากดๆเปิดเฟสพี่กฤชให้โอ๊ตดู  ในเฟสถึงแม้จะเป็นคนไม่รู้จักมาเห็นก็รู้ว่ามีแฟนแล้วครับเพราะพี่กฤชแกก็เล่นถ่ายรูปกับแฟนอัพลงเฟสทุกวัน  ผมยังคิดอยู่เลยว่าถ่ายรูปไปเยอะๆไม่เผื่อจะเลิกกันบ้างเลยหรอ  สมัยคบกับผมไม่เห็นเป็นแบบนี้

“ เชื่อยัง ” น้องแย่งมือถือผมไปกดเปิดดูรูปดูสถานะของพี่กฤช  เลื่อนดูจนพอใจก็พยักหน้าหงึกๆน่ารักเสียจริง  ผมอดใจไม่ไหวดึงหน้าโอ๊ตมาจุ๊บปากหนึ่งที

“ ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำหน้าดุ โมโหว่ะ  นึกว่าบีนจะโกหกโอ๊ตอีก ”

“ ไม่หรอกน่า   ว่าแต่เย็นนี้จะอยู่ห้องหรือออกไปเที่ยวต่อดี ”

“ ไปเที่ยวต่อสิ ” โอ๊ตตอบด้วยตาที่เป็นประกาย  เด็กๆนี่มันกระหายการเล่นน้ำสงกรานต์กันขนาดนั้นเชียว



 “ ขอให้คุณปู่  คุณย่า  มีความสุข  สุขภาพแข็งแรง  อยู่กับหลานไปนานๆอยู่จนไปเป็นคุณทวดเลยนะครับ ”

วันนี้วันที่ ๑๔  เป็นวันครอบครัว  ผมกับโอ๊ตกลับมาที่บ้านเพื่อรดน้ำดำหัวคุณปู่คุณย่า  โดยผมได้รดเป็นคนสุดท้ายของบ้านนี้  จะว่าไปก็เขินอยู่นะครอบครัวเขาก็ไม่ใช่   คุณปู่คุณย่าหลังจากฟังผมอวยพรรดน้ำดำหัวแล้วแกก็เอามือชุ่มๆมาพรมที่หัวผมก่อนที่คุณปู่จะพูดว่า

“ บีนเองก็ต้องตั้งใจเรียนนะ  เจ้าบิ๊กมันบอกปู่ว่าเราเป็นเด็กดี  ปู่ก็เห็นดีด้วยเรียนจบแล้วมาช่วยครอบครัวเราทำงานกัน”

“ ขอบคุณครับ ”

“ ย่าก็ขอให้บีนเรียนจบเร็วๆมีร่างกายแข็งแรงเช่นกันนะลูก  แต่ย่าคงได้เป็นทวดแค่ลูกของหนูฟ้าหรอกมั้ง ” ฟ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องก็คือลูกของลุงของโอ๊ตครับ “ ดูแล้วตาโอ๊ตคงมีเหลนให้ย่าไม่ได้ ” ย่าว่าไปพร้อมมองไปทางหลาน  ญาติๆก็หัวเราะกันคิกคัก  นี่เขารู้กันหมดแล้วหรอว่าเราสองคนคบกัน  “ ฝากดูแลเจ้าโอ๊ตหลานรักของย่ากับปู่ด้วยนะหนูบีน ”

“ ขอบคุณครับ ” ผมก้มไหว้ไปที่ตักของคุณย่าทั้งๆที่แก้มยังแดงอยู่บวกกับมือของคุณปู่ก็ลูบๆหัวผมอยู่ก็ยิ่งทำให้น้ำตาเหมือนจะซึมๆออกมาด้วยความปริ่มสุข   

...................................................................................................

บ่ายวันจันทร์ผมนั่งรอโอ๊ตอยู่แถวๆคณะ  วันนี้ผมไม่มีเรียนครับเรียนอีกทีก็สองอาทิตย์ถัดไป   ว่าแต่นี่ผมก็นั่งรอมานานแล้วนะ

“ น้องๆ คณะนี้เขารับน้องกันเสร็จหรือยัง ”

“ เสร็จแล้วนะคะ  นั่นไงพี่เริ่มทยอยออกมากันแล้ว ” ผมมองไปที่เด็กปีหนึ่งหลายๆคนที่ยังใส่ชุดมหาลัยแบบเด๋อๆด๋าๆอยู่เดินออกมาจากห้องประชุม  แล้วโอ๊ตล่ะ
โทรไปก็ติดนะครับ  แต่ไม่รับ  เหมือนน้องจะปิดเสียงไว้  ด้วยความที่ผมยังเป็นคนใจเย็นมากๆเลยนั่งรออยู่ที่เดิมเกือบหนึ่งชั่วโมง  ลุกไปเข้าห้องน้ำก็ยังไม่มาอีก 

“ มาแล้ว ” ผมนั่งก้มเล่นเกมในมือถือก็เงยหน้าขึ้นมาตามเสียงคนทัก

“ ไปไหนมา ”

“ ก็อยู่ข้างในห้องเชียร์นั่นล่ะ   พอดีพี่ๆเขาอยากได้เดือนคณะเลยเรียกเราไป ”

“ แล้วได้เป็นเดือนคณะหรอ”  แฟนผมหล่อขนาดนั้นเลยหรือ

“ เปล่า  คัดไปดูๆไปสัมภาษณ์เกือบสิบคน  แต่โอ๊ตว่าโอ๊ตหล่อสุดนะ ”  โอ๊ตพูดออกมาอย่างมั่นใจ

“ แหวะ  ป่ะๆ  ไปกินข้าวกว่าจะขับรถออกไปกว่ารถจะติด  มานั่งรอตั้งนานรู้ไหมนี่ ”

“ ไม่เอาไม่งอนนะ  เดี๋ยวโอ๊ตเลี้ยงข้าว ”

“ แล้วจะประกาศผลวันไหนล่ะ ”

“ อาทิตย์หน้าก็รู้ ”







¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨


ภาค   ....โอ๊ต....




“ โอ๊ต  ฟังอานะ   พ่อแม่เกิดอุบัติเหตุ  ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ”

ประโยคนี้ผมจำได้ดีและไม่มีวันลืม  พ่อแม่บอกกับผมว่าจะไปทำธุระที่เชียงใหม่  ผมก็ไม่ได้จะอยากไปด้วยเสียเท่าไหร่จึงอยู่บ้านนอนเล่นเกมส์ดีกว่า  ในช่วงปิดเทอมก่อนขึ้น ม.๑ก็อยากจะพักผ่อน  เล่นเกมส์ตามประสาเด็กอายุ ๑๒  แต่อาบิ๊กกลับเดินมาบอกข่าวพ่อแม่ที่ผมก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะนึกว่าอาจจะแค่อุบัติเหตุเล็กน้อยแต่มันไม่ใช่เลย


“ เดี๋ยววันจันทร์แม่ก็กลับมา  เป็นเด็กดีนะลูก ”

คำสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากของแม่  ผมเห็นหน้าพ่อกับแม่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองจะไปเชียงใหม่ในเย็นวันศุกร์แล้วเย็นวันจันทร์จะกลับมา  การที่พ่อแม่กลับมาวันอาทิตย์นั่นแสดงว่ากลับมาก่อนกำหนดแต่มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลยสักนิด  เหตุการณ์ตอนนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วคุณย่าร้องไห้กอดผมที่ดูเหมือนจะนิ่งไปเพราะยังงงๆอยู่ว่าแม่กับพ่อตายแล้วจริงๆหรือ


ภาพของโลงศพที่ตั้งเป็นคู่อยู่ที่ศาลาวัด  ผมในวัย ๑๒  ก็ได้แต่ภาวนาว่านั่นไม่ใช่พ่อแม่ตัวเองหรอกที่นอนอยู่ในนั้น  ผมหันหน้าไปซ้ายขวาพยายามมองหาพ่อแม่เผื่อนี่จะเป็นงานศพคนอื่นแล้วพ่อแม่มาร่วมงานแต่ก็ไม่ใช่อย่างที่ได้หวังไว้


งานผ่านไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับสุขภาพจิตใจผมที่อ่อนแอไปด้วย  ผมนอนฝันอยู่ทุกคืนว่าพ่อแม่กลับมาพ่อแม่ยังไม่ตายแต่ก็ไม่เป็นอย่างในฝัน  ความจริงมันโหดร้ายจนผมต้องย้ายไปนอนกับคุณย่าบ้าง  อาบิ๊กบ้าง  แต่ก็ยังรับความจริงไม่ได้อยู่ดี  ก็คงมีแค่เกมส์ที่ช่วยทำให้ผมลืม


ผมติดเกมส์อย่างบ้าคลั่งจนทำให้นิสัยเปลี่ยน  เปลี่ยนเป็นก้าวร้าว  ดื้อรั้น  เอาแต่ใจมากขึ้น  ผมไม่ยอมเข้าเรียน ม.๑  คุณปู่คุณย่าจะดุจะว่าอย่างไรก็ไม่ฟัง  อาบิ๊กจึงตกลงกับผมว่าจะให้ผมหยุดพักไม่ต้องเรียนแล้วค่อยไปเริ่มเรียนปีหน้าเพราะตอนนั้นมันเลยเวลาเปิดเรียนมาสองสามเดือนแล้วแต่การเล่นเกมส์ของผมมันก็เริ่มน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆด้วยความที่เห็นเพื่อนๆเรียนหนังสือก็เริ่มอย่างเรียนขึ้นมา  คุณปู่คุณย่าท่านจึงส่งผมไปเที่ยวและไปติวที่เมืองนอกก่อนจะกลับมาเรียน ม.๑ ในปีถัดมา


