พิมพ์หน้านี้ - ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Dezair ที่ 13-09-2015 20:24:50

หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 13-09-2015 20:24:50
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

...................................................
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 13-09-2015 20:25:32
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….

บทที่ ๑


กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๖



บ้านเรือนไทยที่กินอาณาเขตกว้างขวางของพลตำรวจโท เดชและคุณหญิงผกา รักษพิพัฒน์นั้นออกจะครึกครื้นกว่าทุกวัน คนรับใช้วิ่งกันให้ขวักเพื่อจัดแจงบ้านช่องให้สะอาดเอี่ยมเป็นที่สุดเพื่อรอรับการกลับมาของ ‘คุณ’ ที่มีกำหนดจะเดินทางถึงเมืองไทยในวันนี้ คนที่ชี้นิ้วสั่งทุกอย่างไม่ใช่ใครที่ไหน คุณหญิงผกาผู้เป็นนายของเรือนนั่นเอง



“ถ้าฉันกลับมาทุกอย่างต้องเรียบร้อย เข้าใจไหมแม่จรวย กับข้าวกับปลาอย่าให้ขาดเชียว” คุณหญิงผกาผู้อยู่ในชุดผ้าลูกไม้เนื้อดีเข้าคู่กับซิ่นผืนงามและเครื่องประดับที่ประโคมลงบนกายหันมาสั่งกับแม่บ้านที่คอยดูแลรับใช้มาตลอด จรวยรับคำอย่างนอบน้อมพอดีกับที่ธิดาฝาแฝดของคุณหญิงเดินขึ้นเรือนมาตาม



“คุณแม่คะ คุณพ่อให้มาตามค่ะ”



“ไปเดี๋ยวนี้ล่ะจ้ะ” คุณหญิงว่าอย่างนั้น ก่อนจะรีบก้าวเท้าลงจากเรือนไปอย่างว่องไว



รถโฟล์คคันใหญ่สีดำมันปลาบจอดรอที่หน้าเรือนอยู่แล้ว ปกติจะใช้คนรถอย่างตาพ่วง ทว่าวันนี้ครอบครัวรักษพิพัฒน์อันประกอบด้วยท่านนายพล คุณหญิงและบุตรธิดาอีก ๓ คนจะเดินทางไปด้วยกัน ซ้ำขากลับจะต้องรับบุตรอีกคนของท่านนายพลและคุณหญิงกลับมาด้วย คนรถอย่างตาพ่วงจึงได้พักงาน ส่วนคนขับจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่อาทิตย์ บุตรคนใหญ่นั่นเอง



“คุณแม่ลงมาแล้วครับคุณพ่อ” ชายหนุ่มร่างสูงในชุดไพรเวทชะโงกหน้าเข้าไปบอกบิดาที่นั่งรออยู่ในรถก่อนแล้ว คุณหญิงผกาผู้มีรูปร่างอวบท้วมก้าวเท้าไวตรงมาที่รถแล้วเปิดประตูตอนหลังพลางออกตัวกับสามี



“ขอโทษค่ะคุณพี่ บนเรือนยังไม่เรียบร้อยเสียที ดิฉันก็ไม่กล้าทิ้ง นี่กำชับแม่จรวยเอาไว้แล้วว่าถ้ากลับมาทุกอย่างต้องพร้อม ถ้าเมื่อวานไม่ต้องไปงานเลี้ยงที่วังคุณชายฉัตรก็คงจะจัดแจงเรือนได้เรียบร้อยกว่านี้”



“ช่างเถอะคุณหญิง รีบขึ้นมาเสียที ป่านนี้ไม่ใช่เรือเทียบท่าไปแล้วหรือ” ท่านนายพลก็ร้อนใจไม่แพ้กัน แม้จะเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ออกจะเคร่งขรึมยามอยู่ในที่ทำงาน แต่ในใจท่านกระตือรือร้นกับการเดินทางกลับของบุตรชายคนรองไม่น้อยไปกว่าภริยาเลย



คุณหญิงผกากำลังจะขึ้นรถ เบื้องหลังคือธิดาฝาแฝดอย่างนภาสรวงและดารารัษมีที่รอขึ้นรถตาม ทว่าไม่ทันที่ร่างอวบของคุณหญิงจะผลุบหายเข้าไปในรถดี เสียงตะโกนจากหน้าประตูรั้วก็ดังขึ้น



“จะไปไหนกันหรือครับ”



เสียงนั้นทำให้คุณหญิงผกาชะงักค้าง ก่อนจะชักขากลับออกมาจากรถแล้วหันไปมองยังต้นเสียง



ประตูรั้วอยู่ห่างจากรถที่จอดอยู่หน้าเรือนไทยพอสมควร แต่ก็ไม่ห่างเกินไปที่จะมองเห็นว่าใครมายืนคอยอยู่อีกฟากฝั่งของรั้วนั้น



ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดไพรเวท ผู้มีดวงหน้าปาน ‘รูปหล่อ’ คิ้วเข้มพาดเฉียง ดวงตากลมใหญ่ จมูกโด่งและริมฝีปากบางสีแดงจัดที่ขยับแย้มยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย ทั้งหมดทั้งมวลนั้นแม้จะเป็นคนที่ห่างสายตาคุณหญิงไปถึง ๖ ปี แต่ให้อย่างไรก็ไม่มีวันลืม!


...ดวงหน้าอย่างนี้ รอยยิ้มอย่างนี้...ไม่มีอีกแล้วจะมีใครเหมือน...


“พ่อจันทร์!! คุณพี่คะ! พ่อจันทร์ค่ะ!!” คุณหญิงผการ้องด้วยความปรีดี ทำเอาท่านนายพลที่นั่งอยู่ในรถต้องรีบลงมาดูให้เห็นกับตา และเพียงแค่เห็นร่างแต่ไกลๆ ท่านนายพลก็ถึงกับร้องสั่งให้ลั่นไป



“เปิดประตูให้คุณจันทร์!” ตาพ่วงที่ยืนอยู่ไม่ไกลรีบตรงดิ่งไปที่ประตูรั้วแล้วปลดสลักกลอนให้ชายหนุ่มผู้มาเยือน


ร่างสูงโปร่งก้าวเท้าเดินตามถนนโรยกรวดที่ทอดตัวยาวมายังเรือนไทย รอยยิ้มกว้างยังคงประดับที่ใบหน้า ดวงตากลมใหญ่มองตรงไปที่ท่านนายพลและคุณหญิง เขาก้าวเท้ามาจนหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าบิดาและมารดา ก่อนจะยกมือประนม



“สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่...ผมกลับมาแล้ว”



“พ่อจันทร์!” คุณหญิงผกาครางอย่างปลื้มปิติ มืออูมจับเข้าที่ดวงหน้าขาวของบุตรชายด้วยความรักความคิดถึง จันทร์จ้าวเป็นบุตรชายคนรองของท่านนายพลและคุณหญิง จากเมืองไทยไปเรียนต่อที่อเมริกาอยู่ ๖ ปีเต็ม ตอนที่ไปนั้น คุณหญิงผการ้องไห้คิดถึงบุตรผู้เป็นที่รักอยู่ ๓ คืน ๓ วัน และพอตอนจะกลับ คุณหญิงก็นับวันนับคืนรอด้วยความคิดถึง บัดนี้บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนกลับมาอยู่ในอ้อมอกหล่อนแล้ว และคงจะไม่จากไกลให้ต้องคิดถึงเช่นนั้นอีก



“เป็นอย่างไรลูก ทำไมกลับมาเร็วยังนี้ นี่พวกเรากำลังจะออกไปรับที่ท่าเรือ”



“คิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่นี่ครับ เลยเร่งกัปตันให้ไว” จันทร์จ้าวกล่าวติดตลกทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว หากเขาคิดถึงอย่างจริงจังคงนั่งเครื่องบินกลับมาแทนที่จะนั่งเรือเดินสมุทธมาขึ้นท่าที่สิงคโปร์แล้วต่อเรืออีกทอดมาที่กรุงเทพฯ แต่เพราะตระหนักเสมอว่าช่วงเวลาเดินทางที่ยาวนานบนสถานที่ปิดอย่างเรือเดินสมุทธย่อมทำให้เขาได้รู้จักสตรีงามหลายคน ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะเดินทางด้วยเรือ



เขาหันไปทางบิดา พลตำรวจโทเดชดูจะไม่แก่ลงเลย แม้ว่าจะไม่ได้เห็นกันมาถึง ๖ ปีก็ตาม เขาตรงเข้าสวมกอดบิดาด้วยความคิดถึง ฝ่ามือหนักๆของพ่อตบลงบนหลังเขาราวกับจะต้อนรับการกลับมา



ชายหนุ่มคลายกอดออกมาส่งยิ้มให้บิดา แล้วจึงหันไปสนใจพี่ชายอย่างอาทิตย์และน้องสาวแฝดอย่างนภาสรวงและดารารัษมี



“พี่อาทิตย์ดูเท่ขึ้นจม รูปถ่ายตอนใส่เครื่องแบบทหารที่ส่งไปให้ไม่ยักดูดีเท่าตัวจริง นภากับดาราก็สวย หากเจอกันข้างนอกก่อน พี่คงได้เดินตามถามชื่อถามบ้านให้รู้แล้วรู้รอดไป” จันทร์จ้าวชวนคุยอย่างเป็นกันเอง เขาเป็นเช่นนี้เสมอ อัธยาศัยดี มีไมตรี และมีรอยยิ้มแจกคนรอบข้างอย่างเหลือเฟือ



“แกก็ดูดีขึ้นเยอะ ไม่เก้งก้างเหมือนเมื่อครั้งตอนไป” อาทิตย์ชมจากใจ ลูบศีรษะน้องชายอย่างคิดถึงไม่แพ้ใคร



“นั่นซีคะ พี่จันทร์รูปงามอย่างนี้ เห็นทีคุณแม่จะกลุ้มหนัก ทั้งพี่จันทร์ทั้งพี่อาทิตย์ บ้านรักษพิพัฒน์คงหัวกระไดไม่แห้ง” ดารารัษมีเอ่ยปาก ในขณะที่นภาสรวงผู้เป็นแฝดพี่ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย จันทร์จ้าวหัวเราะเบาๆ ไม่ตอบกระไร ท่านนายพลเห็นว่าลูกมาพร้อมหน้าแล้วก็ตั้งใจจะชวนกันขึ้นเรือนไปคุยต่อให้หนำ ทว่าเสียงนายพ่วงจากหน้าประตูรั้วดังขึ้นมาเสียก่อน



“เอ้อ...คุณจันทร์ขอรับ...” จันทร์จ้าวหันกลับไปมอง พาเอาทุกคนในครอบครัวรักษพิพัฒน์มองตาม



“เอ้อ...คุณผู้หญิงท่านนี้...” ตาพ่วงพูดละล่ำละลั่กพลางหันไปมองสตรีผู้มีดวงหน้าเหมือนชาวตะวันตก ผมสีน้ำตาลเข้มและผิวขาวตกกระในชุดเสื้อกระโปรงเข้าชุดที่ยืนถือกระเป๋าอยู่ตรงหน้าประตูนั้นเอง เธอมองตรงไปที่จันทร์จ้าวราวกับรอคอยอะไรบางอย่าง



“อ้อ...” ชายหนุ่มครางรับเสียงไม่ดังนัก ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้บิดาและมารดา แต่สายตาจับจ้องที่มารดามากเป็นพิเศษ



“ผมลืมแนะนำไป...ผมพาคู่รักกลับมาด้วย...” เขาพูดเช่นนั้นแล้วหันกลับไปมองยังหน้าประตูรั้ว


คุณหญิงผกามองตามบุตรชาย รอยยิ้มยังค้างอยู่บนใบหน้าอูมแต่ดวงตาของหล่อนเบิกโพลงเมื่อเห็นสตรีต่างชาติส่งยิ้มกลับมาให้จันทร์จ้าวอย่างสนิทสนม



...ผู้หญิง...ผู้หญิงฝรั่ง...ผู้หญิงฝรั่งคนนี้น่ะหรือลูกสะใภ้ของหล่อน!!!...



“ฝ...ฝรั่ง...” คุณหญิงผกาครางหน้าซีดเผือด ในขณะที่จันทร์จ้าวยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก



“ไม่ใช่ฝรั่งครับคุณแม่ เป็นครึ่งไทยครึ่งอเมริกัน”



“อ...อเมริกัน...” คุณหญิงครางได้เพียงเท่านั้น ร่างก็ร่วงผล็อยลงกับพื้นเพราะสิ้นสติ สองแฝดอย่างนภาสรวงและดารารัษมีถึงกับกรีดร้องลั่นด้วยความตกใจ



“คุณแม่!!! คุณแม่เป็นลม!!!!!”



แล้วหลังจากนั้นความโกลาหลก็ตามมายกใหญ่ในบ้านรักษพิพัฒน์



……………………………………



บนเรือนไทยที่มีลมพัดเอื่อยนั้นไม่ร้อนมากนักพอจะทำให้ใบหน้าซีดขาวของคุณหญิงผกาดีขึ้นบ้าง ยิ่งเมื่อมียาหอมที่แม่จรวยต้มมาให้คอยยกจิบ ก็ดูเหมือนร่างอวบที่นั่งอยู่บนเบาะกลางเรือนจะพอรู้สติขึ้นมาบ้าง หล่อนได้ยินเสียงอื้ออึงดังอยู่รอบตัว เสียงที่ดังกว่าใครเป็นของดารารัษมีธิดาคนเล็กกำลังดุพี่ชายคนรองอย่างจันทร์จ้าว



“พี่จันทร์น่ะบ้า! เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง!”



“อย่าไปดุพี่เลยดารา คุณแม่ดูท่าทางจะดีขึ้นแล้ว” เป็นท่านนายพลที่ห้ามปรามแล้วชี้ชวนให้ธิดาดูแลคุณหญิงซึ่งเริ่มขยับแข้งขยับขา



“อย่าว่าพี่เขา...เรื่องเป็นอย่างไร จันทร์ เล่าให้แม่ฟังที ไปรู้จักกันมาอย่างไร ทำไมถึงได้...” พอคิดถึงคำว่าคู่รักของบุตรชาย คุณหญิงผกาก็รู้สึกคล้ายจะลมใส่ขึ้นมาอีก หล่อนต้องยกยาหอมขึ้นจิบเพื่อให้คลายอาการ



“รู้จักกันบนเรือที่มาจากสิงคโปร์ครับ...”



รู้จักกันบนเรือที่มาจากสิงคโปร์?!! แค่รู้จักกันบนเรือไม่กี่วันก็เป็นคู่รักแล้วหรือ?!! คุณหญิงผกาทำท่าจะลมใส่ซ้ำอีกรอบ ดารารัษมีเลยต้องรีบแหวว



“พี่จันทร์พูดความจริงกับคุณแม่เดี๋ยวนี้นะ!” ท่าทางเอาเรื่องของน้องสาวนั้น จันทร์จ้าวรู้สึกเหมือนเห็นมารดาสมัยยังสาวอย่างไรอย่างนั้น เขาก้มลงกราบมารดาอย่างขอลุแก่โทษด้วยเพราะรู้สึกผิดจริง



“ผมขอโทษครับคุณแม่ แหม่มคนเมื่อกี้ เป็นครูที่จะมาสอนที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี พอดีลงเรือลำเดียวกันมาจากสิงคโปร์ คุยไปคุยมารู้เข้าว่าหล่อนต้องไปรายงานตัวที่โรงเรียน ผมจำได้ว่าโรงเรียนอยู่ใกล้บ้านเรา ก็เลยชวนมาด้วยกัน”



“หมายความว่าไม่ใช่คู่รักของพ่อจันทร์ใช่ไหม...” คุณหญิงผกาตั้งคำถามอย่างหวาดหวั่น จันทร์จ้าวส่งยิ้มจาง



“ไม่ใช่ครับ”



“พ่อจันทร์ยังไม่มีคู่รักแน่นะ?”



“แน่ครับ” เพียงเท่านั้นคุณหญิงก็ถอนหายใจพรูอย่างโล่งอก ยกมือไม่รับยาหอมเพิ่มจากธิดาแฝดพี่



“พอแล้วแม่นภา แม่ไม่รับยาหอมแล้ว”



“คุณแม่ดีขึ้นแล้วหรือคะ จะให้นภาตามสมฤดีมาดูอาการไหมคะ” นภาสรวงยังคงห่วงใยมารดา แม้จะเคืองพี่ชายคนรองที่กลับมาถึงก็ทำคุณแม่เป็นลม แต่เธอก็เรียบร้อยอ่อนหวานกว่าแฝดน้องอย่างดารารัษมี เมื่อเห็นอาการคุณหญิงไม่เป็นอะไรมากแล้ว จึงไม่นึกโกรธนึกเคืองพี่ชายเสียเท่าไร เพราะรู้ดีว่านิสัยเขาก็อย่างนี้



“ไม่ต้องหรอก”



“สมฤดี? หนูสมน่ะหรือ...เอ เพิ่งรู้ว่าหนูสมดูอาการได้ด้วย” จันทร์จ้าวถามไถ่ถึงชื่อที่ออกมาจากปากของน้องสาว



“ดูได้ค่ะ สมฤดีเรียนจบพยาบาล” สมฤดีเป็นสาวน้อยข้างบ้านอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแฝด แต่สนิทสนมกับนภาสรวงมากกว่า



“อ้อ เห็นทีคงต้องไปเยี่ยมเยียนเสียหน่อย” จันทร์จ้าวรับคำพลางนึกไปถึงเด็กสาวข้างบ้านผู้มีเปียสองข้าง ดารารัษมีหันขวับมองพี่ชายทันที



“จะไปก็ไม่ว่าหรอกค่ะ แต่สมฤดีแต่งงานแล้วนะคะ!” ชายหนุ่มมองน้องสาวแล้วได้แต่ยิ้มกว้าง ดารารัษมีคล้ายมารดามากนัก โดยเฉพาะการขัดคอเขาเรื่องผู้หญิง



“ดาราดุจริง คนบ้านใกล้เรือนเคียง พี่ก็แค่จะไปทักทาย” จันทร์จ้าวแก้ตัว แต่คนเป็นน้องตั้งท่าจะเถียงต่อ ทว่าคุณหญิงผกายกมือห้ามเสียก่อน



“พอเถอะ แล้วนี่...ยายแหม่มนั่นไปไหนเสียแล้วล่ะ ให้ใครไปส่งที่โรงเรียนแล้วหรือยัง” แม้จะเป็นต้นเหตุให้หล่อนเป็นลมในคราแรก แต่เมื่อรู้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง คุณหญิงผกาก็มีน้ำใจเอื้อเฟื้อพอจะถามถึง



“อยู่ข้างล่างครับคุณแม่ ประเดี๋ยวผมจะไปส่งหล่อนเอง ตอนแรกว่าจะให้ตาพ่วงไปส่ง แต่กลัวว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง” ส่วนคนที่สั่งให้สตรีต่างชาติคอยอยู่ใต้ถุนเรือนไม่ใช่ใครที่ไหน ดารารัษมีจอมบงการนั่นเอง หล่อนเกรงว่าหากมารดาลืมตาขึ้นมาเห็นแหม่มผมทองบนเรือน ลมก็จะจับอีก จึงสั่งให้รออยู่ข้างล่างแทน



“ถ้าอย่างนั้นก็ไปส่งเถอะไป เขาจะคอยเอา” จันทร์จ้าวรับคำ ก่อนจะเดินหายลงจากเรือนไป ทิ้งให้ทุกคนในครอบครัวรักษพิพัฒน์มองตาม ก่อนที่เสียงดารารัษมีจะดังขึ้นมา



“ไปอเมริกามาตั้ง ๖ ปี พี่จันทร์นิสัยไม่เปลี่ยนเลยสักนิด เห็นทีกลับมาอยู่เมืองไทยคราวนี้ คุณแม่ได้ปวดหัวแน่ค่ะ” เรื่องที่คุณหญิงผกาจะปวดหัวมีเพียงเรื่องเดียวสำหรับจันทร์จ้าวผู้นิสัยดี การศึกษาดี หน้าตาดีและคารมดี นั่นคือจันทร์จ้าวผู้มีดีทุกอย่างแสนจะคลั่งไคล้ผู้หญิงเป็นที่สุด เจ้าตัวบริหารเสน่ห์ตลอดเวลา และช่างน่าประหลาดที่มีเสน่ห์ให้บริหารอย่างเหลือเฟือ



คุณหญิงผกาได้แต่นิ่งคิดตามที่ธิดาคนเล็กพูด หล่อนรู้ดีว่าเหตุการณ์เฉกเช่นวันนี้อาจจะกลายเป็นจริงในเบื้องหน้าได้ทุกเมื่อ จันทร์จ้าวทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยลอยตามลมมาตั้งแต่ครั้งยังอยู่เมืองไทยเมื่อ ๖ ปีก่อน กลับมาครั้งนี้เห็นทีจะหนักข้อขึ้นเพราะมีพร้อมทั้งรูปทรัพย์และทรัพย์สมบัติติดไปกับชื่อและสกุลด้วย หนำซ้ำยังเป็นถึงนักเรียนนอก ผู้หญิงทั้งกรุงเทพฯคงมองกันเหลียวหลังซ้ำแล้วซ้ำอีก



...ถ้าได้ผู้หญิงดีๆ คุณหญิงก็ไม่มีเรื่องให้หนักอก แต่ถ้าได้ผู้หญิงเลวๆ เห็นที...ลมจับคราวหน้า คงพึ่งยาหอมไม่ได้ ต้องพึ่งโรงหมอสถานเดียว!...




……………………………………


แม้ว่าเมื่อวานบุตรชายคนรองผู้ซึ่งกลับจากอเมริกามาหมาดๆจะสร้างเรื่องให้คุณหญิงผกาลมจับไปรอบหนึ่ง แต่คนเป็นมารดานั้นต่อให้โกรธคนทั้งโลกก็โกรธบุตรโกรธธิดาตัวเองไม่ลง เช้าตรู่วันต่อมา คุณหญิงจึงรีบลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่แจ้ง จัดแจงสั่งให้คนไปซื้อของมาปรุงอาหาร โดยหล่อนเป็นแม่ครัวเอก



โมงตรง ทุกอย่างก็พร้อมที่โต๊ะเตี้ยบนยกพื้นกลางเรือน สมัยนี้นิยมบ้าน ๒ ชั้น หลังคาซ้อนมีหน้าต่างบานเกล็ดและกระจกสีแบบฝรั่งกันหมดแล้ว แต่ที่รักษพิพัฒน์ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้ทุกกระเบียด แม้จะมีเครื่องใช้ตามสมัยนิยมอย่างวิทยุเอย โทรศัพท์เอย เครื่องเล่นแผ่นเพลงเอย แต่หากอะไรยังคงความโบราณเอาไว้ได้ มันก็จะอยู่อย่างนั้น ท่านนายพลนิยมชมชอบเรือนไทยมาตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม จึงสั่งให้ปลูกสร้างอย่างใหญ่มาตั้งแต่เมื่อครั้งแต่งงาน เพราะหวังจะมีบุตรธิดามากๆนั่นเอง



คุณหญิงผกาเดินสำรวจความเรียบร้อยรอบโต๊ะเสียทีหนึ่ง ก็พอดีบุตรชายคนรองผู้เป็นดังแก้วตาดวงใจก้าวเท้าออกจากห้องพักผ่อนส่วนตัว



“ตื่นไวจริง พ่อจันทร์”



“ตั้งใจว่าจะออกไปเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าๆเสียหน่อยน่ะครับ เมื่อคืนนัดกับพี่อาทิตย์เอาไว้ ว่าจะขอติดรถไปด้วย” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้นแล้วมองไปทั่วเรือนหมายจะหาพี่ชาย ที่บ้านรักษพิพัฒน์นั้นมีรถ ๒ คัน คันหนึ่งเป็นของท่านนายพล อีกคันเป็นของอาทิตย์ คุณหญิงกำลังจะสั่งซื้อมาอีกคันหนึ่งแล้ว ไว้สำหรับบุตรชายคนรองโดยเฉพาะ แต่จันทร์จ้าวยังเลือกไม่ได้เสียที ช่วงนี้จึงต้องอาศัยรถพี่ชายไปก่อน หรือไม่อย่างนั้นก็เรียกสามล้อ หรือใช้รถรางเอา



อาทิตย์ผู้พี่ในชุดเครื่องแบบนายทหารก้าวเท้าออกมาจากห้องพอดี จันทร์จ้าวจึงรีบปรี่เข้าไปชวนคุย ทว่าสำหรับคุณหญิงผกาที่รับฟังคำว่าเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าๆจากปากบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนนั้น กลับใจคอไม่สู้ดี เกรงว่าจันทร์จ้าวจะไปเยี่ยมเยียนเพื่อนผู้หญิงที่ไม่ถูกใจหล่อนเข้า



“คุณแม่เป็นอะไรไปหรือครับ” อาทิตย์หันมาเห็นมารดายืนนิ่งงันอยู่กลางเรือนจึงเอ่ยปากถาม จันทร์จ้าวจึงหันมาดูด้วย และสีหน้าหวาดวิตกของคุณหญิง ก็ทำให้เขายิ้มจางแล้วเดินไปโอบร่างท้วมอย่างเอาใจ



“เพื่อนที่ว่าน่ะ คุณพงศ์ บุตรชายของคุณชายฉัตรอย่างไรล่ะครับ ผมจะให้พี่อาทิตย์ไปส่งที่วังฉัตร นัดกับคุณพงศ์เอาไว้แล้วว่าจะอยู่คุยด้วยจนเย็น แล้วให้พี่อาทิตย์แวะไปรับกลับพร้อมกัน” เขาเล่าเป็นฉากถึงกำหนดการในวันนี้ และพอคุณหญิงผกาได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก



“ก็ดี พ่อจันทร์จะได้ไปกราบคุณชายด้วย” คุณชายฉัตร หรือหม่อมราชวงศ์ฉัตรสนิทสนมกับบ้านรักษพิพัฒน์อย่างแน่นแฟ้น เพราะคุณประกายภริยาของคุณชายเป็นเพื่อนสนิทของคุณหญิงมาตั้งแต่สมัยเด็ก แม้บัดนี้คุณประกายจะไม่อยู่แล้ว แต่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่รักษพิพัฒน์และวังฉัตรมีต่อกันก็ยังสม่ำเสมอ



“แล้วนี่ สาวๆเขาไปกันอย่างไร พี่อาทิตย์ก็ไปส่งหรือ” จันทร์จ้าวหันไปถามพี่ชายพลางจับจูงมารดามานั่งที่โต๊ะเตี้ยเพื่อรับข้าวเช้า อาทิตย์ทรุดตัวลงนั่งตาม คนรับใช้จึงยกอาหารมาวาง



“ดารานั่งสามล้อไป ส่วนนภาไปพร้อมกับคุณพ่อ”



ดารารัษมีเป็นครูที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ส่วนนภาสรวงเป็นเลขานุการในบริษัทร่วมทุนฝรั่ง คุณหญิงผกาออกจะไม่ชอบใจที่ธิดาออกไปทำงานนอกบ้าน แต่ก็ขัดสามีที่เห็นชอบไม่ได้ว่าสมัยนี้สตรีทำงานนอกบ้านกันเกลื่อน



...จะเกลื่อนอะไร้! คุณหญิงได้แต่เถียงในใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดท่านนายพล...



“แล้วจันทร์อยากจะทำอะไร หากอยากทำงานในกรม พี่จะลองถามดูให้” อาทิตย์ถาม แต่ยังไม่ทันที่น้องชายจะตอบ คุณหญิงผกาก็ร้องขัด



“แม่ไม่ให้ทำงานในกรม! บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ยังริจะเป็นทหาร...” นับตั้งแต่จบสงครามโลกครั้งที่ ๒ สถานการณ์การเมืองในประเทศไทยค่อนไปทางสุ่มเสี่ยง บ้างก็แสดงตัวแบ่งฝักแบ่งฝ่ายชัดเจน บ้างก็ทำเป็นขบวนการใต้ดิน มีกบฏเกิดขึ้นแทบไม่เว้นแต่ละปี แค่ท่านนายพลเป็นตำรวจ บุตรคนใหญ่เป็นทหาร คุณหญิงผกาก็หวั่นทุกค่ำเช้าที่สามีและลูกออกจากเรือนไป



จันทร์จ้าวหันไปส่งยิ้มให้มารดาเพื่อให้สตรีผู้เป็นเดือดเป็นร้อนกับอาชีพการงานของเขาได้สบายใจ ก่อนจะหันไปทางพี่ชาย



“ผมเรียนจบเศรษฐศาสตร์ จะให้ไปทำงานในกรมคงไม่เหมาะ แล้วอีกอย่าง ผมก็ร่วมหุ้นกับเพื่อนฝรั่งเปิดบริษัทนำเข้าหนังสือมาตั้งแต่ตอนอยู่อเมริกาแล้ว ที่คุณพงศ์ร่วมด้วยแน่ะครับ ตั้งใจว่ากลับมานี่ก็จะมาทำอย่างเต็มตัวเสียที” อาทิตย์พยักหน้ารับรู้ ในขณะที่คุณหญิงผกาเบาใจไปเปลาะ เป็นว่าเรื่องงานไม่ขัดใจมารดาแล้ว คราวนี้ก็เหลือเพียงแค่เรื่องคู่ครองเท่านั้น



๒ พี่น้องรับข้าวเช้าและพูดคุยสัพเพเหระไปได้ครู่หนึ่ง ธิดาแฝดของคุณหญิงก็ออกจากห้อง และปิดท้ายด้วยท่านนายพลที่แต่งเครื่องแบบเตรียมไปทำงาน



และเช้านี้ ก็เป็นเช้าแรกในรอบ ๖ ปี ที่ตระกูลรักษพิพัฒน์พร้อมหน้าพร้อมตาที่โต๊ะอาหาร



……………………………..
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 13-09-2015 20:26:22


วังฉัตรของคุณชายฉัตร ฉัตราภาสนั้นเป็นวังเก่า เร้นอยู่เบื้องหลังกำแพงสูงและร่มไม้น้อยใหญ่ ด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย แค่อาทิตย์โผล่หน้าออกไปให้คนเฝ้ายามเห็น ก็เปิดประตูรั้วให้รถโฟล์คของเขาแต่โดยดี ชายหนุ่มขับรถไปตามถนนทรงกลมที่วนไปยังหน้าตึกสีขาวสะอาดตา มีร่างสูงสง่ายืนรออยู่ที่บันไดเตี้ยหน้าตำหนักอยู่ก่อนแล้ว


“สวัสดี คุณพงศ์” จันทร์จ้าวลงจากรถก็รีบส่งเสียงทักทายเพื่อนรักอย่างสนิทสนม แม้เขาจะไปเรียนที่อเมริกาถึง ๖ ปีเต็ม แต่เพื่อนผู้เป็นทายาทวังฉัตรอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้นี้ก็ไปเยี่ยมเยียนเขาอยู่เนืองๆ ครั้งล่าสุดที่ได้พบกันคือเมื่อปีที่แล้วนี้เอง ความสนิทสนมจึงแนบแน่นไม่ต่างอะไรกับการที่เขายังอยู่เมืองไทย


คนถูกทักยิ้มกว้างแล้วสวมกอดเพื่อนรักด้วยมิตรไมตรี ก่อนจะหันไปหยอกอาทิตยบ์ผู้รับหน้าที่สารถี



“สุดท้ายก็พึ่งคุณอาทิตย์จนได้ ผมบอกจันทร์แล้วว่าจะส่งรถไปรับ แต่เจ้าตัวว่าอยากลองฝีมือขับรถของคุณมากกว่า”



อาทิตย์ยิ้มจางอย่างสุภาพ แม้อีกฝ่ายจะมีอายุน้อยกว่าเขาแต่ก็เป็นราชนิกูล



“หลังจากนี้คงไม่กล้านั่งรถผมอีก”



“ว่าไปพี่อาทิตย์ เอาล่ะ ไปทำงานได้แล้ว แล้วเย็นนี้แวะมารับผมด้วย” จันทร์จ้าวรีบไล่พี่ชายทันควัน หากอาทิตย์และหม่อมหลวงพงศ์ภราธรอยู่พร้อมหน้ากันเมื่อไร กลายเป็นเขาถูกหยอกเรื่อย ๒ คนนี้แม้จะไม่ได้สนิทสนมกัน และอาทิตย์เป็นคนเงียบขรึม แต่เรื่องร่วมมือกันล้อเลียนเขานั้นดูจะประสานสามัคคีกันเหลือเกิน



“ผมฝากจันทร์ด้วย คุณพงศ์ แล้วตอนเย็นจะรีบมารับ วังฉัตรจะได้ไม่เสียหายไปมากกว่านี้” เห็นไหมเล่า นี่ขนาดจะไป อาทิตย์ยังเล่นงานจันทร์จ้าวอีกรอบ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหัวเราะแทนคำตอบเรื่องรับฝาก ก่อนที่อาทิตย์จะขับรถออกจากอาณาบริเวณของวังฉัตรไป เมื่อเหลือกันเพียงแค่ ๒ เพื่อนสนิท ชายหนุ่มผู้เป็นทายาทวังแห่งนี้จึงหันมามองเพื่อนรักเต็มตา ไม่ได้พบกัน ๑ ปีเต็ม จันทร์จ้าวกลับดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นผิดหูผิดตาได้อย่างไม่น่าเชื่อ



...จะว่าอย่างไรดี...จันทร์จ้าวเป็นชายหนุ่มมากเสน่ห์ เมื่อครั้งก่อนจะไปอเมริกานั้นเป็นเพียงเด็กหนุ่มแขนขายาวเก้งก้าง แต่เจ้าตัวก็รุ่มรวยไปด้วยคารมและรอยยิ้มหวาน บัดนี้ ๖ ปีผ่านไป จันทร์จ้าวไม่ใช่เด็กหนุ่มคนเดิมแล้ว แต่กลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัว ร่างสูง ไหล่ผายสง่า ดวงหน้าปานรูปหล่อดูดีไปเสียหมด...แม้แต่เขาซึ่งเป็นชายหนุ่มเฉกเช่นเดียวกัน ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากเกิดเป็นหญิง ก็คงไม่รอดพ้นเสน่ห์ของเพื่อนรักคนนี้แน่...



“มองผมแบบนี้ จะชมอะไรก็ว่ามา” คำพูดยกยอตัวเองนั้นทำเอาคนฟังหัวเราะพรืด



...มากเสน่ห์ มากคารม รูปร่างหน้าตาดี การศึกษาดี ฐานะดี...มีเพียงอย่างเดียวที่คนที่มีดีทุกอย่างอย่างจันทร์จ้าวยังขาด ซึ่งก็คือ ‘คนรัก’...



“แกนี่เหลือร้ายจริงจันทร์ กันละอยากรู้นักว่าใครจะเป็นเจ้าของจันทร์จ้าวผู้สมบูรณ์พร้อมคนนี้ได้” จันทร์จ้าวเลิกคิ้ว ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก



“ไม่รู้ รู้แต่ถ้าหาคนที่ Perfect เท่าผมไม่ได้ ผมก็ไม่แต่งด้วย...ก็เท่านั้น” เขาทิ้งท้ายอย่างถือดี ก่อนจะถามหาคุณชายฉัตรผู้เป็นบิดาของหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ชายหนุ่มร่างสูงผู้เป็นเจ้าบ้านจึงหมุนตัวพาเดินเข้าไปพบบิดาแล้วทิ้งเรื่องคู่ครองของจันทร์จ้าวไว้แต่เพียงเท่านั้น



...........................................



จันทร์จ้าวรู้ว่าตัวเองมีดีที่ตรงไหนบ้าง เขาหน้าตาดี รูปร่างดี แม้กระทั่งเมื่อครั้งอยู่อเมริกาก็ไม่ได้เตี้ยกว่าฝรั่งไปมากเท่าไร ซ้ำยังสูงกว่าฝรั่งบางคนด้วยซ้ำ ที่สำคัญเขายังมีการศึกษาที่ดี เรียนจบจากเมืองนอก ฐานะทางบ้านก็ร่ำรวย นอกจากนั้นเขายังนิสัยดี เรื่องนี้ไม่เคยมีใครบอกเขา แต่เขาก็ประมาณตัวเองเอาจากการที่มีเพื่อนสนิทคบหาอยู่หลายคน หากเขานิสัยเลว ก็คงไม่มีเพื่อนทั้งที่เมืองไทยและอเมริกาหรอก



เพราะฉะนั้นแล้ว...เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองมีดีถึงเพียงนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เขาจะตั้งความคาดหวังเอาไว้กับคู่ครอง ผู้หญิงที่จะเป็นภรรยาของเขาต้องหน้าตาดี มีการศึกษา เข้าสังคมเก่ง ฐานะพอไปวัดไปวา ไม่จนกว่าเขามากไป และไม่รวยกว่าเขามากไป ที่สำคัญไปกว่านั้นคือต้องทนกับความเรื่องมากของเขาได้ด้วย



...และตอนนี้...จันทร์จ้าวกำลังต้องตาต้องใจกับธิดาของหม่อมราชวงศ์ฉัตร ผู้เป็นน้องสาวของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเพื่อนรักของเขานั่นเอง...



“น่าเสียดาย ยายพิมไปสอนหนังสือแต่เช้า เลยไม่ได้พบเธอ” คุณชายฉัตรว่าอย่างนั้นหลังจากบรรยายสรรพคุณของธิดาให้ฟังเสียวรรคใหญ่ๆ ก่อนจะสั่งให้บุตรชายไปหยิบรูปในกรอบที่วางอยู่บนเปียโนหลังใหญ่มาให้จันทร์จ้าวดูต่างหน้า



“พ่อจันทร์คงจำหน้าน้องไม่ได้แล้วซี เมื่อตอนที่พ่อจันทร์จะไปอเมริกา ยายพิมก็ไปส่ง แต่บัดนี้โตขึ้นมาก” คุณชายฉัตรสำทับ ทว่าคำพูดเหล่านั้นแทบจะลอยผ่านหูของจันทร์จ้าวไป ชายหนุ่มได้แต่นิ่งงันกับรูปภาพที่อยู่ในกรอบสวย



รูปสตรีแบบครึ่งตัวในกรอบฉลุลายบรรจงนั้นเป็นสตรีไทยผู้มีผมลอนวางบนบ่าทั้งสองข้าง ดวงหน้าหวานด้วยรอยยิ้มจางยิ่งทำให้น่าเอ็นดู จันทร์จ้าวจำได้ว่าเมื่อ ๖ ปีก่อน ก่อนที่เขาจะเดินทางไปเรียนต่อนั้น น้องสาวของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรไม่ได้รูปงามอย่างนี้



...๖ ปี ทำให้เด็กหญิงกลายเป็นสาวแรกรุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ...



“คุณพิม...เธอไปเรียนที่ยุโรปมาใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มถาม จำได้ลางๆว่าคุณพงศ์เขียนจดหมายไปเล่าเรื่องน้องสาวให้ฟังอยู่เหมือนกัน แต่ยามนั้นเขาไม่ได้สนใจนัก หากรู้ว่าโตขึ้นมาแล้วจะงามปานนางฟ้าเช่นนี้ เขาคงสนใจเรื่องของหล่อนมากกว่านี้



“ใช่ แต่กลับมาก่อนเธอสักเดือนหนึ่งเห็นจะได้ ตอนนี้เป็นครูอยู่ที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี”



“อ้อ...โรงเรียนเดียวกับดารารัษมีน้องสาวผมเลย”



“๒ คนนั้นเขาสนิทสนมกันเพราะสอนที่โรงเรียนเดียวกันนี่ล่ะ แต่เห็นว่าน้องสาวของพ่อสอนภาษาไทยใช่ไหม ยายพิมสอนภาษาอังกฤษ”



“คุณพิมคงจะพูดภาษาอังกฤษได้น่าฟังนะครับ ผมชักอยากสนทนากับเธอเสียแล้ว” จันทร์จ้าวพูดคุยอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มบาง ทว่าในใจกำลังหาทางเกลี้ยกล่อมยอมให้ดารารัษมียินดีให้เขาแวะไปที่โรงเรียนบ้าง แต่ดารารัษมีผู้หัวแข็งกับพี่ชายคนนี้จะยอมไหมหนอ?



“คงจะคุยภาษาฝรั่งปร๋อกันทั้งคู่ ฉันคงจะไม่อยู่ฟังด้วยหรอก” คุณชายฉัตรกล่าวติดตลก แล้วพูดต่อ “ตอนแรก เห็นว่ายายพิมจะไปเที่ยวอเมริกา แต่ไม่ทราบนึกอย่างไร สุดท้ายก็กลับเมืองไทยเลย คงจะคิดถึงบ้านกระมัง”



“น่าเสียดายนะครับ” เขาเอ่ยปากด้วยนึกเสียดายจริง วันนี้ก็เสียดายที่มาแล้วไม่ได้พบหน้า แต่ไม่เป็นไร...เขากับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเป็นเพื่อนรักกัน จะไปมาหาสู่ก็เป็นเรื่องปกติ หนำซ้ำ ‘คุณพิม’ ยังทำงานที่เดียวกับดารารัษมีน้องสาวของเขาด้วย เหมาะเจาะขนาดนี้ เห็นทีจะเป็นคู่สร้างคู่สมของเขาเสียแล้ว



บทสนทนานดำเนินต่อไปได้อีกหน่อย ก่อนที่คนรับใช้จะเข้ามารายงานว่ามีนายแพทย์มาขอพบคุณชาย หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจึงพาเพื่อนออกมาจากห้องนั่งเล่นของบิดา



“คุณชายไม่สบายหรือ” จันทร์จ้าวตั้งคำถามเมื่อเดินพ้นออกมาจากหน้าห้อง เขายังมองเหลียวกลับไปด้วยความห่วงใย เพราะรู้จักคุ้นเคยกันมานาน วันนี้ถึงกับต้องเรียกหมอมาหาที่วัง ก็ทำเอาใจหาย



“เปล่า...คุณพ่อเรียกมาดูตัวน่ะ...”



“หืม?!” จันทร์จ้าวร้องในคออย่างตกใจ แต่ไม่มีเสียงตอบใดๆจากเพื่อนรัก เพราะคนรับใช้พาใครอีกคนเดินตรงมาเสียก่อน



“คุณหมอภวัตมาแล้วเจ้าค่ะ” คนรับใช้เอ่ยอย่างนอบน้อม หม่อมหลวงพงศ์ภราธรส่งยิ้มให้ชายหนุ่มผู้ที่เดินตามหลังคนรับใช้มา ก่อนจะค้อมศีรษะแล้วเอ่ยปากทักทาย



“สวัสดีครับ คุณหมอ” ชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทแบบตะวันตกหยุดอยู่ตรงหน้าหม่อมหลวงพงศ์ภราธรแล้วค้อมศีรษะตอบพร้อมรอยยิ้มบาง



“สวัสดีครับ คุณพงศ์ ผมมาพบคุณชายฉัตร” ผู้มาใหม่เอ่ยความจำนงค์ด้วยน้ำเสียงทุ้มสุภาพ



“เชิญด้านในเลยครับคุณหมอ คุณพ่อรออยู่แล้ว” ทายาทวังฉัตรว่าอย่างนั้นก่อนจะผายมือไปที่ห้องด้านหลัง นายแพทย์หนุ่มเพียงค้อมศีรษะให้เขาอีกครั้งแล้วหันมาส่งยิ้มจางให้กับจันทร์จ้าวแล้วจึงเดินเข้าห้องไป พ้นหลังคนแปลกหน้า จันทร์จ้าวก็ขยับเข้าไปยืนชิดเพื่อนรักทันที



“ที่ว่าเรียกมาดูตัวน่ะ หมายถึงดูตัวเพื่ออะไร”



“จะดูเพื่ออะไร ก็ดูเพื่อน้องกันน่ะซี!” คนฟังหันขวับมองคนพูดอย่างคาดไม่ถึง ดวงตากลมใหญ่เบิกโตอย่างตกใจ



“น้อง?! หมายถึงคุณพิมรึ?!!”



“แล้วกันมีน้องคนอื่นอีกหรือ? ก็ต้องยายพิมน่ะซี นี่น่ะ ถ้าคุณหมอเห็นดีด้วย กันคงได้น้องเขยในเร็วนี้” จันทร์จ้าวอ้าปากค้าง รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจ้องมะม่วงแล้วมีคนมาฉกไปต่อหน้าต่อตาอย่างไรอย่างนั้น!



ยังไม่ทันจะได้เห็นหน้า คนที่อุตส่าห์ต้องตาต้องใจไว้เมื่อครู่ก็ถูกคนอื่นฉกไปเสียแล้ว คุณชายฉัตรก็เหลือเกิน...เขาเป็นคนใกล้แท้ๆ พ่อแม่ก็รู้จักคุ้นเคย ตัวเขากับคุณพงศ์ก็เป็นเพื่อนรักกัน กับน้องสาวของคุณพงศ์ก็รู้จักกันมาก่อน จะรอให้เขากลับมาพบหน้าเรียนรู้นิสัยใจคอก่อนก็ไม่ได้ จะเร่งรีบดูตัวไปทำไมกัน!



จันทร์จ้าวนึกเจ็บใจคุณหมอหนุ่มผู้ที่ถูกคุณชายฉัตรเรียกมาดูตัว แต่พอเพื่อนรักชักชวนออกไปที่สโมสรเทนนิส เขาก็ตัดใจจากน้องสาวของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้อย่างว่องไว



...ไม่ใช่แค่ ‘ถ้าหาคนที่ Perfect เท่าผมไม่ได้ ก็ไม่แต่งด้วย...’ เพียงอย่างเดียว แต่เขายังติดนิสัยไม่คิดจริงจังกับผู้หญิงด้วย...



จันทร์จ้าวจึงไร้คู่รักเรื่อยมา จวบจนอายุ ๒๔ ปีนี่เอง



ติดตามตอนต่อไป (อาทิตย์หน้าค่ะ)

สวัสดีค่ะ

เรื่องใหม่ ไม่ได้ลงเรื่องใหม่มานานมากกกกกกก(ถ้าไม่นับถ้วยฟูตอนโตเกียวเมื่อปัที่แล้ว ก็คือไม่ได้ลงเรื่องใหม่มาเป็นปีล่ะ)

แล้วรอบนี้ก็เป็นแนวใหม่ด้วย ไม่เคยเขียนแนวนี้ เกร็งๆมั่งอะไรมั่ง ติชมกันได้ค่ะ

บอกก่อนว่าเรื่องนี้ยาวมากกกกกกกกกก แต่ถ้าใครถามหาความดราม่า (พีเรียดต้องมาพร้อมความดราม่าใช่มั้ย) บอกเลยว่าไม่มี (ที่เขียนอยู่ตอนนี้ ยังไม่มี และคิดว่าไม่มี) เพราะว่าบัวอยากเขียนแนวลูกกวาด เป็นพีเรียดลูกกวาด ฮ่าฮ่า

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกๆกำลังใจเช่นเคย

เจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ (ลงได้อาทิตย์ละตอน แต่รับรองไม่ดอง เพราะตอนนี้เขียนถึงตอนที่ 10 ล่ะ...คุณพระ!!)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 13-09-2015 20:28:52
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 13-09-2015 20:35:30
หูยยยย นักเขียนบอกว่าไม่มีดราม่าเราก็สบายใจ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-09-2015 20:58:07
มาๆๆๆ ต้อนรับเรื่องใหม่
ดูท่าคุณจันทร์คงจะได้คนเฟอร์เฟ็กที่เป็นหมอแหงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-09-2015 20:58:47
เจอหน้ากันแค่แวบเดียวก็วางคุณหมอไว้ในฐานะของศัตรูเสียแล้วเหรอคะจันทร์เจ้า น่ารักจริงๆ เลยน้า~~ :m3: ติดตามจ้า ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 13-09-2015 21:07:57
บ่าวมารอเฝ้าจันทร์จ้าวด้วยเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 13-09-2015 21:08:52
ภาษาสวยยย  :katai2-1:

ปูเสื่อรอเนื้อคู่ด้วยคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 13-09-2015 21:12:30
เจิมเรื่องใหม่พี่บัวค่ะ
5555 รอดูว่าใครจะมาเป็นคู่คุณชายค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: narunarutoboyz ที่ 13-09-2015 21:16:36
ยินดีต้อนรับเรื่องใหม่ของคุณบัวค่าาาาาา
แต่ว่า.....อ่านมาตั้งนาน คิดว่าจันทร์เป็นเมะ.....แต่พอเจอคุณหมอ รู้สึกตะหงิดยังไงก็ไม่รู้
แถมนิยายที่คุณบัวแต่ง...ชื่อนิยายมักเป็นชื่อของเคะเสมอ
งื้ออออ :ling1: ศึกกล้ามชนกล้ามจริงๆนะเหรอออออ
ไม่ๆๆๆๆๆๆ เพิ่งตอนแรก เค้าจิไม่ตีโพยตีพาย

แต่ต่อให้ผลออกมาเป็นไง เค้าก็จะอ่านนนนนน
ชอบภาษาคุณบัวค่ะ เป็นกำลังใจเสมอค่ะ

ปล.รอรูปเล่มด้วยพันธะบรรณาการ....อยู่นะคะ เมื่อไหร่น้าาา
 :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 13-09-2015 21:43:58
รออยู่จ้า เรื่องใหม่มาแล้ว ติดตามแน่นอน อยากรู้เนื้อคู่จันทร์เจอกันแต่ตอนแรกป่าว ^ ^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 13-09-2015 21:45:13
พีเรียดย้อนยุดนิดๆ ศัตรูหัวใจเดี๋ยวก็ได้กันเอง 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 13-09-2015 21:46:50
ตามมาเกาะติดชิดขอบสนาม  ยาวก็จะอ่านค่าาา ถ้าคุณบัวบอกว่ายาวกว่าจอมร้ายอีกนี่ตื่นเต้นเลยนะคะ  เพราะจอมขวัญนี่ที่หนึ่งในใจอะ  ไม่รู้เจอเรื่องราวของคุณจันทร์เข้าไปจะตีโค้งมาเสมอสูสีรึเปล่า  รอค่ะรอ  สัญญาว่าไม่ดองจริงๆใช่มั้ยคะ 10 ตอนก็หมดได้นะแต่งตุนเยอะๆนะคะคุณบัว


ปล.ถึงคุณบัวจะบอกว่าเขียนเกร็งๆแต่เราชอบนะคะ  ภาษาอ่านแล้วก็ดูพีเรียดดีอ่าา  ชอบๆส่วนตัวก็ไม่มีความรู้ด้านนี้ว่ายุคนั้นคุยประมาณไหน  แต่จากที่อ่านไปตอนแรกเราว่ากลิ่นอายมันก็มาเต็มอยู่นะคะชอบค่ะ   เป็นกำลังใจให้ค่าาาตั้งใจเเต่งนิยายสนุกๆมาให้ได้ติดตามกันตลอดๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 13-09-2015 21:56:15
อยากจะร้องไห้ด้วยความดีใจ ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องใหม่แล้วค่ะ แม้จะเป็นแนวใหม่ (สำหรับคุณบัว) แต่ก็ทำได้ดีมากๆ ภาษาลื่นไหล สำนวนคุ้นเคย และสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของครอบครัวจันทร์จ้า โดยเฉพาะคุณหญิงแม่ ดูท่าเรื่องนี้คุณหญิงจะเป็น 'สายวาย' ในยุคนั้นหรือเปล่าคะ (ฮา)

ได้อ่านเพียงตอนแรกก็รู้สึกเอ็นดูจันทร์จ้าวเสียแล้วค่ะ ถูกล่ะ, จันทร์จ้าวชอบผู้หญิง และไม่จริงจังกับผู้หญิง แต่เขา "รัก" ผู้ชายใช่ไหมคะ ฮ่าๆ ดูท่าคนที่จะมาเป็นหวานใจของจันทร์จ้าวคงต้องปราบพยศเขาให้ได้ทีเดียว แต่แอบเล็งคุณหมอไว้เป็นตัวเลือกพระเอกคนหนึ่งแล้วนะคะ เพราะคิดว่าจันทร์จ้าวน่าจะเป็น "ตัวนาย" เอ...หรือไม่ใช่

คุณบัวบอกเรื่องนี้ไม่มีดราม่า ดิฉันออกจะปลื้มใจ นิยายลูกกวาดเราก็ชอบค่ะ โดยเฉพาะนิยายเรื่องนี้ยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกด้วยแล้ว อิอิ หวังว่าจะยาวกว่าเรื่องจอมร้ายนะคะ จะได้อ่านอย่างจุใจ (แล้วก็กระซิบเบาๆ ว่าหลังจากจบแล้วขอรวมเล่มด้วยเน้อ เพราะตอนนี้มีนิยายคุณบัวทุกเล่มเลยค่ะ จุ๊บๆ)

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: KMprince ที่ 13-09-2015 21:59:35
คุณจันทร์คะ ขอให้เจอคนที่ถูกใจในเร็ววัน
แต่คิดว่าจะเจอคนที่เขาถูกใจคุณก่อนแน่ๆ 55
อยากจะเห็นคนที่มั่นใจตัวเองแบบนี้ถูกรุกถูกจีบจริงๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-09-2015 22:05:20
ชอบแนวพีเรียดลูกกวาดค่ะ คงไม่เครียดดี
รอดูว่าใครจะมาคู่จันทร์จ้าว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Noostar ที่ 13-09-2015 22:06:34
ไม่ดราม่าถูกใจที่สุด จันทร์หลงตัวเองสุดๆไปเลยต้องเจอคนมาปราบซะ ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 13-09-2015 22:09:53
 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-09-2015 22:12:10
ปักรอตอนต่อไปค่า สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 13-09-2015 22:30:32
เข้ามาเจิมเรื่องใหม่ของคุณบัว ตอนเห็นโพสต์เรื่องใหม่ในเฟซนี่เรากรีดร้องด้วยความดีใจเลยจริงๆ คุณบัวบอกเรื่องนี้เป็นพีเรียดแนวลูกกวาดไม่มีดราม่าถ้าเป็นจริงจะดีใจมากเพราะช่วงนี้อยากห่างจากดราม่าสักพัก และเราชอบภาษาที่คุณบัวใช้นะอ่านแล้วนึกถึงสมัยนั้นได้เป็นฉากๆเลย อยากรู้จริงว่าจันทร์จ้าวจะโดนจีบหรือไปจีบเค้ากันนะ แต่แอบเล็งคุณหมอนะ ฮา รอตอนต่อไปและยินดีต้อนรับการกลับมาค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 13-09-2015 22:33:50
เรื่องใหม่มาแล้วว นายเอกถ้าจะแซ่บอยู่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 13-09-2015 22:48:13
คุณหมอ เป็นพระเอกเหรอคะ
อ่านไปลุ้นไปว่าพระเอกจะโผล่มาเมื่อไหร่ สุดท้ายก็มา(ตอนท้ายนิดเดียวเองอ่ะ)
ดีใจที่คุณบัวเขียนเรื่องใหม่แล้ว...ตามมาจากจอมร้ายเลยค่ะ :D
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 13-09-2015 22:49:42
อู้ยยยยย
น่าติดตามมากกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 13-09-2015 22:54:00
พีเรียดลูกกวาด ถูกใจมากค่ะคุณบัว
ช่วงนี้กินมาม่าอืดท้องมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 13-09-2015 23:15:45
ดีใจที่ไม่มีดราม่า  :mc4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: rivayu ที่ 13-09-2015 23:32:48
คิดถึงจัง ได้อ่านเรื่องใหม่แล้ว ดีใจ อิอิ o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 13-09-2015 23:37:49
เอาจริงๆคุณบัวเขียนอะไรมาเราก็อ่านค่ะ555แต่ดีใจมากๆที่ไม่ดราม่า ช่วงนี้ต้องการอะไรละมุนๆกุ๊งกิ๊งๆ
จันทร์นี่เฟลิทจริงๆ ที่บอกว่าไร้คู่มาตลอด24ปีนี่กลายเป็นว่าทำเป็นโชกโชนนะคะ? แต่ยังไงก็เถอะ นางดูมีกลิ่นของถ้วยฟูเล็กๆ รักค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 13-09-2015 23:45:39
อย่างจันทร์ต้อง(หล่อ)ขนาดไหนเนี่ย ๕๕๕๕๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 14-09-2015 00:00:04
ที่บอกว่าไม่มีดราม่านี่ดีมากๆเลยค่า
เพราะช่วงนี้เรื่องเบื่อนิยายดราม่าหนักๆมากเลย อ่านไปเครียดไปอ่ะ

พอเห็นคุณบัวมาลงนิยายเรื่องใหม่เรานี่รีบเลย
อยากลิ้มรสลูกกวาดหวานๆแล้ว :-[
ติดตามจันทร์จ้าวอยู่นะค้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 14-09-2015 00:11:04

ดีใจรัวๆๆๆๆ   นิยายพีเรียดดีงาม ตามชื่อขาน DezAir เป็นการันตี :กอด1:

กำลังอยากเติมความหวาน ในหัวใจ ช่วงนี้เลยย :o8:

คุณชายจันทร์ จ้าวเสน่ห์   จะเจอ หนุ่มไหนมาพิชิตหัวใจกันหนอ....


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven


//ว่าแต่  ตัดใจจากน้องพิมง่ายจังเลย ...สงสัยแพ้ทางคุณหมอ   ฮิ้ววววววววววววววววววว :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ชอร์ปสติ๊ก ที่ 14-09-2015 03:53:22
ตายแล้วว เรื่องใหม่คุณบัว ดีใจชรุง  :-[
อ่านเพลินๆ มาสะดุดตรงไทม์ไลน์ของเรื่องนี่ล่ะค่ะ ช่วงปีที่คุณบัวเขียน ตอนที่จันทร์จ้าวไปอเมริกาเพิ่งจบจากสงครามโลกครั้งที่สองหมาดๆ เลยค่ะ คิดว่าสถานการณ์บ้านเมืองเนี่ยน่าจะอยู่ในภาวะตึงเครียด เพราะจอมพลป. ที่เป็นนายกดันเลือกข้างผิด เข้ากับญี่ปุ่นแต่ญี่ปุ่นดันแพ้สงคราม ลำบากต้องแก้ตัวกับประเทศอื่นว่าเราอยู่ฝ่ายอังกฤษฝรั่งเศสนะ เลยคิดว่า ภาวะแบบนี้ไม่น่ามีบ้านไหนกล้าส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ เจ้าขุนมูลนายจะนิยมส่งลูกไปเรียนทางอังกฤษมากกว่า(เพราะสนิทกว่า)อเมริกา ณ ตอนนั้น แล้วก็สะดุดตรงอายุของจันทร์จ้าวด้วย เพิ่ง 24 เอง อายุน้อยมาก (เราเทียบกับนพพรน่ะค่ะ อายุ22 แล้วยังใส่กักคุรันไปเรียนที่ญี่ปุ่นอยู่เลย กว่าจะเรียนจบแล้วได้กลับไทยก็ 28 นู่น)
คิดว่าปรับตรงนี้น่าจะทำให้เนื้อเรื่องสมจริงมากยิ่งขึ้นน่ะค่ะ
เราศึกษาประวัติศาสตร์คร่าวๆ ไม่ได้เรียนด้านนี้โดยตรง ถ้าเวลาไม่เป๊ะหรือผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ  :mew2:
ปล. แอบกระซิบว่า หากอยากแต่งแนวพีเรียดลองใช้ยุคจอมพลป.มั้ยคะ ช่วงปีพ.ศ.2481-2487 เป็นยุคที่เหตุการณ์บ้านเมืองค่อนข้างสงบสุข( และช่วงนี้ไทยยังมีสัมพันธ์ที่ดีกับญี่ปุ่นอยู่ค่ะ) เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของสังคมเก่า สู่สังคมใหม่แบบจอมพลป.ที่มีผลส่วนหนึ่งให้ไทยเป็นไทยแบบทุกวันนี้

คอมเม้นท์ยาวเลย หากเราเสียมารยาทต้องขอโทษด้วยนะคะ จะติดตามจันทร์จ้าวอยู่เงียบๆ ไม่ซนแล้วค่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 14-09-2015 05:36:11
ไม่มีก็โล่งใจ ค่ะ


มาเฝ้าติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 14-09-2015 06:43:16
รออ่านเลยยยยย กรี๊ดดดดด คู่ของหนูจันทร์นิ คุณหมอหรือเปล่าหนอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-09-2015 07:34:46
คุณหมอเป็นพระเอกแน่เลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 14-09-2015 07:41:31
ขอบคุณครับ   งานนี้เชียร์ใครดีน้อ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 14-09-2015 07:48:12
 :mc4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 14-09-2015 08:15:47
จันทร์นี่เด็ดจริง
อยากรู้ว่าใครจะมาปราบได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 14-09-2015 08:32:17
ต้อนรับเรื่องใหม่  น้องจันทร์แสบจริง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 14-09-2015 10:11:43
นิยายคุณบัวเราชอบมาก ดราม่าน้อยมีแต่ความฮา ^____^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 14-09-2015 10:40:37
ของขวัญเวอร์ชั่นย้อนยุครึเปล่าเนี่ย 5555

ดีใจมาก คุณบัวมาต่อแล้ว เย่ๆๆ
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 14-09-2015 11:24:03
ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 14-09-2015 11:35:21
สงสัยจะเป็นคุณหมอนี่หล่ะมั้ง 5555555 เนื้อคู่คุณจันทร์ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 14-09-2015 15:29:06
เย้ เปิดเรื่องใหม่แล้ว :mc4:
รอติดตามนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 14-09-2015 15:40:13
แอลได้แอบหลงเสน่ห์คุณชายเล็กๆแฮะ
คุณชายจะีมีคู่บ้างไหมคะ
อ่านแล้วฮีน่ารักนุ่มๆในแบบแปลกๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 14-09-2015 16:36:15
ชอบมากที่ไม่มีดร่าม่านี่แหละ  :mc4:

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 14-09-2015 16:53:39
มาปูเสื่อรอออออ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 14-09-2015 17:06:27
ภาษางามงดจรดหัวใจบ่าวมากค่ะคุณบัวขา

คุณจันทร์นี่นิสัยเจ้าชู้ประตูดินของแท้...
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 14-09-2015 22:01:38
  :mc4:  ได้อ่านแล้วเป็นปลื้ม 
 แต่ทำไมพลาด ได้อ่านช้าไปตั้งหนึ่งวัน  :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 15-09-2015 00:05:25
ชอบแบบนี้ ได้กลิ่นอายแบบไทยๆดี o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 15-09-2015 01:02:47
เรื่องใหม่ของคุณบัว :mc4:
ติดตามแน่นอน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-09-2015 02:30:42
ชอบสำนวณของคุณบัวมากๆ อ่านทุกเรื่อง ดีใจที่มีเณื่องใหม่มาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 15-09-2015 07:07:55
ติดตามเรื่องใหม่. แนวใหม่. จ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 15-09-2015 08:54:24
...ไม่ใช่แค่ ‘ถ้าหาคนที่ Perfect เท่าผมไม่ได้ ก็ไม่แต่งด้วย...’ เพียงอย่างเดียว แต่เขายังติดนิสัยไม่คิดจริงจังกับผู้หญิงด้วย...

คือไม่จริงจังกับผู้หญิง แต่คิดจริงจังกับผู้ชายใช่ไหมคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 15-09-2015 09:06:39
 :mew1: ใครหนอจะปราบคุณจันทร์ได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 15-09-2015 10:02:56
เปิดเรื่องใหม่...เกือบผ่านไปแล้วแฮะ ^^
ดีที่มองชื่อคนแต่ง...รีบกดอ่านแทบไม่ทันเชียว

พีเรียดลูกกวาด...ยาวแค่ไหนก็อ่านเหอะ
รักนิยายสุขนิยม ^^ ฮิ...

ดีใจที่มีนิยายใหม่มาให้ตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 15-09-2015 10:41:22
มารอตามติดเรื่องใหม่ค่ะ....
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: BamBerRy ที่ 15-09-2015 10:42:20
 :katai2-1: :katai2-1:  เมนท์แรกให้เรื่องนี้เลยค่ะ ชอบมาก ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Maw ที่ 15-09-2015 13:49:57
 น่าติดตามค่ะ เราชอบอ่านเรื่องที่ไม่มาม่าซะด้วย รอตอนไปค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 15-09-2015 14:14:12
คุณหมอกับจันทร์เจ้าสินะ เดาล้วนๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-09-2015 16:17:05
เปิดตัวพระ-นายแล้วใช่ไหมคะเนี่ย
แหม่ หนุ่มหัวนอกเฟี้ยวฟ้าวเจอหมอหนุ่มเคร่งขรึมหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-09-2015 16:42:02
รอ รอ ชอบตรงบอกไม่มีดราม่านี่แหละค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 15-09-2015 20:11:56
สงสัยจะได้หมอ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 15-09-2015 22:02:03
แค่เห็นชื่อคนแต่งก็รีบกดเข้ามาอ่านเลยค่ะ

และดีใจมาก ๆ ที่เรื่องนี้จะไม่มีดราม่า ?  อิอิ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 15-09-2015 22:46:15
โอ้ เพิ่งเห็นว่าพี่บัวมาลงเรื่องใหม่
ลงชื่อติดตามด้วยคนนะคะ
ชอบจังแนวลูกกวาด อิอิ
คุณจันทร์เจ้าคนงามสงสัยจะได้กับคุณหมอศัตรูหัวใจเสียล่ะมั้ง 5555

ขอบคุณพี่บัวมากค่าา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 16-09-2015 01:52:05
เหวย เหวย เห็นชื่อคนแต่งก็รีบมาอ่านโดยไว :hao7:
จันทร์จ้าว....แค่ชื่อก็อยากให้เป็นนายเอก แต่ดูท่าแล้ว........ดูไม่ออก :m23:
รอตอนต่อไปดีกว่า :bye2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 17-09-2015 07:31:09
พี่จันทร์เจ้าชู้อะ. ระวังได้สามีเพอร์เฟ็คแทนนะคะ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 17-09-2015 17:43:06
ว้าว ดีใจมากเลยฮะที่ได้อ่านเรื่องที่คุณบัวแต่งอีก
บรรยายเรื่องได้ดีสมยุคเลยฮะ 555+ คุณพงศ์แทนตัวเองว่ากันซะด้วย
นึกถึงยุค พล นิกร กิมหงวน เลย รอติดตามตอนต่อไปฮะ
ยกมือสนับสนุนพีเรียดลูกกวาด สองข้างสูงๆเลยฮะ (anti-drama) อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑ (๑๓ ก.ย. ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 17-09-2015 19:23:53
น่าติดตามมากๆค่ะ
พีเรียดลูกกวาดต้องน่ารักมากแน่ๆๆ
รอติดตามนะคะ ><
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 17-09-2015 20:52:57
จันทร์จ้าว
By: Dezair
……………………………..
บทที่ ๒


นอกจากหม่อมหลวงพงศ์ภราธรแล้ว จันทร์จ้าวยังมีเพื่อนอีกหลายคนที่ต้องไปเยี่ยมเยียนตามประสาคนกลับจากต่างประเทศหมาดๆ คุณหญิงออกจะใจคอไม่สู้ดียามเห็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนออกไปเยี่ยมเพื่อน จะขัดใจก็ไม่กล้า เพราะเกรงว่าลูกจะหาว่าหล่อนจู้จี้ แต่ครั้นจะไม่ถามเลย ก็เห็นจะไม่ใช่คุณหญิงผกา



   “วันนี้จะออกไปไหนล่ะพ่อ”



วันนี้ บุตรชายคนรองก็ยังตื่นเช้าเช่นเคยเหมือนทุกวันที่ผ่านมาที่ติดรถพี่ชายอย่างอาทิตย์ไปนั่นมานี่ แล้วตอนเย็น อาทิตย์จึงจะรับกลับมาพร้อมกัน บางวันก็กลับเย็น บางวันก็กลับค่ำ อาทิตย์ยอมรับกับมารดาว่าเป็นเพราะเขาเองที่เลิกงานไม่เป็นเวลา จึงกลับได้ตามที่เวลาของตนสะดวกเท่านั้น



   “ไปตีเทนนิสครับ นัดกับคุณพงศ์เอาไว้แล้ว”



   “แต่เช้าอย่างนี้เลยหรือ” คุณหญิงถามต่อเมื่อบุตรชายทรุดตัวลงนั่งรับข้าวเช้ากับหล่อนเช่นเคย จันทร์จ้าวแย้มยิ้มกว้างอย่างเอาใจ



   “ตอนเช้านัดกับเพื่อนฝรั่งเอาไว้ จะคุยเรื่องธุรกิจก่อนครับ” เป็นว่าตอนเช้าทำงาน ตอนบ่ายไปตีเทนนิส คุณหญิงผกาพอจะใจชื้นขึ้นมาหน่อยแล้วถามต่อ



   “ตอนเย็นก็ให้อาทิตย์ไปรับกลับเหมือนเคยหรือ แม่บอกแล้วว่าให้ซื้อรถเสียที ไปชี้เอาที่ร้าน เอาคันที่เขามีอยู่แล้วก็ได้ ก็ไม่เอา” ความเรื่องมากและเลือกมาของจันทร์จ้าวนั้นลามไปแม้กระทั่งเรื่องรถ เพราะเจ้าตัวต้องการรถที่ต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น และต้องเป็นรุ่นที่ชอบ สีที่ใช่ จนบัดนี้ คุณหญิงจึงยังไม่ได้สั่งให้บุตรชายเสียที เพราะเจ้าตัวยังไม่มีที่ชอบและที่ใช่นั่นเอง



   “ผมไม่ได้ลำบากอะไรนี่ครับ ติดรถพี่อาทิตย์ก็ไม่เปลืองด้วย” คุณหญิงผกาก็ได้แต่ตามใจ จันทร์จ้าวกลับบ้านพร้อมอาทิตย์ก็ดีไปอย่าง อย่างน้อยหล่อนก็จะได้สบายใจว่าบุตรชายจะไม่ไถลไปที่ไหนกับผู้หญิงสักคนที่หล่อนไม่ชอบใจ



   “เอาเถอะ ตามใจแล้วกัน อาทิตย์ก็อย่าเลิกงานดึกนัก จะได้ไม่พากันกลับค่ำ”



   “ปล่อยลูกมันเถอะคุณหญิง อาทิตย์กับจันทร์ก็โตแล้ว ให้เขาดูแลตัวเองบ้าง” ท่านนายพลได้แต่ปรามความจู้จี้ของภริยา คุณหญิงผกาทำหน้าตึงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้โต้เถียงอะไร ก้มหน้ารับข้าวเช้าไปอย่างเงียบๆแล้วปล่อยให้บุตรธิดาทั้ง ๔พูดคุยกันเบาๆแทน


.........................................




   หลังจากแวะคุยงานกับเพื่อนฝรั่งที่สำนักงานตามที่บอกกำหนดการกับมารดาแล้ว จันทร์จ้าวก็แวะไปที่สโมสรเทนนิสในตอนบ่าย



   ที่นี่คราคร่ำไปด้วยผู้คน แม้จะเป็นวันธรรมดายามบ่ายก็ตามที สมัยนี้ผู้หญิงไทยก็ตีเทนนิสเป็นแล้ว แต่ส่วนใหญ่ไม่เก่งเท่าไรนัก ดูเหมือนพวกเธอจะมาเป็นดอกไม้ประดับข้างคอร์ดเสียมากกว่า ชายหนุ่มมองตามขาเรียวของสาวๆที่อยู่ในชุดกางเกงสั้นสำหรับเล่นกีฬาเสียเพลิน



   “อยู่ที่ไหนก็มองเป็นแต่ผู้หญิงหรือ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอดไม่ได้ต้องหยอกเพื่อนรักที่หาเรื่องขึ้นมานั่งพักริมคอร์ดทั้งที่ดูไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด



   “หืม? ก็มีให้มองก็มองซี” ปากว่า แต่สายตาไม่หันกลับมามองเพื่อนเลยสักนิด ดวงตากลมใหญ่ยังคงจับจ้องไปที่สตรีที่สนามถัดไป รอยยิ้มที่มองเห็นลักยิ้มบุ๋มนั้นถูกส่งไปยังหญิงสาวที่สวมกางเกงขาสั้นอวดเรียวขาขาว



   “ว่าก็ว่าเถอะ ขนาดตีเทนนิสไปมองผู้หญิงไป ก็ยังชนะ” นายวินิต เพื่อนที่รวมกลุ่มตีเทนนิสด้วยกันออกปากอย่างเจ็บใจ คราวนี้จันทร์จ้าวหันกลับมาหัวเราะ



   “แน่สิ ผมเป็นใคร”



   “ยังนี้น่าจะให้แข่งกับคุณหมอ” นายวินิตว่าอย่างนั้น ทำเอาจันทร์จ้าวขมวดคิ้วฉับ



   “คุณหมอ?” เขาทวนแล้วหันมองหม่อมหลวงพงศ์ภราธรราวกับต้องการการขยายความ



   “คุณหมอภวัตไงล่ะ! ไม่รู้จักคุณหมอภวัตหรือ? จริงสิ คุณจันทร์เพิ่งกลับจากอเมริกา คงยังไม่รู้จัก ไว้คราวหน้าจะแนะนำให้แข่งกัน ท่าจะสนุกพิลึก” นายวินิตพูดต่อแล้วหันไปยิ้ม ถ้าหากมีการแข่งกันจริง เขาคงนึกไม่ออกว่าจะลงพนันข้างไหนดี!



จันทร์จ้าวนั่งนิ่ง ขมวดคิ้วหน้าตึง ชื่อของ ‘คุณหมอภวัต’ ทำเขารู้สึกตะขิดตะขวงใจ ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา เขาได้ยินชื่อนี้มา ๒ ครั้งแล้ว ครั้งแรกคือที่วังฉัตร และครั้งที่ ๒ คือที่นี่ ดูเหมือน ‘คุณหมอภวัต’ จะเป็นคนมีชื่อเสียงของกรุงเทพฯเสียจริง



   “อะไร้ ทำหน้าเหมือนเด็กขี้อิจฉา” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหยอกเพื่อนรัก และแน่นอนว่าจันทร์จ้าวสวนทันควัน



   “ผมไม่ได้อิจฉา”



   “เห็นอยู่ว่าอิจฉา อยากรู้จักคุณหมอไหมเล่า กันจะพาไปแนะนำ เมื่อตอนเข้ามาก็ว่าเห็นแว่บๆ คงอยู่แถวนี้ล่ะ” เพียงเท่านั้น จันทร์จ้าวก็กอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ปานจะไม่ลุก



   “ทำไมไม่พาคุณหมอของคุณพงศ์มาแนะนำกับผมล่ะ?!” เรื่องเจ้ายศเจ้าอย่างนั้นก็ไม่มีใครเกินจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหัวเราะชอบใจกับท่าทางราวเด็กของเพื่อนรัก



   “แกมันขี้อิจฉาจริงๆ เอาเถอะ ไม่อยากรู้จักก็ไม่เป็นไร กรุงเทพฯเล็กเท่านี้ อีกเดี๋ยวคงได้เจอ ว่าแต่เราจะไปไหนต่อดี แกคงไม่อยากตีเทนนิสแล้วกระมัง”



   “ไปไหนไม่ได้ เสร็จจากนี่แล้วต้องไปดูหนัง”



   “แล้วไม่ต้องกลับกับคุณอาทิตย์หรือ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งคำถาม จันทร์เจ้ายกยิ้มมุมปากให้เพื่อนรักแล้วลุกขึ้นยืน



   “กลับสิ แต่วันนี้พี่อาทิตย์กลับค่ำ ผมจะไปดูหนังก่อน”



   “เอ้า! คุณอาทิตย์กลับค่ำ แล้วแกจะไปดูหนังกับใคร?” ราชนิกูลหนุ่มยังคงสงสัย คราวนี้เพื่อนรักของเขาหัวเราะน้อยๆแล้วชูกระดาษแผ่นเล็กที่มีลายมือโต้ตอบของเขาและใครอีกคนให้ดู



   “กับคุณวนิดา”



   “คุณวนิดา?!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรร้องด้วยความฉงน ก่อนจะตั้งคำถามต่อ


“คุณวนิดาไหน”


“เอ?...ไม่ทราบเหมือนกัน” คราวนี้ทั้งราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรและนายวินิตพากันเกาศีรษะ



“นามสกุลล่ะ”



“ไม่รู้ซี เพิ่งรู้ชื่อเมื่อครู่นี้” คำพูดของจันทร์จ้าวไม่ให้ความกระจ่างเสียเท่าไร และดูเหมือนเจ้าตัวก็ไม่คิดจะอธิบายเพิ่มเติมเสียด้วย



   “ผมต้องไปก่อนล่ะ” เขาเอ่ยลา ก่อนจะเดินออกจากคอร์ด หญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มหวานหยดเยิ้มที่คอร์ดข้างเคียงก็เดินออกจากสนามเช่นเดียวกัน แล้วคนทั้งคู่ก็เดินเคียงออกจากสโมสรเทนนิสไป ในขณะที่เสียงอื้ออึงของกลุ่มเพื่อนดังตามหลังด้วยสรรเสริญที่จันทร์จ้าวผู้มากเสน่ห์ลงไปเล่นเทนนิสได้ไม่นานและกลับขึ้นมานั่งริมคอร์ดอีกครู่ใหญ่ แต่สามารถพาหญิงสาวสวยออกจากสโมสรไปดูภาพยนตร์ได้แล้ว



   “ไม่ธรรมดาจริงๆ เพื่อนคุณพงศ์น่ะ” เสียงชมเชยของนายวินิตนั้นไม่ได้ทำให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรดีใจเลยแม้แต่น้อย เขาถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม



   ...พ่อพวงมาลัยอย่างจันทร์จ้าว ดูท่าแล้วคงไม่มีใครทำให้หมดฤทธิ์ได้หรอก...



.............................



   แน่นอนว่าเรื่อง ‘คุณวนิดา นามสกุลอะไรไม่ทราบ ที่บ้านทำมาหากินอะไรไม่เป็นที่ปรากฏ’ นั้น ไม่มีทางรู้ถึงหูคุณหญิงผกา จันทร์จ้าวไม่ได้โกหกมารดา เพียงแต่เขาบอกไม่หมดเท่านั้นเอง ว่าทุกวันที่ออกจากบ้านไปคุยธุรกิจกับเพื่อนฝรั่ง ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าในกรุงเทพฯ ไปตีเทนนิสกับคุณพงศ์ ฯลฯ เขายังไปดูภาพยนตร์กับคุณวนิดา ไปรับประทานอาหารกลางวันกับคุณสายสมร หรือแม้แต่ไปเดินชมบรรยากาศยามเย็นกับคุณศรีอำไพ ชายหนุ่มไม่คิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเสียหาย เขาฆ่าเวลารอกลับบ้านพร้อมอาทิตย์ ก็เหมือนไปตีเทนนิสกับคุณพงศ์นั่นล่ะ เพียงแต่ไม่ได้ไปตีเทนนิส และคนที่ไปด้วยไม่ใช่คุณพงศ์แต่เป็นผู้หญิงที่เป็นเพื่อนของเขา



และแน่นอน...ผู้หญิงชอบความเป็นหนึ่ง ดังนั้นทุกครั้งที่เขาไปกับพวกหล่อนเหล่านั้น เขาจึงเลือกที่จะไปกับคนใดคนหนึ่ง วันละคน ไม่ซ้ำคนในหนึ่งสัปดาห์...เท่านั้นเอง...



แต่แม้จะมีเพื่อนผู้หญิงมากมาย จันทร์จ้าวก็เป็นคนตรงเวลา หากนัดอาทิตย์ว่าจะกลับเวลาใด เขาก็จะมาปรากฏตัวที่กรมเพื่อรอกลับพร้อมพี่ชายเสมอ อาทิตย์จึงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่บ้าง ยามมีคนมากระซิบว่าเห็นจันทร์จ้าวเดินอยู่กลางกรุงเทพฯโดยมีผู้หญิงขนาบข้างไม่ซ้ำหน้า



ทว่า...ไม่ใช่วันนี้



“จันทร์...” นายทหารหนุ่มเอ่ยปากเมื่อน้องชายก้าวขึ้นนั่งเบาะหน้าคู่กันในยามเย็น เตรียมตัวกลับบ้าน



“ครับ?” จันทร์จ้าวหันมามอง



“กลิ่นน้ำหอมผู้หญิง” อาทิตย์เตือน คนเป็นน้องเลยรีบยกแขนเสื้อตัวเองขึ้นดม แล้วก็ต้องเบ้หน้า



“คุณอรุณีใช้น้ำหอมแต่ละกลิ่น นี่แค่กอดแขนผมยังติดมา” เขาบ่น แต่ก็ไม่ทำอะไร เพียงแค่เอนหลังพิงพนักเท่านั้น



“คุณแม่จะจับได้เอา พี่ว่าจันทร์เลิกไปเที่ยวกับผู้หญิงดีกว่าไหม”



“พี่พูดเหมือนผมไปทำชั่ว พวกเขาก็เพื่อนผมทั้งนั้น...”



“แล้วก็เป็นเพื่อนผู้หญิงทั้งนั้น” อาทิตย์ต่อ จันทร์จ้าวเลยได้แต่เงียบไปครู่ แล้วค่อยเถียงต่อ



“เพื่อนผู้ชายก็มี แต่ไปดูหนังก็ต้องไปกับเพื่อนผู้หญิงไม่ใช่หรือ ไปทานไอศกรีมก็ต้องไปกับผู้หญิง ไปเต้นรำ ไปเดินเล่นก็ต้องไปกับผู้หญิง ไปกับเพื่อนผู้ชายจะสนุกอะไร”



“ถ้าอย่างนั้นก็หาเพื่อนผู้หญิงที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ” จันทร์จ้าวทำหน้าหน่าย วันนี้เขาเบื่ออรุณีที่เอาแต่พันแข้งพันขาตลอดเวลา ฉุนกลิ่นน้ำหอมของเธอ และไม่ถูกปากร้านอาหารที่เธอเลือก ซ้ำยังมาถูกพี่ชายบ่นเข้าอีก คนเป็นน้องเลยพาลพาโลเอาเสียเลย



“ก็ได้ๆ! คราวหน้าผมจะไปกับเพื่อนผู้หญิงดีๆแล้วกัน!!” พอน้องชายโพลงออกมาอย่างนั้นอาทิตย์ก็อ่อนใจจะดุ เขาได้แต่ถอนหายใจยาวแล้วไม่พูดอะไรอีก ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ ทว่า...คนที่นั่งข้างเขากลับดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง



“ผู้หญิงดีๆที่ผมไปไหนด้วยได้โดยที่คุณแม่ไม่ว่านี่ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างหรือ?”



แล้วจู่ๆ เจ้าตัวก็ตั้งคำถามอย่างที่อาทิตย์ไม่คิดว่าจะได้ยิน นายทหารหนุ่มผู้อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีงามชะงักไปในทันที เขาหันมองจันทร์จ้าวเหมือนไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้ ทว่าน้องชายของเขากลับทอดสายตามองออกไปนอกกระจกรถราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์



“ต้องเป็นกุลสตรีใช่ไหม? ต้องมีชาติตระกูล ต้องมีการศึกษา แต่ผมชอบผู้หญิงสวย เพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นผู้หญิงที่สวยด้วย...อืม...” จันทร์จ้าวพึมพำแต่ทุกคำเข้าหูพี่ชายทั้งหมด แล้วอึดใจต่อมา รอยยิ้มก็ปรากฏที่มุมปากจนลักยิ้มบุ๋มลงไปที่แก้มซ้าย เจ้าตัวหันกลับไปมองพี่ชาย



   “พี่อาทิตย์รู้จักคุณพิมน้องคุณพงศ์ใช่ไหม”



“ก็...พอรู้จักอยู่”



“ผมตัดสินใจแล้ว เป็นคุณพิมแล้วกัน ผมเคยเห็นในรูปถ่าย เธอสวย คุณชายฉัตรก็เคยชมเรื่องเธอให้ผมฟังว่าทั้งเก่งทั้งมีความสามารถ พี่อาทิตย์นัดเธอมาเจอผมได้ไหม ที่จริงผมก็อยากให้คุณพงศ์เป็นคนนัดให้ แต่เกรงว่าคุณพงศ์จะหวงน้อง วานพี่อาทิตย์แทนแล้วกัน”



   “วานพี่?!!” อาทิตย์ร้องอย่างตกใจ



   “ก็ใช่น่ะซี ตั้งแต่ผมกลับมา ยังไม่ได้เจอกันสักที ไปที่วังฉัตรทีไรก็คลาดกันทุกครั้ง”



“แล้ว...แล้วพี่จะไปนัดคุณพิมเธอมาได้อย่างไร?!” อาทิตย์มองไม่เห็นทาง เขาเป็นทหาร ในขณะที่ราชนิกูลสาวเป็นครูที่โรงเรียนสตรี จริงอยู่ว่าน้องสาวของเขาก็ทำงานอยู่ที่นั่น แต่เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองควรจะเข้าไปยุ่มย่ามในโรงเรียนสตรี



“โธ่! จะไปยากอะไร พี่อาทิตย์ก็ไปวานดาราอีกที ผมวานดาราไม่ได้หรอก ดาราชอบขุ่นผมเรื่องผู้หญิง ถ้าเป็นพี่อาทิตย์ ดาราต้องนัดคุณพิมให้แน่”



   “แต่...” อาทิตย์ผู้เถรตรงพูดไม่ออก เขาไม่เคยคิดเรื่องพรรค์นี้อย่างซับซ้อนเช่นจันทร์จ้าวมาก่อน ประเภทวานคนนั้นให้ไปขอคนนี้มาช่วยเหลือเพื่อแนะนำผู้หญิงสักคน อาทิตย์ รักษพิพัฒน์ไม่มีทางทำเช่นนั้น แต่...ไม่ใช่จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์



   “พี่อาทิตย์ก็บอกไปว่าพี่จะไปด้วย มีผม มีพี่ มีดารา มีนภา แล้วก็มีคุณพิม ไปหาภัตตาคารดีๆทานข้าวกัน เอาเป็นพรุ่งนี้ตอนเย็นไหม พี่เลิกงานเร็วหน่อย รับผม รับนภา รับดาราและคุณพิม แล้วเราไปเยาวราชกัน”



   “เยาวราช?!!” อาทิตย์ยังตกใจไม่เลิก แต่จันทร์จ้าวกลับตบไหล่พี่ชายเหมือนฝากฝัง



   “ตามนี้แล้วกัน ผมฝากด้วย ถ้าคราวต่อไปผมไปเที่ยวกับคุณพิม พี่จะได้เลิกกังวลว่าคุณแม่จะจับได้อย่างไรล่ะ” แล้วคนน้องก็เหมือนจะไม่สนใจอะไรอีก ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ ในขณะที่อาทิตย์ได้แต่อ้าปากค้างและขับรถกลับบ้านอย่างที่เรียกว่าแทบจะไร้สติ


..................................
   



   ดึกมากแล้ว แต่อาทิตย์ รักษพิพัฒน์ยังคงเดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าห้องพักผ่อนของน้องสาวคนเล็ก ชายหนุ่มอยากจะยกมือเคาะประตูเพื่อขอคุยด้วยเป็นการส่วนตัว แต่...เรื่องที่จะคุยนั้นช่างตะขิดตะขวงใจเขาเสียเหลือเกิน



   ‘...จะไปยากอะไร พี่อาทิตย์ก็ไปวานดาราอีกที...’ 



เรื่องไหว้วานคนอื่นนั่นล่ะยาก! อาทิตย์ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างคิดไม่ตก นี่เขาต้องวานดารารัษมีจริงหรือ...ถ้าหากเขาไม่ทำ จันทร์จ้าวก็จะไม่ได้รู้จัก ‘คุณพิม’ เสียที แล้วถ้าเป็นเช่นนั้น น้องชายของเขาก็จะไปเที่ยวกับผู้หญิงเหลวๆพวกนั้น ในที่สุดมารดาก็อาจจะจับได้ แล้วถ้าถึงตอนนั้น...ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณหญิงผกาจะเป็นเช่นไร



...แต่...ถ้าจันทร์จ้าวรู้จัก ‘คุณพิม’ แล้วเกิดชอบพอกับสตรีผู้นั้น...



   อาทิตย์คิดถึงถึงเรื่องนี้แล้วสีหน้าก็หม่นหมอง เขาไม่มีสิทธิ์หวงแหนใครทั้งนั้น ถ้าหากตัวเองเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าเผยความในใจ หากหม่อมหลวงพิมพัชราเลือกจันทร์จ้าว เขาก็คงทำได้แค่ยินดีด้วย ชายหนุ่มพยายามกดเก็บความรู้สึกมากมายลงไปในอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะสูดลมหายใจลึกราวกับตัดสินใจ เขายกมือขึ้นเคาะประตูห้องพักผ่อนส่วนตัวของน้องสาว รออยู่อึดใจหนึ่ง บานประตูก็เปิดออก ดารารัษมีโผล่หน้าออกมา



   “มีอะไรหรือคะพี่อาทิตย์”



   “คือ...เอ่อ...คือ...พรุ่งนี้...พรุ่งนี้ดาราว่างไหม”



   “ดารามีสอนค่ะ”



   “ไม่...พี่...พี่หมายถึงตอนเย็น...เอ่อ...คุณพิมด้วย...เอ่อ...” พอหลุดปากเรื่อง ‘คุณพิม’ ออกไปแล้ว อาทิตย์ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ควรออกตัวเรื่องราชินกูลสาวผู้นั้นไปก่อนเลย



   “คุณพิม?...พี่อาทิตย์หมายความว่าอย่างไรคะ”



   “คือ...” พอถูกน้องสาวถามย้ำมาเช่นนั้น อาทิตย์ก็ยิ่งอึกอัก ก่อนที่สุดท้ายเขาจะตัดสินใจพูดความจริง



   “จะชวนไปรับประทานอาหารเย็นที่เยาวราช ชวนคุณพิมด้วย”



   “ชวนดารากับคุณพิมหรือคะ” ดารารัษมีออกจะสงสัยเป็นที่สุด เพราะอาทิตย์นั้นเป็นพี่ชายอย่างที่เป็นสุภาพบุรุษชนิดที่แทบไม่ข้องแวะกับผู้หญิงด้วยซ้ำ กับหล่อนที่เป็นน้องสาว ยังนับครั้งได้ที่เขาจะชวนไปไหนมาไหน แต่ถ้าหากเป็นหล่อนออกปากชวน แม้ว่าเขาจะยุ่งเพียงใด แต่ก็จะพยายามไปตามคำชวนของหล่อนทุกครั้ง แต่ทำไมครั้งนี้...เขาถึงเป็นฝ่ายชวนเสียเอง? ซ้ำยังให้ชวน ‘คุณพิม’ อีก



   “ใช่...ชวนนภาด้วย เอ่อ...ไปกันหลายๆคน มีพี่ มีจันทร์ มีนภา มีดาราแล้วก็คุณพิม...”



   “แล้วทำไมต้องมีคุณพิม” ดารารัษมีตั้งคำถามด้วยความสงสัย ดวงตากลมจับจ้องพี่ชายอย่างจับผิด ซึ่งหากคนตรงหน้าเป็นจันทร์จ้าว หล่อนคงยิ่งซักกว่านี้ แต่นี่...ไม่ต้องซัก อาทิตย์ก็อึกอักให้เห็นแล้ว หญิงสาวจับจ้องพี่ชายที่ยังคงมีท่าทีแข็งเกร็งแล้วก็นึกรู้ว่านี่คงไม่ใช่ความคิดของอาทิตย์แน่ๆ



   ...ต้องมีใครสักคนขอให้อาทิตย์มาชวนหล่อน ชวนนภาสรวง และชวน ‘คุณพิม’...



   “พี่จันทร์ให้พี่อาทิตย์มาชวนใช่ไหม” ความเงียบของอาทิตย์ทำเอาดารารัษมีนึกเคืองพี่ชายคนรองที่คิดจะใช้หล่อนและอาทิตย์เป็นสะพานไปหา ‘คุณพิม’ หญิงสาวก้าวออกจากห้องตั้งท่าจะไปเอาเรื่องจันทร์จ้าวที่ห้องส่วนตัวของฝ่ายนั้น แต่อาทิตย์คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน



   “พี่เองก็อยากไป...” เขายอมรับอย่างเก้อๆ



   “เอ่อ...ดาราก็เห็น...พี่แทบไม่ได้ไปไหน ถ้าไม่ไปกรมก็กลับบ้าน เยาวราชก็ไม่ได้ไปนานแล้ว แล้ว...ก็เป็นโอกาสดี ที่พวกเราจะได้ไปด้วยกัน เอ่อ...โดยที่มีคุณพิมไปด้วย...” ท่าทางของอาทิตย์นั้นดูน่าสงสารเมื่อเขาสารภาพว่าตนเองแทบไม่ได้ใช้ชีวิตเฉกเช่นหนุ่มฉกรรจ์ทั่วไป ไม่ได้มีสังคมรื่นเริง ไม่ได้คบค้าสมาคมกับเพื่อนฝูงมากกว่าเพื่อนที่ทำงาน ดารารัษมีมองใบหน้าของพี่ชายแล้วได้แต่ถอนหายใจ



   “ดาราจะชวนคุณพิมให้ แต่ไม่รับปาก ว่าคุณพิมจะไปไหม”



   “ขอบใจมากนะดารา” อาทิตย์ส่งยิ้มจางให้น้องสาว



   “ถ้าเป็นพี่อาทิตย์ชวนเอง ดาราจะตั้งใจชวนคุณพิมมากกว่านี้ แต่นี่เป็นพี่จันทร์...ดาราไม่สนับสนุน คุณพิมเธอดีเกินกว่าผู้ชายมากรักอย่างพี่จันทร์!” ดารารัษมีว่าอย่างนั้นแต่ไม่วายส่งสายตาขุ่นเคืองไปยังประตูห้องนอนของพี่ชายคนรองที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไปโดยทิ้งอาทิตย์ไว้เช่นนั้น ชายหนุ่มมองบานประตูห้องพักผ่อนของน้องสาวที่ปิดลง แล้วได้แต่เงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่อยู่เหนือเรือนไทยรักษพิพัฒน์



   ...หากเป็นเขาชวนหรือ...



เขาจะชวนได้อย่างไรกัน ผู้ชายที่วันๆทำแต่งานและไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆเช่นเขา ไม่มีค่าพอจะชวน ‘คุณพิม’ ไปเที่ยวที่ใดหรอก

.........................................



   แม้ดารารัษมีจะออกปากแล้วว่าไม่รับปาก แต่ในเย็นวันต่อมา เมื่อรถโฟล์คสีดำสนิทของอาทิตย์เลี้ยวเข้ามาในโรงเรียนสตรีกัลยาณี ข้างกายดารารัษมีที่ยืนรออยู่ก็มีสตรีอีกคนยืนเคียงข้าง จันทร์จ้าวเห็นร่างแบบบางนั้นตั้งแต่รถยังขับไปไม่ถึงคนทั้งคู่ แค่เห็นจากที่ไกลเขาก็จำได้ในทันทีว่าสตรีผู้นั้นเป็นคนเดียวกับสตรีในกรอบรูปที่คุณชายฉัตรให้เขาดู



   ...หม่อมหลวงพิมพัชรา...



   รถโฟล์คจอดทั้งที่ยังติดเครื่อง ดารารัษมีก็เปิดประตูที่นั่งตอนหลังแล้วส่งเสียงเข้าไปทักทาย



   “สวัสดีค่ะพี่อาทิตย์ พี่จันทร์ นภา” หล่อนว่าอย่างนั้นแล้วก้าวเข้าไปนั่งข้างพี่สาวแฝด ขยับที่ให้เหลือเพียงพอสำหรับแขกผู้มีเกียรติอีกหนึ่ง



   “สวัสดีค่ะคุณอาทิตย์” หล่อนส่งเสียงมาก่อน อาทิตย์เพียงแค่หันไปค้อมศีรษะทักทายเพราะอีกฝ่ายอายุน้อยกว่าเขาหลายปี จันทร์จ้าวหันไปดูบ้าง ระยะใกล้เพียงเท่านี้ทำให้เขามองเห็นความงามหมดจดของ ‘คุณพิม’



   ...ไม่เสียแรงที่ไหว้วานพี่อาทิตย์ให้มาชวน!...



   “สวัสดีค่ะ คุณจันทร์ ไม่เจอกันนานนะคะ” เธอหันมาทักเขาแล้วยกมือไหว้ มันออกจะคับแคบไปสักหน่อยที่จันทร์จ้าวซึ่งนั่งหน้าต้องเอี้ยวตัวไปรับไหว้ แต่เขาก็คิดว่ารอยยิ้มมีเสน่ห์ของตนคงจะพอทำให้ ‘คุณพิม’ สนใจเขาอยู่บ้าง



   ราชนิกูลสาวผู้เป็นทายาทอีกคนของวังฉัตรก้าวขึ้นรถเรียบร้อย รถโฟล์คสีดำของอาทิตย์ก็เคลื่อนตัวออกจากโรงเรียนสตรีกัลยาณี


........................................

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 17-09-2015 20:54:28
   แม้จะขุ่นเคืองพี่ชายคนรองทุกครั้งที่เขาไถลไปกับผู้หญิงชนิดไม่ดูหัวนอนปลายตีน แต่ดารารัษมีก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมว่าจันทร์จ้าวเป็นคนช่างคุยและมีมิตรไมตรีดีเยี่ยม แม้วันนี้จะเป็นครั้งแรกในรอบ ๖ ปีที่ได้พบหน้ากัน แต่จันทร์จ้าวก็สามารถสร้างความสนิทสนมขึ้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว



   “คุณจันทร์คงเป็นนักเรียนที่เฮี้ยวน่าดู พิมโชคดีเหลือเกินค่ะ นักเรียนของพิมไม่มีเฮี้ยวอย่างคุณจันทร์สักคน” ความสนิทสนมทำให้หม่อมหลวงพิมพัชราหยอกล้อคุยเล่นกับชายหนุ่มได้อย่างสนิทใจ ดารารัษมีซึ่งคบหากับเธอมานาน ยังดูออกว่ามิตรภาพของคนทั้งคู่งอกงามรวดเร็วราวกับคู่สร้างคู่สม



   “โถ! แต่สมัยผมเป็นนักเรียน ผมล่ะอยากได้ครูอย่างคุณพิมนะครับ นี่อะไร้! ผมเจอแต่ครูดุๆทั้งนั้นเลย ถูกลงโทษแต่ละที โดนตีจนขาลายไปหมด ครั้งหนึ่งผมเคยหนีเรียน อ้ายเราก็นึกว่าถ้าหนีเรียนแล้วยกโต๊ะไปซ่อนที่อื่นด้วย ครูจะไม่ทันสังเกต แต่กลายเป็นว่าครูท่านนั้นเรียกชื่อทีละคน พอเรียกมาถึงเด็กชายจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์เท่านั้นล่ะ ความเลยแตก ว่าหนีเรียนแล้วยังริเอาโต๊ะเรียนไปเก็บที่อื่นด้วย” คนทั้งโต๊ะหัวเราะไปกับเรื่องเล่าสมัยเด็กของเขา แม้กระทั่งดารารัษมียังอดไม่ได้ที่จะสนุกไปกับเรื่องของพี่ชายคนรอง



   “แล้วถูกลงโทษอย่างไรคะ” หญิงสาวผู้ไม่ได้ใช้สกุลรักษพิพัฒน์เพียงคนเดียวในโต๊ะตั้งคำถามด้วยความอยากรู้



   “ถูกตี แต่จำไม่ได้แล้วว่ากี่ที แล้วก็ถูกสั่งให้ทำความสะอาดโต๊ะเรียนทั้งหมดในห้อง ในห้องมีร่วม ๒๐ โต๊ะได้แน่ะครับ ก็เลยต้องอยู่เย็นกว่าทุกวัน ไม่ได้กลับบ้านพร้อมคนอื่นๆเขา รถที่บ้านมารับก็ต้องให้รถรับพวกนี้เขาไปก่อน คุณแม่ท่านก็เลยสงสัยว่าทำไมมีแต่ผมที่ยังไม่กลับ เลยนั่งรถมาหาผมที่โรงเรียน กลายเป็นว่าคุณแม่มาเจอคุณครูท่านนั้นพอดี แล้วหลังจากนั้น...อย่างถามผมเลยนะครับ ว่าถูกริบค่าขนมไปอีกเท่าไร” หน้าตาทำเป็นเศร้าของจันทร์จ้าวยิ่งทำให้คนฟังหัวเราะอย่างสนุกสนาน



   “นภาจำได้ ตอนนั้นพี่จันทร์ถูกลงโทษให้ไปนอนในห้องของคุณพ่อคุณแม่ เพราะคุณแม่เกรงว่าถ้าพี่จันทร์นอนห้องตัวเองแล้วจะไม่ยอมทำการบ้านด้วย” นภาสรวงเสริมขึ้นมา จันทร์จ้าวพยักหน้าหงึกหงัก



   “ใช่ ไปนอนห้องคุณพ่อคุณแม่เป็นเดือนเลย กว่าจะได้กลับมานอนห้องตัวเองอีก”



   “คุณหญิงท่านคงเกรงว่าคุณจันทร์จะเกเรนะคะ” ราชนิกูลสาวเอ่ย



   “แต่ผมก็ไม่เกเรนะครับ! ที่เห็นว่าหนีเรียนก็เพราะวิชานั้นมันง่ายออกจะตายไป สู้เอาเวลาไปเก็บมะม่วงหลังโรงเรียนมากินก็ไม่ได้” คราวนี้คุณครูผู้แสนใจดีของโรงเรียนสตรีกัลยาณีถึงกับทำตาโต



   “นี่อย่าบอกนะคะว่าหนีเรียนเพื่อไปเก็บมะม่วง?!” ไม่มีคำตอบจากชายหนุ่ม แต่แค่ใบหน้าเหมือนจะยอมรับอยู่ในทีของเขาก็ทำให้คนรอบข้างหัวเราะได้อย่างง่ายดาย



   “พี่จันทร์นี่น่าเกลียดจริง! นี่ดาราไม่รู้มาก่อนว่าตอนที่หนีเรียนคราวนั้น หนีเพื่อไปเก็บมะม่วง!” ดารารัษมีบ่นพี่ชายอย่างไม่จริงจังนัก เพราะทั้งระอา ทั้งขำ จันทร์จ้าวเป็นคนแผลงอย่างนี้เสมอ แต่ละเรื่องของเขาพอนำมาเล่าสู่กันฟังแล้วแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เพราะเป็นจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์จอมแผลง เรื่องเช่นนี้ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ



   “ถ้าพิมเป็นคุณครูท่านนั้น พิมคงโกรธจนพูดไม่ออกแน่ค่ะ มีอย่างที่ไหน เรารึก็ตั้งใจมาสอน นักเรียนกลับเห็นมะม่วงดีกว่าวิชาของเราเสียได้” แล้วหลังจากเรื่องหนีเรียนเก็บมะม่วงของจันทร์จ้าว ก็มีอีกหลายเรื่องซึ่งล้วนเป็นเรื่องแผลงของเขาทั้งสิ้น แต่ทั้งอย่างนั้นกลับไม่ใช่เรื่องตลกหยาบโลนเลยแม้แต่นิด ชายหนุ่มทำตัวสมเป็นบุตรชายของพลตำรวจโทเดชและคุณหญิงผกา เป็นสุภาพบุรุษและปัญญาชนได้อย่างดีเยี่ยม



   หลังจากรับประทานอาหารไปได้พักใหญ่ จันทร์จ้าวก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ดารารัษมีเห็นว่าเป็นการดีที่หล่อนจะได้พูดคุยกับพี่ชายคนรองอย่างส่วนตัว จึงขอไปห้องน้ำด้วยเช่นกัน



   ชายหนุ่มออกจากห้องน้ำเมื่อจัดการธุระเรียบร้อย ก็พบว่าน้องสาวยืนแกร่วรออยู่ข้างหน้าทั้งที่น่าจะกลับโต๊ะไปก่อน



   “มีอะไรหรือ” เขาถามราวกับรู้ตัว ดารารัษมีหันมามองหน้าเขา ก่อนจะเหลือบตากลับไปมองโต๊ะของพวกตนที่อยู่ไกลลิบๆ ในภัตตาคารจีนวันนี้คนหนาแน่นเป็นพิเศษ ไม่มีโต๊ะว่างเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นคนที่โต๊ะก็ไม่น่าจะสังเกตเห็นว่าหล่อนและพี่ชายกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าห้องน้ำ



   “คุณพิมดูท่าจะชอบพี่จันทร์” หล่อนพูด ด้วยเพราะสนิทสนมกับหม่อมหลวงพิมพัชรามานาน มีหรือจะไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานผู้นั้นออกจะถูกใจความมีมิตรไมตรีของพี่ชายหล่อน และสิ่งเดียวทีดารารัษมีคิดว่าตนควรทำ คือทำอย่างไรก็ได้ให้พี่ชายมากรักของหล่อนจริงจังกับความรู้สึกของสตรีผู้นั้น หากจันทร์จ้าวชอบพอก็ขอให้เรียนรู้นิสัยใจคอราชนิกูลสาวเพียงผู้เดียวอย่าไปเที่ยวข้องแวะกับสตรีใด แต่ถ้าหากมองเห็นเป็นเพียงเพื่อน ก็ขอให้อย่าโปรยเสน่ห์ไปมากกว่านี้เลย



   จันทร์จ้าวหัวเราะในลำคอ พลางมองตรงไปที่โต๊ะ ดูเหมือนจะมีคนรู้จักแวะเข้ามาทักทายด้วย เขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มร่างสูงที่เข้าไปทักทายนั้นเป็นใครและรู้จักกับใคร แต่ก็เห็นทั้งพี่ชาย น้องสาวและหม่อมหลวงพิมพัชราพูดคุยและยิ้มแย้มราวกับสนิทสนมกันดี



   “เธอชอบพี่เพราะเห็นว่าพี่คุยสนุกก็เท่านั้น” เขาเปรยอย่างรู้จักนิสัยผู้หญิงดี ชายหนุ่มคบหากับผู้หญิงมามากมาย มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนใดคาดหวังอะไรจากเขา บางคนเข้าหาเขาเพราะเขาเป็นคนสนุกสนาน บางคนเข้าหาเขาเพราะต้องการความโก้หรู และบางคนเข้าหาเขาเพราะต้องการผูกมัด



   “พี่จันทร์พูดอย่างนี้หมายความว่าไม่จริงจังกับคุณพิมใช่ไหมคะ” ดารารัษมีถามตาเขียว ทว่าจันทร์จ้าวกลับหัวเราะน้อยๆ


   “พี่จริงจังกับคุณพิมในฐานะเพื่อนเท่านั้น คุณพิมเองก็คิดกับพี่ในฐานะเพื่อนเช่นเดียวกัน”



“พี่พูดอย่างกับว่าไม่ถูกใจคุณพิมอย่างนั้นล่ะ! นั่นหม่อมหลวงพิมพัชราเชียวนะคะ ทั้งสวยทั้งเก่ง มีดีทุกอย่าง” ดารารัษมีดูแคลนพี่ชาย เพื่อนของหล่อนดีไม่มีที่ติ พี่ชายคนรองกลับมองข้ามเสียอย่างนั้น แล้วไปเที่ยวเล่นกับพวกผู้หญิงเหลวๆที่วันๆไม่ทำมาหากิน เอาแต่ชะเง้อขะแง้มองตามผู้ชาย อย่างนี้ใช้ได้ที่ไหน



“คุณพิมเธอสวย เธอเก่ง และเธอมีดีทุกอย่าง...แต่...พี่ชอบผู้หญิงที่ยอมอ่อนข้อให้พี่มากกว่านี้อีกหน่อย” จันทร์จ้าวพูดตรง หม่อมพลวงพิมพัชรามีดีทุกอย่าง ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธอเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของเขา แต่พอได้รู้จักกันวันนี้ ได้พูดคุย ได้ถามไถ่ เขาก็พบว่าเธอมีความสามารถ เธอเก่ง เธอฉลาด...เทียบเท่ากับเขา หรือบางทีอาจจะมากกว่าเขาด้วยซ้ำไป แบบนี้ไม่ได้...เขายอมให้ใครมาเดินนำหน้ามากๆไม่ได้หรอก อกจะแตกตายเอาวันใดก็วันหนึ่ง



   “พี่จันทร์นี่เรื่องมากจริง!” ดารารัษมีได้แต่บ่นพี่ชายหน้าง้ำหน้างอ


   “อย่าพูดเรื่องพี่เลย พูดเรื่องพี่อาทิตย์จะดีกว่า”



“เรื่องพี่อาทิตย์?”



“...พี่อาทิตย์ดูท่าจะชอบคุณพิม”



   “พี่พูดอะไรน่ะ?!” ดารารัษมีหันขวับไปถามทันควัน



   “ดูไม่ออกหรือ?” คราวนี้เป็นฝ่ายจันทร์จ้าวหันมาย้อนถามน้องสาว ดารารัษมีมองกลับไปที่โต๊ะ พี่ชายคนใหญ่ของหล่อนยังคงนั่งนิ่งราวปูนปั้น อันที่จริง ตั้งแต่รับหล่อนและเพื่อนจนมาถึงภัตตาคาร ก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงอาทิตย์เสียด้วยซ้ำ นอกจากการเออออรับคำและเสียงหัวเราะของเขาในบางที



   “พี่อาทิตย์น่ะหรือ ชอบคุณพิม...พี่จันทร์ทราบได้อย่างไร” หล่อนได้แต่ทวนอย่างไม่เชื่อ



“พุทโธ่! พี่อาทิตย์เป็นคนไม่ค่อยพูดก็จริง แต่ตอนนี้ที่เป็นอยู่ ไม่ใช่แค่ไม่ค่อยพูด แต่ยังเกร็งอีกต่างหาก แล้วทั้งโต๊ะ ก็มีผู้หญิงแค่ ๓ คน พี่อาทิตย์จะเกร็งเพราะนภากับดาราก็เห็นจะเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น หนึ่งเดียวที่จะทำให้พี่อาทิตย์นั่งตัวตรงเด่ได้ขนาดนั้นก็คือคุณพิม...”



ดารารัษมีได้แต่ยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ



“ดาราไม่ทราบมาก่อนเลย...พี่จันทร์ทราบตั้งแต่เมื่อไรคะ”



“เมื่อกี้น่ะซี แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าพี่อาทิตย์ชอบคุณพิมมานานรึยัง ดารานั่นล่ะ เคยสังเกตอะไรบ้างไหม” หญิงสาวทำหน้าตาครุ่นคิด สำหรับหล่อนแล้ว การที่อาทิตย์ไม่ค่อยพูดนั่นถือเป็นเรื่องปกติของเขา และไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน อาทิตย์ก็ไม่ค่อยพูดเช่นนี้เสมอ



“ดาราไม่ทันสังเกตหรอกค่ะ ตายจริง...ตอนงานเลี้ยงต้อนรับคุณพิมเมื่อวันก่อนที่พี่จันทร์จะกลับมา ดารายังพูดเล่นกับนภาต่อหน้าพี่อาทิตย์อยู่เลย ว่าคุณพิมเธอน่าจะเหมาะกับพี่จันทร์ ถ้าหากพี่อาทิตย์เธอชอบของเธอมาตั้งแต่ตอนนั้น...โธ่! ดาราทำให้พี่อาทิตย์เสียใจหรือนี่!...” แม้จะไม่ใช่คนขี้สงสาร แต่กับพี่ชายที่ทั้งเงียบทั้งขรึมอย่างอาทิตย์ ดารารัษมีก็อดไม่ได้ที่จะนึกสงสารเขากับสิ่งที่หล่อนเคยหลุดปากออกมา



จันทร์จ้าวมองน้องสาวแล้วหัวเราะเบาๆ



“อย่าเสียใจไปเลยดาราที่รัก จากนี้เรามาช่วยให้พี่อาทิตย์สมหวังกันดีกว่า”



“ช่วยพี่อาทิตย์หรือคะ?!”



“ใช่ซีจ้ะ”



“พี่จันทร์จะช่วยอย่างไรคะ?!” ดารารัษมีร้องถามอย่างกระตือรือร้น


“ง่ายนิดเดียว ดาราอย่าขวางพี่แล้วกัน ให้พี่จัดการเอง“ หญิงสาวมองพี่ชายคนรองอย่างไม่วางใจนัก แต่ถึงแม้จันทร์จ้าวจะไม่ใช่บุรุษที่ดี ซ้ำยังรักแต่เที่ยวเล่น แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายพี่น้องคนใดทั้งนั้น จันทร์จ้าวมองตรงไปที่โต๊ะของพวกตนอย่างหมายมั่นปั้นมือ คนที่แวะเข้าไปทักทายหมุนตัวกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะแล้ว และนั่นทำให้ชายหนุ่มเห็นว่าคนที่เข้าไปทักพี่ชายน้องสาวของเขาคือใคร


   เขาเบิกตาโตด้วยความตกใจ แล้วเรื่องของอาทิตย์ก็ปลิวออกจากหัวอย่างรวดเร็ว


...กรุงเทพฯเล็กอย่างว่าจริงด้วย!!...


   “นั่นมัน!!...”



ดารารัษมีหันกลับไปมองบ้างเมื่อเห็นว่าพี่ชายของหล่อนตาค้าง



   “อ้อ...นั่นคุณหมอภวัต...” คำพูดของหล่อนเหมือนฉุดความทรงจำของจันทร์จ้าวเมื่อครั้งไปที่วังฉัตรครั้งแรกนับแต่กลับมาจากอเมริกาให้ผุดขึ้นมาในหัว



   ...นั่นมันคนที่คุณชายฉัตรเรียกไปดูตัวเพื่อคุณพิม!!!...



   “กลับโต๊ะเถอะดารา ก่อนที่พี่อาทิตย์จะชวดคุณพิมไปทั้งชีวิต!” จันทร์จ้าวพูดเพียงเท่านั้นก็เดินกลับไปที่โต๊ะทันที คนเป็นน้องได้แต่มองตามด้วยความสงสัย แต่ก็รีบก้าวเท้าตาม ทว่าเมื่อกลับถึงโต๊ะ คนที่เข้ามาทักทายรายนั้นก็เดินกลับโต๊ะตัวเองไปแล้ว จันทร์จ้าวหันมองไปรอบตัว แต่เพราะในภัตตาคารนั้นกว้างขวางและหนาแน่นไปด้วยผู้คนจำนวนมาก เขาจึงได้แต่หงุดหงิดที่ไม่ได้เจอหน้ากันตรงๆเสียที



   “พี่จันทร์มองหาใครหรือคะ” นภาสรวงเงยหน้าถามพี่ชายที่เอาแต่มองไปทั่ว



   “ช่างเถอะ เราไปทานไอศกรีมกันต่อดีไหม” เขาบอกปัดไปอีกเรื่อง แล้วหันกลับมาให้ความสนใจกับคนทั้งโต๊ะแทน ‘หมอภวัต’ อยู่ที่นี่เวลานี้ เขาก็ควรพาอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราไปที่อื่น!



   “คุณพิมชอบทานไอศกรีมไหมครับ ผมมีร้านแนะนำ ร้านนี้มีไอศกรีมแบบแปลกๆด้วยนะครับ”



   “ชอบอยู่หรอกค่ะ แต่พิมออกจะหวั่นคำว่าแปลกของคุณจันทร์นะคะ” แล้วหลังจากนั้นก็กลายเป็นการพูดคุยระหว่างจันทร์จ้าว หม่อมหลวงพิมพัชราและนภาสรวง ในขณะที่อาทิตย์ยังคงเงียบขรึมและเป็นผู้ใหญ่ ตอบรับสั้นๆเป็นบางครั้งเท่านั้น ส่วนดารารัษมีก็กลายเป็นหันไปจดจ้องที่พี่ชายคนใหญ่แทนพี่ชายคนรองเหมือนที่แล้วมา



   ‘...พี่อาทิตย์ชอบคุณพิม...’



แล้วที่เมื่อครู่นี้ที่จันทร์จ้าวว่า ‘พี่อาทิตย์จะชวดคุณพิมไปทั้งชีวิต’ หมายความว่าอย่างไรหนอ?



หญิงสาวเหลือบดวงตากลมไปมองพี่ชายคนรองที่ยังคงมีเรื่องเล่าสนุกๆเรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นๆ จันทร์จ้าวคนแผลง ดูเหมือนไม่ใช่คนใส่ใจกับความรู้สึกของคนรอบข้าง เอาแต่ใจและเอาความคิดตนเป็นใหญ่ แต่ภายใต้ท่าทีไม่จริงจังและสนุกสนานของเขากลับเป็นคนช่างสังเกตและพยายามเรียนรู้นิสัยใจคอคนรอบข้าง บางที...ความสนิทสนมที่เขามีให้ผู้หญิงอื่นๆก็เพราะเขาแค่อยากรู้อยากเห็นนิสัยใจคอผู้หญิงเหล่านั้นก็เป็นได้



...นี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่ดารารัษมีมองเห็นความดีความชอบของพี่ชายคนรองผู้ซึ่งกลับมาจากอเมริกา...




ติดตามตอนต่อไป (อาทิตย์หน้าค่ะ)


จะไม่บอกว่าคนเม้นท์ทายถูกกันไหม ว่าใครเป็นนายเอกพระเอก เพราะว่าพูดไปก็เท่านั้น ทายถูกกันหมดอยู่แล้ว ฮ่าฮ่า
เมื่อตอนที่แล้ว มีคนเม้นท์ถามเรื่องไทม์ไลน์ ขออธิบายนิดนึงนะคะ


สงครามโลกครั้งที่ 2 จบปี 1945 (อิงกับระเบิดที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ) ซึ่งตรงกับไทยคือ 2488 จันทร์จ้าวไปเรียนต่อหลังสงครามจบได้ 2 ปี ซึ่งตอนนั้นอายุ 18 (บัวอิงจากคุณนพในเรื่องปริศนาที่ได้ทุนไปเรียนต่อตอนอายุ 19-20 ส่วนปีที่จันทร์จ้าวไปเรียนต่อก็อิงมาจากคุณ ว. ณ ประมวลมารคเคยเขียนว่าได้ไปยุโรปตอนปี 2490 ค่ะ)


ตอนแรกคิดจะใช้ช่วงปีใกล้ๆกับเรื่องปริศนาด้วยล่ะค่ะ แต่ติดที่ว่าหลังจากนั้นไม่นานก็มีสงครามโลก (ง่ายๆว่าพยายามหลบอีเว้นท์สำคัญนั่นเอง) เลยขยับ แต่ขยับยังไงก็ชนกับสงครามโลกอยู่ดี เพราะมันกินเวลานาน ก็เลยขยับจนสุดเลยค่ะทีนี้ ฮ่าฮ่า เลยได้มาเป็นปี 2496 ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ในช่วงครม.จอมพล ป.ที่เพิ่งตั้งใหม่ (จอมพล ป.เป็นนายกฯจนกระทั่งปี 2500 ถูกรัฐประหารโดยจอมพลสฤษดิ์ค่ะ)


เอาคร่าวๆเท่านี้ก่อน คืออีเว้นท์ของโลกและของประเทศไทยมันเยอะมากจริงๆค่ะ เพราะงั้นเราจะยืนหยัดให้มันเป็นพีเรียดลูกกวาดต่อปายยยย


ขอบคุณบอร์ด ขอบคุณคนเม้นท์ คนอ่าน คนติดตาม ใครมีคำถามอะไรส่งมาได้เลยค่ะ เนื่องจากเรื่องนี้ยาวมากจริงๆ ตัวละครก็เยอะมาก(ทุบสถิติจอมร้าย บอกเลย) ถ้าหลุดตรงไหน ท้วงได้เลยค่ะ ยินดีรับคำติชม จะพยายามแก้ภาษาให้มันดูโบราณขึ้นกว่านี้ ชอบติดภาษาตัวเองอ่ะ

แล้วเจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ (ป.ล. พาร์ทหน้าพระเอกมาล่ะ พระเอกต้วมเตี้ยมมากกกกก อ้อ...แล้วพารท์หน้าจะมาคุยเรื่องชื่อ ‘จันทร์จ้าว’ ไม่ใช่ ‘จันทร์เจ้า’ นะ อะไรที่ไม่เป็นปกตินี่บอกเลย บัวนี่ล่ะ ฮ่าฮ่า )


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 17-09-2015 21:50:36
ตามติดชีวิตจันทร์จ้าว :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 17-09-2015 22:15:36
ชอบบุคลิกจันทร์จ้าวมาก แม้จะติดสบายและกะล่อนเพียงใด แต่ก็ไม่เคยไปทำร้ายใครที่ไหน กังวลแต่ว่า...ตั้งตัวเป็นกามเทพให้เขา ตัวเองจะได้สมหวังก่อนน่ะซี

ภาษาคุณบัวไม่จำเป็นต้องปรับให้เก่ากว่านี้หรอกค่ะ ดิฉันว่าเท่านี้ก็ดีแล้ว อ่านง่าย เข้าใจง่าย ติดตามง่าย เพราะดิฉันว่าในช่วงเวลานั้นเขาก็พูดกันประมาณนี้แหละเนอะ และที่ชอบอีกอย่างคือ คำแทนตัวเองของผู้ชายที่ใช้ว่า "กัน" ชอบตั้งแต่อ่านหนังสือแปลชุดเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ของ อ.สายสุวรรณแล้ว

รอตอนหน้าเจ้าค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: ngohingmint ที่ 17-09-2015 22:37:52
คุณบัวพูดถึงปริศนาแล้วก็คิดได้

จันทร์นี่เหมือนอานนท์เลย แต่ต่างตรงที่ว่า ไม่มีเจ้าสาวของอานนท์ มีแต่เจ้าบ่าวของจันทร์จ้าว ก๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 17-09-2015 22:38:02
คืนนี้ได้นอนฝันดีไปกับน้องจันทร์
นายเอกของเรานี่ฉลาดจริงๆ รู้ว่าต้องการอะไร รู้ว่าคนรอบข้างคิดยังไง
เราเอาใจช่วยให้แย่งคุณหมอ เอ๊ย แย่งคุณพิมมาให้พี่อาทิตย์แบบช้าๆนะคะ จะได้เอาตัวเข้าแลกนานๆหน่อย อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: ナマケモノ~ず ที่ 17-09-2015 22:45:40
เรามักจะหลอนทุกครั้งที่เป็นนิยายย้อนยุค

เพราะมักจะจบไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

แต่เรื่องนี้คุณบัวยืนยันว่าเป็นนิยายลูกกวาด

เราก็สบายใจหน่อย

ดีใจอย่างยิ่งที่คุณบัวกลับมาแต่งนิยายให้อ่าน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-09-2015 22:47:41
สงสัยจะมีหลายคู่ หุหุ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-09-2015 22:58:13
จันทร์จ้าวจะช่วยคิวปิดแผลงศรใส่พี่อาทิตย์กับคุณพิมอีกแรงหนึ่งเหรอคะเนี่ย~~ :m3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 17-09-2015 23:01:53
คุณหมอพระเอกแหงๆ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 17-09-2015 23:06:04
ชอบเลย ยาวๆเนี่ย รออ่านตอนคุณหมอล่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-09-2015 23:08:03
หมอภวัตโฉบไปโฉบมาไม่เจอกันตรง ๆ สักที แต่กระนั้นก็ถูกน้องจันทร์หมั่นไส้เข้าให้แล้ว
บุคลิกนายเอกของเราน่ารักน่าหยิก เหมือนจะเหลวไหลแต่จริง ๆ ก็ช่างสังเกตและฉลาด
อ่านเรื่องนี้แล้วคิดถึงจอมขวัญกับพี่โตขึ้นมาทันที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 17-09-2015 23:14:17
สนุก อยากให้จันทร์จ้าวเจอหมอเสียทีคงสนุกกก
พี่อาทิตย์สู้ๆหน่อย มีจันทร์เป็นแบคแล้วว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-09-2015 23:14:57
มองเห็นถึงสังคมโก้หรูในสมัยนั้นเลย ตีเทนนิส เข้าสโมสร นั่งฟังดนตรี ฯลฯ เก่าดีเราชอบ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 17-09-2015 23:26:30
จันทร์จ้าว ก็แอบคล้ายของขวัญเหมือนกันนะเนี่ยยย
แล้วอย่างงี้คุณหมอจะคล้ายพี่โตไหมน้าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 17-09-2015 23:27:01
เราอ่านเราก็รู้สึกว่ามันให้บรรยากาศแบบปริศนานิดๆ้เหมือนกัน อ่านเรื่องนี้ละก็คิดถึง หมอภวัตต้วมเตี้ยมยังไงนะ ฮ่าๆๆ ไม่รู้ใช่พระเอกมั้ยแต่คิดว่าน่าจะไม่ผิดนะ รอสองคนป๊ะหน้ากันตรงๆ กอดคุณบัวหนึ่งที  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-09-2015 23:42:56
อ่านไปอ่านมาหน้าของเด็กชายจอมขวัญก็โผล่มาเรื่อยเลย
รอว่าเมื่อไหร่จันทร์จ้าวกับหมอภวัตจะได้เจอกันจังๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 17-09-2015 23:42:58
เป็นกำลังใจให้คุณบัวอีกเช่นเคยค่ะ    ชอบมากเลยพีเรียดลูกกวาดแค่ 2 ตอนก็ละมุนลิ้นแล้วค่ะ  ดีจังเลยเป็นดอกไม้บานให้เราคอยติดตาม  ยาวกว่าจอมร้ายเราคงได้อยู่ด้วยกันกับจันทร์จ้าวไปอีกนาน   ถ้านับเเค่ 2 ตอนเราว่าเริ่มมาคล้ายจอมขวัญเลยนะคะ ตอนแรกก็เป็นศัตรูหัวใจกับพี่โตเหมือนกัน  อิอิ


ปล. เห็นจากเม้นบนๆ  ที่คุณพงศ์เรียกแทนตัวว่า กัน   << ตอนแรกนึกว่านั่นคือชื่อเล่นแบบกันเอง  จริงๆไม่ใช่แต่เป็นสไตล์การแทนตัวของยุคนั้นเหรอคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 17-09-2015 23:52:47
คุณหมอจ๋าาาาาา เค้าอยากรู้จักนะ  :hao7:
ไม่เจอกันจังๆเสียที ลุ้นจนตัวโก่งแล้วววว :serius2:
จันทร์จ้าวท่าทางจะแสบไม่เบา :laugh:
อยากอ่านอีกกกกกกกก :z3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 17-09-2015 23:56:26
 :hao3: คุณจันทร์เจอเนื้อคู่ตัวเองแล้วใช่ม่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmy_kuneekorn ที่ 18-09-2015 00:04:55
เมื่อไหร่จะได้เจอคุณหมอคะ555 แวบไปแวบมาตลอด
ชอบแนวของคนแต่งมากค่ะ โดนจายยยยย
กว่าจะรักกันได้คุณหมอคงเหนื่อยน่าดู 555 รอตอนต่อไปนะค้าา :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 18-09-2015 00:23:41
พี่อาทิตย์ขาอย่ามัวแต่เงียบคร่าจีบน้องพิมเลย จันทร์เจ้าคงได้ปะทะฝีปากกับคุณหมอเร็ว ๆ นี้ สงสารคุณหมอโดนเขม่นซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 18-09-2015 01:55:38
5555 พระเอกจะมาสยบ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-09-2015 07:12:41
ชอบนิสัยอย่างจันทร์จ้าวจัง ถ้ามีจันทร์จ้าวเป็นพี่ชายคงพากันเที่ยวสะบัดเลย 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 18-09-2015 07:35:12
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-09-2015 07:40:23
คลาดกันไปคลาดกันมา  :katai5:


ปล จันทร์จ้าวน่าจะเป็นชาติก่อนของจอมขวัญ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 18-09-2015 07:54:36
พระเอกมาแว๊บๆ. แวิวววว :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 18-09-2015 08:37:49
พีเรียดแต่ไม่ดราม่าชอบมาก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 18-09-2015 08:40:01
จันทร์จ้าวอยากเจอคุณหมอเพื่อกันเค้า สุดท้ายอาจเข้าตัวซะเองนะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 18-09-2015 09:25:43
พระเอกค่าตัวแพง เลยออกช้าไปนิสนึง อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 18-09-2015 09:56:49
รอพระเอกมาปราบจันทร์จ้าว

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 18-09-2015 10:23:29
ชอบมากกกก ภาษาคือดีงาม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-09-2015 12:03:12
คุณหมอภวัตสงสัยเป็นเนื้อคู่จันทร์เจ้า  เพราะว่าไปไหนก็เจอตลอด อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-09-2015 12:13:52
ตอนแรกนึกว่าพี่อาทิตย์จะต้องเป็นผู้เสียสละซะแล้ว 555
ยังดีนะที่จันทร์จ้าวรู้ตัวก่อน แต่ก็อย่างว่าเนาt พระเอกเค้ารออยู่แล้ว อิอิ

ขอบคุณพี่บัวมากค่าาาาา กอดดด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 18-09-2015 13:23:53
โชคดีที่พี่อาทิตย์ชอบคุณพิม ไม่ได้ชอบคุณพงษ์ ( อุ๊ตะ) ฮ่าๆๆๆๆ





จันทร์เป็น คนอ่านบุคลิค คนได้ หรือ ว่าแอบมี อับดุลย์ เป็นพรายกระซิบคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 18-09-2015 19:21:52
คุณภวัตจะมีบทแล้ว ยังจากโฉบไปโฉบมา 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 18-09-2015 22:02:21
ไม่ใช่ว่าประเดี๋ยวคุณจันทร์ไปตีสนิทคุณภวัดกันท่าคุณพิมพ์ให้พี่อาทิตย์คนดีแล้วไปได้กันเองหรอกนะคะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 19-09-2015 05:31:30
อ่านเรื่องนี้เหมือนได้ย้อนกลับไปดูปริศนาเลย นายเอกแก่น เซี้ยว เปรี้ยว ซ่าส์ ฉลาดเป็นกรดมเหมือนกันเลย
รอดูตัวพระนี่แหละว่าจะปราบน้องจันทร์ได้มั้ย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 19-09-2015 08:33:19
 :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 19-09-2015 12:40:24
จันทร์จ้าวเหมือนของขวัญเลย
ว่าแต่หมอจะเหมือนพี่โตด้วยมั้ยน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 19-09-2015 13:39:46
ชอบแนวพีเรียดแบบนี้มากเลย
ชอบนิสัยคุณจันทร์ แสบไม่เบาเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 19-09-2015 14:29:47
อยากให้คุณหมอกับจันทร์เจอกันแบบจังๆแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 20-09-2015 00:31:10
เมื่อไหรหนอจัทร์จะมา...
(ร้องแบบจังหวะแทงโก้)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 20-09-2015 07:07:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 20-09-2015 08:29:20
คุณหมอจะออกและ โถ 55555555
 :m20: :m20: :laugh: :laugh:
เป็นพระเอกที่ต้วมเตี้ยมน่าเอ็นดูเหมือนที่น้องบัวบอกจริงๆด้วย
น้องจันทร์(รึเปล่า)เค้าเต๊าะผู้หญิงไปครึ่งเมืองและจ้า
พระเอกยังไม่ออกมาทำคะแนนเล้ย
รีบๆเลยพ่อเด๋วมีลูกไม่ทันใช้(เอ๊ะ!!)
 :hao6: :hao6: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 20-09-2015 12:31:45
ชอบมากเลย ถึงจะเป็นนิยาย แต่ก็ต้องค้นคว้าหาความรู้ และอิงประวัติศาสตร์ เป็นนิยายที่ดีจริงๆ ฮะ เนื้อเรื่องก็สนุก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 20-09-2015 13:08:20
ชอบเรื่องพีเรียดในยุคประมาณนั้นมาก
ภาพปริศนากับเจ้าสาวของอานนท์ลอยมาเลย
ช่วยจัดฉากตากอากาศที่หัวหินให้ด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 20-09-2015 22:51:30
ปกติเป็นคนไม่ดูละครไทยเท่าไหร่นะคะ เลยไม่ค่อยคุ้นกับบรรยากาศพีเรีตย้อนยุคเท่าไหร่
แต่เรื่องนี้ทำให้นึกถึงละครเรื่องนึงเลยค่ะคือจุฑาเทพ เหมือนจริงๆเลย บรรยายได้ดีมากเลยค่ะ
แบบเห็นออกมาเป็นภาพได้เลย รายละเอียดของภาษาสำหรับเราถือว่าเก็บได้ดีมากเลยนะคะ
บางจุดที่แบบ ถ้าเป็นสมัยใหม่คงไม่ใช่คำนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่ลืมแล้วนำมาใส่ลงไปนี่ประทับใจเยอะเลยค่ะ

ชอบคาแรคเตอร์นายเอกแบบจันทร์จ้าวมากเลยค่ะ >____< แบบ ส่วนตัวไม่ชอบนายเอกที่เคะเกินไปอยู่แล้ว
ยิ่งเป็นผู้ชายแบบแมนๆธรรมดาๆนี่ชอบมากเลยค่ะ คือมันลุ้นดีว่าอะไรที่จะทำให้เค้ายอมเปลี่ยนมากขนาดนี้ได้
แถมคุณชายจันทร์จ้าวยังเจ้ายศเจ้าอย่าง ถือดีในศักดิ์ศรีอย่างทั้งน่าเอ็นดูน่ารังแกไปพร้อมๆกันด้วย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ จะรอติดตามค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: i c u ที่ 20-09-2015 22:58:15
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ ตกหลุมรักคุณจันทร์ไปพร้อมๆกับสาวๆในเรื่องเลยทีเดียว แต่ต้องทำใจใช่มั้ยคะ เพราะคุณจันทร์คงจะตกหลุมรักคุณหมอแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 23-09-2015 20:51:06
โอ้ยยยยย คิดถึงนิยายของคุณพี่บัวมากกกกกกก แบบก. ไก่ล้านตัวเลย!
ดีใจมากค่ะที่ตอนแรกอ่านแล้วบอกว่าไม่มีมาม่า เย้~

คุณจันทร์เธอก็แสนน่ารักเหลือเกิน เป็นคนอัธยาศัยดีไปทั่วจริงๆ
พี่อาทิตย์แกก็น่ารักกกกก เป็นผู้ชายที่ดีแบบที่อ่านแล้วนึกถึงคุณชายปวรรุจเลยทีเดียว
เสียดายว่าสองบทที่ผ่านมาเรายังไม่ได้เจอกับภวัตจังๆ ซักครั้ง
ถ้าได้พบกันในซักบทน่าจะเริ่มลุ้นขึ้นแล้วว่าคู่นี้เค้าจะแซ่บแค่ไหน5555


รออ่านนะคะ ยิ่งยาวมากกกกกกกก ก็ยิ้งลุ่นมาก
จะได้ไม่ต้องอ่านเรื่องเก่าๆคุณบัวซ้ำเวลคิดถึงในบอร์ดอีก ฮ่า!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 23-09-2015 23:18:45
ชอบเนื้อเรื่อง ภาษานี่ยิ่งชอบมากๆๆๆ อ่านง่าย แม่จะเป็นภาษาสมัยเก่า
แต่คนเขียนเขียนลื่นดี ติดตามด้วยคนค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 23-09-2015 23:29:35
เราชอบเรื่องนี้มากสนุกดีภาษาสวยมาก รอติดตามครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 24-09-2015 00:13:46
ไม่ดราม่าใช่มั้ยคะเรื่องนี้

เลิศค่ะเลิศ. ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 24-09-2015 00:41:54
ชอบเรื่องแนวนี้ ภาษาก็อ่านง่าย
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 24-09-2015 21:17:35
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….

บทที่ ๓


ภัตตาคารจีนในย่านเยาวราชมีชื่อเสียงเป็นที่สุด โดยเฉพาะร้านนี้ที่หนาแน่นไปด้วยผู้คนตั้งแต่ยังไม่ค่ำ คนที่มาทีหลังก็ย่อมต้องรอเพราะโต๊ะภายในร้านเต็มแน่น บริกรเดินกันขวักไขว่ เสียงผู้คนดังเซ็งแซ่ ชายหนุ่มร่างสูงกระหืดกระหอบเข้ามาในร้าน เขากวาดตามองจนทั่วแล้วถึงได้เห็นพี่ชายนั่งอยู่เพียงลำพังที่โต๊ะหนึ่งไม่ไกลจากประตูเท่าไรนัก



“ขอโทษ ผมมาช้า” เภา วิชาญโยธินก้าวเท้าตรงไปที่โต๊ะนั้นแล้วค้อมศีรษะแทนคำขอโทษ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งร่วมโต๊ะ



“ฉันก็มาก่อนแกไม่นานนักหรอก สั่งอะไรเพิ่มไหม เมื่อครู่นี้ฉันสั่งไป ๓-๔ อย่างแล้ว” คนมาถึงก่อนคือชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้มีใบหน้าคมคายแต่ติดรอยยิ้มอ่อนโยนอยู่บนใบหน้าทุกเมื่อ ใครๆในกรุงเทพฯต่างก็รู้จักคุ้นเคยใบหน้านี้กันทั้งนั้น เพราะเป็นถึง ‘คุณหมอ’ และบุตรชายคนใหญ่ของพลโทศักดิ์และคุณหญิงจิตต์ วิชาญโยธิน



“ไม่ล่ะ”



“แล้วนึกยังไรชวนมาทานที่นี่” คนเป็นพี่ถามน้องชายที่ยังคงหายใจแรงเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการวิ่ง




“ก็เบื่อ...พักนี้ผมไม่ได้ออกมาทานข้าวนอกบ้านเลย...” ภวัต วิชาญโยธิมองคนพูดอย่างอ่อนใจ เภา วิชาญโยธินเป็นน้องชายร่วมบิดามารดากับเขา แต่ถูกคุณหญิงจิตต์ผู้เป็นมารดาประคบประหงมเสียจนเจ้าตัวไม่ค่อยจะเอาถ่านเสียเท่าไร ทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญจนกระทั่งเขาสั่งให้ทำงานทำการเสียบ้าง เจ้าตัวถึงได้ยอมไปเปิดห้างค้ายากับฝรั่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง




“งานหนักหรือ” ถึงแม้จะเป็นตนเองที่สั่งให้น้องชายทำงาน แต่ภวัตก็ยังห่วงใยเสมอ




“ไม่ถึงขนาดนั้น ทำไปแล้วก็สนุกดี แต่...พักนี้เพื่อนผมหายหมด” เภาพูดมาถึงตรงนี้ก็ทำหน้ามู่ทู่




“เพื่อนหาย?” คนเป็นพี่ทวนถาม พอดีกับที่บริกรนำอาหารมาที่โต๊ะ เภาจึงขยับให้อาหารลงได้สะดวก และนั่นทำให้เขาหันไปเห็นลูกค้าคนหนึ่งที่โต๊ะมุมในสุดของร้าน แค่มองจากไกลๆ ชายหนุ่มก็จำอีกฝ่ายได้ในทันที




“อะไรกัน! มาถึงนี่ก็ยังมาเจอคู่ปรับ!”




“หืม?” ภวัตได้ยินไม่ถนัด น้องชายจึงพูดอีกครั้ง




“คู่ปรับผมน่ะซี! เพิ่งกลับมาจากที่ไหนสักที่นี่ล่ะ กลับมาปุ๊บก็มาทำเพื่อนผู้หญิงผมหายหมด! ทั้งคุณวนิดา ทั้งคุณสายสมร ทั้งคุณศรีอำไพ แล้วนั่น...นั่นมากับคุณดาราแล้วก็คุณนภาด้วย! ฮึ่ม! สองคนนั้น ผมเคยชวนไปดูหนัง ยังไม่เคยยอมไปกับผมเลย!! ทีอย่างนี้มากับมัน!!” ยิ่งพูด เภาก็ยิ่งขุ่นเคือง ยิ่งมองไปที่โต๊ะมุมในสุดของคู่ปรับ เขาก็ยิ่งเหม็นหน้าเจ้าคู่ปรับที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในกรุงเทพฯ!


เภา วิชาญโยธินเคยเป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่สุด มีเพื่อนผู้หญิงมากมายที่สุด ผู้ชายคนไหนก็ล้วนอิจฉาเขาทั้งนั้นที่ได้เดินเคียงข้างผู้หญิงสวยไม่เว้นแต่ละวัน แต่...พักหลังมานี่ มีใครบางคนกลับทำตัวสำราญกว่า!!




“นั่นคุณอาทิตย์ไม่ใช่หรือ”




“ไม่ใช่คุณอาทิตย์ คุณอาทิตย์น่ะผมไม่ห่วงหรอก เธอพูดกับใครเสียที่ไหน แต่ผมหมายถึงอีกคนต่างหาก!”




ภวัตมองตามไปที่โต๊ะ แล้วก็ถึงได้สังเกตว่าที่โต๊ะนั้นมีชายหนุ่มอีกคนร่วมโต๊ะด้วย




...เมื่อครู่ที่เขาเดินไปทักคุณอาทิตย์ ไม่ยักเห็นผู้ชายคนนี้...




นายแพทย์หนุ่มจับจ้องใบหน้าขาวของคนที่กำลังหัวเราะยิ้มแย้มกับคนทั้งโต๊ะ ดวงตากลมใหญ่ จมูกโด่ง และริมฝีปากสีจัด ที่สำคัญคือมีลักยิ้มที่แม้เขาจะนั่งอยู่ไกล ก็ยังพอมองเห็น...เขาเคยเห็นใบหน้านี้มาก่อน...ที่ไหนสักที่...




“ได้ข่าวว่าเป็นลูกนายพลอะไรนี่ล่ะ! ตอนนี้เปิดบริษัทกับฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษปร๋อ คงจะกลับมาจากฟิลิปปินส์หรือปีนังเทือกนั้นกระมัง โถ! ก็เท่านั้นล่ะ!!” เภาบ่นแล้วทำได้แค่เขี่ยอาหารไปมาอย่างเบื่อหน่าย เขาอุตส่าห์โทรศัพท์ไปเรียกพี่ชายจากโรงพยาบาลให้มาหาอะไรทานด้วยกันที่เยาวราช ก็ยังจะมาเจอคนไม่ถูกน้ำหน้ากันเสียได้



“ไหนว่าคู่ปรับ ทำไมถึงรู้เรื่องเขาเสียละเอียดยิบ” ภวัตหันมาถามน้องชายอย่างนึกขัน



“ไม่รู้ได้อย่างไรล่ะ! เขาพูดกันทั้งเมือง!”



“พี่ไม่เห็นเคยได้ยิน”




“ก็พี่ภวัตอยู่แต่ที่โรงพยาบาล รู้ก็แปลก พี่น่ะทำแต่งาน รู้ไหมว่าคุณพ่อเปรยว่าจะให้พี่แต่งงานเสียที” เภาหันกับมาสนใจพี่ชายของตนแทน ที่นัดภวัตมารับประทานข้าวนอกบ้านในวันนี้ก็เพื่อจะเตือนเรื่องที่เขาแอบได้ยินบิดามารดาคุยกันด้วย ภวัตเป็นนายแพทย์ประจำโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ทำแต่งานจนบางครั้งก็แทบจะไม่กลับบ้าน คงไม่รู้ว่าบิดามารดากำลังคิดจะทำอะไร ก็ต้องเป็นน้องอย่างเขาเท่านั้นที่จะนำข่าวมาบอก



คนฟังดูจะไม่ตกใจกับเรื่องที่น้องชายพูดเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่ยิ้มจาง



“หากคุณพ่อเห็นว่าดี พี่ก็ยินดี” น้องชายพ่นลมหายใจพรืด



“นั่นประไร! กะแล้วเชียวว่าพี่ต้องพูดแบบนี้! เป็นผมหน่อยไม่ได้ ไม่ยอมเสียหรอกให้คลุมถุงชน”



“แกก็คงไม่พ้นหรอก ยิ่งวันๆเอาแต่โหยหาเพื่อนผู้หญิงอย่างนี้ คุณแม่คงจัดการให้ในเร็ววัน” พอพูดถึงเพื่อนผู้หญิง เภาก็หน้ามู่ทู่ขึ้นมาอีก



“อย่าพูดถึงเพื่อนผู้หญิงของผมเลย เจ็บใจ!” เขาว่าอย่างนั้นแล้วเบือนสายตาหนีไปทางอื่นราวกับไม่อยากมองกลับไปที่โต๊ะของคู่ปรับอีก ทว่าเพราะโต๊ะนั้นกำลังลุกเตรียมตัวกลับ เภาเลยอดไม่ได้ที่ต้องมองอีกสักหน่อย อย่างน้อยก็เพื่อฝากฝังความแค้นให้เจ้าคู่ปรับของเขากลับไปนอนปวดท้องเพราะอาหารภัตตาคารนี้ก็เห็นท่าจะดี



ทว่า...ไม่ทันที่เภาจะสาปส่งคู่ปรับของเขาให้สาแก่ใจ สายตาของชายหนุ่มกลับเหลือบไปเห็นสตรีอีกคนที่ร่วมโต๊ะนั้นด้วย สตรีที่ไม่ใช่ทั้งดารารัษมีและนภาสรวง ๒ แฝดที่เขาเคยตามเทียวไล้เทียวขื่อ สตรีผู้มีดวงหน้าสวยหวานและสดใส...สตรี...ที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน...



   “พี่! รู้จักผู้หญิงคนนั้นรึเปล่า” เขาเอ่ยปากถามลอยๆ แต่ไม่หันมองหน้าพี่ชายเลยแม้แต่นิด สายตาจับจ้องไปที่สตรีในชุดเสื้อกระโปรงสีฟ้าอ่อน ผู้มีเส้นผมเป็นลอนสลวยบนบ่าทั้งสองข้าง ดวงหน้าสวยหวานแปลกตานั้นทำให้เขาตกตะลึงไปเสียแล้ว



...เภาไม่เคยพบสตรีใดที่ดูอ่อนหวานเช่นนี้มาก่อน รอยยิ้มหวานบนใบหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มนั้นยิ่งทำให้เขาถอนสายตาจากมาไม่ได้...ใครน่ะ...ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร...



   ชายหนุ่มมองตั้งแต่สตรีงามผู้มีดวงหน้าจับใจคนนั้นเดินออกจากโต๊ะไปยังประตูกระจกของร้าน และมองลับจนกระทั่งเธอเดินหายออกไปจากภัตตาคารพร้อมกับคู่ปรับและ ๒ สาวแฝดที่เขาเคยต้องตาต้องใจ จากนั้นจึงตั้งสติได้แล้วหันขวับมามองผู้เป็นพี่





   “พี่รู้จักไหม?! ผู้หญิงคนที่สวมชุดสีฟ้าน่ะ?!”



   “คุณพิม น้องสาวคุณพงศ์ที่อยู่วังฉัตรน่ะซี เพิ่งกลับมาจากยุโรปเมื่อเดือนก่อน แกไม่รู้หรือ อ้อ แกไม่ได้ไปงานเลี้ยงที่วังฉัตรเมื่อคราวก่อนสินะ”



   “ก็...ตอนนั้นผมไม่ว่าง...ถ้ารู้ว่าวังฉัตรมีผู้หญิงสวยอย่างนี้ผมคงว่างไปแล้ว” เภาได้แต่บ่นพึมพำอย่างนึกเสียดาย เพราะตอนนั้นเขากำลังสนุกกับการไปเที่ยวกับคุณวนิดาอยู่ ก็เลยไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงที่วังฉัตรเมื่อครั้งนั้น



   “แล้วทำไมถึงมากับอ้ายคู่ปรับของผมได้ล่ะ” พอคิดถึงสตรีงาม ใบหน้าของผู้ชายอีกคนก็ผุดขึ้นมาในใจให้เภายิ่งนึกขุ่นเคือง ภวัตมองสีหน้าไม่สบอารมณ์ของน้องชายแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเวทนา



   “วิ่งไปถามคู่ปรับของแกดู เขาอาจจะยอมบอกว่าทำไมถึงมาด้วยกัน”



   “ไม่เอา...ผมไม่อยากเห็นหน้ามันอีก คนอะไร!! พาผู้หญิงมาภัตตาคารพร้อมกันทีเดียว ๓ คน!!” เภา วิชาญโยธินว่าอย่างนั้น แล้วก็นั่งหน้ามู่ทู่เขี่ยอาหารบ้าง คีบเข้าปากบ้างอย่างเสียมิได้



ภวัตได้แต่มองน้องชายแล้วส่ายศีรษะไปมาอย่างนึกระอาใจ ก่อนที่อะไรบางอย่างในใจจะทำให้เขาอดไม่ได้ต้องเหลือบไปมองภายนอกผ่านทางหน้าต่างกระจกของร้าน ดวงตาคมปลาบของชายหนุ่มสบเข้ากับดวงตาท้าทายของใครอีกคนที่มองตรงเข้ามา ดวงตากลมใหญ่คู่นั้นแฝงไปด้วยแววล้อเลียนและถือดี ภวัตหันกลับมามองเภาที่เอาแต่ตาตกมองแต่กับข้าว ก่อนจะหันกลับไปมองนอกร้านอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เจ้าของดวงตาคู่นั้นหมุนตัวเดินไปจากไปแล้ว



   ...คู่ปรับ...ของเภาอย่างนั้นหรือ...



   “คู่ปรับของแกชื่ออะไร” เขาตั้งคำถามกับน้องชาย แต่เภาไม่เงยหน้าขึ้นมาจากจานเลย ซ้ำยังพูดเสียงเนือย



   “ไม่รู้ รู้แต่ว่าตั้งแต่มันกลับมาที่นี่ ผมก็ชวดผู้หญิงไปหมด” คำตอบของเภา ทำให้ภวัตได้แต่จำนน เขาเหลือบสายตากลับไปมองนอกร้านอีกครั้ง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าของสายตาคู่นั้นอีกแล้ว



……………………….



   เจ้าของดวงตากลมใหญ่มองกระจกข้างที่สะท้อนร่างแบบบางของหม่อมหลวงพิมพัชราซึ่งยืนส่งอยู่หน้าตึก หลังจากทุกคนอิ่มหนำสำราญจากร้านไอศกรีมแล้ว อาทิตย์ก็พากลับ โดยแวะส่งแขกผู้เกียรติที่วังฉัตร และเวลานี้ในรถที่กำลังออกถนนใหญ่จึงเหลือเพียง ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์



   “คุณพิมเธองามเหลือเกินนะคะ มีความรู้ความสามารถ คุณชายฉัตรไม่ยักหาคู่ให้เสียที” นภาสรวงผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวเอ่ยปากขึ้นมาในรถ จันทร์จ้าวหัวเราะเบาๆในลำคอ แล้วเอี้ยวตัวหันไปมองน้องสาว



   “ใครว่าล่ะ คุณชายท่านมองไว้เรียบร้อยแล้วต่างหาก...” เขาว่าอย่างนั้นแล้วเหลือบมองพี่ชายผู้ทำหน้าที่ขับรถ ความมืดทำให้เขาไม่เห็นสีหน้าของอาทิตย์ แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่านายทหารผู้นี้จะรู้สึกเช่นไร



   ...ชอบแต่ไม่กล้าบอก รักแต่ไม่กล้าเข้าใกล้...สมเป็นอาทิตย์เสียเหลือเกิน ลองเป็นเขาเถอะ จะเดินหน้าให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้าง!...



   “ใครหรือคะพี่จันทร์?” นภาสรวงถามต่อด้วยความสงสัยในขณะที่ดารารัษมีกลับนั่งเงียบ



   “ไม่ได้ บอกไม่ได้ เรืองนี้เป็นเรื่องของเขา เราเกี่ยวเสียที่ไหน” จันทร์จ้าวโยกโย้ราวไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่เขารู้ดีว่าคนที่นั่งตำแหน่งคนขับคงอยากรู้จนแทบแย่เสียแล้ว



   “พุทโธ่! พี่จันทร์น่ะ”



   “จริงสิ...แถวนี้มีบ้านเช่าของคุณแม่อยู่ใช่ไหม” เขาเปลี่ยนไปคุยอีกเรื่องอื่นแทน แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ภายนอกมีเพียงแสงไฟจากเสาไฟเป็นระยะ และแสงจากบ้านเรือนที่ปลูกเรียงรายริมทาง



   “มีอยู่ค่ะ แต่เลยมาแล้ว บ้านเช่าของคุณแม่อยู่ใกล้กับวังฉัตร แต่คนเช่าเก่าเพิ่งออกไปเองค่ะ เห็นคุณแม่ว่าจะเปิดให้เช่า แต่ยังไม่มีเวลาจัดการเสียที” จันทร์จ้าวพยักหน้ารับรู้



   ...บ้านเช่าใกล้กับวังฉัตร คนเช่าเก่าก็ออกไปแล้ว...แหม ประจวบเหมาะจริง...



   “ถ้าพี่ไปขอคุณแม่ย้ายมาอยู่บ้านหลังนั้นจะดีไหมนะ เฮ่ย!” เขาเอ่ยปากลอยๆขึ้นมาในรถ และแทบจะในวินาทีนั้นที่อาทิตย์ถึงกับเหยียบเบรคเสียหัวแทบทิ่ม เสียงหวีดร้องดังเบาๆมาจาก # แฝดทางด้านหลัง คนขับดูเหมือนจะได้สติรีบหันกลับไปขอโทษขอโพยน้องสาวทันที



   “เป็นอะไรไหม?! ขอโทษที พี่...เอ่อ...พี่มัวแต่ใจลอย...” ชายหนุ่มไม่กล้าบอกความจริงว่าเขาตกใจกับคำพูดของน้องชายมากเพียงใด



   “ไม่เป็นไรค่ะ พี่อาทิตย์” นภาสรวงว่าอย่างนั้น แม้ว่าแขนของหล่อนจะกระแทกเข้ากับเบาะคนขับจนปวดระบม



   “พี่อาทิตย์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ปกติไม่เห็นเป็นอย่างนี้” ดารารัษมีถามแล้วจับจ้องพี่ชายที่รีบหันกลับไปมองถนนไม่ยอมสบตา



   “ป...เปล่า...ไม่ได้เป็นอะไร...” เขาละล่ำละลักตอบ แล้วเริ่มขับรถต่อ ดีว่าดึกมากแล้ว ถนนเส้นนี้จึงไม่มีรถวิ่งพลุ่กพล่าน ไม่เช่นนั้นหากเขาเบรคกะทันหันเหมือนเมื่อครู่ ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุเอาได้



   “เพราะพี่จันทร์ อยู่ดีๆก็พูดอะไรขึ้นมา ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย จะขอย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ขนาดพี่อาทิตย์ยังตกใจจนเหยียบเบรคแน่ะค่ะ” นภาสรวงที่แม้จะไม่ดุเท่าน้องสาวแฝดของตน แต่ก็ยังทนไม่ไหวต้องดุพี่ชายคนรองเข้าเสียหน่อย จันทร์จ้าวหัวเราะเบาๆแต่ไม่พูดกระไร ความรู้สึกของพี่ชาย เขาดูออกตั้งแต่อยู่ที่ภัตตาคารจีน ยิ่งตอนนี้ก็ยิ่งแน่ใจว่าอาทิตย์รู้สึกกับราชนิกูลสาวผู้นั้นมากเพียงใด แต่...ถ้ายังขืนปล่อยให้อาทิตย์ปิดปากเงียบเช่นนี้ต่อไป เห็นทีหม่อมหลวงพิมพัชราคงตกเป็นของคนอื่น...



   พอคิดถึงคนอื่น ดวงตาคมดุแต่อ่อนโยนที่อยู่บนใบหน้าคมคายของคนที่เขาพบที่ภัตตาคารจีนก็ทำเอาจันทร์จ้าวนึกขุ่นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ



   ...ผู้ชายคนนั้น...คือคนที่คุณชายฉัตรต้องการให้เข้าพิธีสมรสกับธิดา...ธิดาของคุณชายฉัตรที่พี่ชายของเขาหมายปอง ตอนแรกที่ยังไม่ทันสังเกตความรู้สึกของอาทิตย์ เขาก็ยังเคืองที่แม้จะไม่รู้จักกันตรงหน้า แต่ชื่อของชายผู้นั้นกลับถูกพูดถึงทั่วทั้งกรุงเทพฯ ยามนี้ที่เขารู้ว่าพี่ชายของตนรู้สึกเช่นไรกับหม่อมหลวงพิมพัชรา เขาก็ยิ่งพาลโมโห ‘หมอภวัต’ ผู้ซึ่งถูกหมายตาให้ไปเป็นคู่ครอง...



   ...ไม่มีวัน!! เขาไม่ยอมให้ ‘หมอภวัต’ ได้คุณพิมไปง่ายๆ...แม้อาทิตย์จะไม่ยื้อแย่ง แต่เขานี่ล่ะจะทำทุกอย่างแทนพี่ของเขาเอง!!...



..........................................



   จันทร์จ้าวไม่ได้พูดขึ้นมาลอยๆ เรื่องที่เขาจะขอย้ายออกไปอยู่ที่บ้านเช่าอันเป็นมรดกตกทอดของคุณหญิผกา ชายหนุ่มอาศัยวันถัดมาซึ่งเป็นวันเสาร์ที่ทุกคนในครอบครัวรักษพิพัฒน์อยู่กันพร้อมหน้า ขออนุญาตออกไปอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง เล่นเอาคุณหญิงผกาลมจะจับเป็นครั้งที่ ๒ ในรอบหนึ่งเดือน



   “จะขอไปอยู่ข้างนอกคนเดียว?!! ทำไมล่ะพ่อจันทร์!! อยู่ที่นี่ไม่ดีตรงไหน?!!” หญิงร่างอวบร้องแทบลั่นด้วยความตกอกตกใจ ท่านนายพลเองก็พลอยตกใจไปด้วยเช่นกัน จะมีก็แต่พี่ชายและน้องสาวทั้ง ๒ ของจันทร์จ้าวที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะต่างก็ก้มหน้าก้มตารับประทานข้าวเช้าเงียบๆ



   “อยู่ที่นี่ดีโขเลยครับคุณแม่ แต่มาคิดดูแล้ว อยู่ที่นั่นจะสะดวกกว่า บริษัทที่ผมทำกับเพื่อนฝรั่ง มีคุณพงศ์เข้าหุ้นด้วย คุณพงศ์เธอเก่งเรื่องธุรกิจ ผมก็อยากจะอยู่ใกล้คุณพงศ์สักหน่อย เผื่อมีอะไรจะได้ปรึกษาทันเวลา”



   “แต่!...” คุณหญิงตั้งท่าจะค้าน แต่จันทร์จ้าวพูดต่อไม่ยอมให้แทรก



   “แล้วบ้านหลังนั้นก็อยู่ใกล้วังฉัตร คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง คุณพงศ์เธอดูแลผมดีอย่างกับน้องในไส้ด้วยซ้ำไป”



   “จะเป็นการรบกวนคุณพงศ์เธอหรือเปล่า” ท่านนายพลก็ออกจะไม่เห็นด้วยอยู่สักหน่อย ที่บุตรชายคนรองจะออกไปอยู่ข้างนอก ทั้งที่บ้านช่องก็ออกใหญ่โตอย่างนี้



   “ผมไม่ได้รบกวนเธอทุกเวลานี่ครับ ผมอยู่อเมริกามาตั้ง ๖ ปี ผมดูแลตัวเองได้ครับคุณพ่อ ที่อยากไปอยู่ตรงนั้นก็เพราะมันสะดวกเท่านั้นเอง แต่ผมก็ไม่ได้อยู่ทุกวัน ทุกเย็นวันศุกร์จะวานพี่อาทิตย์ไปรับกลับ แล้วเช้าวันจันทร์ค่อยไป” อาทิตย์ที่ถูกใช้งานดื้อๆถึงกับเงยหน้าจากถ้วยขึ้นมามองหน้าน้องชายทันที ทว่าจันทร์จ้าวยังคงเอาแต่จ้องบิดามารดา



   “นะครับคุณแม่ ผมรับรองว่าผมไปอยู่ที่นั่น ผมจะไม่เกเร จะไม่หาสะใภ้มาให้คุณแม่เป็นลมรอบที่ ๒ อีก” คุณหญิงผกามองบุตรชายคนรองแล้วได้แต่ถอนหายใจด้วยความหนักอก



   “พ่อจันทร์สัญญากับแม่แล้วนะ ว่าจะไม่หาสะใภ้มาให้แม่”



   “สัญญาครับ” จันทร์จ้าวยังคงแย้มยิ้มกว้าง คุณหญิงก็ได้แต่อ่อนใจหันมองสามี



   “ก็ให้ลูกมันไปอยู่เถอะคุณหญิง พ่อจันทร์เขาก็บอกแล้วว่าจะกลับมาทุกศุกร์ จริงไหมพ่อ” ท่านนายพลขอคำสัญญาให้แจ่มชัดอีกครั้ง จันทร์จ้าวยิ้มกว้าง



   “สัญญาครับ ทุกวันศุกร์ ผมจะให้พี่อาทิตย์ไปรับกลับมา!”



   ขออนุญาตเรียบร้อย อีก ๓ วันถัดมาจันทร์จ้าวก็ขนข้าวของส่วนหนึ่งออกจากบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์มาเหยียบอยู่ที่บ้านเช่าสีเขียวอ่อนหลังเล็กใกล้วังฉัตร โดยอาศัยเพื่อนรักอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเป็นผู้ช่วยในการขนย้าย



.........................................


หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 24-09-2015 21:18:39

   “แกนะแก เรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ แกก็ทำให้เกิดขึ้นได้”



คนมาช่วยเอ่ยปาก ขณะนั่งมองร่างสูงโปร่งของจันทร์จ้าวเดินไปเดินมาในบ้านหลังเล็ก เจ้าตัวย้ายเข้ามาอยู่วันนี้เป็นวันแรก หลังจาก ๓ วันที่แล้วขออนุญาตบิดามารดาเรียบร้อยโดยอ้างเขา



   ...อ้างว่าเขาเป็นหุ้น อ้างว่าอยู่ใกล้เขาแล้วอุ่นใจ พุทโธ่! มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าคนรักอิสระอย่างจันทร์จ้าวออกมาอยู่ที่นี่คนเดียวก็เพราะจะได้สะดวกมันน่ะซี!!...



   “เรื่องอะไรไม่น่าเป็นไปได้? เรื่องที่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่น่ะหรือ”



   “ก็ใช่น่ะซี! แกอย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย คุณหญิงผกาน่ะไม่อยากให้แกออกมาทำงานนอกบ้านด้วยซ้ำ!”




อันที่จริง วันนี้ทั้งคุณหญิงและท่านนายพลอยากจะมาส่งลูกรักที่บ้านหลังนี้ด้วยตนเอง แต่จันทร์จ้าวอ้างว่าอีกไม่กี่วันก็จะให้อาทิตย์มารับกลับไปนอนที่บ้านเรือนไทยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไว้รอเจอหน้าวันนั้นเลยจะดีกว่า ๒ สามีภรรยารักษพิพัฒน์จึงยอมให้บุตรชายคนรองขนของโดยอาศัยรถของหม่อมหลวงพงศ์ภราธร



“แต่ที่ผมออกมาอยู่นี่ ผมทำเพื่อคนที่บ้านล้วนๆ” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้นแล้วยิ้มบางอย่างมีเลศนัย



   “ทำเพื่อคนที่บ้าน? คนไหนล่ะ? ทำเพื่อคนที่บ้านที่ชื่อจันทร์จ้าวหรือ?” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเยาะด้วยเพราะคิดว่าเพื่อนรักย้ายออกมาอยู่ที่นี่เพื่อเสรีภาพของตนเอง



   “เอาเถอะ อีกหน่อย ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย จะต้องมีคนขอบอกขอบใจจันทร์จ้าวคนนี้ โดยเฉพาะคุณพงศ์”



   “กันเนี่ยรึ?! ต้องขอบใจแก?!!”



   “แน่สิ ไว้รอถึงตอนนั้นก่อน คุณพงศ์จะรู้เอง...อืม...ชักหิวแล้วซี แถวนี้มีอะไรอร่อยบ้างไหมคุณพงศ์ เราไปหาอะไรทานกันเถอะ”



   “มีที่วัง วันนี้คุณหมอภวัตมาเยี่ยมคุณพ่อ ที่วังเลยเตรียมอาหารไว้แยะ”



   “หมอภวัตอีกแล้ว?!!” จันทร์จ้าวร้อง อารมณ์ดีๆเพราะได้ย้ายมาอย่ที่บ้านหลังใหม่เพียงลำพังกำลังจะกลายเป็นอารมณ์ขุ่นเคืองเพราะได้ยินชื่อไม่ถูกหูเข้า



   “ใช่ ก็บอกแล้วว่าคนนี้คุณพ่อหวังเอามาเป็นเขย...” ยิ่งฟังก็ยิ่งหงุดหงิด ถ้า ‘หมอภวัต’ เช้าถึงเย็นถึงวังฉัตรขนาดนี้ แล้วพี่ชายของเขาที่วันๆทำแต่งานจะไปสู้อะไร!!



   “ชักอยากจะรู้จักหมอภวัตอะไรนี่เสียแล้วสิ” จันทร์จ้าวพูดอย่างเข่นเขี้ยว ทำเอาคนฟังหัวเราะเบาๆ



   “คราวนั้นกันก็บอกแล้วว่าจะแนะนำให้รู้จักก็เจ้ายศเจ้าอย่างไม่ยอม เอาเถอะ คราวนี้ถ้าได้เจอกันที่วัง กันจะแนะนำให้ รับรองว่าแกต้องตกใจที่เมืองไทยมีผู้ชายที่ดีพร้อมอย่างนี้ด้วย” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดเพียงเท่านั้น ก็พาเพื่อนรักเดินนำออกจากบ้านเช่าหลังเล็กกลับไปที่วังฉัตร โดยที่จันทร์จ้าวนึกหมายหัว ‘หมอภวัต’ ไปตลอดทาง



.....................................



   ห้องทำงานของหม่อมราชวงศ์ฉัตร ฉัตราภาสนั้นแม้จะใหญ่โตสักเพียงใดแต่ก็อัดแน่นไปด้วยชั้นหนังสือวางเรียงรายมีตั้งแต่หนังสือไทยไปจนถึงหนังสือฝรั่ง หนังสือโบราณไปจนถึงหนังสือสมัยใหม่ คุณชายท่านเป็นหนอนหนังสือ รักการอ่านยิ่งกว่าสิ่งใดและไม่ค่อยวางโตเท่าใดนัก จึงทำให้อยู่ในเมืองไทยในช่วงที่บรรยากาศทางการเมืองร้อนรุ่มได้อย่างสบายใจ




   ภวัต วิชาญโยธินมองไปรอบห้องอย่างนึกชอบ เขาเองก็เป็นหนอนหนังสือเช่นเดียวกัน จึงออกจะชอบใจห้องทำงานเช่นนี้ที่มีแต่หนังสือ หากเขามีบ้านเป็นของตัวเอง ก็คงจะสร้างห้องอย่างนี้ไว้สักห้องหนึ่งเช่นกัน




   “ชอบไหมล่ะคุณหมอ อยากอ่านอะไรก็มาหยิบยืมที่นี่ได้ ไม่ต้องเกรงใจ หนังสือพวกนี้ฉันอ่านของฉันคนเดียว คิดอยู่เหมือนกันว่าออกจะเห็นแก่ตัวไปสักหน่อย ที่ไม่แบ่งปันคนอื่นอ่านบ้างเลย” เสียงของผู้เป็นเจ้าของห้อง ทำให้ภวัตต้องหันไปมองแล้วยิ้มจาง



   “ผมเองก็เป็นคนชอบอ่านหนังสือ หวังสักวันว่าจะมีห้องเช่นนี้” หม่อมราชวงศ์ฉัตรหัวเราะเบาๆ แล้วจับจ้องชายหนุ่มอายุคราวลูกด้วยสายตามีหวัง




   “ก็คิดเสียว่าห้องนี้เป็นห้องของคุณหมอซี” คำพูดนั้นทำให้ภวัตหันกลับไปมองคนพูดทันที คุณชายฉัตรยิ้มจาง




   “ฉันไม่อ้อมค้อมหรอกนะ ฉันเองก็เห็นหมอมานาน กับท่านนายพลพ่อของเธอ ฉันก็รู้จักสนิทสนมเป็นการดี ตัวฉันเองก็อยากให้ลูกของฉันได้คู่ครองที่ดี แล้วยิ่งครอบครัวของคู่ครองคนนั้นคือคนที่ฉันรู้จักก็ยิ่งดีไปใหญ่ หมอจะว่าอย่างไร หากฉันจะบอกว่า ฉันอยากให้มาเกี่ยวดองกับครอบครัวของฉัน” ชายหนุ่มนิ่งงันไปในทันที แม้จะพอรู้มาบ้างจากน้องชายว่าบิดาของเขากำลังหาคู่ให้เขาอยู่ แต่ภวัตก็ไม่คิดว่าคนที่จะมาพูดเรื่องนี้จะเป็นคุณชายฉัตร




   “คุณพิมเป็น...กุลสตรี...ที่ผมไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้พบ เธอเป็นผู้หญิงที่ทั้งฉลาด นิสัยดีและเป็นที่ชื่นชอบของทุกๆคน ตัวผมเองก็ชอบคุณพิมอยู่ไม่น้อย แต่...ตอนนี้ผมทำงานจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น...ผมขอขอบพระคุณที่คุณชายให้โอกาสผม แต่ผมเองก็ไม่อยากปิดโอกาสคุณพิม ทั้งๆที่ตัวผมยังเอาแต่ทำงาน” เป็นคำพูดที่ตรงไปตรงมาแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความสุภาพอย่างเต็มเปี่ยม หม่อมราชวงศ์ฉัตรมองชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าที่ค้อมศีรษะนิ่งค้างราวกับจะขอโทษที่ไม่อาจรับข้อเสนอของท่านได้ เจ้าของวังฉัตรได้แต่ถอนหายใจแผ่ว




   “อย่างนั้นหรอกหรือ น่าเสียดายจริง...แต่เอาเถอะ เรื่องอย่างนี้มันบังคับกันไม่ได้ แต่ฉันก็อยากให้หมอเปิดใจให้ยายพิมของฉันหน่อย หากวันหนึ่งหมอคิดจะเกี่ยวดองกับที่นี่ และเมื่อนั้นยายพิมยังไม่มีใคร ฉันจะสนับสนุนหมอเอง” ภวัตได้แต่ยิ้มบางอย่างที่เขาชอบทำเป็นประจำ หากแต่ในใจของชายหนุ่มกลับหนักอึ้ง




   ...ถ้าวันหนึ่ง คนที่มาพูดเรื่องนี้กับเขาไม่ใช่คนอื่นอย่างคุณชายฉัตร แต่เป็นบิดาบังเกิดเกล้าของเขาแทน เขาจะกล้าปฏิเสธเช่นนี้ไหม ในเมื่อวันนั้นที่ภัตตาคารจีน เขายังกล้าพูดกับน้องชายว่าหากบิดาเห็นดีให้เขาแต่งงาน เขาก็ยินดี ยินดีเพราะมันคือความเหมาะสมของผู้ใหญ่ ยินดีเพราะมันคือความต้องการของคนรอบข้าง แต่...หัวใจของเขาเล่า? หัวใจของเขาจะเป็นเช่นไร...




   ภวัตไม่กล้าคาดเดา แม้รู้ดีว่าวันหนึ่งวันนั้นจะต้องมาถึงในไม่ช้าก็ตาม



...........................



   นายแพทย์หนุ่มตรวจชีพจร แนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพให้กับหม่อมราชวงศ์ฉัตรอีกเล็กน้อย และสนทนาเรื่องสัพเพเหระอีกหน่อย ก็ขอตัวจากมาเมื่อมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาขอพบคุณชาย เขาเดินออกจากห้องทำงานของเจ้าของวังฉัตร คนรับใช้ที่ยืนรออยู่แล้วก็เข้ามารายงานทันที




   “คุณหมอขอรับ คุณพงศ์เรียนเชิญที่โต๊ะม้าหินริมน้ำขอรับ” ภวัตเพียงพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะก้าวเท้าเดินตามคนรับใช้ไปยังโต๊ะม้าหินริมน้ำ น้ำที่ว่าคือแม่น้ำเจ้าพระยา วังฉัตรนั้นกินอาณาเขตกว้างขวาง ส่วนหน้าติดถนนเส้นหลัก ส่วนด้านหลังติดกับแม่น้ำ เดินทางสะดวกทั้งทางบกและทางเรือ ภายในรั้วของวังก็หนาแน่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่นแม้นี่จะเป็นเวลาบ่ายแล้วก็ตาม




   “ทางนี้ขอรับ” คนรับใช้ผายมือแล้วค้อมตัวต่ำไปยังโต๊ะม้าหินที่อยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งหันหน้าออกสู่แม่น้ำกว้างและหันหลังให้เขา ภวัตก้าวเท้าเดินเข้าไป ก็พอดีกับที่อีกฝ่ายหันกลับมา




   “อ้าว คุณหมอ สวัสดีครับ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรลุกจากเก้าอี้แล้วค้อมศีรษะพร้อมส่งยิ้มทักทาย ภวัตยิ้มตอบ




   “สวัสดีครับ คุณพงศ์ เห็นนายคำว่าคุณพงศ์อยากพบผมหรือ”




   “ใช่ครับ มีคนอยากแนะนำให้คุณหมอรู้จักน่ะ แต่ไม่คิดว่าคุณหมอจะคุยกับคุณพ่อเสร็จเร็ว เจ้าตัวเขาก็เลยขับเรือติดเครื่องยนต์ออกไปเที่ยวแถวนี้ อีกสักพักคงจะกลับ คุณหมออยู่รอเพื่อนผมหน่อยนะครับ”




   “เพื่อนคุณพงศ์หรือครับ”




   “ครับ นายจันทร์ คุณหมอคงยังไม่รู้จัก เพิ่งกลับจากอเมริกาเมื่อเดือนก่อนนี้เอง” ไม่ทราบว่าด้วยอะไรดลใจ ภวัตคิดไปถึงชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่เขาเห็นเพียงแว่บเดียวเมื่อครั้งมาวังฉัตรคราวก่อน แล้วก็พาลเป็นนึกไปถึงชายหนุ่มเจ้าของดวงตากลมโตดื้อดึงและอวดดีที่เขาพบที่ภัตตาคารจีน ๒ คนนี้อาจจะเป็นคนละคนก็ได้ เขาจำไม่ถนัดนัก แต่...บางทีก็อาจจะเป็นคนเดียวกัน...



   “คุณจันทร์...คนที่ว่า...เขาเป็นใครหรือครับ”



   “เป็นลูกชายคนรองของท่านนายพลเดช รักษพิพัฒน์ไงล่ะครับ เป็นน้องของคุณอาทิตย์ คุณหมอรู้จักคุณอาทิตย์ รักษพิพัฒน์ที่อยู่ในสังกัดของคุณพ่อของคุณใช่ไหม นายจันทร์เป็นน้องคุณอาทิตย์นี่ล่ะครับ” ภาพวันที่เขาพบอาทิตย์และนภาสรวงที่ภัตตาคารจีนย้อนกลับมา หากนายจันทร์คนนี้เป็นน้องคนรองของอาทิตย์ ก็แสดงว่าเป็นพี่ของนภาสรวงด้วยเช่นกัน




   “คุณพงศ์บอกว่าเขาเป็นคนรอง แสดงว่าเขาเป็นพี่ชายของคุณนภาสรวงกับคุณดารารัษมีใช่ไหม”




   “ถูกต้องครับ ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์”




   “อ้อ อย่างนี้นี่เอง...” ภวัตรับคำ เขานึกหวนไปถึงภาพวันนั้นที่ยังติดตา ดูเหมือนเขาจะปะติดปะต่อได้แล้ว ผู้ชายคนที่เป็นคู่ปรับของน้องชายเขาบางทีอาจจะเป็นคุณจันทร์คนนี้ ที่เป็น ๑ ใน ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์



   “คุณจันทร์คนนี้ใช่คนที่ตาโตๆ แล้วก็มีลักยิ้มที่แก้มซ้ายรึเปล่า” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทำตาโตกับคำถามนั้น



   “คุณหมอเคยเจอจันทร์ด้วยหรือ?!” เขาถามแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครั้งที่จันทร์จ้าวแวะมาหาเขาหลังจากกลับมาถึงเมืองไทยใหม่ๆ ภวัตก็เคยมาที่นี่และบังเอิญเจอกันพอดี



   “จริงด้วยสิ...ครั้งนั้นเจอกันที่ตึก แหม คุณหมอนี่ความจำดีจริง ถูกต้องครับ นายจันทร์คนนี้ตาโตแล้วก็มีลักยิ้ม หน้าตาดีจนผู้หญิงทั่วกรุงเทพฯหลงละเมอเพ้อพกกันไปแทบจะทุกบ้าน” ภวัตหัวเราะเบาๆกับประโยคท้ายของคนตรงหน้า



   “แต่จะว่าไปก็แปลกดี ทั้งที่คุณหมอกับจันทร์ไม่เคยรู้จักกัน แต่คุณหมอจำหน้าจันทร์ได้ จันทร์ก็จำชื่อคุณหมอได้ อย่างนี้สงสัยจะทำบุญร่วมกันมานะครับ” บุตรของคุณชายฉัตรตั้งข้อสังเกต ภวัตนิ่งไปเล็กน้อย เขาเองก็แปลกใจที่ดวงหน้าขาว ตากลมใหญ่ จมูกโด่ง ริมฝีปากสีจัดและลักยิ้มที่แก้มซ้ายติดอยู่ในสมองของเขาถึงเพียงนี้ ดวงตาคู่นั้นที่เคยมองเขาอย่างอวดดี มาวันนี้คงจะได้รู้จักกันเสียที แล้วเขาจะถามให้ได้ว่าทำไมถึงต้องมองเขาเช่นนั้น




   เสียงเรือยนต์ดังใกล้เข้ามา หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองออกไปยังแม่น้ำก็เห็นเรือติดเครื่องยนต์ขับตรงมา เขามองเห็นแต่ไกลก็จำได้ว่าเป็นเพื่อนรักของตนเองแน่ ชายหนุ่มกำลังจะหันมาบอกคุณหมอที่ยืนข้างกัน ทว่าเสียงของคนรับใช้ดังขึ้นเสียก่อน



   “ขอประทานโทษขอรับ คุณหมอขอรับ มีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลขอรับ”



   “อย่างนั้นหรือ ขอบใจมาก” ภวัตหันกลับไปบอกคนรับใช้ที่เข้ามารายงาน ก่อนจะหันมาทางราชนิกูลหนุ่ม




   “สงสัยจะมีคนไข้อาการหนัก เห็นทีคงจะอยู่ทำความรู้จักกับเพื่อนของคุณพงศ์ไม่ได้เสียแล้ว เอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน” เพราะภาระหน้าที่ของอีกฝ่ายคือชีวิตคน หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจึงได้แต่พยักหน้ารับ



   “ไม่เป็นไรครับคุณหมอ” แล้วภวัตก็ขอตัวก่อนจะก้าวเท้าเดินตามคนรับใช้กลับไปที่ตำหนักเพื่อรับโทรศัพท์ เป็นเวลาเดียวกับที่เรือติดเครื่องยนต์แล่นกลับมาถึงฝั่ง




และเป็นอีกครั้ง...ที่คนทั้งคู่ยังไม่อาจได้รู้จักกัน...




ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

หมอมา แต่ก็ยังไม่เจอกันอยู่ดี ฮ่าฮ่า ตอนหน้าๆ ตอนหน้าเขาจ๊ะเอ๋กันจริงๆล่ะคราวนี้

วันนี้จะมาคุยเรื่องชื่อเรื่อง ‘จันทร์จ้าว’

จริงๆแล้ว บัวชอบชื่อ ดารารัษมี ค่ะ คิดเอาเองว่าเป็นชื่อที่ฟังแล้วเก๋มากๆในยุคก่อน 2500 ตอนที่คิดจะใช้ตัวละครตัวหนึ่งชื่อนี้ ก็เลยอยากให้ลิงค์กัน ก็เลยตั้งชื่อ จันทร์จ้าว ซึ่งไม่ใช่ ‘จันทร์เจ้า’

‘จันทร์เจ้า’ หมายถึง ดวงจันทร์, ดวงจันทร์ที่รัก (เท่าที่หาข้อมูลมา ใครมีความหมายอื่น บอกมาได้ค่ะ)

แต่เพื่อให้เข้ากับคาแรกเตอร์ บัวก็เลยเปลี่ยนการสะกดเป็น ‘จันทร์จ้าว’ และให้แปลว่า จ้าวแห่งพระจันทร์ เป็นเซเลอร์มูน ราชินีแห่งดวงจันทร์ เอ้ย ราชาแห่งด้วงจันทร์ นั่นเองค่ะ ฮ่าฮ่า


อ้อ มีคนทักเรื่องการแทนตัวว่า ‘กัน’ ด้วย อันนี้บัวคะเนเอาเองว่าช่วงนั้นน่าจะยังใช้อยู่ ในมาลัยสามชาย (น่าจะเป็นช่วง หลัง 2475 นิดๆ) ยศเรียกแทนตัวเองเวลาพูดกับเพื่อนสนิทว่า ‘กัน’ ส่วนในเรื่องเจ้าสาวของอานนท์ (อันนี้น่าจะ 248X ) อานนท์ก็เรียกแทนตัวเองว่า ‘กัน’ กับเพื่อนผู้ชายเหมือนกัน อ่านแล้วช้อบชอบอ่ะ เหมือนเป็นการผสมกันของคำว่า กู+ฉัน ก็เลยเอามาใช้ซะเลย ฮ่าฮ่า

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนเม้นท์ และทุกคนที่ติดตามเช่นเคยค่ะ

แล้วเจอกันใหม่พฤหัสหน้า (คราวหน้าหมอกับจันทร์เจอกันจริง กามเทพยิงศรปิ้วๆเลยยยยย)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒ (๑๗ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๓)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 24-09-2015 21:46:38
คุณจันทร์เป็นคนรักษาสัญญานะคะคุณแม่~ :hao7: ..
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmy_kuneekorn ที่ 24-09-2015 21:50:17
ตลาดกันอีกแล้ว555
รอตอนต่อไปค่ะ ลุ้นมากว่าจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 24-09-2015 21:59:21
แหม่ คลาดกันเสียอีกจนได้
คู่นี้พบกันลำบากแท้
รออ่านคราวหน้านะคะว่ากามเทพจะแผลงศรปิ๊งๆแบบดีหรือแบบดุเดือด ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 24-09-2015 22:02:27
โอ้ย นี่ลุ้นให้เขาป๊ะกันตรงๆสักทีมากอะตอนหน้าสินะๆๆๆ รอดูฤทธิ์จันทร์จ้าว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 24-09-2015 22:09:49
เลิฟมากเรื่องนี้ รอเจ้าคะ
พลาดเจอกันอีกเเล้ว 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 24-09-2015 22:17:49
น้องจันทร์จะช่วยพี่อาทิตย์ด้วยการยกตัวเองให้หมอภรตใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-09-2015 22:30:15
ไม่เจอกันอีกแล้วววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-09-2015 22:46:54
คณหญิงแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องสะใภ้นะคะ จันทร์คงจะได้ลูกเขยมาฝากแทนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 24-09-2015 22:49:32
คุณหญิงแม่ไม่ต้องห่วง จันทร์ไม่หาสะใภ้ให้หรอก แต่จะเอาลูกเขยไปฝากแทน 5555555

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 24-09-2015 23:24:19
คลาดกันอยู่นั้นแหละเป็นงั้นไป
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 24-09-2015 23:28:37
ให้มันได้อย่างนี้สิน่า! (ตบเข่าด้วยเสียดาย) ไม่เป็นไรค่ะ ตอนหน้าก็คงได้เจอกันอย่างที่คุณบัวบอก เริ่มเห็นแววอะไรบางอย่างจากทางฝั่งคุณหมอแล้วค่ะ เห็นที...คงไม่ใช่แค่ผู้หญิงทั้งกรุงเทพฯ จะเพ้อจันทร์จ้าวเสียแล้ว คุณหมอก็คงหลงเสน่ห์จันทร์จ้าวด้วย เสียแต่ไม่รู้ตัวเท่านั้น

เรื่องสรรพนาม "กัน" ดิฉันว่าคงเป็นคำที่ใช้กันในสมัยนั้น เพราะนอกจากหนังสืออ้างอิงเรื่องที่คุณบัวกล่าวมา ดิฉันก็อ่านเจอในยามตะวันรอนด้วย, หรือหนังสือแปลเรื่องเชอร์ล็อก โฮล์มส์ สำนวนแปลของ อ.สายสุวรรณอีกอัน (ซึ่งมันถูกแปลขึ้นตอนราวๆ ก่อนหรือประมาณ 2500) ส่วนตัวแล้วชอบค่ะ มันฟังดูพีเรียดดี

ขอบคุณมากๆ ค่ะ ไว้เจอกันพฤหัสบดีหน้านะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 25-09-2015 00:49:01
คลาดกันอีกแล้ว รอตอนหน้าว่าจะไปป๊ะกันยังไงจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 25-09-2015 01:01:29
คุณจันทร์ไม่พาสะใภ้เข้าบ้านแน่นอนค่ะ.... ดูแววแล้วน่าจะพาอย่างอื่น..
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 25-09-2015 05:52:39
ไม่หาลูกสะใภ้แต่หาลูกเขยนะคุณหญิงแม่ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 25-09-2015 06:37:24
เภาไม่ชอบจันทร์จ้าวที่เสน่ห์แรงกว่าเราว่าดีนะ   อีกหน่อยจะได้ช่วยประเคนจันทร์จ้าวให้พี่ชายตัวเองซะ แล้วตัวเองก็จะไร้คู่แข่งไง  5555555555555  เชียร์ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 25-09-2015 07:59:16
คุณจันทรฮไม่เอาสะไภ้เข้าบ้่นแน่ๆค่ะคุณแม่
แต่ลูกเขยเนี่ย ไม่แน่.

คลาดกันไปมา เหมือนบุพเพเล่นตลอด อิอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 25-09-2015 08:22:50
โอ้ยยยยยยยยยย ลุ้นมาก
เฉียดไปเฉียดมายิ่งกว่านิยายอินเดีย
เดี๋ยวต้องแอบมองกันไปมาจนผูกพันแน่เลย กรี๊ด

จริงๆ ถ้าบ้านฝั่งนั้นรู้ว่าอาทิตย์ชอบนี่อาจจะไม่มีปัญหาแบบนี้ก็ได้
ขอให้คุณพิมชอบพี่อาทิตย์พอ ทุกอย่างลงตัวปิ๊งงงงเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 25-09-2015 09:02:06
อยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 25-09-2015 09:09:12
อยากให้ถึงวันพฤหัสเร็วๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-09-2015 09:12:15
หวาาา เกือบจะเจอกันแล้ววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 25-09-2015 09:24:13
 “พ่อจันทร์สัญญากับแม่แล้วนะ ว่าจะไม่หาสะใภ้มาให้แม่” 555555 แต่คุณแม่จะได้เขยแทน

รอวันเค้าได้ป๊ะกัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 25-09-2015 09:27:43
อีกละ  เมื่อไหร่จะได้เจอกัน 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 25-09-2015 10:08:46
พึ่งเข้ามาอ่านคร่า..อ่านได้ตอนเดียวอยู่..แล้วจะมาอ่านต่อนะคะ... :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 25-09-2015 10:16:45
เข้ามาติดตามนิยายเรื่องใหม่ของคุณบัวค่ะ อ่านแล้วก็มีแววว่าจะติดงอมแงมยิ่งคุณบัวบอกว่าไม่มีดราม่านี่ ตั้งหน้าตั้งตาอ่านเลย ถ้าเป็นนิยายไทยจะชอบอ่านแนวประมาณนี้อยู่แล้วค่ะ ถึงคุณบัวจะบอกว่าเขียนแนวนี้เป็นครั้งแรกแต่อ่านแล้วลื่นไหลดีค่ะ จะมีสะดุดแค่คำบางคำ ขออนุญาตเสนอความเห็นนะคะ อย่างคำว่า "ขวัก" น่าจะใช้ตัวเต็มว่า "ขวักไขว่" หรือถ้าจะย่อน่าจะใช้คำว่า"ควั่ก" เช่นเดินกันให้ควั่ก เป็นต้นค่ะ คำว่า"ลูกคนใหญ่" น่าจะเป็น " ลูกคนโต" แล้วก็คำว่า "ชุดไพรเวท" มันดูสมัยใหม่ไปนิดนึง ถ้าเป็นยุคนั้นน่าจะเป็น "ชุดลำลอง" ดีมั๊ยคะ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวถ้าเสียมารยาทกับคุณบัวยังไงต้องขอโทษด้วยนะคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 25-09-2015 10:17:51
เนื้องเรื่องช้าาาาามากกกกกเลยอ่ะ

แต่ก็จะติดตามนะจ๊ะ

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 25-09-2015 11:14:40
รอตอนที่เค้าเจอกันสองคน

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 25-09-2015 13:19:51
ตอนหน้าเจอปุ๊ปปิ้งปั๊บเลยได้มั้ยคะ
55555
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 25-09-2015 15:30:34
พระเอกต้องเป็นคุณหมอภวัตแน่เลย เชียร์สุดใจ

ส่วนคุณพิมอยากให้คู่กับพี่อาทิตย์นะ

น้องคุณหมอภวัตที่ชื่อเภาก็อาจจะคู่กับดารารัศมีแทน

ปล.เรื่องนี้ให้ความรู้สึกคล้ายๆจอมร้ายเลยอ่ะ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ชื่นชอบอีกเรื่องหนึ่ง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 25-09-2015 15:45:41
คลาดกันอีกแล้ว 555 ชะตาไม่สมพงศ์เลย แต่รู้จักกันคร่าว ๆ อย่างดี
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-09-2015 16:25:06
รอเจอกันอาทิตย์หน้าๆๆ

 :z2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 25-09-2015 17:04:27
คลาดกันไป




คลาดกันมา





(ไม่ดราม่าแน่ใช่ใหม ด้วยยุคสมัย กับ ฐานะครอบครัว วงค์ตระกูล อิฉันก็กลัวเหลือเกินละคุณ ว่า น้ำจะเดือด)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 25-09-2015 22:50:06
ชอบเนื้อเรื่องแบบนี้คะ ดำเนินเรื่องแบบเรื่อยๆ เย็นๆ แลดูอบอุ่นดีคะ o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 25-09-2015 23:56:44
ชอบมากกกก :mew1:
ชอบภาษา เป็นเรื่องย้อนยุค แต่ใช้ภาษาอ่านเข้าใจง่าย ไหลลื่นดีค่ะ o13

คุณจันทร์เจ้าคะ จีบสาวมาทั้งเมือง ทำท่าจะได้แฟนหนุ่มแทนนะเจ้าค่ะ  :hao7:
ก็คุณภวัตน่ะสิ ดูท่าจะแอบปิ๊งแบบไม่รู้ตัวอ่ะเปล่า :laugh:
ลุ้นตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 26-09-2015 00:45:15
คลาดกันอีกแล้ว
หวังว่าตอนหน้าคงได้รู้จักกันนะ :)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 26-09-2015 00:49:30
ลุ้นให้เจอหน้ากันจริงๆสักที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-09-2015 22:29:53
  “พ่อจันทร์สัญญากับแม่แล้วนะ ว่าจะไม่หาสะใภ้มาให้แม่”

ชัวร์ค่ะคุณหญิงแม่ เงาลูกเขยมาราง ๆ แล้วค่ะ
ท่าทางคุณหมอจะตกหลุมลักยิ้มลูกชายคุณหญิงแม่เข้าแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 27-09-2015 09:38:29
คลาดกันจนได้ รอตอนต่อไป :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: jungjiyoo ที่ 27-09-2015 10:06:21
กัน ต้องมี เกลอ ด้วยนะคะ5555 จันทร์จ้าวน่ารักจังมีลักยิ้มด้วย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 27-09-2015 10:28:48
ชอบอ่ะ เสียดายไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 27-09-2015 17:52:53
ไม่เอาสะใภ้แล้วสนใจลูกเขยมั้ยคะคุณแม่ 555555
ชอบภาษามากๆ
รอน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 27-09-2015 18:08:27
คนเขียนบอกไม่มีดราม่า เราสบายใจนักเเล 555555  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 27-09-2015 18:55:44
คุณจันทร์นี่ชายในฝันของเราเลยน้า
ตาโต ขาว จมูกโด่ง ที่สำคัญคือมีลักยิ้ม
ไม่มีดราม่าเรานี่โล่งใจเลย55555 ไม่อยากอ่านเรื่องดราม่า
ชอบมากๆกับหวานจนมดขึ้น คึคึ
รออ่านต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 27-09-2015 20:38:09
โอ้ย น่าติดตามมากค่ะ สนุกๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 28-09-2015 00:38:34
แล้วเมื่อไหร่คุณจันทร์กับคุณหมอจะได้เจอกันซะที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 28-09-2015 01:44:07
มีแต่คนมั่นใจในตัวคุณจันทร์ทั้งนั้นเลย ว่าจะสามารถทำตามคำสัญญาที่มีต่อคุณหญิงแม่ได้อย่างแน่นอน :laugh:
เพราะฉะนั้น เอาลูกเขยไปแทนนะคะคุณหญิงแม่ น้องจันทร์จัดให้ :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: SoulFighter ที่ 28-09-2015 12:58:54

ตอนหน้าจะได้พบกันจริง ๆ แล้วซินะ

 :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 29-09-2015 01:16:32
ติดตามค่ะ...

รอดูเลยว่าคุณจันทร์สุดหล่อทรงเสน่ห์ จะโคจรมาเจอกับคุณหมอได้อย่างไร
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 30-09-2015 14:02:17
ไม่ได้รู้จักกันสักทีนะ   :serius2: :serius2:
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 01-10-2015 21:18:05
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๔



   ย้ายมาอยู่บ้านใหม่เพียงลำพังได้ไม่กี่วันก็ถึงกำหนดกลับไปนอนบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ให้บิดามารดาได้เห็นหน้าตามสัญญา แต่ก่อนจะกลับ จันทร์จ้าวต้องทำตามแผนการที่ตนเองวางเอาไว้ให้เรียบร้อยเสียก่อน



ตอนก่อนเที่ยงเล็กน้อย เขาก็จัดการโทรศัพท์จากสำนักงานของเขาไปบอกพี่ชายที่กรมว่าจะเลิกงานเร็วและจะไปนั่งเล่นรอที่วังฉัตร ให้อาทิตย์ไปรับเขาที่นั่น ชายหนุ่มมั่นใจว่านี่จะเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้อาทิตย์ได้พบหน้าหม่อมหลวงพิมพัชราบ่อยขึ้น



   “วันนี้แปลก นึกอย่างไรชวนกันตีเทนนิสที่วัง” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้เป็นทายาทวังฉัตรเอ่ยปากถามขณะถือแรกเก็ตลงไปในคอร์ดของวัง ปกติแล้วเขาและจันทร์จ้าวมักจะนิยมตีเทนนิสในสโมสรมากกว่า เพราะได้พบปะผู้คนมากมาย แต่หากตีที่นี่ ก็จะมีคนตีแค่เขา ๒ คนเท่านั้น



   “ก็ผมอยากตีกับคุณพงศ์บ้างนี่ ไปสโมสรทีไรก็มีคนนั้นคนนี้เข้ามาวุ่นวายทุกทีไป” ราชนิกูลหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะโยนลูกขึ้นกลางอากาศแล้วตีไปหาเพื่อนรักที่อยู่อีกฝั่งของคอร์ด



   “แล้ววันนี้แกไม่ต้องกลับไปหาพ่อแม่แกหรือ”



   “กลับสิ นัดพี่อาทิตย์แล้วว่าให้มารับที่นี่ อ่า...ขอโทษด้วยที่ใช้วังคุณพงศ์เป็นที่นัดพบเสียแล้ว” จันทร์จ้าวตอบกลับเสียงเรียบเรื่อยแล้วตีโต้กลับไป หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหัวเราะร่า



   “จะมาขอโทษอะไร้! ให้คุณอาทิตย์มารับที่นี่ทุกสัปดาห์ก็ไม่มีใครว่าหรอก ดีกว่าให้แกนั่งรถรางระหกระเหินไปหาคุณอาทิตย์ ไม่รู้จะไถลลงข้างทางเมื่อไร” คำว่า ‘ไถลลงข้างทาง’ นั้นไม่ได้หมายถึงรถรางแน่อยู่แล้ว จันทร์จ้าวได้แต่ส่ายศีรษะไปมา



   “ถึงจะไถล แต่ผมก็หาทางกลับถูกล่ะหน่า”



   พวกเขาตีโต้กันได้ครู่ใหญ่ก็มานั่งพักอยู่ข้างสนาม อากาศในวังฉัตรร่มรื่นทีเดียว แต่ติดที่ว่าสนามเทนนิสนั้นอยู่ด้านหลังตึก ทำให้จันทร์จ้าวไม่รู้ว่าคนที่เขาอยากให้มาเจอกับพี่ชายของเขาจะกลับมารึยัง



   “แล้วนี่...ถ้าผมไม่มา หรือว่าคุณพงศ์ไม่ต้องไปสโมสร คุณพงศ์ก็อยู่เงียบๆคนเดียวในวังอย่างนี้น่ะหรือ” เขาตั้งคำถามอย่างอ้อมค้อมเพราะไม่อยากให้เพื่อนรักรู้ตัวเสียก่อนว่ากำลังอยากรู้ความเป็นไปในวังนี้



   “ใช่ ถ้าไม่ต้องตามคุณพ่อไปดูที่ดิน ไม่ต้องไปทำงานที่สำนักงาน ก็จะอยู่ที่นี่เล่นกับอ้ายดำบ้าง อ่านหนังสือบ้าง” อ้ายดำคือหมาที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเลี้ยงเอาไว้ ส่วนคนเก็บมาให้เขาเลี้ยงและคนตั้งชื่อไม่ใช่ใครที่ไหน จันทร์จ้าวนั่นเอง จริงๆแล้วชื่อมันเต็มๆคือ ‘ดำลม’ ไม่มีความหมายในภาษาไทย แต่มาจากการผสมคำ ‘ดำ’ มาจากสีดำบนตัวของมัน ส่วน ‘ลม’ มาจาก ‘สีลม’ ซึ่งเป็นสถานที่ที่จันทร์จ้าวไปเจอมันเข้า ครั้นจะนำกลับไปเลี้ยงที่บ้าน คุณหญิงผกาก็ไม่ชอบสัตว์ วังฉัตรจึงกลายเป็นบ้านของมันไป



   “แล้ว...ไม่เล่นกับคุณพิมหรือ สมัยเด็กๆก็เคยเล่นขายของนี่” จันทร์จ้าวถามอีก คราวนี้อีกคนหัวเราะเสียงดัง



   “ไม่ใช่เด็กๆเสียหน่อย! จะให้เล่นขายของ แล้วยายพิมก็กลับเย็นนู่น บางวันก็ค่ำด้วยซ้ำ ไม่รู้งานครูจะหนักหนาสาหัสอะไรขนาดนั้น”



   “กลับค่ำเชียวหรือ” จันทร์จ้าวทวนอย่างคาดไม่ถึง ถ้าหากหม่อมหลวงพิมพัชรากลับค่ำ แล้วอาทิตย์มารับเขาก่อน ถ้าเป็นเช่นนั้น ๒ คนนี้ก็คลาดกันน่ะซี



   คิดกังวลยังไม่ทันจะข้ามวินาที คนรับใช้ของวังฉัตรก็เข้ามารายงานอย่างนอบน้อม



   “คุณอาทิตย์มาแล้วขอรับ”


น้องชายของ ‘คุณอาทิตย์’ ทำหน้าเบื่อหน่ายขึ้นมาในทันที หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเห็นสีหน้าเพื่อนรักแล้วก็ได้แต่หัวเราะก่อนจะหยอกเย้าอย่างไม่รู้เรื่อง



   “ผู้ปกครองมารับกลับบ้านแล้ว หมดเวลาตีเทนนิสแล้วซี”   



   ...ไม่ใช่หมดเวลาตีเทนนิสหรอก แต่นี่ยังไม่ถึงเวลาที่อาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราจะได้เจอกันด้วยซ้ำ!!!!!...


.....................................   



   เพราะวันนี้เป็นวันศุกร์ ถึงแม้คุณหญิงผกาจะตรอมตรมมาหลายวันเนื่องจากบุตรชายคนรองขอย้ายไปอยู่ข้างนอก แต่พอตระหนักได้ว่าวันนี้ บุตรชายสุดที่รักจะกลับมา หล่อนก็ทำตัวกระฉับกระเฉง ลุกขึ้นสั่งการทุกสิ่งอย่างในเรือนไทยราวกับช่วงก่อนหน้านี้ไม่ได้มีความทุกข์ใจเลยแม้แต่น้อย



   “คุณแม่พักบ้างเถอะค่ะ ให้ป้าจรวยแกดูแลเองก็ได้ ดาราเห็นคุณแม่ตื่นตั้งแต่เช้า แล้วจนเย็นย่ำปานนี้ ก็ยังไม่พัก ป้าจรวย...วันนี้คุณแม่นอนพักบ้างหรือเปล่า” ดารารัษมีที่กลับมาจากการสอนที่โรงเรียนยังคงเห็นมารดาวิ่งวุ่นสั่งการตั้งแต่เรื่องทำความสะอาดห้องหับให้จันทร์จ้าวไปจนถึงเรื่องกับข้าวกับปลาก็อดไม่ได้ต้องออกปาก



   “ไม่ได้พักเลยค่ะ คุณดารา” คำตอบของคนรับใช้เก่าแก่ทำเอาดารารัษมีหันมามองมารดา



   “โธ่ ดารา...ก็วันนี้พี่เขาจะกลับมา แม่ก็อยากให้ทุกอย่างในบ้านเรียบร้อย ดาราไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะไป แม่จะลงไปดูในครัวหน่อย”



   “คุณแม่...” ธิดากำลังจะห้ามปราม แต่คุณหญิงผกายกมือห้ามเสียก่อน



   “ดาราให้แม่ทำเถอะ อย่าห้ามแม่เลย” พอมารดายืนยันอย่างนั้น ดารารัษมีก็หมดใจจะห้าม ได้แต่ปล่อยให้มารดาลงไปดูแลในครัวตามที่ต้องการ หล่อนได้แต่มองตามแล้วอดไม่ได้ที่จะพึมพำคาดโทษพี่ชายตัวดี



   “พี่จันทร์นะพี่จันทร์ ถ้าทำให้พี่อาทิตย์สมหวังไม่ได้ ดาราจะโกรธจริงๆ” ว่าแล้วก็ถอนหายใจ กำลังจะหมุนตัวเดินเข้าห้องส่วนตัวแต่คนรับใช้จากข้างล่างวิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมาเรียกหล่อนเสียงตื่น



   “คุณดาราคะ!! คุณหญิงเป็นลมค่ะ!!!”



ดารารัษมีเบิกตาโต แล้วรีบผลุนผลันวิ่งตามคนรับใช้ลงไปยังใต้ถุนเรือนทันที



................................


   ความอลหม่านเกิดขึ้นที่ใต้ถุนเรือนนั้นเอง ร่างอวบของคุณหญิงผกาถูกคนรับใช้ประคองมานั่งพักที่ตั่งไม้ซึ่งใช้สำหรับนั่งเล่นรับลมที่ใต้ถุน แต่บัดนี้ถูกใช้เป็นที่พยาบาลคนป่วยไปเสียแล้ว พวกคนรับใช้พากันหาพัดหากระดาษมาพัดกันชุลมุนไปหมด



   “ให้ใครไปตามคุณสมฤดีมาที! บอกเธอว่าคุณแม่เป็นลม!!” ดารารัษมีออกคำสั่ง เพราะบัดนี้ในบ้านรักษพิพัฒน์มีหล่อนเพียงคนเดียวที่เป็นนาย คนรับใช้วิ่งไปยังบ้านที่อยู่ติดกัน อันเป็นบ้านของสมฤดีเพื่อนของ ๒ แฝดที่เรียนจบพยาบาล หญิงสาวจึงหันไปสั่งคนอื่นๆ



   “แล้วใครไปต้มยาหอมมาหรือยัง?!”



   “ต้มแล้วค่ะ” มีเสียงตอบกลับมา ดารารัษมีจึงหันมาทางมารดา หมายจะบีบเนื้อบีบตัวให้คุณหญิงผการู้สติ ก็พอดีกับที่รถโฟล์คสีดำของอาทิตย์เลี้ยวเข้ามาจอด



   “มีอะไรกันน่ะ” คนที่ลงมาถามคนแรกคือจันทร์จ้าว ชายหนุ่มมองเห็นจากในรถว่าคนรับใช้มุงกันอยู่ที่ใต้ถุน



   “คุณหญิงเป็นลมขอรับ!” คนรับใช้ชายคนหนึ่งตอบ เพียงเท่านั้นจันทร์จ้าวก็ถึงกับตาเหลือกรีบวิ่งเข้าไปดูอาการ ตามมาด้วยอาทิตย์ที่รีบดับเครื่องลงมาดูเช่นกัน



   “คุณแม่! คุณแม่!!” จันทร์จ้าวพยายามเขย่าร่างของมารดา แต่คุณหญิงผกาไม่รู้สติเลยแม้แต่น้อย จนคนเป็นลูกเริ่มใจคอไม่ดี



   “พาคุณแม่ไปโรงพยาบาลเถอะพี่อาทิตย์!” เขาหันไปบอกพี่ชาย อาทิตย์พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย บุตรชายทั้ง ๒ กำลังจะอุ้มมารดาไปที่รถ แต่คนรับใช้ที่ดารารัษมีให้ไปตามสมฤดีจากบ้านข้างๆวิ่งกลับมาเสียก่อน



   “คุณสมฤดีกับคุณหมอมาแล้วค่ะ!!”



   “คุณหมอหรือ?!” อาทิตย์ร้องถามด้วยสงสัยและดีใจไปในคราวเดียวกัน หากว่ามีหมออยู่ที่นี่ในตอนนี้ คงดีกว่าการพามารดาออกไปโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะไม่ไกลจากที่นี่มากก็ตามที



   “ค่ะ! คุณหมอภวัตอยู่ที่บ้านคุณสมฤดีพอดีค่ะ!!” คนรับใช้รายงาน ทำเอาจันทร์จ้าวชะงัก เขากำลังจะหันกลับไปถามชื่อของหมออีกครั้ง แต่ร่างสูงใหญ่ที่วิ่งเข้ามาในอาณาเขตบ้านรักษพิพัฒน์พร้อมด้วยกระเป๋าหนังสีดำทรงสี่เหลี่ยม ตามติดมาด้วยหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ก็ทำเอาเขานิ่งไป



   “คุณหมอ!” เสียงของดารารัษมีดังขึ้นด้วยความดีใจแค่ไหนไม่ต้องบอก เพียงอึดใจเดียว ร่างสูงใหญ่ก็ก้าวมาถึงตั่งที่มีร่างของคุณหญิงผกานอนหมดสติอยู่



   “คุณหญิงเป็นลมหรือครับ ถอยออกไปก่อน อย่ามุงครับ” คนเป็นหมอทั้งถามและสั่งในคราวเดียว พวกคนรับใช้ก็ถอยกรูดออกไปหมด ที่อยู่รอบตัวคุณหญิงผกาจึงมีเพียงแค่บุตรธิดาทั้ง ๓ คน และมีจรวยคนรับใช้ใกล้ชิดที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นห่างออกไปหน่อย



   ชายหนุ่มร่างสูงทรุดกายลงใกล้ร่างของคุณหญิงผกา มีสมฤดีพยาบาลสาวอยู่ข้างเขา นายแพทย์หนุ่มเปิดกล่องสีดำทรงสี่เหลี่ยมที่เตรียมมาด้วยแล้วหยิบเครื่องวัดชีพจรออกมา รอบกายมีแต่ความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรสักคน แม้แต่จันทร์จ้าวก็ยังยืนนิ่ง เขามองร่างมารดาทีหนึ่ง มองแผ่นหลังของนายแพทย์หนุ่มทีหนึ่ง เขามองไม่เห็นว่าอีกฝ่ายทำอะไรอีกบ้าง แต่อึดใจต่อมาคุณหญิงผกาก็เริ่มขยับตัว



   “คุณแม่!!” ดารารัษมีร้องด้วยความดีใจ หล่อนรีบทรุดกายลงนั่งบนพื้นแล้วบีบมืออวบของคุณหญิงแรงๆ



   “คุณแม่ได้ยินดาราไหมคะ”



คุณหญิงผกาค่อยลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปรอบกายอย่างงุนงง



   “คุณหมอ?...นี่เกิดอะไรขึ้น...ทำไมแม่มานอนตรงนี้ ดารา”



   “คุณแม่เป็นลมค่ะ ดาราตกใจแทบแย่ นี่พี่จันทร์กับพี่อาทิตย์กำลังจะพาไปส่งโรงพยาบาล แต่พอดีคุณหมออยู่แถวนี้เสียก่อน” ดารารัษมีตอบ ยังคงไม่หายตกใจดี คุณหญิงผกาทำท่าจะลุกขึ้นนั่งเพื่อขอบคุณนายแพทย์หนุ่ม แต่ยังโงนเงนเสียจนธิดาต้องรั้งร่างมารดาให้นอนลงตามเดิม



   “คุณหญิงอย่าเพิ่งลุกเลยครับ นอนพักเสียก่อน”



“ค่ะคุณหมอ...” อาการวิงเวียนยังคงอยู่ คุณหญิงจึงได้แต่นอนเฉยๆให้ธิดาปรนนิบัติ



“ช่วงนี้นอนหลับดีไหมครับ รับประทานอาหารทุกมื้อหรือไม่” คนเป็นหมอยังคงห่วงใย เขาตั้งคำถามเพื่อจะได้ตรวจให้แน่ใจว่าที่คุณหญิงผกาเป็นลม เป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอเท่านั้น



   “วันนี้คุณแม่ตื่นแต่เช้าค่ะคุณหมอ เห็นป้าจรวยว่าทำนั่นทำนี่ทั้งวัน” คนตอบคือดารารัษมีนั่นเอง



   “พักนี้อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน บางวันอบอ้าว คุณหญิงต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มาก และรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อนะครับ แต่ถ้าหากรู้สึกไม่ดีหรือเป็นกังวล ก็ไปโรงพยาบาล ผมจะตรวจให้อย่างละเอียดอีกที”



   “ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ ขอบใจหนูสมด้วยนะจ้ะ” คุณหญิงผกาขอบคุณทั้งนายแพทย์หนุ่มและพยาบาลสาว สมฤดียิ้มก่อนจะเล่า



   “โชคดีคุณหมอไปหาสมที่บ้าน ตอนที่มีคนวิ่งไปตามสม คุณหมอก็เลยรีบมาด้วย”



   “โชคดีของป้าแท้ๆนะหนูสม” คุณหญิงผกายังไม่วายเยินยอ จันทร์จ้าวเริ่มรู้สึกไม่ชอบใจกับความดีความชอบของคนเป็นหมอมากขึ้นทุกที



   “จริงๆแล้วถ้าหมอไม่อยู่พอดี ผมกับพี่อาทิตย์ก็จะพาคุณแม่ไปโรงพยาบาลนะครับ!!”



เขาโพลงออกมา ทำเอาทุกคนหันมองเป็นตาเดียว ดารารัษมีถึงกับถลึงตาใส่เขาที่พูดจาไร้มารยาท แต่คุณหญิงผการักบุตรชายคนรองมากเกินกว่าจะว่ากล่าว เลยทำได้แค่ปราม



   “พ่อจันทร์พูดอะไรอย่างนั้น จริงสิ...นี่คุณหมอรู้จักพ่อจันทร์หรือยังคะ พ่อจันทร์เป็นลูกชายคนรองของดิฉัน เพิ่งกลับจากอเมริกาเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง” ว่าแล้วคุณหญิงก็เปลี่ยนเรื่องพูดเป็นการแนะนำอย่างเป็นทางการ แม้จะยังมีอาการที่สืบเนื่องมาจากการหมดสติเมื่อครู่ แต่ก็ยังสามารถอวดบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนได้



นายแพทย์หนุ่มหันไปมองคนถูกแนะนำที่ยืนหน้าตึงมองเขาด้วยสายตาอวดดี



   ...สายตาอย่างนี้...มีหรือเขาจะไม่รู้จัก...



เขาเห็นสายตาแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งที่ภัตตาคารจีน นอกจากนั้นเขายังได้เจอคนตรงหน้ามา ๓ ครั้งแล้ว ครั้งแรกคือเจออย่างผิวเผินที่วังฉัตร ครั้งที่สองคือที่ภัตตาคารจีน ส่วนครั้งที่สามก็ที่วังฉัตรอีกครั้ง แต่ครั้งนั้นเขาเห็นอีกฝ่ายในเรือติดเครื่องยนตร์ที่อยู่ไกลลิบๆ...ครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่ และเป็นครั้งที่สี่ที่ได้รู้จักกันอย่างป็นทางการ



   ภวัต วิชาญโยธินลุกขึ้นจากตั่ง ทำให้ความสูงของเขาเกินความสูงของจันทร์จ้าวไปเล็กน้อย



   “ยินดีที่ได้รู้จัก คุณจันทร์...” เขาเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงทุ้มสุภาพและรอยยิ้มจางบนใบหน้า ดวงตาคมดุที่ส่อประกายสุภาพนั้นจับจ้องเข้าไปในดวงตากลมใหญ่ที่มองขวาง



   “...ผมชื่อภวัต” ชายหนุ่มแนะนำตัวเอง รอยยิ้มยังไม่จางไปจากใบหน้าเลยแม้แต่นิด และนั่นยิ่งทำให้จันทร์จ้าวยิ่งนึกขุ่นกว่าเดิม



   ระหว่างคนทั้งคู่คือความเงียบ ฝ่ายหนึ่งยิ้มจาง ฝ่ายหนึ่งบึ้ง ฝ่ายหนึ่งมีดวงตาที่แสนสุภาพ อีกฝ่ายสายตาทั้งขวางทั้งเคือง เป็นการพบกันครั้งที่สี่ และเป็นการทำความรู้จักกันครั้งแรกที่ไม่ว่าอย่างไรจันทร์จ้าวก็ยังไม่ชอบใจคนตรงหน้าเช่นเดิม



   และแน่นอน...สำหรับคนที่จันทร์จ้าวไม่ชอบหน้า ก็ต้องมีประโยคทักทายที่วิเศษกว่าคนทั่วๆไปเป็นธรรมดา



   “ประตูอยู่ทางนั้น คุณแม่ผมอาการดีขึ้นแล้ว เชิญหมอกลับได้เลย!!”



และนั่นคือประโยคแรกที่จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์มีให้ภวัต วิชาญโยธิน!!!



..................................



   “ไร้มารยาทที่สุดน่ะพี่จันทร์!! คุณหมอเธออุตส่าห์รีบมาดูอาการคุณแม่ พี่ก็ยังกล้าพูดอย่างนั้นกับเธอ!!” ดารารัษมีบ่นพี่ชายไม่หยุด แม้คุณหมอภวัตและสมฤดีจะกลับไปแล้ว และคุณหญิงผกาอาการดีขึ้นมากจนสามารถนั่งร่วมรับประทานอาหารเย็นกับสมาชิกครอบครัวรักษพิพัฒน์ทุกคนที่กลับมาพร้อมหน้า เมื่อทุกคนพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารเย็น ดารารัษมีก็ทำตัวเป็นโทรโข่งเล่าเรื่องมารดาเป็นลม การช่วยเหลือของคุณหมอและความไร้มารยาทของพี่ชายให้บิดาและพี่สาวแฝดที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ได้รับรู้



   “นั่นสิ จันทร์ ทำไมไปพูดแบบนั้นกับคุณหมอนะ” คุณหญิงผกาดุได้เพียงเท่านั้น เพราะจันทร์จ้าวเป็นลูกคนโปรด



   “จันทร์ควรจะไปขอโทษคุณหมอ” ท่านนายพลแนะนำอย่างจริงจัง ซึ่งนภาสรวงก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย



   จันทร์จ้าวทำหน้าหน่าย นึกในใจว่าหากทุกคนรู้ความรู้สึกของอาทิตย์ที่มีต่อหม่อมหลวงพิมพัชรา และรู้ว่าคนที่คุณชายฉัตรหมายมั่นจะให้สมรสกับคุณพิมคือหมอภวัตคนนั้น ทุกคนที่นี่ก็คงไม่มีใครกดดันเขาให้ไปขอโทษเป็นอันขาด



   “พี่ก็ว่าจันทร์ทำไม่ถูก หมอภวัตเขาตั้งใจมาช่วยคุณแม่ แล้วเขาก็เป็นผู้ใหญ่กว่าจันทร์ เขาอายุมากกว่า เขาเป็นลูกท่านนายพลศักดิ์ นายของพี่ด้วย แล้วสมฤดีที่อยู่ข้างบ้านเราก็ทำงานในโรงพยาบาลเดียวกับเขา” อาทิตย์อธิบายความเกี่ยวข้องเป็นฉาก และนั่นถึงทำให้จันทร์จ้าวตาโต



   “อะไรนะ?!! หมอภวัตอะไรนั่นเป็นลูกของนายของพี่หรือ?! แล้วยังทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกับสมฤดีด้วย?!!”



   “ไม่ใช่เท่านั้นนะคะ น้องชายของคุณหมอเป็นเจ้าของบริษัทที่นภาทำงานอยู่ค่ะ” นภาสรวงสำทับ



   “เห็นไหมล่ะ! เกิดคุณหมอเขาโกรธที่พี่ไปพูดแบบนั้นกับเขา แล้วเขาสั่งให้น้องเขาเลิกจ้างนภาจะทำอย่างไร” ดารารัษมีพูดต่อ จันทร์จ้าวรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแปลกแยกจากพี่น้อง คนอื่นๆดูจะนิยมชมชอบหมอภวัตกันหมด ทำไมมีแต่เขาคนเดียวที่เหม็นน้ำหน้าเสียเหลือเกิน



   “ก็ได้ๆ!! จะไปขอโทษก็แล้วกัน!!!” เพราะถูกพี่น้องขู่เข้าแบบนั้น ชายหนุ่มเลยตัดรำคาญรับปากไปก่อน แต่จะทำเมื่อไร นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง



   ท่านนายพลเห็นว่าบุตรชายคนรองยอมอ่อนข้อจะไปขอโทษคุณหมอแล้ว จึงหันมาสนใจภรรยาของตนเองแทน



   “แล้วคุณหญิงไม่เป็นอะไรแน่หรือ นี่ครั้งที่สองแล้วใช่ไหมที่ลมจับ”



   “คุณหมอว่าช่วงนี้อากาศไม่ค่อยดี ดิฉันไม่อยากอาหารเท่าไร นอนหลับไม่สนิทด้วย ร่างกายก็เลยทนไม่ไหว” คุณหญิงผกายอมรับตามตรง นอกจากเรื่องอากาศอบอ้าวแล้ว ยังกลุ้มใจเรื่องบุตรชายคนรองด้วย ก็เลยพาลเป็นทั้งกินไม่ได้นอนไม่หลับ



   “ผมว่า น่าจะไปตรวจที่โรงพยาบาลอย่างที่คุณหมอเธอว่า หรือถ้าคุณแม่ไม่อยากไปที่โรงพยาบาล ผมจะนัดคุณหมอให้มาที่นี่ดีไหมครับ” อาทิตย์ออกความเห็น



   “ไม่ต้องหรอกลูก แม่ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว อย่าไปรบกวนคุณหมอเธอเลย” ประโยคท้ายทำเอาจันทร์จ้าวทำเสียงขึ้นจมูกอย่างนึกพาล แต่ไม่มีใครทันสังเกต เพราะทุกคนมัวแต่ห่วงคุณหญิงผกา



   “จากนี้ คุณแม่ต้องดูแลตัวเองให้มากๆนะคะ เรื่องงานบ้านก็ให้ป้าจรวยดูแล ส่วนเรื่องอาหาร นภาจะจัดการแทนเองค่ะ” นภาสรวงเสนอ เพราะหากให้ดารารัษมีไปยุ่งกับครัวเข้า ก็เกรงว่าคนทั้งบ้านคงต้องออกไปหาอะไรรับประทานนอกบ้านกันทุกมื้อ



   “ดาราสอนหนังสือเสร็จแล้วก็จะรีบกลับมาอยู่กับคุณแม่ แล้วจะสั่งคนรับใช้เอาไว้ว่าถ้ามีอะไร ให้ไปเรียกดาราที่โรงเรียนได้ทันที”



   “ขอบใจนะลูก” คุณหญิงผกายิ้มอย่างตื้นตันกับความห่วงใยที่ธิดามีให้หล่อน ดวงตาเหี่ยวย่นเหลือบมามองบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน เผื่อว่าเขาจะมีคำพูดอะไรที่ห่วงหาหล่อนบ้าง จันทร์จ้าวนิ่งอยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะเอ่ยปาก



   “ผมจะกลับมาทุกสัปดาห์ แล้วจะหาของอร่อยมาฝากคุณแม่บ่อยๆ” เป็นว่าอย่างไรเขาก็ไม่กลับมาอยู่ที่นี่เป็นการถาวร แม้จะอ่อนใจที่บุตรชายออกไปอยู่ข้างนอก แต่เมื่อสัญญาว่าจะกลับมาทุกศุกร์ คุณหญิงผกาก็ใจชื้นแต่ไม่วายกำชับ



   “แล้วอย่าลืมไปขอโทษคุณหมอด้วยนะจ๊ะ” จันทร์จ้าวเหลือบตามองมารดาแล้วก็ทำเป็นพยักหน้าส่งๆไปอย่างนั้น



   ท่านนายพลและคุณหญิงผกามองหน้ากันอย่างนึกห่วง ถึงแม้บุตรชายคนรองจะติดเอาแต่ใจอยู่สักหน่อย แต่ก็เป็นมิตรกับคนรอบข้าง เจ้าตัวมีเพื่อนฝูงมากมาย แต่แล้วทำไม...ทำไมกับคุณหมอภวัตถึง...



   “ไม่ชอบคุณหมอภวัตหรือ จันทร์” ท่านนายพลเป็นฝ่ายถาม ภวัตก็ถือว่าเป็นคนใกล้ตัวไม่น้อย ถึงจะไม่ได้สนิทสนมไปมาหาสู่กันเท่าไร แต่ก็นับว่าเป็นคนคุ้นเคย เพราะท่านกับพลโทศักดิ์ วิชาญโยธินบิดาของภวัตก็เป็นเพื่อนตีกอล์ฟด้วยกันออกบ่อยไป แม้จะอยู่กันคนละสังกัดก็ตาม



   “ก็...ไม่เชิงครับ” จันทร์จ้าวตอบไม่เต็มเสียง จะว่าไม่ชอบก็ไม่ถูก ออกไปทางเหม็นหน้าและขุ่นเคืองเท่านั้น...ละมั้ง



   “ตอนเด็กๆพี่จันทร์อยากเป็นหมอไม่ใช่หรือ” ดารารัษมีแขวะ



   “พี่ไม่ได้อิจฉาที่เขาเป็นหมอ ตอนเด็กๆพี่อยากเป็นหมอน่ะใช่ เพราะอยากจีบพยาบาล แต่โตขึ้นมาพี่ชอบทางเศรษฐศาสตร์มากกว่า เพราะฉะนั้น ต่อให้ใครจะเป็นหมอหรือไม่เป็น พี่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร” จันทร์จ้าวเถียงทันควัน ทำเอาคุณหญิงผกาต้องรีบร้องปรามก่อนที่สองพี่น้องจะทะเลาะกันด้วยเรื่องคนอื่น



   “เอาเถอะจ้ะ พ่อจันทร์ไม่ได้เกลียดคุณหมอก็ดีแล้ว ทานข้าวกันเถอะ” สองพี่น้องไม่โต้เถียงกันอีก แม้จะจดๆจ้องๆอย่างหาเรื่องกันและกันก็ตามที ท่านนายพลและคุณหญิงหันมองหน้ากันอีกครั้งก่อนจะเหลือบตามองไปที่จันทร์จ้าวผู้ซึ่งเป็นมิตรกับคนทั่วไป ยกเว้นเพียงคนเดียว



   ...นายแพทย์ภวัต วิชาญโยธิน...



..................................

หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 01-10-2015 21:19:16
ภวัต วิชาญโยธินผู้ถูกคนที่บ้านรักษพิพัฒน์กล่าวถึง ก้าวเท้าเข้าบ้านเป็นวันแรกในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะเขาต้องอาศัยนอนค้างที่บ้านพักใกล้โรงพยาบาลเพื่อดูอาการคนไข้คนหนึ่งที่ไม่สู้ดีนัก อันที่จริง ชายหนุ่มควรจะกลับเข้าบ้านอย่างเหน็ดเหนื่อยเพราะพักผ่อนไม่พอหลายวันติดกัน แต่...วันนี้เขากลับอารมณ์ดีเป็นพิเศษ



   “วันนี้กลับบ้านได้หรือพี่” เสียงทักดังมาจากชุดเก้าอี้บุนวมในห้องนั่งเล่นที่ชายหนุ่มกำลังเดินผ่าน ภวัตหันไปมองแล้วส่งยิ้มให้น้องชาย



   “อืม คุณพ่อกับคุณแม่ล่ะ” เขาถามเพราะเห็นว่าบ้านทั้งหลังเงียบกริบ



   “คุณพ่ออยู่ตึกเล็ก ส่วนคุณแม่ไปเยี่ยมน้าจง เห็นว่าไม่ค่อยสบาย” เภาว่าอย่างนั้น ทำเอาภวัตขมวดคิ้วเล็กน้อย



   “น้าบรรจงน่ะหรือ? แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า” บรรจงเป็นน้องสาวของคุณหญิงจิตต์ ไม่แต่งงานและอยู่เพียงลำพัง คุณหญิงจิตต์ไปเยี่ยมบ่อยๆประสาพี่สาวน้องสาว บางครั้งก็มีบุตรชายคนใดคนหนึ่งหรือทั้งคู่ติดสอยห้อยตามไปด้วย แต่พักหลังมานี่เมื่อบุตรทั้งสองทำงาน คุณหญิงจิตต์จึงไปเยี่ยมเพียงลำพัง



   “เอ? ก็คงไม่มาก ถ้ามากคงมีคนพาส่งโรงพยาบาลแล้ว” ภวัตพยักหน้ารับรู้ เขามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับบิดาเสียหน่อย แต่เมื่อบิดาอยู่ตึกเล็ก เขาก็ไม่อยากไปรบกวน



   บ้านวิชาญโยธินเป็นครอบครัวใหญ่ นอกจากคุณหญิงจิตต์แล้ว พลโทศักดิ์ยังมีภรรยาเล็กอีก ๒-๓ คน ทั้งหมดล้วนอยู่ตึกเล็กกับลูกๆของพวกเธอ ส่วนตึกใหญ่สถาปัตยกรรมแบบยุโรปนี้เป็นของคุณหญิงจิตต์ เขาและเภาเพียงเท่านั้น พวกเขา ๓ แม่ลูกแทบไม่เคยย่างกรายไปที่ตึกเล็กเลย ในขณะที่พวกที่ตึกเล็กก็แทบจะไม่เคยมาที่ตึกใหญ่ เว้นเสียแต่ว่าจะมีงานสำคัญ จึงจะได้เห็นหน้า ราวปีละครั้งหรือสองครั้งได้



   “วันนี้พี่ภวัตดูแปลก...” เภาตั้งคำถามเมื่อพิจารณาใบหน้าของพี่ชายเต็มสองตา



   “แปลก? แปลกอย่างไร”



   “ไม่ทราบ แต่แปลก...ดูไม่เหมือนพี่ภวัตคนเดิม...เจอเรื่องดีๆมาหรือ” ไม่ทราบคิดอย่างไร เภาจึงถามเช่นนั้น เขารู้สึกแค่ว่าวันนี้พี่ชายดูอารมณ์ดีกว่าเคย แม้ทุกๆวันภวัตจะมีรอยยิ้มจางติดอยู่บนหน้าตลอดเวลาก็ตาม แต่วันนี้ไม่ใช่แค่รอยยิ้มจาง...มีอะไรบางอย่างที่เภามองเห็น แต่เขาคิดไม่ออกว่าอะไร...



   ภวัตหัวเราะเบาๆ เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อตอนเย็นที่เขาไปเยี่ยมสมฤดี พยาบาลสาวที่ทำงานโรงพยาบาลเดียวกับเขาซึ่งป่วยเป็นหวัดจนต้องขอลาหยุด และมีโอกาสได้แวะเวียนเข้าไปในบ้านที่อยู่ติดกับบ้านของสมฤดีอย่างกะทันหัน



   “ฉันรู้ชื่อคู่ปรับของแกแล้วนะเภา” เขาเปลี่ยนเป็นพูดเรื่องน้องชายแทน และเพียงเท่านั้น เภาก็ถึงกับทำหน้ามู่ทู่



   “ผมไม่เห็นจะอยากรู้เลย!” ถึงพักหลังมานี่ ทั้งคุณวนิดา คุณสายสมรและคุณศรีอำไพจะกลับมาเป็นเพื่อนเล่นเขาเช่นเดิมแล้วก็ตามที แต่เภาก็ยังรู้สึกว่าอีกฝ่ายคือคู่ปรับเขาอยู่ดี ไม่ใช่เภาไม่รู้ ว่าทำไมเพื่อนผู้หญิงของเขาถึงกลับมาเที่ยวเล่นกับเขาดังเก่า เพราะพวกนั้นถูกเจ้าคู่ปรับของเขาเขี่ยทิ้งน่ะซี!!



   “ฉันเชื่อว่าแกต้องอยากรู้ เพราะเขาเป็นน้องชายคุณอาทิตย์ เป็นพี่ชายคุณดารารัษมีแล้วก็คุณนภาสรวง” คำพูดของภวัต ทำเอาเภาหันมองอย่างคาดไม่ถึง ภาพตอนที่เขาเห็นที่ภัตตาคารจีน ไม่ใช่คู่ปรับของเขาควงสตรีมาเที่ยว ๓ คน แต่ ๒ ใน ๓ เป็นน้องสาวอย่างนั้นหรือ?!



   “เขาชื่อจันทร์จ้าว เพิ่งกลับจากอเมริกาเมื่อเดือนก่อน ไม่ใช่กลับจากปีนังหรือฟิลิปปินส์”



   “เห็นว่าเรียนจบเศรษฐศาสตร์กลับมาด้วยทุนมหาวิทยาลัย คงเรียนเก่งน่าดู ตอนนี้เปิดบริษัทนำเข้าหนังสือฝรั่งอยู่กับเพื่อน” ภวัตพูดต่อ



   “พี่ไปรู้มาได้อย่างไรน่ะ” เภาถาม ทำเอาคนเป็นพี่หัวเราะน้อยๆ เรื่องพวกนี้เขารู้จากสมฤดี ตอนที่ถูกจันทร์จ้าวไล่ออกจากบ้านรักษพิพัฒน์อย่างสุภาพแต่ไร้มารยาทเป็นที่สุดนั้น สมฤดีคงเกรงใจเขา จึงพยายามเล่าความดีความชอบของบุตรชายคนรองบ้านรักษพิพัฒน์ให้เขาฟังตลอดทางที่เดินกลับออกมา



   “ฉันทำงานในโรงพยาบาลก็จริง แต่หูตาฉันก็กว้างไกล”



   “ถ้าอย่างนั้นรู้ไหมว่าอ้ายคู่ปรับของผมมันจะจีบคุณพิมหรือเปล่า?” เภาสวนขึ้นมาทันควัน ทำเอาภวัตชะงัก เขามองน้องชายด้วยความรู้สึกอึดอัดในอก เมื่อคิดถึงเรื่องที่คุณชายฉัตรเรียกเขาไปคุยที่วังฉัตรเมื่อไม่กี่วันก่อน



   ...คุณชายฉัตรต้องการให้เขาแต่งงานกับคุณพิม แต่น้องชายของเขากำลังชอบคุณพิม...



   ...ถ้าหากเขาทำให้คุณชายเห็นความดีความชอบของเภาได้ เขาก็อาจจะไม่ต้องรู้สึกผิดที่ปฏิเสธความต้องการของผู้ใหญ่ ซ้ำน้องชายก็มีความสุขด้วย...



   “ว่าอย่างไรล่ะพี่ภวัต อ้ายคู่ปรับของผมมันคิดอะไรกับคุณพิมหรือเปล่า” เภาถามซ้ำ



   “เภา...ถ้าหากแกชอบคุณพิม แกก็ต้องไปมาหาสู่เขาให้ถูกต้อง จะทำกับเขาเล่นๆเหมือนที่แกทำกับเพื่อนผู้หญิงของแกไม่ได้”



   “ผมก็อยากทำให้ถูกต้อง แต่จะทำอย่างไรล่ะ ผมไม่รู้จักใครที่วังฉัตรนี่! เอ...หรือจะเข้าทางคุณนภาดี? ได้ข่าวว่าคุณดาราแฝดของคุณนภาทำงานเป็นครูที่โรงเรียนเดียวกับคุณพิม...เห็นที ผมต้องแวะไปบ้านรักษพิพัฒน์บ้างแล้ว”



   “ก็แล้วทำไมไม่ไปที่วังฉัตรเสียเลย” ภวัตถาม แต่น้องชายมองหน้าทันควัน



   “ไปแล้วใครจะให้เข้า?! ผมไม่รู้จักใครที่ฉัตราภาสเลยสักคน!” คนเป็นพี่อมยิ้ม ก่อนจะเอ่ยปากเสนอ



   “แกตีเทนนิสเป็นใช่ไหม พรุ่งนี้ฉันได้หยุด บุ๊คคอร์ดไว้แล้วตอนเช้า ไปตีเทนนิสกับฉัน”



   “เทนนิส?! เทนนิสทำให้ผมเข้าวังฉัตรได้หรือ?!” คราวนี้จากแค่อมยิ้ม กลายเป็นภวัตหัวเราะออกมาเบาๆ



   “คุณพงศ์พี่ชายคุณพิมชอบตีเทนนิส และเพื่อนของคุณพงศ์ก็ชอบตีเทนนิส ถ้าแกตีดีถูกใจพวกเขา รู้จักสนิทสนมสร้างความคุ้นเคยกับพวกเขา แกก็มีโอกาสที่จะได้เข้าวังฉัตรแน่นอน” ชายหนุ่มคนพี่พูดโดยเว้นชื่อ ‘เพื่อนของคุณพงศ์’ เอาไว้เพราะเกรงว่าน้องชายจะอดติจนไม่ยอมไปตีเทนนิส ก่อนจะเดินอารมณ์ดีออกจากห้องนั่งเล่นไป พร้อมกับเสียงของสมฤดีที่ยังดังอยู่ในหูของเขาตลอดเวลา



   ‘คุณจันทร์เธอเรียนหนังสือเก่งค่ะ กีฬาก็เล่นเก่งนะคะ เห็นนภาว่าสมัยเรียนที่อเมริกาก็เคยลงแข่งเทนนิสระดับมหาวิทยาลัยด้วย นี่กลับมาอยู่เมืองไทย ดิฉันก็เห็นเธอหิ้วแรกเก็ตออกจากบ้านไปแทบทุกวัน คงจะไปตีกับคุณพงศ์ เพื่อนของเธอแน่ะค่ะ’



   …เอาเถอะ เจอกันที่บ้านรักษพิพัฒน์ เขาก็ถูกไล่ออกมา ถ้าหากเจอกันที่สโมสรเทนนิส เขาอยากรู้นักว่าคนอวดดีรายนั้นจะไล่เขาทางไหน...



   ภวัตอมยิ้มกับตัวเอง เขากำลังนึกสนุกกับการได้พบหน้าคนอวดดีในครั้งต่อไป...



..........................................



   คนที่สโมสรเทนนิสรู้จักกับภวัต วิชาญโยธินเป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มก้าวเท้าเข้ามาที่นี่ พนักงานทุกคนจึงทักทายอย่างคุ้นเคย ภวัตเพียงยิ้มจางตอบอย่างทุกครั้ง ก่อนจะพาน้องชายตรงเข้าไปยังส่วนที่เป็นสนามเทนนิส ผู้คนทั้งชายและหญิงทั้งที่อยู่กลางสนามและริมสนาม ทำให้มองหาเป้าหมายค่อนข้างยาก



   “คุณหมอ!” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง ทำเอาภวัตหันมอง ชายหนุ่มร่างสูงผู้เป็นทายาทของวังฉัตรเดินตรงเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม วันนี้อากาศยามแจ่มใส แดดไม่แรงและไม่มีฝน เหมาะกับการตีเทนนิสเป็นที่สุด แม้ว่าเพื่อนคนหนึ่งของเขาจะไม่มาตีด้วยกันตามนัดเพราะมารดาป่วยกะทันหัน แต่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ยังอารมณ์ดีกับการได้มาออกกำลังกายแต่เช้าเข่นนี้



   “สวัสดีครับ วันนี้ว่างมาตีเทนนิสหรือ” เขาทักทายนายแพทย์หนุ่มด้วยรอยยิ้ม



   “ครับ นี่น้องชายของผม เภา” ภวัตไม่รีรอที่จะรีบแนะนำน้องชายของตน หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันไปทักทายกับเภาอย่างเป็นกันเอง ในขณะที่ภวัตมองหาใครอีกคนที่น่าจะมากับราชนิกูลหนุ่มด้วย ทว่า...ไม่มี



   “คุณพงศ์มาคนเดียวหรือครับ” เขาตั้งคำถาม



   “มากับเรย์ครับ เรย์มอนด์ อดัมส์ เป็นเพื่อนของผมเอง” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันไปแนะนำเพื่อนชาวต่างประเทศของตนให้ ๒ พี่น้องวิชาญโยธินได้รู้จัก เรย์มอนด์ อดัมส์เป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตามชาติพันธุ์ ผมสีทองและนัยน์ตาสีเขียวเจิดจ้า ทว่าพูดไทยชัด



   “สวัสดีครับ” สำเนียงชัดถ้อยชัดคำ ทำเอาภวัตค่อนข้างประหลาดใจ



   “พูดภาษาไทยได้ด้วยหรือครับ” ชายผมทองยิ้มกว้าง



   “จันทร์สั่งไว้ ว่าถ้าอยู่เมืองไทยต้องพูดภาษาไทย ถ้าจะพูดภาษาอังกฤษ ให้กลับไปอยู่อเมริกา กระทั่งตอนประชุมงานที่บริษัท ยังให้พูดภาษาไทย ผมจะตายเอา” มิสเตอร์อดัมส์พูดกลั้วหัวเราะ พาเอาคนทั้งกลุ่มหัวเราะตาม



   “เรย์กับผมเราร่วมหุ้นกับจันทร์เปิดบริษัทน่ะครับ นำเข้าหนังสือจากเมืองนอก เห็นคุณพ่อว่าคุณหมอก็ชอบอ่านหนังสือ ไว้หนังสือรอบนี้มาเมื่อไร ผมจะให้สมนาคุณคุณหมอด้วย” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดพลางยิ้มอย่างเป็นมิตร



   “แล้ว...คุณจันทร์ไม่มาด้วยหรือครับ” ภวัตมีโอกาสถามถึงใครอีกคนที่เขาไม่เห็นหน้า



   “ตอนแรกก็ว่าจะมา แต่เมื่อเช้าโทร.มายกเลิกกะทันหัน เห็นว่าเมื่อวานคุณหญิงผกาไม่ค่อยสบาย จันทร์ก็เลยอยากจะอยู่ที่บ้านมากกว่า ช่วงนี้จันทร์ย้ายออกมาอยู่ข้างนอก จะกลับบ้านก็เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เลยต้องอยู่ติดบ้านเสียหน่อย แล้วนี่คุณหมอมากัน ๒ คนหรือ พวกผมก็มากัน ๒ คน ถ้าอย่างไรเรามาเล่นคอร์ดเดียวกันไหม แข่งกันสักหน่อย ครบคู่พอดี” เมื่อหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเสนออย่างนั้น ภวัตก็ไม่รอช้า เขาตกปากรับคำเพื่อเปิดโอกาสให้น้องชายได้ทำความรู้จักกับคนสกุลฉัตราภาส



กีฬาเป็นสิ่งดี มันเชื่อมมิตรไมตรีได้อย่างง่ายดาย แต่เป็นที่น่าเสียดาย...ที่ใครอีกคนที่เขาอยากเชื่อมสัมพันธ์ด้วย กลับไม่มาเสียนี่...


......................................   



     เสียงกุกกักจากในโรงครัว ทำให้หม่อมราชวงศ์ฉัตร ฉัตราภาสต้องจับจ้องต้นเสียงราวกับกำลังลอบสังเกต ธิดาของท่านวันนี้ลงครัวด้วยตัวเอง แม้หม่อมหลวงพิมพัชราจะเป็นสตรีที่ท่านอบรมเลี้ยงดูมาอย่างกุลสตรี แต่เธอก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้าครัวบ่อยนัก เพราะสนุกกับการทำงานข้างนอก



   “คุณพ่อ...มาทำอะไรตรงนี้ค่ะ” หญิงสาวหันกลับมาเห็นบิดาพอดี จึงส่งเสียงร้องถาม คุณชายฉัตรชะงักไปเล็กน้อยที่ถูกธิดาจับได้ จึงเสยิ้มแล้วก้าวเท้าเข้ามายืนข้าง



   “ได้ยินว่าลูกเข้าครัวเอง ทำอะไรอยู่หรือ”



   “ทำของเยี่ยมค่ะ เมื่อเช้าพี่พงศ์ว่าคุณหญิงผกาไม่ค่อยสบาย ลูกตั้งใจจะแวะไปเยี่ยมเสียหน่อย”



   “คุณหญิงผกาเป็นอะไรหรือ”



   “เห็นว่าเป็นลมเมื่อวานนี้ค่ะ เมื่อเช้าคุณจันทร์ก็เลยไม่ได้ไปตีเทนนิสกับพี่พงศ์ เธอโทร.มาลาแต่เช้า” ชื่อของชายหนุ่มอีกคนทำให้คุณชายฉัตรต้องลอบมองใบหน้าของธิดา ด้วยเพราะอยากจับสังเกตว่าพิมพัชรามีความรู้สึกเช่นไรต่อชายหนุ่มผู้นั้น



   ...อันที่จริง เมื่อทางภวัตปฏิเสธแล้ว หม่อมราชวงศ์ฉัตรก็อยากจะหันมาสนใจ จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์แทน แต่ติดที่ว่าอีกฝ่ายมีเพื่อนผู้หญิงมากมายเหลือเกิน จนคุณชายหวั่นใจว่าจะไม่มั่นคงกับธิดาของท่านแต่เพียงผู้เดียว...



   “ลูกดูสนิทสนมกับบ้านรักษพิพัฒน์ดีนะ”



   “ก็คุณดาราเธอเป็นเพื่อนครูที่โรงเรียนเดียวกับลูกนี่คะ พี่พงศ์ก็สนิทกับคุณจันทร์ สมัยคุณแม่ยังอยู่ ก็สนิทกับคุณหญิง”



   “แล้ว...ลูกว่าจันทร์จ้าวเขาเป็นคนอย่างไร”



   “คุณจันทร์หรือคะ? เธอเป็นคนสนุกเชียวค่ะ มีเรื่องตลกๆมาเล่าให้ฟังเยอะแยะ คุยกับเธอไม่มีเบื่อ” เมื่อธิดาว่าอย่างนั้น คุณชายฉัตรก็ออกจะนึกกังวลไม่น้อย



   “แล้วคุณอาทิตย์ล่ะ...” คุณชายถามถึงชายหนุ่มอีกคนของบ้านรักษพิพัฒน์ และเพียงเท่านั้น ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มหวานของธิดาก็กลายเป็นอึกอัก หม่อมหลวงพิมพัชราหันไปสนใจอาหารที่อยู่ในหม้อแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเบาแผ่ว



   “เอ่อ...ลูกก็ไม่ทราบหรอกค่ะ...ไม่ค่อยได้คุยกับคุณอาทิตย์เสียเท่าไร เอ่อ...คุณพ่อจะไปเยี่ยมคุณหญิงด้วยกันไหมคะ” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องพูด หล่อนไม่อยากพูดถึงเรื่องพี่ชายคนใหญ่ของครอบครัวรักษพิพัฒน์ ไม่ใช่ว่าหล่อนเกลียดเขา แต่...พอพูดถึงเขา นึกถึงเขา ใบหน้าของหล่อนก็ร้อนวาบอย่างไม่มีสาเหตุ



   “ไปก็ดีเหมือนกัน พ่อก็ไม่ได้ไปบ้านรักษพิพัฒน์นานแล้ว ลูกรอพ่อหน่อย ขอเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวก่อน” หม่อมหลวงพิมพัชราเพียงรับคำเสียงเบา บิดาจึงออกจากโรงครัวไป แล้วปล่อยให้หญิงสาวาทำอาหารของเยี่ยมต่อ โดยไม่ล่วงรู้แม้แต่น้อยว่าในใจของธิดาตอนนี้กลับกลายเป็นนึกถึงนายทหารหนุ่มคนนั้น...ผู้ชายเงียบขรึม ไม่ค่อยพูด แต่ทุกท่วงท่าของเขาสง่างามสมกับเป็นทหาร เขาที่มองหล่อนด้วยสายตามั่นคงทว่าเจียมเนื้อเจียมตัว พิมพัชราไม่กล้าคิดว่าเขาคิดกับหล่อนเช่นไร แต่ทุกครั้งยามที่หล่อนอยู่ใกล้เขา หัวใจเป็นต้องเต้นถี่เสียจนไม่กล้าสบตา



   ...อะไรหนอ ความรู้สึกนี้...ความรู้สึกที่อยากอยู่ใกล้เขา ความรู้สึกที่อยากมองเขา...หล่อนไม่กล้าสำรวจหัวใจตัวเอง เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาก็คงไม่มีความรู้สึกเช่นนั้นตอบกลับมา...



   หญิงสาวได้แต่มองอาหารในหม้อต้ม ใบหน้าหวานหมองเศร้า และหัวใจเลื่อนลอย...


...........................................



   หม่อมราชวงศ์ฉัตรและหม่อมหลวงพิมพัชรามาถึงบ้านรักษพิพัฒน์ในตอนบ่าย คนที่สั่งให้ตาพ่วงเปิดประตูต้อนรับรถจากวังฉัตรคืออาทิตย์ที่กำลังลงต้นไม้อยู่ที่สนามหน้าบ้าน เขาก้าวเร็วๆเข้าไปยกมือไหว้ชายผู้อาวุโส และรับไหว้จากหญิงสาวผู้มีอายุน้อยกว่า



   “สวัสดีครับ คุณชาย”



   “สวัสดี พ่ออาทิตย์ กำลังลงต้นไม้อยู่หรือ” ชายหนุ่มนายทหารอยู่ในเสื้อผ้าฝ้ายที่ค่อนข้างจะเลอะเทอะ ใบหน้าคมคายของเขามีเศษดินติดที่โหนกแก้ม อาทิตย์ดูเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาอยู่ในสภาพที่ไม่น่าดูเอาเสียเลย



   “เอ่อ...ครับ...คุณชายมาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่หรือครับ เชิญบนเรือนก่อนครับ” เขาว่าอย่างนั้น ก่อนจะหันไปสั่งคนรับใช้ให้ขึ้นไปเรียนบิดาและมารดา พอดีกับที่น้องชายคนรองก้าวเท้าลงจากเรือน อาทิตย์จึงสั่งให้จันทร์จ้าวพาสองพ่อลูกขึ้นเรือนแทนเขาที่จะกลับไปลงต้นไม้ต่อ คุณชายฉัตรมองสภาพสกปรกเลอะเทอะของบุตรชายคนใหญ่ของท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาแล้วก็หันมามองสภาพสะอาดเอี่ยมของบุตรชายคนรอง



   ...ไม่เหมือนกันสักนิด...เป็นพี่น้องที่แตกต่างกันอย่างที่ท่านไม่เคยพบพานมาก่อน...



   “เชิญข้างบนครับคุณชาย คุณพิม” เสียงของจันทร์จ้าวทำให้คุณชายฉัตรก้าวเท้าเดินขึ้นเรือน หากแต่ไม่วายหันกลับไปมองร่างสูงของนายทหารหนุ่มที่เดินกลับไปยังโคนต้นไม้ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน ท่านเหลือบตาไปมองธิดาที่เดินตามหลัง ก็เห็นว่าหญิงสาวเองก็กำลังมองไปยังอาทิตย์เช่นเดียวกัน หม่อมราชวงศ์ฉัตรถอนหายใจเบา ก่อนจะบ่ายหน้าก้าวเท้าเดินขึ้นเรือนไปโดยไม่หันกลับไปมองยังชายหนุ่มที่โคนต้นไม้อีกเลย



......................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 01-10-2015 21:20:25
   คุณหญิงผกาแจ่มใสไม่เหมือนคนป่วย ยิ่งมีคนที่คบค้าสมาคมกันมานานอย่างคุณชายฉัตรมาเยี่ยม หล่อนก็ยิ่งพูดคุยสนุกสนาน ส่วนหม่อมหลวงพิมพัชราหลังจากเยี่ยมคุณหญิงผกาได้ครู่หนึ่ง ดารารัษมีก็มาชวนลงไปนั่งเล่นที่ใต้ถุนบ้านแล้วปล่อยให้ผู้ใหญ่ข้างบนคุยกันไปตามประสา



   “พี่อาทิตย์ปลูกต้นไม้ทั้งวัน ไม่รู้จะขยันอะไรกันนักหนา” ดารารัษมีเปรย จากมุมที่พวกหล่อนนั่งเล่นกันอยู่ที่ใต้ถุนเรือนนั้น สามารถมองออกไปยังต้นไม้สูงตระหง่านที่หน้าบ้าน ซึ่งมีอาทิตย์กำลังก้มๆเงยๆอยู่เพียงลำพัง ราชนิกูลสาวมองตามสายตาของเพื่อนครูด้วยกัน แล้วก็ยิ่งรู้สึกประหลาดในใจยามมองแผ่นหลังกว้างของเขา



   ...พี่ชายของหล่อนก็มีแผ่นหลังกว้างเช่นนี้ แต่เหตุใดหนอ ยามหล่อนมองแผ่นหลังของพี่ชาย ไม่ยักรู้สึกร้อนวูบวาบในอกเหมือนที่หล่อนมองแผ่นหลังของชายหนุ่มผู้นั้น...



   “ไม่เหมือนพี่จันทร์ รายนั้นวันๆไม่เที่ยวก็นอน” ดารารัษมีพูดต่อ หม่อมหลวงพิมพัชราจึงหันกลับไปส่งยิ้มบางให้



   “คุณจันทร์เธอชอบเข้าสังคม เอ...เห็นพี่พงศ์ว่า คุณจันทร์ย้ายไปอยู่ที่บ้านเช่าใกล้วังใช่ไหมคะ คุณดารา” ดารารัษมีพยักหน้าหงึกหงัก



   “คุณแม่ก็เลยกลุ้มใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ แล้วก็เป็นลมนี่อย่างไรล่ะคุณพิม พี่จันทร์น่ะ บทจะทำอะไรเอาแต่ใจก็ไม่มีใครขวางอยู่สักคน อีกหน่อยแต่งงานแต่งการ ดาราคงเป็นห่วงเมียพี่จันทร์แย่” คนฟังหัวเราะเบาๆ



   “ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่มีเมียดีกว่า ดาราจะได้ไม่ต้องห่วงใคร” เสียงของจันทร์จ้าวดังขึ้น ชายหนุ่มชะโงกศีรษะเข้ามาใต้ถุนทั้งที่ยังลงบันไดจากชั้นบนไม่ถึงขั้นสุดท้ายดี ดวงหน้าขาวส่งยิ้มกว้างเห็นลักยิ้มให้ทั้งน้องสาวและหญิงสาวผู้เป็นแขก



   “ให้มันจริงเถอะค่ะ! ดาราล่ะกลัวใจพี่จะมีเมียมากมายให้ดาราเป็นห่วงนี่สิ!” ดารารัษมีแขวะเมื่อพี่ชายคนรองเดินตรงมาที่พวกหล่อน จันทร์จ้าวหัวเราะอย่างสดใส



   “ไม่ต้องห่วงพี่ ห่วงพี่อาทิตย์แทนเถอะ จันทร์ถึงศุกร์ทำงาน เสาร์อาทิตย์อยู่บ้าน ชาตินี้จะได้แต่งงานไหมก็ไม่รู้” ดวงตากลมใหญ่มองสบกับดวงตาของน้องสาว แล้วก็เหมือนสองพี่น้องที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันในบางทีจะสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องพูด ดารารัษมีก็เข้าใจว่าพี่ชายต้องการทำอะไร



   “เอ...จริงด้วยสินะ อายุก็ตั้ง ๒๖ แล้ว ยังไม่มีคนรักเลยสักคน” หล่อนที่มักจะขวางจันทร์จ้าวในหลายๆครั้ง มาครั้งนี้กลับตามน้ำไปกับพี่ชายเสียอย่างนั้น ในขณะที่หม่อมหลวงพิมพัชราได้แต่นั่งเงียบๆฟังสองพี่น้องคุยกัน



   “ไม่รู้ว่าระหว่างพี่อาทิตย์กับนภา ใครจะได้แต่งงานก่อนนะพี่จันทร์ ดาราว่านภาได้แต่งก่อน” ดารารัษมีพูดต่อแล้วบุ้ยใบ้ไปที่พี่สาวแฝดที่มัวแต่ง่วนอยู่ในครัวซึ่งแยกออกไปจากตัวเรือนเล็กน้อย รายนี้ก็ไม่ค่อยจะออกไปเที่ยวที่ไหน ไม่ค่อยสุงสิงใคร ดีว่ายังออกไปทำงานข้างนอกบ้าน ขืนเป็นแม่ศรีเรือนอยู่ในนี้ เห็นทีดารารัษมีคงแนะนำให้พี่สาวแฝดของตนไปบวชชีเข้าสักวัน



   “เอ?...พี่ก็ว่านภาน่าจะแต่งก่อนเช่นเดียวกัน คุณพิมล่ะครับ คิดว่านภากับพี่อาทิตย์ ใครจะได้แต่งงานก่อน” จันทร์จ้าววกเข้าไปถามหญิงสาวที่นั่งเงียบ ซึ่งเธอก็ทำหน้าตื่นทีเดียวที่ถูกถามเช่นนั้น



   “เอ่อ...พิม...พิมไม่ทราบหรอกค่ะ เรื่องแบบนี้...เอ๊ะ...นั่น...ดูเหมือนจะเป็นรถพี่พงศ์...” หญิงสาวได้ทีเปลี่ยนเรื่อง เมื่อมองออกไปยังประตูรั้วหน้าบ้านแล้วเห็นรถเลี้ยวเข้ามาจอดพอดี จันทร์จ้าวและดารารัษมีมองตามก็เห็นจริงดังว่า บุตรชายคนรองของท่านนายพลจึงสั่งให้คนไปเปิดประตูให้



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเสร็จธุระที่สโมสรเทนนิสแล้วก็ตรงมาที่บ้านรักษพิพัฒน์เพื่อเยี่ยมเยียนคุณหญิงผกาเสียหน่อย เขามาเพียงลำพังเพราะเรย์มอนด์ อดัมส์ที่ไปตีเทนนิสด้วยกันต้องไปทำธุระที่อื่น



   “คุณพงศ์ มาได้อย่างไรน่ะ ไม่ตีเทนนิสหรือ” จันทร์จ้าวเข้าไปทักทายอย่างสนิทสนม



   “ตีสิ! ตีเสร็จแล้วถึงมา วันนี้กันได้ตีกับคนที่ตีเทนนิสสนุกกว่านายวินิตอีก อาทิตย์หน้าแกไปที่วังนะ กันนัดไว้แล้ว” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรกล่าวพร้อมรอยยิ้ม



   “นัดอะไรไว้หรือคะ คุณพงศ์” ดารารัษมีร้องถามอย่างสนใจ



   “ก็นัดตีเทนนิสน่ะซีครับ เอ? หรือเปลี่ยนเป็นนัดทานข้าวด้วยดี สาวๆจะได้ไปด้วย ดีไหมยายพิม...วันอาทิตย์หน้า เราชวนเพื่อนๆไปสนุกที่วังกันดีกว่า ให้สาวๆเขาทานของว่างจิบน้ำชากันไป พวกผู้ชายก็ตีเทนนิสกัน” คำพูดของเพื่อนรัก ทำเอาจันทร์จ้าวมองเห็นลู่ทางในการผลักดันพี่ชายให้ได้ใกล้ชิดกับราชนิกูลสาว



   “ถ้าอย่างนั้นผมจะพาพี่อาทิตย์ไปด้วย”



   “ได้เลย! มากันหลายคนยิ่งสนุก คุณดาราชวนคุณนภาด้วยนะครับ เอ?...แล้วนี่คุณหญิงอยู่ที่ไหนล่ะ”



   “อยู่ข้างบน ตามมาสิคุณพงศ์ เออ แล้วที่ว่าคนที่ตีเทนนิสสนุกกว่านายวินิตนี่ใครล่ะ ผมไม่เคยตีด้วยหรือ” จันทร์จ้าวถามพลางเดินนำขึ้นเรือน



   “ไม่เคยหรอก แกต้องไม่เคยตีด้วยแน่ เดี๋ยววันอาทิตย์หน้าจะได้ตีด้วย กันชวนไว้แล้ว”



แล้วเสียงพูดคุยของ ๒ หนุ่มก็หายลับขึ้นเรือนไป เบื้องล่างจึงเหลือเพียงดารารัษมีและหม่อมหลวงพิมพัชรา ที่ดูเหมือนหญิงสาวจากวังฉัตรจะเอาแต่ก้มหน้านิ่งนับตั้งแต่จันทร์จ้าวเอ่ยปากว่าสัปดาห์หน้าจะชวนอาทิตย์ไปที่วังด้วย ดารารัษมีลอบมองเพื่อนร่วมงานแล้วก็นึกแผนการออกขึ้นมาพลัน



   “ดาราจะไปสั่งคนให้ยกของว่างขึ้นไปให้ข้างบนแล้วจะขึ้นไปดูความเรียบร้อยเสียหน่อย ปล่อยพี่จันทร์ขึ้นไปคนเดียวคงจะไม่ได้เรื่อง ดาราวานคุณพิมหน่อยได้ไหม ช่วยเอาน้ำไปให้พี่อาทิตย์ตรงนู้นที ลงต้นไม้มานานแล้ว ประเดี๋ยวจะเป็นลมไปอีกคน” หม่อมหลวงพิมพัชราหันมองคนวานทันทีด้วยความคาดไม่ถึง แต่ไม่ทันจะขัดอะไร ดารารัษมีก็ยกแก้วน้ำจากถาดที่คนรับใช้นำมาวางไว้ที่ตั่ง ส่งให้หญิงสาวเพื่อนร่วมงาน



   “ดาราวานหน่อยเถอะ สงสารพี่อาทิตย์ ทำงานทั้งวี่ทั้งวัน ยังไม่ได้ดื่มน้ำสักอึก” พออีกฝ่ายว่ามาอย่างนั้น ราชนิกูลสาวก็ได้แต่รับแก้วน้ำมาถือ ส่วนดารารัษมีวานเสร็จแล้วก็ผลุบหายเข้าไปในครัวเพื่อสั่งงาน ออกมาอีกที ร่างแบบบางของหม่อมหลวงพิมพัชราก็ก้าวเดินไปยังอาทิตย์แล้ว หญิงสาวมองตามแล้วได้แต่ยิ้มอย่างสมใจ ก่อนจะเดินนำคนรับใช้ขึ้นเรือนไป


................................



   มุมใต้ต้นไม้ใหญ่ที่สนามหญ้าหน้าเรือนไทยไม่ใช่ที่รโหฐานลับตาคน ยิ่งโดยเฉพาะการมองลงไปจากเรือนสามารถเห็นทุกเหตุการณ์ที่เกิดตรงนั้นได้อย่างถนัดถนี่ จันทร์จ้าวมองเห็นชายหนุ่มหญิงสาวพูดคุยกัน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเดินกลับมาที่เรือน เขาไม่ได้ยินว่าคนทั้งคู่คุยอะไรกัน แต่ที่รู้คือต่างฝ่ายต่างมีความสุข



   ...หรือบางที...หม่อมหลวงพิมพัชราก็อาจมีใจให้พี่ชายเขาเช่นกัน...



   “ดูอะไรหรือ จันทร์” เสียงทักดังมาจากด้านหลัง จันทร์จ้าวหันไปมอง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเดินตรงมาหาเขา หลังจากพูดคุยกับคุณหญิงผกา ท่านนายพล และบิดาของตนไปได้พักหนึ่ง



   “ก็มองไปเรื่อย ว่าแต่...อาทิตย์หน้าที่ชวนผมไปวัง มีอะไรให้ทำบ้างล่ะ ตีเทนนิสอย่างเดียวหรือ”



   “แน่สิ! รับรองว่าแกต้องสนุกจนวางแรกเก็ตไม่ลง วันนี้นะแกเอ๋ย กันตีเสียจนปวดแขนไปหมด”



   “สนุกขนาดนั้นเชียว?!”



   “สนุกกว่าที่แกคิดอีก”



   “ชักอยากรู้แล้วสิ ว่าคนที่คุณพงศ์ไปตีด้วยเป็นใคร ใบ้หน่อยไม่ได้หรือ ผมรู้จักรึเปล่า”



   “ใบ้ไม่ได้ แล้วก็คิดว่าแกยังไม่รู้จักด้วย แต่แกเคยพูดกับกันว่าอยากรู้จัก แล้วก็คลาดไป คราวนี้แกจะได้โอกาสรู้จักเสียที”


“หืม? ผมเคยพูดว่าอยากรู้จักแต่ก็ยังคลาดกันด้วยหรือ”


“ใช่น่ะซี!”


“นี่ผู้ชายหรือผู้หญิง ผมเดาว่าเป็นผู้หญิง เพราะผมไม่เคยอยากรู้จักผู้ชาย” คำพูดของจันทร์จ้าวทำเอาเพื่อนรักราชนิกูลหัวเราะลั่นแล้วส่ายหัว


“เดาผิดแล้วเพื่อนเอ๋ย! คนนี้น่ะผู้ชาย!!” จันทร์จ้าวขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ ด้วยเพราะรู้จักนิสัยตัวเองดีว่าไม่มีทางอยากรู้จักผู้ชายคนไหน หากเป็นผู้หญิงสิ ค่อยอีกเรื่องหนึ่ง



“เอาเถอะ! อาทิตย์หน้า แกก็รู้เอง แล้วคุณอาทิตย์ตีเทนนิสเป็นหรือเปล่า” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองออกไปเห็นพี่ชายของเพื่อนสนิทกำลังง่วนอยู่กับต้นไม้ก็เลยถามขึ้นมา เพราะนึกขึ้นได้ว่าจันทร์จ้าวขอพาอาทิตย์ไปด้วย



   “เอ? ไม่รู้สิ จำไม่ได้ว่าเคยเห็นพี่อาทิตย์จับแรกเก็ตไหม”



   “เอ้า! แล้วอย่างนี้คุณอาทิตย์จะสนุกหรือ” จันทร์จ้าวหันมายกยิ้มที่มุมปาก



   “สนุกซี นี่คุณพงศ์...อยากได้ทหารมาเป็นน้องเขยไหม” คนถูกถามกะพริบตาปริบๆด้วยความงุนงงกับคำถามนั้น ทว่าคนถามกลับหัวเราะสดใส



   “แกหมายความว่ายังไร”



   “ไม่บอก ไว้วันอาทิตย์หน้าจะบอก แต่วานคุณพงศ์ไปถามคุณชายให้ที ว่าสนใจเขยที่เป็นทหารไหม ผมรู้จักอยู่คน ไว้จะแนะนำให้” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้นแล้วหัวเราะเริงร่า


หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพยายามถามย้ำหลายครั้งว่าทหารคนนั้นคือใคร แต่บุตรชายคนรองของบ้านรักษพิพัฒน์ไม่มีหลุดมาสักคำ สุดท้ายก็ได้แต่รอวันอาทิตย์หน้า หวังว่าเมื่อถึงวันนั้นจันทร์จ้าวจะไม่เบี้ยวเสียก่อน มิเช่นนั้นแล้ว ราชนิกูลหนุ่มจะขอให้ ‘คุณหมอ’ ตีลูกเทนนิสอัดเพื่อนรักให้ยับเชียว!!



ติดตามตอนต่อไป (วันพฤหัสหน้าค่ะ)

จริงๆมีส่วนที่พี่อาทิตย์กะคุณพิมมุ้งมิ้งกันด้วยค่ะ แต่ตัดออกตอนก่อนจะลงเน็ต เพราะมันทำให้ตอนนี้ยาวมากกกก
คุณหมอมาแวบเดียว ตามประสาคนค่าตัวแพง พาร์ทหน้า สัญญาว่าหมอจะมาเยอะนะ พาร์ทหน้าจะทุ่มงบค่าตัวคุณหมอแล้ว

มีเม้นท์ถามเรื่องภาษาด้วย บัวขออธิบายก่อนว่าเรื่องนี้เกิดช่วงจอมพลป. ตอนนั้นมีนโยบายรัฐนิยมก็จริงแต่เน้นความเป็นอารยะ(อารยะคือการเป็นแบบฝรั่ง) บัวก็เลยจะใส่คำทับศัพท์บางคำเข้ามาด้วยค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วคำทับศัพท์หลายคำมีใช้มาตั้งแต่สมัยร.5 เช่น ไพรเวท เอาจริงๆแล้ว ภาษาในเรื่องนี้ถ้ายึดตามสมัยจอมพลป. มันต้องสะกดแบบแปลกๆ(นึกถึงการสะกดแบบภาษาสก๊อย)เพราะยุคนั้นเป็นยุคปฏิวัติภาษาไทยด้วยค่ะ แต่บัวกลัวว่าจะมึนกันทั้งคนเขียนคนอ่าน ก็เลยคงตัวสะกดแบบที่เราอ่านกันรู้เรื่องไว้ก่อน

ส่วนคำว่า ‘ลูกคนใหญ่’ อันนี้บัวใช้ตามเรื่องเจ้าสาวของอานนท์ค่ะ แล้วยายบัวก็ติดใช้คำว่า ‘คนใหญ่กับคนเล็ก’ แทนคำว่า ‘คนโตกับคนเล็ก’ เหมือนกัน ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นคำที่ใช้กันสมัยก่อน 2500 เพราะแม่ของบัวที่เกิดยุคหลังปี 2500 ใช้คำว่า ‘คนโตกับคนเล็ก’ แล้ว    

ใครมีข้อแนะนำเรื่องภาษามาอีก บอกกันได้เลยค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในชีวิตที่เขียนแนวนี้ และรู้รสชาติเลยว่ายากมากกกกกกกกกกกกก

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนเม้นท์ และทุกกำลังใจค่ะ

เจอกันตอนหน้า กับตอนที่หมอมาเยอะมากที่สุด(นับตั้งแต่ตอนแรกมา) ทุ่มงบค่าตัวหมอไม่อั้น พูดเลยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๓ (๒๔ ก.ย. ๕๘/หน้าที่ ๔)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 01-10-2015 21:29:43


ปลื้มปริ่ม    :กอด1:

คุณจันทร์จ้าว เจอ กับ คุณหมอที่รอคอยแล้ว

เจอแว้บเดียววววววววววว   ค่าตัวแพงจริงนะคุณหมอภวัต :เฮ้อ:


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven


อ้างถึง
ฝ่ายหนึ่งยิ้มจาง ฝ่ายหนึ่งบึ้ง ฝ่ายหนึ่งมีดวงตาที่แสนสุภาพ อีกฝ่ายสายตาทั้งขวางทั้งเคือง

....


กีฬาเป็นสิ่งดี มันเชื่อมมิตรไมตรีได้อย่างง่ายดาย แต่เป็นที่น่าเสียดาย...ที่ใครอีกคนที่เขาอยากเชื่อมสัมพันธ์ด้วย กลับไม่มาเสียนี่..



ตอนหน้า ขอขอขอขอ  ฉาก พี่อาทิตย์กะคุณพิมมุ้งมิ้งกันด้วยนะ   //เขินแรง :mew1:

 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 01-10-2015 21:49:39
หนูจันทรรรรรรร์ น่าตีจริงเชียว ไปไล่พี่หมอได้ยังไง
คาดว่าตอนหน้าคงได้ฟินหนักๆเพราะคุณหมอออกเยอะ
ถัาไม่มีเงินค่าตัวคุณหมอดิฉันเปิดกู้นะคะ55555555555555 :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 01-10-2015 22:05:18
เขาเจอกันแล้ววววววว ตอนแรกก็คิดว่าคุณหมอจะขรึมๆนิ่งๆซะอีกที่ไหนได้เจ้าเล่ห์พอตัวเลยอะ โอ้ย ชอบๆๆๆหลงรักคุณหมอ นี่ยิ่งอ่านละยิ่งคิดว่าจันทร์เป็นปริศนา และคุณหมอเป็นท่านชายพจน์ ฮาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-10-2015 22:09:58
แผนการท่าจะได้ผลดีกับการหาคู่ให้อาทิตย์
ขอแปะนิดนึงกับความมโน
จันทร์กับหมอ
อาทิตย์กับพิม
เภากับดารา
อดัมกับนภา
พงษ์กับ_?
ฮาๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 01-10-2015 22:16:44
ยาวสมใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 01-10-2015 22:18:45
ขอฉากพี่อาทิตย์กะคุณพิมค่ะ เขิลตัวม้วนเลยน่ารักมากกกกกก ท่านนายพลเขยทหารก็น่าจะดีนะคะ ดีว่าเขยหมอเยอะเลย อิอิ
ภาษาน่าอ่านมากเลยค่ะ ชอบภาษาแบบนี้คุณบัวเขียนแล้วลื่นไหลอ่านสบาย รอนะคะ :)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 01-10-2015 22:19:37
เค้าเจอกันแล้ว จันทร์เจ้ามารยาทติดลบเลย 555 สงสารคุณหมอจัง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 01-10-2015 22:21:30
เต็มอิ่ม  และมีความสุขมากกับการได้อ่านตอนนี้
 ขอบคุณคุณบัวมาก  :L2: :pig4:
 ตอนหน้า เอาบทที่คุณอาทิตย์กับคุณพิม  มาย้อนรอยให้อ่านด้วยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-10-2015 22:24:16
ค่าตัวคุณหมอแพงจริง

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 01-10-2015 22:24:33
ต้องอย่างคุณหมอนี่แหละถึงจะสมน้ำสมเนื้อกับจันทร์ 5555

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-10-2015 22:25:03
คุณพงษ์กับน้องเภานี่ก็เคมีตรงกันสุดๆ ชอบจังอยากอ่านตอนหวานๆของน้องจันทร์จ้าว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 01-10-2015 22:26:33
รอเจอคุณหมอ...
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 01-10-2015 22:34:46
ดูเหมือนคุณพ่อของคุณพิมพ์จะไม่ค่อยาสนใจคุณอาทิตย์เท่าไหร่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-10-2015 22:38:10
อยากดูฉากพี่อาทิตย์มุ้งมิ้งกับคุณพิมพ์ค่ะ คงจะน่ารักน่าดู ขี้อายทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 01-10-2015 22:40:40
ละเมียดละไมละมุนมาก
รัก รัก รัก
ทั้งภาษา ทั้งเนื้อเรื่อง
นึกภาพออกเป็นฉากๆ
ใช่คำได้ลื่นไหลไม่สะดุดเลย
พอเหมาะพอควรไปเสียทั้งหมด
สู้ต่อไปนะคะ...เชื่อว่าผลงานชิ้นนี้ควรค่าแก่การรวมเล่ม
และให้ผู้คนได้จับจองเป็นเจ้าของ รวมถึงอยากมีไว้บนชั้นหนังสือแสนรักจริงๆค่ะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 01-10-2015 23:01:57
ตอนหน้าได้ปะทะคารมมันหยด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 01-10-2015 23:02:41
ขอคถณหมอเยอะหน่อยนะคะ
เดี๋ยวทุ่มงบค่าตัวคุณหมอสมทบไป 55
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 01-10-2015 23:05:33
เจอกันแปบเดียวเองอ่ะ ตอนนี้ยาวสมการรอคอยมาก   :กอด1: :กอด1:

คุณหมอท่าทางค่าตัวแพงจริง ออกมาแปบๆหายไปอีกแหละ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-10-2015 23:07:45
โอ้ย ใครจะเสร็จใครก่อน
ท่าทางคุณหมอก็ไม่เบานะเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 01-10-2015 23:17:22
แอบฟินคุณพิมกับคุณอาทิตย์ ที่แท้ใจตรงกันหรือนี่ อิอิอิ :hao7:
ขอฉากเต็มคู่นี้รอบหน้าน้าาาา :impress2:

ส่วนคุณจันทร์จอมแก่นนิรอคุณหมอมาปราบพยศนะคะ :laugh:

ชอบ_าษาจริงๆแหละ o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 01-10-2015 23:24:41
คุณจันทร์เปรี้ยวแรง แต่คุณหมอถูกใจซะงั้น  :man1: เนื้ออออออออคู่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-10-2015 00:09:04
"แต่เป็นที่น่าเสียดาย...ที่ใครอีกคนที่เขาอยากเชื่อมสัมพันธ์ด้วย กลับไม่มาเสียนี่..."

ยังไงคะคุณหมอ ถูกไล่ออกจากบ้านขนาดนั้นยังไม่โกรธแถมยังชะเง้อคอหาอีกแหนะ วุ้ย...ตอนหน้ามีลุ้น
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 02-10-2015 00:12:17
ค่าตัวหมอแพงขนาดไหนเดี๋ยวเราจะออกให้เอง เดี๋ยวเหมาตอนให้เลย
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: jungjiyoo ที่ 02-10-2015 00:23:53
หมดกันประโยคแรกของคู่นี้ ดูท่าแล้วจันทร์เจ้าจะมีเหลนชื่อของขวัญแน่ๆเลยค่ะ เฮี้ยวพอกันเลย อยากให้โดนคุณหมอปราบเร็วๆจังค่ะ 
ปล. เครื่องวัดชีพจร น่าจะเป็นเครื่องวัดความดัน หรือเปล่าคะ?
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 02-10-2015 00:37:38
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เขียนได้น่าติดตามสุดๆไปเลยค่ะ คือไม่ใช่แค่เรื่องของพระ-นายอย่างเดียว
แต่รวมถึงตัวละครข้างเคียงก็เขียนออกมาได้น่าอ่าน ไม่ต่างจากเวลาติดละครเท่าไหร่เลยจริงๆ
อย่างเรื่องของพี่อาทิตย์กับคุณพิม ตอนแรกที่ตัดภาพไปเรานึกว่าจะมีฉากสองคนนี้ด้วยซ้ำ
แอบเสียดายเลยค่ะที่ตัดมาอีกทีก็เป็นจันทร์ซะแล้ว .. คือทั้งๆที่ปกติก็ไม่ได้เป็นคนชอบอ่านชายหญิงนะคะ
(ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เข้าสายวายมาแล้วกลับไปนอร์มอลไม่ได้เลย) แต่กับคู่นี้นี่ทั้งลุ้นตามทั้งอยากรู้จริงๆค่ะ
ชอบที่เค้าใจตรงกันต่างคนต่างแอบรักนี่แหละ แบบนี้ต้องมีคิวปิดสุดหล่อมาช่วยจริงๆนะเออ

ปล. คิดว่าจันทร์จ้าวเอาแต่ใจแล้วนะ พอเจอไล่คุณหมอเข้าไปตรงๆแบบนี้นี่.. เอาแต่ใจกว่าที่คิดไปมากเลยค่ะ!!!
ปล๒. คุณหมอเจ้าเล่ห์ไม่เบา คงถูกใจคุณจันทร์เข้าแล้วสิท่า รอลุ้นว่าคุณหมอจะกระตุ้นต่อมโมโหของคุณจันทร์วิธีไหนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 02-10-2015 00:47:48
หนูจันทร์น่าตีอะ5555 ไปไล่พี่เค้า ดูสิว่าถ้าได้เจอกันจะดื้อยังไงอีก
พี่อาทิตย์กับคุณพิมนี่ต่างคนต่างไม่กล้า พ่อสื่อจันทร์จัดการด่วนๆจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 02-10-2015 05:50:02
เจอกันคราวหน้าคุณหมอคงถูกจันทร์จ้าวทำตาขวางใส่หนักกว่าเดิมแน่เลยนะคะ ^^ เพราะเจ้าตัวดันพกน้องเภามาเป็นก้างระหว่างพี่อาทิตย์กับคุณพิมเข้าไปเสียนี่ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 02-10-2015 06:39:23
 :hao4:
อยากอ่านตอนคุณพิมกับคุณอาทิตย์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 02-10-2015 09:08:42
น้องจันทร์ ดื้อใช่ไหมคะคุณหมอ  :try2:
จัดการได้ตามสบายเลยนะคะ เอาให้อยู่หมัดค่ะ แต่อย่าใช้หมัดนะคะ เดี๋ยวน้องจะช้ำ :haun5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 02-10-2015 10:01:30
คุณพิมกับคุณอาทิตย์มุ้งมิ้งกันก็อยากอ่านนะคะ รู้สึกเอาใจช่วยสองคนนี้

จันทร์ดื้อมาก ระวังจะโดนคุณหมอจับฉีดยา 55555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 02-10-2015 11:02:48
ต่างคนต่างมีแผนในใจ  :hao3:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: nattayanan_amp ที่ 02-10-2015 15:04:23
 :katai2-1: แวะมาให้กำลังใจนักเขียนค่ะ ตามติดจาก จอมขัวญ และถ้วยฟู^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 02-10-2015 18:55:06
ตอนนี้ก็สนุกอีกแล้ว  ขนาดยังไม่คืบหน้าอะไรเท่าไร แต่ว่าบรรยากาศของเรื่องเป็นตัวเพิ่มความสนุกที่ดีเลยค่ะคุณบัว  เป็นนิยายช-ช  ที่แท้แต่คู่ช-ญ เรายังลุ้นไปด้วยเลยค่ะ เชียร์พี่อาทิตย์สุดใจเช่นกัน   นี่คิดว่าบางทีเภากับดาราก็น่าจะคู่กันนะ แค่คิดเฉยๆนะคะ 55555 มันมีบางอย่างที่รู้สึกว่าต้องเชียร์      ส่วนคู่หลักของเรานี่ดูจะหายห่วงคุณหมอสนใจจันทร์จ้าวของเรา(?)  ตั้งแต่แรกขนาดนี้  ต่อไปมีแต่จะเพิ่มขึ้นไปอี๊กกก   55555555    รอติดตามค่ะระหว่างนี้คุณบัวก็สู้ๆนะคะแต่งตุนไว้อีกเยอะๆเลย   ไว้จะกลับมาตามอ่านฉลองสอบเสร็จค่ะ เฮ้!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 03-10-2015 05:53:06
แอร๊ยยยย คุณพิมก็มีใจนิ นี่ลุ้นคู่นี้ไม่แพ้ คู่คุณหมอกับกับน้องจันทร์หรอกนะ 555

สงสารอิตาทึ่ม พี่อาทิตย์

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: AiiSoul ที่ 03-10-2015 11:01:24
สนุกมากเลย
คู่อาทิตย์กับคุณพิมก็ดูจะชอบพอกัน
เหลือคู่พระนายของเรานี่แหละ เข้าใจผิดไปมา
จะมีแต่คุณหมอที่ดูสนุกเวลาได้แกล้งน้อง

อยากอ่านต่อแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 03-10-2015 13:08:48
รอตอนหน้า บอกเลย คริๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 03-10-2015 16:37:16
พ่อสื่อทำงานจริงจังมาก เริ่มกรุยทางไว้แล้วนะ แต่ดูท่าจะมีคู่แข่งอีกคนละ
งั้นน้องคุณหมอมาดองบ้านจันทร์อีกคู่ดีมั้ย
จะได้แนบแน่นอีกชั้น 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 03-10-2015 16:52:26
อยากให้น้องจันทร์ปะทะคุณหมอโดยไว คุคุคุคุ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: aiLime13 ที่ 03-10-2015 16:53:08
#ทีมคุณหมอ ค่ะ
55555555555555555

ปราบเด็กดื้อให้อยู่หมัดเลยนะคะคุณหมอ
หมั่นไส้พ่อจันทร์เหลือเกินค่ะ (ด้วยความเอ็นดูล้วนๆ ก๊ากกกกก)

ตอนหน้าเจอกันครบทีมแล้ว ต้องสนุกมากแน่ๆ

ปล.เราชอบคู่ของพี่อาทิตย์กับคุณพิมพ์จังเลยค่ะ ดูมุ้งมิ้ง เรียบง่าย มาเบาๆ แต่ทำไมรู้สึกฟินไปแล้ว 5555  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 03-10-2015 17:20:36
คราวหน้าขอให้หมอกับจันทร์เจอกันนานกว่านี้หน่อยนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 06-10-2015 00:51:21
สงสัยว่าทั้งคุณหมอและคุณจันทร์จะทำหน้าที่พ่อสื่อกันทั้งคู่
แหม่... ไม่รู้ว่าถ้ามโนของป้าเป็นจริง จะสนุกเพียงไหน

ได้อารมณ์ ปริศนา รัตนาวดี ลามมาถึงห้าหนุ่มจุฑาเทพเสียจริงๆ
รออ่านตอนคุณหมอเจอหน้าคุณจันทร์นะคะ
ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 06-10-2015 15:16:05
คุณจันทร์นี่พยศจริงเชียว ต้องให้คุณหมอปราบ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๔ (๑ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๖)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 06-10-2015 16:19:14
ไม่รู้เป็นไร ชอบยุคนี้มากค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนยุคปริศนา ท่านชายพจน์ ตีเทนนิส เต้นรำ โอ้ยยย...ฟิน
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 08-10-2015 19:49:11
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๕


   แม้คุณหญิงผกาจะอยากให้บุตรธิดาทั้ง ๔ อยู่ที่เรือนในช่วงเสาร์อาทิตย์ แต่พอจันทร์จ้าวมาขอพาพี่น้องไปเที่ยวที่วังฉัตรตามคำชวนของหม่อมหลวงพงศ์ภราธร คุณหญิงผู้รักบุตรชายคนรองดังแก้วตาดวงใจก็อนุญาตอย่างไม่เกี่ยงงอน สายวันอาทิตย์ถัดมา อาทิตย์จึงพารถโฟล์คสีดำของเขาและผู้โดยสารเป็นน้องชายและน้องสาวอีก ๓ คนออกจากบ้านรักษพิพัฒน์ไปยังวังฉัตร



   ตอนที่ไปถึงที่หน้าตึก ทั้งหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและหม่อมหลวงพิมพัชรามายืนรอต้อนรับแขกอยู่ก่อนแล้ว



   “ฮัลโล คุณพงศ์ ไหนล่ะคู่ตีเทนนิสที่ว่า...” จันทร์จ้าวออกปากเป็นคนแรก และแน่นอนว่าเจ้าตัวต้องสอดส่ายสายตามองหาบุคคลปริศนาที่ราชนิกูลหนุ่มเคยสรรเสริญเยินยอเอาไว้ว่าเป็นคู่ตีเทนนิสที่เยี่ยมยอด



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหัวเราะเบาๆ ทว่าไม่ทันตอบอะไร รถอีกคันก็แล่นเข้ามาในวัง



   “ตายยากจริง มาแล้วนั่นไง” เขาว่าอย่างนั้นแล้วบุ้ยใบ้ไปที่รถอีกคันที่แล่นมาจอดต่อหลังรถโฟล์คของอาทิตย์ จันทร์จ้าวหันไปมองอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่แสงแดดที่สาดกระทบกับกระจกหน้ารถทำให้เขามองไม่เห็นว่าคนในรถคือใคร ดังนั้นชายหนุ่มจึงอดใจรออย่างใจจดใจจ่อ ประตูรถฝั่งที่นั่งคู่คนขับถูกเปิดออก



   “คุณเภา! นี่คุณพงศ์ชวนคุณเภามาด้วยหรือคะ” นภาสรวงร้องเรียกชื่อเจ้าของบริษัทที่หล่อนทำงานอยู่ ก่อนจะหันไปถามทายาทเจ้าของวัง จันทร์จ้าวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมองน้องสาวของตน



   “นภารู้จักด้วยหรือ...”



   “รู้จักสิคะ ก็นั่นคุณเภา เจ้านายของนภาอย่างไรล่ะคะ”



   “เจ้านาย...” เขาทวนคำ กำลังประมวลลำดับญาติในสมองอย่างเร่งด่วน นภาสรวงเคยบอกเขาว่าเจ้านายของเธอเป็นน้องชายของ ‘หมอ’ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า...



   “สวัสดีครับ ทุกคน” เสียงทุ้มดังขึ้นเมื่อประตูฝั่งคนขับเปิดออก และชายหนุ่มผู้หนึ่งก้าวลงมา จันทร์จ้าวหันขวับไปมองโดยพลันแล้วก็ถึงกับตาเหลือกโตด้วยไม่คิดว่าจะคนที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรนัดมาตีเทนนิสในวันนี้จะเป็นชายผู้นี้



   ...ภวัต วิชาญโยธิน!!!...



   “คุณพงศ์! ที่ว่าคนที่ตีเทนนิส...” จันทร์จ้าวถามไม่ทันจบคำดี เพื่อนรักก็พูดแทรก



   “นี่ล่ะที่กันว่าเป็นคนที่ตีเทนนิสสนุกที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา คุณหมอ คุณเภา ยินดีต้อนรับครับ พวกเรากำลังรออยู่พอดี” ว่าแล้วราชนิกูลหนุ่มก็เข้าไปเชื้อเชิญแขกทั้งคู่ อาทิตย์เองก็เข้าไปทักทายกับภวัตและเภาอย่างคนรู้จักคุ้นเคย ส่วนสาวๆ ๓ คนก็เอาแต่พูดคุยกันกระจุกกระจิกเกี่ยวกับขนมที่จะลองทำในวันนี้ เหลือเพียงจันทร์จ้าวคนเดียวที่ไม่มีพวกจะเข้า!



   “คุณหมอ นี่เพื่อนผม คนที่ว่าตีเทนนิสเก่ง เป็นมือหนึ่งของประเทศไทย จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ครับ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมาแนะนำจันทร์จ้าวให้คุณหมอหนุ่มรู้จัก ดารารัษมีที่ยืนอยู่ใกล้ๆต้องรีบแจ้งด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักเพราะมารยาทของจันทร์จ้าวยามพบหน้าหมอภวัตครั้งแรกยังตราตรึง



   “คุณพงศ์คะ คุณหมอกับพี่จันทร์เขารู้จักกันแล้วค่ะ” หล่อนไม่กล้าเอื้อนเอ่ยว่าการรู้จักของ ๒ คนนั้นออกมาในรูปแบบใด ทว่าหม่อมหลวงพงศ์ภราธรกลับมองว่าการรู้จักกันมาแล้วเป็นเรื่องน่ายินดี



   “อ้าว อย่างนั้นหรือครับ งั้นก็ดีซี! มีแต่คนกันเองอย่างนี้ วันนี้คงสนุกแน่” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดอย่างสนุกสนาน ก่อนจะเชื้อเชิญแขกผู้มาเยือนเข้าไปในตึกเพื่อไปไหว้บิดาของตนก่อน ทุกคนก้าวเท้าเดินตามเขา รั้งท้ายสุดด้วยภวัตและจันทร์จ้าวที่ฝ่ายหนึ่งจ้องมองอย่างขุ่นเคืองในขณะที่อีกฝ่ายจ้องมองด้วยดวงตาระยิบระยับราวกับกำลังสนุก



   “วันนี้คุณพงศ์เป็นคนชวนผมมา หวังว่าคุณจะไม่ไล่ผมออกจากที่นี่นะครับ” เจ้าของรอยยิ้มจางบนใบหน้าว่าอย่างนั้นก่อนจะเดินตามเข้าไปในตึกอีกคน ทิ้งจันทร์จ้าวให้มองตามด้วยความขุ่นเคืองแล้วพานเป็นขุ่นเพื่อนรัก



   ...บอกอยู่แหม่บๆว่าจะแนะนำทหารให้มาเป็นเขย! แล้วเรื่องอะไรถึงพาหมอมาที่วังเล่า!! คุณพงศ์นี่พูดจาไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย!!...


   
…………………………………………..


   สนามเทนนิสในวังฉัตรอยู่ทางด้านหลังของตึก ต้องเดินลัดเลาะหมู่แมกไม้ไปพักหนึ่งจึงจะถึง เดิมทีไม่ค่อยจะมีคนใช้เสียเท่าไร เพราะหม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้ชื่นชอบการตีเทนนิสมักจะไปตีที่สโมสรมากกว่า แต่วันนี้สนามจำเป็นต้องต้อนรับผองเพื่อนที่มาตีเทนนิสรวมคุณพงศ์เป็น ๕ คน



   “คนเกิน!! ผมขอเป็นคนนั่งดู!!”



จันทร์จ้าวออกตัวตั้งแต่เดินมาถึงสนาม แล้วพอพูดอย่างนั้น เขาก็เดินดุ่มๆไปนั่งรอที่ชุดโต๊ะเก้าอี้ข้างสนาม ส่วน ๓ สาวจะตามมาทีหลังเพราะแวะเข้าครัวทำของว่าง



   ชายหนุ่มอีก ๔ คนได้แต่มองหน้ากัน โดยเฉพาะหม่อมหลวงพงศ์ภราธรออกจะรู้สึกเสียหน้าเป็นพิเศษ เนื่องจากโอ้อวดกับคุณหมอไว้เสียเยอะตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่าจันทร์จ้าวเพื่อนของตนเป็นนักเทนนิสมือหนึ่งของเมืองไทย



   เขารีบเดินเข้าไปหาเพื่อนรักที่นั่งกระดิกขายิกๆ



   “จันทร์ แกอย่าทำตัวน่าเกลียด ก็ไหนว่าอยากเล่นไม่ใช่หรือ นี่คุณหมอเล่นเก่งมากนะ แกจะไม่ลองแข่งกับคุณหมอดูหน่อยหรือ” จันทร์จ้าวเหลือบไปมองชายหนุ่ม ๓ คนเบื้องหลังเพื่อนรัก ที่เขาเพ่งเล็งเป็นพิเศษคือคนเป็นถึงนายแพทย์แต่ส่วนสูงไล่เลี่ยกับพี่ชายของเขาที่เป็นทหาร



   “ก็บอกแล้วว่าคนเกิน เทนนิสที่ไหนเล่นกัน ๕ คนล่ะ”



   “ก็กันไม่เล่นไง”



   “เรื่องสิ! คุณพงศ์เป็นเจ้าของสนาม คุณพงศ์ต้องเล่น!!” เสียงพูดของจันทร์จ้าวไม่ค่อยเลยแม้แต่นิด แม้กระทั่งอาทิตย์ที่ยืนอยู่กับภวัตและเภาก็ยังได้ยิน หากเขาปล่อยให้จันทร์จ้าวพูดต่อไป คงได้พูดจาไร้มารยาทเหมือนครั้งที่ไล่คุณหมอภวัตออกจากบ้านรักษพิพัฒน์คราวนั้นแน่



   นายทหารหนุ่มเดินเข้ามาหาแล้วพูดเสริม



   “พี่เล่นไม่เก่ง จันทร์เล่นแทนพี่ได้ไหม”



จันทร์จ้าวมองพี่ชายและเพื่อนรัก ดูเหมือนทั้งคู่จะอยากให้เขาแข่งเทนนิสกับ ๒ พี่น้องบ้านวิชาญโยธินเสียจริง



   “เล่นก็ได้ แล้วคนชนะได้อะไร” เขาลุกจากเก้าอี้ แล้วหันไปถาม ๒ พี่น้องนั่น คนน้องไม่เท่าไร แต่คนพี่ที่มองเขายิ้มๆเสมอนั่นต่างหากที่น่าหมั่นไส้เป็นที่สุด



   “จันทร์...” อาทิตย์เรียกปรามเมื่อน้องชายตั้งท่าจะพนันขันต่อ แต่จันทร์จ้าวหันไปสวนพี่ชายอย่างว่องไว



   “แข่งกีฬาก็ต้องมีรางวัลสำหรับคนชนะสิ จริงไหมหมอ” ท้ายประโยคเขาหันไปถามภวัต



   “แล้วอยากได้อะไรล่ะครับ” คุณหมอหนุ่มย้อนถาม รอยยิ้มจางยังคงประดับที่ใบหน้าเสมอ



   “ทาส...” คนทั้งกลุ่มตาโตอ้าปากค้าง เมื่อจันทร์จ้าวเอ่ยปากเช่นนั้น เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างรู้สึกเป็นต่อแล้วอธิบายเพิ่ม



   “คนแพ้เป็นทาส คนชนะเป็นพระราชา”



   “๑ วัน” ภวัตกำหนดระยะเวลา รอยยิ้มที่มุมปากของจันทร์จ้าวจางไปเล็กน้อยที่เขาแทรกเช่นนั้น แต่ดวงตายังแข็งกร้าว ดื้อดึงและอวดดี



   ...ดวงตาเช่นนี้ ที่ภวัตจำไม่ลืม...



   “ได้! ถ้าอย่างนั้นเราแข่งกันแค่ ๒ คนพอ คนอื่นไม่เกี่ยว”



   “ยินดีครับ”



แล้วหลังจากนั้นสนามเทนนิสก็เป็นของภวัต วิชาญโยธินและจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์


.........................................



   เสียงหวดและเสียงกระทบของลูกเทนนิสดังก้องไปทั่วทั้งสนาม หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองการแข่งขันของ ๒ หนุ่มแล้วก็หันมองอาทิตย์ที่นั่งอยู่ด้วยกัน



   “ไม่เคยเห็นจันทร์สนุกแบบนี้มานานแล้วนะครับ คุณอาทิตย์”



   “ครับ เขาดูจริงจังมาก” อาทิตย์ยังอดจะออกปากไม่ได้ เพราะน้องชายที่กำลังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายนั้นเป็นจันทร์จ้าวผู้จริงจังและหวังผลในการแข่งขัน อาทิตย์ไม่ค่อยจะได้เห็นน้องชายในอารมณ์นี้เสียเท่าไร เพราะไม่ว่าอะไร เจ้าตัวก็ดูจะเก่งกาจจนแทบไม่ต้องพยายาม ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องกีฬา หรือเรื่องผู้หญิง



   “พี่ชายคุณเภาก็เก่งมาก ไม่มีใครรับมือจันทร์ได้ขนาดนี้สักคน เท่าที่ผมเคยเห็นมา” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันไปชวนชายหนุ่มอีกคนคุย เภา วิชาญโยธินกำลังชะเง้อชะแง้มองไปรอบๆตัวก็เลยต้องหันมาสนใจสนามเทนนิส



   “นั่นซีครับ...” เขารับคำ แต่ก็ยังไม่วายสอดส่ายสายตามองหาเป้าหมายที่ทำให้เขามาที่นี่ในวันนี้



   ...ภวัตพูดถูก ที่ว่าเทนนิสจะทำให้เขาได้เข้าวังฉัตร ไม่ว่าจะด้วยโชคช่วยหรืออะไร แต่ตอนที่ไปสโมสรเทนนิสเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีโอกาสได้เล่นเทนนิสกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและเพื่อนฝรั่ง กีฬาก็ผูกสัมพันธ์ให้สองพี่น้องวิชาญโยธินได้เข้าวังฉัตรในวันนี้...



   “คุณเภามองหาอะไรหรือครับ? หรือหิวแล้ว? จริงสิ ยายพิมบอกว่าจะยกของว่างมา เมื่อไหร่จะมาเสียทีก็ไม่รู้...นายคำ ไปดูในครัวที คุณๆเขาทำของว่างกันเสร็จหรือยัง” ทายาทเจ้าของวังฉัตรทักเมื่อเห็นเภาเอาแต่มองไปมองมา ไม่จดจ่ออยู่กับเทนนิสเหมือนเขาและอาทิตย์ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่มาถึง ก็มีแค่น้ำดื่มต้อนรับแขก ส่วนของว่างนั้น น้องสาวและ ๒ สาวแฝดบ้านรักษพิพัฒน์จะเป็นคนลงมือเอง



   นายคำคนรับใช้ค้อมกายรับคำสั่ง ก่อนจะเดินหายออกไปจากบริเวณสนามเทนนิส



   “คุณพิม...เธอดูท่าจะทำอาหารเก่งนะครับ...” เภาชวนคุย ไม่อยากให้ถูกจับได้เสียก่อนว่าเขาไม่ได้หิว แต่กำลังคิดถึงหญิงสาวหน้าหวานผู้นั้นต่างหาก



   พี่ชายของ ‘คุณพิม’ หัวเราะเบาๆ



   “ก็เก่ง แต่ก็ไม่ค่อยจะว่างทำหรอก เขาชอบสอนหนังสือ จันทร์ถึงศุกร์ก็ไปสอนทั้งวี่ทั้งวัน นี่ไง...เขาสนิทกับคุณดาราน้องสาวคุณอาทิตย์ ไม่รู้สนิทกันได้อย่างไรนะ ดูไม่ยักจะนิสัยคล้ายกัน”



   “นั่นสิครับ...” อาทิตย์ก็ได้แต่ตอบรับเรียบๆ เขาไม่กล้าพูดถึงราชนิกูลสาวเสียเท่าไร เมื่อครั้งที่เธอไปบ้านรักษพิพัฒน์และพบเขากำลังทำสวนจนหน้าตามอมแมม เธอมอบผ้าเช็ดหน้าให้เขาผืนหนึ่งด้วยน้ำใจไมตรี วันนี้เขาเตรียมผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาคืนเธอ แต่มันยังคงอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขา ไม่รู้จะมีโอกาสคืนหรือไม่ จะคืนต่อหน้าคนมากๆเขาก็ไม่กล้าเสียด้วย



   “คุณดาราสอนวิชาอะไรนะ ดูเหมือนจะภาษาไทยใช่ไหม ยายพิมสอนภาษาอังกฤษ คนละแผนกอีกแน่ะ ก็ยังจะมาสนิทกันได้” บุตรชายของคุณชายฉัตรพูดต่อ พอดีกับที่คนถูกพูดถึงเดินมากับสองสาวแฝดรักษพิพัฒน์ ตามมาด้วยคนรับใช้อีกจำนวนหนึ่งที่ยกของว่างตามหลังมา



   “คุยอะไรกันอยู่คะ เอ๊ะ ไม่ตีเทนนิสกันหรือ” หม่อมหลวงพิมพัชราทักทายเสียงสดใส แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าคนที่นั่งอยู่ข้างสนามมีถึง ๓ คน หล่อนมองกลับไปในสนามเทนนิส ก็พบว่าชายหนุ่มอีก ๒ กำลังหวดแรกเก็ตใส่กันอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะ จันทร์จ้าว...ที่ดูจะมุ่งมั่นกับการแข่งขันมากเป็นพิเศษ



   “พี่จันทร์ดูสนุกมากนะ ดารา ดูสิ...” กระทั่งนภาสรวงยังสังเกตได้ ว่าพี่ชายผู้กำลังขมักเขม้นกับการตีเทนนิสนั้น ถึงจะดูเคร่งเครียดแต่ก็กระฉับกระเฉงและคล่องแคล่ว ไม่เหมือนจันทร์จ้าวคนปกติที่เฉื่อยชาและติดจะขี้เกียจ



   “นั่นซี ไม่เห็นพี่จันทร์เป็นอย่างนี้มานานแล้ว ให้พี่จันทร์รับประทานอะไรก่อนลงสนามหรือเปล่าคะ” คำพูดของดารารัษมีทำเอาหนุ่มๆหัวเราะ ไม่เว้นแม้แต่อาทิตย์ก็ยังยิ้มขำ แต่แล้วก็ต้องเก็บอาการเมื่อสายตาเหลือบไปสบเข้ากับสายตาของหญิงสาวผู้เป็นน้องสาวของหม่อมหลวงพงศ์ภราธร สบตากับเธอทีไร หัวใจของเขาเป็นเต้นรัวจนแทบทะลุออกมานอกอก



   “ไม่ได้ทานอะไรหรอกคุณดารา แต่พี่ชายคุณอุตริพนันกับคุณหมอน่ะซี ว่าถ้าใครแพ้จะต้องเป็นทาสให้คนชนะหนึ่งวัน”



   “ตายจริง! ริพนันขันต่อ! ถ้าคุณพ่อรู้เข้า พี่จันทร์ต้องโดนเอ็ดแน่!” ดารารัษมีบ่นพี่ชายแต่ก็ไม่วายมองกลับลงไปในสนามเทนนิสอีกครั้ง แล้วก็พบว่าพี่ชายของหล่อนดูจะมุ่งมั่นกับการแข่งขันเสียจนหล่อนที่เป็นน้องสาวและมักจะขวางกับการกระทำของเขามาตลอด ยังอดไม่ได้ที่จะจับจ้อง



   ...จันทร์จ้าวเป็นคนมีเสน่ห์ ยิ่งเวลาเขาทำอะไรอย่างจริงจังเช่นนี้ เขาก็ยิ่งดูดี แล้วผู้ชายที่ดูดีในทุกอิริยาบถเช่นนี้ กับผู้ชายนิ่งขรึมแบบอาทิตย์ หม่อมหลวงพิมพัชราจะชื่นชอบแบบใดมากกว่ากันหนอ...



   “เอ? อย่างนี้จะเรียกพวกเขาขึ้นมาทานของว่างก่อนไหมคะ” เสียงของหม่อมหลวงพิมพัชราทำให้ดารารัษมีต้องหันกลับไปมองคนพูด



   “ไม่ต้องหรอก ประเดี๋ยวก็จะจบเกมแล้ว” คนเป็นพี่พูดไม่ทันขาดคำ แรกเก็ตของคุณหมอภวัตก็หวดลูกเทนนิสกระดอนมากระแทกลงที่ฝั่งของจันทร์จ้าวแล้วกระเด็นออกไป คนที่วิ่งมารับไม่ทันถึงกับเม้มปากด้วยความเจ็บใจ แล้วพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ



   “ใครชนะคะนี่...” นภาสรวงถาม หล่อนดูเทนนิสไม่เป็น ซ้ำยังมาดูในตอนท้าย ยากที่จะรู้ผลแพ้ชนะ



   ๒ หนุ่มเดินออกมาจากสนามเทนนิส กลับมาที่โต๊ะที่ทุกคนรออยู่แล้ว ใบหน้าของภวัตยังคงมีรอยยิ้มจาง ในขณะที่ใบหน้าของจันทร์จ้าวนั้นหงุดหงิดเป็นที่สุด



   “เป็นอย่างไร ใครชนะ” ไม่มีใครกล้าถาม นอกจากหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ทั้งๆที่ดูมาตั้งแต่ต้นและตามนับแต้มในใจให้ตลอด ซ้ำตอนนี้ใบหน้าของเพื่อนรักของเขาก็ยังมู่ทู่เสียแบบนี้ อันที่จริงไม่ต้องถาม เขาก็รู้



   ภวัตเหลือบตามองคนข้างกายที่เมื่อครู่เล่นเทนนิสกับเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย เจ้าตัวเม้มปากจนเกือบจะเป็นเส้นตรง ดูก็รู้ว่าไม่อยากตอบเท่าไร



   “ผมครับ” เขาเป็นฝ่ายพูดเอง เพียงเท่านั้นก็ได้ยินเสียงห้วนๆดังมาจากจันทร์จ้าว



   “หมอจะให้ทำอะไรก็ว่ามา!” ตามกติกาคือคนแพ้ต้องเป็นทาสให้คนชนะ ๑ วัน แม้จะไม่อยากเป็น แต่ในเมื่อแพ้ จันทร์จ้าวก็มีน้ำใจนักกีฬามากพอ ถึงจะหน้านิ่วคิ้วขมวดก็ตามที



   ภวัตหันไปมองคนพูด รอยยิ้มจางยังติดอยู่บนใบหน้า ทว่าดวงตาคมของเขากลับมีประกายระยิบระยับอย่างสนุกสนาน



   ...เทนนิสเมื่อครู่นี้สนุกที่สุดที่เขาเคยเล่นมา คู่ต่อสู้อย่างจันทร์จ้าวใช่จะหาได้ง่ายๆ ทั้งฉลาดในการเล่น มีเทคนิกที่ดี และแรงดี สมแล้วที่เคยแข่งระดับมหาวิทยาลัยมาก่อน...



   “ไม่ต้องทำหรอกครับ ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นตั้งแต่แรก เล่นเพื่อความสนุกเท่านั้น และเมื่อครู่ก็สนุกมาก ขอบคุณ” คำพูดของคนชนะ ทำเอาจันทร์จ้าวหันมองทันควันด้วยคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับมาเช่นนี้



   ...เล่นเพื่อความสนุกอย่างนั้นหรือ...ใช่...สำหรับเขา เมื่อครู่นี้สนุกมากเช่นกัน...



   “ถ้าอย่างนั้นมาแข่งกันอีกไหม” เขาถามอย่างอยากเอาชนะ จริงๆแล้วถ้าเมื่อครู่นี้ไม่พลาด อาจพลิกเป็นเขาชนะก็ได้



   “เฮ้! จะแข่งอีกหรือจันทร์! ไม่เหนื่อยหรือ?!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรร้องถามแล้วมองเสื้อที่เพื่อนรักและคุณหมอสวมใส่ มันชื้นไปด้วยเหงื่อ



   “ไม่เหนื่อย ผมอยากเล่นอีก ตานี้คุณพงศ์จะลงมาด้วยก็ได้”



   “อ่า...กันชักขี้เกียจเสียแล้ว นั่งดูคุณหมอกับแกเล่นก็สนุกไปอีกแบบ คุณเภากับคุณอาทิตย์จะลงไปเล่นก็ได้นะครับ”



   “ผมเล่นไม่เก่ง ลงไปจะกลายเป็นภาระให้เขาเปล่าๆ” อาทิตย์ปฏิเสธ และเภาก็ถือโอกาสรับสมอ้างไปด้วยเพราะใจเขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้แล้วพูดคุยกับหม่อมหลวงพิมพัชรามากกว่า



   “นั่นซีครับ! ผมก็ด้วย เชิญคุณจันทร์กับพี่ภวัตเถอะ”



   “ถ้าอย่างนั้นเรามาแข่งกัน หมอ” เมื่อทุกคนปฏิเสธที่จะเล่น จันทร์จ้าวจึงหันมาทางคู่ต่อสู้เพียงหนึ่งเดียวของเขา



   “ตานี้ ไม่มีรางวัลสำหรับผู้ชนะแล้วนะครับ เล่นกันแบบธรรมดา ตกลงไหม” คุณหมอหนุ่มเสนอขึ้นมาบ้าง



แม้จะอยากได้รางวัลสำหรับการเป็นคนชนะ แต่เพราะอยากแข่งกับอีกฝ่ายดูอีกสักทีว่าจะชนะได้ไหม ถึงแม้จะไม่มีรางวัล แต่จันทร์จ้าวก็ยังอยากจะแข่งอยู่ดี 



   “ก็ได้” แล้วคนทั้งคู่ก็เดินกลับลงไปที่คอร์ดอีกครั้ง ปล่อยให้คนที่เหลือนั่งกันที่โต๊ะริมสนามแล้วเริ่มพูดคุยและรับของว่างฝีมือ ๓ สาว ซึ่งคนที่ชวนคุยไม่ใช่ใครที่ไหน หม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้อัธยาศัยดี และเภา วิชาญโยธินหนุ่มเจ้าสำราญที่มีเรื่องสนุกมาชวนคุยให้หัวเราะกันได้เสมอๆ ดารารัษมีเหลือบมองพี่ชายคนใหญ่ของตนที่นั่งเงียบและทำเพียงแค่รับคำเป็นครั้งคราว แล้วก็นึกขัดใจว่าเขาทำตัวได้ไม่น่าสนใจเอาเสียเลย จันทร์จ้าวที่มักจะเป็นคนหาประเด็นมาให้อาทิตย์ได้ใกล้ชิดกับหม่อมหลวงพิมพัชราก็เอาแต่จริงจังกับการแข่งขันในสนาม จนไม่สนใจตรงนี้ หล่อนต้องทำอะไรสักอย่าง ที่จะทำให้อาทิตย์มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเพื่อนครูของหล่อน



   “จริงสิ...คุณพิม ที่ว่าจะมีหนังสือให้ดารายืม...” ดารารัษมีหันไปถามเพื่อนครูของหล่อนเบาๆ



   “อ้อ! จริงด้วยค่ะ หนังสือภาษาไทย เอ?...พิมเก็บไว้ตรงไหน...” หญิงสาวทำท่านิ่งคิด แต่สุดท้ายก็นึกไม่ออก “พิมจะไปหยิบมาให้นะคะ คุณดารารอสักครู่”



หม่อมหลวงพิมพัชราขอตัวลุกออกจากโต๊ะไป เภาได้แต่มองตาม นึกไม่ออกว่าจะหาข้ออ้างในการลุกตามไปทำความรู้จักอย่างเป็นส่วนตัวได้อย่างไร ซ้ำพี่ชายของหล่อนก็ยังหันมาชวนเขาคุยต่อเสียอีก เภาทำอะไรไม่ได้ เลยอาศัยสร้างความสนิทสนมกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรไปก่อน เขาเชื่อว่ายังมีโอกาสดีๆที่จะได้พูดคุยกับหญิงสาวผู้นั้นในเร็ววันนี้



   “พี่อาทิตย์คะ ดาราลืมของไว้ในรถ เป็นถุงกระดาษเล็กๆ ตั้งใจจะเอามาให้คุณพิม พี่อาทิตย์ไปหยิบให้หน่อยได้ไหม” เมื่อจัดการให้เพื่อนครูร่วมโรงเรียนออกจากโต๊ะไปได้แล้ว ดารารัษมีก็หันมาบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงไม่ดังนัก อาทิตย์ไม่ได้คิดอะไร จึงลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะกลับไปที่รถซึ่งจอดอยู่หน้าตึกตามคำขอของน้องสาว ซึ่งดารารัษมีก็หันกลับไปบอกคนทั้งโต๊ะอย่างไม่รู้ไม่ชี้ว่าหล่อนลืมของ จึงไหว้วานให้พี่ชายไปหยิบมาให้เท่านั้น



   ชายหนุ่มนายทหารเดินกลับไปเปิดประตูรถโฟล์คสีดำของตนเอง แล้วพยายามมองหาถุงกระดาษเล็กๆตามที่น้องสาวว่า แต่รถของเขาเป็นระเบียบและเรียบร้อย ไม่มีของวางระเกะระกะ แค่มองหาไม่นาน เขาก็ไม่พบถุงอะไรเลย



   ...หรือบางที ดารารัษมีอาจจะลืมหยิบมาจากที่บ้าน...



   เขาปิดประตูรถ ตั้งใจว่าจะเดินกลับไปบอกน้องสาวว่าไม่มี แต่เสียงฝีเท้าเบาๆดังขึ้นที่ด้านหลังเสียก่อน ชายหนุ่มหันไปมอง แล้วก็ได้แต่นิ่งไปเมื่อพบว่าหม่อมหลวงพิมพัชรากำลังเดินออกมาจากตึกพอดี หญิงสาวเห็นอาทิตย์ก็ประหลาดใจไม่แพ้กันที่เห็นเขาอยู่ที่นี่ แทนที่จะเป็นที่ริมสนามเทนนิส



   “เอ่อ...ผม...มาเอาของให้ดาราน่ะครับ แต่...สงสัยดาราจะลืมหยิบมาจากที่บ้าน...” เขาเป็นคนเอ่ยปากก่อน หม่อมหลวงพิมพัชราพยักหน้ารับรู้อย่างสุภาพ ก่อนจะเดินลงจากบันไดเตี้ยหน้าตึกมาตรงที่อาทิตย์ยืน



   “ถ้าอย่างนั้น...เรากลับไปที่สนามกันดีไหมคะ”



   “ครับ” อาทิตย์ได้แต่รับคำ หากแต่เมื่อหญิงสาวก้าวเท้าเดินนำไปได้แค่ก้าวเดียว เสียงเขาก็ดังขึ้น



   “คุณพิมครับ” เจ้าของชื่อหันมามองด้วยความฉงน อาทิตย์จึงล้วงกระเป๋าหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่ซักสะอาดแล้วส่งคืนให้



   “ผมนำมาคืนครับ ขอบคุณมาก” หม่อมหลวงพิมพัชรามองกิริยาสุภาพของชายหนุ่มด้วยหัวใจที่เต้นถี่กว่าทุกครั้งที่หล่อนใกล้ชิดเพื่อนต่างเพศคนไหน แม้กระทั่งกับจันทร์จ้าวที่สนุกสนานและเป็นกันเอง หล่อนก็ยังไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับเขา ไม่เหมือนผู้ชายคนนี้...ทั้งๆที่พูดกันนับคำได้ แต่เหตุใดหนอ...เหตุใดหัวใจถึงได้ผิดแปลกทุกครั้งที่เจอหน้า...