ตอนมัธยมต้นผมรู้ตัวว่าตัวเองเรียนเก่งเลยไม่จำเป็นต้องขยันเรียนหรืออ่านหนังสือทำการบ้านทบทวนให้มาก เลยเอาเวลาส่วนมากไปเที่ยวเล่นเสียจะดีกว่าซึ่งทีแรกผมก็คิดแบบนั้นแต่ก็ลืมไปว่าคะแนนทั้งหมดมันไม่ได้มาแค่จากการสอบปลายภาคเสียหมด  แต่ก็ไม่ทำให้ผมเครียดอะไรมากเพราะบ้านรวยอยู่แล้ว


ความเป็นวัยรุ่นอยากรู้อยากลองมันเริ่มมาตั้งแต่ตอน ม.ต้นแล้วครับ  ถึงจะเรียนโรงเรียนดังแต่ผมก็แอบลองกินเหล้า สูบบุหรี่มาหมดแต่ยังไม่เคยมีแฟนกับเขาเสียที  ถ้าจะบอกว่าครั้งแรกที่อยากมีแฟนก็คือ  ตอนขึ้นม.๔  ในวันเปิดเทอมวันแรก  ผมกลับชอบเด็กผู้ชายด้วยกันเสียอย่างนั้น  เพื่อนผู้ชายที่ผมไปตีสนิทเอามาเป็นเพื่อนในกลุ่ม   เพื่อนคนนั้นชื่อ  มิคกี้  กี้เป็นผู้ชายที่ดูภายนอกน่ารัก  ใส  สะอาด  พูดจาดี  ใจเย็น  ทำให้ผมหลงเป็นเดือนๆก่อนจะมารู้ความจริงว่ากี้มีแฟนอยู่แล้วเป็นนักร้องตามผับแต่ก็ไม่ทำให้ผมลดละเลิก  ผมยังเอาใจใส่ดูแลกี้ดีหมดทุกอย่างระหว่างที่อยู่ในโรงเรียน  ถึงกับเพื่อนคนอื่นผมจะไม่ได้ดีอย่างนี้ก็เถอะนะ  แต่จะทำอย่างไรได้คนมันหลงรักไปแล้ว


ข้อเสียของกี้มันจะเป็นเด็กที่หัวอ่อนไปสักนิด  ปิดเทอมเล็กตอน ม.๔  ผมยังจำได้ว่าแอบเห็นกี้โดนแฟนด่าหลังผับว่าให้กลับได้แล้วอย่าเข้าไปหาเพื่อนอีกแล้วยังโดนแฟนตบหัวอีก   เหี้ยแบบนั้นมันทนได้ยังไงนะ  รู้อย่างนี้ผมจึงทำดีกับกี้มากขึ้นเพื่อที่จะดึงกี้มาเป็นแฟนกับผมแทนที่จะไปเป็นแฟนกับนักร้องเถื่อนๆแบบนั้นแต่กี้ก็ปฏิเสธผมเกือบจะทุกครั้งที่จะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันแค่สองคน


ม.๔  เทอม ๒  ผมกับอาบิ๊กทะเลาะกันเล็กน้อยด้วยเรื่องที่อาจับได้ว่าผมแอบไปเที่ยวผับและก็แอบกินเหล้า  อาบอกให้ผมตั้งใจเรียนแต่ผมก็ไม่ได้จะคิดจะทำตามอาจเป็นเพราะความดื้อรั้นและความคึกคะนองในตอนนั้น  อะไรที่อาห้ามผมทำหมดจนเลยเถิดไปถึงเรื่องผู้หญิง  ในช่วงปิดเทอมจะขึ้น ม.๕  เป็นช่วงที่ผมได้ลองมีอะไรกับผู้หญิงเป็นครั้งแรก  ทำหลายๆครั้งกับหลายๆคนอย่างไม่มีเบื่อด้วยฮอร์โมนที่มันพลุกพล่านขึ้นในขณะนั้นแต่ก็ไม่ลืมที่จะป้องกันนะ     จนอาบิ๊กทำท่าเบื่อหน่ายไม่พูดกับผมอยู่เป็นเดือน



เพื่อนใหม่อย่างนั้นหรือ   ผมทำหน้าเบื่อๆเมื่อครูประจำชั้นพานักเรียนใหม่มาแนะนำหน้าห้องโดยที่ผมไม่สนใจมันเลยสักนิด  แต่ตอนเที่ยงของอีกวันไบท์กลับพาเด็กใหม่มานั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกับเราเสียอย่างนั้น  รู้แค่ว่ามันชื่อ  บีน   อย่างอื่นผมไม่ได้สนใจเพราะดูมันก็ไม่มีอะไรมาก  ถ้าเทียบกับกี้ที่ดูตัวเล็ก  ตัวบาง  ผิวขาวซีด หน้าตาน่ารัก  ตากลมๆ แต่บีนที่ดูมันตัวสูงกว่ากี้หลายเซ็น (แต่ก็ยังเตี้ยกว่าผมอยู่ดี )  ผิวที่ดูปกติไม่ขาว  ออกสีนวลๆ   หน้าตาจัดว่าปกติแต่แอบเห็นว่าในห้องมีคนมาชอบมันเสียแล้ว 


บีนย้ายมานั่งที่ข้างๆผมเพราะวันนั้นผมทะเลาะกับกี้เรื่องพี่แทนไปแต่กลายเป็นว่าบีนก็ต้องนั่งข้างผมถาวรเพราะกี้อยากมีสมาธิในการเรียนมากกว่าจะมานั่งข้างผมซึ่งผมก็กวนกี้อยู่ตลอดเวลาจริงๆ   ผมก็ยอมนะเพราะไอ้เด็กใหม่มันดีตรงที่ว่าช่วยสอนผมทำแบบฝึกหัดแถมยังกึ่งบังคับให้ผมทำการบ้านด้วย  กี้ก็เห็นดีเห็นงามกับมัน  เอาวะกี้ว่าไงก็ว่าตามแล้วกัน


อยู่มาวันหนึ่งเหมือนกี้จะเริ่มอดทนเป็นแฟนกับพี่แทนไม่ไหว  กี้จึงมาบอกผมว่าจะเลิกกับพี่แทน  ความรู้สึกผมตอนนั้นก็ไม่ได้ดีใจอะไรมากแต่กลับเป็นห่วงมันด้วยซ้ำว่าจะโดนพี่แทนมันทำร้ายอะไรหรือเปล่าและก็เป็นตามที่ผมคิดไว้  บอยโทรมาบอกผมหลังจากที่ผมติดต่อกี้และก็บีนไม่ได้มาเกือบหนึ่งวันว่าบีนกับกี้อยู่ที่พัทยา  ทั้งสองโดนลักพาตัวไปแต่บอยก็ไปรับสองคนในคืนนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย   กี้เล่าให้ผมฟังว่าบีนดีกับกี้มากๆช่วยเหลือทุกอย่างแถมยังฉลาดอีกต่างหาก  ซึ่งผมก็คิดว่าอย่างนั้นเมื่อได้รู้จักกับบีนอย่างใกล้ชิดขึ้น  บีนมันเป็นคนดี  ช่วยกลุ่มเราทำงานทำการบ้าน  แถมยังรับฟังปัญหาของผมอีกและผมสังเกตเห็นความตั้งใจของบีนที่พยายามจะพาเพื่อนที่ไม่ค่อยจะดีอย่างผมให้กลับมาสนใจการเรียนให้มากขึ้น


ผมกับบีนเกิดวันเดียวกันเดือนเดียวกันเป๊ะๆ แค่คนละปีกันแค่นั้น  ผม บีน กี้ ไบท์และก็อ๊อฟไปฉลองวัยเกิดด้วยกัน  บีนมันอวยพรให้ผมว่าขอให้ได้แฟนที่น่ารักอย่างที่หวังไว้ซึ่งมันคงหมายถึงกี้  ผมก็ไม่ยอมเลยอวยพรมันด้วยว่า  ขอให้มันได้แฟนเป็นคนที่ชอบช็อคโกแลตให้มันกิน  เราทั้งสองต่างอวยพรให้กันโดยไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร


ผมเริ่มมานอนค้างคืนกับกี้บ่อยๆเพราะกี้ย้ายออกจากห้องพี่แทนนานแล้ว  เราตกลงเป็นแฟนกัน  หลับนอนด้วยกันหลายต่อหลายครั้งแต่มันยิ่งทำให้ผมเศร้าขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่กี้ไม่ค่อยพอใจในกิจกรรมบนเตียงที่เรามีร่วมกัน  มีหลายๆครั้งกี้ก็ขึ้นควบจังหวะเสียเองหรือทำท่าหงุดหงิดเมื่อผมเล้าโลมไม่ได้ดั่งใจ   นี่ผมไม่เก่งเรื่องนี้จริงๆหรอวะ  หรือไม่ก็เรื่องกี้แอบดมขวดเล็กๆสีน้ำตาลที่ผมมารู้ทีหลังว่ามันเป็นสารที่ทำให้เคลิ้มและไม่เจ็บ  ยิ่งทำให้ผมเริ่มจะห่างๆกี้ออกไปหลังอยู่คลุกคลีกันมาเป็นเดือน  กี้ดูไม่น่ารักเหมือนตอนที่เรายังไม่เป็นแฟนกันและเรื่องที่ทำให้ผมตกใจก็คือตอนที่เราไปผับกันแล้วกี้แอบไปคุยกับผู้ชายในซอกแคบๆข้างๆผับเหมือนจะส่งของให้กัน  แถมโดนผู้ชายคนนั้นลวนลามแล้วยังเคลิ้มไปกับเขาอีก  กี้ไม่น่ารักเหมือนที่รู้จักแบบผิวเผินจริงๆจนผมอดไม่ได้จะต้องคุยกับกี้เรื่องนี้ก่อนจะสอบวิชาสุดท้ายในวัดถัดไป  เราทะเลาะกันเรื่องที่กี้มีผู้ชายคนอื่น   จนทำให้ผมตื่นสายเกือบไปสอบไม่ทัน



สอบวันสุดท้ายผมจึงตัดสินใจจะบอกเลิกกับกี้ให้มันจบๆ  ผมว่ากี้พัวพันเรื่องต่างๆหลายอย่างทั้งส่งยา  เสพยา  มั่วผู้ชายซึ่งแต่ก่อนจะมาว่าผมมั่วผู้หญิงเหมือนกันก็ได้แต่ตอนนี้มีแฟนผมก็เลิกไปจนหมดแล้ว   เราขึ้นไปคุยกันที่ดาดฟ้าผมถามกี้ไปหลายๆครั้งว่าเป็นตามที่ผมพูดออกไปจริงหรือเปล่าแต่กี้ก็ปฏิเสธไปสองสามครั้งก่อนจะทนไม่ไหวพูดความชั่ว  ความร้ายกาจของตนเองออกมาจนหมดและยังไปใส่ร้ายบีนว่าบีนเอาข่าวเรื่องที่ตัวเองส่งยามาบอกผมอีกซึ่งผมก็ไม่เห็นว่าบีนมันจะมามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังไง  หลังจากวันนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ตัดเนื้อร้ายออกไปจากตัวแต่ก็ไม่วายเศร้าอยู่ดี


วันต่อมาอาการเสียใจยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆผมจึงตัดสินใจบอกอาว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนแล้วออกไปกินเหล้ากับไบท์จนเมาไม่ได้สติ  มารู้ตัวอีกทีก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของบีน  ผมรู้สึกเวียนหัวโลกหมุนอยู่ตลอดเวลา   มือไม้อ่อนไปหมดแต่ก็อยากอาบน้ำเลยวานให้บีนถอดเสื้อแล้วเช็ดตัวให้   บีนก็ทำให้ผมอย่างไม่รังเกียจซึ่งเรื่องแบบนี้กี้ไม่ทำให้ผมหรอก  ถ้าอยู่ด้วยกันก็คงเมาไปด้วยกันแน่ๆ



ผมรู้สึกดีขึ้นหลังจากบีนเช็ดตัวจึงบ่นเรื่องต่างๆให้บีนฟังและทางนั้นก็ช่วยอธิบายเรื่องต่างๆให้ผมเข้าใจชีวิตเราได้ดีขึ้น  ทำให้ผมไม่ยึดติดกับคนที่จากไปแล้วและคืนนั้นถ้าจะให้ผมทำใจได้จริงๆคงคิดว่าต้องได้นอนกอดบีนที่อุตส่าห์ช่วยเหลือผมทุกอย่างจนถึงวันนี้โดยสัญญากับบีนว่าจะไม่ไปบอกบอยเด็ดขาด  บีนหลับไปในอ้อมกอดผมก่อนที่ผมจะหลุดปากพูดออกไปว่า     

“กูเริ่มชอบมึงแล้วว่ะ กูอิจฉาไอ้บอยจังเลย”
ซึ่งก็ได้แต่หวังว่ามันคงหลับไปแล้วและคงไม่ได้ยินนะ


ในตอนปิดเทอมตอนนั้นเราหกคนไปภาคใต้เที่ยวกันผมก็ไม่วายหาวิธีเข้าไปใกล้ชิดกับบีนทั้งเรื่องเข้าไปช่วยบีนเพราะมันว่ายน้ำไม่เป็น  ล็อคผลจับฉลากให้ผมได้นอนกับบีน  ทำเกือบหมดทุกอย่างและจะมองว่าผมนิสัยไม่ดีก็ได้นะ   ก็คนมันชอบไปแล้ว


และวันเปิดเทอม ม.๕ เทอม ๒  ก็มาถึงแต่กลายเป็นว่าไม่ใช่แค่กี้ที่ลาออกจากโรงเรียน  บอยมันก็ลาออกด้วย  โดยไม่มีเหตุผลกำกับไว้ว่าลาออกทำไม  สุวิทย์ก็โทรหาไม่ติด  บีนยิ่งแล้วใหญ่เพราะได้ข่าวว่ามันติดต่อบอยไม่ได้มาหนึ่งวันเต็มๆแล้วและหลังจากครูประจำชั้นออกจากห้องไปบีนก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแต่ไม่ทันครับ  บีนหมดสติเป็นลมไปแล้ว  ผมจึงได้แบกบีนที่ดูเหมือนจะตัวเบาๆแต่หนักมากขึ้นหลังไปส่งที่ห้องพยาบาล


ผมพยายามช่วยเหลือทุกอย่างนะครับ  พาบีนไปตามหาบอยถึงหอเก่าแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร  ผมจึงช่วยบีนโดยเริ่มเข้าใกล้บีนมากขึ้นเรื่อยๆเพราะความชอบบีนด้วยแหละจึงชวนบีนไปดูหนัง  กินข้าวเย็นด้วยกัน  ตัวติดกันมากขึ้น     บีนก็มียอมบ้างปฏิเสธบ้างและผมก็หึงบีนมากขึ้นเพราะมันก็มีคนมาชอบเยอะเหมือนกัน งบีนมันก็ดูหน้าตาธรรมดาอย่างที่ผมบอกไปตั้งแต่ที่แรกจริงๆแต่พอได้รู้จักกันมันมีอะไรที่พิเศษมากขึ้นที่ช่วยทำให้มันดูดีขึ้นในพริบตา   


ผมยอมเอาใจปลอบใจบีนเหมือนที่บีนปลอบใจผม   ยอมไปนอนกับบีนบ่อยๆถึงมันจะเรียกว่าผมต้องการกับนอนกับบีนเองก็เถอะ   และคำพูดก่อนนอนในคืนนั้นที่ผมบอกว่า

“  กูเต็มใจ  นอนเถอะบีน  กูจะกอดมึงไว้ทั้งคืนไม่หนีหายไปไหน ”
ผมก็ได้รู้ถึงปฏิกิริยาของบีนที่ไม่กล้าตอบสนองความหวังดีของผมเสียเท่าไหร่แต่มันทำให้ผมรุ้ได้ว่าบีนหวังดีเพราะไม่อยากเอาผมไปเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้บีนลืมบอยได้


แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อดไม่ไหวจูบบีนไปในคืนที่เราไปทำรายงานสังคมกันที่บ้านผม  ผมคิดไว้ว่าบีนคงโกรธแน่ๆแต่ไม่เลยบีนไม่โกรธ  จะมีก็แค่ตกใจเล็กๆ  ทำให้ผมเอามาคิดเข้าข้างตัวเองว่าบีนก็คงมีใจให้ผม


การที่บีนขัดขืนผมบ่อยๆ ผมกลับมองว่าน่ารักดีนะ  ยิ่งตอนไปเที่ยวเขาค้อคือบรรยากาศมันดีมาก  เรานอนกอดกันทุกคืน  กอดแน่นๆกับอากาศหนาวๆจนทำให้ผมเลยเถิดจะขอมีอะไรกันกับบีนแต่บีนก็ห้ามเอาไว้ก่อนพร้อมกับเหตุผลต่างๆนานาที่ผมต้องกลับไปคิดทบทวนใหม่ว่าบางเรื่องเราก็ต้องหักห้ามเอาไว้บ้าง


แต่กลายเป็นว่าต่อมาผมไม่รู้ตัวเองว่าเป็นอะไรครับ  อยู่ดีๆก็หวิวๆอาจเป็นเพราะตอนที่ไปเดินเล่นสวนสาธารระแล้วก็คิดถึงพ่อแม่ขึ้นมาเลยพูดกับบีนไปในทำนองว่าอย่าทิ้งผมไปไหนนะและช่วงนั้นอยู่ดีๆกี้ก็โทรมาหาผมบอกอยากคุยเรื่องสำคัญเสียอย่างนั้นแต่ทางบีนก็อ้อนผมบอกไม่ให้ไป  แล้วผมจะไม่เชื่อบีนได้ยังไงจนเราสองคนต้องหาสิ่งที่มายึดเหนี่ยวเราไว้ว่าจะเชื่อใจกันคือการเป็นของกันและกันโดยยินยอมกันทั้งสองฝ่าย



และวันที่ทำให้ผมสับสนที่สุดในชีวิตนับตั้งแต่พ่อแม่เสียไปก็มาถึง  เมื่อบีนบอกว่าตัวเองไม่ใช่เด็กมัธยมเสียอย่างนั้น  บีนบอกว่าต้องปลอมตัวมาช่วยผมให้ผมกลับไปเป็นเด็กดี  ผมก็ได้แต่ถามซ้ำๆว่ามันโกหกหรือเปล่าแต่ไม่เลย  มันคือเรื่องจริงทั้งหมด  ผมผิดหวังและดูเหมือนตัวเองโง่ไปหมดจนอาบิ๊กมาบอกว่าอาเป็นคนจ้างบีนเอง