   มือขาวเรียวเล็กยื่นออกไปรับผ้าเช็ดหน้าคืนกลับมา โดยไม่มีคำพูด ดวงหน้าหวานแดงซ่านแม้จะไม่ได้ใกล้ชิดกันเลยสักนิด หล่อนหมุนตัวก้าวเท้าช้าๆออกเดิน รับรู้ว่ามีชายหนุ่มร่างสูงก้าวเดินตามหลัง เว้นระยะเล็กน้อย แต่หากพูดเสียงปกติก็พอจะคุยกันได้อยู่



   “ของว่าง...อร่อยไหมคะ” จากตัวตึกไปถึงสนามเทนนิสนั้นไม่ใกล้เท่าไรนัก ยิ่งการก้าวเดินอย่างช้าๆก็ยิ่งทำให้มีเวลาพอที่จะถามไถ่กันสักประโยคสองประโยค



   “อร่อยครับ” อาทิตย์ตอบ เขาไม่กล้าบอกว่าข้าวเกรียบปากหม้อ เป็นของว่างที่เขาชอบ ข้าวเกรียบปากหม้อที่อร่อย แป้งต้องนิ่มบาง ไส้ต้องรสไม่จัดจ้านเกินไป ซึ่งที่นี่ทำออกมาได้อย่างอร่อย



   “ไว้คราวหน้า ถ้าพิมทำอีก จะฝากคุณดาราไปให้นะคะ เห็นคุณดาราว่าคุณอาทิตย์ชอบทานข้าวเกรียบปากหม้อ” คำพูดของหญิงสาวทำเอาอาทิตย์ต้องหันมองด้วยเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทราบว่าเขาชอบของว่างชนิดนี้ ดวงหน้าหวานแดงซ่านเมื่อถูกจับจ้อง หัวใจเต้นระส่ำจนต้องก้าวเท้าเดินเลี่ยงออกไป ทว่าก็ยังได้ยินประโยคที่ดังตามมาจากเบื้องหลัง



   “ผมจะรอครับ...” หัวใจของราชนิกูลสาวพองเต็มอก หล่อนได้แต่ยิ้มกับตัวเอง คำว่ารอของเขา ช่างเต็มไปด้วยความหมายสำหรับหล่อนเหลือเกิน



.........................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 08-10-2015 19:49:41

สามหนุ่มสามสาวที่ข้างสนามเทนนิสอิ่มตื้อด้วยของว่างหลากชนิด ส่วนสองหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากสนามเทนนิสนั้นถึงกับเหงื่อเต็มตัว ต่างคนต่างเหน็ดเหนื่อยกับการออกกำลังกาย แต่น่าแปลกที่ดวงตาของชายหนุ่มทั้งคู่กลับดูมีชีวิตชีวาและสนุกสนาน



   “เป็นอย่างไร ใครแพ้ใครชนะไปคนละกี่ตา” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถาม



   “สูสีครับคุณพงศ์ ถึงจะชนะก็ชนะเฉียดฉิว ถึงจะแพ้ ก็แพ้อย่างสนุก” ภวัตเป็นคนตอบ เขาเหลือบมองคนข้างกายที่ใบหน้าขึ้นสีจัดและเหงื่อซึมตามไรผมเพราะความเหนื่อย



   “ใครสนุก หมอสนุกไปคนเดียวเถอะ! คุณพงศ์ ผมขอยืมห้องน้ำหน่อยได้ไหม เหงื่อออกจนเหนียวตัวไปหมด” จันทร์จ้าวพูดแทรก แล้วกระพือเสื้อที่ใส่เล่นเทนนิสซึ่งชื้นไปด้วยเหงื่อ



   “ก็ไปซี อาบน้ำอาบท่าเสียเลยก็ได้ ให้นายคำจัดเสื้อผ้าของกันให้สักชุด นายคำ พาคุณจันทร์ไปห้องน้ำที” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรออกปาก จันทร์จ้าวก็ก้าวเท้าเดินออกไปกับคนรับใช้ พอพ้นหลังเพื่อนรัก ราชนิกูลหนุ่มจึงหันมานินทากับภวัต



   “คุณหมออย่าไปฟังเจ้าปากหนักนั่นมากนัก ถ้าไม่สนุกอย่างที่ว่า จันทร์ไม่เล่นกับคุณหมอตั้งหลายตาอย่างนี้หรอก!”



   “พี่พงศ์ ให้คุณหมอไปล้างไม้ล้างมือดีไหมคะ” คนเป็นน้องสาวปรามพี่ชาย ก่อนจะสั่งให้คนรับใช้อีกคนพาชายหนุ่มกลับไปที่ตึก ภวัตได้แต่ยิ้มบางแล้วเดินตามคนรับใช้ไป คนอื่นๆจึงหันมาพูดคุยถึงแผนการที่จะในช่วงบ่าย



   “แล้วเราจะเอาอย่างไรต่อดี ย้ายไปนั่งเล่นริมน้ำไหม ตรงนั้นไม่ค่อยร้อน ลมจากแม่น้ำพัดมาเย็นกำลังดี” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรชักชวน แต่ดารารัษมีมีข้อเสนอที่ดีกว่า



   “ดาราอยากนั่งเรือติดเครื่องยนต์ค่ะ เมื่อตอนสาย คุณพิมเธอว่าที่นี่มีเรือติดเครื่องยนต์ด้วยใช่ไหมคะ”



   “แดดจัดอย่างนี้ คุณดาราจะไหวหรือครับ” ทายาทวังฉัตรร้องถาม ด้วยไม่คิดว่าสตรีในวัยที่กำลังรักสวยรักงามอย่างดารารัษมีจะขอออกไปเผชิญแดดเผชิญลมตอนตะวันตรงหัวเช่นนี้



   “ไหวซีคะ พี่จันทร์เคยเล่าว่านั่งเรือติดเครื่องยนต์น่ะสนุก ดาราก็อยากจะลองนั่งดูสักครั้ง”



   “ถ้าคุณดาราต้องการเช่นนั้น ผมก็ยินดีครับ คุณนภาล่ะครับ ไปด้วยกันนะครับ เราไปกันทั้งหมดนี่ แล้วค่อยให้ ๒ คนนั้นเขาตามไป จันทร์ขับเรือติดเครื่องยนต์ได้ ไม่ต้องห่วง”



   “แล้วจะไปกันหมดหรือครับ คุณพงศ์” เภาถาม เพราะพวกเขามีถึง ๖ คน หากแยกเป็นสองลำ ให้เขาไปกับสองพี่น้องฉัตราภาส ส่วนสามพี่น้องรักษพิพัฒน์ไปด้วยกันก็เห็นจะดี



หม่อมหลวงพงศ์ภราธรยิ้มกว้างแทนคำตอบ



   “ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ ผมมีเรือลำใหญ่ เราจะไปด้วยกันทั้ง ๖ คนนี่เลย” และคำตอบของราชนิกูลหนุ่มก็ทำให้เภาหมดโอกาสอีกตามเคย


.......................................



   จันทร์จ้าวก้าวเท้าออกมาจากห้องอาบน้ำด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่นายคำนำของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรมาให้หยิบยืม ซึ่งอันที่จริง เขาไม่นิยมใส่เสื้อผ้าของใคร แต่ราชนิกูลเพื่อนรักรู้จักนิสัยเขาดี พอๆกับนายคำที่รับใช้ในวังมานานจนรู้จักมักจี่เขา จึงนำเสื้อผ้าชุดใหม่ที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรไม่เคยใส่มาก่อนมาให้



   “เมื่อยชะมัด” เขาบ่น พลางไพล่มืออ้อมบ่าไปบีบนวดที่ด้านหลัง นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลับจากอเมริกา ที่เขาได้ตีเทนนิสสนุกขนาดนี้จนลืมความเหนื่อยความเมื่อยไปหมด พอเลิกตีแล้วถึงได้รู้รสชาติ เพราะแขนปวดร้าวระบมไปทั้งหัวไหล่



   “ปวดไหล่หรือครับ” เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลัง จันทร์จ้าวหันไปมอง ก็เห็นว่าภวัตยืนรออยู่แล้วที่หน้าห้องน้ำ ห้องน้ำส่วนนี้เป็นส่วนสำหรับแขก วังฉัตรชอบจัดงานเลี้ยงบ่อยๆ จึงมีห้องน้ำหลายๆห้องในละแวกเดียวกันเพื่อแขกเหรื่อ รวมไปถึงห้องอาบน้ำด้วย



   “ครับ...” จันทร์จ้าวตอบสั้นอย่างไม่ค่อยจะอยากตอบนัก เขากำลังจะเดินหนี แต่อีกฝ่ายคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน



   “ผมจะดูให้” คนสูงกว่าว่าอย่างนั้น แล้วเอ่ยต่ออย่างสุภาพ “ขอโทษนะครับ...” เขาพูดแล้วใช้นิ้วทั้งห้ากดลงตามลาดไหล่ไล่มายังแผ่นหลัง จันทร์จ้าวเบ้หน้าด้วยความปวดเมื่อนิ้วแข็งๆของอีกฝ่ายกดโดนจุดที่เขารู้สึกเคล็ด



   “ตรงนี้หรือ”



   “อืม...” เขาครางรับ แม้จะรู้สึกตึงและปวดแต่ก็รู้สึกดีอย่างน่าประหลาดเมื่อแรงนิ้วกดลงมาอีก ดูมันจะช่วยผ่อนคลายความปวดตึงของไหล่เขาได้มาก



   “ท่าจะเคล็ด ที่บ้านมียาทาไหม”



   “มี” เขาตอบส่งเดช รู้แก่ใจว่าไม่ใช่คนสนใจเรื่องหยูกยาเสียเท่าไร



   “ถ้าอย่างนั้น กลับไปก็อย่าลืมทา เอาผ้าชุบน้ำร้อนประคบด้วย จะได้หายเร็วๆ”



   “ทราบแล้ว ขอบคุณ” จันทร์จ้าวตอบแค่นั้น ก็พอดีเห็นคนรับใช้เดินตรงมา เขาจึงหันไปถามทั้งๆที่ยังปล่อยให้ภวัตนวดไหล่ต่อ



   “พวกคุณๆเขาอยู่ไหนกันหรือ”



   “คุณพงศ์พาออกไปนั่งเรือเที่ยวขอรับ ฝากมาเรียนคุณจันทร์ว่าให้ขับเรือตามไป” จันทร์จ้าวขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปทางนายแพทย์หนุ่มที่ยืนข้างตน



   “ผมเมื่อย ไม่อยากขับเรือ ถ้าหมอจะไปก็เชิญแล้วกัน” หากแต่ภวัตกลับยิ้มจางแล้วส่ายหน้า



   “ผมก็เมื่อย อยากนั่งพักมากกว่า” จันทร์จ้าวจึงหันไปทางคนรับใช้อีกครั้ง แล้วปฏิเสธ



   “นายคำไม่ต้องเตรียมเรือให้หรอก ฉันกับหมอไม่ไป”



   “ถ้าเช่นนั้น เชิญที่ริมน้ำไหมขอรับ คุณพงศ์สั่งเอาไว้ว่าหากคุณๆไม่ไป ก็ให้ไปรับประทานของว่างที่โต๊ะริมน้ำ”



   “เอาอย่างนั้นก็ได้” ชายหนุ่มจากบ้านรักษพิพัฒน์ตอบรับ ก่อนจะก้าวเท้าเดินอย่างรู้ทาง ทิ้งให้คนรับใช้ของวังฉัตรมองตามแล้วพาลนึกถึงคำสั่งของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่สั่งเอาไว้ก่อนจะออกเรือไปกับคุณๆ



   ‘นายคำดูแลเพื่อนของฉันให้ดี เพื่อนของฉันคือคุณจันทร์ ถ้าดูท่าเธอจะทำตัวไม่ดีกับคุณหมอ ก็ช่วยขวางเอาไว้ด้วย อย่าให้ ๒ คนนั้นเขาทะเลาะกันเป็นอันขาด’



   แต่ภาพที่นายคำเห็นเมื่อครู่นี้ ดูอย่างไรก็ห่างไกลจากคำว่าทะเลาะ



   ...คนเราหากจะทะเลาะกัน ก็คงไม่มีใครมีมิตรไมตรีมานวดไหล่ให้อย่างเช่นที่คุณหมอภวัตทำให้คุณจันทร์หรอก...คุณพงศ์ดูจะคิดมากเกินไปเสียแล้ว...


...................................


 

ตอนที่เรือติดเครื่องยนต์ของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรแล่นกลับมาที่วังฉัตร ร่างของชายหนุ่ม ๒ คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะริมน้ำก็ทำเอาดารารัษมีออกจะประหลาดใจไม่ได้ ด้วยเพราะพี่ชายของหล่อนที่ทำตัวไร้มารยาทกับคุณหมอหลายหน กลับอยู่กับอีกฝ่ายได้อย่างสงบ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันแต่อย่างใด คุณหมอภวัตนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะ ส่วนจันทร์จ้าวกำลังเล่นกับหมาตัวโตประจำวังฉัตรที่ชื่อ อ้ายดำ



พอกลับมาถึงฝั่งกันพร้อมหน้า จันทร์จ้าวก็ชวนพี่น้องของตนกลับเสียที เพราะเขาเพลียกับการตีเทนนิสจนอยากหลับสักงีบ ซึ่งทุกคนก็เห็นดีด้วย แขกบ้านรักษพิพิพัฒน์ขอตัวกลับ แขกจากครอบครัววิชาญโยธินจะอยู่ต่อก็จะดูกระไรอยู่ แม้เภาจะไม่อยากกลับ แต่เมื่อภวัตขอตัวลาเช่นกัน เขาก็จำต้องกลับไปพร้อมพี่ชายด้วย



“ไปแล้ว คุณพงศ์” จันทร์จ้าวออกปาก เมื่อทุกคนพร้อมกันที่รถโฟล์คสีดำซึ่งจอดอยู่หน้าตึก



“แล้วไว้เจอกันที่สำนักงาน” ชายหนุ่มทายาทวังฉัตรว่าอย่างนั้น แต่พอจันทร์จ้าวจะก้าวเท้าขึ้นนั่งที่เบาะหน้าคู่พี่ชายเหมือนตอนขามา เจ้าตัวก็เหมือนจะนึกอะไรได้ จึงหันไปสั่งน้องสาวที่กำลังจะเปิดประตูขึ้นเบาะหลัง



“พี่ต้องลงก่อน ดารามานั่งหน้าแล้วกัน”



แล้วหลังจากนั้น ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์ก็ออกจากวังฉัตรไป ภวัตออกจะแปลกใจกับคำพูดของคู่เทนนิสของเขาไม่น้อย จึงหันมาทางหม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้มีสถานะเป็นเพื่อนรักกับจันทร์จ้าว



“ที่ว่าคุณจันทร์จะลงก่อน...”



“อ้อ ก็ที่ผมเคยบอกไง จันทร์ขอคุณหญิงออกมาอยู่ข้างนอก บ้านสีเขียวอ่อนที่อยู่ถัดจากวังไปหน่อยเดียวนี่เอง จันทร์ถึงศุกร์จะนอนค้างที่นั่น พอเย็นวันศุกร์ ก็ให้คุณอาทิตย์มารับกลับไปนอนที่บ้านรักษพิพัฒน์ จะว่าก็ว่าเถอะ เรื่องที่เขาทำกันไม่ได้ จันทร์ก็ทำได้ อย่างสอบทุนไปเรียนต่อที่อเมริกาอย่างนี้ นอกจากจะสอบได้แล้ว ยังหว่านล้อมคุณหญิงให้ปล่อยไปเรียนเมืองนอกได้อีก ทั้งๆที่สงครามก็เพิ่งจบหมาดๆ บ้านเมืองเราก็ยังไม่สงบดี บ้านเมืองเขาก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน ตอนแรกคุณหญิงผกาก็จะไม่ให้ไป ท่านนายพลเดชบังเอิญมีคนรู้จักทำงานในสถานทูต จันทร์ก็เลยยกเพื่อนของท่านนายพลขึ้นมาอ้าง จะหาหอพักใกล้สถานทูตบ้าง จะไปรายงานตัวที่สถานทูตทุกสัปดาห์บ้าง คุณหมอลองไปถามจันทร์แล้วกัน ว่าไปอยู่อเมริกา ๖ ปี ไปรายงานตัวที่สถานทูตสักกี่ครั้ง”



“พี่พงศ์” พอพี่ชายนินทา หม่อมหลวงพิมพัชราก็ได้แต่ปราม แต่ภวัตก็ยังสงสัยใคร่รู้ในวิถีชีวิตของคู่เทนนิสของเขาอยู่ดี



“ที่ว่าได้ทุนของมหาวิทยาลัยไปเรียนที่อเมริกานั่นน่ะหรือครับ”



“ใช่ ไม่ทราบไปหาทุนมาได้อย่างไร แต่เรื่องยากๆน่ะ ต้องยกให้จันทร์ล่ะ เพื่อนผมคนนี้เก่ง หัวดี ฉลาด ถึงจะขี้เกียจไปสักหน่อยก็เถอะ ว่าแต่...เกมเทนนิสเป็นอย่างไรล่ะคุณหมอ สนุกไหม” คนถูกถามยิ้มจาง หวนคิดถึงเทนนิสที่เขาเล่นเมื่อตอนสาย



“สนุกมากครับ ขอบคุณคุณพงศ์ที่ทำให้ผมมีเพื่อนตีเทนนิสที่สนุกอย่างนี้” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรโบกมือว่อน



“ไม่เป็นไรๆ ผมก็บุญตาได้เห็นเกมเทนนิสดีๆอย่างนั้น ไว้คราวหลัง เชิญมาตีเทนนิสด้วยกันอีก ไม่สิ ต้องบอกว่าคราวหลังเชิญมาตีเทนนิสกับเพื่อนของผมอีก”



แล้วหลังจากนั้นแขกบ้านวิชาญโยธินก็ขอตัวกลับ ๒ พี่น้องแห่งวังฉัตรมองส่งจนรถลับหายออกไปนอกประตู แล้วคนเป็นพี่ก็ดูเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนรักของตนยังไม่ยอมคายเรื่องที่เกริ่นเอาไว้



   ...ที่ว่า...มีทหารคนหนึ่งอยากจะมาเป็นเขยวังฉัตร...



...ให้ตายสิ วันนี้ก็สนุกจนลืมถาม เจอกันเมื่อไหร่ เห็นจะต้องถามให้รู้เรื่อง ว่าทหารที่ว่านั่นชื่ออะไร นามสกุลอะไร และคิดอย่างไรจึงมาเป็นเขยวังนี้...



“พี่พงศ์เป็นอะไรไปคะ หน้านิ่วคิ้วขมวด” น้องสาวตั้งคำถามเมื่อหันมาเห็นพี่ชายมีสีหน้าราวครุ่นคิด หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมอง ดวงหน้าหวานของคนเป็นน้องทำให้เขาตัดสินใจถามกลับ



“พิมรู้จักใครที่เป็นทหารบ้างไหม” คำว่าทหาร ทำเอาหญิงสาวนึกไปถึงชายหนุ่มนายทหารที่วันนี้เขานำผ้าเช็ดหน้ามาคืนหล่อน ซ้ำยังบอกว่าจะรอให้หล่อนทำข้าวเกรียบปากหม้อไปให้เขาอีกด้วย



“ว่าอย่างไร รู้จักไหม” ชายหนุ่มถามย้ำ แม้จะเห็นแล้วว่าคนถูกถามมีท่าทีอึกอัก



“ม...ไม่ทราบสิคะ พิมขอตัวก่อนนะคะ” แม้จะรู้เต็มอกว่าคนที่เป็นทหารและหล่อนรู้จักมีเพียงคนเดียวคืออาทิตย์ แต่ความประหม่ายามถึงนึกเขาทำให้หล่อนโกหกแล้วรีบก้าวเท้าเดินหนีกลับเข้าตึก คนเป็นพี่ได้มองตามด้วยความสงสัย



...เป็นพี่เป็นน้องกันมานับ ๒๐ ปี มีหรือจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังโกหก โกหกว่าไม่ทราบ แสดงว่าแท้จริงแล้วทราบ...อย่างนี้ยิ่งทำให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอึดอัดด้วยความใคร่รู้



...ทหารคนไหนที่อยากจะมาเป็นเขยวังฉัตรกันล่ะนี่!!!...



...........................



เพราะเมื่อวานลงแรงกับการตีเทนนิสมากเกินไป เช้าวันนี้ อาการปวดร้าวที่ไหล่จึงยังคงปรากฏ



จันทร์จ้าวยืนอยู่หน้ากระจกในห้องนอน มืออ้อมไหล่ไปเบื้องหลังพยายามกดให้โดนจุดที่รู้สึกเคล็ด แต่ให้อย่างไรก็ไม่ถนัดเอาเสียเลย เขาพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด เมื่อวานก็ไม่ได้ทายาเพราะเขาไม่ได้ติดเอายามาไว้ที่นี่ด้วย ส่วนเรื่องประคบเย็นประคบร้อนก็ลืมไปได้เลย จันทร์จ้าวไม่ใช่คนจะลุกขึ้นมาทำอะไรอย่างนั้นแน่ เพราะคิดเอาว่านอนพักสักคืนก็คงจะหาย แต่ปรากฏว่าตื่นมาก็ยังไม่ทุเลา ถึงแม้จะไม่เจ็บปวดมากนัก แต่มันก็ก่อความรำคาญ จะหยิบจับเดินเหิรก็รู้สึกปวดอยู่อย่างนั้น แต่ในเมื่อมือเอื้อมไปไม่ถึง เขาก็ได้แต่จนใจ แล้วคิดเอาเองว่ามันอาจจะดีขึ้นในอีก ๒-๓ วัน ชายหนุ่มหมุนตัวเดินออกจากห้องนอน มาที่ห้องอเนกประสงค์ซึ่งเป็นทั้งส่วนรับแขกและห้องนั่งเล่น



บ้านเช่าสีเขียวอ่อนหลังนี้ เป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นใต้ถุนสูง ด้านหน้าเป็นชานกว้างสำหรับนั่งเล่นรับลม ถัดเข้ามาเป็นห้องอเนกประสงค์ที่มีทั้งชุดเก้าอี้ และโต๊ะรับประทานอาหารขนาด ๒ คน ครัวเล็กๆและห้องนอน ส่วนห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง ดูกะทัดรัดสำหรับอยู่คนเดียว 



จันทร์จ้าวกำลังจะออกจากบ้านไปทำงาน วันนี้มีประชุมกับเพื่อนฝรั่ง อันที่จริงจะไปสายกว่านี้อีกสักหน่อยก็ได้ แต่เพราะตั้งใจว่าจะไปหาอะไรรองท้องจากตลาด จึงออกเร็วกว่าปกติ



ทว่าไม่ทันที่จะก้าวเท้าออกพ้นประตู เสียงรถก็ดังขึ้นที่หน้าบ้าน ชายหนุ่มมองออกไปนอกชานก็พบรถยนต์ที่ไม่คุ้นตามาจอดขวางอยู่ เขาเพ่งมองรอจนคนในรถเปิดประตูลงมา แล้วก็ถึงได้เบิกตาโต



“หมอ!”


...............................................



นายแพทย์ภวัต วิชาญโยธินส่งยิ้มจางให้คนที่เดินหน้ามู่ทู่ดูไม่ค่อยจะสบอารมณ์มาที่ประตูรั้ว บ้านหลังเล็กสีเขียวอ่อนนั้นหาไม่ยาก ยิ่งบอกว่าอยู่ใกล้วังฉัตรยิ่งแล้วใหญ่ เพราะบ้านแถวนี้ไม่มีหลังไหนทาด้วยสีเขียวอ่อนเลย ยกเว้นหลังนี้

 

“จอดรถขวางหน้าบ้านผมทำไม!” ประโยคทักทายประโยคแรก ยังคงความไร้มารยาทอย่างที่ทำเอาคนถูกทักถึงกับหัวเราะเบาๆ



“ผมแวะเอายามาให้” คนเป็นหมอว่าอย่างนั้นแล้วยื่นหลอดยาข้ามรั้วเตี้ยๆไปให้คนที่ยืนอยู่อีกฝั่ง จันทร์จ้าวมองร่างสูงสลับกับมองยาในมือใหญ่อย่างไม่วางใจ หมอภวัตจึงพูดต่อ



“ยาทาแก้ปวด คุณยังเคล็ดอยู่ไม่ใช่หรือ”



ตั้งแต่เมื่อวานที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้กลับไปที่บ้านรักษพิพัฒน์ เขาก็คิดเอาเองว่าคนอย่างจันทร์จ้าวไม่น่าจะสนใจใยดีอะไรและคงจะไม่คิดหายามาทาเป็นแน่แท้ วันนี้ก็เลยตัดสินใจเอายามาให้ถึงที่ เกรงว่าถ้าทิ้งให้เจ้าตัวปวดนานๆ ประเดี๋ยวคงได้หาเรื่องไม่ตีเทนนิสกับเขา จะกลายเป็นว่าขาดคู่ต่อสู้คนสำคัญไป
 


“นี่ยาทาของจริงครับ เป็นแบบฝรั่ง ไม่ใช่ยาพิษหรอก” เขาสำทับเพราะสายตาที่จันทร์จ้าวมองตรงมาที่ยาและที่เขาบอกให้รู้ว่าไม่ไว้ใจเลยแม้แต่น้อย



“ทาแล้วจะหายปวด ถึงจะไม่หายปุบปับ แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้หายเองนะครับ การปล่อยเอาไว้โดยไม่ทายา ไม่รู้เมื่อไรจะหาย บางทีอาจเป็นเรื้อรั...ง...” พอสาธยายสรรพคุณไปอีกชุดใหญ่ มือของเจ้าของบ้านสีเขียวอ่อนก็ยื่นข้ามรั้วมาดึงหลอดยาไป



“ขอบใจ!” คำขอบคุณนั้นแสนกระแทก ภวัตยิ้มบางอย่างนึกเอ็นดู เพราะพอจันทร์จ้าวรับยาไปแล้ว เจ้าตัวก็เอาแต่พลิกซ้ายพลิกขวาอ่านฉลากยาราวกับกลัวว่ามันจะไม่ใช่ยาทาแก้ปวดจริง



“ทา ๒ เวลา เช้าเย็นก็พอ ทาเบาๆไม่ต้องนวดนะครับ จะได้ไม่เคล็ดซ้ำ” เขาอธิบายเพิ่ม ดวงตากลมใหญ่เหลือบขึ้นมามองเขาแล้วพยักหน้ารับสั้นๆเหมือนไม่อยากจะรับรู้เสียเท่าไร เมื่อเห็นว่าคนเจ็บได้ยาและรู้วิธีใช้แล้ว นายแพทย์หนุ่มก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้อยู่ต่อ



“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน” คนมาเยือนพูด แล้วค้อมศีรษะเป็นการบอกลา หมุนตัวเดินกลับไปที่รถ แต่เสียงของเจ้าของบ้านกลับดังขึ้นข้างหลังเขา



“หมอ...” ภวัตหันมองตามเสียงนั้น จันทร์จ้าวมีสีหน้าอึกอักก่อนจะถาม



“...รีบกลับหรือ?” คนถูกถามเลิกคิ้วอย่างสงสัย ดวงหน้าขาวมีแววอึดอัดและช่างใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จันทร์จ้าวจะพูดต่อ



“ผมเคล็ดที่หลัง เอ่อ...ผม...ผมทายาเองไม่ถึง...”


ภวัตยืนเงียบ ไม่พูดอะไร แต่ดวงตาคมดุที่มีแววอ่อนโยนจับจ้องคนพูดราวกับอยากให้พูดต่อ จันทร์จ้าวมองสบเข้าไปในดวงตาคู่นั้นอย่างนึกหงุดหงิด แต่อีกฝ่ายยังยืนนิ่งไม่ยอมเดินมาหาเขาเสียที



“ผมหมายถึง...เอ่อ...ทายาให้ผมก่อนสิ!”



แล้วหลังจากประโยคนั้น ประตูรั้วก็ถูกเจ้าบ้านปลดกลอนแล้วดึงมันเปิดออกเป็นการเชิญ ภวัตได้แต่ยิ้มจาง ไม่กล้าล้อเลียนถึงการพบกันครั้งแรกที่คราวนั้นจันทร์จ้าวเป็นฝ่ายออกปากไล่เขาออกจากบ้านรักษพิพัฒน์ ทว่าครั้งนี้...ก็เป็นจันทร์จ้าวอีกนั่นล่ะ ที่เชิญชวนเขาเข้าบ้านเสียเอง



เขาก้าวเท้าเดินตามจันทร์จ้าวเข้าบ้านอย่างเงียบๆ ทั้งขันทั้งเอ็นดูเจ้าของแผ่นหลังที่เดินนำหน้า เกิดมาไม่เคยเจอใครอย่างนี้เลย ทั้งเอาแต่ใจ ทั้งดื้อดึง แต่ก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวา



...เห็นที ชีวิตราบเรียบของเขาต่อจากนี้ คงจะไม่เหมือนเดิมเพราะใครบางคนเสียแล้ว...



ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

มีคนเรียกร้องกันมาเยอะเหลือเกินนนนน ว่าขอคู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมด้วย ก็เลยจัดมาชุดเล็กๆ เนื่องจากว่าตอนนี้จ้างพระเอกมาแพง ต้องเอาพระเอกออกให้คุ้มหน่อย ฮ่าฮ่า

หลายคนทักว่าจันทร์จ้าวเหมือนปริศนา จริงๆจะบอกว่าจันทร์จ้าวคือ ประวิชจากเรื่องปริศนา + ยศจากเรื่องมาลัยสามชายค่ะ(ผสมอานนท์จากเรื่องปริศนาด้วย) คือช้อบชอบเด็กสปอยล์ ดูน่ารังแก น่าแกล้ง น่าปราบพยศไรงี้

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนเม้นท์ และทุกกำลังใจค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 08-10-2015 19:57:57
กรี๊ดดดดด มาแล้วววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 08-10-2015 20:03:38
น้องจันทร์จ๋าาาาาา
เริ่มส่อเค้าญาติดีกับหมอบ้างแล้วเนอะ
สงสัยพ่อสื่อจะได้คู่ก่อนพี่ชายซะแล้วมั้ง 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 08-10-2015 20:24:05
โอ้ยฟินนนนนนนน
กรี๊ดแปดตลบ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 08-10-2015 20:34:00
 :impress2:อ่านแล้วน่ารักมาก ตอนหน้าขอคุณหมอกับจันทร์จ้าวอีกนะค๊ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 08-10-2015 20:52:11
 :-[แค่นี้ก็เขินแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-10-2015 20:58:22
เอายาแก้ปวดมาให้กันแต่หัววันแบบนี้นี่กลัวขาดคู่ตีเทนนิสหรือกลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าจันทร์จ้าวกันแน่คะคุณหมอ :m3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 08-10-2015 21:08:44
สนุกกกก
จันทร์จ้าวน่าปราบพยศจริงๆ หึหึหึ
คุณหมอจัดไป
ตอนนี้คุณหมอออกเยอะล่ะ สงสัยจะได้ค่าตัวเพิ่ม อิอิ

ทำยังไงให้พี่อาทิตย์พูดเยอะกว่านี้น่าาา
เอาข้าวเกรียบปากหม้อล่อ???
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-10-2015 21:19:16
คุณหมอคงเอ็นดูเด็กดื้อ แสนอวดดีคนนี้แน่ๆ
เห็นทีนายเภาจะกินแห้วซะแล้ว แต่ถ้าเบนความสนใจไปที่คนอื่นเนิ่นๆก็จะดีนะ คู่คุณพิมจะได้ไม่มีก้าง อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 08-10-2015 21:26:08
คุณหมอนี่ก็ต้องท่านชายพจน์ปรีชาสินะคะ ^o^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-10-2015 21:30:43
ให้ทายาด้วย ?

 :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 08-10-2015 21:31:25
ตอนอ่านปริศนา ไม่เคยคิดคู่ท่านชายพจน์กับประวิชเลยนะ

แต่พอคุณคนเขียนพูดถึงเท่านั้นแหละนึกภาพคุณหมอกับคุณหนูจันทร์

เป็นคู่นั้นทันที ม่วนใจหลาย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 08-10-2015 21:38:57
 :-[ โอ๊ย ฟินนนนนน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 08-10-2015 21:40:29
ฟินทุกคู่ :-[

มันช่างสนุกอะไรเยี่ยงนี้ กรี๊ดแตกกับภาษาอันไพเราะ ชอบมากกกกก :hao7: :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 08-10-2015 21:41:17
ตามถึงบ้านเชียวนะคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 08-10-2015 21:46:05
น่ารักจริงๆเลยคุณจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-10-2015 21:46:30
ตีเทนนิสกัน นวดกัน ชวนเข้าบ้านทายา แหม่...ขอฟินล่วงหน้าก่อนได้ไหม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 08-10-2015 21:55:59
ยิ้มเเก้มแตก :katai2-1:

จันทร์จ้าวดูน่าเอ็นดูสุดๆ  ไม่รู้ในหัวคิดอะไรไม่คิดเลยว่าจันทร์จ้าวจะขอให้คุณหมอช่วยทายาจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 08-10-2015 21:59:13
คุณหมออยากปราบหนูจันทร์ใช่มั้ยคะ แอร้ยยยยชอบ
รอตนอต่อไปค่ะ หมอคะ จัดการเด็กดื้อเลยค้าาา :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 08-10-2015 22:00:45
ชอบนิยายแนวนี้มากค่ะ มาเกาะขอบเรื่องนี้ด้วยคน ชอบมากกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-10-2015 22:06:18
ตอนนี้ไม่แสดงความคิดเห็นอะไรมากบอกได้แค่ว่า #ทีมคุณหมอ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 08-10-2015 22:06:33

:-[ :-[ หมอภวัต...เริ่มมีใจ ให้ จันทร์จ้าวแล้วใช่ไหมเนี่ย :-[ :-[

  อ๊ายยยยยย   รอฉากทายาให้กัน  อิอิ

 :o8:

   :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 08-10-2015 22:25:22
ใกล้กันเข้าไปอี๊กกกก ขอฉากทายาหน่อยค่ะ ฟินล่วงหน้า :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 08-10-2015 22:26:03
หึหึ
ท่าทางจะเป็นคุณหมอที่จะตกหลุมรักคุณจันก่อนเสียแล้วสิ

ขอบคุณพี่บัวที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 08-10-2015 22:52:49
อ่านแล้วมีความสุขมาก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 08-10-2015 23:14:18
จันทร์เจ้ามาแบบยาว ๆ อ่านคุ้มเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-10-2015 23:18:59
โอ้ยยยย หลงจันทร์เจ้ามากกกก
ทั้งดื้อ ทั้งซน น่ารักสุดๆ
อ่านแล้วนึกถึงพี่โตกับของขวัญเลย คึคึ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 08-10-2015 23:31:19
หนูจันทร์ก็ซึนพอสมควรอ่ะ
น่าร้ากกกกก
คุณหมอจะไม่เอ็นดูยังไงไหว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveYoukissme ที่ 08-10-2015 23:34:24
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 08-10-2015 23:34:39
มาเเล้วพ่อคุณเอ๋ย เป็นเรื่องนึงที่มีคู่ชายหญิงเเล้วชอบนิหละ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 08-10-2015 23:54:08
ว้ายยยยย คุณชายจันทร์เริ่มน่ารักขึ้นมาแล้ว :)
เป็นเหมือนประวิชก็พอไหวอยู่ แต่เหมือนคุณยศด้วยเห็นทีจะมิเหมาะกระมัง5555

อ่านปล้วรู้สึกเหมือนหมอแอบพึงใจคุณจันทร์ก่อนนะเนี่ย
ถ้ารู้ใจตัวเองแล้วจะเป็นไงน้าาาา555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-10-2015 23:58:23
ติดใจเด็กดื้อแล้วใช่ไหมคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: aiLime13 ที่ 09-10-2015 00:41:37
ตายแล้วพ่อจันทร์!!
ชวนผู้ชายเข้าบ้านแบบนี้ได้ยังไงงงง
แล้วยังให้คุณหมอทายาให้อีก ทำไมน่าหยิกอย่างนี้  :-[

อ่านแล้วรู้สึกอยากให้ตอนหน้ามาไวๆ มากค่ะ 555555555
ขอดูฉากทายา (>_<) ก๊ากกกกกกกกก

นี่ลุ้นทั้งสองคู่เลยค่ะ อยากให้พี่อาทิตย์กับคุณพิมพ์สมหวัง
ส่วนคู่ของคุณหมอกับพ่อจันทร์ อันนี้ต้องลุ้นให้นายเอกเลิกปากแข็งให้ได้ก่อน
แหมๆๆ ทำเป็นไล่เค้า หงุดหงิดใส่เค้างั้นงี้ แต่จริงๆ แล้วตีเทนนิสก็สนุกดี แถมคนนวดก็ดีใช่มั้ยล้าา 5555

อ่านแล้วก็รู้สึกว่าคุณหมอดี๊ดีค่ะ ส่วนพ่อจันทร์นี่น่าหมั่นเขี้ยวน่าหยิกเหลือเกิน

รอตอนหน้าาาาาาา

ปล.

อ้างถึง
อาทิตย์เองก็เข้าไปทักทายกับภวัตและเภาอย่างคนรู้จักคุ้นเคย ส่วนสาวๆ ๓ คนก็เอาแต่พูดคุยกันกระจุกกระจิกเกี่ยวกับขนมที่จะลองทำในวันนี้ เหลือเพียงจันทร์จ้าวคนเดียวที่ไม่มีพวกจะเข้า!

อ่านฉากนี้แล้วฮา อยากจะบอกพ่อจันทร์เหลือเกินว่าไปทำขนมกับสาวๆ เค้าสิคะ เผื่อจะใจเย็นขึ้น 555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 09-10-2015 01:02:40
ช่วยกันเข้าบ้าน(ไปทายา)แล้วอา เขินนน   :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 09-10-2015 01:15:01
โอย...นี่เห็นน้องจอมในตัวน้องจันทร์ค่ะ ^^ คิดถึงเบาเบา

ช่างเป็นคนเอาเรื่องเอาราว แต่ช่างอ้อนดีแท้...
ท้ายที่สุดแล้ว...จะช่างแง่งอนรึเปล่า อันนี้ต้องถามคุณหมอกระมัง ^^

ปล.หมั่นไส้คุณเภา...จะส่งใครมาปราบนางหนอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 09-10-2015 03:42:36
ทำไมเราฟินคู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมมากกว่าคู่หลังอีกคะเนี่ย
ตอนเขาคุยกันแล้วอยากจะกรี๊ด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-10-2015 05:02:25
พี่อาทิตย์ขี้อาย เมื่อไหร่จะจีบติด 5555 จันทร์จ้าวน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 09-10-2015 05:15:28
ฉันสนุกเหลือเกิน ทั้งสองคู่

ลุ้นกันคนหล่ะฟีล 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 09-10-2015 06:51:33
คุณจันทร์ทำไมเอาแต่ใจขนาดนี้คะ ไม่ชอบคุณหมอแต่ชวนเข้าบ้านซะงั้น 55555
คุณหมอใจดี๊ใจดีอ่าาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 09-10-2015 07:54:41
ระวังจะทาเกินนะ.....คิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 09-10-2015 09:02:04
พี่อาทิตย์คนซื่อ โถ๋ พ่อคุณ เป็นถึงนายทหารใหญ่ กระไรเลย ยังจะมาทำเจียมเนื้อเจียมตัวอีก พ่อช่างน่าเอ็นดูนั๊ก



คุณจันทร์ ผู้แสนพยศ  คุณจันทร์ผู้แสนจะมีชีวิตชีวา คุณจันทร์ผู้ที่ไม่มีใครเหมือน



แหม แหม แหม คุณหมอ คนเรานะ เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ มาทำเป็นมองนิสัยคุณจันทร์เธอออก



คิดอะไรกับเขาแล้วซิใช่ใหม  บอกมาเลยนะ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 09-10-2015 09:22:01
จันทร์อ่อยใช่เปล่า 555555 รอการทายาจากคุณหมอนะ

ผู้หญิงบางคนก็ชอบผู้ชายขรึมสุภาพมากกว่าผู้ชายขี้เล่นนะ อย่างคุณพิมกับคุณอาทิตย์แบบนี้แหล่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-10-2015 09:56:30
โอ๊ยไม่ไหว พี่อาทิตย์กับคุณพิมก็น่ารัก  คุณหมอกับคุณจันทร์ก็น่ารัก


พี่อาทิตย์นี่เป็นผู้ชายแบบที่ดิันค่อนข้างเอ็นดูเลยค่ะ น่ารัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 09-10-2015 10:24:20
น่ารักมากเลยค่ะ อดใจรอไม่ไหวแล้วววว
เราชอบแนวนี้มากๆเลยค่ะ แต่ไม่ได้อ่านที่โดนใจมากๆมานานแล้ว  :hao5:
จะรอติดตามค่าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 09-10-2015 11:17:16
อกอิแป้นจะแตก...คุณจันทร์พาผู้ชายเข้าบ้านหรือคะ โถ...พ่อคุณช่างน่ารักน่าชังน่าเอ็นดูดีแท้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 09-10-2015 12:59:27
คุณหมอปราบเด็กดื้อแบบจันทร์เจ้าด่วนเลยค่ะ น่าตีปากมาก 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: SOO2 ที่ 09-10-2015 17:54:51
เขินทั้ง2คู่เลย  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 09-10-2015 20:05:24
แหมะ...คุณหมอ...


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 09-10-2015 20:42:21
อู้ยยยย แซวคุณจันทร์ 
รุกเร็วจังค่ะ ชวนคุณหมอเข้าบ้าน :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 09-10-2015 22:57:37
หมอคือดีมากอะ ชอบจันทร์เข้าแล้วละสิ อิอิ คงต้องปราบกันนานเลยนะเพราะพยศขนาด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 09-10-2015 23:29:59
 ตอนนี้ฟินมาก คู่อาทิตย์กับคุณพิมดูท่าจะไปได้ด้วยดี(แต่ไม่มีใครรับรู้ 555)

จันทร์เริ่มอ่อนเล็กน้อยให้คุณหมอแล้ว เย้ๆ :mc4:  :mc4:  :mc4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ooopimmyooo ที่ 09-10-2015 23:48:04
โอ้ยยยยย เหวี่ยงสุดไรสุดค่ะคุณจันทร์จ้าว
เหวี่ยงแบบนี่คุณหมอชอบใช่ม๊าาาาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Aomoto ที่ 10-10-2015 02:39:13
รอตอนคุณหมอทายาให้คะ เขินเลย  :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine538 ที่ 10-10-2015 08:03:37
ตอนนี้ น่าจะชื่อว่า มนต์รักแรกเก็ต หรือ เสน่ห์หมอนวด ได้นะคะ 555  :mew4:

คุณหมอนี่ก็ช่างเอ็นดูจันทร์เอาจริงๆ ร้ายใส่มาเท่าไหร่ก็ไม่ถือสา จันทร์ควรจะต้องเห็นคุณงามความดีของหมอให้เร็วๆนะ

ส่วนพี่อาทิตย์ เงียบแต่เร้าใจ นะคะ 555 น้องๆไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก คุณพิมเขาชอบแบบนี้  :mew1:

รออ่านตอนต่อไปค่ะ :call:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 10-10-2015 14:56:59
เพิ่งจะเห็นเรื่องนี้ค่ะคุณบัว
อ่านตั้งแต่เช้าจนทันตอนล่าสุดแล้ว สนุกมาก จะตามต่อไปนะคะ
ส่วนบุคลิกของจันทร์จ้าวตอนแรกๆทำให้นึกถึงจอมขวัญเลยค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 10-10-2015 16:01:37
ฟินนนทั้งคู่คุณหมอกะคู่พี่อาทิตย์เลยย >///<
ละมุนดีจัง ชอบๆ
อาทิตย์กะพิมเป็นคู่ชายหญิงที่น่ารักดีอ่ะ กรี๊ดพี่อาทิตย์มากกก ><//
น้องจันทร์แอบอ่อยนะ มีชวนเข้าบ้านด้วย -.,- แต่ตัดค้างมากกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 10-10-2015 18:19:27
เขินแทนพี่อาทิตย์กับคุณพิมเลย :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 10-10-2015 20:34:44
น่ารักทั้งสองคู่เลยค่าาาา  นี่แอบลุ้นคู่พี่อาทิตย์เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 11-10-2015 19:34:02
ชวนผู้ชายเข้าบ้านนะหนูจันทร์ :hao7:

  :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 11-10-2015 22:54:17
อย่าเพิ่งจบสิ ทายากันก่อนนนนนนน :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 11-10-2015 23:49:57
จันเอาแต่ใจตัวเอง  สงสารหมอจัง :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 12-10-2015 03:52:01
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 12-10-2015 10:04:44
คุณจันทร์น่ารักออก...
น่าปราบผยศจริงๆ. หมอรีบปราบเข้าน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 12-10-2015 21:02:49
 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 13-10-2015 08:45:26
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 13-10-2015 12:07:40
จุดพลุให้ความสัมพันธ์.  :mc4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 13-10-2015 12:18:14
เหม่ๆ หมอนี่ยังไงคะ... ออกตัวชัดเจนเหลือเกินว่าเอ็นดูคุณจันทร์
เสียดายจริงๆที่คุณนภาหรือคุณดารามิใช่สาววาย...
ไม่อย่างนั้นคุณหมอคงรู้ตัวไปแล้วว่าสายตาที่ตราตรึงใจของคุณจันทร์ที่คุณหมอจำได้นั้น คือบ่อเกิดของความรักเกินเกลอแน่ๆแล้ว

รอลุ้นคุณหมอกับคุณจันทร์ต่อไปค่ะ...
อยากรู้เหลือเกินว่าหนุ่มเอาแต่ใจอย่างคุณจันทร์จะยอมเผยใจให้คุณหมอเมื่อไร

ขอบคุณและจะติดตามเป็นกำลังใจให้ค่ะ  :m1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 14-10-2015 16:30:15
ชอบมากกกกกก คุณจันทร์นี่น่าแกล้งให้จัดใจที่สุดอะ พี่หมอภวัตก้ใจเย็นเหลือเกิน สงสัยไม่เคยเจอของแปลกยังงี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 15-10-2015 17:45:19
แอบมารอคุณหมอกับคุณจันทร์~
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 15-10-2015 20:14:21
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๖


อาการปวดหลังปวดไหล่ของจันทร์จ้าวดีขึ้นมาก


ชายหนุ่มหมุนหัวไหล่เพื่อดูอาการว่ายังปวดมากน้อยเพียงใด ก็พบว่าแม้จะยังปวดหนึบ แต่ก็ดีขึ้นมาก เพราะเมื่อวานตอนเช้ามีใครบางคนเอายามาให้ถึงที่ ซ้ำพอเขาขอให้ช่วยทาให้ก็บริการอย่างดี แม้ตอนเย็น ใครคนนั้นจะไม่ได้แวะมาและจันทร์จ้าวก็เอื้อมมือไปทาเองไม่ถึงเลยไม่ได้ทายา แต่เช้าวันนี้อาการกลับดีขึ้น ถึงวันนี้จะไม่ได้ทายาอีก เพราะไม่มีคนทาให้และเขาก็ทาเองไม่ถึงเช่นเคย ก็คงจะไม่เป็นไร เมื่อคิดได้อย่างนั้น ชายหนุ่มจึงหมุนตัวไปคว้าผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมเดินออกจากห้องนอนลงไปยังห้องน้ำชั้นล่าง


จันทร์จ้าวทำธุระในห้องน้ำเรียบร้อยดีก็สวมชุดคลุมแบบฝรั่งเดินออกมา กำลังจะก้าวเท้าขึ้นบันได แต่ได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านเสียก่อน จึงต้องเดินออกไปดู


รถยนต์คุ้นตาจอดขวางหน้าบ้านเขาเหมือนเมื่อวาน และคนที่ลงจากรถก็เป็นคนคนเดียวกับคนที่มาหาเขาเมื่อวานตอนเช้า


“หมอ...” เขาครางเบาๆ เพราะไม่คิดว่าวันนี้อีกฝ่ายจะมาที่นี่อีก


“สวัสดีครับ” ภวัตค้อมศีรษะเล็กน้อยเป็นการทักทาย


“อาการเป็นอย่างไรบ้าง”


“ก็...ดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังปวดๆอยู่...เอ่อ...หมอเข้ามาก่อนสิ” ไม่ทราบอะไรดลใจ เจ้าบ้านจึงปลดกลอนเปิดประตูรั้วให้คนมาเยือนได้เข้ามา ภวัตถึงได้เห็นเต็มตาว่าอีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมทำจากผ้าขนหนู ดูท่าคงอาบน้ำเสร็จพอดีตอนที่เขามาถึง

   
“เมื่อวานขอโทษทีที่ไม่ได้แวะมาหาตอนเย็น พอดีคนไข้เยอะ วันนี้เลยตั้งใจจะมาทายาให้คุณ” เขาเอ่ยปาก ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับรู้สั้นๆ


“ขึ้นไปบนบ้านสิ” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้น ก่อนจะเดินนำขึ้นบ้าน ร่างสูงก้าวเท้าตาม นี่เป็นครั้งที่ ๒ ที่เขาเข้ามาที่นี่ ห้องอเนกประสงค์ที่มีชุดเก้าอี้ไม้อยู่มุมหนึ่ง อีกมุมเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็ก มีตู้หนังสือ เครื่องเล่นแผ่นเพลง เรียบง่ายสำหรับคนรักสันโดษ

   
“หมอนั่งรอเดี๋ยว ผมขอแต่งตัวสักครู่” เจ้าของบ้านว่าอย่างนั้นแล้วชี้ไปที่เก้าอี้บุนวม ภวัตเดินไปนั่งรออย่างว่าง่ายเมื่อจันทร์จ้าวผลุบหายเข้าไปในกรอบประตูฝั่งหนึ่ง แต่อีกครู่ต่อมาร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อคลุมก็ออกมาอีกหน คราวนี้มีน้ำเปล่าใส่แก้วมาด้วย


“เดี๋ยวจะหาว่าผมเป็นเจ้าบ้านไร้มารยาท...” จันทร์จ้าวออกตัวตอนที่วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเล็กตรงหน้าชายหนุ่ม ภวัตอยากจะหัวเราะออกมาแต่ก็กลัวคนเอาน้ำมาให้เปลี่ยนใจเป็นสาดน้ำใส่หน้าเขาเสียก่อน เลยต้องกลั้นยิ้มจนกระทั่งอีกฝ่ายผลุบหายเข้าไปด้านในอีกครั้ง เขาถึงได้เผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างนึกเอ็นดู



เจ้าของบ้านหายเข้าไปด้านในอยู่ครู่ใหญ่ ออกมาอีกทีก็สวมกางเกงสแล็กแล้ว แผ่นอกเปลือยเปล่าเผยกล้ามเนื้อแบบผู้ชาย แม้จะไม่เป็นลอนเหมือนฝรั่ง แต่ก็สมส่วน ในขณะที่เสื้อเชิ้ตยังอยู่ในมือซ้าย ส่วนมือขวามีหลอดยาที่ภวัตทิ้งไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวาน



คุณหมอหนุ่มเห็นเข้าก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาแล้วรับหลอดยามาบีบ



“เมื่อวานตอนเย็นได้ทาไหมครับ” เขาถาม แล้วแต้มยาลงนวดคลึงบริเวณที่อีกฝ่ายปวดเมื่อย



“ไม่ได้ทาหรอก ผมทาเองถึงเสียที่ไหนล่ะ อื้อ...หมอ...ตรงนั้นมันเจ็บ...” ภวัตเหลือบมองใบหน้าขาวที่เอี้ยวมาด้านหลัง ดูท่าเจ้าตัวคงยังปวดอยู่ เขาจึงชวนคุย


“ตอนแรกผมก็ตั้งใจจะแวะมา แต่พอดีมีคนไข้เข้ามา กว่าจะจัดการเรียบร้อย มาถึงที่นี่ก็เห็นไฟปิดเงียบ คิดว่าคุณคงหลับไปแล้ว” คำพูดของคนที่กำลังทายาให้ที่หลังของเขาทำให้จันทร์จ้าวอดไม่ได้ต้องเหลือบตาไปมอง


...ทั้งๆที่ทำงานจนดึก แต่ก็ยังอุตส่าห์แวะมาอย่างนั้นหรือ...


“ถ้าวันนี้ตอนเย็นมาไม่ได้ พรุ่งนี้ผมจะแวะมาดูให้อีกทีนะครับ” นายแพทย์หนุ่มว่าอย่างนั้น แล้วปิดหลอดยาส่งคืนให้ จันทร์จ้าวเหลือบมองใบหน้าคมคายที่ยังคงมีรอยยิ้มจางติดอยู่เสมอ



   “ขอบคุณ” เพราะความปรารถนาดีที่มีให้ ถึงจะยังไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไร แต่จันทร์จ้าวก็ไม่ใช่คนไร้มารยาท


   “ผมเองก็ขอบคุณเช่นกัน...สำหรับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว...” ภวัตพูดพลางยิ้มแล้วบุ้ยใบ้ไปที่แก้วน้ำที่ยังวางอยู่ตรงโต๊ะเล็กหน้าชุดเก้าอี้ จันทร์จ้าวถึงกับอ้าปากค้างที่ถูกอีกฝ่ายหยอก เลยทำตาขวางแล้วถามเอาเรื่อง


   “หมออยากได้อะไรอีกล่ะ?!”


   “อยากได้คู่ตีเทนนิสครับ” คำพูดตรงๆ ทำเอาคนกำลังจะหงุดหงิดกลายเป็นค้างกลางคัน ถึงจะเป็นเพราะเทนนิสที่ทำให้เขาปวดหลังปวดไหล่เช่นนี้ แต่จันทร์จ้าวก็ไม่ปฏิเสธว่าเทนนิสที่ได้ตีโต้กับภวัตเป็นเกมที่สนุกที่สุดนับตั้งแต่กลับเมืองไทย


   “วันนี้ผมยังตีไม่ไหว” ชายหนุ่มเจ้าของบ้านบอกเสียงแผ่ว แต่ภวัตยังคงยิ้มจาง


   “ไว้คุณหายก่อนก็ได้ แล้วเราค่อยไปตีเทนนิสด้วยกันอีก ได้ไหมครับ”


   “อืม...” นายแพทย์หนุ่มยิ้มรับคำตอบรับนั้นด้วยความยินดี เขากำลังจะเอ่ยปากขอตัว แต่คนตรงหน้ากลับพูดขึ้นมาเสียก่อน


   “แล้วหมอจะไปโรงพยาบาลเลยไหม...”



ดวงหน้าขาวก้มต่ำ ไม่ยอมสบตาเขา แต่ภวัตไม่ได้ติดใจอะไร เพราะสบตากันทีไร ดวงตากลมใหญ่คู่นั้นก็มักจะมองเขาอย่างเอาเรื่องทุกที ไม่ได้ถามเสียทีว่าเพราะอะไรถึงได้ชอบทำตาขวางใส่เขานัก แต่...ถามตอนนี้ไม่ได้ เกิดเจ้าตัวหงุดหงิดกับคำถามของเขาขึ้นมา ประเดี๋ยวเขาก็อดได้คู่เทนนิสฝีมือเยี่ยมที่ชื่อจันทร์จ้าวมาตีเทนนิสด้วยพอดี...


   “ครับ คุณจันทร์ถามทำไมหรือ”



   “ก็...ว่าจะชวนไปทานข้าวเช้าด้วยกัน แต่ถ้าหมอต้องไปทำงาน ก็ไม่เป็นไร” ชวนโดยไม่มองหน้า ยิ่งทำเอาภวัตนึกเอ็นดู


   “น่าเสียดาย วันนี้ผมต้องรีบไปดูคนไข้ ถ้าเป็นพรุ่งนี้...คุณจะสะดวกไหม” ดวงตากลมใหญ่เหลือบขึ้นมองสบคนนัด ดวงตาคู่นั้นไม่ได้เปล่งประกายไปด้วยความโกรธเคืองหรือนึกขวางเหมือนที่แล้วๆมา มันใสแจ๋วราวกับลูกแก้ว



   “พรุ่งนี้ก็ได้...” ริมฝีปากสีจัดเอื้อนเอ่ยคำตอบ แล้วรอยยิ้มจางของภวัตก็กลายเป็นรอยยิ้มกว้างด้วยความยินดี


…………………………………………..



   ไม่ใกล้ไม่ไกลกับบ้านเช่าทาสีเขียวอ่อนของจันทร์จ้าวคือวังฉัตร หม่อมหลวงพิมพัชราออกไปสอนหนังสือที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีแล้ว ในตึกจึงเหลือนายเพียง ๒ คนคือหม่อมราชวงศ์ฉัตรและหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเท่านั้น แต่แม้จะเหลือเพียงสองพ่อลูก แต่ห้องอาหารกว้างขวางก็ยังถูกเปิดใช้ เนื่องจากคุณชายฉัตรต้องรับประทานมื้อเช้าตรงเวลาเป็นกิจวัตร นิสัยอย่างนี้สืบทอดมาที่บุตรชายคนใหญ่ด้วย



   “พ่อก็ลืมถาม เมื่อวันก่อนคนที่มากับคุณหมอน่ะ ชื่ออะไร” คุณชายฉัตรตั้งคำถาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บุตรชายพาเพื่อนๆมาตีเทนนิสและขับเรือเล่น ล้วนมีแต่คนหนุ่มสาว ที่ท่านคุ้นหน้าคุ้นตาดีคือ ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์และคุณหมอภวัต แต่ชายหนุ่มอีกคนที่ติดตามมากับภวัตด้วย เขามองหน้าไม่ถนัด



   “คุณเภาครับ เป็นน้องชายคุณหมอ”


   “อ้อ...อย่างนั้นหรือ...” คุณชายฉัตรรับคำพลางตักข้าวต้มเข้าปาก หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองบิดาด้วยความอยากรู้


   “เอ่อ...คุณพ่อ...ได้ลองทาบทามคุณหมอดูหรือยังครับ” คราวนี้บิดาเงยหน้ามอง พลางยิ้มจาง


   “ถามดูแล้ว เธอว่าเธอยังไม่ได้คิดเรื่องครอบครัว น่าเสียดาย ว่าแต่...พ่อพงศ์ถามทำไมหรือ? หรือมีใครจะแนะนำให้พ่อรู้จัก” บุตรคนใหญ่ของคุณชายเพียงยิ้มจาง ด้วยเพราะเขายังไม่ทราบว่า ‘ทหารที่อยากมาเป็นเขยวังฉัตร’ ที่จันทร์จ้าวพูดถึงเป็นใคร เขาควรจะได้รู้จักเสียก่อน แล้วจึงค่อยพามาให้บิดาพบหน้า


   “ผมก็ถามดูว่าคุณหมอเธอว่าอย่างไร จริงสิ ผมว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับจันทร์กลับเมืองไทย กลับมาตั้งเดือนกว่าแล้ว ผมยังไม่ได้เลี้ยงต้อนรับเสียที คุณพ่อว่าอย่างไรครับ” หม่อมราชวงศ์ฉัตรยิ้มอย่างใจดี


   “ดีสิ ถ้าอย่างนั้นพ่อจะจัดงานเลี้ยงให้เอง พ่อจันทร์ก็คนกันเอง ตอนงานเลี้ยงต้อนรับแม่พิม คุณหญิงผกาก็มาช่วยงานตั้งแต่เช้า คราวนี้ตาพ่อจันทร์ พ่อก็อยากจะตอบแทนสักหน่อย พ่อพงศ์ไปบอกบ้านนั้นด้วย ว่าพ่อจะจัดงานเลี้ยงให้”   


   “ได้ครับคุณพ่อ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม



………………………….



   แม้จะรับปากบิดาว่าจะนำเรื่องงานเลี้ยงต้อนรับมาบอก อีกทั้งยังร่วมหุ้นเปิดบริษัทด้วยกัน แต่ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรและจันทร์จ้าวก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกร่วมสัปดาห์ เพราะหม่อมหลวงพงศ์ภราธรต้องติดตามบิดาไปทำกิจธุระอย่างอื่น กว่าจะว่างนัดหมายกับเพื่อนรักได้ก็บ่ายวันศุกร์



   “ฮัลโล คุณพงศ์ สวัสดีคุณวินิต”



สถานที่นัดไม่ใช่ที่อื่นไกล สโมสรเทนนิสนั่นเอง จันทร์จ้าวยังคงมีสีหน้าแจ่มใสเหมือนทุกที เจ้าตัวถือแรกเก็ตเข้ามาที่คอร์ด ซึ่งหม่อมหลวงพงศ์ภราธรกำลังตีเทนนิสเล่นอยู่กับนายวินิต
 


   “รอเดี๋ยว จันทร์ ขอกันชนะคุณวินิตก่อน” ราชนิกูลหนุ่มพูดพลางยิ้มแย้ม นายวินิตทำเป็นโอดครวญแต่ก็ยังตีโต้กับอีกฝ่ายอย่างสนุก จันทร์จ้าวได้แต่ยิ้มจาง พลางเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ข้างคอร์ด ดวงตากลมใหญ่มองผ่านไปทั่ว ถัดออกไปอีกคอร์ดหนึ่งมีสตรีงามที่เขายังไม่เคยรู้จักกำลังนั่งดื่มเครื่องดื่มอยู่ข้างสนาม เขาจับจ้องหล่อนพลางส่งยิ้ม และหล่อนก็มอบรอยยิ้มตอบกลับมาให้เขา



   ...พักนี้เขาไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนผู้หญิงคนไหนเสียด้วยสิ กับพวกคุณๆทั้งหลายที่เคยสนุกด้วยกัน เขาก็เบื่อไปนานแล้ว...



   จันทร์จ้าวเห็นโอกาสที่จะได้เพื่อนผู้หญิงคนใหม่ เขาเหลือบตากลับไปมองในคอร์ดก็เห็นว่าเพื่อนรักกำลังสนุกกับการตีเทนนิส กว่าจะตีจบก็คงอีกพักหนึ่ง เขาเองก็ไม่ควรปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์


   ชายหนุ่มยังคงจับจ้องไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ริมคอร์ดถัดไป หล่อนเองก็ยังไม่ยอมละสายตาไปจากเช่นกัน เขากำลังจะลุกจากเก้าอี้ที่นั่งเพื่อไปพูดคุยทำความรู้จัก ทว่าเสียงของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรจากในคอร์ดดังขึ้น


   “คุณหมอมาพอดีเลย!”


   จันทร์จ้าวละสายตาจากหญิงสาวแล้วหันมองตามเสียงนั้นทันที ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสำหรับเล่นกีฬาเดินเข้ามาในสโมสรพร้อมด้วยน้องชาย ฝ่ายนั้นยังคงมีรอยยิ้มจาง ราชนิกูลหนุ่มเห็นจากในสนามว่านายแพทย์ภวัตเดินเข้ามาใกล้คอร์ดแล้วก็รีบเก็บลูกที่กำลังตีอยู่ ก่อนจะตรงดิ่งออกจากคอร์ดมาหาทันที ด้วยเกรงว่าจันทร์จ้าวที่เคยแผลงฤทธิ์เมื่อครั้งไปเจอกันที่วังฉัตรจะยังขุ่นเคืองคุณหมอจนเอาแรกเก็ตฟาดหน้าไปเสียก่อน


   “สวัสดีครับ คุณหมอ คุณเภา” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรค้อมศีรษะทักทายพร้อมรอยยิ้ม



   “สวัสดีครับ ขอบคุณที่นัดผมมาวันนี้ กำลังอยากตีเทนนิสอยู่พอดี”



   “คนอยากตีไม่ใช่ผมหรอก นี่ต่างหาก...” ราชนิกูลหนุ่มบุ้ยใบ้มาที่เพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างๆ จันทร์จ้าวไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย เพราะตอนแรกเคยรับปากว่าถ้าไหล่และหลังหายปวดจะเป็นคู่ตีเทนนิสด้วย แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขากลับชวนแค่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเพียงผู้เดียว เพราะนึกประหลาดที่จะต้องชวนภวัตมาตี ทั้งๆที่ไม่ได้คบหาสนิทใจกันแต่อย่างใด



   แม้ใจจะรู้ว่าตนผิดสัญญา และไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย แต่ดวงตากลมก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมอง และพอเห็นสีหน้าอ่อนโยนและรอยยิ้มจางเฉกเช่นทุกที เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิม



   ...ที่หายปวดได้ก็เพราะภวัตเอายามาให้ และแวะมาทายาให้ทุกวัน...ทั้งๆที่งานที่โรงพยาบาลก็ยุ่งออกปานนั้น แต่ก็ยังมีน้ำใจกับเขา...



   “แต่ไม่รู้ว่าอยากตีเทนนิสแน่ไหม เพราะเมื่อครู่นี้เห็นเดินเข้ามาก็มองผู้หญิงตั้งแต่คอร์ดแรกยันคอร์ดสุดท้าย” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดกลั้วหัวเราะ



   “นั่นก็เพราะคุณพงศ์ตีกับคุณวินิตอยู่ต่างหาก จะให้ผมเข้าไปแทรกได้อย่างไร” แม้จะรู้สึกผิดกับภวัต แต่เรื่องอยู่เงียบๆให้ถูกโจมตีนั้นไม่ใช่จันทร์จ้าว เขาแก้ตัวแต่ก็ยังไม่ยอมหันไปมองหน้านายแพทย์หนุ่มอยู่ดี



   “อ้อ ก็เลยมองฆ่าเวลาอย่างนั้นหรือ”



   “ก็...ประมาณนั้น...คุณพงศ์จะตีเทนนิสไหม ถ้าจะเอาแต่คุยกัน ผมจะได้กลับ” เพราะไม่อยากกลายเป็นเป้าของบทสนทนา ซ้ำจันทร์จ้าวยังรู้สึกว่ากำลังถูกนายแพทย์หนุ่มจับจ้อง แม้เขาจะไม่กล้าหันไปมองให้ชัดว่าถูกมองอยู่จริงไหม แต่ก็อยากเลี่ยงสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี่ไปเสีย


   ...รู้อยู่หรอกว่าต้องขอโทษ...รู้อยู่หรอกว่าผิดคำพูด...แต่...จะให้ขอโทษต่อหน้าธารกำนัลทั้งสนามเทนนิส ก็เห็นจะไม่ไหว...


   “ตีสิ แหม...ชวนคุยแค่นี้ มีน้ำโหไปได้ แล้วเราจะคู่กันอย่างไรดี” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งคำถาม ตอนนี้มีสมาชิกถึง ๕ คน รวมนายวินิตด้วย แต่รายนั้นออกตัวขอพักเหนื่อยก่อน จึงเหลือเพียง ๔



   “ถ้าอย่างนั้นเป็นผมกับจัน...” ราชนิกูลหนุ่มกำลังจะตัดสินใจ แต่เสียงของเภาที่ยืนเงียบๆมาตั้งแต่ต้นดังขึ้นเสียก่อน


   “ให้คุณจันทร์คู่กับพี่ภวัตบ้างดีไหมครับ?!”


คนทั้งกลุ่มหันมองคนเสนอเป็นตาเดียว และเมื่อนั้น เภาถึงรู้สึกตัวว่าเขาใจเร็วอยากจะสนิทสนมกับสกุลฉัตราภาสมากเกินไป จนออกตัวว่าจะขอคู่กับราชนิกูลหนุ่ม แต่...ถ้าเขาไม่เปิดโอกาสให้ตัวเอง แล้วเมื่อไรเขาจะได้สนิทสนมกับคนวังฉัตร แล้วเมื่อไร เขาจะได้พูดคุยกับหม่อมหลวงพิมพัชราอีก...



   “เอ่อ...ก็...ก็วันนั้น...พี่ภวัตกับคุณจันทร์แข่งกันมาแล้ว คราวนี้ก็น่าจะลองคู่กันบ้าง...” คำพูดของเภา ทำให้จันทร์จ้าวเหลือบไปสบตากับภวัตในทันที ก่อนจะเป็นฝ่ายเบี่ยงสายตาหนีไปทางอื่นอีกหน



   “จริงสิ...ให้คนเก่งกับคนเก่งคู่กันเองก็น่าสนนะคุณเภา อาจจะมีเหยียบเท้ากันบ้างก็ได้ แต่ถ้าเขาไม่เหยียบเท้ากันเอง แล้วเราจะสู้เขาไหวหรือ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดอย่างนึกสนุก แล้วหันมาถามน้องชายของคุณหมอ เภามีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นเมื่อดูท่าแล้วไม่มีใครสงสัยในข้อเสนอของเขา



   “ไหวซีครับ! ผมจะสู้สุดกำลัง!” เภาเชื่อว่าเขาเองก็ฝีมือไม่เป็นสองรองใคร ถ้าจับคู่กับหม่อมหลวงพงศ์ภรราธรก็คงพอสู้กับภวัตและจันทร์จ้าวได้อย่างสนุก และการคู่กันของเขา ก็อาจจะทำให้เภาสนิทสนมกับคนวังฉัตรมากขึ้น แล้วเมื่อนั้นหม่อมหลวงพิมพัชราจะไปไหนเสีย!



   “ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยม! ไปกันคุณเภา เราต้องวางแผนกันก่อน!” ราชนิกูลหนุ่มเดินถือแรกเก็ตลงไปรอที่สนาม มีเภาตามลงไปด้วย จึงเหลือเพียงแค่ภวัตและจันทร์จ้าวที่ยังยืนอยู่ที่เดิม



   “ไหล่หายดีแล้วหรือครับ” และเพราะเหลือกันเพียงสองคน ภวัตจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน



   “อืม...”



   “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าแพ้เขานะครับ ผมพอจะรู้ทางของนายเภาอยู่ คุณเองก็คงรู้ทางคุณพงศ์ อย่าปล่อยให้สองคนนั้นชนะเราได้ล่ะ” ภวัตยังคงยิ้มจางอย่างอ่อนโยนแล้วหมุนตัวจะเดินลงคอร์ดแต่เสียงจันทร์จ้าวดังขึ้นเบาๆเสียก่อน



   “หมอ...” คนถูกเรียกหันกลับมามอง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเอาแต่ก้มลงมองมือตัวเองที่หมุนด้ามแรกเก็ตไปมา แต่ริมฝีปากสีสดขยับช้าๆ “...โกรธรึเปล่าที่ผมไม่ได้ชวนทั้งๆที่รับปากเอาไว้”



   ภวัตฟังคำพูดที่เหมือนจะขอโทษนั้นแล้วก็ได้แต่ยิ้มกับตัวเอง เขามองคนตรงหน้าด้วยสายตาเอ็นดู



   “ไม่หรอกครับ” เขาตอบสั้นๆแต่สุภาพก่อนจะเดินนำลงคอร์ด จันทร์จ้าวได้แต่มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายความรู้สึกอึดอัดที่ไม่ได้จางลงเลยสักนิด



   ...ให้อภัยกันง่ายๆอย่างนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดน่ะซี...



.............................................


   เพราะใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเสียเท่าไร ถึงแม้จะชนะคู่ของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและเภา แต่ก็ชนะอย่างสูสี ทำเอาฝ่ายคู่ต่อสู้ที่แม้จะแพ้ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มเต็มหน้า



   “เห็นไหมคุณพงศ์! ว่าแล้วว่าพวกเราต้องสู้ได้!” หลังจบเกม  ทั้ง ๔ ย้ายมานั่งพักเหนื่อยกันที่ห้องอาหารของสโมสร สั่งเครื่องดื่มกันคนละแก้วเพื่อคลายร้อน



   “นั่นซี! แพ้แต่สนุกอย่างนี้ น่าลองอีกนะ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันไปชวนคู่ของตนคุยอย่างออกรส แล้วหันไปถามความเห็นของจันทร์จ้าวที่นั่งดื่มเงียบๆ



   “ว่าอย่างไรจันทร์ เล่นอีกไหม”



   “ไม่ได้หรอก ผมต้องไปรอพี่อาทิตย์ที่กรมก่อน ๕ โมงเย็น” เภาทำหน้าเสียดาย เขากำลังสนุกกับการตีเทนนิส และการได้ใช้กีฬาเชื่อมสัมพันธ์ เทนนิสทำให้เขาเริ่มสนิทสนมกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรแล้ว และในไม่ช้าชายหนุ่มเชื่อว่าเขาต้องได้สนิทสนมกับน้องสาวของราชนิกูลหนุ่มแน่



   “งั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นกลับพร้อมกันไหม กันจะไปส่งที่กรมให้”



   “ไม่เป็นไร ผมกลับเองได้ คุณพงศ์จะเล่นต่อก็เล่นเถอะ” จันทร์จ้าวพูดพลางหันไปมองนาฬิกากลมที่แขวนบนฝาผนัง เขาควรจะออกจากสโมสรได้แล้ว จะได้ไปถึงกรมของอาทิตย์ทัน ๕ โมงเย็น



   “แต่...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรไม่ใช่คนจะปล่อยให้เพื่อนรักไปหาสามล้อหรือลำบากลำบนในการเดินทาง เขากำลังจะยืนยันว่าจะเป็นคนไปส่งที่กรม แต่ภวัตเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน



   “คุณพงศ์เล่นต่อเถอะครับ นายเภาเองก็คงอยากเล่นต่อเช่นกัน ผมจะไปส่งคุณจันทร์ที่กรมให้เอง” จันทร์จ้าวหันมองคนเสนอตัวด้วยไม่คิดว่าเขาจะขันอาสาอย่างมีน้ำใจขนาดนี้



   “อ้าว แล้วคุณเภาไม่ต้องกลับพร้อมคุณหมอหรือ” ราชนิกูลหนุ่มตั้งคำถาม



   “ไม่ต้องครับ ผมกับพี่ภวัตมารถคนละคัน” เภารีบปฏิเสธ ภวัตกำลังเปิดทางให้เขาได้สนิทสนมกับคนวังฉัตร ขืนเขาไม่ปฏิเสธก็โง่อย่างหาตัวจับยากแล้ว



   “คุณพงศ์อยู่ตีเทนนิสก่อนเถอะ ผมจะกลับล่ะ ให้คุณหมอเขาไปส่ง” จันทร์จ้าวตัดสินใจ ถึงแม้จะไม่ได้อยากกลับพร้อมกับภวัต แต่เห็นท่าทางของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ดูออกว่าอีกฝ่ายยังอยากตีเทนนิสต่อ เลยหาทางออกเพื่อให้เพื่อนรักไม่ต้องห่วงใยเขาเกินไป



   “เอาอย่างนั้นหรือ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้แต่ครางรับ ซึ่งจันทร์จ้าวก็พยักหน้าซ้ำอีกหน ก่อนจะบอกลาแล้วถือแรกเก็ตออกจากห้องอาหารไป ภวัตบอกลาราชนิกูลหนุ่มแล้วจึงเดินตามออกไปเช่นกัน หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองตามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ไม่รู้สองคนนี้ดีกันตั้งแต่เมื่อไรสิน่า



“อ้าว! ลืมบอกเรื่องงานเลี้ยง!!” ราชนิกูลหนุ่มครวญเมื่อคนทั้งคู่เดินหายลับออกไปจากห้องอาหารของสโมสรเทนนิสแล้ว


“งานเลี้ยงอะไรหรือครับคุณพงศ์”



“ก็งานเลี้ยงต้อนรับนายจันทร์น่ะซีครับ ผมลืมบอกเจ้าตัวจนได้ว่าคุณพ่อของผมจะจัดงานเลี้ยงให้” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรว่าอย่างนั้น แต่ก็ดูจะไม่จริงจังมากนัก เขายังมีเวลาพบหน้าเพื่อนอีกนาน บอกเมื่อไรก็คงไม่เสียหาย ทว่าสำหรับเภาที่ได้ยินว่าคุณชายฉัตรจะจัดงานเลี้ยงให้จันทร์จ้าวกลับรู้สึกไม่ชอบใจนัก



...จันทร์จ้าวเป็นศัตรูฟ้าประทานของเขาจริงๆ!!...


...................................   



   ลานจอดรถหน้าสโมสรนั้นมีรถจอดอยู่ประปราย แต่ทั้งอย่างนั้นจันทร์จ้าวก็จำได้ดีว่ารถของนายแพทย์หนุ่มคือคันไหน เพราะเคยมาจอดที่หน้าบ้านเขาอยู่ ๓ วันเพื่อมาทายาให้ ซ้ำในเช้าวันที่สามยังเป็นรถคันนี้ที่พาเขาไปรับประทานมื้อเช้าด้วยกัน ก่อนที่หลังจากนั้นจะไม่ได้เจอกันอีก จนกระทั่งวันนี้



   “หมอส่งผมแค่ที่ถนนใหญ่ก็พอ ผมไปเองได้” จันทร์จ้าวเอ่ยปากกับคนที่เดินตามเขาออกมา


   “ผมบอกคุณพงศ์ไปแล้วว่าจะไปส่งคุณที่กรม คุณพงศ์เธอเป็นห่วงคุณนะครับ คงกลัวว่าคุณจะไถล” ภวัตหยอกในข้างท้าย ทำเอาดวงตากลมใหญ่ชักจะขวางเขาขึ้นมาอีก ชายหนุ่มรีบชักชวนให้ขึ้นรถ



   “ไปเถอะครับ”



   รถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มเคลื่อนตัวออกจากสโมสรเทนนิสไปตามถนนสายหลัก กรมของอาทิตย์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ภวัตเคยไปเพราะบิดาของเขาก็สังกัดอยู่ที่กรมเดียวกันนี้



   ภายในรถเงียบจนจันทร์จ้าวอึดอัด เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนใจร้ายเหลือประมาณ ทั้งๆที่อีกฝ่ายมีน้ำใจกับเขาถึงเพียงนี้ ทั้งเอายาไปให้ แวะไปทายาให้ทุกเช้า หนำซ้ำวันนี้ยังขันอาสาพาไปส่งอีก



   “หมอ...ไม่โกรธผมจริงหรือ ที่ไม่ได้ชวนมาตีเทนนิส” สุดท้าย เพราะความอึดอัดคับอก จันทร์จ้าวจึงต้องเอ่ยปากถาม



   ภวัตหันมองแล้วยิ้มจางเช่นทุกที



   “จริงสิครับ ผมแปลกใจด้วยซ้ำ ทั้งๆที่เราไม่ได้นัด แต่นี่ก็ครั้งที่สองแล้วที่ได้ตีเทนนิสด้วยกัน ครั้งแรกก็ที่วังฉัตร ครั้งที่สองก็ที่สโมสร แปลกดีนะครับ สงสัยชาติที่แล้วเราจะทำบุญร่วมกันมามาก ชาตินี้เลยได้เล่นเทนนิสด้วยกันทั้งๆที่ไม่เคยนัดกันเองเลย” คนฟังหัวเราะเบาๆกับข้อสันนิษฐานของคุณหมอหนุ่ม



   “หมอนี่เปิ่น”



   “อย่างนั้นหรือครับ แต่ผมคิดอย่างนั้นจริง คนเราไม่ได้ทำบุญร่วมกันมา จะได้ทำอะไรด้วยกันอย่างนี้หรือ”



   “ทำอะไรด้วยกันที่หมอว่าน่ะ คือตีเทนนิสนะ”



   “ก็ไม่ต่างกันหรอก” จันทร์จ้าวยังอดจะหัวเราะไม่ได้ ดูเหมือนหมอภวัตจะฝังหัวไปเสียแล้วว่าพวกเขาทำบุญร่วมกันมาจริงถึงได้เล่นเทนนิสด้วยกันอย่างนี้



   “อ้าว กลายเป็นเรื่องขันไปเสียแล้ว” ภวัตหันมาหยอกทั้งรอยยิ้ม แม้จะรู้ว่าเรื่องที่จันทร์จ้าวหัวเราะ ก็คือหัวเราะความคิดของเขาทั้งนั้น



   “ก็หมอตลกนี่ คิดไปได้...” หลังเสียงหัวเราะ กลายเป็นความคุ้นเคย ร่างโปร่งรู้สึกเหมือนความหนักอึ้งในอกมลายหายไป



   “แล้ววันนี้หมอไม่ทำงานหรือ”



   “ทำครับ เพิ่งออกเวรเมื่อเช้า พอดีคุณพงศ์โทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลชวนผมมาตีเทนนิสตอนบ่าย ก็เลยออกมานี่”



   “อ้อ”



   “แล้ววันนี้คุณปวดไหล่เหมือนคราวก่อนไหม”



   “ไม่แล้วล่ะ วันนี้ไม่ค่อยได้ออกแรงเหมือนวันนั้นเท่าไร จับคู่กับหมอก็ดีเหมือนกัน ผมยืนเฉยๆก็คงชนะได้ไม่ยาก ปล่อยให้หมอตีคนเดียวยังได้” ภวัตหัวเราะกับแผนการกินแรงเขาก่อนจะหยอกกลับบ้าง



   “ผมจับคู่กับคุณแล้วถูกสาวๆรุมมองมากเป็นประวัติการณ์เลย” จันทร์จ้าวยักไหล่เหมือนเป็นเรื่องปกติ รถเริ่มเบี่ยงลงซ้ายเพื่อเตรียมจอดที่หน้ากรมซึ่งอยู่ไม่ไกล แต่เสียงของคนขับที่ควรจะมีสมาธิกับการขับรถกลับดังขึ้นในวินาทีนั้น



   “...แต่อย่างไร ผมก็อยากตีแข่งกันคุณแบบครั้งแรกมากกว่า...” 



ร่างโปร่งหันมองคนพูดด้วยเพราะสิ่งที่ภวัตพูดคือสิ่งเดียวกับที่เขากำลังคิด



   ...ใช่...ถึงการจับคู่กับภวัตจะทำให้เขาไม่ต้องลงแรงในการแข่งมากนัก แต่จันทร์จ้าวก็อยากจะตีโต้กับอีกฝ่ายอย่างเอาจริงเอาจังเหมือนในครั้งแรกมากกว่า...



   ไม่มีคำพูดอะไรจากคนทั้งคู่อีก เมื่อรถจอดเลียบที่หน้ากรม



   “ขอบคุณที่มาส่ง” จันทร์จ้าวพูดแล้วเปิดประตูก้าวลงจากรถ เขาจะปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในตัวตึกของกรมเลยก็ได้ อย่างไรเสียก็ขอบคุณสำหรับน้ำใจในครั้งนี้แล้ว แต่...อะไรบางอย่างยึดขาเขาเอาไว้อย่างนั้น ชายหนุ่มช่างใจอยู่วินาทีหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงคุยกับคนที่ยังอยู่ในรถ



   “...เอาเบอร์ที่โรงพยาบาลมาหน่อยสิ เผื่อผมอยากตี จะได้โทรศัพท์ไปชวน...”


..............................................



   
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 15-10-2015 20:14:51

เพราะความเกรงใจไม่เข้าเรื่องของอาทิตย์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเขาจึงสั่งให้น้องชายไปพบที่กรมแทนที่จะยอมให้ไปรอที่วังฉัตรเช่นสัปดาห์ก่อนๆ แผนการให้อาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราได้ประสบพบหน้ากันมากขึ้นจึงไม่ใคร่จะสำเร็จเท่าไรนัก จันทร์จ้าวออกจะเอือมระอาพี่ชายคนใหญ่อยู่ไม่น้อย เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่าที่อาทิตย์นัดให้เขาไปพบที่กรมเพราะเกรงใจคนวังฉัตรที่เขา ๒ คนพี่น้องใช้วังเป็นสถานที่นัด



   ...แต่แล้วจะทำไมเล่า?! ถ้าไม่นัดให้อาทิตย์ไปที่นั่นแล้วอาทิตย์กับหม่อมหลวงพิมพัชราจะได้พบหน้ากันหรือ?! ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ มีหวังอาทิตย์ได้ชวดคุณพิมไปทั้งชีวิตจริงๆ!!...



   เมื่อแผน ๑ ดูจะไม่ค่อยสำฤทธิ์ผล คนอย่างจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ก็ย่อมมีแผน ๒ เสมอ



   บ่ายวันจันทร์ หลังจากจัดการงานที่สำนักงานเรียบร้อยดี จันทร์จ้าวก็แวะมาหาดารารัศมีที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี โชคดีว่าน้องสาวคนเล็กไม่มีสอน จึงยอมออกมาพบปะพูดคุยกับพี่ชายที่มาอย่างไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และเรื่องที่เขานำมาด้วยก็ทำให้หล่อนตกใจอย่างยิ่ง



   “อะไรนะคะ?! จะให้ดารากระตุ้นพี่อาทิตย์หรือ?!”



   “ใช่ซีจ้ะ ดาราอยู่บ้านเดียวกับพี่อาทิตย์ ดาราก็ต้องช่วย พี่จะวานนภา นภาก็ไม่ใช่คนช่างพูด วานดารานี่ล่ะเหมาะ” จันทร์จ้าวพูดแล้วยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย ดวงตากลมใหญ่พราวระยิบ



   “แล้จะให้ดาราพูดอย่างไรคะ” ในขณะที่น้องสาวยังคงมีสีหน้าเป็นกังวล หล่อนเป็นคนช่างพูดผิดกับแฝดพี่ก็จริง แต่จะให้พูดกระตุ้นพี่ชายคนใหญ่ผู้เคร่งขรึม หล่อนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร



   “ไม่ยาก ก็แค่บอกไปว่าดารามีพี่ชาย ๒ คน หากคนหนึ่งไม่ชอบคุณพิม ดาราก็จะไปขอให้อีกคนมาชอบแทน บอกไปก็ได้ว่าดาราอยากได้คุณพิมเป็นสะใภ้” ดารารัศมียกไหล่หน้าตาเหยเก



   “ฟังดูเซี้ยวอย่างไรชอบกลค่ะพี่จันทร์” จันทร์จ้าวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี



   “เซี้ยวบ้างจะเป็นไรไป ก็ทำเพื่อพี่อาทิตย์ทั้งนั้น” ดารารัศมียังมีสีหน้าไม่สู้ดี ด้วยเพราะหล่อนไม่คิดว่าวิธีการนี้จะได้ผลแต่ประการใด แต่กระนั้นจันทร์จ้าวก็ยังย้ำต่อ



   “เราทำเพื่อพี่อาทิตย์ หรือดาราไม่อยากให้พี่ชายคนใหญ่ของเราสมหวัง”



   “อยากก็อยากหรอกค่ะ แต่...แต่ให้ดาราพูด...แล้วทำไมพี่จันทร์ไม่พูดเอง”



   “ขืนพี่พูดเอง ก็จะกลายเป็นว่าพี่อาทิตย์คิดว่าพี่ชอบคุณพิมน่ะซี คราวนี้พี่อาทิตย์คงถอยหลังหนีเตลิดเปิดเปิง” นิสัยของอาทิตย์เปนอย่างไร น้อง ๒ คนทราบดี หากอาทิตย์คิดว่าจันทร์จ้าวมีใจปฏิพัทธ์สตรีคนเดียวกัน อาทิตย์จะเป็นฝ่ายถอยและเปิดทางให้แก่น้องชายแม้จะเจ็บเจียนตายอย่างไรก็ตาม



   ดารารัศมีถอนหายใจยาวราวกับปลง ดูเหมือนจะมีเพียงหล่อนคนเดียวที่จะกระตุ้นอาทิตย์ได้



   “ก็ได้ค่ะ ดาราจะช่วย แต่พี่อาทิตย์จะสมหวังจริงใช่ไหม”



   “จะสมหวังหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพี่อาทิตย์และคุณพิม นี่เป็นแค่วิธีการหนึ่งที่จะทำให้พี่ชายของเรามีกำลังใจและมีความพยายาม”



   “พี่จันทร์นี่รู้ดีจริง ถึงคราวตัวเองก็ขอให้พี่มีกำลังใจและมีความพยายามที่จะรักเดียวใจเดียวบ้างนะคะ” แล้วสุดท้ายดารารัศมีก็วกมาประชดประชันพี่ชายคนรอง จันทร์จ้าวหัวเราะลั่นหน้าตาสดใส



   “ใจพี่มีใจเดียวน้องรัก แต่จะมีใครครองได้ทั้งใจหรือไม่ ต้องเป็นความพยายามของคนผู้นั้น ไม่ใช่ความพยายามของพี่ พี่ไปล่ะ ว่าจะแวะไปตีเทนนิสสักหน่อย เมื่อตอนก่อนจะมาที่นี่โทรศัพท์ไปบุ๊คคอร์ดไว้แล้ว”



   “ตีเทนนิสอีกแล้ว คุณพงศ์คงเบื่อแย่” ดารารัศมีว่าแล้วลุกขึ้นเดินเคียงพี่ชายออกมาจากซุ้มหน้าตึกเรียนหมายจะเดินไปส่งเขาที่หน้าประตูตามประสาเจ้าบ้านที่ดี



   “ไม่ได้ตีกับคุณพงศ์เสียหน่อย วันนี้คุณพงศ์ไม่อยู่”



   “อ้าว! ไม่ตีกับคุณพงศ์แล้วตีกับใครคะ กับแม่ผู้หญิงเลวอีกล่ะสิ!” สมกับเป็นน้องคนเล็กผู้ขวางกับนิสัยเจ้าเสน่ห์ของเขา จันทร์จ้าวหัวเราะอีกหน



   “พี่ไม่ตีเทนนิสกับผู้หญิงหรอก เพื่อนผู้หญิงต้องมีไว้ทรีต ไม่ใช่ไว้แข่งขัน ไปล่ะนะ แล้วเจอกัน” เขาว่าอย่างนั้นแล้วหมุนตัวเดินออกจากโรงเรียน ดวงตากลมใหญ่เหลือบไปเห็นตึกของโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่



   ...ใครบางคนที่ทำงานที่นั่นต่างหาก ที่มีไว้สำหรับแข่งขันเทนนิสกับเขาโดยเฉพาะ...



   .....................................



   ภวัตเหลือบมองโทรศัพท์โรงพยาบาลมาตั้งแต่วันเสาร์ จนกระทั่งวันจันทร์ ใครบางคนได้เบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลไป ๓ วันแล้ว แต่กระนั้นก็ยังไม่เคยโทร.มาสักครั้ง หรือวันนั้นเขาจะเขีนเบอร์โทรศัพท์ผิด แต่ก็ไม่น่าจะใช่ บางทีอีกฝ่ายอาจจะไม่ว่าง ก็เลยไม่อยากตีเทนนิสเลยไม่โทรศัพท์มาชวนเขาเสียที วันนั้นหากเขาขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเอาไว้บ้าง ก็คงจะดี จะได้ไม่ต้องรอคอยอย่างไม่รู้ความหวังเช่นนี้



   นายแพทย์หนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ กำลังจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องตรวจ แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นร่างสูงโปร่งเดินมองซ้ายมองขวาเข้ามาในโรงพยาบาลเสียก่อน



   “คุณจันทร์!” เขาครางอย่างคาดไม่ถึง ก่อนจะเบี่ยงปลายเท้าเดินตรงไปหาคนที่เขาจับจ้องทันที ฝ่ายนั้นหันมาเห็นเขาแล้ว ริมฝีปากสีจัดยกยิ้มจางอย่างที่ทำให้เห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย



   “มาได้อย่างไรครับ หรือไม่สบาย?” หมอภวัตตั้งคำถาม ทั้งแปลกใจ ทั้งสงสัยที่เห็นจันทร์จ้าวที่นี่



   “มาหาหมอ” คนตอบยิ้ม แต่คนฟังกลับขมวดคิ้วฉับ



   “หมอท่านไหน? นัดไว้หรือยัง” ท่าทางจริงจังของนายแพทย์หนุ่มทำเอาจันทร์จ้าวอยากหัวเราะเสียงดัง ทว่าก็ยังเก็บอาการเอาไว้ แม้จะเก็บไม่มิดเพราะรอยยิ้มที่ติดอยู่บนริมฝีปากนั้นยังคงวาดแย้มจนเห็นลักยิ้ม



   “ยังไม่ได้นัด”



   “ถ้าอย่างนั้นตามผมมา คุณมีทะเบียนประวัติที่นี่ไหม แล้วไม่สบายเป็นอะไร” ภวัตกำลังจะออกเดินนำพาร่างโปร่งไปพบพยาบาล แต่มือขาวกลับรั้งแขนเขาเอาไว้เสียก่อน



   “ผมมาหาหมอภวัต จำเป็นต้องนัดด้วยหรือ” ภวัตหันกลับมามองด้วยความไม่เชื่อหู



   “หาผม?” เขาทวนคำอย่างงุนงง



   “ใช่ ผมแวะมาหาดารารัศมีที่โรงเรียน จำได้ว่ามีคนบอกว่าหมอประจำอยู่ที่นี่ ก็เลยแวะมา จะมาชวนหมอตีเทนนิสน่ะ วันนี้หมอว่างไหมล่ะ แต่บอกก่อนว่ามีแค่ผมกับหมอ เพราะคุณพงศ์ไปทำธุระกับคุณชาย ส่วนคุณวินิตก็ไม่รู้จะมาไหม ผมไม่ได้ ถาม”



   “แล้วถ้าผมไม่ว่าง...” จันทร์จ้าวยักไหล่เหมือนช่วยไม่ได้



   “ผมก็กลับไปนอนเล่นที่บ้านน่ะซี ไม่อยากไปหาคู่ตีคนใหม่ที่คอร์ด ไม่รู้ฝีมือเป็นอย่างไรบ้าง พวกทำเก๋ไปสโมสรเพื่อเดินไปเดินมาก็มีออกถม ตีด้วยแล้วหงุดหงิด” แสดงว่าที่ชวนเขา ไม่ใช่แค่ว่าเพื่อนตีอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและนายวินิตไม่ว่างทั้งคู่ แต่จันทร์จ้าว ‘เลือก’ แล้วที่จะชวน เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าหากตีกับหมอภวัต จะไม่อารมณ์เสียเพราะฝีมือไม่เอาอ่าว



   นายแพทย์หนุ่มได้แต่อมยิ้มกับตนเอง และนั่นไม่รอดพ้นสายตาของจันทร์จ้าวที่จับจ้องอยู่แล้ว



   “หมอยิ้มอะไร หรือดีใจเพราะไม่ว่างพอดีเลยไปตีกับผมไม่ได้”



   “เปล่าครับ ผมว่าง”



   “อ้าว! แล้วจะถามทำไมว่าถ้าหมอไม่ว่าง ผมจะทำอย่างไร”



   “ผมก็ถามดูไปอย่างนั้นเอง ถ้าอย่างนั้น ผมจะโทรศัพท์ไปบุ๊คคอร์ด เอาเป็นสักห้าโมงดีไหม ตีสักชั่วโมงหนึ่ง แล้วหกโมงเราไปหาอะไรรับประทานกัน”



   “ผมแวะไปบุ๊คแล้ว ห้าโมงถึงหกโมง” จันทร์จ้าวพูดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่นายแพทย์หนุ่มจะหมุนตัวเดินไปที่โทรศัพท์เสียก่อน ดวงตาสองคู่สบกันก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะออกมาเบาๆ



   “หมออย่าพูดเชียวว่าที่ผมบุ๊คเวลาเดียวกับที่หมอจะบุ๊คเป็นเพราะเราทำบุญมาด้วยกัน ถึงได้มีความคิดเช่นเดียวกัน” ร่างโปร่งรีบออกตัวก่อน ยิ่งทำเอาภวัตหัวเราะหนักกว่าเดิม อย่างนี้เห็นทีเจ้าตัวคงจะคิดเช่นนั้นจริง แม้จันทร์จ้าวจะอดระอากับความคิดเรื่องบุญเรื่องกรรมของนายแพท์หนุ่มไม่ได้ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน



   “คุณหมอภวัตคะ...” เสียงเรียกของพยาบาล ทำเอาเจ้าของชื่อต้องหันมองตาม นี่ยังอยู่ในเวลางาน พยาบาลจึงมาตามเช่นนี้



   “หมอไปทำงานเถอะ ผมจะรอแถวนี้ แล้วคิดด้วย ว่าหลังจากตีเทนนิสแล้วจะพาผมไปร้านไหน ผมไม่คิดหรอก เดี๋ยวจะกลายเป็นใจตรงกับหมอ หมอก็จะหาว่าผมกับหมอทำบุญมาด้วยกันอีก แค่นี้เราก็ทำบุญมาด้วยกันมากเกินไปเสียแล้ว” จันทร์จ้าวเอ่ย อย่างที่ทำเอาคนฟังถึงกับยิ้ม



   “ได้ครับ ผมจะคิดให้เอง เอ? จะว่าไปตั้งแต่รู้จักกันมาก็ยังไม่เคยทำบุญด้วยกันเลย ผมชักอยากทำบุญร่วมกับคุณในชาตินี้บ้างแล้วสิ เผื่อชาติหน้าเราจะได้ตีเทนนิสด้วยกันอีก” ภวัตพูดอย่างจริงจัง ทำเอาจันทร์จ้าวหัวเราะแต่ไม่วายสัพยอกกลับไป



   “ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นทำบุญสร้างพระประทานดีไหม เผื่อชาติหน้าเราอาจจะได้ตีเทนนิสด้วยกันในวิมเบิลดันก็ได้”



   คนทั้งคู่หัวเราะอีกครั้ง ก่อนที่ภวัตจะขอตัวไปทำงานต่อโดยมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้าไปจนกระทั่งเลิกงาน



   ............................................



   ดารารัศมีอดจะแปลกใจไม่ได้ เมื่อครู่ตอนที่หล่อนนั่งรถสามล้อกลับบ้าน ต้องผ่านโรงพยาบาลใหญ่ หล่อนเห็นรถยนต์ของคุณหมอภวัตแล่นออกมาพอดี ตอนที่เห็นนั้น ดารารัศมีจำไม่ได้ว่าเป็นรถของคุณหมอ แต่เพราะกระจกรถค่อนข้างใส หล่อนจึงมองเห็นข้างใน และในรถไม่ได้มีเพียงแค่คุณหมอ...ทว่ามีพี่ชายของหล่อนด้วย...



   ...จันทร์จ้าว...ดีกับคุณหมอตั้งแต่เมื่อไร...



   “ดารา ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น...” เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากบันไดขึ้นเรือน หญิงสาวที่กำลังเดินเล่นยามค่ำอยู่ในสนามหญ้าหันมองแล้วก็ถึงได้รู้ว่าพี่ชายคนใหญ่กลับมาแล้ว



   “พี่อาทิตย์ สวัสดีค่ะ” หล่อนยกมือไหว้ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบนายทหาร อาทิตย์เห็นท่าทีของน้องสาวไม่เป็นปกติ ดารารัศมีไม่ใช่คนชอบอยู่กับต้นไม้ใบไม้นัก แต่ทำไมวันนี้หล่อนถึงมาเดินกลางสนามหญ้า แม้จะเป็นสนามหญ้าในบ้านก็ตามที ชายหนุ่มเบี่ยงปลายเท้าที่กำลังจะเดินขึ้นเรือนตรงไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่เพียงลำพัง



   “มีอะไรหรือ” เขาถามด้วยความเป็นห่วง แม้จะไม่ใช่คนแสดงออกมากนัก แต่อาทิตย์ก็เป็นพี่ชายที่ดี ดูแลน้องทุกคนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ดารารัศมีสะท้อนใจที่หล่อนเป็นน้อง อยู่บ้านเดียวกันมาตั้งแต่เล็กจนโต แต่ไม่เคยสังเกตเลยว่าเขารักชอบใคร หากหล่อนรู้ก่อนหน้านี้ ความรักของอาทิตย์คงสมหวังไปนานแล้ว



   “วันนี้ดาราเจอเรื่องแปลกแน่ะค่ะ”



   “เรื่องแปลก?”



   “ค่ะ” ดารารัศมีรับคำ เรื่องแปลกของหล่อนมีสองเรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องที่เห็นจันทร์จ้าวในรถของคุณหมอภวัต ส่วนเรื่องที่สองคือเรื่องของหม่อมหลวงพิมพัชรา ทว่าหญิงสาวตัดสินใจเก็บเรื่องแรกเอาไว้ แล้วพูดเรื่องที่สองแทน



   “คุณพิมเธอฝากรังนกมาให้พวกเราค่ะ” อาทิตย์ดูจะนิ่งไปในทันทีที่ได้ยินชื่อบุคคลที่สาม หากแต่ชั่ววินาทีต่อมาเขาก็จะซ่อนความรู้สึกบนสีหน้าได้



   “คุณพิม...เธอเป็นคนมีน้ำใจ พี่ก็เห็นฝากของมาเรื่อยไม่ใช่หรือ”



   “ใช่ค่ะ คุณพิมเธอเป็นคนมีน้ำใจ เธอฝากของมาให้บ้านเราเรื่อย แต่ที่ดาราว่าแปลก คือคุณพิมเธอบอกดาราว่าตอนแรกตั้งใจจะทำข้าวเกรียบปากหม้อ แต่ก็กลัวว่าทำมาตอนเช้า กว่าดาราจะได้กลับบ้านก็ค่ำ ข้าวเกรียบปากหม้อจะเสียก่อนที่บ้านเราจะได้ทาน...พี่อาทิตย์ว่าแปลกไหมคะ” ดารารัศมีพูดแล้วจับจ้องใบหน้าของพี่ชาย อาทิตย์มีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ ทั้งเกร็งทั้งประหม่า เห็นแล้วก็ยิ่งสะท้อนใจที่เขาช่างพยายามเก็บความรู้สึกเสียเหลือเกิน



   “ดาราว่าแปลก ทำไมจู่ๆคุณพิมถึงอยากจะทำข้าวเกรียบปากหม้อขึ้นมา ซ้ำยังตั้งใจจะทำเพื่อให้คนบ้านเราได้ทานอีกต่างหาก คนในบ้านเราที่ชอบข้าวเกรียบปากหม้อก็มีแต่พี่อาทิตย์คนเดียว...พี่อาทิตย์ว่าไม่แปลกหรือคะ” ดารารัศมีพูดต่อ อาทิตย์ได้แต่เงียบ เขาไม่รู้จะพูดอะไร ความรู้สึกของราชนิกูลสาว บางครั้งก็เหมือนจะให้ความหวังเขา ทว่าชายหนุ่มเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่อยู่กับใครแล้วจะสร้างความสุขให้กับคนนั้น เขาเป็นคนเงียบๆ รักสันโดษ ไม่ใช่คนเข้าสังคมหรือช่างพูดช่างคุย ไม่ช้าไม่เร็วก็คงสร้างความเบื่อหน่ายให้กับฝ่ายนั้น



   คนเป็นน้องจับจ้องใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของพี่ชายแล้วก็ยิ่งนึกสงสาร ถ้าไม่ใช่เพราะจันทร์จ้าวสังเกตเห็นความรู้สึกของอาทิตย์และนำมาบอกหล่อน หล่อนก็คงมองข้ามเขาไป ความรู้สึกของอาทิตย์ช่างเงียบเฉียบเหลือเกิน



   “ดาราอยากได้คุณพิมมาเป็นพี่สะใภ้นะคะ พี่อาทิตย์ช่วยดาราได้ไหม”



   “เรื่องนั้น...” นายทหารหนุ่มพูดไม่ออก ดารารัศมีเองก็ไม่รอให้เขาพูดต่อเสียด้วย



   “แต่ถ้าหากพี่อาทิตย์ไม่ช่วย ดาราก็จะไปขอคนอื่นให้ช่วย...ดารามีพี่ชายตั้ง ๒ คน ถ้าคนหนึ่งไม่ทำ ก็ให้อีกคนทำแทนเสีย สิ้นเรื่องไป จริงไหมคะ...” หญิงสาวทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก็ก้าวเท้าเดินออกจากสนามหญ้ากลับขึ้นเรือน แต่ไม่วายเหลือบสายตากลับไปมองร่างสูงสง่าของพี่ชายคนใหญ่ที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม



   ...กระตุ้นให้แล้วนะพี่จันทร์ ดาราทำตามที่วางแผนไว้แล้ว ขอให้แผนของพี่ใช้การได้ทีเถอะ!!...


..........................................




   ร้านอาหารที่หมอภวัตพาคู่ตีเทนนิสมารับประทานอาหารค่ำเป็นร้านอาหารฝรั่ง จันทร์จ้าวเคยมาที่นี่ ๒-๓ หนแล้วกับเพื่อนผู้หญิงของเขา ซึ่งเขาว่ารสชาติของอาหารที่นี่ใช้ได้ทีเดียว ถึงจะไม่เหมือนต้นตำรับทุกประการ แต่ก็รับประทานให้พอหายคิดถึงได้บ้าง



   “เคยมาที่นี่ไหมครับ ผมว่าที่นี่เขาทำสเต็กได้อร่อย” หมอภวัตหันมาพูดเมื่อก้าวเท้านำเข้ามาในร้าน



   “เคย...”



   “เคยแล้วคิดว่าที่นี่สเต็กอร่อยไหมครับ”



   “ผมไม่บอกหมอหรอก เดี๋ยวหมอโมเมหาว่าผมกับหมอทำบุญด้วยกันมาอีก” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้นทำเอาคนถามหัวเราะเบาๆ พวกเขาถูกพาไปนั่งที่โต๊ะ บริกรรอรับรายการอาหารอยู่ครู่หนึ่งก็จากไปเมื่อพวกเขาสั่งอาหารเรียบร้อย



   “เพื่อนผมเคยบอกว่ามีร้านอาหารฝรั่งอีกร้านที่อร่อยใช้ได้ อยู่ถัดจากนี้ไปอีกหน่อย” จันทร์จ้าวเอ่ย พลางมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกร้าน ภายนอกค่อนข้างพลุ่กพล่านและจอแจไปด้วยผู้คนและรถรา



   “แล้วก็ไม่บอก ผมจะได้พาไป”



   “ไม่เอา ผมอยากทานร้านนี้นี่” พอหลุดปากออกไปอย่างนั้น ดวงตากลมก็รีบตวัดไปจ้องคนที่นั่งอยู่ฝั่งของโต๊ะอย่างรวดเร็ว



   “อย่าหาว่าผมใจตรงกับหมออีกล่ะ! พอผมเห็นว่าหมอพามาแถวนี้ ผมก็แค่คิดถึงร้านนี้ร้านแรกก็เท่านั้น” หมอภวัตหัวเราะเบาๆ อยู่กับจันทร์จ้าวแล้วเขาหัวเราะบ่อยกว่าอยู่คนไหนๆทั้งสิ้น เจ้าตัวเหมือนเด็ก มีชีวิตชีวา แต่บางครั้งก็ทำตัวได้น่าฉงน เหมือนจะก้าวเข้ามาหาเขาก่อน แต่พอเขาจะก้าวเข้าไปหาบ้าง กลับถอยกรูดหนีหายไปเสียอย่างนั้น



   “ถ้าอย่างนั้น เอาไว้คราวหน้า เราไปทานร้านใหม่ที่คุณว่ากัน ว่าแต่พรุ่งนี้ตีเทนนิสอีกไหม”



   “หมอว่างหรือ”



   “ว่างครับ เอาเวลาเดิมดีไหม พรุ่งนี้ผมจะโทร.ไปบุ๊คคอร์ดเอาไว้” จันทร์จ้าวพยักหงึกหงักแต่ไม่วายตั้งคำถามหยั่งเชิง



   “แล้วหมอ...ไม่มีธุระอย่างอื่นต้องไปทำบ้างหรือ อย่างเช่นไปดูหนังกับ... ‘คุณพิม’อย่างนี้...”



   “คุณพิม?...คุณหมายถึงคุณพิมน้องสาวคุณพงศ์น่ะหรือ ผมไม่ได้สนิทกับเธอหรอกครับ จะให้ชวนเธอไปดูภาพยนตร์ได้อย่างไร”



จันทร์จ้าวมองใบหน้าของคนพูดด้วยความช่างใจ



“แล้วหมอไม่คิดจะสนิทกับเธอบ้างหรือ”



“เธอเป็นผู้หญิง จะให้ผมไปสนิทด้วยก็เกรงจะไม่เหมาะ”



“หมอพูดอย่างกับว่า หมอไม่มีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทอย่างนั้นล่ะ”



“ผมทำแต่งาน จะมีเวลาที่ไหนไปสนิทผู้หญิงได้อย่างไรครับ”


เป็นว่าหมอภวัตดูจะไม่สนใจหม่อมหลวงพิมพัชรา จันทร์จ้าวก็พอจะพึงใจอยู่บ้างที่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่คิดจะมีใจปฏิพัทธ์กับราชนิกูลสาวผู้นั้น ท่าทีที่มีต่อนายแพทย์หนุ่มจึงอ่อนลง กำลังจะชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ แต่อีกฝ่ายกลับพูดขึ้นมาเสียก่อน



“...แล้วที่สำคัญ...ผมว่าผมอยากสนิทกับคุณมากกว่า ตีเทนนิสกับคุณสนุกกว่าไปดูหนังเยอะเลย” คำพูดตรงไปตรงมาของนายแพทย์หนุ่มทำเอาจันทร์จ้าวหันมอง ดวงตากลมใหญ่จับจ้องใบหน้าของอีกฝ่าย รู้สึกประหลาดในอก แต่ครู่หนึ่งมันก็จางหายไป

 

   “ผมว่าจะสนุกกว่านี้ ถ้าเราพนันกันบ้าง” ภวัตหัวเราะกับคำพูดชวนพนันของคนที่แพ้เขาวันนี้ แม้จะมีเกมที่จันทร์จ้าวชนะเขาอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ววันนี้เขาชนะมากกว่า



   “ตั้งแต่วันนี้เลยไหม” เขาถามทั้งๆที่ยังมีรอยยิ้มเต็มหน้า ทำเอาร่างโปร่งจ้องเขม็งแต่ก็ยังใจกว้างยอมรับ



   “ก็ได้ ตั้งแต่วันนี้เลยก็ได้ หมออยากได้อะไรล่ะ ไม่เอาที่ว่าอยากได้คู่ตีเทนนิสแล้วนะ หรือให้ผมเลี้ยงมื้อนี้ดีไหม”



   “ไม่ได้ครับ มื้อนี้ผมเลือกร้าน ผมต้องเป็นคนเลี้ยง เอาเป็น...พรุ่งนี้ตอนเช้า ผมแวะไปรับคุณพาไปทำบุญดีไหมครับ” คำขอของคนชนะในวันนี้ ทำเอาจันทร์จ้าวหัวเราะออกมาเสียงดัง



   “หมอคงอยากจะแข่งวิมเบิลดันกับผมชาติหน้าจริงๆ เอาก็เอา พรุ่งนี้เช้ามารับผมแล้วกัน” ร่างโปร่งรับปาก แต่ไม่วายส่ายศีรษะระอา ทว่าประโยคต่อมาของอีกฝ่ายกลับทำให้มือขาวที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นจิบต้องชะงัก



   “ผมไม่ได้อยากแข่งกับคุณชาติหน้า แต่ผมอยากแข่งกับคุณไปตลอดต่างหาก...”



ดวงตากลมใหญ่มองสบดวงตาคมทว่าอ่อนโยนที่ภวัตมองมา ก่อนที่จะเป็นฝ่ายจันทร์จ้าวที่เบี่ยงสายตาไปทางอื่น และก่อนที่จะยกแก้วขึ้นดื่ม ภวัตก็ได้ยินเสียงเบาแผ่วตอบกลับมา



“ผมก็ไม่ได้จะไปไหนนี่ จะอยู่กับแข่งเทนนิสกับหมอไปเรื่อยๆนี่ล่ะ”


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

   คู่นี้เขาคุยกันแบบแมนๆนะครัช เอะอะเทนนิสบังหน้าตลอดดดดดดดดดด

 แต่เราก็จะให้เขาตีเทนนิสกันต่อไป ขอตั้งชื่อว่าเป็นเทนนิสกระชับมิตร ยิ่งมิตรภาพลูกผู้ชายมันเพิ่มพูน เราก็ยิ่งช้อบชอบบบบบบ    
   
ส่วนคู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมเขายังเรื่อยๆมาเรียงๆนกบินเฉียงไปทั้งหมู่เช่นเคย ไม่เหมือนน้องเอาซะเลย ทั้งอ่อยผู้ชายเข้าบ้าน ทั้งไปดินเนอร์สองต่อสอง ฮ่าฮ่า
   
แล้วเจอกันพฤหัสหน้า คู่นี้เขาจะได้ไปตีเทนนิสในวิมเบิลดันมั้ย อันนี้ต้องติดตามค่ะ
   
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและพื้นที่บอร์ดค่ะ

   
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๕ (๘ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๘)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-10-2015 20:44:16
หยอดกันไป ตีเทนนิสกันไป สินะ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 15-10-2015 21:13:19
แมนๆๆอยากสนิทกันเนาะคุณหมอ

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 15-10-2015 21:13:56
อยากให้มีตอนที่ทั้งคู่ไปตีเทนนิสที่อังกฤษจังเลยค่ะ อิอิ
น่าจะฟินๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 15-10-2015 21:21:24
งื้ดดดดดดดดดด คุณจันทร์น่ารัก >_<
คุณหมอก็เนียนๆนะ แปบๆ ชวนไปทำบุญร่วมชาติกันแล้ววว
โอ้ยย เขินนนนนน

คุณพี่อาทิตย์สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 15-10-2015 21:30:16
คู่นี้เค้าตีเทนนิสได้ฟินมากเจ้าค่ะ
หยอดกันไปหยอดกันมา :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 15-10-2015 21:31:47
เทนนิสสื่อรัก  :katai2-1: :katai2-1:
หมอหยอดคุณจันทร์ใหญ่เลยนะ อย่างนี้ก็ตีกันไปจนแก่เฒ่าเลยละกัน :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 15-10-2015 21:43:16


คุณจันทร์จ้าว..........ขา   ปากแข็งจริงๆๆๆ เล้ย

คุณหมอ ก้อนะ.... ยอมตั้งแต่ตีเทนนิสครั้งแรก   ต่อไปนี้ คงไม่ต้องโทรฯ นัดกัน


ออกเดท ตีเทนนิส จนฟินน เลย :กอด1:



"จันทร์จ้าวพูดแล้วยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย ดวงตากลมใหญ่พราวระยิบ"  มัดใจคุณหมอใช่ไหม อ่ะ

ฟินนนนนน

 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-10-2015 21:46:18
คู่คุณพงษ์กับเภาก็น่าสนใจนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 15-10-2015 21:51:47
มาแอบดูเขาจีบกัน   :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 15-10-2015 22:13:49
ทำไมคุยกันแต่เรื่องเทนนิส แล้วยังดูมุ้งมิ้งงง แอร๊ยยย
ชอบหมอ รักหมอออออ

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ กอดด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 15-10-2015 22:25:44
 :-[ อ้ายอ้ายยยย

คิดถึงถ้วยฟู  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 15-10-2015 22:26:22
เทนนิสสื่อรัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 15-10-2015 22:32:49
หมออ่อยหนักมากกกกก 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: aimjjj ที่ 15-10-2015 22:35:39
 :hao7: :hao7: :hao7: ทำไมรู้สึกว่าตอนนี้หวานจังคะคุณทั้งสองงงงงง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 15-10-2015 22:37:13
นี่สาบานว่าเขาสองคนไม่ได้จีบกัน
ทำไมมดเต็มจอไปหมด
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 15-10-2015 22:53:24
โอย...คุณจันทร์ มีส่วนเหมือนปริศนาด้วยนะนี่
เดินเข้ารพ. มาหาและยอมรอ...น่าร้ากกกก ^^

ท่าทางคุณหมอรุกคืบมาก...คุณจันทร์จะรู้ตัวเมื่อไหร่หนอ
ใจตรงกันก็เหมือนทำบุญด้วยกันมานั่นแหละเนาะ...เอาใจช่วยหมอมาก 55

สงสารพี่อาทิตย์...เจียมตัวเหลือเกิน -^-
คุณพิมออกจะบอกใบ้ขนาดนี้...สู้ๆ ค่ะ คุณพี่...
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 15-10-2015 23:01:56
พนันว่าอะไรดีล่ะ

 :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 15-10-2015 23:26:00
ถ้าทำบุญร่วมกันขนาดนี้...หรือพี่หมอกับน้องจันทร์ จะเกิดมาเป็นนาดาลกับโนเล่ในยุคนี้นะ ไม่ใช่แค่วิมเบิลดัน ให้เจอกันทุกแกรนด์สแลมเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-10-2015 23:35:56
อ่านแล้วเขินค่ะ ยิ้มไม่หุบเลย ลุ้นพี่อาทิตย์กับคุณพิมเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-10-2015 23:48:05
อื้อหือคุณหมอรุกคืบเร็วมาก เทนนิสมันดีอย่างนี้นี่เอง
ทั้งได้เข้าบ้าน ทายา ทานข้าวเช้า ทานข้าวเย็น และกะลังจะไปทำบุญด้วยกัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 15-10-2015 23:56:14
เค้าคุยกันเรื่องเทนนิส แต่ฟินนะเร่สุดๆ :laugh: :-[

น่ารักๆๆๆ เปิดจองหนังสือล่วงหน้าได้ป่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 16-10-2015 00:12:43
อรั้ย
หยอดกันกลมกล่อมเบาๆ
ถ้าเราไม่ได้อ่านรอบเดียวแล้วรอทีละตอน
ตอนละอาทิตย์นี่เราคงใจขาดตายก่อนแน่เลย
มันพอดีค่ะ ถ้าได้อ่านแบบต่อเนื่องไม่หยุด
แต่มันจะอกแตกตาย เพราะรู้สึกว่ามันสั้น
เพราะอ่านอาทิตย์ละตอนนี่แหละ
แต่ก็ รอตอนต่อไปนะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 16-10-2015 00:48:54
เปลี่ยนชื่อเรื่องมั้ยคะ คุณคนเขียน   "มนต์รักแร็กเก็ตทองคำ" ,"คอร์ดรัก หัวใจว้าวุ่น"  ไรเงี้ย  555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 16-10-2015 00:57:07
โอ้ววววววว นี่ตามคู่นี้ไม่ทันเลยนะเนี่ย
เค้าเริ่มรู้สึกพิเศษต่อกันแล้วสินะ อะฮิ

ส่วนคู่ชายทิตย์กับหญิงพิมพ์นี่ก็น่าลุ้น
อุตส่าห์ใจตรงกัน จะเป็นอย่างไรน้อ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 16-10-2015 01:42:49
โถ่ว คนเรามันจะรู้ใจ ใจตรงกันก็ตอนตีเทนนิสเนี่ยแหละ
ตีเทนนิสจีบกัน 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: kogomon ที่ 16-10-2015 03:04:17
5555

ชอบมาก พึ่งได้เข้ามาอ่าน แต่งได้ดีครับ จันทร์จะไม่รอดก็งานนี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 16-10-2015 06:46:43
เป็นนิยายเรื่องแรกหลังเข้าสู่เส้นทางวาย ที่ลุ้นให้ผู้ชายได้กับผู้หญิง #ทีมพี่อาทิตย์  พ่อเอ๊ยยยย น่ารักน่าสงสารเสียจริง  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 16-10-2015 06:57:03
คู่นี้จีบกันละมุนเนอะ ><
หมอภวัตอบอุ่นมากกก ค่อยๆ เต๊าะน้องจันทร์ไปเรื่อยๆ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 16-10-2015 07:05:02
แมน ๆ เขาจีบกัน 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-10-2015 07:16:13
แมนๆ ตีเทนนิสกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 16-10-2015 08:00:59
คุณหมอออกตัวแรง  :L1: :L1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: เอน ที่ 16-10-2015 08:02:45
กรี๊ดเบาๆ.  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 16-10-2015 08:25:55
คุณหมอหยอดเสียจนจันทร์จ้าวไปไม่เป็นแล้วนะคะเนี่ย :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 16-10-2015 08:34:50
มันใช่เลยอ่ะ ใช้เทนนิสบังหน้า หมอภวัตก็ไม่ใช่เล่นๆนะฮร้าา แม่ยกถือป้ายไฟรอแล้วนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-10-2015 08:45:00
แหม คู่นี้อะไรๆก็เทนนิส อีกหน่อยชอบพอกันคงไม่ต้องเอาเทนนิสมาบังหน้าแล้วสินะ ที่จริงตอนนี้คุณหมอกับคุณจันทร์อาจจะยังไม่คิดทางชู้หนุ่ม(?) แต่คนอ่านจิ้นกันไปไกลแล้วนะคะ ว่าคุณหมอเนียนอ่อยน้อง ฮ่า
ดูเหมือนท่านชาย(พ่อของคุณพิม)ไม่เห็นอาทิตย์อยู่ในลิสต์ว่าที่ลูกเขยเลยอ่ะ คราวโน้นที่เจอกันก็มองผ่าน
คุณเภาก็พยายามตีสนิทคุณพงศ์เหลือเกิน พี่อาทิตย์ควรเคลื่อนไหวได้แล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 16-10-2015 09:15:21
ช่วงนี้ตีเทนนิสไปก่อนเนอะ คุณหมอคุณจันทร์ ไปต่อไปค่อยตัวตัวแร็กเก็ตไม่เกี่ยว 555555

พี่อาทิตย์ ผู้หญิงก็ค่อยๆทอดสะพานมาแล้ว พี่ควรช่วยเสริมใยเหล็กนะ

เพราะคุณพิมพ์คงกลัวว่ามากไปจะไม่งาม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-10-2015 10:25:20
แมนๆตีเทนนิสครัช เขินตัวบิดเลยทีเดียวกับลูกหยอดคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 16-10-2015 10:33:25
ไม่มีคำบรรยาใดๆ






ที่จะเข้ากับเหตุการณ์ตอนนี้ได้เท่ากับคำ ป้าเขิลมากกก :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 16-10-2015 11:06:16
เทนนิสสื่อรักสินะ
บรรยากาศของหมอกับจันทร์ดี๊ดี
แมนๆตีเทนนิสครัช
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 16-10-2015 11:07:49
แค่นี้ก็ฟินยิ้มแก้มแตกแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 16-10-2015 11:11:25
โอ๊ยขำจันทร์เจ้า ทำบุญร่วมชาติมาแน่ ๆ ใจตรงกันไปเสียทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 16-10-2015 11:31:09
อ๊ายยยเค้าหวานกันจริง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-10-2015 13:18:43
เนียนจีบ???
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 16-10-2015 13:21:15
คุณจันทร์น่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 16-10-2015 13:59:44

  ฟินอีกรอบ


ผู้ชายบอกรักแบบ แมนๆๆ  ...เอ๊ยยย  ชวนตีเทนนิสกันครัช :o8:


อ้างถึง
  “ผมไม่ได้อยากแข่งกับคุณชาติหน้า แต่ผมอยากแข่งกับคุณไปตลอดต่างหาก...”



ดวงตากลมใหญ่มองสบดวงตาคมทว่าอ่อนโยนที่ภวัตมองมา ก่อนที่จะเป็นฝ่ายจันทร์จ้าวที่เบี่ยงสายตาไปทางอื่น และก่อนที่จะยกแก้วขึ้นดื่ม ภวัตก็ได้ยินเสียงเบาแผ่วตอบกลับมา



“ผมก็ไม่ได้จะไปไหนนี่ จะอยู่กับแข่งเทนนิสกับหมอไปเรื่อยๆนี่ล่ะ”


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven [/color]
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 16-10-2015 15:08:15
เทนนิสสื่อรักจริงๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 16-10-2015 16:01:06
 :z1:แหม่ ถ้าจะขนาดนี้เชียร์หมอทำคอร์ทเทนนิสในบ้านเถอะ ไม่ต้องไปบุ๊กให้เสียเวลา 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: ppangssang ที่ 16-10-2015 20:07:22
แมนๆตีเทนนิสกันครับ :z2:

ว่าแต่เภากับคุณพงษ์นี่ยังไงกันนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 16-10-2015 23:36:37
 :hao3: :hao3: :hao3: หมายถึงทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันรึเปล่าคะคุณหมอ แหมๆแบบเกิดมาคู่กันทุกชาติไปไรงี้ ละทำไมเรารู้สึกว่าเค้ากำลังจีบกันอยู่เลยละคะเนี่ย คุณหมอเห็นเงียบๆแต่ขยันหยอดแบบเนียนๆตลอดเลยนะคะ  :-[ :-[ :-[

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: กอดคุณบัวรัวๆกับตอนที่ยาวสะใจมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Theshadowreader ที่ 17-10-2015 00:39:53
ฟังแล้วเขินแทน
หมอคงอยากทำอย่างอื่นด้วยกันตลอดไปมากกว่าแค่เทนนิสอย่างเดียว ใช่ม้า
ถึงชวนไปทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน
 :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 17-10-2015 02:59:12
ชอบ   เค้าทันกันดีน่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 17-10-2015 03:07:06
น่าจะเปลี่ยนจาากเรื่องจันทร์จ้าวเปนเทนนิสกระชับรักก เอะอะไรก้อ้างเทนนิสสตัลหลอดดดดดดเลยนะคุ่นี้ 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 17-10-2015 06:55:34
หมอออ รุกหนักมากก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 17-10-2015 11:18:46
แอบเขินล่ะสิจันทร์ ฮุๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 17-10-2015 13:40:16
หมอกับจันทร์ คู่นี้น่ารักจริง ใจตรงกันมาก

ส่วนคู่อาทิตย์กับคุณพิม ไม่รู้จะอีกนานไหมกว่าจะลงเอย อาทิตย์โดนกระตุ้นแล้วจะออกมาเป็นแบบไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-10-2015 16:38:19
คุณหมอจะจับจองจันทร์จ้าวไว้ตีเทนนิสด้วยกันตลอดไปเลยเหรอ
กะจองล่วงหน้าสินะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 17-10-2015 19:23:22
คุณหมอ ดูแล้วจี๊บจีบจันทร์จ้าว   นี่เค้าไม่รู้ตัวใช่มั้ยมันเป็นไปตามธรรมชาติใช่มั้ย    เก็บทุกเม็ดเลยนะคุณหมอ   

เรื่องนี้สรุปเป็นนิยายกีฬาซินะ เทนนิสสื่อรักซินะ

อยากเห็นจันทร์จ้าวพาภวัตไปเที่ยวบ้าน  นึกสีหน้าคุณแม่ กับ ดารา รอไว้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 18-10-2015 01:37:37
แมนๆคุยกันสินะหมอ~
555 เทนนิสกระชับรักมากกว่ามิตรแล้วละคะแบบนี้
คู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมก็ช่าง ใสๆ~ อิอิ
รอตอนต่อไปค่ะ สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: รุ่งนภา ที่ 18-10-2015 09:04:55
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[   จันทร์จ้าวน่ารักอ่ะ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 18-10-2015 15:53:33
คิดว่ากว่าจะได้รักกันเป็นกิจลักษณะ คงตีเทนนิสกันจนแขนเดาะไปข้าง

ความจริงคุณหมอภวัตน่าจะระแคะระคายความรู้สึกตัวเองบ้างแล้ว เพราะเพียงแค่ให้เบอร์โทรศัพท์ไปก็รอเช้ารอเย็น พอจันทร์จ้าวไม่โทร.หา ก็คิดถึงขนาดนั้น นี่หมอไม่ค่อยแสดงออก (ให้คนอ่านเห็น) เลยนะ ส่วนจันทร์จ้าวยังคงไม่รู้ตัวว่าได้เข้าไปอยู่ในกรงเล็บของหมอเจ้าเล่ห์เสียแล้ว ฮา

ขอบคุณมากๆ ค่ะ คุณบัว สำหรับเรื่องราวละมุนละไมเรื่องนี้ รอคอยตอนต่อไปนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 19-10-2015 12:26:15
เค้าจีบกันหยอดกัน รู้ตัวกันหรือเปล่าว่ามุ้งมิ้ง มากกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 20-10-2015 00:29:16

อืม... พี่หมอคะ พี่หมอนั่งริกชอว์เลยป้ายไปไกลมากแล้วค่ะ
(ไม่รู้สมัยนั้นมีไหม แต่อาศัยว่าเก่าหน่อยเลยมั่วเอามาโยงเสียอย่างนั้น)
พี่หมอไม่ทันรู้ตัวใช่ไหมคะว่าอิ๊อ๊ะกับคุณจันทร์ไปแล้ว...
ตีเทนนิสกันแมนๆ... เอาตามที่พี่หมอสบายใจเลยค่ะ
ไว้ให้อยากกระทำมากกว่าตีเทนนิสเมื่อไร ป้าจะรอดูตอนพี่หมอตกใจก็คงไม่สายเนอะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 20-10-2015 22:51:26
แอบสัมผัสได้ถึงความหวานเบาๆ >_____<
เราชอบอารมณ์แบบนี้มากกกกเลยค่ะ คาแรคเตอร์ของทั้งสองคนปั้นออกมาได้พอเหมาะพอเจาะสุดๆ
ทั้งคุณหมอที่มีความเป็นพระเอกสูง ทั้งอ่อยโยน ใจดี แถมยังไม่ถือสาเอาความคนเอาแต่ใจอีก
ส่วนด้านคุณจันทร์เธอก็น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆนะคะ ไม่ต้องคุณหมอหรอกค่ะ คิดว่าทุกคนที่อยู่รอบๆคุณจันทร์ก็เอ็นดูเธอทั้งนั้นแหละ
ถึงจะดูเอาแต่ใจ ถือดีอย่างไร แต่พอเวลาพูดความรู้สึกออกมาตรงๆแต่ละทีก็ทำเอาที่ผ่านมาสลายเป็นอากาศไปเลย
อะไรจะน่ารักขนาดนั้นคะเนี่ย  :-[
เห็นทีคราวนี้คุณหมอคงไปไหนไม่รอดแล้วล่ะค่ะ ~

ปล. แอบกลัวเวิ้งแห่งความดราม่าที่จะตามมาหลังจากนี้จริงๆค่ะ T ____ T
รักทั้งสองคนมากๆเลย อยากเห็นเค้าคู่กันหวานกันสุดๆเลยค่ะ ; ;

ปล2. คำผิดตอนล่าสุดนะคะ
นายแพท์หนุ่ม - แพทย์
เงียบเฉียบ - เงียบเชียบ รึเปล่าคะ ? . _ .
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: dereel_nx ที่ 21-10-2015 01:01:24
น่ารักจังเลยน๊าาาาคุณหมอกับนายจันทร์เนี่ย  :mew1: :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 21-10-2015 10:36:18
โอ้ยยยย เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ดีงามพระรามสี่มากๆค่ะ ชอบการจีบกันโดยใช้เทนนิสเป็นสื่อกลาง 555555
ถ้าสมัยนี้แมนๆเตะบอล สมัยนั้นคงแมนๆตีเทนนิสแน่ๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 22-10-2015 19:31:17
 :mew1: โว้ โว้  แมนๆเค้าคุยกัน  ทำบุญร่วมชาติ อยากตีด้วยกันตลอดไป กรี๊ดดดดดดด ทำไม ป้าฟินนนน
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 22-10-2015 20:34:36
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๗



เช้าตรู่ รถยนต์ของหมอภวัตก็มาจอดที่หน้าบ้านเช่าสีเขียวอ่อนอันเป็นมรดกตกทอดของคุณหญิงผกา ที่ทุกวันนี้กลายเป็นที่อาศัยของจันทร์จ้าว เขาไม่จำเป็นต้องลงจากรถเพราะเจ้าของบ้านเดินลิ่วลงมาจากบันไดราวกับรู้ว่าเขามาถึงแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งก้าวเท้าเร็วๆออกจากบ้านพร้อมด้วยดอกบัว ๒ ดอกในมือแล้วเปิดประตูขึ้นมานั่งข้างคนขับอย่างรู้งาน



“สวัสดีครับ” คนทักก่อนคือเจ้าของรถ จันทร์จ้าวหันมายิ้มเต็มหน้าจนเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้ายแล้วผงกศีรษะให้ทีหนึ่ง



“สวัสดี หมอมาตรงเวลาเป๊ะ”



“เรานัดกันไว้นี่ครับ แล้วนั่นเอาดอกไม้มาทำไมหรือ”

 

“ก็จะไปทำบุญ ผมไม่มีอะไรไปนอกจากมือเปล่าๆ ก็เลยไปขอดอกไม้จากข้างบ้านตั้งแต่เมื่อเช้า โชคดีคุณยายข้างบ้านมีดอกบัวถวายพระ แกเลยแบ่งมาให้ผม ผมขอมาเผื่อหมอด้วย” เพราะบอกว่าขอมาเผื่อ ในมือของจันทร์จ้าวจึงมีดอกบัวตูมสีเขียวอ่อน ๒ ดอก ภวัตมองคนพูดด้วยความรู้สึกอุ่นซ่านในอก

 

“ขอบคุณครับ” น้ำเสียงทุ้มนั้นอ่อนโยนจนร่างโปร่งต้องหันมอง ดวงตากลมใหญ่สบกับดวงตาดุที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนหวานเสียจนจันทร์จ้าวต้องเป็นฝ่ายเบี่ยงสายตาออกไปมองนอกหน้าต่างรถเพราะรู้สึกว่ายิ่งสบตากับนายแพทย์ผู้นี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกประหลาดในใจมากขึ้นทุกที



“หมอพาผมไปวัดได้แล้ว เดี๋ยวก็สายหรอก เอ?...แล้วมีแต่ดอกบัวไปถวายพระอย่างนี้จะดีหรือ”



“ผมให้คนเตรียมกับข้าวใส่ปิ่นโตมาด้วยแล้วครับ” ภวัตพูดแล้วบุ้ยหน้าไปยังเบาะหลัง คนที่นั่งอยู่ข้างกายเขาจึงหันมองแล้วก็หันกลับมาทำตาโต



“เตรียมมาแยะเชียวหมอ!”

 

“สำหรับ ๒ คนครับ” คำว่าสำหรับ ๒ คน ในคำพูดของหมอภวัตจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่จันทร์จ้าวและนายแพทย์หนุ่ม เป็นอีกครั้งของเช้านี้ที่บุตรชายคนรองแห่งบ้านรักษพิพัฒน์รู้สึกประหลาดในอกเสียเหลือเกิน เขาหันกลับไปมองนอกหน้าต่างรถอีกครั้งเพราะกลัวใจว่าหากต้องสบตากับอีกฝ่ายมากกว่านี้ เขาคงเสียความเป็นตัวเองมากขึ้นทุกที แต่แม้จะหันมองออกไปนอกรถ ภวัตก็ยังได้ยินประโยคแผ่วเบาจากคนที่ทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่างรถ

 

“ขอบคุณที่เตรียมมาเผื่อผม”



“ยินดีครับ” แล้วนายแพทย์หนุ่มก็หมุนพวงมาลัยพารถยนต์ออกสู่ถนน คนหนึ่งตั้งหน้าตั้งตาขับ อีกคนเอาแต่มองออกไปนอกรถ แม้คนทั้งคู่จะไม่ได้คุยกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ได้สนใจกัน ทว่าต่างรับรู้ว่าข้างกายยังมีใครอีกคนนั่งเคียงข้าง เป็นบรรยากาศแปลกประหลาดที่แม้จะเงียบเชียบแต่กลับให้ความรู้สึกสบายและสงบ



จันทร์จ้าวเอนหลังพิงพนักอย่างสบายอารมณ์



ภวัตขับรถอย่างสงบ


...ช่างเป็นความสบายและสงบที่ชักน่าถวิลหาเสียแล้ว...


.................................



วัดที่ภวัตพามาอยู่ในเส้นทางที่จะไปสำนักงานของจันทร์จ้าวพอดี พอรถจอดที่ลานวัด พวกเขาก็พากันลงจากรถ จันทร์จ้าวรับหน้าที่ถือดอกบัว ๒ ดอกที่เตรียมมา ส่วนภวัตถือเถาปิ่นโต พากันออกมายืนรอพระที่กลับจากบิณฑบาตรในยามเช้า อากาศเวลานี้กำลังเย็นสบาย ยิ่งฝนตกเมื่อคืน ตอนเช้าก็ยิ่งชื้นเย็นด้วยละอองน้ำค้าง



“วันนี้ฝนจะตกไหมก็ไม่รู้นะหมอ เมื่อคืนที่บ้านผมตกหนัก ที่โรงพยาบาลตกไหม”



“ตกครับ หนักเอาเรื่องเหมือนกัน ตอนแรกก็ว่าสงสัยวันนี้จะได้ใส่บาตรกับคุณท่ามกลางสายฝนเสียแล้ว โชคยังดีว่าฝนมาหยุดเอาตอน ๓ ยาม” จันทร์จ้าวหัวเราะเบาๆ ดวงตาระยิบยามเหลือบมองคนพูด



“พูดจาโบราณจริงหมอ ผมนักเรียนนอก ๓ ยามคืออะไร ไม่รู้จักหรอก ถ้าบอกว่า Three O’clock ล่ะว่าไปอย่าง”



“ก็ได้ครับ ๓ นาฬิกา”



“แต่เมื่อคืนฝนหยุดตอน ๒ นาฬิกาไม่ใช่หรือ” จันทร์จ้าวหยอก



“ก็คุณพูด ๓ นาฬิกาไม่ใช่หรือครับ” เป็นว่าภวัตแปลภาษาอังกฤษออก แม้จะไม่ยอมออกเสียงให้เขาฟังก็ตามที นึกว่าจะเป็นหมอเก่งแต่รักษาคนไข้ ที่ไหนได้ น่าจะฟังภาษาอังกฤษออกด้วย



“หมอรู้ภาษาอังกฤษด้วยหรือ” จันทร์จ้าวตั้งคำถาม ไม่ได้ดูหมิ่นดูแคลนแต่กำลังอยากเรียนรู้เรื่องราวของอีกฝ่ายอย่างสนอกสนใจ



“พอรู้บ้างครับ แต่คงไม่สู้คุณจันทร์”



“แน่ซี ผมไปเรียนเมืองนอกตั้ง ๖ ปี”



“ไปอยู่แรกๆ ลำบากไหมครับ”



“ลำบากอย่าให้พูดเลยหมอ ภาษาอังกฤษที่เรามีสู้พวกอเมริกาจ๋าได้อย่างไรล่ะ ตอนแรกอุตส่าห์ฝึกกับแหม่มฝรั่งไปอย่างดี ไปถึงจริง อย่างกับต้องเรียนใหม่หมด ไหนจะอากาศอีก ช่วงฤดูหนาวน่ะหนาวเข้ากระดูก ดีหน่อยว่ามี Snow ให้ทำอะไรสนุกๆ ไม่อย่างนั้นคงเฉาตาย”



“ถ้ารู้ว่าลำบากแต่แรก คุณจะยังไปไหมครับ” เป็นคำถามที่ไม่เคยมีใครถามจันทร์จ้าว เขาหันมองหมอภวัต ก่อนที่รอยยิ้มจางทว่าจริงจังจะผุดขึ้นบนดวงหน้าขาวจนเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย



“ไปสิ เหตุผลแค่ว่าลำบากทำอะไรผมไม่ได้หรอก คนเราเกิดมาหนเดียว ตายหนเดียว กลัวอะไรกับความลำบาก ไม่ลงมือทำเอง ต่อให้ได้รางวัลมาก็ไม่รู้ค่าของมันเพราะไม่ได้ผ่านความลำบากมาก่อน” ทั้งๆที่เป็นถึงบุตรชายของท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาผู้มั่งคั่งไปด้วยเงินทองและเกียรติยศ แต่กระนั้นจันทร์จ้าวกลับเรียนรู้ที่จะพยายามด้วยน้ำมือตนมากกว่าร้องขอรอมรดกตกทอดจากตระกูล



ดวงตาคมทอดมองใบหน้าของคนพูดด้วยความซาบซึ้งในเนื้อแท้ของคนเบื้องหน้า จนคนถูกมองชักเริ่มรู้สึกประหลาดอีกหนแล้วต้องเบือนสายตาหนีไปมองทางอื่น พอดีเหลือบไปเห็นพระกลับจากบิณฑบาตรแล้ว เขาจึงเอ่ยชวน



“พระมาแล้ว”



ไม่มีคำพูดอะไรอีก ภวัตและจันทร์จ้าวเดินเข้าไปขอนิมนต์ใส่บาตร อาหารในปิ่นโตล้วนเป็นของแห้งเช่นเนื้อแดดเดียว พวกเขาช่วยกันใส่บาตร และปิดท้ายด้วยดอกบัว ๒ ดอกที่แบ่งกันถือคนละดอก วางลงบนบาตรอีกที เสร็จพิธีก็รับพร รอจนพระสงฆ์เดินขึ้นศาลาไปแล้ว ภวัตจึงหันมาพูดกับคนข้างกาย



“สงสัยเราต้องมาใส่บาตรกันอีกรอบแล้วล่ะครับ”



“เอ้า! ทำไมล่ะ?!” จันทร์จ้าวได้ยินก็ถึงกับหันมาถามตาโต นึกว่าตนทำอะไรผิดพลาด



“ผมไม่ได้หยิบที่กรวดน้ำมาเสียด้วย ใส่บาตรไม่กรวดน้ำอย่างนี้ไม่ดีหรอกครับ จะไม่ได้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล” คนฟังได้ยินเหตุผลก็ถึงกับหัวเราะ เขาไม่ใช่คนเคร่งศาสนา พอมาเจอภวัตที่ออกจะเคร่งเรื่องบุญเรื่องกรรมก็อดไม่ได้ที่จะเห็นว่าเป็นเรื่องขัน



“หมอท่าทางจะเอาจริงกับเรื่องบุญกรรมมากนะนี่”



“ผมเพียงแคอยากทำพิธีให้ครบถ้วน ไว้พรุ่งนี้จะไปรับมาใส่บาตรใหม่นะครับ ผมจะหยิบที่กรวดน้ำมาด้วย” ภวัตพูดแล้วยิ้มจางก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปที่รถ พลันนั้นจันทร์จ้าวก็นึกฉุกใจขึ้นมาเรื่องหนึ่ง คนที่ตระเตรียมปิ่นโตมาใส่บาตร จะลืมที่กรวดน้ำเชียวหรือ



“หมอ...” เขาเรียกเอาไว้ นายแพทย์หนุ่มจึงหันกลับมามอง



“...อย่าริอ่านโกหกในวัดเชียว หมอลืมที่กรวดน้ำจริงหรือแกล้ง เพราะจะได้หาเรื่องมาใส่บาตรกับผมอีกรอบ” ภวัตมองคนถามนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มกว้างขึ้นกว่าเมื่อครู่



“ผมบอกว่าไม่ได้หยิบมา ไม่ได้บอกว่าลืมครับ”


สิ้นคำตอบนั้น จันทร์จ้าวก็ถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะเดินกลับไปที่รถแล้วเก็บเรื่องหนึ่งเอาไว้ในใจ



...พวกเขามาใส่บาตรกันที่วัด และต่อให้เขาจะไม่เคร่งศาสนา แต่เขาก็รู้ว่าในวัดย่อมมีที่กรวดน้ำ แต่กระนั้น...จันทร์จ้าวก็ไม่เสนอให้ภวัตไปหยิบยืมที่กรวดน้ำของวัดมาใช้...



เขาไม่กล้าหยอกเย้าอีกฝ่ายว่าอยากใส่บาตรกับเขาจนถึงขนาดไม่หยิบที่กรวดน้ำมา เพราะตัวเขาเองก็เห็นว่าการใส่บาตรกับภวัตเป็นเรื่องสนุกจนไม่เสนอเรื่องที่กรวดน้ำของวัดเช่นกัน


........................................



หลังจากใส่บาตร พวกเขาไปหาอะไรรับประทานเป็นอาหารเช้า แล้วภวัตจึงมาส่งจันทร์จ้าวที่หน้าสำนักงานซึ่งชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายหนังสือ ตอนที่ผู้โดยสารลงจากรถนั้น พอดีกับที่เรย์มอนด์ อดัมส์เพื่อนฝรั่งผู้ร่วมหุ้นเปิดบริษัทด้วยกันเดินเตร่มาถึงหน้าสำนักงานเช่นกัน เขาเลิกคิ้วน้อยๆเพราะไม่เคยเห็นรถยนต์คันนี้มาก่อน นายฝรั่งรอจนรถคันนั้นขับออกถนนใหญ่และหายลับไปกับรถยนต์บนท้องถนนแล้วจึงรีบเดินเข้าไปทักทายเพื่อนรัก

 

“อรุณสวัสดิ์เช้าที่แสนสบายคุณจันทร์”



“สวัสดี เรย์” เรย์มอนด์เลิกคิ้วอีกหน วันนี้จันทร์จ้าวอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาดูเพื่อนออก



“เมื่อกี้รถใคร ผมไม่เห็นเคยเห็นมาก่อน เพื่อนคุณจันทร์หรือ”



“รถหมอน่ะ”



“หมอ? หมอไหน?”



“จะหมอไหน ก็หมอภวัตน่ะซี” จันทร์จ้าวตอบแล้วหมุนตัวจะเดินเข้าสำนักงานแต่เสียงของเรย์มอนด์ดังขึ้นจากด้านหลังเสียก่อน



“เพิ่งรู้ว่าหมู่นี้คุณจันทร์สนิทกับคุณหมอ”



   ...สนิทหรือ?... จันทร์จ้าวถามตัวเอง เขากับหมอภวัตเพิ่งคุยกันได้อย่างไม่มีเรื่องขุ่นเคืองแค่ไม่กี่วัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเขาเหม็นหน้าอีกฝ่ายจะตาย บทจะหายเคืองก็หายเสียง่ายๆ แล้วพอหายเคืองแล้วก็ถึงได้รู้ว่าการคบหากับภวัตเป็นเรื่องน่าสนุกใช้ได้ จันทร์จ้าวไม่ทันคิดเรื่องนี้ จนกระทั่งเพื่อนฝรั่งทักขึ้นมา



   “ก็...ไม่ได้สนิทอะไร”



   “หือ? ไม่ได้สนิทแต่ให้คุณหมอมาส่ง? คุณจันทร์ท่าจะเพี้ยนเสียแล้ว คนอย่างคุณจันทร์น่ะเรื่องมากจะตาย นั่งรถใครง่ายๆเสียที่ไหน สมัยก่อน ใครนะที่หอ ที่เคยอาสาจะขับรถพาคุณเที่ยวแต่คุณไม่ยอมเพราะบ่นว่านายนั่นขับรถไม่ได้เรื่อง เบรคทีหัวทิ่มหัวตำ” จันทร์จ้าวฟังเรย์มอนด์นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่แล้วได้แต่กะพริบตาปริบๆ ด้วยเพราะนึกไม่ถึงว่าตนเองจะเรื่องมากถึงเพียงนั้น



   “ผมเคยด้วยหรือ?” เขาจำไม่เห็นได้ว่าเคยทำอะไรเช่นนั้น แต่เรย์มอนด์พยักหน้าอย่างจริงจัง



   “เคยซี! แต่จำไม่ได้แล้วว่าเจ้าคนที่ขันอาสาคุณจันทร์ชื่ออะไร ดูเหมือนจะเป็นคนจีนที่ชื่อนายหวังหรืออะไรสักอย่าง เอาเถอะ! เรื่องมันผ่านไปแล้ว ตอนนี้คุณจันทร์เจอคนที่ถูกใจแล้ว หมอภวัตขับรถให้คุณนั่งได้ ซ้ำยังตีเทนนิสก็เก่ง เป็นคู่ซ้อมคุณได้ทุกเมื่อ หือ?! ตั้ง ๒ เรื่องแน่ะที่ถูกใจจันทร์จ้าวผู้แสนเรื่องมาก  อย่างนี้ต้องเรียกว่า Soulmate!!”



จันทร์จ้าวหัวเราะลั่นสมกับที่เรย์มอนด์ประเมินเพื่อนรักชาวไทยคนนี้เอาไว้ว่าวันนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะแม้เขาจะพูดภาษาอังกฤษ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยักจะกินหัวเขาเหมือนทุกที



   “แค่ ๒ เรื่องเรียกว่า soulmate ผมก็คงมี soulmate สัก ๑๐๐ คนแล้วล่ะมั้ง” ชายหนุ่มร่างโปร่งผู้เป็นเจ้าของลักยิ้มที่แก้มซ้ายว่าอย่างนั้นก่อนจะเดินผิวปากอารมณ์ดีเข้าสำนักงานไป เรย์มอนด์มองตามแล้วคันปากยิบอยากย้อนนักว่า soulmate ๙๙ คนที่จันทร์จ้าวพูดถึงอาจมีเรื่องที่ทำถูกใจคนเรื่องมาก ๒ เรื่องเหมือนหมอภวัตก็จริง แต่เขาเชื่อว่า ๙๙ คนพวกนั้นไม่มีทางทำให้จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์อารมณ์ดีได้เท่ากับที่หมอภวัตทำในวันนี้



   “ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ผมว่าหมอภวัตนี่ล่ะ soulmate ของคุณ” นายฝรั่งพูดตามหลัง แต่จันทร์จ้าวทำเพียงยกมือโบกไปมาประหนึ่งจะบอกว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้



   ... soulmate ของผู้ชายที่ชื่อจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ไม่มีทางเป็นหมอภวัต...จันทร์จ้าวยืนยันกับตนเองเช่นนั้น...


...................................



เพราะเรย์มอนด์พูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างเรื่องหมอภวัตคือ soulmate ของจันทร์จ้าว ช่วงบ่ายวันนั้นเมฆฝนก้อนใหญ่จึงปกคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯ ที่สำนักงานของพวกเขาก็มีฝนตกห่าใหญ่เช่นกัน



ชายหนุ่มร่างโปร่งนั่งอยู่ในห้องทำงานแคบๆของตนเองแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความเหนื่อยหน่าย เพราะว่าฝนตก อดเล่นเทนนิสอย่างไม่ต้องสงสัย และเพราะฝนตก จันทร์จ้าวจึงยังนั่งอยู่ในห้องทำงานต่อไปทั้งๆที่ควรจะกลับบ้านได้แล้ว



...เขาว่าจะรอให้ฝนซากว่านี้อีกสักหน่อย แต่ดูท่าเม็ดฝนจะไม่บางลงเสียเลย...



“กลับก็กลับ...” เขาได้แต่บ่นกับตนเอง ไม่มีรถจึงแย่อย่างนี้ ระหกระเหินขึ้นรถรางหาสามล้อกลับบ้านเอง บางทีเขาควรจะซื้อรถสักทีก็ดีเหมือนกัน


 
จันทร์จ้าวก้าวเท้าเดินออกจากห้องทำงาน บอกลาพนักงานที่ยังทำงานกันอยู่ ก่อนจะลงมาชั้นล่างที่เปิดเป็นหน้าร้านวางหนังสือ แล้วจึงออกมาที่ถนน ฝนเม็ดใหญ่ยังคงตกไม่ลืมหูลืมตา เขาก็ได้แต่ยืนอยู่ใต้กันสาดเท่านั้น ตอนที่กำลังคิดว่าจะฝ่าฝนกลับบ้านหรือกลับเข้าไปนั่งอยู่ในสำนักงานต่อ รถยนต์คุ้นตาคันหนึ่งก็ขับเข้ามาจอดที่ริมฟุตบาธหน้าร้าน แล้วกระจกรถก็ถูกเลื่อนลงเล็กน้อยให้ร่างโปร่งเห็นคนขับรถคันนั้น



“หมอ?!”

 

“ขึ้นมาสิครับ คุณจันทร์” คนที่ยั่งนั่งอยู่หลังพวงมาลัยร้องบอก ฝนยังคงตกไม่ลืมหูลืมตา และอยู่ดีๆก็มีรถยนต์มาจอดอยู่ตรงหน้า หากจันทร์จ้าวบอกปัด เขาก็คงด่าตนเองว่าโง่บรม คนถูกชวนวิ่งออกจากใต้กันสาดหน้าร้านไปขึ้นรถทันที ชั่วอึดใจเดียว ร่างสูงโปร่งของจันทร์จ้าวก็มาอยู่ในรถยนต์ของภวัตแล้ว



“ฝนแรงน่าดูเลยนะครับ ใช้นี่เช็ดเสียก่อน” คนขับรถเอ่ยแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าสีเข้มให้ผืนหนึ่งเมื่อเห็นว่าคนที่วิ่งฝ่าฝนมาขึ้นรถเขานั้นเปียกไม่ใช่น้อย แม้ระยะห่างระหว่างหน้าร้านกับรถของเขาจะใกล้กันแค่ความกว้างของฟุตบาธเท่านั้นเอง



“ขอบคุณหมอ” คนตัวเปียกรับมาอย่างไม่เกี่ยงงอนแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดศีรษะและเสื้อของตนเอง เมื่อนั้นภวัตจึงเริ่มหันหัวรถออกสู่ถนนอีกครั้ง



“ฝนตกหนักอย่างนี้คงอดเล่นเทนนิสเสียแล้วนะครับ” สารถีเริ่มชวนคุย จันทร์จ้าวใช้ผ้าเช็ดหน้าของเจ้าของรถเช็ดจนรู้สึกว่าพอจะสบายตัวขึ้นแล้ว จะส่งคืนก็กระไร จึงเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อตั้งใจจะนำไปซักเสียก่อนแล้วค่อยนำมาคืนอีกหน



“นั่นซี วันนี้จู่ๆฟ้าก็รั่ว แล้วนี่หมอออกเวรแล้วหรือ”



“ครับ ผมเห็นฝนตก คิดเอาว่าคุณคงกลับลำบาก ก็เลยลองแวะมาดู กำลังจะกลับบ้านพอดีหรือครับ”



“อื้อ นั่งรอตั้งแต่บ่าย เห็นว่ายังไม่หยุดเสียทีก็เลยตั้งใจว่าจะกลับแล้ว โชคดีหมอมาถึงพอดี ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดเราคงคลาดกัน” จันทร์จ้าวพูดแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายช่างโมเมเรื่องการทำบุญกรรมร่วมกันมาเลยรีบดักคอไว้ก่อน



“หมออย่าบอกล่ะว่าที่หมอมาทันผมพอดีเป็นเพราะเราทำบุญร่วมกันมาอีก” ภวัตหัวเราะน้อยๆอย่างอารมณ์ดี



“แล้วมันไม่จริงหรือครับ คิดดูสิ คนไม่ทำบุญร่วมกันมาจะบังเอิญได้ขนาดนี้เชียวหรือ” จันทร์จ้าวไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่ส่ายศีรษะไปมา



“ผมไม่เถียงกับหมอหรอก หมอส่งผมที่หน้าซอยบ้านผมได้ไหม จะแวะกินข้าวเสียหน่อย ที่บ้านไม่มีอะไรสักอย่าง”



“ถ้าอย่างนั้นก็แวะทานอะไรที่ร้านเสียเลยดีไหมล่ะครับ”



“ไม่เอา ฝนตกเฉอะแฉะอย่างนี้ มัวแต่ขึ้นๆลงๆรถก็พอดี เบาะเปียก”



“ถ้าอย่างนั้นไปทานที่บ้านผมไหมครับ ผมหมายถึงบ้านพักหมอในโรงพยาบาล”



“บ้านหมอมีอะไรทานด้วยหรือ”



“มีครับ ปกติผมจะฝากให้แม่ครัวของโรงพยาบาลจัดอาหารให้ เวลาจะทานก็เอามาอุ่นเสียหน่อย รสชาติใช้ได้ทีเดียว”



“แล้วมีพอสำหรับเรา ๒ คนหรือ” จริงอยู่ว่าอาหารที่แม่ครัวจัดให้นั้นถึงจะมีกับข้าว ๓ อย่างในทุกๆมื้อ แต่ก็เป็นปริมาณที่อิ่มท้องสำหรับคนเดียว ทว่า...คำถามของจันทร์จ้าวกลับทำให้ภวัตรู้สึกอุ่นในอก ต่อให้ปริมาณอาหารจะน้อยกว่าปกติเสียครึ่งหนึ่ง เขาก็ยังคิดว่าพอสำหรับ ‘เรา ๒ คน’ อยู่ดี



“ลองไปดูก่อนแล้วกันครับ ถ้าไม่พอ ผมจะเจียวไข่เพิ่มให้อีก” เมื่อคนชวนว่าอย่างนั้น จันทร์จ้าวก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธ เขาเอนกายพิงพนักอย่างสบายเหมือนเมื่อเช้าก่อนจะเอ่ยปากอย่างอารมณ์ดี



“ตามใจหมอ สงสัยชาติที่แล้วเราจะทำบุญด้วยกันมามากจริง ชาตินี้ได้กินข้าวด้วยกันอีกแล้ว” แล้วรถยนต์ของหมอภวัตก็เคลื่อนตัวไปตามถนนที่พร่างพรายไปด้วยฝน ทว่าในรถกลับอุ่นอย่างน่าประหลาด



คนหนึ่งขับรถอย่างสงบและมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้า



อีกคนนั่งอย่างสบายและมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้าเช่นเดียวกัน


................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 22-10-2015 20:35:16


บ้านพักแพทย์อยู่ในเขตโรงพยาบาลแต่ค่อนมาทางด้านหลัง เป็นบ้านชั้นเดียวขนาดเล็ก รถต้องจอดอยู่ที่หน้าตึกโรงพยาบาล แล้วจึงวิ่งเข้ามา แต่เพราะฝนแรงและระยะทางค่อนข้างไกล กว่าที่จันทร์จ้าวและหมอภวัตจะมาถึงบ้านพักก็พากันเปียกมะล่อกมะแล่ก



“ผมจะหาเสื้อผ้าให้คุณเปลี่ยน ขืนใส่อย่างนี้มีหวังเป็นหวัดกันพอดี” เจ้าของบ้านพูดแล้วดึงแขนแขกผู้มีเกียรติเข้ามาในห้องนอนของตน ห้องนอนของหมอภวัตเป็นห้องนอนขนาดกะทัดรัด เตียงกว้างกลางห้องมีโต๊ะข้างเตียงวางโคมไฟ มุมหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้าและกระจก อีกมุมคือตู้หนังสือและโต๊ะทำงาน



“นี่ครับ ผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้า”



“ผมขอแค่ผ้าเช็ดตัวก็พอ...” จันทร์จ้าวติดนิสัยไม่ชอบใส่เสื้อผ้าคนอื่น แต่อีกฝ่ายก็ติดนิสัยของนายแพทย์เช่นกัน



“ไม่ได้ครับ เสื้อผ้าคุณเปียกขนาดนี้ ถ้าไม่เปลี่ยน พรุ่งนี้คุณได้ย้ายเข้าไปนอนในโรงพยาบาลแน่”



“แต่...”



“ไม่มีแต่ครับ เปลี่ยนเสื้อผ้า ผมจะรอข้างนอก” หมอภวัตสำทับเสียงเข้ม ดวงตาที่เคยอ่อนโยนเข้มงวดราวกับบิดากำชับบุตรก็ไม่ปาน



“ผมไม่ชอบใส่เสื้อผ้าของคนอื่นนี่!” ดวงหน้าขาวเริ่มจะหงุดหงิดที่ถูกบังคับ “...ของคุณพงศ์ ยังไม่เคยใส่เลยสักครั้ง” กับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้เป็นเพื่อนสนิทยิ่งกว่าผู้ใด จันทร์จ้าวยังไม่เคยคิดจะใส่เสื้อผ้าร่วมกัน แล้วภวัตเป็นใคร อยู่ๆจะมาบังคับให้เขาใส่เสื้อผ้าด้วย



นายแพทย์หนุ่มมองคนดื้อแพ่ง เขาเป็นคนใจเย็นและใจดีก็จริง แต่หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพแล้ว ภวัตก็เข้มงวดและเคร่งครัดไม่แพ้ใคร



“ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าของคนอื่น ผมเองก็ไม่ใช่คนอื่น เป็นคู่ตีเทนนิสของคุณนี่เอง แล้วของคุณพงศ์ ไม่เคยใส่ ก็ลองใส่ของผมจะเป็นไรไป เสื้อผ้านั่นซักมาใหม่ๆ ใช้ผงซักฟอกแบบฝรั่งที่ยังไม่มีขายในเมืองไทยด้วยนะครับ” จันทร์จ้าวอ้าปากจะเถียง แต่ภวัตที่ดูเชื่องช้าและใจเย็นกลับพูดแทรกอย่างรวดเร็วกว่า



“เอาล่ะครับ ผมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำด้านหลัง คุณใช้ห้องนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าก็แล้วกัน แล้วถ้าผมกลับมา คุณจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว มิเช่นนั้น คุณจะได้รู้ว่าผมจะทำอะไร” นายแพทย์หนุ่มกล่าวแล้วจับจ้องดวงหน้าขาวอย่างจริงจังแล้วจึงเดินไปหยิบเสื้อผ้าของตนออกจากห้องไป พอบานประตูปิดลง เมื่อนั้นจันทร์จ้าวจึงเพิ่งนึกขึ้นได้



“นี่หมอขู่ผมหรือ?!! คิดว่าผมจะกลัวรึไร?!! หมอ! กลับมาคุยก่อนซี!!” แต่ภวัตไปแล้วไปลับ ไม่เปิดประตูกลับเข้ามา คนโวยวายเลยได้แต่ถอนหายใจอย่างหงุดหงิดแล้วจำต้องก้มลงมองเสื้อผ้าชุดใหม่ที่อยู่ในมือของเขา



‘…เสื้อผ้านั่นซักมาใหม่ๆ ใช้ผงซักฟอกแบบฝรั่งที่ยังไม่มีขายในเมืองไทยด้วยนะครับ’ คำพูดของหมอภวัตยังคงดังก้องอยู่ในหัว และดูเหมือนนั่นจะเป็นสาเหตุให้คนไม่ชอบใส่เสื้อผ้าร่วมกับใครยอมยกเสื้อผ้าในมือขึ้นดม

   

ดวงหน้าขาวนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อพบว่ากลิ่นที่ติดจมูกเป็นกลิ่นผงซักฟอกแบบฝรั่งจริง ดวงตากลมใหญ่จับจ้องเสื้อผ้าในมือ ก่อนจะคลี่มันออกมาดู



‘…ผมเองก็ไม่ใช่คนอื่น เป็นคู่ตีเทนนิสของคุณนี่เอง แล้วของคุณพงศ์ ไม่เคยใส่ ก็ลองใส่ของผมจะเป็นไรไป…’



ถ้าลองใส่แล้วรู้สึกไม่ดี ผมจะลงโทษหมอด้วยการไม่เป็นคู่ตีเทนนิสด้วยอีกเลย คอยดูเถอะ!



...................................



ภวัตอาศัยเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำทางด้านหลัง ตอนที่เขากลับเข้ามาในบ้านอีกหน จันทร์จ้าวก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย เจ้าตัวดูเหมือนจะผอมกว่าเขาเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าใส่เสื้อผ้าของเขาได้พอดี



“มองอะไรหมอ” คนถูกบังคับให้เปลี่ยนเสื้อผ้าถามเสียงห้วน ดูจะไม่ค่อยพอใจเสียเท่าไร นายแพทย์หนุ่มเจ้าของบ้านจึงเดินเข้ามาหา



“เสื้อผ้าเปียกอยู่ตรงไหนครับ”



“ผมเอาออกไปไว้หน้าบ้าน” ภวัตเดินออกไปที่หน้าบ้านซึ่งเป็นเฉลียงนั่งเล่นมีหลังคาคลุม เสื้อผ้าของจันทร์จ้าวพาดอยู่ตรงนั้นเพื่อผึ่งให้แห้ง เขาจึงหยิบมันขึ้นมาจัดเสียใหม่ เพราะวิธีการผึ่งของเจ้าของเสื้อผ้าออกจะยับย่นไปเสียหน่อย ดูแล้วคงจะแห้งยาก จันทร์จ้าวเดินตามออกมาดู แล้วก็ถึงได้เห็นว่าภวัตเป็นคนช่างดูแลแม้กระทั่งเสื้อผ้าของเขา



“ถ้าฝนยังตกอยู่อย่างนี้ คุณคงต้องใส่เสื้อผ้าชุดนั้นกลับบ้านไปก่อน” ภวัตหันมาพูด ทำเอาร่างโปร่งก้มลงมองเสื้อผ้าที่สวมอยู่ จริงอยู่ว่านี่เป็นเสื้อผ้าของคนอื่น และเขาก็รู้สึกไม่ค่อยจะดีเสียเท่าไร แต่...เมื่อลองใส่ดู ก็พบว่ามันไม่ค่อยจะอิหลักอิเหลื่อเสียเท่าไร อาจจะเพราะหมอรับประกันว่ามันถูกซักด้วยผงซักฟอกแบบฝรั่ง จันทร์จ้าวจึงพอจะทำใจยอมรับกับเสื้อผ้าของคนอื่นบนร่างกายตัวเองได้อยู่บ้าง



“หมอไปเอาผงซักฟอกฝรั่งมาจากไหน ที่เมืองไทยยังไม่นำเข้ามาไม่ใช่หรือ”



“เพื่อนที่ต่างประเทศส่งมาให้ลองใช้ครับ สะดวกและสะอาดดีนะครับ กลิ่นก็หอมด้วย ผมว่าอีกไม่นานคงมีคนนำเข้ามาขายในเมืองไทยบ้าง” คนฟังพยักหน้าหงึกหงักรับรู้ หมอภวัตจึงเปลี่ยนเรื่องชวนคุยเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายพะวักพะวงอยู่แต่กับเรื่องเสื้อผ้าของเขาที่สวมอยู่



“แล้วหิวหรือยังครับ”



“อืม...เอาอาหารออกมานั่งทานตรงนี้ได้ไหม หน้าบ้านลมเย็นดี” จันทร์จ้าวเสนอแล้วบุ้ยหน้าไปที่เฉลียง มีหลังคาคลุมกันฝนอย่างนี้ ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นหวัด ซ้ำยังลมเย็น ได้ยินเสียงฝนตกจ้อกๆด้วย



“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะไปจัดอาหารมา” เจ้าของบ้านว่าอย่างนั้นแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน หากแขกอย่างเขาจะยืนอยู่ที่เดิมก็จะดูมารยาทเลวไม่น้อย จันทร์จ้าวจึงจำต้องเดินตามไปเลียบๆเคียงๆหาเรื่องช่วยเล็กๆน้อยๆบ้าง



นายแพทย์หนุ่มมาเป็นพ่อครัวใหญ่ เขาลำเลียงเอาอาหารที่อยู่ในปิ่นโตออกมาอุ่นเสียใหม่แล้วจัดจานชามอย่างสวย โดยมีจันทร์จ้าวคอยเดินไปเดินมายกอาหารจากครัวเล็กๆออกไปตั้งที่โต๊ะ



เมื่อทุกอย่างพร้อม คนทั้งคู่ก็นั่งลงที่โต๊ะตรงเฉลียง ได้ยินเสียงฝนตกจ้อกๆ ลมเย็นกำลังสบาย ยิ่งทำให้อารมณ์ดี



“ผมเพิ่งเคยเข้ามาแถวนี้ของโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก ปกติก็มักจะอยู่แถวตึกนู่น” จันทร์จ้าวพูดแล้วบุ้ยหน้าไปที่ตึกของโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านพักแพทย์เสียเท่าไร



“คุณจันทร์มารักษาที่นี่ประจำเลยสินะครับ”



“ใช่สิ บ้านผมอยู่ใกล้แค่นี้เอง” จันทร์จ้าวหมายถึงบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ที่อยู่ถัดจากโรงพยาบาลไปหน่อยเท่านั้นเอง



“ไม่ยักเคยเจอกัน” ภวัตเอ่ยปาก ทว่าทำเอาอีกคนหัวเราะ



“ก็แน่สิหมอ ผมไม่อยู่เมืองไทยตั้ง ๖ ปี เราได้เจอกันก็แปลกแล้ว”



“จริงด้วยสินะครับ คุณไปเรียนที่อเมริกามา ไปเรียนด้านไหนหรือครับ”



“เศรษฐศาสตร์น่ะ”



“คุณคงเก่งเลขซีนะครับ” เป็นอีกครั้งที่ภวัตทายผิด เพราะอีกฝ่ายโบกมือว่อน



“ตรงกันข้ามเลยหมอ ผมอ่อนวิชาเลขมากที่สุด เพราะว่าไม่เก่งก็เลยเรียนเสียเลยจะได้เลิกไม่เก่งอย่างไรล่ะ” คราวนี้คนฟังถึงกับหัวเราะ “คุณเป็นคนที่ผมคาดไม่ถึงจริงๆ”



“ตอนเด็กๆผมเคยอยากเป็นหมอด้วยนะ หมอรู้จักพยาบาลที่ชื่อคุณอนงค์ไหมล่ะ”



“คุณอนงค์หรือครับ? เอ?...ที่เป็นหัวหน้าพยาบาลไหม”



“ใช่ๆ สมัยก่อนคุณอนงค์สวยที่สุดในบรรดาพยาบาลทั้งหมดของโรงพยาบาลนี้ นั่นล่ะแรงบันดาลใจให้ผมอยากเป็นหมอล่ะ”


ช่างสมเป็นจันทร์จ้าวผู้เจ้าสำราญ ภวัตหัวเราะไม่หยุดแต่ก็ยังไม่วายตั้งคำถาม “แล้วทำไมถึงล้มเลิกเสียล่ะครับ”



“จะเพราะอะไร? ก็เพราะว่าคุณอนงค์แต่งงานน่ะซี” จันทร์จ้าวพูดแล้วหัวเราะร่วน แต่สุดท้ายก็โบกมือไปมา “ล้อเล่นหรอก...ตอนหลังผมอยากเก่งเลข ก็เลยหันไปสนใจเศรษฐศาสตร์แทน จริงๆควรจะเรียนเกี่ยวกับบัญชีใช่ไหม แต่ผมทำสลาก ๒ ใบ ใบหนึ่งเขียนคำว่าบัญชี อีกใบเขียนคำว่าเศรษฐศาสตร์แล้วก็เลยจับได้คำว่าเศรษฐศาสตร์น่ะ”



“คราวนี้พูดจริงหรือล้อเล่นครับ” ภวัตถามทั้งๆที่ยังหัวเราะ



“พูดจริง! แต่ครึ่งเดียว เพราะว่าตอนนั้นมีทุนทางด้านเศรษฐศาสตร์พอดี แล้วใจผมก็อยากเรียนเกี่ยวกับเศรษฐกิจอยู่แล้วด้วย ช่วงสงคราม อะไรๆก็แพง ถึงบ้านผมจะพอมีพอกิน แต่เราก็เห็นหลายคนลำบากมากขึ้น ตอนนั้น จู่ๆผมก็นึกขึ้นมาว่าหลังสงครามแล้ว คนอาจจะไม่รบกันด้วยระเบิดหรือปืน แต่คงจะหันมารบกันด้วยเศรษฐกิจ ระเบิดทำให้คนตาย หรือพิการในวินาทีสั้นๆ แต่เศรษฐกิจจะกัดกินคนเข้าไปเรื่อยๆ มันเป็นอาวุธที่ร้ายกาจ” ภวัตมองคนพูดด้วยคาดไม่ถึงว่าคนสนุกสนานเช่นจันทร์จ้าวจะคิดเรื่องเช่นนี้



“ทั้งๆที่คิดว่ามันอันตราย ก็ยังคิดจะเรียนหรือครับ”



“จะได้อยู่กับมันอย่างปลอดภัยอย่างไรล่ะ” ภวัตมองคนพูดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและหลากใจกับความคิดความอ่านของอีกฝ่ายแล้วจึงเอ่ย



“หมายความว่าถ้าเกิดตอนนั้นจับได้สลากที่มีคำว่าบัญชี คุณก็จะจับสลากใหม่จนกว่าจะได้สลากที่มีคำว่าเศรษฐศาสตร์ใช่ไหม” จันทร์จ้าวหัวเราะกับคำถามนั้นแล้วพยักหน้ารับอย่างจำนน



“หมอรู้จักผมดีเกินไปแล้ว แล้วหมอล่ะ ทำไมถึงเป็นหมอ อย่าบอกนะว่าอยากช่วยเหลือคน” ภวัตยิ้มจางแล้วพยักหน้ารับ



“ใช่ครับ” ดวงตากลมใหญ่จับจ้องใบหน้าของคุณหมอหนุ่มอย่างมีชั้นเชิง



“เป็นชาวนาก็ปลูกข้าวทำให้คนไม่อดอยาก เป็นสามล้อก็รับส่งคนเดินเท้าทำให้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย อาชีพไหนๆก็ช่วยเหลือคนได้นี่” คราวนี้คนฟังหัวเราะ ดวงหน้าคมดุทว่าอ่อนโยนยังคงถูกจับจ้องด้วยดวงตาของจันทร์จ้าวที่มองมาเหมือนรอคอยคำตอบ



“จริงครับ ไม่ว่าจะอาชีพไหนก็ได้ช่วยเหลือคน ถึงจะเป็นการช่วยเหลือที่แลกกับเงินทอง แต่ถ้าหากชาวนาไม่คิดจะปลูกข้าว หรือสามล้อไม่คิดรับจ้าง ต่อให้เรามีเงินมากมายเพียงใด เราก็อดอยากและเราก็เหน็ดเหนื่อยกับการเดินถนนอยู่ดี แต่ที่ผมเป็นหมอ เพราะผมอยากทำให้ชาวนาที่ป่วย หายป่วย อยากช่วยให้สามล้อที่บาดเจ็บ หายเจ็บ พวกเขาจะได้กลับไปปลูกข้าวและรับจ้าง คนอื่นๆจะได้ไม่อดอยากและไม่ต้องเหนื่อยเดินถนน” เป็นคำตอบที่ทำให้จันทร์จ้าวนิ่งงัน เขาคิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายต้อนอีกฝ่ายให้จนมุม แต่กลายเป็นภวัตที่ยืนยันตัวตนอย่างเข้มแข็ง



“หมอชอบปิดทองหลังพระสินะ” เขาเอ่ย ดวงตากลมที่เมื่อครู่มองอย่างเหนือกว่ากลายเป็นลูกแก้วใสที่จับจ้องหมอภวัตราวกับอยากเรียนรู้นิสัยใจคอของอีกฝ่ายให้มากขึ้นกว่านี้



ภวัตหัวเราะเบาๆ “คุณเองก็ดูเหมือนจะรู้จักผมดีเช่นกัน”



ดวงตา ๒ คู่มองสบกัน ราวกับพยายามเรียนรู้ตัวตนของกันและกันให้มากยิ่งขึ้น แล้วก็ราวกับรอบกายพวกเขาเหลือเพียงเสียงฝนที่กระทบหลังคาเบาๆเป็นจังหวะ จังหวะที่จันทร์จ้าวคิดไปเองว่ามันช่างคล้ายจังหวะของบางอย่างที่กำลังเต้นถี่อยู่ในร่างกายของเขาเสียเหลือเกิน



ดวงตากลมใหญ่เป็นฝ่ายเบี่ยงลงมองจานข้าวตัวเอง รู้สึกอับจนคำพูดขึ้นมา



“พรุ่งนี้ถ้าฝนไม่ตก เราไปตีเทนนิสกันไหมครับ” แล้วก็กลายเป็นภวัตที่ตั้งคำถามในช่วงที่จันทร์จ้าวคิดคำพูดใดๆต่อไปไม่ออก คนถูกชวนเหลือบตาไปมอง บรรยากาศประหลาดเมื่อครู่นี้จางหายไปแล้ว ที่อยู่รอบตัวพวกเขาตอนนี้กลายเป็นเรื่องตีเทนนิสแทน ร่างโปร่งเลยรู้สึกเหมือนจะหายใจได้สะดวกขึ้น



“ถ้าหมอว่างและถ้าฝนไม่ตก ผมไปตีก็ได้” นายแพทย์หนุ่มยิ้มจางรับ



“พรุ่งนี้ตอนเช้าผมจะโทรศัพท์ไปจองคอร์ดครับ” แล้วหลังจากนั้น พวกเขาก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันต่ออีกครู่ใหญ่ๆจนกระทั่งมื้ออาหารเย็นจบลง ภวัตจึงเป็นคนอาสาไปส่งอีกฝ่ายที่บ้านเช่าสีเขียวอ่อน เป็นอันว่าจันทร์จ้าวจำต้องใส่เสื้อผ้าของ ‘คนอื่น’ ไปจนกระทั่งหมดวันนั้นเลย



...........................................



ช่วงนี้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรแทบจะไม่ได้พบปะหน้าตาเพื่อนรักอย่างจันทร์จ้าวเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่วังฉัตรกับบ้านเช่าสีเชียวอ่อนที่เพื่อนของเขาอาศัยก็อยู่ใกล้กันเท่านี้เอง แต่เพราะช่วงนี้บิดาจะซื้อที่ดินผืนใหม่ หน้าฝนอย่างนี้ เดินทางไปที่ไกลๆก็ลำบาก แต่เพราะเห็นว่าเป็นที่ดินทำเลดีและราคาถูก บิดาของเขาก็อดไม่ได้ เขาจึงต้องติดตามไปด้วย จึงทำให้แทบไม่มีเวลาพบหน้าใคร เมื่อวันนี้มีโอกาสได้พักผ่อนหลังจากต้องติดตามบิดา หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจึงตรงปรี่ไปที่สโมสรเทนนิสในตอนเย็นทันที หลังจากแวะไปที่สำนักงานแล้วพบว่าจันทร์จ้าวเข้ามาทำงานในช่วงเช้า ก่อนจะหายหน้าออกไปหลังจากพักเที่ยง



“สวัสดี คุณพงศ์! หายไปนานเชียว นี่จะลืมหน้าเสียแล้ว!” นายวินิตรีบเข้ามาทักทายเมื่อเห็นราชนิกูลหนุ่มในสโมสร



“สวัสดี คุณวินิต ช่วงนี้ผมต้องติดตามคุณพ่อ วันนี้ได้พักเลยจะมาตีเทนนิสเสียหน่อย” เขาว่าอย่างนั้นแล้วสอดส่ายสายตาไปทั่วทั้งสนาม แต่ไม่พบจันทร์จ้าวเลยแม้แต่นิดเดียว



“มองหาใครหรือคุณพงศ์ มองหาคุณจันทร์อยู่ล่ะซี! ประเดี๋ยวก็มา! แกต้องรอให้คุณหมอออกเวรก่อนแล้วจึงมาพร้อมกัน” นายวินิตพูดสิ่งที่พบเห็นตลอดหลายวันมานี้ ที่จันทร์จ้าวโผล่มาที่สโมสรทุกเย็น โดยมาพร้อมกับคุณหมอภวัต มาแล้วหากไม่แข่งกันเอง ก็จับคู่กันแข่งกับคนอื่น แล้วใครจะรอดเล่า? ๒ คนนั้นกลายเป็นคู่หูคว้าชัยทุกครั้งที่ลงสนาม



“รอคุณหมอออกเวร?” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทวนถามด้วยความสงสัย



“ใช่! คุณพงศ์ไม่โผล่มาเสียนาน รู้ไหมตอนนี้คุณจันทร์กับคุณหมอตัวติดกันเป็นตังเม! เจอคนหนึ่งต้องเจออีกคนหนึ่ง ช่วงนี้มาตีเทนนิสกันแทบทุกวันเลยล่ะ แล้วตีแต่ละที อ้ายผมจะเข้าไปตีด้วยก็จะกลายเป็น ๓ คน ตีไม่ได้อีก ต้องวิ่งรอกหาคู่มาตีด้วย แล้วคู่ผมก็ขาจรทั้งนั้น คุณประจักษ์อย่างนี้ คุณกิตติอย่างนี้ ไฮ้! ตีไปก็แพ้ สุดท้ายต้องยอมให้เธอตีโต้กัน ๒ คนแทน แทรกลำบาก!”



“หมายความว่าจันทร์กับคุณหมอจับคู่กันตีกับคุณวินิตอย่างนั้นหรือ”



“ก็ใช่น่ะซี! ฝีมือคุณจันทร์คนเดียวก็ว่าแย่แล้ว นี่เจอคุณหมอด้วยอีก แค่เสิร์ฟไปก็แพ้แล้วคุณพงศ์!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรขมวดคิ้วฉับด้วยความงุนงง เขาไม่ได้แวะไปที่สำนักงานและมาตีเทนนิสหลายวัน จันทร์จ้าวกัลภวัตกลับสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ



“พูดถึงก็มาพอดี นู่นไง! มากันนู่นแล้ว” นายวินิตร้องบอก พลางบุ้ยหน้าไปที่มุมหนึ่งของสนามเทนนิส ราชนิกูลหนุ่มมองตามแล้วก็เห็นจริงดังว่า จันทร์จ้าวมาพร้อมหมอภวัต



“คุณพงศ์! มาได้อย่างไรน่ะ?!!” จันทร์จ้าวเห็นเพื่อนรักก็รีบวิ่งเข้ามาทักทายอย่างยินดี หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันไปยิ้มและค้อมศีรษะทักทายนายแพทย์หนุ่ม ก่อนจะหันมาทางร่างโปร่งเจ้าของดวงตากลมใหญ่และลักยิ้มที่แก้มซ้าย



“มารถน่ะซี! เมื่อบ่ายเข้าไปหาแกที่สำนักงาน แต่เขาบอกว่าแกออกมาตั้งแต่เที่ยง”



“ผมมีธุระตอนบ่าย แต่ผมไปทำงานแต่เช้านะ! คุณพงศ์เถอะ หายหน้าไปนาน ผมกับเรย์กำลังจะตกลงฮุบหุ้นส่วนคุณพงศ์แล้วเชียว!” จันทร์จ้าวพูดติดตลกแล้วหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี



“ก็นี่ไง เลยรีบกลับมาให้เห็นหน้าเสียหน่อย”



“เห็นหน้าไม่พอ ต้องตีเทนนิสด้วย รู้ไหม ช่วงที่คุณพงศ์ไม่อยู่ เรย์ก็ไม่ยอมมาตีอ้างแต่ว่ามีธุระ สักวันผมจะสืบดูสักทีว่าธุระอะไรนักหนา เพราะพวกผมเดือดร้อนหนัก ต้องตะเวนหาคนมาตีคู่ด้วย แล้วก็ไม่มีใครอยากจะตีกับพวกผมเลย เขาหาว่าผมกับหมอเก่งเกินไป ตีด้วยแล้วแพ้ เมื่อวานนี้เลวสุด คนที่มาจับคู่กับคุณวินิตคือคุณประจักษ์ คุณประเจิดอะไรไม่รู้ ตีแทบจะไม่ตรงลูกด้วยซ้ำ คุณวินิตเลยถอดใจ ผมกับหมอต้องตีโต้กันเอง” จันทร์จ้าวบ่น แต่ไม่ทันจะชักชวนเพื่อนรักลงไปที่คอร์ด หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ดึงคอเสื้อเอาไว้



“ให้คนอื่นตีไปก่อน กันมีเรื่องจะคุยด้วย” คนถูกรั้งหันมามองด้วยความสงสัย แต่สายตาของราชนิกูลหนุ่มดูจริงจังเสียจนจันทร์จ้าวต้องหันไปบอกให้นายวินิตและหมอภวัตลงไปตีกันเพียงลำพัง ส่วนตนเองเดินไปทรุดตัวลงนั่งที่ชุดเก้าอี้ข้างคอร์ด



“แกคิดจะทำอะไร จันทร์ ทำไมจู่ๆถึงไปสนิทกับคุณหมอได้” ก่อนหน้านี้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจำได้ว่าเพื่อนรักออกจะเหม็นหน้านายแพทย์หนุ่มออกจะตายไป แต่ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นว่าคบหาสนิทใจได้ขนาดนี้



“ก็ไม่ได้คิดจะทำอะไร เขาดีมา ผมก็ดีตอบ หรือคุณพงศ์อยากให้ผมร้ายตอบล่ะ”



“กันไม่ได้หมายความอย่างนั้น จันทร์ กันไม่เข้าใจแกเอาเสียเลย ตอนแรกก็ไม่ชอบคุณหมอ ตอนนี้ก็สนิทกับเขา อะไรดลใจแก หือ?”



...อะไรดลใจหรือ?...ก็คำพูดตรงไปตรงมาของหมอภวัตที่กล้าบอกกับจันทร์จ้าวว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับหม่อมหลวงพิมพัชราน่ะซี...พอรู้ว่าภวัตจะไม่ขัดขวางความสัมพันธ์ของพี่ชายและราชนิกูลสาว จันทร์จ้าวก็สบายใจเพียงพอที่จะสานสัมพันธ์กับนายแพทย์หนุ่มในฐานะเพื่อน และพอได้พูดคุยช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าคบหาทีเดียว



“คุณพงศ์ไม่ดีใจหรือไร ที่ผมกับหมอสนิทกัน”



“ดีใจซี! คุณหมอเธอเป็นคนดี จะให้เจอแกพูดจาแขวะเธอแบบที่แล้วๆมา กันก็ไม่สบายใจ”



“ถ้าอย่างนั้นก็เลิกถามได้แล้ว อะไรกัน...ผมไม่ดีกับเขา คุณพงศ์ก็บ่น ผมดีกับเขา คุณพงศ์ก็บ่น”



“กันไม่ได้บ่น...” พอแก้ต่างไปเท่านั้น จันทร์จ้าวก็หันมาจ้อง สุดท้ายหม่อมหลวงพงศ์ภราธรจึงได้แต่ยกสองมือขึ้นเหนือไหล่อย่างยอมแพ้ “...ก็ได้ กันไม่พูดแล้ว อ้อ...แต่มีอีกเรื่องอยากจะถาม เมื่อหลายวันก่อน คุณหมอไปหาแกที่บ้านแต่เช้าหรือ ไปหาทำไม” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งคำถาม ด้วยเพราะช่วงที่ติดตามบิดาไปทำธุระแถบชานเมือง ทำให้ต้องออกจากวังแต่เช้าตรู่ ตอนที่รถแล่นผ่านหน้าบ้านเช่าสีเขียวอ่อนที่เพื่อนรักมาอาศัย ราชนิกูลหนุ่มทันเห็นรถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มจอดอยู่ที่หน้าบ้านของจันทร์จ้าว ความสงสัยทำให้เขาอยู่ไม่สุข แต่ก็อดทนจนกระทั่งวันนี้ที่ว่างพอจะควานหาตัวเพื่อนรักเพื่อจับตัวมาถามไถ่ให้รู้เรื่อง



“วันไหน” จันทร์จ้าวย้อนถามอย่างฉงน



“วันไหนกันจำไม่ได้หรอก อาจจะสัปดาห์ที่แล้วหรือสัปดาห์ก่อน หรือก่อนหน้านั้นก็ไม่รู้ จำได้แต่ว่ามีวันหนึ่งที่กันนั่งรถผ่านหน้าบ้านแก แล้วเห็นรถคุณหมอ”



“หมอมาหาผมตั้งหลายวัน ช่วงนี้เข้าเวรเช้า แวะมารับผมไปส่งบ้าง หรือไม่อย่างนั้นก็ไปหาอะไรทานบ้าง อ้อ มีวันหนึ่งพาไปทำบุญด้วย”


   
“ทำบุญ?!!!”



“อื้อ ผมแพ้พนันหมอ เลยต้องไปทำบุญกับหมอน่ะซี” จันทร์จ้าวเล่าเสียงเรื่อยเปื่อยเพราะไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องน่าปิดบังอย่างไร



“อุวะ! ก้าวหน้าถึงขั้นทำบุญร่วมกันแล้วรึ?!!!” ราชนิกูลหนุ่มยิ่งกว่าตกตะลึง ทว่าร่างโปร่งที่อยู่ข้างๆกลับหัวเราะ



“ก้าวหน้าอะไร ผมบอกอยู่แหม่บๆว่าผมแพ้พนันหมอ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก



“เอาเถอะ แพ้พนันก็แพ้พนัน แต่นี่นะ...ถ้าแกหรือคุณหมอเป็นผู้หญิง กันคงคิดว่าเป็นคู่รักกันแน่” ทายาทวังฉัตรว่าอย่างนั้น ก่อนจะส่ายศีรษะไปมาเหมือนไม่คิดอะไร “ไปเถอะ ไปตีเทนนิส กันไม่ได้ตีมาหลายวัน แขนท่าจะยึดเสียแล้ว” ว่าแล้วเขาก็คว้าแรกเก็ตเดินลงสนามไปร่วมเล่นกับนายวินิตและหมอภวัต ทิ้งจันทร์จ้าวให้ชะงักอยู่ที่เดิม



    ‘…ถ้าแกหรือคุณหมอเป็นผู้หญิง กันคงคิดว่าเป็นคู่รักกันแน่’



..คู่รักหรือ?...จะเป็นไปได้อย่างไร ทั้งเขาและหมอภวัตต่างก็เป็นผู้ชาย...เป็นไปไม่ได้เป็นอันขาด เขาและหมอภวัตเป็นคู่รักไม่ได้เป็นอันขาด!...



....................................



ในขณะที่บุตรชายคนรองอยู่ที่สนามเทนนิสกับเพื่อนฝูง บุตรชายคนใหญ่ของท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกากลับถึงบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์แล้ว ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบทหารดับเครื่องยนต์รถ ก่อนจะก้าวเท้าขึ้นเรือนอย่างเงียบเชียบเรียบร้อย ทว่ายังไม่ทันจะก้าวเท้าถึงชั้นบนสุด เสียงของบิดามารดาที่กลางเรือนก็ดังมาให้เขาได้ยิน



“ท่านอยากจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพ่อจันทร์ เห็นว่าจะจัดให้ในวัง พี่ล่ะเกรงใจท่านจริง” เสียงของบิดาทำให้นายทหารหนุ่มหยุดยืนอยู่ที่กลางบันได



“คุณชายท่านคงจะเอ็นดูพ่อจันทร์นะคะ”



“ท่านก็เห็นมาแต่เล็ก แต่ว่า...พี่ว่าท่านคงอยากจะดูตัวพ่อจันทร์ด้วย ธิดาของท่านก็อายุอานามพอจะออกเรือนได้แล้ว กับพ่อจันทร์ก็เหมาะสมกันดี คุณหญิงว่าไหม”



“ยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยกอีกนะคะ คุณพี่...พ่อจันทร์ของเรา กับหม่อมหลวงพิมพัชรา...” อาทิตย์ใจหายวาบเมื่อได้ยินบิดามารดาพูดคุยกัน



...จันทร์จ้าวกับหม่อมหลวงพิมพัชราอย่างนั้นหรือ?!!!...



ชายหนุ่มก้าวเท้าไม่ออก เขาได้แต่ยืนอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงน้องสาวจากใต้ถุนเรือน อาทิตย์จึงพอจะมีสติรับรู้อยู่บ้าง ทว่ายังไม่ทันจะก้าวเท้าขึ้นเรือนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสียงของนภาสรวงก็ดังจากเบื้องล่าง



“พี่อาทิตย์ทำอะไรตรงนั้นหรือคะ” เจ้าของชื่อหันไปมอง แต่เขาไม่สามารถแม้แต่จะพูดอะไรออกมาได้ นายทหารหนุ่มทำได้แค่ส่ายศีรษะไปมา ก่อนจะก้าวเท้าขึ้นเรือนอย่างรวดเร็ว เขาแวะไหว้บิดามารดาโดยไม่พูดคำใด ก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้อง พอดีกับที่ดารารัศมีซึ่งเข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเดินออกจากห้องและนภาสรวงที่เดินตามขึ้นมาบนเรือน



“พี่อาทิตย์กลับมาแล้วหรือ” ดารารัศมีตั้งคำถามพี่สาวแฝด



“จ้ะ แต่ดูเธอแปลก หน้าซีดเซียว ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น”



“คงจะงานหนักกระมัง” ดารารัศมีว่าอย่างนั้น ก่อนจะเดินกลับไปที่ยกพื้นกลางเรือนซึ่งมีบิดามารดานั่งอยู่ นภาสรวงนำคนรับใช้ที่ยกเครื่องดื่มคลายร้อนและของว่างมาที่โต๊ะ



“นภา ดารา วันนี้คุณพ่อเข้าไปที่วังฉัตรมา คุณชายท่านว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพ่อจันทร์แน่ะ!” คุณหญิงผการีบอวดด้วยความยินดีที่บุตรชายคนรองผู้เป็นหัวแก้วหัวแหวนถูกหมายตาจากผู้ใหญ่ของบ้านเมือง



“งานเลี้ยงเชียวหรือคะ คุณชายฉัตรท่านใจกว้างจริง” ดารารัศมีออกปากทั้งชื่นชมและสงสัยที่หม่อมราชวงศ์ฉัตรให้ความเมตตากับพี่ชายคนรองของตนถึงเพียงนี้



“แต่แม่ว่า ท่านคงจะอยากดูตัวน่ะซี! ถึงได้หาข้ออ้างจะจัดงานเลี้ยงให้พ่อจันทร์” คำว่าดูตัวจากปากมารดา ทำเอาดารารัศมีปล่อยช้อนในมือลงในถ้วยดังเคร้งด้วยความตกใจ



“คุณแม่ว่าอย่างไรนะคะ?! ดูตัวหรือ?!!”



“ดาราตกใจอะไรน่ะลูก พี่จันทร์กับคุณพิมก็เหมาะสมกันดีไม่ใช่หรือ” หญิงสาวพูดไม่ออก หล่อนไม่กล้าแย้งว่าจันทร์จ้าวและหม่อมหลวงพิมพัชราไม่เหมาะสมกัน หล่อนรู้! ทั้ง ๒ คนเหมาะสมกัน แต่กระนั้นก็มีอีกคนที่เหมาะสมไม่ต่างกัน และใครคนนั้นมีใจรักมอบให้เพื่อนผู้เป็นราชนิกูลของหล่อนด้วย!



ดารารัศมีเหลือบไปมองยังประตูห้องพักส่วนตัวของพี่ชายคนใหญ่ แล้วก็พลันนึกได้ว่านภาสรวงบอกหล่อนเมื่อครู่ว่าอาทิตย์มีสีหน้าซีดเซียว



...หล่อนทราบแล้ว ว่าเหตุใดอาทิตย์จึงเป็นเช่นนั้น...



ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

อ้าว....ดราม่าพี่อาทิตย์ซะงั้น บอกก่อนว่าบัวยังย้ำคำเดิมว่านี่คือนิยายวายนะคะ ยังไม่ใช่ชายหญิงค่ะ แต่เนื่องจากเรียงตามลำดับอาวุโส เพราะงั้นเชิญพี่อาทิตย์ก่อน ฮาฮา

แต่อย่าได้ตกใจไป บัวก็ยังย้ำอีกเหมือนเดิมว่าเราจะเป็นนิยายวายยุคก่อน 2500 ที่เป็นสไตล์ลูกกวาด เราจะอมลูกกวาดกันให้ฟันผุไปข้าง เผื่อจะมีคุณหมอหนุ่มใจดีใจเย็นแต่เคร่งครัดสุขภาพมาดูแลมั่ง

ตอนที่แล้วมีคนแก้คำผิดให้ด้วย บัวติดพิมพ์ ‘เงียบเชียบ’ เป็น ‘เงียบเฉียบ’ บ่อยมากๆ เวลาอ่านทวนมันอ่านเพลินก็ผ่านตาไปเลย ขอบคุณมากๆที่มาบอกค่ะ


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ ทุกๆกำลังใจ และพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ แล้วเจอกันพฤหัสฯหน้า

ปุจฉา: ทายกันดีกว่า ว่า ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์จะได้ใครคู่ใครกันมั่ง ใบ้ให้อย่างใจดี๊ใจดีว่า 1 คู่ชายชาย และ 3 คู่ชายหญิง ( คู่หนึ่งนั่นต้องลุ้นอีกมั้ย คือทำบุญร่วมชาติกันแล้วนะ ชาตินี้ชาติหน้าก็คงไม่พ้นกันแล้วล่ะค่ะ ฮา)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๖ (๑๕ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๐)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-10-2015 21:09:48
ไม่ใช่โซลเมทเลยค่ะคุณจันทร์
แค่คุณหมอเช้าถึงเย็นถึง พอว่างก็ไปตีเทนนิสกัน
รู้ทันกันทุกเรื่อง แถมไปทำบุญร่วมกันมาแล้ว ไม่ใช่โซลเมทจริงจริ๊งงงงง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 22-10-2015 21:17:10
หมอกับคุณจันทร์ เจ้า ขาาาา
อาทิตย์พิม
เภาดารา
เรย์นภา
55555555555555555555  เดาล้วนๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-10-2015 21:28:16
แอร๊ยย ชอบหมอ รักหมอ
คุณจันทร์นี่น่าอิจฉาจริงๆ

ขอบคุณพี่บัวมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 22-10-2015 21:34:14
มาแล้ว เริ่มมีสะกิดใจเรื่องเป็น Soulmate กับคุณหมอแล้ว จริงๆ นึกไม่ออกเลยว่าปฏิกิริยาของครอบครัวและสังคมที่จะมีต่อคู่ชายชายในสมัยนั้นเป็นยังไง คนเขียนจิตนาการขึ้นมาเองหรือมีแหล่งศึกษาครับ

ระหว่างที่รอเรื่องนี้อยู่ ก็แอบไปอ่านเรื่องเจ้าสาวของอานนท์คั่นเวลา อารมณ์ต่อกับเรื่องนี้ดีมาก ไม่รู้เพราะยุคสมัยหรืออะไร
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 22-10-2015 21:37:59
คุณหมอ ใจดี ใจเย็น รักสุขภาพ
หาได้จากไหน
จะรีบไปหา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 22-10-2015 21:44:37
พี่อาทิตย์ใจเย็นๆๆก่อนนะ  :ling2:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 22-10-2015 21:47:20
โถ่วคุณหมอทำมาเป็นพูดว่าไม่ได้หยิบมา
เข้าใจหาคำพูดนะ ตั้งใจไม่หยิบมา มากกว่าล่ะสิ
แผนสูงนะ หาเรื่องไปชวนเค้าทำบุญอีกรอบน่ะ
จันทร์ก็รู้ทันแหม๋ๆ รู้ว่าเค้าหลอกแต่เต็มใจให้หลอกนะคะ
555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 22-10-2015 22:01:02
คุณหมอรู้สึกอย่างไรก็เผยออกมาทางดวงตาหมดเลยนะคะนั่น แบบนี้คนมองอย่างจันทร์จ้าวก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำตลอดเลยสิค้า~ :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-10-2015 22:03:11
อือ คุณหมอรุกหนักมากและดูเหมือนจันทร์ก็เออออไปด้วยไม่มีขัดเลย
จะมาสะดุดอีตรงเพื่อนเริ่มตั้งข้อสังเกตมากขึ้นแล้วไม่ว่าจะเป็นเรย์หรือคุณพงศ์
จันทร์คนหัวก้าวหน้าจะหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองยังไงดี
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Theshadowreader ที่ 22-10-2015 22:07:03
เนียนมากคุณหมอ ค่อยๆทำความรู้จักใกล้ชิดสนิทสนมแบบที่จันทร์ไม่รู้ตัว ว่าแต่คุณพงษ์อย่าทำให้กระต่ายตื่นสิ กลัวมาม่า
เอแต่สมัยนั้นยังไม่มีมาม่าสินะ คงมีแต่ยาขมเป็นบรเพ็ด

อ่านเสียงฝนตกแล้วแปลกๆ เคยได้ยินแต่ฝนตกจั๊กจั๊ก เอ... หรือจั้กจั้กนะ แล้วก็มีตกเปาะแปะ แต่นี้กลับมีฝนตกจ้อกจ้อก เสียงเหมือนท้องร้องจ้อกจ้อกเวลาหิวเลย

 :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 22-10-2015 22:08:09
ตัวติดกันยิ่งกว่าแฟนกันด้วยซ้ำเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 22-10-2015 22:20:37
รักใครชวนทำบุญ :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 22-10-2015 22:30:31
ถ้าลองใส่แล้วรู้สึกไม่ดี ผมจะลงโทษหมอด้วยการไม่เป็นคู่ตีเทนนิสด้วยอีกเลย คอยดูเถอะ!

เจอประโยคนี้เข้าไป ดาเมจรุนแรงมากกกกก
จันทร์เอ้ยยยย เป็นsoulmate คุณหมอเถ้อะะะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 22-10-2015 22:37:58
โอ๊ย อยากจะฟาดโต๊ะรัวๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ คุณหมอนี่ก็แอบเนียนจริงๆ อ้างนู่นอ้างนี่ แต่ในใจนั้นอยากจะอยู่ใกล้ๆ จันทร์จ้าวใช่ไหมคะ เลยทำทีเป็นพาไปทำบุญมั่ง พาไปทานข้าวมั่ง นี่ถึงกับพาไปบ้าน(พัก)ตัวเอง นี่คิดว่าบ้านพักเป็นเรือนหอหรือคะคุณหมอ โฮะๆ ลองได้ทำอย่างนี้แล้ว ชิ้นปลามันอย่างจันทร์จ้าวจะรอดปากเสือปากตะเข้อย่างคุณหมอไปได้อย่างไรล่ะคะ รับรองว่าไม่นานเป็นต้องเรียบร้อยโรงเรียนภวัตแน่ๆ (ฮา) อ่านตอนเขาหวานกันแล้วมันคันยิกๆ ในหัวใจนะคะ แอบกรี๊ดเบาๆ แค่จีบกัน(อย่างที่จันทร์จ้าวไม่รู้ตัว)ยังขนาดนี้ แล้วถ้ารักกันแล้วจะหวานขนาดไหน รอคอยวันนั้นค่ะ

แอบสงสารพี่อาทิตย์นะคะ รักเขาแต่ก็ไม่กล้าบอกความในใจ นี่เพราะเป็นคนเงียบๆ ด้วยแหละมั้ง ท่านนายพลและคุณหญิงถึงไม่ได้เฉลียวใจว่าลูกคนใหญ่ก็รักก็ชอบผู้หญิงเป็น มีแต่จะเข็นให้ลูกคนรองเข้าเรือนหอให้ได้ เลยเป็นว่าหลงลืมลูกคนนี้ไปเสีย ยังไงก็เอาใจช่วยพี่อาทิตย์นะคะ สู้ๆ ค่ะ เพราะคุณพิมพ์แกก็รักพี่อาทิตย์เช่นกัน

ส่วนที่คุณบัวถาม สี่พี่น้องคู่ใครบ้างนั้น ขอตอบว่า ๑. หมอภวัต-จันทร์จ้าว, ๒. อาทิตย์-ม.ล.พิมพ์พัชรา, ๓. ม.ล.พงศ์ภราธร-ดารารัศมี, ๔.คุณเภา(น้องชายหมอภวัต?) - นภาสรวง

ว้าย ลิสต์ข้างต้นเป็นแค่การเดาสุ่มเท่านั้นนะคะ ไม่มีเหตุผลมารองรับใดๆ ทั้งสิ้น แต่มั่นใจว่าคู่ที่ ๑ และ ๒ จะต้องเป็นไปตามนั้นแน่ๆ แต่ดิฉันว่า คุณพงษ์กับดารารัศมีถ้าคู่กันก็จะน่ารักดี อิอิ

รอพฤหัสบดีหน้าค่ะ ขอบคุณคุณบัวนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 22-10-2015 22:45:12
นึกถึงเพลงเก่าๆ ที่ร้องประมาณว่าทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน คู่นี้เค้ามาแบบ พรหมลิขิตจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 22-10-2015 22:55:59
เค้าพัฒนาความสำคัญกันล้วน้าาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 22-10-2015 23:06:50
น่ารักจริงๆค่าาา คุณหมอทำไมอบอุ่นขนาดนี้ ~  :-[
คุณจันทร์คะ เค้ารุกขนาดนี้รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย 5555
ปล ไม่เคยตั้งใจรอวันพฤหัสขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 22-10-2015 23:55:47
ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกันขนาดนี้คู่แท้แน่นอน

คุณเรย์นี่ยิ่งกว่าหมอดู แค่เห็นก็รู้ว่าคู่นี้เค้าหน่ะ soulmate กัน

พี่อาทิตย์อย่าพึ่งด่วนเสียใจไปน้าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 23-10-2015 00:21:56
แล่วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ55555555555 ลุ้นคู่พี่อาทิตย์ต่อไปปป
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 23-10-2015 02:06:01
ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกันแล้ววววววว  :o8: คุณหมอรุกแบบเนียนๆมากกกกก เช้าถึงเย็นถึง แล้วก็นะวิธีการทำโทษคุณหมอที่คิดได้นี่มันน่ากลัวไปมั๊ยคะคุณจันทร์ จะไม่ยอมเป็นคู่ตีเทนนิสให้ น่ากลัวมากกก5555 :hao3: แค่เห็นเค้าดีกันคุณพงษ์ยังแปลกใจ นี่ถ้ารู้ว่าสนิทกันขนาดยอมใส่เสื้อผ้าคุณหมอ คุณพงษ์ไม่ตกใจแย่รึ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 23-10-2015 02:20:10
ชอบมากเลยเรื่องนี้ รอมาต่ออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 23-10-2015 05:23:00

สงสารพี่อาทิตย์  เพราะเป็นคนเงียบๆ ใครๆก็มองข้าม :hao5:

ขอเดา  คุณพงษ์คู่กับนภา  คุณเภาคู่กับดารา  ส่วนพี่อาทิตย์ (ของป้า(?)) คู่กับคุณพิม ฟันเฟิร์ม  /ถ้าคู่สุดท้ายทายผิดนี่ต้องจับน้องบัวมาตีๆๆๆ ให้เข็ดเลย  o18
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 23-10-2015 07:12:31
รอลุ้นตั้งนานนึกว่าเรื่องนี้จะกลายเป้นหมันอีกเรื่องซะแล้ว :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-10-2015 07:13:23
โอ้ยยย ตีตั๋วเข้ามาแล้ว ไม่ต้องลุ้น อิตาคุณพงษ์นี่จะมาทำไก่ตื่นมั้ยน้า คุณหมออุตส่าห์ทำอย่างเนียนๆแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 23-10-2015 07:44:31
คุณหมอรุกหนักมากกกก สายตงสายตา โง้ยยยยยย
คุณจันทร์ก็ดูหวั่นไหวนะ แต่แอบคิดว่าพอคุณพงศ์ทักแบบนี้ คุณจันทร์ต้องตีตัวออกห่างแน่เลย ฮือออออ
พี่อาทิตย์ต้องสู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-10-2015 07:51:56
คุณหมอสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 23-10-2015 09:42:24
รีบวางแผนเลยนะจันทร์
พี่อาทิตย์ป๊อดอีกแล้วว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 23-10-2015 10:06:56
คุณหมอเช้าถึงเย็นถึงทุกวันแบบนี้ อิจฉาคุณจันทร์จริงๆเลย

อยากมีคุณหมอเป็นของตัวเองบ้างอะไรบ้าง

(อมลูกกวาดมากๆฟันผุก็จริง แต่ก็ชอบนะคะ อิอิ)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 23-10-2015 10:07:39
เชิญคู่พี่อาทิตญ์กับคุณพิมพ์ก่อนค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระกับน้อง 55555

คู่2 ทายเป็น คุณพงศ์กับนภา

คู่3 ทายเป็น คุณเภากับดารา

คู่4 ทำบุญร่วมชาติ เป็นคู่กันทุกชาติไป คู่คุณหมอแสนดี และคุณจันทร์แสนน่ารักช่างเม้าท์มอย ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 23-10-2015 10:33:50
ทำบุญร่วมกัน ได้เป็นเนื้อคู่กัน :o8: :o8: :mew1: :mew1:
ลุ้นคู่พี่อาทิตย์ด้วย :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-10-2015 11:03:10
หวานๆกันมาแต่ต้นแท้ๆไหงมาปิดท้ายด้วยดราม่าของพี่อาทิตย์แบบนี้ละคะคุณบัว ไม่ต้องเศร้านะคะพี่อาทิตย์ตันทร์จ้าวเค้าไม่สนคุณพิมหรอกค่ะก็เค้ามี่ soulmate ของเค้าเองแล้วนี่เนอะ คุณหมอเล่นเช้าถึงเย็นถึงพาไปโน่นไปนี่แถมยังแอบหยอดแบบเนียนๆอีก จันทร์จ้าวก็ยินดีรับไมตรีแบบนี้พี่อาทิตย์สบายใจได้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 23-10-2015 11:45:17
คุณพงศ์ตกข่าวเลย 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 23-10-2015 13:54:07
อ่านแล้วปริ่มค่ะกับคู่ soulmate
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 23-10-2015 15:52:12
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 23-10-2015 15:56:16
พี่อาทิตย์ช้าอะ บุกจีบคุณพิมพ์แกเลยค่า


ให้มันเหมือนคุณหมอหน่อย แปปๆได้ไปรับไปส่งแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 23-10-2015 16:13:03
ทายคู่ 4 พี่น้อง

จันทร์จ้าว-หมอภวัต
พี่อาทิตย์-คุณพิม
ดารา-เภา
นภา-คุณพงศ์


เดาล้วนๆๆๆ  55555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 23-10-2015 16:22:44
เขินหมอภวัตจัง แลดูอบอุ่นละมุนละไมมาก -///-
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 23-10-2015 20:51:52
โอ้ยอ่านแล้วอิจฉาตาร้อนจริงๆอยากเจอคนแบบหมอจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 23-10-2015 20:53:45
พี่อาทิตย์ต้องสู้เพื่อรักครั้งนี้แล้วนะคะ แสดงให้คุณพิมเห็นไปเลยว่าเรามีจิตรปฏิพัทธ์ด้วย
ความรักจะได้สมหวัง

ที่เชียร์พี่อาทิตย์ขนาดนี้ ไม่ได้หวังว่าจะได้เห็นความรักของพี่จันทร์เลยจริงจริ๊ง
พี่คนโตสู้ๆนะคะ น้องๆรอต่อคิวอยู่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 23-10-2015 21:09:15
ขอเดานะคะ แน่ๆคือหมอภวัตจันทร์จ้าว อาทิตย์คุณพิม เภากับดารารัศมีและ เรย์กับนภา

จันทร์จะทำยังไงเนี่ยอาทิตย์ดูใจไม่ดีเลย จะแก้ไขยังไงตามแบบฉบับจันทร์จ้าวกันน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 23-10-2015 21:12:58
เค้าทำบุญด้วยกันแล้ว

คืบหน้าเร็วมาก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 23-10-2015 22:00:24
ฮื้ออออ จันทร์น่ารักดีนะ หมอจะติดใจก็ไม่แปลก 555 จีบเงียบๆแบบจันทร์ไม่รู้ตัวเลย
ลุ้นพี่อาทิตย์มากค่ะบอกเลย จันทร์ช่วยด้วย อย่าเพิ่งลืมพี่ชายสิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 23-10-2015 22:19:55
คุณจันทร์กับคุณหมอ
ก้าวหน้ากันเหลือเกิน ฮุฮุ  :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 23-10-2015 23:25:44
หวานซาบซ่านหัวใจ (ขอพีเรียดด้วยคน5555)
ยอมฟันผุเลยค่ะอย่างนี้
 :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 24-10-2015 01:54:32
เอาจริงๆหมอเขาก็รุกเเรงเหมือนกันนะคะ เอะอะตีเทนนิส เอะอะทำบุญ กะเอาทุกดอกจริงๆ55555
พ่อจันทร์ของเราก็ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องน่ะค่ะ เเหม ฝากคุณพงศ์เเขวะสักเล็กน้อย ทำบุญร่วมกันนี้ไม่ใช่เล่นๆเเล้วนะคะ
ไปค่ะ เราจะอมลูกกลวาดไปด้วยกัน หมออบอุ่นมาก ฉันชอบบบบ ตอนพ่อจันทร์ดื้อก็เอาอยู่ เชียร์ขาดใจ
สงสารคุณพี่อาทิตย์ของบ่าว วานน้องดาราไปพูดเเทนบ่าวด้วย คุณพี่อาทิตย์อย่าคิดมากนะเจ้าคะ
พ่อจันทร์เเกมีหมอดูเเลเเล้วค่ะ ไม่ใช่เเค่ชาตินี้เเต่ลามไปชาติหน้าเเล้ว คุณพี่อาทิตย์เดินหน้าได้เลยค่ะ
ก๊ากกกกก นี่อินมากเลยค่ะ อยากอ่านต่อออออ มาเร็วๆๆๆ รอตอนต่อไปนะคะวันพฤหัสใช่ไหม รอเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-10-2015 19:48:20
เพิ่งเข้ามากรี๊ดคุณหมอกับคุณจันทร์ ชอบมากค่ะ :m3:
คุณหมอเอ็นดูคุณจันทร์มาก หยอดได้เป็นหยอดเชียว คนอ่านนั่งเขินเลย :o8:
แต่ถถ้าคุณจันทร์ไม่ยอมรับใจตัวเองแบบนี้ คุณหมอเหนื่อยแน่เลย  :mew2:
เอาใจช่วยคุณหมอนะฮะ  :กอด1:
พี่อาทิตย์กับคุณพิมนี่ลุ้นจนเหนื่อย อุปสรรคก็มากมี แอบน้อยใจแทนที่คุณหญิงแม่เหมือนมองข้ามพี่อาทิตย์ตลอดเลย :mew6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-10-2015 00:17:50
อัยย่่ะๆ คุณหมอแกรุกแรงแบบเนียนๆ มีส่งสายตาหวานๆแบบมีความหมายด้วย มีคนสกกิดอย่างนี้หวังว่าจันทร์คงไม่เตลิิดหนีีหายน่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 28-10-2015 19:01:28
สวัสดีค่ะ ~ จริงๆอ่านเป็นรอบที่สี่แล้ว (สี่แล้วจริงๆค่ะกับตอนล่าสุด T ____ T ชอบมากกกกกกกกมากๆเลยค่ะเรื่องนี้)
แต่ไม่ได้เข้ามาเม้นซักที เพราะอ่านในไอโฟนตลอดเลย พอจะเม้นมันก็ลำบาก เปิดคอมก็ลืม แฮ่ . _ . ..
แต่พอเหลือบมองวันที่ที่มุมขวาบนของหน้าจอแล้วก็นึกขึ้นได้ค่ะว่าพรุ่งนี้ก็วันพฤหัสแล้ว เย้! ในที่สุดเรื่องโปรดก็จะอัพซะที
ก็เลยเข้ามาเม้นซะเลย .. อารัมภบทซะยาว เข้าเรื่องเถอะค่ะ

สำหรับตอนล่าสุดนี่ชอบคุณหมอมากกกกกกกกก ลุคแบบพระเอกสุดๆค่ะ เรื่องรูปร่างหน้าตานี่รู้กันอยู่แล้ว แต่รักมุมโหดของหมอมากๆเลย
รู้เลยค่ะว่า "แบบนี้แหละถึงจะเอาคุณจันทร์อยู่!" ยิ่งประโยคที่ว่า ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าของคนอื่น ผมเองก็ไม่ใช่คนอื่น เป็นคู่ตีเทนนิสของคุณนี่เอง
นี่ยิ่งกรี๊ดเข้าไปใหญ่เลยค่ะ จิกหมอนฟินเลยทีเดียว 55555555555 คุณหมอเธอปราบพยศคุณจันทร์ได้น่ารักสุดๆเลย
แถมคุณจันทร์ก็น่าเอ็นดูขึ้นทุกตอนนะคะ ถึงจะดื้อยังไงแต่ก็ยอมตามคุณหมอทุกที อย่างตอนที่คุณหมอทำเป็นลืมที่กรวดน้ำนี่ยอมใจเลยค่ะ!
ดูยังไงๆก็หาเรื่องจีบชัดๆ แถมเจ้าตัวคุณจันทร์ก็พาตัวเองเข้าไปให้จีบแบบถึงที่ขนาดนี้ แล้วยังไม่รู้ตัวอีกนะคะ 555555555
จนต้องให้เพื่อนอย่างคุณพงศ์มาเอะใจแทนซะงั้น - . -'

สำหรับคู่ที่คุณบัวให้ทายมา เดาว่าเป็น คุณหมอภวัต-จันทร์จ้าว , พี่อาทิตย์-คุณพิมพ์ , คุณเภา-ดารารัศมี , คุณพงศ์-นภาสรวง ค่ะ ><

ปล. อยากเห็นความเคลื่อนไหวของพี่ชายคนใหญ่ของบ้านจะแย่แล้วค่ะ ~~ จะรอวันพรุ่งนี้นะคะ !
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 29-10-2015 19:51:04
ชอบเรื่องนี้มากกกจนไม่อยากกินมาม่าในอนาคต :o12:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-10-2015 20:37:38
วันนี้วันพฤหัสบดี
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-10-2015 21:07:36
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๘



จันทร์จ้าวยังคงมาทำงานแต่เช้าตรู่ วันนี้เขาออกจากบ้านมาขึ้นรถรางด้วยตัวเอง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ซึ่งหมอภวัตต้องไปเข้าเวรตอนเช้า เขาจะวานให้อีกฝ่ายมารับไปส่ง แต่เพราะคำพูดของเพื่อนรักเมื่อวานที่แย้งว่าหากเขาหรือนายแพทย์หนุ่มคนใดคนหนึ่งเป็นหญิง คงไม่ต่างจากคู่รัก จันทร์จ้าวจึงรู้สึกประดักประเดิดเมื่อหมอภวัตเสนอว่าจะมารับไปหาอะไรรับประทานตอนเช้าในวันนี้ เขาปฏิเสธ โดยอ้างว่าจะรีบไปทำงาน และบอกปัดว่าให้มาเจอกันที่สโมสรเทนนิสในตอนเย็นแทน
 


   ชายหนุ่มเดินเข้ามาในสำนักงาน แม้จะเช้า แต่พนักงานบางคนก็มาทำงานแล้ว และหนึ่งในนั้นคือเลขานุการของเขา



   “คุณจันทร์ครับ มีโทรศัพท์จากคุณดารารัษมีเมื่อครู่นี้ เธอฝากข้อความไว้ว่าให้คุณจันทร์ไปพบเธอที่โรงเรียนในตอนเที่ยงครับ เห็นว่าเป็นเรื่องด่วน” จันทร์จ้าวออกจะประหลาดใจเมื่อได้รับข้อความที่น้องสาวฝากเอาไว้



   ...เรื่องด่วนอย่างนั้นหรือ...



   “ขอบใจมาก” เขาบอกก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในห้องทำงานของตนเอง หยิบจับเอกสารอยู่ ๒-๓ ชิ้นแต่ไม่มีสมาธิทำงานเพียงพอ เพราะทั้งเรื่องหมอภวัตและเรื่องดารารัษมี สุดท้ายชายหนุ่มจึงโยนเอกสารทั้งหมดลงกับโต๊ะทำงานตามเดิมด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปเปิดประตูสั่งงานกับเลขานุการ



   “ถ้ามิสเตอร์อดัมส์มาแล้ว เชิญเขาที่ห้องผมด้วย” เขาสั่งไม่ทันขาดคำ ชายชาวต่างชาติผมสีทองอร่ามก็เดินทักทายพนักงานอย่างสดใสร่าเริงเข้ามา



   “Hi! Chan!!” เจ้าตัวทักทายเป็นภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำ แต่จันทร์จ้าวตวัดสายตาขวับไปมองแล้วชี้หน้า



   “พูดภาษาไทย! แล้วตามเข้ามาด้วย!!” สั่งไม่พอ ยังเดินนำเข้าห้องอย่างรวดเร็วอีกต่างหาก เรย์มอนด์ อดัมส์ผู้เป็นทั้งหุ้นส่วนและเพื่อนสนิททำหน้าเลิ่กลั่กก่อนจะหันไปมองเลขานุการหนุ่มที่มีสีหน้าไม่สู้ดีเช่นกัน เพราะเล็งเห็นแล้วว่าวันนี้จันทร์จ้าวอารมณ์ไม่ดีเป็นพิเศษ



   “มีใครทำให้เขาโมโหหรือเปล่า” นายฝรั่งตัวโตถามเลขานุการของจันทร์จ้าวเสียงเบา



   “คิดว่า…ไม่มีครับ” เรย์มอนด์ อดัมส์พยักหน้าหงึกหงักแล้วเอ่ยลอยๆ



   “แสดงว่าเขาโมโหฉัน...” แล้วร่างสูงใหญ่ของชายชาวต่างชาติก็ผลุบหายเข้าไปในห้องทำงานของจันทร์จ้าว



……………………………



   เรย์มอนด์ อดัมส์ออกจะประหลาดใจเล็กน้อย ที่วันนี้เพื่อนรักที่นั่งร่วมเก้าอี้บุนวมตัวยาวดูจะตั้งใจและเอาใจใส่งานเป็นพิเศษ ถึงจะเข้มงวดให้เขาพูดภาษาไทยก็ตาม แต่ศัพท์ทางธุรกิจยากๆ และเขาหลุดภาษาอังกฤษออกไป จันทร์จ้าวก็ดูจะไม่ใส่ใจนัก เจ้าตัวคุยงานกับเขาอยู่ครู่ใหญ่ๆ หัวข้อเรื่องก็เปลี่ยน



   “ผมฝากงานด้วย วันนี้จะออกไปทำธุระข้างนอก” เรย์มอนด์ อดัมส์เลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนจะล้อเลียน



   “slacking off again?” จันทร์จ้าวตวัดสายตาไปมองทันทีแล้วสั่ง



   “ถ้าพูดภาษาอังกฤษอีกคำเดียว ผมจะซื้อตั๋วให้คุณกลับประเทศคุณไปซะ”



   “คุณ...อู้งานอีกแล้วหรือ” เรย์มอนด์ยอมตามใจถามเป็นภาษาไทยด้วยน้ำเสียงล้อเลียน



   “ผมมีธุระกับน้องผม”



   “โอ้ น้องสาวแฝดแสนสวยใช่ไหม!”



   “ถ้าคุณคิดทะลึ่งกับน้องผม อย่าหาว่าผมไม่เตือนแล้วกัน” จันทร์จ้าวลุกจากเก้าอี้บุนวมเดินไปเก็บเอกสารบนโต๊ะให้เข้าที่เข้าทาง แล้วตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กที่มีตัวเลขไทยอยู่บนนั้น แม้จะไม่มีข้อความใดกำกับ แต่เขาก็จำได้ทันทีว่าลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อยนี้เป็นลายมือของหมอภวัต และตัวเลขไทยบนกระดาษนั้นก็คือเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่นายแพทย์หนุ่มผู้นั้นประจำอยู่



   “เรย์...” เขาเอ่ยปากเรียกชื่อเพื่อน พลางเก็บเศษกระดาษนั้นลงในลิ้นชักชั้นบนสุด



   “...ถ้า...วันหนึ่งคุณรู้สึกว่าสนิทกับเพื่อนผู้ชายมากกว่าเพื่อนผู้หญิง คุณจะทำอย่างไร”



   “What?!!” หนุ่มต่างชาติทำหน้างุนงงกับคำถามเป็นที่สุด แต่พอหลุดปากภาษาอังกฤษไปแล้ว เรย์มอนด์ก็หวั่นใจว่าเพื่อนรักจะส่งกลับบ้านเกิดเมืองนอนจริง จึงรีบเปลี่ยนภาษา “...คุณหมายความว่าอย่างไรนะจันทร์ สนิทกับเพื่อนผู้ชายหรือ? ทุกวันนี้ผมก็สนิทกับคุณและคุณพงศ์มากกว่าเพื่อนผู้หญิงคนอื่นๆของผมนะ”



   จันทร์จ้าวรู้สึกว่าตนเองช่างโง่เง่าที่ตั้งคำถามเช่นนี้ จริงอย่างที่เรย์มอนด์ว่า เขาเป็นผู้ชาย การที่จะสนิทกับผู้หญิงมากกว่าสนิทกับผู้ชายด้วยกัน มันก็ดูไม่เข้าที ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะมีเพื่อนผู้หญิงมากมายก็ตาม แต่เมื่อตอนนี้จะหันมาสนิทกับเพื่อนผู้ชายบ้าง ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลก



   “ก็จริง...ช่างมันเถอะ เรย์ ไม่มีอะไรแล้ว ถือเสียว่าผมไม่ได้ถาม” เรย์มอนด์ อดัมส์มองท่าทางของเพื่อนรักผู้มักจะมีรอยยิ้มและความสนุกสนานเสมอ ทว่าวันนี้กลับดูเคร่งเครียดเสียเหลือเกิน



   “จันทร์...คุณกำลังกังวลอะไรหรือ” ประโยคนั้น ทำเอาคนกำลังเก็บโต๊ะทำงานให้เข้าที่เข้าทางต้องเงยหน้ามองเพื่อนรักชาวต่างชาติในทันที



   “คนเราจะสนิทสนมกัน มันไม่ใช่แค่ว่าอีกคนเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง มันมีปัจจัยอีกมากมายมาสนับสนุน เหมือนที่ผมสนิทกับคุณทั้งๆที่คุณเป็นคนไทยและผมเป็นอเมริกัน จำได้ไหม ช่วงที่ผมสนิทกับคุณใหม่ๆ มีตั้งหลายคนที่มองผมอย่างประหลาดที่ผมสนิทกับคนไทย แต่เพราะคุณเป็นคุณ ผมสนิทที่คุณเป็นจันทร์จ้าว ไม่ได้สนิทเพราะคุณเป็นคนไทยหรืออเมริกัน ฉันใดฉันนั้น หากคุณจะสนิทกับใคร อย่ากังวลว่าเขาเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไร ชาติใด อายุเท่าไร หากคุณถูกใจเขา อยู่กับเขาแล้วมีความสุข ก็จงรักษาความสัมพันธ์ของคุณไว้เถอะ” แม้เวลาทำงานจะพูดภาษาอังกฤษออกมาบ่อยๆให้จันทร์จ้าวตาขวาง แต่เวลาอย่างนี้ คนที่ถูกฝึกให้พูดภาษาไทยมาตั้งแต่ยังไม่ย้ายมาอยู่เมืองไทย กลับพูดภาษาไทยได้คล่องแคล่วโดยไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว



   ชายหนุ่มชาวต่างชาติเดินเข้ามาจับไหล่เพื่อนรักราวกับจะส่งผ่านกำลังใจ



   “ผมรู้จักคุณมาตั้ง ๖ ปี คุณคือตัวอย่างของคนที่ใช้ชีวิตอย่างเอาแต่ใจเป็นที่สุดสำหรับผม และครั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะเอาแต่ใจอย่างไร ผมก็จะอยู่ข้างคุณเหมือนที่แล้วมา”



   ……………………………….



   เพราะคำพูดของเพื่อนรักชาวต่างชาติ จึงทำให้จันทร์จ้าวพอจะขจัดความไม่สบายใจออกไปได้บ้าง เขานั่งรถรางและต่อด้วยรถสามล้อรับจ้างให้มาส่งที่หน้าโรงเรียนสตรีกัลยาณีอันเป็นที่ทำงานของน้องสาว เขาเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นครั้งนี้จึงเดินตรงดิ่งไปที่อาคารเรียนขนาด ๔ ชั้นที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้าซึ่งห้องพักครูภาษาไทยอยู่ที่ชั้น ๒ แต่ไม่ทันจะก้าวเท้าขึ้นบันได น้องสาวของเขาก็เดินลงมา



   “มีพรายกระซิบหรือ รู้ได้อย่างไรว่าพี่มา” จันทร์จ้าวทักทายพร้อมรอยยิ้มเช่นเคย



   “ดารานั่งรออยู่ที่ระเบียงนี่คะ เห็นพี่จันทร์เดินเข้ามาแต่ไกล” ดารารัษมีตอบ ไม่มีวี่แววจะพูดเล่นเหมือนเคย



   “อะไรกัน โกรธอะไรพี่ล่ะรอบนี้” หญิงสาวกำลังจะตอบ แต่พอดีหม่อมหลวงพิมพัชราและเพื่อนครูอีกคนหนึ่งเดินมาพบเข้าเสียก่อน



   “คุณจันทร์! สวัสดีค่ะ มาได้อย่างไรคะนี่” ราชนิกูลสาวผู้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่นี่ยกมือไหว้พร้อมรอยยิ้มทักทายอย่างสนิทสนม จันทร์จ้าวหันไปรับไหว้แล้วยิ้มตอบ



   “มาหาดาราแน่ะครับ คุณพิมอยู่ตึกนี้หรือครับ”



   “เปล่าหรอกค่ะ ห้องพักครูภาษาอังกฤษอยู่ที่ตึกข้างหลัง แต่นี่จะมาชวนคุณดาราไปรับประทานอาหารด้วยกัน ไม่ทราบว่าคุณจันทร์จะมา ตายจริง ลืมแนะนำไป นี่คุณอุไร เพื่อนของพิมค่ะ เธอสอนวิชาภาษาอังกฤษเช่นเดียวกัน” หม่อมหลวงพิมพัชราแนะนำเพื่อนของหล่อนที่ยืนอยู่ใกล้กัน จันทร์จ้าวหันไปส่งยิ้มให้กับอุไร หญิงสาวผิวขาวผู้มีหุ่นอวบอัด หล่อนส่งยิ้มให้เขาแล้วยกมือไหว้ กริยามารยาทดูเรียบร้อยดี หน้าตาก็ดีเสียด้วย



   “พี่จันทร์...” ดารารัษมีเห็นสายตาพี่ชายก็รีบเรียกชื่อปรามในทันที ก่อนจะหันไปทางราชนิกูลสาว



   “คุณพิม วันนี้ดาราเห็นจะไม่สะดวก พอดีติดธุระกับพี่จันทร์”



   “ไม่เป็นไรค่ะ ไว้คราวหน้าก็ได้” เมื่อ ๒ สาวทำความเข้าใจกันแล้ว ดารารัษมีก็ชวนพี่ชายให้เดินออกจากโรงเรียนไปหาอะไรรับประทานข้างนอก เพราะเรื่องที่หล่อนต้องคุยกับจันทร์จ้าวในวันนี้ ไม่สมควรมีคนรู้จักของหล่อนคนใดได้ยิน แต่แม้จะเดินออกจากโรงเรียนมาแล้ว หญิงสาวยังไม่วายขู่พี่ชายฟ่อด้วยน้ำเสียงดุดัน



   “พี่จันทร์ ดาราไม่ได้เรียกพี่มาทำความรู้จักกับคุณอุไรนะคะ!”



   จันทร์จ้าวได้แต่กรอกตามองฟ้า



...สนิทกับหมอภวัต ก็ถูกเพื่อนรักหยอก พอมองผู้หญิง ก็ถูกน้องสาวดุ...เกิดเป็นนายจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์นี่ใช้ชีวิตยากเสียจริง!!...


…………………………….



   ร้านอาหารเล็กๆไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก มีผู้คนค่อนข้างจะพลุ่กพล่าน เพราะนอกจากจะใกล้โรงเรียนแล้ว ยังใกล้โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งด้วย มองจากร้านก็สามารถเห็นตึกสีขาวของโรงพยาบาลได้อย่างง่ายดาย...โรงพยาบาลที่จันทร์จ้าวรู้ดีว่ามีใครบางคนที่เขารู้จักกำลังทำงานอยู่ที่นั่น...



   “พี่จันทร์ เมื่อไรจะทำให้พี่อาทิตย์สมหวังเสียที” เสียงของน้องสาวทำเอาจันทร์จ้าวต้องเหลือบตากลับมามองแล้วเลิกคิ้ว



   “เกิดอะไรขึ้น ถึงมาเร่งพี่แบบนี้”



   “ก็เมื่อวานน่ะสิ! คุณแม่พูดเหมือนอยากให้พี่จันทร์กับคุณพิมแต่งงานกัน” จันทร์จ้าวดูจะไม่ตกใจกับคำพูดของน้องสาว เขาเลิกคิ้วอีกหน



   “หืม? แล้วทำไมจู่ๆคุณแม่ถึงพูดอย่างนั้น”



   “ก็คุณพ่อบอกว่าคุณชายท่านเรียกเข้าไปพบ บอกว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้พี่จันทร์ คุณพ่อพูดเหมือนว่าคุณชายเองก็ดูจะพึงใจพี่ไม่น้อย พี่จันทร์บอกดารามานะ ว่าที่ย้ายไปอยู่ที่บ้านเช่านั่น ไปทำอะไรเอาไว้?! ทำไมกลายเป็นคุณชายท่านชอบพี่เข้าล่ะ!” 



เมื่อตอนก่อนจะย้ายไปอยู่บ้นเช่าใกล้วังฉัตร เขาเคยให้ย้ำกับดารารัษมีเพียงลำพังว่าการที่เขาไปอยู่ที่นั่น จะทำให้อาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชรามีโอกาสได้เจอกันมากขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าคนทั้งคู่ก็ยังไม่ค่อยจะได้เจอกันเช่นเดิม แม้ว่าบางสัปดาห์ เขาจะอุตส่าห์ไปรอที่วังตอนเย็นๆ และย้ำกับอาทิตย์ให้มารับช้าๆ แต่พี่ชายของเขาก็คลั่งความเกรงใจไม่เข้าเรื่อง รีบออกจากกรมทุกเย็นวันศุกร์ มารับเขาที่วังฉัตรทีไร จึงไม่เคยเจอหน้าหม่อมหลวงพิมพัชราเลยสักครั้ง ท้ายที่สุด บางทีเขาก็เป็นฝ่ายไปรออาทิตย์ที่กรมเสียเลย สิ้นเรื่องไป



   จันทร์จ้าวนวดขมับ เมื่อแผนการดูจะไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการ แต่อย่างไรเสียเขาก็เชื่อว่าหม่อมราชวงศ์ฉัตรไม่มีทางถูกใจเขามากกว่าอาทิตย์แน่ อาทิตย์กับภวัตคล้ายกัน หากคุณชายเลือกภวัตได้ก็น่าจะเลือกอาทิตย์ได้เช่นเดียวกัน



   “เอาอย่างไรล่ะพี่จันทร์! อย่าเพิ่งเงียบอย่างนี้ซี!” ดารารัษมีร้อนใจเพราะสงสารพี่ชายคนใหญ่ที่ต้องมารับรู้ว่าบิดามารดาตั้งใจจะให้หญิงที่เขารักได้แต่งงานกับจันทร์จ้าวมากกว่าเขา ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นจนกระทั่งเมื่อเช้า หล่อนสังเกตเห็นว่าอาทิตย์แทบจะไม่พูดกับใครด้วยซ้ำ



   “แล้วที่พี่ให้ดาราไปพูดกับพี่อาทิตย์น่ะ ดาราทำหรือยัง”



   “ทำแล้วค่ะ ทำตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่...พี่อาทิตย์ก็ดูจะไม่ขยับตัวทำอะไรเลย ยิ่งมารู้ว่าคุณพ่อคุณแม่อยากให้พี่จันทร์เป็นคนแต่งงาน แกก็คงจะยิ่งถอยออกมาแน่” จันทร์จ้าวก็คิดเช่นเดียวกับดารารัษมี อาทิตย์เป็นคนเสียสละ หากรู้ว่าการเดินหน้าเพื่อให้ความรักของตนงอกงาม ไม่ต่างอะไรกับการแย่งคู่แต่งงานของน้องชาย คนอย่างอาทิตย์จะไม่มีวันทำเช่นนั้น



   “แล้วที่ว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพี่น่ะ เมื่อไร”



   “ไม่ทราบค่ะ ดาราไม่ทันได้ถาม”



   “ไม่เป็นไร วันศุกร์นี้พี่กลับไปจะจัดการเอง”



   “พี่จันทร์จะจัดการอย่างไร” จันทร์จ้าวยกยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วจับจ้องน้องสาว



   “ก็จัดการให้พี่อาทิตย์ลงมือเสียทีน่ะซี!”


………………………………..
   



   นภาสรวงก้าวเท้าไปตามทางเดินริมถนน หล่อนมองอาคารพาณิชย์ที่เรียงติดกันเป็นพืดเพื่อมองหาป้ายชื่อสำนักงานของพี่ชายคนรอง ดวงหน้าหวานยิ้มจางกับตนเองเมื่อหล่อนพบเข้าแล้ว อาคารพาณิชย์เบื้องหน้าถูกใช้ชั้นล่างเป็นร้านหนังสือนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนชั้น ๒ เป็นสำนักงาน หล่อนผลักประตูเข้าไปก็พบพนักงานเฝ้าร้านที่อยู่หลังตู้กระจก



   “ขอโทษค่ะ ดิฉันมาพบคุณจันทร์จ้าว”



   “คุณจันทร์กลับไปแล้วครับ ไม่ทราบว่าธุระเร่งด่วนหรือไม่” พนักงานชายตอบอย่างสุภาพ ทำเอาหญิงสาวนิ่งไปเล็กน้อย ด้วยเพราะไม่ได้เผื่อใจว่าจะไม่เจอเขาที่นี่



   ...วันนี้หล่อนมีเรื่องร้อนใจเสียด้วย จะปรึกษาดารารัษมี แฝดผู้น้องก็เป็นสตรีเฉกเช่นเดียวกับหล่อน จะปรึกษาเพื่อนผู้ชายคนอื่น หล่อนก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องในครอบครัว ไม่ควรให้รู้ไปถึงหูคนนอก จันทร์จ้าวเป็นผู้ชายในครอบครัวเพียงคนเดียวที่หล่อนคิดว่าเหมาะสมที่สุด หากจะปรึกษาเรื่อง ‘อาทิตย์’



...หล่อนรู้สึกว่าอาทิตย์หน้าตาดูหมองเศร้า ครั้นหล่อนจะถามเอง นภาสรวงก็คิดว่าหล่อนเป็นผู้หญิง อาจจะไม่เข้าใจจิตใจของพี่ชายคนใหญ่ จึงอยากจะมาขอความช่วยเหลือจากพี่ชายคนรองให้เขาถามไถ่แทน...



   “วันนี้จะไม่เข้ามาอีกแล้วหรือคะ”



   “ครับ เห็นว่ามีธุระข้างนอก หรือจะให้ผมโทรศัพท์ไปตามไหมครับ”



   “ไม่เป็นไรค่ะ” นภาสรวงกำลังจะหมุนตัวเดินออกจากตรงนั้น ทว่าเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังเสียก่อน



   “Miss Sky…” หญิงสาวผู้มีชื่อที่หมายถึง ‘ท้องฟ้า’ ชะงักแล้วหันกลับไปมอง เจ้าของเสียงคือชายหนุ่มชาวต่างชาติผู้มีเส้นผมสีทองและรอยยิ้มสว่างไสว



   “น้องสาวของจันทร์ใช่ไหม” เขาเดินเข้ามาถามเป็นภาษาไทยที่ฟังง่าย เป็นอีกครั้งที่นภาสรวงได้แต่กะพริบตาปริบๆเพราะไม่คิดว่าคนที่ไม่มีส่วนใดเหมือนคนไทยเลยแม้แต่น้อยจะพูดภาษาไทยได้ชัดถึงเพียงนี้ เขายังยิ้มให้หล่อนเหมือนเมื่อครู่



   “ใช่จริงๆ หน้าเหมือนจันทร์เด๊ะ!”



   “เอ่อ...เมื่อครู่นี้คุณเรียกดิฉันว่า...” นภาสรวงทำงานอยู่ในสำนักงานของเภา วิชาญโยธิน ซึ่งร่วมทุนกับชาวต่างชาติเช่นกัน หล่อนพอจะฟังภาษาอังกฤษได้อยู่บ้าง และเมื่อครู่นี้หล่อนก็แน่ใจว่าชายผู้นี้เรียกหล่อนว่า ‘sky’



   “ขอโทษที ผมจำไม่ได้ว่าคุณชื่ออะไร แต่จำได้ว่าชื่อยากๆ จันทร์เคยอธิบายว่าชื่อคนหนึ่งแปลว่าท้องฟ้า อีกคนแปลว่าดวงดาว ผมก็เลยท่องมาตั้งแต่นั้นว่าบ้านนี้มี sun, moon, sky and star โอ้ ไม่สิ พี่ชายคุณน่ะย้ำแต่ว่าชื่อเขาไม่ใช่แค่ moon เฉยๆ แต่เป็น King of moon อ๊ะ!!...คุณอย่าบอกพี่ชายคุณล่ะว่าผมพูดภาษาอังกฤษอีกแล้ว วันนี้เขาจะกินหัวผมเป็นร้อยรอบได้ เพราะผมพูดภาษาอังกฤษบ่อยเกินไป” คำพูดยาวๆของชายชาวต่างชาติที่อยู่ตรงหน้า ทำเอาหญิงสาวหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ



   “ไม่บอกหรอกค่ะ คุณคงเป็นเพื่อนพี่จันทร์ที่ร่วมหุ้นเปิดสำนักงานใช่ไหมคะ”



   “ครับ ลืมแนะนำตัว ผม เรย์มอนด์ อดัมส์ เป็นเพื่อนของจันทร์”



   “ดิฉัน นภาสรวงค่ะ เรียกว่านภาก็ได้” นภาสรวงแนะนำตัวเอง แล้วก็พลันนึกขึ้นได้ว่าเขาออกปากเมื่อครู่นี้เองว่าชื่อของหล่อนจำยาก หญิงสาวจึงพูดขึ้นอีกหน “...หรือคุณจะเรียกว่า sky อย่างเมื่อครู่ก็ได้ค่ะ”



   “จริงหรือ?! ถ้าผมเรียกคุณแบบนั้น คุณจะไม่บอกพี่ชายคุณแน่นะครับ” ดูท่าทางเขาจะกลัวจันทร์จ้าวเอาจริงๆ นภาสรวงหัวเราะ ชายผู้นี้แม้จะสูงไล่เลี่ยกับพี่ชายคนรองของหล่อน แต่ชาติพันธุ์ทำให้เขาตัวใหญ่ล่ำ ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะกลัวจันทร์จ้าวที่ตัวบางกว่า นภาสรวงได้แต่ยิ้มรับราวกับสัญญาว่าจะไม่บอกใคร หนุ่มชาวต่างชาติจึงถามไถ่อย่างมีไมตรี



   “แล้วนี่คุณมาหาจันทร์มีอะไรหรือ เขาบอกผมเมื่อเช้านี้เองว่าจะออกไปหาน้อง ผมนึกว่าจะไปพบคุณด้วยเสียอีก” นภาสรวงทำหน้างุนงงเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าไปมา



   “ไม่ได้ไปหาดิฉันหรอกค่ะ สงสัยจะไปหาดารากระมัง เอ? จริงสิ...แล้วคุณทราบได้อย่างไรว่าดิฉันคือนภา ไม่ใช่ดารา ทั้งที่เรา ๒ คนเป็นแฝดกัน” เรย์มอนด์หัวเราะ



   “จริงๆแล้วก็ไม่ทราบครับ แต่เห็นคุณแล้วรู้สึกสงบเหมือนมองท้องฟ้า ก็เลยลองเรียกดู”



   “คุณนี่แปลกจังค่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะ คำพูดของหล่อนเหมือนจะชื่นชมกับความแปลกของเขาอยู่ในที



   “แปลกไม่เท่าพี่ชายคุณหรอก รายนั้นเข้าขั้นพิลึก เออ ให้ผมโทรศัพท์ไปตามเขาให้ไหม บางทีเขาอาจจะแวะไปที่สโมสรเทนนิสตอนบ่ายๆ”



   “ไม่เป็นไรค่ะ ตอนบ่ายดิฉันจะต้องกลับไปทำงาน นี่พักเที่ยง ก็เลยออกมา”



   “อ้อ แสดงว่าคุณยังไม่ได้ทานอะไรด้วยซี ถ้าอย่างนั้น ผมขอเป็นตัวแทนแทนพี่ชายคุณแล้วกัน! มาแถวนี้ทั้งที ผมจะเป็นเจ้าบ้านเอง ถัดไปหน่อย มีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อย รับรองคุณได้ลองแล้วจะติดใจ” คนออกตัวว่าจะเป็นเจ้าบ้านคือชายชาวต่างชาติที่กำลังยืนอยู่บนแผ่นดินไทย นภาสรวงหัวเราะอีกครั้ง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครแปลกเท่านี้มาก่อน ความเป็นกันเองและมิตรภาพที่ชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนกับพี่ชายของหล่อนมอบให้ ทำให้นภาสรวงมองว่าเขาไม่ใช่คนอันตรายอะไร ซ้ำยังเป็นกลางใจเมืองกลางวันแสกๆ เขาคงไม่คิดจะทำอะไรไม่ดี



หญิงสาวยอมออกจากสำนักงานไปกับเขา แล้วก็ได้พบว่านับตั้งแต่รู้จักกับชายผู้นี้ หล่อนก็หัวเราะมากกว่าปีทั้งปีที่ผ่านมาเสียอีก


……………………………………

 

หลังจากปรึกษาหารือกับดารารัษมีเรียบร้อย จันทร์จ้าวก็ไปส่งน้องสาวที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี แล้วตั้งใจว่าจะไปหาที่เดินเล่นเสียหน่อย สถานที่สงบคงทำให้หัวสมองปลอดโปร่งและวางแผนเรื่องอาทิตย์ได้ดีขึ้น ทว่าตอนที่กำลังนั่งสามล้อผ่านโรงพยาบาลใหญ่ ชายหนุ่มก็ตัดสินใจให้คนขับสามล้อเลี้ยวเข้าไปส่งเขาในโรงพยาบาลแทน



‘…ถ้าแกหรือคุณหมอเป็นผู้หญิง กันคงคิดว่าเป็นคู่รักกันแน่เชียว’ คำพูดของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรยังดังอยู่ในหู แต่จันทร์จ้าวก็เห็นด้วยกับคำพูดของเรย์มอนด์ที่ว่าเขาเป็นผู้ชาย การจะสนิทกับผู้ชายด้วยกันไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วถ้าเช่นนั้น หากเขาจะสนิทกับหมอภวัตก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเสียหน่อย ในเมื่อเขามีความสุขที่ได้อยู่กับหมอภวัต สนุกเวลาได้ทำอะไรด้วยกัน เขาก็ควรจะรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้



...ใช่ เรย์มอนด์พูดถูกทุกอย่าง...เขาไม่ควรกังวลกับคำพูดของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเลย...



เขาก้าวลงจากสามล้อ แล้วเดินดุ่มๆเข้าไปในโถงของโรงพยาบาลที่มีผู้คนมากมาย ทั้งคนไข้ ญาติคนไข้ พยาบาล และหมอ ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปทั่ว ทว่าไม่เห็นร่างสูงคุ้นตาของเขาเลยแม้แต่น้อย เขากำลังจะตัดใจเดินออกจากโรงพยาบาลอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแขนข้างหนึ่งถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน



“คุณจันทร์จริงๆด้วย” คนคว้าแขนไม่ใช่ใครที่ไหน หมอภวัตนั่นเอง



“เห็นคุณไกลๆ ตอนแรกคิดว่าตาฝาด” เขาเอ่ยปากต่อ พลางยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นเคยแล้วปล่อยมือที่จับแขนอย่างแผ่วเบา



“ก็...พอดีผมมาทำธุระแถวนี้ ผ่านโรงพยาบาลเลยแวะมาดูว่าหมอถูกคนไข้ถล่มหรือยัง วันนี้คนไข้แยะ” จันทร์จ้าวพูดแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ



“เคยแยะกว่านี้ด้วยซ้ำครับ แล้วคราวนี้คุณมาหาหมอคนไหนอีกล่ะ ใช่หมอคนเดิมไหม” คำพูดหยอกล้อทำเอาร่างโปร่งหัวราะเบาๆ



“ที่นี่มีหมอคนไหนตีเทนนิสเก่งๆอีกไหมล่ะ ถ้ามีผมจะขอหาหมอนั่นแทน” ภวัตหัวเราะกับคำยอกย้อนนั้น



“ถ้าจะหาหมอที่ตีเทนนิสเก่งในโรงพยาบาลนี้ ไม่มีหมอคนไหนตีเก่งเท่าหมอภวัตอีกแล้ว” พวกเขาหัวเราะเบาๆ ก่อนที่ภวัตจะชวนอีกฝ่ายออกไปหาอะไรรับประทานเป็นมื้อเที่ยง แม้จะทานมาจนอิ่มตื้อกับน้องสาวแล้ว จันทร์จ้าวก็ยังออกไปกับหมอภวัตอีกรอบ อะไรบางอย่างของนายแพทย์ผู้นี้ ทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่า



แม้ภายในโรงพยาบาลจะมีคนขวักไขว่ แต่ภาพของชายหนุ่ม ๒ คนที่ก้าวเท้าออกไปข้างนอกด้วยกันก็ไม่รอดพ้นสายตาของนางพยาบาลสมฤดีที่มองตามด้วยความฉงน ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาจากประตูด้านข้างทันเห็นพี่ชายของตนเองออกไปกับคู่ปรับก็ถึงกับชะงักค้างไปเช่นกัน



เภา วิชาญโยธินไม่คิดมาก่อนว่าพี่ชายของตนเองจะสนิทกับจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์!!!


..............................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-10-2015 21:10:09
   
บุตรชายคนเล็กของพลโทศักดิ์และคุณหญิงจิตต์ วิชาญโยธินเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องรับแขกของตึกใหญ่ภายในอาณาเขตบ้านวิชาญโยธิน


ค่ำมากแล้ว แต่พี่ชายของเขายังไม่กลับถึงบ้าน ก่อนหน้านี้ภวัตก็กลับดึกและออกไปแต่เช้าตรู่ เขาคิดว่าเป็นเพราะที่โรงพยาบาลมีคนไข้จำนวนมาก แต่เมื่อสอบถามกับพยาบาลที่ชื่อสมฤดี ก็ทำให้พบความจริงว่าทุกเย็น ภวัตออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่ออกเวร โดยพยาบาลสาวพูดอย่างไม่มั่นใจเท่าไรว่าดูเหมือนพี่ชายของเขาจะไปตีเทนนิส



...ตีเทนนิส?!...ไปตีเทนนิสก็ต้องไปที่สโมสร ไปที่สโมสรก็ต้องได้เจอคนของวังฉัตร แล้วทำไมภวัตถึงไม่พาเขาไปด้วย?!!...



   เขาอดทนรอพบหน้าพี่ชายอยู่จนดึก ด้วยคิดว่าหากวันนี้ภวัตไม่กลับบ้าน พรุ่งนี้เขาจะไปตามที่บ้านพักแพทย์ในโรงพยาบาลให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่แล้วตอนที่เภาเข่นเขี้ยวตัดสินใจจะตื่นแต่ไก่โห่ในวันพรุ่งนี้เพื่อบุกไปพบพี่ชายที่โรงพยาบาล ร่างสูงสง่าของภวัตก็ก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน



   “พี่ภวัตไปไหนมา?!!”



   “ไปโรงพยาบาลน่ะซี ถามอะไรของแก”



   “แล้วหลังจากนั้นล่ะ?!!!”



   “ก็...ไปตีเทนนิส” ภวัตยังไม่รู้สึกว่าการที่ตนเองกลับบ้านดึกจะเป็นปัญหาอะไร จนกระทั่งน้องชายร้องเสียงหลงในประโยคต่อมา



   “ไปตีเทนนิส?!!! แล้วทำไมพี่ไม่พาผมไปด้วย?!!!”



   “แกเป็นอะไรของแกน่ะเภา ฉันไปตีเทนนิสกับเพื่อน...”



   “เพื่อนที่พี่ว่าคือคู่ปรับของผมน่ะหรือ?!!!” ภวัตพูดไม่ออก ดูเหมือนเขาจะลืมไปเสียแล้วว่าเภาเคยหมายหัวจันทร์จ้าวเอาไว้



   “แล้วพี่ไปสโมสรทำไมไม่พาผมไปด้วย?!! แบบนี้เมื่อไรผมจะได้สนิทกับคนวังฉัตรล่ะ?!!!” เภาโวยวายตะพึดตะพือจนคนเป็นพี่นึกอ่อนใจ



   “แล้วทำไมแกไม่ไปเอง แกก็รู้จักคุณพงศ์แล้ว รู้จักคุณวินิตแล้ว ทำไมแกไม่ถือแรกเก็ตเข้าไปที่สโมสร ไปทักทายพวกเขา ไปขอเขาเล่นด้วย แค่นี้ทำไม่ได้หรือ” ภวัตย้อนถามทำเอาคนกำลังโมโหฟาดงวงฟาดงาถึงกับชะงักไปเพราะไม่ทันคิดว่าทำไมเขาถึงไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างด้วยตนเอง



   “แต่...แต่....แต่ผมยังไม่สนิทนี่!! ผมก็ต้องอาศัยพี่ก่อน!!! ไม่รู้ล่ะ!! ถ้าพี่ไปสโมสรคราวหน้า พี่ต้องบอกผม!! ผมจะไปด้วย!!!” ความเอาแต่ใจของน้องชายยิ่งทำให้ภวัตรู้สึกเหมือนเภาไม่ได้โตขึ้นเลย เทียบกับจันทร์จ้าวที่ดูเหมือนจะถูกตามใจจนเคยตัวเช่นเดียวกัน แต่ฝ่ายนั้นกลับมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเสียอีก



เขาสูดลมหายใจลึก ก่อนจะตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง



   “แกชอบคุณพิมแน่ใช่ไหม”



   “แน่...” ไม่ทันจะตอบให้เต็มปากเต็มคำ ภวัตก็พูดแทรก



   “คำว่าชอบของแกมันมั่นคงมากแค่ไหน เภา วันนี้แกไม่มีเพื่อนเล่น แกก็คิดถึงคุณพิม วันนี้แกต้องไปออกงานสังคม แกก็ว่าแกชอบคุณพิม แกอยากให้คุณพิมไปด้วย แต่เวลาแกเบื่อ แกก็ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่น แล้วลืมคุณพิมอย่างนั้นหรือ? แกชอบคุณพิมเฉพาะเวลาที่แกอยากจะอวดใครต่อใครเท่านั้นไหม? แกถามตัวแกดูหรือยัง ว่าความชอบของแก มันเกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะคุณพิมคือหม่อมหลวงพิมพัชรา ฉัตราภาส หรือเพราะคุณพิมคือผู้หญิงคนหนึ่งที่แกอยากอยู่ข้างๆเขาไปตลอดชีวิต” 

 

เภาชะงักไปเมื่อพี่ชายจี้ถามในสิ่งที่เขาก็ไม่รู้ เขาเห็นเธอสวย เขาเห็นเธอสง่า เขาเห็นเธอดูผู้ดี เธอมีการศึกษา เธอมีชาติตระกูล เขาชอบเธอ เขาอยากอยู่กับเธอ เขาอยากให้เธอสนใจ เพราะเขาเองก็รูปงาม มีการศึกษา มีฐานะ เขาและเธอเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก หากเขาได้เธอมาครอง ผู้ชายทั้งกรุงเทพฯต้องมองเขาด้วยความอิจฉาริษยา...นั่นคือสิ่งที่เภาคิด แต่เขาไม่เคยคิดว่าความรู้สึกที่ต้องการให้ราชนิกูลสาวผู้นั้นมาเคียงกายเป็นเพราะความเพียบพร้อมที่เธอมี หรือเพราะเขารู้สึกกับเธอด้วยหัวใจอันแท้จริง...ทว่า ด้วยความทิฐิ วิชาญโยธินคนน้องจึงเอ่ยปากอย่างเข้มแข็ง



   “ความชอบของผมก็เกิดเพราะผมอยากอยู่กับคุณพิมน่ะซี!! ผมชอบคุณพิมจริง! ผมรักคุณพิมจริง! และผมอยากอยู่กับคุณพิมจริง!!!” ภวัตมองหน้าน้องชายผู้แสนดื้อดึง ก่อนจะเอ่ยปากเด็ดขาด



   “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะพาแกไปพบคุณชายฉัตร”



   “พี่ว่าอะไรนะ?!!” เภาตกตะลึงกับคำพูดของพี่ชาย ภวัตไม่ใช่แค่จะให้เขาสนิทสนมกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรหรือหม่อมหลวงพิมพัชรา แต่ภวัตกำลังผลักดันเขาไปเจอกับบิดาของ ๒ พี่น้องนั่น



   “ถ้าแกชอบคุณพิมจริง ฉันก็จะพาแกไปพบคุณชาย แล้วแกก็เรียนท่านว่าแกรู้สึกกับคุณพิมอย่างไร นั่นล่ะเป็นทางเดียวที่แกจะได้คุณพิมมาครอง” นายแพทย์หนุ่มพูดเพียงเท่านั้น ก็หมุนตัวเดินขึ้นห้องพักผ่อนของตนทันที ทิ้งน้องชายเอาไว้กับความกดดันมหาศาลที่ทับถมลงมาบนไหล่ของเขาทั้ง ๒ ข้าง



   ...จะให้ไปพบคุณชายหรือ?...แล้วให้เขาพูดทุกอย่างกับคุณชายอย่างนั้นหรือ...



   เภา วิชาญโยธินกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างยากลำบาก ความเข้มแข็งที่ตะโกนบอกพี่ชายเมื่อครู่นี้หดหายกลายเป็นเถ้าธุลี



...................................



   วันศุกร์ เป็นวันเดียวในรอบสัปดาห์ที่จันทร์จ้าวไม่ได้พบหน้าหมอภวัตและไม่ได้ไปตีเทนนิส เพราะต้องรีบกลับไปพบหน้าบิดามารดาตามสัญญา วันนี้เขาไปรออาทิตย์ที่กรม เพราะรู้แน่แล้วว่าต่อให้ไปรอที่วังฉัตร อาทิตย์กับหม่อมหลวงพิมพัชราก็คงไม่ได้เจอกันอยู่ดี แต่ไม่เป็นไร...ต่อให้ ๒ คนนั้นจะไม่ได้เจอกันตอนนี้ แต่ถ้ามีจันทร์จ้าวคนนี้อยู่ อย่างไรเสียก็ต้องได้เจอกันแน่



   หลังจากอาทิตย์เลิกงานและพาน้องชายกลับมาที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ คุณหญิงผกากอดหอมบุตรชายคนรองพอให้หายคิดถึง แล้วจึงชักชวนบุตรธิดาทั้งหมดร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน ซึ่งนั่นเป็นช่วงเวลาที่จันทร์จ้าวรอคอยอยู่แล้ว



   “เห็นว่าคุณชายจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับผมหรือครับ” เขาตั้งคำถามขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร



   “ใช่จ้ะ พ่อจันทร์รู้ได้อย่างไร” คุณหญิงผกาย้อนถาม จันทร์จ้าวเพียงยิ้มบาง



   “มีคนบอกมาแน่ะครับ” เขาพูดอย่างเรื่อยๆราวกับคนที่บอกเขาเรื่องนี้เป็นคนอื่นคนไกลไม่ใช่คนที่โต๊ะอาหารตอนนี้



   “อ้อ คงจะเป็นคุณพงศ์ล่ะซี พ่อเองก็เพิ่งทราบ เมื่อคราวก่อนคุณชายท่านเรียกไปพบ อ้ายเราก็นึกว่าเรื่องด่วนอะไร ที่ไหนได้ เป็นเรื่องที่ท่านจะจัดงานเลี้ยงให้พ่อจันทร์ เห็นท่านว่าเป็นความคิดของคุณพงศ์ ท่านก็เลยรับสมอ้างจัดให้เสียเลย”



   “คุณพงศ์นี่ใจดีจริง สงสัยผมต้องหาของไปกำนัลบ้างแล้ว” ชายหนุ่มพูดพลางยิ้ม และเป็นไปตามที่นัดแนะเอาไว้ เพราะดารารัศมีเอ่ยปากต่อทันที



   “วังฉัตรมีน้ำใจกับบ้านเรามากนะคะ วันก่อนๆคุณพิมก็ฝากทั้งรังนก ทั้งขนม ทั้งผลไม้แช่อิ่มมาให้ ส่วนวันนี้เธอก็ฝากขนมอบมากับดารา บอกว่าฝากให้พวกเราทุกคน” จันทร์จ้าวเหลือบตามองดารารัศมี ดูเหมือน ๒ พี่น้องจะเข้าใจสายตากันและกันเป็นอย่างดี เพราะต่อจากนั้นก็เหลือบไปมองอาทิตย์วูบหนึ่งพร้อมกัน นายทหารหนุ่มก้มหน้ารับประทานอาหารอย่างเงียบๆเหมือนไม่ได้อยู่ในวงสนทนาแค่ประการใด



   “...จริงๆแล้ว เธอว่าอยากจะทำข้าวเกรียบปากหม้อ แต่ต้องทำแต่เช้าก่อนมาโรงเรียน และกว่าดาราจะกลับมาบ้าน กว่าคนที่บ้านจะได้ทาน ก็เกรงว่าจะเสีย คุณพิมเธอเลยทำขนมอบแทน ดาราจะได้นำมาให้คนที่บ้านรับ’ทานได้” ดารารัศมีอธิบายต่อเสียงเรียบเรื่อยเหมือนไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ทุกคำในประโยคนั้นซ่อนความนัยอย่างที่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจ และหนึ่งในคนเหล่านั้นก็คือ...อาทิตย์...



   คนเงียบขรึมที่ทำเป็นก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารรู้สึกอิ่มเอิบระคนเศร้าระทม เขาพอจะเข้าใจความหมายที่ดารารัศมีพูดอยู่หรอก หม่อมหลวงพิมพัชราตั้งใจทำขนมมาฝากเขา แม้ขนมที่ฝากมาจะไม่ใช่ของโปรดของเขา แต่ก็ยังแสดงน้ำใจไมตรีต่อกัน ทว่า...เขาไม่ใช่ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมเพียงพอสำหรับราชนิกูลสาวผู้นั้น น้องชายของเขาต่างหากที่ผู้ใหญ่ทุกคนหมายมั่นให้ได้ครองคู่กับหม่อมหลวงพิมพัชรา



   ...คิดเพียงเท่านั้น นายทหารหนุ่มก็ได้แต่ตักข้าวเข้าปากด้วยหัวใจเลื่อนลอยและหมองเศร้า ด้วยรู้ดีว่าต่อให้รู้สึกลึกซึ้งกับสตรีผู้นั้นมากเพียงใด ความเจ็บเจียนตายเมื่อเธอกลายเป็นของใครอื่นก็ยิ่งพอกพูนมากเท่านั้น...



   “อย่างนี้ เราน่าจะมีอะไรเป็นสินน้ำใจไปให้วังฉัตรบ้างนะครับ คุณแม่ว่าอย่างไร” จันทร์จ้าวถามย้ำเรื่องเดิม ซึ่งคุณหญิงผกาก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยก่อนจะตั้งคำถาม



   “เอ? ถ้าอย่างนั้นจะเอาอะไรไปฝากเขาดีล่ะ”



   “ทุกคนมีความเห็นอย่างไรครับ จะเอาอะไรไปฝากวังฉัตรดี” บุตรชายคนรองของท่านนายพลและคุณหญิงตั้งคำถาม เขาส่งสายตาบอกน้องสาวคนเล็ก ซึ่งดารารัศมีผู้มีความคิดดีและมักจะเสนอในทุกๆเรื่องก็ดูเหมือนจะอ่านสายตานั้นออก หล่อนจึงปิดปากเงียบไม่ยอมเสนออะไร แล้วปล่อยให้คนอื่นคิดแทน



   “ทำขนมไปฝากไหมคะ นภาจะทำให้” นภาสรวงผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวเสนอ ซึ่งแน่นอนว่าจันทร์จ้าวปฏิเสธ



   “วังฉัตรมีกุ๊กฝีมือดีนะนภา จะกล้าไปสู้กับเขาไหวหรือ”



   “จริงด้วยสินะคะ...เอ? แล้วอย่างนั้นจะเอาอะไรดี” หญิงสาวทำท่าครุ่นคิด แต่ต่อให้เสนอของฝากดีแค่ไหน จันทร์จ้าวก็ตั้งใจอยู่แล้วที่จะปฏิเสธทั้งหมด เพราะเขาต้องการข้อเสนออย่างเดียว...ข้อเสนอจากอาทิตย์นั่นเอง ทว่านายทหารหนุ่มก็ยังนิ่งเงียบ จนน้องชายคนรองทนไม่ไหวต้องตั้งคำถาม



   “พี่อาทิตย์ล่ะว่าอย่างไร มีข้อเสนออะไรกับเรื่องนี้บ้างไหม” เมื่อถูกถาม อาทิตย์จึงเหมือนเพิ่งรู้สติ เขาเงยหน้ามองน้องชายด้วยสายตาเลิ่กลั่ก จันทร์จ้าวเลยต้องถามย้ำด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต



   “เอาอะไรไปฝากเพื่อนผมดี”



   “ของฝากหรือ...เอ่อ...ผลไม้ดีไหม ที่สวนข้างหลังมีผลไม้หลายอย่างกำลังสุกพอดี” อาทิตย์เสนออย่างเรียบๆ ด้วยเพราะไม่ได้ตั้งใจฟังมาตั้งแต่ต้น เขาจึงรู้แค่ว่าจันทร์จ้าวจะหาของไปฝาก ‘เพื่อน’ แต่ไม่ทราบว่าเพื่อนคนนั้นคือใคร



   ทว่าข้อเสนอของอาทิตย์กลับเป็นที่ถูกใจคนถามอย่างยิ่ง จันทร์จ้าวดีดนิ้วเป๊าะ



“เยี่ยมเลย! ผมเห็นด้วย ผลไม้จากสวนบ้านเรานี่ล่ะดี”



   “ดาราก็เห็นด้วยค่ะ” ดารารัศมีผู้มักขวางพี่ชายคนรองในหลายครั้ง ตามน้ำไปกับเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อ ๒ เสียงว่าอย่างนั้น คนอื่นๆจึงพลอยเห็นดีเห็นงามไปด้วย อาทิตย์ยังฉงน จันทร์จ้าวจะนำผลไม้ไปฝากเพื่อน แต่เหตุใดทุกๆคนในโต๊ะกลับดูจะมีส่วนร่วมไปด้วย ทว่าเขาไม่ทันได้ถามอะไร น้องชายคนรองก็หันมายิ้มให้เขาพร้อมด้วยดวงตาระยิบ



   “เป็นว่าเอาผลไม้ไปฝาก ‘เพื่อนผม’  อย่างนี้คงต้องรบกวนพี่อาทิตย์แล้วล่ะ...” จันทร์จ้าวรวบรัด และไม่ปล่อยให้พี่ชายคนใหญ่ได้สติเสียด้วย เพราะเจ้าตัวพูดต่ออย่างว่องไว



   “...รบกวนพี่อาทิตย์ช่วยดูให้ทีว่าควรจะเอาผลไม้อะไรไปฝากคนวังนั้น แล้วก็วันอาทิตย์รบกวนขับรถพาผมกับของฝากไปที่วังฉัตรด้วยแล้วกัน” และจันทร์จ้าว ก็หาเรื่องพาพี่ชายของตนเข้าวังฉัตรได้อีกครั้งนั่นเอง



............................



   สายวันอาทิตย์ ผลไม้ที่สุกตามฤดูกาลจากสวนหลังเรือนไทยรักษพิพัฒน์ก็อยู่ในรถโฟล์คสีดำของอาทิตย์แล้ว พอบุตรชายคนรองลาบิดามารดาเรียบร้อย คนเป็นพี่ก็ขับรถพาน้องชายไปยังวังฉัตรเพื่อนำของฝากไปให้ จันทร์จ้าวเหลือบตาไปมองผลไม้ที่อยู่เบาะหลัง แล้วก็หันกลับมามองพี่ชายที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถ



   “พี่อาทิตย์ว่าคุณพิมจะชอบผลไม้อะไร” คำถามของน้องชายทำเอาอาทิตย์ชะงักไปชั่วอึดใจ



   “ไม่ทราบหรอก” เขาตอบเสียงแผ่ว พยายามไม่เก็บเรื่องของสตรีผู้นั้นกลับมาคิดอีก เพราะอย่างไรเสีย วันใดวันหนึ่ง เธอก็คงเป็นของจันทร์จ้าวโดยสมบูรณ์ เขาในฐานะพี่ชายของจันทร์จ้าวไม่ควรคิดอะไรเกินเลยกับสตรีที่ผู้ใหญ่ตั้งใจจะให้ครองคู่กับน้องของตน



   “ผมก็นึกว่าพี่ทราบเสียอีก เห็นดูท่าจะสนใจคุณพิม” คราวนี้อาทิตย์เหยียบเบรกทันควันด้วยความตกใจ แต่ดูเหมือนคนเป็นน้องจะรั้งร่างตนเองเอาไว้อยู่แล้ว เจ้าตัวจึงดูจะไม่เดือดร้อนกับอาการกระตุกของเครื่องยนต์เสียเท่าไร



   “จ...จันทร์...จันทร์พูดอะไรน่ะ...”



   “เอ้า! ก็พี่อาทิตย์ชอบคุณพิมไม่ใช่หรือ ผมก็นึกว่าพี่อาทิตย์ทราบว่าคุณพิมชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไรเสียอีก”



   “จ...จันทร์...จันทร์รู้เรื่องพี่...” อาทิตย์ได้แต่ครางตะกุกตะกักอย่างคาดไม่ถึง เขาคิดว่าความรู้สึกที่แสนเงียบเชียบของเขาจะไม่มีใครสังเกต แต่แล้วทำไมจันทร์จ้าวถึงล่วงรู้ ทว่าคนเป็นน้องกลับพยักหน้ารับอย่างสบายๆ



   “เหตุใดจะไม่รู้ล่ะ? พี่อาทิตย์ออกจะโจ่งแจ้งเสียขนาดนี้”



   “...จ...โจ่งแจ้ง...” อาทิตย์ทวนด้วยนึกไม่ออกว่าการกระทำของตนโจ่งแจ้งอย่างไร แต่กระนั้น เวลานี้ไม่ใช่เรื่องมานั่งกังวลเรื่องความโจ่งแจ้งหรือไม่แล้ว เพราะไม่ว่าจะโจ่งแจ้งจริงหรือไม่ จันทร์จ้าวก็ทราบเข้าเสียแล้ว



“แล้ว...แล้วจันทร์ทราบตั้งแต่เมื่อไร”



“โอย ทราบนานแล้ว ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ” นั่นปะไร น้องชายทราบตั้งแต่กลับจากเมืองนอกด้วยซ้ำ อาทิตย์เหงื่อซึมไปทั้งแผ่นหลัง



“จันทร์...อย่าบอกใครได้ไหม พี่...เอ่อ...พี่...”



“เสียใจด้วย ผมบอกดาราไปแล้ว แต่ยังไม่ได้บอกนภา ยังไม่มีโอกาสบอกเสียที ไว้มีโอกาสเหมาะๆ จะบอกนภาด้วย จะได้รู้กันให้หมด” อาทิตย์ถึงกับพูดไม่ออก เขาอ้าปากพะงาบเพราะไม่คิดว่านอกจากจันทร์จ้าวจะมองความรู้สึกของเขาออกแล้ว เจ้าตัวยังนำความไปบอกน้องสาวอีกด้วย



   “พี่อาทิตย์เถอะ เอาแต่เงียบแล้วก็เสียใจเพราะคุณพ่อคุณแม่คิดจะจับผมคู่กับคุณพิมน่ะ มันดีแล้วหรือ”



   “ก็...จันทร์เหมาะกับคุณพิม...” อาทิตย์พูดได้เพียงเท่านั้น หัวใจก็เจ็บหนึบ แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าจันทร์จ้าวไม่คู่ควรกับหม่อมหลวงพิมพัชรา ในเมื่อน้องชายของเขามีพร้อมทุกอย่าง เหมาะสมทุกประการกับสตรีผู้นั้น



   จันทร์จ้าวพยักหน้าหงึกหงักอีกหน



   “ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอก ผมเหมาะกับคุณพิมก็จริง แต่ผมไม่ได้ชอบคุณพิมนี่”



   “คุณพิมเธอดีออกปานนั้น จันทร์ไม่ชอบหรือ” อาทิตย์ออกจะประหลาดใจ น้องชายพูดตรงไปตรงมาว่าไม่ได้ชอบ เรื่องนี้เขาไม่แปลกใจเสียเท่าไร เพราะปากของจันทร์จ้าวก็อย่างนี้ แต่ความรู้สึกของจันทร์จ้าวนี่สิ เหตุใดจึงไม่ชอบ ‘คุณพิม’ ในเมื่อเธอมีทั้งความรู้ ความสามารถ หน้าตางดงามหมดจด น่าจะเป็นที่พึงใจของจันทร์จ้าวไม่ใช่หรือ



   “ไม่ชอบหรอก คุณพิมเธอสวย เธอเก่ง ผมชอบคนสวยและเก่งก็จริง แต่บางทีผมก็รู้สึกว่าเธอเก่งเกินไปหน่อย ผมไม่ชอบให้ใครเก่งเกินผมบ่อยๆ ถ้าให้คบกันเป็นเพื่อนน่ะเยี่ยมเลย แต่ถ้าให้แต่งงานด้วยนี่ไม่เอา บ้านคงแตกเอาวันใดวันหนึ่งเพราะภรรยาเก่งกว่าสามี”



   “แต่...” อาทิตย์กำลังจะแย้งว่าบิดามารดาหมายตาจันทร์จ้าวและหม่อมหลวงพิมพัชรา ทว่าน้องชายไม่คิดจะฟัง ดวงตากลมใหญ่หันมาจับจ้องพี่ชายอย่างหยั่งเชิง



   “ปล่อยให้เธอได้แต่งงานกับคนที่เธอรักและคนที่รักเธอจะดีกว่า พี่อาทิตย์เห็นด้วยไหม” ไม่มีคำตอบจากอาทิตย์ จันทร์จ้าวเอนกายพิงพนักอย่างสบายอารมณ์แล้วพูดต่อ



   “คราวนี้เราต้องมาภาวนากันล่ะ ว่าคนที่รักเธอกับคนที่เธอรักจะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า”



แล้วประโยคนั้นของคนเป็นน้องก็ดังลั่นอยู่ในใจอาทิตย์ไปจนกระทั่งเขาขับรถไปจนถึงวังฉัตร



   รถโฟล์คสีดำเลี้ยวไปตามถนนทรงกลมในอาณาเขตวังจนกระทั่งไปจอดที่หน้าตึกสีขาวสะอาด ตรงนั้นมีรถยนต์คุ้นตาจันทร์จ้าวคันหนึ่งจอดอยู่ที่หน้าตึกแล้ว เขาอดจะสงสัยไม่ได้ที่พบว่ารถของ ‘หมอภวัต’ มาที่นี่



   ...หรือจะเป็นเรื่องทาบทามดูตัวนั่น...



   “ได้ยินเสียงรถ กะไว้แล้วว่าต้องเป็นแก” เสียงจากหน้าประตูตึก ทำเอาจันทร์จ้าวที่กำลังเพ่งมองไปที่รถยนต์ซึ่งจอดอยู่ด้านหน้ารถของพวกเขาต้องหันมองตามเสียงนั้น



   “สวัสดีคุณพงศ์” เขาหันไปทัก ก่อนจะหันกลับไปมองรถยนต์ที่เขาคุ้นตานั่นอีกครั้ง พอดีอาทิตย์เดินลงจากรถพร้อมด้วยกระจาดผลไม้ที่เก็บมาจากสวนบ้านรักษพิพัฒน์ คนเป็นน้องเลยหาทางไล่พี่ชายออกไปจากวงสนทนา



   “อ้าว คุณอาทิตย์ก็มาด้วยหรือ แล้วนั่นเอาอะไรมาน่ะ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทักทายพร้อมรอยยิ้มกว้างเฉกเช่นทุกที



อาทิตย์ค้อมศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงทักทายตอบ แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไร น้องชายก็แทรกขึ้นมา



   “ที่บ้านผลไม้ออกเยอะน่ะคุณพงศ์ เลยเอามาฝาก ให้พี่อาทิตย์ยกไปเก็บในครัวให้เลยไหม”



   “เฮ่ย จะยกไปเก็บเองทำไม ให้นายคำ...”



   “ผมว่าให้พี่อาทิตย์ยกไปเก็บเถอะ” จันทร์จ้าวย้ำแล้วจับจ้องใบหน้าของเพื่อนรัก ดวงตากลมใหญ่เหมือนจะสั่งให้ทำตามคำพูดของเขา หม่อมหลวงพงศ์ภราธรแม้จะเป็นเจ้าบ้านแต่ก็จำต้องเออออไปด้วย



   “เอาอย่างนั้นก็ได้ คุณอาทิตย์รู้ใช่ไหมว่าครัวไปทางไหน เดินอ้อมตึกไปทางด้านหลังแน่ะ” อาทิตย์รับคำ แล้วหมุนตัวเดินอ้อมตึกไปยังโรงครัว จึงเหลือเพียงทายาทเจ้าของวังฉัตรและจันทร์จ้าวเท่านั้น และเมื่อเหลือกันเพียงแค่ ๒ คน บุตรชายคนรองจากบ้านรักษพิพัฒน์ก็ตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงจริงจังทันที



   “หมอมาหรือ คุณพงศ์”



   “ถูกต้อง”



   “มาทำไม? หรือว่าเรื่องที่ว่าคุณชายฉัตรอยากได้มาเป็นเขยอะไรนั่น” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรโบกมือให้ว่อน



   “เรื่องนั้นคุณหมอปฏิเสธไปแล้ว”



   “ปฏิเสธ?! หมายความว่าคุณชายทาบทามแล้ว แต่หมอปฏิเสธอย่างนั้นหรือ?!” จันทร์จ้าวร้องถามด้วยคิดไม่ถึงว่าคุณชายฉัตรจะรุกเร็วถึงเพียงนั้น แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่ภวัตปฏิเสธตามที่เคยบอกกับเขาว่าไม่ได้คิดสนิทสนมกับหม่อมหลวงพิมพัชราในเชิงชู้สาว



   “ใช่ เห็นคุณพ่อว่า หมอยังอยากทำงาน และยังไม่คิดเรื่องครอบครัว...” พอได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าขาวของคนฟังก็เหมือนจะมีรอยยิ้มปรากฏ แต่ก็แค่ชั่ววินาทีเท่านั้น เพราะเพื่อนรักกลับพูดต่อ “...แต่นี่แน่ะ คุณหมอเธอปฏิเสธไปแล้วก็จริง แต่กลับพาน้องชายมาแทนน่ะซี”



   “น้องชาย?!” จันทร์จ้าวหันขวับมองหน้าทันที



   “คุณเภาอย่างไรล่ะ กันก็ว่าแล้วว่าแปลก ปกติคุณหมอไม่กระเตงน้องชายไปไหนมาไหนด้วยหรอก แต่จู่ๆ เธอก็พาน้องของเธอมาสโมสรด้วย แล้วเมื่อคราวก่อนที่คุณหมอไปส่งแกแทนกันน่ะ กันตีเทนนิสต่อกับคุณเภาใช่ไหมล่ะ คุณเภาก็ชวนคุยถึงแต่เรื่องยายพิม คงจะชอบยายพิมเสียแล้ว วันนี้ คุณหมอเธอพาน้องชายมาพบคุณพ่อเอง ไม่ทราบคุยกันเรื่องอะไร กันไม่ได้เข้าไปฟังด้วย แต่ก็คงจะเป็นเรื่องคุณเภากับยายพิมนี่ล่ะ หนีเรื่องนี้ไม่พ้นหรอก กันพนันได้เลย”



“ทำไมหมอไม่เห็นเคยบอกผมว่าน้องหมอชอบคุณพิม!” เขาครางขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ ด้วยเพราะก่อนหน้านี้ทั้งเขาและหมอภวัตมีช่วงเวลาพบปะพูดคุยกันมาก แต่ไม่มีครั้งใดเลยที่อีกฝ่ายจะพูดเรื่องนี้กับเขา
 


“แล้วทำไมคุณหมอเธอต้องบอกแกด้วย?” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมาถามด้วยความฉงน แต่จันทร์จ้าวตวัดสายตามองฉับเดียว ราชนิกูลหนุ่มก็รีบเออออไปโดยพลัน



“เอ่อ...นั่นซี...ทำไม...ทำไมคุณหมอไม่บอกแก...” เขาได้แต่ลอบมองสีหน้าของจันทร์จ้าวที่ดูจะหงุดหงิดและโมโหไม่น้อยแล้วหลากใจเพราะเพื่อนของเขาดูจะอารมณ์เสียอย่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย



...แค่เพราะว่าหมอภวัตไม่ได้บอกเรื่องเภาให้จันทร์จ้าวทราบเช่นนั้นหรือ? อันที่จริง การที่หมอภวัตไม่พูดเรื่องของน้องชายตนให้คนอื่นรับรู้ ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องร้ายแรงให้ต้องโกรธต้องเคืองกันเสียหน่อย?...



   เสียงฝีเท้าจากในตึกดังขึ้นเบาๆ คนทั้งคู่หันกลับไปมองก็พบว่าชายหนุ่ม ๒ คนจากบ้านวิชาญโยธินเสร็จธุระในการเข้าพบหม่อมราชวงศ์ฉัตรเรียบร้อย จันทร์จ้าวตวัดสายตาจับจ้องนายแพทย์หนุ่มด้วยความรู้สึกขุ่นเคือง ทำเอาคนถูกจ้องชะงักไปเล็กน้อย ด้วยเพราะสายตาจากดวงตากลมใหญ่นั้นบอกให้รู้ถึงความโกรธเคืองเขา ทว่าภวัตก็ยังทำใจดีสู้เสือทักทายอย่างเป็นมิตร



   “สวัสดีคุณจันทร์” จันทร์จ้าวละสายตาขุ่นไปมองที่น้องชายของหมอที่ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสให้เขา แล้วจึงหันกลับไปมองภวัตอีกครั้ง



   “จะกลับแล้วไม่ใช่หรือ?! ไม่ต้องทักผมหรอก!! ลาคุณพงศ์คนเดียวแล้วเชิญได้เลย!!!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถึงกับอ้าปากค้างกับฝีปากเพื่อนรัก แม้กระทั่งเภาที่เมื่อครู่ยังยิ้มแย้มก็ยังหน้าซีดเผือด เพราะฟังอย่างไรก็ตีความหมายได้อย่างเดียวว่าจันทร์จ้าวออกปากไล่



   ภวัตเองก็ไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้จันทร์จ้าวกับเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแล้ว แล้วทำไมวันนี้ ทุกอย่างถึงได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก



   “เอ่อ...” คนเป็นทายาทวังถึงกับพูดไม่ออก จะดุเพื่อนรักต่อหน้าคนอื่น เขาก็คงถูกจันทร์จ้าวโกรธเข้าแน่ๆ แต่คนอื่นที่ว่าก็เป็นแขกของวังซึ่งนับเป็นแขกของบิดา คนกลางอย่างเขาจึงตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทำได้แค่กระตุกแขนเพื่อนเป็นการปราม



   คุณหมอหนุ่มดูจะเข้าใจความอิหลักอิเหลื่อของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้เป็นอย่างดี แม้จะสงสัยในท่าทีของจันทร์จ้าว แต่ก็เขาออกปากลากับเจ้าบ้าน



   “ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ คุณพงศ์”



   “ส...สวัสดีครับ” เพื่อนรักของจันทร์จ้าวได้แต่ละล่ำละลักลา ภวัตค้อมศีรษะให้แล้วเดินไปที่รถของตน จันทร์จ้าวยังคงยืนเป็นรูปปั้น ไม่สนใจสายตาของเขาสักนิด แต่เจ้าตัวก็ไม่เดินหนีไปที่ใดเช่นกัน คงต้องการอยู่ดูให้แน่ใจว่าเขาออกจากวังไปแล้วจริงๆ



   รอจนเภาขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว รถยนต์ของบ้านวิชาญโยธินก็แล่นหายออกไปจากวัง จันทร์จ้าวจึงตวัดสายตาเอาเรื่องมาที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธร



   “อ...อะ...อะไร...” แม้จะสนิทสนมกันมาแต่เล็ก แต่เวลาที่ดวงตากลมใหญ่จับจ้องเขาอย่างเอาเรื่องเช่นนี้ ราชนิกูลหนุ่มก็ยอมรับตามตรงว่ากลัวใจอีกฝ่ายไม่ใช่น้อย



   “นายเภาอะไรนั่นไม่เหมาะกับคุณพิมเลยแม้แต่นิด! คุณพงศ์ดูไม่รู้หรือ?!!”



   “ร...เรื่องนี้...กันไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ...” เป็นเพื่อนกันก็จริง แต่พอถูกตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงดุดันและดวงตาเอาเรื่อง หม่อมหลวงหนุ่มก็ได้แต่อ้อมแอ้มตอบเสียงแผ่ว



   “คุณพงศ์เป็นพี่ชายคุณพิม คุณพงศ์จะไม่ช่วยตัดสินใจได้หรือ?! ไม่รู้ล่ะ!! อย่างไรผมก็ว่าไม่เหมาะกับคุณพิม!! คนของผมเหมาะกว่าเป็นไหนๆ!!”



   “คนของแก?”



“ใช่!! คนของผมดีกว่า!!!!”



“อ้อ...ที่แกว่ามีทหารอยากเป็นเขยที่นี่...แล้วสรุปเป็นใคร กันว่าจะถามก็ลืมเสียทุกที” จันทร์จ้าวมองหน้าคนถาม ความรู้สึกขุ่นเคืองที่มีต่อบุตรชายคนใหญ่บ้านวิชาญโยธินยังคงทำให้อารมณ์คุกรุ่น หนำซ้ำยังพลอยเคืองเพื่อนรักคนนี้เสียด้วย ที่หมอภวัตอุตส่าห์ปฏิเสธไปแล้ว แต่ก็ยังปล่อยให้หมอพาคนอื่นมาแนะนำ!!



   “ถ้าคุณพงศ์เดาเองไม่ได้ ผมว่าคุณพงศ์ก็ไม่ควรเป็นพี่คุณพิมหรอก!!” แล้วโดยที่เจ้าบ้านไม่ต้องเชิญ จันทร์จ้าวก็ก้าวเท้าเดินดุ่มๆเข้าตึกไปทันที หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองตามเพื่อนรักแล้วได้แต่ยกมือขึ้นเกาศีรษะ



   “อะไรนี่ พาลเป็นโกรธเราไปอีกคน...”



   ..................................
   
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-10-2015 21:11:46
   คุณชายฉัตรออกจะประหลาดใจ ที่วันนี้มีแต่คนมาขอพบท่าน เมื่อเช้าก็เป็นหมอภวัตที่พาน้องชายมาพบ นายเภา วิชาญโยธิน บุตรชายคนเล็กของพลโทศักดิ์ที่เกิดจากคุณหญิงจิตต์ คนนี้ก็ดูท่าทางแล้วใช้ได้ แม้จะไม่สุขุมและเป็นผู้ใหญ่เหมือนนายแพทย์ผู้พี่ แต่ก็ทำงานทำการเป็นหลักแหล่ง แต่ติดจะดูเจ้าสำราญไปสักหน่อย พอพ้นหลังคุณหมอภวัตและน้องชายก็เป็นจันทร์จ้าวและพี่ชาย



   “ที่บ้าน มีผลไม้สุกหลายอย่าง ก็เลยนำมาฝากคุณชายครับ” คนพูดคือจันทร์จ้าวในขณะที่พี่ชายเพียงแค่นั่งเงียบ คุณชายฉัตรเหลือบตาไปมองอาทิตย์ ที่วันนี้ไม่ได้อยู่ในชุดเขลอะสำหรับทำสวนอีกแล้ว เสื้อผ้าของเขาสะอาดเรียบร้อยสมกับเป็นนายทหาร



   “ขอบใจพ่อจันทร์ เออ คุณพ่อของเธอบอกหรือยัง ว่าฉันจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเธอที่นี่ อันที่จริงจะฝากพ่อพงศ์ไปบอก แต่ช่วงที่ผ่านมา พ่อพงศ์ต้องตามฉันไปดูที่ดินหลายแปลง เลยไม่ได้พบเธอ ต้องฝากท่านนายพลไปบอกแทน”



   “บอกแล้วครับ ขอบพระคุณคุณชาย อันที่จริงไม่ต้องจัดก็ได้”



   “ไม่ได้หรอก เธอก็เหมือนลูกเหมือนหลานของฉัน เอาเป็นเมื่อไรดี วันเสาร์หน้าเป็นอย่างไร เธอจะเชิญเพื่อนๆมาด้วยก็ได้” ความเมตตาของชายอาวุโสเจ้าของวังทำให้จันทร์จ้าวยิ้มจาง



“มีแต่พวกเราน่าจะสนุกกว่าครับ ได้รับประทานอาหารพร้อมหน้ากัน พูดคุยกัน เท่านี้สำหรับผมก็เพียงพอแล้ว” คุณชายฉัตรหัวเราะกับเหตุผลของชายหนุ่มคราวลูก



“มักน้อยจริง! เอ้า! ตามใจ เป็นว่ามีครอบครัวของเธอ ครอบครัวของฉัน แล้วเมื่อครู่นี้ฉันเชิญคุณหมอกับคุณเภาแล้ว เธอรู้จักกับ ๒ คนนั้นใช่ไหม เห็นเมื่อคราวก่อนก็ตีเทนนิสกันเสียสนุก ฉันวานให้คุณหมอไปเชิญท่านนายพลกับคุณหญิงจิตต์มาด้วย คุณหญิงผกากับคุณหญิงจิตต์ก็เห็นว่ารู้จักกันดี เมื่อคราวจัดเลี้ยงต้อนรับยายพิม ก็ได้ทั้งคุณหญิงจิตต์และคุณหญิงผกามาช่วยดูแล เป็นว่ามีแต่คนกันเองทั้งนั้น”

 

คำว่าเชิญคุณหมอ ทำเอารอยยิ้มบนใบหน้าของจันทร์จ้าวแห้งไปถนัด หม่อมหลวงพงศ์ภราธรสังเกตสีหน้าเพื่อนรักอยู่แล้วก็นึกหวั่นใจว่าคนแผลงอย่างจันทร์จ้าวจะทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงมารยาทเข้า เมื่อตอนพบ ๒ พี่น้องวิชาญโยธินที่หน้าตึก ก็ไล่แขกอย่างกับเป็นเจ้าบ้านไปรอบหนึ่งแล้ว นี่บิดาของเขาเอ่ยปากว่าชวน ๒ คนนั้นมางานเลี้ยงต้อนรับจันทร์จ้าวอีก...วังฉัตรจะแตกไหมหนอ....



บุตรชายของคุณชายฉัตรกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลุ้นสุดตัวว่าเพื่อนรักจะพูดอะไรหรือไม่



“...จริงสิ แล้วนี่คุณหญิงสบายดีแล้วใช่ไหม เป็นลมอีกหรือไม่” คำถามประโยคถัดมาของหม่อมราชวงศ์ฉัตรเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่นโดยที่จันทร์จ้าวยังไม่ได้แสดงอภินิหารใดๆเสียก่อน



   “คุณแม่สบายดีครับ” เขาตอบ แต่ก็รู้ว่าหากตอบสั้นเช่นนี้คงเสียมารยาทกับผู้ใหญ่ แม้จะไม่พอใจที่คุณชายฉัตรเชิญชวน ๒ พี่น้องวิชาญโยธินมางานเลี้ยงที่จัดเพื่อเขา แต่ชายหนุ่มก็ยังเก็บอารมณ์แล้วพูดต่อ “...ตอนนี้น้องสาวของผมทั้ง ๒ คนก็รับอาสางานของคุณแม่แทน นภาสรวงรับหน้าที่ในครัว ส่วนดารารัษมีก็คอยกำกับในเรือน คุณแม่ก็เลยไม่ต้องหยิบจับอะไรมากนัก” คุณชายฉัตรพยักหน้ารับรู้พลางยิ้ม ในขณะที่บุตรชายของคุณชายก็พลอยยิ้มไปด้วย เพราะเพื่อนรักไม่แสดงนิสัยแผลงเข้าเสียก่อน



   “มีลูกสาวก็ดีอย่างนี้ คอยดูแลกิจการในบ้าน ยายพิมก็เป็นอย่างนี้จริงไหม พ่อพงศ์” คุณชายหันไปถามบุตรชายที่เข้ามานั่งในห้องด้วย หม่อมหลวงพงศ์ภราธรยิ้มรับ จันทร์จ้าวเลยพูดขึ้น



   “คุณพิมเธอทั้งขยัน ทั้งเก่งนะครับ คุณชาย งานบ้านงานเรือนก็ไม่บกพร่อง ฝีมือปลายจวักก็ดีเยี่ยม ส่วนงานนอกก็เป็นถึงครู ผู้หญิงอย่างคุณพิมหายากเหลือเกินสมัยนี้” คุณชายฉัตรหัวเราะอย่างปลาบปลื้ม



   “จริง พ่อจันทร์ แต่น่าเสียดาย ผู้หญิงเก่งอย่างนี้มักอาภัพคู่”



   “ดอกฟ้า...ชายน้อยนักที่จะมีบุญเอื้อมถึง” จันทร์จ้าวเปรียบเปรยอย่างที่ทำเอาพี่ชายของหม่อมหลวงพิมพัชราถึงกับหัวเราะ



“แกก็ชื่นชมยายพิมเกินไปเสียแล้ว จันทร์”



คุณชายฉัตรมองชายหนุ่มร่างโปร่งผู้เป็นเจ้าของดวงตากลมใหญ่และลักยิ้มที่แก้มซ้ายซึ่งปรากฏทุกครั้งที่เจ้าตัวขยับยิ้มแล้วก็นึกชมไหวพริบ ดวงตาของผู้เป็นเจ้าของวังเหลือบไปมองผู้เป็นพี่ชายจากบ้านรักษพิพัฒน์ อาทิตย์ยังคงนั่งเงียบ สำรวมกิริยาและวาจาแต่ก็สนใจกับบทสนทนาของพวกเขา



   “พ่ออาทิตย์เป็นอย่างไรบ้าง ที่กรมเรียบร้อยดีไหม” ชายสูงวัยตั้งคำถาม และนั่นทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรขมวดคิ้วฉับ



   ... ‘กรม’?...อ้อ...ใช่...อาทิตย์ทำงานที่ ‘กรม’ ...



...เดี๋ยวสิ!! ‘กรม’ อย่างนั้นหรือ?!!...ใช่!! อาทิตย์เป็นทหาร!!!...



   พอความคิดนี้แล่นวาบขึ้นมา บุตรชายของคุณชายฉัตรก็ถึงกับร้องเสียงหลง



   “กรม?!!!”



ทุกคนหันมองเจ้าของเสียง และพลันนั้น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็เหมือนจะรู้ตัวว่าเขาร้องเสียงดังไปเสียแล้ว ชายหนุ่มรีบยกมือไหว้ขอโทษบิดา



   “ขอโทษครับคุณพ่อ”



   “เป็นอะไรไปน่ะพ่อพงศ์”



   “ป...เปล่า...เปล่าครับ แค่...เอ่อ...ตกใจ...” ราชนิกูลหนุ่มรีบหันไปสบตาจันทร์จ้าวเพื่อนรักทันที แค่เห็นสายตาตื่นตระหนกที่ส่งมานั้น จันทร์จ้าวก็พอจะรู้ว่าหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทราบแล้วว่าทหารที่อยากจะมาเป็นเขยของวังฉัตรคือใคร



   “พ่อพงศ์นี่พิลึก เอ้า! ว่าต่อเถอะพ่ออาทิตย์ งานการยุ่งไหมล่ะ” คุณชายฉัตรหันไปดุบุตรชายอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะหันกลับไปถามอาทิตย์ต่อ



   “นิดหน่อยเท่านั้นครับ”



   “จะทำอะไรก็ระมัดระวัง ถ้าอยู่เฉยได้ก็อยู่ไปก่อน ไม่รู้ใครเป็นใครนะ” ชายอาวุโสเตือนด้วยความห่วงใยตามประสา



หลายปีก่อนเกิดกบฏเสนาธิการ ผู้ร่วมก่อการถูกจับกุมและลงโทษ กองทัพระส่ำระส่าย แต่ก็ยังไม่วายมีการก่อการลับอีกหลายอย่างตามมา คุณชายฉัตรเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง แม้จะเลือกที่จะอยู่อย่างสันโดษและไม่เข้าร่วมฝักฝ่ายกับผู้ใด แต่ข่าวคราวพวกนี้ก็ยังเข้าหูท่านตลอด ด้วยเพราะมีพวกพ้องจากหลายสังกัดนำมาบอกกล่าวเป็นการลับ



   “ครับ คุณชาย” อาทิตย์รับคำพลางยิ้มจาง ท่าทางสุภาพเรียบร้อยของเขาทำให้คุณชายออกจะนิยมชมชอบไม่น้อย อาทิตย์คล้ายภวัต ไม่ค่อยพูดและดูสุขุม ไม่เหมือนจันทร์จ้าวผู้เป็นน้องชายที่เข้าสังคมเก่งและคล่องแคล่ว หากธิดาของท่านได้เคียงคู่กับคนอย่างจันทร์จ้าว ก็คงจะมีเสียงหัวเราะไม่เว้นแต่ละวัน แต่...ถ้าหากได้ออกเรือนกับคนอย่างอาทิตย์...ชีวิตคงจะราบเรียบและสงบ



   ดวงตาของคุณชายกวาดมอง ๒ พี่น้องรักษพิพัฒน์อีกครั้ง แล้วจึงเอ่ยขึ้น



   “เห็นว่านำผมไม้มาฝาก มาจากสวนที่บ้านหรือ”



   “ใช่ครับ คุณชาย เป็นผลไม้จากสวน พี่อาทิตย์ปลูกเองทุกต้นทีเดียว”



   “พ่ออาทิตย์คงจะชอบปลูกต้นไม้สินะ” หม่อมราชวงศ์ฉัตรเปรยแล้วจึงหันมาที่อาทิตย์ “ฉันได้พุดซ้อนมาต้นหนึ่ง ดูแลเองก็เห็นมันทำท่าร่อแร่ พ่ออาทิตย์เอาไปดูแลให้ฉันหน่อยได้ไหม ชอบต้นไม้ไม่ใช่หรือ” คำถามนั้นส่งไปยังอาทิตย์ ชายหนุ่มที่คุณชายฉัตรเคยเห็นมอมแมมอยู่กับการปลูกต้นไม้ที่บ้านรักษพิพัฒน์ อาทิตย์เงยหน้ามองเจ้าของคำถาม สายตาของคุณชายดูคาดหวังให้เขาตอบรับ ชายหนุ่มจึงรับคำเสียงเบาทว่าหนักแน่น



   “ได้ครับ” คุณชายฉัตรยิ้มอย่างยินดี ก่อนจะลุกขึ้น



   “ดี ถ้าอย่างนั้นตามฉันมาที พ่อจันทร์กับพ่อพงศ์คุยเล่นกันไปก่อน ขอเวลาฉันกับพ่ออาทิตย์สักครู่” แล้วคุณชายผู้เป็นเจ้าของวังก็ก้าวเท้าเดินนำออกจากห้องนั่งเล่น โดยมีอาทิตย์ลุกขึ้นเดินตามเงียบๆออกไปด้วย พอพ้นหลังคน ๒ คนแล้ว หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ถลาเข้าไปนั่งติดเพื่อนรัก



   “ที่แกว่ามีทหารอยากมาเป็นเขยวังฉัตรน่ะ! หมายถึงคุณอาทิตย์ใช่ไหม?!!” เขาถามด้วยความอยากรู้ระคนตื่นเต้น หากทหารที่ว่าคืออาทิตย์ รักษพิพัฒน์จริง ก็คงดีไม่น้อย ตระกูลของเขาและรักษพิพัฒน์ก็สนิทสนมกันมานาน หากได้เกี่ยวดองกันอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น!



   จันทร์จ้าวเหลือบตามองคนถาม ยังไม่ค่อยจะหายเคืองเรื่องที่อีกฝ่ายปล่อยให้หมอภวัตพาน้องชายมาให้คุณชายฉัตรดูหน้าเสียเท่าไร จึงพูดจาวกวนตอบกลับไป



   “ก็แล้วคุณพงศ์เห็นผมรู้จักทหารคนไหนไหมล่ะ”



   “โธ่! อย่ายอกย้อนหน่า!!”



   “แล้วถ้าเป็นพี่อาทิตย์จริง คุณพงศ์จะว่าอย่างไร”



   “ก็จะว่าอะไร้?!! ก็ดีใจน่ะซี!! เห็นเธอเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร ไม่ไปเที่ยวกับผู้หญิงคนไหน ก็นึกว่าเธอไม่ชอบผู้หญิงเสียอีก!” ประโยคท้ายของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทำเอาจันทร์จ้าวชะงัก แล้วหันมองหน้า



   “คุณพงศ์หมายความว่าอย่างไร”



   “เอ้า! ก็กันนึกว่าคุณอาทิตย์เธอจะเป็นเหมือนนายวรินทร์ น้องชายนายวินิตที่ย้ายไปอยู่ฮ่องกงกับเพื่อนฝรั่ง!”



   “แล้วแปลกตรงไหนล่ะ”



   “แกนี่เข้าใจยากจริง! ก็เพื่อนฝรั่งที่ว่าน่ะเป็นวิศวกรผู้ชายน่ะซี! แล้วก็ไม่ได้ไปอยู่กันอย่างเพื่อนหรอก เขาไปอยู่กันอย่างคู่รัก”



   “เฮ่ย!!”



   “ไม่ต้องมาเฮ่ย นี่นายวินิตเล่าให้กันฟังเอง ว่ามีน้องชายก็เหมือนมีน้องสาว จู่ๆก็ได้น้องเขยเสียอย่างนั้น แต่นายวินิตก็ไม่ได้ดูตกใจอะไร ซ้ำยังทำเป็นพูดเล่นเสียอีกว่าน้องชายไปเสวยสุขอยู่ฮ่องกง ส่งจดหมายกลับมาทีไร เป็นต้องแนบรูปถ่ายคู่กับนายวิศวกรฝรั่งนั่นทุกที ทั้งป๊าทั้งม๊าลมจะใส่ทุกครั้งที่เห็น แต่ว่าก็ว่าเถอะ...เรื่องความรักมันห้ามกันได้เสียที่ไหน คนเราจะรักกัน จะต่างชาติต่างภาษาหรือเพศไหนๆก็รักกันได้ทั้งนั่นล่ะ!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดราวกับเข้าอกเข้าใจเรื่องความรักเป็นอย่างดี ทั้งๆที่ยังไม่มีคนคบหาฉันคนรักเสียด้วยซ้ำ



   “แล้วน้องชายของนายวินิตเหมือนพี่อาทิตย์หรือ คุณพงศ์ถึงว่าพี่อาทิตย์จะเป็นอย่างน้องนายวินิต” จันทร์จ้าวถามอย่างไม่เอาจริงเอาจังนัก ถึงแม้เขาจะไปร่ำเรียนถึงอเมริกา แต่สังคมอเมริกันก็ไม่ได้เปิดเผยสำหรับความรักประเภทนี้ จันทร์จ้าวจำไม่ได้ ว่ายามเขาอยู่ที่นั่นได้คบหาเพื่อนคนใดที่มีความรักกับเพศเดียวกันหรือไม่ บางทีอาจจะมี...แต่เขาสนใจแต่ผู้หญิง ส่วนผู้ชายที่คบหากันฉันเพื่อน เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องชีวิตหรือความรักของเพื่อนผู้ชายเหล่านั้นเสียเท่าไร



   “ก็...ไม่เชิง...กันเคยเจอน้องชายนายวินิตหนสองหน เขาก็ดูเหมือนผู้ชายอย่างเราๆนี่ล่ะ ก็ยังตีเทนนิสด้วยกันอยู่เลย แต่แค่ไม่มีเรื่องคบหากับผู้หญิงเท่านั้นเอง”



   “หืม...ถ้าอย่างนั้น คุณพงศ์ก็ควรจะเล็งหมอภวัตเอาไว้ด้วย รายนั้นก็ไม่มีเรื่องคบหากับผู้หญิงไม่ใช่หรือ” จันทร์จ้าวย้อน ยิ่งคิดถึงเรื่องที่คุณชายฉัตรเอ่ยว่าชวนครอบครัวนั้นมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับเขา ก็ยิ่งนึกเคือง



   “ฮึ้ย! พูดไป!! คุณหมอเธอน่ะงานยุ่งออกจะตาย จะมีเวลาไปคบหาใครได้อย่างไรล่ะ!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรแก้ต่างแทน คนฟังถึงกับทำเสียงขึ้นจมูกอย่างนึกขวาง พอเห็นเพื่อนรักดูท่าจะเคืองขุ่นคุณหมอหนุ่ม ราชนิกูลแห่งวังฉัตรจึงอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถาม



   “แกก็เถอะ...จันทร์ ก่อนหน้านี้ก็เห็นยังดีๆกับคุณหมออยู่เลย แล้ววันนี้องค์อะไรลงเสียล่ะ ถึงไปพูดกับคุณหมอเขาแบบนั้น”



   “คุณพงศ์เข้าข้างหมอมากกว่าผมหรือ?!” จันทร์จ้าวไม่ตอบแต่ย้อนถามเสียงแข็ง ดวงตากลมใหญ่จับจ้องอีกฝ่ายอย่างคาดคั้น ทำเอาคนถูกจ้องต้องรีบยกมือขึ้นเหนือไหล่ทั้งสองข้าง



   “กันไม่ได้หมายความแบบนั้น ไม่เอาหน่า จันทร์...แกก็รู้ว่าเมื่อกี้ พูดจาไม่ดีกับคุณหมอ...”



   “ผมไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่ต้องพูดจาดีกับทุกคนเสมอภาคกัน” พอเจอคำพูดเอาแต่ใจอย่างนี้ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ได้แต่ถอนหายใจ



   “แล้ววันเสาร์หน้าจะทำอย่างไร คุณพ่อเชิญคุณหมอมาด้วย แกก็จะพูดจาอย่างนี้กับเขาหรือ” คำถามของเขาทำเอาจันทร์จ้าวได้แต่นิ่ง ดวงตากลมใหญ่ทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่ไกลจากตัวตึกคือคุณชายฉัตรที่กำลังเดินอยู่ในสวนที่ร่มไปด้วยเงาของแมกไม้นานาพันธุ์ คล้อยหลังคุณชายเล็กน้อยคือพี่ชายของเขา



   ...ระหว่างพี่ชายของเขาที่เป็นนายทหารผู้เอาจริงเอาจัง กับน้องชายของหมอภวัตที่เขาได้ยินมาว่าเจ้าสำราญไม่น้อยไปกว่าเขา ดูอย่างไรแล้วอาทิตย์ก็คู่ควรกับหม่อมหลวงพิมพัชราเป็นไหนๆ...ติดอยู่อย่างเดียว คือสตรีผู้นั้นมีใจให้ใคร...



   “คุณพงศ์ทำใจให้สบาย ถ้าเขาไม่พูดกับผมก่อน ผมก็ไม่พูดกับเขาหรอก วันเสาร์หน้า ผมมีเรื่องต้องทำ ไม่มีเวลาสนใจใครทั้งนั้น...”



   “มีเรื่องต้องทำ?...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทวนคำอย่างไม่วางใจ แต่จันทร์จ้าวกลับไม่สนใจจะตอบ เขามองซ้ายมองขวาแล้วเอ่ยปากถามถึงเจ้านายผู้หญิงเพียงคนเดียวของวังฉัตร



   “แล้วนี่คุณพิมไปไหนเสียล่ะ...”



   “คงอยู่ในโรงครัว แกจะเจอหรือ ฉันจะให้นายคำไปเรียกมาให้” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งท่าจะลุกออกจากห้องไปสั่งคนรับใช้ แต่จันทร์จ้าวคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน



   “ผมไปหาเอง มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณพิมเสียหน่อย คุณพงศ์อยู่เฉยๆรอตรงนี้” เขาสั่งเจ้าบ้านอย่างนั้น ก่อนจะลุกขึ้นเดินหายออกจากห้องไปบอกคนรับใช้ให้พาตนไปพบหม่อมหลวงพิมพัชรา



   คนถูกทิ้งไว้ในห้องได้แต่มองตามหลังเพื่อนรักอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ขืนขัดใจจันทร์จ้าว มีหวังคงถูกโกรธอีกรอบ



......................................



   ครัวทางด้านหลังตึกค่อนข้างจะเงียบสงบ อยู่ท่ามกลางแมกไม้ วังฉัตรมีต้นไม้หลากหลายชนิด ทั้งหมดล้วนได้รับการดูแลอย่างดี ไม่เว้นแม้แต่ทางด้านหลังนี้ ภายในโรงครัวที่ตีฝาด้วยไม้แผ่นห่างๆเพื่อให้ระบายอากาศนั้น แค่มองจากข้างนอก ก็เห็นว่าภายในโรงครัว มีผู้คนวุ่นวายอยู่กับการเตรียมอาหาร หนึ่งในคนเหล่านั้นคือสตรีผู้เป็นนายเพียงคนเดียวของวังฉัตร



   ...หม่อมหลวงพิมพัชรา...



   จันทร์จ้าวก้าวเท้าเดินไปที่ประตูครัว แล้วส่งเสียงทักทาย



   “กำลังยุ่งหรือครับ คุณพิม...” เสียงทักนั้นทำเอาเจ้าของชื่อหันมอง เธอส่งยิ้มแล้วหยิบผ้ามาเช็ดมือก่อนจะยกมือไหว้จันทร์จ้าวผู้เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชาย



   “ไม่หรอกค่ะ ทำไมมาถึงนี่ล่ะคะ ให้คนมาเรียกพิมก็ได้ ไม่เห็นจะต้องเดินมา” ชายหนุ่มยิ้มจางเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้ายเมื่อหญิงสาวเดินออกจากโรงครัวมาหาเขา



   “surprise อย่างไรล่ะครับ” ราชนิกูลสาวหัวเราะเบา



   “ไม่เห็นจะเซอร์ไพรส์เลยค่ะ พิมทราบอยู่แล้วว่าคุณจันทร์มา เมื่อครู่นี้พบคุณอาทิตย์...” แล้วพอหลุดปากว่าเจออาทิตย์ หญิงสาวก็ดูเหมือนจะเงียบไป จันทร์จ้าวลอบสังเกตอยู่แล้ว ดวงหน้าหวานของสตรีผู้เป็นทายาทวังฉัตรออกจะขึ้นสีเล็กน้อยเมื่อพูดถึงพี่ชายของเขา



   ...ประสบการณ์ชีวิตที่คบหาผู้หญิงมามากมายบอกเขาว่าหญิงสาวเบื้องหน้า ‘รู้สึก’ กับพี่ชายของเขาแตกต่างจากที่ ‘รู้สึก’ กับเขา...



   แม้จะเดาความรู้สึกของหญิงสาวจากอากัปกิริยาของเธอได้ แต่เขาก็ไม่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น



   “แหม พี่อาทิตย์เล่าหรือครับว่าผมมาด้วย”



   “เอ่อ...ก็...พิมถามเธอ เห็นว่าปกติเธอไม่ค่อยจะมาที่นี่คนเดียว ก็เลยสงสัยที่เห็นเธอมา อ้อ...เธอเอาผลไม้มาให้กระจาดใหญ่เชียวค่ะ เห็นว่าเป็นผลไม้จากสวนที่บ้านหรือคะ”



   “ครับ รับรองว่ารสชาติดีเยี่ยมทุกอย่าง พี่อาทิตย์แกปลูกของแกเอง ดูแล รดน้ำพรวนดิน วันหยุดเสาร์อาทิตย์หิ้วจอบหิ้วเสียมหายเข้าไปในสวนเป็นครึ่งวันแน่ะครับ นี่ก็เป็นคนเสนอด้วยซ้ำว่าให้นำผลไม้มาฝากที่นี่ ไม่รู้ติดใจอะไรคนที่นี่นะครับ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะเสนอให้เอาอะไรไปให้ใคร แกอยู่ของแกเงียบๆ สันโดษออกจะตายไป” แม้หญิงสาวจะพยายามชวนคุยเรื่องผลไม้ แต่จันทร์จ้าวก็ยังดึงกลับมาที่เรื่องของอาทิตย์ได้เช่นเดิม



   หม่อมหลวงพิมพัชราได้แต่รับฟังเงียบๆ เพราะไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยคำใด ในใจของหล่อนมีแต่เรื่องของเขา อยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร เขาใช้ชีวิตอย่างไร ที่สำคัญ...เขามีคนรักแล้วหรือยัง แต่...ครั้นจะถามจากเขา หล่อนก็กลัวว่าเขาจะคิดว่าหล่อนช่างเป็นผู้หญิงหน้าไม่อาย แต่ครั้นจะไม่ถาม หล่อนก็กลัวว่าตนเองจะถลำลึกไปกับความรู้สึกทั้งหลายมากกว่านี้



   จันทร์จ้าวมองเห็นท่าทีอึดอัดใจของหญิงสาว สองมือเล็กที่บีบกระชับเข้าหากันบอกให้เขารู้ว่าหม่อมหลวงพิมพัชรามีเรื่องอยากจะพูดมากมาย ทว่าไม่กล้าเอื้อนเอ่ย ด้วยเพราะสตรีราชนิกูล แม้จะไม่ถูกกรอบจารีตประเพณีบังคับเท่าราชวงศ์ แต่ก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้ตามใจชอบดังเช่นหญิงอื่น



   “จริงสิ พูดถึงพี่อาทิตย์ ผมก็มีเรื่องอยากจะขอความกรุณาจากคุณพิมอยู่สักหน่อย” เขาเอ่ยปาก ทำเอาหญิงสาวเงยหน้ามองโดยพลัน จันทร์จ้าวทำหน้าสลดให้เห็นคาตาจนราชนิกูลสาวใจคอไม่ดี



   “คุณจันทร์มีอะไรให้พิมช่วยหรือคะ”



   “คุณพิมรู้จักคุณวินิต เพื่อนคุณพงศ์ไหม”



   “คุณวินิต...ที่เป็นเจ้าของโฮเต็ลในเยาวราชใช่ไหมคะ” จันทร์จ้าวนิ่งไปเล็กน้อย เพราะกับนายวินิต เขาก็เพียงตีเทนนิสด้วยกันเท่านั้น พบกันทีไรก็เป็นที่สโมสรทุกที จึงไม่รู้ว่านายวินิตทำมาหากินอะไร



   “คนที่มีน้องชายย้ายไปอยู่ฮ่องกงน่ะ”



   “อ้อ...รู้จักค่ะ คุณวินิตมีน้องสาวคนหนึ่งชื่อวิชุดา เป็นเด็กนักเรียนในห้องของพิม คุณวรินทร์ น้องชายคุณวินิตมารับออกบ่อยไป แต่เห็นวิชุดาบอกว่าพี่ชายของแกย้ายไปทำงานที่ฮ่องกงเสียแล้ว” ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก แล้วขยับเข้าใกล้เพื่อพูดเสียงเบาให้พอได้ยินกัน ๒ คน



   “ถ้าอย่างนั้นคุณพิมทราบใช่ไหม ว่าเขาย้ายไปฮ่องกง ไม่ใช่แค่ไปทำงานเท่านั้น”



   “เอ๊ะ...ไม่ใช่แค่ทำงานหรือคะ...” หญิงสาวย้อนถามอย่างนั้น ก็พอจะบอกจันทร์จ้าวให้รู้ว่าหล่อนไม่ทราบเรื่องที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเล่าให้เขาฟัง



   “ครับ...เรื่องนี้คุณพิมทราบแล้วอย่างบอกใครเชียว กับคุณพงศ์ก็ห้าม ผมได้ยินมาว่าน้องชายของนายวินิตตรอมใจเพราะมีความรักที่ไม่ควรรัก ก็เลยหนีไปอยู่ฮ่องกงเสียเลย นี่ก็ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร” เขาพูดพลางทำหน้าเศร้าประหนึ่งเป็นเรื่องรันทดยิ่งนัก ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่ได้รู้จักกับน้องชายของนายวินิตเป็นการส่วนตัว ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเศร้าใจราวกับเป็นคนในครอบครัวเช่นนี้ หนำซ้ำเรื่องที่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่ทราบ นั่นก็โกหก เพราะเมื่อครู่นี้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรบอกเขาว่านายวินิตพูดว่าน้องชายไปอยู่ฮ่องกงอย่างมีความสุขดี



เรื่องตลบแตลงแสดงละครแนบเนียนต้องยกให้จันทร์จ้าว หากยังอยู่ในอเมริกา คงมีคนแนะนำให้ไปฮอลลีวู้เป็นแน่แท้



   “ตายจริง! อย่างนั้นหรือคะ โธ่...น่าสงสารคุณวรินทร์...” ทว่าสำหรับหม่อมหลวงพิมพัชรานั้น เพราะคุ้นเคยกับ ‘น้องชายของนายวินิต’ อยู่บ้าง จึงอดไม่ได้ที่จะใจหายเมื่อทราบว่าเขา ‘ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร’



   “นั่นซีครับ แต่ผมได้ยินข่าวเรื่องน้องชายนายวินิตแล้วก็คิดถึงพี่ชายผม รายนั้นวันๆก็แทบไม่พูดกับใคร บางครั้งก็เอาแต่มองเดือนมองดาว สงสัยจะไปรักใครที่เขาสูงส่งกว่ากระมัง” ประโยคท้ายของชายหนุ่ม ทำเอาคนฟังใจหายวูบ



   “คุณอาทิตย์...มีคนรักแล้วหรือคะ” จันทร์จ้าวรีบโบกมือไปมาเป็นการปฏิเสธ



   “ต้องบอกว่ารักข้างเดียวมากกว่าครับ คุณพิมพอจะสังเกตบ้างไหม ว่าพี่อาทิตย์แกให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนบ้าง”



   “เรื่องนั้นพิมไม่ทราบหรอกค่ะ...” หม่อมหลวงพิมพัชราพูดด้วยใจพะว้าพะวง นึกห่วงใยอาทิตย์ เกรงว่าหากเขาแอบรักใครข้างเดียวจริงแล้วเกิดตรอมใจอย่างเช่นคุณวรินทร์ที่หนีไปอยู่ฮ่องกง หล่อนก็คงจะไม่ได้พบหน้าเขาอีก



   “ว้า แย่จริง...นี่ผมก็นึกว่าผู้หญิงเขาจะมองออกว่าผู้ชาย treat ใครเป็นพิเศษเสียอีก...แต่เอาเถอะ อย่างไรแล้วผมก็ขอความกรุณาคุณพิมด้วยแล้วกัน หากคุณพิมพอจะทราบว่าผู้หญิงที่พี่อาทิตย์มีใจให้คือใครก็ช่วยไปบอกเธอทีว่ารับรักพี่ชายของผมหน่อย หรือหากคุณพิมรู้เห็นเรื่องหัวใจของพี่อาทิตย์แต่ประการใด ก็ช่วยดูแลพี่ชายของผมด้วย ผมล่ะหวั่นใจแกจะประชดรักแบบน้องชายนายวินิตเข้า ไม่ใช่วันดีคืนดีตรอมใจขอไปเป็นแนวหน้าในสงคราม คุณแม่จะลมจับเสียเปล่า” จันทร์จ้าวพูดราวกับห่วงใยพี่ชายเหลือประมาณ ก่อนจะยอมเปลี่ยนเรื่องไปชวนคุยเรื่องอื่น แม้จะจับสังเกตได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่มีกระจิตกระใจพูดคุยเรื่องใดกับเขาอีกเลยก็ตามที



   ชายหนุ่มได้แต่นึกกระหยิ่มในใจ



   ...เขารับประกัน ว่าในไม่ช้าพี่ชายของเขาต้องสมหวัง...



   .....................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-10-2015 21:12:26

ภวัตไม่สบายใจเอาเสียเลย กับอากัปกิริยาและสายตาที่จันทร์จ้าวกระทำต่อเขาที่วังฉัตร ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ พวกเขายังพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ไปตีเทนนิสด้วยกัน ไปรับประทานอาหารด้วยกัน ไปทำบุญด้วยกัน เขาเชื่อว่าจันทร์จ้าวและเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแล้ว แต่ทำไมวันนี้...ทุกอย่างถึงกลับกลายไปเป็นเหมือนครั้งแรกที่พบหน้ากันเสียได้



   ความไม่สบายใจทำให้เขาไม่อาจทนอยู่เฉยได้ แม้จะกลับเข้าบ้านแล้ว แต่ในช่วงค่ำ เขาก็ยังขับรถออกมาอีกหน



   รถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มจอดที่หน้าบ้านหลังเล็กสีเขียวอ่อน จากประตูรั้วถึงตัวบ้านไม่ห่างกันมากนัก เขามองเห็นแสงไฟส่องลอดออกมาจากทางหน้าต่าง อึดใจหนึ่งเขาเห็นม่านหน้าต่างถูกเลิ่กขึ้นเล็กน้อย ดวงหน้าขาวโผล่ออกมาดูแล้วก็ทิ้งม่านลงตามเดิม ภวัตกำลังจะใจชื้นเพราะคิดเอาว่าเจ้าของบ้านที่เคยต้อนรับเขาอย่างดีจะออกมาต้อนรับอย่างเคย ทว่า...สิ่งที่เขาเห็นกลับกลายเป็นบ้านทั้งหลังปิดไฟเงียบในชั่วพริบตา



   ...หมายความว่าอย่างไร...เห็นเขามาแล้วทำเป็นปิดไฟอย่างนั้นหรือ...



   ภวัตไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร เขาทำอะไรให้โกรธเคืองถึงขนาดปิดไฟไล่เขาแบบนี้ ชายหนุ่มได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ราวพักใหญ่ๆบ้านที่มืดทั้งหลังก็เปิดประตูออกมา ชายหนุ่มเงยหน้ามองทันที



   เขามองเห็นร่างสูงโปร่งที่เปิดประตูออกมาจากบ้านมืดๆ ก้าวเท้าลงบันไดมาหยุดที่ประตูรั้ว ไฟจากเสาไฟริมถนนให้ความสว่างมากพอที่จะทำให้ภวัตเห็นว่าสีหน้าของเจ้าของบ้านมีแต่แววเคืองขุ่น



   “กลัวยุงบ้านนี้อดอยากรึ?!! ถึงยังไม่กลับไปซะที!!!” จันทร์จ้าวถามเสียงห้วน ดวงตากลมใหญ่จับจ้องคนที่ยืนอนู่อีกฝั่งของรั้วเตี้ยอย่าวแค้นเคือง



   “คุณโกรธผมอยู่หรือ คุณจันทร์” ภวัตถามไปอีกเรื่อง แต่เป็นเรื่องที่คาใจเขาที่สุด จันทร์จ้าวแค่นยิ้ม



   “ถ้าผมไม่โกรธคุณ ผมคงเชิญคุณเข้าบ้านนานแล้ว” ตอนที่ดับไฟไล่ส่งแขกที่มายืนเกาะขอบรั้วเมื่อครู่ จันทร์จ้าวรู้สึกเหมือนไม่ใช่นิสัยของเขาเสียเลย ถึงเขาจะทำอะไรลับลมคมนัย แต่เรื่องไล่คนอื่นตรงๆ เป็นเรื่องที่เขาถนัดเป็นที่สุด โดยเฉพาะการไล่ ‘หมอภวัต’ พอคิดได้ดังนั้น เจ้าบ้านผู้นี้จึงเปิดประตูออกมาไล่ถึงรั้ว



   “คุณโกรธผมเรื่องอะไร” ภวัตถามอย่างเคร่งเครียดและเป็นกังวล



   “หมอไปที่วังฉัตรทำไมบ่อยๆ”



   “ผมเป็นหมอประจำตัวคุณชาย ผมก็ต้อง...” ร่างสูงพูดไม่ทันจบ จันทร์จ้าวก็แทรกอย่างหงุดหงิด



   “หมออย่าแกล้งโง่! ผมไม่ได้สนใจว่าหมอจะเป็นอะไร! ที่ผมสนใจคือหมอไปที่นั่นเพื่อจุดประสงค์อะไร?!! แค่ตรวจคุณชายหรือ?! หึ! หมอใช้สมองอยู่รึเปล่า ถึงคิดจะมาหลอกคนอย่างผม?!!” ภวัตยังไม่เข้าใจในคำพูดของคนที่อยู่อีกฟากฝั่งรั้ว



   “คุณหมายความว่าอย่างไร คุณจันทร์”



   “หมอไปที่นั่นเพราะคุณพิมใช่ไหม?!” คำถามตรงไปตรงมาของจันทร์จ้าวทำเอานายแพทย์หนุ่มถึงกับเงียบกริบ ดวงตาคมจับจ้องคนถามด้วยความตกตะลึงเพราะคิดไม่ถึงว่าจะถูกถามเช่นนี้ และความเงียบของภวัตก็ทำให้จันทร์จ้าวย้ำ



   “หมอไปเพราะคุณพิมจริงๆ...” ร่างโปร่งทิ้งไว้แค่ประโยคนี้ก็หมุนตัวจะเดินกลับขึ้นบ้านทันที



   “แต่ผมไม่ได้รักคุณพิม!” ภวัตโพลงออกไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องรีบบอกความรู้สึกของตนเองมากถึงเพียงนี้ บางทีอาจจะเพราะไม่อยากให้จันทร์จ้าวเข้าใจผิด ดวงหน้าขาวหันกลับมามองคนพูด ดวงตากลมไม่ได้สื่อความหมายใด ความมืดสลัวยามค่ำยิ่งทำให้ภวัตมองแทบไม่ออกว่าอีกฝ่ายหันกลับมามองเขาด้วยความรู้สึกแบบใด



   “ถ้าอย่างนั้นยกให้ผม...” ภวัตชะงักไปชั่วอึดใจ เจ้าของคำพูดนั้นเดินกลับมาที่รั้วอีกครั้ง ดวงหน้าขาวถูกแสงจากเสาไฟริมถนนสาดส่องให้ร่างสูงได้เห็นความถือดีที่ปรากฏอยู่บนนั้น



   “ยกคุณพิมให้ผม!!” จันทร์จ้าวตวาดย้ำอย่างที่ทำเอาคนฟังใจหายวาบด้วยคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดประโยคนี้จากปากของอีกฝ่าย เขามองดวงหน้าขาวที่อยู่เบื้องหน้า รู้สึกเหมือนหัวใจร้าวราญจนแทบหายใจไม่ออก ความรู้สึกในเวลานี้ของภวัตไม่ได้เกี่ยวข้องกับหม่อมหลวงพิมพัชราผู้ที่น้องชายของเขาหมายตา แต่เขารู้ดีว่ามันเกิดขึ้นเพราะคำพูดประโยคนี้ประโยคเดียว



   ‘ยกคุณพิมให้ผม!!’



...จันทร์จ้าวต้องการหม่อมหลวงพิมพัชรา จันทร์จ้าวชอบพอหม่อมหลวงพิมพัชรา...ภวัตไม่ทราบว่าเหตุใดเขาจึงเจ็บปวดกับความคิดนี้ถึงเพียงนี้ แค่เพราะคนที่จันทร์จ้าวต้องการคือราชนิกูลสาวผู้นั้น แค่เพราะคนที่จันทร์จ้าวต้องการคือสตรีผู้เพียบพร้อม
 


   “ผมไม่มีความสามารถจะยกคุณพิมให้คุณ...” ภวัตตอบด้วยน้ำเสียงแหบแผ่ว ราวกับต้องการให้ประโยคนี้ของเขาช่วยยื้อเวลาไม่ให้จันทร์จ้าวได้ครอบครองสตรีผู้นั้น แม้ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่มีอิทธิฤทธิ์ใดๆที่จะยกใครให้แก่ใคร หรือยื้อใครไม่ให้ไปอยู่กับใครได้ก็ตามที



   “หมอ!!!” จันทร์จ้าวตวาดลั่นด้วยความโกรธ เพราะคำพูดของนายแพทย์หนุ่มไม่ต่างอะไรกับคำปฏิเสธ และสำหรับเขา การที่หมอภวัตปฏิเสธก็มีเพียงเหตุผลเดียวคือต้องการเก็บหม่อมหลวงพิมพัชราไว้ให้นายเภา วิชาญโยธิน



   “...คุณพิมไม่ใช่สิ่งของที่ผมหรือใครจะมายกให้คนอื่น” เป็นการปฏิเสธที่ตีแสกหน้าจันทร์จ้าวได้อยู่หมัด แต่คนอย่างจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ผู้ดื้อดึง ไม่มีวันยอมหยุดเพียงเพราะคำพูดประโยคเดียว



   “ถ้าอย่างนั้นหมอก็เก็บเอาไว้ให้ดีแล้วกัน!! เพราะผมจะแย่งคุณพิมมาจากหมอเอง!!!” 



สุ่มเสียงจริงจังและดวงตาจ้องเขม็งของคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของรั้วบอกให้ภวัตรับรู้ว่าจันทร์จ้าวจะไม่มีวันยอมถอยให้กับเรื่องหม่อมหลวงพิมพัชรา ราชนิกูลผู้เป็นที่หมายตาของเภา วิชาญโยธินน้องชายของเขา และเป็นสตรีที่จันทร์จ้าวต้องการ



พอคิดอย่างนี้แล้ว ภวัตก็ยิ่งรู้สึกว่าทั้งเขาและจันทร์จ้าวไม่ได้ถูกขวางด้วยรั้วเตี้ยอีกต่อไปแล้ว แต่ระหว่างพวกเขาคือระยะห่างที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจขยับเข้ามาใกล้ชิดกันได้อีกเลย



ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

เป็นตอนที่ยาวมากกกกก จะตัดแบ่งไปโปะตอนหน้า ก็มันจะไม่ต่อเนื่อง เลยเอาลงทั้งยาวๆอย่างงี้แล้วกัน แบ่งๆอ่านวันละ 5 บรรทัด 10 บรรทัดเนอะ แฮ่ๆ
วันนี้ปวดไมเกรนมากเลย อ่านทวนคำผิดแล้ว แต่คิดว่ามันคงจะเหลือๆอยู่บ้าง ขอโทษด้วยนะคะ
ส่วนคำถามในตอนที่แล้ว ว่า 4 พี่น้องนี้ได้ใครคู่ใคร ตอนนี้ขอยังไม่เฉลย เดี๋ยวจะได้เฉลยจริงๆประมาณตอนที่ 17-18 มั้ง ฮ่าฮ่า (บอกแล้วว่าเรื่องนี้ยาวมากๆ ลงทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละตอน ประมาณว่าปีหน้าถึงจะจบ)
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้า ขอบอกว่าพ่อจันทร์พยศมากกกกกกกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว)

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 29-10-2015 21:33:43
อูยย
พูดจากำกวมกันอย่างนี้ก็เข้าใจผิดกันไปใหญ่น่ะสิ
สงสารคุณหมอเลยอะ จันทร์หนอจันทร์ช่างทำกันได้

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 29-10-2015 21:58:50
พ่อจันทร์พูดกำกวม ดูสิ คุณหมอเข้าใจผิดเลย มาง้อเลยนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: BooBiE ที่ 29-10-2015 22:10:41
เราว่าตอนนี้จันทร์จ้าว ดูเป็นคนไม่มีเหตุผลเลยนะ สงสารหมอภวัตเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-10-2015 22:12:26
ความสัมพันธ์กำลังดีอยู่แล้วเชียว เป็นเรื่องอีกจนได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 29-10-2015 22:14:52
น่าสงสารหมอจังเลย จะมีเมีย พยศ ดุ เอาแต่ใจ ขี้โมโห กรรม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-10-2015 22:18:10
ไร้เหตุผลสุดๆ

สงสารคุณหมอ

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 29-10-2015 22:20:19
ไม่น้าาาาาาา เข้าใจกันไปคนละทิศแล้ว  :ling1:

กำลังหวานแล้วเชียว สงสารหมอจังเลย :o12:

คุณจันทร์ก็บอกไปสิว่าจะเอาคุณพิมมาเป็นพี่สะใภ้หน่ะ ทำไมดื้อออออ

ยาวกว่านี้เราก็อ่านไหวนะ จบตอนแบบนี้เราหน่วงหัวใจมากๆ เจ็บปวดเป็นเพื่อนหมอกันเลยทีเดียว :monkeysad: :monkeysad:

ไม่เอามาม่าได้ไหมเราอยากได้ลุกอมลูกกวาดแบบหวานๆแทน :ling3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๗ (๒๒ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๒)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 29-10-2015 22:24:34
ไอ้ๆ ไอ้คนปากแข็ง อูยยยย(ตระคุบปาก)
นี่มันรุ่นทวดของทวดแกเลยนะเว้ย พูดให้มันสุภาพหน่อย
ถึงเราจะเดาไมีออกว่าพศ ไร
แต่ช่วงตอนนี้ของคุณจันทร์ ที่ยังไม่มีผงซักฟอก (รุ่นยายเรามีแล้ว)
น่าจะเป็นรุ่นทวดเราแล้วล่ะ  อ่าาา
คุณจันทร์ไม่มีเหตุผลเลย อยากทำอะไรก็บอกหมอไปตรงๆสิ
อย่าปล่อยให้หมอคิดไปเองคนเดียวแบบนี้ คุณหมอเค้าเจ็บนะ
อ่าา คุณหมอเริ่มหลงคุณจันทร์แล้วสินะ
 :ling3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 29-10-2015 22:31:40
โถ่ คุณน้องเค้าก็รักพี่เธอเนอะ ถึงได้ทำเช่นนี้
เราเข้าใจชายจันทร์นะ เลือดข้นกว่าน้ำก็หนึ่งส่วน นิสัยที่หุนหันพลันแล่นก็อีกส่วน
ไม่รู้ว่าจะต้องอีกนานแค่ไหนจึงจะปรับความเข้าใจกันได้

คู่พี่ชายนี่ก็ลุ้นสุดตัวเหลือเกิน ต่างคนต่างแอบงำความรักเอาไว้แบบนี้
อยากให้นภากับดารามาเป็นแม่สื่อบอกโต้งๆ ไปซักทีว่าต่างก็ชอบกัน จะได้สมหวัง
อีกคู่ที่น่าลุ้นก็นางสาวสกายกับเพื่อนหนุ่มฝรั่งนี่แล น่าจะไปกันได้ด้วยดีเทียวละ :-)

ปล. ดักตบเภาได้มะ หมั่นไส้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-10-2015 22:32:15
โอ้วยยย เข้าใจกันไปคนละทาง งื้ออออ
งานนี้คุณหมอเหนื่อยหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 29-10-2015 22:34:58
พ่อจันทร์ไม่พูดให้มันเคลียร์ล่ะ เข้าใจผิดกันไปหมดแล้วว  :z3:
ปล ทำไมเรารู้สึกว่าพ่อจันทร์พยศแล้วน่ารัก 5555555
อยากเห็นคุณหมอปราบพยศพ่อจันทร์ค่ะ! เอาใจช่วย ><
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 29-10-2015 22:41:25
จันทร์เจ้านอกจากจะเอาแต่ใจแล้วยังพูดจากำกวมอีกเวรกรรม
คุณหมอน่าสงสารจริง ๆ ฉุดเอาไปตบจูบเลยค่ะหมอ 555 ปากดีแบบนี้ต้องจัดการ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-10-2015 22:48:33
โอย กว่าพี่อาทิตย์กับคุณพิมจะสมหวังลงเอย คุณหมอของอิชั้นจะถูกคุณจันทร์ขบหัวป่นปี้เสียแน่แท้

ปล.สนใจเรื่องนายวรินทร์และแฟนหนุ่มค่ะ ท่าทางนายคนนั้นจะก๋ากั่นน่าดู
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 29-10-2015 23:00:59
ทำไมออกมาเป็นแบบนี้ๆๆๆๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 29-10-2015 23:12:12
อยากตีปากจันทร์จ้าวเหลือเกิน สงสารคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 29-10-2015 23:17:40
ง่าาาาาาาาาา
คุณจันทร์ทำคุณหมอเข้าใจผิดแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 29-10-2015 23:34:32
คุณจันทร์!! ใจร้อนไปไหมคะ
คนแบบคุณหมอใช้คำพูดตรงๆ แต่ไม่ต้องแรงก็ได้นะคะ
โกรธที่เขาไม่บอกเรื่องน้องชายก็พุ่งประเด็นไปที่เรื่องนั้นเลยเถอะ
ดีไม่ดี...จะมีคนช่วยให้พี่อาทิตย์กับคุณพิมได้สมหวังอีกแรงนะเออ

สงสารหมอ...จะต้องใจเย็น เอาน้ำเย็นเข้าลูบไปอีกนานแค่ไหนหนอ
กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว...มีน้องชายไม่รู้จักโตนี่เหนื่อยแทน ^^"
เอาใจช่วยให้คุณหมอฟื้นคืนปรับความเข้าใจได้เร็วพลัน...อยากได้ก็ต้องสู้เนอะ ^^v
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 29-10-2015 23:46:37
พฤหัสหน้าอีกตั้งหลายวัน นิยายสนุกไปก็ไม่ดี อ่านไม่เคยพอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 30-10-2015 00:38:47
เป็นเพราะเนื้อความในประโยคไม่ถูกขยายเพิ่มเติมแท้ๆ เชียวนะคะ ความเข้าใจของทั้งคุณหมอและจันทร์จ้าวถึงได้ไปคนละทิศละทางแบบนี้

ส่วนเรื่องของพี่อาทิตย์กับคุณพิมก็ขยับขึ้นมาจากเดิมหน่อยแล้วนะคะ ช่างเป็นสัญญาณที่ดีจริงๆ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 30-10-2015 01:22:22
ยาวสะใจที่สุด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 30-10-2015 01:33:48
โอ้ยยอะไรร กำลังจะใกล้กันก็ไกลกันอีกแล้ว ปูลู ชอบะพ่อจันทร์เม้งแตก แลดูน่ารักน่าชัง อีกอย่างคือชอบผู้หญิงแบบคุณพิม ความนึกคิดอะไรดูเป็นกุลสตรี พ่อจันทร์ไปสปอยซะขนาดนั้นก็หวังว่าจะสมหวังเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 30-10-2015 01:40:23
โอ้ยกำลังฟินๆ ทำไมๆ มันกลายเป็นแบบนี้ซะแล้ว

จันทร์พูดไม่ชัดเจนอ่ะขาดบางคำไปเปล่า หมอเข้าใจผิดแล้วอ่ะ

ไม่อยากให้มาม่าเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 30-10-2015 02:33:05
ชอบคุณหมอที่คุณหมอชอบจันทร์จ้าวแบบดูชัดเจนมาก ถึงแม้คุณหมอจะยังไม่รู้ตัวก็เถอะ แต่มันเเปลกจริงๆที่คุณหมอมาชอบจันทร์   รักแรกพบเหรอ  แล้วดูที่คุณหมออึ้งนี่คืออะไร  แสดงว่าชอบไปเยอะแล้วเหมือนกัน แอร๊ยยคุณหมอไม่แปลกใจตัวเองเหรอสมัยนั้น  เห้ยยคุณหมอ born to be คือดีอะ  ตอนแรกคิดว่าคู่นี้เพราะด้วยเป็นสมัยนั้นน่าจะออกมาสไตล์แบบต้องใช้เวลากว่านี้ซะอีก ต้องอาศัยความผูกพันเยอะๆ  แต่นี่คือรู้สึกได้ชัดมากๆว่าคุณหมอชอบจันทร์จ้าวขนาดไหน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Aomoto ที่ 30-10-2015 02:52:00
เศร้าแทนคุณหมอเลย หวานแป๊บเดียว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-10-2015 04:27:41
คุณจันทร์นี่น่าตีจริงๆ 
นิสัยไม่งามเลยเอาแต่ใจตัวเอง
พูดกำกวมแล้วไม่ใช่แค่คุณหมอนะที่จะเข้าใจผิด
เผลอๆคุณพิมด้วยที่จะเข้าใจผิดไปว่าคุณอาทิตย์มีหญิงที่ชอบแล้ว
แถมยังเอาคุณอาทิตย์ไปเปรียบกับน้องชายคุณวินิตที่หนีไปมีสามีอีก
กำกวมแบบนี้เดี๋ยว 2 + 2 กลายเป็น 6 นะคะ

เรื่อง 4 คู่นี่นะ
หมอ - คุณจันทร์
พี่อาทิตย์ - หญิงพิม
เรย์ - นภา
คุณพงศ์ - ดารา

สะกดชื่อผิดก็ขออภัยค่ะ

คู่สุดท้ายยังไม่มีวี่แวว   แต่เราไม่ชอบนิสัยเภาค่ะ   อีกอย่างบ้านนั้นคุณพ่อเภาก็มีบ้านเล็กบ้านน้อย  ท่าทางเภาเองก็ใช่หยอก  ไม่อยากให้ดาราต้องมาเสียใจค่ะ เพราะครอบครัวดารานี่อบอุ่น
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 30-10-2015 05:06:30
จันทร์ทำตัวไม่น่ารักเลยนะ สงสารคุณหมอ ถ้าหมอน้อยใจแล้วหนีไปฮ่องกงจะทำไง!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 30-10-2015 06:13:09

ยาวสะใจมากกกก  :mew1:

อันนี้ เราชื่นชมน้องจันทร์กันใช่ปะ  :hao6:

"เรื่องตลบแตลงแสดงละครแนบเนียนต้องยกให้จันทร์จ้าว หากยังอยู่ในอเมริกา คงมีคนแนะนำให้ไปฮอลลีวู้เป็นแน่แท้"

ปล. ฮอลลีวู้ด ตก ด.เด็ก ไปค่ะ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 30-10-2015 06:51:32
จันทร์เจ้าแรงจริงๆ หมอเองใช่จะยอม  :katai1: :katai1: แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจกัน :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 30-10-2015 07:47:44
โอ้ยยยยยยย อยากจิเอาไม้เรียวฟาดก้นคุณจันทร์
ทำไมทำแบบนี้คะ ฮึ่ยยยยย
สงสารคุณหมออ ปวดใจจจจ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 30-10-2015 08:30:44
สงสารหมอจัง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-10-2015 09:13:56
สงสารคุณพงษ์    กลัวคุณจันทร์เหวี่ยง ฮ่าๆๆๆๆ






สมน้ำหน้าหมอภวัตร รู้ว่าน้องชายตนเอง ไม่หมั่นคง แล้วยังกล้าพาเข้าวังฉัตรอีก






โดนคุณจันทร์โกรธเลย สม คุณพิมนะ ของพี่อาทิตย์เขา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 30-10-2015 09:32:59
ทายผิดเรื่องนภาซะแล้ว สงสัยจะคู่นายฝรั่งแน่

พี่อาทิตย์ก็รุกๆหน่อยสิ นี่ลุ้นแทนคุณพิมพ์เลย

จันทร์นี่มันดื้อจริงๆ ชอบนักเรื่องทำร้ายจิตใจคุณหมอเนี่ย ชิส์ พูดให้เคลียร์หน่อยก็ไม่ได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 30-10-2015 09:56:17
ทำไมจันทร์ไม่บอกคุณหมอไปว่าจะแย่งมาให้พี่ชายเล่า
คุณหมอเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว
เศร้าใจ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 30-10-2015 09:56:37
คุณจันทร์ มีอิทธิพลกับคนอื่นมาก มีแต่คนกลัวคุณจันทร์โกรธ ไม่รู้จะขำหรืออะไรดี

อย่าเพิ่งเข้าใจกันผิด จันทร์ กับหมอ อย่าพูด ไม่เคลียร์ แบบนี้ คนอ่านใจหาย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 30-10-2015 10:06:59
คุณจันทร์ใจร้ายมากกกกกกก :เฮ้อ:
แต่มันก็ทำให้หมอได้หันไปมองหัวใจตัวเองเนอะ ว่าทำไมต้องเสียใจ :hao4:
หมอคะ ถ้ารู้หัวใจตัวเองแล้วก็ลุยเลยนะคะ สู้ๆค่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 30-10-2015 10:50:07
นายเภานี่จะมุมไหนก็สู้พี่อาทิตย์ไม่ไหวค่ะ แต่พี่อาทิตย์แกก็ขี้อายไปสักหน่อย

อ่าใช่เราเจอ กรอกตา ค่ะ  กลอกตานะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 30-10-2015 11:45:22
ราชินีตัวจริงเสียงจริงค่ะ
เอาแต่ใจที่สุด แต่ทุกคนก็ต้องยอมเค้าละนะ
หวังว่าคุณหมอจะไม่เข้าใจผิดแล้วก็น้อยอกน้อยใจหนีห่างนะ
เอ๊ะ หรือว่าหายไปแหละดี นางพญาจะได้รู้สึกตัว ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-10-2015 12:23:39
เหวี่ยงแรงมากอ่ะ  จันทร์จ้า่ว  สงสารหมอเลย
...
อ่านเรื่องนี้แล้ว  นึกถึงพี่โตกับจอมขวัญเลย
พระเอกนายเอก  ดูทรงแล้วมาแนว ๆ เดียวกัน
แต่จันทร์จ้าว  นางแร๊งงง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeyibee ที่ 30-10-2015 12:32:35
จันทร์พาลสุดๆเลยอ่ะ หมอแกผิดมั๊ยที่ไม่เอาเรื่องน้องตัวเองมาเล่า เคลียร์กันเร็วๆนะสงสารหมอมาก อยากให้จันทร์รู้สึกตัวบ้างว่าทำอะไรไป ไม่รู้คราวนี้หมอจะยอมอ่อนให้อีกเหมือนตอนแรกที่เข้าหาก่อนหรือยอมตัดใจไปเลย :hao5: ป.ล.ไม่น่ารีบอ่านเลย ค้างมากค่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 30-10-2015 12:52:20
ปล่อยจันทร์ไว้คนเดียวสักพักเถอะหมอ  :เฮ้อ:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: pagg ที่ 30-10-2015 16:08:45
จันทร์ไม่น่ารักเลย เข้าใจว่าอยากช่วยพี่ แต่เที่ยวพาลคุณหมอ ทั้งๆที่คุณหมอไม่ได้ทำอะไร

คุณหมออุตส่าห์มาหาถึงบ้านพัก แต่กลับพูดจาแสดงท่าทางพาลคุณหมออีก สงสารหมอมากๆ
ตอนนี้ไม่ชอบจันทร์เอามากๆ เมื่อไหร่จะถึงวันพฤหัส จะลงแดง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 30-10-2015 16:45:08
โอ๊ยยยยยย สงสารคุณหมอ

ถึงแม้ว่าการทำแบบนี้จะเป็นตัวจันทร์จ้าวสุดๆก็เถอะ แต่แบบ....สงสารคุณหมออ่าาาาาาา

ดีกันเร็วๆนะ สงสารคุณหมออออออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 30-10-2015 21:11:52
จันทร์จ้าวทำแบบนี้ไม่สงสารคุณหมอเหรอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 30-10-2015 21:43:14
โถ่ คิดกันคนละเรื่องเล้ยย ยกให้ผมอะไรกัน ก็พูดให้ชัดๆเซ่ว่ายกให้พี่ชายผม แถมโกรธเรื่องอะไรก็ไม่บอกเขาอีก มารยาทก็ไม่ดีด้วย เป็นเด็กเอาแต่ใจจนน่าเตะ
สงสารคุณหมอ ได้เมียแบบน้องจันทร์คงปวดหัวแย่ คุณหมอลองเปลี่ยนใจไปจีบพี่พงศ์แทนดีมั้ย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 30-10-2015 22:17:47
แอบนึกถึงพี่โตกับจอมขวัญเหมือนกันเลยค่ะ แต่กับเรื่องนี้คุณจันทร์ดูจะพยศกว่ามากกกกกกกจริงๆ 5555555555555
แต่ก็น่ารักน่าเอ็นดูตลอดเลยนะคะ ยาวจุใจมากๆเลยตอนนี้ อยากได้แบบนี้ทุกอาทิตย์เลยค่ะ T ____ T
(เอาจริงๆถ้าอัพถี่กว่านี้จะร้องไห้ขอบคุณเลย นี่ถึงขนาดบ่นให้คุณแม่ฟังเลยนะคะว่านิยายที่ชอบมากๆอัพแค่อาทิตย์ละตอน
บอกเลยว่าถ้าเกิดมาเล่มออกมาตอนนี้ก็จะซื้อเล่มทันทีเลยค่ะ 555555 คือหลงรักมากกกกกก อ่านซ้ำไปซ้ำมาได้อย่างเดียว)
สำหรับตอนล่าสุดนี่ทำให้รู้สึกว่าคุณจันทร์เธอเป็นที่รักของทุกคนจริงๆนะคะ ทั้งเรย์ทั้งคุณพงศ์ก็ยอมอ่อนให้ตลอดเลย
โดยเฉพาะคุณพงศ์ที่เป็นเจ้าบ้านแท้ๆนะ แต่เกรงใจคุณจันทร์ไม่กล้าพูดขัด อะไรที่อยากตามไปรู้ยังได้แค่ชะเง้อมองเลย 55555
แล้วคนสำคัญอีกคนก็คุณหมอนั่นแหละค่ะ โดยพูดร้ายๆใส่ตั้งหลายรอบ ยิ่งล่าสุดที่ออกมาไล่แต่ละประโยคนะคะ
ถ้าไม่ใช่คุณหมอป่านนี้คงมีวางมวยกันไปแล้วแหงๆ อะไรจะปากกรรไกรขนาดนั้นนนน

หวังว่ามาม่านี้จะผ่านไปโดยเร็วไวนะคะ T - T .. แอบสงสารคุณหมอเลย ถูกไล่กลับไปคราวนี้คงได้รู้ใจตัวเองแล้วสิ
ส่วนคุณจันทร์นะ ขอคุณพิมให้ผมอะไรเล่าาาา ขอให้พี่ชายตัวเองแท้ๆ! ทำเอาเข้าใจผิดหมด .. จะรอดูความแสบของคุณจันทร์ตอนต่อไปนะคะ~

คำผิดนะคะ
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ซึ่งหมอภวัตต้องไปเข้าเวรตอนเช้า - อันนี้ไม่แน่ใจว่าผิดไหม แต่อ่านแล้วแอบสะดุดนิดนึงน่ะค่ะ (_ _)
ฮอลลีวู้เป็นแน่แท้ - ฮอลลีวู้ด
ยืนอนู่อีกฝั่งของรั้วเตี้ยอย่าวแค้นเคือง - อยู่ / อย่าง

ปล. แอบหลุดขำเลยกับ ร่างสูงคุ้นตาของเขา แหมแหม ไม่ทันไรคุณหมอไปเป็นของคุณจันทร์ตั้งแต่เมื่อไหร่นะคะ!
จะรอวันพฤหัสหน้าอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ :L2:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 30-10-2015 22:59:44
จันทร์จ้าวววว!!!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Theshadowreader ที่ 31-10-2015 01:52:00
ดูเหมือนว่า คนรอบๆตัวจันทร์จ้าว จะร่วมด้วยช่วยกันส่งเสริมนิสัยเอาแต่ใจตัวเองให้แก่เจ้าตัว. ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ พี่ชาย หรือแม้แต่เพื่อนไทย เพื่อนฝาหรั่ง

งานนี้คุณหมอเหนื่อยแย่เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 31-10-2015 02:31:16
พูดยังงี้หมอภวัตก็เข้าใจผิดหมดสิจันทร์!
แต่อ่านแล้ว นภาน่าจะคู่กะอดัมนะ แต่ดารานี่ยังเดาไม่ออก อาจจะเภา?
รอน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 31-10-2015 05:28:42
ทำไมรู้สึกว่าเวลาคุณจันทร์โมโห ดื้อ พยศนี่มันน่ารัก น่าหยิก น่าเอ็นดูจริงพ่อคุณณณณณ
ต่างกับนายเภาลิบลับ ตอนที่เถียงกับคุณหมอนี่เหนื่อยใจแทนหมอเลยที่ต้องมีน้องชายแบบนี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 31-10-2015 10:20:30
พี่จันทร์ดื้อมากกกก...เอาใจช่วยคุณหมอนะคะ ดื้อนักจับตีก้นให้เข็ดเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 31-10-2015 15:26:57
แล้วคุณหมอก็ต้องอกเดาะเพราะรักจนได้ จันทร์จ้าวออกจะใช้อารมณ์จนเกินงามนะตอนนี้ ไม่ควรไปใส่อารมณ์กับคุณหมอนะ เพราะแกก็ทำเพื่อน้องชายแกเหมือนกัน (แม้น้องชายจะเป็นคนอย่างนั้นก็ตาม) ไม่ต่างอะไรกับจันทร์จ้าวที่ทำเพื่อพี่ชาย

...แต่ดันใช้คำพูดชวนเข้าใจผิดอย่างนั้น เรื่องมันมิบานปลายหรือคะ?

เห็นพูดถึงเรื่องน้องชายคุณวินิตไปอยู่กับคนรักที่ฮ่องกง อย่าบอกนะว่า ตอนจบของเรื่อง จันทร์จ้าวกับหมอภวัตจะไปใช้ชีวิตที่ฮ่องกง

อิอิ ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 31-10-2015 16:46:40
เข้าใจกันดีแล้ว ไม่น่าที่จะทะเลาะกันเลยเพราะจันทร์เอาแต่ใจเกินไม่ถามหมอก่อนล่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 31-10-2015 16:52:59
หื้อ น่าจับจันทร์มาตีซักที ทำไมพูดจากำกวม
สงสารคุณหมอ ใจคงเหี่ยวเหมือนผักไม่โดนน้ำ
เดี๋ยวเถอะ ถ้าเขาไม่มาง้อ ขี้คร้านจะมานั่งคิดถึงเขา
แล้วก็งอนเขาอยู่คนเดียวอีกหรอก

ละทีนี้จะรักกันยังไงละนี่ กลายเป็นศัตรูกันอีกรอบละ
(เฉพาะคุณจันทร์น่ะนะ หมอเขาก็ยอมซะขนาดนั้น)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 01-11-2015 00:39:30
แอบเจ็บจึ่กๆ แทนคุณหมอ สองคนนี้ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลย ยากจัง สงสัยจะอีกนานกว่าจะรู้ตัว ไหนตะพ่อแม่พี่น้องอีก ท่าจะยากที่จะลงเอยอย่างมีความสุข
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 01-11-2015 00:44:40
สงสารคุณหมอ คุณจันทร์นี่น่าตีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 01-11-2015 02:04:44
ฮือออ  :hao5: จะร้องไห้สงสารคุณหมอ ทำไมจันทร์ไม่ยอมพูดคุยกับหมอดีๆล่ะถ้าจันทร์บอกเหตุผลตรงๆหมอแกก็คงไม่เข้าใจผิดไปแบบนี้หรอก จันทร์นิสัยไม่ดีมากอะตอนนี้ แล้วอีกอย่างอาทิตย์ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะที่จันทร์จะต้องจัดการเรื่องผู้หญิงให้แบบนี้ รู้หรอกว่าพี่อาทิตย์เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยจะกล้ารุกใส่ผู้หญิงสักเท่าไหร่แต่เรื่องแบบนี้ให้ผู้ชายไปแข่งจีบคุณพิมกันเองดีกว่ามั้ยอะ อีกอย่างนายเภาอะไม่ได้จริงจังกับคุณพิมขนาดนั้นหรอก จันทร์ดูไม่ออกรึไง ดูสิมาหาเรื่องทะเลาะกับหมอเลย เซ็งจันทร์จ้าว  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 01-11-2015 09:17:45

พี่หมอ.... โฮ!!!
แม่ป้าเป็นห่วงพี่หมอมากจุดๆนี้ อยากจะปรี่เข้าไปกอดปลอบ (ไม่ใช่ละ)
แต่นี่แหละค่ะ จะเป็นจุดที่ทำให้พี่หมอทำอะไรสักอย่างเพื่อปราบพยศว่าที่เมีย กรั่กๆๆๆๆ
(หัวเราะตาเป็นสระอิ น้ำหมากน้ำลายไหลพรากเหมือนอยากของเปรี้ยว)

รออ่านตอนต่อไปอย่างแรงเลยค่ะ อยากรู้เหลือเกินว่าพ่อจันทร์จะเกรียนได้มากขนาดไหน
นายเอกอะไรเปรี้ยวจริงๆ!!

เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 01-11-2015 09:49:06
โธ่ กว่าจะคุยกันดีๆได้ใช้เวลาตั้งนาน
มามีเรื่องไม่เป็นเรื่องเพราะพูดจาไม่แจ่มแจ้งต่อกันอีก
คราวนี้จะดีกันคงอีกนาน เฮ้อ ...


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 01-11-2015 13:18:28
สงสารหมอ ตอนนี่จันทร์จ้าวไม่โอเคเลยนะ เธอไม่มีเหตุผลเลย อยากตีสัด10 ที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 01-11-2015 13:36:47
พี่หมอของน้องงงงงง มาซบอกน้องนะคะ ปล่อยนางจันทร์ไปปปป
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 01-11-2015 14:54:13
เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วทั้งคุณหมอคุณจันทร์  :beat:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-11-2015 20:03:40
มาตามลายแทงของ Malimaru

สนุกที่สุด!

น้องจันทร์นี่น่าตีที่สุด ร้ายกาจจริงเชียว
อยากยุพี่ภวัตให้หยิกให้เนื้อเขียว

คุณ Dezair มีใจเขียนยาวๆ
นักอ่านอย่างเราก็มีใจอ่านยาวๆ เช่นกัน อิอิ

ขอบคุณนะ ที่เล่าเรื่องอ่านแล้วเพลิดเพลินขนาดนี้ สนุกประหนึ่งนั่งดูวิมเบิลดันคู่ชิงชนะเลิศริมสนามเลยทีเดียว!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 02-11-2015 11:53:39
กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว แบบนี้คงไม่มีวันเข้าใจกันหรอก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 04-11-2015 16:44:59
อ่านแรกๆจันทร์จ้าวน่าตีจริงๆ
แต่ตอนดีกันกะหมอแล้วน่ารัก
อ่านแล้วเขิน
ตอนล่าสุด สงสารหมอ :o12:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-11-2015 18:57:08
ชอบ ชอบ รอรอด้วยคนน้าาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 05-11-2015 18:46:27
 :mew2:

มารอคุณหมอปราบพยศน้องจันทร์

อิอิ

  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: pimmyfang ที่ 05-11-2015 19:05:58
มาปูเสื่อรอ  :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 05-11-2015 19:56:37
มานอนรออออ :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 05-11-2015 20:11:31
 :call: จงมา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 05-11-2015 20:21:36
 :call: :call: :call: วันนี้จะมาไหมน๊าาาา  :ling2:
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 05-11-2015 20:28:25

ประกาศสำคัญ


เนื่องจากได้รับข้อความจากทางบอร์ด เกี่ยวกับชื่อ “ดารารัศมี” ไปซ้ำกับพระนามของพระชายาในรัชกาลที่ ๕

ถึงปัจจุบันจะมีคนสามัญใช้ชื่อนี้อยู่บ้าง แต่เพื่อความสบายใจของทุกๆฝ่าย บัวจะขอเปลี่ยนการสะกดจาก “ดารารัศมี” เป็น “ดารารัษมี” แทนนะคะ บัวตามแก้ตอนเก่าๆหมดแล้ว(และแก้ทุกที่ที่เอาเรื่องนี้ลงค่ะ) และนับตั้งแต่ตอนนี้ไป ก็จะใช้การสะกดแบบใหม่แทนค่ะ


ขอบคุณทุกๆคนและขอบคุณแอดมินบอร์ดมากๆค่ะ
Dezair


หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 05-11-2015 20:30:53
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๙



   เริ่มงานวันจันทร์ด้วยสภาพที่หุ้นส่วนรายหนึ่งของสำนักงานหงุดหงิด ไม่มีพนักงานคนใดกล้าเข้าไปใกล้ หากจำเป็นต้องพบหน้า เรย์มอนด์ อดัมส์และหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่เข้าสำนักงานมาพร้อมหน้าพร้อมตาจะต้องถูกร้องขอให้ไปเป็นเพื่อนเสมอ



   “เป็นอย่างไรบ้าง เรย์” ราชนิกูลหนุ่มตั้งคำถามเมื่อเพื่อนชาวต่างชาติออกจากห้องทำงานส่วนตัวของจันทร์จ้าวมาพร้อมกับพนักงานคนหนึ่งที่หน้าซีดเผือด เรย์มอนด์ยิ้มระโหยให้คนถามก่อนจะหันไปตบไหล่พนักงานที่ออกมาพร้อมตนราวกับจะให้กำลังใจ



   “ไปพักดื่มกาแฟสักหน่อยเถอะ แล้วค่อยแก้เอกสารใหม่” เขาพูดอย่างนั้น พนักงานดวงซวยประจำวันนี้ก็เดินคอตกจากไป เรย์มอนด์จึงหันมาทางหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่ยืนแกร่วรออยู่ที่ต๊ะเลขานุการของจันทร์จ้าว



   “ไม่ดีเลยคุณพงศ์ จันทร์หงุดหงิดมาก เมื่อครู่นี้เอกสารผิดนิดเดียว พ่อตะเพิดอย่างกับโดนโกงบัญชี” เรย์มอนด์ผู้ซึ่งเข้าไปร่วมรับรู้เหตุการณ์เมื่อครู่เอ่ยปาก ดีว่าเมื่อครู่เขาเข้าไปด้วย จึงพอจะช่วยห้ามปรามจันทร์จ้าวได้บ้าง ไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิดว่พนักงานคนนั้นจะถูกดุมากแค่ไหน หากเข้าไปเพียงลำพัง



   ราชนิกูลหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น เขาพอจะรู้ว่าเหตุใดเพื่อนรักของเขาจึงหงุดหงิดถึงเพียงนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะหงุดหงิดยาวนานข้ามวันข้ามคืนเช่นนี้เลย



   “เอาอย่างไรดีคุณพงศ์ ขืนทิ้งไว้อย่างนี้ พนักงานของเราคงร้องไห้กันทั้งสำนักงาน” เรย์มอนด์ถามด้วยความห่วงใย เหลือบตามองไปเบื้องหลังยังโต๊ะทำงานของพนักงานทั้งหลายซึ่งวันนี้ไม่ครึกครื้นอย่างเคยแล้วก็นึกกังวล



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถอนหายใจยาว เวลานี้มีเขาเพียงคนเดียวที่รู้ตื้นลึกหนาบางความโกรธเคืองของจันทร์จ้าว เพราะฉะนั้น เขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่จะจัดการได้



   “คุณอยู่ที่นี่คอยดูแลแล้วกัน ผมจะออกไปทำธุระหน่อย”



   “รีบไปรีบกลับนะ ผมล่ะกลัวใจว่าอาจจะเละไปพร้อมกับพนักงานคนใดคนหนึ่งในไม่ช้านี้” ชายชาวต่างชาติพูดด้วยความหวาดหวั่น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้แต่พยักหน้ารับ ทั้งๆที่ไม่ทราบสักนิดว่าการไปทำธุระของตนเองจะสามารถกู้อารมณ์เพื่อนรักได้หรือไม่


.....................................




   นายแพทย์หนุ่มเพิ่งจะพักจากการตรวจคนไข้ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง ยังมีคนไข้รอตรวจสำหรับช่วงบ่ายอีกมาก แต่เมื่อพยาบาลมาแจ้งเขาว่าให้พักรับประทานอาหารก่อน ชายหนุ่มจึงลุกออกจากห้องตรวจไปทั้งที่ยังไม่หิวเลยแม้แต่น้อย เขากำลังจะออกไปเดินเล่นที่สวนด้านข้างตึก แต่สายตาเหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตรงมาหาเขาอย่างเร่งรีบเสียก่อน



   “สวัสดีครับ คุณหมอ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทักทายเขาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ภวัตจึงค้อมศีรษะตอบ



   “ตอนนี้พักเที่ยงใช่ไหมครับ คุณหมอพอจะมีเวลาให้ผมสักหน่อยไหม” แม้จะประหลาดใจที่ราชนิกูลแห่งวังฉัตรมาหาเขาถึงที่นี่ แต่ภวัตก็ยังพยักหน้ารับ



   “เชิญทางนี้ครับ” นายแพทย์หนุ่มก้าวเท้าเดินนำออกไปยังสวนด้านข้างตึกโรงพยาบาล สวนเขียวขจี ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และพุ่มไม้ มีเก้าอี้ยาววางเอาไว้ประปรายให้คนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลได้ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แม้นี่จะเป็นเวลาเที่ยง แต่ความร่มรื่นของที่นี่ก็ทำให้อากาศไม่ร้อนอบอ้าวนัก



   “คุณพงศ์มาถึงนี่ มีอะไรหรือครับ” ภวัตเอ่ยปากถาม สังเกตจากสีหน้าของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรแล้ว อีกฝ่ายคงมีเรื่องร้อนใจพอดู



   “เมื่อวานนี้...ที่จันทร์พูดไม่ดีกับคุณหมอ ผมต้องขอโทษด้วย...” ภวัตเพียงส่ายหน้าไปมา รอยยิ้มจางน้อยๆที่มุมปากดูไม่อ่อนโยนเหมือนเคย ทว่ามันดูเหมือนปลงตกกับอะไรสักอย่าง



   “ช่างเถอะครับ ผมก็ทำให้เขาโกรธจริงๆ” เขาพูดแล้วหวนคิดถึงเรื่องเมื่อวานที่ยังสู้อุตส่าห์กลับไปหาจันทร์จ้าวเพื่อถามให้รู้เรื่อง และสิ่งที่เขาได้กลับมาคือคำพูดเด็ดขาดของฝ่ายนั้นที่ร้องขอ ‘คุณพิม’ จากเขา



   ... ‘ยกคุณพิมให้ผม!!’ … ยามคิดถึงประโยคนี้ หัวใจของภวัตสั่นวูบ อย่างไม่ทราบสาเหตุ



   “คุณหมอทราบหรือครับว่าจันทร์โกรธคุณหมอเรื่องอะไร”



   “ทราบครับ...เพราะคุณจันทร์ชอบคุณพิม”



   “หา?!!! คุณหมอว่าอะไรนะครับ?!!!” คนเป็นพี่ชายหม่อมหลวงพิมพัชราถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ



   “ก็...บอกว่าคุณจันทร์ชอบคุณพิม คุณจันทร์เธอบอกกับผมเอง ว่า...” ภวัตพูดไม่ออก เขาไม่เข้าใจว่าตนเองเป็นอะไรไปแล้ว เหตุใดจึงต้องเจ็บหน่วงไปทั้งอกขนาดนี้ ถ้าจันทร์จ้าวคบหากับหม่อมหลวงพิมพัชรา มันก็น่าจะดี  ๒ คนนั้นเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก หม่อมหลวงพิมพัชราเป็นสตรีผู้เพียบพร้อม เก่งทั้งงานในบ้านและนอกบ้าน จันทร์จ้าวคงจะมีความสุขเป็นไหนๆ ดีกว่าอยู่กับเขาที่วันดีคืนดีก็มีความสุข วันร้ายคืนร้ายก็โกรธเขาหัวฟัดหัวเหวี่ยง...



   ภวัตชะงักไปชั่วอึดใจเมื่อตั้งสติรู้เท่าทันความคิดชั่ววูบของตนเองขึ้นมา



   ...ทำไมเขาต้องเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับหม่อมหลวงพิมพัชราด้วย...



   “คุณหมอ...คุณหมอ...” เสียงเรียกทำให้ภวัตได้สติ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ราวกับจะพยายามเก็บกลั้นความรู้สึกที่พวยพุ่งในหัวใจ



   “ครับ คุณพงศ์ เมื่อครู่ว่าอย่างไร?” นายแพทย์ภวัตพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แต่มันก็ไม่ปกติอย่างที่สุดนับตั้งแต่เขาใจลอยไม่ทันฟังคำพูดของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ



   “ผมบอกว่าคุณหมอเข้าใจผิด จันทร์ไม่ได้ชอบยายพิมหรอก คนที่ชอบยายพิมคือคุณอาทิตย์”



   “คุณจันทร์ไม่ได้ชอบคุณพิมหรือครับ?” ภวัตทำหน้าตาเลิกลั่กด้วยคาดไม่ถึง เมื่อวานจันทร์จ้าวยังตะคอกใส่เขาอยู่เลยว่าให้ยกพิมพัชราให้กับตน เขาก็คิดเอาเองว่าจันทร์จ้าวต้องการเช่นนั้นเพราะชอบเธอ



   “ใช่ คุณอาทิตย์ต่างหากที่ชอบ จันทร์ก็เลยกลัวว่าคุณหมอจะพาน้องชายมาทำให้พี่ตัวเองหมดโอกาสน่ะซี มันก็เลยโกรธ”



   “อ้อ...อย่างนี้นี่เอง...” แค่ได้รู้ว่าจันทร์จ้าวไม่ได้รักชอบน้องสาวของหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ก็ราวกับยกภูเขาออกจากอก ราชนิกูลหนุ่มเห็นสีหน้าโล่งอกโล่งใจของอีกฝ่ายแล้วก็พลันชะงัก



   ...เมื่อครู่นี้ยังดูอมทุกข์ แต่พอเขาบอกว่าจันทร์จ้าวไม่ได้ชอบ เหตุใดสีหน้าของหมอภวัตจึงเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน...จะว่าโล่งอกเพราะจันทร์จ้าวไม่ได้ได้มีใจให้แก่น้องสาวของเขาก็ไม่น่าใช่ เพราะเขาก็บอกอยู่แหม่บๆว่าคนที่มีใจคืออาทิตย์ หมอภวัตควรจะโล่งใจมากกว่า หากเขาพูดว่าไม่มีใครชอบน้องสาวของเขาทั้งนั้น เป็นทางสะดวกให้แก่นายเภา น้องชายคุณหมอเพียงผู้เดียว...



   “แล้วเวลานี้คุณจันทร์อยู่ที่ไหนหรือครับ” คำถามของหมอภวัตทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรตื่นจากภวังค์ แล้วจึงรู้ตัวว่าตนคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องเอาเสียเลย หมอภวัตคงจะโล่งอกเพราะอีกฝ่ายที่ชอบน้องสาวของเขาไม่ใช่จันท์จ้าวกระมัง



   “ที่สำนักงานน่ะซีครับ โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนไม่มีพนักงานคนไหนเข้าหน้าติดสักคนเดียว นี่ผมต้องให้เรย์เฝ้าสำนักงานเอาไว้ แล้วมาหาคุณหมอนี่ล่ะ คุณหมอพอจะมีวิธีที่จะ...เอ่อ...ทำให้จันทร์พอใจบ้างไหม ผมรู้หรอก ว่าผมตามใจเพื่อนผมมากเกินไป แต่...ผมก็ไม่เคยขัดใจจันทร์เสียที” พอหม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดอย่างนี้ คนที่เมื่อครู่ดูจะโล่งใจไปเปลาะก็กลับมามีสีหน้าลำบากใจอีกหน ฝั่งหนึ่งก็จันทร์จ้าวที่กำลังโกรธเขาอย่างบ้าคลั่ง อีกฝั่งก็น้องชายแท้ๆ ที่เขาอุตส่าห์พาเข้าไปฝากฝังกับคุณชายฉัตรด้วยตัวเอง



   “ผม...ไม่ทราบจะทำอย่างไรดี นายเภาเขาก็...ชอบน้องสาวของคุณพงศ์...” วันนั้นที่ภวัตพาน้องชายไปพบหม่อมราชวงศ์ฉัตร เภาไม่ยอมพูดเรื่องความรู้สึกของเขาที่มีต่อหญิงสาวเพียงคนเดียวของวังฉัตร แต่ชายหนุ่มก็พอจะดูออกว่าคุณชายฉัตรเข้าใจว่าเขาพาน้องชายเข้าพบเนื่องมาจากสาเหตุใด



   “น้องชายคุณหมอชอบยายพิมจริงหรือ ผมไม่ได้จะดูถูก แต่ว่า...ทั้งคุณหมอและจันทร์ก็เป็นคนที่ผมสนิท ผมไม่อยากให้ผิดใจกันเพราะเรื่องน้องสาวของผมเลย” คนกลางอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็อยู่ในสภาวะไม่ต่างจากหมอภวัตเท่าไร กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซ้ำยังต้องเจอมรสุมอารมณ์ของเพื่อนรักอีกต่างหาก



   “ผมพูดตามตรงนะครับคุณพงศ์ น้องชายผมเขามักจะเล่นกับเพื่อนผู้หญิงไปทั่ว แต่...ผมก็ไม่เคยเห็นเขาจะปักใจกับใครขนาดนี้ ปกติเขาไม่เข้าหาผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ แต่วันนั้นเขาก็ยินดีให้ผมพาไปพบคุณชาย ถึงเขาจะไม่ได้พูดเรื่องคุณพิมต่อหน้าคุณชายก็ตาม” เป็นว่าน้องชายของภวัตก็หมายมั่นปั้นมือกับหม่อมหลวงพิมพัชรา ส่วนจันทร์จ้าวก็คงไม่รามือเช่นกัน ราชนิกูลหนุ่มถึงกับนิ่วหน้าแล้วพึมพำ



   “วันเสาร์นี้คงแย่แน่ วังจะแตกเสียไหมล่ะหนอ”



   “วันเสาร์นี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับคุณจันทร์ซีนะครับ”



   “ใช่ คุณพ่อผมเชิญคุณหมอกับน้องชายคุณหมอแล้วใช่ไหม”



   “ครับ นายเภาก็ไปบอกคุณพ่อคุณแม่ของผมแล้วด้วย...” พร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเห็นภายภาคหน้าว่าหากจันทร์จ้าวสำแดงอิทธิ์ฤทธิ์ใดๆเข้า ๓ ตระกูลคงมองหน้าไม่ติดไปอีกนาน



   “จะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้แต่คราง ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะมาขอให้ภวัตไปขอโทษจันทร์จ้าวเสีย รับปากไปก็ได้ว่าจะให้น้องชายเลิกชอบน้องสาวของเขา ให้จันทร์จ้าวหายโกรธหายเคือง แต่เมื่อฝ่ายนายแพทย์หนุ่มยืนยันว่าน้องชายของตนก็มีใจรักชอบน้องสาวของเขาจริง ราชนิกูลหนุ่มก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร



   “คุณพงศ์พาคุณจันทร์ไปตีเทนนิสวันนี้ได้ไหม” จู่ๆหมอภวัตก็เอ่ยปากขึ้นมา หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมองด้วยความหวาดหวั่นราวกับจะบอกว่าแผนการนี้ของนายแพทย์หนุ่มช่างไม่ฉลาดเอาเสียเลยที่จะให้เขาหลอกเสืออารมณ์ร้ายที่กำลังโมโหจัดอย่างจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์



   “คุณหมอจะให้ผมหลอกจันทร์ไปพบคุณหมอหรือ?!”



   “ผมไม่ได้จะให้หลอก แค่ให้คุณพงศ์พาเพื่อนของคุณพงศ์ไปสโมสรเท่านั้น”



   “แล้ว...แล้วคุณหมอจะทำอะไร”



   “เขาคงไม่ยอมพบหน้าผมที่อื่น หรือถึงพบก็คงอาละวาดตะพึดตะพือจนคุยกันไม่รู้เรื่อง เทนนิสเป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาได้ออกแรงระบายอารมณ์เสียก่อน แล้วหลังจากนั้น...ผมจะคุยกับคุณจันทร์เอง”



คำว่า ‘คุยเอง’ ทำเอาหม่อมหลวงหนุ่มได้แต่ทำหน้าลำบากใจ หากจันทร์จ้าวรู้ว่าเขานัดให้ไปพบกับหมอภวัต มีหวังเขาคงโดนเพื่อนรักรายนั้นฆ่าเอาแน่



   “คุณพงศ์พาเขาไปให้ได้แล้วกัน ผมจะรีบออกจากที่นี่ทันทีที่ออกเวร...สนามเทนนิสน่าจะเป็นที่เดียวที่ผมจะคุยกับเขาได้”



หรือหากคุยไม่ได้ ภวัตก็ยินดีจะให้อีกฝ่ายหวดแรกเก็ตใส่เขาแรงๆ เอาให้หายโมโหเสียก่อนแล้วจะจับมานั่งคุยดีๆ ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขา ๒ คน ไม่ควรเอาเข้าไปเกี่ยวข้องกับ อาทิตย์ เภา และหม่อมหลวงพิมพัชราเลย



...............................



   ในขณะที่นายแพทย์ภวัตนัดแนะให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพาจันทร์จ้าวไปที่สนามเทนนิส วันเดียวกันนี้ดารารัษมีก็นัดแนะอาทิตย์ให้มารับตนที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีเช่นกัน แต่หากอาทิตย์มาแล้วรับหล่อนกลับไปโดยง่าย ก็คงเป็นการเสียเวลาพอดู จันทร์จ้าวจึงคิดแผนการนี้ขึ้นมาเฉพาะและฝากฝังให้หล่อนจัดการ



   “คุณดารา เรียบร้อยหรือยังคะ” เสียงหวานของเพื่อนสาวราชนิกูลดังขึ้นที่หน้าประตูห้องพักครูภาษาไทย ดารารัษมีเงยหน้ามองแล้วยิ้มอ่อนระโหย



   “ยังเลยค่ะ คุณพิม ตายจริง! วันนี้ดาราคงกลับพร้อมคุณพิมไม่ได้ เพราะว่าวานพี่อาทิตย์ให้มารับ...” หล่อนพูดแล้วทำเป็นมองลงไปที่นอกหน้าต่าง เห็นรถโฟล์คสีดำคุ้นตาขับเข้ามาจอดที่หน้าตึกพอดี ครูสาวผู้รับหน้าที่สอนภาษาไทยจึงทำเป็นบ่นพึมพำกับตนเอง “...ตายแล้ว พี่อาทิตย์มาแล้ว ดารายังทำงานไม่เสร็จเลย” จากนั้นดารารัษมีจึงเงยหน้ามองหม่อมหลวงพิมพัชรา



   “ดาราวานคุณพิม รบกวนช่วยลงไปบอกพี่อาทิตย์ทีว่าให้รอสักหน่อย ดาราขอทำงานอีกครู่หนึ่ง เอ่อ...แล้ว...ถ้าหากว่าคุณพิมไม่รีบกลับ ดาราจะขอให้คุณพิมช่วยนั่งคุยเป็นเพื่อนพี่อาทิตย์จนกว่าดาราจะลงไปได้ไหมคะ พี่อาทิตย์เป็นคนขี้อาย ให้เธอยืนโด่เด่อยู่กลางโรงเรียนสตรีก็เห็นจะสงสาร ถ้าเป็นพี่จันทร์ ดาราไม่วานคุณพิมแน่ค่ะ”


ประโยคท้ายหล่อนกล่าวติดตลกเมื่อเห็นสีหน้าของราชนิกูลสาวที่ดูจะตกประหม่าอย่างไรชอบกลเมื่อหล่อนวานให้ไปนั่งคุยเป็นเพื่อนอาทิตย์ แต่พอหล่อนเปรียบเทียบกับจันทร์จ้าว ก็ดูเหมือนหม่อมหลวงพิมพัชราจะเข้าใจเป็นอันดี



   “ได้ค่ะ พิมจะลงไปบอกคุณอาทิตย์ให้”



   “ขอบคุณค่ะ ฝากด้วยนะคะคุณพิม” ดารารัษมีมองจนเพื่อนครูลับสายตา แล้วจึงเอนกายพิงพนักอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะทำเป็นหยิบจับหนังสือ ๒-๓ เล่มขึ้นมาเปิดดูอย่างไม่รีบร้อนแต่ประการใด


..............................................




   อาทิตย์ยืนรออยู่ที่ข้างรถโฟล์คของตนเอง เฝ้ารอคอยน้องสาวที่เมื่อเช้าขอร้องให้เขาช่วยมารับ ด้วยเหตุผลที่ว่าวันนี้ดารารัษมีจะนำหนังสือกลับบ้านเป็นจำนวนมาก หากนั่งสามล้ออย่างทุกวันก็จะไม่สะดวก หรือหากขอติดรถเพื่อนครูที่มีรถมารับอย่างหม่อมหลวงพิมพัชราก็เกรงใจ อาทิตย์เห็นว่าตนไม่ลำบากอะไร จึงรับอาสา เขาออกจากกรมทันทีที่เลิกงานเพราะเกรงว่าน้องสาวจะคอย แต่กลายเป็นว่าพอมาถึง ดารารัษมีก็ยังไม่ลงมา ครั้นจะให้เขาเดินขึ้นตึกของโรงเรียนหญิงล้วนไปตาม ก็คิดว่าคงไม่เหมาะ นายทหารหนุ่มจึงทำได้เพียงยืนรออยู่ที่ข้างรถนั่นเอง



   “สวัสดีค่ะ คุณอาทิตย์”



เสียงคุ้นหูดังขึ้นทำให้อาทิตย์ต้องหันมอง แล้วพลันนั้นเขาก็ถึงกับนิ่งงันเมื่อพบว่าเจ้าของเสียงคือสตรีเพียงผู้เดียวที่อยู่ในใจชายหนุ่มอย่างเขา อาทิตย์ยิ้มจางตอบกลับไปเมื่อหล่อนยกมือไหว้เขาตามอาวุโส



   “คุณดาราเธอยังทำงานไม่เสร็จค่ะ เลยวานพิมลงมาบอก”



   “อ้อ ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มในเครื่องแบบนายทหารตอบแล้วจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็พากันเงียบลงอีก หม่อมหลวงพิมพัชราลอบมองดวงหน้าของชายหนุ่มที่ดูจะไม่ยอมสบตาหล่อนเลยแล้วก็พลันนึกถึงเรื่องที่จันทร์จ้าวพูดกับหล่อนเมื่อวานที่เขาพาอาทิตย์ไปวังฉัตร



   ...อาทิตย์อาจจะกำลังรักใครอยู่ และใครคนนั้นอาจจะสูงส่งเสียจนเขาอาจจะตรอมใจ...



   “คุณอาทิตย์...เชิญนั่งที่ซุ้มนั้นก่อนดีไหมคะ ไม่ทราบว่าคุณดาราจะเสร็จงานสักกี่โมง”



   “ครับ” เขารับคำสั้น แล้วหมุนตัวเดินไปนั่งที่ซุ้มม้าหินใกล้ตึก ราชนิกูลสาวมองตามด้วยความห่วงใย แต่หากหล่อนยังคงเก็บความห่วงใยเอาไว้กับอก แล้ววันหนึ่งเขาจากไปโดยที่หล่อนไม่ทำอะไร วันนั้นหล่อนคงเสียใจยิ่งกว่าเห็นเขาเคียงคู่กับใครเสียอีก



   หม่อมหลวงพิมพัชราก้าวเดินตามแล้วทรุดตัวลงนั่งร่วมโต๊ะ อาทิตย์ออกจะประหม่าเล็กน้อย ที่จู่ๆสตรีผู้นี้ก็นั่งร่วมโต๊ะกับเขา



   “คุณอาทิตย์คะ...หากพิมพูดอะไรละลาบละล้วง พิมขอโทษนะคะ” หล่อนเอ่ย แล้วจับจ้องดวงหน้าคมของชายหนุ่ม อาทิตย์เองก็มองตอบดวงตาหวานซึ้งที่บัดนี้เต็มไปด้วยความจริงจังราวกับราชนิกูลสาวผู้บอบบางกลายเป็นหินผา “...หากคุณอาทิตย์มีเรื่องไม่สบายใจ และไม่ทราบว่าจะปรึกษาใคร พิมขอให้คุณอาทิตย์มองพิมเป็นเพื่อนเป็นน้องที่พอจะปรับทุกข์กันได้ อย่าเก็บเรื่องไม่สบายใจไว้แต่เพียงผู้เดียวเลยนะคะ”



   อาทิตย์ได้แต่มองสบดวงตาหวานคู่นั้นนิ่ง แล้วเหมือนถูกดลใจด้วยเวทมนต์ให้ตั้งคำถามกลับไป



   “คุณพิม...คิดอย่างไรกับผู้ชายที่ต่ำต้อยกว่าหรือครับ”



   คำถามของเขาทำให้หม่อมหลวงพิมพัชรานึกถึงเรื่องที่จันทร์จ้าวพูดขึ้นมาอีกหน อาทิตย์แอบรักใครบางคนอยู่ และเป็นใครบางคนที่สูงศักดิ์ราวดาวเดือน



   “ต่ำต้อยด้วยอะไรหรือคะ หากต่ำต้อยด้วยชาติกำเนิด พิมไม่คิดว่าเป็นเรื่องเสียหาย เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ หากต่ำต้อยด้วยการศึกษา พิมจะแนะนำให้เขาเรียนหนังสือให้มาก หรือมิเช่นนั้น พิมก็จะสอนหนังสือเขาเอง หากต่ำต้อยด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ พิมจะเป็นกำลังใจให้เขาตั้งใจทำงาน ไม่มีใครได้ยศศักดิ์มาโดยที่ไม่ทำมาหากิน แต่หากต่ำต้อยด้วยศีลธรรม พิมคงทำได้เพียงภาวนาให้เขาพบเห็นทางที่ถูกที่ควรแล้วปรับปรุงตัวเสียใหม่ก่อนจะสายเกินไป”



อาทิตย์ไม่คาดคิดว่าได้ยินคำพูดเหล่านี้จากสตรีเบื้องหน้า หม่อมหลวงพิมพัชราคือสตรีราชนิกูลผู้ถูกเลี้ยงดูอย่างประคบประหงมและอยู่ในกรอบจารีตประเพณี แต่กระนั้น เธอก็เข้มแข็งและแข็งแกร่งเสียจนชายชาตรีอย่างเขายังอยากจะศิโรราบแทบเท้าเธอ
 


   ...หัวใจของเขาช่างคัดช่างเลือกเสียจริง ถึงได้มอบใจให้กับสตรีผู้นี้...



   “หมายความว่า...หากมีชายใดมอบใจรักให้คุณพิม แม้เขาจะเป็นเพียงปุถุชน คุณพิมก็จะไม่รังเกียจอย่างนั้นหรือครับ”



   แม้หม่อมหลวงพิมพัชราจะไม่จัดเจนเรื่องรักใคร่ แต่กระนั้นหล่อนก็ไม่เบาปัญญาตีความหมายของคำถามนี้ไม่ออก หากอาทิตย์รักหญิงอื่น เหตุใดเขาจึงตั้งคำถามเจาะจงมาที่ตัวหล่อนเล่า? ไหนจะที่จันทร์จ้าวพูดอีก ว่าเขาน่าจะผูกใจกับใครสักคนที่วังฉัตร แต่วังฉัตรไม่มีเจ้านายผู้หญิงคนอื่นนอกจากหล่อน หากเขาจะผูกใจกับพวกคนรับใช้หญิง ก็เห็นจะไม่ตรงกับคำถามของเขาเสียเลย แต่ครั้นหล่อนจะตอบโดยเจาะจงมาที่ตนเอง ก็ไม่ใช่เรื่องควร



   “พิมคิดว่า...ไม่ว่าจะหญิงใด หากมีใครสักคนมอบใจรักและภักดี เธอไม่มีทางรังเกียจหัวใจของคนผู้นั้นหรอกค่ะ” ดวงตาคมของนายทหารหนุ่มมองสบเข้าไปในดวงตาหวานของหญิงสาวราชนิกูลอย่างซาบซึ้ง รอบกายคือความเงียบสงบ ทว่าเป็นความเงียบสงบที่ราวกับกำลังมีผีเสื้อขยับปีกบินนับร้อย มันทำให้หัวใจพลิ้วไหวอย่างเงียบๆ



    อาทิตย์จับจ้องดวงหน้าของสตรีที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยหัวใจอิ่มเอิบ ราวกับหัวใจที่เคยหดหายเพราะรับรู้ว่าผู้ใหญ่หมายตาให้จันทร์จ้าวครองคู่กับหม่อมหลวงพิมพัชรากลับมามีความรู้สึกอีกหน



   “ขอบคุณครับคุณพิม...” เขาเอ่ยด้วยความรู้สึกเต็มตื้น ไม่มีคำพูดใดจากหม่อมหลวงพิมพัชรา ทว่าพวกเขาต่างเข้าอกเข้าใจกันดี ความรู้สึกบางอย่างที่ซุกซ่อนเอาไว้ลึกสุดหัวใจกำลังเกี่ยวสัมพันธ์กันและกันผ่านทางความเงียบสงบรอบกายและดวงตา ๒ คู่ที่มองสบกันราวกับสื่อสารด้วยหัวใจ



   ดารารัษมีแอบมองจากระเบียงชั้น ๒ ของอาคารเรียน แล้วได้แต่อมยิ้มกับตนเองอย่างมีความสุข



....................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 05-11-2015 20:31:47


นายวินิตขมวดคิ้วมุ่นขณะมองชายหนุ่ม ๒ คนที่กำลังตีโต้ใส่กันในคอร์ดเทนนิส แล้วก็ขยับเข้าไปยืนใกล้ชายชาวต่างชาติที่เขาสนิทสนมเป็นอันดี



   “วันนี้คุณจันทร์โมโหอะไรมาหรือมิสเตอร์อดัมส์” เรย์มอนด์ อดัมส์ผู้ติดสอยห้อยตามมาที่สโมสรเทนนิสแห่งนี้ด้วยถึงกับยิ้มจืดด้วยเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนร่างโปร่งชาวไทยของเขาไปหงุดหงิดอะไรมา ตั้งแต่เช้าจนกระทั่งตอนนี้ ยังไม่ปรากฏรอยยิ้มให้ใครชมเลยสักครั้ง



   “ผมก็ไม่รู้...”



   “แต่อีหร็อบนี้คุณพงศ์เธอท่าทางจะแย่เอานา คุณจันทร์เล่นหวดใส่ไม่ยั้งเลย” นายวินิตวิเคราะห์การตีลูกของจันทร์จ้าวแล้วเขาก็พบว่านอกจากแรงมหาศาลที่หวดลงมายังมีอารมณ์โมโหผสมมาด้วย ในขณะที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรต้องคอยรับลูกบ้าระห่ำของเพื่อนรักโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ



   “นั่นซี...ผมว่าผมลงไปช่วยคุณพงศ์ดีกว่า” เรย์มอนด์ตัดสินใจคว้าแรกเก็ตของตนเองไปยืนที่ข้างสนามกำลังจะตะโกนขอเปลี่ยนตัวกับราชนิกูลแห่งวังฉัตร ทว่าเสียงของนายวินิตดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา



   “คุณหมอภวัตมา!!” และเสียงนั้นไม่ใช่แค่เรย์มอนด์เท่านั้นที่ได้ยิน แต่คนในคอร์ดก็ได้ยินด้วย จันทร์จ้าวตีลูกทิ้งออกนอกสนามทันที แล้วเดินดุ่มๆออกจากคอร์ด



   “เฮ้! จันทร์! เลิกเล่นแล้วหรือ” ชาวต่างชาติผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวร้องถามเมื่อจันทร์จ้าวเดินไปที่เก้าอี้ยาวข้างคอร์ดแล้วโยนแรกเก็ตลงบนเก้าอี้ก่อนจะคว้าขวดน้ำมาดื่ม



   “เลิกแล้ว! จะกลับ!!”



   “จันทร์...อย่าเพิ่งกลับเลย คุณหมอเพิ่งมาเอง...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรีบตามมารั้ง และแทบจะในทันทีที่จันทร์จ้าวตวัดสายตาขุ่นๆไปมองเพื่อนรัก



   “คุณพงศ์นัดมันมาเจอผมหรือ?!!!”



   “ป...เปล่า...” พอถูกถามตวาด หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ได้แต่ละล่ำละลั่ก



   “ถ้าคุณพงศ์ไม่นัด แล้วมันจะมาได้ยังไร?!!!” จันทร์จ้าวกระแทกเสียงถามด้วยความหงุดหงิด



   “อย่าโทษคุณพงศ์เลย ผมขอให้คุณพงศ์นัดคุณเอง” หมอภวัตเอ่ยปากขึ้น ดวงตากลมใหญ่เหลือบไปมองคนพูดด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะคว้าแรกเก็ตแล้วหันไปพูดกับเพื่อนรักราวกับนายแพทย์หนุ่มที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่มีตัวตน



   “ผมจะกลับ! ถ้าจะอยู่กันต่อก็ตามสบาย!!! เฮ่ย!!!” กำลังจะก้าวเท้าเดินออกจากสนามเทนนิส แต่แขนถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน จันทร์จ้าวร้องลั่นแล้วหันไปจ้องหน้าคนคว้าแขนเขาอย่างเอาเรื่อง ทว่าหมอภวัตยังคงมีท่าทีนิ่งสงบ



   “ไปตีเทนนิสกับผมก่อน...”



คำพูดของนายแพทย์หนุ่มทำเอาเรย์มอนด์อยากจะแนะนำให้พูดใหม่อีกหน เมื่อครู่นี้จันทร์จ้าวหวดเอาหวดเอา ถ้าไม่ทั้งเก่งทั้งอึด มีหวังคงถูกหวดใส่หัวเป็นสิบลูกไปแล้ว



   จันทร์จ้าวจ้องหน้าคนที่ยังคงจับแขนเขาไว้ราวกับจะไม่ยอมปล่อย ลองว่าถ้าดื้อดึง ภวัตคงทั้งฉุดทั้งกระชากเขาลงคอร์ดให้ได้อับอายกันทั้งสโมสร ยิ่งไปกว่านั้น การได้ตีเทนนิสใส่หัวใครสักคนในเวลาที่กำลังโมโหเช่นนี้ก็คงไม่มีหัวของใครจะน่าสะใจไปกว่าหัวของหมอภวัตอีกแล้ว!!



   “แล้วหมอจะรู้! ว่าหมอไม่ควรมาเจอผมที่นี่เวลาแบบนี้!!!!!” ร่างโปร่งพูดเสียงแข็งแล้วสะบัดแขนออกจากการกอบกุมก่อนจะเดินลงไปรอที่คอร์ด หมอภวัตมองตาม เขารู้ดีว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่จันทร์จ้าวพยศที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเล่นด้วยกันมา



   “โชคดีนะหมอ” ชายหนุ่มได้ยินคำอวยพรเบาๆจากหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ก่อนที่เขาจะเดินลงไปที่คอร์ดแล้วเริ่มตีเทนนิสกับจันทร์จ้าว



....................................



   กว่าดารารัษมีจะลงจากอาคารเรียน ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว หม่อมหลวงพิมพัชราอยู่รอเป็นเพื่อนอาทิตย์จนกระทั่งหล่อนลงมา เมื่อนั้นราชนิกูลสาวจึงร่ำลาและขึ้นรถของวังฉัตรจากไป พ้นหลังรถของวังฉัตร ๒ พี่น้องรักษพิพัฒน์ก็ขับรถออกจากโรงเรียนสตรีกัลยาณีกลับมาที่บ้านเรือนไทยเช่นกัน ตอนที่รถจอดสนิทดีแล้ว สายตาของอาทิตย์ก็เหลือบไปเห็นต้นพุดซ้อนในกระถางที่วางอยู่ตีนบันไดขึ้นเรือน แล้วก็พลันนึกถึงใครบางคน



   “ดารา...” ผู้เป็นพี่เรียกเอาไว้ เมื่อดารารัษมีกำลังจะเปิดประตูรถลง



   “เอ่อ...ดารา...อยากได้ดอกไม้ไปปักแจกันที่โต๊ะทำงานบ้างไหม”



   “ดอกไม้ปักแจกันหรือคะ?”



   “ใช่...เอ่อ...พอดี...พี่ได้พุดซ้อนมาจากคุณชายฉัตรต้นหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ออกดอก แต่คิดว่าอีกไม่นานดอกคงงาม แล้ว...แล้วก็มีพวกกุหลาบ ที่ดอกกำลังตูม หากว่า...เอ่อ...ดาราอยากจะได้ไปปักแจกันที่โต๊ะทำงาน พี่จะได้ตัดให้ เอ่อ...แล้ว...แล้วเผื่อดาราจะเอาไปฝากเพื่อนๆครูที่โรงเรียนด้วย...” วาจาของเขาช่างวกวนไปมาเสียเหลือเกิน ดารารัษมีมองท่าทางตกประหม่าของพี่ชายคนใหญ่แล้วก็นึกไปถึงจันทร์จ้าว พี่ชายคนรองของหล่อนนั้น หากหมายจะมอบดอกไม้แทนใจให้ใครสักคน คงไม่มีทางใช้วิธีอ้อมค้อม พูดจาวกไปวนมาเช่นนี้แน่



   “จะให้ดารานำดอกไม้ของพี่อาทิตย์ไปแจกเพื่อนๆครูของดาราอย่างนั้นใช่ไหมคะ” หล่อนถามตรง อาทิตย์ยิ่งรู้สึกเก้อ อกอุ่นซ่านจนรู้สึกเหมือนหัวใจสูบฉีดเลือดไปแทบทั้งสรรพางค์



   “เอ่อ...ก็...ก็...ปล่อยเอาไว้กับต้น มันก็คงจะร่วงเสียหมด สู้ตัดไปแจกน่าจะดี...”



   “แต่เพื่อนครูของดารามีหลายคนนะคะ”



   “...เอ่อ...ก็...”



   “หรือให้คนใดคนหนึ่งก็พอคะ?”



   “ก็...แล้วแต่ดาราเถอะ...”



   “ถ้าอย่างนั้นดาราให้คุณพิมคนเดียวได้ไหมคะ?”



   “ก็...ก็ได้...แล้ว...แล้วคุณพิม...ชอบดอกไม้อะไรล่ะ”



   “เอ?...ดาราเคยเห็นคุณพิมนำพุดซ้อนมารวมเป็นกำปักแจกันอยู่นะคะ” ดารารัษมีโป้ปดต่อหน้า ด้วยเพราะหล่อนและหม่อมหลวงพิมพัชราอยู่กันคนละตึก ย่อมไม่เคยเห็นอีกฝ่ายปักดอกไม้ในแจกันอยู่แล้ว ซ้ำหล่อนก็ไม่ใช่คนสนอกสนใจเรื่องดอกไม้เสียด้วย แต่เพราะจำได้ว่าเมื่อวานบิดาถามเรื่องพุดซ้อนที่อาทิตย์นำกลับมาจากวังฉัตร พี่ชายคนใหญ่ของหล่อนยอมรับตามตรงว่าคุณชายฉัตรฝากให้ช่วยดูแล หนำซ้ำยังดูมีความสุขกว่าตอนก่อนจะไปวังฉัตรมากนัก ยามนั้นดารารัษมีนึกถึงจันทร์จ้าวขึ้นมา เพราะหากไม่ใช่เขาพาอาทิตย์เข้าวังฉัตร หล่อนก็คงไม่เห็นพี่ชายของหล่อนคนนี้มีความสุขถึงเพียงนี้



   “พุดซ้อนตอนนี้ยังไม่มีดอก ไว้มีดอกพี่จะตัดให้ เอ่อ...แล้ว...คุณพิมไม่มีดอกไม้อื่นที่ชอบบ้างหรือ”



   “คุณพิมเธอชอบหลายอย่างค่ะ เคยเห็นเธอพูดว่ากุหลาบก็ชอบ” ประโยคนี้หล่อนก็โกหกอีก แต่ถ้าเป็นการโกหกแล้วพี่ชายของหล่อนมีกำลังใจในการไขว่คว้าราชนิกูลสาวผู้นั้นมาได้ หล่อนก็ยินดี



   “ถ้าอย่างนั้น...พรุ่งนี้...ดาราอย่าเพิ่งรีบไปโรงเรียน พี่จะตัดดอกกุหลาบฝากไปให้...” เขาเคยคิดจะตัดใจเมื่อรับรู้ว่าบิดามารดาต้องการจับคู่น้องชายกับราชนิกูลสาว แต่เมื่อได้ยินจากปากของจันทร์จ้าวว่าเจ้าตัวไม่คิดจะแต่งงานกับหม่อมหลวงพิมพัชรา และได้ยินจากปากของสตรีผู้นั้นว่าเธอไม่เคยกังวลเรื่องฐานันดรแต่ประการใด หัวใจที่ซูบเซียวของชายหนุ่มนายทหารก็เหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกหน ยิ่งเมื่อได้พบหน้าหญิงสาวผู้เป็นที่รัก ได้พูดคุยกับเธอ ได้สบตา ได้มองหน้า ก็เหมือนกำลังใจที่มีจะเพิ่มพูนขึ้นมาอีกโข



   ดารารัษมียิ้มกว้างอย่างดีใจที่อย่างน้อยพี่ชายของหล่อนก็ริเริ่มจะทำอะไรบ้างแล้ว น่ายินดีจนอยากบอกเล่าให้จันทร์จ้าวรู้เสียจริง



   “ดาราจะถือดอกไม้ไปให้ค่ะ แต่ต้องมีค่าจ้าง”



   “ค่าจ้าง?” อาทิตย์ย้อนถามอย่างงุนงง



   “พรุ่งนี้ตอนเย็นไปรับดาราพาไปดูภาพยนตร์ได้ไหมคะ” ชายหนุ่มยิ้มรับด้วยไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ หากน้องขอร้อง มีหรือพี่ชายอย่างเขาจะพาไปไม่ได้



   “ได้สิ ชวนนภาด้วย”



   “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้พี่อาทิตย์ไปรับนภาแล้วมารับดาราที่โรงเรียนนะคะ ดารากับคุณพิมจะคอย” หญิงสาวว่าอย่างนั้นแล้วยิ้ม ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้พี่ชายทวนคำพูดของหล่อนในใจ



   … ‘ดารากับคุณพิมจะคอย’ ...



   อาทิตย์ได้แต่ก้มหน้าลง วางหน้าผากกับพวงมาลัยแล้วยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมาด้วยหัวใจที่อิ่มเอิบเกินประมาณ




...................................


คนทั้งสโมสรเทนนิสแทบจะไม่เป็นอันตีกันอย่างสนุกเฉกเช่นทุกที วันนี้ที่คอร์ดหนึ่งในจำนวนทั้งหมดมีการตีเทนนิสที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่ใครหลายคนจะเคยเห็นมา เสียงแรกเก็ตดังขวับๆทุกครั้งที่หวดผ่านอากาศ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแรงที่ตีลูกไปยังอีกฝั่งนั้นมหาศาลเพียงใด



“อู้ยยยยย...” เรย์มอนด์ยังอดร้องไม่ได้ เพราะลูกหนึ่งตีมาตรงหน้านายแพทย์หนุ่ม ถ้าภวัตยกไม้ขึ้นรับลูกไม่ทัน เขาเชื่อว่างานนี้มีเลือดตกยางออก



“ไม่ห้ามจะดีหรือคุณพงศ์...” นายวินิตเองก็อดไม่ไหว ดูจากสภาพแล้วจันทร์จ้าวฟาดเอาฟาดเอาราวกับมีพละกำลังมหาศาลไม่หมดสิ้น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรยังยืนนิ่งอย่างชั่งใจ อยากเข้าไปห้ามแต่ก็เกรงว่าจันทร์จ้าวจะยิ่งโมโหมากกว่าเดิม แต่ถ้าปล่อยให้ตีเทนนิสแข่งกันอย่างนี้ต่อไป พรุ่งนี้นายแพทย์หนุ่มอาจต้องลางาน...



ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ตรงหน้า จันทร์จ้าวที่วิ่งไปรับลูกซึ่งถูกตีมาจากภวัตก็ถลาลงกับพื้น หัวเข่ากระแทกจนเจ้าตัวหน้าเหยเก เกมเทนนิสจบในวินาทีนั้นเมื่อลูกกระดอนลงกับพื้นแล้วกระเด็นออกไป จันทร์จ้าวรับไม่ทันซ้ำยังหกล้มเป็นแผลถลอกที่หัวเข่าเลือดออกจนแดงแจ๋



“เฮ่ย!!!!!” ทั้งหม่อมหลวงพงศ์ภราธร เรย์มอนด์และนายวินิตร้องพร้อมกัน ก่อนจะรีบวิ่งลงไปดูในคอร์ด ตามมาด้วยภวัตที่ข้ามฝั่งมาดูอาการ แต่พอจันทร์จ้าวเห็นภวัตมายืนใกล้ๆ เจ้าตัวก็เขวี้ยงไม้แรกเก็ตในมือลงกับพื้นด้วยความโมโห
 


“จันทร์!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรร้องดุ เพราะเพื่อนรักทำตัวไม่ดีหนักข้อ

 

“ลุกไปล้างแผลก่อนเถอะคุณจันทร์” นายวินิตเสนอ เพราะเห็นแผลถลอกของจันทร์จ้าวค่อนข้างสกปรกด้วยเศษฝุ่นบนพื้นสนาม กำลังจะเอื้อมมือไปช่วยพยุง แต่คนเป็นแผลกลับขยับกายลุกขึ้นเอง


 
“ผมลุกเองได้!!” ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก อาการเจ็บแสบและปวดตึงที่แผลตรงหัวเข่าทำให้เขายิ่งหงุดหงิด ทว่ายังไม่ทันจะยืนได้สะดวก มือของหมอภวัตก็เอื้อมไปจับแขนจันทร์จ้าวเพื่อช่วยผยุง คนดื้อกำลังจะหันไปโวยวายแต่นายแพทย์หนุ่มกลับหันไปสั่งเสียงเด็ดขาดกับนายวินิตที่ยืนอยู่ไม่ไกล



“คุณวินิตไปขอกระเป๋ายาจากพนักงานให้ที เข่าเจ็บอย่างนี้คงเดินไปล้างแผลเองไม่สะดวก” นายวินิตรับคำแล้วรีบวิ่งจากไป จันทร์จ้าวจึงหันมาเตรียมเฉ่งคนที่เข้ามายุ่งวุ่นวายทั้งๆที่เขาไม่ได้ขอ ทว่าดวงตาคมที่เคยมองเขาด้วยความอ่อนโยนมาตลอดกลับแข็งกร้าวและไม่มีแววจะอ่อนข้อให้
 


“หายบ้าแล้วก็เงียบ ผมจะทำแผลให้”


หม่อมหลวงพงศ์ภราธรและเรย์มอนด์ถึงกับอ้าปากค้าง ตั้งแต่คบหากันมา ไม่เคยมีใครกล้าแหย่หนวดเสืออารมณ์เสียแบบจันทร์จ้าวตอนกำลังหงุดหงิดเช่นนี้เลย ๒ เพื่อนรักของคนเจ็บแต่อิทธิฤทธิ์มากล้นถึงกับผงะเพราะคิดว่าอีกไม่เกินเสี้ยววินาที จันทร์จ้าวที่กำลังหงุดหงิดจะต้องแผลงฤทธิ์อะไรแน่ ทว่า...ผิดคาด เพราะหมอภวัตไม่ยอมให้เพื่อนของพวกเขาทันพูดอะไร เจ้าตัวก็ลากแขนคนกำลังเจ็บให้เดินออกจากคอร์ดไปแล้ว คนถูกลากเลยเปลี่ยนเป็นร้องโวยวายด้วยความเจ็บปวดแทน



“โอ๊ย! หมอ!! ผมเจ็บ!!! เดินช้าๆ!! โอ๊ย!!!”



นอกจากจะร้องแล้ว มือข้างหนึ่งก็ทุบอั่กเข้าที่แผ่นหลังของนายแพทย์หนุ่มที่ลากเขาออกจากคอร์ด คราวนี้ทั้งราชนิกูลแห่งวังฉัตรและนายฝรั่งนามว่าเรย์มอนด์ถึงกับถลาตามเพื่อนรักเพราะเกรงว่าคนทั้งเจ็บและโมโหจะทำอย่างอื่นมากกว่าทุบหลังหมอ



โชคดีที่คอร์ดและเก้าอี้อยู่ห่างกันไม่มาก และนายวินิตได้กระเป๋ายามาอย่างว่องไว พอจันทร์จ้าวทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ก็พอดีกับที่นายวินิตวิ่งกลับมาพร้อมด้วยพนักงานของสโมสรที่ถือกระเป๋ายาตามมา



“ผมจัดการเอง” หมอภวัตหันไปพูดกับพนักงานของสโมสร ก่อนจะรับกระเป๋ายามาเปิด เขาจัดการทำความสะอาดแผลอย่างประณีต เพราะมีเศษดินเศษฝุ่นติดอยู่ที่แผลถลอกจำนวนมาก แต่แม้จะประณีตเพียงใดจันทร์จ้าวก็สะดุ้งทุกครั้งที่มือของอีกฝ่ายใช้อะไรก็ตามแตะโดนแผลเขา
 


รอบกายพวกเขามีแต่ความเงียบ พวกคนอื่นๆในสโมสรพากันกลับไปเล่นคอร์ดตัวเองแล้ว แม้จะมีหลายคนยังให้ความสนใจมาที่คอร์ดของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรอยู่ก็ตาม



ครู่หนึ่ง มือใหญ่ของนายแพทย์หนุ่มก็ติดผ้ากอซปิดแผลเป็นอันจบการรักษา อาการเจ็บแสบและปวดตึงยังมีอยู่ แต่ก็ไม่เท่ากับเมื่อครู่นี้ที่หมอภวัตล้างแผลให้ จันทร์จ้าวมองชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งกับพื้นทำแผลให้เขา ใจหนึ่งก็ยังโกรธ แต่อีกใจก็รู้ว่าอีกฝ่ายห่วงใย



“เจ็บมากไหมจันทร์ ตีกับกันเป็นชั่วโมงแล้วมาตีกับคุณหมอต่อ ขาก็เลยอ่อนแรงล่ะซี” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วง ทว่าจันทร์จ้าวไม่ทันตอบอะไร หมอภวัตก็หันไปทางราชนิกูลแห่งวังฉัตร



“ผมจะพาเขาไปส่งเอง คุณพงศ์กับมิสเตอร์อดัมส์เล่นกันต่อเถอะ” นายแพทย์หนุ่มว่าอย่างนั้น แล้วคว้าแขนจันทร์จ้าวดึงให้ลุกขึ้นยืน คนถูกฉุดให้ลุกไม่ทันตั้งตัว ร่างจึงลอยหวือขึ้นยืนโดยไม่ทันรั้งกายเอาไว้ แต่แม้จะรั้งร่างตนไม่ทัน จันทร์จ้าวก็ยังปากไวพอจะปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

 

“ผมไม่ไป!!!” ภวัตปรายสายตามามองคนดื้อดึงที่จ้องเขาด้วยดวงตากลมใหญ่
 


“ต้องไป! เราต้องคุยกัน! ขอตัวก่อน คุณพงศ์ คุณวินิต มิสเตอร์อดัมส์”



แล้วนายแพทย์ภวัตก็ค้อมศีรษะลาทุกคนที่ข้างคอร์ด ก่อนจะลากแขนคนเจ็บให้เดินตามเขาออกจากสโมสรทันที จันทร์จ้าวโวยวายเสียงดังลั่นเพราะถูกลากให้เดินทั้งที่เจ็บแผลถลอก หนำซ้ำเจ้าตัวก็ไม่อยากไปกับภวัตด้วย ทว่าอีกฝ่ายไม่ฟังเสียงประท้วงเลยแม้แต่นิดเดียว เพียงชั่วอึดใจ ชายหนุ่มทั้ง ๒ คนก็หายลับออกไปจากบริเวณสนามเทนนิสเสียแล้ว



“จะไม่เป็นไรแน่หรือ คุณพงศ์” เรย์มอนด์หันมาถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมองแล้วย้อนถาม



“ใครล่ะที่จะเป็น ผมว่ารอบนี้ คนที่จะเป็น น่าจะเป็นจันทร์ไม่ใช่คุณหมอ” ราชนิกูลพนุ่มพูด แล้วมองตามหลังคนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด



...อะไรบางอย่างบอกกับเขา ว่าระหว่างจันทร์จ้าวและภวัตมีความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ...


....................................


หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 05-11-2015 20:32:03


ต้องขอบคุณแผลถลอกที่หัวเข่า เพราะภวัตไม่ต้องเหนื่อยมากนักกำลังการพยายามลากจันทร์จ้าวขึ้นรถ เจ้าตัวทั้งเจ็บทั้งเหนื่อย สุดท้ายก็ยอมกระแทกตัวลงนั่งบนเบาะในที่สุด และเมื่อนั้นหมอภวัตจึงขับรถออกจากสโมสร



“มีอะไรจะคุยกับผมอีก?! ผมนึกว่าเมื่อวานนี้พูดชัดแล้ว!! หรือหมอไม่ถนัดภาษาไทย จะให้ผมพูดภาษาอังกฤษให้ฟังด้วยไหม?!!!” นายแพทย์หนุ่มพยายามระงับอารมณ์อย่างถึงที่สุด เขาคิดว่าเขาเคยเป็นคนใจเย็นมาก แต่มารู้เอาก็วันนี้เองว่ายังใจเย็นไม่มากพอสำหรับจันทร์จ้าวผู้หัวเสีย เขาหมุนพวงมาลัยลงหักหัวรถเข้าจอดริมข้างทาง ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างกาย 
 


“คุณจะพาลไปถึงไหน เรื่องที่คุณโกรธผมเพราะพี่ชายคุณชอบคุณพิมและน้องชายผมก็ชอบคุณพิมก็คราวหนึ่งแล้ว ครั้งนี้คุณก็ยังพาลว่าผมฟังคุณพูดไม่รู้เรื่องด้วยหรือ” จันทร์จ้าวชะงักไปในทันทีที่อีกฝ่ายพูดเรื่องอาทิตย์ขึ้นมา เขาไม่คิดว่าภวัตจะรู้ อันที่จริงแล้วก็ไม่น่าจะรู้เพราะภวัตไม่ได้สนิทสนมกับพี่ชายของเขาแต่ประการใด แต่...ภวัตสนิทกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธร!!...



…คุณพงศ์ต้องเป็นคนบอกแน่ๆ!!!...

 

“ไม่ต้องคิดพาลไปโกรธคนอื่นด้วย” ภวัตเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย เขาก็เดาได้ในทันทีว่าเจ้าตัวกำลังโทษคนอื่นให้วุ่นวาย จันทร์จ้าวอ้าปากค้าง เมื่อถูกดุพร้อมด้วยการชี้หน้าอย่างเอาจริงเอาจังของอีกฝ่าย เขากำลังจะโต้เถียงให้สาแก่อารมณ์ แต่สารถีชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน


 
“เอาเถอะ เรื่องที่คุณว่าผมว่าผมฟังคุณไม่รู้เรื่อง ผมจะเอาไว้ก่อน วันนี้ที่ผมอยากจะพูดกับคุณคือเรื่องคุณอาทิตย์” จันทร์จ้าวยังเงียบ แต่ดวงตากลมใหญ่จับจ้องคนพูดด้วยแววตาดื้อดึงและอวดดีเหมือนเมื่อครั้งแรกๆที่พบกันไม่มีผิด



“คุณอย่าเอาเรื่องคุณอาทิตย์ คุณพิมและน้องชายผมมาปนกับเรื่องของเราได้ไหม”



“เรื่องของเรา?! เดี๋ยวนะหมอ! เรื่องของเราหมายถึงเรื่องอะไร?!” จันทร์จ้าวร้องถามเสียงหลง คำพูดของภวัตสร้างความแปลกประหลาดในหัวใจของเขาจนรู้สึกอึกอักเลิ่กลั่กไปหมด

 

“ก็เรื่องของผมกับคุณ ก่อนหน้านี้เราดีกันแล้วไม่ใช่หรือ แต่พอคุณทราบว่าน้องชายผมชอบผู้หญิงคนเดียวกับพี่ชายของคุณ คุณก็โกรธผมขึ้นมาอีก”



คนฟังค่อยจะใจชื้นขึ้นมาบ้าง ที่ความหมายของคำว่า ‘เรื่องของเรา’ ไม่ได้ทำให้เขาใจหายใจคว่ำมากเกินไปนัก จันทร์จ้าวปรับสีหน้าให้เป็นปกติเหมือนตอนแรกที่นั่งรถมา ทว่าก็ยังไม่พูดอะไร ดวงตากลมใหญ่เบี่ยงออกไปมองกระจกหน้ารถแทนที่จะมองคนที่หันข้างมาคุยกับเขา
 


ภวัตมองท่าทางเหมือนจะไม่ใส่ใจฟังแต่ประการใดแล้วก็นึกอยากตี วันนี้เขามีเรื่องอยากจะพูดด้วยมากโขทีเดียว เรื่อง ๑ คือเรื่องที่อาทิตย์ หม่อมหลวงพิมพัชรา และเภาที่จันทร์จ้าวนำมาเป็นเหตุผลในการโกรธเขา เรื่อง ๒ คือเรื่องที่กล่าวหาว่าเขาพูดไม่รู้เรื่องเมื่อครู่นี้ และเรื่องที่ ๓ คือเรื่องที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดเมื่อตอนก่อนที่เขาจะพาอีกฝ่ายออกจากสโมสร


 
“แล้วเมื่อครู่นี้ที่คุณพงศ์พูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม ที่ว่าคุณตีกับคุณพงศ์เป็นชั่วโมงก่อนหน้าที่ผมจะมา” หมอภวัตจัดการพูดเรื่องที่ ๓ ก่อน เพราะ ๒ เรื่องแรกนั้นหากนำมาพูดแต่แรกก็คงจะทำให้พวกเขาทะเลาะกันอีกพักใหญ่ๆ



“ใช่แล้วไง?!!” จันทร์จ้าวย้อนอย่างหงุดหงิด ทว่าคำตอบนั้นก็ทำให้อีกคนหงุดหงิดไม่แพ้กัน

 

“จะแล้วไง?! ก็เพราะคุณตีกับคุณพงศ์เป็นชั่วโมง แล้วคุณก็ยังมาตีกับผมอีก ผมทราบว่าคุณโกรธผม โมโหผม ไม่อยากพูดกับผม แต่แค่บอกว่าคุณเหนื่อยแล้ว ทำไมไม่พูด เราจะได้เลิกเล่น นี่คุณตีเอาตีเอา แล้วเป็นอย่างไรล่ะ! หกล้มได้แผลมาอย่างนี้ เจ็บดีไหม? นี่ยังดีหรอกที่แข้งขาไม่หักขึ้นมา ไม่อย่างนั้นคุณไม่มีทางได้มานั่งตีฝีปากแข่งกับผมอย่างนี้!!”



“กับอีแค่แข้งขาหัก ใส่เฝือกเสียก็จบ! ใส่เฝือกแล้วผมจะกลับมาตีฝีปากแข่งกับหมอก็ยังได้!!


“ปากดี!!”


“หมอ!!!!” จันทร์จ้าวหันขวับทันทีที่ถูกต่อว่า ภวัตเห็นความโกรธเคืองในดวงตากลมใหญ่คู่นั้นแล้วก็สูดลมหายใจเข้าลึกพยายามทำใจเย็น อุตส่าห์เลือกเรื่องพูดที่คิดว่าจะไม่ทำให้ต้องทะเลาะกันมากแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังทะเลาะกันอยู่ดี และเวลานี้เขารู้ดีว่าจันทร์จ้าวพร้อมจะอาละวาดได้ทุกเมื่อ ชายหนุ่มพยายามปรับอารมณ์และพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบในประโยคต่อมา



“คุณจันทร์ คุณโกรธผม เพราะคุณอาทิตย์ชอบคุณพิมเหมือนที่น้องชายของผมชอบอย่างนั้นหรือ”



“ใช่!”



“เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย” จันทร์จ้าวถลึงตาดุเมื่อถูกตราหน้าว่าเหตุผลของเขาช่างโง่เง่าสิ้นดี


 
“เหตุผลแค่นี้ ทำให้คุณโกรธผมเป็นวรรคเป็นเวร ทำให้คุณเอาอารมณ์ไปลงกับคนรอบข้าง และที่สำคัญทำให้คุณเลือดขึ้นหน้า ตีเทนนิสเป็นชั่วโมงโดยไม่สนใจร่างกายตัวเองจนหกล้มได้แผล ทั้งหมดนั่นคือเกิดจากเหตุผลที่ว่าพี่ชายคุณกับน้องชายผมชอบผู้หญิงคนเดียวกันอย่างนั้นหรือ”



“อีกเหตุผลหนึ่งคือหมอไม่ยอมบอกผม   !!!!!” จันทร์จ้าวตะเบ็งเสียงดังลั่น ภวัตขมวดคิ้วด้วยความฉงน มองสบเข้าไปในดวงตากลมใหญ่ที่จับจ้องเขาด้วยความโกรธเคืองและขุ่นข้องหมองใจ



“เราเจอกันแทบทุกวัน! เรามีเรื่องคุยกันเป็นร้อย!! แต่อะไร?!! หมอไม่เคยบอกเรื่องน้องชายของหมอชอบคุณพิมให้ผมรู้!! ผมเคยถามหมอใช่ไหม ว่าหมอคิดอย่างไรกับคุณพิม หมอบอกผมว่าหมอไม่ได้คิดกับคุณพิมอย่างคู่รัก! นั่นก็เพราะว่าน้องชายของหมอคิดอย่างไรล่ะ! แต่หมอไม่บอกผมเรื่องนี้!!! หมอคิดจะปิดผมไปถึงเมื่อไร?! ชาติหน้าตอนเราแข่งวิมเบิลดันด้วยกันรึไง?!! หึ! ขอโทษเถอะ!! คนอย่างผมน่ะฉลาด! ไม่ยอมให้หมอสนตะพายผมนานหรอก!!! เสียใจด้วยที่ปิดผมไม่สำเร็จ!!!” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกถึงความโมโหที่พุ่งพล่านไปทั้งร่าง จันทร์จ้าวไม่ทราบว่าตนเองโกรธเรื่องใดมากกว่ากันระหว่างเภาชอบพอสตรีคนเดียวกับพี่ชายของเขา หรือเรื่องที่หมอภวัตไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขา



“ไปกันใหญ่แล้ว ผมไม่ได้คิดจะปิดคุณ เพียงแต่ผมไม่คิดว่าเรื่องของพวกเขาจะเกี่ยวกับเรา...”



“แต่เรื่องของพี่อาทิตย์เกี่ยวกับผม!!“ จันทร์จ้าวเถียง ภวัตถอนหายใจกับความดื้อดึงของคนที่นั่งอยู่ข้างเขา



“แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคุณอาทิตย์คนเดียว แต่มันเป็นเรื่องของคน ๓ คน และเรื่องของทั้ง ๓ คนไม่เกี่ยวกับคุณ”



“หมอ!!!!” ยิ่งภวัตพูด ก็ยิ่งดูเหมือนจะกลายเป็นลมที่โหมไฟในใจของจันทร์จ้าวให้ลุกโชน


 
“คุณจันทร์ ผมทราบว่าคุณรักพี่ชายคุณมาก ผมเองก็รักน้องผมมากเช่นกัน แต่คุณจะเอาอารมณ์ไปผูกกับเรื่องของพี่ชายคุณแล้วโยงมาโกรธผมอย่างนี้มันยุติธรรมแล้วหรือ ผมไม่ว่า หากคุณจะเกลียดผม ไม่ชอบหน้าผม เพราะตัวผม แต่ไม่ใช่คุณเกลียดผม โมโหผมเพราะเรื่องของคนอื่น”

 

“พี่อาทิตย์ไม่ใช่คนอื่น!!”
 


“ผมพูดผิด ขอโทษที คุณอาทิตย์ไม่ใช่คนอื่นสำหรับคุณ แต่เขาเป็นคนอื่นสำหรับผม เพราะเรื่องระหว่างคุณกับผม ก็มีแค่คุณกับผมเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น ผมนับว่าเป็นคนอื่น” คำพูดตรงไปตรงมาของหมอภวัตทำให้จันทร์จ้าวนิ่งงันพูดไม่ออกและสุดท้ายก็ทำได้เพียงแต่หันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เมื่อไม่มีการตอบโต้ใดๆจากคนอารมณ์ร้อนที่กำลังโกรธเขาตะพึดตะพือ ภวัตก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ

 

“เอาเถอะ ผมเข้าใจดีว่าคุณแยกเรื่องคุณอาทิตย์ออกจากชีวิตคุณไม่ได้ แต่ผมขอถามคุณเพียงข้อเดียว...ถ้าหากคุณอาทิตย์ไม่สมหวัง และเป็นเภาที่สมหวัง คุณจะโกรธผมไปตลอดใช่ไหม” คำถามของนายแพทย์หนุ่มทำเอาคนฟังชะงักไปในทันที แต่กระนั้นก็ยังมีสติสัมปัญชัญญะเพียงพอที่จะย้อนถาม



“แล้วถ้าน้องชายหมอไม่สมหวังแต่เป็นพี่ผมที่สมหวัง หมอจะโกรธผมไหมล่ะ!”
 


“ผมไม่เคยเอาเรื่องของนายเภามาปนกับเรื่องของผมและคุณ เรื่องความรักเป็นเรื่องของพรหมลิขิตและการกระทำของตนเอง ใครจะรักใครหรือไม่รักใคร เราทำอะไรไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือหากเภาสมหวังผมก็จะยินดี หากเภาไม่สมหวัง ผมจะปลอบ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเอาความสมหวังหรือไม่สมหวังของนายเภามาผูกกับเรื่องของเรา”



คำว่า ‘เรื่องของเรา’ ทำเอาจันทร์จ้าวหายใจลำบากขึ้นมาอีก มันฟังดูประหลาด เหมือนมีความหมายโดยนัยแฝงอยู่ แต่...เขาไม่กล้าหาคำตอบ



ภวัตมองคนที่นั่งเงียบไป ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจที่เขาพูดหรือไม่ แต่ดูแล้วคงไม่ใช่เวลานี้ที่จะมาถามย้ำให้จันทร์จ้าวยอมเปลี่ยนใจกลับมาดีกับเขาเช่นเดิม ควรจะให้เวลาอีกฝ่ายได้ตรึกตรองดูบ้าง อย่างน้อย เวลาอาจจะทำให้จันทร์จ้าวใจเย็นขึ้น


 
“ผมจะพากลับไปส่งบ้าน วันนี้อย่าให้แผลโดนน้ำ แล้วพรุ่งนี้ผมจะแวะไปทำแผลให้”


“ไม่ต้อง!” ริมฝีปากสีจัดเถียงไว จนคนเสนอด้วยความหวังดีนึกอยากตีเด็กดื้อขึ้นมาเสียอย่างนั้น


“คุณคงไม่อยากให้แผลเน่าใช่ไหม คงไม่ต้องให้ผมบอกว่าหากแผลเน่า ผมในฐานะหมอจะต้องใช้วิธีอะไรกับแผลและขาของคุณ”



“นี่หมอขู่ผมหรือ?!!!!!” ร่างโปร่งหันกลับมาตวาดก้อง แต่ภวัตยังคงนิ่งเฉยดุจน้ำแข็ง


“ไม่ได้ขู่ แต่คนที่ต้องถูกตัดขาเพราะดื้อกับผมก็มีมาแล้วหลายราย และหวังว่ารายต่อไปจะไม่ใช่จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์” แล้วหลังจากนั้นชายหนุ่มผู้นั่งอยู่หลังพวงมาลัยก็หักหัวรถกลับเข้าสู่ถนนเส้นหลัก แล้วไม่ได้ยินเสียงคนที่นั่งข้างกายโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนกับเขาอีกเลย



...ถ้ารู้ว่าขู่ว่าจะตัดขาแล้วเงียบได้แบบนี้ รู้อย่างนี้เขาขู่ไปตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


ช่วงนี้กินลูกกวาดคู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมไปก่อนเนอะ ส่วนคู่พ่อจันทร์กับคุณหมอซดมาม่ากันนิดๆหน่อยๆ แต่เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน เดี๋ยวได้อมลูกกวาดคู่นี้ใหม่


ขอเม้าส์ตอนที่แล้วนิดนึง เม้นท์จากทุกคนเมื่อตอนที่แล้วนี่แบบว่า...ดูอัดอั้นตันใจกับพ่อจันทร์มากกกกก คือทุกคนย้ายฝั่งไปยืนข้างคุณหมอกันหมดเลยยยยย ไม่มีใครยืนข้างพ่อจันทร์ของอิฉันสักคนเดียว ฮา


มีคนทักว่าพ่อจันทร์เหมือนจอมขวัญ แต่บัวว่าเขาเหมือนถ้วยฟูนะ แต่เป็นถ้วยฟูเวอร์ชั่นไม่พิศดารเท่าไร คือเอาแต่ใจเพราะรู้ว่าทุกคนรัก ส่วนจอมขวัญนั่นเรียกร้องความสนใจเพราะรู้สึกว่าขาดความรัก (ซับซ้อนเหมือนกันนะเนี่ย ฮาฮา)


อ้อ จริงๆแล้วมีคนถามเรื่องฝงซักฟอกที่คุณหมอใช้ซักเสื้อผ้าที่ได้มาจากเพื่อนฝรั่ง จริงๆแล้วสมัยนั้นมีผงซักฟอกแล้วแต่เป็นผงซักฟอกแบบไทย ส่วนผงซักฟอกฝรั่ง (เช่นยี่ห้อแฟ้บ) นำเข้ามาตอนปี 2497 (ตามที่หาข้อมูลมา) เพราะงั้น ถ้าตามเนื้อเรื่อง อีกแป๊บนึง คุณหมอกับพ่อจันทร์ก็จะได้ใช้แฟ้บกันแล้วล่ะค่ะ


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ กำลังใจ และพื้นที่บอร์ดเช่นเคย เจอกันใหม่พฤหัสหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 05-11-2015 20:44:03


กรีดร้องก้องฟ้า  จันทร์จ้าวขา

  :เฮ้อ:    เมื่อไร จะเข้าใจคุณหมอ


” แค่ได้รู้ว่าจันทร์จ้าวไม่ได้รักชอบน้องสาวของหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ก็ราวกับยกภูเขาออกจากอก"  :mew1:

:heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

คำว่า ‘เรื่องของเรา’ ทำเอาจันทร์จ้าวหายใจลำบากขึ้นมาอีก มันฟังดูประหลาด เหมือนมีความหมายโดยนัยแฝงอยู่

แต่...เขา ""ก็ยังไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง"" ชิมิ :hao3:

รอฉากงานเลี้ยง ลีลาศ พาเพลิน นะฮับ :กอด1:

 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๘ (๒๙ ต.ค. ๕๘/หน้าที่ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 05-11-2015 20:59:38
รักคุณหมออออ 5555
จันทร์อย่าเอาแต่ใจมาก เดี๋ยวหมอจับฉีดยาเลยนี่

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 05-11-2015 21:00:08
พ่อจันทร์เจ้าอารมณ์และจี้โมโห จนน่าตีจริงๆ อาละวาดเป็นเด็กๆเลย นี่ถ้าคุณหมอไม่ใจเย็น ไม่รัก นี่ คงมีฟาดปากกันบ้าง 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 05-11-2015 21:06:58
อยากวารปไปวันพฤหัสหน้า :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 05-11-2015 21:31:48
จันทร์เจ้าดื้อแพ่งมาก น่าตีปากนัก คุณหมอทำดีมาเลยคร่า เด็กดื้อต้องจัดการ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-11-2015 21:34:45
เหนือจันทร์จ้าวยังมีหมอภวัต จะโมโหเดือดแค่ไหนพี่หมอเอาอยู่ เจอคนจริงมาปราบพยศแล้วลูกเอ๋ย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-11-2015 21:41:07
ดุเดือดมากจันทร์เอ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Aomoto ที่ 05-11-2015 21:45:49
สนุกมาก ที่แท้ก็งอนหมอไม่บอกนี่เอง อยากให้หมอเล่นบทโหดนานๆ เผื่อมีตบจูบ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 05-11-2015 21:54:25
จันทร์เอาแต่ใจอ่ะ รู้สึกเหนื่อยแทนหมอ

รอตอนต่อไปจ้าาาาาาา

คนเขียนสู้ๆๆ :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 05-11-2015 21:57:26
สงสารคุณหมอ
จันทร์โกรธขิงโกรธขามาก

จันทร์ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง มากไปไหม
หวังว่า จะเข้าใจกันเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 05-11-2015 21:57:49
ช่ายๆๆ เหมือนถ้วยฟูจริงๆ
ถ้วยฟูชอบแกล้ง ชอบเอาตัวเองเป็นหลัก
คิดเองเออเองก้เก่ง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 05-11-2015 22:21:05
ค่ะ คุณจันทร์แกเอาแต่ใจเพราะรู้ว่าทุกคนจะเอาใจแก ทีนี้พอคุณหมอไม่ตามใจแกทั้งที่แกอุตส่ห์ถูกอกถูกใจแกเลยโกรธเอาน่ะสิ5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 05-11-2015 22:22:12
เราว่าพ่อจันทร์เหมือนถ้วยฟูผสมจอมขวัญ  :hao7:

เด็กดื้อต้องเจอกำหราบนะคะ คนอื่นปราบไม่ลงแถมเจอองค์ลงอย่างใหญ่ แต่เจอหมอภวัตเข้าไปมีแอบเกรงบ้างหล่ะ

ขอมอบสโลแกนให้ค่ะ #หมอภวัตเอาอยู่  :laugh:

คู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมพ์นี่หวานจังเลย ชอบบบบบ :m3: :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 05-11-2015 22:24:24
จันทร์โมโหหมอเพราะเรื่องพี่อาทิตย์เนี่ยหรือว่าโมโหหมอที่ไม่ยอมบอกทุกเรื่องกันแน่

จันทร์เจอหมอขู่ไปเงียบเลย 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 05-11-2015 22:25:04
55555555 หมอเอาอยู่จ้าาา แสบมานานแล้วเจอคนปราบหน่อยเป็นไร สุภาพแต่ไม่หงอนะ เถียงชนะด้วย เป็นไงล่ะ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: mickymod ที่ 05-11-2015 22:40:19
จันทร์ทั้งดื้อ ทั้งเหวี่ยงขนาดนี้ :m31: :m31:

 :katai1:พี่หมอจับตีสักสองสามทีเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-11-2015 22:44:27
เอาให้หลาบจำเลยนะ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 05-11-2015 22:46:52
ชอบๆๆคุณหมอ เรื่องของเรา อิอิคุณหมอขี้ตู่เบาๆ ทำให้หัวใจน้องจันทร์จั๊กจี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 05-11-2015 22:49:49
เรื่องของเรา  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-11-2015 22:52:12
คุณจันทร์เอาแต่ใจเกินไปแล้วน้าาาา :z3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-11-2015 23:02:05
จันทร์เจ้าดื้อเกิ๊น คุณหมอน่าจะตีสักเพี้ยะสองเพี้ยะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 05-11-2015 23:11:18
จันทร์น่ารักอะ หลงอะ 
คุนหมออย่าดุนักซี  เดี๋ยวคุนจันทร์งอนขึ้นมาอีกเรื่องง้อตายเลยนะหมอ
#ทีมจันทร์เจ้า เหวี่ยงก้ยังน่ารัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 05-11-2015 23:36:57
พยศนักนะคุณจันทร์ มันน่านัก :angry2: :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 05-11-2015 23:38:24
บัวคะ คือ พี่ไม่รู้พี่อยู่ทีมจันทร์ จันทร์โกรธพี่ก็ว่าหมอสมควรง้อ จันทร์โมโหหมอต้องยิ่งง้อใหญ่ จันทร์เอาแต่ใจหมอยิ่งต้องตามใจ  ที่อ่านมาเคืองสุดตรงหมอตีเทนนิสชนะจันทร์นี่แหละ ถึงหมอจะเก่งกว่าก็ต้องยอมจันทร์สิคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-11-2015 00:13:25
คุณหมอชนะเลิศ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 06-11-2015 00:19:14
พยศจริงๆพระจันทร์ดวงนี้
หมอสู้ๆ
โบกพู่เชียร์รัวๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: crz.insane ที่ 06-11-2015 00:44:10
ปล่อยจันทร์จ้าวให้คุณหมดจัดการไปดีกว่า
ส่วนตัวเรานั้นขอกรี๊ดพี่อาทิตย์กับคุณพิมดีกว่าค่ะ
ขอขึ้นตรงต่อ #ทีมดารารัษมี ฮ่าา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 06-11-2015 00:50:54
ถ้าคุณหมอไม่ใจเย็นขนาดนี้ ผมว่าต้องมีแลกหมัดกันบ้างหละ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 06-11-2015 01:00:35
ชอบคำว่า 'เรื่องของเรา' จังเลยค่ะ
เราว่าคุณหมอทำได้ดีเลยนะคะกับการปราบพยศพ่อจันทร์
กลับมาดีกันเร็วๆนะค้าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-11-2015 01:03:40
อัอยยย!! เรื่องของเรา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 06-11-2015 04:06:21
จับกดเลยหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 06-11-2015 05:22:04

แอร๊ยยยย รักคุณพิมมม  พี่อาทิตย์ก็น่ารัก  :กอด1:

น้องจันทร์นี่พาลจัง ให้คุณหมอปราบพยศ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-11-2015 06:33:06
ที่ไปหยอดเรื่องพี่อาทิตย์ให้คุณพิมฟังเมื่อคราวนั้นดูจะได้ผลดีเกินคาดเลยนะคะจันทร์จ้าว ^^ เพราะอย่างน้อยๆ คุณพิมก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้คร่าวๆ บ้างแล้วล่ะค่ะ ที่เหลือก็แค่รอให้พี่อาทิตย์ไปยืนยันกับคุณพิมด้วยตัวเองอีกทีว่าถ้าหากคุณพิมอยากจะคิดเข้าข้างตัวเองบ้างนั้นก็ย่อมได้นะคะ~~ :-[

ส่วนทางคุณหมอและจันทร์จ้าว ต่อให้เจ้าตัวเขาจะพยศสักแค่ไหนคุณหมอภวัตผู้อ่อนโยนก็เปลี่ยนโหมดไปเป็นเคร่งขรึมแล้วปราบเด็กดื้อเสียอยู่หมัดเลยนะคะนั่น

แต่ดูท่าสาเหตุหลักๆ ที่จันทร์จ้าวหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนี้นอกจากจะอยากรักษาสิทธิ์ให้กับพี่อาทิตย์แล้ว ก็คงเป็นเพราะว่า 'งอน' ที่คุณหมอมีเรื่องปิดบังเจ้าตัวเขาตามประสาคนถูกเอาใจมาตั้งแต่เด็กเท่านั้นล่ะค่ะ ^^

ดุน้องเสร็จแล้วก็อย่าลืม 'ง้อ' น้องต่อด้วยนะคะคุณหมอ :m3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-11-2015 07:52:58
คนเขียนช่างหาจุดเล็กจุดน้อยมาให้แม่ยกฟินกันได้ทุกตอนเชียวค่ะ
ว่าแต่ถ้ารักกันแล้วผู้ใหญ่ที่บ้านจะไม่ว่าเหรอคะ ฝั่งคุณจันทร์อาจจะไม่เท่าไหร่(มั้ง) แต่ฝั่งคุณหมอนี่สิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 06-11-2015 08:03:30
เรื่องของเราด้วยอะคุณหมออออ งุยยยยย บักจัทร์โดนซะบ้าง เป็นลูกเป็นหลานทำนิสัยแบบนี้จะตีให้ขาลาย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 06-11-2015 08:08:02
นี่ถ้าหมอเป็นคนอารมณ์ร้อนได้ตีกันตาย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 06-11-2015 09:26:04
เรื่องของเราสองคน
เข้าใจไหมจันทร์นอกจากเราสองคน
ทุกคนคือคนอื่น คนนอกทั้งหมด
ชอบหมออออออออ
ชัดเจนมากกกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 06-11-2015 11:11:38
จันทร์จ้าวพยศน่าดูเลยนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 06-11-2015 11:33:26
คุณจันทร์พยศหนักมากกกกกกกกกกก จริงๆค่ะ คุณหมอคงอยากจับตีก้นซักสิบทีแน่ๆเลย รั้นสุดๆ
ขนาดเขาจะมาทำแผลให้ยังไม่ยอมด้วยนะ ที่สุดของที่สุดจริงๆคนนี้ 55555555555 แต่ไม่รู้ทำไมถึงเอ็นดูจังนะคะ
เหมือนเด็กที่แสดงความรู้สึกไม่เก่งอะไรแบบนี้เลย ที่จริงแล้วอาจจะแค่งอนหรือน้อยใจที่หมอไม่เล่าให้ฟังเท่านั้นเองล่ะมั้ง
หวังว่าพวกเขาจะดีกันก่อนจะถึงงานเลี้ยงนะคะ ไม่งั้นคงวุ่นกันหนักแน่ ส่วนเรื่องพี่อาทิตย์กับคุณพิมนี่น่ารักมากกกกกกก
อ่านแล้วหลงรักผู้ชายอบอุ่นสไตล์พี่อาทิตย์เลยค่ะ >______< อยากเห็นเค้าสมหวังกันไวๆ จะรอชมนะคะ ~

คำผิดตอนนี้ค่ะ
จันท์จ้าว - จันทร์จ้าว
อิทธิ์ฤทธิ์ - (อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นภาษาเก่าหรืออะไรนะคะ) อิทธิฤทธิ์
ผยุง - พยุง
ราชนิกูลพนุ่ม - หนุ่ม

เป็นกำลังใจให้คุณบัวและจะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 06-11-2015 12:30:30
อีกแป๊ปนึง จะได้ใช้แฟ้บกันแล้ว ...... โอ้วววววว เป็นประโยคที่ชวนให้คิดจริงๆค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 06-11-2015 14:03:16
คุณหมอสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 06-11-2015 14:08:08
'เรื่องของเราสองคน'  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-11-2015 14:38:44
จำใว้นะคุณจันทร์






เรื่องของเรา ก็คือ เรื่องของเรา






อย่าเอาเรื่องของคนอื่นมายุ่งเรื่องของเรา #หมอภวัตรvsจันทร์เจ้า






พี่อาทิตย์กับคุณพิมพ์ ช่างน่าเอ็นดูเน๊าะ






ปัญหาของคุณเภาแก้ไขไม่ย้ากเลย คุณพงษ์ยังว่าง






อดมีภรรยาเป็นราชนิกูลก็เปลี่ยนเป็นมีสามีเป็นราชนิกูลซะก็สิ้นเรื่อง  :jul3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 06-11-2015 16:32:59
ดื้ออย่างจันทร์ก็ต้องคุณหมอนี่แหล่ะที่"เอา"อยู่ 55555

คู่พี่อาทิตย์ เริ่มจะหวานแหล่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 06-11-2015 18:42:14
หมอน่ารัก จันทร์เจ้าแรง หมอยังใจเย็น
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 06-11-2015 19:40:23
ตอนนี้เริ่มหลงคุณจันทร์แล้ว นิสัยแบบนี้น่าจับกดจริง ๆ

เอาใจช่วยพี่อาทิตย์เสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Titania ที่ 06-11-2015 21:38:21
คุณจันทร์เธอน่าตีจริงๆ รั้นมาก เอาแต่ใจตัวเองมาก แต่ก็น่ารัก คุณหมอกำราบให้อยู่หมัดเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 06-11-2015 22:17:52
สงสารคุณหมอ จันทร์ดื้อมากกก :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-11-2015 00:23:53
อารมณ์ความรู้สึกตอนนี้คิดว่ามันเบากว่าตอนที่แล้วพอตัวนะเพราะอ่านตอนนี้แล้วเรารู้สึกเหมือนสามีมาตามง้อภรรยาที่งอนจนหนีออกจากบ้านยังไงไม่รู้ ฮาา ก็ยังดีที่จันทร์บอกหมอไปแล้วว่าที่หงุดหงิดหมอเพราะอะไรแต่ถึงจะพยศกับหมอแต่พอเจอคำว่าเรื่องของเราเข้าไปนี่ก็อึ้งไปเลยนะจันทร์ ส่วนคู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมดูเหมือนกำลังจะไปได้สวยนะ พี่อาทิตย์ที่ดูอบอุ่นอยู่แล้วพอมาบวกกับมาดเก้อเขิน ดีใจแล้วดูมุ้งมิ้งน่ารักมากๆ รอตอนหน้า กอดคุณบัวค่ะ  :กอด1:

ปล.เราทีมคุณหมอมาตลอดนะคะคุณบัวไม่เคยย้ายทีมค่ะ #สติลทีมหมอรัวๆ  :katai4: ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 07-11-2015 06:51:45
คุณจันทร์ของหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 07-11-2015 07:29:48

บ๊ะ! คุณหมอช่างเด็ดขาด!!!
นี่ล่ะว่าที่ผู้นำครอบครัว มันต้องกำราบเมียดื้อๆได้อยู่หมัด
(ใจนี่ภาวนาให้จันทร์ขาเดี้ยงแบบเดินไม่ได้...
จนพี่หมอต้องอุ้มไปไหนมาไหน วะฮ่า ฮ่า
ืทีนี้ล่ะไอ้คำว่า 'เรื่องของเรา' ก็จะก้องอยู่ในหัวจันทร์จนเริ่มหลอน...
สุดท้ายก็จะยอมโอนอ่อนผ่อนตามไปเอง กรั่กๆๆๆ - มโรแรงมาก)

ติดตามค่ะ ^^  :กอด1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 07-11-2015 21:45:47
คุณหมอขาาาาาร อดทนกับคุณจันทร์หน่อยนะคะ นึกถึงลักยิ้มของคุณจันทร์ไว้ค่ะ สู้ๆนะหมอ :z2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 08-11-2015 00:20:10
พึ่งตามเข้ามาอ่านนน คิดถึงคนแต่งสุด ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 08-11-2015 19:54:53
ซดมาม่าอะไร   ยอมค่ะตอนนี้เขิน  เถียงกันเเล้วเราก็เขิน อย่างกะคู่รักชัดๆอะ  คุณหมอดูเป็นผู้ใหญ่มากกำราบจันทร์จ้าวอย่างอยู่หมัด  -////////-
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 08-11-2015 22:07:57
หมอกดเลยดื้อก็จับกดเลยจะได้ง่ายๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 09-11-2015 02:12:09
เมื่อไหร่จะถึงวันพฤหัสคะ...... T _________ T
กลับมาอ่านตอนล่าสุดเป็นรอบที่สามแล้ว ไหนๆก็เม้นเพิ่มซะหน่อย
จะบอกว่าแอบเขินทุกครั้งที่สองคนนี้ใช้คำว่า "เรา" เลยค่ะ แบบ เราสองคนเจอกันแทบทุกวัน แหม ~ รู้สึกหวานๆในใจบอกไม่ถูกเลย ><
ลองคิดกลับกันว่าถ้าเป็นจันทร์พูดถึงตัวเองกับคุณพงศ์ก็คงไม่ใช้คำว่าเราแบบที่ใช้กับหมอหรอกใช่ไหมล่า - / -
แค่นั้นก็เขินๆขึ้นมาแล้ว น่ารักจังเลยยย~ อยากให้ถึงตอนที่หมอมาหาพ่อจันทร์ที่บ้านแล้วค่ะ
จะทำแผลกันไปปรับความเข้าใจกันไปท่าไหนดีเนี่ย .. เป็นกำลังใจให้นะคะ! ฮิๆ มาต่อไวๆน้า T T v
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 09-11-2015 21:56:13
รีบมาต่อนะจ๊ะ รออ่านอยู่  :call:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 10-11-2015 15:40:41
โธ่ๆ แอบสงสารคุณหมอ ต้องปราบพยศน้องจันทร์ /คู่พี่อาทิตย์นี่ มุ้งมิ้งมากมาย อิอิ
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 11-11-2015 00:31:14
สนุกมากๆ คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าคู่นี้เมื่อไรเขาจะยอมรับใจตัวเอง
แถมยอมรับใจตัวเองแล้วยังไม่พอ ยังต้องผ่านครอบครัว กับสังคมไปให้ได้อีก
คนในสมัยก่อนไม่ยอมรับกับเรื่องพวกนี้ด้วยซิ จะมีมาม่าไหมเนี้ยยยย T^T
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-11-2015 15:55:18
ลา ล่า ลา วันพฤหัสฯ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 12-11-2015 18:37:41
ลอยคอออ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 12-11-2015 19:13:31
 :impress3:

วันพฤหัส ที่รอคอย

อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 12-11-2015 19:27:49
มาปูเสื่อ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 12-11-2015 20:19:21
มารอพี่หมอ :z1:
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 12-11-2015 20:50:22
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….

บทที่ ๑๐



ตอนที่บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนเดินกะเผลกขึ้นเรือนมาในเย็นวันศุกร์นั้น ทำเอาคุณหญิงผกาถึงกับยกมือขึ้นแตะอกด้วยความตกใจ แม้จะเห็นแล้วก็ตามว่าแผลของบุตรชายคนรองนั้นดูจะใกล้หายในเร็ววัน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะห่วงใย


“แล้วทำไมไม่กลับมานอนที่นี่ หือ? แม่จะได้ดูแล เข่าเป็นเสียแบบนี้ อยู่คนเดียวได้อย่างไรกัน?!!” คุณหญิงผกามองแผลถลอกที่แห้งสนิทบนเข่าของบุตรชายแล้วก็นึกแปลกใจว่าคนอย่างจันทร์จ้าวรู้จักทำแผลเสียด้วย


...หรือจะให้แม่พวกสาวๆทำให้?...


คิดมาถึงตรงนี้คุณหญิงผกาก็หวั่นใจขึ้นมากะทันหัน อยากถามตรงๆว่าใครทำแผลให้ก็เกรงว่าบุตรชายจะหาว่าหล่อนจู้จี้


“ไม่ได้ลำบากอะไรหรอกครับ” นภาสรวงมองแผลบนหัวเข่าพี่ชายแล้วเอียงคอน้อยๆด้วยความฉงน หล่อนเป็นน้องของจันทร์จ้าวมา ๒๒ ปีเต็ม ตลอดเวลาช่วงวัยเด็กที่แสนซุกซนของเขา ก็เป็นหล่อนและสมฤดีที่คอยทำแผลให้อย่างหลบๆซ่อนๆ เนื่องจากจันทร์จ้าวไม่ต้องการให้มารดาเห็นแล้วกลายเป็นห้ามเขาออกไปเล่นปีนป่ายอีก


“ใครทำแผลให้คะนี่ สะอาดเรียบร้อยเชียว” แล้วจู่ๆนภาสรวงก็ตั้งคำถามแทนคุณหญิงผกา คนเป็นมารดาหูผึ่งรอฟังคำตอบ ทว่าคำถามนั้นกลับทำเอาจันทร์จ้าวชะงักแล้วพาลนึกไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา


ภวัตแวะมาหาเขาทุกวันทั้งเช้าและเย็นเพื่อทำแผลให้ แต่ต่างคนต่างไม่พูดอะไรกันเลย เขาเองก็ยังมึนตึง ในขณะที่อีกฝ่ายก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน


“หมอ...” เขาตอบสั้น พยายามขจัดภาพตอนที่ภวัตทำแผลให้เขาออกจากหัว แต่ดูเหมือนจะยากเต็มที เพราะภาพเหล่านั้นเกิดซ้ำๆทุกวัน วันละ ๒ เวลา


“หมอ?” ดารารัษมีที่นั่งอยู่ด้วยทวนถามด้วยความสงสัย คนเป็นพี่ชายทำหน้าตาเหมือนไม่อยากจะพูดสักเท่าไร


“หมอภวัต...” เขาพูด ดารารัษมีถึงกับทำตาโตแต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ จันทร์จ้าวก็หันไปทางมารดา “...แล้วพรุ่งนี้จะเอาอย่างไรดีครับ คุณชายท่านจะเลี้ยงอาหารเย็นที่วัง ไปรถพี่อาทิตย์คันเดียวจะพอหรือ”


“เข่าพ่อจันทร์เป็นอย่างนี้คงจะนั่งเบียดไม่ไหว ก็เอารถไป ๒ คันก็แล้วกัน” ท่านนายพลเดชเอ่ย เมื่อมองขาบุตรชายแล้วเห็นว่าแม้แผลจะแห้ง แต่ก็ยังแดงช้ำและระบม


“พ่อจะให้ตาพ่วงขับรถให้ พ่ออาทิตย์ก็ขับรถเองแล้วกันนะ” บิดาหันไปพูดกับบุตรชายคนใหญ่ที่นั่งเงียบๆเช่นเคย


“ครับคุณพ่อ”


“แล้วพี่อาทิตย์มีชุดสำหรับพรุ่งนี้แล้วหรือยัง” จันทร์จ้าวหันไปถามพี่ชาย


“ก็...คงใส่เครื่องแบบไป...”


“เฮ่ย! ไม่ได้! นี่งานเลี้ยงต้อนรับผม ไม่ใช่งานประดับยศ จะใส่เครื่องแบบไปทำไมล่ะ! พี่อาทิตย์ไม่มีสูทแบบฝรั่งหรือ?” คำถามของน้องชายทำให้อาทิตย์ผู้ไม่ใคร่ออกงานสังคมได้แต่ส่ายหน้า


“ดูเหมือนจะไม่เคยตัดไว้เลย ไปไหนทีไรก็ใส่เครื่องแบบ ไม่อย่างนั้นก็เสื้อเชิ้ต”



ช่างเป็นผู้ชายที่เรียบง่ายเสียจนจันทร์จ้าวยังอดสะท้อนใจไม่ได้ เกิดพรุ่งนี้อาทิตย์ใส่เครื่องแบบไป แล้วนายเภาแต่งตัวโก้หรูมา คะแนนนิยมของอาทิตย์คงถูกฉุดลงเหว จริงอยู่ว่าเรื่องเครื่องแต่งกายเป็นเพียงแค่เปลือก แต่ปกติแล้วคนเราก็มักจะประเมินเปลือกก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงพิจารณาภายในเป็นอันดับ ๒



“ถ้าอย่างนั้น ตามผมมา จะหาสูทให้ ผมตัดไว้หลายตัวอยู่” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้นก่อนจะลุกขึ้นเดินกะเผลกอย่างไวตามประสาคนใจร้อนกลับเข้าห้องนอนตนเอง มีอาทิตย์ลุกขึ้นเดินตามหลัง



“พ่อจันทร์นี่น่ารัก ให้พี่ชายยืมเสื้อผ้าเสียด้วย แกเคยให้ใครยืมหรือใส่เสื้อผ้าร่วมกับใครเสียที่ไหน เคยพูดว่าไม่ชอบใส่เสื้อผ้าทับใครนู่นน่ะ” คุณหญิงผกาชื่นชมบุตรชายคนรองอย่างออกนอกหน้าด้วยความปลื้มปิติ



“นั่นซีคะ พี่จันทร์รักพี่อาทิตย์น่าดูเลยนะคะ” นภาสรวงเองก็เห็นด้วย



“พี่น้องกัน ไม่รักกันแล้วจะรักใคร” ท่านนายพลเปรยบ้าง แต่ก็อดภาคภูมิใจไม่ได้ว่าบุตรธิดาของท่านรักใคร่กลมเกลียวไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นให้ท่านปวดหัวใจเหมือนบางครอบครัว



ดารารัษมีได้แต่นั่งเงียบๆ หล่อนไม่ได้แย้งหรือเออออไปกับใคร ถึงแม้จะไม่ถูกใจกับพฤติกรรมบางประการของพี่ชายคนรอง แต่เรื่องที่หล่อนทราบดีคือเขารักพี่น้องมากเพียงใด



...หากวันหนึ่งอาทิตย์ได้แต่งงาน หล่อนจะยกความดีความชอบครั้งนี้ให้กับจันทร์จ้าวทั้งหมด เพราะหากไม่ได้เขา ความรู้สึกของอาทิตย์ก็คงหายไปอย่างเงียบเชียบราวกับสายลมผ่าน...


……………………………….



วันนี้วังฉัตรตกแต่งอย่างวิจิตร ไฟประดับตามพุ่มไม้ตลอดถนนทรงกลมที่ทอดตัวมายังหน้าตึก ภายในตึกก็สว่างไสวด้วยแสงจากโคมไฟระย้า เสียงเพลงบรรเลงจากเครื่องเล่นแผ่นเพลงดังกังวาลไปทั่วทั้งห้องรับแขกชั้นล่าง หม่อมราชวงศ์ฉัตรนั่งอยู่ที่เก้าอี้บุนวมหรูหราและสนทนากับท่านพลโทศักดิ์และคุณหญิงจิตต์ วิชาญโยธิน มีภวัตและเภานั่งร่วมวงอยู่ด้วย ส่วนบุตรและธิดาของคุณชายกำลังต้อนรับแขกอีกชุดที่เดินทางมาถึงเมื่อครู่นี้เอง


“ท่านนายพลเดช คุณหญิงผกา และคุณๆทั้ง ๔ มากันแล้วขอรับ คุณชาย” คนรับใช้คนหนึ่งเข้ามารายงาน หม่อมราชวงศ์ฉัตรพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะหันไปทางครอบครัววิชาญโยธิน


“เราออกไปที่โถงเลยดีไหม แล้วจะได้รับประทานอาหารกันเลย วันนี้มีแขกเท่านี้ เพราะเจ้าของงานเขาอยากได้งานเล็กๆ จะได้พูดคุยกันทั่วถึง” คุณชายฉัตรพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะลุกขึ้นเดินนำออกจากห้องรับแขกไปยังโถงที่อยู่ติดกัน เขาทักทายครอบครัวรักษพิพัฒน์ที่มาถึงเมื่อครู่ ก่อนที่จะเป็นรักษพิพัฒน์และวิชาญโยธินทักทายกัน แม้บิดาของ ๒ ครอบครัวจะอยู่กันคนละสังกัด แต่ต่างก็รู้จักกัน ส่วนคุณหญิงผกาผู้แสนจะมีอัธยาศัยไมตรีก็รู้จักกับคุณหญิงจิตต์พอสมควร


เสียงพูดคุยดังจุกจิกย้ายจากที่ห้องโถงไปยังห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ โต๊ะอาหารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่นั่งของแต่ละคนถูกกำหนดเอาไว้แล้ว


“ฉันให้คนระบุที่นั่งเอาไว้ เราจะได้คุยกันทั่วถึง” ผู้เป็นเจ้าของวังฉัตรเอ่ยเช่นนั้นอย่างนึกสนุก



ตัวท่านนั่งที่หัวโต๊ะในฐานะเจ้าบ้าน แต่ละที่นั่งมีชื่อกำกับเอาไว้แล้ว คู่สามีภรรยาถูกจับแยกให้นั่งเยื้องกัน ส่วนบุตรธิดาทั้งหลายก็ถูกกระจายให้นั่งสลับกันไป ฝั่งซ้ายของโต๊ะจึงเรียงจาก ท่านนายพลศักดิ์ วิชาญโยธิน, คุณหญิงผกา รักษพิพัฒน์, ภวัต, นภาสรวง, หม่อมหลวงพงศ์ภราธร และจันทร์จ้าว ส่วนฝั่งขวาคือท่านนายพลเดช รักษพิพัฒน์, คุณหญิงจิตต์ วิชาญโยธิน, อาทิตย์, หม่อมหลวงพิมพัชรา, เภา และดารารัษมี



ภวัตเห็นอีกฝ่ายนับตั้งแต่ลงจากรถที่หน้าตึกแล้ว ท่าเดินดูพิกลอยู่บ้างเพราะแผลยังไม่หายดี แต่กระนั้นจันทร์จ้าวก็ยิ้มแย้มแจ่มใสกับคนรอบข้าง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ตลอดหลายวันที่เขาแวะเวียนไปทำแผลให้ เขาไม่เคยเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายเลยสักครั้ง นอกจากรอยยิ้มที่เห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้ายซึ่งเผื่อแผ่ไปทั่วแล้ว อีกเรื่องที่หมอภวัตรู้สึกเคืองชอบกลคือหม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้เป็นเพื่อนสนิทคอยดูแลคนเจ็บเป็นอย่างดี ทั้งพาเดินมาที่โต๊ะรับประทานอาหาร ทั้งขยับเก้าอี้ให้นั่ง อยากจะบอกว่าไม่ต้องดูแลถึงเพียงนั้นก็ได้ เพราะกับเขา จันทร์จ้าวยังไม่ยอมให้ช่วยพยุงเสียด้วยซ้ำ



แม้จะหงุดหงิดกับคนทั้งคู่ แต่นายแพทย์หนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบตาไปมองชายหนุ่มทั้ง ๒ คนที่นั่งถัดจากนภาสรวงซึ่งนั่งข้างเขา ด้วยเพราะความสูงทำให้เขามองข้ามหญิงสาวไปได้อย่างง่ายดาย แต่ก็เห็นเพียงราชนิกูลหนุ่มที่เหมือนจะบังจันทร์จ้าวเสียแทบมิด ภวัตรู้สึกหงุดหงิด แต่ไม่ทราบหงุดหงิดอะไร ระหว่างคนเจ็บขากับคนดูแล และสุดท้าย ก็ลอบพ่นลมหายใจกับตนเองเพื่อระงับอารมณ์แล้วหันกลับมาสนใจอาหารตรงหน้าแทน



ในขณะที่คุณหมอหนุ่มจากโรงพยาบาลใหญ่พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะสนใจอาหารมากกว่าเรื่องอื่น จันทร์จ้าวผู้กำลังถูกปรนนิบัติโดยเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างกายกลับมองการจัดที่นั่งแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ ให้ทั้งอาทิตย์และเภานั่งประกบหม่อมหลวงพิมพัชราเช่นนี้คงไม่ต่างอะไรกับการเปรียบเทียบ แล้วอาทิตย์ที่เงียบขรึมจะสู้คนช่างสังคมอย่างเภาได้หรือ



ระหว่างการรับประทานอาหาร เสียงพูดคุยดังเป็นระยะ โดยมักจะเริ่มจากเภาเป็นจุดศูนย์กลาง ดูแล้วท่าไม่ดีเอาเสียเลยสำหรับการประเมินของจันทร์จ้าว



“ทำหน้าเครียดอะไรของแกน่ะ หรือเจ็บแผลอีก” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมากระซิบถามเพื่อนรักที่นั่งข้างกัน



“ใครเป็นคนจัดตำแหน่งที่นั่งหรือ” จันทร์จ้าวถามกลับเสียงเบา พยายามไม่ให้เป็นที่สังเกต แต่ก็ไม่น่าจะมีใครสังเกต เพราะทุกคนกำลังสนุกกับเรื่องเล่าของเภา ไม่เว้นแม้แต่หม่อมหลวงพิมพัชรา



“ก็คุณพ่อน่ะซี” จันทร์จ้าวไม่กล้าบอกว่าคุณพ่อของคุณพงศ์ตั้งใจตัดทางทำมาหากินของพี่ชายเขาเสียเหลือเกิน ถึงได้จัดตำแหน่งที่นั่งเช่นนี้



“พ่อจันทร์ เป็นอย่างไร อาหารอร่อยไหม ให้นั่งเสียท้ายสุดเลย ฉันปวดหัวไม่รู้จะจัดที่นั่งอย่างไร สุดท้ายไปๆมาๆก็ลงอีหร็อบนี้ ตอนแรกก็ว่าจะใช้โต๊ะกลม แต่พวกเราก็มีเสียตั้ง ๑๓ คน เกรงจะนั่งเบียด เลยต้องใช้โต๊ะยาวแทน” เสียงของหม่อมราชวงศ์ฉัตรดังมาจากหัวโต๊ะ ทำเอาจันทร์จ้าวต้องหันไปมองแล้วส่งยิ้มให้



“เรื่องที่นั่งไม่เป็นไรครับคุณชาย นั่งตรงไหนก็ได้รับประทานอาหารอร่อยๆของวังฉัตร แต่ตอนนี้...ชักอยากจะดื่มกาแฟเสียแล้ว” เขาพูดเหมือนเร่งให้อาหารค่ำมื้อนี้จบลงโดยเร็วที่สุด ตำแหน่งที่นั่งเช่นนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่ออาทิตย์เลย เจ้าของวังยิ้มน้อยๆ



“พ่อพงศ์บอกแล้วว่าเธอติดกาแฟอย่างกับอะไรดี ตอนเด็กๆที่มาวิ่งเล่นที่นี่ยังไม่ยักติด ไปติดเอาเมื่อตอนไปเรียนต่อที่เมืองฝรั่งล่ะซี นี่ฉันให้คนเตรียมเอาไว้แล้ว ไว้เราย้ายไปนั่งที่โถง จะได้จิบกาแฟพลาง คุยกันพลาง ใครอยากจะเต้นรำก็เต้นไป แต่เธอคงจะเต้นไม่ไหวกระมัง เห็นพ่อพงศ์ว่าเพิ่งหกล้มมาหรือ” ภวัตยิ่งฟังยิ่งขุ่น ดูเหมือนเรื่องของจันทร์จ้าวที่หม่อมราชวงศ์ฉัตรรับรู้จะมีชื่อหม่อมหลวงพงศ์ภราธรพ่วงมาด้วยเสมอ เขาพยายามทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกับเขา ได้สบตากันครู่หนึ่ง แต่ฝ่ายนั้นทำเป็นมองเมินสายตาของเขาไปมองคุณชายฉัตรอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว




“ครับ แต่แผลดีขึ้นมากแล้ว” จันทร์จ้าวตอบรับแล้วยิ้ม ทว่าเขาไม่ทันจะพูดอะไรต่อ นายเภาก็ชักชวนทุกคนเข้าสู่บทสนทนาโดยมีตนเองเป็นจุดศูนย์กลางเช่นเคย จันทร์จ้าวมองอย่างไม่ชอบใจและเผื่อแผ่ความไม่ชอบใจด้วยการเหลือบตากลับมาสบตากับหมอภวัตอีกหน แล้วได้แต่สาปแช่งให้หม่อมหลวงพิมพัชรามองความร่าเริงของเภาเป็นเรื่องหนวกหู อย่าให้ ๒ พี่น้องวิชาญโยธินสมหวังแต่ประการใดเลย!!!


..............................................



หลังจากมื้อค่ำที่โต๊ะอาหาร ทั้งหมดก็ย้ายไปนั่งเล่นที่โถงเต้นรำ ซึ่งมีชุดเก้าอี้วางเอาไว้ประปราย มีนักดนตรี ๔ คนเล่นดนตรีสด กลางห้องคือฟลอร์สำหรับเต้นรำโดยเฉพาะ ห้องจัดเลี้ยงแห่งนี้เป็น ๑ ใน ๒ ห้องที่วังฉัตรมี ห้องหนึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ จุคนได้ครึ่งร้อย ส่วนนี่เป็นห้องขนาดเล็ก แต่ก็ยังนับว่าใหญ่มากอยู่ดี สำหรับคนเพียง ๑๓ คน



เสียงเพลงจากวงดนตรีดังก้องไปทั้งห้อง ชักชวนให้ลงไปเต้นรำ แต่ติดที่ว่าเจ้าของงานอย่างจันทร์จ้าวซึ่งควรจะเป็นคนเปิดฟลอร์กลับขาเจ็บ



“พ่อจันทร์เปิดฟลอร์ไหวไหมล่ะนี่” หม่อมราชวงศ์ฉัตรตั้งคำถามกับชายหนุ่มร่างโปร่งที่ยังเดินกะเผลก จันทร์จ้าวยิ้มจางเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้ายก่อนตอบ



“หากคุณชายจะกรุณา ผมจะขอส่งตัวแทนเปิดฟลอร์แทนผมได้ไหมครับ”



“ได้ซี! ส่งใครดีล่ะพ่อ” คุณชายถามพลางหัวเราะ



“พี่อาทิตย์ครับ” จันทร์จ้าวตอบ ก่อนจะหันไปทางพี่ชายที่ยืนคล้อยหลังเขาไปเล็กน้อย อาทิตย์นิ่งงันด้วยความตกตะลึง ไม่คิดว่าน้องชายจะใช้ชื่อเขา ทว่าไม่ทันได้พูดอะไร จันทร์จ้าวก็หันมามองหน้าเขาแล้วเอ่ยปนสั่ง



“พี่อาทิตย์เปิดฟลอร์แทนผมที...”



แน่นอนว่าคนเปิดฟลอร์ย่อมได้เลือกคู่เต้นรำเป็นคนแรก อาทิตย์เหลือบไปมองหญิงสาวผู้อยู่ในดวงใจของเขามาแสนนาน เธอเองก็มองมาที่เขาก่อนจะหลุบสายตาลงต่ำราวกับเขินอาย นายทหารหนุ่มไม่กล้าบอกตนเองว่าเธอรู้สึกเช่นไรกับเขา แต่หาก...เขาลองขอเธอเต้นรำดู บางทีอาจทำให้ได้คุยกันอีก


อาทิตย์เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหม่อมหลวงพิมพัชรา แล้วค้อมกายราวกับเป็นการขออนุญาต หญิงสาวมองท่าทางสุภาพของเขาด้วยหัวใจเต้นถี่ แต่เมื่อเขายื่นมือมาให้ หล่อนก็วางมือลงบนมือของเขา ก่อนจะก้าวเท้าเดินตามไปยังกลางฟลอร์ แล้วจากนั้น เพลงใหม่ก็เริ่มต้นบรรเลงโดยชายหญิงคู่หนึ่งที่จันทร์จ้าวมองแล้วดูเหมาะสมยิ่งกว่าใคร



หลังจากอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราลงไปเต้นรำ ก็เป็นหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่ขอพาดารารัษมีเต้นรำบ้าง เภาหมดทางเลือก แต่จะให้ยืนอิจฉาอยู่ที่เดิมก็เห็นจะไม่ใช่เขา ชายหนุ่มจึงหันไปขอนภาสรวงผู้สนิทสนมกันในฐานะเจ้านายและพนักงานในสำนักงานลงไปเต้นรำ ส่วนผู้ใหญ่ทั้งหลายพากันไปนั่งที่ชุดโต๊ะเก้าอี้ริมฟลอร์เพื่อพูดคุยกันต่อ จันทร์จ้าวเห็นว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว เขาจึงก้าวเท้าเดินไปนั่งที่บาร์เครื่องดื่ม เพราะยืนนานๆก็ชักจะปวดตึงที่แผลอีกแล้ว ยังไม่ทันจะเดินถึงที่ แขนข้างหนึ่งของเขาก็ถูกคว้าพยุงเอาไว้



“แผลยังไม่หายดี ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล” เสียงทุ้มดังใกล้ ทว่าคนพูดดูเหมือนจะไม่ใส่ใจแผลของจันทร์จ้าวเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาดึงแขนคนเจ็บให้ออกไปที่ระเบียงนอกตึกด้วยกัน



“แผลยังไม่หายดี หมอก็ควรให้ผมได้นั่ง ไม่ใช่ลากผมออกมานี่!!” ภวัตกดคนพูดมากลงนั่งที่ชุดเก้าอี้ที่ระเบียง แต่คนดื้อดึงอย่างจันทร์จ้าวก็ยังไม่หยุด



“แต่ก็ยังอยู่ข้างนอกอยู่ดี!! ผมจะกลับเข้าไปข้างใน!!” นายแพทย์หนุ่มถอนหายใจด้วยความระอากับนิสัยชอบเอาชนะของอีกฝ่าย



“ไม่ดื้อ ไม่เถียงสักวันจะทำให้คุณนอนไม่หลับไหม” ภวัตประชดปนดุ สีหน้าและดวงตาของนายแพทย์หนุ่มช่างว่างเปล่าและไร้ความอ่อนโยนเหมือนช่วงหลายๆวันที่ผ่านมานับตั้งแต่จันทร์จ้าวหกล้ม บางทีเขาก็อยากจะไล่ตะเพิดอีกฝ่ายว่าถ้ามาทำหน้าตึงเสียงแข็งใส่เขา ก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้า แต่เพราะคำขู่ที่ว่าแผลจะเน่าก็ทำให้เขาง้างปากไม่ออกและยอมให้ภวัตเข้านอกออกในบ้านเขาได้โดยสะดวกเพื่อมาทำแผลให้เช้าเย็น จนบัดนี้แม้แผลจะแห้งดีแล้ว แต่จันทร์จ้าวก็ไม่ทราบเหตุผลที่ตนเองไม่ออกปากไล่เขาเหมือนที่แล้วมา



ดวงหน้าขาวหันมองไปทางอื่นราวกับไม่อยากจะพูดคุยกัน ทำเอาคนอุตส่าห์ลากออกมาถึงกับต้องถอนหายใจ นิสัยพยศเป็นเด็กๆแบบนี้เขาไม่เคยเจอในคนอายุเท่าจันทร์จ้าวมาก่อน



“ขาเป็นอย่างไรบ้าง กลับไปนอนที่บ้านแล้วมีใครดูแผลให้ไหม” ภวัตพยายามชวนคุย ทว่าอีกฝ่ายกลับมองออกไปที่สวนโดยไม่สนใจเขาแม้แต่นิด ชายหนุ่มร่างสูงพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยองที่พื้นแล้วดึงขาข้างที่กะเผลกมาหมายจะเลิ่กชายกางเกงขึ้นดูแต่เจ้าของร้องลั่นเสียก่อน



“หมอ!!”



“ผมถามว่าแผลเป็นอย่างไรบ้าง ในเมื่อคุณไม่ตอบ ผมก็ต้องดูเอง”



“ผมเป็นแผลที่หัวเข่า! ไม่ใช่เป็นที่หน้าแข้ง!! หมอเปิดขากางเกงผมดูก็ดูไม่ถึงหรอก!!”



“ถ้าอย่างนั้นก็ไปห้องน้ำ แล้วถอดกางเกงออกทั้งหมด” จันทร์จ้าวอ้าปากค้างกับคำสั่งของนายแพทย์หนุ่ม ภวัตตั้งท่าจะลากเขาเดินกลับเข้าไปในโถงเพื่อไปห้องน้ำจริง คนที่ทำท่าอยากจะกลับเข้าไปข้างในตั้งแต่แรกเลยกลายเป็นยึดเก้าอี้ไว้มั่น



“ว่าอย่างไร จะบอกผมดีๆ หรือจะให้ผมพาไปห้องน้ำแล้วจับคุณถอดกางเกงดูแผลด้วยตัวผมเอง” ภวัตตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงดุดัน



“ก็ยังไม่ต้องไปตัดขาแล้วกัน!!”



“ผมบอกว่าให้ตอบดีๆ!” สุ้มเสียงเข้มงวดของนายแพทย์หนุ่ม ทำเอาคนปากดีนึกหวั่นขึ้นมาในใจ หากภวัตลากเขาไปถอดกางเกงจริง เห็นทีคงยิ่งทั้งโกรธทั้งอาย



“ดีขึ้นมากแล้ว! ปล่อย! ไม่ต้องมาจับขาผม!!” เพราะถูกจับให้นั่งอยู่กับที่ จันทร์จ้าวจึงหลบขาไปไหนไม่พ้น ต้องอาศัยมือตัวเองปลดมือของอีกฝ่ายออกจากขาแทน ภวัตมองคนที่พยายามหนีจากเขาด้วยหัวใจเจ็บหนึบ



“ผมจับขาคุณมาทุกวัน มาหวงอะไรเอาวันนี้? หรือเพราะวันนี้มีแต่คนดูแลคุณได้ พี่น้องคุณอย่างนี้ คุณพงศ์อย่างนี้ เลยนึกจะหวงกับผมขึ้นมา?!!” บางที นายแพทย์หนุ่มก็ไม่เข้าใจตนเองนัก เหตุใดเขาจึงต้องพูดจาประชดประชันจันทร์จ้าวเช่นนี้ เจ้าตัวจะได้รับการดูแลจากใคร เขาไม่เห็นจะต้องเก็บมาใส่ใจ แต่...แต่อาจจะเพราะจันทร์จ้าวยินดีรับการดูแลจากทุกคน ยกเว้นเขา



บุตรชายคนรองแห่งบ้านรักษพิพัฒน์มองคนพูดด้วยหัวใจกระตุกแต่ไม่วายปากเก่ง



“วันอื่นๆ หมอก็มาจับของหมอเอง ผมขอเสียที่ไหน? แล้วผมจะให้ใครจับขาหรือไม่ มันก็สิทธิ์ของผม นี่ขาผม ไม่ใช่ขาหมอ มันงอกออกมาจากตัวผม ไม่ใช่งอกออกมาจากตัวหมอ!!”



“คุณจันทร์!!” ภวัตรู้สึกถึงความโกรธที่แล่นริ้วผสมปนเปไปกับความเสียใจที่อีกฝ่ายกีดกันเขาถึงเพียงนี้


สายตาที่หมอภวัตมองตรงมา หากมีแค่ความโกรธ จันทร์จ้าวคงปากดีตอบโต้กลับไปได้อีกมาก แต่เพราะความเสียใจที่ฉายชัดในนั้น ทำให้หัวใจชาวาบและพาลเป็นพูดไม่ออกแล้วทำได้เพียงเบือนสายตามองออกไปที่สวนแทน



นายแพทย์หนุ่มมองคนที่หลบสายตาเขา จันทร์จ้าวไม่พูดอะไรสักคำหลังจากประโยคทำร้ายความรู้สึกของเขาเมื่อครู่ และหลังจากนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีประโยคประเภทนั้นมอบให้เขาอีกมากเท่าไร ภวัตยอมรับว่าเขาใจไม่แข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายแล้วต้องได้รับรู้คำพูดไร้เยื่อใยทำนองนี้อีก



“เราจะพูดกันดีๆไม่ได้แล้วใช่ไหม” ภวัตตั้งคำถามทำเอาจันทร์จ้าวนิ่งงัน อยากหันกลับไปมองคนถามใจจะขาด แต่...แต่เพราะกลัวจะต้องเห็นสายตาเสียใจที่อีกฝ่ายมี เขาจึงไม่กล้า...



“ว่าอย่างไร เราจะพูดกันดีๆไม่ได้จนกว่าคุณอาทิตย์กับคุณพิมจะลงเอยกันอย่างนั้นใช่ไหม” ร่างสูงถามย้ำเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยังคงจับจ้องสวนแทนที่จะหันมามองเขาสักนิด ทว่า...ก็ยังไม่หันกลับมา ภวัตเจ็บหนึบไปทั้งหัวใจ รู้สึกเหมือนตนเองเป็นเพียงอากาศธาตุที่จันทร์จ้าวไม่ให้ความสำคัญ



ระหว่างพวกเขาเกิดความเงียบครู่ใหญ่ๆ ภวัตรอคอยคำตอบ แต่จันทร์จ้าวไม่กล้าหันไปมอง และความเงียบนั้น ก็ดำเนินมาจนถึงขีดสุด เมื่อภวัตเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา



“ก็ได้ ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น เราก็ไม่ต้องพูดกันอีก”



เมื่อเป็นฝ่ายเขาเองที่เหมือนตามตื้อให้รำคาญใจ ภวัตก็รำคาญตัวเองเช่นกันที่ดิ้นรนจะพูดคุยกับจันทร์จ้าวเพียงผู้เดียว เขาหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในโถงจัดเลี้ยงแล้วทิ้งจันทร์จ้าวเอาไว้ที่เดิม ชายหนุ่มเดินกลับเข้าไปโดยไม่หันกลับไปมองคนที่นั่งอยู่ที่ระเบียง ภวัตไม่มีวันรู้ว่าคนที่ทำเป็นทอดสายตามองออกไปยังสวนสลัวเมื่อครู่หันกลับไปมองแผ่นหลังเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจไม่ต่างกัน

................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 12-11-2015 20:51:31



หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเต้นรำกับดารารัษมีแล้วก็ต่อด้วยนภาสรวง ตบท้ายด้วยการเต้นรำกับน้องสาวที่เต้นรำกับอาทิตย์ถึง ๒ เพลงรวด จากนั้นจึงพาหม่อมหลวงพิมพัชรากลับมาส่งที่โต๊ะข้างฟลอร์ ซึ่งเภาก็รีบเสนอตัวเข้าไปขอเธอเต้นรำในทันทีราวกับคนโหย ราชนิกูลหนุ่มออกจะไม่ชอบใจท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือของน้องชายหมอภวัตที่ดูจะไม่รักษามารยาทเอาเสียเลย เขาก็รู้หรอกว่าอีกฝ่ายอยากเต้นรำกับพิมพัชราใจจะขาด แต่ก็ควรเก็บอาการบ้าง



“ให้ยายพิมพักดื่มน้ำสักหน่อยดีไหมคุณเภา เต้นจนตะคริวจะกินแล้วกระมัง” เขาพูดกลั้วหัวเราะติดตลก ทำให้ไม่มีใครเอะใจว่ากำลังจะประชดประชัน พอดีเพลงต่อมาเป็นเพลงโปรดของดารารัษมี หล่อนนึกสนุกอย่างไรไม่ทราบ เป็นคนขออาทิตย์ให้ลงไปเต้นรำคู่กัน ทุกคนจึงหันไปสนใจ ๒ พี่น้องรักษพิพัฒน์แทน



หม่อมหลวงพงศ์ภราธรกวาดตามองไปรอบห้องจัดเลี้ยง วันนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับจันทร์จ้าว แต่เจ้าของงานกลับไม่โผล่หน้ามาเลย เมื่อครู่นี้เขาก็มัวแต่สนุกกับการเต้นรำจนลืมเพื่อนรักไปเสียสนิท



“เอ? มีใครเห็นจันทร์บ้างไหมครับ” เขาถามกับนภาสรวงและภวัตที่บาร์เครื่องดื่ม ไม่ได้เดินไปถามกับกลุ่มของผู้ใหญ่ที่ยังนั่งคุยกันอยู่



“ไม่ทราบสิคะ...ตายจริง นภาก็ไม่ทันได้ดูพี่จันทร์เลย” หญิงสาวผู้เป็นน้องเอ่ยปากแล้วหันมองไปรอบๆห้อง ภวัตกำลังจะบอกว่าเขาพบจันทร์จ้าวครั้งสุดท้ายที่ระเบียง แต่นั่นมันก็เมื่อราวครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาแล้ว ป่านนี้เจ้าตัวอาจจะอยู่ที่ไหนสักที่ของวังนี้ ทว่าไม่ทันได้พูดอะไร ทายาทของวังฉัตรก็เหลือบไปเห็นแผ่นหลังของคนในบทสนทนาที่ระเบียงเสียก่อน



“อ้าว! อยู่นั่นเอง...ยังอยู่ที่ระเบียงอีกหรือนี่...” เขาบ่นพึมพำแล้วค้อมศีรษะลวกๆขอตัวจากนภาสรวงและภวัต ก่อนจะเดินออกไปยังระเบียง นายแพทย์หนุ่มมองตามด้วยความเป็นห่วง ไม่คิดว่าจันทร์จ้าวจะยังนั่งอยู่ที่เดิม รู้อย่างนี้เขาดึงให้เดินกลับเข้ามาด้วยกันก็ดี



“น่าสงสารพี่จันทร์นะคะ เต้นรำน่ะของโปรดเธอเลย ดันมาเจ็บเสียได้” เสียงของนภาสรวงดังขึ้นทำเอาภวัตต้องละสายตาจากแผ่นหลังของคนที่นั่งอยู่ที่ระเบียงกลับมามองหญิงสาว



“จริงสิ พี่จันทร์บอกว่าคุณหมอเป็นคนทำแผลให้เธอใช่ไหมคะ ขอบคุณนะคะที่เป็นธุระให้”


“ไม่เป็นไรครับ”


“นี่น่ะ แสดงว่าคุณหมอมือเบาถูกใจเธอนะคะ เธอถึงยอมให้ทำ สมัยเด็กๆ เธอซน ได้แผลมาเรื่อยแต่ให้คุณแม่ทราบไม่ได้ ก็เลยต้องแอบทำแผลกันเอง แต่ไม่ให้ใครแตะแผลนะคะ ยกเว้นนภากับสมฤดี มีครั้งหนึ่งนภากับสมฤดีไม่อยู่ เธอก็รอทั้งอย่างนั้น ดาราจะทำให้ก็ไม่ยอม เธอว่ามือหนัก เธอเจ็บ จะรอนภากับสมฤดีเท่านั้น” หญิงสาวเล่าเรื่องราวของพี่ชายยามเด็กด้วยความรักและเอ็นดูเขา แม้เขาจะอายุมากกว่าหล่อน แต่บางครั้งเขาก็ทำตัวเด็กได้อย่างน่าฉงน


“อย่างนั้นหรือครับ” เขาได้แต่ครางรับด้วยความรู้สึกหน่วงหนักในอก



เขาไม่รู้หรอกว่าเขามือเบาถูกใจจันทร์จ้าวหรือไม่ เพราะตลอดเวลาหลายวันที่ไปทำแผลให้ เขาไม่เคยพูดคุยกับจันทร์จ้าวมากเกินความจำเป็นเลย ทั้งๆที่...อยากถามจะตาย ว่ายังเจ็บไหม อยากถามว่าทานอะไรหรือยัง อยากถามว่าพรุ่งนี้จะไปทำงานอย่างไร...เขาอยากถาม อยากพูดคุยดังเดิม แต่เจ้าตัวไม่ร่วมมือกับเขาหรอก



“คุณหมอเป็นอะไรไปหรือคะ” นภาสรวงเห็นท่าทางเขาดูนิ่งขรึมไม่เหมือนหมอภวัตคนเดิมที่มักจะมีรอยยิ้มจางอย่างอ่อนโยนติดอยู่บนใบหน้าก็เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง



“เปล่าครับ คุณนภาเต้นรำอีกสักเพลงไหม”



“ก็ดีค่ะ” หญิงสาวยิ้มรับ ก่อนจะวางมือลงบนมือของชายหนุ่มให้เขาพาหล่อนลงไปยังฟลอร์เต้นรำอีกครั้ง พอดีกับที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพยุงเพื่อนรักพากลับเข้ามาจากระเบียง จึงพาไปนั่งที่บาร์เครื่องดื่มซึ่งว่างอยู่



“นั่งอยู่ข้างนอกให้ยุงกัดอยู่ได้ คนเขาอยู่ข้างในกันหมด ออกไปนั่งทำอะไรข้างนอก” ทายาทวังฉัตรบ่นเพื่อนรักเบาๆ


“ก็ข้างนอกไฟสวยดี” จันทร์จ้าวตอบแล้วหันไปสั่งกาแฟร้อนจากพนักงานหลังบาร์ที่กำลังชงเครื่องดื่มแอลกอฮอล


“นี่น่ะบาร์เหล้า แกจะสั่งกาแฟก็สั่งกับนายคำซี” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรบ่นอีกรอบ แล้วเป็นฝ่ายหันไปเรียกคนรับใช้ให้ไปจัดกาแฟมาให้จันทร์จ้าว


“แล้วผมดื่มกาแฟที่บาร์เหล้าได้ไหม ไม่อยากลุกเดินไปไหนแล้ว” คำถามเสียงเรื่อยนั้นฟังดูอ่อนระโหยจนเพื่อนรักต้องหันกลับมามองหน้าด้วยความเป็นห่วง


“ยังเจ็บแผลหรือ”


“ก็...มันตึงๆน่ะ”


“แล้วทำแผลหรือยัง”


“ทำแล้วซี ได้นภาทำให้”


“แล้วช่วงที่แกอยู่ที่บ้านเช่าล่ะ” จันทร์จ้าวเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนจะตอบ “ทำแล้ว”


“ใครทำให้”


“หมอ...” คำตอบนั้นสั้นและเหมือนจะเค้นเสียงพูด หม่อมหลวงพงศ์ภราธรดูสีหน้าที่ปนเปด้วยอารมณ์หลากหลายจนแยกไม่ออกว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกอย่างไร แต่ที่รู้ๆ คือความสัมพันธ์ของจันทร์จ้าวและหมอภวัตยังไม่ดีขึ้นเลย


“แกยังไม่ดีกับเขาอีกหรือ” คนถูกถามรู้สึกโหวงหวิวไปทั้งอก เมื่อประโยคสุดท้ายที่ภวัตพูดกับเขาเมื่อครู่ยังคงดังก้องอยู่ในสมอง


... ‘เราก็ไม่ต้องพูดกันอีก’ …


“ดีกันไม่ได้หรอกคุณพงศ์ คนมันไม่ถูกโฉลกกันก็อย่างนี้ สงสัยวันเกิดเป็นปรปักษ์กันกระมัง”


น้ำเสียงของจันทร์จ้าวนั้นสั่นไหวอย่างน่าประหลาด คนเป็นเพื่อนที่คบกันมานานรู้สึกประหลาดใจกับท่าทีและน้ำเสียงของร่างโปร่งแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรเมื่อเจ้าตัวหันไปรับกาแฟมาจิบ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจึงได้แต่ลอบมองอย่างเงียบๆแล้วคำถามหนึ่งที่ไม่ควรคิดเป็นอย่างยิ่งก็ดังขึ้นในใจ


...ความรู้สึกที่จันทร์จ้าวมีต่อหมอภวัต...เป็นอย่างไรกันแน่?...


.............................................



งานเลี้ยงเลิกราตอนเกือบเที่ยงคืน หลังจากการร่ำลาที่มีเพียงหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเพียงผู้เดียวสังเกตเห็นว่าหมอภวัตและจันทร์จ้าวต่างไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน ทั้งรักษพิพัฒน์และวิชาญโยธินก็แยกย้ายกันขึ้นรถแล้วออกจากวังฉัตร



คืนนี้จันทร์จ้าวกลับมานอนที่เรือนไทยแม้ว่าจะเป็นคืนวันเสาร์ก็ตามที เพราะตั้งใจว่าพรุ่งนี้เขาจะรีบตื่นมาถามอาทิตย์เสียหน่อยว่างานเลี้ยงวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ตอนแรกเขาก็ตั้งใจจะสังเกตเอง แต่...ไปๆมาๆก็ไม่ได้ทำอะไรยกเว้นจิบกาแฟนั่งเฉยอยู่ที่บาร์เครื่องดื่มจนจบงาน



...แล้วใครล่ะ ที่ทำให้เขาไม่ได้ทำอะไรยกเว้นนั่งเฉย...



ร่างสูงโปร่งยืนอยู่ในห้องนอนของตน กำลังมองภาพสะท้อนในกระจก ดวงตากลมใหญ่ที่สะท้อนอยู่บนนั้นส่อแววประหลาด มันเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ ความเสียใจ ความอึดอัด ความรู้สึกพวกนี้ เขาไม่เคยเอามันมาสุมรวมกันมากเท่าครั้งนี้มาก่อน เพราะอะไรหนอ...เพราะอะไร...แค่คำพูดของผู้ชายคนนั้น เขาจึงรู้สึกได้ถึงเพียงนี้



เสียงเคาะประตูเบาๆดังขึ้นทำเอาจันทร์จ้าวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เขาเดินไปเปิดประตูห้องนอนก็พบอาทิตย์ที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าฝ้ายและกางเกงแพรเตรียมเข้านอนยืนอยู่ที่หน้าห้อง



“พี่...จะมาขอบคุณจันทร์...” พี่ใหญ่ของครอบครัวเอ่ยปากอย่างตะกุกตะกัก งานเลี้ยงวันนี้ทำให้ความรู้สึกของเขาพองฟูจนเต็มอก อยากมาบอกให้น้องชายได้รับรู้ว่าเรื่องทั้งหมดจะไม่มีวันเป็นเช่นนี้เลยหากไม่ได้จันทร์จ้าวช่วยเหลือ


คนเป็นน้องยกยิ้มบาง


“จะขอบคุณก็ต้องเล่าให้ฟังด้วย ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เขาว่าอย่างนั้นแล้วเปิดประตูให้กว้างขึ้น อาทิตย์เดินเข้ามาในห้อง รอจนจันทร์จ้าวปิดประตูเรียบร้อยแล้ว จึงหันมาพูด


“วันนี้พี่ได้เต้นรำกับคุณพิม ๒ เพลง”


“เดี๋ยว...เล่าเรื่องดอกกุหลาบที่ฝากดาราไปให้ด้วยซี อ้อ...เรื่องดูหนังด้วยนะ”



อาทิตย์ชะงักที่น้องชายทราบเรื่องนี้ ใบหน้าคร้ามคมกรำแดดแบบนายทหารขึ้นสีเรื่อ จันทร์จ้าวเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเตียง แล้วเอนกายลงนอนรอฟังราวกับเรื่องของอาทิตย์จะเป็นนิทานก่อนนอนในคืนนี้ คนเป็นพี่เดินมานั่งที่ปลายเตียง ไม่ยอมหันไปมองน้องชายที่นอนตะแคงเท้าศอกมองแผ่นหลังของเขาอยู่ด้วยเพราะกำลังเขินอายกับความรู้สึกของตนในวันนี้



...วันที่ความรักที่ไม่เคยคิดหวังว่าจะเป็นจริงกำลังงอกงามอย่างที่สุด...



“ก็...พี่เห็นว่าดอกไม้บ้านเรากำลังงาม ก็เลยฝากดาราให้นำไปฝากเพื่อนๆครูที่โรงเรียน แต่ดาราว่าแกมีเพื่อนแยะ เลยจะให้เฉพาะคนเท่านั้น ก็เลย...ให้คุณพิมคนเดียว ส่วนเรื่องดูหนัง...ดาราบอกว่าถือเป็นค่าจ้างถือดอกไม้ พี่ก็เลยไปรับดารากับคุณพิม มีนภาไปด้วย แล้วเราก็เข้าไปดูกัน ๔ คน จากนั้นก็...ไปทานไอศกรีมกัน ร้านที่จันทร์เคยพาไปคราวก่อนอย่างไรล่ะ คุณพิมเธอชอบทานไอศกรีมมาก เธอว่าจะหาสูตรแล้วจะลองทำ จะให้พี่ไปชิม เอ่อ...พี่หมายถึงพวกเราทั้งหมดนี่ แล้ว...แล้ววันนี้...คุณพิมก็ขอบคุณพี่เรื่องดอกกุหลาบด้วย เธอว่าหอมดี เธออบแห้งเก็บเอาไว้ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะจันทร์เสนอให้พี่เปิดฟลอร์ พี่คงไม่มีโอกาสได้เต้นรำกับคุณพิม ไม่มีโอกาสได้คุยกับเธอ จันทร์รู้ไหม เธอยังบอกว่า คราวหน้าอยากมาดูต้นกุหลาบของพี่ เธอว่าจะมาบ้านเราแน่ะ พี่ดีใจเหลือเกินจันทร์ ขอบใจจริงๆที่ทำให้พี่...” อาทิตย์หันกลับไปตั้งใจจะขอบคุณน้องชาย แต่ปรากฏว่าจันทร์จ้าวหลับไปแล้ว โดยใช้ศอกหนุนแทนหมอน เขาหัวเราะเบาๆ จันทร์จ้าวหลับง่ายเช่นนี้มาแต่เด็ก วันนี้เจ้าตัวคงเหนื่อย แผลก็ยังเจ็บ แล้วยังต้องไปงานเลี้ยงอีก



“ช่างเถอะ ไว้พรุ่งนี้พี่ค่อยเล่าอีกรอบก็ได้” คนกำลังปิติยินดี เวลานี้จะให้เล่ากี่รอบก็ทำได้ทั้งนั้น อาทิตย์ลุกจากเตียง หยิบผ้าผวยมาห่มให้น้องชาย ทว่าเสียงพึมพำที่ดังมาจากริมฝีปากของคนหลับทำให้เขาชะงัก



“หมอ...” นายทหารหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความฉงน แต่หลังจากคำนั้น ก็ไม่มีคำใดตามมาอีก เขาแน่ใจว่าฟังไม่ผิด แม้เสียงจากริมฝีปากสีสดจะแผ่วเบา แต่เขาก็อยู่ใกล้มากพอที่จะได้ยินชัด และเขาก็ยังไม่ง่วงนอนจนหูเพี้ยนด้วย



...แต่...เหตุใดจันทร์จ้าวจึงละเมอถึง ‘หมอ’ เล่า?...



อาทิตย์ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้ และเมื่อก้าวเท้าถอยออกมาจากห้องนอนของน้องชาย เขาก็สลัดคำถามนั้นทิ้งไปด้วยเพราะไม่เห็นประโยชน์ที่จะคิดถึงเรื่องเมื่อครู่


......................................


แม้เมื่อคืนจะนอนดึก แต่เช้าวันอาทิตย์ ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์ก็ตื่นแต่เช้า เสียงพูดคุยของดารารัษมีดังฟุ้งไปทั้งโต๊ะอาหาร โดยเฉพาะตอนที่หล่อนเต้นรำกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรนั้น หล่อนว่าสนุกที่สุด เนื่องจากราชนิกูลหนุ่มเต้นรำได้เก่งกว่าพี่ชายคนใหญ่ของหล่อนและนายเภาน้องชายหมอภวัต



“สมเป็นเพื่อนกันนะคะ พี่จันทร์กับคุณพงศ์ เต้นรำได้ดีพอๆกัน น่าเสียดาย เมื่อวานพี่จันทร์ขาเจ็บ ไม่ได้เต้นรำกับใครสักคน” ดารารัษมีชมอย่างจริงใจและนึกสงสารเขาไม่น้อย แต่ทั้งอย่างนั้นเมื่อคืนก็เป็นงานเลี้ยงเรียบง่ายที่สนุกจนหล่อนไม่ทันสังเกตว่าจันทร์จ้าวทำอะไรอยู่ที่ใด



“นั่นซีคะ นภาหันไปทีไรก็เห็นแต่พี่จันทร์นั่งอยู่แต่ที่บาร์เครื่องดื่ม ยังพูดกับคุณหมอเลยว่าน่าสงสารพี่จันทร์” นภาสรวงพูดขึ้นบ้าง และพอพูดถึงใครอีกคน มือของจันทร์จ้าวที่กำลังจับช้อนตักข้าวต้มเข้าปากก็ชะงักไปเล็กน้อย หากแต่วินาทีต่อมา เขาก็ทำตัวเหมือนปกติ



“จะมาสงสารพี่ทำไม ถ้าพี่อยากเต้น พี่ก็เปิดเพลงสักแผ่นแล้วก็คว้าเอาผู้หญิงแถวๆนี้มาเป็นคู่เต้นรำให้พี่ก็ได้” คนเจ็บขาพูดติดตลกเพื่อให้พ้นบทสนทนาที่เกี่ยวกับคนที่เขาไม่อยากได้ยินชื่อ แต่นั่นทำเอาคุณหญิงผกาผู้แสนจะหวงบุตรชายคนรองถึงกับหันมองโดยพลัน



“พ่อจันทร์จะไปคว้าผู้หญิงคนไหน?!!”



“ผมหมายถึงมาเป็นคู่เต้นรำเท่านั้นครับ”



“ไฮ้! ไม่ได้! จะมาเป็นคู่เต้นรำก็ต้องเฟ้น เกิดพ่อจันทร์ไปคว้าแม่ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาเป็นคู่เต้นรำแล้วเกิดเขาลือกันไปทั้งกรุงเทพฯว่าแม่ผู้หญิงคนนั้นเป็นคู่รักของพ่อจันทร์จะทำยังไร?! แม่ไม่ยอมหรอกนะ!! ถ้าพ่อจันทร์จะเต้นรำกับใคร แม่ต้องรู้จักผู้หญิงคนนั้นก่อน!...” คุณหญิงผกาบ่นอย่างรวดเร็วด้วยหวั่นใจบุตรชายจะไปคว้าผู้หญิงปลายแถวมาให้หล่อนเสียใจ จันทร์จ้าวเลยต้องรีบแก้ลำอย่างว่องไว



“คุณแม่ก็รู้จักแล้วนี่ครับ คนหนึ่งชื่อดารารัษมี อีกคนชื่อนภาสรวง เห็นไหม...มีให้เลือกตั้ง ๒ คน” พอได้ยินว่าบุตรชายจะเลือกน้องสาวมาเป็นคู่เต้นรำ คุณหญิงผกาก็ค่อยเงียบลงแต่ก็ยังไม่วายค้อนตาเขียวปั้ด



“ใครจะยอมเป็นคู่เต้นรำให้พี่จันทร์กัน ทำเป็นมาเลือกเรา คิดหรือว่าเราจะยอมให้เลือก จริงไหม นภา คนเต้นรำเก่งๆน่ะมีออกถม คุณพงศ์อย่างนี้ เอ?...คุณหมอเต้นรำเก่งไหม นภา” แล้วดารารัษมีก็หันไปถามพี่สาวแฝดอีกหน จันทร์จ้าวชักหงุดหงิด ที่บทสนทนาไปไม่พ้นผู้ชายคนนั้นเสียที



“เก่งจ้ะ เธอเต้นดีทีเดียว” หล่อนชมแล้วก็พลันนึกขึ้นได้ว่าช่วงที่หล่อนเต้นรำกับเขานั้น นภาสรวงพิศดวงหน้าของนายแพทย์หนุ่มแล้วความคิดบางอย่างก็ผุดวาบขึ้นในใจจนต้องนำมาบอกเล่าที่โต๊ะอาหารเช้าในวันนี้



“...จะว่าไปเธอคล้ายพี่จันทร์อยู่นะคะ เต้นรำเก่ง สมฤดีบอกว่าเธอชอบตีเทนนิสด้วย ก่อนหน้านี้หิ้วแร็กเก็ตออกจากโรงพยาบาลทันทีที่ออกเวรแทบทุกวัน พูดภาษาฝรั่งก็เป็น แล้วเวลาคุณหมอเธอยิ้มบางๆ มองเผินๆก็คล้ายพี่จันทร์ด้วยนะคะ นี่ถ้ามีลักยิ้มเสียหน่อย คงคล้ายกันอย่างกับพี่กับน้อง” ประโยคท้ายนั้นทำเอาคนถูกยกไปเปรียบเทียบถึงกับเภียงทันควัน



“จะไปคล้ายได้อย่างไร! คนไม่ใช่พี่ใช่น้องกัน! ไม่มีวันหน้าเหมือนกันหรอก!!” สุ้มเสียงของจันทร์จ้าวแข็งกระด้าง ทำเอาคนทั้งโต๊ะเงียบกริบ และก่อนที่จะมีใครถามอะไร บุตรชายคนรองของท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาก็เอ่ยปากขึ้นมาเป็นการขอตัว



“ขอโทษครับ ผมรู้สึกอยากกาแฟ จะลงไปหากาแฟทานข้างล่าง”



แล้วร่างสูงโปร่งก็ลุกจากโต๊ะเดินลงจากเรือนไปอย่างรวดเร็ว แล้วทิ้งโต๊ะอาหารเช้าที่มีนภาสรวงนั่งหน้าซีดเผือดเอาไว้ตรงนั้น


...........................................



โต๊ะนั่งเล่นใต้ถุนเรือนมีลมโกรกเย็นสบาย จันทร์จ้าวมีกาแฟร้อนหอมฉุยถ้วยหนึ่งวางเอาไว้ตรงหน้า แต่ดูแล้วเหมือนเจ้าตัวแทบจะไม่แตะต้องมันเลย ควันร้อนที่ลอยออกมาจึงค่อยจางลงทุกทีทุกที อาทิตย์ลงจากบันไดเรือนแล้วมองน้องชายที่นั่งเหม่อทอดสายตาออกไปยังสนามหญ้าหน้าบ้านแล้วนึกสงสัย คนอย่างจันทร์จ้าวไม่ใช่คนที่จะมานั่งเฉยๆแล้วมองดูนั่นดูนี่อย่างเอื่อยเฉื่อยเช่นนี้เลย



นายทหารหนุ่มก้าวเท้าเดินเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย ทำเอาคนเป็นน้องหันมอง



“เป็นอะไรไป”



“ไม่ได้เป็นอะไร ก็ผมบอกแล้วว่าอยากกาแฟ” เพื่อย้ำว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นเป็นความจริง ชายหนุ่มจึงหยิบกาแฟขึ้นจิบเสียอึกหนึ่ง ทว่าอาทิตย์ก็ยังถามย้ำ



“มีอะไรไม่สบายใจหรือ” คนที่ปิดบังสีหน้าด้วยถ้วยกาแฟชะงักไปเล็กน้อย หากแต่ไม่ยอมตอบอะไร พี่ชายคนใหญ่ของครอบครัวจึงถามต่อ



“หรือว่าทะเลาะกับคุณหมอ...” อาทิตย์จะไม่คิดถึงหมอภวัตเลย หากไม่ใช่ว่าเมื่อวานได้ยินน้องชายละเมอถึงนายแพทย์หนุ่มผู้นั้น และอาการชะงักเพราะคำถามของเขาก็ทำให้คนตั้งคำถามรู้ในทันทีว่าจันทร์จ้าวมีเรื่องกับภวัตจริง



“ผมบอกแล้วว่าไม่มีอะไร!” ปากว่าไม่มีอะไร แต่เสียงแข็งกร้าวจนอาทิตย์ได้แต่ถอนหายใจแผ่ว



“นภาตกใจแน่ะ ที่จันทร์ตวาดเขาอย่างนั้น” จันทร์จ้าวหันมองคนพูด ก่อนจะเลยสายตาไปทางด้านหลังของอาทิตย์ นภาสรวงและดารารัษมียืนอยู่ไม่ไกล สีหน้าของแฝดผู้พี่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดจนจันทร์จ้าวสะท้อนใจ เขาวางถ้วยกาแฟลงแล้วส่งเสียงเรียก



“มานี่สินภา” หญิงสาวเดินเข้าไปหา แล้วยกมือไหว้เขาราวกับขอลุแก่โทษ



“นภาขอโทษนะคะที่ทำให้พี่จันทร์โกรธ”



“พี่ไม่ได้โกรธนภา เพียงแต่...” จันทร์จ้าวนิ่งคิดเหตุผลที่ทำให้เขาหงุดหงิด ก่อนจะแก้ต่างไปอีกเรื่อง “...กลัวว่าคุณแม่จะคิดมาก คิดว่าคุณพ่อไปมีลูกลับๆไว้ที่ไหน จู่ๆนภาก็พูดว่ามีคนมาคล้ายพี่เข้า” เหตุผลของเขาช่างฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย ทว่าก็ทำให้นภาสรวงหัวเราะเบาๆ



“พี่จันทร์น่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้”



“นภาก็อย่าโกรธพี่เลยที่พี่ตวาด พี่นอนดึกตื่นเช้า อารมณ์ไม่คงที่เท่าไร”



“นภาไม่โกรธพี่หรอกค่ะ เป็นว่าเราดีกันแล้วนะคะ พี่จันทร์ดื่มกาแฟแล้วหรือ ไม่ทานขนมด้วยล่ะคะ เข้ากันทีเดียว นภาจะไปจัดมาให้” คนเป็นน้องรีบหมุนตัวเดินเข้าครัวหมายจะหาของมากำนัลพี่ชายเพิ่มเพื่อเป็นการง้องอนให้เขาไม่นึกเคืองหล่อนอีก จันทร์จ้าวมองตามร่างเล็กบางของน้องสาวแล้วหันกลับมาพูดกับพี่ชายคนใหญ่และน้องสาวคนเล็ก



“สงสัยนภาจะใกล้ออกเรือน ดูช่างเอาอกเอาใจเสียจริง นี่ดารา...นภามีใครหรือยัง” ดารารัษมีคันปากยิบ อยากจะพูดใจจะขาดว่าช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ มีชื่อชายผู้หนึ่งหลุดออกมาจากปากพี่สาวแฝดของหล่อนบ่อยๆ ทว่าไม่ทันที่จะพูดอะไร รถยนต์คันหนึ่งก็แล่นมาจอดที่หน้าบ้าน



“หืม?...นั่นรถวังฉัตรนี่...” จันทร์จ้าวมองแต่ไกลก็จำได้ว่ารถที่แล่นมาจอดหน้าประตูรั้วเป็นรถจากวังของเพื่อนรัก เขาหันไปสั่งให้ตาพ่วงวิ่งไปเปิดประตู รถจากวังฉัตรแล่นเข้ามา แล้วตามมาด้วยรถอีกคัน



“เอ๊ะ...มีรถอีกคันด้วยค่ะ” ดารารัษมีเปรยขึ้นมา และรถคันที่ ๒ ทำให้จันทร์จ้าวถึงกับนิ่งไป



...รถยนต์ของหมอภวัต...



รถทั้ง ๒ คันจอดสนิทที่หน้าเรือนไทย ก่อนที่สตรีผู้ขับรถคันแรกมาเพียงลำพังจะลงจากรถแล้วยกมือไหว้อาทิตย์และจันทร์จ้าว ก่อนจะหันไปยิ้มทักทายให้ดารารัษมี



“สวัสดีค่ะ ขอโทษที่พิมมารบกวนแต่เช้า”



“ลมอะไรหอบมาคะนี่ แล้วทำไมมารถตั้ง ๒ คันอย่างนี้ เอ๊ะ แล้วคุณพิมมาคนเดียวหรือ คุณพงศ์ไม่มาหรือคะ” ดารารัษมีถามยาวเหยียด ก่อนจะยกมือไหว้ชายหนุ่ม ๒ คนที่ลงมาจากรถคันที่สอง...ใช่ รถของภวัตไม่ได้มีภวัตเพียงลำพัง แต่นายแพทย์หนุ่มพาน้องชายมาด้วย...จันทร์จ้าวเมินหน้าหนีไปอีกทาง ไม่ทักทาย ๒ พี่น้องบ้านวิชาญโยธินแต่ประการใด



หม่อมหลวงพิมพัชราหัวเราะเบา “ถามหลายอย่างจริงค่ะคุณดารา...” แม้จะหยอกเพื่อนเช่นนั้น แต่หญิงสาวจากวังฉัตรก็ให้ความกระจ่างในประโยคต่อมา



“พิมทำขนมมาฝากค่ะ กำลังจะออกก็พบคุณหมอกับคุณเภาเข้า พอบอกว่าจะนำขนมมาให้ที่นี่ คุณเภาก็เลยขอตามมาด้วย ส่วนที่มารถ ๒ คันเพราะขากลับจะได้สะดวกทั้งพิมทั้งคุณหมอ ไม่ต้องวนรถไปส่งให้วุ่นวาย อ้อ...แล้วก็ที่พี่พงศ์ไม่มา เพราะพี่พงศ์ต้องไปทำธุระแทนคุณพ่อค่ะ” หล่อนตอบคำถามดารารัษมี แต่ตั้งใจจะไม่พูดถึงตอนที่เภาตื้อให้หล่อนขึ้นรถไปกับเขา จนหล่อนต้องพูดเสียงแข็งใส่ว่าจะมาด้วยตัวเอง เขาถึงยอมเป็นฝ่ายขับรถตามมากับคุณหมอ



“โธ่! คุณพิม ขนมไว้ไปให้ที่โรงเรียนพรุ่งนี้ก็ได้ ไม่เห็นต้องลำบากเลย” ดารารัษมีบ่นเล็กน้อย ก่อนจะเป็นฝ่ายรับกล่องขนมมา



“ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าเอาไปให้พรุ่งนี้ก็เกรงว่าจะเสีย”



“เสีย?...ขนมอะไรคะนี่...หรือว่า...” ดูเหมือนดารารัษมีจะรู้ดีว่าขนมอะไรที่ราชนิกูลสาวเปรยว่าอยากจะทำมาฝากแต่ไม่ได้ทำเสียทีเพราะเกรงว่าจะเสียก่อนถึงมือคนรับ



“ข้าวเกรียบปากหม้อค่ะ” หญิงสาวจากวังฉัตรพูดแล้วยิ้มจาง ทว่าไม่ยอมหันกลับไปมองใครอีกคนที่ยืนเงียบๆร่วมกลุ่มด้วย ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าเขาคือคนที่ทำให้หล่อนตื่นแต่เช้ามาทำขนมเพื่อนำมาให้เขาในวันนี้



“ขอบคุณนะคะคุณพิม” ยังคงเป็นดารารัษมีแต่เพียงผู้เดียวที่พูดคุยกับหม่อมหลวงพิมพัชรา ในขณะที่อาทิตย์นั้นหันไปทักทายกับหมอภวัตและเภาเพียงเบาๆ ส่วนจันทร์จ้าวนั่งเงียบจิบกาแฟประหนึ่งไม่อยู่ในสังคมแต่อย่างใด



“คุณพ่อคุณแม่อยู่บนเรือนแน่ะค่ะ ขึ้นไปไหว้ท่านก่อนเถอะ” ดารารัษมีชักชวน และแทบจะในทันทีที่จันทร์จ้าวหันไปบอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ



“พี่ไม่ขึ้นนะ ไม่อยากเดิน”


ไม่มีใครสงสัยอะไร เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าจันทร์จ้าวมีแผลหกล้มที่หัวเข่า ดารารัษมีและอาทิตย์เป็นคนพาแขกทั้ง ๓ ขึ้นเรือน และพอลับหลังทั้งหมดแล้ว จันทร์จ้าวผู้บอกกับน้องสาวว่า ‘ไม่อยากเดิน’ ก็ลุกจากโต๊ะใต้ถุนแล้วเดินหนีออกไปทางหลังเรือน นภาสรวงที่ออกจากห้องครัวมาพร้อมขนม จึงพบเพียงถ้วยกาแฟของพี่ชายวางทิ้งเอาไว้อย่างนั้น


........................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 12-11-2015 20:53:05



จันทร์จ้าวนั่งเล่นรับลมอยู่ที่ซุ้มหลังเรือน ไม่ได้คิดจะสนใจแขกทั้ง ๓ ที่มา แม้ ๑ ใน ๓ จะเป็นสตรีผู้ไม่ได้มีเรื่องราวบาดหมางอะไรกับเขา แต่เขาก็รู้ดีว่าเธอไม่ได้มาเพื่อพบหน้าเขาอยู่แล้ว ขนมที่เธอถือมาฝาก ตั้งใจทำมาให้อาทิตย์ เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็ย่อมทราบ แต่ ๒ พี่น้องบ้านวิชาญโยธินจะทราบไหม นั่นก็สุดแท้จะคาดเดา



...แต่ไม่ทราบก็ดี จะได้อกหักเอาตอนวินาทีสุดท้าย สมน้ำหน้านายเภา วิชาญโยธิน!!...



...ส่วนอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชรา ลองว่าใจตรงกันเช่นนี้ เห็นทีข่าวดีจะมาในอีกไม่ช้า คุณชายฉัตรดูเงียบขรึมไม่เกริ่นอะไรเรื่องอาทิตย์ก็จริง แต่ก็คงถูกใจอาทิตย์ไม่น้อย ฝั่งบิดามารดาของเขาก็คงไม่ขัดข้องอะไร เพราะอีกฝ่ายก็เป็นถึงราชนิกูลสาว มีการศึกษา มีฐานะ เหมาะสมทุกประการกับอาทิตย์...แล้วถ้าถึงวันที่อาทิตย์สมหวัง เขาและภวัต...จะกลับมาคุยกันได้เหมือนเดิมอีกไหม?...



พอความคิดหยุดมาถึงตรงนี้ หัวใจของเขาก็ปวดหนึบ หากแต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ปัดมันทิ้งไปราวกับตัดใจ



...ช่างสิ จะคุยหรือไม่คุยก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร ถึงไม่คุย เขาก็แค่กลับไปเป็นจันทร์จ้าวคนเดิม คนก่อนหน้านี้ที่ไม่เคยรู้จักหมอภวัตมาก่อนก็เท่านั้นเอง...



เมื่อคิดได้เช่นนั้น ร่างโปร่งจึงเอนหลังพิงพนักของซุ้ม เขาพยายามหันไปสนใจสิ่งอื่น และเวลานี้ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าแผลถลอกที่หัวเข่าซึ่งเริ่มตกสะเก็ดทำให้คันยิบๆ จันทร์จ้าวยกหัวเข่าข้างที่ถลอกขึ้นมาดู ปกติเขาไม่ค่อยจะใส่กางเกงขาสั้นเสียเท่าไร แต่เพราะช่วงนี้เป็นแผล กางเกงขาสั้นสมัยที่ยังไม่ไปอเมริกาจึงถูกขุดขึ้นมาใส่ น่าดีใจที่มันยังพอใส่ได้อยู่ แต่ใส่แล้วรู้สึกเด็กลงอย่างไรชอบกล



“เมื่อไรจะหายสักที นี่ก็คันเหลือเกิน” เขาบ่นพึมพำ แต่รู้ดีว่าเกาไม่ได้ ดังนั้นจึงเอานิ้วเขี่ยๆดูเผื่อว่ามันจะพอช่วยดับอาการได้บ้าง



“ไม่มีใครบอกหรือ ว่าอย่าแกะสะเก็ดแผล” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้น ทำเอาคนได้ยินถึงกับชะงักแล้วเงยหน้ามองทันที เสียงที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินมาจากคนที่เขาพยายามหนีหน้าหลบมานั่งตรงนี้



...หมอภวัต...



ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาในซุ้มแล้ววางจานกระเบื้องเล็กๆที่มีข้าวเกรียบปากหม้อลงตรงหน้าเขา



“คุณนภาแบ่งข้าวเกรียบปากหม้อฝากมาให้” ภวัตว่าอย่างนั้น แม้จะเคยพูดไปแล้วว่าเขาจะไม่พูดกับจันทร์จ้าวอีก แต่สุดท้ายเมื่อวันนี้ได้มาพบหน้า แต่ต่างฝ่ายต่างทำเป็นเมิน เขาก็ยิ่งไม่สบายใจ เมื่อตอนที่กลับลงมาจากไหว้ท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาแล้วพบว่าโต๊ะใต้ถุนเรือนมีเพียงถ้วยกาแฟวางทิ้งไว้ และนภาสรวงบอกกับน้องสาวแฝดว่าจันทร์จ้าวหายไป แม้จะไม่มีพี่น้องคนใดให้ความสำคัญเสียเท่าไร เพราะคิดเอาว่าจันทร์จ้าวคงเตร่ไปเตร่มาแถวนี้ แต่เป็นเขาเองที่ร้อนใจ เจ้าตัวขายังไม่หายดีก็ยังดื้อแพ่งเดินมาถึงนี่ แล้วเมื่อครู่นี้เขาก็เห็นกับตาว่ากำลังเกาแผลที่ตกสะเก็ด น่าตีเสียจริงๆ มือบอนไม่เข้าเรื่อง!!



จันทร์จ้าวยังคงนิ่งเงียบ ใจเขาอยากประชดให้เจ็บๆแสบๆว่าไหนเมื่อวานภวัตบอกเขาเองว่าจากนี้ไปจะไม่พูดด้วยอีก แต่แล้วทำไมวันนี้ยังมาพูดกับเขาเล่า? เขาหนีมาถึงนี่ก็ยังตามมาหาเรื่องกันอยู่ได้...ทว่าจันทร์จ้าวผู้ปากเก่งคนเดิมดูเหมือนจะหดหัวอยู่ในกระดองเสียแล้ว เพราะให้อย่างไรก็ไม่กล้าพูดออกไปเช่นนั้น หัวใจบอกเขาว่าหากพูดออกไป ภวัตอาจจะไม่มาที่นี่อีกเลย



ฝ่ายหนึ่งเงียบเพราะไม่กล้าพูดอะไรให้ผิดใจ ในขณะที่อีกฝ่ายมองอาการนิ่งเงียบและเอาแต่มองไปทางอื่นด้วยความรู้สึกปวดลึกไปทั้งอก



“ขอโทษเถอะ ที่ผมผิดคำพูดที่ว่าจะไม่พูดกับคุณอีก แต่พอดีคุณนภาวานให้ผมยกขนมมาให้ก็เท่านั้น” ภวัตโกหกเสียงเรียบว่านภาสรวงวานเขาถือขนมมา ทั้งที่ในความเป็นจริงเขาเป็นคนอาสา ด้วยเพราะอยากพบหน้าอีกฝ่าย ทว่าเมื่อมาพบแล้ว จันทร์จ้าวกลับไม่คิดจะหันมามองเขาแม้แต่น้อย สายตาของหมอภวัตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความอึดอัดผสมปนเปจนน่าเวทนาจึงไปไม่ถึงอีกฝ่าย



คนขาเจ็บยังคงนั่งเฉยแล้วมองเมินไปทางอื่นประหนึ่งไม่มีภวัตอยู่ตรงนี้ด้วย และนั่นทำให้ความอดทนของนายแพทย์หนุ่มหมดลง เขาหมุนตัวแล้วเดินกลับออกไปโดยไม่หันกลับไปมองคนที่ซุ้มอีกเลย และเมื่อสิ้นเสียงฝีเท้าของภวัตแล้ว คนที่ทำเป็นมองไปทางอื่นตั้งแต่แรกก็เหลือบไปมองจานเล็กที่มีข้าวเกรียบปากหม้อจัดมาให้



...นภาวานให้ยกมาให้อย่างนั้นหรือ...หากไม่มีใครวาน ก็คงไม่ตามมา...



แค่คิดเพียงเท่านั้น ความรู้สึกบางอย่างก็จุกแน่นเสียจนร่างโปร่งต้องห่อตัวลงราวกับจะกักเก็บมันเอาไว้ คนที่เคยสง่าผ่าเผย มาวันนี้...สิ้นท่าเสียแล้ว...



........................................



ภวัตเดินกลับมาที่เรือนไทย พอดีเจอนภาสรวงออกมาจากห้องครัวอีกครั้ง หล่อนทราบแล้วว่าพวกเขามา ขึ้นไปพบหน้าตั้งแต่ตอนที่พวกเขาขึ้นไปไหว้ท่านนายพลและคุณหญิง พอลงมาพร้อมกัน หล่อนก็หายกลับเข้าไปในครัวเพื่อจัดขนมข้าวเกรียบปากหม้อฝากเด็กรับใช้ออกมาให้ภวัตใช้เป็นข้ออ้างในการตามหาจันทร์จ้าวนั่นเอง



 “ผมยกขนมไปให้คุณจันทร์น่ะครับ” เขาออกตัว กวาดสายตามองไปทั่วก็เห็นอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชรากำลังเดินดูต้นไม้กันอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน



“แล้วคนอื่นๆล่ะคะ”



“คุณดาราวานให้นายเภาขึ้นไปคุยเรื่องรถกับคุณหญิง เห็นว่าคุณหญิงจะซื้อรถอีกคันก็เลยอยากจะปรึกษา”



ตอนที่เหลือเพียง เขา เภา หม่อมหลวงพิมพัชรา ดารารัษมี และอาทิตย์นั้น จู่ๆดารารัษมีก็ไหว้วานให้เภาขึ้นไปคุยกับคุณหญิงผกาอีกรอบทั้งๆที่เพิ่งลงมา ทั้งโต๊ะจึงเหลือเพียง ๓ คน ภวัตดูเหมือนตนเองเป็นส่วนเกิน เมื่อคนรับใช้ยกจานข้าวเกรียบปากหม้อออกมาจากครัว เขาจึงอาสายกจานของจันทร์จ้าวไปให้



“อ้อ เห็นคุณแม่ท่านเปรยอยู่ว่าจะบังคับพี่จันทร์ให้ซื้อรถเสียที ตอนเธอขาเจ็บ เธอไปไหนมาไหนเองไม่สะดวก ก็ยังสู้เดินออกจากบ้านไปขึ้นรถราง คุณแม่ยังบ่นว่าน่าจะขออาศัยรถคุณพงศ์ไปทำงาน แต่พี่จันทร์เธอว่าเกรงใจไม่อยากรบกวน”



คำพูดของนภาสรวงทำเอาภวัตสะท้อนวาบไปทั้งอก เขาแวะไปทำแผลให้จันทร์จ้าวทุกวันทั้งเช้าและเย็น แต่ไม่เคยมีวันไหนจะถามคนเจ็บว่าใช้ชีวิตอย่างไร เดินทางอย่างไร เขาไม่คิดว่าจันทร์จ้าวจะออกไปขึ้นรถเอง จากหน้าบ้านเช่าเดินไปให้ถึงถนนใหญ่ก็ใกล้เสียที่ไหน กว่าจะไปถึงรถรางอีกก็คงระหกระเหินพอดู



“พี่จันทร์น่ะ บทจะไม่พึ่งใครก็ไม่พึ่งเอาเสียเลยจนน่าห่วง คุณแม่ท่านก็เลยว่าจะบังคับแล้ว อย่างน้อยมีรถก็จะได้สะดวก” ภวัตได้แต่พยักหน้ารับด้วยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียเท่าไร ชายหนุ่มรู้สึกว่าเป็นความผิดของเขาที่ถือทิฐิไม่ยอมถามอะไรเลยแล้วปล่อยให้คนเจ็บต้องเดินทางอย่างยากลำบากเช่นนั้น



สีหน้าของนายแพทย์หนุ่มอยู่ในสายตาของนภาสรวง หล่อนเห็นความไม่สบายใจของเขา แล้วพาลเป็นคิดถึงเรื่องที่พี่ชายของหล่อนก็ดูเหมือนจะไม่พอใจกับบทสนทนาที่โต๊ะอาหารเช้า ที่หล่อนและแฝดน้องพูดถึงหมอภวัต



“คุณหมอ...ทะเลาะอะไรกับพี่จันทร์หรือเปล่าคะ” ภวัตชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็แสร้งยิ้มจาง



“เปล่าครับ” พวกเขา ๒ คนไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเสียงฝีเท้าจากบันไดเรือนดังขึ้นเสียก่อน เสียงขอบคุณของดารารัษมีดังแว่วมา บอกให้รู้ว่าหล่อนและเภาลงมาแล้ว



“อ้าว! ยืนทำอะไรกันครับ แล้วคุณพิมล่ะ?” เภาลงจากเรือนมาเห็นพี่ชายและนภาสรวงยืนคุยกันก็เอ่ยปากถามพลางหันมองหาหญิงสาวอีกคนหนึ่ง



“นู่นแน่ะค่ะ ดูต้นไม้อยู่กับพี่อาทิตย์” นภาสรวงตอบแล้วบุ้ยหน้าไปทางสนามหญ้าหน้าเรือน เภามองตามในทันที ภาพของชายหนุ่มหญิงสาวที่ยืนเคียงกันพูดคุยและยิ้มแย้มทำให้ความริษยาพุ่งพล่านในใจ เมื่อครู่นี้ตอนที่ดารารัษมีไหว้วานให้เขาขึ้นไปกับหล่อน เขาเห็นว่าพี่ชายอยู่กับหญิงสาวผู้นั้นด้วย เขาจึงยอมลุกจากโต๊ะขึ้นไปพบคุณหญิงผกา ไม่คิดว่าพอเขาหายขึ้นไปบนเรือน นายอาทิตย์จะใช้วิธีอะไรก็ไม่ทราบพาคุณพิมออกไปชมนกชมไม้กัน ๒ คนเช่นนั้น!



“เรียกคุณพิมกลับเข้ามาตรงนี้ดีกว่าไหมครับ ข้างนอกนั่นร้อนจะแย่!” เภาพูดเหมือนออกความเห็น แต่เจ้าตัวหมุนตัวเดินตรงดิ่งออกไปที่สนามหญ้าโดยไม่ฟังคำทัดทานจากใคร ดารารัษมีและนภาสรวงมองหน้ากัน ส่วนภวัตก็ได้แต่ถอนหายใจเบาอย่างระอากับนิสัยของน้องชาย เขาจะไม่แปลกใจเลย หากสุดท้ายหม่อมหลวงพิมพัชราจะเลือกอาทิตย์มากกว่าเภา



บุตรชายคนเล็กของครอบครัววิชาญโยธินเดินเข้าไปพูดอะไรบางอย่างกับชายหญิงที่กำลังชื่นชมต้นไม้ดอกไม้อยู่ที่สนามหญ้า ก่อนที่ฝ่ายหญิงสาวจะยิ้มจางแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ ๑ ครั้ง เภาก็พูดอะไรอีกหน หม่อมหลวงพิมพัชราก็ส่ายหน้าอีกเป็นครั้งที่ ๒ เภาก็ยังพูดต่อ และการปฏิเสธครั้งที่ ๓ ของสตรีแห่งวังฉัตร ทั้งดารารัษมี นภาสรวงและภวัตมองเห็นว่าใบหน้าหวานพริ้มเพรานั้นดูจะขึงดุราวกับหมดความอดทน เภาจึงหมุนตัวเดินกลับเข้ามาที่ใต้ถุนเรือนเพียงลำพังด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง



“คุณพิมว่าจะดูต้นไม้! ไม่เห็นจะมีอะไรน่าดู!!” เขาบ่น แต่พอเหลือบเห็นสองสาวแฝด ชายหนุ่มก็เหมือนจะรู้ตัวว่าต้นไม้ที่เขากำลังบ่นถึงนั้นเป็นต้นไม้ของบ้านรักษพิพัฒน์ และเวลานี้เขาก็ยังเหยียบอยู่ที่นี่เสียด้วย เขาถอนหายใจเบาแต่ก็รู้ตัวดีว่าหากยังอยู่ที่นี่ต่อไป เขาอาจจะทำตัวไร้มารยาทมากขึ้นเรื่อยๆ



“พี่ภวัต ผมเพิ่งนึกออกว่ามีงานที่ต้องจัดการนิดหน่อย เรากลับกันก่อนดีไหม”



“ได้” ผู้เป็นพี่รับคำสั้น เภาจึงหันมาลานภาสรวงและดารารัษมีแล้วเดินตรงดิ่งกลับไปรอที่รถ ดูก็รู้ว่าเขากำลังหัวเสียเพียงใด ภวัตอ่อนใจกับน้องชาย ก่อนจะหันมามอง ๒ สาวแฝด



“ขอโทษนะครับคุณนภา ตอนแรกสัญญาว่าจะร่วมมื้อกลางวันด้วยแท้ๆ”



“ไม่เป็นไรค่ะคุณหมอ ไว้โอกาสหน้าก็ได้ ว่างเมื่อไรก็มาได้ทุกเมื่อ ที่นี่ยินดีต้อนรับ” นภาสรวงพูดแล้วส่งยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างเป็นมิตร



“ขอบคุณครับ คุณดารา...ผมจะขอขึ้นไปลาท่านนายพลกับคุณหญิงจะสะดวกไหม”



“คุณพ่อคุณแม่พักผ่อนอยู่แน่ะค่ะ คุณหมอกลับไปก่อนก็ได้ค่ะ ประเดี๋ยวดาราจะเรียนท่านให้เองว่าคุณหมอกับคุณเภาฝากลา” หญิงสาวว่าอย่างนั้น เพราะเห็นว่าเภาดูเร่งรีบอยากจะกลับเพียงใด



“ถ้าอย่างนั้นฝากลาและฝากขอโทษท่านด้วยนะครับ”



“ได้ค่ะ” สองสาวแฝดยกมือไหว้ชายหนุ่ม ภวัตจึงเดินไปลากับหม่อมหลวงพิมพัชราและอาทิตย์ ก่อนจะเดินกลับไปที่รถแล้วพาน้องชายออกจากบ้านรักษพิพัฒน์



นภาสรวงมองตามรถยนต์ของคุณหมอหนุ่มแล้ว ก็เปรยออกมาเสียงเบา



“แปลกนะ...คุณหมอเธอลาทุกคน ยกเว้นลาพี่จันทร์”



ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า)

เนื่องจากว่ายุคสมัยนั้นเขาไม่ค่อยจะมีการชี้โพรงให้กระรอกสักเท่าไร หมอกับคุณจันทร์ก็เลยยังสับสนอลหม่านกับความรู้สึกนึกคิดของตัวเองอีกนิดนึง เดี๋ยวต้องหาทางส่งคนมาเบิกเนตรทั้งคู่ก่อน
แต่จริงๆแล้วปากคุณจันทร์นี่น่าตบ(จูบ)มากเลย แต่ตอนนี้ถือเป็นวันของเขา ยกให้เขาก่อน ไว้ถึงวันของหมอเมื่อไร เราจะคืนความสุขให้คุณหมอเอง รับรองคุณหมอจะได้คืนทุกบาททุกสตางค์แถมกำไรด้วยเลยค่ะ วะฮ่าฮ่า

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ กำลังใจและพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 12-11-2015 20:56:32
จิ้มก่อนน้า
--------------------------------
อ่านตอนนี้แล้วเจ็บหน่วงในอกจริงๆ เลยอ่ะ สงสารหมอภวัต
แล้วที่นภาบอกว่าภวัตหน้าคล้ายจันทร์เพราะเขาเป็นเนื้อคู่กันไง~
รอวันของหมอนะ ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 12-11-2015 21:16:16
อ่านแล้วปวดใจเลย เมื่อไหร่จะดีกันสักที สงสารหมออ  :sad11:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๙ (๕ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๗)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-11-2015 21:16:47
อยากให้ดีกันเร็วๆ สงสารคุณจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-11-2015 21:23:54
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 12-11-2015 21:25:40
หายสับสนไวๆนะคุณหมอกับจันทร์  :mew1: :mew1:

คิดกันไปเองทั้งสองคนเลยย :hao4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 12-11-2015 21:31:38
สงสารคุณหมออออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Aomoto ที่ 12-11-2015 21:33:33
ติดตามและรอคอยวันพฤหัสให้มาถึงไวๆคะ ตอนนี้รู้สึกเครียดแทนคุณหมอ เมื่อไหร่จะดีกันซะที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 12-11-2015 21:36:28
ปากจันทร์นี่น่าตบจริงๆ
ถ้าไม่ใช่คุณหมอภวัตผู้แสนใจดี ใจเย็น แล้วล่ะก้
คงมีบวกอ่ะงานนี้
บอกเลยจะไม่ทนนนน #แค่นี้ก็รู้ว่าเข้าข้างใคร 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 12-11-2015 21:41:20
 :เฮ้อ: จันทร์เอ้ยยยยย
รอดูคุณหมอได้กำไร
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 12-11-2015 21:45:02
คุณจันทร์นี่นาหยิกนักเชียว เอาแต่ใจปากเก่ง ท่าเยอะ สุดท้ายก็หงอย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 12-11-2015 21:50:53
อ่าวแล้วปวดหนึบๆที่ใจตามคุณหมอ  คืนความสุขให้คุณหมอเค้าหน่อยย หมั่นจันทร์มากอะ /ตีๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 12-11-2015 21:52:07
คุณจันทร์ปากหนักมากงะะ คุณหมอมาซบเราเร็ว :mew3:  ป่วยใจกันทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 12-11-2015 21:53:55
น้องจันทร์คนดื้อ!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 12-11-2015 21:57:27
เค้ามองว่าดีนะ
ความรู้สึกของทั้งสองคนจะได้ตกผลึก
เจ็บปวดบ้าง เวลารักกันจะได้หวานๆยิ่งขึ้น

เอาใจช่วยคุณหมอกับจันทร์น่าาา
พี่อาทิตย์ด้วย ชอบที่คุณพิมชัดเจนนกับนายเภา เยี่ยม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 12-11-2015 22:19:16
อ่านแล้วน้ำตาจิไหล..มันหน่วงไปหมด.. :mew4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 12-11-2015 22:25:08
โอ้ยยยยย ใจจะขาดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 12-11-2015 22:31:57
อ่านแล้วเศร้าอ่ะ หมอน่าสงสาร จันทร์ก็ดื้อจริงเชียว ต่างคนต่างความคิดแล้วก็ไม่พูดออกมา

อีกกี่ตอนจะกลับมาดีกันนะ อยากอ่านตอนดีกันแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 12-11-2015 22:52:46
จันทร์แลดูเป็นเคะที่ติดหมอมากแน่คงแนวหึงหวงทุกฝีก้าว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-11-2015 22:54:38
บางทีก็หมั่นไส้จันทร์จ้าวอยากจะให้คุณหมอหายหน้าหายตาไปเลยจริงๆ สงสารคุณหมอต้องมาปวดใจกับคำพูดของจันทร์ #กอดปลอบคุณหมอแรงๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 12-11-2015 22:56:23
ตอนนี้อ่านอย่างไว รำคาญแม่นางจันทร์เจ้ามาก เยอะสิ่งแท้
คุณหมอน่าสงสารมาก นี่เราทีมหมอภวัตใช่ไหม อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 12-11-2015 22:58:08
คุณจันทร์นิดื้อ พยศจริงๆ
คุณหมอคะ กำราบให้อยู่มัดนะคะ ยังงี้น่องตบจูบ 5555 :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Theshadowreader ที่ 12-11-2015 23:02:38
อร้าย
 คุณหมอชวนเข้าห้องน้ำถอดกางเกงดูแผล
คิดได้อย่างไรนี่
หนุ่มดีๆที่ไหนเขาจะยอมให้ทำ

สองสามตอนแล้วที่จันทร์ประพฤติตนน่าตีเสียจริง :เฮ้อ:
รอวันจันทร์คิดได้
อยากเห็นโมเม้นต์จันทร์ง้อคุณหมอบ้าง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 12-11-2015 23:11:41
หมอผิด หมอใจเยนไม่มากพอ 555
#ทีมจันทร์เจ้า เต็มสตรีม
ความเอาแต่ใจคือความน่ารักของจันทร์เจ้า เคนะ 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 12-11-2015 23:14:28
ใครจะมาเบิกเนตรจันทร์จ้าวน้อ รอลุ้นค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-11-2015 23:17:18
บางครั้งก็รู้สึกสมน้ำหน่าจันทร์นะ
ปล. คุณหมอน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 12-11-2015 23:33:16
เมื่อไหร่เค้าจะดีกัน :katai1:

อ่านแล้วหน่วงใจอ่ะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-11-2015 23:41:36
จันทร์นี้ก็ ดื้อที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 12-11-2015 23:45:20
อ่านแล้วอึมครึมไปหมดเลย ; __ ; .. เหมือนจะเข้าข้างหมอมากกว่านิดๆ คือเข้าใจความรู้สึกหมออ่ะค่ะ
เหมือนเป็นฝ่ายวิ่งตามอยู่ฝ่ายเดียว ตามไปทำแผลให้ทั้งๆที่เจ้าตัวก็เงียบ พอชวนคุยก็พาทะเลาะ ถึงจะลั่นไปแล้วว่าจะไม่คุยด้วยอีก
สุดท้ายก็เป็นฝ่ายเข้ามาคุยก่อน แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่พูดอะไรซักคำ .. เป็นเราคงเฟลแบบเฟลโคตรๆอ่ะ ยิ่งกว่าโดนตบหน้าอีก
อยากให้จันทร์เป็นฝ่ายไปง้อหมอเลยคราวนี้ ถ้าหมอยังต้องง้ออีกเราจะงอนจริงๆด้วย T ____ T สงสารหมออ่าาาา

เป็นกำลังใจให้นะคะ อยากข้ามเวลาไปพฤหัสหน้าแล้ว TT ถ้าแต่งจบแล้วส่งนาบูแล้วก็ขายเลยเถอะค่ะ อยากซื้อแล้ว ฮือ TTTT
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 13-11-2015 00:10:51
ยังคงยืนยันว่าชอบมาม่าของหมอกับจันทร์จ้าวมาก    ทะเลาะกันเเต่เราเขินอะ  คู่รักชัดๆเมื่อไรจะรู้ตัว    ส่งคนชี้โพรงมาเถอะค่ะ  รอให้คุณหมอได้กำไรอยู่  อิอิ   เหมือนตอนนี้เริ่มเล็งเห็นคนชี้โพรงเเล้วนภากับคุณพงศ์  ถ้าเห็นอะไรก็อย่าลืมรีบๆไปบอกกระรอกนะคะ   คนอ่านรออยู่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-11-2015 00:30:07
ด้วยเพราะปกติมีแต่คนยอมลงให้กับเจ้าตัวตลอด การจะง้อใครสักคนเลยดูเป็นเรื่องยากไปเลยนะคะสำหรับจันทร์จ้าว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 13-11-2015 00:36:47
สงสารหมอ คุณจันทร์นิสัยไม่ดี :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-11-2015 00:39:47
สงสารทั้งคู่สับสนในอารมณ์ไม่พอ คิดสวนทางกันอีก แต่อย่างนี้ก็ดีจันทร์จะได้เข้าใจตัวเองเสียทีว่าที่เป็นทุกข์อยู่นี้เพราะรักหมอภวัตเข้าให้แล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-11-2015 00:41:57
น่าตีจริง
คนหนึ่งทิฐิมาก ปากร้าย อีกคนก็ช่างขี้น้อยใจ

เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 13-11-2015 00:44:06
งอนนานๆ เราชอบ
ลงที่น้องมันไม่ได้ ก็ลงคนพี่นี่แหละ พาลเหมือนจันทร์เลย ฮ่าๆๆ
แบบว่าไม่ค่อยปลื้มน้องชายคุณหมอเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 13-11-2015 01:14:30
ตอนนี้อึดอัดทั้งสองฝ่ายเลยนะคับ คุณจันทร์ก็ไม่ยอมอ่อนให้คุณหมอสักที
ระวังวันนึงคุณหมอเหนื่อยที่จะตามขึ้นมา แล้วจะรู้สึก
 :onion_asleep:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: jungjiyoo ที่ 13-11-2015 02:04:16
โอ่ยหน่วงงงง นี้ขนาดเค้ายังไม่เป็นแฟนกันยังหน่วงงงงน้ำตาเล็ดเลยอ่าน้องบัว มายาวสะใจมาก อ่านไปก็ลุ้นไป แอบหมั่นใส่นายเภานะ วุ่นวายแบบนี้ต้องมีผัวแก่กว่าจะดี!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 13-11-2015 02:09:22
สมัยนั้นก็คงไม่มีใครกล้าที่จะชี้โพรงให้กระรอกหรอกค่ะ
อย่าว่าแต่ยอมรับเลย แค่พูดถึงยังไม่ค่อยมีใครทำกันเลย
มีการเปรียบเปรยด้วยซ้ำด้วยคำว่าวิปริตผิดเพศ
แถมการร่วมเพศกับเพศเดียวกันยังผิดกฏหมายที่มีมาตั้งแค่รัชกาลที่ 5
จนมายกเลิกในปี2499
แค่มีคนถามหรือเปรียบเปรย
ก็น่าจะพอให้คนสองคนที่รู้สึกอะไรพิเศษต่อกันรู้สึกตัวแล้วมังคะ
แค่ชายพงศ์ดูแลเพื่อนสนิทคุณหมอก็รู้สึกแปลกๆแล้วนะ

ขอติงคุณจันทร์จริงๆ  ทำอะไรไม่งามเลยค่ะ
นี่ขนาดเราแค่เจน X ยังตะหงิดๆเลยแล้วผู้ใหญ่สมัยนั้นล่ะคะ?
อย่างตอนงานเลี้ยงต้อนรับอยู่ๆก็โพล่งขึ้นมาว่าอยากกาแฟ
ทั้งๆที่ผู้ใหญ่ก็ยังนั่งอยู่
เหวี่ยงวีนไปทั่ว ขนาดไม่ใช่ที่บ้านของตัวเอง
เหวี่ยงใส่แขกของคนอื่น แม้จะเป็นเพื่อนสนิทแต่ก็ไม่ได้ไว้หน้ากันเลย
คุณหมอน่าจะจับคุณจันทร์พาดเข่าแล้วฟาดก้นแรงปราบพยศไปเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 13-11-2015 02:28:18
ยืนยันคำเดิม หมั่นไส้จันทร์ คุณหมอใจแข็งบ้าง เอาให้เข็ด คนอะไรชอบทำร้ายจิตใตคนอื่น
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 13-11-2015 02:45:36
หืมมม หน่วงมาก
รู้สึกสงสารคุณหมอจับใจ คุณจันทร์เธอช่างเอาแต่ใจ  55555555   
คุณจันทร์นั่นแหละ รีบไปง้อคุณหมอเลย คุณหมอเธอเสียใจไม่รู้หรือ
หายโกรธกันไวๆน้าา 
นี่แค่ที่บ้านกับวัง คนอ่านเกรงว่าพายุอารมณ์คุณจันทร์จะถล่มออฟฟิศด้วยนะซี   
อยากให้ถึงพฤหัสหน้าไวๆ นี่ถึงกับนั่งเก็งกำไรทบต้นทบดอกแทนหมอภวัตเลยนะ 
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 13-11-2015 03:16:53
รอวันหมอเอาคืน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 13-11-2015 03:57:46
คุณหมอก็ผิดเหมือนกันนั่นแหละ คิดเองเออเอง พูดจาทำร้ายจิตใจคุณจันทร์ด้วย
คุณจันทร์ไม่ใช่ไม่อยากคุยแต่กลัวพูดด้วยแล้วจะยิ่งเผลอทำคุณหมอเสียใจ
หมอไม่ช่างสังเกตุเล๊ยยยยยย แล้วมาเข้าใจคุณจันทร์ผิดคิดว่าเค้าไม่เห็นหมออยู่ในสายตา
ทีมจันทร์เจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นคุณจันทร์ทำไรก็ไม่ผิด 5555555555
รำคาญนายเภามากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: sujusaranghae ที่ 13-11-2015 05:08:06
คุณหมอคนดีมาก อิจฉาจันทร์
ส่วนจันทร์ อารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจ แต่น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 13-11-2015 07:21:07
สงสารหมอ คุณจันทร์ปากน่าตบจูบจริงๆ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 13-11-2015 07:40:46
ตอนนี้นึกว่าหมอจะจูบคุณจันทร์เสียแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 13-11-2015 07:48:02
เป็นช่วงที่อึมครึมมากเลย แต่จะรอวันที่หมอได้กำไรคืนอย่างที่คนเขียนบอกน้าา 555 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 13-11-2015 08:22:36
เป็นตอนที่ได้อ่านนิยายยาวแบบจุใจ   และได้อ่านความคิดเห็นหลากหลาย ที่อ่านไปยิ้มไป
  แบบว่าคุณจันทร์น่ารัก ทำอะไรก็ไม่ผิด  :impress3:
แต่มาดูสินบนคุณบัวที่ให้ไว้ว่า จะคืนความสุขให้คุณหมอ ทั้งต้นทั้งดอกทั้งกำไรอีกมากมาย
ก็น่าจะเชียร์ให้คุณจันทร์ เอาแต่ใจไปอีกสักนิด :impress2:
  ขอบคุณ คุณบัว ที่เขียนนิยายมาให้อ่าน  :L2: :pig2: 

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 13-11-2015 08:34:44
ชอบสนุกมากกกกกกกก เรารอวันคุณหมอถอนทุนคืน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 13-11-2015 08:41:19
พี่จันทร์มีแต่คนเอ็นดู คนตามใจ ไม่มีใครกล้าขัดใจ นางเลยดื้อ เอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ แต่จริงๆนางน่ารักนะ

เสียใจที่ทำร้ายจิตใจคนอื่น สำนึกผิดอยู่บ้าง แต่อีโก้ไง ค่อยๆสอนน้องไปนะคะคุณหมอ คนแบบนี้ถ้าปราบพยศได้จะน่ารักสุดจิตสุดใจเลยล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-11-2015 09:26:47
คุณบัวจะทำตามสัญญาและขอเวลาอีกไม่นานใช่ไหมคะ ที่ว่าจะคืนความสุขให้คุณหมออ่ะค่ะ :z1:
ตอนนี้อยากหยิกจันทร์เจ้ามาก ขี้งอนอะไรอย่างนี้ ตัวเองก็น่าจะวางใจนะ เพราะท่าทางคุณพิมเธอเอนเอียงมาทางพี่อาทิตย์จะตาย มัวแต่งอนคุณหมออยู่ได้ :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 13-11-2015 09:43:01
คุณจันทร์ใจร้าย ปากก็ร้ายยยย :hao5:
น่าจับตีก้นเสียให้หลาบจำ :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 13-11-2015 10:01:05
คู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมน่ารัก

คุณหมอกับจันทร์ ปากแข็งทั้งคู่ ปากแข็งใจอ่อน 5555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 13-11-2015 10:26:25
ปวดหัวกับพี่จันทร์จริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 13-11-2015 10:34:41
 :เฮ้อ: ทิฐิจังไม่ยอมคุยกันดีๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 13-11-2015 11:09:53
คุณจันทร์นี่น่าหยิกจริงเชียว ทำคุณหมอปวดใจขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 13-11-2015 11:56:14
อื่มมมมม   ช่วงนี้คงเป็นช่วงพ่อแง่ แม่งอน กันซินะ






คุณจันทร์เธอช่างแสนงอน







คุณหมอก็อย่าไปถือเอามาเป็นอารมณ์เลยนะ







ยอมๆเธอหน่อย ปะเดี๋ยวเธอก็หายโกรธเองแหละ







ตอนนี้ดูท่าทีแล้ว  ใจเธอก็ อ่อนลงเยอะแล้ว







ง้อเธอหน่อยนะคะคุณหมอ   แม้ว่าเราจะไม่ผิด







 แต่ว่า ตาเภาน้องหมอก็นิสัยไม่น่ารักเลย แบบนี้ต้องให้คุณพงษ์จัดการ







ขี้เอาแต่ใจ ใจร้อน  ขี้เหวี่ยง แบบนี้คุณพงษ์รับมือใหว


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 13-11-2015 12:15:27
เราปลอบใจหมอเองก็ได้นะจันทร์ :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-11-2015 12:19:35
คุณหมอน่าสงสารรรร
มามะมาให้เราปลอบ 5555

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 13-11-2015 12:30:16
โอ๊ย คุณจันทร์เจ้าขาาาา ใจอ่อนซะทีเถ๊อะะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 13-11-2015 12:57:59
คุณหมอพูดขนาดนั้นแต่ เรารู้สึกว่าคุณจันทร์เองก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดไม่รู้สึกอะไร
แต่เจ้าตัวดูทิฐิสูงมากกกก ไม่ยอมอ่อนให้คุณหมอก่อน ดื้อเสียจริงๆ เราทีมคุณหมอค่ะ 55555
สงสารคุณหมอจับใจ ห่วงก็ห่วง หวงก็หวง แต่ดันน ไม่หันหน้าหนีไม่คุยกันซะอีก เห้อออ
รีบคืนความสุขให้คุณหมอเร็วๆ  สงสารเธอจะแย่ละ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 13-11-2015 13:24:36
ทีมคุณหมอค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-11-2015 15:31:28
พ่อจันทร์นี่น่าหยิกให้เนื้อเขียวนักเชียว ไม่เข้าเรื่องเลยย ไม่ดีๆ เลิกดื้อกับหมอซะทีสิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 13-11-2015 18:07:44
จันทร์นี่ก็ทิฐิเหลือเกิน
น่าจะคิดได้นะเรื่องแค่นี้เอง
เฮ้ออ มันน่าปวดใจ
 :z3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 13-11-2015 18:28:31
คงมีวันที่จันทร์เจ้า(จ้าว?)จะเต็มใบ แต่ว่าหัวใจหมอภวัตจะมีใหมวันนั้น แสนดื้อ เอาแต่ใจซะขนาดเน้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 13-11-2015 18:39:36
ต่อให้จันทร์ไปก่อน รอวันนั้นของคุณหมอ

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 13-11-2015 20:04:49
รอวันที่จะคืนความสุขให้หมอ!!!!!

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 13-11-2015 20:51:41
เข้าใจกันไปคนละอย่างทั้งคู่ อิชั้นล่ะเหนื่อยใจกับคุณเธอทั้งสองเลยจริง ๆ  :z3:

แต่คุณจันทร์เห็นจะหนักสุด ลดทิฐิลงหน่อยเถิดพ่อ อะไร ๆมันจะได้ราบรื่นหน่อย ฮ่าาา

แต่เอาจริง ๆ ก็ชอบอ่านบทเค้าง้องอนกันนะ น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-11-2015 21:02:06
พฤหัสหน้านี่เป็นวันของหมอเลยได้มะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 13-11-2015 21:28:05
ขอเบิกตัวช่วยค่ะ!!



คุยกันเถ้อออออออ ร่างกายขาดน้ำตาลไม่ดีนะจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 13-11-2015 21:58:48
คุณจันทร์นี่น่าตีจริงๆ
รอวันคืนความสุขให้กับคุณหมอเองคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-11-2015 22:34:14
จะเปงยังไงละเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 13-11-2015 22:47:59
อยากให้ถึงวันของหมอไวๆ แต่ตอนนี้ต้องการกามเทพ
มาแผลงศรใส่ทั้งคู่มากค่ะ ปากแข็งกันเหลือเกิน
โดยเฉพาะ จันทร์เจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 14-11-2015 09:40:35

คุณหมอที่ถลำตัวไปเต็มๆแล้วนะคะ...
เดาว่าจังหวะที่หมอถามตัวเองว่าคิดยังไงกับจันทร์
คุณหมอต้องยอมรับตัวเองได้เร็วและเด็ดขาดแหงๆเลย
ส่วนกว่าคุณจันทร์ของบ่าว คงใช้เวลาอีกนานกว่าจะผ่านด่านลดทิฐิลงมาได้
ตอนนี้ก็ได้แต่หวังให้คุณหมอเข้มแข็งและไม่ถอดใจจากคุณจันทร์ไปเสียก่อน... เนอะ

คุณหมอสู้ๆ คุณบัวสู้ๆค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 14-11-2015 11:08:15
แนะนำให้คุณหมอจับฉีดยา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 14-11-2015 11:28:32
จันทร์จ้าวปากน่าตบจิง แอบสะใจตอนนี้ที่คุณหมอโาโหบ้าง ให้จันทร์รู้สึกมั่งว่า คนอื่นก้เจ็บเป็นน เชอะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 14-11-2015 12:00:12
แหมๆ ชื่อเรืื่องก็บอกอยู่ว่าจันทร์จ้าว เพราะงั้นจันทร์จะทำอะไรก็ไม่ผิดค่ะ#ทีมจันทร์ ไว้บัวเปลี่ยนชื่อเป็น เรื่องภวัตก่อนจะบ่นจันทร์ให้หูชา หมอคะรักน้องต้องง้อน้องค่ะจะมัวทิถิไม่ได้อะไรนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 14-11-2015 15:46:32
น้ำตาไหลทุกเรื่องของคุณบัว เขียนดีมากกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: zamziz ที่ 14-11-2015 17:53:58
บีบคั้นหัวใจที่สุด จะรอวันนั้นที่เป็นวันของคุณหมอนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 14-11-2015 20:52:15
ต้นเหตุของความเสียใจ ก็คือความจริงที่เราไม่พูดกัน ไม่เคยจะมองตากัน~ :o12:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Zalzah_iP ที่ 15-11-2015 11:16:09
อ่านแล้วก็ถึงบางอ้อว่า สมัยก่อนเขาจีบกันอย่างนี้หรือนี่ ช่างมุ้งมิ้งเสียจริง เอะอ่ะตีเทนนิสๆ ฮาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 15-11-2015 15:48:27
ได้กำลังใจจากคุณบัวนี่แหละ
รอวันที่คืนกำไรให้หมออยู่นะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 15-11-2015 21:46:44
คุณจันทร์!!! น่าตีจริงเชียว!!

พูดแบบนั้นกับพี่หมอได้ยังไงคะลูก ไม่งามเลย

สงสารคุณหมอ สงสารจันทร์ด้วย

รอวันคุณหมอเอาคืน อิอิ

ปล. ไม่ชอบคนแบบเภาเลยจริงๆ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 16-11-2015 09:45:24
คุณจันทร์ก็ใจแข็งซะจริง สงสารคุณหมอ ดูท่าแล้วคุณหมอคงจะรู้ใจตัวเองก่อนคุณจันทร์แน่ๆ ซดมาม่ากันไปตามระเบียบ อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆT T
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 16-11-2015 11:09:06
ภาวนาให้ตอนที่หมอเดินหนี แล้วจ้าวไปจับชายเสื้ออ   :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 16-11-2015 21:12:52
อ๊ายยยย คุณจันทร์น่าตีจริงเชียว
คุณหมอก็ง้อเข้าไปอีกนิดสิจ้าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-11-2015 09:54:02
จันทร์เจ้า ดื้อมาก ๆ

หมอ น่าสงสารอ่าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 19-11-2015 00:34:49
เข้ามารอ ณ วันพฤหัสที่ดีเหมือนฝันค่ะ T ___ T .. สัปดาห์นี้มีแต่เรื่องแย่ๆ จะรออ่านเรื่องดีๆนะคะ ; ;
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 19-11-2015 00:55:11
โอย เหนื่อยใจกับความขวางและทิฐิของจันทร์จ้าว อย่างนี้ต้องวานให้คุณหมอภวัตช่วย...จูบหวานๆ ให้จันทร์จ้าวอ่อนระทวยทีเถอะค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะเป็นคนชี้โพรงให้กระรอกภวัตและกระรอกจันทร์จ้าวเอง จะได้เนตรฟ้าตาใสสว่างจ้านักแล คราวนี้รับรองว่า บ้านเช่าหลังน้อยต้องเป็นเรือนหอรอรักแน่ๆ

ดิฉันชอบอาทิตย์นะคะ ดูเป็นชายหนุ่มที่อบอุ่นและรักจริงมากๆ และดิฉันมีความคิดว่า ถ้ามีใครจะรับความสัมพันธ์ของหมอภวัตกับจันทร์จ้าวได้คนแรก ก็คงเป็นพี่อาทิตน์นี่แหละ เพราะดูเขาเป็นคนรักน้องมากๆ

รออ่านตอนต่อไปนะคะคุณบัว ขอบคุณมากๆ ค่ะ ได้อ่านสองตอนรวดเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 19-11-2015 07:48:07
มารอจันทร์จ้าวอยากอ่านแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 19-11-2015 11:59:03
คิดถึงจันทร์แล้วอะวันนี้จะมาไหมน้าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 19-11-2015 14:20:47
ตั้งตารอวันนี้แบบสุด อยากเจอจันทร์จ้าว  อยากเจอคุณหมอภวัต
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 19-11-2015 17:52:53
รอคอยมากมายอ่ะ นอลุ้นให้ผ่านช่วงอึดอัดนี้ซะที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 19-11-2015 18:53:34
ตั้งตารอคอยให้ถึงวันพฤหัสไวๆ ในที่สุดก็ถึง คิดถึงคุณหมอมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 19-11-2015 19:10:03
วันนี้หมอนัดค่าาา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 19-11-2015 19:10:23
 :impress3:

เหมือนวันพฤหัส จะมาช้าเลย

รอคุณหมอปราบพยศคุณจันทร์

คิดถึงแล้วค่าาา...

  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 19-11-2015 19:30:29
เวียนมาบรรจบครบสัปดาห์  วันนี้ที่รอคอยกับวันพฤหัสดีๆ ดีใจจ๊นตัวสั่นระริกระรี้
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 19-11-2015 19:56:15
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๑๑



หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหายหน้าไปจากสำนักงานอีกหลายวัน โผล่เข้ามาอีกทีในเช้าวันพุธของสัปดาห์ต่อมา และทันทีที่โผล่ขึ้นมาที่สำนักงานชั้น ๒ เรย์มอนด์ อดัมส์ก็รีบถลาเข้าไปหาด้วยสีหน้าตื่นตะลึงสุดขีด



“คุณพงศ์!!! มาได้เสียที รู้ไหมที่นี่เกิดเรื่องใหญ่มาก!!!”



คำว่าเรื่องใหญ่มากของเพื่อนชาวต่างชาติ ราชนิกูลหนุ่มไม่อาจคิดว่าเป็นเรื่องอื่นเรื่องใด นอกเสียจากเรื่องของ ‘จันทร์จ้าว’ ดวงตาของเขาเหลือบไปมองที่ประตูห้องทำงานของเพื่อนรักโดยพลัน เรย์มอนด์เห็นสายตาแล้วก็รีบสำทับ



“ใช่เลย! คุณพงศ์ นั่นน่ะมนุษย์ที่แปลกที่สุดในโลก!!”



“เกิดอะไรขึ้นอีก หรือว่า...จันทร์อาละวาดอีกแล้ว”



นายฝรั่งส่ายหน้าหวือ



“ไม่ใช่ๆ คราวนี้ไม่อาละวาด คราวนี้มาแนวใหม่แน่ะ!!”



“แนวใหม่?”



“ใช่! หน้านิ่ง ไม่พูดกับใครสักคน แล้วเมื่อวันจันทร์ หนังสือมาถึงใช่ไหมล่ะ ปรากฏว่ามันขาดไปเล่มนึง พวกพนักงานเขาก็กลัวจะโดนด่า หัวหดกันหมด ผมก็เลยต้องเข้าไปคุยด้วย คุณพงศ์รู้ไหม? จันทร์ว่าอย่างไร จันทร์ไม่ว่าอะไรเลย!! มีด้วยหรือคุณพงศ์! จันทร์ที่ไม่ว่าอะไรใครเลยน่ะ!!” เรย์มอนด์ทำหน้าตาตื่นตกใจอย่างถึงที่สุดเมื่อเล่าย้อนความพิกลชวนให้อกสั่นขวัญแขวนกันทั้งสำนักงานมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ หม่อมหลวงพงส์ภราธรขมวดคิ้วมุ่นแล้วเหลือบตากลับไปมองที่ประตูห้องทำงานของเพื่อนรักที่ยังปิดเงียบ
 


...หรือว่าเรื่องไม่ชอบมาพากลนี้จะเกี่ยวกับคุณหมอ...เมื่อวันอาทิตย์ พอเขากลับมาที่วังและพบกับน้องสาว เขาถามถึงเรื่องหมอภวัตและจันทร์จ้าว พิมพัชราบอกกับเขาว่าตอนแรกคุณหมอและน้องชายจะอยู่รับประทานอาหารกลางวันที่บ้านรักษพิพัฒน์ แต่ไปๆมาๆกลับขอตัวกลับตั้งแต่ยังไม่เที่ยงด้วยซ้ำ...



“คุณพงศ์ เอาอย่างไรดีเล่า นี่พวกพนักงานเขาจะคิดเอาได้นะ ว่าจันทร์มันผีเข้า!! ผมล่ะว่าแล้วเชียว! ตอนเราจะซื้อที่นี่เพื่อทำสำนักงาน เราน่าจะหา...หาอะไรนะ...พวกหมอจีนที่รับดูดวงดูฤกษ์ดูทิศดูทางน่ะ อ้อ...ซินแส! ใช่! ผมเห็นพวกคนไทยคนจีนใกล้บ้านพักผมเขาไปตามซินแสมาดูให้ เราพลาดจริงๆน่ะคุณพงศ์ ไปหาซินแสมาดูให้ตอนนี้จะทันไหม”



ราชนิกูลหนุ่มเหลือบตามองนายฝรั่งตัวโตพูดไทยชัดแล้วเอ่ยปากถามอย่างเอือมระอา



“เรย์ คุณเรียนจบอะไรมา”



“วิศวะฯน่ะซี คุณพงศ์ก็ทราบนี่ ถามทำไมหรือ”



“เรียนจบวิศวะฯ ยังคิดเรื่องผีเข้าอีกหรือ” ถูกประชดเข้าให้แบบนั้น เรย์มอนด์ก็ทำหน้าหงอยขึ้นมา “โธ่...ก็จันทร์อารมณ์ร้ายน้อยเสียเมื่อไร เดี๋ยวก็ดุ เดี๋ยวก็ดี นี่คราวนี้มาเงียบๆอย่างนี้ น่ากลัวกว่าทุกทีแยะเลย”



“เอาเถอะ เดี๋ยวผมเข้าไปคุยเอง แล้วหนังสือที่ส่งมาอยู่ในห้องจันทร์ใช่ไหม”



“ใช่ ขาดไปเล่มหนึ่ง แต่ผมจัดการสั่งใหม่แล้ว เขาจะส่งตามมาให้” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องทำงานของเพื่อนรัก เขาเคาะประตูให้สัญญาณ ๓ ที ก่อนจะเปิดประตูแล้วหายลับเข้าไป โดยมีเรย์มอนด์มองตามด้วยความอยากรู้อยากเห็นและห่วงใยเป็นที่สุด



“ขอให้พระเจ้าคุ้มครองด้วยเถอะ”



.................................


 
ห้องทำงานเล็กๆที่กั้นมาจากส่วนสำนักงานเป็นทั้งห้องทำงานของจันทร์จ้าวและห้องเก็บของ แม้จะแน่นไปด้วยลังใส่หนังสือที่ส่งมาถึงหมาดๆ แต่ก็เป็นระเบียบและเรียบร้อย หม่อมหลวงพงศ์ภราธรกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะกลับมาหยุดสายตาที่เพื่อนรัก ซึ่งยังนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงาน



“มีอะไรหรือคุณพงศ์” จันทร์จ้าวออกจะประหลาดใจ ที่อีกฝ่ายโผล่เข้ามาในห้องของเขาแล้วก็ไม่พูดอะไร หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเสยิ้มกว้าง



“เห็นว่าหนังสือมาแล้ว เลยจะมาดูหน่อยน่ะ”



“อ้อ กล่องตรงนั้น” เจ้าของห้องชี้ไปที่กล่องมุมห้องซึ่งวางซ้อนกันสูง ราชนิกูลหนุ่มเดินไปยกมาดูราวกับสนใจนักหนา ทั้งๆที่ในใจของเขากำลังคิดหาทางสังเกตพฤติกรรมเพื่อนรักว่าเป็นจริงอย่างที่เรย์มอนด์ว่าหรือไม่



“พวกหนังสือนิตยสาร ผมสั่งให้คนเอาลงไปวางที่ร้านแล้ว ในกล่องนั่นเหลือแต่พวกหนังสือที่สั่งมาตามออเดอร์ ส่วนกล่องล่างเป็นหนังสือที่ทางนั้นส่งมาให้ลองอ่านดู คุณพงศ์เอาไปแจกคนเถอะ เอาไว้ในลังอย่างนั้นเราก็คงไม่ได้อ่าน”


หนังสือทั้งหมดล้วนเป็นภาษาอังกฤษซึ่งมีจำนวนมากเกินกว่าจะอ่านกันหมด โดยเฉพาะจันทร์จ้าวที่ไม่ใช่คนชอบอ่าน ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะนึกครึ้มหยิบมาลองอ่านดู หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหยิบขึ้นมาดูผ่านๆ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งเป็นหนังสือทางการแพทย์



“เล่มนี้เกี่ยวกับการผ่าตัดนี่...”



คำว่าผ่าตัด ทำเอาเจ้าของห้องทำงานแห่งนี้ชะงักไปในทันที เขามีเพื่อนหลายคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการผ่าตัด แต่ทำไมกลับคิดถึงคนเพียงคนเดียว...



“คุณพงศ์เอาไปฝากหมอสิ...” แล้วจู่ๆ เพื่อนรักของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็เสนอขึ้นมา คนฟังหันไปมองในทันที



“หมอไหน?” ไม่มีคำตอบ นอกจากคนเสนอที่ลดสายตาลงอ่านเอกสารในมือต่อ ท่าทางเซื่องซึมของเพื่อนรักทำให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรต้องเดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน



“แกได้เจอคุณหมอบ้างไหม”



คำถามนั้นทำเอาจันทร์จ้าวนิ่งงัน รู้สึกตีบตันไปทั้งลำคอ แต่ก็พยายามเค้นเสียงตอบให้ปกติที่สุดที่จะสามารถทำได้

 

“เมื่อวันอาทิตย์...คุณพิมแล้วก็...หมอกับน้องชายมาที่บ้าน” คนฟังพยักหน้ารับสั้นๆ เรื่องเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้เป็นน้องสาวเล่าทุกอย่างให้เขาฟังหมดแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่เภาติดตามเธอไปที่บ้านรักษพิพัฒน์ แต่เมื่อเขาถามเรื่องหมอภวัตและจันทร์จ้าว หญิงสาวกลับบอกว่าหมอเป็นคนยกขนมไปให้จันทร์จ้าวที่ปลีกวิเวก แล้วหลังจากนั้นก็พาเภากลับไปทั้งๆที่ตอนแรกว่าจะร่วมมื้อกลางวันด้วย



...เรื่องหมอภวัตและจันทร์จ้าวนี่ล่ะ ที่เขาอยากรู้...



“แกได้คุยกับคุณหมอไหม” หม่อมหลวงพงศภราธรตั้งคำถามอีกครั้ง



“เปล่า...เจอกันแป๊บเดียว นภาวาน เขาก็เลยยกขนมมาให้ แล้วก็...กลับไป” คำพูดของจันทร์จ้าวนั้นขาดห้วง ท่าทีก็เซื่องซึมพิกล คนตั้งคำถามมองท่าทางเหมือนคนใจคอเลื่อนลอยของเพื่อนรักแล้วก็สรุปได้ว่าจันทร์จ้าวไม่ได้โดนผีเข้าอย่างที่เรย์มอนด์ว่า แต่เจ้าตัวกำลัง...เสียใจ...



...และคนที่ทำให้จันทร์จ้าวเสียใจ ก็มีคนเดียวในเวลานี้...หมอภวัต...



“คุณหมอเธอกลับไปเพราะแกหรือ” คำถามของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทำให้จันทร์จ้าวนิ่งไป ด้วยเพราะวันนั้นเขาก็สะท้อนใจเมื่อพบว่ามื้อกลางวัน หมอภวัตและเภาไม่ได้ร่วมโต๊ะด้วย โดยนภาสรวงเป็นคนอธิบายกับบิดามารดาของเขาว่า ๒ พี่น้องวิชาญโยธินรีบกลับเพราะเภาติดงาน แต่จันทร์จ้าวคิดว่าหมอมีเหตุผลส่วนตัว...เหตุผลส่วนตัวที่ไม่อยากร่วมโต๊ะกับเขา



“คงจะ...อย่างนั้น...”



“แกไปหาเรื่องเขาหรือเปล่า” จันทร์จ้าวยกยิ้มที่มุมปาก ทว่าเป็นรอยยิ้มที่เวทนาตัวเองเต็มทน



“จะมีปัญญาไปหาเรื่องอะไรเขา แค่คุยกันยังไม่คุยเลย” หรือหากนภาสรวงไม่วานให้ยกขนมไปให้ หมอก็คงไม่เดินตามไปหาเขา จันทร์จ้าวรู้สึกเหมือนตนเองเป็นคนไร้ค่าและไม่มีความสำคัญในสายตานายแพทย์ผู้นั้น



“แล้วทำไมแกไม่ชวนเขาคุย”

 

“ไม่ได้หรอก...” ชายหนุ่มร่างโปร่งพูดเรียบๆ ดวงตาเลื่อนลอยราวกับตกอยู่ในภวังค์ของความเจ็บปวดและเสียใจ “...ยิ่งผมพูดอะไร ก้รังแต่จะทำให้ทะเลาะกัน แล้วอีกอย่าง...ผมกับเขาตกลงกันแล้ว เราจะไม่คุยกันอีก...”



แม้จะมีเงื่อนไขที่ว่าจนกว่าเรื่องของหม่อมหลวงพิมพัชราจะเรียบร้อย แต่สิ่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อกันอยู่ในขณะนี้ยากเกินกว่าจะกลับไปสนิทสนมกันเช่นเดิม



จันทร์จ้าวถามตนเองว่าความบาดหมางของเขาและหมอภวัตเริ่มมาจากตรงไหน เขาโกรธที่รู้ว่าน้องชายของหมอชอบราชนิกูลสาวคนเดียวกับพี่ชายของเขา แต่ความโกรธนั้นไม่สู้ความโกรธเรื่องที่หมอไม่ยอมพูดเรื่องนี้ให้เขาฟัง แล้วจากความโกรธก็กลายเป็นการทะเลาะ จากการทะเลาะกลายเป็นความหมางเมิน...และในที่สุด...พวกเขาจะไม่มีวันกลับมาคบหากันได้อีก...

 

...แค่คิดเช่นนั้น หัวใจที่เต้นอยู่ในอกก็เหมือนจะบีบรัดรุนแรงเสียจนผู้เป็นเจ้าของต้องงุ้มไหล่เข้าหากันราวกับจะปกป้องมันเอาไว้...



หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองสีหน้าปราศจากรอยยิ้มของเพื่อนรักด้วยความสะท้อนใจ จันทร์จ้าวเสียใจแค่ไหน ทำไมเขาจะดูไม่ออก



...หากทะเลาะกันเพราะอีกฝ่ายเป็นเพื่อน จันทร์จ้าวจะเสียใจถึงเพียงนี้หรือ เขาคบหากับบุตรชายคนรองของบ้านรักษพิพัฒน์มานาน ไม่ใช่ว่าเพื่อนของเขาไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่น แต่จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ไม่เคยเจ็บปวดกับการทะเลาะหรือผิดใจครั้งไหนเท่าครั้งนี้มาก่อน...



...หมอทำให้เพื่อนของเขาเปลี่ยนไป...



“ถ้าหากไม่มีข้อตกลงนั้น แกอยากจะคุยกับเขาไหม” จันทร์จ้าวชะงัก ดวงตากลมใหญ่เหลือบมองเจ้าของคำถาม หากแต่ในช่วงอึดใจต่อมา ดวงตากลมก็กะพริบถี่แล้วหัวเราะเสียงขื่น



“คุณพงศ์ถามแปลก ต่อให้ผมไม่คุยกับเขา ผมก็คุยกับคนอื่นได้ ผมมีเพื่อนคนเดียวเสียเมื่อไรล่ะ”
 
 

“แกมีเพื่อนหลายคนน่ะ กันรู้ แต่คนทื่ชื่อภวัต วิชาญโยธินมีคนเดียวไม่ใช่หรือ และสำหรับความรู้สึกบางอย่าง...แค่คนเพียงคนเดียวก็เกินพอแล้ว” คำพูดของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทำให้หัวใจของจันทร์จ้าวกระตุก ดวงตากลมเหลือบสบดวงตาของเพื่อนรักอย่างตื่นตะลึง ยิ่งเห็นสายตาเช่นนั้น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ยิ่งแน่ใจ



“คุณพงศ์หมายความว่าอย่างไร”


 
“แกถามตัวเองเถอะจันทร์ ที่แกโกรธคุณหมอเป็นวรรคเป็นเวร เพราะอะไร เพราะน้องชายคุณหมอชอบยายพิม หรือเพราะคุณหมอไม่ยอมบอกแก หากแกโกรธคุณหมอเพราะข้อแรก กันว่ามันไม่แปลกไปหน่อยหรือที่แกโกรธคนอื่นด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องข้ามวันข้ามคืน ปกติแกโกรธใครนานเสียที่ไหน หรือที่จริงแล้ว แกไม่ได้โกรธเพราะนายเภาชอบยายพิม แต่แกโกรธเพราะคุณหมอไม่ยอมบอกแก”



“แล้วมันจะต่างกันอย่างไรล่ะ ไม่ว่าจะเหตุผลไหน ผมก็โกรธหมออยู่ดี”



“ต่างสิ ถ้าแกโกรธเพราะนายเภาชอบยายพิม นั่นแสดงว่าแกโกรธนายเภา แต่ถ้าแกโกรธเพราะคุณหมอไม่ยอมบอกแก นั่นแสดงว่าแกโกรธคุณหมอ โกรธเพราะคุณหมอไม่ยอมบอกเรื่องนี้ให้แกทราบ โกรธเพราะแกคิดว่าคุณหมอปิดบังแก โกรธเพราะแกต้องการการเอาใจใส่จากคุณหมอมากกว่าที่ควร”



“คุณพงศ์! พูดอะไรอย่างนั้น! ผมไม่ได้ต้องการความใจใส่อะไรจากหมอ...” จันทร์จ้าวร้อง ทว่าไม่อาจพูดได้จนจบ เพราะสายตาจากหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทำให้เขาพูดไม่ออก


 
“แกต้องการความใจใส่จากคุณหมอ และไม่ใช่ความใจใส่อย่างธรรมดาเหมือนที่แกต้องการจากคนอื่นๆ แต่แกต้องการจากคุณหมอมากกว่าที่แกต้องการจากคนไหนๆ แกน่าจะรู้ใจตัวเองมากกว่ากันเสียอีก แต่เอาเถอะ เวลานี้แกกำลังหูหนวกตาบอดเพราะเอาแต่ ‘งอน’ กันจะใบ้เอาบุญก็แล้วกัน จันทร์ แกน่ะมีเพื่อนหลายคน แต่มีเพื่อนคนไหนที่แกเคยรู้สึกกับเขา เหมือนกับที่แกรู้สึกกับคุณหมอตอนนี้ไหม”



คำถามของคนที่ยืนอยู่อีกฝากของโต๊ะ ทำให้จันทร์จ้าวยิ่งพูดไม่ออก แล้วกลายเป็นเบี่ยงสายตาหนีไปทางอื่น ด้วยไม่กล้าสบตาตรงๆ เวลานี้คนเก่งกล้าสามารถไม่กล้าแม้แต่จะก้มลงมองหัวใจตัวเองด้วยซ้ำว่ามีคำตอบให้กับคำถามที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรฝากถามหรือไม่



“กันไปก่อนล่ะ จะเอาหนังสือไปฝากคุณหมอ” ราชนิกูลหนุ่มเดินออกจากห้องไปพร้อมกับหนังสือในมือ แล้วทิ้งให้จันทร์จ้าวอยู่ในห้องทำงานที่เงียบเชียบเพียงลำพัง


......................................


   ทายาทแห่งวังฉัตรทำตามที่ปากพูด คือนำหนังสือมาฝากภวัตที่โรงพยบาบาล ตอนที่เขามาถึงโรงพยาบาลนั้น ชายหนุ่มจงใจจะไม่ไปพบภวัตด้วยตนเอง เพราะเขาต้องการสืบถามเรื่องจากคนรอบข้างภวัตเสียก่อน



   “สวัสดีครับ คุณสมฤดี” และแน่นอน ว่าไม่มีคนรอบข้างของภวัตคนไหนในโรงพยาบาลที่เขาจะรู้จักดีไปกว่าสมฤดี เพื่อนของ ๒ สาวแฝดรักษพิพัฒน์อีกแล้ว



   “สวัสดีค่ะ คุณพงศ์ เป็นอะไรมาคะนี่” พยาบาลสาวยกมือไหว้เขาอย่างมีมารยาทแล้วถามไถ่อย่างห่วงใย หล่อนเป็นเพื่อนของดารารัษมีและนภาสรวงนานพอๆกับที่ชายหนุ่มผู้นี้เป็นเพื่อนกับจันทร์จ้าว สมัยก่อนเขาไปเที่ยวเล่นที่บ้านรักษพิพัฒน์ออกบ่อย หล่อนที่อยู่ข้างบ้านก็ได้พบปะเขาบ่อยเช่นกัน



   “ไม่ได้เป็นอะไรครับ มาหาคุณหมอภวัตเท่านั้น”



   “ถ้าอย่างนั้นสมจะไปเรียนคุณหมอให้นะคะ”



   “อย่าเพิ่งครับ ผมมีเรื่องอยากจะสอบถามคุณก่อน พอจะมีเวลาสักครู่ไหมครับ”



นางพยาบาลสาวทำหน้าฉงนก่อนจะพยักหน้ารับ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจึงเชิญให้ออกไปคุยกันที่สวนด้านข้างตึกซึ่งค่อนข้างเงียบสงบ



   คำถามที่เขาถามหล่อนมีไม่มาก ทั้งหมดล้วนถามเกี่ยวกับพฤติกรรมของภวัตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ และคำตอบที่ราชนิกูลหนุ่มได้รับ ก็ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย



   ‘คุณหมอ...เธอแทบจะไม่พูดกับใครเลยค่ะ ช่วงนี้สมก็ว่าเธอดูเคร่งเครียดทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คนไข้เยอะกว่านี้ก็ไม่เห็นจะเป็นเช่นนี้ พอลองถามดู เธอก็ว่าไม่เป็นไร ยังบอกให้เธอไปตีเทนนิสบ้าง เห็นก่อนหน้านี้เธอชอบไป เธอก็ว่าคงจะไม่ไปอีกแล้ว เธอมีเรื่องอะไรหรือคะ สมพอจะช่วยได้ไหม’



   ตอนแรกหม่อมหลวงพงศ์ภราธรคิดเอาเองว่าคงจะมีแค่เพื่อนของเขาฝ่ายเดียวที่มีปฏิกริยากับเรื่องของภวัต แต่กลายเป็นภวัตก็น่าจะมีปฏิกริยากับเรื่องของจันทร์จ้าวเช่นกัน



   เขาไม่ได้พูดอะไรกับสมฤดี เพราะคิดว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะที่จะมีคนรู้มากไปกว่านี้ ความรู้สึกบางอย่างก็ไม่ควรจะเปิดเผย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นความรู้สึกของจันทร์จ้าวและภวัต



   ชายหนุ่มยังคงรออยู่ในสวนข้างตึกหลังจากวานให้สมฤดีไปบอกภวัตว่าเขามาขอพบ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรคิดไม่ตกว่าจะบอกภวัตอย่างไรดี เวลานี้ทั้งภวัตและจันทร์จ้าวหมางเมินกันด้วยข้อตกลงที่เขาคิดว่าไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย แต่คนอย่างจันทร์จ้าว มีเรื่องสมเหตุสมผลในชีวิตเสียที่ไหนล่ะ ขนาดเรื่อง...เรื่องที่เจ้าตัวรู้สึกเช่นไรกับหมอภวัต ตัวเขายังไม่คิดว่าจะเป็นจริงได้เลย



   “สวัสดีครับคุณพงศ์” เสียงทักทายดังขึ้นด้านหลัง ทำเอาคนกำลังคิดสะระตะต้องหันไปมองแล้วส่งยิ้มกว้างเป็นเชิงทักทายเช่นกัน



   “สวัสดีครับคุณหมอ ขอโทษที่มารบกวนแต่เช้า พอดีหนังสือมาถึงแล้ว ผมก็เลยเอามาให้ตามที่สัญญาไว้น่ะครับ” ราชนิกูลหนุ่มส่งถุงหนังสือในมือให้กับนายแพทย์ภวัต อีกฝ่ายรับไปเปิดดู ในนั้นมีหนังสือ ๒-๓ เล่ม มีเล่มหนึ่งที่เป็นหนังสือเกี่ยวกับผ่าตัด



   “ผมกำลังว่าจะสั่งซื้อพอดี เท่าไรหรือครับ คุณพงศ์” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรส่ายหน้าไปมา



   “ไม่คิดมูลค่าหรอกครับ เป็นของสมนาคุณต่างหาก”



   “ขอบคุณครับ เอาไว้คราวหน้า ให้ผมเลี้ยงข้าวสักมื้อเป็นการตอบแทนก็แล้วกัน” คนฟังหัวเราะเบาๆ



   “เห็นทีคงต้องไปเลี้ยงนายจันทร์แล้วล่ะครับ เขาเป็นคนบอกให้ผมเอาหนังสือมาให้คุณหมอ...โดยเฉพาะเล่มที่เกี่ยวกับการผ่าตัดนั่น” คำพูดของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทำให้หมอภวัตนิ่งชะงักไปในทันที ชื่อของจันทร์จ้าวมีอิทธิพลกับเขาเหลือเกิน แม้ไม่พบหน้า แต่ก็ยังมาตามวนเวียนอยู่ในสมอง หรืออย่างน้อยๆก็ยังมีคนมาพูดให้คิดถึง



   ...ทั้งๆที่...จะไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอีกแล้วด้วยซ้ำ...



   ท่าทางนิ่งขรึมของนายแพทย์หนุ่ม ทำให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเวทนา จันทร์จ้าวและภวัตไม่ได้ต่างกันไปเลย ต่างฝ่ายต่างอมทุกข์ ทั้งๆที่ถ้าผิดใจแล้วจะทุกข์เสียขนาดนี้ เหตุใดไม่หันหน้าคุยกันหนอ



   ‘...ผมกับเขาตกลงกันแล้ว เราจะไม่คุยกันอีก...’ เสียงอ่อนระโหยของจันทร์จ้าวยิ่งทำให้ชายหนุ่มแห่งวังฉัตรทนไม่ได้ เขาถอนหายใจยาวแล้วตัดสินใจเอ่ยปาก



   “ผมถามจริงๆเถอะครับ คุณหมอโกรธจันทร์มากหรือ”



   “คุณพงศ์คงต้องไปถามเพื่อนคุณพงศ์มากกว่า ว่าเขาโกรธเกลียดอะไรผมนัก”



   “เขาอาจจะโกรธอยู่บ้าง แต่ให้เกลียดคุณหมอ ผมว่าเป็นไปไม่ได้” คำพูดของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทำให้นายแพทย์หนุ่มหันมองเขาในทันทีด้วยสายตาสงสัย หากแต่วินาทีต่อมาก็กลายเป็นยกยิ้มราวกับสมเพชตัวเอง



   “เชื่อยากนะครับคุณพงศ์ เขาดีกับผม ๓ วัน อีก ๔ วันเขาก็ทะเลาะกับผม หากไม่โกรธเกลียดกันจริง ก็คงทำเช่นนี้ไม่ได้”



   “แต่เขาก็ไม่เคยดีกับใคร ๓ วันแล้วอีก ๔ วันทะเลาะแบบที่เขาทำกับคุณหมอ” คำพูดของราชนิกูลหนุ่ม ทำให้รอยยิ้มสมเพชตนเองของนายแพทย์ภวัตคลายลง เขาสบตากับคนพูด ทว่าหม่อมหลวงพงศ์ภราธรกลับยิ้มให้เขาอย่างบางเบา



   “ทั้งผมและจันทร์มีเพื่อนแยะนะครับคุณหมอ เรามีเพื่อนหลายคนที่เป็นหมอหรือพยาบาล เรามีเพื่อนหลายคนที่ควรจะได้อ่านหนังสือเล่มที่อยู่ในมือคุณ แต่รู้ไหม...จันทร์กลับบอกผมให้เอามามาฝากคุณคนเดียว” 


 
อันที่จริง เขาควรจะจับความรู้สึกของจันทร์จ้าวถูกตั้งแต่แรกแล้ว คนมนุษยสัมพันธ์ดีแบบจันทร์จ้าว มีเพื่อนฝูงล้อมหน้าล้อมหลังมากมาย แต่ช่วงที่ผ่านมา เจ้าตัวกลับให้ความสนใจกับภวัตเพียงคนเดียว ยอมให้ภวัตมารับมาส่ง ยอมให้ภวัตพาไปรับประทานอาหาร ตัวติดกับภวัตเป็นตังเม คนอย่างจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์น่ะหรือติดคนอื่นถึงเพียงนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะถูกใจ มีหรือคนอย่างจันทร์จ้าวจะยอมไปไหนมาไหนด้วย แต่เพราะทั้งเพื่อนเขาและหมอภวัตเป็นผู้ชาย ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรจึงยังสองจิตสองใจ จนกระทั่งจันทร์จ้าวทำตัวผิดปกติกลายเป็นคนเงียบขรึมไปตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เขาไม่ได้บอกทั้งเพื่อนและบอกทั้งหมอ ว่าเขาเห็นตอนที่ภวัตลากจันทร์จ้าวออกไปคุยที่ระเบียง และหลังจากนั้น...งานเลี้ยงก็ไม่สนุกสำหรับเพื่อนเขาอีก



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรปล่อยให้ความเงียบรายล้อมรอบตัวพวกเขาครู่หนึ่ง ก็ถอนหายใจเบา แม้ความรู้สึกของจันทร์จ้าวที่มีต่อหมอภวัตจะแปลกไปสักหน่อย แต่...ก็อย่างที่เขาเคยพูด เรื่องความรักมันแบ่งชาติ แบ่งศาสนา แบ่งเพศเสียที่ไหน บทจะรักก็รัก ห้ามกันไม่ได้...



   “คุณหมอครับ ผมเป็นเพื่อนเขามานาน และผมคิดว่าผมรู้จักนิสัยเพื่อนของผมดี จันทร์จ้าวเป็นคนอารมณ์ร้อน หุนหันพลันแล่นก็จริงแต่ไม่ใช่คนโกรธเกลียดหรือหาเรื่องทะเลาะกับใครง่ายๆ ตรงกันข้าม เขาไม่สนใจใครด้วยซ้ำว่าใครจะรู้สึกเช่นไรกับเขา เขารักแต่ความสนุก คืออยู่กับใครแล้วสนุกเขาก็อยู่ด้วย แต่กับคุณหมอ...เขาไม่ชอบคุณหมอในคราวแรกๆ แต่ต่อมาก็ยอมสนิทสนมด้วย เรื่องนี้ ๑ ล่ะที่ผมมองว่าเพื่อนผมเปลี่ยนไป หากเขาไม่ชอบใคร เขาจะไม่เอาตัวเองเข้าไปวุ่นวายด้วยอีกเลย แต่เขาก็กลับไปสนิทกับคุณหมอได้ ซ้ำพอสนิทกันแล้ว จันทร์กลับติดคุณหมอหนึบ นี่ก็เรื่องที่ ๒ เพราะเพื่อนของผมคนนี้ขี้เบื่อ กับเพื่อนผู้หญิงสวยๆ เขายังพบหน้าแต่ละคน ๒ วันครั้ง หรือ ๓ วันครั้งเลย แต่กับคุณหมอ เขากลับยอมพบหน้าแทบทุกวัน จะว่าคุณหมอตามใจเพื่อนผม จนเพื่อนผมติดอกติดใจก็เห็นจะไม่ใช่ ผมคิดว่าคุณหมอไม่ใช่คนตามใจใครตะพึดตะพือ ถึงแม้ว่าเพื่อนผมคนนี้จะน่าตามใจก็ตามที ส่วนเรื่องที่ ๓ หากเขาโกรธกับใครแล้ว เขาจะไม่ยอมแม้แต่จะมองหน้า แต่กับคุณหมอ ตอนที่เขาโกรธแล้วหกล้มที่สโมสร เขาก็ยอมให้คุณหมอทำแผล ยอมให้คุณหมอพากลับไปส่งบ้าน และผมทราบมาว่าเขายอมให้คุณหมอแวะไปทำแผลให้ทั้งเช้าและเย็น ถึงเขาจะพยศอย่างไร แต่สุดท้ายเขาก็ยอมให้คุณหมอบังคับเขาทุกอย่าง ซึ่งเพื่อนผมคนนี้ไม่เคยเป็นเช่นนั้น”



ภวัตได้แต่นิ่งฟัง และความนิ่งของเขาพอจะทำให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรใจชื้นว่านายแพทย์หนุ่มคงจะทำความเข้าใจในคำพูดแสนยาวของเขาได้



   “คุณหมอเอง เท่าที่ผมรู้จักมา เป็นคนมนุษยสัมพัยธ์ดี มีเพื่อนมากมาย แต่ผมไม่เคยเห็นคุณหมอสนิทกับเพื่อนคนไหนเท่าเพื่อนของผมคนนี้ ทั้งไปรับไปส่ง ทั้งพาไปตีเทนนิส และถึงแม้คุณหมอจะเป็นห่วงเป็นใยคนรอบข้าง แต่ก็ไม่ใช่คนที่แบกรับความรู้สึกเหล่านั้นใส่ตัวมากถึงเพียงนี้ไม่ใช่หรือครับ คุณหมอเป็นหมอ พบเจอความเสียใจ ความพลัดพรากมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ แค่ทะเลาะกับ `เพื่อน’ คนหนึ่งกลับทำให้คุณหมอเศร้าใจถึงเพียงนี้ ผมว่า ‘เพื่อน’ คนนั้นคงสำคัญพอดูทีเดียว” ภวัตเหลือบมองคนพูดในวินาทีนั้นด้วยความตกตะลึงไม่คิดว่าจะได้ยิน แต่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรกลับยิ้มบางอีกหน



   “ผมพูดถึงเพียงนี้แล้ว คุณหมอคงตัดสินใจอะไรได้ และคงพอจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของเพื่อนผม เขาอาจจะปากแข็งไปบ้าง โยกโย้หรือทำเป็นอมพะนำ แต่ผมเชื่อว่าคุณหมอฉลาดพอจะทำให้เขายอมบอกว่าเขารู้สึกกับคุณหมอเช่นไร...”



ภวัตพูดอะไรไม่ออกเพราะเข้าใจในทุกคำของราชนิกูลหนุ่มเป็นอย่างดี หากสิ่งที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดไม่ใช่เรื่องโกหก ความรู้สึกของเขาและจันทร์จ้าวก็ไม่ได้แตกต่างกันตรงใดเลย แต่...ความรู้สึกของพวกเขาตรงกันแล้วจะได้อะไร ในเมื่อเรื่องของอาทิตย์ หม่อมหลวงพิมพัชราและเภายังคงเป็นเสี้ยนสากอยู่ในใจ หรือต่อให้เรื่องนี้จบไป เรื่องของพวกเขา ๒ คนก็ไม่มีทางกลับมาบรรจบกันได้อยู่ดี



นายแพทย์หนุ่มได้แต่ปล่อยให้ทายาทวังฉัตรค้อมศีรษะขอตัวจากไป แล้วเขาก็ทำได้เพียงก้มลงมองหนังสือในมือแล้วหวนคิดถึงใครบางคน



...ใครบางคน...ที่ยิ่งคิดถึง ก็ยิ่งรับรู้ถึงความเป็นไปไม่ได้มากขึ้นทุกที


........................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 19-11-2015 19:57:12
คำพูดของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรยังดังอยู่ในหัว พอๆกับที่หัวใจของจันทร์จ้าวไม่สงบเอาเสียเลย ก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามันด้านชาไปแล้วเพราะผิดใจกับใครบางคน แต่เพื่อนราชนิกูลของเขาเป็นคนกวนให้ขุ่นจนตะกอนที่ตกผลึกอยู่เบื้องล่างซึ่งเขาเคยมองข้ามไปหมุนวนขึ้นมาให้ได้สังเกตอีกครั้ง



‘แกถามตัวเองเถอะจันทร์ แกมีเพื่อนหลายคน มีเพื่อนคนไหนที่แกเคยรู้สึกกับเขา เหมือนกับที่แกรู้สึกกับคุณหมอตอนนี้ไหม’



จันทร์จ้าวเคยคิดว่าภวัตเป็นเพียงเพื่อน เป็นเพื่อนที่มีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกันโดยบังเอิญ เป็นเพื่อนที่ทำให้เขาสุขใจสบายใจเวลาอยู่ใกล้ แต่...เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเพื่อนคนนี้จะทำให้เขาร้อนเป็นไฟยามที่ผิดใจกัน



ภายนอก อาจจะดูนิ่งเงียบและไม่แสดงออก แต่ทุกวันนี้ที่เอาแต่ทำงานและอ่านหนังสือ จันทร์จ้าวรู้ดีว่าทำไปทั้งหมดก็เพื่อไม่ให้คิดถึงหน้าหมอภวัตอีก เพราะอะไร...เพราะอะไรใครคนนั้นจึงอยู่ในใจเขามากถึงเพียงนี้...



ร่างโปร่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะ มือหนึ่งเลื่อนลิ้นชักชั้นบนสุดแล้วหยิบเศษกระดาษแผ่นเล็กที่มีเบอร์โทรศัพท์โรงพยาบาลถูกเขียนเป็นระเบียบอยู่บนนั้น ปลายนิ้วลูบตัวอักษรแผ่วเบาราวกับจะส่งความรู้สึกบางอย่างไปสู่เจ้าของลายมือนี้ได้ ทว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือหัวใจของตนเองบีบรัดหนักหน่วงราวกับมีบ่วงบาศมาคล้องรัดเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ



“หมอ...” ริมฝีปากสีสดครางแผ่วเบา ความรู้สึกที่มีในขณะนี้ ต่อให้รู้ก็ไม่อาจทำอะไรได้อีกแล้ว


..........................................



   วันนี้เป็นวันประหลาดในรอบปี นอกจากจะเป็นวันที่จันทร์จ้าวทำตัวพิลึกพิลั่นสำหรับคนทั้งสำนักงานแล้ว วันนี้ยังเป็นวันที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตระเวนไปแทบจะรอบเมือง ที่แรกคือสำนักงานของตนและผองเพื่อน ที่ที่ ๒ คือโรงพยาบาลใหญ่เพื่อพบหมอภวัต และที่ที่ ๓ สำหรับวันนี้คือกรมทหาร



   “สวัสดีครับ คุณพงศ์”


อาทิตย์ในชุดเครื่องแบบนายทหารเดินออกมาพบคนที่มานั่งรอ หลังจากเมื่อครู่มีคนไปตามเขาบอกว่าหม่อมหลวงพงศ์ภราธรมาขอพบเป็นการส่วนตัวสักครู่



   “สวัสดีครับคุณอาทิตย์ กำลังยุ่งหรือเปล่า ขอโทษที่มารบกวนกะทันหัน”



   “เปล่าครับ มีอะไรหรือครับ” อาทิตย์ออกจะประหลาดใจไม่น้อย แม้น้องชายของเขาจะสนิทสนมกับชายผู้นี้ แต่เขาก็ไม่ได้สนิทสนมกับราชนิกูลหนุ่มมากพอที่จะทำให้อีกฝ่ายมาพบเขาถึงที่กรมเช่นนี้



   “ผมแค่อยากคุยด้วยสักหน่อย ออกไปคุยกันข้างนอกได้ไหม” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเดินนำออกจากกรม แถวนี้พอจะมีมุมใต้ต้นไม้สงบๆให้พวกเขาได้พูดคุยกันอยู่



   อาทิตย์เดินตามออกมา และพอเหลือกันเพียงแค่ ๒ คนแล้ว ทายาทแห่งวังฉัตรก็หันมาพูดกับอาทิตย์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง



   “ผมขอถามคุณอาทิตย์อย่างตรงไปตรงมา ขอความกรุณาให้ตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน ผมปล่อยให้ทุกอย่างเอื่อยเฉื่อยไม่ได้อีกแล้ว เพราะมีคนอีก ๒ คนเดือดร้อนกับเรื่องนี้...คุณอาทิตย์รู้สึกเช่นไรกับน้องสาวของผมหรือ” คนถูกถามนิ่งไปในทันที ตอนแรกเขาก็สงสัยกับคำพูดของอีกฝ่ายเรื่องที่มีคนอีก ๒ คนเดือดร้อน แต่ประโยคคำถามประโยคสุดท้ายดึงสติและสมาธิทั้งมวลของชายหนุ่มให้จมดิ่งไปกับชื่อนั้น



   …หม่อมหลวงพิมพัชรา...



   “ช่วยตอบผมทีเถอะคุณอาทิตย์ คุณรู้สึกเช่นไรกับยายพิมหรือ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรู้ความรู้สึกของน้องสาวตนดี พิมพัชราเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยมก็จริง แต่ไม่มีเพื่อนต่างเพศคนใดที่เธอทำขนมไปให้ และไม่มีเพื่อนต่างเพศคนใดที่ทำให้เธอนำดอกไม้ของกำนัลจากคนผู้นั้นมาทำเป็นดอกไม้แห้งแล้วเก็บไว้ในห้องนอน



   ...มีแค่อาทิตย์เท่านั้น ที่พิมพัชราทำเช่นนี้...



   “ผม...รักคุณพิมครับ” นายทหารหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทว่ามั่นคงและจริงจัง คนฟังโล่งอกไปเปราะ ชายหญิงคู่นี้มีความรู้สึกตรงกัน ที่เหลือก็มีแค่ความสัมพันธ์ที่ต้องพัฒนาอย่างเปิดเผยเสียที



   “เอ่อ...อันที่จริง...ผมก็ยังไม่เคยบอกเรื่องนี้กับคุณพิม ผมไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ หากรู้ว่าผมรู้สึกเช่นไรกับเธอ เวลานี้...การเป็นเพื่อนก็คงจะ...” อาทิตย์ยังคงเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอ และนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ไม่คืบหน้าเสียที



   “การเป็นเพื่อนไม่เพียงพออีกแล้วคุณอาทิตย์ คุณอาทิตย์ไปบอกยายพิมเรื่องนี้เถอะ ผมยืนยันว่ายายพิมจะดีใจ” อาทิตย์เงยหน้ามองคนแนะนำด้วยความประหลาดใจที่จู่ๆ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็มาพูดเรื่องนี้กับเขา ซ้ำยังดูเหมือนจะสนับสนุนเขาเสียด้วย



   “ทำไมคุณพงศ์ถึง...เอ่อ...ที่ว่ามีคนอีก ๒ คนเดือดร้อน นี่หมายความว่าอย่างไรหรือครับ” หวนกลับไปที่เรื่องเดิม คนถูกถามเริ่มอึกอัก เขาไม่น่าออกปากไปเช่นนั้นอย่างใจร้อนเลย เพราะอยากช่วยเพื่อนรักแท้ๆ ถึงได้พูดเช่นนั้นออกไป



   “ก็...๒ คนที่ว่า...คือผมกับนายจันทร์อย่างไรล่ะ พวกเราเห็นพี่น้องเรารู้สึกดีต่อกัน ก็อยากให้สมหวังกันเสียที ไม่อย่างนั้นล่ะเดือดร้อนแย่” แล้วหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ทว่าอาทิตย์ไม่ทันได้สงสัยอะไร เขาได้แต่พยักหน้ารับสั้นๆ



   “แล้วว่าอย่างไร คุณอาทิตย์คิดจะขอยายพิมคบหากันอย่างคนรักเมื่อไร”



   “เอ่อ...ก็...” อาทิตย์นึกเขินวาบในอก เมื่อเขาคิดว่าวันนี้เขามีนัดที่จะไปรับหม่อมหลวงพิมพัชราที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี โดยมีดารารัษมีเป็นตัวตั้งตัวตีเพราะรายนั้นบอกว่าอยากจะรับประทานไอศกรีมอีกแล้ว



   “วันนี้...ผมจะไปรับดาราและคุณพิม พาไปรับประทานไอศกรีมครับ...”



   “ไม่ต้องพาคุณดาราไปแล้ว ไปกับยายพิม ๒ คนก็พอ จะได้คุยกันให้รู้เรื่องไป เอ่อ...ผมไม่ได้เร่งหรอก แต่...เอ่อ...ยายพิมก็ ๒๐ แล้ว ผมก็อยากให้น้องผมเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที หรือคุณอาทิตย์ไม่คิดจริงจังถึงขั้นนั้น?”



   “ไม่นะครับ ผมจริงจัง!” นายทหารหนุ่มรีบตอบเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิดคิดว่าเขารู้สึกกับหญิงสาวเพียงแค่หยอกเล่น ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว ความรู้สึกที่เขามีให้เธอ มันพอกพูนมาตั้งแต่ก่อนเธอจะไปเรียนยุโรปเสียด้วยซ้ำ



   “ดีมากคุณอาทิตย์ จริงจังก็ต้องทำให้ทุกอย่างชัดเจน...วันนี้ไปจัดการเสีย แล้วพรุ่งนี้เข้าไปรายงานเรื่องนี้ที่วังด้วย ผมจะได้เรียนคุณพ่ออย่างเป็นทางการ วันนี้ต้องกลับล่ะ ผมมีเรื่องต้องทำอีกเพียบ” หลังจากมัดมือชกเรียบร้อย หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ค้อมศีรษะเชิงลา แล้วจึงหมุนตัวเดินออกไป



   เย็นวันนั้น เมื่ออาทิตย์ขับรถโฟล์คสีดำไปที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีก่อนเวลานัด เขาก็ขอคุยกับดารารัษมีเป็นการส่วนตัว ไม่ทราบพูดเรื่องอะไร แต่สุดท้าย ค่ำวันนั้นก็มีคนตาดีเห็นเพียงอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชรารับประทานไอศกรีมกันเพียง ๒ คนนั่นเอง


............................................


   ความสัมพันธ์ของอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราเป็นที่ทราบกันทั้งบ้านรักษพิพัฒน์และวังฉัตร ตอนแรกจันทร์จ้าวยังไม่ทราบ แม้ว่าตอนเย็นวันศุกร์จะเป็นอาทิตย์ที่แวะไปรับเขาจากบ้านเช่ากลับมาที่บ้านเรือนไทย เพราะพี่ชายยังคงขับรถอย่างเงียบๆเฉกเช่นทุกที แต่พอรถจอดที่หน้าบ้าน ดารารัษมีกับนภาสรวงก็วิ่งถลามาเปิดประตูให้เขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม



   “เป็นอะไรน่ะดารา นภา” เขาถามพร้อมรอยยิ้มจางเช่นเคย ดารารัษมีเหลือบตาไปมองอาทิตย์ที่เพิ่งลงจากรถแล้วก็กลับมามองพี่ชายคนรองตามเดิม



   “พี่อาทิตย์เล่าหรือยังคะ?”



   “เล่า?...เล่าอะไร” จันทร์จ้าวหันไปมองพี่ชายคนใหญ่ก่อนจะหันกลับมามองดารารัษมีอีกครั้ง



   “ก็เรื่องพี่อาทิตย์กับคุณพิม”



   “หืม? เรื่องพี่อาทิตย์กับคุณพิม?....” คราวนี้จันทร์จ้าวหันไปมองอาทิตย์เต็มตา พี่ชายผู้เป็นนายทหารทำหน้าเก้อเขินเล็กน้อยตามนิสัย แต่เพียงเท่านั้นจันทร์จ้าวก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหันกลับมามองน้องสาวที่ยืนยิ้มให้เขาอย่างดีใจไม่แพ้กัน



   “นี่อย่าบอกนะว่า...”



   “ค่ะ! พี่อาทิตย์กับคุณพิมเป็นคนรักกันแล้ว!! ดาราดีใจที่สุดเลย!!” ดารารัษมีเขย่าแขนพี่ชายคนรองด้วยความปิติ หล่อนไม่ทราบว่าเพราะอะไรเรื่องของอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราจึงดำเนินมาถึงสถานะนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็คงไม่พ้นจันทร์จ้าว เขาคงทำอะไรสักอย่าง อาทิตย์จึงตัดสินใจสารภาพความในใจกับเพื่อนครูของหล่อน และแน่นอน หม่อมหลวงพิมพัชราตอบรับคำสารภาพนั้น!



   “อะไรกัน พี่อาทิตย์ไม่เล่าสักคำ นั่งรถกลับมาด้วยกันแท้ๆ” จันทร์จ้าวหันไปบ่นพี่ชายด้วยสีหน้าล้อเลียน ยิ่งทำให้อาทิตย์เขินหนักกว่าเดิม



   “ดูหน้าพี่ชายคนใหญ่ของพวกเราซี ความสุขล้นออกมาแล้วพี่อาทิตย์” เขาหยอกจนอาทิตย์ต้องเดินหนีขึ้นเรือน ๓ น้องหัวเราะตามหลังกับท่าทีของพี่ชายผู้เป็นนายทหารที่แสนเงียบขรึม มาบัดนี้ถูกพิษรักโจมตีเสียจนพูดไม่ออก



   “พี่จันทร์ก็ไปแกล้งพี่อาทิตย์ ประเดี๋ยวพี่อาทิตย์ไม่เล่าอะไรให้ฟังอีกหรอกค่ะ นภาไปง้อพี่อาทิตย์ก่อน” นภาสรวงบ่นพี่ชายคนรองอย่างไม่จริงจัง ซ้ำยังยิ้มหวานรีบเดินตามพี่ชายคนใหญ่ไป จึงเหลือแค่ดารารัษมีและจันทร์จ้าว ทว่าไม่ทันที่จันทร์จ้าวจะก้าวเท้าขึ้นเรือนตามพี่ชายและน้องสาว ดารารัษมีก็ดึงแขนไว้



   “พี่จันทร์...” เจ้าของชื่อหันกลับมามอง



   “ดาราขอบคุณนะคะ ถ้าไม่ได้พี่จันทร์ พี่อาทิตย์ก็คงไม่สมหวัง” จันทร์จ้าวยิ้มจางเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย ดวงตากลมใหญ่มองน้องสาวด้วยความอ่อนโยน เขาลูบเส้นผมนิ่มเล็กของดารารัษมีแผ่วเบา



   “อย่าขอบคุณพี่เลย พี่อาทิตย์เป็นพี่ชายของพี่ ถ้าพี่ไม่ทำเพื่อพี่อาทิตย์ พี่จะทำเพื่อใคร ดาราก็ด้วย นภาก็ด้วย ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วย ขอให้บอก พี่พร้อมจะช่วยเสมอ” หญิงสาวมองพี่ชายด้วยความตื้นตัน แม้นิสัยบางประการของเขาจะไม่น่าเป็นที่พิศมัย แต่ความรักที่เขามีให้พี่น้องคนใดกลับยิ่งใหญ่จนตื้นตัน



   “พี่จันทร์ก็เหมือนกัน ถ้าเมื่อไรมีความรัก บอกดาราด้วยนะคะ ดาราจะช่วยสุดความสามารถ” คำพูดของดารารัษมีทำให้จันทร์จ้าวนิ่งงัน รอยยิ้มบนใบหน้าจืดจางลงอย่างรวดเร็ว



   ...ความรักหรือ?...ความรักของเขา...



   พอคิดถึงความรู้สึกนี้ ใบหน้าดุทว่ามักจะเจือรอยยิ้มและสายตาอ่อนโยนของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นในหัวใจ จันทร์จ้าวรู้ดีว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้ ยามใดที่ว่าง ยามใดที่ไม่ต้องมุ่งมั่นอยู่กับการทำงาน ในหัวของเขามักจะมีแต่ภาพชายผู้นั้นปรากฏเสมอๆ



   เขาไม่เคยคิดถึงใครเช่นนี้ ไม่เคยเก็บใครมาอยู่ในความทรงจำมากมายถึงเพียงนี้ แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานที่ได้สนิทสนมกัน แต่ทุกภาพจำกลับมีมากมายเหลือเกิน เรื่องที่เคยพูดคุยกันยังดังอยู่ในหู ความปรารถนาดีที่เคยได้รับยังติดอยู่ในสายตา ทุกๆที่ที่เคยเที่ยวเล่นด้วยกันยังคงประทับอยู่ในใจ



ทำไมต้องเป็นคนคนนี้...ทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนี้...ทำไม...ต้องเป็นหมอภวัต...



   “พี่จันทร์...” เสียงเรียกของดารารัษมีปลุกสติ จันทร์จ้าวกะพริบตาถี่แล้วเสยิ้ม



   “ขึ้นเรือนกันเถอะ พี่อยากไปดูหน้าคนขี้อายแล้ว” เขาพูดอย่างนั้นก่อนจะหมุนตัวก้าวเท้าขึ้นเรือนในทันที ทิ้งให้ดารารัษมีมองตามด้วยความห่วงใย



   ...เมื่อครู่นี้ จันทร์จ้าวดูแปลกไป ไม่เหมือนพี่ชายคนรองที่หล่อนเคยรู้จักเลย...


.........................................
 



   ดารารัษมีออกจะเห่อความสัมพันธ์ของพี่ชายและเพื่อนครูของหล่อน ยามไปที่ใด หล่อนก็มักจะนำเรื่องนี้ไปเล่าให้คนรู้จักของหล่อนรับรู้ด้วย ไม่ว่าจะร้านตัดเสื้อ ร้านทำผม หรือแม้แต่ร้านเจ็กหน้าตลาด หล่อนก็เล่าไปเสียหมด ที่ขาดไม่ได้คือสมฤดีที่อยู่บ้านข้างๆ หล่อนก็นำความไปกระจายจนฟุ้ง สมฤดีผู้รู้จักทั้งอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราก็ย่อมยินดีเป็นธรรมดา และหล่อนนำความยินดีนั้นมาเล่าให้พยาบาลสาวๆในโรงพยาบาลฟังด้วย



   “ใครที่สนใจคุณอาทิตย์อยู่ล่ะก็ อกหักกันให้ถ้วนหน้านะจ๊ะ ตอนนี้เธอมีคู่รักแล้ว” พยาบาลสาวๆผู้เคยพบหน้าค่าตานายทหารหนุ่มนามว่าอาทิตย์ รักษพิพัฒน์พากันทำตาเหลือกโตด้วยความคกใจและคาดไม่ถึง



   “คุณอาทิตย์มีคู่รักแล้วหรือคุณสม!”



   “ใช่จ้ะ! เพิ่งมีหมาดๆ น้องของเธอมายืนยันเองเชียว!”



   “คู่รักเป็นใคร? คู่รักเป็นใคร?” สาวๆพยาบาลร้องถามกันจ้าละหวั่นด้วยความอยากรู้ สมฤดียิ้มกว้างแล้วเฉลย



   “พูดไปทุกคนต้องทั้งเสียดายทั้งยินดี คู่รักของคุณอาทิตย์คือหม่อมหลวงพิมพัชราจ้ะ!” พวกพยาบาลทั้งหลายได้ฟังก็พากันทำตาโตอ้าปากค้างแล้วส่งเสียงกรี้ดกร้าดกันยกใหญ่ ดีว่าอยู่ในช่วงพักกลางวันในห้องพักของเหล่าพยาบาล จึงไม่เป็นที่สนใจของใครเสียเท่าไร ทว่าใครบางคนที่เดินผ่านมากลับได้ยินคำพูดนั้นของสมฤดีเข้าพอดี



   นายแพทย์ภวัตยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้อง เขาไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลไปไหนเลย วันๆอยู่แต่โรงพยาบาลและบ้านพักแพทย์ แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นโชคชะตาก็ยังเล่นตลกให้เขารับรู้ความจริงที่เกิดขึ้นภายนอก



   ...อาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราคบหากันฉันคนรัก...



   ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนขา ๒ ข้างถูกตอกตะปูยึดเอาไว้กับพื้น ความรักของอาทิตย์สมหวังแล้ว สัญญาของเขาและจันทร์จ้าวก็ควรจะยุติเสียที พวกเขาควรจะได้พบหน้ากัน ควรจะได้พูดคุยกัน เพราะอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราคบหากันสมประสงค์ของจันทร์จ้าว ทว่า...ไปพบแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นไปในทิศทางใด? พวกเขาทั้งคู่เป็นชาย แต่หัวใจของภวัตในเวลานี้ไม่ได้ยึดติดเรื่องที่จันทร์จ้าวเป็นชายหรือเขาเป็นชาย มันข้ามไปไกลกว่านั้น...ช่วงเวลาที่ห่างกันไป ช่วงเวลาที่ไม่ได้พบกัน ภวัตพบว่าความรู้สึกที่เขามีกับบุตรชายคนรองของท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกามันพ้นคำว่า ‘เพื่อน’ ไปมากเหลือเกิน...มากเสียจนเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันไปไกลได้ขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร


   ...ยิ่งรู้สึก ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้...ต่อให้จันทร์จ้าวจะรู้สึกเช่นเดียวกับเขาตามที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรนำความมาบอก แต่ก็ไม่มีประโยชน์อันใด...


   ...พวกเขาไม่ใช่อาทิตย์กับหม่อมหลวงพิมพัชราที่แค่ก้าวข้ามฐานันดรระหว่างคนธรรมดากับราชนิกูล แต่พวกเขาคือภวัตและจันทร์จ้าว ที่ไม่เพียงแค่ต้องก้าวข้ามหัวใจของตนเอง แต่ต้องก้าวข้ามจารีตประเพณีของสังคม...



   ภวัตได้แต่ก้มหน้าลง รู้สึกเหมือนหัวใจร้าวราญจนไม่อาจกอบชิ้นส่วนทั้งหมดกลับมาหลอมหลวมตามเดิม เขาก้าวเท้าเดินช้าๆกลับไปยังห้องตรวจของตัวเองเพื่อเตรียมทำงานในช่วงบ่ายประหนึ่งคนที่หมดสิ้นแล้วซึ่งกำลังใจ และไม่ได้ยินเสียงของเหล่าพยาบาลที่พูดคุยกันอีก



   “หมดคุณอาทิตย์ก็ยังมีน้องชายคุณอาทิตย์ไม่ใช่หรือ ที่ชื่อจันทร์จ้าวน่ะ”



   “อ้อ คุณจันทร์...รายนี้ยังโสดจ้ะ แต่ขอโทษเถอะ หมู่นี้เธอไม่ค่อยยิ้มกับใครเอาเสียเลย ทำท่าซังกะตายอย่างกับคนอกหัก คนอื่นน่ะดูไม่ออกหรอก เธอชอบทำเป็นยิ้มเวลามีคนมอง แต่พอไม่มีคนมองแล้วนี่ซี ทั้งสีหน้า ทั้งสีตา คนอกหักชัดๆ” นางพยาบาลสมฤดีผู้อยู่ข้างบ้านเล่า



   “หืม? เหมือนคุณหมอภวัตเลย ฉันว่าพักนี้คุณหมอเธอก็ดูแปลก ดูเซื่องๆซึมๆชอบกล อกหักเสียอีกคนกระมัง”


   “อะไรจะอกหักพร้อมกันทีเดียว ๒ คน แต่ก็ไม่แน่...คุณหมอกับน้องชายคุณอาทิตย์สนิทกันไม่ใช่หรือ ก่อนหน้านี้ก็เห็นมารอ มารับมาส่ง ไปตีเทนนิสด้วยกันออกบ่อย แต่จะว่าไปช่วงนี้ไม่เห็นคุณจันทร์แวะมาอีกเลย น่าเสียดาย ฉันน่ะอุตส่าห์ดีใจ พักหนึ่งโรงพยาบาลเรามีแต่ผู้ชายดีๆแวะเวียนมาเยี่ยมเยียน...แต่ได้พักเดียวเท่านั้นเอง” แล้วเหล่าพยาบาลก็พากันพูดคุยสัพเพเหระกันต่อไปอีกครู่ใหญ่ จนกระทั่งเวลา ๑๓ นาฬิกาจึงแยกย้ายไปทำงาน


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)
บอกแล้วว่าเราจะส่งคนเบิกเนตรมาให้ ฮาฮา และก็เคยบอกแล้ว รู้สึกจะในหน้าแฟนเพจมั้ง ว่าบัวอ่ะ #ทีมคุณพงศ์ เชื่อกันยัง? ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่มีดีแค่ชื่อยาว

จริงๆแล้วในบรรดาคาแรกเตอร์ทั้งหมดในเรื่อง นอกจากชื่อ ดารารัษมีและจันทร์จ้าวแล้ว ชื่อคุณพงศ์เป็นชื่อที่บัวชอบมากค่ะ แม้เวลาพิมพ์เต็มๆ ‘หม่อมหลวงพงศ์ภราธร ฉัตราภาส’ จะยาวมากๆ แต่ทั้งการออกเสียง ทั้งการสะกด ความหมาย (อันนี้เปิดพจนานุกรมมาเองเลย คิดว่าไม่น่ามีคนชื่อซ้ำ) เป็นชื่อที่ดูสวยงามมากอ่ะ

วันนี้เนื้อยเหนื่อย เจอกันพฤหัสหน้า "เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีก 7 วัน" ร้องเพลงเฉยๆ ไม่มีอะไร  :z2: ฮ่าฮ่า
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนรอ กำลังใจ และพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 19-11-2015 19:58:10
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 19-11-2015 20:21:33
นี่ก็ชอบคุณพงศ์อีกคน คนนี้พูดทีเดียวเค้าเป็นแฟนกันแล้ว น้องจันทร์พยายามแทบแย่คืออะไร ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-11-2015 20:28:09
แหม่....พี่อาทิตย์ช่างเก็บเงียบ ไม่เล่าแม้กระทั่งจันทร์

#ทีมคุณพงศ์
อยากได้คนนี้อ้ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-11-2015 20:28:29
เอ้า คุณพงศ์ก็อุตส่าห์เบิกเนตรให้แล้ว แถมวิ่งเต้นเรื่องของคุณอาทิตย์กับน้องสาวอีกต่างหาก
ที่เหลือก็คงต้องรอให้คุณจันทร์กับคุณหมอมีใจฮึดสู้ล่ะนะ
บทนี้คุณพงศ์เป็นพระเอกขี่ม้าขาวชัดๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 19-11-2015 20:28:49
รอมาตั้งแต่เย็นแล้ว เพิ่งเห็นว่ามาต่อ ขอตัวไปอ่านก่อนนะคะ

+++

ีนี่ก็ทีมคุณพงศ์ บอกเลย ผู้ชายคนนี้ได้ใจจริงๆ ถ้าไม่ได้กามเทพอย่างพงศ์ภราธรล่ะก็ อาทิตย์กับพิมพ์พัชราคงไม่มีโอกาสได้สมหวังกันใช่ไหมคะ ทีนี้ก็ต้องมาลุ้นกันว่า หมอภวัตจะทำอย่างไรต่อไป จึงจะปราบพยศคนอย่างจันทร์จ้าวลงได้ เฮ้อ เหนื่อยแทนจริงๆ

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 19-11-2015 20:32:07
ชื่อเพราะจริงค่ะคุณบัว
แต่วันนี้ก็รู้ใจตัวเองกันสักทีน้าา
อยากให้ใครส่งเราวาร์ปไปวันพฤหัสหน้าจังค่ะ :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-11-2015 20:36:06
โอ๊ยย รักหมอเชียร์หมอขาดใจ
แต่คุณพงศ์นี่ก็น่ารักจริง อิอิ
คืนดีกันเร็วๆนะคะน้องจันทร์กับคุณหมอ คนอ่านลุ้นอยู่

ขอบคุณพี่บัวค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 19-11-2015 20:38:01
คุณพงศ์เจ๋งมากออกโรงทีเดียวเรียบร้อยไปคู่หนึ่งเลยเหลือก็แต่คู่พระนายของเรานี่แหละจะเป็นไงต่อ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 19-11-2015 20:45:00
ต้องยกความดีความชอบให้คุณพงศ์ เหลือก็แต่คู่หลักเรานี่แหละ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-11-2015 20:51:41
ต้องขอบคุณคุณพงศ์เลย

 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 19-11-2015 20:55:58
โถ คุณพงศ์นี่วิ่งวุ่นยิงคันศรเป็นว่าเล่นเลย :katai2-1:

ติดตามตอนต่อไปค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 19-11-2015 20:58:10
เอามือหมุมนาฬิกาไป พฤหัสหน้าเลยยยยย   คุณบัวเปิดจองและขายเลยค่ะ  อยากอ่านไวแล้วนะคะ 

คุณบัวน่าจะมาอาทิตย์ละ สองวันรู้ม่ายยยมันทรมานใจ ที่ จันทร์จ้าวยังระทม

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๐ (๑๒ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๑๙)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 19-11-2015 21:00:58
 :a1:ตอนนี้ให้คุณพงษ์ 10 ดาวเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-11-2015 21:02:20
จะหาทางออกให้หมอกับจันทร์จ้่าวยังไงดี สมัยโน้นกรอบประเพณีมันบังคับจริง ๆ ด้วยสิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 19-11-2015 21:03:29
คุณพงศ์น่าทึ่งเสียจริง
วันเดียวคนเดียวจัดการไปทุกอย่าง 5555
กระตุ้นกันไปแล้ว ที่เหลือก็รอติดตามผลคู่ที่ทำตัวซังกะตายอกหักกันเนอะ
หวังว่าหายงอนกันแล้วจะหวานกันกว่าเก่าน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 19-11-2015 21:04:50
เพราะคุณพงศ์ พี่อาทิตย์เลยสมหวังไปเสียคู่แล้ว
เหลือก็แต่จันทร์จ้าวกับคุณหมอ
เค้าเอาใจช่วยมากๆเลยนะ

อย่ามึจตึงกันเลย
มันบีบหัวใจ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 19-11-2015 21:05:02
โอ๊ย..ลุ้นจนเหนื่อย..อยากให้ถึงพฤหัสหน้าเร็วๆ..ทุกวันนี้ไม่มีวันไหนที่จะมีความสุขเท่าวันพฤหัสละ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 19-11-2015 21:07:28
ถึงจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้แต่ก็น่าจะคุยกันสักหน่อยนะ อย่างน้อยก็ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ความรู้สึก ดีกว่าเก็บงำกันเอาไว้จนมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว สงสารทั้งคู่เลย ว่าแต่เรื่องนี้จะจบสวยใช่มั้ยคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 19-11-2015 21:16:57
คุณพงศ์นี่แหละพระเอกตัวจริง  ฮีโร่ของทุกคน 5555
สงสารคนอกหัก แต่สงสารหมอคนเดียวแล้วกัน พ่อจันทร์เล่นออกงิ้วไว้ซะเยอะเลย ทำเขาก่อนแท้ๆ ทำร้ายจิตใจหมอภวัตราวกับไม่คิดไยดีกัน ชิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 19-11-2015 21:25:37
รู้สึกว่าคนที่มีสติและเฉียบที่สุดในเรื่องนี้คงไม่พ้นคุณพงศ์ล่ะค่ะ 555555 ก็อาจจะเพราะเป็นคนนอกที่ใกล้ชิดที่สุดล่ะมั้งคะ
เลยได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่แบบเต็มๆ เลยเป็นคนที่รู้ทันที่สุด ชอบความเฉียบของคุณพงศ์ตรงที่ตอนเตือนสติจันทร์
ก็เตือนแค่ให้รู้ความรู้สึกของตัวเอง แต่พอตอนคุยกับหมอ กลับบอกถึงความรู้สึกฝั่งจันทร์ไปด้วย เห็นแบบนี้นี่คิดมาดีจริงๆนะคะ ><

ชอบคุณพงศ์จังค่ะ จัดการเรื่องพี่อาทิตย์กับคุณพิมได้รวดเร็วทันใจยิ่งกว่าจันทร์ซะอีก แอบอยากอ่านตอนของคู่นี้ด้วยค่ะ ฮือ T T
โลภมากจริงๆ อ่านจบแล้วไม่อยากให้จบเลย .. กว่าจะวนมาอีกทีก็ตั้ง 7 วัน แงงงง นานมากเลยค่ะ ; ____ ;
หวังว่าความรักของทั้งคู่จะมีโอกาสได้งอกเงยนะคะ !