“ อาเป็นคนจ้างเขามาเอง ”  อาบิ๊กเดินตามผมเข้ามาในห้องนอนหลังจากที่เรากลับจากคอนโดบีน

“ อาทำแบบนั้นทำไมครับ ”

“ อาขอโทษ  ถ้าเรื่องนี้มันจะผิดอาขอรับผิดทุกอย่างเอง  อาขอโทษที่ดูแลโอ๊ตไม่ดีแต่อาก็อยากจะชดเชยโดยหาเพื่อนที่อาไว้ใจไปให้ ”

“ แต่เพื่อนที่อาไว้ใจให้มาเป็นเพื่อนผมเขาจะจริงใจเป็นเพื่อน ไม่สิ  ตอนนี้บีนเป็นแฟนกับผมแล้ว   อาคิดว่าเขาจะจริงใจกับผมหรือครับถ้าไม่ทำไปก็เพราะเงิน ”

“  โอ๊ตฟังอานะ  ทุกอย่างในโลกนี้ก็อยู่ได้ด้วยเงิน  ถ้าไม่มีเงินจะเอาอะไรกิน  เราอาศัยในเมืองใหญ่นะ  อายอมรับแทนบีนแล้วกันว่าตอนแรกเขาอยากได้งานทำแต่พอได้งานนี้มาบีนก็ทำมันเต็มที่   ถ้าหากโอ๊ตจะไปมองว่าเขาไม่เต็มใจแล้วแม่บ้านที่บ้านเราที่เขารับใช้เราอยู่ทุกวันก็คงไม่เต็มใจทำอาหารให้เรากินทุกวันหรอกนะ   การทำงานมันก็ต้องมีใจรักและบีนเขาก็รักโอ๊ตนะ  คิดดูให้ดีแล้วกัน ”

ผมใช้เวลาคิดนานพอสมควรโดยไม่ยอมคุยกับบีนตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์  ไม่ใช่ไม่คิดถึงนะครับ  ผมคิดถึงและอยากเข้าไปกอดและบอกว่าผมเข้าใจแล้วมาก  ผมยอมรับในตัวบีนที่อาจจะแก่กว่าผมแต่ก็ไม่ทำให้ความชอบลดน้อยลงเพราะบีนเป็นคนเก่ง  มีความคิดที่ดี  เป็นคนดี  คนแบบนี้ผมคงไม่อยากปล่อยไปง่ายๆ  ผมใช้เวลาคิดและอยู่กับตัวเองจนถึงวันศุกร์อาบิ๊กจึงมาบอกกับผมว่า  ถ้าคิดถึงมากก็ไปหาเขาสิ  อารู้นะว่าเรานอนไม่หลับ   พูดแค่นี้ผมก็แอบออกไปหาบีนตอนกลางคืน  คืนแรกผมก็ไม่พูดมากเพราะยังไม่รู้จะแทนตัวเองว่ายังไงปกติก็เรียกบีนว่า มึง  แทนตัวเองว่า  กู  เกือบจะทุกครั้งและคืนต่อมาผมก็เลยต้องยอมสยบกับรสรักที่บีนได้มอบให้  แล้วผมก็สนองไปเสียจนตื่นมามีไข้นิดๆ

ผมอยากบอกว่าการเจอกับบีนเป็นอะไรที่พิเศษในชีวิต  บีนมีทั้งในส่วนของตอนเป็นเด็กมัธยมและตอนเป็นผู้ใหญ่ที่ผมได้เห็นทั้งสองด้านเหมือนเราได้โตมาด้วยกันและการที่บีนอยู่เคียงข้างผมมาเสมอไม่ว่าจะออกจากโรงเรียนไปทำงานที่บริษัทแต่ก็ไม่เหนื่อยที่จะมาช่วยและเป็นกำลังใจให้ผมในการนั่งอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยและผมเองก็เป็นคนเสนอความคิดว่าอยากให้บีนต่อปริญญาโทให้กับอาบิ๊กเองซึ่งอาก็เห็นด้วยเพราะในอนาคตถ้าผมไปทำงานที่บริษัทผมอยากให้บีนมาเป็นผู้ช่วยผมและเราก็จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป


ตอนนี้ผมมองบีนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของผมจนแขนผมเหน็บกินชาไปหมดแต่ก็ไม่บ่นสักคำเพราะเราอยู่ด้วยความเข้าใจกัน  ปัญหาต่างๆที่มันจะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิตก็คงต้องแก้ไขช่วยกัน   ผมก็มั่นใจว่าบีนจะช่วยผมและผมก็จะช่วยบีนทำให้ความรักของเราอยู่กับเราไปนานแสนนาน


...




ติดตอนง้อกันมานิดหน่อยในตอนแรกๆและทั้งตอนก็เป็นความรู้สึกของโอ๊ตโดยรวมๆนะครับ 

ฟังจากมุมพระเอกที่ตอนแรกไม่ค่อยจะมีคนเก็งว่าเป็นพระเอก ฮ่าๆ ก็ได้จะอีกมุมแต่มาแบบรวบๆนิดๆนะครับ



สำหรับตอนหน้าก็จะจบแล้วอย่าลืมเข้ามาอ่านกันต่อเน้อ  ตอนที่ ๓๐ ตอนจบไม่เกินวันที่ ๙ แน่นอนเพราะหลังจากนั้นเราติดธุระยาวววววว

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ  สัญญาว่าจะตอบเม้นกลับเหมือนทุกครั้งเช่นเดิม  ไม่เจอกันนานคิดถึงและขอโทษที่หายไปนานเป็นอาทิตย์   :mew1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๙ ๓/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-12-2015 00:16:36
 :katai2-1:   โอ๊ตเป็นเด็กดีจริงๆด้วยน่ารักๆๆๆๆๆ
ขอบคุณมากๆค่ะใหล้จบแล้วเน้อ ขออย่าให้มีเรื่องผิดใจกันอีกเลย ทางบ้านก็ไฟเขียวแล้ว
ฟินค่ะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๙ ๓/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-12-2015 07:56:42
ถ้าจบแล้วขอตอนพิเศษ หลังโอ๊ตอยู่วัยทำงานนะคะ :D
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๙ ๓/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-12-2015 10:30:43
ถ้าจะบอกว่าตอนหน้าจบแล้วเราแค่สงสัยโอ๊ตจะได้เป็นเดือนไหม
แล้วชีวิตในรั้วมหาลัยของทั้งคู่จะเป็นยังไง คนหนึ่งเรียนป.ตรี อีกคนเรียนป.โท
จะมีมือที่สามมาทำให้วุ่นวายหรือเปล่า
คนแต่งจะใจดีช่วยเราให้หายสงสัยได้หรือเปล่า :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๙ ๓/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 03-12-2015 10:59:50
คู่นี้หวานๆ ง๊องแง๊งกันหน่อยๆ เป็นรสชาติชีวิตคู่
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๒๙ ๓/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 04-12-2015 00:05:04
:katai2-1:   โอ๊ตเป็นเด็กดีจริงๆด้วยน่ารักๆๆๆๆๆ
ขอบคุณมากๆค่ะใหล้จบแล้วเน้อ ขออย่าให้มีเรื่องผิดใจกันอีกเลย ทางบ้านก็ไฟเขียวแล้ว
ฟินค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ
โอ๊ตมีเขวแค่ตอนวัยรุ่นแรกๆนั่นแหละครับ


ถ้าจบแล้วขอตอนพิเศษ หลังโอ๊ตอยู่วัยทำงานนะคะ :D

มีให้แน่นอนครับ รอหน่อยนะครับ

ถ้าจะบอกว่าตอนหน้าจบแล้วเราแค่สงสัยโอ๊ตจะได้เป็นเดือนไหม
แล้วชีวิตในรั้วมหาลัยของทั้งคู่จะเป็นยังไง คนหนึ่งเรียนป.ตรี อีกคนเรียนป.โท
จะมีมือที่สามมาทำให้วุ่นวายหรือเปล่า
คนแต่งจะใจดีช่วยเราให้หายสงสัยได้หรือเปล่า :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ตอนหน้าจะเคลียร์ให้หมดแน่นอนครับ ขอบคุณนะครับ

คู่นี้หวานๆ ง๊องแง๊งกันหน่อยๆ เป็นรสชาติชีวิตคู่

เด็กมันน่ารักก็งี้แหละเนาะ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน (ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 09-12-2015 00:52:13
ตอนที่ ๓๐

ผมนั่งอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายในหอประชุม  วันนี้เป็นวันประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยหลังจากเปิดเทอมมาเกือบสองเดือนได้  ส่วนโอ๊ตนะหรอ  ไม่ได้เป็นเดือนคณะหรอกครับ  โอ๊ตมาบอกกับผมว่ามันได้ที่สอง  ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าแต่น้องมันต้องมาเชียร์กับทางคณะเมื่อเย็นเราเลยมาที่นี่ด้วยกันแต่ก็ต้องแยกกันเพราะน้องไปนั่งกับทางพี่เลี้ยงดาวเดือนคณะตัวเอง   หลังจากเสร็จงานผมก็รอน้องอยู่แถวๆหอประชุมแต่ก็ไม่วายเจอสิ่งที่ไม่อยากเห็นนั่นคือ  รุ่นพี่คนที่เป็นพี่เลี้ยงดาวเดือนแทนที่จะไปดูดาวเดือนแต่กลับมาเกาะแกะโอ๊ต   ผมรู้มาสักพักแล้วล่ะเพราะโอ๊ตบอกแต่โอ๊ตก็คงมีวิธีจัดการเองอยู่หรอก  คงไม่ต้องให้รอดมาถึงมือผมและผมก็ชินชาไปกับเรื่องแบบนี้เอง

การเรียนของผมและโอ๊ตออกไปในแนวๆช่วยๆกันมากกว่า  ถ้าวันว่างๆเสาร์อาทิตย์เราจะไปอ่านหนังสือด้วยกันที่ห้องสมุดหรือไปนั่งเปลี่ยนบรรยากาศทำงานในร้านกาแฟ  จะมีในช่วงสอบบ้างที่โอ๊ตต้องแยกไปอ่านกับเพื่อนหรือเวลาผมทำงานวิจัยกลุ่มก็ต้องแยกไปทำงานกับเพื่อนที่รู้จักกันตอนเรียนป.โท   ซึ่งเรียนโทมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คนอื่นบอกไว้จริงๆครับผมใช้เวลาเรียนเกินมา ๑ ปีหรือเรียกง่ายๆ  เรียน ๓ ปีถึงจบ  ทำเอาซะใจหายใจคว่ำเกรงใจคุณบิ๊กก็เกรงใจ  คงมีแต่โอ๊ตที่ดีใจที่ผมได้เรียนต่ออีกปีหนึ่งแต่มันไม่สบายผมนี่สิ  บางช่วงที่แก้ Thesis แทบจะไม่เจอกันเลยผมเจอแต่อาจารย์ประจำวิชาที่ก็มีท่าทางชอบพอผมจนแกกลัวผมไม่จบก็ยอมช่วยนิดๆนิดเดียวนะจริงๆนะแต่ไม่มากและก็ไม่วายเกิดเรื่องจนได้เมื่อโอ๊ตจับได้ว่าผมแอบไปกินข้าวกับอาจารย์กว่าจะง้อกว่าจะเข้าใจกันก็โดนงอนไปเกือบหนึ่งอาทิตย์

หลังจากที่ผมเรียนจบผมก็เข้าไปทำงานในแผนกของคุณบิ๊กแถมทำในตำแหน่งที่สูงกว่าแต่ก่อน  เงินเดือนเยอะกว่าแต่งานไม่หนักมากเพราะเป็นหัวหน้าเขาอีกทีเลยกลายเป็นว่าโอ๊ตไม่มีผมไปเรียนด้วยเหมือนแต่ก่อน   บางทีคนที่เข้ามาหาโอ๊ตก็นึกว่าน้องมันโสดแล้วไม่เห็นมีแฟนไปอ่านหนังสือหรือทำงานทำการบ้านด้วยก็เข้ามาจีบเข้ามาคุยมันก็ลำบากโอ๊ตไปที่ต้องปฏิเสธแต่ถ้าคนไหนที่พุ่งเข้าหามากๆผมก็ต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง

เรื่องความรักของเรามันไม่ได้จืดจางไปไหนเลยสำหรับสี่ห้าปีที่คบกันมาถึงจะมีคนมาพยายามแย่ง  ยุแยงตะแคงรั่วก็เถอะแต่เราก็ยังมั่นคง   อาจเป็นเพราะไม่ได้พักอยู่ด้วยกันจึงรู้สึกคิดถึงหรือตื่นเต้นที่ได้เจอกันตลอดเวลา

เวลาผ่านไปอีกปี   ผมมองโอ๊ตผ่านเลนส์กล้องโปรที่ผมเองก็ใช้ไม่เป็นหรอกแต่ไปยืมคุณบิ๊กมาถ่ายรูปน้องรับปริญญา  วันนี้ดูโอ๊ต  คุณบิ๊กและคุณปู่คุณย่ามีความสุขกับหลานที่ประสบความสำเร็จและก็มีมาขอบใจผมบ้างที่คอยดูแลหลานให้  โอ๊ตบอกผมว่าหลังจากนี้จะเข้าไปทำงานบริษัทแล้วจะเรียนปริญญาโทเสาร์อาทิตย์ควบคู่ไปด้วย  ทีแรกคุณอายังหนุ่มกะจะให้ไปเรียนนอกแต่โอ๊ตก็คงไม่ยอมให้เราห่างกันแน่ๆคุณบิ๊กจึงยอมให้หลานเรียนที่ไทยต่อ   คุณบิ๊กเองแกก็ขึ้นตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัวแทนคุณปู่ที่ไปเป็นที่ปรึกษาบริษัทแทนและให้โอ๊ตเข้ามาเป็นกรรมการบริหารบริษัทก่อนซึ่งก็ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบมากเพราะแกคงอยากฝึกๆหลานไปด้วยและให้เรียนไปด้วย


“ เฮ้ออออ ”  โอ๊ตบิดขี้เกียจทันทีที่เดินเปิดประตูเข้ามาที่ห้องผม

“  นึกว่าโอ๊ตจะไปกินข้าวที่บ้าน ” ผมที่กลับมาจากบริษัทก่อนตั้งแต่สี่โมงเย็นกลับมาก็กินโน่นกินนี่คนเดียวไม่ได้ทำอะไรไว้เผื่อโอ๊ตที่พึ่งจะปรับตัวกับการทำงานในอาทิตย์แรกและเลิกช้ากว่าคนอื่นไปเกือบสองชั่วโมง

“ ก็อยากมากินกับบีนไง   มีอะไรให้กินหรือเปล่า ”

“ หมดแล้วมีแค่นม   สิ้นเดือนพอดีบีนยังไม่ได้ไปซื้อของ ”

“ แล้วถ้าเป็นนมนี้ล่ะ  ดูดได้หรือเปล่า ” โอ๊ตกระโจนเข้ามากอดผมพร้อมกับเอามืออีกข้างมาบีบนมผมเบาๆ  นี่มันเจ็บนะ

“ ไม่  พอๆ ”

“ โอ๊ตเครียดว่ะ  อยากหาอะไรผ่อนคลายทำ   นะๆ ” ก็แบบนี้ทุกทีถึงเราจะไม่ได้เล่นกันบ่อยๆเหมือนสมัยมัธยมด้วยภาระหน้าที่แต่ก็ไม่ได้ไม่ทำอะไรกันเลยเสียทีเดียว 

...........................................................................................
 


วันนี้เป็นวันเกิดของป่าน  ผมรีบกลับมาจากที่ทำงานกลับมาแต่งตัวกับห่อของขวัญเพราะลืมให้ทางร้านที่ไปซื้อห่อให้จึงต้องมาห่อกระเป๋าสตางค์ที่เห็นมันบ่นๆว่าอยากได้  งานวันเกิดป่านมันเลือกไปจัดที่ร้านเหล้า  เป็นร้านประมาณนั่งกินชิวๆสบายๆ ผมเดินลงจากแท็กซี่แล้วหยิบมือถือโทรบอกโอ๊ตว่ามาถึงร้านแล้วคงจะกลับดึกหน่อยแต่ไม่ต้องเป็นห่วง  ทางนั้นก็ไม่ว่าอะไรแต่บอกกับผมว่าให้ไปบอกเพื่อนๆในกลุ่มว่าถ้าผมเมาให้โทรหาโอ๊ตให้มารับ  รอบคอบดีจริงๆ

“ อ้าว  มึงทางนี้ ”  ป่านเรียกผมเบาๆเพราะผมเดินเซ่อซ่าหาเพื่อนๆไม่เจอ

“ อ่ะ  ของขวัญ ”

“ ขอบคุณมึงมากบีน ”



“ อ้าว   ชนนนนนน ”

หลังจากเป่าเค้กให้ของขวัญเราก็ชนแก้วเหล้าไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งทั้งเพื่อนของป่านและเพื่อนๆที่ผมรู้จักหกเจ็ดคนนี่มีแต่คนคอแข็งๆกันทั้งนั้น  มีแค่ผมที่แอบเทเหล้าใต้โต๊ะบ้างล่ะ  แอบเทโซดาให้แก้วเต็มอยู่ตลอดเวลาบ้างล่ะเพราะกลัวเมา

“ กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะนัท ”  ผมบอกนัทไปก่อนจะลุกขึ้นไปฉี่    ขากลับผมเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะเจอกับผู้ชายที่ทำให้ผมมีปัญหาเล็กๆกับโอ๊ตไปช่วงหนึ่ง

“ สวัสดีครับ  น้องบีน  นั่งตรงไหนหรอครับ ”

ปฏิเสธหรือเลี่ยงไม่ได้จริงๆครับ “ สวัสดีครับอาจารย์กร ”

“ บอกแล้วไงว่าเรียกพี่กรก็ได้ ”

“ มันไม่ชินนี่ครับ  ผมนั่งอยู่มุมทางนู้นครับโต๊ะที่มีผู้หญิงเยอะๆ ” ผมชี้ให้อาจารย์กรดูก่อนเจ้าตัวจะเอื้อมมือมาบีบที่ไหล่ผม

“ ไม่เจอหลายเดือนเลย  ทักไปในไลน์ก็ไม่ตอบ  สบายดีใช่ไหม ”

“ ครับ   อย่างนั้นผมขอตัวนะครับ ”

“ เดี๋ยวสิ ”  มืออาจารย์ยังจับแขนผมอยู่  “ พี่ขอไปนั่งด้วยนะ  พอดีพี่มาคนเดียว ”

“ เอ่อ ” ผมยืนเอ๋ออยู่แต่เจ้าตัวเดินไปใกล้จะถึงโต๊ะผมแล้ว
“ สวัสดีครับพี่เคยเป็นอาจารย์ของบีนพอดีมาคนเดียวขอนั่งด้วยนะครับ ”
ทั้งโต๊ะมองมาที่ผมคนเดียว  ผมก็ได้แค่ยิ้มแห้งๆให้เพื่อนๆแล้วก็นั่งลงตาม  สถานการณ์ก็เป็นไปตามปกติเหมือนไม่มีอาจารย์กรมานั่งอยู่ด้วย
“ ไม่เห็นดื่มเหมือนเพื่อนเลย  ไม่ชอบหรอ ”  เกลียดการกระซิบใกล้ๆกับหูมากทั้งๆที่เพลงในร้านก็ไม่ได้เสียงดังมาก

“ ไม่ครับ  กลัวเมา ”

“ พี่คะ  เพื่อนหนูมีแฟนแล้วนะอย่าไปใกล้เลย  เดี๋ยวแฟนเด็กมันหวงนะ ” ขอบคุณนะป่านที่ช่วย

“ อ้าวหรอ  ยังคบกันอยู่หรอนี่พี่นึกว่าเด็กนั่นจีบเราเล่นๆ ”

“ คบกันมานานก่อนหน้านั้นแล้วครับ ” ผมตอบอาจารย์ไปเป็นการยืนยันอีกหนึ่งที

“ เถอะน่าไม่ต้องคิดมากเมาเดี๋ยวพี่ไปส่งเอง    อ้าวชนครับน้องๆ ชนบีน ”

เพื่อนๆก็ไม่ได้ห้ามอะไรกันเลยครับ  ตามประสาคนไม่ได้กินเหล้ามานานผมก็เริ่มจะตึงๆบ้างแล้วและอีกชั่วโมงกว่าพวกเราก็เริ่มทยอยกลับจนเหลือผม  อาจารย์กร  ป่านและก็นัท

“ เอ่อ  เดี๋ยวพี่พาบีนกลับเองก็ได้พี่พอจะรู้จักคอนโดบีนอยู่ ”  อะไรนะอาจารย์จะไปส่งผมหรอ  แต่ป่านมันโทรบอกโอ๊ตให้มารับผมแล้วนี่นา  ผมทำอะไรไม่ค่อยได้ครับตอนนี้จะยืนเต็มตัวก็ยังลำบากแต่ยังได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่  ตายังมองชัดแต่ยืนไม่ไหวเท่านั้นเอง

“ แต่แฟนบีนจะมารับนะพี่รอหน้าร้านก่อนก็ได้ค่ะ ”

“ อย่างนั้นน้องไปส่งเพื่อนเลยก็ได้ครับ  เดี๋ยวพี่จะอยู่เป็นเพื่อนบีนก่อน ”

“ ค่ะอย่างนั้นก็ได้ ”  ป่านตอบอาจารย์กรไปก่อนจะหิ้วปีกนัทไปอีกคน

“ ป่าน  อย่าพึ่งปายยย ”  ป่านทำไมเชื่อคนง่ายจัง  แล้วผมทำไมต้องพูดยานคางขนาดนั้นด้วยนะ  ไม่ชอบตัวเองตอนเมาเสียจริงๆ

“ ป่ะๆ บีน ”

“ อื้อจะไปไหน  ผมจะรอแฟนมารับครับอาจารย์ ”

“ ไปกับพี่เถอะน่า  นะๆ ”

“ ไม่อาววว ” ไม่ไหวครับผมโดนแกอุ้มพาดบ่าออกจากหน้าร้านไปแล้ว   พอถึงรถแกก็เปิดเบาะหลังแล้วจับผมยัดเข้าไป

“ นี่อาจารย์จะทำอะไร ”

“ เดี๋ยวก็รู้ ”  ตามประสาคนเมาผมหัวแตะที่นั่งข้างหลังก็เผลอหลับไปโดยอัตโนมัติ  มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แกจอดรถ

“ ฮึบ  อย่าดิ้นๆ ”

“ ปล่อยสิ ”

“ เออน่า  เดี๋ยวก็ได้นอนแล้วครับพี่เปิดห้องก่อน ”  นี่ไม่ใช่คอนโดผมนี่นา  ผมพยายามผงกหัวเงยหน้าขึ้นก็เจอรถอาจารย์แต่หลังรถอาจารย์นั่นมันเป็นม่านสีดำ

“ เฮ้ย  ปล่อย ” อาจารย์แบกผมเข้ามาในห้องก่อนจะเหวี่ยงผมลงเตียงแล้วเดินไปปิดประตู  เดินกลับมาอีกทีแกก็ถอดเสื้อเชิ้ตออกเรียบร้อย  “ อาจารย์อย่า ”  ผมพยายามคลานลงเตียงแต่ก็ไม่วายโดนแกดึงเท้ากลับขึ้นไป  หัวก็ปวด  โลกก็หมุนติ้วๆ  เคลื่อนตัวก็ช้า  ผมสู้แรงคนไม่เมาไม่ได้หรอกครับ

“ อืม  ซีด   ทำไมผิวเนียนจังครับหืม ”  อาจารย์แกใช้ลิ้นเลียไปตามซอกคอผมไปเรื่อยๆจนถึงใบหูแต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงเคาะประตูดัง ปัง ปัง  อาจารย์กรหงุดหงิดก่อนลุกขึ้นกำลังจะเปิดประตูแต่ไม่ทันแล้วประตูโดนถีบเข้ามาจนพัง

“ เฮ้ย  มึงทำอะไรบีน ”  โอ๊ต   โอ๊ตซัดหมัดไปที่หน้าอาจารย์หลายครั้งก่อนจะถีบแกจนล้มสลบไปแล้วเดินมาที่เตียงกับพนักงานอีกคนประคองผมขึ้น



“ โอ๊ต  โอ๊ตจริงด้วย ”

“ กลับคอนโดกันบีน ”  โอ๊ตพาผมที่ได้สติบ้างไม่ได้สติบ้างกลับคอนโดจับผมถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงในแล้วประคองผมเข้าไปใต้ฝักบัว  น้ำที่ไหลเป็นฝอยแรงๆช่วยทำให้ผมสร่างเมาขึ้นผมจึงดึงโอ๊ตที่ยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้ามาเปียกด้วยกัน

“ ขอโทษนะที่ทำให้เกิดเรื่อง ”

“ ไม่มีใครผิดหรอกบีน  แต่ไปต้องระวังนะ  ดีที่โอ๊ตเห็นมันตอนแบกบีนขึ้นรถพอดีแต่ขอโทษนะที่ตามไปช้า  โอ๊ตติดไฟแดงไปช่วงหนึ่ง ”

“ บีนกลัวว่ะ   ตอนนี้ดีขึ้นแล้วล่ะ  อาบน้ำให้บีนหน่อยนะ ”  ผมลูบกล้ามหน้าท้องและหน้าอกของโอ๊ตผ่านเสื้อเชิ้ตที่เปียก  ทำไมมันดูเซ็กซี่แบบนี้นะ  คนข้างหน้าก็เริ่มหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ทนไม่ไหวจนต้องดึงหน้าโอ๊ตมาจูบหนักๆหนึ่งทีพร้อมกับเอามือไปบีบคลึงเป้าโอ๊ตเบาๆ

“ มันทำตรงไหนบีนบ้างล่ะ  โอ๊ตจะได้ลบรอยตรงนั้นให้ ”

“ มีแค่ตรงคอและก็ตรงหู   แต่ทำให้บีนทั้งตัวเลยได้เปล่า ”  ตายๆ ต้องเมาจริงๆผมถึงพูดยั่วแบบนั้นไปได้และเราสองคนก็สร้างรอยผูกพันซึ่งกันและกันในห้องน้ำจนตื่นเช้ามาก็จามเป็นหวัดกันทั้งคู่



...




หลังจากโอ๊ตเรียนจบก็ได้ช่วยงานของประธานบริษัทมากขึ้นเพราะว่าตอนนี้ประธานบริษัทกำลังจะมีแฟนครับ  ใช่แล้วครับคุณบิ๊กกำลังจีบโปรดิวเซอร์สาวสวยของค่ายเพลงชื่อดัง  นี่ตกลงคุณบิ๊กเป็นผู้ชายนะไม่ใช่เกย์  ที่แกเคยชอบผมเพราะคงหลงผิดแน่ๆ
 
ไม่รู้ว่าคุณบิ๊กจะลงเอยหรือแต่งงานกันกับแฟนแกเมื่อไหร่เพราะอีกปีสองปีคุณบิ๊กก็ขึ้นเลขสี่แล้วแต่ที่แน่ๆ  ตอนนี้หลานอย่างโอ๊ตก็แซงหน้าอาตัวเองไปก่อนแล้วครับ  เราตัดสินใจจัดงานหมั้นกันในเช้าวันที่อากาศสดใสไม่ร้อนไม่หนาวที่บ้านโอ๊ต  แขกมาร่วมงานเป็นสักขีพยานกันเยอะพอสมควร  มีนักข่าวมาทำข่าวด้วยผมนี่อายแทบแย่  แม่กับน้องผมก็มานะ  สองคนนั้นยิ่งดีใจใหญ่เพราะข่าวผมดังในโลกออนไลน์อยู่ช่วงหนึ่ง  สินสอดที่ได้รับผมก็ยังไม่ดีใจเท่ากับทุกคนในบ้านโอ๊ตยอมรับและเข้าใจผมและรักครอบครัวผมด้วย 

ส่วนตอนเย็นก็เป็นงานเลี้ยงที่สวนหลังบ้านเป็นงานแต่งแบบง่ายๆที่ผมอยากให้จัดนั่นเอง  วันนี้ผมกับโอ๊ตบอกกันและกันว่ามีความสุข  เราสองยิ้มให้แขกที่มาร่วมงานด้วยความอิ่มใจ  สุดท้ายวันนี้มันก็มาถึงจนได้  ไม่นึกไม่ฝันครับว่าจะเป็นจริงกับเกย์อย่างผมที่คิดว่าชีวิตคู่มันไม่แน่นอนแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว  ผมในวัย ๒๙ ยืนจับมือกับเจ้าบ่าววัย ๒๕ บนเวทีร้องเพลงคู่กันมองตากันและกันเป็นสัญญาณว่าเราจะรักกันตลอดไป




ติ้ง


เสียงไลน์เตือนในมือถือผมว่ามือข้อความเข้า  ผมกดดูแล้วเป็นบอยส่งวิดีโอมาให้เป็นภาพของลูกสาวบอยที่เรียนอยู่อนุบาล ๓  กำลังวาดรูประบายสีอวดคุณพ่ออยู่  ผมส่งข้อความกลับไปว่า  ว่างๆก็พาลูกมาเที่ยว กทม.นะ  ผมเก็บมือถือแล้วลงไปหาโอ๊ตที่นั่งกับน้องนายลูกชายของพี่ฟ้าพี่สาวโอ๊ต (ลูกพี่ลูกน้อง) อยู่ห้องรับแขก

“ สวัสดีครับน้องนาย   ตื่นเช้าจังเลยวันนี้ ”  ผมทักทายเด็กชายนายวัยสองขวบไป

“  เดี๋ยวเอาน้องนั่งตักนะโอ๊ต  เดี๋ยวฟ้าถ่ายรูปให้  บีนขยับไปนั่งใกล้โอ๊ต ”
พี่ฟ้าสั่งให้เราสามคนถ่ายรูปด้วยกัน  ผมชูมือเด็กเป็นเชิงหยอกเล่น 

“ อีกรูปนะ ”

“ จุ๊บ  จุ๊บ ” 

“ เป็นไงติดไหมพี่ฟ้า ” โอ๊ตหันหน้ามาจุ๊บแก้มผมสองทีตอนที่พี่ฟ้ากดถ่ายภาพ

“ บ้าโอ๊ต  อายพี่เขา ”

“ อาทำอารายหยอ ” น้องนายถามอย่างสงสัย  น่ารักเสียจริงผมจับน้องมาหอมแก้มฟัดสักสองสามทีก่อนจะส่งตัวเล็กคืนแม่ไป

“ ฮ่าๆ ทำอะไรเกรงใจหลานบ้างสิโอ๊ต  ป่ะน้องนายไปทานข้าวกันครับ ” พี่ฟ้าพาลูกไปกินข้าวในครัวตอนนี้เหลือแค่โอ๊ตกับผม   โอ๊ตมองหน้าผมก่อนจะลูกขึ้นถือกุญแจรถแล้วดึงผมขึ้นตาม

“ จะไปไหน ”

“ ตามมา “
โอ๊ตลากผมเข้าไปนั่งในรถแล้วออกรถทันทีก่อนจะยื่นผ้าปิดตามาให้ผม

“ เอาให้ทำไมไม่ง่วง ”

“ ให้ใส่ ”

“ ใส่ทำไม ”

“ ใส่เถอะน่า  จะพาไปเซอร์ไพรส์  ตามเกมหน่อยบีน ” อ่ะใส่ก็ใส่  ผมใส่ผ้าปิดตาแล้วก็หลับไปแบบอัตโนมัติ



“ ถึงแล้วลงๆบีน  แต่อย่าพึ่งถอดผ้านะ ”

โอ๊ตจูงมือผมที่ตอนนี้เหมือนคนตาบอดเดินเข้าไปในที่ไหนสักแห่ง  เดาว่าเป็นอาคารก่อนจะพาขึ้นลิฟต์ไปอีก 

“ ที่ไหนนี่ ”

“ ใกล้แล้วๆ ”  ครืด  เหมือนเดินเข้าไปในห้องอะไรสักอย่าง

“ ถอดได้ครับ ”  ผมถอดผ้าปิดตาออกก่อนจะมองไปรอบ กระดานไวท์บอร์ด  โต๊ะนักเรียน  ห้องสี่เหลี่ยมติดแอร์  นี่มันห้องเรียนนี่นา

“ พามาทำไมอ่ะ ”

“ อยู่ดีๆ โอ๊ตก็นึกถึงวันที่เราเจอกันครั้งแรกว่ะ ”

“ มีอารมณ์แบบนั้นด้วยหรอ ”

“ มีสิ  เดี๋ยวยืนหน้าชั้นนะ  ยืนตรงนี้ ” โอ๊ตบอกให้ผมยืนหน้าชั้นก่อนที่ตัวเองจะไปนั่งโต๊ะหลังห้องตัวที่เคยนั่ง  “ มุมนี้เลย  ตอนที่บีนแนะนำตัวครั้งแรก  แต่โอ๊ตไม่ได้สนใจบีนว่ะ  ฮ่าๆ ”  มันก็แน่อยู่แล้วตอนนั้นสนใจอีกคนนี่นาแต่ไม่พูดถึงหรอก

“ ไปไหนต่อทีนี้ ”

“ ไปโรงยิมที่เข้าแถว ”


โอ๊ตพาผมมายืนแถวๆโรงยิมที่เข้าแถว “ ตรงนี้คือ ”

“ ตรงนี้คือที่ที่โอ๊ตทักตอบบีนครั้งแรกว่า   หวัดดี ”

“ เออจำได้  หน้าโคตรไร้อารมณ์เลย  ตอนนั้นเป็นอะไร ”

“ คงไม่ได้สนใจอะไรมาก   ไปต่อกันเถอะ” โอ๊ตจูงมือผมเข้าไปโรงอาหารก่อนจะพาไปนั่งโต๊ะที่เราเคยนั่งกินข้าวเที่ยง



“ ตรงนี้คือที่ที่เรานั่งกินข้าวด้วยกันครั้งแรกสินะ ”

“ ใช่ ” โอ๊ตตอบก่อนจะก้มหน้ากดมือถือ

“ รู้เปล่าวันแรกบีนไม่มีที่กินข้าวนะ  ต้องไปนั่งข้างๆสนามโน่น ”

“ จริงดิ      บีนๆ ”

“ อะไร ”

“ อย่าพึ่งหันหลังนะ ” โอ๊ตบอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง

“ เฮ้ย  อะไร มีอะไรเกาะหรือเปล่า ” ผมเริ่มกลัวแล้วนะ

“ จ๊ะ  เอ๋ ”  มีคนมากอดจากทางด้านหลังผมสองคน  อ๊อฟและก็ไบท์  “ เฮ้ยมาได้ไง ”

“ เซอร์ไพรส์ไงบีน   ฮ่าๆ ”

อ๊อฟกลับมาจากเมืองนอกก่อนกำหนดหลังเรียนจบโท  ส่วนไบท์ก็ลาพักร้อนมาเที่ยวกรุงเทพหลังจากไปประจำตำแหน่งเป็นหมอสูติที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด

“ ว่าแต่โรแมนติกเนาะมึง  พาแฟนไม่ใช่สิ  ตอนนี้เรียกเมียได้เต็มปากแล้วสินะ ฮ่าๆ พามาดูที่ที่เจอกันครั้งแรกด้วย ”

“ แต่โอ๊ตบีนมีเรื่องจะบอก ”

“ หืมอะไร ”

“  เราเคยเจอกันก่อนหน้านั้นอีก ”

“ อ้าวจริงหรอบีน ” เป็นไบท์เสียอีกที่ดูตกใจ  แต่โอ๊ตยังทำหน้างงๆ

“ ที่ไหนวะบีน ” อ๊อฟถามขึ้นอีกคน

“ ที่ผับ .......  ตอนนั้นอาบิ๊กพาบีนไปแอบดูโอ๊ตก่อนทำงาน  ครั้งนั้นโอ๊ตไปผับกับไบท์สองคนบีนจำได้ ”

“ เฮ้ยบีนทำโอ๊ตหน้าแตกนะนี่  ทำไมไม่เคยบอกกันเลยวะ ยอมๆ ” โอ๊ตยกสองมือขึ้นอย่างกับผู้แพ้ 

“ เอาอย่างนี้  เย็นนี้พวกเราก็ไปฉลองที่ผับนั้นสิวะ ”  อ๊อฟเสนอความคิดเห็นขึ้นคนอื่นก็เห็นดีเห็นงามตามกันไปผมก็เออออตามพวกนี้ไป  พวกเราเดินเล่นกันรอบๆโรงเรียน  วันนี้เป็นวันหยุดเลยเงียบเป็นพิเศษ

ผมมีความสุขมากครับกับความรู้สึกตอนนี้  ผมได้อยู่กับแฟนและก็เพื่อนที่ๆถามสารทุกข์สุกดิบกัน  จนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

“ เฮ้ย  น้ำตาบีนไหล  เป็นอะไรเปล่า ”  อ๊อฟถามผมขึ้น

“ มีความสุขว่ะ ”  โอ๊ตดึงผมเข้ากอดก่อนที่สองคนนั้นจะกอดผมตามๆกัน  ผมบอกกับตัวเองเป็นพันๆครั้งว่าผมมีความสุขมาก 

ภาพความทรงจำต่างๆหลั่งไหลเข้ามาหาผมทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย  ทุกๆอย่างมันทำให้เราได้เห็น

มิตรภาพหรือได้ความรักติดมาด้วย  ขอบคุณทุกอย่างในชีวิตผมจริงๆครับ

ขอบคุณโชคชะตาที่นำพา

ขอบคุณบริษัทที่ผมเคยสมัครงานตอนจบแรกๆไปแล้วไม่รับผมทำงาน

ขอบคุณคุณบิ๊กที่มีส่วนสร้างชีวิตใหม่ผมขึ้นมา

ขอบคุณเพื่อนๆในชีวิตที่อยู่เคียงข้างกัน

ขอบคุณโอ๊ตที่รักกันและเราสัญญา

ว่า




จะรักกัน




ตลอดไป


                                                                                      จบแล้วครับ 



””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””


จบไปแล้วครับสำหรับบีนและโอ๊ต  หวังว่าทุกคนที่ได้อ่าน  เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ จะมีความสุขไปกับการผจญภัยในโรงเรียนของบีนหรือการปลอมตัว  แม้กระทั่งได้เป็นแฟนกับเด็ก  ฮ่าๆ   




สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและเข้ามาให้กำลังใจทางคอมเม้นด้วยนะครับ  ขอบคุณมากจริงๆเวลาเราลงนิยายแต่ละตอนเราก็จะเช็คเกือบทุกชั่วโมงว่าคนอ่านมาแสดงความคิดเห็นอะไร  ติชมตรงไหนบ้างเพราะคำคอมเม้นต่างๆหรือแม้กระทั่งยอดจำนวนคนเข้ามาอ่านทำให้ผู้แต่งรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง  สำหรับนิยายเรื่องนี้คิดพล็อตไว้ตั้งแต่มีนาปีที่แล้วพึ่งได้มีโอกาสลงปีนี้ในรูปแบบที่เล่าผ่านตัวละครหรือที่เรียกว่าแนวเรื่องเล่าเพราะว่าเรียนจบเลยมีเวลาว่างช่วงรอรับปริญญาและดีใจมากๆที่เป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิตของเราและก็สามารถลงจนจบเรื่อง  ที่ลงแนวเรื่องเล่าเราว่ามันดูจะแต่งง่ายกว่าเล่าโดยบุคคลที่สามแบบบรรยาย ฮ่าๆ  (แต่ผู้แต่งก็แอบเล่าเรื่องเร็วไปนิดใช่มั้ย  บางครั้งก็คิดว่ามันรวบรัดไปหรือเปล่า )


สุดท้ายแล้วจริงๆอย่าลืมเม้นติชมกันนะครับ อันไหนดีอันไหนต้องแก้ไขบอกเราด้วยนะจะได้ไปปรับปรุงในเรื่องใหม่เพราะ ปีหน้าอาจจะเดือนมกราเราจะลงนิยายด้วยนะอย่าลืมติดตามกันนะครับ  อย่าลืมกันนะ  อย่าลืม ลูกกุญแจ เด้อ



หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: Youi_chin ที่ 09-12-2015 01:30:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 09-12-2015 01:36:23
สนุกมากๆคับ อ่านแล้วติดใจเลย  เรื่องนี้จบแล้วคงจะทำให้คิดถึงอีกแน่นอน  ขอบคุณผู้แต่งที่แต่งนิยายดีๆซึ้งๆแบบนี้ให้ได้อ่านกันคับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 09-12-2015 01:46:54
อ๊าย หวานชื่นจริงๆคู่นี้ อิจฉา5555+
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 09-12-2015 05:33:00
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 09-12-2015 06:13:51
น่ารัก
ขอบคุณสำหรับนิยายนะ ~
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-12-2015 09:49:20
 :mew1:  ขอบคุณมากๆค่ะ เป็นเรื่องที่อบอุ่นน่ารักดี
ในที่สุดคุณบิ๊กก็จะมีทายาทให้วงศ์ตระกูล ได้เมียแล้ว ดีใจด้วยนะคะ

โอ๊ตน่ารักจัง ดีใจที่เชียร์น้องมาตลอด สรุปบีนเป้นอมตะ อิอิ อิจฉา

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-12-2015 09:58:29
จบแล้ว  :hao5:


ตอนแรกเชียร์บอยกับคุณบิ๊กด้วยซ้ำนะเรา 555555


แต่โอ๊ตทำตัวดีขึ้นขนาดนี้ ที่บ้านคงไม่มีใครมีข้อสงสัยในตัวบีนแล้วล่ะ :)

ชีวิตคู่ อย่าทำให้ความหวานจืดจาง :)


หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-12-2015 10:22:38
บีนโอ๊ตในที่สุดก็ได้แต่งงานกันอ่ะ   :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณมากนะสำหรับนิยายที่แต่งออกมาให้อ่าน :L1: :L1:
เราจะรอเรื่องใหม่นะ :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 09-12-2015 15:06:02
ขอบคุณน่ะค่ะสำหรับนิยายที่สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: ummax ที่ 09-12-2015 17:27:12
จบแล้วหรอครับ
ขอบคุณมากนะครับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๑๐ / โอ๊ตบีน
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 09-12-2015 21:32:42
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 17-12-2015 22:15:33
พึ่งว่างมาตอบรวมๆนะครับ ขอบคุณที่ติดตามกันมาเสมอนะครับ

กำลังใจทั้งหมดจะยกไปสู่เรื่องใหม่ที่จะลงในเร็วๆนี้เน้อ

เจอกันเรื่องหน้าครับ :mew1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sawapalm ที่ 18-12-2015 04:21:18
น่ารักกุร๊งกริ้ง อ่านแล้วอยากกลับไปเรียนมอปลายอีกเลย ฮ่าๆๆๆ มีใครจะจ้างไปดูแลเด็กม.ปลายไหม นี่จะอาสาคนแรกเลย เอิ้กๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 18-12-2015 11:30:24


รักใสๆ ของเด็กมอปลาย (หรา)

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zipboy ที่ 18-12-2015 16:30:10
กลับมาไล่อ่านที่เหลือจนจบเมื่อครู่นี้ ขอบคุณคนแต่งด้วยครับ สนุก+อ่านแล้วสบายใจครับ

มีเรื่องหน้าเมื่อไหร่ รออ่านครับ^^
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 18-12-2015 19:50:43
 o13
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 19-12-2015 16:55:05
ชอบ มีทุกอารมณ์นะเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-12-2015 14:09:00
อบอุ่น น่ารัก
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 25-12-2015 08:17:19
เรื่องนี้สนุกมากเลย บีน กะ โอ๊ต น่ารักมากกกก ลุ้นแทบแย่ว่าพระเอกจะเป็นใคร มีแต่คนเชียร์ บอย กะ บิ๊ก  แต่เราเชียร์โอ๊ตแต่แรกเลยไง ฟินมากกกก มีตัวป่วนมาตัดอารมณ์บ้างก็หนุกดี อ่านแล้วมีความสุข  :impress2: :impress2: :impress2:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ สนุก แนวคิดการดำเนินเรื่องแหวกแนวดี อ่านแล้วอบอุ่น สบายใจ มีความสุข วางไม่ลงเลย  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pawara123 ที่ 25-12-2015 11:57:43
ชอบมากคร้าบ เป็นกำลังใจให้คนแต่งครับ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 25-12-2015 23:29:25
เป็นเรื่องที่ดีมากกกก สนุกมาก อ่านง่าย
มีหลายอารมณ์

สนุกมากๆจริงๆนะ ต้อง มาลองอ่านกันนะ
ขอบคุณนักเขียนมากสำหรับเรื่องสนุกๆแบบนี้คร้บ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 29-12-2015 00:05:15
 o13 น่ารัก ๆ โอ๊ตบีน สมน้ำหน้ากี้ ทำตัวเอง
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Evil ที่ 29-12-2015 18:02:42
รวดเดียวจบเลย น่ารัก สนุกมากค่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LETUS ที่ 30-12-2015 13:21:47
ชอบมากครับ
ซึ้งในความรักของโอ๊ตบีน แม้ตอนแรกจะแอบเชียร์บอยก็เถอะ

ขอบคุณคนเขียนมากครับ กับเรื่องราวดีๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 19-01-2016 23:56:17
บอกตรงๆว่าเชียร์อาบิ๊กตั้งแต่แรก แต่สุดท้ายมาได้กับหลานซะงั้น เราไม่ชอบบุคลิกนายเอกเท่าไหร่ ดูเป็นคนไม่มีมั่นคงในความรักเลย ใครมาดีเข้าหน่อยก็พร้อมจะระทวยไปกับเขา แอบสงสารบอยเบาๆ

 :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 03-07-2016 09:27:59
น่ารักมาก .......... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 21-01-2019 09:00:57
 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 22-01-2019 04:00:33
งื้อออ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 22-01-2019 12:47:20
น่ารัก   :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 19-03-2019 08:09:31
 :pig4:
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< ^^ (ตอนที่ ๑๓ ๑๒/๐๙/๒๕๕๘) / หน้าที่ ๕ / บีนและผองเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 22-09-2020 18:57:13
 13ตอนแล้วยังไม่รู้เลยใครเป็นพระเอก เนื้อเรื่องก็ยังไม่ไปไหนเลย
หัวข้อ: Re: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 04-12-2020 19:42:57
 :-[