ปล. คำผิดตอนที่แล้วมีคำนึงคือ ตื้อ -> ตื๊อ นะคะ ต้องเป็นเสียงตรีอ่ะค่ะ ไม่งั้นจะกลายเป็นอิ่มตื้อไป
ส่วนของตอนนี้ก็มี ก้รังแต่จะ - ก็
มนุษยสัมพัธ์ - พันธ์
พิมัย - พิสมัย (อันนี้เช็คจากกูเกิ้ลนะคะ บางครั้งมันจะมั่วบ้าง ลองเปิดพจนานุกรมดูอีกทีนะคะ)

จะรอติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อเลยจริงๆค่ะ! ออกเล่มเมื่อไหร่ก็จะกดซื้อทันทีแน่นอนเลย สู้ๆนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 19-11-2015 21:28:52
หน่วงจิตหน่วงใจ.......!!!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-11-2015 21:30:10
ทั้งคุณหมอและจันทร์จ้าวต่างก็ยังไม่กล้าด้วยกันทั้งคู่แบบนี้แล้ว สงสัยคงต้องหาตัวช่วยมากระตุ้นอีกแรงเสียแล้วล่ะค่ะคุณพงศ์ :o9:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 19-11-2015 21:31:57
เบิกเนตรรรร สงสารหมอนะ แต่ทำไมแอบสะใจน้องจันทร์555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: depper ที่ 19-11-2015 21:34:50
ว้ายยยยยเจอนิยายดีอีกเรื่องล่ะ เพิ่งอ่านได้ตอนแรก มาคอมเม้นต์ก่อนนะคะ
หวังว่าตอนต่อๆไป คงจะน่าติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-11-2015 21:37:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 19-11-2015 21:44:38
ขนาดนี้แล้วก็ยังไม่คุยกันอยู่ดี เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 19-11-2015 21:46:58
กระโดดกอดคุณพงศ์รัวๆ
ทำพิธีเบิกเนตรเรียบร้อย555555
สวดยวด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 19-11-2015 21:52:56
คุณพงศ์สุดยอด o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 19-11-2015 22:01:37
ทีมคุณพงศ์เลยยยย สุดยอดเลย่ะ คิวปิดของคุณจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 19-11-2015 22:03:59
 :sad11:

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่

 ดีใจกับคุณพิมและพี่อาทิตย์ด้วยค่ะ

 รอตอนต่อไปจ้า
 :L2:
 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 19-11-2015 22:08:12
อันนี้ต้องกราบขอบคุณคุณพงษ์อย่างแรง แต่ว่าช่วยแล้วต้องช่วยให้ถึงที่สุดนะจ๊ะ สู้ๆ (แงๆตอนนี้เค้าไม่เจอกันเลย)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 19-11-2015 22:23:38
มัวแต่กังวลเรื่องต่างๆนานา แล้วเมื่อใดจะได้ทำตามหัวใจสักทีเล่าคุณหมอ จันทร์จ้าว  :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 19-11-2015 22:24:28
กำลังสนุกเลย ต้องรอพฤหัสแน่แน่ะ  :m15:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-11-2015 22:31:30
อยากให้ทุกวันเป็นวันพฤหัส งื้ออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 19-11-2015 22:35:37
อยากให้วันพฤหัสมาถึงเร็วๆจัง
น่าสงสารจริงๆนั่นแหละ ยิ่งเป็นสมัยก่อน
ที่สังคมไม่เปิดกว้างเหมือนตอนนี้ ด้วย
ยิ่งแล้วใหญ่ ขนาดว่าตอนนี้เปิดกว้างแล้ว
ก็ยังมีอีกหลายๆบุคคลที่ไม่ยอมรับ
เฮ่อ มันเป็นเรื่องที่น่ากดดันจริงๆ
ยังไงก็ รอตอนต่อไปนะคะ
 :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 19-11-2015 22:36:09
ดีกันเถ้อะ คุณคะะะ เศร้าแทนจนเหนื่อยแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 19-11-2015 22:36:17
อยากจะกระโดดกอดขอบคุณคุณพงศ์ กามเทพตัวจริง

ส่วนตอนนี้อ่ะ มันจะกลายเป็นสถานการณ์ที่ว่ารู้ว่ารักแต่รักไม่ได้ขึ้นมาแล้วสิ ฮืออออออ
คิดไม่ออกเลยว่าทางออกจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้แค่อยากให้คุณหมอกับคุณจันทร์เปิดใจกันแล้วค่อยจับมือกันข้ามอุปสรรคนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: wiseducky ที่ 19-11-2015 22:44:49
ชอบชื่อคุณพงศ์เหมือนกันค่ะ เพราะมากๆๆๆ หลงรัก  :o8:

ดูเรื่องสะใภ้จ้าวแล้วก็เก็บเอาบรรยากาศในเรื่องมาจินตนาการ
เวลาอ่าน จะว่าไปก็แอบได้อารมณ์เบาๆ
สนุกมากค่าาาาา รอตอนหน้าเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 19-11-2015 22:49:35
ตอนนี้รักคุณพงศ์เลยค้บ รอคู่พระนายต่อจะเป็นอย่างไร
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-11-2015 23:02:24
ต้องขอบคุณคุณพงศ์นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 19-11-2015 23:14:04
คุณพงศ์เก่งมากเฉียบคมแบบสุด    มองออกทะลุทุกคนเลย  ก็นั่นแหละถ้าไม่ใช่เรื่องของตัวเองจะเข้าใจได้ง่ายเสมอ   ตอนนี้ก็เหลือแต่รอลุ้นแล้ว  ทีมช่วยเหลือจันทร์จ้าวนี่ดูจะเยอะเป็นพิเศษถ้าถึงคราวของจันทร์จ้าวทั้งพี่อาทิตย์ 2แฝด คุณพิม คุณพงศ์ คงจะดมกำลังกันสุดฤทธิ์   รอแทบไม่ไหวแล้วค่ะอยากอ่านมากๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: SOO2 ที่ 19-11-2015 23:14:15
ขอตั้งชื่อตอนให้ตอนนี้ว่า คุณพงษ์สื่อรัก 555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 19-11-2015 23:23:07
คุณพงศ์เจ๋งมากอ่ะ ออกโรงแปบเดียวคู่หนึ่งก็สมหวังแล้ว แต่คู่หมอกับจันทร์จะหันกลับมาคุยกันเมื่อไรอ่ะ รอคอยให้กลับมาหวานใส่กันมากเลย คนอ่านจะได้ฟินให้สุดๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 19-11-2015 23:28:58
คุณพงเยี่ยมมากค่า :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-11-2015 23:48:55
จะกลับมาดีกันละชิมิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 19-11-2015 23:52:26
คุณพงศ์เหมาะจะเป็นนักการทูตมากๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 19-11-2015 23:53:24
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 19-11-2015 23:55:10
คุณพงศ์เก่งมากค่ะ นอกจากมองออกทุกอย่างแล้วยังช่วยจัดการให้อีก
ทีนี้ก็ไม่มีข้ออ้างที่จะไม่คุยกันแล้ว ช่วยคืนความสุขให้คุณหมอเร็วๆนะคะ
ทีมคุณหมอรอลุ้นใจจะขาดแล้วววว
ปล.รู้สึกเลยว่าสัปดาห์นึงนี่มันยาวนานจริงๆค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 20-11-2015 00:57:02
 #ทีมคุณพงศ์ #ทีมรอการคืนกำไรให้คุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 20-11-2015 01:15:01
อุตส่าห์มีคนมาเบิกเนตรให้แล้ว คุณหมอยังลังเลอะไรอยู่จ๊ะ กล้าๆหน่อยจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 20-11-2015 01:59:06
คุณพงศ์เยี่ยมที่สุด o13 เป็นกามเทพของทั้งสองคู่เลย

สมหวังแล้วหนึ่งคู่ เหลืออีกคู่ รอช่วงคืนกำไรให้หมอภวัตอยู่ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 20-11-2015 02:16:19
คุณพงศ์นี่เก่งมากอ่ะ  o13 :katai2-1:

ช่วยทุกคนเลย  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 20-11-2015 03:05:24
คุณหมออย่ามัวแต่กังวลสิ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ จับมือฝ่าอุปสรรคยังดีกว่ามานั่งซึมแบบนี้นะหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 20-11-2015 04:33:28
ตอนแรกคิดว่าคุณพงศ์จะเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์นี้ซะอีก
ช่างเป็นคนที่มีความคิดที่ก้าวล้ำยุคสมัยจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 20-11-2015 06:19:47

คุณพงศ์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-11-2015 06:26:07
กามเทพนามว่า คุณพงศ์มาชี้ทางแล้ว ทั้งหมอและจันทร์จะทำไง รู้สึกตัวกันได้ซะที อยากเห็นมุมหวานๆของพี่อาทิตย์กับคุณพิมพ์ด้วย บอกเลยว่า ก็ลุ้นคู่นี้ไม่ต่างกัน 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 20-11-2015 07:01:38
เป็นตอนที่หลากหลายความรู้สึก ดีใจ สมหวัง อึดอัด สิ้นหวัง ครบรสเลยค่ะ ย่อหน้าสุดท้ายอ่านแล้วสะเทือนใจที่สุด การต้องก้าวเดินข้ามผ่านจารีตประเพณีเป็นไปได้ยากมาก ฝั่งของคุณหมอยังไม่รุ้ว่าจะยากไหม แต่ฝั่งของจันทร์ต้องสู้กับแม่ของตนเอง ขนาดแค่ไปเที่ยวกับสาวๆ รอบเมือง แม่ยังลมจับ แล้วถ้าต้องรักกับหมอคงเป็นการทำร้ายความรุ้สึกของแม่น่าดู
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 20-11-2015 07:24:20
คุณพงศ์ o13 o13 o13 o13 :pig4: :pig4: :pig4:
ตาคุณหมอแล้วจะทำไงต่อ :mew1: :mew1: :mew1:
อีก7วันจันทร์จะสว่างหายหงอยไหมหนอ  :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 20-11-2015 07:42:20
อยากให้เป็นวันพฤหัสเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 20-11-2015 08:29:34
ปรบมือรัว ๆ ให้คุณพงษ์ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 20-11-2015 09:07:41
คู่พี่อาทิตย์ก็สมหวังแล้ว เหลือแต่คู่ซึน คู่นี้ช่างยากนัก

เอาแค่ความรู้สึกของตัวเองก็ยากจะก้าวผ่านไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 20-11-2015 12:16:27
คุณพงศ์ทำดีมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 20-11-2015 13:26:50
ขอเบิกโล่เพื่อนดีเด่นให้คุณพงศ์ ค่ะ!!!

แต่หนทางระหว่างหมอกับหนูจันทร์ของเราช่างยาวนานนัก

รอวันพฤหัสหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 20-11-2015 14:11:23
ไม่ได้คุณพงศ์นี่ 4 คนจะมีความทุกข์มากเลยนะฮะเนี่ย 555+
ชอบคุณพงศ์เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นชื่อ หรือ นิสัย จันทร์จ้าวโชคดีมากที่มีเพื่อนดีๆเช่นนี้
ขอให้ 7 วันผ่านไปอย่างมีความสุขนะฮะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-11-2015 19:18:55
 :กอด1: ขอกอดคุณพงศ์แน่นๆรัวๆเลยค่านอกจากจะมาเป็นผู้เบิกเนตรชี้ทางสว่างแล้วยังทำตัวเป็นฑูตสันถวไมตรีมากอะคอยเป็นกาวใจเชื่อมประสาน แก้ปัญหาคาใจให้ทั้งคุณหมอและก็จันทร์  ทีนี้ก็อยู่ที่คุณหมอกับจันทร์แล้วว่าใครจะรุกใครก่อนในความคิดเราเราว่าเป็นจันทร์จ้าวด้วยเพราะการที่อยู่ต่างประเทศมานานรวมกับเป็นคนทีมีความเชื่อมั่นและตรงไปตรงมา เราว่าถ้าจันทร์คิดตกเรื่องคุณหมอแล้วจันทร์ลุยแน่ๆอะ

และดีใจกับพี่อาทิตย์ด้วยนะคะสมหวังมีคู่กับเค้าสักที  :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 20-11-2015 19:53:48
คุณพงษ์ทำดีมากค่ะ หอมแก้มทึ :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 20-11-2015 22:51:37
อ่านรวดเดียวถึงตอนนี้ สนุกมากๆ ชอบภาษาที่สุดอ่ะ

แอบสงสารพี่หมอกับจันทร์จริง ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะรักกันแบบเปิดเผยได้ยังไง

คุณพงศ์เป็นคนเบิกเนตรจริง 555 ถ้าไม่มีคุณพงศ์กว่าจะลงเอยกันแต่ละคู่คงจะรอจนแก่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 21-11-2015 03:04:27
เห็นเรื่องนี้ของคุณบัวลงตั้งแต่ตอนแรก อ่านไปแค่ตอนแรกแล้วไม่ได้อ่านต่อ เพราะกลัวติดค่ะ. แล้วทีนี้ทนไม่ไหวจัดทีเดียว 11. ตอนรวด ฮือออออออออ สนุกมากเลย แต่ก็ไม่น่าพลาดกดเข้ามาอ่านอีกเช่นกัน. อีกตั้งเจ็ดวันกว่าจะได้เจอ :ling1: :ling1: :ling1:



ชอบพีเรียดแบบนี้มากๆค่ะ ยิ่งเป็นลูกกวาดที่หาไม่ค่อยได้ยิ่งรักหนักเข้าไปใหญ่  รอตอนต่อไปค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 21-11-2015 09:23:59
คุณพงศ์ : พี่ไม่ได้มาเล่นๆ พี่มาเพื่อเป็นพ่อสื่อ  :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 21-11-2015 09:56:00
อุปสรรคช่างเยอะเสียจริง รู้ใจตัวเองขนาดนี้แล้ว ใครจะเป็นคนเดินหน้าก่อนกันล่ะนี่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 21-11-2015 11:27:57

ตอนนี้อยากรู้มากกว่าว่าคุณพงศ์นี่จะมีคู่ตุนาหงันไหม...
เธอน่ารักและให้การช่วยเหลือเพื่อนเป็นอย่างดีเหลือเกิน

ส่วนคุณหมอกับคุณจันทร์...
ป้าก็ลุ้นกันต่อไปว่า ทางออกกับเรื่องทางสังคมและจารีตของทั้งสองจะเป็นยังไง :เฮ้อ:
ขอบคุณมากค่ะ ^^  :กอด1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 21-11-2015 11:56:38
คุณพงศ์แย่งซีนนน 55555
แกมาจัดการนิดเดียว พี่อาทิตย์สมหวังเลย 5555
ตอนนี้เริ่มรู้ใจตัวเองกันละ แต่ยังสนนู่นสนนี่อยู่
เอาใจช่วยทั้งสองคนเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 21-11-2015 17:13:22
ถ้าไม่ได้คุณพงศ์ไปกระตุ้นอาทิตย์ ป่านนี้ก็ยังไม่กล้าไปขอสาวเป็นแฟน
คนพี่ก็เรียบร้อยแล้ว รอคุณจันทร์คนดีเมื่อไหร่จะดีกับคุณหมอสักที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 23-11-2015 00:47:55
มอบรางวัลให้คุณพงษ์ค่ะ
ถูกใจคนอ่านมาก คือปากแข็งกันทุกคู่
กว่าเรื่องราวจะคลี่คลาย ต้องมีคนมาไกล่เกลี่ย
รักคุณพงษ์ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 23-11-2015 04:33:36
คุณพงษ์คนดี แกรักเพื่อนดีจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 23-11-2015 20:02:54
คุณพงศ์เป็นพ่อสื่อมือทอง

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: หลิว ที่ 23-11-2015 20:15:54
คุณพงน่ะให้อารมณ์พี่ใหญ่ของทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: gimini ที่ 25-11-2015 05:03:46
สนุกมาก รอลุ้นตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnn ที่ 25-11-2015 16:36:48
ว๊ากกกกก ดีใจมากกับการกลับมาของนักเขียน รอเรื่องใหม่แบบใจจดใจจ่อทุกวันเลยค่ะ
พอเห็นมาเปิดเรื่องใหม่แล้วกรีดร้องไปหลายรอบเลย
พยายามจะดองเอาไว้หลายๆตอนแล้วค่อยกลับมาอ่านทีเดียวจบ
แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องเข้ามาอ่านจนได้ พออ่านแล้วก็ติดเลย
สนุกมากจริงๆค่ะ ที่สำคัญคือ...บวกเป็ดให้ทุกตอนเลยเน้อ

ความรู้สึกแรกและปัจจุบันที่มีให้จันทร์จ้าวคือ...นี่มันจอมขวัญเมื่อครั้งอดีตกาลชัดๆ
แต่เห็นนักเขียนยืนยันอย่างหนักแน่นแล้วว่าเหมือนถ้วยฟูมากกว่าเราก็ไม่ขัดศรัทธา
เพราะไม่ว่าจะถ้วยฟูหรือจอมขวัญก็เอาแต่ใจทั้งคู่ ต้องถูกปราบพยศให้หมด

จริงๆตอนแรกก็นึกเอ็นดูจันทร์นะ คือออกแนวดื้อๆน่าปราบ น่าทำโทษ
แต่ตอนหลังๆที่ช่างปากไม่ตรงกับใจพร้อมด้วยพฤติกรรมกระฟัดกระเฟียดที่ทำให้หมอแล้ว ฮึ่ม
มันน่าจับมาตีก้นให้เข็ดให้จำจะได้ไม่กล้าทำท่าทางแบบนี้อีก
ตอนทำเมินทำไม่สนใจใส่หมอก็ออกจะดูเก่งกล้าดี แต่ไหงพอหมอเค้าหายไปจริงๆ
มาหนนี้กลับซึมไม่พูดไม่จาทำตัวปลีกวิเวกไปได้ แบบนี้ไม่เรียกว่าเก่งจริงนะคะจันทร์จ้าว
คุณแม่ก็อดจะสงสารหนูไม่ได้ อยากเข้าไปปลอบอยู่หรอก
แต่ติดตรงหนูเองก็ควรจะได้รับการลงโทษซะบ้าง คราวหลังจะได้เลิกดื้อเลิกพยศกับหมอเขาสักที
ตั้งแต่ตอนแรกยันตอนล่าสุดก็เห็นแต่จันทร์จ้าวนี่แหละเอาเปรียบหมออยู่ฝ่ายเดียว
หมอก็ยอมลงให้ตลอดทั้งที่บางครั้งแล้วหมอไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เมื่อไหร่จะคืนความสุขให้หมอสักที..เรารออยู่

แต่เอาจริงๆแล้วถึงจะได้คุณพงศ์เข้ามาช่วยเบิกเนตรเบิกทางเบิกหัวใจให้
ยังไงทั้งหมอทั้งจันทร์ก็ต้องคิดถึงเรื่องจารีตประเพณีอีก ต้องมองสังคม มองคนรอบข้างอีก
ดูอุปสรรคคราวนี้ใหญ่หลวงยิ่งนัก จะแก้ปัญหากันได้ด้วยวิธีไหน และใครจะเข้ามาช่วย
คุณพงศ์จะเป็นคนมาช่วยเหมือนครั้งของพี่อาทิตย์กับคุณพิมอีกไหม นี่ก็ลุ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

และก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับจริงๆว่าตัวละครช่างครบครันและเยอะมากกว่าเรื่องของจอมขวัญหลายเท่า
แต่ทุกคนก็มีเอกลักษณ์เด่นจนจำได้หมด ไม่มีสับสน ขอยกความดีความชอบให้นักเขียนค่ะ *ปรบมือ

จริงๆยังมีอะไรอีกมากที่อยากพูดอยากบอกกับทุกตัวละครของเรื่องนี้
แต่ก็ไม่รู้จะพูดจะบอกอะไรดี เอาเป็นว่าปลื้มปริ่มกับเรื่องนี้มากจริงๆค่ะ
เราจะรอคอยตอนต่อไปในเร็ววันนะคะ พร้อมเก็บเงินรอรูปเล่มที่สวยงามของเรื่องนี้ด้วยค่ะ ฮ่าๆๆๆ
จุกพลุ  :mc4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: amewa ที่ 26-11-2015 13:31:14
มารอคอยค่ะ วันพฤหัสแล้วววว อยากให้หมอกับจันทร์คืนดีกันเร็วๆมากๆ :mew2: คือม่ามาหลายตอนแล้ว  เศร้าา  :ling3: :heaven 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-11-2015 14:00:27
มารอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 26-11-2015 15:05:46
มารอคอยนะค๊าา วันนี้วันพฤหัสแล้ว อยากรู้ว่าเมื่อไหร่คุณหมอกับคุณจันทร์จะยอมเปิดอกคุยกันซักที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 26-11-2015 15:11:56
มารอ ณ วันพฤหัสแห่งชาติ ' ' /
- edit : ไปอ่านซ้ำตอนก่อนมาเลยเจอคำผิดเพิ่มน่ะค่ะ โรงพยบาบาล - โรงพยาบาล ค่า <3
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 26-11-2015 16:54:34
มารอคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 26-11-2015 19:00:12
หมอนัดค่าา :z2:

โล่งใจมากที่จันทร์พูดกับหมอออกไปตรงๆ  เฮ้อลุ้นแทบแย่แหนะค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 26-11-2015 19:02:49
 :impress3:

คุณพงศ์ทำขนาดนี้แล้ว

ผลจะเป็นยังไงต่อ

มานั่งรอคุณจันทร์และคุณหมอค่ะ

  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 26-11-2015 19:03:53
วันพฤหัสแล้ว น้องจันทร์คุณหมอไปลอยกระทงยังไม่เสร็จเหรอคะ
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 26-11-2015 19:55:21
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๑๒



   หลายวันหลังจากนั้น มีเสียงเล่าลือไปทั้งกรุงเทพฯเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่สุกงอมของชายหญิงคู่หนึ่ง ฝ่ายชายเป็นนายทหารหนุ่มผู้เงียบขรึม ส่วนฝ่ายหญิงคือราชนิกูลแห่งวังเก่าแก่ เภา วิชาญโยธินคงจะรับเรื่องพวกนี้เข้าหูมาแล้วก็ปล่อยให้ผ่านเลยไปเหมือนทุกที หากไม่ใช่ว่าครั้งนี้...ฝ่ายหญิงที่ว่านั้นคือชื่อที่เขาคุ้นหูเสียเหลือเกิน



   “เมื่อครู่นี้คุณว่าอย่างไรนะ วนิดา? ใครคบกับใคร”



วันนี้เขาแก้เบื่อช่วงเย็นด้วยการออกมารับประทานอาหารกับเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อวนิดา แม้จะเคยยอมรับกับพี่ชายไปแล้วว่า ‘ชอบคุณพิม’ แต่เขาก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายตรงไหน หากว่าชอบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แล้วจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่นบ้าง



วนิดาหัวเราะกิ๊กแล้วมองชายหนุ่มด้วยสายตาขันๆ



   “อะไรคะคุณเภา ตกข่าวอยู่ที่ไหนมา ข่าวนี้ออกจะดังไปทั่วเมือง วนิดาไปร้านตัดเสื้อกี่ร้านต่อกี่ร้าน เขาก็พูดเรื่องนี้กันทั้งนั้น คนปล่อยข่าวไม่ใช่ใครที่ไหน แม่ดารารัษมี รักษพิพัฒน์เพื่อนของหม่อมหลวงพิมพัชรา เชื่อขนมกินได้เลยค่ะ แม่น้องสาวนี่ล่ะตัวดี คงจะเป็นแม่สื่อให้พี่ชายกับเพื่อนตัว”



   “คุณหมายความว่า...” เภาทั้งงุนงงและสับสน ตั้งแต่กลับมาจากบ้านรักษพิพัฒน์เมื่อวันอาทิตย์ก่อนนั้นด้วยอาการหงุดหงิดที่ราชนิกูลสาวไม่สนใจใยดีเขา เภาก็ไม่เอาตัวเองเข้าไปข้องแวะกับคนที่วังฉัตรอีกเลย ทั้งที่ใจอยากจะตาย แต่ไม่รู้จะเข้าไปอย่างไร จะไหว้วานพี่ชาย ภวัตก็ไม่กลับบ้านสักวันเพราะอาศัยนอนในบ้านพักแพทย์ของโรงพยาบาล ครั้นเขาจะไปเตร็ดเตร่ที่สโมสรเทนนิสเพียงลำพัง เขาก็ไม่อยาก ระหว่างตีเทนนิสกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ กับออกมาเที่ยวเตร่กับเพื่อนผู้หญิงสักคนอย่างคุณวนิดา อย่างหลังเข้าท่ากว่ากันเยอะ



   “พุทโธ่! คุณเภา เข้าใจยากจริง! วนิดาก็หมายความว่าหม่อมหลวงพิมพัชราคบอยู่กับคุณอาทิตย์ พี่ชายแม่ดารารัษมีน่ะซีคะ!!” เภาถลึงตาโตด้วยความตกใจก่อนจะร้องถามในอึดใจต่อมา



   “คุณไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน?!!”



   “เอ้า! ก็วนิดาบอกแล้วนี่ว่าได้ยินมาจากร้านตัดเสื้อ ไปร้านไหนเขาก็พูดเรื่องนี้กันทั้งนั้น บางร้านให้ข่าวว่ากำลังจะจัดงานหมั้นด้วยซ้ำแน่ะค่ะ! เห็นว่าคุณพิมมาสั่งตัดชุด ไม่ทราบว่าตัดชุดไปงานไหน สงสัยวนิดาต้องไปถามเอาจากคุณจันทร์ดูบ้างแล้วล่ะ คุณจันทร์คงจะทราบดี เธอเป็นพี่น้องกับคุณอาทิตย์ คุณเภารู้จักไหมคะ”

 

วนิดาออกจะสงสัยที่ชายหนุ่มดูสนอกสนใจกับเรื่องที่หล่อนนำมาเล่าเสียเหลือเกิน ตอนที่ได้ยินข่าวนี้ หล่อนก็แอบเสียดายไม่น้อย เพราะอาทิตย์ รักษพิพัฒน์นั้นเป็นชายหนุ่มที่หล่อนนึกชอบความเคร่งขรึม ติดแต่ว่าเพราะเขาขรึมเสียจนหล่อนเข้าไปทำความรู้จักยากเหลือเกิน จะอาศัยให้จันทร์จ้าวผู้เป็นน้องชายแนะนำก็เห็นจะไม่ได้การ เพราะเขาไม่เคยพาหล่อนไปพบเจอญาติเขาคนใด วนิดาก็เลยไม่คิดจะสนใจนายทหารหนุ่มผู้นั้นอีก จนกระทั่งข่าวนี้เข้าหู หล่อนถึงได้นึกเสียดายตะหงิดๆ แต่พอนึกถึงใบหน้าสวยหวานของหม่อมหลวงพิมพัชราที่หล่อนเคยเห็นกับใบหน้าของอาทิตย์ หล่อนก็ว่าคู่นี้เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก



   “คุณเภา...คุณเภาเป็นอะไรไปคะ...” วนิดาเห็นชายหนุ่มเงียบไปก็ร้องเรียกด้วยความเอะใจ ทว่าใบหน้าติดไปทางหงุดหงิดของเภากลับหันมาจ้องหล่อน



   “ผมเพิ่งนึกออกว่าต้องรีบกลับ วันนี้เรากลับกันเถอะคุณวนิดา”



   “เอ๊ะ อะไรกัน จะรีบกลับแล้วหรือคะ นี่เพิ่งมากัน...อ๊ะ! นั่นคุณอาทิตย์กับคนรักของเขานี่!!” วนิดาไม่ทันจะโวยก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มหญิงสาวผู้ตกอยู่ในบทสนทนาเมื่อครู่ของหล่อนเดินเข้ามาในร้าน ทั้งคู่ไม่ได้มากันเพียงลำพัง แต่จันทร์จ้าว นภาสรวงและดารารัษมีมาด้วย



   เภาหันขวับไปมองโดยพลัน และภาพที่เขาเห็นคืออาทิตย์กำลังเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวที่เขาหมายปองได้นั่ง เพียงเท่านั้นความอดทนก็ขาดผึ่ง ชายหนุ่มลุกขึ้นทันที



   “ผมจะกลับ! ถ้าคุณวนิดาอยากอยู่ที่นี่ต่อก็ตามใจ!!!” เขาพูดเสียงดังแล้ววางเงินลงบนโต๊ะอย่างฉุนเฉียวก่อนจะหมุนตัวจะเดินออกจากร้าน แต่สายตากลับเหลือบไปสบกับดวงตาจันทร์จ้าว และเพียงเท่านั้นความโมโหของเขาก็พุ่งพล่านไปทั้งใจ ชายหนุ่มสะบัดหน้าเดินกระแทกเท้าปึงปังออกจากร้านไปด้วยความคับแค้นสุดหัวใจ!



   ………………………………..



   โต๊ะอาหารของ ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์และหม่อมหลวงพิมพัชราไม่ใคร่จะเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็น เพราะวันนี้คนอัธยาศัยดีที่มักจะมีเรื่องสนุกมาเล่าสู่กันฟังกลับรับประทานอาหารเงียบเสียจนคนที่ต้องเป็นจุดศูนย์กลางของวงสนทนาในวันนี้กลายเป็นดารารัษมีแทน



   “นี่แน่ะค่ะ พี่จันทร์จำแหม่มที่ขึ้นเรือมาพร้อมพี่จากสิงคโปร์ได้ไหม เดี๋ยวนี้เธอสนิทกับคุณพิมมาก”



   “อ้อ จำได้” จันทร์จ้าวตอบแล้วยิ้มจางทั้งๆที่เขาไม่รู้สึกอยากจะยิ้มเสียเท่าไร ใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนับตั้งแต่เข้าร้านมาแล้วเห็นว่าในร้านมีลูกค้าที่ชื่อ เภา วิชาญโยธินนั่งอยู่ด้วย แม้จะไม่เห็นพี่ชายของเภาและบัดนี้เภาก็ลุกออกจากร้านไปแล้ว แต่จันทร์จ้าวกลับนึกไปถึงภวัต



   ...เขาไม่ได้เจอภวัตอีกเลย นับตั้งแต่วันที่ภวัตและเภาไปที่บ้านรักษพิพัฒน์ในวันนั้น ยิ่งไม่ได้เจอ ก็ยิ่งพบว่าความรู้สึกในใจเพิ่มพูนและบีบอัดจนหายใจลำบาก จันทร์จ้าวรู้ดีว่าต้นเหตุของความรู้สึกและความคิดถึงที่มีอยู่ตอนนี้คืออะไร แต่...แต่ภวัตเป็นผู้ชาย และเขาก็เป็นผู้ชาย...เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้...



   “พี่จันทร์...พี่จันทร์...” เสียงเรียกของน้องสาวทำให้จันทร์จ้าวได้สติ เขาหันมองดารารัษมีแล้วเสยิ้มทว่าไม่พูดอะไร



   “เรากำลังพูดถึงมิสสจ๊วต ที่พี่จันทร์พบเธอบนเรือจากสิงคโปร์อย่างไรล่ะคะ”



   “อ้อ เธอเป็นอย่างไรบ้างล่ะ สบายดีไหม” จันทร์จ้าวพยายามดึงสติกลับมาสนใจกับบทสนทนาของทุกคน แม้ว่าในใจของเขาจะเอาแต่พะวงถึงใครบางคนก็ตามที



   “สบายดีค่ะ ตอนนี้เธอกำลังหลงใหลผู้ชายไทย เพราะว่าตอนเธอมาเมืองไทยครั้งแรก มีผู้ชายไทยคนหนึ่งมีน้ำใจกับเธอ พาเธอไปส่งถึงโรงเรียนเชียวค่ะ” หม่อมหลวงพิมพัชราพูดแล้วหัวเราะ จันทร์จ้าวยิ้มจาง หากเป็นแต่ก่อนเขาคงจะคุยถมโอ้อวดไปแล้วว่าผู้ชายไทยคนที่หล่อนกำลังกล่าวถึงก็คือจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์คนนี้



   ทว่า...ตอนนี้...จันทร์จ้าวผู้เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นผู้นั้นหายไปเสียแล้ว...



   “แต่ผู้ชายไทยบางคนก็นิสัยไม่ดี ปากหนักเรื่องสำคัญแต่ปากพล่อยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไร้เหตุผล รังแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง...” เขาพูดได้เพียงเท่านั้นก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างจุกล้นขึ้นมาถึงคอ ชายหนุ่มได้แต่ก้มหน้ารับประทานอาหารเงียบๆ คนทั้งโต๊ะมองหน้ากันด้วยเพราะอุปนิสัยไม่ช่างพูดเช่นนี้ไม่สมกับเป็นจันทร์จ้าวเลยแม้แต่น้อย ทว่าไม่มีใครกล้าถามอะไร และสุดท้ายทั้งโต๊ะก็กลายเป็นการรับประทานอาหารเงียบๆไปจนจบมื้อนั่นเอง



   ..............................................



บ้านพักแพทย์อยู่ในเขตของโรงพยาบาล ดังนั้นมันจึงเงียบสงบ ภวัตอาบน้ำเสร็จแล้ว อยู่ในชุดเสื้อผ้าฝ้ายและกางเกงแพรสำหรับใส่นอน ช่วงนี้เขาขลุกอยู่แต่ในโรงพยาบาล ทั้งเวลาทำงานและพักผ่อน ช่วงเวลาพักผ่อนของชายหนุ่มหมดไปกับการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือที่ได้มาจากหม่อมหลวงพงศ์ภราธร



   นายแพทย์หนุ่มมองหนังสือในมือแล้วถอนหายใจเบา ลูบหน้าปกมันอย่างเลื่อนลอย เขาอ่านจบไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ยังหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก ราวกับมันจะส่งความรู้สึกบางอย่างไปยังคนที่ฝากราชนิกูลแห่งวังฉัตรมาให้เขา



   ...จันทร์จ้าว...



เวลานี้กำลังทำอะไรอยู่ พวกเขาไม่ได้พบหน้ากันอีกเลยนับตั้งแต่วันอาทิตย์นั้น กี่วันมาแล้ว กี่สัปดาห์มาแล้ว ที่เขาไม่ได้เห็นแม้แต่เงา ฝ่ายนั้นก็ดูจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร เขาได้ยินสมฤดีพูดว่าจันทร์จ้าวยังคงกลับบ้านทุกสัปดาห์ ใช้ชีวิตกับพี่น้องอย่างสนุกสนานเช่นเคย คงมีแค่เขาเพียงคนเดียว...ที่ใช้ชีวิตเหมือนแล้วๆมาไม่ได้อีก มีแค่เขาเพียงคนเดียว...ที่คิดถึงจันทร์จ้าวอยู่ตรงนี้...



   ภวัตถอนหายใจยาว การไม่ได้พบหน้ากัน แทนที่จะทำให้ความรู้สึกของเขาเบาบางลง มันกลับหนักขึ้นเรื่อยๆจนกดทับหัวใจให้หายใจแทบไม่ออก ทุกครั้งที่เขาว่าง เขามักจะคิดถึงดวงหน้าขาว ดวงตากลมใหญ่ที่แสดงอารมณ์หลากหลาย ริมฝีปากสีสดที่แย้มยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย ภาพทั้งหมดนี้ ไม่รู้อีกนานเท่าไรจึงจะได้พบอีก



   “พี่ภวัต!! พี่ภวัต!!!” เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นที่หน้าบ้าน ทำเอานายแพทย์หนุ่มขมวดคิ้วฉับด้วยความสงสัย เสียงนี้เป็นของน้องชายของเขาแน่ แต่กระนั้นเวลาอย่างนี้ เหตุใด เภา วิชาญโยธินจึงมาที่นี่?



   ภวัตวางหนังสือลงกับเก้าอี้ แล้วลุกขึ้นไปเปิดประตูบ้าน เพียงเท่านั้น น้องชายที่ยืนหน้าหงิกหน้างอก็เดินดุ่มๆเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าหงุดหงิดในทันที และไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งคำถามถึงการแวะมาหาในยามกลางคืน เภาก็แผดเสียงดังลั่น



   “นายอาทิตย์คบกับคุณพิม!!!” ภวัตนิ่งสงบอย่างที่ทำเอาน้องชายยิ่งงุ่นง่านกับอารมณ์โมโหที่พวยพุ่ง



   “พี่ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรือ?!” นายแพทย์หนุ่มรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วจากสมฤดี แต่ทั้งอย่างนั้น เขาก็ยังไม่สามารถจะไปพบจันทร์จ้าวเพื่อยุติสัญญาระหว่างพวกเขาได้



   ...ภวัตไม่กล้า...เขารู้เต็มอกว่าตนเองรู้สึกเช่นไรกับอีกฝ่าย ช่วงเวลาที่ห่างกันบอกให้เขารู้ว่าเขาไม่เคยลืมจันทร์จ้าวได้เลย ซ้ำยังเอาแต่คิดถึง ทุรนทุรายอยากไปพบ แต่สิ่งที่เขาทำได้คือทำตัวนิ่งเฉย ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรต่อหน้าคนอื่น เพราะเขารู้ดี...เขาเป็นผู้ชาย จันทร์จ้าวก็เป็นผู้ชาย...



   “จะให้พูดอะไร คน ๒ คนคบกันก็เป็นเรื่องของเขา ๒ คน” ภวัตพูดเสียงขื่นและแทบจะในทันทีที่เภาร้องลั่น



   “แต่มันเกี่ยวกับผม!!”



   “มันเกี่ยวกับแกเพราะว่าแกชอบคุณพิม แต่เรื่องที่คุณพิมจะไปคบกับใครมันไม่เกี่ยวกับแก เพราะคุณพิมเขาไม่ได้ชอบแก...” คำพูดของภวัตทำเอาคนกำลังโมโหหนักถึงกับนิ่งงันเพราะความจริงที่ภวัตพูดนั้นตีแซกหน้าเขาอย่างจัง



   ชายหนุ่มร่างสูงผู้เจ้าสำราญในวันนี้ไม่ต่างอะไรกับคนอมทุกข์ เขาได้แต่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างอ่อนล้า ภวัตเห็นแล้วก็อดสงสารน้องชายไม่ได้ เขาเดินไปทรุดตัวลงนั่งข้างๆแล้วตบไหล่เบาๆโดยไม่พูดอะไร



   “ทำไมผมไม่เป็นคนที่สมหวังนะพี่ภวัต ผมก็มีดีไม่แพ้นายอาทิตย์นั่น ทำไมคุณพิมถึงเลือกนายอาทิตย์” เภาได้แต่ตัดพ้ออย่างอ่อนล้า ทั้งๆที่เขาไม่ได้ลงมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียสักอย่าง แต่พอแพ้ขึ้นมากลับรู้สึกเจ็บใจแล้วโทษโชคชะตาที่ทำให้หม่อมหลวงพิมพัชราเลือกอาทิตย์และไม่เลือกเขา



   “เรื่องความรัก ไม่ใช่การเลือกสิ่งที่ดีที่สุด แต่เป็นการเลือกสิ่งที่ตรงใจที่สุด แกอาจจะมีดีกว่าคุณอาทิตย์หรือคุณอาทิตย์อาจจะมีดีกว่าแก พี่ไม่ทราบหรอก แต่สิ่งที่ทราบคือคุณอาทิตย์ตรงใจคุณพิมที่สุด เธอจึงเลือกคุณอาทิตย์” ภวัตพูดราวกับจะใช้ประโยคนั้นปลอบใจตัวเองด้วยเช่นกัน



   ...ในชีวิตของเขาพบคนดี คนที่เหมาะสมทุกประการกับเขามามากมาย แต่ภวัตไม่เคยมอบความรู้สึกของตนเองให้ใคร แต่กับคนบางคน...แค่พบหน้า แค่พูดคุยไม่นาน ความรู้สึกที่มีให้กลับพัฒนาจนฉุดไม่อยู่...บางทีคงเป็นเพราะทำบุญร่วมกันมา แต่บุญที่ทำร่วมกันมามีน้อยเกินไปที่จะทำให้ได้เคียงคู่กัน ความรักของเขาจึงไม่สมหวังเหมือนอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชรา...



   “ผิดที่ผมไม่ตรงใจคุณพิมอย่างนั้นหรือ?...”



ภวัตได้แต่ยิ้มจางปลอบประโลม



   “คงเป็นบุญกรรมที่ทำมา” คนเป็นน้องหัวเราะเบาๆกับคำปลอบนั้น เขาหันมามองพี่ชายด้วยความรู้สึกที่แม้จะยังเศร้าแต่ก็ไม่อ้างว้างและโดดเดี่ยว อย่างน้อยเขาก็ยังมีภวัตเอาไว้ปรับทุกข์



   “พี่ยังเชื่อเรื่องบุญกรรมอีกหรือ”



   “ก็...มันเป็นเรื่องที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ คนบางคน แค่เห็นหน้าครั้งแรกเราก็รู้สึกถูกชะตา แค่เห็นหน้าครั้งเดียวก็จำได้เหมือนรู้จักกันมาเป็นปี ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ลบหน้าเขาออกจากความทรงจำไม่ได้ แค่ได้คุยกัน ได้ใช้เวลาด้วยกันเพียงไม่นานแต่กลับสนิทสนมได้อย่างง่ายดาย ทั้งๆที่เพิ่งได้พบ ทั้งๆที่เพิ่งรู้จัก แต่กลับรู้สึกว่าเขาคือคนที่เรารอคอยมาตลอด อะไรล่ะที่ทำให้รู้สึกอย่างนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะบุญกรรมที่ทำร่วมกันมา” 



เภารับฟังและจับจ้องพี่ชายด้วยความรู้สึกหลากหลาย ภวัตเป็นคนอ่อนโยน เขารู้ดี แต่เวลานี้พี่ชายของเขาไม่ใช่แค่อ่อนโยนแต่กำลังอ่อนแอ...อ่อนแอเพราะความรัก...



   “พี่ภวัตรักใครอยู่หรือ”



ไม่ทราบอะไรดลใจให้เภาตั้งคำถามนี้กับพี่ชาย อาจจะเพราะเขาไม่เคยเห็นภวัตคบหากับผู้หญิงคนไหน พี่ขายของเขาเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี มีเพื่อนมากมายเพราะมักจะมีรอยยิ้มติดหน้าอยู่เป็นนิจ แต่กลับไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่อยู่ในชีวิตพี่ของเขาอย่างจริงจังเลย



   ภวัตนิ่งไป ก่อนจะยิ้มขื่นเมื่อคิดถึงความรู้สึกของตนเอง “...มัน...ไม่มีทางสมหวังมากกว่าแกเสียอีก”



   คนเป็นน้องหันมองหน้า จากความรู้สึกแสนเจ็บปวดของเขากลับกลายเป็นเภาอยากรู้เรื่องของพี่ชาย



   “ทำไมถึงไม่สมหวังล่ะ”



   “ก็...ไม่เหมาะสมกัน...” เภาชะงักค้าง



   “ไม่เหมาะ?! ไม่เหมาะตรงไหน?!! พี่ภวัตเป็นหมอ คุณพ่อเป็นถึงนายพล พวกเรานามสกุลวิชาญโยธิน! ให้ตายเถอะ!! จะมีใครในกรุงเทพฯไม่รู้จักคนสกุลนี้บ้าง!! แล้วพี่ก็เป็นลูกชายคนใหญ่ที่เกิดจากเมียเอกด้วย!! ฝั่งคุณแม่ก็ไม่น้อยหน้า มรดกพัสถานก็มีออกมาก พี่มีทุกอย่างนะพี่ภวัต! อีกฝ่ายเป็นใคร ทำไมพี่ภวัตถึงไม่เหมาะสม หรือเขาไม่เหมาะสมกับพี่ภวัตหรือ” คิดอย่างไรพี่ชายของตนก็สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง เภาไม่คิดว่าจะมีใครที่ภวัตไม่คู่ควร หากจะบอกว่าอีกฝ่ายไม่คู่ควรก็คงพอฟังขึ้น



   “เราต่างไม่เหมาะสมกัน” เภายังงุนงง จากที่เมื่อครู่ตั้งแต่ขับรถออกมาจากร้านอาหารเอาแต่คิดเรื่องของตนเอง กลายเป็นว่าเวลานี้เขากลับคิดถึงเรื่องของภวัตจนลืมเรื่องของตนเองไปแล้ว



   “แล้ว...แล้วทุกวันนี้ได้คุยกันอยู่ไหม”



   “ไม่ได้คุยกันเลย” เภาสะท้อนใจด้วยความสงสาร เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ไม่คิดว่าพี่ชายของตนจะมีชีวิตรักที่น่ารันทดถึงเพียงนี้ นอกจากจะไม่สมหวังในรักแล้ว ยังไม่ได้แม้แต่จะพูดคุยกับคนที่รักด้วยซ้ำ



   “ทำไมพี่ไม่เคยบอกผม” คนพี่ยิ้มจางอย่างเศร้าสร้อย



   “บอกแล้วแกก็คงจะยื่นมือเข้ามาช่วยน่ะสิ”



   “แน่อยู่แล้ว! ไม่ช่วยพี่แล้วจะช่วยใคร?! พี่ช่วยผมมาตั้งมาก กับแค่เรื่องความรักของพี่ ทำไมนายเภาคนนี้จะช่วยไม่ได้”



   “ฉันช่วยอะไรแกมามาก หือ นายเภา” เภามองพี่ชายด้วยสายตาที่รับรู้ในบุญคุณ เรื่องที่ภวัตช่วยเหลือเขามีมากมายอย่างกับหางว่าว เขายังเคยคิดทีเล่นทีจริงว่าหากมีชาติหน้า ก็จะเกิดมาเป็นน้องของภวัตอีก



   “ช่วยตั้งแต่เด็กจนโต สมัยเด็กๆ พี่ภวัตเรียนหนังสือไม่เก่ง ก็ยังพยายามสู้เรียนให้เก่ง เพื่อจะเป็นความหวังให้คุณพ่อคุณแม่ จริงอยู่ว่าการที่พี่ขยันกับผมที่ไม่เอาอ่าว ผมย่อมถูกบ่นมากกว่าเดิม แต่...เพราะคุณพ่อคาดหวังกับพี่ได้ ผมถึงได้ใช้ชีวิตอย่างสบายเช่นนี้ เวลามีขนมหรือของเล่นใหม่ พี่ก็มักจะให้ผมเลือกก่อน ผมรู้ว่าของที่ผมเลือกบางทีพี่ก็อยากได้ แต่พี่ก็ยังให้ผมก่อนเสมอ คนอื่นอาจจะมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นการเสียสละเล็กๆน้อยๆของคนเป็นพี่ แต่ถ้าให้ผมเกิดมาเป็นพี่ ผมก็ทำเช่นนั้นไม่ได้หรอก อย่างน้อยๆก็ต้องจับสลากกันล่ะ ว่าใครจะได้เลือกของเล่นก่อน” คำพดของเภาเรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากผู้เป็นพี่ได้ดี



   “แต่บางที ฉันก็คิดว่าฉันให้แกมากเกินไป จนถึงตอนนี้ แกก็ยังไม่โตเสียที”



   “เพราะคิดว่าผมไม่โตก็เลยไม่บอกเรื่องความรักต้องห้ามของพี่อย่างนั้นซี?!! พุทโธ่! ไม่รู้หรือว่านายเภา วิชาญโยธินคนนี้น่ะนักรัก รักมาแล้วทุกรูปแบบ!”



   “แต่ความรักของฉันครั้งนี้ ใครก็ช่วยไม่ได้หรอก ฉันกับ...เขา...เราไม่มีทางสมหวัง” คำพูดของภวัตช่างแห้งแล้งและน่าเวทนาจนคนฟังยังอดเศร้าไปด้วยไม่ได้



   “เพราะอย่างนั้น พี่ถึงได้บอกกับผมว่าถ้าคุณพ่อบังคับพี่แต่งงาน พี่ก็จะยินดี...อย่างนั้นใช่ไหม”



   “ไม่ใช่หรอก ที่ฉันเคยพูดครั้งนั้น เพราะไม่คิดว่าจะมีใครทำให้ฉันรู้สึกเช่นนี้ได้ แต่หลังจากนั้น...ฉันได้รู้จัก ได้คบหาพูดคุย พอรู้ตัวว่ารู้สึกเช่นไร ก็ยิ่งรู้ว่าเรื่องของฉันมันเป็นไปไม่ได้ แต่ถึงเป็นไปไม่ได้ก็ลืมไม่ได้ ฉันก็เลยไม่คิดจะแต่งงานกับใครอีก ถ้าคุณพ่อเรียกไปคุย ฉันก็จะเรียนกับท่านว่า...จะไม่แต่งงานไปชั่วชีวิต”



   “ชั่วชีวิต?! พี่จะอยู่กับความรักที่ไม่สมหวังนี่ไปชั่วชีวิตอย่างนั้นหรือ?!” เภาผู้ไขว่คว้าหาคู่รักมาแนบกายไม่เว้นแต่ละวันย่อมไม่เข้าใจความรู้สึกของพี่ชายผู้หมายมั่นจะจมอยู่กับความรักที่ไม่สมหวัง ทว่าภวัตยังคงมีรอยยิ้มน้อยๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้าเหลือเกิน



   “ใช่ ฉันจะไม่แต่งงานกับใคร ต่อให้ฉันกับ...กับคนที่ฉันรักไม่มีวันจะได้อยู่ด้วยกัน ฉันก็จะขออยู่ของฉันอย่างนี้ มองเขาจากที่ตรงนี้ ยินดีกับเขาเมื่อเขามีความสุข ช่วยเหลือเขาหากว่าเขาต้องการ ฉันทำได้เท่านี้...” ยิ่งฟังก็ยิ่งสงสาร เภาไม่เคยคิดมาก่อนว่าพี่ชายผู้มีทุกอย่างครบสมบูรณ์ ทั้งชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ทั้งความรู้ความสามารถ จนแม้แต่เขาที่เป็นน้องแท้ๆยังนึกอิจฉาในบางคราว จะต้องพบวิบากกรรมในความรักถึงเพียงนี้ ทว่าถึงจะเป็นอย่างนั้น...ภวัตก็ยังนิ่งสงบ ไม่เหมือนเขาที่แค่ผู้หญิงที่เขาถูกใจคบหากับคนอื่น เขาก็ตะบี้ตะบันมาโวยวายกับพี่ถึงที่นี่



   “พี่ไม่คิดจะทำทุกอย่างให้ความรักของพี่สมหวังบ้างหรือ” คำถามของพี่ชายทำให้ภวัตยิ้มจาง



   “เคยสิ บางทีก็คิดแบบเด็กว่าความรักชนะทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริง...มันไม่มีทางเป็นอย่างนั้น ความรักของฉันไม่มีทางสมหวัง เราไม่เหมาะสมกันไม่ว่าจะประการใดก็ตาม และเขา...ควรจะได้แต่งงานกับคนที่เหมาะสมกว่า” การย้ำคำเดิมว่าไม่มีทางสมหวังด้วยท่าทางจริงจังและเหมือนจะปลงตกทำให้เภาพูดไม่ออก เขาได้แต่จ้องมองใบหน้าของพี่ชายด้วยความอาดูร จนเป็นฝ่ายภวัตเองที่ตัดบท



   “เรื่องของฉันช่างมันเถอะ แกน่ะ...วันนี้นอนค้างที่นี่เสียจะดีไหม กลับไปทั้งอย่างนี้ คุณแม่จะเป็นห่วง”



   “ก็ดีครับ ผมไม่อยากตอบคำถามคุณแม่เสียเท่าไร คนอย่างเภา วิชาญโยธินกับคำว่าอกหัก มันช่างไม่คู่ควรกันเสียเลย” เภาทำหน้าระโหยให้พี่ชายเห็น ภวัตจึงยิ้มจางแล้วบีบไหล่น้องชายเป็นการให้กำลังใจอีกครั้ง



   “ของที่ไม่ใช่ของเรา ย่อมไม่ใช่ของเรา คนก็เช่นกัน หากเขาไม่ใช่คู่ของเราแล้ว อย่างไรก็ไม่ใช่ แต่หากเป็นคู่ของเรา วันหนึ่งเขาจะกลับมา” เภามองสบเข้าไปในดวงตาของผู้เป็นพี่ ฟังราวเหมือนภวัตกำลังปลอบใจเขา แต่ความอ่อนล้าที่ฉายแววอยู่ในดวงตาของผู้เป็นพี่ กลับทำให้เภารู้สึเหมือนอีกฝ่ายกำลังปลอบใจตนเองด้วยเช่นกัน



   “เรา ๒ คนพี่น้องตรอมใจอมทุกข์ แต่ ๔ พี่น้องบ้านนั้นมีความสุขหรรษา โลกไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย” คำว่า ‘๔ พี่น้อง’ ทำให้ภวัตชะงัก แต่เภาผู้ยังคงมีความหงุดหงิดตกค้างไม่ทันได้สังเกตบางสิ่งบางอย่างที่ฉายชัดในแววตาของพี่ชาย เขาพูดต่ออย่างคะนองปากเพื่อระบายความอัดอั้น



   “๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์กำลังฉลองกันที่ร้านอาหาร พร้อมหน้าพร้อมตาคุณพิม ท่าทางร่าเริงกันทุกคน นายจันทร์จ้าวยังมองผมเลย คงจะเย้ยผมเต็มทน หึ! ผมล่ะขอสาปแช่งให้มันไม่สมหวังในความรักเหมือนผมเถอะ! เห็นแล้วหงุดหงิด!”



   “เภา...” พี่ชายเรียกปราม



   “ผมไม่ได้สาปแช่งนายอาทิตย์หรอก! เกิดความรักของนายอาทิตย์ไม่สมหวังขึ้นมา คุณพิมก็เสียใจแย่ นี่ผมแช่งนายจันทร์จ้าวนั่นคนเดียว มีเพื่อนผู้หญิงเพียบอย่างนี้ คงไม่มีบ้านไหนอยากได้ไปเป็นเขยแน่!” พอได้พูดอย่างที่พอใจแล้ว เภาก็พ่นลมหายใจออกมา “เอาเถอะ! ผมจะไม่พูดเรื่องบ้านนั้นอีก เอาเป็นว่ายกนี้ให้บ้านนั้นชนะไปก่อน ไว้คุณพิมหมดเวรหมดกรรมหมดบุญกับบ้านนั้นเมื่อไร ผมจะพาคุณพิมไปทำบุญร่วมขันกันให้ได้ ชาติหน้าจะได้ครองคู่กันอย่างที่พี่ภวัตบอก ว่าแต่...พี่มีเสื้อผ้าให้ผมยืมไหม ขออาบน้ำหน่อยซี รู้สึกเหนียวตัวชอบกล” คนเป็นน้องเรียกร้องเอาตามความพึงใจ พออารมณ์หงุดหงิดคลายลงแล้ว ก็อยากอาบน้ำอาบท่าให้สบายเสียหน่อย



“จะไปหยิบมาให้” ภวัตพูดเพียงเท่านั้น แล้วเดินเข้าห้องนอนไปโดยไม่ได้ปริปากบอกอะไรแก่น้องชาย



   ...อย่างน้อยๆ วันนี้เขาก็ได้รู้แล้วว่าจันทร์จ้าวสบายดี...อย่างน้อยๆ การที่อยู่ตรงนี้ อยู่ในที่ของเขา ก็ยังพอจะทำให้เขาได้รับรู้ความเป็นไปของคนที่เขา...ไม่มีวันได้มาครอบครอง...



   ...ให้อย่างไร ความรักของเขาก็ไม่มีวันสมหวังจริงๆ...


............................................
   



   ความสัมพันธ์ของอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราเป็นที่เปิดเผย เมื่อทุกอย่างชัดเจนเสียเพียงนั้น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดก็ยิ่งอารมณ์ดี ด้วยเพราะคิดว่าเมื่อเรื่องของน้องสาวตนไม่เป็นอุปสรรคใดๆแล้ว จันทร์จ้าวคงจะกลับไปเป็นเหมือนปกติได้ ทว่า...มันไม่ใช่



   “ไม่เห็นจะเป็นจันทร์จ้าวคนเดิมเลย คุณพงศ์” เรย์มอนด์เดินออกมาจากห้องทำงานของเพื่อนรัก หลังจากเมื่อครู่เข้าไปทักทายปราศัยอยู่ครู่ใหญ่ๆซึ่งในอีกนัยหนึ่งคือเข้าไปสำรวจอารมณ์ของเพื่อน จะได้นำมาบอกเล่าให้พนักงานทั้งหลายของสำนักงานเตรียมตัวรับมือ



   ...แต่วันนี้ก็ยังเป็นเหมือนหลายวันที่ผ่านมา จันทร์จ้าวผู้แสนใจร้อน มุทะลุ ปากร้ายและเอาแต่ใจไม่ทราบไปพักร้อนที่ใด เพราะเวลานี้จันทร์จ้าวที่พวกเขากำลังพานพบคือจันทร์จ้าวผู้ใจเย็น อะไรก็ได้ อะไรก็ดี ไม่โวยวาย ไม่ดุด่าอาละวาด...



   “เมื่อกี้นะ ผมพูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ คุณพงศ์รู้ไหม จันทร์ว่าอย่างไร จันทร์บอกว่า...” นายฝรั่งพูดแล้วทำกระแอมไอปรับเสียงให้ฟังดูสงบ “...พูดภาษาอังกฤษอีกแล้ว อยู่เมืองไทย ก็หัดพูดภาษาไทย เวลาซื้อข้าวซื้อของขึ้นรถลงเรือจะได้สื่อสารได้ ไม่ลำบาก...อุวะ! มีห่วงเราด้วยแน่ะ!!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอยากจะหัวเราะอยู่หรอก แต่เหตุใดเขาถึงหัวเราะไม่ออกชอบกล เรื่องของน้องสาวเขาก็เข้ารูปเข้ารอยแล้ว ความรักของคนทั้งคู่สุกงอมดี นายเภา วิชาญโยธินก็ไม่เห็นจะมากวนใจแต่อย่างใด ได้ยินแว่วๆว่าลอยตามลมเป็นพ่อพวงมาลัยเช่นเคย และอีกคนที่ยังเป็นเหมือนเคยคือจันทร์จ้าว



...ทำไม...ทำไมจันทร์จ้าวยังเป็นเหมือนเดิม...



   ...หรือว่า...ยังไม่ได้คุยกับหมอภวัต?...



   “หรือชวนไปตีเทนนิสอีกดี แต่อารมณ์อย่างนี้ไปตีเทนนิส อาจจะกลายเป็นตีกอล์ฟเอาได้ เพราะเอื่อยเฉื่อยเหลือเกิน เอ?...แต่ดูเหมือนจะป่วยด้วยนะ เห็นไอโคลก” นายฝรั่งพูดตามที่เห็น แต่สุดท้ายก็ส่ายหัวไปมา



   “ไม่คิดแล้ว คุณพงศ์ช่วยไปดูทีเถอะ จะเอาอย่างไรก็มาบอก จันทร์เป็นแบบนี้ผมไม่ชอบเลย” แล้วก็ต้องถึงมือหม่อมหลวงพงศ์ภราธร แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าตัวเองก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำให้จันทร์จ้าวคนเดิมกลับมาได้หรือไม่



............................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 26-11-2015 19:56:00
   เสียงเคาะประตู ๓ ครั้งดังขึ้นเบาๆ จันทร์จ้าวที่กำลังนั่งอ่านหนังสือภาษาอังกฤษอยู่ที่โต๊ะทำงานจึงต้องหันไปมอง บานประตูเปิดเข้ามา ไม่ใช่ใครที่ไหนราชนิกูลหนุ่มเพื่อนรักของเขานั่นเอง



   “มีอะไรหรือคุณพงศ์”



   “เห็นเรย์ว่าแกไม่ค่อยสบาย” คนเข้ามาในห้องอ้างไปเรื่อยเปื่อย จันทร์จ้าวโคลงศีรษะน้อยๆ



   “ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่คันคอเท่านั้น”



   “ไม่ได้เป็นอะไรก็ดีแล้ว” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดได้เพียงเท่านั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ภายในห้องทำงานเล็กๆของจันทร์จ้าวเงียบกริบทั้งๆที่มีคนอยู่ถึง ๒ คน ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเจ้าของห้องตั้งคำถามขึ้นมา



   “คุณพงศ์คงไม่ได้เข้ามาที่นี่เพื่อถามผมเรื่องไม่สบายอย่างเดียวหรอกใช่ไหม”



   “แกคุยกับคุณหมอบ้างหรือยัง” คำถามนั้นทำเอาจันทร์จ้าวนิ่งงัน เขาลดสายตาลงมองตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นพืดบนหนังสือ



   ...ทั้งๆที่เขาไม่ใช่คนชอบอ่านหนังสือเอาเสียเลย แต่ช่วงนี้กลับขลุกตัวอยู่แต่กับหนังสือและงาน ด้วยหวังว่าวันหนึ่งจะได้ไม่ต้องคิดถึงใครบางคนที่ไม่ได้เห็นหน้ามานาน...



   “เรื่องของผมกับเขามันเป็นไปไม่ได้” เขายอมรับใจตัวเอง แต่หมอภวัตและสังคมไม่มีวันยอมรับหัวใจของเขา



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาก็พอจะเข้าใจว่าความรู้สึกของจันทร์จ้าวที่มีให้ภวัตเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ แต่...ในเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว จะให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาได้อย่างไร...



   “เรื่องของแกกับคุณหมอ จะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้มันขึ้นอยู่กับแกและคุณหมอ แกตัดสินใจคนเดียวอย่างนี้ก็ไม่ยุติธรรมกับคุณหมอน่ะซี”



   “คุณพงศ์พูดเหมือนกับว่าหมอจะมาร่วมตัดสินใจกับผมอย่างนั้นล่ะ”



   “ก็ลองไปบอกดูก่อนซี”



จันทร์จ้าวส่ายหน้า



“คุณพงศ์คิดว่าถ้าผมไปพบเขาอีกครั้ง ผมจะทำอย่างไร ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องของผมกับเขาเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าผมเห็นหน้าเขาอีกแม้แต่ครั้งเดียว นายจันทร์จ้าวคนนี้จะไม่มีวันปล่อยเขาไปอีก และหากเป็นเช่นนั้น คนที่จะเดือดร้อนคือหมอ เขาเป็นหมอ เป็นลูกชายคนใหญ่ของวิชาญโยธิน หากมีเรื่องเสื่อมเสีย คราวนี้คงได้ย้ายไปอยู่ฮ่องกงเป็นเพื่อนน้องชายนายวินิตแน่ สู้หายจากกันไปเช่นนี้ยังจะดีเสียกว่า”



เป็นอีกครั้งที่ราชนิกูลหนุ่มถอนหายใจอีกเฮือก



   “กันเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์เพื่อนของกันเป็นคนขี้ขลาดตาขาว...”



   “ใจฝ่อด้วย คุณพงศ์จะดุด่าอะไรก็ตามสบายเลย” คนถูกหาว่าขี้ขลาดตาขาวแทรกราวกับยอมรับตัวเอง ทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดไม่ออก และสุดท้ายก็ถอนหายใจอีกหน



   “แกนะแก...บทจะฝ่อก็ฝ่อจนยุไม่ขึ้น เอาเถอะ ตามใจ จะเอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในสำนักงาน เอาแต่อ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง เอาแต่ระทมอมทุกข์ กันก็จะไม่พูดอีก แต่อยากให้รู้ไว้ว่าสิ่งที่แกเป็นในตอนนี้ คุณหมอก็เป็นไม่ต่างจากแก แต่ก็คงเป็นอีกไม่นาน...ได้ยินว่าคุณหมอจะขอทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ไปครั้งนี้คงอีกนานกว่าจะได้กลับมา บางทีอาจจะตั้งรกรากอยู่ที่นั่นเลย ไม่ต้องกลับมาอยู่กรุงเทพฯแล้วพบเจอคนเดิมๆที่นี่อีก” ประโยคหลังหม่อมหลวงพงศ์ภราธรโกหกไปเต็มคำ ด้วยเพราะคิดไม่ออกอีกแล้วว่าจะใช้วิธีใดให้จันทร์จ้าวลุกขึ้นสู้ แต่การโกหกของราชนิกูลหนุ่มทำเอาดวงตากลมใหญ่ของคนฟังเหลือบมองทันควัน



   “หมอจะไปเรียนต่อหรือ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบแผ่วราวใจหาย



   “อื้อ...ก็ได้ยินมา คุณหมอเธอเก่ง ใครๆก็อยากให้ทุนทั้งนั้น เห็นว่าอีกไม่นานก็จะไป แต่แกก็จะไม่ทำอะไรอยู่แล้วนี่ จะอยู่เฉยๆอย่างนี้ต่อไปก็ไม่เห็นจะเป็นไร ปล่อยคุณหมอเธอไปเรียนต่อสัก ๑๐ ปี หรือ ๒๐ ปี แกก็ทนได้อยู่แล้วใช่ไหม หึ...จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์เป็นคนมีความอดทนดีเยี่ยมซีนะ” วางระเบิดไว้ลูกใหญ่แล้วหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็หมุนตัวเดินไปยังประตู ทิ้งให้จันทร์จ้าวได้แต่มองตามแล้วหัวใจที่เคยรู้สึกว่ามันตายด้านไปแล้วก็เหมือนจะแหลกสลายเป็นผุยผง



   ...หมอ...จะไปแล้วหรือ...



   ราชนิกูลหนุ่มแอบเหลือบกลับไปมองจันทร์จ้าวอีกครั้ง แล้วภาวนาให้คำโกหกของเขาสัมฤทธิ์ผลด้วยเถิด



..........................................



   ภวัตผู้ซึ่งถูกใส่ไฟว่าจะไปเรียนต่อเป็น ๑๐ ปี ยังคงทำงานที่โรงพยาบาลและพักที่บ้านพักแพทย์ แต่ละวันผ่านไปโดยที่ชายหนุ่มแทบไม่ได้ออกไปไหน หากออกจากโรงพยาบาล จุดหมายปลายทางมีที่เดียวคือบ้านวิชาญโยธิน แต่กระนั้น เรื่องของใครบางคนก็ยังผ่านหูเขาอยู่เสมอ โดยเฉพาะจากนางพยาบาลสมฤดีผู้มีฐานะเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงกับพวกรักษพิพัฒน์ เพราะฉะนั้นแม้จะอยู่ในโรงพยาบาล แต่ภวัตก็ยังรับรู้ว่าจันทร์จ้าวสบายดี จันทร์จ้าวมีความสุข และจันทร์จ้าวไม่จำเป็นต้องมีเขาก็ได้...



   ...คิดได้อย่างนี้ หัวใจก็เจ็บหนึบไปหมด รู้ทั้งรู้ว่าความรู้สึกพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นเลยระหว่างเขาและจันทร์จ้าว แต่เมื่อรู้ตัวอีกที มันก็อัดแน่นล้นใจจนไม่มีพื้นที่เหลือให้ใครอีก ภวัตได้แต่ภาวนาให้เวลาและความห่างเหินช่วยลดขนาดของความรู้สึกลง แม้ว่ามันจะดูไม่มีทางเอาเสียเลย เพราะกระทั่งวันนี้ เขาก็ยังคิดถึงจันทร์จ้าวอยู่นั่นเอง...



   “คุณหมอคะ...” เสียงของพยาบาลดังขึ้น ปลุกสตินายแพทย์หนุ่ม ช่วงเวลาแค่ชั่วครู่ที่คนไข้คนก่อนลุกออกไป และพยาบาลไปตามคนไข้คนใหม่เข้าห้องตรวจ ภวัตก็ยังคิดถึงจันทร์จ้าวจนได้ เขาถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ แล้วพยายามตั้งสติกับงาน



   “ครับ” เขาขานรับ นางพยาบาลจึงหันไปเรียกคนไข้ให้มาเข้าห้องตรวจ บานประตูเปิดออกกว้างขึ้นอีกหน่อย แล้วนายฝรั่งคุ้นตาหมอภวัตก็เดินเข้ามา



   “มิสเตอร์อดัมส์...” นายแพทย์หนุ่มครางเสียงแผ่วอย่างคาดไม่ถึง เรย์มอนด์ อดัมส์ยกมือไหว้สวัสดีอย่างรู้มารยาทแล้วจึงนั่งลงที่เก้าอี้สำหรับคนไข้



   “สวัสดีครับคุณหมอ วันนี้ผมป่วย เป็นหวัด น้ำมูกไหลด้วย ปวดหัวนิดหน่อย”



   “ขอผมตรวจหน่อยนะครับ” เห็นหน้านายฝรั่งผู้นี้ ภวัตก็หวนคิดถึงจันทร์จ้าวอีกหน เขาต้องตั้งสติและสมาธิอย่างหนักเพื่อให้สนใจอยู่แต่อาการป่วยของเรย์มอนด์เท่านั้น



   “มิสเตอร์อดัมส์พักอยู่แถวนี้หรือครับ ทำไมผมไม่เคยเห็นคุณที่นี่มาก่อน” ภวัตถามตามประสาคนรู้จักคุ้นเคยเพราะเคยตีเทนนิสด้วยกันหลายหน



   โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลใหญ่ก็จริง มีคนไข้จากทั่วทุกสารทิศ แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในละแวกนี้คงไม่ดั้นด้นมาถึงนี่เพราะเป็นไข้หวัด



   “เรียกผมว่าเรย์ก็ได้ครับคุณหมอ ผมไม่ได้พักแถวนี้หรอก แต่...เอ่อ...มาทำธุระแถวนี้ แล้วพอดีคุณพงศ์แนะนำว่าคุณหมอเป็นหมออยู่ที่นี่ ประจวบเหมาะก็เลยแวะมาหาน่ะครับ” นายฝรั่งทำหน้าเขินเล็กน้อย ภวัตยิ้มจาง แล้วจึงเริ่มต้นเขียนใบสั่งยาให้



   “เป็นได้สักกี่วันแล้วครับ”



   “เพิ่งเริ่มเป็นวันนี้ครับ แต่เมื่อ ๒ วันก่อน ผมคุยงานกับจันทร์ แล้วจันทร์ไอตลอดเวลา สงสัยผมจะติดจากจันทร์” คำพูดประโยคนั้นของนายฝรั่ง ทำเอาภวัตถึงกับชะงักกึก เขาเงยหน้ามองคนพูดในทันที



   “คุณจันทร์ก็ไม่สบายหรือครับ”



   “ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะป่วยหรอกครับคุณหมอ จันทร์แข็งแรงออกจะตายไป สมัยอยู่อเมริกา คนทั้งหอเป็นไข้กันหมด ก็มีแต่จันทร์คนเดียวที่ยังออกไปวิ่งข้างนอกได้อยู่เลย” เรย์มอนด์พูดแล้วสูดน้ำมูกชุดใหญ่



   “แล้ว...วันนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง” นายฝรั่งทำหน้านึกก่อนจะตอบ



   “เอ?...ไม่ทราบซีครับ แต่เมื่อวาน...วันศุกร์ก็ยังมาทำงานอยู่” คำพูดนั้นไม่อาจทำให้ภวัตสบายใจได้เลย เมื่อวานยังไปทำงานไหว วันนี้อาจจะนอนซมก็เป็นได้...แต่วันนี้เป็นวันเสาร์ บางทีจันทร์จ้าวอาจจะกลับไปนอนที่บ้านรักษพิพัฒน์...



   “คงไม่เป็นไร วันนี้เขาคงกลับไปนอนที่บ้าน” นายแพทย์หนุ่มเปรย แม้ในใจจะห่วง แต่เมื่อคิดเอาว่าจันทร์จ้าวกลับไปนอนที่บ้านรักษพิพัฒน์คงมีคนดูแลมากมาย เขาที่ไม่ใช่คนคุ้นเคย ไม่ใช่คนสนิท จะดันทุรังไปหาก็คงถูกอีกฝ่ายเมินเฉยใส่แบบคราวก่อนอีก



   “ไม่นะครับ เขาไม่ได้กลับบ้านหรอก ก็ผมไปหาคุณสกาย...เอ่อ...น้องสาวของจันทร์เมื่อครู่นี้เอง คุณสกายบอกว่าจันทร์ไม่กลับมานอนที่บ้าน เพราะติดงาน ผมล่ะไม่อยากจะบอกเอาเสียเลยว่าหมู่นี้จันทร์บ้างานออกปานนั้น จะมีงานอะไรให้ติดอีกเล่า...” ประโยคท้ายๆ ภวัตแทบไม่ได้ฟังเพราะเขานึกห่วงจันทร์จ้าวตั้งแต่ที่เรย์มอนด์บอกว่าฝ่ายนั้นไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านรักษพิพัฒน์



   ...จันทร์จ้าวไม่ได้กลับบ้าน แล้วตอนนี้อยู่ที่ใด? ที่บ้านเช่าเพียงลำพังน่ะหรือ?...



   “คุณหมอ เป็นอะไรหรือครับ” กลายเป็นคนป่วยต้องตั้งคำถามกับหมอ ภวัตเหมือนจะรู้สติ เขายิ้มจางทว่าเป็นยิ้มที่อ่อนล้าเต็มทน



   “เปล่าครับ คุณเรย์รอเรียกรับยานะครับ”



   “ขอบคุณมากครับหมอ...” เรย์มอนด์ลุกขึ้นจะเดินออกจากห้องตรวจ ทว่าอะไรบางอย่างทำให้เขาหันกลับมามองภวัต



   นายฝรั่งจับจ้องนายแพทย์หนุ่มที่ก้มหน้าก้มตาเขียนใบสั่งยา ใจหนึ่งเขาคิดว่าที่เพื่อนของเขาตกอยู่ในสภาพ ‘จันทร์จ้าวคนเงียบ’ ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับภวัต แต่อีกใจ...เรย์มอนด์ อดัมส์กลับคิดว่าหากไม่ใช่เพราะหมอภวัต เพื่อนรักของเขาก็คงไม่อยู่ในสภาพเช่นนั้น ก่อนหน้านี้จันทร์จ้าวสนิทกับนายแพทย์ผู้นี้  จากนั้นก็ไม่พูดถึงชื่อนี้เลย แล้วก็กลายเป็นเซื่องซึมอย่างทุกวันนี้ในที่สุด



   “หมอครับ...” เรย์มอนด์เรียก ทำเอาภวัตที่พยายามตั้งสติในการทำงานต้องเงยหน้ามอง



   “...ถ้าเพื่อนผมทำให้หมอไม่สบายใจ ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วย อ่า...คนไทยพูดว่าอะไร...เวรกรรมตามทันใช่ไหม ผมว่าเขาคงทำเรื่องไม่ดีไว้กับคุณหมอ คือ...ระหว่างคุณหมอกับเพื่อนของผม ผมว่าเพื่อนของผมนิสัยเลวกว่า อาจจะเป็นคนก่อเรื่อง ดังนั้น เขาคงก่อเรื่องเอาไว้กับคุณหมอ แต่เวลานี้เขาก็กำลังรับโทษทัณฑ์นั้นแล้ว ถ้าคุณหมอให้อภัยเขาได้ ก็ให้อภัยเขาเถอะครับ จันทร์...จะได้ยิ้มได้เสียที...” เขาพูดแล้วส่งยิ้มระโหยเพราะไข้หวัดก่อนจะเดินออกจากห้องตรวจไป



ภวัตมองตามแล้วได้แต่พิงหลังกับพนักเก้าอี้ หัวใจกำลังคิดถึงใครบางคนที่เขาได้รับรู้สารทุกข์สุขดิบ รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรไปพบหน้าอีก แต่กระนั้น สุดท้ายเขาก็ลุกจากโต๊ะออกไปพูดกับพยาบาลสมฤดีผู้ดูแลตารางคนไข้ของเขา



“วันนี้ผมต้องไปเยี่ยมเพื่อน ตรวจคนไข้เสร็จแล้วจะขอกลับเลยนะครับ”


.................................




   บ้านเช่าสีเขียวอ่อนใกล้วังฉัตรปิดไฟเงียบ ภวัตดับเครื่องจอดที่หน้าประตูรั้วเตี้ยแล้วลงจากรถมองเข้าไปข้างใน นี่ค่ำมากแล้วและฝนกำลังตกปรอยๆ ทั้งๆที่อยากมาหาตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าไม่สบายและไม่ได้กลับบ้าน แต่เพราะคนไข้ในความดูแลของเขาเกิดอาการหนักขึ้นมา กว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาล ดวงอาทิตย์ก็ตกดินไปแล้ว ชายหนุ่มชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน แต่ไม่มีวี่แววว่าจันทร์จ้าวจะอยู่ที่นี่เลย



   ...ไม่สบายแล้วไปไหน ฝนก็ตกอย่างนี้ ทำไมไม่กลับบ้าน...



   “หมอ...” เสียงติดแหบดังขึ้นแผ่วเบา ทว่าก็ดังเพียงพอที่จะทำให้คนกำลังเป็นกังวลต้องหันมอง



   ร่างสูงโปร่งเจ้าของเสียงยืนอยู่ถัดไปจากเขาไม่ไกล แสงไฟจากเสาข้างถนนสว่างเพียงพอที่จะทำให้ภวัตเห็นใบหน้าขาวที่ซูบเซียว ดวงตากลมใหญ่ไม่ได้เต็มไปด้วยแววถือดีและดื้อดึงเหมือนเคย มันดูอ่อนระโหยเสียจนเขาใจหาย



   “มาทำอะไรที่นี่...” จันทร์จ้าวเอ่ยปากถามเมื่อภวัตยังเอาแต่จ้องเขานิ่ง ทว่าเป็นฝ่ายเขาเองที่หลบสายตาหนีไปทางอื่นแล้วเดินไปที่ประตูรั้ว เอื้อมมือไปปลดกลอน



   ...เขาไม่กล้ามองหน้าภวัต ไม่กล้าเพราะไม่รู้ว่าจะจัดการความรู้สึกของตนเองได้อย่างไร ความรู้สึกที่เขาเคยคิดว่าเวลาจะเยียวยา หากไม่พบหน้ากัน หากเขาไม่ดิ้นรนเป็นฝ่ายไปหา ความรู้สึกทั้งหมดของเขาจะต้องจืดจางลงวันใดก็วันหนึ่ง ทว่าวันนี้ที่อีกฝ่ายมาปรากฏตัวที่นี่ มันบอกให้เขารู้ว่าความรู้สึกพวกนั้นยังไม่ทุเลาเสียที...



   “ผมได้ยินว่าคุณไม่สบาย”



   “ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ประตูรั้วถูกปลดกลอนเสร็จนานแล้ว แต่จันทร์จ้าวยังยืนอยู่ที่เดิม ตอนนี้หัวใจของเขากำลังแบ่งออกเป็นฝักฝ่าย ฝ่ายหนึ่งว่าอย่ารั้งภวัตเอาไว้อีก ภวัตกำลังจะไปเรียนต่อ และอาจจะได้พบผู้หญิงสักคนที่ถูกใจ คงจะได้แต่งงานมีครอบครัวที่มีความสุข ทว่าอีกใจหนึ่งกลับเรียกร้องให้ยื้อภวัตเอาไว้ เพราะภวัตเป็นฝ่ายมาหาเขาเอง ในเมื่อมาถึงนี่เพื่อพบหน้าเขา ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้เสือกไสไล่ส่ง



   จันทร์จ้าวกำประตูรั้วแน่น และเอาแต่หันหลังให้กับนายแพทย์หนุ่มเพราะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าตนควรจะทำเช่นไรดี เสียงของภวัตก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเขาอีกครั้ง



   “แล้วคุณไปไหนมา วันนี้ไม่ต้องไปทำงานไม่ใช่หรือ”



   “ไปซื้อข้าว” ภวัตก้มลงมองห่อข้าวที่อยู่ในมือจันทร์จ้าวแล้วจึงเอ่ยปากถามต่อ



   “ทานยาหรือยังครับ”



   “ยัง” จันทร์จ้าวได้ยินเสียงถอนหายใจเบาจากคนที่เขายืนหันหลังให้ แล้วจากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินกลับไปที่รถ เสียงไขกุญแจรถ หัวใจของเขาหล่นสู่พื้น



...ภวัตกำลังจะกลับไปแล้ว...ภวัตกำลังจะไป...กำลังจะไปจากเขาตลอดกาล...



   ราวกับมันเป็นคำสั่งให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง จันทร์จ้าวจึงหันกลับไปที่รถของภวัตที่จอดอยู่ อ้าปากจะเรียกร้องให้อยู่ก่อน ทว่าคนที่เขาคิดว่ากำลังจะจากไป กลับหยิบกระเป๋าหนังสีดำลงจากรถแล้วปิดประตู



   จันทร์จ้าวกะพริบตาปริบๆ เพราะภวัตที่เขาคิดว่ากำลังจะกลับแล้ว เดินกลับมาหาเขาและเป็นฝ่ายเปิดประตูรั้วแทนเจ้าบ้าน



   “แล้วจะยืนอยู่ตรงนี้หรือครับ ฝนตกอย่างนี้ ทำไมไม่ถือร่ม ขึ้นไปบนบ้าน ผมจะเช็ดตัวให้ กินข้าว กินยาเสร็จแล้วจะได้นอน”



เสียงทุ้มนั้นเข้มงวดกว่าทุกครั้งที่พวกเขาเคยคุยกัน ร่างโปร่งยังปรับตัวไม่ทันเพราะเมื่อครู่พวกเขายังเหมือนคนห่างเหินอยู่เลย ทว่าตอนนี้กลายเป็นว่าอีกฝ่ายดุเขาเหมือนลูกก็ไม่ปาน



   “ยังจะยืนอยู่อีก ผมบอกให้คุณขึ้นบ้าน หรือเดินไม่ไหว? เดินไม่ไหวแล้วยังจะเดินออกไปซื้อข้าวอีก แล้วซื้ออะไรมาครับ”



“เอ่อ...ข้าว...ข้าวผัด...” ไม่ใช่ว่ากลัวเสียงดุและท่าทางเคร่งครัดของภวัต แต่จันทร์จ้าวกำลังงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าจนเลิ่กลั่กไปหมด ทว่าสำหรับนายแพทย์หนุ่มนั้น คำตอบอันแสนตะกุกตะกักของคนป่วยไม่ได้สร้างความรื่นรมย์ให้เขาเสียเท่าไร



“ข้าวผัด?! คนไม่สบายต้องทานข้าวต้มไม่ใช่ข้าวผัด”



“ก็...มัน...มันไม่มีขาย...”



“ไม่มีขายแล้วทำไมไม่ไปทานที่วังฉัตร ผมเชื่อแน่ว่าถ้าคุณขอให้ครัวที่นั่นทำข้าวต้มให้ ไม่มีใครใจไม้ไส้ระกำไม่ทำให้หรอก หรือไม่อย่างนั้น คุณก็ควรจะกลับไปนอนที่บ้าน ไม่ควรจะดื้ออยู่คนเดียวที่นี่เลย คุณอยู่คนเดียวแล้วดูแลตัวเองเสียที่ไหน เดินตากฝนอย่างนี้ ทานข้าวผัดอย่างนี้ ยาก็ไม่ทาน ต้องให้ดูแลกันทุกเรื่อง มาครับ ผมพยุง” หลังจากบ่นอีกชุดใหญ่ๆ มือของนายแพทย์หนุ่มก็คว้าแขนคนกำลังป่วยลากเข้าบ้านทันที แต่อย่าคิดว่าภวัตจะหยุดบ่นแค่นั้น เขายังบ่นอีกหลายชุดจนกระทั่งพาร่างโปร่งหายลับขึ้นบ้านไป



....................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 26-11-2015 19:56:30


คนป่วยได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียงหลังจากถูกบังคับเช็ดตัว ถูกบังคับให้ทานข้าวต้มที่หมอภวัตรีบออกไปซื้อ โชคดีว่าบ้านนี้พอจะมีกระติกใส่ข้าวต้มเก็บเอาไว้ เจ้าของบ้านจึงไม่ถูกบ่นมากนัก หลังจากนั้นก็ถูกบังคับให้ทานยา ซึ่งหมอภวัตจับจ้องแม้กระทั่งตอนที่จันทร์จ้าวกลืนยาว่าลงคอหรือไม่ด้วยซ้ำ ตอนนี้คนปากเก่งเลยยังคงพักร้อนอยู่ที่ไหนสักที่ในโลกใบนี้ เพราะจันทร์จ้าวไม่มีปากเสียงสักคำ ส่วนหมอภวัตที่เคยใจดีอ่อนโยนและมีเมตตากับสัตว์โลกทั้งหลายก็ลาไปพักร้อนเช่นกัน เพราะภวัตคนที่เดินวนไปวนมาอยู่ที่ข้างเตียงนั้นเป็นภวัตคนจู้จี้ ขี้บ่นและเข้มงวดเป็นที่สุด



   “คุณไม่มีเสื้อแขนยาวบ้างหรือ ใส่เสื้อบางๆนอนตลอดแล้วจะหายไข้ได้อย่างไร” จันทร์จ้าวนอนมองผ่านมุ้ง ทำท่าจะไม่ตอบจนคนที่เดินวนไปวนมาต้องหันมามองเพ่ง



   “ว่าอย่างไรครับ”



   “เอ่อ...ไม่ได้เอามา...” นายแพทย์หนุ่มหันกลับไปมองคนตอบที่นอนอยู่ในมุ้งด้วยสายตาเชิงตำหนิ แม้มุ้งตาถี่จะพลางสายตาของภวัตได้เป็นอย่างดี แต่กระนั้นจันทร์จ้าวก็พอจะรับรู้อารมณ์ของอีกฝ่ายในประโยคต่อมา



   “กลับไปหนหน้า รบกวนช่วยเตรียมเสื้อแขนยาวมาให้มากๆด้วยนะครับ แล้วผ้าห่มล่ะครับ มีผืนเดียวหรือ ไม่ได้เตรียมมาจากบ้านอีกไหม”



   “มีอีกผืนในตู้นั้น” นิ้วชี้ไปที่ตู้ไม้ตู้หนึ่งริมผนัง ภวัตไม่รอช้าเดินไปเปิดทันที ในนั้นมีเสื้อผ้าพับเอาไว้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเก็บผ้าห่ม ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอน นายแพทย์หนุ่มหยิบผ้าห่มมาอีกผืน มันเป็นแค่ผ้าแพรผวย ดูแล้วไม่น่าจะอุ่นขึ้นเสียเท่าไร แต่ก็ยังดีกว่าให้คนป่วยห่มแค่ผ้าผืนเดียว



   เขาเดินกลับมาที่เตียงตลบมุ้งขึ้นเล็กน้อยแล้วยื่นผ้าห่มเข้าไปให้คนที่นอนอยู่ข้างใน จากนั้นก็สอดชายมุ้งกลับเข้าที่เดิม



   “ห่มด้วยนะครับ” คนเป็นหมอกำชับเสียงเข้มแล้วยืนจ้องราวกับว่าถ้าจันทร์จ้าวจะไม่ทำตาม เขาจะดุเสียวินาทีนั้น คนป่วยเริ่มหงุดหงิดที่ถูกจ้องจับผิด แม้จะยอมคลี่ผ้าออกมาห่มทับอีกชั้นแต่ก็ไม่วายบ่น



   “ดุอย่างกับว่าผมจะไม่ทำตามอย่างนั้นล่ะ!” แน่นอนว่าเสียงบ่นของเขาเข้าหูนายแพทย์ภวัตที่ยืนอยู่ข้างเตียง



   “ถ้าไม่ดุ คุณจะทำหรือครับ ผมทราบมาว่าคุณไอตั้งแต่ ๒ วันก่อน วันนี้ไข้ขึ้นสูงก็ไม่ไปหาหมอ แล้วยังดื้ออยู่ที่นี่คนเดียวแทนที่จะกลับไปนอนที่บ้าน ออกไปเดินตากฝนไม่พกร่ม ไหนจะซื้อข้าวผัดกลับมาทานทั้งๆที่ยังคันคอ ถ้าผมไม่มาที่นี่ ผมคงไม่รู้ว่าคุณปล่อยปละละเลยตัวเองถึงเพียงนี้”



   “ผมไม่ได้ปล่อยปละละเลยตัวเอง...” คนป่วยเถียงเสียงเบา



   “แต่ก็ไม่ดูแลตัวเองอยู่ดี! คุณคือคนป่วย แต่มีคนป่วยที่ไหน ประพฤติตัวอย่างที่คุณกำลังทำอยู่? บ้านก็มีให้กลับ ก็ไม่กลับ ดื้อแพ่งอยุ่ที่นี่คนเดียว เลือกกินแต่ของที่อยาก ยาก็ไม่มี คุณไม่สมควรอยู่คนเดียวเลย!!”



   “หมอ! หมอจะบ่นอะไรผมนักหนา! ที่ผมไม่กลับไปนอนที่บ้านเพราะไม่อยากให้ใครมานั่งบ่นว่าผมไม่ดูแลตัวเองเลยป่วย หมอก็ยังจะมาบ่นแทนอีกหรือ?!!” คราวนี้คนป่วยเริ่มหงุดหงิด



   “ที่บ่นก็เพราะว่าเป็นห่วง ถ้าผมไม่เป็นห่วงคุณ ผมจะมาที่นี่ทำไม” ฝ่ายภวัตเองก็หงุดหงิดไม่แพ้กัน จันทร์จ้าวไม่ดูแลตัวเองเลย วัดไข้ออกมาสูงถึง ๓๘ องศา แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมกลับบ้าน เกิดอาการหนักกว่านี้แล้วไม่มีใครเอะใจแวะมาดูจะเป็นอย่างไร



   คำว่า ‘เป็นห่วง’ จากปากร่างสูงที่ยืนอยู่นอกมุ้งทำเอาคนป่วยชะงัก ดวงตากลมใหญ่หันไปมองคนที่ยังยืนอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย แต่เพราะมุ้งที่ขวางกั้น ทำให้เขามองไม่เห็นว่าภวัตมองเขาด้วยความรู้สึกเช่นไร



   “หมอ...จะมาเป็นห่วงผมทำไม...”



...จะทิ้งผมไปเรียนต่อแท้ๆ...



ประโยคหลังเขาไม่ได้ถามออกไป เพราะแค่ประโยคแรกประโยคเดียวก็เหมือนจะทำให้รู้สึกหนาวไปทั้งร่าง เขาขยับผ้าขึ้นห่มถึงคอ ไม่รู้หนาวเพราะพิษไข้หรือหนาวเพราะรอคอยคำตอบกันแน่



   ภวัตมองร่างคนป่วยที่อยู่ในมุ้ง คำถามของจันทร์จ้าวเขาได้ยินชัดเจน และเขาเองก็อยากตอบให้ชัดเจนเช่นเดียวกัน แต่...เวลานี้จันทร์จ้าวกำลังป่วย เขาไม่อยากคาดหวังไปเองว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังเรียกร้องจากเขาในเวลานี้มาจากความรู้สึกที่แท้จริงหรือแค่ว้าเหว่เพราะร่างกายทรุดด้วยพิษไข้



   “เอาไว้คุณหายดีแล้วเราค่อยคุยกันเรื่องนี้ หลับได้แล้วครับ ผมจะเอาน้ำไปเปลี่ยน” ภวัตพูดเพียงเท่านั้นก็หันไปหยิบถ้วยใบใหญ่ที่ใส่ผ้าชุบน้ำบิดหมาดก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป จันทร์จ้าวได้แต่มองตามหลังก่อนที่เปลือกตาจะเลื่อนลงปิดด้วยหัวใจที่ผ่อนคลาย คำพูดประโยคเดียวของหมอภวัตทำให้หัวใจของเขาสงบลงอย่างน่าประหลาด



   ...ถ้าหายดี...ผมก็จะไม่ยอมให้หมอหนีผมไปอีกแล้ว...



..........................................



   จันทร์จ้าวตื่นแต่เช้าเพราะเมื่อคืนได้นอนอย่างเต็มที่ ตื่นมาก็พบภวัตเป็นคนแรก ดูเหมือนอีกฝ่ายจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาแล้วรอบหนึ่งเพราะชุดที่สวมไม่ใช่ชุดเดียวกับเมื่อวาน พอตื่นมาคนเป็นหมอก็จัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วบังคับให้ลุกขึ้นนั่งรับประทานข้าวต้มร้อนๆบนเตียง โดยมีหมอภวัตนั่งเบียดอยู่บนเตียงด้วยแล้วจับจ้องทุกวินาที



   “ผมว่าหมอไม่ต้องนั่งจ้องอย่างนี้ก็ได้ ผมไม่เทข้าวต้มของหมอทิ้งหรอก” คนถูกจ้องเอ่ยปาก รู้สึกประดักประเดิดชอบกลที่อีกฝ่ายนั่งจ้องเขาอย่างนี้



   “ไม่เททิ้งก็รีบกินซีครับ จะพิรี้พิไรอยู่ทำไม”



   “ก็คนมันไม่ชอบทานข้าวต้ม!”



   “ไม่ชอบก็ต้องทาน คุณไข้ขึ้น ต้องทานอาหารอ่อนและร้อนเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น” จันทร์จ้าวมองคนดุด้วยความไม่ชอบใจ แต่เพราะอีกฝ่ายเอาแต่นั่งจ้อง และเขาก็ไม่มีแรงแผลงฤทธิ์เหมือนก่อน จึงทำได้เพียงตักข้าวต้มเข้าปากทั้งๆที่ไม่ชอบเอาเสียเลย



   “เคยมีคนบอกไหม ว่าเวลาหมอเป็นหมอนี่ดุกว่าเดิมเยอะ!” จันทร์จ้าวบ่น



   “ผมจะไม่ดุถ้าคนไข้ไม่ดื้อไม่เถียง”



   “นี่หมอจะหาว่าผมดื้อและเถียงหรือ?!!!” คนถูกหาว่าดื้อและเถียงวางช้อนดังเคร้งแล้วเงยหน้ามองเอาเรื่อง



   “อย่าถามผมทั้งๆที่คุณก็รู้แก่ใจว่าดื้อและเถียงแค่ไหน อิ่มแล้วใช่ไหมครับ จะได้รับยาต่อ” หมอภวัตกำลังจะดึงข้าวต้มถ้วยเล็กๆมาจากมือขาว แต่อีกฝ่ายยื้อเอาไว้แล้วแยกเขี้ยวใส่



   “ยัง!”



   “ถ้าอย่างนั้นก็รีบกินเสียที มัวแต่โยกโย้ข้าวต้มก็จะหายร้อนเสียเปล่า นี่ผมจัดยาเอาไว้ให้แล้ว ตัวยังร้อนอยู่ คุณต้องรับยาให้ครบทุกมื้อ” ไม่พูดอย่างเดียวแต่หมอภวัตแนบหลังมือกับหน้าผากและแก้มของคนป่วย จันทร์จ้าวไม่รู้ว่าเพราะอีกฝ่ายมือเย็นหรือไร หัวใจของเขาถึงได้สั่นวูบวาบถึงเพียงนี้ ดวงตากลมเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ใกล้กันแล้วตั้งคำถาม



   “ถ้าผมหาย หมอจะมาที่นี่อีกไหม”



   เป็นคำถามที่ภวัตเองก็ไม่คิดว่าจะได้ยิน เขาสบตากับดวงตากลมใหญ่คู่นั้น แล้วเป็นฝ่ายเบี่ยงสายตาหนีไปอีกทาง



   “จะให้ผมมาที่นี่ทำไมล่ะครับ เราไม่ถูกกันไม่ใช่หรือ”



   “แล้วหมออยากถูกกับผมไหม” ภวัตหันมองเมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง จันทร์จ้าวกำลังจับจ้องเขาอยู่ เป็นดวงตากลมที่มองเขาอย่างดื้อดึงและจริงจัง



   “หมอบอกว่าเราไม่ถูกกัน แล้วหมออยากถูกกับผมไหม ว่าอย่างไร คำถามนี้หาคำตอบยากหรือ แค่ตอบในสิ่งที่หมอกำลังคิดอยู่น่ะ”



จันทร์จ้าวคิดว่าเขาไม่ควรอดทนอีกต่อไปแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยลบภวัตออกไปจากใจได้เลย ไม่ว่าอย่างไรก็คิดถึง ไม่ว่าอย่างไรก็ห่วงหา ยิ่งล้มป่วยก็ยิ่งแน่ใจ ยิ่งภวัตมาดูแลเขาก็ยิ่งรู้ ชีวิตที่ไม่มีความสุขเช่นนั้นเขาไม่ต้องการอีกแล้ว ชีวิตที่ไม่มีภวัต เขาก็ไม่ต้องการอีกแล้วเช่นกัน



“ถ้าคุณอาทิตย์ไม่สมหวังกับคุณพิม แล้วเป็นน้องชายผมที่สมหวัง คุณจะถามคำถามนี้กับผมไหมครับ” ภวัตตั้งใจรวนอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉยและคำถามที่รู้ดีว่าจันทร์จ้าวจะต้องโมโห เขาเห็นดวงตากลมใหญ่มีแววไม่พอใจ แต่ก็ดูเหมือนจันทร์จ้าวจะพยายามระงับอารมณ์ได้ดี



“ถ้าพี่อาทิตย์ไม่สมหวัง ผมก็คงเอาเวลาไปปลอบใจพี่อาทิตย์ ไม่ต้องมานั่งปลอบใจตัวเองเพราะเรื่องของหมอหรอก ตอนแรก ผมยอมรับว่าผมโกรธที่หมอไม่ยอมบอกเรื่องน้องชายหมอชอบคุณพิม แต่...แต่หลังจากนั้น...ผมก็รู้...รู้ว่าทำไมผมถึงโกรธหมอ ทั้งๆที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหมอเลย...” ดวงตากลมใหญ่จับจ้องใบหน้าของนายแพทย์หนุ่มราวกับต้องการจะบอกความรู้สึกที่เขาไม่ยอมพูดออกไป



“...แล้วยิ่งผมรู้ ผมก็ยิ่งไปพบหน้าหมอไม่ได้ ผมคิดเอาเองว่าถ้าผมกับหมอห่างกันไป ผมคงลืมหมอได้สักวัน ทั้งๆที่ผมอยากเจอหมอ อยากคุยด้วย อยากไปตีเทนนิสด้วย อยากทำทุกอย่างเหมือนที่เคยทำด้วยกัน แต่ถ้าผมไปหา...ผมจะไม่มีวันตัดใจจากหมอได้อีก...” หัวใจบีบรัดหนักหน่วงจนจันทร์จ้าวได้แต่กัดริมฝีปาก เขาเคยคิดว่าวันหนึ่งเขาจะขาดภวัตได้อย่างถาวร แต่ยิ่งนานวันเข้า เขากลับพบว่าไม่มีทางที่หัวใจของเขาจะลืมเลือนนายแพทย์หนุ่มผู้นี้ไปได้เลย



“เรื่องของเราเป็นไปไม่ได้หรอกครับ” ภวัตตัดบท ทั้งๆที่ใจเขาก็ไม่ต่างจากสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูดอยู่เลย เขาก็อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากลับไปเป็นเช่นเดิม แต่...ความสัมพันธ์เช่นนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ ในไม่ช้าทุกอย่างจะต้องยุติลงด้วยความเจ็บปวดมหาศาลเพราะให้อย่างไรพวกเขาก็ต้องสร้างครอบครัวของตนเองตามความต้องการของบิดามารดา...เรื่องของพวกเขาเป็นไปไม่ได้...



ทว่าคำพูดของนายแพทย์หนุ่มราวกับตัดเส้นความอดทนของคนฟัง จันทร์จ้าวเงยหน้ามองโดยพลัน



“เป็นไปไม่ได้แล้วหมอมาดูแลผมทำไม?!” เขาเองก็เคยคิดว่าเรื่องของพวกเขาไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะฉะนั้นจันทร์จ้าวจึงไม่เคยพาตัวเองเข้าไปให้ภวัตเห็นหน้าอีก แต่...แต่หมอเอง ในเมื่อคิดเช่นเดียวกับเขาแล้วทำไมถึงยังมา? มาทำไมถ้าหากว่าคิดว่าเรื่องของเราไม่มีทางเป็นไปได้?!!!



คำถามของจันทร์จ้าวทำให้ภวัตชะงัก เขาสบตากับดวงตากลมใหญ่อีกครั้ง แล้วก็เหมือนจะล่วงรู้ว่าตนเองได้ปลุกเสือหลับเข้าเสียแล้ว



“เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไม่ได้พบหน้ากันหลายสัปดาห์ ถ้าหมอคิดว่าเรื่องของเราเป็นไปไม่ได้แล้วหมอมาหาผมทำไม?! คนอะไรอำมหิต!”



“ผมไม่ได้อำมหิตอย่างที่คุณว่า”



“ไม่เรียกอำมหิตได้หรือ?!! หมอมาหาผม ทั้งๆที่ผมไม่ได้ขอร้อง แต่มาที่นี่เพื่อมาบอกว่าเรื่องของเราเป็นไปไม่ได้! แล้วหมอมาทำไมตั้งแต่แรก! อย่างนี้เขาเรียกว่าให้ความหวังไม่ใช่หรือ?!”



“ผมไม่ได้ให้ความหวัง แต่เพราะคุณป่วย และเพราะผมเป็นหมอ”



“อ้อ!! นู่นแน่ะ! ยายข้างบ้านก็ป่วยพอดี บ้านฝั่งตรงข้ามก็ป่วย คนที่อยู่ท้ายซอยก็ป่วย หมอก็ไปดูด้วยซี! เจาะจงมาดูแลแต่ผมทำไม?!” จันทร์จ้าวประชดอย่างหงุดหงิด ภวัตพูดยากกว่าที่เขาคิดเยอะ นึกว่าจะทำความเข้าใจกันโดยง่าย อย่างน้อยเขาก็ป่วยอยู่ ภวัตเป็นหมอก็น่าจะลงให้คนไข้บ้าง นี่อะไร...ทำตัวขึงขังปฏิเสธอยู่ได้! น่าหงุดหงิดสิ้นดี!!...



ภวัตไม่โต้ตอบกระไร เขาลุกขึ้นหมายจะเดินออกจากห้องนอน แต่เสียงของคนบนเตียงดังไล่หลังมาเสียก่อน



“ถ้าหมอออกจากบ้านผม ผมจะทำทุกวิถีทางให้หมอเป็นของผมแน่!” นายแพทย์หนุ่มหันกลับมามองด้วยความตะลึงงัน แต่จันทร์จ้าวผู้มุ่งมั่นและดื้อดึงกลับมาแล้ว ดวงตากลมใหญ่วาวโรจน์อย่างหมายมั่นเหมือนประกาศก้องว่าเขาจะทำเช่นนั้นจริง หากว่าภวัตก้าวเท้าออกจากบ้านนี้



ชายหนุ่มร่างสูงจับจ้องดวงตาคู่นั้น เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยพบเจอใครอย่างนี้มาก่อน จันทร์จ้าวเป็นคนเพียงคนเดียวที่ทำให้เขาทั้งสุขทั้งเศร้า และเวลานี้เจ้าตัวกำลังทำให้หัวใจของเขาที่เคยแห้งแล้งกลับชุ่มช่ำขึ้นมาได้โดยง่ายด้วยคำพูดที่แข็งขันประโยคนั้น



‘...ผมจะทำทุกวิถีทางให้หมอเป็นของผมแน่’



“คุณ...พูดอะไร...”



“ก็พูดว่าจะทำให้หมอเป็นของผม! ไม่ใช่แค่เป็นเพื่อนเหมือนเก่าด้วย! ลองดูซี! ถ้าหมอก้าวเท้าออกจากบ้านผมแม้แต่ก้าวเดียว ผมจะทำให้หมอเป็นของผมจริงๆ!”



“คุณ...พูดเป็นเล่น...”



“คิดว่าผมพูดเล่นรึ?!” จันทร์จ้าวคนป่วยแต่ไม่ทราบฉวยแรงมาจากที่ใด ลุกพรวดพราดจะลงจากเตียงเอาจริงๆ คนเป็นหมอจึงต้องรีบถลากลับมาคว้าร่างเอาไว้ เพราะเกรงว่าคนกำลังไม่สบายแต่ลุกว่องไวจะหน้ามืดเป็นลมไปเสียก่อน



“ทำอะไรน่ะครับ?!!”



“ก็จะทำให้หมอดูน่ะซี! ว่าผมเอาจริง! ผมพูดจริง! ผมไม่ได้พูดเล่น! ผมจะทำให้หมอเป็นของผมจริงๆ! หมอต้องเลือก ว่าหมอจะอยู่ดูแลผมต่อแล้วเป็นเพื่อนผมเหมือนเดิม หรือออกจากบ้านผมวันนี้ไปตรวจรักษาบ้านอื่นแล้วถูกผมทำให้กลายเป็นมากกว่าเพื่อนผมในวันหน้า!” ภวัตพูดไม่ออก เพราะอีกฝ่ายช่างตรงไปตรงมาเสียเหลือเกิน ดวงตากลมใหญ่ที่ยังคงมีแววอ่อนระโหยเพราะพิษไข้แต่กลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นตามคำพูดเมื่อครู่ แค่มองสบเข้าไปในดวงตาคู่นี้ก็เหมือนหัวใจของเขาจะเต้นถี่เสียจนจะทะลุออกมานอกอก



“คุณ...แน่ใจแล้วหรือครับ ที่พูดออกมาเช่นนั้น”



“ไม่เคยแน่ใจเท่านี้มาก่อนด้วยซ้ำ! ผมไม่ยอมให้หมอไปจากผมอีกแล้ว! จะอยู่กันอย่างเพื่อนเหมือนเดิมก็ได้ หมอจะไม่ยอมรับความรู้สึกของผมก็ได้ แต่ผมจะไม่ยอมให้เราต้องห่างกันอีก ไม่ว่าจะห่างกันเพราะเราทะเลาะกันหรือห่างกันเพราะหมอไปเรียนต่อก็ตาม!”



“เรียนต่อ?” ภวัตทวนถามด้วยความฉงน



“ใช่ ก็หมอจะไปเรียนนี่?! เห็นว่าไปเป็น ๑๐ ปี ๒๐ ปี ถ้าต้องห่างกันนานขนาดนั้น ผมคงตายก่อนพอดี! ไม่รู้ล่ะ! หมอต้องเลือก จะอยู่กันอย่างเพื่อนต่อไปหรือทู่ซี้ดันทุรังไปจากผม ทำให้ผมฮึดจะทำให้หมอเป็นของผมจริงๆ!” จันทร์จ้าวประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน ทว่าภวัตยังคงงุนงง



“อะไรนะครับ เรื่องเรียนต่อ...ผมไม่ได้จะไปเรียนต่อครับ คุณไปได้ยินมาจากใคร”



“อ้าว!! ก็คุณพงศ์บอกผม!!”



“คุณพงศ์บอก? คุณพงศ์ไปได้ยินมาจากใคร ผมไม่ได้จะไปเรียนต่อครับ ยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำ”



“...หนอย!!! นี่หรือว่าคุณพงศ์หลอกผม!!!” ปล่อยไก่ไปเล้าใหญ่ จันทร์จ้าวก็เพิ่งมารู้ตัวว่าที่กังวลว่าภวัตจะไปเรียนต่อกลายเป็นเรื่องที่ถูกกุขึ้น เขาได้แต่เข่นเขี้ยวเพื่อนรักผู้โกหกพกลม ภวัตมองดวงหน้าซีดเซียวเพราะพิษไข้แต่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งขุ่นเคืองเพื่อนสนิท ทั้งดื้อดึงและอวดดี และที่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดคือความมุ่งมั่นและจริงจังที่จะรั้งเขาเอาไว้



“ถ้าหากว่าผมไม่ไปเรียนต่อ คุณจะยังอยากให้ผมเป็นของคุณไหม” เขาตั้งคำถาม ดวงตาคมดุอ่อนแสงอย่างน่าเวทนาเหมือนรอคอยความหวังที่ริบหรี่เต็มทน



...เรื่องของพวกเขาเป็นไปไม่ได้ ให้อย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ แต่...ทั้งอย่างนั้นจันทร์จ้าวก็ยังดื้อดึงเพื่อแสดงความต้องการชัดเจนที่จะทำให้เรื่องของพวกเขาเป็นจริงขึ้นมา...



“อยากสิ...”



“แต่เราทั้งคู่เป็นผู้ชาย...” ภวัตครวญเสียงแผ่ว ให้อย่างไรความจริงข้อนี้ก็เปลี่ยนไม่ได้ พวกเขาต่างเป็นชาย วันใดวันหนึ่งต้องสร้างครอบครัว วันใดวันหนึ่งก็ย่อมอยู่ด้วยกันไม่ได้



“ถ้าหมอกังวลเรื่องนั้น ผมก็จะไม่บังคับหมอ ผมไม่ได้ต้องการให้หมอรู้สึกเช่นเดียวกับผม แต่ผมขอแค่หมออย่าจากผมไป ขอแค่ให้เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เจอหน้ากัน ทักทายกัน อย่าหมางเมินใส่เหมือนที่แล้วมา แต่หมอจะห้ามไม่ให้ผมรู้สึกกับหมออย่างที่ผมกำลังรู้สึก หมอห้ามผมไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้น...ต่อให้หมอเป็นเพื่อนกับผม หมอก็ต้องรับรู้ว่าผมคิดกับหมอมากกว่านั้น”



ความมุ่งมั่นในน้ำเสียงและสายตานั้นบอกให้ภวัตรู้ว่าจันทร์จ้าวตั้งใจจริงตามที่พูด นายแพทย์หนุ่มได้แต่ถอนหายใจ



“คุณน่ะดื้อ...”



“ถ้าผมดื้อแล้วผมได้ในสิ่งที่อยากได้ ผมก็ดื้อ” ภวัตจับจ้องคนที่ยังมีสีหน้ามุ่งมั่น แม้จะยังหวั่นใจกับความสัมพันธ์ของพวกเขาที่ไม่ถูกต้องตามครรลอง แต่ความมุ่งมั่นที่อีกฝ่ายแสดงออกทำให้เขายอมแพ้ ชายหนุ่มถอนหายใจยาวราวกับปลดปล่อยห่วงโซ่ที่รัดกุมหัวใจเอาไว้



“หมอไม่ต้องดื้อกับผมก็ได้ ให้ผมดื้อของผมคนเดียว ขอแค่หมอกลับมาเป็นเหมือนเดิม ขอแค่หมออยู่ข้างๆผม เท่านั้นผมก็ดีใจแล้ว” จันทร์จ้าวรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีนิสัยเช่นเขา การทำลายกฎของสังคมย่อมไม่อยู่ในความคิดของนายแพทย์ผู้นี้ แต่เขาทนอยู่ในกรอบของกฎที่ว่าต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว



“แล้วถ้าวันหนึ่งผมต้องแต่งงาน” ภวัตตั้งคำถาม และนั่นทำเอาจันทร์จ้าวนิ่งไป ทว่าชั่วอึดใจต่อมา ดวงตากลมใหญ่ก็กลับมาถือดีและมุ่งมั่นเช่นเก่า



“ผมคงไม่ไปร่วมยินดีในงานแต่งของหมอ แต่ผมก็จะเป็น...เพื่อน...ของหมอต่อไป”



“แล้วคุณล่ะครับ ถ้าวันหนึ่ง ท่านนายพลหรือคุณหญิงต้องการให้คุณแต่งงาน...”



“ผมก็ไม่แต่ง ไม่เห็นจะยาก ถ้ายังบังคับกันมากๆ ผมก็จะไปอยู่เมืองนอกเสียเลย ถ้าถึงวันนั้นจริง ผมจะทุบหัวหมอลากลงหีบขนลงเรือไปเมืองนอกกับผมด้วย” แม้จะฟังเหมือนพูดเล่น แต่หน้าตาจริงจังของจันทร์จ้าวทำให้ภวัตหัวเราะไม่ออก เขายังจับจ้องดวงหน้าขาว ดวงหน้านี้ไม่ได้เห็นมานาน แต่ยิ่งนานเท่าไรที่ไม่เห็น ก็ยิ่งทำให้หัวใจบีบรัดหนักขึ้นทุกที พอได้มาพบกัน เขาถึงได้รู้ว่าต่อให้เวลาที่จากกันจะยาวนานถึงเพียงไร จันทร์จ้าวก็ยังอยู่ในใจเขาอยู่ดี



...และถ้าถึงวันที่จันทร์จ้าวจะหนีไปอยู่ต่างประเทศจริง เขาก็คงยินดีให้อีกฝ่ายทุบหัวเขาลากลงหีบใส่เรือไปด้วยกันอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง...



ภวัตปลดมือของตนที่พยุงแขนทั้ง ๒ ข้างของร่างโปร่งออก จันทร์จ้าวไม่ทราบว่าอีกฝ่ายตัดสินใจเช่นไร จึงได้แต่จับจ้องใบหน้าของนายแพทย์หนุ่ม จวบจนมือหนาข้างหนึ่งแตะที่แก้มซีดแผ่วเบา



“ถ้าคุณยืนยันเช่นนั้น ผมคิดว่าเราก็คงกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว...”



“...ผมไม่อยากเป็นแค่เพื่อนตีเทนนิส เพื่อนทานข้าว หรือเพื่อนคุย ความรู้สึกของผมมีมากกว่านั้น...”



“แล้วถ้าผมขอความรู้สึกทั้งหมดของหมอ หมอจะยกให้ผมไหม”



“ความรู้สึกของผมมีค่าถึงเพียงนั้นหรือครับ”



“มีสิ...ความรู้สึกของหมอมีค่าสำหรับผมมากที่สุด...”



ดวงตา ๒ คู่สบกัน ก่อนที่ใบหน้าจะเลื่อนเข้าชิด ริมฝีปากของภวัตแตะเข้ากับริมฝีปากอุ่นจัดของอีกฝ่ายแผ่วเบาและเนิ่นนาน ก่อนจะถอยห่างออกมาเล็กน้อย



“คุณพงศ์บอกว่าเพื่อนของคุณพงศ์คนหนึ่งเป็นคนปากหนัก...”



“ถ้าผมปากหนักแล้วเสียหมอไป ผมก็จะไม่ปากหนักอีก...” และหลังจากประโยคนั้น ริมฝีปากของจันทร์จ้าวก็ขยับเข้าคลอเคลียริมฝีปากของนายแพทย์หนุ่มพร้อมกับคำพูดประโยคหนึ่งที่เปล่งออกมาบนริมฝีปากของอีกฝ่าย



“...ผมรักหมอ...”



ไม่มีคำพูดจากภวัต นอกจากริมฝีปากของคนทั้งคู่ขยับเข้าหากันอีกครั้ง และก่อนที่ครั้งนี้มันจะประกบกันแนบแน่นยิ่งกว่าเมื่อครู่ เสียงของจันทร์จ้าวก็ดังประท้วงเบาๆ



“หมอ...ผมป่วยอยู่...”



รอยยิ้มจางจุดขึ้นที่ริมฝีปากของภวัต



“ไม่เป็นไรครับ...ผมเป็นหมอ...”



หลังประโยคนั้น คนป่วยก็หมดสิทธิ์ประท้วงใดๆอีก เพราะหากยังอ้างสิทธิ์ความเป็นคนป่วย อีกฝ่ายก็คงอ้างสิทธิ์ความเป็นหมอ แล้วทำทุกอย่างตามอำเภอใจอยู่นั่นเอง



ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า)

จริงๆว่าวันนี้จะมาบอกว่าขอยกยอดไปลงศุกร์หรือเสาร์แทน เพราะเพิ่งเป็นไข้หวัดเมื่อวันอังคาร วันนี้ยังไม่หายดีเลย แต่เห็นคนมารอกัน เลยนั่งซูดน้ำมูกไป อ่านทวนไป หากมีคำผิดอะไรยังไง ขอโทษล่วงหน้าค่ะ

ว่าจะไม่เม้าส์ ก็ขอเม้าส์สักหน่อย ตอนที่แล้วมีแต่คนให้เครดิตคุณพงศ์ คือคุณพงศ์แกเป็นฮีโร่ในเวลาที่ถูกก็จริง แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อจันทร์ของอิฉันทั้งผลักทั้งดันพี่อาทิตย์ให้ได้ใกล้ชิดคุณพิมนะคะ ฮา

ป.ล. ตอนนี้เราคืนความสุขให้แล้วนะ ตอนหน้าเอาไงดี? คิคิ
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ กำลังใจและพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๑ (๑๙ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๒)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 26-11-2015 19:57:09
มาแล้ววววววววว  :z13: :z13:
---------
ไม่เอามาม่านะคะะะะ พลีสสสสสส ขอหวานๆเถอะค่ะ หัวใจไม่ชุ่มชื้นมาหลายตอนมากแล้วจริงๆ 5555555
ได้อ่านตอนนี้เหมือนต้นไม้ได้น้ำเลย รู้ความรู้สึกของต้นไม้ที่เราลืมรดน้ำไปหลายวันแล้วกลับมารดจนมันฟูเหมือนเดิมจริงๆ
คืออารมณ์ของเราตอนนี้เลยค่ะ ยิ่งตอนที่คุณจันทร์บอกว่าจะตีหัวหมอลงเรือนะ น้ำตาซึมเลย แง ; ___ ;
คิดอยู่แล้วว่าคนเอาแต่ใจอย่างจันทร์น่ะ กับเรื่องหัวใจของตัวเอง มีหรือจะไม่เอาแต่ใจได้ ? ทุกคำของเธอนี่น่ารักน่าชังจริงๆค่ะ
รอจังหวะหมอรวบมากอดอยู่หลายช็อตทีเดียว 555555555 คุณหมอก็ซึมซะจนสงสารตามเลย
ดีใจมากเลยค่ะที่ได้อ่านวันนี้ >____< ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ทั้งๆที่ป่วยอยู่แท้ๆ ขอให้หายไวๆนะคะคุณบัว รักษาสุขภาพนะคะ

สำหรับคำผิดตอนนี้ค่ะ
ตีแซกหน้า - แสก
พี่ขายของเขา - ชาย
คำพด - พูด
รู้สึเหมือน - รู้สึก
ปราศัย - ปราศรัย
ไอโคลก - โขลก
อยุ่ - อยู่
พลางสายตา - พราง (คิดว่าน่าจะใช้ พราง เดียวกับ พรางตัวนะคะ ตามบริบทแล้ว)

จะรอวันพฤหัสต่อไปนะคะ ~ เป็นกำลังใจให้เสมอและหายไวๆนะคะคุณบัว :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 26-11-2015 20:25:44
เข้าใจกัน บอกรักกันแล้ว :mew3: :mew3: :L1: :L1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 26-11-2015 20:25:54
ในที่สุด  :impress3: ลุ้นมาก กว่าจะเข้าใจตรงกันได้

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 26-11-2015 20:27:42
ก็ต่อให้จบขั้นตอนสิคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-11-2015 20:33:50
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-11-2015 20:36:44
“ไม่เป็นไรครับ...ผมเป็นหมอ...”


เยี่ยมไปเลย 555+
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 26-11-2015 20:46:33
โอ๊บบบ ดีอ่ะะะะะะ แมนๆคุยกัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 26-11-2015 20:51:13
โอ้ยยยย ปริ่ม ยิ้มจนแก้มจะฉีก  ชอบหมอภวัตที่สุด  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 26-11-2015 20:52:34
ตอนหน้าไม่เอาไงนะ ตอนหน้าเอากัน 5555555
ช่วงแรกๆ ปวดใจสุด สงสารทั้งคู่เลย
ช่วงท้ายๆนี่ฟินสุด แหกปากขำนังจันทร์นานมาก เขินกับฉากจูบด้วยอะ กิ้บก๊าวมากกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 26-11-2015 20:53:30
ดีมากกกกค่ะคุณจันทร์ ถ้ารอให้หมอพูด ชาติหน้าก็ไม่ได้กันหรอกค่ะ คุณจันทร์ตัวจริงต้องแบบนี้แหล่ะ  :m3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 26-11-2015 20:54:32
โอยๆๆๆ ยิ้มหน้าบานกับการคืนความสุขวันนี้
ในที่สุดก็ชัดเจนจะแจ้งกันไปแล้วนะ
หวังว่าคุณหมอจะรังแกคนไข้แต่พองามเน้อ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 26-11-2015 20:55:16
หายปากแข็งสักทีนะ

โดนคุณพงศ์หลอกเต็มๆเลยจันทร์จ้าว 555 :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-11-2015 20:56:44
ตบเข่าดังฉาด!
บร๊ะ! พ่อจันทร์ของฉัน!
แก่นเซี้ยว ดื้อดึงเอาจนได้
ถูกใจยิ่งนัก!

ภวัตเอ๊ย! ไม่รอดแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 26-11-2015 21:01:41
 :mew1:

ยังไงก็รอค่ะ

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...เป็นห่วงค่า

เค้าจุ๊บกันแล้ว

หวังว่า มาม่าไม่หนักมากนะคะ

 รอตอนต่อไปค่ะ

  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 26-11-2015 21:02:17
ล้มโต๊ะ
เขินมากกกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 26-11-2015 21:02:28
คุณจันทร์!!!! กรี๊ดดดดดดด โอ้ยยย สุดๆค่ะ ยกป้ายไฟ #ทีมคุณจันทร์ ที่เคยดุๆไว้ลืมหมดละ 5555
นี่ถ้าคุณหมอยังเล่นตัวต่ออีก จะเก็บคุณจันทร์เข้าบ้านแล้วนะ
แล้วก็อย่าลืม อย่าเอาเปรียบ บอกรักคืนคุณจันทร์ด้วยค่ะ!!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 26-11-2015 21:05:16
ขอบคุณครับ   

/// ดูแลสุขภาพด้วยนาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 26-11-2015 21:11:31
เค้าดีกันแล้ว! TwT ปริ่มที่สุด แถมยังจุจุ๊บ อรั้ยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmy_kuneekorn ที่ 26-11-2015 21:12:41
ในที่สุด!!!! คนอ่านนี่ลุ้นสุดพลัง 55
ตอนหน้าขอหวานๆเอาให้น้ำตาลทรายออร์แกนิกอายเลยนะคะคนเขียน
เซอร์วิสนิสนุงง หะหน่วงมาหลายตอน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 26-11-2015 21:15:05
ในที่ซู้ดดดดด :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 26-11-2015 21:22:07
พอจันทร์จ้าวคนเดิมกลับมา คุณหมอก็มิอาจต้านทานความต้องการของเจ้าตัวเขาได้อย่างเคยเลยนะคะ :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-11-2015 21:23:48
แหม ตอนที่หมอพูดกับเภานี่เราแทบจะร้องไห้เลยอ่ะ อารมณ์แบบทุกข์เพราะรักแท้ๆเลย
แต่เพราะความดื้อของจันทร์จ้าว... ตอนท้ายนี่น่ารักจัง ในที่สุดก็เข้าใจกัน จับมือ จูบปาก? กันซะทีสินะ
คุณจันทร์คุยกับหมอ เราก็นึกๆอยู่ว่า หรือคุณจันทร์จะเป็นฝ่ายรุกกันหว่า? ฮา
ชอบความดื้อในบทนี้ของคุณจันทร์นะ ชอบที่บอกว่าถ้าถูกบังคับจะไปอยู่ต่างประเทศแล้วตีหัวหมอ เอาตัวใส่หีบไปด้วย ฮา
แต่ประโยคสุดท้ายของหมอก็เด็ดนะ ตลกดี

ปล.ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์มาลงให้ทั้งที่ป่วย ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วย หายไวๆนะคะ
เอาจริงๆก็รอทุกวันพฤหัสฯล่ะค่ะ ถึงแม้ไม่ได้มาปูเสื่อรอ แต่ก็เข้ามาดูหลายรอบนะ ขอบคุณที่เห็นแต่แม่ยกตาดำๆค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 26-11-2015 21:29:48
กรี้ด บอกรักกันแว้ววววว รอตอนต่อไปข่า
รักษาสุขภาพด้วยนะค้า สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 26-11-2015 21:31:25
โอยยยยย ชอบบบบบบบบ ชอบความหวานของตอนท้ายมาก ตอนหน้าขอต่อตอนท้ายฉากนี้ด้วยนะคะว่าถึงขั้นไหนกัน 555555555
หมอเจ้าเล่ห์มากกกก และหลังจากนี้ขอเจ้าเล่ห์อีกเยอะๆ เอาแต่ใจกับจันทร์จ้าวเยอะๆ โดยเฉพาะบนเตียง  หิหิหิหิหิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 26-11-2015 21:32:51
 :o12: :o12: :o12: ฮือออออิ..คืนให้นิดเดียวเอง...กลางๆเรื่องทำเอาน้ำตาเล็ด...สงสารหมอกะจันทร์ :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 26-11-2015 21:39:54
น้ำตาซึมไปด้วยเลย
อินจัด
พยายามอ่านทุกคำอย่างละเอียดเพื่อซึมซาบความรู้สึก
เลื่อนลงมาค่อยๆเพื่อให้ตอนมันจบลงช้ามากที่สุด
เราชอบเรื่องนี้มากเลย มันค่อยๆเป็นค่อยๆไปดี
ต้องขอบคุณความดื้อรั้นของคุณจันทร์รึเปล่านา ที่ทำให้เข้าใจกันได้
คุณหมอปากหนัก บอกรักจันทร์บ้างสิ
ถ้าไทยอยู่ไม่ได้ ก็หนีไปอยู่เมืองนอกโลด 555
จับมือแล้วเผชิญหน้าปัญหาไปด้วยกันเถอะนะทั้งสองคน
วันพฤหัสหน้าช่างยาวนาน
แต่ก็
รอตอนต่อไปค่ะ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 26-11-2015 21:43:30

น้องจันทร์เอาไปล้านแต้มเลยค่ะ ยืดอกรับแบบแมนๆ ชอบก็ตีหัวลากเข้าบ้าน ทำถูกแล้วค่าาาา  :impress3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 26-11-2015 21:43:53
เราจะคืนความสุขให้กันอย่างนี้เรื่อยไป
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 26-11-2015 21:46:19
ตอนหน้าขอnc. ของคุณหมอกับคุณจันทร์สิค่ะ มีแฟนเป็นหมอสบายไปแปดอย่าง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: amewa ที่ 26-11-2015 21:53:35
ฮื้ออออออ ในที่สุดทั้งคู่ก็คืนดีกันแล้ว ปริ่มมากค่ะกับตอนนี้ อ่านไปนี่ใจเต้นไปว่าสรุปทั้งคู่จะทะเลาะกันอีกไหม
เพราะม่ามาหลายตอนทำเครียด55555  :ling3:
แต่ในที่สุดค่ะ! หมอก็มาหาคุณจันทร์ซะที แอบตลกที่หมอที่อ่อนโยนหายไป
เหลือแต่หมอจอมขี้บ่น555555555555  :katai2-1: :katai2-1:
ยิ่งตอนจันทร์บอกความรู้สึกนี่ก็ลุ้นมากค่ะ ว่าหมอจะตอบรับไหม คือเห็นหมอยึดกฎเกณฑ์มากๆ
แต่เพราะความดื้อดึงของจันทร์จริงๆค่ะที่ทำกับหมองี้ คือหมอต้องเป็นของผม!  :hao6: :hao6: :o8: :-[
งื้อออ ชอบมาก ตอนสุดท้ายของตอนนี้ก็หวานมากค่ะ เขาจูบกันแล้วววววว เขินมาก :-[ o18
คือยิ่งฉากผมป่วยกับผมเป็นหมอตอนสุดท้าย
กินใจมากค่ะ หมอภวัตเธอมันเจ้าเล่ห์ ใช้ความเป็นหมออย่างงี้~ :hao7: ยอมค่ะยอม5555555

ท้ายสุดนี้ขอบคุณคนเขียนมากๆเลยนะคะที่มาต่อให้ในวันนี้ แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ลำบากค่ะที่เข้ามาทวง(.___.)
ยังไงก็หายป่วยไวๆนะคะ
อย่าไม่ดูแลตัวเองเหมือนจันทร์น้าาา 55555  :bye2: o13 :m31:
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับงานเขียนดีๆแบบนี้ค่า :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 26-11-2015 21:56:14
 :hao5: แง้ เค้าดีกันแล้ว เค้าตกลงปลงใจกันแล้วเจ้าข้าเอ้ยยยยย คนอ่านนี่อ่านไปลุ้นไปเลยจริงๆ ก็บอกแล้วว่าถ้าจันทร์จ้าวคิดตกเมื่อไหร่ต้องเป็นฝ่ายรุกหาหมอแน่ๆและก็จริงๆถึงกับบอกความในใจ สารภาพรักแถมยังบอกว่าจะเอาหมอมาเป็นของตัวเองให้ได้อีก เจอฤทธิ์คนดื้ออย่างจันทร์ไปหมอถึงกับยอมใจเลยทีเดียว และที่สำคัญสารภาพรักปุ๊บจูบกันปั๊บเลย อร๊ายยย งานนี้แม่ยกก็ฟินสิคะคุณบัว คืนดีกันแบบนี้แล้วขอบรรยากาศเดิมๆที่เพิ่มเติมคือความหวานของคู่นี้หน่อยนะคะคุณบัว  :o8:
ปอลิง หายป่วยไวๆนะคะ  :z10:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 26-11-2015 21:57:32
 :hao6: :hao6: โอ๊ยยยยฟิน กว่าจะซดมาม่าหมด จนเจอรสชาติหวานๆนี่ทรมานมากอ่ะ
อยากถึงพฤหัสหน้าแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-11-2015 22:02:21
ยิ้มได้สักที ต้องอย่างนี้ซิถึงจะเป็นจันทร์จ้าว มุ้งหน้าท้าชนไปเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-11-2015 22:06:59
จันทร์ของเราเฟี้ยวฟ้าวมาก ชัดเจน ตรงแหน่ว
พี่หมอเนี่ยไม่ได้เรื่องเลย ต้องให้จันทร์ลงปากเอ้ยลงมือเอง 5555
ปล. ตอนหน้านี่จะต่อเนื่องจากตอนนี้ไหมคะ  หุหุ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 26-11-2015 22:15:10
พวกเขาเป็นคนรักกันแล้ว เย้ๆ

รอตอนต่อไปว่าจะฟินขนาดไหน มันต้องหวานมากแน่ๆเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 26-11-2015 22:21:11
กลัวมาม่าครอบครัวจัง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-11-2015 22:26:28
อ๊ายยยย
คุณจันทร์ว่าเด็ดแล้ว คุณหมอเด็ดกว่าอีกข่าาาา
ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นหมอ !!!
เขินแทนคุณจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: casper75 ที่ 26-11-2015 22:34:45
ฟินค่าาา  :hao7:
หมอปากหนักจัง ต้องให้จันทร์ออกโรงเอง
จันทร์น่ารักอ่ะ รับรางวัลจากหมอได้เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 26-11-2015 22:38:04
กรี้ดดดด ทำไมมดกัด
ทำตามอำเภอใจ นี่แบบไหนเหรอ
ตอนหน้ามาบอกหน่อยน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 26-11-2015 22:58:26
เยี่ยม คุยกันแมน ๆ จันทร์เจ้าเท่มากก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 26-11-2015 23:08:32
กรี๊ดดดดดดด
เค้าจูบกันแล้วจ๊าาปลดปล่อยความอัดอั้นในใจเต็มที่เลย
อ๊ายยยย เขินนน
นี่สินะจันทร์ตัวจริง กลับจากลาพักร้อนเสียที

หมอเอาจันทร์เแ็นตัวอย่างเลย
อยากได้ก็ให้บอก แล้วพุ่งชนเลย

ฟินค๊าาาาาาา


ตอนหน้าขอหวานกว่านึ้
อย่าเพิ่งมีอุปสรรคอะไรโผล่มาเลยนะ
พลีสสสสสสสสส(>﹏<)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 26-11-2015 23:10:06
 :mew1:กรี๊ดดดดด  แมนแมนเค้าจูบกันค๊าาาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 27-11-2015 00:11:22
ขอหวานๆ น้ำตาลท่วมจอ~~
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 27-11-2015 00:27:36
เดาไว้ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์คงดีขึ้นนิดนึง แต่! คุณจันทร์เธอดันจัดเต็มซะนี่
คุณจันทร์ตอนจริงจังขึ้นมานี่เดาไม่ได้เลยค่ะ แต่ดีงามมากกกกก  :hao5:
ทีมคุณหมออย่างเราค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย(จริงๆคือมากกก 555)
แต่ให้คุณจันทร์คุมเกมไม่ได้นะคะหมอ พลิกกลับเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!!(?)
ตอนหน้าอย่าพึ่งดราม่าเลยค่าาา ตั้งตัวไม่ทัน หน่วงมาเยอะละ อย่าเลยนะคะ ><
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 27-11-2015 00:29:59
จันทร์จ้าววววววววววว     แกรรรร๊นี่นึกว่าหมอจะบอกก่อนมาตลอด   พลิกล็อค  นังจันทร์เธอแรดมากกก   555555  แต่ถูกใจถือว่าดี   ตอนหน้าไม่รู้ตามใจคุณบัวเลยค่ะ แต่ตอนหน้าๆไปอีกอยากเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของดารารัษมีมากจ้าา   ปกติมองว่าพี่ชายเจ้าชู้มากมารู้แบบนี้ดูซิจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 27-11-2015 00:46:01
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

ตอนหน้าก็ต่อจากตอนนี้สิคะ ถ้าจะให้คนไข้หายป่วยหมอต้องจับฉีดยานะ แค่จูบกันมันจะไปพออะไร :z1:

กรีดร้องแรงมากความดื้อของคุณจันทร์ทำให้มันสัมฤทธิ์ผลจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 27-11-2015 00:49:45
พีคมากกกกกกกกกก ผมจะทำให้หมอเป็นของผม :a5: :a5: จันทร์จ้าวนี่สมกับที่เป็นจันทร์จ้าวจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 27-11-2015 01:07:58
ปริ่มครับ ได้รักกันสักที  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 27-11-2015 01:26:59
จันทร์จ้าว...เป็นบุคคลที่ยากแท้หยั่งถึงจริงๆๆๆ o13 o13

น๊อคเอาท์..หมอจนมึนเมา!!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 27-11-2015 01:27:34
โอ้ยยยย บทจะไวก็ไว
คือไวไฟ
จุดปุ๊ปติดปั๊ป555555555
ประโยคสุดท้ายนี่แบบ
 :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 27-11-2015 01:30:45
โอ้ยยย คิดแล้วเชียวว่าถ้าตกลงปลงใจได้เมื่อไหร่ คนที่จะเดินหน้าก่อนคือจันทร์ แต่งานนี้ยังไงคุณพงษ์ก็เป็นฮีโร่อยู่ดี ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-11-2015 01:42:11
อ้อยยยย!! น้องฟิน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: หลิว ที่ 27-11-2015 03:23:45
แล้วไงต่อ..
จู้ฮุกกรู้ว?  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 27-11-2015 04:17:39
พรุ่งนี้เป็นวันพฤหัสอีกได้ไหม....พฤหัสทั้งอาทิตย์เลยยยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 27-11-2015 04:30:33
ตอนหน้าขอหวานๆค่ะ ถ้าได้ต่อจากตอนนี้ยิ่งดี ไม่เอาดราม่าอีกเลยได้ไหม 555
ชอบประโยคนี้มาก ไม่คิดเลยจันทร์เจ้าจะเป็นคนรุกก่อน 'ผมจะทำทุกวิถีทางให้หมอเป็นของผมแน่'
แต่พี่หมอก็แอบเอาแต่ใจนะเออ เหมาะสมกันดี
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 27-11-2015 05:23:49
คุณพงศ์ก็ลากเรย์เข้าไปร่วมขบวนการด้วยจนได้
ขำมากๆที่เรย์พุดเรื่องกรรม

อย่างเภานี่คือเสเพลของจริงเลยนะ
เพราะแค่รักแค่ชอบแต่ยังไม่ได้ทำอะไรมาก
ก็คือคิดสะระตะแล้วว่าหญิงพิมเป็นของตัวเอง
แถมตัวเองก็ออกไปเที่ยวกับผู้หญิงอื่นด้วย
ใครได้เภาไปก็ไม่แคล้วได้กินน้ำตาคลุกข้าว
ดีแล้วที่เป็นพี่อาทิตย์ รับรองอยุ่ในโอวาทภริยาแน่ๆ

สงสารคุณหมอมากๆตอนที่คุยกับเภา
คือทำใจรอตั้งแต่ต้นเลย

เรื่องมาพลิกที่คุณจันทร์เนอะ
บทจะรุกก็เอาเสียอีกฝ่ายถอยไม่ได้
ตอนนั้นที่คุณจันทร์ประกาศรุกคุณหมอก็ให้รู้สึกว่านางแมนมากค่ะ
คุณหมอไปไม่เป็นเลย
แต่คุณหมอก็แก้เกมส์พลิกกลับมารุกได้เร็วมากๆ

ขออย่าให้อีกคู่เป็นเภากับน้องสาวคุณจันทร์เลยค่ะ
กับวนิดาก็ดีแล้วคนประเภทเดียวกัน
ไม่งั้นน้องสาวคุณจันทร์ได้น้ำตาตกในแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 27-11-2015 05:54:38
จะฟินแต่ก็ฟินไม่สุด แอบหงุดหงิดหมอ หมอไม่มีความหนักแน่นเลยอ่ะ
ขนาดบอกรักหมอยังไม่แม้แต่จะบอกคุณจันทร์
แถมหมอไม่มีความพยายามที่จะทำให้เป็นไปได้เลย
ยอมแพ้ง่ายไปมั้ย ขนาดตอนนี้กว่าหมอจะยอมคุณจันทร์ต้องพูดแล้วพูดอีก
หมอต้องมีความหนักแน่นมากกว่านี้ อย่าปล่อยให้คุณจันทร์เป็นคนที่พยายามประครองความสัมพันธ์นี้ไว้คนเดียวนะะะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Aomoto ที่ 27-11-2015 06:14:53
สนุกที่ซู๊ด "ผมเป็นหมอ" คุณหมอเอาแต่ใจ เขินตามเลยคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-11-2015 07:19:16
พ่อจันทร์คือที่สุดอ่ะ 555 รุกแรงมากกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 27-11-2015 07:23:12
#หมอภวัต กำลังเดินตามรอยพี่ธัน และพี่โต
5555 อิจฉาจันทร์เจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 27-11-2015 08:13:31
คือจันทร์จ้าวน่ารักมากกก
จันทร์ที่เอาแต่ใจคนนั้นกลับมาแล้ว
คือคุณหมออยู่เฉยๆก็ได้นะ
เพราะจันทร์จ้าวจะทำทุกทางให้ได้คุณหมอมาครอบครอง
อุ๊ต้ะ เอามือทาบอก คุณหญิวแม่มาได้ยินคงลมแทบจับ
เป็นสาวเป็นนางพูดแบบนี้ไม่งามนะ 555
แถมรักมากหวงมาก ไม่ได้กับหมอ ไม่อยู่ไทยก็ได้
แต่จะทุบหัวหมอลากลงเรือไปด้วย เอ้อ เอากะเค้าสิ
55555 เพราะพิษไข้หรือป่าวที่ทำให้น่ารักอย่างนี้
คนรักกันพูดกันตรงๆอย่างนี้สิ
เอาเวลามารักกันดีกว่าเนาะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 27-11-2015 09:26:38
งือ~ :heaven
จะรีบตัดไปหนายยยยยยยย :sad4:
ไม่รอให้คุณหมอแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เสร็จก่อน :oo1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-11-2015 10:00:23
ถ้าหมอไม่พร่ำแต่คำว่าเป็นไปไม่ได้ ๆ จันทร์จ้าวคงไม่ฮึดสู้ เหมือนปลุกคุณจันทร์คนดื้อให้กลับมาอีกครั้ง
มารอดูว่าคุณจันทร์จะนำพาคุณหมอฝ่ากระแสสังคมและกรอบประเพณีได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 27-11-2015 11:26:55
กรี๊ดดดดด
เขาจูบกันแล้ว
เขารักกันแล้ววววว จุดพลุฉลองงงง
น่ารักที่สุดดดด ตลกจันทร์จะตีหัวหมอแล้วลากลงหีบ 55555

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-11-2015 11:31:01
โถ๋ว...คุณจันทร์เจ้าขา พ่อคุณช่างเป็นคน ปากตรงกับใจ กล้าได้กล้าเสีย ยิ่งนั๊ก






คุณหมอภวัตรก็แสนดี แสนทุ่มเทดูแล ต่อไปนี้คงไม่ต้องปกปิดความรู้สึกที่มีต่อกันแล้วนะ






นี่แน่ะ :z6:นัยเภา อย่ามาแช่ง คุณจันทร์เจ้าขา ของป้านะ ห้ามเลย คนนี้แช่งไม่ได้






งั้นป้าขอแช่งนัยเภามั่ง ขอให้ได้เป็นคู่ตุนาหงันกับคุณชายพงษ์คนแสนดีแล้วกันนะ ครึ ครึ






เหลือแต่ต้องฟันฝ่า กับขนบธรรมเนียมและครอบครัวของทั้งสองฝ่ายละนะ ป้าเอาใจช่วย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: somelove ที่ 27-11-2015 11:42:17
 :hao7:จันทร์เจ้า เจ๊ชอยมากๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 27-11-2015 13:27:04
ต้องยกความดีความชอบให้คุณพง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnn ที่ 27-11-2015 14:27:44
ว๊ากกกกกกก ในที่สุดหมอก็ได้ความสุขกลับคืนมา
รออะไร ลุกขึ้นปรบมือสิครับ *แปะๆ*

งานนี้ต้องก้มกราบคุณพงศ์งามๆ เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา
แม้จะผิดศีลที่ต้องโกหกเพื่อนรักก็ตาม นั่นไม่ถือว่าผิด
เพราะถือว่าได้ไถ่บาปช่วยเหลือให้คนหันมารักกันเพิ่มอีกหนึ่งคู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ
ในเมื่อเป็นคนดีจิตใจงามมาตลอดทั้งเรื่องแล้ว จะรอช้าอยู่ใย ทำไมคุณพงศ์ถึงไม่มีคู่กับเขาสักที
รึอาจจะเป็นคนใกล้ตัวที่อยู่แถวนี้ก็เป็นได้ ขอให้ได้ให้โดน ขอให้ผลบุญตอบสนองกลับมาบ้าง สาธุ ฮ่าๆๆๆ

แต่ก็คงยกความดีความชอบให้คุณพงศ์อย่างเดียวไม่ได้จริงๆ
งานนี้ถ้าจันทร์จ้าวไม่พกความกล้าที่มากกว่าความเร็วแสง
ป่านนี้ก็คงยังไม่ได้หมอมาครอบครองเป็นแน่แท้ นี่อึ้งมากกับความกล้าบ้าบิ่นของจันทร์จ้าว
มีประกาศกร้าวว่าจะทำให้หมอเป็นของตัวเองด้วยถ้าหมอคิดจะก้าวขอออกจากห้องไป
อื้อหือ นี่ถ้าอิฉันเป็นหมอก็คงไม่ฝืนทนทำใจแข็งได้เท่านี้หรอกค่ะ จะจับหนูจันทร์มาทำโทษเสียตรงนั้น
แต่งานนี้จัทนร์จ้าวยังป่วยอยู่ หมอคงจะยังทำอะไรมากไปกว่าจูจุ๊ปบ่อยๆไม่ได้
ต้องเลี้ยงให้หายป่วยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเตรียมรับศึกหนักเอาไว้ก่อน งานนั้นจะจับทำอะไรก็แล้วแต่จะปรารถนา

นี่ก็เฝ้ารอคืนวันที่เค้าสองคนจะเป็นของกันและกันสักที ดูสิว่าถึงตอนนั้นจันทร์จ้าวจะยังปากเก่งอยู่อีกมั้ย
ต้องเจอหมอมาปราบพยศให้หายดื้อจริงๆจังๆซะแล้ว แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเมื่อไหร่จะหายป่วยนี่จิ
คนอ่านเองก็ใจร้อน อยากให้ถึงวันนั้นไวๆซะเลย *เราไม่ได้หื่นขอออกตัวบอกไว้ก่อน* ฮ่าๆๆๆ

ส่วนอุปสรรคเรื่องสังคม เรื่องคนรอบข้าง และเรื่องจารีตประเพณี อันนี้เก็บใส่กรุเอาไว้ก่อน
อย่าเพิ่งไปคิดถึงมัน ขออยู่กันสองคนฉันคนรักแบบหวานๆกันไปก่อนจะดีกว่า
มาม่าเส้นอืดอย่าเพิ่งย่างกรายเข้ามาเลย เรายังไม่พร้อมจะตั้งรับกับมันจริงๆ

บวกเป็ดให้ทุกตอนงามๆเหมือนเดิม
ขอให้นักเขียนหายป่วยไวๆนะคะ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เอาแน่เอานอนอะไรก็ไม่ได้
เป็นกำลังใจให้เสมอ ด้วยรักและคิดถึงจากคุณไผ่พงศธร เอ้ยไม่ใช่ จากนักอ่านที่แสนน่ารัก ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 27-11-2015 14:37:23
จันทร์คนจริง  o13

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 27-11-2015 15:49:49
ว้าว มีความสุขจริงๆเมื่ออ่านบทนี้ ขอบคุณคุณบัวที่คืนความสุขให้ประชาชนฮะ  :L2:
ยังไงๆก็ยังชอบคุณพงศ์อยู่ดี มีการอ่อยเหยื่อไปเรียนต่อให้น้องจันทร์ของเราใจหายด้วย
เรียกว่าช่วยสุดตัวกันเลยทีเดียว โชคดีที่ตาเรย์ป่วยด้วยเลยทำให้คู่นี้ได้พบกัน
กลายเป็นเพื่อนๆคุณจันทร์ผันตัวเป็นกามเทพกันหมดเลยงานนี้  o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิลา ที่ 27-11-2015 21:01:01
น้องจันทร์จ้ะ งานนี้หนูแน่ใจนะว่าจะได้สามี
ไม่ใช่พ่อ

ยกความดีความชอบให้คุณพงษ์พ่อกามเทพตัวน้อย
แล้วพ่อกามเทพนี่จะคู่ใครล่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 28-11-2015 08:27:12
อ่านกี่ทีก็ฟิน :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 28-11-2015 11:16:52
แทบรอให้ถึงพฤหัสหน้าไม่ไหวว ชอบมากกกกกกกก ตอนนี้แบบบบฟืนนนเว่อออเค้าจูบกันแล้วค่าาาา โอ่ยยยดดีใจมากอะ คุณพงศ์นี่เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 28-11-2015 11:21:22
จันทร์เจ้าเปรี้ยวอ่ะ แซ่บมากกกกก โอ้ย!!!! มันดีกับใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 28-11-2015 11:52:10

ตอนช่วงแรกอ่านแล้วก็ชีช้ำ และหน่วงในอกมาก
ืท้อแทนหมอเลย (ถอนหายใจหนักและยาวเหยียด)

แต่พอตอนท้าย... อั้ยย่ะ!! แค่เปิดอกอารมณ์ก็เปลี่ยน!!!!
คุณจันทร์ช่างพะบู๊ดีแท้ เอาซี่!!! ถ้าหนี จันทร์ก็จะทำให้หมอเป็นของจันทร์เอง
ป๊าดติโธ่!! อีป้านี่มโนไปถึงกระบวนท่าที่คุณจันทร์จะใช้ทำให้หมอตกเป็นสมบัติส่วนตัวจนเลือดกำเดาแทบหลั่ง

นึกอยากจะวาร์ปเข้าไปในเนื้อเรื่องแล้วเตือนสติคุณจันทร์เสียจริงๆว่า... 
ระหว่างเมะกับเคะนี่มันมีอินเนอร์บ่งชี้นะลูก และหนูก็เคะมากกกกกกกก ซึ่งการพูดจาแก่นเซี้ยวเช่นนั้น มันเข้าทางหมอภวัตเป็นอย่างยิ่ง (หึ หึ หึ // ป้านี่สมคบคิดกับหมอหัวเราะร้ายรอเลยทีเดียว)

รออ่านตอนต่อไปค่ะ...
ขอให้หายป่วยไวๆนะคะ ถ้าไม่ไหวก็พักผ่อนเยอะๆนะคะ ช่วงนี้อากาศเริ่มจะเย็นลงด้วย
เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :กอด1:


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 28-11-2015 14:01:48
 โอ๊ยยยย ตอนแรกขำ แต่ตอนนี้อ่ะเขินนน  :-[
ตลกจันทร์จ้าวอ่ะ  :hao7: :hao7:
ไม่น่าอ่านตอนนี้เลย... ไม่ใช่อะไรหรอก ค้างงงงงงงงงงงงงงงงง
เขินหมอมากกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 28-11-2015 14:41:21
แหม พอจะเอาต้องเอาให้ได้นะคะหนูจันทร์
แต่ดีแล้วค่ะ เปิดใจกันแล้วสมหวัง
ไงขอหวานกันก่อนนะคะคุณบัว สักสองสามตอน
แล้วค่อยมาม่าเบาๆกันนะคะ
ขอบคุณค่ะ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 28-11-2015 18:53:46
ใจตรงกันสักที่ :hao7: คราวนี้นายเภาได้ทำหน้าที่น้องที่ดี มีทายาทแทนคุณหมอของเรา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 28-11-2015 19:35:14
และแล้ว จันทร์ผู้มุ่งมั่นก็กลับมา ชอบๆๆๆ

ขอหวานๆๆๆ อย่ามาม่าเลยน๊าาาาาา สงสารทั้งหมอทั้งจันทร์เลย
อยากให้หวานๆ กันสักที หลังจากอึดอัดกันมานาน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 28-11-2015 19:49:35
จันทร์นี่จันทร์จริงๆค่ะ55555555555555

สงบเสงี่ยมได้ไม่นานจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 28-11-2015 22:04:38
ฮือออออออดีใจ ในที่สุดก็บอกรักแล้ววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 28-11-2015 22:58:19
ตอนนี้จันทร์จ้าวได้ใจดิฉันไปเต็มๆ เลย มั่นคงและจริงใจกับความรู้สึกตัวเองสุดๆ หากหมอก้าวออกจากบ้าน จะทำทุกวิถีทางให้หมอเป็นของผม โธ่ พูดออกมาอย่างนี้ แล้วหมอภวัตผู้ที่อกไหม้ไส้ขมด้วยรักจันทร์จ้าวจะตายจะไปไหนได้ มีแต่ต้องตกล่องปล่องชิ้นด้วยกันนั่นแหละจ้า

แต่ฉากจูบและฉากสารภาพรักนี่ ทำเอายิ้มไม่หุบเลยนะคะ สังคมมีกรอบของมัน แต่ก็ใช่ว่ารักอย่างนี้จะอยู่ภายในกรอบไม่ได้ การรู้จักวางตัวย่อมสำคัญอย่างหนึ่ง ขอเป็นกำลังใจให้กับทั้งสองและคุณบัวด้วยค่ะ

ขอบคุณมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 28-11-2015 23:33:49
มารอดูว่าจันทร์เจ้าจะทำให้หมอเป็นของตัวเองได้ไหม
หรือว่าตัวเองตกเป็นของหมอกันแน่  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 29-11-2015 13:06:10
อ่านตอนนี้แล้วจิตใจแจ่มใส เบิกบานมากค่ะ
เค้าพูดความในใจกันออกมาแล้ว น้ำตาจะไหล
ดีใจที่หมอยอมรับความรู้สึกตัวเอง
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-11-2015 14:53:48
อ๊ายยยยยย หมอกับจันทร์เจ้า เค้าจุ๊บๆกันแล้ววว  :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 29-11-2015 19:54:53
 :z1: :z1: :z1: โอยยยยย ดีกันแล้ว เขาดีกันแล้ว  :z2: :z2: :z2: ดีกับใจคนอ่านมากเลยจ้าคนเขียนน
แต่ตัดจบได้ค้างมากกกกกก ฮ่าๆๆๆ
พ่อจันทร์นี่ร้ายกาจจริงๆ คุณหมอจะหนีไปไหนได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnon04 ที่ 29-11-2015 21:40:34
คุณจันทร์คะ รีบทำให้หมดเป็นของคุณจันทร์เถอะค่ะ ถ้าคุณจันทร์พลาดตอนนี้คุณจันทร์จะกลายเป็นของคุณหมอแทนนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ohuii ที่ 29-11-2015 23:05:59
รอคุณหมอทบต้นทบดอกตามสัญญา (ทำตาวิ้งๆใส่คนแต่ง)
อยากเห็นความสัมพันธ์ที่คืบหน้าเกินเพื่อน ตอนนี้คุณพงศ์รู้แล้ว แล้วพี่น้องสองฝั่งจะว่ายังไง
รอลุ้นค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 01-12-2015 10:06:14
กลับมาอ่านอีกรอบรอคุณบัวมาต่อ ชอบบบบบ ตอนหน้าขอหวานๆ คุณหมอเก็บกำไรเยอะๆ 5555555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Takamine ที่ 01-12-2015 17:18:19
อ่านแล้วนึกถึงบรรยากาศละครเรื่องเจ้าสาวของอานนท์เลยครับ ชอบมากๆ รอตอนต่อไปอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: gimini ที่ 02-12-2015 19:37:09
เย่ ดีกันแล้วววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 03-12-2015 07:59:34
วันพฤหัสแล้ว เย้ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 03-12-2015 10:19:34
วันนี้วันพฤหัสแล้ว เย้ ~ >________<
มารอนะคะ  :call:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 03-12-2015 12:36:15
 :z2: มารอ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 03-12-2015 14:57:45
มารอจันทร์จ้าวกับคุณหมอนะค๊าาาา  :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 03-12-2015 18:34:49
หมอนัดค่าา :katai4:

สวีทมากกกค่าาาาาาาาาาา แบบแค่อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว
แต่ในยุคสมัยก่อนนี่เรื่องชายรักชายร้ายแรงมากมั้ยคะ
อารมณ์ประมาณโบรคแบคมั้ย ...

ปล.แอบฮาตรงหมอขอเวลาไปศึกษา คือ ยุคนั้นศึกษาจากอะไรคะหมอ :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-12-2015 18:40:52
มารอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 03-12-2015 18:59:45
มารอออ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 03-12-2015 19:18:49
 :m7:มารึยัง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 03-12-2015 19:26:14
มารอค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 03-12-2015 19:36:51
มารอด้วยเดี๋ยวอ่านหนังสือสอบรอ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: chibi ที่ 03-12-2015 19:37:59
รอจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 03-12-2015 20:39:25
รอจ๊า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 03-12-2015 21:01:59
วันนี้มาดึกจังจันทร์จ้าว รออยู่นะค่ะ คิดถึงหมอ คิดถึงจันทร์
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 03-12-2015 21:42:20
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๑๓


แก้มซีดเริ่มซับสีเลือด ภวัตจับจ้องแก้มฉ่ำที่ถูกเขาบรรจงจูบซ้ำแล้วซ้ำอีก จากใบหน้าซีดเซียวของคนป่วย บัดนี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นเสียจนอดใจไม่ไหวต้องก้มลงจูบแก้มซ้ำๆ พอถูกแรงบดเบียดคลึงบนแก้มหนักขึ้น เจ้าของจึงเริ่มประท้วงอีกรอบ


“หมอ...ผมรู้ว่าหมอเป็นหมอ แต่ไม่กลัวติดหวัดผมหรือ” 



ถึงจะประท้วง แต่กระนั้น จันทร์จ้าวก็ไม่ปัดป้อง ยอมให้อีกฝ่ายแนบริมฝีปากลงกับแก้มเขาซ้ำๆ ในขณะที่หมอภวัตแม้จะได้ยินเสียงประท้วง แต่ก็ยังไม่ละริมฝีปากจากแก้มทั้ง ๒ ข้างเลย ซ้ำยังหัวเราะเบาๆให้ได้ยินเสียอีก



“หัวเราะอะไร หัวเราะแล้วไม่เป็นหวัดหรือ ผมจะได้หัวเราะบ้าง”



คราวนี้นายแพทย์หนุ่มผละออกมาเล็กน้อย แล้วกดร่างคนป่วยลงนั่งกับเตียง ส่วนเขายังยืนอยู่ข้างๆ ช้อนดวงหน้าเรื่อๆด้วยเลือดสูบฉีดขึ้นพินิศด้วยสายตาหวานฉ่ำ



“ถึงผมจะเป็นหมอ ผมก็ไม่อยากติดหวัดหรอกครับ แต่ที่ทำอยู่นี่ก็เพื่อให้หน้าคุณมีสีเลือดขึ้นมาหน่อย” มือหนาลูบผิวแก้มแผ่วเบา มันคลอเคลียละมุนละไมจนทำให้หัวใจของจันทร์จ้าวสั่นไหว ยิ่งมองสบเข้าไปในดวงตาคมของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าราวกับโลกนี้มีกันอยู่แค่ ๒ คน



“เมื่อวาน ตอนผมเห็นคุณที่หน้าบ้าน ผมโกรธคุณอย่างหนัก หน้าคุณซีดแต่ก็ยังดื้อเดินตากฝนไปซื้อข้าว ทำอะไรไม่คิดถึงใจคนอื่นที่เขาจะเป็นห่วงบ้างเลย”



“ผมไม่ทราบนี่ ว่าจะมีใครห่วงผมบ้าง”



“ถ้าอย่างนั้นก็ทราบเสียแต่ตอนนี้ ว่ามีคนคนนี้ที่เป็นห่วงนะครับ คราวหลังอย่าปล่อยให้ไม่สบายเช่นนั้นอีก”



“แต่ถ้าผมไม่ป่วย หมอก็คงไม่มา และถ้าหมอไม่มา เราก็คง...”



“ครับ เพราะคุณป่วย ผมถึงได้มา” ภวัตยอมรับตามตรง เพราะได้ยินว่าจันทร์จ้าวผู้ซึ่งไม่ใคร่จะดูแลตัวเองเสียเท่าไรเกิดล้มป่วย เขาจึงอดใจไม่ไหวต้องมาให้เห็นกับตาว่าอีกฝ่ายไม่เป็นไร ทุกอย่างจึงกลายเป็นเช่นนี้



“...เพราะคุณป่วย ผมถึงได้รู้ว่าความทุรนทุรายเพราะไม่ได้พบคุณยังไม่เท่ากับความทุรนทุรายเพราะเป็นห่วงคุณ อย่างหลังนั่นทรมานมากกว่าหลายเท่า”



ไม่ต้องบอกความรู้สึกอื่นใดนอกจากนี้ จันทร์จ้าวก็เข้าใจในความคิดของหมอภวัต ความทรมานเพราะไม่ได้พบหน้า ยังไม่สู้ความเป็นห่วงเพราะไม่ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นตายร้ายดีอย่างไร ความห่วงหาแสนสาหัสนั้นทำให้ภวัต วิชาญโยธินผู้ซึ่งอยู่ในกรอบจารีตประเพณีและคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ ถึงกับดิ้นรนมาที่นี่



“ต้องขอบคุณอาการป่วยของผมซีนะ” คนป่วยว่าอย่างนั้นพลางยิ้มจาง แต่คนเป็นหมอกลับส่ายหน้า



“ถึงจะขอบคุณ แต่หลังจากนี้คุณจะต้องไม่ป่วยอีก ทำใจได้เลยครับ ผมจะมีวันให้คุณปล่อยปละละเลยตัวเองแน่ เอาล่ะ...ก่อนอื่นเลย คุณจะต้องรับยาได้แล้ว จะได้พักผ่อนต่อ” ประโยคสุดท้ายทำเอาดวงหน้าขาวขมวดคิ้วฉับ


“พักผ่อนอีกแล้ว?!”


“ถูกต้องครับ คุณยังไม่หายดี ต้องนอนให้มากๆ”


“ใจคอหมอจะให้วันๆผมเอาแต่นอนอย่างนั้นหรือ? ผมเพิ่งจะตื่นเมื่อครู่นี้เอง สว่างโร่อย่างนี้ใครจะไปหลับลง! แล้วอีกอย่าง...เราเพิ่งจะได้กลับมาคุยกัน เราน่าจะคุยกันต่ออีกหน่อย ไม่เห็นจะต้องให้ผมรีบนอนนี่! แล้วผมก็หายดีแล้วด้วย ดูสิ! ไข้ก็ไม่สูงเท่าเมื่อวานแล้ว”



“ไข้ไม่สูงนั่นล่ะครับ แสดงว่ายังไม่หายดี” ภวัตไม่พูดพร่ำทำเพลง หันไปหยิบยาในถ้วยเล็กที่จัดเอาไว้ให้พร้อมด้วยน้ำเปล่าจากโต๊ะข้างเตียงมาส่งให้คนป่วย จันทร์จ้าวมองหน้านายแพทย์หนุ่มที่แม้ความสัมพันธ์จะคืบหน้า แต่กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังคงไว้ซึ่งความเข้มงวดของหน้าที่แพทย์เป็นอย่างยิ่ง



“รับยาครับ” นอกจากคำสั่งด้วยประโยคแล้ว สายตาจริงจังของร่างสูงก็เอาเรื่องไม่แพ้กัน คนถูกสั่งถอนหายใจอย่างปลงตก ก่อนจะยินยอมทำตามแต่โดยดี



เมื่อจัดการคนป่วยผู้แสนเอาแต่ใจเรียบร้อยแล้ว เขาก็ดันร่างจันทร์จ้าวให้ลงนอน ตามด้วยการห่มผ้าให้อีกชั้นหนึ่งเป็นสัญญาณว่าควรพักผ่อน ดวงตากลมใหญ่มองร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างเตียงละห้อยระโหย จนนายแพทย์หนุ่มอดใจไม่ไหวก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผากและละลงมาที่ข้างแก้ม ก่อนจะกระซิบแผ่วเบาให้คนป่วยได้ยิน



“ขอผมศึกษาก่อนว่าทำอย่างไรคุณถึงจะไม่เจ็บ แล้ว...เราค่อยต่อจากเมื่อครู่นะครับ” นายแพทย์หนุ่มว่าอย่างนั้นก่อนจะขยับกลับมายืนข้างเตียงเช่นเดิม รอยยิ้มของเขาทำให้คนป่วยเริ่มไม่วางใจ ยิ่งประโยคเมื่อครู่ยิ่งฟังดูไม่น่าไว้ใจชอบกลจนต้องคว้าแขนเอาไว้ก่อนที่ผู้ดูแลคนนี้จะเดินออกจากห้อง



“หมายความว่ายังไร? อะไรที่ว่าหมอต้องไปศึกษาก่อน”



“ก็...ที่ต่อจากเมื่อครู่”



“ต่อจากเมื่อครู่?” จันทร์จ้าวยังงุนงง



“ครับ ต่อจากจูบ...ก็...” ไม่ต้องอธิบายให้มากความมากกว่านั้น จันทร์จ้าวผู้มีประสบการณ์กับผู้หญิงมาแล้วตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มก็ถึงกับตาเหลือกโต ผิวหน้าระเรื่อเพราะถูกจุมพิตนับครั้งไม่ถ้วน คราวนี้แดงจัดกว่าเดิมเพราะคำพูดเพียงไม่กี่ประโยค



“หมอหมายถึง...?!!!”



“ครับ...ผมหมายความอย่างที่คุณจันทร์เข้าใจ” ภวัตไม่ตอบตามตรงเพราะเขาเองก็นึกเขินอยู่ไม่น้อย แต่...ในเมื่อพวกเขาตกลงปลงใจที่จะคบหากันแล้ว ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันก็ย่อมพัฒนาขึ้นไปถึงเรื่องนั้นด้วย แต่ดูเหมือนคนที่ต้องพัฒนาความสัมพันธ์ไปกับเขาจะไม่ยอมรับเสียแล้ว



“ไม่เอานะหมอ! ผมไม่ยอมเป็นคนเจ็บแน่!!!” คนพยศลุกพรวดขึ้นโวยวาย แต่ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างเตียงกลับส่ายหน้าไปมาแล้วกดคนป่วยให้นอนลงตามเดิม



“ผมก็บอกแล้วนี่ครับ ว่าขอไปศึกษาก่อนว่าทำอย่างไรคุณถึงจะไม่เจ็บ เอาล่ะ นอนได้แล้วครับ จะได้หายป่วย ผมจะเอาชามข้าวต้มไปเก็บ”



“แต่...” คนกลัวเจ็บตั้งท่าจะค้าน แต่นายแพทย์หนุ่มย้ำอีกครั้ง



“เชื่อใจหมอนะครับคุณจันทร์ กับคนไข้เป็นร้อยเป็นพัน ผมยังรักษาให้หายได้ แล้วกับคุณที่เป็นคนสำคัญ ผมจะทำให้เจ็บได้ยังไร? เรื่องทางกายภาพ ไม่มีใครทราบดีกว่าหมอหรอกครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง คุณจันทร์แค่เตรียมใจรอให้ถึงวันนั้นก็พอ” ภวัตพูดจบก็หันไปคว้าชามข้าวต้มและถ้วยยาเดินออกจากห้องไปในทันที ทิ้งคนถูกตะล่อมให้วางใจยังคงนั่งตะลึงอยู่กับที่เช่นเดิม และกว่าจันทร์จ้าวจะรู้ตัวพอจะร้องปฏิเสธอย่างเอาเป็นเอาตายอีกครั้ง หมอภวัตก็หายลับออกจากห้องไปพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะไป ‘ศึกษา’ แล้วเรียบร้อย


ฉะนั้น สิ่งเดียวที่จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์จะต้องทำนับจากนี้ไปคือการเตรียมใจรอให้ถึงวันนั้น ส่วนเรื่องอื่นนอกจากนั้น...หมอภวัตบอก...ให้เป็นหน้าที่ของหมอคนนี้แต่เพียงผู้เดียว...

.............................................




เพราะมีหมอตัวจริงมาดูแลถึงข้างเตียงตลอดเสาร์อาทิตย์ที่นอนป่วย เช้าวันจันทร์ จันทร์จ้าวคนป่วยที่เริ่มหายป่วยจึงกลับมาเอาแต่ใจให้สำนักงานระส่ำระส่ายได้อีกครั้ง



   เสียงเอ็ดตะโรดังออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่มร่างโปร่ง หลังจากเมื่อครู่นี้มีพนักงานนำเอกสารเข้าไปให้ เรย์มอนด์ย่นคอเมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนรักอาละวาด ก่อนจะหันไปยิ้มจืดให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่เพิ่งมาถึงตอนก่อนเที่ยงเล็กน้อย



   “เยี่ยมเลยคุณพงศ์ จันทร์จ้าวคนเดิมกลับมาแล้ว” 



ราชนิกูลหนุ่มหัวเราะเบาๆ เหลือบมองไปที่ประตูห้องทำงานของเพื่อนรักอย่างเบาใจ อย่างน้อยตอนนี้จันทร์จ้าวคนที่เขาเคยรู้จักก็กลับมาแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร หมอภวัตก็คือคนทำให้เพื่อนรักของเขากลับมา



   “คุณพงศ์ทำท่าไหนเข้าน่ะ ทำไมจันทร์ถึงกลับมาเป็นคนเก่าได้แล้ว”



   “ผมไม่ได้ทำอะไรเลย” ราชนิกูลหนุ่มเว้นไม่ยอมพูดว่าเขารู้ว่าใครเป็นคนที่ทำให้จันทร์จ้าวกลับมาเป็นปกติ เพราะบ้านเช่าของจันทร์จ้าวอยู่ใกล้วังฉัตร ตั้งแต่เย็นวันเสาร์ไปจนถึงตลอดวันอาทิตย์ เมื่อใดที่ราชนิกูลหนุ่มนั่งรถผ่านหน้าบ้านเพื่อนรัก เป็นต้องเห็นรถยนต์ของหมอภวัตจอดอยู่ตรงหน้าบ้านเสมอ



แล้วอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่ ภวัต วิชาญโยธิน จะเป็นใครเล่าที่สามารถทำให้จันทร์จ้าวกลับมาเอ็ดตะโรเสียงดังไปทั่วได้ดังเดิม



   “อ้อ หรือจะเป็นคุณหมอ...เมื่อเช้าผมเห็นรถคุณหมอมาส่ง คงจะคืนดีกันแล้ว จันทร์ถึงกลับมาเป็นคนเก่า” นายฝรั่งว่าอย่างนั้น ทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมองโดยพลัน เรย์มอนด์เห็นเพื่อนราชนิกูลมองตนจึงหันไปมองตอบ และโดยไม่ต้องพูดอะไร หนุ่มอเมริกันก็ยักไหล่



   “ผมไม่ทราบอะไรทั้งนั้น คุณพงศ์ไม่ต้องมาถามผมหรอก ผมแค่พูดในสิ่งที่เห็นเท่านั้นเอง”



   “คุณไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกใช่ไหม” เรย์มอนด์ยักไหล่อีกครั้ง



   “ถ้าคบกับจันทร์มาได้ตั้ง ๖ ปี ผมว่าไม่มีเรื่องไหนให้เห็นว่าแปลกอีกแล้วล่ะ”



   “ขอบคุณ” ไม่ทราบว่าขอบคุณเรื่องอะไร แต่อย่างน้อยๆราชนิกูลหนุ่มก็ขอบคุณที่นายฝรั่งเปิดใจยอมรับในตัวตนของจันทร์จ้าว เรย์มอนด์ยิ้มจาง



   “อย่าขอบคุณผมเลย ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณเขาไปตลอดชีวิต หากไม่ได้เขา ผมก็คงไม่มีวันนี้ที่มีความสุขอย่างนี้ สมัยก่อน ผมไม่อยากอยู่อเมริกาอีกแล้วแต่ก็ไม่มีที่ไป เขาก็ช่วยให้ผมได้มาอยู่เมืองไทย ตอนมาอยู่แรกๆไม่รู้จักใครสักคน เขาก็ติดต่อให้คุณพงศ์มาช่วยดูแล ที่เขาเสนอเปิดสำนักงานนี้ ผมก็รู้อีกนั่นล่ะว่าเขาอยากให้ผมมีที่ทำมาหากิน เพราะเขา...ผมถึงได้มีชีวิตใหม่ที่เมืองไทย ชีวิตนี้จะมีอะไรที่สุขได้เท่านี้อีกล่ะคุณพงศ์ ผมว่าผมพบเจอความสุขสูงสุดของชีวิตมนุษย์แล้ว มีอาชีพที่ดี มีเพื่อนที่ดี มีความรักที่ดี”



   “หืม?...ความรัก?!...คุณมีความรักหรือเรย์?! คู่รักของคุณเป็นใคร?!!” ดูเหมือนนายฝรั่งจะหลุดปากไปคำโต เรย์มอนด์ทำได้แค่ปิดปากเมื่อสายเกินไป ส่วนหม่อมหลวงพงศ์ภราธรยกยิ้มกระหยิ่ม



   “จะบอกผมคนเดียว หรือจะให้จันทร์เค้น?” หมดทางเลือก เพราะหากให้จันทร์จ้าวเค้น เรย์มอนด์รู้ตัวดีว่าเขาคงถูกส่งกลับประเทศเป็นแน่แท้



“ว่าอย่างไร คู่รักของคุณคือใคร”



“เอ่อ...”



“บอกผมมา”



“อ่า...”



“ได้ ถ้าอย่างนั้นเรียกจันทร์...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดไม่ทันจบ นายฝรั่งตัวใหญ่ก็รีบกระซิบบอก



   “คุณนภาครับ...”



คนฟังถึงกับตาเหลือก “ว่าอย่างไรนะ?! คู่รักของคุณคือใครนะ?!!”



   “คุณนภา...น้องของจันทร์” คำขยายความหลังชื่อ ‘นภา’ ยิ่งทำให้ราชนิกูลหนุ่มสะดุ้ง



“ตายโหง!”



“ยังไม่ตายซี! คุณพงศ์พูดจาไม่เป็นมงคลเอาเสียเลย”



“เชิญคุณไปหาความมงคลที่อื่น เรื่องนี้ผมไม่รับรู้ด้วยหรอก!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหมุนตัวจะเดินหนี ก็ว่าเรื่องของจันทร์จ้าวและภวัตเป็นไปไม่ได้แล้ว เรื่องของเรย์มอนด์และนภาสรวงก็เป็นไปไม่ได้เช่นเดียวกัน ทว่านายฝรั่งไม่ยอมให้ราชนิกูลหนุ่มเดินหนี เขารีบคว้าแขนเอาไว้



   “โธ่! ช่วยผมก่อนสิคุณพงศ์ คุณพงศ์ทราบแล้วจะเดินหนีไม่ได้”



   “ผมช่วยคุณ ผมก็ถูกจันทร์หักคอน่ะซี!”



   “ไม่หรอก ตอนนี้จันทร์อารมณ์ดี จันทร์มีความสุข จันทร์ไม่หักคอคุณพงศ์หรอก” เรย์มอนด์พูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะยิ่งจันทร์จ้าวอารมณ์ดีมากเท่าไร จันทร์จ้าวคนเดิมย่อมต้องกลับมา และนั่นหมายความว่าหากจันทร์จ้าวคนเดิมคิดจะหักคอใคร แม้จะเป็นหม่อมหลวงพงศ์ภราธร...ก็ไม่รอด



   บานประตูห้องทำงานของจันทร์จ้าวถูกเปิดออกกะทันหัน ทำเอา ๒ เพื่อนที่กำลังยืนคุยกระซิบกระซาบกันอยู่ถึงกับสะดุ้งหันมองโดยพลัน จันทร์จ้าวออกจากห้องเห็นเรย์มอนด์และหม่อมหลวงพงศ์ภราธรยืนอยู่โดยไม่ทำงานทำการก็ขมวดคิ้วฉับด้วยความแปลกใจ



   “ยืนทำอะไรกันน่ะ”



   “เอ้อ...พอดีคุณพงศ์เพิ่งมา ผมเลยทักทายคุณพงศ์อยู่ แล้วคุณจะไปไหนหรือจันทร์” เรย์มอนด์เปลี่ยนเป็นประโยคคำถามแทน ทั้งๆที่เหงื่อกาฬซึมเต็มหลังเพราะเกรงว่าเพื่อนรักจะจับโกหกได้



   “จะเที่ยงแล้ว หมอจะมารับ”



   “หืม?...หมอมารับ?” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรย้อน ทำเอาร่างโปร่งเก้อไปบ้างแต่ก็ทำเป็นยักไหล่เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร



   “หมอกลัวว่าผมจะไม่ทานยาน่ะ เลยมารับไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน ให้ตายเถอะ นี่ผมเพิ่งทราบว่าหมอน่ะดุจริงๆ อ้ายเราทำเป็นลืมทานยาบ้างก็บ่น คนอะไร เวลาปกติก็ใจดีแท้ๆ พอเราป่วยขึ้นมา ดุเราอย่างกับลูก!”



“ก็แกมันเป็นคนป่วยที่ว่าง่ายเสียที่ไหน ให้คุณหมอเขาดุก็ถูกแล้ว” จันทร์จ้าวทำเป็นส่ายหัวไม่อยากรับฟังหม่อมหลวงพงศ์ภราธรบ่นซ้ำสอง



“พูดอย่างกับว่าผมดื้อมากอย่างนั้นล่ะ ผมป่วย ผมจะมีอารมณ์ไปแผลงฤทธิ์ได้อย่างไร ไม่เอาล่ะ ผมไปดีกว่า ขืนชักช้า เดี๋ยวหมอก็บ่นอีก คุณพงศ์กับเรย์จะไปทานด้วยกันไหม”



๒ เพื่อนโบกมือให้ว่อน เพราะคาดเดาความสัมพันธ์ของจันทร์จ้าวและหมอภวัตได้ดี ในเมื่อคบหากันเช่นนั้น ก็คงอยากไปรับประทานอาหารกัน ๒ คนมากกว่าจะมีส่วนเกินอย่างพวกเขาไปด้วย



“ตามใจ แล้วไว้ค่อยคุยกันใหม่” ว่าแล้วร่างสูงโปร่งของคนยังไม่หายป่วยดีก็วิ่งหายลับลงบันไดไปยังชั้น ๑ เมื่อพ้นหลังไปแล้ว หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจึงตวัดสายตามายังนายฝรั่ง ซึ่งคนถูกจ้องก็ทำหน้าหงอในทันที



“หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ดีหรอกว่าเมื่อครู่จันทร์มันเอาแต่บ่นเรื่องคุณหมอ ขืนมันสังเกตเห็นว่าคุณหน้าเสียขนาดนี้คงได้ถูกซักจนได้!”



“โธ่...ก็ผมกลัวนี่ กำลังพูดเรื่องคุณนภา จันทร์ก็ดันเปิดประตูออกมา นี่...คุณพงศ์อย่าเพิ่งบอกเรื่องผมกับคุณนภาให้จันทร์ทราบเลยนะ เห็นแก่ชีวิตนายฝรั่งคนนี้เถอะ” พอถูกอ้อนวอน คนกลางผู้ตกที่นั่งลำบากก็ชักเป็นกังวล ขืนเรื่องนี้รู้ถึงหูจันทร์จ้าว ไม่ใช่แค่ชีวิตของเรย์มอนด์ อดัมส์จะหาไม่ แต่ชีวิตของหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ฉัตราภาสผู้นี้ก็คงไม่เหลือแม้แต่ซากเช่นกัน ดวงตาของราชนิกูลหนุ่มเหลือบมามองนายฝรั่งผู้ริอ่านทำการใหญ่รักหญิงไทยนามสกุลรักษพิพัฒน์แล้วถอนหายใจเฮือก


...รักคนที่รักได้ง่ายๆมันเป็นเรื่องยากนักรึไร?!!!...



เขาล่ะอยากจะร้องถามทั้งเรย์มอนด์ อดัมส์และจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์เสียจริงๆ!!!


..........................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 03-12-2015 21:43:38


รถยนต์ของหมอภวัตวิ่งไปตามถนนของกรุงเทพฯที่ค่อนข้างจอแจด้วยรถสารพัดชนิด ภายในรถมีเสียงจามฟุดฟิดดังมาจากคนข้างกายบ่อยครั้ง ครั้งแรกยังพอทำเนา แต่พอมีครั้งที่ ๒ และ ๓ ตามมา สารถีหนุ่มผู้ควบตำแหน่งนายแพทย์แห่งโรงพยาบาลใหญ่จึงต้องเหลือบตามามอง และเพียงเท่านั้นคนจามก็รีบขยี้ปลายจมูกตัวเองแล้วบอกด้วยเสียงอู้อี้



“ผมว่ามีคนนินทาผม” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้น เพราะเกรงว่าคนเป็นหมอผู้ทำการรักษาและดูแลเขาตลอด ๒ วันที่ผ่านมาจะเพิ่มยาให้เขาอีกหลายขนาน เท่าที่มีอยู่ตอนนี้ก็แทบจะรับประทานไม่หวาดไม่ไหวแล้ว



“ไม่ใช่คนนินทาหรอกครับ แต่เพราะคุณยังไม่หายหวัดต่างหาก วันนี้ที่คุณขอสระผม ผมไม่อนุญาตแล้วนะครับ”



“ไม่ได้นะหมอ! ผมคันหัวจะแย่! ไม่ให้ผมสระผมได้ยังไร?!! ไม่เอาหรอก! ผมจะสระ!” ไม่ได้ผิดจากที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเพื่อนรักปรามาสเอาไว้เลย ว่าจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์นั้นเป็นคนป่วยที่ทำตัวว่าง่ายไม่เป็น



“สระไม่ได้ครับ” นายแพทย์หนุ่มตอบเสียงเรียบกลับไป ในเมื่ออีกฝ่ายคือคนป่วยที่ว่านอนสอนยากที่สุด ภวัตก็เป็นหมอที่ทั้งดุทั้งเคร่งที่สุดเช่นกัน



“ผมบอกว่าผมจะสระ! หมอนี่พูดไม่รู้เรื่อง!!”



“ผมบอกว่าไม่ให้สระครับ คุณเป็นคนป่วย ผมเป็นหมอ หมอพูดอะไรต้องเชื่อฟัง ไม่อย่างนั้นผมจะเปลี่ยนยาคุณทั้งหมด จากยาฝรั่งเป็นยาจีน เคยทานยาจีนไหมครับ? ยาจีนที่ทั้งเหม็นทั้งขม รับรองว่าถ้าคุณได้รับยาจีนสักถ้วย คุณจะไม่อยากป่วยอีกเลย”


คนป่วยถูกขู่ก็ถึงกับชะงักไปในทันที ถึงแม้เขาจะไม่เคยรับประทานยาจีนมาก่อน แต่ชื่อเสียงเรียงนามของมันก็ออกจะโด่งดัง โดยเฉพาะจากนายวินิตเพื่อนตีเทนนิสผู้เป็นชาวจีนขนานแท้ที่เคยเล่าให้เขาฟังว่ายาจีนซึ่งทำจากสมุนไพรทั้งหลายทั้งปวงนั้น คือสิ่งสุดท้ายที่อยากจะกลืนลงคอ แต่กระนั้น...จันทร์จ้าวก็ยังไม่วายปากเก่งยอกย้อนกลับไป



“หมออย่ามาขู่ผมเสียให้ยาก! หมอเป็นหมอฝรั่ง! จะจัดยาจีนให้ผมได้อย่างไร?!”



“ใช่ครับ ผมเป็นหมอฝรั่ง แต่ในเยาวราชก็มีร้านขายยาจีนออกถมไป ไม่เห็นจะยากอะไรถ้าจะซื้อจากที่นั่น” มาถึงตรงนี้ คนป่วยผู้แสนดื้อดึงก็ถึงกับเถียงไม่ออก แต่เรื่องจะถูกขัดใจก็ไม่ใช่เรื่องที่จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ผู้นี้คุ้นเคยเสียด้วย



“แต่ผมอยากสระผมจริงๆนะหมอ ผมคันหัว แล้วผมก็รู้สึกว่าหัวผมเหม็นมากด้วย”



“ถ้าคุณสระผม คุณก็ต้องอาบน้ำ คราวนี้ไข้ก็กลับน่ะซีครับ” ภวัตตอบอย่างครึ้มอกครึ้มใจ เพราะสุ้มเสียงของอีกฝ่ายไม่ใคร่จะดื้อแพ่งเหมือนเมื่อครู่แล้ว ฟังดูเหมือนกำลังอ้อนวอนเขาเสียมากกว่า แล้วอ้อนเรื่องอะไรไม่สู้อ้อนเรื่องขอสระผม เกิดมาเขายังไม่เคยอนุญาตให้ใครสระผมหรือไม่สระผมเป็นกิจลักษณะได้เท่านี้มาก่อนเลย



“งั้นผมให้คนอื่นสระให้ก็ได้! รับรองเปียกแค่หัว นี่เลย...เดี๋ยวตอนเย็นผมแวะไปวังฉัตร วานคุณพงศ์สระผมให้” ข้อเสนอของคนข้างกายทำให้หมอภวัตที่กำลังครึ้มอกครึ้มใจเพราะรู้สึกว่ากำลังถูกอ้อนถึงกับชะงักไปในทันที เขาเหลือบตามามองคนพูดที่กำลังรอคอยคำอนุญาตของเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง



“ทำไมต้องเป็นคุณพงศ์”



“อ้าว! หมอนี่ถามแปลก! ก็พอผมจะสระเอง หมอก็ว่าเดี๋ยวไข้กลับ ผมก็ต้องให้คุณพงศ์สระให้ซี! ไม่ต้องห่วงหรอก! ผมเคยให้คุณพงศ์สระให้มาก่อน! แต่ก่อนคุณพงศ์เคยอยากเปิดร้านตัดผมชาย ผมนี่แหละหัวแรกของคุณพงศ์เลย!” จันทร์จ้าวพูดอย่างนึกสนุก ดวงหน้าดูจะมีความสุขเสียเหลือเกินยามคิดถึงเรื่องในอดีตอันแสนทะโมนของตนเองและเพื่อนรักราชนิกูล ทว่าสำหรับหมอภวัตผู้ไม่ได้มีส่วนร่วมในความทรงจำเหล่านั้นกลับเริ่มรู้สึกไม่ใคร่จะพอใจเสียเท่าไร



“ผมไม่ได้กังวลว่าคุณพงศ์จะสระผมให้คุณไม่ได้ แต่...ผมคิดว่าไม่เหมาะ”



“ไม่เหมาะ? ไม่เหมาะตรงไหน”



คราวนี้นายแพทย์หนุ่มหันมามองคนร้องถามเต็ม ๒ ตา ดวงตาดุที่ทุกคราวมักจะเต็มไปด้วยความอ่อนโยน บัดนี้กลับจับจ้องมาที่จันทร์จ้าวอย่างที่ทำเอาคนถูกจ้องถึงกับพูดไม่ออก



“ต้องให้ผมพูดไหมครับ ว่าไม่เหมาะตรงไหน” ภวัตถามเสียงเรียบ แต่คนถูกถามที่ถูกตรึงเพราะประกายกล้าในดวงตาคมไม่โต้ตอบกระไร สารถีจึงหันไปขับรถต่อ และพอสายตาของภวัตกลับไปมองถนนแล้ว หูของเขาก็ได้ยินเสียงแว่วๆจากคนข้างกายดังกลับมา



“หึงก็บอกสิว่าหึง” ภวัตเงียบ ไม่ตอบแต่ที่มุมปากมีรอยยิ้มปรากฏ จันทร์จ้าวเหลือบมองวูบหนึ่งแล้วพูดต่อ



“...ถ้าหมอไม่ให้คุณพงศ์สระให้ หมอก็ต้องรับผิดชอบ...”



คราวนี้คนกำลังอมยิ้มยอมหันไปมองคนพูดอีกครั้ง แต่จันทร์จ้าวผู้ซึ่งแอบเหลือบมองเมื่อครู่ทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่างฝั่งตนเองแล้ว แต่กระนั้นก็ยังพูดต่อ



“...สระผมให้ผมด้วย”



ภวัตมองคนข้างกายที่ทำเป็นไม่ยอมสบตา แต่เสี้ยวหน้าด้านข้างแดงระเรื่อเพราะคำพูดเอาแต่ใจเรียกร้องการดูแลเป็นพิเศษจากเขา นายแพทย์หนุ่มไม่อาจกลั้นรอยยิ้มที่มุมปากได้อีก มันขยายเป็นรอยยิ้มกว้าง ก่อนที่เจ้าของรอยยิ้มนั้นจะตอบกลับไปอย่างมีความสุข



“พูดอย่างนี้แต่แรก ผมก็อนุญาตให้สระผมไปแล้ว”


......................................



   ดารารัษมีเป็นครูสอนภาษาไทยที่มีโต๊ะอยู่ในห้องพักครูภาษาไทย ส่วนหม่อมหลวงพิมพัชราเพื่อนสนิทเป็นครูสอนภาษาอังกฤษซึ่งประจำอยู่ที่ห้องพักครูภาษาอังกฤษที่ตึกข้างหลัง แต่กระนั้น ยามพักกลางวัน ๒ สาวก็มักจะได้รับประทานอาหารด้วยกันเสมอ เที่ยงวันนี้ก็เช่นกัน



   “วันนี้คุณพิมกลับอย่างไรคะ ทราบแล้วใช่ไหมว่าวันนี้พี่อาทิตย์จะกลับค่ำเพราะติดงานที่กรม เลยมารับไม่ได้” ดารารัษมีเอ่ยปากถาม นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ของอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชรากลายมาเป็นคู่รัก อาทิตย์ก็กลายเป็นสารถีประจำตัวหม่อมหลวงพิมพัชราไปโดยปริยาย ทุกเย็น จะรับหน้าที่ขับรถมารับคู่รักของตนไปส่งที่วังฉัตร บางครั้งก็พาไปรับประทานอาหารค่ำหรือดูภาพยนตร์บ้าง โดยมีดารารัษมีและนภาสรวงติดตามไปด้วยหรือไม่เช่นนั้นก็จะไปกันเพียง ๒ คน



   “ทราบแล้วค่ะ คุณอาทิตย์โทรศัพท์จากกรมไปที่วังแต่เช้า เห็นว่าต้องไปทำงานตั้งแต่เมื่อวันเสาร์แล้วใช่ไหมคะ”



   “ค่ะ เสาร์อาทิตย์ไม่ได้พักเลย คุณแม่ยังบ่นเสียดาราหูชาไปหมดว่าทั้งพี่อาทิตย์ทั้งพี่จันทร์ ติดงานไม่กลับบ้านกลับช่องกันทั้งคู่” ดารารัษมีไม่วายวกไปพูดถึงพี่ชายคนรองซึ่งเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา เขาไม่ยอมกลับไปนอนที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ตามที่เคยทำสัญญาเอาไว้กับคุณหญิงผกา โดยฝากความมาบอกกับอาทิตย์ว่าติดงานและจำเป็นต้องอยู่โยงดึกดื่น ไม่สะดวกกลับบ้าน



   “คุณจันทร์...ติดงานหรือคะ?” ราชนิกูลสาวย้อนถามด้วยความฉงน เพราะเรื่องที่หล่อนรับทราบมาจากพี่ชายผู้ซึ่งทำงานที่เดียวกับจันทร์จ้าวนั้นดูจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง



   “ค่ะ...พี่จันทร์โทรศัพท์ไปบอกพี่อาทิตย์ที่กรมเมื่อวันศุกร์ว่าติดงานสำคัญ ต้องอยู่ทำงานค่ำๆมืดๆ ก็เลยไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านตามเคย” ดารารัษมีเล่า แต่สีหน้างุนงงของเพื่อนราชนิกูลทำให้หล่อนชักสงสัย “...หรือคุณพิมทราบอะไรมาหรือคะ”



   “พิม...ได้ยินจากพี่พงศ์...คุณจันทร์เธอไม่ได้ติดงานนี่คะ”



   “ไม่ได้ติดงาน?! อ้าว! แล้วทำไมพี่จันทร์ถึงบอกพี่อาทิตย์ว่าติดงาน…หรือว่า!...หรือว่าพี่จันทร์จะแอบลักลอบคบกับแม่ผู้หญิงเลวที่ไหนแน่ๆเลยค่ะคุณพิม!!” ดารารัษมีผู้ไม่ใคร่จะนิยมนิสัยเจ้าเสน่ห์ของพี่ชายคนรองคาดเดาเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาโดยพลัน หม่อมหลวงพิมพัชราต้องเอื้อมมือมาดึงแขนเอาไว้เป็นการปราม



   “ไม่ใช่หรอกค่ะ ที่พิมได้ยินมาจากพี่พงศ์...คือคุณจันทร์เธอป่วยต่างหาก”



   “ป่วย?!” คราวนี้จากคนกำลังโมโหพุ่งพล่านเพราะคิดว่าพี่ชายคนรองลักลอบคบหากับผู้หญิงคนใดจนไม่กลับบ้านกลายเป็นร้องถามด้วยความตกตะลึงแทน



   “พี่จันทร์น่ะหรือคะป่วย?!!” หล่อนถามย้ำ



   “ค่ะ พี่พงศ์บอกพิมว่าคุณจันทร์ไม่ค่อยสบาย ที่คุณจันทร์ไม่กลับบ้าน อาจจะเพราะคุณจันทร์ไม่สบายก็ได้นะคะ”



   “ตายจริง คนอย่างพี่จันทร์ป่วยนี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อเลยค่ะ แล้วป่านนี้จะหาหยูกหายามาทานเองได้ไหมก็ไม่ทราบ...เอ?...เอาอย่างไรดี พี่อาทิตย์ก็ไม่ว่างเสียด้วย ดาราอยากจะไปเยี่ยมพี่จันทร์เสียหน่อย” ถึงแม้ยามสุขสบาย จันทร์จ้าวจะเป็นพี่ชายที่หล่อนเพ่งเล็งมากเป็นพิเศษ แต่พอได้ยินว่าเขาป่วย ดารารัษมีก็อดไม่ได้ที่จะห่วงใย



   หม่อมหลวงพิมพัชรายิ้มจาง ๔ พี่น้องรักษพิพัฒน์รักใคร่ห่วงใยกันถึงเพียงนี้ หล่อนก็ยิ่งรู้สึกดีที่ได้คบหากับคนในครอบครัวนี้ ทั้งในฐานะเพื่อนกับดารารัษมี และฐานะคู่รักกับอาทิตย์



   “คงจะไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ เมื่อวันอาทิตย์ พี่พงศ์แวะไปเยี่ยมมาแล้ว เห็นว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง” ราชนิกูลสาวถอดคำของพี่ชายออกมาทั้งประโยค หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมาบอกกับหล่อนว่าจะออกไปเยี่ยมจันทร์จ้าวที่บ้านเช่าสีเขียวอ่อนใกล้วังฉัตร เขาหายออกไปครู่หนึ่งก็กลับมาพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้าและคำพูดประโยคนี้ว่า ‘ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง’



   “อย่างนั้นหรือคะ...ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงก็แล้วไป ฝากขอบคุณคุณพงศ์ด้วยที่มีน้ำใจกับพี่ของดาราเหลือเกิน แต่ยังไร ดาราก็อยากจะไปเยี่ยมเสียหน่อย ขอปรึกษากับนภาก่อน อีกสัก ๒-๓ วัน พี่อาทิตย์ก็คงว่างพอดี ไว้ตอนนั้น เราไปด้วยกันนะคะ คุณพิม”



หม่อมหลวงพิมพัชรายิ้มอย่างยินดีแต่ไม่วายย้อนถาม



   “ถ้าถึงตอนนั้น แล้วคุณจันทร์เธอหายดีแล้วล่ะคะ”



   “อุ๊ย! ไม่มีทางหายไวหรอกค่ะ พี่จันทร์น่ะป่วยยากก็จริง แต่ถ้าป่วยแล้วล่ะก็ จะป่วยนาน ดาราเชื่อว่าสัปดาห์หน้า พี่จันทร์ก็ยังไม่หายดีหรอก” น้องสาวบ้านรักษพิพัฒน์ว่าอย่างนั้น ก่อนที่ทั้ง ๒ จะเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรืองอื่นต่อ แล้วจบเรื่องของจันทร์จ้าวคนป่วยเอาไว้แต่เพียงเท่านั้น


.............................




   ในขณะที่บทสนทนาเรื่องคนป่วยของดารารัษมีและหม่อมหลวงพิมพัชราจบลงไปแล้ว แต่สำหรับหมอภวัตผู้รับหน้าที่ดูแลคนป่วยชั้น ๑ นามว่าจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์นั้นยังไม่จบลงแต่โดยง่าย เพราะคนป่วยผู้นี้มีเรื่องเอาแต่ใจไม่เว้นชั่วโมง เมื่อตอนกลางวันหลังจากทุ่มเถียงเรื่อง ‘สระผมกับไม่ให้สระผม’ ไปแล้วจนได้ข้อยุติว่าอนุญาตให้สระ แต่คนสระคือภวัต ตกเย็น หลังจากสระผมเรียบร้อย คนป่วยสบายหัวดีแล้ว ก็เริ่มหาเรื่องเอาแต่ใจคำรบ ๒



   “ผมอยากไปตีเทนนิส” จันทร์จ้าวเอ่ยปากพลางขยี้ผมเปียกชื้นด้วยผ้าขนหนู ในขณะที่ภวัตยังเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนอนเพื่อค้นหาเสื้อผ้าเนื้อหนาที่สุดเท่าที่จะหาได้ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องกลับไปพึ่งเสื้อผ้าชุดเก่าที่จันทร์จ้าวใส่เมื่อคืนวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะที่บ้านเช่าหลังนี้ ไม่มีเสื้อผ้าเนื้อหนาเลยสักตัว



   “ไว้คุณหายสนิทดีแล้ว ผมจะพาไปครับ” นายแพทย์หนุ่มตอบ แล้วกระพือเสื้อแขนยาวตัวเดิมเพื่อสะบัดฝุ่นเสียหน่อย ก่อนจะส่งให้คนที่นั่งมองเขาอยู่บนเตียงนำไปสวมทับเพิ่มอีกชั้นหนึ่ง



   “เมื่อไรล่ะหมอ ผมไม่ตีนานแล้ว เส้นยึดกันพอดี” คนป่วยทำหน้าย่นเสียจนน่าเอ็นดู



   “เส้นยึดตรงไหนครับ ผมจะนวดให้เอง”



   “ไม่เอาหรอก ผมไม่เคยให้ผู้ชายมานวดคลายเส้น”



   “อ้อ แสดงว่าเคยให้ผู้หญิงนวดให้ มานี่เลยครับ ผมจะทำให้คุณเข้าใจเองว่าผู้ชายอย่างผมก็นวดได้ไม่แพ้ผู้หญิงที่เคยนวดให้คุณ” ภวัตไม่พูดเปล่า แต่ก้าวเท้าเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนเตียง พลิกร่างโปร่งให้ลงนอนคว่ำจากนั้นก็กดฝ่ามือลงกับสะบักหลังจนจันทร์จ้าวร้องให้ลั่น



   “โอ๊ย! หมอ! โอ๊ย!!”



   “เป็นยังไรครับ? หายเส้นยึดรึยัง” ภวัตถามแล้วดึงร่างคนนอนบนเตียงให้ลุกขึ้นมา เขาแค่แกล้งเล่นก็เท่านั้นเอง แต่ดูเหมือนคนถูกนวดจะเจ็บจริง เพราะเจ้าตัวเอื้อมมืออ้อมหลังไปคลำ อีกทั้งสีหน้าก็ยุ่งเหยิงเสียจนนายแพทย์หนุ่มเริ่มเป็นห่วง



   “เป็นอะไรไป เจ็บหรือ”



   “เจ็บสิ หมอกดไปโดนที่ที่ผมเคยเคล็ด...” คนป่วยแล้วยังเจ็บตัวบอกเสียงเอาแต่ใจ ภวัตจึงทรุดตัวลงนั่งร่วมเตียงด้วย แล้วดันร่างอีกฝ่ายให้หันหลังให้เขา จากนั้นจึงกดปลายนิ้วลงคลึงแผ่นหลังทีละจุด



   “เจ็บตรงไหนครับ”



   “อื้อ...หมอ...ตรงนั้น...”



   “ตรงนี้หรือ” หมอภวัตกดซ้ำลงไปที่เดิม และคำตอบที่ได้คือการพยักหน้ารับช้าๆ “...ตรงนี้ที่คุณเคยเคล็ดเมื่อครั้งที่เราตีเทนนิสด้วยกันครั้งแรกนี่ครับ” นายแพทย์หนุ่มพูดอย่างรู้สึกผิด ไม่มีคำตอบจากจันทร์จ้าว นอกจากนั่งเฉยๆให้เขานวดให้เบาๆ



   “ผมจะนวดยาให้ คุณยังเก็บยาหลอดนั้นไว้ไหม”



   “อยู่ที่โต๊ะนั่น” จันทร์จ้าวชี้นิ้วไปที่โต๊ะข้างเตียง ภวัตลุกขึ้นเดินไปเปิดลิ้นชักหยิบหลอดยากลับมานั่งที่เดิม เขาสั่งให้อีกฝ่ายถอดเสื้อแล้วจากนั้นจึงคลึงยาให้ กลิ่นยานวดตลบอบอวล แต่กระนั้นความอ่อนโยนที่ส่งผ่านทางปลายนิ้วก็ทำให้คนได้รับการดูแลสบายใจสบายกายอย่างบอกไม่ถูก



   “มีหมอนี่ก็ดีนะ เป็นหวัดก็รักษาได้ เคล็ดก็นวดได้” ภวัตยิ้มจาง เหลือบมองเสี้ยวหน้าของคนที่นั่งหันหลังให้เขา



   “เห็นข้อดีของการที่ผมอยู่กับคุณแล้วซีนะครับ” ดวงตากลมใหญ่เหลือบมามองวูบหนึ่ง



   “ผมเห็นนานแล้วต่างหาก ไม่อย่างนั้นจะรั้งหมอไว้หรือ” คำพูดคำจาน่ารักเสียจนคนฟังหัวใจพองฟูคับอก ภวัตอดใจไม่ไหว กวาด ๒ แขนโอบรอบเอวรั้งคนเบื้องหน้าลงมาอยู่ในอ้อมอก แล้ววางคางเกยไหล่อีกฝ่ายเอาไว้อย่างมีความสุข



   “อยู่ดีๆมากอดผมทำไมล่ะหมอ” จันทร์จ้าวถาม แต่ไม่หันไปมองคนถือวิสาสะวางคางบนไหล่เขาอีก ความใกล้ชิดระหว่างพวกเขาชนิดที่แผ่นหลังเขาแนบกับอกของอีกฝ่ายนั้น ลองว่าถ้าหันไปสักเล็กน้อย ปลายจมูกของภวัตก็คงชนเข้ากับแก้มเขาพอดี



   ดวงตาคมทอดมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนรักโดยไม่ละสายตา



   “ขอบคุณนะครับที่รั้งผมเอาไว้ เพราะความกล้าหาญของคุณ ถึงทำให้ผมมีความสุขอย่างนี้” คำชมที่แสนจริงใจทำให้คนถูกชมอดไม่ได้อยากจะหันไปมอง แต่ขืนหันไปทั้งที่ยังแนบชิดกันอย่างนี้ คงไม่วายที่แก้มของเขาจะถูกอีกฝ่ายฉกฉวย จึงต้องโน้มหน้าออกห่างเล็กน้อย แล้วจึงค่อยหันไปมอง



   “ผมเองก็มีความสุข...อยู่กับผมไปนานๆนะหมอ”



   “ผมจะอยู่ข้างๆคุณอย่างนี้ไปนานๆ...ผมสัญญา” 



๒ แขนของภวัตโอบกระชับเอวอีกฝ่ายแน่น รั้งร่างสูงโปร่งให้เข้าแนบชิด จันทร์จ้าวทิ้งแผ่นหลังลงพิงกับอกของนายแพทย์หนุ่มอย่างตามสบาย เวลานี้ที่มีกันเพียงแค่ ๒ คนกับความสุขง่ายๆที่เกิดจากการเคียงคู่ ทำให้พวกเขาไม่คิดจะดิ้นรนไปที่ไหน ขอแค่ได้อยู่กันเงียบๆ อิงแอบกันและกัน พูดคุยกันด้วยเสียงกระซิบ เพียงเท่านี้...หัวใจก็เบิกบานเหลือประมาณแล้ว




................................


อาการป่วยของจันทร์จ้าวดีขึ้นตามลำดับ แต่กระนั้นก็ยังไม่หายเป็นปกติดีจนเจ้าตัวต้องตัดสินใจโทรศัพท์ไปบอกพี่ชายคนใหญ่อีกครั้งว่าสัปดาห์นี้ก็จะไม่กลับไปนอนที่บ้านเรือนไทย แต่ครั้งนี้อาทิตย์ทราบจากหม่อมหลวงพิมพัชราแล้วว่าน้องชายคนรองป่วย จันทร์จ้าวจึงไม่ต้องโกหกเหมือนในครั้งแรก



และเพราะเป็นสัปดาห์ที่ ๒ ที่เขาไม่กลับไปนอนที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ ๓ พี่น้องที่เหลือจึงอดรนทนไม่ได้ต้องมาเยี่ยมเสียหน่อย แต่เนื่องจากนภาสรวงติดธุระ คนที่มาเยี่ยมจันทร์จ้าวในตอนเช้าวันอาทิตย์ จึงมีเพียงอาทิตย์และดารารัษมีเท่านั้นเอง



   น้องสาวคนเล็กของบ้านรักษพิพัฒน์ก้าวเท้าลงจากรถโฟล์คสีดำของพี่ชายคนใหญ่ที่จอดเลยหน้าบ้านเช่าสีเขียวอ่อนไปเล็กน้อย เพราะที่จอดตรงหน้าบ้านเช่านั้นมีรถคันหนึ่งจอดอยู่ หล่อนชะโงกหน้าเข้าไปหาพี่ชายที่อยู่หลังพวงมาลัย



   “ดาราเอาข้าวต้มให้พี่จันทร์แล้วจะตามไปที่วังนะคะ”



ภารกิจเยี่ยมไข้วันนี้เป็นไปอย่างลับเพราะไม่อาจให้คุณหญิงผการะแคะระคายได้ ข้าวต้มที่หล่อนถือมาจึงต้องวานนภาสรวงทำอย่างลับหูลับตาที่สุดนั่นเอง



   อาทิตย์ยิ้มจางรับ เขารอจนน้องสาวปิดประตูรถเรียบร้อยแล้วจึงขับเลยไปยังวังฉัตรเพื่อไปพบหน้าคู่รักของเขา ดารารัษมีเดินไปยังประตูรั้วหน้าบ้านแล้วเอื้อมมือไปปลดกลอน อีกมือหนึ่งหิ้วกระติกข้าวต้มฝีมือนภาสรวง ตอนแรกนภาสรวงก็จะมาด้วยหรอก แต่เธอมีนัดกับมิสเตอร์อดัมส์เอาไว้แล้ว รายนี้ก็เป็นนัดลับเช่นกัน เพราะอีกฝ่ายเป็นชายต่างชาติ ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทกับจันทร์จ้าว แต่หากรู้ถึงหูคุณหญิงผกาว่าผู้ชายที่มาติดพันธิดาเป็นคนละชาติคนละประเทศ บ้านคงแตกเป็นแน่แท้



   ดารารัษมีอมยิ้มเมื่อคิดถึงพี่สาวแฝด หล่อนยังไม่มีโอกาสได้บอกจันทร์จ้าวเสียที ว่าบัดนี้ดูเหมือนนภาสรวงจะตกอยู่ในห้วงแห่งความรักเสียแล้ว



   หล่อนหยุดถอดรองเท้าที่บันไดขึ้นบ้าน แล้วก็ต้องขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อพบว่ามีรองเท้าหนังขัดเงาคู่หนึ่งวางอยู่ตรงนั้นโดยไม่เก็บเข้าตู้ให้เรียบร้อย



คงจะเป็นรองเท้าของจันทร์จ้าวพี่ชายผู้คาดเดานิสัยได้ยากเย็น บางครั้งก็ทำตัวเคร่งครัดมีระเบียบ แม้กระทั่งชุดนอนยังต้องเรียบกริบ บางครั้งก็ทำตัวเลอะเทอะเหลาะแหละ เอาแน่เอานอนไม่ได้ อย่างนี้แต่งงานไปคงเป็นหน้าที่ภรรยาต้องมาคอยจัดการเสียกระมัง หล่อนถอนหายใจกับนิสัยของพี่ชายแล้วทิ้งเรื่องรองเท้าไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะก้าวเท้าขึ้นเรือนมาหยุดอยู่ที่ประตูบ้านทว่ายังไม่ทันได้เคาะ บานประตูก็เปิดออกมาพอดี



   “อุ๊ย! คุณหมอ!” ดารารัษมีอดจะแปลกใจไม่ได้ที่พบนายแพทย์ภวัตแต่เช้าที่บ้านของพี่ชาย อีกฝ่ายก็ดูจะชะงักไปเช่นกันที่เปิดประตูมาพบหล่อนเข้า



   “สวัสดีครับ คุณดารา” เขาปรับสีหน้าตกใจกลายเป็นปกติแล้วจึงทักทาย หญิงสาวยกมือไหว้เขา



   “สวัสดีค่ะ คุณหมอ มาเยี่ยมพี่จันทร์หรือคะ”



   “...เอ่อ...ครับ” ภวัตตอบสั้น ความจริงแล้ว เขาไม่ใช่เพิ่งมาเยี่ยม แต่นับตั้งแต่เขามาหาจันทร์จ้าวเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว นายแพทย์หนุ่มก็มาอาศัยหลับนอนที่นี่ตลอดทั้งสัปดาห์เพื่อดูแลคนป่วยผู้แสนเอาแต่ใจ ชายหนุ่มลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าพี่น้องของจันทร์จ้าวอาจจะมาเยี่ยมเยียนได้ทุกเมื่อ จนกระทั่งเวลานี้ที่เปิดประตูมาเจอดารารัษมีพอดี


   
   “แล้วพี่จันทร์เป็นอย่างไรบ้างคะ เอ๊ะ? นี่ผ้าชุบน้ำ...คุณหมอเช็ดตัวให้พี่จันทร์หรือคะ” หญิงสาวถามอีก เมื่อเหลือบสายตาลงมาเห็นชามขนาดใหญ่ในมือชายหนุ่มมีผ้าขนหนูชุบน้ำอยู่



   “เอ่อ...ครับ...เขา...เขายังไม่หายสนิทดี ไม่อยากให้อาบน้ำ เกรงว่าไข้จะกลับ”



   “ตายจริง รบกวนคุณหมอแย่ แต่อย่างไรก็ขอบคุณมากนะคะ นี่ดาราให้นภาทำข้าวต้มมาด้วย พี่จันทร์ทานอะไรหรือยังคะ”


“เรียบร้อยแล้วครับ”



“คุณหมอ...เป็นคนจัดอาหารให้เธอหรือคะ” ดารารัษมีถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ และนั่นทำให้หมอภวัตชักเริ่มร้อนตัวเกรงว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นอะไรเข้า



“เอ่อ...ผมก็...จัดอาหารเท่าที่พอจะหาได้ เอ่อ...ข้าวต้มที่คุณดาราถือมา ไว้ให้คุณจันทร์รับประทานตอนกลางวันก็ได้ครับ ส่วนยา ผมจัดไว้ให้แล้ว เอ่อ...ผมจะแวะไปที่โรงพยาบาลสักหน่อย แล้วตอนเย็นจะแวะมาดูอีกที” ภวัตเห็นว่าดารารัษมีมาแล้ว เขาอยู่ที่นี่ก็เกรงจะไม่เหมาะ ตอนแรกที่ตั้งใจจะดูแลจันทร์จ้าวทั้งวันเหมือนหลายๆวันก่อน จึงเปลี่ยนเป็นกลับไปที่โรงพยาบาลแทน



   “ได้ค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ เอ?...นี่ได้นอนบ้างไหมคะ” ดารารัษมีเห็นสีหน้าค่อนไปทางอิดโรยของนายแพทย์หนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถาม ภวัตยิ้มจางถึงแม้จะอ่อนเพลียแต่ก็รู้สึกมีความสุขอย่างน่าประหลาด



   “ช่วงนี้งานที่โรงพยาบาลค่อนข้างยุ่ง ผมเลยต้องวิ่งรอก...”



   “เอ๊ะ? วิ่งรอก? คุณหมอหมายความว่ายังไรคะ? วิ่งรอกระหว่างโรงพยาบาลกับมาเยี่ยมพี่จันทร์หรือ?” อีกคำถามที่ทำให้ภวัตรู้ตัวว่าเขาพูดมากไปเสียแล้ว ชายหนุ่มจึงเลี่ยงด้วยรอยยิ้ม



   “ถ้าอย่างไรผมฝากด้วยนะครับ ตอนเย็นจะรีบแวะมา”



เมื่อเขาพูดถึงงานของตน ดารารัษมีจึงไม่รั้งเอาไว้อีก หล่อนยกมือไหว้เขา นายแพทย์หนุ่มจึงลงจากบ้านตรงไปที่รถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน



หญิงสาวมองตามด้วยรู้สึกแปลกที่อีกฝ่ายดูจะเป็นห่วงเป็นใยพี่ชายของหล่อนเหลือประมาณ แต่เมื่อคิดว่าเขาเป็นหมอและพี่ชายของหล่อนเป็นคนป่วย ดารารัษมีจึงวางเรื่องแปลกใจนี้เอาไว้ตรงนั้นแล้วหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปโดยไม่หันกลับไปมองรถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มที่ยังจอดอยู่ที่เดิมเช่นนั้น


ภวัตมองออกมาจากในรถตรงไปยังบ้านเช่าหลังสีเขียวอ่อนที่เขาเพิ่งจากมา ลับร่างดารารัษมีไปแล้ว และความกังวลบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในใจของเขา


...ความสัมพันธ์ของเขาและจันทร์จ้าว จะปกปิดไปได้อีกนานเพียงใดหนอ...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


ขอโทษที่มาช้า ขอโทษที่มาสั้นๆ และขอโทษ...ถ้าทุกคนจะกรีดร้องในบรรทัดสุดท้ายของตอนนี้ แต่เราสัญญา เรื่องนี้จะต้องเป็นพีเรียดลูกกวาด เราจะคงคอนเซ็ปต์นี้ไม่มีเปลี่ยนใจแน่นอนนนนน

ส่วนตอนที่แล้ว ทุกคนย้ายข้างมายกย่องคุณจันทร์เป็นการใหญ่ เรื่องแมนๆต้องยกให้คุณจันทร์ ส่วนเรื่องกายภาพต้องไว้ใจหมอ หมอบอกแล้ว ฮา (ใครรอฉากทางกายภาพ รอก่อน บัวเองก็ยังพิมพ์ไม่ถึงตอนนั้นเลย แต่ถ้าถามว่าคิดไว้รึยัง บอกเลยว่าคิดไว้แล้ว #ยิ้มกระหยิ่ม งานคืนความสุขให้หมอต้องมา)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนรอ (วันนี้ให้รอนานเลย ขอโทษมากๆค่ะ) กำลังใจ และพื้นที่บอร์ดเช่นเคย

เจอกันสัปดาห์หน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิลา ที่ 03-12-2015 21:52:49
มาแล้วหนูจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 03-12-2015 21:54:21


คุณหมอ  * จันทร์จ้าววววววว  เติมความหวานรัวๆ

   :กอด1:  กอดแน่น น้อง  DezAir

 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๒ (๒๖ พ.ย. ๕๘/หน้าที่ ๒๕)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 03-12-2015 21:58:23
โอ้ยสนุกจังครับ
มีรักต้องห้ามเพิ่มอีกคู่
สมัยนั้นไม่แน่ใจว่าสังคมมีทัศนคติอย่างไรเรื่องคบกับชาวต่างชาติ
เพราะเป็นเรื่องที่เกิดก่อนสมัย GI กับเมียเช่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 03-12-2015 21:59:49
คืนความสุขให้คุณหมอออออ  :hao7:
รอรอ skip ไปพฤหัสหน้าเลยได้มั้ยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 03-12-2015 22:00:19
มาแล้ววว :mc4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 03-12-2015 22:15:05
 :z1: :z1: พี่นี่คิดถึงฉากกายภาพ ขึ้นมาเลย 555555555

อยากให้ มีวันพฤหัส อาทิตย์ละสองหน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 03-12-2015 22:16:30
กำลังคิดถึงคุณจันทร์แสนดื้อก็มาพอดี
ตอนนี้มัน ง่อวววว ช่างน่ารักอะไรเยี่ยงนี้
งี้แหละข้าวใหม่ปลามัน หมอถึงกับไม่กลับบ้านกลับช่อง
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-12-2015 22:19:34
รู้สึกแปลกๆเวลาเห็นตัวเลขแทรกอยู่ในประโยค เหมือนว่าจะอ่านแล้วชะงักไปหน่อย เช่น ไม่ละริมฝีปากจากแก้มทั้ง ๒ ข้างเลย ถ้าเขียนเป็น สองข้าง อย่างนี้น่าจะดีกว่าหรือเปล่าคะ

บทหน้าพี่น้องของคุณจันทร์จะรู้เรื่องกันทั่วหน้าแล้วรึเปล่านะ ว่าแต่พี่น้องรักษพิพัฒน์ก็มีคู่กันเกือบหมดแล้ว เหลือแต่ดาราสินะ
คู่ของดารารัษมีจะเป็นใครกันหนอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 03-12-2015 22:23:53
โอ้ยยยยย คุณหมอช่างเป็นผู้ชายที่แสนดี ความรักของทั้งสองคน ขออย่าให้มีอุปสรรคใดๆเลยค่ะ กลัวการดราม่า 55555555

ส่วนเรื่องทางกายภาพนั้น ก็รออย่างใจจดใจจ่อค่ะ รอได้เสมอ รักคุณหมอภวัต รักจันทร์จ้าว รักคุณบัวด้วย จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 03-12-2015 22:24:28
ขอบคุณครับสนุกมากเลยอ่านเพลินมาก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 03-12-2015 22:24:58
จันทร์เตรียมตัวไว้นะ รอหมอศึกษาก่อนน 55 :hao3: :hao3:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 03-12-2015 22:28:07
อ่านจันทร์จ้าวก็นึกถึงจอมขวัญตลอดเลย55555 น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆพ่อคุณ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mhhong95 ที่ 03-12-2015 22:36:32
กดskip ไปวันพฤหัสหน้าเลยได้ไหมอ่าาาาา
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 03-12-2015 22:37:53
ความมุ่งมั่นของคุณหมอสยบจันทร์จ้าวได้อยู่หมัดเลยเชียวค่ะ เพราะนอกจากเจ้าตัวเขาจะไม่คัดค้านแล้วยังเออออห่อหมกตามที่คุณหมอว่ามาอีกต่างหาก :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-12-2015 22:39:24
คู่นี้น่ารักจริงๆ ชอบบรรยากาศเวลาอยู่ที่บ้านกันสองคน
ดูอุ่นๆ ดี กลัวความจริงเปิดเผยเหมือนกัน
แต่เชื่อว่าหมอกับจันทร์เจ้าป่านไปได้อยู่แล้ว
อยากอ่านฉากกายภาพแล้วอ่ะ แต่เอ้ะ สมัยนั้นยังไม่มีกูเกิ้ล คุณหมอจะไปศึกษาจากคัมภีเล่มไหนล่ะคราวนี้ คึคึ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 03-12-2015 22:48:10
เราจะยึดมั่นในสัญญาของคุณบัว ว่าเรื่องนี้คือพีเรียดลูกกวาดนะคะ!!

และเราก็วางใจในฝีมือคุณหมอเช่นเดียวกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 03-12-2015 22:48:33
มาแล้ววววววว
ตอนแรกกะว่าจะรอคนเขียนเอาเรื่องนี้มาลงให้จบก่อนแล้วค่อยอ่าน เพราะกลัวจะลงแดงระหว่างรอตอนตอไป  :serius2:
และแล้วก็อดใจไม่ไหวเข้ามาอ่านจนได้ 13ตอนรวดเลย  :hao7:

รอนะคะ อิอิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-12-2015 22:51:21
ชอบตอนที่ภวัตกอดจันทร์ไว้เฉย ๆ
ชอบความรักเรียบง่าย

ชอบความธรรมดาที่ทำให้ใจเป็นสุข

....แต่จะราบลื่นได้นานแค่ไหนกัน พ่อจันทร์จ้าวเฮี้ยวซะขนาดนั้น
รีบ ๆ ตักตวงความสงบไว้นะภวัต เดี๋ยวมันก็ปิ๋วไป ฮ่าฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 03-12-2015 22:53:18
ชอบนะคะ รักไปเรื่อยๆไม่ต้องหวือหวา
แต่ก็ซาบซ่านหัวใจ 
เอาล่ะ ต่อไปก็งานใหญ่เลนล่ะ คุณหมอ คุณจันทร์
จับมือกันไว้แน่นๆ แล้วผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะคะ
ครอบครัวทั้งสองฝ่าย คงเป็นงานหินที่ต้องอดทนมากๆ สู้ๆนะทั้งสองคน
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 03-12-2015 23:03:39
ชอบคุณจันทร์ดื้อกับหมอเยอะนะชอบๆ555 หมดจะไดัดุและลงโทษทางกายภาพ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 03-12-2015 23:09:12
  “อื้อ...หมอ...ตรงนั้น...”



   “ตรงนี้หรือ” หมอภวัตกดซ้ำลงไปที่เดิม และคำตอบที่ได้คือการพยักหน้ารับช้าๆ

ตรงนี้อ่านละฟินจัง  5555   
#ป้าหื่นคูณสาม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-12-2015 23:10:25
ถึงเนื้อถึงตัวกันตลอด ไม่มีอาการเคอะเขินอะไรเลยอะ ไอ้เรานะเขินแทน  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 03-12-2015 23:12:42
ของานคืนความสุขให้หมอมาด่วนเลยค่ะ หมอชอบคิดมาก นางน่ารัก มุ้งมิ้งกว่าจันทร์ซะอีกนะบางที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 03-12-2015 23:27:23
งานกายภาพยกให้หมอออออออออออออ >///<
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 03-12-2015 23:31:13
ขออย่าให้ใครคัดค้านเลยนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: หลิว ที่ 03-12-2015 23:36:11
หมอคงจะทำกายภาพบำบัดด้วยการฉีดยาเข็มหย่ายๆชิมิ อมลูกกวาดรสสตอเบอรี่หวานๆฟินๆกลมกล่อมรอรสโคล่าซู่ซ่าจ้า ว่าแต่ดารารัษมีทำให้เรานึกถึงนักแสดงหญิงที่ชื่อชิดจันทร์ตลอดเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายด้ามเงิน ที่ 03-12-2015 23:38:07
พรุ่งนี้วันพฤหัสใช่ไหมคะ   :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 03-12-2015 23:41:36
เหมือนคุณหมอมีลูกชาย พร้อมๆกับมีแฟน
รีบไปศึกษากายภาพเข้าละคุณหมอ เดี๋ยวเด็กจะดื้อแกล้งมึนอีก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 03-12-2015 23:42:07
คืนความสุขให้คุณหมอและทีมคุณหมอต่อเนื่องจริงๆค่ะ
งืออออ น่ารักกันมากจริงๆ คุณหมอเองก็ใช่ย่อยนะคะ
เปิดประเด็นเรื่องต่อจากจูบเองซะด้วย :-[
ทิ้งท้ายไว้ซะน่ากลัวเลยค่ะ อย่างพึ่งหน่วงนะ สงสารคุณหมอ  :sad4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 03-12-2015 23:59:22
คุณหมอ แกมีจุดยืนชัดเจนมาก ศึกษาก่อนด้วย 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 04-12-2015 00:01:04
อะไรจะเกิดก็เกิดแหละคุณหมอ นี่ช่วงกอบโกยความสุขอย่าพึ่งคิดมากคับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-12-2015 00:27:38
อ้อยยๆๆ เปิดมาทีละคู่ๆ คุณหมอก้อแสนดีเหลือเกิน อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 04-12-2015 02:43:50
คุณหมอรีบศึกษาทางกายภาพให้ไวเลยค่าาา จันทร์ก็เตรียมพร้อมไว้เลยนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 04-12-2015 05:48:38
ขอช่วงคืนความสุขให้หมอเลยได้มั้ยน่าา

ตอนนี้คือดีงาม เหมือนเปิดตัวคู่รัก
จันทร์กับหมอก็สวีทหวานเบาๆ
รอหมอไปศึกษากายวิภาคเพิ่มก่อนนะจันทร์
รับรอง ดี!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 04-12-2015 06:45:41
เจอญาติๆแบบไม่ทันตั้งตัว ฮาาา ตุณหมอใจเย็นๆน้า อย่าเพิ่งคิดมากกก มีอะไรเกิดขึ้นให้คุณจันทร์พาหนีเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 04-12-2015 06:53:38
ทำไมหวานขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 04-12-2015 07:16:23
หมอน่ารักอย่างนี้ คนป่วยหายไวแน่  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-12-2015 07:54:17
สู้ๆ นะคุณหมอ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 04-12-2015 09:55:24
ปริ่ม ๆ ความดื้อของจันทร์เจ้าก็มีข้อดี 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 04-12-2015 10:42:19
ชอบตอนนี้ อ่านเเล้วมีความสุข
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 04-12-2015 10:46:29
คุณหมอขาาาาา :-[
ตอนนี้คนอ่านเป็นเบาหวานกันหมดแล้วค่ะ :o8:
คุณหมอช่วยรักษาโหน่ยยยยยยยยย :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 04-12-2015 10:51:04
จันทร์ว่าจันทร์เจ้าเล่ห์ แต่ยังห่างคุณหมอนะ 555555

ผมเป็นหมอรู้ว่าทำยังไงถึงจะไม่เจ็บ อิ อิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 04-12-2015 11:02:12
ฟินเฟร่อออออ คนอ่านยิ้มหน้าบานหุบไม่ลงแล้วนะรู้มั้ย แต่มันฟินเกินจนรู้สึกว่าทะเลสงบก่อนพายุจะมาแน่เลย ยิ่งน้องดาราเปิดประตูบ้านมา ดีนะไม่เห็นช็อตเด็ดพอดี เสียดายแทน 55555  อย่าเพิ่งเสิร์ฟมาม่าเลยนะคะ ขอฟินอีกหน่อย กว่าจะยอมรับรักกันได้ งอแงตั้งเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 04-12-2015 11:08:42
พี่จันทร์คนแมนทั้งดื้อทั้งอ้อนได้น่ารักน่าชังจริงๆ มีคุณหมอส่วนตัวอย่างนี้ไม่อยากให้หายป่วยเลย อิ__อิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 04-12-2015 11:13:20
ฟินกันให้ตายไปข้าง คุณหมอน่ารักกก
จันทร์จ้าวก็ดื้อได้น่าให้หมอจับกดจริงๆ 555555

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 04-12-2015 11:47:19
จันทร์จ้าวววว!!!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 04-12-2015 13:10:51
โอ้ยยย .... กะแล้วว่าต้องเป้นแบบนี้  เพราะจันทร์ดูมุ้งมิ้ง แพ้ทางคุณหมอแน่นอน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 04-12-2015 16:05:21

อรา... อ่านตอนที่แล้วจบเรานี่กลับไปเอาหัวแม่เท้าพาดหัว
แล้วนอนคิดเลยนะคะว่าพ่อหมอกับคุณจันทร์จะลงเอยกันอีท่าไหน
(เป็นเอามากเลยอีป้านี่ - แต่ไม่ได้ทำท่าตามนั้นจริงๆนะคะ
เพราะถ้าทำจริง... ป่านนี้เส้นคงยึดจนไม่ได้มานั่งพิมพ์ความเห็นอยู่อย่างนี้แน่)
สุดท้ายก็ปลอบใจตัวเองว่า เอาเถอะ... เดี๋ยวคุณบัวก็หาทางออกให้ทั้งสองคนเองแหละ
เราก็มาคอยเสพความน่ารักของคุณหมอกับพ่อจันทร์ต่อไปดีกั่ว  โฮะ โฮะ โฮะ

ตอนนี้อ่านแล้วสุขแต่ก็กลัวแทนจริงๆค่ะ
ที่พ่อหมอคิดนี่ก็ไม่ผิดเลยนะคะ โธ่...พ่อคุณ พ่อทูนหัว กลุ้มเรื่องเมียมากสินะ
มามะ มาให้ป้ากอดปลอบหน่อยซิ (อีป้านี่ก็เอาแต่ลวนลามพระเอกเรื่อย!!)

รออ่านตอนต่อไปเลยค่ะ อยากรู้ทางออกมากจริงๆ  :L2:


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 04-12-2015 16:18:41
ตลกหมอ  นี่หมอภวัตจริงๆเหรอ คนที่อยู่กับกฎระเบียบความถูกต้อง และเรียบง่ายไม่ทำอะไรที่คนทั่วไปไม่ทำชัวร์  แต่หมออกตัวก่อน ตรงจุงเลย 5555555  ขอตัวไปศึกษาวิธีทางกายภาพก่อนงั้นเหรอ  นึกว่าจะโดนจันทร์จ้าวจับปล้ำซะละ แล้วค่อยไปพลิกเกมกันในสนาม    ที่ไหนได้มุ่งมั่นศึกษาเองเลยจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 04-12-2015 16:44:20
ฮือออออ ยิ่งอ่านยิ่งอยากอ่านตอนต่อไปจริงๆค่ะ T ______ T ..
เริ่มคิดถึงเรื่องการดองไว้แค่นี้แล้วเจอกันตอนรวมเล่มแล้วนะคะเนี่ย 55555555555 คือมันอึดอัด แง อยากรู้เรื่องต่อไวๆ ; - ;
เป็นเรื่องแรกเลยมั้งคะที่ทำให้รู้สึกอยากอ่านต่อมากกกกกกกขนาดนี้ T T

คำผิดตอนนี้นะคะ
หมายความว่ายังไร (อันนี้ไม่แน่ใจว่าผิดหรือตั้งใจนะคะ)
เรืองอื่น - เรื่อง ค่ะ ^^

สำหรับตอนนี้ปิดท้ายได้น่ากังวลเหลือเกิน T _____ T .. แต่ถึงอย่างนั้นคนที่มาเป็นดารารัษมีก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจนะคะ
ไม่รู้สิ เรารู้สึกว่าเธอเป็นคนพึ่งพาได้นะ เพราะพี่อาทิตย์กับนภาดูจะอ่อนไป ต้องดาราเนี่ยแหละ ถึงจะเอาอยู่ค่ะ!
แอบอยากให้จันทร์บอกดาราในตอนหน้าเลยด้วยซ้ำ คิดว่าถ้าเป็นพี่น้องรู้บ้างน่าจะทำให้ราบรื่นขึ้นนะคะ
ส่วนเรื่องของเรย์มอนด์กับนภาก็น่าติดตามเช่นกันค่ะ 555555555 ตอนนี้คุณพงษ์น่าร๊ากกกก อยากให้คุณพงศ์มีคู่ไวๆแล้ว ><
จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ คุณบัวสู้ๆค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-12-2015 16:49:25
อุปสรรค ขอให้เป็นแค่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็พอ







พี่ๆน้องๆ โปรดเข้าใจ คุณหมอกับคุณจันทร์ ทีเถอะนะ







สงสารเธอ  แค่กำแพงจากพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็หนักแล้ว






ถ้าพี่น้องไม่เข้าใจ คงทุกข์ทรมาณใจยิ่งนั๊ก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 04-12-2015 18:22:17
โอ๊ย..เมื่อไรจะพฤหัสหนอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-12-2015 18:50:20
 :katai1: อยากให้ถึงสัปดาห์หน้าไวๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 04-12-2015 18:54:42
คุณหมอนี่ทำให้เขินได้เขินดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 04-12-2015 19:24:05
อย่าเพิ่งกังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงเลยเนอะคุณหมอ ก็เข้าใจว่าสมัยนั้นเรื่องคงไม่ได้ง่ายเหมือนสมัยนี้ แต่ยังไงหนูจันทร์ก็รู้ใจตัวเองดีแล้ว คงหนักแน่นได้อยู่แล้ว

ว่าแต่...สะดุดกับ "งานคืนความสุขให้หมอ" อื้อหือออออ จันทร์จ้าววววว ไว้ใจหมอเหอะนะ....กร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-12-2015 20:57:28
โอ้ยยย เริ่มบทมาด้วยความหวานเรานี่อ่านไปเขินจนตัวบิดเป็นโปเต้เลยทีเดียว พอคบกันแล้วโลกนี้ก็หวานแหววสีชมพูอมม่วงกันเลยนะคะ แอบลุ้นแทบแย่ตอนที่ดารามากลัวว่าจะมาเจอช็อตเด็ดเข้าซะแล้ว แต่คิดว่าถ้าดารารู้อาจจะมีตกใจบ้างแต่คงไม่ห้ามอะไรหรอกอาจจะช่วยปิดด้วยซ้ำอย่างคู่ของนภาไง จะว่าไปดารานี่กุมความลับพี่น้องไว้หมดเลยนะเนี่ย ฮา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-12-2015 20:58:16
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 04-12-2015 21:54:47
เย้ๆ ยังมีลูกกวาดให้อ่านเป็นระยะเนอะ
รอเวลาที่หมอจะได้มีความสุขมากกกกกกก เสียที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 05-12-2015 00:44:55
หมอกับจันทร์กำลังหวานได้ที่เลย รอฉากคืนความสุขให้กับคุณหมอดีกว่า 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: FaiiFay_Elle ที่ 05-12-2015 04:22:11
ไม่อยากให้มีดราม่าเลย สงสารจันทร์กับคุณหมอ  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 05-12-2015 04:50:51
ตลกจันทร์พูดไม่ทันคุณหมอ โดนจับกดแน่ๆ ฮ่าๆๆ หมอเป็นหมอ หมอไม่ทำให้จันทร์เจ็บหรอกนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnn ที่ 05-12-2015 13:44:01
ทำไมตอนนี้เค้าหวานกัน ทำไมเค้าเขินให้กัน แล้วทำไมเค้าต้องแอบไปมาหาสู่กัน
ง่อววววว จันทร์เจ้าคนเดิมกลับมาแล้ว ดื้อดึงเอาแต่ใจ แต่ก็น่ารักน่าปล้ำเป็นที่สุด ฮ่าๆๆๆ
งานนี้หมอภวัตต้องวิ่งรอกไปกลับจากโรง'บาลมาบ้านเช่าสีเขียวทุกวัน
แหมๆๆๆ ก็คนเค้ารักเค้าเป็นห่วงนี่เนอะ แค่วิ่งรอกไปกลับคงไม่ทำให้คุณหมอเหนื่อยกายเท่าไหร่หรอก
คนทำเค้าเต็มใจที่จะทำ เค้าอยากดูแลคนที่เค้ารัก หมอภวัตยิ้มได้ทุกวันแบบนี้แสดงว่ามีความสุขมากที่ได้ดูแลจันทร์
โอ๊ยๆๆๆๆ อิจฉาคู่นี้ค่ะ บทจะดีกันก็หวานซะจนมดขึ้นหน้าจอหมดแล้วเนี่ย  :mew1:

อ้างถึง
หึงก็บอกสิว่าหึง
รู้ยังว่าจันทร์จ้าวเป็นผู้ชายที่เก่งกล้าสามารถที่สุด มาดแมนแฮนซั่มมากค่ะลูกกับความใจเด็ดในการพูดคำนี้
คุณแม่ลุกขึ้นปรบมือให้หนูเลยค่ะ อุวะ ฮ่าๆๆๆๆ...เล่นเอาคุณหมอต้องอมยิ้มให้กับความน่ารักของจันทร์เลย
เชร้ดมั้ยคะงานนี้ ต้องบอกว่าเชร้ดจริงๆค่ะ คราวหลังจันทร์จ้าวอย่าริพูดถึงคุณพงศ์ให้คุณหมอได้ยินเชียว
ของของใครก็ต้องหวงเป็นธรรมดา นี่ขนาดเพิ่งพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้ไม่กี่วัน คุณหมอก็ออกจะหวงขนาดนี้แล้ว
ถ้าถึงขั้นพัฒนาไปไกลถึงด้านทางกายภาพแล้วคุณหมอจะหวงจันทร์จ้าวขนาดไหน..

เอาไว้ให้คุณหมอไปศึกษาวิธีที่ไม่ต้องทำให้จันทร์จ้าวเจ็บก่อนแล้วค่อยมาจัดหนักจัดเต็มกันทีหลังก็ยังไม่สาย
เพราะดูท่าทางแล้วจันทร์จ้าวคงไม่อยากจะเป็นคนเจ็บจริงๆ ในหัวอาจจะอยากเป็นฝ่ายรุกแทนคุณหมอไปแล้วก็ได้ ฮ่าๆ
แต่งานนี้ต่อให้จันทร์จ้าวยึดมั่นในอุดมคติของตัวเองแน่วแน่สักแค่ไหน บอกเลยว่ายังไงก็สู้คุณหมอไม่ได้ค่ะ
เพราะงานคืนความสุขให้คุณหมอในครั้งที่ใกล้จะถึงนี้คงจัดหนักและแซ่บถึงใจกันจริงๆ
หนูจันทร์เองก็ต้องอดทนและเข้มแข็งเข้าไว้นะคะลูก เตรียมร่างกายเอาไว้รับความพร้อมด้วยค่ะ คุณแม่ขอเตือน

ส่วนการที่ดารารัษมีบุกมาถึงบ้านเขียวโดยไม่บอกกล่าวเล่าเรื่องให้จันทร์จ้าวรู้ล่วงหน้า
คนอ่านก็อดใจเต้นแรงลุ้นตามไม่ได้ว่าดาราจะบังเอิญไปเห็นช้อตเด็ดอะไรเข้าซะก่อนรึเปล่า
แต่ยังถือว่าโชคดีที่ดาราไม่เห็นอะไรมากไปกว่านี้ ไม่งั้นคงเจองานยักษ์เข้าให้แน่นอน
ดูท่าทางตอนนี้ดาราเองก็เริ่มสงสัยนิดๆแล้ว แต่คงยังไม่เอะใจอะไรเพราะคิดว่าหมอมาดูแลจันทร์ในฐานะคนไข้
คุณหมอเองก็อย่าเพิ่งกังวลไปเลย บางครั้งสิ่งที่คิดอาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ก็เป็นได้
ดีไม่ดีถ้าเกิดดารารู้เรื่องนี้อาจจะสนับสนุนแบบผิดคาดเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ
เอาเป็นว่าถ้านักเขียนยืนยันอย่างหนักแน่นว่ายังคงดำเนินเรื่องแบบลูกกวาดต่อไป เราในฐานะคนอ่านก็ใจชื้นด้วยคนค่ะ
นี่คงไม่คาดหวังอะไรหนักไปกว่าการคืนความสุขให้คุณหมอแบบเต็มรูปแบบแล้วจริงๆ ฮ่าๆๆๆ


และสำหรับคู่ของนภา...อื้อหือ ความรักกำลังเบ่งบานกันดีเลยเชียว
รู้สึกปลื้มปริ่ม ขอให้เรย์สู้ต่อไปในการผ่านด่านของจันทร์จ้าวผู้แสนเหี้ยมโหดนี้ให้จงได้
งานนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคงเป็นคุณพงศ์ มีเรื่องอะไรก็ต้องเอาคุณพงศ์เข้ามาเอี่ยวด้วยตลอด
จบงานนี้แล้วช่วยหาคู่แท้ให้คุณพงศ์ทีเถอะค่ะ ก้มกราบ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 05-12-2015 15:22:52
เปนกำฃังให้คุณจันทร์กับหมอภวัตสู้ปัญหาที่รออยู่ข้างหนัาค่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 05-12-2015 16:34:26
หวานๆๆกันไปก่อนคุณหมอ กะหนูจันทร์

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 05-12-2015 19:15:50
คุณหมอรีบไปศึกษามาเร็วๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 05-12-2015 20:40:12
จันทร์จ้าวได้ทีก็อ้อนหมอให้เต็มที่เลยค่ะ ยังไงหมอก็ไม่ยอมเห็นจันทร์จ้าวป่วยอยู่แล้ว เพราะถ้าหายป่วยเมื่อไหร่ก็จะสามารถ "ต่อ" ได้โดย "ไม่เจ็บ" โฮะๆๆ

ตอนนี้หวานกันมากนะคะ จันทร์จ้าวคงจะซาบซึ้งมาทีเดียวที่คุณหมอมาคอยดูแลไม่ห่างกาย ขนาดโรงพยาบาลงานยุ่งยังอุตส่าห์ปลีกตัวมาดูแลได้ ถึงเรื่องจะแดงอย่างไร ก็คิดว่าจะสามารถผ่านกันไปได้ ในอดีตถึงเรื่องนี้จะไม่ค่อยมีให้เห็น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเสียทีเดียว ต้องดูว่าเนื้อเรื่องจะเป็นไปในทิศทางใด

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ รอคอยพฤหัสบดีหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: gimini ที่ 05-12-2015 22:53:36
หมอน่ารัดจังเลยยยยย บอกจะไปหาวิธีให้คุณจันทร์ไม่เจ็บ55555555555 แอบหื่นนะเนี่ย :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 05-12-2015 23:03:06
อยากให้มีปุ่ม skip ข้ามไปวันพฤหัส!!!

หมอนี่น่ารักนะ เดี๋ยวจุ๊บ เดี๋ยวกอด

เรื่องร่างกาย ไว้ใจหมอ!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 05-12-2015 23:23:14
เย้ เย้ หมอมีความสุขซะที ดีใจจัง :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 06-12-2015 20:44:14
โอ๊ะ! ตามมาทันแล้วค่ะ เรื่องน่ารักสีลูกกวาดมากๆ

ปล.ชอบคาเร็คเตอร์คุณจันทร์ค่ะ แต่ #ทีมคุณพงศ์ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 06-12-2015 21:26:43
เย้ๆๆๆๆๆ อ่านทันแล้ว

ปกติก็ตามงาานเขียนของคุณ Dezair มาหลายเรื่องแล้ว

พอเห็นว่าเปิดเรื่องใหม่ก็เพิ่งจะว่างได้อ่าน

ชอบภาษาเขียนของเรื่องนี้มากค่ะ เป็นพีเรียดที่อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าโบราณเลย

ยิ่งตอนนี้ยิ่งเข้มข้น ความรักของ หมอ และ จันทร์ น่าจะต้องเปิดเผยแล้ว

ลุ้นค่ะ ว่าจะมีใครรับได้ไหม

ภาวนาว่าให้เรื่องนี้อย่าดราม่ามากมายเลยยยย เอาแค่พอกรุบกริบพอนะคะ

 :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnon04 ที่ 06-12-2015 22:29:10
ว่าละเชียว คุณจันทร์ไม่ยอมฉวยโอกาสนั้น ตอนนี้ก็ต้องรอคุณหมอศึกษาจนสำเร็จวิชาซะดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Rebtur ที่ 07-12-2015 12:21:18
บรรยากาศอบอุ่นน่ารักละมุนมากเลยค่ะ ชอบแบบนี้มาก
ได้โปรดอย่าพรากสองคนนี้ไปจากกันเลยน้าาา :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 07-12-2015 17:46:47
คุณหมอกับจันทร์เจ้า
หว๊านหวานค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 09-12-2015 18:00:13
สงสัยดาราจะเป็นคนที่สาม รองจากคุณพงศ์ และอดัมส์ที่จะเป็นพยานรักของคู่จันทร์จ้าวแน่ๆ
รอการคืนความสุขให้คุณหมอเช่นกันฮะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 09-12-2015 19:54:11
คุณหมอทำเราเขินมากเลย  :-[
เรื่องกายภาพ หมอรู้ วะฮะฮ่าๆๆๆๆ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-12-2015 22:40:16
หมอไม่ต้องกลัวไปหรอก ใครกล้าขัดใจคุณจันทร์บ้าง ไม่มี๊
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 10-12-2015 14:47:41
รอค่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 10-12-2015 14:57:03
วันนี้วันพฤหัสแล้วววว  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 10-12-2015 16:08:50
มารอคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 10-12-2015 16:34:04
เข้ามารอ ร๊อ รอ  :call:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 10-12-2015 17:46:42
หยุดยาวจะมาไหมหนอออ คิดถึงงงง  :man1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 10-12-2015 20:12:54
วันนี้มารอคุณจันทร์ค่ะ :call: :sad11:

ขอบคุณคุณบัวมากนะคะที่ใบ้ว่าดราม่ากรุบกริบ
ชอบบุคลิกจันทร์มากเลย ทั้งร้ายและก็น่ารักก อยากได้ๆๆๆ   :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๓ (๓ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๒๙)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 10-12-2015 20:51:03
สวัสดีค่ะ คุณบัว ดีใจมากมากมาก ที่ได้อ่านผลงานของคุณบัวอีก
คิดถึงคุณเสียเหลือเกิน คุณบัวกลับมาครั้งนี้ ก็ทำเรามีความสุขอีกแล้ว
ได้อ่านสนุกๆ น่ารักๆ และเป็นที่ชอบมากด้วย 'พีเรียดสีลูกวาด'

ชอบจันทร์จ้าว ดูมีหลากหลายอารมณ์ดี อ่านให้ความรู้สึกว่าเป็นนักเรียนนอกในสมัยนั้นดีนะ

ความจริงชอบมันทุกละครนั้นละคะ  ^^

ขอบคุณคนเขียน รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 10-12-2015 20:55:08
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๑๔   



นายแพทย์ภวัตยังคงเป็นผู้ดูแลคนสำคัญสำหรับคนป่วยที่ใกล้จะหายดี ทั้งเช็ดเนื้อเช็ดตัว จัดยาและอาหาร ตกกลางคืนก็กางมุ้งนอนเฝ้าอยู่ข้างเตียง นอกจากนั้น ยังเป็นสารถีคอยรับส่งเมื่อจันทร์จ้าวต้องไปสำนักงาน ตอนเช้าขับรถไปส่ง ตอนกลางวัน ขับรถมารับไปรับประทานอาหารนอกสำนักงาน ตอนเย็นก็ย่อมต้องเป็นหมอภวัตคนเดิมที่แวะมารับกลับบ้าน
 

เย็นวันพุธที่ฝนตกหนัก จันทร์จ้าวรออยู่ที่ชั้นล่างของสำนักงาน พอเห็นรถยนต์คุ้นตาวิ่งเข้ามาจอดเลียบที่ฟุตบาธหน้าร้านก็เปิดประตูวิ่งฝ่าฝนออกไปขึ้นรถในทันที


   “ขอบคุณที่แวะมารับ” คนกระโดดขึ้นนั่งที่เบาะข้างคนขับหันไปพูดพร้อมรอยยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย ภวัตมองรอยยิ้มนั้นแล้วยิ้มจาง ความรู้สึกอิ่มเอิบพอกพูนในอก แค่ได้เห็นรอยยิ้มบนดวงหน้านี้ เขาก็มีความสุขมากแล้ว


   “หมอ ขับรถได้แล้ว เอาแต่มองหน้าผมแล้วจะถึงบ้านไหม”


ปกติไม่ใช่คนเขินอาย แต่ไม่ทราบเพราะอะไร เวลาถูกหมอภวัตมองด้วยสายตาอ่อนโยนเช่นนี้ จันทร์จ้าวถึงไม่กล้าสบตานานๆเสียที ไม่ใช่เพิ่งมาเป็นเมื่อพวกเขาเผยความในใจต่อกัน เพราะเมื่อลองทบทวนดูแล้ว จันทร์จ้าวแพ้สายตาเช่นนี้มาตั้งแต่ช่วงที่สนิทสนมกันใหม่ๆ


   “หวงจริง มองก็ไม่ได้” ภวัตหยอกอย่างอารมณ์ดี แม้วันนี้จะมีคนไข้จำนวนมาก แต่เขากลับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับงานเลยสักนิด แค่คิดว่าตอนกลางวันจะได้มารับจันทร์จ้าวไปรับประทานอาหาร ตอนเย็นจะได้มารับจันทร์จ้าวกลับบ้าน ได้พูดได้คุยกัน ได้เห็นรอยยิ้มสดใส ได้สบกับดวงตากลมใหญ่ แม้จะต้องให้ทำงานมากกว่านี้อีกสัก ๑๐ เท่า เขาก็ทนไหว


   “ไม่ได้หวง ผมจะมาหวงกับหมอทำไมล่ะ...เราเป็นอะไรกันก็รู้อยู่...”



ประโยคหลังนั้นจันทร์จ้าวพูดอุบอิบ เท้าแขนกับขอบหน้าต่างรถแล้วผินมองออกไปข้างนอกเหมือนไม่อยากจะหันไปสบตากับคนขับเสียท่าไร  ข้างนอกฝนตกหนัก มองแทบไม่เห็นอะไร แต่ก็ดูเหมือนร่างโปร่งจะจับจ้องภายนอกอย่างเอาเป็นเอาตาย ภวัตเหลือบตามองคนข้างกายแล้วหัวเราะเบาๆก่อนจะย้อนถาม


   “เราเป็นอะไรกันหรือครับ” เพียงเท่านั้น คนที่ทำเป็นเมินไปมองทางอื่นก็ตวัดสายตากลับมาจ้องในทันที



   “เป็นเพื่อนตีเทนนิสกระมัง?!” คราวนี้เสียงหัวเราะของภวัตดังขึ้น แม้จะต้องจดจ่ออยู่กับการขับรถ แต่ก็ยังมีกะใจหันไปหยอกกับคนข้างกายที่เริ่มตีสีหน้ามู่ทู่เสียแล้ว



   “แต่วันนี้ฝนตก คงเป็นเพื่อนตีเทนนิสไม่ได้”



   “ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นสารถีกับผู้โดยสาร!”



   “มีสารถีกับผู้โดยสารที่ไหนร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วยกัน หนำซ้ำตอนป่วยก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวอยู่เฝ้าทั้งวันทั้งคืน”



   “หมออยากจะเป็นอะไรก็เป็นเถอะ!” จันทร์จ้าวโวย เขาเคยพูดแล้วครั้งหนึ่งถึงความรู้สึกของตนเอง แต่เป็นฝ่ายหมอภวัตต่างหากที่ไม่เคยหลุดปากความรู้สึกของตนเองให้เขาได้ยินบ้างเลย ที่พอจะมีก็แค่...จูบ...



   คิดมาถึงตรงนี้ ในอกก็อุ่นซ่าน รสจูบวันนั้นยังอยู่ในความทรงจำ จูบอ่อนหวานแต่หนักแน่นและเต็มไปด้วยความรู้สึก ภวัตไม่พูดอะไรก็จริง ปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายบอกรักก็จริง แต่สิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้เขา คือการแนบประทับริมฝีปากลงมา ทั้งที่หน้าผาก ปลายจมูก ข้างแก้มและที่ริมฝีปาก มันเป็นจูบที่อุ่นละมุนแต่บดเคล้าคลึงเค้นเสียจนใจสั่น จันทร์จ้าวไม่ใช่ผู้ชายอ่อนประสบการณ์ เขาเคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมาแล้ว ทว่ารสจูบที่ภวัตมอบให้ไม่เหมือนจูบครั้งไหนในชีวิตของเขามาก่อน



   “ให้ผมเป็นได้ทุกอย่างจริงหรือครับ”



   “อือ...” หลังจากคำตอบแสนสั้นนั้น มือของจันทร์จ้าวข้างหนึ่งก็ถูกมือใหญ่ร้อนของภวัตจับเอาไว้ เขาก้มลงมองมือตนเอง ปลายนิ้วยาวของนายแพทย์หนุ่มลูบมือเขาแผ่วเบาชวนให้หัวใจสั่นไหวจนไม่กล้าหันไปมองเจ้าของมือนั้นเลย



   “ถ้าอย่างนั้น...ก็โปรดตระหนักเอาไว้เสมอ...ว่าคุณมีเจ้าของแล้ว” คนถูกครอบครองได้แต่อมยิ้มกับตัวเองทั้งดีใจ ทั้งเขินอาย ในอกมันพองฟูจนหายใจลำบาก แต่ไม่วายกำชับกลับไป



   “ไม่ใช่เจ้าของเต็มตัวหรอกนะหมอ ให้เป็นเจ้าของร่วมก็พอ ผมมีสิทธิ์ครึ่งหนึ่ง หมอมีสิทธิ์อีกครึ่งหนึ่ง” คนฟังหัวเราะเบาๆ ไม่ว่าอย่างไร จันทร์จ้าวก็ยังต้องมีข้อมาโต้แย้งเขาอยู่เสมอ เรื่องจะหืออือรับสมอ้างไปกับเขาอย่างว่าง่ายนั้น เห็นจะไม่มีทาง


   “ก็ได้ครับ เจ้าของร่วมก็เจ้าของร่วม”



   “ดีมาก หมอก็ด้วย ผมก็เป็นเจ้าของร่วมในชีวิตหมอเหมือนกัน! ห้ามนอกใจ ห้ามนอกกาย ห้ามมองใครคนไหน ถ้าผมรู้ว่าแอบเหล่พยาบาลสวยๆล่ะก็...”



   “ทำไมครับ ถ้าผมเหล่พยาบาลสวยๆ คุณจะมากันท่าด้วยการสอบเป็นพยาบาลแทนหรือ แต่ก่อนอยากเป็นหมอเพราะคุณพยาบาลอนงค์ ตอนนี้ไม่คิดจะมาสอบเป็นบุรุษพยาบาลเพราะหมอภวัตบ้างหรือครับ ผมจะได้อยู่ในสายตาคุณตลอดเวลาอย่างไรล่ะ” คนถูกชวนให้ไปเป็นพยาบาลถึงกับหัวเราะลั่น ความรู้สึกอุ่นซ่านในอกจนแทบหายใจไม่ออกกลับกลายเป็นอารมณ์ขัน  ดวงตากลมใหญ่หันไปมองคนขับรถอย่างอารมณ์ดี



   “หมอภวัตสวยไม่เท่าคุณพยาบาลอนงค์ก็อย่าหวังเสียให้ยากเลย”



   “สวยไม่เท่าแต่ตีเทนนิสเก่งนะครับ”



   “เรื่องนั้นผมยอมรับ เอ...นี่ผมาหายสนิทดีหรือยัง เมื่อไรจะได้ไปตีเทนนิสสักที”



   “จันทร์หน้าดีไหมครับ ผมจะบุ้คคอร์ดเอาไว้” ภวัตเสนอ



“ดีซี! หมอจัดการเลยนะ จันทร์หน้าเราไปตีเทนนิสกัน!” นายแพทย์หนุ่มหันมายิ้มรับแล้วกลับไปสนใจถนนต่อ เมื่อนั้นจันทร์จ้าวถึงเพิ่งรู้ว่ามือของตนไม่ถูกกอบกุมอีกแล้ว เขาเหลือบตามองคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจขับรถพากลับบ้านราวกับจะประเมิน



   ...ไม่ใช่ว่าเขาแพ้ภวัตเพราะภวัตฉลาดกว่า แต่เพราะภวัตไม่เคยต้อนเขาเสียจนมุมสักที เมื่อไรก็ตามที่อีกฝ่ายเห็นว่าเขากำลังถูกต้อนจนหาทางออกไม่ได้ จะเป็นฝ่ายภวัตเสียเองที่ทำให้บรรยากาศคลี่คลาย ดังนั้นไม่ว่าเมื่อไร...เขาจึงอยู่กับภวัตได้อย่างสบายอกสบายใจ...



   นั่นล่ะ...สรุปแล้วคือภวัตฉลาดกว่าที่รู้จักปล่อยให้เขาหายใจหายคอได้สะดวก แต่กระนั้นก็ไม่แสดงความฉลาดมากเกินไปให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองโง่เง่า



จันทร์จ้าวพิงกายกับเบาะแล้วปลดปล่อยอารมณ์ให้สบาย หัวใจสุขสงบอย่างน่าประหลาด ไม่ต้องหาคำตอบให้มากความก็ทราบดีว่าต้นเหตุของความสุขสงบนี้...จะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่คนข้างกายที่ชื่อ...ภวัต...


............................................



เพราะเมื่อวันอาทิตย์ไม่ได้ไปเยี่ยมพี่ชาย นภาสรวงจึงตั้งใจว่าหล่อนจะต้องหาโอกาสไปเยี่ยมให้จงได้ แต่วันจันทร์และวันอังคารหล่อนก็มัวแต่ยุ่งกับงานในสำนักงาน ประจวบเหมาะในวันพุธที่ทั้งหล่อน ดารารัษมีและอาทิตย์ว่างพอดี จึงวานให้อาทิตย์มารับไปเยี่ยมพี่ชายคนรอง ถึงแม้จะทราบจากดารารัษมีมาแล้วก็ตามทีว่าจันทร์จ้าวได้หมอภวัตมาคอยดูแลจนน่าจะหายดีแล้ว แต่หล่อนก็อยากไถ่โทษที่ไม่ได้ไปเยี่ยมเขาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


 
รถโฟล์คสีดำของอาทิตย์เลี้ยวเข้ามาจอดที่ริมฟุตบาธหน้าห้างค้ายาที่นภาสรวงทำงานอยู่ หญิงสาวยืนรออยู่ก่อนแล้วที่ใต้กันสาดเพื่อหลบฝนที่ตกกระหน่ำในตอนเย็น เมื่อรถของพี่ชายมาจอด จึงรีบวิ่งไปเปิดประตูตอนหลัง ขึ้นนั่งเรียบร้อยแล้วยกมือไหว้พี่ชายผู้อยู่ที่ตำแหน่งคนขับและหันมาทักทายดารารัษมีและหม่อมหลวงพิมพัชราที่ติดรถมาด้วยกัน



“สวัสดีค่ะพี่อาทิตย์ สวัสดีค่ะคุณพิม ดารา”



   “คอยนานไหม นภา” อาทิตย์ถามพลางเหลือบมองน้องสาวจากกระจกส่องหลังเล็กน้อย ก่อนจะเบี่ยงรถโฟล์คของตนเองกลับสู่ถนนอีกครั้ง



   “ไม่นานหรอกค่ะ นภาเพิ่งออกมารอสักครู่นี่เอง”



   “อะไร้?! สำนักงานคุณเภาเลิกงานเย็นขนาดนี้เชียวหรือ” ดารารัษมีผู้ขวางหูขวางตากับคนพฤติกรรมเยี่ยงจันทร์จ้าวอย่างนายเภา วิชาญโยธินนั้นก็อดไม่ได้ที่จะค่อนขอด



   “ไม่ใช่หรอกจ้ะ แต่พอดีคุณเภาเธอชวนคุยน่ะซี นภายังบอกเธอเลยนะว่าพี่จันทร์ไม่สบาย แต่ดูเธอจะไม่ค่อยถูกโฉลกกับพี่จันทร์อยู่สักหน่อย เห็นทำหน้าตาปะหลับปะเหลือก” นภาสรวงพูดพลางหัวเราะยามนึกถึงชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายของเธอที่ทำหน้าตาเหมือนจะไม่ค่อยอยากจะเสวนาเท่าไร ยามเธอพูดเรื่องจันทร์จ้าว



   “แหม! คนจำพวกเดียวกัน ก็คงจะถูกโฉลกกันยากอยู่หรอก พี่จันทร์ก็น้อยๆเสียเมื่อไร ตอนกลับจากอเมริกามาใหม่ๆ ก็เที่ยวโฉบควงแม่ผู้หญิงคนนั้นคนนี้ไม่ซ้ำหน้า ก็คงจะไปทับทางนายเภานี่ล่ะซี!” ดารารัษมีพูดทั้งเยาะเภาทีหนึ่ง ทั้งบ่นพี่ชายทีหนึ่ง



   “แต่เดี๋ยวนี้เธอก็ไม่ค่อยจะไปเที่ยวกับผู้หญิงที่ไหนแล้วไม่ใช่หรือคะ เห็นพี่พงศ์ว่าเธอติดสำนักงานจะตายไป อยู่เฝ้าโยงทั้งวี่ทั้งวัน ไม่เช่นนั้นก็กลับบ้าน ไม่ไปตีเทนนิสด้วย” หม่อมหลวงพิมพัชราผู้นั่งหน้าคู่คนขับหันมาออกความเห็น



   “ก็คงจะเดี๋ยวเดียวล่ะค่ะคุณพิม คนอย่างพี่จันทร์น่ะทำนายทายทักอะไรได้เสียที่ไหน เธอนอกลู่นอกทางนอกความคาดหมายออกจะตายไป ที่ไม่ไปตีเทนนิสก็อาจจะเป็นเพราะหมู่นี้ฝนตกบ่อยก็เป็นได้ หนำซ้ำก็ไม่มีรถส่วนตัวเสียด้วยจะไปไหนก็ไม่สะดวก สมเขาล่ะ คุณแม่บอกให้ซื้อก็เรื่องมากเรื่องแยะ จะเอารถสีนู้น ยี่ห้อนี้ ต้องนำเข้ามาใหม่เท่านั้น อะไรก็ไม่ทราบ! เอาใจยากเหลือทน อย่างนี้คงไม่ได้แต่งงานทั้งชีวิตล่ะค่ะ ผู้หญิงสมัยนี้ อ้ายจะให้คอยพะเน้าพะนอเอาใจน่ะ เห็นจะไม่ไหว ดาราคนหนึ่งล่ะที่จะไม่ยอมแต่งงานเพื่อไปตามเอาใจผู้ชายที่ไหนทั้งนั้น!” เพราะเป็นเรื่องของพี่ชายคนรองผู้ไม่ค่อยจะถูกใจเสียเท่าไร ดารารัษมีก็เลยบ่นได้มากเป็นพิเศษ แต่กระนั้น แม้จะบ่นเรื่องของจันทร์จ้าว แต่หล่อนก็ยังไม่วายเสนอขึ้นมา


   “เอ?...แต่วันนี้เราพร้อมหน้า เราชวนพี่จันทร์ไปหาอะไรรับประทานที่เยาวราชเหมือนเคยดีไหมคะ” นภาสรวงมองน้องสาวแฝดแล้วได้แต่อมยิ้ม ต่อให้ดารารัษมีจะไม่ชอบใจพฤติกรรมของจันทร์จ้าวมากเพียงใด แต่ให้ตัดกันขาดก็ทำกันไม่ลง ดังนั้นถึงแม้จะบ่นมากอยู่เสียหน่อย แต่ใครๆก็ทราบดีว่าน้องสาวคนเล็กผู้เข่นเขี้ยวความรวยเสน่ห์ของพี่ชายคนรองก็ยังรักเขามากอยู่ดี



“คุณจันทร์จะอยู่บ้านหรือคะ” ราชนิกูลสาวจากวังฉัตรหันมาถามอีกหน



“ไม่อยู่แล้วจะไปไหนได้ล่ะคะคุณพิม ฝนตกหนักออกอย่างนี้ ก็คงจะนั่งจับเจ่านับเม็ดฝนที่หยดจากหลังคาได้อย่างเดียวล่ะค่ะ” ดารารัษมีพูดแล้วหัวเราะ ไม่ได้คิดจะเยาะเย้ยพี่ชายอย่างจริงจัง แต่ก็อดไม่ได้เพราะเขาช่างเลือกมากเสียเหลือเกิน



รถยนต์ของอาทิตย์วิ่งไปตามถนนฝ่าเม็ดฝนขนาดใหญ่ที่ตกลงมาไม่ลืมหูลืมตา จนกระทั่งเลี้ยวเข้าซอย อาทิตย์ขับรถเลยไปจอดเยื้องจากหน้าบ้านเช่าสีเขียวอ่อนเล็กน้อยเพราะที่หน้าบ้านมีรถยนต์จอดอยู่



“เอ?...รถคันนี้อีกแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ ดาราก็เห็นรถคันนี้มาจอดที่หน้าบ้านพี่จันทร์ รถคุณหมอรึเปล่าคะ” ดารารัษมีหันไปมองรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านเช่าด้วยความแปลกใจแล้วจึงตั้งคำถามกับทุกคนในรถ



“พิมก็จำรถคุณหมอไม่ได้ด้วยซีคะ” หม่อมหลวงพิมพัชราออกความเห็น นภาสรวงก็ได้แต่ส่ายหน้าเช่นกัน



“อาจจะเป็นคุณหมอ คุณหมอเธอคงแวะมาดูจันทร์กระมัง” อาทิตย์พูดขึ้นมาบ้าง ฝนตกพร่างพรายทำให้เขามองรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างหลังรถเขาไม่ถนัดนัก แต่หากหมอภวัตจะมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเมื่อวันอาทิตย์ นายแพทย์หนุ่มก็มีน้ำจิตน้ำใจมาดูแลจันทร์จ้าวให้ ตามที่ดารารัษมีนำความไปเล่าให้ฟัง



“เอาอย่างนี้ ถ้าคุณหมออยู่ด้วย ดาราจะชวนคุณหมอไปรับประทานข้าวกับพวกเราด้วยดีไหมคะ คุณพิมกับพี่อาทิตย์ไม่ต้องลงจากรถ เดี๋ยวดารากับนภาลงกันแค่ ๒ คนพอ” ดารารัษมีออกความเห็น เพราะฝนเม็ดหนาที่ตกไม่หยุด ขืนลงกันหมดคงเปียกมะล่อกมะแล่กกันพอดี
 


๒ แฝดพากันลงจากรถแล้ววิ่งไปเปิดประตูรั้วเตี้ยเข้าไปในอาณาเขตบ้านเช่าสีเขียวอ่อน โชคดีที่ตัวบ้านกับประตูรั้วไม่ห่างกันเสียเท่าไร ตากฝนเพียงครู่เดียวนภาสรวงและดารารัษมีก็มาหลบฝนที่ชานบันไดขึ้นเรือน รองเท้า ๒ คู่ถอดวางเคียงกันอยู่ที่บันไดชั้นล่างสุด



“สงสัยจะเป็นคุณหมอจริงด้วย นภา” ดารารัษมีออกปาก หล่อนไม่ได้จำรองเท้าของคุณหมอภวัตได้หรอก แต่รองเท้า ๒ คู่ที่ถอดวางอยู่ล้วนเปียกขี้ดิน บอกให้รู้ว่าเจ้าของรองเท้า ๒ คู่เดินตากฝนมาพร้อมกัน



“คงจะหายโกรธกันแล้วกระมัง ก่อนหน้านี้เห็นไม่พูดไม่คุยกันเลย” นภาสรวงพูดพลางยิ้ม ด้วยดีใจที่พี่ชายของหล่อนไม่หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร



๒ สาวไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก แต่ถอดรองเท้าแล้วก้าวเดินขึ้นบ้าน เสียงฝนเม็ดใหญ่ที่ซัดสาดทำให้พวกหล่อนไม่ได้ยินเสียงอื่น จนกระทั่งมาหยุดยืนที่หน้าประตูบ้านซึ่งปิดเอาไว้ ดารารัษมีออกจะประหลาดใจ เพราะนี่ยังไม่ได้ค่ำมากจนถึงกับต้องปิดประตู แต่บางทีอาจจะกลัวฝนสาดจึงงับเอาไว้ หล่อนลองดึงบานประตูดูก็พบว่ามันไม่ได้ลงกลอน



ภายในบ้านเปิดไฟสว่างโร่ แต่ไม่เห็นทั้งจันทร์จ้าวและหมอภวัต ๒ แฝดมองหน้ากันอีกครั้งก่อนจะเป็นดารารัษมีที่นึกเอะใจเดินทะลุไปยังส่วนครัวเล็กและประตูห้องนอน บานประตูห้องนอนนั้นปิดไม่สนิท มันแง้มเพียงเล็กน้อย แต่หญิงสาวมองเห็นร่างสูงสง่ายืนหันหลังให้กับประตู หล่อนจำได้ว่านั่นคือหมอภวัตแม้ว่าเขาจะยืนหันหลังให้หล่อนอยู่ก็ตาม ส่วนจันทร์จ้าวกำลังนั่งอยู่บนเตียงและถูกนายแพทย์หนุ่มบังเสียแทบมิด



“ผมหายไข้ดีแล้วหน่าหมอ” เสียงของจันทร์จ้าวทำให้ดารารัษมีสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ให้มากขึ้นอย่างเงียบเชียบ อะไรบางอย่างดลใจให้หล่อนรู้สึกแปลกประหลาดที่พี่ชายคนรองยอมให้นายแพทย์หนุ่มเข้าไปยืนในห้องนอนด้วย



“ยังไม่หายดีครับ เมื่อกลางวันคุณยังไอให้ผมได้ยินอยู่เลย แล้วเมื่อครู่นี้ก็วิ่งตากฝนเข้ามา บอกให้เอาเสื้อผมคลุมหัวเสียหน่อยก็ไม่ยอม” 



...เมื่อกลางวัน? หมอภวัตพูดเหมือนกับว่าทั้ง ๒ คนเจอกันเมื่อตอนกลางวันอย่างนั้นล่ะ? หรือหมอภวัตจะไปหาจันทร์จ้าวที่สำนักงาน แต่โรงพยาบาลกับสำนักงานไม่ได้ใกล้กันเสียหน่อย...



ดารารัษมีสับสนและฉงน หล่อนหันมองนภาสรวงเหมือนจะตั้งคำถามแต่แฝดพี่ก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจจะให้คำตอบ



“ผมก็แค่ไอนิดหน่อย แล้วที่วิ่งตากฝนก็เพราะเห็นว่าใกล้”



“จะไอนิดหน่อยหรือไอมาก หรือจะเห็นว่าใกล้ก็เลยวิ่งตากฝน ผมก็คิดว่าคุณยังไม่หายดีอยู่ดี ถ้าคุณหายไม่สนิท ผมไม่อนุญาตให้คุณไปตีเทนนิสวันจันทร์หน้านะครับ”



“ไม่เอานะหมอ! ผมจะตีเทนนิส!!”



“อยากตีเทนนิสก็ต้องดูแลสุขภาพครับ เวลานี้ชีวิตของคุณไม่ใช่ของคุณแต่เพียงผู้เดียว เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือว่าต่อจากนี้ชีวิตของคุณ...มีเจ้าของร่วม”



...มีเจ้าของร่วม?...หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าชีวิตของจันทร์จ้าว มีใครอีกคนเป็นเจ้าของร่วมกันอย่างนั้นหรือ? แล้วใครคนนั้นเป็นใคร?!!...ดารารัษมีรู้สึกว่ามือไม้ของตนเย็นเฉียบ อะไรบางอย่างกำลังให้คำตอบแก่ตัวหล่อนเองว่าเจ้าของของจันทร์จ้าวเป็นใคร ทว่าหัวใจของหล่อนไม่ยอมรับมัน



“ถ้าอย่างนั้นเจ้าของร่วมของผมก็มาดูแลผมซี” ภวัตหัวเราะเบาๆแล้วหยอกอย่างอารมณ์ดี



“ผมก็ดูแลคุณอยู่นี่อย่างไรล่ะครับ ไหน...ปากยังซีดอยู่เลย อย่างนี้ยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ...”

 

“ปากซีดไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องหายดีหรือไม่หายดีเลย...” ภวัตไม่ตอบกระไรมีเพียงเสียงหัวเราะ ดารารัษมีเบิกตาโพลง หัวใจเต้นถี่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มร่างสูงที่ที่ยืนหันหลังให้กับหล่อนก้มหน้าลงไปหาคนที่นั่งอยู่บนเตียง

 

“หมอ...นี่เป็นวิธีรักษาปากซีดหรือ?...อ๊ะ...” เสียงของจันทร์จ้าวดังขึ้น และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงของคนทั้งคู่อีก หญิงสาวไม่ได้เห็นเต็มตาว่าทั้ง ๒ คนกระทำสิ่งใด เพราะร่างสูงของภวัตบังเสียแทบมิด สิ่งที่หล่อนมองเห็นคือแผ่นหลังของนายแพทย์หนุ่มที่โน้มตัวลงหาจันทร์จ้าวอย่างใกล้ชิด แต่ทว่าแค่นั้นก็เกินพอแล้ว เพียงแค่นั้น...หล่อนก็ไม่อาจทนมองภาพนั้นต่อไปได้อีก ดารารัษมีรีบเบือนหน้าหนีไปหาพี่สาวแฝดด้วยดวงตาที่สั่นระริก หยาดน้ำเอ่อคลอจนแทบจะหยาดหยดลงบนผิวแก้ม ลมหายใจหอบกระชั้น ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านราวกับจะล้มทั้งยืนในบัดดล!



“ดารา...” นภาสรวงกระซิบแผ่วด้วยความตกใจที่เห็นปฏิกริยานั้น และก่อนที่จะได้พูดอะไร ดารารัษมีก็รีบคว้าแขนพี่แล้วดึงออกจากบ้านในทันที



...นี่ไม่ใช่เรื่องจริง...ภวัตกับจันทร์จ้าว...เรื่องของ ๒ คนนั้นไม่ใช่เรื่องจริง!!!...



................................



ดารารัษมีหยุดยืนที่เฉลียงหน้าบ้านแล้วไอโขลก รู้สึกเหมือนท้องไส้อยากจะขย้อนทุกอย่างออกมา ภาพเมื่อครู่ยังติดตา เสียงของจันทร์จ้าวและภวัตยังติดอยู่ในหู



๒ คนนั้นพูดจาเหมือนเป็นคู่รักกัน!! ๒ คนนั้นกระทำต่อกันราวกับเป็นคู่รักกัน!! ทั้งๆที่...ทั้งๆที่ต่างเป็นผู้ชายทั้งคู่!!...



“ดารา ไหวไหม” นภาสรวงถามน้องสาวด้วยความห่วงใย บีบมือเย็นชืดของดารารัษมีเพื่อให้รู้สึกตัว ทว่าคนเป็นน้องกลับทำได้เพียงส่ายหน้าไปมา น้ำตาไหลพรากด้วยความตื่นตระหนก



“ดารา ไม่เป็นไรนะ...ดารา...ไม่เป็นไร...” ไม่ใช่นภาสรวงคาดเดาไม่ได้ หล่อนอาจจะไม่เห็นในสิ่งที่ดารารัษมีเห็น แต่หล่อนได้ยินทุกอย่างที่ดารารัษมีได้ยิน หล่อนเองก็มีความรัก และหล่อนก็รู้จักจันทร์จ้าวมาตั้งแต่เกิด มีหรือจะไม่รู้ว่าสิ่งที่พี่ชายพูดกับภวัตล้วนอบอวลไปด้วยความรู้สึกเช่นไร



“นภา....พี่จันทร์...พี่จันทร์กับคุณหมอ...” ดารารัษมีพูดไม่ออก หล่อนทั้งหวาดหวั่นและตื่นตระหนก หล่อนไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับรู้ว่าจันทร์จ้าวและภวัตมีความสัมพันธ์กันเช่นนี้ พวกเขาคบหากันตั้งแต่เมื่อไร พวกเขามีความรู้สึกเช่นนี้ต่อกันมานานเพียงไร หล่อนไม่รู้ แต่ที่รู้คือสิ่งที่หล่อนเห็นคือความผิดบาป! เป็นเรื่องผิดประเพณี! เป็นเรื่องที่หล่อนรับไม่ได้!!



นภาสรวงได้แต่ลูบหลังน้องสาว เหลือบตากลับเข้าไปมองในบ้านอย่างหวั่นใจว่าภวัตหรือจันทร์จ้าวอาจจะออกมาพบพวกหล่อน ๒ คนพี่น้อง



“ดาราใจเย็นๆ แล้วเรากลับไปที่รถ อย่าบอกใครเรื่องนี้ เข้าใจไหมดารา” นภาสรวงผู้แสนเรียบร้อย ในเวลานี้จำเป็นต้องเป็นหลักยึดให้น้องสาวที่ยังคงหวาดหวั่นพรั่นพรึง



“แต่...”



“ไม่มีแต่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่จันทร์ เรากลับไปที่รถก่อน แล้วบอกทุกคนว่าพี่จันทร์ยังไม่กลับ พาทุกคนไปจากที่นี่ก่อนที่พี่จันทร์หรือคุณหมอจะออกมา” แฝดผู้พี่บีบมือเย็นราวกับเป็นการออกคำสั่ง ดารารัษมีไม่มีสติพอจะตัดสินใจอะไรได้แล้ว หล่อนถูกจูงลงจากบ้านแล้วพากลับไปที่รถ นภาสรวงเป็นคนบอกอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราว่าจันทร์จ้าวยังไม่กลับ ราชนิกูลสาวแห่งวังฉัตรจึงเสนอให้ทุกคนไปรับประทานมื้อค่ำที่วังแทน



แล้วหลังจากนั้น ดารารัษมีก็ไม่พูดกับใครอีกเลย


............................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 10-12-2015 20:56:35


จันทร์จ้าวกลับมาที่บ้านรักษพิพัฒน์ในเย็นวันศุกร์ โดยได้พี่ชายแวะไปรับจากวังฉัตรเช่นเคย เขาหายไข้เป็นปลิดทิ้งแล้ว เพราะมีคุณหมอมาคอยดูแลทั้งเช้า กลางวัน และเย็น ไม่พลาดยาสักมื้อ ถ้าไม่หายก็คงจะเกินไป




“พ่อจันทร์ไม่มาตั้ง ๒ สัปดาห์ แม่ล่ะคิดถึง ทานข้าวตรงเวลาไหม ถ้างานแยะนักก็ให้คนอื่นทำเสียบ้าง ไม่ต้องเก็บมาทำคนเดียวหรอก เงินทองเป็นของนอกกาย ถ้าอยากได้เพิ่มหรือใช้ไม่พอก็มาบอกแม่ก็ได้” คุณหญิงผกากอดหอมจนชื่นใจก็สั่งยาวเหยียดพลางดึงบุตรชายไปที่โต๊ะรับประทานอาหาร จันทร์จ้าวยิ้มประจบ

 

“ผมเองก็คิดถึงคุณแม่ อยากกลับมาทานข้าวฝีมือคุณแม่สักมื้อ”



“อยากกลับมาก็ให้พี่เขาไปรับ พ่ออาทิตย์ก็แวะไปที่วังฉัตรออกบ่อยไป หรือจะซื้อรถสักที แม่เห็นที่ร้านเขาก็มีรถใหม่มาแล้ว” คุณหญิงผกาว่าอย่างนั้นพอดีดารารัษมีที่เข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในห้องเดินออกมา จึงได้รู้ว่าพี่ชายคนใหญ่และคนรองกลับมาถึงบ้านแล้ว หล่อนเพียงยกมือไหว้แต่ไม่พูดกระไรแล้วเดินลงเรือนไป จันทร์จ้าวมองตามหลังน้องสาวด้วยความแปลกใจ แต่เพราะไม่ได้กลับบ้านมา ๒ สัปดาห์ เวลานี้เขาจึงต้องให้ความสำคัญกับคุณหญิงผกามากที่สุด



มารดาและบุตรชายคนรองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง นภาสรวงจึงเดินนำขึ้นเรือนมาพร้อมกับอาหารเย็น เมื่อถึงตอนนั้นอาทิตย์ที่เข้าไปเปลี่ยนเครื่องแบบก็ออกมาแล้ว และท่านนายพลเดชก็กลับมาถึงบ้านแล้วเช่นกัน อาหารเย็นจึงได้เริ่มต้นขึ้น




ทว่า...แม้อาหารเย็นจะเริ่มแล้ว แต่ดารารัษมีก็ยังผิดแปลกไปจากที่เคย




จันทร์จ้าวเหลือบมองน้องสาวคนเล็ก วันนี้ดารารัษมีไม่พูดกับเขาเสียสักคำ หรือเขาจะทำอะไรให้หล่อนโกรธเคืองอีกหนอ




“ดารา นั่งเงียบเชียว วันนี้นักเรียนดื้อกันหรือ” เป็นฝ่ายพี่ชายคนรองที่ชวนคุย ดารารัษมีเหลือบมองวูบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากตอบสั้น




“ไม่ใช่หรอกค่ะ”



“อ้าว แล้วเป็นอะไรไป” ดารารัษมีอยากบอกความในใจของหล่อนให้พี่ชายรับรู้ว่าหล่อนรู้เห็นเรื่องของเขาและหมอภวัตแล้ว แต่เพราะในโต๊ะยังมีบิดามารดาและอาทิตย์นั่งอยู่ด้วย นภาสรวงเองก็จับจ้องหล่อนราวกับจะไม่ยอมให้หลุดปากเรื่องนั้นออกมา

 

“ดารา...ดาราคิดว่าพี่จันทร์น่าจะกลับมานอนที่บ้านเรา ไปนอนบ้านเช่าคนเดียวไม่เห็นจะดี”




จันทร์จ้าวแปลกใจกับคำพูดของน้องสาว ทว่าก็ยังหัวเราะเบาๆเหมือนเป็นเรื่องขัน



“พูดอะไรน่ะดารา ที่พี่ไปอยู่ที่นั่นก็เพราะสะดวกตามที่เคยบอกอย่างไรล่ะ แล้วพี่ก็กลับมาที่นี่ทุกเสาร์อาทิตย์”



“แต่สัปดาห์ที่แล้วกับสัปดาห์ก่อนนั้นก็ไม่กลับนี่คะ!!” ดารารัษมีพูดอย่างอัดอั้น



จันทร์จ้าวป่วยอยู่ร่วม ๒ สัปดาห์ หล่อนทราบและก็ไปเยี่ยม ตอนนั้นหล่อนพบหมอภวัต และหล่อนก็คิดว่าเขามาเยี่ยมไข้พี่ชายของหล่อนในฐานะหมอและคนไข้เท่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่!! จันทร์จ้าวและภวัตมีความสัมพันธ์เกินเลยกว่านั้น! และการปล่อยให้จันทร์จ้าวอยู่ที่นั่นเพียงลำพังต่อไปจะยิ่งเป็นการทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่แน่นแฟ้นกว่านี้! ไม่มีวัน!! หล่อนไม่มีทางปล่อยให้จันทร์จ้าวทำเรื่องบัดสีเป็นอันขาด!!!!



บุตรชายคนรองของท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาขมวดคิ้วฉับด้วยไม่เข้าใจในท่าทีของน้องสาว ดารารัษมีทราบดีว่าเขาป่วยเลยไม่กลับมานอนที่นี่เพราะไม่อยากให้คุณหญิงผกาเป็นห่วง แต่แล้วทำไมหล่อนจึงยังพูดเช่นนี้




“พี่ติดงาน ก็ทราบแล้วไม่ใช่หรือ” เขาตอบเสียงแปร่งด้วยไม่ค่อยจะพอใจเสียเท่าไร ที่น้องสาวเจ้ากี้เจ้าการเอากับเขา




“ดารา...เรื่องนี้พี่จันทร์เขาตัดสินใจแล้ว” นภาสรวงปรามน้องสาวแฝด แม้ฟังเหมือนหล่อนจะปรามเรื่องที่ดารารัษมีบังคับให้เขากลับมานอนที่บ้านรักษพิพัฒน์ แต่ในความนัยของประโยคนั้น ดารารัษมีทราบดีว่าพี่สาวของหล่อนต้องการจะบอกให้หล่อนปล่อยเรื่องของจันทร์จ้าวและหมอภวัตไปเสีย




ดารารัษมีกะพริบตาเพื่อระงับอารมณ์ของความอัดอั้นที่ล้นปรี่อยู่ในหัวอก ภาพวันนั้นยังฝังจำ เสียงวันนั้นยังดังกังวาลอยู่ในหู ภวัตและจันทร์จ้าวคบหากันเกินเลยกว่าความเป็นเพื่อน...พวกเขาทำเช่นนั้นได้อย่างไร?!! พวกเขาเป็นชายทั้งคู่ แล้วพวกเขาทำเช่นนั้นได้อย่างไร?!!!...



“ดาราอยากให้พี่จันทร์กลับมาสนิทกับพวกเราเหมือนก่อน...” ...และไม่อยากให้สนิทกับหมอภวัตอีกแล้ว...ดารารัษมีพูดได้เพียงเท่านั้น เพราะไม่กล้าพูดต่อในสิ่งที่หล่อนคิด



จันทร์จ้าวหัวเราะเบาๆ แต่เป็นเสียงหัวเราะแปร่งที่เหมือนเขาจะบังคับให้ตนเองหัวเราะเสียมากกว่า



“พี่ก็สนิทกับทุกคนเหมือนเดิม ดาราเห็นว่าพี่ไม่สนิทหรือ เอาอย่างนี้ไหม...ไว้วันไหนว่างๆ เราไปทานข้าวที่เยาวราช ไปดูหนัง ไปทานไอศกรีมกันอีก”



“ถ้าอย่างนั้นเป็นวันจันทร์นี้เลย” ดารารัษมีเสนอแล้วจับจ้องใบหน้าของพี่ชาย จันทร์จ้าวนิ่งไปเล็กน้อย



“วันจันทร์พี่มีนัดตีเทนนิสแล้ว”



“นัดกับใครคะ”



“กับหมอแล้วก็คุณพงศ์” คำว่า ‘หมอ’ ในคำพูดของพี่ชายทำให้ดารารัษมีตัวสั่นสะท้าน



“ดาราอยากดูหนังวันจันทร์!”



“แม่ดารา! พูดอะไรอย่างนั้น! พี่เขาก็บอกแล้วว่าวันจันทร์มีนัดกับคุณหมอและคุณพงศ์ จะให้ยกเลิกนัดได้อย่างไร” คุณหญิงผกาปรามเมื่อธิดาพูดอย่างเอาแต่ใจ ดารารัษมีหันมองมารดา หล่อนอ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่สุดท้ายก็พูดไม่ออก



จันทร์จ้าวจับจ้องใบหน้าน้องสาวที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอัดอั้น อะไรบางอย่างบอกเขาว่าดารารัษมีมีเรื่องคาใจ และเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขา



“ก็ได้...ถ้าดาราอยากดูหนังวันจันทร์ เราก็ไปดูกันวันจันทร์” เขายอมตกปากรับคำ ดวงตากลมใหญ่ยังจับจ้องใบหน้าของน้องสาวคนเล็ก ดารารัษมีเหลือบตากลับมาสบดวงตาของพี่ชาย แต่แค่วูบเดียวหล่อนก็เบือนสายตาลงจดจ่อกับจานข้าว แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้ยินเสียงพูดคุยระหว่างจันทร์จ้าวและดารารัษมีอีกเลย


........................................



ดารารัษมียังคงพฤติกรรมที่แปลกประหลาด หล่อนไม่ใช่ดารารัษมีผู้สดใสและร่าเริงเหมือนเคย จันทร์จ้าวเองก็สงสัยในท่าทีของน้องสาวที่ปฏิบัติต่อเขาบนโต๊ะอาหาร เรื่องที่หล่อนเรียกร้องอยากจะไปชมภาพยนตร์ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การที่หล่อนเรียกร้องอย่างเอาแต่ใจนั่นต่างหากที่แปลกประหลาดเป็นที่สุด




...ต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้น...แต่เรื่องอะไรนั้นเขาไม่ทราบ...




เช้าตรู่วันเสาร์ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งก้าวเท้าลงจากบันไดเรือนแล้วมองลอดเข้าไปที่ใต้ถุน เลยไปยังส่วนครัวทางด้านหลัง ไม้ระแนงที่ตีเว้นห่างเป็นช่องทำให้เขามองเห็นว่านภาสรวงกำลังวุ่นอยู่ในครัวเพื่อทำอาหารให้ทันมื้อเช้า จันทร์จ้าวก้าวเท้าเดินตรงไป เขาหยุดอยู่ที่กรอบประตูแล้วมองน้องสาวหยิบวัตถุดิบใส่หม้อพลางร้องสั่งคนรับใช้เป็นระยะ จนกระทั่งหล่อนหันมาเห็นเขา




“อุ๊ย! พี่จันทร์ มาทำอะไรตรงนี้คะ แล้วทำไมถึงตื่นเช้าอย่างนี้”




“พี่...อยากใส่บาตรน่ะ” นภาสรวงยิ้มบาง หล่อนเองก็มีลักยิ้มเช่นเดียวกับเขาแต่เห็นจะไม่ชัดเท่า




“ถ้าอย่างนั้นใส่บาตรพร้อมนภานะคะ พี่จันทร์ไปนั่งรอที่โต๊ะก็ได้ค่ะ อยากจะรับกาแฟไหมคะ นภาจะชงให้”



“ก็ดี นภาชงแล้วมานั่งคุยกับพี่ด้วยซี” น้องสาวทำหน้าฉงน



“เอ๊ะ?...”



“พี่อยากคุยกับนภาสักหน่อย ในครัวให้คนอื่นทำไปก่อนก็ได้ไม่ใช่หรือ หรือต้องเร่งมือ”



“ก็ไม่เชิงว่าเร่งหรอกค่ะ”



“ดี ถ้าอย่างนั้นพี่จะรอที่โต๊ะตรงนั้น” จันทร์จ้าวว่าอย่างนั้นแล้วเดินไปนั่งรอที่ชุดโต๊ะเก้าอี้ไม่ไกลจากครัวเท่าไรนัก นภาสรวงมองตามด้วยเพราะนึกกังวลว่าสิ่งที่เขาอยากจะพูดคุยกับหล่อนอาจเป็นเรื่องที่ดารารัษมีแสดงปฏิกริยากับเขาเช่นนั้น หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจอย่างหนักอก


.....................................


กาแฟร้อนหอมฉุยถูกวางลงตรงหน้า ก่อนที่น้องสาวจะทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ร่วมโต๊ะด้วย จันทร์จ้าวผู้ขอกาแฟกลับหันมองนภาสรวงแทนที่จะหยิบกาแฟขึ้นมาจิบอย่างที่ขอ



“มีอะไรหรือคะ พี่จันทร์” เป็นฝ่ายน้องสาวที่ต้องเอ่ยปากถามก่อน เพราะจันทร์จ้าวยังจับจ้องหล่อนด้วยสายตานิ่งเฉย



“พี่ต่างหากที่ต้องถาม ว่าใครในบ้านนี้มีปัญหาอะไรกับพี่นัก” เขาทำเป็นถามโยกโย้แต่ก็พอจะจับความไม่สบอารมณ์ในน้ำเสียงได้ว่าชายหนุ่มออกจะหงุดหงิดที่ดารารัษมีทำเป็นเมินเฉยต่อเขา



“ดาราเขาก็แค่...”



“อ้อ แสดงว่าดาราคือคนที่มีปัญหากับพี่ใช่ไหม ดารามีปัญหาอะไร” หญิงสาวมองพี่ชายที่กำลังคาดเค้นขอคำตอบจากหล่อน นภาสรวงถอนหายใจแล้วตัดสินใจพูด



“ดาราทราบแล้วค่ะ...นภาก็ด้วย”



“ทราบ? ทราบอะไร”



“เรื่องพี่จันทร์กับคุณหมอ...”




จันทร์จ้าวนิ่งงันไปโดยพลัน เขาไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องนี้จากปากของน้องสาว ชายหนุ่มเอนหลังพิงพนักด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าเรื่องของพวกเขาจะถูกเปิดเผยไวถึงเพียงนี้ นภาสรวงเห็นใบหน้าพี่ชายซีดเผือดก็รีบพูดต่อเพราะสงสารเขา




“พี่จันทร์อย่าโกรธดาราเลยนะคะ เรื่องมัน...ฉุกละหุก...ดาราไม่ทันเตรียมใจ”




“แล้วนภา?” นภาสรวงนิ่งไปเล็กน้อย หล่อนก้มหน้าลงมองมือที่วางซ้อนกันอยู่บนตัก ความรักของหล่อนก็ไม่ต่างจากเขาเสียเท่าไร จันทร์จ้าวควรจะรักผู้หญิงก็กลับไปรักผู้ชาย หล่อนควรจะรักคนไทยก็กลับไปรักฝรั่ง




“นภา...ตกใจค่ะ แต่...พอคิดว่าไม่ว่าจะเพศอะไร เชื้อชาติใด อายุเท่าไร ความรักก็ย่อมเกิดขึ้นได้ นภาก็พอจะเข้าใจ” ดวงตากลมใหญ่ของคนเป็นพี่มองน้องด้วยความขอบคุณอย่างซาบซึ้ง




“นภาพูดเหมือนคุณพงศ์ อ้อ...เหมือนเรย์ด้วย” หญิงสาวหัวเราะเบาๆด้วยความเขินอาย



“นภาก็ได้ยินมาอีกทีนั่นล่ะค่ะ” หล่อนไม่กล้าเอ่ยว่าได้ยินมาจากเรย์มอนด์ อดัมส์ จันทร์จ้าวมองน้องสาวที่ยังคงกิริยามารยาทเรียบร้อย แต่ก็ดูออกว่าหล่อนอิ่มเอิบและเข้าอกเข้าใจความรักเป็นอันดี



“นภามีคนรักแล้วหรือ...” เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นภาสรวงเป็นผู้หญิงเรียบร้อย แม้จะเป็นแฝดกับดารารัษมีและถูกเลี้ยงมาเหมือนกัน แต่ดารารัษมีกลับเข้าสังคมเก่งกว่า ตรงกันข้ามกับแฝดพี่อย่างนภาสรวงที่มักขลุกตัวอยู่แต่ในบ้าน เพื่อนต่างเพศก็มีแค่ที่สำนักงานเท่านั้น และไม่เคยพามาเที่ยวเล่นที่บ้านเลยสักหน



“ความรักของนภาก็ไม่ต่างจากพี่จันทร์หรอกค่ะ...” หญิงสาวพูดด้วยดวงหน้าเศร้าสร้อย คำว่า ‘ไม่ต่างจากพี่จันทร์’ ทำเอาจันทร์จ้าวชะงักและคิดไกล



“หมายความว่า...คู่รักของนภาเป็น...เอ่อ...ผู้หญิง?...”



“ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่!” หญิงสาวรีบร้องบอกพัลวันหน้าตาตื่น ก่อนจะยอมเผยความจริง “...เขา...เป็น...คนต่างชาติค่ะ...”



คนฟังได้แต่นิ่งด้วยคาดไม่ถึงว่าคู่รักของน้องจะไม่ใช่คนไทย ความรักของเขาว่าเปิดเผยไม่ได้แล้ว ความรักของนภาสรวงก็ยิ่งให้บิดามารดาทราบไม่ได้เป็นอันขาด ตอนที่เขาโกหกมารดาว่าพาเมียแหม่มกลับมาจากอเมริกา คุณหญิงผกายังลมจับ หากนภาสรวงพาคู่รักฝรั่งไปแนะนำตัว คราวนี้คุณหญิงคนต้องพึ่งยาหอม ๓ วัน ๗ วัน




“แล้วไปรู้จักกันได้อย่างไร” นภาสรวงคิดถึงตอนที่หล่อนไปหาพี่ชายที่สำนักงาน วันนั้นทำให้หล่อนได้พบเขา ความเป็นกันเองและความเป็นสุภาพบุรุษทำให้นภาสรวงห้ามใจไม่อยู่ หลังจากนั้นหล่อนและเขาก็พบกันอีกหลายครั้ง บางครั้งเขาเคยแอบมาหาหล่อนที่นี่ด้วยซ้ำ




“ความบังเอิญค่ะ...แต่ถ้าย้อนเวลากลับไป นภาก็ยังอยากบังเอิญได้พบเขาอยู่ดี ถึงจะรู้ว่าการพบกันครั้งนั้นจะทำให้นภากับเขาเป็นเช่นนี้ นภาก็ยังอยากจะพบ...”




“นภาทราบใช่ไหม ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่นภากับคู่รักของนภาจะได้แต่งงาน”




“ทราบค่ะพี่จันทร์ นภาถึงยินดีที่จะอยู่อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ แค่ได้พบหน้ากันบ้าง พูดคุยกันบ้าง แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ”



“แล้วไม่คิดจะรักใครที่แต่งงานด้วยได้หรือ”



“หัวใจคน บังคับไม่ให้โกรธเกลียดใครก็ว่ายากแล้ว บังคับให้รักใครหรือไม่รักใครเห็นจะยากกว่านะคะ”




จันทร์จ้าวมองน้องสาวผู้เรียบร้อย เขาเคยมองว่าหล่อนเป็นคนหัวอ่อนและว่านอนสอนง่าย แต่คำพูดของหล่อนในเวลานี้กลับยืนหยัดและเข้มแข็งราวกับไม่ใช่นภาสรวงคนที่เขาเคยรู้จัก



“ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วย ก็ขอให้บอก” เขาอาสา ถึงแม้จะไม่อาจทำให้ความรักของน้องเป็นที่ยอมรับในสายตาของบิดามารดา แต่เขาก็อยากช่วยเหลือนภาสรวงเท่าที่พอจะทำได้ อย่างน้อยก็เพื่อตอบแทนที่หล่อนเปิดใจยอมรับเรื่องของเขาและหมอ



นภาสรวงมองพี่ชายด้วยสายตาอ่อนหวานและซาบซึ้ง



“ขอแค่พี่จันทร์ไม่รังเกียจ นภาก็ดีใจแล้วค่ะ เอ่อ...ป่านนี้อาหารคงใกล้เสร็จแล้ว นภาขอตัวไปดูในครัวก่อนนะคะ จะได้ใส่บาตรกัน” หญิงสาวลุกจากเก้าอี้กำลังจะเดินกลับไปที่ครัว แต่อะไรบางอย่างดลใจจันทร์จ้าวให้เรียกน้องสาวเอาไว้



“นภา...” เจ้าของชื่อหันกลับมามอง



“เขา…มาจากประเทศอะไร” นภาสรวงนิ่งไปอึดใจ ดวงตาไหววูบยามสบตากับพี่ชายก่อนจะเป็นฝ่ายหล่อนที่เบือนสายตาหนีไปทางอื่นแล้วจึงยอมตอบเสียงแผ่ว



“...อเมริกาค่ะ” แล้วร่างแบบบางก็หมุนตัวเดินกลับไปที่ครัวในทันที ทิ้งจันทร์จ้าวให้มองตามด้วยความแคลงใจ



...คู่รักของนภาสรวงเป็นอเมริกันอย่างนั้นหรือ...


......................................... 



จากที่ว่าควรจะกังวลเพราะดารารัษมีทราบเรื่องของเขาและหมอภวัตแล้ว กลายเป็นว่าจันทร์จ้าวกลับคิดไม่ตกเรื่องของนภาสรวงและคนรักของหล่อนแทน



...คู่รักของนภาสรวงเป็นอเมริกัน...



ไปรู้จักกันได้อย่างไร หรือว่าจะเป็นฝรั่งที่ร่วมหุ้นกับนายเภาเจ้าของบริษัทค้ายาที่นภาสรวงทำงานอยู่? เขาคงต้องลองถามเอาจากหมอภวัตดู หรือบางทีอาจจะตามสืบเองเสียเลยให้สิ้นเรื่องไป


 
หลังจากใส่บาตรอย่างไม่ค่อยจะมีสติเสียเท่าไรจนถูกน้องสาวเอ็ดให้ตั้งใจกรวดน้ำ จากนั้นจันทร์จ้าวก็ตามน้องสาวคนกลางเข้าครัวด้วย แน่นอนว่าเขาไม่มีทางหยิบจับสิ่งใดเป็นชิ้นเป็นอัน นอกเสียจากระรานให้นภาสรวงทำอาหารได้อย่างยากลำบากยิ่งขึ้น ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้น หล่อนก็ใจเย็นและยิ้มแย้มมองความซุกซนของเขาเป็นเรื่องเปิ่น




“มื้อกลางวันนี้จะทำอะไรหรือนภา” เรื่องเปิ่นของเขามีหลายอย่าง อย่างเช่นกันถามถึงมื้อกลางวันทั้งๆที่มื้อเช้ายังไม่รับประทานด้วยซ้ำ นภาสรวงหัวเราะเบาๆแล้วละมือจากหม้อข้าวต้ม หันมามองพี่ชายที่ยืนพิงกรอบประตู




“ข้าวเช้ายังไม่รับ จะถามถึงข้าวกลางวันแล้วหรือคะ”




“ข้าวเช้าอย่างไรก็ข้าวต้ม พี่ทานแต่ข้าวต้มมาหลายวันแล้วนี่ ถามถึงมื้อกลางวันดีกว่า น่าเร้าใจกว่ากันแยะ”



แม้จะเป็นประโยคที่เหมือนไม่มีอะไรนอกจากคำบ่นแต่นภาสรวงก็จับสังเกตได้ หล่อนหยิบกระจาดผักเดินมาที่โต๊ะใกล้ประตูซึ่งจันทร์จ้าวยืนอยู่แล้วเอ่ยปากถามเสียงเบาให้ได้ยินกันเพียง ๒ คน



“ช่วงที่ป่วย คุณหมอหาข้าวต้มให้ทานหรือคะ” คนถูกถามนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะรับคำในคอ



“อือ”



“เขาดูแลพี่จันทร์ดีไหมคะ” คราวนี้จันทร์จ้าวส่ายหัว



“บังคับพี่ทุกอย่าง เวลาจะกินยาทีก็จ้องที ไม่ไหว” นภาสรวงหัวเราะเบาๆแล้วมองพี่ชายอย่างรู้เท่าทัน



“คุณหมอเธอทำบุญมาดี คนอย่างพี่จันทร์ ใครบังคับได้เสียที่ไหน แต่เธอก็ยังเก่งกล้าสามารถบังคับเอาจนได้ แล้วทานข้าวต้มกี่วันคะ”



“ทุกวันน่ะซี!” คนฟังหัวเราะสดใส ไม่ต้องให้หล่อนเดา ก็พอจะนึกออกว่าคนไม่ค่อยจะชอบข้าวต้มอย่างจันทร์จ้าวจะมีสีหน้าเช่นไรยามถูกบังคับให้รับประทานทุกวัน



“หัวเราะอะไรกันคะ?!” เสียงแหวดังมาจากเบื้องหลัง ๒ พี่น้อง ทั้งจันทร์จ้าวและนภาสรวงหันมองแล้วก็พบดารารัษมียืนตีหน้าบึ้งอยู่ใกล้ๆ



   น้องสาวคนเล็กเหลือบมองพี่ชายคนรองด้วยสายตาไม่ชอบใจและอึดอัด ก่อนจะเหลือบไปมองพี่สาวแฝด



   “คุณแม่ให้ดาราลงมาดูว่าอาหารเช้าใกล้เสร็จหรือยัง”



   “ใกล้แล้วล่ะจ้ะ ทุกคนตื่นกันแล้วหรือ” ดารารัษมีพยักหน้ารับไม่พูดกระไร หล่อนเหลือบมองพี่ชายอีกหน มีเรื่องมากมายอยากพูดกับเขาอย่างเช่นเหตุใดเขาถึงเลือกหมอภวัต แต่หากพูดออกไป หล่อนและเขาคงเข้าหน้าไม่ติดอีก สุดท้ายดารารัษมีก็จนใจจะหาคำใดมาพูด หล่อนหมุนตัวกำลังจะเดินกลับไปขึ้นเรือนแต่แขนถูกคว้าไป



   “วันจันทร์ อยากดูหนังเรื่องอะไร” จันทร์จ้าวนั่นเองที่เป็นคนคว้าแขนหล่อนมาถาม




   “เรื่องอะไรก็ได้ที่เข้าใหม่ค่ะ” ดารารัษมีตอบเสียงสั้นห้วน นภาสรวงมองพี่ชายและน้องสาวพูดคุยกันอย่างหมางเมินก็ใจเสีย



   “ถ้าเช่นนั้นพี่จะพาเพื่อนไปดูด้วย” คำว่าเพื่อนของผู้เป็นพี่ ทำให้หญิงสาวหันมองในทันที



   “อ้อ...ดาราให้พี่อาทิตย์ไปรับก็แล้วกัน เพราะวันนั้นพี่จะไปรถของเพื่อนพี่ อาจจะไปถึงช้าหน่อยเพราะเพื่อนพี่ต้องออกจากโรงพยาบาลมารับที่สำนักงาน ถ้าไปถึงก่อนก็รอหน่อยแล้วกัน อยากดูมากนัก พี่ก็ไม่ขัดศรัทธาแล้ว เพราะฉะนั้นก็อย่ามากความให้พี่หงุดหงิด บอกให้รอก็ต้องรอ เข้าใจใช่ไหม”




   “พี่จันทร์จะไปกับใคร?!!!” ดารารัษมีร้องถามตัวสั่นเทิ้ม เรื่องรอไม่ใช่เรื่องที่ทำให้หล่อนสะท้านวาบไปทั้งร่าง แต่เรื่องที่เขาจะไปกับ ‘เพื่อนของเขา’ ต่างหากที่ทำให้หล่อนคาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าพูดอย่างไม่อายฟ้าอายดินเช่นนี้ ท่าทีของน้องสาวที่ทั้งโกรธทั้งเสียใจทั้งตกตะลึงช่างตรงกันข้ามกับท่าทีของจันทร์จ้าวที่ดูจะสบายอกสบายใจ ซ้ำยังยกยิ้มมุมปากกวนโทโสแล้วยักไหล่ทีหนึ่ง



   “มาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องให้พี่อธิบายเพิ่มเติมด้วยหรือ ว่าเพื่อนของพี่คนนี้เป็นใคร?” เขาว่าอย่างนั้นแล้วจึงหมุนตัวเดินผิวปากกลับขึ้นเรือนไป ดารารัษมีจะก้าวตามไปรั้งเขาเอาไว้แต่นภาสรวงคว้าแขนของหล่อนไว้เสียก่อน



   “ดารา...” คนเป็นพี่สาวปราม ดารารัษมีจึงทำได้เพียงเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความอัดอั้น



หล่อนสาบานในอกด้วยความขุ่นแค้น ให้อย่างไรหล่อนก็จะทำให้จันทร์จ้าวเลิกกับหมอภวัตให้จงได้!!!!



ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


   ขอตอบคำถามจากเม้นท์คราวที่แล้วก่อน มีคนถามเรื่องคำว่า “ยังไร” อันนี้บัวเห็นในปริศนา หรือเจ้าสาวของอานนท์ สักเรื่อง ที่ใช้คำว่า “ยังไร” แทนคำว่า “อย่างไร” ค่ะ น่าจะเป็นการย่นเสียงให้สั้นลง ในปัจจุบันก็คงจะผันเสียงมาเป็น “ยังไง” ที่เราใช้กัน บัวเห็นมันแปลกดีก็เลยใช้ตามจ้ะ เหมือนคำว่า “อ้าย” ที่บัวใช้แทน “ไอ้” ก็ด้วยค่ะ อันนี้ตั้งใจใช้เลย

   จะบอกว่าดราม่าเรื่องนี้กรุบกริบมากจริงๆ นิสัยคุณจันทร์เปรี้ยวซะขนาดนี้ ไม่มีอะไรทำคุณจันทร์ได้หรอก ส่วนงานคืนความสุขให้หมอ รอหน่อยนะ บัวพิมพ์ถึงตอนนั้นแล้ว ได้อ่านแน่ แต่คงเป็นปีหน้า ฮ่าฮ่า

   ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนรอ กำลังใจและพื้นที่บอร์ดค่ะ

   เจอกันพฤหัสหน้าค่ะ

ป.ล. ให้ทาย...ดารารัษมีคู่ใคร?????
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-12-2015 21:16:44
ดาราคู่คุณพงศ์มั้ยยยยย หรือคุณเภา งืมมม
จันทร์เปรี้ยวมากจริงๆ ใครจะขวางนางได้
ว่าแต่คุณหมอไปศึกษาวิธีมารึยัง เรารอดูอยู่ 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-12-2015 21:20:33
ดารานี่ต้องคุณพงศ์ 55555
เป็นพ่อสื่อให้จันทร์มาแล้ว ก็มาทำหน้าที่เกลี้ยกล่อมน้องสาวด้วยอีกคนไปเลย

ขอบคุณพี่บัวนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 10-12-2015 21:24:05
#ทีมจันทร์เจ้า สู้ๆ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 10-12-2015 21:25:36
ความรักย่อมมีอุปสรรค แต่คนอย่างจันทร์คงเห็นเป็นเรื่องสนุก 5555 รอพฤหัสหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 10-12-2015 21:33:57
นิสัยแบบนี้
ดารารัษมีคู่กับเภาน้องคุณหมอแน่ๆ
โบราณว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น
ฟันธง!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: little_pig ที่ 10-12-2015 21:36:18
คุณเภาป่าวคะ
จันทร์เจ้าสู้ๆ อย่ายอมแพ้นะ :a2: :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 10-12-2015 21:43:40
#ทีมจันทร์  :katai4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 10-12-2015 21:45:09
ชอบคุณสกาย เอ้ย  คุณนภาค่ะ  เธอดูเป็นคนเข็มแข็ง

/// ขอบคุณคุณนักเขียนด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-12-2015 21:49:08
นึกว่าจะดราม่าน้ำตาแตกซะแล้ว แหม ระดับจันทร์จ้าวซะอย่าง เอาอยู่อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 10-12-2015 21:54:55
ทำไมดารา คิดแบบนี้ล่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 10-12-2015 21:55:23
ดารานี่คงเป็นตัวแปรให้พิสูจน์รักรอบก่อนเจอทัพใหญ่ไฟนอล
ขัดขวางไปขัดขวางมา ระวังสุดท้ายจะเชียร์ออกนอกหน้าที่สุดนะ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: หลิว ที่ 10-12-2015 22:02:12
อย่างน้อยก็ไม่ได้แม่หญิงเลวมาเป็นพี่สะไภ้นะคะคุณดารารัษมี   
ดารารัษมีคู่คุณพงศ์รึเปล่า  :z2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 10-12-2015 22:06:46
น้องนภาน่ารักจังค่ะ

ชอบโมเม้นตอนพี่จันทร์กับน้องนภาคุยกัน ดูอบอุ่นดีค่ะ

คุณจันทร์นี่ก็แก่นเซี้ยวจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 10-12-2015 22:17:23
อย่ามาม่านานนะคะ ^^
รองานคืนความสุขให้กับคุณหมอนะคะ  :hao7:

ดารารัษมีคู่กับคุณพงษ์รึเปล่า //เดาสุดๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 10-12-2015 22:19:32
#ทีมจันทร์จ้าว ของเขาแรงจริงๆ

แต่เริ่มผวาแทนเรย์แล้วนะ ถ้าจันทร์จ้าวรู้เรื่องเรย์แล้วก็ออมๆมือให้เรย์หน่อยละกัน เดี๋ยวนภาลำบากใจเลือกข้างไม่ได้ ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 10-12-2015 22:21:29
ตอนแรกนึกว่าจะมีดราม่าหนักๆระหว่างพี่น้อง 5555 แต่ด้วยนิสัยจันทร์ชนะเลิศทุกสิ่งจ้า
ขอทายว่าดาราต้องคู่กับเภา ฟันธง 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 10-12-2015 22:21:45
 :katai2-1: เป็นไงคะคุณแม่ กลัวได้สะใภ้แบบไม่ดีมา คุณจันทร์เลยจัดลูกเขยเข้าบ้านแทนเลย  :m4:
 คุณดาราคะเจ้ของเตือนอย่าแตะคุณหมอของคุณจันทร์เชียวนะ หึหึ  o18
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 10-12-2015 22:22:00


   ตอนแรกคิดว่า เรื่องลับๆ ของคุณหมอ กะ จันทร์จ้าว นี้  จะดราม่า มากมาย 

  แต่ นภาสรวง คนดี ทำให้ เรื่องนี้คลี่คลายไปได้อย่างดี  #ปลื้มปริ่ม

  ชอบ  Scene นี้ มากกกก :กอด1:   " แผ่นหลังของนายแพทย์หนุ่มที่โน้มตัวลงหาจันทร์จ้าวอย่างใกล้ชิด "


     :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

  ลุ้นๆๆๆ  ตอนหน้า  หมอภวัต ปะทะ ดารารัษมี วันจันทร์ที่ไปดูหนังกัน

  ให้อย่างไรหล่อนก็จะทำให้จันทร์จ้าวเลิกกับหมอภวัตให้จงได้!!!   :serius2:

 

 ขอเดา...   น้องดารารัษมี คนเก่ง ต้องได้คู่คนดีๆ อย่างคุณพงษ์ สิครับ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 10-12-2015 22:23:25
 :L2: มอบรางวัลให้นภาค่ะ ความคิดลูกดีงามมาก

ดาราเข้าใจพี่จันทร์หน่อยสิ เรื่องความรัก มันห้ามกันได้ที่ไหน

อย่างดาราต้องคู่กับใครเนี่ย นายเภารึป่าว คงเป็นคู่ที่เปิ๊ดสะก๊าดน่าดูชม

รอพฤหัสหน้าค่ะ /รอฉากคืนความสุขให้หมอภวัตด้วย

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-12-2015 22:28:21
นภาเข้าใจพี่จันทร์ดีเพราะหัวอกเดียวกันสินะ แต่ยังไงๆตามความรู้สึกแล้วสถานการณ์ของนภาน่าจะดีกว่าอยู่หน่อยๆ
ส่วนดารา...อืม คู่ใครดีล่ะ คุณพงษ์(ผู้แสนดี) หรือ คุณเภา(จอมเพลย์บอย) เอาไว้ต้องรอดูต่อไป
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 10-12-2015 22:28:50
ขอให้ดาราได้คุณเภาไปเลยยย
5555
พี่จันทร์นี่ตัวท็อปเลย เค้าชอบมากกกกก
อะไรก็ไม่เท่าการท้าทายพี่จันทร์ละนะ

งานคืนความสุขให้คุณหมอมาปีหน้า
งั้นขอคืนความสุขให้พี่จันทร์ก่อนน้าาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 10-12-2015 22:35:08
อืมม แปลกนะทั้งๆที่ดาราเป็นสาวสังคมแท้ๆถึงแม้ว่าเรื่องทำนองนี้มันจะไม่ค่อยมีให้เห็นแต่ก็ไม่น่าจะใจแคบขนาดนี้นะ น่าจะฟังความจากพี่มากกว่ามาทำโมโหตะพึดตะพือโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่พี่ชายแบบนี้ ไหนจะเรื่องที่จะทำให้เขาเลิกกันอีกมันดีแล้วเหรอดาราถ้าคิดจะทำงั้นอะ กับจันทร์เราไม่ห่วงเท่าไหร่เพราะคิดว่าคงรับมือน้องตัวเองได้กลัวแต่หมอจะคิดมากนี่แหละ ถ้าให้ทายว่าดาราคู่ใครทีแรกก็คิดว่าน่าจะกับเภาแต่หลังจากที่อ่านตอนนี้แล้วเห็นอคติที่ดารามีต่อเรื่องพี่ชายตัวเองแล้ว เราว่าน่าจะคู่คุณพงษ์นะงานนี้คงต้องให้คุณพงษ์ช่วยชี้ทางสว่างเปิดตาเปิดใจให้ดาราซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mhhong95 ที่ 10-12-2015 22:36:17
 :impress3: เเซ่บอย่างคุณจันทร์นี่ท่าจะไม่มีอะไรสะทกสะท้านนะ ห่วงก็เเต่หมอผู้รักษาภาพลักษณ์ รีบๆศึกษาหลังจากขั้นตอนการจูบสิคะ คุณจันทร์เเกรอ(เสียตัว)อยู่
 :ling1:
 :ling1:
 :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 10-12-2015 22:37:21
ใครก็ได้ที่ไม่ใช่เภา....แต่ถ้าเป็นท่านชาย ก็ว่าดี เผื่อจะได้โตขึ้นกว่านี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 10-12-2015 22:43:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 10-12-2015 22:43:59
ไหนๆ ทุกอุปสรรคของคู่นี้ก็ได้คุณพงษ์ช่วย
อุปสรรคอย่างดารา ก็ให้คุณพงษ์มาจัดการ แล้วก็คู่กันไปเลยละกัน5555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 10-12-2015 22:57:15
ดารารัษมี น่าจะคู่กับนายเภา ไม่ก็ คุณพงษ์ นะ เพราะ ดูท่า เรื่องนี้ คิวปิดนามว่า คุณพงษ์ต้องลงมือเองอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 10-12-2015 22:58:54
อุปสรรคมาอีกด่านให้คุณหมอกับจันทร์เจ้าฝ่าฟันอีกแล้ว สู้ ๆ นะทั้งคู่ ผ่านด่านนี้ก็เหลือด่านพ่อแม่ ทั้งสองคนคงไม่หนีตามกันไปฮ่องกงนะ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 10-12-2015 23:00:43
ดาราดราม่าอะไรเราไม่สน
เราสนฉากในห้องนั้นน   :-[  เค้าจุ๊บๆกันด้วยยย
เป็นวิธีรักษาปากซีดที่แจ่มมากเลยหมอ  :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 10-12-2015 23:05:00
จันทร์จ้าว ผู้ชนะสิบทิศ
แพ้ให้คุณหมอคนเดียวจริงๆสินะ  :a14:
ท่าทางงานนี้ดาราต้องประสาทเสียไปกับการไล่ตามพ่อพี่ชายคนรองแน่ๆ
แค่คิดก็ปวดหัวแทน  o6 :laugh3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 10-12-2015 23:12:38
ดาราคะ ไม่เอาค่ะ อย่าสร้างความร้าวฉานเด็ดขาด ไม่งั้นจะโดนมิใช่น้อย  :angry2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 10-12-2015 23:13:29
เอ.. เกลียดอย่างไหนได้อย่างนั้น
สงสัยดาราจะได้กับคุณเภาซะละมั้ง



กอดจันทร์คนเก่ง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 10-12-2015 23:20:34
คิดว่าคุณจันทร์เธอจะกลัว ที่ไหนได้เปรี้ยวใส่ซะงั้น  :katai2-1:
คุณหมอกับคุณจันทร์หวานใส่กันเราก็แฮปปี้แล้วค่ะ อ่านไปเขินไป  :-[
ขอเดาว่าดารากับนายเภาค่ะ ดาราเองก็ไม่น่าจะใจร้ายอะไร
หวังว่าดราม่าคงไม่ได้บานปลายนะคะ มันบีดหัวใจคนอ่านจริงๆค่ะ
ยังไงก็ยังรอช่วงคืนความสุขให้คุณหมอแบบเต็มรูปแบบค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-12-2015 23:25:45
ถ้าลองดาราได้มีความรักเหมือนกับพี่ๆ ทั้งสามคนดูบ้าง ดาราจะเข้าใจได้ด้วยตัวเองนะคะว่าบางครั้งเหตุผลก็ไม่อาจอยู่เหนือหัวใจไปได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 10-12-2015 23:29:16
คนอย่างจันทร์จ้าวหรือจะหนี มีแต่จะพุ่งเข้าชน ดารารัษมีจะทำอะไรได้ จันทร์มีพวกเยอะกว่าเห็น ๆ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 10-12-2015 23:36:58
มั่นใจว่าคุณจันทร์เอาอยู่  o13

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 10-12-2015 23:51:40
หนอยๆๆๆ คิดจะทำให้เขาเลิกกัน น้องนุ่งคุณจันทร์ฉันก็ไม่ให้อภัยหรอกนะ
แค่นี้ทำอะไรจันทร์ไม่ได้อยู่แล้ว 5555 ดาราเข้าทางหมอแน่เลย สตรองไว้นะคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 10-12-2015 23:52:20
มาม่านี้น่าจะยังไม่เครียดเท่าไร แต่ต่อไปซิ ด่านพ่อแม่ จะยิ่งกว่านี้ไหม แต่ถ้าผ่านอุปสรรคนี้แล้วก็มีแบล็คอัพให้จันทร์จ้าวกับคุณหมออีกเยอะเลย

ดาราน่าจะคู่กับเภานะ เดาเอาล้วนๆ จากสิ่งไหนได้สิ่งนั้น 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 10-12-2015 23:57:58
พุทโธ่คุณหมอ ต้องรอถึงปีหน้าเชียวหรือ

งั้นช่วงนี้ก็ศึกษาทฤษฎีไปพราง ๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 11-12-2015 00:03:03
นี่ถ้าพี่อาทิตย์กับคุณพิมรู้นะ  ต้องอยู่ฝ่ายจันทร์จ้าวเเน่เลย  แต่คนเปรี้ยวอย่างจันทร์จ้าวเอาอยู่อยู่แล้วอะ  พวกไม่เยอะก็เคลียร์ได้    ชอบอะ มียกยิ้มมุมปาก 55555555 ดารานี่อึดอัดอกจะเเตกแล้วมั้ง


ขอทายว่าดาราคู่เภาค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 11-12-2015 00:06:25
“ถ้าอย่างนั้น...ก็โปรดตระหนักเอาไว้เสมอ...ว่าคุณมีเจ้าของแล้ว +attack200%
ตายน่ะซี......
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 11-12-2015 00:09:06
ดารารัษมีต้องคู่กับนายเภาแล้วคับ วันๆจะได้คอยกังวัลแต่เรื่องวุ่นๆของนายเภาอย่างเดียวจะได้ไม่มีเวลามาวุ่นเรื่องคุณจันทร์กับหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 11-12-2015 00:42:41
น่าสงสารจันทร์กับหมอจัง  รู้สึกใจเสีย :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 11-12-2015 00:46:22
ที่นภาเข้าใจส่วนนึงอาจเป็นเพราะคนรักเป็นฝรั่งที่พ่อแม่นั้นอาจยังไม่ยอมรับ ขอให้ผ่านไปให้ได้ๆ อดทนรอพฤหัสหน้า TwT
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 11-12-2015 00:48:03
อ่าว น้องดาราทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 11-12-2015 00:56:41
โอ้ยดาราอย่ามาเยอะ
นิสัยแบบนี้ขึ้นคานไปเหอะะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 11-12-2015 01:03:10
ดาราคู่เภาแน่เลยอ่ะ ดูท่าทางร้ายๆแสบๆแบบนี้ถึงจะปราบพยศนายเภาได้อยู่หมัด
แต่แอบสงสารคุณพงศ์นะคะถ้าเป็นแบบนั้น ไม่อยากให้คุณพงศ์ไร้คู่เลย T _____ T

ส่วนเรื่องของคุณจันทร์กับหมอนี่ทำเอาผิดคาดมากเลยนะคะ ตอนแรกนึกว่าดาราจะช่วยซะอีก กลับเป็นรับไม่ได้และขัดขวาง
ส่วนนภาเองก็แสดงความมั่นคงออกมาได้น่านับถือหัวใจเธอจริงๆค่ะ สมแล้วที่มีแฟนน่ารักแบบเรย์นะคะ ^^
ตอนที่สามพี่น้องบวกคุณพิมพ์จะไปเยี่ยมจันทร์นี่เราใจหายวาบเลย แล้วสุดท้ายก็โดนไปเต็มๆ แถมช็อตเด็ดด้วยสิ ; ;
คุณจันทร์เธอแอบร้ายเอาเรื่องนะคะ 5555555555 ไม่มีหวั่นแม้น้องสาวจะต่อต้าน พามาเปิดตัวซะเลย!
อื้อหือ สมเป็นคุณจันทร์ผู้เอาแต่ใจเกินกว่าใครจริงๆค่ะ แทบอยากให้สวนเลยด้วยซ้ำว่าเรื่องรถไม่ต้องแล้วเพราะพี่มีคนรับส่ง 55555555

รอตอนต่อไปนะคะ ไม่รู้ถ้าคุณหมอรู้เรื่องแล้วจะเป็นยังไงบ้างสิ ; _ ; .. แอบเป็นห่วงเบาๆค่ะเพราะรายนั้นดูจะติดกรอบอยู่เยอะกว่า
เป็นกำลังใจให้คุณบัวเช่นเคยค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 11-12-2015 01:34:04
นั่นสิ...จันทร์จ้าว...ผู้ที่กำหนดทุกสิ่งอย่างให้หมุนรอบตัวเอง!!!

เปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน.....!!!!

รอตอนหน้าค่ะ...
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-12-2015 02:32:50
คุณจันทร์นี่ไม่มีใครโค้นได้สินะ 555+ ยกเว้นหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 11-12-2015 02:54:34
เอ ชักอยากจะเห็นตอนที่จันทร์รู้ว่าหนุ่มอเมริกาที่นภารักเป็นใครแล้วสินี่5555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 11-12-2015 05:14:34

ขอเม้าท์หน่อยค่ะว่า ไม่ได้เชียร์ให้ผู้หญิงในนิยายได้เป็นแฟนผู้ชายมาหลายปีแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในรอบหลายปีเลย ส่วนตัวเชียร์ดารากับคุณพงศ์นะคะ แต่ไม่รู้จะพลาดเหมือนคู่คุณนภาหรือเปล่า   :katai3:

รอตอนต่อไปค่ะ  เป็นกำลังใจให้นะคะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 11-12-2015 05:17:52
ดาราต้องคู่คนมีเหตุผลเข้าใจโลกอย่างคุณพงษ์ถึงจะดี
คุณพงษ์น่าจะช่วยให้เหตุผลดีๆและทำให้ดาราเข้าใจได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 11-12-2015 06:46:36
ดาราคู่กับคุณเภา ชัวร์!! ฟันทิ้งค่ะ!  ว่าแต่มาม่าพอกรุบกริบจริงๆนะคุณบัว อย่าหลุดคอนเซบต์พีเรียดสีลูกกวาดน้าาา เอาใจช่วยทั้งคู่นภาและจันทร์จ้าวจ้า มาลุ้นกันว่ากว่าจบแบบhappy ending. ยาหอมที่วังจะพอชงให้ขุ่นหญิงแม่ไหมน้า? :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 11-12-2015 07:00:21
งานเข้าแล้วจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 11-12-2015 07:29:28
ขอทายว่าดารารัษมีคู่กับคุณเภา  คุณหมอน่าจะส่งน้องชายมาเป็นทัพหน้าคอยขัดดารารัษมี 555
ตอนหน้าสนุกแน่ๆ อยากเห็นว่าคุณหมอกับจันทร์จะแก้เกมม์ยังไง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 11-12-2015 07:58:20
ทยอยมาทีละคู่ :mew1: :mew1:
จันทร์ชอบ ใครจะทำอะไรได้  :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 11-12-2015 07:59:05
แฮชแท็ก ทีมจันทร์เจ้า ค่ะ บอกเลยว่าถ้าไม่ใช่คุณจันทร์นี่ต้องดราม่าหนักหน่วงแน่นอน  o7
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 11-12-2015 08:05:19
ไม่ค่อยจะอยากอ่านแนวพีเรียดเพราะแบบนี้เลยอ่ะ
เมื่อก่อนรับอะไรแบบนี้ไม่ได้กัน สงสารอ่ะ เห้อ! ขอถอนหายใจอีกที เห้อ!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-12-2015 09:18:10
จันทร์สู้ๆนะต้องผ่านไปได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: FRA. ที่ 11-12-2015 10:17:02
พึ่งมาอ่านคือชอบภาษามากสวยสุดๆ ฮืออออ
ติมตามเรื่อยๆเลยนะคะ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 11-12-2015 10:44:09
คนไม่มีความรักไม่มีวันเข้าใจค่ะถ้าจะให้ดาราเข้าใจและยอมรับเธอจะต้องรู้จักความรักซะก่อน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 11-12-2015 11:05:23
มีคนรู้จนได้นะ แต่ก็อย่างว่าแหละ ความลับไม่มีในโลก
อย่างน้อยนภาก็ยังเข้าใจ :mew1:

พี่จันทร์ก็อย่าลืมเข้าใจน้องบ้างนะ อิอิ

คิดว่าดารารัษมีน่าจะคู่กับเภามั้ย?

แบบเอาแต่ใจอ่ะ น้องคนเล็กด้วย  :hao3:

รอตอนต่อไปปปปป :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 11-12-2015 11:28:37
สมกับเป็นคุณจันทร์เจ้าขา      ของป้าจริงๆ






เมื่อรู้ว่าหลบไม่ได้   ก็   หันหน้าสู้  พาคุณหมอไปดูหนังด้วยเลย






แถมบอกให้นั่งรถพี่อาทิตย์ไป เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ให้ พาพี่อาทิตย์ไปด้วย






จะได้แนะนำกันซะแต่ทีเดียว  คุณจันทร์เจ้าขา  สุดยอดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: caramely ที่ 11-12-2015 12:05:29
 :laugh3:   สมกับเป็นคุณจันทร์ อ่านมาเหมือนจะดราม่านะ แต่สุดท้ายคุณจันทร์ก็คือคุณจันทร์  :laugh3:
ช่วงนี้นางท็อปฟอร์มจริงๆ  คุณดารารีบยอมรับซะเถอะ เดี๋ยวจะอกแตกตายซะก่อน 
คุณจันทร์ใครก็บังคับนางไม่ได้หรอกนอกจากหมอ  :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 11-12-2015 12:36:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 11-12-2015 13:16:41
ให้รู้กันไปเลยว่าจันทร์หรือดาราใครจะแน่กว่ากัน
แต่อย่าลืมจันทร์ไม่ยอมอะไรทั้งนั้น
ลองดูกันซักตั้ง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 11-12-2015 13:24:59
ถ้าหากว่ามองตามความสมจริงสมจังแล้วเราว่าอาการที่ดารารัษมีรับไม่ได้นั้นเป็นเรื่องที่ปกติสามัญมากๆ   อย่าลืมสิว่านี่คือย้อนกลับไป 50-60++ ปีนะคะ

เรื่องการผิดจารีตนั้นเป็นอะไรที่รับกันไม่ได้จริงๆ   ผู้คนยังถือเรื่องวิปริตผิดเพศอย่างมากๆ  เอาง่ายว่าบ้านไหนมีลูกสาวที่พลาดท่าให้ผู้ชายยังอับอายขายหน้าชาวบ้านจนแทบอยู่ไม่ได้   แล้วรักเพศเดียวกัน + รักข้ามเชื้อชาติอีก

เราไม่รู้ว่าคนเขียนตั้งใจจะให้สมจริงขนาดไหน   ท่าทางคู่คุณจันทร์กับนภาอาจจะไม่ได้อยุ่เมืองไทยก็เป็นได้นะ    ขนาดคู่คนรู้จักที่มีรักเพศเดียวกันยังต้องไปอยุ่ฮ่องกงเลย   ในสมัยนั้นเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันแพร่หลายมาก   คู่รักอังกฤษก็เห็นมีย้ายไปตั้งรกรากที่ยุโรป อเมริกา  ฝั่งอื่นของโลก  เพื่อกันความเสียหายให้แก่ครอบครัววงศ์ตระกูล

ถ้าหากว่าดาราจะสามารถเปลี่ยนใจมองความรักของคนอื่นในสายตาที่กว้างกว่านี้ เราก็เชียร์ให้ดาราคู่กับคุณพงษ์  แต่ถ้าหากว่าดารายึดติดกับความคิดแล้วก็คอยหาเรื่องหมอกับพี่ชายก้ขอให้ดาราได้กับเภา  เพราะว่าเภาเป็นตัวอย่างด้านร้ายๆของผู้ชายไทยในสมัยนั้น  เรื่องเจ้าชุ้ มีหลายบ้านมีแน่นอน  ถึงเราจะเวทนาดาราที่จะเจอชีวิตคู่แบบนี้ก็เถอะ  แต่ดาราอาจจะเกลียดเภาไปเลยนะ เพราะว่าเป็นน้องหมอไง

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ค่ะ   ขอโทษที่เวิ่นเว้อตามเดิม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 11-12-2015 14:26:42
แหมๆๆๆๆแม่ดารา จ้องจะทำลายความรักของคนอื่นเพื่อความสบายใจของตัวเอง  :katai1:
ก็ขอให้หล่อนไม่สมหวังในความรัก ผิดหวังซ้ำๆซากๆ โดนคนอื่นแย่งคนรักไปต่อหน้าต่อตาบ้างเถอะ สาธุ  :call:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 11-12-2015 16:40:32
นิสัยแบบนี้ ดาราคงได้คู่กับเภา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 11-12-2015 17:40:53
จันทร์จ้าวสู้ๆนะ แต่อิชั้นก็หวั่นใจกับภวัตนะเนี้ยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 11-12-2015 18:05:56
ดารากลายเป็นคนเข้าใจยากซะงั้น ปกติก็ร่วมมือกับพี่เป็นอย่างดี

มาคราวนี้ออกตัวแรงเลย หมอกับจันทร์จ้าวจะทำยังไง

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 11-12-2015 18:36:54
คุณจันทร์วางแผนอะไรหรือเปล่าค่ะเนี่ย?
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 11-12-2015 19:01:14
จันทร์มันร้ายยย 555
หมอภวัตทำเราเขินอีกแล้วว  :-[
ชักหงุดหงิดดาราแล้วแฮะ -*-
แต่ถ้าให้เดานะ คิดว่าคู่กับเภาอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 11-12-2015 20:39:43
ถ้าคุณจันทร์เดินหน้าแล้วคงไม่มีใครขวางเธอได้หรอกมั้ง
ส่วนน้องดาวของคุณจันทร์สงสัยจะคู่คุณเภาซะล่ะมั้ง ก็เขาว่า เกลียดอย่างไหนมักได้อย่างนั้นนี่นะ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnon04 ที่ 11-12-2015 22:01:10
หนูดาราน่าจะคู่กับนายเภา เกลียดแบบไหน ต้องได้แบบนั้นค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: รุ่งนภา ที่ 11-12-2015 22:06:33
   แหม~~~~~~ คุณบัวบอกปีหน้า เหมือนนานจัง55555   :hao7: :hao7: :hao7:จะรอค้าาาาา


                           :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: สำหรับนิยายสนุกๆอีกเรื่องค่ะ อิฉันจะรอซื้อเก็บ :impress2: :impress2: :impress2:



                    ปล.  แอบจิ้นว่าคุณจันทร์  เป็นยศ พลาธร  แล้วคุณหมอ เป็น คุณเทพ ณ.มาลัยสามชายอ่ะงือออออ

ออ :a5: :a5: :a5: :a5:   พี่กัปตัน VS เฮียก้อง  o22 o22 o22 o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-12-2015 22:11:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 12-12-2015 07:32:57
ดารากะคุณเภาไปเลย  ถ้าทำให้เรารักได้เมื่อไหร่จะให้คู่กะคุณพงศ์ เชอะ ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 12-12-2015 12:21:16


นั่นปะไร! (ตบเข่าฉาด)
ว่าแล้วว่าจะต้องมีตัวละครที่เป็นตัวแทนของคนในยุคนั้นมาแสดงความคิดเห็นต่อความรักของคุณหมอกับพ่อจันทร์
แต่ดูลาดเลาจากปฏิกิริยาของพ่อจันทร์แล้ว อีป้าหายห่วงค่ะ วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
จะเหลือก็แต่น้องแฝดคนสุดท้องกับคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่ายนี่แหละที่จะคิดเห็นเช่นไรกัน

เป็นกำลังใจให้คุณจันทร์กับคุณหมอฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้โดยเร็วนะคะ
เรานี่นับวันรอให้คุณบัวเยียวยาความเจ็บช้ำใจของคุณหมอจากฤทธิ์เดชของคุณจันทร์ช่วงก่อนหน้านี้อย่างใจจดจ่อเลยค่ะ วะฮ่า ฮ่า ฮ่า (หื่นตลอด ๆ ไม่มีวันหยุดราชการ)



หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 13-12-2015 20:55:00
 :เฮ้อ:

รอดูว่าจะแก้ปัญหากับน้องดาราอย่างไร

ชอบคุณหมอ

รอตอนต่อไปนะคะ

  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 13-12-2015 21:05:26
เข้ามาอ่านรอทุกวันเลยยยย 5555555 ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 13-12-2015 21:47:41
ตอนแรกนึกว่าดาราจะเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ แบบรับได้ขอแค่พี่ชายมีความสุขอะไรอย่างนี้
นี่อะร๊ายยย กลายเป็นนภาต่างหากที่ยอมรับและเข้าใจได้ง่ายๆ
จันทร์จ้าวกับคุณหมอต้องสู้ๆนะคะT.T
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Theshadowreader ที่ 14-12-2015 01:01:27
จะมีดราม่า จากดาราไหม?
ชอบที่จันทร์จ้าวซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเองดี
ภาวนาให้ความรักของทุกคู่มีความสุข
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: G_sharp ที่ 14-12-2015 16:21:54
ตอนน้องๆรู้เรื่องป่วงมากเลย
แต่ก็มีโมเมนท์พี่น้องดีๆระหว่างจันทร์กับนภา ชอบมากก
คนที่ปราบดาราได้ก็น่าจะมีแต่คุณพงศ์นะ
รอตอนต่อไปคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 14-12-2015 16:39:45
ไหนดาราว่าจะช่วยเรื่องความรักกับจันทร์ให้เต็มที่ไง ยังไม่ถึงไหนก็ออกอาการเสียแล้ว
ไม่อยากให้ได้คุณพงศ์อ่ะ รู้สึกหวง ยกให้ตาเภาไปแทนแล้วกัน ท่าทางจะนิสัยคล้ายๆกัน 555+
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 17-12-2015 15:42:21
มารอคุนหมอค่าา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 17-12-2015 18:30:04
 :mew6:มารอคุณหมอค่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 17-12-2015 18:36:38
มารอค่าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 17-12-2015 19:09:51
 :hao3: มารอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: chibi ที่ 17-12-2015 20:15:40
รอจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 17-12-2015 20:38:01
มารอค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-12-2015 20:43:17
วันพฤหัสแห่งชาติมารอจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 17-12-2015 20:43:23
มารอค่า :call:

จันทร์เท่ห์มากเลยยย ชอบๆๆ :heaven
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 17-12-2015 20:44:57
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๑๕



   เย็นวันจันทร์ตามนัดหมาย อาทิตย์แวะรับนภาสรวงก่อนแล้วจึงไปรับดารารัษมีและหม่อมหลวงพิมพัชราที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี จากนั้นจึงตรงไปยังโรงภาพยนตร์ตามที่นัดกับจันทร์จ้าวผู้ซึ่งจะไปกับ ‘เพื่อน’ ดารารัษมีร้อนใจ หล่อนไม่อยากให้พี่ชายคนรองอยู่กับ ‘เพื่อน’ ของเขามากนัก เวลานี้หล่อนยอมให้เขาไปเที่ยวเล่นกับพวกผู้หญิงเลวๆยังจะดีเสียกว่า



   ทันทีที่รถจอดที่หน้าโรงภาพยนตร์ ดารารัษมีก็แทบจะกระโจนตัวออกมายืนสอดส่ายสายตาหาพี่ชายคนรอง อาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราออกจะงุนงงกับท่าทางของดารารัษมี มีเพียงนภาสรวงคนเดียวที่ได้แต่ลอบถอนหายใจกับท่าทีของน้องสาว



   “ไม่เห็นจะมีพี่จันทร์...” น้องสาวคนเล็กเปรยด้วยใบหน้าหงุดหงิดและเป็นกังวล



   “เข้าไปดูข้างใน บางทีจันทร์อาจจะมาแล้ว” อาทิตย์แนะนำ และแทบจะทันทีที่ดารารัษมีรีบสาวเท้าเข้าไปในโรงภาพยนตร์



   โถงชั้นล่าง มีผู้คนมากมาย ทั้งคนที่มาดูรอบที่แล้ว และคนที่รอดูรอบถัดไป มองไปทางใดก็เห็นแต่กลุ่มคน เสียงพูดคุยดังให้ลั่น แต่มองอย่างไรก็ยังไม่พบจันทร์จ้าวเสียที ดารารัษมีหงุดหงิด หรือบางทีพี่ชายของหล่อนอาจจะพลิกลิ้น?



   “มากันแล้วหรือ กำลังรออยู่พอดี”



เสียงที่หล่อนจำได้ดีดังขึ้นเบื้องหลัง หญิงสาวรีบหันไปมองแล้วก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเห็นเพื่อนของเขา



   “สวัสดีทุกคน สวัสดีครับคุณพิม” จันทร์จ้าวหันไปส่งยิ้มให้หญิงสาวผู้เป็นคู่รักของพี่ชาย แล้วจึงพูดต่อ



   “วันนี้เห็นทีจะต้องซื้อตั๋วยาวกว่าทุกที สมาชิกเราเยอะไปหน่อย นี่เพื่อนผมครับ คุณวินิต ส่วนนายฝรั่งนั่นเรย์มอนด์ อดัมส์” นอกจากนายวินิตและเรย์มอนด์ อดัมส์ที่จันทร์จ้าวแนะนำให้ทุกคนรู้จักแล้ว เพื่อนที่เขาพามาด้วยยังมีหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและหมอภวัต



   ...กลายเป็นว่าเพื่อนที่เขาว่าจะพามาด้วยมีถึง ๔ คนด้วยกัน!!...



   “ส่วนนี่หม่อมหลวงพิมพัชรา น้องสาวคุณพงศ์ เรย์กับคุณวินิตคงยังไม่เคยเจอกระมัง” จันทร์จ้าวแนะนำหญิงสาวผู้เป็นคู่รักของพี่ชายตนให้เพื่อนทั้ง ๒



   “กับคุณพิม ผมเคยเจอแล้ว ไปรับน้องสาวที่โรงเรียน ๒-๓ ครั้งได้ น้องสาวผมเป็นนักเรียนในชั้นของคุณพิม ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ” นายวินิตเห็นผู้หญิงสวยก็เป็นต้องโอ้โลมแต่พองาม ครั้นกวาดสายตาไปยังสมาชิกคนอื่นเขาก็พบว่ายังมีอีก ๒ สาวที่งามไม่แพ้ราชนิกูลสาว



   “ส่วนนี่นภาสรวงกับดารารัษมี น้องสาวแฝดของผมเอง เรย์กับคุณวินิตก็คงยังไม่รู้จักอีกเช่นกัน” จันทร์จ้าวยังเป็นคนแนะนำ เรย์มอนด์เพียงค้อมศีรษะแล้วเงียบ แต่นายวินิตยังพูดไม่หยุด



   “นี่ก็ได้ยินชื่อจากคุณจันทร์เหมือนกัน แหม้! คุณจันทร์นี่โชคดีเป็นบ้า! คู่รักของพี่ชายก็งาม น้องสาวก็งาม ชีวิตนี้ได้อยู่แต่กับคนงามๆ มิน่า ไม่ยักเลือกคู่เสียที คงจะไม่รู้หาใครมางามเท่าคนรอบตัวแล้วล่ะซี”



   “คุณวินิตพูดถูก ชั่วชีวิตผมอยู่แต่กับสตรีงาม ลองไม่ได้อยู่กับสตรีงามดูสักครั้ง ก็เห็นจะเป็นชีวิตที่ไม่จืดชืด จริงไหม”



“คุณจันทร์พูดอย่างกับว่าจะเลิกสนหญิงงามแล้ว”


“ก็แน่ซี ทำอะไรใหม่ๆดูบ้าง น่าสนุกจะตาย” จันทร์จ้าวพูดแล้วเหลือบสายตามองน้องสาวคนเล็กอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่นายวินิตยังคงไม่รู้เรื่องใด เขาหัวเราะสนุกสนาน


“คุณจันทร์จะเลิกสนหญิงงาม แต่หญิงงามเห็นทีจะไม่เลิกสนคุณจันทร์กระมัง เมื่อครู่นี้ตอนเราเจอกันที่หน้าโรงภาพยนตร์ ผมเห็นผู้หญิงมองตามหลังคุณจันทร์ใหญ่ เอ? หรือมองคุณหมอก็ไม่ทราบ เล่นเดินคู่กันมาอย่างนี้ กินกันไม่ลง!” จันทร์จ้าวยกยิ้ม แต่ไม่โต้ตอบกระไร ทว่าแค่เหลือบไปมองสีหน้าอันโกรธแค้นเคืองขุ่นของน้องสาวคนเล็ก เขาก็พอจะทราบดีว่าดารารามีไม่พอใจเพียงไรที่ได้ยินว่าเขามาพร้อมหมอภวัต แต่...ดารารามีไม่พอใจแล้วเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้หล่อนพอใจอย่างนั้นหรือ? ไม่มีทาง



“ถ้าเช่นนั้น คราวหน้าหมอช่วยทำหน้าตาอัปลักษณ์ด้วย สูสีกับผมทุกเรื่องอย่างนี้ก็แย่ คนอื่นเขาจะคิดเอาได้ ว่าเราน่ะ...เนื้อคู่” จันทร์จ้าวหันไปพูดกับภวัตแล้วหัวเราะเสียงลั่น นายวินิตและคนอื่นๆก็พลอยหัวเราะไปด้วย เพราะคิดเอาว่าจันทร์จ้าวปากไวตามนิสัย แต่ที่เห็นจะไม่หัวเราะเหมือนคนอื่นก็คือดารารัษมีที่ตัวสั่นเทิ้ม และนภาสรวงที่ได้แต่กระตุกแขนน้องสาวเพื่อไม่ให้โวยวายก่อเรื่อง


“ปากแกนี่มันจริงๆเลยจันทร์ ไปซื้อตั๋วหนังกับกันดีกว่า ให้คนอื่นๆรอตรงนี้” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรชักชวน ไม่ได้เห็นความผิดปกติของ ๒ แฝดแต่ประการใด ถึงแม้เขาเองจะรู้เห็นความสัมพันธ์ของจันทร์จ้าวและหมอภวัต แต่คำพูดเมื่อครู่นี้ ฟังอย่างไรก็เข้าใจว่าเพื่อนรักของเขาเพียงหยอกเล่นเท่านั้น


๒ หนุ่มเดินแยกไปซื้อตั๋วภาพยนตร์รอบถัดไปแล้ว ปล่อยให้คนอื่นๆยืนคุยอยู่ที่เดิม และเมื่อนั้นภวัตถึงได้สังเกตว่าดารารัษมีจับจ้องเขาด้วยสายตาที่ผิดแปลกไปจากเคย นายแพทย์หนุ่มนึกอยากถาม แต่ไม่ทันได้พูดกระไร จันทร์จ้าวและราชนิกูลหนุ่มก็เดินกลับมาพร้อมตั๋วภาพยนตร์เสียแล้ว

.............................................



   ดารารัษมีไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ชายของตนทำ เขายังคงคบหากับเพื่อนๆของเขา เมื่อครู่นี้ก็เห็นทักทายแม่ผู้หญิง ๒-๓ คนที่บังเอิญเจอก่อนเข้าชมภาพยนตร์ ทั้งๆที่เขาเองก็คบหากับนายแพทย์ภวัตอย่างผิดประเพณีเช่นนั้น แต่...แต่เขาก็ยังเป็นจันทร์จ้าวคนเดิมที่หล่อนเคยรู้จัก หญิงสาวลอบมองพี่ชายด้วยความสับสน ภาพยนตร์เมื่อครู่ที่เข้าไปชม หล่อนไม่ได้สนใจเลยแม้แต่นิด เพราะเอาแต่คิดแต่เรื่องของพี่ชายคนรองและนายแพทย์หนุ่ม จนกระทั่งออกจากโรงมา หล่อนก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าภาพยนตร์เมื่อครู่คือเรื่องอะไร



   “หลังจากนี้เราไปหาอะไรทานกันสักหน่อยดีไหม” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเสนอเมื่อทั้งหมดออกมาจากโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์เข้าใหม่ไม่เป็นที่ถูกใจเขาเสียเท่าไร แต่เห็นแก่ว่าเพื่อนรักชวนให้มาเป็นเพื่อน เขาจึงยอมตามใจ หันไปดูหน้านายวินิตและเรยมอนด์ อดัมส์ ๒ คนนั้นก็ไม่ค่อยจะสนุกเช่นกัน ส่วนหมอภวัตนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะจะสนุกหรือไม่สนุกก็เห็นจะยิ้มจางเฉกเช่นทุกที



   “นภากับคุณพิมไปเข้าห้องน้ำ รอสาวๆตัดสินใจซี” จันทร์จ้าวเอ่ย แต่ที่เห็นจะไม่ปล่อยให้เขาคลาดสายตาเลยแม้แต่นิดก็คือดารารัษมี ที่เมื่อครู่นั่งประกบเขาด้วยซ้ำ



   “ผมขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่” จู่ๆนายฝรั่งเพียงคนเดียวของกลุ่มก็ขอตัวขึ้นมาแล้วเดินหนีออกไปอีกทาง จันทร์จ้าวมองตามด้วยความสงสัย อะไรบางอย่างบอกเขาว่าวันนี้เรย์มอนด์ อดัมส์ทำตัวพิกล แต่กระนั้นเขาก็มองไม่ออกว่าความพิกลของเพื่อนรักชาวต่างชาติผู้นี้คืออะไร ตั้งใจจะตามไปดูพฤติกรรมอื่นๆให้หายสงสัย แต่แขนถูกรั้งเอาไว้เสียก่อน



   “แกช่วยคิดก่อนซี ว่าจะไปทานที่ไหนดี” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดแล้วยึดแขนไว้แน่น



   “ก็ผมบอกแล้วว่ารอสาวๆ”



   “ก็รอตรงนี้ จะเดินไปที่ไหนล่ะ” จันทร์จ้าวมองตามเพื่อนชาวต่างชาติ แต่แผ่นหลังของเรย์มอนด์หายลับไปกับฝูงชนแล้ว เขาจึงตัดใจแล้วหันกลับมาที่เพื่อนราชนิกูลแทน หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเสนอชื่อร้านอาหารออกมา ๒-๓ ชื่อ พอดีกับที่หม่อมหลวงพิมพัชราและนภาสรวงเดินกลับมาจากห้องน้ำ จากนั้นอีกครู่หนึ่งเรย์มอนด์ก็ตามมา



   “ไปนานจริงเรย์ ไปห้องน้ำแน่หรือ” จันทร์จ้าวตั้งคำถาม เรย์มอนด์อึกอัก เขาไม่รู้จะพูดอย่างไรก็เป็นหม่อมหลวงพงศ์ภราธรช่วยแก้สถานการณ์อีกหน



   “นานอะไรกัน ไม่เห็นจะนานสักหน่อย เป็นว่าสาวๆจะไปรถคุณอาทิตย์ ส่วนพวกผมก็ไปด้วยกันเหมือนเดิม แล้วเราไปเจอที่ร้านอาหาร คุณอาทิตย์พอจะรู้จักร้านใช่ไหม”



   “พี่อาทิตย์ไม่ทราบหรอกค่ะ พี่จันทร์มากับพวกเราด้วยจะดีกว่า” ดารารัษมีแย่งพูดอย่างรวดเร็ว จันทร์จ้าวเบือนสายตาไปมองน้องสาวแล้วยกยิ้มจางที่มุมปาก



   “ให้คุณวินิตไปนั่งกับพี่อาทิตย์ก็แล้วกัน พี่ต้องนั่งเป็นเพื่อนหมอ คุณวินิต ผมฝากด้วย แล้วเจอกันที่ร้านอาหาร” ว่าแล้วจันทร์จ้าวก็หันไปพูดกับเพื่อน นายวินิตพยักหน้ารับอย่างยินดีก่อนจะเดินออกจากโรงภาพยนตร์ ตามด้วยหม่อมหลวงพงศ์ภราธร เรย์มอนด์ และหมอภวัต จันทร์จ้าวรั้งท้ายสุด จึงถูกดารารัษมีดึงแขนเอาไว้ด้วยความไม่พอใจ



   “ทำไมพี่จันทร์ต้องนั่งเป็นเพื่อนคุณหมอด้วย คุณพงศ์กับคุณเรย์มอนด์ก็อยู่”



   “ดารา...ต้องให้พี่ย้ำยังไร ดาราจึงจะเข้าใจว่าทำไมพี่ถึงนั่งรถหมอ ดาราต้องการให้พี่พูดตรงนี้ไหม ว่าเพราะเหตุใด” ดารารัษมีมองพี่ชายที่ย้อนถามหล่อนเสียงแข็งด้วยความตกตะลึง แน่ล่ะ...หล่อนไม่อยากได้ยินคำพูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ใดๆของจันทร์จ้าวและหมอภวัตทั้งนั้น เพราะแค่ที่หล่อนรู้สึกตอนนี้ก็สะอิดสะเอียนมากพออยู่แล้ว


   ดวงตากลมใหญ่มองดวงหน้าของน้องสาวที่จับจ้องเขาด้วยความตกตะลึง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วทิ้งท้ายเอาไว้ให้น้องสาวแทบทรุดลงไปกองกับพื้น



   “ถ้าใจไม่แข็งพอ คราวหลังอย่าถามอีก เพราะครั้งต่อไป...พี่จะพูดให้ดาราเข้าใจว่าพี่กับหมอ...เราเป็นอะไรกัน!!”



...................................................



   ไม่ใช่ภวัตไม่รู้เห็นถึงความผิดปกติ วันนี้ เดิมทีเขา จันทร์จ้าวและหม่อมหลวงพงศ์ภราธรนัดไปตีเทนนิสด้วยกันที่สโมสร แต่จู่ๆจันทร์จ้าวก็ขอเปลี่ยนนัดกะทันหัน จากตีเทนนิสเป็นการมาดูภาพยนตร์แทน พ่วงด้วยพี่น้องรักษพิพัฒน์อีก ๓ คน น้องสาวของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรอีก ๑ คน และนายวินิตกับเรย์มอนด์ อดัมส์ หนำซ้ำไปกว่านั้น เมื่อตอนมาโรงภาพยนตร์ เจ้าตัวบอกให้เขาเป็นคนมารับ ทั้งๆที่จะติดรถไปกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ย่อมได้ แล้วนับตั้งแต่มาถึงที่นี่ ภวัตก็รู้สึกเหมือนว่าเขาจะถูกดารารัษมีจับจ้องเป็นพิเศษ



   “คุณไม่เป็นอะไรแน่นะครับ คุณจันทร์” หลังจากชมภาพยนตร์เสร็จแล้ว พวกเขาตั้งใจจะไปรับประทานอาหารกันต่อ จันทร์จ้าวอาศัยรถคันเดียวกับเขาเพื่อไปร้านอาหาร แทนที่จะไปกับ ๓ พี่น้องของตน เรื่องนี้ก็ผิดแปลกเป็นอย่างที่ ๒



   “ไม่เป็นไรหรอกหมอ หมอเถอะ...เมื่อครู่นี้ดูรู้เรื่องไหม” จันทร์จ้าวตอบแล้วตั้งคำถามไปถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่พวกเขาเพิ่งดูเมื่อครู่ ซึ่งไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เขาชอบเอาเสียเลย แค่นักแสดงนำก็ไม่ใช่คนโปรดแล้ว



   “รู้เรื่องสิครับ คุณล่ะ”



   “ไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย ไปตีเทนนิสกับหมอยังสนุกกว่า แต่จะเลือกอะไรได้...นี่น่ะรายการคุณขอมา ยายดาราเกิดอยากดูกะทันหัน พวกผู้หญิงชอบนักล่ะ หนังแบบนี้ ผมไม่เห็นจะชอบเลย ดูแล้วจะหลับทุกที”



   “แสดงว่ามาดูหนังแบบนี้บ่อย...” ภวัตหันมาถามด้วยรอยยิ้มรู้ทัน พอถูกหยอก บรรยากาศรอบตัวก็ดูเหมือนจะผ่อนคลายลง เรื่องที่บาดหมางกับน้องสาวจึงค่อยจางไปจากใจ



   “ก็...ผู้หญิงชอบ ผมมันก็พวกตามใจผู้หญิงด้วยน่ะซี” จันทร์จ้าวตอบอ้อมแอ้ม ก่อนจะรับรู้ถึงความอุ่นร้อนที่มือของตนเมื่อถูกอีกฝ่ายยื่นมือมากุม ภายใต้ความมืดสลัวภายในรถ ดวงตากลมใหญ่เหลือบไปมองคนขับรถที่ละมือข้างหนึ่งมากุมมือเขาเอาไว้



   “จากนี้ไป ไม่อนุญาตให้ตามใจผู้หญิงคนอื่นแล้วนะครับ”



   “ไม่อนุญาตให้ผมตามใจใคร แล้วมีใครจะตามใจผมไหม” ถูกกอบกุมมือทั้ง ๒ ข้างจนเริ่มเขิน แต่กระนั้นก็ยังปากเก่งหันไปตั้งคำถามด้วย ภวัตหันมายิ้มจาง ดวงตาพราวระยับ



   “มีสิครับ ผมนี่ไง จะทั้งตามใจและขัดใจคุณเอง” คำว่า `ขัดใจ’ ที่นายแพทย์หนุ่มใส่เข้ามา ทำเอาคนฟังถึงกับหัวเราะสดใส ลืมความรู้สึกกดดันที่มีต่อน้องสาวผู้ซึ่งรู้เรื่องของพวกเขาแล้วอย่างสิ้นเชิง



   “หมอน่ะขัดใจผมอย่างเดียวน่ะซี ก่อนหน้านี้ก็บังคับผมทานแต่ข้าวต้มอย่างเดียวตั้งกี่วัน บอกแล้วว่าไม่ชอบก็ยังจะบังคับอยู่ได้ ดีแต่ขัดใจ ไม่เห็นจะตามใจสักนิด” ภวัตได้แต่ยิ้ม



   “ถ้าผมตามใจคุณทุกเรื่อง คุณก็เหลิงแย่ซีครับ”



   “หมอก็ลองตามใจผมทุกเรื่องดูก่อนสิ จะได้รู้ว่าผมจะเหลิงไหม” คนหัวไวเสนอ ภวัตหัวเราะเบาๆแล้วหันมามองดวงหน้าขาวในความสลัวของรถยนต์



   “ไม่ได้ครับ ตามใจคุณทุกเรื่องนอกจากคุณจะเหลิงแล้ว ผมก็จะเหลิงด้วย เพราะติดใจการตามใจคุณ คราวนี้คงไม่กล้าขัดใจอีก ให้ผมขัดใจคุณอย่างนี้ไปเรื่อยๆจะดีกว่า แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอกครับ เวลาผมขัดใจคุณ ไม่ใช่ว่าขัดใจคุณแค่คนเดียว แต่ผมก็ขัดใจตัวเองเหมือนกัน เพราะใจผมอยากตามใจคุณมากกว่าจะขัดใจนะครับ” เป็นประโยคแสนยาวที่คนฉลาดอย่างจันทร์จ้าวเข้าใจความหมายเป็นอันดี และเพราะเข้าใจความหมายดี จึงทำได้แต่ผินหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถยนต์แล้วตอบกลับไปเสียงเบา



   “ถ้าหมอยืนยันว่าตอนขัดใจผม หมอก็ขัดใจตัวเอง ผมก็...จะยอมให้หมอขัดใจผมเรื่อยๆก็ได้...”



   ภวัตไม่ตอบกระไร เขาอมยิ้มกับตนเอง แล้วเมื่อรถวิ่งเลยเสาไฟเข้าสู่ความมืด เขาก็ดึงมือขาวที่กุมเอาไว้ขึ้นมาแตะเบากับริมฝีปากของตน พอรถยนต์วิ่งเข้าสู่แสงสว่างจากเสาไฟข้างถนนอีกครั้ง ก็มีแค่จันทร์จ้าวที่นั่งอมยิ้มกับกระจกรถยนต์ฝั่งตนเอง ส่วนภวัตขับรถด้วยมือทั้ง ๒ ที่กำพวงมาลัยพร้อมด้วยการอมยิ้มไปตลอดทางเช่นกัน


.................................................


   พอมาถึงร้านอาหาร แม้จะแยกกันมารถยนต์คนละคัน แต่ทุกคนก็มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน จันทร์จ้าวยังคงทำตัวเป็นปกติเหมือนที่เคย เขายังคงเป็นจุดศูนย์กลางของวงสนทนาเหมือนที่แล้วมา ดารารัษมีจับจ้องพี่ชายคนรองทุกการกระทำ แต่ทุกการกระทำของเขาไม่มีครั้งไหนเลยที่จะทำให้หล่อนพะอืดพะอม เขายังคงพูดคุยกับทุกคนอย่างเป็นกันเอง หมอภวัตก็เช่นกันที่ยังคงสุภาพและมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้าเสมอ



   ๒ คนนี้ไม่ได้ปฏิบัติต่อกันประหนึ่งภาพที่หล่อนเคยเห็นเมื่อครั้งนั้นเลยแม้แต่นิด...



   ...หรือครั้งนั้นหล่อนจะเข้าใจผิด...ครั้งนั้นอาจเป็นการเป็นเข้าใจผิดของหล่อนเองก็ได้...



   “ยังไม่นอนอีกหรือดารา”



เสียงดังขึ้นเบื้องหลัง ดารารัษมีละสายตาจากท้องฟ้าที่พร่างพรายไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ พวกหล่อนกลับมาถึงบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์เมื่อตอนที่ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้หล่อนมีสอนที่โรงเรียน แต่แม้จะค่อนคืน ดารารัสมีก็ยังนอนไม่หลับ จึงออกมาเดินเล่นชมดาวอยู่ที่ชานเรือน



   “นภาก็ด้วย” หล่อนเอ่ยปากเสียงแผ่วเมื่อพี่สาวแฝดเดินเข้ามายืนใกล้



   “กำลังจะไปนอนแล้ว แต่เห็นดาราเสียก่อน เป็นอะไรไปหรือ”



   “บางที...ดาราอาจเข้าใจพี่จันทร์กับคุณหมอผิด พี่จันทร์ก็ยังคบหากับเพื่อนๆ บางทีนะนภา...บางทีพี่จันทร์กับคุณหมออาจจะไม่ได้...” ดวงตากลมของน้องสาวที่จับจ้องนภาสรวงบอกให้รู้ว่าดารารัษมีต้องการใครสักคนสนับสนุนความคิดนี้ของหล่อน



   ...ความคิดที่ว่า จันทร์จ้าวกับหมอภวัตไม่ได้เป็นคนรักกัน...



   แฝดพี่ถอนหายใจเบาแล้วกุมมือน้องเอาไว้



   “นภาเคยถามพี่จันทร์แล้ว...เรื่องพี่จันทร์กับคุณหมอ”



   “แล้วพี่จันทร์ว่ายังไร?!!”



   “พี่จันทร์ไม่ตอบอะไร ดูเธอก็เหมือนจะยอมรับว่าคบหากับคุณหมอเช่นนั้นจริง”



   “ไม่จริงหรอก! นภาลองถามอีกครั้งซี!!”


   “ดารา...ถามแล้วได้อะไร ถามแล้วความสัมพันธ์ของคุณหมอกับพี่จันทร์ก็ไม่เปลี่ยนหรอก”



“อาจจะเปลี่ยนก็ได้นี่! วันนี้นภาไม่เห็นหรือ?! พี่จันทร์ยังทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เห็นจะเปลี่ยนไปเลยสักนิด! ที่พี่จันทร์พูดจายั่วโมโหดารา ก็คงแค่เพราะอยากทำให้ดาราหงุดหงิด พี่จันทร์น่ะชอบเอาชนะออกจะตายไป! เธอคงอยากเอาชนะดาราให้ได้! ก็เลยกุเรื่องพวกนี้ขึ้นมา!!”


ท่าทางร้อนรนของดารารัษมีและเฝ้าย้ำอยู่เสมอว่าจันทร์จ้าวอาจจะโกหกความสัมพันธืของตนเองและหมอภวัต ทำให้นภาสรวงได้แต่ปลงตก


“ดารา...ตั้งสติหน่อยสิ พี่จันทร์อาจจะชอบเอาชนะ แต่จะมีใครเอาชนะคนอื่นด้วยการกุเรื่องเช่นนี้”


“แต่...”


“แล้วที่พี่จันทร์ทำวันนี้ ที่พี่จันทร์พาเพื่อนๆนอกเหนือจากคุณหมอมาด้วย เธอคงอยากให้ดาราเห็น ว่าเธอก็ยังเป็นพี่จันทร์คนเดิม ไม่ว่าเธอจะรักใครชอบใคร พี่จันทร์ก็ยังเป็นพี่จันทร์ ยังมีเพื่อนๆทั้งผู้ชายและผู้หญิง ยังสนุกสนานและมีความสุข นภาคิดว่าพี่จันทร์ทำตัวดีขึ้นเสียด้วยซ้ำ เดี๋ยวนี้ไม่ยักส่งสายตาให้ผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว”



   “ดารายอมให้พี่จันทร์ส่งสายตาให้หญิงชั่วยังจะดีเสียกว่า!”



   “ดารา...” นภาสรวงได้แต่ครางด้วยความอ่อนใจ


   “นภาคอยดูแล้วกัน ดาราจะทำให้พี่จันทร์กลับมาเป็นคนเดิมให้ได้!” ดารารัษมีประกาศก้องแล้วหมุนตัวจะเดินกลับเข้าห้องพักผ่อนส่วนตัวแต่เสียงของนภาสรวงดังขึ้นเสียก่อน



   “กลับมาเป็นคนเดิมแล้วอมทุกข์ หรือเป็นอย่างที่เป็นในวันนี้แล้วมีความสุข ดาราอยากให้พี่จันทร์เป็นอย่างไหนหรือ”


น้องสาวแฝดหันกลับมามองคนพูด นภาสรวงไม่พูดกระไรต่อ หล่อนหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องของตนเองแล้วทิ้งดารารัษมีเอาไว้กับประโยคสุดท้ายที่ราวกับกัดกร่อนกินหัวใจของน้องสาวคนเล็กแห่งบ้านรักษพิพัฒน์


.....................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 17-12-2015 20:45:21


แม้จะถูกพี่สาวเตือนสติ แต่ดารารัษมีก็ไม่อาจอยู่เฉยได้ เที่ยงของวันต่อมา หล่อนจึงออกจากโรงเรียนสตรีกัลยาณีมายังสำนักงานของพี่ชายคนรอง ทว่าสายเกินไปเพราะจันทร์จ้าวออกไปแล้ว



   “พี่จันทร์ออกไปกับใครคะ แล้วทำไมคุณพงศ์กับคุณเรย์มอนด์ถึงไม่ไปด้วย” หล่อนตั้งคำถามด้วยใบหน้าขึงขัง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเห็นท่าไม่ดีเพราะพนักงานหลายคนที่กำลังจะไปพักกลางวันอาจจะมาได้ยินเข้าพอดี



   “คุณดาราเชิญทางนี้ก่อนดีกว่าครับ” เขาเอ่ยปากแล้วพาน้องสาวของจันทร์จ้าวเข้าไปรอในห้องทำงานเล็กที่บัดนี้เจ้าของห้องออกไปรับประทานอาหารกลางวัน ไม่ต้องถามว่าไปกับใครเพราะช่วงนี้สารถีของจันทร์จ้าวมีเพียงคนเดียว



   “ว่าอย่างไรคะ?! พี่จันทร์ออกไปทานข้าวแล้วทำไมคุณพงศ์ไม่ไปด้วย?!”



   “ผมไม่ได้อยากไปทานร้านเดียวกับจันทร์นี่ครับ”



   “แล้วพี่จันทร์ไปกับใคร” ดูจากท่าทีโกรธขึงของหญิงสาว หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็คาดเดาเอาว่าดารารัษมีอาจจะสงสัยในความสัมพันธ์ของจันทร์จ้าวและหมอภวัต เพราะเมื่อวานนี้ตอนไปชมภาพยนตร์ หล่อนก็จ้องพี่ชายของหล่อนเขม็ง



   “ไปกับคุณหมอครับ”



   “คุณพงศ์ไม่ควรปล่อยให้พี่จันทร์ไปกับคุณหมอ!”



   “ทำไมครับ” ราชนิกูลหนุ่มย้อนถาม ทำเอาดารารัษมีนิ่งงัน หล่อนจับจ้องเพื่อนสนิทของพี่ชายด้วยเพราะไม่ทราบว่าอีกฝ่ายทราบเรื่องของจันทร์จ้าวและหมอภวัตแล้วหรือยัง หากพูดไปแล้วกลายเป็นว่าหม่อมหลวงพงศ์ภราธรไม่ทราบมาก่อน จะกลายเป็นหล่อนเองที่นำเรื่องเสียหายของพี่ชายไปตีฆ้องร้องป่าว



   “ผมไม่เห็นว่าการที่จันทร์กับคุณหมอจะไปไหนมาไหนจะเป็นเรื่องเสียหาย...”



   “คุณพงศ์พูดเช่นนั้นเพราะคุณพงศ์ไม่ทราบเรื่องของพวกเขาน่ะซี!” ดารารัษมีร้องออกมาอย่างเหลืออด



   “เหตุใดจะไม่ทราบล่ะครับ ในเมื่อผมคือคนกลางของ ๒ คนนั่น” หญิงสาวหันขวับมองคนพูดโดยพลันด้วยความตกตะลึง



   “คุณพงศ์หมายความว่าอย่างไร”



   “ผมเป็นคนสนับสนุนให้จันทร์คืนดีกับคุณหมอ และผมคือคนที่แนะนำให้เรย์ไปรักษาไข้หวัดที่โรงพยาบาลใกล้บ้านคุณ เผื่อว่าจะได้เจอคุณหมอ และก็เป็นไปตามคาด คุณหมอภวัตเป็นคนรักษาเรย์ และได้ทราบว่าจันทร์ไม่สบาย ที่ ๒ คนนั่นกลับมาคุยกันอีกครั้งก็เพราะผมนี่ล่ะครับ”



   “คุณพงศ์ทำอย่างนี้ทำไม?!! คุณพงศ์ก็ทราบว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกต้อง!!”



   “ถ้าคุณเป็นผม ได้เห็นได้รับรู้ว่าจันทร์ทุกข์แค่ไหนตอนที่เขากับคุณหมอทะเลาะกัน คุณจะลืมความถูกต้องทั้งหมดที่ว่ามา” ดารารัษมีพูดไม่ออก หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองหญิงสาวด้วยความเวทนาและเห็นใจ แต่ให้อย่างไรเขาก็เห็นใจจันทร์จ้าวมากกว่า



   “กรุณาคิดถึงความรู้สึกของจันทร์ด้วยเถอะครับ อย่าคิดถึงหลักเหตุผลนักเลย” เขากล่าวได้เพียงเท่านั้นแล้วจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานเล็กไป ดารารัษมีได้แต่ทรุดกายลงนั่งกับเก้าอี้ด้วยความรวดร้าว


................................................


   ตอน ๑๓ นาฬิกา จันทร์จ้าวกลับเข้ามาในสำนักงานอีกครั้ง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเป็นคนบอกเพื่อนรักว่าดารารัษมีมารออยู่ตั้งแต่เที่ยง เขาเห็นเพื่อนถอนหายใจทีหนึ่ง หน้าตาหงุดหงิดเหลือประมาณจนราชนิกูลหนุ่มได้แต่ตบไหล่เบา จันทร์จ้าวไม่พูดกระไร เดินเลยไปยังห้องทำงานของตน เขาเปิดประตูเข้าไป ดารารัษมีนั่งรออยู่จริงตามที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรว่า



   “วันนี้ไม่มีสอนหรือ” เขาเป็นคนเอ่ยทักแล้วปิดประตู น้องสาวหันมองก่อนจะตอบเสียงขื่น



   “ดาราวานให้เพื่อนครูสอนแทนค่ะ”



   “อ้อ คงมีธุระด่วนมากสินะ ถึงกับต้องฝากเพื่อนสอนแทน” คำพูดของจันทร์จ้าวทำเอาดารารัษมีจ้องเขาเขม็ง ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่



   “พี่จันทร์ไปไหนมาหรือคะ”



   “ไปทานข้าวกลางวัน อร่อยมาก...” ประโยคท้ายนั้นเขาจงใจยวนน้องสาวโดยเฉพาะ



   “คุณพงศ์กับคุณเรย์มอนด์ก็อยู่ ทำไมไม่ทานกับพวกเธอล่ะคะ”



   “ก็ไม่อยาก อยากไปทานกับคนอื่น”



   “ที่นี่มีทั้งคุณพงศ์ มีทั้งคุณเรย์มอนด์ ยังจะอยากไปทานกับคนอื่นอีกหรือคะ?!”



   “ไปกับคนแต่ละคน ถึงจะเป็นร้านเดียวกัน แต่รสชาติย่อมไม่เหมือน ไปกับเพื่อน ลิ้นรับรสอย่างหนึ่ง ไปกับคนพิเศษ ลิ้นก็รับรสอีกอย่างหนึ่ง พอดีวันนี้อยากลิ้มรสแบบที่ทานกับคนพิเศษ ก็เลยไม่ไปกับคุณพงศ์และเรย์” คำตอบของเขาช่างกวนโทโส ยิ่งยักไหล่ทำหน้าเหมือนทองไม่รู้ร้อนก็ยิ่งทำให้ดารารัษมีตัวสั่นเทิ้ม



   “พี่จันทร์รู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่ พี่จันทร์กำลังทำเรื่องผิด...”



   “พี่ไม่คิดว่าเรื่องของพี่จะเป็นเรื่องผิด หรือถึงผิด พี่ก็จะทำ พี่หวังว่าดาราคงไม่มาวุ่นวายกับ ‘เรื่องของพี่’ มากไปกว่านี้” ความมุ่งมั่นและดื้อดึงของจันทร์จ้าวยิ่งทำให้น้องสาวได้แต่จิกกำมือแน่น ดวงตากลมโตมองพี่ชายด้วยความเสียใจและหมดสิ้นซึ่งศรัทธาในตัวเขา



   “พี่จันทร์ไม่เคยทำให้พี่น้องคนไหนผิดหวังไม่ใช่หรือคะ ถ้าครั้งนี้ดาราขอ...ดาราขอได้ไหมพี่จันทร์...” หล่อนวอนขออย่างน่าสงสาร จันทร์จ้าวไม่เคยเห็นดารารัษมีเป็นเช่นนี้มาก่อน แต่เขาก็มุ่งมั่นกับความรู้สึกของตนเองมากเสียจนหันหลังให้กับดวงหน้าอ้อนวอนนั้น



   “ดาราขอ...” ดารารัษมีย้ำอีกครั้ง หล่อนมองแผ่นหลังของพี่ชาย ความรู้สึกอยากเอาชนะพวยพุ่ง เหตุใดจันทร์จ้าวจึงดื้อรั้นกับความรู้สึกของเขาถึงเพียงนี้ ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนใดด้วยซ้ำ แต่กับหมอภวัต...เหตุใด...เหตุใดเขาจึงมุ่งมั่นเช่นนี้...



   แต่ให้อย่างไรก็ไม่ยอม ดารารัษมีจะไม่ยอมให้จันทร์จ้าวเดินเส้นทางผิดประเพณีด้วยการคบหากับหมอภวัตเป็นอันขาด!!



   “...ดารารักคุณหมอ...ดาราขอคุณหมอจากพี่จันทร์ได้ไหม” คนฟังนิ่งชะงักไปอึดใจหนึ่ง แต่เมื่อตั้งสติได้ก็ถอนหายใจแล้วหันไปมองคนพูด ดวงตากลมของ ๒ พี่น้องจับจ้องกัน คนพี่นั้นอ่านใจอีกฝ่ายออก ส่วนคนน้องเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ความเสียใจ และความดื้อดึงไม่ต่างไปจากคนพี่



   “ดาราบอกว่ารักหมอ เพราะว่าดารารักพี่ หรือเพราะว่าหมอรักพี่” จันทร์จ้าวตั้งคำถาม ดารารัษมีชะงักไปกับคำถามนั้น ความรู้สึกในใจของหล่อนนั้น จันทร์จ้าวย่อมทราบดี ไม่มีใครสำคัญเท่าพี่น้อง ต่อให้จันทร์จ้าวจะเป็นพี่ชายคนรองที่หล่อนเคืองสายตากับพฤติกรรมมากเพียงใด แต่หล่อนก็อยากให้เขามีชีวิตที่ดี


   “...ดารารักพี่จันทร์...ดารารักพี่จันทร์นะคะ...ดาราไม่อยากให้พี่ทำแบบนี้...ดาราไม่อยากให้พี่ทำเรื่องพรรค์นี้...สิ่งที่พี่ทำมันไม่ถูกต้อง...”



   “ถ้าดารารักพี่ ดาราก็ควรจะรู้ว่าใครอีกคนก็รักพี่เช่นเดียวกัน” คำพูดของจันทร์จ้าวราวกับกรีดลึกเข้าไปในใจของหญิงสาว ไม่ใช่แค่พี่ชายคนรองของหล่อนจะไม่ฟังคำวิงวอน แต่เขายังคงมุ่งมั่นกับความสัมพันธ์ผิดบาปที่ไม่สมควรเกิดขึ้นเลย!



   จากความเศร้าโศกกลายเป็นโกรธเคือง ดารารัษมีแผดเสียงลั่นด้วยความรู้สึกกดดันเหลือประมาณ


   “พี่จันทร์คิดว่าหมอรักพี่จันทร์จริงอย่างนั้นหรือ?! เขาอาจจะมองพี่เป็นของแปลก พี่เองก็คงมองว่าเขาแปลกเช่นเดียวกัน! พี่เคยชอบผู้หญิงไม่ใช่หรือ?! พี่เคยชอบผู้หญิง! แล้วทำไมครั้งนี้!!!...ทำไมครั้งนี้!!!!!...” ร่างแบบบางของน้องสาวทรุดฮวบลงนั่งกับเก้าอี้ด้วยความเจ็บปวด ภาพจำของหมอภวัตและจันทร์จ้าวที่บ้านเช่าสีเขียวอ่อนยิ่งทำให้หล่อนสั่นสะท้าน หล่อนได้แต่ร้องไห้โฮด้วยความเสียใจและรวดร้าว จันทร์จ้าวมองน้องสาวผู้สดใสและร่าเริงกลับกลายเป็นคนทุกข์ระทมแล้วสะท้อนใจ เขาเดินเข้าไปหาแล้วจับหัวไหล่เล็กแผ่วเบา



   “พี่ไม่ทราบหรอกว่าหมอรักพี่จริงไหม เธอไม่เคยบอกพี่ แต่เป็นพี่ที่รักเธอ สำหรับพี่ หมอคงเป็นของแปลกจริง เพราะทำให้พี่รู้สึกอย่างที่ไม่มีใครทำได้” ความมุ่งมั่นและจริงจังของจันทร์จ้าวนั้น ดารารัษมีไม่เคยพบมาก่อนแม้จะเป็นน้องสาวของเขามา ๒๒ ปีก็ตามที หญิงสาวเงยหน้ามองผู้เป็นพี่ จันทร์จ้าวยิ้มจางให้หล่อน รอยยิ้มของเขาช่างอ่อนโยน สายตาของเขาช่างอ่อนหวาน นิ้วโป้งของเขาไล้น้ำตาที่อาบแก้มของหล่อนอย่างสุภาพ



   “ดาราอย่าร้องไห้เพราะเรื่องของพี่เลย หากไม่มีความสุขกับเรื่องของพี่ ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปก็ได้ เหมือนที่ทำกับเรื่องของนภาและคนรักของนภาอย่างไรล่ะ” ดวงตากลมที่คลอด้วยหยาดน้ำตาล้นเอ่อเหลือบมองผู้เป็นพี่ด้วยความฉงน


   “พี่จันทร์ทราบเรื่องของนภาด้วยหรือคะ”


   “ทราบสิ นภาบอกพี่เอง”


ดารารัษมีก้มหน้านิ่งตรึกตรอง กับเรื่องของนภาสรวง หล่อนยังพอยอมรับได้ เพราะพี่สาวแฝดและเรย์มอนด์ อดัมส์เป็นหญิงและชาย แม้จะคนละสัญชาติ แต่สมัยนี้แล้ว เรื่องสัญชาติไม่ใช่เหตุผลให้ต้องขัดขวาง ทว่าเรื่องของจันทร์จ้าวและหมอภวัตไม่ใช่เรื่องความต่างของสัญชาติ แต่เป็นเรื่องความเหมือนของเพศ...บุรุษเพศไม่สมควรมีความรู้สึกต่อกันเช่นนี้!! มันผิดบาป มันนอกกฎเกณฑ์และกรอบประเพณี...ให้อย่างไรก็ไม่มีทางรับได้!



   “แต่...แต่นภากับคุณเรย์มอนด์เป็นหญิงและชายนะคะ...มันไม่เหมือนพี่จันทร์กับคุณหมอ...” 



จันทร์จ้าวชะงักงันเมื่อชื่อของชายหนุ่มคนหนึ่งหลุดออกมาจากปากของน้องสาว ดารารัษมีไม่ทันเห็นสายตาผิดปกติของพี่ชายที่กำลังมองมา หล่อนเอาแต่กุมมือตัวเองแล้วบีบไปมาราวกับจะพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกต่อต้านที่พวยพุ่ง



   “ถึงจะเป็นหญิงและชาย แต่นภากับ...เรย์มอนด์...ก็เป็นคนไทยกับต่างชาติไม่ใช่หรือ...” เขาทวนชื่อชายคนรักของน้องสาวแฝดด้วยน้ำเสียงแปร่งปร่าไปเล็กน้อย จริงอยู่ว่าคนต่างชาติที่ชื่อเรย์มอนด์มีมากมาย แต่คนที่ชื่อเรย์มอนด์ในเมืองไทยคงมีไม่มาก ซ้ำเขายังจำได้ดีว่านภาสรวงเคยบอกว่าคนรักของหล่อนเป็นอเมริกัน



   ...เรย์มอนด์ที่เป็นอเมริกันและอยู่ในเมืองไทย...



   “มันก็จริง...แต่...แต่...แต่...แต่เขาก็เป็นเพื่อนของพี่จันทร์ไม่ใช่หรือคะ ถ้าพี่จันทร์ไปพูด บางทีคุณพ่อคุณแม่อาจจะยอมรับคุณเรย์มอนด์ได้ แต่พี่จันทร์กับคุณหมอ...ต่อให้ใครไปพูด ก็ไม่มีทางเป็นไปได้...” คำพูดของดารารัษมีนั้น จันทร์จ้าวไม่มีกะจิตกะใจในการฟังประโยคหลังแล้ว



   ...เรย์มอนด์ที่เป็นอเมริกันและอยู่เมืองไทย...และเป็นเพื่อนของจันทร์จ้าว...



...เรย์มอนด์ อดัมส์!!...



   จันทร์จ้าวรู้สึกได้ถึงความโกรธแล่นริ้วขึ้นหัวในวินาทีนั้น เรย์มอนด์ อดัมส์คบหากับนภาสรวงโดยที่เขาไม่รับรู้เลยแม้แต่นิดเดียว!!



   “พี่จันทร์...พี่จันทร์...” เสียงของดารารัษมีดังเรียกสติ ทำให้ชายหนุ่มเหลือบตามามอง



   “เรื่องของพี่เอาไว้ก่อนเถอะ เพราะให้อย่างไรพี่ก็ไม่เปลี่ยนใจ ดาราจะกลับอย่างไร ให้คุณพงศ์ไปส่งดีไหม พี่จะวานคุณพงศ์ให้” จันทร์จ้าวกล่าวแล้วเดินไปเปิดประตู ทว่าดารารัษมีกลับร้องถามเขามาจากเบื้องหลัง



   “พี่จันทร์จำคุณอุไรเพื่อนครูที่โรงเรียนของดาราได้ไหมคะ” จันทร์จ้าวหันกลับมามองแล้วทบทวน



   “อุไร?...อ้อ...จำได้”



   “ถ้าดาราจะให้คุณแม่จับคู่พี่จันทร์กับคุณอุไร พี่จันทร์จะว่าอย่างไร” ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ดวงตากลมใหญ่มองน้องสาวอย่างว่างเปล่า


   “ตามใจดาราเถอะ แต่พี่ขอยืนยันคำเดิมว่าพี่ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ” ว่าแล้วเขาก็หันไปร้องบอกหม่อมหลวงพงศ์ภราธร



   “คุณพงศ์ ผมวานไปส่งดาราที” 



เสียงของชายหนุ่มดังเข้ามาในห้องทำงานเล็ก



“แต่เรายังคุยกันไม่จบนะคะพี่จันทร์!” ดารารัษมีร้องบอก เมื่อถูกพี่ชายไล่อย่างตรงไปตรงมา จันทร์จ้าวหันมามองน้องสาวอีกครั้งด้วยสีหน้าเฉยเมย



“จบแล้ว ดาราอยากจะทำอะไรก็เอาตามที่ดาราเห็นชอบ เพราะพี่เองก็จะทำเฉพาะในสิ่งที่พี่ชอบเช่นกัน ดารากลับไปที่โรงเรียนได้แล้ว ให้คุณพงศ์ไปส่ง พี่มีธุระต่อ” ผู้เป็นพี่ตอบโต้ด้วยน้ำเสียงเรียบ ทำเอาน้องสาวคนเล็กของครอบครัวรักษพิพัฒน์ไม่อาจค้านสิ่งใด จำใจต้องลุกจากเก้าอี้ แต่ก่อนที่จะเดินออกมาถึงประตู หล่อนก็ได้ยินเสียงจันทร์จ้าวหันไปตะโกนสั่งนอกห้องด้วยน้ำเสียงเรียบเยียบเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง



   “เรย์เข้ามาในห้องผมด้วย ผมมีเรื่องจะคุย!”



ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า)

   จะบอกว่า บัวจะมาลงตอนหน้าได้อีกสัปดาห์นึง แล้วก็เจอกันอีกทีหลังปีใหม่เลยนะคะ เพราะว่าอีกสัปดาห์นึงจะเป็นวันสิ้นปีเนอะ ปกติจะมีตอนพิเศษสิ้นปี แต่ไม่รู้ปีนี้จะพิมพ์ทันมั้ย เพราะเรื่องนี้ แพลนไว้ว่าจะเขียนให้จบภายในสิ้นปีนี้ ก็ยังค้างเติ่งอยู่เลยค่ะ

   ตอนที่แล้วนี่มีแต่คนโกรธดารากันใหญ่ ฮาฮา จริงๆแล้ว สำหรับบัว ดารารัษมีเป็นตัวแทนของผู้หญิงสมัยใหม่ในยุคนั้น เป็นสาวสังคม เรียนภาษาอังกฤษ คุ้นเคยกับฝรั่ง แต่สังคมยุคนั้น เรื่องความรักของเพศเดียวกันเป็นเรื่องที่ยอมรับยากมากๆ เพราะงั้น สิ่งที่ดารารู้สึก ไม่ใช่เรื่องผิด คนที่ผิดคือพี่ของนาง ที่ทำอะไรที่สังคมเขาไม่ทำกันนั่นเอง ฮาฮา

   ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนเม้นท์ คนรอ และทุกกำลังใจเช่นเคยค่ะ

   เจอกันพฤหัสหน้า หมอมาเยอะกว่านี้ สัญญา ฮาฮา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๔ (๑๐ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๒)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-12-2015 21:06:16
 เสร็จแน่เรย์คราวนี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnon04 ที่ 17-12-2015 21:14:53
ดีใจที่จันทร์มั่นคง เด็ดเดี่ยวสำหรับความรักของตัวเอง  ส่วนเรย์ หัวแตกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 17-12-2015 21:16:54
โอ๊ยย เรมอนด์งานเข้าไม่รู้ตัว 555555555
อย่างดารานี่ต้องเจอคุณพงศ์ให้คุณพงศ์เธอกล่อม
เดี๋ยวจะดีเอง 5555

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 17-12-2015 21:23:11
แย่แล้ว พ่อฝรั่ง ของป้าาาา

วันนี้คุณหมอออกโรงมากระผีกเดียว แต่กลับได้ใจอีฉันไปเต็ม ๆ เลย

อีกตั้งนานแนะกว่าจะได้เจอกันนนน  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 17-12-2015 21:26:10
ตายห่าแล่ว ทำไมดาราไม่เข้าใจน้อ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 17-12-2015 21:26:34
ตอนนี้จ่ายเป็นextra ให้หมอหรอออ ออกจี้ดดดดเดียว ตอนหน้าชดเชยด้วยนะ ไม่ยอมๆ  :ling1: // นี่แค่น้องสาว แล้วขุ่นหญิงแม่จะขนาดไหน? ไม่อยากคิด :hao4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 17-12-2015 21:37:42
ดาราพลาดแล้วเรื่องนภา ต่อไปพายุลงเรย์ ฮือออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 17-12-2015 21:39:39
จันทร์จ้าวยังคงสตรอง
รักในความดื้อของนางจริงๆ

แถมจะหาเรื่องคนอื่นต่อด้วยนะ
เรย์สู้ๆล่ะ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-12-2015 21:41:17
 :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 17-12-2015 21:41:41
เรย์มอนจะมีสภาพเป็นอย่างไร ใจเย็นๆนะคุณจันทร์ :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-12-2015 21:44:33
บางทีถ้าจันทร์พูดดีกว่านี้ไม่กวนโมโหมันอาจจะดีก็ได้ของแบบนี้มันเปราะบางมากเลยนะ
ต้องค่อยๆคุยกันแก้ไขปัญหาแบบใช้เหตุผลนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 17-12-2015 21:47:52
งานนี้เรย์มอนอ่วมแน่!  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-12-2015 22:08:04
เรื่องของตัวเองยังดื้อดึง ไม่ยอมใคร แต่เรื่องของเพื่อนและน้องสาวจะไปโกรธเขามันเหมาะแล้วเหรอคุณจันทร์ ใครช่วยเอาแม่ดาราไปเก็บหน่อย โวยวายน่ารำคาญจริง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 17-12-2015 22:17:46
ก่อนหน้านี้เคยทายๆไว้นะคะ ว่าดารารัษมีน่าจะอยู่ฝ่ายจันทร์จ้าว  แต่นิยายของคุณบัวเรื่องนี้พลิกจากที่เดาไปหมดเลย   ตอนนี้คุณหมอบทบาทน้อยไปหน่อย ละก็เหนื่อยใจกะดาราประมาณนึง  มีจะจับคู่ให้พี่ชายด้วย  นี่เพราะดาราไม่เคยรักใครเลยไม่เข้าใจรึเปล่านะ   ก็ลุ้นให้ผ่านช่วงนี้ไปเร็วๆละกันค่ะ  รอวันที่คืนความสุขให้คุณหมอ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-12-2015 22:17:58
พฤหัสหน้า เรย์มอนด์จะเป็นไงน้อออ

ระเบิดจะลงแล้วว  อึยยย  :mew3:

ดารานี่ยึดหลักเหตุผลเกินไปแล้วววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 17-12-2015 22:19:24
เฮ้อออออ
เข้าใจดารานะว่าเรื่องนี้มันยอมรับได้ยาก แต่ก็เบื่ออะ
ถ้ารักพี่ชาย แล้วทำไมไม่คิดถึงความสุขของเขาบ้างน้อออ  :เฮ้อ:
แต่ที่แน่ๆ ตอนหน้ามีคนอ่วม เตรียมเรียกหมอมากันหมา เอ้ย กันหมัดได้เลยเรย์  o18
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Baekllym ที่ 17-12-2015 22:34:42
คุณหมอมานิดเดียวแต่ชุ่มชื่นหัวใจเสียจริง ส่วนแม่ดารานั้น วานคุณพงษ์ช่วยปรับทัศนคติเธอหน่อย  :z6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 17-12-2015 22:39:28
อ้าว เรย์ งานเข้า 5555555
รำคาญดาราค่ะเอาไปเก็บที ตั้งหน้าตั้งตาขัดจนอยากจะแบนทิ้งเลยทีเดียว
ถึงจะเป็นแนวคิดของคนสมัยนั้น แต่ถึงขนาดกับบอกว่า ยอมให้จันทร์คบหญิงชั่วซะยังดีกว่า ประโยคนี้น่าเกลียดมาก ไม่ได้มองคนที่ความดีเลย สรุปแล้วไม่ได้ห่วงจันทร์ ไม่ฟังคำพูดของใครว่ามันคือความสุขของจันทร์ แค่อยากจะตีกรอบให้จันทร์เพื่อให้ดูกลมกลืนกับสังคม ทั้งที่พี่ชายตัวเองน่าจะรู้นิสัยดีแท้ๆนะ
#ทีมคุณจันทร์ค่ะ เธอสตรองมาก หายห่วงเลยทีเดียว 55555
ห่วงเรย์กะนภาก่อนเถอะ ไม่เอานะจันทร์ไม่วีน ถ้าจะวีนสงสัยต้องโกรธเรื่องที่ถูกปิดบังแน่เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-12-2015 22:51:00
ชอบความคิดคุณพงศ์จัง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 17-12-2015 22:58:49
เสียวแทนเรย์เลยนะเนี้ย จันทร์ถ้าโกรธขึ้นมา สำนักงานแตกแน่ๆ เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 17-12-2015 23:04:28
ความซวยมาถึงคุณชายเรย์ ณ บัดดล :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 17-12-2015 23:09:06
เป็นกำลังใจให้จันทร์จ้าวกับคุณหมอ ผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้ค่ะ สู้ๆ ส่วนดารา ยกให้เป็นหน้าที่ของคุณพงศ์เลยค่ะ 55555555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 17-12-2015 23:10:21
ขอให้จันทร์เคืองแค่ว่า ตัวเองไม่รู้นะ
อย่าเคืองเรื่องอื่นเลย

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 17-12-2015 23:11:12
โอยยย ตายๆๆ คุณเรย์ชะตาขาดแน่ๆ เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 17-12-2015 23:12:48
ตอนนี้เราไม่โอเค  ใช่จันทร์จ้าวเรื่องเดียวกับตอนที่1มั้ยเน้อออ  แค่ตัวละครก้รุ้สึกไม่ใช่ละ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-12-2015 23:17:47
ให้ดาราดึงดันที่จะคัดค้านมากสักแค่ไหนก็ยังเป็นมวยคนละรุ่นกับจันทร์จ้าวอยู่ดีนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 17-12-2015 23:19:59
ใจเย็นๆนะคะ ดารา แต่นับถือคุณจันทร์จริงๆค่ะ
แน่วแน่หนักแน่นมากกกก ถ้าเราเป็นคนหมอคงดีใจน่าดู
ชอบตรงที่บทจะรั้นก็รั้นซะน่ารักๆจริง ยังไงก็ขอให้เข้าใจกันเร็วๆนะคะ
ไม่อยากให้คุณหมอกังวลด้วยเลย กลัวจะผิดใจกันเองไปเสียอีก  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 17-12-2015 23:22:39
คุณหมอออกมาแบบนิดเดียวแตีหวานกันน่ารักเชียว

เรย์แย่เลัว จันทร์รู้เรื่องซะแล้ว ดาราตัวป่วนทำให้แต่ละคู่มีปัญหาโผล่มา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkypromise ที่ 17-12-2015 23:24:02
ดราม่ากันอยู่นะ แต่นี่ขำแรงงงงงง

อีตาเรย์ซวยละจ้ะะะะะะ ฝรั่งงานเข้า!!!  555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-12-2015 23:31:35
งะ อาทิตย์นี้น้อยจัง อยากอ่านอีกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 18-12-2015 00:00:32
ดารายังไม่เคยรักใครซินะ เลยไม่เข้าใจ เฮ้อ เรย์มอนด์งานเข้าครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 18-12-2015 00:01:36
พีเรียตนี่มันก๊าวใจอย่างนี้นี่เอง  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-12-2015 00:14:54
ไว้อาลัยให้เรย์ =_=
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 18-12-2015 00:22:04
ยัยดารานี่วุ่นวายจริงๆ ดูสิ ทำแต่ละเรื่องให้มันยุ่งขึ้นมาทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-12-2015 01:45:03
ตอนนี้เรื่องของเรย์กับนภาดูจะหนักกว่าอีก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-12-2015 02:38:07
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 18-12-2015 04:17:37
เดาว่าจันทร์โกรธเรย์มอนด์เพราะไม่ยอมบอกแน่ๆเลย โดนเหวี่ยงไปตามนะเบียบแน่ๆ

ส่วนดาราเราเข้าใจนะ สมัยนั้นไม่ได้ยอมรับกันได้ง่ายๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 18-12-2015 05:41:11

พี่จันทร์หวงน้องสาวได้ แต่อย่าตัดรอนคุณเรย์นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-12-2015 06:05:57
โป๊ะแตก!!! เรย์มอนจะหัวแตกด้วยมั้ย 5555  ดารานี่เป็นผู้หญิงโบราณของแท้เลย รับไม่ได้ แถมกีดกันทุกอย่าง เพราะความรักพี่ชายจริงๆ จะโกรธดาราก็โกรธไม่ลง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 18-12-2015 07:01:07
#คุณพงษ์กับนภา แต่ตอนนี้เรย์คงเจอศึกหนักล่ะนะ จันทร์จ้าวทราบเรื่องแล้ววว รอวันพฤหัสบดีจ้าา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 18-12-2015 07:48:18
ระเบิดมาลงที่เรย์แทน จันทร์ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย ชักเป็นห่วงเรย์ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 18-12-2015 09:27:52
จันทร์จ้าวอย่าทำตัวเหมือนดารารัษมีซี เรย์เตรียมตัวโดนเชือด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: yearrayoeng ที่ 18-12-2015 09:45:45
ทำไมดารา อยากเอาชนะ น่ารำคาญ ผู้หญิงพรรค์นี้ เป็นตัวน่ารำคาญ พูดจาไม่รู้เรื่อง สันดานแย่ เอาแต่ใจ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 18-12-2015 11:01:40
เอาที่พี่จันทร์กับดาราสบายใจ ^^

เรย์น่าจะได้คนช่วยเชียร์มากกว่า จันทร์แค่โกรธที่ไม่รู้แค่นั้นเอง...หวังว่านะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 18-12-2015 11:18:34
โอ๊ยยย ชอบบบ จันทร์อินดี้มากกก  :katai2-1:
เรย์น่าจะถึงคราวซวยก็คราวนี้แหละ 555  :hao7:
รอหมอภวัต บทนี้แกออกน้อยเหลือเกิน  :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: mhhong95 ที่ 18-12-2015 12:43:23
 :hao3:คุณจันทร์คนจริง
ชอบก็บอกว่าชอบ
5555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 18-12-2015 14:39:41
กลายเป็นคราวซวยของพ่อฝรั่งไปอีก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 18-12-2015 20:10:21
หวังว่าระหว่างกลับไปโรงเรียนดาราจะฟังที่คุณพงศ์พูดแล้วเก็บกลับไปคิดบ้างนะตอนนี้เหนื่อยแทนจันทร์จริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นห่วงพ่อฝรั่งก่อนดีกว่านะเพราะดูท่าจะโดนจันทร์เชือดแน่ๆล่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 18-12-2015 20:41:26
เรม่อนเตรียมตัวตายพี่ชายจันทร์ออกโรง 555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 18-12-2015 22:47:53
อ่ออยยยยยย อ่านแล้วมีความสุข ดีกับใจมากกก
ชอบที่จันทร์เจ้าเป็นแบบนี้ เด็ดขาดมาก
เอาใจช่วยเรย์ นะ สู้ๆ ผ่านด่านพี่จันทร์ให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 19-12-2015 00:41:20
โดน!!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 19-12-2015 05:33:20
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 19-12-2015 14:25:31
ดาราห้ามจันทร์จ้าวไม่ได้หรอกจริงๆ5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 19-12-2015 15:50:42


นี่รออ่านเลยว่าจันทร์เจ้าจะมีวุฒิภาวะแค่ไหนกับเรื่องของเรย์และน้องสกาย
ส่วนเรื่องคุณหมอและน้องสตาร์ป้าไม่ห่วงค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

จนแล้วจนรอด ป้าก็ยังเดาไม่ได้ว่าน้องสตาร์จะคู่กับใคร... อยากให้คู่คุณพงศ์มาก
รู้สึกเหมือนคุณพงศ์เอาอยู่ยังไงก็ไม่รู้ ฮ่า ฮ่า

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 19-12-2015 18:42:25
ถ้าเรื่องนี้มีผู้จัดคนใดสนใจเอาไปทำเป็นละครหลังข่าวล่ะก็ เราคงต้องกลับไปเกาะติดทีวีอีกในรอบ 7 ปีเป็นแน่ 55
แต่คงยาก แต่ก็น่าจะมีการ สร้างสรรค์ผลงานละคนให้มันหลากหลายบ้าง น่าจะดีกว่านี้น่อ
ชอบจัง เรื่องนี้ เรื่อยๆ แต่น่าติดตาม
อ่านไปก็ไม่ต้องเครียดมาก เครียดนาน อบอุ่นหัวใจเบาๆ
รอตอนต่อไป
รอพฤหัสหน้าอย่างจดจ่อ (^.^)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 20-12-2015 00:04:31
เราเข้าใจดารานะที่จะยอมรับไม่ได้  อย่างที่เจอผู้หญิงมาอยู่กับพี่ยังดีกว่าเจอพี่ไปอยู่กับผู้ชาย  ก็จันทร์กับหมอเกิดเร็วไป
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 20-12-2015 09:09:51
เรย์เละแน่ๆ สงสารรอไว้ก่อนเลย

จันทร์คือดี มั่นคงมาก
มีโมเม้นฟินๆกันสองคนด้วย จุ๊บแค่มือ เค้าก็ฟินนน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: รุ่งนภา ที่ 20-12-2015 11:46:41
 o22 o22 o22 o22  เตรียมเก็บศพ   คาดว่าตอนหน้าอาจมีคนตาย555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 20-12-2015 23:27:18
เรย์โดนเรียกเข้าห้องดำ ขอให้ได้อยู่ต่อนะคะ

พี่จันทร์ หนักแน่นซื่อตรงต่อความรู้สึกมากจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 21-12-2015 08:04:46
ขอไว้อาลัยให้เรย์มอนด์ จงไปสู่สุคติเถิด :heaven
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 22-12-2015 09:57:33
เอาใจช่วยเรย์

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 22-12-2015 19:52:46
เรย์ตายแน่
ลืมๆความน่าบ้องหูของดาราไปแป้บนึง
แล้ววิ่งไปรอดูจันทร์อาละวาดดีกว่า
ฮาฮา (เลียนแบบน้องบัว)
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 24-12-2015 07:12:35
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ แต่เห็นผ่านตามานานแล้ว

สนุกมากกกกค่ะ เราชอบจันทร์มากก นางสรองมากจริงๆ รักๆๆนายเอกแบบนี้

ติดตามตอนต่อไปนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 24-12-2015 14:21:32
มารอคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 24-12-2015 14:41:56
เข้ามารอ  :katai4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 24-12-2015 19:22:20
มารอด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๕ (๑๗ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๕)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 24-12-2015 19:36:42
มารอค่าา
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 24-12-2015 19:54:43
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๑๖



   เสียงโครมครามดังมาจากในห้องทำงานของจันทร์จ้าว ทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่เพิ่งกลับเข้ามาในสำนักงานหลังจากไปส่งดารารัษมีที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีถึงกับชะงัก



   “เกิดอะไรขึ้น?!” เขาร้องถามพนักงานที่ต่างผละจากงานของตนและทำสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริศ



   “คุณจันทร์เรียกมิสเตอร์อดัมส์เข้าไปในห้อง หายเงียบกันไปพักใหญ่ แล้วก็...” ใครสักคนอธิบาย แต่พูดไม่ทันจบดี เสียงโครมครามก็ดังมาอีกชุด ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรตาลีตาเหลือกรีบวิ่งไปเปิดประตูห้องทำงานของเพื่อนรักแต่ประตูถูกลงกลอนจากภายใน ซ้ำประตูที่นี่ยังเป็นกลอนแบบลงสลักด้วย สิ่งเดียวที่เขาพอจะทำได้คือการทุบประตูแล้วตะโกนเข้าไปภายในห้อง



   “จันทร์! จันทร์! แกทำอะไรน่ะ!!”



   ไม่มีเสียงตอบกลับมา มีแค่เสียงปึงปังอยู่ในห้องยิ่งทำให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรร้อนใจ หันรีหันขวางแต่ไม่รู้จะเปิดประตูเข้าไปอย่างไรก็ตัดสินใจใช้ไหล่กระแทก



   “มาช่วยเร็ว!” เขาร้องบอกพวกพนักงานหนุ่มๆ พวกนั้นก็รีบมาช่วยกันกระแทกประตูเป็นการใหญ่ พยายามอยู่หลายทีในที่สุดประตูทั้งบานก็พังเข้าไปภายในทันเวลาพอดีกับที่จันทร์จ้าวกำลังฉุดกระชากเพื่อนต่างชาติร่างใหญ่ที่นอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้น



   “จันทร์!!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถลาเข้าไปจับแยก ด้วยคิดว่าเพื่อนรักของตนกำลังประทุษร้ายเรย์มอนด์ อดัมส์อยู่ พวกพนักงานหนุ่มเองก็รีบเข้าไปช่วยพยุงนายฝรั่งให้ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางทุลักทุเลเต็มทน ราชนิกูลหนุ่มกวาดตามองเรย์มอนด์ทีหนึ่ง เห็นว่ามีแค่แผลแตกที่หางคิ้ว แต่สีหน้าซีดเผือดเสียจนน่าใจหายก็รีบร้องบอก



   “พามิสเตอร์อดัมส์ไปโรงพยาบาล!” สั่งแล้วก็ถึงได้หันกลับมามองหน้าเพื่อนรักของตน จันทร์จ้าวหายใจฟืดฟาด ดูก็รู้ว่ากำลังโกรธจัด แต่โกรธเรื่องอะไรก็สุดแล้วแต่จะทราบ



   พวกพนักงานพยุงร่างอ่อนระโหยของเรย์มอนด์ อดัมส์พาออกจากห้องแต่ไม่ทันก้าวพ้นประตูเสียงของจันทร์จ้าวก็ดังขึ้น



   “เดี๋ยว!!” พวกพนักงานชะงักกึก ดวงตากลมใหญ่ของจันทร์จ้าวตวัดไปมองอย่างวาวโรจน์ “โรงพยาบาลน่ะ! หมายถึงโรงพยาบาลใกล้บ้านผม!”



   “แต่ที่นั่นไกลจากนี่...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมาแย้งแต่ดวงตากลมใหญ่วาววับกลับตวัดมาจ้องจนแม้แต่ราชนิกูลหนุ่มยังต้องเงียบ



   “เวลาลักลอบไปหาคนแถวนั้นยังไม่ยักคิดว่าไกล! แล้วจะมาบ่นอะไรเอาตอนนี้! พามิสเตอร์อดัมส์ไปส่งที่นั่น!!” ไม่ต้องให้สั่งรอบ ๒ พวกพนักงานก็พยุงฝรั่งตัวโตออกจากห้องเพื่อพาไปส่งโรงพยาบาลที่อยู่ไกลจากสำนักงานแห่งนี้ไม่น้อย ภายในห้องทำงานของจันทร์จ้าวเงียบลงแล้ว แต่เจ้าของห้องยังคงมีสีหน้าโกรธเคือง ราชนิกูลหนุ่มเหลือบมองไปรอบตัวก็พบว่าข้าวของกระจัดกระจายคงเกิดจากแรงอาละวาดของเพื่อนรักของตนนั่นเอง



   “เกิดอะไรขึ้น” เขาถาม หลังจากปล่อยให้เจ้าของห้องทำงานเละเทะได้สงบสติอารมณ์ตัวเอง จันทร์จ้าวตวัดสายตามามองคนถาม



   “เรย์คบกับนภา!!!! แต่ไม่มีใครบอกผมสักคน!! ยายนภาก็ผิดปากเงียบ!! แล้วเมื่อครู่นี้ผมถามมัน มันก็ไม่ตอบสักคำ!!!”



   “ก็แกเล่นอัดเสียขนาดนั้น...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรแย้งตามที่เห็นจากสภาพอ่อนระโหยเหมือนคนเจ็บหนักของนายฝรั่ง ทว่าดวงตากลมใหญ่กลับถลึงใส่เขา



   “ไม่ได้อัดสักกระผีก!! แค่ผลักไหล่นิดเดียวก็เซลงไปกองกับพื้น!! อย่างนี้จะไปปกป้องใครเขาได้!! ผมไม่ยอมให้น้องสาวของผมคบกับคนที่แค่ผมผลักก็ล้มถลาลงไปกับพื้นหรอก!!! ถลาเท่านั้นไม่พอ ยังทะเล่อทะล่าไปชนขอบโต๊ะจนคิ้วแตก!! ซุ่มซ่ามไม่สู้คน ถ้ากับผมยังสู้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องหวังไปสู้กับใครทั้งนั้น!!!” ราชนิกูลหนุ่มไม่อยากจะแย้งอีกหนว่าจันทร์จ้าวมีรูปร่างสูงโปร่ง ไม่หนาล่ำกำยำเหมือนเรย์มอนด์ อดัมส์ก็จริง แต่คนที่ออกกำลังกายป็นประจำ ซ้ำยังตีเทนนิสเก่งออกอย่างนี้ เรี่ยวแรงใช่จะน้อยเสียที่ไหน แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาพูดเรื่องเรี่ยวแรงของจันทร์จ้าว มีอีกเรื่องที่สำคัญกว่า



   “แกจะไม่ยอมได้ยังไร ก็ ๒ คนนั้นเขาคบหากันแล้ว”



   “คบแล้วก็เลิกกันได้!! จะไปยากอะไร! ก็ให้นภาเลือก ว่าจะเลือกผมหรือเลือกอ้ายฝรั่ง!!!”



   “แล้วถ้า...คุณนภาเลือก ‘อ้ายฝรั่ง’...”



   “ไม่มีทาง!!!”



   “ไม่มีทางอะไร ๒ คนนั้นเขารักกันจริง แกจะโยนให้คุณนภาเลือกระหว่างแกกับเรย์ จะไม่ใจไม้ไส้ระกำไปหน่อยหรือ” เขาเอ่ยเตือนสติ นับตั้งแต่เรย์มอนด์หลุดปากบอกเรื่องความสัมพันธ์ของตนเองและนภาสรวงให้เขารับรู้ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเป็นต้องได้ยินได้ฟังเรื่องราวของคนทั้งคู่จากปากของเรย์มอนด์เสมอๆ ทั้งๆที่บางครั้งเขาก็ไม่ได้อยากรู้เอาเสียเลย แต่ก็เห็นใจ เพราะเรย์มอนด์ที่กำลังมีความรัก ก็คงอยากจะนำความสุขมาเล่าสู่กันฟังเป็นธรรมดา



   “ใจร้ายก็ใจร้ายซี!! ผมก็ไม่ใช่คนใจบุญสุนทานอยู่แล้ว! พูดก็พูดเถอะคุณพงศ์! ขนาดพวกเศรษฐีบ้านนอกทำท่าจะมาดูตัวน้องสาวผม ผมยังไม่ยอม! เพราะกลัวว่ายายนภาเกิดถูกใจต้องแต่งงานออกไปอยู่ต่างจังหวัด ผมไม่ต้องเป็นห่วงแย่หรือ?! แล้วนี่!! เรย์น่ะเป็นอเมริกัน!! วันดีคืนดีคิดจะกลับอเมริกา ก็ต้องพานภาไปด้วยน่ะซี!! เรื่องอะไรผมจะปล่อยน้องผมไปไกลหูไกลตา อเมริกากับเมืองไทยไม่ใช่จะใกล้ๆเสียหน่อย เกิดน้องผมไปตกระกำลำบากที่นั่น ผมจะช่วยเหลือได้ยังไร!! ผมไม่ยอมหรอก!! ไม่ว่ายังไรก็ไม่ยอม!! ต่อให้คุณพงศ์ย้ำนักย้ำหนาว่า ๒ คนนั้นรักกันจริง!! ผมก็ยิ่งไม่...” จันทร์จ้าวพูดไม่ทัจบ ก็ฉุกคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เขาจับจ้องหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเขม็ง



   “...เดี๋ยว...คุณพงศ์ทราบได้อย่างไรว่า ๒ คนนั้นรักกันจริง?”



   “เอ่อ...” คราวนี้คนตกที่นั่งลำบากคือราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตร



   “คุณพงศ์ทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก?!!” ยิ่งเห็นเพื่อนเงียบ จันทร์จ้าวก็ตีความเอาว่าหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว และกลายเป็นว่าเขาคือคนที่รู้ทีหลังยิ่งกว่าทุกคน!!



   …นี่คนรอบข้างเห็นเขาเป็นตัวอะไร?!!...



   “กัน...กันเพิ่งทราบ...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรีบแก้ตัว จันทร์จ้าวร้องลั่น



   “จะทราบเมื่อไรก็ต้องรีบบอกผม!! ทำไมไม่มีใครบอกผมสักคน!! เห็นผมเป็นพระอิฐพระปูนกันรึ?!! ไม่ได้เรื่อง!! น่าโมโหสิ้นดี!!” คนถูกเอ็ดเถียงไม่ออก แต่พอเห็นเพื่อนรักอารมณ์ร้อนหมุนตัวจะเดินออกจากห้องทำงานก็รีบร้องเรียกแต่ไว



   “แล้วนั่นจะไปไหน” จันทร์จ้าวตวัดสายตากลับมามอง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็สะท้านวูบขึ้นมาอีกด้วยเพราะกลัวใจเพื่อน



   “ไปหานภา!!”



   “ไปทำไม?!!” ราชนิกูลหนุ่มหวั่นใจว่าเพื่อนรักจะก่อเรื่องมากกว่านี้ก็ถึงกับทำตาเหลือก



   “ก็ไปพานภาไปโรงพยาบาลน่ะซี!! คุณพงศ์มาขับรถให้ผมที!!”



   “ไปโรงพยาบาล?!!”



   “คุณพงศ์เข้าใจยากจริง!! ก็อ้ายเจ้าอเมริกันเมื่อกี้มันไปโรงพยาบาล!! ผมก็จะพานภาไปเจอมันน่ะซี!! จะได้รู้ดำรู้แดงกันไป!!” จันทร์จ้าวโวยวายแล้วรีบก้าวเท้าเดินออกจากห้อง ทิ้งให้ราชนิกูลหนุ่มมองตามแล้วยิ่งตาเหลือกมากกว่าเดิม



   “รู้ดำรู้แดง?! แกจะให้คุณนภาเลือกจริงหรือ?!!” ไม่มีคำตอบจากคนกำลังโมโห นอกจากจันทรืจ้าวที่ตะโกนย้ำคำเดิม



   “คุณพงศ์!! จะยืนอยู่อีกนานไหม!! ผมบอกว่าให้มาขับรถให้ผมที!!!”



   “ไปเดี๋ยวนี้ๆ!!” แล้วราชนิกูลหนุ่มก็รีบวิ่งออกจากห้องตามเสียงเพื่อนรัก เพราะเกรงว่าหากปล่อยให้จันทร์จ้าวรอนานกว่านี้ เขาอาจจะต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นรายถัดไป



............................................


   กว่าเรย์มอนด์ อดัมส์จะมาถึงโรงพยาบาลซึ่งอยู่ไกลจากสำนักงานอันเป็นสถานที่เกิดเหตุ เลือดที่หางคิ้วอันเกิดจากการทะเล่อทะล่าถูกจันทร์จ้าวผลักจนล้มไปกระแทกกับขอบโต๊ะก็แห้งกรังไปแล้ว แต่ความเจ็บแสบยังเกิดยิบๆตามรอยแผลแตก สีหน้ายังซีดเซียวเพราะความจริงที่ควรปกปิดกลับล่วงรู้ไปถึงหูคนที่ไม่ควรให้รู้มากที่สุด



   จันทร์จ้าวกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรตามมาทีหลัง โดยคนอารมณ์ร้อนบังคับให้เพื่อนรักผู้รับหน้าที่ขับรถแวะไปรับนภาสรวงมาจากที่ทำงานของหล่อนก่อน



   “มาโรงพยาบาล? มาทำไมคะพี่จันทร์ มีใครเป็นอะไรหรือ” นภาสรวงออกจะแปลกใจที่พี่ชายของหล่อนไปรับหล่อนจากที่ทำงานก่อนเวลาเลิก ซ้ำถามสาเหตุจากเขา เขาก็ไม่ยอมบอก หล่อนเองก็ไม่ใช่คนเซ้าซี้จึงยอมนั่งรถมากับเขาจนกระทั่งมาถึงโรงพยาบาล ยิ่งทำให้หญิงสาวใจคอไม่สู้ดี



   “เข้าไปแล้วก็รู้เอง” จันทร์จ้าวตอบเสียงห้วนแล้วเปิดประตูลงจากรถ นภาสรวงอยากหันไปถามหม่อมหลวงพงศ์ภราธร แต่เพราะความร้อนใจด้วยเกรงว่าใครจะเป็นอะไรจึงไม่อาจรอถามได้อีก หล่อนเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินตามพี่ชายเข้าไปในโรงพยาบาลทันที ราชนิกูลหนุ่มได้แต่มองตามแล้วถอนหายใจอีกหนก่อนจะเดินเข้าไปเป็นคนสุดท้าย



   ภายในโรงพยาบาลยังคงคราคร่ำไปด้วยผู้คน แต่กระนั้นชายหนุ่มชาวต่างชาติผู้มีผมสีทองอร่ามผิดแผกไปจากคนไทยอื่นก็โดดเด่นสะดุดตาเป็นที่สุด



   “คุณเรย์!!!” นภาสรวงครางด้วยความตกตะลึงแล้วจึงรีบวิ่งเข้าไปหา เรย์มอนด์ อดัมส์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อพบว่านภาสรวงมาที่นี่



   “คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรคะ?! แล้วนั่น...” หญิงสาวกวาดตามองใบหน้าของชายคนรักที่มีผ้าปิดแผลติดอยู่ที่หางคิ้วแล้วก็ใจคอไม่สู้ดี รีบกวาดสายตาลงมองตามเนื้อตัว แต่ไม่มีร่องรอยใดๆให้ยิ่งใจหายกว่านี้



   “ผมไม่เป็นอะไร” เรย์มอนด์พูดด้วยรู้สึกผิด ที่ทำให้หญิงคู่รักของเขาต้องห่วงใยถึงเพียงนี้



   “ไม่เป็นอะไรได้อย่างไรคะ ก็นี่...” นภาสรวงพูดไม่ทันจบดี เสียงเข้มงวดก็ดังขึ้นเบื้องหลัง



   “ดูสนิทสนมกันดีนะ! เท่าที่จำได้ นภากับเรย์พบกันครั้งเดียวไม่ใช่รึ?!!” หญิงสาวตัวชาวาบด้วยความตกใจ หล่อนสบตากับชายคนรัก ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความสำนึกผิด ขอโทษ และเสียใจ แล้วพอหันมองไปยังต้นเสียงเมื่อครู่ เห็นสีหน้าถมึงทึงของจันทร์จ้าวและอาการกอดอกจ้องเขม็งมาที่พวกหล่อน นภาสรวงก็ทราบในวินาทีนั้นว่าเรย์มอนด์ อดัมส์ต้องการขอโทษเรื่องใด



   ...เขาเคยให้สัญญากับหล่อนว่าจะไม่บอกใคร นอกเสียจากจะให้หล่อนเป็นคนบอกเอง แต่กระนั้น...เวลานี้จันทร์จ้าวคงทราบเรื่องจากปากเขาแล้ว...



   หญิงสาวถอนหายใจแผ่วราวกับยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้ เห็นสีหน้าท่าทางของผู้เป็นพี่ก็พอจะทราบดีว่าเขาไม่พอใจเพียงไรกับเรื่องทีเกิดขึ้น แต่ความรู้สึกของหล่อนและเรย์มอนด์ไม่ใช่เรื่องผิด เหมือนที่ความรู้สึกของจันทร์จ้าวและหมอภวัตก็ไม่ใช่เรื่องผิดเช่นเดียวกัน



   “พี่จันทร์คะ...”



   “ไปคุยกันข้างนอกเถอะครับ” เสียงของหมอภวัตดังขึ้นก่อนที่นภาสรวงจะทันได้พูดอะไร ทั้งจันทร์จ้าว หม่อมหลวงพงศ์ภราธร เรย์มอนด์ นภาสรวงไม่เว้นแม้แต่พวกพนักงานที่พานายฝรั่งมาส่งก็ยังพากันหันมองไปตามเสียงนั้น



   “อย่าคุยกันในนี้เลยครับ ออกไปคุยกันที่สวนจะดีกว่า” ภวัตย้ำ เพราะตอนนี้ที่ทุกคนยืนอยู่คือโถงของโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยผู้คน และใครหลายคนก็กำลังมองตรงมาที่กลุ่มของจันทร์จ้าวด้วยความสนใจ



   ไม่มีใครกล้าออกความเห็นอะไร ดูเหมือนจะรอให้จันทร์จ้าวตัดสินใจว่าจะออกไปคุยนอกโรงพยาบาลตามที่หมอภวัตเสนอมาหรือทู่ซี้คุยกันในโถงต่อไป รออยู่ชั่วอึดใจ ร่างสูงของจันทร์จ้าวก็หมุนตัวเดินนำออกจากโรงพยาบาลออกไปยังสวนด้านช้าง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถอนหายใจยาวเหยียดอย่างโล่งอกไปเปราะ ก่อนจะหันไปทางหมอภวัต



   “ผมถือว่าหมอยินดีเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ เชิญเดินนำพวกผมไปเลยครับ” เขาว่าอย่างนั้น นายแพทย์หนุ่มจึงเป็นคนเดินตามจันทร์จ้าวออกไปเป็นคนที่ ๒ ตามหลังด้วยนภาสรวง และหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่สั่งให้พนักงานกลับไปก่อนแล้วจึงหันมาพยุงเรย์มอนด์ อดัมส์ผู้ยังมีสีหน้าซีดเซียวตามหลังไปเป็นคนสุดท้าย




...............................................


   สวนข้างตึกโรงพยาบาลยังคงเงียบสงบ ทว่าจิตใจของจันทร์จ้าวร้อนรุ่มและเต็มไปด้วยไฟโกรธ เรย์มอนด์ อดัมส์และนภาสรวงคบหากัน หากไม่ใช่เพราะเขาจับสังเกตได้เองและหลอกถามให้ดารารัษมีพูด ชาตินี้เขาคงไม่มีวันรู้!



   ยิ่งคิดว่าถูกปิดบังจากน้องสาวและเพื่อนรัก จันทร์จ้าวก็ยิ่งไม่พอใจ เขาหยุดยืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ รอจนฝีเท้าที่เดินตามมาเบื้องหลังหยุดลง เขาจึงหันกลับไป ทว่าคนที่ยืนบังนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์ คือหมอภวัต



   “หลบไป เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหมอ!”



   “แต่เรื่องนี้ทำให้คุณโมโห และเรื่องของคุณเกี่ยวกับผม” คำพูดของหมอภวัตทำเอาคนกำลังหัวเสียถึงกับชะงัก จันทร์จ้าวมองสบเข้าไปในดวงตานายแพทย์หนุ่มที่มองตรงมาอย่างมั่นคงแล้วก็ต้องหันหลังให้เพราะอารมณ์เขินกำลังตีขึ้นมาแทนที่ความโกรธ



   ...พูดอย่างนี้ในเวลาเช่นนี้มันใช่เสียที่ไหน!! เอาไว้พูดเวลาอยู่กัน ๒ คนสิ!!...



   นภาสรวงซึ่งยืนอยู่เบื้องหลังหมอภวัตมองพี่ชายผู้หันหลังให้และหมอภวัตที่พยายามช่วยขวางพายุอารมณ์ของจันทร์จ้าว ดวงตากลมของคนเป็นน้องมองแผ่นหลังของพี่ด้วยความเข้าใจและเมื่อเบือนมามองแผ่นหลังของภวัตหล่อนก็ซาบซึ้งในความมีน้ำจิตน้ำใจของเขา



   “คุณหมอ ไม่เป็นไรค่ะ นภาจะคุยกับพี่จันทร์เอง” หล่อนเดินมาพูดกับนายแพทย์หนุ่มก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังของผู้เป็นพี่



   “พี่จันทร์คะ...” เจ้าของชื่อที่หล่อนเรียกยังคงยืนหันหลังให้ แต่กระนั้นนภาสรวงก็ทราบดีว่าพี่ชายของหล่อนกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่หล่อนจะพูดออกไป



   “นภากราบขอโทษพี่จันทร์ ที่นภาไม่ยอมบอกเรื่องของนภากับคุณเรย์” หล่อนพูดแล้วยกมือไหว้แม้เขาจะไม่หันมาก็ตาม



   “ถ้าพี่ไม่รู้เอง นภาคิดจะบอกพี่เมื่อไร!!” จันทร์จ้าวตั้งคำถามเสียงแข็ง ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ทิวไม้ไกลลิบเขม็งยังคงหันหลังให้นภาสรวงเพราะไม่อยากหันกลับไปมองหน้าน้องให้ช้ำใจที่หญิงสาวคบหากับเพื่อนของเขาโดยที่เขาไม่รู้ไม่เห็น



   “นภาขอโทษอีกครั้งค่ะ แต่นภาไม่คิดจะบอกพี่” คำตอบของนภาสรวงทำเอาคนสู้อุตส่าห์อดทนไม่หันมองต้องตวัดสายตากลับมาโดยพลัน ตกตะลึงเพราะไม่คิดว่านภาสรวงผู้หัวอ่อนจะกล้าตอบคำถามได้เข้มแข็งเช่นนี้



   หญิงสาวส่งยิ้มอ่อนหวานให้พี่ชาย แล้วหมุนตัวเดินกลับไปยืนเคียงข้างเรย์มอนด์ อดัมส์ที่ถูกพยุงโดยหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ราวกับเป็นการบอกให้จันทร์จ้าวที่ยืนนิ่งอ้าปากค้างได้รับรู้ว่าไม่ว่าอย่างไร หล่อนก็เลือกเรย์มอนด์ อดัมส์มากกว่าพี่ชายอย่างเขา



   “นภากับคุณเรย์เคยคุยกันแล้ว ว่าเรื่องของเราไม่มีทางเป็นไปได้ หากคุณพ่อคุณแม่ทราบ นภาคงถูกบังคับให้แต่งงานกับใครสักคน ในเมื่อเรา ๒ คนแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณีไม่ได้ เราก็จะดูแลกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ”



   “รู้ว่าเป็นไปไม่ได้แล้วทำไมถึงยัง...!!” จันทร์จ้าวร้องถามแล้วก็พลันชะงักไปเมื่อเหลือบดวงตามามองที่หมอภวัต



   ...ใช่...เขาเองก็ทราบว่าเรื่องของเขาและหมอไม่มีทางเป็นไปได้ แต่กระนั้น...หัวใจของเขาก็ยัง...



   นภาสรวงมองพี่ชายแล้วส่งยิ้มจาง



   “พี่จันทร์เองก็ทราบ...ว่าเรื่องเช่นนี้บังคับไม่ได้...”



   ...ใช่...บังคับไม่ได้ เพราะหากบังคับได้ เขาคงบังคับหัวใจตัวเองให้ไม่ต้องรักหมอภวัตได้นานแล้ว...



   “แล้วถ้าวันหนึ่งเรย์กลับอเมริกา?! นภาจะทำอย่างไร?!!” จันทร์จ้าวตั้งคำถามเสียงห้วน



   “เฮ้! ผมไม่เคยคิดจะกลับ...” เรย์มอนด์ยกมือขอพูดแทรก แต่พูดไม่ทันจบเพื่อนโมโหร้ายของเขาก็หันมาดุ



   “ผมถามน้องผม! คุณไม่เกี่ยว!! เรย์มอนด์ อดัมส์!!” นายฝรั่งตัวโตปิดปากเงียบกริบ นภาสรวงหันไปมองชายคนรักแล้วยิ้มจางอย่างเอ็นดูเขา เรย์มอนด์ อดัมส์เป็นผู้ชายร่างใหญ่ แต่กระนั้นเขาก็อ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษ



   “นภาตั้งใจเอาไว้แล้วค่ะ ว่าไม่ว่าอย่างไร นภาก็จะอยู่ที่นี่ นภาเป็นลูกสาวคนใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่ นภามีหน้าที่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ หากวันหนึ่งคุณเรย์ต้องกลับอเมริกา นภาก็จะเพียงไปส่งเขา หากเขากลับไปแล้ว และพบเจอผู้หญิงที่เขาต้องการแต่งงานด้วย นภาก็จะยินดี แล้วถือเสียว่าเราทำบุญมาด้วยกันเพียงเท่านี้”



   “Sky คุณอย่าได้กังวลเช่นนั้นเลย ผมไม่เคยคิดจะกลับอเมริกา ผมอยากอยู่กับคุณที่นี่ หรืออยู่ที่ไหนก็ได้ขอแค่มีคุณ” เรย์มอนด์ก้มหน้ามองหญิงคนรักที่ยืนอยู่เคียงข้างเขา ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวแต่ประการใด แต่สายตาที่ทอดมองกันและกัน แม้แต่จันทร์จ้าวที่กำลังโกรธเกรี้ยวก็ยังรับรู้ และยิ่งรู้...ก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดเป็นทวีคูณ



   “อย่าเพิ่งมองตากันตอนนี้ได้ไหม?!! คิดว่าทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นพยานรักรึไร?!!!” คนหงุดหงิดอยากจะเข้าไปจับแยกหญิงชายทั้งคู่ออกจากกัน แต่อะไรบางอย่างกลับยึดขาเขาเอาไว้ราวกับตอกตะปู เลยทำได้เพียงโวยเสียงเบาแต่สีหน้าหงุดหงิดเหลือประมาณ



   ...หากเขากีดกันนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์...น้องของเขาจะเสียใจ น้องของเขาจะเจ็บปวด...เขาที่เคยพูดกับดารารัษมีว่าหากไม่ยอมรับความรู้สึกของเขาและหมอภวัต ก็ให้วางเฉย มาบัดนี้เมื่อไม่ยอมรับความรู้สึกของนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์ กลับจะตีโพยตีพายทำทุกวิถีทางเหมือนเช่นที่ดารารัษมีทำอย่างนั้นหรือ?...



   นภาสรวงหันไปมองจันทร์จ้าวผู้ที่ยังคงมีหัวคิ้วขมวดมุ่น แล้วจึงเดินกลับไปหาผู้เป็นพี่ ยื่นมือออกไปแตะแขนเขาเบาๆ ครั้งแรกแขนนั้นเบี่ยงหนี แต่เมื่อหล่อนพยายามแตะอีกหน เขาก็ยอมอยู่นิ่งให้หล่อนแตะแต่โดยดี



   “พี่จันทร์ อย่าโกรธคุณเรย์เลยนะคะ หากจะโกรธ ก็ขอให้โกรธนภา เพราะนภาเลือกที่จะตอบรับความรู้สึกของเขาเอง” ดวงตากลมใหญ่เหลือบมามองหญิงสาวด้วยความรักและห่วงหา



   “ทั้งๆที่รู้ว่านภาจะไม่มีวันได้แต่งงานมีครอบครัวเหมือนคนอื่นๆ นภาก็ยังเลือกเช่นนี้อย่างนั้นหรือ”



   “ค่ะ” คำตอบรับแสนมั่นคงของหญิงสาวร่างแบบบางทำเอาหัวใจของนายฝรั่งตัวใหญ่ยิ่งสั่นไหว เขาหันไปบอกหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเบาๆให้ปล่อยเขาเดินเอง ก่อนจะก้าวเท้าไปยืนเคียงข้างหญิงคนรัก



   “จันทร์...ผมเองก็ผิด ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นน้องสาวของคุณ ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าความรู้สึกของผมจะทำให้ Sky ลำบาก แต่ผมก็ยังมุ่งมั่นที่จะรักเธอ” ไม่ใช่แค่จันทร์จ้าวที่รับรู้ความจริงใจของคนทั้ง ๒ ที่มีต่อความรักของกันและกัน แต่แม้กระทั่งหม่อมหลวงพงศ์ภราธรหรือภวัตก็ยังเห็นใจเรย์มอนด์และนภาสรวง จันทร์จ้าวไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ยิ่งกับน้องสาวแท้ๆด้วยแล้ว มีหรือเขาจะทนขัดขวางได้ลง ยิ่งน้องสาวพูดเช่นนั้นว่ายินดีไม่แต่งงานไปชั่วชีวิตเพื่อให้ได้รักกับเรย์มอนด์ อดัมส์ เขาก็ยิ่งทั้งเป็นห่วง ทั้งสงสาร แต่ครั้นจะให้ยอมรับด้วยความยินดี ก็เห็นจะไม่ใช่คนดื้อแพ่งคนนี้



   “ใครให้คุณพูดภาษาอังกฤษ เรย์มอนด์ อดัมส์!!!” เขาหันมาตวาดใส่นายฝรั่ง “น้องสาวของผมชื่อนภาสรวง! หากไม่เรียกนภาสรวงก็เรียกนภา ไม่ใช่เรียก Sky!! หากยังอยากคุยกับนภาต่อไปก็ต้องเรียกให้ถูกต้อง!”



๒ หนุ่มสาวมองจันทร์จ้าวด้วยความฉงน ทว่าคนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟกลับจับจ้องนายฝรั่งไม่วางตาด้วยสายตาแข็งกร้าว



   “ถ้าผมรู้ว่าคุณทำน้องสาวผมเสียใจ ผมจะส่งคุณกลับอเมริกา! แต่ถ้าคุณทิ้งน้องสาวผมกลับอเมริกา ผมจะลากคอคุณมาขอขมาแทบเท้าน้องสาวผม!! เข้าใจคำว่า ‘ขอขมา’ ใช่ไหม เรย์มอนด์ อดัมส์!! ขอขมาด้วยพานพุ่มธูปเทียน!!!” เป็นการเปิดทางที่ไม่มีคำอวยพรแต่ประการใด มีแต่คำขู่ทั้งขึ้นทั้งล่อง แต่กระนั้นก็เป็นประโยคที่นำความปิติยินดีมาให้ทุกคนที่ได้ยินเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรย์มอนด์ อดัมส์นั้นถึงกับยิ้มกว้างด้วยความดีใจราวกับตายแล้วเกิดใหม่



   “ผมจะไม่ทำให้ Sky เอ้ย! คุณนภาเสียใจเป็นอันขาด” นายฝรั่งรับปากแน่วแน่

หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 24-12-2015 19:55:55


“พี่จันทร์...” เสียงของนภาสรวงทำให้จันทร์จ้าวยอมละสายตาจากเพื่อนฝรั่งของตนเองมามองน้องสาว นภาสรวงส่งยิ้มให้เขาอย่างซาบซึ้งแล้วจึงยกมือไหว้



   “นภาขอบคุณพี่จันทร์ ที่เข้าใจนภากับคุณเรย์” จันทร์จ้าวไม่พูดกระไร เขาหันหน้าหนีไปอีกทางแล้วก็สบเข้ากับสายตาของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่มองตรงมาอย่างขอบคุณพร้อมด้วยรอยยิ้มบาง 



ดูเหมือนจะมีแต่คนขอบคุณในความใจกว้างของเขาเสียจริง ยิ่งคิด จันทร์จ้าวก็ยิ่งหงุดหงิด เขาไม่ได้ใจกว้าง ถึงความรักของน้องสาวและเรย์มอนด์ อดัมส์จะเหมือนกับเขา แต่จันทร์จ้าวก็ยังอยากให้นภาสรวงคบหากับคนไทยด้วยกันมากกว่า เพราะสามารถแต่งงานอยู่กินกันได้อย่างเปิดเผย มีสามีเป็นหัวหน้าครอบครัวที่สามารถคุ้มครองดูแลได้ แต่หากคบกับนายฝรั่งต่อไป ให้อย่างไรก็แต่งงานไม่ได้เพราะท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาไม่มีวันยอม นภาสรวงจะต้องอยู่ในสถานะโสดไปจนชั่วชีวิต ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าเรย์มอนด์ อดัมส์จะเคียงข้างไปจนแก่เฒ่า วันดีคืนดีอาจจะหนีกลับอเมริกา แล้วทิ้งน้องสาวของเขาให้อยู่กับความตรอมตรมก็เป็นได้



   จันทร์จ้าวหันหน้าหนีไปอีกทาง คราวนี้สายตาเจ้ากรรมไปสบเข้ากับสายตาอ่อนโยนของหมอภวัต ผู้ซึ่งทำให้เขารู้รสชาติของรักที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ และหากเขากับหมอภวัตไม่ได้รู้สึกต่อกันเช่นนั้น เขาจะไม่มีวันยอมให้นภาสรวงและเรย์มอนด์คบหากันเป็นอันขาด



   ภวัตกำลังจะยิ้มให้ แต่จันทร์จ้าวจ้องเขม็งแล้วขู่ฟ่อ



   “เพราะหมอคนเดียว!!” เขาว่าอย่างนั้นแล้วเดินกระแทกเท้ากลับเข้าไปในตึกโรงพยาบาล หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองตามหลังเพื่อนรักแล้วหัวเราะเบาๆ



   “ดูเหมือนจันทร์จะโกรธคุณหมอนะครับ” ภวัตถอนหายใจ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้า



   “เขาก็หาเรื่องโกรธผมเรื่อย ผมขอตามไปดูเขาก่อน ขอให้หายไวๆนะครับคุณเรย์” หมอภวัตพูดแล้วเดินตามคนรักไป ที่สวนของโรงพยาบาลจึงเหลือเพียงราชนิกูลแห่งวังฉัตร นภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมองเรย์มอนด์อดัมส์ที่ยืนเคียงข้างหญิงคนรักของเขา มีนภาสรวงก็คอยถามไถ่อาการว่าเจ็บมากเจ็บน้อยเพียงใด คนทั้งคู่คุยกันกระจุ๋งกระจิ๋ง ราชนิกูลหนุ่มจึงขอตัวเดินออกมาเงียบๆ เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า กำลังจะสบายอกสบายใจที่ทุกอย่างดูจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่จู่ๆเม็ดฝนเล็กๆก็โปรยปรายลงมา เขาวิ่งเข้าไปหลบในตึกของโรงพยาบาล พอมองออกไปที่สวนก็ไม่พบนายฝรั่งและหญิงสาวแล้วก็พอจะเบาใจได้ว่าคนทั้ง ๒ คงหลบฝนได้ทัน แต่หลังจากนั้นเพียงอึดใจเดียว ฝนเม็ดเล็กก็กลายเป็นฝนเม็ดใหญ่ที่เซซัดสาดกระหน่ำลงมาพร้อมกับฟ้าร้องดังกระหึ่ม



   ราชนิกูลหนุ่มมองฟ้าฝนที่ตกหนักแล้วใจคอไม่สู้ดี หวังว่าเขาจะแค่ใจคอไม่ดีเพราะเห็นฝนและเมฆทะมึน อย่าได้เป็นลางบอกเหตุอันใดเลย



........................................



   นอกจากหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและนภาสรวงกับเรย์มอนด์ อดัมส์จะติดฝนอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว จันทร์จ้าวที่ถูกหมอภวัตดึงให้เดินตามมาที่บ้านพักแพทย์ทางด้านหลังโรงพยาบาลก็กำลังติดฝนเช่นเดียวกัน



   “หมอจะพาผมมาทำไมก็ไม่รู้! มาแล้วก็ติดฝนอย่างนี้จะกลับออกไปอย่างไร!!” จันทร์จ้าวหันมาถามคนข้างกายอย่างเอาเรื่อง เมื่อพวกเขายืนอยู่ใต้ชายคาเฉลียงหน้าบ้านพัก มองดูน้ำที่ไหลเป็นทางลงมาจากหลังคา พอละสายตามองเลยออกไปก็เห็นแต่ม่านฝน ดูท่าจะเดินกลับไปที่ตึกโรงพยาบาลยาก เพราะฝนหนัก



   “ก็ไม่ต้องกลับสิครับ”



“พูดบ้าๆ!” ภวัตหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยปากชวน “เข้าไปข้างในเถอะ ยืนตรงนี้โดนละอองฝนจะไม่สบายเอา”



เจ้าของบ้านพักเดินนำเข้าบ้าน มีจันทร์จ้าวเดินตามทั้งที่ยังขมวดคิ้วมุ่น พอบานประตูปิดลง แขกผู้มีเกียรติก็ยืนเคว้งอยู่กลางบ้านส่วนเจ้าของบ้านเดินหายลับเข้าไปในห้องหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยผ้าขนหนู



“เช็ดเสียก่อน”



“ขอบคุณ” ร่างโปร่งรับผ้าขนหนูไปเช็ด แต่เช็ดอย่างลวกๆจนในที่สุดหมอภวัตก็แย่งผ้าขนหนูคืนกลับมาแล้วเป็นฝ่ายเช็ดให้แทน



“ผมทำเองได้หน่าหมอ”



“คุณทำเองแล้วผมขัดใจ ผมทำให้จะดีกว่า”



“ใครๆก็ไม่ชอบใจผมทั้งนั้น ขนาดน้องสาวผมยังไม่คิดจะบอกผมเรื่องที่คบกับเพื่อนผมเลย!” จันทร์จ้าวชักพาลพาโล ดวงหน้ายับย่น คิ้วขมวดมุ่นจนภวัตอดใจไม่ไหวจูบเบาๆที่หน้าผากเสียทีหนึ่ง แต่นั่นทำเอาคนถูกจูบถึงกับรีบยกมือขึ้นปิดหน้าผากแล้วร้องลั่น



“หมอทำอะไรน่ะ?!!” หัวขโมยจูบหน้าผากหัวเราะเบาๆก้มเพียงน้อยก็สบตากับดวงตากลมใหญ่ที่จ้องมองเขาเขม็งได้อย่างง่ายดาย



“ให้รางวัลครับ เมื่อครู่นี้คุณเก่งมากที่ยอมรับเรื่องของคุณนภากับคุณเรย์ได้” จันทร์จ้าวหัวดื้อและหัวแข็ง การที่ยอมรับเรื่องของนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์ได้โดยง่ายนั้น เป็นเรื่องแปลก



“ก็เพราะหมอน่ะซี!”



“หืม? เพราะผม?”



“ถ้าไม่มีเรื่องของผมกับหมอ ผมคงไม่มีวันยอมรับเรื่องนภากับเรย์ และผมอาจทำร้ายน้อง อาจสั่งให้นภาเลิกคบกับเรย์ อาจส่งเรย์กลับอเมริกา และอาจทำให้นภาเสียใจอย่างที่ผมเคยเป็น”



   “คุณจันทร์...” ภวัตครางอย่างคาดไม่ถึง เพราะความรู้สึกที่พวกเขามีต่อกัน จึงทำให้จันทร์จ้าวยอมเปิดใจให้กับเรื่องของนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์อย่างนั้นหรือ แม้ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อกันจะผิดแปลกไปจากสังคม ทว่าสำหรับจันทร์จ้าว มันกลับสร้างประโยชน์ให้อย่างนั้นหรือ ภวัตรู้สึกชุ่มชื้นไปทั้งอก



   “ที่ผมโทษว่าเป็นเพราะหมอ ผมขอโทษ แต่จริงๆแล้วก็เป็นเพราะหมอ ถ้าไม่ใช่เพราะหมอ ผมคงไม่รู้จักความรู้สึกอย่างนี้ และผมคงไม่ยอมรับนภากับเรย์” นายแพทย์หนุ่มมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสแจ๋วราวลูกแก้วด้วยความรักใคร่ มือหนาใหญ่ลูบแก้มขาวแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน ทว่าจู่ๆคนในอ้อมแขนของเขาก็ร้องเสียงดังลั่น



   “จริงสิ! ผมนึกออกแล้ว!!!” เขานึกออกแล้วว่าจะทำอย่างไรให้ดารารัษมียอมรับเรื่องของเขาและหมอภวัต



   “นึกออก?” ภวัตทวนด้วยความฉงน จันทร์จ้าวจึงนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่เคยบอกเรื่องดารารัษมีให้อีกฝ่ายทราบ จึงเสยิ้ม



   “เอ้อ...นึกออกว่าเย็นนี้อยากทานอะไร หมอรีบไปทำงานซี ออกเวรแล้วมาพาผมไปทานด้วย” นายแพทย์หนุ่มหัวเราะเบาๆ



   “แล้วอยากทานอะไรล่ะครับ”



   “ไว้หมอออกเวรก่อนแล้วผมค่อยบอก ไปได้แล้วหมอ ป่านนี้คนไข้ชะเง้อคอรอแย่แล้ว” จันทร์จ้าวดันร่างสูงให้เดินไปที่ประตู แต่ภวัตทำเป็นโยกโย้รั้งกายให้หนักแล้วเอี้ยวมามองคนที่พยายามดุนหลังเขา ดวงหน้าขาวยิ้มแย้มจนเห็นลักยิ้ม ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังมีความสุข และยิ่งเห็นจันทร์จ้าวมีความสุข ภวัตก็ยิ่งอดใจไม่ไหว เขาหมุนตัวกะทันหันทำเอาคนดันหลังเต็มแรงเซถลาเกือบจะล้มแต่นายแพทย์หนุ่มคว้าร่างนั้นเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเสียก่อน



   “หมอ!” คนอยู่ในอ้อมแขนร้องโวยเพราะอีกฝ่ายรัดร่างเขาแน่น ภวัตหัวเราะเบาๆ



   “ขอมัดจำก่อนแล้วจะไปทำงานนะครับ”



   “มัดจำอะไร...” ไม่มีคำตอบของคนขอมัดจำ เพราะนายแพทย์หนุ่มเจ้าของบ้านพักก้มลงมอบรสจูบหวานกับริมฝีปากสีจัดแล้ว จันทร์จ้าวหลับตาลงรับรอยจูบนั้นด้วยความเต็มใจ นอกจากจะมีความสุขเพราะอีกฝ่ายช่างเอาใจและดูแล เขายังมีความสุขเพราะนึกวิธีการดีๆที่จะจัดการน้องสาวคนเล็กได้อยู่หมัด



   ...คราวนี้ดารารัษมีจะไม่มีโอกาสขวางความรักของเขาและหมอภวัตอีก!...



......................................



    ฟ้าฝนยังตกหนัก อาณาบริเวณของเมฆฝนเป็นวงกว้าง นอกจากที่โรงพยาบาลแล้ว บ้านรักษพิพัฒน์ยังอยู่ในอาณาเขตของฝนด้วย ดารารัษมีกลับมาถึงบ้านก่อนที่ฝนจะตก หลังจากเมื่อตอนบ่ายได้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรขับรถไปส่งหล่อนที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี และได้สอน ๑ คาบอย่างไม่มีสมาธิ หลังจบคาบแล้วจึงกลับมาที่บ้านโดยไม่รออาทิตย์ไปรับพร้อมหม่อมหลวงพิมพัชราอย่างเคย



   หล่อนมีเรื่องติดค้างอยู่ในใจ และเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกับมารดาเพียงลำพัง



   “โชคดีไปนะ กลับมาก่อนจะติดฝน ไม่อย่างนั้นคงต้องรอพี่เขาแย่” คุณหญิงผกาหันมาพูดกับธิดาคนเล็กที่นั่งอยู่ใต้ชายคาร่วมกับหล่อน แต่มือยังตัดก้านดอกไม้ให้พอดีกับแจกันที่อยู่ตรงหน้า พักหลังมานี้ คุณหญิงไม่ใคร่จะเจ้ากี้เจ้าการงานบ้านงานเรือนเสียเท่าไร หลังจากเป็นลมไปแล้ว ๒ ครั้ง งานในครัวยกให้นภาสรวงดูแล ส่วนงานบนเรือนเป็นหน้าที่ดารารัษมีและจรวยคนรับใช้ใกล้ชิด ส่วนคุณหญิงหากไม่แกะสลัก ทำงานฝีมือ ก็จัดดอกไม้ พอให้คลายเหงาได้บ้าง



   “ลูกมีเรื่องอยากจะเรียนคุณแม่...” คุณหญิงผกาหันมองธิดา ดารารัษมีนั่งเกร็งเสียจนแปลกใจ



   “มีเรื่องอะไรหรือ”



   “คุณแม่...คิดเห็นอย่างไรเรื่องคู่ครองของพี่จันทร์คะ” มารดาชะงักไปโดยพลัน พักหลังมานี้จันทร์จ้าวทำตัวดีไม่มีเรื่องให้หล่อนระแคะระคาย ไม่มีเรื่องบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนไปยุ่งเกี่ยวกับสตรีผู้ใดมาเข้าหู หญิงเลวที่หล่อนเกรงว่าจะทำให้จันทร์จ้าวตกร่องปล่องชิ้นก็ดูเหมือนจะเป็นที่เบื่อหน่ายของบุตรชายไปเสียแล้ว คุณหญิงผกาใจชื้นจนไม่ได้คิดจะหาคู่ให้อีก จนกระทั่งดารารัษมีเอ่ยปากวันนี้



   “คู่ครองของพ่อจันทร์?! แม่ดาราหมายความว่ากระไร!!”



   “เอ่อ...ลูกหมายถึง...หมายถึง...คุณแม่หาคู่ไว้ให้พี่จันทร์หรือยังคะ พี่จันทร์ก็อายุเหมาะสมจะออกเรือนแล้ว หากแต่งงานพร้อมพี่อาทิตย์ไปเสีย ก็คงจะดี แต่งทีเดียว ๒ คู่ยังไรล่ะคะ” ดารารัษมีเกรงว่ามารดาจะเป็นลมไปอีก จึงรีบอธิบายเพิ่มเติม คุณหญิงผกาถอนหายใจพรู



   “พุทโธ่! แม่ก็นึกว่าเรื่องอะไร จู่ๆแม่ดาราก็มาถามเรื่องคู่ครองพ่อจันทร์ แม่ก็นึกว่าแม่ดาราไปพบไปเห็นพ่อจันทร์กับผู้หญิงเลวที่ไหนเสียอีก” คำพูดของมารดาทำเอาดารารัษมีพูดไม่ออก ด้วยเพราะสิ่งที่หล่อนพบเห็นนั้นไม่ใช่จันทร์จ้าวกับผู้หญิงเลวคนใด แต่เป็นจันทร์จ้าวกับผู้ชายอย่างหมอภวัตต่างหาก



   “ลูก...ไม่ได้เห็นเรื่องเช่นนั้นหรอกค่ะ แต่...แต่ลูกอยากให้พี่จันทร์แต่งงานแต่งการเสียที คุณแม่พอจะมองใครไว้บ้างหรือยังคะ”



   “ก็พอจะมองอยู่หรอกนะ แต่...แม่ก็ไม่อยากจะบังคับพ่อจันทร์เขา...”



   “แต่ลูกคิดว่าคุณแม่ควรบังคับ!” ดารารัษมีร้องขึ้นมาอย่างร้อนรน และพอเห็นสายตาของคุณหญิงผกาที่หันมองมาด้วยความตกใจ หญิงสาวผู้เป็นธิดาก็ถึงได้รู้สึกตัวแล้วจึงยกมือขึ้นไหว้ขอลุแก่โทษ



   “ขอโทษค่ะคุณแม่ ลูกแค่...แค่อยากเห็นพี่จันทร์มีครอบครัว เอ่อ...ลูกมีเพื่อนครูที่โรงเรียนอยู่คนหนึ่ง ชื่อคุณอุไร เธอเรียนจบจากเมืองฝรั่งเชียวนะคะ ตอนนี้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นเพื่อนสนิทของคุณพิมด้วยค่ะ ลูกเคยเห็นพี่จันทร์มองเธออย่างสนใจ ลูกก็เลยคิดว่า...เอ่อ...หากเป็นคุณอุไร พี่จันทร์คงจะไม่คิดว่านี่คือการบังคับของคุณแม่...”



   “พ่อจันทร์สนใจด้วยหรือ” คุณหญิงผกาหันมาถามอย่างแปลกใจ ด้วยเพราะจันทร์จ้าวเป็นลูกรัก มีหรือที่คุณหญิงจะไม่รู้จักนิสัยดี หากจันทร์จ้าวสนใจ ไม่จำเป็นต้องให้ดารารัษมีมาพูดให้หล่อนฟังหรอก ป่านนี้เขาคงตามไปเฝ้าที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีทั้งเช้า สาย บ่าย ค่ำแล้ว



   “ค่ะ...ลูกคิดว่าอย่างนั้น...” ดารารัษมีรับคำเสียงแผ่วแล้วได้แต่ก้มหน้า บีบมือประสานกันที่ตักอย่างอัดอั้น คุณหญิงผกามองธิดาคนเล็กด้วยสายตาสงสัย นอกจากหล่อนจะรู้จักนิสัยจันทร์จ้าวดีแล้ว หล่อนก็รู้จักนิสัยดารารัษมีดีเช่นกัน



   “ดารา แม่รู้ว่าลูกเป็นห่วงพี่เขา แต่พ่อจันทร์ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาบังคับหรอก ยิ่งเป็นเรื่องคู่ครองด้วยแล้ว หากว่าเขาไม่เห็นชอบ ก็เห็นจะป่วยการแนะนำ หรือถ้าเขาชอบ เขาไม่ปล่อยให้แม่ดาราเป็นคนมาพูดกับแม่เองหรอก ป่านนี้เขาคงเทียวไล้เทียวขื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว” ดวงตากลมโตของธิดาเหลือบมองหล่อนด้วยความสิ้นหวัง ทำเอาหัวอกคนเป็นแม่ได้แต่สงสาร แต่เพราะอีกฝ่ายคือจันทร์จ้าวที่คุณหญิงผกาไม่เคยใจแข็งบังคับเขาได้เสียที ครั้งนี้จะสั่งให้เขาแต่งงาน คุณหญิงก็ทำไม่ลง



   “เอาเถอะ...ถ้าอย่างไรดาราพาเพื่อนมาเที่ยวเล่นที่นี่บ้างก็แล้วกัน หากแม่เห็นแล้วถูกชะตา ก็จะสนับสนุนกับพ่อจันทร์เขาอีกแรง” ดวงหน้าของธิดาคนเล็กมีรอยยิ้มราวกับมีความหวัง แล้วจึงยกมือพนมไหว้



   “ขอบคุณค่ะคุณแม่! ลูกจะพาคุณอุไรมาเที่ยวที่นี่ค่ะ! ถ้าอย่างไรเป็นวันเสาร์นี้นะคะ! ลูกจะพาคุณอุไรมา”    



   “จ้ะ” คุณหญิงได้แต่รับคำ แล้วเหลือบมองธิดาที่ดูจะกลับมามีชีวิตชีวาดังเก่าด้วยความประหลาดใจ



   ...ดารารัษมีคงรู้เห็นอะไรมา ถึงได้รีบเร่งจะให้จันทร์จ้าวแต่งงาน...คุณหญิงเป็นกังวล ด้วยเพราะไม่อาจคาดเดาว่าสิ่งที่ธิดารับรู้มานั้นคือเรื่องใด



.........................................................



   ตอนที่หมอภวัตออกเวร ฝนก็ซาลงไปมากแล้ว แต่กระนั้นเมื่อเขาวิ่งกลับมาที่บ้านพักทางด้านหลังโรงพยาบาล เสื้อผ้าก็ยังเปียกชื้นอยู่ดี ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในบ้านพักก็พบว่าคนที่บอกว่าจะรอเขาออกเวรกลับนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้ยาวไปเสียแล้ว ภวัตอมยิ้มบางด้วยความเอ็นดู ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินเข้ามาหา จันทร์จ้าวยังคงนอนเอนหลับสบายเพราะอากาศในบ้านค่อนข้างเย็นเนื่องจากฝนตกและลมผ่านทางช่องหน้าต่าง เขาทรุดตัวลงนั่งยองข้างเก้าอี้ยาวแล้วเกลี่ยข้อนิ้วกับเส้นผมที่ตกลงมาละหน้า ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆที่ข้างขมับ



   “ตื่นได้แล้ว คุณจันทร์” เขากระซิบ และราวกับเป็นเหล็กร้อน เพราะคนกำลังหลับถึงกับสะดุ้งโหยงลืมตาตื่นโดยพลัน ภวัตเห็นสีหน้าคนเพิ่งตื่นอยู่ในอาการตระหนกตกใจแล้วก็หัวเราะเบาๆ



   “เป็นอะไรไป ผมปลุกแค่นี้ทำเป็นตกใจ”



   “ก็ตกใจน่ะซี! ผมเคยถูกปลุกอย่างนี้เสียที่ไหน!” พอพูดออกไปแล้ว ก็ราวกับจันทร์จ้าวจะเห็นความดีอกดีใจฉายชัดอยู่ในดวงตาคมคู่นั้น



   “ผมก็ไม่เคยปลุกใครอย่างนี้เช่นกัน” น้ำเสียงทุ้มนั้นแสนอ่อนโยน ทำเอาหัวใจคนฟังสั่นสะท้านจนต้องเบือนสายตาหนีไปทางอื่น ภวัตมองดวงหน้าขาวที่เริ่มขึ้นสีเรื่อยแล้วได้แต่ยิ้มจาง คราวแรกๆเห็นเป็นนักรัก ไม่คิดว่าพอถึงเวลาจริงๆ จะกลายเป็นคนเขินอายเช่นนี้



   “จะว่าไปแล้ว ก็เหมือนเรื่อง Slepping Princess นะครับ ต้อง ‘ปลุก’ เสียก่อน...จึงจะตื่น...” คำว่าปลุกในประโยคของหมอภวัตราวกับจะเน้นย้ำว่านั่นคือการปลุกที่แสนวิเศษ จันทร์จ้าวรู้สึกหวามไหวไปทั้งอก เขาพบเจอผู้หญิงมาก็มาก เฟิล์ตผู้หญิงมาก็ไม่น้อย แต่ไม่เคยมีครั้งไหนในชีวิตจะทำให้หัวใจไหววูบได้เท่านี้มาก่อน



   “ผม...ผมไม่เห็นรู้จัก...” คนถูกปลุกอย่างวิเศษได้แต่อ้อมแอ้มเสียงแข็งพยายามผลักเรื่องเมื่อครู่ให้พ้นตัว เพราะชักรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นสาวน้อยแรกรักเข้าไปทุกที



   ภวัตมองใบหน้าที่ขึ้นสีเรื่อด้วยความรักใคร่และเอ็นดู เขารู้ดีว่าจันทร์จ้าวกำลังเขินอาย และหากปล่อยให้เขินมากกว่านี้ เห็นทีจันทร์จ้าวอาจจะหาเรื่องไม่มาเที่ยวเล่นที่นี่อีก



   “แล้วรู้จักเรื่องอะไรบ้างครับ ไกรทองรู้จักไหม”



   “รู้จักสิ”



   “สมัยเด็กๆ ผมเคยเล่นกับนายเภา นายเภามักจะขอเป็นไกรทองทุกที ผมก็ต้องเป็นชาละวันเรื่อย” จันทร์จ้าวหันมามองแล้วหัวเราะเบาๆ



   “ของผมกลับกัน พี่อาทิตย์มักจะขอเป็นชาละวัน เพราะอยากให้ผมเป็นไกรทอง ผมเป็นไกรทองเสียจนเบื่อ บางทีก็อยากเป็นชาละวันบ้าง แต่พี่อาทิตย์มักจะเสนอตัวขอเป็นชาละวันก่อนทุกที ผมก็รู้หรอกน่ะ ว่าพี่อาทิตย์อยากให้ผมเป็นพระเอก แต่ผมก็มีอารมณ์อยากเป็นผู้ร้ายกับเขาบ้าง พี่อาทิตย์ไม่ค่อยจะเข้าใจผมเสียเลย” ภวัตฟังแล้วหัวเราะ อารมณ์เขินอายเมื่อครู่จางหายไปแล้ว ที่เหลืออยู่ตรงนี้คือความสบายใจที่ได้คบหาพูดคุยกัน



   “แล้วที่ว่าเย็นนี้มีร้านที่อยากทาน คือที่ไหนหรือครับ” เขาถามไปอีกเรื่องเมื่อเห็นว่าจันทร์จ้าวไม่มีอารมณ์ขวยเขินเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว ชายหนุ่มเรียนรู้ที่จะอยู่เคียงข้างจันทร์จ้าวในฐานะคนรักทีละน้อย ด้วยการไม่สร้างบรรยากาศหวามไหวนานๆ แต่ทำบ่อยๆก็คงไม่ว่ากระไร



   ดวงตากลมใหญ่เหลือบมามองคนถามที่ขยับออกไปนั่งเก้าอี้เดี่ยวใกล้ๆ ภวัตเป็นคนฉลาด และอันที่จริงแล้วจันทร์จ้าวไม่ชอบอยู่กับคนที่ฉลาดมากกว่า แต่คนฉลาดอย่างหมอภวัตแกล้งโง่เพื่อเขาบ่อยๆ คนฉลาดน้อยกว่าอย่างจันทร์จ้าวจึงอยู่กับคนฉลาดมากกว่าอย่างหมอภวัตได้อย่างสบายอกสบายใจ



   “เยาวราช”



   “อ้อ...ร้านอาหารจีนที่เยาวราชน่ะหรือ”



   “ไม่ใช่ ผมจะไปโฮเต็ลของคุณวินิตต่างหาก”



   “โฮเต็ลของคุณวินิต?” วินิตที่ว่าคงไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากนายวินิตเพื่อนร่วมตีเทนนิสที่สามารถตีโต้กับจันทร์จ้าวได้อย่างสนุก แม้จะเป็นฝ่ายจันทร์จ้าวที่ชนะทุกครั้งก็ตามที



   “ใช่ มีคนเคยบอกว่าคุณวินิตมีโฮเต็ลที่เยาวราช ตอนนี้กำลังชื่อดังเพราะเรสเตอร็องส์ในนั้นทำติ่มซำได้อร่อยมาก ผมก็เลยจะไปลองเสียหน่อย ขอผมใช้ห้องน้ำล้างหน้าล้างตาก่อน หมอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซี จะไปทั้งชุดนั้นหรือ” จันทร์จ้าวพูดแล้วลุกขึ้นจะเดินไปเข้าห้องน้ำทางด้านหลัง แต่ภวัตคว้าแขนเอาไว้ก่อนด้วยเพราะรู้สึกสงสัยที่จู่ๆอีกฝ่ายก็นึกอยากจะรับประทานติ่มซำที่โฮเต็ลของนายวินิต



   “คุณจะไปโฮเต็ลของคุณวินิตเพราะเรื่องติ่มซำอย่างเดียวหรือครับ” ดวงตากลมใหญ่มองสบเข้าไปดวงตาคมดุของเจ้าของคำถาม จันทร์จ้าวยกยิ้มที่มุมปาก



   “ไปถึงหมอก็รู้เองแหละหน่า” เขาเอ่ยก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางด้านหลังบ้านพัก ภวัตมองตามด้วยความห่วงใยและเป็นกังวล



ติดตามตอนต่อไป (เจอกัน พฤหัสที่ 7 มกราค่ะ)
ตอนที่แล้ว เป็นไปตามคาด ทุกคนจะต้องโกรธเกลียดดารา แต่อยากให้รู้ไว้ ถึงวันนี้ทุกคนจะเกลียดดารา แต่วันหน้าทุกคนจะเลิกเกลียดนาง (นางสตรองเหมือนพี่นางนี่แหละค่ะ ฮาฮา)
 
เอาจริงๆแล้ว บัวเซ็ตนิสัยจันทร์กับดาราให้เหมือนกันเลยค่ะ เพราะว่าอยากให้เป็นกระจกของกันและกัน เหมือนที่เรามักจะนิสัยคล้ายคนในครอบครัวเราคนใดคนหนึ่งมากๆ จนเห็นการกระทำของคนคนนั้นเหมือนกับเรางี้แหละค่ะ

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนเม้นท์ คนรอ และทุกๆกำลังใจ

สำหรับวันนี้ เมอร์รี่ คริสต์มาสค่ะ

เจอกันใหม่ตอนหน้า ปีหน้า (ไม่ชัวร์ว่าปีนี้จะมีตอนพิเศษสิ้นปีมั้ยนะคะ ช่วงนี้บัวป่วยบ่อย ถ้าหายป่วยทันพิมพ์ทัน จะเอามาลงให้อ่านกันค่ะ)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 24-12-2015 20:13:27
จิ้มๆๆๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: allegiant1994 ที่ 24-12-2015 20:15:17
ยังไงก็ไม่ชอบดาราค่ะ อย่างน้อยจันทร์ยังไม่ดื้อเท่านาง
ขอให้นางได้คนรักที่ยากลำบากมากกว่าจันทร์กับนภาด้วยเหอะ คงได้รู้ความรู้สึกคนอื่นบ้าง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-12-2015 20:19:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-12-2015 20:20:45
เมอรีคริสมาส แอนด์ แฮปปี้นิวเยียรค่าาา
รอดูต่อไป เกลียดดาราไหม เราหมั่นไส้นางมากกว่า
หาคู่ให้นาง นางจะได้เลิกฟุ้งซ่านดีไหม ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 24-12-2015 20:28:15
รอตอนพิเศษยาวๆจ้า เบื่อดารานะผ่อนบางก็ได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 24-12-2015 20:30:31
หมอน่ารักมากคือมาแนวอบอุ่นใจดีสปอร์ตพระนครสุดๆ โหแล้วอย่างงี้จันทร์ไม่รักได้ไง
ขอให้คุณบัวหายป่วยไวๆนะคะ
เมอร์รี่คริสต์มาสค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 24-12-2015 20:30:45
 :katai1: :katai1: :katai1:

โอ๊ยเครียดดดด ดารา นางจะทำอะไรเนี้ยะะะ

ไม่อยากให้มีมาม่าชามโตเลย เราไม่ชอบกินมาม่าาาาา

 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 24-12-2015 20:31:23
ดาราจะจับคู่อะไรให้จันทร์เนี่ยย

หวานกันจริงหมอภวัตกับจันทร์ ส่วนคุณพงศ์ก็เป็นตัวกลางดีเยี่ยมมม o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 24-12-2015 20:38:24
ขอบคุณค่ะ 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 24-12-2015 20:39:14
รอติดตามดูว่าจันทร์จ้าวของเราจะทำยังไงต่อไป อิอิ

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 24-12-2015 20:40:59
เราคิดว่าความคิดแบบดาราและจันทร์เรื่องการคบคนในสมัยนั้นไม่แปลกนะ

แต่น่าหมั่นไส้ค่ะ 555555

ขอบคุณที่มาต่อค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 24-12-2015 20:42:40
จันทร์จะทำอะไรหนอออ
อยากให่ถึงพฤหัสหน้าแล้ววว


#ทีมรอการคืนกำไรสู่คุณหมอ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 24-12-2015 20:45:40
โอ๊ยยยยย
พี่จันทร์ที่ไม่ยอมก็เพราะรักและห่วงน้องมากๆๆๆ
กลัวน้องจะเสียใจ
เหตุผลพอยอมได้ที่เธอเหวี่ยงนะ
ดีที่คุณหมอมาข่วยห้ามนะ
พอจะเหวี่ยงอะไร ก็นึกได้ว่าเรื่องของตัวเองไม่ต่างกัน

คุณหมอผู้ชายที่เฉยๆ  นิ่งๆ คนนั้นหายไปไหนคะ
เวลาจะหวานใส่กัน
ทำเอาจันทร์เจ้าปู้มากประสบการณ์เขิลม้วนไปเลย
ขอแบบนี้บ่อยๆนะคะ  ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-12-2015 20:48:43
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 24-12-2015 20:52:31
ชอบหมออะ ไม่ตามใจจนเกินไป เข้าอกเข้าใจ เป็นว่าที่สามีที่ดี อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 24-12-2015 21:02:29
ไม่ได้เกลียดดารานะครับ สิ่งที่ดาราแสดงออกมันเป็นไปอย่างสมจริงแล้ว ถ้าเทียบไปดาราก็คือคนรุ่นทวดของยุคปัจจุบัน ในสมัยที่ข้อมูลข่าวสารยังไม่โลกาภิวัตน์อย่างทุกวันนี้ ความเข้าใจในเรื่องรักระหว่างเพศเดียวกันมันคงน้อยนิดและบิดเบี้ยว ถ้าทุกคนในเรื่องพร้อมใจกันเข้าใจและยอมรับความสัมพันธ์นี้ในทันทีมันคงจะแปลกมากทีเดียวครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 24-12-2015 21:25:52
หมอนี่ขยันหยอดจริง ๆ
เห็นใจดารานะ
ขอให้เจอทางออกที่ดีสำหรับทุกคน

ขอให้คุณบัวร่างกายแข็งแรงไว ๆ นะคะ
เมอร์รี่คริสต์มาสค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 24-12-2015 21:34:43
แมรี่คริสต์มาสและสวัสดีปีใหม่นะคะ
รอคุณจันทร์ปราบดารา คือไม่ชอบดาราที่จุ้นจ้านก็จริง แต่ไม่ถึงเกลียด เพราะจริงๆ นางก็ดี
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-12-2015 21:41:01
รอดูจันทร์สำแดงฤทธิ์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-12-2015 21:42:48
จันทร์จะเล่นซนอะไรอีกล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-12-2015 21:44:09
"ภวัตเป็นคนฉลาด และอันที่จริงแล้วจันทร์จ้าวไม่ชอบอยู่กับคนที่ฉลาดมากกว่า แต่คนฉลาดอย่างหมอภวัตแกล้งโง่เพื่อเขาบ่อยๆ คนฉลาดน้อยกว่าอย่างจันทร์จ้าวจึงอยู่กับคนฉลาดมากกว่าอย่างหมอภวัตได้อย่างสบายอกสบายใจ"
 
ชอบอ่ะ...

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 24-12-2015 21:49:24
จันทรจ้าวจะทำอะไรล่ะนี่!!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 24-12-2015 21:54:40
เหมือนจันทร์จะหาวิธีแก้ปัญหาของตัวเองกับดาราได้แล้วยังไงยังงั้นเลย

แต่ไม่ชอบดาราเลยอ่ะ ยิ่งอ่านยิ่งคิดว่านี่เป็นพี่น้องกันน่าจะช่วยคิดหาวิธีซิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 24-12-2015 22:13:54
คิดอยู่เหมือนกันว่านิสัยดารากับจันทร์นี่เหมือนกันมากๆ
นภากับอาทิตย์นี่ก็เหมือนๆกันเลย
จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าน้าาาา

ปล.ดาราจะมีคู่รักเป็นของตัวเองหรือเปล่านะ?ไม่อยากให้ดารามีคู่เลยอยากให้โสดเป็นเพื่อนกัน5555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 24-12-2015 22:26:14
skyเอ้ย นภาช่างเข้มแข็งเสียนี่กระไร รู้สึกทึ่งเมื่อนภาพูดถึงความรักของตัวเองกับเรย์มอนด์ ทั้งนภา ดารา แม้แต่จันทร์เองก็ดืัอไม่แพ้กัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 24-12-2015 22:26:37
มีแผนอะไรอีกหนอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 24-12-2015 22:33:48
แอบลุ้นกับดารา นิสัยนางเหมือนจันทร์จริงๆแหละ 5555
นี่คู่นางจะหินสักเท่าไหรกันน้า :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 24-12-2015 22:49:50
คิดว่าจันทร์รับมือได้อยู่แล้ว

แต่แหมตอนนี้มีหวานนิดๆด้วย :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 24-12-2015 22:52:46
รอพิเศษๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-12-2015 22:53:28
จันทร์อย่างกะเด้กน้อย ขึ้นๆลงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 24-12-2015 22:54:39
หมอน่ารักตลอดเลย :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 24-12-2015 23:08:54
รอพฤหัสหน้าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 25-12-2015 00:02:22
จันทร์เจ้าจะสตรองแค่ไหน
ก็แพ้ทางหมอสินะ
 :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 25-12-2015 00:13:31
คำผิดตอนนี้นะคะ (ขึ้นด้วยคำผิดก่อนเลยเพราะเม้าท์ยาว 55555555)
จันทรืจ้าว - จันทร์จ้าว
ด้านช้าง - ด้านข้าง

ตอนที่แล้วลืมเม้น! รู้สึกพลาดมากค่ะ T ______ T สำหรับเราเราไม่โกรธดาราเลยนะ
อาจจะเพราะเราเรียนสายสุขภาพด้วยมั้งคะ เลยเข้าใจว่าทัศนคติของคนเราด้านสุขภาพเนี่ย มันเปลี่ยนไปตามยุคสมัยค่ะ
ยุคก่อน(ไม่แน่ใจช่วงยุคนะคะแต่มีแน่ๆ)มองว่าเพศอื่นนอกจากชายหญิงเป็นความผิดปกติ เป็นโรคชนิดหนึ่งเลยทีเดียว
แล้วพอเวลาผ่านไป มนุษย์ก็เริ่มทำความเข้าใจมากขึ้น ทัศนคติก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆจนถึงตอนนี้ก็ไม่ใช่จะพูดว่าปกติหรอกค่ะ
(เชื่อว่าถึงจะ 2015 แล้วแต่ถ้าผู้ชายเดินจับมือกันคนก็ยังมองอยู่ดี) เพราะฉะนั้นการที่ดาราจะรับไม่ได้ เราไม่แปลกใจเลยซักนิด
ไม่คิดโกรธอะไรเธอด้วยค่ะ 5555555555 อาจจะงงๆนิดนึงเพราะคิดว่าดาราจะเป็นคนคอยสนับสนุนพี่จันทร์
แต่พอลงแบบนี้ก็เข้าใจแหละว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากกกกกกที่จะรับไม่ได้ เอาจริงๆกลับกันถ้านภาไม่ได้รักคุณเรย์ก็อาจจะทำใจไม่ได้ก็ได้นะคะ

จนถึงตอนนี้แล้วยังนับถือใจนภาเหมือนเคยเลย รู้สึกแอบเห็นคุณน้ำจากจอมร้ายอยู่ลางๆในตัวเธอนะคะ
คือเป็นผู้หญิงที่ดูภายนอกเหมือนหัวอ่อน ว่าง่าย ไม่สู้คน แต่จริงๆแล้วทั้งเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวจนต้องยอมเธอเลยค่ะ

มาที่คุณหมอบ้าง .. ฮือออออ เราหลงรักหมอแรงมากเลยค่ะ T _____ T / แบบถอนตัวไม่ขึ้นเลย
คือฉากที่คุณหมอทำจันทร์เขิน อยากบอกว่าเราก็เขินไปด้วยค่ะ 555555555 หมอน่ารักมากกกกก สวีทมากกกกกกกก
คราวนี้ไปโฮเต็ลจะเกิดเรื่องอะไรไหมเนี่ย คุณพงศ์เธอว่าฟ้าฝนเป็นลางไม่ดีซะแล้ว ; - ;
ไม่รู้จะไปเจอคุณหญิงท่านไหนที่โฮเต็ลรึเปล่าล่ะเนี่ย แค่คิดก็กลุ้มแล้วค่ะ

จะรอติดตามตอนต่อไปแล้วกันนะคะ

ปล. จริงๆจนถึงตอนนี้ก็ยังเฮิร์ทกับจอมร้าย 2 ที่ซื้อมานิดนึงเวลาขวัญทำพี่โตเจ็บ ไม่อยากให้จันทร์ทำคุณหมอเจ็บเลยค่ะ TT
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 25-12-2015 06:43:48
รอดูตอนดาราสตรองนะ แต่ตอนนี้ขัดใจดารา
จันทร์เป็นพี่ที่หวงน้องงงมากกก 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 25-12-2015 07:26:58
สมเป็นจันทร์เจ้า โกรธง่าย ขี้โมโห สงสัยหมอเท่านั้นที่เอาอยู่  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 25-12-2015 08:39:05
สู้ๆหมอ
จันทร์โกรธมากแต่ยังเขินหมอด้วย
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 25-12-2015 09:52:05
อย่างที่คุณพงศ์กลัวล่ะ ดาราเธอจัดให้แล้ว บอกแม่ให้จัดหาสาวให้จันทร์
แต่จันทร์ซะอย่างต้องแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว
ชอบตอนจันทร์อยู่กับหมอจัง

 :mew1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 25-12-2015 09:55:13
อ่านไปก็เขินไป ฟินแทนคุณหมอกับคุณจันทร์ มันเป็นอะไรที่ลงตัวแบบสุดๆ

แต่แบบ อยากรู้จัง คุณจันทร์มีแผนการอะไรหว่า ?!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 25-12-2015 11:40:39
จันทร์เจ้าจะทำอะไรคาดเอาไม่ออกจริงๆ ได้แค่รออย่างเดียวล่ะนะ ชอบนภามากกกเป็นคนที่มั่นคงแน่วแน่ และเด็ดเดี่ยวจังเลย ส่วนคุณหมอนี่แบบทำเอานักรักตัวงยงอย่างคุณจันทร์อายม้วนนี่ไม่ธรรมดาเลยค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 25-12-2015 12:16:36
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-12-2015 12:20:51
คุณหมอกำไรสุดๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-12-2015 14:47:16
หมอ หยอดบ่อย ๆ จันทร์เขินน่ารัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 25-12-2015 16:19:59
Merry's ค่ะ

ชอบพี่จันทร์นางดีขึ้นนะ
ชอบพี่หมอด้วย
แต่ประทับใจคุณพี่พงศ์มากที่สุด ขอคนดีๆให้นางหนึ่งคนนะคะ
ช่วยคู่อื่นเสียเยอะเลยยย รักคุณพงศ์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: niza59 ที่ 25-12-2015 17:07:32
ไม่ชอบดาราเลย คิดจะจับคู่ให้คุณจันทร์ :angry2:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 25-12-2015 17:21:55
ดาราเยอะไปอ่ะ อะไรจะรังเกียจถึงขนาดจะจับคู่ให้พี่ชายตัวเองตามอำเภอใจขนาดน้านนน

จันทร์จ้าวยังค้านเรื่องนภาแปปเดียวเองแต่ดารานี่ไม่ยอมเลิกจริงๆ :katai1: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 25-12-2015 19:02:09
รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณบัว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 25-12-2015 21:48:05
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 25-12-2015 22:29:38
เราไม่โกรธเกลียดดาราก็ได้ คิดดีๆแล้วดาราออกจะน่าสงสารมากกว่าที่ต้องไฝว้กับพี่จันทร์ผู้อยู่เหนือความคาดเดา หนทางเอาชนะยากมาก นี่จะทำอะไรอีกเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 26-12-2015 07:56:47
คุณพงษ์จะได้คู่กับเภาหรือเปล่าแต่ทั้งคู่ก็เหมาะสมกันดีนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 26-12-2015 11:05:01
ขอใหสุขภาพแข็งแรงค่ะคุณบัว
ตอนพิเศษไม่รีบ ตามมาทีหลังได้ 555
จันทร์เจ้าแพ้ทางคุณหมอมากๆอ่ะ จะบีบก็ตาย ถ้าคลายก็รอด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 26-12-2015 13:55:22
รวบยอดแล้วกันเนอะ. สนุกมากคร้าบ ครอบครัวอบอุ่น ตัวละครเยอะมากมาย บุคลิกตัวละครชัดเจน มีความสำคัญทุกคน มีความสุขที่สุดคงเป็นเรื่องความรักของ. 4 พี่น้อง อาทิตย์ จันทร์ นภา ดารา เสียน้ำตาตรงบทของดารากับจันทร์ ที่ทะเลาะกันในสำนักงาน. ต่างคนไม่ยอมกันทั้งคู่ ใจเด็ดเหมือนกัน แต่ความรักสองพี่น้องก็ยังเหนียวแน่น ส่วนความรักของคุณหมอกับจันทร์ละมุนละไม หอมหวานนุ่มลิ้น คุณพงศ์ตามใจจันทร์เนอะ. ไม่เคยขัดใจได้ซักครั้ง เป็นความรู้สึกที่บอกว่า คุณพงศ์รักจันทร์แบบน้องชายมาก. แล้วคุณพงศ์จะคู่กับใครล่ะ. ดาราก็จะถูกขับคู่กับวินิต เป็นความคิดของจันทร์อีกล่ะ อิอิ ขอบคุณคร้าบน้องบัว เป็นเรื่องที่ 2. ที่รักมาก รองจาก ของขวัญ เรื่องจอมร้ายยังตรึงอยู่ในความรู้สึกตลอด อยากจะแย่งพี่โต. จากของขวัญ.
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 26-12-2015 14:18:54
นภาสรวงเป็นผู้หญิงที่ดูเรียบร้อย แต่จริงๆ แล้วภายในเป็นคนที่เข้มแข็งมากทีเดียว

#ทีมนภาสรวง

ปล.สงสารคุณพงศ์จริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 26-12-2015 23:10:07
หืออ จันทร์จ้าวจะทำไรอย่าบอกนะว่าจะจับคู่วินิตกับดาราโถวว นี่อุตส่าห์เชียร์คุณพงศ์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Preenp ที่ 27-12-2015 11:12:44
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: DragaSky ที่ 27-12-2015 21:16:31
โอ้ยพลาด..รู้สึกว่าตัวเองพลาดมากที่ข้ามเรื่องนี้เพราะชื่อเรื่องไป
แบบว่ากลัวมันจะหวานแววแต๋วจ๋า ด้วยไม่ค่อยชอบนายเอกสะดิ้งมาก แต่คุณจันทร์ของหมอแมนๆกวนๆน่ารักดี เนื่อเรื่องละมุนสบายอ่านแล้วอมยิ้มทุกตอนไป  หลงรักเลยเรื่องนี้ ดีงามทุกตัวละคร การดำเนินเรื่องไม่น่าเบื่อเลย ขอลงชื่อเป็นแฟนคลับคุณจันทร์เลยละกันนะคร้าาา :mew1: o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 28-12-2015 17:07:59


อา... ยุ่งเหยิง ยุ่งเหยิง
ขอให้แผนการของคุณจันทร์ได้ผลด้วยเถอะ
ไม่อยากให้ดาราดึงผู้หญิงอีกคนให้เข้ามาเป็นตัวเล่นในเกมเปลี่ยนใจพี่ชายเลย
สงสารนาง... และสงสารทุก ๆ คนที่ต้องอยู่ในเกมนี้ของดาราด้วย

เป็นกำลังใจ กำลังกายให้เลยค่ะ ขอให้คุณบัวแข็งแรง ไม่จน ไม่เจ็บรับปีใหม่ที่จะมาถึงนี้นะคะ ^^  :L1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 28-12-2015 17:38:28
Happy New Year 2016 ขอให้คุณบัวมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี และแข็งแรงยิ่งๆขึ้นไปตามปี พ.ศ. ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะฮะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 30-12-2015 10:39:34
ดาราอย่าพยายามเลย หาเรื่องใส่ตัวเปล่าๆนะนี่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: FRA. ที่ 30-12-2015 19:03:44
ดาราอย่าซิ  :angry2:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 02-01-2016 10:16:10
รออยู่เสมอนะครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 02-01-2016 10:29:28
คิดถึงจัง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 02-01-2016 20:33:19
ชอบคุณหมอกับจันทร์มากกกก เอ็นดูๆๆๆ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Preenp ที่ 02-01-2016 23:20:41
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-01-2016 19:44:52
ความรักของคุณหมอเข้ามายึดอิทธิพลภายในใจของจันทร์จ้าวไปจนเต็มที่พื้นที่แล้วนะคะเนี่ย ไม่อย่างนั้นคงอีกนานเลยนะคะกว่าเจ้าตัวเขาจะยอมใจอ่อน :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 06-01-2016 22:35:17
รออยู่นะคะ คิดถึงคุณจันทร์กับหมอภวัตแล้วอะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๖ (๒๔ ธ.ค. ๕๘/หน้าที่ ๓๗)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 07-01-2016 11:32:24
คุณจันทร์จะมีแผนอะไรนะ
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 07-01-2016 20:20:24
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๑๗



   โฮเต็ลของนายวินิตเป็นโฮเต็ลเล็กๆในเยาวราช แต่กระนั้นชื่อเสียงของร้านอาหารในโฮเต็ลก็เริ่มเป็นที่รู้จัก เพราะบริการติ่มซำชั้นดีให้แก่ลูกค้ามีฐานะ และหนึ่งในลูกค้าของวันนี้คือจันทร์จ้าวกับหมอภวัต



   “ไฮ! คุณจันทร์ สวัสดีครับ คุณหมอ วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงนี่” นายวินิตเดินตรงปรี่เข้ามาที่โต๊ะอาหารของคนทั้งคู่ด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ



   “ลมฝนน่ะซี ทำเอาอยากชิมติ่มซำขึ้นมา ก็เลยมาถึงนี่อย่างไรล่ะ คุณวินิตยุ่งไหม นั่งด้วยกันก่อน” จันทร์จ้าวเชิญชวนให้เจ้าของโฮเต็ลนั่งร่วมโต๊ะ นายวินิตไม่รอช้ารีบทรุดกายลงนั่งทันทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม



   “แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ ติ่มซำอร่อยไหม”



   “อย่าเรียกว่าอร่อยเลย เรียกว่ารสเลิศดีเยี่ยมจะดีกว่า!” คำพูดของชายหนุ่มเจ้าของลักยิ้มที่แก้มซ้ายยิ่งทำเอาคนฟังถึงกับยิ้มกว้างกว่าเมื่อครู่ แต่ก็ไม่วายหันไปทางเพื่อนร่วมโต๊ะอีกคนหนึ่ง



   “แล้วคุณหมอล่ะครับ ว่าอย่างไร รสชาติถูกปากไหม” หมอภวัตยิ้มจางก่อนจะตอบ



   “ถูกปากมากครับ อร่อยมาก”



   “แหม้! ได้ฟังอย่างนี้ก็ชื่นใจ! นี่ผมชวนคุณพงศ์กับมิสเตอร์อดัมส์หลายหนแล้ว ๒ คนนั้นก็ยังไม่มาเสียที คราวหลังวานคุณจันทร์กับคุณหมอฉุดกระชากพวกเธอมาทีเถอะ จะได้ไม่หาว่าผมโม้อีก” คนทั้งโต๊ะหัวเราะกับคำขอของนายวินิต จันทร์จ้าวทำเป็นมองไปรอบห้องอาหารที่มีลูกค้ามากมาย



   “ลูกค้าแน่นอย่างนี้ เห็นจะหาว่าโม้ไม่ได้หรอก” นายวินิตมองไปรอบร้านตามนั้นแล้วก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจที่กิจการห้องอาหารซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ในโฮเต็ลนี้เป็นไปด้วยดี คนที่มาลิ้มลองติ่มซำของที่นี่ไม่ใช่แค่แขกที่มาพักในโฮเต็ลเท่านั้น แต่ยังมีลูกค้าขาจรอีกมาก และลูกค้าขาจรหลายคนก็กลายเป็นลูกค้าขาประจำไปในไม่ช้า



   “กิจการดี เห็นทีคงต้องมีเถ้าแก่เนี้ยะมาช่วยดูแลแล้วกระมัง” จันทร์จ้าวหยอก ทำเอาเจ้าของโฮเต็ลต้องหันมามองแล้วก็พานเป็นยิ้มเขิน



   “โธ่! พูดไปเถอะคุณจันทร์ กระผมไม่ได้รูปงามนามเพราะแบบคุณจันทร์ การศึกษาก็ไม่สูง ป๊ากับม๊าเป็นคนจีนโพ้นทะเล ใครเขาจะอยากมาร่วมหัวจมท้ายไปกับผมเล่า”



   “เดี๋ยวนี้คนจีนคนไทยก็อยู่รวมกันได้ คุณวินิตก็ไม่ใข่จะไม่มีการศึกษาเสียหน่อย หนำซ้ำยังมีความคิดความอ่าน ปรับปรุงกิจการจนไปได้ดีอย่างนี้ ใครๆก็ต้องสนใจอยากได้คุณวินิตไปเป็นเขยทั้งนั้น” จันทร์จ้าวหว่านล้อม ดวงตากลมใหญ่จับจ้องเจ้าของโฮเต็ล นายวินิตมีท่าทีเขินกับคำชื่นชม เขาจึงไม่รีรอรีบปิดงานเสียเลย



   “นี่คุณวินิต...หากคุณวินิตยังไม่มองใครมาเป็นเถ้าแก่เนี้ยะล่ะก็ ผมมีคนอยากจะแนะนำคุณสักหน่อย”



   “แนะนำ?” นายวินิตเหลือบตากลับมามองอย่างหลากใจ จันทร์จ้าวยกยิ้มที่มุมปาก



   “แนะนำ...ใครหรือครับ” เจ้าของโฮเต็ลมองจันทร์จ้าวและหมอภวัตอย่างใคร่รู้ จันทร์จ้าวมีสีหน้าสมใจแตกต่างจากภวัตที่ดูจะคาดไม่ถึงว่าจันทร์จ้าวจะมาที่นี่เพราะเรื่องนี้



   “ดารารัษมี...น้องสาวของผมอย่างไรล่ะ”



   คำพูดของจันทร์จ้าวก่อปฏิกริยาให้แก่ชายหนุ่ม ๒ คน คนหนึ่งคือนายวินิตที่นิ่งตะลึงด้วยความขวยเขิน แต่อีกหนึ่งนิ่งงันด้วยความสับสนและตกตะลึง



   ...จันทร์จ้าวจะจับคู่นายวินิตกับดารารัษมีอย่างนั้นหรือ?!!!...



   หมอภวัตหันมองคนข้างกายที่ยังมีรอยยิ้มสมใจที่มุมปากจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้ายชัดเจน แต่ที่เขาไม่เข้าใจอย่างชัดเจนเอาเสียเลย คือเหตุใดจันทร์จ้าวจึงต้องรีบเร่งหาคู่ให้น้องสาวคนเล็กเช่นนี้ด้วย


.......................................



   เยาวราชเป็นย่านที่มีชื่อเสียงในด้านอาหารจีนเนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนโพ้นทะเลเก่าแก่ ดังนั้นเมื่อวันนี้หม่อมหลวงพิมพัชราชักชวนคนรักที่มารับที่โรงเรียนไปรับประทานอาหารจีน อาทิตย์จึงไม่รอช้าที่จะขับรถพามายังเยาวราช



   ฝนตกตั้งแต่บ่าย จนกระทั่งเย็นที่เหลือเพียงละอองชื้นในอากาศให้ความเย็นสบายผิว ๒ หนุ่มสาวจอดรถที่ริมถนนแล้วพากันเดินเตร่หาร้านอาหารจีนใหม่ๆ เนื่องจากร้านเดิมที่เคยรับประทานนั้นคนเยอะจนต้องรอโต๊ะ ทว่าไม่ทันที่จะตัดสินใจเลือกร้าน สายตาของหญิงสาวก็เหลือบไปเห็นคนคู่หนึ่งเดินออกมาจากตึกข้างหน้าเสียก่อน



   “นั่นคุณจันทร์กับคุณหมอนี่คะ” หม่อมหลวงพิมพัชราเอ่ยแล้วหันมาหาคนรักที่อยู่ข้างกาย อาทิตย์มองตามแต่เพราะผู้คนที่เดินไปมากันให้ขวั่ก ทำให้เขามองไม่เห็น



   “สงสัยจะมารับประทานอาหารจีน...” ราชนิกูลสาวพูดอย่างยินดีที่ได้พบเจอคนทั้ง ๒ ทว่าอาทิตย์กลับรู้สึกประหลาดใจที่พบจันทร์จ้าวและหมอภวัต



“คงจะดีกันแล้ว” เขาครางกับตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้จันทร์จ้าวยังโมโหเมื่อนภาสรวงพูดถึงหมอภวัตกลางโต๊ะอาหารที่บ้านรักษพิพัฒน์อยู่เลย



“ดีกันหรือคะ?...”



“ครับ ดูเหมือนว่าหลังจากงานเลี้ยงต้อนรับจันทร์ที่วังฉัตรคราวนั้น จันทร์จะทะเลาะกับคุณหมอ” อาทิตย์เล่าเพียงเท่านั้นหม่อมหลวงพิมพัชราก็นึกถึงท่าทีของพี่ชายของหล่อนที่ถามไถ่เกี่ยวกับจันทร์จ้าวและหมอภวัตทันทีที่หล่อนกลับจากบ้านรักษพิพัฒน์เมื่อครั้งที่หล่อนนำข้าวเกรียบปากหม้อไปฝากคนบ้านนี้โดยมีหมอภวัตและเภาติดตามไปด้วย



“มิน่าล่ะ วันนั้นที่พิมนำขนมไปฝาก พอกลับถึงวัง พี่พงศ์ถึงได้ถามพิมว่าคุณหมอกับคุณจันทร์เป็นอย่างไร พี่พงศ์คงจะทราบว่าคุณหมอกับคุณจันทร์ทะเลาะกันนี่เอง”



“คุณพงศ์มาถามหรือครับ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรและจันทร์จ้าวเป็นเพื่อนรักกัน การที่ราชนิกูลหนุ่มจะทราบว่าเพื่อนรักบาดหมางกับคุณหมอนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือหม่อมหลวงพงศ์ภราธรมีปฏิกริยากับเรื่องนี้ ทั้งที่โดยปกติแล้ว จะไม่เคยยุ่มย่ามกับความบาดหมางของจันทร์จ้าวเลยสักครั้ง



“ค่ะ พี่พงศ์คงจะกังวล แต่พิมคงต้องไปบอกพี่พงศ์เสียใหม่ ว่าตอนนี้คุณหมอกับคุณจันทร์เธอดีกันแล้ว” หม่อมหลวงพิมพัชราพูดแล้วยิ้ม อาทิตย์ที่แม้จะติดใจกับเรื่องของน้องชายและหมอภวัตที่ดูเหมือนจะเดี๋ยวโกรธเดี๋ยวดีไม่สมนิสัยคนรักแรง เกลียดแรงอย่างจันทร์จ้าว แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของหญิงผู้เป็นที่รัก เขาก็ชักชวนคุยเปลี่ยนเรื่อง



“แล้ววันนี้คุณพิมอยากทานร้านไหนหรือครับ” ราชนิกูลสาวมองไปรอบๆแล้วจึงหันมายิ้มให้กับคู่รักของหล่อนอีกครั้ง



“ยังตัดสินใจไม่ได้เลยค่ะ ขอเดินดูสักรอบก่อนได้ไหมคะ” อาทิตย์ยิ้มรับ แล้วจึงก้าวเท้าเดินเคียงไปกับหม่อมหลวงพิมพัชรา แต่กระนั้นเรื่องของจันทร์จ้าวก็ยังติดค้างอยู่ในใจของเขา



...ทว่า...เป็นเรื่องอะไรนั้นเขาก็สุดแท้แต่จะเดา อาทิตย์เองก็ไม่เข้าใจตนเองมากนักว่าเหตุใด เขาจึงต้องนึกตะขิดตะขวงกับเรื่องของน้องชายและนายแพทย์หนุ่มผู้นั้นเป็นพิเศษ...



........................................



   หมอภวัตไม่พูดไม่จานับตั้งแต่ออกจากโฮเต็ลของนายวินิตจนกระทั่งขับรถมาส่งจันทร์จ้าวที่หน้าบ้านเช่าสีเขียวอ่อน แม้ปกติจะไม่ค่อยพูด แต่ครั้งนี้อาการไม่ค่อยพูดของนายแพทย์หนุ่มนั้นผิดปกติ



   คนที่นั่งอยู่ข้างตำแหน่งสารถีหันมามองทันทีที่รถจอดหน้าบ้านของตน



   “ดับเครื่องก่อนสิหมอ ผมอยากคุยด้วย” ทำตามคำสั่ง หมอภวัตดับเครื่องยนต์รถ เมื่อไฟหน้ารถดับลงด้วย ภายในรถก็ยิ่งมืดสลัวเพราะมีเพียงแสงไฟจากเสาไฟที่อยู่ไม่ไกลเท่านั้นเอง



   “หมอเป็นอะไร ไม่พอใจอะไร”



   “คุณคิดจะแนะนำคุณดาราให้กับคุณวินิตหรือครับ”



   “ใช่ หมอมีปัญหาหรือ” ประโยคหลังนั้นฟังดูแล้วคล้ายจันทร์จ้าวจะยียวนคนฟังเสียเหลือเกิน ภวัตหันมามองด้วยความไม่ชอบใจ



   “ผมไม่กล้ามีปัญหาหรอกครับ แต่เรื่องนี้น่ะ ควรจะให้เป็นคุณดาราและคุณวินิตเป็นคนตัดสินใจ...”



   “ผมก็ไม่ได้ไปตัดสินใจแทนพวกเขานี่! ผมแค่จะชวนคุณวินิตไปบ้าน พาไปเจอคุณพ่อคุณแม่ผม...”



   “คุณแน่ใจหรือครับว่าจะทำแค่นั้น” เพราะนภาสรวงคบหากับชายชาวอเมริกัน แม้เรย์มอนด์ อดัมส์จะเป็นเพื่อนรักกับจันทร์จ้าว แต่เขาก็พอดูออกว่าจันทร์จ้าวไม่ต้องการให้น้องสาวคบหากับคนต่างชาติ เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือให้อย่างไรก็อยู่กินกันอย่างเอิกเกริกไม่ได้เพราะท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาไม่ยอมรับ ทางเลือกเดียวที่จะครองคู่อยู่ด้วยกันได้คือหนีตามกันไปอยู่ที่อื่น ซึ่งแน่นอนว่าจันทร์จ้าวไม่มีวันยอม



ภวัตมองว่าเพราะจันทร์จ้าวเสียน้องสาวไปหนึ่งคนกับการที่ปล่อยให้เธอเลือกคู่เอง พอมาถึงน้องสาวอีกคน จึงต้องจัดการเลือกคู่ให้เสียแต่เนิ่นๆ



ทว่าสำหรับจันทร์จ้าว เหตุผลข้อใหญ่ที่สุดที่ทำให้เขาดิ้นรนหาคู่ให้น้องสาวคนเล็กคือการทำให้ดารารัษมีเข้าอกเข้าใจในความรักและไม่อยู่เฉยให้ฟุ้งซ่านมาคิดมากเรื่องเขาและหมอภวัต ทว่าดูเหมือนภวัตจะไม่เข้าใจเขาเอาเสียเลย



“ผมจะทำแค่นี้หรือทำแค่ไหนมันก็เรื่องของผมเถอะหน่า” เขาพูดอย่างตัดรำคาญ หันไปเปิดประตูจะลงจากรถ แต่เจ้าของรถคว้าแขนหมับ



“อย่าเพิ่งลงครับ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง”



“หมอไม่รู้เรื่องไหนอีกล่ะ! ผมก็บอกแล้วว่าไม่ได้คิดจะตัดสินใจแทนใคร แค่ชวนคุณวินิตไปพบคุณพ่อคุณแม่ผมก็เท่านั้น!! ส่วนยายดาราจะรักชอบคุณวินิตหรือไม่ ผมจะไปมีน้ำยาอะไรเจ้ากี้เจ้าการ!!”



“ถ้าไม่คิดจะตัดสินใจแทน ไม่คิดจะเจ้ากี้เจ้าการ แล้วทำไมต้องชวนคุณวินิตไปพบท่านนายพลและคุณหญิง แล้วทำไมต้องออกตัวว่าจะแนะนำคุณดารารัษมีให้คุณวินิตรู้จัก สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่คือการพยายามจับคู่ให้คุณดารารัษมีและคุณวินิต” ถูกซักไซ้มากเข้า คนไม่เคยถูกใครขัดใจก็ชักหงุดหงิด หัวคิ้วขมวดชิดอย่างฉุนเฉียว



“นี่หมอ! จะเซ้าซี้อะไรนักหนา!! ที่ผมทำอย่างนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะ!...” เกือบจะหลุดปากให้รู้ว่าดารารัษมีทราบเรื่องของพวกเขาแล้ว แต่จันทร์จ้าวยั้งปากได้ทัน ดวงตากลมใหญ่เหลือบหนีไปมองทางอื่นแล้วกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง เขาไม่อยากให้ภวัตมาเป็นกังวลไปด้วย เรื่องนี้เกิดที่ดารารัษมีซึ่งเป็นน้องสาวของเขา เขาต้องเป็นฝ่ายจัดการ 



“เพราะอะไรครับ”



“ก็เพราะ...เพราะผมอยากให้ดาราแต่งงานกับคนที่คู่ควร”



“คุณคิดจะบังคับให้คุณดาราแต่งงานจริงๆ” น้ำเสียงนั้นมีแววตำหนิและนั่นยิ่งทำให้จันท์จ้าวไม่พอใจ ที่เขาลงทุนทำเช่นนี้ก็เพราะเขาและหมอทั้งนั้น



“ผมจะบังคับหรือไม่ ดาราก็เป็นน้องของผม ไม่ใช่น้องของหมอแล้วกัน!” ชายหนุ่มร่างโปร่งกระแทกเสียงอย่างหงุดหงิดแล้วเปิดประตูลงจากรถเดินดุ่มๆเข้าบ้านทันที



หมอภวัตมองตามด้วยความกลัดกลุ้มระคนไม่พอใจกับการกระทำของคนรัก ทว่าคุยกันเวลานี้ก็เห็นจะได้ทะเลาะกันหนักกว่าเดิม เขาตัดสินใจหันไปบิดกุญแจเครื่องยนต์แล้วขับรถออกไป ไม่ทันเห็นผ้าม่านของบ้านสีเขียวอ่อนที่ทิ้งตัวแกว่งไหวเพราะคนที่เพิ่งเดินกลับเข้าไปปล่อยมันลงอย่างหงุดหงิดหัวใจที่อีกฝ่ายไม่คิดจะตามมาง้องอนกันสักนิดเดียว!


...................................................


แม้บัดนี้อาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราจะคบหาดูใจกันแล้ว แต่วังฉัตรก็ยังเป็นที่สะดวกให้จันทร์จ้าวมารอพี่ชายเพื่อติดรถกลับบ้านรักษพิพัฒน์อยู่ดี



เย็นวันศุกร์ ชายหนุ่มจึงติดรถหม่อมหลวงพงศ์ภราธรกลับมาจากสำนักงาน พอรถวิ่งมาจอดที่หน้าตึก รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างหน้าพร้อมด้วยชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนร่ำลากับหม่อมราชวงศ์ฉัตรก็ทำเอาจันทร์จ้าวหน้าตึง



“อ้าว คุณหมอกำลังจะกลับหรือนี่” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเห็นจากในรถก็รีบดับเครื่องแล้วลงไปทักทายนายแพทย์หนุ่มทันที จันทร์จ้าวผู้ติดรถมาด้วยจะนั่งอยู่ในรถต่อไปก็จะเป็นการแสดงมารยาทอันเลว จึงต้องลงจากรถมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตากลมใหญ่ฉายแววดื้อดึงไม่อ่อนข้อ



“สวัสดีครับ คุณชาย” เขายกมือไหว้ชายอาวุโสเจ้าของวังแต่กระนั้นก็ทำเป็นเมินเฉยต่อภวัตอย่างที่ ๒ พ่อลูกฉัตราภาสออกจะฉงน โดยเฉพาะหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่รู้เห็นความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ก็ยังประหลาดใจ



หมอภวัตมองร่างโปร่งที่ทำเป็นหันมองใบไม้ใบหญ้าในกระถางใกล้ๆแล้วนึกเข่นเขี้ยวที่จันทร์จ้าวหมางเมินต่อเขา จึงหันไปทางคุณชายฉัตรแทน



“ถ้าอย่างไร ผมขอตัวก่อนนะครับคุณชาย” หม่อมราชวงศ์ฉัตรยิ้มรับ



“ขอบใจมากคุณหมอ ที่แวะมา”



“ยินดีครับ แล้วพรุ่งนี้ผมจะแวะเอายาบำรุงมาให้อีกทีนะครับ” เขาตอบแล้วจึงหันมาค้อมศีรษะให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธร “ขอตัวก่อนครับคุณพงศ์” แล้วก็ลาเพียงเท่านั้น หมอภวัตเองก็ทำเป็นไม่สนใจใยดีต่อจันทร์จ้าวเช่นกัน ร่างสูงสง่าของนายแพทย์หนุ่มก้าวเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปแล้ว โดยที่จันทร์จ้าวไม่หันมองเลยแม้แต่นิดเดียว หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองการกระทำของเพื่อนรักแล้วนึกอยากจะสบถให้สาแก่อารมณ์แต่เพราะบิดายืนอยู่ด้วย เขาจึงทำได้เพียงกู้สถานการณ์



“เอ้อ...ไม่รู้ว่าคุณอาทิตย์จะรับยายพิมกลับมาสักกี่โมง แกไปรอที่ริมน้ำก่อนไป ขอกันเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้วจะตามไป” จันทร์จ้าวพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปค้อมศีรษะขอตัวจากคุณชายฉัตร เมื่อร่างสูงโปร่งของแขกเดินหายลับตามคนรับใช้ไปแล้ว เสียงของหม่อมราชวงศ์ฉัตรก็ดังขึ้น



“พ่อจันทร์กับคุณหมอทะเลาะกันหรือ”



“เอ่อ...คงจะ...เป็นอย่างนั้นครับคุณพ่อ”



“เอ้า! พ่อพงศ์ไม่ทราบหรอกหรือ พ่อจันทร์ก็เป็นเพื่อนพ่อพงศ์ คุณหมอก็สนิทกับพ่อพงศ์นี่”


   “ไม่ทราบเลยครับ ๒ คนนี้ ๓ วันดี ๔ วันไข้ ประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวทะเลาะ ลูกเองก็ตามไม่ทัน” คุณชายฉัตรหัวเราะพลางส่ายศีรษะ



   “คนอย่างคุณหมอมีเรื่องให้ทะเลาะได้ด้วยหรือ แต่ไม่แน่...เพราะเป็นพ่อจันทร์ คุณหมอก็เลยยอมทะเลาะด้วย” เจ้าของวังฉัตรกล่าวอย่างเอ็นดูทั้งจันทร์จ้าวและหมอภวัต ตั้งแต่รู้จักหมอภวัตมา ท่านก็ไม่เคยเห็นว่านายแพทย์หนุ่มผู้อ่อนโยนและเป็นมิตรไมตรีกับทุกๆคนจะทะเลาะเบาะแว้งกับใคร แต่อาจจะเป็นเพราะอีกฝ่ายคือจันทร์จ้าว คงจะมีเรื่องให้ทะเลาะกันเยอะพอดู



   หม่อมราชวงศ์ฉัตรกำลังจะหมุนกายเดินกลับเข้าตึกไปแล้ว แต่กระนั้นก็นึกเรื่องเกี่ยวกับจันทร์จ้าวออกขึ้นมาเรื่องหนึ่ง จึงหันมาทางบุตรชาย



   “จะว่าไปก็แปลก นอกจากตอนสมัยเด็กๆที่ทะเลาะกับพ่อพงศ์ไปตามประสา พ่อก็ไม่เคยเห็นพ่อจันทร์ทะเลาะกับใครเสียด้วยซี โตขึ้นมาแล้วยังทะเลาะกับพ่อพงศ์อยู่อีกไหม” คำถามของบิดาทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรชะงักด้วยเกรงว่าคนหูตาว่องไวอย่างหม่อมราชวงศ์ฉัตรจะจับสังเกตความสัมพันธ์ของเพื่อนรักและหมอภวัตได้



   “ทะเลาะซีครับคุณพ่อ! ผมกับจันทร์ทะเลาะกันออกบ่อยไป”



   “อย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นคุณหมอก็คงสนิทกับพ่อจันทร์ทีเดียว พ่อจันทร์ถึงได้ทะเลาะด้วย คนอย่างพ่อจันทร์ กับคนนอกน่ะวางตัวดี แต่กับคนในนี่สิ เอาแต่ใจอย่างหาตัวจับยาก คงจะทะเลาะกันเพราะความเอาแต่ใจของพ่อจันทร์กระมัง” ท่านว่าอย่างนั้นก่อนจะเดินกลับเข้าไปในตึกทิ้งให้บุตรชายมองตามด้วยสายตาหวาดหวั่น เสียวสันหลังอย่างไรชอบกล



...................................


   ลมเย็นพัดเอื่อยที่ริมน้ำ ร่างสูงโปร่งนั่งอยู่ที่โต๊ะผินหน้ามองแม่น้ำเจ้าพระยา ดวงตากลมใหญ่ทิ้งสายตามองไปยังแม่น้ำราวกับไม่สนจสิ่งใด หม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้วเรียบร้อยเดินมาหยุดยืนอยู่เบื้องหลัง แต่กระนั้นจันทร์จ้าวก็ยังไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งบุตรชายเจ้าของวังต้องกระแอมไอเรียกสติ เมื่อนั้นคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วจึงหันมา



   “อ้าว...คุณพงศ์...”



   “ไม่ต้องมาอ้าว...” ราชนิกูลหนุ่มพูดแล้วทรุดตัวนั่งร่วมโต๊ะพลางจับจ้องใบหน้าเรียบเฉยของเพื่อนรัก “...แกน่ะ หาเรื่องทะเลาะกับคุณหมออีกแล้วซี” พอถูกสบประมาทว่าเป็นฝ่ายหาเรื่อง ดวงตากลมใหญ่ก็ตวัดจ้องคนถามพูดทันที



   “แล้วคุณพงศ์ไม่คิดบ้างรึ?! ว่าคนที่หาเรื่องจะเป็นหมอ ไม่ใช่ผม!”



   “ก็แกมันนิสัยอย่างนี้ คุณหมอนิสัยอย่างนั้น กันจะคิดว่คุณหมอเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนได้อย่างไร” จันทร์จ้าวทำเสียงเยาะอย่างหงุดหงิด



   “เหอะ! แต่คราวนี้คุณหมอของคุณพงศ์ที่เป็นฝ่ายหาเรื่องผม!”



   “คุณหมอหาเรื่องอะไร”



   “ก็เรื่องที่ดารารู้เรื่องผมกับหมอน่ะซี! คุณพงศ์ทราบไหม ดาราบอกว่าจะจับคู่ผมกับเพื่อนของดาราที่ชื่ออุไร ผมก็เลยจะดัดนิสัยน้องผม จับคู่ดารากับคุณวินิตเสียแต่เนิ่นๆ นี่ก็นัดคุณวินิตแล้ว เป็นว่าพรุ่งนี้คุณวินิตจะไปที่เรือนไทย คราวนี้ล่ะ ยายดาราจะได้ไม่มาวุ่นวายกับเรื่องของผมอีก!” หม่อหลวงพงศ์ภราธรได้ยินแล้วก็ถึงกับทำตาโต



   “แกจะจับคู่คุณดารากับนายวินิตอย่างนั้นหรือ?!”



   “ก็ใช่น่ะซี!”


   “พรุ่งนี้คุณวินิตก็จะไปที่บ้านรักษพิพัฒน์ด้วย?!”



   “ถูกต้องแล้ว คุณพงศ์ตกใจอะไรนักหนา หรือคุณพงศ์ทราบว่าดารารักใครชอบใครหรือ บอกผมที ผมจะไปทาบทามเจ้าหนุ่มคนนั้นเดี๋ยวนี้”



   “ไม่ใช่ๆ” ราชนิกูลหนุ่มส่ายมือไปมา “ที่กันตกใจก็เพราะแกจะบังคับคุณดาราต่างหาก! แกคิดอะไรของแกน่ะจันทร์ ตัวแกเอง แกยังไม่อยากถูกบังคับกับเรื่องความรัก แล้วนึกอย่างไรจะไปบังคับความรักคนอื่น อ้อ! หรือว่าเพราะบังคับคุณนภาไม่ได้ ก็เลยจะมาลงกับคุณดาราด้วย?”



สมเป็นเพื่อนที่คบกันมาอย่างยาวนาน หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเดาถูก ๑ ประการ นั่นคือจันทร์จ้าวที่พลาดเรื่องนภาสรวงคบหากับเรย์มอนด์ อดัมส์จึงมาลงที่ดารารัษมี เพราะอย่างน้อยๆ ใน ๔ คนพี่น้องรักษพิพัฒน์ เขาและน้องสาวคนกลางก็ไม่อาจแต่งงานเอิกเกริกได้อยู่แล้ว ส่วนอาทิตย์นี่ลอยตัวไป เพราะชื่นมื่นกับหม่อมหลวงพิมพัชรา ที่จะเหลือก็มีแค่ดารารัษมี หากในพี่น้องทั้งหมด มี ๒ คนที่แต่งงานแต่งการเป็นหน้าตาให้แก่วงศ์ตระกูลเสีย เขาและนภาสรวงก็พอจะกล้อมแกล้มทำเป็นโสดต่อไปได้อย่างสบายใจ



“นั่นไง! แกเงียบ! นี่แกคิดจะบังคับคุณดาราก็เพราะแกบังคับคุณนภาไม่ได้...”



“ผมยอมรับว่าเรื่องนั้นก็ด้วย” จันทร์จ้าวพูดแทรกอย่างหงุดหงิด “แต่อีกเรื่องคือผมไม่อยากให้ดารามาวุ่นวายกับเรื่องของผมและหมอ หากผมไม่รู้สึกเช่นนั้นกับหมอ ผมจะไม่มีวันยอมรับเรื่องของนภาและเรย์ ผมก็เลยมาคิดได้ว่าผมกับดารานิสัยเหมือนกันอย่างกับแกะ หากผมทำให้ดาราเข้าใจความรักได้ ดาราอาจจะเห็นใจเรื่องของผมเหมือนที่ผมเห็นใจเรื่องของนภา”



คำพูดของเพื่อนรักทำเอาคนฟังนิ่งไปในวินาทีนั้น หากแต่สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก



“แต่ความรักไม่ได้เกิดจากการบังคับนะจันทร์”



“ผมรู้ ผมก็ไม่ได้จะบังคับให้ดาราแต่งงานเสียหน่อย ก็แค่พาคุณวินิตไปที่บ้านผม ให้รู้จักคุณพ่อคุณแม่เอาไว้...หมอน่ะ ไม่เข้าใจผมเอาเสียเลย หาว่าผมบังคับน้องผม จะบังคับหรือไม่ ดาราก็น้องผมไม่ใช่น้องของหมอเสียหน่อย!”



“ประโยคนี้แกพูดกับหมอด้วย หรือแกพูดกับกันคนเดียว” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งคำถาม



“ประโยคไหน”



“ก็อ้ายที่ว่าคุณดาราเป็นน้องของแกไม่ใช่น้องของคุณหมอ” จันทร์จ้าวหวนคิด แต่นึกไม่ออกว่าได้พูดไปหรือไม่ คุ้นอยู่ว่าอาจจะพูดไป



“คงพูดกระมัง คุณพงศ์ถามทำไมหรือ” ราชนิกูลหนุ่มถอนหายใจพรืด



“กันว่านอกจากคุณหมอจะโกรธแกแล้ว คุณหมอคงเสียใจด้วย ที่แกไปตัดเธอออกจากสารบบของแกอย่างนี้”



“พูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจ”



“ก็อ้ายที่ไปพูดกับคุณหมอว่าคุณดาราไม่ใช่น้องของคุณหมอ แต่เป็นน้องของแกคนเดียวน่ะซี คุณหมอก็ต้องโกรธแกอยู่แล้ว แกเล่นไปพูดเหมือนเขาป็นคนนอก ทั้งๆที่แกกับคุณหมอน่ะ...เอ่อ...อ่า...นั่นล่ะ! สรุปเป็นว่าต่อให้แกจะมีเจตนาที่ดีในเรื่องหาคู่ให้คุณดารา แต่แกก็พูดจาผิดหูเข้าเสียแล้ว”



“อ้าว...”



“ไม่ต้องมาอ้าว หาคู่ให้น้องสาวแล้ว ก็เตรียมตัวง้อคุณหมอด้วยก็แล้วกัน” จันทร์จ้าวพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดที่มีแต่เรื่องประเดประดังเข้ามาหาเขาไม่หยุดหย่อน และก่อนที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจะปลอบใจเพื่อนรัก นายคำก็เข้ามาเรียนว่าอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชรากลับมาถึงแล้ว คนทั้งคู่จึงเดินออกไปที่หน้าตึก เมื่อเห็นรถโฟล์คของพี่ชาย จันทร์จ้าวจึงหันมาลา ๒ พี่น้องฉัตราภาสด้วยสีหน้าไม่ใคร่จะดีจนหม่อมหลวงพิมพัชรายังมองตามด้วยความแปลกใจ


..................................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 07-01-2016 20:20:47



ภวัตทรุดตัวลงนั่งภายในบ้านพักแพทย์ของตนเอง ท่าทีหมางเมินไม่แม้แต่จะทักทายเขาของจันทร์จ้าวยังคงติดอยู่ในสายตา นับตั้งแต่วันที่ทะเลาะกันเรื่องจับคู่ดารารัษมีและนายวินิต ทั้งเขาและจันทร์จ้าวก็ยังไม่คุยกันเลย



   ...๓ วันดี ๔ วันไข้...คงจะเป็นนิยามของพวกเขา...



   ชายหนุ่มถอนหายใจยาวอย่างหนักอก คำพูดของจันทร์จ้าวยังดังก้องอยู่ในหู ดารารัษมีเป็นน้องของจันทร์จ้าวไม่ใช่น้องของเขา ราวกับจะบอกให้รู้ตัวว่าเรื่องนี้เขาไม่มีสิทธิ์ยุ่ง แม้พวกเขาจะคบหากันก็ตาม



   ...แต่ก็เป็นการคบหาที่อยู่เบื้องหลังสายตาคนอื่น เป็นการลักลอบคบหากันฉันคนรักที่ไม่มีใครยอมรับ เป็นที่พึ่งไม่ได้ เป็นเสาหลักไม่ได้ ไม่ต่างอะไรกับคนไร้ค่าเลย...



   เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลงด้วยความอ่อนล้า หัวใจปวดหนึบเมื่อตั้งคำถามกับตนเองว่าเขาและจันทร์จ้าวสมควรเป็นคู่รักกันหรือไม่



..................................................



   บ้านรักษพิพัฒน์ในเช้าวันเสาร์ได้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติถึง ๒ คน คนหนึ่งคือแขกของดารารัษมีชื่ออุไรผู้เป็นเพื่อนครูที่โรงเรียน อีกคนหนึ่งคือนายวินิตแขกของจันทร์จ้าว แขกทั้ง ๒ มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกันในยามสาย คุณหญิงผกาจึงต้อนรับพร้อมกันเสียเลย



   “คุณพ่อคุณแม่ครับ นี่คุณวินิต วิมลกิตติเพื่อนของผม เธอเป็นเจ้าของโฮเต็ลในเยาวราช ตอนนี้กำลังดังเพราะร้านอาหารในโฮเต็ลของคุณวินิตขึ้นชื่อเรื่องติ่มซำมาก” จันทร์จ้าวเริ่มแนะนำเพื่อนของตนก่อน นายวินิตไหว้อย่างนอบน้อม แม้หน้าตาจะเป็นคนจีนแท้ แต่กระนั้นก็พูดภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ



   “คุณจันทร์ก็พูดเกินไป ติ่มซำของผมไม่ได้โด่งดังอะไร แค่ลูกค้าพูดกันปากต่อปากก็เท่านั้น วันนี้ผมนำมาฝากด้วย อยากให้ท่านนายพลกับคุณหญิงได้ลองชิม” คุณหญิงผกามองเพื่อนของบุตรชายคนรอง ท่าทางและมารยาทนับว่าเหมือนคนไทยทุกกระเบียด ไม่ใคร่จะเหมือนพวกเจ็กรับจ้างเสียงดังโฉ่งฉ่าง



   “คุณวินิตเป็นคนจีนหรือคะ”



   “ผมเกิดในเมืองไทย ขอถือว่าตัวเองเป็นคนไทยเชื้อสายจีนก็แล้วกันครับ” นายวินิตพูดแล้วยิ้มจนตาหยี วาจาของเขาทำให้ดารารัษมีที่นั่งอยู่กับเพื่อนของหล่อนใกล้ๆออกจะขวางหูขวางตา เพราะดูแล้วนายวินิตคนนี้ก็คงแพรวพราวสมกับที่เป็นเพื่อนของจันทร์จ้าว



   คุณหญิงผกาและท่านนายพลเดชหัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ



   “ไม่ใช่แค่เกิดเมืองไทยนะครับ คุณวินิตอ่านไทยเขียนไทยคล่องแคล่ว ภาษาจีนก็พูดได้แหน่ะครับ” จันทร์จ้าวยกยอเพิ่มขึ้นอีกจนดารารัษมีชักจะหมั่นไส้



   “ก็ควรจะอ่านไทยเขียนไทยได้ไม่ใช่หรือคะ?! เกิดในเมืองไทยก็ต้องทำตัวให้สมกับที่อาศัยแผ่นดินนี้เกิดซี!”



   “แม่ดารา พูดอะไรอย่างนั้น” คุณหญิงผกาหันมาดุธิดาคนเล็ก ดารารัษมีทำหน้าหงุดหงิด



   “พี่จันทร์แนะนำเพื่อนของพี่จันทร์เสร็จแล้วใช่ไหมคะ ขอดาราแนะนำเพื่อนของดาราบ้าง นี่คุณอุไรค่ะ เป็นเพื่อนครูที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี ‘เป็นคนไทยแท้’ มีการศึกษา  นอกจากจะพูดภาษาไทยแล้ว ยังพูดฟังอ่านเขียนภาษาอังกฤษคล่องแคล่วด้วย!” ดารารัษมีพูดแล้วจับจ้องใบหน้าของพี่ชายด้วยความหมายมาดจะเอาชนะ จันทร์จ้าวเองก็มองตอบน้องสาวอย่างไม่ยอมความเช่นกัน คุณหญิงผกาและท่านนายพลเดชมองหน้ากันด้วยเพราะรู้สึกไม่สู้ดีกับท่าทีที่ ๒ พี่น้องปฏิบัติต่อกัน แม้จันทร์จ้าวและดารารัษมีไม่ใคร่จะถูกคอกันนัก แต่ก็ไม่เคยจับจ้องกันและกันเช่นนี้มาก่อน



   พอดีกับที่นภาสรวงนำติ่มซำของฝากจากนายวินิตขึ้นเรือนมาเสียก่อน นายวินิตผู้รับรู้สถานการณ์อันอิหลักอิเหลื่อจึงเอ่ยปาก



   “เชิญชิมครับ นี่คือติ่มซำจากโฮเต็ลของผมเอง” จานเล็กที่จัดแบ่งติ่มซำมาแล้วถูกส่งให้แก่ท่านนายพลและคุณหญิง ดารารัษมีและอุไร ตบท้ายด้วยจันทร์จ้าวและนภาสรวง ส่วนอาทิตย์นั้นไม่อยู่เพราะมีนัดกับหม่อมหลวงพิมพัชรา จึงไม่ได้เห็นสงครามของน้องชายและน้องสาว



   “เป็นอย่างไร อร่อยไหมล่ะ” จันทร์จ้าวตั้งคำถามทันทีที่น้องสาวรับติ่มซำเข้าปาก ดวงตากลมใหญ่ของผู้เป็นพี่จับจ้องน้องด้วยความอยากเอาชนะ ดารารัษมีมองตอบด้วยความไม่พอใจก่อนจะวางจานเล็กในมือตนลง



   “ดาราเป็นคนไทย ไม่นิยมอาหารจีนค่ะ!”



   “แม่ดารา!” คุณหญิงผกาปรามเมื่อธิดาพูดจาไม่น่าฟัง จันทร์จ้าวทำเสียงเยาะในคอก่อนจะเหลือบไปมองเพื่อนครูของน้องสาว



   “คุณอุไรว่าอย่างไรครับ นิยมอาหารจีนบ้างไหม”



   “ดิฉันเคยทานอยู่บ้าง แต่ติ่มซำนี่อร่อยใช้ได้ทีเดียว สมแล้วที่คุณจันทร์ชมว่ากำลังโด่งดัง” อุไรตอบแล้วยิ้มน้อยๆ นายวินิตจึงพอจะมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นบ้าง หลังจากเมื่อครู่เจอวาทะของดารารัษมีเข้าไป



   นภาสรวงมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยใจคอไม่สู้ดี หล่อนควรจะตามอาทิตย์กลับมาช่วยห้ามทัพพี่ชายน้องสาวของหล่อนเสียก่อน ไม่รู้ว่าดารารัษมีและจันทร์จ้าวจะทะเลาะกันมากน้อยเพียงใด หากทะเลาะกันต่อหน้าท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกา หล่อนก็กลัวว่าบิดามารดาจะสืบสาวหาความถึงต้นเหตุแห่งการทะเลาะ และเมื่อนั้นเรื่องของหมอภวัตและจันทร์จ้าวก็อาจไม่เป็นความลับอีกต่อไป



   “พี่จันทร์ ดารา เราเชิญคุณวินิตกับคุณอุไรลงไปนั่งเล่นที่ใต้ถุนดีไหมคะ ข้างล่างมีผลไม้แยะเชียว เป็นผลไม้จากสวนของเราทั้งนั้น จะได้เชิญคุณวินิตกับคุณอุไรรับประทาน” นภาสรวงชักชวนเพื่อให้ ๒ พี่น้องของตนพ้นสายตาบิดามารดามากที่สุด หากจะทะเลาะกันแล้ว ก็ไปทะเลาะให้ไกลหูไกลตาเสียหน่อย



   “นั่นซี พ่อจันทร์กับแม่ดาราพาคุณวินิตกับคุณอุไรไปเที่ยวเล่นเถอะไป อยู่บนเรือนกับคนแก่อย่างนี้จะเบื่อเอา แล้วตอนเที่ยงค่อยขึ้นมารับประทานอาหารด้วยกัน ขอเชิญร่วมโต๊ะกันก่อนนะคะคุณวินิต คุณอุไร” คุณหญิงผกาเห็นดีเห็นงามด้วยแต่ไม่วายชักชวนร่วมมื้อกลางวัน



   นายวินิตและอุไรยกมือไหว้ขอบคุณ จันทร์จ้าวและดารารัษมีจึงพาเพื่อนของตนลงจากเรือนมาโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่มองหน้ากันสักนิด นภาสรวงมองตามด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะได้ยินเสียงแว่วๆของบิดามารดาที่ปรึกษากันเบาๆ



   “พ่อจันทร์กับแม่ดาราดูจะขวางกันอย่างไรชอบกล” เสียงของท่านนายพลดังขึ้นก่อนที่นภาสรวงจะเดินตามทุกคนลงจากเรือน ทำให้หล่อนชะงักค้างอยู่ตรงนั้น



   “ดิฉันก็ว่าจะถามพ่อจันทร์อยู่เหมือนกัน ว่าทะเลาะอะไรกับแม่ดารา หมู่นี้ดูแม่ดาราจะอารมณ์ไม่ดีเสียด้วยซี” คำตอบของคุณหญิงผกายิ่งทำให้นภาสรวงใจหาย หล่อนตัดสินใจเดินกลับขึ้นเรือนแล้วตรงไปที่โทรศัพท์



   ...หล่อนต้องตามอาทิตย์กลับมา อย่างไรก็ต้องให้อาทิตย์กลับมา แม้เวลานี้อาทิตย์จะยังไม่ทราบเรื่องจันทร์จ้าวและหมอภวัต แต่อย่างน้อยมีพี่ชายคนใหญ่อยู่ที่นี่ด้วยก็ยังพอจะทำให้พี่ชายคนรองและน้องสาวคนเล็กของหล่อนระงับอารมณ์ได้อยู่บ้าง มิเช่นนั้นแล้วหากปล่อยให้โมหะครอบงำจนทะเลาะใหญ่โต เรื่องของหมอภวัตจะต้องรู้ถึงหูท่านนายพลและคุณหญิงเป็นแน่แท้!!...



.................................................



   อาทิตย์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะริมน้ำในวังฉัตรกับหม่อมหลวงพิมพัชรา บรรยากาศเงียบสงบและเย็นสบายทำให้รอยยิ้มน้อยๆติดอยู่บนใบหน้าของนายทหารหนุ่ม ยิ่งเมื่อมองสบกับดวงเนตรหวานของหญิงคนรักที่กำลังวาดภาพเหมือนของเขา ความรู้สึกอบอุ่นก็พอกพูนขึ้นในหัวใจ



   วันนี้เป็นวันเสาร์ที่พวกเขานัดเจอกันที่วังฉัตรเพราะราชนิกูลสาวขอวาดภาพเหมือนของเขา แม้อาทิตย์จะไม่เคยเป็นแบบให้ใครมาก่อน แต่เมื่อเป็นคำร้องขอของหญิงคนรักเขาจึงไม่ขัดข้อง ยอมนั่งนิ่งๆเป็นนานเพื่อให้หล่อนร่างใบหน้าของเขาด้วยดินสอลงบนกระดาษ



   “คุณอาทิตย์กับคุณจันทร์นี่หน้าตาเหมือนกันนะคะ” หญิงสาวพูดอย่างอารมณ์ดี ทั้งๆที่มือยังลงเส้นร่าง อาทิตย์หัวเราะเบาๆ



   “ก็พี่น้องกันนี่ครับ”



   “แต่คุณหมอกับคุณจันทร์ก็หน้าคล้ายกัน เอ...ไม่สิ ต้องบอกว่าเวลายิ้มน่ะคล้าย แต่เวลาบึ้งคุณหมอจะดูดุกว่า เพราะคุณจันทร์เวลาบึ้งน่ะ เธอบึ้งเหมือนอยากให้คนมาง้อแหน่ะค่ะ” คราวนี้เสียงหัวเราะของอาทิตย์ดังขึ้นกว่าเดิมเพราะหม่อมหลวงพิมพัชราพูดจาได้ตรงเผงกับความเป็นจริง แต่แล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าน้องสาวของเขาก็เคยทักว่าจันทร์จ้าวและภวัตหน้าตาคล้ายกัน



   “คุณพิมพูดเหมือนนภา นภาเคยบอกว่าจันทร์กับคุณหมอเวลายิ้มน่ะคล้ายกัน”



   “อย่างนั้นหรือคะ แต่จะว่าไปคุณจันทร์กับคุณหมอก็น่าแปลก คุณจันทร์เธอมีลักยิ้ม คุณหมอไม่มี แต่เวลายิ้ม กลับพิมพ์เดียวกัน ถ้าสบโอกาสเหมาะ พิมจะขอให้คุณจันทร์กับคุณหมอมานั่งคู่ ให้พิมวาดรูปเสียหน่อย” หม่อมหลวงพิมพัชราพูดได้เพียงเท่านั้น คนรับใช้ของวังก็เข้ามารายงาน



   “ขอประทานโทษขอรับ มีโทรศัพท์ถึงคุณอาทิตย์ จากคุณนภาสรวงขอรับ”



   “โทรศัพท์ถึงผมหรือ” อาทิตย์หันไปถามด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหันกลับมามองราชนิกูลสาวที่วางดินสอลงในทันที



   “คุณนภาอาจจะมีเรื่องด่วน ถึงได้โทรศัพท์มาที่นี่” นายทหารหนุ่มเองก็คิดเช่นเดียวกัน มิเช่นนั้นแล้วนภาสรวงคงไม่ถึงกับต้องโทรศัพท์มา เขาลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตามนายคำไปอย่างเร่งรีบ หม่อมหลวงพิมพัชราเดินตามด้วยความห่วงใยเพราะเกรงว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น


.....................................




   ตอนที่อาทิตย์เข้าไปรับโทรศัพท์ที่ตึกนั้น ราชนิกูลสาวธิดาเจ้าของวังฉัตรยืนรออยู่ที่หน้าห้องอย่างรอคอย แม้จะร้อนใจแต่หล่อนก็ยังสำรวมกิริยาเรียบร้อย ทว่าไม่ทันที่อาทิตย์จะเดินออกมาจากห้องโทรศัพท์ ชายหนุ่มร่างสูงที่หล่อนพูดถึงเมื่อครู่ก็เดินออกมาจากห้องทำงานของบิดา



   “อ้าว สวัสดีค่ะ คุณหมอ มาตั้งแต่เมื่อไรคะนี่” หม่อมหลวงพิมพัชรายกมือไหว้ หมอภวัตเองก็ยกมือรับไหว้พร้อมรอยยิ้มจาง



   “มาได้ครู่ใหญ่แล้วครับ พอดีนัดคุณชายว่าจะนำยาบำรุงมาให้ ผมแนะนำเรื่องวิธีทานแล้ว อย่างไรฝากคุณพิมช่วยดูแลอีกทีหนึ่งด้วย...”



“ขอบพระคุณมากค่ะคุณหมอ”



“ไม่เป็นไรครับ ถ้าอย่างไร ผมขอตัว...” นายแพทย์หนุ่มพูดเพียงเท่านั้น อาทิตย์ก็เดินออกมาจากห้องด้านข้างด้วยสีหน้าไม่สู้ดี แต่ก็ยังทักทายภวัตอย่างมีมารยาท



   “สวัสดีครับคุณหมอ” เขากล่าวแล้วจึงหันมาทางราชนิกูลสาว “คุณพิม นภาโทรศัพท์มาบอกให้ผมรีบกลับบ้าน จันทร์กับดาราดูท่าจะทะเลาะกันเสียแล้ว วันนี้คงต้องขอกลับก่อน”



   “ตายจริง ถ้าอย่างนั้นรีบกลับเถอะค่ะ” แม้จะอยากทราบว่าจันทร์จ้าวและดารารัษมีทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่หม่อมหลวงพิมพัชราก็ไม่ตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมา ทว่าใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยและได้ยินคำพูดของอาทิตย์กลับเข้าใจเป็นอันดีว่าจันทร์จ้าวและดารารัษมีทะเลาะกันเรื่องอะไร



   ... ๒ พี่น้องที่ไม่ควรจะมีเรื่องบาดหมาง อาจจะผิดใจกันเรื่องที่จันทร์จ้าวพยายามแนะนำนายวินิตให้กับดารารัษมี...



   หมอภวัตยืนนิ่งและพูดไม่ออก จนกระทั่งอาทิตย์หันมาลา



   “ขอตัวก่อนนะครับคุณหมอ” นายทหารหนุ่มว่าอย่างนั้น แต่เมื่อจะหมุนตัวเดินออกจากตึก ภวัตก็เรียกเอาไว้



   “คุณอาทิตย์...ผมขอตามไปด้วยได้ไหม” เจ้าของชื่อหันกลับมามองด้วยความสงสัย ภวัตก้าวเท้าเข้าไปหาแล้วย้ำอย่างหนักแน่นทว่าสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล



   “ขอผมไปด้วยเถอะนะครับ” อาทิตย์ไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธ เขาจึงพยักหน้ารับ แล้วหลังจากนั้นรถยนต์ ๒ คันก็แล่นออกจากวังฉัตรโดยมีหม่อมหลวงพิมพัชรามองตามด้วยความไม่สบายใจ



ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

จะบอกว่าไม่ได้พิมพ์ผิดนะคะ คุณวินิต นามสกุลวิมลกิตติค่ะ (เป็นคนเขียนที่ใช้ตัวละครคุ้มจริงๆ ฮาฮา) เพราะงั้นถึงได้ไม่เคยตอบเม้นท์ใครเลยว่าทำไมจอมขวัญและจันทร์จ้าวถึงดูคล้ายกัน เพราะจริงๆแล้วเขาเป็นญาติกันนั่นเองค่ะ แต่เขาจะเป็นญาติกันยังไง เป็นญาติทางสายไหน อันนี้ก็ต้องติดตามตอนต่อไปค่ะ


   ส่วนคุณพงศ์...ที่มีแต่คนลุ้นกันเหลือกินว่าอยากให้คู่กับดาราเนี่ย ทุกคนห่วงสวัสดิภาพคุณพงศ์เถอะค่ะ ขนาดเป็นแค่เพื่อนยังโดนจันทร์เหวี่ยงซ้ายทีขวาที ถ้าเป็นเพื่อนด้วยน้องเขยด้วย สงสัยสภาพจะไม่เหลือนะคะ ฮาฮา


กลับมาที่คุณจันทร์และคุณหมอ คู่รัก 3 วันดี 4 วันไข้ ไว้เขาเลิกทะเลาะกันได้เมื่อไร งานคืนความสุขของหมอต้องมา เรามารอวันนั้นด้วยกันนะคะ ฮาฮา (รอไม่นานหรอก บอกเลย เพราะพิมพ์เสร็จแล้ว ฮิ้ววววว)


ขอบคุณคนอ่าน คนติดตาม คนเม้นท์ คนรอ และพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ


เจอกันพฤหัสหน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 07-01-2016 20:27:57
เห็นคนแรก

 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 07-01-2016 20:48:47
โอ้ยยยยย ทะเลาะกันอีกแล้วจนได้ คุณจันทร์ก็พอคุณจันทร์ ดาราก็พอดารา นี่ไม่ใช่ว่าสรุปคุณวินิตตกล่องปล่องชิ้นกับอุไรล่ะ 555แนะนำกันดีนัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-01-2016 20:49:06
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-01-2016 20:50:04
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 07-01-2016 20:51:23
ความจะแตกมั้ยเนี่ย
ลุ้นจริงๆ
 o22
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 07-01-2016 20:52:10
ถ้าอย่างนั้นดารารัษมี คงเหมือนพี่จักร

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 07-01-2016 20:58:39
กร๊ากกก
ก็ว่าเห็นนามสกุลนายวินิตแล้วแบบ
เหย นี่นามสกุลจอมขวัญ 555
เอาล่ะ ทีนี้ก็รู้แล้วว่าคุณดาราจะได้คู่ใคร อิอิ

ขอบคุณพี่บัว และสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะคะ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 07-01-2016 21:10:04


ย้ากกกกกกกกกกกกกก  มาแล้วๆๆๆๆ

คุณหมอภวัต พา น้องจันทร์  มาตามสัญญา :กอด1:

 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

ดีใจมากกกกกกกกกก   ตอนนี้ ทุกคนมีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด

คู่เอก หวานกันดีๆๆ ก้อ มาผิดใจกันด้วยเรื่อง ความรักของคู่ตัวเอง ซะงั้น

:เฮ้อ:   จันทร์จ้าวก้องอนด้วย ไม่เป็นเรื่อง
คุณหมอ ก้อนะะะ .....ช่างใจแข็ง ไม่ยอมง้อสักหน่อยนึง
ดารา ก้อถือทิฐิ
พี่อาทิตย์ กับคุณพิม ก้อ เริ่มระแคะระคาย .. ทำเอา คุณพงศ์ ต้องแก้ต่าง เดือดร้อนไปด้วย

เพลานี้ .. คุณวินิต จะสมหวังกับ แม่อุไร ซะมั้ง  :hao3:


มาต่อไวไวไวไวไวไวไวนะ ....อยากรู้คุณหมอจะไปง้อ จันทร์ ท่าไหน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Myrtle ที่ 07-01-2016 21:12:39
คิดอยู่เหมือนกันค่ะว่าจันทร์จ้าวนี่นิสัยใจคอเหมือนกับจอมขวัญไม่มีผิด 55555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-01-2016 21:14:36
อืม....จันทร์กับดาราทะเลาะกันเป็นเด็กๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 07-01-2016 21:22:23
มายาวสะใจมาก ขอบคุณคนเขียนค่ะ พี่จันทร์จ้าวกับน้องดาราใครจะอยู่ใครจะไป พ่อแม่จะรู้เรื่องมั้ย ลุ้นๆ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 07-01-2016 21:49:10
อยากให้ถึงวันพฤหัสหน้าไวๆจัง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 07-01-2016 21:51:31
เดี๋ยวได้คืนความสุขให้หมอ..เพราะทะเลาะกับจันทร์จ้าวรอบนี้แหละ...
เพราะหมอคงจะหมั่นเขี้ยวมากๆๆๆๆๆ

วิมลกิตติ..เห็นแว๊บแรก..นึกถึงจอมขวัญคนแรกเลยนะ!!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 07-01-2016 22:23:10
จันทร์ขี้งอน 555หมอทำใจนะ ง้อซะนะเพราะอยากอ่านตอนคืนความสุขให้หมอแล้วอะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 07-01-2016 22:28:43
ไปดูให้เห็นกับตาเสียคุณหมอว่าจะยอมให้แม่ดาราจับคู่คุณจันทร์กับครูอุไรหรือเปล่า ตอนนี้หมั่นไส้คุณหมอ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 07-01-2016 22:37:58
โอ้ยยยยย ทะเลาะกันอีกแล้วจนได้ คุณจันทร์ก็พอคุณจันทร์ ดาราก็พอดารา นี่ไม่ใช่ว่าสรุปคุณวินิตตกล่องปล่องชิ้นกับอุไรล่ะ 555แนะนำกันดีนัก

คิดเหมือนกันเลยค่ะ เรื่องคุณวินิตกับอุไร  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 07-01-2016 22:40:46
เป็นคุณหมอนี่ต้องหนักแน่นให้มากๆเข้าไว้นะ ไม่งั้นเอาจันทร์เจ้าไม่อยู่หรอก ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-01-2016 22:52:42
 :katai1: ทะเลาะกันอีกแล้วแค่ศึกนอกยังไม่พอยังจะหาศึกในเพิ่มอีกเหรอจันทร์ สงสารคุณหมอคิดมากอีกแล้ว ส่วนเรื่องคุณพงศ์แอบเสียดาย ฮา แล้วครอบครัววิมลกิตติเกี่ยวกับจันทร์ยังไงละเนี่ย งงอะก็นั่นนามสกุลวินิตไม่ใช่เหรอ รอคุณบัวเฉลยละกัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 07-01-2016 22:57:48
ไม่ได้คิดอะไร รอวันคืนความสุข อย่างเดียว #แน่วแน่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-01-2016 23:06:23
ความจะแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือทะเลาะกันอีกแล้ว
 :sad4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-01-2016 23:08:15
มิน่า จอมขวัญถึงได้เหมือนจันทร์เจ้า อย่างงี้นี่เอง ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 07-01-2016 23:16:58
วิมลกิตติแฟมมิลี่อิสคัมแบค!! คิดถึงของขวัญญญ55555555

ตอนนี้นี่เหมือนดูมวย เดือดยิ่งว่าน้ำเดือด
ลุ้นไปหมด จะโดนพี่รู้เรื่องไหม จันทร์กับดาราจะเป็นไง คุณหมอจะเข้าใจจันทร์ไหม ฝั่งพ่อแม่จะรู้เรื่องแค่ไหน
โอ้ย ลุ้นแรงงงง รอวีคหน้าไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: CIndY59 ที่ 07-01-2016 23:21:14
จันทร์จ้าวนี่ร่างต้นของของจอมขวัญใช่ไหม....เฮี้ยวกว่ามากเลยยย
คุณหมอนี่น่าสงสารพอๆกับอธิป แต่คาดว่าเดียวก็เดินเอาคืนที่หลัง


ปล.ค่าตัวคุณพงษ์ เด๋วบ่าวช่วยจ่ายนะเจ้าคะ เธอช่างน่าสงสารเหลือเกิน
เดินชิว กินลม เป็นคุณชายอยู่ดี โดนเหวี่ยงแหเป็นใส่เป็นปลาช่อนปลาไหลเชียว
เป็นเพื่อนดีที่ทำหน้าที่ทุกอย่างเลย แต่งกับบ่าวเถอะคะ ง่ออออ.... :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-01-2016 23:27:56
งะ จะรอดมั้ยนี่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 07-01-2016 23:30:22
 :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 07-01-2016 23:37:23
คุณจันทร์กับดาราต่างก็จะจับคู่ให้อีกคน ไม่ใช่กลายเป็นว่าคุณวินิตกับคุณอุไรจะมารักกันแทนนะ

ความจะแตกมั้ยน้ออ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 07-01-2016 23:48:28
คู่นี้ทะเลาะกันตามคอนเซ็ปจริงๆ 3วันดี4วันไข้เนี่ย เดี๋ยวความต้องแตกแน่เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mhhong95 ที่ 08-01-2016 00:13:16
อย่างจันทร์จ้าวนี่ต้องให้คุณหมอไปคุม
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-01-2016 00:17:51
เห็นนามสกุล วิมลกิตติแล้วสะดุดเลยค่ะ ภาพเรือนไทยในสวน และภาพจอมขวัญลอยมาเลย ฮ่าๆๆๆ เห็นทีความพยายามของจันทร์จ้าวจะได้ผล
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 08-01-2016 01:33:32
รอพฤหัสหน้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 08-01-2016 01:44:27
อ่านแล้วเจอ วิมลกิตติ  ก็มีชะงักก็ว่าแล้ว!! 

ชอบๆๆๆ  ที่แท้จันทร์จ้าวก็เป็นรุ่นออริจินัลนี่เอง   จอมขวัญเป็นเจนถัดๆมา     ตอนแรกแอบคิดว่าคุณบัวสลัดคาเเร็คเตอร์ตัวละครไม่หลุด เพราะมาแบบนี่พระเอกก็อบอุ่นเกิ๊นไม่ต่างจากพี่โตเลย    แต่คือชอบค่ะพอรู้ว่าเค้าคือญาติกันแล้วก็แอบฮาเหมือนกัน หึหึหึ
-----------------------------------------------------------------

เพิ่มเติม   รึว่าเรือนไทยที่จอมขวัญอยู่จะเป็นเรือนไทยมรดกตกทอดกันมาที่ดารารัศมีได้  เพราะคิดว่าอย่างพี่อาทิตย์อาจจะแยกตัวออกไป  จันทร์จ้าวนี่ก็แน่นอนอยู่แล้ว นภาอาจไปอยู่อเมริกาก็ได้  เดาล้วนๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 08-01-2016 05:57:06
ถ้าดารามีควาทรักคงจะเข้าใจอะไรขึ้นนะ
เริ่มเบื่อดาราแล้ว หงุดหงิดขิงหงุดหงิดข่าอยู่ได้

เอาใจช่วยคุณหมอน่าาา ช่วงคืนความสุขต้องมาละ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-01-2016 06:58:33
ก็สะดุดใจตั้งแต่ชื่อจันทร์จ้าว - จอมขวัญ แล้ว

พอมาตอนนี้ก็ตบเข่าดังฉาด!

แหม่.....เชื้อพ่อจัทร์นี่แรงดีแท้ ตกมาอีกรุ่นยังแทบจะถอดนิสัยกันมา

คุณหมอภวัตต้องลงโทษตบด้วยปากนะ นู๋จันทร์คนเฮี้ยว พูดจาไม่รักษาน้ำใจอย่างนี้ได้ยังไง

แล้วดูสิ หมอต้องซมซานไปซดน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในอยู่คนเดียว โธ่ โธ่ โธ่

ถ้าถึงตอนคืนความสุขเมื่อไร ขอให้หมอได้เอาคืนท้ังต้นทั้งดอกเลยเถ๊อะ

สวัสดีปีใหม่นะคุณบัว ขอให้ทุก ๆ ว้นเป็นวันดี ๆ นะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 08-01-2016 09:11:22
วินิตกับดาราคือต้นตระกูลวิมลกิตตินี่เอง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-01-2016 09:22:43
อยากให้พฤหัสมาเร็วๆ  :hao5:
ท่าทางจะเป็นplot twistแฮะ แทนที่จะโดนง้อ อาจต้องไปง้อคุณหมอแทนล่ะมั้งจันทร์จ้าว
รอตอนคืนความสุขให้หมอนะจ๊ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 08-01-2016 10:28:00
คุณวินิตได้กับดาราแน่เลย จอมขวัญคงได้นิสัยจากดาราที่เหมือนจันทร์จ้าวนี่แหล่ะ 55555

รอช่วงเวลาคืนความสุข^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 08-01-2016 11:12:45
ใจจะวายกับ2พี่น้องคู่นี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 08-01-2016 11:21:57
อยากรู้จัง คุณจันทร์จะง้อหมอยังไง รึคุณหมอจะต้องง้อคุณจันทร์เอง :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 08-01-2016 11:35:01
ไม่ได้อะไรนะ แต่อยากจะบอกว่า...อยู่ #ทีมคุณหมอ แหละ!!!
คุณจันทร์งอแงมากเกินไปนะ ไปง้อคุณหมอเลย!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 08-01-2016 11:37:42
คือแบบ หมั่นไส้ดารามากค่ะ อย่าคู่กับคุณพงศ์เลย สงสารเธอ  :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 08-01-2016 13:26:00
 :katai2-1:  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 08-01-2016 13:51:25
มิน่า ว่าทำไมคุ้นกับ วิมลกิตติ ตอนอ่านถึงนี้ขมวดคิ้วโดยอัตโนมัติเลยว่าทำไมคุ้นงี้
โชคดีที่คุณบัวเฉลยตอนท้าย ไม่งั้นคืนนี้คงนอนไม่หลับ 555+
รอเวลาคืนความสุขด้วยคนนะฮะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 08-01-2016 15:30:14
รอวันคืนความสุขให้คุณหมอค่าาา :mew1:

โอยย มีพี่อาทิตย์แถมด้วยคุณหมอไปห้ามทัพขนาดนี้ คงหยุดได้ง่ายๆนะ  :hao3: :katai1:


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 08-01-2016 16:58:13
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 08-01-2016 18:14:19
ทะเลาะกันเก่งจริงๆ 555
จริงๆเรื่องนี้ถ้าเปิดใจคุยกันก็ไม่น่ามีปัญหา มีไรคุยกันดีๆนะจ้ะ

จะรอติดตามการฟาดฟันกันระหว่าง2พี่น้องค่ะ ส่วนที่จะคืนความสุขให้คุณหมอที่ไม่ได้รอเลยค่ะ จริงๆนะ 5555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 08-01-2016 19:29:44
พี่งจะเข้าใจกัน
ไหงทะเลาะกันอีกแล้ว
พี่หมอง้อน้องหน่อยนะ
ถึงน้องจะผิดก็เหอะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 08-01-2016 20:18:35
การคืนความสุขของคุณหมอก็ต้องรอกันต่อไป 

ตอนนี้มาลุ้นให้คุณหมอไม่โดนลูกหลงดีกว่า 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 08-01-2016 22:01:49
อยากอ่านวันนี้เลย ขอคืนความสุขให้หมอภวัต #ทีมภวัต
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnon04 ที่ 08-01-2016 23:32:41
รองานคืนความสุขให้คุณหมอ  :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 08-01-2016 23:53:28
ชอบเรื่องนี้เหลือเกินค่ะ

ชอบคุณจันทร์มากกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: NakiDGM14 ที่ 09-01-2016 00:42:06
เห็นนามสกุลคุณวินิตแล้วอดคิดไม่ได้ว่า หรือของขวัญกับพี่โตจะเป็นจันทรจ้าวกับพี่หมอกลับชาติมาเกิด 5555555

เหมือนกันจริงๆ!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 09-01-2016 09:45:04
บางทีดารารัษมีก็เยอะไปนะหนู เป็นคุณหญิงไม่ได้ จะจับมาตีซะให้ หึ

เราชอบคุณพงศ์มากค่ะ นางน่าเอ็นดูมากกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 09-01-2016 13:31:52
ก็หวังว่าคุณหมอจะได้คืนแบบคุ้มค่า

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-01-2016 15:52:18
รอจันทร์ดีกับคุณหมอก่อน จัดให้จันทร์ง้อหมอเลยนะคุณบัว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 10-01-2016 11:38:01
พี่น้องก็จะตีกัน ความก็กลัวจะแตก แถมคุณหมอยังตามกลับมาด้วย
เราละกลัวดาราจะสติแตกเผยความลับจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 10-01-2016 18:05:26
สามวันดีสี่วันไข้จริงๆคู่นี้
รอลุ้นต่อไปค่ะ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 10-01-2016 19:41:39
จอมขวัญคงมาสายดาราฯกับคุณวินิตสินะ. จุดเริ่มต้นกิจการโรงแรมเครือวิมลกิกิตอย่างนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 10-01-2016 20:52:06
จันทร์พยศอีกแล้ว คุณหมอต้องปราบให้อยู่หมัดเลยนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-01-2016 21:21:17
2 พี่น้องนี่น่าโดนตี !!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Naeon ที่ 11-01-2016 22:38:49
สงสารคุณหมอจัง5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: snowtoy ที่ 11-01-2016 23:53:06
เป็นเรื่องล้าววววววววว :a5: o22 แต่ะพี่น้องคู่นี้จะว่าอ่านๆไปก็ทะเลาะกันได้น่ารัก รักกันดีนะ555555 ปล.รองานคืนความสุขของหมออย่าใจจดจ่อเลยทีเดียวเชียวค่ะ  :laugh: :hao6: :haun4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 12-01-2016 10:05:21


อืม คุณจันทร์นี่สมเป็นคุณจันทร์จริง ๆ
เธอร้าย เธอเหวี่ยง เธองอน เธอเอาแต่ใจจนคุณหมอหัวหมุนเป็นสิบตลบต่อวัน
เห็นใจหมอค่ะ ว่าที่เมียพยศมาก... แต่อีกใจ ก็ดีใจกับหมอนะคะ
เขาว่ากันว่า ตีกันมากเท่าไร ลูกดกมากเท่านั้น ขอเพียงคุณหมอขยันกดคุณจันทร์เป็นพอค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^  :pig4:


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 12-01-2016 11:20:33
ขอเดาว่า   ดารารัษมีคือแม่ของจอมขวัญค่ะ   อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 14-01-2016 19:59:59



ลุ้นๆๆๆ คืนนี้ คุณหมอ จะแยกคู่ จันทร์ กะ ดาราได้ไหม

แล้วจะง้อยังไง ถึงจะยอมคืนดี 

:o8: :o8: :o8: เขิลแทนเลย


คุณ Dezair มาไวไว อย่าดึกนะ  " จะ ดู ปดิวรัสดา รอ "  ละครพีเรียดเหมือนๆ กัน


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven



ขอเดาว่า   ดารารัษมีคือแม่ของจอมขวัญค่ะ   อิอิ

 :กอด1: ....คิดเหมือนกันเลย

  เพราะว่า ของขวัญสืบเชื้อสาย มาจาก จันทร์จ้าว และ ดารา แบบสำเนาถูกต้องเลย  :hao3:
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 14-01-2016 20:15:30
  จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๑๘



   นายวินิตและอุไรที่นั่งอยู่บนโต๊ะนั่งเล่นใต้ถุนเรือนลอบมองกันด้วยต่างฝ่ายต่างใจคอไม่สู้ดี อีก ๒ คนที่ร่วมโต๊ะด้วยคือเจ้าของบ้านอย่างจันทร์จ้าวผู้เชิญนายวินิตมา และดารารัษมีที่ชวนอุไรมา ทว่าเจ้าบ้านทั้ง ๒ กลับเอาแต่จ้องมองกันตาเป๋งราวกับจะไม่ลดราวาศอกให้กันอย่างนั้น



   ไม่ใช่เพียงแขกเท่านั้นที่รู้สึกถึงสงครามของ ๒ พี่น้อง แต่นภาสรวงที่สั่งให้คนรับใช้ยกของว่างมาที่โต๊ะก็รับรู้ถึงความอึดอัดไม่สมกับที่จันทร์จ้าวและดารารัษมีพาเพื่อนมาที่บ้านเลยสักนิด



   “เอ่อ...เชิญคุณวินิตกับคุณอุไรรับของว่างก่อนนะคะ ไม่ทราบว่าจะอร่อยสู้ติ่มซำของคุณวินิตได้ไหม” นภาสรวงพยายามสร้างบรรยากาศที่ดี ซึ่งนายวินิตก็รีบพูดทันที



   “โอ้! หน้าตาน่ารับประทานอย่างนี้ คงต้องเยี่ยมกว่าอยู่แล้วล่ะครับ!”



   “หน้าตาก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น ของบ้านนี้ไม่ได้วิเศษวิโสกว่าที่อื่นหรอกค่ะ! พูดชมเกินไปอย่างนี้ ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลยนะคะคุณวินิต!” ดารารัษมียอกย้อน ฟังดูก็รู้ว่าตั้งใจกล่าวหาว่านายวินิตพูดชมเกินหน้าเกินตา ทำเอานายวินิตเงียบกริบ จันทร์จ้าวจึงออกโรงแทน



   “ดาราเคยไปเที่ยวบ้านคนอื่นไหม ใครบ้างไปเที่ยวบ้านคนอื่นแล้วพอเห็นอาหารบ้านนั้นกลับบอกว่าหน้าตาธรรมดาเหลือเกิน ดาษดื่นเห็นได้ตามตลาด พูดแบบนั้นน่ะไร้มารยาท เป็นครูแท้ๆ ไม่รู้มารยาทหรือ อย่างนี้จะไปสอนใครเขาได้ หรือสอนแค่ความรู้ ไม่สอนมารยาทและการวางตัว?” ๒ พี่น้องจ้องตากันอย่างไม่ยอมความ เป็นนายวินิต อุไรและนภาสรวงที่พากันกลืนน้ำลายลงคอด้วยหวาดหวั่นว่าจันทร์จ้าวและดารารัษมีจะทะเลาะกัน ทว่าไม่ทันที่จะมีใครพูดอะไร รถโฟล์คสีดำของอาทิตย์ก็เคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าประตูบ้าน



   “พี่อาทิตย์มาแล้ว!” นภาสรวงร้องออกมาอย่างยินดี แล้วรีบสั่งให้คนรับใช้ชายวิ่งไปเปิดประตูรั้วอย่างว่องไว รถโฟล์คขับเข้ามาจอด ตามมาด้วยรถยนต์อีกคัน



   “นั่นมันรถ...” ดารารัษมีเห็นรถคันหลังของผู้เป็นพี่ชายก็ยิ่งรู้สึกโมโห กำลังจะหันไปเอาเรื่องจันทร์จ้าวด้วยคิดว่าเขาช่างหน้าไม่อายชักชวนหมอภวัตมาที่บ้านนี้อีก แต่หล่อนไม่ทันจะได้พูดอะไร จันทร์จ้าวก็ลุกพรวดแล้วหันไปถามอาทิตย์ที่เพิ่งลงจากรถอย่างเอาเรื่อง



   “พี่อาทิตย์พาหมอมาทำไม?!!!” คราวนี้นายวินิต อุไร นภาสรวงและแม้กระทั่งดารารัษมีหันมามองจันทร์จ้าวเป็นตาเดียว โดยเฉพาะน้องสาวคนเล็กนั้นไม่คิดว่าพี่ชายคนรองของหล่อนจะพูดจามีน้ำโหเมื่อเห็นหมอภวัตมาที่นี่



   ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!...จันทร์จ้าวกับหมอภวัตคบหากันไม่ใช่หรือ? แล้วเหตุใดจึง...



   อาทิตย์ไม่รู้จะอธิบายเช่นไร พอดีกับหมอภวัตก้าวลงมาจากรถที่จอดอยู่ข้างหลังรถของอาทิตย์ จันทร์จ้าวจึงตวัดสายตาไปจ้อง



   “หมอมาทำไม?!!” นายแพทย์หนุ่มเหลือบตามองไปเบื้องหลังคนที่ยืนตะเบ็งจ้องเขาเขม็ง ก็เห็นนายวินิตนั่งอยู่ที่โต๊ะใต้ถุนเรือนพร้อมหน้ากับดารารัษมี ดวงตาคมดุที่เคยทอดแววอ่อนโยนมาโดยตลอดกลายเป็นขมึงกล้า แล้วเดินเข้ามาคว้าแขนจันทร์จ้าวอย่างรุนแรง ก่อนจะหันไปพูดกับบรรดาพี่น้องรักษพิพัฒน์อย่างขออนุญาต



   “ผมขอตัวคุณจันทร์ไปคุยธุระสักครู่ แล้วจะพามาส่ง” เขาว่าอย่างนั้น และก่อนที่จะมีใครคัดค้าน หมอภวัตก็ดึงแขนขาวลากไปที่รถของตนโดยทันที ทว่าจันทร์จ้าวไม่ใช่คนยอมอะไรโดยง่าย เขาร้องเสียงลั่น



   “ผมไม่มีธุระคุยกับหมอ!! ปล่อยผม!! ผมไม่ไป!!!” แต่ให้อย่างไร ภวัตก็ไม่ปล่อย จันทร์จ้าวจึงหันกลับมาที่ ๓ พี่น้องของตนและแขกอีก ๒ คน



   “ช่วยผมด้วยซี!! ยืนนิ่งนั่งนิ่งกันอยู่ทำไม!!!” อาทิตย์โผจะเข้าไปช่วยแต่หมอภวัตตวัดสายตามามองเสียก่อน นายทหารหนุ่มก็หยุดแต่เพียงเท่านั้น นภาสรวงกับดารารัษมียังมัวแต่ตกใจจึงไม่อาจทำอะไร ส่วนนายวินิตกับอุไรยิ่งแล้วใหญ่ ดูราวกับตกตะลึงพรึงเพริศไปเสียแล้ว



   ร่างสูงโปร่งของจันทร์จ้าวถูกเหวี่ยงเข้าไปในรถ และก่อนที่จะตั้งหลักได้ หมอภวัตก็ก้มหน้าลงมาสั่งเสียงเฉียบขาดด้วยน้ำเสียงอันเบา



   “ถ้าคุณดื้อออกจากรถผม เราจะได้ไปคุยกันต่อหน้าท่านนายพลและคุณหญิง!” เป็นอันว่าหากไม่อยากให้นายพลเดชและคุณหญิงผกาทราบเรื่องใดๆก็ตามที ก็จงอยู่เงียบๆในรถต่อไป แต่จันทร์จ้าวผู้ดื้อดึงไม่มีวันยอมทำตามเพียงเพราะคำขู่



   “หมอคิดว่าสั่งผมได้หรือ?!!!”



   “ใช่!”



   “หมอ!...” ร่างสูงโปร่งตั้งท่าจะโวยวายด้วยความโมโห แต่อีกฝ่ายชี้นิ้วมองหน้าเขาด้วยสายตาดุดัน



   “นั่งเฉยๆ!!!” ทั้งน้ำเสียง ทั้งท่าทาง ทั้งสายตา ทุกอย่างของหมอภวัตทำให้จันทร์จ้าวผู้ดื้อดึงถึงกับชะงักอยู่กับที่ และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด สุดท้ายแล้วคนดื้อดึงก็ทำได้เพียงมองคนสั่งด้วยความเจ็บใจ แล้วทำได้เพียงกระแทกแผ่นหลังลงกับเบาะแล้วปล่อยให้เจ้าของรถปิดประตูวิ่งอ้อมฝั่งไปขึ้นฝั่งคนขับ แล้วจึงขับออกไปจากบ้านรักษพิพัฒน์



   พายุลูกใหญ่จากไปแล้ว ใต้ถุนเรือนเงียบกริบด้วยเพราะไม่มีใครคิดคำพูดใดๆออกเสียสักคน จนกระทั่งเสียงดังมาจากบันไดเรือน



   “เกิดอะไรขึ้นน่ะ เอะอะขึ้นไปถึงข้างบน” คุณหญิงผกานั่นเองที่ได้ยินเสียงแว่วๆจากข้างล่างจนอดรนทนไม่ไหวต้องลงมาดูด้วยตัวเอง แต่เมื่อกวาดตามองบุตรธิดาและแขกของเรือนแล้วก็พบว่ามี ๑ คนหายไป



   “แล้วพ่อจันทร์ไปไหนเสียล่ะ” ๒ แฝดเงียบกริบพูดไม่ออก อาทิตย์จึงเป็นฝ่ายตอบคำถามนี้เอง



   “พอดี...จันทร์มีธุระด่วนกับคุณหมอภวัตน่ะครับ ก็เลย...ออกไปข้างนอกสักครู่”



   “อ้าว...คุณหมอมาหรือ? ทำไมไม่เชิญเธอขึ้นเรือน”



   “...คุณ...คุณหมอเธอรีบ ก็เลยแวะมารับพี่จันทร์ไปคุยธุระ เดี๋ยวเดียวก็กลับค่ะคุณแม่” นภาสรวงช่วยตอบ



   “เสียงเอะอะเมื่อครู่ก็เสียงพ่อจันทร์ล่ะซี นี่คงจะแผลงฤทธิ์ใส่คุณหมออีกแล้ว พ่ออาทิตย์กลับมาจากวังฉัตรเมื่อไรล่ะนี่ แม่กำลังคุยกับคุณพ่อเรื่องพ่ออาทิตย์อยู่พอดีเชียว” เมื่อถามไถ่เรื่องบุตรชายคนโปรดเรียบร้อยแล้ว คุณหญิงผกาจึงได้หันมาสนใจบุตรคนใหญ่ อาทิตย์ไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจ เขารู้ดีว่าแม้มารดาจะไม่ได้ห่วงหวงตนเองเท่ากับน้องชาย แต่กระนั้นคุณหญิงผกาก็มอบความรักและเอาใจใส่ในฐานะมารดาเป็นอย่างดี



   อาทิตย์เดินเข้าไปหามารดา แล้วยิ้มจาง



   “เพิ่งกลับมาถึงสักครู่เองครับคุณแม่”



   “ดีล่ะ จะได้มาคุยกับคุณพ่อด้วยเลย เรื่องพ่ออาทิตย์กับคุณพิม หากชอบพอกันดีแล้ว แม่ก็อยากจะให้ตบแต่งเสียที นี่นะ เมื่อวันก่อน คุณพ่อเข้าไปพบท่านชายมา ท่านก็พูดเป็นนัยๆว่าอยากจะปรับปรุงตึกเก่าให้เป็นเรือนหอของคุณพิมกับพ่ออาทิตย์ในเขตวังฉัตรนั่นล่ะ ถึงจะแปลกไปสักหน่อยที่แต่งงานแล้วพ่ออาทิตย์ย้ายเข้าไปอยู่ทางนั้น แต่แม่ว่า ถ้าทางนั้นเป็นเรือนหอที่ท่านชายยกให้เป็นของขวัญก็คงจะไม่เป็นไร พ่ออาทิตย์ว่าอย่างไรจ๊ะ...” เสียงคุณหญิงผกาแจ้วๆหายขึ้นเรือนไปพร้อมกับอาทิตย์ ดูเหมือนสตรีผู้เป็นใหญ่ในบ้านรักษพิพัฒน์จะไม่ติดใจเรื่องเสียงเอะอะมะเทิ่งเมื่อครู่มากนัก เพราะเวลานี้กำลังใจจดใจจ่ออยู่กับเรื่องของอาทิตย์นั่นเอง เมื่อพ้นหลังคุณหญิงผกาแล้ว นภาสรวงก็ถอนหายใจเบาอย่างโล่งอก แล้วจึงหันมาที่แขกทั้ง ๒ ซึ่งพากันเงียบกริบนับตั้งแต่จันทร์จ้าวโวยวายใส่หมอภวัต ส่วนดารารัษมีก็ดูจะเงียบไปเช่นกัน



   “เอ่อ...เชิญรับของว่างกันดีกว่าค่ะ คุณวินิตเคยรับประทานไหมคะ นี่เรียกว่าช่อม่วงค่ะ” นภาสรวงพยายามสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นอีกครั้ง และนายวินิตก็ร่วมมืออีกหน



   “ผมไม่เคยรับประทานมาก่อน ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ แต่สมชื่อทีเดียวครับ เป็นสีม่วงสวยเชียว”



   “ช่อม่วงเป็นของว่างชาววังค่ะ นภาเรียนวิธีทำมาจากแม่ครัวที่วังฉัตร”



   “อุไรเองก็เคยได้ยินแต่ชื่อ ทำยากไหมคะคุณนภา” อุไรเองก็รีบออกตัวเพื่อให้บรรยากาศเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น



   “ไม่ยากหรอกค่ะ หากคุณอุไรอยากเรียนวิธีทำ นภาจะสอนให้ คุณพิมเธอสั่งเอาไว้ ว่าถ้ารู้สูตรจากวังฉัตรแล้ว หากมีใครมาขอก็ให้บอกไป เธอไม่หวงสูตรค่ะ เธอว่าอยากให้คนอื่นๆได้ลิ้มลองบ้าง จะได้พูดกันปากต่อปากว่าช่อม่วงสูตรวังฉัตรอร่อยเพียงใด”



   “ถ้าอย่างนั้นผมขอลองชิมสักหน่อยนะครับ” นายวินิตไม่รอช้า เขาลองชิมช่อม่วงสูตรวังฉัตรที่ทำโดยนภาสรวงแล้วก็ต้องตาโตกับรสชาติกลมกล่อม



   “เป็นอย่างไรคะ” คนทำถามพร้อมรอยยิ้ม



   “อร่อยมากเลยครับ ผมจะต้องเอาไปบอกปากต่อปากเสียแล้วว่าช่อม่วงสูตรวังฉัตรอร่อยอย่างกับขึ้นสวรรค์!” อุไรและนภาสรวงพากันหัวเราะเบาๆ ก่อนที่อุไรจะลองชิมบ้าง แล้วหลังจากนั้นแฝดผู้พี่ก็เป็นคนดูแลแขกทั้ง ๒ ในขณะที่ดารารัษมีเอาแต่นั่งเงียบและดูราวกับจะเลื่อนลอยตกอยู่ในภวังค์ ทว่าก็ไม่มีใครกล้าทักท้วง เพราะเกรงว่าสุดท้ายแล้วบรรยากาศที่กำลังดีจะกลับมาอึมครึมอีกครั้ง



.........................................



   รถยนต์ของหมอภวัตขับออกมาจนพ้นละแวกบ้านรักษพิพัฒน์ ก่อนจะจอดเลียบถนนที่ไม่พลุ่กพล่านนัก และเมื่อนั้นสารถีจึงหันมาที่คนข้างกายที่นั่งเงียบหน้านิ่วคิ้วขมวดมาตั้งแต่ขึ้นรถมา



   “คุณถึงกับชวนคุณวินิตมาที่บ้านเชียวหรือ?” นายแพทย์หนุ่มตั้งคำถามเสียงเข้ม จันทร์จ้าวตวัดสายตามามอง



   “แล้วหมอไม่เห็นดาราพาเพื่อนมาบ้านหรือ?!! หมอเห็นไหมว่ามีผู้หญิงอีกคนอยู่ในบ้านผม?!! นั่นน่ะคุณอุไร เป็นเพื่อนครูที่โรงเรียนของดารา และดาราตั้งใจพาเพื่อนมารู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ผม! หมอคิดว่าจะรู้จักกันไปทำไมล่ะ?! พี่อาทิตย์กำลังคบหากับคุณพิม ผู้ชายคนเดียวในบ้านที่คู่กับคุณอุไรได้ก็มีแค่ผม! ดาราจงใจจะจับผมแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น!!”



   “แล้วทำไมจู่ๆคุณดาราถึงได้จะจับคู่ให้คุณ”



   “ก็เพราะดารารู้เรื่องของผมกับหมอแล้วน่ะซี!!” จันทร์จ้าวหลุดปากพูดออกไปแล้วก็ถึงกับชะงัก คนฟังเองก็นิ่งงันไปเช่นกัน แต่กระนั้นเขาก็พอจะเข้าใจหัวอกของดารารัษมีดี



   “คุณดาราคงเป็นห่วงคุณ...”



   “ห่วงผม?! ห่วงทำไมไม่ทราบ?! ผมคบกับหมอมีเรื่องน่าห่วงตรงไหน?!!”



   “ก็ตรงที่ผมแต่งงานกับคุณอย่างออกหน้าออกตาในสังคมไม่ได้...” ดวงตาคมของนายพทย์หนุ่มจับจ้องดวงหน้าขาวของคนข้างกายด้วยความเศร้าหมอง จันทร์จ้าวเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายแล้วหัวใจที่กำลังเต็มไปด้วยความโกรธและโมโหก็อ่อนยวบลง



   “ผมยอมรับว่าคนเราต้องอยู่ในสังคม แต่เวลาที่ผมป่วย คนที่ดูแลผมไม่ใช่สังคม เวลาที่ผมโมโหหงุดหงิด คนที่อยู่กับผมไม่ใช่สังคม แต่เป็นหมอ หมอต่างหากที่อยู่กับผม หมอต่างหากที่ดูแลผม หมอต่างหากที่เอาใจใส่ผม...” คำพูดนั้นจริงใจและจริงจัง และมันเพิ่มพูนกำลังใจในหัวใจคนฟังอย่างหาใดเปรียบ ใบหน้าหมองเศร้าเมื่อครู่ของหมอภวัตราวกับได้รับน้ำทิพย์ที่ชุ่มชื้น ดวงตา ๒ คู่มองสบกันราวกับสื่อความรู้สึกถึงความในใจมากมาย



   “...วันนี้ ดาราจะมาบอกให้ผมเลิกกับหมอ เพราะดาราเป็นห่วงผม ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก ผมรักน้องก็จริง และผมก็ทราบว่าน้องรักผม แต่ผมเองที่ดื้อดึงจะคบกับหมอให้ได้ตั้งแต่แรก แล้ววันนี้พอน้องมาขอโดยอ้างว่ารักและห่วง จะให้ผมทิ้งหมอได้อย่างไร ผมทำไม่ได้”



   ดวงตากลมใหญ่ที่แสนดื้อดึง มาบัดนี้กลับมองคนถามด้วยความอ่อนโยนด้วยหัวใจรักจริง



   “...หมอบอกให้ผมตระหนักเอาไว้เสมอว่าผมมีเจ้าของแล้ว หมอเองก็ควรจะตระหนักเช่นกันว่าเจ้าของของผมคือใคร” ไม่ต้องอธิบายอะไรมากกว่านั้น ภวัตก็เข้าใจเป็นอันดี รอยยิ้มจางปรากฏบนใบหน้าของเขาด้วยความอิ่มเอิบ



   “ผมจะจำเอาไว้ครับ ผมขอโทษ...ที่...” เพราะภวัตเติบโตมากับกรอบจารีตและประเพณี มาวันนี้จะให้เขาก้าวเท้าเดินออกจากสิ่งเหล่านั้นโดยไม่หันกลับไปมองเลยก็เป็นไปไม่ได้ และดูเหมือนจันทร์จ้าวเองก็จะเข้าใจในข้อนี้ดี



   “หมอไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมเข้าใจ เรื่องของเรามันเป็นไปแทบไม่ได้ หากว่าหมอไปรักคนอื่นที่ไม่ใช่ผม หมอก็คงไม่เลือกที่จะสมหวังในความรักแน่ แต่ขอโทษเถอะ...ในเมื่อความรักครั้งนี้ของหมอเกิดกับผม และผมเลือกแล้วที่จะทำให้มันเป็นไปได้ มันก็ต้องเป็นไปได้” สมกับเป็นคนดื้อดึง นายแพทย์หนุ่มจับจ้องใบหน้าคนดื้อด้วยความรู้สึกหลากหลายในหัวใจ ทั้งขอบคุณ ทั้งรักทั้งหวง ทั้งซาบซึ้ง เขาอยากเอื้อมมือไปลูบผิวแก้มขาวๆของดวงหน้าที่มุ่งมั่นจริงจัง แต่เพราะเวลานี้เป็นเวลากลางวัน และอยู่ในรถกลางที่สาธารณะ หากมีใครมาเห็นเข้าคงไม่ใช่เรื่องดี สิ่งเดียวที่เขาพอจะทำได้คือการเอื้อมมือไปกุมมือขาวแผ่วเบา



   “ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่เข้าใจผมมากขนาดนี้”



   “เห็นข้อดีของผมแล้วซี บอกแล้วว่าถึงผมจะดื้อ ผมก็ดื้ออย่างมีประโยชน์ หมอนั่นล่ะ! ผมดื้อทีไรก็ดุสถานเดียว ไม่เคยดูเหตุผลเลยสักนิดว่าผมดื้อเพราะอะไร ดุมากๆ ผมก็เสียใจเป็น” ภวัตฟังคำพูดคนอวดตัวเองแล้วก็ถึงกับหัวเราะเบาๆ บรรยากาศขมุกขมัวและคุกรุ่นไปด้วยความไม่เข้าใจของพวกเขาเมื่อครู่จางหายไปอย่างง่ายดายด้วยการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาไม่กี่ประโยค



   “ผมเคยทำให้เสียใจด้วยหรือ” หมอภวัตตั้งคำถามด้วยรอยยิ้ม ดวงตากลมเหลือบมามองอย่างเอาเรื่อง



   “เคยซี! นอกจากจะทำให้เสียใจ ยังทำให้โกรธด้วย อ้ายเรารึอุตส่าห์ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ดาราเข้ามาจุ้นจ้าน กลับมาหาว่าเราบังคับขู่เข็นน้อง ก็ไม่ได้คิดจะบังคับเสียหน่อย แค่พามารู้จักเอาไว้ หากชอบพอกันก็ดี หากไม่ชอบพอกันก็จะได้หาคนใหม่มาให้รู้จักอีก” คนฟังส่ายหน้าน้อยๆอย่างระอาใจกับความเจ้าแผนการของคนข้างกาย



   “ผมขอได้ไหม หากสุดท้ายแล้วคุณดาราไม่พึงใจใครสักคนที่คุณหามาให้ ก็อย่าไปบังคับเธอได้ไหมครับ”



   “ผมบังคับใครได้เสียที่ไหน ยิ่งดารายิ่งแล้วใหญ่ ดูอย่างวันนี้ซี! ชวนเพื่อนมาบ้านชนกับผมอีกแหน่ะ!” จันทร์จ้าวบ่น คนฟังก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆ



   “คุณกับคุณดารานี่นิสัยเหมือนกันเลย”



   “ผมถึงอยากให้ดารารู้จักความรักอย่างไรล่ะ เมื่อไรที่รู้จักรัก เมื่อนั้นใจของดาราจะเปิดกว้างกว่านี้” หมอภวัตเอื้อมมือไปกุมมืออีกฝ่ายเบาๆเป็นการปลอบประโลม



“จนกว่าจะถึงวันนั้น ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหน ผมสัญญา” จันทร์จ้าวหันมองคนพูดแล้วยิ้มจางเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย พลางยักคิ้วล้อเลียน



   “ถึงจะผ่านวันที่ดารายอมรับเรื่องของเราได้แล้ว ผมก็ไม่ยอมให้หมอทิ้งผมหรอก หมอตกหลุมผมแล้ว ผมไม่ให้หมอปีนจากหลุมผมง่ายๆ” ภวัตมองคนพูดที่ดูจะมั่นอกมั่นใจในตัวเองเสียเหลือเกินแล้วก็ได้แต่หัวเราะ ฝ่ายคนพูดเองก็พลอยหัวเราะไปด้วย เมื่อต่างฝ่ายต่างอารมณ์ดีแล้ว นายแพทย์หนุ่มจึงชักชวนไปขับรถเล่นเพื่อรับลม และแน่นอนว่าจันทร์จ้าวย่อมไม่ปฏิเสธเหมือนในคราแรกที่พาออกมาจากบ้านรักษพิพัฒน์



   รถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่ถนนอีกครั้ง และครั้งนี้ ภายในรถก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของคน ๒ คนดังไปตลอดทาง


……………………………………..



   แขกที่ดารารัษมีและจันทร์จ้าวเชิญมาที่บ้านกลับกันไปแล้ว นภาสรวงกำลังดูแลให้คนรับใช้เก็บกวาดให้เรียบร้อยอยู่ที่ใต้ถุนเรือน ส่วนน้องสาวแฝดของหล่อนนั้นยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นอย่างเลื่อนลอยนับตั้งแต่จันทร์จ้าวออกไปกับหมอภวัตเมื่อตอนสาย จวบจนบ่ายแล้ว ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะกลับมาเสียที



   แฝดพี่เดินออกมาจากครัว มองไกลไปยังหน้าประตูรั้วก็ยังไม่ห็นเงารถยนต์ของนายแพทย์หนุ่ม จึงเหลือบกลับมามองแผ่นหลังของน้องสาวที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม หล่อนถอนหายใจน้อยๆ แล้วจึงเดินออกจากครัวเข้าไปหาดารารัษมี



   “เป็นอะไรไปหรือ ดารา” ดารารัษมีเหลือบดวงตากลมโตมามองพี่สาวด้วยสายตาตั้งคำถาม



   “ถ้านภาเป็นคุณอุไร นภาเห็นพี่จันทร์โวยวายถึงเพียงนั้น นภาคิดอย่างไร” นภาสรวงออกจะคาดไม่ถึงกับคำถามของน้องแฝด แต่กระนั้นหล่อนก็ยังนั่งลงเคียงข้างและตอบอย่างใจเย็น



   “นภาคงตกใจน่าดู และคง...อาจจะกลัวด้วย พี่จันทร์มีน้ำโหแล้วโวยวาย ถึงจะไม่ทำอะไรใคร แต่แค่เสียงดังอย่างนั้นก็น่ากลัวใช่ย่อย” คราวนี้ดารารัษมีหันมามองด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยคำถาม



   “แล้วทำไมคุณหมอถึงไม่กลัว” เป็นคำถามที่นภาสรวงไม่รู้จะตอบเช่นไร เมื่อครู่นี้ตอนที่จันทร์จ้าวโวยวายให้ลั่น คนจะเข้าไปช่วยยังไม่กล้า คนที่กล้ากลับเป็นหมอภวัตที่ทำให้จันทร์จ้าวคลั่งเสียเพียงนั้น



   “คุณหมอเธอคงชินกระมัง หรือไม่อย่างนั้นก็เพราะเธอรู้จักพี่จันทร์ดี เธอรู้ว่าจะทำเช่นกับพี่จันทร์ที่อารมณ์ร้อน จะว่าไป ตั้งแต่ครั้งแรกๆ พี่จันทร์ก็ทำนิสัยแย่ๆใส่คุณหมอตั้งหลายหน เธอก็รับมือได้มาตลอด อย่างเมื่อครู่นี้ ดาราก็เห็น ตอนที่พี่จันทร์ถูกพาขึ้นรถ พี่จันทร์ตั้งท่าจะลง แต่พอถูกคุณหมอพูดอะไรด้วยหน่อย ก็ยอมนั่งในรถให้คุณหมอขับพาออกจากบ้านไป อย่างนี้จะไม่เรียกว่าคุณหมอรู้จักพี่จันทร์ดีได้หรือ” ดารารัษมีเงียบ ด้วยเพราะไม่รู้จะหาข้อขัดแย้งใดๆมาพูดกับพี่สาว หล่อนเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ทุกอย่าง และเพราะเห็นจึงเอาแต่คิดไม่ตกว่าจะมีใครที่สามารถจัดการกับจันทร์จ้าวได้เท่าหมอภวัตหรือไม่



   “ดารา นภาขอสักเรื่องได้ไหม” นภาสรวงเอ่ยขึ้นมาเสียงเบาพอให้ได้ยินกันแค่ ๒ คน ดารารัษมีหันมอง พี่สาวแฝดจึงพูดต่อ



   “เรื่องพี่จันทร์ หากไม่ยอมรับ ก็ถือเสียว่าไม่รู้ไม่เห็นได้ไหม ให้โอกาสพวกเขา ๒ คนตัดสินใจเรื่องของพวกเขาเองได้ไหม” ดวงตากลมโตของน้องสาวยังคงจับจ้องผู้พี่ ทว่าไม่มีคำตอบใดเอื้อนเอ่ยออกมา



............................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 14-01-2016 20:16:08



หลังจากปรึกษาหารือกับท่านนายพลเดชและอาทิตย์ครู่ใหญ่จนได้ความว่าท่านนายพลจะให้บิดาของท่านหรือก็คือปู่ของอาทิตย์เป็นผู้ไปสู่ขอกับผู้ใหญ่ของหม่อมหลวงพิมพัชรา คุณหญิงผกาก็พาเอาความปลาบปลื้มออกมาจากห้องทำงานของสามีแล้วปล่อยให้ท่านนายพลและอาทิตย์พูดคุยกันเพียงลำพัง ตอนที่ออกมานั้น พอดีพบดารารัษมีเดินขึ้นเรือนมาเพียงลำพัง จึงเรียกเอาไว้



   “แม่ดารา” ธิดาคนเล็กเดินเข้ามาหา คุณหญิงผกาเพียงเดินไปนั่งที่มุมนั่งเล่น ดารารัษมีก็เดินตามอย่างนอบน้อม



   “วันนี้ที่พูดจาไม่งามกับเพื่อนของพ่อจันทร์น่ะ คิดว่าสมควรทำแล้วหรือ” กิริยามารยาทของดารารัษมีเป็นเรื่องที่หล่อนต้องพูด จึงต้องพักเรื่องปิติของบุตรชายคนใหญ่ไว้เสียก่อนแล้วทำตัวเข้มงวดกับธิดาคนเล็ก



   “ลูกขอโทษค่ะคุณแม่” หญิงสาวยกมือพนมไหว้ หล่อนเองก็รู้สึกผิดจริงที่ทำตัวไม่ใคร่จะดีกับนายวินิต แต่ตอนนั้นโมหะและทิฐิบังตา เห็นพี่ชายพาเพื่อนมาที่บ้านชนกับที่หล่อนพาอุไรมาก็ยิ่งแค้นเคือง ดูอย่างไรก็รู้ว่าจันทร์จ้าวตั้งใจพานายวินิตมาเพื่อให้ท่านนายพลและคุณหญิงผกาดูหน้า บ้านรักษพิพัฒน์มีธิดา ๒ คนก็จริง แต่นภาสรวงมีคนรักอยู่แล้ว เรื่องนี้จันทร์จ้าวทราบดี ดังนั้นเขาจึงหวังให้นายวินิตคู่กับหล่อนอย่างไม่ต้องสงสัย



   “ไปขอโทษพ่อจันทร์เขาด้วย คุณวินิตน่ะเพื่อนของเขา เขาพาเพื่อนมาเที่ยวบ้านก็เพราะอยากให้เพื่อนเห็นว่าครอบครัวเราเป็นผู้ดี แม่ดาราทำกิริยาเช่นนั้น แม่ไม่ชอบ”



   “ค่ะ คุณแม่ ลูกจะไปขอโทษพี่จันทร์” คุณหญิงผกามองท่าทางสำนึกผิดจริงของธิดาก็ถอนหายใจ



   “พ่อจันทร์เขาไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับเรา เขากลับมา เราต้องยินดีที่เขากลับมานอนบ้าน ดูแลเขาเหมือนเป็นคนในครอบครัวและแขกในคราวเดียวกัน เรื่องไหนยอมได้ก็ยอมเสียบ้าง แม่รู้ว่าแม่ดาราออกจะไม่ชอบใจพี่เขา แต่อย่าทะเลาะกันต่อหน้าคุณพ่อเลย คุณพ่อไม่ชอบให้พี่น้องทะเลาะกัน”



   “ค่ะ ลูกจะไม่ทะเลาะกับพี่จันทร์” มารดายิ้มจางอย่างเบาใจที่ธิดาคนเล็กเอ่ยปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ กำลังจะไล่ให้ดารารัษมีไปทำกิจธุระอย่างอื่นตามอัธยาศัย แต่กลายเป็นหญิงสาวที่ตั้งคำถามขึ้นมา



   “คุณแม่คิดจะให้พี่จันทร์กลับมาอยู่ที่นี่บ้างไหมคะ” เป็นคำถามที่ทำให้คุณหญิงนิ่งงัน มือที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบดอกไม้มาร้อยมาลัยพลันต้องชะงัก ดวงตากลมซึ่งถอดแบบให้แก่บุตรธิดาทั้ง ๔ เหลือบกลับมามองคนตั้งคำถาม แล้วจึงถอนหายใจเบา



   “คิดสิ...แม่อยากให้พ่อจันทร์กลับมาอยู่ที่นี่...” จันทร์จ้าวคือบุตรชายคนโปรด การที่คนโปรดต้องไกลตา ได้พบหน้าแค่ปลายสัปดาห์เป็นเรื่องที่ทำให้คุณหญิงผกากินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่พักใหญ่



   “...แต่...พี่เขาอยู่ที่นั่นก็สุขสบายดีไม่ใช่หรือ” คุณหญิงผกาย้อนถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรักใคร่และเอ็นดูจันทร์จ้าว “...หากพ่อจันทร์อยู่ที่ไหนแล้วไม่สบาย เขาไม่อยู่นานหรอก นี่เพราะเขาอยู่สบาย เขาจึงอยู่ได้ เห็นเขาอยู่ได้ แม่ก็ไม่อยากบังคับเขา”



คำตอบของมารดาราวกับฉุดความรู้สึกนึกคิดของดารารัษมีให้ตระหนักถึงตัวตนของพี่ชายคนรอง จันทร์จ้าวผู้เอาแต่ใจ จันทร์จ้าวผู้ที่ไม่อาจมีใครหน้าไหนบังคับได้ จันทร์จ้าวผู้รักสบาย หากเขาอยู่ที่ใดแล้วสบายกายสบายใจ ต่อให้คนอื่นจะมองว่ายากลำบากเสียเพียงไร เขาก็จะอยู่ที่นั่นต่อไป เหมือนเมื่อครั้งไปเรียนต่างประเทศ จะไปก็ยาก ให้ไปถึงแล้วอยู่ในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนก็ยาก เคยส่งจดหมายกลับมาว่าที่นั่นอากาศหนาวเข้ากระดูกแต่ก็ยังอยู่มาได้ตั้ง ๖ ปี อาหารการกินก็ไม่เหมือนบ้านเราแต่ก็ยังไม่ยักตาย คนอย่างนี้ไม่เหมือนใคร และคาดหวังให้เขาเหมือนคนอื่นก็เป็นไปได้ยาก



“นี่คุณพ่อสอนแม่อย่างนี้หรอก แม่คิดเองได้เสียที่ไหน” คุณหญิงผกาพูดแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พลางเหลือบมองธิดาคนเล็ก “ที่แม่ดาราอยากจะให้พี่เขาแต่งงาน แม่ก็ขอบใจในความปรารถนาดีของลูก แม่ปรึกษาคุณพ่อเรื่องนี้ แต่คุณพ่อท่านว่าพ่อจันทร์เป็นคนเอาแต่ใจ ใครก็บังคับไม่ได้ เกิดบังคับให้พ่อจันทร์แต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รัก เขาอาจจะยอมแต่ง แต่พอวันรุ่งขึ้นก็เก็บเสื้อผ้าหนีไปเรียนต่อต่างประเทศอีกหน คราวนี้แม่คงตรอมใจแย่” ดารารัษมีมองมารดาด้วยทั้งรักและสงสาร หากจันทร์จ้าวไม่ถูกบังคับให้แต่งงาน เขาก็อาจจะไม่ได้แต่งงานไปจนชั่วชีวิต เพราะคนที่เขาคบหาไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไปที่จะพาออกหน้าออกตาได้



“เฮ่อ...ชาตินี้แม่ไม่รู้จะได้เจอคนที่บังคับพ่อจันทร์ได้ไหม คนเป็นพ่อเป็นแม่ยังบังคับไม่ได้ นับประสาอะไรกับคนอื่น ไม่รู้จะมีไหมนะ แม่ดารา คนที่จะบังคับพ่อจันทร์ได้คงจะมีอิทธิฤทธิ์เยอะเชียว” คุณหญิงผกาพูดพลางยิ้ม ดารารัษมีมองรอยยิ้มของมารดาแล้วก็พาเอายิ้มตาม



“แต่ดาราว่ามีนะคะ...คนที่จะบังคับพี่จันทร์ได้” หล่อนพูดพลางนึกถึงใครบางคนที่หาญกล้าบังคับพาจันทร์จ้าวผู้กำลังมีน้ำโหขึ้นรถออกไปด้วยกันได้ ใครบางคนที่ไม่ใช่แค่บังคับจันทร์จ้าวในยามอารมณ์ปกติ แต่กลับสามารถบังคับได้แม้กระทั่งตอนที่พี่ชายของหล่อนหงุดหงิดโวยวาย



“แม่ดาราพูดอย่างกับเคยเจอมาแล้ว เคยเห็นผู้หญิงคนไหนบังคับพ่อจันทร์ได้หรือ?!” คุณหญิงผกาถามอย่างตรงไปตรงมาด้วยความอยากรู้ ดารารัษมีชะงักเมื่อถูกถามในสิ่งที่หล่อนรู้คำตอบดี ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกำลังสำแดงฤทธิ์ในหัวใจของหญิงสาว หากบอกเรื่องของจันทร์จ้าวและหมอภวัตให้คุณหญิงทราบ มารดาจะต้องเสียใจแต่ก็คงสั่งเฉียบขาดให้ทั้ง ๒ คนเลิกคบหากันหนำซ้ำจะหาคู่ให้พี่ชายของหล่อนอย่างเร่งด่วน และเมื่อนั้นคนที่เสียใจก็จะเพิ่มขึ้นอีกหลายคน ทั้งจันทร์จ้าว ทั้งหมอภวัต และผู้หญิงที่ต้องมาแต่งงานด้วย



“ว่าอย่างไรแม่ดารา เคยเจอไหม?!” คุณหญิงผกาถามย้ำด้วยความตื่นเต้น หล่อนคิดว่าหากจันทร์จ้าวสนใจสตรีคนใด เขาเป็นคนเปิดเผย พี่น้องอีก ๓ คนน่าจะรับรู้



“บอกแม่มาเถอะ ถ้าแม่ดารารู้เห็นอะไร พ่อจันทร์มีผู้หญิงที่สนใจหรือยัง เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร...ไฮ้! นี่แม่ก็ว่าจะไม่ถามคำนี้ คุณพ่อดุเอาไว้ว่าแม่คาดหวังกับสะใภ้มากเกินไป” คุณหญิงผกาพูดแล้วก็นึกหงุดหงิดตนเอง แต่ก็ยังจับจ้องธิดาด้วยคาดหวังคำตอบ



ดารารัษมีมองสบกับดวงตาของมารดา ทว่าก่อนที่จะได้เอื้อนเอ่ยชื่อใครบางคนออกมา เสียงของแฝดพี่ก็ดังขึ้นมาในหัว



‘เรื่องพี่จันทร์ หากไม่ยอมรับ ก็ถือเสียว่าไม่รู้ไม่เห็นได้ไหม ให้โอกาสพวกเขา ๒ คนตัดสินใจเรื่องของพวกเขาเองได้ไหม’



...ให้ถือเสียว่าไม่รู้ไม่เห็น...ให้โอกาส...ให้พวกเขาตัดสินใจกันเอง...



“ดารา...” หล่อนเอื้อนเอ่ยอย่างยากลำบาก



“...ไม่เคยเจอหรอกค่ะ แค่คิดว่าน่าจะมีเท่านั้นเอง”



แม้จะยังไม่อาจทำใจยอมรับ แต่หล่อนจะปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หากจันทร์จ้าวอยู่กับหมอภวัตแล้วสบายใจสบายกายทั้งๆที่หล่อนมองอย่างไรก็ลำบากเพราะไม่อาจแต่งงานกันตามธรรมนองคลองธรรม เหมือนเมื่อครั้งที่หล่อนมองว่าจันทร์จ้าวไปตกระกำลำบากที่อเมริกา แต่กลับอยู่จนกระทั่งเรียนจบ หากพวกเขาอยู่กันยืด หล่อนก็จะถือว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อคู่กันจริง แต่หากสุดท้ายต้องจากลากันไป หล่อนก็ถือเสียว่าไม่ต้องทำอะไรแต่พวกเขาก็เลิกรากันเองแล้วกัน



“พุทโธ่! แม่ก็นึกว่าแม่ดาราเคยเจอมาแล้ว ถ้าเจอเมื่อไรให้รีบมาบอก แม่จะไปสู่ขอผู้หญิงคนนั้นให้พ่อจันทร์วันนี้วันพรุ่งเสียเลย แต่ถ้าไม่มีก็ช่างเถอะ ถือเสียว่าพ่อจันทร์ทำบุญมามากเมื่อชาติที่แล้ว ชาตินี้จึงได้เอาแต่ใจตัวเองอย่างเต็มที่ไม่มีคนมาคอยบังคับยังไรล่ะ”



ดารารัษมีไม่พูดกระไรเมื่อคุณหญิงผกาดูจะไม่ใส่ใจเรื่องคู่ครองของบุตรชายคนโปรดอีก ด้วยเพราะอาจจะตระหนักได้ว่าจันทร์จ้าวผู้แสนเอาแต่ใจนั้น หาคนอยู่ด้วยยาก



หล่อนจะรอดู...จะรอดูว่าใครบางคนจะอยู่กับคนเอาแต่ใจที่หาคนอยู่ด้วยยากอย่างจันทร์จ้าวได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ทั้งที่ใจไม่สนับสนุน แต่กระนั้นดารารัษมีก็รู้ดีว่าเสี้ยวหนึ่งของหัวใจ หล่อนอยากเห็นพี่ชายคนรองมีความสุขกับคู่ชีวิตจวบจนลมหายใจสุดท้ายมาถึง



........................................



จันทร์จ้าวพบกับความประหลาด เรื่องที่ ๑ คือพอกลับมาที่บ้านในเย็นวันนั้น ดารารัษมีที่มีทีท่ามึนตึงกับเขามาโดยตลอด กลับดูเหมือนจะขจัดความไม่พอใจเรื่องเขาและหมอภวัตได้แล้ว แม้จะไม่ได้พูดคุยกันเหมือนเก่า แต่หล่อนก็ไม่มองเขาตาขวางเหมือนที่แล้วมา ส่วนเรื่องที่ ๒ เกิดขึ้นในเช้าวันจันทร์ที่อาทิตย์ขับรถมาส่งเขาที่หน้าสำนักงาน



“ขอบใจมากพี่อาทิตย์ ผมไปก่อนล่ะ แล้วเจอกันเย็นวันศุกร์ เป็นว่านัดที่วังฉัตรเหมือนเดิม พี่อาทิตย์มาได้ทุกเวลาตามแต่สะดวก ไม่ใช่ซี...เดี่ยวนี้พี่ชายของเราเป็นคู่รักกับทายาทวังเสียแล้ว ต้องให้พี่ชายของเราเชิญเราไปวังฉัตรต่างหาก” อาทิตย์หัวเราะเบาๆกับคำพูดของน้องชายที่สรรหาคำมาหยอกเย้าเขาเหลือเกิน



“พูดอะไรอย่างนั้น เออ...เห็นว่าที่ร้านมีรถใหม่เข้ามาแล้ว จันทร์จะไปดูสักทีไหม นี่คุณแม่ก็ให้พี่มาถาม ว่าเมื่อไรจะซื้อรถ”



“คงยังไม่ซื้อ ไม่มีรถผมก็สะดวกดี หรือติดรถพี่อาทิตย์มาอย่างนี้ พี่ไม่สะดวก?”



“พี่น่ะสะดวก แต่จันทร์ต่างหาก วันอื่นๆไปกลับจากสำนักงานยังไรล่ะ ติดรถคุณพงศ์หรือ คุณพงศ์ก็ไม่ค่อยจะอยู่ไม่ใช่หรือ ไหนว่าต้องไปดูที่ดินกับคุณชายฉัตรด้วย?”



จันทร์จ้าวเงียบ ด้วยเพราะไม่กล้าบอกความจริงว่าหากไม่ใช่ช่วงที่ทะเลาะกันแล้ว เขามักจะติดรถหมอภวัตไปและกลับแทบทุกวัน



“ก็...มาเองบ้าง ติดรถคนนั้นคนนี้มาบ้าง ไม่ลำบากหรอก” คนเป็นน้องรีบตอบ อาทิตย์ก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อดูท่าแล้วจันทร์จ้าวคงยังไม่อยากจะซื้อรถจริง



“เอาเถอะ จะซื้อเมื่อไรก็มาบอก คุณแม่วานให้พี่ช่วยดูแลเรื่องรถของจันทร์ด้วย”



“อื้อ...” จันทร์จ้าวกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ แต่เสียงของพี่ชายคนใหญ่ดังขึ้นอีกหน



“มีอีกเรื่อง...จันทร์คืนดีกับคุณหมอหรือยัง” เป็นคำถามที่ชวนให้ชะงักยิ่งกว่าคำถามแรก จันทร์จ้าวไม่กล้าหันไปสบตาอาทิตย์ และตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ดูเป็นปกติที่สุด



“ก็...ดีแล้ว...พี่อาทิตย์มีอะไรหรือ”



“ไม่มีอะไรหรอก เห็นไม่กี่วันก่อนยังเดินที่เยาวราชด้วยกันอยู่เลย จู่ๆเมื่อวันเสาร์ก็ทะเลาะกันอย่างนั้น แต่ถ้าดีกันแล้ว ก็ดี”



“พี่อาทิตย์เห็นหมอกับผมที่เยาวราชหรือ”



“ใช่ จะว่าไปก็แปลก จันทร์กับคุณหมอทะเลาะกันหลายหนจริง แต่ก็ดีกันได้ทุกหน ใช่นิสัยของเราเสียที่ไหน เห็นแต่ก่อนเวลาทะเลาะกับใครที ถ้าไม่ใช่คุณพงศ์ ก็โกรธยาวนานข้ามเดือนข้ามปี ไม่สนใจอีกเลย นี่กับคุณหมอ เดี๋ยวดีกันเดี๋ยวทะเลาะกัน” อาทิตย์พูดตามที่เขาคิดด้วยน้ำเสียงราบเรื่อยฟังดูออกจะเอ็นดูน้องชายของตนอยู่มาก แต่กระนั้น จันทร์จ้าวกลับรู้สึกเหมือนเป็นวัวสันหลังหวะ เหงื่อซึมตามไรผมเพราะเกรงว่าพี่ชายคนใหญ่จะทราบเรื่องของตนอีกคน



“...เอ่อ...ก็ไม่เห็นแปลก หมอกับผมก็สนิทกันเหมือนที่ผมสนิทกับคุณพงศ์อย่างไรล่ะ ผมต้องไปทำงานแล้วพี่อาทิตย์ แล้วไว้เจอกัน” เขาพูดเพียงเท่านั้นก็เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินลิ่วเข้าสำนักงานไปอย่างรวดเร็ว อาทิตย์มองตามอดแปลกใจกับท่าทีของน้องชายไม่ได้ แต่เมื่อไม่อาจจับตัวกลับมาถามไถ่ เขาก็ทำได้เพียงออกรถกลับเข้าสู่ถนนอีกครั้ง



ชายหนุ่มขับรถออกจากหน้าสำนักงานด้วยความคิดหนึ่งที่ยังติดอยู่ในหัวนับตั้งแต่เมื่อครู่ที่เขาหันมองน้องชาย



...จันทร์จ้าวกับภวัตหน้าตาคล้ายกันจริงด้วย...



....................................................   



   แม้จะติดใจเรื่องจันทร์จ้าวและหมอภวัตอย่างไรชอบกล แต่อาทิตย์ก็ไม่ได้ตั้งคำถามนี้กับตนเองอย่างจริงจังนัก แม้จะมีเสียงจากเพื่อนในกรมเล่าสู่กันฟังว่าพบน้องชายของเขาไปตีเทนนิสกับหมอภวัตแทบทุกวัน แต่อาทิตย์ก็ยังคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของน้องชายผู้คลั่งไคล้เทนนิส ถึงจะอดแปลกใจไม่ได้ที่บัดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการไปตีเทนนิส ไปรับประทานอาหาร หรือไปที่ไหนๆ กลายเป็นหมอภวัตที่ตัวติดกับน้องชายของเขาเสียแล้ว



   เย็นวันศุกร์ เขาไปรับหม่อมหลวงพิมพัชราที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีตามเคย แล้วจึงมาส่งหล่อนที่วังฉัตร ตั้งใจว่าจะอยู่รอรับจันทร์จ้าวที่นี่เพื่อพากลับบ้านรักษพิพัฒน์ตามเคย ทว่าพอรถโฟล์คเคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าตึก รถยนต์ที่จอดอยู่เบื้องหน้า ก็ทำให้ทั้งอาทิตย์และหม่อมหลวงพิมพัชราพากันฉงน



   หญิงสาวเป็นผู้ลงจากรถคนแรก นายคำเดินเร็วๆเข้ามารับกระเป๋าถือและหนังสือ ราชนิกูลสาวจึงตั้งคำถามกับคนรับใช้เช



   “คุณหมอมาหรือจ๊ะ นายคำ”



   “ขอรับ”



   “เอ?...วันนี้คุณพ่อไม่อยู่ไม่ใช่หรือ หรือคุณพ่อนัดคุณหมอไว้แล้วท่านลืม?”



   “คุณหมอไม่ได้มาพบคุณชายขอรับ คุณหมอเธอมาพร้อมคุณจันทร์” อาทิตย์ลงจากรถมาทันได้ยินพอดีก็ถึงกับขมวดคิ้วฉับเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้น



   “คุณจันทร์มาพร้อมคุณหมอหรือ” ราชนิกูลสาวถามอีก ด้วยความฉงนไม่แพ้กัน เพราะเดิมทีหากเป็นวันศุกร์ที่จันทร์จ้าวนัดพบอาทิตย์ที่นี่ เขามักจะติดรถมาพร้อมกับพี่ชายของหล่อน ไม่ใช่มาพร้อมกับหมอภวัต



   “ขอรับ เห็นว่าคุณพงศ์ออกจากสำนักงานแล้วจะเลยไปทำธุระต่อ คุณจันทร์จึงมากับคุณหมอขอรับ”



   เป็นว่าหมอภวัตมาที่วังฉัตรด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือพาจันทร์จ้าวมาส่ง อาทิตย์รู้สึกประหลาดในอก แปลกใช่น้อยเสียเมื่อไรที่หมอภวัตขันอาสารับส่งน้องชายของเขาถึงเพียงนี้ จากโรงพยาบาลที่หมอภวัตทำงานอยู่ มาสำนักงานของจันทร์จ้าว แล้วมาที่วังแห่งนี้ ไม่ใช่อยู่ในละแวกเดียวกันเสียหน่อย



   “แล้วตอนนี้พวกเธออยู่ที่ไหนกัน” อาทิตย์ถาม คิ้วยังขมวดมุ่นด้วยหาคำตอบให้กับตนเองไม่ได้



   “อยู่ที่โต๊ะริมน้ำขอรับ” นายคำตอบ อาทิตย์จึงหันมาทางราชนิกูลสาว



   “ผมขอตัวไปหาจันทร์สักครู่นะครับ”



   “พิมพาไปเองค่ะ” ท่าทางไม่สู้ดีของคู่รักทำให้หม่อมหลวงพิมพัชราห่วงใย หล่อนเอ่ยปากแล้วจึงส่งกระเป๋าถือและหนังสือให้คนรับใช้นำไปเก็บ แล้วจึงเป็นฝ่ายก้าวเท้าเดินนำอาทิตย์ไปยังโต๊ะริมน้ำซึ่งเป็นสถานที่ที่จันทร์จ้าวและภวัตอยู่ด้วยกัน



................................................   



   โต๊ะม้าหินริมน้ำร่มรื่นยังคงมีลมเย็นจากแม่น้ำพัดเอื่อยมาให้คลายร้อน จันทร์จ้าวและภวัตนั่งอยู่ด้วยกัน คุยกันเพียงเบาๆ ตรงหน้ามีเครื่องดื่มเย็นและขนมที่คนในวังยกมาให้ ก่อนจะปล่อยให้พวกเขาอยู่กันเพียงลำพัง ดูเหมือนหม่อมหลวงพงศ์ภราธรจะเคยสั่งคนรับใช้เอาไว้ว่าหากจันทร์จ้าวและหมอภวัตอยู่ด้วยกัน ให้ปล่อยพวกเขาทั้งคู่อยู่กัน ๒ คนได้ตามอัธยาศัย ไม่ต้องตามดูแล ทั้ง ๒ จึงเหมือนอยู่ในรโหฐานส่วนตัว พอที่หมอภวัตจะจับจ้องดวงหน้าขาวของคู่รักของตนได้โดยไม่ต้องเกรงใคร



   “คราวหลังผมไม่ให้หมอมาส่งผมแล้ว หมอพามาส่งแล้วเกเรไม่ยอมกลับ คุณพงศ์ก็ห่วงไม่เข้าเรื่อง คิดว่าผมกลับมาที่นี่เองไม่เป็นหรือไร ถึงต้องโทรศัพท์ตามให้หมอมารับผมมาส่ง” จันทร์จ้าวบ่น แต่กระนั้นสีหน้าก็ยังดูอารมณ์ดีกว่าเรื่องที่บ่นมากนัก นายแพทย์หนุ่มหัวเราะเบาๆ



   “คุณพงศ์เธอเป็นห่วงคุณนี่ครับ”



   “ห่วงกันมากๆ จะซื้อรถเสียเลย”



   “ถ้าคุณซื้อรถ คุณก็ต้องขับรถเอง ถนนกรุงเทพฯวุ่นวาย ทั้งรถราง ทั้งสามล้อ ทั้งคนเดิน จะไม่สะดวกเอานะครับ” จันทร์จ้าวหรี่ตามองคนพูดที่ดูเหมือนจะยังคงรักษาสีหน้ายิ้มน้อยๆนั้นเอาไว้ได้ แม้คำพูดจะฟังดูแล้วกำลังชักจูงให้เขาคล้อยตามก็ตามที



   “หมอหมายความว่าผมนั่งรอให้คนมารับมาส่งนี่สะดวกกว่าหรือ”



   “ก็...เห็นจะเป็นเช่นนั้นครับ” ภวัตยอมรับพร้อมด้วยรอยยิ้ม จันทร์จ้าวหัวเราะกำลังจะหยอกเอินคนที่นั่งร่วมโต๊ะกัน แต่เพราะลมหอบใหญ่พัดมาจากแม่น้ำและตีเอาเศษฝุ่นเศษดินจากพื้นขึ้นมาเข้าตา ดวงตากลมใหญ่จึงหลับลงในทันที



   “อื้อ!” เขาครางเบา แล้วยกมือขึ้นจะขยี้เพราะความเคือง แต่ภวัตรีบยื้อมือขาวเอาไว้เสียก่อน



   “เป็นอะไรไปครับ”



   “ฝุ่นเข้าตาน่ะซี เคืองตาจริงหมอ...” จันทร์จ้าวยกมืออีกข้างจะขยี้ตาให้จงได้ แต่ภวัตจับรวบมือ ๒ ข้างเอาไว้ด้วยกัน



   “ใจเย็นครับ ผมจะดูให้” เขาพูดเสียงทุ้มอ่อนโยน แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดของตนออกมา ก่อนจะปล่อยมือข้างที่รวบมือของจันทร์จ้าวเอาไว้ เพื่อประคองดวงหน้าขาวให้เงยขึ้น เขาแตะที่ใต้ตาเบาๆเพื่อให้เปิดออก แต่คนเคืองตายังดื้อดึงจะยกมือขึ้นขยี้ให้จงได้



   “จุ๊ๆ อยู่เฉยๆ ผมทำให้นะครับ” ภวัตพูดเบาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือที่ตั้งท่าจะยกขึ้นขยี้จึงต้องวางลงกับตักเช่นเดิมแล้วยอมอยู่เฉยให้นายแพทย์หนุ่มช่วยเขี่ยเศษผงออกจากตาให้



   “ดีขึ้นไหมครับ” เขาตั้งคำถาม จันทร์จ้าวจึงลองกะพริบตาถี่ๆดู แล้วก็พบว่าอาการเคืองเมื่อครู่หายไปแล้ว แต่รู้สึกเหมือนจะมีน้ำตาคลอมากเป็นพิเศษ ภวัตจึงช่วยซับที่หัวตาให้



   “ขอบคุณ” คนได้รับการดูแลพึมพำเสียงเบา ดวงตากลมใหญ่จับจ้องใบหน้าของคนที่ขยับเข้ามาใกล้แล้วยิ่งรู้สึกอุ่นซ่านในอก หากจะมีใครดูแลเขาได้ดีเทียบเท่าหมอภวัต ชั่วชีวิตนี้คงหาไม่เจออีกแล้ว



   “เอาผ้าเช็ดหน้ามาซี ผมจะเอาไปซักให้” เพราะอยู่ใกล้กันมาก หากยังปล่อยให้ความเงียบครอบคลุมต่อไป จันทร์จ้าวคงพูดไม่ออกมากกว่านี้ เขาจึงต้องหาทางเลี่ยงด้วยการเบี่ยงสายตาลงมองผ้าเช็ดหน้าที่ยังอยู่ในมือของภวัต



   “ถ้าคุณเอาผืนนี้ไปอีก จะกลายเป็นว่าคุณมีผ้าเช็ดหน้าของผม ๒ ผืนแล้วนะครับ” ภวัตพูดแล้วยิ้มจางอย่างเอ็นดู ดูเหมือนจันทร์จ้าวจะลืมไปเสียแล้วว่าตนเองยังไม่ได้คืนผู้เช็ดหน้าที่อีกฝ่ายให้ยืมมาเช็ดฝนเมื่อคราวก่อน เสื้อผ้าของภวัตที่เคยใส่ก็ยังอยู่กับเขา ไม่ได้นำมาคืนเสียที



   “งกไปได้ จะไปเอาผืนเก่ามาคืนเดี๋ยวนี้” จันทร์จ้าวพูดแล้วลุกขึ้นจะเดินกลับไปบ้านเช่าของตน แต่ภวัตคว้าแขนแล้วดึงลงมานั่งร่วมม้านั่งเดียวกันเสียก่อน ดวงตาอ่อนโยนที่จับจ้องใบหน้าของจันทร์จ้าวเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู เสียจนคนถูกจับจ้องต้องเบี่ยงสายตามองไปทางอื่น แต่กระนั้นก็ปล่อยให้นายแพทย์หนุ่มจับแขนของตนไม่ปล่อย



   “ผมไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย จะยึดไปอีกกี่สิบผืนผมก็ยินดี ขอแค่ยึดไปแล้วเก็บไว้ดูต่างหน้าบ้าง ผมจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง” จันทร์จ้าวไม่คิดว่าตนเองจะเป็นคนช่างขวยขนาดนี้ และไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนช่างอ้อล้อเช่นกัน ไม่คิดว่าพอความสัมพันธ์เป็นไปในทิศทางนี้แล้ว เขาได้รู้จักตนเองในมุมที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน และได้พบเห็นภวัตในมุมที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเช่นกัน



   “ใครจะเก็บไว้ดูต่างหน้าเล่า ก็เจอหน้ากันแทบทุกวัน” จันทร์จ้าวยังสู้เถียง แต่ไม่ยอมมองหน้า ปล่อยให้นายแพทย์หนุ่มจับจ้องเสี้ยวหน้าด้านข้างได้ตามสะดวกจนอดใจไม่ไหวต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเกลี่ยแก้มขาวแผ่วเบาด้วยความรักใคร่



   “ทำอะไรกัน!!!” เสียงหนึ่งดังกระชาก ทำเอาทั้งภวัตและจันทร์จ้าวสะดุ้งแล้วพากันหันมองด้วยความตกใจ แล้วก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่าใครกำลังยืนจับจ้องมาทางพวกเขา



   “พี่อาทิตย์!” และไม่ใช่แค่อาทิตย์ แต่หม่อมหลวงพิมพัชราก็ยืนอยู่ด้วย



   “พี่ถามว่าทำอะไรกัน?!!” อาทิตย์ก้าวเท้าเดินเข้ามาหาและจ้องเขม็งไปที่น้องชายของตนด้วยสายตาดุดัน จันทร์จ้าวเผยอปากคิดหาคำพูดอย่างว่องไว



   “...คุย...คุยกัน...”



   “ที่พี่เห็นไม่ใช่คุยกัน!!” อาทิตย์เถียงเสียงเข้ม ภวัตเห็นท่าไม่ดีเกรงว่าพี่น้องจะทะเลาะกัน จึงดึงจันทร์จ้าวไว้ข้างหลังตน แล้วเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาแทน



   “คุณอาทิตย์...”



“ผมถามน้องผม!” นายทหารหนุ่มหันมาขึ้นเสียงด้วยความโกรธเกรี้ยว นี่เป็นครั้งแรกที่ภวัตเห็นอีกฝ่ายมีอารมณ์โมโหเช่นนี้ ทว่านายแพทย์หนุ่มก็ยังทำใจเย็นพูดด้วยเสียงต่ำอย่างจริงจังเน้นย้ำกลับไป



“ผมต้องการคุยกับคุณ” อาทิตย์จับจ้องคนพูด สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและดุดันแตกต่างจากอาทิตย์ผู้เงียบเชียบและเคร่งขรึมอย่างทุกที



   “หมอ...” น้องชายของอาทิตย์เรียกเขาเอาไว้ แต่ภวัตกลับหันมาส่งยิ้มจางให้ราวกับจะปลอบโยน



   “ขอผมคุยกับคุณอาทิตย์สักครู่ เชิญทางนี้ครับคุณอาทิตย์” ภวัตพูดแล้วเดินนำอาทิตย์ออกมาจากโต๊ะริมน้ำ นายทหารหนุ่มมองตามแผ่นหลังคนเดินนำแล้วจึงหันมามองจันทร์จ้าวที่ยืนเงียบ



   “แล้วพี่จะกลับมาคุยกับจันทร์! เตรียมคำตอบเอาไว้ให้ดี!!” เขาพูดเพียงเท่านั้นแล้วจึงก้าวเท้าฉับๆตามหลังหมอภวัตออกไป ปล่อยให้จันทร์จ้าวทิ้งตัวลงนั่งที่เดิมอย่างหมดแรง



ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)
   ดารานี่น้ำจิ้ม พี่อาทิตย์นี่ของจริง ฮาฮา แต่อย่าเพิ่งโกรธเกลียดพี่อาทิตย์นะคะ พี่อาทิตย์แกเป็นผู้ชายยุคก่อนปี 2500 ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากที่แกจะต้องมีปฏิกริยากับเรื่องนี้แบบนี้ ให้เวลาแกหน่อย เพราะยังไงซะเรื่องนี้ชื่อเรื่องจันทร์จ้าว คนชื่อจันทร์จ้าวก็ต้องชนะค่ะ

   เดี๋ยวไปทำงานต่อก่อน มีงานกลับมาทำที่บ้าน ส่วนเรื่องนี้ จริงๆบัวพิมพ์จบแล้วค่ะ คิดว่าไม่เกินสิ้นเดือนหน้าก็คงลงเรื่องนี้จนจบแล้วล่ะ ส่วนจะมีตอนพิเศษมั้ย เดี๋ยวขอดูอีกทีนะคะ แต่ที่สำคัญ ยังไงหมอต้องได้คืนความสุขค่ะ แกทุกข์มาเยอะ ฮาฮา

   ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และพื้นที่บอร์ดค่ะ

   เจอกันพฤหัสหน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 14-01-2016 20:17:56
^^ จิ้ม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๗ (๗ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๓๙)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 14-01-2016 20:22:47


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

 ปลื้มปริ่ม

 ไม่ต้อง  :call: ก้อ....คุณหมอ ก็มาตามสัญญา  :กอด1:

 แต่ว่าสั้นไปนิดนึง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 14-01-2016 20:45:16
 :katai3:สบายจริง ดร่ามายิ่งเยอะ ยิ่งจะได้กันเร็ว อิอิ จัดไปค่า พี่อาทิตย์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 14-01-2016 20:46:44
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

สงสาร คุณหมอ กะ คุณจันทร์

เกิดในยุคที่เป็นรักต้องห้าม

ถ้าทั้งสองคนเกิดในยุคนี้ คงจะมีแฟนคลับติ่งมากมายไปแล้ว

เพราะโปรไฟล์ทั้งคู่แซ่บอ่ะ

เพราะเราจะสมัครเป็นติ่งเลยยยย :mew4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-01-2016 21:01:20
ใกล้จบแล้วหรอ  :serius2: พี่อาทิตย์ใจเย็นๆนะอย่าต่อยหมอล่ะ เดี์ยวโดนจันทร์งอน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 14-01-2016 21:01:56
พี่อาทิตย์ตวาดที น้องนี่สะดุ้งเกือบล้มเลยค่ะ ดีนะคุณพงศ์ประคองไว้   อุ๊ปส์!..  :laugh3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 14-01-2016 21:13:28
ที่แท้พี่อาทิตย์นี่ของจริงใช่ไหมมมมม :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 14-01-2016 21:17:25
ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ลงจบ.. อีก 3 วีค อีก 3 ตอน อ๊าคคคคคค ยังไม่อยากให้จบเลยยยแงงงง
คุณจันทร์ช่างขวย คุณหมอช่างอ้อล้อ ถ้าปัจจุบันอย่างหมอภวัตนี่ต้องบอกว่า"อ้อยมาก" 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-01-2016 21:24:13
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-01-2016 21:37:33
โอ้ยยยย ตายแน่คราวนี้
เรารักพี่อาทิตย์นะ รู้ว่าพี่อาทิตย์ก็รักจันทร์มาก
ขอให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เพี้ยงงงง

เรารู้สึกว่าตอนนี้ภาษาสวยมากกก ทุกอย่างลงตัว ละมุนไปหมด
แต่ฉากจบนี่ อิมเมจพี่อาทิตย์ให้ความรู้สึกเหมือน
เจ้าคุณถือไม้ตะพรตจะมาตีลูกทาสที่แอบมาพรอดรักกับลูกสาวตัวยังไงยังงั้น 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 14-01-2016 21:39:53
คุณหมอนี่แมนมากเลย ยืดอกรับได้ทุกอย่าง  ส่วนจันทร์ไม่ต้องพูดถึง สุดยอด :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 14-01-2016 21:49:02
สงสารหมอ
รู้ว่ามันผิด
แต่รักไปแล้ว
แค่มีความสุข
ไม่พออีกหรอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-01-2016 21:49:19
โอ้โห ถ้าผ่านด่านพี่อาทิตย์ไปได้
คุณหญิงกับท่านนายพลคงจะผ่อนแรงลงแล้วใช่ไหมคะ 55555

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 14-01-2016 22:12:14
โถ อีเว้นท์แม่ดาราเพิ่งจบไป พี่อาทิตย์อย่าดื้อมากนะ ไม่งั้นยึดคุณพิมคืนเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 14-01-2016 22:19:23
นี่ขนาดพี่พระอาทิตย์นะ แล้วคุณพ่อจะขนาดไหน? (ส่วนคุณแม่มิแคล้วต้องเป็นลมล้มพับไปแหง)  :m15:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: lunarinthesky ที่ 14-01-2016 22:26:42
คนเงียบๆนี่น่ากลัวจริงๆเวลาเอาเรื่องขึ้นมา >.<
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-01-2016 22:32:29
คุณพี่อาทิตย์จะโผล่มาขัดหนุ่ม ๆ กำลังหยอกล้อกันทำไมหนอ ไม่รู้เวล่ำเวลาเสียจริง
อยากรู้ว่าคุณหญิงแม่จะทำยังไง จะยึดขนบธรรมเนียมหรือความสุขของพ่อจันทร์มาก่อน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Naeon ที่ 14-01-2016 22:33:07
รอๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Baekllym ที่ 14-01-2016 22:42:42
ชอบนิสัยคุณหมอจังเลย สุขุม มีเหตุผล แถมหยอดเก่งด้วย  :-[
พี่อาทิตย์อย่าริสู้กับจันทร์เลย ไม่ชนะหรอก เปิดใจให้กว้างๆนะคะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkypromise ที่ 14-01-2016 22:52:18
สะดุ้งตามจริงงงง พี่อาทิตย์น่ากลัว 55555+

นี่ชอบเห็นภาพซ้อนทับพี่อาทิตย์กะคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 14-01-2016 22:53:43
พี่อาทิตย์ขี้อายคนนั้นบทจะระเบิดนี่ ดาราสิบคนยังดูจะสู้ไม่ได้ แหล่วๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-01-2016 22:55:02
แมนๆคุยกันครัช
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Chompooiriza ที่ 14-01-2016 23:07:00
โอ้ยๆ

พี่อาทิตย์!!!!!!!!!

เรื่องดาราเพิ่งจะเคลียร์เสร็จไปเองนะ

ไม่ให้เวลาคู่รักสวีทกันหน่อยเลยหรอค้าาาาา!!!

แล้วไหนจะคุณพ่อคุณแม่อีก หลายด่านนัก!

บอกเลยว่าจันทร์ต้องดื้อได้โล่ ส่วนคุณหมอนั้นจะต้องสตรองสุดๆ!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 14-01-2016 23:17:34
พี่อาทิตย์ยังหัวโบราณอยู่สินะ หึหึ แต่ไม่คณามือจันทร์เจ้าหรอกก

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 14-01-2016 23:30:10
พี่อาทิตย์โหดดีจัง
ชอบมาก 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-01-2016 23:46:41
ด่านพี่อาทิตย์คงจะโหดกว่าด่านดาราแน่นอน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 14-01-2016 23:47:04
มาตรงเวลาตลอด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 14-01-2016 23:54:32
โถวววว เห็นว่าดาราพอจะยอมๆแล้วก็นึกว่าจะหมดดราม่าที่ไหนได้มาแจ๊กพอตกับพี่อาทิตย์ซะงั้น การที่หมอขอคุยกับพี่อาทิตย์โดยตรงคิดว่าพี่อาทิตย์น่าจะรับรู้ความจริงใจของหมอได้นะเพราะงั้นให้โอากสเค้าหน่อยเถอะ อย่าดราม่าบังคับอะไรจันทร์เลยนะ ส่วนที่คุณบัวบอกว่าเรื่องนี้ใกล้จบแล้วแอบใจหายเลยค่ะ เพราะอีกไม่กี่ตอนเองจริงๆ หวังว่าตอนจบหมอจะได้คืนความสุขแบบเต็มที่นะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-01-2016 00:03:43
อ่านมาถึงตอนพี่อาทิตย์กระชากเสียงถามนี่สะดุ้งเลย

ดุจริงอะไรจริง

หมอภวัตกับจันทร์เจ้านี่คู่กันแท้ ๆ แพ้ทางกันตลอด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 15-01-2016 00:05:42
เราเชื่อในความมั่นคงของหมอ
และความดื้อแพ่งของจันทร์จ้าว
พี่อาทิตย์บทโหดแค่ไหนไม่หวั่นแน่นอน
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 15-01-2016 00:09:13
อาทิตย์มาแบบตกใจมากอ่ะ มาแรงแซงดาราไปเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 15-01-2016 00:21:44
ดาราผ่านไปแล้ว พี่อาทิตย์ก็เข้ามา คุณหมอกับคุณจันทร์สตรองเข้าไว้นะคะ :ling1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 15-01-2016 00:48:30
อ๊ายยยยย
พ่อจันทร์กับคุณหมออยู่ด้วยกันทีไรหวานกันตลอด
ทำเอาคนรอบข้างตกใจหมด

นี่ดาราก็เพิ่งยอมไเจอพี่อาทิตย์ไปอีก
สงสัยคราวนี้จะแย่
แต่ยังไงเค้าก็ไม่โกรธพี่อาทิตย์นะ
5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 15-01-2016 01:01:40
คุณหมอกับคุณจันทร์งานเข้าอีกแล้วววววว พี่อาทิตย์แม้จะยังไม่เข้าใจแต่ก็เป็นคนที่มีความรัก ถ้าได้เห็นความจริงใจของหมอก็คงจะเข้าใจได้ไม่ยากหรอก(มั้ง?)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 15-01-2016 01:26:36
ตายห่าแล่ว พี่อาทิตย์นึกถึงตอนที่พ่อจันทร์ช่วยเรื่องคุณพิมเข้าไว้เยอะๆนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-01-2016 01:55:07
อุ้ยยย พี่อาทิตย์เห็นเป็นคนเงียบๆ ตอนจะเอาจริงนี้น่ากลัวอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 15-01-2016 07:17:49
หมอจะคุยยังไงเนี่ยดูพี่อาทิตย์จะโกรธมากนะ :mew5: :mew5:
จันทร์เตรียมเคลียร์คำตอบด่วน แต่คนอย่างจันทร์เจ้าใครจะกล้าบังคับนอกจาหมอ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 15-01-2016 08:27:07
พี่อาทิตย์!!!!!  อย่าต่อยหมอน่าาาา
ตอนดาราว่ากลัวแล้ว
เจอพี่อาทิตย์เข้าไปหัวหดแล้วจ๊าาา
แค่ตะโกนนิดเดียว สะดุ้งกันรอบวง

ความรักที่อุปสรรคเยอะ จะทำให้รักกันมากขึ้น
แต่ด้วยยุคสมัย และผู้คน อุปสรรคของหมอกับพี่จันทร์เลยเยอะมากๆๆๆจน เค้าเริ่มสงสารมากเลย

ช่วงคืนความสุขให้หมอของจัดเต็มเช้าจรดเย็น เย็นจรดเช้าอีกวันเลยนะคะ
เพราะว่าโดนมาเยอะเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-01-2016 10:50:02
ไม่ให้ก็หนีตามกันไปเลยสิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 15-01-2016 10:59:36
โอ ของจริงคือพี่อาทิตย์นี่เอง ^^
รอว่าจะเคลียร์กันอย่างไรค่ะ
คุณหมอสู้ๆ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 15-01-2016 11:14:22
ทุกคนรักจันทร์จ้าวความสุขของจันทร์จ้าวต้องสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 15-01-2016 12:59:50
เพิ่งเห็นพี่อาทิตย์ออกอารมณ์แบบไม่ออม ก็เรื่องครั้งนี้ล่ะ
ทีเรื่องรักของตัวเองล่ะน้าพี่อาทิตยยยยย์ ไม่เห็นเต็มเหนี่ยวงี้มั่งเลออออ

 :katai3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: snowtoy ที่ 15-01-2016 13:07:08
 :a5: คราวนี้เจอของจริง :katai1: :katai1: พี่อาทิตย์อย่าโหดกับน้องกับนุ่งมากไปน้าฮือ  :hao5: :ling1: ขอให้ผ่านไปด้วยดีเถิด.. :call:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 15-01-2016 14:27:25
คุณหมอกับจันทร์ สู้ๆ นะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-01-2016 15:21:19
จบจากดาราก็เป็นอาทิตย์ต่อ งานหนักกว่าใช่ไหมคราวนี้ กว่าจันทร์จ้าวจะชนะคนอ่านมิต้องลุ้นใจแบบตุ้มๆต่อมๆหรือ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 15-01-2016 15:28:39
ไม่นะคะพี่อาทิตย์ ไม่ดราม่านะคะ ฮือออออออออ   :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: sulsul ที่ 15-01-2016 17:34:50
ตามที่คนเขียนบอกค่ะ  เรื่องจันทร์จ้าว จันทร์ชนะ เย้!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 15-01-2016 17:47:18
ช่วงแรกๆยังกิ้วก้าวคุณจันทร์อยู่เลย คุณจันทร์เริ่ดมากกกก

ไปๆมา โอ้ยยย ตายละ พี่อาทิตย์ขา ใจเย็นๆนะคะ ค่อยพูดค่อยคุยกันนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 15-01-2016 19:23:19
กำลังจะเครียด พอเจอประโยคคุณนักเขียนบอก นี่เรื่องชื่อจันทร์จ้าว คนชื่อจันทร์จ้าวต้องชนะค่ะนี่ฮาแตกเลยค่ะ555555555

ดูใช้อำนาจแห่งการเป็นตัวเอกในทางมิชอบมาก เห็นภาพพี่อาทิตย์ยิงปืนสิบนัดคุณจันทร์หลบได้ทุกนัดเพราะเป็นตัวเอกเลยค่ะ555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: วิหคท่องนภา ที่ 15-01-2016 19:51:25
พอถึงตอนพี่อาทิตย์จะเดินมาตามนี่บทหวานของคุณหมอลุ้นมาก ไม่รู้จะโผล่มาตอนไหน โผล่มาทีตกใจเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 15-01-2016 20:24:21
เจอของจริงต้อง Strong!! ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 15-01-2016 22:02:55
อยู่กับคำว่า คืนความสุขให้หมอมาตั้งแต่กลางเรื่อง
จนตอนนี้ใกล้จบแล้ว ยังไม่ได้คว้าจันทร์มาแนบอก
หมอช่างน่าสงสารเสียจริง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-01-2016 02:45:03
ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี
คุณหมอกับจันทร์สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-01-2016 16:22:01
ได้ดีกันเติมความหวานได้นิดหน่อย อุปสรรคมาอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 16-01-2016 22:12:09

เป็นกำลังใจให้จันทร์กับคุณหมอ
ทำให้พี่อาทิตย์ยอมรับให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 17-01-2016 02:24:14
พายุลูกใหญ่มาอีกแล้ว :mew5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 17-01-2016 10:36:27
พี่อาทิตย์เล่นบทโหดล่ะคราวนี้ เอาใจช่วยจันทร์เจ้ากับคุณหมอ สู้ๆน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 17-01-2016 11:35:53
คุณจันทร์ สู้ๆนะคะ เข้มแข็งเข้าใจ หนูเชื่อว่าพี่อาทิตย์ต้องเข้าใจ

เชื่อ!ว่าคุณหมอกับคุณจันทร์ต้องก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดีเนอะๆ

แต่จะว่าไป ก็แอบกลัวพี่อาทิตย์อยู่ คือพี่เป็นผู้ชายเงียบๆที่ใจดี มาบทโหดงี้ เง้อ น่ากลัว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 17-01-2016 14:43:36
ตัวจริงมาแล้ว

ดารานี่ดูเล็กน้อยไปเลย

มาต่อไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 17-01-2016 23:07:10
โอยยยยยยยยยยย
ตอนพี่จันทร์บอกว่าป่วยอยู่ แล้วหมอบอกว่า หมอเป็นหมอนี่... จิกหมอนแทบขาด
ทำไมช่างน่ารัก,,
เรื่องราวเหมือนจะผ่านด่านดาราไปได้แล้ว ยังมาเจอพี่อาทิตย์อีก
แล้วยังมีพ่อแม่อีก 2 ฝั่ง
ความรักที่ไม่เป็นที่ยอมรับนี่ช่างลำบากยิ่งนัก
ว่าไปก็ถูกของพี่จันทร์ ที่บอกว่า  “ผมยอมรับว่าคนเราต้องอยู่ในสังคม แต่เวลาที่ผมป่วย คนที่ดูแลผมไม่ใช่สังคม"
พูดยากอ่า... ขอให้คุณแม่กับคุณพ่อนายพล โอเคด้วยเถิด
พี่อาทิตย์ก็อย่าแรงมาก น้องรักของน้อง พี่ต้องเข้าใจด้วยนะ
ฮือออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ryukazeII ที่ 18-01-2016 00:15:16
 :o12:มันกิ๊บก๊าบมากตรงริมน้ำ แต่พี่อาทิตย์คะ เพิ่งเห็นพี่มาดแมนสมความเป็นทหารก็งานนี้แหละค่ะ

นี่รอเลยยยยย รอว่าหมอจะไปเคลียร์ยังไง
(หมอไปบอกพี่อาทิตย์ว่าเดี๋ยวให้คุณพ่อย้ายไปชายแดนถ้าขัดขวาง???  แหะๆ ล้อเล่นนน)



ปล. "ไม่อาจแต่งงานกันตามธรรมนองคลองธรร". เป็น"ทำนองคลองธรรม" นะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: nao16 ที่ 18-01-2016 01:29:52
อ่านทันแว้ววววว

ตอนดาราก็ว่าบีบหัวใจละน๊า

มาเจอพี่อาทิตย์นี่ ดาราอนุบาลเลยอ่า

พี่อาทิตย์ขาเข้าใจพ่อจันเธอเถอะน๊าาาา

พี่อาทิตย์ก็อยากเห็นน้องมีความสุขใช่ไหมล่าาาา

นะน๊าาาาาคุณพี่ ตัวเองสมหวังแล้ว อย่าขัดขวางน้องเลย (นี่ไม่ได้จะทวงบุญคุณอะไรเลยนะค๊าาาา)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: CIndY59 ที่ 18-01-2016 14:54:20
คุณหมอดูแลดีเวอร์ เอาจริงๆไม่ใครเอาจันทร์อยู่ทั้งนั้นแหละ



ปล.ถึงชื่อเรื่องจะไม่ได้ชื่อจันทร์จ้าว แต่คนคนชื่อจันทร์จ้าวก็ชนะอยู่ดีล่ะ เอาจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 20-01-2016 13:18:31


เฮ่อ! ขอให้พี่อาทิตย์เป็นลาสบอสได้ไหมคะ?
อย่าให้ต้องมีใครออกมาขวางกั้นหมอกับพ่อจันทร์อีกเลย
ป้าอ่านแล้วชอกช้ำแทนหมอ... คิดว่ารอบนี้พี่อาทิตย์จะต้องลงมือหนักหนาขนาดกันน้องไม่ได้เจอหน้าหมอแน่ ๆ

จุด ๆ นี้หวังให้ในวิกฤตมีโอกาส มโนแจ่มไปไกลว่าคุณจันทร์จะไม่ได้เจอหมอไปพักใหญ่ ๆ อาจจะแอบได้เจอกันบ้างให้พอหอมปากหอมคอ และความทรมานเพราะไม่ได้พบหน้ากันนี่แหละที่จะทำให้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายยอมใจในที่สุด เอวัง! - อย่าถือสาเราเลยนะคะ เรามันขาเวิ่นเว้อเพ้อไปเรื่อยแหละค่ะ  เอาไว้เราจะรออ่านแล้วกันเนอะว่าคุณจันทร์กับหมอจะผ่านความอาทิตย์ไปได้ยังไง - วาร์ปมาอยู่สมัยนี้เลยก็ได้ค่ะ จะได้จบแบบลูกกวาดข้ามยุค ฮ่า ฮ่า ฮ่า  :pig4:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 21-01-2016 20:55:32
เข้ามารอลุ้นพี่อาทิตย์ปาระเบิด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-01-2016 21:50:34
มารอจ้ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 21-01-2016 22:01:27
เข้ามารอคุณหมอกับน้องจันทร์จ้าวค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: killmus ที่ 21-01-2016 22:22:28
เรื่องนี้ไรเตอร์เขียนดีมากกกกกก  ชอบเรื่องเรื่องนี้ที่สุดอะ
รู้สึกว่าทุกอย่างมันครบ ทั้งพล๊อต ภาษา ตัวละคร อ่าาาา มันลงตัวไปหมดทุ๊กกกกกอย่าง
แถมไรเตอร์ยังมีระเบียบในการลงฟิคด้วยวันไหน วันนั้น ตามนัด ไม่ดอง
แอบเสียดาย ที่เรื่องนี้จะจบแล้ว แต่จะรอเรื่องใหม่นะค่าาาา><

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
ปูเสื่อรอคร้าาา

ปล.เพิ่งหลงเข้าบอร์ดนี้ ใช้งานยังไงอ่าาา ㅠㅠ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 21-01-2016 22:49:08
จะไม่มาจริงๆเหรอค่ะวันนี้  :sad4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: caramely ที่ 21-01-2016 23:07:14
มานั่งรอคุณจันทร์  เมื่อไหร่คุณจันทร์จะมา  ใกล้จะเลยวันพฤหัสฯแล้วน๊าาาาาาา    :katai3: :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 21-01-2016 23:40:33
โอยยย พี่อาทิตย์คือของจริงหรือนี่

จะเป็นไงต่อน้อออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 22-01-2016 00:04:50
ข้ามมาวันศุกร์แล้วเน้อ แต่ยังรออยู่นะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-01-2016 00:39:31
รออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: yut1402 ที่ 22-01-2016 10:48:24
ยังไม่มาหรือครับ รออยู่นะ วันศุกร์แล้วนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 22-01-2016 12:02:21
เข้ามารอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: วิหคท่องนภา ที่ 22-01-2016 12:54:02
เข้ามารอคุณจันทร์
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 22-01-2016 19:25:16
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
   บทที่ ๑๙



   หม่อมหลวงพิมพัชราให้คนรับใช้ไปดูแล้วกลับมารายงาน ได้ความว่าหมอภวัตและอาทิตย์คุยกันที่สนามเทนนิส หล่อนสั่งให้จับตาดูเอาไว้อย่างห่างๆ หากมีการทะเลาะวิวาทกันแต่ประการใดให้รีบเข้าห้าม ส่วนหล่อนนั่งอยู่กับจันทร์จ้าวที่โต๊ะริมน้ำ ซึ่งจันทร์จ้าวก็เอาแต่นั่งเงียบราวกับตกอยู่ในภวังค์



   “ขอพิมถามอะไรสักหน่อยได้ไหมคะ” หล่อนเอ่ยเสียงเบา จันทร์จ้าวหันกลับมามองแล้วยิ้มจางราวกับเป็นการอนุญาต



   “คุณจันทร์...กับคุณหมอ...เอ่อ...เป็นเรื่องจริงใช่ไหมคะ”



   “...ครับ”



   “นานเท่าไรแล้วคะ”



   “ก็...สักพักแล้วครับ”



   “พี่พงศ์ก็ทราบเรื่องนี้ใช่ไหมคะ”



   “ครับ” หม่อมหลวงพิมพัชรามองท่าทางเป็นกังวลของคนที่เคยสนุกสนานและยิ้มแย้มแจ่มใสแล้วก็นึกสงสาร



   “คุณจันทร์ พิมคิดว่าคุณจันทร์รู้จักทั้งคุณอาทิตย์และคุณหมอดี ทั้ง ๒ คนต่างเป็นคนมีเหตุผล ไม่ว่าทั้ง ๒ คนจะคุยกันอย่างไร พิมอยากให้คุณจันทร์ใจเย็นให้มากนะคะ” จันทร์จ้าวหันมองหญิงสาวแล้วจึงส่งยิ้มให้หล่อนด้วยความขอบคุณ



   “ขอบคุณครับคุณพิม ผมจะ...พยายามใจเย็น...”



   “พิมเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องมีทางออก รวมถึงเรื่องของคุณจันทร์และคุณหมอด้วย” ชายหนุ่มฟังแล้วซาบซึ้งในน้ำใจของหญิงสาว หม่อมหลวงพิมพัชราไม่ใช่มีดีเพียงรูปทรัพย์ หรือชาติตระกูล แต่หล่อนยังมีความคิดความอ่านที่น่าชื่นชม หล่อนมีน้ำใจและเข้าอกเข้าใจในเพื่อนมนุษย์ คนอย่างนี้หากไม่ได้มาเป็นสะใภ้ให้รักษพิพัฒน์ คงน่าเสียดายเป็นแน่แท้



   พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันอีก เพราะอาทิตย์เดินกลับมาพอดี หม่อมหลวงพิมพัชราหันกลับไปมองคนรัก อาทิตย์มีสีหน้าเรียบเฉย แต่ก็ดูรู้ว่าภายใต้ความเรียบเฉยของเขานั้น เต็มไปด้วยความกดดัน ผิดหวังและเสียใจ



   “ผมขอตัวกลับก่อน คุณพิม” เขาพูดกับหญิงคนรัก แม้น้ำเสียงจะอ่อนโยนเฉกเช่นทุกทีแต่ก็เจือด้วยความกระด้างอย่างที่คนฟังรับรู้ได้ นายทหารหนุ่มหันมาทางน้องชาย



“กลับบ้าน จันทร์” ทว่าสุ้มเสียงของเขายามพูดกับจันทร์จ้าวไม่เหมือนพี่ชายคนใหญ่ผู้แสนอ่อนโยนกับน้องเหมือนทุกที ทว่ามันคือคำสั่งที่ทำให้คนถูกสั่งถึงกับนิ่งงัน


 
   “แล้ว...” คนเป็นน้องตั้งท่าจะถาม พอดีเหลือบไปเห็นภวัตเดินตามเข้ามา ทว่าอาทิตย์ไม่ปล่อยให้ใครพูดอะไรอีก



   “พี่บอกว่าให้กลับบ้าน” จันทร์จ้าวเป็นคนดื้อดึงก็จริง แต่ความจริงข้อหนึ่งคือแม้เขาจะดื้อกับคนจำนวนมาก แต่กับอาทิตย์ในเวลาเช่นนี้ เขากลับไม่สามารถแสดงความดื้อดึงออกมาได้อย่างเต็มที่ ยิ่งเมื่อเหลือบไปสบตากับสายตาของนายแพทย์หนุ่มที่มองตรงมา และใบหน้าของภวัตที่พยักหน้ารับน้อยๆให้จันทร์จ้าวทำตามคำสั่งของอาทิตย์ เขาก็ยิ่งไม่กล้าขัดขืน



   อาทิตย์ไม่พูดกระไร เขาหมุนตัวเดินออกจากบริเวณริมน้ำโดยไม่แม้แต่จะหันไปลาหมอภวัตอย่างเคย นายทหารหนุ่มไม่ได้ฉุดกระชากลากถูให้จันทร์จ้าวเดินตามเขาออกไป แต่กระนั้นน้องชายคนรองก็ไม่กล้าประวิงเวลา เขาร่ำลาหม่อมหลวงพิมพัชราแต่เพียงสั้นๆ สบตากับภวัตทีหนึ่งแล้วจึงยอมเดินตามอาทิตย์ไปที่รถ



   คนพี่เงียบนับตั้งแต่ขับรถออกจากวังฉัตรกลับมาที่บ้านรักษพิพัฒน์ ในขณะที่คนน้องก็อับจนด้วยความพูด ไม่กล้าแม้แต่จะตั้งคำถามว่าอาทิตย์และหมอภวัตพูดคุยกันอย่างไร ๒ พี่น้องพากันเงียบ จนกระทั่งรถโฟล์คของอาทิตย์มาจอดที่หน้าบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ และเมื่อนั้น นายทหารหนุ่มผู้นั่งอยู่หลังพวงมาลัยจึงตั้งคำถามแต่สายตายังมองตรง



   “นอกจากพี่แล้ว มีใครทราบเรื่องนี้บ้าง”



   “นภา ดารา คุณพงศ์ เรย์”



   “วันนี้พี่และคุณพิมก็ทราบแล้ว แล้วจันทร์คิดว่าต่อไปจะมีคนทราบเพิ่มอีกสักเท่าไร? วันหนึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็คงทราบ จันทร์จะอธิบายกับพวกท่านอย่างไร”



   “ก็ไม่อธิบาย ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องอธิบาย”



   “ทำไมจะไม่จำเป็น ในเมื่อจันทร์เป็นลูกชายบ้านรักษพิพัฒน์! จันทร์เป็นผู้ชาย หมอภวัตก็เป็นผู้ชาย วันหนึ่งเรื่องนี้รู้ถึงหูคุณพ่อคุณแม่ จันทร์จะไม่อธิบายได้อย่างไร?!!” จันทร์จ้าวพูดไม่ออก ด้วยเพราะสิ่งที่อาทิตย์พูดนั้น เขาทราบดีว่าหากบิดามารดาทราบเรื่องนี้ สิ่งแรกที่เขาต้องทำคืออธิบายเรื่องทั้งหมด



   ...เรื่องทั้งหมดของเขาและหมอภวัต ที่จันทร์จ้าวคิดว่าให้อย่างไรก็หาคำว่าจำกัดความไม่ได้...พวกเขาต่างเป็นชาย เป็นบุรุษเพศ สิ่งที่ควรทำและพึงทำคือการแต่งงานกับสตรี ไม่ใช่ครองคู่กันทั้งที่เป็นชายเช่นเดียวกัน...



    “อย่าให้พี่ต้องบังคับจันทร์ เพราะจันทร์ควรจะบังคับตัวเองให้ได้ และจันทร์ควรจะรู้ว่าเรื่องบางเรื่องก็ตามใจตัวเองเหมือนที่แล้วมาไม่ได้!”



   “ถ้ามีคนบอกว่าพี่อาทิตย์ไม่เหมาะสมกับคุณพิม เพราะพี่ไม่ใช่เจ้า ไม่ใช่ราชนิกูล พี่จะทำอย่างไร?!!” จันทร์จ้าวย้อนถามเสียงห้วน อาทิตย์หันกลับมามองน้องชาย ดวงหน้าขาวเต็มไปด้วยความกดดันแสนสาหัส เขาเป็นพี่ชายคนใหญ่ แม้จะเป็นคนเงียบขรึมและไม่ค่อยเข้าสังคม แต่มีหรือจะไม่รู้จักอารมณ์ของน้องชายตนเอง



   ...แต่จันทร์จ้าวต้องเรียนรู้ ถึงจะกดดันเท่าไร เจ็บปวดเพียงใด แต่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจได้ทุกอย่างที่ปรารถนา...



   “พี่ก็จะถอยออกมา พี่จะไม่ยอมให้คนที่พี่รักถูกตราหน้าหรือถูกสังคมดูหมิ่นเป็นอันขาด” อาทิตย์พูดอย่างจริงจังด้วยเพราะเขาคิดเช่นนั้นจริง ดังนั้นแต่แรกจึงไม่เคยคิดจะไขว่คว้าหม่อมหลวงพิมพัชราเลยสักครั้ง หากไม่ใช่เพราะจันทร์จ้าวคอยเปิดโอกาสให้ ณ วันนี้เขาและราชนิกูลสาวคงเป็นเพียงคนรู้จักเท่านั้นเอง
 


ทว่าสำหรับจันทร์จ้าวนั้น กลับมีความคิดสวนทางกับผู้เป็นพี่ ดวงตากลมใหญ่ของเขาจับจ้องคนพูด



   “แต่ถ้าเป็นผม ผมจะทำให้สังคมที่เคยตราหน้าและดูหมิ่นยอมรับให้ได้! ผมจะไม่มีวันยอมแพ้เพียงเพราะคำพิพากษาของคนอื่นที่บอกว่าผมไม่ควรคู่กับใครหรือไม่เหมาะสมกับใคร!! ชีวิตของผม ผมต้องเป็นคนตัดสินว่าผมควรอยู่กับใครและผมรักใคร!!” จันทร์จ้าวประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนแล้วเปิดประตูลงจากรถโดยไม่รอฟังคำพูดใดๆของอาทิตย์อีก ผู้เป็นพี่ชายคนใหญ่ได้แต่มองตามแผ่นหลังของน้องชายที่เดินอาดๆอย่างขึงขังขึ้นเรือนด้วยความรู้สึกหลากหลายผสมปนเป แล้วเสียงของภวัตก็ดังเข้ามาในหัวของเขา



   ‘คุณจันทร์เคยขอผมเรื่อง ๑ คือขอให้ผมอยู่ข้างๆคุณจันทร์ไปนานๆ และผมก็รับปากกับคุณจันทร์แล้ว...ผมจะอยู่กับคุณจันทร์ให้นานที่สุด’



   `มันนานได้แค่นี้เท่านั้นล่ะหมอ! ผมไม่มีวันปล่อยให้เรื่องบ้าๆนี่เกิดกับน้องผมนานไปกว่านี้!!’



   ‘สำหรับคุณอาทิตย์ เรื่องของผมกับคุณจันทร์อาจเป็นเรื่องบ้าๆ อาจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับผมและคุณจันทร์ เรื่องของเราคือความจริง และเรื่องของเราเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ไม่มีใครลบความรู้สึกของเราได้’



   ‘ผมนี่ล่ะจะลบทุกอย่างเอง! หมอจะต้องเลิกกับจันทร์!’



   ‘หากเลิกกัน คนที่เสียใจไม่ใช่มีแค่ผม แต่คุณจันทร์ก็ด้วย แล้วถ้าคุณจันทร์เสียใจ คุณจะมีความสุขหรือครับ คุณอาทิตย์’ ยามที่ภวัตถามเขาเช่นนั้น อาทิตย์นิ่งงันด้วยเพราะโต้เถียงไม่ออก และกลายเป็นเดินหนีกลับไปพาจันทร์จ้าวกลับบ้านโดยไม่ยอมแม้แต่จะให้น้องชายล่ำลากับนายแพทย์หนุ่มอีก



   ...ต่อให้จันทร์จ้าวจะต้องเสียใจ ต่อให้เขาจะต้องไม่มีความสุข เขาก็ต้องยุติความสัมพันธ์ของน้องชายและหมอภวัตให้ได้ ผู้ชาย ๒ คนจะมีความสัมพันธ์เช่นนี้ต่อกันไม่ได้ มันไม่มีวันยืนยาว มันไม่มีทางเป็นที่รับรู้และยอมรับของสังคม แล้วเช่นนั้นเขาจะปล่อยให้ความสัมพันธ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับจันทร์จ้าวได้อย่างไร?...



   จันทร์จ้าวจะต้องเลิกกับภวัต ความสัมพันธ์เช่นนี้จะต้องสิ้นสุดลงตรงนี้ และอาทิตย์จะไม่มีวันปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว!


   .........................................


   คุณหญิงผกาอดจะแปลกใจไม่ได้ เพราะบุตรชายคนรองผู้ช่างพูดช่างคุยอย่างจันทร์จ้าวกลับนั่งเงียบในโต๊ะรับประทานอาหารตั้งแต่ตอนเย็นวันศุกร์จวบจนถึงเช้าวันจันทร์ และพอเย็นวันจันทร์ เมื่ออาทิตย์กลับมาถึงบ้าน หล่อนก็พบจันทร์จ้าวติดรถกลับมาด้วย



   “วันนี้วันจันทร์...พ่อจันทร์ค้างที่นี่รึ?!” คุณหญิงตั้งคำถามทันทีเมื่อบุตรชายคนรองเดินขึ้นเรือนตามหลังอาทิตย์มา เพราะปกติแล้วจันทร์จ้าวจะกลับมาที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ในเย็นวันศุกร์ ไม่ใช่เย็นวันจันทร์



   “ครับ...” จันทร์จ้าวตอบสั้น



   “ผมเห็นว่าบ้านเช่ามันเริ่มเก่าแล้ว จะให้ช่างมาช่วยดูให้สักหน่อย ว่าตรงไหนต้องซ่อมแซมบ้าง ช่วงนี้จันทร์เลยต้องกลับมานอนที่นี่ก่อนครับคุณแม่” อาทิตย์เป็นคนตอบอย่างยาว และนั่นทำเอาคุณหญิงผกาขมวดคิ้วฉับ



   “ตอนนายฝรั่งคนเช่าเก่ากลับประเทศ แม่ก็เพิ่งจะให้คนทาสีใหม่ไม่ใช่หรือ”



   “ที่ทำคราวนั้นคือทาสีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่นี่ผมจะให้ดูเนื้อไม้ด้วย พวกบานประตู หน้าต่าง และบันได” อาทิตย์ยังคงเป็นคนตอบเช่นเคยในขณะที่จันทร์จ้าวยืนเงียบสีหน้าอึดอัดปิดไม่มิดจนคุณหญิงยังทราบ ทว่าก่อนที่จะมีใครทันพูดอะไร เสียงของธิดาคนเล็กของคุณหญิงก็ดังขึ้น



   “พี่จันทร์?...” ดารารัษมีออกจากห้องส่วนตัวเมื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยแล้วก็นึกว่าตนตาฝาดที่พบหน้าพี่ชายคนรองที่บ้านเรือนไทยในวันนี้จึงร้องเสียงหลง แต่เมื่อเจ้าของชื่อหันกลับมามองหล่อนด้วยสายตาว่างเปล่า ก็ทำให้คุณครูจากโรงเรียนสตรีกัลยาณีประหลาดใจขึ้นมาอีก



   “สวัสดีค่ะ พี่อาทิตย์ พี่จันทร์...เอ? วันนี้พี่จันทร์ค้างที่นี่หรือคะ” หล่อนเดินเข้ามายกมือไหว้แล้วตั้งคำถามด้วยความฉงนไม่แพ้มารดา



   “พ่ออาทิตย์บอกว่าบ้านเช่ามันเก่าแล้ว จะให้คนมาซ่อม พ่อจันทร์เลยต้องกลับมานอนค้างที่นี่จ้ะ” คุณหญิงผกาเป็นคนตอบตามที่รับข่าวสารมาเมื่อครู่นี้



   “บ้านเช่าเก่าหรือคะ?” ดารารัษมีทวนถามแล้วหันมองพี่ชายทั้ง ๒ สีหน้าของอาทิตย์และจันทร์จ้าวดูแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว สีหน้าของอาทิตย์ดูเคร่งเครียดแต่ก็สุขุมและจริงจัง ส่วนจันทร์จ้าวนั้นเต็มไปด้วยความอึดอัดระคนเสียใจ



   ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?...



   “แล้ว...หลังจากซ่อมบ้านเช่าเรียบร้อยแล้ว พี่จันทร์...จะค้างที่ไหนคะ” ดารารัษมีถามขณะจับจ้องสีหน้าของพี่ชายทั้ง ๒ ของหล่อน ดูเหมือนจันทร์จ้าวเองก็อยากรู้คำตอบในคำถามนี้ด้วยเช่นกัน อาทิตย์เหลือบสายตามาสบดวงตาของน้องสาว ก่อนจะหันไปมองมารดา



   “ผมจะเรียนคุณแม่พอดี เพื่อนของผมคนหนึ่งกำลังหาบ้านเช่า ผมจะมาขอให้ปล่อยบ้านหลังนั้นให้เพื่อนผมเช่าจะได้ไหมครับ” ดารารัษมีชะงัก ในขณะที่จันทร์จ้าวลอบถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง ทว่าคุณหญิงผกาไม่ทันได้สังเกตอาการของบุตรชายคนรองและธิดาคนเล็ก เพราะหล่อนกำลังงุนงงกับสิ่งที่อาทิตย์ขอ



   “เพื่อนพ่ออาทิตย์อยากจะเช่าบ้านหลังนั้นหรือ แต่พ่อจันทร์เขาก็อยู่ที่นั่นอยู่แล้วนี่...”



   “ก็ให้จันทร์ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ อีกหน่อยผมแต่งงาน คุณชายฉัตรท่านจะให้ย้ายไปอยู่ในเขตวังฉัตร ส่วนจันทร์ ควรจะกลับมาอยู่ที่นี่...อย่างน้อยๆก็ในฐานะลูกชาย” ประโยคท้ายนั้น อาทิตย์หันกลับมาพูดกับน้องชายราวกับจะย้ำสถานะอันแสนสำคัญ คุณหญิงผกามองเห็นความเปลี่ยนแปลงระหว่าง ๒ พี่น้องแล้วก็นึกไม่สบายใจ แต่หากถามอย่างตรงไปตรงมา อาทิตย์คงไม่มีวันพูด



   “แม่ขอปรึกษาคุณพ่อก่อนแล้วกันว่าจะปล่อยเช่าไหม ส่วนที่พ่ออาทิตย์ให้คนมาดูเรื่องซ่อมแซม ก็ทำไปตามสมควรก็แล้วกัน”



   “ขอบคุณครับคุณแม่” อาทิตย์ยกมือไหว้แล้วจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเครื่องแบบ จันทร์จ้าวไม่อยากตอบคำถามอะไร จึงขอตัวกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายบ้างเช่นกัน ทิ้งให้คุณหญิงและดารารัษมีมองตาม สตรีผู้หนึ่งไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแต่เป็นห่วงบุตรชายทั้งคู่ สตรีอีกหนึ่งเห็นเค้าของต้นเหตุที่ทำให้บ้านเช่าหลังนั้นกลายมาเป็นประเด็นหากแต่ไม่รู้จะช่วยเช่นไรดี



   ...เรื่องความรักของจันทร์จ้าว ยากเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ...


................................................


   ไม่ใช่แค่จันทร์จ้าวเท่านั้นที่กลับไปนอนบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ แต่ภวัตเองก็เป็นกังวลกับเรื่องของพวกเขาจนไม่อาจพักอาศัยที่บ้านพักแพทย์ในโรงพยาบาลได้ บิดาของเขาอยู่สังกัดเดียวกับอาทิตย์ เขาเกรงว่าอาทิตย์จะทำการใดให้บิดาระแคะระคายเรื่องนี้ นายแพทย์หนุ่มจึงตัดสินใจกลับมาที่บ้านวิชาญโยธินในเย็นวันจันทร์หลังจากออกเวร อย่างน้อยก็เพื่อดูลาดเลาว่าบิดาพอจะล่วงรู้เรื่องของเขาหรือและจันทร์จ้าวหรือไม่ และยิ่งไปกว่านั้น...เขามีเรื่องหนึ่งที่ตั้งใจจะเรียนกับบิดาโดยตรง



   “ไม่ได้ร่วมโต๊ะด้วยกันเสียนาน งานที่โรงพยาบาลแยะนักหรือ”



วันนี้ท่านนายพลศักดิ์เห็นบุตรชายทั้ง ๒ พร้อมหน้าพร้อมตาก็ออกจะมีความสุขเป็นพิเศษ แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันที่เขามีกำหนดลงไปรับประทานอาหารที่ตึกเล็กของภรรยาน้อย แต่เพราะเห็นว่าภวัตกลับมาบ้าน จึงเป็นอันยกเลิกที่จะลงตึกเล็ก แล้วอยู่รับประทานอาหารกับบุตรชายทั้ง ๒ และภรรยาเอกอย่างคุณหญิงจิตต์ที่ตึกใหญ่แทน

 

   “มีเข้ามาเรื่อยๆครับคุณพ่อ” บุตรชายคนใหญ่ตอบด้วยท่าทีสุขุมเรียบร้อยเช่นทุกที ท่านนายพลออกจะนิยมชมชอบบุตรชายคนใหญ่ผู้เป็นหน้าตาของวงศ์ตระกูลผู้นี้อยู่มากเพราะไม่เคยทำให้ท่านผิดหวังสักครั้ง



   “งานแยะอย่างนี้แล้วจะมีเวลาคบหาดูใจใครได้หรือ” ท่านนายพลเข้าเรื่องสำคัญที่ท่านอยากจะพูดคุยกับภวัตมานานนมแต่ไม่มีโอกาสเสียที คนเป็นลูกชะงักไปอึดใจหนึ่งด้วยเพราะเรื่องที่เขาต้องการพูดคุยกับบิดาก็เป็นเรื่องเดียวกันนี่เอง แต่ไม่คิดว่าท่านนายพลจะเป็นฝ่ายเกริ่นขึ้นมาเสียก่อน เขาตั้งสติก่อนจะเงยหน้ามองบิดา



   “งานของผมหนัก ทำงานเป็นกะ บางครั้งต้องอยู่โยงดูแลคนไข้ ไม่รู้จะได้กลับบ้านกี่โมงกี่ยาม ผมคิดว่าตัวผมไม่เหมาะที่จะคบหาใครครับคุณพ่อ” ฟังดูก็รู้ว่าเป็นประโยคปฏิเสธ ท่านนายพลวางช้อนส้อมลงกับจานแล้วหันมาทางบุตรชายคนใหญ่ที่นั่งทางซ้ายของโต๊ะเพื่อพูดคุยอย่างจริงจัง



   “แต่เป็นผู้ชาย ก็ต้องแต่งงานสร้างครอบครัวมีลูกหลานสืบสกุล”



   “หากผมจะสร้างครอบครัวหรือมีลูก ผมก็อยากมีเวลาให้กับพวกเขาอย่างเต็มที่ ผมไม่อยากให้ลูกของผมที่ใช้นามสกุลวิชาญโยธินไปทำเรื่องเสื่อมเสียเพราะผมเอาแต่ทำงานไม่มีเวลาอบรมสั่งสอน จนทำให้เขาเป็นภาระแก่สังคมในภายภาคหน้า” พออ้างเรื่องการทำเรื่องเสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูลขึ้นมา ก็ทำเอาท่านนายพลอ่อนลงเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังไม่หมดหวัง ภวัตเป็นบุตรชายที่ท่านภาคภูมิใจ และหวังฝากผีฝากไข้ นอกจากนั้น ทายาทสืบสกุลที่เกิดจากภวัตก็เป็นอีกเรื่องที่ท่านนายพลคาดหวังเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน



   “แล้วเมื่อไรพ่อภวัตจะมีเวลาเพียงพอที่จะสร้างครอบครัว” 



นายแพทย์หนุ่มนิ่งไป ด้วยเพราะเขารู้ดีว่าต่อให้มีเวลา เขาก็ไม่อาจสร้างครอบครัวได้อย่างที่บิดาต้องการ
 


   “ผมคงจะไม่มีเวลาไปตลอด เลยคิดว่าจะไม่แต่งงานครับ” เป็นคำตอบตรงไปตรงมาที่ไม่น่าพอใจเอาเสียเลย ท่านนายพลศักดิ์ขมวดคิ้วมุ่น



   “อะไรกัน?! คิดว่าจะไม่แต่งงาน?! หมายความว่าอย่างไร?!!!”



   “คิดว่าจะไม่แต่งงาน ก็คือไม่แต่งงานครับ”



   “แล้วเมื่อไรจึงจะคิดเรื่องแต่งงาน?!”



   “ผม...จะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิตครับ”



   “ไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต?!!! พ่อภวัตมีเหตุผลอะไรถึงจะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต!!!”



   “เหตุผลของผมคือไม่แต่งงานครับ”



   “ไม่แต่งงานไม่เรียกว่าเป็นเหตุผล!! พ่อภวัตบอกพ่อมาตามตรง!! ทำไมถึงไม่คิดจะแต่งงาน!!”



   “ผมไม่ได้ตั้งมั่นจะแต่งงานมีครอบครัวเหมือนใครๆ เวลานี้ผมมีความสุขดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น...ผมจะไม่แต่งงานครับ” ท่านนายพลรู้สึกถึงความผิดหวังที่แล่นริ้ว แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร เสียงของคุณหญิงจิตต์ก็ดังห้ามปราม



   “หากลูกยังไม่พร้อม ก็อย่าบังคับเขาเลยค่ะคุณพี่”



   “ไม่พร้อม หรือมีเก็บเอาไว้แล้ว แต่ไม่คิดจะบอกพ่อ” ประโยคหลังนั้น ท่านนายพลหันมาถามภวัตอย่างคาดคั้น ทำเอาบุตรชายคนใหญ่นิ่งไปเล็กน้อย เภามองเห็นความกดดันที่เกิดขึ้นแล้วก็พลันนึกขึ้นได้ว่าภวัตเคยพูดเรื่องคู่รักที่ไม่เหมาะสมกันให้เขาฟัง



   ...หากคู่รักของภวัตไม่เหมาะสมกันแล้ว ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะนำมาเปิดเผยให้บิดามารดาทราบ...



   “พี่ภวัตทำแต่งานครับคุณพ่อ ผมเคยแวะไปหาที่โรงพยาบาล คนไข้แยะเสียจนถ้าหากผมเป็นพี่ภวัต ผมก็คงไม่มีอารมณ์จะดูใจใครแล้วล่ะครับ” เขาช่วยพูดแก้สถานการณ์ สายตาของบิดาและมารดาจึงเบี่ยงมาลงที่เขาแทน



   “อ้อ อย่างนั้นแกคงจะงานน้อยเกินไปล่ะซี ถึงได้มีอารมณ์ดูใจผู้หญิงทั้งกรุงเทพฯน่ะ” กับบุตรชายคนเล็กที่เกิดกับคุณหญิงจิตต์นั้นมักจะถูกท่านนายพลทั้งบ่นทั้งเอ็ดอยู่เสมอ แต่เภาก็ชินเสียแล้ว



   “งานของผมก็แยะพอสมควร แต่ไม่แยะเท่าพี่ภวัตเท่านั้นเองครับ”



   “จะแยะหรือไม่แยะก็ต้องมีคู่ครองและแต่งงาน ภวัต...ว่าอย่างไร พ่อจะให้ตอบอีกครั้ง” ท่านนายพลยังคงมุ่งมั่นจะได้ยินคำตอบที่พึงใจจากปากบุตรชายคนใหญ่ให้จงได้ แต่ภวัตตัดสินใจมาเป็นอย่างดีแล้ว เขาวางช้อนส้อมลงกับจาน ก่อนจะหันไปมองบิดาด้วยสายตามุ่งมั่น



   “ผมจะไม่แต่งงานครับ”



   “ภวัต!!!” นายพลศักดิ์ขึ้นเสียงดัง แต่กระนั้นบุตรชายคนใหญ่ก็ยังสงบนิ่งราวกับสายน้ำ ภวัตยกมือพนมไหว้เป็นการขอขมา



   “ผมขอโทษครับคุณพ่อ แต่เรื่องนี้ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะไม่แต่งงาน”



   “ต้องให้ฉันตัดพ่อตัดลูกอย่างนั้นใช่ไหม?!!!” ทั้งเภาและคุณหญิงจิตต์ถึงกับตาเหลือก ด้วยคาดไม่ถึงว่าท่านนายพลจะจริงจังกับเรื่องแต่งงานของภวัตถึงเพียงนี้



   “ผมทำให้คุณพ่อได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียว...ที่ผมขอตัดสินใจด้วยตัวของผมเอง” ไม่มีคำตอบใดจากท่านนายพลศักดิ์ วิชาญโยธิน นอกเสียจากการลุกพรวดจากโต๊ะอาหารแล้วเดินตึงตังออกไปด้วยความฉุนเฉียว คุณหญิงจิตต์รีบลุกขึ้นตาม แต่ก่อนจะออกจากห้องไปก็ไม่วายตบไหล่บุตรชายคนใหญ่เบาๆเป็นการปลอบประโลม



   เมื่อทั้งห้องอาหารเหลือกันเพียงแค่ ๒ คนพี่น้อง เภา วิชาญโยธินก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่



   “กลับมาบ้านหนนี้ เพราะจะมาปฏิเสธเรื่องแต่งงานกับคุณพ่อใช่ไหม” เขาตั้งคำถาม และนั่นทำให้ภวัตนิ่งงันเป็นคำรบสองนับตั้งแต่ถูกบิดาถามที่โต๊ะอาหารเรื่องที่เขาแอบดูใครไว้อย่างลับๆหรือไม่



   “ฉันไม่อยากให้คุณพ่อตั้งความหวังกับฉันเรื่องนี้ ฉันยินดีทำทุกอย่างให้คุณพ่อคุณแม่ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องแต่งงาน”



   เภาเห็นท่าทางจริงจังของผู้เป็นพี่ชายแล้วก็ยิ่งเป็นห่วง หากบิดาบังคับจริง มีหรือภวัตจะขัดได้



   “แล้วถ้าคุณพ่อขอให้พี่แต่งงานกับคนที่คุณพ่อจัดหาให้ แล้วยอมให้พี่คบหากับคู่รักของพี่ต่อไปล่ะ ทำอย่างคุณพ่อ มีบ้านเล็กบ้านน้อยอย่างนี้”



   “ฉันไม่เคยคิดจะมีภรรยามากกว่า ๑ คน”



   “แล้วพี่จะอยู่อย่างนี้ จะไม่แต่งงานไปตลอดอย่างนั้นหรือ” คนเป็นพี่หันมามองน้องชายด้วยความมุ่งมั่น



   “ใช่ ฉันจะให้การที่ฉันไม่แต่งงานกับใครเป็นการยืนยันว่าฉันรู้สึกเช่นไรกับคนที่ฉันรัก”



   “แล้วคู่รักของพี่ ก็จะไม่แต่งงานกับใครเช่นกันหรือ” ภวัตหวนคิดเมื่อครั้งที่ดารารัษมีจะบังคับให้จันทร์จ้าวคบหาดูใจกับเพื่อนครูคนหนึ่งที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี แต่กลายเป็นว่าจันทร์จ้าวแก้เผ็ดน้องสาวด้วยการแนะนำดารารัษมีกับนายวินิตแทน ถึงแม้คราวนี้ อาทิตย์อาจจะไม่ทำเช่นเดียวกับดารารัษมี และจันทร์จ้าวคงไม่ปฏิบัติต่ออาทิตย์เฉกเช่นเดียวกับที่จับคู่ให้แก่น้องสาวของตน แต่ภวัตก็เชื่อว่าจันทร์จ้าวจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับใคร



   “ฉันเชื่อเช่นนั้น”



   “ตั้งแต่เป็นพี่น้องกันมา ผมไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำว่า ‘จะไม่แต่งงานกับใคร’ จากปากของพี่ที่อยู่ในกรอบจารีตประเพณี” ภวัตยิ้มจางยามคิดถึงคนที่ทำให้เขาออกเดินมายังเส้นทางนอกกรอบจารีตประเพณี



   ...จันทร์จ้าวผู้ดื้อดึง จันทร์จ้าวผู้หัวแข็ง...ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เหมาะสมกันในด้านใดก็ตาม แต่เขาจะทำให้คนรอบข้างจันทร์จ้าวยอมรับให้ได้มากที่สุด ว่าพวกเขา...มีความรู้สึกที่จริงแท้ต่อกันมากเพียงใด...



   “ฉันเองก็ไม่คิดเช่นนั้นเหมือนกัน”



   “ท่าจะรักมาก” เภาประเมินจากความรู้สึก คนเป็นพี่หัวเราะเบาๆ ถึงแม้จะเป็นความรักที่ต้องหลบซ่อน แต่กระนั้น ภวัตก็ยังมีความรู้สึกที่ฉายชัดจนแม้แต่น้องชายยังรับรู้ได้ เภาตัดสินใจในวินาทีนั้น ภวัตช่วยเขามามากตั้งแต่เล็กจนโต เวลานี้ เขาควรจะได้ตอบแทนบ้าง



“ผมจะช่วยพี่แล้วกัน”



“ช่วย?” นายแพทย์หนุ่มหันมามองน้องชายด้วยความฉงน เภายิ้มกว้าง

 

“เห็นแก่ว่าพี่ชายของผมคนนี้อุตส่าห์มีความรักกับเขาทั้งที แล้วยังมีแบบหลบๆซ่อนๆอีก อีกฝ่ายเป็นใครก็ไม่ทราบ ทราบแค่ว่าไม่เหมาะสมกัน แต่พี่ภวัตก็ยังดื้อดึง นี่ก็ไม่สมเป็นพี่ภวัตอีก แสดงว่าคู่รักของพี่ต้องเก่งกล้าใช้ได้ถึงทำให้พี่ชายของผมคนนี้ยอมแหกกฎออกมาแข็งขืนกับคุณพ่อ แหม้! พูดแล้วก็อยากเห็นหน้าจริง ท่าทางจะเป็นสาวเซี้ยวแก่นกะโหลกกะลาแน่ๆ” ประโยคสุดท้ายของน้องชายทำให้ภวัตนึกเก้อขึ้นมา แต่ก็ไม่อาจแก้ความเข้าใจผิดของเภาได้ว่าคู่รักของเขาไม่ใช่ผู้หญิงแก่นแก้วเป็นม้าดีดกะโหลกที่ไหน แต่เป็นผู้ชายหัวดื้อที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมาที่ชื่อจันทร์จ้าวต่างหาก



   “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเถอะ ถือว่าเป็นของขวัญยินดีต่อความรักของพี่จากน้องชาย” เภาพูดแล้วยิ้มกริ่ม หมายมั่นปั้นมือว่าครั้งนี้ เขาจะเป็นฝ่ายแบกรับความคาดหวังของบิดามารดาแทนพี่ชายคนใหญ่ของตนเอง


.......................................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 22-01-2016 19:25:49



นอกจากเภา วิชาญโยธินกำลังหาทางช่วยให้พี่ชายไม่ต้องถูกบิดาบังคับแต่งงานแล้ว ที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ น้องสาวแฝดของจันทร์จ้าวก็กำลังสืบเสาะหาความจากพี่ชายคนรองผู้ถูกบังคับให้กลับมานอนที่บ้านเรือนไทยเช่นเดียวกัน



   ๒ สาวแฝดแอบเข้ามาหาพี่ชายคนรองในห้องส่วนตัวของเขา หลังจากทุกคนแยกย้ายกันเข้าห้องพักผ่อนไปหมดแล้ว ตลอดมื้ออาหารเย็น ไม่มีใครพูดอะไรสักคน พอบิดาถามว่าเหตุใดจันทร์จ้าวจึงกลับมานอนที่บ้านเรือนไทยแทนที่จะเป็นบ้านเช่าสีเขียวอ่อน คนตอบกลับเป็นอาทิตย์เอง และคำตอบที่บิดาได้ก็ยังคงเหมือนเดิมคืออาทิตย์ต้องการให้ซ่อมแซมบ้านหลังนั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะสนใจใดๆกับบ้านหลังนั้นเลยแม้สักนิด



   “พี่อาทิตย์ทราบแล้วหรือคะ?! พี่อาทิตน์ทราบได้อย่างไร?!!” นภาสรวงร้องถามด้วยความตกใจเมื่อจันทร์จ้าวยอมรับตามตรงว่าอาทิตย์ทราบเรื่องของเขาและหมอภวัตแล้ว



   “ก็...” คนเป็นพี่ไม่ทราบจะตอบเช่นไร ว่าที่อาทิตย์ล่วงรู้เรื่องราวทั้งหมด เป็นเพราะเขาและหมอประเจิดประเจ้อเอง



   “คงจะทำอะไรให้พี่อาทิตย์เห็นสิท่า! พี่อาทิตย์เธอถึงได้ทราบ!” ดารารัษมีบ่นแล้วทรุดตัวลงนั่งบบเก้าอี้นั่งเล่นในห้องนอนของผู้เป็นพี่ชาย



   “ดารา อย่าเพิ่งดุพี่จันทร์ซี แล้วนี่พี่อาทิตย์เธอทราบเมื่อไรคะ” แฝดพี่หันไปเอ็ดน้องสาวแล้วจึงหันมาถามพี่ชายต่อ



   “เมื่อวันศุกร์”



   “มิน่าล่ะ ทั้งวันเสาร์ทั้งวันอาทิตย์ พี่อาทิตย์ไม่ไปหาคุณพิมเลย คงจะกลัวว่าหากออกจากบ้านไป พี่จันทร์คงจะหนีแน่” ดารารัษมีอดไม่ได้ นึกหงุดหงิดที่จันทร์จ้าวไม่ระมัดระวังจนเป็นเหตุให้อาทิตย์ทราบเรื่อง จันทร์จ้าวไม่อยากลับฝีปากกับน้องสาว เพราะเวลานี้เขากังวลแต่เรื่องหมอภวัต ไม่ทราบว่าเมื่อวันนั้นทั้งหมอและอาทิตย์คุยกันเรื่องใด เพราะนับแต่นั้นเขาและหมอก็ยังไม่ได้พบเจอกันอีก



   “แล้วคุณหมอทราบไหมคะว่าพี่อาทิตย์ทราบ” นภาสรวงถาม



   “ทราบแล้ว...วันนั้นหมอขอคุยกับพี่อาทิตย์ด้วย แต่...คุยกันตามลำพัง พี่เลยไม่ทราบว่าคุยกันเรื่องอะไร”



   “คุณหมอเธอคงไม่ยอม พี่อาทิตย์ก็เลยใช้วิธีให้พี่จันทร์กลับมานอนที่นี่แทน จะได้ไม่มีโอกาสเจอกัน” ดารารัษมีพูดขึ้นด้วยเพราะหล่อนเองก็เคยคิดอยากจะให้จันทร์จ้าวย้ายกลับมานอนที่บ้านเรือนไทย เพื่อเป็นการปิดโอกาสไม่ให้คนทั้งคู่ได้พบเจอพูดคุยกันอีก



   จันทร์จ้าวมีท่าทีนิ่งสงบ แต่สีหน้าและแววตาของเขาอมทุกข์จนสังเกตได้ ๒ สาวแฝดหันมองหน้ากัน ดารารัษมีผู้เคยคิดอยากจะให้พี่ชายคนรองกลับตัวกลับใจมาคบหาผู้หญิงเช่นเดิมยังอดสงสารไม่ได้



   “พี่จันทร์...พี่อาทิตย์รักพี่จันทร์นะคะ เธอคงอยากให้พี่จันทร์...แต่งงานสร้างครอบครัว...” นภาสรวงได้แต่ปลอบประโลม ด้วยเพราะถึงแม้อาทิตย์จะเป็นคนเงียบๆ แต่เมื่อเขาตัดสินใจจะทำอะไรแล้ว ย่อมยากที่จะทัดทาน



   “พี่ทราบ ทุกคนอยากให้พี่แต่งงานมีครอบครัว...” เขาพูด แล้วเหลือบตาไปมองดารารัษมีเป็นพิเศษ “...แต่พี่ก็อยากให้ทุกคนทราบ ว่าพี่ไม่สามารถแต่งงานสร้างครอบครัวกับใครได้ พี่มีคนที่พี่รักอยู่แล้ว”



   “แต่พี่อาทิตย์ไม่ยอมรับคู่รักของพี่” ดารารัษมีพูดขึ้นมา จันทร์จ้าวพยักหน้ารับอย่างจำนน



   “พี่เข้าใจ ไม่มีใครยอมรับคู่รักของพี่ได้ แต่พี่จะไม่ยอมให้ใครก็ตามมาพูดว่าพี่กับหมอไม่คู่ควรกัน พี่ควรมีสิทธิ์เลือก เพราะนี่คือคู่ของพี่ นี่คือความรักของพี่ และที่สำคัญคือพี่รักเขา” พี่ชายคนรองย้ำชัดถึงความรู้สึกที่เขามี ความรักของเขา ความรู้สึกที่เขามีต่อหมอภวัตเป็นของจริงแท้ ไม่ใช่เรื่องโลเลที่เขาเพียงสนุกชั่วครั้งชั่วคราว และแน่นอนว่าดารารัษมีมองออก พี่ชายของหล่อนคนนี้รักสนุก แต่ความรักของเขาในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องสนุกเลย หนำซ้ำยังมีแต่ความกดดันและความทุกข์ประเดประดัง แต่กระนั้น...เขาก็ยังมั่นคง



   นภาสรวงหันมองแฝดน้องราวกับจะถามว่าจะเอาเช่นไรดี ทว่าดารารัษมียังจับจ้องดวงหน้าของพี่ชายคนรองไม่คลาย



   “พี่จันทร์เคยพูดเช่นนี้ตอนที่พี่จะไปเรียนต่ออเมริกา คุณแม่ห้ามอย่างไร พี่ก็ว่าพี่ควรมีสิทธิ์เลือก เพราะนี่คือทางของพี่ หากจะดีจะชั่วก็ขอให้พี่ได้เลือกเอง ตอนที่พี่ไป ดารายังแอบคิดในใจว่าไม่เกิน ๓ เดือนคงเผ่นกลับมา เพราะพี่จันทร์ไม่ใช่คนทนลำบาก แต่...พี่ก็อยู่ที่นั่นจนกระทั่งเรียนจบตั้ง ๖ ปี ดาราจะไม่บอกว่าพี่เลือกเดินถูกทาง หากพี่ยังเรียนที่นี่ บางทีพี่อาจจะได้เป็นทหารอย่างพี่อาทิตย์ เป็นตำรวจอย่างคุณพ่อ เป็นหมอ เป็นวิศวกร แต่...ดาราก็จะไม่บอกว่าพี่เลือกเดินผิดทางเช่นเดียวกัน เพราะพี่พิสูจน์แล้วว่าพี่อยู่กับเส้นทางที่พี่เลือกได้”



   “ดารา...” จันทร์จ้าวไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้จากปากน้องสาวคนเล็กผู้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับเขาอยู่เนืองๆ



   “ครั้งนี้ก็เช่นกัน ดาราไม่คิดว่าพี่จันทร์เลือกเส้นทางที่ถูก และ...ดาราก็หวังว่ามันจะไม่ใช่เส้นทางที่ผิด” จากหัวใจของคนที่เคยคิดอยากจะให้พี่ชายผู้นี้หันกลับมารักชอบผู้หญิง มาวันนี้ดารารัษมียอมรับตามคำพูดของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทุกประการ หล่อนไม่อยากเห็นจันทร์จ้าวมีความทุกข์ และหล่อนก็ยอมรับคำพูดของนภาสรวง หล่อนจะให้โอกาสคนทั้งคู่ ให้พวกเขาได้พิสูจน์ความรู้สึกของตนเองด้วยเวลา



   จันทร์จ้าวมองใบหน้าของน้องสาวคนเล็กอย่างคาดไม่ถึง



   “ดาราจะช่วยพี่จันทร์ ตามที่ดาราเคยสัญญาว่าถ้าถึงคราวความรักของพี่จันทร์ ดาราจะช่วยเอง”



   “ดาราจะช่วยพี่อย่างไร” จันทร์จ้าวย้อนถาม ทั้งสับสนและงุนงงด้วยเพราะไม่คิดว่าดารารัษมีผู้เคยกีดกันเขา และคิดจะจับเขาแต่งงานกับเพื่อนครูที่โรงเรียนของหล่อน มาวันนี้กลับออกปากจะเป็นคนให้ความช่วยเหลือเรื่องของเขาและหมอภวัตเอง



   ทว่าไม่ทันที่ดารารัษมีจะได้ตอบคำถามพี่ชาย เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น ๓ พี่น้องพากันชะงักด้วยไม่คิดว่าค่ำปานนี้แล้วจะมีใครมาเคาะเรียกหา จันทร์จ้าวส่งสายตาบอกให้น้องสาวทั้ง ๒ เงียบกริบ ก่อนจะเดินไปแง้มประตูห้องเล็กน้อย สาวใช้นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าก่อนจะรายงานอย่างนอบน้อม



   “คุณท่านให้มาเรียนคุณจันทร์ว่าให้ไปพบที่ห้องทำงานค่ะ”



   “คุณพ่อหรือ?...” บุตรชายคนรองของท่านนายพลถึงกับทวนคำด้วยความคาดไม่ถึง ๒ สาวแฝดที่แอบอยู่ในห้องก็ถึงกับมองหน้ากันด้วยความหวาดหวั่นเช่นกัน ด้วยเพราะท่านนายพลไม่ใคร่จะเรียกหาจันทร์จ้าวไปพบเสียเท่าไร แต่วันนี้กลับเรียกหา แสดงว่าอาจมีเรื่องด่วนหรือเรื่องสำคัญยิ่ง



   “ค่ะ” สาวใช้ย้ำอีกครั้ง จันทร์จ้าวกลั้นลมหายใจด้วยไม่ทราบว่าบิดาจะเรียกหาเขาเพื่อเรื่องอันใด แต่กระนั้นเขาก็ยังสั่งให้สาวใช้กลับไปรายงานบิดาดังเดิม



   “ไปเรียนท่าน ว่าฉันจะตามไป” เขาจัดการสั่งสาวใช้เรียบร้อยแล้ว ก็ปิดประตูห้องโดยพลัน ๒ สาวแฝดรีบถลามาจับแขนเขาคนละข้างด้วยควาตระหนก



   “คุณพ่อเรียกพบหรือคะพี่จันทร์?!” นภาสรวงร้องถาม หวาดหวั่นว่าบิดาอาจจะทราบเรื่องใดเข้า



   “นี่อย่าบอกนะว่าพี่จันทร์ทำให้คุณพ่อทราบเหมือนที่พี่อาทิตย์ทราบ” ดารารัษมีผู้ไม่เคยมองพี่ชายคนรองในแง่ดีค่อนขอดเขาอย่างมีน้ำโห



   “ไม่มีทาง! คุณพ่อไม่มีทางทราบ” จันทร์จ้าวมั่นใจ บิดาของเขาถึงแม้จะรักครอบครัว แต่วันๆก็ทำแต่งาน ไม่มีทางมีเวลามาทราบเรื่องของเขาเป็นแน่ นอกจากนั้น เขายังไม่ใช่ลูกคนโปรดของคุณพ่อ ระหว่างเขาและอาทิตย์แล้ว อาทิตย์ดูจะเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของบิดามากกว่า ดังนั้นระหว่างเรื่องของเขาที่หลบๆซ่อนๆกับเรื่องของอาทิตย์ที่กำลังจะได้สมรสกับราชนิกูล บิดาก็น่าจะให้ความสำคัญและสนใจกับเรื่องของบุตรชายคนใหญ่มากกว่าจะมาสนใจบุตรชายคนรอง



   “เอาเถอะ พี่จะไปพบคุณพ่อก่อน ท่านคงแค่มีเรื่องไหว้วาน” เขาเอ่ยปาก ทว่าก็ยังหนักใจเพราะบุตรชายคนรองที่ไม่เคยอยู่ในกรอบและกฎเกณฑ์อย่างเขา จะมีเรื่องใดให้บิดาผู้อยู่ในสายราชการตำรวจจะฝากฝังได้



   ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหมุนตัวเดินออกจากห้องนอนของตนไปแล้ว ทิ้งให้น้องสาวทั้ง ๒ มองตามด้วยความหนักใจไม่แพ้กัน


.............................................


   พลตำรวจโทเดช รักษพิพัฒน์ยืนอยู่ที่ริมหน้าต่าง ทอดสายตามองออกไปในความมืดสลัวยามค่ำคืน สายตาของท่านนั้นคมกริบสมกับเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก มีหรือจะมองไม่เห็นความผิดปกติแม้แต่ในเรือนของตนเอง



   ความผิดปกติเรื่องที่ ๑ คือจันทร์จ้าวกลับมาค้างที่นี่ทั้งที่ไม่ใช่คืนวันศุกร์หรือวันเสาร์ตามที่ตกลงกันเอาไว้ ความผิดปกติเรื่องที่ ๒ คือเมื่อท่านสอบถามด้วยตนเองกลางโต๊ะอาหาร คนที่ตอบคำถามนี้กลับเป็นอาทิตย์ ในขณะที่จันทร์จ้าวไม่พูดอะไรสักคำ และความผิดปกติเรื่องที่ ๓ คืออาทิตย์ผู้ซึ่งไม่เคยเจ้ากี้เจ้าการเรื่องที่อยู่ที่อาศัยของใครกลับเป็นตัวตั้งตัวตีในการพาน้องชายกลับมาค้างที่นี่โดยให้เหตุผลว่าจะส่งคนไปซ่อมบ้านเช่า



   “ขออนุญาตครับคุณพ่อ” เสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆที่เบื้องหลังของท่าน นายตำรวจสูงวัยเอี้ยวหน้าไปมองเล็กน้อยก็เห็นบุตรชายคนรองก้าวเข้ามายืนในห้องของท่านปิดประตูเรียบร้อย



   “เป็นอย่างไร” คำถามแรกของบิดาที่มีต่อบุตรชายนั้นทำให้จันทร์จ้าวนิ่งไปเล็กน้อยด้วยไม่ทราบว่าท่านต้องการถามถึงเรื่องใด เขาจึงตอบอย่างเป็นกลางไว้ก่อน



   “ก็...สบายดีครับคุณพ่อ”



   “หมายถึงว่าอยู่ที่บ้านเช่าก็สบายดีใช่ไหม” พอถูกจี้ถามถึงเรื่องบ้านเช่า บุตรชายก็ดูเหมืนอจะชะงักไปชั่วครู่ จนบิดาต้องหันมามองเต็ม ๒ ตา เมื่อนั้นจันทร์จ้าวจึงเสยิ้มให้



   “ครับ”



   “สบายดีแล้วทำไมถึงกลับมานอนที่นี่”



   “ก็...ก็...อย่างที่พี่อาทิตย์เรียนคุณพ่อ พี่อาทิตย์เห็นว่า...” จันทร์จ้าวยังไม่ทันพูดจบ บิดาก็ส่ายศีรษะไปมาแล้วแทรก



   “เรื่องของพ่อจันทร์ ทำไมพูดถึงแต่พ่ออาทิตย์” บุตรชายคนรองนิ่งไปในทันที คราวนี้เหมือนเขาอับจนคำพูดจนไม่มีแม้แต่เสียงใดๆเอื้อนเอ่ยออกมา ท่านนายพลจึงเป็นฝ่ายพูดเอง



   “มีเรื่องอะไรอยากจะเล่าให้พ่อฟังไหม” ชั่วพริบตาหนึ่ง คนเป็นลูกเผยอริมฝีปากราวกับมีเรื่องค้างคาใจ ทว่าก็ราวกับรู้สติในวินาทีนั้น ริมฝีปากที่เผยอค้างจึงปิดลงทีหนึ่ง แล้วขยับใหม่ ทว่าสิ่งที่เกือบจะพูดเมื่อครู่ก็ถูกกลืนหายลงคอเสียแล้ว



   “ไม่มีครับคุณพ่อ ผมกลับมานอนที่นี่ก็เพราะพี่อาทิตย์เห็นควรเป็นเช่นนั้น”



   “แสดงว่าพ่อจันทร์ถูกบังคับ”



   “เอ่อ...ก็...ครับ แต่คิดว่าคงไม่นาน คุณพ่อก็พอจะทราบดีว่าพี่อาทิตย์เคยบังคับใครเสียที่ไหน”



   “แต่คราวนี้บังคับพ่อจันทร์ คงจะเป็นเรื่องใหญ่ซีนะ” เป็นอีกครั้งที่จันทร์จ้าวได้สบตากับบิดา หัวใจของเขาเต้นถี่รัว เหงื่อกาฬซึมเต็มแผ่นหลังด้วยไม่ทราบว่าบิดาสงสัยประการใด และกำลังสงสัยเขาในเรื่องที่เกี่ยวกับหมอภวัตหรือไม่



   ...หากเขาสารภาพเสียแต่วันนี้ บิดาจะรับฟังและยอมรับหรือไม่ หรือจะปฏิบัติต่อเขาเหมือนที่อาทิตย์กำลังทำอยู่...



   จันทร์จ้าวผู้เคยกล้าเสี่ยงกับทุกเรื่อง มาวันนี้ไม่อาจแม้แต่จะยอมรับความผิดหวังที่จะเกิดขึ้นหากบิดาทราบเรื่องของเขาและหมอภวัต



   ...ถ้าจะไม่อาจมีใครยอมรับเรื่องของเขาและภวัต ก็อย่าให้ใครรู้เสียจะดีกว่า หากไม่มีใครสนับสนุน ก็อย่าได้มีใครขัดขวางความรักของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกเลย...



   “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ ก็ตามที่พี่อาทิตย์เรียนคุณพ่อ แค่ให้ผมมาอยู่ที่นี่เพื่อให้คนเข้าไปซ่อมบ้านเช่าก็เท่านั้นเอง” เขาย้ำคำเดิมกับบิดา เก็บงำเรื่องของความรักของเขาเอาไว้ ให้อย่างไรก็จะไม่มีทางให้บิดามารดารู้เป็นอันขาด



   “แต่พ่ออาทิตย์ว่าหลังจากซ่อมแล้วจะให้เพื่อนเขาเช่าไม่ใช่หรือ”



   “พี่อาทิตย์คง...เรียนถามคุณแม่ไปก่อน เพื่อนของพี่อาทิตย์คงจะไม่ได้เช่าจริง หรือหากอยากจะเช่าจริง เราก็มีบ้านเช่าหลายหลัง คงจะไม่เจาะจงจะเช่าหลังนั้นหรอกครับ”



   นายพลเดชมองบุตรชายเบื้องหน้า จันทร์จ้าวดื้อดึงเพียงไร ท่านทราบดี และยิ่งดื้อมากเพียงไร ยิ่งท่านคาดคั้น ก็ยิ่งไม่ได้คำตอบ



   “เอาเถอะ...ถ้าพ่อจันทร์ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ พ่อก็เรียกมาถามดูเท่านั้น ถ้าพ่อจันทร์ว่าไม่มีอะไร ก็ช่างเถอะ กลับไปพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องติดรถพ่ออาทิตย์ออกไปสำนักงานไม่ใช่หรือ”



   “ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน” บุตรชายคนรองไม่รอเวลาให้บิดาซักไซ้มากกว่านี้ เขาหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง แต่เสียงของท่านนายพลดังขึ้นจากเบื้องหลัง



   “จันทร์...” เจ้าของชื่อหันไปมอง สายตาของบิดาจับจ้องมาที่เขา ทำเอาหัวใจที่มุ่งมั่นจะปิดผนึกเรื่องราวของตนและภวัตไม่ให้ใครทราบเริ่มไหวยวบขึ้นมาอีกหน “...จันทร์ไม่ได้ตัวคนเดียว นอกจากพี่น้องแล้ว จันทร์ยังมีพ่อ...ขอให้จำเอาไว้ให้ดี”



   “ขอบพระคุณครับคุณพ่อ ผมจะจำเอาไว้” จันทร์จ้าวยกมือไหว้บิดาด้วยซาบซึ้งในพระคุณของท่าน แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมปริปากเรื่องใดเพิ่ม เขาหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานของท่านนายพลเดชไป โดยไม่ทันเห็นสายตาของบิดาที่มองตาม



   ...ท่านนายพลทราบดีว่าเรื่องของจันทร์จ้าว ท่านคงไม่อาจสอบถามเอาจากใครได้ นอกจากค้นหาความจริงด้วยตัวของท่านเอง...


......................................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 22-01-2016 19:26:18


การจะพูดคุยกับอาทิตย์เป็นการส่วนตัวย่อมไม่ใช่ที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์เพราะสุ่มเสี่ยงที่เรื่องจะรู้ถึงหูของท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกา ดังนั้นดารารัษมีจึงวานให้หม่อมหลวงพิมพัชราเรียกอาทิตย์ให้มารับที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี แต่คนที่ลงไปพบหน้าเขาก่อนคือดารารัษมีนั่นเอง



   “พี่อาทิตย์สวัสดีค่ะ” น้องสาวคนเล็กเดินลงจากตึกที่อาทิตย์จอดรถรออยู่ด้านหน้า อันที่จริงแล้วหม่อมหลวงพิมพัชราอยู่ที่ตึกหลัง แต่รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปถึงตึกหลัง เขาจึงจอดรออยู่ที่ตึกหน้าแทน



   “ดารายังไม่กลับหรือ จะกลับพร้อมกันไหมล่ะ” นายทหารหนุ่มพูด



   “ดาราจะขอคุยกับพี่อาทิตย์สักหน่อยค่ะ” หญิงสาวไม่ตอบคำชักชวนแต่กลับพูดเรื่องที่หล่อนอยากพบหน้าเขาแทน อาทิตย์มองหน้าน้องสาวแล้วก็พอจะทราบว่าเรื่องที่หล่อนอยากคุยกับเขาคือเรื่องอะไร ในเมื่อดารารัษมีก็ทราบเรื่องจันทร์จ้าว



   “ถ้าหากจะคุยเรื่องจันทร์...” เขาพูดไม่ทันจบ คนเป็นน้องก็พูดแทรก



   “ดาราไม่ได้จะคุยเรื่องพี่จันทร์ค่ะ ดาราจะคุยเรื่องของดารา” อาทิตย์มองด้วยความสงสัย แต่ดารารัษมียังจับจ้องเขาราวกับต้องการจะพูดคุยให้จงได้ ในที่สุดพี่ชายคนใหญ่ของบ้านรักษพิพัฒน์จึงยินยอมพยักหน้ารับ ผู้เป็นน้องจึงพาเขาเดินเข้าไปนั่งที่ซุ้มหน้าตึก โดยมีสายตาของหม่อมหลวงพิมพัชราผู้ให้ความร่วมมือในการนัดแนะอาทิตย์มาที่นี่คอยมองตามด้วยความห่วงใย


....................................   



   ภายในซุ้มโต๊ะเก้าอี้หน้าตึกเรียน บรรยากาศยามเย็นนั้นเงียบสงบ นักเรียนส่วนมากกลับกันหมดแล้ว ที่ยังเหลือก็บางตาเต็มทน และบริเวณนี้ก็ไม่มีใครมาวิ่งเล่น เหมาะเจาะสำหรับการคุยกันในเรื่องลับ



   “ดาราทราบมาว่าพี่อาทิตย์ทราบเรื่องของพี่จันทร์กับคุณหมอแล้ว”



   “ดาราบอกพี่เมื่อครู่ว่าดาราจะคุยเรื่องของดารา ไม่ใช่จะคุยเรื่องของจันทร์” อาทิตย์ย้อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เวลานี้เขาไม่ต้องการคุยเรื่องของจันทร์จ้าวกับผู้ใดทั้งสิ้น นายทหารหนุ่มยอมรับว่าเขายังไม่พร้อมที่จะกวนตะกอนในใจให้ขุ่นอีกครั้ง ยิ่งคิดเรื่องของจันทร์จ้าวและภวัต และท่าทีมั่นคงจริงจังกับความรู้สึกของทั้ง ๒ คน อาทิตย์ก็ยิ่งไม่อยากยอมรับ



   “ดาราแค่จะบอกพี่ว่า ไม่มีใครเข้าใจพี่เท่ากับดารา เพราะดาราเองก็รับไม่ได้กับเรื่องของทั้ง ๒ คน” คำพูดของหญิงสาวทำให้ผู้เป็นพี่หันมอง



   “รับไม่ได้? แล้วทำไมดาราไม่ห้าม?”



   “ดาราทำเสียยิ่งกว่าห้ามอีกค่ะ พี่อาทิตย์จำวันที่นภาโทรศัพท์ไปเรียกพี่กลับมาจากวังฉัตรเพราะว่าดารากับพี่จันทร์ทะเลาะกันได้ไหมคะ วันนั้นดารากับพี่จันทร์ทะเลาะกันเพราะดาราคิดจะให้พี่จันทร์แต่งงานกับเพื่อนครูของดารา ส่วนพี่จันทร์ก็ต้องการให้ดาราแต่งงานกับคุณวินิตเพื่อนของพี่จันทร์ เพื่อที่ดาราจะได้ไม่มีเวลามาวุ่นวายเรื่องของพี่จันทร์อีก ก่อนหน้านั้น ดาราก็เคยไปหาพี่จันทร์ที่สำนักงานมาแล้ว เพื่อบอกพี่จันทร์ว่าดาราต้องการคุณหมอ และอยากให้พี่จันทร์ถอย...ดารายอมทำถึงเพียงนั้น เป็นผู้หญิงน่าไม่อาย ไม่มีความเป็นกุลสตรี เที่ยวร้องขอผู้ชายกับพี่ตัวเอง แต่สิ่งที่ดาราได้กลับมาคือพี่จันทร์คนโลเลรักสนุกที่พวกเรารู้จัก กลับกลายเป็นพี่จันทร์คนที่จริงจังกับความรู้สึก ดาราไม่คิดมาก่อนว่าพี่ชายของดาราคนนี้จะเป็นเช่นนั้น”
 


อาทิตย์ได้ฟังแล้วก็นิ่ง สิ่งที่ดารารัษมีพูดมา มีหรือเขาจะไม่รู้สึก จันทร์จ้าวคนโลเลที่เที่ยวคบหากับเพื่อนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า จู่ๆกลับประกาศก้องว่าจะทำทุกอย่างให้คนรอบข้างยอมรับความสัมพันธ์ของตนเองและหมอภวัต เขารู้อยู่หรอกว่าน้องชายคนนี้เป็นคนดื้อดึง แต่ไม่เคยมีการดื้อดึงครั้งไหนหนักหนาสาหัสเท่าครั้งนี้เลย



   “เพราะจันทร์กลายเป็นคนจริงจัง ดาราก็เลยยอมยุติไม่ขัดขวางอย่างนั้นหรือ”



   “ไม่ใช่หรอกค่ะ ดาราไม่ได้ยอมยุติ เพียงแต่ดาราต้องการให้พี่จันทร์ทำตัวเอง...คนอย่างพี่จันทร์ หากเขาอยู่ที่ไหนแล้วไม่สบาย อยู่ที่ไหนแล้วลำบาก เขาไม่ทน กับเรื่องนี้ก็เช่นกัน หากเขาเห็นแล้วว่าสิ่งที่เขาเป็นไม่มีทางมีความสุข สุดท้ายเขาก็ต้องเดินกลับมา”



   “แต่กว่าจะถึงวันนั้น เรื่องนี้อาจรู้ไปถึงใครบ้างก็ไม่รู้ หากรู้ถึงหูคุณพ่อคุณแม่...” อาทิตย์กังวลว่าหากบิดามารดารับรู้เรื่องผิดทำนองคลองธรรมเหล่านี้ พวกท่านคงจะเสียใจอย่างหนัก และหากรู้ถึงหูคนภายนอก จันทร์จ้าวจะถูกตราหน้าในสังคม และไม่มีวันอยู่เมืองไทยได้อีก

 

“ก่อนจะถึงวันนั้น ดาราจะช่วยพี่จันทร์ปกปิดเรื่องนี้ แต่ถ้าหากถึงวันที่รู้ถึงหูคุณพ่อคุณแม่จริง ดาราก็จะยืนอยู่ข้างพี่จันทร์ ดาราไม่ได้สนับสนุนหรือเข้าข้างพี่จันทร์หรอกนะคะ แต่...ถ้าเราไม่ยืนอยู่ข้างพี่น้องของเรา คุณพ่อคงจะเสียใจยิ่งกว่าเรื่องของพี่จันทร์กับคุณหมอเสียอีก”



เป็นคำพูดที่ทำให้อาทิตย์ชะงักไปในทันที พวกเขา ๔ พี่น้องถูกบิดาสั่งสอนและอบรมมาแต่เล็กให้รักใคร่กลมเกลียว มีเรื่องใดต้องช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และราวกับนี่คือบททดสอบจากเทวดาฟ้าดินว่าพวกเขา ๔ พี่น้องจะรักกันกลมเกลียวอย่างที่บิดาพร่ำสอนหรือไม่



“ดาราอยากให้พี่อาทิตย์คิดดูให้ดี ดารากับพี่จันทร์เคยทะเลาะกันมาแล้วครั้งหนึ่งเพราะเรื่องนี้ หากพี่อาทิตย์ต้องการให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นอีกครั้ง ดาราก็คงห้ามไม่ได้ แต่...คุณพ่อคุณแม่ท่านรู้เห็นความรู้สึกของพวกเราทุกคนนะคะ แค่เราไม่คุยกันสักวันเดียว พวกท่านก็ทราบแล้วว่าเราทะเลาะกัน และพอเราทะเลาะกัน คุณพ่อก็จะไม่สบายใจ”



“แต่สิ่งที่พี่ทำคือความถูกต้อง”



“ดาราก็คิดเช่นเดียวกับพี่ค่ะ แต่บางครั้ง...เราก็ทำตามความถูกต้องไม่ได้ เพราะมีบางอย่างที่สำคัญกว่า” ดารารัษมีพูดแล้วยิ้มจางราวกับจะให้กำลังใจ ดวงหน้าของน้องชายซ้อนทับขึ้นมาบนใบหน้าของน้องสาวคนเล็ก



“ดาราขอตัวก่อนนะคะ ยังตรวจการบ้านนักเรียนไม่เรียบร้อย ถ้าคุณพิมลงมาแล้ว พี่อาทิตย์ไปส่งคุณพิมเถอะค่ะ ดาราจะนั่งสามล้อกลับเอง” คุณครูสาวแห่งโรงเรียนสตรีกัลยาณีกล่าวแล้วจึงลุกขึ้นเดินออกจากซุ้ม หล่อนเหลือบไปมองหม่อมหลวงพิมพัชราที่แอบดูจากระเบียงชั้น ๒ เพื่อเป็นสัญญาณว่าคุยกันเรียบร้อยดีแล้ว ราชนิกูลสาวจึงเดินลงบันไดมา



“ดาราคุยกับพี่อาทิตย์เรียบร้อยแล้วค่ะ บอกพี่อาทิตย์แล้วว่าให้ไปส่งคุณพิมได้เลย ดาราจะกลับสามล้อ”



“คุณอาทิตย์ว่าอย่างไรบ้างคะ” หม่อมหลวงพิมพัชราถามด้วยความห่วงใย ดารารัษมีทำได้เพียงยิ้มจางแล้วหันกลับไปมองแผ่นหลังของพี่ชายผู้เป็นนายทหารอีกครั้ง



“คงต้องให้พี่อาทิตย์เป็นคนตัดสินใจค่ะ” ราชนิกูลสาวแห่งวังฉัตรพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินตรงไปยังซุ้ม หล่อนไม่ได้เรียกคู่รักของหล่อนออกมาแต่กลับเดินไปนั่งเคียงข้างเขา



ดารารัษมีไม่ได้ตามเข้าไปนั่งฟังว่าหม่อมหลวงพิมพัชราพูดคุยประการใด และไม่ได้เดินขึ้นตึกกลับไปตรวจการบ้านนักเรียนตามที่กล่าวอ้างกับพี่ชายด้วย หล่อนเดินเลาะไปทางด้านหลัง เห็นว่าพ้นสายตาของผู้คนแล้ว จึงทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความรู้สึกแปลกพิกล

 

...สิ่งที่หล่อนทำ ถูกต้องหรือไม่หนอ หากอาศัยอาทิตย์ที่ต้องการแยกจันทร์จ้าวและหมอภวัตออกจากกัน หล่อนคิดว่าคงมีโอกาสมากกว่าเมื่อครั้งที่หล่อนต่อต้านเพียงลำพัง แต่...กระนั้น...หล่อนก็ไม่อยากเห็นการทะเลาะเบาะแว้งและทำให้บิดามารดาไม่สบายใจอีก...และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น หล่อนอยากทราบว่าหากความสัมพันธ์ของจันทร์จ้าวและภวัตเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะเป็นเช่นไร ภวัตจะเป็นคนเพียงคนเดียวในชีวิตของพี่ชายของหล่อนได้หรือไม่ หรือแค่ไม่กี่วันไม่กี่เดือนผ่านไป พี่ชายผู้แสนโลเลของหล่อนจะโผไปหาคนอื่นเหมือนที่เขาเคยทำกับผู้หญิงคนอื่นๆ



“คุณดารา...” นั่งเพียงลำพังได้อึดใจหนึ่ง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เจ้าของชื่อหันมองตามแล้วชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพบชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเหมือนคนจีนกำลังยืนอยู่ไม่ไกล



   “คุณ...วินิต...” นายวินิตเพื่อนของจันทร์จ้าวนั่นเอง หล่อนยกมือไหว้เขาอย่างรู้มารยาท นายวินิตเองก็ยกมือรับไหว้แล้วจึงเดินเข้ามาหา



“ผมเห็นคุณเดินมาทางนี้ ดูเศร้าๆ ก็เลยเดินตามมา...”
 


“อ้อ...ไม่ได้เศร้าอะไรหรอกค่ะ แล้ว...ทำไมคุณวินิต...ถึงมาที่นี่ล่ะคะ เอ? ดูเหมือนคุณจะเคยพูดว่าน้องสาวเรียนที่นี่ หรือว่ามารับน้องสาวคะ?” ดารารามีพยายามขจัดความรู้สึกในใจออกไปแล้วตั้งคำถามกับชายหนุ่ม



“ใช่ครับ วิชุดาเป็นนักเรียนในชั้นของคุณพิม”



“อ้อ วิชุดานั่นเอง น้องสาวคุณวินิต…เอ? สงสัยแกคงจะอยู่ที่ห้องเปียโนกระมังคะ วันนี้เห็นนักเรียนห้องคุณพิมมาขอยืมกุญแจห้องเปียโน ถ้าอย่างไรดิฉันจะขึ้นไปเรียกมาให้” ดารารัษมีไม่มีบทสนทนาใดๆต่อชายหนุ่มผู้นี้ จึงหาทางเลี่ยงไปจากเขาด้วยการขันอาสาขึ้นไปตามน้องสาวของเขามาให้ ทว่านายวินิตกลับรั้งเอาไว้

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แกบอกให้ผมมารับเย็นๆเพราะอยากจะฝึกเปียโน นี่ผมมาก่อนเวลาเอง” เป็นว่าหญิงสาวหมดโอกาสจะหาทางเลี่ยง นายวินิตพินิจดวงหน้าของผู้ที่อยู่เบื้องหน้า แล้วก็พบว่าหล่อนยังคงมีร่องรอยของความไม่สบายใจ



“คุณดารามีเรื่องไม่สบายใจซีนะครับ” เขาถามอย่างตรงไปตรงมา ทำเอาดวงตากลมโตของหญิงสาวต้องเหลือบมอง และเมื่อนั้นเหมือนนายวินิตจะรู้ตัวว่าเขาละลาบละล้วงเกินไปเสียแล้ว

 

“ขอโทษครับ ผมไม่ได้คิดจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณ เพียงแต่...ตอนเราพบกันครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์ คุณยืนเงียบไม่พูดไม่จา พอผมไปพบอีกครั้งที่บ้านรักษพิพัฒน์ คุณก็…เอ่อ…พูดเก่ง...แล้ววันนี้ก็กลับมาเงียบเช่นนี้อีก ผมก็เลย…” ดารารัษมีหวนคิดตามที่เขาพูด ยามที่เขากับหล่อนพบกันครั้งแรกคงจะเป็นที่โรงภาพยนตร์ในวันที่หล่อนเอาแต่ใจให้จันทร์จ้าวพาไปเพราะต้องการกีดกันเขากับหมอภวัต ยามที่เขาเห็นหล่อนพูดเก่ง คงเป็นเมื่อครั้งที่จันทร์จ้าวชวนเขาไปที่บ้านแล้วเจอหล่อนพยศพูดจาไร้มารยาทใส่เป็นแน่ แต่กระนั้นเขาก็ยังรักษาน้ำใจด้วยการหลบเลี่ยงการกล่าวหาหล่อนเป็นการบอกว่าหล่อน ‘พูดเก่ง’ แทน



ครูสาวผู้รับหน้าที่สอนภาษาไทยถึงกับหัวเราะกิ๊ก ดูเหมือนนายวินิตจะสมกับการเกิดในแผ่นดินไทยเสียจริง



“ดิฉันไม่ใช่คนเงียบหรอกค่ะ ออกจะเป็นคนพูดมากเสียด้วยซ้ำ ส่วนวันนั้น ดิฉันก็ไม่ได้พูดเก่ง ดิฉันพูดจาแย่ต่างหาก ขอโทษนะคะคุณวินิต วันนั้นที่บ้าน ดิฉันทำตัวไม่ดีเอาเสียเลย พูดจากับคุณอย่างนั้นเสียได้”



“ไม่เป็นไรครับ” นายวินิตรับคำขอโทษอย่างเก้อเขิน



“แล้วนี่ คุณวินิตจะรออยู่ข้างล่างจนกว่าวิชุดาจะลงมาหรือคะ”



“ครับ”



“ห้องเปียโนอยู่ที่ตึกครูภาษาอังกฤษ นั่งตรงนั้นจะเห็นบันไดสำหรับขึ้นลงตึกค่ะ” ดารารัษมีชี้ชวนให้เขาดูซุ้มเก้าอี้ใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากตรงที่หล่อนยืนอยู่นัก นายวินิตมองตามแล้วจึงหันมาทางหญิงสาวอีกหน

 

“ถ้าผมไปนั่งตรงนั้น แล้วคุณดาราล่ะครับ คือ...ผมหมายถึง...ไปนั่งด้วยกันไหมครับ ผมรับรองว่าจะไม่พูดอะไรให้คุณรำคาญ เอาให้คุณหายไม่สบายใจเสียก่อน แล้วคุณจะกลับก็ได้ครับ” เป็นคำเชิญชวนที่ทำให้ดารารัษมีนิ่งไปเล็กน้อย แต่กระนั้นสุดท้ายหล่อนก็ยอมเดินไปนั่งร่วมโต๊ะม้าหินกับเขา



แรกเริ่มนั่งกันเงียบๆ แต่คนอย่างดารารัษมีนั้นช่างพูดช่างคุยเหมือนจันทร์จ้าว การจะให้หล่อนนั่งเงียบโดยมีใครอีกคนนั่งอยู่ด้วยก็เห็นจะไม่ใช่ บทสนทนาสั้นๆที่เกี่ยวกับวิชุดาซึ่งเป็นน้องสาวของนายวินิตและเป็นนักเรียนของโรงเรียนจึงเริ่มขึ้น



“ที่บ้านคุณวินิตพูดกันด้วยภาษาจีนหรือคะ”



“ใช่ครับ เอ่อ…หรือผมติดสำเนียงจีนอย่างนั้นหรือ นี่ผมก็ว่าผมพูดชัดมากแล้วนะครับ คุณพงศ์เป็นคนสอนให้แหน่ะครับ” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ
 


“คุณวินิตยังนับว่าน้อยนะคะ ถ้าเทียบกับวิชุดาและคุณวรินทร์ เอ?...จริงสิ เห็นว่าคุณวรินทร์ย้ายไปทำงานที่ฮ่องกงหรือคะ ไม่เห็นมารับวิชุดาอีกเลย” เมื่อพูดถึงน้องชายผู้อพยพไปอยู่ต่างประเทศกับคู่รักฝรั่ง นายวินิตก็นิ่งไปเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังมีรอยยิ้ม



“ครับ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเมื่อไรจะกลับมาที่นี่อีก บางทีอาจจะไม่ได้กลับมาแล้ว”



“ไม่กลับมาก็ไม่เห็นเป็นไร คุณวินิตก็เป็นฝ่ายไปเยี่ยมเองซีคะ” นายวินิตเงยหน้ามองหญิงสาวผู้ออกความเห็น ราวกับแสงสว่างส่องทางในใจของเขา แต่เมื่อคิดถึงสาเหตุที่ทำให้น้องชายต้องหนีจากไป เขาก็สลดลงอีกหน



“แต่ตอนก่อนที่เราจะจากกัน เราทะเลาะกัน บางที…วรินทร์อาจจะโกรธ…”



“ตอนก่อนจะจากกัน ทะเลาะกันก็จริง ตอนนี้อาจจะยังโกรธกันอยู่ก็จริง แต่พอได้พบหน้ากัน ได้คุยกัน ความรู้สึกพวกนั้นมันอาจจะจางลงก็ได้นะคะ ดิฉันเองคอยแต่จะโกรธพี่จันทร์อยู่เรื่อย แต่พอคิดว่าอย่างไรเขาก็พี่ สุดท้ายก็โกรธไม่ลง ถึงแม้พี่จันทร์จะก่อเรื่องบ่อยๆก็เถอะ” นายวินิตมองหญิงสาวด้วยสายตาที่ชื่นชม



“กลายเป็นว่าคุณดาราเป็นฝ่ายปลอบผมเสียแล้ว” เขาเอ่ยอย่างนึกเขิน หญิงสาวหัวเราะเบาๆ ดวงหน้าดูสดใสกว่าเมื่อครู่มากนัก



“เราช่วยกันปลอบต่างหากค่ะ”



หลังจากพูดคุยกันพักใหญ่ น้องสาวของนายวินิตก็ลงมาจากตึก และเมื่อนั้น นายวินิตจึงหันมาที่ดารารัศมีแล้วเอ่ยชวนด้วยไมตรีจิตอันดี



“คุณดารากลับพร้อมพวกเราไหมครับ”



“คะ?” หญิงสาวคิดว่าหล่อนหูฝาด แต่นายวินิตกลับมีทีท่าเก้อเขินแล้วถามย้ำอีกครั้ง



“คือ...ผมต้องผ่านหน้าบ้านของคุณ หากคุณจะกลับพร้อมพวกเรา ๒ คนพี่น้อง ผมก็ยินดีจะจอดรถส่งคุณที่หน้าบ้านครับ” ดารารัศมีเห็นว่าหล่อนไม่ได้ติดรถเขาเพียงลำพัง ยังมีวิชุดาน้องสาวของนายวินิตร่วมรถไปด้วย อีกทั้งเจ้าตัวก็เอ่ยปากเองว่าต้องผ่านหน้าบ้านรักษพิพัฒน์ หากหล่อนจะติดรถเขาไปก็คงไม่มีใครครหานินทา



“ก็ได้ค่ะ ต้องรบกวนคุณวินิตด้วย” แล้วหลังจากนั้น ดารารัษมีก็ขอตัวขึ้นไปหยิบกระเป๋าสพายสักครู่ แล้วจึงกลับลงมาขึ้นรถของนานวินิตออกจากโรงเรียนสตรีกัลยาณี



ตอนก่อนที่หล่อนจะลงหน้าบ้าน คุณครูสาวรับปากว่าหากเจ้าของรถนำอาหารจีนมาให้หล่อนชิมอีกครั้ง หล่อนจะไม่อคติเหมือนคราวก่อน เมื่อนั้นนายวินิตจึงขับรถออกจากหน้าบ้านรักษพิพัฒน์ไปอย่างอารมณ์ดี


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า)


เมื่อวานขอโทษจริงๆที่ไม่ได้มาลงตามที่นัดนะคะ


จะว่าไป ตอนบัวพิมพ์ บัวก็ว่าบัวพิมพ์ตอนคืนความสุขของหมอไปเมื่อนานมาแล้วนะ ทำไมมันยังไม่ถึงสักที ฮาฮา แต่หมอคงเข้าใจ จันทร์อยู่สูง ก็ต้องไขว่ต้องคว้าต้องใช้เวลาเป็นธรรมดา ไอ้จะได้มาง่ายๆ เดี๋ยวเขาจะหาว่าลูกชายบ้านนี้ไม่รักนวลสงวนตัว อิอิ แต่จริงๆแล้วคู่หมอกับจันทร์เขาไม่เคยหวานกันเลยนะ เขาคุยกันแมนๆตลอดดดดดด


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และขอโทษมากๆที่ทำให้ต้องรอกันนะคะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ


เจอกันพฤหัสหน้า ถ้าไม่มีงานหลวงงานราษฎร์เข้ามากะทันหันแบบสัปดาห์นี้ คิดว่ามาตรงเวลาแน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 22-01-2016 19:46:17
มายาวมากเลยยย ดาราพูดขนาดนี้แล้วพี่อาทิตย์จะทำไงต่อเนี่ย

ดารากับวินิตนี่ คุยกันดีๆแล้วด้วย  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๘ (๑๔ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๒)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-01-2016 19:53:25
อ่านแล้วรู้สึกกดดันมาก
ยิ่งตอนจันทร์คุยกับพ่อ แบบเข้าใจอารมณ์เลย
ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-01-2016 20:06:31
สงสารจันทร์กับคุณหมอ
อยากให้คุณพ่อเข้าข้างด้วยจัง
555555

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 22-01-2016 20:07:49
กลายเป็นดาราที่เข้าใจจันทร์จ้าวมากกว่าใคร

คราวนี้ ดารา ได้ออกเรือนก่อนพี่จันทร์แน่ๆ 

คุณหมอหล่อเลย มั่นคงมากๆ มีพี่น้องมันดีอย่างนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 22-01-2016 20:10:53
คุณวินิต  กับดารานี่ถ้าจะมาแรง หัวอกเดียวกัน 555555  สงสัยและคิดว่าพ่อของคุณจันทร์คงรับได้ ดูแล้วเป็นพ่อที่รักและเข้าใจลูกมากทีเดียว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-01-2016 20:13:05
ความรักแบบนี้ ยากจัง จันทร์กับหมอสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 22-01-2016 20:24:13
ขอให้พี่อาทอตย์เข้าใจจันทร์เร็วๆนะ เราอย่าให้หมอมีความสุข
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-01-2016 20:25:20
เฮ้อออ จารีตประเพณีสมัยก่อนนี้สุดๆจริงๆ การแต่งงานต้องเหมาะสมจริงๆถึงแต่งกันได้ แล้วนี้ยิ่งผู้ชายด้วยกันอีก ยิ่งแล้วใหญ่
ไม่รู้คนสมัยก่อนเขามีความสุขกันไหมนะ ที่อยู่กันด้วยความเหมาะสมไม่ใช่ความรัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 22-01-2016 20:42:42
 :o12: :o12:

สู้ ๆ นะคะ พี่จันทร์ กับ คุณหมอ ต้องฝ่าฝัันจับมือกันไปให้ได้ค่ะ

แสดงให้เค้าเห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของทั้งคู่ให้ได้นะคะ

ตอนนี้ยกให้ ดารารัษมี เป็น แมนออฟเดอะแมทซ์ ค่ะ

เท่ห์มาก ๆ #ทีมดารา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 22-01-2016 20:44:41

      เฮ้ออออ  >*<   จันทร์จ้าว  กะ คุณหมอ ต้อง สตรองงงงงงงง นะเจ้าคะ :เฮ้อ:
       

         เรื่องนี้คงต้องให้ท่านนายพลฯ  สนุบสนุน อย่างเป็นทางการแน่ๆ  :sad4:

   
        ยังดีนะ มีคู่รองมาผ่อนคลาย ให้หวานๆๆ บ้างง่ะ

       :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven[/color
]
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-01-2016 20:51:51
ดาราทำดีมาก พูดให้แง่คิดได้ดี หวังว่าพี่ชายคนใหญ่จะเห็นใจ
คุณพ่อก็ท่าทางใจดี อ่านแล้วน้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 22-01-2016 20:53:24
พี่น้องบ้านนี้รักกันอย่างน่าชื่นชม

ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็แนบแน่น จนแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สัมผัสได้

อยากให้ทุกครอบครัวเป็นแบบนี้จัง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-01-2016 20:55:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 22-01-2016 21:09:27
ว่าพี่อาทิตย์แมนแล้ว มาเจอคุณพ่อแป๊บเดียวออร่าความแมนยิ่งเจิดจ้าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 22-01-2016 21:14:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-01-2016 21:16:11
เอาใจช่วยจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 22-01-2016 21:33:51
คุณพ่อคุณจันทร์ดูเป็นความหวังนะ.. แต่คุณพ่อคุณหมอนี่ ดูจะสายดาร์คต้องให้คุณพ่อคุณจันทร์ไปเคลียร์ #มโนนำ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 22-01-2016 21:34:03
บ้านนี้เค้ารักกันดีจัง ดารารัษมีจะมีคนรักใช่ไหมเนี่ย ดีจัง :mew1: :mew1: สงสารหมอกับจันทร์ :mew4:   :mew4: :mew4:  สู้สู้ค่ะ อาทิตย์จะช่วยได้เปล่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 22-01-2016 21:42:10
 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 22-01-2016 22:05:45
กว่าจะได้มีความสุข
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 22-01-2016 22:08:02
เมื่อไหร่คุณจันทร์จะมีความสุขแบบยาวๆต่อสักที

แต่ดารากับคุณวินิตนี้ สานต่อใช่ม่ะ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 22-01-2016 22:30:46
ตอนนี้ดาราทำดีมากกกกกก รู้สึกดีใจแทนจันทร์จ้าวที่มีพี่น้องที่รักขนาดนี้คอยอยู่เคียงข้างนะคะ
สำหรับเรางานราษฎร์งานหลวงหนักไม่แพ้คุณบัวเลย เลยหายหน้าหายตาไปจากการเม้นหลายตอน ; _ ;
คือได้แตะคอมวันนึงไม่ถึงสิบห้านาทีเลยค่ะ เลยไม่ได้เข้ามาเม้นให้เลย (แต่ก็ตามอ่านอยู่เรื่อยๆนะคะ T T)
สำหรับคำผิดตอนนี้
ล่ำลา - อันนี้ปกติเราใช้ว่าร่ำลา แต่ไม่ค่อยแน่ใจ ยังไงรบกวนดูๆอีกทีนะคะ (_ _)
พี่อาทิตน์ - อาทิตย์
นั่งบบเก้าอี้ - บน
ควาตระหนก - ความ

สงสารคุณหมอกับคุณจันทร์เบาๆ ไม่รู้ฝั่งคุณหมอจะเป็นยังไงบ้าง สองบ้านถึงกับร้อนระอุเดือดปุดๆจนคุณท่านออกโรงเองกันหมด
ชอบคุณพ่อพี่จันทร์นะคะ ดูเป็นแนวนิ่งๆขรึมๆดี ส่วนคุณพ่อคุณหมอ คือเราก็เข้าใจนะ เข้าใจทุกอย่างทุกคนเลยแหละ
ไม่คิดโกรธใครเลยเพราะทุกคนทำไปโดยมองเห็นมุมตัวเอง มองในแง่ขอตัวเองเลยกลายเป็นแบบนี้อ่ะค่ะ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณหมอคุณจันทร์น้า อยากให้กลับมาสวีทกันเหมือนเดิมแล้วค่ะ น้ำตาลในเลือดต่ำ ~ ; - ;
สู้ๆค่ะคุณบัว  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: sulsul ที่ 22-01-2016 22:31:33
เริ่มรู้สึกเข้าใจพี่อาทิตย์กับดาราแล้ว
เพราะระกมาก รักจันทร์มาก  ถึงกลัวมาก ถ้าเกิดความรักของจันทร์ทำจันทร์เจ็บ
อาจมีความรุ้สึกไม่เหมาะสมอยู่บ้าง แต่ทั้งหมดคคือความกลัว ความรุ้สึกของคนที่รักจะเสียไป
ทั้งจันทร์ ทั้งพ่อ แม่ หวังว่าจะเข้าใจกันผฝโดยเร็ว

ส่วนดาราหรือจะดองกับคุณวินิตซะแล้ว ออกมาเป็นจอมกรือเปล่าน้า 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 22-01-2016 22:37:51
พี่อาทิตย์เป็นตัวจริงเสียงจริงจริงๆ ด้วยนะคะ สงสารคุณจันทร์กับหมอภวัตจังเลย

แต่ก็เข้าใจพี่อาทิตย์นะคะ :)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 22-01-2016 22:43:35
ถ้าเป็นยุคปัจจุบัน ทางออกคงง่ายกว่านี้มาก
รักตัวละครในเรื่องนี้ทุกคนเลย
สำนวนนี่เนียนมาก เหมือนเรื่องที่เขียนในยุคนั้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 22-01-2016 22:52:03
แต่กลายเป็นเราชอบนะคุยกันแมนๆเรียลๆดี
ไม่หวานจนเลี่ยนไป ขนาดตอนที่จูบเรายังคิดเลยว่าคนสมัยก่อนนี่ใจด่วนขนาดนี้เลยเหรอ จูบกันซะละ
...
รอตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-01-2016 23:06:38
โอ้ยยย! เป็นคู่ๆ แต่ปวดหัวหลายคู่เลย ว่าแต่คุณพงศ์จะมีแฟนมั้ยน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 22-01-2016 23:11:51
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาแทบไหล รู้สึกถึงความกดดัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnon04 ที่ 22-01-2016 23:16:58
ท่าบอสใหญ่จะเป็นคุณพ่อของคุณหมอเสียแล้ว   

รอตอนจันทร์คืนความสุขให้คุณหมออยู่นะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 22-01-2016 23:27:51
พ่อจันทร์สู้เขา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 22-01-2016 23:36:20
ไม่มีอะไรจะบอกนอกจากคำว่าต้องใช้สติแก้ปัญหา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 22-01-2016 23:44:55
สตรองนะคะคุณหมอคุณจันทร์ สู้ๆๆๆๆ
อุปสรรคเยอะมาก รักก็มากด้วยเช่นกันนะคะ
ดารากับนายวินิตน่ารักอ่ะ 5555 ลดกลิ่นดราม่าหึ่งๆ ได้เยอะเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkypromise ที่ 23-01-2016 00:01:30
ตอนนี้ยาวจริง กดดันมากกกกกกก เครียด สงสาร

ปลดล็อกด่านแล้วด่านเล่า แต่ก็ดูยังเหลืออีกหลายด่าน เหนื่อยแทน

จันทร์กับคุณหมอ สู้ๆๆๆๆ

นี่ได้คู่ขวัญใหม่มาดับดราม่านิดนึง 55555555+
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 23-01-2016 00:25:16
มาต่อแล้วรอข้ามวันอ่านข้ามคืนกันเลยทีเดียว

คู่หมอภวัตกับจันทร์ดูเป็นคู่ที่มีอุปสรรคเยอะดี แต่ก็ทำให้เห็นถึงความมั่นคงในรักของทั้งคู่

ดูท่าดาราจะคู่กับคุณวินิตซะแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 23-01-2016 02:08:15
มีคู่รองเข้ามาน่ารักดี นายวินิตเขินเชียว สงสารหมอกับจันทร์ อุปสรรคเยอะจริง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 23-01-2016 07:13:38
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็
จันทร์กับคุณหมออย่าท้อนะ
สู้ให้ทุกคนเห็นถึงความรักของทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 23-01-2016 09:38:56
สู้ๆๆนะคุณหมอ พี่จันทร์ อย่าปล่อยมือจากกัน :n1:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 23-01-2016 10:34:19
คุณวินิตเริ่มจีบดาราแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-01-2016 11:35:17
คุณหมอกับจันทร์สู้ๆนะ ทุกคนจะต้องยอมรับและเข้าใจ
ขอให้มั่นคงกับความรู้สึกเข้าไว้
ดารากับวินิตคงจะเป็นอีกคู่ที่น่ารัก
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 23-01-2016 12:00:08
พี่อาทิตย์ได้โปรดเปิดใจด้วยเถอะค่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 23-01-2016 12:14:48
ดาราเริ่มกลับมาน่ารักแล้วซี

โถๆๆ คุณพงศ์หายไปดูที่ทางนานเหลือเกินค่ะ มาช่วยคุณจันทร์เร็ววว (เอาจริงคือเราคิดถึงคุณพงศ์ผู้น่ารัก 5555)

ชอบคำพูดของคุณพ่อของจันทร์ ...
จันทร์ไม่ได้ตัวคนเดียว นอกจากพี่น้องแล้วยังมีพ่ออีกคน คือมันอบอุ่นมากเลยค่ะ แล้วยังจะคำสอนของคุณพ่ออีก ที่ว่าพี่น้องต้องรักกัน มีอะไรต้องช่วยเหลือกัน หูยยยย นี่อยากชูป้าย FC คุณพ่อมากๆๆ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 23-01-2016 13:12:09
พี้อาทิตย์แอบใจร้าย
อยากให้เข้าใจพี่จันทร์กับคุณหมอบ้าง
ต้องใช้เวลาสินะ
จะทีอัศวินคนไหนออกมาช่วยบ้าง
คุณพ่อพี่จันทร์ล่ะคะ ดาราด้วย


คุณวินิตจะจีบดารามั้ยน่าา
ขายออกๆ

ขอคิงืนความสุขให้หมออาทิตย์หน้าเลยได้มั้ยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 23-01-2016 13:43:49
ดาราน่ารัก
พี่น้องทั้งสี่คนมีคนมาดูแลก็ดี
พ่อแม่จะได้เบาใจ ???
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 23-01-2016 15:13:34
อ่านถึงตอนที่คุณพ่อเรียกพบพี่จันทร์ อ่านไปอ่านมา น้ำตาหยด
ความรักของพ่อกับแม่ ความห่วงใยของพี่น้อง สำคัญเสมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 23-01-2016 15:49:24
บางทึก็คิดว่าจันทร์ดื้อเกินไป :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 23-01-2016 16:11:54
อาทิตย์เหมือนดาราตอนแรกๆที่รู้เรื่อง
พี่น้องได้คุยกันแต่ไม่รู้ว่าอาทิตย์จะทำใจได้แค่ไหน
แล้วที่คุณพ่อต้องหาข้อมูลเองนี่ อ่านแล้วเสียวสันหลังวาบ
ขอให้ใครๆก็เข้าใจจันทร์กับคุณหมอด้วยเถอะ
รออ่านตอตต่อไปค่ะ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: niza59 ที่ 23-01-2016 23:43:21
น่ากลัวตรงที่ว่าคุณพ่อจะไปแอบสืบเองนี่สิ
พี่อาทิตย์ยอมจันทร์เจ้าเถอะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-01-2016 12:14:28
้เป็นตอนที่ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของความรักเยอะขึ้นมาก


 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 24-01-2016 12:19:21
เง้ออออ พี่อาทิตย์ใจร้ายอ่ะ ไม่สงสารคุณจันทร์บ้างเลยหรือ
คุณจันทร์น่าสงสารนะ ดูสิ ไม่ค่อยยิ้มแถมไม่ขี้เล่น เอาแต่ใจเหมือนเดิมเลย
พี่อาทิตย์ใจอ่อนไวไวนะ พี่น้องต้องรักกัน ไม่ทะเลาะกันแบบที่ดาราบอกอ่ะ

แต่แบบรู้ว่ายังไงคุณหมอกันคุณจันทร์จะต้องผ่านมันไปได้แน่นอน
ลึกๆในใจก็อยากจะให้คุณจันทร์สารภาพกับคุณพ่อไปเลย ว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะอย่างน้อยท่านก็จะได้รู้เรื่องราวจากปากของเรา ดีกว่ามารู้เพราะคนอื่นในตอนหลัง
คิดแบบนั้นจริงๆนะ แต่ก็เข้าใจแหละ มันเป็นเรื่องยากที่จะพูดออกไป

ส่วนตอนนี้ คุณหมอทำคะแนนมาก!!! เท่ห์อ่ะ ไม่แต่งคือไม่แต่ง สุดๆ มีจุดยืน
ก็ต้องรู้ต่อว่าคุณพ่อของคุณหมอจะทำอย่างไร คุณภาคก็บอกจะช่วยคุณหมอเรื่องความรัก
นึกหน้าไม่ออกจริงๆถ้ารู้ว่าคนที่คุณหมอรักคือคุณจันทร์เนี่ย จะทำหน้าอย่างไง 555+

รอนะ รอ อยากให้ถึงวันพฤหัสบดีเร็วๆจัง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 24-01-2016 14:55:33
พี่อาทิตย์ใจอ่อนเร็วๆนะ
ปล่อยให้จันทร์ได้เจอคุณหมอสักที
อยากเห็นโมเม้นของคู่นี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 26-01-2016 15:08:47


ง่า... เรื่องราวมันชักจะยุ่งไปกันใหญ่แล้วสิเนี่ย
พ่ออาทิตย์นะพ่ออาทิตย์ จะไม่ปล่อยให้น้องได้ลองผิดลองถูกลองเป็นรับดูเสียหน่อยเหรอ?
เกิดคุณพ่อไปตามสืบแล้วได้เรื่องขึ้นมา งานหนักจะไม่เข้าพ่อจันทร์ของหมอกันพอดีหรือลูก?
โอ๊ยย! อยากอ่านตอนต่อไปมาก อยากให้มาม่าชามนี้ผ่านไปเร็ว ๆ ที่สุดเลย!!

เป็นกำลังใจให้ และรอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^  :pig4:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: snowtoy ที่ 26-01-2016 17:05:17
 :sad4: :o12:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-01-2016 17:25:19
ถ้าพี่อาทิตย์ไม่อยากอยู่แบบเศร้าๆ อย่างคุณวินิตที่ทะเลาะกับน้องชายด้วยเหตุผลเดียวกันนี้เลยก็ใจอ่อนให้จันทร์จ้าวและคุณหมอไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๑๙ (๒๒ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๔)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 27-01-2016 22:50:53
คุณพ่อจะสืบเองแล้วถ้าได้เรื่องมาแล้วจะเป็นยังไงเนี่ย
ส่วนดาราตอนนี้พูดดีมากๆ และท่าจะเข้ากันได้ดีกับนายวินิตด้วยนะเนี่ย
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 28-01-2016 19:38:10
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๒๐


   ‘บางครั้ง...เราก็ทำตามความถูกต้องไม่ได้ เพราะมีบางอย่างที่สำคัญกว่า’



คำพูดของดารารัศมียังคงดังก้องอยู่ในหัว ไม่ว่ายามนั้นอาทิตย์จะทำสิ่งใดอยู่ เรื่องของจันทร์จ้าวและหมอภวัตก็มักจะเข้ามาวนเวียนอยู่เนืองๆ ทุกวันนี้จันทร์จ้าวย้ายกลับมานอนที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์แล้ว ตอนเช้า เขาจะเป็นคนพาไปส่งที่สำนักงาน ส่วนตอนเย็นก็เป็นเขาอีกเช่นกันที่แวะไปรับกลับ นายทหารหนุ่มไม่ได้ยินเสียงจากเหล่าเพื่อนพ้องว่าพบเจอจันทร์จ้าวอยู่กับหมอภวัตอีก รวมถึงท่าทีนิ่งเฉยไม่พูดไม่จาของน้องชายก็พอจะบอกได้เลาๆว่าวิธีการของเขาทำให้คนทั้งคู่ไม่ได้พบเจอกันเลย


...สิ่งที่เขาทำคือความถูกต้อง บุรุษเพศ ๒ คนไม่อาจคบหากันในเชิงพิศวาสเช่นนั้นได้ ยิ่งโดยเฉพาะฝ่ายหนึ่งคือน้องชายของเขาด้วยแล้ว ถึงแม้จันทร์จ้าวจะไม่ใช่ความหวังของบิดามารดา แต่ก็เป็นดังแก้วตาดวงใจ หากเรื่องพรรค์นี้รู้ถึงหูท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกา อาทิตย์ก็มองเห็นแต่ความพินาศปรากฏขึ้นมาตรงหน้า...


“อาทิตย์...อาทิตย์...” เสียงเรียกดังขึ้นซ้ำๆ ๒-๓ ครั้งแต่จนเจ้าของชื่อรู้สึกตัว และเมื่อนั้นนายทหารหนุ่มจึงเพิ่งสังเกตว่าที่โต๊ะทำงานของเขา มีเพื่อนนายทหารยืนล้อมอยู่หลายคน


“เป็นอะไรไปน่ะ เรียกตั้งนานก็ไม่ตอบ”


“ไม่ได้เป็นอะไร...ว่าแต่...มีอะไรกันหรือ” อาทิตย์ก้มหน้าพูดอ้อมแอ้มแล้วทำเป็นหยิบจับเอกสารบนโต๊ะทำงานของตนขึ้นมาดู


“จะมีอะไร ท่านนายพลศักดิ์เรียกหาแหน่ะ” เพียงเท่านั้นคนที่กำลังทำเป็นสนใจเอกสารก็ถึงกับเงยหน้ามองคนพูดทันที


“ว่าอย่างไรนะ?!”


“ก็บอกว่าท่านนายพลศักดิ์ วิชาญโยธินเรียกคุณอาทิตย์เข้าพบน่ะซี”


“เรื่องอะไร ทราบไหม” เขาถามด้วยหัวใจหวั่นวิตก เกรงว่าเหตุที่ผู้เป็นนายของตนเรียกพบ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของหมอภวัตและจันทร์จ้าว


“ไม่ทราบหรอก เห็นท่านพูดว่ามีเรื่องจะถามสักหน่อย” หัวใจของอาทิตย์หล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มด้วยความตกตะลึง เกือบจะนั่งตาค้างอยู่ที่เดิมแล้ว หากไม่ใช่เพราะเพื่อนร่วมแผนกที่เป็นคนมาตามเขาไปพบนายพลศักดิ์ วิชาญโยธินกระตุ้นเขาอีกครั้งเสียก่อน เมื่อนั้นวัวสันหลังหวะที่ชื่ออาทิตย์ รักษพิพัฒน์จึงยอมลุกจากโต๊ะเดินตรงไปยังห้องทำงานของผู้เป็นนายด้วยหัวใจหวาดหวั่นยิ่งกว่าเส้นทางเบื้องหน้าจะนำพาไปเขาไปสู่นรกเสียอีก

......................................

   อาทิตย์ไม่เคยหวั่นใจในการเข้าพบนายครั้งใดเท่าครั้งนี้มาก่อน นายพลศักดิ์ วิชาญโยธินถือว่าเป็นนายโดยตรงของเขา หนำซ้ำไปกว่านั้น ยังเป็นบิดาของนายแพทย์ภวัต วิชาญโยธินผู้ซึ่งกำลังมีเรื่องลักลอบคบหากับน้องชายของเขาอย่างผิดทำนองคลองธรรมอีกด้วย


   ...หากว่าท่านนายพลทราบเรื่องนี้ และนำเรื่องนี้มาถามย้ำกับเขาเพื่อขอข้อเท็จจริง เขาควรจะทำเช่นไรดี?! เขาควรจะตอบตามตรงหรือไม่ว่าคนทั้ง ๒ คบหากันจริง แต่เวลานี้เขาได้ทำการแยกออกจากกันแล้ว แล้วถ้าหากภายภาคหน้าจันทร์จ้าวดื้อแพ่งกลับไปคบหากับหมอภวัตอีกเล่า? เขาจะให้สัญญากับท่านนายพลได้อย่างไร ในเมื่อคนอย่างจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์น้องชายของเขานั้นเป็นบุคคลผู้ซึ่งอยู่นอกเหนือความคาดหมายเป็นที่สุด!!...


   “...ว่าอย่างไร อาทิตย์ เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร...” ท่านนายพลผู้นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ถามย้ำอีกครั้ง และเมื่อนั้นอาทิตย์จึงเพิ่งรู้สติ


   “เอ่อ...”


   “อ้าว อ้ำอึ้งเสียอีก อะไรกัน หรือว่าไม่อยากแต่งเสียแล้วล่ะ” นายพลศักดิ์ถามพลางยิ้ม


   “แต่ง?...”


   “ก็แต่งงานน่ะซี! ฉันทราบเรื่องแล้ว วันนี้ไปพบคุณชายฉัตรมา ท่านปรึกษาเรื่องจ้างช่างรับเหมามาปรับปรุงตึกเป็นเรือนหอให้อย่างไรล่ะ ไม่มีบอกกล่าวล่วงหน้ากันเลยนะ อาทิตย์ นี่ถ้าฉันไม่ทราบจากคุณชายในวันนี้ ฉันคงทราบอีกทีก็วันงานของเธอกระมัง”


   “อ้อ...ครับ...เอ่อ...คือ...ขอประทานโทษครับท่าน ทางคุณแม่ยังไม่ได้ดูฤกษ์ ผมก็เลยยังไม่ได้บอกใครครับ...”


นายพลศักดิ์มองชายหนุ่มคราวลูกเบื้องหน้าแล้วก็ยิ้มอย่างเมตตา อาทิตย์เป็นทหารใต้สังกัดของท่านมานาน เห็นตั้งแต่เมื่อครั้งเข้ามาเป็นทหารใหม่ๆ มาบัดนี้กำลังจะแต่งงานมีครอบครัวเสียแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจ


   “ฉันดีใจด้วย เธอกับคุณพิมเหมาะสมกันเหลือเกิน”


   “ขอบพระคุณครับ”


   “เฮ้อ...เห็นเธอแต่งงานมีครอบครัวอย่างนี้ ฉันก็อยากจะให้ลูกชายของฉันแต่งงานบ้างจริง แต่น่าเสียดาย ภวัตที่คิดว่าน่าจะยอมแต่งโดยง่าย จู่ๆก็กลับไปพูดกับฉันที่บ้านว่าอย่างไรก็จะไม่แต่ง ส่วนนายเภา...รายนี้มาแปลก จู่ๆก็นึกอยากจะแต่งงานขึ้นมาทั้งๆวันนี้เที่ยวเล่นกับผู้หญิงคนหนึ่ง อีกวันก็ไปกับอีกคนหนึ่ง เถลไถลไปเรื่อย นี่ฉันยังหวั่นใจอยู่ ถ้าเกิดไปสู่ขอใครมาเป็นเมียให้ลูกคนนี้ เกรงว่าจะถูกพ่อแม่ฝ่ายสะใภ้ถอนหงอกเอาตอนแก่” ท่านนายพลพูดยืดยาว แต่กระนั้นอาทิตย์กลับหยุดชะงักที่ประโยคแรกๆของชายวัยปลาย


   ‘…ภวัตที่คิดว่าน่าจะยอมแต่งงานโดยง่าย จู่ๆก็กลับไปพูดกับฉันที่บ้านว่าอย่างไรก็จะไม่แต่ง...’


   “คุณหมอ...จะไม่แต่งงานหรือครับ”


   “ใช่ น่าตกใจใช่ไหมล่ะ ฉันก็ไม่คิดมาก่อนว่าภวัตจะพูดกับฉันเช่นนั้น ภวัตไม่เคยปฏิเสธความต้องการของฉัน จนกระทั่งวันนั้นที่กลับไปบ้าน ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าน่าแปลก เพราะเห็นว่าที่โรงพยาบาลงานเยอะพอดู ก็เลยมักจะนอนค้างที่บ้านพักที่นั่น แต่จู่ๆวันนั้นก็กลับไป คงตั้งใจจะไปพูดเรื่องไม่แต่งงานกับฉัน แต่...ทำไมอยู่ดีๆภวัตถึงตั้งใจพูดเรื่องนี้กับฉันก็ไม่ทราบ เธอพอจะรู้อะไรมาบ้างไหมล่ะ อาทิตย์ ไม่สิ...ต้องถามน้องเธอใช่ไหม เห็นแต่ก่อนพวกหน้าห้องฉันคุยกันว่าเจอน้องเธอกับภวัตตีเทนนิสด้วยกันบ่อยๆ”


   พอพูดเรื่องน้องชายของอาทิตย์ขึ้นมา ก็ทำเอาคนถูกถามถึงกับหายใจลำบากขึ้นมาอีกหน


   “เอ่อ...ผมว่า...ตอนนี้คงจะ...ไม่สนิทกันแล้วครับ ช่วงนี้...น้องชายของผมเขาไม่ค่อยไปเที่ยวเล่นที่ไหน”


   “อ้าว อย่างนั้นหรือ? น่าเสียดาย เห็นว่าก่อนหน้านี้สนิทกับภวัตพอดู ฉันก็ยังแปลกใจว่ามีคนสนิทกับลูกชายฉันได้ขนาดนี้เชียว ภวัตน่ะแปลกมาแต่เล็ก เขาไม่ค่อยสนิทกับใครง่ายๆ ถึงจะเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดีก็เถอะ” อาทิตย์ไม่ได้พูดกระไร เขาไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของภวัตมากไปกว่านี้ เพราะรู้ดีแก่ใจว่าเหตุใดภวัตจึงพูดเรื่องไม่แต่งงานกับท่านนายพล


   ...แต่เพราะเรื่องคบหากับจันทร์จ้าวเท่านั้นน่ะหรือ ภวัตจึงยอมทำถึงเพียงนี้...เพราะการคบหาอย่างผิดทำนองคลองธรรมและไม่มีทางยืดยาวอย่างนี้น่ะหรือ ภวัตถึงกับกล้าพูดว่าจะไม่แต่งงาน...ทำไมถึงได้กล้าพูดเรื่องเช่นนั้น ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างหมอภวัตและจันทร์จ้าวไม่มีทางเป็นไปได้!!...


   “อาทิตย์ เป็นอะไรไป” ท่านนายพลเห็นสีหน้าไม่สู้ดีและเต็มไปด้วยคำถามมากมายของผู้เป็นลูกน้องที่ยืนอยู่อีกฝั่งของโต๊ะก็ตั้งคำถามด้วยความห่วงใย


   “ไม่ได้เป็นอะไรครับ...เอ่อ...แล้ว...ท่านคิดจะบังคับ...คุณหมอ...ให้แต่งงานไหมครับ” อาทิตย์ถามตะกุกตะกัก ท่านนายพลนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้


   “คิด” คำตอบของท่านทำเอาคนถามชะงัก ทว่าพอเขาเหลือบตามองใบหน้าของท่านนายพล ท่านกลับส่งยิ้มจางให้เขา


   “ตอนแรกที่ได้ยินว่าจะไม่แต่งงาน ฉันยอมรับว่าโกรธ ตอนนี้ก็ยังโกรธ หน้าที่ของลูกผู้ชาย นอกจากบวชทดแทนคุณพ่อแม่ ก็ต้องแต่งงานมีลูกหลานสืบสกุลจึงจะเรียกว่าสมกับที่เกิดมา ภวัตบวชแล้วเหลือก็แต่แต่งงาน ทำไมถึงไม่อยากแต่งฉันก็ไม่เข้าใจ อ้ายที่อ้างว่าไม่มีเวลาก็ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย ถามหน่อยเถอะพ่ออาทิตย์ เคยคิดจะไม่แต่งงานบ้างไหม”


นายทหารหนุ่มคราวลูกมีท่าทีอึกอัก ด้วยเพราะไม่รู้จะพูดเช่นไร หากเขาตอบว่าไม่เคยคิดจะไม่แต่งงาน ก็จะกลายเป็นพุ่งเป้าไปที่ภวัตโดยตรง และอาจทำให้ท่านไขว่คว้าหาคำตอบว่าเหตุใด นายแพทย์หนุ่มจึงไม่คิดจะแต่งงาน แต่หากตอบว่าเคยคิดจะไม่แต่งงานเช่นเดียวกัน ก็จะกลายเป็นว่าเขาเห็นด้วยกับภวัต และอาจทำให้ท่านนายพลยอมปล่อยให้นายแพทย์หนุ่มผู้นั้นมีชีวิตโสดตามที่ร้องขอ


   “อ้าว กลายเป็นเงียบไปเสียแล้ว อย่าบอกเชียวว่าเคยคิดจะไม่แต่งงานเหมือนพ่อภวัตอีกคน จนกระทั่งมาเจอกับธิดาของท่านชายฉัตรก็เลยตัดความคิดนี้ออกไปได้” นายพลเดชหยอก


   “...ถ้า...เอ่อ...ถ้าคุณหมอพบคนที่ถูกตาต้องใจ...บางที...คุณหมออาจจะนึกอยากแต่งงานขึ้นมาก็ได้นะครับ”


   “ก็แล้วแต่เขาเถอะ ฉันไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับชีวิตเขา แค่เรื่องเพี้ยนของนายเภาที่อยากจะแต่งงานก็ทำให้ฉันวิ่งวุ่นจะแย่ ลูกคนนี้สมกับเป็นลูกคนเล็ก อยู่ๆก็ขอแต่งงาน พอถามว่าจะแต่งกับใครก็บอกไม่ทราบให้พ่อแม่เป็นธุระให้ ฉันก็เลยไปพบคนนั้นคนนี้เยอะแยะไปหมด ช่วงนี้เลยปล่อยให้ภวัตตัดสินใจไปก่อนร บางทีเห็นน้องแต่งก็อาจจะอยากแต่งขึ้นมาบ้าง จริงไหม”


   “แล้ว...ถ้าคุณหมอยังยืนยันคำเดิม...”


   “ก็จะไปบังคับได้เสียที่ไหน แต่ก่อนฉันเคยเกริ่นให้เขาเป็นทหาร เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วขอเรียนโรงเรียนแพทย์ อ้ายฉันก็เห็นว่าเป็นหมอก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยยอมปล่อย หากรู้แต่แรกว่าเรียนแล้วต้องทำงานหนักจนกลายเป็นข้ออ้างให้ไม่แต่งงานอย่างนี้ ฉันคงไม่ยอมหรอก”


   “นั่นซีครับ หากรู้ทุกอย่างแต่แรก ก็คงจะดี...” หากอาทิตย์รู้แต่แรกว่าน้องชายกลับมาเมืองไทยแล้วจะได้มารู้จักคบหากับภวัต เขาคงทำทุกวิถีทางให้จันทร์จ้าวอยู่อเมริกาต่อไป อย่างน้อยๆก็จนกว่าภวัตจะแต่งงานเสียก่อน แล้วเขาจึงจะยอมให้น้องชายกลับมา แต่...เรื่องมันผ่านมาแล้ว จันทร์จ้าวกลับมาแล้ว และได้พบกับภวัตแล้ว หนำซ้ำคนทั้ง ๒ ยังคบหากันอย่างไม่ถูกไม่ควรอีกด้วย


   ...หากเขารู้แต่แรก แค่เพียงรู้แต่แรก...เขาจะไม่ยอมให้เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเลย...


   “วันนี้พ่ออาทิตย์ดูแปลกพิกล เป็นอะไรไป หน้าตาดูอทุกข์ไม่เหมือนคนจะแต่งงาน” เพราะเป็นนายของอาทิตย์มานาน ความคุ้นเคยทำให้ท่านนายพลมองเห็นความผิดปกติบนสีหน้าของชายหนุ่ม


   “ไม่ได้เป็นอะไรครับ คงเพราะพักนี้มีเรื่องให้คิดมาก จึงไม่ค่อยได้พักผ่อน”


   “คงเป็นเรื่องแต่งงานล่ะซี คนจะแต่งงานก็ต้องมีเรื่องแยะเป็นธรรมดา ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยก็ขอให้บอก เธอก็เหมือนลูกฉันคนหนึ่ง งานแต่งของเธอทั้งที ฉันก็อยากมีส่วนร่วมบ้าง แล้วถ้ามีฤกษ์เมื่อไร ต้องบอกฉันเป็นคนแรกๆล่ะ ฉันไม่อยากจะรู้จากปากคนอื่นหรอกนะ” ท่านนายพลหยอกอย่างเอ็นดูชายหนุ่มเบื้องหน้า อาทิตย์ค้อมศีรษะรับคำและขอตัวออกจากห้องไป ท่านนายพลมองตามจนกระทั่งบานประตูปิดลงแล้วก็รู้สึกแปลกประหลาดกับท่าทีพิกลของอีกฝ่าย


   ...คนที่กำลังจะมีข่าวดีเรื่องคู่ครองในไม่ช้า เหตุใดจึงมีสีหน้าคิดไม่ตกถึงเพียงนี้หนอ...
.........................................


   อาทิตย์คิดไม่ตกจริงอย่างที่ท่านนายพลคิดเอาไว้ เพราะเขากลับไปนั่งทำงานต่ออย่างใจลอย และในที่สุดเมื่อถึงเวลาพักกลางวัน เขาก็ขอตัวกับเพื่อนร่วมงานโดยให้เหตุผลว่าจะออกไปทำธุระและจะกลับมาในตอน ๑๓ นาฬิกา


   ชายหนุ่มในเครื่องแบบทหารขับรถโฟล์คสีดำของตนเองออกจากกรม จุดหมายปลายทางคือโรงพยาบาลใหญ่ใกล้บ้านของเขานั่นเอง เขาดับเครื่องแล้วอยู่ในรถทั้งอย่างนั้นด้วยเพราะคิดไม่ตกว่าตนเองขับรถมาที่นี่เพื่ออะไร


   ...เพื่อมาพูดกับหมอภวัตอย่างนั้นหรือ? เขาต้องการพูดอะไรกับหมอภวัต? ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการจะพูด เขาก็พูดไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อครั้งพบเห็นความจริงที่วังฉัตร...


   ‘ผมไม่มีวันปล่อยให้เรื่องบ้าๆนี่เกิดขึ้นในชีวิตน้องของผม!!’


   เขาจำได้ดีว่าตนเองไม่ได้ตวาด ไม่ได้โวยวาย แต่พูดด้วยความรู้สึกกดดันมากที่สุดในชีวิต ท่าทีของหมอภวัตในวันนั้นก็เช่นกัน ต่างฝ่ายต่างเก็บกักอารมณ์โมโหร้ายเอาไว้ ไม่มีใครระเบิดความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงออกมา แต่สุดท้ายการเจรจาก็ล้มเหลว หมอภวัตผู้ที่เขาเคยคิดว่ารู้จักผิดชอบชั่วดีกลับพูดจาชัดถ้อยชัดคำว่าจะไม่เลิกกับจันทร์จ้าวเป็นอันขาด หนำซ้ำยิ่งไปกว่านั้น ยังไปบอกกับท่านนายพลศักดิ์ วิชาญโยธิว่าจะไม่แต่งงานเสียอีก


   อาทิตย์ได้แต่เอนศีรษะพิงเบาะอย่างหมดหนทาง ทว่าไม่ทันตัดสินใจว่าจะทำเช่นไรต่อไปดี สายตาก็เหลือบไปเห็นสามล้อคันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าตึกโรงพยาบาล ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่เขาคุ้นตาดีก้าวเท้าลงจากรถแล้วส่งเงินให้กับคนรับจ้าง นายทหารหนุ่มเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึง ไม่คิดว่าจะได้พบที่นี่


   ...จันทร์จ้าว!!!...


   ...จันทร์จ้าวมาที่นี่ทำไม!!!...


   วูบแรกเขาคิดว่าน้องชายอาจจะมาเยี่ยมใคร แต่วูบต่อมา อาทิตย์คิดว่าจันทร์จ้าวมาที่นี่เพื่อแอบลักลอบมาพบหมอภวัต!!!


   เขารีบลงจากรถ หมายจะเดินไปฉุดกระชากน้องชายออกจากโรงพยาบาล ทั้งเช้าและเย็น เขาอุตส่าห์เทียวส่งเทียวรับ แต่เจ้าตัวก็ยังหาเรื่องแอบมาหาหมอภวัตในตอนกลางวันอย่างนั้นหรือ!!!


   ความรู้สึกโกรธเกรี้ยวที่มีต่อน้องชายพุ่งปะทุจนเขาเกือบจะก้าวเท้าอาดๆเดินเข้าไปหาแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะทันสังเกตเห็นว่าจันทร์จ้าวลงจากรถสามล้อแล้วก็เดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าตึก ทว่ากลับไม่เดินเข้าไปข้างใน


   ...นั่นน้องชายของเขากำลังทำอะไร?...


   อาทิตย์งุนงง และเพราะความสงสัย ทำให้เขาถอยกลับมายืนหลบอยู่ที่รถโฟล์คของตนตามเดิม


   เขายืนจับสังเกตพฤติกรรมแปลกพิกล จันทร์จ้าวยังคงยืนอยู่ที่ทางเข้าตึกของโรงพยาบาล มองชะเง้อเข้าไปภายในราวกับรอคอยอะไรบางอย่าง ตอนแรกอาทิตย์คิดว่าน้องชายของเขาคงนัดหมอภวัตออกมาเจอ แต่นี่คือหน้าตึกโรงพยาบาล หากจะนัดออกมาเจอกันอย่างหลบๆซ่อนๆ ก็ควรจะหาที่นัดที่หลบลี้สายตาคนมากกว่านี้ ไม่ใช่หน้าประตูตึกใหญ่ที่มองเห็นทุกคนภายในโถง


   ...มองเห็นทุกคนอย่างนั้นหรือ?...


   นายทหารหนุ่มเหมือนจะฉุกใจขึ้นมาได้ หากว่าการยืนมองจากหน้าประตูทางเข้าตึกจะทำให้เห็นผู้คนทั้งหมดในโถงของโรงพยาบาล ถ้าจันทร์จ้าวต้องการเห็นหน้าใครสักคน เขาก็ควรจะยืนอยู่ตรงนั้น เพราะจะทำให้มองเห็นทั้งคนไข้ ทั้งพยาบาล และบางที...อาจรวมถึงหมอที่ออกจากห้องตรวจด้วย


   อารมณ์โกรธที่มีต่อน้องชายมลายสิ้นเมื่อตระหนักได้ว่าคนที่กำลังยืนหลบอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าตึกโรงพยาบาลนั้น ทำเพียงแค่ชะเง้อคอมองสอดส่องเข้าไปในโถง แต่กลับไม่ก้าวเท้าเดินเข้าไปในนั้น เขาเห็นจันทร์จ้าวผู้กำลังชะเง้อคอมองยืนอยู่ตรงนั้นเป็นนาน จนกระทั่งสุดท้ายก็ทำได้เพียงยิ้มจางกับตนเองอย่างเศร้าสร้อยแล้วจึงหมุนตัวเดินกลับออกไปจากโรงพยาบาล


   อาทิตย์ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองเห็นนับตั้งแต่น้องชายลงจากสามล้อ มายืนชะเง้อคอมองที่หน้าประตูทางเข้าตึกโรงพยาบาล จนกระทั่งเวลาผ่านไปเป็นนาน เจ้าตัวถึงได้ยอมเดินกลับออกไปโดยไม่อยู่พบหน้าพบตาใครบางคนเสียก่อน หัวใจของผู้เป็นพี่ที่เคยร่ำร้องว่าครั้งนี้จะต้องไม่ตามใจจันทร์จ้าวให้เดินทางผิดถึงกับไหวยวบด้วยเพราะไม่เคยพบเห็นน้องชายของตนในลักษณะเช่นนี้มาก่อน เขาเปิดประตูกลับขึ้นไปนั่งบนรถ พอเหลือบมองนาฬืกาถึงได้พบว่าเป็นเวลาเกือบจะ ๑๓ นาฬิกาแล้ว จึงทำได้เพียงขับรถกลับไปที่กรม แล้วหลังจากนั้น เรื่องในหัวของเขาก็ไม่ใช่แค่การกีดกันจันทร์จ้าวและภวัตอีกแล้ว


   ชายหนุ่มได้ยินเสียงของน้องสาวคนเล็กดังก้องอยู่ในศีรษะอีกครั้ง


   ‘บางครั้ง...เราก็ทำตามความถูกต้องไม่ได้ เพราะมีบางอย่างที่สำคัญกว่า’


   ...หรือครั้งนี้...เขาก็ไม่อาจทำตามความถูกต้องเหมือนที่ดารารัศมีเองก็ทำไม่ได้เช่นกัน...


......................................

   จันทร์จ้าวยังคงไม่พูดกระไรเกินความจำเป็น เขาไม่มีเรื่องสนุกมาเล่าที่โต๊ะรับประทานอาหารเหมือนจันทร์จ้าวคนก่อน หนำซ้ำช่วงนี้เขากลับมาพร้อมอาทิตย์ทุกเย็น บ้านรักษพิพัฒน์จึงรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกวัน ยิ่งพบหน้าค่าตากันเท่าไร ท่าทีนิ่งเฉยเหมือนไม่มีทั้งความสุขและความทุกข์ก็ยิ่งปรากฏในสายตาของบิดามารดาเท่านั้น


   คุณหญิงผกาผู้ทั้งรักทั้งโปรดบุตรชายคนรองยิ่งกว่าใครเป็นฝ่ายอดรนทนไม่ได้จนต้องเรียกบุตรชายคนใหญ่มาถามไถ่ในค่ำวันหนึ่งหลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว และจันทร์จ้าวขอตัวไปพักผ่อน


   “พ่ออาทิตย์...เรื่องที่ให้คนมาตรวจดูบ้านเช่าน่ะ เรียบร้อยดีหรือยัง” พออาทิตย์ทรุดกายลงนั่งใกล้มารดา คุณหญิงผกาก็ตั้งคำถามในทันที


   “ก็...เรียบร้อยดีแล้วครับ”


อันที่จริง ไม่มีช่างคนใดไปที่บ้านเช่าหลังนั้นทั้งนั้น นับตั้งแต่เขาสั่งให้จันทร์จ้าวกลับมานอนที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์


   “เรียบร้อยดีแล้ว ก็ให้พ่อจันทร์กลับไปนอนที่นั่นได้แล้วล่ะซี พ่อจันทร์แกคงคิดถึงที่นั่น ถึงได้เงียบลงทุกวันๆ ส่วนเพื่อนของพ่ออาทิตย์ที่ว่าอยากจะเช่าบ้าน ก็ให้เช่าหลังอื่นจะได้ไหมล่ะ เราก็มีบ้านเช่าออกถม” นายทหารหนุ่มเงยหน้ามองมารดาด้วยเพราะไม่อาจพูดคำใดได้ เหตุผลที่เขาไม่ต้องการให้จันทร์จ้าวกลับไปนอนที่นั่น ให้อย่างไรก็ไม่อาจยกขึ้นมาเป็นเหตุผลให้บิดามารดารับทราบได้หรอก


   “อีกหน่อย ผมแต่งงาน คุณชายฉัตรท่านก็อยากจะให้ย้ายไปอยู่ที่เรือนหอซึ่งท่านปรับปรุงใหม่ ที่นี่ก็จะเหลือเพียงนภาและดารา ให้จันทร์กลับมาอยู่ที่นี่ไม่ดีกว่าหรือครับ”


   “ทำไมถึงพูดเช่นนั้น” คุณหญิงผกาย้อนถาม ทำเอาอาทิตย์เงยหน้ามอง มารดาถอนหายใจเบาแล้วเอ่ย “พ่ออาทิตย์พูดราวกับเห็นแก่ตัว ตัวพ่อย้ายออกไปอยู่ที่อื่นได้ แต่บังคับน้องให้กลับมาอยู่ที่นี่แทนตนเอง ได้ถามน้องบ้างไหม ว่าใจเขาอยู่ที่ไหน คุณพ่อท่านชอบให้ลูกหลานพร้อมหน้าก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ท่านจะไม่ทราบว่าวันหนึ่ง ลูกทุกคนก็ต้องออกไปสร้างครอบครัว ไปมีชีวิตเป็นของตนเอง คุณพ่อท่านไม่คิดจะรั้งลูกคนใดไว้ที่นี่ แต่หากลูกคิดจะกลับมา บ้านหลังนี้ต้อนรับเสมอ” คุณหญิงผกาเอ่ยด้วยความเมตตา และนั่นทำให้อาทิตย์นิ่งงัน


   ...เห็นแก่ตัว...บังคับให้น้องทำตามความต้องการ...


อาทิตย์รู้สึกเหมือนความเชื่อมั่นในการกระทำที่ยึดหลักความถูกต้องของตนสั่นคลอน เมื่อตระหนักได้ว่าเขากำลังกระทำในสิ่งที่เห็นแก่ตัวจริงอย่างที่คุณหญิงผกาว่า เขาอ้างความเป็นชายของจันทร์จ้าว บังคับให้เดินในเส้นทางที่เขาซึ่งเป็นชายเช่นเดียวกันเห็นควร ยัดเยียดให้ทำในสิ่งที่เขาเห็นว่าดี เขาอ้างคำว่าบุตรชายบ้านรักษพิพัฒน์ บังคับให้จันทร์จ้าวยึดมั่นในทำนองคลองธรรม แต่...เขาไม่ได้ถามสักคำ ว่าหัวใจของจันทร์จ้าวเป็นเช่นไร...


   “อาทิตย์...” คุณหญิงผกาเห็นบุตรชายคนใหญ่เงียบไปก็เรียกเสียงเบา นายทหารหนุ่มเงยหน้ามองมารดาแล้วส่งยิ้มจาง


   “ผมขอเวลาสักหน่อยนะครับคุณแม่ แล้วผมจะมาเรียนอีกครั้งหนึ่งว่าจะทำเช่นไรดี ผมขอตัวก่อนครับ” แล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเดินกลับเข้าห้องพักผ่อนของตนเองไป ทิ้งให้คุณหญิงผกาได้แต่มองตามด้วยความฉงนสงสัยเป็นที่สุด

..........................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 28-01-2016 19:38:56


เพราะมีพี่ชายมารับมาส่งทุกค่ำเช้า จันทร์จ้าวจึงไม่อาจทำอะไรนอกลู่นอกทางในตอนเช้าและค่ำได้ ช่วงเวลาเดียวที่เขาพอจะมีเป็นของตนเองคือเวลาพักเที่ยง ทุกเที่ยง ชายหนุ่มจะออกจากสำนักงานตรงเวลา ไปขึ้นรถรางแล้วต่อรถสามล้อไปยังโรงพยาบาลใหญ่ ออกจะลำบากลำบนอยู่สักหน่อย แต่เหตุผลเพียงข้อเดียวที่เขาทำเช่นนี้คือ



   ...ต้องการเห็นหน้าภวัต...


   นับตั้งแต่อาทิตย์ทราบเรื่องของพวกเขา จันทร์จ้าวก็ไม่อาจนัดพบกับนายแพทย์หนุ่มได้อีก นอกจากนั้นเขาก็ไม่กล้าไปพบอย่างเอิกเกริกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะไม่อยากให้อาทิตย์ระแคะระคายแล้วทำให้เรื่องนี้เป็นปัญหา เขาตั้งใจว่าจะอยู่เงียบๆสักพัก แล้วใช้ความเงียบที่ตรงกันข้ามกับอุปนิสัยที่แท้จริงของเขาเป็นอาวุธให้อาทิตย์ได้รู้ว่าการกีดกันเขากับหมอภวัต จะต้องพบเจอเขาในรูปแบบใด


   “จะไปแล้วหรือ จันทร์”


ก่อนเที่ยงเล็กน้อย ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดเข้ามาโดยเพื่อนรักอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ผู้รู้เห็นเป็นใจให้จันทร์จ้าวสามารถออกไปพักเที่ยงข้างนอกได้ตามใจชอบ คนกำลังเตรียมตัวจะออก เลื่อนเก้าอี้เข้าเก็บกับโต๊ะเรียบร้อยก็หันไปพยักหน้ารับ


   “ใช่สิ จะเที่ยงแล้ว ผมต้องไปล่ะ”


   “เดี๋ยวซี กันมีเรื่องอยากจะคุยด้วยเสียหน่อย” ยังไม่ทันที่จันทร์จ้าวจะเดินมายังประตู คนที่ยืนคาอยู่ก็ยกมือห้าม คนกำลังรีบเลยชักหงุดหงิด


   “ไว้ทีหลังได้ไหมคุณพงศ์ ผมมีเวลาแค่ช่วงพักเที่ยงเท่านั้นนะ!”


   “กันก็มีเวลาแค่ช่วงนี้เท่านั้น”


   “พูดอะไรของคุณพงศ์นี่! ถอยเลยถอย ผมรีบ”


   “อย่าเพิ่งใจร้อนซี กันมีธุระสำคัญ นี่จะชวนแกไปตีเทนนิสเย็นนี้ ไม่ได้ไปนานแล้วไม่ใช่หรือ” พอหม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดธุระเป็นเรื่องตีเทนนิส คนรีบก็ยิ่งหงุดหงิด คิ้วขมวดมุ่นจนแทบชิด


   “ผมไม่ไปหรอก! คุณพงศ์ก็ทราบว่าช่วงนี้ผมถูกจับตาอย่างกับนักโทษ! กระดุกกระดิกได้เสียที่ไหน!!”


“นี่ขนาดกระดุกกระดิกไม่ได้ ยังออกไปได้ทุกเที่ยง” ถูกหยอกเข้าหน่อย จันทร์จ้าวก็ชักฉุน แต่อารมณ์หงุดหงิดที่ถูกขวางตอนกำลังรีบมีมากกว่า


“คุณพงศ์กำลังทำให้ผมเสียเวลา ผมไม่คุยด้วยแล้ว ขอตัวก่อน” พอจันทร์จ้าวจะก้าวเดินมายังประตู ราชนิกูลหนุ่มก็ยกมือห้ามอีก


   “เดี๋ยว”


   “อะไรอีกล่ะ คุณพงศ์! ถ้าจะชวนผมไปทานข้าว ไปตีเทนนิส ไปพบนายวินิต หรือไปไหนๆ ผมก็ไม่ไปทั้งนั้น! ผมรีบ!” คนอารมณ์ร้อนไม่ฟังอีร้าค่าอีรม เดินฉับๆมายังประตูที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรยืนบังเอาไว้อยู่ และพอจันทร์จ้าวเดินมาถึง ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรก็เหมือนรู้งานเพราะขยับหลบอย่างว่องไว ทว่า...ใครบางคนที่ก้าวเข้ามายืนขวางประตูแทนที่กลับทำให้จันทร์จ้าวชะงักกึก


   “อ้าว ไม่รีบแล้วรึ?” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหยอกเมื่อเห็นเพื่อนรักนิ่งชะงักราวกับเห็นผี


“น...นี่...นี่...นี่...” ไม่ใช่แค่นิ่งชะงักตาเบิกค้าง แต่จันทร์จ้าวยังติดอ่างด้วย เพราะคนที่ขยับมายืนขวางเขาเอาไว้ ให้มองอย่างไรก็เป็นดวงหน้าที่เขาจำได้ไม่ลืม


   “สวัสดีครับคุณจันทร์”


   “หมอ!!” จันทร์จ้าวเพิ่งจะหาเสียงเจอในวินาทีนั้น และก็ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความปิติยินดี


   “ผมมาเยี่ยมครับ จะไม่เชิญเข้าไปนั่งในห้องสักหน่อยหรือ”


   “ช...เชิญ...เชิญ...” เพราะสติยังกลับมาไม่เต็มที่นัก จันทร์จ้าวจึงพูดย้ำคำเดิมถึง ๒ ครั้ง แล้วจึงเปิดทางให้นายแพทย์หนุ่มเดินเข้าไปในห้องทำงานของตน ดวงตากลมใหญ่มองตามหลังร่างสูงอย่างคาดไม่ถึงว่าภวัตจะมาที่นี่ ก่อนจะเหลือบมามองหม่อมหลวบงพงศ์ภราธรที่ยืนอมยิ้มอยู่ใกล้ๆ


   “กันบอกแล้วว่าธุระของกันน่ะสำคัญ...สำคัญมากเสียด้วย” เพื่อนรักของราชนิกูลหนุ่มไม่พูดกระไร แต่ก็พอจะมองเห็นร่องรอยของอาการอมยิ้มที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะพยายามกลั้นรอยยิ้มอย่างสุดความสามารถ ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงประตูมาปิด แต่ก็ยังพอได้ยินเสียงของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรดังเบาๆเป็นเชิงสั่งปนล้อเลียน


   “ลงกลอนด้วย กันไม่อยากเปิดไปเจอตอนกำลังปรับความเข้าใจ” จันทร์จ้าวถลึงตาดุใส่เพื่อนรัก แต่เมื่อปิดประตูมาแล้ว เขาก็ไม่ลืมจะทำตามที่อีกฝ่ายสั่งด้วยการลงกลอนอย่างเบามือที่สุด แล้วจึงหันไปมองแขกผู้มีเกียรติที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองออกไปนอกสำนักงานของเขาราวกับสนใจมันเสียเต็มประดา


   “ม...หมอ...หมอไม่ต้องทำงานหรือ” และสุดท้ายก็เป็นจันทร์จ้าวที่ตั้งคำถาม หมอภวัตหันมามองแล้วยิ้มจาง เป็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่จันทร์จ้าวคิดถึงสุดหัวใจ


   “ตอนนี้พักเที่ยง ไม่ทำครับ”


   “แล้ว...แล้ว...” ทั้งๆที่ไม่ได้พูดคุยกันหลายวัน และจันทร์จ้าวคิดว่าพวกเขามีเรื่องต้องคุยกันอีกมาก แต่กระนั้นเมื่อภวัตมายืนอยู่ตรงหน้า เขากลับคิดอะไรไม่ออก เป็นฝ่ายนายแพทย์หนุ่มที่เห็นสีหน้าเหมือนจะทั้งตกตะลึงทั้งปิติยินดีของจันทร์จ้าว จึงเป็นฝ่ายเดินกลับมาหาเสียเอง


   “ไม่ได้เจอกันนาน คุณดูผอมลงไปนะครับ”


   “น...นานที่ไหน...ผมเพิ่งไปเห็นหมอมาเมื่อวานนี้เอง...” จันทร์จ้าวพูดอย่างไม่ทันคิด เพราะกำลังตกตะลึงที่อยู่ดีๆ คนที่ตนคิดถึงทุกชั่วขณะจิตก็มาปรากฏตัวที่นี่ มาอย่างไรไม่ทราบ แต่ที่ทราบคือมายืนอยู่ตรงหน้านี้แล้ว


   นายแพทย์ภวัตยิ้มจาง ดวงตาเจือแววแห่งความสุข


   “คุณมาเห็นผม แต่ผมไม่เห็นคุณนี่ครับ ไปแล้วทำไมไม่ให้คนไปเรียกผมล่ะ”


   “ไม่ได้หรอก เกิดพี่อาทิตย์ระแคะระคายว่าผมแอบไปหาหมอทุกเที่ยง คงบังคับให้ผมอยู่แต่ในบ้านแน่”


   “ไปหาผมทุกเที่ยงด้วยหรือ?” ภวัตย้อนถาม หน้าตาดูมีความสุขเหลือประมาณ ไม่เหมือนคนถูกกีดกันเลยสักนิด และเมื่อนั้นดูเหมือนจันทร์จ้าวจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาชักจะพูดมากไปเสียแล้ว จะตั้งท่าทำเป็นแก้ลำก็ทำไม่ลง เพราะตอนนี้ความดีใจกำลังล้นทะลักจนยิ้มเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย และเป็นภวัตเสียเองที่อดใจไม่ไหวต้องเอื้อมมือมาแตะแก้มขาวของคนตรงหน้าแผ่วเบา


   “ขี้โกง คุณเห็นผมทุกวัน แต่กลับไม่ให้ผมได้เห็นคุณบ้างเลย” ปลายนิ้วโป้งลูบที่รอยลักยิ้มราวกับคิดถึงเหมือนไม่ได้พบเห็นมานาน


ไม่ใช่เขาไม่พยายามที่จะไปพบจันทร์จ้าว แต่ทุกเช้าและเย็น ภวัตจะขับรถไปจอดที่หน้าบ้านเช่าสีเขียวอ่อนเสมอๆ วันแรกๆเขาคิดว่าจันทร์จ้าวไม่อยู่ ยังไม่กลับ หรือออกไปก่อนที่เขาจะไปถึง แต่วันหลังๆ เขาได้พบกับคุณยายที่อาศัยอยู่ข้างบ้าน และเธอบอกเขาว่า `พ่อหนุ่มยิ้มสวยที่บ้านสีเขียวอ่อน’ ไม่ได้กลับมาหลายวันแล้ว พอภวัตตามมารอดูที่หน้าสำนักงาน ก็พบว่าคนที่มารับมาส่งคือรถโฟล์คของอาทิตย์ เมื่อนั้นเขาถึงได้ทราบว่าอาทิตย์คงกักตัวจันทร์จ้าวเอาไว้ไม่ให้เขาได้พบเจอ


   นายแพทย์หนุ่มไม่ทราบจะทำเช่นไรดี จึงติดต่อผ่านทางหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ทำให้วันนี้ เขาได้มายืนอยู่ที่นี่ในเวลาพักเที่ยง


   “ผมใจจะขาด อยากเจอคุณแทบตาย ไปรอที่หน้าบ้านเช่า ก็เห็นปิดเงียบ พอมารอที่นี่ก็เห็นแต่คุณอาทิตย์มารับมาส่ง ถ้าไม่ได้คุณพงศ์วันนี้ ผมก็ไม่ทราบจะทำอย่างไร”


   “ผมก็อยากเจอหมอ”


“นี่ยังไรครับ ผมมาให้คุณเจอแล้ว”


“มาได้ทุกวันไหม” คำถามนั้นทั้งน่ารักและน่าสงสารในคราวเดียว ดวงตากลมใหญ่ที่มองตรงมายังภวัตเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งรัก ทั้งคิดถึง ฝ่ามือหนาของนายแพทย์หนุ่มลูบผิวแก้มของคนตรงหน้าแผ่วเบา


   “คุณต้องการเช่นนั้นหรือครับ”


   “ผม...” จันทร์จ้าวกำลังจะเอื้อนเอ่ยเรียกร้องให้อีกฝ่ายมาหาเขาในทุกๆวัน แต่นายแพทย์หนุ่มก้มหน้าลงมาใกล้เสียก่อน และก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น ริมฝีปากร้อนของภวัตก็แนบชิดลงกับริมฝีปากของเขา


   รสละมุนและหวามไหวขยับพลิ้วบนริมฝีปาก ก่อนที่จะเคลื่อนไปยังข้างแก้ม หน้าผาก และลงมายังปลายจมูก ราวกับภวัตกำลังเล้มไล้ทุกส่วนบนใบหน้าของเขาทีละน้อย จันทร์จ้าวทำได้เพียงยืนนิ่ง และเอียงใบหน้าให้อีกฝ่ายได้แนบริมฝีปากลงในทุกๆที่ที่ต้องการ


   “หมอขี้โกง...” เขาได้แต่ครวญแผ่วเบา เมื่อใบหน้าของภวัตเคลื่อนออกห่างเล็กน้อย พอให้มองกันได้สะดวก


   “ผมขอโทษ แต่ถ้าคุณพูดออกมา ผมคงอดใจไม่ไหวต้องมาที่นี่ทุกเที่ยง บางทีอาจรู้ถึงหูคุณอาทิตย์...”


   “หมอกลัวพี่อาทิตย์หรือ”


   “คุณอาทิตย์รักคุณมาก”


   “ผมทราบ แต่ผมก็อยากให้หมอทราบว่าผมก็รักหมอ” จันทร์จ้าวผู้ดื้อดึง จันทร์จ้าวผู้หัวแข็ง ให้อย่างไรก็ยังตรงไปตรงมากับความรู้สึกของตนเองเช่นเคย ภวัตนึกรักทุกอย่างในตัวของคนผู้นี้ เขารั้งร่างอีกฝ่ายเข้ามาแนบกอดให้จมเข้าไปในอ้อมแขน รัด ๒ แขนรอบกายสูงโปร่งราวกับต้องการเก็บกักจันทร์จ้าวเอาไว้กับเขาตลอดไป


   “อดทนหน่อยนะครับคุณจันทร์ อย่าเพิ่งท้อล้มเลิกไปเสียก่อน ผมจะทำทุกอย่าง ให้เราได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง” วันเก่าๆที่เคยได้เคียงข้างกัน ได้พูดคุย ได้หัวเราะ ยังคงเป็นน้ำล่อเลี้ยงชั้นดีให้ภวัตอดทน เขาหวังว่าวันเหล่านั้นจะกลับมาในไม่ช้า ขอเพียงแค่พวกเขายังพร้อมจะสู้ไปด้วยกัน แม้จะเป็นหนทางที่ยากลำบากเพียงใด แต่ภวัตเชื่อ...ด้วยความรู้สึกที่พวกเขาทั้ง ๒ มีต่อกัน มันยิ่งใหญ่เพียงพอที่จะฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง


   สำหรับจันทร์จ้าว สิ่งที่ทำให้กำลังใจเพิ่มพูนไม่ใช่คำพูดใดๆของภวัต แต่เป็นการกระทำอันได้แก่การกอดรัดเขาแน่นหนา ราวกับไม่ต้องการปล่อยเขาออกไป ความรู้สึกของภวัตไม่เคยส่งผ่านเขาด้วยคำพูดตรงไปตรงมา แต่มันแฝงมากับสายตาและการกระทำเสมอ ๒ แขนของเขาโอบกอดแผ่นหลังของนายแพทย์หนุ่มด้วยความรักแล้วซุกซบใบหน้าลงกับบ่าของภวัต


   “ผมจะรอนะหมอ จะรอวันของเรา...” ภวัตได้ยินเสียงของคนในอ้อมแขนดังกลับมา และเขาให้สัญญากับประโยคนั้นของจันทร์จ้าว เขาจะทำให้การอคอยของ ‘เรา’ กลายเป็นจริงในเร็ววัน

........................................

   หม่อมหลวงพิมพัชราออกจะเป็นห่วงเรื่องในครอบครัวของคู่รักของตนอยู่มาก โดยเฉพาะหล่อนที่รู้ตื้นลึกหนาบางจากทั้งอาทิตย์และจากที่สอบถามเอากับพี่ชายของหล่อน ทีแรก หม่อมหลวงพงศ์ภราธรไม่ยอมรับ เมื่อครั้งหล่อนซักถามเรื่องความสัมพันธ์ของหมอภวัตและจันทร์จ้าว จนหล่อนต้องชักแม่น้ำทั้ง ๕ รวมทั้งเล่าความจริงว่าทั้งหล่อนและอาทิตย์เห็นคนทั้ง ๒ ที่โต๊ะริมน้ำในสถานการณ์ที่ค่อนข้างจะแนบชิดในสายตาคนนอก เมื่อนั้นผู้เป็นพี่จึงยอมรับว่าทั้งจันทร์จ้าวและหมอภวัตคบหากันจริง


   หล่อนยอมรับว่าตกใจไม่น้อย เรื่องเช่นนี้ หากรู้ถึงหูใครเข้า ก็คงเป็นขี้ปากคนทั้งเมือง แต่ที่น่าหนักใจยิ่งกว่าการตกเป็นที่ติฉินนินทาจากสังคมคนนอก คือท่าทีของอาทิตย์ที่แสดงออกต่อเรื่องนี้ เขาดูเคร่งเครียดและกดดัน ไม่ใช่อาทิตย์คนเดิมที่หล่อนรู้จัก


   “ดิฉันมาพบคุณอาทิตย์ค่ะ ช่วยเรียนเธอทีว่า...หม่อมหลวงพิมพัชรา ฉัตราภาสมาขอพบ”


วันนี้คาบวิชาภาษาอังกฤษที่อยู่ในความรับผิดชอบของหล่อนมีถึงแค่ช่วงเช้า หล่อนจึงเวลามากพอที่จะแวะมาที่กรมของชายคนรัก หลังจากที่ช่วงนี้อาทิตย์รับหน้าที่เป็นสารถีให้น้องชาย จนทำให้หล่อนและเขาไม่ได้พบหน้ากันเป็นเวลานาน


   หลังจากแจ้งความจำนงไปครู่หนึ่ง นายทหารที่ประจำอยู่ที่โต๊ะเสมียนก็เดินนำอาทิตย์ออกมา


   “คุณพิม” อาทิตย์เห็นหญิงผู้เป็นดั่งดวงใจก็รีบวิ่งเหยาะเข้ามาหา ด้วยเพราะคาดไม่ถึงว่าหล่อนจะมาหาเขาถึงนี่


   “สวัสดีค่ะ คุณอาทิตย์” ราชนิกูลสาวยกมือไหว้


   “สวัสดีครับ คุณพิมมาได้อย่างไรครับ”


   “ให้คนรถมาส่งค่ะ พอดีวันนี้พิมมีสอนแค่คาบเช้า ก็เลยแวะมา คิดว่าถ้ามาทันคุณอาทิตย์ จะมาชวนคุณอาทิตย์รับประทานอาหารกลางวันเสียหน่อย” รอยยิ้มพริ้มเพราของหล่อนราวกับเป็นน้ำทิพย์ใก้แก่หัวใจที่หนักอึ้งของนายทหารหนุ่ม อาทิตย์รู้สึกสบายใจอย่างไรชอบกล แค่เพียงได้พิศดวงหน้าหวานของหล่อน


   “คุณอาทิตย์คะ...คุณอาทิตย์...” เพราะมัวแต่พิศ จึงไม่ทันได้ฟังว่าหล่อนพูดเช่นไร ต้องให้หม่อมหลวงพิมพัชราเรียกย้ำ เขาถึงรู้สึกตัว


   “ขอโทษทีครับคุณพิม ผม...เอ่อ...” เขาไม่ทราบจะแก้ตัวเช่นไร ได้แต่ก้มหน้าด้วยความเขอะเขินที่เอาแต่จับจ้องดวงหน้าหวานของราชนิกูลสาวไม่วางตา หม่อมหลวงพิมพัชราเห็นท่าทีของเขายังคงเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนขี้อายคนเดิมก็ได้แต่ยิ้มจางอ่อนหวาน


   “ไม่เป็นไรค่ะ เราไม่ได้พบกันเสียนาน คุณอาทิตย์คงไม่คุ้นชินกับใบหน้าของพิมเสียแล้ว” หล่อนไม่ได้ต่อว่าต่อขานที่พวกเขาไม่พบหน้ากันเวลานาน แต่กระนั้น เนื้อความในประโยคก็ราวกับจะปลุกสติของอาทิตย์ให้รับรู้ว่าเขากำลังละเลยหล่อน


   “ผม...ขอโทษครับ...” เขาได้แต่เงยหน้าขอโทษอย่างรู้สึกผิดจริง แต่ราชนิกูลสาวกลับส่งยิ้มให้เขาแล้วส่ายหน้าไปมา


   “ไม่เป็นไรค่ะ พิมเข้าใจดี”


“ผม...เอ่อ...” ต่อให้ราชนิกูลสาวเอ่ยว่าเข้าใจ แต่กระนั้นอาทิตย์ก็ยังรู้สึกผิด หม่อมหลวงพิมพัชราเห็นท่าทีอึดอัดของคนรักจึงชักชวนเขาออกไปเดินสูดอากาศนอกตึก


“เราออกไปคุยกันตรงนั้นได้ไหมคะ” หล่อนชวนแล้วชี้ไปที่ร่มไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก อาทิตย์พยักหน้ารับแล้วผายมือเชื้อเชิญให้หล่อนก้าวนำ แม้นี่จะเป็นเวลาเที่ยงแล้วก็ตาม แต่ร่มไม้ใหญ่น้อยให้ความร่มรื่นเสียจนไม่รู้สึกร้อนอบอ้าวแต่ประการใด ราชนิกูลสาวคิดว่านี่เป็นสถานที่อันดีที่หล่อนจะใช้เป็นที่เจรจากับคนรัก


“หมู่นี้คุณอาทิตย์ดูเคร่งเครียดนะคะ” หล่อนเอ่ย ดวงตาหวานเชื่อมจับจ้องใบหน้าของชายคนรัก


“ผม...มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อยครับ ขอโทษจริงๆที่ไม่ได้...เอ่อ...” อาทิตย์พูดไม่ออก ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าพักนี้เขาไม่ใส่ใจหล่อนเท่าที่ควร ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาสุกงอมเสียจนแม้แต่ผู้ใหญ่ยังเตรียมการเรื่องหมั้นหมายเอาไว้แล้วก็ตาม


“คงจะไม่ใช่เรื่องนิดหน่อยกระมังคะ” หม่อมหลวงพิมพัชราแก้คำพูดให้ทั้งที่ยังมีรอยยิ้มจางติดอยู่ที่ข้างแก้ม อาทิตย์เงยหน้ามอง “...เรื่องที่เราคิดว่าหนักหนาสาหัส หากวางมันลงบ้างแล้วขยับถอยออกมามองจากที่ไกลๆ บางทีมันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่อย่างที่เราคิด เช่นเดียวกับการที่เราปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เรานิยมชมชอบ เราอาจจะได้เรียนรู้อะไรอีกมาก อย่างน้อยๆ ก็ได้เรียนรู้ว่าคนอื่นเขานิยมหรือเขาชมชอบแบบใด คนเราไม่ได้มีเรื่องที่นิยมเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ ขนาดภาพยนตร์ ยังมีเรื่องที่เราชอบแต่คนอื่นไม่ชอบ หรือเรื่องที่คนอื่นชอบ แต่เราไม่ชอบ ก็มี”


นายทหารหนุ่มนิ่งงันไปกับคำพูดของสตรีเบื้องหน้า ราวกับหล่อนทั้งสอนและชี้แนะ ชายหนุ่มหวนนึกไปถึงเรื่องที่คุยกับมารดาและดารารัษมี คุณหญิงผกาเองก็เตือนสติให้เขาไม่เห็นแก่ตัวและรู้จักฟังเสียงของจันทร์จ้าว ดารารัษมีก็พูดเรื่องให้เขามองคุณค่าของบางสิ่งที่สำคัญกว่าความถูกต้อง


“ผม...ควรจะ...ยอมรับอย่างนั้นหรือครับ...” นายทหารหนุ่มถามเสียงแหบพร่า รู้สึกถึงความเจ็บร้าวในหัวใจ เขาต้องยอมปล่อยให้จันทร์จ้าวเดินในเส้นทางที่เขาเห็นว่าไม่ถูกไม่ควรอย่างนั้นหรือ หากวันหนึ่งจันทร์จ้าวต้องเสียใจเพราะเส้นทางที่เขาไม่หักห้าม จะเป็นเขาเสียเองที่เจ็บยิ่งกว่าน้อง ในฐานะพี่ที่ไม่รู้จักห้ามปราม


“พิมไม่ได้หมายความว่าให้คุณอาทิตย์ยอมรับนี่คะ พิมแค่บอกให้คุณอาทิตย์ปล่อยเท่านั้นเอง”


   “แต่...ถ้าปล่อยแล้วเกิดเรื่องร้ายในภายหลัง...”


   “ไม่มีชีวิตใครจะมีแต่เรื่องดีหรอกค่ะ คนเราทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตนเอง กรรมอันเกิดจากการกระทำ เรากระทำสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น ทำดีก็ย่อมได้ดี ทำชั่วก็ย่อมได้ชั่ว บางครั้ง...เราอาจไม่ทราบว่าสิ่งที่เราทำจะทำให้เราได้ดีหรือได้ชั่ว เราก็ทำได้เพียงแค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามครรลองของมัน ชีวิตของคนคือการเดินทางเพื่อเรียนรู้ รู้ดีใจ รู้เสียใจ รู้เจ็บปวด รู้สมหวัง ขอเพียงแค่เชื่อมั่นในคนของเราว่าเขาจะผ่านความรู้สึกเหล่านั้นมาได้ เรื่องใดๆก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้วค่ะ”


   “เชื่อมั่น...หรือครับ” อาทิตย์ย้อนถามอย่างฉงน ทว่าหม่อมหลวงพิมพัชรายังคงยิ้มจาง


   “ค่ะ พิมเชื่อว่าคุณจันทร์ถูกหล่อหลอมมาด้วยความรักจากครอบครัวที่ดี เพราะฉะนั้น เมื่อชีวิตของเขาเดินไปจนพบเจอสิ่งใด เขาจะมีวิธีอยู่กับมันได้อย่างน่าภาคภูมิใจค่ะ” นายทหารหนุ่มถอนหายใจยาว ราวกับเป็นสัญญาณถึงความรู้สึกของการปล่อยวาง


   “คุณพิม...สอนนักเรียนในชั้นเรียนอย่างนี้ไหมครับ” หม่อมหลวงพิมพัชราหัวเราะเบาๆ แต่ก็ทำให้ดวงหน้าหวานกระจ่างไปด้วยความสุข อาทิตย์มองดวงหน้าของราชนิกูลสาวแล้วก็ยิ่งสบายใจ และเขาคงจะรู้สึกสบายกว่านี้ หากทำในสิ่งที่หล่อนแนะนำ


   “นักเรียนในชั้นของพิมมีหลายประเภทค่ะ จะสอนใครอย่างไรก็ต้องดูเนื้อแท้ของเขา บางคนเวลาสอบตกแล้วโทษตัวเองว่าหัวทึบ จำคำศัพท์ไม่ได้ บางคนสอบตกแล้วโทษคนอื่นเช่นว่าฐานะทางบ้านไม่ดี จ้างครูแหม่มมาสอนพิเศษไม่ได้จึงสอบตก บางคนมองโลกคับแคบว่าเรียนแล้วก็คงไม่ได้ใช้ จึงไม่ตั้งใจเรียนแล้วสอบตก แต่ละคนก็มีความคิดแตกต่างกันไป บางคนเป็นแฝด สอบตกเหมือนกัน แต่ยักคิดไม่เหมือนกันก็มี”


   “คุณพิมกำลังสอนผมว่าต่อให้เป็นพี่น้องกันก็คิดไม่เหมือนกัน อย่างนั้นใช่ไหมครับ” ดูเหมือนอาทิตย์จะรู้เท่าทัน หม่อมหลวงพิมพัชราหัวเราะกิ๊ก


   “อย่างนี้เห็นที หากคุณอาทิตย์เป็นนักเรียนในวิชาของพิม คุณอาทิตย์จะต้องเป็นคนสอบได้แน่ค่ะ เพราะทายใจพิมที่ออกข้อสอบถูก”


   “แล้วจันทร์ล่ะครับ ถ้าจันทร์เป็นนักเรียนในวิชาของคุณพิม จันทร์จะสอบได้ไหม” หม่อมหลวงพิมพัชรามองสบเข้าไปในดวงตาของนายทหารหนุ่ม ดูอย่างไรก็ทราบว่าเขาทั้งรักและห่วงน้องชายของเขาเพียงใด


   “...สอบตกค่ะ...” คำพูดของคุณครู ทำให้อาทิตย์สะท้านใจวาบ แต่กระนั้นหม่อมหลวงพิมพัชราก็ยังยิ้มอ่อนโยน


“...เพราะคุณจันทร์จะท่องหนังสือมาเฉพาะที่ตนเองคิดว่าจะออกสอบ แต่จะไม่ทายใจคนออกข้อสอบ เธอดื้อแพ่งในสิ่งที่อยากจะทำ และจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ เว้นเสียแต่ว่า เธอจะอยากสอบได้ในวิชานี้ เมื่อนั้นเราจะได้เห็นว่าคุณจันทร์เป็นคนจริงจังเพียงใด น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง ฉันใดฉันนั้นเราก็ไม่อาจขวางคุณจันทร์ยามที่เธอจริงจังเช่นกันค่ะ”


   “คุณพิม...รู้จักจันทร์ดีเหลือเกินครับ” อาทิตย์ครวญเบา รู้สึกเหมือนตนเองกำลังทำร้ายน้องชายเข้าไปทุกวันทั้งๆที่เขาควรจะเป็นคนเข้าใจจันทร์จ้าวมากที่สุด ไม่ว่าจะด้วยเพราะเขาเป็นพี่ชายแท้ๆ หรือเพราะทั้งเขาและจันทร์จ้าวโตมาด้วยกัน


   “มองอย่างครู คุณจันทร์เธอไม่ใช่คนเหลาะแหละโลเลหรอกค่ะ เธอเป็นคนจริงจังกับชีวิตของเธอ เธอทราบว่าชีวิตของเธอต้องการอะไร และเธอซื่อตรงกับความต้องการของเธอมากกว่าใคร” อาทิตย์ได้แต่เงียบ หม่อมหลวงพิมพัชราทราบดีว่าเวลานี้เขาต้องการตัดสินใจโดยที่หล่อนไม่ชักนำอีก จึงเปลี่ยนเรื่องชวนคุยเป็นการให้เวลาเขากับการตัดสินใจเรื่องนี้


   “เอ?...นี่เที่ยงแล้ว วันนี้คุณอาทิตย์มีนัดรับประทานอาหารกับใครไหมคะ”


   “ไม่มีครับ จริงด้วย คุณพิมคงยังไม่ได้รับประทานอะไรมาซีนะครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะพาไป แถวนี้มีร้านอร่อยร้านหนึ่ง ถ้าไปช้าคนจะแน่น เราไปกันเลยดีไหม”


   “ดีค่ะ” ราชนิกูลสาวจากวังฉัตรยิ้มรับ อาทิตย์จึงผายมือให้หล่อนเดินนำ และเมื่อหม่อมหลวงพิมพัชราก้าวเท้าออกเดิน หล่อนก็ได้ยินเสียงจากชายหนุ่มแผ่วเบา


   “ขอบคุณครับ คุณพิม” ดวงหน้าหวานหันไปมองชายผู้เป็นที่รักแล้วส่งยิ้มให้เขาอีกครั้งหนึ่ง


   “ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ”   


   ...และหล่อนจะยินดียิ่งกว่านี้ หากว่าคำพูดของหล่อนจะทำให้อาทิตย์ปล่อยวางเรื่องของจันทร์จ้าวให้เป็นไปตามครรลองของมัน...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)
   คือ...ตอนดาราขัดขวางนี่ทุกคนจงเกลียดจงชังดารากันม้ากมาก แต่พอเป็นพี่อาทิตย์คือทุกคนเว้าวอนขอให้พี่อาทิตย์เห็นใจ ไม่ยุติธรรมกับดาราเลยยยยยยยย ฮาฮา

   แต่ก็อย่างที่เคยบอก เกลียดดาราเมื่อตอนนั้น จะรักดาราในตอนหลัง นางน่ารักนะ ถึงจะชอบแซะๆจันทร์แต่ขอกระซิบบอกว่านี่คือผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการทีเดียว

   พาร์ทนี้คุณพงศ์แท็กทีมออกมาพร้อมหมอ ค่าตัวหารครึ่งกันไป (คือพระเอกหารค่าตัวกับเพื่อนนายเอกนะ สมกับชื่อเรื่องจริงๆ “จันทร์จ้าว” ไม่มีใครสำคัญเท่าคนชื่อจันทร์ แม้จะเป็นพระเอกก็ตาม)

   ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ

   เจอกันพฤหัสหน้า (นับไปอีก 2 พฤหัส เราจะมาร้องเพลงคืนความสุขให้หมอด้วยกัน ฮิ้วววววววว)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 28-01-2016 20:02:29


:heaven  :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

งานนี้  คุณพงศ์ ทำดีมากกกกก :mew1:

รอลุ้น  พี่อาทิตย์   ให้ใจอ่อนไวไวนะ ...จะได้ช่วยโน้มน้าวคุณพ่อ กะ คุณหญิงด้วยเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 28-01-2016 20:06:29
พาสไป 2 อาทิตย์หน้าเลยได้ไหมมมม

อยากให้เค้าเข้าหอกันเร็ววววว

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 28-01-2016 20:16:36
โอ้ยเรื่องนี้
ถึงเป็นช่วงดราม่า อ่านแล้วก็ยังละมุน
เขียนดีจังเลยครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 28-01-2016 20:16:49
อาทิตย์พ่อบ้านใจกล้าตัวจริง 55555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-01-2016 20:21:23
คุณจันทร์น่าสงสารปนน่าเอ็นดูมาก ไปแอบดูคุณหมอที่โรงพยาบาลทุกเที่ยงเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 28-01-2016 20:22:03
ใกล้ละ อดทนอีกนิด  ผู้สนับสนุนเพียบ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 28-01-2016 20:30:34
จันทร์นี่น้าแอบไปซุ่มดูหมอซะงั้น หมอเลยมาหาถึงที่เลยยย

พี่อาทิตย์ก็เริ่มใจอ่อนแล้วววว รอคืนความสุขให้หมอภวัตตต :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 28-01-2016 20:33:27
สงสารคุณหมอกับจันทร์เลยอะ
ฮืออออ

ขอบคุณพี่บัว และรอการคืนความสุขให้หมอค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 28-01-2016 20:35:22
คุณพงศ์กับคุณพิมสมแล้วที่เป็นพี่น้องกัน ปล่อยวางเลยค่ะพี่อาทิตย์ แล้วมันจะผ่านไปด้วยดี~
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 28-01-2016 20:37:12
อ่านแล้วน้ำตาตกใน สงสารจันทร์เจ้าที่สุด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 28-01-2016 20:37:33
รอวันที่คืนความสุขให้หมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 28-01-2016 20:39:22
รอคอยอีก2พฤหัสด้วยใจจดจ่อเลยทีเดียว!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 28-01-2016 20:39:52
จันทร์สู้ๆ..หมอภวัตสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 28-01-2016 20:40:51
แงๆๆๆๆๆๆ แว๊บหายไปอีกสองอาทิตย์ได้เลยไหมอะ.  :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 28-01-2016 20:44:44
จันทร์สู้สู้ น่ารักมากไปแอบดูหมอ แต่ไม่ยอมเจอ คุณพิมทำได้ดี อาทิตย์จะช่วยจันทร์ไหมหนอ :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 28-01-2016 20:58:47
 :3125:หลอกให้อยากแล้วจากไป.....คืนความสุขให้หมอเร็วๆน๊า!!!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 28-01-2016 20:59:31
งั้นขอข้ามไปสองอาทิตย์เลยได้มั้ย?!?! อยากได้ช่วงคืนความสุขให้คุณหมอแล้วอ่ะ
แต่ก็นะ แค่อาทิตย์นี้ ก็ปริ่มน้ำตาจะไหลแล้ว แอบซึ้งที่คุณจันทร์แกไปแอบมองคุณหมอที่โรงพยาบาลทุกเที่ยง
คือแบบถ้าเป็นคนอื่นจะเฉยๆนะ แต่นี่ คุณจันทร์ไง คุณจันทร์ที่สุดแสนจะกะล่อนของเรา
เง้อ แบบซึ้งเลย คุณจันทร์คงรักคุณหมอมากแน่ๆ แต่คุณหมอเนี่ย มาเหนือกว่าจร้า ไม่มีแอบมอง มาหาเลย!มาจุ๊บมากอด
โอ้ย!!ฟินกันไป กัดหมอนขาดแล้วเนี่ย หมออ่ะ หมอ หมอ หมอ อ อ อ ออ...
ส่วนพี่อาทิตย์ อีกนิด อีกนิดเดียว ใกล้ใจอ่อนแล้ว เอิ๊ก รอ รอ รอ รอเลยงานนี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 28-01-2016 21:04:23
ชอบโมเม้นจันทร์แอบไปส่องหมอ น่ารักไงไม่รู้ หมอก็น่ารักมาพบจันทร์จนได้ คุณพงศ์ก็ดีงาม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Nanook ที่ 28-01-2016 21:08:19
อยากร้องเพลงคืนความสุขให้หมอแล้ววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: niza59 ที่ 28-01-2016 21:11:35
สงสารคุณจันทร์ ต้องแอบมองหมอ  :hao5:
พี่อาทิตย์ปล่อยวางเถอะนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Naeon ที่ 28-01-2016 21:13:33
เชียร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-01-2016 21:14:02
คราวตัวเองน้องยังช่วย

คราวของน้อง นอกจากไม่ช่วยยังขัดขวางอีก


สงสารจันทร์จ้าว ต้องไปชะโงกดูคนรัก  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 28-01-2016 21:19:06
 :-[ :-[

อีกแค่สองพฤหัส หมอจะได้คืนความสุขเลย
จดจ่อรอเลย 55555

จันทร์ก็มีโมเมนต์แบบนี้ด้วย
ไปแอบมองเค้า แค่นั้นก็คลายความคิดถึง
โถถถถถ น่าสงสาร พี่อาทิตย์ใจร้าย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 28-01-2016 21:19:38
คุณพิมดีงามมม
พี่อาทิตย์ฟังจากทั้งดารา ทั้งคุณแม่ และคุณพิมแถมยังได้เห็นจันทร์ที่แอบมองหมอนอกโรง'บาลแล้ว
ว่าอย่างไรบ้างคะ

เป็นห่วงได้แต่อย่ากีดกันเลยนะคะ
สงสารจันทร์กับหมอ

คุณพงศ์ยังคงดีงาม เพื่อนดี เพื่อประเสริฐ




ปล.แอบอินจัดน้ำตาซึมกับตันทร์ที่แอบมาดูหมอที่โรง'บา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 28-01-2016 21:42:54
ไหนๆก็ไหนๆล่ะหอบเสื้อผ้าลงหีบหนีกันไปเลยอยู่แล้วปวดหัว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 28-01-2016 21:43:15
ดีงามพระรามห้ามากตอนนี้ รู้สึกดีจนอธิบายไม่ถูก อึ้ยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 28-01-2016 21:45:24
ทุกคนล้วนหวังดีกับคนที่ตัวเองรัก
การแสดงออกถึงความหวังดีก็ไม่เหมือนกัน
แต่บางทีคนเหล่านั้น
ไม่ได้มองว่าการกระทำของตัว
อาจทำให้คนที่เขาหวังดีด้วย
ไม่ต้องการก็เป็นได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 28-01-2016 22:03:27
ขอไทม์แมชชีนแว้บไปพฤหัสบดีหน้าด้วยค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnon04 ที่ 28-01-2016 22:16:58
โอย อยากให้ถึงเวลาคืนความสุขให้หมอเร็วๆจัง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 28-01-2016 22:21:11
โธ่คุณจันทร์ น่าสงสาร อ่านแล้วน้ำตาซึม
คุณจันทร์น่ารักมากกกก เอ็นดู

ขอบคุณทั้งคุณพงศ์ คุณพิมพ์เลย ที่ช่วยคุณจันทร์ คุณหมอ แล้วก็พี่อาทิตย์
บ้านนี้รักกันดีมากเลยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-01-2016 22:27:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-01-2016 22:39:20
สถาณการณ์เริ่มดีขึ้น  :heaven
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 28-01-2016 23:01:52
ขอบคุณที่ทั้งหมอและจันทร์อดทนและเข้มแข็งเพื่อผ่านเรื่องนี้กันไป ส่วนพี่อาทิตย์เจอใครต่อใครพูดให้คิดแบบนี้คิดว่าพี่คงคิดได้แหละ และเราจะร้องเพลงรองวันคืนความสุขให้หมอนะคะ ฮา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 29-01-2016 00:41:28
อีก 2 พฤ.  ช่วงนั้นกำลังมีสอบแบบถี่ๆเลยค่ะ  แต่ยังไงก็จะเจียดเวลามาพบคุณจันทร์ให้ได้ค่ะ      รอมาขึ้นไลฟ์ร่วมร้องเพลงคืนความสุขให้คุณหมอ  อิอิ ไม่พลาดเเน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 29-01-2016 01:36:22
นางฟ้า จันทร์ช่วยคุณพิม คุณพิมก้อช่วยกลับ ดีจุงง!!
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 29-01-2016 03:48:45
ชอบตอนนี้ที่สุดล่ะ ชอบคุณพิม สิ่งที่คุณพิมพูดมันใช้ได้กับทุกปัญหาจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 29-01-2016 04:24:42
อ่านตอนที่จันทร์ไปยืนมองที่หน้าโรงพยาบาลแล้วน้ำตาซึม เห็นภาพมโนขึ้นมาเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 29-01-2016 07:14:23
ฮิ้ววววว อีก2 พฤหัสฯ อีก2 พฤหัสฯ อดใจไว้ รอคืนความสุขให้หมอภวัตและคนอ่าน ฮาาาาา o18
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 29-01-2016 07:15:36
อาทิตย์คงยอมใจอ่อนสักที
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 29-01-2016 07:44:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 29-01-2016 09:08:56
รักพี่น้องวังฉัตรจัง
ผู้สนับสนุนหลัก ในความรักของจันทร์จ้าว :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 29-01-2016 10:56:10
คุณพงศ์ของบ่าวววว ช่างน่ารักเสียนี่กระไร ถึงกับใจละลายเข่าอ่อน ช่างเป็นคนที่จิตใจดีอะไรเยี่ยงนี้

 :-[

ตอนคุณจันทร์ไปแอบส่องคุณหมอ แบบรู้สึกเศร้าตาม
ตอนแรกก็คิดคล้ายพี่อาทิตย์ว่าคุณจันทร์คงแอบมาหา แต่พอเห็นสิ่งที่คุณจันทร์ทำแล้วรู้สึกสงสาร

สู้ๆ นะคะคุณจันทร์ อีกนิดเดียวเท่านั้น
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 29-01-2016 11:32:55
แหม๋  ก็คุณพี่อาทิตย์เธอเป็นผู้ชายนี่ค่ะ ก็ต้องมีอภิสิทธิ์กันนี๊ดดดดนึง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 29-01-2016 11:50:19
คุณพิม พูดดีมากกก 

จันทร์กับคุณหมอเจอกันแปปเดียวก็ทำให้เรายิ้มได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 29-01-2016 13:32:59
คุณหมอกับคุณจันทร์สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 29-01-2016 14:43:10
ดีใจจัง สุดท้ายพี่อาทิตย์ ก็ยอมรับ

แต่จันทร์นี่น่ารักได้อีก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 29-01-2016 15:01:49
คุณพิมนี่เป็นขวัญใจ ขวัญเรือนจริง ๆ
พี่อาทิตย์โชคดีที่ได้รักและครองคู่กับคุณพิม

จันทร์อ้อนได้น่ารักมาก หมอละลายเลย

เอาล่ะ! เราจะซ้อมร้องเพลงตั้งแต่วันนี้เลย
ความสุขของหมอ ความสุขของจันทร์ ความฟินของเรา ชะเอิงเงิงเงยยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 29-01-2016 15:31:37
จะได้เห็นจันทร์กับหมอกลับมาสวีตกันแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-01-2016 18:47:39
นับวันฝ่ายเชียร์คุณจันทร์จะเพิ่มขึ้น แถมแต่ละคนหลักการและเหตุผลแน่นปึ้ก ฝ่ายค้านต้องล่าถอยหมดกระบวนท่า
ชอบตอนจันทร์ไปแอบมองหมอ ชอบตอนที่เจอหน้ากันจันทร์ก็อ้อนได้น่ารักน่าเอ็นดู
คนอย่างนี้ใครกล้าทำให้เป็นทุกข์นับได้ว่าเป็นคนบาปหนัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 29-01-2016 19:33:13
รักแท้มักมีอุปสรรค สองคนนี้รักกันแบบโอเคอ่ะ คือต่างฝ่ายต่างอดทนเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันในที่สุด แล้วมันเหมือนแบบทั้งสองคนรอมาเจอกันและกัน และหยึดอยู่ที่คนนี้ จากคนนึงควงสาวไปทั่ว พอเจอคนนี้ก็หยุด อีกคนไม่เคยสนใจใครก็มาหยุดที่คนนี้อีก ชอบมากๆ เลย ขอให้สมหวังเร็วๆ น้าคุณหมอ คุณจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 29-01-2016 21:49:32
จันทร์จ้าวน่ารักมากอ่ะมีแอบไปยืนมองหมอภวัตด้วย เดวจะหมดมาม่าแล้วใช่มั้ย อยากอ่านตอนคืนความสุขให้หมอแล้วนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 29-01-2016 23:46:18
ราชนิกูลพี่น้อง น่ารักทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 30-01-2016 11:05:03
พี่อาทิตย์ก็ปล่อยวางจริงๆนะ ไม่สนับสนุนก็อย่าขวางเลย สงสารจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 30-01-2016 19:50:21
ขอบคุณคุณพงศ์ที่นำรอยยิ้มกลับมาให้เรา
ด้วยการพกหมอมาด้วย 55 ^^
ส่วนคุณพิมเหมาะแล้วค่ะกับพี่อาทิตย์
อยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกถึงความสุขของทั้งคู่
รอวันคืนความสุขให้คุณหมอกันทุกคนเลยค่ะ  :hao3:



หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 31-01-2016 20:59:49
ในที่สุดคุณจันทร์ก็ได้พบคุณหมอซักที

คุณอาทิตย์ต้องเข้าใจและปล่อยวางให้นะคะ เพื่อคุณจันทร์ค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 01-02-2016 00:03:55
ตอนนี้ถึงจะมีเรื่องให้คิดมาก แต่ก็ยังยิ้มได้ตลอด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 02-02-2016 15:40:49


การที่เปิดโอกาสให้คุณหมอมาเจอคุณจันทร์บ้างนี่มันดีต่อใจป้าจริง ๆ ค่ะ
คืออ่านแบบอึมครึมมาตลอด แล้วก็มาเจอช่วงฟ้าเปิดนั่งยิ้มเป็นบ้ากับตอนที่คุณหมอลอบมาหาคุณจันทร์
เฮ่อ... คือมันดีนะ เหมือนมีน้ำมารดหล่อเลี้ยงให้ต้นอ่อนของไม้ใหญ่ไม่ล้มตายไปเสียก่อน
แต่พอเห็นว่าฤดูแล้งกำลังเดินทางมาพร้อมไฟป่าชื่อว่าอาทิตย์ (ที่ยังตัดสินใจไม่ได้) ป้าก็เป็นห่วงใจของสองหนุ่มเสียจริง ๆ

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะร้ายหรือดี ป้าก็จะอยู่เป็นกำลังใจชั้นดีให้พ่อหมอกับพ่อจันทร์ได้กันเร็ว ๆ นะจ๊ะ (เดี๋ยว!!)
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^  :กอด1:


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 02-02-2016 23:09:39
รอวันทุกคนยอมรับนะคะ คุณจันทร์จอมดื้อ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 03-02-2016 12:55:56
ไม่มีคุณพงศ์นี่กับคุณพิมนี่ ชีวิตรักของคุณหมอกับจันทร์นี่ท่าจะลำบากนะฮะเนี่ย
ไหนๆก็ไหนๆ รอลุ้นวันชื่นคืนสุขให้คุณหมอด้วยคน 555+
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 04-02-2016 19:35:25

วันนี้ สินะ

พ่อจันทร์ จะ จับมือ คุณหมอ สู่ประตูความสุข  :กอด1:

(http://f.ptcdn.info/676/039/000/1454081763-Screenshot-o.png)

 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

//ลุ้นๆๆ พี่อาทิตย์ จะทำอะไร เซอรไพรส์ ท่านนายพล ไหมหนอ :ruready
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 04-02-2016 19:53:39
 มารอ คุณหมอกะจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๐ (๒๘ ม.ค. ๕๙/หน้าที่ ๔๖)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 04-02-2016 20:24:47
มาปูเสื่อรอดู

คุณหมอ กับ พี่จันทร์ เข้าห้องหออออ

 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 04-02-2016 21:58:11
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๒๑   



หลังจากทำตัวมึนตึงใส่พี่ชายมาพักใหญ่ จันทร์จ้าวก็คิดเอาเองว่าถึงเวลาสักทีที่เขาควรจะเป็นฝ่ายเดินหมากเสียบ้าง ยิ่งเมื่อหมอภวัตแอบลักลอบมาพบเขาที่สำนักงานตอนกลางวันบ่อยขึ้น จันทร์จ้าวก็ชักจะรู้สึกถึงกำลังใจมากโขที่ได้รับ เขาจึงคิดจะทำการใหญ่กว่าเคย จากแต่ก่อนที่ทำตัวเฉยชาไม่พูดไม่จากับอาทิตย์ที่มารับมาส่ง เย็นนี้เขาตั้งใจว่าจะทำให้พี่ชายคนใหญ่ได้เรียนรู้ว่านิสัยอย่างเขานั้น ลองว่าจริงจังกับเรื่องใดแล้ว เรื่องนั้นย่อมไม่มีวันล้มเหลว


“วันเสาร์ ผมจะไปตีเทนนิส” จันทร์จ้าวพูดทันทีที่ก้าวเท้าขึ้นนั่งในรถโฟล์คของอาทิตย์ นายทหารหนุ่มผู้รับหน้าที่สารถีนิ่งไปอึดใจหนึ่ง รอจนน้องชายปิดประตูรถเรียบร้อยแล้ว และเบี่ยงรถเข้าสู่ถนนตามเดิมจึงถามกลับไป


“ไปกับใคร”


“เพื่อน”


“เพื่อนคนไหน”


“หมอภวัต”


อาทิตย์ถอนหายใจ ดูเหมือนการที่เขาพยายามมาตลอดจะไม่อาจทำให้น้องชายของเขาล้มเลิกความดื้อแพ่งนี้ได้เลย


“คิดบ้างไหม ว่าถ้าเรื่องของจันทร์กับคุณหมอรู้ไปถึงหูคนนอก คนที่ไม่หวังดี ถ้าหากเขาต้องการทำลาย เขาแค่แพร่ข่าวเรื่องนี้ออกไป ชีวิตของจันทร์และคุณหมอจะเป็นอย่างไร” คนถูกตั้งคำถามหันไปมองพี่ชายด้วยสายตาจริงจังแล้วตอบด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น


“แล้วพี่อาทิตย์ไม่คิดบ้างหรือว่าการบังคับให้ผมกับหมอไม่เจอหน้ากัน ไม่ใช่การทำลาย คิดบ้างไหมว่าแยกผมกับหมอออกจากกันแล้วชีวิตของผมกับหมอจะเป็นอย่างไร คนนอกทำอะไรผม ยังไม่สู้คนในครอบครัวทำ อย่างที่พี่อาทิตย์กำลังทำอยู่นี่” พี่ชายคนใหญ่หันมองน้องชายด้วยความเจ็บปวด เขาสู้ทำทุกอย่างเพื่อให้จันทร์จ้าวมีหนทางชีวิตที่ดี ไม่ใช่จมอยู่กับความรักที่ไม่มีวันได้ครองคู่ แต่กระนั้นจันทร์จ้าวกลับมองว่าเขากำลังทำร้ายทำลายชีวิต


“พี่ทำทุกอย่างเพื่อจันทร์” จันทร์จ้าวทราบดีว่าอาทิตย์รักเขาเพียงใด เขายกมือขึ้นพนม


“ผมขอบคุณพี่อาทิตย์มาก ผมทราบว่าพี่ทำทุกอย่างเพื่อผม ผมทราบว่าพี่เป็นห่วงผม แต่ผมขอได้ไหม...ขอให้ผมกับหมอได้ลองเรียนรู้ความรู้สึกของเราด้วยตัวของเราเอง แล้วถ้าวันหนึ่ง...ผมอยู่กับความรู้สึกนี้ไม่ได้ ผมจะถอยออกมาเอง...” ผู้เป็นพี่ไม่พูดอะไร อาทิตย์ทำได้เพียงหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถ จันทร์จ้าวเห็นอีกฝ่ายเงียบ เขาก็ได้แต่เงียบเช่นกัน ทั้งคู่นั่งเงียบกันมาตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้าน และเป็นฝ่ายคนน้องที่ตัดสินใจเปิดประตูลงจากรถเดินขึ้นบ้านเป็นผู้แรก


หลังจากนั้นครู่หนึ่ง คนรับใช้ก็ขึ้นมารายงานคุณหญิงผกาว่าอาทิตย์ขับรถออกจากบ้านไปอีกรอบโดยฝากหล่อนขึ้นมาเรียนมารดาของตนว่าลืมงานไว้ที่กรม และจะกลับมาอีกทีในตอนดึก ไม่ต้องรอรับประทานอาหารค่ำเหมือนทุกวัน


จันทร์จ้าวได้ยินในสิ่งที่คนรับใช้เรียนมารดาแล้วก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ ด้วยเพราะไม่ทราบจะทำเช่นไรกับพี่ชายคนใหญ่คนนี้ดี

……………………………..


จุดหมายปลายทางของอาทิตย์ไม่ใช่กรมอย่างที่เขาฝากคนรับใช้ขึ้นไปเรียนคุณหญิงผกาว่าลืมของ แต่เป็นโรงพยาบาลใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านรักษพิพัฒน์มากนัก นายทหารหนุ่มดับเครื่อง ลงจากรถแล้วเดินไปสอบถามพยาบาลคนหนึ่งบริเวณโถงโรงพยาบาลจึงทราบว่าหมอภวัตเพิ่งกลับไปที่บ้านพักแพทย์เมื่อสักครู่นี่เอง เขาสอบถามตำแหน่งของบ้านพักแพทย์ของภวัตแล้วจึงออกเดินตามหาเอง


บ้านพักแพทย์หลังเล็กกะทัดรัดอยู่ไม่ไกลจากตึกของโรงพยาบาลมากนัก เดินอยู่อึดใจหนึ่ง ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบนายทหารก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านพักหมอภวัต เขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นเคาะประตู อาทิตย์ได้ยินเสียงขานรับเบาๆจากข้างในและตามมาด้วยบานประตูที่เปิดออก


“คุณอาทิตย์...” เจ้าของบ้านครางอย่างคาดไม่ถึง ด้วยเพราะไม่คิดว่าอาทิตย์จะมาที่นี่


“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” อาทิตย์พูดเสียงเรียบ ภวัตจึงทำได้เพียงเปิดประตูให้กว้างขึ้นเป็นการเชื้อเชิญเข้ามาข้างใน นายทหารหนุ่มเดินเข้ามาในบ้านขนาดเล็ก เขาไม่ได้สนใจใยดีในวิถีชีวิตความเป็นอยู่อันเรียบง่ายของหมอภวัต แต่ตรงกันข้าม อาทิตย์กลับเอาแต่จมจ่อมอยู่กับความรู้สึกนึกคิดของตนเอง เขายืนเงียบอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งเจ้าของบ้านเดินออกมาจากครัวทางด้านหลังอีกหน พร้อมด้วยแก้วน้ำมาวางลงบนโต๊ะเล็กหน้าเก้าอี้ยาวใกล้ๆ


ภวัตไม่พูดกระไร เขาวางแก้วน้ำเรียบร้อยแล้วก็ขยับออกมายืนห่างเล็กน้อย แล้วรอคอยเวลาให้ผู้มาเยือนเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน


อาทิตย์ยืนเงียบอยู่เป็นนาน ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียทีหนึ่ง


“ผมไม่เข้าใจเลย มีเหตุผลอะไรที่คุณหมอรู้สึกเช่นนั้นกับน้องชายของผม ทั้งๆที่ในกรุงเทพฯก็มีผู้หญิงออกมาก ทำไมไม่เลือกเอาจากผู้หญิงเหล่านั้นสักคนหนึ่ง เหตุใดจึงต้องเป็นน้องของผม” เป็นคำถามที่ตอบได้ยากยิ่ง นายแพทย์หนุ่มเองก็ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงต้องเป็นจันทร์จ้าว เหตุใดจึงไม่ใช่สตรีเพศมากหน้าหลายตาที่เขาพานพบ


“ผมเองก็ตอบไม่ได้ครับคุณอาทิตย์ ผมทราบแค่ว่า หากไม่ใช่คุณจันทร์ ก็ไม่มีใครทำให้ผมรู้สึกเช่นนี้ได้อีกแล้ว”


“มั่นใจได้อย่างไรว่าหมอจะรู้สึกเช่นนี้กับใครไม่ได้อีก วันหนึ่งข้างหน้า หากหมอพบเจอผู้หญิงสักคนที่หมอถูกใจ ผู้หญิงสักคนที่สามารถแต่งงานอยู่กินกับหมอได้อย่างเปิดเผย ผู้หญิงสักคนที่ทำให้หมอมีครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างที่น้องของผมให้หมอไม่ได้ ถ้าถึงวันนั้น...หมอจะเอาน้องผมไว้ตรงไหน”


“จริงอยู่ว่าเราไม่มีวันรู้ว่าจะพบเจอใครอีกบ้างไหม แต่ชีวิตผมที่ผ่านมา ก็พบเจอผู้คนมามากมาย แต่ไม่มีใครทำให้ผมรู้สึกเช่นนี้ได้เลย ที่สำคัญ...ผมสัญญากับตัวเองเอาไว้ ว่าหากผมยกความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีให้แก่ใคร เขาจะเป็นคนเพียงคนเดียวในชีวิตของผม ที่ผมเรียกว่าคนรัก”


“นั่นคือเหตุผลที่หมอจะไม่แต่งงานอย่างนั้นหรือ?” คำถามของอาทิตย์ทำให้หมอภวัตนิ่งงันไปด้วยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทราบเรื่องนี้


“เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ท่านนายพลเรียกผมไปคุย ท่านบอกผมว่าคุณหมอไปเรียนท่านว่าจะไม่แต่งงาน” อาทิตย์พูดแล้วก็เงียบไป ก่อนจะหันไปมองหน้านายแพทย์หนุ่ม “...คราวนี้รู้หรือยัง ว่าการที่หมอกับน้องชายของผมรู้สึกต่อกันเช่นนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะมีคำถามอย่างนี้ จะมีเรื่องแต่งงานวนเวียนเข้ามาในวังวนชีวิตของหมอและน้องของผมไปอีกกี่ปี หมอจะทนไปได้นานเท่าไร...” คำถามประโยคสุดท้ายนั้นราวกับกลั่นออกมาจากหัวใจของอาทิตย์ ความห่วงใยที่มีต่อจันทร์จ้าวล้นเอ่อจนภวัตรับรู้ได้เป็นอย่างดี


“นั่นคือเหตุผลที่ผมไปเรียนคุณพ่อตั้งแต่ตอนนี้ว่าผมไม่คิดจะแต่งงานไปชั่วชีวิต ต่อให้สุดท้ายแล้ว ทั้งผมและคุณจันทร์จะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ผมก็จะอยู่ของผมเช่นนี้ จะไม่แต่งงานกับใคร จะไม่สร้างครอบครัวกับใคร เพราะผมเลือกแล้ว...คุณจันทร์จะเป็นคนรักเพียงคนเดียวในชีวิตของผม”


เป็นความมั่นคงที่สะท้อนกลับไปหาอาทิตย์ผู้ที่เป็นกังวลและทุรนทุรายกลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างหมอภวัตและจันทร์จ้าวจะทำให้น้องชายของตนตกที่นั่งลำบาก


ทว่า...ความมั่นคงเหล่านี้เป็นเพียงคำพูด ผ่านไป ๓ วัน ๗ วัน ความมั่นคงทั้งหลายที่หมอภวัตพูดกับเขาในวันนี้ อาจเหลือเพียงอากาศก็เป็นได้ ไม่มีใครทราบว่าในวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ความมั่นคงที่ภวัตและจันทร์จ้าวมีต่อกันจะยืนยาวเพียงใด ทุกอย่างล้วนต้องรอการพิสูจน์จากเวลาทั้งสิ้น


‘...ขอให้ผมกับหมอได้ลองเรียนรู้ความรู้สึกของเราด้วยตัวของเราเอง แล้วถ้าวันหนึ่ง...ผมอยู่กับความรู้สึกนี้ไม่ได้ ผมจะถอยออกมาเอง…’


คำวิงวอนของน้องชายดังขึ้นมาในหัวของอาทิตย์อีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ ทำให้เขาตัดสินใจพ่นลมหายใจแห่งความอึดอัดทั้งมวลออกมาจนหมดสิ้น นายทหารหนุ่มไม่พูดกระไร เขาหมุนตัวจะเดินออกจากบ้าน แต่เสียงของหมอภวัตดังตามหลังฉุดรั้งเขาให้ยืนนิ่ง


“คุณอาทิตย์...ให้ผมกับคุณจันทร์รักกันเถอะครับ” อาทิตย์หลับตาลงราวกับตัดสินใจ เขาไม่ได้หันกลับไปมองคนพูด ทว่าก็ยังสู้อุตส่าห์กลั้นใจตอบทั้งที่ยังยืนหันหลังให้เช่นนั้น


“จันทร์บอกว่าพรุ่งนี้จะไปตีเทนนิส...” เขาเอ่ยปาก รู้สึกเหมือนหัวใจของตนเองบีบรัดหนักหน่วงด้วยเพราะรู้ดีว่าคำพูดของเขาหลังจากนี้คือการทำให้น้องชายผู้เป็นที่รักก้าวเข้าสู่เส้นทางชีวิตที่จะไม่มีวันเป็นปกติสุขอีกเลย หากเพียงแค่เขาใจแข็ง...หากเพียงแค่เขาใจแข็งที่จะไม่ตามใจจันทร์จ้าวเหมือนใครๆ น้องของเขาจะมีชีวิตเฉกเช่นผู้ชายคนอื่นๆในสังคม ทว่า...สิ่งที่เขาพูดต่อมา กลับเป็นสิ่งที่อาทิตย์เองก็ไม่คิดว่าเขาจะยินยอมทำเช่นนี้


“...วานคุณหมอ...ไปรับน้องผมด้วยก็แล้วกัน”


“คุณอาทิตย์”


   “ฝากน้องผมด้วย...” นายทหารหนุ่มพูดเพียงเท่านั้น ก็ก้าวเท้าออกจากบ้านพักของภวัตไปโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย นายแพทย์แห่งโรงพยาบาลใหญ่ทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังที่หายลับไปกับทางเดินที่เลี้ยวอ้อมกลับไปที่ตึกใหญ่ แล้วทำได้เพียงสัญญากับคำพูดที่อาทิตย์ฝากเอาไว้


   ‘ฝากน้องผมด้วย’


   ...เขาสัญญาว่าจะดูแลน้องของอาทิตย์ให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำเพื่อ ‘คนรัก’ ของตนได้...

.................................

   วันเสาร์ จันทร์จ้าวยืนอยู่ในห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจระส่ำ วันนี้เขานัดกับภวัตเอาไว้แล้วว่าจะไปตีเทนนิสด้วยกัน หนำซ้ำเมื่อวานนี้เขาก็บอกกับอาทิตย์ไปแล้ววว่าวันนี้จะไปตีเทนนิสกับหมอภวัต ปฏิกริยาของพี่ชายคนใหญ่ต่อเรื่องนี้คือการไม่รับประทานอาหารเย็นร่วมกัน แต่ให้อย่างไร วันนี้เขาก็ต้องไปตีเทนนิสกับหมอให้จงได้! เขาจะไม่ยอมให้อาทิตย์บังคับหัวใจของเขาได้อีก!


   ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผลักบานประตูออกมาจากห้องแล้วเดินตรงไปยังยกพื้นกลางเรือนอันเป็นที่รับประทานอาหารเช้าในวันนี้ ทุกคนในครอบครัวรักษพิพัฒน์ประจำที่อยู่แล้ว เหลือเพียงเขาที่ออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย


   “วันนี้จะออกไปตีเทนนิสหรือจ๊ะพ่อ” คุณหญิงผกาเห็นแรกเก็ตในมือบุตรชายคนรองจึงเอ่ยปากถาม จันทร์จ้าวเหลือบไปมองอาทิตย์วูบหนึ่ง เห็นอีกฝ่ายมีท่าทีชะงักไปเช่นกัน แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วหันมายิ้มให้มารดา


   “ครับคุณแม่”


   “ไปกับใครล่ะ คุณพงศ์หรือ ไหนว่าหมู่นี้คุณพงศ์ยุ่งอยู่กับเรื่องที่ดินของคุณชายฉัตรท่านอย่างไรล่ะ” คุณหญิงผกาถามอีก


   “ครับ คุณพงศ์เธอรับหน้าเสื่อดูแลที่ดินของคุณชาย ก็เลยต้องตระเวนออกต่างจังหวัดเป็นว่าเล่น”


   “แล้วอย่างนี้พ่อจันทร์จะไปตีเทนนิสกับใคร? พ่อฝรั่งกับคุณวินิตหรือ”


   “ไม่ใช่ครับ ไปกับหมอ”


   “หมอ?...” มารดาทวนถาม


   “ครับ หมอภวัต” และคำตอบของจันทร์จ้าวก็ทำเอา ๓ พี่น้องรักษพิพัฒน์นิ่งไปในทันที นภาสรวงและดารารัษมีพากันเหลือบมองอาทิตย์ที่วางช้อนลงกับชามข้าวต้ม แต่ดูเหมือนทั้งบิดามารดาจะไม่ได้สนใจบุตรธิดาคนอื่น เพราะชื่อของนายแพทย์หนุ่มที่ออกมาจากปากของจันทร์จ้าวนั้นชวนให้ฉงน


   “ดีกับคุณหมอเธอแล้วหรือ ไหนว่าก่อนหน้านี้ไม่ถูกกัน” นายพลเดชถาม


   “ดีแล้วครับคุณพ่อ หมอเธอใจดี ผมทำอะไรให้ก็ไม่โกรธ แต่เธอก็เป็นผู้ใหญ่ ถ้าผมทำผิดเธอก็ดุ คนกล้าดุเราแบบนี้สิน่าคบ จริงไหมครับ” ท่านนายพลพยักหน้ารับสั้นๆ คุณหญิงผกาเองก็ออกจะปลื้มปิติอยู่ไม่น้อยที่เห็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนรู้จักเลือกคบคน คุณหมอภวัตเองก็เป็นคนใกล้ชิดกัน หนำซ้ำมาจากชาติตระกูลที่ดี มีการศึกษา มีอาชีพมั่นคง คบหากับคนอย่างนี้ ก็คงไม่พาจันทร์จ้าวเถลไถลที่ไหน


   “ดีจ้ะ ไว้ว่างๆพ่อจันทร์ก็ชวนคุณหมอมารับประทานอาหารที่บ้านเราบ้างนะ แล้วนี่จะไปสโมสรอย่างไรล่ะ พ่ออาทิตย์ไปส่งหรือ” คุณหญิงผกาพูดแล้วหันไปมองบุตรชายคนใหญ่ที่นั่งรับประทานอาหารเงียบๆ อาทิตย์ยอมเงยหน้าจากชามข้าวต้มขึ้นมามองมารดา แล้วเหลือบสายตาไปมองน้องชาย จันทร์จ้าวกำลังมองเขาอยู่ ดวงตากลมใหญ่มีทั้งความดื้อดึงและคาดหวัง


   “วันนี้ผมต้องไปหาคุณพิมที่วังฉัตร...” เขาพูดขึ้นมา และนั่นทำเอาจันทร์จ้าวได้แต่เม้มปาก เพราะถ้าอาทิตย์ไม่ว่างไปส่ง ก็อาจจะหมายความว่าอาทิตย์ไม่อนุญาตให้เขาไปตีเทนนิสกับหมอ แต่...แต่ถ้าไม่ให้เขาไป บิดามารดาที่รับรู้แล้วว่าเขาจะไปตีเทนนิสกับภวัตก็คงต้องหาทางช่วยให้เขาได้ออกจากบ้านแน่!


   จันทร์จ้าวหมายมาดว่าถ้าอาทิตย์ขัดขวางเขาล่ะก็ เขาจะขอยืมรถของบิดาแทน รับรองว่ามารดาต้องยอม!


   “...จันทร์ไปกับคุณหมอก็แล้วกัน” แต่แล้วคำพูดประโยคต่อมาของพี่ชายคนใหญ่ ก็ทำเอาน้องชายและน้องสาวทั้ง ๓ คนพากันชะงัก แม้แต่นภาสรวงและดารารัษมีก็คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินอาทิตย์พูดเช่นนี้


   “พี่อาทิตย์ว่าอย่างไรนะ?!!”


อาทิตย์ไม่ได้พูดซ้ำ เพราะคนรับใช้ขึ้นมารายงานเสียก่อน


   “คุณหมอภวัตมาค่ะ”


   “ตายจริง คงจะมารับพ่อจันทร์แล้วล่ะซี” คุณหญิงผกาหันมาพูดกับบุตรชายคนรองที่ยังดูตกตะลึง


   “เอ่อ...ถ้าอย่างนั้น...ผม...ผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวหมอจะรอ” แม้จะยังตกตะลึงกับคำพูดของอาทิตย์ และการปรากฏตัวของหมอภวัตที่นี่ แต่จันทร์จ้าวก็ยังพอมีสติ


   “จ้ะ ไปเถอะ แล้วอย่าลืมชวนคุณหมอมารับประทานอาหารบ้านเราด้วยล่ะ มื้อเย็นนี้เลยก็เห็นจะดีนะ” มารดาว่าอย่างนั้น จันทร์จ้าวก็ได้แต่รับคำอย่างงุนงง เขายกมือไหว้ลาบิดามารดา ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังบันไดเพื่อลงจากเรือน แต่ไม่วายหันกลับไปมองพี่ชายคนใหญ่ของตนอีกครั้ง 


อาทิตย์กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน สายตาของผู้เป็นพี่ชายคนใหญ่ยังคงเต็มไปด้วยความห่วงหาอาทร จันทร์จ้าวทราบดี อาทิตย์ทั้งรักทั้งห่วงเขาเพียงใด แต่เมื่อเขาเบนสายตาเหลือบไปมองยังรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ตีนบันไดพร้อมด้วยหมอภวัตที่ยืนเงยหน้ามองมาที่เขา รอยยิ้มจางที่ฝ่ายนั้นมอบให้ก็ทำให้จันทร์จ้าวตัดสินใจได้ เขาหันกลับไปมองอาทิตย์ที่ยังคงมองมาที่เขาด้วยความห่วงใยเหลือประมาณ คนเป็นน้องส่งยิ้มให้ผู้เป็นพี่แล้วค้อมศีรษะทีหนึ่งแทนคำขอบคุณทั้งหลายทั้งปวง แล้วจึงก้าวเท้าลงบันไดไป อาทิตย์มองอยู่เช่นนั้นจนเหลือเพียงความว่างเปล่าให้เขาเห็น จันทร์จ้าวลงจากเรือนไปแล้ว เขาได้ยินเสียงทักทายแว่วๆ ตามมาด้วยเสียงรถยนต์ของหมอภวัตที่ดังขึ้น แล้วค่อยๆจางลงเมื่อรถยนต์วิ่งออกจากอาณาเขตบ้านไปแล้ว


   นายทหารหนุ่มลอบถอนหายใจเบากับตนเอง ความห่วงใยของเขายังคงอัดแน่นเต็มหัวอก แต่เมื่อความห่วงใยที่มีกำลังทำร้ายทำลายคนที่เขารัก อาทิตย์ก็ยอมที่จะปล่อยมือ เขาหันกลับมามองชามข้าวต้มของตนเองอีกครั้ง แล้วจึงตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมองบิดามารดา


   “คุณแม่ครับ เรื่องที่เพื่อนผมอยากจะเช่าบ้าน...” เขาพูดขึ้นมา รู้สึกใจหายเสียจนต้องเว้นวรรคช่วงหนึ่งแล้วจึงค่อยพูดต่อ

“...เขาจะไม่เช่าแล้วนะครับ”


   “อย่างนั้นหรือ เขาหาที่อยู่ได้แล้วหรือพ่ออาทิตย์”


   “ครับ เขาหาที่อยู่ได้แล้ว” อาทิตย์ตอบด้วยหัวใจหนักอึ้ง คำพูดต่อจากนี้ เขาทราบดีว่าเป็นการตัดสินใจที่จะไม่มีวันกลับมาตัดสินใจซ้ำได้อีก แต่...ในเมื่อเป็นความสุขของน้อง...เขาก็จะ...


...ยอม...


“...ส่วนจันทร์...” หัวใจของอาทิตย์โหวงหวิว “...ถ้าเขาอยากกลับไปอยู่ที่นั่น...ก็ให้เขากลับไปอยู่เถอะครับ”


คำพูดของอาทิตย์ทำให้คุณหญิงผกายิ้มรับ ส่วน ๒ สาวแฝดก็ถึงกับหันมองอาทิตย์อย่างคาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน นายทหารหนุ่มมองสบดวงตาน้องสาวทั้ง ๒ แล้วโดยไม่พูดกระไร เขาก็หันไปบอกบิดาและมารดาอีกครั้ง


“ผมนัดคุณพิมเอาไว้ นี่จวนจะได้เวลาแล้ว ขอตัวออกไปพบคุณพิมก่อนนะครับ”


แล้วเขาก็ลุกออกจากโต๊ะรับประทานอาหารไป นภาสรวงและดารารัษมีมองตามด้วยความสบายใจที่เห็นพี่ชายคนใหญ่ยอมปลดปล่อยเรื่องทั้งหมดลงแล้ว


“เป็นอะไรกัน ทั้ง ๒ คน มองตามพี่เขาอย่างนั้น หรืออยากไปด้วยจ๊ะ?” คุณหญิงผกาถามเมื่อเห็นธิดาทั้ง ๒ ยังเอาแต่มองตามหลังอาทิตย์ที่หายลับลงเรือนไปแล้ว


“ไม่ใช่หรอกค่ะคุณแม่ พี่อาทิตย์เธอไปหาคู่รักของเธอ เราไปก็เป็นก้างขวางคอเธอน่ะซีคะ” ดารารัษมีตอบพร้อมรอยยิ้ม


“แล้วก็มองตามพี่เขาเสียไม่วางตา แม่ก็นึกว่าอยากจะไปกับพ่ออาทิตย์ด้วย เอ?...หรือว่าอยากจะไปกับพ่อจันทร์ล่ะ แต่คงจะตามไปไม่ทันกระมัง ป่านนี้คงจะออกถนนใหญ่ไปแล้ว” พอมารดาถามไปถึงจันทร์จ้าว ดารารัษมีผู้สดใสร่าเริงก็ดูจะนิ่งไปอึดใจหนึ่ง แต่ก็คลายยิ้มออกมาในที่สุด



“ไม่อยากหรอกค่ะ ปล่อยพี่จันทร์ไปกับคุณหมอเถอะ ดาราไปก็จะเกะกะเปล่าๆ อยู่ที่นี่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ดีกว่า จริงไหม นภา” หล่อนพูดแล้วหันไปขอความเห็นจากพี่สาวแฝด นภาสรวงยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็นทั้งพี่ชายและน้องสาวยอมรับเรื่องของจันทร์จ้าวได้แล้วโดยสมบูรณ์


“จ้ะ” หล่อนรับคำเบาๆ แล้วทั้ง ๒ แฝดก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องจันทร์จ้าวและหมอภวัตมาอีก เวลานี้พวกหล่อนยอมรับเรื่องของเขาได้แล้วก็จริง แต่การให้รู้ถึงหูของคนเฒ่าคนแก่ย่อมจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะฉะนั้นแล้ว...ให้บิดามารดารับทราบว่าคนทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันก็เห็นจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้


แล้วถ้าถึงวันที่เรื่องราวต้องเปิดเผยต่อหน้าท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาจริง นภาสรวงและดารารัษมีสัญญาว่าวันนั้น...พวกหล่อนก็จะยังยืนเคียงข้างจันทร์จ้าวเหมือนในวันนี้...

..............................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 04-02-2016 21:58:48


หม่อมหลวงพิมพัชราก้าวเท้าไปตามทางเดินที่พาไปยังโต๊ะริมน้ำ เมื่อครู่นี้คนรับใช้ไปเรียนหล่อนที่โรงครัวว่าอาทิตย์มาหา นับตั้งแต่อาทิตย์ทราบเรื่องจันทร์จ้าวและหมอภวัต ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้น้องชายคลาดสายตาอีก เป็นเหตุให้ไม่มีเวลามาพบหล่อนเช่นเคย ราชนิกูลสาวไม่ถือโทษโกรธเขา เพราะเข้าใจในความรู้สึกดี แต่เมื่อวันนี้เขามาที่นี่ หล่อนก็อดแปลกใจไม่ได้


“คุณอาทิตย์...” หล่อนเรียก เจ้าของแผ่นหลังตรงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะริมน้ำหันไปมอง หล่อนจึงยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ”


“สวัสดีครับ คุณพิม ขอโทษที่มาโดยไม่บอกล่วงหน้า” อาทิตย์มีสีหน้าหม่นหมอง และนั่นยิ่งทำให้หญิงคนรักใจหาย หล่อนหันไปพยักหน้าให้คนรับใช้ที่เดินตามมานำของว่างไปวางบนโต๊ะ รอจนทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว จึงสั่งให้คนรับใช้ทั้งหมดออกไปจากบริเวณนี้


เมื่อเหลือกันเพียง ๒ คน ราชนิกูลสาวผู้เป็นทายาทวังฉัตรจึงเดินไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย


“รับของว่างก่อนนะคะ วันนี้พิมทำข้าวเกรียบปากหม้อ ตั้งใจว่าทำเสร็จแล้วจะนำไปฝากที่บ้านคุณอาทิตย์พอดี” อาทิตย์เลื่อนจานของว่างมาตรงหน้า แม้จะไม่นึกอยากแต่เมื่อหญิงคนรักเอื้อนเอ่ยว่าเป็นฝีมือของหล่อน เขาจึงไม่อยากให้เสียน้ำใจ


รสชาติกลมกล่อมที่แสนคุ้นเคยทำให้หัวอกอุ่นซ่านไปหมด แม้คราแรกจะไม่นึกอยากอาหารชนิดใด แต่เมื่อได้รับประทานไป ๑ คำ คำที่ ๒, ๓ และ ๔ จึงตามมา หม่อมหลวงพิมพัชรานั่งเงียบๆ รอให้เขารับประทานของว่างและดื่มน้ำเสียก่อน แล้วจึงค่อยเอ่ยถาม


“รู้สึกดีขึ้นไหมคะ” นายทหารหนุ่มเหลือบมอง เขาไม่ได้ตั้งใจจะนำเรื่องทุกข์ใจมาบอกเล่าให้หล่อนเป็นทุกข์ไปด้วย แต่ก็ไม่ทราบจะเล่าให้ใครที่ไหนฟังอีกแล้ว


“ผม...คิดว่าจะไม่ห้ามจันทร์กับคุณหมออีกแล้ว...” อาทิตย์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า หัวใจยังคงแบ่งเป็นฝักฝ่าย ไม่ทราบฝ่ายใดที่ทำถูก แต่กระนั้นเขาก็เลือกแล้วที่จะยินยอมให้ความสัมพันธ์ของน้องชายและหมอภวัตดำเนินต่อไป


“หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผม...คิดว่าการกันจันทร์ออกห่างจากคุณหมอ เป็นเรื่องที่ควรทำ...” อาทิต์เอ่ยเสียงพร่าแผ่ว “...แต่ผมก็ทราบมาว่า...ช่วงแรก จันทร์มักจะแวะไปที่โรงพยาบาลโดยไม่แสดงตัว แต่ช่วงหลัง คุณหมอ...มักจะเป็นฝ่ายไปหาจันทร์ที่สำนักงาน พอเกือบบ่ายจึงค่อยขับรถกลับ...”


อาทิตย์จำได้ดี ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาใช้เวลายามพักกลางวันอยู่ในรถยนต์ที่จอดหน้าสำนักงานของน้องชายเพื่อเฝ้าดูว่าหมอภวัตแวะไปหาจันทร์จ้าวเพื่ออะไร หลังจากเฝ้าตามสังเกตอยู่หลายวัน เขาก็พบว่าก่อนที่หมอภวัตจะมา จะมีพนักงานคนหนึ่งของสำนักงานถือจานอาหารที่สั่งจากร้านใกล้ๆเข้าไปในสำนักงาน พอภวัตมาและกลับไปเมื่อตอนก่อนเวลา ๑๓ นาฬิกา พนักงานของสำนักงานจึงนำจานเปล่ากลับไปคืนที่ร้านเดิม


เพียงเท่านี้ก็ทราบแล้ว ว่าภวัตมาที่นี่เพื่อรับประทานอาหารเที่ยงในสำนักงานกับน้องชายของเขา คน ๒ คนพยายามใช้เวลาอันน้อยนิดด้วยกันอย่างลับหูลับตา หากอาทิตย์ไม่เฝ้าตามสังเกตการณ์ เขาก็คงไม่มีวันทราบ


“...ผมเองก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงยอมให้คุณหมอไปหาจันทร์ที่สำนักงาน ถ้าผมลงจากรถไปแสดงตัว คุณหมอก็คงไม่กล้าไปหาอีก แล้วจันทร์...ก็คง...ไม่กล้าขอผมไปตีเทนนิสกับคุณหมอในวันนี้ ถ้าผมกล้าหักหาญน้ำใจน้อง จันทร์กับคุณหมอจะไม่มีโอกาสได้พบกันอย่างนี้ ถ้าผมกล้า...ถ้าผมกล้า...” เขาได้แต่ย้ำกับตัวเองอย่างเจ็บปวด แค่เพียงเขากล้า จันทร์จ้าวกับหมอภวัตจะต้องจากไกลกันราวอยู่กันคนละโลก และไม่มีวันได้พบหน้ากันอีกไม่ว่าจะลักลอบด้วยวิธีใดก็ตาม แต่กระนั้น...อาทิตย์กลับไม่กล้าทำอย่างเต็มที่


ดวงตาของชายหนุ่มเหลือบมองหญิงคนรัก ในแววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอ่อนล้าและความไม่แน่ใจ


“...ผมทำถูกแล้วใช่ไหม คุณพิมช่วยบอกผมที...สิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องถูกต้องไหม...” ราชนิกูลสาวยิ้มจางอย่างอ่อนโยน


“เรื่องบางเรื่อง วัดความถูกต้องด้วยกฎ แต่เรื่องบางเรื่องก็วัดความถูกต้องด้วยใจ คุณอาทิตย์ทำดีที่สุดแล้วในฐานะพี่ชายของคุณจันทร์ จากนี้เป็นหน้าที่คุณจันทร์และคุณหมอ คุณอาทิตย์ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเธอเถอะนะคะ” อาทิตย์ได้แต่มองสบเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว ความกังวลยังคงฉายชัดอยู่ในหัวใจของเขา แต่กำลังใจที่หล่อนมอบให้ก็ทำให้เขารู้สึกถึงความผ่อนคลาย นายทหารหนุ่มถอนหายใจยาวเหยียด แม้ความกังวลที่สุมอกจะไม่อาจะลดทอนได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เขาจะลองปล่อยมือสักครั้ง


“เรื่องของจันทร์...คงจะเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม”


“เรื่องของคุณจันทร์ เป็นบททดสอบสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เป็นบททดสอบตัวคุณจันทร์และคุณหมอ”


“ผม...ก็คงได้แต่หวังว่าจันทร์และคุณหมอจะผ่านบททดสอบนี้เช่นกัน...” หม่อมหลวงพิมพัชรายิ้มอ่อนหวาน รับรู้ถึงความปรารถนาดีที่ชายคนรักมีต่อน้องชาย หล่อนเองก็ภาวนาให้จันทร์จ้าวและหมอภวัตผ่านพ้นอุปสรรคนานัปการแล้วเคียงคู่อย่างมีความสุขไปชั่วชีวิตเช่นกัน

...................................................

   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯหลายวันเพราะต้องไปทำหน้าที่แทนบิดาในจังหวัดต่างๆ พอกลับมาและมีเวลาไปพักผ่อนที่สโมสรเทนนิสบ้าง ก็พบเจอนายวินิตเข้า เรื่องราวจากนายวินิตทำให้ราชนิกูลหนุ่มตีเทนนิสไม่เป็นสุข วันต่อมาจึงต้องรีบถลามาที่สำนักงานแต่เช้าตรู่ รอจนกระทั่งรถยนต์ของหมอภวัตมาจอดเลียบฟุตบาธและจันทร์จ้าวลงจากรถเดินเข้ามาในสำนักงานนั่นล่ะ เขาถึงได้มีโอกาส


   “ไฮ คุณพงศ์ ไม่เจอกันเสียนาน เห็นว่าคุณชายจะซื้อที่ดิน คุณพงศ์เลยต้องรับหน้าเสื่อไปดูที่แทนท่านใช่ไหม” จันทร์จ้าวทักทายก่อน ท่าทางสดใสร่าเริงสมกับเป็นจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรู้จักมาแต่อ้อนแต่ออก ทำเอาสีหน้าของราชนิกูลหนุ่มเต็มไปด้วยคำถาม


   “อะไร มองหน้าผมอย่างนั้น มีอะไรจะถามก็ว่ามา แต่ผมบอกได้เลย คุณพงศ์ไม่อยู่กรุงเทพฯ ๒ สัปดาห์ คุณพงศ์ตกข่าวไปมากโข”


   “กันตกข่าวอะไร แกว่ามา” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรร้องถามอย่างรวดเร็ว เดินตามติดหนึบเข้าไปในห้องทำงานของเพื่อนรัก


   “เรื่องที่ ๑ คุณแม่ผมหาฤกษ์ได้แล้ว เมื่อวานนี้เข้าไปพบคุณชายเรื่องฤกษ์หมั้นหมายของพี่อาทิตย์กับคุณพิม Wedding Day ใกล้เข้ามาแล้ว เราจะตัดสูทกันทันไหมล่ะนี่”


   “ทันซี! แล้วเรื่องที่ ๒?” เวลานี้เรื่องของน้องสาวยังไม่น่าสนใจใคร่รู้เท่ากับเรื่องของจันทร์จ้าว แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ทำโยกโย้พูดเรื่องอื่น


   “เรื่องที่ ๒ คุณพ่อคุณแม่ของผมรู้จักกับเรย์แล้ว ผมนี่ล่ะคนพาเข้าบ้าน แต่ท่านก็ยังไม่ทราบหรอกนะว่าเรย์กับนภาคบหากันอยู่ ผมว่าก็ยังไม่สมควรให้ท่านทราบ รอไปก่อน”


   “อือ กันเห็นด้วย ให้รอไปก่อน แล้วเรื่องที่ ๓?” เรื่องเรย์มอนด์ อดัมส์และนภาสรวง ถึงจะคืบหน้าถึงขั้นที่นายฝรั่งรู้จักกับบิดามารดาของนภาสรวงแล้ว แต่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ว่ายังไม่น่าสนใจเท่าอีกเรื่องที่เขาทราบจากนายวินิต


   ...หมู่นี้จันทร์จ้าวไปตีเทนนิสกับหมอภวัตที่สโมสรแทบทุกวัน...ทำไมถึงไปได้ล่ะ? ไม่ใช่ว่าถูกอาทิตย์กีดกันอยู่หรือ?...


   “เรื่องที่ ๓ ก็คือ ผมจับสังเกตได้ว่าหมู่นี้ดารากับคุณวินิตดูจะไปกันได้ดี คุณพงศ์ทราบไหมว่าเดี่ยวนี้ดาราไม่นั่งสามล้อกลับมาบ้านเองแล้ว ไม่ติดรถพี่อาทิตย์กลับมาด้วย แต่ติดรถคุณวินิตที่ไปรับน้องสาวแทน คุณวินิตเองก็ไปรับน้องสาวทุกเย็น อีกไม่นาน คู่นี้คงเป็นรายต่อไป”


   “อ้อ อย่างนั้นหรือ แล้วเรื่องที่ ๔?” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทำใจเย็นตั้งคำถามต่อ จันทร์จ้าวทำหน้านึกอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมตอบ


   “เรื่องที่ ๔ ...เรื่องนี้เกี่ยวกับหมอ คุณพงศ์จำนายเภา น้องชายของหมอได้ไหมล่ะ ตอนนี้คนเขาพูดกันทั้งกรุงเทพฯว่ากำลังจะแต่งงาน คู่แต่งงานเป็นน้องสาวต่างแม่ของคุณอุไร เพื่อนครูของคุณพิมกับดารานั่นไง ตอนแรกเห็นดาราว่าผู้ใหญ่กำหนดให้เป็นคุณอุไร แต่เธอไม่ยอมแต่ง จะหนีออกจากบ้านนู่นแน่ะ เลยกลายเป็นน้องสาวรับเคราะห์แทน ส่วนนายเภา...ผมได้ยินมาจากข่าววงในเลยนะว่าเจ้าตัวเป็นคนขอผู้ใหญ่จะแต่งงานให้ได้ วงในของผมบอกมาว่าเพราะนายเภาอยากจะทำหน้าที่เป็นความหวังเรื่องแต่งงานให้พ่อแม่ชื่นใจ ต้นสายปลายเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน ก็วงในรายนี้ของผมน่ะซี่! เกิดอุตริคิดอะไรก็ไม่ทราบ ไปเรียนท่านนายพลศักดิ์กับคุณหญิงจิตต์ว่าจะไม่แต่งงาน บ้านวิชาญโยธินแทบลุกเป็นไฟเลยเชียว ก็ลูกชายคนใหญ่เล่นโพล่งแบบนั้น ลูกชายคนเล็กอย่างนายเภาเลยต้องกู้หน้าแทน นายพลศักดิ์ก็เลย...”


   “จันทร์! กันไม่อยากทราบเรื่องคู่ไหนทั้งนั้น นอกเสียจากคู่ของแกกับคุณหมอ!” สุดท้ายเป็นราชนิกูลหนุ่มที่อดรนทนไม่ไหวต้องร้องออกมา จันทร์จ้าวหัวเราะเสียงดังอย่างสนุกสนานที่เห็นเพื่อนรักโวยวาย


   “เอ้า! แล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้ผมพูดเรื่องคนอื่นอยู่ได้”


   “พุทโธ่! แกก็น่าจะรู้ว่ากันอยากรู้เรื่องของแกกับคุณหมอที่สุด! ไหนว่ามา สรุปแล้วเป็นอย่างไร?! ตอนนี้คุณอาทิตย์ยอมรับเรื่องของแกและคุณหมอได้แล้วหรือ?! กันได้ยินว่าแกกับคุณหมอไปตีเทนนิสด้วยกันแทบทุกวัน! แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ย้ายมาอยู่บ้านเช่าเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม? เมื่อวันที่กันกลับจากเชียงใหม่ นั่งรถผ่านหน้าบ้านแกก็ว่าแล้วว่าเห็นรถคุณหมอจอดอยู่ แต่เห็นบ้านแกปิดไฟมืดก็นึกว่าตาฟาดมองรถผิด! ว่าอย่างไรล่ะจันทร์! คุณอาทิตย์ไม่ว่าอะไรหรือ?! เรื่องแกกับคุณหมอเป็นว่าดำเนินต่อไปใช่ไหม?! แกตอบซี!”


   “คุณพงศ์ก็ถามทีละข้อได้ไหมล่ะ ถามทุกข้อรวมกัน ผมตอบไม่ถูก” จันทร์จ้าวอมพะนำจนเพื่อนรักอยากบีบคอ


   “ไฮ้! ปกติก็เห็นออกจะฉลาดหัวไวเป็นกรด! ทีอย่างนี้ล่ะทำเป็นตอบไม่ถูก! เอ้า!! กันถามทีละข้อก็ได้! ข้อแรก! คุณอาทิตย์ยอมรับเรื่องของแกและคุณหมอได้แล้วใช่ไหม?!”


   “เรื่องนี้ไม่ทราบ ต้องวานคุณพงศ์ไปถามพี่อาทิตย์”


   “เอ้า! แต่กันได้ยินว่าแกไปเที่ยวเล่นไปตีเทนนิสกับคุณหมอบ่อยๆไมใช่หรือ?!”


   “ก็ใช่”


   “แล้วคุณอาทิตย์ยอมหรือ?!”


   “ก็ไม่เห็นจะไม่ยอม”


   “อุวะ! แกนี่ตอบให้รู้เรื่องหน่อยได้ไหม?!! สรุปว่าอย่างไร?! คุณอาทิตย์ยอมรับหรือยัง?!!”


   “ก็ผมบอกแล้วว่าผมไม่ทราบ ที่ผมทราบคือผมก็ไปไหนมาไหนกับหมออย่างนี้ พี่อาทิตย์ก็ไม่เห็นว่าอะไร ผมย้ายกลับไปอยู่บ้านเช่า พี่อาทิตย์ก็ไม่ว่าอะไร เป็นว่าตอนนี้ ผมทำอะไรกับหมอ พี่อาทิตย์ก็ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพยักหน้ารับรู้ ยังตะลึงงันแต่ก็ผสมปนเปไปด้วยความเบาใจที่อาทิตย์คงจะทำใจยอมรับเรื่องของจันทร์จ้าวและหมอภวัตได้แล้ว จึงยินยอมให้คนเอาแต่ใจทำตามใจได้ถึงเพียงนี้


   “พี่น้องแกก็ยอมรับเรื่องแกกับคุณหมอได้หมดแล้วซีนะ” จันทร์จ้าวยักไหล่เหมือนไม่ค่อยจะใส่ใจเท่าไร หม่อมหลวงพงศ์ภราธรนิ่งคิดสะระตะอึดใจหนึ่ง แล้วก็ตั้งคำถามขึ้นมาด้วยเสียงที่เบายิ่งกว่าเมื่อครู่


   “แล้วทางบ้านคุณหมอ?”


   “ยังหรอก เว้นระยะให้หายใจหายคอบ้างเถอะ พี่น้องผมทราบทีเดียวติดๆกัน กว่าจะผ่านมาได้เล่นเอาหืดขึ้นคอไปหมด ขอหายใจเดี๋ยว อย่าเพิ่งให้ทางบ้านหมอทราบเลย” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ไม่วายเป็นกังวล


   “แล้วถ้าวันหนึ่งทราบขึ้นมา...” จันทร์จ้าวหันมามองหน้าเพื่อนรัก ดวงตากลมใหญ่ที่มักจะเต็มไปด้วยแววทีเล่นทีจริงและรักสนุกกลับกลายเป็นแววตาจริงจังและมุ่งมั่น


   “บ้านหมอคงไม่มีวันยอมรับ ผมก็จะให้เลือก ถ้าหมอเลือกบ้านหมอ ผมก็จะเลิก แต่ถ้าหมอเลือกผม เราก็จะย้ายไปอยู่ที่อื่นกัน อาจจะเป็นฮ่องกง น้องชายคุณวินิตจะได้มีเพื่อนบ้าน” แม้จะมุ่งมั่นเพียงใด แต่จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์ก็ยังมีเรื่องชวนหัวติดมาในประโยคเสมอ


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองใบหน้าของเพื่อนรักแล้วก็ถอนหายใจเบา ก่อนจะเอื้อมมือมาจับหัวไหล่คนตรงหน้าเอาไว้


   “ถ้าแกตัดสินใจแล้ว กันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ขอให้...แกโชคดีก็แล้วกัน...” เขาพูดเพียงเท่านั้น ซึ่งคนที่คบหากันมานานมีหรือจะไม่เข้าใจว่านี่คือประโยคอวยพรชั้นดีที่ราชนิกูลหนุ่มมีให้แก่เขา รอยยิ้มจางปรากฏขึ้นที่ใบหน้าขาว


“ขอบคุณคุณพงศ์” เขาพูด แล้วจากนั้นรอยยิ้มจางก็ขยายขึ้นจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย


   “...แต่เรื่องโชคดี ผมว่าผมโชคดีตั้งแต่เกิด อย่างแรกคือเกิดปีเดียวกับคุณพงศ์ เลยได้เป็นเรียนชั้นเดียวกับคุณพงศ์ อย่างที่ ๒ คือเกิดมาฉลาดได้เรียนห้องเดียวกับคุณพงศ์ตลอด อย่างที่ ๓ คือเกิดมานิสัยดีจนคุณพงศ์พอจะทู่ซี้คบเป็นเพื่อนได้ การได้คุณพงศ์เป็นเพื่อน เป็นเรื่องที่โชคดีจริงๆ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหัวเราะเบาๆ แล้วเปลี่ยนเป็นโอบไหล่เพื่อนรักด้วยความรักและหวังดี


   “การเป็นเพื่อนกับแกก็เป็นเรื่องโชคดีของกันเหมือนกัน” เขาพูดอย่างนั้น เพื่อนทั้ง ๒ หันมายิ้มให้กัน มิตรภาพแน่นแฟ้นให้อย่างไรก็ตัดไม่ขาด ความทรงจำและความผูกพันฉันมิตรที่คบหากันมานาน วันนี้...ต่อให้กาลเวลาหมุนผ่านไปเพียงใด สำหรับพวกเขา ๒ คน ก็ยังคงความเป็นเพื่อนรักเอาไว้ชั่วนิจนิรันดร์

........................................


   หลังจากนั้นอีกหลายเดือน ผ่านพ้นช่วงขึ้นปีใหม่สากลและปีใหม่ไทยแล้ว สำหรับบ้านรักษพิพัฒน์และวังฉัตร ไม่มีงานใดจะสำคัญเท่ากับงานมงคลสมรสของอาทิตย์ รักษพิพัฒน์และหม่อมหลวงพิมพัชรา ฉัตราภาสที่แม้จะพยายามจัดอย่างเรียบง่ายที่วังฉัตรเพียงใด แต่ก็ยังมีแขกเหรื่อมาร่วมงานอย่างคับคั่งอยู่ดี เมื่อเช้าที่เป็นงานหมั้นหมาย และตอนกลางวันที่เป็นพิธีรดน้ำสังข์ ก็ว่าแขกเหรื่อมากันมากแล้ว ในยามค่ำที่เป็นงานเลี้งแบบฝรั่ง ก็ยิ่งมีแขกเหรื่อมามากกว่าเดิม เพราะผู้ใหญ่ทั้ง ๒ ฝั่งล้วนมีหน้ามีตาในสังคม ดังนั้นเมื่อเป็นพิธีสมรสของบุตรชายคนใหญ่ของตระกูลรักษพิพัฒน์กับธิดาคนเล็กของสกุลฉัตราภาส จึงย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีใครอยากจะพลาดงานสำคัญนี้


    เจ้าบ่าวในชุดเครื่องแบบนายทหารแม้จะเคร่งขรึมแต่ใครๆก็ดูออกว่าวันนี้เขามีความสุขกว่าใคร เจ้าสาวในชุดราตรีสีชมพูอ่อนขับผิวผ่องก็มีรอยยิ้มติดอยู่ที่หน้าเสมอ คนทั้งคู่พากันเดินไปทักทายพูดคุยกับแขกเหรื่อตามโต๊ะต่างๆ เสียงเพลงบรรเลงดังกังวาลไปทั่วทั้งห้องโถงจัดเลี้ยงผสมปนเปไปกับเสียงพูดคุยของผู้คนจำนวนมาก ส่วนมากมักรวมกันเป็นกลุ่ม ยืนคุยกันบ้าง นั่งโต๊ะคุยกันบ้าง มีคนรับใช้ของวังจำนวนมากคอยอำนวยความสะดวก แต่กระนั้นญาติพี่น้องของบ่าวสาวก็วิ่งวุ่นตั้งแต่เช้าจวบจนกระทั่งงานเลี้ยงยามค่ำ 


   จันทร์จ้าวผู้รับหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและดูแลแขกเหรื่อของงานเดินถือเครื่องดื่มไปรอบๆงาน แวะทักทายกับคนนั้นทีคนนี้ทีด้วยรอยยิ้มกว้างที่เห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย นอกจากเขาจะรับหน้าที่แล้ว อีกมุมของห้องโถงก็มีหม่อมหลวงพงศ์ภราธรรับหน้าที่เดียวกัน ชายหนุ่มทั้ง ๒ ล้วนเป็นที่สนใจ เพราะใครๆต่างก็ทราบดีว่ายังโสด โดยเฉพาะจันทร์จ้าวผู้สวมชุดสูทโก้หรูได้อย่างเหมาะเจาะ ดูจะเป็นที่ต้องตาของสาวๆมากกว่า


   “คุณจันทร์จ้าวกับคุณพงศ์เธอต้อนรับแขกดีนะ ภวัต เอาใจใส่ยิ้มแย้มแจ่มใสเชียว งานวันนี้คงจะไม่เรียบร้อยอย่างนี้ ถ้าไม่ได้ทั้ง ๒ คน ท่านนายพลเดช คุณหญิงผกา และคุณชายฉัตรเธอโชคดีจริงๆ ที่ได้ลูกชายเป็นกำลังให้” คุณหญิงจิตต์หันมาพูดคุยกับบุตรชายคนใหญ่ที่นั่งเคียงข้าง อีกฝั่งหนึ่งของหล่อนคือสามีที่กำลังหันไปคุยกับแขกที่ร่วมโต๊ะกัน วันนี้ครอบครัววิชาญโยธินมาร่วมงานเพียง ๓ คน ขาดเพียงเภา วิชาญโยธินที่อ้างว่าติดภารกิจ แต่ภวัตทราบดีว่าน้องชายไม่ใคร่จะอยากมาร่วมแสดงความยินดีเสียเท่าไร เพราะยังชิงชังอยู่น้อยๆที่อาทิตย์เป็นฝ่ายครอบครองหัวใจสตรีที่เขาพึงปรารถนา


   “ครับ” ภวัตเพียงยิ้มรับ แล้วเหลือบไปมองร่างสูงโปร่งในชุดสูทโก้ที่กำลังเดินทักทายผู้คนที่ยืนจับกลุ่มกันตามจุดต่างๆ รอยยิ้มที่เห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย ทำให้เขามองเสียเพลิน


   “พอถึงคราวงานพ่อเภา ภวัตก็ช่วยดูแลด้วยล่ะ อย่าให้เสียชื่อแม่นะ” เสียงคุณหญิงจิตต์ดังเข้ามาในหัว นายแพทย์หนุ่มจึงเหลือบสายตากลับไปมองแล้วยิ้มจางแทนการรับคำ


   “น่าเสียดาย ที่ภวัต...” พอพูดถึงเรื่องบุตรชายคนเล็กที่กำลังจะจัดพิธีในอีกไม่ช้า คุณหญิงจิตต์ก็อดไม่ได้จะพูดเรื่องนี้กับบุตรชายคนใหญ่ ภวัตนิ่งไปเล็กน้อย แล้วกุมมือมารดาเอาไว้


   “ผมตัดสินใจแล้วครับคุณแม่”


   “เอาเถอะ ไว้ถ้าเปลี่ยนใจก็ค่อยมาบอกแล้วกัน...อ้าว คุณพงศ์...” คุณหญิงจิตต์ไม่อยากฟังคำตัดรอนเรื่องไม่แต่งงานของภวัตอีก ก็พอดีกับที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเดินมาทักทายที่โต๊ะ


   “เป็นอย่างไรบ้างครับ ทุกอย่างเรียบร้อยไหม รสชาติอาหารถูกปากไหม” ราชนิกูลหนุ่มทำหน้าที่แทนบิดาที่นั่งอยู่กับโต๊ะเพื่อพูดคุยกับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานด้วย


   “เรียบร้อยครับคุณพงศ์ อาหารก็รสเลิศ ฝีมือกุ๊กที่นี่หรือครับ” ท่านนายพลศักดิ์หันมาพูดคุยด้วยในทันที


   “ฝีมือกุ๊กของที่นี่และกุ๊กจากโฮเต็ลของคุณวินิตครับ คุณวินิตเป็นเพื่อนของผม และเป็นคู่รักของคุณดารา น้องของคุณอาทิตย์ด้วยครับ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูด พลางผายมือไปทางดารารัษมีที่ยืนพูดคุยกับเพื่อนครูจากโรงเรียนสตรีกัลยาณี ข้างกายหล่อนคือชายหนุ่มเชื้อสายจีน หากใครจับจ้องหล่อนอยู่ตลอดเวลา ก็คงจะพอเห็นว่าไม่ว่าดารารัษมีจะเดินไปที่ใด ก็ย่อมมีชายผู้นี้ติดตามไปด้วยเสมอ


   “มิน่าล่ะ ก็ว่าเห็นตัวติดกันเป็นตังเม เสร็จจากงานนี้ของคุณอาทิตย์ ก็คงจะเป็นงานของคุณดารารัษมีซีนะคะ แล้วคุณจันทร์จ้าวล่ะคะ ไม่มีกำหนดจะแต่งงานบ้างหรือ เห็นว่าคุณพงศ์เป็นเพื่อนสนิท น่าจะพอทราบมาบ้างใช่ไหมคะ” สตรีสูงวัยในโต๊ะเอ่ยถาม ข้างกายหล่อนมีธิดาวัยแรกรุ่นนั่งอยู่ด้วย หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองปราดเดียวก็พอจะเข้าใจว่าสตรีผู้นี้คงตั้งใจถามเพื่อหาข่าวคราวของจันทร์จ้าวเป็นแน่แท้


   “พูดไปจะหาว่าผมใส่ไฟเพื่อนของผม แต่นายจันทร์จ้าวคนนี้คาดการณ์ไม่ค่อยจะได้หรอกครับ คุณหญิงอาด บางทีอาจจะแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลย หรือบางทีอาจจะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ สมัยก่อนตอนเรียนจบมัธยม ก็ว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน ปุบปับเจ้าตัวดันสอบชิงทุนไปต่างประเทศเสียอย่างนั้น แล้วก็ทิ้งผมให้เรียนมหาวิทยาลัยที่นี่คนเดียวเฉย” ราชนิกูลหนุ่มพูดแล้วหัวเราะ ทำเอาคนทั้งกลุ่มหัวเราะตาม แต่กระนั้นก็เป็นอันทราบดีว่าเขาไม่คิดจะพูดเรื่องความรักของจันทร์จ้าวให้ใครทราบทั้งนั้น


   ทายาทแห่งวังฉัตรเหลือบสายตามามองนายแพทย์ภวัต แล้วก็เหลือบตาไปทางจันทร์จ้าวที่กำลังยืนคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนทหารของอาทิตย์ ก่อนจะทำเป็นเอ่ยปากกับนายแพทย์หนุ่ม


   “พูดถึงจันทร์ ผมก็มานึกขึ้นได้ คุณหมอครับ ถ้าไม่รบกวน ผมขอวานสักหน่อย เมื่อครู่นี้จันทร์บ่นกับผมว่าดื่มมากไปเสียแล้ว ปกติก็ดื่มมากๆไม่ได้เสียด้วย คุณหมอช่วยไปดูหน่อยได้ไหม” เพียงเท่านั้น ภวัตก็หันไปขอตัวกับคนอื่นๆในโต๊ะแล้วลุกขึ้นเดินตรงไปหาคนที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอ้างขึ้นมา ทิ้งราชนิกูลหนุ่มเอาไว้ที่เดิม


   “คุณจันทร์จ้าวดื่มมากไม่ได้หรือคะ คงจะแพ้แอลกอฮอล” ธิดาของคุณหญิงอาดพูดอย่างมีความรู้ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเพียงยิ้ม ไม่โต้ตอบหญิงรุ่น เพราะทราบดีแก่ใจว่าจันทร์จ้าวไม่ได้แพ้แอลกอฮอล แต่ที่เขาพูดว่าดื่มมากไม่ได้ เพราะถ้าดื่มมากแล้วจะเมาต่างหาก แต่เขาหันมาพูดกับบิดามารดาของภวัตแทน


   “ขอโทษที่ต้องรบกวนคุณหมอนะครับ ผมเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไรกลางงานมงคล เลยต้องมาขอยืมฝีมือคุณหมอสักครู่ ประเดี๋ยวอาการเพื่อนผมดีขึ้นแล้ว จะเอามาคืนอย่างไว”



แล้วหลังจากนั้น เมื่อคนรับใช้มาตามให้กลับไปที่โต๊ะของหม่อมราชวงศ์ฉัตร หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ไม่ได้พาหมอภวัตมาคืนแก่ท่านนายพลศักดิ์ และคุณหญิงจิตต์อีกเลย นายแพทย์หนุ่มหายออกจากงานพร้อมกับจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

ตอนนี้เป็นตอนของพี่น้อง (เพราะงั้นหมอภวัตต้องรอก่อน) โดยส่วนตัวชอบฉากพี่อาทิตย์มองจันทร์ แล้วจันทร์มองหมอมากเลย คือบอกให้รู้ว่าน้องขอเลือกผู้ชายมากกว่าพี่นะ ฮาฮา

ส่วนตอนต่อไปนี่ หมอมาแน่ ความสุขหมอได้คืนแน่ๆ ถึงเรื่องความรักจะเรียงลำดับตามอาวุโสในสี่คนพี่น้อง แต่เรื่องเข้าหอนี่ไม่เรียงนะคะ ฮาฮา

เจอกันตอนหน้า ขอบคุณสำหรับการอ่าน การเม้นท์ การติดตาม และพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ

ป.ล. พ่อจันทร์ไปแอบส่องหมอที่หน้าร.พ.เมื่อตอนที่แล้วนี่น่าสงสารจริงๆล่ะ ลองกลับกันว่าถ้าเป็นถ้วยฟูไปยืนส่องแบบนั้น อาจมีวาระเกรียนอย่างเช่น ‘ที่มาดูนี่ไม่ได้รักมันหรอกนะครับ แค่มาส่องเฉยๆว่ามันแอบจีบญาติคนไข้รึเปล่า!!!’ แน่ๆเลยล่ะค่ะ ฮาฮา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: puengmimsweety ที่ 04-02-2016 22:28:24
น่ารักกันมากๆเลยยยยยยยย

ปล.แอบคิดถึงถ้วยฟูเลยค่ะ อยากอ่านตอนพิเศษอีกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 04-02-2016 22:29:25
คุณพงศ์ช่วยหมอกับจันทร์ตลอดอ่ะ

เอ๊ะๆหายไปไหนกันสองคนน้อออ รอตอนต่อไปปปป

หมอจะมีความสุขล่ะ อิอิ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-02-2016 22:31:07
คุณพงศ์เป็นเพื่อน และพ่อสื่อที่ดีจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 04-02-2016 22:34:15

ในที่สุด  ครอบครัว ก็เข้าใจ และ ยอมรับ

พี่อาทิตย์  ดารา  นภา และพ่อจันทร์ ได้ครองคู่ กันตามลำดับนี้สินะ :กอด1:

:heaven :heaven :heaven :heaven :heaven คุณหมอ และ จันทร์จ้าว ต้องสตรอง...จับมือไว้ ก้าวไปด้วยกันนะ  :heaven :heaven :heaven :heaven  :heaven




//หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ไม่ได้พาหมอภวัตมาคืนแก่ท่านนายพลศักดิ์ และคุณหญิงจิตต์อีกเลย นายแพทย์หนุ่มหายออกจากงานพร้อมกับจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์

.....หายไปไหน อ่ะ.... ค้างงงง :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 04-02-2016 22:34:43
พูดอย่างนีัแสดงว่าจันทร์เข้าหอก่อนพี่อาทิตย์ใช่ม้าาาาา ไปแอบนอที่ใต้เตียนดีกว่า 555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 04-02-2016 22:36:18
ค้างมาก

 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 04-02-2016 22:38:40
ฟิน ขำจันทร์เจ้าเลือกหมอนี่แหล่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-02-2016 22:39:41
ต้องรออาทิตย์หน้าอีก  :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 04-02-2016 22:43:31
ถ้วยฟูพูดถูกแล้ว ถ้าไม่ไปส่องเพราะกลัวปั๋วจะไปจีบคนอื่น ก็ไม่ใช่น้องถ้วยฟูน่ะสิ!!  o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-02-2016 22:43:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 04-02-2016 22:59:53
คุณพงศ์พ่อคนดีของน้องงงงงง
ไม่รู้ว่าจะนกคุณพ่อขมองอิ่มให้ใครดีเลย
ช่างดีดี๊ดีอะไรปานนั้น
จันทร์มีเพื่อนดีเหลือเกินนนน


ขอบคุณพี่อาทิตย์ที่ยอมให้จันทร์กับหมอได้ลองศึกษากันนะคะ
รู้ว่าพี่กังวล แต่อย่ากีดกันเลย


อุปสรรคใดๆก็อยากให้หมอกับจันทร์ผ่านไปให้ได้นะ
กระโดดกอด(คุณพงศ์)แน่นเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 04-02-2016 23:05:25
 :pighaun: ตะ ตอนหน้าแล้วสินะ ช่วงเวลาคืนความสุขให้คุณหมอ อ๊ายยย
แถมยังมีประเด็นเข้าหอ หึหึ เรื่องความรักเรียงตามลำดับอาวุโส แต่เรื่องเข้าหอไม่เรียง
อันนี้จะไม่อะไรนะ แต่ นี่มันงานแต่งพี่อาทิตย์!!!!! พี่อาทิตย์แต่งไง จะเข้าหอแล้วไง คือไง คือยังไง
คุณหมอกับไปกับคุณจันทร์แล้ว ประเด็นคือ คุณจันทร์เธอดื่มไปเยอะ ถ้าเธอเมา คุณหมอก็ต้องดูแล
ปริ่มแหละงานนี้ อยากให้ถึงวันพฤหัสเร็วจัง เง้อออ อยากให้คุณจันทร์เข้าหอตัดหน้าพี่อาทิตย์เร็วๆ
อ๊ายยยยย คุณหมอคะ คุณหมอต้องนุ่มนวลมากแน่แน่
อ๊ายยยยยยย ขอเวลาแอบไปติดกล้องในห้องนอนของคุณจันทร์แพร๊บ!!!!! เอาทุกช็อตทุกมุมเลย เอิ๊กๆ :haun4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Naeon ที่ 04-02-2016 23:05:46
รอหมอจันทร์เข้าหอ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: killmus ที่ 04-02-2016 23:06:09
แล้วคุณพงศ์จะคูกับใครละค่ะ นี่ผ่านมาหลายตอนยังไม่มีวี่แววคู่ของคุณพงศ์เลย เห็นที่ดิฉันต้องเสียสละตัวเองแต่งงานกับคุณพงศ์แล้วกระมังคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณข้าวทอด ที่ 04-02-2016 23:11:46
 :hao7: :hao7: :hao7:
คุณพงศ์ให้ไปดูกันถึงไหนคะคุณหมอ...
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 04-02-2016 23:26:43
ในที่สุดพี่อาทิตย์ก็ปลงใจได้สักที ว้าแต่คุณหมอกับจันทร์หายไปำหน ขอแอบซุ่มไปรอใต้เตียงเลยได้ป่าววว ไปช้าเด๋วคนเยอะ ไม่มีที่ให้แทรก 5555+
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-02-2016 23:29:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 04-02-2016 23:32:24
คุณหมอกับจันทร์แอบหายจากงานไปไหนกันค้า  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 05-02-2016 00:15:08
พี่อาทิตย์ที่แสนดี คู่ชีวิตก็ดี ปลื้มมมมมมม

คุณพงศ์ละคะ คนนี้ก็แสนดี แต่ละคนรอบตัวจันทร์นี่ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 05-02-2016 00:39:15
รอตอนต่อไปปป
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 05-02-2016 00:47:29
ปักธงกางเต้นท์ก่อกองไฟรอตั้งแต่วันนี้เลยได้มั้ยคะ    #คืนความสุขให้หมอ    วรั้ยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-02-2016 01:19:30
จันทร์จ้าวเป็นที่รักของทุกคนจริง ๆถึงจะไม่เห็นด้วยกับทางที่เธอเลือกแต่ทุกคนก็ยอมเพราะไม่อยากทำลายความสุขของเธอ ประเสริฐแท้ทั้งพี่ทั้งน้องทั้งเพื่อนฝูง คุณหมอเป็นคนเดียวเลยนะที่เอาชนะเธอได้ คนอื่นแพ้เธอหมด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-02-2016 01:30:30
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 05-02-2016 07:01:35
 :hao5: :hao5: :hao5: รอความสุขของหมอ~ อิอิ

พี่น้องเข้าใจหมดแล้ว โชคดีของจันทร์
แต่ถึงคราวพ่อแม่นี่อาจจะศึกหนักหรือเปล่า คงไม่คดีพลิก 55555 กลัวจังเลยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 05-02-2016 07:28:04
เหลือคุณพงศ์ มีคู่รึยัง. ถ้ายัง มีคนรออยู่ทางนี้.
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 05-02-2016 09:06:23
ไม่ว่ามีอุปสรรคอะไร
ขอแค่สู้ไปด้วยกัน
มั่นคงต่อหัน
ชอบมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 05-02-2016 09:25:02
โอย..อยากอ่านตอนหน้าละ..พรุ่งนี้เป็นวันพฤหัสเลยได้ไหม... :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 05-02-2016 09:36:48
เลิศมากชอบจันทร์มากในที่สุดก็สมหวังนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 05-02-2016 09:51:05
แค่คุณอาทิตย์ยอมรับนี่ก็คืนความสุขให้คนอ่านได้โล่งใจไปเปราะนึงแล้วค่ะ
แต่ก็รอให้คืนความสุขให้คุณหมอไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
จะขนาดไหนนะ พ่อจันทร์เมาซะด้วยสิ -////-
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 05-02-2016 10:17:43
เรื่องความรักจะเรียงลำดับตามอาวุโส ส่วนเรื่อง nc ไม่เรียง #ตบเข้าฉาด ให้มันได้งี้ดิ ภวัตจันทร์จ้าว เข้าหอมันคืนนี้ก่อนพี่อาทิตย์เลย he แกรับแขกอยู่กว่าจะได้โซเดมาคอมคงข้ามวันอ่ะ ลุยเลยจันทร์!! #สายหื่นสยบดราม่า :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 05-02-2016 11:21:58
คุณพงศ์น่าเอ็นดูมากค่ะ
ที่ชอบที่สุดในตอนนี้เห็นจะเป็นตอนที่คุณพงศ์โดนจันทร์รวนใส่นี่แหละค่ะ
นี่ก็อดขำออกมาดังๆ ไม่ได้

มิตรภาพความเป็นเพื่อนของคู่นี้เค้าดีจริงๆๆๆ

#FCคุณพงศ์ #ทีมคุณพงศ์

 :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 05-02-2016 11:56:49
ดีใจกับจันทร์และคุณหมอด้วย อิอิ
รอการคืนความสุขให้หมอนะคะ

ขอบคุณพี่บัวมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 05-02-2016 11:58:32
รอการคืนความสุขให้คุณหมอ :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 05-02-2016 12:43:50
รอช่วงคืนความสุขให้คุณหมอค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 05-02-2016 13:42:31
ในที่สุดพี่อาทิตย์ก็เข้าใจเสียที รอตอนหน้า ขอจัดหนักๆ คืนความสุขให้คุณหมอภวัตบ้าง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 05-02-2016 14:10:02
พี่อาทิตย์น่ารักมาก
ทำถูกต้องที่สุด

 รอคืนความสุขให้กับหมอในตอนหน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 05-02-2016 14:41:41
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-02-2016 16:24:45
ดีงาม :katai2-1:

หมอก็ร้องเพลงรอต่อไปนะจ๊ะ

ประทับใจที่จันทร์บอกความโชคดีที่ได้เป็นเพื่อนคุณพงศ์มากเลย อ่านแล้วน้ำตาจะไหล
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 05-02-2016 18:05:15
รอตอนต่อไป งื้อออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-02-2016 18:09:14
ความรักของคู่นี้ต้องขอบคุณคุณพงศ์มากๆ

จันทร์โชคดีจริงๆ ที่มีเพื่อนแบบคุณพงศ์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnon04 ที่ 05-02-2016 19:01:43
จันทร์เจ้าเมาแบบนี้หมอต้องลงโทษนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 05-02-2016 19:23:21
หมอกับจันทร์หายไปไหนอ่ะ น่าคิดจังเลย รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 05-02-2016 23:30:58
โอ้ยยยยย น่ารักมาก พี่อาทิตย์คือสุดยอดพี่ชายจริงๆ ถ้ามีพี่ชายแบบนี้คงดีไม่น้อย

ความเป็นห่วงกันและกันของจันทร์กับหมอนี่ดีกับใจจริงๆ โอ้ย น่ารัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-02-2016 01:13:51
เส้ดแน่ๆ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 06-02-2016 12:13:09
อ่านรวดเดียวจบเลยสนุกมากมาย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 06-02-2016 14:21:08
ค่อยๆผ่านไปทีล่ะคน

ให้พักหายใจหายคอหน่อย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 06-02-2016 17:13:34
พากันหายไป/หนจ้ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 06-02-2016 18:15:26
หายไปไหนๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 06-02-2016 21:07:28
พี่น้องเข้าใจกัน คนอ่านก็สบายใจค่ะ
แต่พอพี่น้องเข้าใจ จันทร์ก็ร่าเริงเชียว
หมั่นไส้เล็กๆ 555

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 06-02-2016 21:35:42
จันทร์มีเพื่อนที่ดีมากทุกคน มีพี่ชายที่รักน้องมาก มีน้องสาวทีีรักแล้วก็เข้าใจพี่ชาย จันทร์โคตรอบอุ่นเลย :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 07-02-2016 01:18:22
พี่อาทิตย์น่าร้ากที่ซู้ดดดดดด :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-02-2016 03:05:37
รอวันคืนความสุขให้หมออออออ ขอบคุณพี่น้องรักษพิพัฒน์ที่เข้าใจ ปอลิง คิดถึงถ้วยฟูจังค่าคุณบัว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 07-02-2016 16:35:47
คืนความสุขให้คุณหมอออ
แอร๊ยยยย
ยินดีด้วยนะคะหมอขอ ขอให้หมอโชคดี
คริคริ อาฮิอาฮิ
พี่อาทิตย์ดีมาก ฮืออ คุณพี่รักน้องมาก
พี่น้องรักกันดีมากอ่ะ ปลื้มมมม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-02-2016 18:23:13
คุณหมอกับคุณจัยทร์หายไปไหนกันนนนน
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 08-02-2016 00:14:23
เรื่องนี้สีลูกกวาด

พี่อาทิตย์ใจอ่อนแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: lucifermafis ที่ 09-02-2016 19:35:20
เอาจริงๆเหมือนจันทร์เอาถ้วยฟูกับจอมมาผสมกันเลยอ่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 10-02-2016 14:11:15


ยินดีกับทุก ๆ คนอย่างที่สุด แต่ที่ปลื้มใจและเตรียมยินดีล่วงหน้าคือคุณหมอนี่แหละที่จะได้ชื่นชมดวงจันทร์ใกล้ ๆ เสียที
หมดทุกข์หมดโศกกันแล้วนะคะทุก ๆ คน ขอให้หลังจากนี้ คู่รักทุก ๆ คู่ รวมทั้งคุณพงศ์ มีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาทำให้สุขสันต์ไปเรื่อย ๆ

รออ่านตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อเลยค่ะ
อยากคืนความสุขให้คุณหมอเร็ว ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า  :กอด1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 11-02-2016 18:42:38
มาปูเสื่อรอ

คุณหมอ กับ คุณจันทร์

อิอิ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 11-02-2016 18:51:06

คุณจันทร์ จะคืนความสุข ให้คุณหมอ(?)  :hao7:
อ๊ายคุณจันทร์เมาแล้ว... :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 11-02-2016 19:29:25
มาจองที่นั่งค่ะ เดี๋ยวถ้าคนเบียดกันเยอะ
จะมุดไปใต้เตียงหมอเลยค่ะ
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 11-02-2016 20:11:56
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๒๒


   ที่ระเบียงด้านนอกนั้นปราศจากผู้คน แสงไฟจากหน้าต่างกระจกห้องจัดเลี้ยงส่องสว่างมาอย่างสลัว ส่วนที่สวนถัดออกไปจากระเบียงก็มีไฟประดับระยิบระยับ เสียงเพลงบรรเลงจากด้านในดังลอดออกมาพอให้ได้ยินเบาๆ แต่กระนั้นตรงนี้ก็ยังสงบมากนัก


   จันทร์จ้าววางแขนลงกับรั้วระเบียงแล้วสูดลมหายใจลึกๆอย่างปลอดโปร่ง เขากวาดตามองสวนภายนอกที่มืดสลัวขับแสงระยิบของไฟประดับให้โดดเด่นแล้วจึงเอ่ยขึ้นมากับคนข้างกายที่ออกจากห้องจัดเลี้ยงมายืนเคียงกัน


   “นึกยังไรไปตามผมจากกลุ่มเพื่อนพี่อาทิตย์ออกมาตรงนี้ล่ะหมอ” คนถามเหลือบมองเล็กน้อยแล้วยกยิ้มที่มุมปากราวกับจะหยอกเย้า


   “ข้างนอกอากาศปลอดโปร่งน่ะครับ” คำตอบดูเหมือนจะไม่ตรงคำถาม แต่จันทร์จ้าวทำเป็นเออออเงยหน้ามองท้องฟ้ามืดที่มีแสงจันทร์และดวงดาวระยิบ


   “ก็จริง อากาศดีเหมือนวันนั้น...” เขาพูดทิ้งไว้เพียงเท่านั้นก็เหลือบตาลงมองสวนของวัง


   “แต่วันนี้วังฉัตรแต่งไฟสวยกว่าเมื่อครั้งงานเลี้ยงต้อนรับผมแยะ” ภวัตหันมามองเสี้ยวหน้าของคนพูดที่ยังจับจ้องสวน


   “วันนั้นเราก็ออกมาที่นี่เหมือนวันนี้ จำได้ไหมครับ” จันทร์จ้าวหันมามองคนถามแล้วหัวเราะเบาๆจนเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย


   “จำได้ซี วันนั้นหมอโกรธผมด้วย”

   “คุณทำตัวน่าโกรธ ไม่โกรธจะไหวหรือ”


   “ก็หมอไม่ตามใจผม ดุผม ทำเสียงแข็งใส่ผม บังคับผมออกมาตรงนี้เหมือนวันนี้เลย” จันทร์จ้าวรำลึกความหลังพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ถึงแม้ครั้งแรกที่พวกเขายืนด้วยกันตรงนี้ เขาจะทั้งเจ็บใจและเสียใจไหนจะเจ็บแผลหกล้มที่หัวเข่าอีก ส่วนภวัตก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากัน เพราะทั้งดุทั้งขรึมใส่เขาเป็นคนละคนกับวันนี้


   “ที่ผมบังคับคุณวันนั้นเพราะคุณจะดื่มเหล้าทั้งๆที่แผลยังไม่หายดี ส่วนที่บังคับคุณวันนี้ก็เพราะเห็นว่าคุณดื่มมามากแล้ว” ภวัตพูดด้วยความห่วงใยซึ่งคนฟังรับรู้ได้ ดวงตากลมใหญ่ที่ทอดมองคนพูดจึงเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและขอบคุณ แต่อึดใจต่อมาก็ทำเป็นยักไหล่ต่อรอง


   “แต่วันนี้วันดี งานแต่งพี่ชายผม ก็ให้ผมดื่มมากหน่อยไม่ได้หรือ ผมรับรองว่าเมาแล้วจะไม่เป็นภาระใคร จะไม่ก่อความวุ่นวาย จะไม่ทำให้หมอเดือดร้อน”


   “นี่ขนาดไม่ก่อความวุ่นวาย ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน คุณพงศ์ยังต้องมาบอกให้ผมมาดูคุณ เพราะคุณดื่มมากจนเธอเป็นห่วง” คำพูดของนายแพทย์ภวัต ทำเอาคนฟังเหลือบตามองกลับเข้าไปในงานเลี้ยงผ่านทางหน้าต่างกระจก เห็นหม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองตรงมาทางนี้ก็ถลึงตาใส่ทีหนึ่ง แต่ฝ่ายนั้นทำเป็นหัวเราะไม่รู้สึกรู้สา


   “คุณพงศ์นี่ชักจะจุ้นจ้าน ไว้สักวันผมจะหาคู่ให้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาไปเสียเลย คุณผู้หญิงที่นั่งร่วมโต๊ะกับคุณชายฉัตรก็รูปงาม หมอว่าเหมาะกับคุณพงศ์ไหม” ภวัตขมวดคิ้วน้อยๆเพื่อใคร่ครวญว่าใครร่วมโต๊ะกับหม่อมราชวงศ์ฉัตร โต๊ะนั้นดูจะเป็นราชนิกูลและเชื้อพระวงศ์ ล้วนมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ที่เห็นจะรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขาก็มีอยู่เพียงแค่คนเดียว ชายหนุ่มทำตาดุใส่คนข้างกายแล้วส่ายหน้าปราม


   “พูดอะไรอย่างนี้ นั่นน่ะหม่อมเจ้าอินทิรานะครับ”


   “แล้วอย่างไรล่ะหมอ คุณพงศ์ก็หม่อมหลวง” นายแพทย์หนุ่มส่ายหน้าอีกหน จันทร์จ้าวนั้นมีเพื่อนเป็นราชนิกูลก็จริง แต่ดูเจ้าตัวจะไม่รู้เรื่องการเรียงลำดับชั้นเลยแม้แต่นิด แต่จะให้เขามาสอนกันตรงนี้ก็เห็นจะไม่เหมาะ ดีไม่ดีคนข้างกายที่กำลังอารมณ์ดีกับงานมงคลของพี่ชายคนใหญ่อาจจะอารมณ์เสียตะพึดตะพือเพราะหาว่าเขาจ้องจับผิดก็เป็นได้


   “เลิกพูดเรื่องคนอื่น แล้วก็เลิกพูดเรื่องจับคู่ให้คุณพงศ์ด้วย ที่คุณพงศ์เธอไหว้วานให้ผมมาดูคุณเพราะเธอเป็นห่วงคุณ...” นายแพทย์หนุ่มเอ่ย และเพียงเท่านั้นคนหัวไวก็ย้อนเสียทันควัน


   “แล้วหมอห่วงผมไหม” คนถูกถามนิ่งไปอึดใจ พวกเขาคบหากันมาได้พักหนึ่งแล้ว แต่กระนั้นภวัตก็ไม่ใคร่จะพูดความรู้สึกอันหวามไหวออกมาให้ได้ยินเอาเสียเลย เรื่องคำว่า ‘รัก’ ไม่ต้องพูดถึง จันทร์จ้าวคิดว่าจนชั่วชีวิตเขาก็คงไม่มีวันได้ยิน แต่กระนั้น ทุกการกระทำที่อีกฝ่ายมีต่อเขา ก็เป็นการแสดงชั้นดีที่บอกให้ทราบว่ารู้สึกต่อกันเช่นไร แต่...จันทร์จ้าวคนโลภ พักหลังมานี่ชักอยากได้ยินด้วยหูบ้างเสียแล้ว


   “บอกให้ผมชื่นใจหน่อยซี ผมได้ยินมาแยะแล้ว ว่าใครห่วงผมบ้าง มีแต่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมนี่ล่ะ เคยพูดกับผมบ้างไหม ว่าห่วงกันเท่าไร” คนช่างประจบอย่างจันทร์จ้าวย่อมมีวิธีพูดให้คนฟังทั้งเห็นใจ ทั้งเอ็นดูไปในคราวเดียวกัน และหมอภวัตเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ไม่อาจต้านทานการเรียกร้องนี้ได้เช่นกัน


   เขาได้แต่ก้มหน้าลงต่ำ รู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกมานอกอก การอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดไม่ใช่งานถนัดของเขาเลย แต่...ถ้าจันทร์จ้าวยืนยันว่าอยากได้ยินคำนี้จากเขา...เขาก็...


   “ถ้า...ไม่ห่วง...คงไม่ไปตามคุณออกจากกลุ่มหรอกครับ กลุ่มเพื่อนของคุณอาทิตย์กลุ่มนั้น ดื่มเก่ง บางคนดื่มหนักจนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลก็มี...” ช่างเป็นการส่งผ่านความห่วงใยด้วยเหตุผลข้างท้ายที่เรียกเสียงหัวเราะเหลือเกิน ดวงหน้าขาวหัวเราะเบาๆแต่ก็ยังเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย ดวงตากลมใหญ่พราวระยิบ


   “กลัวผมดื่มหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลเหมือนกันหรือ? ไม่รู้หรือไรว่าผมมีหมอประจำตัว รู้จักไหม หมอที่ชื่อภวัตน่ะ” ดวงตาของเขาจับจ้องดวงหน้าของนายแพทย์หนุ่มจนคนถูกจ้องนึกเขิน ภวัตได้แต่เม้มปากสะกดกลั้นอารมณ์ในอกที่อยากจะรั้งเจ้าของสายตากรุ้มกริ่มเข้ามากอดด้วยความรักและหวงแหน แต่เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่รโหฐาน สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการหมุนตัวจะเดินหนี แต่มือขาวกระตุกชายเสื้อสูทเอาไว้


   “จะไปไหน ผมเมานะหมอ จะทิ้งผมไว้ตรงนี้คนเดียว เกิดผมเป็นลมเป็นแล้งล้มลงกับพื้น ใครจะมาช่วย หมอเคยทิ้งผมไว้ตรงนี้แล้วทีหนึ่ง ผมไม่ให้หมอทิ้งผมที่เดิมเป็นครั้งที่ ๒ หรอกนะ” ฟื้นฟอยหาตะเข็บด้วยสีหน้ายียวน ภวัตเหลือบตากลับมามองแล้วถอนหายใจอย่างระอาใจกับคนเอาแต่ใจ


   “คุณนี่จริงๆเลย...” เขาบ่นเบาๆ แต่ก็ยอมกลับมายืนริมระเบียงเคียงข้างจันทร์จ้าวที่เดิม หูได้ยินเสียงหัวเราะสมใจของคนข้างกาย นึกอยากจะรั้งมากอดแล้วจูบหนักๆที่ข้างขมับ แต่สิ่งเดียวที่ทำได้ในเวลานี้คือวางมือลงบนราวระเบียงให้ปลายนิ้วสัมผัสกับมือของจันทร์จ้าวเบาๆ แล้วเพียงเท่านั้น คนข้างกายของเขาก็ไม่มีเสียงหัวเราะให้ได้ยิน แต่ก็ยอมวางมือเอาไว้เช่นนั้นให้ปลายนิ้วของเขาสัมผัสอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน

.............................................


   หลังพิธีส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ งานเลี้ยงยังคงดำเนินไปอีกพักใหญ่ๆ ก่อนที่แขกเหรื่อจะเริ่มทยอยกลับ ท่านนายพลศักดิ์ และคุณหญิงจิตต์ วิชาญโยธินกลับไปโดยที่ไม่มีบุตรชายคนใหญ่กลับไปด้วย จันทร์จ้าวก็เพิ่งทราบเดี๋ยวนั้นว่าภวัตไม่ได้มาพร้อมบิดามารดา แต่มาจากโรงพยาบาลดังนั้นจึงใช้รถคนละคัน หรืออีกนัยหนึ่งคือภวัตไม่ได้กลับไปเหยียบบ้านวิชาญโยธินอีก นับจากที่ไปประกาศกับบิดาเรื่องจะไม่แต่งงานนั่นเอง วันนี้แม้นายพลศักดิ์จะยังมึนตึงใส่บุตรชายคนใหญ่อยู่ แต่ก็ไม่ทำให้พิธีมงคลต้องหม่นหมอง เพียงแต่แทบจะไม่มองหน้าบุตรชายของตนก็เท่านั้นเอง



หลังจากแขกชุดสุดท้ายที่กลับไป บ้านรักษพิพัฒน์ก็ถึงเวลากลับเช่นกัน ทั้งท่านนายพลเดช คุณหญิงผกา ดารารัษมี นภาสรวงและจันทร์จ้าวมายืนกันอยู่ที่ข้างรถ ใกล้ๆกันนั้นมีหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและหมอภวัตยืนอยู่ด้วย ท่านนายพลร่ำลาเรียบร้อยก็ขึ้นนั่งที่ตำแหน่งคนขับ คุณหญิงผกาจึงหันมาทางบุตรชายคนรองที่หล่อนเข้าใจว่าจะกลับไปนอนที่บ้านเช่า


“พ่อจันทร์ก็กลับพร้อมแม่เสียเลย อย่างไรก็ต้องผ่านหน้าบ้านเช่าอยู่แล้ว”


จันทร์จ้าวเหลือบตามองนายแพทย์หนุ่มที่ทำทีไม่ยอมกลับไปพร้อมบิดามารดา ถึงแม้ภวัตจะนำรถมาเอง แต่จะกลับไปพร้อมกับท่านนายพลศักดิ์และคุณหญิงจิตต์ก็ได้ แต่ก็ยังทำเป็นรั้งรอ เขาเข้าใจหัวอกอีกฝ่ายดี เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่วิ่งวุ่นกับการช่วยงานแต่งของพี่ชายจนไม่ได้พบหน้ากันเป็นเวลานาน ตอนนี้พองานทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีแล้ว ก็อยากจะอยู่ใกล้ชิดกันเพื่อชดเชยเวลาที่ผ่านมาเสียหน่อย


“ผมว่า...จะช่วยคุณพงศ์ดูแลเก็บกวาดให้เรียบร้อยก่อนครับคุณแม่”


“อ้าว แล้วจะกลับอย่างไร” คุณหญิงผการ้องถามด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้วังฉัตรและบ้านเช่าสีเขียวอ่อนที่บุตรชายอาศัยจะอยู่ห่างกันไม่มาก แต่คืนนี้จันทร์จ้าวดื่มไปไม่น้อย คนเป็นแม่ก็เกรงว่าจะไปไม่ถึงบ้าน


“ผมไปส่งเองครับ” หมอภวัตที่ยืนอยู่ใกล้ๆเสนอตัวขึ้นมา


“รบกวนคุณหมอแย่ แม่ว่าพ่อจันทร์กลับพร้อมแม่เถอะ แล้วถ้าพรุ่งนี้จะมาช่วยเก็บกวาดก็ค่อยมาตอนเช้า คุณพงศ์เห็นด้วยไหมคะ” คุณหญิงออกจะไม่เห็นด้วยกับการที่บุตรชายคนรองจะอยู่ที่นี่ต่อเพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว และทุกคนก็เหนื่อยกับงานแต่งงานมาตั้งแต่เช้า หม่อมหลวงพงศ์ภราธรกำลังจะหาคำพูดมาแก้ต่างเพื่อให้เพื่อนรักได้อยู่ต่ออีกสักหน่อย แต่ใครบางคนไวกว่าเขา


“ไม่รบกวนหรอกค่ะคุณแม่ คุณหมอก็คนกันเอง แล้วถ้าเธอจะกลับบ้านเธอ อย่างไรก็ต้องผ่านบ้านเช่าอยู่แล้ว” ดารารัษมีนั่นเองที่เป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นมา


“...ดาราว่าเรากลับกันเถอะค่ะ คุณพ่อคุณแม่จะได้กลับไปพักผ่อนนะคะ ดูนภาก็เพลียจะแย่แล้ว พรุ่งนี้จะแวะมาเยี่ยมพี่อาทิตย์ด้วยไม่ใช่หรือคะ หากคืนนี้นอนดึกอีกคืน นภาคงตื่นไม่ไหว” หล่อนสำทับเพิ่ม


คุณหญิงผกาหันไปมองธิดาอีกคน นภาสรวงเองก็ดูเพลียจริงอย่างที่ว่า เพราะหล่อนตื่นก่อนทุกๆคนในบ้านมาหลายวัน หนำซ้ำพรุ่งนี้คุณหญิงก็ขออนุญาตหม่อมราชวงศ์ฉัตรมาเยี่ยมเยียนบุตรชายคนใหญ่ที่นี่ด้วย และหากหล่อนจะมาที่นี่กับสามีเพียงลำพัง ก็ดูเหมือนพ่อแม่สามีเจ้ากี้เจ้าการสอดรู้สอดเห็นครอบครัวใหม่ตั้งแต่วันแรก อย่างน้อยมีนภาสรวงมาด้วย ก็คงจะดีกว่า



“ถ้าอย่างนั้น...ดิฉันฝากพ่อจันทร์ด้วยนะคะคุณหมอ” หล่อนพูด ก่อนจะพากันขึ้นรถ ดารารัษมีรั้งเป็นคนสุดท้าย แล้วจึงหันมาพูดกับพี่ชายคนรองเสียงเบา


“ที่ดาราช่วยพูด ไม่ใช่ว่าดาราสนับสนุนนะคะ วันนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” หล่อนว่าอย่างนั้น ก่อนจะหันไปยกมือพนมไหว้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรและหมอภวัต ก่อนจะขึ้นรถตามบิดามารดาและพี่สาวแฝดไป


   รถยนต์ของครอบครัวรักษพิพัฒน์แล่นลับหายออกไปจากวังแล้ว เสียงของจันทร์จ้าวก็ดังขึ้น


   “ถ้าอย่างนั้นผมกับหมอก็ขอตัวก่อนแล้วกันคุณพงศ์” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทำเป็นตกใจแล้วหันมาถาม


   “อ้าว ไหนว่าจะช่วยกันเก็บกวาด” จันทร์จ้าวทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอที่เพื่อนรักทำเป็นไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง แล้วดุใส่


   “ผมยังไม่ได้คิดบัญชีที่คุณพงศ์ไปบอกหมอว่าผมเมาหรอกนะ! อย่าคิดหาเรื่องเพิ่ม!” คนถูกดุหัวเราะก่อนจะหันไปทางหมอภวัต


   “คุณหมอครับ รบกวนพาเพื่อนผมกลับทีเถอะ ปล่อยเอาไว้นานกว่านี้เห็นทีจะกินหัวผม” ภวัตหัวเราะเบาๆ พวกเขาทั้งคู่ร่ำลากับเจ้าบ้านอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่ยืนรอส่ง แล้วจึงเป็นแขกคู่สุดท้ายของงานในค่ำคืนนี้ที่กลับออกไป


ราชนิกูลหนุ่มมองส่งจนประตูใหญ่ของวังปิดลงแล้ว จึงหมุนตัวเดินกลับขึ้นตึก แต่สายตาเหลือบไปยังเรือนหอของคู่แต่งงานใหม่ที่อยู่ไม่ไกล แล้วจู่ๆก็เหมือนอะไรบางอย่างจะดลใจให้เขาหันกลับไปมองยังประตูใหญ่อีกครั้งราวกับจะส่งความรู้สึกไปยังคนคู่สุดท้ายที่ออกจากวังนี้


   ...อาทิตย์กับพิมพัชราเข้าเรือนหอกันแล้ว แล้วภวัตกับจันทร์จ้าวล่ะ...เมื่อไรจะถึงเวลานั้น...

.....................................


   บ้านเช่าสีเขียวอ่อนอยู่ใกล้วังฉัตรมาก จันทร์จ้าวเตรียมตัวจะลงเมื่อรถยนต์ของหมอภวัตขับพ้นวังฉัตรมาได้เพียงนิดเดียว แต่กระนั้นเมื่อใกล้จะถึง รถกลับไม่ชะลอลงเลยแม้แต่น้อย และในที่สุด รถยนต์ของภวัตก็ขับเลยไป


   “อ้าว...หมอ...เลยบ้านผมมาแล้ว” คนนั่งข้างหันไปร้องบอก แต่ภวัตกลับเหลือบตามามองวูบหนึ่งพร้อมรอยยิ้ม


   “ไหนตอนอยู่ที่ระเบียง คุณบอกว่าคุณเมา ไม่ควรปล่อยคุณไว้คนเดียวเพราะเกิดคุณเป็นลมเป็นแล้งมา ใครจะมาช่วยอย่างไรล่ะครับ ผมก็เลยจะพาคุณกลับไปนอนที่บ้านผมน่ะสิครับ”


   “แผนสูงจริงนะหมอ” 


คบหากันมานาน บ้านพักแพทย์ในเขตโรงพยาบาล จันทร์จ้าวแวะเวียนไปเที่ยวเล่นและค้างคืนหลายครั้งหลายหน หากครั้งนี้จะเป็นเหมือนครั้งก่อนๆ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเท่าไร ขึ้นอยู่กับสารถีจะพาไป


   “แผนสูงที่ไหนครับ ผมไม่อยากให้คุณอยู่คนเดียวทั้งๆที่ดื่มไปตั้งมาก เมื่อเช้าก็ตื่นแต่เช้าด้วยใช่ไหม”


   “ใช่ ไม่คิดว่าแต่งงานทีหนึ่งจะเหนื่อยขนาดนี้เลย ขนาดไม่ใช่คนแต่งเอง ยังเหนื่อยไปหมด หัวถึงหมอนคงหลับเป็นตาย” พอพูดถึงเรื่องแต่งงาน ภวัตก็นิ่งไปอึดใจหนึ่ง แต่กระนั้นก็ยังมีสมาธิตั้งอกตั้งใจขับรถ


   “คุณ...อยากแต่งงานไหมครับ” คำถามของนายแพทย์หนุ่มทำเอาจันทร์จ้าวต้องหันมอง


   “ผมคิดเสมอว่าจะแต่งงานกับคนที่ผมรักเท่านั้น แต่ถ้าผมมีคนรักแล้ว ผมก็ไม่ต้องแต่งงานก็ได้” เป็นคำพูดของคนฉลาดที่ทำให้คนฟังต้องไตร่ตรองประโยคสั้นๆในใจอยู่หลายครั้ง แต่ในการไตร่ตรองครั้งที่ ๒ อย่างถี่ถ้วน ภวัตก็เข้าใจดีว่าอีกฝ่ายต้องการหมายความเช่นไร


   ...จะแต่งงานกับคนที่รักเท่านั้น แต่ถ้ามีคนรัก งานแต่งงานก็ไม่จำเป็นต้องจัดก็ได้...


   “คุณ...ไม่คิดว่าพิธีแต่งงานสำคัญสำหรับคุณหรือครับ”


   “สำคัญสิหมอ อย่างน้อยงานแต่งงานก็เป็นหน้าเป็นตาให้คุณพ่อคุณแม่ของผม ให้ท่านได้บอกใครต่อใครว่าลูกของท่านมีคู่รักเป็นใคร คู่รักของลูกของท่านเป็นคนดีเพียงใด แต่...ผมว่าคุณพ่อคุณแม่ของผมก็มีหน้ามีตามากแล้ว ถ้าจะไม่มีงานแต่งงานของผมสักคนก็ไม่เห็นว่าหน้าตาของพวกท่านจะลดลงสักกี่มากน้อย อีกไม่นานคุณวินิตก็จะให้เถ้าแก่มาสู่ขอดารา คราวนี้ลูกของคุณพ่อคุณแม่อีกคนหนึ่งจะได้แต่งงานกับเจ้าของโฮเต็ลที่นิสัยดีที่สุดคนหนึ่งเชียวนะ ผมว่าแค่นี้คนก็พูดกันทั้งกรุงเทพฯแล้วกระมังว่าบ้านรักษพิพัฒน์มีแต่งานแต่งใหญ่โต ประเดี๋ยวจะหาว่าพวกเราโก้หรู โดนเพ่งเล็งอีก จะอยู่ไม่สุขนะหมอ” 


หมอภวัตฟังคำพูดของคนข้างกายแล้วก็หัวเราะเบาๆ จันทร์จ้าวช่างมีความคิดเป็นของตัวเองเสียจนอะไรก็ไม่มีอิทธิพลต่อความคิดแสนแปลกเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย เขายิ้มออกมาอย่างสบายใจ การได้จันทร์จ้าวเป็นคู่รัก ถึงแม้จะต้องหลบซ่อนจากสายตาคนนอก แต่เพราะความเข้มแข็งและแข็งแกร่งของคนที่ดูเหมือนจะโลเลและหลักลอย กลับเป็นไม้พยุงให้เขาเป็นอย่างดี


   “แล้วเรือนหอล่ะครับ สำคัญสำหรับคุณไหม”


คราวนี้คนถูกถามผู้มีความคิดเปิ่นๆมากมายถึงกับขมวดคิ้วฉับ แล้วหันมอง


   “หมอหมายความว่าอย่างไร”


   “ก็หมายความว่า ถ้าคู่รักของคุณจะซื้อตึกแถวเป็นเรือนหอ ให้เป็นที่ของคุณและเขา อาจจะไม่ต้องมาอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในช่วงเวลาที่พอจะมีให้แก่กัน คุณจะว่าอย่างไรครับ” 


จันทร์จ้าวหันมองคนพูดด้วยความตกตะลึงพรึงเพริศ ดวงตากลมใหญ่จับจ้องคนพูดที่ยังคงมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้า และเอาแต่จับจ้องอยู่เช่นนั้นจนไม่รับรู้แม้แต่น้อยว่าหมอภวัตขับรถพาเขาไปยังจุดหมายปลายทางอื่น


ที่นับจากนี้...จะเป็นเรือนหอของพวกเขา ๒ คน...

.......................................................

   รถยนต์ของครอบครัวรักษพิพัฒน์จอดสนิทที่หน้าเรือนไทย คุณหญิงผกาลงจากรถมองไปโดยรอบแล้วก็ใจหายจนต้องยกมือขึ้นแตะอก นภาสรวงลงจากรถมาพอดีเห็นท่าทางเศร้าสร้อยของมารดาจึงตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วง


   “คุณแม่ เป็นอะไรไปคะ”


   “บ้านเงียบอย่างไรไม่รู้ แม่นภา เวลาพ่ออาทิตย์อยู่ ก็ไม่ค่อยพูดหรอก แต่...ก็ยังไม่คิดว่าจะเงียบเท่านี้เลย เหงาเหมือนกันนะ พ่ออาทิตย์ย้ายออกไปแล้ว พ่อจันทร์ก็จะกลับมาแค่เสาร์อาทิตย์ อีกหน่อยแม่นภากับแม่ดาราแต่งงานออกเรือนไปอีก ที่นี่คงเหลือแต่คนเฒ่าคนแก่” คุณหญิงผกาอดไม่ได้ที่จะว้าเหว่ นภาสรวงยิ้มจางแล้วลูบแขนมารดาด้วยความรัก


   “นภาไม่แต่งงานหรอกค่ะ จะอยู่ดูแลคุณพ่อคุณแม่อย่างนี้”


   “ให้มันจริงเถอะย่ะ! วันหนึ่งเจอคนรักจริงขึ้นมา จะรีบออกเรือนแต่ไวน่ะซี!”


“ถึงใครจะรักนภาจริง แต่นภาก็ไม่เคยคิดรักใครเท่าคุณพ่อคุณแม่” คุณหญิงหันมองธิดาแล้วน้ำตาก็รื้นด้วยความตื้นตัน แม้นภาสรวงจะไม่ขยันเอาอกเอาใจเหมือนจันทร์จ้าว ไม่ฉอเลาะเหมือนดารารัษมี ไม่ได้เป็นหน้าเป็นตาอย่างอาทิตย์ แต่นภาสรวงคือสายน้ำเย็นฉ่ำที่หล่อเลี้ยงคนทั้งบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์เอาไว้ ให้เย็นใจ เย็นกายและสุขสบาย



“จ้ะ!” คุณหญิงไม่นึกเถียง หนำซ้ำยังเหลือบตามองไปทางอื่นด้วยเกรงว่าหากมองดวงหน้าธิดาจะยิ่งอดใจให้ร้องไห้ไม่ได้ “...ไม่เอาล่ะ แม่ไม่คุยด้วยแล้ว วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน แม่นภากับแม่ดาราก็ไปพักผ่อนเสียเถอะ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าไปเยี่ยมพ่ออาทิตย์เสียหน่อย แล้วจะได้แวะหาพ่อจันทร์ด้วย วันนี้แม่เห็นดื่มไปแยะอยู่ พรุ่งนี้อาจจะตื่นมาแล้วไม่สบายตัวก็เป็นได้”


   “พี่จันทร์เธอคอแข็งออกค่ะ” ดารารัษมีพูด แต่คุณหญิงผกานั้นห่วงใยบุตรชายคนรองเหนือใครเลยรีบร้องแหวว


   “คอแข็งแต่พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่สบายก็ได้นี่จ้ะ! แม่ไม่น่าตามใจพ่อจันทร์เลย น่าจะพากลับมานอนที่นี่ด้วยกัน มีอะไร แม่จะได้ดูแลได้” พอหันมาพูดเรื่องบุตรชายคนรองที่คุณหญิงทั้งรักทั้งห่วง น้ำตาที่รื้นอยู่ที่ขอบตาก็หายวับแล้วกลายเป็นสีหน้ากังวล เพราะเห็นว่าจันทร์จ้าวดื่มไปมาก และเป็นห่วงว่าจะป่วย


   “พ่อจันทร์กลับพร้อมคุณหมอภวัตไม่ใช่หรือ ไม่ต้องห่วงหรอก คุณหมอก็อยู่ทั้งคน” ท่านนายพลเดชหันมาปรามภรรยา


   “แต่คุณหมอเธอก็คนอื่น จะดูแลเหมือนพวกเราคนในครอบครัวได้อย่างไรคะ!”


   “แต่ก็สนิทกันไม่ใช่หรือ เห็นคุณพงศ์ก็พูดอยู่ ว่าพ่อจันทร์กับคุณหมอไปตีเทนนิสด้วยกันเรื่อย” ท่านนายพลสำทับเพิ่มเพื่อให้ภรรยาสบายใจ แม้สีหน้าของคุณหญิงผกาจะยังไม่คลายกังวล แต่ก็ไม่รู้จะเถียงอย่างไร สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก


   “ไม่รู้สนิทกันได้อย่างไรนะคะ นิสัยไม่ยักจะคล้ายกันเลย” หล่อนบ่นเบาๆ แต่นั่นก็ทำเอาธิดาแฝดทั้ง ๒ ผู้รู้ตื้นลึกหนาบางของความสัมพันธ์ของพี่ชายและนายแพทย์หนุ่มนิ่งไปเช่นเดียวกัน ก่อนที่ดารารัษมีผู้หัวไวจะพูดขึ้นมา


   “ก็เพราะทั้งพี่จันทร์ ทั้งคุณหมอ ตีเทนนิสเก่งทั้งคู่น่ะซีคะ จับคู่ตีกันแล้ว ไม่มีใครอยากจะเข้าไปร่วมวงด้วยสักคน คุณวินิตยังพูด ว่าถ้าให้ทั้ง ๒ คนจับคู่กันเอง คุณวินิตจะไม่อยู่ฝ่ายตรงข้ามเป็นอันขาด แต่ถ้าให้เธอเข้าไปจับคู่กับคนใดคนหนึ่ง แล้วแข่งกับอีกฝั่งที่มีอีกคนหนึ่งเป็นผู้เล่นล่ะก็ คุณวินิตเธอว่าสนุกอย่าบอกใครเชียวค่ะ” คุณหญิงผกาหยักหน้าหงึกหงักรับรู้


   “ได้ยินอย่างนี้ว่าคบหากันแล้วพากันไปตีเทนนิสแม่ก็สบายใจ ไม่ใช่คบหากันพากันเดินลงเหว แบบนั้นแม่คงอกแตกตาย” ท่านนายพลส่ายหัวไปมากับความเป็นห่วงของภรรยา


   “คุณหมอเธอเป็นคนดี จะมาพาพ่อจันทร์เดินลงเหวได้อย่างไร คิดอะไรไม่เข้าท่า ไป ขึ้นบ้านนอนได้แล้ว วันนี้เหนื่อยกันมาทั้งวัน” ท่านว่าอย่างนั้นก่อนจะประคองภรรยาขึ้นบันไดเรือน ๒ สาวแฝดมองตามหลังบิดามารดาจนหายลับขึ้นเรือนไปแล้ว ก่อนจะหันมองหน้ากัน แล้วนภาสรวงก็พูดขึ้นมา


“หากวันหนึ่งคุณพ่อคุณแม่ทราบ นภาจะยืนยันกับคุณพ่อคุณแม่ ว่าคุณหมอไม่เคยพาพี่จันทร์เดินลงเหว ความรู้สึกของพวกเธอไม่ใช่เรื่องชั่วแต่ประการใด”


จันทร์จ้าวและภวัตคบหากันอย่างเงียบเชียบ มีเพียงพวกหล่อนและคนใกล้ชิดที่ทราบ ส่วนพวกผู้ใหญ่ล้วนไม่มีใครระแคะระคาย ระยะเวลาที่ผ่านมา จะว่าสั้นก็สั้น จะว่ายาวก็ยาว แต่คนทั้งคู่ก็คบหากันมาตลอดรอดฝั่ง จะมีใครที่ทั้งตามใจและขัดใจจันทร์จ้าวได้เท่าหมอภวัต และจะมีใครให้ความมั่นคงและจริงจังกับหมอภวัตได้เท่าจันทร์จ้าว


ดารารัษมีสบตาพี่สาว แล้วยิ้มจาง


“ดาราเองก็จะช่วยยืนยันเช่นนั้นอีกแรง”


   .......................................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 11-02-2016 20:12:32


อีกมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ รถยนต์ของหมอภวัตก็ถึงที่หมายแล้วเช่นกัน เขาเลี้ยวรถเข้าจอดเลียบฟุตบาธหน้าตึกแถวที่เรียงกันเป็นพืด เสาไฟจากริมถนนให้ความสว่างเป็นหย่อมๆ แม้จะเป็นบริเวณกลางใจเมือง แต่ดึกดื่นค่อนคืนอย่างนี้ แถวนี้ก็แทบจะไม่มีผู้คนเดินผ่าน รถยนต์จอดสนิทและดับเครื่องแล้ว คนทั้งคู่จึงพากันลงจากรถ



   “ตึกนี้ครับ” ภวัตพาเดินนำไปยังตึกแถวประตูบานเฟี้ยมที่ปิดสนิท จันทร์จ้าวหยุดยืนอยู่ข้างหลังอึดใจหนึ่ง บานประตูก็แง้มออกเล็กน้อย และพอพวกเขาทั้งคู่เดินเข้าไปภายในที่มืดสนิท ภวัตก็จัดแจงดึงประตูมาปิดสนิทตามเดิม



   ตึกแถวหลังนี้เป็นตึกแถวขนาด ๒ ชั้น ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนน้อยชิ้นเพราะภวัตเพิ่งซื้อมาหมาดๆ ชั้นล่างมีเก้าอี้นั่งเล่น และโต๊ะรับประทานอาหาร เปิดประตูหลังออกไปเป็นครัวเล็กๆและห้องน้ำ จันทร์จ้าวเดินไปสอดส่องมองที่ด้านหลังตึกซึ่งเป็นที่โล่ง แต่ก็มีรั้วรอบมิดชิด



   “เป็นอย่างไรครับ” ภวัตเดินตามมาถามเสียใกล้ จนคนถูกถามรู้สึกใจสั่นอย่างประหลาด



   “ก็...ก็สวยดี...แล้วหมอจะได้มาอยู่ที่นี่หรือ ไหนว่างานที่โรงพยาบาลยุ่ง...” จันทร์จ้าวพูด แต่ไม่ยอมหันกลับไปมองคนที่ยืนซ้อนหลังเขาเลยแม้แต่น้อย แต่กระนั้นก็ยังรับรู้ว่าไออุ่นของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังชักจะใกล้เขามากขึ้นทุกที ร่างโปร่งสะดุ้งน้อยๆ เมื่อรู้สึกว่าคนที่ยืนซ้อนหลัง ไม่ได้ยืนเฉยๆเสียแล้ว แต่กลับสอดมือเข้ามารั้งเอวเขาไปกอดแนบชิด



   “ถ้าคุณมา ผมก็จะมา...ไม่ต้องมาทุกวัน แต่ขอแค่ให้คุณทราบว่าที่นี่คือที่ของเรา”



คำว่า ‘ที่ของเรา’ ยิ่งทำให้คนฟังอุ่นซ่านไปทั้งอก ไม่คิดว่าภวัตจะทำให้เขาถึงเพียงนี้ เขาหันกลับไปมอง ทั้งๆที่ยังถูกกอดอยู่เช่นนั้น ร่างยังจมอยู่ในอกของนายแพทย์หนุ่ม ใบหน้าใกล้กันจนแทบจะใช้ลมหายใจร่วมกัน ระหว่างพวกเขา มีเพียงความเงียบและเสียงหัวใจที่สะท้อนให้กันและกันได้รับรู้



   ภวัตแตะริมฝีปากของตนลงกับริมฝีปากสีสดเบาๆ มันขยับพลิ้วเกาะเกี่ยวหัวใจของคนในอ้อมแขนเขาอย่างนุ่มนวล ฝ่ามือที่โอบเอวอยู่ขยับเคลื่อนไปตามแผ่นหลัง ลูบไล้อย่างอ่อนโยนและอ่อนหวาน หัวใจของจันทร์จ้าวไกวแกว่งเพราะอารมณ์เพริศพลิ้วที่อีกฝ่ายมอบให้ รสสัมผัสเพิ่มเป็นหนักขึ้นอีกเล็กน้อย แต่กระนั้นมันก็ยังขยับอย่างเชื่องช้า จูบเล็มไล้ไปตามเรียวปาก ดูดซับที่ริมฝีปากล่างให้เผยอออกแล้วสอดปลายลิ้นเข้าเกี่ยวกวัดกับลิ้นนุ่มภายใน เสียงครางฮืออย่างพึงใจดังขึ้นเบาๆ รสจูบยังคงดำเนินต่อไปอย่างช้าๆ ก่อนที่ทั้ง ๒ จะผละออกจากกันทั้งที่ความรู้สึกยังหมุนวนอยู่ในใจ



   จันทร์จ้าวซบหน้าลงกับบ่าแข็ง หายใจถี่เล็กน้อยเพื่อรับอากาศเข้าปอด เขายังคงถูกโอบกอดอย่างแนบชิด ความรู้สึกที่ภวัตมอบให้ ไม่ต้องแสดงเป็นคำพูด เขาก็เข้าใจดี



   “หมอ...” เขาเรียกเบาๆ คนที่พิงศีรษะลงกับศีรษะของเขาขานรับกลับมาด้วยน้ำเสียงเบาไม่แพ้กัน


   “ครับ...”


   “หมอ...” จันทร์จ้าวรู้สึกเก้อเขินอย่างประหลาด แต่เมื่อพวกเขารู้สึกต่อกันเช่นนี้ จะปล่อยเวลาให้เดินผ่านไปเพื่ออะไร ในเมื่อวันนี้ต่างมีกันและกันอยู่ในอ้อมแขน ในเมื่อวันนี้ยังมีคนที่รักอยู่เคียงข้าง ไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วที่จะหลบหนีความสัมพันธ์ที่ควรจะพัฒนาเสียที



   “...หมอ...ศึกษามาแล้วหรือ...” คำถามของจันทร์จ้าวเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน แต่ภวัตก็อยู่ใกล้พอที่จะจับใจความประโยคอันแสนตะกุกตะกักนั้นได้ เขาช้อนใบหน้าของคนที่ซบไหล่เขาให้เงยขึ้นมามองสบเข้าไปในดวงตากลมใหญ่


   “ศึกษาแล้วครับ”



และคำตอบของเขาก็ทำเอาดวงตากลมใหญ่ถึงกับชะงักงัน ภวัตเห็นความตะลึงในดวงตาคู่นี้แล้วก็ทั้งสงสารทั้งเอ็นดู จันทร์จ้าวกำลังกลัวและกังวลเรื่องนี้อยู่จริงๆ


   “ผมจะไม่โกหกคุณ เท่าที่ผมลองหาข้อมูลดู...มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจ็บ แต่ว่า...ผมพอจะมีตัวช่วย...”



   “ตัวช่วย?...ตัวช่วยยังไร?” เจ้าของดวงตากลมใหญ่ถามด้วยความหวั่นวิตก มือหนาข้างหนึ่งของภวัตยกขึ้นแตะแก้มขาวแผ่วเบา นิ้วโป้งไล้ผิวอย่างอ่อนโยนราวกับจะปลอบประโลมในขณะที่ดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวานและรักใคร่ยังคงจับจ้องเข้าไปในดวงตากลมที่มีแต่ความกังวล



   “ไว้รอคุณพร้อมเถอะครับ” ภวัตพูด ดวงตากลมของคนรักที่ยังคงอัดแน่นด้วยความวิตกทำให้อดใจไม่ไหวนึกอยากปลอบเสียจนต้องก้มลงมอบรสสัมผัสหวานละมุนให้แก่ริมฝีปากสีจัดที่อยู่ตรงหน้า เขาจูบเบาอย่างอ่อนหวาน ทำเอาหัวใจของจันทร์จ้าวสั่นไหวเสียจนแทบยืนไม่อยู่



   “...ผมขอมัดจำเอาไว้ก่อน เท่านี้ก็พอ” เขากระซิบ แล้วไล้ปลายจมูกของตัวเองให้เกลี่ยกับปลายจมูกของจันทร์จ้าวไปมาอย่างเบาๆ ยิ่งทำเอาอีกฝ่ายหวั่นไหวกับอารมณ์หวามที่เริ่มเคลื่อนทะยานเข้ามาสู่หัวใจ



“หมอ...” จันทร์จ้าวกระซิบเรียก เมื่อพวกเขายังคลอเคลียกันและกันด้วยปลายจมูกและริมฝีปากที่ใกล้เสียจนแทบแนบชิดเป็นเนื้อเดียว



“...ที่หมอบอกว่า...มีตัวช่วย...ตัวช่วยของหมอ...จะทำให้ผมเจ็บน้อยที่สุดใช่ไหม”



“ทั้งผม...และตัวช่วยของผม...จะทำให้คุณเจ็บน้อยที่สุด”



“แล้ว...ถ้าผมเจ็บมากล่ะ” ภวัตยิ้มจางอย่างเอ็นดู จันทร์จ้าวดูจะหวั่นกับเรื่องเจ็บเสียจนเขาต้องโน้มศีรษะคนถามลงซบกับบ่าแล้วลูบเบาๆเพื่อให้กำลังใจ



“กลัวอะไร ผมเป็นหมอ ถ้าคุณเจ็บมาก...ผมก็จะรักษาคุณเอง” คนกลัวเจ็บหลับตาลงราวกับจะตัดสินใจ จริงอย่างที่ภวัตว่า อีกฝ่ายเป็นหมอ ถ้าหากทำให้เขาเจ็บหนัก อย่างไรเสียภวัตก็ย่อมรักษาเขาได้อยู่แล้ว ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว ในเมื่อภวัตเป็นหมอ หมออย่างภวัตคงไม่อยากเพิ่มคนไข้ให้กับตัวเองด้วยการทำให้เขาเจ็บหนักหรอก



จันทร์จ้าวไม่พูดกระไร ระหว่างพวกเขามีเพียงความเงียบ ภวัตยังคงลูบศีรษะเขาไปมา และจันทร์จ้าวก็ยังคงยืนซบบ่าอยู่เช่นนั้น การโอบกอดและความอ่อนโยนที่ภวัตมอบให้ในเวลานี้ดูจะเป็นการปลอบโยนชั้นดีที่ทำให้หัวใจของคนถูกกอดไม่เต้นโครมครามด้วยความหวาดหวั่นเหมือนเมื่อครู่ และเมื่อเวลาผ่านไป ก็ดูเหมือนมันจะเริ่มสงบพอที่จะทำให้เจ้าของสามารถตัดสินใจเรื่องที่คาใจอยู่ได้



“ถ้าหมอสัญญา...ผมก็...” ไม่มีคำพูดต่อจากประโยคที่ทิ้งค้างเอาไว้แค่นั้น นอกเสียจากจันทร์จ้าวเอียงหน้าเล็กน้อยให้หันเข้าหาซอกคอของนายแพทย์หนุ่ม จากนั้นจึงกดจูบลงกับต้นคอของภวัตเบาๆ



นายแพทย์หนุ่มรับรู้ความยินยอมจากร่างในอ้อมแขนที่ซุกซบใบหน้าลงกับซอกคอของเขา ชายหนุ่มยิ้มจางกับตนเองแล้วกอดรัดร่างในอ้อมแขนให้แน่นยิ่งขึ้นพลางกระซิบตอบกลับไปเสียงเบา



“เชื่อใจผมนะครับ ผมจะทำให้คุณเจ็บน้อยที่สุด ผมสัญญา”


...................................................


ห้องน้ำของตึกแถวถึงแม้จะอยู่ติดกับตัวบ้าน แต่ก็อยู่ทางด้านหลัง ต้องเดินออกจากประตูหลังบ้านก่อนจึงจะถึงประตูห้องน้ำ แต่กระนั้น ก็ล้อมรั้วมิดชิด ยิ่งในเวลากลางคืนเช่นนี้ บริเวณนั้นไม่มีไฟฟ้าจึงมีเพียงแค่แสงจันทร์สลัวในคืนเดือนหงายคอยให้ความสว่างภายนอก ส่วนภายในได้แสงวูบวาบจากตะเกียงที่วางอยู่บนชั้นไม้ริมห้องเท่านั้น



แสงนวลอ่อนสาดกระทบร่างสูงโปร่งเปลือยเปล่าที่กำมือทั้ง ๒ ข้างลงปากโอ่งมังกรใบใหญ่ ริมฝีปากสีสดครางผะแผ่วยามที่ร่างกายถูกเตรียมพร้อมด้วยปลายนิ้วของนายแพทย์หนุ่มซึ่งยืนซ้อนหลัง คราแรกมันทั้งเจ็บเสียดและอึดอัด แต่เมื่อภวัตยังคงสร้างความคุ้นเคยด้วยนิ้วที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างช้าๆ ก็พอจะทำให้จันทร์จ้าวพอจะปรับตัวได้อยู่บ้าง และเวลานี้ดูเหมือนจะเริ่มคุ้นชินกับจำนวนนิ้วที่อีกฝ่ายกดแทรกเข้ามาในร่างกายเขาได้แล้ว นายแพทย์หนุ่มมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่กำลังถูกเล่นงานด้วยความปั่นป่วน แม้จะรู้ดีเขาควรเป็นฝ่ายอดทน แต่กระนั้นก็ยังอดใจไม่ไหวต้องกดจูบลงกับหัวไหล่ขาวแล้วกระซิบเสียงแผ่วเป็นการปลอบประโลม



“ไม่เป็นไรนะครับ อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”


จันทร์จ้าวไม่ทันได้หันกลับไปถามว่า ‘อีกเดี๋ยว’ ที่หมอภวัตว่า หมายความถึงสิ่งใด เขาก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อปลายนิ้วที่แทรกสอดในร่างกายของขถูกถอนออกไป และอึดใจต่อมามันก็แทรกกลับเข้ามาพร้อมด้วยความรู้สึกแฉะชื้น


“ม...หมอ!...หมอ!...อะ...อะไรน่ะ?!” เขาร้องถามด้วยความตื่นตระหนก อารมณ์ที่โหมกระพือมาตั้งแต่เมื่อครู่ดูหายวับไปกับตาเมื่อรู้สึกว่าความแฉะชื้นนั้นกำลังทำให้เขาเปียกลื่นไปหมดทั้งช่วงล่าง


“น้ำมันมะพร้าวครับ”



“น้ำมันมะพร้าว?!” จันทร์จ้าวหันขวับไปร้องถามหน้าตาเบิกโพลง แต่ภวัตไม่ตอบกระไรนอกจากหมุนปลายนิ้วไปมาเบาๆ ทำเอาร่างโปร่งเกร็งเฮือกขนลุกซ่านไปหมดทั้งตัว



“อ๊ะ!...หมอ!...ไม่...ไม่...” เมื่อครู่ที่เพียงแค่สอดนิ้วเข้ามาในร่างกายของเขาก็ยังพอทำเนา แต่ตอนนี้ที่ขยับเขยื้อนไปมาด้วยเริ่มทำให้จันทร์จ้าวทนไม่ไหว เขาได้แต่ก้มหน้าครางเกร็งสะท้านตอดรัดปลายนิ้วของภวัตอย่างไม่รู้ตัว


“ไม่เกร็งนะครับ หายใจลึกๆ”



“ต...แต่...หมอ...มัน...” จันทร์จ้าวอธิบายความรู้สึกในเวลานี้ไม่ถูก สติสมาธิทั้งหมดพุ่งตรงลงไปที่เบื้องล่าง ยิ่งนิ้วของภวัตแทรกลึกพร้อมกับหมุนไปมามากเท่าไร การสัมผัสและความลื่นแฉะชื้นจากน้ำมันที่ชโลมนิ้วเอาไว้ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเสียวกระสันต์มากขึ้นทุกที



“ไม่เป็นไร แค่น้ำมันเท่านั้นเองครับ คุณจะได้ไม่เจ็บ...นิดเดียวนะครับ นิดเดียว...” คำว่านิดเดียวของหมอภวัตทำให้คนถูกกระทำแทบขาดใจ นิ้วยาวชำแรกลึกจนสุดแล้วถอนออก น้ำมันลื่นอาบชโลมเสียจนจันทร์จ้าวยืนแทบไม่อยู่



“เอาล่ะครับ เรียบร้อยแล้ว” นายแพทย์หนุ่มพูดแล้วหันไปตักน้ำจากโอ่งมังกรมาล้างไม้ล้างมือ แล้วจึงเดินไปหยิบเสื้อคลุมผ้าขนหนูมาสวมให้กับร่างเปล่าเปลือย น่าแปลกที่จันทร์จ้าวถูกลอกคราบทั้งตัว แต่ฝ่ายหมอภวัตยังคงเสื้อผ้าชุดเดิมยกชุด ถึงแม้จะเปียกน้ำเป็นหย่อมๆจากที่เมื่อครู่ช่วยชำระล้างร่างกายให้คู่รักของเขาก็ตามที



“ร...เรียบร้อย?...หมอ...หมอหมายถึง...”


“หมายถึงเราจะกลับไปที่ห้องกันครับ คุณเดินไหวไหม” ดวงตากลมใหญ่ทั้งตระหนกทั้งเต็มไปด้วยความต้องการ แต่พอก้าวเท้าจะเดิน ความลื่นจากน้ำมันที่ชโลมเอาไว้ก็ทำให้เขาก้าวขาไม่ออก จำต้องหันไปมองภวัตที่ยืนอยู่ใกล้ๆ


“หมอ...ผม...ผมเดินไม่ได้...” ภวัตยิ้มจางอย่างอ่อนโยน แล้วเดินเข้ามากอบกุมมือขาว


“เดินกับผมนะครับ ค่อยๆเดิน”


“หมอ! อื้อ!...มันลื่น...” ส่วนที่ลื่นนั้นทั้งแฉะชื้นและเปียกฉ่ำ จันทร์จ้าวได้แต่กัดปาก รู้สึกอับอายกับร่างกายของตนเองยิ่งนัก แต่เมื่อมองไปยังภวัตที่ยืนอยู่เคียงข้าง และยังคงมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน ร่างโปร่งก็ได้แต่ก้าวเท้าเดินอย่างช้าๆ


พวกเขาเดินกลับเข้าไปในตึกแถวอย่างเชื่องช้า และกว่าจะขึ้นมายังชั้น ๒ อันเป็นห้องนอนได้ คนที่ถูกชโลมด้วยน้ำมันมะพร้าวจนเหนอะหนะก็เกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความอับอาย


“ไม่เป็นไร ชู่ว์...” ภวัตกดจูบลงกับขมับอย่างปลอบประโลม แล้วพาร่างโปร่งข้างกายไปยังเตียงกว้างกลางห้อง เขาดันร่างนั้นลงนอนกับเตียง ตามมาด้วยการปลดมุ้งทั้ง ๔ ด้านลง จันทร์จ้าวได้แต่นอนมองคนที่อยู่ในมุ้งกับเขาด้วยหัวใจเต้นถี่ ภวัตถอยออกห่างเล็กน้อยแล้วปลดกระดุมเสื้อที่สวมอยู่ แสงจันทร์จากภายนอกสาดส่องเข้ามาภายในมุ้งอย่างสลัว แต่กระนั้นก็สว่างมากพอที่จะทำให้ดวงตากลมโตของคนที่นอนออยู่เบื้องล่างได้กวาดมองร่างสูงที่คร่อมทับเขาอยู่ครึ่งตัวและกำลังถอดเสื้อออก



“มองผมตาแป๋วเชียว...” นายแพทย์หนุ่มเหลือเพียงกางเกงตัวเดียว แต่ก็ไม่เรียบร้อนจะจัดการมากนัก เขาก้มลงคร่อมทับจันทร์จ้าวแล้วกระซิบหยอกเย้าอย่างเอ็นดู ปลายจมูกเกลี่ยไล้กันและกันอย่างอ่อนโยน



“ก็...ผมไม่เคยเห็นนี่...” จันทร์จ้าวตอบเสียงเบา คนฟังยิ้มก่อนจะจับมือขาวให้ขึ้นมาแตะที่อกเขา



“ลองสัมผัสดูสิครับ...อือ...” แม้จะเป็นฝ่ายบอกให้สัมผัส แต่เมื่อถูกมือขาวลูบไล้ที่แผ่นอกอย่างเบามือ ภวัตก็อดไม่ได้ที่จะครางเครือกับการปลุกเร้าอย่างเนิบนาบ ดวงตากลมใหญ่จับจ้องมองใบหน้าของนายแพทย์หนุ่มที่กำลังแสดงอารมณ์พิศวาสราวกับถูกตรึงด้วยมนตร์ เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้เห็นอีกฝ่ายในอารมณ์เช่นนี้ มันละสายตาแทบไม่ได้ อยากเห็น อยากมอง และอยากทำให้ภวัตด่ำดิ่งกับอารมณ์มากกว่านี้อีก



จันทร์จ้าวเผยอริมฝีปากขึ้นมอบจูบให้แก่คนที่ทาบทับอยู่เบื้องบน มอบรสจูบเร่งเร้าผสานกับการลูบไล้ที่แผ่นอกกว้างลงไปยังหน้าท้องแบนราบ และลงไปยังกางเกงแล้วจึงช่วยปลดกระดุมให้อย่างช้าๆ



“อือ!...” นายแพทย์หนุ่มถึงกับครางในคอเมื่อมือขาวเย็นแตะสัมผัสลงกับความเป็นชายของเขาอย่างแผ่วเบา เขาผละจูบออก แล้วจับจ้องเข้าไปในดวงตากลมใหญ่ที่มองเขาอย่างซุกซน


“มือไวนักนะ” เขาคาดโทษอย่างไม่เอาจริงเอาจังนัก และนั่นเรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนมือไวได้เป็นอย่างดี


“ก็หมอไม่ทำอะไรสักที ผมก็ทำเองน่ะซี” นอกจากจะมือไวแล้วยังปากเก่งอีกด้วย ดวงตากลมพราวระยับจับจ้องมาที่นายแพทย์หนุ่ม และนั่นคือการท้าทายชั้นดีให้ภวัตปลดเสื้อคลุมผ้าขนหนูที่ห่อหุ้มร่างขาวออก เขากวาดตามองตั้งแต่ช่วงคอลงมาที่ลาดไหล่ แผ่นอกแบนราบและหน้าท้อง ก่อนจะลงมายังจุดกึ่งกลางลำตัว และจับจ้องมันนานเป็นพิเศษจนเจ้าของชักจะหน้าร้อนเห่อ



“หมอ...จะมองอีกนานไหม” ภวัตเหลือบตาขึ้นไปมองคนประท้วง



“อ้อ คุณไม่อยากให้ผมมอง แต่อยากให้ผมลงมือเสียทีซีนะครับ ถ้าอย่างนั้น...ผมขอโทษ...ที่ปล่อยให้คุณรอนาน...” และสิ้นประโยคนั้น ภวัตก็ก้มลงมอบความรัญจวนให้แก่ความเป็นชายของจันทร์จ้าวด้วยริมฝีปากร้อนระอุ


“อ๊ะ!...หมอ...หมอ...” ทั้งความเปียกชื้นของปลายลิ้น ความนุ่มนวลของการครอบครอง ทำให้ร่างขาวบิดเร้าไปมาอย่างอดไม่ไหว ฝ่ามือจิกเกร็งลงกับฟูกเตียง ริมฝีปากเม้มแน่นด้วยไม่กล้าส่งเสียงออกมา ทำได้เพียงให้เสียงครางกระหึ่มอยู่ในคอเท่านั้น



ภวัตครอบครองความเป็นชายที่เริ่มแข็งขืนขึ้นทุกทีด้วยริมฝีปากและปลายลิ้น เขาโอบกระชับรัดรึงมันช้าๆ ก่อนจะเพิ่มระดับความเร็วขึ้นเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที เจ้าของร่างที่เพียรพยายามปิดกลั้นเสียงครางมาตลอดก็เผยเสียงผะแผ่วให้เขาได้ยินเพราะอดไม่ไหวเสียแล้ว



“อ๊ะ...หมอ...อื้อ...อื้อ...อย่า...อื้อ...ตรงนั้น...อ๊ะ!...” พอรู้ตัวว่ากำลังทำให้อีกฝ่ายล่องลอยอยู่บนเมฆนุ่มของความรัญจวน ภวัตก็ถอนริมฝีปากออกมาจากการครอบครอง เขาขยับขึ้นประสานสายตากับจันทร์จ้าวอีกครั้ง มือข้างหนึ่งรั้งต้นขาขาวให้แยกออกจากกัน เปิดทางให้ความร้อนรุ่มของเขาแตะสัมผัสกับปากทางลื่นแฉะด้วยน้ำมัน ดวงตากลมใหญ่เบิกโพลงราวกับรู้ชะตา แต่ภวัตเพียงแค่ยิ้มจาง แล้วก่อนที่จันทร์จ้าวจะได้ประท้วงสิ่งใด เขาก็ก้มลงปิดริมฝีปากสีสดนั้นแล้วชำแรกช่องทางคับแคบด้วยร่างกายของเขา



“อื้อ!!!!!!!...” ร่างขาวเกร็งแอ่นด้วยความตระหนก แต่ไม่อาจร้องสบถออกมาได้เต็มปากเพราะถูกจูบปิดปากเอาไว้เสียหมด แม้จะพยายามเบี่ยงหน้าหนีรสจูบนั้น แต่ภวัตก็ยังตามไปครอบครองเอาไว้แล้วดูดกลืนเสียงของอีกฝ่ายลงคอตนเอง เบื้องล่างของเขายังคงเดินทางอย่างอ้อยอิ่งเข้าไปสู่ความคับแน่นที่ดูเหมือนจะไม่ต้อนรับเอาเสียเลย



“อื้อ! อื้อ!!” เพราะความอึดอัดราวกับถูกฉีกเป็น ๒ ร่าง ทำให้จันทร์จ้าวทนไม่ไหว ประทุษร้ายร่างเบื้องบนด้วยกำหมัดที่ทุบลงกับต้นแขนของนายแพทย์หนุ่ม ซึ่งภวัตก็ยินดีให้ทำตามที่พอใจ ทว่าเขาไม่หยุดการเคลื่อนไหวใดๆ ความแข็งขืนของชายหนุ่มยังคงเดินทางเข้าไปช้าๆ พร้อมๆที่จูบของเขายังคงเล็มไล้ให้แก่ริมฝีปากสีสดของจันทร์จ้าวไม่ห่าง



จวบจนการเดินทางสิ้นสุดลง ความลื่นของน้ำมันที่ชโลมเอาไว้ทำให้แม้จะยากเย็นเพียงใด แต่สุดท้ายภวัตก็พาร่างกายของตนเองเข้าไปฝากฝังลงในช่องทางอุ่นรัดได้จนหมด



“อ่า...” จันทร์จ้าวได้แต่ครางอย่างหมดแรงเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ยามนี้เขารับภวัตเข้ามาได้ทั้งหมดแล้ว และกว่าจะเข้ามาได้ทั้งหมด ก็เหมือนจะตายเสียให้ได้ ดีว่าอีกฝ่ายมีน้ำอดน้ำทนไม่พรวดพราดเข้ามาสร้างความเจ็บปวดให้แก่เขา มิเช่นนั้นแล้วคงได้มีเลือดตกยางออกเป็นแน่แท้



“คุณจันทร์...อ่า...อื้อ...” ในขณะที่จันทร์จ้าวกำลังปรับความรู้สึกให้คุ้นชินกับความอึดอัด คนที่อดทนมาตลอดการเดินทางที่ยาวนานก็เริ่มจะหมดความอดทนลงทุกที ภายในทั้งรัดทั้งตอดจนทำให้ความต้องการพุ่งพล่านจนหยุดแทบไม่อยู่ แต่เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บ เขาจึงต้องอดทนดำเนินทุกอย่างอย่างเชื่องช้า และเวลานี้...ความอดทนของเขาเริ่มมอดไหม้ลงแล้ว



จันทร์จ้าวมองสีหน้าแดงก่ำของคนที่ทาบทับอยู่เบื้องบน ดูอย่างไรก็รู้ว่าภวัตอดทนอย่างมาก ลมหายใจกระชั้นและอาการหอบฮักบอกให้ทราบว่าอีกฝ่ายเริ่มจะหยุดความต้องการไม่ไหวอีกแล้ว ๒ มือขาวเลื่อนขึ้นไปประคองดวงหน้าของนายแพทย์หนุ่ม ดวงตากลมใหญ่จับจ้องดวงตาดุเข้มที่เต็มไปด้วยความต้องการ ก่อนที่ริมฝีปากฉ่ำจะเผยอขึ้นจูบเบาๆ



“ผมไม่ไหวแล้วหมอ...หมอทำให้ผมมีความสุขทีเถอะ...” ถึงแม้ว่าอยากจะพักอีกสักหน่อยเพื่อให้ร่างกายคุ้นเคยมากกว่านี้ แต่เพราะเห็นสีหน้าภวัตเหมือนจะทนไม่ไหวอีกแล้ว เขาก็พลอยจะทนไม่ไหวเช่นกัน นายแพทย์หนุ่มจับจ้องเข้าไปในดวงตากลมใหญ่คู่นั้น แล้วจึงวางหน้าผากลงกับหน้าผากของจันทร์จ้าว



“ผมขอโทษนะครับคุณจันทร์...ผมขอโทษ...” หลังประโยคขอโทษ ส่วนที่ฝังเข้ามาในร่างกายของจันทร์จ้าวก็เริ่มเคลื่อนไหว มันถูกดึงออกไป แต่ไม่ทันสุดก็กระแทกกระทั้นกลับเข้ามาอีก ร่างขาวเกร็งเฮือกกับความแสบซ่านของการเสียดสีและความลื่นฉ่ำของน้ำมันที่ชโลมเอาไว้ ก่อเป็นความต้องการและเสียวกระสันต์เสียจนแทบทนไม่ไหว



เสียงครางดังประสานยามร่างกายหลอมรวม ต่างฝ่ายต่างผสานเป็นร่างเดียวกัน เร่งเร้าความเคลื่อนไหวให้รุนแรงและรวดเร็วเพื่อไขว่คว้าไปสู่อีกฝั่งของปุยเมฆขาว ความกระสันต์แตกซ่านไปทั้งร่าง ไอร้อนระอุของอุณหภูมิร่างกายกลั่นเป็นเหงื่อผุดซึมไปทั่วทั้งร่าง แต่กระนั้นก็ราวกับไม่รับรู้ถึงความร้อนผ่าวนั้นเลย ๒ ร่างกอดตระกอง เกี่ยวพันรัดกันเอาไว้แน่น ยามภวัตไหวโยกร่างกายอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของจันทร์จ้าวก็เขยื้อนจนแทบสิ้นสติ ยามจันทร์จ้าวตอดรัดเกร็งแน่น ภวัตก็ยิ่งครางกระหึ่มในคอด้วยความพึงใจ ต่างคนต่างมอบความสุขให้กันและกันไม่รู้จักจบจักสิ้น ความรู้สึกทะลักทะลายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ดูเหมือนกี่ครั้งก็ไม่เพียงพอกับความหฤหรรษ์ที่ก่อตัวขึ้นได้ทุกวินาที เพียงแค่ฝังจมูกลงกับซอกคอและสูดกลิ่นอายเฉพาะตัวของกันและกันก็เหมือนจะเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดีราวกับอรุณรุ่งจะไม่มีวันมาเยือน


“หมอ...หมอ...ผม...อ๊า...ผม...อื้อ...” จันทร์จ้าวถูกพลิกร่างให้ลงนอนคว่ำเป็นครั้งที่เท่าไรก็สุดจำนับ แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ดูเหมือนเขาจะยังสามารถหยัดกายรับแรงแทรกสอดจากคนที่อยู่เบื้องบนได้เป็นอย่างดี



“ครับ คุณจันทร์...ดีไหม...หืม...” ภวัตก้มลงถามกระซิบอยู่ที่ข้างหู เร่งกายกระแทกเข้าสู่ช่องทางฉ่ำที่ยังคงตอดรัดไม่ว่าจะถูกเขาชำแรกเข้าไปสักกี่ครั้ง ร่างกายของจันทร์จ้าวก็ยังมอบความอัศจรรย์ใจให้แก่เขาเสมอ



“ดี...อ๊ะ! หมอ...หมอ...ผม...ผมไม่ไหวแล้ว อื้อ!!” ยิ่งการเกร็งสะท้านเพราะความรู้สึกแตกกระซ่านกรเซ็นก็ยิ่งทำให้ช่องทางร้อนรุ่มบีบรัดหนักหน่วง ภวัตขยับกระแทกหนักขึ้นกว่าเดิม กระชั้นความรู้สึกและอารมณ์ให้ตามอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็ว เขาได้ยินเสียงร่างที่นอนคว่ำครางระโหยอีกครู่หนึ่ง ภวัตก็อัดกระแทกเข้าไปหยุดนิ่ง ความเสียวซ่านแตกพล่านไปทั้งกายจนต้องทรุดฮวบลงแพะพิงกับแผ่นหลังขาวของจันทร์จ้าวเพื่อหอบหายใจ



“อื้อ...” คนถูกทาบทับครางเบา แต่ไม่มีแรงประท้วงนอกเสียจากนอนนิ่งๆเพื่อหายใจให้เต็มปอด ภวัตมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่นอนอยู่ใต้ร่างเขา จันทร์จ้าวหลับตาหอบหายใจอย่างอ่อนระโหย ดวงหน้าแดงระเรื่อด้วยสีเลือด เขาอดใจไม่ไหวต้องกดจูบลงกับผิวแก้มนั้นอย่างรักใคร่



“หมอ...ดีไหม...” ไม่มีเสียงตอบจากภวัต นอกจากกระทำของเขาอันได้แก่การสอดแขนเข้าไปโอบรัดร่างโปร่งมากอดแนบแน่น ร่างกายยังเกี่ยวพันเหนียวเหนอะ ผิวเนื้อยังอังด้วยไอร้อนระอุของอุณหภูมิและชื้นเหงื่อ แต่กระนั้น...ภวัตก็ยังมีเพียงคำตอบเดียวที่จะมอบให้แก่คนถาม



“ดีครับ...ดีที่สุดเลย...”

........................................


   ต่อให้คนทั้งกรุงเทพฯพร้อมใจกันบอกให้คุณหญิงผกาไม่ต้องห่วงจันทร์จ้าว แต่คุณหญิงผกาก็ย่อมเป็นคุณหญิงผกา


 เช้าตรู่วันต่อมา หล่อนจึงรีบตื่นแต่ไวเพื่อเตรียมตัวไปเยี่ยมเยียนบุตรชายคนใหญ่ที่เพิ่งจะแต่งงานหมาดๆเมื่อวาน และบุตรชายคนรองที่ดูไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่หล่อนนึกห่วงเขายิ่งกว่าใคร


   “ดารา ให้พ่อขับดีไหม” ท่านนายพลเดชตั้งคำถามเมื่อธิดาคนเล็กก้าวเท้าขึ้นนั่งที่ตำแหน่งคนขับ ดารารัษมีหันมายิ้ม


   “ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ ดาราขับเอง คุณพ่อนั่งให้สบายเถอะค่ะ”
   

“แม่ดาราขับรถได้แน่นะ! ไม่ใช่ว่ายังไม่ทันออกถนนใหญ่ก็ไถลลงข้างทาง อย่างนั้นแม่ไม่ให้ขับ ให้คุณพ่อขับจะดีกว่า แม่อยากไปให้ถึงบ้านเช่ากับวังฉัตร ยังไม่อยากถึงที่!” คุณหญิงผกาขึ้นนั่งบนเบาะหลังแล้วแต่ก็ไม่วายถามธิดาทั้ง ๒ ที่คนหนึ่งประจำที่นั่งตำแหน่งคนขับ อีกหนึ่งประจำที่นั่งข้างคนขับ


   ดารารัษมีผู้รับหน้าที่สารถีในวันนี้ แม้จะง่วงงงุนเพราะนอนดึกตื่นเช้า แต่ก็จำเป็นต้องลุกขึ้นมาขับรถให้ เพราะวันนี้คนที่จะไปเยี่ยมอาทิตย์และจันทร์จ้าวมีทั้งบิดามารดา หล่อนเกรงว่าหากปล่อยนภาสรวงไปเพียงคนเดียว แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา พี่สาวแฝดของหล่อนจะไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้ หรือจะให้คนอื่นไปด้วย ก็ไม่อาจไว้ใจได้ เกิดไปพบไปเห็นอะไรเข้าแล้วนำความไปพูดกันปากต่อปากก็จะกลายเป็นเสียหายกันไปใหญ่ ธิดาคนเล็กของท่านนายพลและคุณหญิงผู้มีอุปนิสัยเจ้ากี้เจ้าการจึงต้องลุกจากเตียงมาขับรถให้เอง


   “คุณแม่เชื่อใจดาราเถอะค่ะ คุณพ่อกับพี่อาทิตย์ช่วยกันสอนตั้งหลายวัน หากขับไม่เป็น คุณครูทั้ง ๒ ท่านคงเสียใจแย่” หล่อนว่าอย่างนั้นแล้วยิ้มอีกหน บิดามารดาขึ้นนั่งที่เบาะหลังเรียบร้อย หล่อนจึงพารถยนต์คันใหญ่ของท่านนายพลออกจากบ้าน ตรงไปยังบ้านเช่าสีเขียวอ่อนที่อยู่ใกล้วังฉัตร


รถยนต์ยังไม่ทันจอดสนิทดี แต่สายตาคุณหญิงผกาที่นั่งอยู่เบาะหลังก็สอดส่องออกไปยังบ้านเช่าสีเขียวอ่อนแล้ว


“บ้านปิดเงียบเชียว หน้าต่างประตูปิดหมดอย่างนี้อย่างกับไม่มีคนอยู่บ้านแหน่ะค่ะคุณพี่” เสียงของมารดาที่หันไปพูดคุยกับบิดาที่เบาะหลัง ทำเอาดารารัษมีและนภาสรวงต้องหันมองไปยังบ้านเช่าสีเขียวอ่อนโดยพร้อมเพรียง


บ้านปิดเงียบทั้งหลัง ประตูและหน้าต่างปิดทั้งหมด ดูเหมือนไม่มีคนอยู่บ้านจริง...หรือบางที...อาจจะเป็นเหมือนวันนั้น...ที่จันทร์จ้าวและหมอภวัต...


“บางทีพี่จันทร์อาจจะไปที่วังฉัตรแล้วก็ได้นะคะ! เมื่อวานพี่จันทร์ก็พูดว่าจะไปช่วยคุณพงศ์ดูแลเรื่องทำความสะอาด” ดารารัษมีชิงพูดอย่างรวดเร็ว คุณหญิงผกานิ่งคิดตาม อ้าปากอยากจะค้านเพราะไม่คิดว่าบุตรชายคนรองจะตื่นไปวังฉัตรแต่เช้า แต่เสียงของสามีที่นั่งข้างๆกลับดังขึ้นเสียก่อน


“นั่นซีนะ คงจะไปที่วังฉัตรแล้ว ดาราขับรถเลยไปวังฉัตรเลยก็แล้วกัน”


“ค่ะ” หล่อนรับคำบิดาเสียงแผ่ว ด้วยหวั่นใจว่าอาจจะไม่พบจันทร์จ้าวที่วังฉัตรตามที่กล่าวอ้าง และหากเป็นเช่นนั้น หล่อนจะทำเช่นไรดี?!


๒ แฝดเหลือบมองกันด้วยหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ แล้วต่างก็ภาวนาด้วยความหวังอันน้อยนิดให้จันทร์จ้าวปรากฏกายที่วังฉัตรเดี๋ยวนี้เถิด!!!


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า)

ทำตามสัญญาแล้ว คืนความสุขให้หมอเรียบร้อย คุ้มมั้ยไม่รู้ แต่ดูเหมือนหมอจะพอใจอยู่นะคะ ฮาฮา

แต่พ่อจันทร์จะเจ็บน้อยเจ็บมาก เดี๋ยวตอนหน้ามาเฉลย ว่าที่หมอไปศึกษามาอย่างดีนี่ช่วยได้มากแค่ไหน แต่หมอบอกแล้ว “จะกลัวอะไร ผมเป็นหมอ” เอาจริงๆ คุณหมอเกรียนกว่าพ่อจันทร์อีกนะคะ มาไม้นี้คนฟังไปไม่ถูก

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์และทุกกำลังใจเช่นเคยค่ะ

ป.ล. ถ้วยฟูมาตอนทอล์คนิดเดียว มีแต่คนพูดถึงถ้วยฟู อิทธิฤทธิ์มันเยอะจริงๆ ฮาฮา

เจอกันพฤหัสหน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 11-02-2016 20:28:30
^
^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 11-02-2016 20:32:45
 :mc4: :mc4: :mc4:

คุ้มค่าการรอคอยมากกกกกก

อ๊าคคค ตอนหน้าคุณหญิงแม่จะทราบเรื่องไหมเนี้ยยย

อุตสาห์ฝ่ากระแสพี่น้องได้แล้ว ต้องฝ่ากระแสดราม่าพ่อ แม่ อีก

โอ๊ยยย สงสารคุณหมอ กะ พี่จันทร์ มากกก

 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 11-02-2016 20:41:01
 :pighaun:  :katai2-1:  :hao6:  :katai2-1:  :ling1:  :katai2-1:  :katai1:  :katai2-1:

เลือดหมดตัวแล้วว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Petalkiss ที่ 11-02-2016 20:43:56
น้ำมันมะพร้าวววววววว  :pighaun: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๑ (๔ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๔๘)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 11-02-2016 20:44:05
เป็นห่วงจันทร์จ้าวจัง  งื้อ  คุณหญิงแม่ต้องให้อภัยจันทร์จ้าวนะ  ไม่ว่าจะเกิอะไรขึ้น
เลิฟซีนละเมียดละไมจังค่ะ  คืนความสุขให้หมอภวัต  ฮิ้วววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 11-02-2016 20:45:53
ถ้ายังตื่นไปทำงานไหว บอกเลย..คืนถัดไป หมอจัดหนักกว่าเดิมแน่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 11-02-2016 20:49:32
เข้าหอแล้วววว อร๊ายยยย แล้วทีนี้คุณหญิงแม่จะตับได้ไมั้ยนี่ ลุ้นยาวๆไปถึงพฤหัสหน้า ลงแดงแน่เลยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 11-02-2016 20:50:53
แอร๊ยยย
ในที่สุดหมอก็สมหวังเสียที อิอิ

ขอบคุณพี่บัวและรอลุ้นตอนหน้าด้วยคนนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 11-02-2016 20:55:53
 :hao6: :hao6: o13 o13....แสดงความดีใจกับหมอค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-02-2016 20:58:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 11-02-2016 20:59:48
จุดพลุ จันทร์เจ้าคืนความสุขให้หมอแล้ว เอิ๊ก ขำทั้งคู่ จันทร์เจ้าก็เกรียนได้อีก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 11-02-2016 21:10:45
คืนความสุขให้ทั้งคู่ คึคึ ตอนหน้าจะเป็นยังไงง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 11-02-2016 21:15:00
โหยยยยย จะอยู่ที่วังมั้ยหนออออออ ลุ้นเว่อร์อ่ะค่ะ 555555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 11-02-2016 21:16:32
 :o8: :o8: :impress2:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 11-02-2016 21:32:40
โอ้วววว คุณหมอออ ทำการบ้านมาดีมาก เลอค่า คุณจันทร์ฟินไปหลายรอบเรยยยย (คนอ่านก็ด้วย) :jul1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 11-02-2016 21:49:39
หวานเว่อ ฟินเว่อ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-02-2016 21:49:46
โอยสงสารคนเข้าหอพร้อมด้วยตัวช่วยเป็นน้ำมันมะพร้าว โอท็อปเชียวพ่อคุณ
หมอเตรียมการล่วงหน้าใหญ่มาก ทั้งศึกษาหาความรู้ หาตัวช่วย กระทั่งเรือนหอ ยอมใจจริง ๆ


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 11-02-2016 21:57:53
 :pighaun: เข้าหอแล้วจ้าาาาาาา  o13

กลัวใจคุณหญิงแม่เหลือเกิน :z3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 11-02-2016 21:59:03
หมอคงจะมีความสุขสุดๆอ่ะ  :mew1: :impress2:

คุณหญิงผกาจะจับได้มั้ยน้ออ ลุ้นจังเลยยย ลุ้นแทนแฝดเลยอ่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-02-2016 22:13:07
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-02-2016 22:16:40
 o13 หมออออดีใจด้วยนะสมหวังกันทุ๊กกกกกกคน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 11-02-2016 22:23:24
สุขไหมคะคุณหมอ :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 11-02-2016 22:38:16
คือมันดีมากใช่ไหมคะหมอ
คุณจันทร์ก็คงคิดไม่ต่างกัน 
สุขสุดๆไปเลย
ดีใจกะหมอ ในที่สุขก็ได้คืนความสุขสะที ฮ่าาาา
 :katai2-1: :katai2-1: :impress2:


ตอนหน้า ถ้าไม่เจอจันทร์จะทำไงงงง
อย่ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นนะ
หมอเพิ่งได้คืนความสุขตอนเดียวเอง  :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 11-02-2016 22:53:57
เป็นตแนที่คืนความสุขให้กับหมออย่างแท้จริงสุดๆอ่ะ ตอนต่อไปจันทร์จะมาพบหน้าแม่ทันไหมเนี่ย โดนจัดหนักจัดเต็มซะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 11-02-2016 23:06:39
โอย ทั้งฟิน ทั้งลุ้นแทนคู่นี้
พ่อหมอนี่ก็ใจเร็วจริง ไม่กะว่าพ่อแม่เค้าจะมาหาต่อเลย
ดันพาชายจันทร์เข้าห้องหอตามพี่ชายซะงั้น แถวบ้านเรียกว่าวิวาห์เหาะนะคะ
แล้วคุณแม่จะจับได้ไหมเนี่ย โอ้ยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 11-02-2016 23:07:59
 :hao7:  :pighaun:    มีเตรียมความพร้อม  มีน้ำมันมะพร้าวด้วย  อ๊ากกกกกกก NC ยุคพ.ศ. 2496


คุณหมอขา ฟหกดเ้่าสว  แม่ยกที่ช่วยลุ้นกันมาตอนนี้เลือดหมดตัวหามเข้า ICU กันเป็นเเถบแล้วจ้าาา


ในส่วนของคุณจันทร์จะเจ็บมากเจ็บน้อยยังคงรอติดตาม   ทางฝั่งตึกแถวก็คงจะกำลังดอกไม้บานกันอยู่

ตัดภาพมาที่ฝั่งบ้านเช่า&วังฉัตร  สองแฝดระบบ sympathetis คงทำงานรัวๆๆ   เครียดกันแย่เลย สู้ๆนะคะสองเเฝดเพื่อพี่จันทร์ของพวกเธอ   

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 12-02-2016 00:23:01
คุณหมอกับจันทร์ก็สุขทั้งคู่   :-[  แต่ตอนหน้าจะเป็นยังไงนี่ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-02-2016 00:36:00
หมอภวัตตักตวงเสียคุ้มกับที่ต้องคอยดูแลจันทร์จ้าวหลังเข้าหอเลยเนอะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 12-02-2016 00:56:01
คุณหมอเตรียมการมาอย่างดีสุดๆทั้งเตรียมทั้งเรือนหอเตรียมตัวช่วยทั้งช่วยเตรียมตัว คนอ่านก็ฟินไปสิคะคุ๊นนนนน :hao6: :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-02-2016 01:21:40
อ่านไปเขินไป โอ้ยยย คุณหมอขาทำไมเป็นผู้ชายอบอุ่นนุ่มนวลอย่างี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-02-2016 02:40:40
ต้องจุดพลุฉลองให้แก่หมอและจันทร์ที่ได้เข้าหอกันแล้ว~~~ สุขล้นปรี่ท่วมอกท่วมใจเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-02-2016 08:35:19
 เยี่ยมมาก


:m2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 12-02-2016 09:06:47
เข้าหอพร้อมพี่อาทิตย์เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 12-02-2016 09:27:38
คุ้มค่ากับการรอคอย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 12-02-2016 09:42:20
คืนความสุขให้คุณหมอ ~~~

ในที่สุดจันทร์จ้าวก็เสร็จหมอแล้ว

คุณหญิงแม่จะไปเจอจันทร์ที่วังฉัตรได้ยังไงล่ะนั่น

 :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 12-02-2016 10:05:13
รอลุ้นตอนหน้ามากค่ะ จะแจ็คพ็อตความแตกไหม   :z3:

#แต่ตอนนี้ฟินหนักมากก :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 12-02-2016 10:08:27
มนต์รักน้ำมันมะพร้าว กรี๊ดดด หมอมีความสุขมั้ยย โอ๊ยย ตายๆๆ คนอ่านมีความสุขมากๆๆๆๆ
อ่านแล้วอมยิ้ม อ่านแล้วฟิน

คุณพ่อรู้อะไรเบาๆรึเปล่านะ ทำไมดูเหมือนยอมรับความคิดเห็นเรื่องของจันทร์ได้ดี
ทั้งตอนจะกลับกับหมอ ทั้งตอนที่ดาราบอก
หรือเราคิดไปเอง
แต่ถ้าด่านต่อไปคือพ่อกับแม่ของจันทร์และฝ่ายหมอ
ก็หนักใจเหมือนกันนะ

แต่ตอนนี้ ขอฟินกับการคืนความสุขให้หมอก่อน
เรื่องอื่นค่อยว่ากัน

บรรยากาศหลังจากการคืนความสุขจะเหมือนเช้าฮันนีมูนมั้ยน่าาา
จันทร์จะเจ็บหลังเจ็บไหล่หรือเปล่า อ้ายยย เขินน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 12-02-2016 10:09:22
นั่งคิดนานมาก ว่าคุณหมอจะเอาอะไรมาเป็นตัวช่วย ที่จะทำให้คุณจันทร์เจ็บน้อยที่สุด
เพราะรู้อยู่ว่าถ้าใช้KY หรือพวกเจลล่อลื่นเนี่ย ในยุคคุณหมอจะมีมั้ย ถ้ามีก็น่าจะราคาสูงอยู่
สุดท้าย ป๊าดดดด!!! น้ำมันมะพร้าว สุดยอด!!คุณหมอคิดได้ไง ยกนิ้วเลยงานนี้
ฟินกันไป มันช่างเป็นช่วงเวลาคืนความสุขให้คุณหมอเสียจริง
ชอบนะผู้ชายอย่างคุณจันทร์ แกไม่เคยหลอกลวงใจตนเอง รักคือรัก เมื่อรักก็คือพร้อม
แหม!จูงมือกันเข้าหอตัดหน้าพี่ชายตัวเองกันเลยทีเดียว 5555+
รอลุ้นตอนหน้าเลยอ่ะ คุณจันทร์ตอนตื่นจะเป็นอย่างไรน้า น้ำมันมะพร้าวจะช่วยได้ถึงขนาดไหน
ที่สำคัญคือ พ่อกับแม่ของคุณจันทร์เนี่ย จะว่ายังไงถ้าไม่เจอคุณจันทร์ที่บ้านคุณพงษ์
คือแบบรู้นะว่าไปกับคุณหมอ แต่ ไปไหนกัน ทำไมไปกันสองคน อ่า ลุ้นอ่ะ คุณพ่อคุณแม่จะนึกสงสัยมั้ย
เพิ่งรอดพ้นจากพี่น้องจะมาต่อที่พ่อแม่เลยหรอ?!?! ขอเวลาให้คุณจันทร์ฟินกับคุณหมอหลายวันก่อนได้มั้ยอ่ะ
สงสารแก เง้ออออ วันพฤหัส!!!มาถึงเร็วๆสิ เรารออยู่ ขอบคุณไรเตอร์ด้วยนะ สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 12-02-2016 10:22:22
คืนความสุขให้คุณหมอ แต่จันทร์เจ้าก็ได้ด้วย  :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 12-02-2016 10:39:22
ชอบตอนที่คุณจันทร์กับคุณหมอจีบกันที่ระเบียงค่ะ มุ้งมิ้งกุ้งกิ้งน่ารักค่ะ

งานใหญ่-งานช้างกำลังจะซัดมาอีกระรอกแน่ๆ เลยค่ะ เหมือนคุณหญิงผกาจะเริ่มรู้สึกแล้วว่าแปลก
แต่เราเชื่อว่าน่าจะมีท่านนายพลเป็นแบ็กให้น้าาา

ดารารัษมีเริ่มน่ารักขึ้นมานิดนึงแล้ว
แต่เราก็ #ทีมคุณพงศ์ เหมือนเดิมค่ะ น่ารัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-02-2016 11:06:29
หมอเก็บความสุขคุ้มเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-02-2016 20:00:15
แอร๊ยยยย คุณหมอออ่านี่เขินหนักมาก เขินแทนจันทร์ทำไมรู้สึกว่าคุณหมอช่างเร่าร้อนเหลือเกิน อิจจันทร์หวังว่ามีความสุขวันนี้ ตอนหน้าจะดราม่านะค้า
อยากอ่านตอนพิเศษถ้วยฟูอีกจังคิดถึงมัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 13-02-2016 06:23:20
ถึงดวงจันทร์แล้วหมอ  :pighaun: :pighaun: :pighaun: ถ้าคุณหญิงรู้จะเป็นไงนี่ :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 13-02-2016 09:56:12
คุณหมอกับจันทร์เข้าหอพร้อมพี่อาทิตย์กับคุณพิมเลย ^^

ว่าแต่คุณหญิงแม่จะเจอจันทร์ที่วังไหมน้อ รอลุ้นค่ะ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 13-02-2016 11:06:12
เข้าหอกันแล้ว อั๊ยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 13-02-2016 12:38:24
พึ่งมาอ่านค่ะ....แต่ตอนนี้ชอบมากกกกก....อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 13-02-2016 14:07:42
สมใจแล้วนะคุณหมอ  :mew1:

 :กอด1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: snowtoy ที่ 13-02-2016 22:13:43
ไอเราก็คิดอยู่ว่าแต่ก่อนใช้อะไรวาสลีนคงไม่มี.... แล้วก็รู้ว่าใช้น้ำมันมะพร้าว55555555 เด็ดมากอ่ะหมอออ นี่หมอไปเตรียมความพร้อมหาความรู้แต่เมื่อหร่ายยยยยยเด็ดจริงงไรจริงง  :haun4: :haun4: หวังว่าดาราจะหาทางช่วยพี่ชายที่ตอนนี้น่าจะสลบคาเตียงได้นะ อย่าพึ่งมีมาม่าพ่อแม่เถ้อวววววว :call:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 13-02-2016 22:21:35
คุณจันทร์เข้าหอพร้อมพี่ชายเลย
ขอบคุณที่ช่วยคืนความสุขให้หมอภวัต
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 13-02-2016 23:06:38
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-02-2016 03:45:46
โอ้ยยย!! ฟิน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 14-02-2016 10:20:43
บรรยายไม่ถูกเลย พึ่งตามมาอ่านนิยายเรื่องนี้ ของน้องบัว
พึ่งจะตามทัน ขอบอกว่าสนุกมากกกกกก อ่านไม่หยุดเลยทีเดียว
จันทร์จ้าวช่างน่ารัก น่าชังนัก เช่นนี้คุณหมอจะอดใจไหวเช่นไร :-[
กิจกรรมคืนความสุขให้คุณหมอนี่ จะมีออกอากาศทุกวันใช่ไหมคะ :z1:
อ่านไปคิดถึงป้ารี กับ ของขวัญ จริง ๆ น่าร๊ากกกกกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: mhhong95 ที่ 14-02-2016 14:51:51
 :o8:
ในที่สุดคุณหมอกับคุณจันทร์ก็ได้เข้าห้องหแเสียทีนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-02-2016 17:56:35
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 14-02-2016 18:17:08
คืนความสุขให้คุณหมอแล้ว  :hao6:
ตอนต่อไป คุณหญิงแม่จับได้รึเปล่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 14-02-2016 18:59:57
จะมีฉากที่เปลี่ยนจากจันทร์จ้าวเป็นจันดาราไหมน้า >< อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 14-02-2016 20:41:08
เตรียมพร้อมมาดีมากค่ะหมออออ  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 14-02-2016 23:26:59
เข้าหอแล้วนะ จันทร์จ้าว ว้ายยย คุณหมอศึกษามาดีจริงๆ น้ำมันมะพร้าวช่วยได้ รอตอนต่อไปค่ะ พฤ จะได้มาอ่านฉากข้าวใหม่ปลามันหลังคืนเข้าหอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 15-02-2016 12:34:57
ไหงไปประเดิมห้องหอได้ คุณหมอใจร้อนใช่ย่อย
ว่าแต่ดีที่ไม่ใช่บ้านเช่า ไม่งั้นปะทะพ่อตาแม่ยายตั้งแต่เช้าแรก

ปล รำคาญและขู่เข็ญ ใช้ญไม่ใช่น นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 16-02-2016 16:45:55


งานดีเหลือเกินค่ะคุณหมอ นี่ขนาดศาสตร์แผนนี้ไม่เป็นที่แพร่หลาย
คุณหมอยังทำได้ดีงามและทำให้น้ำหมากป้ากระจายมาก
ส่วนคุณจันทร์... อร๊ายยยส์ เธอน่ารัก เธอผลิบานและเซ็กซี่มาก
อ่านแล้วก็ปลื้มปริ่มราวกับมีส่วนได้ส่วนเสียกับเขาอย่างไรอย่างนั้น... ฮือ มันดีอ้ะ!

ใจนึงก็อยากให้คุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองบ้านรู้นะคะ แต่อีกใจก็เป็นห่วงสองหนุ่มเหลือเกิน
รอตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^  :กอด1:


หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 17-02-2016 15:43:18
คุณหมอยึดฤกษ์ดีเข้าหอพร้อมคู่พี่อาทิตย์เลย 555+
ในที่สุดก็ถึงวันที่รอคอยเสียที ขอบคุณคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 17-02-2016 20:24:49
เป็นฉากพระนายได้กันที่
ละมุนละม่อม
ละเมียดละไม
สวยงามและเร่าร้อน
มันพอดิบพอดีไปหมด

ุคุณจันทร์ก็ยังเป็นคุณจันทร์
ยังมีมาถามว่าดีมั้ยด้วย....เง้อ...
มันช่างน่ารักและสมกับเป็นหนุ่มนักเรียนนอกดี
แบบว่าเพราะรักหนุ่มเจ้าชู้หัวนอกคนนึงจึงยอมให้ทำ
ส่วนคุณหมอนี่แบบ ไม่ธรรมดา จากการกระทำทั้งหมดคือรักคุณจันทร์มาก
...แบบว่า...เป็นการบอกรักกันด้วยร่างกาย...ที่ประทับใจเอามากๆเลย

ฟินนนนนน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: Naeon ที่ 17-02-2016 21:06:13
เข้าหอแล้วหมอออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 18-02-2016 07:21:52
มารอจันทร์จ้าววววว คิดถึงใจจะขาดดดด :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 18-02-2016 13:56:29
อ่านแล้วมันคือการเมคเลิฟอย่างแท้จริงเลยค่ะ คุณหมออ่อนโยนมาก
คุณจันทร์ก็พร้อมยอมคุณหมอ อย่าว่าแต่คืนความสุขให้คุณหมอเลยค่ะ
คนอ่านอย่างเรายังมีความสุขไปด้วยเลย
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 18-02-2016 20:08:27
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๒๓


คนที่นภาสรวงและดารารัษมีคาดหวังให้อยู่ที่วังฉัตร ยังคงหลับอยู่บนเตียงที่ชั้น ๒ ของตึกแถวใหม่เอี่ยม ถึงแม้ว่ากว่าจะได้หลับก็เกือบค่อนคืนเข้าไปแล้ว แต่กระนั้นเมื่อรู้สึกตัวในตอนเช้า จันทร์จ้าวก็ไม่อาจนอนต่อได้อีก และเมื่อตนเองไม่อาจหลับต่อได้ลง มีหรือที่ภวัตจะได้หลับสบายให้เขาอิจฉาเล่น


“หมอ! หมอ! ตื่นเดี๋ยวนี้เลย! โอ๊ย!! เจ็บ”


ฟาดมือลงกับแผ่นอกของคนหลับสบายแต่ไม่วายสะเทือนมาถึงตนเอง จันทร์จ้าวได้แต่คู้ตัวลงนอน แต่กระนั้นก็ยังเขย่าแขนคนหลับสบายข้างกายไม่เลิก


ภวัตกำลังฝันดี แต่จู่ๆก็เหมือนถูกกระชากลงมาจากฝันดีนั้น เขาสะดุ้งเพราะเสียงโอดโอยและการเขย่าแขนแรงๆ ตอนแรกที่ลืมตายังตั้งสติได้ไม่ดีนัก แต่พอกวาดตามองไปรอบตัวก็ถึงได้เห็นว่าคนที่นอนเคียงกันมาตั้งแต่เมื่อคืนกำลังคุดคู้สีหน้าเจ็บปวด


“คุณจันทร์...เป็นอะ...โอ๊ย!...” ถามไม่ทันจะจบประโยค หมัดรุ่นก็ทุบอักลงมาที่ไหล่เขาอีก ตามด้วยดวงตากลมใหญ่ที่มีแววโกรธเคืองตวัดจ้องเขาอย่างขุ่นเคือง


“ไหนหมอว่าไม่เจ็บ!!” จันทร์จ้าวโวย แล้วความเจ็บจากเบื้องล่างก็แล่นขึ้นมาให้เขาเบ้หน้าอีกหน แต่กระนั้นก็ยังมีเรี่ยวแรงเอาเรื่องต่อ “...นี่มันเจ็บเจียนตายด้วยซ้ำ!!!”


“แต่ผมว่านี่น่าจะเป็นวิธีที่คุณเจ็บน้อยที่สุดแล้ว” คนอุตส่าห์ไปศึกษามาอย่างดีตอบ


“เจ็บน้อยที่ไหน?! ผมเจ็บจนหน้าซีดแล้วเห็นไหม?!!!” จันทร์จ้าวไม่เห็นหรอกว่าหน้าของตนเองซีดเซียวจริงหรือไม่ แต่ก็คาดเอาว่าเจ็บขนาดนี้ คงจะหน้าตาเปล่งปลั่งไม่ไหว แต่เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดให้สมกับที่ทำให้เขาเจ็บตัวถึงเพียงนี้ ก็ต้องทำให้ภวัตตระหนักให้มากๆ และวิธีการนั้นก็ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จเสียด้วย


ภวัตลุกขึ้นนั่ง แม้เมื่อคืนเขาจะทำความสะอาดร่างกายให้แก่จันทร์จ้าวและตนเองแล้ว แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังนึกหยามใจกลับขึ้นมานอนกกกอดคนข้างกายที่เหนื่อยอ่อนจนหลับเป็นตายไม่รู้เรื่องรู้ราวในสภาพที่ไม่มีใครใส่เสื้อผ้าสักชิ้น เช้านี้คนทั้ง ๒ จึงตื่นขึ้นมาโดยไร้อาภรณ์พันกาย จันทร์จ้าวไม่ทันสังเกตแต่แรก แต่พออีกฝ่ายลุกขึ้นนั่ง เขาก็ถึงกับตาโตเพราะแผ่นอกหนาของนายแพทย์หนุ่มสะท้อนเข้าสายตาอย่างจัง


“ไหนครับ ผมขอดูหน่อย” แต่ภวัตไม่ได้สนใจสายตาตกตะลึงของคนข้างกาย เขาตวัดผ้าแพรผวยที่ห่มพวกเขาทั้งคู่ออก จากนั้นก็กกระถดตัวลงไปยังท่อนล่างของคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่ แล้ว...จึงเริ่มตรวจตราส่วนที่คาดว่าจะเป็นเหตุให้จันทร์จ้าวเจ็บ


คนถูกตรวจถึงกับอ้าปากค้างเมื่อสะโพกถูกดึงไปสอดส่องราวกับภวัตเห็นว่าร่างกายของเขาคือแหล่งเรียนรู้! อีกฝ่ายเป็นแพทย์อาจจะคุ้นเคยกับการเห็นร่างเปลือยของคนไข้มานักต่อนัก จะแหวกซ้ายดูขวาก็ไม่คิดกระไร! แต่เขาที่ถูกตรวจดูถ้วนถี่ในที่ที่แม้แต่เขาเองยังไม่เคยเห็นนี่สิ!! จะนอนอยู่เฉยๆไม่ร้องโวยวายก็คงไม่ใช่จันทร์จ้าวคนนี้แล้ว!!


“หมอ!! หมอทำอะไร?!!!” ร่างโปร่งหันขวับไปร้องถามหน้าตาตกตะลึงเป็นที่สุด แต่นายแพทย์หนุ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าค่อนข้างจะเบาใจ


“ยังบวมอยู่เลยนะครับ แต่ไม่มีแผลฉีก ไม่มีอะไรต้องกังวล” คำพูดของหมอภวัตทำเอาคนฟังถึงกับอ้าปากค้าง เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดจาราวกับเป็นเรื่องธรรมดาได้ถึงเพียงนี้


“เป็นอะไรไปครับ ทำหน้าตกตะลึง ผมบอกแล้วอย่างไรล่ะว่าตัวช่วยของผมจะทำให้คุณเจ็บน้อยที่สุด หากไม่ได้น้ำมันมะพร้าว คุณจะต้องแย่แน่ๆ” นายแพทย์หนุ่มยกความดีความชอบให้แก่น้ำมันขวดนั้น หากมิเช่นนั้นแล้ว จันทร์จ้าวคงเลือดตกยางออกเป็นแน่แท้


สำหรับภวัตแล้ว เรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาถือว่าตนเอง ‘สอบผ่าน’ เพราะการศึกษามาอย่างถี่ถ้วน ทำให้จันทร์จ้าวเจ็บน้อยกว่าที่คิดเอาไว้ แต่สำหรับคนเจ็บ และกำลังถูกตรวจตราราวกับร่างกายของเขาเป็นผลงานชิ้นเอก อายเสียจนไม่ทราบจะอายอย่างไร สุดท้ายก็ทำได้เพียงซุกหน้าลงกับฟูกนอนแล้วตวัดผ้าแพรคลุมศีรษะเอาไว้


“อ้าว เป็นอะไรไปล่ะครับ” นายแพทย์หนุ่มผู้ไม่ได้คิดอะไรกับการตรวจสอบร่างกายอีกฝ่ายได้แต่ตั้งคำถามอย่างฉงน


“หมอน่ะ!! ทำอย่างนั้นได้ยังไร?!!” เสียงอู้อี้ตอบกลับมาจากใต้ผ้าแพรผวย ภวัตขมวดคิ้วอย่างงุนงง แต่กระนั้นก็ก้มลงโอบร่างคนที่ซุกอยู่ใต้ผ้าแพร


“ผมแค่ตรวจดูเท่านั้น”


“ผมไม่ใช่คนไข้ของหมอนะ! หมอจะทำอะไรก็ควรจะขออนุญาตผมก่อนซี!!” คนใต้ผ้าเถียง ภวัตอยากจะหัวเราะอย่างสุขใจกับคำเถียงแสนน่ารักน่าชังนั้น แต่ก็กลั้นเอาไว้ แล้วกอดรัดร่างโปร่งให้แน่นขึ้น


“เพราะคุณไม่ใช่คนไข้ของผมน่ะซีครับ ผมถึงดูแลขนาดนี้” ไม่มีเสียงจากคนใต้ผ้าแพรอีก หลังจากเงียบหายไปอึดใจหนึ่ง จันทร์จ้าวก็ค่อยๆดึงผ้าให้พ้นศีรษะแล้วเหลือบตาขึ้นมามองจากการซุกหน้ากับฟูก ดวงหน้าของภวัตอยู่ใกล้แค่คืบ และยังคงทอดมองมาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน


“หมอ...ไม่เคยดูแลใครขนาดนี้หรือ”


“นอกจากคุณพ่อ คุณแม่และนายเภาแล้ว ผมก็ไม่เคยดูแลใครเท่านี้” เมื่ออีกฝ่ายกล่าวถึงครอบครัว จันทร์จ้าวก็ได้แต่หลุบตาลงต่ำ เพราะหากความสัมพันธ์ของพวกเขาเปิดเผยให้พวกวิชาญโยธินคนอื่นๆทราบ หมอภวัตอาจจะ...เลือกครอบครัว...


“คุณจันทร์ เป็นอะไรไปอีก หรือยังเจ็บ...” ภวัตเห็นคู่รักของตนที่นอนเงียบก็ก้มลงถามอย่างชิดใกล้ด้วยความห่วงใย น้ำเสียงเจือไปด้วยความห่วงหาที่ร่างสูงมอบให้ ทำให้ดวงตากลมใหญ่เหลือบขึ้นมองอีกครั้ง


...ภายภาคหน้าก็คือภายภาคหน้า เวลานี้ภวัตยังอยู่กับเขา เวลานี้ภวัตยังเคียงข้างเขา แล้วเหตุใดต้องบั่นทอนความรู้สึกที่มีให้แก่กันด้วยความหวาดกลัวที่มีต่อช่วงเวลาที่ยังมาไม่ถึงด้วยเล่า?...


“ไม่เป็นไรแล้วหมอ อย่ามาหาเรื่องรักษาโรคให้ผมเลย”


“คุณนอนอยู่ที่นี่สักพัก ผมจะออกไปหาซื้ออาหารเช้ามาให้” ภวัตพูดแล้วลุกขึ้นนั่ง ทว่ามือขาวคว้าไว้อย่างว่องไว


“ไม่ต้องเลย ปล่อยหมอไปซื้ออาหารเช้า ผมก็ได้ข้าวต้มน่ะซี ผมอยากดื่มกาแฟมากกว่า เราไปหาร้านกาแฟนั่งดื่มกันเป็นอาหารเช้าดีไหม” แทบจะในทันทีที่นายแพทย์หนุ่มส่ายหัว


“กาแฟไม่ควรรับตอนท้องว่าง”


“หมอ...วันนี้ผมป่วย ตามใจผมวันหนึ่งเถอะ”


“จะป่วยหรือไม่ป่วยก็ไม่ใช่ข้ออ้างให้ผมตามใจคุณนี่ครับ ขืนตามใจคุณวันนี้ เกิดวันหน้าคุณอยากดื่มกาแฟตอนท้องว่างอีก ผมก็ไม่ต้องตามใจคุณอีกหรือครับ กาแฟมีประโยชน์เมื่อรับประทานอย่างถูกที่ถูกเวลา คุณน่ะทานแต่ของที่ชอบจนเคยตัว ไม่สนเวลาใดทั้งสิ้น มีอย่างที่ไหนจะรับกาแฟแต่เช้า ข้าวยังไม่ลงท้องสักเม็ดอย่างนี้ ถ้าคุณไม่อยากข้าวต้ม ก็รับเป็นผลไม้ก็ยังดี อย่างกล้วยอย่างนี้ เหมาะเป็นอาหารมื้อเช้า เดี๋ยวผมจะหากล้วยไปติดไว้ที่บ้านเช่าด้วย คุณจะได้มีอะไรทานรองท้องเวลาหิว แต่วันนี้...ผมว่าเราไปทานที่วังฉัตรไหม คุณว่าจะไปช่วยคุณพงศ์ดูแลเรื่องเก็บกวาดไม่ใช่หรือ คุณพงศ์คงจะให้คนเตรียมมื้อเช้าไว้เผื่อคุณแน่ล่ะครับ”


จันทร์จ้าวมองคนสั่งยาวเหยียดแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่


”Alright Alright, I’ll do it. Just stop giving me orders.”


“คุณจันทร์” คนสั่งดุย้ำอีกหนเพราะเข้าใจภาษาอังกฤษที่อีกฝ่ายบ่นออกมาทั้งประโยค ร่างโปร่งจึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคู่รักของเขานั้นไม่ใช่เป็นเพียงนายแพทย์ผู้ตรวจรักษาเขาได้ทุกโรค แต่ยังเป็นนักเทนนิสมือฉมังตีโต้กับเขาแล้วชนะอยู่เนืองๆ หนำซ้ำยังแปลภาษาอังกฤษออกด้วย นี่คือเหตุผลหนึ่งที่เขาเคยออกตัวว่าไม่อยากมีคู่รักที่ฉลาดจนเกินไป แต่เหตุไฉนจึงมาตกหลุมของชายผู้นี้ได้หนอ


จันทร์จ้าวไม่เข้าใจตนเองเท่าไรนัก แต่ในเมื่อตกลงปลงใจคบหากับอีกฝ่ายถึงเพียงนี้แล้ว ก็ได้แต่ลุกขึ้นหน้าหงิกหน้างอยอมลงจากเตียงคว้าเสื้อผ้ามาสวมลวกๆเพื่อลงไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปวังฉัตรแต่เช้านั่นเอง

....................................

   รถยนต์จากบ้านรักษพิพัฒน์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าตึก ดับเครื่องสนิทเรียบร้อยคุณหญิงผกาก็รีบก้าวเท้าลงอย่างว่องไว สายตาสอดส่องมองไปทั่วแต่ไม่ยักเห็นแม้แต่เงาของบุตรชายคนรอง รออยู่อึดใจหนึ่ง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ออกมาต้อนรับที่หน้าประตู


   “สวัสดีครับ ท่านนายพล คุณหญิง”


   ผู้ใหญ่ทั้ง ๒ ยกมือรับไหว้ คุณหญิงผกากำลังจะอ้าปากถามถึงจันทร์จ้าว แต่ดารารัษมีรีบชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน


   “สวัสดีค่ะ คุณพงศ์ ขอโทษที่มารบกวนแต่เช้านะคะ คุณพ่อคุณแม่ท่านอยากจะมาเห็นคู่แต่งงานใหม่แหน่ะค่ะ” หล่อนใช้เรื่องของอาทิตย์และพิมพัชราเป็นเครื่องบังหน้า ซึ่งหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่ยังไม่ทราบว่าคุณหญิงผกาตั้งใจจะสอดส่องหาเงาจันทร์จ้าว ก็เลยไถลไปกับเรื่องที่ดารารัษมีพูดเสียก่อน


   “คุณพ่อท่านบอกผมแล้วล่ะครับ ว่าวันนี้ทั้งท่านนายพลและคุณหญิงจะมาเยี่ยมคุณอาทิตย์ นี่ให้คนเตรียมสำรับอาหารเช้าเผื่อทุกๆคนด้วย แต่คงต้องรอสักหน่อยนะครับ คนรับใช้ที่ตึกเล็กมาบอกเมื่อครู่นี้เองว่ายายพิมกับคุณอาทิตย์ขอเวลาสักครู่ อันที่จริงผมก็อยากจะให้ไปจัดสำรับที่ตึกเล็กเสียเลย จะได้ให้คู่แต่งงานใหม่เป็นเจ้าภาพ แต่เห็นว่าเมื่อคืนต้องดูแลคนทั้งงาน ก็เกรงว่าจะหาว่าเรากลั่นแกล้งรังแกข้าวใหม่ปลามัน ก็เลยให้จัดสำรับขึ้นโต๊ะที่นี่แทน”


   “แล้ว...” คุณหญิงผกาจะถามอีกหน แต่ดารารัษมีแสร้งทำเป็นหัวเราะกับราชนิกูลหนุ่มราวกับไม่รู้เห็นอาการชะเง้อชะแง้ของมารดาแม้แต่น้อย


   “พุทโธ่! ถึงจะเหนื่อยแต่ก็เป็นงานมงคลของพวกเธอนะคะ เมื่อคืนน่ะทั้งพี่อาทิตย์ทั้งคุณพิมดูมีความสุขออกจะตายไป ยิ่งตอนที่เพื่อนๆของพี่อาทิตย์รุมถามเธอว่าจะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันที่ไหน พี่อาทิตย์งี้อายม้วน คุณพิมยังไม่อายสู้เลย ไม่รู้จะอายอะไรซีหน่า สมัยนี้คู่แต่งงานใหม่ที่ไหนก็ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันทั้งนั้น จะได้มีเวลา ๒ ต่อ ๒” นภาสรวงหันมาตีแขนน้องสาวเบาๆกับความเซี้ยวไม่เข้าท่า


   “พูดอะไรน่ะดารา ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อะไร น่าเกลียด”


   “เอ้า! นภาน่ะ รู้จักกับฝรั่งตั้งแยะ ไม่เคยได้ยินหรือ แต่งงานใหม่ก็ต้องไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ เอ?...ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าอะไรนะคะคุณพงศ์”


   “Honeymoon ครับ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดพลางยิ้มขัน และก่อนที่หนุ่มสาวทั้ง ๓ จะคุยกันต่อ คุณหญิงผกาก็พูดแทรกด้วยอดไม่ไหว


   “ขอโทษเถอะค่ะคุณพงศ์ ไม่ทราบว่าพ่อจันทร์มาหรือยังคะ” คำถามของคุณหญิงทำเอาดารารัษมีและนภาสรวงใจหายวาบ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเองก็ชะงักไปเช่นกัน ก่อนจะหันมามองคนถาม


   “เอ่อ...คุณหญิงมีอะไรหรือครับ...”


   “ก็เมื่อครู่ ดิฉันนั่งรถผ่านหน้าบ้านเช่า เห็นประตูหน้าต่างปิดเงียบอย่างกับไม่มีคนอยู่ นึกว่าพ่อจันทร์จะมาช่วยคุณพงศ์ดูแลจัดเก็บสถานที่ที่นี่น่ะซีคะ”


   ราชนิกูลหนุ่มเหลือบมอง ๒ แฝด ราวกับจะส่งสัญญาณบอกกัน และนั่นอยู่ในสายตาของคุณหญิงผกาที่จับจ้องทุกอิริยาบถ


   “คุณพงศ์...รบกวนตอบความจริงค่ะ พ่อจันทร์ยังไม่มาที่นี่ใช่ไหมคะ” ชายหนุ่มไม่รู้จะคิดหาคำใดมาเป็นคำตอบ ดารารัษมีเห็นท่าทางอิหลักอิเหลื่อของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและท่าทางคาดคั้นของมารดาก็ส่งเสียงขึ้นมา


   “คุณแม่คะ...บางทีพี่จันทร์อาจจะ...”


   “แม่ดารา หล่อนกำลังปิดบังอะไรอยู่ใช่ไหม” คำถามนี้ของคุณหญิงผกา ทำเอาหนุ่มสาวทั้ง ๓ เงียบกริบ คนตั้งคำถามจึงกวาดตามองทีละคนราวกับจะเค้นเอาคำตอบ


   “ว่าอย่างไร แม่นภา หล่อนเองก็คงจะรู้อะไรมาซีนะ” นภาสรวงได้แต่ก้มหน้านิ่ง ด้วยเพราะไม่รู้จะหาคำตอบใดมาพูด คุณหญิงผกาจึงหันมาทางราชนิกูลหนุ่ม


   “คุณพงศ์ล่ะคะ มีเรื่องใดที่คุณพงศ์ทราบและคิดว่าดิฉันไม่ทราบ”


   “คุณหญิง” ท่านนายพลเดชเรียกภรรยาเป็นการปราม เพราะคุณหญิงผกาผู้ทั้งรักทั้งหวงบุตรชายคนรองแสดงอารมณ์ไม่เหมาะไม่ควรในรั้ววังของผู้ใหญ่ สตรีสูงวัยทำท่าฮึดฮัดด้วยควมขัดใจ คำถามทั้งหมด ล้วนไม่มีใครให้คำตอบได้ จนคิดไปต่างๆนานาว่าบุตรชายคนรองจะต้องมีเรื่องปกปิดหล่อน และเป็นเรื่องที่ทุกคนทราบเป็นอย่างดีแต่กลับร่วมมือกันปิดบังไม่ให้หล่อนทราบ เรื่องนั้นคงจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ หากไม่ใช่ว่าจันทร์จ้าวคงจะคบหากับแม่พวกผู้หญิงชั่วที่ถ้าหากหล่อนรู้จักก็คงอกแตกตายเป็นแน่แท้



   ทว่าก่อนที่คุณหญิงผกาจะได้คาดคั้นมากกว่านั้น คนรับใช้คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามารายงานหม่อมหลวงพงศ์ภราธร


   “ขอประทานโทษขอรับ คุณหมอภวัตกับคุณจันทร์จ้าวมาขอรับ” คำพูดของคนรับใช้ทำเอาคุณหญิงผกาหันไปมองโดยพลัน


   “ว่ายังไรนะ? คุณหมอมากับคุณจันทร์จ้าวรึ?!” หล่อนถามแล้วกะพริบตาปริบๆด้วยคาดไม่ถึงว่าจันทร์จ้าวจะโผล่มาที่นี่พร้อมนายแพทย์ภวัต จริงอยู่ว่าบัดนี้คนทั้งคู่สนิทสนมและมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจันทร์จ้าวและหมอภวัตจะมาวังฉัตรด้วยกันเช่นนี้


   คนรับใช้ไม่ทันได้ทวนคำตอบอีกหน ก็พอดีที่รถยนต์ของหมอภวัตแล่นเข้ามาจอดต่อหลังรถยนต์ที่ดารารัษมีขับมา และยืนยันความฉงนของคุณหญิงผกาด้วยการที่จันทร์จ้าวลงจากรถแล้วยกมือไหว้หล่อนพร้อมด้วยรอยยิ้มประจบจนเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย แต่เขายังไม่ทันจะได้กล่าวสวัสดี มารดาก็ตั้งคำถามอย่างไว


   “พ่อจันทร์...มากับคุณหมอได้ยังไร?”

..................................

หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 18-02-2016 20:10:42

เมื่อครั้งที่จันทร์จ้าวเพิ่งเกิดได้ใหม่ๆ มารดาของคุณหญิงผกาเป็นผู้ขวนขวายไปขอชื่อหลานชายคนที่ ๒ จากหลวงพ่อที่ตนนับถือ กำชับนักหนาว่าขอชื่อที่ยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าคนนายคน พูดคิดทำการใดก็มีแต่คนยกย่องสรรเสริญ ผลเลยมาตกที่ชื่อ ‘จันทร์จ้าว’ และชื่อนี้ที่มารดาของคุณหญิงผกาอยากให้หลานชายยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าคน มีแต่คนสรรเสริญก็มาสำแดงอิทธิฤทธิ์ความยิ่งใหญ่กับคุณหญิงผกาก่อนใครเพื่อน เพราะไม่ว่าบุตรชายคนรองจะพูดจาอย่างไร คุณหญิงผกาเป็นต้องคล้อยตามไปด้วยทั้งหมด


   “นี่นะครับคุณแม่ คุณหมอเธอเป็นห่วงผม เธอพูดคำเดียวกับคุณแม่ว่าเมาหัวราน้ำอย่างนั้น กลับไปอยู่คนเดียวเกิดหกล้มหัวร้างข้างแตกจะทำยังไร แล้วเธอก็เลยออกอุบายพาผมไปนอนบ้านเธอจนได้ คุณหมอเธอดูแลผมอย่างดี เห็นไหมครับ รีบพามาส่งแต่เช้า ไม่ให้ผมไถลแวะข้างทางสักนิด จะหาร้านจิบน้ำชากาแฟรองท้องสักหน่อย ยังไม่ยอม บอกให้หิ้วท้องมาที่วังฉัตรอย่างเดียว” จันทร์จ้าวไม่ได้โกหกมารดาสักคำ เพียงแต่พูดความจริงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่กระนั้นคุณหญิงผกาก็ดูจะไม่ดิ้นพล่านเหมือนเมื่อครั้งที่มาแล้วไม่พบแม้แต่เงาบุตรชายคนรอง


   “เห็นไหมคะ คุณแม่ พี่จันทร์ไม่ได้ไถลเสียหน่อย ก็ไปกับคุณหมอนี่เอง” ดารารัษมีช่วยย้ำอีกที คุณหญิงผกายังคงจับจ้องบุตรชายคนรองด้วยความห่วงใย ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองหมอภวัตที่ยืนอยู่ใกล้ๆ


   “คุณหมอไม่ได้พาพ่อจันทร์ไปไถลที่ไหนแน่นะคะ”


   “นี่คุณหญิง พ่อจันทร์ไปกับคุณหมออย่างนี้ยังไม่สบายใจอีกหรือ? คนอย่างคุณหมอจะพาพ่อจันทร์ไถลได้อย่างไร ถามอะไรไม่เข้าท่า” ท่านนายพลที่ยืนเงียบมานานอดไม่ไหวต้องเอ็ดภรรยา คุณหญิงผกาจึงพลอยหยุดพูดไปด้วย แต่ก็ยังมีแววไม่สบายอกสบายใจให้เห็นอยู่ดี ภวัตได้แต่ยืนเงียบ ด้วยเพราะไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธ ว่าสิ่งที่เขาพาจันทร์จ้าวไปเมื่อคืนนี้เป็นการพาไถลหรือไม่อย่างไร


   จันทร์จ้าวเห็นท่าทางของมารดาก็รู้ดีว่าตนต้องทำเช่นไรตามประสาบุตรชายคนโปรด เขาเดินตรงเข้าไปโอบกอดร่างอวบคุณหญิงผกาเอาไว้แล้วประจบด้วยน้ำเสียงระรื่นหู


   “คุณแม่ยังจะกลัวหมอพาผมไถลอีกหรือ ชีวิตหมอมีแค่งานกับเทนนิส ไถลไปทางอื่นไม่ได้หรอกครับ” จันทร์จ้าวสำทับพลางหัวเราะ คุณหญิงผกาเลยตีแขนเบาๆ ที่บุตรชายช่างพูดเสียเหลือเกิน


   “เอาเถอะ พ่อจันทร์ว่าไม่ไถลแม่ก็สบายใจ อีกทั้งยืนยันว่าอยู่กับคุณหมอแม่ก็ค่อยโล่งอก ตอนแรกแม่ก็เป็นห่วงน่ะซี เมื่อคืนพ่อจันทร์เมาอย่างนั้น ก็กลัวว่า...เอ่อ...เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไร ก็ไม่มีอะไร แต่แม่สั่งเอาไว้เลยนะ สะใภ้เล็กของแม่จะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่แม่หญิงชั่วหญิงเลว”


พอวกมากำชับเรื่องที่ตนเป็นกังวลมานานสองนาน ท่านนายพลก็ถอนหายใจเสียทีหนึ่งให้ได้ยิน คนกำลังกำชับบุตรชายเลยต้องหันไปมองตาเขียวปั๊ด แต่เสียงตอบรับของจันทร์จ้าวทำให้หล่อนกลับมาสนใจเสียก่อน


   “แน่นอนครับคุณแม่” บุตรชายของคุณหญิงยิ้มรับอย่างชื่นมื่น แต่ชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกลและได้ยินคำตอบรับนั้นก็ถึงกับเก้อเขินจนต้องหันมองไปทางอื่น


   “จะมีสกุลรุนชาติหรือไม่ แม่ไม่สนใจ แต่ขอแค่ไม่ใช่พวกกเฬวราก ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่ทำมาหากิน อย่างนั้นแม่ทนไม่ได้”


   “รับรองครับคุณแม่ ผมจะหาสะใภ้ที่ขยันทำมาหากิน มีหัวนอนปลายเท้า และที่สำคัญเป็นคนดี คนตรง ไม่คิดคดทรยศใครแน่นอน” บุตรชายคนรองรับคำพร้อมรอยยิ้ม แต่ทำเอาทั้งหม่อมหลวงพงศ์ภราธร นภาสรวงและดารารัษมีผู้รู้เห็นคู่รักของเขาพากันกระแอมไอกันคนละที ๒ ที


   “รับปากแม่แล้วอย่าคืนคำก็แล้วกัน!” คุณหญิงผกาผู้มีบุตรชายคนรองอยู่ตรงหน้า ก็ไม่คิดจะสนใจใครอื่นอีก หล่อนจึงไม่ทันเห็นสีหน้าอิหลักอิเหลื่อของบรรดาหนุ่มสาวทั้งหลาย ส่วนจันทร์จ้าวก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ด้วยเพราะเขามั่นใจว่า ‘สะใภ้’ ที่เขาหาให้มารดานั้น ตรงตามที่คุณหญิงกำชับไว้ทุกอย่าง


   “ไม่คืนคำหรอกครับ แล้วนี่มาถึงวังฉัตร กลับคุยแต่กับผม คุณพ่อคุณแม่ได้พบหน้าพี่อาทิตย์หรือยังครับ”


   “ยังหรอกค่ะพี่จันทร์ เห็นคุณพงศ์ว่า พี่อาทิตย์กับคุณพิมจะมารับประทานอาหารเช้าที่ตึกพร้อมหน้าพร้อมตาพวกเราทุกคน อุ๊ย! นั่นอย่างไรคะ เดินกันมานู่นแล้ว” นภาสรวงตอบพี่ชายคนรองยังไม่ทันจบดี ก็เหลือบไปเห็นพี่ชายคนใหญ่และคู่รักของเขาเดินตรงมาทางนี้ ทุกคนพลันหันมองโดยพร้อมเพรียง สายตาทุกคู่มองตรงไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินมาตามทางเดินซึ่งทอดด้วยแสงอาทิตย์ยามเช้า ราวกับภาพวาด ทั้งอบอุ่นและสวยงาม ดูเหมาะสมอย่างกับกิ่งทองใบหยก


   “งามสมกันเหลือเกิน” คุณหญิงผกายังอดปลาบปลื้มไม่ได้


พิธีเมื่อวานก็ทำให้หล่อนยิ้มหน้าบานไม่หุบ เดินไปตรงมุมใดของห้องจัดเลี้ยงก็ได้ยินแต่คำชื่นชมที่มีต่อบุตรชายคนใหญ่และลูกสะใภ้ของหล่อน วันนี้ที่ได้เห็นบุตรชายคนใหญ่ได้ครองคู่ชื่นมื่นกับสตรีที่เขารัก หล่อนก็ยิ่งอิ่มเอม อาทิตย์และพิมพัชราเดินเข้ามาไหว้คุณหญิง เมื่อนั้นความสนอกสนใจทั้งมวลของผู้เป็นมารดาก็ตกที่บุตรชายคนใหญ่และสะใภ้คนแรกของครอบครัวรักษพิพัฒน์ไปเสียแล้ว


   จันทร์จ้าวเห็นว่ามารดาไม่สนใจตนแล้วก็ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนจะเหลือบมองภวัตเสียทีหนึ่ง ฝ่ายนั้นเองก็ดูโล่งใจเช่นกันที่คุณหญิงไม่คาดคั้นมากไปกว่านี้ ทั้ง ๒ เกือบจะโล่งใจอย่างถ่องแท้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าจันทร์จ้าวเหลือบไปสบเข้ากับสายตาคมกริบของบิดาที่จับจ้องมาที่เขาไม่คลาย


   ท่านนายพลเดชมองบุตรชายเงียบๆโดยไม่พูดอะไร จันทร์จ้าวเองก็สบตาเขาวูบหนึ่ง ก่อนที่ดวงตากลมใหญ่จะเหลือบไปมองหม่อมหลวงพงศ์ภราธรแล้วเอ่ยปาก


   “คุณพงศ์ ผมว่าเราเข้าไปข้างในกันเลยดีไหม ป่านนี้คุณชายฉัตรท่านคงลงมาแล้วกระมัง” แล้วบุตรชายคนรองของท่านนายพลก็ไม่ยอมหันกลับมาสบตากับท่านอีก เมื่อหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเชื้อเชิญทุกคนเข้าไปในวังฉัตร จันทร์จ้าวก็รีบเดินตีคู่ไปกับเพื่อนรักทันที ตามหลังด้วยคุณหญิงผกา อาทิตย์ พิมพัชรา นภาสรวง ดารารัษมี ส่วนท่านนายพลเดชรอรั้งท้ายพร้อมด้วยนายแพทย์หนุ่ม


   “วันนี้...คุณหมอไม่ต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลหรือ” และนั่นดูเหมือนจะเป็นประโยคแรกที่ท่านนายพลมีต่อภวัต นับตั้งแต่ท่านเห็นว่านายแพทย์ผู้นี้เป็นคนขับรถมาส่งบุตรชายคนรองของท่านที่วังฉัตรด้วยตนเอง


   “ไม่ไปครับ วันนี้เป็นวันหยุด”


   “อ้อ...” ท่านนายพลแห่งกรมตำรวจรับคำเบาๆ พลางหมุนตัวจะเดินตามทุกๆคนเข้าไปในตึก ภวัตเองก็กำลังจะก้าวเท้าตามอยู่แล้ว หากไม่ใช่ว่าเสียงของคนที่กำลังจะหมุนตัวนั้นดังขึ้นอีกครั้งเสียก่อน


   “แล้วถ้าคุณหมอต้องไปทำงาน คุณหมอจะมาส่งพ่อจันทร์อย่างนี้ไหม”


สายตาคมกริบของผู้ถามจับจ้องดวงหน้าของชายหนุ่มคราวลูกราวกับมีความนัยบางอย่างแอบแฝงมาในประโยคนั้น ภวัตชะงักงัน รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ตอบคำใด ท่านนายพลก็ยกยิ้มที่มุมปาก อย่างที่จันทร์จ้าวมักจะทำบ่อยๆ


   “ฉันนี่ก็ถามแปลก ถ้าคุณหมอต้องไปทำงาน ก็คงไม่ขันอาสาแวะมาส่งพ่อจันทร์ให้อย่างนี้ จริงไหม”


สายตาของท่านราวกับมองเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ภวัตเกือบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว จนกระทั่งท่านนายพลเดชพูดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง


“...แต่ถ้าเมื่อไร คุณหมอขันอาสาอีก ฉันก็ฝากด้วยแล้วกัน” แล้วท่านก็ยิ้มจางให้เขาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินนำเข้าไปในตึก ภวัตได้แต่มองตามแผ่นหลังของชายสูงวัย เขาอ้าปากเหมือนอยากเอื้อนเอ่ย แต่สุดท้ายก็อับจนด้วยคำพูด เมื่อประโยคของนายตำรวจใหญ่ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา


   ‘ถ้าเมื่อไร คุณหมอขันอาสาอีก ฉันก็ฝากด้วยแล้วกัน’


   ...นี่หมายความว่า ท่านนายพลฝากจันทร์จ้าวไว้ที่เขาอย่างนั้นหรือ?...

..................................


   พลตำรวจโทเดช รักษพิพัฒน์รับราชการตำรวจมาตั้งแต่ยังหนุ่ม ไต่เต้าจากตำแหน่งเล็กๆขึ้นมาโดยไม่ได้อาศัยชื่อเสียงวงศ์ตระกูลแต่ประการใดด้วยเพราะท่านเป็นบุตรชายคนรองๆที่เกิดจากภรรยาลำดับท้ายๆของท่านเจ้าคุณรักษพิพัฒน์ ดังนั้นเมื่อท่านแต่งงาน จึงย้ายออกมาปลูกเรือนเป็นของตนเองและไม่ค่อยจะได้กลับไปข้องแวะกับพี่น้องคนอื่นๆร่วมสกุลเสียเท่าไรด้วยเพราะไม่สนิทสนมอันเนื่องมาจากต่างมารดา พอท่านมีบุตรธิดารวม ๔ คน จึงสั่งสอน ๔ พี่น้องแต่เล็กให้รักใคร่กลมเกลียว น่าดีใจที่การบ่มเพาะของท่านบรรลุผล ถึงแม้จะมีทะเลาะเบาะแว้งกันตามประสาพี่น้อง แต่ท่านก็ทราบดีว่าบุตรธิดาทั้ง ๔ รักใคร่กันเพียงใด ยิ่งวันนี้...ท่านยิ่งแน่ใจ


   หลังจากรับประทานอาหารร่วมกันที่ตึกใหญ่ของวังฉัตร ครอบครัวรักษพิพัฒน์ เว้นแต่จันทร์จ้าวก็พากันมาที่ตึกเล็กอันเป็นเรือนหอของอาทิตย์และพิมพัชรา คุณหญิงผกา นภาสรวงและดารารัษมีอยู่ในห้องครัวกับพิมพัชรา ส่วนจันทร์จ้าวขอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านเช่าแล้วจะกลับมาอีกหน ในขณะที่หมอภวัตผู้รู้สึกว่าตนเป็นส่วนเกินกลับถูกหม่อมหลวงพงศ์ภราธรยื้อเอาไว้ด้วยเหตุผลที่ว่าจะชวนตีเทนนิส บัดนี้เขาจึงเตร่รออยู่ที่ตึกใหญ่กับเจ้าบ้านนั่นเอง


   “ที่นี่เงียบสงบดีนะ ถึงจะอยู่ใกล้ตึกใหญ่ แต่ก็เป็นส่วนตัว” ท่านนายพลเดชที่เดินดูห้องหับต่างๆหันมาพูดกับบุตรชายคนใหญ่ที่ติดตามท่านอยู่เบื้องหลัง


   “แล้วมีอะไรขาดเหลือหรือไม่ล่ะ”


   “ไม่มีครับคุณพ่อ” อาทิตย์ยังคงเป็นบุตรชายผู้เรียบร้อยและไม่ใคร่จะร้องขอสิ่งใด


   “ถ้ามีอะไร ก็ไปบอกแล้วกัน หรือจะฝากพ่อจันทร์ไปบอกก็ได้ รายนั้นคงจะเตร่มาที่นี่บ่อยอยู่หรอก มีทั้งเพื่อนมีทั้งพี่อยู่ที่นี่”


   “ขอบพระคุณครับ” บุตรชายคนใหญ่ยกมือประนมไหว้ ท่านนายพลเหลือบมามองวูบหนึ่งก็เหลือบสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ทอดสายตาออกไปไกลเกินกว่าที่ต้นไม้เขียวขจีในสวนจะหยุดยั้งความรู้สึกนึกคิดของท่านได้


   “หรือถ้าพ่อจันทร์ไม่มาที่นี่ พ่ออาทิตย์ก็คงจะทราบกระมังว่าน้องชอบไปอยู่ที่ใด คงจะตามหาน้องเจออยู่หรอกใช่ไหม” คำพูดของบิดาทำเอาอาทิตย์ชะงัก ยิ่งสายตาคมกริบของนายพลเดชเหลือบกลับมามอง ก็ยิ่งทำเอาบุตรชายคนใหญ่แทบหยุดหายใจ


   “ว่าอย่างไร ถ้าพ่อจันทร์ไม่มาที่นี่ และไม่อยู่ที่บ้านเช่า พ่ออาทิตย์จะตามหาน้องเจอไหม”


   “คุณพ่อ...หมายความว่าอย่างไรครับ” อาทิตย์ถามด้วยใจคอไม่สู้ดี รู้สึกเสียววาบกลางสันหลัง ทว่าท่านนายพลกลับยกยิ้มจางที่มุมปาก แล้วเหลือบสายตามองออกไปนอกหน้าต่างอีกหน


   “ก็หมายความตามที่ถาม ว่าถ้าน้องไม่อยู่ที่นี่ ไม่อยู่ที่บ้านรักษพิพัฒน์ และไม่ได้อยู่ที่บ้านเช่า พ่ออาทิตย์จะตามหาน้องเจอไหม”


   “เอ่อ...ก็...ก็ไม่น่ายากนะครับคุณพ่อ จันทร์มีเพื่อนแยะก็จริง แต่เพื่อนสนิทก็มีไม่กี่คน นอกจากคุณพงศ์ ก็เรย์มอนด์ อดัมส์ แล้วก็...มีคุณวินิตกับ...เอ่อ...กับ...” คนสุดท้าย อาทิตย์รู้สึกชอบกลที่จะต้องพูดชื่อออกมา เขาไม่ทราบว่าบิดาทราบอะไรมา เหตุใดจึงมาพูดกับเขาเช่นนี้ ทว่าท่านนายพลผู้เห็นบุตรชายคนใหญ่อ้ำอึ้งจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเสียเอง


   “กับคุณหมอภวัตซีนะ...”


   “ค...ครับ...ใช่ครับ...จันทร์...จันทร์ก็คงวนเวียนอยู่เท่านี้ ไม่น่าจะไปไหนไกล...”


   “เป็นว่าพ่ออาทิตย์ทราบดี ว่าน้องจะไปอยู่ที่ไหน จริงไหม”


   “ค...ครับ...” คนเป็นลูกได้แต่รับคำอ้ำอึ้ง ด้วยเพราะไม่กล้าคาดคิดว่าบิดารู้เห็นสิ่งใดมา หากว่าท่านระแคะระคายเรื่องของจันทร์จ้าวและหมอภวัต ย่อมเป็นไปได้ยากที่จะปิดบัง หรือถึงจะปิดบังได้ แต่คนอย่างท่านย่อมมีวิธีสืบทราบด้วยตัวเอง หรือบางที...ท่านอาจจะสืบทราบมาแล้ว เหลือเพียงแค่ถามย้ำให้มั่นใจ...


   “ถ้าอย่างนั้นพ่อก็สบายใจ” คำพูดของบิดาทำเอาอาทิตย์เงยหน้ามองโดยพลัน ท่านนายพลเดชไม่ได้หันกลับมามองเขา ยังคงทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างราวกับมันมีทิวทัศน์ที่น่าดูชมนักหนา


   “พ่ออาทิตย์จำเอาไว้...เมื่อไรที่มีลูก จงรักลูกทั้งตัวและหัวใจ ไม่ว่าจะแข็งแรงหรือพิการ ลูกก็คือลูก ไม่ว่าจะผิดถูกชั่วดี ลูกก็คือลูก แต่...จงอย่าใช้ความรักที่มีต่อลูกไปเป็นบ่วงรัดขาเขา เมื่อถึงวันหนึ่งที่เขาต้องเลือก ก็จงให้เขาเลือกตัวเขาเอง เพราะคนเป็นพ่อเป็นแม่ ย่อมสละได้ทุกอย่างเพื่อลูก แม้สิ่งที่สละนั้นจะเป็นความสุขของตนเองก็ตาม..."


   “คุณพ่อ...” อาทิตย์ได้แต่ครางอย่างคาดไม่ถึง บิดาเพียงหันมามองเขาวูบหนึ่ง ในดวงตาคมกริบคู่นั้นคลอไปด้วยหยาดน้ำ แต่ชั่ววูบมันก็ไหลกลับเข้าไปพร้อมๆกับที่ท่านนายพลเดชหันหลังให้เขา


“พ่อคงต้องกลับเสียที ตอนสายต้องไปพบผู้ใหญ่ พ่ออาทิตย์ให้ใครไปตามแม่กับน้องๆมาทีเถอะ” ท่านกล่าวโดยไม่หันกลับมามอง


“คุณพ่อครับ เรื่องของจันทร์...” อาทิตย์กำลังจะพูดด้วยความรู้สึกผิดเอ่อล้นไปทั้งอก หยาดน้ำที่คลอหน่วยของบิดาเมื่อครู่นี้ ครึ่งหนึ่งเป็นความผิดของเขาที่ไม่อาจทำให้จันทร์จ้าวเปลี่ยนใจ แต่บิดากลับยกมือปรามไม่เขาพูด



“ไม่ใช่แค่เรื่องของจันทร์ แต่ไม่ว่าจะลูกคนไหน แม้จะเป็นความสุขของพ่อเอง พ่อก็ให้ลูกของพ่อได้”



อาทิตย์ได้แต่จับจ้องแผ่นหลังของบิดาด้วยความรู้สึกทั้งตื้นตันระคนเจ็บปวด ตื้นตันที่บิดาเป็นผู้เสียสละ เจ็บปวดเพราะทราบดีว่าความสุขที่บิดาสละนั้นคือเรื่องใด เขาไม่มีคำพูดใดออกจากปากนอกเสียจากโค้งกายต่ำเป็นการทำความเคารพด้วยหัวใจที่ซาบซึ้งในความรักของบิดาที่มีต่อลูกทุกคน



`...คนเป็นพ่อเป็นแม่ ย่อมสละได้ทุกอย่างเพื่อลูก แม้สิ่งที่สละนั้นจะเป็นความสุขของตนเองก็ตาม...’


“ผม...ในฐานะพี่ชายคนใหญ่ของน้องทุกคน...ผมขอขอบพระคุณคุณพ่อครับ” อาทิตย์พูดได้เพียงเท่านั้น ก้อนสะอื้นก็จุกแน่นไปทั้งคอจนเขาไม่อาจกล่าวสิ่งใดได้อีก นายทหารหนุ่มได้แต่หมุนตัวเดินออกจากห้องไปตามมารดาและน้องอีก ๒ เพื่อกลับพร้อมกับบิดา จึงเหลือเพียงท่านนายพลเดชในห้องนั่งเล่นของตึกเล็กเพียงลำพัง



ชายสูงวัยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วสูดลมหายใจลึกเพื่อระงับความรู้สึกเจ็บปวดในอก สิ่งที่ท่านสงสัย บัดนี้แจ่มชัดแล้ว และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือนอกจากท่านแล้ว อาทิตย์ก็เห็นจะทราบด้วย ส่วนนภาสรวงและดารารัษมีก็คงจะทราบเช่นกัน แต่กระนั้นทุกคนก็ยืนหยัดเคียงข้างกันเป็นอย่างดี แม้จะเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่กระนั้นท่านก็ยินดีจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มจางออกมา


...บางที...สิ่งทีเกิดขึ้นกับจันทร์จ้าว อาจจะเป็นหนทางพิสูจน์สิ่งที่ท่านเพียรพยายามมาตลอด ทุกวันที่หมั่นปลูกฝังให้บุตรธิดารักใคร่กลมเกลียว...มาวันนี้เห็นจะบรรลุผลสำเร็จแล้ว...

ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า)


มีแต่คนติดใจน้ำมันมะพร้าว จะบอกว่าบัวคิดหัวแทบแตกเลยค่ะ ว่าจะเอาอะไรมาเป็นตัวช่วยหมอ โชคดีว่าอย่างน้อยสมัยนั้นก็มีน้ำมันมะพร้าว แล้วหมอก็หมอ น่าจะรู้ว่าถ้าไม่มีตัวช่วนี่คงถูกพิจันทร์ถีบตกเตียงแน่นอน ฮาฮา


อย่างที่เคยแจ้งเอาไว้แล้ว ว่าเรื่องนี้จะจบภายในเดือนนี้ ซึ่งก็คือสัปดาห์หน้านั่นเองค่ะ


สัปดาห์หน้าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้ว สำหรับเรื่องนี้ ส่วนตอนพิเศษจะมีมั้ย บัวยังตอบไม่ได้ เพราะตอนนี้งานบัวเครียดมากจนแทบไม่มีเวลาเลย แต่ถ้าถามว่าอยากเขียนมั้ย ด้วยสไตล์มนุษย์คลั่งตอนพิเศษกุ๊กๆกิ๊กๆอย่างบัวนั้น ขอบอกเลยว่าอยากมากกกกกกก (ที่อยากสุดๆคือสเปคุณพงศ์) ส่วนเรื่องรวมเล่มก็ยังไม่มีกำหนด เพราะยังเขียนต้นฉบับไม่เสร็จเลยค่ะ (คือเรื่องหลัก ‘จันทร์จ้าว’ นี่พิมพ์เสร็จแล้ว แต่ตอนพิเศษ ที่กำลังเขียนต่อจากเรื่องนี้ยังเขียนไม่จบเลยค่ะ) ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะคะ รวมถึงถ้ามีตอนพิเศษก็จะเอามาลงให้ได้อ่านกันแน่นอนค่ะ

วันนี้เครียดจนปวดหัว ขอตัวไปพักก่อน เจอกันสัปดาห์หน้าค่ะ

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และพื้นที่บอร์ดค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2016 20:22:10
มาแปะจันทร์ก่อน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 18-02-2016 20:26:23
คุณพ่อมองเห็นเร็วมากกก

ตอนหน้าจบแล้วสินะ  รอๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๒ (๑๑ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 18-02-2016 20:32:16
อะไรนะตอนหน้าจบแล้ว คุณพระ ยกนิ้วให้คุณพ่อ ปลื้มปริ่มมากค่ะ เหลือแต่คุณแม่ไม่รู้จะเปิดใจรับได้ไหม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-02-2016 20:32:28
ประทับใจตอนนี้มากกกก น้ำตาไหลเลย
ความรักของท่านนายพลที่มีต่อลูกๆ นี่มันสุดๆ จริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-02-2016 20:32:55
คุณพ่อสุดยอดดดดดด ไม่แปลกเลยที่ลูกๆทั้ง 4 คนได้รับถ่ายทอดนิสัยเด็ดขาดมาจากใคร ประทับใจคุณพ่อมว๊ากกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-02-2016 20:44:34
ปลาบปฃื้มใจกับท่านนายพลจริงๆ
กลายเป็นคนเป็นพ่อที่รับได้ก่อนเนาะ
ส่วนคุณหญิงยังต้องรอว่าจมีอาการยังไง

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 18-02-2016 20:48:11
ซึ้งในความรักของคุณพ่อค่ะ อ่านแล้วน้ำตาไหลเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-02-2016 20:49:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 18-02-2016 20:57:49
สายตาของท่านนายพลมองทะลุปรุโปร่งมาก   ท่านทราบได้ยังไงคือสุดยอดอะ

เเต่ที่สุดยอดว่านั้น  คือประโยคที่คนเป็นพ่อพูดกับพี่อาทิตย์   ซาบซึ้งมากค่ะ

ตอนหน้าจะจบแล้วเรารู้สึกว่าเร็วมากเลยค่ะ  ตอนคุณบัวบอกว่าเรื่องนี้ยาวมากเราคิดไปไกลเลยว่ายาวมากกกกกก

ฮรื่ออทำไมเร็วแบบนี้ล่ะคะ  เเล้วทีนี้ทุกพฤ.ก็ไม่มีอะไรให้รอแล้วซิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 18-02-2016 21:00:54
โอ้ยยยยยย กราบแทกตักคุณพ่อ แอบน้ำตาคลอไปด้วย คุณพ่อคืนความสุขให้ผู้อ่านจริงค่ะ คุณบัวก็ด้วยนะคะ แฮะๆ ไม่ไหวแล้วววววว ฟินแก้มระเบิดระเบ้อ ตอนหน้าจะจบแล้ว รู้สึกใจหายนิดหน่อย รอตอนสเปคุณพงศ์ด้วยค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-02-2016 21:31:28
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 18-02-2016 21:46:23
เหลือคุณแม่สินะ ยังไม่อยากให้จบเลย :sad4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 18-02-2016 21:51:24
จะจบแล้วหรออออ

เสียดายจัง

อยากเห็นรวมเล่มค่ะ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 18-02-2016 21:51:56
 :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 18-02-2016 22:01:18
สงสารคุณพ่อ แต่เพื่อความสุขของลูก
พ่อให้ได้ยอมได้ทุกอย่าง อยากให้จันทร์รับรู้
ความรู้สึกของพ่อด้วยจังค่ะ

ขอบคุณคุณบัวค่ะ ขอให้ทำงานลุล่วงไปด้วยดี
ความเครียดมลายหายไปนะคะ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 18-02-2016 22:25:02
เจอหมัดฮุกของคุณพ่อเข้าไป

ประโยคแรก

   “พ่ออาทิตย์จำเอาไว้...เมื่อไรที่มีลูก จงรักลูกทั้งตัวและหัวใจ ไม่ว่าจะแข็งแรงหรือพิการ ลูกก็คือลูก ไม่ว่าจะผิดถูกชั่วดี ลูกก็คือลูก แต่...จงอย่าใช้ความรักที่มีต่อลูกไปเป็นบ่วงรัดขาเขา เมื่อถึงวันหนึ่งที่เขาต้องเลือก ก็จงให้เขาเลือกตัวเขาเอง เพราะคนเป็นพ่อเป็นแม่ ย่อมสละได้ทุกอย่างเพื่อลูก แม้สิ่งที่สละนั้นจะเป็นความสุขของตนเองก็ตาม..."

แทบน้ำตาร่วง แค่เอ่อ

มาเจออีกประโยค

“ไม่ใช่แค่เรื่องของจันทร์ แต่ไม่ว่าจะลูกคนไหน แม้จะเป็นความสุขของพ่อเอง พ่อก็ให้ลูกของพ่อได้” 

น้ำตาร่วงเลยจ๊า
หยดแมะๆ

ยอมใจคุณพ่อมาก พ่อที่รักลูกขนาดยอมเสียสละความสุขตัวเองได้
ิ่ยิ่งในยุคนั้นด้วยแล้ว จิตใจพ่อสุดยอดมากจริงๆ
ซึ้งยกกำลังแปดเลย


ว่าแล้วว่าพ่อต้องรู้อะไรมา
แต่ไม่คิดว่าพ่อจะคิดยอมกันขนาดนี้

ขอบคุณคำสอนของพ่อทุกๆอย่างเลย
ถ้าจันทร์รู้คงน้ำตาซึมเหมือนกันแน่ๆ

แต่ตอนพ่อมีน้ำตาก็แอบเจ็บแทนเหมือนกันนะ


ตอนหน้าจบแล้วหรือออ
ยังมิอยากให้จบเลย

ปล.ขอคืนความสุขให้คุณพงศ์บ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 18-02-2016 22:26:23
คุณพ่อน่ารักมากกกกก ไม่เสียแรงนั่งรีเฟรชรอทั้งวันเลยนะเนี่ย
กดจองหนังสือตอนนี้เลยได้มั๊ยคะ น้องบัว
อยากได้จันทร์จ้าวไปฟัดยิ่งนัก  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: niza59 ที่ 18-02-2016 22:28:28
ท่านนายพลรู้แล้วอ่ะ ซึ้งมากๆ  :hao5: :hao5: :hao5:
ตอนหน้าตอนสุดท้ายจริงๆหรอ ฮือออออ  :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mhhong95 ที่ 18-02-2016 22:32:09
ตอนแรกคิดว่าพ่อจะเป็นอุปสรรคที่สุดนะเนี่ยยย
ซึ้งมากกกก บ้านนี้เลี้ยงลูกได้ดีจริงๆ

เเต่ยังเหลือบ้านคุณหมอนี่ บ้านนั้นแลดูกดดันด้วยยย :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 18-02-2016 22:32:44
กอดท่านนายพลที
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 18-02-2016 22:34:45
คุณพ่อรู้เรื่องแล้ว ว่าแล้วคุณพ่อต้องรู้เป็นคนต่อไป ท่านนายพลหัวสมัยใหม่พอสมควรเลยอ่ะ และดูมีเหตุผลประกอบอยุ่ในตัวละครตัวนี้ด้วย

มีความเป็นมาในทุกๆอย่าง อ่านแล้วเนื้อเรื่องดูมีเหตุมีผล

ชอบมากเลย กำลังจบแล้วอ่ะ มีรวมเล่มใช่มั้ยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 18-02-2016 22:40:21
ตอนนี้มาสั้นๆแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกของคุณพ่อเลย ปูลู อะไรคือจบตอนหน้า! ฮืออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 18-02-2016 22:41:15
 :o8: ความรักในครอบครัวพี่น้องของจันทร์จ้าว ส่งถึง รุ่นจอม รักและพร้อมเข้าใจ อภัยในความเป็นครอบครัว  สุดยอด

จอง 1 เล่มค่ะคุณบัว อิอิ พร้อมจองพร้อมโอน พร้อมรับคุณจันทร์เข้าบ้านคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 18-02-2016 22:53:43
 :m15:  จะจบแล้วหรอ คนเป็นพ่อแม่นี่สุดยอดจริงๆนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 18-02-2016 22:56:34
คุณพ่อเลี้ยงลูกดีมากเลยอ่า เข้าใจและเคารพการตัดสินใจของลูก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2016 23:01:51
  o13 o13 o13o13 o13  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2016 23:05:38
  o13 o13 o13 o13 o13o13 o13  :กอด1:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 18-02-2016 23:15:37
ขอเป็นตัวแทนสาวผู้อยากเป็นสะใภ้แต่ชวด ขอขอบพระคุณคุณพ่อเช่นเดียวกันค่ะ #พ่อก็คือพ่อ



 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 18-02-2016 23:27:44
ความรักของพี่น้อง และความรักของคนเป็นพ่อ มันมีพลังที่ยิ่งใหญ่ ซึ้งอ่ะ น้ำไหลมาตอนไหนไม่รู้ตัวเลย ไม่อยากให้จบเลยค่ะ ขอนพิเศษเยอะๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-02-2016 23:29:57
ท่านนายพล รักท่านนายพลที่สุด คุณพ่อตัวอย่าง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-02-2016 00:50:09
คุณบัว

พักผ่อนให้พอนะ ถึงมีเรื่องให้คิด ให้กังวล ก็ต้องพักใจพักกายบ้าง
ทุก ๆ อย่างมีเวลาของมันเอง ขอให้สิ่งที่คุณกำลังเผชิญคลี่คลายไปในทางที่ดีนะ

คุณพ่อหล่อมาก ดีงามที่สุดในจักรวาล
#พระเอกตัวจริง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 19-02-2016 01:20:13
อ่านแล้วอินกับความรู้สึกคุณพ่อชะมัด
สุดท้ายพ่อ(แม่)ก็ยังเป็นคนที่เข้าใจลูกที่สุดนั่นเอง
ถือว่าเป็นคุณพ่อที่ใจกว้างมากในสมัยนั้น ขนาดพี่อาทิตย์ยังแอนตี้เลย
ไม่ทราบว่าท่านไปได้ยินข่าวคราวมาจากไหน นานเท่าใดแล้ว แต่ยอมรับได้นี่นับถือน้ำใจ

ถ้าตอนหน้าจบเราว่าเร็วจัง รู้สึกปมคุณแม่กับเปิดตัวบ้านหมอยังเป็นเรื่องติดค้างในใจอยู่เลย 555
เรื่องนี้ซื้อแน่ ไม่พลาด! 555555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-02-2016 03:44:29
ท่านนายพล เเลี้ยงลูกได้ดีมากๆ. ยอมตามใจลูกทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีความสุข สุดยอดดดดดด 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 19-02-2016 07:26:25
โล่งใจท่านนายพลรู้แล้ว เหลือคุณหญิงอีกด่านจะเป็นไงหนอ  :mew2: :mew2:
จันทร์มีคนรอบข้างที่รักมากมาก :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-02-2016 08:54:20
รักคุณพ่อจังเลย อ่านแล้วน้ำตาคลอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 19-02-2016 10:16:42
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาจะไหล ความรักของคนเป็นพ่อช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน จันทร์จ้าวโชคดีจริงๆที่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้ เป็นครอบครัวที่มีความรักให้กันและอบอุ่นมาก กระซิก กระซิก ..

ปล.ตอนหน้าจะจบแล้ว เร็วจุง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 19-02-2016 10:46:22
รักพ่อค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 19-02-2016 10:59:02
กรี๊ด เค้าได้เข้าหอกันครั้งแรก ตอนหน้าก็จะจบเลยแล้วหรือคะ ขอตอนพิเศษเพิมความหวานด่วนๆเลยนะคะ อิอิ

ปล. จันทร์โชคดีมากที่คุณพ่อใจกว้างและรักลูกมากๆ ส่วนปัญหาตอนนี้คงเป็นคุณแม่สินะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 19-02-2016 11:07:01
คุณพ่อดีที่สุดเลย

จันทร์มีครอบครัวที่ดีมาก^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 19-02-2016 11:27:49
โอย จะหาคุณพ่อแบบท่านนายพลได้จากไหนอีกบ้างคะเนี่ย น่ารักจริงๆ
แต่จะจบแล้วจริงๆเหรอคะเนี่ย ใจหายจริงๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 19-02-2016 11:44:58
ท่านนายพลสุดยอดมากๆๆ คุณพ่อที่รักลูกโดยไมมีเงื่อนไขใดๆเลย o13

 :กอด1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 19-02-2016 13:20:59
กราบที่อกคุณพ่อ แล้วกอดแน่นๆๆๆๆ คุณพ่อคนดีที่หนึ่งเลย






โถ๋...คุณจันทร์ของป้า เป็นฝั่งเป็นฝาแล้วนะพ่อคุณ (ยกผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาด้วยความปิติ)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 19-02-2016 14:34:26
อ้างถึง
   “พ่ออาทิตย์จำเอาไว้...เมื่อไรที่มีลูก จงรักลูกทั้งตัวและหัวใจ ไม่ว่าจะแข็งแรงหรือพิการ ลูกก็คือลูก ไม่ว่าจะผิดถูกชั่วดี ลูกก็คือลูก แต่...จงอย่าใช้ความรักที่มีต่อลูกไปเป็นบ่วงรัดขาเขา เมื่อถึงวันหนึ่งที่เขาต้องเลือก ก็จงให้เขาเลือกตัวเขาเอง เพราะคนเป็นพ่อเป็นแม่ ย่อมสละได้ทุกอย่างเพื่อลูก แม้สิ่งที่สละนั้นจะเป็นความสุขของตนเองก็ตาม..."

คุณพ่อเป็นพ่อที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ค่ะ


 :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 19-02-2016 16:38:11
คูณพ่อท่านประเสริฐมากๆเลยค่ะ
ความรักของพี่น้องบ้านนี้ คงจะทำให้คุณพ่อมีความสุขนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-02-2016 17:32:17
ชอบมาก ไม่อยากให้จบเลย

 :กอด1:


ถ้ามีรวมเล่มนี่ขอจองเลยครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 19-02-2016 18:02:40
ท่านนายพลทำเอาน้ำตาคลอเลยค่ะ
พ่อท่านเข้าใจก็แล้ว คุณหญิงแม่คงไม่ยากอะไร(เหรอ)
 :sad4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 19-02-2016 18:12:46
ตอนแรกก็สงสัยอยู่ว่าพ่อต้องรู้แน่ๆ แต่ยังไม่พูดอะไร
แต่นึกไม่ออกเลยว่าคนเขียนจะเขียนออกมาแบบไหน
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกดีมากจริงๆ  ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้นะคะ

ถ้าเราเป็นจันทร์จ้าว เราจะรู้สึกขอบคุณพ่อมากจริงๆที่พยายามเข้าใจ  แต่ก็เสียใจที่ไม่อาจเป็นได้อย่างที่หวัง

แต่กังวลคุณหญิงแม่มากเลย จะเป็นยังไงเนี่ยถ้ารู้ความจริง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 19-02-2016 18:53:50
จะจบแล้วจริงๆเหรอคะคุณบัว อึ้งมากไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้ ถ้ามีแรงเมื่อไหร่ก็ขอตอนพิเศษด้วยนะคะ ส่วนตอนนี้ดีใจที่คุณพ่อไม่คิดจะขัดขวางแต่ทางคุณแม่นี่สิไม่รู้จะว่าไงบ้างคงต้องลุ้นเอาตอนจบแล้วล่ะ
ปอลิง ดูแลสุขภาพด้วยนะคะคุณบัว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 19-02-2016 22:09:24
 :pig4: :pig4:
ซึ่งกับความรักของพ่อที่มีต่อจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 19-02-2016 22:38:11
คุณบัวสู้ๆนะคะ พักผ่อนเยอะๆนะ
ดีใจที่คุณพ่อของจันทร์เข้าใจ ก็เหลือแต่คุณแม่แล้วก็ฝั่งคุณพ่อคุณแม่ของคุณหมอสินะ สู้ๆค่ะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 19-02-2016 23:27:13
ไม่อยากให้จบเลย กะลังฟินเลยยยยย :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 20-02-2016 00:43:02
คุณพ่อใจดีมากๆ เปิดวจและตาแหลมคมจริงๆเลยอ่ะ จันทร์โแชคดีจังที่มีพ่อที่ดีอย่างนี้ จะจบแล้วใจหายค่ะ คุณหมอกับจันทร์ยังไม่ค่อยได้สวีตหวานกันเท่าไรเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkypromise ที่ 20-02-2016 01:30:35
คุณพ่อเสียสละให้ลูกได้ทุกอย่างจริงๆ

จันทร์จ้าว เอาจริงๆก็เป็ยนตัวละครที่โชคดีมากๆ รอบตัวมีแต่คนช่วย

อาทิตย์หน้า จะจบซะแล้ว เงอออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 20-02-2016 08:32:14
สะอื้นกับคำสอนของพ่อ. ท่านนายพล เป็นลูกของแม่ลำดับท้ายๆ แต่หัวใจแข็งแกร่งมาก ขอบคุณน้องบัว ที่สร้างสรรค์ผลงานให้ยล (ของขวัญ กับจันทร์เจ้า เกี่ยวข้องกันทางใดรึ น้องบัว อยากรู้)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 20-02-2016 08:59:56
คุณพ่อ ความคิดดีงามล้ำสมัยมาก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 22-02-2016 19:34:09
คุณพ่อคนดีที่หนึ่ง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๓ (๑๘ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๒)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 23-02-2016 13:25:08
คือ รักคุณพ่อเลยอ่ะ แบบซึ้งแทนคุณจันทร์ คุณพ่อท่านน่ารักที่สุด เข้าใจลูกทุกคน
คุณจันทร์ก็รีบแจ้งความสัมพันธ์ให้คุณพ่อท่านรับทราบเถอะ อย่าปล่อยไว้นานเลย
คุณพ่อท่านคงอยากได้ยินเรื่องราวต่างๆจากปากคุณจันทร์
เง้อ หมดปัญหาเรื่องคุณพ่อ ก็เหลือคุณแม่กับทางบ้านหมอสินะ
ตอนหน้าจะจบแล้วจริงหรออออ ไม่เอา ไม่อยากให้จบเลย อยากฟินกับคุณหมอไปนานๆ
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 25-02-2016 20:33:24
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๒๔

แม้วาจาของท่านนายพลเดช รักษพิพัฒน์จะฟังราวกับรู้เห็นและยินยอมกับเรื่องของเขาและจันทร์จ้าว แต่กระนั้น นายแพทย์หนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล


เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยความกังวลที่ยังคงล้นปรี่ เขาลอบถอนหายใจซ้ำๆตลอดทั้งวันด้วยเพราะไม่ทราบว่าชายสูงวัยผู้นั้นทราบเรื่องของเขาและจันทร์จ้าวได้อย่างไร จะว่าพวกเขาทำตัวเอิกเกริกก็เห็นจะไม่ใช่ ถึงแม้จะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย แต่ทุกที่ที่ไปด้วยกัน พวกเขาก็ไม่เคยประพฤติตัวให้เป็นที่ติฉินนิทาเลยแม้แต่น้อย แล้วเหตุใด…เหตุใดท่านนายพลจึงทราบเรื่องนี้


อาการใจคอเลื่อนลอยของหมอภวัต ไม่เพียงแต่จะเป็นที่สังเกตของนางพยาบาลสมฤดีผู้ทำงานใกล้ชิดทั้งวัน ยังเป็นที่สงสัยของจันทร์จ้าวที่พบปะเขาในตอนเย็นด้วย หลังจากเกมเทนนิสที่สโมสร คนทั้งคู่ก็กลับมาที่บ้านเช่าสีเขียวอ่อน โดยไม่ลืมแวะซื้อข้าวผัดมาคนละห่อกลับมารับประทานที่บ้านด้วย


ภวัตถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวคิ้วคอยแต่จะขมวดย่นอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุด ก็เป็นฝ่ายจันทร์จ้าวที่ทนไม่ไหวจนต้องตั้งคำถาม


“เป็นอะไรไปหมอ ผมเห็นถอนหายใจตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว หรือวันนี้ตีเทนนิสแพ้ผมจนปลงหรือ” เสียงของคนที่นั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะในบ้านเช่าสีเขียวอ่อนทำเอาภวัตเพิ่งจะรู้สึกตัว เขาเงยหน้ามองเจ้าของรอยยิ้มบางที่มีลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย ทว่าความไม่สบายใจก็ยังเกาะกุมจนดวงหน้าขาวไม่อาจยิ้มต่อไปได้อีก


“หมอเป็นอะไร บอกผมได้ไหม” เพราะภวัตไม่ใคร่จะเหมือนทุกที จันทร์จ้าวจึงเริ่มตั้งคำถามอย่างจริงจังและเป็นห่วง เขาวางช้อนส้อมลงกับจานแล้วจับจ้องใบหน้าของนายแพทย์หนุ่มราวกับต้องการคำตอบ


ภวัตรู้สึกอึดอัดไปทั้งอก คำพูดของท่านนายพลเดชยังดังก้องอยู่ในหูของเขา ยิ่งดังเท่าไร เขาก็ยิ่งกังวลมากเท่านั้น แม้ว่าท่านจะไม่ได้กีดกันขัดขวางแต่ประการใดก็ตาม



“คุณจันทร์…คิดว่า…มีโอกาสที่ทางบ้านคุณจะทราบเรื่องของเราไหมครับ”


“ทางบ้านผม? พี่น้องผมก็ทราบกันหมดแล้วไม่ใช่หรือ คงไม่มีโอกาสอื่นแล้วกระมัง”


“ไม่ครับ ผมหมายถึง…คุณพ่อคุณแม่ของคุณ” ดวงตากลมใหญ่เบิกโตขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบส่ายมือเป็นพัลวัน


“ไม่มีทางหรอกหมอ คุณพ่อคุณแม่ผมจะทราบได้อย่างไร คุณพ่อผมน่ะวันๆอยู่แต่ที่กรมตำรวจ งานท่านแยะออกปานนั้น ไม่มีทางจะมาสนใจเรื่องของผมหรอก ส่วนคุณแม่…ยิ่งแล้วใหญ่ ท่านกังวลแค่ว่าผมจะพาสะใภ้ไม่ดีเข้าบ้าน หารู้ไม่ สะใภ้คนเล็กของคุณแม่น่ะ…เป็นถึงนายแพทย์เชียว” ประโยคท้ายนั้น เจ้าตัวส่งสายตากรุ้มกริ่มราวกับจะบอกให้ภวัตรู้ตัวว่าถูกเขาโมเมให้กลายเป็นสะใภ้บ้านรักษพิพัฒน์ไปเสียแล้ว ทว่านายแพทย์หนุ่มกลับส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงดุ


“พูดอะไรอย่างนั้นครับคุณจันทร์”


“ก็ผมพูดจริงนี่ หมอต้องมาเป็นสะใภ้บ้านผม อะไรกัน คิดกับผมเล่นๆ ไม่ได้คิดจริงจังถึงขั้นเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้หรือ ผมน่ะลูกชายบ้านรักษพิพัฒน์ จะให้ใครมาล้อเล่นกับหัวใจได้อย่างไรกัน หมอไม่มีทางปฏิเสธแล้วล่ะ อย่างไรก็ต้องเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านรักษพิพัฒน์ แต่คงต้องทำใจสักหน่อย เพราะสะใภ้ใหญ่น่ะคือคุณพิม ถึงคุณพิมจะอายุน้อยกว่าหมอก็จริง แต่ถ้านับตามศักดิ์แล้ว หมอต้องให้ความเคารพเธอนะ” ภวัตได้แต่อมยิ้มกับความคิดแสนแปลกของคนรัก ดูจันทร์จ้าวจะมุ่งมั่นกับการให้เขาเข้าไปเป็นสะใภ้เล็กของบ้านรักษพิพัฒน์มากทีเดียว เพราะเรียงลำดับอาวุโสให้แล้วเรียบร้อย


“มัดมือชกนี่ครับ”


“มัดมือชกอะไรกัน ตำแหน่งนี้ใครๆก็อยากได้ทั้งนั้น หมอไม่เห็นพวกคุณหญิงทั้งหลายมองผมเมื่อตอนงานแต่งของพี่อาทิตย์หรือ? มีแต่คนอยากเกี่ยวดองกับรักษพิพัฒน์ ผมอุตส่าห์ยกตำแหน่งนี้ให้หมอ กลับมาหาว่าเรามัดมือชกเสียได้” ฟังดูเหมือนจะน้อยใจ แต่คนอย่างจันทร์จ้าวนั้นประโยคเหล่านี้มีไว้เพื่อบังคับล้วนๆโดยไม่ถามความสมัครใจ ภวัตอมยิ้มอย่างเอ็นดู แล้วจึงย้อนถาม


“แล้วคุณล่ะครับ คุณก็ต้องมาเป็นสะใภ้ใหญ่ให้บ้านวิชาญโยธินเช่นเดียวกันไม่ใช่หรือ” พอถูกนายแพทย์หนุ่มย้อนเข้าให้ คนถูกแต่งตั้งให้เป็นสะใภ้ใหญ่ก็ถึงกับชะงักไปโดยพลัน นี่อย่างไร ถึงได้บอกว่าหมอภวัตเป็นคนฉลาด มักจะต้อนเขาให้จนมุมได้ทุกทีไป


“แต่…แต่…แต่ที่บ้านหมอก็ยังไม่ทราบไม่ใช่หรือ ถ้ายังไม่ทราบ ผมก็ไม่นับ”


“ถ้าอย่างนั้นไปทำให้ทราบเดี๋ยวนี้เลยครับ” ภวัตไม่พูดเพียงอย่างเดียว แต่ลุกขึ้นเดินไปคว้าแขนคนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารให้ลุกขึ้นด้วย คนถูกฉุดให้ลุกขึ้นถึงกับตาโตรั้งตัวไว้มั่น


“หมอจะบ้าหรือ?!! อยู่ดีไม่ว่าดีจะให้บ้านหมอทราบ!!”


“ก็คุณบอกเองว่าถ้าทราบ คุณจะยอมเป็นสะใภ้ใหญ่นี่ครับ ไปครับ ไปกัน” ยิ่งเห็นจันทร์จ้าวค้านหัวชนฝา ภวัตก็ยิ่งสนุก เขาหัวเราะพลางฉุดแขนคู่รักของตนให้ลุกจากโต๊ะ แต่จันทร์จ้าวก็ยังไม่ยอมอยู่เช่นนั้น ยิ่งเห็นหน้าตาดื้อดึงก็ยิ่งสมใจ ชายหนุ่มนึกไม่ออกว่าทำไมคนรอบข้างถึงพากันตามใจ ในเมื่อยามถูกขัดใจนั้น จันทร์จ้าวน่าเอ็นดูกว่าแยะ


“หมอ! ผมบอกว่าผมไม่ไปอย่างไรล่ะ! เอ๊ะ! หมอ! ผมทานข้าวอยู่นะ! เฮ้ย!!” จันทร์จ้าวผู้แข็งแรงถูกกระชากวูบสุดท้ายด้วยแรงทั้งหมดที่ภวัตมี ร่างโปร่งก็ถลาจากเก้าอี้เข้าไปประชิดกับร่างของนายแพทย์หนุ่ม ดวงตากลมใหญ่ตวัดจะเอาเรื่องที่อีกฝ่ายบังคับเขาจนถึงขั้นกระชาก แต่พอสบเข้ากับดวงตาคมของร่างสูง เขาก็ได้แต่เงียบ


มือหนาแตะเข้าที่เอวเบาๆแล้วเลื่อนโอบขึ้นมาที่แผ่นหลัง รั้งกายของจันทร์จ้าวให้เข้าแนบชิด มืออีกข้างเชยคางให้เงยมองแต่โดยดี ดวงตาสองคู่สบกันราวกับสื่อความในของหัวใจ



“วันนี้ผมกังวลทั้งวัน ตรวจคนไข้ไปก็เอาแต่คิดเรื่องนี้ คุณสมฤดียังดุ แต่ก็อดไม่ได้ ผมกังวลไปร้อยแปด คิดไม่ออกว่าหากท่านนายพลเดชกับคุณหญิงผกาทราบเรื่องของเรา ผมจะต้องทำอย่างไร แต่พอได้พบคุณ ได้คุยกับคุณ ความกังวลไม่ได้ลดลงก็จริง แต่ผมกลับมีกำลังใจเพิ่มขึ้น…โดยเฉพาะกำลังใจจากรอยยิ้มนี้…” ปลายนิ้วที่เชยปลายคางเลื่อนขึ้นมาแตะที่มุมปากแล้วไล้เรื่อยไปยังตำแหน่งของลักยิ้มที่เขาเห็นบ่อยๆ


“ยิ้มให้ผมนานๆนะครับคุณจันทร์…” ช่างเป็นคำขอที่เจียมเนื้อเจียมตัวเสียเหลือเกิน จันทร์จ้าวมองนายแพทย์หนุ่มผู้นี้แล้วจึงยิ้มให้ตามคำขอนั้น รอยยิ้มจางที่แสนอ่อนโยนนี้ มอบให้ภวัตเพียงผู้เดียว


“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอแค่หมอมองมาที่ผม ขอแค่หมอบอกกับผมว่าอยากเห็นผมยิ้ม ผมก็จะยิ้มให้หมออย่างนี้…ตลอดไป” จันทร์จ้าวผู้มุ่งมั่นและเถรตรงกับความรู้สึก กล้าหาญและเข้มแข็ง ให้อย่างไรภวัตก็ไม่อาจสู้ได้ แต่เพราะอย่างนี้ เพราะจันทร์จ้าวเป็นคนเช่นนี้ พวกเขาจึงสามารถประคับประคองความรู้สึกนี้มาได้


ภวัตมองคนในอ้อมแขนด้วยสายตาซาบซึ้ง หากไม่ใช่เพราะจันทร์จ้าว เขาก็คงไม่อาจก้าวข้ามทุกสิ่งอย่างแล้วได้เคียงข้างกับความรักของตนเองเช่นนี้ เพราะจันทร์จ้าวทั้งนั้น…เพราะจันทร์จ้าวผู้เดียว


นายแพทย์หนุ่มก้มลงเล็กน้อยแล้วแตะริมฝีปากของตนลงกับริมฝีปากของอีกฝ่ายเบาๆ รสจูบนุ่มละมุนเล็มไล้ไปตามเรียวปาก ครู่หนึ่งก็ถอนออกไป


ดวงตากลมใหญ่มองสบเข้าไปในดวงตาของภวัต ประกายแห่งความสุขฉายชัดอยู่ในดวงตาของคนทั้งคู่


“ไหนว่า…อยากได้แค่รอยยิ้มของผมไม่ใช่หรือ แล้วจูบผมทำไมล่ะหมอ” จันทร์จ้าวตั้งคำถามอย่างกรุ้มกริ่ม ทำเอาคนถูกถามถึงกับหัวเราะเบาๆ


“อยากได้แค่รอยยิ้มน่ะใช่ครับ แต่พอได้แล้วก็เลยอยากให้รางวัลเป็นของตอบแทนรอยยิ้ม” คำตอบของคนฉลาดกว่านั้น ทำเอาจันทร์จ้าวถึงกับหรี่ตามองอย่างคาดโทษ


“หมอขี้โกง” ภวัตไม่ตอบกระไร เพียงแค่หัวเราะแล้วก้มลงมาหมายจะจูบอีกหน แต่คราวนี้เจ้าของริมฝีปากไม่ยอมให้แตะต้องแต่โดยง่ายเพราะยื้อตัวไปเบื้องหลังเล็กน้อยก่อนจะถามเบาๆ


“จูบเมื่อครู่เป็นรางวัลไปแล้วนี่ แล้วนี่จะจูบผมทำไมอีก” ดวงตาคมของนายแพทย์หนุ่มมีแววระยิบ ก่อนจะยอมตอบคำถาม


“จูบปิดปากเพื่อไม่ให้คุณถามอะไรอีกน่ะซีครับ” แล้วหลังจากนั้น ก็ไม่มีคำถามของจันทร์จ้าวอีกเลย

...............................


   เพราะบุตรชายคนใหญ่ย้ายออกจากบ้านรักษพิพัฒน์ คนที่น่าจะตกที่นั่งลำบากเห็นจะเป็นจันทร์จ้าว ที่จะต้องกลับไปนอนที่บ้านเรือนไทยในเย็นวันศุกร์ แต่กระนั้นคนวาสนาดีอย่างเขาก็ไม่เคยตกที่นั่งลำบากโดยแท้จริง เพราะมีคนอุปถัมภ์มากมายนั่นเอง


   เย็นวันศุกร์ คุณหญิงผกาชะเง้อชะแง้ด้วยความห่วงใยว่าบุตรชายคนรองจะกลับมาที่บ้านรักษพิพัฒน์อย่างไร และหวั่นใจว่าเขาอาจจะอ้างความยากลำบากในการเดินทางแล้วไม่กลับมาให้หล่อนเห็นหน้าอย่างชื่นใจ


“ไม่มีรถไปรับสะดวก ก็ไม่รู้จะเกเรไม่กลับบ้านไหมนะคะ” หล่อนเปรยกับสามีที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ท่านนายพลถอนหายใจเบา


“ลูกมันโตแล้ว จะกังวลอะไรนักหนานะคุณหญิง”


“แหม! ก็ลูกทั้งคนนี่คะ! จะไม่ให้กังวลได้อย่างไร” พูดไม่ทันขาดคำเสียงรถยนต์กลับดังขึ้นมาบนเรือน ทำเอาคุณหญิงต้องรีบสั่งให้คนรับใช้ลงไปดูต้นเสียง ครู่หนึ่งจึงกลับขึ้นมารายงาน


   “คุณหมอภวัตกับคุณจันทร์มาเจ้าค่ะ” คราแรก คุณหญิงแปลกใจเล็กน้อยที่นายแพทย์หนุ่มเป็นเจ้าของรถที่บุตรชายของหล่อนพึ่งพาอาศัย แต่เมื่อได้เห็นดวงหน้าของบุตรชายอันเป็นที่รัก คุณหญิงก็พลอยลืมความแปลกใจไปหมด


   “แม่กำลังคิดอยู่เชียวว่าพ่อจันทร์จะมาอย่างไร นี่ติดรถคุณหมอมาหรือ” คุณหญิงผกาชวนคุย หลังจากรับไหว้แล้วกอดหอมจันทร์จ้าวด้วยความคิดถึง บุตรชายคนรองยิ้มจาง


   “ครับ ต่อจากนี้คงจะอาศัยรถหมอกลับมาที่นี่ทุกเย็นวันศุกร์ เพราะหมอต้องไปเยี่ยมคุณชายฉัตรที่วังทุกสัปดาห์ แล้วต้องกลับมาโรงพยาบาล ผมก็จะติดรถเธอมาเสียเลย แล้วเย็นวันอาทิตย์ก็ค่อยติดรถเธอกลับไปนอนที่บ้านเช่า” บุตรชายคนรองของคุณหญิงยังคงเป็นผู้ตอบ ในขณะที่ภวัตเพียงยิ้มน้อยๆ และหลีกเลี่ยงการหันไปสบตากับท่านนายพล ไม่ทราบเพราะอะไร แต่เขารู้สึกเสียวสันหลังชอบกลที่ต้องมาพบหน้าชายสูงวัยในวันนี้ เมื่อครู่ก็เพียงแค่ยกมือไหว้เท่านั้น ไม่ได้ถามไถ่เรื่องอื่นใด ท่านนายพลเองก็เป็นคนเงียบ จึงไม่ได้ชวนพูดคุยแต่ประการใดเช่นกัน ปล่อยให้ภรรยาเป็นผู้ชวนจันทร์จ้าวคุยแต่เพียงลำพัง


   “ฟังดูลำบากอย่างไรชอบกล พ่อจันทร์ซื้อรถดีไหม นี่ตอนนี้ทั้งบ้านก็เหลือรถคันเดียวแล้ว แม่ว่าพ่อจันทร์ซื้อเถอะ ไม่ต้องรอรุ่นที่ชอบสีที่ใช่นั่นแล้ว”


นายแพทย์หนุ่มได้ยินคุณหญิงพูดก็ยิ้มน้อยๆ ด้วยเพราะคบหากับจันทร์จ้าวมาระยะหนึ่ง เขาก็พอจะทราบดีว่าอีกฝ่ายช่างเลือกและเรื่องมากเพียงใด การที่ทุกวันนี้ยังไม่ซื้อรถเสียที เพราะไม่มีรุ่นที่ชอบสีที่ใช่ก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากนิสัยของเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย


   “ถ้าผมซื้อ ที่นี่ก็เหลือรถคันเดียวอยู่ดีนี่ครับคุณแม่ ผมว่าคุณแม่ซื้ออีกคันแล้วไว้ที่นี่เสียเลยจะดีกว่า ยายดาราขับรถเป็นแล้วไม่ใช่หรือ ไว้ที่นี่ให้น้องได้ใช้ จะได้ไม่ลำบาก” จันทร์จ้าวอ้างถึงน้องสาว แต่คุณหญิงโบกมือให้ว่อน


   “จะไปห่วงแม่ดาราทำไม?! ทุกวันนี้คุณวินิตเธอก็เทียวรับเทียวส่งอยู่ตลอด แล้วนี่ก็จะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอแล้ว อีกหน่อยน้องก็ต้องแต่งงานออกเรือน ก็ไม่ได้ใช้กันพอดี แม่ว่าพ่อจันทร์ต่างหากที่ควรซื้อ! จะไปอาศัยรถคนนั้นคนนี้อยู่ตลอดได้อย่างไร”



   “แต่ผมยังไม่อยากได้นี่ครับคุณแม่ รถรุ่นที่ผมอยากได้ก็ไม่นำเข้าเมืองไทยเสียที ไม่ทราบเมื่อไรจะนำเข้ามา เกิดซื้อคันที่มีขายตอนนี้แล้วคันที่ผมอยากได้นำเข้ามาพอดี จะทำอย่างไร”


   “ก็ซื้ออีกคัน” คุณหญิงผู้มีมรดกพัสถานมากมายตอบเสียงดังฟังชัดจนแม้แต่ภวัตยังอดอมยิ้มไม่ได้


   “มันสิ้นเปลืองนะครับคุณแม่ บ้านเรามีรถหลายคัน คนนั้นคนนี้ก็จะอิจฉา สู้ให้ผมทำตัวพึ่งพาอาศัยหมอบ้าง คุณพงศ์บ้าง คนอื่นๆจะได้มองว่าเราอดอยากบ้างอย่างไรล่ะครับ” คุณหญิงผกามองบุตรชายผู้ยังยืนยันหนักแน่นว่าให้อย่างไรก็จะไม่ซื้อรถแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ


   “พูดอะไรอย่างนั้น คนที่ไหนจะอยากให้คนอื่นคิดว่าตัวเองอดอยาก คุณหมอดูลูกชายดิฉันเถอะค่ะ! เรื่องความคิดพิลึกพิลั่นต้องยกให้แก” ว่าแล้วก็หันไปฟ้องนายแพทย์หนุ่ม จันทร์จ้าวหัวเราะเบาๆหน้าตาสดใส


   “หมอเธอชินเสียแล้วล่ะครับคุณแม่ เธอว่าผมอยู่บ่อยๆว่าเปิ่นบ้าง แปลกบ้าง ถ้าไม่เปิ่นไม่แปลก ก็เห็นจะไม่ใช่นายจันทร์จ้าวคนนี้หรอกครับ” คุณหญิงผกาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมากับคำพูดของบุตรชายคนโปรด เสียงรถยนต์ดังขึ้นอีกหน คราวนี้คุณหญิงจำได้ดีว่าเป็นเสียงรถของนายวินิตว่าที่ลูกเขยนั่นเอง


   “สงสัยคุณวินิตจะพาแม่ดารากลับมาแล้ว” หล่อนว่าอย่างนั้นแล้วอึดใจต่อมานายวินิตและดารารัษมีก็เดินขึ้นเรือน แล้วยกมือไหว้สตรีสูงวัย ก่อนจะหันมาทักทายนายแพทย์หนุ่มและจันทร์จ้าว


   “คุณหมอมาได้อย่างไรคะนี่”


   “ผมแวะไปเยี่ยมคุณชายฉัตรแล้วก็เลยรับคุณจันทร์มาพร้อมกันน่ะครับ”


   “แม่กำลังบอกให้พ่อจันทร์ซื้อรถเสียทีก็โยกโย้ไม่ซื้อท่าเดียว เห็นว่าพึ่งพิงคุณหมอได้ก็เอาใหญ่” คุณหญิงบ่นบ้าง ดารารัษมีกวาดตามองพี่ชายและหมอภวัตแล้วก็นึกรู้ว่าจันทร์จ้าวผู้ท่ามากไม่ยอมซื้อรถคงจะมีเหตุผลส่วนตัวบางประการที่ทำให้เขาไม่ยอมซื้อเสียที หล่อนเองที่อาศัยรถของนายวินิตไปกลับทุกเช้าเย็นก็ยังมองว่าการได้นั่งรถคันเดียวกันออกจะเป็นความคิดที่เข้าทีที่จะได้ใช้เวลาด้วยกันอย่างส่วนตัว


   “คุณแม่เคยบอกดาราไม่ใช่หรือคะ ว่าถ้าพี่จันทร์ลำบาก เธอไม่ทน นี่เพราะเธอไม่ลำบาก เธอก็เลยอยู่ได้อย่างไม่มีรถยนต์ส่วนตัวน่ะซีค่ะ” ดารารัษมีพูดต่อหน้าจันทร์จ้าว ดวงตา ๒ คู่ของ ๒ พี่น้องสบกัน สายตาของจันทร์จ้าวนั้นเต็มไปด้วยความขอบคุณที่ในที่สุด น้องสาวคนเล็กก็เข้าอกเข้าใจเขาเสียที


   “ดาราขอไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวสักครู่นะคะ เอ?...จริงด้วย วันนี้นภาจะกลับค่ำหน่อยนะคะ คุณแม่ เห็นว่าคุณเรย์อยากจะเรียนวิธีเขียนภาษาไทยอย่างถูกต้อง นภาก็เลยสอนให้ เดี๋ยวเธอจะพากลับมาส่งเอง” หล่อนว่าอย่างนั้นแล้วทิ้งนายวินิตเอาไว้กับเหล่าหนุ่มๆ และบิดามารดา ก่อนจะเดินหายลับเข้าห้องพักผ่อนของตนเองไป คุณหญิงผกาเห็นว่าลับหลังธิดาคนเล็กแล้ว ก็หันมาพูดกับบุตรชายคนรอง



   “นี่ถ้าไม่ใช่เพราะว่านายฝรั่งเป็นเพื่อนสนิทของพ่อจันทร์ล่ะก็ แม่ไม่มีวันยอมให้รับส่งอย่างนี้หรอกนะ ชาวบ้านเขาจะเอาไปพูดกันว่ามาจีบแม่นภา!” จันทร์จ้าวนิ่งไปชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะแสร้งยิ้มอย่างรวดเร็ว


   “คนสมัยนี้ ใครๆก็เป็นเพื่อนกันได้ครับคุณแม่ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง หรือชาติใดภาษาใด” คุณหญิงผู้เติบโตมากับสังคมยุคเก่าโบกมือพัลวัน


   “สมัยนี้สมัยไหนแม่สนหรอกจ้ะ! เป็นว่าถ้านายฝรั่งไม่ใช่เพื่อนพ่อจันทร์ แม่ไม่ยอมจริงๆ นี่เห็นว่าเป็นเพื่อนพ่อจันทร์กับคุณพงศ์หรอก ถึงได้ยอมให้ไปมาหาสู่กันอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าแม่ไม่วางใจ แต่เขาเกิดเขาเติบโตที่อื่น วันหนึ่งเขาก็คงกลับบ้านเขา เกิดมาจีบแม่นภาแล้วพาแม่นภาไปอยู่ด้วยจะทำอย่างไร ไม่เหมือนคุณวินิต ถึงจะเป็นคนจีนแต่ก็เกิดและเติบโตในเมืองไทย อย่างไรก็จะไม่ทิ้งแผ่นดินนี้ใช่ไหมคะ” ว่าแล้วก็หันมาถามว่าที่ลูกเขยอย่างนายวินิต ที่ถึงกับยิ้มเขิน



   “จริงครับคุณหญิง” แล้วคุณหญิงผกาก็หันไปคุยกระจุกกระจิกกับนายวินิต ในขณะที่ท่านนายพลผู้ซึ่งนั่งเงียบๆมานานหันมามองบุตรชายและนายแพทย์ภวัต สายตาของท่านนายพลแห่งกรมตำรวจผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวและมีสายตาอย่างลูกผู้ชาย มีหรือจะดูไม่ออกว่านายฝรั่งนามว่าเรย์มอนด์ อดัมส์ไม่ใช่แค่มาเที่ยวเล่นที่บ้านหลังนี้เพราะเป็นเพื่อนของจันทร์จ้าว


   “คุณพ่อมีอะไรหรือครับ”


   “ไว้นายฝรั่งว่างๆ ก็ให้มาคุยกับพ่อบ้าง แกพูดภาษาไทยได้ใช่ไหม พ่ออยากจะสนทนาด้วยสักหน่อย”


   “สนทนา?...เรื่องอะไรหรือครับ”


   “เรื่องแม่นภา...” คำพูดของท่านนายพล ทำเอาคุณหญิงผกาหูผึ่งหันมามอง จันทร์จ้าวเห็นสายตาสงสัยของมารดา ก็เกรงว่าบิดาจะพูดในสิ่งที่สายตาของบุรุษด้วยกันมองออก กำลังจะหาเรื่องหลบเลี่ยงแต่นายพลเดชเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน


   “จะฝากฝังให้ช่วยดูแล แม่นภาขับรถไม่เป็น ถ้ามีคนคอยรับส่งก็สะดวกไปอย่าง ตอนนี้จะหวังพึ่งพ่ออาทิตย์ก็ไม่ได้แล้ว ทางนั้นก็มีครอบครัวต้องดูแล ได้เพื่อนของพ่อจันทร์มาคอยอำนวยความสะดวกอย่างนี้ก็ดีไป”


   “อ้อ...ครับ...ผมคิดว่าเรย์ยินดีอยู่แล้วครับ” จันทร์จ้าวพอจะเบาใจไปเปลาะที่บิดาช่วยปกปิดให้ แม้จากสายตาที่บิดาใช้มองเขาจะบอกได้เป็นอย่างดีว่ารู้เห็นความรู้สึกที่เรย์มอนด์ อดัมส์มีต่อน้องสาวของเขา ซึ่งหากบิดาจะดูไม่ออกก็คงจะเกินไป เพราะเรย์มอนด์ อดัมส์ทำทุกอย่างที่บุรุษพึงกระทำต่อสตรีอันเป็นที่รัก ทั้งมาเยี่ยมเยียน มีของมาฝาก คอยดูแลรับส่ง คุณหญิงผกาอาจไม่ทันสังเกตเพราะเป็นสตรีและฝังใจกับค่านิยมเดิมในใจของตน แต่ย่อมไม่พ้นสายตาอันคมกริบของท่านนายพลเดช หนำซ้ำท่านยังทำงานอยู่ในกรมตำรวจ มีหูตามากมายรอบตัว ต่อให้ไม่เห็นเอง ก็มีคนนำความมาเล่าให้ฟังเป็นทางลับอยู่เนืองๆ


   “อย่างไรก็พาพ่อฝรั่งมาคุยกับพ่อบ้างแล้วกัน”


   “ได้ครับ คุณพ่อ...” การเปิดทางให้เรียกเรย์มอนด์มาพูดคุย ถือว่าเป็นสัญญาณอันดี จันทร์จ้าวพอจะสบายใจจนกระทั่งเสียงของบิดาดังขึ้นอีกหน


   “ส่วนเรื่องของพ่อจันทร์...” คำพูดประโยคต่อมาของท่านนายพลทำเอาคนกำลังสบายใจถึงกับเงยหน้าขึ้นมองทันควัน สายตาของท่านนายพลจับจ้องบุตรชายคนรองทีหนึ่ง แล้วจึงเหลือบมองนายแพทย์หนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ๆทีหนึ่ง จากนั้นก็เหลือบกลับมามองจันทร์จ้าวอีกครั้ง


   “...ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ก็แล้วกัน” ราวกับหัวใจของจันทร์จ้าวและหมอภวัตหล่นตุบลงกองกับพื้นอย่างคาดไม่ถึง คุณหญิงผกาได้ยินแว่วๆว่าสามีพูดเรื่องบุตรชายคนรองก็หันมองด้วยความสงสัย


   “เรื่องพ่อจันทร์ทำไมหรือคะ คุณพี่” จันทร์จ้าวหายใจไม่ทั่วท้อง ภวัตเองก็รู้สึกถึงเหงื่อกาฬซึมเต็มหลัง เขาได้แต่จับจ้องใบหน้าของท่านนายพลที่ยังคงมองตรงมาที่เขา ที่เฝ้าถามตนเองและเป็นกังวลว่าท่านนายพลเดชจะทราบเรื่องของพวกเขาหรือไม่ วันนี้กระจ่างชัดแล้วว่าท่านทราบจริง แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือท่านไม่คัดค้านแต่ประการใด


   “ไม่มีอะไร แค่บอกให้พ่อจันทร์ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”


   “พิสูจน์เรื่องอะไรคะ” คุณหญิงยังถามด้วยความฉงน


   “ก็...ทุกๆเรื่อง...” ท่านตอบ แล้วกวาดตามองไปรอบๆตัว “เริ่มหิวแล้วสิ ให้ใครตั้งโต๊ะเสียเลยดีไหม วันนี้เรามีกันเท่านี้ แม่ดาราออกจากห้องเมื่อไร จะได้เริ่มมื้อค่ำกันเลย” พอพูดถึงเรื่องปากท้อง คุณหญิงผกาก็รับหน้าที่ภรรยาที่ดี หันไปขอตัวกับนายวินิตและหมอภวัตผู้เป็นแขก ก่อนจะเรียกหาคนรับใช้เก่าแก่อย่างจรวยให้จัดของขึ้นโต๊ะตามความต้องการของสามี


   เมื่อเหลือกันเพียงแต่หนุ่มๆ ท่านนายพลก็ลุกขึ้นบ้าง จันทร์จ้าวเห็นบิดาลุกขึ้นก็หมายจะลุกตามทั้งๆที่ยังไม่ทราบว่าหากตามไปแล้วจะมีเรื่องใดให้เอื้อนเอ่ยออกมา ในเมื่อเวลานี้เขารู้สึกตีบตันไปทั้งลำคอ


   “พ่อจันทร์นั่งอยู่ตรงนี้เถอะ จะได้อยู่คุยเป็นเพื่อนคุณหมอกับคุณวินิต พ่อจะไปล้างไม้ล้างมือเสียหน่อย” ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินจากไป จันทร์จ้าวจึงทรุดตัวลงนั่งที่เดิมแล้วเหลือบมองคนข้างกายด้วยไม่รู้จะพูดคำใด เหมือนทั้งกังวลในสิ่งที่บิดาพูด แต่ก็เหมือนจะคลายกังวลราวกับยกภูเขาออกจากอก บิดาพูดเหมือนรับรู้เรื่องของเขาและหมอภวัต แต่กระนั้นก็ไม่โวยวายคันค้าน ซ้ำยังแนะนำให้ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์


   นายวินิตเห็นสีหน้าเดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดงของนายแพทย์หนุ่มและเจ้าบ้านก็อยากจะร้องถาม พอดีกับที่ดารารัษมีเดินออกจากห้องพักผ่อน เขาจึงหันไปขอคำปรึกษา


   “คุณจันทร์กับคุณหมอทำท่าแปลกๆนะครับ คุณดารา”


   “เกิดอะไรขึ้นหรือคะ แล้วคุณพ่อคุณแม่...” ดารารัษมีถามหาบิดามารดาก่อนจะกวาดตามองไปทั่ว


   “คุณหญิงกำลังจะให้คนจัดโต๊ะครับ ส่วนท่านนายพลว่าจะไปล้างมือ ส่วนคุณจันทร์กับคุณหมอ จู่ๆก็เป็นอย่างนั้นไปเสียแล้ว ไม่ทราบเป็นอะไร เมื่อครู่ยังดีๆอยู่เลย”


   “เมื่อครู่ยังดีๆ แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นเช่นนี้ล่ะคะ” หล่อนย้อนถามแล้วหันกลับมาจับจ้องพี่ชายและนายแพทย์หนุ่ม ที่ดูเหมือนจะพากันตกอยู่ในภวังค์เสียแล้ว


   “ผมก็ไม่ทราบครับ เมื่อครู่ ก็เห็นยังพูดคุยกับท่านนายพลอยู่เลย ท่านนายพลยังบอกว่าให้คุณจันทร์พามิสเตอร์อดัมส์มาคุยกับท่านบ้าง แล้วยังว่าให้คุณจันทร์ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”


   “ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์? พิสูจน์อะไรคะ?”


   “ท่านนายพลย้ำแค่ว่า พิสูจน์ทุกเรื่องของคุณจันทร์ แล้วหลังจากนั้นทั้งคุณจันทร์ ทั้งคุณหมอก็เป็นอย่างนี้เสียแล้ว” ดารารัษมีนิ่งไปเล็กน้อย หล่อนมองชายหนุ่มทั้ง ๒ แล้วทบทวนสิ่งที่นายวินิตเล่าอีกหน แล้วอะไรบางอย่างในใจก็บอกหล่อนว่าบิดาเองก็มองเห็นความรู้สึกที่จันทร์จ้าวและหมอภวัตมีต่อกัน หนำซ้ำไปกว่านั้น...ท่านไม่คัดค้านห้ามปรามอีกด้วย


   รอยยิ้มจางวาดบนใบหน้าของหญิงสาว ก่อนที่ธิดาคนเล็กของท่านนายพลเดชจะหันมามองคู่รักของตน


   “คุณพ่อท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุมีผล ท่านมักจะมีคำคมให้นำไปคิดต่อเรื่อยค่ะ คุณวินิตก็ระวังไว้นะคะ สักวันคงจะได้คำคมสักประโยค ๒ ประโยคให้นำกลับไปท่อง” นายวินิตยิ้มกว้างจนตาหยีอย่างยินดี


   “สัก ๑๐ ประโยคยังไหวเลยครับ” ดารารัษมีหัวเราะเบาๆ


   “คุณแม่ลงไปที่ครัวแล้วใช่ไหมคะ ถ้าเช่นนั้น เราลงไปช่วยคุณแม่กันเถอะค่ะ ปล่อยพี่จันทร์กับคุณหมอไว้ตรงนี้เถอะ” นายวินิตไม่มีหืออือ เดินเคียงคู่คุยกับกระจุ๋งกระจิ๋งกับดารารัษมีลงจากเรือนไป แล้วทิ้งให้บนเรือนเหลือเพียงชายหนุ่มคู่หนึ่งที่ไม่มีคำพูดใดๆต่อกัน มีเพียงสายตา ๒ คู่ที่ทอดมองกันและกัน ภวัตไม่พูดคำใด เหมือนที่จันทร์จ้าวเองก็ไม่เอ่ยคำใด แล้วต่างฝ่ายต่างก็ถอนหายใจเบาออกมาราวกับปลดปล่อยความอึดอัดในหัวอก จันทร์จ้าววาง ๒ มือเท้าไปด้านหลังแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสียามค่ำ ลมเย็นพัดเอื่อยให้ความสุขใจ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาเบาๆให้ได้ยินกันเพียง ๒ คน



   “ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นะหมอ”


   นายแพทย์หนุ่มเหลือบมองคนข้างกายแล้วยิ้มจาง ก่อนจะรับคำ


   “ครับ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”


...........................................................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 25-02-2016 20:33:55


หลังจากบุตรชายคนใหญ่แต่งงานและย้ายออกจากบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ไปอยู่ที่ตึกเล็กในเขตวังฉัตรไม่นานนัก นายวินิตผู้เป็นเจ้าของโฮเต็ลในเยาวราชก็ให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอดารารัษมี คุณหญิงผกาเห็นบุตรธิดาแยกย้ายออกเรือนไปทีละคนแล้วก็อดใจหายไม่ได้ จึงไม่คิดจะหาคู่ครองให้จันทร์จ้าวต้องแยกออกไปมีครอบครัวอีกเป็นคนที่ ๓



   บุตรชายคนรองของท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาจึงครองตัวเป็นโสดเรื่อยมาได้อย่างสบายใจ



   ทว่าการครองตัวเป็นโสดของเขา หาใช่ครองเพียงลำพัง เพราะใครบางคนก็ครองตัวโสดเช่นเดียวกับเขาเหมือนกัน



   รถยนต์คุ้นตาแล่นผ่านความร้อนจัดยามบ่ายคล้อยมาเลียบจอดที่ฟุตบาธหน้าสำนักงานค้าหนังสือนำเข้าจากต่างประเทศ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของคนที่ยืนหลบแดดอยู่ใต้กันสาดจะก้าวเท้าอย่างรวดเร็วตรงไปที่รถแล้วเปิดประตูขึ้นนั่งด้วยความเคยชิน



   “วันนี้มาไวเชียวหมอ ออกจากโรงพยาบาลเร็วหรือ” จันทร์จ้าวทักทายด้วยน้ำเสียงสดใสและรอยยิ้มที่เห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย สารถีหนุ่มหันมองรอยยิ้มนั้นแล้วมอบรอยยิ้มกลับไป



   “วันนี้คนไข้มีไม่มากเท่าไร คุณล่ะครับ วันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเรือนไทยหรือ วันอาทิตย์จะมีงานคุณดาราแล้ว คุณน่าจะกลับบ้านไปช่วยเรื่องพิธี” ภวัตถาม ก่อนจะเบี่ยงรถยนต์ของตนกลับเข้าสู่ถนนที่จอแจอีกครั้งหนึ่ง



วันนี้เป็นศุกร์ ซึ่งหากทุกทีแล้ว ถึงแม้จะได้พบหน้ากันทุกวัน แต่ก็รู้กันดีว่าคืนวันศุกร์และคืนวันเสาร์ จันทร์จ้าวต้องกลับไปนอนที่บ้านเรือนไทยตามที่ให้สัญญาเอาไว้กับคุณหญิงผกา ทว่าวันนี้ซึ่งเป็นวันศุกร์ บุตรชายคนรองของบ้านรักษพิพัฒน์กลับจะนอนค้างที่บ้านเช่าเสียอย่างนั้น หนำซ้ำอีก ๒ วันก็จะถึงวันเข้าพิธีมงคลของดารารัษมีและนายวินิตอยู่แล้ว พี่ชายแท้ๆอย่างเขาควรจะกลับไปช่วยเหลือเรื่องจัดงานเท่าที่จะทำได้ 



   “คนอย่างผมน่ะช่วยจัดอะไรได้ที่ไหน ให้ช่วยรับแขกเหมือนคราวงานพี่อาทิตย์กับคุณพิมก็พอว่า แต่ถ้าจะให้ไปชี้ซ้ายชี้ขวาเห็นจะทำไม่เป็น แล้วอีกอย่าง คุณแม่ก็ไม่ให้กลับ เห็นว่าวันนี้จะมีคนมาช่วยเรื่องงานแต่งที่เรือน ก็เลยไม่อยากให้ผมกลับ สงสัยคนที่มาช่วยจะพาลูกสาวมาด้วยกระมัง คุณแม่เลยไม่อยากให้ผมไปพบเข้า” จันทร์จ้าวพูดแล้วหัวเราะอย่างนึกสนุก เขารู้ดีว่าคุณหญิงผกาหวงแหนเขาเพียงใด แต่ก็อดมองอย่างขำขันไม่ได้ ว่ามารดาช่างหาวิธีมาขัดขวางไม่ให้เขาได้พบหญิงสาวคนใดที่มีแววว่าจะต้องตาเขาทั้งนั้น


   “คงจะกลัวว่าคุณจะไปขวางทางมากกว่ากระมังครับ” ภวัตหันมาพูดพลางยิ้ม 


   “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ปล่อยให้คนรู้งานเขาทำกันไปจะดีกว่า แต่ผมว่าพรุ่งนี้จะกลับไปค้างที่บ้านอยู่หรอกนะ นัดกับพี่อาทิตย์แล้ว เพราะวันมะรืนดาราก็จะแต่งงาน คุณพ่อคุณแม่คงใจหายน่าดู ก็เลยอยากจะกลับไปทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาเสียหน่อย” นายแพทย์หนุ่มได้แต่อมยิ้ม ยิ่งรู้จัก ยิ่งคบหา ก็ยิ่งรับรู้ว่าครอบครัวรักษพิพัฒน์รักกันมากเพียงใด ต่อให้อาทิตย์จะแต่งงาน หรือในภายภาคหน้าดารารัษมีจะเปลี่ยนนามสกุลไปใช้นามสกุลอื่น แต่ทุกๆคนก็ยังยึดมั่นในครอบครัวเดิมของตนเองอย่างแน่นแฟ้น


   “ดีแล้วครับ”


   “หมอก็ไปด้วยกันสิ” ประโยคชวนประโยคต่อมาทำเอาสารถีชะงักไปชั่วอึดใจ ก่อนจะหันกลับมามองคนชวนอย่างคาดไม่ถึง



“ไปกันเยอะๆจะได้สนุก ทั้งคุณพิม คุณพงศ์ แล้วก็เรย์ คุณพ่อคุณแม่ของผมคงชอบ มีคนร่วมโต๊ะเยอะๆอย่างนี้”


เป็นว่าไม่ได้ชวนแค่ภวัตเพียงคนเดียว นายแพทย์หนุ่มโล่งอกอยู่บ้างแต่กระนั้นก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้ ถึงแม้จะทราบดีว่าจันทร์จ้าวมอบสถานะคู่รักให้กับเขาเพียงคนเดียว แต่ก็ไม่อาจเปิดเผยให้ใครต่อใครทราบได้อย่างเต็มปาก ยามชวนไปรับประทานอาหารที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์จึงมักจะมีคนอื่นๆนอกเหนือจากเขาติดตามไปด้วยเสมอ ที่เห็นจะบ่อยๆก็คือหม่อมหลวงพงศ์ภราธรนั่นเอง


“หมออยากไปไหม” คำถามของจันทร์จ้าวฉุดความคิดของนายแพทย์หนุ่มให้กลับมาสนใจคนข้างกาย เขาเหลือบตาไปมองคนถามวูบหนึ่ง ก่อนจะหันมาสนใจถนนเบื้องหน้าต่อ


“อยากสิครับ”


“ผมหมายถึงไปแล้วค้างกับผมที่นั่นนะ” ประโยคต่อมาของจันทร์จ้าวทำเอาภวัตหันมองโดยพลัน ทว่าคนพูดกลับไม่ยอมหันมองเขาแม้แต่น้อย เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างรถอยู่เช่นนั้น


“ผมไม่ได้ให้หมอไปทานข้าวในฐานะแขก แต่ผมจะให้หมอค้างในฐานะคนของรักษพิพัฒน์ หรืออย่างน้อยๆก็ค้างในฐานะคนสำคัญของลูกชายบ้านรักษพิพัฒน์ หมอจะว่าอย่างไร”


“แล้วคุณพ่อคุณแม่ของคุณ...”


“ผมเรียนพวกท่านแล้ว ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไร คุณแม่ยังบอกว่าจะให้ป้าจรวยเตรียมเครื่องใช้ให้ ส่วนคุณพ่อก็ไม่คัดค้าน ผมก็ถือว่าทุกคนยินดีให้คุณหมอค้าง”


ช่างเป็นคำพูดของบุตรชายคนรองผู้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ เจ้าตัวจึงกระทำทุกอย่างด้วยความเอาแต่ใจ หนำซ้ำยังบรรลุผลเสียด้วย ภวัตหันมองคู่รักของตนด้วยสายตารักใคร่ อยากดึงรั้งมือขาวขึ้นมาจูบเบาๆให้สมกับความกล้าหาญบ้าบิ่นที่เจ้าตัวไปขออนุญาตให้เขาได้ค้างที่บ้านรักษพิพัฒน์ แต่ติดที่อยู่กลางถนนของกรุงเทพฯ เขาจึงทำได้เพียงเอื้อมมือไปจับมือของจันทร์จ้าวที่วางอยู่บนเบาะเท่านั้นเอง


“ผมทำได้เท่านี้ล่ะหมอ...” เจ้าของมือที่ถูกภวัตกุมเอาไว้เอ่ยขึ้นมาเบาๆ ดวงหน้าขาวขึ้นสีเรื่อด้วยเพราะเจ้าของนึกเขินกับสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ “...ผมไม่ได้มีเงินทองมากมาย เงินเก็บส่วนหนึ่งก็ลงไปกับสำนักงาน จะให้ผมซื้อเรือนหอเหมือนหมอทำ ผมก็ทำไม่ได้ สิ่งเดียวที่ผมทำได้ คือพาหมอเข้าบ้านผม และทำให้ทุกคนยอมรับหมอ ไม่ใช่ยอมรับเพราะหมอคือหมอภวัต แต่ยอมรับเพราะหมอคือคนสำคัญของผม...” ภวัตยิ้มจาง หัวใจอิ่มเอิบกับความตั้งใจจริงที่จันทร์จ้าวมีต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา


“ขอบคุณนะครับคุณจันทร์ ขอบคุณเหลือเกินที่ทำเพื่อผมถึงเพียงนี้”


...............................................


   เย็นวันเดียวกันนี้ นอกจากจันทร์จ้าวและหมอภวัตกำลังพูดคุยถึงเรื่องกลับไปค้างที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์แล้ว ที่ตึกเล็กในเขตวังฉัตรก็กำลังมีเรื่องนี้เป็นหัวข้อบทสนทนาเช่นกัน



   “พิมให้คนเตรียมของสำหรับไปค้างที่เรือนไทยแล้วนะคะ นอกจากเสื้อผ้าที่จะใส่ในวันงาน ก็มีของฝากให้คุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยค่ะ คุณอยากให้พิมเตรียมอะไรเพิ่มไหมคะ” พิมพัชราเดินเข้ามานั่งเคียงข้างสามีที่นั่งเงียบๆอยู่บนเก้าอี้ยาวในห้องทำงานขนาดย่อม นายทหารหนุ่มหันมองแล้วยิ้มจาง



   “ไม่แล้วครับ ขอบคุณ” ท่าทางของเขาดูทั้งสุขทั้งเศร้าอย่างไรชอบกล หญิงคนรักไม่พูดกระไรนอกจากเอื้อมมือไปกอบกุมมือของเขาเอาไว้ และเพียงเท่านั้นชายหนุ่มก็มอบรอยยิ้มให้หล่อนอีกหน



   “ผมรู้สึกว่าเพิ่งจะไม่นานมานี้เองที่ดารายังร้องไห้กระจองอแงอยู่เลย แต่มะรืนนี้น้องก็จะแต่งงานออกเรือนแล้ว”



   “แต่ไม่ว่าคุณดาราจะเป็นอย่างไร เธอก็ยังเป็นน้องของคุณตลอดไปนะคะ ต่อให้เธอจะเปลี่ยนนามสกุลไปใช่สกุลอื่น แต่ครึ่งหนึ่งของเธอก็ยังคงเป็นรักษิพัฒน์เหมือนคุณ” พิมพัชรายังคงเป็นทั้งกำลังใจและเพื่อนคู่คิด อาทิตย์มองหญิงสาวด้วยความรักและศรัทธา การได้ครองคู่กับหล่อนคือความดีและความงามสูงสุดสิ่งหนึ่งในชีวิตของเขา



   “ขอบคุณนะครับคุณพิม...ทั้งเรื่องที่ปลอบใจผม...และเรื่องของจันทร์” เพราะมีหล่อนอยู่เคียงข้าง เขาถึงก้าวผ่านทิฐิและความยึดมั่นถือมั่นทั้งหลายทั้งปวงมาได้ วันนี้เมื่อมองย้อนกลับไป ยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใดคนที่อยู่ในกรอบแห่งกฎเกณฑ์อย่างเขาจึงยอมรับและปล่อยวางเรื่องทั้งหมด แต่พอลองหันมองข้างกายก็ได้คำตอบชัดเจน คนที่ทำให้เขายอมละทิ้งเรื่องเหล่านั้นลงจากบ่าคือพิมพัชราคนนี้



   “เพราะคุณกล้าหาญที่จะยอมรับต่างหากละคะ คุณทั้งกล้าหาญและเข้มแข็ง จะมีสักกี่คนที่ยอมรับเรื่องนี้ จะมีสักกี่คนที่ยินดีและยึดมั่นกับความสุขของคนที่เรารักแม้ว่าเราจะเจ็บปวดเพียงใด แต่เพื่อความสุขของคุณจันทร์ คุณยอมได้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้น...คุณคือคนที่กล้าหาญ คุณคือความภาคภูมิใจของพิมนะคะ” อาทิตย์มองสบเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว พวกเขายิ้มให้กันอย่างบางเบา


   “ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ พิมให้คนตั้งโต๊ะแล้ว” หล่อนเอ่ยชวน นายทหารจึงลุกจากเก้าอี้ยาวอย่างว่าง่าย เสียงคุยกระจุ๋งกระจิ๋งของคนทั้งคู่ดังเบาๆยามเดินเคียงกันออกจากห้องทำงาน


   “...คุณพิมเตรียมอะไปฝากคุณพ่อคุณแม่หรือครับ”


   “มีขนมกับผลไม้อบแห้งค่ะ”


   “เห็นจันทร์ว่าจะชวนคุณหมอภวัตไปด้วย คุณพิมพอจะมีเผื่อให้คุณหมอบ้างไหมครับ” พิมพัชราหันมองคนถามอย่างคาดไม่ถึง แต่ชั่วพริบตาเมื่อตระหนักได้ว่านี่คือการแสดงออกว่าเขายอมรับเรื่องของจันทร์จ้าวและภวัตโดยสมบูรณ์แล้วก็แย้มยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน


   “มีค่ะ แล้วพิมจะให้คนเตรียมให้นะคะ”


   พวกเขายิ้มให้กันอีกครั้ง หัวใจสุขสงบและเป็นสุขยิ่งกว่าครั้งใด...


.................................................


   บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์สร้างขึ้นด้วยความปรารถนาที่ท่านนายพลเดชต้องการมีบุตรธิดาจำนวนมาก แต่อย่างไรเสีย วันหนึ่ง บุตรธิดาทั้งหลายก็ล้วนต้องออกจากบ้านหลังนี้ไปเพื่อไปมีชีวิตเป็นของตนเอง อาทิตย์ย้ายออกไปเมื่อแต่งงานกับพิมพัชรา จันทร์จ้าวเองก็รักสันโดษเกินกว่าจะอยู่ที่นี่ ดารารัษมีก็กำลังจะมีพิธีในวันพรุ่งนี้แล้ว และจะย้ายออกจากที่นี่ไปใช้สกุลของนายวินิต ที่เหลือก็มีเพียงนภาสรวงที่ยังคงอาศัยอยู่ที่นี่กับบิดามารดาเท่านั้นเอง



   ท่านนายพลและคุณหญิงออกจะใจหายไม่น้อย และดูเหมือนบุตรชายทั้ง ๒ จะเข้าอกเข้าใจความรู้สึกเป็นอย่างดี วันนี้อาทิตย์จึงพาพิมพัชรากลับมาค้างที่บ้านเรือนไทยหลังนี้ พร้อมๆกับที่จันทร์จ้าวก็ชวนหมอภวัต หม่อมหลวงพงศ์ภราธร และเรย์มอนด์ อดัมส์มารับประทานอาหารร่วมกันที่นี่



   “วันนี้เรามาฉลองให้แด่นางสาวดารารัษมี รักษพิพัฒน์ แล้วพรุ่งนี้ เราจะฉลองให้นางดารารัษมี วิมลกิตติ” จันทร์จ้าวพูดขึ้นมากลางโต๊ะรับประทานอาหารที่ออกจะแน่นขนัดเป็นพิเศษ เพราะมีผู้ร่วมรับประทานอาหารจำนวนมากกว่าเคย



   “สกุลเก่าเพราะกว่าแยะนะคะพี่จันทร์” คนต้องเปลี่ยนนนามสกุลในวันพรุ่งนี้เอ่ยขึ้นมา ทำเอานภาสรวงที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับตีแขนเพี๊ยะ


   “พูดอะไรน่ะดารา คุณวินิตได้ยินเข้าจะเสียใจเอา”


   “นั่นซีคะ คุณดารา พิมก็ว่าสกุลของคุณวินิตเธอออกจะเพราะ” พิมพัชราผู้กลายมาเป็นพี่สะใภ้เอ่ยขึ้นมาบ้าง แต่กระนั้นสีหน้าของดารารัษมีก็ยังดูเหมือนจะไม่ยอมเปลี่ยนความคิดที่ว่านามสกุลเดิมของตนนั้นเพราะดีอยู่แล้ว และนามสกุลใหม่เห็นจะไม่สู้


   “คุณพิมพูดอย่างนี้ พี่อาทิตย์จะเสียใจแย่นะครับ ชมนามสกุลคุณวินิต ไม่เห็นจะชมนามสกุลพวกผมสักคำ” จันทร์จ้าวหันมาพูดกับหญิงสาวผู้แต่งเข้าสกุลของตน


   “ฮะแฮ่ม! จันทร์ แกพูดให้ดีเชียว จะให้ยายพิมชมสกุลไหนก็ได้ แต่อันดับหนึ่งของยายพิมต้องเป็นฉัตราภาส” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรีบขัดคอเพื่อนรัก พาเอาคนทั้งโต๊ะหัวเราะขำขันกับความมุ่งมั่นของเขา


   “เห็นไหมล่ะคะ คุณพงศ์ยังเห็นด้วยเลยว่าสกุลเดิมของแต่ละคนย่อมเพราะที่สุดเป็นไหนๆ” ดารารัษมีโมเมเอาว่าราชนิกูลหนุ่มเข้าข้างตนไปทั้งอย่างนั้น ทำเอาจันทร์จ้าวต้องหยอกเอินเสียหน่อย


   “หรือดาราที่รักไม่อยากจะเปลี่ยนแล้วล่ะจ้ะ พี่จะได้ไปบอกคุณวินิตว่าให้ยกเลิกงานแต่งพรุ่งนี้เสียเลย”


   “ได้ที่ไหนกันคะ?! ดารากับคุณวินิตช่วยกันตั้งชื่อลูกแล้ว เกิดยกเลิกงานแต่ง แล้วจะเอาชื่อไปทำอะไรล่ะ” คำพูดแสนเซี้ยวของธิดาคนเล็ก ทำเอาคุณหญิงผกาถึงกับยกมือแตะอกราวกับลมจะจับ


   “ตายแล้วแม่ดารา! เป็นสาวเป็นแส้ไปคุยเรื่องลูกกับผู้ชายได้อย่างไรกัน!! คุณวินิตมิมองหล่อนเสียๆหายๆหรือยะ?!”


   “แหม ก็ต้องคุยไว้ก่อนสิคะคุณแม่ ไม่คุยแล้วจะทราบได้อย่างไรว่าคิดชื่อตรงกันไหม”


   “แล้วเป็นว่าคิดชื่อตรงกันไหมล่ะ” จันทร์จ้าวถามอย่างนึกสนุก ดารารัษมีส่ายหน้าพัลวัน


   “ตรงกันก็แปลกล่ะค่ะ บ้านนั้นเขาคนจีน ชื่อต้องสั้น ง่าย ความหมายดี อ้ายเราหรืออยากให้ลูกชื่อยาวๆ โก้เก๋ออกจะตายไป คิดเอาไว้แล้วว่าถ้าเป็นลูกชายจะให้ชื่อชัยนเรศกับโชคบดินทร์ ลูกสาวก็ต้องชิดชนกหรือไม่ก็ชบากรอง คุณวินิตตัดเรียบเหลือแค่ชัยกับโชค ถ้าเป็นลูกสาวให้ชื่อชิดกับชบา แต่อย่าคิดว่าดาราจะยอมนะคะ ดาราเป็นคนอุ้มท้อง ดาราต้องเป็นคนตัดสินใจเรื่องชื่อค่ะ! อุ๊ย! นภา!!” คุณหญิงผกาทำหน้าปะหลำปะเหลือกับคำพูดของธิดา นภาสรวงเห็นสีหน้าของมารดาเลยต้องรีบหันมาหยิกน้องสาวแฝดจนคนพูดจ้อยๆถึงกับสะดุ้งหันไปมอง


   “พูดอะไรน่ะ คนอยู่กันทั้งโต๊ะ ดารานี่ก็…” ดารารัษมีไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดเลยทำได้แต่สงบปากสงบคำ คุณหญิงเหลือบมองธิดาคนเล็กที่จะออกเรือนในวันพรุ่งแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ


   “ก็ดาราพูดเรื่องจริงนี่…”


   “จะเรื่องจริงเรื่องเล่นก็ไม่ควรพูด พี่จันทร์ก็ด้วยนะคะ ให้ท้ายดาราอย่างกับเรื่องสนุก” นภาสรวงหันมาดุพี่ชายคนรองด้วยอีกคน จันทร์จ้าวทำเป็นยักไหล่ไม่ใคร่จะสนใจนัก


   “เป็นว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีหลานชื่อชัย โชค ชิด ชบานะครับ”


   “ชัยนเรศ โชคบดินทร์ ชิดชนกและชบากรองค่ะ!! ไม่ใช่ชัย โชค ชิด ชบา น่าเกลียด” ดารารัษมีแหวว ทำท่าจะเอาเรื่องพี่ชาย แต่หมอภวัตที่นั่งข้างๆจันทร์จ้าวกระแอมไอขึ้นมาเสียก่อน และดูเหมือนพี่ชายของหล่อนจะรู้จักสัญญาณนี้เป็นอย่างดี เลยสงบปากสงบคำโดยพลัน



   พอคนพี่ไม่หาเรื่องกวนโทโส คนน้องที่ทำท่าจะหงุดหงิดก็พลอยเป็นไม่มีคนชวนทะเลาะด้วย เรื่องทะเลาะจึงมลายหายไปแต่เพียงเท่านั้น


   คุณหญิงผกาเห็นพี่น้องไม่ทะเลาะกันเหมือนที่แล้วๆมาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หล่อนไม่ได้รับรู้ว่าคนที่ทำให้จันทร์จ้าวไม่หาเรื่องดารารัษมีต่อคือหมอภวัตที่นั่งเงียบ สายตาชื่นชมจึงตกที่บุตรชายคนรองแต่เพียงผู้เดียว ด้วยคิดว่าเขารู้จักเงียบด้วยตนเองเป็นแล้ว


   ทว่าสำหรับคนอื่นๆที่รู้เห็นความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ย่อมมองเห็นอิทธิพลของหมอภวัตที่มีต่อจันทร์จ้าวเป็นอย่างดี ไม่เว้นแม้แต่ท่านนายพลเดชที่ลอบมองนายแพทย์หนุ่มผู้ยังคงเอาแต่ก้มหน้าก้มตารับประทานอาหาร และพูดเพียงน้อยคำเท่านั้น ทว่าอาการสงบปากสงบคำของเขา กลับสามารถทำให้จันทร์จ้าวอยู่กับร่องกับรอยได้อย่างไม่น่าเชื่อ


   ท่านนายพลเดชเหลือบไปมองยังนายฝรั่งอีกคนที่อยู่ในบททดสอบของกาลเวลาด้วยเช่นกัน เรย์มอนด์ อดัมส์เข้ากับคนที่บ้านนี้ได้เป็นอย่างดี หลังจากร่วมรับประทานอาหารกันมาหลายครั้ง อาหารไทยรสจัดกลายเป็นถูกปากถูกลิ้นไปแล้วโดยปริยาย  นอกเหนือไปกว่านั้นคือความสม่ำเสมอที่ชายชาวต่างชาติผู้นี้มีให้ธิดาของท่าน หากวันหนึ่งคนทั้งคู่มีความกล้าหาญพอที่จะบอกกล่าวโดยตรง วันนั้นท่านนายพลก็คงไม่มีข้อแม้ใดๆอีกแล้ว


   “คุณพ่อเป็นอะไรไปหรือครับ” อาทิตย์เห็นบิดานั่งเงียบๆก็เอ่ยถามเบาๆด้วยความห่วงใย และดูเหมือนคุณหญิงผกาเองก็เพิ่งหันมาสังเกตสามีว่าวันนี้ท่านเงียบผิดปกติ


   “นั่นซีคะ วันนี้ไม่ค่อยพูดเอาเสียเลย หรือหวงลูกสาว ไม่อยากจะให้แต่งงานแล้ว” เดิมทีท่านก็ไม่ใช่คนช่างพูด แต่วันนี้เห็นจะเงียบกว่าทุกที หรือเพราะวันนี้มีคนร่วมโต๊ะรับประทานอาหารมากโข แค่พวกหนุ่มๆสาวๆก็คุยกันเจี๊ยวจ๊าวจนฟังเสียเพลินก็ไม่ทราบ


   “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เห็นมีแต่ลูกหลานมาพร้อมหน้าพร้อมตาก็มีความสุขแล้ว” ท่านนายพลเอ่ยแล้วกวาดตามองไปรอบๆ บางคนเป็นบุตรธิดาโดยแท้ แต่บางคนก็ไม่ แต่กระนั้น ทุกๆคนที่รายล้อมโต๊ะอาหารในมื้อนี้ล้วนมาที่นี่เพราะความรักที่มีต่อสกุลรักษพิพัฒน์และคนในครอบครัวรักษพิพัฒน์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะรักอย่างพี่ รักอย่างน้อง รักอย่างเพื่อน หรือรักอย่างคู่รัก ความรักนั้นมีหลากหลาย วันนี้ท่านเข้าใจแจ่มชัด ไม่ว่าจะชาติใด ภาษาใด จะชายหรือหญิงก็ล้วนรักกันได้ทั้งนั้น


   “ขอบใจทุกๆคนที่มาที่นี่ ขอบใจ...” ชายสูงวัยผู้นั่งหัวโต๊ะเอ่ยแล้วยิ้มจาง


ถึงแม้พรุ่งนี้ สมาชิกในบ้านเรือนไทยหลังนี้จะลดลงไปอีกหนึ่ง แต่ท่านเชื่อ...บ้านเรือนไทยหลังนี้จะยังคงเป็นที่แวะเวียนให้ทุกๆคนกลับมาพร้อมหน้ากันเสมอ เพราะท่านปลูกเรือนหลังนี้ด้วยความรัก สร้างเรือนหลังนี้ด้วยความหวัง ทั้งรักและหวังให้เรือนรักษพิพัฒน์เป็นสถานที่ของพี่น้อง ให้เป็นสถานที่ของครอบครัว



ที่แห่งนี้...จะเป็นของรักษพิพัฒน์และผู้ปรารถนาดีต่อเชื้อสายรักษพิพัฒน์...ตลอดไป


   จบ

สวัสดีค่ะ


เรื่องนี้เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว ทั้งใจหายทั้งโล่งใจไปพร้อมๆกันเลยค่ะ ใจหายเพราะเรื่องนี้บัวเขียนมานานมาก และลงต่อเนื่องตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ขอบคุณคนอ่านทุกๆคน ทั้งคนที่ติดตามมาตั้งแต่แรก หรือเพิ่งจะมาติดตามตอนหลัง ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านงานของบัว ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณที่เป็นกำลังใจ คนเขียนอย่างบัวจะเขียนไม่ได้เลย ถ้าไม่มีคนอ่านทุกๆคนค่ะ

ส่วนที่โล่งใจ เพราะว่าเขียนจนจบนั่นเองค่ะ ฮาฮา อย่างที่เคยบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่บัวคิดว่าเขียนยากมากๆ ทั้งภาษา ทั้งหาแหล่งอ้างอิง กว่าจะเขียนออกมาได้แต่ละตอน ใช้เวลาค่อนข้างนาน พอเขียนจบแล้วก็เหมือนยกภูเขาออกไปจากอกเลย (แต่เนื่องจากบัวอยากจะทำเล่มเรื่องนี้ ก็เลยมีส่วนที่เขียนต่อจากตอนจบของเรื่องนี้ค่ะ เป็นอีกภาคหนึ่ง จะว่าไปแล้วก็เลยเหมือนยกภูเขาออกแค่ลูกเดียว เหลืออีกลูกนึงอ่ะ ฮา)


ส่วนใครที่ค้างว่าทำไมคุณหญิงแม่ถึงไม่รู้ อันนี้เป็นความตั้งใจของบัวเองค่ะ เพราะโดยพื้นฐานแล้ว คนสมัยนั้นไม่ได้มองการสนิทกันของผู้ชาย ๒ คน เป็นเรื่องของความรักแบบคนรัก อีกอย่างนึง ถ้าหากคุณหญิงแม่รู้และคุณหญิงแม่รับได้ จันทร์จะเป็นตัวละครที่โชคดีเกินไปแล้วค่ะ ฮาฮา (แต่จริงๆแล้ว ถ้าหากจันทร์ไม่ช่วยให้อาทิตย์กับคุณพิมสมหวังในตอนแรก คุณพิมก็อาจจะไม่มีพาวเวอร์มากล่อมพี่อาทิตย์ให้ยอมรับจันทร์กับหมอในตอนหลัง เพราะงั้นจันทร์ไม่ได้โชคดี แต่เขาทำความดีเอาไว้ด้วยการเป็นคิวปิดนั่นเอง)

เอาล่ะ เดี๋ยวต้องไปปั่นภาคต่อให้จบ แล้วถ้าหากว่าพอมีเวลา จะเข็นตอนพิเศษมาลงให้อ่านกันต่อค่ะ ส่วนเรื่องต่อไป ขอเวลาหน่อยนะคะ พิมพ์เอาไว้แล้วหน่อยเดียว อยากพิมพ์ให้ได้มากๆก่อนแล้วค่อยมาลงให้ได้อ่านกันค่ะ


เจอกันใหม่กับตอนพิเศษของเรื่องนี้


ขอบคุณทุกการติดตาม ทุกการอ่าน ทุกการเม้นท์ และทุกกำลังใจ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ


ป.ล. ส่วนคำถามยอดฮิต "จันทร์จ้าวกับจอมขวัญเป็นอะไรกัน" คำตอบคือ "จอมขวัญเป็นหลานย่าของดารารัษมีค่ะ"
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 25-02-2016 20:59:02
 :mew1: ว่าแต่คุณพงศ์คู่ใครค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 25-02-2016 21:00:51
ลุงชัย พ่อของจักรคือลูกของดาราเหรอคะ อบอุ่นจริงๆ ปลื้ม TT
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 25-02-2016 21:12:33
ภาคต่อจะลงเล้าด้วยไหมคะ หรือต่อแค่ในเล่ม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-02-2016 21:13:46
ขอบคุณครับ

 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 25-02-2016 21:14:53
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ และบทบรรยายสลักสลวยนี้นะคะ
ชอบมาก อ่านลื่น อ่านเพลินจนมาถึงตอนจบโดยไม่รู้ตัว

สุดท้ายพระเอกที่สุดก็คือคุณพ่อ
คุณพ่อน่ารักมากที่สุด

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์จริงๆค่ะ


ปล: และแล้วคุณพงศ์คนดีคนเดิม ก็ไม่มีใคร
มามะมาให้เค้าปลอบใจ 555

ภาคต่อจะเป็นเรื่องของใครคะ เนื้อหาประมาณไหนเรอะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 25-02-2016 21:17:34
จบได้ดีมากเลยค่ะ
กราบแนบตักคุณพ่อ
แฮปปี้!
รอตอนพิเศษนะคะ
ขอบคุณสำหรับการเดินทางของจันทร์จ้าวกับหมอภวัต
รักกกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 25-02-2016 21:19:18
จบแล้วอ่ะ.  :ling1: ไม่นะ
ตอนพิเศษจะมีคืนความสุขให้หมออีกมั้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-02-2016 21:20:57
ขอผังลำดับตระกูลหน่อยค่าาา อิอิ คิดถึงเด็กชายจอมขวัญเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 25-02-2016 21:22:25
มีภาคต่อด้วยเหรอคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 25-02-2016 21:24:49
จันทร์จ้าวกับหมอภวัตครองตัวโสดไปเรื่อยๆเลย  :hao3: :katai2-1:

จบแล้วอ่ะ รอตอนพิเศษน้าาา  :mew1:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 25-02-2016 21:37:35
วู้วว จบแล้ว ครอบครัวอบอุ่น มาก คุณพ่อน่ารักแต่ขำคุณแม่ หวงลูกชายมากเข้าทางจันทร์เจ้าเลย 555
ขอบคุณน้องบัวสำหรับนิยายสนุก ๆ ถึงแม้ตอนแรกจันทร์เจ้าจะน่าหมั่นไส้ที่สุด อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 25-02-2016 21:39:41
ครอบครัวสุขสันต์ :-[

ปล.ใจหายเหมือนกันเลยค่ะแล้วทุกๆวันพฤหัสเราจะรอนิยายเรื่องอะไร แต่จะตั้งใจรอตอนพิเศษนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 25-02-2016 21:50:12
รอพิเศษ...
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 25-02-2016 22:02:11
 :katai4:เต็มอิ่มกับเรื่องนี้มากค่ะ จันทร์เจ้ามีมุมน่ารัก และคุณหมอก็ดี ขรึมแถมยังสามารถปราพยศได้อยู่หมัด อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นคู่สร้างคู่สม ชอบความอดทน และวิธีการแก้ปัญหาของทั้งสองคนมากๆค่ะ พอเจออุปสรรคแล้วก็ไม่ย่อท้อ ไม่เลิกรา แต่พยายามเอาชนะใจพี่อาทิตย์กับดารารัศมีได้ เยี่ยมจริงๆ ไม่เหมือนกับเรื่องอืีนที่เจออุปสรรคขวาง แล้วแทนที่จะพิสูจน์ตัวเองกลับเลิกราเพราะคนใกล้ชิดเสียอย่างนั้น เรื่องนี้ถูกใจมากๆค่ะ

ขอบคุณนะคะ คุณบัว สำหรับนิยายดีๆ ที่สำนวนภาษาเป๊ะ ฉากก็สมจริง อ่านแล้วไม่ผิดหวังเลยสักตอน ชอบค่ะ

รอติดตามตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-02-2016 22:11:13
ขอบคุณค่ะ
 :pig4:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 25-02-2016 22:15:11
 :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 25-02-2016 22:18:09
รู้สึกเหมือนเพิ่งเริ่มติดตามนิยายเรื่องนี้เมื่อวานเองค่ะ  เวลาผ่านไปเร็วมาก แอบใจหายอยู่เหมือนกันที่จะไม่ได้นั่งให้กำลังใจคุณหมอในทุกๆอาทิตย์แล้ว  แต่อย่างไรเสียก็ขอขอบคุณคุณบัวที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้เราได้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 25-02-2016 22:21:07
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมีแต่ความรักที่ดีให้แก่กัน เป็นตอนจบที่เยี่ยมเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับ5เดือนที่ทุ่มเทนะคะ รอติดตามต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 25-02-2016 22:24:10
 :katai2-1: :katai2-1: จบลงอย่างอบอุ่นและรักมากกกกกกกก ค่า
ประทับใจครอบครัวนี้มาก พ่อแม่พี่น้อง
แล้ววันพฤหัส.ต่อไปเราจะรออะไร  :serius2:
รอติดตามตอนพิเศษค่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 25-02-2016 22:27:46
งือออ จบแล้ว ใจหายนิดๆ
ชอบสำนวนของเรื่องนี้แล้วก็ชอบความเป็นตัวของตัวเองของทุกตัวละคร
อ่านเรื่องนี้ได้ข้อคิดหลายอย่างเลยค่า
เรื่องบางอย่างต้องอาศัยความเข้าใจกัน ความรักใคร่กลมเกลียวกันเนอะ
ชอบคุณพ่อที่สุดในเรื่อง ณ จุดๆนี้ ขอบคุณที่คุณพ่อเข้าใจ
โหยย คิดถึงคุณหมอ คุณจันทร์แย่เลยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 25-02-2016 22:32:25
อ่านไปเเล้วเพลินมากจบแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ   เราก็ยังติดใจเรื่องของเรือนไทยอยู่ดี  ไม่รู้ว่าเรือนไทยหลังนี้จะใช่หลังเดียวกับของลุงชัยมั้ย  ถ้าใช่จริงๆก็ถือว่าความตั้งใจของท่านนายพลประสบความสำเร็จมากถึงมากที่สุด ลูกหลานในรุ่นถัดๆไปก็ยังมีเรือนไทยเป็นที่รวมจิตใจ  พออ่านที่ไรรู้สึกได้ถึงความรักความอบอุ่นในครอบครัวจากนิยายของคุณบัวมาตลอดเลยค่ะ  ชอบมากจริงๆ  ขอบคุณสำหรับอีกหนึ่งนิยายดีๆนะคะ


ถึงจะจบ แต่ก็รู้สึกอยู่ลึกๆค่ะว่ากำลังเข้าจุดพีคมากกว่าเพราะรอตอนพิเศษเด็ดๆอย่างใจจดใจจ่อ  อิอิอิ 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: therappizdrum ที่ 25-02-2016 22:32:51
ง่าาาา จบแล้วเหงาเลย วันพฤของเรา ฮ่าๆๆๆ

รออ่านตอนพิเศษค่ะ ในเรื่องนี้คุณพงษ์น่าเห็นใจนะคะ เธอไม่มีคู่อยู่คนเดียวเลย

เอ๊ะ หรือมีคะ? ฮ่าๆๆๆๆๆๆ รอตอนพิเศษค่าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 25-02-2016 22:51:07
วิมลกิตติ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 25-02-2016 22:56:50
ชอบเรื่องนี้มากกกก มันเป็นพล็อตที่เราไม่กล้านึกถึงเลยว่าจะมีคนแต่งออกมาให้ไม่ดราม่าได้ยังไง แต่คุณบัววางอุปนิสัยตัวละครได้ดีมากเลยค่ะ โดยเฉพาะตัวคุณจันทร์ แรกๆอาจจะมองว่าคุณจันทร์ขี้ดื้อขี้รั้นขี้เหวี่ยงวีนขี้เอาแต่ใจ แต่อุปนิสัยทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกมาแล้วดูน่ารัก แถมยังเป็นสิ่งที่ทำให้ความดราม่ามันซอฟลง เพราะถ้าคุณจันทร์นิสัยเหมือนนภาล่ะก็ เราคงต้องเสียน้ำตากันมากกว่านี้แน่ๆ ทั้งคุณหมอที่ดีมากๆๆๆๆ ทั้งคุณพงศ์ที่เป็นเพื่อนที่ดี และที่ต้องชื่นชมไม่แพ้กันคือท่านนายพลค่ะ สรุปคือมันดีมาก ทั้งบรรยากาศภาษาทุกอย่างดีหมด พอจบแล้วก็ใจหายเลยค่ะ จะรอตอนพิเศษนะคะคุณบัว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: niza59 ที่ 25-02-2016 23:00:54
จบแล้ววววว  :sad4: :sad4:
คุณพ่อเป็นพ่อที่ดีจริงๆ  :hao5: :hao5:
ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-02-2016 23:06:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 25-02-2016 23:20:52
จบแร้ววววว ต่อไปนี้วันพฤหัสเราจะรออะไรล่ะเนี่ยยย
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆภาษาสวยๆให้ได้อ่านค่ะ
หูผึ่งทันทีที่ได้รู้ว่าจะมีภาคต่อ จะรอติดตามนะคะ รอสอยคุณจันทร์มาขค้นหิ้งที่บ้านอยู่นะคะ แล้วก็รอตอนพิเศษฟินๆด้วยใจจดจ่อ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 25-02-2016 23:22:54
 :pig4:  สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 25-02-2016 23:44:32
จบแล้วสินะคะ แอบใจหายนิดนึง เพราะเราก็ตามมาตลอดห้าเดือน เฝ้ารอวันพฤหัสมาโดยตลอด  :hao5:
ขอชื่นชมคุณบัวจริงๆค่ะ เราเองชอบอ่านนิยายพีเรียดมากๆ ไล่อ่านมาทุกเรื่องที่หาได้แล้วค่ะ
แต่ประทับใจมากๆอยู่ไม่กี่เรื่องที่อ่านซ้ำๆได้ไม่เบื่อ พูดได้เลยว่าจันทร์จ้าวเป็นอีกเรื่องนึงที่เราจะอ่านซ้ำๆแน่นอนค่ะ
ด้วยภาษา เรื่องราว บรรยากาศหลายๆอย่างทำให้เราอ่านแค่ตอนแรกก็รู้สึกว่าต้องติดตามต่อทันที
ยิ่งอ่านก็รู้สึกว่าไม่ผิดหวังเลยค่ะ ดีงามมากๆ เศร้า ดีใจ ลุ้น สงสาร เขิน มีทุกอารมณ์จริงๆค่ะ
ยังไงก็รอติดตามรวมเล่ม แล้วก็ตอนพิเศษอยู่นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-02-2016 00:46:58
ใจหายเหมือนกันนะเนี่ย
แบบนี้ทุกวันพฤหัสเราก็ไม่ได้อ่านจันทร์เจ้าแล้ว
คิดถึงแย่เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-02-2016 02:09:26
คุณพ่ออออออ!! รักคุณพ่อที่สุดเลย มีรางวัลพ่อดีเด่นมั้ย ท่านนายพลต้องได้

ขอตอนพิเศษด้วยน้า แฮ่ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 26-02-2016 02:37:19
ทำไมเราไม่เอะใจเลยว่าจันทร์เจ้าเป็นปู่จอมขวัญ 55 แต่เรื่องนี้ดีงามมากๆ ตั้งแต่ภาษาจนถึงตัวละคร โดยเฉพาะหมอภวัต เป็นผู้ชายที่อบอุ่นที่สุดของที่สุด มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็สามารถปรับตัวลงมาเล่นอะไรเป็นเด็กๆ กับจันทร์เจ้าได้ ยังมีแบบหมอเหลือมาให้ทางนี้ซักคนไหมคะ >< อิจฉาจันทร์เจ้าเบาๆ 55
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 26-02-2016 02:44:05
ขอบคุณคุณบัว สำหรับนิยายดีๆแบบนี้ครับ  ชอบทุกเรื่องของคุณบัว ชอบที่สุดคือ จอมร้าย 555

รออ่านตอนพิเศษ และเรื่องใหม่ต่อไปครับ

ปล. ย้ายมาห้องนิยายจบแล้วเร็วมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 26-02-2016 03:05:24
ขอแผนผังลำดับญาติค่ะ คนเยอะไป คิดไม่ออก แต่จอมขวัญนี่ถอดแบบมาจากจันทร์จ้าวเลยนะคะ

รอเรื่องต่อไปนะคะ ตอนพิเศษคืนความสุขให้คุณหมอทีค่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 26-02-2016 07:45:28
 :pig4: :pig4: :pig4: ที่มีเรื่องดีดีมาให้อ่าน
 :pig4: :pig4: :pig4:  ตัวละครทุกตัวที่มาสร้างความสุขให้กัน
มารอตอนพิเศษกันนะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 26-02-2016 09:06:44
ใจหายที่เรื่องนี้จบ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอีกหนึ่งเรื่องนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 26-02-2016 09:11:15
จบแล้วอ่ะ เง้อออออ ยังไม่ค่อยอยากจะให้จบเลย มาต่อตอนพิเศษเยอะๆนะ
คงคิดถึงคุณหมอกับคุณจันทร์มากแน่ๆเลย แง้วๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 26-02-2016 09:46:00

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 26-02-2016 09:47:05
ทั้งเพื่อนและพี่น้องเรื่องนี้น่ารักที่สุดเลย^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 26-02-2016 10:33:27
จบลงไปแล้ว
อบอุ่นหัวใจเป็นที่สุด
อยากให้เรื่องนี้เป็นละครจังค่ะ
ขอบคุณคุณบัวมากนะคะ...รอตอนพิเศษอีกเรื่อยๆ
หรือจะให้ดีทำภาคเชื่อมโยงหลายๆภาคคล้ายๆละครชุดของช่อง3ซีคะ
ไม่อยากให้จบเลยจริงๆ อ่านแล้วรู้สึกรักความเป็นคนไทยในยุคนั้นจัง
เป็นช่วงที่ผสมผสานวัฒนธรรมได้สวยงามและกลมกล่อมมากๆค่ะ

มีสองคนที่อดพูดถึงไม่ได้...แบบว่าทำให้คนอ่านอย่างเรารักมากพอๆกับตัวหลักอย่างคุณหมอกับคุณจันทร์
ก็คือคุณพงศ์กับคุณพ่อนี่แหละค่ะ คุณพงศ์แกเป็แมนออฟเดอะแมตช์มาตลอด แต่มาเสียตำแหน่งให้กับ
คุณพ่อตอนท้ายนี่แหละค่ะ ตอนที่คุณพ่อพูดและกวาดสายตามองรวมถึงความคิดในในคุณพ่อ
คือตอนจบที่สวยงามที่สุดเลยค่ะ ((((รัก))))
 :กอด1:
ปล. มีหนึ่งเรื่องที่แอบคิดเล่นๆ คือถ้าคุณพงศ์กลายมาเป็นคู่แข่งคุณหมอขึ้นมา คงเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมาก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 26-02-2016 13:01:50
ไม่อยากให้จบเลย อยากเจอคุณหมอกับจันทร์อีกบ่อยๆ
เป็นเรื่องที่ประทับใจมากค่ะ ชอบมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 26-02-2016 13:35:21
ชอบมาก เป็นนิยายที่ชอบที่สุดที่เคยอ่านมากเลย
ตั้งแต่ประโยคแรกอ่านแล้วคิดถึงปริศนา
พออ่านไปเรื่อยๆ ชื่อนายเอกก็เป็นชื่อเรื่องเหมือนปริศนาด้วย
แถมรู้สึกว่าหมอภวัตนี่คล้ายๆท่านชายพจน์อีก
ชอบมากๆๆๆๆ คือมันไม่ได้ลอกมาอ่ะ มันคือการเขียนถึงครู
ดีมากๆเลย ชอบจริงๆ ชอบแบบที่ถ้าอยู่ไทบจะซื้อเก็บเลย
เก่งมากๆ ชอบที่เล่าปมชาย-ชายในยุคนั้นได้แบบเนี๊ยนเนียน
ขอบคุณนะคะ :)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 26-02-2016 14:03:14
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ พลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงกันนะ

สนุกมากเลย อารมณ์ตัวละครก็สมเหตุสมผลกับยุคสมัยอยู่นะ ชอบมากๆค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-02-2016 14:57:44
 o13  o13  o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 26-02-2016 16:45:29
ขอบคุณที่มาแต่งนิยายดีๆให้อ่านนะคะ
ภาษาสละสลวยมากๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 26-02-2016 20:52:30
รอตั้งแต่เมื่อวาน หาทู้ไม่เจอ พึ่งมานึกได้ว่าอาจจะย้ายทู้แล้ว
รักเรื่องนี้ รออ่านทุกพฤหัสเลย
ตระกูลนี้เค้าแซ่บมานานแล้วสินะ แล้วก็จันทร์จ้าว มีทายาทอสูรเป็นจอมขวัญ มีความคล้ายกันในเรื่องนิสัย
ขอบคุณคุณบัวมาก จะรอติดตามตอนพิเศษและผลงานเรื่องอื่นๆเหมือนเดิมนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 26-02-2016 21:35:16
จบแล้วรู้สึกใจหายจังเลยติดตามกันมาตั้งแต่ต้นเรื่องแบบรอใจจดใจจ่อ
เลยนะทุกวันพฤหัสเลยว่าจะได้อ่าน"จันทร์จ้าว"แต่ฟิวนี้คงไม่มีแล้วอ่ะคิดถึงเลย
แต่ก็ประทับใจกับทุกๆตอนเลย เราอยากอ่านผลงานอื่นๆของคนเขียนอีกนะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 26-02-2016 21:58:23
พอจบแล้วรู้สึกใจหายจังเลยค่ะ ยังจำวันแรกที่เห็นเรื่องนี้แต่งขึ้นมา นั่งนั่งตื่นเต้นอยู่เลย
จากนั้นติดตามเรื่องรายสัปดาห์จนเหมือนจันทร์เป็นเพื่อนอีกคนในชีวิต ร่วมลุ้นไปด้วยตลอด
พอวันนี้ได้เห็นบทสรุป (ฉากหนึ่ง) รู้สึกดีใจและใจหายไปพร้อมๆกันเลย
ความรู้สึกมันแน่จนเขียนอะไรออกมาไม่ค่อยได้เลย55555

รอตอนพิเศานะคะ รอซื้อรวมเล่มด้วยค่ะ เย้
ระหว่างนี้ก็เอาเรื่องของของขวัญกับพี่โตมาอ่านอีกรอบ ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 26-02-2016 22:38:48
โอ้ยโอย
อ่านมาถึงตอนจบต้องบอกว่าชอบท่านนายพลฯ มากที่สุดแล้ว
นับถือมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 26-02-2016 22:52:47
 :pig4: ขอบคุณมากค่ะ เรื่องนี้สนุกมาก ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 26-02-2016 23:00:43
หูยยย จบแล้ว เรื่องดีๆ ภาษาสวยๆอย่างนี้ นานน๊านจะมีมาให้ชุ่มช่ำหัวใจสักที ขอบคุณมากนะค้าบบบ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 27-02-2016 02:32:59
อยากดูผังลำดับญาติจังเลยค่ะ 555555555
รู้สึกใจหายเลย จบซะแล้ว อยากจะให้มีตอนพิเศษต่อจังเลยค่ะ
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านกันนะคะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 27-02-2016 09:24:07
สนุกมากๆ ครับ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 27-02-2016 12:26:31
ขอบคุณคุณบัวสำหรับนิยายน่ารักๆ ขอบคุณคุณจันทร์คุณหมอที่น่ารัก.
รอตอนพิเศษค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 27-02-2016 13:46:26
ภาคต่อ ขอคุณพงศ์ และคู่ครองด้วยน๊า ส่วนจอมขวัญเป็นหลานย่าของดารารัษมี โอ่หลายทอดแท้น๊อ ความเซี้ยวเหมือนกับจันทร์เจ้าอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 27-02-2016 14:35:11
เราเห็นด้วยที่ไม่ให้คุณรู้นะคะ คึคึ ฮือออ จบแล้ววว จะรอตอนพิเศษจ้าา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-02-2016 17:00:27
บ้านเรือนไทยหลังนี้มีรัก

คุณพ่อกับคุณแม่สร้างครอบครัวได้อบอุ่น ปรองดอง

ขอบคุณคุณบัว ฉันรักนิยายสีลูกกวาดนี้มาก ชื่นชมคุณที่ใช้ภาษาได้สละสลวย และถ่ายทอดความรักในแง่มุมต่าง ๆ ได้อย่างสวยงาม
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 27-02-2016 23:12:39
จบซะแล้ว ชอบตอนจบมาก แต่ก็ยังไม่อยากให้จบอ่ะ 5555 คู่คุณพงศ์ยังไม่ออกเลย ไหนจะคู่ของเภาด้วย อยากจะรู้ว่าจะเป็นคนแบบไหน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 28-02-2016 00:15:31
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ มีความสุจทุกครั้งที่ได้อ่าน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ping2226 ที่ 28-02-2016 00:40:43
จบแล้วอ่ะ  ขอบคุณนะครับกับเรื่องดีๆ รอรอตอนพิเศษน้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: DragaSky ที่ 28-02-2016 01:53:46
โอ้ยมีความสุข...อยากบอกว่ารักเรื่องนี้มากเลย เป็นเรื่องแรกที่อ่านได้อย่างสนุกไม่ติดใจว่าตอนนี้น่าจะอย่างนี้อย่างนั้น..ไม่มีเลย มันละมุน ไหลลื่นสมเหตุสมผลพอเหมาะไปทุกเหตุการณ์จริงๆ
ขอบคุณที่เขียนเรืองสนุกๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ  :กอด1 o13 จบแล้วก็ใจหายแปลกๆเนาะ.. :mew2:ยังงัยก็รออ่านตอนพิเศษอยู่นะคร้าา
ปล.เรื่องหน้าจะมีคู่ให้คุณพงศ์รึปล่าวน้าาา อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ichnuan ที่ 28-02-2016 10:27:14
เพิ่งมาตามจนจบค่ะ
สนุกมากกกกกกกก มากกกกกก
ตอนที่งอนกัน อึมครึมมาก รู้สึกอึดอัดตาม น้ำตาไหลเลยค่ะ
ตอนรักกันก็น่ารักมาก อิ่มตาม
ตัวเอกเรื่องนี้ขอยกให้พ่อคุณจันทร์เลยค่ะ
#พ่อก็คือพ่อ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Ciin ที่ 28-02-2016 11:15:39
สนุกมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ
ต้องขอออกตัวก่อนว่า เราชอบเรื่องปริศนามากค่ะ อ่านไม่ต่ำกว่า10รอบ และเจ้าสาวของอานนท์อีก5รอบ

ชอบมากที่เรื่องนี้มีสำนวนเมื่องยุคปริศนาเลยค่ะ อ่านไปก็จินตนาการแต่ละฉากไป

หมอน่ารักมากค่ะ ดูเป็ผู้ใหญ่สุขุม พึ่งพาได้มากๆ

ขอให้มีตอนพิเศษหลายๆตอนนะคะ ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ยังไม่อยากให้จบเลยย

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 28-02-2016 14:36:03
ขอบคุณค่ะ สนุกมาก บางตอนอ่านไปน้ำตาซึมไป ซึ้งมากค่ะ ของคุณที่นำมาลงให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 28-02-2016 16:32:30
อ่านจบตั้งแต่เมื่อคืน รวบยอดมาวันนี้
ชอบเรื่องนี้ตรงพี่น้องกลมเกลียวกันดี จันทร์จ้าวหัวสมัยใหม่ ก้าวหน้าในทุกเรื่อง
เรื่องแบบนี้ แม้แต่ปัจจุบันบางที่ยังมีปัญหา
รอตอนพิเศษต่อไปอย่างเงียบๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dajong ที่ 28-02-2016 19:20:34
หลังจากการได้เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้ ขอชมคุณบัวก่อนเลยค่ะ การใช้ภาษาดีมากเลยค่ะ สละสลวย เนื้อหาน่าอ่าน ให้ข้อคิดหลายอย่าง ขอขอบคุณที่รังสรรค์ผลงานดีๆให้เราได้อ่านกัน ขอยคุณค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 28-02-2016 20:30:02
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 28-02-2016 22:14:35
นี่ขนาดเป็นนิยายลูกกวาด เรายังเสียน้ำตาเลย ถ้าเป็นนิยายดราม่าจะขนาดไหน รออ่านภาคต่อน้าา

ปล.บ้านเรือนไทยที่จอมขวัญอยู่นี่หลังนี่เปล่าคะ แล้วโรงแรมของบ้านจอมขวัญนี่อยู่เยาวราชรึเปล่า :hao4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: psyche ที่ 28-02-2016 22:16:39
สนุก ปลื้ม ปริ่ม จริงๆค่ะ ชอบแนวะีเรียต ที่ภาษอ่านง่ายแบบนี้อะ
คุณจันทร์​ คุณหมอ ก็ต่ารัก หุ้งฟิ้งกันสุดๆ หวานแบบแมนๆ อะ
อีกคนที่ชอบคือ คุณพงษ์ เป็นตัวลัครที่รักเพื่อน เข้าใจเพื่อนมาก
ชอบความรักของพี่น้อง ยกมือให้คุณเดช เป็ตพ่อดีเด่น เข้าใจความรักทุกแบบ

แต่งเรืรองอื่นๆ มาให้พวกเราชาวเล้าได้อ่านอีกนะคะ ขอบคุณค่าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 28-02-2016 23:00:35
จบแล้ววววว เราคงจะคิดถึงจันทร์จ้าว คิดถึงครอบครัวนี้ แล้วเราก็จะมารอตอนพิเศษทุกวัน

เราชอบนิยายเรื่องนี้มาก อ่านแล้วประทับใจ ทั้งภาษา เนื้อเรื่อง นิสัยของตัวละคร การดำเนินชีวิตของตัวละคร

ยุคสมัยของเรื่อง เอาจริงๆ คือชอบทุกอย่าง มันชอบไปหมดเลย ขอบคุณคุณบัวมากนะคะ ที่สร้างสรรค์ผลงานดีดีขึ้นมา

เราจะติดตามผลงานของคุณไปเรื่อยๆ จะตอนพิเศษ จะเรื่องใหม่ เรื่องเก่า ก็ตาม

ขอบคุณสำหรับนิยายดีดี ภาษาสวยๆ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 29-02-2016 09:38:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 29-02-2016 12:14:23
จบแล้วววว คิดถึงคุณจันทร์แย่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Lily_FW ที่ 29-02-2016 17:04:27
 
นั่งอ่านรวดเดียวจบแล้วล็อคอินมาเมนท์ ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ ค่ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: SOBANG✖ ที่ 29-02-2016 21:33:29
เรื่องนี้ขอบอกเลยว่า รักคุณพ่อที่สุดค่ะ ประทับใจมาก ชอบการเขียนของคุณบัวมาก อ่านแทบทุกเรื่องของคุณบัว สิ่งที่รับรู้ได้ดีที่สุดคือความรักระหว่างครอบครัว มันแน่นแฟ้น และมันมีพลังมาก ความรักของบ้านนี้มีที่ท่างให้กันและกัน ความรักจึงหมุนเวียนอยู่รอบตัวได้สะดวกและสม่ำเสมอ มันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ ประทับใจมากๆ

รักหมอกับจันทร์เจ้ามากจริงๆ ชอบ ^^ รอตอนพิเศษแบบใจจดใจจ่อจริงๆ อยากซื้อเก็บไว้เลยทีเดียว มีหนังสือม้ายยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 01-03-2016 03:07:37
ไม่อยากให้เรื้องนี้จบแล้วเลย
ชอบความน่ารักของเรื่องนี้
ชอบความอบอุ่นของเรื่องนี้อยากอ่านไปเรื่อยๆ
ปล.  อยากอ่านตอนพิเศษ ของพี่อาทิตย์
อยากเห็นโมเมนท์หวานๆของพี่อาทิตย์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 01-03-2016 03:33:35
จบแล้ว.........อ่านรวดเดียวเลยย.....สนุกมากค่ะ ภาษาดีมากกกก ประทับใจท่านนายพลสุดๆ...จันทร์เจ้าก็น่ารัก พี่หมอก็น่ารัก...รอตินพิเศษนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 01-03-2016 15:10:51
จบแล้วว
ฮือออ ครอบครัวนี้น่ารักกันมากๆเลยค่ะ

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 01-03-2016 18:58:34
ขอบคุณคนแต่งค่ะ อ่านแล้วเพลิดเพลินมากจริงๆ

ชอบนิสัยของจันทร์จ้าวจังเลย ถ้ามั่นใจที่จะทำแล้วคือไม่มีลังเลเลย
เดินหน้าใส่เกียร์เต็มเหนี่ยว ถ้าเป็นสมัยก่อนคงต้องเรียกว่า 'เปิ๊ดสะก๊าด' ใช่มั้ย? 5555
นั่นแหล่ะค่ะ คุณจันทร์ช่างเปิ๊ดสะก๊าดจริงเชียว เรารักในนิสัยนี้ <3

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 02-03-2016 10:00:17
รักของพ่อแม่ยิ่งใหญ่เสมอ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 02-03-2016 10:15:14
แอบมาอ่านตอนจบก่อน อิอิ สะดุดตาตรงนามสกุล วิมลกิตติ นึกไปนึกมาเลยอ้ออออออออ ต้นตระกูลของจอมขวัญนี่เอง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Loogling ที่ 02-03-2016 23:25:24
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดี
ไม่มีอะไรดีไปกว่าความเข้าใจของคนในครอบครับ ซึ้งงงงงง :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkypromise ที่ 03-03-2016 09:42:11
จบแล้ววว จบได้ดีค่ะ ซึ้งๆ
สรุปคุณแม่จะโดนปกกปิดตลอดชีพ 55555555
คุณพ่อคือเสียสละมากจริง รู้ทุกอย่างเท่ากับต้อง
ก้าวข้ามถึง2เรื่อง แต่พอก็ยอมเข้าใจลูกๆอยู่ดี
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 03-03-2016 20:40:14
โอยยยย
จบแล้วอ่ะ ใจหายเลยอ่ะ
นามสกุลคุ้นมาก วิมลกิตติ 55555
ที่แท้ก็แอบเกี่ยวโยงกัน คึคึ
รออ่านเรื่องหน้านะคะ
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 04-03-2016 01:56:30
งุ้ยยยย ชอบภาษามากค่ะะะะ
ลุ้นมากว่าจะลงเอยยังไงเพราะสังคมสมัยนั้นไม่เปิดกว้าง
หลงรักคุณพ่อมากกกก เป็นเรื่องที่อ่านแล้วร้องไห้หลายตอนมากค่ะ
แล้วร้องไม่ใช่เพราะดราม่าคู่รักด้วย ส่วนใหญ่ร้องเพราะครอบครัวมากกว่า
แต่งเก่งมากค่ะะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 04-03-2016 15:11:51
ขอบคุณคุณบัวฮะ แต่งเรื่องสนุกๆ ข้อคิดดีๆให้อ่านอย่างสม่ำเสมอ
รอติดตามผลงานนะฮะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Netimefii ที่ 04-03-2016 21:20:25
จบแล้วว
สนุกมากๆ เลยค่ะ  o13 o13
รอตอนพิเศษต่อไปป :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 05-03-2016 22:57:01
อ่านแล้วอินนึกว่าอยู่ในสมัยนั้นจริงๆ  :katai2-1:

ชอบมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 06-03-2016 11:14:07
แต่งดีจริงๆ ภาษาสวยมาก อ่านแล้วไม่งง ดีมากค่ะ ชอบทุกคู่ ชอกการผูกเรื่อง เล่าเรื่อง การลำดับ ดีงามมมท :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Winterzauber ที่ 06-03-2016 20:42:30
เรื่องนี้ดีมากๆ เลยค่ะ ภาษาดี ตัวละครดี บรรยากาศของเรื่องก็ดี มีเหตุการณ์ที่ทำให้ปวดใจทำให้คนอ่านลุ้นตาม น้ำตาซึมบ้าง แต่ก็ผ่านไปได้ดี  :mew3:
ชื่นชมคนเขียนมากค่ะ ที่เขียนเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เห็นว่าความเข้าใจและความอบอุ่นจากครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญมากจริงๆ มาทุกยุคทุกสมัย

ขอบคุณมากค่ะ

ปล. ติดใจอยู่นานมากว่านามสกุล"วิมลกิตติ" นี้เคยได้ยินหรือผ่านคุ้นสายตามาจากไหน ถึงขนาดไปหาในกูเกิลเลย อ่านมาจนถึงตอนสุดท้ายที่คนเขียนเฉลย ถึงได้รู้ว่าคุ้นมาจากเรื่องจอมร้ายนั่นเอง Surprise มาก เดี๋ยวต้องกลับไปอ่านอีกรอบแล้ว :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 06-03-2016 21:41:53
เพิ่งเคยอ่านแนวพีเรียด
แต่อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ลุ้นและน่าติดตามมาก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: snowtoy ที่ 07-03-2016 17:09:48
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านนะคะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: icecreammaniac ที่ 08-03-2016 19:00:07
จบแล้วววววววว!!!!!

โอ้ยยย อยากจะเอามือถือทาบอกด้วยความจุกปริ่มจนอัดแน่นเต็มไปหมด จันทร์จ้าวเป็นนิยายลูกกวาดอยากที่บอกจริงๆ ค่ะ เพราะเต็มไปด้วยสีสันและรสชาดที่หลากหลาย ทั้งอบอุ่น อิ่มเอม และอบอวลไปด้วยความรัก ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก พี่น้อง พ่อแม่ และเพื่อน อย่างที่บอกว่าไม่ว่าจะชาติไหน เพศไหน ทุกคนก็มีความรักให้กันได้จริงๆ

อ่านจบรวดเดียวและ ฟิลกู๊ดจนเกินคำบรรยาย ภาษาที่ใช้สวยมาก จนเราแอบคิดว่ากำลังอ่านนิยายของท่านว. หรือไม่ก็โสภาค สุวรรณอยู่ เพราะให้ฟิลที่เรียบง่ายอบอุ่นแบบไม่หน้าเบื่อเลยแม้แต่นิด ตัวละครแต่ละคนมีมิติมีเสน่ห์ ภาษาที่ใช้ก็สวยจนต้องถอนหายใจ ฮื่อออออ.... อยากจะบอกว่ารอรวมเล่มนะคะ นิยายที่สวยและอิ่มขนาดนี้ไม่มีพลาดแน่นอนค่ะ จะรออย่างใจจดจ่อเลยทีเดียว

ขอบคุณที่เขียนอะไรดีๆ แบบนี้ออกมา และสู้ๆ นะคะ!! รออ่านเรื่องใหม่ค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-03-2016 20:14:42
ก็ว่า เอ้ ทำไมคุณบัวไม่อัพจันทร์จ้าวตอนใหม่สักทีน้า คิดไปคิดมานึกได้ว่าคุณบัวบอกว่าจะจบแล้วเลยเขเามาดู จบจริงๆด้วยเกือบพลาดแล้วมั้ยล่ะ รอตอนพิเศษและภาคต่อนะคะคุณบัว ชอบนิยายเรื่องนี้อ่านไปก็นึกบรรยากาศไปได้อารมณ์มากจริงๆค่ะ

ปอลิง เราโง่ลำดับญาติ หลานย่านี่คือยังไงอะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 11-03-2016 19:07:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: heyguy ที่ 12-03-2016 13:29:52
จบซะแล้ว ขอบคุณสำหรับวายแบบพีเรียดย้อนยุคแบบนี้นะคะ
ไม่ค่อยได้อ่านพีเรียดแบบนี้สักเท่าไร ส่วนใหญ่จะดราม่าหนักหน่วงบางเรื่องไม่สมหวัง
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ จันทร์เจ้าน่าตีเสียนี่กระไร ฝากคุณหมอตีด้วยปากซะให้เข็ด
ชอบมากเลยค่ะจะติดตามผลงานต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 17-03-2016 21:06:10
 :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 29-03-2016 17:07:24
จันทร์เจ้า นิยายลูกกวาดดดด แต่เราเสียน้ำตาไปเยอะเหมือนกัน
ถ้าหมอกับจันทร์หนักแน่นไม่พอ ต้องเลิกกันแน่ ๆ
จันทร์เอาแต่ใจ หมอก็ใจเย็น สมกันดี
สมัยก่อนคงมีแต่คนโดนคลุมถุงชนล่ะนะ
พ่อแม่พี่น้องไม่อยากให้รักกับคนที่ตัวไม่พอใจก็จับแต่งงาน
แต่คนเขียนสื่อออกมาให้เห็นถึงวิถีชีวิตสมัยนั้ยได้ดีเลย
คิดภาพออก ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 03-04-2016 20:40:10
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………………..
บทพิเศษ...คนเจ็บ...



   รถยนต์คุ้นตาเลี้ยวเข้ามาจอดเลียบฟุตบาธที่หน้าสำนักงานค้าหนังสือของ ๓ เกลอ นายแพทย์หนุ่มผู้มีชื่อเสียงโด่งดังของกรุงเทพฯมองผ่านหน้าต่างรถออกไปที่หน้าร้านกลับไม่เห็นร่างสูงโปร่งของคนที่มักจะยืนรอเขาอยู่ใต้กันสาดก็นึกฉงน ชายหนุ่มดับเครื่องแล้วลงจากรถ ทว่ายังไม่ทันจะเดินเข้าไปในร้าน บานประตูกระจกก็ถูกเปิดออกโดยหม่อมหลวงพงศ์ภราธร



   “สวัสดีครับคุณหมอ” ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรทักทายอย่างสนิทสนม ภวัตเพียงยิ้มจางแล้วมองข้ามไหล่ ๑ ในหุ้นส่วนของสำนักงานแห่งนี้เผื่อจะเห็นคนที่เขามารอรับ ทว่าในร้านกลับว่างเปล่า



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมองตามสายตาคนมาเยือนด้วยความสงสัย



   “คุณหมอมองหาใครครับ...จันทร์หรือ?”



   “ครับ เขายังทำงานไม่เสร็จซีนะครับ”



   “วันนี้จันทร์ไม่มาทำงานหรอก แกตกบันไดเมื่อวานนี้ ผมก็เลยให้หยุดอยู่บ้าน”



   “อะไรนะครับ?! ตกบันได!” ภวัตร้องด้วยความตกใจ เขาไม่ทราบว่าจันทร์จ้าวตกบันได เพราะเมื่อวานตั้งแต่เย็นเขาติดคนไข้อาการสาหัสหลายคน อยู่โยงดูแลจนถึงเช้า ดังนั้นจึงไม่ได้ทำหน้าที่สารถีให้คู่รักของเขาทั้งเย็นเมื่อวาน และเช้าวันนี้



   “ใช่ครับ นี่จันทร์ไม่ได้บอกคุณหมอหรอกหรือ ก็เมื่อวานผมพาแกไปส่งที่บ้านเช่า จันทร์บอกว่าคุณหมอจะแวะไปตอนค่ำๆ แล้วจะบอกเอง ผมก็นึกว่าคุณหมอทราบแล้ว” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอธิบายเป็นฉากๆ ว่าเหตุใดเขาจึงไม่รีบแจ้งเรื่องนี้ให้นายแพทย์หนุ่มทราบ นั่นก็เพราะจันทร์จ้าวรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าให้อย่างไรภวัตก็ต้องแวะไปที่บ้านเช่า ดังนั้นเจ้าตัวจะเป็นคนบอกเรื่องนี้กับอีกฝ่ายเอง แต่กลายเป็นว่าภวัตกลับไม่ทราบอะไรเลยเสียนี่



   “เมื่อวานผมต้องอยู่ดูแลคนไข้ทั้งคืน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทั้งรู้สึกผิดที่ตนเองไม่สามารถดูแลเจ้าของหัวใจของตนในเวลาที่กำลังเจ็บตัว ทั้งโมโหที่คนเจ็บตัวไม่คิดจะส่งข่าวให้เขาทราบสักทาง


“...แล้วนี่เขาเป็นอย่างไรบ้างครับ”



   “ก็เข็ดยอกตามร่างกายนิดหน่อย ผมว่าคงจะไม่เป็นไรมาก แต่ที่วันนี้ให้หยุดเพราะกลัวว่าจะมาเดินกระย่องกระแย่งที่นี่” ฟังดูแล้วไม่น่าเป็นห่วงก็จริง แต่กระนั้นภวัตก็ถึงกับพ่นลมหายใจแรงๆ


   “ทำท่าไหนถึงตกบันไดได้ล่ะครับ ที่นี่บันไดก็ไม่ชันเสียหน่อย”


   “แกวิ่งครับ”


   “วิ่ง?!”


   “ครับ เรย์สั่งหนังสือมาให้คุณนภา แล้วจันทร์นึกอย่างไรไม่ทราบ แย่งหนังสือแล้ววิ่งหนี เรย์เลยวิ่งไล่ตาม วิ่งขึ้นวิ่งลงบันไดสุดท้ายก็เลย...ก้าวพลาด” ภวัตนึกข่มใจทันทีที่ฟังจบ เพราะต้นสายปลายเหตุที่จันทร์จ้าวเจ็บตัวนั้นมาจากความพิลึกพิศดารของเจ้าตัวล้วนๆ


   “เอ้อ...คุณหมออย่าโกรธแกเลยครับ จันทร์เล่นสนุกเป็นเด็กๆ...”


   “แต่คุณจันทร์ก็ไม่ใช่เด็กแล้ว ควรจะคิดได้ว่าคนที่เขาเป็นผู้ใหญ่ เขาควรเล่นอะไรหรือไม่ควรเล่นอะไร คุณพงศ์เองก็ควรห้ามปรามเพื่อนของคุณพงศ์ด้วย อย่าปล่อยให้เขาเล่นแผลงแบบนี้เป็นครั้งที่ ๒ เอาล่ะครับ...อย่างไรก็ขอบคุณมากที่แจ้งข่าวเรื่องนี้กับผม ขอตัวก่อน” แล้วภวัตก็ค้อมศีรษะทีหนึ่งเป็นเชิงลา ก่อนจะเดินเร็วๆกลับไปขึ้นรถของตน แล้วขับออกสู่ถนนในชั่วเวลาแค่เสี้ยวอึดใจ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้แต่มองตามหลังแล้วก็ถึงกับโอดออกมาเบาๆ



   “จันทร์นะจันทร์ ทำกันถูกดุไปด้วยเลย!”

...............................


   บ้านเช่าสีเขียวอ่อนตั้งอยู่ในละแวกเงียบสงบ ยามเย็นเช่นนี้ได้ยินเสียงนกการ้องแว่วๆ พอให้สุนทรีย์อยู่บ้าง จันทร์จ้าวคนเจ็บผู้ลางานหนึ่งวันกำลังนอนเอนอยู่ในห้องนอน มือหนึ่งถือหนังสืออ่านเล่นฆ่าเวลา ด้วยเพราะไม่อาจทำกิจอย่างอื่นได้เนื่องจากอาการขัดยอกตามร่างกายอันเกิดจากการตกบันไดเมื่อวานนี้เอง


เสียงเคาะประตูดังแว่วมาเข้าหู ทีแรกเขาคิดว่าหูฝาด แต่เมื่อเสียงเคาะยังดังอยู่เช่นนั้น เจ้าของบ้านจึงเงี่ยหูฟังแล้วก็พบว่ามันน่าจะเป็นเสียงเคาะมาจากประตูบ้านของเขา



   “สงสัยจะคุณพงศ์...” เจ้าของบ้านรำพึง แล้วลุกจากเตียง ก้าวเดินอย่างเชื่องช้าออกจากห้องนอนมายังห้องอเนกประสงค์ เสียงเคาะยังดังไม่หยุดจนจันทร์จ้าวชักหงุดหงิด ยิ่งอาการขัดยอกปรากฏทุกครั้งที่ก้าวเดิน ผสานกับเสียงเคาะรัวก็เริ่มทำเอาคิ้วขมวดชิด



   “ได้ยินแล้วคุณพงศ์ จะเคาะอะไรนักหนา” เขาตะโกนบอก ก้าวอีก ๓ ก้าวก็พอดีถึงหน้าประตู มือขาวเอื้อมสูงเพื่อปลดกลอนด้านบน แล้วเปิดบานประตูออก และเมื่อเห็นว่าคนมาเยือนไม่ใช่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตามที่คิดแต่กลับเป็นนายแพทย์ผู้เคร่งครัดเรื่องสุขภาพ ดวงตากลมใหญ่ก็ถึงกับเบิกโตมากกว่าเดิม


   “หมอ!...”


   “ได้ยินมาว่าวันนี้คุณไม่ไปทำงาน ผมก็เลยมาที่นี่” ภวัตเอ่ยเสียงเรียบ แล้วก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน จันทร์จ้าวรู้สึกหวั่นใจชอบกล หากอีกฝ่ายทราบว่าเขาตกบันได คงได้ถูกดุยกใหญ่


   “เอ่อ...ก็...ผมทำงานมามากแล้ว คุณพงศ์ก็เลยให้หยุด” เหตุผลการหยุดของจันทร์จ้าวนั้นคนละเรื่องกับเหตุผลที่นายแพทย์หนุ่มได้ยินมาจากราชนิกูลแห่งวังฉัตรโดยสิ้นเชิง ยิ่งจับได้ว่าจันทร์จ้าวกำลังโกหก ร่างสูงก็ยิ่งเข่นเขี้ยวอยากจับเด็กดื้อปกปิดความผิดมาตีให้หลาบจำ


   “แล้ว...แล้วคนไข้ของหมออาการดีขึ้นแล้วหรือ” คนมีชนักปักหลังหาทางเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ยืนนานๆชักจะยอกๆที่สะโพกชอบกล จันทร์จ้าวจึงค่อยๆเดินไปนั่งที่เก้าอี้ยาว ร่างสูงหันกลับมามองการก้าวเท้าอย่างเชื่องช้าของเจ้าของบ้านก็ดูออกทันทีว่าอีกฝ่ายเจ็บใช่น้อย


   “คุณเดินแปลกไปนะครับ เป็นอะไรหรือ” เขาตั้งคำถาม ทำเอาคนกำลังจะนั่งถึงกับเหลือบตามามองเขาทันควัน


   “ไม่..ไม่ได้แปลกอะไรนี่!”


   “แต่ผมว่าแปลก คุณเป็นคนใจร้อน ทำอะไรว่องไว ไม่ใช่คนเดินช้าอย่างนี้”


   “เอ่อ...คือ...คือเมื่อกี้ผมนอน...จริงๆแล้วนอนทั้งวันเลย ก็เลย...ก็เลยเหมือนขาจะไม่ค่อยมีแรง...”


   “อ้อ อย่างนั้นต้องนวดนะครับ ฟังจากอาการแล้วเหมือนคนเลือดลมไม่เดิน” ภวัตไม่พูดเปล่า แต่ก้าวเท้าพรวดๆมานั่งร่วมเก้าอี้ยาวตัวเดียวกันจากนั้นก็คว้าขาข้างหนึ่งของจันทร์จ้าวขึ้นไปวางบนตักเขาโดยไว การเปลี่ยนท่านั่งกะทันหันของคนเจ็บส่งผลให้อาการขัดยอกจากการตกบันไดแล่นพล่านไปทั้งตัว


   “โอ๊ย!!! หมอ!! เจ็บ!!” คนเจ็บถึงกับร้องลั่น มือขาวเอื้อมไปดึงมือภวัตออกจากการจับขาเขา แต่มืออีกฝ่ายแข็งราวหิน จับแล้วไม่มีปล่อย


   “จะบอกความจริงผมได้รึยัง?” ภวัตคนดุกลับมาอีกหน หลังจากร้างลาไปนาน หากจันทร์จ้าวไม่เจ็บตัว ไม่ปล่อยปละละเลย เขาก็ไม่ต้องสวมบทโหดเช่นนี้หรอก


   ดวงตากลมใหญ่มองสบเข้าไปดวงตาดุที่จับจ้องตรงมา แม้จะยังเจ็บกาย แต่ก็รู้ดีว่าคงโป้ปดต่อไปไม่ได้แล้ว


   “หมอทราบหรือ” เขาย้อนถามเสียงอ่อย ฟังดูน่าสงสาร แต่วีรกรรมตกบันไดหนำซ้ำยังโกหกถือเป็นโทษซ้ำซ้อนที่ไม่น่าใจอ่อน


   “ทำไมไม่บอกผม” ภวัตไม่ตอบ แต่ตั้งคำถามสั้นห้วน คนเจ็บถึงกับใจหาย ดวงหน้าขาวซีดเผือดกลัวอีกฝ่ายจะโกรธ


   “ก็...หมอยุ่งๆ ผมก็ไม่อยากรบกวน” คำตอบของจันทร์จ้าวไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะคนฟังถึงกับพ่นลมหายใจแรงๆ


   “ผมไม่ยักรู้ว่าคุณมองว่าการบอกเล่าเรื่องของคุณให้ผมทราบ เป็นการรบกวน! ถ้าวันนี้ผมไม่ทราบจากคุณพงศ์ ผมก็คงไม่ทราบไปตลอดว่าคุณตกบันได”


   “เอ้อ...ตกแค่ ๓ ขั้นเอง ไม่นับว่าเป็นการตกบันไดหรอก”


   “๓ ขั้นก็บันได” ภวัตเถียงทันควัน และแน่นอนว่าคนเจ็บได้แต่เงียบ แล้วก้มหน้านิ่ง เพราะรู้ดีว่างานนี้ตนผิดจริง ตกบันไดแล้วปิดบัง พอถูกต้อนถามในทีแรกก็โกหกไปคนละเรื่อง หากภวัตไม่โกรธสิแปลก


   ท่าทางเหมือนเด็กสำนึกผิดของจันทร์จ้าวแม้จะทำเอาหัวใจของคนเห็นเกือบจะไหวอ่อน แต่กระนั้นภวัตก็ยังพยายามทำใจแข็งเข้มงวดต่อไป ด้วยเพราะหากเขาไม่ว่ากล่าวอย่างจริงจัง เห็นทีคงมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก


   “ถอดเสื้อครับ”


คำพูดของเขาทำเอาคนถูกสั่งถึงกับเหลือบตากลมโตขึ้นมามองด้วยความตกตะลึง


   “ถอดทำไม?!”


   “ผมจะดูแผล”


   “ไม่มีแผล! ผมแค่ก้าวพลาด เข่าก็เลยกระแทกขั้นบันไดแล้วก็...ต...เอ่อ...ไถลลงมา” จะพูดคำว่า ‘ตก’ ก็เกรงว่าภวัตจะเห็นภาพว่าเป็นอุบัติเหตุอันตราย เลยต้องเปลี่ยนเป็นคำว่าไถลแทน ทว่าสำหรับนายแพทย์หนุ่มนั้น เขาเห็นภาพเป็นฉากๆตามที่อีกฝ่ายเล่า เลยอุปมาได้ว่าแผลทั้งหลายน่าจะเกิดกับท่อนล่างของร่างกาย


   “ถ้าอย่างนั้นก็ถอดกางเกง” เขาสั่งอีกหน คราวนี้ดวงตากลมโตใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า ริมฝีปากสีสดเผยอค้างด้วยความตกตะลึง ทว่าภวัตไม่มีท่าทีไหวหวั่นแต่ประการใด เขาย้ำชัด


   “ผมบอกว่าให้ถอดกางเกง ในเมื่อคุณพูดเองว่าคุณก้าวพลาด เข่ากระแทกบันไดและไถลลงมา แสดงว่าต้องมีแผลที่ขา เพราะฉะนั้น...ถอดกางเกง” จันทร์จ้าวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเขาและหมอภวัตจะก้าวหน้าไปถึงไหนต่อไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้เขาถอดกางเกงต่อหน้าอีกฝ่ายในสถานที่โล่งโจ่งเช่นนี้



   “เอ่อ...รอ...รอให้มืดก่อนได้ไหม” ต่อรองก็เท่านั้น เพราะภวัตไม่ตอบ นอกจากจับจ้องด้วยสายตาเข้มงวดซึ่งแน่นอนว่าจันทร์จ้าวเข้าใจดีว่าสายตาเช่นนี้ ไม่ได้มีความหมายโดยนัยว่าจะอนุญาต



   “ขอ...ขอ...ขอผมเข้าไปเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมก็ยังดี ได้ไหม” คำขอสุดท้าย เพราะจะให้เขาลุกขึ้นมาถอดกางเกงโทงๆเวลานี้ก็เห็นจะอุจาดชอบกล อย่างน้อยมีเสื้อคลุมสวมทับอยู่บ้างแล้วจะเปิดดูตรงไหนก็ค่อยตกลงกันอีกทีก็ได้


   “ผมจะไปเอากระเป๋ายาที่รถ กลับขึ้นมาถ้าคุณยังเปลี่ยนไม่เสร็จ ผมจะจัดการเอง!” เพียงเท่านั้นคนเจ็บก็อาศัยแรงฮึดรีบลุกอย่างว่องไว ภวัตต้องลุกตามแล้วคว้าแขนเอาไว้ก่อนที่จันทร์จ้าวจะฝืนสังขารมากกว่านี้


   “ช้าๆสิครับ! เดี๋ยวก็ล้มลงไปอีกหรอก!”


   “ก็หมอบอกเมื่อกี้ว่าถ้าผมเปลี่ยนไม่ทัน หมอจะ...” ภวัตถอนหายใจเบาๆอย่างนึกระอา บทจะว่าง่าย จันทร์จ้าวก็ว่าง่ายอย่างเหลือเชื่อ บทจะดื้อขึ้นมาก็หัวชนฝาไม่ฟังเขาสักคำ


   “ผมเปลี่ยนใจแล้ว จะช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยลงไปเอายาที่รถ” เขาพูด และไม่รอคำค้านใดๆก็ประคองคนเจ็บพากลับเข้าไปในห้องนอนทันที

.......................................


   ชายหนุ่ม ๒ คนยืนเงียบกันอยู่กลางห้อง คนหนึ่งก้มหน้าก้มตาปลดกระดุมเสื้อที่สวมอยู่ ส่วนอีกคนถือเสื้อคลุมผ้าขนหนูรอ จันทร์จ้าวส่งเสื้อที่ถอดออกแล้วให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะรับเสื้อคลุมมาสวม แล้วจึงละมือลงไปเบื้องล่างเพื่อปลดกางเกง เมื่อนั้นภวัตจึงก้มตัวลง มือขาวที่กำลังจะปลดกางเกงถึงกับชะงักโดยพลันแล้วร้องลั่นด้วยความตกใจ


   “หมอจะทำอะไร?!” ดวงตากลมใหญ่จับจ้องคนที่โค้งตัวลงจับกางเกงเขา ภวัตเพียงแค่เงยหน้ามองแล้วตอบเรียบๆ


   “คุณคงก้มไม่สะดวก ผมจะดึงกางเกงให้น่ะซีครับ” เขาพูดเพียงเท่านั้นก็ค่อยๆดึงกางเกงลง บางจุดที่ขากางเกงเสียดสีกับแผลฟกช้ำทำเอาเจ้าตัวส่งเสียงครวญ ภวัตก็จำต้องทรุดกายลงนั่งกับพื้นแล้วค่อยดึงขากางเกงออกให้อย่างช้าๆ


“ก้มไหวไหมครับ ยึดไหล่ผมไว้แล้วค่อยยกขาออกจากกางเกง” นายแพทย์หนุ่มเงยหน้าพูด ทุกการกระทำของเขาส่งผ่านทางฝ่ามือใหญ่ทว่าแตะต้องอย่างอ่อนโยน จันทร์จ้าวได้แต่มองคนที่คุกเข่าให้เขาค้ำสองแขนกับไหล่เป็นหลักเพื่อยกขาออกจากขากางเกงทีละข้าง ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ไม่มีคำพูดอะไรจากคนทั้งคู่ จนกระทั่งกางเกงหลุดพ้นปลายเท้าออกไปแล้ว



“แผลช้ำเยอะอย่างนี้ ตอนใส่กางเกง ใส่เข้าไปอย่างไร”



“ก็ใส่ก่อนจะช้ำน่ะสิ” เพียงเท่านั้นคนฟังก็เข้าใจเป็นอันดี แสดงว่าตั้งแต่เมื่อวานจนกระทั่งวันนี้ จันทร์จ้าวยังไม่ได้อาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า



   ภวัตลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอีกหน แผลฟกช้ำหลายจุดที่เขาเห็นเมื่อครู่ รวมกับแผลถลอกที่หัวเข่าบอกให้รู้ว่าถึงจะตกบันไดแค่ ๓ ขั้น แต่ก็ไม่ใช่การเจ็บตัวอย่างน้อยๆเลย เขาไม่พูดอะไร แต่ดึงแขนคนเจ็บให้ไปนั่งที่เตียง ส่วนเขาผลุบหายออกจากห้องกลับไปที่รถยนต์ของตน อึดใจต่อมาก็หิ้วกระเป๋ายากลับเข้ามาในห้อง จันทร์จ้าวยังคงนั่งอยู่บนเตียง ดวงตากลมใหญ่มองเขาซื่อๆ นายแพทย์หนุ่มวางกระเป๋ายาลงบนพื้นก่อนจะเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกหน คราวนี้เขาหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมา แล้วเดินออกจากห้องไปอีก ดวงตากลมโตทำได้เพียงแต่มองตามด้วยความสงสัย แต่พอร่างสูงกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับกะละมังใบเล็กใส่น้ำ ก็ถึงได้เข้าใจ



   “เช็ดตัวก่อนนะครับ” คนดูแลว่าอย่างนั้น ก่อนจะวางกะละมังลงกับพื้นแล้วบิดผ้าชุบน้ำพอหมาด จากนั้นจึงเช็ดหน้า และแขนให้อย่างนุ่มนวล ความเงียบโรยตัวช้าๆเมื่อร่างสูงทรุดตัวลงนั่งที่พื้นตรงปลายเท้าคู่รักของเขา แล้วจากนั้นจึงเปิดชายเสื้อคลุมออก ผ้าชุบน้ำบิดหมาดผืนเดิมบรรจงลูบไล้ขาทั้ง ๒ ช้าอย่างแผ่วเบา โดยเฉพาะจุดที่มีแผลฟกช้ำ จากนั้นก็ค่อยแต้มยาอย่างเบามือ


   ดวงตากลมใหญ่มองตามปลายนิ้วที่บัดนี้กำลังทำความสะอาดแผลถลอกบริเวณหัวเข่า สีหน้าของนายแพทย์หนุ่มเคร่งขรึมสมกับที่เขาเคยบ่นว่ายามอีกฝ่ายเป็นหมอนั้นดุกว่าเดิมแยะ เวลาอย่างนี้เป็นเวลาที่เขาไม่กล้าตอแยด้วยที่สุด เพราะรู้ดีว่านอกจากจะผิดที่ไม่ดูแลตนเองแล้ว ยังผิดที่ทำให้ภวัตต้องเป็นห่วงด้วย


   “หมอ...ผมไม่ได้คิดจะปิดบังหมอหรอกนะ” เขาเอ่ยขึ้นมาเบาๆ เพราะนับตั้งแต่ภวัตเริ่มทำแผลให้ อีกฝ่ายก็ไม่พูดกับเขาเลย นายแพทย์หนุ่มยังคงจับขาพลิกซ้ายพลิกขวาเพื่อหาร่องรอยแผลอื่นๆ แต่กระนั้นก็ยังยอมตอบ


   “แต่ก็ปิดบัง”


   “ผมไม่อยากให้หมอเป็นห่วง คนไข้ของหมออาการหนักมากแล้วไม่ใช่หรือ”


   “ถ้าคุณไม่อยากให้ผมเป็นห่วง คุณก็ควรเลิกเล่นแผลง” จันทร์จ้าวชะงักไปในทันที แต่ด้วยความเป็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณหญิงผกา จึงถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ ย่อมไม่ยอมถูกดุเพียงฝ่ายเดียว



   “ก็เรย์ไม่ยอมให้ผมอ่านหนังสือเล่มนั้น”



   “คุณก็เลยแย่งคุณเรย์มาอย่างนั้นหรือ?”



   “ก็แค่ `ยืม’ มาดูเดี๋ยวเดียว ตั้งใจว่าเปิดดูแล้วถ้ามีสูตรอาหารน่าสนใจจะสั่งมาให้หมออ่าน แต่...เรย์ไม่ยอม บอกว่าจะให้นภาอ่านก่อน พุทโธ่! ผมกับนภาก็พี่น้องกัน แล้วผมก็เป็นพี่ของนภา ทำไมผมจะดูก่อนไม่ได้” ประโยคหลังนั้นสมควรถูกดุ แต่ภวัตติดใจประโยคแรกๆของคนพูดมากกว่า



   “สั่งมาให้ผมอ่าน?” เขาทวนอย่างฉงน



   “ใช่ หนังสือสูตรอาหารฝรั่ง”



   “แล้วทำไมจู่ๆถึงอยากสั่งมาให้ผมอ่าน” คราวนี้จันทร์จ้าวชะงักที่ถูกซักในเรื่องที่เขาไม่คิดว่าจะต้องนำมาพูด ก่อนหน้านี้เขาเห็นนภาสรวงทำอาหารใส่ปิ่นโตมาส่งให้เรย์มอนด์ อดัมส์ ก็นึกอยากจะมีคนมาส่งปิ่นโตเช่นนี้บ้าง ภวัตเองก็พอจะทำอาหารเป็น ถึงจะไม่เก่งกาจเท่าน้องสาวของเขา แต่ถ้ามีสูตรอาหารเปิดกางอยู่ตรงหน้าแล้วทำตาม ก็ไม่น่าจะยากเย็นเสียเท่าไร


   “คุณจันทร์” ภวัตถามย้ำ



   “ผมอยากให้หมอทำให้ผมทาน เอ่อ...เรย์เคยได้ปิ่นโตจากนภา คุณวินิตก็เคยได้จากดารา แล้วผมก็เคยเห็นคุณพิมทำขนมไปฝากพี่อาทิตย์กับเพื่อนๆของเขาที่กรมด้วย ผมก็...อยากได้จากหมอบ้าง...” สมกับเป็นจันทร์จ้าว การพูดจาอย่างตรงไปตรงมาว่าอยากได้อะไร หรือไม่อยากได้อะไรนั้น แสดงนิสัยของเจ้าตัวอย่างถ่องแท้


   หัวอกคนฟังหวามไหวและสั่นสะท้าน การเรียกร้องอย่างเอาแต่ใจนี้ทำให้เขาแทบกลั้นรอยยิ้มไม่อยู่ แต่...เวลานี้เรื่องต้องดุก็ยังมี เขาจะข้ามขั้นตอนไปดีใจก่อนจะดุ ก็เห็นจะทำให้อีกฝ่ายเหลิง



   “ก็เลยแย่งหนังสือคุณเรย์มาดู”


   “แค่ขอยืมมาดูเดี๋ยวเดียว” คนเจ็บแย้ง


   “แล้วคุ้มกันไหมครับ แย่งเขามาดูจนตกบันไดอย่างนี้” คราวนี้คนถูกดุทำหน้าหงิก


   “คุ้มอะไรล่ะ ยังไม่ได้เปิดดูสักนิด แล้วยังถูกดุด้วย”


   “ใครดุ”


   “จะใคร?! ก็หมอไง!”


   “แสดงว่าทั้งคุณพงศ์และคุณเรย์ไม่มีใครดุคุณสักคน”


   “ใครจะทันดุผมล่ะ ผมตกบันไดปุ๊บยังไม่ทันได้ร้องสักแอะ พวกนั้นก็ตาเหลือกจะพาผมส่งโรงพยาบาลนู่นแหน่ะ ดีว่าผมกัดฟันลุกขึ้นเดินไปเดินมาให้ดู ถึงได้ยอมพากลับมาพักที่บ้าน ไม่อย่างนั้นล่ะก็...” ...ไม่อย่างนั้นคงถูกพาส่งโรงพยาบาล แล้วก็คงไม่พาไปที่โรงพยาบาลอื่นหรอก จันทร์จ้าวเชื่อสนิทใจว่าเพื่อนทั้ง ๒ ของเขาจะต้องพาเขาส่งถึงมือหมอภวัตเป็นคนแรก...


   “ถ้าผมเห็นตั้งแต่เมื่อวาน คุณถูกดุมากกว่านี้แน่ครับ”


   “เห็นไหมล่ะ” จันทร์จ้าวพึมพำ ที่คิดเอาไว้น่ะไม่ต่างจากความจริงเลยแม้แต่น้อย ถ้าภวัตเห็นเขามากับรอยแผลทั้งฟกช้ำดำเขียว ทั้งแผลถลอกเลือดซิบ พร้อมด้วยเพื่อนทั้ง ๒ เล่าเรียงเหตุการณ์ต่างๆอย่างตื่นตระหนก เขาคงถูกดุมากกว่านี้


   “แต่อย่างไรวันนี้ก็ต้องถูกผมดุ” ภวัตตั้งท่าขึงขัง เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กอดอก ตามองต่ำลงมาที่คนนั่งบนเตียงอย่างเข้มงวด จันทร์จ้าวเห็นท่าแล้วก็คิดเอาว่าคงไม่รอดแน่ จึงได้แต่จำยอมคอตกให้อีกฝ่ายพูดต่อโดยไม่เถียง



“...คุณน่ะทำแต่เรื่องแผลง แย่งหนังสือคนอื่นอย่างนี้ใช่การกระทำที่สมควรแล้วหรือ แล้วแย่งจนตกบันไดนี่อะไร คุณไม่ใช่เด็กๆแล้วนะครับ ดีแค่ไหนว่าตกแค่ไม่กี่ขั้น แผลถึงได้น้อยอย่างนี้ เกิดตกจากขั้นสูงๆ ไม่แขนหักขาหักหรือไร? อีกอย่าง ที่คุณโกหกผมก็ด้วย ผมทราบว่าคุณไม่ต้องการให้ผมเป็นห่วง แต่ยิ่งคุณไม่พูดความจริง ปิดบังผมเอาไว้ แล้วเกิดว่าเป็นอะไรร้ายแรง รักษาไม่ทันจะทำอย่างไร ไหนว่าเราต่างเป็นเจ้าของกันและกันคนละครึ่งอย่างไรล่ะครับ คุณต้องดูแลตัวเองมากกว่านี้ เพราะครึ่งหนึ่งของชีวิตคุณเป็นของผม ผมไม่อนุญาตให้คุณใช้ชีวิตที่ผมมีส่วนเป็นเจ้าของอย่างมุทะลุอย่างนี้อีกเป็นครั้งที่ ๒ นะครับ รบกวนดูแลให้ดีด้วย” คนฟังได้แต่ก้มหน้าเงียบไม่มีข้อโต้แย้ง


   “ที่ผมพูดมาทั้งหมด เข้าใจไหมครับ” เขาถามย้ำ


   “เข้าใจแล้ว” เวลานี้ขืนพูดว่าไม่เข้าใจ ก็คงได้ถูกดุอีกชุดใหญ่


   “ถ้าเข้าใจแล้วก็ถอดชั้นในออกครับ” คนรับคำว่าเข้าใจถึงกับเงยหน้ามองคนสั่งตาเหลือกโต


   “หมอว่าอย่างไรนะ?!”


“ถอดชั้นในแล้วขึ้นไปนอนคว่ำหน้าบนเตียงครับ ผมจะดูแผลต่อ”


   “ดูแผล?! ดูแผลตรงไหนอีก?!”


   “เมื่อครู่นี้ผมเห็นท่านั่งคุณแปลก เหมือนนั่งลำบาก แสดงว่าตอนที่ตกบันได สะโพกน่าจะกระแทกด้วยใช่ไหมครับ” เพียงเท่านั้นดวงตากลมใหญ่ก็ยิ่งใหญ่กว่าเมื่อครู่


   “หมอหมายความว่า...หมอจะดูแผลที่...”


   “ใช่ครับ ถอดชั้นในเดี๋ยวนี้” ภวัตสั่งเสียงเรียบ จันทร์จ้าวอยากปฏิเสธให้เด็ดขาด แต่อีกฝ่ายจ้องเขาเสียจนหากว่าเขาไม่ทำตาม นายแพทย์หนุ่มก็คงใช้กำลังกระทำการสามหาวต่อเขาอยู่ดี สุดท้ายเลยต้องกลั้นใจลุกขึ้นแล้วปลดชั้นในออก แน่นอนว่าคนยังเข็ดยอกช่วงล่างย่อมไม่สะดวกจะก้มลงถอดอย่างถนัดถนี่ ภวัตจึงต้องก้มลงช่วยอีกครั้ง คราวนี้จันทร์จ้าวอยากจะกลั้นใจให้ตายเสียจริง เพราะถึงแม้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดำเนินไปถึงขั้นไหน แต่การให้อีกฝ่ายมาคุกเข่าถอดชั้นในให้ก็ทำเอาคนเคยมีประสบการณ์มานับครั้งไม่ถ้วนถึงกับหน้าแดงเถือก


ภวัตเหลือบตามองคนที่ยืนตัวแข็งถื่อตรงหน้าเขา กางเกงชั้นในถูกถอดออกจากปลายเท้าทั้ง ๒ ข้างไปแล้ว แต่ดูเหมือนคนเจ็บจะยังมีสติไม่เต็มที่นัก เขาอยากจะหัวเราะให้ดังๆกับท่าทีน่าเอ็นดูของหนุ่มนักเรียนนอกผู้มักจะมีท่วงท่ามากเสน่ห์ แต่เวลาอย่างนี้กลับยืนตัวแข็งหน้าแดงอย่างกับหนุ่มน้อยไม่ประสา


...น่ารัก...น่ารักมาก...


“ขึ้นไปนอนบนเตียงได้แล้วครับ” เขาพยายามทำเสียงเข้ม แต่ก็ต้องเค้นกันพอดู จันทร์จ้าวรู้สึกหน้าร้อนเหมือนถูกฉาบด้วยเหล็กรนไฟ แต่เมื่ออีกฝ่ายลุกขึ้นยืนแล้วกดตัวเขาให้นั่งลงบนเตียง ก็จำต้องยอมทำตาม ร่างขาวพลิกตัวนอนคว่ำหน้าบนเตียง แล้วยอมให้อีกฝ่ายเปิดชายเสื้อคลุมขึ้นเพื่อตรวจตราร่างกายเขาอย่างละเอียดด้วยปลายนิ้วและสายตา ที่มุมปากของนายแพทย์หนุ่มมีรอยยิ้มจางติดอยู่ ยามเขากดปลายนิ้วลงกับเนินเนื้อนิ่มกลมกลึงนั้น ก็ดูเหมือนเจ้าของจะสะดุ้งทุกครั้งไป


ภวัตนึกสนุก เวลานี้คนแผลงตกอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ให้เขาทั้งดูแลและลงโทษไปในคราวเดียวกัน ส่วนจันทร์จ้าวคนเจ็บได้แต่ฝังหน้าตนเองลงกับฟูกด้วยความอับอายเหลือประมาณ กลั้นหายใจอยากให้การรักษาของอีกฝ่ายเสร็จสิ้นโดยไว


ปลายนิ้วนวดคลึงเนินเนื้อของเขาอย่างเชื่องช้า ก่อนที่เสียงทุ้มๆจะดังกระซิบที่ข้างหูของเขา ลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดลงมาโดนผิวแก้มทำเอาคนเจ็บที่ไม่ทราบว่ากำลังถูกรักษาหรือรังแกได้แต่หลับตาปี๋


“จำเอาไว้นะครับ คราวหลังอย่าเล่นแผลงอย่างนี้อีก ถ้าผมทราบว่าคุณได้แผลอีกเมื่อไร เราจะได้เห็นดีกัน!”


เป็นคำขู่ที่ทำเอาคนดื้อขนลุกซู่ไปทั้งสันหลัง เปลือกตาเปิดขึ้นให้ดวงตากลมใหญ่เหลือบมองไปด้านข้าง ดวงหน้าของภวัตยังชิดใกล้เสียจนเขาได้แต่นอนตัวแข็งอยู่อย่างนั้น ริมฝีปากร้อนๆของนายแพทย์หนุ่มประทับหนักๆที่ข้างขมับ


“ถ้ามีครั้งต่อไป บทลงโทษจะไม่ใช่แค่นี้”


“อื้อ!” จันทร์จ้าวครางเสียงสั่นเพราะนิ้วของร่างสูงด้านหลังกดลงบนจุดช้ำยอกของสะโพกเขา ทั้งซ่านเสียวกับการถึงเนื้อถึงตัวและเจ็บปวดเพราะเป็นรอยช้ำไปในคราวเดียวกัน ภวัตเห็นคนเจ็บนอนเกร็งตัวสั่นเป็นลูกนกก็ยอมขยับถอยห่างออกมา ไออุ่นจากเบื้องหลังผละออกไปแล้ว ร่างขาวจึงรีบลุกขึ้นรวบเสื้อคลุมมาปิดมิดชิด หน้าตาเลิ่กลั่ก สิ้นท่าคนเก่งโดยปริยาย


“วันนี้ก็ใส่เสื้อคลุมอย่างเดียวนี่ล่ะครับ จะได้ไม่ต้องลำบากใส่เสื้อใส่กางเกง ผมจะเอาของไปเก็บ แล้วจะกลับขึ้นมาใหม่ คุณอยากได้อะไรไหม จะได้หยิบมาให้” ดวงหน้าขาวสั่นระรัว ไร้สุ่มเสียงใดๆจะตอบโต้ ภวัตไม่พูดกระไร เขาคว้ากะละมังใส่น้ำ ผ้าขนหนูเปียกหมาด และกระเป๋ายาของตนเดินออกจากห้องไป และพอพ้นห้องนอนของคนสิ้นฤทธิ์ ชายหนุ่มก็ถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆด้วยกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป


ดวงตาคมเหลือบกลับไปมองบานประตูห้องนอนที่เขาเพิ่งจากมา รอยยิ้มกว้างอย่างเอ็นดูยังฉาบอยู่บนใบหน้า ดูท่าจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์จะสะกดคำว่า ‘เข็ดขยาด’ ไปได้อีกนานทีเดียว!


จบ

หายไปนาน คิดถึงกันมั้ยยยยยย


ตอนพิเศษนี้เขียนทิ้งเอาไว้พักหนึ่ง ไม่มีเวลาเขียนต่อเพราะยุ่งมากกกก แต่บังเอิญมีน้องนักอ่านมากระซิบบอกว่าฟิคอาคาเมะเก่าๆของบัวถูกก๊อปอีกแล้ว คราวนี้ก๊อปแบบเปลี่ยนคำพูด ตัดฉากบางฉากออก แต่โดยรวมแล้วเหมือนมากกกก (สำนวนบางอันยังเป็นสำนวนของบัวอยู่เลยค่ะ)


โดนก๊อปงานมาหลายที โดนกี่ทีก็เซ็งทุกที แต่...ถ้าถามว่าฮึดมั้ย ขอบอกว่าฮึดมากกกกกก ก็เลยหันไปปั่นตอนพิเศษอันนี้ แล้วเอาลงเน็ตซะเลย วะฮ่าฮ่า คนก๊อปหรือจะสู้คนทำ คนก๊อปเขาต้องรอก๊อปเรา แต่เราคนทำ ทำได้เลยตามที่เราอยากจะทำ เพราะงั้น ตอนพิเศษอันนี้ เขียนจบแล้วก็เลยเอาลงโล้ดดดดด


ส่วนเรื่องรวมเล่ม รอกันหน่อยนะคะ เรื่องนี้บัวอยากทำมากกกกกกก อยากเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก เพราะเรื่องนี้เขียนยาก ใช้พลังเขียนเยอะมากเลย อยากมีเก็บไว้ประดับตู้หนังสือของตัวเอง อิอิ


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและพื้นที่บอร์ดเช่นเคย โดยเฉพาะคนอ่านหลายๆคนที่คอยเป็นกำลังใจ เป็นหูเป็นตาให้ ทุกครั้งที่ถูกก๊อบนิยาย ก็จะได้รับข่าวจากคนอ่านที่แวะเวียนมาบอก ช่วยเก็บหลักฐานบ้าง ช่วยแจ้งทางเวปบ้าง บัวซึ้งใจมากๆ ไม่รู้จะตอบแทนยังไงนอกจากคำขอบคุณ ขอบคุณจริงๆที่ช่วยเหลือบัวขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆที่รักงานของบัวขนาดนี้ ขอบคุณค่ะ


แล้วเจอกันใหม่ ไม่รู้อะไรจะมาก่อนกันระหว่างเรื่องใหม่ ตอนพิเศษ หรือรวมเล่ม ฮา (บอกให้อยากแล้วจากไป)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-04-2016 21:11:25
โอ๊ยย คิดถึงจันทร์จ้าว และคุณหมอ 555
คุณหมอน่าลงโทษให้หนักกว่านี้หน่อย จะได้เลิกดื้อ

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 03-04-2016 21:20:02
คุณหมออออออ  :hao7:
ขอลงโทษหนักๆ ได้เปล่า #หลบรองเท้าคุณจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: basanti ที่ 03-04-2016 21:23:52
จันทร์จ้าวตกบันไดได้น่ารักน่าตีมาก o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 03-04-2016 21:36:08
คุณหมอของบ่าววววว มารักษาบ่าวบ้างเจ้าคะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: zaturday ที่ 03-04-2016 21:41:05
อยากเห็นฉากลงโทษจัง (เกาะขอบเตียงรอ :impress2:)
ตอนนี้จันทร์เจ้าน่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kpHJstdy ที่ 03-04-2016 21:43:04
หมั่นเขี้ยวจันทร์จ้าวววววววววว ซนมากๆๆ ตกบันไดลงมาเจ็บตัวแถมไม่บอกคุณหมออีกกกก
เจอคุณหมอดุให้ ชอบเวลาคุณหมอดุ ฮื้ออออออออออ เวลาคุณหมอดุดูน่ารักไม่รู้ทำไม
คุณจันทร์คนซนคงเลิกซนไปอีกซักพักใหญ่ๆ คงไม่กล้าซนอีกนานนนนนนน น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 03-04-2016 21:45:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-04-2016 21:46:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 03-04-2016 22:10:53
โอ๊ยยย น่ารักมากค่ะ คุณจันทร์คนเก่งสิ้นลายหมดแล้วตอนนี้ 55555  :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-04-2016 23:00:16
อ่านทีไรก็รู้สึกว่าจันทร์จ้าวน่ารัก เหมือนเด็กซนๆคนหนึ่ง
ขอบคุณคุณบัวค่ะ สำหรับตอนพิเศษ

ปล. ถ้าทำรูปเล่มแล้ว ทำฉบับ e-book ด้วยสิคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-04-2016 23:23:55
จันทร์น่ารักอ่ะอยากให้หมอทำปิ่นโตให้บ้าง ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 04-04-2016 03:05:04
เป็นลูกกวาดที่ละมุนใจมากค่ะ...อิ่มเอมสุดก
จะติดตามผลงานแบบปลิงเกาะเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 04-04-2016 04:00:07
ซนจนได้เรื่องนะจันทร์จ้าว

โดนหมอภวัตดุไปตามๆกัน 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-04-2016 04:43:33
สงายคงเข็ดไม่ซุกซนไปอีกนาน 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 04-04-2016 06:40:49
รักเธอนะคุณจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 04-04-2016 06:56:32
โอยยยยยยย  คิดถึงจันทร์จ้าว รอนานมากเลยยย 555555

รวมเล่มเมื่อไหร่บอกนะคะ  คนอ่านก็อยากมีเรื่องนี้ประดับตู้เหมือนกัน อิอิ

โดนดุยกใหญ่เลยพ่อจันทร์ จะว่าน่าสงสาร ก็น่าสงสาร  แต่ก็น่าแกล้งอย่างที่หมอภวัตทำนั่นแล
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิลา ที่ 04-04-2016 07:58:12
น้องจันทร์เหมือนได้พ่อมากกว่าสามีนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 04-04-2016 07:59:39
คุณหมอจันทร์จ้าว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 04-04-2016 09:00:56
เป็นกำลังใจให้คุณบัวค่ะ ให้คุณหมอด้วย คนรักซนเหลือเกิน รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 04-04-2016 09:29:55
คุณจันทร์นี่น่าตีจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 04-04-2016 09:59:50
คิดถึงจันทร์จ้าวเหลือเกินนนนนน รวมเล่มซะทีเถอะน้องบัววววว 
เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 04-04-2016 11:05:59
คุณจันทร์น่ารัก 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 04-04-2016 11:09:35
หนูจันทรรรรรรรร์ โดนเข้าให้แล้วว
ดื้อจริงๆ คุณหมอนี่ร้ายนะคะหัวหน้า หนูจันทร์เข็ดไปยาวๆแน่นอน
รอเรื่องใหม่นะคะคุณบัว ขอให้จัดการคนก๊อปไปได้ไวๆนะคะ
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 04-04-2016 11:53:19
ขอบคุณครับ 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 04-04-2016 13:19:11
อิชั้นยังคงรักในความตรงไปตรงมาของคุณจันทร์เสมอค่ะ
ความอยากได้ปิ่นโตจากคุณหมอ อิอิ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 04-04-2016 13:20:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 04-04-2016 13:56:20
จันทร์เจ้าน่ารักมาก ฮือออออ ยอมแล้ววว คิดถึงเรื่องนี้ที่สุดดด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-04-2016 14:20:46
จะมีบทลงโทษของคนซนตอนหายเจ็บหรือเปล่า  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 04-04-2016 14:47:47
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 04-04-2016 14:47:59
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 04-04-2016 17:15:56
สงสารที่เจ็บ แต่ขำมากกว่าที่ถูกหมอแกล้งให้จำ :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 04-04-2016 17:31:16
สู้ๆจ้าคุณบัว.  อย่าไปสนใจคนก็อป ยังไงของแท้ก็ดีกว่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 04-04-2016 18:06:48
คุณจันทร์ที่ว่าแน่ ยังต้องแพ้ให้คุณหมอ อิอิ

ซนจริงๆนะคุณจันทร์ แต่พอรู้เหตุผลนี่โอ้ยยยย น่ารักกก ><
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 04-04-2016 21:02:15
คุณจันทร์น่ารักกก 55
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 04-04-2016 21:40:46
คุณจันทร์เข็ดรึยังคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 04-04-2016 22:27:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 04-04-2016 23:34:32
โถถถถ คุณจันทร์โดนทั้งขึ้นทั้งร่อง แต่คุณจันทร์นี่นิสัยเด็กจริงๆแหล่ะ5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 05-04-2016 00:10:28
 :pig4:  น่ารัก.....^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-04-2016 00:47:56
จันทร์น่าเอ็นดูมาก
ภวัตก็ร้ายขึ้นทุกที

ชอบตอนที่บอกว่า ไม่อนุญาตให้เอาอีกครึ่งของชีวิตไปทำอะไรแผลง ๆ
รู้สึกได้ถึงความรักลึกซึ้ง สวยงามของภวัต
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 05-04-2016 06:23:33
หมอแกล้งจันทร์
จันทร์หายซ่าไปเลย น่ารักเชียว
คิดถึงจันทร์ับหมอมากเลยยยยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ichnuan ที่ 05-04-2016 14:12:20
อยากได้หนังสือเรื่องนี้มากกกกกกกก
รอเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 06-04-2016 11:11:27
คุณหมอน่าจะรักษาหนักกว่านี้อีกหน่อยนะคะ คุณจันทร์จะได้เข็ดขยาดหนักกว่านี้แน่ๆ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 06-04-2016 12:43:51
แง้ เกือบพลาดตอนพิเศษไปแล้วไหมละ หมอเก่งมากปราบจันทร์จะหายซ่าเลย ฮ่าๆๆ รอรวมเล่มค่ะคุณบัว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 06-04-2016 18:21:36
เปผ้นนิยายที่อ่านสนุกมากๆ เลยค่ะ ภาษาก็ีดี รื่นหู อ่านๆ ไปให้ความรู้สึก อารมณ์ประมาณ สะไภ้จ้าวเลยค่ะ แบบว่าพีเรียด สนุก สบาย ประมาณนั้นน่ะค่ะ

ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องสนุกๆ แบบนี้ให้อ่าน :)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 06-04-2016 19:52:37
ลงโทษเลยย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 06-04-2016 20:31:49
 :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 06-04-2016 20:54:24
หมอโหดจัง นี่ถ้าเราขอตอนพิเศษอีกจะยอมมาแสดงให้มั้ย :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-04-2016 01:47:52
ตั้ลล้ากกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 09-04-2016 07:12:08
อ๊าก!!! คุณจันทร์ คิดถึงเหลือแสน มาอัพให้ฟินเล่นเล่น ชิมิ

มาต่อตอนพิเศษบ่อยๆนะ เราคิดถึงงง อยากได้รวมเล่มแล้วอ่ะ
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 09-04-2016 12:58:18
จับคุณจันทน์กอดอกหวดไม้เรียวเลยคุณหมอ แอร๊ยยยย น่ารักหมั่นเขี้ยวคุณจันทน์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 09-04-2016 20:08:15
น่ารักมากก คุณหมอกับคุณจันทร์
คุณหมอคุมจันทร์ได้100%เลยอะ ดีงามมากก
และจันทร์เจ้ากับจอมขวัญก้นิสัยเหมือนกันมากก
555555555 อ่านแล้วคิดถึงเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 09-04-2016 21:17:12
ตอนพิเศษน่ารักมากค่ะ คุณหมอดุได้น่ารักมาก   จันทร์จ้าวหงอยเลย  ตรวจภายในร่มผ้าแบบละเอียดขนาดนี้ไม่เขินก็หน้าหนาแล้ว พ่อจันทร์เลยเขินไปตามระเบียบ

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 09-04-2016 22:02:22
น่ารัก หลงไหล จันทร์กับหมอ อ่านค่นี้ยังจิกหมนเลย งานดีที่สุด ฟินนนน :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Ciin ที่ 10-04-2016 10:03:24
คิดถึงคุนหมอมากเลยค่า เขียนเก่งจริงๆ
รอตอนพิเศษต่อไปอยุ่นะค้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-04-2016 11:49:02
หนุ่มจันทร์โดนคุณหมอปราบซะเข็ดเลย :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 10-04-2016 15:31:41
จันทร์เอ้ย แพ้ทางคุณหมอจริงๆ
จะรอรวมเล่มค่ะคุณบัว

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 11-04-2016 22:02:36
รอภาค 2 ครับ

ชอบมากกกก บ้านทรงไทยหลังนี้คือบ้านหลังเดียวกับที่จักกฤษอยู่สินะครับ

ฟินน้ำมันมะพร้าวสุด!  :-[

ขอบคุณมากๆครับ ชอบผลงานคุณมากครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 12-04-2016 18:06:37
 :o8: คุณจันทร์หลงกลหมอแล้ว โดนจัดหนักจัดเบาเลยทีเดียว 5555 คุณจันทร์น่ารัก ใครจะทันเล่ห์หมอได้
มาอีกนะคะตอนพิเศษๆๆๆขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: basanti ที่ 13-04-2016 20:56:26
บรรยากาศวันสงกรานต์แบบนี้คิดถึงบ้านเรือนไทย คิดถึงจันทร์จ้าวกับหมอภวัต คิดถึงจอมขวัญกับพี่โตและคิดถึงคุณบัว

สุขสันต์วันสงกรานต์คุณบัว และ FC คุณบัวทุกคนนะ

(http://www.uppic.org/image-16C6_570E4B9E.jpg)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 15-04-2016 12:21:09
คุณหมอน่ารัก ปราบจันทร์จ้าวซะอยู่หมัดเลย
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 12-05-2016 21:53:24
น่ารักจังเลยยยยยยย คุณจันทร์ทะเล้นไม่เปลี่ยน
ต้องให้คุณหมอปราบพยศตลอดๆๆ :laugh:

คนเขียนสู้ๆๆๆน้า :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 13-05-2016 02:05:36
สมน้ำสมเนื้อ
คุณจันทร์ต้องเจอคนแบบนี้ถึงจะทันกัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-05-2016 15:00:27
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 19-05-2016 12:03:54
เป็นเรื่องที่อ่านได้สบาย ๆ อ่านได้เรื่อย ๆ ครับ ติดตรงภาษา และบรรยากาศแบบเก่า ๆ ในเรื่องเล็กน้อย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 20-05-2016 11:02:24
 :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 21-05-2016 02:51:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 21-05-2016 03:47:19
คิดถึงจังเลยค่ะ
จันทร์เจ้าก็ซนจัง ต้องให้คุณหมอดุอยู่เรื่อยเลย 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 21-05-2016 09:30:36
เพิ่งได้อ่าน สนุกมากค่ะ ภาษาสวยอ่านกี่ทีก็ฟินนนน
ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทที่ ๒๔ (จบ) (๒๕ ก.พ. ๕๙/หน้าที่ ๕๔)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 29-05-2016 05:23:58


   “ขอบใจทุกๆคนที่มาที่นี่ ขอบใจ...” ชายสูงวัยผู้นั่งหัวโต๊ะเอ่ยแล้วยิ้มจาง


ถึงแม้พรุ่งนี้ สมาชิกในบ้านเรือนไทยหลังนี้จะลดลงไปอีกหนึ่ง แต่ท่านเชื่อ...บ้านเรือนไทยหลังนี้จะยังคงเป็นที่แวะเวียนให้ทุกๆคนกลับมาพร้อมหน้ากันเสมอ เพราะท่านปลูกเรือนหลังนี้ด้วยความรัก สร้างเรือนหลังนี้ด้วยความหวัง ทั้งรักและหวังให้เรือนรักษพิพัฒน์เป็นสถานที่ของพี่น้อง ให้เป็นสถานที่ของครอบครัว



ที่แห่งนี้...จะเป็นของรักษพิพัฒน์และผู้ปรารถนาดีต่อเชื้อสายรักษพิพัฒน์...ตลอดไป


   จบ



 :mew2: :mew2: :mew2:

อ่านนิยายเรื่องนี้ตอนแรกๆบอกเลยเราเฉยๆมากอ่านสนุกดีแต่ไม่ได้หลงรักตัวละครนั้นเป็นตอนแรกๆที่อ่านนะคับบบ
แต่หลังจากนั้นพออ่านจบพึ่งรู้ตัวว่าหลงรักไปแล้วหลงรักทุกๆตัวละคในนิยายเลย
และที่ชอบที่สุดคือคำพูดพ่อของจันทร์จ้าวตอนจบเรื่องมันละมุนมากจริงๆนะน้ำตาซึมเฉยเลยเพราะมันให้ความรู้สึกทั้งอินกับเนื้อเรื่องและเหมือนเป็นการบอกกับเราที่เป็นคนอ่านว่าถึงเวลาต้องจากกันแล้ว
เราเข้ามาอ่านตอนที่จบแล้วไม่ทราบว่าคนแต่งจะมีโอกาสได้อ่านเม้นนี้ไหมแต่ถ้ามีโอกาสได้อ่านเราขอบคุณมากนะคับในฐานะคนอ่านนิยายคุณน่ารักมาก.......... :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 30-05-2016 10:01:51
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 05-06-2016 12:25:30
ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องสนุกๆ มาให้อ่านกัน สนุกมากเลยค่ะ จันทร์โดนหมอปราบซะเงียบเลย555
ตอนอ่านๆ ก็ลุ้นแทบแย่ค่ะ แต่จบแบบไม่น่าเป็นห่วง ก็ดีใจค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 06-06-2016 17:39:46
เยี่ยมยอด สนุกมาก
หมอปราบจันทร์เจ้าอยู่หมัดเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 06-06-2016 21:50:21
โอ้ยยยย สงสารจันทร์นะะะ หลังๆหมอเจ้าเล่ห์ไปอีกกกก 5555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 28-06-2016 17:19:01
เป็นเรื่องที่ละมุนละไมมาก นาน ๆ จะมีแนวพีเรียดแบบนี้มาให้อ่านสักที ดีงามจริง ๆ

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 19-07-2016 01:20:06
คิดถึงคุณจันทร์กับคุณหมอเลยเข้ามาอ่านอีกรอบ รอภาคต่อ กับรอรวมเล่มอยู่นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 28-07-2016 18:01:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 01-08-2016 09:02:13
น่ารัก ดื้อได้อีก ลุ้นจนเสียน้ำตาเบาเบาเลยอะ
คุณหมอก็ดีงาม คือยอมตามใจตลอดเลยพูดทีก็หล่อชะ
แต่คุณพ่อของคุณจันทร์ เรานับถือใจมาก :กอด1: :กอด1: :L2:
รอบภาคต่อจ้า ☺☺☺
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 02-08-2016 01:30:42
ยิ่งอ่านยิ่งอยากได้หนังสือ รอรวมเล่มอยู่นะคับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 05-09-2016 14:01:38
คิดถึงคุณจันทร์กับคุณหมอมากๆๆๆๆ  :mew2:
เมื่อไหร่จะมีรวมเล่มอ่ะ เรารออยู่
ย้อนมาอ่านหลายรอบมาก อ่านทีไรก็ฟินแถมอุ่มละมุนสุดๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 06-09-2016 11:22:33
อ่านรวดเดียวจบ
สนุกมากค่ะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 20-09-2016 18:25:23
ชอบบบบบบบบบ
อยากให้มีตอนพิเศษ คุณหมอรักจันทร์มาก
ชอบบทพ่อเรื่องนี้มาก ความสุขของลูก คือความสุขของพ่อด้วย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 20-09-2016 22:53:14
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะคิดถึงจันจ้าวกับหมอ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 21-09-2016 20:12:10
สนุกมากกกกกกก
อยากอ่านเพิ่มอีกก
 :hao5: :hao5: :hao5:

ขอบคุณนิยายดีๆแบบนี้นะค้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_psj ที่ 10-11-2016 18:33:04
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Ciin ที่ 13-11-2016 10:07:14
กลับมาอ่านซ้ำรอบที่ 3ค่า สนุกมากจริงๆ ภาษาดีพล้อทสนุกแตกต่างจากเรื่องอื่นๆค่ะ ยังคงรอตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 21-11-2016 08:25:40
คุณจันทร์น่ารักน่าเอ็นดูมากกกกกก
หมอก็ดุได้ใจจริงๆ อย่างนี้ต้องเอา
น้ำมันมะพร้าวจัดการนะคะคุณหมอ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: palm-metto ที่ 24-11-2016 00:12:45
สนุกมากกกก
ละมุนละไม สมกับเป็นพีเรียดลูกกวาดมากเลย
ตอนแรก ไม่เข้าใจ ว่า พวกนางทั้งคู่จะรักกันได้ไง แต่พวกรักกันจริงๆ ก็ดูพร้อมสำหรับทุกบททดสอบ ทุกอุปสรรคจริงๆ
จริงๆ ไม่ชอบแนวพีเรียดเท่าไหร่ คาดว่าจะไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องนี้ ดูเป็นพีเรียดยุคฝหม่ ไงไม่รู้ ดราม่ามีบ้าง แต่ก็ไม่ยาวนาน ไม่ดูเป็นพล็อตตลาด
เราชอบการวางลำดับเรื่อง ความสำคัญของตัวละคร อิงกับยุคสมัยนั้น
สรุปชอบเกือบทุกอย่าง
ที่ไม่ชอบอย่างคือ ทำไมคุณพงศ์ไม่มีคู่อ่ะ สงสารเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 24-11-2016 21:53:07
กลับมาอ่านกี่รอบก็สนุก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: schneesturm_fubuki ที่ 15-12-2016 15:47:33
นิยายเรื่องนี้เป็นอะไรที่ Masterpiece มากค่ะ ทั้งภาษาสวยงาม โครงเรื่องดี มีข้อคิด
หรือแม้กระทั้งฉาก NC ก็ยังถ่ายทอดออกมาได้ดี รู้สึกถึงความรักของตัวละครคุณหมอที่มีต่อจันทร์มากเลย
ปกติเราไม่ค่อยอ่านนิยายแนวย้อนยุคเท่าไหร่ แต่พอมาเจอเรื่องนี้ หยุดไม่ได้เลยค่ะ

ขอบคุณมากๆสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-12-2016 09:03:29
เรื่ิองนี้ตัวละครน่ารักมาก โดยเฉพาะจันทร์จ้าว
หมอภวัตก็นะ ไอดอลด้านฝ่ายรุกเลยนะนั่น

พลาดเรื่องนี้ไปนานมาก
แต่ก็ยังดีที่ได้อ่าน
ขอบคุณคุณบัวนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...คนเจ็บ...) (๓ เม.ย. ๕๙/หน้าที่ ๕๘)
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 19-12-2016 01:38:14
 :mew1:
เชื่อแล้วว่าเป็นแนวพีเรียดแคนดี้ 555 อ่านแล้วยิ้มไปเขินไป
งื้ออ...ทำไมจันทร์เจ้าน่ารักแบบนี้ โดยเฉพาะตอนโดนหมอดุ เอ...หรือแกล้งกันแน่นะ หึๆๆๆ
แล้วก็ใจหายใจคว่ำตลอดตอนดารากับพี่อาทิตย์รู้เรื่อง อยากร้องไห้ไปด้วยเลย
แต่...จริงๆแล้วพระเอกเรื่องนี้ขอยกให้คุณพ่อของจันทร์จ้าวเลยค่ะ ฮือออ...คุณพ่อเป็นฮีโร่ตัวจริง!
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...วันที่๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 25-12-2016 19:40:05
‘ก่อน 31’ เป็นโปรเจ็คตอนพิเศษ 6 ตอน จาก 6 เรื่อง ลงตั้งแต่วันที่ 25-30 ธันวาคม
ตอน 25 ธันวา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48766.msg3542893#msg3542893)
ตอน 26 ธันวา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23959.msg3543860#msg3543860)
ตอน 27 ธันวา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55466.msg3544531#msg3544531)
ตอน 28 ธันวา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13562.msg3545217#msg3545217)
ตอน 29 ธันวา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23959.msg3545880#msg3545880)
ตอน 30 ธันวา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32451.msg3546538#msg3546538)

…………………………..

NOV: ก่อน 31
By: Dezair
……………....
ตอน วันที่ ๒๕ ธันวา (ภวัต-จันทร์จ้าว)


   วันนี้เป็นวันหยุดของภวัต แม้จะไม่มีงาน เขาก็มีนัดกับจันทร์จ้าวในตอนกลางวันด้วยการขับรถไปรับที่สำนักงานแล้วไปหาร้านอาหารรับประทาน ส่วนตอนเย็นก็ถูกจับจองโดยจันทร์จ้าวให้มารับกลับบ้านเช่นเคย แต่แล้วจู่ๆในตอนสาย คนที่โรงพยาบาลก็วิ่งมาบอกเขาว่ามีโทรศัพท์จากสำนักงานค้าหนังสือของสามเกลอ และนั่นทำให้เขาต้องขับรถออกมาโดยด่วน


   ตอนที่รถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มจอดเลียบที่ริมฟุตบาธ คนที่ยืนรออยู่ใต้กันสาดก็วิ่งมาเปิดประตูขึ้นนั่งข้างเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก


   “แย่แล้วหมอ! เกิดเรื่องใหญ่! วันนี้วันที่ ๒๕!”


   “เรื่องใหญ่? เรื่องใหญ่อะไรหรือครับ แล้วเกี่ยวอะไรกับวันที่ ๒๕”


เพราะสีหน้าของคนรัก ภวัตก็พลอยตกใจไปด้วยเช่นกัน


   “ก็วันนี้ Christmas!”


   “อะไรนะครับ?”


   “Christmas…อ่า วันของพวกฝรั่ง...” พอเห็นสีหน้างงงวย จันทร์จ้าวก็เพิ่งจะนึกออกว่าอีกฝ่ายไม่ได้คุ้นเคยกับวัฒนธรรมตะวันตกเช่นเขา แต่ครู่เดียว สีหน้าของภวัตก็คลายลง


   “อ้อ วันคริสต์มาส แล้ว...ที่ว่าแย่...แย่อย่างไรหรือครับ” เจ้าของรถยังนึกไม่ออก ว่าเพราะเหตุใดวันนี้จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตขึ้นมาได้


   “ไม่ใช่แค่แย่ แต่แย่มาก! ผมเพิ่งนึกออกว่าวันนี้เรย์จัดงานเลี้ยงที่บ้าน เป็น Christmas dinner party นี่หมอ! แล้วเราจะเอาอาหารอะไรไปบ้านเรย์ดีล่ะ” เรื่องใหญ่ที่เป็นเหตุให้จันทร์จ้าวต้องโทรศัพท์ตามตัวภวัตมาโดยด่วนก็คือเรื่องงานเลี้ยงที่บ้านนายฝรั่งนั่นเอง และนั่นทำเอาคนที่อุตส่าห์รีบเร่งออกมาจากบ้านพักแพทย์ในเขตโรงพยาบาลรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกอย่างไรชอบกล


   “ที่คุณตามผมมาก็เพราะเรื่องนี้หรือ” เขาตั้งคำถาม ทอดมองเจ้าของดวงตากลมใหญ่ที่ยังคงเจือไปด้วยแววตระหนกด้วยความเอ็นดูเป็นพิเศษ จันทร์จ้าวเป็นคนแสดงอารมณ์ทางสายตาและสีหน้าเสมอ และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกราวกับคนตรงหน้าคือหนังสือเล่มใหญ่ที่ไม่ว่าอย่างไรก็อ่านไม่เคยจบเสียที


   “ก็ใช่น่ะซี่! เราต้องรีบทำเดี๋ยวนี้เลย ไม่อย่างนั้นไม่ทันแน่! ทำอะไรดีล่ะหมอ”


   “ต้องทำด้วยหรือครับ”


   “ไม่ทำได้อย่างไรล่ะ ก็ผมรับปากเรย์ไปแล้วว่าจะยกอาหารอร่อยๆไปร่วมด้วย”


   “เอ? แต่ถ้าไปซื้อหามาทำเอาตอนนี้ก็เห็นจะไม่ทัน ที่บ้านคุณล่ะครับ หากเราลองขอให้คุณนภาช่วย เธออาจจะพอมีอะไรให้เราถือไปงานเลี้ยงบ้าง” ภวัตเสนอหนทาง แต่คนข้างกายสั่นหน้าอย่างรวดเร็ว


“นภาออกมาแล้ว ไปหาดาราที่บ้านคุณวินิต แล้วจะไปช่วยเรย์เตรียมอาหารที่บ้าน ส่วนคุณพงศ์ รายนี้ลอยตัวแต่แรก เพราะประกาศตั้งแต่วันที่เรย์ชวนว่าจะถือไวน์ไปร่วมด้วย เหลือแค่เราสองคน...ที่ไม่รู้ว่าจะถืออะไรไป”


นายแพทย์หนุ่มนิ่งคิดตาม และพอเหลือบมองคนข้างกาย เขาก็เริ่มรู้ตัวเอาในเวลานั้นว่ากลายเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของจันทร์จ้าวเสียแล้ว เพราะดวงตากลมใหญ่จ้องมองเขาเป๋ง


   “หมอเป็นความหวังของผม ถ้าไม่มีอะไรติดมือไป ผมก็ไม่กล้าไปหรอก และถ้าผมไม่ได้ไป...ผมต้องเสียใจมากแน่ๆ”


   ตบท้ายด้วยประโยคอ้อนวอนแกมบังคับด้วยการยกความเสียใจขึ้นมาอ้าง ภวัตหัวเราะเบาๆ อย่างนึกขัน ก่อนจะเสนอหนทางที่ดูเหมือนน่าจะเป็นตัวเลือกเดียวในเวลานี้


   “ลองไปดูที่บ้านผมก่อนแล้วกันครับ น่าจะมีอะไรพอจะติดไม้ติดมือไปงานเลี้ยงได้บ้าง”


   “ผมเชื่อว่าบ้านหมอต้องมี ผมเชื่อ”

…………………….

   บ้านพักแพทย์ในเขตโรงพยาบาลซึ่งอยู่ด้านหลังตึกยังคงเงียบสงบเหมือนเคย แต่เริ่มจะโกลาหลเมื่อมีแขกอย่างจันทร์จ้าวมาเยือน


   ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งยืนกวาดตามองห้องครัวเล็กๆที่อยู่ด้านหลังของตัวบ้าน ห้องครัวโปร่ง สะอาด และสว่างนั้นถูกเขาเปิดรื้อทุกตู้ ทุกชั้นดูจนแทบเกลี้ยง แต่นอกจากอาหารปิ่นโตที่ภวัตฝากท้องไว้กับแม่บ้าน ไข่สด ผักสดไม่กี่อย่าง ก็มีแค่ผลไม้อีกกระจาดใหญ่ ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรติดไม้ติดมือไปร่วมงานเลี้ยงบ้านนายฝรั่งอเมริกันในเย็นนี้ได้เลย


   “อย่างนี้หมดหวัง ผมไม่ได้ไปแน่แล้ว” เจ้าตัวหันมาบ่นหน้าหงิกงอกับเจ้าของบ้าน แต่นายแพทย์หนุ่มกลับยังคงมีรอยยิ้มน้อยๆประดับอยู่


   “ยิ้มอะไรหมอ เห็นผมอดไป หมอมีความสุขหรือ” คนหมดหวังเริ่มพาลพาโล ภวัตจึงเดินเข้ามายืนข้างๆแล้วตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง


   “ถ้าเป็นผลไม้ คุณจะว่าอย่างไรครับ” หัวคิ้วของจันทร์จ้าวที่ขมวดชิดมาตั้งแต่แรกคลายออกอย่างรวดเร็ว


   “ผลไม้?”


   “ครับ ผมได้มาจากคนไข้เมื่อวานนี้ น่าจะสุกพอดี คุณจะว่าอย่างไรหากเรายกไปร่วมงานเลี้ยงบ้านคุณเรย์มอนด์” ข้อเสนอของนายแพทย์หนุ่มเข้าท่าทีเดียว เพราะดวงตากลมโตเบิกกว้างและเต็มไปด้วยรอยระยิบระยับอย่างถูกใจ


   “จะว่าอย่างไรล่ะ?! ก็ต้องว่าเยี่ยมน่ะซี! ถ้าปอกสักหน่อย สลักสักนิด ขี้คร้านเรย์ต้องยิ้มแป้น!”


   “อะไรนะครับ?! สลัก?!” ภวัตย้อนถามอย่างรวดเร็วด้วยรู้สึกไม่ชอบมาพากลในคำพูดของคนรักที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าเขา จันทร์จ้าวพยักหน้ารับเร็วๆ


   “ใช่! สลัก! หมอทำไม่เป็นหรือ” คำถามของบุตรชายสกุลรักษพิพัฒน์นั้นแสดงให้เห็นว่าเติบโตมากับคุณหญิงผกาซึ่งมีความเป็นผู้ดีทุกกระเบียด เจ้าตัวคุ้นชินกับผักผลไม้ที่ถูกแกะสลักเสลาสวยงาม และนี่เป็นอีกครั้งที่ภวัตหัวเราะเบาๆอย่างคาดไม่ถึงกับคำถามนี้ก่อนจะตอบปฏิเสธเสียงอ่อนโยน


   “ทำไม่เป็นหรอกครับ”


   “อะไรกัน หมอก็มีเรื่องที่ทำไม่เป็นด้วยหรือ”


   “เห็นผมเป็นเทวดาหรือไร จะให้ผมทำเป็นทุกอย่าง” นายแพทย์หนุ่มหยอก ก่อนจะยกกระจาดผลไม้ออกมาคัดเอาเฉพาะลูกที่กำลังสุกพอดี หากปอกสักหน่อยแล้วจัดใส่จานแก้วสวยๆ ก็คงจะพออะลุ่มอล่วยได้อยู่หรอก


   จันทร์จ้าวมองมือใหญ่ที่หยิบจับผลไม้ขึ้นมาเลือกอย่างคล่องแคล่ว แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมอย่างจริงใจ


   “ก็เห็นหมอเก่ง” ดวงตาคมของนายแพทย์หนุ่มเหลือบมองคนที่ขยับมายืนข้างกาย นึกเขินอย่างไรชอบกลกับคำชมจากอีกฝ่าย หัวใจของเขาชักจะอ่อนแอกับจันทร์จ้าวมากขึ้นทุกที แค่ถูกชมสั้นๆแต่เพียงเท่านี้ ก็รู้สึกเหมือนจะยิ่งเต้นถี่ราวกับจะทะลุออกมาจากอก


   “คุณเองก็เก่ง”


   “ผมน่ะหรือ? ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย จะว่าผมเก่งได้ยังไร แค่จะถืออะไรไปงานเลี้ยงบ้านเรย์ ยังต้องพึ่งหมอ”


   “ก็...เก่งที่ทำให้ผมมายืนเลือกผลไม้ให้คุณอย่างนี้น่ะซีครับ” ภวัตพูดแล้วหัวเราะ คนข้างกายเลยพลอยหัวเราะไปด้วย เสียงหัวเราะของจันทร์จ้าวนั้นสดใสและเต็มไปด้วยความสุขอย่างที่ทำเอาคนได้ยินอดไม่ได้ที่จะหันไปหยอกล้อพูดคุยอย่างสบายอารมณ์


เสียงพูดคุยดังแว่วมาจากในห้องครัวด้านหลังบ้านพักที่นายแพทย์หนุ่มผู้เป็นเจ้าของ แปลงกายเป็นขาวสวนผลไม้ ทั้งคัด ทั้งเลือก ทั้งปอก หนำซ้ำยังจัดใส่จานอย่างสวย ข้างกายมีจันทร์จ้าวปักหลักให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ทำได้เพียงหยิบผลไม้ที่ถูกเลือกไว้แล้ว ส่งให้ร่างสูงปอก


พักใหญ่ๆ ผลไม้หลากชนิดก็ถูกจัดใส่จานใบใหญ่ ภวัตเป็นคนยกจานผลไม้ออกจากครัวมาวางที่โต๊ะเล็กหน้าชุดเก้าอี้เพื่อเตรียมยกไปร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น มีคนร่างโปร่งเดินตามหลังเข้ามา


“อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลางานเลี้ยง คุณจะกลับไปสำนักงานอีกไหมครับ”


“ไม่ล่ะ ผมชักขี้เกียจแล้ว ขอรอที่นี่จนกว่าจะถึงเวลางานเลี้ยงแล้วกัน” จันทร์จ้าวพูดก่อนจะเดินไปที่เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ตั้งอยู่ไม่ไกล เขาเลือกแผ่นเพลงที่คิดว่าน่าจะเข้ากับบรรยากาศของวันที่ ๒๕ ธันวาคม แล้วจึงเปิดฟัง


ท่วงทำนองหวานดังออกมาจากเครื่อง ทำเอาร่างสูงหัวเราะน้อยๆ นึกเอ็นดูที่อีกฝ่ายช่างเลือกเพลงได้เข้ากับสถานการณ์เสียเหลือเกิน ดวงตากลมใหญ่เหลือบมามองเจ้าของเสียงหัวเราะ แล้วพาลนึกถึงบางอย่างที่เข้ากับวันนี้ที่สุด


“หมอรู้จัก Mistletoe ไหม” คนถูกถามนิ่งไป ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวยาวแล้วครุ่นคิดเพียงเล็กน้อย


“ช่อมิสเซิลโทว์หรือครับ” สมกับที่ถูกชมว่าเก่ง เพราะนอกจากจะเป็นหมอที่รักษาจันทร์จ้าวได้เนืองๆแล้ว ยังฟังภาษาอังกฤษเข้าใจเป็นอันดี และมีความรู้รอบตัวในวัฒนธรรมตะวันตกด้วย


“ใช่ เคยเห็นไหม?”


“ไม่หรอกครับ แต่เคยอ่านจากหนังสือ เห็นว่าเป็นกาฝากชนิดหนึ่ง” คำตอบของภวัตสมกับเป็นนักวิชาการเสียจริง คนถามเดินเข้าทรุดตัวลงนั่งข้างๆในขณะที่ท่วงทำนองเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นเพลงยังดังกังวานอยู่รอบตัว


“แล้ว Mistletoe Kiss ล่ะ รู้จักไหม”


“รู้จักครับ” ดวงตากลมใหญ่ที่แสนระยิบระยับนั้นเบิกโตขึ้นอีกเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าของจะขยับเข้าใกล้ร่างสูงมากขึ้นอีกนิด

“แล้วเคยทำไหม”


“คุณล่ะครับ อยู่อเมริกาตั้งหลายปี เคยไหม” ภวัตไม่ตอบแต่ย้อนถาม รอยยิ้มที่แย้มกว้างจนเห็นลักยิ้มนั้นดูเหมือนจะเจือแววทะเล้นอย่างน่าหมั่นเขี้ยวมากกว่าเดิมเมื่อถูกถามในสิ่งที่น่าจะคาดเดากับคำตอบได้ดี


...คนรุ่มรวยเสน่ห์อย่างจันทร์จ้าวน่ะหรือ จะพลาดเรื่องแบบนี้...


“ไม่เคยก็เห็นจะแปลก แล้วคนที่ยืนใต้ Mistletoe กับผมก็ไม่เคยซ้ำกันสักปีด้วย...อื้อ...” ท้ายประโยคนั้น ร่างถูกรั้งเข้าใกล้ แล้วถูกฉกฉวยเข้าที่ริมฝีปากเบาๆด้วยริมฝีปากของนายแพทย์หนุ่ม แต่ก็เพียงแค่บางเบาและจากไปอย่างรวดเร็วเท่านั้น ยิ่งทำให้หัวใจถวิลหามากกว่านี้อย่างบอกไม่ถูก


“จากนี้ไป ไม่ให้ยืนใต้ช่อมิสเซิลโทว์กับใครแล้วนะครับ” ภวัตพูดเบาๆเหมือนจะขู่ในที แต่ริมฝีปากกลับยิ้มกว้างราวเอ็นดูคนในอ้อมแขน มือของเขาลูบแผ่นหลังของจันทร์จ้าวเบาๆอย่างคุ้นเคย คบหากันมาพักใหญ่ แนบชิดกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่การเคียงใกล้ในวันสบายที่แสนสงบ มีเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังเบาๆให้กันและกันกลับเป็นเวลาที่นายแพทย์หนุ่มชอบที่สุด และดูเหมือนจันทร์จ้าวเองก็ชอบที่จะถูกเขาโอบกอดอย่างนี้เช่นกัน เพราะเจ้าตัวขยับมาเกยอก ตาจ้องเขาอย่างทะเล้น ยินดีอยู่ในอ้อมแขนโดยไม่ขยับหนีไปไหน


“จะไปยืนได้อย่างไร ที่เมืองไทยมี Mistletoe เสียที่ไหนล่ะ”


คนไม่ได้เป็นหมอแต่หัวหมอเกินใครรีบตอบ ร่างสูงเลยหันมาจ้องทำหน้าเคร่งขรึมแต่ดูก็รู้ว่าแค่ทำการแสดงไปอย่างนั้น


“หมายความว่าถ้ามี คุณก็จะไปยืนอย่างนั้นหรือ” คนถามทำเคร่งทั้งสีหน้าและน้ำเสียง แต่สายตากลับแพรวพราวราวกับจะหยอกเย้า ทว่าสำหรับจันทร์จ้าวแล้ว คำถามนี้...กลับไม่อาจตอบอย่างทะเล้นได้อีกแล้ว


...ถ้าหากมีช่อมิสเซิลโทว์อยู่ที่นี่เวลานี้ คนรักสนุกอย่างเขาก็คงกระโจนเข้าไปยืนอยู่ใต้ช่ออย่างรวดเร็วเหมือนทุกๆที แต่...ที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คือคนที่ยืนใต้ช่อมิสเซิลโทว์กับเขาต่างหาก...


...จะไม่ใช่ใครก็ได้อีกแล้ว จะไม่ใช่ใครสักคนที่ไม่ซ้ำหน้าไม่ได้อีกแล้ว...


“ถ้ามี Mistletoe...หมอสัญญากับผมได้ไหม ว่าหมอจะไปยืนกับผม”


สายตาที่ทอดมองภวัตนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ล้นปรี่ไปทั้งอก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชั่วชีวิตนี้จะรู้สึกกับใครสักคนได้มากถึงเพียงนี้ ถึงแม้คนคนนั้นจะเป็นบุรุษเพศเหมือนตนเอง แต่ความรู้สึกลึกล้ำในอกนี้ กลับพอกพูนไม่รู้จักจบสิ้น ยิ่งรู้จัก ยิ่งคบหา ยิ่งใกล้ชิด ก็ยิ่งผูกพันจนไม่อาจแยกจากกันได้อีกแล้ว


ไม่มีเสียงหัวเราะจากภวัต แม้ว่าคำขอของคู่รักของเขาจะฟังดูน่าขันเพียงใดก็ตาม เพราะนายแพทย์หนุ่มรู้ดี หากมีช่อมิสเซิลโทว์ เขาก็อยากจะลองไปยืนอยู่ใต้นั้นดูสักครั้ง และแน่นอน...คนที่เขาจะพาไปยืนด้วยกันก็คือจันทร์จ้าวแต่เพียงผู้เดียว


“ถ้าคุณสัญญาว่า คุณจะไม่ยืนใต้ช่อมิสเซิลโทว์กับใครอีก...” จันทร์จ้าวยิ้มน้อยๆ ขยับเข้าไปใกล้มากกว่าเดิมจนรับรู้ถึงไออุ่นของลมหายใจที่เป่ารดบนริมฝีปากของชายหนุ่มร่างสูง


“...นอกจากหมอแล้ว ผมจะไม่ให้ใครยืนใต้ Mistletoe กับผมอีก...ผมจะไม่จูบกับใครที่ไม่ใช่หมอภวัตคนนี้อีกแล้ว...”


เป็นคำสัญญาที่นุ่มนวลทว่าจริงจังจนหัวใจคนฟังไหวสะท้าน คนถูกยกให้เป็นคนเพียงคนเดียวที่จะได้ครอบครองริมฝีปากของจันทร์จ้าวได้แต่ยิ้มน้อยๆ ความอบอุ่นจากหัวใจไหลวาบไปทั้งสรรพางค์ เขากระชับกอดแน่นขึ้น ดวงตาสองคู่สบกันอีกหน ก่อนที่ใบหน้าจะเคลื่อนเข้าใกล้ แล้วแตะริมฝีปากเข้าหากันอย่างแผ่วเบา


จูบครั้งนี้เป็นไปอย่างเชื่องช้าและอ่อนหวาน ริมฝีปากบดเบียดกันและกันราวกับจะส่งมอบความรักและความปรารถนาดีให้แก่กันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


แม้ที่นี่จะไม่มีช่อมิสเซิลโทว์ แต่จุมพิตของพวกเขา...ก็หวานล้ำเหมือนเดิมเสมอ

จบ

อย่างที่เคยบอก...ว่าจะมีตอนพิเศษมาช่วงสิ้นปี แต่ทีนี้ ก็มีคนรีเควสมาหลากหลาย ตัวบัวเองก็ไม่รู้จะเขียนเรื่องไหนดี ก็เลย...ได้ออกมาเป็น 6 วัน 6 ตอน(อย่างสั้นๆ) ค่ะ

ซึ่งทั้ง 6 ตอนนี้ จะลงตั้งแต่วันที่ 25-30 ให้สมกับชื่อ โปรเจ็คคือ ‘ก่อน 31’ นั่นเองค่ะ ส่วนวันไหนจะเป็นเรื่องไหน อันนี้ต้องติดตามตอนต่อไป

ตอนแรกที่คิดจะเขียนโปรเจ้ค 6 วัน 6 ตอนเนี่ย เหมือนงมเข็มในมหาสมุทรเลยค่ะ ไม่รู้จะเอาเรื่องไหนมาลงวันไหนดี แต่ไหนๆ คุณจันทร์กับคุณหมอเขามาจากยุคเรอเนสซอง เลยให้เขาก่อน กร๊ากกกกกก ซึ่ง มิสเซิลโทล์ คิสกับคุณจันทร์นี่มันก็ช่างเคมีดี๊ดีจริงๆ

เจอกันพรุ่งนี้ กับตอนพิเศษตอนต่อไป ’26 ธันวา’

ส่วนวันนี้ เมอรร์รี่ คริสต์มาส & แฮปปี้ มิสเซิลโทล์ คิส เดย์ นะคะ

ป.ล. ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ ทุกกำลังใจ และทุกความคิดถึงที่ยังมีให้คุณจันทร์และคุณหมอนะคะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 25-12-2016 20:07:19
เย้ๆ
หวานกันเหลือเกินนนนนะคะคุณหมออ

ขอบคุณพี่บัวนะคะ เมอรี่คริสมาสต์ค่าาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 25-12-2016 20:09:37
โอ้ย ละมุนมาก
หวานล้ำ ชอบค่ะ
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-12-2016 20:11:33
อิจฉาคุณจันทร์ ชีวิตดี๊ดี มีคุณหมอ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 25-12-2016 20:22:14
 :o8: :o8: :o8:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: sosobo21 ที่ 25-12-2016 20:45:42
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

น่าร้ากกกกก

เก่งทั้งคู่นั่นแหล่ะค่ะ 555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 25-12-2016 21:06:42
เห็นบรรยากาศแล้วพาให้คิดว่า หมอกับจันทร์จ้าวต้องทำอะไรสักอย่างจนไปงานของคุณเรย์ไม่ทัน 55555555555555 นี่ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆนะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 25-12-2016 21:37:21
ดีงามมาก ๆ เค้าหวานกันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Rose_Apple ที่ 25-12-2016 22:29:42
ชอบช่อมิสเซิลโทว์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 25-12-2016 22:31:05
นุ่มนวลหวานกันมากค่ะ
รอของวันที่26 ต่อไป ^^

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 25-12-2016 22:40:04
ชอบมากเลยค่ะ หวานมากเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-12-2016 22:43:10
คิดถึง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 25-12-2016 23:36:32
โอ๊ยยยย หวานมากกกกก  :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 25-12-2016 23:51:23
หวานนนนนมากกกกก
คิดถึงคุณจันทร์กับหมอภวัตมากค่ะ
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-12-2016 00:41:24
เป็นโปรเจคที่ดีเลิศสุด ๆ ไปเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 26-12-2016 00:53:03
วันนี้กลับไปอ่านจอมขวัญเล่ม 2 พอดี  เมื่อก่อนเคยคิดว่าของขวัญนี่มันจันทร์จ้าวกลับชาติมาเกิดชัดๆ  แต่พออ่านใกล้ๆกันแบบนี้ถึงเพิ่งรู้สึกว่าเห้ยคาเเร็คเตอร์ก็ต่างกันอยู่นี่นา   มีเสน่ห์ไปคนละเเบบ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 26-12-2016 01:38:11
คิดถึงงง
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ
ละมุนอีกแล้วว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: megatef4 ที่ 26-12-2016 02:15:27
มาสั้นๆ แต่ซึ้งมากๆเลยค่ะ งื้ออ รักคู่นี้ 
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษน้าาา   :L2:
Merry Christmas ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 26-12-2016 07:27:40
หวานๆๆๆๆๆ หวานมากกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 26-12-2016 09:12:19
หวานมากเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 26-12-2016 12:01:29
 :-[ หวาน ละมุน ละลายเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 26-12-2016 18:04:18
หมอออออออออออออ
คือจันทร์เจ้าช่างน่าอิจฉา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 26-12-2016 18:20:36
หวานไปอีกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 26-12-2016 19:26:43
คุณหมอของจันทร์เก่งทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 26-12-2016 19:49:59
คุณจันทร์น่ารัก  :m3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 26-12-2016 20:59:15
งุงิๆ หวานกันจังเลยน๊าาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-12-2016 21:14:37
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 26-12-2016 22:07:17
น่ารักจังค่ะ จะตามอ่านให้ครบ 6 วันเลย  :3123:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 26-12-2016 23:13:12
อิจฉา หวานกันละเกิน อบอุ่นอบอวลด้วยความรักแบบสุดๆ
อ่านไปยิ้มไป
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: mintyfinnnnn ที่ 26-12-2016 23:34:03
 :mew1: :hao3:   ชอบมากกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 27-12-2016 00:29:37
หวานนน เปิดมาเจอเฉย ดีใจมากที่มีโปรเจคแบบนี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 27-12-2016 09:27:29
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 27-12-2016 10:07:37
ให้ไปเจอมิสเซิลโทว์ที่บ้านเรย์เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-12-2016 19:56:55
คุณบัวน่ารักจังเลยค่ะ มีตอนพิเศษส่งท้ายปีด้วย อิอิ

ว่าแต่คุณหมอคะ จะสปอยคุณจันทร์ไปไหน
แค่นี้คุณจันทร์ก็ไปไหนไม่รอแล้ว 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 27-12-2016 21:27:28
จูจุ๊บกันเพลินจนลืมเอาผลไม้ไปงานคริสมาสต์หรือเปล่าน้าาา :laugh:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-12-2016 22:43:34
หวานกันจริงคู่นี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 28-12-2016 08:42:18
น่ารักหวานละมุนละไม คิดถึงคุณจันทร์ กับ คุณหมอมากกกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 28-12-2016 12:36:00
อิจฉาทั้งคู่เลยจริงๆนะอะไรจะหวานแหวน้ำตาลเชื่อมขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 28-12-2016 15:08:44
อ่านจบแล้ววว ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันครับ
รู้สึกอ่านไปก็รู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครไป อ่านจนไม่อยากให้จบ
ชอบการบรรยาย ฉาก บท เรื่องราว มิติของตัวละคร

สุดท้ายนี้ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 28-12-2016 21:02:43
อ่ากี่ทีก็ชอบ ภาษาเนื้อเรื่องมันดีงามทุกอย่างจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 28-12-2016 21:07:50
ดีงามมมมค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 28-12-2016 21:56:29
เพิ่งรู้ว่าสมัยนั้นฝรั่งที่่อยู่ไทยสมัยนั้นมีจัดคริสมาสต์ปาร์ตี้ด้วย ส่วนจันทร์นี่ก็น้าาขยันสรรหาโน่นนี่มาให้หมอทำซะจริง ดูสิเป็นหมออยู่ดีๆมากลายเป็นคนสวนซะงั้น ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Ciin ที่ 28-12-2016 22:43:38
คิดถึงคู่นี้มากกกกค่ะ ขอตอนยาวๆอีกได้มั้ยน้าา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 29-12-2016 00:23:04
มันดี ฮือออออ คิดถึงงงงง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: ploetkrai ที่ 29-12-2016 20:33:13
ไม่ได้เข้าเล้านานมาก เข้ามาเห็นชื่อคนเขียนคุ้นๆ ก็กดเข้ามาเลย
อ่านรวดเร็วจบเลยค่ะ ดีงามมมมมม เป็นพีเรียดที่ดีงามมากกกก มีดราม่าพอให้กรุบกริบไม่หนักหน่วงอะไร
ฮืออออออ ชอบคุณจันทร์จ้าวมากเลยค่ะะ น่ารักน่าหยิก น่าจับฟัดมากค่ะ
ส่วนตัวชอบเด็กโดนสปอย มันน่าปราบพยศมากค่ะ คุณหมอก็ดี อบอุ่นนน
แต่ที่ชอบที่สุดคือคุณพงศ์ คุณพงศ์จะมีโอกาสมีคู่กับเขาบ้างไหมคะ???​
อ่านตอนแรกรู้สึกคุ้นกับคาแรกเตอร์ของคุณจันทร์จ้าว คล้ายถ้วยฟูจริงๆ ค่ะ ชวนให้อยากกลับไปอ่านถ้วยฟูอีกรอบ
เราชอบฉากที่จันทร์จ้าวรู้สึกผิดที่ไม่ได้ชวนหมอมาเล่นเทนนิสมากเลยค่ะ อ่านแล้วใจสั่น (?)
ชอบเวลาเด็กสปอยรู้สึกผิด 55555555555555555555555 โรคจิต
อ่านตอนเขาเล่นเทนนิสกันก็คิดว่าถ้ารักกันแล้วโกรธกันหมอต้องเป็นเป้านิ่งให้จันทร์หวดลูกเทนนิสใส่แน่ๆ
แล้วก็เป็นจริงๆ ซะด้วยตอนที่จันทร์โกรธมากๆ ฮือ สงสารหมอ แต่พอคบกันจริงๆ ทำไมจันทร์ดูหงอขนาดนั้น
ไม่ได้เอาแต่ใจอะไรเลย ดื้ออีกลูกก ชอบให้จันทร์โดนดุ 55555555

ถึงจะรู้สึกว่ายังจบไม่สมบูรณ์แต่ก็ถือเป็นตอนจบที่น่าประทับใจนะคะ
ไม่มีเหตุการณ์หนองเลือด ชอบที่มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของพี่น้อง ของคนในครอบครัว
ฉากจบประทับใจมากๆ เลยค่ะ ชอบคุณพ่อจันทร์ด้วย อิอิ

ขอบคุณคุณบัวมากๆ นะคะที่แต่งเรื่องนี้ จะติดตามผลงานของคุณบัวต่อไปนะคะ

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 30-12-2016 22:56:33
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 31-12-2016 18:23:54
หวานมากเลย เขินเบาๆ อ้ายยย
ดีใจได้อ่านคู่นี้อีกครั้ง
หมอกับจันทร์อยู่ด้วยกันไปตลอดเลยน่าา
Happy new year 2017 ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 01-01-2017 11:27:30
มั่นไส้คนมีความรัก ^^

หวานออกสื่อบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 01-01-2017 12:34:18
เรื่องน่ารักมากค่ะ แนวนี้หาอ่านยากได้อีก

นิยายของคุณบัวคุณภาพเยี่ยมทุกเรื่องจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-01-2017 14:15:18
หมอคะ งานเลี้ยงมีเย็นๆเนาะ ไม่ต้องรีบเนาะ

เค้าสวีทกันมาก หมอเอาใจมาก
จันทร์จ้าวก็อ้อนไปเหอะ ยังไงหมอก็ยอม

คืออินมากค่ะ อ่านแล้วอบอุ่น
ขอบคุณคุณบัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 04-01-2017 23:47:24
เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้ของคุณบัว น่ารักมากกก อ่านตอนแรกๆนี่เนาลุ้นคู่ พี่อาทิตย์กับคุณพิม หนักกว่าหมอกับจันทร์จ้าวอีกนะเนี้ย 5555 อ่านไปก็ตงิดๆ มีความรู้สึกว่าจันทร์จ้าวนี่มีความคล้าย จอมขวัญ จริงๆ แล้วก็จริงๆซะด้วยยย นามสกุลวิมลกิตติ ก็มา  :laugh: แต่จันทร์จ้าวมีความพูดจาตรงไปตรงมามากกว่าจอมขวัญเยอะ หมอภวัตก็ตัวลอยไป หุหุ จอมขวัญจะพูดอะไรให้พี่โตชื่นใจนี่ คนอ่านก็จิกหมอนไปลุ้นไป น่ารักจริงๆ 55  :-[ 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 09-01-2017 15:53:05
คิดถึงคุณหมอ กับ คุณจันทร์มาก!!!!! คือแบบ แทบตกใจ เข้ามาเจอ"จันทร์จ้าว"อัพ น้ำตาจิไหล

ละมุนมาก! คิดถึงแบบที่สุด! มาอัพอีกบ่อยน้า เรารออยู่ ^^ :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 19-01-2017 19:45:16
ทำหนังสือเถอะ..........pleaseeeeeeeer :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: MoonSunSky ที่ 27-01-2017 22:31:31
 :sad4: :sad4: :sad4:รออ่านอยู่คร่ะ   
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 06-02-2017 10:40:57
แหมมมม
ช่อมิสเซิลโทว์ไม่เห็นจำเป็นเลยนี่คะ
ไม่ต้องมีก็จูบกันด้ายยยยย
หวานเสียด้วย
 :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 13-02-2017 13:31:16
 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 22-03-2017 23:45:04
หวานมากค่ะ ชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณเรื่องสนุกๆนะคะ ชอบความหวานของภาษา และคุณหมอกับจันทร์ สมกับพีเรียดลูกกวาด แต่งแนวนี้อีกนะคะ ภาษาดี ละมุนมากเลยค่ะ  :mew1:  o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 30-03-2017 10:36:08
ผ่านมาตั้งนาน เพิ่งเห็น 25 ธ.ค.
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Haruya ที่ 15-05-2017 15:32:19
 ทำไมเพิ่งเจอเนี่ย
ชอบจังเลยค่ะ
แนวสมัยก่อน แนวผู้ดีหน่อยๆ 555+
ภาษาละมุน
เนื้อเรื่งก็ละมุนเหลือเกิน ไม่ดราม่าเกินไป ให้เศร้า่ใจ
ขอบคุณมากนะคะ ที่แต่งนิยายดีๆอย่างนี้
ถ้าไม่ได้คุณหมอภวัต ใครหนอจะเอาจันทร์จ้าวอยู่
ีรอซื้อ ebook นะคะ  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 20-05-2017 09:36:29
งื้ออออออชอบแนวพีเรียดแบบนี้มากๆเลยค่า  :L1:
ลุ้นแทบแย่กว่าจะลงเอยกัน แรกๆจันทร์จ้าวพยศใช่เล่น แต่ก็ไม่เกินความสามารถของคุณหมอคนเก่ง งุ้ยยยย ยอมเลยค่าาา
แหมๆๆมีความซื้อเรือนหอไว้รอนะคะคุณหมอ แถมพาไปไม่ถามความสมัครใจซักคำ วางแผนมาอย่างดีแน่นอน มีหาข้อมงข้อมูลมาด้วย :hao7: :-[ :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 22-05-2017 06:41:14
 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: rakkie ที่ 22-05-2017 16:29:10
สนุกมากก เพิ่งอ่านนิยายย้อนยุค เหมือนเปิดโลกใหม่ๆ แต่รู้สึกอิ่มเอมใจมากก  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 27-05-2017 20:03:34
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: b02290 ที่ 29-05-2017 22:22:27
 :pig4: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 08-06-2017 19:46:17
เป็นเรื่องที่สนุกมากกกกกค่ะ
รู้สึกร้องไห้แรงมาก ตอนทุกคนเปิดใจ
แล้วเขินจนฟิน แบบปิดหน้าปิดตา  :mew3:
โอ้ยยยย คือมันดีมาก ภาษาก็ดี
คาแรกเตอร์ก็ดี ดีงามไปหมดดดด  :ling1:
ขอบคุณคนแต่งมากนะคะที่แต่งให้
คือไม่เจอเรื่องสนุกๆ ถูกใจจนต้องอ่านแบบไม่หลับไม่นอน มานานแล้วค่ะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 23-07-2017 07:22:32
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากๆ เลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 02-08-2017 09:18:46
 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 13-08-2017 10:52:48
สวัสดีค่ะตามมาอ่านถัดจากเรื่องจอมร้ายค่ะต้องขอชมคุณที่ยังใช้ภาษาในการเขียนได้อย่างสวยงามและลื่นไหลปกติไม่ค่อยได้อ่านแนวพีเรียดของไทยสักเท่าไหร่เพราะติดจะดราม่ากันซะเยอะเกินไปเป็นคนไม่ชอบอ่านอะไรที่เรื่องราวเศร้าหดหู่หรือชีวิตตัวละครมีแต่อุปสรรคแล้วก็ต้องสู้กันต่อไปแต่เพราะว่าเป็นคุณที่บอกว่าจะเป็นพีเรียดแนวลูกกวาดเลยตั้งใจอ่านแล้วก็กลายเป็นว่าติดใจขนอ่านทีเดียววันเดียวจบซะอย่างั้นชอบบุคคลิกของตัวเอกของคุณที่ดูสมเป็นผู้ชายจริงๆโดยส่วนตัวแล้วชอบนายเอกแบบแมนๆมากก็เลยค่อนข้างจะถูกใจกับคุณจันทร์เขียนให้เธอมีเสน่ห์ได้ดีค่ะโดยรวมแล้วก็ชอบทุกตัวละครของคุณอ่านไปเรื่อยๆแล้วนึกภาพตามไปได้ไม่อยากเลยขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้มากๆเลยนะคะจะติดตามผลงานเรื่องต่อไปแน่นอนค่ะรักคนเขียนมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 14-08-2017 17:40:16
เห็นเรื่องนี้อยู่นานเพิ่งได้ฤกษ์ตามอ่าน ปกติไม่ค่อยชอบอ่านพีเรียดเท่าไหร่
แต่เรื่องนี้บอกเลยว่าว่างไม่ลง นั่งอ่านรวดเดียวมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
ต้องยอมให้กับความน่ารักของจันทร์และคุณหมอ
น้ำตาไหลเป็นสายตอนโดนกันจากพี่อาทิตย์ มันไม่ได้มีแค่จันทร์กับคุณหมอที่เศร้า
ทุกคนก็ไม่มีความสุขรวมถึงตัวอาทิตย์เอง ชอบการบรรยายมากๆ
มันทำให้เห็นถึงความรักระหว่างพี่น้องของบ้านนี้ และไม่คิดว่าพ่อของจันทร์จะทราบเรื่อง
ยอมทิ้งความสุขของตัวเอง เพื่อความสุขของคนที่เรารัก บอกตรงๆคุณพ่อกลายเป็นพระเอกไปเลยค่ะ

อิจฉาจันทร์เหมือนกันที่มีทั้งพ่อแม่พี่น้องที่ดี มีเพื่อนดี มีคนรักดีอีกต่างหาก
อยากอ่านเรื่องนี้ไปอีกยาวๆ ไม่อยากให้จบเลยยยยยย
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ
 :กอด1: :mew1: :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 19-08-2017 14:31:04
น่ารักมากเลยค่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 06-09-2017 19:46:28
ชอบความย้อนยุค ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นะจันทร์จ้าว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 06-09-2017 20:57:18
มีความคิดถึงคุณจันอย่างแรง เดินผ่านชั้นหนังสือ คือแบบ ตั้งแต่เมื่อไหร่!!
มีรวมเล่มมม น้ำจาจิไหล รู้ตัวอีกทีคือ จ่ายเงินไปแล้ว อิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 07-09-2017 00:47:27
      น่ารักจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 09-09-2017 21:12:03
จันทร์จ้าวดื้อได้น่ารักมาก คุณหมอก็เก่งมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 20-10-2017 12:39:18
สนุกมาก ๆ ครับ จันทร์ดื้อได้น่ารักมาก ๆ หมอภวัตก็อบอุ่นแบบผู้ใหญ่ น่ารักมาก ๆ ครับ



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 21-10-2017 09:39:35
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: nongyingying ที่ 25-10-2017 18:15:53
สนุกมากๆเลย o13 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Emmaline ที่ 05-11-2017 00:38:11
ชอบเรื่องนี้มาก มันดีต่อใจ
...ฉากน้ำมันมะพร้าว :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 07-12-2017 10:21:06
คุณจันทร์ช่างกร๊าววว ใจ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Nayagirl86 ที่ 15-12-2017 23:36:45
ชอบค่ะ เพิ่งเคยอ่านแนวนนี้ ติดเลย งอมแงม
คนอย่างจันทร์จ้าวก็ต้องคุณหมอนี่แหละปราบถึงจะสิ้นฤทธิ์  o13
อยากได้หนังสือจังเลย :mew4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: italy18 ที่ 13-01-2018 09:16:55
          เป็นเรื่องที่รี ๆ รอ ๆ ตั้งท่าจะอ่านก้อหลายเที่ยว...เพราะนิยายวายแนวพีเรียดเนี่ยะเป็นอะไรที่โหยหามานาน...อยากรู้ว่าเวลาสายวายสมัยก่อนเขาเต๊าะกันมันจะออกมาในรูปแบบไหน...แต่เพราะมีนิยายที่อยู่ในคิวที่เราจะอ่านยาวเป็นหางว่าวก้อเลยปล่อยผ่านเรื่อง "จันทร์จ้าว" ไปก่อน...
          แต่เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความดีงามพระราม 8 ของนิยายเรื่องนี้ดังมาเข้าหูและผ่านตาที่เป็นอักษรกับการรีวิวนิยายวายในทวิตเตอร์ก้อเลยตัดสินใจเลื่อนคิวของเรื่องนี้ขึ้นมาอยู่หัวลิสต์รายการ...ยอมรับเลยว่าพอได้อ่านเเล้ววางกันไม่ลงเลยที่เดียว...ละุมนละไมมากกับบทพูดบทบรรยาย...นี่อ่านในเล้าจบแล้ว...เหลืออย่างเดียวคือ...ต้องไปเปย์หนังสือมาไว้ในครอบครอง... :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: zatannn ที่ 22-01-2018 10:55:49
อ๊ายยยยยย กริ๊ดดด คุณพงศ์นี้สุดยอดกามเทพ  ทั้งคู่พี่คู่น้องเสร็จเธอหมด อยากรู้จักขอเบอร์ได้ไหมค่ะ 55
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: jomyingg ที่ 07-02-2018 21:47:42
อ่านจบแล้วค่ะ ชอบมากๆๆๆๆ  :-[ :-[
อย่างแรกที่ชอบเลยคือภาษาค่ะ รู้สึกพอดี ไม่แปลก เข้ากับยุคสมัยดีด้วย แล้วก็ชอบบรรยากาศในเรื่องมากๆ รู้สึกร่มรื่น อบอุ่นดีค่ะ5555
ชื่อของทุกๆคนในเรื่องก็ชอบ โดยเฉพาะชื่อจันทร์จ้าว ความหมายก็ดีด้วย แล้วก็แพ้ความอ่อนโยนของคุณหมอมากๆ สามารถหาแบบนี้ได้ที่ไหนคะะ อ่านเรื่องนี้แล้วอบอุ่นหัวใจดีมากเลยค่ะ มีความสุขมากกก แล้วก็ชอบการเป็นเจ้าของชีวิตร่วมมากเลยค่ะ ทำไมน่ารักขนาดนี้ อ่านแล้วเขินม๊ากกก
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้ได้อ่านนะคะ  :กอด1:
ป.ล. จะตามไปอ่านนิยายของคุณนักเขียนทุกๆเรื่องแน่นอนค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 01-05-2018 12:33:02
เคยอ่านรอบนึงนานมาแล้ว แต่ตอนนั้นอ่านไม่จบ
มาคราวนี้ตั้งใจอ่านทุกตัวอักษรเลย รู้สึกเต็มอิ่มมาก
เรื่องนี้ไม่ได้เน้นเฉพาะความรักของพระเอกนายเอก แต่มีหลายคู่ให้ลุ้น มีอุปสรรคให้ตื่นเต้น
ด่านที่ว่าน่าจะยากคือพ่อนายเอกที่เป็นตำรวจ แต่พลิกล็อกที่ไม่ได้ยากอะไรและซึ้งใจในคำสอนด้วย ชอบบบบ
ขอบคุณนักเขียนนะคะ นิยายสนุกมาก ภาษาดี คำผิดน้อยมากจนแทบไม่มี

 :pig4: :กอด1: :L1: o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: ชายกุมภ์ ที่ 29-05-2018 11:18:32
ตอนแรกสองจิตสองใจจะอ่านเรื่องนี้นะครับ เพราะเปิดมาเป็นพีเรียด เลยเดาว่าต้องดราม่าระทมทุกข์ เดินเรื่องอืดๆแน่นอน แต่ผิดคาดเลย ดำเนินเรื่องกระชับ ภาษาสวย ดราม่าก็มีเหตุมีผลพอเหมาะพอเจาะดีจัง เหมือนคุณบัวตั้งใจเขียนมาตั้งแต่วางโครงเรื่องแล้ว

ที่ชอบที่สุดคือคาแรกเตอร์ 'ชายรักชาย' ที่คุณบัวเขียนครับ สังเกตมาจากเรื่องก่อนๆด้วย คุณบัวให้เกียรติตัวละครมาก ไ่ม่เคยเขียนให้นายเอกกลายเป็นสาวน้อยแสนหวานเหมือนนักเขียนหลายท่าน มันทำให้เห็นว่าคุณเขียนด้วยความใส่ใจและเข้าใจจริงๆ

มีความสุขที่ได้อ่านอะไรแบบนี้ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 03-06-2018 13:33:40
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ
ใช้ภาษาได้ดี
บรรยายได้ดี เห็นภาพตามเลยค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 07-06-2018 00:53:40
คิดถึง :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...(บทพิเศษ...๒๕ ธันวา...) (๒๕ ธ.ค. ๕๙/หน้าที่ ๖๑)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 13-06-2018 10:09:11
เพราะคิดถึงคุณจันทร์ เลยต้องกลับมาอ่านอีกรอบ ยังไงเรื่องนี้ก็ยังเป็นที่หนึ่งในใจเราเสมอ^^
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 30-08-2018 19:26:22
จันทร์จ้าว
BY: Dezair
…………………………
บทพิเศษ คนก่อเรื่อง


บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ที่เคยครึกครื้นด้วยบุตรธิดาทั้ง ๔ ของท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกา บัดนี้ เหลือเพียงเจ้าของเรือนผู้อาวุโสและนภาสรวง เพราะทั้งอาทิตย์และดารารัษมีต่างแต่งงานย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ส่วนจันทร์จ้าวนั้นรักสบาย ยังอาศัยที่บ้านเช่าสีเขียวอ่อนใกล้วังฉัตร แต่กระนั้นเจ้าตัวก็มักจะพา ‘เพื่อน’ แวะเวียนมาที่นี่เสมอ ที่เห็นเป็นประจำก็คือหมอภวัตนั่นเอง



                คุณหญิงผกามองดวงหน้าของนายแพทย์หนุ่มอย่างชื่นชม นายแพทย์ภวัตเป็นชายหนุ่มที่สุภาพ กิริยาเรียบร้อยและเป็นมิตร ไม่น่าแปลกใจที่แม้คราแรก จันทร์จ้าวจะไม่ถูกชะตาด้วย แสดงอิทธิฤทธิ์ร้ายกาจหลายหน แต่สุดท้าย กลับสนิทสนมกลมเกลียวกันยิ่งกว่าใคร



                “คนไข้คนหนึ่งที่ผมรักษาจนหายดีนำมากำนัล นี่ก็ปันส่วนให้คุณๆพยาบาลทั้งหลายไปแล้ว คุณสมฤดีก็เลยแนะนำให้นำมาที่นี่ เห็นว่าคุณนภาเธอทราบวิธีจัดการกับพวกผลไม้ให้เก็บไว้รับประทานได้นานๆ”



                “ขอบใจคุณหมอมาก ถ้าหากแม่นภาทำเสร็จแล้ว จะให้คนนำไปฝาก แกทำพวกของเชื่อมของแช่อิ่มอร่อยอย่าบอกใครเชียวล่ะ นายฝรั่งไม่เคยทาน พอได้ลองทานฝีมือแกเข้าเป็นติดใจขอติดไม้ติดมือกลับบ้านเป็นกระติกๆเชียว”



นายแพทย์หนุ่มยิ้มจางรับ แต่ไม่ตอบกระไร เขาเหลือบตามองไปรอบเรือนหมายจะหาใครบางคนที่อยากพบ คุณหญิงผกาเห็นสายตานั้นเข้าพอดีก็คิดเอาว่าคนที่ภวัตอยากเจอคือธิดาคนโตของหล่อนที่อยู่ในบทสนทนาเมื่อครู่นี้



                “แม่นภาไม่อยู่หรอก แกไปตลาดเมื่อสักครู่นี่เอง แต่ประเดี๋ยวเดียวก็กลับ วันนี้เห็นว่าจะทำแกงขี้เหล็กเนื้อย่าง พ่อจันทร์น่ะ จู่ๆนึกอะไรไม่ทราบอยากจะทานขึ้นมา แม่นภาเลยลำบากต้องตามใจปากพี่ชาย ถ้าอย่างไร คุณหมออยู่รับประทานด้วยกัน จะได้ชิมฝีมือแม่นภาสักหน่อย นี่ดิฉันก็ไม่เคยทานแกงขี้เหล็กฝีมือแกเหมือนกัน แต่คงจะอร่อยใช้ได้ อย่างที่บอก แกเก่งเรื่องกับข้าวกับปลาจะตายไป”



ท่านนายพลเหลือบตามองภรรยา ดวงหน้าแช่มชื่นของคุณหญิงนั้น ท่านดูออกทีเดียวว่าคิดจะจับคู่ให้แก่นภาสรวง



                “พ่อจันทร์อยู่ที่ซุ้มหลังเรือนแหน่ะ คุณหมอไปคุยกับพ่อจันทร์เถอะ เจ้าบุญเอ๊ย! พาคุณหมอไปพบคุณจันทร์หน่อย” นายพลเดชตัดบท เด็กชายผู้เป็นหลานของตาพ่วงคลานอย่างสงบเสงี่ยมเข้ามาใกล้ ก่อนจะพาร่างสูงลงจากเรือนไป คุณหญิงผกามองจนลับตาแล้วจึงหันมาพูดกับสามีด้วยความหวังล้นปรี่



   “คุณหมอเธอสนใจเรื่องของแม่นภาอยู่เหมือนกันนะคะคุณพี่ สงสัยงานนี้จะได้เขยเป็นหมอ! ว้าย! คุณพี่! เป็นอะไรไปคะ?!!” ท่านนายพลไอโคลกตาเหลือก เพราะเผลอกลืนขนมเม็ดขนุนลงคอโดยไม่ทันเคี้ยว ก็จะเพราะอะไรเสียอีก ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดเมื่อครู่ของภรรยา



   ‘สงสัยงานนี้จะได้เขยเป็นหมอ’



   ชายวัยปลายผู้รับรู้เรื่องราวเป็นอันดี เหลือบมองภรรยาที่เจ้ากี้เจ้าการเรียกเด็กรับใช้มาช่วยทุบหลังทุบไหล่สามีผู้กำลังมีอาหารติดคอ



   ...คุณหญิงช่างไม่รู้อะไรเสียเลย บ้านรักษพิพัฒน์มีเขยเป็นหมอนานแล้ว เอ?...หรือจะเรียกว่ามีสะใภ้เป็นหมอถึงจะถูก?...



   ท่านนายพลไอพลางคิดสะระตะพลาง ด้วยเพราะไม่อาจล่วงรู้ว่าหมอที่ตนกำลังคิดถึงนั้นมีสถานะเป็นลูกเขยหรือลูกสะใภ้นั่นเอง


..................................


   นภาสรวงกลับมาจากตลาดด้วยอานิสงส์ของเรย์มอนด์ อดัมส์ที่เป็นสารถีไปรับไปส่ง และแน่นอนว่านายฝรั่งก็ย่อมต้องร่วมโต๊ะอาหารกลางวันด้วย วันนี้ที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์จึงมีแขกเพิ่มขึ้นมาอีก ๓ คน ได้แก่จันทร์จ้าว หมอภวัตและเรย์มอนด์ อดัมส์



   “เป็นอย่างไร คุณหมอ รสชาติพอใช้ได้ไหม” คุณหญิงผกาตั้งคำถามกับนายแพทย์หนุ่มหลังจากเขาลิ้มลองแกงขี้เหล็กเนื้อย่างฝีมือธิดาคนใหญ่ของรักษพิพัฒน์เป็นอย่างแรก



   “อร่อยมากครับ แกงนี้เป็นของโปรดผม”



คนฟังทำตาโตราวกับมีความหวัง



   “จริงหรือ?! ตายจริง ไม่คิดว่าแม่นภาจะรู้ใจคุณหมอเสียด้วย” หล่อนพูดแล้วหันมองธิดาที่ยังดูฉงนกับสายตาหยอกเย้าของมารดา ทว่านายพลเดชผู้รับรู้ความคิดของภรรยาก็ถึงกับทำสีหน้าลำบากใจ ดูเหมือนภรรยาของท่านจะจับคู่ผิดฝาผิดตัวเสียแล้ว



   “แม่นภาน่ะทำอาหารได้หลายอย่าง แต่ละอย่างก็อร่อยทั้งนั้น คุณหมอชอบทานเนื้อไหมคะ แกงเขียวหวานเนื้อฝีมือแม่นภา ลองว่าทำทีหนึ่ง ต้องตักแจกไปทุกบ้าน จะว่าไปก็ไม่ได้ทำนานแล้วนะ แม่นภา”



ประโยคหลังคุณหญิงหันมาถามธิดา นภาสรวงได้แต่รับคำเบาด้วยความสงสัย ว่าเหตุใดหัวข้อบทสนทนาที่โต๊ะอาหารในวันนี้จึงกลายเป็นเรื่องของหล่อน



   “เป็นเย็นวันนี้เลยดีไหม คุณหมอจะได้อยู่รับประทานอาหารเย็นด้วย วันนี้คุณหมอว่างทั้งวันใช่ไหมคะ” คุณหญิงผการุกหนัก ด้วยหวังว่าหมอภวัตจะติดใจรสมือธิดาของหล่อน หากได้เขามาเป็นเขยอีกคน คราวนี้คงมีแต่คนอิจฉาตาร้อนเพราะเขยสะใภ้แต่ละคน ล้วนมีหน้ามีตาในสังคมทั้งสิ้น



   คนทั้งโต๊ะได้แต่มองหน้ากัน ในขณะที่คุณหญิงผกากำลังยิ้มแย้มแจ่มใส ท่านนายพลกลับมีสีหน้าเหนื่อยหน่ายและระอาใจ นภาสรวงตื่นตระหนก เรย์มอนด์ อดัมส์เคร่งเครียดและเป็นกังวล หมอภวัตอึดอัด ส่วนจันทร์จ้าวผู้มีความคิดเปิ่นอยู่เสมอกลับยิ้มกว้างอย่างถูกใจ ดวงตากลมใหญ่วิบวับยามปรายสายตามองนายแพทย์หนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตน



   “จริงด้วย หมอชอบทานเนื้อ แกงเขียวหวานเนื้อฝีมือนภาน่ะอร่อยอย่าบอกใคร เรย์เคยทานยังติดใจ จริงไหม” เจ้าของลักยิ้มที่แก้มซ้ายพูดแล้วเหลือบมองนายฝรั่งผู้มีสีหน้าไม่สู้ดี หากจะสู้ดีก็คงไม่ไหว เพราะคุณหญิงผกาดูจะชื่นชมนภาสรวงคู่รักของเขาให้หมอภวัต จันทร์จ้าวเองก็เป็นคู่รักของคนที่กำลังถูกคุณหญิงหมายตาให้คู่กับน้องสาว แต่เหตุไฉนยังมีสีหน้าสนุกสนาน เรย์มอนด์ไม่เข้าใจเพื่อนชาวไทยคนนี้ของตนเลย




   “แล้ววันนี้ผมก็ทราบมาว่าหมอว่างทั้งวัน...” ประโยคต่อมาของจันทร์จ้าวทำเอาคุณหญิงยิ้มกว้าง แล้วรีบพูดอย่างไว




   “ถ้าอย่างนั้นก็ดีน่ะซี! แม่นภาจะได้แสดงฝีมือแกงเขียวหวานเนื้อให้คุณหมอได้ชิม แล้วนี่นะ คุณหมอเธอนำผลไม้มาให้แยะเชียว หล่อนก็จัดการแช่อิ่มเสีย เสร็จเมื่อไรจะได้นำไปฝากคุณหมอ คุณหมอวางใจได้ แม่นภาน่ะ เรื่องกับข้าวกับปลาไม่เป็นสองรองใคร ใครได้ไปเป็นเมียตบเมียแต่งล่ะก็ จะต้องสบายไปทั้งชีวิต!”



จันทร์จ้าวขำพรืดอย่างอดไม่ไหว ในขณะที่ทุกคนในโต๊ะหน้าซีดเผือดกันเป็นทิวแถว แต่กระนั้นเสียงหัวเราะของเขาก็ทำให้คุณหญิงหันมาสนใจมากกว่าจะสนใจสีหน้าของผู้ร่วมโต๊ะคนอื่น




   “ทำมาเป็นหัวร่อนะพ่อจันทร์ แม่พูดอะไรผิดรึ”



คนเพียงคนเดียวที่กำลังยิ้มแย้ม จับจ้องมองชายหนุ่มอีก ๒ ที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ หมอภวัตสบตาเขาดุๆ ส่วนเรย์มอนด์มองเขาอย่างไม่ชอบใจ ทว่าเขากลับนึกสนุกเสียจนไม่เกรงคำดุและไม่กลัวเพื่อนโกรธ




   “คุณแม่พูดไม่ผิดหรอกครับ ผมเองก็เห็นด้วยว่านภาน่ะทั้งเรียบร้อย ทั้งทำอาหารอร่อย งานในบ้านไม่ขาดตกบกพร่อง...แหม...เหมาะกับ ‘หมอภวัต’ จริงๆนะครับ” เขาพูดแล้วหัวเราะอย่างชอบใจ คุณหญิงพลอยหัวเราะไปด้วย แม้จะถูกใจกับคำพูดของบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน แต่หล่อนเป็นมารดาของฝ่ายหญิง จะออกตัวก็จะกลายเป็นงามหน้า เลยต้องไว้ท่าเสียบ้าง



   “พ่อจันทร์ก็พูดไป เรื่องอย่างนี้น่ะต้องให้เจ้าตัวเขาเลือก จริงไหมคะคุณหมอ”



คนถูกถามพูดไม่ออก นึกสงสารนภาสรวงผู้กำลังหน้าแดงสลับซีด นึกเกรงใจนายฝรั่งที่นั่งอยู่ข้างๆ และที่สำคัญคือนึกเข่นเขี้ยวคนสนับสนุนอย่างจันทร์จ้าว



   “เรื่องหนุ่มๆสาวๆเขาน่ะคุณหญิง ว่าแต่พ่อเรย์ เรื่องสอนภาษาอังกฤษให้พวกเด็กวัดน่ะว่ายังไร รวบรวมสมัครพรรคพวกได้หรือยังล่ะ ฉันจะได้ลองไปสอบถามกับวัดแถวนี้ให้” ท่านนายพลเห็นสีหน้าผู้ร่วมโต๊ะแต่ละคนก็หาทางชักชวนเปลี่ยนเรื่อง ที่น่าสงสารที่สุดก็เห็นจะเป็นนายฝรั่งรายนี้ที่ถึงกับหมองไปถนัดเมื่อภรรยาของท่านสนับสนุนนภาสรวงให้คนอื่น ส่วนที่น่าตีที่สุดเห็นจะไม่พ้นบุตรคนรองอย่างจันทร์จ้าวที่หัวเราะชอบใจ แต่เมื่อถูกภวัตจ้องมากๆเข้า เสียงหัวเราะก็ดังแต่เพียงในคอ ทว่าดวงตากลมใหญ่ยังคงมีแววระยิบระยับอยู่นั่นเอง



   อย่างนี้เห็นทีท่านควรจะสนับสนุนหมอภวัตบ้าง...สนับสนุนให้ตีบุตรชายคนนี้ของท่านให้หนักๆ จะได้ไม่ก่อเรื่องสร้างปัญหาอีกอย่างไรล่ะ


........................

   ภวัตมีมารยาทมากพอที่จะอยู่ร่วมรับประทานอาหารกลางวันและเย็น แต่กระนั้นสีหน้าของเขาก็มีแววลำบากใจ ในขณะที่นภาสรวงหน้าซีดเซียว ส่วนเรย์มอนด์ อดัมส์นั้นอาการหนักที่สุด อ้างธุระสำคัญและขอตัวกลับไปทันทีที่จบมื้อกลางวัน



   ส่วนคนแผลงที่นึกสนุกอย่างไรไม่ทราบเป็นนายท้ายให้คุณหญิงผกาสนับสนุนนภาสรวงกับหมอภวัตยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาว ยิ้มแย้มแจ่มใสจนผู้เป็นบิดายังขัดใจ



   “คืนนี้พ่อจันทร์จะค้างที่ไหน” ตอนที่กำลังดื่มกาแฟและทานของหวานหลังมื้อค่ำ ท่านนายพลก็หันมาถามบุตรชายคนรองเจ้าของลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย จันทร์จ้าววางแก้วกาแฟลงแล้วเหลือบมองมารดาที่กำลังคุยกับหมอภวัต



   “คืนนี้วันเสาร์ รับปากคุณแม่เอาไว้ว่าจะค้างที่นี่ครับ”



   “พ่อว่าพ่อจันทร์ควรกลับไปนอนที่บ้านเช่า”


บุตรชายคนรองเลิกคิ้วพลางหันกลับมามองบิดา ท่านนายพลนึกระคายในอกเล็กน้อยที่ต้องจุ้นจ้านวุ่นวายกับเรื่องของลูกหลานในลักษณะนี้ แต่หากไม่ยุ่ง เห็นทีเรื่องจะแย่



   “กลับไปพร้อมคุณหมอ” นายพลเดชออกปาก



   “แต่ว่า...” จันทร์จ้าวจะท้วง ทว่าบิดาไม่ปล่อยให้เขาพูดจบ



   “ไม่รู้หรือว่าก่อเรื่องให้คุณหมอโกรธ”



เพียงเท่านั้นคนท้วงก็ได้แต่เงียบ จันทร์จ้าวหันกลับไปมองยังนายแพทย์หนุ่มที่แม้จะยังนั่งคุยกับมารดาของเขาอย่างสุภาพเรียบร้อย แต่คนสนิทเช่นเขามีหรือจะดูไม่ออกว่าหมอภวัตผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยมเงียบขรึมไปตั้งแต่เขา ‘ก่อเรื่อง’



   เมื่อบุตรชายคนรองไม่พูดกระไร ท่านนายพลจึงหันไปพูดเสียงดังเป็นปกติให้ได้ยินกันทั้งโต๊ะ



   “คุณหมอ คืนนี้พ่อจันทร์จะกลับไปค้างที่บ้านเช่า ถ้าอย่างไรฝากติดรถกลับไปด้วยได้ไหม”



ดวงตาดุทว่าเรียบเฉยของนายแพทย์หนุ่มเหลือบมาสบตากับดวงตากลมใหญ่ของจันทร์จ้าวแค่วูบเดียว ก่อนที่จะหันกลับไปทางนายพลเดช



   “ครับ” เป็นการรับคำที่สั้น กระชับ มีรอยยิ้มเจือที่มุมปาก ทว่าไม่ได้บ่งอารมณ์ยินดีเลย ไหนจะการมองเพียงวูบเดียวอย่างเมื่อครู่นี้อีก คนก่อเรื่องชักใจหาย เริ่มรู้สึกตัวว่าเรื่องที่ก่อกำลังบานปลายก็เวลานี้



   “อะไรกัน! วันนี้วันเสาร์ พ่อจันทร์จะรีบกลับไปค้างบ้านเช่าทำไม” คุณหญิงผกาหันมาถามเสียงแหว ด้วยเพราะบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนรับปากว่าจะกลับมาค้างทุกคืนช่วงปลายสัปดาห์ หล่อนจึงยอมให้ย้ายไปอยู่บ้านเช่าสีเขียวอ่อนใกล้วังฉัตร แต่วันนี้กลับจะไม่ทำตามที่รับปากเสียนี่



   “พรุ่งนี้พ่อจันทร์ต้องเข้าสำนักงาน อยู่ที่นั่นจะสะดวกกว่า” นายพลเดชเอ่ยกับภรรยา



   “พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์ ใครที่ไหนทำงานวันอาทิตย์!” คุณหญิงผกาเถียงอย่างไม่ชอบใจ สมบัติพัสถานที่หล่อนและสามีหาเอาไว้ มีพอให้บุตรธิดาทั้ง ๔ ใช้จ่ายไปได้ตลอดชีวิต การทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์จนเบียดบังเวลาที่จันทร์จ้าวจะได้อยู่กับหล่อน จึงไม่ใช่เรื่องที่คุณหญิงพอใจนัก



   “คุณหมอก็ทำงานวันอาทิตย์ออกบ่อยไป” ท่านนายพลอ้างภวัต ทำเอาภรรยาค้อนขวับ



   “คนเราเจ็บป่วยไม่เลือกเวลา คุณหมอทำงานวันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่พ่อจันทร์ไม่เห็น...”



   “พ่อจันทร์ค้าขาย คนเราจะซื้อจะขายก็ไม่เลือกเวลาเช่นกัน” พอท่านนายพลว่ามาเช่นนั้น คุณหญิงผกาก็จนใจจะเถียง ได้แต่หันหน้าหนีไปทางอื่น จันทร์จ้าวจึงต้องคลานเข้าใกล้แล้วโอบพะเน้าพะนอ



   “คราวนี้ผมต้องเข้าสำนักงานด่วนครับคุณแม่ ไว้พรุ่งนี้ผมทำงานเสร็จแล้ว จะซื้อขนมฝรั่งกลับมาฝากคุณแม่ด้วยดีไหมครับ เจ้านี้อร่อยมากทีเดียว มีขายวันละไม่มาก ถ้าไปเช้าหน่อยคงทันซื้อ” คุณหญิงผกานั้นแพ้ลูกล่อลูกชนของบุตรชายคนนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ต้องยกขนมฝรั่งหารับประทานยากมาอ้าง หล่อนก็พร้อมจะตามใจเสมอ



   “พ่อจันทร์จะมาสักกี่โมงกัน”



   “คงจะเสร็จก่อนเที่ยง แล้วผมจะรีบมา”



   “แม่จะให้แม่จรวยเตรียมกับข้าวกับปลาไว้ พ่อจันทร์อยากทานอะไรล่ะ”



   “อยากทานกะปิหลนฝีมือคุณแม่มากกว่าครับ” เจาะจงว่าเป็นฝีมือคุณหญิงผกาเท่านั้น คนเป็นมารดาก็ใจอ่อนวูบ ได้แต่พยักหน้ายินยอมให้จันทร์จ้าวไปค้างที่บ้านเช่าและรับปากจะทำกะปิหลนให้รับประทานไปในคราวเดียวกัน


.....................................


   รถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มเคลื่อนตัวออกจากบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ในตอนที่ฟ้ามืดแล้ว ภายในรถเงียบจนจันทร์จ้าวใจคอไม่ดี เหลือบมองสารถีที่เอาแต่มองตรงไปตามถนนแล้วก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายชวนคุยเสียเอง



   “เอ่อ...หมอว่า...ผัดเปรี้ยวหวานวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง” ถามแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองนัก เพราะรู้สึกว่าเป็นการชวนคุยที่เปิ่นอย่างไรชอบกล



   ภวัตเหลือบกลับมามองวูบเดียว ก่อนจะกลับไปมองตรงอีก



   “ก็อร่อยดีนี่ครับ”



   “อ้อ...” จันทร์จ้าวรับคำแล้วเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะโพลงขึ้นมาอีกครั้ง “แล้วพรุ่งนี้ หมอเข้าเวรไหม ผมจะได้ซื้อขนม...” ยังถามไม่ทันจบ รถยนต์ก็เลี้ยวเข้าจอดที่หน้าบ้านเช่าสีเขียวอ่อนแล้ว คราวนี้ภวัตหันมามองคนที่นั่งข้างเขามาตั้งแต่ออกจากเรือนไทยรักษพิพัฒน์ ทว่าก็แค่มอง ไม่พูดกระไร



   เจ้าของรอยยิ้มที่มีลักยิ้มข้างแก้ม แย้มยิ้มไม่ออก สายตาของอีกฝ่ายบอกให้เขารู้ว่าคราวนี้นายแพทย์หนุ่มผู้ใจเย็นเป็นน้ำแข็งกำลังโกรธเขา



   “เอ่อ...ขอบคุณที่มาส่ง”



เพราะรู้ดีว่ากำลังถูกโกรธ จันทร์จ้าวไม่คิดว่าเขาควรจะอยู่ในรถนานกว่านี้ ชายหนุ่มหันไปเปิดประตู ทว่าเสียงของสารถีดังขึ้นเสียก่อน



   “หากหมดสนุกกับสิ่งที่ทำแล้ว ก็ไปขอโทษคุณนภากับคุณเรย์มอนด์ด้วยนะครับ”



ดวงตากลมใหญ่หันกลับไปมองคนพูด ภวัตยังมองตรงมาที่เขา แต่สีหน้าเรียบเฉยราวกับรูปปั้น



   “เข้าใจที่ผมพูดไหม”



   “ผมก็แค่หยอกเล่นน่ะหมอ”



   “คนที่คุณหยอก เขาสนุกกับคุณหรือครับ”



จันทร์จ้าวอ้าปากจะเถียง แต่นายแพทย์หนุ่มกลับพูดขึ้นก่อน



   “ผมคนหนึ่งที่ไม่สนุก” คราวนี้คนจะเถียงเลยได้แต่อ้าปากค้าง ภวัตเบือนสายตามองออกไปทางอื่น



   “ขึ้นบ้านได้แล้วครับ ข้างล่างยุง...” ยังพูดไม่ทันจบ ประตูรถถูกปิดดังปังใหญ่ ชายหนุ่มหันกลับมามองข้างกายอีกทีก็พบเพียงความว่างเปล่า เขารีบหันมองออกไปด้านนอกก็เห็นแค่แผ่นหลังไวๆของคนรักเดินหนีเข้าบ้านไปแล้วเรียบร้อย



   นายแพทย์หนุ่มถอนหายใจยาวแล้วทำได้เพียงเอนหลังพิงพนักอย่างหนักอก

.........................


   นภาสรวงตื่นแต่เช้า เตรียมอาหารสำหรับใส่บาตรและอาหารเช้าแล้ว ก็ลงมือแช่อิ่มผลไม้ที่หมอภวัตนำมาฝากเมื่อวาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อวาน หญิงสาวก็ถอนหายใจพรู หล่อนรู้ดีว่าเนื้อแท้ของจันทร์จ้าวเป็นคนรักสนุก บางครั้งก็กลายเป็นเล่นแผลง อย่างเช่นครั้งนี้



   “ชงกาแฟให้พี่สักแก้วได้ไหม” เสียงดังจากข้างหลัง ทำเอาหญิงสาวต้องหันมอง เจ้าของเสียงคือชายหนุ่มผู้พี่ที่ก่อเรื่องเอาไว้เมื่อวาน



   “พี่จันทร์ ไหนว่าจะมาตอนเที่ยงอย่างไรล่ะคะ”



แม้จะเป็นหนึ่งในคนที่ถูกแกล้ง แต่นภาสรวงก็ไม่ถือโทษโกรธเคือง หล่อนกลับนึกห่วงใยด้วยซ้ำที่เห็นจันทร์จ้าวแวะมาที่เรือนไทยรักษพิพัฒน์ก่อนเวลามากโข



   “ก็...พี่...อยากมาคุยกับนภา”



   “คุยหรือคะ”



   “แต่ขอกาแฟก่อนได้ไหม”



   “ค่ะ น้องชงให้นะคะ” นภาสรวงวางมือจากการหมักดองแช่อิ่มผลไม้เพื่อไปต้มน้ำร้อน จันทร์จ้าวไม่ได้ยืนรอที่ครัว เพราะเขาเห็นคนรับใช้ ๒-๓ คนกำลังเตรียมอาหาร จึงเดินเลี่ยงออกไปนั่งที่โต๊ะใต้เรือนแทน



   รออยู่อึดใจหนึ่ง หญิงสาวเดินออกมาหา โดยมีคนรับใช้ถือถาดกาแฟร้อนหอมกรุ่นและของว่างตามมาด้วย



   “พี่จันทร์ทานอะไรมาหรือยังคะ ทานแต่กาแฟตอนท้องว่างจะปวดท้องเอา”



   “แค่กาแฟ ไม่ปวดหรอกหน่า” จันทร์จ้าวไม่ได้ฟังคำเตือนเสียเท่าไร เขาหยิบแก้วกาแฟเป็นอย่างแรก



   “คุณหมอเธอจะดุเอานะคะ” คำเตือนที่ ๒ ของนภาสรวงทำให้คนยกแก้วกาแฟขึ้นจรดริมฝีปากถึงกับชะงัก



   “จะดุอะไรพี่นักล่ะ” เปรยอย่างอัดอั้น แต่มืออีกข้างกลับเอื้อมไปดึงจานของว่างมาวางใกล้ตัว และก่อนที่กาแฟจะได้ลงท้อง จันทร์จ้าวก็หยิบของว่างเข้าปากไปหนึ่งชิ้น



   เป็นอันว่าคำเตือนใดๆที่คนดื้อรั้นจะหยุดฟังก็เห็นจะต้องมีชื่อนายแพทย์หนุ่มผู้นั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง



   หญิงสาวยิ้มจาง จันทร์จ้าวเป็นคนเอาแต่ใจ ถูกตามใจจนเคยตัว หมอภวัตเองก็เป็นหนึ่งในคนตามใจเหล่านั้น แต่ก็เป็นหมอภวัตคนนี้อีกเช่นกันที่กล้าขัดใจคนเอาแต่ใจจนเคยตัวคนนี้ แถมอยู่หมัดเสียด้วย



   “คุณหมอเธอหวังดีกับพี่จันทร์”



   “แต่บางทีก็ดุไม่เข้าเรื่อง” โดยเฉพาะเรื่องเมื่อวาน ใครๆก็รู้ว่าเขาเพียงแค่หยอกล้อเท่านั้นเอง ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและภวัตเป็นเช่นไร ทั้งนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์ก็ทราบแก่ใจ เขาไม่ได้คิดจะจับคู่นภาสรวงกับภวัตจริงๆเสียหน่อย



   “ถูกดุเรื่องอะไรมาล่ะคะ” นภาสรวงถาม สีหน้าไม่สบอารมณ์ของผู้เป็นพี่นั้นแสดงออกชัดแจ้งว่าคงมีเรื่องบาดหมางกับนายแพทย์หนุ่มผู้นั้นเป็นแน่



   ดวงตากลมใหญ่เหลือบมองน้องสาว ก่อนจะเสกลับลงมองกาแฟในถ้วยตรงหน้า



   “ก็เรื่องเมื่อวานน่ะซี”



   “เรื่องเมื่อวาน?”



   “เรื่องนภากับคุณหมออย่างไรล่ะ” หญิงสาวชะงักไป แต่ไม่ทันพูดอะไร ผู้เป็นพี่ก็ระบายความในใจออกมาเสียก่อน



   “นภาทราบใช่ไหมว่าพี่เพียงหยอกเล่น”



   “ทราบค่ะ”



   “แต่หมอหาว่าคนอื่นไม่สนุกด้วย อะไรกัน! ไม่มี sense of humor เอาซะเลย!” แม้จะถูกสั่งให้มาขอโทษ แต่กลายเป็นว่าจันทร์จ้าวมาหาที่ระบายอารมณ์เสียแล้ว



   “อารมณ์สนุกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จริงอยู่ว่าเรื่องที่พูดเมื่อวาน ให้อย่างไรก็ไม่มีทางเกิดขึ้น แต่ก็ยิ่งต้องระวังให้มาก เพราะ...ยังมีคนที่ไม่ทราบว่าเรื่องที่พูดนั้นไม่มีทางเป็นไปได้”




จันทร์จ้าวนิ่งไปเล็กน้อย ด้วยเพราะเข้าใจดีว่าคนที่นภาสรวงจงใจไม่ระบุคือใคร



   “เมื่อเช้า คุณแม่ให้น้องทำแกงเลียง เพราะจะชวนคุณหมอมารับประทานอาหารเที่ยงที่นี่ แล้วยังให้น้องเร่งมือทำของแช่อิ่มเพราะจะได้นำไปฝากที่โรงพยาบาลวันพรุ่งนี้” นภาสรวงพูดด้วยน้ำเสียงเบาแผ่ว หนักอกกับการถูกมารดาเร่งรัดคาดหวัง



   “พี่จันทร์คะ เรื่องสนุกของพี่...คงมีแต่พี่ที่หยุดได้”



   จันทร์จ้าวนิ่งงัน ไม่แน่ใจว่าเรื่องสนุกของเขา จะยังพอ ‘หยุด’ ทันหรือไม่


.................................


   คุณหญิงผกาเป็นคนโทรศัพท์ไปชวนนายแพทย์หนุ่มมารับประทานอาหารกลางวัน แต่โชคดีเหลือเกินที่ภวัตติดคนไข้อาการหนักต้องอยู่โยงจึงปฏิเสธไป คุณหญิงยอมวางสายแต่ก็บ่นอุบที่คนซึ่งหล่อนหมายตาให้มาเป็นเขยดูจะไม่ค่อยมีเวล่ำเวลาเป็นส่วนตัวเสียเท่าไร



   “ดูเถอะ วันๆเอาแต่รักษาคนเจ็บคนป่วย แล้วจะได้แต่งงานอายุเท่าไร” คุณหญิงผกาบ่นในโต๊ะรับประทานอาหาร แม้วันนี้จะมีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาร่วมโต๊ะด้วย แต่ก็ยังขัดใจที่หล่อนชวนคุณหมอภวัตไม่สำเร็จ



   จันทร์จ้าวชะงักไป มือที่กำลังจะตักกะปิหลนถึงกับวางช้อนลง เขาขยับตัวเล็กน้อยแล้วเอ่ย



   “คนเราเจ็บป่วยกันทุกวันนี่ครับ หมอก็ต้องทำงานหนักเป็นธรรมดา”



   “แต่ทำงานจนอายุปูนนี้แล้วยังไม่แต่งงานก็เกินไปนะพ่อจันทร์ คุณหญิงจิตต์ไม่มีปากเสียงก็คงจะไม่กล้าพูดอะไรที่ลูกคนใหญ่ไม่แต่งงาน แต่ท่านศักดิ์นี่สิ! ปล่อยให้คุณหมอไม่แต่งงานแต่งการอย่างนี้เห็นจะแปลก!”



   “ไม่เห็นจะแปลก คนสมัยนี้ไม่แต่งงานก็มีออกถม” ท่านนายพลเดชแย้ง



   “นั่นซีครับ ผมคน ๑” จันทร์จ้าวสำทับด้วยการยกตนเอง ทำเอาคุณหญิงผกาถึงกับเบิกตา



   “พ่อจันทร์ก็ไม่คิดจะแต่งงานอย่างคุณหมอรึ?!” แม้ใจจะทั้งหวงทั้งห่วง แต่คุณหญิงผกาก็ไม่คิดว่าบุตรชายคนรองผู้นี้จะอยู่เป็นพ่อพวงมาลัยลอยตามลมให้ใครหยิบดอมดมได้ตามอำเภอใจ



   บุตรชายคนรองนิ่งไปอึดใจหนึ่ง เหลือบมองบิดาและนภาสรวงผู้รู้เห็นการไม่แต่งงานของเขาและหมอภวัต



   หาใช่ ‘ไม่คิดจะแต่งงานอย่างคุณหมอ’ แต่ทั้งเขาและภวัตต่างไม่คิดจะแต่งงานกับใคร เพราะคนที่คิดจะแต่งงานด้วย ไม่อาจทำพิธีเป็นที่รับรู้แก่สังคมได้



   “ผม...อยู่อย่างนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือครับ หากแต่งงานก็ต้องดูแลครอบครัว คงจะกลับมาให้คุณแม่ดูแลผมทุกวันหยุดไม่ได้...” คุณหญิงผกาฟังแล้วก็พูดไม่ออกด้วยเพราะหากจันทร์จ้าวแต่งงานและย้ายออก มีครอบครัวต้องดูแลจนไม่อาจแวะเวียนกลับมาให้หล่อนดูแลเหมือนเวลานี้ ก็คงไม่ต่างอะไรกับเมื่อครั้งที่บุตรชายคนนี้ไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นปีๆ



“...หมอเอง...ก็คง...มีเรื่องที่อยากดูแลอยู่แล้ว ก็เลยไม่คิดจะแต่งงาน...เอ่อ...อย่างเรื่องคนไข้อย่างนี้...” จันทร์จ้าวพูดต่อ



“แล้วคุณหมอเธอจะไม่อยากมีคนมาดูแลบ้างหรือ ใจคิดแต่จะอยากดูแลคนไข้อย่างเดียวเลยหรือไร” คุณหญิงผกาไม่พูดเรื่องบุตรชายแต่งงาน แต่ก็ยังไม่วายเสียดายหากภวัตไม่คิดจะแต่งงานแต่งการจริง



บุตรชายคนรองชะงักเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่ทราบ แต่คำว่า ‘คนมาดูแล’ นั้น ให้อย่างไรก็ไม่อาจเป็นเขา



เวลานี้ ชายหนุ่มเพิ่งนึกขึ้นได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา คนที่ดูแลคือภวัตมากกว่าเขาที่วันๆเอาแต่เรื่องสนุก และครั้งหลังสุดเรื่องสนุกก็กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ภวัตโกรธเสียอีก



“หมอ...ก็...ก็คงอยาก...” ...มี...



เขาได้แต่ตอบเสียงแผ่ว ใครบ้างเล่าไม่อยากมีคนดูแล จันทร์จ้าวยังชอบอกชอบใจที่ภวัตคอยห่วงใย แต่เป็นฝ่ายเขาเองต่างหาก ที่ไม่เคยดูแลภวัตได้อย่างที่ภวัตทำให้เขาบ้างเลย



“นั่นซี! ถ้าคุณหมอเธอแต่งงานล่ะก็จะมีคนคอยดูแล อย่างแม่นภา...” คุณหญิงผกายังไม่วางความคิดที่จะสนับสนุนธิดาผู้ยังไม่แต่งงานของหล่อน ทว่าไม่ทันจะพูดจบท่านนายพลก็เอ่ยขัด



“เธอก็คงมีคนดูแลเธออยู่แล้วล่ะ” นายพลเดชกล่าว แล้วเหลือบตาไปสบสายตากับบุตรชายคนรอง ก่อนจะหันกลับมามองภรรยา



“อายุปูนนี้แล้ว ทั้งยังทำงานหนัก แต่ก็ยังอยู่อย่างนี้ได้ ไม่ดิ้นรนหาพิธีรีตองอะไร เธอคงดูแลตัวเองได้ดีในระดับหนึ่ง หรือมิเช่นนั้นก็คงมีคนดูแลเธอแล้ว จึงอยู่สุขสบายทั้งที่ทำงานหนัก” ท้ายประโยคท่านนายพลเสมองลงจานข้าว ด้วยเพราะแม้จะรับรู้ความสัมพันธ์ของนายแพทย์หนุ่มกับบุตรชายคนรองของท่าน แต่ให้อย่างไรก็ยังเป็นเสี้ยนระคายในใจ



แต่...ความสุขของลูกย่อมมาก่อนสิ่งใด



“คุณพี่พูดราวกับว่าคุณหมอมีคู่รักที่ไม่แต่งงานอย่างนั้นล่ะ หรือจะแอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยแยะแบบท่านศักดิ์กันคะ” คุณหญิงผกาถามซอกแซกตามประสาคนอยากรู้



“เธอจะมีหรือเธอจะไม่มี ก็เป็นเรื่องของเธอ แต่ถึงหากเธอไม่มี ฉันก็ไม่เห็นด้วยที่จะจับคู่คุณหมอกับแม่นภา นิสัยใจคอไม่ใช่คนช่างพูดทั้งคู่ ตบแต่งกันไปบ้านได้เงียบเป็นป่าช้า มีปัญหาอะไรขึ้นมาก็คงพากันเงียบ สุดท้ายคงเรื้อรังเป็นคู่ผัวเมียมองหน้ากันไม่ติด หล่อนคิดว่าดีหรือ” ท่านนายพลเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา พลางมองภรรยา คุณหญิงผกาพลอยพูดไม่ออก เพราะถึงแม้หมอภวัตจะเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี แต่เขาก็ไม่ใช่คนชอบเริ่มบทสนทนา ส่วนมากจะเป็นผู้ฟังที่ดีมากกว่า



“ทานข้าวเถอะ แกงเย็นหมดแล้ว” แล้วก็เป็นท่านนายพลที่ปิดบทสนทนาว่าด้วยเรื่องการจับคู่นภาสรวงและหมอภวัต แล้วหลังจากนั้น คุณหญิงผกาก็ไม่เอ่ยเรื่องนี้กลางโต๊ะอาหารอีกเลย


...............................
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 30-08-2018 19:27:06


เพราะเป็นเย็นวันอาทิตย์ จันทร์จ้าวจึงไม่ได้ค้างที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ เขาไม่ได้กลับไปที่บ้านเช่าสีเขียวอ่อน แต่เลยไปยังโรงพยาบาลที่หมอภวัตทำงานอยู่พร้อมด้วยกระติกผลไม้แช่อิ่มที่แม้รสชาติจะยังไม่กลมกล่อมนัก แต่เขาก็อ้างกับมารดาว่าจะยกไปให้หมอภวัตเก็บไว้ก่อน เพราะเย็นนี้มีเรื่องต้องปรึกษา



ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหิ้วกระติกผลไม้แช่อิ่มเดินเข้ามาในตึกโรงพยาบาลที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน เขากวาดตามองไปรอบ ก่อนจะพบพยาบาลสาวผู้เป็นเพื่อนสนิทกับน้องสาวแฝดของเขา



“คุณสมฤดี” สมฤดีหันมอง ก่อนจะยกมือไหว้ แม้หล่อนจะยิ้มให้แต่สีหน้าก็ดูกังวลที่พบจันทร์จ้าวที่โรงพยาบาล



“คุณจันทร์ มาที่นี่ ไม่สบายหรือคะ”



“เปล่าหรอกครับ ผม...มาพบหมอภวัต”



“อ๋อ คุณหมอเธออยู่ที่บ้านพักแหน่ะค่ะ วันนี้เธอดูแปลก ไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยพูดนะคะ” สมฤดีรายงานตามที่เห็น หล่อนรู้จักจันทร์จ้าวมาแต่เล็ก พอจะรู้นิสัยใจคอคนชอบก่อเรื่อง อย่างน้อยรายงานไปก่อน เจ้าตัวอาจจะไม่ก่อเรื่องกับคุณหมอมากนัก



ทว่าสำหรับคนที่ก่อเรื่องเป็นนิจ มาคราวนี้รู้ตัวแล้วว่าจะก่อเรื่องอีกไม่ได้



เจ้าของดวงตากลมใหญ่เพียงยกยิ้มแทนคำขอบคุณ แล้วหมุนตัวเดินออกจากโรงพยาบาลไปยังบ้านพักแพทย์ทางด้านหลัง



ละแวกบ้านพักค่อนข้างเงียบ เสียงฝีเท้าที่เหยียบลงกับใบไม้แห้งบนพื้นทำให้คนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เฉลียงหน้าบ้านต้องเงยหน้ามอง



ดวงตาของเจ้าของบ้านพักและแขกผู้มาเยือนสบกัน ราวกับเวลาหยุดเดิน ต่างคนต่างมองสบกันอยู่อย่างนั้นก่อนจะเป็นฝ่ายจันทร์จ้าวก้าวเท้าเดินเข้าไปหาก่อน



“ผลไม้ที่หมอยกไปให้เมื่อวาน นภาแช่อิ่มแล้ว ผมเลยยกมาให้”



“ขอบคุณครับ” ภวัตตอบเรียบ วางหนังสือลงข้างตัว ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปรับ



“ยังทานวันนี้ไม่ได้หรอกนะ ต้องทิ้งไว้สัก ๒-๓ วัน”



“ครับ” ยังคงเป็นการตอบอย่างเรียบ ไม่บอกอารมณ์ ไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยพูดอย่างที่สมฤดีว่าไว้



“หมอ...ทานอะไรหรือยัง” จันทร์จ้าวยังคงทำใจดีสู้เสือ แม้เสือตัวที่ว่าจะไม่คำรามดุดัน แต่นิ่งสงบอย่างนี้ น่ากลัวเสียยิ่งกว่า



“ทานแล้วครับ” เป็นอีกครั้งที่คำตอบของภวัตนั้นเรียบเฉย ทั้งยังปิดหนทางให้อีกฝ่ายได้ใช้เป็นข้ออ้างในการคืนดีเสียอีก



จันทร์จ้าวเม้มปากเล็กน้อย เขาอยากหาเวลาที่จะได้พูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัว แต่สิ่งที่ทำอยู่ ณ ขณะนี้คือการยืนอยู่หน้าบ้านพักแพทย์ ที่แม้จะมีต้นไม้พุ่มไม้บดบังสายตาแต่ก็ไม่เป็นที่รโหฐาน จะเข้าไปคุยในบ้าน เจ้าของบ้านก็ไม่ชวนสักคำ คนตั้งใจมาปรับความเข้าใจเลยชักใจฝ่อ



ไม่สิ...อย่างไรก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง



“วันนี้...หมอมีคนไข้อาการหนักไหม” หากไม่มี เขาจะได้ชวนออกไปนั่งรถรอบเมืองสักหน่อย การได้อยู่ด้วยกันเงียบๆในที่ที่มีแค่เพียงสองคน บรรยากาศอาจพอเป็นใจให้พูดคุยกันได้สะดวกมากขึ้น



“ก็มีอย่างทุกวันครับ” เป็นอันว่าก็คงออกไปไหนไม่ได้ เพราะต้องอยู่ประจำโรงพยาบาล



จันทร์จ้าวจนใจจะหาทางปรับความเข้าใจ เขาถอนหายใจเบา รู้สึกว่าวันนี้คงไม่ใช่วันของเขา



“ถ้าอย่างนั้น...ผมกลับก่อนดีกว่า แล้วอย่าลืมทานล่ะ” ร่างโปร่งเอ่ยเสียงแผ่ว ไม่มีทีท่าของคนรักสนุกที่ทำเรื่องแผลงอย่างเมื่อวานอีกแล้ว



ภวัตมองแผ่นหลังของคนที่อุตส่าห์มาหาเขาถึงที่ ดูจากสีหน้าเมื่อครู่ก็รู้ว่าจันทร์จ้าวมาที่นี่เพื่ออะไร เรื่องนำผลไม้แช่อิ่มมาให้นั่นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น



“คุณจันทร์...” เขาเอ่ยเรียก เพียงเท่านั้นเจ้าของชื่อก็หันกลับมามอง



“...ผมจะไปส่ง” ภวัตกล่าวก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านเพื่อนำกระติกผลไม้แช่อิ่มและหนังสือเข้าไปเก็บ ปิดบ้านแล้วพาจันทร์จ้าวไปยังรถยนต์ของตน



   ทีแรกก็เดินกันอย่างเงียบๆ แต่พอขึ้นรถปิดประตูแล้ว คนช่างพูดก็อดไม่ไหว



   “ผมไม่ได้จะกลับบ้านหรอกนะ”


นายแพทย์หนุ่มนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองคนพูดที่ทำตาใสหันมามองเขา



   “แล้วคุณจะไปไหนครับ”



   “นั่งรถเล่น...” ภวัตถอนหายใจกับคำตอบยียวนหาเรื่อง ทว่าประโยคถัดมาของคนข้างกายทำให้เขาชะงัก



   “หมอ...ไปเป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหม” คนถูกชวนหันมองคนพูด คราวนี้ดวงตากลมใหญ่กำลังมองตรงมาที่เขาอย่างอ้อนวอน



   ...แล้วแบบนี้จะทำใจแข็งได้อย่างไรกัน...



   ไม่มีคำตอบจากหมอภวัต นอกจากการพารถยนต์ของตนเองออกจากโรงพยาบาล


....................................


   รถยนต์ของภวัตเคลื่อนตัวไปตามถนน ช่วงแรกเป็นถนนจอแจเต็มไปด้วยผู้คนและรถรา แต่ชั่วขณะต่อมา รถยนต์ก็เริ่มเข้าสู่ถนนที่ค่อนข้างเงียบสงบ



   ไม่มีรถคันอื่นร่วมทาง ทั้งในรถยังมีเพียง ๒ คน จันทร์จ้าวตัดสินใจเป็นฝ่ายพูดก่อน



   “ผม...ทำให้หมอโกรธใช่ไหม”



   “ถ้าเป็นคุณจะโกรธไหมครับ”



   “ก็!...ก็ต้องดูก่อนว่า...ว่าทำไปเพราะหยอกเล่นหรืออะไร นี่ผมก็แค่หยอกเล่นนะหมอ”



   “ความรู้สึกของผมเป็นเรื่องหยอกเล่นหรือครับ” ถูกย้อนถามเข้าแบบนี้ คนเถียงเก่งก็หัวชนฝาไม่ออก



   “ม...ไม่ใช่...”



   “ไหนจะคุณนภากับคุณเรย์มอนด์อีก คุณได้ไปขอโทษพวกเธอหรือยัง” นอกจากจะเถียงไม่ออกแล้ว คราวนี้จันทร์จ้าวพูดไม่ออกด้วย เพราะถึงแม้จะพูดคุยทำความเข้าใจกับน้องสาวแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้ขอโทษหล่อน เพราะเอาแต่กังวลเรื่องภวัตเป็นอันดับ ๑



   “ผ...ผมลืม...แต่! แต่ผมคุยกับนภาแล้ว นภาเข้าใจผม ส่วนเรย์...หมอไม่ต้องห่วง วันพรุ่งนี้ผมจะรีบขอโทษเรย์ทันทีที่เจอหน้า”



บอกภวัตว่าไม่ต้องห่วง แต่เวลานี้จันทร์จ้าวกลับห่วงภวัตที่สุด



   ...ห่วงว่าจะยังไม่หายโกรธ...



   “หมอ...ผมผิดที่คิดแต่เรื่องสนุก แต่...ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้หมอโกรธ ผมขอโทษ”



ทั้งๆที่ทำใจแข็งมาได้ตั้งนานสองนาน แต่แค่คำพูดไม่กี่ประโยคของคนข้างกาย หัวใจของคนฟังก็ไม่อาจทนเฉยได้อีก



   หินกร่อนเพราะลม ใจภวัตก็กร่อนเพราะจันทร์จ้าวเช่นกัน



   ทว่า...แม้จะไม่เหลือหัวใจแข็งแกร่งเอาไว้ต่อต้านคำพูดของคนก่อเรื่อง แต่นายแพทย์หนุ่มก็ยังพอจะทำหน้าเฉยเอาไว้ได้


   และจันทร์จ้าวคนก่อเรื่องก็มองเห็นเพียงสีหน้าเรียบเฉยของภวัตในความมืดสลัวเท่านั้น


   “หมอ...หายโกรธผมเถอะ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว จะไม่ยกหมอให้ใคร จะไม่แนะนำใครให้หมอ”



   “เพราะอะไรครับ”



   “หือ?”



   “เพราะอะไร คุณถึงจะไม่ยกผมให้ใคร และไม่แนะนำใครให้ผม” เป็นคำถามที่คนถูกถามรู้สึกเหมือนน้ำท่วมล้นคอ ริมฝีปากขยับขึ้นลงเหมือนจะพูด แต่หาเหตุผลเท่าไร นักเรียนนอกแสนฉลาดคนนี้กลับมีเหตุผลเพียงข้อเดียวที่คิดออก



   ...เพราะหมอเป็นของผม...



   แต่เรื่องแบบนี้...พูดตอนนี้จะดีหรือ



   “เอ่อ...ห...หมอก็...ก็รู้อยู่แล้ว...”



   “ผมยังไม่ทราบครับ” ภวัตยังคงตีสีหน้าเรียบเฉย และเอาแต่มองถนน ราวกับว่าหากจันทร์จ้าวไม่ตอบคำถามของเขา ความโกรธเคืองในใจก็จะไม่มีวันมลาย



   คนก่อเรื่องที่ถูกกดดันให้ตอบถึงกับเม้มปากด้วยไม่รู้ว่าจะพูดไปดีหรือไม่ แล้วจู่ๆสารถีก็เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ



   “ช่างเถอะครับ...” เป็นการตัดบทที่ทำเอาจันทร์จ้าวใจหายวูบ จากเมื่อครู่ที่เม้มปากด้วยไม่รู้จะพูดดีหรือไม่ เวลานี้คงต้องตัดสินใจเสียที



   “หมอเป็นของผม” ริมฝีปากของภวัตกระตุก ทว่าเขาก็อาศัยความมืดสลัวสลายมันไปอย่างรวดเร็ว



   อาการเงียบและเอาแต่มองถนนยังคงทำให้คนก่อเรื่องใจฝ่อ แต่จะให้พูดนอกเหนือจากนี้ คนพูดเก่งอย่างเขาก็นึกคำไม่ออกขึ้นมาเสียดื้อๆ



   “ผ...ผม...”



   “ไม่ใช่แค่ตัวผมที่เป็นของคุณ แต่โปรดระลึกเอาไว้ว่าความรู้สึกของผมก็เป็นของคุณ ผมยกให้คุณหมดแล้ว โปรดอย่ายกมันให้ใคร หากคุณไม่ต้องการ โปรดคืนกลับมาที่ผม” คนที่พูดคำตอบคำและเอาแต่เงียบมาตั้งแต่พบหน้ากันที่บ้านพักแพทย์ จู่ๆก็พูดยาวขึ้นมา และเป็นการพูดยาวที่ทำให้จันทร์จ้าวยิ่งพลอยพูดไม่ออกยิ่งกว่าเดิม ได้แต่รับคำอ้อมแอ้มเพราะหลาบจำแล้ว



   “เข้าใจไหมครับ”



   “เข้าใจแล้ว”



   “เข้าใจว่าอย่างไรครับ ทวนให้ผมฟังที”



   “ก็...เข้าใจว่าอย่ายกความรู้สึกของหมอให้ใครอีก” นายแพทย์หนุ่มหันมองคนทวนคำพูดของเขาแล้วเผยรอยยิ้มจางอย่างที่ทำเอาคนใจฝ่อรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก



   “หมอหายโกรธผมแล้วใช่ไหม” จันทร์จ้าวรีบถาม



   “ครับ” เพียงเท่านั้น คนที่นั่งเกร็งจนตะคริวแทบกินก็ผ่อนคลายเอนหลังพิงพนักอย่างโล่งอก ตอนนั้นเองที่หนุ่มนักเรียนนอกเพิ่งได้มีโอกาสมองออกไปนอกรถ ดวงตากลมใหญ่กะพริบปริบๆ



   “เอ?..หมอ...” เพราะความมืดสลัวของ ๒ ข้างทาง ทำให้ไม่คุ้นทาง แต่ก็คุ้นมากนักว่านี่ไม่ใช่ทางไปยังบ้านเช่าสีเขียวอ่อนที่อยู่ใกล้วังฉัตร



   “ครับ?”



   “เอ่อ...หมอ...ไม่ได้พาผมไปบ้านเช่าหรือ”



   สิ้นคำถามนั้น รถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มก็เลี้ยวเข้าจอดที่หน้าตึกแถว จันทร์จ้าวมองลอดออกจากหน้าต่างกระจกแล้วกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเหลือบสายตามาที่สารถี



   ภวัตไม่ได้พาเขาไปส่งบ้านเช่า แต่กลับพามาที่ตึกแถวซึ่งภวัตซื้อเอาไว้...สำหรับพวกเขา



   นายแพทย์หนุ่มหันมาสบตาคนถาม แต่ยังเงียบ ทว่าก็ทำเอาคนก่อเรื่องร้อนตัวได้



   “ผมขอโทษหมอแล้วนะ” เจ้าของดวงตากลมใหญ่รีบออกตัว



   “ขอโทษแล้วน่ะใช่ครับ แต่ยังไม่ได้ง้อ”



   “หา?!” คนก่อเรื่องถึงกับร้องเสียงหลง ทว่าภวัตยังคงนิ่งเฉยและสงบ ดวงตาคมคู่นั้นจับจ้องจันทร์จ้าวไม่กะพริบ


   “ทำให้ผมโกรธ ก็ต้องง้อผมด้วย”


หนุ่มนักเรียนนอกซึ่งเคยเพลย์บอยจนคนพูดกันทั้งเมืองได้แต่อ้าปากค้าง ใครเล่าจะคาดคิดว่านายแพทย์หนุ่มเจ้าของรอยยิ้มมิตรภาพผู้นี้กำลัง ‘ทวง’ เรื่องไม่เป็นเรื่องจาก...คู่รัก


“ก็!...ก็เมื่อกี้ ผมง้อ...”


   “เมื่อครู่นี้ คุณขอโทษครับ ไม่ใช่ง้อ”


   “แล้ว...แล้วหมอจะให้ผมง้อยังไงล่ะ?!” ภวัตยกยิ้มจางที่มุมปาก ดวงตาคมมีแววประหลาดเรืองรองใต้ความสลัวยามจับจ้องคู่รักของตน


   “เข้าไปคุยกันข้างในเถอะครับ”


   “เดี๋ยวหมอ...” จันทร์จ้าวรีบคว้าแขนเอาไว้ก่อนที่คนข้างกายจะหนีลงจากรถ แต่ภวัตผู้เยือกเย็นก็ยังคงสุขุมและสุภาพเช่นเคย เขาตบมือของตนลงบนมือขาวแผ่วเบา



   “ผมไม่ใช่คนใจแข็งหรอกครับ ไม่ต้องกังวลไป” นายแพทย์ทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ แล้วอึดใจต่อมาจันทร์จ้าวก็ลงจากรถ เจ้าตัวมองเขาแล้วเม้มปาก ดูท่าคงจะรู้ชะตากรรมตนเองแน่แล้ว ก่อนจะยอมเดินก้มหน้างุดนำเข้าไปในตึกแถว โดยมีนายแพทย์หนุ่มเดินตามหลัง



   รถยนต์ของภวัตยังคงจอดอยู่ที่ริมถนน ในขณะที่ประตูบานเฟี้ยมของตึกแถวถูกปิดเข้าหากัน



   คืนนี้...คนชอบเล่นแผลงจะได้รู้ว่าไม่ควรก่อเรื่องให้ภวัตโกรธ


   เพราะนอกจากจะต้องขอโทษภวัตแล้ว ยังต้อง ‘ง้อ’ ด้วย!


จบ

สวัสดีวันพฤหัสค่ะ

ตอนพิเศษมาแบบนี้ก็แสดงว่ายังไม่มีเรื่องใหม่นั่นเอง แหะๆ (หัวเราะแห้งกับชะตาชีวิตช่วงนี้)

ช่วงนี้บัวคิดถึงคุณจันทร์กับหมอ ก็เลยเอามาลงให้ทุกคนคิดถึงกันบ้าง กระจายๆความคิดถึงกันค่ะ ฮ่าฮ่า

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนคิดถึงถามไถ่ คนถามหางานใหม่ๆ บัวอยู่ในช่วงเปลี่ยนวิถีชีวิต ยังจัดเวลาให้ลงตัวไม่ได้ ถ้าทำได้ จะเอาเรื่องใหม่มาลงค่ะ แต่ถ้ายังไม่ได้ ก็จะพยายามเอาตอนพิเศษของเรื่องเก่าๆมาลงนะ

ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 30-08-2018 20:01:06
ฮืออออออออออ
ไม่คิดเลยว่าจะได้อ่านเรื่องของคู่นี้อีก
คูมหมอกับน้องจันทร์

น้องจันทร์ยังแก่นเซี้ยวเหมือนเดิม
แต่ก้อยังออดอ้อน งอนง้อได้น่ารักเหมือนเดิม
เอาจริงหมอแพ้ตั้งแต่เห็นคุณจันทร์หิ้วปิ่นโตมาแล้วละ
แต่ทำฟอร์ม อยากเห็นคนดื้อง้อ

ขอบคุณคุณบัวมากนะคะ
หายคิดถึงคู่นี้ไปได้เยอะเลย
ถ้าคุณบัวคิดถึงอีกก้แต่งอีกนะคะ
เราจะตามอ่านไปเรื่อยๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 30-08-2018 20:06:55
คิดถึงงงง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 30-08-2018 20:09:07
 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 30-08-2018 20:09:43
จันทร์เจ้านิสัยเสียขี้แกล้งไม่หายซักที โดนหมอโกรธไปเต็มๆ หมอให้ง้อยันเช้าไปเลยนะคะ นี่ถ้าเอา ถ้วยฟู จันทร์เจ้า จอมขวัญ ศวิล มาอยู่ด้วยกันรู้สึกเหมือนโลกจะแตก  555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 30-08-2018 20:59:35
เอ็นดูคุณจันทร์..ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษจ้า  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Pepor ที่ 30-08-2018 21:16:35
อยากรู้วิธีง้อของจันทร์จ้าวค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 30-08-2018 21:17:22
 :โอ๊ยยยย คิดถึงคู่นี้มากเลยค่ะคุณบัว แงงงงง หมอไม่เล่าเพิ่มเหรอคะ
หลังประตูบานนั้นคุณจันทร์จะง้อยังไง  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 30-08-2018 21:22:51
โอ้ยยยยยยยคิดถึงคุณจันทร์กับคุณหมอมากกกกกกกกกกค่ะ ได้แต่อ่านหนังสือวนไปเป็นสิบๆรอบ ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ งานนี้คุณจันทร์คงจะหายซ่าบ้าง หมอภวัตเอาอยู่จริงๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 30-08-2018 22:18:17
คิดถึงคุณหมอกับจันทร์มาก ๆๆๆๆ
ดีใจที่เห็นตอนพิเศษมาอัพ สุดจะกรี๊ดดดดดด !! :hao7:  :hao7:

ว่าแต่ว่าเค้าง้อกันแบบไหนเหรอคะ ?!??
คือ...ไม่เจอหมอกับจันทร์นานแล้ว
เลยอยากอยู่ใกล้ๆ ให้หายคิดถึงอ่ะค่ะ
โปรดเปิดประตูบานเฟี้ยวของตึกแถวให้เราเข้าไปส่องที !!!  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-08-2018 22:20:40
จันทร์จ้าวเฮ้วจนได้เรื่องเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 30-08-2018 22:35:09
คุณจันทร์น่าตีจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 30-08-2018 22:46:17
โอย...ท่านนายพลยอดคุณพ่อ กราบบบบ
เหมือนเป็นยีนส์แห่งความเข้าใจและมองความสุขในชีวิตเป็นเรื่องหลักที่ถ่ายทอดกันมา คือดีย์~~~

เห็นคุณจันทร์ก็พาลคิดถึงของขวัญ และคนมาปราบก็ดูจะ...เหมือนกันเชียวค่ะ อิอิ

ก่อเรื่องเอง ง้อเอง เป็นปกติเนาะ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 30-08-2018 23:19:51
คุณจันทร์ ~ ซนจริงเชียว ตีๆๆๆให้ก้นลายเลยค่ะคุณหมอ   :hao6:  คิดถึงคุณหมอกับคุณจันทร์เหมือนกันค่ะ ดีใจนะคะที่คุณบัวแวะมาลงตอนพิเศษให้  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-08-2018 23:57:28
ไม่เจอกันนานยังน่าหยิกเหมือนเดิมเลยนะคุณจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 31-08-2018 00:18:11
หมอ

เรื่องนี้หมอคือที่สุดอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 31-08-2018 01:36:29

มองจันทร์จ้าว จะเห็นของขวัญ ลางๆ 5555แสบพอกัน
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 31-08-2018 01:49:53
โธ่เอ็นดูหนูจันทร์เขานะคะ 55555555 หมอนี่หมอจริงๆคือเอาอยู่หมดกำราบขั้นสุดส่วนคุณหญิงควรรู้ได้แล้วค่ะว่าจับผิดคู่แล้วมาเป็นแม่นางเอกในละครกันค่ะจะสนุกมากคอนเฟิร์มจากแม่ยกของขวัญ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Enzetsune ที่ 31-08-2018 02:45:35
ละมุนเหมือนเดิม >~<
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ขอบฟ้าสีจาง ที่ 31-08-2018 08:10:15
เด็กดื้อต้องจับฟาดก้นค่ะคุณหมอ  :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 31-08-2018 09:01:16
 :pigha2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 31-08-2018 09:40:59
คนที่ปราบคนแสบแบบจันทร์จ้าวได้คงมีแค่หมอภวัตนี่แหละ  :m20:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: gemgems ที่ 31-08-2018 10:13:19
บังคับให้มาง้อกันถึงบ้านนี้ หุหุ สงสารคุณจันทร์ซะแล้วสิ 555555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 31-08-2018 10:14:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณนะคะ
พาคุณหมอกับน้องจันทร์มาเสริฟ
ทำให้หายคิดถึงนิดหนึ่ง
 :mew1:
 :mew1:
 :mew1:
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 31-08-2018 23:51:45
ชอบก่อเรื่องอย่างจันทร์จ้าวก็ต้องโดนหมอภวัตกำราบนี่ละค่ะ ต้องเจอคนนิ่งๆ ไม่ตอบรับ ไม่หือไม่อือแบบนี้ละ ที่เชียร์หมอภวัตนี่ไม่ใช่อะไรนะคะ แค่อยากให้เขา "ง้อ" กันนานๆ เยอะๆ น่ะค่ะ โฮะๆๆๆ ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษอบอุ่นๆ นี้นะคะคุณบัว กอดค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 01-09-2018 10:10:07
เขา "ง้อ" กัน แร๊นอ่ะทอว์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 01-09-2018 16:04:24
คิดถึงจันทร์ คิดถึงหมอเหมือนกัน มาง้อกันให้หายคิดถึง :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 02-09-2018 20:54:04
จะขอโทษแล้วหายเป็นไปไม่ได้หรอกนะ
ต้องโดน :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 03-09-2018 10:44:35
คุณจันทร์เล่นสนุก แต่คนอื่นไม่สนุกไงคะ โดนลงโทษเลย  :-[
คิดถึง ขอบคุณค่ะที่มาส่งความแสบของคุณจันทร์ให้ได้อ่านกันบ้าง เก่งไม่ออกเลย  :katai3:
 :L2:  :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 03-09-2018 18:07:20
ดูซิต้องง้อแบบนี้ คุณจันทร์ยังจะเซี้ยวออกอยู่ไหม อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-09-2018 18:59:15
ง้อยาวแน่นอน

พรุ่งนี้โทรไปลางานเลยเนอะจันทร์
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-09-2018 20:53:45
แรงๆเลยค่ะคุณหมอ ให้ง้อแรงๆ 55555555555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 04-09-2018 23:11:00
คิดถึงจันทร์จ้าวคิดถึงหมอ คุณจันทร์นี่นะทำเรื่องตลอด แต่อยาก้ห็นตอนง้อกันด้วยอ่ะ ง้อกันยังไงน้าาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 05-09-2018 10:15:46
เอ็ดดูคุณจันทร์ ยังซนเหมือนเดิมเลยยย
คุณหมอก็เจ้าเล่ห์ไม่เบานะ
 :katai5: อยากย่องไปดูเขาง้อกันค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_psj ที่ 05-09-2018 20:03:32
น้องจันทร์โดนซะแล้ว อิอิ คุณหมอน่ารักค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 06-09-2018 01:19:54
ขอบคุณมากๆค่ะ เป็นเรื่องที่ชอบมากๆอีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 06-09-2018 06:12:59
คิดถึงคุณหมอกับจันที่สุดจ้าาาา
กำลังคิดว่าจะกชับมาอ่าน หนังสือก็มีน่ะค่ะ
สนับสนุนทุกทาง

ยังน่ารีกเหมือนเดิม สมน้ำหน้าจันจ้าาาา

แต่คุณหมอก็แพ้คจันอยู่ดี

มาอีกนะรอคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 10-09-2018 10:14:24
อยากเห็นเค้าง้อกันนะคะ :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 12-09-2018 13:01:55
สนุกมากๆเลยค่ะ
เป็นเรื่องที่ทำให้เราเสียน้ำตาได้ด้วยคำพูดไม่กี่ประโยคของตัวละคร
ขอบคุณมากค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: italy18 ที่ 13-09-2018 00:08:47
เมื่อไหร่คุณบัวจะเปิดเรื่องใหม่...คิดถึงนิยายของคุณบัวมากกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 13-09-2018 16:40:43
คิดถึงจันทร์มาก ๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 17-09-2018 10:39:45
ฮืออออออออ น่ารัก  :hao7:

ขอบคุณมาก ๆ สำหรับตอนพิเศษครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: MinzyCat ที่ 18-09-2018 07:31:31
ดีใจ คิดถึงคู่นี้ อยากให้มีอยู่ในเล่มด้วยจัง :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 27-09-2018 19:46:11
น่ารักจริง ๆ ขอบคุณน้องบัวนะคะ สำหรับตอนพิเศษ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 25-10-2018 08:07:59
ไม่รู้ว่าคิดถึงคุณหมอ คุณจันทร์ หรือคุณบัวกันแน่  :mew2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-10-2018 09:49:06
อยากเผือกเรื่อง " ง้อ  "  มากกกกกกกกกกกก   :z3: :z3: :z3:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 27-10-2018 07:57:37
คุณจันทร์ง้อยังไงน่าาาาา หมอแถลงไขหน่อยค่ะ



คิดถึงหมอกับคุณจันทร์เหมือนกัน กลับมาอ่ทนวีรกรรมคุณจีนทร์แล้วขำทุกครั้งเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: +MooN+ ที่ 31-10-2018 17:50:44
คุณจันทร์ผู้เอาแต่ใจ กับคุณหมอผู้อ่อนโยน น่ารักมากมาย :-[
แต่เด็ดสุดคือคุณพ่อของจันทร์อะ เป็นพ่อที่ใจดี เข้าใจลูก และเห็นแก่ความสุขของลูกเป็นที่หนึ่งจริงๆ  o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: mink2538 ที่ 24-11-2018 15:44:22
บังเอิญมีคนแนะนำเรื่องนี้มา พอเข้ามาอ่านไม่ผิดหวังเลยค่ะ สนุกมาก
ชอบความตรงไปตรงมาของคุณจันทร์ ถึงจะอารมณ์ร้ายไปบ้างแต่ก็จริงใจ มีอะไรก็พูดตรงๆส่วนหมอก็แสนดี๊แสนดี
ขอบคุณคนแต่งที่แต่งนิยายน่ารักๆแบบนี้ออกมาค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...คนก่อเรื่อง (๓๐ ส.ค. ๖๑/หน้าที่ ๖๔)
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบอ่าน ที่ 24-11-2018 18:13:56
ปกติไม่ชอบอ่านแนวพีเรียดเท่าไร เลยไม่กล้าเข้ามาอ่านสักที สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว และไม่ผิดหวังจริงๆ เรื่องนี้น่ารักมาก อ่านแล้วหยุดไม่ได้ ตัวละครน่ารักทุกตัวเลย รักๆ
ขอบคุณนักเขียน  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-11-2018 20:37:20
จันทร์จ้าว
ตอนพิเศษ เกลอใหม่
...........................


หม่อมหลวงพงศ์ภราธร  ฉัตราภาสก้าวเท้าเข้ามาในสโมสรเทนนิสอย่างเร็ว เสียงหวดลูกดังก้องไม่รู้มาจากคอร์ดไหน แต่ที่ดังถี่เพราะคู่ตีโต้ฝีมือสูสี ก็เห็นจะเป็นคอร์ดกลางสนาม



ฝั่งหนึ่งของตาข่ายขึงคั่นกลางคือจันทร์จ้าวเพื่อนรักของเขา ผู้ซึ่งหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทราบดีว่าฝีมือดีเพียงใด ส่วนอีกฝั่ง...ควรจะเป็นภวัต นายแพทย์หนุ่มผู้ตีเทนนิสได้เก่งกาจ ทว่า...ไม่ใช่



ราชนิกูลหนุ่มถอนฉุนทีหนึ่ง ก่อนจะรีบสาวเท้าให้ไวกว่าเดิม ทันเห็นจันทร์จ้าวหวดไม้ตบลูกลงเส้นของอีกฝั่ง กระเด้งกระดอนออกไปเป็นอันจบเกมส์ สองฝั่งต่างพากันยิ้มแย้ม แต่ที่ยิ้มกว้างเป็นพิเศษคือจันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์ อนุมานได้ว่าเจ้าตัวคงเป็นฝ่ายชนะ



คนพ่ายแพ้แทนที่จะหน้าตาเศร้าหมอง กลับยิ้มร่าแล้ววิ่งมาจับมือผู้ชนะ



“ฝีมือคุณจันทร์นี่เยี่ยมจริงๆ ผมไม่ได้เล่นเทนนิสสนุกอย่างนี้มานานแล้ว!”



“คุณก็ไม่เลวเลย” จันทร์จ้าวตอบ ก่อนจะเหลือบไปเห็นเพื่อนรักยืนกอดอกหน้าบึ้งตึงอยู่ริมสนาม



“คุณพงศ์มาแล้ว ผมต้องไปตีกับคุณพงศ์ล่ะ นัดไว้ว่าวันนี้ถ้าไม่รู้แพ้รู้ชนะ จะไม่กลับบ้าน” พูดพลางยิ้มร่า ดูเจ้าตัวจะไม่เหน็ดเหนื่อยเสียเท่าไรกับการตีโต้เมื่อครู่นี้เลย แม้เหงื่อจะชุ่มเสื้อแล้วก็ตาม



“ตามสบายครับ ผมเองก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน แล้วไว้เรามาตีด้วยกันใหม่”



“แน่นอน”



ชายหนุ่มผิวดำแดงผู้เป็นคู่ตีโต้หน้าใหม่ของจันทร์จ้าวหันไปค้อมศีรษะทักทายและขอตัวกับราชนิกูลหนุ่มที่ยืนอยู่ริมคอร์ด จากนั้นจึงก้าวเท้าจากไป จันทร์จ้าววิ่งเหยาะมาหา ทว่าไม่ทันเอ่ยปาก หม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้ไม่ทราบว่าไปกินรังแตนที่ใดมาก็พูดขึ้นเสียงเขียว



“แกรู้จักนายมงคลด้วยรึ?!”



นายมงคลที่ว่าคือหน้าใหม่ของสโมสรเทนนิสแห่งนี้ แต่นับตั้งแต่โผล่มาที่นี่ก็ดูจะผูกขาดหน้าเก่าอย่างจันทร์จ้าวเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัด



“คุณพงศ์ก็รู้จักคุณมงคลด้วย?”



“นักเรียนสิงคโปร์ ลูกเจ้าของโรงงานสบู่”



“ดีจริง ไว้ผมขอสบู่เธอมาใช้บ้าง”



“จะไปขอเธอทำไม แกขอคุณหมอซี!”



“ทำไมผมต้องไปขอหมอด้วยเล่า คุณพงศ์นี่แปลก จะให้ไปขอสบู่จากหมอ”



หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรู้ดีว่าเพื่อนรักเป็นคนฉลาด อย่างน้อยก็มีดีกรีนักเรียนทุนอเมริกันห้อยท้าย ทว่าเวลาอย่างนี้เจ้าตัวกลับโง่ได้น่าเขกกระหม่อมนัก



เถอะ! เขกตอนนี้เห็นทีจะไม่ได้คุยกันต่อ!



ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรพยายามทำใจเย็น แล้วถามต่อ



“แล้วคุณหมอไปไหน” ดวงตากลมใหญ่กะพริบปริบๆ ที่จู่ๆก็ถูกถามถึงหมอภวัต



“อยู่โรงพยาบาล ช่วงนี้คนไข้แยะ”



และเพราะว่าคนไข้แยะ จึงไม่ได้ติดสอยห้อยตามมาตีเทนนิสกับจันทร์จ้าวเหมือนเคย ผลเลยออกมาเป็นเช่นที่เห็นตำตาอยู่อย่างนี้ คือจันทร์จ้าวมีเพื่อนตีเทนนิสคนใหม่ ดูแล้วน่าจะถูกใจเจ้าตัวพอดู



   “แล้วทำไมแกไม่ไปหาคุณหมอ”



   “ไปทำไม หมอต้องทำงาน ผมไปก็นั่งแกร่ว เบื่อแย่”



   “ก็เลยดอดมาตีเทนนิสกับนายมงคลอย่างนั้นรึ?!”



เป็นอีกหนที่จันทร์จ้าวกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเปรย



   “ดูเหมือนคุณพงศ์จะไม่ชอบคุณมงคลเอาเสียเลย”



คนถูกจับพิรุธได้ไม่คิดปิดบัง ถอนฉุนเสียทีหนึ่งก่อนจะสาธยาย



   “ไม่ใช่กันไม่ชอบ แต่เพราะแกสนิทสนมกับนายมงคลง่ายและเร็วเกินไป กันไม่ได้มาที่นี่นับเดือน แต่เรื่องที่แกสนิทกับนายมงคลยังรู้ถึงหู แล้วแกคิดว่าเรื่องนี้จะไม่รู้ถึงหูคุณหมอรึ?!”



   “รู้แล้วอย่างไร?” คนฉลาดย้อนถามตาใส หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอ้าปากพะงาบหน้าตาเลิกลักลำบากใจที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ก่อนที่จะทันได้หาวิธีเตือนสติเพื่อนรัก จันทร์จ้าวก็หัวเราะร่าออกมาเสียก่อน



   “แกหัวเราะอะไร?!”



   “หัวเราะคุณพงศ์น่ะซี หึงแทนหมอก็ได้ด้วยหรือ”



   “กันไม่ได้!...” หม่อมอหลวงพงศ์ภราธรพูดไม่ออก คำนั้นกับเพื่อนนิสัยพรรค์นี้ ไม่คู่ควรกันเสียเลย



   “คุณพงศ์ไม่ต้องกังวลไป หมอไม่คิดอะไรไร้สาระอย่างนั้นหรอก” เจ้าของลักยิ้มทที่แก้มซ้ายพูดพลางกลั้วหัวเราะ ไม่ได้คิดว่าความสนิทสนมของตนที่มีต่อคู่ตีเทนนิสอย่างนายมงคลจะเป็นเรื่องใหญ่โตแต่ประการใด



   “พูดไป! เรื่องอย่างนี้น่ะไม่เข้าใครออกใคร!”



ดวงตากลมใหญ่หรี่มองคนพูดอย่างจับผิด



   “มิน่า เข้าคุณพงศ์แล้วไม่ออกเสียที มัวแต่หึงผมอยู่ร่ำไป จะได้แต่งงานเมื่อไร” ถูกหยอกทั้งๆที่เป็นกังวลกับเรื่องของเจ้าตัว ก็ทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรนึกเข่นเขี้ยวเพื่อนรักหนักข้อ



   “ทำเป็นพูดดี! ระวังไว้เถอะจันทร์ เรื่องของแกกับนายมงคลจะทำให้แกเดือดร้อน!” เขาพูดเสียงเคร่ง ทว่าจันทร์จ้าวโบกไม้โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ แล้ววิ่งเหยาะกลับลงไปในคอร์ด แต่ไม่วายหันกลับมาตะโกนเร่ง



   “จับไม้แล้วลงมาเสียทีคุณพงศ์ วันนี้ผมจะชนะทุกเซ็ตให้ดู”



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองคนมากเสน่ห์ซึ่งเป็นที่ต้องตาต้องใจของคนทั้งเมืองแล้วได้แต่ถอนหายใจ ไม่รู้หมอภวัตทำบาปกรรมอะไรมาแต่ชาติภพที่แล้ว ชาตินี้ถึงได้คู่ครองที่ ‘ดูแล’ ยากเหลือเกิน!



…………………………………..



   โรงพยาบาลในช่วงนี้มีคนไข้จำนวนมาก โดยเฉพาะคนไข้อาการหนัก หลายรายรักษาหายแล้วหรือรักษาไม่ได้แล้ว ก็มีรายใหม่มาเพิ่ม ในแต่ละวันของหมอภวัตจึงอยู่แค่โรงพยาบาลและบ้านพัก ไม่ได้ออกไปไหนมานานนับเดือน แต่กระนั้น...ทุกๆวัน ก็ยังมีใครบางคนแวะมาหา...พร้อมด้วยรอยยิ้มที่เห็นลักยิ้มแก้มซ้าย



   พอคิดถึงคนผู้นั้นที่ทำให้หัวใจอิ่มเอิบ แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากภาระหน้าที่ แต่กระนั้นหมอภวัตก็ยิ้มออก



   นางพยาบาลสมฤดีวางแฟ้มคนไข้ลงตรงหน้านายแพทย์หนุ่มที่กำลังยิ้มจาง หล่อนเลิกคิ้วเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าคนทำงานหนักอย่างเขายังมีสีหน้าสุขใจอย่างนี้ได้



   “สมกับเป็นคุณหมอ คนไข้แยะอย่างนี้ก็ยังยิ้มออก” คนถูกทักเหมือนเพิ่งรู้ตัว แต่รอยยิ้มของเขาไม่ใช่เรื่องปกปิด จึงส่งยิ้มจางให้หล่อนด้วย



   “แค่กำลังคิดเรื่องสนุกน่ะครับ”



สมฤดีชะงักไปเล็กน้อย หมู่นี้หมอภวัตไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลไปไหนเลย แม้แต่เรื่องสนุกอย่างเทนนิสที่หล่อนเคยเห็นเขาไปตีออกบ่อยก็ไม่ได้ไป จะยิ้มแต่ละทีจึงต้องใช้วิธี ‘คิด’



   “คุณหมอน่าจะหาเวลาพักผ่อนบ้างนะคะ อย่างออกไปตีเทนนิสอย่างนี้” หล่อนเอ่ยอย่างเป็นห่วง แล้วพอพูดถึงเรื่องเทนนิส ก็หวนคิดถึงชายหนุ่มอีกคนที่คลั่งไคล้กีฬาชนิดนี้ไม่ต่างกัน เสียแต่ว่าใครคนนั้นดูจะมีเวลาว่างเหลือเฟือ ไปตีเทนนิสบ่อยจนมีข่าวคราวลอยมาถึงหูหล่อน



   “คุณหมอคงไม่ทราบว่าเวลานี้คุณจันทร์เธอมีเพื่อนตีเทนนิสคนใหม่แล้วนะคะ”



หมอภวัตชะงัก รอยยิ้มบนใบหน้าจางลงเล็กน้อย แต่กระนั้นเขาก็ยังมีอาการนิ่งสงบ



   “เพื่อนตีเทนนิสคนใหม่หรือครับ”



   ช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะยุ่งเสียเพียงใดแต่จันทร์จ้าวก็แวะมาหาทุกวัน เจ้าตัวเป็นคนช่างพูดจึงบอกเล่าเรื่องต่างๆในแต่ละวันให้เขาฟัง เช่น วันนี้เรย์มอนด์  อดัมส์ขอให้นภาสรวงทำอาหารไทยที่เผ็ดที่สุดให้ทาน ผลกลายเป็นว่าท้องเสียนอนซมอยู่ที่บ้าน หรือ วันนี้ไปตีเทนนิส จับคู่กับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรตีโต้กับนายวินิตและใครสักคนในสโมสรที่ฝีมือแย่บรม จนนายวินิตวิ่งรับลูกแทบเป็นลม



แต่...ไม่มีเรื่องไหนเลยที่จันทร์จ้าวจะพูดถึงเพื่อนใหม่



   “สามีของสมไปตีเทนนิสที่สโมสร ได้ยินคนเขาพูดกันว่าคุณจันทร์ติดใจฝีมือของคุณมงคลมากทีเดียว คุณมงคลคนนี้ได้ข่าวว่าเพิ่งกลับจากสิงคโปร์ นักเรียนนอกด้วยกันทั้งคู่ก็คงจะคุยกันถูกคอ...” แม้สมฤดีจะทำงานใกล้ชิดกับหมอภวัตและเป็นเพื่อนของแฝดรักษพิพัฒน์ แต่หล่อนก็ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของความสัมพันธ์ระหว่างภวัตและจันทร์จ้าว แต่ที่ต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะนึกสงสารนายแพทย์หนุ่มอย่างไรชอบกล



   ก่อนหน้านี้เห็นพวกเขาสนิทสนมกันเป็นอันดี แต่พอหมอภวัตติดภารกิจในโรงพยาบาลไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ถูกจันทร์จ้าวทิ้งไปมีเพื่อนคนใหม่เสียแล้ว



   “คุณหมอมัวแต่ทำงาน จะถูกคุณจันทร์ลดลำดับขั้นจากคู่ตีโต้อันดับหนึ่งแล้วเห็นไหมล่ะคะ” สมฤดีเปรย ทว่าความสงสารของหล่อนดูจะไม่เข้าไปในจิตใจของภวัตเลยแม้แต่น้อย



   สิ่งที่เขาอยากรู้ในเวลานี้กำลังดึงความสนใจทั้งหมด



   “คุณมงคลที่ว่า...สนิทกับคุณจันทร์มากหรือครับ”



   “เห็นว่าจับคู่ตีโต้กันบ่อยๆค่ะ” หัวใจของภวัตเหมือนมีกองไฟถูกจุดพรึ่บ มันร้อนสุมจนแทบนั่งไม่ติด



   “คุณหมอต้องหาเวลากลับไปทวงตำแหน่งคืนบ้างนะคะ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คุณจันทร์เป็นได้ใหม่ลืมเก่าแน่” หล่อนไม่อยากให้เขาเสียเพื่อนตีเทนนิสไปเพราะงานในโรงพยาบาล แต่สิ่งหนึ่งที่สมฤดีไม่มีวันรู้ คือคำพูดของหล่อนยิ่งทำให้ภวัตอื้ออึงไปหมดทั้งหัวใจ



   เย็นวันนั้น แม้ว่าจะยุ่งปานใด แต่นายแพทย์ภวัตก็หาทางฝากฝังงานของตนให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นช่วยดูแล ก่อนจะขับรถยนต์ออกจากโรงพยาบาลตรงดิ่งไปที่สโมสรเทนนิสในทันที







   สโมสรเทนนิสยามเย็นนั้นมีผู้คนแน่นขนัดเพราะเป็นช่วงเวลาแดดร่มลมตก ไม่ร้อนและยังสว่างพอจะมองเห็นลูก ภวัตมาที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่มาด้วยหัวใจหนักอึ้งถึงเพียงนี้



   เขาก้าวเท้าเข้าไปในสโมสร ดูเหมือนจะเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในชุดซึ่งไม่พร้อมกับการลงคอร์ดแต่อย่างใด แต่จะอย่างไรก็ตาม วันนี้เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะตีเทนนิส



   ถ้าเรื่องที่ได้ยินทำให้หัวใจถูกสุมด้วยกองเพลิง เขาก็อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าเรื่องนั้นเป็นจริงมากน้อยเพียงใด



   แม้ว่าสิ่งที่เห็น...อาจจะยิ่งทำให้หัวใจร้อนผ่าวมากกว่าเดิมก็ตามที



   ดวงตาคมจับจ้องร่างสูงสมส่วนของคนคุ้นตาที่กำลังวิ่งอยู่ในสนาม แม้เห็นแต่ไกล เขาก็จำได้ดีว่าคนที่กระฉับกระเฉงและมีฝีมือตีเทนนิสไม่เป็นสองรองใครในสโมสรนี้คือจันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์ ส่วน...อีกฝั่งของคอร์ด...



   แม้ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าค่าตา แต่หัวใจของเขาตะโกนก้องว่าคนที่กำลังตีโต้กับ ‘คู่รักของเขา’ อย่างสนุกคือนายมงคล เพื่อนใหม่ที่มาแทนที่เขา



   ภวัตได้แต่เม้มปากแน่น แล้วก้าวเท้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทว่าไม่ทันที่จะได้พูดหรือทำอะไร เสียงทักของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ดังขึ้น



   “อ้าว คุณหมอ” นายแพทย์หนุ่มหันไปมอง แต่เขาไม่ทันตอบ หางตาก็เห็นร่างของใครบางคนในคอร์ดเอียงวูบก่อนจะล้มลงกระแทกกับพื้นดังพลั่ก!



   ภวัต หม่อมหลวงพงศ์ภราธรและผู้คนรอบสนามหันมองไปที่ต้นเสียงทันที



   “จันทร์/คุณจันทร์!” ราชนิกูลหนุ่มและคู่ตีโต้ของจันทร์จ้าวร้องลั่นพร้อมกัน ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาคนที่นั่งหน้าเหยเกอยู่บนพื้น



   “คุณจันทร์! เป็นอย่างไรบ้างครับ ขอผมดูหน่อย”



แม้จะอยู่อีกฝั่งของสนาม แต่นายมงคลนั้นคล่องแคล่วว่องไว เพียงปราดเดียวก็มาถึงตัวคนที่ลงไปนั่งกับพื้นแล้ว ทว่าแม้จะไวเพียงใด ก่อนที่มือของเขาจะทันได้แตะต้องจันทร์จ้าว เสียงทุ้มดุก็ดังขึ้นเบื้องหลัง



   “ไม่ต้อง!” 



นายมงคลชะงักกึก ไม่ทันหันไปมอง เจ้าของเสียงก็สืบเท้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว



   “กรุณาหลีกด้วย ผมเป็นหมอ” 



นายมงคลกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะตั้งสติได้ก็รีบถอยห่างอย่างว่องไว



   “คุณหมอหรือ? เชิญครับๆ” เขาถอยออกไปยืนอยู่ข้างราชนิกูลหนุ่ม ปล่อยให้คนที่ออกตัวว่าเป็นหมอทรุดตัวลงนั่งยองข้างจันทร์จ้าว



   ภวัตสบตาคนเจ็บเพียงวูบเดียว ก่อนหันไปจับจ้องข้อเท้าสองข้างที่น่าจะเป็นต้นเหตุ



   “ข้างไหนครับ”



   “ข...ขวา...ม...หมอ! โอ๊ย! เจ็บ...” ตอบได้เพียงเท่านั้นก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อมือใหญ่จับเข้าที่ข้อเท้าข้างขวา ดูเหมือนคนเป็นหมอจะไม่ได้สนใจเสียงร้องเท่าไรนัก พอลองขยับเล็กน้อยแล้วก็หันไปทางผู้ชม



   นอกจากกลุ่มคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาแต่ประการใดแล้ว ก็มีหม่อมหลวงพงศ์ภราธร นายวินิต และนายมงคล



   ทั้งหมดล้วนมองมาด้วยความห่วงใยคนเจ็บและพร้อมให้ความช่วยเหลือหากแค่เพียงหมอภวัตเอ่ยปาก



   แน่นอน...นายแพทย์หนุ่มมองข้ามกลุ่มคนที่เขาไม่รู้จักและนายมงคลอย่างสิ้นเชิง



   “คุณวินิต รบกวนไปขอกระเป๋ายาให้ผมที”



นายวินิตรับคำแล้วรีบวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว หมอภวัตจึงหันกลับมาที่จันทร์จ้าวที่ยังนั่งหน้าซีดเซียวปวดหนึบกับข้อเท้าของตนเอง



   “ลุกไหวไหมครับ ไปนั่งที่เก้าอี้ ผมจะทายาแล้วพันผ้าให้” เห็นสีหน้าของคู่รักแล้ว แม้จะหงุดหงิดกับความสนิทสนมของจันทร์จ้าวและเกลอใหม่เพียงใด แต่ก็ทำใจแข็งไม่ลง



   คนถูกถามพยักหน้ารับเล็กน้อย แต่เมื่อหมอภวัตพยุงแขนข้างหนึ่งของเขาเพื่อให้ลุกขึ้นยืน นายมงคลก็ปราดเข้ามาพยุงอีกข้าง



   “มาครับ ผมช่วย” 



นายแพทย์หนุ่มมองผ่านจันทร์จ้าวไปยังคนแสดงน้ำใจ ทว่าเป็นน้ำใจที่ทำให้ขวางหูขวางตาจนต้องถอนฉุนเสียทีหนึ่ง แล้วไม่พูดอะไรอีกเลย


……………………………
   



   นายวินิตไปขอกระเป๋ายากลับมาแล้ว คนที่ออกตัวว่าเป็นหมอก็ลงมือทายา พันผ้าให้เรียบร้อย เวลานี้คนที่สนใจเหตุการณ์เมื่อครู่พากันสลายตัวไปหมด จะเหลือก็แต่ ‘คนกันเอง’



   “เป็นอย่างไรบ้างจันทร์ เจ็บไหม” ราชนิกูลหนุ่มเอ่ยถามด้วยความเห็นห่วง



   “เจ็บน่ะซี!...เอ่อ...ม...ไม่...แต่ก็ไม่เจ็บเท่าเมื่อครู่นี้แล้ว...”



เพราะหมอภวัตยังคงยืนอยู่เบื้องหน้า จากที่ว่าจะบ่นกระปอดกระแปด เลยต้องเลี่ยงคำไปแทน



   ขืนบ่นเรื่องเจ็บเรื่องปวดต่อหน้าหมอ เดี๋ยวก็ได้โดนดุอีกชุดใหญ่



   “ผมต้องขอตัวคุณจันทร์ก่อน คงเล่นไม่ได้แล้ว” นายแพทย์หนุ่มหันไปกล่าวกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธร แม้ว่าคู่ที่เล่นกับจันทร์จ้าวคนสุดท้ายจะเป็นนายมงคล



   จะกล่าวหาว่าหมอภวัตกลายเป็นคนอิจฉาริษยาก็ได้ แต่เขาจงใจละเลยและไม่ให้ความสำคัญกับหนุ่มนักเรียนนอกสิงคโปร์ผู้นั้น แม้ว่าเจ้าตัวจะปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ในวงด้วยก็ตามที



   “ตามสบายเลยครับคุณหมอ”



   “ขอตัวก่อนนะครับ” หมอภวัตกล่าว แต่คราวนี้จะพูดกับเพียงราชนิกูลหนุ่มและนายวินิตไม่ได้แล้ว ในเมื่อนายมงคลก็ยังคงยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ในกลุ่มด้วย เขาค้อมศีรษะให้ทุกคน และ...คนสุดท้ายคือนายมงคล



   “ฝากดูแลคุณจันทร์ด้วยนะครับ คุณหมอ” 



นายมงคลดูจะไม่ได้รู้ตัวสักนิด เขายังคงมีความห่วงใยต่อจันทร์จ้าวอย่างเต็มเปี่ยมเลยฝากฝังเอากับคนที่ออกตัวว่าเป็นหมอ ทว่า...นี่เป็นอีกครั้งที่ขัดหูคนสุขุมอย่างภวัตเหลือเกิน



   นายแพทย์หนุ่มไม่ตอบกระไร แต่เลือกจะหันไปพยุงจันทร์จ้าวให้ลุกขึ้นยืน



   “ไปก่อนนะ คุณพงศ์ คุณวินิต คุณมงคล” คนเจ็บล่ำลา



๒ คนแรกนั้นเพียงพยักหน้ารับ ทว่าคนที่ ๓ กลับทิ้งท้ายเป็นประโยค



   “หายไวๆล่ะคุณจันทร์ แล้วไว้เรามาเล่นกันใหม่”



   จันทร์จ้าวได้ยินเสียงสูดลมหายใจลึกจากคนข้างกาย แล้ววินาทีต่อมาร่างของเขาก็ลอยหวือตามการลากของหมอภวัตออกจากสโมสรไปอย่างรวดเร็ว



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรและนายวินิตมองตาม ก่อนที่นายวินิตจะหันมาพูดกับเขา



   “คุณหมอเธอดูอารมณ์ไม่ค่อยดีนะคุณพงศ์ สงสัยจะทำงานหนัก”



   ราชนิกูลหนุ่มพูดไม่ออก ได้แต่เถียงนายวินิตในใจ



   …ทำงานหนักที่ไหนเล่า จันทร์จ้าวก่อเรื่องหนักสิไม่ว่า!...



………………………..

หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-11-2018 20:38:26

   รถยนต์ของนายแพทย์หนุ่มจอดที่หน้าอาคารของโรงพยาบาล จากนั้นก็ค่อยพยุงคนขาเจ็บมาที่บ้านพัก พอจันทร์จ้าวนั่งลงบนเก้าอี้ยาวภายในบ้านได้แล้ว เจ้าของบ้านจึงเอ่ยเรียบ



   “ช่วงนี้อยู่ที่นี่ไปก่อน จะได้ไม่ต้องขึ้นลงบันได”



เพราะบ้านพักของเขาเป็นแบบชั้นเดียว ย่อมสะดวกกว่าบ้านเช่าสีเขียวอ่อนแบบ ๒ ชั้นที่จันทร์จ้าวอาศัย



   คนเจ็บขาพยักหน้าอย่างว่าง่าย



   “ผมจะไปยกน้ำมาให้ คุณอยากได้อะไรอีกไหม จะได้ไม่ต้องเดิน”



   คราวนี้เจ้าตัวส่ายหน้า



   ทว่าพอภวัตจะผละไปหยิบน้ำดื่มและขนมของว่างมาวางไว้ใกล้ตัว แขนของเขากลับถูกรั้งเอาไว้



   “หมอโกรธผมหรือ” หมอภวัตไม่ยอมหันกลับไปมอง แค่คำถามด้วยสุ้มเสียงอ่อนระโหย หนำซ้ำเขายังเห็นตำตาว่าจันทร์จ้าวเจ็บตัว แค่นี้หัวอกก็อ่อนยวบยาบแล้ว



   “ผมไม่ได้ตั้งใจเจ็บตัว ใครใช้ให้คุณพงศ์พูดว่าหมอมาล่ะ”



   “ทำไมครับ ไม่อยากให้ผมไปหรือ” ภวัตรู้สึกว่าคำพูดของเขาช่างเหมือนผู้หญิงเสียเหลือเกิน แต่เวลานี้ที่หัวใจยังร้อนรุ่มด้วยความริษยา ก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะอยากตั้งคำถามเช่นนี้



   เพราะจันทร์จ้าวกำลังสนุกกับเพื่อนตีโต้คนใหม่ จึงไม่อยากให้เขาไป



   เพราะจันทร์จ้าวกำลังสนิทสนมกับคนที่มีหัวคิดหัวอ่านเป็นนักเรียนนอกเหมือนกัน จึงไม่อยากให้เขารับรู้



   เพราะจันทร์จ้าว...กำลังได้ใหม่ลืมเก่า



   “ก็ผมเห็นหมอยุ่ง นึกว่าคุณพงศ์แกล้งพูดถึงหมอ แต่พอหันไปเห็นเป็นหมอมาจริง ก็เลย...พลาด...”



   หมอภวัตยังคงยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะหันมามองสักนิด จันทร์จ้าวจึงรั้งแขนเขาอีกครั้ง



   “หมอ...ผมพลาดเองที่ไม่ทันระวังตัว ไม่ได้ตั้งใจจะเจ็บตัวสักนิด เห็นหมอมาก็ดีใจ อยากตีเทนนิสด้วย...”



   “แต่คุณมีเพื่อนตีคนใหม่แล้วไม่ใช่หรือครับ เห็นว่าถูกอกถูกใจกันดี” ชักจะเป็นวาจาที่คล้ายหญิงขี้หึงเข้าไปทุกที หมอภวัตไม่ชอบความรู้สึกในใจของตนเองเวลานี้เลย มันร้อนรุ่ม แผดเผา เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา



   ครั้งหนึ่ง อีกฝั่งของคอร์ดเทนนิสของจันทร์จ้าวคือเขา



   เขาคือคนที่ทำให้เจ้าตัวเปล่งประกายและมีความสุข กระฉับกระเฉงและสนุกสนาน



   ทว่าเวลานี้...ใครคนนั้นไม่ใช่เขาอีกแล้ว



   คนฟังขมวดคิ้วเล็กน้อย อึดใจเดียวคำพูดของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ดังก้องในสมอง



‘เรื่องของแกกับนายมงคลจะทำให้แกเดือดร้อน’



คราวนี้เขาไม่รั้งแขนเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ดึงหมอภวัตให้ลงมานั่งข้างกัน แม้ทีแรกอีกฝ่ายจะตั้งหลักมั่นไม่ไหวติง แต่พอเขาดึงซ้ำเป็นครั้งที่ ๒ หมอภวัตผู้ตามใจเขายิ่งกว่าใครก็ยอมทิ้งตัวลงนั่ง แต่...ก็ยังไม่ยอมหันมองอยู่ดี



“หมอทราบเรื่องคุณมงคลด้วยหรือ”



“เรื่องออกดังนี่ครับ”



แม้จะยอมนั่งเคียงข้าง แม้จะยอมตอบคำถาม แต่หมอภวัตก็ยังไม่ยอมหันมองคนถามอยู่ดี



“เรื่องอะไรที่ดังหรือ เรื่องที่เป็นนักเรียนสิงคโปร์? เรื่องที่เป็นลูกเศรษฐีโรงงานสบู่? เรื่อง...”



“เรื่องที่เธอสนิทกับคุณ” ไม่ต้องให้จันทร์จ้าวพูดให้จบ เสียงของภวัตก็ดังแทรก คราวนี้เขายอมหันกลับมามอง ดวงตาคมที่มักมองคู่รักของตนด้วยแววหวาน มาบัดนี้กลับเต็มไปด้วยความอึดอัดคับข้องใจ



แม้จะเป็นคนรักสนุกและเต็มไปด้วยนิสัยแผลง แต่สายตาของหมอภวัตในเวลานี้กลับทำให้จันทร์จ้าวทำเรื่องเปิ่นไม่ออก



‘คุณพงศ์’ พูดถูกหนึ่งอย่างคือเรื่องของเขาและนายมงคลจะทำให้เขาเดือดร้อน แต่ไม่ได้พูดอีกอย่างว่าเรื่องนี้จะทำให้หมอภวัตเดือดเนื้อร้อนใจด้วยเช่นกัน



และอย่างหลังนั้น ทำให้จันทร์จ้าวสะท้อนวาบในอก



“หมอ...คุณมงคลเป็นเพื่อนตีเทนนิสของผมเท่านั้น” จันทร์จ้าวพูดเสียงแผ่ว ทว่าสายตากลับแน่วแน่จริงจังเสียจนภวัตต้องเบือนหน้าหนี



หัวใจที่ถูกเผาด้วยไฟริษยาราวกับได้น้ำแห่งความมั่นคงราดรด แม้จะเหลือไฟสุมไม่กี่กอง แต่ก็ไม่สร้างความทุรนทุรายให้แก่เขาเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว



หัวใจของหมอภวัตช่างว่าง่ายกับจันทร์จ้าวเสียเหลือเกิน



“เธอตีเทนนิสเก่งจริงผมไม่เถียง แต่เรื่องความสนิท ผมสนิทกับคุณพงศ์ กับเรย์ กับคุณวินิตมากกว่าเสียอีก”



แต่พวกเธอเหล่านั้นไม่ได้ทำให้หมอภวัตรู้สึกหวาดหวั่นได้เท่านายมงคลเลยสักนิด อย่างน้อยก็เพราะทั้ง ๓ ล้วนเป็นเพื่อนที่คบหากันมานานนับปี ไม่ใช่คนที่เพิ่งกลับมาถึงเมืองไทย โผล่หน้าไปสโมสรเทนนิสไม่กี่ครั้งก็ได้ตีเทนนิสกับจันทร์จ้าวอย่างนายมงคล



เป็นความอิจฉาริษยา ที่หมอภวัตไม่คาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นในใจของเขา



“หรือก่อนหน้านี้ หมอก็หึงผมกับคุณพงศ์ กับเรย์ กับคุณวินิต?” เพราะเป็นคนแผลง เมื่อพูดความจริงจังออกไปได้ประโยคหนึ่งแล้ว อุปนิสัยพิสดารของเจ้าตัวก็ชวนให้พูดเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมาอีก



หมอภวัตรู้สึกขนสันหลังลุกชันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่เคยคลางแคลงความสัมพันธ์ของจันทร์จ้าวกับคนทั้ง ๓ นั่นเลย



“ไม่ใช่นะครับ” นายแพทย์หนุ่มรีบหันมาปฏิเสธ แต่พอเห็นดวงตาระยิบระยับของคนเจ็บ ก็รู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายจงใจหยอกเขา



“ผมจะไปยกน้ำมาให้” ขืนยังนั่งต่อไป เห็นทีคงได้ถูกจันทร์จ้าวปั่นป่วนความรู้สึกอีกระลอกใหญ่ แต่พอเขาจะลุก คนเจ็บขาแต่แขนยังใช้การได้ดีก็กดเข่าของเขาเอาไว้อีก



“นายมงคลตีเทนนิสเก่งก็จริง แต่ก็ใช่คนเดียวเสียเมื่อไรที่ตีเทนนิสถูกใจผม”



คนมากเสน่ห์ขยับตัวเล็กน้อย อาการเจ็บหนึบที่ข้อเท้าไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใดที่จะเข้าใกล้คนที่นั่งอยู่ข้างกาย เพียงอึดใจเดียวก็ยื่นหน้าเข้าไปแทบจะเกยไหล่นายแพทย์หนุ่มแล้ว



“มีใครอีกคนที่ตีเทนนิสเก่ง บางคราวตีชนะผมติดๆกันหลายตาจนผมใจฟ่อก็ยอมอ่อนข้อให้ผมชนะบ้าง ผมจึงตีกับเธอผู้นั้นอย่างสนุก จบเกมส์แล้วก็ยังขยันเอาอกเอาใจ น้ำท่าบริการไม่ขาดตกบกพร่อง นอกสนามก็เป็นเพื่อนคู่คิดผมได้ดี ตามใจผมยิ่งกว่าใคร...ภาษีดีกว่าคุณมงคลตั้งแยะเชียว...”



คนฟังที่เมื่อครู่ยังเคร่งขรึมด้วยอารมณ์ริษยามาบัดนี้หัวใจพองฟูเหมือนมีผีเสื้อกระพือปีกนับร้อย วาจาของจันทร์จ้าว แม้ไม่เจาะจงว่าเป็นใคร แต่การพูดใกล้หูให้ได้ยินเพียงสองคนนี้ ก็ทำให้หมอภวัตคิดเข้าข้างตนเองไปแล้วว่าใครผู้นั้นคือ...เขา...



“คุณพงศ์นั่นเอง”



ทว่าประโยคต่อมาของคนแผลงทำเอาหัวใจที่มีผีเสื้อกระพือปีกยุบยวบในบัดดล เดิมทีนั้นนึกอิจฉาริษยาจนหัวใจร้อนอยู่ไม่สุข แต่พอจันทร์จ้าวเปรยถึงใครบางคนที่ภาษีดีกว่านายมงคลจนพาลให้คิดเป็นตนเอง หมอภวัตก็รู้สึกหวั่นไหว ทว่าเวลานี้คำเฉลยกลายเป็น ‘คุณพงศ์’ ก็ทำเอานายแพทย์หนุ่มถูกหินก้อนใหญ่ทุ่มทับจนอื้ออึงพูดไม่ออก ได้แต่ขบกรามแน่น



หากจะมีใครใจร้ายใจดำที่สุดในเวลานี้ ก็เห็นจะเป็นจันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์นั่นแล



“ผมจะไปยกน้ำ”



ข้ออ้างเดิม ใช้ครั้งแรกไม่ได้ผล เมื่อใช้ครั้งที่สอง...ก็ย่อมให้ผลไม่ต่างกัน



แขนของเขาถูกรั้งเอาไว้อีกพร้อมกับเสียงหัวเราะร่วนของคนข้างกาย ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าดวงหน้าปานรูปหล่อที่ผู้หญิงค่อนกรุงหลงใหลกำลังระยิบระยับด้วยความรื่นเริงแค่ไหน



“เดี๋ยวซี ผมไม่พูดเล่นแล้ว” จันทร์จ้าวพูดพลางกลั้วหัวเราะ หากมีกระจกสักคัน คงสะท้อนสีหน้าอันแตกต่างระหว่างเขาและหมอภวัตได้เป็นอย่างดี



คนหนึ่งหัวเราะจนดวงตากลมใหญ่หยีเล็ก อีกคนหน้าบึ้งตึงหัวคิ้วย่นเข้าหากัน



“คุณพงศ์ตีเทนนิสเก่ง แต่ตามใจผมมากเกินไป มีอีกคนต่างหากที่ตีเทนนิสเก่งเท่าเทียมกัน ตีด้วยแล้วสนุกอย่าบอกใคร แล้วยังขยันตามใจ แต่ก็ขัดใจผมเป็นบางที แต่ผมจะทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะเธอคนนั้นบอกกับผมว่าเวลาที่ขัดใจผม เธอก็ขัดใจตนเองเช่นกัน...” ประโยคนี้ หมอภวัตจำได้ขึ้นใจว่าเขาคือคนพูดเอง



ทว่า...คิดเข้าข้างตนเองก็เกรงจะถูกตลบหลังอย่างเมื่อครู่ แม้หัวใจจะเอนเอียงไปมากกว่าครึ่งว่าคนที่อยู่ในคำพูดของจันทร์จ้าวคือเขา แต่หมอภวัตก็ยังพยายามตีสีหน้าเรียบเฉย



“ผมมีหัวใจดวงเดียว ยกให้เธอผู้นั้นไปครึ่งแล้ว อีกครึ่งผมเก็บไว้ดูแลตัวเอง เจียดให้ใครไม่ได้อีกแล้ว อย่ากังวลเลย” ไม่เพียงพูดอย่างเดียว แต่มือขาวบีบแขนนายแพทย์หนุ่มเบาๆ ราวกับจะบอกว่าเธอผู้นั้นคือหมอภวัตคนนี้



ภวัตยอมหันมอง สายตาของจันทร์จ้าวนั้นมักจะระยิบระยับแพรวพราว ทว่าเวลานี้ สายตาของเจ้าตัวกลับนิ่งสงบและจริงจังแน่วแน่



ว่ากันว่าดวงตาสื่อความรู้สึกนับร้อยนับพันเห็นจะจริงดังว่า แม้คำพูดเมื่อครู่นี้ก็ไม่เท่าสิ่งที่ภวัตรับรู้จากนัยน์ตาคู่นี้



นายแพทย์หนุ่มขยับเข้าใกล้คนที่นั่งเคียงข้าง ดวงตายังจับจ้องไม่เคลื่อนคล้อยไปจากกัน ความรู้สึกสื่อประสานอ่อนหวาน จนกระทั่งใบหน้าเคลื่อนเข้าใกล้เสียจนริมฝีปากสัมผัสกัน ต่างฝ่ายต่างหลับตาลง ถ่ายทอดห้วงรักใคร่ไปกับความอ่อนโยนชวนฝัน ก่อนจะเป็นฝ่ายหมอภวัตที่ถอยห่างเล็กน้อยแล้วพึมพำเสียงเบาให้ได้ยิน



“อีกครึ่งของคุณ...อย่ายกให้ใครนะครับ”



“ยกให้คนอื่นอีก แล้วผมจะเหลืออะไรล่ะหมอ”



“ครึ่งหนึ่งอยู่ที่ผม อีกครึ่งคุณต้องเก็บเอาไว้ให้ดี”



“แน่นอนซี”



“ผมเองก็จะดูแลครึ่งหนึ่งที่คุณมอบให้อย่างดี”



ริมฝีปากของจันทร์จ้าวคลี่ยิ้มบาง รับรู้ถึงฝ่ามือร้อนที่ไล้หนักที่บั้นเอวราวกับจะสื่อให้รับรู้ถึงความต้องการลึกล้ำ



“ผมรู้...”



   ริมฝีปากของนายแพทย์หนุ่มกำลังจะกลับเข้าทาบทับรอยเดิมอีกครั้ง แต่เสียงของจันทร์จ้าวดังขึ้นเสียก่อน   



“หมอ ผมยังเจ็บขาอยู่”



ภวัตเพียงยิ้มน้อยๆ



“ไม่เป็นไรครับ ผมจะระวัง”



เห็นที คราวต่อไปหากต้องสาธยาย ‘หมอภวัต’ ออกมาเป็นถ้อยคำ นอกจากจะเป็นหมอผู้ดูแลจันทร์จ้าวได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว ยังตีเทนนิสเก่ง ขยันเอาอกเอาใจและขัดใจไปในเวลาเดียวกัน เพิ่มอีกหนึ่งคำคือ ‘ช่างระมัดระวัง’ อีกด้วย



………………………



โรงพยาบาลยังคงมีคนเนืองแน่นในทุกๆวัน



หมอภวัตกำลังจะตรงไปที่ห้องตรวจ ทว่าสายตาของเขากลับเหลือบไปเห็นใครบางคนเข้าเสียก่อน



นายมงคล



จะเมินหน้าหนีทำทีเป็นไม่เห็นก็เป็นไปไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายหันมาเห็นเขาเช่นกัน



เกลอใหม่ของจันทร์จ้าวยิ้มกว้าง สาวเท้าเข้ามาหาหมอภวัตอย่างเป็นกันเอง



“สวัสดี คุณหมอ อยู่ที่นี่เองหรือครับ”



หากเป็นคนอื่น ภวัตผู้มีอัธยาศัยไมตรีคงตอบคำถามด้วยความเป็นมิตรยิ่ง ทว่าเพราะอีกฝ่ายมีสถานะเป็น ‘เพื่อนใหม่’ ของจันทร์จ้าว หนำซ้ำยังเป็นเพื่อนที่จันทร์จ้าวถูกใจอย่างรวดเร็ว นิสัยด้านมืดของนายแพทย์หนุ่มจึงปรากฏออกมาเล็กน้อย



“ครับ” เขาตอบสั้น ทว่าก็ยังยกมุมปากเล็กน้อยส่งยิ้มบางเบา แม้ไม่ทำตัวมีไมตรีมากนัก แต่ก็ไม่หยาบกระด้าง



นายมงคลดูไม่ได้ใส่ใจกับท่าทีเป็นมิตรหรือศัตรูของอีกฝ่าย เขาเห็นหมอภวัตแล้วก็หวนคิดถึงเพื่อนใหม่นักเรียนอเมริกันที่ก่อนหน้านี้พบเจอที่สโมสรเทนนิสอยู่เนืองๆ



“คุณจันทร์เป็นอย่างไรบ้างครับ ผมไม่เจอที่สโมสรอีกเลย”



แม้การถามถึงจันทร์จ้าวจะเป็นเรื่องพึงกระทำ เพราะเหตุการณ์ข้อเท้าพลิกในคราวนั้น นายมงคลก็อยู่ด้วย การถามไถ่ย่อมแสดงถึงมารยาท ทว่าเป็นมารยาทที่แสลงหูภวัตเหลือเกิน



“ยังไม่หายครับ” หมอภวัตเข้าทางธรรมก็จริง แต่การมุสาในเวลานี้กลับไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย จันทร์จ้าวในคำพูดของเขานั้นยังไม่หายดี แต่ตัวจริงกำลังร่อนปร๋ออยู่ที่สำนักงานค้าหนังสือ



นายมงคลเลิกคิ้ว นับย้อนดู ก็เกือบสัปดาห์ได้แล้วที่จันทร์จ้าวข้อเท้าพลิก



“เป็นหนักขนาดนั้นเชียวหรือ”



หมอภวัตรู้สึกว่าการปล่อยให้อีกฝ่ายตั้งคำถามเป็นการเปิดโอกาสให้ซักแต่เรื่องจันทร์จ้าว เขายิ้มน้อยแทนคำตอบ แล้วเป็นฝ่ายเอ่ยถามทำราวกับไม่ได้ยินคำถามเมื่อครู่



“แล้วคุณมงคลมาที่นี่ทำไมหรือครับ ไม่สบายหรือ”



“มาเยี่ยมคนน่ะ” เพียงเท่านั้น หมอภวัตก็ทำทีเป็นยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ดูเหมือนนายมงคลเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าเขาโอ้เอ้ไม่ถึงห้องพักผู้ป่วยเสียที



“ผมต้องไปเสียแล้วล่ะ ฝากทักทายคุณจันทร์และฝากบอกว่าให้หายไวๆด้วยนะครับ ผมรอตีโต้กับคุณจันทร์อยู่” นายมงคลพูดแล้วยิ้มกว้างอีกหนอย่างเป็นมิตร หมอภวัตเพียงยิ้มน้อยๆ ไม่ตอบกระไร รอจนอีกฝ่ายออกไปจากโถงแล้ว รอยยิ้มของเขาก็จางหายไป



นายแพทย์หนุ่มหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องตรวจ ทิ้งทุกคำฝากของนายมงคลเอาไว้เบื้องหลังโดยไม่แม้แต่จะเก็บไปส่งให้จันทร์จ้าวรับรู้เลยแม้แต่ประโยคเดียว



…………………………….



หลังจากนั้น เมื่อจันทร์จ้าวเชื้อชวนหมอภวัตไปตีเทนนิสที่สโมสร นายแพทย์หนุ่มก็มักมีเหตุผลบ่ายเบี่ยงเสมอ



บ้างอ้างถึงหม่อมราชวงศ์ฉัตร  ฉัตราภาส



“วันนี้ผมจะเข้าไปพบคุณชายฉัตรเสียหน่อย ถ้าอย่างไรเราขอใช้สนามเทนนิสที่วังฉัตรดีไหมครับ”



บ้างอ้างเรื่องเรือติดเครื่องยนต์



“คุณจันทร์ขับเรือติดเครื่องยนต์ได้ใช่ไหม ผมเคยเห็นที่วังฉัตรมี ถ้าอย่างไรเราตีเทนนิสที่วังฉัตรแล้วขับเรือติดเครื่องยนต์ดีไหมครับ”



บ้างก็อ้างถึงสุนัขที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรและจันทร์จ้าวเก็บมาเลี้ยงในวัง



“ผมไม่ได้เล่นกับอ้ายดำนานแล้ว ไปตีเทนนิสที่วังฉัตรแล้วเล่นกับอ้ายดำด้วยดีไหมครับ”



เป็นอันว่า แม้อาการข้อเท้าพลิกของจันทร์จ้าวจะหายดีจนกลับมาตีเทนนิสได้แล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้โผล่หน้าไปที่สโมสรอีกนับเดือน จนกระทั่งข่าวคราวนายมงคลมีเพื่อนตีเทนนิสคนใหม่มาเข้าหูหมอภวัต เมื่อนั้นเขาถึงไม่อ้างเรื่องคอร์ดเทนนิสที่วังฉัตรขึ้นมาอีก


จบ


จันทร์จ้าว...อีกแล้วค่ะ ฮ่าฮ่า

ปีนี้มีตอนพิเศษจันทร์จ้าวเยอะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม บทจะคิดถึงคุณจันทร์ก็คิดถึงติดๆกัน  (๒ ตอนก็นับว่าเยอะค่ะ ฮ่าฮ่า)

ส่วนตอนพิเศษนี้...เห็นหล่อ ใจดี มีไมตรี พระนครแบบหมอภวัต แต่ถ้ามายุ่งกับคุณจันทร์ เธอก็ไม่ใจกว้างนะคะ ของของใคร ใครก็หวง ยิ่งของรักของหวง ของแรร์ไอเทม เฟี้ยวสุดในยุคนั้นแบบจันทร์จ้าวด้วยแล้ว ปล่อยไปให้คนอื่นไม่ได้หรอก ฮ่าฮ่า

ส่วนพ่อจันทร์...ถ้าตอนไหนไม่ออกมาก่อเรื่อง อย่าเรียกเธอว่าจันทร์จ้าวค่ะ ก่อเรื่องทุกครั้งที่ออกมา

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เดือนหน้าเราจะได้เจอกันในเรื่องใหม่ตามที่สัญญาไว้ค่ะ

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม คนคิดถึง และพื้นที่บอร์ดค่ะ

เจอกันเรื่องใหม่ เดือนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 29-11-2018 21:01:18
คุณหมอต้องทำโทษคุณจันทร์ให้มากกว่านี้นะคะอิอิ..ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-11-2018 21:12:19
 :L2: :L1: :pig4:

รัก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 29-11-2018 21:26:14
คิดถึงมากกกก หมอหึงน่ารักจริงๆ555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 29-11-2018 21:48:41
ขำความ ช่างระมัดระวัง ของหมอ 5555

รอเรื่องใหม่เดือนหน้านะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-11-2018 21:54:03
มีแฟนเจ้าเสน่ห์ก็ต้องออกอาการหึงกันบ่อยหน่อยนะคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 29-11-2018 22:45:23
จันทร์จ้าวผู้เอาแต่ใจ เพิ่งจะเห็นหมอหึงหนักๆก็คราวนี้ ทำโทษกันยังไงหมอมาเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ย อยากรุ้ :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 29-11-2018 23:27:23
คิดถึงคุณจันทร์มาก ๆ เลยค่ะ แต่คิดถึงคุณหมอมากกว่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-11-2018 23:35:16
คุณหมอแอบร้าย...ยยยยยยย รอเรื่องใหม่ค่า   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 30-11-2018 01:31:13
จันทน์จ้าว ที่แท้จริง

ต้องชอบแกล้ง 55
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 30-11-2018 06:38:02
จันทร์จ้าวน้าา ซนเหลือใจ ให้คุณหมอว้าวุ่นตลอดด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 30-11-2018 09:49:24
คุณจันทร์เจ็บตัวตลอดดด หมอหึงง กีสๆ กีดกั้นๆไปให้หมด ไม่ต้องมาเจอ ฮือออ หมออออ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 30-11-2018 11:12:37
คุณจันทร์นิช่างร้ายกาจ แต่ที่แอบร้ายกว่าคือคุณหมอ หึงแรงจ้า ยอมใจเลย
   :L2:  :pig4:  :L1: รักคุณจันทร์ค่ะ จะรอ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-11-2018 12:48:32
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 30-11-2018 15:41:13
โธ่คุณหมอของน้องงงงงหึงโหดเชียวววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: HunHan9407 ที่ 30-11-2018 16:43:59
มีแต่หน้าอ่านทั้งนั้นเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: brapair ที่ 30-11-2018 18:02:56
จันทร์จ้าวนี่เนื้อหอมจริงงงงๆ มีอะไรมาให้คุณหมอยุบยิบหัวใจตลอด55555
เอ็นดูคุณหมอภวัตสุดดด  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 30-11-2018 18:53:08
คุณจันทร์ ก่อเรื่องบ่อยๆนะคะ จะได้มาเจอกันบ่อยๆ รอฟังข่าวตลอดปีค่ะ :laugh:
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-11-2018 19:28:00
อยากอ่านตอนที่คุณหมอลงโทษจันทร์เจ้าด้วยอ่ะ  :impress2: :z3:  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: HunHan9407 ที่ 30-11-2018 22:33:34
เรื่องนี้ต้องเก็บในคลังอีกเรื่อง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 01-12-2018 10:00:06
คุณหมอทำให้จันทร์หึงบ้างเลยค่ะ ชอบทำให้หึงงงงง ขอบคุณน้องบัวจร้าาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 01-12-2018 11:26:10
ขอบคุณคุณบัวสำหรับตอนพิเศษค่า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 02-12-2018 07:11:48
คิดถึง มาเช่นกัน รักหมอน่ะค่ะ
น่ารักหึงแบบผู้มีปัญญาจ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 04-12-2018 08:53:33
คิดถึงคุณจันทร์กะคุณหมอ~
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-12-2018 08:29:03
น่ารัก ทำหมอหึงได้นี่ปลื้มใจน่าดูนะจันทร์จ้าว
แล้วดูสิ ยังไม่รู้ตัวว่าทำคนเค้าใจเสีย ไปยั่วหมอให้หึงอีก

จันทร์จ้าวเซี้ยวไม่มีเปลี่ยนเลยค่ะ แล้วก็เป็นคนที่หมอตามใจตลอด

ขอบคุณมากนะคะ รอติดตามเรื่องใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Enzetsune ที่ 05-12-2018 16:48:36
ดีเหมือนเดิม น่ารักเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเห็นคุณหมอภวัตหึง งืออ น่ารักมาก ๆ เลยงับ  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: italy18 ที่ 05-12-2018 19:11:22
โอยยย...คิดถึงคุณหมอ คิดถึงพ่อจันทร์ คิดถึงนิยายของคุณบัว มากกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 06-12-2018 21:54:21
โหยยยยยยยคิดถึงทุกคนเลยยยย
พ่อจันทร์นะพ่อจันทร์ ต้องโดนลงโทษหนักๆเลยแบบนี้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 07-12-2018 09:28:39
ยังป่วนเหมือนเดิม 5555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-12-2018 23:16:31
แอบเบื่อคุณจันทร์ที่เป็นคนแฟรนด์ลี่ขี้เล่นเหลือเกินนนนนนนนน
มาทางนี้ได้นะคะคุณหมอ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 08-12-2018 21:40:40
สมัยก่อนนี่ดูยากนะคะว่ายังไง ความสัมพันธ์ใกล้ชิดถึงขั้นเป็นแฟนกันจริงๆ หรือเพียงเป็นเพื่อนสนิทคบหากันธรรมดา ฉากหน้า...คาดว่าทั้งหมอภวัตและพ่อจันทร์ก็เป็นชายหนุ่มธรรมดา แต่ฉากหลังคือคู่รักแสนหวานที่อ่านแล้วอิจฉาค่ะ คอยเอาใจใส่ดูแลกัน หึงหวงกันแต่ก็ไม่ได้ออกนอกหน้าจนน่เกลียด สรุปว่าอ่านตอนนี้แล้วก็ยิ้มอีกแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษน่ารักๆ นะคะคุณบัว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: LUX-SAMA ที่ 09-12-2018 18:19:27
จะง้อกันยังไงนะ 
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 13-12-2018 22:19:25
 o13
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 14-12-2018 12:12:56
คิดถึงคุณจันทริ์บ่อยๆนะคะ เพราะะคนอ่านก็คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงง :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Ujeen ที่ 17-12-2018 21:24:01
เราเพิ่งมาอ่านรวดเดียวจนจบค่ะ เป็นอีกงานเขียนที่เนื้อเรื่องกลมกล่อมมากๆเลยค่ะ
เป็นเรื่องที่เราพยายาอ่านทุกตัวอักษรเพราะกลัวจะพลาดประเด็นอะไรไป555555
เราชอบในความเป็นจันทร์จ้าวที่มั่นใจและซื่อตรงกับตัวเอง ชอบหมอที่เป็นสุภาพบุรุษมากๆ และสามารถดึงสติ กล้าดุจันทร์จ้าวตอนหัวร้อนได้
คนที่เรานับถือมากที่สุดในความเป็นผู้ใหญ่มีเหตุมีผลและมีความรักต่อลูกหลานคือท่านนายพล คำพูดของท่านเราอ่านแล้วชอบมากๆเลยค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบผู้ใหญ่คนอื่นนะคะ แค่เน้นว่าเรานับถือท่านที่สุดในเรื่องนี้ค่่ะ
และคนอื่นๆที่คอยช่วยเรื่องหมอภวัตกับจันทร์จ้าว เราคิดว่าก็เป็นโชคดีอยู่ดีค่ะที่ทั้งสองคนมีคนคอยหนุนหลังกันขนาดนี้ ทั้งเพื่อนๆและพี่น้อง
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่คุณบัวทำให้เราเห็นว่าความรักอาจจะไม่ได้ชนะทุกสิ่ง แต่ความรักสามารถเอาชนะเราเพื่อคนที่เรารักได้ค่ะ
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 19-12-2018 15:17:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ohuii ที่ 20-12-2018 02:01:03
คุณหมอหึงได้เฉียบมาก

คิดถึงจันทร์จ้าวกับคุณหมอภวัตค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 26-12-2018 05:44:51
แวะมาผ่านๆ คิดถึงคุณหมอกะคุณจันทร์จังค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 26-12-2018 19:54:52
ถถถถ สงสารคุณหมอเลยค่ะ อย่างนี้ต้องจับคุณจันทร์มาตีให้

หนักๆ เลยนะคะ แสบมากๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 28-12-2018 10:19:14
ขอบคุณพี่บัวสำหรับตอนพิเศษนะคะ

สวัสดีปีใหม่ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: huoan ที่ 29-12-2018 19:53:45
คิดถึงจันทร์จ้าว อยากให้มาบ่อยๆครับ หมอหึงแรงจริง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 30-12-2018 14:34:24
ผมพึ่งเห็นตอนพิเศษ   :a5:

คิดถึงทั้งคู่มากๆเลยครับ  :กอด1: :L2:

ขอบคุณมากๆครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 09-01-2019 15:17:12
คุณหมอน่ารัก คุณจันทร์ก็ขยันก่อเรื่องให้หมอปวดหัว 5555555
หมอหึงแล้วน่ารักจริงๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: numin ที่ 06-04-2019 17:11:13
 :o8: คิดถึงคุณจันทร์กับคุณหมอมากเลยอ่ะ กลับมาอ่านรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
แต่ที่รู้คือ อ่านกี่รอบกี่รอบก็รักคุณจันทร์ที่สุด ^^  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 09-04-2019 00:28:19
สนุกมากครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: chompoo14547 ที่ 21-05-2019 07:47:44
รักนะ

Sent from my vivo 1718 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: พ. ที่ 30-05-2019 23:48:07
รักเรื่องนี้ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 14-08-2019 00:45:26
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 25-09-2019 16:36:24
 :pig4: :pig4: :pig4: กลับมาตามเก็บงานเก่าๆค่ะ สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: chandrarat ที่ 02-10-2019 22:04:09
คุณจันทร์กับคุณหมอ คิดถึงนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...เกลอใหม่ (๒๙ พ.ย. ๖๑/หน้าที่ ๖๕)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 04-10-2019 22:52:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ...(๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 31-10-2019 23:21:14
จันทร์จ้าว
By: Dezair
……………………………..
บทพิเศษ



เสียงหวดไม้เทนนิสดังแหวกอากาศครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นที่สนอกสนใจของคนในสโมสรเทนนิส โดยเฉพาะเมื่อคู่เล่นทั้ง ๒ คือนายแพทย์หนุ่มคนดังของกรุงเทพฯ และหนุ่มนักเรียนทุนอเมริกาคู่แข่งคนสำคัญ



                “ถ้าไม่บอกว่าเป็นคู่รักกัน ผมนึกว่าจันทร์กับคุณหมอทะเลาะกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว” เรย์มอนด์ อดัมส์หันมากระซิบกับราชนิกูลหนุ่มที่นั่งร่วมม้านั่งยาวด้วยกัน หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพยักหน้าเห็นด้วย เพราะเวลานี้เพื่อนรักของเขานามว่าจันทร์จ้าวกำลังตีโต้อย่างเอาจริงเอาจังราวกับแข่งขันเอารางวัลเลยทีเดียว



“คุณพงศ์ว่าใครจะชนะ ผมว่าเที่ยวนี้คุณหมอแรงตกอย่างไรชอบกล” เสียงของนายวินิตที่นั่งอยู่อีกฝั่งของหม่อมหลวงหนุ่มทำให้เขาและเรย์มอนด์ต้องยุติการเปรยถึงความสัมพันธ์อันซ่อนเร้นของคู่ตีเทนนิสในคอร์ด



                “คุณวินิตพูดถูก วันนี้คุณหมอตีไม่แรงเหมือนเคย จันทร์เสียอีก ฟาดเอาฟาดเอาอย่างกับไปโกรธใครมา” นายฝรั่งชะโงกหน้ามาคุยด้วย



                “เอ? หรือพวกเธอจะโกรธกันอีกแล้ว” นายวินิตพูดก่อนจะหันกลับไปมองในคอร์ด ทันเห็นตอนที่จันทร์จ้าวฟาดลูกเทนนิสใส่คู่แข่งของตนโดยแรง ภวัตรับพลาด ลูกกระทบกับไม้ของเขาและกระเด็นออกนอกสนามไป



                “ผมชนะ!” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเจ้าของลักยิ้มที่แก้มซ้ายและดวงตากลมใหญ่พูดเสียงดังฟังชัด ดวงหน้าอวดรอยยิ้มกว้างและลักยิ้มบุ๋ม ดูอย่างไรก็ทราบว่าเจ้าตัวออกจะมีความสุขเป็นพิเศษที่วันนี้เอาชนะคู่แข่งตลอดกาลอย่างภวัตได้



                ภวัตไม่พูดกระไร เขายิ้มสุภาพยอมรับความพ่ายแพ้ ก่อนที่คนทั้งคู่จะเดินออกจากคอร์ดมาหาเพื่อนร่วมตีเทนนิสอีก ๓ คนที่นั่งดูอยู่นาน คนแพ้นั่งลงได้ก็หยิบน้ำมาดื่ม ตรงข้ามกับคนแรงดีไม่มีตกอย่างจันทร์จ้าวที่ยืนแกว่งไม้ไปมา ปากชักชวนคนอื่นๆลงไปตีเทนนิสต่อ



                “ตาต่อไปคุณพงศ์ตีคู่ผมไหม ให้หมอตีคู่เรย์หรือคุณวินิตก็ได้”



                “ให้คุณวินิตกับคุณเรย์คู่กันเถอะครับ ผมขอนั่งพักสักหน่อย” เสียงของนายแพทย์หนุ่มดังขึ้น ทำเอาจันทร์จ้าวหันมองด้วยความแปลกใจ เขาพินิจสีหน้าภวัตด้วยความฉงน



                “หมอเหนื่อยแล้วหรือ”



เดิมที ภวัตเป็นผู้ชายแข็งแรง ถึงแม้เมื่อครู่จะใช้แรงไปมาก แต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นต้องนั่งพักเสียหน่อย



                “ครับ พวกคุณลงไปตีกันเถอะ”



คนอื่นๆพากันลุกขึ้นยืนเตรียมตัวลงคอร์ด ทว่าจันทร์จ้าวกลับทรุดตัวลงนั่งข้างคู่รักของตนอย่างรวดเร็ว



                “หมอเป็นอะไรไป ไม่สบายหรือ”



                “ไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ คุณไปตีเทนนิสเถอะ” แม้ใจจะอยากถามไถ่มากกว่านั้น แต่เพราะเวลานี้ไม่ได้มีเพียงเรย์มอนด์  อดัมส์หรือหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเท่านั้น  แต่ยังมีนายวินิตที่มองตรงมา แม้จะคบหาสนิทสนมกันอยู่มากเพราะเป็นเพื่อนตีเทนนิสชั้นดี อีกทั้งยังอัธยาศัยดีมีน้ำใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าแพร่งพรายเรื่องของภวัตและจันทร์จ้าวให้ทราบ เรื่องเช่นนี้ในช่วงเวลานี้ อย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องควรเปิดเผย



   เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยว่าเพราะเหตุใด จันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์ จึงให้ความสำคัญกับหมอภวัตมากนัก บุตรชายคนรองของคุณหญิงผกาตัดใจที่จะซักไซ้ ยอมหมุนตัวเดินลงสนาม


ทว่า เทนนิสเกมนี้ก็ไม่เป็นที่สนใจของมือดีนามว่าจันทร์จ้าวเลยสักนิด เจ้าตัวเอาแต่มองไปยังคนที่นั่งอยู่ข้างคอร์ด เมื่อไม่มีสมาธิถึงเพียงนั้น ต่อให้เป็นมือดีอันดับหนึ่งของกรุงเทพฯ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับฝั่งของนายฝรั่งและนายวินิตไปในที่สุด


………………………


   “วันนี้คุณจันทร์แปลก แพ้ผมกับมิสเตอร์อดัมส์เฉย! แต่...จะว่าไปเธอดูไม่มีสมาธิชอบกล ตอนตีโต้กับคุณหมอก็ดูเหมือนเคย แต่พอจับคู่ตีกับพวกเรานี่ซี ตีออกข้างบ้าง รับไม่ทันบ้าง ผิดวิสัยคุณจันทร์เป็นที่สุด เอ? หรือจะออมมือก็ไม่ทราบนะครับ”



   หลังจบเกมนั้น จันทร์จ้าวอ้างกับนายวินิตว่าเพิ่งนึกออกว่ามีธุระ ต้องขอตัวก่อน บัดนี้แล้วบุตรชายคนรองของคุณหญิงผกาผู้มั่งคั่งก็ยังไม่มีรถยนต์เป็นของตนเอง ยามไปไหนมาไหนจึงต้องพึ่งพาอาศัยหมอภวัต เมื่อเขาจะไปธุระ จึงต้องหอบหิ้วเจ้าของรถออกไปด้วย ดังนั้น นายวินิตที่เก็บความสงสัยเอาไว้จึงมีโอกาสได้ออกปากกับสองสหายรักของคนที่เพิ่งออกจากสโมสรไป



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรและเรย์มอนด์  อดัมส์ไม่ออกความเห็น แต่แสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วให้นายวินิตไปหาคนมาจับคู่ตีโต้เพื่อไม่ให้เสียเวลา เมื่อนั้นนายวินิตจึงยอมหยุดพูดเรื่องนี้ได้



   กระนั้น ราชนิกูลหนุ่มก็ตั้งใจมั่นว่าจะหาโอกาสเตือนจันทร์จ้าวอีกสักที ว่าอย่าแสดงออกให้มากนัก มิเช่นนั้นแล้ว ความสัมพันธ์ที่ควรปกปิดก็อาจไม่ใช่ความลับอีก



   ทว่า...คนไม่ค่อยเก็บความรู้สึกอย่างจันทร์จ้าวนั้น บังคับไม่ให้แสดงออกว่ายากแล้ว บังคับให้เก็บงำยิ่งยากไปกันใหญ่



   ยังไม่ทันที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจะได้สั่งสอนให้รู้จักสงวนท่าที เพื่อนรักที่เพิ่งมาถึงสำนักงานค้าหนังสือในเช้าวันต่อมา ก็เปิดประตูเข้ามายกให้เขากลายเป็นศิราณี



   “คุณพงศ์ เมื่อเช้าหมอทานข้าวน้อย”



   “อะไรของแกน่ะ” ราชนิกูลหนุ่มคบหากับจันทร์จ้าวมาแต่เล็ก แต่ให้อย่างไรก็มีเรื่องคาดไม่ถึงของเพื่อนผู้นี้มาให้ขบคิดและสงสัยอยู่ตลอด กระทั่งบัดนี้มีชายหนุ่มอีกคนเข้ามารับไม้ต่อแล้ว แต่พอมีปัญหาที่หมอภวัตช่วยเหลือไม่ได้ ก็เป็นหม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้นี้ทุกทีที่ต้องรับมือ



   “ก็หมอน่ะสิ เมื่อเช้าทานข้าวน้อยเกินไป”



   “อาจจะไม่ถูกปากเธอ”



   “ไม่จริง ร้านนั้นหมอเคยบอกว่าอร่อย แล้วเมื่อวานหมอไปส่งผมที่บ้านเช่าแล้วก็ขอตัวกลับเลย แปลก!”



   “อาจจะมีคนไข้อาการหนัก”



   “ถ้ามีคนไข้อาการหนักแล้วจะมาตีเทนนิสกับพวกเราได้อย่างไรล่ะ”



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรนึกเหตุผลไม่ออก ในขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของดวงตากลมใหญ่เดินวนไปวนมาเหมือนคิดไม่ตก



   “แล้วนี่นะ...หมอบอกว่ากลางวันนี้จะมารับผมไปทานข้าวไม่ได้ เจอกันตอนเย็นทีเดียว แบบนี้มันแปลกมาก!” ทว่าเรื่องคิดไม่ตกของจันทร์จ้าวนั้น ทำเอาราชนิกูลหนุ่มถึงกับพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย



   “ฮ้าย! กันว่าคงเพราะคุณหมอเธองานยุ่งน่ะซี ช่วงนี้คนป่วยแยะ จะให้มาหาแกบ่อยๆได้อย่างไรกัน”



   “ก็เห็นแยะมาตลอด ยังมาหาผมได้ทุกวัน” พอแย้งออกไปเช่นนั้น คนพูดก็ถึงกับขบริมฝีปาก



   “หรือว่า...หมอ...มีเรื่องอื่นให้สนใจมากกว่าเรื่องของผม”



   “แกหมายความว่าอย่างไร”



   “ก็หมายความว่า...หมอ...กำลังสนใจคนอื่นมากกว่าผม...”



   “คนไข้น่ะสิ!”



   “เลื่อนเปื้อน! เอาผมกับคนไข้ไปเทียบกันได้อย่างไร! คนไข้นั่นงาน ส่วนผมก็คู่รัก” เดิมทีก็ไม่ใช่คนเก็บงำความรู้สึกนึกคิด แต่ก็ไม่เคยพูดจาประเจิดประเจ้อออกตัวถึงสถานะของตนและภวัต ทว่าวันนี้จันทร์จ้าวมีเรื่องกังวลมากเกินกว่าจะยั้งปาก จึงได้หลุดคำสำคัญออกมาคำใหญ่



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเบิกตาด้วยความตกใจ รีบมองไปยังประตูห้องทำงานก็พบว่าปิดสนิทดีแล้ว แต่กระนั้นก็ยังเป็นห่วง


   “พูดจาให้มันเบาๆหน่อยเถอะ ใครได้ยินเข้าจะเกิดปัญหา!”



   “ใครจะได้ยิน มีแต่ผมกับคุณพงศ์ หรือคุณพงศ์จะนำความเรื่องผมกับหมอไปบอกใคร หากจะบอกใครก็บอกด้วยว่าผมรักหมอมาก!”


   “รักมากก็ไปถามเธอตรงๆซี ว่าเป็นอะไร”


   “ผมก็อยากถาม แต่กลัวหมอไม่ตอบ”


   “อ้อ เลยมาถามกัน แล้วคิดว่ากันตอบได้หรือ”


   “พุทโธ่! ก็คุณพงศ์เป็นเพื่อนผม ไม่ถามคุณพงศ์ จะถามใคร”


   “ถ้าเห็นว่ากันเป็นเพื่อน เพื่อนก็ขอเตือนแกสักหน่อย คุณหมอเธอทำงานหนัก ทุกวันมีแต่คนไข้อาการไม่สู้ดี แล้วยังต้องมาตามเอาใจแกอีก แล้วไม่ใช่กันไม่รู้ แกเอาแต่ใจน้อยเสียเมื่อไร อยากไปไหนก็ให้คุณหมอขับรถ อยากจะกินอะไร คุณหมอก็พาไป เวลาพักผ่อนเธอมีน้อยอยู่แล้ว ยังต้องตะลอนๆไปกับแกทุกวัน เธอก็จะไม่ไหว” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดตามที่เห็น หรือต่อไม่ให้เห็นด้วยตา ก็รับรู้จากคนนั้นทีคนนี้ทีว่ามักเจอสหายของเขาเที่ยวเล่นกับหมอภวัต บ้างก็ตามสถานที่ท่องเที่ยว บ้างก็ร้านอาหารชื่อดัง บ่อยสุดเห็นจะเป็นที่สโมสรเทนนิส เป็นอันรู้กันว่าหากเห็นคนใดคนหนึ่ง ก็จะเห็นอีกคนด้วยเสมอ


   “อีกอย่าง เรื่องของแกกับคุณหมอ...มีหลายคนพูดไปในเชิงไม่ดี”


   “แต่ผมกับหมอไม่เคยทำอะไรเสียหาย”


“กันรู้ แต่อย่างน้อย ช่วงที่คุณหมอกำลังยุ่งจนออกตัวกับแกว่ามาพบไม่ได้ ก็เป็นการดีไม่ใช่หรือที่จะทำให้เรื่องซาลง” อันความรักสุกงอมนั้นหอมหวาน ใครถือครองก็ล้วนอยากนำมาชื่นชมชมเชยอย่างออกนอกหน้า ความรู้สึกของหมอภวัตและจันทร์จ้าวก็เป็นเช่นนั้น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทราบดี แต่ก็ไม่อยากให้ความหอมหวานของความรู้สึกที่แสนพิเศษนี้กลายเป็นดาบสองคม


   จันทร์จ้าวเงียบไป แม้ใจจะอยากเถียงแต่สิ่งที่เพื่อนราชนิกูลผู้นี้ตักเตือนก็เป็นความจริงทั้งสิ้น



“เอาเถอะ ในเมื่อวันนี้คุณหมอมารับแกไปทานข้าวกลางวันไม่ได้ กันจะพาไปก็แล้วกัน”



“ไปกับคุณพงศ์ แล้วจะมีคนพูดไปในเชิงไม่ดีไหม”



ราชนิกูลหนุ่มตาเหลือก ถลึงตาใส่เพื่อนแทบไม่ทัน



“อ้าว! ก็ทีผมกับหมอ ยังมีคนพูดไปในทางไม่ดี แล้วผมกับคุณพงศ์เคยกระโดดน้ำคลองด้วยกันมาก่อนด้วยซ้ำ ไม่มีคนพูดในทางไม่ดีบ้างหรือ”



“ถ้าอย่างนั้นก็ทานที่นี่! ไม่ต้องไปไหน!” คนอุตส่าห์สงสาร เห็นว่าไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นเพราะสารถีเจ้าประจำไม่มา หนำซ้ำยังไม่มีรถยนต์เป็นของตนเอง แต่จันทร์จ้าวกลับพูดจาชวนให้น่าเขกมะเหงกเสียนี่



คนแผลงหัวเราะร่วน



“ล้อเล่นหรอก ใครจะกล้าพูดเรื่องผมกับคุณพงศ์ไปในทางไม่ดี ว่าแต่กลางวันนี้คุณพงศ์ไม่ต้องออกไปไหนใช่ไหม”



“ไม่ไป”



“ถ้าอย่างนั้นก็ว่างน่ะซี”



“ว่าง แกอยากจะไปที่ไหนก็คิดเอาไว้แล้วกัน”



“โรงพยาบาล”



“หือ?”



“ผมอยากไปโรงพยาบาล ตอนนี้เลย”



“ไปทำไม”



“ไปหาหมอน่ะซี!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรกะพริบตาปริบๆ คิดตามไม่ทัน



“ผมจะไปดูให้เห็นกับตาว่าหมอสนใจคนอื่นจริงไหม”



“กันพูดอยู่แหม่บๆว่า...”



“ว่าอย่าเอาแต่ใจกับหมอเกินไปนัก ผมก็ไม่ได้เอาแต่ใจกับหมอนี่ ไม่ได้จะรบกวนเวลาทำงานของหมอด้วย แล้วก็ให้ห่างกับหมอบ้าง เรื่องของผมกับหมอจะได้ซา นี่ผมก็ไม่ได้ติดหมอหนึบเป็นตังเมเสียหน่อย อาศัยรถคุณพงศ์เสียอีก”


บุตรชายคนรองของคุณหญิงผกานั้นเอาแต่ใจเก่งเป็นที่หนึ่ง เรื่องนี้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทราบดี แต่ที่ไม่ทราบคือนับตั้งแต่คบหากับหมอภวัต ดูเหมือนเจ้าตัวจะพัฒนาความเอาแต่ใจอย่างต่อเนื่องชนิดที่พูดไปยิ้มไปมัดมือชกคู่สนทนาไปแล้วเรียบร้อย



“ไปกันคุณพงศ์ ชักช้าจะเสียการ”


หม่อมหลวงพงศ์ภราธรกะพริบตาปริบๆ แต่ไม่อาจแม้แต่จะขยับปากคัดค้านแต่ประการใด เพื่อนรักร่างสูงโปร่งก็ก้าวขายาวๆออกจากห้องไปแล้ว ทว่าก่อนจะปิดประตูก็ยังไม่วายส่งเสียงลอดมากำชับ



   “เร็วคุณพงศ์! ทำไมต้องให้ผมจี้เรื่อยเลย!”



   เป็นอย่างนั้นไป! เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง จันทร์จ้าวยังเอากระดูกมาแขวนคอ!



……………………..


   โรงพยาบาลไม่ใช่สถานที่แวะมาเยี่ยมชมเหมือนวัดวาอาราม ที่นี่เต็มไปด้วยคนเจ็บคนป่วยและญาติพี่น้อง บางคนหน้าตาแจ่มใสเพราะได้รับการรักษาจนหายดี บางคนหน้าตาอมทุกข์ตกยาก ดูแล้วทั้งหดหู่ทั้งเวทนาไปในคราวเดียวกัน



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเห็นแก่นแท้ของชีวิตมนุษย์แล้วก็ได้แต่ปลงตก ทว่าพอหันมองข้างกายแล้วก็พลันรู้สึกอยากปลงให้ได้มากกว่านี้ คนเจ็บป่วยก็ทุกข์เรื่องหนึ่ง คนใกล้ตายก็ทุกข์เรื่องหนึ่ง แต่คนสุขภาพดีไม่มีเหตุอันใดให้ทุกข์ ก็ยังต้องกุมขมับเพราะมีเพื่อนแผลง เรียกได้ว่าเป็นทุกข์อีกเรื่องหนึ่งของคนมีชีวิตอยู่ก็แล้วกัน



   “มาแอบดูอยู่ตรงนี้แล้วจะเห็นคุณหมอหรือ”



มาถึงได้พักใหญ่แล้ว แต่จันทร์จ้าวไม่มีทีท่าจะเข้าไปในตึกโรงพยาบาลเสียที เอาแต่ยืนอยู่ใกล้ประตูที่มีผู้คนเดินเข้าเดินออก



   “สมัยก่อนมาแอบดูหมอตรงนู้นแล้วไม่เห็น” พูดพลางชี้นิ้ว แต่สายตาไม่มองตามนิ้วสักนิด เอาแต่สอดส่องเข้าไปข้างในตึก


   “หือ? สมัยก่อน?”



   “สมัยที่พี่อาทิตย์ยังไม่ให้รักหมอน่ะซี”



   “อ้อ แล้วตรงนี้จะได้เห็นใช่ไหม”



   “ไม่รู้ ถ้าไม่เห็นจะเข้าไปข้างใน”



“ก็เข้าไปเสียเลยสิ”



คราวนี้จันทร์จ้าวหันมามองด้วยสายตาขุ่นเคืองเล็กน้อย



“ก็คุณพงศ์บอกไม่ใช่หรือว่าผมไม่ควรจุ้นจ้านกับหมอมากเกินไป แล้วก็ไม่ควรให้คนพูดเรื่องของผมกับหมอมากกว่านี้ นี่ผมก็อุตส่าห์ไม่เข้าไปแสดงตัวให้หมอรู้ว่าผมมาแล้วนะ คุณพงศ์จะเอายังไรอีก” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอ้าปากค้าง อยู่ดีๆก็ถูกดุ



   “แต่ถ้าแกไม่เข้าไปข้างใน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้คุณหมออยู่ตรงไหน อาจจะตรวจอยู่ในห้องตรวจ หรือไปตรวจที่ห้องคนไข้”



จันทร์จ้าวทำหน้านิ่วคล้ายจะใช้ความคิด ทว่าไม่ทันจะตัดสินใจว่าจะทำเช่นไรดี เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น



   “คุณพงศ์ คุณจันทร์” นางพยาบาลสมฤดีก้าวเท้าเข้ามาหาชายหนุ่มที่ยืนกันอยู่ข้างประตู หล่อนเพิ่งมาถึงเพราะลางานไปจัดการธุระกับทางบ้านสามีมาเมื่อเช้านี้ แต่เมื่อมาแล้วก็ไม่ทันจะได้เข้าไปทำงานเพราะเห็นคนคุ้นตายืนเถียงกันหน้าดำหน้าแดงเสียก่อน



   หล่อนยกมือไหว้ชายหนุ่มทั้งสอง ก่อนจะแย้มยิ้มสดใส ทว่าดวงตามีประกายความกังวลเล็กน้อยที่พบคนรู้จักมักจี่ที่โรงพยาบาลอบ่างนี้



   “มาทำอะไรกันคะ หรือมีใครไม่สบาย”



   “ไม่ใช่หรอกครับ เอ่อ...” ราชนิกูลหนุ่มนึกปั้นแต่งเรื่องราวไม่ออกว่าเหตุใดจึงมาโรงพยาบาล จันทร์จ้าวเลยพูดแทรก



   “คุณพงศ์จะมาพบหมอภวัตน่ะครับ”



   “คะ? คุณพงศ์มาพบคุณหมอภวัต?” พยาบาลสมฤดีทวน พลางหันมองชายหนุ่มราชนิกูล เขากะพริบตาปริบๆ ก่อนจะรับคำตะกุกตะกัก


   “เอ่อ...ค...ครับ ใช่ครับ” สำหรับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรอาจโป้ปดไม่เก่งนัก แต่สำหรับจันทร์จ้าวผู้รู้จักเอาตัวรอดเป็นยอดดีกลับพูดต่อลื่นไหลไม่มีสะดุดสักนิด


   “คุณพงศ์มีปัญหาเรื่องสุขภาพนิดหน่อย สุขภาพผู้ชายน่ะครับ ร้อนใจมากก็เลยมาที่นี่ แต่...ไม่แน่ใจว่าวันนี้หมอภวัตอยู่รึเปล่า จะเข้าไปดูก็กลัวจะเอิกเกริก คุณสมก็คงพอจะเข้าใจว่ามันค่อนข้างจะ...เป็นความลับ” พอเกริ่นว่าสุขภาพผู้ชาย พยาบาลสมฤดีก็พยักหน้ารับรู้อย่างเข้าอกเข้าใจทันที เป็นฝ่ายหม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้ถูกนำไปกล่าวอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพถึงกับถลึงตาใส่เพื่อนรัก



   “ถ้าอย่างนั้นสมจะเข้าไปดูให้นะคะ” แล้วพยาบาลสาวก็รีบหมุนตัวก้าวเท้าไวๆเข้าไปในโรงพยาบาลทันที เปิดโอกาสให้คนมีปัญหาสุขภาพหันมาเฉ่งทันควัน



   “ใครบอกแกว่ากันมีปัญหาสุขภาพ!”



   “ผมบอกเอง ก็คุณพงศ์บอกว่าอย่าประเจิดประเจ้อให้มากนัก ถ้าผมบอกคุณสมไปตามตรงว่ามาที่นี่เพื่อพบหมอ คุณพงศ์ว่าคุณสมจะไม่สงสัยหรือ”



   “ก็แล้วทำไมแกไม่บอกเธอไปว่าแกต่างหากที่ป่วย!”



   “ถ้าผมบอกอย่างนั้น เกิดคุณสมไปบอกหมอว่าผมมาเพราะผมป่วย หมอได้ทิ้งทุกอย่างแล้วมาหาผมน่ะซี! ไหนคุณพงศ์บอกผมว่าอย่าจุ้นจ้านหมอมากนักยังไรล่ะ” เป็นอันว่าจันทร์จ้าวมีหนทางเถียงลงข้างทางไปได้ทุกเรื่อง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้แต่แยกเขี้ยวแล้วเป็นฝ่ายเงียบเสียเอง อึดใจต่อมาพยาบาลสาวก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับออกมาจากตึก



   “คุณจันทร์คะ เห็นทีคุณหมอจะออกมาไม่ได้แล้ว”



   “ทำไมล่ะครับ หรือว่าติดคนไข้?”



   “ไม่ใช่หรอกค่ะ คุณหมอต่างหากที่กลายเป็นคนไข้เสียแล้ว”



   “คุณสมว่าอะไรนะครับ?!”



   “คุณหมอป่วยค่ะ ตอนนี้นอนให้น้ำเกลือ...” สมฤดีไม่ทันจะพูดให้จบ แต่เมื่อหล่อนชี้เข้าไปในตึกเบื้องหลัง จันทร์จ้าวก็พุ่งตัวไปยังอาคารหลังนั้นแล้ว



   “คุณจันทร์! รอก่อนค่ะ! คุณหมอไม่ได้เป็นอะไรมาก คุณจันทร์!”



หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองตามหลังเพื่อนรักแล้วได้แต่ส่ายหน้า



   บอกว่าอย่าประเจิดประเจ้อ อย่าจุ้นจ้านและให้เว้นระยะห่าง ทำได้สักข้อบ้างไหม จันทร์จ้าว...



…………………….

หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 31-10-2019 23:21:44

   บุตรชายคนรองของคุณหญิงผกายืนตกตะลึงอยู่ที่หน้าประตู ภาพเบื้องหน้าที่เขาเห็นนั้นไม่คุ้นตาอย่างที่สุด และไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เห็น หมอภวัตผู้แข็งแรงและมักจะมีรอยยิ้มให้เขาเสมอ กำลังนอนนิ่งมีสายน้ำเกลือห้อยโยงจากเสาข้างเตียง



   ภวัตเป็นชายหนุ่มที่แข็งแรง สามารถตีโต้เทนนิสได้อย่างสนุก ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะทุกครั้ง เขาสุภาพแต่กระนั้นก็สดใสใต้แสงอาทิตย์เจิดจ้า ทว่าบัดนี้กลับได้แต่นอนนิ่งอยู่ใต้แสงจากหลอดไฟ ซีดขาวและดูอ่อนแอไม่ต่างจากตุ๊กตาแก้วที่เปราะบาง



   “ทำไม...เป็นอย่างนี้” จันทร์จ้าวได้แต่ครวญ ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเท้าเข้าไปในห้อง



   “คุณหมอบอกว่าครั่นเนื้อครั่นตัวตั้งแต่เมื่อวาน...” พยาบาลสมฤดีเอ่ย แม้จะรู้ว่าอาการของหมอภวัตไม่เป็นอะไรมากนัก แต่ก็อดใจหายไม่ได้ที่เห็นเขาต้องนอนนิ่งเช่นนี้


   “เอ๊ะ เมื่อวาน?” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรชะงัก หันมองพยาบาลสาว “...เมื่อวานคุณหมอยังตีเทนนิสกับพวกเราอยู่เลยนะครับ”


   “เห็นเธอว่านัดเอาไว้แล้ว ไม่อยากเสียคำพูดค่ะ ออกไปตีเทนนิสแล้ว พอกลับมาแทนที่จะได้พัก คนไข้ของคุณหมอคนหนึ่งอาการไม่ดี เธอก็เลยต้องอยู่โยงทั้งคืนแทบไม่ได้นอน เมื่อเช้า เห็นมีคนบอกว่าก็รีบออกจากโรงพยาบาลแต่เช้า ถึงเธอจะยังหนุ่มยังแน่น แต่ถ้าป่วยแล้วไม่ได้พักผ่อนอย่างนี้ เห็นทีจะมีแต่ทรุด”


พยาบาลสมฤดีทำงานใกล้ชิดหมอภวัตมานาน ความทุ่มเทของเขาเป็นเรื่องดี การรักษาคำพูดของเขาก็เป็นสิ่งที่ควรยกย่อง แต่ถ้าสุดท้ายแล้วต้องนอนแบ่บอยู่ข้างเสาน้ำเกลือเช่นนี้ก็ได้แต่ส่ายศีรษะ



   เชือกตึงเกินไปก็ขาด เชือกหย่อนเกินไปก็ดึงรั้งสิ่งใดไม่ได้



   จันทร์จ้าวได้แต่รับฟังเงียบๆ ความรู้สึกผิดตีรวนในจิตใจจนไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงสักคำ ภวัตออกไปตีเทนนิสทั้งๆที่เริ่มมีอาการป่วย ก็เป็นเพราะนัดเขาเอาไว้ เมื่อเช้าทั้งๆที่แทบไม่ได้นอนแต่ก็ยังออกไปรับเขาพาไปทานอาหารเช้าแล้วพาไปส่ง



กิจวัตรหนอกิจวัตร คุ้นเคย เคยชิน แต่กลับทำให้เพิกเฉย



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเห็นสหายรักได้แต่ก้มหน้าเงียบก็พอจะเข้าใจความรู้สึก เวลานี้จันทร์จ้าวคงอยากอยู่กับภวัตเพียงลำพังมากที่สุด



   “เอ่อ...ผมว่าให้คุณหมอพักผ่อนดีไหมครับ เราออกไปข้างนอกกันเถอะ” เขาหันมากล่าวกับพยาบาลสาว ทว่าเป็นจันทร์จ้าวที่หันมามองเขา



   “ขอผมอยู่กับหมอสักครู่ได้ไหม”



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพยักหน้ารับ สมฤดีมีงานที่ต้องไปทำจึงไม่อิดออด แต่ไม่วายกำชับกับคนเฝ้าไข้ว่าหมอภวัตป่วยเป็นโรคติดต่อ ไม่ควรคลุกคลีใกล้ชิดนาน



   สองหนุ่มสาวออกจากห้องพักผู้ป่วยแล้ว เมื่อบานประตูปิดลง จันทร์จ้าวจึงหันมามองร่างสูงที่นอนเหยียดยาวบนเตียง



   แม้จะเป็นคนทำอะไรว่องไวรวดเร็ว ทว่าแต่ละก้าวที่สาวเท้าเข้าไปหาคนป่วยกลับเชื่องช้าและเงียบเชียบ เมื่อหยุดอยู่ที่ข้างเตียง ดวงตากลมใหญ่กวาดมองใบหน้าซีดขาวของคู่รักที่นอนนิ่ง ก่อนที่ปลายนิ้วจะแตะเบาๆเข้าที่มือร้อนระอุ



   อุณหภูมิร่างกายนั้นไม่เหมือนเดิม เพียงเท่านั้นหัวใจของเขาก็ราวกับดิ่งลงสู่พื้น ทั้งช่องอกช่องท้องเย็นวาบราวกับไม่เหลืออวัยวะใดๆ  นอกเสียจากความรู้สึกผิดที่ประเดประดังเข้ามาแทนที่



   ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลาแท้ๆ แต่เหตุใดจึงไม่สังเกตสักนิดว่าหมอไม่สบายขนาดนี้



   “คุณจันทร์...” เสียงแหบแห้งดังขึ้นแผ่วเบา ทำเอาเจ้าของชื่อต้องหันมอง ภวัตลืมตาขึ้นแล้ว และกำลังมองมาที่เขาอย่างไม่แน่ใจนัก ราวกับคิดว่ากำลังฝัน



   “มาได้อย่างไรครับ”



   “หมอไม่สบายทำไมไม่บอกผมสักคำ” ทั้งๆที่มือของภวัตร้อนเหลือเกิน และทั้งๆที่พยาบาลสมฤดีย้ำนักหนาว่าอย่าคลุกคลีใกล้ชิด แต่จันทร์จ้าวก็อดไม่ได้ที่จะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงแล้วจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมากอบกุมเอาไว้



   “ผมไม่อยากให้คุณเป็นห่วง”



   “ความเป็นห่วงของผมมันน่ารังเกียจหรือ หมอถึงไม่อยากได้”



รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังป่วย แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้เลย ทำไมไม่ใช่เขาที่เป็นคนคอยดูแลภวัตยามเจ็บไข้ หากไม่มาที่นี่เพราะคิดว่าภวัตสนใจสิ่งอื่นมากกว่าเขา ก็คงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายกำลังป่วยเพียบหนักอย่างนี้



   “ไม่ใช่นะครับ ผมแค่ไม่อยากให้คุณกังวลเท่านั้นเอง”



   “หมอไม่รู้หรือว่าผมยินดีกังวล ถ้าเป็นเรื่องของหมอ ผมอยากรู้ทั้งนั้น...”



ยามเจ็บไข้ได้ป่วย อย่าว่าแต่สุขภาพกายจะทรุดโทรมเลย สุขภาพใจก็ไหวเอนง่ายดายยิ่งกว่าต้นไผ่ลู่ลม ยิ่งได้ยินคำพูดอย่างนี้จากคนอย่างจันทร์จ้าวผู้รักสนุกเป็นนิจ หัวใจที่มีเลือดเนื้อก็ย่อมอุ่นร้อนไม่ต่างจากถูกจู่โจมด้วยพิษไข้



   “ขอบคุณนะครับ”



   ดวงหน้าปานรูปหล่อที่มักแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มและลักยิ้มอยู่เสมอ ยามนี้กลับดูหมองเศร้าและเต็มไปด้วยความเป็นห่วง



   “ผมขอโทษ คุณจันทร์อย่าโกรธผมเลย”



   “ผมเป็นห่วงหมอ อย่าให้ผมไม่รู้อะไรแบบนี้อีก” เป็นคำสั่งที่แสนอ้อนวอน ดวงตากลมใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกมากล้นจนคนป่วยอดใจไม่ไหวต้องขยับมือที่ถูกกอบกุมไปแตะไล้ผิวแก้มเย็นของคู่รักอย่างแผ่วเบา



   “ผมขอโทษ จากนี้ไปผมจะบอกคุณทุกเรื่อง”


“หมอสัญญาแล้วนะ”


“สัญญาครับ ยิ้มให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”



   “จะให้ผมยิ้มออกได้อย่างไรกัน หมอไม่สบาย”



   “ผมใกล้หายแล้ว น้ำเกลือหมดขวดนี้ ก็กลับบ้านได้แล้ว”



   “คุณหมอที่รักษาหมออนุญาตให้กลับหรือ มือยังร้อนอยู่เลย”



แม้จะไม่ใช่หมอ แต่จันทร์จ้าวคิดเอาว่าหากตนเองเป็นผู้รักษาคนไข้ที่ชื่อภวัต และพบว่าอุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่ายยังไม่ปกติเช่นนี้ ให้อย่างไรก็จะไม่ยอมให้ถอดสายน้ำเกลือแน่


   ทว่าสำหรับภวัตผู้เป็นหมอ เขาย่อมทราบดีว่าอาการของตนเองในเวลานี้ทุเลาลงมากแล้ว หากได้พักผ่อนและดื่มน้ำให้มาก ก็จะดีขึ้นตามลำดับ


   นายแพทย์หนุ่มยิ้มจาง แม้จะรู้อาการของตนดี แต่มีคนห่วงใยนั่งใกล้ชิดเอาแต่จับมือเขาอยู่เช่นนี้ ก็เห็นจะทำตัวแข็งแรงมากเกินไปไม่ได้แล้ว


   “จริงด้วยสินะครับ วันนี้ผมไม่ใช่หมอ” เขาเอ่ย แม้จะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าแต่จันทร์จ้าวคิดเอาเองว่าช่างเป็นรอยยิ้มที่ ‘เฉา’ เสียจนน่าเป็นห่วง


   “ใช่ วันนี้หมอเป็นคนไข้ หมอต้องรอให้คุณหมออนุญาตก่อน ถึงจะถอดสายน้ำเกลือและกลับบ้านได้ แต่ผมคิดว่าหมอไม่ควรกลับตอนนี้ หน้าหมอยังซีด ปากก็แห้ง มือก็ร้อน ผมไม่ให้หมอออกจากโรงพยาบาลวันนี้หรอก”



ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เพิ่งรับปากกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรมาหมาดๆว่าจะไม่จุ้นจ้านกับหมอภวัตมากจนเกินพอดี อีกทั้งจะทำตัวห่างหายจากหมอภวัตบ้างเพื่อไม่ให้เกิดหัวข้อสนทนาในทางไม่ดีที่เกี่ยวกับพวกเขา แต่จันทร์จ้าวผู้ลืมง่าย พร้อมจะลืมทุกสิ่งแค่เพียงเพราะคู่รักของตนนอนให้น้ำเกลือ



“คุณเป็นหมอไปเสียแล้ว” ภวัตหยอก แม้จะรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว แต่เพราะมีคนข้างเตียงพูดเจือยแจ้ว อารมณ์ก็พลอยเบิกบานจนลืมความเจ็บป่วยไปเสียสิ้น



“ผมเป็นหมอไม่ได้ แต่เป็นคนดูแลหมอได้” วาจาเอาแต่ใจนั้นน่าเอ็นดูในความรู้สึกคนฟังเสียจนต้องยิ้มจาง ดวงตาที่ทอดมองใบหน้าของจันทร์จ้าวเจือแววหวานแม้จะอ่อนระโหยเพราะพิษไข้ก็ตามที


   “วันนี้ผมก็ไม่ใช่หมอ แต่เป็นคนไข้ คุณจะเรียกว่าหมอไม่ได้เช่นกันนะครับ”



   คิ้วเหนือดวงตากลมใหญ่เลิกขึ้น ดูเหมือนเพิ่งนึกออกว่าเขาติดปากเรียกอีกฝ่ายว่าหมอแม้กระทั่งในยามที่หมอป่วย



   “จริงด้วย แล้ว...จะเรียกว่าอย่างไรดี คุณภวัตหรือ อย่างคุณพงศ์อย่างนี้”



ภวัตชะงักไปเล็กน้อย อาจจะเพราะเดิมที ความสัมพันธ์ของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและจันทร์จ้าวก็ออกจะแนบแน่นกลมเกลียว ยอกใจเขาอยู่หลายครั้ง ครั้งนี้เพราะยังป่วย การได้ยินว่าอีกฝ่ายจะเรียกตนอย่างที่เรียกราชนิกูลหนุ่ม ก็พาลให้นึกขึงขึ้นมา



   “เป็นอะไรไปหมอ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น หรือเจ็บปวดตรงไหน ให้ผมไปตามคนมาดูไหม” จันทร์จ้าวเห็นอีกฝ่ายเงียบไปก็ชักเป็นห่วง ซักถามหน้าตาตื่นทว่าพอจะลุกขึ้น มือร้อนของคนป่วยกลับดึงแขนเขาเอาไว้



“ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ”



“แต่หมอ...” พอจะท้วงก็พลันนึกถึงได้ว่าเขาเรียกอีกฝ่ายว่าหมอจนติดปากอีกแล้ว



   “อ้าว หลุดปากเรียกหมออีกแล้ว คุณภวัต”



   “พี่ครับ...” ภวัตแทรก ทว่าคนข้างเตียงกลับกะพริบตาปริบๆ



   “...พี่ภวัต” คนไข้สำทับอีกครั้ง คราวนี้จากอาการตาปริบๆเลยกลายเป็นเบิกค้าง



   ...พี่...



   ...พี่ภวัตอย่างนั้นหรือ...


   จันทร์จ้าวไม่ใช่ลูกคนใหญ่ หนำซ้ำก็ไม่ใช่หลานคนใหญ่ เขามีพี่มากมาย ทั้งอาทิตย์เอย ทั้งญาติผู้พี่ทั้งหลายเอย ไหนจะคนรู้จักมักจี่ซึ่งไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนักอีกเล่า รอบตัวเขามี ‘พี่’ นับร้อยนับพัน แต่...พอต้องเรียกภวัตว่า ‘พี่ภวัต’ แล้ว ก็พลันวูบไหวในหัวใจชอบกล



   “อ...เอ่อ...ท...ทำไมต้องเรียกพี่ด้วย” อารมณ์ขวยผุดพรายอยู่ตามผิวเนื้อจนร้อนผะผ่าวราวกับเป็นไข้เสียเอง จันทร์จ้าวไม่กล้าสบตาคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยซ้ำ ได้แต่เสสายตามองไปยังผ้าม่านที่ไหวน้อยๆนั่นแทน



   ผ้าม่านเนื้อบาง จะไหวตามลมก็เห็นจะไม่แปลก แต่ใจคนเรานี่สิหนอ ทั้งๆที่มีเลือดมีเนื้อ แต่เหตุใดจึงไหวยวบยาบแค่เพียงเพราะอีกฝ่ายอยากให้เรียก ‘พี่ภวัต’



   “พี่อายุมากกว่านี่ครับ”



อย่าว่าแต่ให้เรียก ‘พี่ภวัต’ เลย ราวกับคนไข้ผู้นี้คว้าค้อนมาทุบซ้ำๆ แต่ไหนแต่ไรสรรพนามแทนตัวว่า ‘ผม’ ทว่าวันนี้กลับเปลี่ยนเป็นเรียกแทนตัวว่า ‘พี่’ เสียนี่



   “อ...เอ่อ...ใกล้เที่ยง หมอน่าจะหิวแล้วกระมัง ผมจะไปดูอาหาร…” จันทร์จ้าวรู้ดีว่านี่ไม่ใช่วิถีคนกล้าหาญเสียเลย แต่ขืนให้เขานั่งอยู่อย่างนี้ เห็นทีหัวใจคงหยุดทำงานเอาดื้อๆ จากคนแข็งแรงจะได้ล้มหมอนนอนเสื่อข้างเตียงหมอภวัตก็คราวนี้


   ทว่าพอคนคิดหนีจะลุกขึ้นผละจากข้างเตียง มือของคนป่วยกลับคว้าแขนเอาไว้



   “จันทร์...”



นี่ก็อีก แต่ไหนแต่ไรเรียก ‘คุณจันทร์’ วันนี้นึกเหิมอย่างไรไม่ทราบเรียก ‘จันทร์’ คำเดียว ทำเอาคนชื่อ ‘จันทร์จ้าว’ หัวใจสั่นระรัวจนต้องทรุดตัวลงนั่งที่เดิม หน้าตาเหยเกคล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อ


   “พอแล้ว...”



   “...ไม่ต้องเรียกแล้ว”



   “จันทร์จะหนีพี่ไป ไม่เรียกได้หรือ”



   “ม...ไม่ได้หนี” จากคนพูดเก่ง ปั้นน้ำเป็นตัวเมื่อตอนเจอพยาบาลสมฤดีที่หน้าโรงพยาบาล กลายเป็นคนติดอ่างขึ้นมาเสียดื้อๆ ราวกับเวรกรรมตามทันอย่างไรอย่างนั้น



   “ไม่ได้หนี แล้วทำไมไม่เรียกพี่ว่าพี่ภวัต”



   “ก็...” อย่าว่าแต่หัวใจไหวสั่นจนรู้สึกคล้ายหน้าจะมืดเลย กระทั่งลมหายใจยังสะดุดแล้วสะดุดอีก สรรพนามนี้น่าฉงน เปลี่ยนเพียงนิด หัวใจก็เต้นถี่ แม้จะใช้คำพื้นๆ แต่เพราะเป็นคนพิเศษ ถึงได้ปั่นป่วนจนมือไม้เย็นเฉียบ



   “จันทร์...เรียกพี่ภวัตไม่ได้หรือ”



   จันทร์จ้าวเม้มปาก ยกสองมือขึ้นปิดหน้า ใบหูแดงจัด ก่อนที่เสียงอู้อี้จะดังขึ้นเบาๆ



   “พ...ภ...”



ไม่ได้ยินสักคำ หนำซ้ำหน้าตายังไม่เห็น แต่ภวัตกลับยิ้มจางมองคนข้างกายที่ยังเอาแต่ปิดหน้าปิดตา


   “ดังกว่านี้อีกนิดได้ไหม” น้ำเสียงคนป่วยนั้น เดิมทีก็ช่างทำให้จันทร์จ้าวใจอ่อนอยู่แล้ว พอเวลาออดอ้อนเช่นนี้ ก็ยิ่งชวนให้แข็งข้อไม่ได้เข้าไปกันใหญ่



   “พี่...”



   “...พี่ภวัต...”



   ไม่รู้จากคนป่วยที่ถูกกุมมือเมื่อครู่ กลายเป็นฝ่ายกุมมือคนมาเยี่ยมไปได้อย่างไร แต่กว่าจันทร์จ้าวจะรู้ตัวก็ตอนที่มือของเขารับรู้ถึงสัมผัสร้อนผ่าว เมื่อนั้นถึงได้สติเห็นว่ามือของตนถูกกอบกุมไปแนบเข้ากับริมฝีปากของคนป่วยแล้ว



   “ชื่นใจ”



   คนป่วยชื่นใจ แต่หัวใจคนสุขภาพแข็งแรงกลับสั่นรัว จันทร์จ้าวได้แต่เม้มปาก เสสายตามองไปทางอื่น ใบหน้าแดงจัด หัวใจเต้นถี่ และมือถูกกุมเอาไว้ แม้จะไม่ได้แนบกับริมฝีปากร้อนนั่นแล้ว แต่ก็คนป่วยก็ย้ายลงมาวางแนบอกตนเองแทน สมคำว่าชื่นใจ



   “...ถ...ถ้าพี่ภวัต...ชื่นใจ...ก็หายไวๆแล้วกัน...”



   จันทร์จ้าวผู้นี้ จะยอมให้หัวใจเต้นราวกับจะหลุดออกมานอกอก หากคนป่วยจะแช่มชื่นและหายไข้ในเร็ววัน


   ................................   



   พยาบาลสมฤดีแยกไปทำงาน ในขณะที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเมื่อออกจากห้องมาแล้ว จะไปไหนก็ไม่ได้ เพราะสหายรักผู้ไหว้วานให้ขับรถพามา ไม่มีรถไปที่ใดต่อ หนำซ้ำการปล่อยให้จันทร์จ้าวอยู่กับหมอภวัตเพียงสองคนในห้องหับที่แม้มิดชิดแต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าจะถูกผู้ใดเปิดประตูเข้าไปพบเห็นเมื่อไร ก็ดูจะสุ่มเสี่ยงไม่น้อย แต่ครั้นจะให้เขากลับเข้าไปในห้องก็เกรงจะเป็นการรบกวนเวลาส่วนตัวของคนป่วยและคนมาเยี่ยม ดังนั้นนอกจากจะไปไหนไม่ได้แล้ว ก็ยังไม่อาจกลับเข้าไปในห้องได้อีก ได้แต่ยืนปักหลักเฝ้าหน้าประตูอยู่เช่นนี้



แต่เมื่อยืนรอไปได้พักหนึ่ง ภายในห้องเงียบกริบไม่มีเสียงเคลื่อนไหวก็ชักเป็นห่วง จันทร์จ้าวเป็นจอมแผลงเช่นไร บัดนี้ก็ยังแผลงเช่นนั้น เกรงว่าหมอภวัตจะไม่หายไข้ซ้ำร้ายอาจอาการหนัก จึงถือวิสาสะแอบเปิดประตูเข้าไปดู มองลอดผ่านช่องแง้มเพียงเล็กน้อย เห็นเพื่อนรักนั่งหันหลังให้ประตู พูดคุยกับคนป่วยเสียงเบาจนแทบกระซิบ แม้จับใจความไม่ได้ แต่ราชนิกูลหนุ่มก็ไวพอจะสังเกตเห็นมือของคนมาเยี่ยมถูกกอบกุมไว้แนบอกคนป่วย



เพียงเท่านั้นก็ชัดเจนแล้ว หม่อมหลวงพงศ์ภราธรปิดประตูลงอย่างเบามือ แล้วกลับมายืนเฝ้าอยู่ที่เดิม



ไปไหนไม่ได้จนกว่าจันทร์จ้าวจะเยี่ยมไข้หมอภวัตเรียบร้อย



แต่จนแล้วจนรอดคนเยี่ยมก็ยังไม่มีทีท่าจะออกมา จนกระทั่งพยาบาลสมฤดีกลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยคนยกอาหาร แน่นอนว่าหม่อมหลวงพงศ์ภราธรผู้ยึดมั่นในหน้าที่จนไม่ได้กระดิกไปที่ใดจึงรีบออกปาก



“อาหารคุณหมอหรือครับ”



“ค่ะ แล้วคุณพงศ์มายืนทำอะไรตรงนี้คะ” พยาบาลสาวงุนงงเล็กน้อยที่เห็นอีกฝ่ายยืนขวางประตู



“เอ้อ พอดี...ผม...ออกมาเข้าห้องน้ำ”



“อ้อ แล้วคุณจันทร์ล่ะคะ ยังอยู่ในห้องหรือ”



“ครับ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรับคำ แต่พอหญิงสาวเอื้อมมือจะเปิดประตู เขากลับขยับตัวขวางไว้



“เอ่อ...เคาะ...เคาะประตูก่อนดีกว่านะครับ” ราชนิกูลหนุ่มเคาะประตูเสียงดังสามครั้ง ก่อนจะพูดผ่านบานประตูเข้าไป



“จันทร์ คุณหมอ...คุณสมให้คนยกอาหารกลางวันมาให้ กำลังจะเข้าไปแล้ว” สมฤดีมองคนตะโกนแล้วหัวเราะกิ๊ก รู้สึกว่าเขาดูเปิ่นชอบกลแต่ก็ไม่ติดใจ อึดใจเดียว บานประตูก็เปิดออกโดยคนที่อยู่ในห้อง จันทร์จ้าวส่งยิ้มจางให้พยาบาลสาว



“อาหารกลางวันแล้วก็ยาของคุณหมอค่ะ”



“เชิญครับ” พยาบาลสมฤดีหันไปสั่งคนยกอาหารให้เข้าไปในห้อง แต่ตัวหล่อนเองกลับหันมามองจันทร์จ้าวด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะเบิกตาโต


“สงสัยคุณจันทร์จะติดไข้คุณหมอเข้าเสียแล้ว หน้าแดงหูแดงเชียวค่ะ” คนถูกทักว่าติดไข้ถึงกับชะงัก ยกสองมือขึ้นจับแก้มตนเองแล้วก็พาลเอายิ่งรู้สึกร้อนผ่าวไปกันใหญ่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามือข้างหนึ่งนี้ เพิ่งถูกภวัตจูบและนำไปแนบอก
   

“ตายแล้ว แดงกว่าเดิมอีก! มาทางนี้เลยค่ะ สมจะพาไปวัดไข้ คุณพงศ์คะ สมฝากดูคุณหมอสักครู่นะคะ”



ฝากฝังหมอภวัตกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรแล้ว พยาบาลสมฤดีก็รีบพาจันทร์จ้าวไปยังห้องตรวจทันที

…………………..


   จันทร์จ้าวไม่มีไข้ และเย็นนั้นหมอภวัตถอดสายน้ำเกลือ ออกจากห้องพักคนไข้เพื่อไปรักษาตัวต่อที่บ้าน กระนั้นเมื่อมีคนตามไปดูที่บ้านพักแพทย์ก็พบว่าปิดเงียบ มีคนกล่าวว่าเห็นชายหนุ่มรูปหล่อผู้มีลักยิ้มที่แก้มซ้ายขับรถพาหมอภวัตออกจากโรงพยาบาลไปเมื่อตอนค่ำ ไม่ทราบว่าพาไปที่ใด แต่หน้าตาคนป่วยดูแช่มชื่นขึ้นเป็นกอง



   มีคนดูแลดีก็นับว่าเป็นเรื่องดี ต่อให้ไม่รู้ว่าถูกพาไปดูแลที่ไหนโดยใครก็ตามที



   เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อหม่อมหลวงพงศ์ภราธรขับรถผ่านที่หน้าบ้านเช่าสีเขียวอ่อนก็พบรถยนต์ของหมอภวัตจอดอยู่ จึงลงจากรถแวะเยี่ยมเยียน



เจ้าของบ้านผู้แข็งแรงและอัธยาศัยดีต้อนรับขับสู้อย่างดี แต่เมื่อหม่อมหลวงพงศ์ภราธรถามไถ่ถึงคนป่วย คำตอบของจันทร์จ้าวก็พาเอาตะลึงตะลาน



“แกว่าอะไรนะ?! ใครต้มข้าวต้ม?!”



“หมอ”



“คุณหมอ?! แกให้คุณหมอไปต้มข้าวต้มหรือ?!”



“ผมจะต้มเอง แต่หมอบอกให้ผมอยู่เฉยๆนี่ อยู่หลังบ้านแหน่ะ คุณพงศ์ไปหาสิ”



“แกให้คนป่วยไปต้มข้าวต้มกินเองหรือ?!”



“หมอหายดีแล้ว” จันทร์จ้าวแย้งเสียงเบาแล้วเผลอเม้มปาก ไม่กล้าพูดว่าคนไข้เมื่อวานนี้ที่เขาสู้อุตส่าห์พามาค้างที่นี่เพราะหวังจะดูแลปรนนิบัติ กลับอาศัยสถานะคนไข้เรียกร้องให้เขาดูแลราวกับเป็นคนสุขภาพดีด้วยซ้ำ



‘จันทร์...เรียกพี่ภวัตอีกไม่ได้หรือ’



‘ก...ก็เรียกไปแล้ว...อื้อ...หมอ...ตัวยังร้อน...’



‘แต่จันทร์ตัวเย็น...พี่...อยากกอดจันทร์...’



พิษไข้คงทำลายสมองไปหมดแล้ว เพราะหมอภวัตคนเมื่อคืนแตกต่างลิบลับกับหมอภวัตคนก่อนหน้านี้



“จันทร์...แกหน้าแดง...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเห็นใบหน้าเพื่อนรักที่จู่ๆก็กลายเป็นสีแดงก่ำแล้วก็ต้องท้วงถามด้วยความตื่นตะลึง จันทร์จ้าวรีบยกมือถูสองแก้มอย่างประหม่า คิดหาข้ออ้างไม่ออก แต่หากจะพูดความจริงว่าเผลอคิดถึง ‘พี่ภวัต’ คนเมื่อคืน เพื่อนรักราชนิกูลคงได้ลมจับเป็นแน่แท้



“คุณพงศ์...” เสียงทุ้มติดแหบเล็กน้อยดังขึ้น ทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมอง



“คุณหมอ เป็นอย่างไรบ้างครับ ผมขับรถผ่านเห็นรถคุณหมอจอดอยู่หน้าบ้าน เลยแวะมาดู”



หมอภวัตวางถ้วยข้าวต้มสองถ้วยลงบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะเดินเข้ามาร่วมวงด้วย รอยยิ้มสุภาพเหมือนทุกทีนั้นไม่มีอะไรผิดปกติ แต่จันทร์จ้าวกลับไม่กล้าหันมองสักนิด



“ดีขึ้นมากแล้วครับ จันทร์ดูแลผมอย่างดี” เดิมทีน้ำเสียงของหมอภวัตทุ้มนุ่มหูชวนฟัง แต่เพราะอาการไข้หวัดทำให้เสียงของเขาในวันนี้ติดแหบเล็กน้อย และมันชวนให้จันทร์จ้าวเผลอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาอีก



‘จันทร์...ให้พี่กอดจันทร์ได้ไหม’


‘ม...หมอยังป่วย’


‘พี่ถึงต้องกอดจันทร์ เพราะจันทร์ตัวเย็นเหลือเกิน...’


‘ต...แต่...’


‘นะ คนดี...ให้พี่กอดจันทร์...’



“ถ้าคุณหมอไม่เป็นอะไรแล้วก็ดี เห็นจันทร์บอกว่าคุณหมอต้มข้าวต้มเองด้วย ไม่น่าจะต้องลำบาก ให้จันทร์วิ่งไปบอกที่วังก็ได้นะครับ”



“ไม่เป็นไรครับ คุณพงศ์ ผมทำไหว”



“แล้วคุณหมอจะกลับไปทำงานเมื่อไร”



“พรุ่งนี้ครับ คืนนี้คงต้องค้างที่นี่อีกคืน”



คราวนี้เจ้าของบ้านหันมองคนพูดทันควัน



“คืนนี้หมอก็จะอยู่ที่นี่หรือ?!” หมอภวัตยิ้มจาง มองคนรักด้วยสายตาสุภาพ ทว่ากลับทำเอาจันทร์จ้าวเม้มปากเพราะพานคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน


ไม่เห็นสุภาพสักนิด อีกทั้งยังไม่สมกับเป็นคนป่วยด้วยซ้ำ!


“ครับ คืนนี้คงต้องให้จันทร์ช่วยดูแลอีกคืน”



“จะดูแลได้เรื่องอยู่หรือครับคุณหมอ รายนี้ดูแลใครเป็นที่ไหน” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหยอก คิดเอาว่าคงถูกจันทร์จ้าวคนปากดีย้อนเป็นแน่ แต่การณ์กลับผิดคาดเพราะอีกฝ่ายเงียบกริบเอาแต่หันมองไปทางอื่น



หมอภวัตไม่พูดกระไร เพียงแต่ยิ้มอย่างเชื่อมั่น ราวกับจะบอกว่าที่อาการของเขาดีขึ้นเช่นนี้ก็เพราะการดูแลของจันทร์จ้าวทั้งนั้น แต่ถึงอย่างนั้น ราชนิกูลหนุ่มก็ยังเอื้อเฟือเพราะไม่คิดว่าเพื่อนรักจะดูแลใครได้จริง



“ถ้าคุณหมอต้องการอะไร ไปบอกที่วังได้นะครับ” เขากล่าวก่อนจะหันมาทางจันทร์จ้าว “วันนี้แกก็อยู่บ้านดูแลคุณหมอ ไม่ต้องเข้าไปที่สำนักงานหรอก”



“ขอบคุณครับคุณพงศ์” เป็นหมอภวัตที่ยังเจรจา ส่วนคนพูดเก่งกลับเงียบกริบผิดวิสัย หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหลากใจอยู่บ้าง แต่เพราะเห็นคนป่วยกลับมาแข็งแรงพูดคุยได้อย่างเดิมแล้ว จึงไม่ตะขิดตะขวง เขาบอกลาเจ้าของบ้านและคนที่มาค้างคืน จากนั้นจึงกลับไปขึ้นรถ


 ทว่าเมื่อขับรถพ้นบ้านเช่าสีเขียวอ่อนหลังนั้นออกมาได้พักหนึ่งแล้ว ก็พลันนึกขึ้นมาได้



“จันทร์?...คุณหมอเรียกจันทร์ว่าจันทร์ตั้งแต่เมื่อไรกันน่ะ?”


   ทว่าคิดไปก็เท่านั้น เห็นจะไม่ได้คำตอบ เพราะไม่ว่าจะเรียก ‘จันทร์’ หรือ ‘คุณจันทร์’ เขาก็ไม่เห็นความแตกต่างเลยสักนิด ในเมื่อหมอภวัตยังคงเป็นชายหนุ่มผู้แสนสุภาพอยู่เช่นเดิม



   แต่...หากกลับไปซักถามจากคนถูกเรียกแล้วไซร้ ก็คงได้อีกคำตอบหนึ่ง



   ‘จันทร์ มากินข้าวกันเถอะ’



   ‘อ...อื้อ...’



   ‘กินข้าวเสร็จแล้ว เช็ดตัวให้พี่หน่อยได้ไหม’



   ‘หมอ...เอ่อ...พี่...พี่ภวัตหายแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมต้องเช็ดตัวอีก...’



   ‘ยังหายไม่สนิทหรอก’



‘ต...แต่...ผ...ผมทำไม่เป็น’



   ‘ไม่เป็นไร พี่จะสอนจันทร์เอง’



   ไม่แน่ใจนักว่าหมอภวัตสอนอย่างไร เพราะบ้านเช่าสีเขียวอ่อนปิดประตูหน้าต่างเงียบตั้งแต่กลางวัน คาดว่าเจ้าของบ้านคงดูแลคนป่วยอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะเมื่อนายแพทย์หนุ่มกลับไปทำงานในวันต่อมา ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดูผุดผ่องแจ่มใส ไม่มีเค้าคนเคยป่วยเลยแม้แต่นิดเดียว


จบ   

หมอภวัตซุกหมาป่าไว้ใต้หนังแกะแหละค่ะ ฮ่าฮ่า

เขียนตอนนี้ขึ้นมาเพราะคิดถึงคุณพงศ์ (ส่วนหมอภวัตกับคุณจันทร์ ให้เขาคิดถึงกันเองแล้วกันค่ะ ฮ่าฮ่า)

สำหรับวันนี้ สวัสดีวันฮาโลวีน และสวัสดีพรุ่งนี้เดือน 11 ด้วยค่ะ (มาแบบสิ้นเดือนสุดๆ ตอนแรกคิดว่าจะเขียนไม่ทัน เพราะว่าป่วยฉุกเฉิน เพิ่งหายสนิทเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่สุดท้ายก็มาแบบชั่วโมงสุดท้ายเลย ช่วงนี้มีดรคระบาดหลายอย่าง รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ และคนคิดถึงหมอภวัต(ที่ตอนนี้เรียกร้องขอเป็นพี่ภวัต) และคุณจันทร์ (และถ้าคิดถึงคุณพงศ์ด้วย เรามาแตะมือกันค่ะ ฮ่าฮ่า) ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

เจอกันเดือนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 31-10-2019 23:56:59
หวานหยด มดไต่ ฟักทองฮาโลวีนกลายเป็นฟักทองเชื่อมไปเลย..ยยยยย    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 01-11-2019 00:30:17
คุณจันทร์ผู้แก่นเซี้ยวถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว...พี่ภวัตช่างมีอิทธิพล 555

ก็คนป่วยอ่ะเนอะ อ้อนขออะไรก็ได้...คนดูแลเขาเต็มใจให้อยู่แล้ว อิอิ

นอกจากคิดถึงหมอและคุณจันทร์แล้ว...เพื่อนผู้กุมความลับอย่างคุณพงศ์ก็ลืมไม่ได้เช่นกัน ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 01-11-2019 00:42:07
หมอภวัตในร่างนี้ รับไม่ไหวจริงๆค่ะ
คุณจันทร์แย่แล้วล่ะ ฮืออ

ขอบคุณคุณบัวนะคะ ทางนี้คิดถึงคุณจันทร์มากๆเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 01-11-2019 04:40:47
 :jul1: อิพี่หมอมันร้าย ทำคุณจันทร์เลือดขึ้นหน้า
ขึ้นเพราะความเขิลนะคะ ไม่ได้เพราะความโกรธ อิอิ

คิดถึงจันทร์ คิดถึงพี่ภวัตมากเลยยยยยย
ขอบคุณที่พามาเจอในวันปล่อยผีนะคะ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: haramoonlight ที่ 01-11-2019 06:52:06
พี่ภวัต... ใจคุณจันทร์จะทนได้อย่างไรกันละลายไปหมดแล้ว~~ :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 01-11-2019 07:06:29
คุณหมอนิ โอ๊ยยยยยยยยยยย

ถ้าเป็นคุณจันทร์ละลายไปแล้ว

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 01-11-2019 08:52:14
โอ๊ยยย..ละลายแล้ว
หวานนนน้ำตาลขึ้นแต่ชอบมากๆๆค่ะ
ขอบคุณนะคะและขอให้คุณบัวสุขภาพแข็งแรงนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: OrangeryLemon ที่ 01-11-2019 10:59:47

โอ้ย มันหวานมาก เขินตัวบิดเสียอาการ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Stiiiii ที่ 01-11-2019 13:50:25
หมอน่ารัก :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 02-11-2019 15:32:03
คุณหมอยังคงสึภาพและน่ารักเสมอ
ถึงบางทีจะเจ้าเล่ห์ไปบ้าง

ขอบคุณพี่บัวนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Rose_Apple ที่ 02-11-2019 16:40:24
คือคุณ Dezair คะ เป็นหวานมากๆ เป็นบะลั่กๆอุ๋งๆ เขินพี่หมอ ฮืออออออ ขอบคุณที่อัพให้หายคิดถึงนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 02-11-2019 18:03:52
 :z1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 03-11-2019 20:26:12
หมออ้อนคุณจันทร์ :ling2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-11-2019 22:50:26
ดูแลแบบพิเศษ?  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 04-11-2019 11:19:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 04-11-2019 12:09:03
หมอออออ ร้ายนะหมอ
 :-[ :o8: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 04-11-2019 17:07:58
โอ๊ยหวานมาก :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 04-11-2019 17:50:40
หมอเจ้าเล่ห์ขนาดนี้เลยหรอเนี่น
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 04-11-2019 22:30:33
เป้นตอนที่น่ารักมาก หลากอารมณ์ดี แต่ที่อยากบอกคือจะอย่างไรคุณจันทร์ก็ยังน่ารักน่าหลงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Summerset ที่ 08-11-2019 12:19:18
คิดถึงคุณจันทร์​ กะ คุณหมอผู้เรียบร้อย???
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-11-2019 07:17:28
เป็นไงล่ะคุณจันทร์คนแก่น ไปไม่เป็นเลยล่ะซี่
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: brapair ที่ 25-11-2019 16:16:59
โอ้โหห หมอจ๋าาาาา แลงมากๆนะคะคุณหมอออ จันทร์จ้าวถึงกับไปไม่เป็นเลย เอ็นดูวววว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 04-12-2019 05:17:51
คิดถึงเหมือนกันค่ะ
หมออออออออออ :z1:  :z1: :z1:
ทำเอาจันทร์ไปไม่เป็นเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-12-2019 01:46:44
อ่านยาวจนจบรวดเดียวเลยครับ ^^
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 20-12-2019 14:46:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  งานดี มีคุณภาพ ชอบบบบบบ ไม่น่าค้างเรื่องนี้ไว้ตั้งหลายปี เรื่องนี้มันดีมากจริงๆ ต้องไปตามหาหนังสือมาอยู่ในมือให้ได้
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 22-12-2019 08:32:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๊บป่อง ที่ 01-01-2020 18:35:11
 :hao7:  ของขวัญ ถอดแบบ จันทร์เจ้า มาทุกกระเบียด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 05-01-2020 06:20:10
งุ้ยยยยยยยยย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-01-2020 07:32:34
5555 เป็นเกลอกันที่สงสัยได้ตรงกันแต่ก็ทำเลือนไป ไม่อยากถาม
พงศ์เป็นอะไรที่มีศักดิ์เหนือกว่า แต่แพ้ทางจันทร์จ้าวตลอด

หมอป่วย ก็อยากมีคนดูแล แต่ก็ห่วงกลัวคนรักกังวล
แล้วเป็นไงล่ะ กังวลจริง จนต้องแอบมาส่องถึงโพรงพยาบาล
ตอนนี้หมอหายป่วยแล้ว ไม่รู้คนเฝ้าตัวเย็นดูแลดีจนติดไข้ไปยัง

ขอบคุณมากนะคะ คิดถึงเสมอเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-01-2020 12:48:03
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๓  :mew1: :mew1: :mew1:
มาอ่านใหม่ ชอบบบบบบ   :impress2:
ชอบคุณจันทร์ที่ถูกหมอคุมเกมซะเขินอาย ประหม่า พูดไม่ออก  :m20: :laugh:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 05-03-2020 13:15:41
โอ้ยยย เป็นพีเรียดสีลูกกวาดที่สนุกมากๆ เสียดายไม่ได้อ่านแบบเรียลไทม์ เนื้อเรื่องน่าเอ็นดู กลมกล่อมละมุน ครบทุกอรรถรส ชอบทุกตัวละคร มีคาเรทเตอร์ที่ชัดเจน มีความเอ็นดูทุกคนเลย เหมือนได้ดูละครพีเรียดผ่านตัวอักษรเลย ดีต่อใจมากกกกกกก

จันทร์จ้าว คือถ้วยฟูกับจอมขวัญ เขย่ารวมกัน จนน่ามันเข้ว! เธอไปของได้จริงๆใครจะยังไงก็ช่าง ดื้อได้กับทุกคนยกเว้นหมอภวัต แพ้ทุกทาง น่าเอ็นดูววตรงนี้  :laugh:

พี่หมอคือสามีแห่งชาติ ที่ควรหวงแหนอย่างแท้จริง แอบร้ายแอบเจ้าเล่ห์เนียนๆให้กร๊าวววใจไปอี๊ก  :hao5:

ขอบคุณนะคะ สนุกและอิ่มใจมาก นิยายของคุณบัวดีงามต่อใจเหลือเกินค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:



หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 09:31:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 21-05-2020 11:04:43
ตอนเห็นชื่อเรื่องแรกๆคิดว่าน่ากลัวแต่อยู่ๆก็กดเข้ามาอ่านชอบภาษามากเลยค่ะอ่านเพลินพีเรียดลูกกวาดไม่หวือหวาแต่น่ารักมากๆเลยค่ะสายสุขนิยมอย่างเราชอบบบบ แล้วก็ชอบนายเอกอย่างคุณจันทร์ด้วยคุณหมอภวัตก็อ่อนโยนมากแต่ตอนพิเศษกรี๊ดกร๊าดใช่คุณหมอคนอ่อนโยนจริงๆหรือ

เรื่องคุณพงศ์ก็อยากอ่านมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: yulsawa81 ที่ 27-05-2020 00:28:20
เพิ่งได้มาอ่านค่ะ สนุกมาก ๆ เป็นสไตล์ที่เราชอบเลยค่ะ ถูกจริตมาก พีเรียดยุคแบบนี้ก็ชอบมาก ๆ แทบจะเก็บไปฝันเลยค่ะ 5555 ตัวละครน่ารักไปหมดเลยค่ะ ยิ่งคุณจันทร์นี่น่าเอ็นดูสุด ๆ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ (๓๑ ต.ค. ๖๒/หน้าที่ ๖๗)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 27-05-2020 23:34:46
หวานมากคะ
คุณหมอบทจะหวานก็น่ารักมากเลยคะ♥️
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 31-08-2020 22:18:34
จันทร์จ้าว
โดย Dezair
………………..
ตอนพิเศษ กลเม็ด



เสียงหวดลูกเงียบลงไปแล้ว เมื่อคู่ตีเทนนิสทั้ง ๒ เดินกลับจากคอร์ดมานั่งพักที่เก้าอี้ม้านั่งยาวริมสนาม


ร่มไม้น้อยใหญ่ในวังฉัตรให้ความร่มรื่น ลมจากแม่น้ำพัดหอบขึ้นมาพอให้คลายร้อน กระนั้นเสื้อของเด็กหนุ่มทั้ง ๒ คนก็ยังชื้นเปียกไปด้วยเหงื่ออยู่ดี


                “แล้ววันนี้แกจะกลับกี่โมง หอบน้องสาว ๒ คนมาอยู่ที่นี่นานๆ ที่บ้านไม่ว่าเอาหรือ” ทายาทเจ้าของวังอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมาถามเพื่อนรักผู้คบหากันมาแต่อ้อนแต่ออก แต่อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะทิ้งเขาไปเรียนต่อต่างประเทศเสียแล้ว


   คนถูกถามทำหน้าดื้อรั้นพลางยักไหล่


                “จะว่าอย่างไรผมไม่สนหรอก ปล่อยให้อยู่ที่นั่นสิเรื่องใหญ่ น้องสาวผมอายุ ๑๔ แล้ว คุณพ่อคุณแม่ทำอย่างกับนภาและดาราอายุสัก ๔ ขวบ จู่ๆก็จะให้เพื่อนพาลูกชายมาพบหน้า คุณพงศ์รู้จักท่านศักดิ์ วิชาญโยธินไหมล่ะ เห็นว่าลูกเป็นหมอหรือเรียนหมอ ผมก็ไม่ทันได้ฟังคุณแม่พูดหรอก พอรู้ว่าจะพามาให้รู้จักกัน ผมก็ตัดสินใจหอบนภากับดารามาที่นี่ เรื่องอะไรจะอยู่ให้ได้พบหน้า ฟังดูก็รู้ว่าคิดจะจับคู่ให้น้องผม ถ้าหากอยากให้รู้จักกันเอาไว้ ก็น่าจะพามารู้จักกันแต่เล็ก ไม่ใช่พอน้องผมเริ่มโตเป็นสาวก็จะพาผู้ชายมารู้จัก ผมไม่ยอมหรอก!” ลงท้ายอย่างใส่อารมณ์เช่นนี้ ก็ทำเอาคนฟังต้องรีบปราม


                “จันทร์ น้องแกเพิ่งจะ ๑๔”


   คนชื่อ ‘จันทร์’ ผู้เจ้าอารมณ์ถึงกับหันขวับ


                “อายุตั้ง ๑๔ แล้วต่างหาก! เกิดอ้ายลูกชายของเพื่อนคุณพ่อเห็นเข้าแล้วถูกใจ ขอแต่งงานแต่งการ น้องผมมิต้องออกจากโรงเรียนกลางคันรึ?!”


หม่อมหลวงพงศ์ภราธรส่ายศีรษะอีกหน


   “แกก็พูดเกินไป”


   “ไม่เกินไปหรอก ผมก็ต้องคิดไว้ก่อน“


                “แต่อีกไม่กี่วัน แกก็จะไปเรียนต่อแล้ว ถ้าคิดจะจับคู่ให้น้องแกจริง ก็ทำหลังจากแกไปก็ได้นี่” คำพูดของราชนิกูลเพื่อนรัก ทำเอาคนมีกำหนดต้องไปเรียนต่อต่างประเทศเริ่มคิดหนัก


                “เอ? หรือผมไม่ไปเรียนแล้วดี อยู่มันที่นี่เสียเลยเป็นไร”


                “เฮ้ย! พูดเป็นเล่น! แกรับทุนเขามาแล้ว จะไม่ไปได้ยังไร!”


                “แต่ผมห่วงน้องผม พี่อาทิตย์ก็ใช่จะขัดใจคุณพ่อคุณแม่ได้ ดูอย่างวันนี้ซี! แทนที่จะอยู่กันท่า กลับบอกว่าต้องเข้าสวนไปดูต้นไม้อะไรก็ไม่รู้! ใช่เรื่องเสียที่ไหน! อ้ายผู้ชายอื่นจะมาฉกน้องสาวอยู่แล้ว ยังจะคิดเรื่องต้นไม้ใบหญ้าอยู่อีก! ดีแค่ไหนว่าผมหัวไว รีบพามาที่นี่เสียก่อน ไม่อย่างนั้นต้องได้เจอกันแน่!”


   “เจอกันจะเป็นไร ก็แค่รู้จักกันเอาไว้”


   “น้องผมเป็นผู้หญิงนะคุณพงศ์! ทางนั้นเป็นผู้ชาย! หญิงชายเจอกัน ใครที่ไหนจะแค่ทำความรู้จักเล่า?!”


   “อ้อ! เหมือนแกน่ะหรือ หญิงชายเจอกัน มองหญิงตาเยิ้มทุกที”


   คนถูกย้อนทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเพราะถูกหยอก แต่แม้นจะถูกหยอกอย่างไร เรื่องอันดับ ๑ ในใจเวลานี้ก็คือเรื่องกันท่า


   “ไม่รู้ล่ะ! ยังไรผมก็ไม่ไว้ใจให้ลูกชายของเพื่อนคุณพ่อมาเจอนภากับดารา!”


                “ไฮ้! แกมันก็คิดมาก! เธอไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก” ฟังแล้วคล้ายจะเข้าข้างผู้อื่น คู่สนทนาจึงหรี่ดวงตาลงจับจ้องพลางถามเอาเรื่อง


                “เธอที่ว่าน่ะเธอไหน”


                “ก็ท่านศักดิ์ วิชาญโยธินกับคุณภวัต ลูกชายของท่านที่เรียนหมอน่ะซี”


                “อ้อ! ชื่อภวัตรึ?! แค่ชื่อก็รู้สึกไม่ถูกโฉลกเสียแล้ว คุณพงศ์รู้จักใช่ไหม? ดี! จะได้เป็นหูเป็นตาแทนผม หากนายคนนี้มีทีท่าอยากจะพบหน้าน้องสาวผมให้ได้ คุณพงศ์ต้องขวางให้ผมด้วย แล้วต้องคอยรายงานผมเป็นระยะล่ะ ผมจะได้วางใจ”


หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ดูท่าคู่สนทนาจะฝังใจไปแล้วว่า ‘คุณภวัต’ บุตรชายคนใหญ่ของท่านศักดิ์  วิชาญโยธิน หมายตาน้องสาวแฝดคนใดคนหนึ่งของตนเป็นแน่แท้ คนดื้อดึงเช่นนี้ พูดอย่างไรคงไม่ฟัง คร้านจะโต้แย้งด้วยจึงพยักหน้าเออออราวกับรับคำสั่ง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่า ‘คุณภวัต’ ผู้นั้น มุ่งมั่นร่ำเรียน และไม่เคยมีข่าวเสียหายเรื่องคบหากับเพศตรงข้ามเลยสักครั้ง


              “เลิกพูดถึงนายภวัตพะวังอะไรนั่นเถิดคุณพงศ์ มาเล่นกันอีกสักตาดีกว่า”


   คนเปลี่ยนอารมณ์ง่ายราวกับพายุพูดแล้วก็ถือแร็กเก็ตลงไปรอที่คอร์ด หม่อมหลวงพงศ์ภราธรยังมัวแต่คิดสะระตะ จึงถูกกระทุ้งอีกรอบ


“เฮ้! คุณพงศ์! ลงมาเล่นกันอีกสักตาซี! มัวแต่คิดอะไรน่ะ!”


ก่อนที่พายุลูกใหม่จะก่อตัว ราชนิกูลหนุ่มก็รีบคว้าแร็กเก็ตลงไปตีโต้กับเพื่อนรักผู้มีนามว่า ‘จันทร์’ แล้ว


ปล่อยให้เรื่องของ ‘นายภวัตพะวังอะไรนั่น’ เลือนหายไปจากบทสนทนาของพวกเขาอย่างรวดเร็ว


………………..


   ตอนที่รถยนต์เคลื่อนตัวออกมาจากบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ ท่านศักดิ์ก็เอี้ยวตัวมาที่บุตรชายทั้ง ๒ ที่นั่งอยู่เบาะหลัง


   “น่าเสียดาย วันนี้ลูกบ้านนี้ไม่อยู่สักคน ไม่อย่างนั้นคงได้ทำความรู้จักกันเอาไว้ อายุไล่เรี่ยกัน เผื่อคบหากันถูกคอ”


ภวัตเพียงยิ้ม ไม่ตอบกระไร ในขณะที่เภาไม่ได้มีท่าทีสนใจแต่ประการใด นอกจากทิ้งสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ


   “จะว่าไปตาเดชนี่ใจเด็ด สงครามเพิ่งจบ ก็ยังปล่อยให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ” พอบิดาเอ่ยถึงเรื่องนี้ ก็ชวนให้ภวัตเลิกคิ้ว


   เมื่อครู่นี้ เขาอยู่ในวงรับประทานของว่างด้วย หลังจากบทสนทนาที่เจ้าบ้านซักถามเรื่องการเรียนแพทยศาสตร์ของเขาแล้ว ท่านเดชก็กล่าวถึงบุตรชายคนรองของท่านซึ่งกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ



ท่านเล่าอย่างติดตลกว่าไม่ทราบบุตรชายคนนี้ไปสมัครสอบอย่างไร รู้อีกทีก็ได้รับทุนแล้ว คุณหญิงผการ้องไห้อยู่สามวันเจ็ดวันเพราะบุตรชายต้องจากไกล แต่บุตรชายคนที่ว่ากลับยืนกรานหนักแน่นว่าต้องไป หากไม่ไปจะเป็นที่ครหา เพราะชิงทุนมาได้แต่กลับสละสิทธิ์ คนจะกล่าวหาว่ารักษพิพัฒน์โลเลไม่น่าเชื่อถือ


   คิดย้อนกลับไปตามความที่ท่านเดชเล่า ภวัตก็นึกขันในใจเกี่ยวกับบุตรชายคนดังกล่าว บุคคลที่สามเช่นเขาฟังแล้วยังรู้ว่าเรื่องคำครหา สละสิทธิ์ หรือแม้แต่ทำให้สกุลไม่น่าเชื่อถือเป็นเพียงข้ออ้างทั้งนั้น แต่...ก็เป็นข้ออ้างที่ขัดไม่ลงทั้งสิ้น


   ...ดูท่าจะพูดเก่ง กลเม็ดแยะ...ที่สำคัญคือหัวแข็งและใจเด็ด...


   “ผมว่าคนใจเด็ดน่าจะเป็นคนสมัครทุน สงครามเพิ่งจบก็ยังคิดจะไปต่างประเทศ เคยได้ยินมาว่าทุนนี้เป็นทุนให้เปล่าเต็มจำนวน เพื่อนผมหลายคนก็เคยสมัครสอบ แต่ไม่ได้ แสดงว่าลูกชายของท่านเดชนอกจากจะใจเด็ดสมัครทุนเองแล้ว น่าจะเรียนเก่งมาก” ภวัตกล่าว ผู้เป็นบิดาเพียงรับคำเออออ แต่มิได้สนใจมากนัก



พอรถยนต์แล่นออกสู่ถนนใหญ่ หันกลับไปมองไม่เห็นเรือนไทยรักษพิพัฒน์แล้ว เรื่อง ‘ลูกชายของท่านเดช’ ก็ไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยอีก รวมถึง...ไม่มีใครกล่าวด้วยซ้ำว่าคนผู้นั้นชื่ออะไร


แล้วเรื่องนี้...ก็จางหายไปจากความทรงจำของภวัต  วิชาญโยธิน...นานหลายปี…


……………………..



หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 31-08-2020 22:18:53
   กระนั้น สมองของคนเรานี้น่าแปลก แม้ภวัตเป็นหมอย่อมเรียนกายวิภาคจนแตกฉาน แต่ร่างกายที่ธรรมชาติสรรสร้างก็น่าอัศจรรย์เสมอ


   จู่ๆ ตอนที่กำลังนั่งรอคู่รักอยู่ในภัตตาคาร เขาก็พลันนึกย้อนไปคิดถึงเรื่องราวในอดีต ที่ครั้งหนึ่ง...เคยติดตามบิดาไปเยือนบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ จำได้ว่าพบเพียงเจ้าของเรือนอย่างท่านเดชและภรรยา ส่วนบุตรธิดาทั้ง ๔ ไม่มีใครอยู่


   น่าเสียดาย...มิเช่นนั้นอาจจะได้พบจันทร์จ้าวในยามเยาว์วัย


   พอคิดถึงคู่รักของตนแล้ว หมอภวัตก็อดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้


   จันทร์จ้าวยามนี้ คนใกล้ชิดล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านิสัยมิได้แตกต่างจากสมัยเด็กเสียเท่าไร เอาแต่ใจอย่างไรก็เอาแต่ใจอย่างนั้น อีกทั้งยังเป็นเจ้าความคิด ทำแต่เรื่องเปิ่น กลเม็ดก็แยะ ดีขึ้นหน่อยตรงนี้ไม่เจ้าอารมณ์เท่าสมัยก่อนแล้ว เรื่องเจ้าอารมณ์นี้ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรย้ำหนักหนาว่าถึงขั้น ‘ญาติผู้ใหญ่ยังไม่เอา’


   เรื่องนี้ ชวนให้ภวัตสงสัย จึงสอบถามกับบุคคลผู้อยู่ในชีวิตจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์มาตั้งแต่จำความได้ ก็จะใครเสียอีกถ้าไม่ใช่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเจ้าเก่าเจ้าเดิม


    ‘ญาติผู้ใหญ่ยังไม่เอา? หมายความว่ายังไรหรือครับ’


   ‘คุณปู่ของจันทร์ท่านมีลูกหลานแยะ พ่อของจันทร์ท่านเป็นลูกคนหลังๆ แต่ได้ดิบได้ดี คุณหมอคงพอจะนึกออก เวลาจัดงานเลี้ยงทีไร พวกผู้ใหญ่บางทีก็พูดจากระทบกระเทียบประชดประชันกัน พวกเด็กๆเล่นสนุกไม่รู้เรื่องไปก็ได้ แต่จันทร์น่ะ...ไม่ได้’


   คำว่าไม่ได้ คล้ายจะบอกว่าจันทร์จ้าวไม่ปล่อยให้เรื่องระคายเคืองบิดามารดาของตนเองถูกปล่อยผ่าน


   ‘พอไปงานเลี้ยงแล้วเจอคำพูดไม่เข้าหู มีครั้งหนึ่งคงสุดจะทน ก็เลยทะเลาะกับพวกลุงๆป้าๆ หลังจากนั้น จันทร์ก็ไม่ไปงานเลี้ยงครอบครัวใหญ่อีกเลย’


   ‘คุณจันทร์คนเดียวที่ไม่ไปหรือครับ’


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหัวเราะพรืด


   ‘คนอย่างจันทร์น่ะหรือจะไม่ไปคนเดียว พี่น้องโดนห้าม ส่วนพ่อแม่จะไปก็สุดแล้วแต่ คุณหญิงผการักจันทร์จะตายไป พอลูกชายคนโปรดว่าอย่างนั้นก็เลยไม่ไปบ้าง ท่านเดชก็รักครอบครัวอย่างกับอะไร ลูกเมียไม่ไปก็ไม่ไป สุดท้ายเลยไม่ไปกันหมดทั้งบ้าน’


   หมอภวัตถอนหายใจเบา คล้ายระอาความเอาแต่ใจและเจ้ากี้เจ้าการของคนรักยามเยาว์วัย แต่ใบหน้าของเขากลับมีรอยยิ้มน้อยๆราวกับเอ็นดู


   ‘แต่จริงๆแล้ว จันทร์เคยบอกผมว่า ไม่ถูกโฉลกลุงป้าคู่นั้นอยู่แล้ว พอทางนั้นหาเรื่องมา จันทร์ก็เลยหาเรื่องกลับ จะได้ก่อเรื่องแล้วเป็นข้ออ้างให้ไม่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงครอบครัวใหญ่อีกอย่างไรล่ะ เรื่องกลเม็ดของเพื่อนผมคนนี้น่ะ...บอกเลยว่าแยะ!’


   หมอภวัตเพียงยิ้ม เห็นด้วยหมดใจว่าคู่รักของตนนั้น กลเม็ดแยะเพียงใด


   “หมอ!”


เสียงเรียกดังข้างหูพร้อมกับการตะปบไหล่จากด้านหลัง คนกำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับสะดุ้งหันมอง เจ้าของเสียงและการเย้าแหย่เช่นนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ถ้าไม่ใช่คนที่เขาคิดถึงเมื่อครู่


   จันทร์จ้าวยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้มซ้าย ดวงตากลมใหญ่หยีจนเป็นเส้นโค้ง ดวงหน้าแสดงออกอย่างมีชีวิตชีวา


   วันนี้ พวกเขาไม่ได้ไปตีเทนนิสอย่างทุกที แต่นัดเจอกันที่ภัตตาคารชื่อดัง แน่นอนว่าในเมื่อภัตตาคารแห่งนี้ชื่อดัง ย่อมมีลูกค้ามาก การที่นายแพทย์หนุ่มคนดังปรากฏกายที่นี่ ย่อมทำให้ผู้คนสนใจแล้ว ยิ่งเมื่อมีชายหนุ่มผู้รุ่มรวยด้วยเสน่ห์เช่นจันทร์จ้าวตามมาอีกคน ก็ย่อมทำให้โต๊ะของพวกเขาเป็นที่สนใจ


แต่ความสนิทสนมของพวกเขานั้นเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันอยู่แล้ว การที่จะพบหมอภวัตและจันทร์จ้าวอยู่ด้วยกันตามร้านอาหาร ท้องถนนหรือที่สโมสรเทนนิส ถือว่าเป็นเรื่องคุ้นตา 


   “หมอมาถึงนานหรือยัง ขอโทษทีที่ช้า คุณพงศ์น่ะซี โอ้เอ้” เจ้าของลักยิ้มที่แก้มซ้ายเอ่ยปาก ก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับคู่รักของตน พอนั่งลงแล้ว บริกรก็รีบนำรายการอาหารมาให้ จันทร์จ้าวพลิกดูทีละหน้า ท่าทางจะหิว


“หมอสั่งอะไรไปบ้างแล้ว”


   “สั่งแค่เครื่องดื่มเท่านั้นครับ”


   “ถ้าอย่างนั้นกินอะไรดี ซี่โครงหมูอบไหม แล้วก็...สตูลิ้นวัว...”


หมอภวัตผู้ตามใจคู่รัก ไม่ว่าจันทร์จ้าวเสนออะไรก็ล้วนดีงามไปหมด หลังจากปล่อยให้คนเพิ่งมาเป็นผู้สั่งอาหารไปหลายอย่าง และบริกรจากไปแล้ว คราวนี้คุณหมอหนุ่มถึงได้มีเวลาเป็นส่วนตัว


แม้จะอยู่ในที่สาธารณะ และพวกเขามิอาจใกล้ชิดกันได้มากไปกว่าการนั่งร่วมโต๊ะอาหาร แต่ดวงตาของภวัตยามมองคู่รักนั้นแตกต่างจากยามมองผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัด


   “แล้วนี่คุณมาอย่างไรครับ คุณพงศ์มาส่งหรือ”


   “ใช่ พอดีคุณพงศ์ต้องแวะมาแถวนี้ ผมก็เลยขอติดรถมา”


   วันนี้มีเรื่องประหลาด ๒ เรื่อง เรื่อง ๑ คือจันทร์จ้าวเสนอให้ยกเลิกการตีเทนนิส แล้วเปลี่ยนเป็นมื้อเย็นแทน และเรื่อง ๒ คือเจ้าตัวบอกให้ ‘ต่างคนต่างมา’


   ภวัตไม่ได้ลำบากอะไรเพราะมีรถยนต์ส่วนตัว แต่จันทร์จ้าวนี่สิ ไม่ทราบว่าจะระหกระเหินอย่างไร แม้เขาจะแย้งก็แล้วว่าให้ไปรับที่สำนักงานค้าหนังสือก็ได้ แต่เจ้าตัวยืนกรานว่าให้มาเจอกันที่ภัตตาคาร เขาไม่ทันได้ซักไซ้ เพราะเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์ ภวัตเองต้องรีบไปทำงานต่อ จึงได้แต่เออออแล้วอดใจรอมาสอบถามตอนพบหน้าแทน


   “แล้วคุณพงศ์ไม่มาทานด้วยกันหรือครับ”


   “ไม่หรอก เธอรีบ”


   คราวนี้คนฟังเริ่มฉุกใจ กะพริบตาปริบๆ


   “ถ้าคุณพงศ์รีบ ก็น่าจะให้ผมไปรับคุณจากสำนักงาน จะได้ไม่ต้องรบกวน...” นายแพทย์หนุ่มยังพูดไม่ทันจบ จันทร์จ้าวก็โบกมือไปมา


   “ไม่รบกวนหรอก คุณพงศ์ยินดี”


ไม่แน่ใจนักว่า ‘คุณพงศ์’ ยินดีจริงหรือไม่ แต่ในเมื่อสหายรักของ ‘คุณพงศ์’ ว่ามาเช่นนี้ หมอภวัตก็ไม่แย้งอะไรอีก ได้แต่พยักหน้าแล้วชวนคุย


“แล้วนึกอย่างไร อยู่ๆอยากกินที่นี่ล่ะครับ”


ทว่าเรื่องอื่นเรื่องนี้ก็หาใช่เรื่องที่ตอบง่ายเลย จันทร์จ้าวนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบ


   “ก็...นึกอยากกินน่ะซี”


   “ถึงขนาดยกคอร์ดเทนนิสให้คุณวินิตไปตีแทนเลยหรือครับ”


   ก่อนหน้านี้ จันทร์จ้าวบ่นว่าอยากยืดเส้นยืดสายด้วยการตีโต้กับเขาให้ชุ่มปอด ถึงขั้นที่ออกปากว่าจะไม่จับคู่กับใครเด็ดขาด แล้วจะตีโต้กับภวัตเพียงคนเดียว คนฟังฟังแล้วชื่นใจไปหน รีบจัดการจองคอร์ดอย่างเร่งด่วน แต่แล้วจู่ๆคนที่เคยบ่นว่าอยากตีโต้กับเขา ก็เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน โทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลแล้วขอเปลี่ยนการนัดหมายในตอนเย็นจากสนามเทนนิส เป็นภัตตาคารแห่งนี้แทน


   “ก็...ก็ปล่อยคอร์ดทิ้งไปก็น่าเสียดาย ให้คุณวินิตไปเล่นแทนก็ดีแล้วนี่นา”


   คนพูดเก่ง วันนี้ดูมีลับลมคมในอย่างไรชอบกล ภวัตมองแล้วยิ่งฉงน แต่เพราะจันทร์จ้าวเองก็ไม่ใช่คนโง่งม ย่อมรู้ว่ากำลังถูกสงสัย จึงชวนคุยเรื่องอื่นแทน


   “จริงสิ! ผมได้หนังสือเกี่ยวกับการแพทย์มา ว่าจะหยิบมาให้หมอก็ลืมเสียสนิท”


   “ไว้ผมไปเอาจากสำนักงานของคุณก็ได้ครับ อย่างไรวันจันทร์ก็ต้องไปส่งคุณที่นั่นอยู่แล้ว”


   เป็นอีกครั้งที่คนตรงหน้าของภวัตชะงัก ก่อนจะเลี่ยงสายตาไปทางอื่นแล้วพูด


   “อ้อ...ว...วันจันทร์...วันจันทร์ผมว่าผมจะไม่เข้าสำนักงานหรอกนะ เอ่อ...ตอนนี้ห้องทำงานผมเต็มไปด้วยหนังสือแล้ว ก็เลย...เลย...จะย้ายไปนั่งทำงานที่วังฉัตรก่อน”


   ภวัตเลิกคิ้ว ความสงสัยขยายตัวเต็มอก


   “ถ้าอย่างนั้น...เช้าวันจันทร์ ผมหิ้วข้าวต้มไปให้ทานที่บ้านเช่าดีไหมครับ”


   คราวนี้เจ้าของลักยิ้มที่แก้มซ้ายถึงกับหัวเราะร่วน


   “หมอกะไม่ให้ผมพลาดอาหารสักมื้อเลยหรือ”


   “มื้อเช้าสำคัญนี่ครับ”


   “รู้แล้วว่าสำคัญ หมอเล่นนัดตั้งแต่เย็นวันศุกร์”


   “ก็คุณต้องกลับไปนอนที่เรือนไทย กว่าผมจะได้ไปรับคุณก็เย็นวันอาทิตย์แล้ว นัดไว้ตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้เช้าวันเสาร์ ผมจะได้ฝากคนให้เตรียมข้าวต้มเผื่ออย่างไรล่ะครับ” คนทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอนเอ่ยปากไล่เรียงลำดับกิจกรรมของตนเองตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้


   เริ่มจากเย็นวันนี้ หลังจากรับประทานอาหารเย็นด้วยกันแล้ว เขาต้องไปส่งจันทร์จ้าวที่บ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ จากนั้นก็จะกลับไปนอนที่บ้านพักแพทย์ในโรงพยาบาล เช้าวันเสาร์จะได้ตื่นมาจัดแจงฝากคนที่พอจะไหว้วานเรื่องอาหารการกินให้ช่วยเตรียมข้าวต้ม ๒ ที่สำหรับเช้าวันจันทร์ แล้วพอตอนเย็นวันอาทิตย์ ไปรับจันทร์จ้าวจากบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์พาไปส่งที่บ้านเช่า จากนั้นค่อยเลยไปเยี่ยมหม่อมราชวงศ์ฉัตรที่วังฉัตร เพื่อสอบถามเรื่องสุขภาพของท่าน


   ชีวิตของหมอภวัตนั้นเรียบง่ายและเป็นระเบียบ แต่...การคบหากับจันทร์จ้าว ทำให้ความเป็นระเบียบของเขา...ยุ่งเหยิงเป็นบางส่วน


   “เอ้อ...ว...วันนี้ผมว่าจะกลับไปนอนที่บ้านเช่า...” คำพูดของเจ้าของดวงตากลมใหญ่ที่หลุบไปมองทางอื่น ทำเอาคนที่อุตส่าห์เรียงลำดับชีวิตช่วงสุดสัปดาห์นี้ไว้เรียบร้อยแล้วถึงกับชะงักอีกคำรบ


   “อ้าว? แล้วคุณไม่ต้องกลับไปนอนที่เรือนไทยหรือครับ”


จันทร์จ้าวส่ายหน้า ทั้งที่เคยรับปากคุณหญิงผกาว่าจะแวะไปค้างที่บ้านเรือนไทยทุกสุดสัปดาห์ แต่ดูท่าสัปดาห์นี้จะเกเรเสียแล้ว


   “เรียนคุณแม่ไว้แล้วว่าไม่ไป”


   “คุณแม่ของคุณจะไม่ว่าหรือครับ”    


“หึ!” เจ้าตัวส่ายหน้าอีกครั้ง พอดีกับที่บริกรนำอาหารมาที่โต๊ะ จึงรีบเลื่อนจานอาหารเข้าไปใกล้คนรัก “หมอ! ดูซี น่ากินมากเลย! กินกันเลยเถอะ!”


อย่างที่กล่าวว่าภวัตมิได้เป็นคนโง่ เขาดูออกว่าคู่รักมีเรื่องปกปิด แต่เขาก็มิใช่คนโจ่งแจ้ง เมื่อดูท่าอีกฝ่ายว่าไม่อยากเล่า เขาก็ไม่คาดคั้น อีกทั้งอาหารเย็นในภัตตาคารชื่อดังมีรสชาติดีเยี่ยม จันทร์จ้าวชื่นชมไม่ขาดปาก พวกเขาจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่องอาหาร ตามด้วยเรื่องเทนนิส และเรื่องจิปาถะทั่วไป จันทร์จ้าวก็มิได้มีท่าทีตะกุกตะกักเช่นเมื่อครู่อีก


จนอิ่มหนำสำราญ เจ้าของดวงตากลมใหญ่ก็เริ่มชักชวนพาไถลไปที่อื่น


“หมอ ผมอยากกินไอศกรีม”


ออกปากว่าอยาก หมอภวัตย่อมไม่ขัด พาคู่รักของตนไปต่อร้านไอศกรีม


ล้างปากด้วยของหวานแล้ว คนพาไถลมาแล้วครั้ง ๑ ก็พาไถลเป็นครั้งที่ ๒


“หมอ รีบไหม ผมอยากนั่งรถเล่นสักหน่อย”


จันทร์จ้าวผู้เอาแต่ใจ แม้จะเอาแต่ใจเป็นนิจ แต่วันนี้ดูจะเอาแต่ใจอย่างไรชอบกล


หมอภวัตผู้ตามใจ แม้จะตามใจอยู่เนืองๆ และครั้งนี้ก็ตามใจ แต่มิได้หมายความว่าเขาจะตามใจโดยไม่สงสัย ชายหนุ่มยอมพาคนรักขับรถเล่น แต่พอเห็นจันทร์จ้าวเริ่มเพลิดเพลินกับอากาศเย็นสบาย และถนนหนทางที่ไม่ค่อยมีรถรามากนัก เขาก็เริ่มเอ่ยปาก


“วันนี้เป็นอะไรครับ”


คนถูกถามหันมามองพลางเลิกคิ้ว “เป็นอะไรหรือ”


“ก็คุณน่ะ...วันนี้ทำไมอยากหลายอย่าง อยากกินมื้อเย็นแทนที่จะไปตีเทนนิสอย่างนี้ ทั้งที่ตีเทนนิสก่อนแล้วค่อยมากินก็ได้ อยากกินไอศกรีมอย่างนี้ ทั้งที่ปกติไม่เห็นอยาก แล้วก็...ยังอยากนั่งรถเล่นอย่างนี้”


“ก...ก็...ก็ไม่เห็นแปลก อยากกินมื้อเย็นก็เพราะว่าหิว อยากกินไอศกรีมก็เพื่อล้างปาก แล้ว...แล้ว...วันนี้ก็อากาศดี อยากนั่งรถเล่นกับหมอ...”


แม้จะรับหน้าที่สารถี แต่หมอภวัตก็ยังอาศัยช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีหันมามองข้างกาย คล้ายจะบอกให้รู้ว่าเขารู้ทัน


เพียงเท่านั้น จันทร์จ้าวก็เงียบ


ถึงได้เคยตั้งปณิธานเอาไว้อย่างไรว่าไม่อยากมีคู่รักที่ฉลาดเกินไป เพราะมิเช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะถูกอ่านขาดเช่นนี้


แต่หมอภวัตก็สมเป็นคนฉลาด ฉลาดเพราะรู้ว่าคนเช่นจันทร์จ้าวไม่ชอบถูกรู้ทัน ไม่ชอบการถูกหักหน้า ดังนั้น แม้จะรู้ทันแต่ก็ไม่โพล่งขึ้นมาให้เสียหน้า เพียงแค่มองทีหนึ่ง ก็คล้ายเป็นสัญญานแล้วว่าจันทร์จ้าวต้องสารภาพ


“ก็ได้ๆ! ผมบอกแล้ว...” พูดพลางถอนหายใจพลาง “วันนี้ ญาติฝั่งคุณแม่มาจากต่างจังหวัด มาขออาศัยที่เรือนไทย ผมก็เลยไม่กลับ”


ภวัตฟังแล้วก็หวนคิดถึงเรื่องที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเคยเล่าให้ฟังว่าจันทร์จ้าวไม่ถูกกับญาติ แต่คราวนั้นญาติที่ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรกล่าวถึง เป็นญาติฝั่งท่านเดช ไม่ใช่ฝั่งคุณหญิงผกาไม่ใช่หรือ


หรือแท้จริงแล้ว จันทร์จ้าวไม่ถูกกับญาติทั้งฝั่งบิดาและมารดา?


“แล้วคุณแม่น่ะ...จู่ๆก็บอกให้ผมชวนหมอไปที่เรือน อยากให้ทำความรู้จักกับสุดา....ญาติผู้น้องของผม...”



พูดมาถึงตรงนี้ จันทร์จ้าวก็ทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนหน้านี้เขาเคยเล่นสนุกจับคู่หมอภวัตกับนภาสรวงต่อหน้ามารดา เพราะรู้แก่ใจว่าอย่างไร ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ นภาสรวงคบหากับเรย์มอนด์ อดัมส์ ส่วนภวัตก็คบหาอยู่กับเขา เรื่องเล่นสนุกจึงเป็นเพียงเรื่องเล่นสนุก



ทว่า...ไม่ใช่คราวนี้


“คุณแม่ของผม พอรู้ว่าสุดายังไม่มีใคร ก็คิดจะจับคู่ให้หมอ ผมบอกแล้วว่าหมอชอบทำงาน ยังไม่คิดจะมีใครเวลานี้ คุณแม่ก็ยังยืนกรานจะให้หมอพบสุดาให้ได้ ถึงกับบอกให้ผมรั้งหมอไว้ตอนที่หมอไปส่งไปรับผมที่เรือนไทย บอกให้สุดาช่วยนภาทำอาหารเตรียมไว้รอหมอมาร่วมโต๊ะด้วย สุดาก็...พอรู้ว่าคุณแม่ผมจะแนะนำให้รู้จักกับหมอก็กระตือรือร้นขึ้นมาทีเดียว...ผมก็เลย...ตัดปัญหา ไม่กลับไปนอนที่นั่นจนกว่าสุดาจะกลับต่างจังหวัด”


จันทร์จ้าวไม่เคยมีปัญหากับญาติของมารดา กับสุดาซึ่งเป็นญาติผู้น้องนี้ก็เห็นตั้งแต่หล่อนยังเป็นเด็ก เอ็นดูในระดับหนึ่งทีเดียว แต่พอเห็นหล่อนกระตือรือร้นอยากจะทำความรู้จักกับ ‘หมอภวัต’ แล้ว ก็นึกขัดหูเคืองตาขึ้นมาชอบกล


“แล้วที่ไม่ให้ผมไปรับจากสำนักงานล่ะครับ”


“ก็คุณแม่ผมพาสุดาไปดูกิจการน่ะซี! ไม่รู้จะอยู่ถึงกี่โมงกี่ยาม ผมก็เลย...โทร.ไปบอกหมอว่าไม่ต้องไปรับอย่างไรล่ะ”


“รวมถึงเรื่องที่ยกเลิกตีเทนนิสด้วยหรือครับ”


“ก็ถ้าคุณแม่ผมรู้ว่าผมไปตีเทนนิสกับหมอ ก็คงให้ผมหอบหิ้วสุดาไปที่สโมสรด้วย ผมก็เลยบอกคุณแม่ว่ามีนัดต้องออกไปข้างนอกกับคุณพงศ์ คุณแม่ก็เลยพาสุดากลับ”


“แล้วคุณก็เลยติดรถคุณพงศ์ออกมาที่ภัตตาคารแทนสินะครับ”


“ผมไม่ได้โกหกคุณแม่นะ! ก็ไปธุระกับคุณพงศ์จริง ธุระของผมคือการติดรถคุณพงศ์มาหาหมอยังไร” จันทร์จ้าวรีบออกตัว เพราะเกรงว่าจะถูกดุ ทว่าเจ้าตัวคงไม่รู้ว่าเวลานี้ภวัตไม่คิดจะดุสักนิด เพราะครึ้มอกครึ้มใจที่คู่รักพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ให้เขาพบเจอกับหญิงอื่น


ถูกหวงบ้าง หึงบ้าง บางครั้งก็ทำให้กระชุ่มกระชวยขึ้นมาเหมือนกัน


“ส่วนที่ให้ผมพาไปกินไอศกรีม พามานั่งรถเล่น ล่ะครับ”


“ก็...ถ้าหมออยู่กับผมนานๆ หมอก็จะไม่มีเวลาไปเจอใครน่ะซี! กรุงเทพฯเล็กจะตาย! เกิดหมอส่งผมที่บ้านเช่า กลับไปนอนที่บ้านพักในโรงพยาบาลแล้วบังเอิญเจอสุดาจะทำยังไร”


ทั้งๆที่เป็นเหตุผลแสนเอาแต่ใจ แต่ยิ่งฟัง ก็ยิ่งครึ้มใจจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว


ทว่าการเงียบของภวัต ทำให้จันทร์จ้าวใจคอไม่สู้ดี


“หมอ...อย่าโกรธผมเลยที่ผมโยกโย้ไม่บอกหมอก่อน ผมไว้ใจหมอ ผมรู้ว่าหมอไม่คิดเป็นอื่นกับใคร แต่... แต่ผมแค่ไม่อยากให้หมอรู้จักกับสุดา...”


นายแพทย์หนุ่มเก็บความละมุนเอาไว้ในอก ก่อนจะตั้งคำถามเรียบๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วเขายินดีเพียงใดกับการถูกหวงแหนในคราวนี้


“ทำไมล่ะครับ ในเมื่อคุณไว้ใจผม ถ้าผมรู้จักกับคุณสุดา ก็เพียงแค่รู้จักไม่ใช่หรือ”


“หมอเพียงแค่รู้จัก แต่สุดาน่ะซี! พอรู้ว่าหมอเป็นหมอในโรงพยาบาลใหญ่ ตาเป็นประกายวิบวับเชียว แล้วคุณแม่ของผมก็ขายหมอยกใหญ่ บอกว่าสุภาพอย่างนี้ ใจดีอย่างนี้ สุดาก็ยิ่ง...ยิ่งดูมีความหวัง...แต่ผมกลับบอกอะไรเธอไม่ได้เลยว่าเธอไม่มีหวังตั้งแต่แรกแล้ว ถึงหมอจะเป็นหมอในโรงพยาบาลใหญ่ เป็นคนสุภาพ ใจดี แต่หมอก็มีคู่รักแล้ว และคู่รักของหมอก็คือผม” จันทร์จ้าวพูดอย่างงุ่นง่าน ความสัมพันธ์ที่เป็นเรื่องลับของพวกเขา ให้อย่างไรก็ต้องเก็บเอาไว้ แม้จะอยากป่าวประกาศว่าหมอภวัตผู้สุภาพ ใจดีคนนี้ มีเจ้าของหัวใจครึ่งหนึ่งแล้วก็ตามที


“พูดอะไรไม่ได้ ก็เลยใช้วิธีพาผมหนีไม่ให้เจอหน้าอย่างนั้นหรือครับ”


จันทร์จ้าวทำหน้างอ ทั้งหงุดหงิด ทั้งจนปัญญา


“ก็จะให้ผมทำยังไรล่ะ ผมพูดอะไรไม่ได้ ให้ไปพบหน้ากัน ผมก็คงไม่พอใจแล้วชักสีหน้า หมอเองก็คงรู้สึกไม่ดีที่ผมเป็นอย่างนั้นใช่ไหม ไหนจะสุดาอีก คุณพ่อคุณแม่อีก คุณน้าๆที่เป็นพ่อแม่ของสุดาอีก...” พูดได้เพียงเท่านั้นก็เงียบ มิใช่เพราะอับจนคำพูด แต่เพราะรู้สึกว่ามือของตนถูกกอบกุมด้วยความอบอุ่น เมื่อลดสายตาลงมองก็ถึงได้พบว่าภวัตเลื่อนมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมาจับมือเขาเอาไว้แล้วบีบเบาๆ พอเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือก็พบว่าแม้นายแพทย์หนุ่มจะกำลังจับจ้องถนนเบื้องหน้า แต่บนใบหน้ากลับมีรอยยิ้มจาง


“หมอ...ยิ้มหรือ? ไม่โกรธผมใช่ไหม”


“ไม่โกรธหรอกครับ เอ็นดูเสียอีก”


“เอ็นดู? ผมน่ะหรือ?!” ดวงตากลมใหญ่ เหลือกโตกว่าเดิมเป็นเท่าตัวยามมองสารถีที่แม้จะกำลังตั้งอกตั้งใจขับรถ แต่อีกมือกลับไม่ยอมปล่อยจากการกอบกุมมือเลยแม้แต่น้อย


หนำซ้ำ...ปลายนิ้วโป้งยังไล้มือของจันทร์จ้าวเบาๆ คล้ายแสดงความเอ็นดูอยู่ในที


“ทั้งๆที่เราคบหากันมาพักหนึ่งแล้ว แต่คุณเหมือนหนังสือเล่มหนาๆที่ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่เปิดอ่าน บางครั้งคุณก็ตรงไปมาตรง คิดอะไร รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกชัดเจน แต่บางครั้งก็เจ้าความคิด ทำเรื่องเปิ่น เรื่องคาดไม่ถึงจนผมตามไม่ทัน”


“ตามไม่ทันอะไรกัน ตามไม่ทันแต่ต้อนผมจนมุมต้องพูดออกมาหมดเปลือก” คนข้างกายบ่นหน้างอ ทว่าภวัตยังยิ้มจาง


“ตามไม่ทันจริงๆครับ ผมเพียงแค่สงสัย แต่นึกไม่ออกว่าคุณทำเช่นนี้เพื่ออะไร”


“คราวนี้ก็รู้แล้วว่าผมทำเพราะไม่อยากให้หมอเจอสุดา”


“เรื่องนั้นก็น่าเอ็นดูมากด้วยครับ”


จันทร์จ้าวหันมองอย่างฉงน


“หมอท่าจะเพี้ยน ผมกันท่าหมอไม่ให้เจอกับคนอื่นอยู่นะ น่าเอ็นดูยังไร”


ภวัตไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้มจาง ความเอ็นดูรักใคร่อิ่มเอิบเต็มอก ไม่ใช่แค่วิธีการโยกโย้พาเขาหลบเลี่ยงจากสุดา แต่ยังรวมไปถึงความหวงแหนอันเป็นต้นเหตุให้จันทร์จ้าวพาเขาหลีกหนีจากผู้อื่นด้วย


ทั้งๆที่รู้เต็มอกว่าความรู้สึกที่พวกเขามีให้กันมากมายเพียงใด แต่การถูกหึงหวง ห่วงหวง หรือหวงแหน ก็ล้วนทำให้รู้สึกยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น จึงอดจะพอใจไม่ได้


“หมอเพี้ยนจริงด้วย ยังเอาแต่ยิ้มอยู่ได้”


ภวัตผู้ถูกกล่าวหาว่าเพี้ยน แท้จริงแล้วเป็นคนฉลาดอย่างยิ่ง เพราะรู้ว่าขืนอธิบายความน่าเอ็นดูของจันทร์จ้าวออกไป ก็จะกลายเป็นคู่รักของเขาเองที่เก้อเขินแล้วพาลพูดไม่ออก


พอภวัตอุบเงียบไม่ยอมพูด จันทร์จ้าวก็ไม่จี้ถามเรื่องนั้นอีก หันไปทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างสบายอารมณ์ แล้วก็พลอยเห็นว่าสารถีเลี้ยวพวงมาลัยเข้าจอดที่หน้าตึกแถวต่างหาก



เขาหันไปหาพลขับ ยังไม่ทันได้ถาม นายแพทย์หนุ่มก็เอ่ยปาก


“เรือนไทยรักษพิพัฒน์อยู่ใกล้โรงพยาบาลนะครับ”


เพียงแค่บอกตำแหน่งแห่งหน คนที่สู้อุตส่าห์พาภวัตหลบเลี่ยงไม่ให้เฉียดใกล้เรือนไทยรักษพิพัฒน์และญาติที่มาพักอาศัยที่นั่นก็ถึงกับร้องอ้อในใจ


   “ระหว่างนี้ ผมจะมาค้างที่นี่แทน แต่ถ้าวันไหนมีคนไข้อาการไม่ดี ก็จะกลับไปค้างในโรงพยาบาล ในระหว่างทำงาน คงไม่มีใครตามเข้าไปพบหรอกครับ”


   “ดี!” จันทร์จ้าวร้องอย่างเห็นด้วย เหมือนเห็นทางสว่างที่จะทำให้ภวัตและญาติผู้น้องของตนไม่ต้องพบหน้ากัน


   “แล้วคุณจะสบายใจไหมครับ หากผมมาค้างที่ตึกแถวคนเดียว...” ทว่าคำพูดประโยคถัดมา ก็ทำเอาคนร้อง ‘ดี!’ เมื่อครู่ ถึงกับชะงัก หันมอง


ใบหน้าของนายแพทย์หนุ่มยังคงมีรอยยิ้มพริ้มเพรา ดวงตาคมทอประกายรักใคร่ยามทอดมองจันทร์จ้าว ทว่า...หาใช่มีเพียงความรักใคร่ แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความฉลาด…และกลเม็ด


   “...กรุงเทพฯเล็กนิดเดียว วันดีคืนดี ญาติของคุณอาจผ่านมาแถวนี้ เพื่อความสบายใจของคุณ จะมาค้างที่นี่กับผมก็ได้นะครับ”


   ใช่ว่าจันทร์จ้าวไม่เคยมาค้างที่นี่ แต่เพราะตึกแถวห้องนี้ ภวัตซื้อให้เขามีนัยเป็น ‘เรือนหอ’ ยามมาค้างทีไร จึงถูกใช้ไม่ต่างจาก ‘เรือนหอ’ ทุกที คราวนี้ พอถูกชวนให้มาค้างด้วยกัน ก็ทำให้รู้สึกว่ากำลังถูกตะล่อมให้มาอยู่ ‘เรือนหอ’ กับหมอภวัตทุกวัน 


   ภวัตคนฉลาด ไม่ถามย้ำว่าอีกฝ่ายจะมาค้างด้วยกันได้หรือไม่ แต่ถามไปอีกเรื่องแทน


“ว่าแต่...ญาติของคุณจะค้างที่เรือนไทยกี่วันหรือครับ”


ทิ้งท้ายด้วยประโยคที่กล่าวถึง ‘ญาติของคุณ’ ย่อมทำให้ระลึกถึงสุดา จันทร์จ้าวผู้ห่วงหวงไม่อยากให้ภวัตและญาติผู้น้องของตนพบหน้ากัน จึงยิ่งตัดสินใจได้เด็ดขาด


ภวัตและสุดาไม่พบหน้า อีกทั้งภวัตยังอยู่ในสายตาตลอดเวลา เห็นทีก็มีแต่จะต้องมาค้างที่นี่ด้วยก็เท่านั้น!


“หนึ่งสัปดาห์! ผมจะมาค้างที่นี่กับหมอหนึ่งสัปดาห์!”


นายแพทย์หนุ่มไม่พูดกระไร นอกจากยิ้มจางพยักหน้ารับรู้แล้วเปิดประตูลงจากรถ โดยมีคู่รักของตนเดินตามอาดๆเข้าไปในตึกแถวอย่างมุ่งมั่น


หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ ตึกแถวห้องนี้จะเป็นสถานที่ที่จันทร์จ้าวซุกซ่อนภวัตจากผู้อื่น


แต่สำหรับหมอภวัตแล้วไซร้ หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ ตึกแถวห้องนี้...จะเป็นเรือนหอของเขาและจันทร์จ้าวผู้ที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเคยยกยอว่า ‘กลเม็ดแยะ’


ทว่า...ไม่แน่ใจนักว่าระหว่างจันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์กับภวัต วิชาญโยธิน...ใครจะมี ‘กลเม็ดแยะ’ กว่ากัน...





จบ



จริงๆแล้ว หมอภวัตเป็นหมาป่าห่มหนังแกะค่ะ ฮ่าฮ่า ส่วนคุณจันทร์คือลูกแกะที่ทำเป็นห่มหนังหมาป่า สุดท้ายถูกถลกหนังหมาป่า แล้วโดนหมาป่าจริงๆจับกินเรื่อยเลย



ส่วนคุณพงศ์ ผู้อยู่ในทุกช่วงชีวิตของคุณจันทร์ อยากรู้เรื่องอะไรของคุณจันทร์ ให้ถามคุณพงศ์ค่ะ (กัลยาณมิตรที่แท้)



ตอนนี้ บัวเคลียร์ชีวิตไปได้หลายเรื่องแล้ว คาดว่าปีนี้น่าจะได้อ่านเรื่องใหม่กันค่ะ แต่ในระหว่างที่ยังไม่เอาเรื่องใหม่มาลง ก็จะยังมีตอนพิเศษรายเดือนแบบนี้ไปก่อนนะคะ



ขอบคุณสำหรับทุกการอ่าน การคิดถึง และทุกกำลังใจเช่นเคยค่ะ



เจอกันเดือนหน้าค่ะ (พรุ่งนี้คือเดือนหน้า ฮ่าฮ่า)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 31-08-2020 22:36:44
เอ็นดูคุณจันทร์

เป็นคนคิดมาก คิดเยอะ คิดล่วงหน้าที่น่าเอ็นดูจริงเชียว

ส่วนคุณหมอ ยอมในความต้อนคุณจันทร์จริงๆ
ได้อยู่ด้วยกันยาวๆ 1 อาทิตย์เลย กลเม็ดแยะจริงๆ

ปล.คิดถึงคุณคนเขียนนะคะ ขอบคุณที่เอาตอนพิเศษมาฝากอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 01-09-2020 00:12:55
คิดถึงคุณพี่หมอกับคุณจันทร์มากเลยยยยย
ดูแล้วคุณจันทร์จะตามความเจ้าเล่ห์ของคุณหมอไม่ทันเลยนะคะ 1 สัปดาห์ต่อจากนี้ไปคงได้เขาหอทุกคืนเป็นแน่ 5555

ขอบคุณที่เอาตอนพิเศษมาให้คลายคิดถึงนะคะ จุ๊บๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-09-2020 00:48:02
จันทร์จ้าวตกหลุมพลางด้วยความเต็มใจ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-09-2020 21:20:11
น่ารักทั้งคู่เลย..ยยยยยยยยย   :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 01-09-2020 23:19:09
คุณหมอภวัตกลเม็ดแยะที่แท้จริง!
โอ้ยยย เอ็นดูจันทร์ หึง ห่วงหวง จนหลงกลถูกตะล่อมเข้าเรือนหอ พี่หมอภวัตปริ่มเปรมสุดๆละงานนี้ :hao7:

เรื่องนี้คุณพงศ์ต้องได้รู้!  :laugh:

ขอบคุณ คุณบัวมากๆค่ะ กรี๊ดดดดดเลย
คิดถึงๆๆๆๆ จันทร์จ้าวยังเอาแต่ใจกับพี่หมอคนตามใจ
 
จะรอลุ้นว่าเดือนต่อไป คุณบัวจะพาเราเจอใครน้า คิดถึงทุกคนเลยค่าา  :pig4:

หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Malibu ที่ 02-09-2020 10:50:36
แหมมมมม คุณหมอคะ เข้าทางเลย
ขออีกตอนเป็น1สัปดาห์​นั้นได้มั้ยคะ อุอิอุอิ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 02-09-2020 21:47:12
หมั่นเขี้ยวคุณจันทร์มากค่ะ ความกันท่านี้ท่ารักน่าชัง แต่คุณหมอแอบเจ้าเล่ห์นะคะ กินคุณจันทร์อิ่มหนำสำราญไปเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Noonnaja ที่ 05-09-2020 17:28:46
กลับมาอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Ploybudz ที่ 06-09-2020 23:04:16
หมออออออ :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 08-09-2020 14:09:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 08-09-2020 19:44:18
แพ้ทางหมอ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 09-09-2020 13:28:57

FC พี่หมอ มาแล้ววววว  น่ารักมากกกกก สามีในดวงใจ ....
จันทร์จ้าว  ก็น่ารัก แพ้ทางพี่หมอ ตลอดดดดด (น่ารักแบบ เกเรนิดๆ)
 
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน บอกตรง.. ไม่อยากให้จบ อยากมี โมเม้นท์ นี้ ไปเรื่อยๆๆๆๆ

ขอขอบคุณนักเขียนผู้น่ารัก จรรโรงใจ..+1  ให้เป็นกำลังใจน้าาาา คนเก่ง

 :pig4: :pig4: :pig4:

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 17-09-2020 17:32:49
 :pig4: :pig4: :pig4:ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-09-2020 07:37:47
โอยยยยย......เปิดมาเจอ  ดีใจมากกกกกกก คิดถึงจันทร์เจ้าตลอดๆ
หมอภวัต คนฉลาด กับจันทร์เจ้า เจ้ากลเม็ด ก๊ากกกกกกกกก   :m20: :laugh:
แล้วคนกลเม็ดเยอะ ถูกคนฉลาดจับกินอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว (แต่ต้องรู้แน่ๆ ๕๕๕๕๕๕) :z1: :pighaun: :haun4:
เสียดาย คนอานไม่ได้แอบเข้าไปสอดส่องด้วยนี่สิ  ตั้งหนึ่งสัปดาห์เชียวนะ   :z3: :z3: :z3:
หมอกินของคาว เอิ่ม... หรือของหวานเพลินเลย  :sad4: :hao5: :-[
ขอบคุณไรท์มากๆ
      :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวยุ่ง ที่ 26-09-2020 19:38:23
คนเจ้าเล่ที่แท้จริงคือคุณหมอนี่เอง คุณจันทร์น่ะเด็กน้อยไปเลย 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 09-10-2020 23:08:43
อ่านแล้วอบอวลด้วยความสุขจริง ๆ ครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Jely ที่ 12-10-2020 21:44:13
 :katai5: คุณหมอนะคุณหมอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: tonpaicat ที่ 24-10-2020 10:59:41
คุณพงศ์นี่สมเป็นกัลยาณมิตรของจันทร์ อยากให้คุณพงศ์มีคู่เป็นของตัวเองบ้าง
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ กลเม็ด (๓๑ ส.ค. ๖๓/หน้าที่ ๖๘)
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 16-11-2020 15:36:57
น่ารักมากครับ  ชอบจันทร์เจ้ามากๆ  อยากให้มีตอนพิเศษ เรื่อยๆ นะครับ   คิดถึง
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 06-06-2021 20:03:50
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………………..
บทพิเศษ Love Letter



   บ่ายวันอาทิตย์ แดดแรง อากาศร้อน แต่ใต้ถุนบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์เย็นสบาย ไม่ว่าจะนั่งเล่นนอนเล่นก็เหมาะ กระนั้น ก็มิอาจจูงใจจันทร์จ้าวให้ผ่อนคลายได้เลย


   เพราะอะไรน่ะหรือ


   ก็เพราะเขากำลังจับสังเกตน้องสาวคนเล็กที่เดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าประตูรั้วน่ะซี!


   แดดแรงปานนี้ แทนที่จะหลบร้อนในบ้าน กลับไปเดินโท่งๆอยู่ที่ริมรั้ว เดินไปเดินมาไม่พอ ยังเอาแต่ชะเง้อชะแง้ ราวกับรอใครก็ไม่ทราบ!


   ไม่ทราบแล้วอย่างไร จันทร์จ้าวก็จ้องจนกว่าจะทราบนั่นล่ะ!


   ไหนๆก็นั่งว่างรอหมอภวัตมารับอยู่แล้ว พี่ชายคนรองแห่งบ้านรักษพิพัฒน์จึงต้องทำตนให้เป็นประโยชน์ สอดส่องน้องสาวว่าหล่อนกำลังทำอะไร เพราะดูแล้วไม่ชอบมาพากลยิ่ง!


   พักใหญ่ๆ ก็เห็นรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดที่หน้าประตูรั้ว ดารารัษมีแทบกระโดดไปหา แต่คนที่ลงจากรถหาใช่นายวินิตคู่รักของหล่อน กลับเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่แต่งตัวสุภาพทีเดียว ลงมาแล้วก็ส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้ดารารัษมี จากนั้นก็ขึ้นรถขับออกไป


แม้จะมองแต่ไกล แต่จันทร์จ้าวก็จำได้ว่าเขาเคยเห็นชายคนนี้ในโฮเต็ลของนายวินิต ดูท่า...คงเป็นคนส่งสาส์นจากโฮเต็ลที่เยาวราช!


   เมื่อได้รับจดหมายแล้ว ดารารัษมีก็พับมันเก็บไว้ในฝ่ามือแล้วรีบเดินกลับเข้าบ้าน เมื่อเดินมาถึงบันไดขึ้นเรือน ก็พลันเห็นสายตาของพี่ชายคนรองที่มองมาจากใต้ถุน หล่อนชะงักไปอึดใจหนึ่ง


   “เอ้อ...พี่จันทร์ นั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรคะ” หล่อนถาม ท่าทีพยายามเป็นปกติจนดูประดักประเดิด


   “นานแล้ว ทันเห็นตอนดาราได้รับ...” เขาพูดแล้วพยักเพยิดไปยังมือข้างซ้ายของดารารัษมีที่ถือกระดาษซึ่งพับจนเล็ก กระนั้นมือของหล่อนก็เล็กกว่าจะเก็บได้มิดชิด “...อะไรน่ะ Love Letter จากเยาวราชหรือ” เขาถาม สายตารู้เท่า ทำเอาใบหน้าของดารารัษมีแดงเรื่อทันที


   “เรื่องของน้อง!” หล่อนแหวว แล้วรีบวิ่งหนีขึ้นเรือน จันทร์จ้าวมองตามอย่างเข่นเขี้ยว พอดีนภาสรวงออกมาจากครัว ได้ยินเสียงวิ่งตึงตังก็แปลกใจ หันมองพี่ชาย


   “เกิดอะไรขึ้นคะ พี่จันทร์”


   “ดาราน่ะซี ถูกพี่เห็นตอนรับ Love Letter ของคุณวินิตแล้วโกรธจนหนีไปนู่น” เขาพูดแล้วบุ้ยหน้าไปยังบันได นภาสรวงหัวเราะเบาๆ


   “พี่จันทร์ล้อดาราน่ะซีคะ แกถึงได้โกรธแน่ะ”


   จันทร์จ้าวยักไหล่


   “พี่แค่ถามว่าอะไรอยู่ในมือ ไม่ได้ล้อสักคำ”


   “นั่นก็เรียกว่าล้อแล้วค่ะ”


   “โธ่! ใจคอคับแคบจริง! หนุ่มสาวมอบ Love Letter ให้กัน หาดูง่ายเสียที่ไหน พี่ก็ต้องอยากรู้อยากเห็นอยากถามเป็นธรรมดา!”


หาดูไม่ง่าย เพราะจันทร์จ้าวก็ไม่เคยได้รับจากหมอภวัต


   ทว่านภาสรวงกลับส่ายศีรษะไปมา แล้วยิ้มจาง “คู่ไหนๆก็ให้กันทั้งนั้นล่ะค่ะ ไม่อย่างนั้นจะคุยกันอย่างไร”


   จันทร์จ้าวชะงัก หันมองน้องสาวโดยพลัน


   “นภาก็ได้รับจากเรย์หรือ?”


   นภาสรวงชะงัก หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาเมื่อถูกถามตรงๆ “เอ้อ ท...ทำไมถามน้องเล่าคะ” 


   “นภาก็ได้รับหรือ?” จันทร์จ้าวถามซ้ำ


   “ง่า...ก็...บางครั้ง...เอ่อ...หมู่นี้ คุณเรย์ชอบถ่ายรูป ก็มักจะล้างรูปแล้วเขียนข้อความข้างหลังรูปมาให้ เธอถ่ายรูปสวยเทียวค่ะ ง่า...คือ...” นภาสรวงตอบอ้อมแอ้ม พยายามอธิบายเหตุผลการส่งจดหมายระหว่างหล่อนและคู่รักชาวต่างชาติ กระนั้น จันทร์จ้าวกลับมิได้สนใจเหตุผลใดๆนอกเสียจากคำว่า ‘บางครั้ง’ ของน้องสาว


‘บางครั้ง’ ฟังแล้วหมายความว่าถี่ยิบน่ะซี!


   ตอนนั้นเองที่ชายหนุ่มรู้สึกตัว คู่รักอื่นๆล้วนส่งจดหมายรักถึงกันทั้งสิ้น แม้แต่นภาสรวงผู้เรียบร้อยกับเรย์มอนด์ อดัมส์หนุ่มฝรั่งอเมริกัน หรือดารารัษมีผู้โฉ่งฉ่างกับนายวินิตลูกไก่ในกำมือ


   จะเหลือก็แต่นายจันทร์จ้าวกับหมอภวัตนี่อย่างไร ไม่เคยเขียนถึงกันสักฉบับเดียว!


   ได้อย่างไรกันน่ะ!


   “อ...เอ้อ...น้อง...น้องจะเข้าไปดูขนมในครัว ถ...ถ้าคุณหมอมารับพี่จันทร์ ให้เธอรอสักเดี๋ยวนะคะ น้องจะจัดขนมใส่ปิ่นโตให้เธอด้วย” นภาสรวงพูดแล้วก็รีบหมุนตัวกลับเข้าครัว ทิ้งจันทร์จ้าวให้นั่งอยู่ที่เดิม


   จนกระทั่งภวัตขับรถเข้ามารับเขา จันทร์จ้าวก็ยังหน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นนั้นไปจนกระทั่งขึ้นรถไปกับคู่รักผู้ไม่เคยมอบจดหมายรักให้กันสักฉบับ


   อย่างนี้แย่! ‘ภวัตจันทร์จ้าว’ ไม่เหมือนคู่อื่นๆได้อย่างไรกัน!


...........................


   นายแพทย์หนุ่มผู้แปลงกายเป็นสารถีชำเลืองมองคนข้างกาย ตั้งแต่รับกลับมาจากบ้านเรือนไทยรักษพิพัฒน์ จันทร์จ้าวก็เอาแต่นั่งเงียบ


   ไม่พูด ไม่ยิ้ม ผิดวิสัยเป็นที่สุด


   ภวัตคิดเอาว่าคงเกิดเรื่องที่บ้านเรือนไทยก่อนเขาจะไปรับเสียแล้ว อาจจะทะเลาะกับดารารัษมี เมื่อตอนไปรับเขาก็ไม่เห็นหล่อนเสียด้วย เห็นแต่นภาสรวงที่ออกจากครัวเอาปิ่นโตขนมมาให้เขา


   “หมอ...หมอ!...” เสียงเรียกทำเอาคนกำลังคิดสะระตะถึงกับสะดุ้ง ภวัตหันมอง เห็นจันทร์จ้าวกำลังจ้องเขาอยู่ ดวงตากลมใหญ่มีแววหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เขารู้ว่าเจ้าตัวมิได้หงุดหงิดเขาหรอก คงเป็นเรื่องตกค้างจากที่บ้านมากกว่า


   แต่เรื่องอะไรนี่สิหนอ


   “เป็นอะไรน่ะ ผมเรียกตั้งนาน”


“เอ้อ...เปล่าครับ”


“เปล่าอะไร ผมเรียกตั้งหลายรอบ หมอขับรถใจลอยมาตลอดทางจนจอดหน้าบ้านผมแล้วก็ยังใจลอย อย่างนี้อันตราย ผมไม่ให้กลับหรอก เข้าไปนั่งพักในบ้านผมเสียก่อน ถ้าดูอาการแล้วดี จึงจะให้กลับ”


คนมิใช่หมอ ออกตัวราวกับเป็นหมอ กระนั้นหมอตัวจริงกลับมิได้โต้แย้ง ยอมรับผิดและยอมรับการดูอาการแต่โดยดี


   “อ่า...ครับ...”


   เห็นท่าทางจ๋องๆของอีกฝ่าย จันทร์จ้าวก็ชักห่วง เมื่อครู่นี้ที่ทำเสียงแข็งเจ้ากี้เจ้าการ จึงเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงอ่อนลง


   “งานยุ่งหรือหมอ”


   “เปล่าครับ คุณต่างหาก”


   “หือ? ผมหรือ? ผมงานไม่ยุ่งดอก!”


   “แต่คุณดูอารมณ์ไม่ดีนี่ครับ”


   จันทร์จ้าวชะงักไปเล็กน้อย


   “หรือทะเลาะกับใครที่บ้านเรือนไทยหรือครับ”


   “ทำไมหมอถึงคิดว่าผมทะเลาะกับคนอื่นล่ะ”


   “ก็...” คำตอบของภวัตนั้นแน่นอนอยู่แล้ว คือคู่รักของเขาแสนเอาแต่ใจ บางครั้งก็เอาแต่ใจจนทะเลาะกับคนอื่นๆ แต่ขืนตอบเช่นนั้น จันทร์จ้าวได้ทะเลาะกับเขาด้วย


   “ก็เพราะผมเป็นอันธพาล หมอไม่ต้องตอบผมรู้ตัวดี แต่เวลานี้ผมไม่ได้หงุดหงิดเพราะผมเป็นอันธพาลดอก ผมหงุดหงิดเพราะเราไม่เหมือนคนอื่น!” จันทร์จ้าวใจร้อน ไม่รอให้คู่รักของตนเรียบเรียงคำพูด ก็เฉลยขึ้นมาเอง


   “เรา? ไม่เหมือนคนอื่นหรือครับ”


   “ใช่! พวกเราไม่เหมือนคนอื่น! ไม่เหมือนดารากับคุณวินิต แล้วก็ไม่เหมือนนภากับเรย์ด้วย!”


   ภวัตนิ่งไปเล็กน้อย เข้าใจไปว่าจันทร์จ้าวต้องการเหมือนคู่รักอื่นที่ต่างเพศกัน ส่วนพวกเขานั้น...เพศเดียวกัน...


   “คุณจันทร์...อยาก...” นายแพทย์หนุ่มพูดไม่ออก เขาคิดว่าอีกฝ่ายอยากมีคู่รักเป็นสตรีเพศ ถ้าเช่นนั้นแล้ว บุรุษเช่นเขาจะทำอย่างไรเล่า


   ทว่าฝ่ายจันทร์จ้าวกลับพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด


   “อยากซีหมอ! เราไม่เหมือนคนอื่นนะ! ทำไมล่ะ! แม้แต่ยายดาราหัวแข็งอย่างนั้นยังทำ! ส่วนนภาที่เรียบร้อยปานผ้าพับไว้ก็ยังทำ! แต่พวกเราไม่ได้ทำ!”


   หัวใจของภวัตที่เมื่อครู่คิดว่าหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม กระเด้งกระดอนกลับขึ้นมาอยู่ที่เดิม พร้อมกับสูบฉีดเลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองที่กำลังฉงนกับคำพูดของคู่รัก


   “ครับ? พวกเราไม่ได้ทำ? พวกเราไม่ได้ทำอะไรหรือครับ”


   “เราไม่ได้เขียนจดหมายรัก!” จันทร์จ้าวหันมาตอบเสียงหงุดหงิด


   “จดหมายรัก?!”


   “ใช่! จดหมายรัก! Love Letter น่ะหมอ! ทำไมพวกเราไม่เคยเขียนล่ะ! หมอรู้ไหม ดารากับคุณวินิตเขียนจดหมายรักให้กัน นภาก็ยอมรับกับผมว่าเคยเขียนให้เรย์ด้วย! แต่พวกเรา! พวกเราไม่เคยเขียนเลยสักฉบับ! ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ!”


   หมอภวัตกะพริบตาปริบๆ ไม่คิดว่าเรื่อง ‘จดหมายรัก’ จะกลายเป็นเรื่องเป็นราวเพียงนี้เลย ในขณะที่ ‘คนเอาเรื่อง’ อย่างจันทร์จ้าวยังบ่นไม่หยุด


   “ผมคิดมาตลอดว่าพวกเราเหมือนคู่อื่นๆนะหมอ! แต่นี่น่ะ! ทำไมเราไม่เคยทำเหมือนคู่อื่นๆล่ะ!”


   “เอ้อ...แต่...แต่พวกเราก็เจอกันทุกวันอยู่แล้วนี่ครับ...”


   “ดาราก็เจอกับคุณวินิตทุกวัน ยังเขียนให้กันเลย!” จันทร์จ้าวแย้ง ขบริมฝีปากอย่างเจ็บใจ


   “ทำไมเราไม่ได้เขียน ผมลืมไปได้ยังไร แล้วคุณพงศ์ก็ไม่เคยเตือนผมด้วยนะ! หึ! ต้องจัดการคุณพงศ์ด้วย!”


ภวัตเกรงว่าคนข้างกายจะเอาเรื่องคนอื่นไปทั่วแล้ว จึงรีบพูดขึ้นมา


   “อ่า...ถ้าอย่างนั้น ก็เริ่มเขียนเสียวันนี้เลยดีไหมครับ”


   “แน่ล่ะ! เราจะได้เหมือนคู่อื่นๆ!” จันทร์จ้าวทุบกำปั้นลงกับฝ่ามืออย่างหมายมาด ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถอย่างกระฉับกระเฉง พร้อมจะเขียนจดหมายรักเต็มที


ส่วนหมอภวัตนั้นเกาศีรษะอย่างไม่รู้จะรู้สึกเช่นไรดี คิดสะระตะแทบตายว่าจันทร์จ้าวโกรธเคืองใคร พอเจ้าตัวเฉลยว่าคู่ของพวกเขาไม่เหมือนคู่อื่นก็ใจหาย เกรงว่าจันทร์จ้าวต้องการคบหากับสตรีเฉกเช่นคู่รักต่างเพศอื่นๆ แต่สุดท้ายแล้วกลับพบว่าเรื่องที่อยากเหมือนคนอื่น เป็นเรื่อง ‘จดหมายรัก’ เสียนี่


   ...จันทร์จ้าวหนอจันทร์จ้าว...


   นายแพทย์หนุ่มยิ้มจางกับตนเอง แต่เพราะเขาเอาแต่นึกเอ็นดูคู่รัก ไม่ยอมลงจากรถเสียที คนใจร้อนจึงเปิดประตูแล้วชะโงกหน้ากลับเข้ามาในรถอีกครั้ง


   “หมอ! ลงมาซี! หมอก็ต้องเขียนเดี๋ยวนี้เลย จะได้แลกกันอย่างไรล่ะ!”


   “ผมก็ต้องเขียนด้วยหรือครับ”


   “อ้าว! ใจคอจะให้ผมเขียนคนเดียวหรือ ผมไม่ได้รักหมอข้างเดียวนะ! จะให้ผมเขียนคนเดียว! หมอก็ต้องเขียนด้วย! นั่งเขียนข้างๆผมนี่ล่ะ ผมจะได้ดูว่าหมอเขียนยังไร ลงมาซี! ผมอยากเขียนแล้ว”


   หมอภวัตยังมึนงง แต่ก็ลงจากรถเดินตามอีกฝ่ายเข้าบ้านงกๆ


   ตอนที่นั่งลงข้างกันพร้อมด้วยกระดาษคนละแผ่น และจันทร์จ้าวเอาแต่มองเขาราวกับจะให้เขาเขียนก่อน นายแพทย์หนุ่มก็รู้ตัวว่านอกจากพวกเขาจะนั่งเขียนจดหมายรักข้างกันแล้ว ตัวตั้งตัวตียังทำท่าเหมือนจะลอกเขาด้วย


   ...จันทร์จ้าวหนอจันทร์จ้าว...


   จดหมายรักที่ไหน นั่งเขียนข้างกัน แล้วยังลอกกันอย่างนี้เล่า


 ..................


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรจำไม่ได้แล้วว่ารู้จักจันทร์จ้าวตั้งแต่เมื่อครั้งไหน รู้ตัวอีกทีก็เดินตาม ‘คนเฟื่อง’ ต้อยๆ


เดินตามในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นลูกน้องดอก แต่ไม่ว่าจันทร์จ้าวจะทำอะไร เขาไม่เคยขัดใจ ประการแรกคือขัดใจไม่ได้ ประการ ๒ คือเขาไม่เคยเห็นใครทำเรื่องเพี้ยนพิกลได้เท่าจันทร์จ้าวเลยสักนิด หรือหากเป็นเรื่องทั่วไป แต่เมื่ออยู่ในมือของจันทร์จ้าวคนเฟื่องแล้วไซร้ ก็กลับเป็นเรื่องพิลึกได้ไม่ยาก


   “แกว่าอะไรนะ?!” ราชนิกูลหนุ่มร้องถามตาเหลือก


   “ปิดประตูก่อนซี จะให้คนอื่นๆได้ยินด้วยรึ?” คนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานย้อน หม่อมหลวงพงศ์ภราธรนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้พวกเขามิได้อยู่ในที่รโหฐาน แต่เป็นที่ร้านขายหนังสือที่พวกเขาลงหุ้นกัน จึงรีบหันไปปิดประตูแล้วก้าวเท้าเข้ามาที่โต๊ะทำงาน มองสหายรักตาเหลือก


   “แกพูดใหม่อีกที เมื่อกี้แกว่าจะทำอะไร”


   “ผมจะเขียนจดหมายรัก”


   “จดหมายรัก?!”


   “Yes!”


   “เขียนให้ใคร?!”


   “จะให้ใคร ก็ให้หมอน่ะซี หรือคุณพงศ์อยากได้?”


หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรีบสั่นหน้าตาเหลือก จันทร์จ้าวยักไหล่ มิได้คิดจะทำจริงเช่นกัน


   “แล้ว...แล้วทำไม...ทำไมอยู่ๆถึงลุกขึ้นมาเขียน...เอ้อ...”


   “ไม่ใช่อยู่ๆลุกขึ้นมาเขียน แต่ผมจะแก้มือ เมื่อวานผมเขียนฉบับ ๑ แต่ห่วยบรม! อายจะแย่!”


   เจ้าตัวบ่นเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ยอมบอกว่าขนาดลอกจดหมายของหมอภวัตก็แล้ว แต่ก็ยังคิดว่าจดหมายรักของตนนั้นไม่ได้ความ วันนี้เลยคิดจะล้างตาเสียหน่อย


ตอนนั้นเอง พลันนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้หาคนผิดที่ทำให้เขาไม่เคยเขียนจดหมายรักให้หมอภวัตเลย


   “นี่แน่ะ! ผมเพิ่งรู้ว่าคนอื่นๆเขาเขียนจดหมายให้กันด้วย! ดารากับคุณวินิตอย่างนี้ นภากับเรย์อย่างนี้ เรย์น่ะไม่บอกผมสักคำว่าเขียนจดหมายรักให้น้องสาวของผม! เรื่องอย่างนี้ น่าจะชวนกันบ้าง ผมจะได้ทำด้วย!”


   “แกอยากทำ?”


   “อยากซี คนอื่นๆเขาทำ ผมก็อยากทำเหมือนคนอื่นๆนะ”


   บทจะอยากเหมือนคนอื่นๆขึ้นมาก็มีด้วย หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองคนที่อยากทำเหมือนชาวบ้านเขาแล้วก็นึกถึงความแตกต่างของคู่จันทร์จ้าว


   “ก...ก็ใช่ที่ว่าคนอื่นๆเขียน แต่แกกับ...กับคุณหมอ...”


   “ผมกับหมอทำไม”


   “ก็...ก็แกกับคุณหมอไม่เหมือนคนอื่นๆ...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหมายถึงทั้งคู่เป็นชายเช่นเดียวกัน จะให้พิถีพิถันเขียนจดหมายรักให้กันก็ดูจะแปลก อีกประการคือหมอภวัตกับจันทร์จ้าวพบหน้ากันทุกวัน ถ้าไม่ต้องทำงานก็เห็นจะตัวติดกันเป็นตังเมอยู่แล้ว จะมีเรื่องอะไรให้ต้องเขียนจดหมายรักถึงกันอีกเล่า


   “ไม่เหมือนยังไร”


   “ก็...เอ้อ...เป็นชาย...”


   “แล้วยังไร เป็นชายแล้วเขียนจดหมายรักไม่ได้หรือ คุณวินิตกับเรย์ยังเขียนจดหมายรักให้ดารากับนภานี่”


   “ก็ใช่...ง่า...คือ...”


   จันทร์จ้าวมิใช่คนเขลา เห็นสหายรักอึกอัก ย่อมเข้าใจความหมายที่ราชนิกูลหนุ่มต้องการพูดถึง


   แต่... ‘เป็นชายทั้งคู่’ แล้วอย่างไร


   ‘เป็นชายทั้งคู่’ แล้วมอบความรู้สึกให้กันผ่านทางตัวอักษรไม่ได้หรือ


   “ผมกับหมอไม่เหมือนคุณวินิตกับดารา หรือเรย์กับนภาก็ไม่เห็นเป็นไร แต่เรื่องเขียนจดหมายรักต้องทำ จะได้เหมือนคนอื่นเขา!”


เป็นอันว่าเรื่องใดที่เจ้าตัวคิดว่าแตกต่างได้ ก็คือแตกต่างได้ แต่ถ้าเรื่องใดที่เจ้าตัวอยากจะเหมือน ก็ต้องเหมือน


   จันทร์จ้าวคนเอาแต่ใจโดยแท้


   กระนั้น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรกลับยิ้มจาง คิดเอาว่าหากหมอภวัตได้รู้เห็นความแต่ใจของจันทร์จ้าวข้อนี้ คงยิ่งหัวปักหัวปำกว่าเก่า


   “เอาล่ะ! เลิกพูดเรื่องเหมือนเรื่องต่างได้แล้ว คุณพงศ์ก็เคยเขียนใช่ไหม มาช่วยผมเขียนที”


   ทว่าความเอ็นดูที่ราชนิกูลหนุ่มมีต่อสหายสนิทสิ้นสุดลงตรงนั้น เมื่อจันทร์จ้าวคนเอาแต่ใจโยนเผือกร้อนมาถึงมือในวินาทีถัดมา


   “เฮ้ย! เอาที่ไหนมาพูดว่ากันเคยเขียน!”


“ก็เมื่อตะกี้ คุณพงศ์บอกว่าคนอื่นๆก็เขียน แสดงว่าคุณพงศ์ก็เคย”


นอกจากเรื่องเอาแต่ใจแล้ว เรื่องโมเมก็เก่งที่ ๑


   “เรื่องนั้น...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรแย้งไม่ออก แต่เขาเองก็คบหาจันทร์จ้าวมาแต่เด็ก จะไม่ซึมซับฝีปากจันทร์จ้าวมาเลยก็เห็นไม่ใช่


   “...แล้วแกน่ะ! พูดอย่างกับว่าไม่เคยเขียน จะมาให้กันช่วย!”



ถูกย้อนอย่างนี้ จันทร์จ้าวก็พ่นลมหายใจเฮือก


   “เคยเขียนแต่ภาษาอังกฤษนี่!”


   “ถ้าอย่างนั้นก็เขียนภาษาอังกฤษซี คุณหมออ่านภาษาอังกฤษออก”


   “แต่ผมอยากเขียนภาษาไทย”


   “อุวะ!”


   “มาเถอะหน่า! ผมไม่ได้ให้ช่วยแยะเสียหน่อย ผมเขียนเอาไว้แล้ว คุณพงศ์แค่ช่วยดูก็เท่านั้น ว่าผมควรเขียนอะไรเพิ่มอีก”


   สุดท้ายแล้ว หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็อดไม่ได้ รับกระดาษในมือของเพื่อนรักมาดู เพียงแค่พลิกกระดาษมาตรงหน้า เขาก็ถึงกับตาเหลือก


   ก็รู้อยู่หรอกว่าจันทร์จ้าวมิใช่คนเรียบร้อยนัก แต่ก็ไม่คิดว่า ‘จดหมายรัก’ จะเขียนได้เละเทะปานนี้เลย!


   “ท...ทำไม...ทำไมมัน...มันสกปรกอย่างนี้!” เขาร้องถาม พลิกกระดาษใส่หน้าคนเขียน จันทร์จ้าวยักไหล่


   “ก็ผมเขียนผิด จะให้เขียนแผ่นใหม่ก็สิ้นเปลือง ขีดฆ่าเอาก็น่าจะพอ”


   “แล้วทำไมตัวอักษรถึงไม่เท่ากัน!”


   “ก็ตรงนั้นผมอยากเน้นข้อความ ถ้าเขียนเท่ากันหมด ตรงไหนเป็นใจความสำคัญเล่า”


   “เน้นข้อความ?! ประโยคที่เขียนว่า ‘ถ้าหมอให้ผมดื่มกาแฟก่อนกินอย่างอื่น หมอจะดียิ่งๆกว่านี้’ นี่หรือ?! ข้อความที่แกเน้น!”


   “ก็ใช่ ทำไมล่ะ ผมอยากเน้นข้อความนี้ไม่ได้หรือ”


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรนวดขมับ


   “แกเข้าใจคำว่าจดหมายรักไหม จันทร์”


   “เข้าใจซี Love Letter จดหมายแสดงความรัก ก็นี่ยังไร ผมบอกรักหมอทุกประโยค”


   ราชนิกูลหนุ่มพูดไม่ออก แต่สายตาก็ยังเห็นเพื่อนรักหยิบกระดาษขึ้นมาอีกแผ่น


   “นั่นแกจะเขียนใหม่ใช่ไหม”


   “เขียนใหม่อะไร้?! ก็ผมบอกอยู่แหม่บๆว่าให้คุณพงศ์ช่วยคิดว่าจะเขียนอะไรเพิ่มดี นี่ผมก็จะเขียนเพิ่มน่ะซี!”


   “เขียนเพิ่ม? หมายความว่ามีแผ่นนี้แล้วก็มีอีกแผ่นหรือ”


   “จะมีหลายๆแผ่นด้วย”


   “หา?!”


   “ตกใจอะไร จดหมายรักนะคุณพงศ์ เขียนแผ่นเดียวจะพอบอกรักหรือ? ผมรักหมอเท่าโลก ก็ต้องเขียนแยะๆซี! นั่งๆ จะได้มาช่วยผมคิดว่าจะเขียนอะไรอีก เขียนสัก ๓ แผ่น ผมว่ากำลังเหมาะ”


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองอีกฝ่ายตาค้าง ที่ยกยอว่าจันทร์จ้าวเป็น ‘คนเฟื่อง’ นั้นไม่ผิดสักนิด เพราะเจ้าตัวมักจะนึกเฟื่องเสมอๆ และเป็นคนที่สามารถทำเรื่องสามัญให้กลายเป็นเรื่องแปลก และทำเรื่องแปลกให้กลายเป็นเรื่องแปลกยิ่งกว่า


   ส่วนคนที่ต้องรับเรื่องแปลกและเรื่องแปลกยิ่งกว่า นอกจากเขาแล้วก็เห็นจะมีอีกคนหนึ่ง


   จะใครล่ะ ก็ ‘หมอภวัต’ ผู้โชคดีน่ะซี!


   ...........................


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมิใช่คนนิ่งดูดาย หลังจากเห็นสภาพจดหมายรักของจันทร์จ้าวที่จะส่งให้ภวัตแล้ว เขาก็ตัดสินใจว่าเรื่องนี้ควรถึงหูนายแพทย์หนุ่มก่อนที่จดหมายฉบับจริงจะไปถึง อย่างน้อยให้เตรียมตัวเตรียมใจว่าจะได้พบกับอะไร ก็เห็นจะดีกว่าให้ไปลุ้นตรงหน้า


    “คุณหมอ...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรลุกขึ้นทันทีที่เห็นนายแพทย์หนุ่มเดินออกมาจากอาคารไม้ของโรงพยาบาล หมอภวัตเดินตรงเข้ามาหาเขา ท่าทางจริงจังทีเดียว


   “คุณพงศ์ มีอะไรหรือครับ เห็นคุณสมว่า คุณพงศ์มาหาผม”


   ภวัตเป็นหมอ การที่คนรู้จักของเขาแวะเวียนมาหา ชายหนุ่มย่อมคิดถึงเรื่องเจ็บป่วยเป็นลำดับแรก แต่ถ้าเป็นหม่อมหลวงพงศ์ภราธรมาหา ความคิดลำดับแรกสุดของเขากลับเป็นเรื่องจันทร์จ้าว


   จันทร์จ้าวไม่สบาย จันทร์จ้าวบาดเจ็บ หรือจันทร์จ้าวมีปัญหาอื่นๆ สุดแล้วแต่คนเช่นจันทร์จ้าวจะทำได้


   “เอ้อ...ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรดอกครับ ผมบอกคุณสมแล้วนี่ ว่าถ้าคุณหมอยุ่งก็ยังไม่ต้องบอก ผมรอได้”


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรออกตัว เพราะเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายดูเป็นกังวลอยู่มาก อันที่จริงเรื่องที่ทำให้เขามาหาถึงโรงพยาบาลก็เพียงแค่อยากมาเตือนเอาไว้ตามประสาคนมีความปรารถนาดีเท่านั้น เรื่องที่เตือนก็ไม่ใช่เรื่องด่วนเรื่องร้ายอะไร เพียงแต่...คิดว่าถ้าหมอภวัตรู้ตัวก่อนก็จะเป็นการดี


   นายแพทย์หนุ่มส่ายหน้า


   “ไม่ยุ่งดอกครับ เชิญคุณพงศ์ว่ามาได้เลย” เขาเอ่ย ท่าทางผ่อนคลายกว่าเมื่อครู่ลงมาก


   “คือ...จันทร์...ทำเรื่องแผลงอีกแล้วครับ”


   “เรื่องแผลงหรือครับ?!” พอเป็นเรื่องของจันทร์จ้าว ท่าทางของภวัตก็กลับเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาทันที


   “จันทร์เขียน...ง่า...เขียนจดหมายรักให้คุณหมอครับ”


คำว่าจดหมายรักนั้น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดเบาแทบเป็นกระซิบ กระนั้นหมอภวัตก็ได้ยิน เขาชะงักไปเล็กน้อย มิได้ตกใจแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทราบ


   “เอ่อ...คุณพงศ์ทราบได้อย่างไรครับ”


   “จะไม่ทราบได้ยังไร ก็เจ้าตัวมาให้ผมช่วยน่ะซี” ราชนิกูลหนุ่มพูดแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “...ถ้าคุณหมอเห็นจดหมายฉบับนั้น คุณหมอจะต้องตกใจ จันทร์เขียน ๓ หน้าใหญ่ๆ ตัวอักษรก็โย้ๆเย้ๆ เลอะเทอะไปหมด ผมบอกแล้วว่าให้เขียนใหม่ก็ไม่เอา เฮ้อ...ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเห็นจดหมายรักของใครเละเทะขนาดนี้มาก่อน”


   หมอภวัตฟังแล้ว กลับมิได้กลุ้มอย่างคนเล่า ซ้ำยังหัวเราะออกมาชุดใหญ่เสียอีก เป็นฝ่ายคนนำข่าวมาบอก ที่ถึงกับมองอย่างงุนงง


   “คุณหมอ...”


   “ผมคิดเอาไว้แล้วว่าคงเป็นอย่างที่คุณพงศ์พูดมา อันที่จริง คุณจันทร์เคยเขียนให้ผมแล้วฉบับ ๑ อ่า...ตอนนั้น ก็นั่งเขียนข้างผมนี่ล่ะครับ”


   “นั่งเขียนข้างๆ?!”


   “ครับ เธอให้ผมเขียนด้วย เขียนเสร็จแล้วก็แลกกันตรงนั้นเลย”


   “หะ?!”


   หมอภวัตยิ้ม ไม่บอกอีกเรื่องว่าจันทร์จ้าวลอกจดหมายรักของเขาด้วยซ้ำ


   “แต่ตอนนั้นเขียนหน้าเดียวก็เลิกเสียแล้ว ไม่คิดว่าจะกลับไปปรึกษาคุณพงศ์จนเขียนได้ถึง ๓ หน้า คุณพงศ์บอกอย่างนี้ ทำให้ผมอยากเห็นขึ้นมาแล้วล่ะครับ”


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอ้าปากค้าง ได้แต่มองคนตรงหน้าอย่างอับจนคำพูด แต่ดูเหมือนหมอภวัตจะตกอยู่ในภวังค์คิดถึงคู่รักของตนเสียแล้ว จึงมิได้ตระหนักว่ากำลังถูกมองอย่างตกตะลึง


   “เอ...ผมเองก็ควรเขียนอีกสักฉบับแลกกับคุณจันทร์เหมือนกัน และก็ควรเขียนให้น้อยกว่า ๓ หน้า เธอจะได้รู้สึกว่าชนะผม เพราะเขียนได้มากกว่าผม จริงไหมครับ” ท้ายประโยค เขาหันมาถามสหายสนิทของจันทร์จ้าว แต่ราชนิกูลหนุ่มไม่รู้จะสรรหาคำใดมาตอบแล้ว จึงได้แต่พยักหน้า ยกให้เป็นการตัดสินใจตามแต่ศรัทธาของหมอภวัต


   “แต่คุณพงศ์อย่าบอกเธอนะครับ ว่าผมจะเขียนให้เธอเช่นกัน ผมอยากให้เธอประหลาดใจ”


   หม่อมหลวงหงศ์ภราธรได้แต่พยักหน้าอีกครั้ง ก็จะให้เขาพูดอะไรเล่า ในเมื่อเรื่องแผลงของจันทร์จ้าวที่เขาอุตส่าห์วิ่งแน่บมาบอก ภวัตไม่เพียงไม่กลุ้มอกกลุ้มใจ กลับยังเห็นดีเห็นงามเสียอีก


   “แล้วนอกจากเรื่องนี้ มีเรื่องอื่นอีกไหมครับ”


   “ไม่มีแล้วครับ...” ใจของราชนิกูลหนุ่มวิงวอนไม่อยากให้มีเรื่องอื่นอีกแล้ว ส่วนหมอภวัตนั้นเพียงยิ้มจางราวกับว่าไม่ว่าจะมีหรือไม่ เขาก็พร้อมรับมือเสมอ


   “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน ต้องนั่งคิดเสียหน่อยว่าจะเขียนอะไรดี”


   “เชิญเถิดครับ...”


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรไม่รั้งเอาไว้อีก เพียงมองส่งนายแพทย์หนุ่มที่หมุนตัวกลับเข้าไปในอาคารไม้ของโรงพยาบาล


   แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา


   ถ้าจันทร์จ้าวคือคนเฟื่อง หมอภวัตก็คือคนให้ท้ายคนเฟื่อง เผลอๆ ก็คงเป็นหมอภวัตที่เฟื่องยิ่งกว่า ถึงได้สนับสนุนคนเฟื่องให้ทำตามใจชอบเพียงนี้


   คิดแล้วก็ได้แต่ส่ายศีรษะด้วยไม่คิดว่าหมอภวัตที่ตนรู้จักจะซุกซ่อนนิสัยเช่นนี้เลย ชวนให้คิดว่าแล้วจดหมายรักของหมอภวัตจะซุกซ่อนสิ่งที่คาดไม่ถึงเอาไว้บ้างหรือไม่


   ตัวอักษรจะเป็นเช่นไร กระดาษจะสกปรกเลอะเทอะไหม ที่สำคัญคือเนื้อหาจดหมายเล่า


   ...จดหมายรักของภวัต  วิชาญโยธินที่มอบให้จันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์จะเป็นอย่างไรหนอ...


   


   จบ


   สวัสดี ครึ่งปีหลังของปีนี้ค่ะ

   เป็นการหายไปครึ่งปีแบบไม่มีงานเขียนออกมาเลยสักชิ้นเดียว ปีนี้งานบัวหนักมากๆ และเวลาไม่แน่นอนเลย ทำให้แบ่งเวลาสำหรับเขียนงานได้ยากมากๆ พอเขียนแล้วไม่พอใจ ก็อยากแก้เพิ่ม แก้ไปแก้มา ตอนนี้ก็เลยยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะสามารถลงให้อ่านได้ค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ

   แต่ยังไง บัวก็จะพยายามเขียนให้ได้ อยากลงงานชิ้นใหม่ๆให้ได้อ่านกันภายในปีนี้ค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

   ส่วนตอนพิเศษตอนนี้ เพราะว่าอยู่ๆก็คิดถึงคุณจันทร์ขึ้นมา ก็เลยอยากเขียนคุณจันทร์คนเอาแต่ใจ กับหมอภวัตคนให้ท้ายคนเอาแต่ใจ และที่สำคัญคือต้องมีกัลยาณมิตรแบบคุณพงศ์ด้วย ก็เลยได้เป็นตอนพิเศษสั้นๆ ที่คุณพงศ์(เหมือนจะ)เป็นพระเอกอีกแล้วค่ะ ฮ่าฮ่า

   หวังว่าจะคิดถึงคุณจันทร์ คุณหมอ คุณพงศ์ และคนอื่นๆในเรื่องนี้เช่นกันนะคะ

   ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกการอ่าน การเม้นท์ และพื้นที่บอร์ดค่ะ

   เจอกันตอนหน้า หรือไม่ก็เรื่องใหม่ (ที่จะพยายามลงให้ได้ในปีนี้ค่ะ)
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 06-06-2021 20:48:32
จันทร์จ้าวคือจันทร์จ้าวที่แท้จริง ฮ่าาาาาาา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 06-06-2021 21:13:17
คุณหมอก็สปอยคุณจันทร์จนคุณพงษ์มึนไปหมด อุตส่าห์รีบวิ่งแจ้นมาบอกเรื่องจดหมายรักของคุณจันทร์ที่สภาพดูเละเทะ คุณหมอดันบอกจะรีบเขียนตอบและต้องน้อยกว่า 3 แผ่น ที่คุณจันทร์เขียนด้วยคุณจันทร์เธอจะได้รู้สึกชนะ หมอนะหมอ รักเมียเวอร์ 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 06-06-2021 22:32:32
ทำคนอื่นป่วนไปด้วย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 07-06-2021 00:28:24
นั่นจดหมายรักหรือเรียงความอะจันทร์จ้าว 3หน้ากระดาษ 555555 คิดถึงงงงจันทร์เจ้าและหมอ ผู้แต่งก็น่ารักมาอัพตอนพิเศษได้อ่านกัน  :กอด1:   :L2: :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-06-2021 19:27:49
แวะมาดูตอนพิเศษทุกสิ้นเดือน..คิดถึงค่า
ว่าแล้วก็อยากอ่านจดหมายรักของทั้งคู่จัง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 09-06-2021 12:03:53
อ่านแล้วหมั่นเขี้ยวมาก เป็นความเอาแต่ใจที่น่าเอ็นดูสุดๆ อ่านไปยิ้มไปมีความสุข
จันทร์จ้าวไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 10-06-2021 10:49:41
 :L1: คุณจันทร์ก็ยังเป็นคุณจันทร์ น่ารักเสมอ ต้องทำใจค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 12-06-2021 23:42:39
โอ้ยยย เอ็นดูจันทร์เจ้า น่ามันเข้วเป็นที่สุด
คุณหมอก็ช่างตามใจ เอาใจ หลงหัวปักหัวปำ!
คุณพงศ์ถึงกับไปไม่เป็น 55555
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 22-06-2021 13:29:07
น่ารักจังครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: PoyPay ที่ 23-06-2021 09:43:38
ไม่มีแถมตอนพิเศษของตอนพิเศษหรอคะ แบบว่า...
 "เปิดจดหมายรัก ฉบับรักลับๆของคุณหมอกับคุณจันทร์..." คิคิคิ...

ปล.อ่านไปยิ้มขำไปในความ "จันทร์จ้าว"... 555...
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Love Letter (๖ มิ.ย. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 20-07-2021 13:12:53
 :กอด1:
จันทร์จ้าวไม่เคยทำให้ผิดหวัง
ทำไม่น่ารักอย่างนี้
อิดคุณหมอ
 :กอด1:
หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๑๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 24-12-2021 23:08:21
จันทร์จ้าว
โดย Dezair
……………………
บทพิเศษ Christmas…again and again.


ประเทศสหรัฐอเมริกา


ธันวาคม


   อากาศหนาวและหิมะที่ตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้ผู้คนไม่ใคร่ออกจากบ้านมากนัก จันทร์จ้าวและภวัตก็เป็นเช่นนั้น พวกเขาเป็นชาวเอเชียเขตร้อนชื้น เมื่อย้ายมาอยู่ต่างถิ่นที่สภาพอากาศแตกต่างจากเคย ก็ย่อมต้องปรับตัวอยู่พักหนึ่ง


   แต่...ก็พักเดียวเท่านั้น คนเช่นจันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์ ปรับตัวนานที่ไหนเล่า!


   พอเข้าเดือนธันวาคม อากาศหนาวเหน็บและหิมะโปรยปราย ชายหนุ่มเมืองร้อนก็สวมเสื้อกันหนาวหนาเตอะวิ่งออกไปปั้นหิมะเล่นกับเด็กๆในละแวกนี้เสียสนุก พอกลับเข้าอพาร์ทเม้นท์ จามฟุดฟิด ภวัตต้องต้มซุปหัวหอมกับไก่ให้รับประทานอยู่ ๓ วันจนคนเอาแต่ใจบ่นกระปอดกระแปดว่าหน้าจะกลายเป็นหัวหอมและตัวกลายเป็นไก่แล้ว


แต่...คนเช่นจันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์ บ่นไปอย่างนั้น แท้จริงมิได้ขยาดเลยสักนิด! แล้วยังเกิดความคิดดีว่าฤดูหนาวปีหน้า จะไปเล่นรถเลื่อนหิมะ เจ้าตัวโอ่ใหญ่โตว่าเมื่อครั้งมาเรียนที่นี่ เคยไปเล่นมาแล้ว เคยลงแข่งกับเพื่อนๆ และชนะทุกๆคนด้วย!


   “ปีหน้านะหมอ! ปีหน้าเราไปเล่นรถเลื่อนด้วยกัน!” เจ้าตัวย้ำหนักแน่น ฤดูหนาวปีนี้ยังไม่พ้น แต่จันทร์จ้าวคนเจ้าความคิดวางแผนการฤดูหนาวปีหน้าเสร็จสรรพ


   ทว่า...เพราะมัวแต่วางแผนฤดูหนาวปีหน้า ฤดูหนาวปีนี้ จันทร์จ้าวลืมส่งโปสการ์ดกลับไปเมืองไทยเสียสนิท!


   กว่าจะนึกขึ้นได้ก็ใกล้วันคริสต์มาสเข้าไปทุกทีแล้ว ครั้นจะให้ส่งโปสการ์ดอะไรก็ได้ ก็เห็นจะมิสมฉายานามคนเรื่องมาก เจ้าตัวกวาดซื้อโปสการ์ดจำนวนมากกลับมาที่อพาร์ทเม้นท์ และใช้เวลาช่วงบ่ายอยู่กับการคัดเลือกโปสการ์ดที่ดีที่สุดเพื่อส่งกลับประเทศไทย


   ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งนั่งอยู่บนพื้น ดวงตากลมใหญ่กวาดมองรูปภาพที่วางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะหน้าชุดเก้าอี้บุนวม ถัดจากเก้าอี้บุนวมไปเล็กน้อยคือต้นคริสต์มาสขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ตกแต่งแล้ว สมกับที่อีกไม่กี่วันจะถึงวันคริสต์มาสแล้ว


   ภวัตเดินเข้ามาในห้องพอดี เห็นชายหนุ่มร่างโปร่งในชุดเสื้อสเวตเตอร์ตัวหนากำลังวุ่นอยู่กับกระดาษบนโต๊ะเล็กแล้วก็ให้เขารู้สึกว่าคู่รักของเขาช่างเหมือนภูตตัวน้อยๆที่แสนซุกซน เก้าอี้มีตั้งหลายตัว ไม่ยักนั่ง ลงไปนั่งกับพื้นข้างต้นคริสต์มาสแน่ะ!


   แต่...ภูตรายนี้ ออกจะเจ้าอารมณ์อยู่สักหน่อย เพราะแม้จะไม่มีคู่กรณี ก็ยังเอาแต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด บ่นงึมงำฟังไม่ได้ศัพท์


   “ทำอะไรหรือครับ” ภวัตเดินเข้าไปใกล้แล้วถาม ชะโงกหน้ามองดูสิ่งที่จันทร์จ้าวกำลังสนใจ


   ดวงหน้าสวยของบุตรชายคุณหญิงผกา เงยขึ้นมอง ดวงตากลมใหญ่ส่อประกายขัดใจตามประสาคนเจ้าอารมณ์


   “Postcard น่ะซี! ผมอยากได้แผ่นสวยๆ ส่งกลับไปให้คุณพงศ์ อ้ายเรารึ! กวาดซื้อมาจากทุกร้าน แต่นี่! หมอดูซี! มีแต่รูปฝรั่งชายหญิง! รูปครอบครัวฝรั่ง! แล้วก็...รูปหิมะและรถเลื่อน! อะไร้! ไม่เห็นจะเป็นผู้แทนพวกเราได้!” จันทร์จ้าวบ่น แต่พออีกฝ่ายวางถาดเครื่องดื่มร้อนลงบนโต๊ะใกล้ๆ ก็ร้องตาวาว “Oh! Hot Chocolate!”


   ภวัตส่งแก้วให้ เจ้าตัวรับไปจิบ พอได้เครื่องดื่มร้อนของโปรด ก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว นายแพทย์หนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมใกล้ๆ


   “ถ้าอย่างนั้น ก็วาดเอาไหมครับ” ภวัตเสนอ ทำเอาดวงตากลมใหญ่เหลือกโต


   “แค่เขียนหนังสือ ตัวอักษรของผมยังโย้ไปเย้มา ถ้าให้วาดรูป ต้นคริสต์มาสของผมคงเป็นแค่รูปสามเหลี่ยม!”


   คนฟังได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะเบา ฝ่ายจันทร์จ้าวผู้ตระหนักว่าฝีมือวาดรูปของตนมิอาจปรากฏอยู่บนกระดาษใดๆได้ ก็เกิดสติเฟื่องขึ้นมา   


   “ฮ้า! นึกออกล่ะ! รูปถ่ายยังไรล่ะ!” เจ้าของดวงตากลมใหญ่ร้องแล้วทุบกำปั้นลงกับฝ่ามือ ภวัตเลิกคิ้วเล็กน้อย


   “รูปถ่ายหรือครับ?”


   “ใช่แล้ว! แต่ผมต้องหาคนฝีมือดีมาถ่ายรูปให้พวกเราเสียก่อน!”


   “แล้ว...ถ่ายที่ไหนเล่าครับ”


   “ก็ที่นี่น่ะซี! ถ่ายพวกเราแล้วก็ต้นคริสต์มาสนี่! หมอว่าดีไหม ผมว่าเยี่ยมเลย!” ลงท้ายอย่างนี้ แล้วยังยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย ภวัตจะปฏิเสธลงได้อย่างไร


   “เอ? แล้วจะส่งรูปถ่ายเป็นโปสการ์ดได้หรือครับ”


   “ก็ใส่ซองแยกไปต่างหาก ส่วน Postcard...” เจ้าตัวชำเลืองมองไปยังกองโปสการ์ดที่ซื้อมาจำนวนมาก แต่ไม่ถูกใจสักแผ่น “...เอาจากในกองมาสักแผ่นก็ได้! ยังไรก็มีรูปของพวกเราเป็นผู้แทนอยู่แล้วนี่! ผมไปหากล้องก่อน แล้วค่อยคิดว่าใครจะเป็นคนถ่ายรูปให้พวกเราดี!” จากนั้น คนความคิดดีก็ลุกขึ้นวิ่งผลุบออกจากห้องไป แต่อึดใจต่อมา เสียงของจันทร์จ้าวก็ดังกลับเข้ามาโดยไร้ตัว


   “หมอ กล้องอยู่ตรงไหนนะ ผมหาไม่เจอ...เอ? จำได้ว่าคราวก่อนเก็บไว้แถวนี้...”


แล้วก็บ่นอะไรอีกไม่ทราบ ภวัตหัวเราะเบา ด้วยเอ็นดูภูตแสนซนของตนเอง ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามออกไปอีกคน


……………….


   หากล้องเจอแล้ว ลำดับต่อไปคือต้องหาคนได้รับโชคเป็นช่างกล้องให้ ซึ่งก็ต้องฝีมือดี ได้แก่ มิสเตอร์สมิธ เพื่อนบ้านใกล้เคียงของพวกเขานั่นเอง


   มิสเตอร์สมิธยินดีรับงานยิ่ง นัดแนะกันว่าวันถัดมาจะมาถ่ายรูปให้ เมื่อถึงเวลานัด มิสเตอร์สมิธก็มาที่อพาร์ทเม้นท์ของพวกเขา จันทร์จ้าวกับภวัตสวมสูทอย่างดี และจะถ่ายรูปกันที่ต้นคริสต์มาสซึ่งมีเก้าอี้บุนวมตัว ๑ ตั้งอยู่


   หนุ่มอเมริกันเลิกคิ้วเล็กน้อย อยากถามว่าทำไมมีเก้าอี้วางอยู่เพียงตัวเดียว แต่เห็นเจ้าของห้องผู้มีลักยิ้มที่แก้มซ้ายกำลังสั่งอีกคนเป็นภาษาไทยซึ่งเขาฟังไม่ออก


   สุดท้าย ภวัตก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น ส่วนเจ้าตัวยืนเยื้องหลังเก้าอี้เล็กน้อย มิสเตอร์สมิธคิดเอาว่า ตำแหน่งอย่างนี้เหมือนรูปของเขากับภริยาจริง! ภริยาของเขานั่ง ส่วนเขาน่ะยืน!


   “Ready. (เอาล่ะ)” จันทร์จ้าวหันมามองมิสเตอร์สมิธผู้ได้รับโชคให้เป็นช่างกล้องให้ เป็นอันส่งสัญญานว่ากดกล้องถ่ายรูปได้แล้ว


   มิสเตอร์สมิธกดไป ๒ รูป ก็ทักขึ้นมาว่า


   “"Wouldn’t you want to take individual shots too? (ทำไมพวกคุณไม่ถ่ายรูปทีละคนบ้างเล่า)”


   “No, that costs too much. (ไม่ล่ะ เปลือง)”


คำตอบของจันทร์จ้าวทำเอาภวัตกลั้นหัวเราะแทบแย่ ไม่ต้องหันไปมองสีหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้เขา ก็รู้ว่าเจ้าตัวคงทำหน้าเฉยๆ เหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ


ฝ่ายมิสเตอร์สมิธนั้นมิทราบความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเพื่อนบ้านชาวเอเชียทั้ง ๒ ก็หัวเราะร่วน


   “You two are wealthy. This wouldn't cost a thing. (พวกคุณรวยจะแย่ ยังจะเปลืองอะไรกัน)”


   แต่จันทร์จ้าวก็เพียงยักไหล่ แล้วพูดต่อไปว่า “Could you please wait for us to change? We want to take shots with sweaters too.(รอพวกผมเปลี่ยนเสื้อผ้าสักครู่ จะใส่สเวตเตอร์ถ่ายรูปด้วย)”


   แล้วทั้ง ๒ ก็ออกจากห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หายไปพัก คราวนี้กลับมาอีกครั้ง มิได้สวมสูทแล้ว แต่สวมสเวตเตอร์ทับเสื้อเชิ้ต ภวัตใส่สีเขียว ส่วนจันทร์จ้าวใส่สีแดง มิสเตอร์สมิธอารมณ์ดีเป็นทุน จึงหัวเราะแล้วหยอกว่า


   “"You two look groovy! And also like two peas in a pod! (สวยจริง! พวกคุณนี่ยังกับฝาแฝด!)”


   ภวัตยิ้มจางแล้วถาม “We look the same? (เราหน้าเหมือนกันหรือ)”


มิสเตอร์สมิธยังหัวเราะ พยักหน้าหงึกหงัก


   “"Exactly the same! I couldn't tell from afar. (เหมือนกันทุกอย่าง! เห็นไกลๆ เกือบทักผิดตั้งหลายครั้ง)”


   “That means you need a pair of eyeglasses. (นั่นแสดงว่าคุณควรใส่แว่น)” จันทร์จ้าวย้อน แต่มิสเตอร์สมิธนั้นมีทักษะทางการโต้เถียงดีเยี่ยม จึงเสนอขึ้นว่า


   “Or you two could stop looking like twins. (หรือไม่อย่างนั้นพวกคุณควรเลิกเหมือนกันสักที)”


   “That's not going to happen! (ไม่มีทาง)” ๒ เสียงตอบพร้อมกัน แม้แต่เจ้าของเสียงยังมองหน้ากันด้วยไม่คิดว่าจะพร้อมใจเพียงนี้ มิสเตอร์สมิธหัวเราะจนน้ำตาไหล


   “You two are definitely twins! All right, twins, shall we continue? (พวกคุณเป็นฝาแฝดจริงๆด้วย เอาล่ะ ฝาแฝด ถ่ายรูปกัน!)”


แล้วจากนั้น มิสเตอร์สมิธก็ช่วยถ่ายรูป ‘ฝาแฝด’ ให้ ๒ เพื่อนบ้านชาวต่างชาติ เขากดไปหลายรูป หลายอิริยาบถ เมื่อแล้วเสร็จ ภวัตชวนเขาดื่มน้ำชาสนทนากันต่อ ส่วนจันทร์จ้าว พอดีมีเด็กๆมาชวนไปเล่นหิมะ จึงออกไปสนุกอยู่ตรงหน้าอพาร์ทเม้นท์นี่เอง


   มิสเตอร์สมิธถูกคอกับภวัตยิ่ง สนทนากันอยู่เป็นนาน กว่าจะกลับ พอกลับถึงบ้านแล้วก็พลันนึกขึ้นได้เรื่อง ๑


   จันทร์จ้าวกับภวัตไม่มีรูปเดี่ยวเลยสักรูป เพราะจันทร์จ้าวบอกว่าเปลือง


   แต่พอเขาถ่ายรูปให้ทั้ง ๒ หลายสิบรูป กลับไม่มีใครใน ๒ คนนี้ที่พูดว่าเปลืองเลยสักคำ


   ...เอ? หรือ ‘ฝาแฝด’ ชอบถ่ายรูปด้วยกัน ไม่ชอบแยกกันถ่ายหนอ?...


…………………..


   กว่าแอร์เมลจากสหรัฐอเมริกาจะมาถึงมือผู้รับ ก็พ้นวันคริสต์มาสแล้ว


เมื่อเห็นว่าชื่อผู้ส่งคือจันทร์จ้าว  รักษพิพัฒน์สหายรัก หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งใจว่าจะเปิดจดหมายออกอ่านพร้อมคนอื่นๆ อย่างพวกพี่น้องของจันทร์จ้าวอย่างนี้ น้องสาวของเขาอย่างนี้ หรือเพื่อนสนิทอย่างเรย์มอนด์  อดัมกับนายวินิตอย่างนี้


แต่...บางอย่างดลใจให้เขาลองเปิดอ่านเสียก่อน


ราชนิกูลหนุ่มตัดขอบซองแล้วหยิบเอากระดาษที่อยู่ภายในออกมา คราวนี้แอร์เมลจากจันทร์จ้าวมิได้เป็นจดหมายยาวๆหลายหน้าที่บอกเล่าชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าตัวกับหมอภวัต แต่เป็นรูปถ่ายใบ ๑


รูปถ่ายใบนั้นเป็นรูปของหมอภวัตสวมสเวตเตอร์นั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมข้างต้นคริสต์มาส มีจันทร์จ้าวสวมสเวตเตอร์ยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้ มีตัวอักษรโย้เย้เขียนกำกับอยู่ที่มุมภาพ


   ‘ส่งมาเป็นที่ระลึกในวันคริสต์มาส’


   ลงชื่อบรรทัดถัดมาว่า


   ‘จันทร์จ้าว’ ที่ตัวอักษรออกจะเบี้ยวสักหน่อย และ ‘ภวัต’ ที่ตัวอักษรเป็นระเบียบ


   แล้วก็มีจดหมายฉบับเล็กแนบมาด้วย ระบุว่า


   ‘รูปนี้หมอใส่ Sweater สีเขียว ผมใส่สีแดง สีแห่งคริสต์มาส! แล้วก็มีรูปผมกับหมอใส่สูทด้วย แต่หมอใส่สูทสวยมาก สวยทั้งหมอ สวยทั้งสูท ผมเลยตัดใจไม่ให้ คุณพงศ์มาที่นี่ แล้วจะให้ดู แล้วก็มีรูปผมนั่ง ส่วนหมอยืน ผมก็ไม่ให้ แลจะไม่ให้ใครดูด้วย จะเก็บไว้ดูคนเดียว เพราะหมอสวยมากแม้จะสวม Sweater!’


   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรอ่านแล้วก็หัวเราะ นึกขันความโอ่ของสหายที่ย้ายไปอยู่ต่างแดน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่แอร์เมลที่ส่งมาเนืองๆก็บอกให้รู้ว่าจันทร์จ้าวแลภวัตมีความสุขกับชีวิตคู่เพียงใด


   เขาเก็บรูปถ่ายและจดหมายน้อยใส่ซองตามเดิม จากนั้นก็สั่งให้คนไปหากรอบรูปที่ไม่ได้ใช้มาให้


หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน ที่โต๊ะทำงานของราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรก็มีรูป ๑ ตั้งอยู่


รูปนี้...ที่มิใช่รูปเดี่ยวของเขา มิได้มีเขาอยู่ในรูป และมิใช่รูปของคนในสกุลฉัตราภาสคนใด


แต่เป็นรูปของจันทร์จ้าวกับภวัตและต้นคริสต์มาส


ราชนิกูลหนุ่มตัดสินใจว่า หากใครต้องการชมรูปนี้ ก็จะเชิญมาชมที่วังฉัตร และหากใครชมแล้วเกิดซุกซน แอบแกะกรอบรูปออกล่ะก็ จะพบจดหมายน้อยซ่อนเอาไว้ข้างหลังรูปด้วย


...จดหมายขี้โอ่อย่างนี้ จะทิ้งได้อย่างไรกัน เก็บเอาไว้มีโอกาสเมื่อไร จะให้ภวัตได้อ่านสมกับที่จันทร์จ้าวโอ่นี่ล่ะ!...


   


   จบ

*ตอนพิเศษนี้ เชื่อมกับ จอมร้าย ตอนพิเศษ พิเศษ Christmas…again and again.


สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 24-12-2021 23:36:09
สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ  :L2:

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ อ่านแล้วแฮปปี้ต้อนรับคริสต์มาสมากๆ
ถ่ายรูปคนเดียวเปลือง แต่ถ่ายแล้วเก็บไว้ดูคนเดียวไม่เปลืองใช่ไหมคะคุณจันทร์จ้าว  :-[
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 25-12-2021 06:29:13
ขอบคุณค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 25-12-2021 12:49:37
ความคลั่งรักของคุณจันทร์ แต่เค้าย้ายเมกากันตอนไหน เราอ่านข้ามไปเหรอ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 25-12-2021 16:52:01
โอ้ยยยย คลั่งรักไม่ไหว จันทร์จ้าวคนขี้โอ่55555555 จะว่าไปคุณหมอก็คลั่งรักพอ กัน ฟิลเตอร์ภูตน้อยซุกซนก็มา จะทำไรเอาแต่แค่ไหน ก็น่าเอ็นดูไปหมด ต่างคนต่างคลั่งรักกกก

Merry Christmas ค่ะคุณบัว น่ารักที่สุดเลย ขอบคุณมากๆนะคะ คิดถึงค่าา
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 26-12-2021 17:15:48
จันทร์น่าเอ็นดูตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 26-12-2021 22:14:40
เอ็นดูคนขี้โม้   :mc3:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 28-12-2021 15:59:49
อยากดูรูปบ้างจังค่ะคุณพงศ์  :mew3: Merry Xmas na ka  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 03-01-2022 02:22:49
คนขี้โอ่ชมหมอว่าสวย ทำไมไม่ชมว่าหล่อเล่า!!!  o18
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 05-01-2022 13:12:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 08-01-2022 16:27:03
ขอบคุณคุณบัวค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-01-2022 20:55:11
เป็นเอ็นดูคุณจันทร์ น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 24-01-2022 13:10:37
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 02-02-2023 02:21:57
น่ารักมาก  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: Sunset and Eeyore ที่ 09-02-2023 09:14:56
นึกขันคำโอ่ของคุณจันทร์จริงค่ะ ไม่โก้ไม่เก๋นะคะ แต่เลือกใช้คำว่าสวย ถ้าเช่นนั้น คุณจันทร์ผู้ซึ่งตาโตกว้างบ่งบอกอารมณ์ชัดเจนจะไม่ยิ่งน่าตราตรึงยิ่งกว่าหรือคะ?
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-02-2023 10:40:00
อ่าน love letter กับ Christmas…again and again แล้วขำตลอด
หัวเราะกับความน่ารักเฉพาะตัวของจันทร์เจ้า
สนุกมากกับความเพี้ยนของจันทร์เจ้า
ขอบคุณไรท์ มากๆ
      :pig4: :pig4: :pig4:
 :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 13-03-2023 13:03:54
 :pig4: