พิมพ์หน้านี้ - เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: BaoBao ที่ 20-03-2012 21:07:10

หัวข้อ: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 20-03-2012 21:07:10
**************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

**********************************************************************

รวมงานเขียนของ BaoBao จ้า (https://www.facebook.com/notes/baobao-story/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2-baobao-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%A1/105373206277195)


อ่านก่อน ชั่งใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีชมพู คือ แนวน่ารักไม่ปวดใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีม่วง คือ แนวเจ็บปวดหน่วงหัวใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีเขียวฟ้า คือ แนวที่จัดอารมณ์ไม่ได้

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องสั้น

 [หึง & ง้อ]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32258.0)
 [ข้างๆ]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32730.0)
 [บังเอิญ]… ณ โรงพยาบาล  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34345.0)
 [อย่าเงียบสิวะ!]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34200.0)
 [แค่นี้ได้มั้ย?]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34200.30)
  [บังเอิญ]… คำบางคำกับช่อดอกไม้   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37207.msg2319691#msg2319691)
ซีรีย์สั้นกุด [บังเอิญ]...คน (ไม่) รู้จัก  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43183.msg2778253#msg2778253)
ซีรีย์สั้นกุด คำ บ า ง คำ [Silence speaks...]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39086.msg2471624#msg2471624)

เรื่องกึ่งสั้น-กึ่งยาว
 [แอบ]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32607.0)
 [สองก้าว]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32258.msg1903406#msg1903406)
 [เวลา]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32382.0)
 [รู้แล้ว]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33130.msg1981862#msg1981862)


เรื่องยาว
 [กระดาษ]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32535.0)
 [กระซิบ]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32646.0)
 [บอก]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32646.msg1970179#msg1970179)
 [บังเอิญ]… สวนทาง   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34952.0)


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------


หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 20-03-2012 21:16:27
หึง & ง้อ



แดดเปรี้ยงแสบร้อนในช่วงใกล้เที่ยง เผาผิวเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างถนน เป้ใบใหญ่ที่ไม่ว่าใครเห็นก็รู้ว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยวถูกวางไว้ข้างตัว บนถนนไม่มีรถผ่านมาเลยสักคัน ถนนเส้นนี้ไม่ใช่ทางสัญจรทั่วไป จะคึกคักก็ต่อเมื่ออยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยวเท่านั้น เด็กหนุ่มต้องรอถึงสามชั่วโมง แสบทั้งหน้าแสบทั้งเหงื่อ ในที่สุดก็มีมอเตอไซด์คนหนึ่งขี่ผ่านมา มอเตอไซด์จอดเลยไปในตำแหน่งที่ห่างจากเขาไปพอควร

“เฮ้ เป็นไรรึเปล่า?” ชายที่ขี่มอเตอไซด์หันหลังมาถาม

“พี่ ผมขอติดรถไปลงในเมืองหน่อยสิ พี่สะดวกมั้ยครับ” เขาตะโกนถาม

“จะไปไหนนะ?” ชายคนนั้นถามซ้ำ

“ในเมืองครับ” เขาร้องบอกสั้นๆ

ชายที่ขี่มอเตอไซด์กวักมือเข้าหาตัว เป็นสัญญาณตอบรับว่ายอมให้ไปด้วยกัน เด็กหนุ่มเอาก้นนั่งลงบนพื้นคอนกรีตร้อนระอุ สอดแขนเกี่ยวสายของเป้ขึ้นสะพายหลัง ทรงตัวลุกขึ้นแล้วรีบเดินไปหาคนใจดี

“ไปไงมาไงน่ะ แล้วจะลงตรงไหน พี่ไปแค่หน้าอำเภอนะ” ชายหนุ่มบอก

“เอ่อ คือคงหาที่พักอ่ะครับ ถ้าไงค่อยไปต่อ” เด็กหนุ่มตอบ ใจคิดว่าคนใจดีจะช่วยหาที่พักให้เขาด้วยไหม

“อื้ม”

แค่นั้น แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรอีก ชายหนุ่มสวมหมวกกันน๊อค เตรียมที่จะขี่รถต่อไป เด็กหนุ่มรีบขึ้นซ้อนท้ายทันที
อื้ม...ไม่ใช่คำตอบที่แน่ชัดว่าเขาจะช่วยถึงไหน แต่ก็นะ ลูกผู้ชายมีมือมีเท้าไปถึงในเมืองได้ก็ไม่ตายละ

มอเตอไซด์ออกตัวไปอย่างช้าๆ แล้วค่อยเพิ่มความเร็วมากขึ้นให้สมกับค่าตัวเกือบล้านของมัน มอเตอไซด์เท่ๆ แพงๆ แบบนี้เป็นของเล่นในฝันของเด็กหนุ่มทุกคนก็ว่าได้ ถึงแม้จะซวยถูกไล่ลงมาจากรถมาซะกลางทาง แต่เขายังได้เครื่องปลอบขวัญ...ได้นั่งรถในฝันเป็นบุญตูดด้วยเว้ย




**********




เพิงขนาดย่อมซึ่งตั้งอยู่ริมทางปรากฏให้เห็นลิบๆ เมื่อมอเตอไซด์เคลื่อนเข้าไปใกล้ความเร็วจึงเริ่มชะลอ ชายหนุ่มหักเลี้ยวเข้าไปจอด ทำให้เห็นว่า เพิงนั้นที่แท้ก็เป็นร้านอาหารเล็กๆ ....ดูไปดูมาก็คล้ายจุดพักรถ

พอชายหนุ่มจอดรถเด็กหนุ่มก็ลงจากรถมายืนรอจนชายหนุ่มจัดการธุระเสร็จ ทั้งสองก็เดินเข้าไปในเพิงร้างนั้น
เหมือนมีคนอยู่ในนั้น แต่ไม่มีตัวคน ร้านค้าเหมือนเปิดบริการ

“คนขายอยู่ไหนวะ” ชายหนุ่มพึมพำ

เด็กหนุ่มหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ไม้ พลางปลดเป้ที่หนักอึ้งลงจากหลัง “คงไปธุระมั๊งพี่ เฮ้อ----” เขาปาดเหงื่อออกจากลำคอ ถึงแม้จะได้ลมจากการที่รถวิ่ง แต่แดดที่ร้ายกาจก็ยังพลากน้ำออกไปจากร่างกายเขาได้มากโข พอมาพักในร่มแล้ว เขาจึงเริ่มรู้สึกกระหาย

“มีใครอยู่มั้ย” ชายหนุ่มตะโกนถาม พลางเดินเข้าไปดู สักพักก็ตะโกนซ้ำอีกที เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เขาจีงเดินไปหยิบน้ำอัดลมในตู้ขวดหนึ่งออกมาเปิดดื่ม จากนั้นถึงเดินมานั่งที่เก้าอี้อีกฝากหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงเดินไปหาน้ำมาดื่มบ้าง

“ทำไมน้องไปอยู่ตรงนั้น” ชายหนุ่มถาม

“อ้อ ทะเลาะกับเพื่อนน่ะพี่ คุยกันไม่รู้เรื่อง เลยโดนไล่ลงมา แหะ แหะ แหะ” เด็กหนุ่มตอบตามความจริง

“เพื่อนดีเนอะ แฟนล่ะสิ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ตามนั้นครับพี่”

“เออ เข้าเมืองไปก็ไปคุยกันซะ มีคนผิดก็มีคนถูก รักกันโกรธกันได้ แต่ต้องรู้จักให้อภัยกันด้วย” ชายหนุ่มบอก

“เฮ้อ ไม่รู้เค้าจะพักในเมืองหรือขับเลยไปอีกที่อ่ะดิพี่” เด็กหนุ่มดูดน้ำเปล่าที่เหลือในขวดต่อจนหมด

“อ้าว โทรไปถามดิวะ” ชายหนุ่มพูดพลางลุกขึ้นไปหยิบขนมที่วางอยู่ออกมากิน

ไม่รู้ว่าขายหรือไม่ขาย พี่แกไม่สน แถมยังส่งมาให้เขากินด้วย...กลายเป็นผู้ต้องหาร่วมเลยตรู

“ไว้ก่อน ถึงในเมืองค่อยโทร โทรไปตอนนี้ก็พูดกันไม่รู้เรื่องอยู่ดี ถ้าเค้าขี่รถเลยไป เดี๋ยวผมนั่งรถตามไปทีหลังก็ได้” เด็กหนุ่มส่งคุ๊กกี้เข้าปาก....อร่อยแฮะ

“อื้ม หิวว่ะ นี่มันไม่มีคนเฝ้าเลยรึไงวะ กูเข้าไปหาของกิน เค้าจะด่ากูมั้ยเนี่ย” สรรพนามเริ่มเปลี่ยนเมื่อได้คุยกันเกินสามประโยค..... ช่างเป็นมิตรภาพที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ฮ่าฮ่าฮ่า

“กินของเค้าก็จ่ายให้เค้า ไม่เป็นไรมั๊งพี่ ผมก็หิวอ่ะ ไม่ได้กินข้าวเช้ามาด้วย” ชายหนุ่มลุกขึ้น แล้วเดินลึกเข้าไปในร้าน ด้านในเป็นห้องครัวแบบกระทัดรัด พอเปิดถังน้ำแข็งก็เห็นของสดจำนวนหนึ่ง เขาจึงกวักมือเรียกชายหนุ่มให้เข้ามา

“เอาไงดีพี่” เด็กหนุ่มขอความเห็น

ชายหนุ่มหันรีหันขวาง จากนั้นก็เดินวนรอบเพิงแห่งนั้น พอวนครบรอบ เขาก็ตะโกนบอกว่า “ไม่มีคนเลยว่ะ สงสัยขี่รถไปที่อื่น เอาเหอะว่ะ กูหิวฉิบหาย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า..... เอาไรดีพี่ อืม ของสดก็มีหลายอย่างเลย เอ้อ มีข้าวมั้ยเนี่ย” เด็กหนุ่มหันซ้ายหันขวามองหาข้าวสวย
ทั้งสองค้นกันสักครู่ก็เจอ....ข้าวสวยที่คดทิ้งไว้ในกะละมัง ชายหนุ่มยกข้าวขึ้นมาดม เอามือหยิบข้าวขึ้นมาชิม แล้วค่อยพยักหน้าให้เด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มยิ้มรับ แล้วบอกเขาว่า “ไข่ดาว ไข่เจียว”

“เหี้ย ของมีต้องเยอะ มึงจะแดกไข่เนี่ยนะ” ชายหนุ่มหัวเสียเดินตรงมาที่ตู้เก็บน้ำแข็ง “หมูทอดกระเทียมพริกไทยดิ” สองนิ้วคีบถุงใส่หมูขึ้นมา

“กระเทียมไหนพี่ พริกไทยอีก” เด็กหนุ่มเบ้หน้า

ชายหนุ่มคุ้ยแถวนั้น แล้วลากสิ่งที่ต้องการออกมาจนได้ เขาชูขวดพริกไทยและกระจาดกระเทียมขึ้นมาพร้อมหน้าตาได้รับชัยชนะ

“พี่ทำนะ ผมทำไม่เป็น” เด็กหนุ่มหาชามมาเตรียมเจียวไข่ ทำกับข้าว....เป็นแค่หุงข้าวกับเจียวไข่ ทอดไข่ดาว แค่นั้นแหละ ปกติมีคนทำให้ตลอด อบากกินอะไรก็แค่บอก เดี๋ยวมันก็ทำให้

“เฮ้ย กูทำไม่เป็น มึงเจียวไข่เป็นก็ทำดิ ง่ายนิดเดียว” ชายหนุ่มเอาของไปวางข้างชามไข่ดิบที่เด็กหนุ่มตอกไข่ใส่ไว้

เด็กหนุ่มส่ายหน้าให้เขาแทนคำตอบ แล้วหันไปหยิบกระทะมาวางบนเตาแก๊สปิ๊กนิค

“ใส่หมูด้วยดิ ไข่เฉยๆ ไม่อิ่มว่ะ” ชายหนุ่มบอก

“ก็สับหมูมาพี่ โน่นเขียง” เด็กหนุ่มชี้นิ้วไปหาเขียง จากนั้นก็เทน้ำมันลงกระทะ เตรียมตัวเปิดเตา ทว่า... “พี่มีไฟป๊ะ”

“หือ? ...อื้อ” ว่าแล้วก็ยื่นไฟแช็คมาไปให้เด็กหนุ่ม พอจุดเตาเสร็จหันมาจะเอาไข่ตีผสมหมู คนสับหมูก็เดินไปนั่งดูดน้ำอยู่หน้าร้านซะแล้ว

“อ้าวพี่ หมูพี่ล่ะ” เด็กหนุ่มสับสน คิดว่าหรือเขาจะเปลี่ยนใจไม่เอาไข่เจียวหมูสับละ

“กูทำไม่เป็น มึงทำไปเลย เอาแบบแดกได้นะมึง” ชายหนุ่มตะโกนตอบเขาโดยที่ไม่หันหน้ามามองเขาสักนิด

ไอ้พี่นี่แม่ง แค่สับหมูก็ทำไม่เป็น นี่กูเอาไปอวดไอ้เต็งได้เลยนะว่า แฟนมึงเนี่ยดีมีระดับเหมือนกันนาเว้ย (หากเอาตัวเองเทียบกับไอ้พี่ใจดีเนี่ยอ่ะนะ) ...ไหนจะล้างผัก หั่นผัก ล้างหมู สับไก่ ไข่เจียวกูก็ทำเป็นแหละ ไข่ดาวกรูก็พัฒนาให้มันไม่ไหม้ได้แล้วด้วย ข้าวกูก็หุงไม่แฉะเหมือนก่อน โหย ยิ่งนับนิ้วกูแม่งยิ่งภูมิใจตัวเองจริงๆ....เนี่ยกูปลอกมะละกอได้แล้วนะไอ้เต็ง เหลือมะม่วงแม่งเปลือกแข็งกูยังกะไม่ถูก กะว่ามาเที่ยวครั้งนี้จะซื้อมะละกอมาปลอกโชว์มึงซะหน่อย แม่งเสือกโมโหกู ไล่กูลงจากรถเฉยเลย อย่าให้กูตามตัวเจอนะ----เด็กหนุ่มนึกในใจไปพลาง สับหมูไปพลาง ต้องรีบสับเดี๋ยวน้ำมันจะร้อนเกินไป

ตึง ตึง ตึง.....แต๊ก แต๊ก แต๊ก.....ฉ่-------------า

กลับไข่พลิกอีกด้าน เต็งบอกให้ “อยู่เฉยๆ อย่าไปยุ่งกับมัน ถ้าทนไม่ได้ก็ไปตักข้าวใส่จานซะ” ... ทำตามเมียเค้าว่าจะเจริญ

เด็กหนุ่มตักข้าวใส่จานสองจาน แล้วยกไปวางที่โต๊ะ ชายหนุ่มได้ยินเสียงแคร๊งก็หันหน้ามา พอเห็นข้าวมาวาง เขาก็เดินมานั่งประจำที่ หันหน้ามองตามเขาที่เดินกลับเข้าไปหลังร้าน พอเขายกไข่เจียวร้อนระอุมาวาง ชายหนุ่มหยิบช้อนขึ้นมาแล้วถามเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “แดกได้ป๊ะ กูจะตายมั้ย?”

ไอ้เลว อย่าแดกเลยมึง------ ด่าเขาในใจ พร้อมยกจานไข่เจียวกับจานข้าวตัวเองไปตั้งที่โต๊ะอื่นแทน

“เฮ้ย-----” ชายหนุ่มร้องเสียงหลง

เด็กหนุ่มไม่สน นั่งลงเคี้ยวข้าวคำแรกตุ้ยๆ.... ชั่วอึดใจ ไอ้ปากดีก็หยิบจานข้าวของตัวเองมากินด้วย พอเคี้ยวคำแรกลงคอ “พอแหลกร่าย”

ดูมัน! ...... “อร่อยเหอะ อย่ามาว่าพอแหลกร่าย ผมมั่นใจนะเว้ย” เด็กหนุ่มโอ่ตัวเอง จริงๆ นะ เขามั่นใจฝีมือเจียวไข่ของตัวเองโคตรๆ เขาฝึกจนเต็งที่เคยด่าเขาว่า “หมาไม่แดก เปลืองของกูแท้ๆ” กลายเป็นพูดว่า “มึงไปตั้งโต๊ะขายกับกูตอนงานสงกรานต์ป๊ะ เก็บเงินไว้เป็นค่าถุงยางมึงอ่ะ 5555555+” *0* เมียนักพัฒนา

“ฮึ แฟนกูทำหร่อยกว่านี้” ชายหนุ่มจ้วงคำไข่ชิ้นใหญ่เข้าปาก แล้วตามด้วยข้าวสวย มันคับปากจนพูดไม่ได้ละ

“โหย คนเรา เลี่ยนว่ะ” ขำครับ ท่าจะติดรสมือเมีย ฮา.....

พอกินเสร็จ พี่แกรับอาสาล้างจานชามให้ เรานั่งรอจนท้องหายตึง ก็ไม่มีใครมาสักที ไม่รู้จะทำยังไง เลยตกลงกันว่า จะเอาค่าเสียหายใส่ถุงวางไว้ในถังน้ำแข็ง พร้อมโน้ตบอกที่มาที่ไปของเงินแทนนั่งรอเฉยๆ ให้เสียเวลา ทีแรกพี่แกบอกให้วางไว้บนโต๊ะเนี่ยแหละ จะได้เห็นชัดๆ แต่ผมไม่ได้อ่ะ คนสมัยนี้เชื่อใจได้ที่ไหน ผมก็เสนอถังน้ำแข็ง กะว่าไงๆ คนเฝ้าก็ต้องเปิดถัง 100 % ......บ้ามากใช่มั้ย ไม่หรอกครับ มีคนที่บ้ามากกว่า

“จริงของมึง” ชายหนุ่มพูดพลางเดินเอาถุงเงินและจดหมายไปวางไว้ในถังน้ำแข็ง

แล้วเราสองคนก็ไปกันต่อ สักประมาณ 2 ชั่วโมงได้ เราก็มาถึงในเมือง ตอนนี้ทุ่มนึงแล้ว แต่เมืองเล็กๆ ไกลปืนเที่ยงแบบนี้ สภาพเหมือนเกือบร้างผู้คนก็ไม่ปาน

มอเตอไซด์จอดลงที่หน้าเรือนไทยหลังใหญ่ คาดว่าน่าจะเป็นที่ว่าการอำเภอ
ชายหนุ่มถอดหมวกกันน๊อคแล้วหันมาถาม “มึงจะไปไงต่อ มันไม่มีรถโดยสารล่ะมั๊ง”

“สงสัยไม่ใช่หน้าท่องเที่ยว เงียบจังเนอะพี่” ชายหนุ่มเหลียวมองไปรอบๆ

“มึงโทรหาแฟนมึงดิ ให้มันมารับ” ชายหนุ่มเตือนเขา

จริงด้วย.... เขาหยิบมือถือขึ้นมากด รอสายสักครู่ ปลายสายก็รับสาย  “อยู่ไหนอ่ะ มารับหน่อยดิ อยู่หน้าที่ว่าการอำเภอแล้วเนี่ย”

ปลายสอบตอบว่า “เรื่องของมึง ดูแลตัวเอง กูอยู่ xxxxxx” พูดจบปุ๊บก็วางสายไปเลย

เด็กหนุ่มหน้าเหวอ อยู่ xxxxxx มันคนละจังหวัดเลยนะเว้ย นี่มันทิ้งกูจริงๆ เหรอเนี่ย ............ไอ้ใจดำ------เด็กหนุ่มกดมือถือไปหาคนใจดำอีกครั้ง คราวนี้มีแต่เสียงให้ฝากข้อความ เขาย้ำๆ หลายรอบ เขาไม่รู้ตัวจนกระทั่งชายหนุ่มสะกิดไหล่เขา

“ไงวะ แม่งหน้าเครียดเชียว”

“มันไป xxxxxx แล้วพี่ แม่งเอ้ย ทิ้งกู....พี่ มีรถต่อไป xxxxxx มั้ยอ่ะ เดี๋ยวผมนั่งรถไปเตะมันเดี๋ยวนี้ล่ะ”

“จะมีเร้อ...เดี๋ยวนะ ลุง ลุง จอดหน่อย” ชายหนุ่มหันไปเจอลุงคนนึงที่ขี่จักรยานผ่านมา “ลุงที่นี่มีรถไป xxxxxx รึเปล่าครับ”

“มี...โน่น ไปขึ้นที่หน้าตลาดโน่น” ชายแก่ชี้นิ้วไปข้างหน้า ไม่น่าจะไกล เพราะเสียงที่แกพูดแค่ “โน่น” ไม่ใช่ “นู๊นนนนนนน”

“ไปเลยพี่ รบกวนหน่อย เดี๋ยวรถหมด” ชายหนุ่มไหว้ขอบคุณลุงแล้ว สะกิดแขนชายหนุ่มให้ไปส่งให้หน่อย

“เฮ้ย ไม่มีรถแล้ว” ชายแก่ร้องเสียงหลง

“เออเนอะ นี่มันมืดแล้ว มึงไปพรุ่งนี้เช้าเหอะ” ชายหนุ่มพูดเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ ที่นี่ไม่ใช่เมืองใหญ่ มันจะรถให้สะดวกใช้ทั้งวันทั้งคืนได้ยังไงกัน

“ไม่มีหรอกไอ้หนุ่ม รถมันเสีย อยู่ในอู่ลุงแน่ะ กว่าจะวิ่งได้คงต้องรอหน่อย สองสามวันมั๊ง เนี่ยลุงเพิ่งลากมันไปเก็บที่อู่เมื่อกี้เอง” ชายแก่บอก

“อ้า------ว” เด็กหนุ่มเหวอไปทันควัน ถ้าไม่รีบตามไป เต็งก็จะว่าเอาได้ว่า “มึงไม่รีบมาง้อกูเลยนะ ไม่รักกูใช่มั้ย มึงมีตัวเลือกใช่มั้ย เห็นกูเป็นของตายของมึงรึไง ฯลฯ”

สองสามวัน แค่วันเดียวง้อเมียยังลำบาก รออีกสองสามวันเมียคงกลายเป็นอื่น.....ตูอยากตาย คดีเก่าก็ยังไม่ได้สาง คดีใหม่ก็เตรียมจ่อ ชีวิตน้อยๆ ของตูช่างหรรษาเหลือเกิน

“มึงเป็นไรไปวะ หน้าไม่ดีเลย” ชายหนุ่มถาม

“พี่ ผมรอไม่ได้ง่า” เด็กหนุ่มบอกเสียงเครือ

“เออ ไว้พรุ่งนี้ค่อยคิดเว้ย ไป หาที่นอนกันก่อน มึงก็โทรไปบอกแฟนมึงซะด้วย” ชายหนุ่มพูดพลางเดินกลับไปที่รถของตัวเอง

เด็กหนุ่มพูดพลางเดินตามเขาไป “ช่างแม่ง ไอ้คนใจดำ แม่งมันไม่รับสายผมอ่ะพี่”

“เป็นมึง มึงโกรธแฟนมึง แล้วมึงอยากรู้มั้ยว่า แฟนมึงเป็นไง กินดีมีที่ซุกหัวนอนมั้ย” ชายหนุ่มพูดจบก็ใส่หมวกกันน๊อก ก้าวขาขึ้นคร่อมมอเตอไซด์ เด็กหนุ่มขึ้นไปนั่งซ้อนพลางนึกตามคำที่เขาพูด...ก็จริงนะ คบกันมาตั้งนาน ทะเลาะกันมาก็เยอะ แต่โกรธก็ส่วนโกรธ ง้อก็ส่วนง้อ โมโหมันแทบตายแต่เขาก็ยังอยากรู้ว่า เต็งอยู่ไหน เต็งกินข้าวรึยัง เต็งนอนหลับมั้ย

เต็งไม่ปิดโทรศัพท์ อาจรอให้เขาฝากข้อความอยู่ก็ได้ เวลาเต็งโมโห เต็งไม่ชอบเถียงกับเขา เพราะนิสัยเต็ง ยิ่งเถียงกันยิ่งตั้งแง่มากขึ้น

....

...

..

.

ชายหนุ่มขี่รถมาที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่ง เขาจองห้องไว้แล้ว เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองและรบกวนเจ้าของบ้าน เด็กหนุ่มจึงพักร่วมห้องกับชายหนุ่ม....ผู้ชายด้วยกัน ไม่เสียหาย แถมต่างคนก็ต่างมีแฟนแล้ว ยิ่งไม่มีปัญหาเข้าไปใหญ่

“เต็ง ไม่รับสายกูเลยนะ....เฮ้อ แม่งไม่มีรถว่ะ บ้านนอกสุดๆ รถเข้าไป xxxxxx เสียกว่าจะซ่อมเสร็จก็สองสามวัน ไว้พรุ่งนี้กูค่อยหาทางไป xxxxxx ละกัน อ้อ กูได้คนใจดีเค้าขี่มอเตอไซด์มาส่งในเมืองอ่ะ นี่ก็มาอาศัยนอนกับเค้าด้วย...อย่าปิดโทรศัพท์นะ ฝันดีนะเต็ง”

ฝากข้อความเสร็จ เขาก็นั่งเหม่อถึงเต็ง ถ้าเต็งใจอ่อนโทรกลับมาก็คงดี ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หัวใจเขาฟองฟูขึ้นมาทันที คิดถึงที่รัก ที่รักก็โทรหา .....มองลงไปที่มือถือในมือ!!!

ไม่มีไฟกระพริบ...แต่นี่มันเสียงเรียกเข้าของเครื่องตูนี่นา?

ระหว่างที่งุนงงอยู่นั้น ประตูห้องน้ำก็เปิดออกมา ชายหนุ่มเดินรีบเร่งไปที่หัวเตียง หยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วก็กดปุ่ม...ลำโพง

อ้าว ของพี่แกนี่หว่า เฮ้อ นึกว่าเต็งโทรกลับมา *0*

“เชี่ยโต้! มึงอยู่ไหน? ทำไมไม่รอกู สัดนี่ รอผัวแค่นี้ไม่ได้เลยใช่มั้ย? อยู่ไหนบอกกูมาเดี๋ยวนี้!” เสียงเข้มเหี้ยมดังออกมาจากลำโพงของเครื่องพี่ใจดี

เด็กหนุ่มอึ้งทึ่งเสียว.......ผัว! ? เจ้าของมือถือเป็นผู้ชาย เสียงคนที่โทรเข้ามาก็ผู้ชาย-----จุดไต้ตำตอ นี่หรือคือเสียงของคนที่เจียวไข่อร่อยกว่ากู......... แม่งเสียงดุว่ะ กลัวจนขุนลุกซุ่เลยวุ้ย

ชายหนุ่มยื่นมือถือของตัวเองมาให้เด็กหนุ่ม “อ่ะ มึงบอกมันทีว่าที่นี่ที่ไหน กูสระหัวก่อน แม่งยังไม่ทันทำห่าเลย” พูดจบก็เดินเข้าห้องน้ำไป

“เชี่ยโต้ มึงพูดกับใคร? นี่มึงอยู่กับชู้เรอะ! มึงหนีผัวไปเล่นชู้เรอะ! มึงอยู่ไหน ไอ้โต้ มึงจะบอกกูดีๆ หรือจะให้กูหาเอง... ให้กูหาเองชู้มึงศพไม่เหลือกระดูกแน่ สัดโต้ เชี่ยนี่ เงียบทำไม มึงเงียบทำไม.........”

เสียงในสายสบถไม่หยุดราวกับลาวาที่ปะทุขึ้นมาจากภูเขาไฟกลางทะเล....ร้อนจนเสียวสันหลังวาบ นี่ถ้าตูบอกว่าอยู่ไหน ตูต้องตกที่นั่งชู้ใช่มั้ย? แล้วเฮียแกเดือดขนาดนี้ จะฟังคำอธิบายของตูมั้ยเนี่ย!!!!! อ๊ากกกก ตูอยากตาย

“เอ่อ พะ พะ พะ พี่...กะ กะ กั๊บ....” ปากสั่นวุ้ย

“มึ--------ง ไอ้ชู้ มึงชื่ออะไร! มึงอยู่ไหน!” เสียงดุเข้มหยุดอยู่แค่นั้น เพื่อรอคำตอบ

ถ้าตูตอบคือตูขุดหลุมศพให้ตัวเองใช่มั้ย แต่พี่ใจดีให้บอกนะ ว๊ากกกกก เอาไงดีวะ .....อ้อ ต้องบอกว่าไม่ใช่ชู้ก่อน ถึงค่อยบอกสถานที่

“พะ พี่ครับ ผม...ผมไม่ใช่ชะ ชะ ชู้...”

“มึงจะบอกว่ามึงเป็นผัว แต่กูเป็นชู้รึไอ้สัด!” เสียงเข้มกว่าเดิมอีกเท่าทวี

ตาย กูตาย แม่ง เข้าใจเท่าที่บอกเป็นมั้ย อย่าดราม่าผสมได้มั้ยฟ๊ะ! “มะ มะ ไม่ใช่พี่ คะ คือ คือ...”

“กูรู้ละว่าพวกมึงอยู่ไหน” เสียงเย็นยะเยือกกรอกขึ้นมาในสาย

รู้ได้ไง? ได้ไง??.......!!!!!

“เดี๋ยวกูเตรียมทั้งมีดทั้งปืนไปให้มึงเลือก นอนรอกูไปก่อนนะ ไม่นาน!” พูดจบปุ๊บก็วางสายไปเลย

เด็กหนุ่มหน้าเหวอ “เชี่ย รู้ได้ไงวะ แม่งโม้ป่าวเนี่ย” นั่งงงได้สักพัก พี่ใจดีก็เดินออกมาจากห้องน้ำ

“พี่ แฟนพี่อ่ะ ไม่ฟังผมเลย” รีบฟ้องไว้ก่อน

“แล้วบอกมันรึเปล่าว่าอยู่ไหน” พี่ใจดียืนเช็ดผมเหมือนไม่สนใจ

“เปล่าอ่ะ กำลังจะพูด แต่พี่เค้าบอกว่า รู้แล้ว เดี๋ยวมา แล้วก็วางสายไปเลย ผมยังไม่ทันพูดไรเลยง่ะ” ฟ้องต่อ

“พี่ พี่เค้าคิดว่าผมเป็นชู้พี่อ่ะ เค้าจะเอาปืนมายิงผมด้วย เนี่ยพี่เค้าบอกจะเอามีดมาด้วย โอ๊ย ขนลุก เสียงดุฉิบหาย” เด็กหนุ่มเกากบาลตัวเอง

“ฮ่าฮ่าฮ่า งี้แหละ มันชอบคิดเยอะ มึงไม่ต้องซีเรียส กูอยู่ทั้งคน” พี่ใจดียิ้มแฉ่ง

เด็กหนุ่มเริ่มสบายใจ “เฮ้อ พี่บอกแฟนพี่เค้าให้ดีน๊า ผมยังอยากไปง้อแฟนผมอยู่น๊า ไม่เป็นผีเฝ้าห้องนี้นะพี่ น่ากลัว น่ากลัวมั๊กมั๊ก ตัวจริงเป็นไงเนี่ย ไม่อยากคิด”

“อืม ก็เหมือนเสียงมันนั่นแหละ ไปมึงไปอาบน้ำซะ เดี๋ยวดึกมันจะหนาว ของอะไรมึงจะใช้ก็ใช้ไป กูไม่ถือ”

“ครับ”



******


หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 20-03-2012 21:17:07


ระหว่างนั่งดูโทรทัศน์ เด็กหนุ่มก็คิดขึ้นมาได้

“พี่ พี่”

“อื้อ”

“แล้วแฟนพี่เค้ารู้ได้ไงว่าพี่อยู่ไหน”

“อ๋อ มันเช็คจากสัญญาณโทรศัพท์กู”

“ฮ้า ทำได้ด้วยเหรอ”

“ได้ดิ” ชายหนุ่มก็บอกวิธีที่แฟนตัวเองตรวจสอบที่ที่เขาอยู่ด้วยสัญญาณมือถือ เด็กหนุ่มฉุกคิด...เต็งจะรู้มั้ย? เต็งก็เก่งนะ ฉลาดมากด้วย

“มึงโทรบอกแฟนมึงยัง” ชายหนุ่มถามขึ้นมา

“ครับ ฝากข้อความเอา...นี่พี่ แฟนพี่เค้าจะมาถึงคืนนี้เลยป่าว พี่โทรไปบอกเค้าหน่อยดิว่าเข้าใจผิด เกิดอยู่ดีๆ มาตอนนอนหลับ ผมกลัวง่ะ” เด็กหนุ่มคิดแล้วสยอง ผู้ชายที่กำลังหึงเนี่ย มันทำได้ทู๊กอย่าง

“ไม่ กูโกรธมันอยู่ กูไม่คุยกับมัน” ชายหนุ่มตอบเสียงแข็ง

“อ๋าว พี่ พี่พี่ทะเลาะกันก็เรื่องของพี่พี่ แต่ผมจะซวยเอานา ไม่เอาอ่ะ นอนไม่หลับ โทรไปหน่อยดิ๊” เด็กหนุ่มลุกขึ้นไปเขย่าแขนชายหนุ่ม

“ไม่ กูไม่คุยกับมัน แม่ง ไม่อยากโมโหมันมากกว่านี้ มึงไม่สบายใจก็โทรไปเอง เอาเครื่องกูหรือของมึงโทรไปก็ตามสบาย แต่กรูไม่คุย” ชายหนุ่มเสียงแข็ง

เฮ้ออออ เต็งจะเป็นเหมือนพี่ใจดีมั้ยน๊า ไม่คุยกับเค้าเพราะไม่อยากโมโหเค้าใช่ป๊ะเต็ง....เด็กหนุ่มทำหน้าเซื่อง จะให้เขาโทรเอง มีหรือพี่เสียงเหี้ยมจะฟัง จากประสบการณ์ไม่กี่นาทีนั่น......ยาก ตูไปสอนแมวให้ไหว้จะง่ายกว่ามั๊ง *0*

มือใหญ่ยกขึ้นมากุมหัวของเด็กหนุ่ม “กูอยู่ด้วยน่า มึงไม่เป็นไรหรอก กูชกคนเป็น ถึงมันเป็นแฟนกู กูก็กล้าชกมัน ถ้ามันทำอะไรมึง กูทำมันคืนให้เท่าตัวเลยเอ้า สบายใจป๊ะ”

อ๊ากกกกกกกกกกก เท่ง่า.... แต่เค้าไม่กล้าชกเต็งหรอก เค้าทำใจมะด้าย “เฮ้ออออออออ......”

“เชี่ยไรเนี่ย เป็นไร?”

“พี่กล้าชกแฟนพี่ด้วยเหรอ?” เด็กหนุ่มมองเหมือนไม่เชื่อ

“ไมอ่ะ กูตั๊นหน้ามันบ่อยไป พูดไม่รู้ฟังก็ต่อยมันสักทีสองที เดี๋ยวมันก็เงียบ” ----- แรงมากครับ ป๋มคารวะ

“นี่พี่โต้ รถพี่อ่ะ เจ๋งว่ะ เท่าไหร่อ่ะพี่ กี่ซีซี ใช้มานานยัง เสียงนิ่มโคตร-----” ผมเริ่มเลื้อยยลงมานอนคุยเล่นกับพี่ใจดี ปกติก็ขี้เกียจเป็นนิสัยอยู่แล้ว ยิ่งเต็งไม่อยู่ มันจะเอาแต่นอน แล้วก็นอน (ถ้าเต็งอยู่ก็นอน แต่นอนกอดเต็ง คิกคิกคิก)

“มึงรู้ชื่อกูได้ไง” ชายหนุ่มทำหน้างง

“อ๋าว ก็แฟนพี่เค้าเรียกพี่งี้นี่ เอ๊ะ รึผมฟังผิด” เริ่มไม่แน่ใจตัวเอง

“เออ จริงว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วมึงชื่อไรเนี่ย จนจะนอนเตียงเดียวกันอยู่แล้ว แม่งยังไม่รู้ชื่อมึงเลย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เหย จริงอ่ะ ลืมได้ไงวะเนี่ย ก๊ากกกกกก”

มันน่าขำมาก อยู่ด้วยกันมาตั้งกี่ชั่วโมง ตลอดทาง ไม่มีถามชื่อแซ่กันสักคำ แต่พูดกูมึงวะเว้ยกันแหละ ขนาดชื่อพี่ใจดี รู้ก็เพราะโทรศัพท์ หากแฟนพี่เค้าไม่โทรมา พวกเขาจะถามกันมั้ยก็ยังต้องคิด ---ฮา

นอนคุยกันอีกเป็นชั่วโมงถึงง่วง ถามกันว่ามาเที่ยวที่นี่ทำไมทั้งที่เป็นนอกฤดูท่องเที่ยว คำตอบคือ ตามใจแฟน...

ถามว่าโกรธเรื่องไรกัน คำตอบคือ แม่งเรื่องไร้สาระสุดๆ... ถามว่าแฟนเป็นคนไง คำตอบคือ อวดแฟนตัวเองดีงั้นดีงี้ พูดแล้วก็นึกกันได้ว่า แล้วจะทะเลาะกันทำไม อยู่ห่างกันก็คิดถึง

พี่โต้บอกว่า โมโหแฟนตัวเอง ชอบหึงโอเวอร์ แต่พี่โต้ก็รู้สึกดี พี่โต้เล่าว่า รำคาญแฟนทีก็หนีมาที พอเห็นแฟนมาตามถึงที่ก็ดีใจอ่ะนะ ใจอ่อนตามเค้ากลับไป

“แล้วพี่ไม่บอกแฟนพี่ล่ะ อย่าทำแบบนี้ กูรำคาญ”

“กูพูดแล้ว แต่แม่งไม่เห็นมันทำได้ คงหึงเป็นสันดานมั๊ง กูมีไรให้น่าหึงวะ” พี่โต้ทำหน้ากลุ้มใจมาก

“อ๋าว เค้ารักของเค้าโน๊ะ พี่ไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีดี” เด็กหนุ่มพูดกลัวหัวเราะ...ดูท่าพี่โต้แกคงไม่รู้ตัวว่าตัวเองแม่งเท่ขนาดไหน หน้าตาไม่ได้ดีจัด แต่รวมๆ แล้วเท่ฉิบหาย ยิ่งท่าตอนขี่มอเตอไซด์นะ อย่าให้แซด ระดับนี้ไม่ว่าชายหรือหญิงพี่ท่านก็สอยได้หม๊ด

“โห ไอ้โต งั้นมึงคงมีดีเหมือนกันเนอะ น้องเต็งเลยหึงมึงเนี่ย ไหน ไมกูมองไม่เห็นดีเลยว๊า” พี่โต้พูดพลาง เอามือปัดป่ายเหมือนหาอะไรสักอย่างบนหน้าบนตัวเขา

“พี่โต้ ไม่ต้องค้นหรอก โตให้เต็งเห็นคนเดียว” ยียวน-----ชายหนุ่มล็อคคอขยี้หัวไอ้เด็กขี้อวดด้วยความหมั่นเคี้ยว
เล่นมวยปล้ำกันไปได้สักพัก เด็กหนุ่มก็แพ้แรงของชายหนุ่ม...นอนหอบอีกพักนึง รายการรอบดึกที่พี่โต้รอดูก็จบ แล้วพวกเขาสองคนก็ปิดไฟนอน


*********



“โต โต โต”

เสียงเรียกเหมือนมาจากที่ไกลๆ เด็กหนุ่มปรือตาขึ้นแบบงัวเงีย

“อื้-------อ”

“กูจะไปใส่บาตร ไปด้วยกันมั้ย?” ชายหนุ่มบอก

“ม่ายยยยย จานอน” ไม่ลุกหรอก อากาศกำลังน่านอน เอาช้างมาฉุดไอ้โตก็ไม่ลุกจากเตียงเด็ดขาด
เสียงกุกกักดังเป็นระยะ พอเสียงปิดประตูดังขึ้นหนึ่งที ความสงบก็มาเยือน แล้วเด็กหนุ่มก็หลับฝันหวานต่อไป

.....

....

...

..

.

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

และดังขึ้นเป็นรอบสอง

รอบสาม

รอบสี่

รอบห้า

รอบหก

รอบเจ็ด......เด็กหนุ่มงัวเงียยกมือไปควานหามือถือ

พยายามลืมตาที่หนักอึ้งมองชื่อคนที่โทรเข้า “เต็งที่รัก”

!!!!!!!!! แฟนโทรมา ตื่นเดี๋ยวนี้ไอ้โต

“โหล เต็งเหรอ? มีไรอ่ะ?”

“.........” ความเงียบเป็นสัญญาณให้โตตื่นตัว

“อุ้ย กี่โมงแล้ววะ?” ยกหูมาดูเวลา 8 โมงกว่า ยังเช้าอยู่ แต่ก็ควรลุกจากที่นอนเพื่อเดินทางไปง้อแฟน “โตตื่นแล้ว ตื่นเดี๋ยวนี้แหละ เดี๋ยวอาบน้ำไปหารถเดี๋ยวนี้แหละ จุ๊บๆ จุ๊บๆ แต๊งค์นะ เต็งที่โทรมาปลุก”

พูดจบก็วางสาย รีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

ไม่ใช่ทะเลาะกันครั้งแรก เด็กหนุ่มรู้จังหวะจะโคนกับแฟนตัวเองดี ขณะที่อาบน้ำเขาก็นึกถึงเรื่องที่คุยกับพี่โต้เมื่อคืนขึ้นมาได้ แฟนพี่โต้ชอบหึงพี่โต้ แต่หึงก็หมายถึงรัก ถึงพี่โต้รำคาญจนต้องหนี แต่พอแฟนมารับ พี่โต้บอกว่าใจอ่อนทุกที ก็รักเขานี่นา .....เหมือนเขากับเต็งเลย

ก่อนหน้านี้ที่โตโดนเต็งปล่อยทิ้งไว้กลางทาง เอาจริงๆ เลยนะ โตกะว่าจะเลิกกับเต็งซะให้มันรู้แล้วรู้รอด โตเคยคิดว่า ทำไมรักกันแบบสงบๆ ไม่ได้ ทำไมต้องทะเลาะกันเรื่อยเลย ทำไมเนอะ ทำไมหนอ......เด็กหนุ่มคิดหาคำตอบมาตลอดทางที่ซ้อนมอเตอไซด์มากับพี่โต้

พอมองพี่โต้....เหมือนเขาเห็นเต็งในอนาคตยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก

ฟังที่พี่โต้เล่า พี่โต้คบกับพี่เจตมาสิบปีแล้ว ตั้งแต่ยังเรียนมัธยมนู่น คบกันเลิกกันอยู่สามครั้ง จนครั้งที่สามล่าสุดนี่ล่ะที่คบกันยาวมาถึง 5 ปี ก็อย่างที่เห็น เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนเลยสักนิด ดีกัน ทะเลาะกัน รำคาญมัน เบื่อมัน แล้วก็หายโกรธมัน แต่ก็ลากกันมาได้จนถึง 5 ปี

.....เพราะรัก คำเดียวเพียวๆ

เมื่อคืนโตถามตัวเองว่า “เลิกกับเต็ง” ได้มั้ย

คำถามต่อมาที่ถามตัวเอง “แล้วมึงจะอยู่ยังไง?”

เต็งซักผ้าให้ เต็งรีดผ้าให้ เต็งพาไปซื้อชุดใหม่ เต็งคอยซื้อถุงเท้าเล่นบอลมาไว้ให้เสมอ ตั้งแต่มีเต็งเขาไม่ต้องใส่ถุงเท้าขาดๆ ไปเล่นบอล เพราะเต็งบอกว่า มันอันตราย แต่เต็งก็เคยเจาะลมลูกบอลของเขาเพราะเต็งเกลียด แล้วเต็งก็อารมณ์ไม่ดี เหมือนผู้หญิงที่เมนส์มา *0* เขาเลยต้องพาเต็งไปเที่ยวเต็งถึงอารมณ์ดีขึ้น กลับมาจากเล่นบอลเหนื่อยๆ เต็งก็ทำกับข้าวรอไว้แหละ ตอนเที่ยงเต็งจะโทรมาถามว่ากินไรไปมั่ง จะได้ไม่ซ้ำกัน

ค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าโทรศัพท์-ค่าเช่าห้อง-ค่าสารพัดอย่างรายเดือน เต็งเอาไปจัดการให้หมด แล้วส่งสลิปมาให้เขาเก็บไว้ กำชับว่าห้ามทิ้ง เก็บให้ครบปีก่อนทิ้ง เมื่อเร็วๆ นี้เต็งชวนทำประกัน บอกว่าเผื่อเกิดอุบัตเหตุ ไม่เข้าใจหรอกแต่ก็ทำไปพร้อมเต็ง เพราะเต็งบอกว่า “คุ้ม”

ครั้งนึง เต็งต้องไปซัมเมอร์ต่างจังหวัดสองอาทิตย์ เต็งสอนให้เขาหุงข้าว ทอดไข่ ลากเขาไปชี้ว่า ร้านไหนอร่อย ร้านไหนดี เอากระดาษจดแปะไว้ที่ห้องว่าหากจะกินอันนี้ให้ซื้อร้านนี้ พอเต็งไม่อยู่ เขามองกระดาษเอสี่ที่แปะรายการว่าร้านอะไรอร่อย เอาแค่รายการที่เขาชอบมันก็ปาไป 6 แผ่นแหละ *0* เต็งจำไงไหวเนี่ย!

หากไม่มีเต็ง แล้วเขาอยู่ได้มั้ย

คำตอบคือได้.... แต่ไม่มีเต็งมันเหงาอ่ะ

แปล๊กแปลก วันไหนที่เต็งมีเรียนแต่เช้า เรียนทั้งวัน นอกจากทำธุระของตัวเองแล้ว เขาจะเอาแต่นอน แล้วก็นอน นอนมันไปเรื่อยจนกว่าเต็งจะมาปลุก เต็งมาปลุกแล้วเต็งก็จะบ่น ไอ้ขี้เกียจ บรา บรา บรา บรา.....

เขาไม่เคยโกรธเต็งเลยสักครั้งที่เต็งบ่นว่าตัวเอง หนุกดีซะอีก ได้เห็นตัวเองในมุมมองของเต็ง บางอย่างที่เต็งบอก ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่า นี่ตูเป็นงั้นจริงเหรอ ฮา--------

อยู่กับเต็งแล้วสบายใจ แต่เหนื่อยเวลาเต็งโกรธหรือโมโห แต่หากไม่เต็งไม่เดือด เขาก็ลอยตัว

คำตอบของคำถามที่ว่า “เลิกกับเต็งได้มั้ย” จึงคือ “ไม่เลิกดีกว่า”



**********



แต่งตัวเสร็จ เด็กหนุ่มก็เดินออกไปหาพี่โต้...จำได้ว่าพี่แกไปใส่บาตร

เขาเดินไปในบ้าน ถามได้ความว่า พี่โต้ออกไปซื้อกับข้าวกับคุณแม่ (แม่ของเจ้าของโฮมสเตย์) เด็กหนุ่มจึงถามทางไปตลาด กะว่าจะออกไปบอกพี่โต้ว่าตื่นแล้ว พร้อมกับถามหาวิธีไป xxxxxx ด้วย

เด็กหนุ่มเดินออกมาจากบ้านได้ไม่กี่ก้าว เขาก็ถูกเงาดำลากกลับเข้าไปในซุ้มไม้ของบ้าน ชายร่างสูงบึกบึนสวมชุดดำเทาประชิดตัวเขา เด็กหนุ่มรู้สึกถึงของแข็งที่จิ้มอยู่ช่วงท้อง ข้อมือที่ถูกเขาจับไว้เจ็บปลาบเป็นช่วงๆ

“ห้ามร้อง! ไม่งั้นกูยิงมึงแน่!”

พูดจบ ชายคนนั้นก็ดึงเขาเข้าไปในบ้านพัก เขาปิดประตู แล้วผลักเขาจนเซซัดไปชนผนังไม้ เด็กหนุ่มทรุดกองกับพื้น เจ็บจุกกับแรงกระแทก เขาได้ยินเสียงคนคนนั้นเดินปราดเข้ามา ใจคิดว่าโดนซ้อมแน่ ทว่าไม่ใช่...

ชายร่างสูงเดินเข้าไปสุดห้อง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าต่าง เขาล้วงเอามีดด้ามควายออกมาจากเสื้อ

เด็กหนุ่มเห็นหน้าตาของอีกฝ่ายชัดเจนเมื่อหันเหสายตาออกมาจากมีดด้ามนั้น...ชายคนนี้สูงมาก เกือบสองเมตรได้ ผิวขาว หน้าตาโคตรพ่อโคตรแม่หล่อ แต่ตาดุมาก จากการแต่งตัวแล้วไม่น่าใช่โจรผู้ร้าย

.....แล้วเป็นใคร?

“ระเริงกันใหญ่เลยนะพวกมึง” เสียงเรียบเอ่ยแหวกความเงียบ

“อะไรนะครับ?” เด็กหนุ่มฟังไม่ถนัด อันที่จริงเขาฟังรู้เรื่อง แต่ไม่รู้ความหมายต่างหาก

“กกกันทั้งคืนเลยสิ เตียงมันถึงได้ยู่ยี่ขนาดนี้” ชายหนุ่มหน้าหล่อกล่าวเสริม ปากขมฟันแน่นจนเห็นกรามขึ้นชัด

“หือ?.......เฮ้ย! พี่! แฟนพี่โต้!”

“เออ...ส่วนมึงก็...ชู้ไอ้โต้” ชายหนุ่มหยิบมีดด้ามควายลุกเดินมาทางเขา

“ไม่ใช่พี่ ผม....” ยังพูดไม่จบดี พี่หน้าหล่อก็เดินหน้าเหี้ยมตรงเข้ามา เด็กหนุ่มรีบลุกวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำ
หล่อมาก แล้วก็น่ากลัวมาก พี่โต้ไม่อยู่ แฟนพี่แกก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้า ให้เขานั่งเฉยๆ ตรงนั้น เกรงว่าอาจน่วมปางตายก่อนได้อธิบายว่า ผมไม่ใช่ชู้ครับพี่

เสียงสบถเหี้ยมไม่ต่างจากที่ได้ยินในโทรศัพท์ดังผ่านประตูห้องน้ำเข้ามาพร้อมแรงกระแทกปึงปัง ไม่รู้ว่าประตูห้องน้ำจะทนแรงควายเขาได้แค่ไหน แต่ระหว่างนี้เขาต้องหาตัวช่วย...โทรหาพี่โต้ เมื่อคืนพี่โต้บอกว่าปราบแฟนตัวเองได้

เบอร์พี่โต้ เบอร์พี่โต้ เบอร์พี่โต้ เบอร์พี่โต้ เบอร์พี่โต้..........!!!!

ไม่มี๊----------------

ฉิบหายแล้ว ทันทีที่พบว่าตัวเองไม่มีเบอร์ตัวช่วย มีดด้ามคมกริบปักฉึกที่บานประตู

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไอ้โต! มึงตายแน่!

คมมีดถูกดึงกลับไป แล้วปักเสียบเข้ามาใหม่ ซ้ำๆ ซ้ำๆ จนเริ่มเห็นรูโหว่เป็นทางยาว

เสียงสบถด่าราบเรียบ เสียงปึงปังจากการกระแทกประตู ไม่สั่นประสาทเด็กหนุ่มเท่าคมมีดที่ปักฉึก ฉึก เข้ามา----ไอ้พี่โต้ ไหนบอกจะช่วยตู มันหายหัวไปไหน!

“ถ้ามึงออกมาดีๆ มึงไม่ตายหรอก กูขอแค่ระบายอารมณ์นิดหน่อยก็พอ” เสียงเข้มเย็นดังลอดเข้ามา

เด็กหนุ่มอยากตะโกนบอกเหลือเกินว่า พี่เข้าใจผิด ผมไม่ได้เป็นชู้กับแฟนพี่ แค่ขออาศัยติดรถมาด้วยเฉยๆ เชื่อผมเหอะ....แต่ตอนนี้ปากมันแข็งจนพูดไม่ออก ขามันสั่นอย่างยั้งไม่อยู่ มันกลัวจริงๆ นะ.... หึงจนฆ่าคนได้เป็นยังไง เขาก็เพิ่งเจอกับตัววันนี้

ทันใดนั้น เสียงเรียกเข้าดังขึ้น

นายโตพลิกหน้าจอขึ้นมาดู ---- เต็งที่รัก....

เขาเอานิ้วโป้งข้างที่กำมือถือไว้กดรับสาย แต่เขาไม่สามารถยกเอามันมาแนบหูได้ มือเขาแข็งไปแล้ว.....

ปุ๊ก---- ทันทีที่เสียงปืนลั่นเบาๆ หนึ่งนัด

ปัง----- ประตูเปิดออกเนื่องจากแรงถีบของคนที่อยู่ข้างนอก

เทพบุตรหน้าเหี้ยมนายหนึ่งปรากฏแก่สายตาที่ค้างโตของนายโต รอยยิ้มเหี้ยมฉีกที่มุมปาก ปืนแบบเก็บเสียงถูกเก็บเข้าไปในเสื้อ เขาเดินอาดๆ เข้ามาหาเด็กหนุ่ม ชายหนุ่มยกมือขึ้นตบแก้มเด็กหนุ่มเบาๆ คล้ายล้อกันเล่น

“เห็นแก่ที่มึงไม่โวยวาย งั้นกูเอ็นดูแบบเบาะๆ ละกันนะ” สิ้นคำนั้น กำปั้นหนึ่งก็วัดเข้าที่หน้าของเด็กหนุ่ม

เด็กหนุ่มซวบซบไปชนผนังห้องน้ำ นั่งขดกับพื้นรองรับแรงเตะจากอีกฝ่าย เด็กหนุ่มพยายามตั้งสติ เขางัดแรงฮึดไว้ในใจ วางแผนว่าจะวิ่งออกไปจากห้องให้ได้ พี่โต้อาจจะกลับมาจากตลาดแล้ว หากไม่ ถึงอย่างไรข้างนอกก็ยังมีคนอื่น ตลอดเวลาที่ผ่านมาแฟนพี่โต้ตั้งใจไม่ทำเสียงดังมากจนเกินไป ขนาดปืนยังใช้ที่เก็บเสียง หากเขาออกไปข้างนอกได้ แฟนพี่โต้น่าจะสงบลงได้บ้าง

ได้จังหวะแล้ว!

เด็กหนุ่มเอาตัวพุ่งชนชายหนุ่มจนเขาซวนเซยืนไม่อยู่ อาศัยจังหวะนี้เอง เด็กหนุ่มรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำ แต่เพราะถูกถีบแตะอย่างแรง ขณะที่จะกระโจนวิ่งไปทางประตูเขาก็เกิดเจ็บปลาบขึ้นมาทั้งตัว การชะงักเพียงเสี้ยววินาทีส่งผลยิ่งใหญ่ต่อชีวิต

“แรงดีนักนะมึง” ชายหนุ่มขยุ้มผมของเด็กหนุ่มไว้ในมือ จากนั้นก็เหวี่ยงเด็กหนุ่มไปในทิศทางตรงข้ามกับประตู เด็กหนุ่มล้มลงไปบนที่นอนนุ่มๆ ขณะที่เด็กหนุ่มกำข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ทั้งสองข้างและต่างเย่อยื้อกันอยู่นั้นเอง

“เฮ้ย! ทำไรวะ!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางประตู ร่างนั้นวิ่งเข้ามาถีบชายร่างสูงจนซวนเซตกลงไปจากเตียง ผู้ที่เข้ามาใหม่รีบประคองตัวนายโตขึ้นมา “เป็นไรมั้ยโต เจ็บตรงไหนบ้างวะ ไหวมั้ยมึง”

นายโตโล่งอกที่มีคนมาช่วย

“มึงเป็นใคร อย่าเสือก มันเป็นชู้กับเมียกู” ชายหนุ่มลุกขึ้นมาแถลงสาเหตุ

“เมียมึงเป็นใครกูไม่รู้ แต่นี่แฟนกู ไอ้เหี้ย! มึงลองทำอะไรแฟนกูสิ กูไม่เลี้ยงมึงแน่!”

!!!!!!!!!!!!!!! เต็ง....เหรอ?

“แฟนมึงมันนอกใจมึง มึงจะเอามันไว้ทำซากไร” ชายหนุ่มเริ่มเสียงดังขึ้นมา

“แล้วมึงทำไมไม่ไปทำเมียมึงล่ะ ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกโว้ย” เต็งไม่ยอมอ่อนให้

“เต็ง ไม่ใช่นะ เค้าไม่ได้นอกใจเต็งนะ!” นายโตรีบแก้ตัว ให้เมียเข้าใจผิดแม้วินาทีเดียวก็บาป

“สัด! แล้วที่มึงทำมันเรียกว่าอะไร?” ชายหนุ่มตวาดใส่

“ก็เรียกว่า “ขอติดรถมาด้วย” ไง ไอ้บ้า!” โตหันหน้าไปบอก

ฮ้-------า พูดได้แล้วเว้ย! ! ! ! !

ความเงียบเข้าครอบคลุมชั่วขณะ เต็งก้มหน้ามามองแฟนตัวเองนิ่ง คิ้วของเต็งขมวด

“ก็นี่ไงเต็ง ที่เราบอกว่าขออาศัยรถพี่ใจดีคนนึงมาในเมือง แต่รถไม่มี เค้าเลยไปหาเต็งไม่ได้ เราเลยมาขอค้างกับพี่เค้า กะว่าเช้าแล้วจะหารถไปหาเต็งอ่ะ ไม่มีอะไรเลยจริงๆ นะเต็ง” นายโต้พูดจ้อ

ชายหนุ่มทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าต่างอย่างแรง โดยไม่พูดอะไรอีก ใบหน้าหล่อเข้าขั้นเทพบุตร ยู่ยี่ด้วยความงงงวย

“แล้วคนนั้นเค้ามาทำโตทำไม” เต็งเอ่ยออกมาได้ในที่สุด

“เค้าเป็นแฟนพี่โต้ เค้าเข้าใจผิดว่าเราเป็นชู้กับพี่โต้อ่ะ ใช่มั้ยพี่....พี่เจต แฟนพี่โต้ใช่ป๊ะ?” นายโตหันไปถามชายหนุ่ม

“มึง....” ชายหนุ่มพูดไม่จบก็ยกสองมือขึ้นกุมหัว พลางครางว่า “ฮึ่ยยยยยยยยยยยย เชี้ยแล้ว!”

“โต! รู้ว่าเค้าเข้าใจผิดทำไมไม่บอกเค้า ปากมีทำไมไม่พูด” เต็งเริ่มโกรธอีกคน

“ก็กลัวนี่ เมื่อกี้เต็งไม่เห็น พี่เค้าน่ากลัวโคตร เราตัวแข็งปากสั่นไปหมดเลยอ่ะ” นายโตโวยวาย

เต็งเบิ๊ดกระโหลกแฟนตัวเองทีหนึ่ง “โอ๊ย ตบหัวเค้าทำไมง่า เจ็บนะ!”

“เฮ้ย! อะไรกันเนี่ย! ไอ้โต หน้ามึงไปโดนอะไรมา! แล้วนั่นใครน่ะ?” ชายที่เข้ามาใหม่ตกใจกับภาพที่เห็น

“พี่-----------------------” นายโตร้องเสียงดังลั่น พลางชี้นิ้วไปที่ชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง...ฟ้อง! พี่จัดการให้ผมด้วย มาช้าฉิบเป๋ง เต็งยังพึ่งได้มากกว่าอีก ฮึฮึฮึ! !

“ไอ้เจต ไอ้เหี้ย มึงทำอะไรน้องมัน” พี่โต้เดินคำรามพลางสาวเท้าเข้าไปประชิดแฟนตัวเองที่กำลังกุมหัวคิดหนัก
เพี๊ยะ! ฝ่ามือฉาดเข้าที่กลางกบาลเป็นการเปิดโรง

มือของโต้ถูกเจตคว้าไว้ เจตเงยหน้าซีเรียสขึ้นมาจ้องโต้ แล้วบอกว่า “ใคร? เอาแบบสรุปพอ”

“ชื่อโต เจอกันระหว่างทาง แฟนน้องเค้าโมโห เลยปล่อยไว้กลางทาง กูขี่มอเตอไซด์ผ่านมา เลยให้น้องเค้าติดรถมาด้วย แต่พอมาถึงนี่ แฟนน้องเค้าก็ขับรถเลยไปพักที่อื่นแล้ว มาถึงทุ่มนึง ที่นี่ไม่มีรถแล้ว เลยให้น้องมาพักด้วยกัน กะว่าเช้าค่อยพาน้องเค้าหารถไปต่อ” พี่โต้พูด

“นอนเตียงเดียวกันทำไม ทำไมไม่แยกห้อง” ถามหน้าตึง

เพี๊ยะ! ฝ่ามือฉาดเข้าที่กลางกบาล “เกรงใจเจ้าของบ้านเค้าบ้าง ไม่แจ้งเค้าก่อนแล้วจะไปเพิ่มห้องกลางดึกกลางดื่นได้ยังไง คิดซี่คิด”

“แล้วมึงทำไมไม่บอกกู มึงรับสายกูเมื่อคืนไม่ใช่เรอะไง ปากมีทำไมไม่พูด”

เพี๊ยะ! ฝ่ามือฉาดเข้าที่กลางกบาล “ใครเค้าจะพูดทันมึง ไอ้เหี้ย มึงก็เหมือนกัน ปากมีไม่ใช่สักแต่ว่าพูด หูน่ะ ฟังบ้าง เคยฟังบ้างมั้ย”

“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เสียงโอดโอยดังมาจากหูที่ถูกอีกฝ่ายดึงทึ้งอย่างแรงไม่ยอมหยุด

ชายหนุ่มตีมือที่ดึงหูตัวเองรัวๆ แต่เจ้าของมือนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย แถมยัง...

“มึงตีกูเรอะ ไอ้เจต มึงตีกูใช่มั้ย? มึงกล้าตีกูเรอะ กูเจ็บนะ”

ชายหนุ่มหยุดมือที่ตีมือของอีกฝ่าย เปลี่ยนมาเป็นกำแขนทั้งสองข้างนั้นไว้แทน....เขาโอยได้อีกสักพัก โต้ก็ปล่อยมือแล้วเดินแบบฉุนๆ มาหาพวกเด็กหนุ่ม

“ไหนไอ้โต มันทำไรมึงบ้าง บอกกูมาให้หมด”

ปึ๊ก! ตึง! -----------ตึก ตึก ตึก ตึก ฝีเท้าก้าวอย่างหนักๆ ออกไปจากบ้านพัก

“เฮ้ย หนีไปแล้ว พี่โต้!” นายโตชี้แหยงๆ

“ฮึ ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูตามไปคิดบัญชีกับมันเอง มึงบอกมา!” พี่โต้ที่ยิ้มมุมปากพูดด้วยเสียงเรียบเย็น

นายโตสาธยายให้พี่โต้ฟังจนครบกระบวนท่า จากนั้นพี่โต้ก็พยักหน้าแล้วเดินออกไป ห้องจึงสงบเงียบอีกครั้ง

เต็งนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลา โตจ้องตากับเต็งจนกระทั่งถึงอะไรขึ้นมาได้!

“เต็งมาไงอ่ะ รู้ได้ไงว่าเราอยู่นี่?”

คำถามที่ราวกับฟ้าผ่า ทำเอาเต็งหน้าแดงพรึ๊บขึ้นมาทันควัน

โตมันบื้อ มันคงคิดไม่ทัน...ใช่มั้ย?---------- “เจ็บมั้ยอ่ะ เดี๋ยวเราไปซื้อยามาทาให้นะ แป๊บนึง เดี๋ยวมา โตอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ”

“อื้อ!”

โตว่าง่าย แสนเชื่อง เลี้ยงไม่ยาก



********************************




คืนนั้นพวกเขาสี่คนก็พักที่โฮมสเตย์แห่งนั้นอีกคืน พี่โต้ขอที่นอนอีก 2 ชุดมาให้น้องๆ อันที่จริงพี่โต้บอกให้โตกับเต็งไปนอนบนเตียง แล้วตัวเองกับพี่เจตจะนอนบนพื้นแทน ทว่า...เห็นสภาพยับเยินจากของพี่เจตแล้ว ใครจะกล้า!!!

พี่โต้พูดจริงทำจริงไม่ต่างกับพี่เจต *0*

โตรู้สึกว่าสองคนนี้ลึกๆ แล้วเหมือนกันมาก แต่ก็ต่างกันมากด้วย...???

พี่เจตสงบเสงี่ยมขึ้นเยอะ คงรู้สึกผิดที่ตัวเองใจร้อนเกินไป แต่พี่โต้ยังคาดโทษว่า “ไม่รู้จะจำได้สักทีมั้ย?”







รุ่งเช้า

อาการช้ำในของโตเริ่มออกอาการ ส่วนของพี่เจตนั้นไม่ต้องพูดถึง

เจ้าของบ้านเห็นแล้วเอ็นดูมาก ต้มยาหม้อมาให้พวกเขา

ทีแรกพี่เจตไม่ยอมกิน แต่พี่โต้จับกรอกปากใส่จนได้



ช่วงบ่าย

นายโตรู้สึกว่าเหมือนมันดีขึ้นหน่อย

พี่โต้บอกว่า ยาสมุนไพร ดีกว่ายาแผนปัจจุบัน แต่ใช้เวลามากกว่า พี่โต้กะว่าจะขอพักฟื้นอยู่ที่นี่จนกว่าเจตจะดีขึ้นหน่อย ค่อยกลับ

เต็งว่าไหนๆ ก็หยุดปิดเทอมพอดี นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่นี่ก็ได้ สักอาทิตย์แล้วค่อยไปเที่ยวต่อก็ได้ ขืนไปสถานที่เที่ยวในสภาพแบบนี้เลย รังแต่จะไม่หนุกเปล่าๆ

อาทิตย์นึงที่อยู่ที่นั่น ก็สนุกดี พี่เจตตอนดีๆ ก็น่าเอ็นดู ตามเกาะพี่โต้เป็นตุ๊กแก แต่ไม่เห็นพี่เจตทำตัวน่ารำคาญแบบที่พี่โต้บ่นเลย อ้อนน่าเอ็นดูดีออก... พอพี่เจตหายละอายใจบ้างแล้วก็มาคุยกับเด็กๆ มากขึ้น เลยได้รู้ว่า ไอ้ที่เลิกกันมา 2 ครั้งนั้นเพราะพี่โต้ขอเลิกทั้งนั้น

พี่เจตบอกว่า

“เชี่ยเนี่ย มันชอบน้อยใจ ว่าตัวเองไม่หล่อมั่งล่ะ ไม่เก่งมั่งล่ะ ไม่ฉลาดมั่งล่ะ ห่าเหวอะไรนักก็ไม่รู้ ขุดมาว่าตัวเอง กูนี่ใช่ว่าจะเลิศเลอ” พี่เจตชี้หน้าตัวเอง

เอ่อ....พี่ ไม่ “เลิศเลอ” ตรงไหนครับ หน้าปานเทพบุตร สูงเกือบสองเมตร ฉล๊าดฉลาด อาชีพก็โหยมีหน้ามีตาค่าตอบแทนสูง ทำกับข้าวเข้าขั้นภัตตาคาร (อันนี้พี่โต้เค้าชมแฟนตัวเองให้ฟัง) งานบ้านไม่มีขาดตก ดูแลแฟนไม่มีพร่อง รักแบบแสดงออก ไม่เก็บไม่กั๊ก....อะไรที่เรียกว่าเลิศครับพี่.....โตงง

“พี่ก็ใจเย็นๆ บ้างสิครับ พี่โต้เค้าก็รักพี่ออก จะห่วงไรอีก” เต็งพูด

“เอ๋า ไม่ห่วงได้ไง พวกมึงก็รู้ เมียกูงี้ใจดีกับเค้าไปทั่ว แม่ง......เท่ฉิบหาย กูยังหลงความเท่ของมันเลยเนี่ย แล้วริ้นไรมันจะไม่มาตอมบ้างรึไง ฮึ กูนิปัดแทบไม่ทัน” พี่เจตบ่นยาว

“อื้มมมม” โตพยักหน้าเห็นด้วย

เพี๊ยะ เพี๊ยะ สองโบกจากคนสองคน..... อ๋าว เห็นด้วยก็ไม่ได้ พี่โต้มันเท่จริงๆ นี่หว่า *0*



อาทิตย์นั้น จบลงที่ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับไปตามเป้าหมายเดิมของตัวเอง

โตกับเต็งไปเที่ยวต่อตามแผน

พี่เจตก็ยอมซ้อนมอเตอไซด์พี่โต้ไปเที่ยวจนได้ ฮา------ สาเหตุที่พี่โต้หนีพี่เจตมาเที่ยวเพราะมอเตอไซด์ในฝันของนายโตนี่แหละ

พี่โต้ไปซื้อมอเตอไซด์คันนี้มา วางแผนว่าจะขี่มันพาเจตเที่ยวไปเรื่อยๆ สัก 2 อาทิตย์ ที่ไหนได้ไอ้คุณชายเจตมันป๊อด ไม่กล้าซ้อนมอเตอไซด์ แถมกลัวดำ พี่โต้พยายามโน้นน้าวอยู่นาน พี่เจตก็ไม่ยอมสักที โมโห เลยหนีมาเที่ยวเองคนเดียว

คืนก่อนวันกลับ พี่เจตก็ยังไม่ยอมนะ

นายโตนอนกอดเต็งดูรายการโปรดอยู่บนเตียง พี่โต้ถกกับพี่เจตหน้าเครียดอยู่บนพื้น
 
“เชี่ยเจต... ไอ้โต มึงเข้าใจกูใช่มั้ย ขี่คันเนี้ยไปเที่ยวมันเรื่อยๆ แม่งความฝันของกูเลยนะเว้ย” พี่โต้หันมาหาโต

“ฝันของพี่ก็ฝันของผม!” นายโตนึกถึงรถในฝันจนตาเยิ้ม

“กูอยากให้มึงสบาย อยู่สบายๆ เที่ยวสบายๆ กูไม่อยากให้มึงเหนื่อย กูไม่ชอบเห็นมึงลำบาก” พี่เจตคราง

“กูก็อยู่ให้มึงดูแลตามใจมึงแล้วนี่ไง ตามใจกูบ้างแม่งไม่ได้ มึงอยากเป็นคนขับรถพากูไปโน่นนี่ กูก็นั่งให้มึงขับ...แล้วไง? กูอยากขี่มอเตอไซด์ให้มึงซ้อนบ้าง แม่งอิดออด” พี่โต้ตบหน้าพี่เจตข้างเดียวแบบไม่เบาไม่แรงแต่ไม่หยุดมือ

“.......เฮ้----------อ...............” พี่เจตถอนหายใจยาว หงายหลังนอนราบกับพื้นกระดาน

“...... ตอน ม.2 กูกับมึงเลิกกัน แก๊งค์เราขี่มอเตอไซด์ขึ้นเขาใหญ่ มึงซ้อนแฟนมึง......พอขึ้นม.ปลาย กลับมาคบกันอีกที มึงก็ไม่ยอมขี่มอเตอไซด์ ขับรถยนต์อย่างเดียว...”

“งั้นกูขี่มึงซ้อน” พี่เจตบอกเสียงอ่อย

“ไม่ กูต้องขี่ มึงต้องซ้อน” พี่โต้เสียงแข็ง

“เชี่ยนี่ ตอนนั้นมึงอิจฉาใช่ป๊ะล่ะ งั้นก็ต้องให้กูขี่สิวะ” พี่เจตเถียง

“เชี่ยนี่ กูไม่ได้อิจฉา กูก็ผู้ชายนะเว้ย กูก็อยากทำอะไรให้แฟนกูบ้าง จะให้นั่งเป็นคุณชายให้มึงดูแลฝ่ายเดียว แม่ง ไม่ใช่กู สัด!” ถีบพี่เจตแรงๆ ทีนึงแล้วพี่โต้ก็เดินออกไปจากบ้าน

พี่เจตร้องโอยสักพัก พอหายเจ็บก็รีบวิ่งตามไป

เต็งกลั้นหัวเราะแทบตาย ตานายโตจ้องดูรายการคนอวดผีแต่หน้ายิ้มแก้มฉีก

หลังจากทริปนั้นผ่านไป เราสี่คนก็มีนัดไปกินข้าวกันบ้าง ในช่วงที่ว่างตรงกันเท่านั้น! เต็งกับพี่เจต ไม่ยอมให้โตกับพี่โต้เจอกันแค่สองคน ไม่ว่าทางตรงหรืออ้อมก็ตาม

โตมันปลื้มพี่โต้ หรือพูดให้ชัดกว่าคือ มันหลงรัก..............มอเตอไซด์ของพี่โต้

มันไปงี๊ดๆ พี่โต้บ่อยๆ ก็เพราะอยากลองขี่รถในฝันดูสักครั้ง พี่โต้ไม่ยอม (ลูกสุดหวงของเค้านี่ครับ) แต่ยอมให้ซ้อนได้นะ แต่! ! ! พี่เจตไม่ยอมให้ใครก็ตามซ้อน *0* มึนกับสองคนนี้เค้าจริงๆ









การที่จะอยู่ด้วยกันให้รอดได้ ไม่ใช่มีความรักแล้วจะอยู่ด้วยกันได้หรอก... มันต้องมี “ใจ” ด้วย

....ตั้งใจที่จะอยู่ด้วยกัน

...มีใจที่อยากอยู่ด้วยกัน

..ใช้ใจค่อยๆ ซึมซับความรักที่มีให้กัน ไปพร้อมๆ กับใช้ชีวิตไปด้วยกัน

นิยามความรักเป็นยังไง....โต เต็ง โต้ เจต --- ไม่รู้

แต่พวกเขารู้สึกได้ถึง “ความรัก” ของอีกฝ่าย

เช่นนี้แล้ว ชีวิตพวกเขายังจะต้องการอะไรอีกล่ะ






 เอวัง :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 20-03-2012 21:29:43
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 20-03-2012 21:39:11
+1  ค่ะ  ชอบ  ๆ


 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 20-03-2012 21:41:18
ลึกซึ้ง :o

ความรักสารพัดมุม

วุ่นวายดีแท้ ๕๕๕

หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 20-03-2012 21:46:33
พี่เจตขาทำไมหึงโหดอย่างนี้หล่ะค่ะ น่ากลัวชิหายยยยยยย
ดีนะเต็งกลับมาหาโตทันเกือบเหลือแต่ซากกก
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 20-03-2012 21:52:41
แอบมึนๆตรงช่วงทำกับข้าวนิดหน่อย ถ้าทำเป็นตัวเอียงให้รู้ว่าเข้าสู่อดีตน่าจะเข้าใจง่ายขึ้นค่ะ สนุกดีค่ะไว้เขียนมาให้อ่านอีกนะคะ เอาเป็นภาคเต็งกับเจตบรรยายบ้างก็ได้ อิๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 20-03-2012 21:54:02
ชอบอ่ะ น่ารักทุกคู่เลย  :man1:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-03-2012 22:00:56
ชอบค่ะชอบ
หวานแบบเถื่อน ๆ แมน ๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 20-03-2012 22:11:27
พี่โต้เท่อ่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 20-03-2012 22:12:05
เพิ่งลงหรอคะ
สนุกดีนะคะ :m4:
ชอบคู่ของพี่โต้กับพี่เจตอ่ะ
มันส์ดีค่ะ โหดนิด กุ๊กกิ๊กหน่อย :-[
อยากอ่านตอนพิเศษเพิ่มน่ะคะ
ถ้ามีจะรออ่านตอนพิเศษนะคะ :give2:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 20-03-2012 22:19:09
คู่ผู้ใหญ่รุนแรงจริง
สนุกดีค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 20-03-2012 22:40:04
คนรักกันก็ควรจะ'ลด'อะไรบางอย่างลงบ้างนะ จะได้เดินไปด้วยกันอีกยาว
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 20-03-2012 23:21:41
 o13

ชอบ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 20-03-2012 23:27:08
โหด มัน ฮา   :laugh5:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: loveooo ที่ 20-03-2012 23:31:27
น่ารักดีค่ะ  แต่พี่เจตโหดไปมั้ยเนี้ย  555
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Made ที่ 20-03-2012 23:55:18
ดีจัง น่ารักทั้งสองคู่เลย เวลาที่ยังไม่มีความรักคนเราก็ใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ แต่พอลองมีใครซักคน ก็จะรู้สึกว่าคนๆนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ชอบพี่โต้จัง :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-03-2012 23:58:37
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: BiGgYDrIb ที่ 21-03-2012 00:08:19
มาลงชื่อว่าอ่านจบละ
แนวเรื่องติสท์ๆ แปลกๆดี
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-03-2012 01:03:06
เออ อยากอ่านรุ่นใหญ่ เวลาเค้าหวานกันอะ เป็นยังงัย  :z1: รึให้ดีขยายเป็นเรื่องยาวดีมะ จะมีเวลาเขียนมั้ยเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: V ที่ 21-03-2012 01:06:46
น่ารักดีนะเนี่ยย

อยากอ่านต่ออ่าาา
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 21-03-2012 01:36:35
ชอบเจต โต้ น่ารักแบบเถื่อนๆ
เต็ง โต น่ารักเเบบเด็ก ๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: charapin ที่ 21-03-2012 02:05:28
 o13 เนื้อเรื่องน่ารักมากๆ จะคอยติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปนะคะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: sbeam14 ที่ 21-03-2012 02:29:38
ชอบอ่ะ น่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Nichdia ที่ 21-03-2012 03:18:26
ชอบอ่ะ โหดมันฮา มากๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 21-03-2012 03:53:26
น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 21-03-2012 08:25:56
น่ารักดีจัง
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: dekthuem ที่ 21-03-2012 08:28:39
น่ารักอะอยากมีมั่งจัง
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 21-03-2012 09:06:57
เป็นสองคู่ที่สนุกสนานบานตะไทมาก ชอบนะนี่ ..
หาเวลาว่างมาต่อส่วนขยาย (เรียกง่ายๆว่าตอนพิเศษ^^) จะเลิศมาก  :yeb:

+ไป เป็ดไป
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 21-03-2012 09:07:28
 :กอด1:ผู้มีอุปการะคุณทุกคน

เจต  o22 โหดไป?

ขอแจงหน่อย....
คุณเจตเค้ามันประเภทเขียนเสือให้วัวกลัว เล่นให้ดูหนักแบบนั้น (เผื่อเป็น) ชู้ (จริง) จะได้กลัว ไม่กล้ามาสานต่ออีก หรือหากไปเจอริ้นไรตัวอื่นๆ ริ้นไรตัวเดิมอาจช่วยโฆษณาให้ว่า "เมิงเจ้าของเค้าดุมากกกก อย่าไปยุ่งเชียว"  :laugh:
เอาจริงๆ อ่ะนะ คุณเจตแกไม่ฆ่าหรอก (ไม่ฟัน/ไม่ยิงด้วย) แกกะแค่ซ้อมเท่านั้นแหละ
เพราะอะไร? --------------- เพราะมากกว่านี้โต้จะโกรธเอาอ่ะดิ๊  :o12:


ขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกๆ ท่านอีกครั้ง
ดีใจที่อ่านกันแล้วสนุก
ไว้โอกาสหน้าพบกันใหม่  : 222222:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 21-03-2012 11:00:24
^
^
^
จิ้มๆๆๆ

ขอตอนพิเศษหวานๆคู่เจตโต้หน่อยได้มั้ยอ่ะ  ชอบ
หัวข้อ: เรื่องสั้น [สองก้าว] ๑
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 21-03-2012 11:48:45
(http://i572.photobucket.com/albums/ss166/Ai-Bao/Screenshot2556-02-14at215904.png)
สองก้าว



เสียงครางกระหึ่มของเครื่องยนต์ ดังลอยไปตามท้องถนนซึ่งคราคร่ำไปด้วยรถยนต์ ชายหนุ่มสองคนนั่งอยู่บนรถฮาเลย์เดวิดสันซึ่งจอดกินพื้นที่ของช่องทางเดินรถไปหนึ่งเลนให้สมกับความไม่ธรรมดาของตัวมัน หมวกกันน็อคเรียบหรูสกรีนคำว่า Destroyer เด่นๆ เพียงคำเดียวก็เท่กินขาด ไม่ต่างจากเสื้อแจ๊คเกตสีดำบนตัวคนขี่ซึ่งคาดว่าสั่งทำมาคู่กัน ส่วนคนซ้อนหลังนั้นสวมแค่เสื้อยืดสีเทาหม่นกางเกงขาสั้นเหนือเข่าและรองเท้าเข็มทิศ...เห็นแล้วเหมือนคุณแกจะไปทำสวน *0*

ก่อนขึ้นรถมาถึงจุดนี้


“เหี้ยโต้ ไหนมึงบอกกูจะไปกรอกทราย แต่งตัวซะ เปลี่ยนใจไปงานมอเตอร์โชว์ก็ไม่บอกกูเล๊ย” คุณเสือเท้าสะเอวเอามือข้างหนึ่งเกาหัวแกรกๆ กำลังอึ้งกับเครื่องทรงของเพื่อนตัวเอง

กางเกงยีนส์ขากระชับพอดีตัว สีไม่สดไม่เก่าเอาว่าอยู่เป็นตัวคนใส่มันเท่โคตร เสื้อแจ๊คเกตหนังสีดำสกรีนข้างหลังดำเดียวโดดๆ Destroyer คาดว่าพ่อเจ้ากระคุณไปสั่งทำมาให้เข้ากับหมวกกันน็อคเพราะฟอนด์เดียวกันเป๊ะ รองเท้าโอเคว่าธรรมดาหน่อยผ้าใบสีดำเรียบไม่มีลาย เมื่อทุกอย่างมารวมอยู่บนตัวของคนใส่แล้ว.....สมกับคำว่า “เดสทรอยเยอร์” ของมันจริงๆ

ช่างประหัตประหารสายตาคนมองแท้ๆ .... แฟนมันปล่อยมันออกมาจากบ้านได้ไงเนี่ย!!!!

“ฮึ กูเตรียมชุดไปเปลี่ยนเว้ย” ชายหนุ่มยิ้มกระหยิ่ม

“วุ่นวายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” คุณเสือเอือมระอา

“ให้กูแต่งแบบมึงขี่ไอ้เดสอ่ะนะ น่าสงสารไอ้เดสของกรูว่ะ” ชายหนุ่มพูดพลางเอามือตบเบาะฮาเลย์

ไอ้เดส...คือฮาเลย์เดวิดสันรุ่นอะไรไม่รู้ คุณเสือไม่จำ แต่เจ้าของมันพูดกรอกหูว่า ‘มึงจำไว้รุ่นนี้เค้าเรียกชื่อเล่นกันว่า เดสทรอยเยอร์’---- ก็เลยจำได้แค่นั้นล่ะ เคยถามมันว่าไม่เปลี่ยนชื่อเหรอ ปกติคนเราหากมีของรักก็มักจะตั้งชื่อพิเศษที่ใช้เรียกของรักของตัวเอง คำตอบที่ได้จากโต้....ก็สมกับเป็นมันแหละนะ

‘กูรักไอ้เดสที่สมรรถภาพของมัน ยิ่งได้ยินชื่อมันกูแม่ง... รักตายเลย! จะเปลี่ยนทำซากอะไร เดสทรอยเยอร์นี่ก็เท่ตายชักแล้วมึง’------ จริงของมัน ก็เหมือนเวลามันเรียกแฟนมัน คู่อื่นเค้าเรียกกัน ตะเอง เหมียวเหมียว บุ๋มบุ๋ม ปี๊ปี๊----- สุดแล้วแต่จะนึกกันได้

ของคู่ไอ้คุณโต้เค้าเรียกกันด้วยชื่อดั้งเดิม “สัดเจต” “เชี่ยโต้”......คุณเสือรู้สึกได้ถึงความจริงใจทุกครั้งที่ได้ยิน

“สัด ไปกรอกทรายเดี๋ยวก็เปื้อน เชี่ยนี่ เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่นะมึงน่ะ เพื่อนกูเสียคนเพราะไอ้เจตแท้ๆ” คุณเสือหันไปหยิบถุง 7-13 (555555+ เลี่ยงการโฆษณาแบบไม่ได้ตังค์หน่อย) เตรียมตัวออกเดินทาง

คุณโต้เหลือบตามองถุงในมือของเพื่อนแล้วรีบยกมือปางห้ามญาติ “มึงหยุด กลับไปเอาเป้ของมึงมาใส่ของของมึงซะ ไม่งั้นอย่ามาขึ้นไอ้เดสของกู”

“เชี่ยโต้!” ชักเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมแฟนมันถึงชอบเรียกมันแบบนี้ “มากไป มากไป” คุณเสือไม่ใส่ใจ

“น้อยไป กูไม่ให้มึงเปลี่ยนชุดก็บุญแล้ว เอาใบสีดำที่มึงสะพายตอนไปเที่ยวเขาใหญ่กับกู เดือนก่อนนะ ห้ามเอาใบอื่น” คุณโต้กอดอกพูด

“เชี่ยโต้! มึง......โฮ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย มึงจะเอาอะไรกูอีกมั้ย กูต้องเปลี่ยนสีหมวกกันน๊อคกูด้วยมั้ยเนี่ย?!” คุณเสือชูหมวกกันน๊อคสีขาวนวลในมือขึ้นมา ด้านหลังหมวกมีลายเส้นเป็นหัวพยัคฆ์น่าเกรงขาม หมวกใบนี้เดิมทีเป็นสีขาวเกลี้ยงธรรมดา กว่าจะหาซื้อได้ยากโคตรๆ ทีเดียว แต่แล้วคนมือบอนคนนึงเค้ายืมไปใส่ กลับมาอีกเดือนก็มีรูปนี้ติดกลับมาด้วย ทีแรกก็ด่าไอ้คนมือบอนนะ แต่พอมองดีๆ แล้ว .......... ฝีมือดีใช้ได้

คุณโต้ส่ายหน้า

คุณเสือเดินกระฟัดกระเฟียดเข้าไปในบ้าน



********



“เดสทรอยเยอร์” เคลื่อนมาจอดในร่มไม้หนึ่งของพื้นที่ด้านในซึ่งถูกจัดไว้ให้เป็นพื้นที่สำหรับกรอกทราย คุณเสือโดดลงจากรถพร้อม ถอดหมวกกันน็อค แล้วปลดเป้สีดำที่อยู่ข้างหลังมาเอาน้ำเปล่าไปดื่ม

“มึงไปเปลี่ยนชุดดิ” คุณเสือบอกเพื่อพลางเอาน้ำที่เหลือล้างหน้าล้างแขน ระหว่างทางถึงแม้บรรยากาศมันจะชื้นด้วยไอน้ำที่เจิ่งนองรอบๆ พื้นที่ ทว่า ยังรู้สึกว่าแดดแผดเผา

ปื๊ด------------ เสียงรูดซิปดังเลยมา คุณเสือที่ล้างหน้าเสร็จหันไปมองตามเสียงดังขึ้น ภาพที่เห็นคือ....

ชายหนุ่มผมเกรียนสกินเฮด รูดซิปเสื้อแจ๊คเกตสีดำลง ถอดเสื้อพาดไว้บนรถมอเตอไซด์เสร็จแล้วก็หันมาปลดกระดุมกางเกงยีนส์ขายาว รูดซิปลง และถอดกางเกงลงไปกองกับพื้น ด้วยความฟิตของกางเกงทำให้เจ้าตัวต้องพลิกกางเกงยีนส์กลับคืนจากด้านนอกมาเป็นด้านในเสียก่อนพับมันม้วนรวมไว้กับเสื้อแจ๊คเกต....มาถึงนาทีนี้ ชุดของคุณโต้ก็ดูไม่ต่างกับคุณเสือแล้วล่ะครับ

“มึงอย่าไปพูดกับใครล่ะว่าซ้อนรถกูมานี่” โต้บอกเพื่อนแบบรู้กัน

“อื้อ” เสือรับคำในลำคอ

เขารู้ดีเพื่อความปลอดภัยและสงบสุขของตัวเอง อย่าให้ผัวมันรู้ว่าซ้อนท้ายรถเมียมัน หากมันรู้...หัวเราะไม่ออกกันเลยทีเดียว

“ฝากไว้ในเป้มึงด้วย อ่ะ” พูดพลางยื่นชุดของตัวเองไปให้เพื่อน

เสือรับชุดไปยัดไว้ในเป้ จากนั้นก็ส่งเป้ไปให้เจ้าของรถจัดการวางมันไว้ที่รถตามใจชอบ เรียบร้อยแล้วทั้งสองคนก็เดินเข้าไปภูเขาทรายขนาดย่อมๆ

ตกใจกับการเปลี่ยนชุดของเพื่อน...ไม่ล่ะ คบกันมานาน ตกใจแค่ครั้งแรกที่เห็นก็พอ

ล่าสุดที่ตกใจกับการกระทำของเพื่อนคือ.....การจอดรถของมัน มันรักเดสมาก แต่มันจอดไอ้เดสแบบไม่กลัวหายเลยสักนิด แต่คำตอบที่ได้ก็สมกับเป็นมัน ‘ช่างมันเหอะ ปล่อยๆ แม่งบ้าง แค่รักมันก็มีห่วงแล้ว จะให้หวงมันตลอดเวลา กูเหนื่อย จะหายก็เรื่องของมัน ทำใจว่ะ’----- ทำกับเดสเหมือนทำกับแฟน ถ้าไอ้เดสเป็นหมาไอ้เดสคงเดินพันขามันไม่ห่าง....เหมือนไอ้เจต ฮา-------

รักแต่ก็กล้าปล่อย แม่งแน่จริงๆ *0*




********




“น้องครับ พี่ช่วยตักมั้ย?” โต้เดินเข้าหากลุ่มเด็กๆ หน้าใสกลุ่มหนึ่งซึ่งจับกลุ่มกันอยู่ห้าคน

“ไอ้โต้ กูได้พลั่วมาอันเดียวว่ะ” เสือที่เดินตามมาบอกเพื่อน

“เอ่อ...” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งพูดค้างพลางหันไปมองเพื่อนแบบขอความเห็น

“เดี๋ยวพี่ๆ ตักให้ น้องเอาไปผูก พวกพี่กรรมกรเก่า สามารถครับ” โต้ยิ้มหวานยื่นไมตรี

“ค่า” น้องๆ ขานรับ แล้วก็เริ่มจัดตำแหน่งกัน โดยมีพวกเขาสองคนยืนถือพลั่วอยู่บนภูเขาทราย

ออกแรงกันจนเหงื่อเริ่มโทรม อยู่ดีๆ น้องผู้หญิงที่คอยถือถุงทรายให้เสือก็หายไปไหนไม่รู้ หันมาอีกทีเสือก็ตักทรายไปใส่หน้าน้องที่ใส่หมวกแก๊ปพร้อมเอาผ้าขนหนูพันหน้าพันหน้าเข้าอย่างจัง

“เฮ้ย!!!!” เสือตกใจ รีบวางพลั่วแล้วเข้าไปดูน้องว่าทรายเข้าตามั้ย...ทรายที่ตัก สกปรกพอดู

“ไอ้เสือ แม่งไม่ดูเล๊ย เอาน้ำมา น้ำครับ น้ำ” โต้ร้องด่าเพื่อนแล้วก็หันไปบอกน้องผู้หญิงที่อยู่สุดแถวให้เอาน้ำมาล้างหน้าเพื่อน

“โทษทีน้อง พี่ไม่ทันมอง เข้าตารึเปล่า” เสือรีบถอดหมวกและผ้าให้น้อง พอเห็นหน้านั้นชัดๆ เขาถึงกับใจกระตุกวูบ

“กร ล้างหน้าก่อนมั้ย ทรายเข้าตารึเปล่า?” น้องผู้หญิงยื่นหัวน้ำมาให้เพื่อน

เพราะทรายเข้าตา เพื่อนจึงไม่ได้ยื่นมือไปรับขวดน้ำ เสือได้สติ รีบรับขวดน้ำมาแล้ว ดันคางเด็กผู้ชายที่ชื่อกรขึ้น “ล้างตาก่อนนะครับ” ว่าแล้วก็เอาน้ำเทลงบนหน้า จากนั้นถึงค่อยปลิ้นตาเทน้ำล้างให้

“ออกมั้ยครับ” เสือถามด้วยความเป็นห่วง

เด็กผู้ชายยังนิ่ง ทว่า พอแขนเขาจะยกขึ้นใกล้ตา เสือก็จับข้อมือเขาไว้ แล้วบอกเสียงเข้มว่า “อย่าขยี้ เดี๋ยวมันบาด ตะแคงหน้ามา เดี๋ยวพี่เทน้ำล้างให้ กรกระพริบตาไว้”

เด็กผู้ชายยังนิ่ง เสือเลยจับหน้าเขาให้ตะแคงทั้งที่เจ้าของหน้าฝืนแรงเขา แต่แรงของเด็กไม่คณามือของผู้ใหญ่แบบเขาหรอก ยิ่งสำหรับคนตรงหน้านี้แล้ว คุ้นมือเสือดี เขารู้ว่าจับตรงไหนแล้วเขาจะไม่ต่อต้าน

ดวงตาสีเขียวกระพริบปริบๆ ใบหน้าเปียกโชก....

ใบหน้ายังโครงเดิม แต่รายละเอียดดูแปลกตาไป ไม่ได้น่ารักมากเหมือนก่อนนี้ แต่ดวงตาสีแปลกซึ่งถูกขับความเด่นด้วยเส้นผมหยักโศกสีดำ กลับยังคงดึงดูด....ใจของเสือได้ไม่เปลี่ยน

“ขอบคุณครับ” เด็กผู้ชายที่ชื่อกร กล่าวขอบคุณเสียงเบา แล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่คล้องคออยู่บนคอเพื่อนมาเช็ดหน้า

เพื่อนๆ ซักถามด้วยความเป็นห่วงสักพักแล้วต่างก็หันมาสนใจกับการกรอกทรายต่อ



คนไม่รู้จัก....ไม่ได้หมายความว่า “ไม่รู้จักกัน”

หากอีกฝ่ายไม่อยากรู้จักเขา เสือจะทู้ซี้ไปรู้จักเขาได้ยังไง ในเมื่อต่างก็เป็นคนรู้จักกันมาก่อน แถทยังสนิทกันด้วย ถึงแม้อีกฝ่ายอาจใช้คำว่า “เคยสนิท” กับเขาก็ตาม



รู้มั้ย?.....

ก้าวแรกที่ก้าวพลาด โต้บอกเสือว่า “มันเป็นโชคชะตาว่ะ”

แต่ก้าวที่สองที่เสือก้าวพลาด โต้บอกว่า “มึงทำตัวเองว่ะ ไอ้ควาย!”

จากเสือลดชั้นเป็นควายซะแล้ว.........................






มีต่อ  Reply #39


หัวข้อ: Re: เรื่องสั้นจบในตัว..... [สองก้าว] วรรคแรก-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 21-03-2012 12:00:09
ชอบตัวละครทั้งสี่คนเลยครับ
แม้จะสั้นและจบในตอน แต่บรรยายให้เห็นความผูกพันธ์ได้ดีมากๆ
อยากอ่านตอนพิเศษอีกนะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้นจบในตัว..... [สองก้าว] วรรคแรก-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: punmile ที่ 21-03-2012 12:01:32
ชอบมากเลยเรื่องน้ ดูเถื่อนๆดี ฮาาาา

รอคู่พี่เสือกับน้องกรต่อนะ  :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้นจบในตัว..... [สองก้าว] วรรคแรก-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 21-03-2012 12:29:00
ชอบพี่โต้มาก มันดูเถื่อนดีอ่ะ
ไงก็มาต่อเร็วๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้นจบในตัว..... [สองก้าว] วรรคแรก-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 21-03-2012 12:30:09
ชอบจัง ติดตามต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคแรก-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 21-03-2012 12:48:13
คู่ใหม่เสือกรป่ะคะ  รอๆๆ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคแรก-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 21-03-2012 13:07:13
เจ็บเนอะเจอคนที่เขาทำเป็นไม่รู้จักเรา อยากอ่านยาวๆ แบบเรื่องแรกน่ะ
ต่อเนื่องมากๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง -- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 22-03-2012 02:11:41
“เสือ มีคนมาหามึงว่ะ โน่น” คนข้างหลังสะกิดบอก

คนที่ถูกเรียกหันไปมองตามทิศที่นิ้วชี้ คนหน้าตาคุ้นเคยชะโงกหน้ามาจากประตูหลังห้อง

“มีไรวะ?” เสือถาม

“มึงกลับบ้านกี่โมงวะวันนี้” ทศถาม

“เลิกเรียนก็กลับเลย ไมวะ?” เสือถามกลับ

“พอดีเลย มึงพาน้องกูกลับด้วยดิ๊ วันนี้กูมีนัดกับสาว นะ นะ” ทศอ้อน

“ฮึ ไอ้หน้าหม้อ” เสือเบ้ปาก

“เออ ฝากด้วย ใจว่ะ” ทศตบแขนอีกฝ่ายแล้วหันหลังเดินกลับไป


************


เสือรู้ดีว่าก้าวแรกที่ตัวเองพลาด เกิดจากที่ไม่รู้จักหัวใจตัวเองดีพอ

“รักเป็นยังไง?”เขาไม่รู้หรอก




ตอนเขาอยู่ชั้น ม.6 ส่วนกร อยู่ ม.1

กรเป็นน้องชายของทศ ไอ้ทศอยู่ข้างบ้านกันมาตั้งแต่เด็ก แต่กรเป็นน้องชายคนละแม่
 
แม่ของทศเลิกกับพ่อของทศตอนที่พวกเขาขึ้น ม.1......ไม่นานนัก ทศถึงรู้ว่า ตัวเองมีน้องชายที่อายุห่างกันแค่ 5 ปี

ทีแรกที่รู้โดยบังเอิญ ทศไม่กล้าบอกแม่ เพราะกลัวแม่เสียใจ เขาเก็บความลับนี้ไว้คนเดียว จนกระทั่งวันหนึ่ง


**************


“ทศ คืนนี้ไปธุระกับแม่หน่อย ใส่ชุดดำนะ เราจะไปงานศพกัน” แม่บอกกับเขาตอนที่เขาเดินเข้ามาในบ้าน

“อ้าว เหรอ งานใครอ่ะแม่” ทศพูดพลางล้วงกระเป๋ากางเกงเตรียมโทรศัพท์ไปบอกเพื่อนที่นัดกันไปเตะบอล

“.....พ่อเค้าเสียแล้วน่ะลูก เมื่อเช้ารุ่งนี่เอง ช่วงสายคุณเจนนิเฟอร์เธอโทรมาบอกแม่....”
แม่เล่าไปพลางมือยังคนแกงในหม้อไปพลาง

ทศใจหายวาบ เขารักพ่อ ถึงแม้พ่อจะเลิกกับแม่ แต่พ่อไม่ได้เลิกรักเขากับแม่....

เรื่องของผู้ใหญ่ทศไม่เข้าใจ แต่ครอบครัวเขาเป็นเหมือนครอบครัวที่อยู่ห่างกัน แต่ไม่ใช่คนอื่นสำหรับกัน ทศรับรู้แบบนี้และยอมรับกับสภาพแบบนี้ด้วยความยินดี ส่วนเรื่องน้องชายต่างแม่ของเขา

พอได้ยินแม่บอกว่าฝ่ายโน้นโทรมาบอก แม่คงรู้เรื่องทุกอย่าง อาจรู้มากกว่าที่เขารู้ก็เป็นได้ด้วย

“กินข้าวก่อนไปรึเปล่า? แม่จะไปกี่โมงล่ะ?” ทศลองชวนคุย

“ไกลอยู่ ห้าโมงเย็นก็ออกรถเลยดีกว่า ลูกไปเตรียมตัวเถอะ แม่ทำกับข้าวใกล้เสร็จแล้ว วันนี้กินกันเร็วหน่อยนะ”

แม่ยังคงไม่ผิดแปลกอะไร เสียใจก็คงต้องมีบ้าง แต่ไม่ได้เห็นแม่ฟูมฟาย ทศก็สบายใจมากขึ้น

“ครับ”




***********



ทศพาแม่มาถึงวัดที่จัดงาน แม่พาเข้าไปทักทายภรรยาอีกคนของพ่อ คุณเจนนิเฟอร์เป็นลูกครึ่ง
ครอบครัวเธอย้ายมาอยู่ไทยตอนที่เธออยู่....ราวม.ต้น แล้วก็ตั้งรกรากอยู่ที่นี่มาตลอด แม่เรียกเธอสั้นๆ ว่าเจน

ท่าทางของแม่เป็นห่วง เอื้อเฟื้อต่อคุณเจนเหมือนญาติ ทศทั้งแปลกใจและไม่แปลกใจ

เขายอมรับช่วงแรกที่รู้ว่าพ่อมีคนอื่นทั้งๆ ที่มีเขากับแม่ในเวลาเดียวกัน เขาโกรธ โกรธมากด้วย

เขาตั้งแง่กับอีกฝ่ายทั้งๆ ที่ไม่เคยพบหน้ากันเลย ทศพยายามยึดเวลาของพ่อมาให้ได้มากที่สุด

และพ่อก็เป็นอย่างที่เขาต้องการ จนกระทั่งเขาขึ้น ม.ปลาย กิจกรรมมีให้ทำมากขึ้น เพื่อนหลากหลายมากขึ้น ความสนใจของวัยรุ่นมีมากขึ้น ช่วงนี้ทศจึงไม่เซ้าซี้พ่อเหมือนก่อน

“น้องกร มาหาคุณป้าอรสิคะ ไหว้ป้าอรเค้านะลูก แล้วนั่นก็พี่ทศ”

คุณเจนโอบเอวลูกชายของเธอเข้ามาหาตัวเองที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ลูกชายของเธอพนมมือไหว้
แม่และทศอย่างนอบน้อม พอเงยหน้าขึ้นทศจึงเห็นหน้าตาของน้องชายตัวเองเป็นครั้งแรก

ผมหยักโศกสีดำสนิทดูนุ่มมือ...หากได้สัมผัส ตัวขาวเกลี้ยงผิวสวยมากเหมือนแม่ผู้ให้กำเนิด
โครงหน้าเด็กชายเหมือนพ่อ ซึ่งก็หมายความว่าคล้ายเขามากด้วย---- ทำไมตาดูแปลกๆ วะ สีตาจางๆ พิกล

“ทศพาน้องไปช่วยตรงนั้นนะ ช่วยกันจุดธูปให้แขก” แม่สั่งให้ทศไปทำหน้าที่ของลูกชายคนหนึ่งของพ่อ ไม่ใช่ว่าอวดศักดาอะไร แต่แม่อยากคุยกับคุณเจนเป็นการส่วนตัวมากกว่า

เด็กชายหน้าตาน่าเอ็นดูเงยหน้ามองเขา สีหน้าตื่นเล็กน้อยที่ถูกสั่งให้ไปกับเขา แต่หน้าแบบนั้นล่ะที่น่าเอ็นดู ทศอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มให้ เขาเดินอ้อมไปอีกทาง ยื่นมือไปหาเด็กชาย แล้วบอกว่า “ป๊ะ น้องกร ไปป๊ะ?” ถามหยั่งเชิง เห็นน้องยังเด็กเขาจึงใช้คำพูดแบบที่ใช้พูดเล่นกับเด็กไว้ก่อน

กรหันหน้าไปมองแม่ พอแม่พยักหน้าพร้อมส่งยิ้มให้ เด็กชายก็ยื่นมือมาหาเขา ทศจูงมือนิ่มๆ ที่เล็กกว่าตัวเองไปทางที่แม่สั่ง คุณน้าผู้ชายคนหนึ่งที่ทำหน้าที่อยู่ก่อน คิดว่าเขาน่าจะรู้ว่าทศเป็นใคร

เขาพยักหน้าให้ บอกวิธีการให้ ก่อนเดินไปเขาบอกกับเด็กทั้งสองว่า “ทำให้พ่อเค้านะลูก รักกันไว้นะ พ่อเค้าจะได้ไปแบบสบายใจ”

คำพูดสั้นๆ ตามมารยาททั่วไป แต่กระแทกใจของทศอย่างแรง

มือที่อยู่ในอุ้งมือเขาแกว่ง เขาก้มลงมามอง เด็กชายบอกเขา “แขกมาแล้วฮะ”

ทศได้สติขึ้นมาทันที เขาหันไปหาธูป เอามันไปจุดแล้วเดินเอากลับมาให้แขก พอครั้งที่สองกรก็ร้องบอกว่าจะทำมั่ง เขาเลยให้กรคอยยื่นธูปให้เขา ส่วนเขามีหน้าที่ไปจุดมาให้แขก

กรเห็นเขาไหว้ขอบคุณก่อนที่แขกจะเดินออกไปก็ทำตามบ้าง แขกบางคนที่รู้จักทศจะถามว่าเด็กผู้ชายคนนี้ใคร ทศก็บอกว่า “น้องชายผมครับ”

คนที่สู่รู้หน่อยจะถามละเอียด ทศก็ตอบให้เขาสมใจ “ลูกของคุณเจนครับ ชื่อน้องกร”

ส่วนคนที่รู้จักกรจะถามว่า “น้องกร ใครเอ่ยหน้าตาเหมือนน้องกรเลย”

เด็กชายจะยิ้มแต้แล้วบอกว่า “พี่ชายกรฮะ พี่ทศเป็นลูกแม่อร”

ครั้งแรกที่ได้ยินคำนั้น ทศใจชาวาบ ------- ความละอายฉาบไปทั่วหัวใจเขา เด็กตัวแค่นี้ เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก เขาไม่รู้ว่าเด็กชายรู้เรื่องแค่ไหน แต่คำที่เด็กชายเรียกแม่ของเขา “แม่อร”

------มันทำให้เขา จะร้องไห้ เขามันบ้ามากที่ตั้งแง่อยู่ฝ่ายเดียว แม่เขาเองยังไม่ทุกข์ร้อนมีไฟสุมใจเหมือนเขา แต่เขามันบ้าที่อยากเอาชนะ โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฝ่ายที่เขาอยากให้แพ้ดีเลวยังไง

เรื่องของผู้ใหญ่มันซับซ้อนเกินกว่าที่ทศจะเข้าใจ เขาเป็นเด็กเคยเข้าใจแบบเด็กๆ แต่ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นเด็กในช่วงวัยที่เขาผ่านมาแล้ว กลับต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง

“พี่ หิวน้ำมั้ย?” กรสะกิดแขนถาม

“อืม ไม่อ่ะ เราหิวเหรอ?” ทศยกมือขึ้นมากุมหัวเด็กชาย

เด็กชายกรหน้าเหวอไปทันที แค่อึดใจเดียว น้ำตาก็ไหลออกมา ทศอุทานได้แค่เฮ้ยคำเดียว แล้วก็ทำอะไรไม่ถูก แต่แล้วจู่ๆ เด็กชายก็ซุกหน้าลงกับพุงเขา ไม่มีเสียงร้องไห้โยเย แต่ทศรู้สึกว่าหน้าท้องตัวเองเริ่มเปียก ทศทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เอามือลูบที่หัวกลมมนได้รูปนั้น เส้นผมนิ่มอย่างที่คิด ยิ่งลูบก็ยิ่งมันมือ

ทศยะแย่ยะยังกับการจุดธูปได้ไม่กี่ที น้าผู้ชายคนเดิมก็เดินมาหา

“น้องกรเป็นอะไรลูก ง่วงแล้วเหรอ?”

.............. ไม่มีเสียงตอบ ทศทำท่าให้น้าผู้ชายดู------ กำมือสองข้างถูๆ ที่ใต้ตา ทำปากเบ้ๆ

‘ร้องไห้เหรอ’ น้าพูดชายพูดแบบไม่ออกเสียง ทศพยักหน้าแทนคำตอบ

น้าผู้ชายยิ้ม ไม่พูดอะไร แต่เดินมาแทรกข้างๆ เขา คอยรับธูปจากเขาไปจุดให้แขก พักใหญ่ก็มีคนเอาน้ำมาให้ดื่ม ทศนึกขึ้นได้เลยก้มหน้าไปถาม “น้ำมั้ย? เป๊บซี่ น้ำแดง น้ำส้ม.....”

“น้ำเปล่า น้องกรห้ามดื่มน้ำมีสี เป็นโรคกระเพาะน่ะ” น้าผู้ชายพูดพลางยื่นแก้วน้ำเปล่ามาให้ทศ

ทศรับไปถือ แล้วเอามือข้างที่วางไว้บนหัวเด็กชายย้ายไปจักกะจี้เอวแทน เด็กชายเด้งตัวพรวดมา หน้าบู้บี้ไม่มีดี

“อ่ะ หิวข้าวป๊ะ” ทศยื่นแก้วน้ำไปให้ ไม่กล่าวล้อเลียนอะไรเด็กชาย

เด็กชายส่ายหน้า ทว่า....... จ๊อกกกกกกกกกกกกกกก

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ขำกันทั้งสองคนทั้งน้าผู้ชายและทศ เด็กชายหน้าม้านทันควัน แก้มป่อง------ น่ารักมาก

น้าผู้ชายเลยไล่ทศให้พากรไปหาข้าวกินที่ด้านใน เด็กชายเดินให้ทศจูงมือทั้งๆ ที่แก้มยังป่องไม่หาย
 
เด็กคนนี้มองเพลินดี ไม่ได้เอาแต่ใจตัว ต้องเรียกว่ามีความคิดเป็นของตัวเอง ของไหนชอบก็คือชอบ ของไหนไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ และจะไม่แตะ ไม่เข้าใกล้สิ่งที่ไม่ชอบเด็ดขาด

สำหรับทศ จัดอยู่ในข่ายว่า “ชอบ” แต่ยังกลัวเกรงกันอยู่ ทว่าพอทศไม่ทิ้งระยะห่าง และตีซี้ด้วย คราวนี้ล่ะ เด็กชายจะให้จูงไม่ยอมให้ปล่อย หากมือทศไม่ว่างก็จะมาเกาะขา ซุกหลัง ทำยังไงก็ได้ให้ตัวแปะติดกันไว้ คุณเจนเห็นแล้วถึงกับน้ำตาซึม แม่ก็ยิ้ม

ให้รักกันไว้ พ่อคงอยากให้เป็นแบบนี้…… พ่ออยากเห็นแบบนี้ด้วยมั้ย

ยิ่งคิดทศก็ยิ่งน้ำตารื้อด้วยความรู้สึกผิด

เขาย้อนเวลากลับไม่ได้ ชีวิตเขามีแต่ต้องเดินหน้า

ในวันที่ต้องส่งพ่อขึ้นสวรค์ ทศตั้งมั่นไว้ในใจและบอกพ่อเป็นครั้งสุดท้าย “ทศจะดูแลน้องกร แม่เจน แม่อร ให้นะพ่อ พ่อสบายใจนะครับ เราจะรักกัน เราดูแลกัน พ่ออย่าห่วงเลย ไปดีนะครับ”

ทว่า ทศได้ดูแลคุณเจนอยู่เพียงห้าเดือน คุณเจนก็ตามพ่อไป…. เป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน

กรซุกทศร้องไห้ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ทศสงสารน้องจับใจ รับรู้ถึงความโดดเดี่ยวของน้อง แต่ก็ดีใจที่น้องยึดเขาไว้เป็นที่พึ่ง

การเป็นตัวแทนของใครสักคนอาจยาก แต่ทศจะลองดู

ถ้าน้องยอมเปิดใจให้เขา เขาก็จะเปิดใจให้น้อง


หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคแรก-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 22-03-2012 02:19:27
พี่เสือกินเด็กชัว
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 22-03-2012 02:21:12
หลังเสร็จจากงาน แม่ก็รับกรมาอยู่ด้วย จัดการเรื่องย้ายโรงเรียนมาใกล้บ้าน แล้วเตรียมให้น้องกรขึ้น ม.ต้นโรงเรียนเดียวกับทศ

ก่อนหน้านั้นเขาพากรไปแนะนำกับเพื่อนๆ ทั้งในระแวกบ้านและในแก๊งค์ของตัวเอง การเปลี่ยนสถานที่ใหม่ เปลี่ยนคนรู้จักใหม่ เป็นเรื่องใหญ่ของเด็กเล็กที่รู้ภาษา ความบอบช้ำในใจมากแค่ไหนไม่มีใครเห็น ทศทำได้แค่ดูแลให้ดีที่สุด ใส่ใจให้มากที่สุด และรักน้องให้มากที่สุด โดยหวังว่าแผลนั้นจะจางลง หรือหายได้ในสักวัน


************


พอทศเลื่อนชั้นขึ้น ม.5 น้องกรก็เลื่อนขึ้น ป.6

สภาพทางจิตใจน้องกรดีขึ้นมาก ด้วยความที่ข้างบ้านมีเด็กคนนึงเรียนโรงเรียนประถมเดียวกันกับกร ทศจึงพากรไปตีซี้ นิสัยคงเข้ากันดี เด็กสองคนนี้ถึงกลายเป็นเพื่อนสนิทคู่หูตังเมกันในเวลาต่อมา

พอน้องการได้เพื่อนสนิท ทศยิ่งดีใจ+สบายใจ และสามารถดูแลแบบห่างๆ ได้บ้าง โชคดีที่กรค่อนข้างติดทศ มีอะไรเล่าให้ฟังหมด จ้อจนทศหลับไปก่อนทู๊กวัน ------ฮา

แม่ เข้มงวดกับกรแบบเดียวกับกับที่ทำกับทศ
กรดูเกรงใจแม่อร แต่ไม่ได้กลัว อืม…. หลังๆ ทศรู้สึกว่า น้องขี้อ้อน อ้อนจนแม่อรอ่อน ลูกคนเล็กเรียกน้องกร ถึงโมโหก็เรียกน้องกร แต่กับลูกคนโตจะเรียกทศ เวลาโมโหก็เสริมสรรพนามนำหน้าให้เป็นพิเศษ….ไอ้ทศ!



พอทศเลื่อนชั้นขึ้น ม.6 น้องกรก็เลื่อนขึ้น ม.1

กรกับติคู่หูตังเมได้อยู่ห้องเดียวกัน อย่าให้โม้ น้องกรอยู่ห้อง 1 ครับ ฉลาดผิดกับพี่ชายลิบลับ เพราะพี่ชายน้องกรอยู่ห้อง 11 (รองบ๊วย)

สามวันเท่านั้นหลังจากที่เริ่มเปิดเรียน ข่าวเด่นประเด็นร้อนของโรงเรียนพุ่งไปที่…..

ไอ้ทศขาโจ๋ห้อง 11 แก๊งค์…..(อย่าไปรู้มันเลยเนอะ ขี้เกียจตั้งชื่อ 55555+)…. มีน้องชายอยู่ห้อง 1 แถมน้องชายหน้าตาดีจัดเข้าข่ายน่ารักน่าฟัด นิสัยก็ดีผิดกับพี่ชาย ยิ่งสีตาแปลกกว่าคนอื่น กรยิ่งเป็นจุดสนใจ

รุ่นพี่ผู้หญิงตามเลี้ยงดูปูเสื่อกันทั้งโรงเรียน ส่วนรุ่นพี่ผู้ชายที่รู้จักและรู้รสหมัดไอ้ทศดีก็ชอบไปเอ็นดูน้องชายไอ้ทศ (อ๊ะ ในแง่ดีนะ)

ก็ไอ้ทศมันซ่ามาตั้งแต่ ม.1 จน ม.6 ถึงได้มีจุดอ่อนกับเค้าขึ้นมา ไม่ไปแกล้งมันตอนนี้ รอให้มันจบแล้วแกล้งมันจะไปหนุกอารายคร๊าบ

จริงอยู่ว่า พวกที่เคยมีเรื่องก็ตั้งเป้ามาหาน้องชายไอ้ทศอยู่บ้าง แต่ได้สหายอินเดอะแก๊งค์ ช่วยกันกระจายข่าวด้วยหมัดและตีน พวกที่เคยเสนอหน้ามาวอแวน้องกรจึง…..ถอยไปอยู่ห่างๆ

ด้วยเหตุนี้เองทศจึงต้องไป-กลับโรงเรียนพร้อมน้อง หาหน่วยสอดแนมวางไว้ทุกจุด ไอ้น้องติก็รวมอยู่ในหน่วยสอดแนมของทศด้วย

ก่อนเข้า ม.1 ทศบอกกับน้องกรอย่างตรงไปตรงมาว่า หากเข้ามาเรียนโรงเรียนเดียวกัน จะเป็นอย่างไร ซึ่งกรก็ยังยืนยันว่าจะเรียนที่เดียวกับพี่ทศ ทศจึงขอคำสัญญาสองอย่าง (แน่นอนว่าเรื่องนี้ให้แม่อรรู้ไม่ได้เด็ดขาด แม่กับพ่อรู้แค่ว่า “ลูกเที่ยวเล่นตามภาษาเด็กวัยรุ่น”)

“ต้องเชื่อฟังที่พี่บอกทุกอย่าง” ทศพูดหน้าเข้ม

“หือ? ไม่เอา” กรปฏิเสธ

“อ๊าว ทำไมอ่ะ” ทศหน้าเหวอ

“อ๋าว ถ้าทุกอย่าง เกิดกรจะไปค้างบ้านติ แต่พี่ทศไม่ให้ไป แต่แม่อรให้ไป กรก็ไม่ได้ไป มันไม่เกี่ยวกันน๊า… พี่กรห่วงแค่เรื่องคนที่แค้นพี่ใช่ป๊ะล่ะ งั้นกรก็สัญญาแค่นั้น ได้มั้ยอ่ะ?” กรแจงสี่เบี้ย

“เอออออออ…. แต่อันไหนไม่ได้คือไม่ได้นะ เข้าใจจริงป๊ะเนี่ย!” ทศเริ่มไม่แน่ใจว่าน้องชายตัวเองรู้จริงมั้ยว่าเรื่องหากชะล่ามันอันตรายถึงชีวิตได้เหมือนกัน

“อื้ม รับทราบ อีกข้อล่ะครับ” กรพยักหน้า

“ห้ามปิดบังพี่ มีอะไรต้องบอก ถ้าถามต้องบอก ห้ามปิด อ้อ ข้อนี้มีผลตลอดชีวิต” ทศจิ้มหน้าผากน้องชายด้วยความหมั่นเขี้ยว

“อื้ม” น้องกรรับคำเสียงหนักแน่น ปากฉีกยิ้มกว้าง

ทศชักไม่แน่ใจขึ้นมาจริงๆ ว่า น้องรู้เรื่องจริงมั้ย “น้องกร ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ เข้าใจจริงๆ รึเปล่า? ข้างนอกนั่น พวกหมาบ้ามันเยอะ อันตรายจริงๆ นะ”

“พี่โต้ พี่เจต พี่เสือ พี่คิว พี่ทศ พี่ไผ่ ก็หมาบ้าเหมือนกันนิ” น้องกรนับนิ้วเรียงตัว เอ้ย เรียงคน

“อะไร หมาบ้าอะไร? เอามาจากไหน?” ทศหน้าเหวอ นี่น้องตูมันรู้ฉายาแก๊งค์เราด้วยเรอะ

อันที่จริง แก๊งค์ของทศไม่ได้ชื่อหมาบ้า แต่เพราะความบ้าบิ่นของคนที่น้องกรไล่ชื่อ กิตติศัพท์หมาบ้าจึงกลายเป็นนิคเนมของแก๊งค์ไป---- ชื่อแก๊งค์ออกจะเท่ แม่งไม่ยอมเรียก

“ติเล่าให้ฟังอ่ะ” กรบอก

“เป็นเด็กจะรู้อะไร” ทศบอก

“แต่พี่โต้บอกว่าใช่อ่ะ เนี่ยเมื่อวานพี่โต้ก็เล่าเรื่องใต้สะพานให้ฟังด้วย” กรเถียงคอเป็นเอ็น

ไอ้เหี้ยโต้! ไอ้ปากหมา! น้องกูใสซื่อบริสุทธิ์ผุดผ่อง! แม่งเล่าอะไรบ้างวะ? ฉิบหายเรื่องตีกันใต้สะพานนัดล่าสุดรึเปล่าวะ? แม่งเล่าไปถึงไหน……โอยยยยย งวดนั้นกูคันตีนมาก จัดเต็มซะ….. ฉิบแล้ว ภาพพจน์ “พี่ชาย” ของกู----- พรุ่งนี้กูจะเอาตีนถีบตูดมึงให้หายแค้นเลย คอยดูสิวะ!

วันต่อมาเค้นคอถามไอ้โต้ อืม…. ก็พูดเกินไป ไม่เสียแรงห่าไรเลย ถามปุ๊บแม่งก็ตอบปั๊บ เฮ้อ----ก็อย่างที่คาดไว้

ไอ้โต้มันคนเสมอต้นเสมอปลาย พูดกับเพื่อนยังไงก็พูดกับน้องชายหัวอ่อนของเพื่อนแบบเดียวกันเด๊ะ สรุป….

“เชี่ยโต้! หมดกัน…..ภาพพจน์กู!” ทศกุมหัวโวยวาย

ส่วนสหายแอนด์เดอะแก๊งค์

“มึงเป็นนักเรียนไม่ใช่ดารา ไม่ต้องเฟคนะเพื่อน กูจัดให้แหละ ฮ่าฮ่าฮ่า” ไอ้โต้หัวเราะสะใจ

“เอาน่า จะได้ดูๆ กันง่ายขึ้น” ไอ้คิวหัวเราะเสร็จถึงพูด

เสียหน้าก็จริงอยู่ แต่พอน้องกรเข้ามาเรียนจริง สหายอินเดอะแก๊งค์มันก็ทำตามที่พูด หนำซ้ำไอ้พวกนี้ยังนับน้องกรเป็นน้องชายในสังกัด รักเหมือนน้องตัวเอง ให้ความสนิทเทียบขั้นเพื่อน ----- ให้มากจนทศเริ่มคิดว่า ตัวเองคิดผิดไปรึเปล่าที่แนะนำน้องชายให้รู้จักกับเพื่อนตัวเอง ตัวเองคิดผิดใช่มั้ยที่ฝากผีฝากไข้กับเพื่อนตัวเอง......

ทศคิดมากจนจากความคิดที่ลังเลกลายสภาพเป็นกลัว

กลัวน้องเสียคน กลัวน้องเดินทางผิด

ทว่าพอผ่านมาสักเดือนนึง ความกลัวก็หายไป ความระแวงเข้ามาแทนที่

ระแวงว่า….. นี่กูฝากปลาย่างไว้กับแมวใช่มั้ย (แมวลายเสือกันซะด้วย)

เพื่อนเห็นตีนกู กูเห็นนมเพื่อน ------เฮ้ย อ่านไม่ผิดหรอก กูพูดถูกแล้ว สันดานเพื่อนกูน่ะ กูรู้ซึ้งดี



เรื่องปลาย่าง.... ไอ้โต้ทำตัวไม่น่าไว้ใจที่สุด แต่จริงๆ แล้วมันไว้ใจได้มากที่จุด

ไอ้เจตมันไม่รับฝากอะไร ความคิดมันสังเขปอยู่กับไอ้โต้แค่จุดเดียว

ไอ้คิว ไอ้นี่น่าระแวง มีอะไรให้ตะหงิดอยู่หลายที แต่ยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา

ไอ้ไผ่ เรื่องปลาย่างไม่น่ามีปัญหา แต่ทศกลัวแค่ว่า มันจะเอาปลาย่างไปทำน้ำพริก ไอ้นี่มันเชี่ยวเรื่องผู้ใหญ่ ต้องระวังไม่ใช้มันตั้งตัวเป็นครูพิเศษของน้องกร

ไอ้ทศ เฮ้ย! กรูพี่ชาย มีหน้าที่เต็มที่ในการเฝ้าปลาย่าง

“ไอ้เสือ” ……… ไอ้แมวเฝ้าปลาย่าง! อย่าให้กูจับได้ไล่ทันนะมึง แดกตีนกับข้าวแน่!!!!




มีต่อ Reply #46   :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-03-2012 07:41:50
ต่อๆๆๆๆๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-03-2012 08:11:50
เป็นเรื่องยาวไปเลยยยยยยยยยยยยยย
น่าสนใจมากค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 22-03-2012 08:23:27
มารอต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 22-03-2012 10:40:44
จากเสือ กลายเป็น ควาย ล่าสุด กลายเป็น แมว ซะแล้ว

เสือ แปลงร่างได้เนอะ!

ยาว ๆ ดีชอบ วิธีการเขียนแปลกดีเหมือนกัน ไม่ค่อยได้อ่านเท่าไร แต่ก็อ่านง่าย เข้าใจได้ดี
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 22-03-2012 11:07:16
 
“โทษครับ พี่เสือใช่มั้ยครับ” เสียงหนึ่งเอ่ยถามพร้อมส่งมือมาสะกิดหลัง

คนที่ไม่ถูกเรียกหันควับทันที “ใครอ่ะ มึงรู้จักเหรอไอ้เสือ”

เสือหันหลังกลับไปมอง เด็กหนุ่มตัวเก้งก้าง ใบหน้าโชกน้ำ เสื้อผ้ามอมแมม ส่งยิ้มกว้างมาให้พวกเขา…. ยังตัวติดกันเป็นตังเมเหมือนเดิม

“ไม่รู้จักว่ะ” เสือพูดจบก็หันหน้ากลับมากินต่อ

“โหยยยยยยยยยยย พี่เสือ ใจร้ายว่ะ” เด็กหนุ่มกำหมัดยันหลังเขาทีนึง แล้วหันไปหาตัวช่วยอีกคน “หวัดดีคร๊าบ พี่โต้” ยกมือขึ้นไหว้ไอดอลของตัวเอง

“ไหว้พระเถอะลูก ว่าแต่มึงเป็นใครวะ?” โต้ถาม

“พี่โต้ง่าาาาาาาาาาาาาา ใจร้าย ใจร้าย ใจร้ายยยยยยยยย” เด็กหนุ่มโดดเข้ารัดคอไอดอลของตัวเอง

“สัดติ กูเจ็บ! เหี้ยยยยยย ข้าวกรู…….” โต้รีบประคองกล่องข้าวที่เทเอียงคืนกลับมา เสียเสบียงไปครึ่งหนึ่งแต่ยังดีที่เหลืออีกครึ่ง

“มึงเก็บให้เกลี้ยงเลย สกปรกพื้นที่เค้า” เสือจัดหนึ่งโบกให้เด็กหนุ่ม

ติรับคำหน้าบาน อ้อมมาข้างหน้า เก็บเศษข้าวจำนวนหนึ่งที่หกอยู่กับพื้นพร้อมกับถามสารทุกข์สุกดิบของไอดอลตัวเองไม่หยุดปาก ไอ้โต้ก็ตอบบ้าง ยียวนบ้างไปตามเรื่องของมัน ระหว่างนั่งกินข้าว ติมันก็จ้อจนเสือได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้เกือบหมด

ติสอบเข้ามหาลัยเดียวกันกับกร แต่อยู่คนละคณะ พอพ้นปีหนึ่งติก็มาอยู่หอนอกกับกร ตอนนี้เรียนปี 4 กันแล้ว เรียนหนักมากแต่ไม่เป็นปัญหากับกรหรือติ เสียแค่ว่านอนน้อยเพราะอาจารย์ส่งงานมาให้ทำกันแบบไม่ขาดมือ ติบิกว่าพี่ทศมาหาบ้าง เวลาที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ แต่ไม่บ่อยเหมือนช่วงแรกๆ ที่เพิ่งเข้ามหาลัย

วันนี้ติมากับแฟน กับกร แล้วก็เพื่อนในเอกของกร….. เมื่อนกขุนทองเล่ามาถึงตรงนี้ เสืออยากถามใจจะขาดว่า …

“เพื่อนสนิทมึงมีแฟนกับเค้ามั้ยล่ะ? พาสาวมากรอกทรายด้วยรึเปล่า?” เสียงเข้มเอ่ยถาม

ไม่ใช่เสียงของเสือ แต่พูดเหมือนที่เสือคิดเป๊ะ!!! ไอ้โต้มันมีองค์ *0*

“ไม่ยักกะมีอ่ะพี่ ก็แนะนำให้หลายคนนะพี่โต้ แต่ไอ้กรมันเอาแต่เรียนอ่ะ ดูมันเฉยๆ กับเรื่องความรักมาก” ติบอก

เสือแอบถอนหายใจไม่ให้ใครสังเกตุเห็น… กรไม่มีแฟน แต่ใช่ว่ากรจะยอมมาเป็นแฟนของตัวเอง

กรจะยอมคบกับเสือได้ยังไง ในเมื่อเสือนี่ล่ะที่เป็นฝ่ายปฏิเสธกรเมื่อครั้งก่อน ไม่สิ จะเรียกว่าปฏิเสธกันก็ไม่ได้ ก็ตอนนั้น…..







***********************************






วันนึง พวกที่เคยมีเรื่องกับไอ้ทศพาพวกมาพาติกับกรไป ทศรู้คร่าวจากหน่วยสอดแนมของมันคนนึง เราต่างก็วิ่งวุ่นตามหาตัวน้องๆ กันให้ควัก ทั้งที่ระวังตัวกันก็แล้ว ยังไม่วายเจอเหตุนี้เข้าจนได้ วันนั้นหากันอยู่นานจนเกือบเที่ยงคืน สายไอ้เจตก็โทรเข้ามาที่เครื่องเสือ

“เออ ทางมึงว่าไงวะ” เสือกรอกเสียงถาม

“เออ กูเจอเห็บตัวนึง ไอ้โต้มันกำลังเค้นสถานที่อยู่ เดี๋ยวคงได้ มึงมาหากูที่xxxxx อย่าเพิ่งบอกพวกไอ้ทศ เอาแค่กู มึง ไอ้โต้พอ เผื่อแม่งอยากตามมาล้างแค้น จะได้ไม่โยงไปหาไอ้กรอีก” เจตบอก

เสือรีบขี่มอเตอไซด์มายังที่ที่เพื่อนบอก ยังไม่ทันจอดรถดี เพื่อนทั้งสองก็เดินพริ้วออกมาจากด้านใน

“อยู่ xxxxxxx ไม่รู้ถึงสิบคนมั้ย มึงจะไปรถไอ้เจตหรือเอารถมึงไปล่ะ” โต้บอกสถานที่ที่เราค้นหากันมาเกือบค่อนคืน…. ไอ้โต้เลิกค้นตามที่ต่างๆ หันมาตามหาคนที่น่าจะเกี่ยวข้องแทน แต่พวกมันก็เหมือนนกรู้ เก็บตัวกันเงียบ

โชคดีที่ไอ้เจตเคยไปสีหญิงคนนึงที่คบกับหนึ่งในพวกมัน โต้ให้เจตโทรเรียกตัวผู้หญิงคนนั้นออกมา ไอ้โต้ส่งไอ้เจตเป็นเครื่องเซ่นเล็กน้อยก็ได้ตัวหนึ่งในพวกมันมาคนไอ้โต้ก็ไปขอร้องงามๆ ด้วยหมัดและตีน เจตบอกว่าเผลอลืมห้ามไอ้โต้ ไอ้นั่นเลยสลบ ต้องรอสักพักใหญ่ถึงฟื้น

“แม่งเสียเวลาฉิบ เสือกสลบทำแม่งไรวะ! บอกกูมา มึงเอาน้องกูไปไว้ไหน? จำไว้ หากมึงสลบอีกที กูจะตัดน้องชายมึงตอนนั้นล่ะ”โต้บ่นอุบ…..

ใช่เรียกว่าบ่นน่ะถูกแล้ว ไอ้โต้มันบ่นแบบนี้เป็นปกติ ส่วนเรื่องที่จะทำตามที่พูดหรือไม่นั้น------แล้วแต่อารมณ์มัน

ด้วยความห่วง “น้องชาย” พวกเราจึงได้ชื่อสถานที่ที่พวกมันเอา “น้องชายเรา” ไป

ก่อนเข้าไป พวกเราเอาเครื่องทุ่มแรงติดตัวไปนิดหน่อย ก็โอเคละ พวกมันก็สิบคนได้ เสือรับไปสอง นอกนั้นปล่อยไอ้เจตกับไอ้โต้ออกกำลังกันไป เสือจัดการส่วนของตัวเองเสร็จก็คอยดูเชิงให้หมาบ้าสองตัวต่อ เขาเห็นแล้วว่าน้องๆ ยังอยู่ดีปลอดภัย ท่าทางเหมือนกลัว แต่ไม่มีบาดแผลหรือรอยฟกช้ำ….ก็ปล่อยไปก่อน กันหมาบ้าสองตัวนี่ “ทำเกิดเหตุ” สำคัญกว่า

ขากลับ เจตกับโต้รับหน้าที่ไปส่งติกลับบ้าน โชคดีที่วันนี้พ่อแม่ติไม่อยู่บ้าน เลยเล่าเรื่องเบื้องต้นให้พี่สาวติฟัง ขอโทษพี่สาวเค้าแทนพ่อแม่ พี่สาวติไม่ติดใจอะไร บอกแค่ว่าอย่าให้เกิดขึ้นอีก หากเป็นอะไรมาจริงๆ ไม่ใช่เรื่องสนุก

เสือรับหน้าที่พากรกลับบ้าน แต่พอโทรไปหาทศ กรกลับเข้าบ้านไม่ได้ เพราะทศโกหกแม่ไปว่า น้องไปนอนค้างกับเพื่อน เสือเลยต้องพากรกลับไปนอนที่บ้านตัวเองก่อน

คืนนั้นอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ ….. กรร้องไห้ ทั้งๆ ที่ก่อนนอนก็ถามกันดีแล้วว่าเป็นยังไง กรก็ว่าโอเคกลัวนิดหน่อย แต่เหนื่อยมากกว่า เสือเห็นน้องไม่เป็นอะไรมากเลยปิดไฟนอน คิดไม่ถึงว่า.... เฮ้อ เจอแบบนั้นไป ใครจะไม่กลัวล่ะวะ คนยิ่งใสซื่อด้วย พี่มันก็ไม่อยู่ ลูกคนเดียวอย่างเสือทำอะไรไม่ถูกไปเลย

นอนฟังเสียงสะอื้นได้พักใหญ่ เสือเริ่มรำคาญ แต่ก็ไม่รู้จะปลอบยังไง เขาไม่เคยปลอบใจใคร.....

เสือยื่นแขนไปคล้องตัวน้องชายเพื่อนมากอดไว้ มือโอบเด็กชายเข้ามากระชับตัว และลูบหลังหัวของเด็กชายเบาๆ เด็กชายยิ่งปล่อยโฮมากขึ้น แต่ไม่ได้ร้องเสียงดัง

ตอนแม่ของกรเสีย เสือที่อยู่ข้างบ้านอาสาน้าอรไปช่วยจัดการธุระในงานศพให้ด้วย ครั้งแรกที่ได้เห็นน้องชายเพื่อนเขาใจกระตุกวูบ หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ ต่างกันแค่สีของตา กับความยาวของทรงผม ทศชอบตัดสกรีนเฮดเหมือนไอ้โต้ สองคนนี้ไม่ชอบไว้ผมยาว ภาพที่น้องชายไอ้ทศวิ่งโผมาหาไอ้ทศ กอดไอ้ทศร้องไห้ไม่ยอมปล่อย ร้องจนหลับไป

“ใจว่ะมึง ขอบใจนะเว้ยที่มาช่วยแม่กูจัดงาน” ทศรับถ้วยข้าวต้มไปถือ แล้วจ้วงตักเข้าปาก

“เออ มึงก็ดูน้องมันไป เดี๋ยวกูทำให้.... มันไม่มีใครเลยเหรอ ญาติฝ่ายแม่มันล่ะ” เสือนั่งลงขัดสมาธิตรงข้ามกับทศ

“ไม่มีแล้วว่ะ แม่ว่าทางนั้นเค้าตัดญาติกันไป เพราะคุณเจนเค้ามาแต่งกับพ่อกู........เสือ ถ้าน้องเค้ายอมไปอยู่กับกูกับแม่กู มึงว่ากูจะดูแลมันได้มั้ยวะ ตัวนิดเดียว ไม่ดื้อ แต่เก็บความคิดน่าดู นี่ถ้ากูไม่รู้จักไอ้ห่าเจตมาก่อน กูคงไม่กล้ารับมันสนิทกันขนาดนี้หรอกนะ” ทศพูดพลางวางถ้วยข้าวต้มที่หมดไปอย่างรวดเร็วลง เสือยื่นแก้วน้ำไปให้ ทศก็รับไปพร้อมว่า ใจว่ะ

“เลือกทางที่ดีที่สุดให้มันละกัน คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่อยาก” เสือบอก

“เฮ้ย กูขอโทษ มึงอย่าคิดมากนะเว้ย!” ทศนึกขึ้นได้ว่าคำพูดตัวเองอาจไปสะกิดต่อมของเพื่อนได้

เสือมีปัญหาทางบ้านคาราคาซังมานาน แต่เพราะเป็นเด็กมันจึงต้องไปอยู่ในที่ที่ผู้ใหญ่ให้ไป ความอึดอัดจากปัญหาของผู้ใหญ่เคยทำให้มันแทบบ้าไปช่วงแรๆ แต่แม่ของทศ เสนอให้เสือมาให้บ้านของเขาเป็นที่พักพิงใจได้ เวลาที่เบื่อจริงๆ เท่านั้น นานวันไป ถึงเจอกับปัญหาทุกวัน แต่คนคนหนึ่งมีที่พักใจ เขาก็สามารถอยู่ร่วมกับปัญหาไปได้ อย่างไรเสีย นั่นก็พ่อแม่ถึงตัดขาดแต่ แต่ใจมันก็ยังนึกห่วง

ในกลุ่ม ทศจึงสนิทกับเสือมากที่สุด ไม่ใช่ว่าเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน แต่เพราะต่างเจอมรสุมชีวิตมาพร้อมๆ กันมากกว่า เพื่อนที่คบกันอยู่ตอนนี้ ถึงบ้าและซ่าเกินสายตาผู้ใหญ่ แต่กลุ่มของพวกเขาก็มีลิมิตไม่ทำเรื่องที่เกินเลย ทั้งผิดกฏหมาย และผิดศีลธรรม พวกเขาแค่ไม่ยอมใคร และกล้าที่จะปกป้องตัวเองและเพื่อนด้วยกำลังที่มีทั้งหมด.....ก็เท่านั้น

เพราะเห็นความสับสนซับซ้อนของพวกผู้ใหญ่ พวกเขาทั้งกลุ่มจึงตระหนักถึงอนาคตเร็วกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันที่ เรียนเล่นไปวันๆ



*****************


แสงแดดแยงตา เสียงนกกาเหว่ามาร้องที่ต้นไม้ที่อยู่ตรงนอกหน้าต่าง รุ่งสางแล้ว แต่บรรยากาศยังน่านอน

กรลืมตางัวเงียขึ้นมา รู้สึกสงสัยว่าเสียงนกกาเหว่าดังมาจากไหน ที่บ้านเขาไม่มีนกแบบนี้ กรลืมตามาเห็นเสื้อสีขาวเนื้อบาง รู้สึกถึงท่อนแขนหนักๆ ที่พาดอยู่บนตัว ยังงัวเงียอยู่ไม่หาย อากาศก็เย็นเจี๊ยบ กรจึงซุกเข้าไปกอดพี่ชายแล้วนอนหลับต่อ

พี่ทศใจดี พี่ทศเหมือนพ่อ กรชอบเวลาที่พี่ทศเอามือวางบนหัว พ่อเองก็ชอบทำแบบนั้น หากกรจะร้องไห้ พ่อชอบเอากรเข้าไปกอดไว้ ปล่อยให้กรร้องให้เต็มที่ เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไร อยากอะไร ไว้ถามกันทีหลัง พี่ทศก็ทำเหมือนกับพ่อ จนตอนนี้ถึงกรโตแล้ว แต่หากไปขอนอนด้วย พี่ทศก็จะนอนกอดกรเสมอ

ก่อนนี้เคยน้อยใจคนชื่อทศ พ่อไม่ค่อยอยู่บ้าน ถามทีไรแม่จะบอกว่า พ่อไปหาพี่ทศ

ตอนนั้นกรยังเด็กมาก รู้แต่ว่าแม่บอกว่าว่าตัวเองมีพี่ชาย แต่แม่ของพี่ชายไม่ใช่แม่ เป็นคนอื่น พ่อจึงต้องไปหาพี่ทศบ้าง แต่กรน้อยใจ ที่พ่อมีเวลาอยู่กับกรน้อยมากๆ พี่ทศเอาพ่อไป พี่ทศใจร้ายไม่ยิมแบ่งพ่อให้กรเลย ครั้งหนึ่งกรเคยโวยวาย แต่แม่บอกว่า อย่าพูดแบบนี้กับพ่อ พ่อจะเสียใจ พ่อรักกรมาก และพ่อก็รักทศมากด้วย

“หากน้องกรเป็นลูกพ่อ แล้วพ่อไม่รักน้องกรเลย ไม่มาหา ไม่มาดูแล น้องกรเสียใจมั้ยคะ?” แม่ย้อนถาม

เสียใจสิ ตอนนี้กรก็เสียใจ แต่กรก็เกลียดคนชื่อทศอยู่ดี

แต่นั่นก็เป็นความคิดช่วงที่ก่อนพ่อจะเสีย หลังจากที่พ่อเสีย กรก็ไม่ได้เกลียดคนชื่อทศอีกเลย

พ่ออยากให้ลูกๆ รักกัน เป็นพี่น้องที่ดูแลกัน.... แม่บอกกรก่อนที่แม่อรกับพี่ทศจะมางานศพของพ่อ แรกเลยที่เห็นหน้าพี่ทศ กรตกใจ ใครก็ไม่รู้ หน้าตาเหมือนกันเลย แถมเหมือนพ่อมากกว่ากรเสียอีก กรคิดแบบเด็กๆ ว่าตัวเองเกลียดขี้หน้าพี่ทศ เพราะพี่ทศชอบยึดพ่อไป อีกฝ่ายก็ย่อมไม่ชอบเขาด้วยเหมือน เพราะตอนนี้พ่อย้ายมาอยู่กับกรและแม่ของกรแล้ว ไม่ได้อยู่กับแม่อรและพี่ทศเหมือนเดิม

ไม่รู้ยังไง พอคนชื่อทศยื่นมามาหา พอสอดมือไปใส่ในมือเค้า กรกลับอุ่นใจ คนคนนี้น่าสนใจดี ไม่พูดมาก ไม่เซ้าซี้กร แต่คอยมองตามกรตลอดเวลา ช่วงเวลาไม่นานระหว่างจัดพิธีศพให้พ่อ กรพบว่าพี่ชายคนนี้ ทำอะไรหลายอย่างเหมือนพ่อ ด้วยความเสียใจที่พ่อไม่อยู่แล้ว กับการขาดความรักที่ไม่เคยได้เต็มๆ กับพ่อ เมื่อทศไม่ว่าอะไร กรจึงอ้อนทศเต็มที่ แล้วทศก็ให้กรเต็มที่

“มีพี่น้องน่ะมันดีนะ ไว้ต่อไปลูกจะรู้เอง” พ่อเคยบอกกรไว้อย่างนั้น แล้วก็จริงอย่างที่พ่อพูด

พี่ทศเป็นพี่ชาย พี่ทศเป็นตัวแทนพ่อ พี่ทศเป็นเพื่อน มีพี่ทศกรหายเหงาขึ้นเยอะ ยิ่งพอแม่เสียกรยิ่งรักพี่ทศมากขึ้น เอาความรักที่เคยให้แม่มาให้พี่ทศด้วย หากไม่มีพี่ทศ กรไม่มีใครอีกแล้ว แม่อรไม่เหมือนพี่ทศ ไม่มีใครเหมือนพี่ทศ

“อืออออ” เอวถูกรวบไปรัดแน่นขึ้น จนกรที่หลับอยู่รู้สึกอึดอัด มือที่วางอยู่ตรงช่วยเอวเริ่มเลื้อยมาตรงก้นของตัวเอง มันเคลื่อนไหวแบบแปลกๆ เสียงลมหายใจหนักดังเข้ามาในหู แรกเริ่มคิดว่าเขาคงละเมอ ทว่า กรเริ่มรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่ ก็เมื่อแท่งแข็งๆ เสียดสีกับหน้าขาของตัวเอง

กรตัวแข็งทื่อ พอได้สติจึงเงยหน้าขึ้นไป !!!!! พี่เสือ.......... แล้วพี่ทศไปไหน?

กรตื่นเต็มตา พอเห็นอีกฝ่ายเหมือนหลับลึก ไม่ได้ลักหลับ จึงพยายามยันอกจะออกไปจากกรงแขนของเขา ทว่าเรี่ยวแรงที่ใช้กลับไม่เป็นผลเลย กระทั่งเสียงอึมอัมดังขึ้น ต้นขากรรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้น กรสะดุ้งเฮือก อ้าปากร้องเรียก “พี่......เสือ......” คำว่าพี่ติดอยู่ในลำคอ แต่คำว่าเสือดังออกมาเป็นคำ

“อื้อ...... ทศ.......” เสือครางเรียกคนในฝัน พร้อมก้มหน้าลงหอมไปทั่วหน้าของกร

กรตาแข็งค้าง----- ทศ พี่ทศ....... นี่พี่เสือคิดกับพี่ทศแบบนี้เหรอ?

กรอึ้งกับสิ่งที่ได้รู้ สักพักพอพี่อารมณ์ร้อนของพี่เสือสงบลง กรงแขนเหมือนคลายตัว กรขืนตัวออกจากที่ตรงนั้น ลุกพรวดออกมาจากเตียง มองหาห้องน้ำ พอเจอก็วิ่งตื๋อเข้าไป กรนั่งทำใจสักพักอยู่ในนั้น รวมรวบความคิดว่าจะทำไงต่อ ระหว่างที่คิดตาก็เลื่อนลงมาที่ต้นขา รอยเปียกเป็นนวงหนึ่งแสดงหลักฐานว่า

“ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย? ไอ้พี่เสือ! ไอ้ลามก!” กรครางพลางถอดกางเกงล้างคราบนั้นออกจากผิวเนื้อ ถ้าไม่ล้างคราบที่ติดกับกางเกง กรก็ใส่มันคืนไม่ลง ว่าแล้วก็เอากางเกงมาขยี้คราบนั้นออก ระหว่างมองดูว่าคราบนั้นขยี้ออกมาหมดรึยัง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“ไอ้กร กูปวดขี้ ออกมาเร็ว!” เสียงทุบประตูปึงปังดังขึ้นไม่ขาดช่วง

กรรวบรวมความกล้า เปิดประตูไปเผชิญหน้ากับความจริง.... ทันทีที่เปิด เขาก็โดนดึงหวือออกมาจากห้องน้ำ ฝ่ายที่ดึงแรกตัวเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูตามเสียงปังใหญ่

กรเดินไปนั่งที่เตียงหน้าเหวอ จะเอาไงต่อ.....คงต้องดูท่าทีของอีกฝ่ายก่อน จากที่จำได้ เหมือนอีกฝ่ายทำไปด้วยความละเมอระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

“พี่ทศ มารับก่อนหน่อยดิ จะกลับบ้าน” กรร้องหาพี่ชาย

พอพี่ชายซักถามว่าเป็นไงบ้าง รู้สึกไม่ดีอะไรมั้ย เรื่องของเมื่อคืนก็แวบเข้ามาในหัว โดนจับตัวไปมันก็น่ากลัว เมื่อคืนยังนอนร้องไห้เลย แต่ว่า........... เรื่องเมื่อเช้ามันปลุกขนแขนให้แสตนอัพได้มากกว่า พี่ทศเอากรกลับบ้านทีเหอะ ไม่อยากรับรู้เรื่องไอ้พี่เสือง่า *0*


***************[/size]















มีต่อ Reply #59
:pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 22-03-2012 12:03:48
อ่ะรอตอนต่อไปอ่ะ สนุกมาก >< น้องกร พี่ทศ พี่เสือ มันยังไงกันละเนี่ย
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-03-2012 12:31:32
ทศหวงน้องเว่อร์ ก็น้องน่ารักนี่เนอะ หวงก็ไม่แปลก

แต่อยากรู้ว่าเสือทำไรน้องบ้าง  ถึงมองหน้าไม่ติด

หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-03-2012 12:54:23
อ๊ายยยยยยย สนใจสุดๆ เลยตอนนี้
อยากจะ f5 รัวๆ รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 22-03-2012 13:24:53
อ๊ายยยยยยย สนใจสุดๆ เลยตอนนี้
อยากจะ f5 รัวๆ รอตอนต่อไป

ขออำภัย เกรงใจมากๆ ที่จะบอกว่า
"อย่ารัว f5 เลยน๊า วันนี้เค้าคงไม่ลงต่อแย้วอ่ะ ขอเว้นไปสักสองสามวันก่อนนะ ขอเร่งงานหลวงก่อน ขออำภัยด้วยจริงๆ"
โค้งสุดตัว
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 22-03-2012 13:33:43
ทศหวงน้องเว่อร์ ก็น้องน่ารักนี่เนอะ หวงก็ไม่แปลก

แต่อยากรู้ว่าเสือทำไรน้องบ้าง  ถึงมองหน้าไม่ติด



ทศเค้าคงรู้สึกผิดที่เคยคิดไม่ดีกับทางบ้านน้องกร
พ่วงว่าแม่น้องกรเสีย ยิ่งสงสาร ทศยังเหลือแม่ แต่กรไม่เหลือใครเลย

ส่วนนักเรียนนักเลง วีรกรรมเค้าเยอะ
ก่อนนี้ไม่มีน้อง เป็นลูกคนเดียว ไม่มีห่วง
พอเกิดมีน้องขึ้นมา ก็นะ โจทย์ เยอะ.....*0* เด็กไม่มีสติมันก็มีเยอะนา
แม่เจนเลี้ยงมาแบบดี ไม่เชี่ยวแบบทศ.... น่าเป็นห่วงออก

ส่วนไอ้เสือ..... ขอยืมคำโต้มาใช้ “มึงทำตัวเองว่ะ ไอ้ควาย!”
55555555555555555555+
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 22-03-2012 13:45:40
มาต่อเร็วๆเลยจร้า
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-03-2012 13:48:44
น้องกรน่ารัก แต่พี่เสือนี่ยังไงรักพี่แต่ได้น้องรึเปล่า
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 22-03-2012 13:58:52
เขียนแปลกดีแต่อ่านเข้าใจนะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 22-03-2012 20:52:12
ชื่อแอบคล้ายๆกัน
 อ่านตอนแรกๆแอบมึนเล็กน้อยถึงปานกลาง  555

ฮามากกกก  ชอบบบบๆๆๆ

+1 ให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-03-2012 00:09:56
มาต่อด่วน เลยจ้า


อยากรู้จะแย่ว่าทำไมพี่เสือถึงเปลี่ยนใจจากพี่ทศ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 23-03-2012 10:29:45
มาต่อด่วน เลยจ้า


อยากรู้จะแย่ว่าทำไมพี่เสือถึงเปลี่ยนใจจากพี่ทศ
ติ๊งหน่อง

สวัสดีค่ะท่านผุ้มีอุปการะคุณ

ขณะนี้ ทางเรายังพิมพ์ตอนจบไม่เสร็จ เนื่องด้วยทางเราง่วงมาก
เช้ามายังต้องมอบเวลาให้งานหลวงท่านก่อน

อาจใช้เวลาสัก 2 คืน ทางเราจะมาลงให้ท่านอ่านกันอีกครั้ง

ขอบคุณสำหรับการติดต่อ
โค้งสุดตัว








ลงอีกครั้งครั้งนี้ (จบในตัว)
*0* ปาดเหงื่อ มันยาวเจงๆ สองก้าวเนี่ย ให้มันจบๆ ไปละกัน ไว้ไปตอนอื่นกันต่อโน๊ะ โน๊ะ โน๊ะ โน๊ะ

ปล. ชอบโต้เจตกันเหรอ?


ชื่อแอบคล้ายๆกัน
 อ่านตอนแรกๆแอบมึนเล็กน้อยถึงปานกลาง  555

ฮามากกกก  ชอบบบบๆๆๆ

+1 ให้นะคะ

งงช่วงไหนเอ่ย? บอกได้ไหม? เผื่อเอาไปปรับปรุงงานเขียนอ่ะจ้า

ปล. ชื่อ? ชื่อเรื่องเราเหมือนกันเหรอ? "สองก้าว" ชิมิคะ


เขียนแปลกดีแต่อ่านเข้าใจนะ

(ปาดเหงื่อ) *0* เข้าใจโน๊ะ เข้าใจชิมิคะ (ตาปริบปริบ)
น่ารักที่สุดเลย

ปล. แต่ช่วงไหน ช่วงไหนงง ช่วงไหนอ่านสะดุด บอกกันได้น๊า เก็บไว้ไปแก้ไขคราวหน้า
ขบคุณค่ะ (ถอนสายบัว)

อ้อ อ่านแล้วรู้สึกว่าแปลก ยังไงรึคะ? (อยากรู้ง่า)

^
^
^
จิ้มๆๆๆ

ขอตอนพิเศษหวานๆคู่เจตโต้หน่อยได้มั้ยอ่ะ  ชอบ
ท่านผู้มีอุปการะคุณคะ
*0* ลองอ่านตอน “สองก้าว” จนจบก่อน
แล้วคิดอีกครั้งว่า ---------- คุณสองคนนี้เค้าจะหวานกันเป็นรึ 55555555555555555+

ชอบตัวละครทั้งสี่คนเลยครับ
แม้จะสั้นและจบในตอน แต่บรรยายให้เห็นความผูกพันธ์ได้ดีมากๆ
อยากอ่านตอนพิเศษอีกนะครับ
ขอบคุณค่ะ (ถอนสายบัว)
ตอนพิเศษอื่นๆ ก็คงเป็น “สั้นจบในตอน” เช่นเดิม ไว้ติดตามอีกทีนะคะ


ชอบมากเลยเรื่องน้ ดูเถื่อนๆดี ฮาาาา

รอคู่พี่เสือกับน้องกรต่อนะ  :-[
ขอบคุณค่ะ (ถอนสายบัว)
*0* ไม่มั๊ง พี่เสือกับพี่ทศ รึเปล่า?

ชอบพี่โต้มาก มันดูเถื่อนดีอ่ะ
ไงก็มาต่อเร็วๆนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ (ถอนสายบัว)
พี่โต้ขายดีวุ้ย *0*

 
ชอบจัง ติดตามต่อไปค่ะ
ขอบคุณค่ะ (ถอนสายบัว)
ถ้าลงตอนต่อไปแล้วต้องมานะ อย่าให้เค้ารอเก้อน๊า *0*

คู่ใหม่เสือกรป่ะคะ  รอๆๆ

 :กอด1:
อุ้ย! เสือ-ทศ จิ
“เสือทศ” รวมกันแล้วกลายเป็นโจรเลย 55555555555+

 
เจ็บเนอะเจอคนที่เขาทำเป็นไม่รู้จักเรา อยากอ่านยาวๆ แบบเรื่องแรกน่ะ
ต่อเนื่องมากๆ
เจ็บอ่ะ
อื้ม ต้องขออำภัยด้วย ตอนวาดโครงเรื่องสองก้าว กะไว้สั้นๆ ..... แต่พิมพ์แล้วมันเปลี่ยนทางไป
หากย่นๆ กลัวผู้อ่านมะเข้าใจตัวละคร เลยขยายความ........... แล้วมันก็บานเบอะ (กี๊ดดดดดดดดด)
พิมพ์คราวเดียวไม่จบ จำเป็นต้องพิมพ์หลายวันหน่อย
สัญญา ครั้งหน้าเหมือนตอนแรก “จบในตัว” เพื่อ “คอเดียวกัน”
(ชมรมชอบอ่านเรื่องจบ 5555555555555+)

พี่เสือกินเด็กชัว

หุหุหุ ใครกินใครอ่ะ?

ต่อๆๆๆๆๆๆๆ :กอด1:
รอหน่อยน๊า

เป็นเรื่องยาวไปเลยยยยยยยยยยยยยย
น่าสนใจมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ (ถอนสายบัว)
ขออำภัย เค้าเขียนยาวมะเป็นอ่ะ
ได้ยาวๆ แบบ “สองก้าว” เท่าน้านนนนนนน

มารอต่อค่ะ
ใจร่มๆ ใจร่มๆ

จากเสือ กลายเป็น ควาย ล่าสุด กลายเป็น แมว ซะแล้ว

เสือ แปลงร่างได้เนอะ!

ยาว ๆ ดีชอบ วิธีการเขียนแปลกดีเหมือนกัน ไม่ค่อยได้อ่านเท่าไร แต่ก็อ่านง่าย เข้าใจได้ดี
5555555555555+ สุดท้ายจะเป็นอะไรกันแน่โน๊ะ
ขอบคุณค่ะ (ถอนสายบัว)
เม้นท์วิจารณืได้เต็มทีนะ เราชอบบบบบบ

มาต่อเร็วๆเลยจร้า
รอสัก 2 วันน๊า

น้องกรน่ารัก แต่พี่เสือนี่ยังไงรักพี่แต่ได้น้องรึเปล่า
เออ โน๊ะ พี่เสือรักคนที่เขารักตัวเองดีกว่ามั๊ย!!!



ขอขอบคุณ Tiamo_jamsai / golove2 / bulldog17 / kinjikung / กระต่ายชมจันทร์ / -Otto- / malula / gupalz / mint_852 / yeyong / kasarus / MiSS-U / nco1236 / loveooo / Made / roseen
รีพลายในวันแรกของทุกท่าน เป็นพลังผลักดันให้ “สองก้าว” มีรูปร่างขึ้น

และทุกๆ รีพลาย ขอขอบคุณด้วยใจ..... ทุกท่านเป็นแรงผลักดันให้ “สองก้าว” มาที่จบจนได้ 555555555555555+

เจอกันครั้งหน้าอีกครั้ง
สัญญา (จบในตัว) ชัวร์ป๊าบ



 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น (จบในตัว)..... [สองก้าว] วรรคสอง (ยาว)-- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 23-03-2012 18:38:02
 o13
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสาม (จบในตัว) -- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 23-03-2012 23:10:17


วรรคสาม



“ย้ายโรงเรียน!” โต้แหกปาก เพื่อนคนอื่นๆ หันขวับมามองทศ

เสืออึ้งกับสิ่งที่เพื่อนบอกจนพูดอะไรไม่ออก

“เออ แม่ต้องย้ายไปประจำที่อื่น กูเลยว่าจะสอบเข้ามหาลัยทางโน้นเลย” ทศเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนพูดต่อว่า
“กูไม่ชอบเรื่องที่เกิดวันนั้นเลยว่ะ น้องกูซึมไปเลยตั้งแต่เช้าวันที่กูไปรับมันกลับมาจากบ้านมึงอ่ะ” ทศหันหน้ามาหาเสือ พูดเสียงเครียด

เสือหน้าเสีย…

เขารู้ดีแก่ใจว่าน้องไอ้ทศเป็นอะไร ถึงงัวเงียเขาก็เดาออกด้วยว่าเช้าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น

สายตาที่น้องกรมองตัวเอง----เขม่นกันมาก ถึงน้องกรยอมนั่งซ้อนท้ายเสือกลับบ้านเวลาที่ทศไปกับหญิง แต่น้องกรกลับไม่ยอมพูดเล่นด้วยเหมือนก่อน เสือทำทีเป็นว่าไม่รู้เรื่อง “ใจดีสู้กร” เอาหน้าด้านเข้าสู้ แต่กรตั้งกำแพงสูงตะหง่านจนเสือกระตายข้ามไปไม่ไหว

พูดขอโทษกับกรก็หมายความว่าเขาสารภาพกับกรว่าเขาแอบรักพี่ชายของกร….เฮ้อ กับเจ้าตัวยังไม่กล้าไปสารภาพรักกับเค้า แล้วจะให้ไปพูดกับน้องชายเค้าได้ยังไง

“กูชอบมึงว่ะ คบกับกูนะไอ้ทศ” คำคำนี้เสือซ้อมพูดหน้ากระจกมาสองปีแล้ว แต่ยังไม่กล้าพูดต่อหน้าทศสักที โอกาสไม่ใช่ไม่มี หากนับโอกาสเป็นทองไอ้เสือมันรวยเละไปแล้ว….

เสือไม่กล้าที่จะเสี่ยงเอาความเป็นเพื่อนสนิทไปแลกกับ “ความรัก” ยิ่งช่วงหลังๆ มานี้ไอ้ทศมีหญิงให้ตามเกี้ยวด้วยแล้ว…… เสือยิ่งไม่กล้าสารภาพความในใจมากขึ้นไปอีก

เคยเอาไปปรึกษาไอ้โต้ก็หลายครั้ง บอกมันหมดทู๊กอย่าง แต่เสือมันติดจั่น….วนเวียนอยู่กับที่ไม่กล้าเดินหน้าชน และไม่กล้าตัดใจ ไอ้โต้ก็ถวายบาทามาให้เป็นค่าตอบแทนที่ทำให้มันรำคาญ

“มึงดูถูกน้ำใจไอ้ทศเกินไป มันไม่ตัดขาดมึงเพราะเรื่องแค่นี้หรอกเว้ย” ถวายบาทาเสร็จไอ้โต้ก็นั่งลงพูดต่อ

“ถ้าเข้าหน้ากันไม่ติดอ่ะมึง” เสือลากตัวเองขึ้นมาจากพื้น

“กูก็พาพวกมึงไปแดกเหล้าให้เมาเป็นหมา แล้วเอามึงโยนไปรวมเตียงเดียวกัน ตื่นมามึงก็กลับมาเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม” โต้บอกหน้าตาเฉย

ความรู้สึกนะ ไม่ใช่เนสวีต้า! เชี่ยโต้!

“ทศ มึงมองหน้าไอ้นี่ไว้นะ วันสอบวันแรกตอนม.2 เทอมต้น มันบอกเลิกกับกู พูดจบก็เข้าไปสอบ จากนั้นมันก็มาชวนกูไปแดกเหล้าฉลองสอบเสร็จ ตื่นมากูกับมันก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม” เจตยกนิ้วชี้ไปจิ้มที่แก้มไอ้โต้ คนโดนจิ้มเปิดนิตยสารเกี่ยวกับรถมอเตอไซด์หน้าตาเองจริงเอาจัง

ก่อนหน้านี้ไม่นานไอ้ทศเพิ่งจับได้เรื่องที่สองคนนี้มันคบกัน แต่พอซักไซ้ไปเรื่อยๆ กลับเจอปมอีกอย่าง ไอ้โต้กับไอ้เจตมันเคยคบกันแบบไม่บอกใครมาแล้วครั้งนึงสมัยอยู่ ม.ต้น แต่คบกันแค่ปีเดียวก็เลิกกัน แล้ว ตอนนี้พวกมันก็กลับมาคบกันอีกรอบ รอบนี้ก็ไม่ได้บอกใครเหมือนเดิม แต่ไอ้ทศมันจับไต๋ได้เอง

“เพื่อนกันแม่งตัดกันไม่ขาดหรอกว่ะ” เจตบอก

หลังจากวันนั้นมา เสือเตรียมใจอยู่นานถึงมีความกล้าที่จะไปสารภาพกับทศ แต่ทว่า!!!!

ฟ้าเหมือนกลั่นแกล้ง โอกาสทองที่เคยมีมากมายกลับหดหายไปกันหมด

พอมีโอกาสแต่ไอ้ทศก็ไม่อยู่ในสภาวะที่จะรับเรื่องนี้ได้ พอไอ้ทศปกติบรรยากาศก็ไม่เป็นใจ พอมีทั้งบรรยากาศและตัวไอ้ทศที่ปกติ------ สายตาน้องกรกลับจ้องเขม็งมาที่เสือ เสียวสันหลังวูบวาบยังไงบอกไม่ถูก กรไม่ขวางเสือ แต่กรข่มเสือ….

สมกับที่ไอ้ทศชมน้องชายมันว่าฉลาด ชั้นเชิงจิตวิทยาของกรขั้นสูงมาก ไอ้เสือห้อง 11 มีรึจะรับไหว

จนถึงวันที่ ทศ กร และแม่ย้ายบ้านไป เสือก็ไม่มีโอกาสได้สารภาพกับทศ

ทำไมไม่เขียนจดหมาย?-----ไม่ได้ เรื่องสำคัญแบบนี้ ต้องพูดกับเจ้าตัวเลย เอาคำตอบมันตรงนั้นล่ะ ให้มานั่งรอคำตอบ ไอ้เสือหัวใจวายตาย

แต่ก็นั่นแหละ ห่างกันแค่ตัวเฉยๆ ไอ้ทศยังติดต่อกลับมาหาเพื่อนทุกคนอย่างสม่ำเสมอ เสือได้คุยกับทศทุกวันวันละครั้งเป็นอย่างน้อย เพื่อนทุกคนยกเว้นทศ รวมหัวกันเข้ามหาลัยที่เมืองหลวงของประเทศไทย นัดเจอกันง่ายมาก แต่เวลาเรียนหนักก็แค่ส่งเสียงทักทายกันเฉยๆ

เสือยังรักแบบห่างๆ อยู่ไกลแบบห่วงๆ จนกระทั่งขึ้นปี 2 ไอ้ทศก็บอกว่าจะขึ้นมาที่เมืองหลวงของประเทศไทย ขอพักที่หอด้วย ไอ้เสือดีใจเนื้อเต้น เตรียมแผนการสองชั้นสามชั้นเพื่อสารภาพความในใจ

ทศมาดูที่เรียนให้น้องกร กะว่าจะส่งมาเรียนพิเศษเตรียมสอบเข้าม.ปลาย และปูพื้นให้แน่นสำหรับมหาลัยไปด้วยในตัว

วันแรกทศมาถึงบ่ายแก่ กว่าจะเข้าไปที่หอ อาบน้ำมากินข้าวกับเพื่อนๆ กลับถึงห้องสลบเหมือดด้วยความเหนื่อย

วันต่อมา นัดเจตให้พาไปดูที่เรียนพิเศษ (เจตมันฉลาดที่สุดในแก๊งค์ แต่มันจะอยู่ห้อง 11 เพราะอะไร?....คุณควรเข้าใจด้วยตัวเอง) ไอ้ทศลังเลอยู่สามที่ เปรียบเทียบกันยากมาก

สรุป….โทรไปถามกับเจ้าตัวซะ…. อ่ะ หมดเรื่องแหละ *0*

ใช่---- ทศหมดเรื่อง แต่ไอ้เสือกำลังจะมีเรื่อง!!!

--------ที่เรียนพิเศษที่น้องกรเลือกอยู่ใกล้หอพักของเสือ

“มึง กูฝากน้องด้วยนะ ถ้ากูว่างจากเรียน กูจะขึ้นมาดูแลน้องกูเอง แต่ตอนยังไม่มา กูฝากมึงไว้ก่อนละกัน… ขอบใจว่ะ” ทศดึงไหล่เสือเข้ามากอดหลังจากที่พูดฝากฝังเป็นที่เรียบร้อย

โชคดีของเสือคงใช้ไปหมดแล้ว เวลานี้โชคที่ยังไม่เคยมาหามันจึงค่อยๆ ดาหน้ากันมา….

เพื่อแลกมาซึ่งวันคืนชู้ชื่นที่จะได้อยู่กับไอ้ทศ (กี่วันก็ไม่รู้ เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไอ้ทศมันว่าบอกตอนนี้ไม่ได้) เสือต้องเข้าสู่สงครามเย็นกับ….. น้องกร

หากเสือก้าวมันไปซะตั้งแต่ที่เจตกับโต้บิ้วให้ เขาอาจไม่ต้องก้าวตกหลุมซ้ำซากแบบนี้…. ก็เป็นได้?!





มีต่อReply #65  :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสาม (จบในตัว) -- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 23-03-2012 23:22:36
มาแล้วๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสาม (จบในตัว) -- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-03-2012 23:38:15
เห็นขึ้นวรรคสาม นึกว่าจบแล้ว


ยังมีต่อ    จะบอกว่ารออยู่
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสาม (จบในตัว) -- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-03-2012 23:46:08
แอบค้างและลุ้น อยากรู้ว่าเสือทศ หรือเสือกร กันแน่
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสาม (จบในตัว) -- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-03-2012 00:00:54
โถ ๆ พี่เสือได้แต่จด ๆ จ้อง ๆ ไม่ลงมือซะที
งานนี้พลาดจากพี่ได้น้องชัวร์
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสาม (จบในตัว) -- หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 24-03-2012 00:47:30
น่าติดตามม๊ากกก
ชอบโต้อ้าาา
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสี่ (จุดหนึ่ง) -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 24-03-2012 00:48:02

วรรคสี่ (จุดหนึ่ง)




เสือครุ่นคิดว่าจะจัดสนามรบสงครามเย็นในครั้งนี้เช่นไรดี….

ยังมีเวลาอีกอาทิตย์กว่าที่ข้าศึกจะเคลื่อนทัพมาถึงเมืองหลวงของประเทศไทย ทว่า ขณะที่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไร จู่ๆ วันนั้นก็ถูกร่นมาให้ถึงเร็วขึ้น น้องกรชักธงรบแล้ว แต่ไอ้เสือยังไม่ได้ปักลายธงทัพบกของมันเลย!!!

“โทษทีมึง กูจำเป็นว่ะ รบกวนมึงป่าววะ?” ทศโอบแขนมากระชับไหล่เสือเข้าไปหา

ตามกำหนดเดิมทศจะมาส่งกรใน 4 วันข้างหน้า แต่บังเอิญวันนั้นทศต้องพาแม่ไปงานแต่งงานของญาติที่ต่างจังหวัด ด้วยความที่สนิทกันมาก แม่จึงต้องไปอยู่ช่วยงาน พอหลังจากเสร็จงานแม่ก็ต้องทำธุระเรื่องของผู้ใหญ่ ซึ่งไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกกี่วัน เพราะธุระนี้ต้องรอญาติหลายคนมารวมกันให้ครบ แต่ต่างคนต่างกระจัดกระจาย งานการลูกเต้าก็เยอะ ปลีกตัวลำบาก  แม่ซึ่งว่างเฉพาะช่วงนี้จึงจำเป็นต้องอยู่รอแต่ละคนมาที่ตรงนั้น ดังนั้นทศจึงต้องมาส่งกรเร็วกว่ากำหนด

กรตวัดตาคมกริบมาหาเสือ แล้วหันไปสะกิดพี่ชายตัวเอง “กรอยู่หอได้นะพี่ทศ กรไม่หนีเที่ยวหรอก พี่ทศไม่เชื่อน้องเหรอ?”

ทศรั้งแขนที่โอบบ่าเสือคืน หันตัวไปหาน้องชายที่นั่งอยู่อีกข้าง “พี่เชื่อน้องพี่ แต่พี่ห่วงน้องพี่มากกว่า นะ ขอความสบายใจพี่หน่อย ขอพี่เอาแต่ใจสักเรื่องนะ”

พูดแบบนี้เป็นใครจะไม่ให้ กรรับปากพี่ชายอย่างเสียมิได้

คืนนั้นทศและเสือไปฉลองกับเพื่อน (ฉลองที่เพื่อนได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา) กรก็ไปด้วย

ด้วยความดีใจ ต่างก็กรอกน้ำชาเข้าปากแบบไม่กลัวหมด พอน้ำชาเข้าปากมากเข้า ความครึกครื้นก็คืบคลานเข้ามา ความลับอะไรก็ตามที่ต่างคนต่างรู้ เริ่มขุดเอามาแฉ กรขำน้ำตาเล็ด
กระทั่งกรได้ยินเรื่องหนึ่งซึ่งไม่ใช่ความลับสำหรับคนในวงน้ำชา กรเริ่มยิ้มไม่ออก
ใจหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองตีความความหมายผิดไปหรือเปล่า ไอ้จะให้ถามตอนนี้ก็ไม่ได้ เสียมารยาทเกินไป กรจึงเก็บความสงสัยเอาไว้กับตัวก่อน…. ไว้ค่อยถามพี่ทศตอนกลับก็ได้

กลางดึกของคืนนั้น

เสือที่นอนแผ่หลาอยู่ข้างเตียง นอนสลบด้วยฤทธิ์น้ำชา กรนเสียงไม่เบาไม่ดัง แต่ชวนให้รำคาญสำหรับกร

พ่อไม่เคยกรน พี่ทศไม่นอนกรน กรไม่เคยเจอใครนอนกรนมาก่อน ไอ้พี่เสือนอนกรน…ได้ยินแล้วรำคาญหูที่สุด ไม่ชอบเลย ไม่ได้อยากเกลียดพี่เสือ หากไม่เคยรู้เรื่องนั้นกรคงไม่รู้สึกแบบนี้ ก่อนนี้พี่เสือก็เหมือนพี่ชายของกรกลายๆ เพราะพี่เสือสนิทกับพี่ทศมาก ไม่มีพี่ทศอยู่กรจะมีพี่เสือมาอยู่ด้วยแทน

อยู่กับพี่เสือก็สนุกดี จัดอยู่ในลำดับ “ชอบ” สำหรับกร พี่เสือฮาแบบซื่อๆ สมัยที่เพิ่งย้ายมาอยู่กับพี่ทศและแม่อร กรชอบเล่นกับพี่เสือ พี่เขามีเกมแปลกๆ ของน่าสนุกมาให้เล่นให้ดูไม่ขาด

นอกจากความรักและความใจดีของแม่อรกับพี่ทศที่ให้กรแล้ว สิ่งที่เสือทำให้ก็เป็นอีกอย่างที่ช่วยให้กร คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้เร็วขึ้น

อยู่กับพี่เสือก็สบายใจดี… แต่รับไม่ได้กับวันนั้น กรรู้ตัวว่าไม่ควรไปรู้สึกกับพี่เสือแบบนั้น ความรักมันห้ามกันไม่ได้ แต่พี่เสือก็ไม่ได้ไปบังคับเอาอะไรกับพี่ทศ ทำตัวเหมือนเพื่อนสนิทกันมาตลอด…. ทำไมถึงรับไม่ได้ ทำไม ทำไม

ถามไปก็ไม่คำตอบ กรมีแต่ความรู้สึกว่า “ไม่ชอบพี่เสือแบบวันนั้น” เท่านั้น


***********************


สงครามเย็นที่กรทำกับเสือ เริ่มหมดกำลังพลเมื่อการเรียนพิเศษดึงดูดความสนใจของกรไปเกือบ 100 % สิ่งใหม่น่าเรียนรู้ มีเรื่องให้ศึกษาได้ตลอดเวลา กรสนุกกับการเรียน เหมือนเสือสนุกกับ “วงษ์คำเหลา” ดูที่ฉายในทีวีทุกวันไม่พอ ว่างๆ ยังมาดูย้อนหลังในคอมอีก พ่อเจ้าประคุณเสือเขามีไอดอลคือพี่หม่ำ

ถึงรำคาญ “วงษ์คำเหลา” มากแค่ไหน คนอาศัยก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า เอาหูฟังยัดใส่รูหู…. ไม่ชอบเลย ให้ตายเหอะ กรชอบอ่านหนังสือแบบเงียบๆ อยู่บ้าน เวลาอ่านหนังสือจริงจังเปิดเพลงกรยังไม่เปิดฟัง ปิดประตู งับหน้าต่าง ให้ห้องเงียบให้ได้มากที่สุด ซึ่งแม่อรกับพี่ทศรู้ดีและจะทำอะไรเบาๆ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงกรปิดประตูห้องและหน้าต่าง

แรกเริ่มเดิมที กรเกรงใจมาก เพราะพี่ทศกับแม่อรไม่ใช่คนพื้นเพนิสัยโหวกเหวกเลย เสียงนิดๆ หน่อยๆ กรไม่ถือ พอกลั้นใจบอกพี่ทศ พี่ทศกลับบอกว่า “คิดมากน่า เราก็อยู่กันแค่นี้ ไม่เห็นอึดอัดอะไรเลย ตอนพ่ออยู่พี่ก็ต้องทำแบบนี้ เสียงดังมากไม่ได้หรอก พ่อชอบเอางานมาทำที่บ้าน”

คิดมาถึงจุดนี้ กรก็รับฟัง จริงอย่างที่พี่ทศบอก…. ตอนที่พ่อย้ายมาอยู่บ้านกรและแม่ กรก็ต้องทำอะไรเบาๆ เวลาที่พ่อร้องบอกว่า “เดี๋ยวพ่อขอไปทำงานหน่อยนะ” …. พ่องานเยอะ แต่พ่อก็ต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้านด้วย หากพ่อมีสมาธิ งานจะเสร็จเร็ว และออกมาเล่นกับกรได้นานขึ้น

“พี่เสือ วันนี้กรขอแวะไปห้องสมุดxxxx นะ” กรโทรบอก พี่ทศกำชับว่า หากไม่ให้พี่เสือไปรับไปส่ง จะไปไหนมาไหนต้องโทรรายงานพี่เสือตลอด ไม่งั้นจะไม่ปล่อยให้ไปคนเดียวเด็ดขาด ---- หากอยากได้อิสระ กรต้องลดธงลงครึ่งเสา!!! ไม่ชอบเลย!

“ไปทำไม? ไปกลับใคร?” เสือถาม ก่อนนี้มีแต่ไปเรียน กินข้าว ไม่ก็ซื้อของ แล้วก็กลับมานั่งอ่านหนังสือ กินข้าว อาบน้ำ นอน ชีวิตประจำวันกรวนเวียนอยู่แค่นั้น เสือเห็นแล้วเครียดจึงต้องคลายเครียดด้วย “หน้าพี่หม่ำ”

“ไปคนเดียว อยากไปยืมหนังสือครับ ไม่อยากซื้อ” กรบอก

“อื้ม ยืมเป็นเหรอ?” ห่วงน้องต่อมพี่ชายทำงาน

“มีปากครับ ถามได้” กรแอบถอนหายใจในใจ

“เออ อย่าให้รู้ว่าแอบหนีไปเที่ยว!” ปากมันดี!!!!!! ไม่น่ารักเลย ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่น่ารักเหมือนแต่ก่อนฟ๊ะ!

เสือตัดสายแล้วลุกขึ้นไปเอาถุงข้าวมันไก่ที่ซื้อเตรียมไว้เข้าไปเก็บในตู้เย็น เดินเลยไปที่เตาไมโครเวฟ เอาข้าวหมูแดงที่แกะใส่จานเตรียมไว้ เข้าไปอุ่น

ทุกครั้งเสือจะรอกินข้าวกับกรตอนบ่าย ปิดเทอมเสือถือว่าเป็นวันพักผ่อน ใช้ชีวิตชิวๆ ดูหนัง ฟังเพลง นั่งเล่น นอนเล่น…..ช่วงเช้าจะตื่นมาทีนึง ออกไปซื้อของกินมาให้กรกินก่อนออกไปเรียนพิเศษ นั่งหาวน้ำตาเล็ดดู “กิน อยู่ คือ” รอกรกินข้าวเช้า และปิดประตู หลังจากที่กรออกไปแล้วเท้าจะถลาราวกับเหาะได้ไปทุ่มตัวลงเตียง….ฝันถึงทศต่อ ฮา------

แรกๆ กรไม่ยอมคุยด้วยเลย ตั้งป้อมแน่นหนา แต่เสือก็ไม่สน สงครามเย็นมาก็สงครามลูกกวาดไป

เด็กชอบกินลูกกวาด เสือเห็นกรติดทศ เลยตัดสินใจทำแบบไอ้ทศทำกับน้องชายมัน บ้านอยู่ใกล้กัน เป็นเพื่อนสนิทกัน บ้านไอ้ทศเป็นหลุมหลบภัยให้เสือ เสือเลยเห็นทู๊กอย่างที่ทศมันทำให้กร ซึ่งก็ไม่ยาก…. แค่นี้เสือทำได้

ไม่นานนัก กรก็เจาะหน้าต่างออกของป้อม ต่อมาก็เป็นประตู จนมาถึงตอนนี้ป้อมนั้นกลายสภาพเป็นรั้วเหล็กโปร่งๆ อันหนึ่ง แต่ได้เท่านี้ก็เกินพอแล้ว

เผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ตื่นมาอีกที ข่าวในพระราชสำนักมาแล้ว เสืองัวเงียลุกขึ้น มองไปรอบห้อง ไร้วี่แววของกร……???!!!!!!!!!!!!!

“ฉิบหายแล้วมึง” เสือกดโทรศัพท์ ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู

กึก….. “มึงอยู่ไหน?” เสือตวาดเสียงดังใส่ปลายสาย

“บนรถเมล” เสียงที่ตอบกลับฟังดูปกติ เหมือนปกติ

“ทำเหี้ยไรอยู่? ไหนบอกจะไปยืมหนังสือ? นี่มันกี่โมงแล้ว?” เสือใจหายวาบ

“กรขี้เกียจหอบมา มันหนัก หลายเล่มอ่ะ เลยนั่งอ่านที่ห้องสมุดเลย” กรแอบถอนหายใจในใจ

ต้องไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดเพราะทนรำคาญเสียงเจ้าของห้องไม่ไหว มาเรียนทั้งที กรอยากได้ความรู้ไปเยอะๆ ไม่อยากให้พี่ทศเหนื่อยฟรี ไม่อยากให้แม่อรจ่ายเงินไม่คุ้ม…ความอึดอัดของผู้อาศัย ไม่เคยรู้เลยว่าเป็นยังไง มาซึ้งก็ตอนนี้เอง

“ถึงไหนแล้ว?” เสือลดเสียงลงแต่น้ำเสียงยังฟังดูเข้มอยู่

“ยังอยู่ xxxxx ครับ รถติดไม่ค่อยขยับ” กรบอก เวลาเลิกงานของคนเมืองหลวงเป็นแบบนี้นี่เอง ทางที่เคยนั่งรถมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง วันนี้เกือบชั่วโมงแล้วยังต้องไปต่อ

มลพิษทางอากาศทำให้กรสมองตื้อและเริ่มปวดหัว มาเจอมลพิษทางเสียงจากพี่เสือไปอีก กรเริ่มหายใจลำบากขึ้นมาเล็กน้อย….เครียดนะกับการเป็นผู้อาศัย เพลียกับการจราจร ท้องก็หิวมากเพราะกะจะมากินข้าวที่หอ ขอความสงบให้กรบ้างได้มั้ย?

‘อยากกลับบ้านอ่ะพี่ทศ ไม่อยากอยู่แล้ว ไม่ชอบที่นี่ ไม่ชอบพี่เสือตะคอก’ กรร้องอยู่ในใจ พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เมื่อรถเริ่มเคลื่อนต่อไป มือกรกำที่จับไวเแน่นทรงตัวให้มั่นท่ามกลางฝูงคนที่เบียดเสียดกันชนิดสนิทแนบเนื้อตัว….. ใกล้ถึงแล้ว



มีต่อ  Reply #67  :oni1:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสี่ (จุดหนึ่ง) -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 24-03-2012 00:59:06
แล้วทำไมมันไม่พูดกันเนี่ย
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสี่ (จุดสอง) -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 24-03-2012 03:40:50
วรรคสี่ (จุดสอง)


รถเมลจอด ประตูเปิดอ้า ผู้ที่จะลงเบียดเสียดออกมาทางหน้าประตู เด็กหนุ่มต่อแถวเดินลงมาด้วยความโล่งอก

ทันทีที่ก้าวห่างออกมาจากตัวรถมือหนึ่งคว้าเข้าที่ต้นแขนเด็กหนุ่ม คนตัวสูงฉุดลากอีกฝ่ายให้ถลาไปตามแรงได้โดยง่าย

ทั้งสองไม่พูดอะไรกันสักคำ…จนไปถึงหอพัก

ปั๊ง! ประตูกระแทกปิด

กรสะดุ้ง!

มือที่ราวกับคีบบีบต้นแขนเขาจนเจ็บสะบัดออกไป เสียงถอนใจพรืดหนักดังตามมาให้ได้ยิน เสือเดินกระแทกเท้าไปที่ตู้เย็น หยิบขวดน้ำอัดลมออกมาสองขวด เดินเอาขวดหนึ่งมายื่นให้กร กรรับไปถือ เสือเดินเลยไปนั่งหน้าทีวี ทิ้งให้กรยืนแบบไม่รู้จะทำอะไรต่ออยู่ที่เดิม

พี่เสือโกรธ กรรู้ แล้วจะให้ทำไง?

กรเดินไปที่โต๊ะกินข้าว วางขวดน้ำอัดลมลง ก้มหน้าคิด……. สักพักใหญ่

กระเป๋าถูกวางลงบนเก้าอี้ นาฬิกาถูกถอดไว้ที่โต๊ะ รองเท้าที่เผลอใส่เดินเข้ามาถูกถอดวางบนชั้นรองเท้า แล้วขาทั้งสองข้างก็พาตัวเขาเดินไปที่ห้องน้ำ ล้างหน้าและเช็ดหน้า เสร็จแล้วขาทั้งคู่จึงพากรมายืนห่างจากเสือในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“ผมอ่านหนังสือเพลินไปหน่อย อยู่ในนั้นไม่เห็นข้างนอกเลยไม่รู้ว่าเย็นมากแค่ไหน กรขอโทษที่ไม่ได้โทรมาบอก พอดีเห็นรถมาก็รีบขึ้นมาเลย คนเบียดมากหยิบโทรศัพท์มะ….” พูดยังไม่จบดีก็ถูกอีกฝ่ายสวนเข้ามาก่อน

“พี่ทำอะไรไม่ดี กรไม่ชอบอะไร ทำไมกรไม่บอก พี่เป็นใคร คนอื่น? คนไม่รู้จัก? ไม่ชอบอะไรก็บอกกันสิ พี่ไม่ใช่พี่กรเหรอ? เราต้องอยู่กับพี่อีกเป็นเดือนๆ นะ” โตใส่เป็นชุด

ไม่ใช่ไม่เคยรู้จักกัน แต่เด็กคนนี้โตมองมาหลายปี แถมที่รู้มาจากปากทศอีก ก็เหมือนเสือรู้กลายจักกรผ่านทศเป็นอย่างดีนั่นละ กรเป็นเด็กติดบ้าน ไม่เที่ยวเตร่แบบเด็กรุ่นเเดียวกัน ชอบที่ที่คนน้อยๆ ชอบอ่านหนังสือ สนุกอยู่เงียบๆ คนเดียว ชอบทานข้าวที่บ้าน ไม่ว่าจะทำเองหรือซื้อเข้ามา ไม่ชอบการอยู่คนเดียวเพราะความเสียใจที่ต้องเรียนบุคคลที่รักไปในอดีตพร้อมกันถึงสองคน กรจึงขี้อ้อนเฉพาะกับคนที่ไว้วางใจและเชื่อใจ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายรักตัวเองมาก กรจะตามแจ อยากได้ความรัก อยากเป็นที่รัก สำหรับกรโลกที่ต้องอยู่คนเดียวมันหนาวเข้าไปถึงกระดูก กรจึงติดทศ และนี่เป็นครั้งแรกที่ต้องห่างทศ ตัวแทนพ่อและแม่ของตัวเอง ด้วยความเป็นเด็ก ด้วยไปรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้โดยบังเอิญ และด้วยป้อมที่ตัวเองสร้างเอาไว้ พี่เสือที่เคยสนิทกับเหมือนเป็นพี่ชายคนนึง กลับกลายเป็นใครอีกคนที่ตัวเองไม่เคยรู้จัก....กร "ไม่ชอบ" พี่เสือในแบบนี้

รู้ว่าพี่เสือโมโหเพราะห่วง และรู้ตัวว่าทำไม่ดีกับพี่เขาไปมาก แต่ทำไปทำไมไม่รู้ แต่มันหยุดตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้…… แล้วน้ำตาที่ไหลบ่าออกมา

“ปวดหัว…มึนควัน…หิวข้าว…” กรสะอึกสะอื้นพูดออกมาได้แค่สามคำ

เสือลุกขึ้นและเดินมากอดอกอยู่ตรงหน้ากร นิ่ง ไม่พูด ไม่เคลื่อนไหว….สักพัก

“ฮึก…ฮึก…กร…ขอโทษ….ฮึก…ฮึก…” กรเช็ดน้ำตาเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที

มือที่ใหญ่กว่าวางลงบนหัว ขยี้แรงๆ สองสามครั้ง จากนั้นก็ลดระดับลงมาจับข้อมือของกรไว้ และดึงเบาๆ ให้ตามไป

เสือพากรไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว เอาอาหารที่ซื้อเตรียมไว้ตอนบ่าย ออกมาอุ่นให้ ระหว่างที่รอ….. “กินน้ำไปก่อน มาเพลีย ดื่มน้ำหวานหน่อยจะดี”

“ฮึก ฮึก กิน…ไม่ได้…หมอ…ห้าม…” กรยังคงสะอื้น

“อ๋าว! เป็นโรคอะไรวะถึงห้ามกินน้ำหวาน” เสืออึ้ง พึ่งรู้….ก่อนนี้เห็นพูดแต่ ไม่เอา ไม่ชอบ ก็นึกว่าไม่ชอบกินน้ำอัดลมเฉยๆ-----ถึงว่ากินแต่น้ำเปล่า

“....กระเพาะ….” ปวดหัวมากขึ้นอีกแล้ว

เสือถอนหายใจหนักๆ หนึ่งที แล้วเปิดตู้เย็นเอาน้ำเปล่าใส่แก้วมาให้ หยิบขวดน้ำอัดลมไปดูดเอง…

ไม่กี่นาทีข้าวมันไก่ก็ถูกวางลงบนโต๊ะ เสือนั่งลงฝั่งตรงข้าม ดูดน้ำอัดลมต่อไปอย่างเงียบๆ แต่อาการแวดหัวรุมกรมากขึ้น กินข้าวไปได้คำเดียว กรก็ไม่ไหว มันร้าวไปทั้งหน้า หยุดมือค้างไว้อย่างนั้น กะรอจนกว่าจะทุเลาลงหน่อยค่อยกินต่อ

“เป็นไรน่ะ?” เสือถาม

“…….” ตอบไม่ไหว และยังคงก้มหน้านิ่ง

เสือไสเก้าอี้เสียงดังครืนบาดไปถึงหัวของกร เวลานี้อาการปวดไล่มารุมที่เบ้าตา….

“กินข้าวครับ อิ่มแล้วไปพัก นะ” มือใหญ่วางลงเบาๆ ที่กลางหัว มือที่เล็กกว่ารีบปัดมือเขาทิ้งทันที

เท่าที่จำได้ เสือไม่เคยเห็นกรเป็นแบบนี้เลยสักครั้งเดียว ปัดมือกันแบบนี้ รังเกียจกันขนาดนั้นเลย? ขณะที่เสือใจเสียอยู่นั้นเอง---- “ไม่ไหว ปวดหัว อื๊อออออ” กรเลื่อนจานออกไป แล้ววางหน้าผากแนบไปกับผิวโต๊ะ

“เฮ้ย!” เสือเริ่มลนลาน ----- ปวดหัว ยา! ยา! ยา! ยา!

คืนนั้นปรากฏว่า กินพาราไปสองเม็ด กรก็ยังไม่หายปวดหัว เสือเลยเอายาสำหรับอาการไมเกรนให้กิน พออาการปวดหัวเริ่มคลาย ถึงขยั้นขยอให้กินข้าว ปล้ำเกือบตายกว่าจะหมดจาน กินเสร็จสักพักใหญ่กรถึงหลับไป เสือใจหายใจคว่ำแทบตาย กลัวสุดติ่งว่าน้องจะเป็นอะไรมากถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลมั้ย เลยนั่งตาแข็งเฝ้าทั้งคืน เช้าวันต่อมา กรไม่เป็นไรมาก แต่ยังเพลียอยู่ เสือไม่ยอมให้ไปเรียนพิเศษ จับกินข้าวแล้วให้กินยาสำหรับอาการไมเกรนอีกเม็ด นั่งเฝ้าจนกรหลับไปอีกที ส่วนตัวเองก็เผลอหลับไปด้วยความง่วง

ตื่นมากันอีกทีช่วงหัวค่ำ กรนอนพักเพียงพออาการเลยหายเป็นปลิดทิ้ง เสือก็ได้นอนเต็มที่…. พอต่างอารมณ์ดีขึ้น เปิดใจกันมากขึ้น ป้อมที่กลายสภาพเป็นรั้วเหล็กก็สลายไปจนเกลี้ยง กลับมาเป็นกรคนเดิมก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องในเช้าวันนั้น …. ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม ทว่า ไม่มีใครรู้เลยว่าสิ่งใหม่สิ่งหนึ่งนั้นเริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่เจ้าตัวนั้นไม่ได้รู้ตัวเลย

ปิดเทอมนั้น กรอยู่กับเสือราวๆ เดือนกว่า จนใกล้จะกลับแล้ว อีกแค่10 วันเองทศถึงได้มาอยู่ด้วย วันคู่ชู้ชื่นที่รอคอยมาถึงแล้ว แต่เสือไม่ได้กระตือรือร้นที่จะสารภาพรักกับทศ เขาลืม?

ไม่ เสือไม่ได้ลืม… รักมันเต้นอยู่ทุกลมหายใจ แต่ไว้ก่อนก็ได้ เวลามีอีกเยอะ เพิ่งเข้าหน้ากรติด หากสุ่มสี่สุ่มห้าไปทำอะไรเข้าอีก เรื่องมันจะยากยิ่งขึ้น แลกโอกาสทองในครั้งนี้ แล้วได้คนคอยช่วยเขาสักคนนึง (แถมเป็นคนในมากเสียด้วย) มันคุ้มน่า!


****************************


เมื่อกรกลับไปบ้าน ความคุ้มค่าที่เสือรอก็บังเกิดผล

กรยอมรับกลายๆ ว่า ‘รู้นะพี่เสือคิดไรอยู่’ … ทว่ากรไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด แต่กรไม่ขัดขาเสือ ไม่เป็นก้างเสือ เสือถามไรก็ตอบ (ถามเรื่องพี่ทศ) เสือบอกให้ทำไรก็ทำให้ (ถ้าทำได้)  เสือกำลังวางแผนหามทศ แต่ทศไม่รู้เรื่อง นานวันเข้ากรก็เบื่อ

“โอ๊ย ไม่ทำอะไรสักที พี่เสือ ควายรึเปล่าเนี่ย?” กรระเบิดขึ้นมาในวันนึง

ไอ้พี่เสือไม่กล้าบอกรัก มันป๊อด มันกลัว มันย้ำคิดย้ำทำ มันบ้า มันน่ารำคาญที่สุด…. ในเรื่องพี่ทศ กรหน่ายไอ้พี่เสือสุดๆ ตั้งสามปี จากที่กรไม่ช่วยแต่ไม่ขวาง เปลี่ยนมาเป็นช่วยทางอ้อม และกลายร่างมาเป็นกุนซือก็แล้ว แต่ควายก็ยังเป็นควาย สักแต่ห่มหนังเสือ…หากจะเป็นควายอยู่อย่างนั้นก็ตามใจ!!! หมดปัญญา หมดอารมณ์

“เฮ้ออออ กรไม่เข้าใจพี่หรอก” เสือนอยด์

“ฮึ” เหยียดหยามด้วยน้ำเสียง แต่ก็เข้าใจนะ อีกใจนึงก็สงสารไอ้พี่เสืออยู่เหมือนกัน ได้รับความไว้ใจให้เป็นเพื่อนสนิท แบบสนิทที่สุดในบรรดาเพื่อนสนิท ทั้งความเชื่อใจที่พี่ทศมีให้อย่างกับเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของตัวเอง ภาระอันนี้หนักมากสำหรับใครคนหนึ่งที่คิดเกินเพื่อน

ไม่กล้าเสี่ยง…คำนี้เท่านั้น

แล้วเมื่อไหร่จะกล้า…เสือตอบได้ในทันทีว่า “ไม่รู้ว่ะ เอาน่าโอกาสเหมาะๆ ก่อน”

ตลอดสามปีมานี้ กรได้ยินเสือพูดประโยคนี้ซ้ำหลายครั้งมาก แรกๆ ก็นับ หลังๆ เลิกนับไปแหละ…. วันนี้ก็อีกครั้งที่ต้องมานั่งฟังคำนี้

กรมาขอพักที่คอนโดเสือ เพื่อเตรียมสอบโควต้าเข้ามหาลัยที่เล็งไว้ เพราะความอยากมาเปิดหูเปิดตา ดูสถาบันในฝัน ทดลองใช้ชีวิตในเมืองหลวง ด้วยเหตุเหล่านี้ กรจึงมาล่วงหน้าก่อนวันสอบถึงหนึ่งเดือน สอบครั้งนี้ไม่ซีเรียสเพราะกรท่องมาดีแล้ว เหลือแค่ทบทวนทุกวันตามเป้าที่วางไว้กันลืม ได้ไม่ได้ไปวัดดวงเอา เหนือฟ้ายังมีฟ้า หากไม่ได้ที่นี่กรก็ไม่ฟูมฟาย เขาเตรียมใจไว้แล้ว เอาที่อื่นก็ได้แต่ขอให้เป็นคณะที่ต้องการเป็นพอ

มาคราวนี้ พี่เสือทำงานแล้ว ไม่มีเวลาดูแลกร แต่กรโตแล้วจะมาดูแลกันทำไม ปีหน้าก็จะถูกเรียกว่า “นักศึกษา” ไม่ใช่ “เรียน” อีกต่อไป ดังนั้น หน้าที่ในตอนนี้จึงกลับกัน กรจะตื่นแต่เช้า พอๆ กับเสือที่ต้องเตรียมตัวไปทำงาน แต่คนไปหากับข้าวหรือทำกับข้าวง่ายๆ สำหรับมื้อเช้าคือกร คนปิดประตูห้องล็อคก็คือกร คนคอยไปซื้อมื้อเย็นเตรียมไว้ก็กร เช็ดถูปัดกวาดคอนโดก็กร เอาเสื้อผ้ายัดใส่ตู้เสื้อผ้า เก็บผ้าที่ตาก รีดผ้า ---- กรทั้งนั้น

คอนโดนี้ทางบ้านพี่เสือซื้อให้เป็นของขวัญที่เรียนจบ ตอนย้ายเข้ามาพี่ทศพักร้อนพอดี เลยได้มาช่วยจัดห้องนี้ด้วย เห็นรูปมาแล้วก็จริง แต่พอมาสัมผัสด้วยตัวเองก็ยิ่งขำ พี่ทศจัดห้องพี่เสืออย่างกับเป็นห้องของตัวเอง ช่างกล้าเอาเงินคนอื่นไปซื้อของมาแต่งห้องแบบที่ตัวเองชอบ คนที่รู้อะไรอะไรแบบกร ทั้งขำทั้งสงสารพี่เสือ จริงอยู่ได้คนที่รักมาจัดห้องให้ อย่างกับห้องหอก่อนเข้าพิธีแต่งงาน ไอ้พี่เสือน่ะดีใจหน้าบานไม่หุบ แต่ความเชื่อใจมันมาพร้อมภาระที่ไอ้เสือต้องแบกไว้… ยิ่งรักมากขึ้นทุกวัน ยิ่งให้ความสนิทก็ยิ่งคิดมาก ภูเขาของความเป็นเพื่อนก็หนักขึ้นทุกวัน กี่ปีแล้วที่มันควบคุมและกดมันไว้

เขาบอกว่า คนเราหากเก็บกดความรู้สึกไว้มากจนเกินไป สักวันมันจะระเบิด….. แต่ไม่มีทางเลยที่เราจะรู้ว่า สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

ครึ่งเดือนผ่านไปด้วยความสนุก กรเริ่มมั่นใจว่าสามารถอยู่คนเดียวได้ ใช้ชีวิตในเมืองหลวงที่หายใจลำบากนี้ได้ ด้วยความที่เป็นเด็กไม่ตามแฟชั่นอยู่แล้ว กรจึงไม่มีห่วงอื่นอีก และมองหาแต่พื้นที่ที่ตัวเองชอบเท่านั้น หากมาอยู่ที่นี้….. ทำแบบนี้ได้มั้ย----ถามพี่เสือ ทำแบบนั้นดีมั้ย----ถามพี่เสือ อะไรที่พี่เสือตอบไม่ได้หรือตอบไม่ละเอียดก็ไปถาม พี่โต้ พี่เจต พี่คิว พี่ไผ่ …..สิ่งที่ดี สิ่งที่ไม่ดี ข้อควรระวัง กรเรียนรู้และจดไว้หมดแล้ว…. กรตื่นเต้นกับชิวิตที่อิสระในข้างหน้าด้วยความอุ่นใจ

ต้องห่างกับพี่ทศ เหงาอยู่เหมือนกัน แต่เพื่ออนาคตของตัวเอง กรมีคนแก้เหงาเตรียมไว้ในใจหลายคน หึหึหึ

“นอนไปก่อนเลยนะกร ออฟฟิชมีเลี้ยงรับพนักงานใหม่ กูสุดจอก” เสือโทรมาบอกกร ‘สุดจอก’ ของเสือหมายถึงวันนี้เมาปลิ้น กรเลยไม่รอกินข้าว พรุ่งนี้มีสอบจึงรีบเข้านอนไปก่อน ตอนที่หลับฝันดีอยู่นั้น เตียงก็เกิดยวบแรงขึ้นมา กรปรือตามาดู เสือกลับมาแล้ว เมาเละ แต่กลิ่นเหล้าไม่ฉุนเท่าไหร่ กรพลิกตัวไปอีกฝั่ง หันหลังให้เสือ แล้วหลับต่อไป



***********************


เสียงนกกาเหว่าที่ทำรังอยู่ในสวนของบ้านหลังใหญ่ตรงหลังคอนโด บรรยากาศห้องนี้เหมือนห้องนอนของเสือที่บ้าน เสือเลือกห้องนี้ เพราะได้ยินเสียงของนกกาเหว่า บ้านที่คับใจไม่ได้มีอะไรให้อาวรณ์ ทว่าเสียงนกกาเหว่าเป็นเครื่องย้ำเตือนให้เสือคิดถึงวันเวลาที่ได้อยู่กับทศ การย้ายบ้านทำให้ระยะเริ่มชัดเจน ถึงแม้จะไกลกันแค่ตัว ทว่าหากต้องให้เสือแบกภูเขาที่สลักคำว่าเพื่อนเอาไว้ ตลอดชีวิต เสือก็อยากอยู่ใกล้คนที่เฝ้ารักแบบเมื่อครั้งยังเด็ก ได้เห็นหน้ากันบ่อยๆ ได้ทำกิจกรรมหลายอย่างด้วยกันเรื่อยๆ พูดคุยแบบเห็นหน้า แอบจับเนื้อต้องตัวกันบ้าง ให้พอชุ่มชื่นหัวใจ เท่านี้เสือก็พอใจแล้ว

ทว่า ความห่างนานปี ส่งผลให้เกิดความเหงา ยิ่งความเหงาทับทนเป็นตะกอนในหัวใจ ความ “ไม่พอ” จึงเริ่มทรงอิทธิพลขึ้นมา….

อยากมีใครสักคน คนที่อยู่เคียงข้างเรา คนที่อยู่แล้วสบายใจ คนที่ทำให้หายเหนื่อย… คนคนนั้นหัวใจเสือเรียกเขาว่าทศ

ทว่า ความ “ไม่พอ” มันกรีดร้องเพิ่มมาอีกคำ…ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้

เวลานี้เสือเริ่มนึกอยากให้มีใครสักคนมาอยู่ตรงนี้ด้วยกัน คนที่จับต้องได้ คนที่มองเห็นหน้ากัน ไม่ใช่ได้ยินแต่เสียง ไม่ใช่ได้แค่ฝันถึง….. อาการนี้เป็นมากขึ้นเมื่อคนคนหนึ่งถือกระเป๋าเข้ามาที่คอนโดของเขา คนที่หน้าเหมือนเขาคนนั้นอย่างกับแกะ จะต่างกันก็แค่ตา

นิสัยน่ะเหรอ?.... โดยพื้นแล้วเหมือนกันมาก ต่างกันแค่บางส่วน แต่ก็เป็นความต่างที่ดึงดูดใจของเสือ




มีต่อ  Reply #69
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสี่ (จุดสอง) -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 24-03-2012 03:48:50
พี่เสือก็นะ ปากแข็งจริงๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสี่ (จุดสาม) -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 24-03-2012 05:30:51
วรรคสี่ (จุดสาม)



กรงัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยเสียงของนกกาเหว่าที่แข่งกันร้อง อาทิตย์นี้ไม่รู้เป็นยังไง ไอ้พวกกาเหว่าที่อยู่ด้านล่างถึงแข่งกันอวดเสียงร้องกันแต่เช้ามืด ปกติกรจะหลับต่อไปอีกจนกว่านาฬิกาปลุกจะดัง ทว่าวันนี้ความอึดอัดทำให้กรหลับต่อไม่ลง

มีบางอย่างรัดตัวกรไว้อยู่ใต้ผ้าห่ม เครื่องปรับอากาศดังเบาๆ พอยกฝ่ามือออกไปนอกผ้าห่ม ไอเย็นกระทบมือ ผ้าห่มที่ห่มมาเกือบเดือนนี้ไม่เคยให้ความอุ่นกับกรเท่าวันนี้….ขณะที่งุนงงอยู่นั้น ลมหายใจจากคนข้างหลังเป่ารดที่หลังลำคอของกร กรตัวเย็นวาบด้วยความตกใจ ครั้นพอได้กลิ่นจางๆ ของเหล้า ความตกใจจึงคลายลง

คงฝันถึงพี่ทศอยู่ล่ะมั๊ง เมาซะขนาดนี้ กรดิ้นขลุกขลักอยู่กรงแขนนั้น แต่ไม่สำเร็จ เหนื่อยแรงเปล่า สุดท้ายกรจึงตัดใจปล่อยให้เสือกอดไปอย่างนั้น … ช่างมันเว้ย นอนดีกว่า

…….

……

…...

…..

….



..

.

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น กรสะดุ้งเด้งตัวขึ้นมาจากเตียง ความมึนงงงัวเงียและความตื่นตัวที่จำได้ว่าวันนี้มีสอบ ส่งผลให้กรลุกจากเตียงเดินเซไปเซมาเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำออกมาแต่งตัวเสร็จ พี่เสือก็ยังนอนหลับ กรหิ้วกระเป๋าออกไปจากห้องนอน แล้วเตรียมมื้อเช้าให้ตัวเองและใส่ตู้เย็นไว้ให้พี่เสือ เมามาแบบนี้ไม่รู้จะตื่นตอนไหน ….ก่อนออกจากบ้าน กรเดินกลับเข้าไปบอกเสือว่าจะออกไปสอบแล้ว เสือนิ่งไม่อือ อือ เหมือนทุกที กรใจเริ่มเสีย

“ไม่สบายรึเปล่าพี่เสือ ตัวไม่ร้อนนะ ตอบกรหน่อยดิ พี่เสือ พี่ พี่” กรเขย่าหัวไหล่ของเสือ สักพักตาที่ลืมขึ้นมา กรจึงถามซ้ำอีกครั้ง

“อืมมมม” เสียงฮัมในลำคอยาว ตายังลืมค้างถึงแม้ไม่เต็มที่นักก็ตาม

“กรไปสอบก่อนนะพี่เสือ กับข้าวอยู่ในตู้เย็น ตื่นมาก็กินซะ ก่อนกลับจะโทรมานะ อยากกินไรก็นึกไว้” กรพูดจบและหวังจะได้ยินเสียงฮัมในลำคอเหมือนเดิม ทว่ากลับไม่มี

ตาพี่เสือยังคงปรือครึ่งอยู่เช่นเดิม กรชักไม่แน่ใจว่า พี่แกปกติดีมั้ย จากที่ยืนคุย จึงเปลี่ยนไปนั่งที่พื้น เอาคางเกยเตียงแล้วจ้องตาที่ปรือมาครึ่งหนึ่งนั้นนิ่ง ค้นหาว่าพี่เสือเป็นอะไรกันแน่ระหว่างไม่สบายกับละเมอ

พี่เสือนอนตะแคงหมิ่นเหม่กับขอบเตียง ดังนั้น พอกรเกยคางกับเตียงแล้วนั้น ใบหน้าของทั้งสองจึงค่อนข้างที่จะใกล้กัน คล้ายแค่เอื้อมมือออกไปนิดหน่อยก็สามารถคว้าเอาไว้ได้… และขณะที่กรกำลังขมวดคิ้ววุ่นอยู่กับการจับสังเกตุนั้นเอง มือของเสือก็ค่อยๆ ยกขึ้นมาจับที่ลำคอของตัวเองโดยที่ไม่ทันรู้ตัว ทันทีที่รู้สึกถึงสัมผัสของฝ่ามืออุ่นๆ ใบหน้าของเสือก็แนบชิดเข้ามาใกล้ ใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เป่าออกมา….. ใกล้จนริมฝีปากทาบทับกัน และไม่นานนักลิ้นของอีกฝ่ายก็สอดอย่างนุ่มนวลเข้ามาในปากของกร

ความรู้สึกเหมือนไฟช็อตเกิดอยู่ตลอดเวลาจวบจนเมื่อเรียวลิ้นและริมฝีปากนั้นถอนตัวออกไป ใบหน้าที่เคยเคลื่อนเข้ามาชิดกับใบหน้าของโต ถอยกลับไปที่เดิม ดวงตาปิดลงแล้ว เสียงลมหายใจเข้าออกดังให้ได้ยินอย่างสม่ำเสมอ แสดงความหมายว่า ‘หลับ’

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

กรที่นั่งอึ้งไปครู่ใหญ่ จู่ๆ ก็ลุกขึ้น วิ่งตึกตักออกไปจากห้องนอน เสียงกึงกังดังลอยเข้ามาสองสามครั้ง จากดังก็มีเสียงใส่รองเท้า ทดลองตอกส้น เสียงเปิดประตูซึ่งตามมาด้วยเสียงประตูปิด

ความสงบเงียบคืบคลานเข้ามาสู่ภายในห้อง เสียงนกกาเหว่าที่แข่งกันร้องเพลงเริ่มเป็นเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ในห้องนั้น ทว่า ใครคนหนึ่งที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มกลับได้ยินแต่เสียงเต้นของหัวใจตัวเอง


***************


“พี่เสือตื่นยัง?”

“ตื่นแล้ว จะกลับยังวะ ซื้อก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่มาให้หน่อยดิ” เสือสั่งเมนู

“อื้ม กำลังออกจากที่สอบนะ บาย” กรพูดจบก็วางสายไป

โชคดีที่ระหว่างทางมาสนามสอบ กรต้องนั่งรถถึงหนึ่งชั่วโมง… เวลานานมากขนาดนั้นทำให้กรสงบใจคลายความตื่นเต้นลงได้ทัน หากทำไม่ได้ ข้อสอบวันนั้นอาจกลายเป็นกระดาษว่างเปล่าก็เป็นได้

จูบ…. มันคือจูบ เคยเห็น แต่ไม่เคยลอง ยังไม่เคยทำกับใครขนาดนี้

หอมแก้มเขาหรือโดนหอมแก้มก็มีบ้าง กอดก็เคย แม่เจนเป็นลูกครึ่ง กรเลยคุ้นเคยกับการกอดมาตั้งแต่เด็ก แต่นี่คือจูบ แถมเป็นจูบแบบผู้ใหญ่ด้วย!! ….

สอบเสร็จคิดว่าจะโกรธพี่เสือสักตั้ง แต่พอคิดถึงเช้าของเมื่อวันนั้น…. “ไอ้บ้าเอ้ย! แยกไม่ออกรึไงว่าใครเป็นใคร? เก็บกดเกินไปแล้ว…..เฮ้อออออ เอาไงดี”

กรบ่นพึมพำพลางมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ คิดว่ากลับไปจะทำหน้ายังไงกับพี่เสือดี นั่งคิดอยู่สักพักก็คิดไม่ออก เลยเดินทางกลับพร้อมกับหาทางตัดสินใจท่าจะดีกว่า… แต่จนเดินมาถึงหน้าประตูห้องก็แล้ว กรกลับยังคิดไม่ออกว่าจะทำหน้าแบบไหนดี ขณะที่ลังเลว่าจะไขกุญแจดีมั้ย จู่ๆ ประตูที่เปิดออกมาเอง

ถุงก๋วยเตี๋ยวตกปุ๊สู่พื้นด้วยความตกใจ กรถอยวืดออกมาทันควัน

“อ้าว ไอ้กร เป็นห่าไร กูไม่ใช่ผี! อ๊ะ! ซื้อไรมาแดกเนี่ย” พูดจบเจ้าของเสียงก็หยิบถุงที่กรทำตกพื้นขึ้นมา ดมกลิ่นฟุดฟิ๊ด จากนั้นก็หิ้วถุงเข้าไปในห้องหน้าตาเฉย

กรมองตามหลังหัวขโมยก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เข้าไปข้างใน พี่คิว พี่ไผ่ ก็อยู่ในนั้นด้วย พี่เสือนั่งอยู่ตรงเก้าอี้นอกระเบียงห้อง กรโล่งใจที่ยังพอมีเวลาเตรียมหน้าไปเผชิญกับเจ้าตัวอีกนิด…มีพวกพี่ๆ อยู่ด้วยก็ดี เอาว่ะ ตามนั้น!!

ตัดสินใจได้แล้วกรก็เดินเข้าไปทักทายเฮฮากับทุกคน…ทำให้เป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่กรตัดสินใจ ไปว่าคนเมามันไม่ได้อะไรขึ้นมา จะสอนแมวต้องสอนตอนทำผิด นี่เลยมาตั้งนานแล้ว แมวมันลืมไปแล้วว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง

ไม่นานเท่าไหร่ พี่เสือก็เดินเข้ามาในห้องแล้วบอกว่า ให้ไปเปลี่ยนเสื้อ พี่ๆ จะพาไปฉลองสอบเสร็จ กรก็ไปอย่างว่าง่าย

พี่เสือเป็นปกติ ไม่มีเค้าว่าตัวเองทำผิด กรจึงตัดใจไม่เอาเรื่อง และใช้ชีวิตอยู่ในห้องเสือครบตามกำหนด ก่อนกลับกรขอเสือว่า หากสอบติดจริงให้ช่วยพาไปเลือกหอด้วย โดยจะมาค้างที่นี่ด้วย เสือก็รับปาก

กลับมาบ้าน กอดพี่ทศให้ชื่นใจเสร็จ รายงานการเดินทางจบ พี่ทศก็ปล่อยไปให้ไปพัก

พออยู่ในห้องคนเดียว ความคิดที่แวบขึ้นมา…. พี่เสือมักมีอาการละเมอแบบนั้นทุกครั้งที่ไปดื่มมา มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ปริมาณแอลกอฮอร์ ส่วนจูบกรพลาดให้อีกแค่ครั้งเดียว นอกนั้นหลบมาได้ตลอด… น่าสงสารพี่เสือ แต่ก็ไม่รู้จะบอกพี่ทศยังไง

พี่ทศรักพี่เสือกรรู้ พี่ทศไม่ตัดเพื่อนกับพี่เสือกรแน่ใจ…. แต่พี่เสือกับพี่ทศจะเข้าหน้ากันติดมั้ยกรไม่มั่นใจเลย

มันทรมานนะ หากคนที่สนิทกัน เกิดมองหน้ากันไม่ติดขึ้นมา…

สำหรับเขากับติ เพื่อนรักที่สนิทกันมาก เวลาโกรธกัน ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าขอโทษอีกฝ่าย ไม่ใช่ว่าเกลียดขี้หน้า แต่พอหายโกรธแล้วมันละอาย ละอายจนไม่กล้ามองหน้ากัน พอฉาบผนังคำว่า "ไม่กล้ามองหน้า" ไปนานวันเข้า ผนังนั้นจะหนาขึ้น หนาขึ้น หนาจนเราทุบมันไม่ได้….และคราวนี้ ความรู้สึกผิดของเราจะไม่มีวันส่งไปไม่ถึงอีกฝ่ายได้อีก

เราจะกลายเป็นเจ้าหญิงผู้โดดเดี่ยว อยู่ในห้องที่ฉาบด้วยผนังหนาทึบ รอวันที่ใครคนนั้นจะมาทุบมันให้เรา… หากเป็นเทพนิยาย เขาคงมีเจ้าชายมาช่วยพังมันให้ แต่พอเป็นชีวิตจริง ต่างฝ่ายต่างกลับเป็นเจ้าหญิงด้วยกันทั้งคู่

กำแพงจึงยังคงหนาและหนักไปเรื่อยๆ จนเราหาทางออกไม่ได้… และไม่มีทางออก

กรไม่อยากให้พี่ทศกับพี่เสือเป็นแบบนั้น แค่เท่าที่เป็นอยู่นี้ พี่เสือก็น่าสงสารพออยู่แล้ว… คิดถึงเสือ เสือก็โทรหา กรรีบรับสาย รายงานว่าถึงแล้วและบรา บรา บรา บรา



อนิจจา....ต้นเหตุของความรัก เกิดขึ้นด้วยความสงสาร

และด้วยความเหงา รักจึงบังเกิด

ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครทันคาดคิด ไม่มีใครเตรียมพร้อม…. แต่ก็นั่นแหละ “รัก” มันนึกจะเกิดก็เกิด มันนึกจะหยุดก็หยุด ใครห้ามมันได้บ้าง


*******************


“มึงเป็นห่าไรวะ เมาปลิ้นบ่อยไปแหละ” โต้บ่นแต่ก็ยังมาเป็นเพื่อนเสือทุกรอบ เป็นห่วงเพื่อน เล็งเห็นว่าเพื่อนมีปัญหา ไม่ใช่ติดใจน้ำชา ฟรี!

“กูอยากเลิกรัก ดื่มมันให้ลืม เลิกมัน เอ้าดื่ม!!” เสือยกแก้วขึ้นชน

แต่ละแก้วในวงน้ำชารู้ว่าเสือหมายถึงเลิกรักใคร แต่นึกยังไงถึงจะมาเลิกตอนนี้? กี่ปีแล้ว ไอ้เสือมันยังนับอยู่ไหม? หากมันไม่ได้นับ เพื่อนๆ นับให้ ----- 13 ปี

นับง่ายมาก เพราะจำนวนปีที่เสือหลงรักทศ เท่ากับจำนวนปีที่เจตมันตกหลุมรักไอ้โต้…. !!!!

หือ? ถามถึงตัวเลขของไอ้โต้เหรอ อืม…………ม เป็นความลับ

มันไม่บอกเคยบอกใคร แม้กระทั่งแฟนมันเอง ไอ้เจตเคยให้รางวัลกับคนที่ไปเค้นถามไอ้โต้มาได้ว่า ไอ้โต้มันรักตัวเองตั้งแต่เมือไหร่? แต่ของรางวัลมันคงวางนิ่งอยู่บนหิ้ง.....เรื่องนี้ไอ้โต้ไม่รู้เรื่องนะ จุ๊ จุ๊ ไว้

“เลิกรัก มันทำไงวะ บอกกูที” เจตหันไปถามโต้

โต้ตบหน้าเจตหันขวับ แล้วเอียงคอไปพักที่หัวไหล่ของเจต สายตาโต้มองตรงมาที่เสือ สักพักจึงพูดว่า “มึงทำไม่ได้หรอก มึงสั่งหัวใจให้หยุดเต้นได้มั้ย ถึงมึงกลั้นหายใจจนจะตายห่าอยู่แล้ว สัญชาติญาณมึงแม่งก็จะสั่งให้มึงหายใจ แล้วหัวใจมึงมันจะเต้นอีกครั้ง”

“เชี่ยโต้! น้ำชาทำให้มึงเปลี่ยนได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ ไอ้เจตมึงให้เมียมึงแดกบ่อยๆ เลยนะ แบบนี้กูชอบ เพื่อนดีมีสาระ” ไผ่ร้องขอ

บาทาถีบไผ่จนตกเก้าอี้ ไอ้คิวที่นั่งอยู่ถัดจากไอ้ไผ่ก็ล้มไปนอนกองกับพื้นในคราวเดียวกัน เจตเอาแขนโอบล๊อคตัวโต้ไว้ ไม่ให้ตามไปซ้ำ เวลาน้ำชาเข้าสายเลือดโต้จะเหลือสติเล็กน้อย เหตุผลนิดหน่อย แต่ระดับความอันตรายพุ่งสูง! ถึงเป็นเพื่อนกันก็เจ็บได้

“กูเหนื่อย… กูเจ็บ… กูไม่ไหว…” เสือย้ายสายตาไปจับจ้องอยู่ที่เจตซึ่งเอาโต้มานั่งที่เก้าตัวเดียวกัน แขนทั้งสองข้างยังรัดตัวโต้ไว้ไม่ยอมปล่อย ล็อคโต้ไม่ให้ไปทางไอ้ไผ่กับไอ้คิวที่เพิ่งกลับมานั่งที่เก้าอี้ในตำแหน่งเดิม โต้เอานิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าของไผ่ทีนึง แล้วหันมาดื่มน้ำชาต่อ หมดอารมณ์ หมดความสนใจ ทำโทษหมาในปากไอ้ไผ่ไปแล้ว พอก็ได้!

....เห็นเขากอดกันแล้วมันอิจฉา...... “กูอยากมีใครสักคน คนที่สามารถมาอยู่ด้วยกันตรงนี้ได้ คนที่จับได้ กอดได้ จูบได้…กู………….เหงา…” เสือบอกเสียงเศร้า

เพื่อนๆ รับรู้ถึงความจริงจังของเพื่อน

“มึงค่อยๆ คิดเถอะ กูก็ไม่ชอบให้มึงอกกลัดหนองแบบนี้หรอก แต่มึงจะเจ็บกว่ามั้ย หากมึงไปหักดิบหัวใจตัวเอง” ไผ่บอก

“เปิดรับคนใหม่ซะ แล้วมึงค่อยกลับมาถามใจตัวเอง สัด! ก้าวก็ไม่ก้าวสักก้าว เสือกมีหน้ามาโม้ว่าจะเลิก มึงไปลองก่อนแล้วค่อยเลิกรักไอ้ทศก็ยังทัน เจ็บเพราะรัก แม่งไม่ตายหรอก” โต้ชี้หน้าเสือ เสนอทางเลือกใหม่ให้

“เชี่ยโต้! ทำไม่ดีถึงตายได้นะมึง” คิวค้าน ของแบบนี้อยู่ที่พื้นฐานของใจคน เสือมันไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น คิวว่าเพื่อนมันทนเจ็บไม่ไหวหรอก

“ไม่ตาย ไม่ตาย ไอ้นี่มันยังไม่ตายเลย ฮ่าฮ่าฮ่า” โต้หัวเราะร่า พลางยกฝ่ามือขึ้นไปตบแก้มเจตเบาๆ แบบหยอกเล่น

คนนี้อ่ะ โต้มันขอเลิกกับเค้ามาสองครั้งแล้ว ตอนนี้ก็คบกันเป็นครั้งที่สาม คิดอยากเลิกกับกับมันอยู่บ่อยครั้ง โมโหมากๆ รำคาญมากๆ ก็ทิ้งมันไป.....แต่ไอ้เจตไม่ยักกะตายสักที ไอ้เสือถึงขี้ป๊อด แต่พื้นฐานของจิตใจแล้วไอ้เสือไม่ต่างจากเจตเท่านั้น... มันไม่เคยรู้ตัวหรอก เพราะมันไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าเหมือนไอ้เจต ถึงโต้จะเมา แต่เพื่อนนิสัยอย่างไร โต้สลักไว้ในหัวหมดแล้ว ให้คำปรึกษาได้ไม่พลาดหรอก แต่เจ้าตัวมันจะทำหรือไม่ เป็นเรื่องของตัวมันเอง

เจตไม่สนมือที่ตบแก้มตัวเองเล่น แต่สนับสนุนความคิดของเจ้าของมือ “มึงลองก้าวบ้างเหอะว่ะ ยืนเฉยๆ แม่งไม่มีอะไรดีหรอก เสี่ยงแม่งไป ดีไม่ดีมึงอาจเจอแจ๊คพ๊อตก็ได้ใครจะรู้”


************************


เสือที่อยู่ในระยะทำใจได้รับข่าวร้ายในวันหนึ่ง

“พี่เสือ กรไปค้างด้วยนะ วันที่ xx-xx พี่ว่างพากรไปหาหอป่าว?”

เสือกุมกบาลทันทีหลังวางสาย แน่นอนไม่ปฏิเสธเพราะสัญญาไว้แล้ว แต่มันแค่อีกไมกี่วัน เสือไม่แน่ใจว่าตัวเองจะปรับสติอารมณ์ตัวเองได้ทัน

“ทำไมต้องหน้าเหมือนกันด้วยวะ!!!”





มีต่อ  Reply #71 :a12:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคสี่ (จุดสาม) -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-03-2012 11:20:31
กำลังสนุกเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคห้า -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 24-03-2012 11:22:30

วรรคห้า


ตั้งแต่มาหาหอนี่ก็ห้าวันแล้ว พี่เสือแปลกมาก ดื่มเหล้าทุกวัน

ถ้าไม่ดื่มมาจากข้างนอกก็กลับมานั่งดื่มตรงเก้าอี้ยาวนอกระเบียงคอนโด เกือบเที่ยงคืนถึงเดินเข้ามานอน เช้าก็ลุกไปทำงาน วันหยุดก็พาวนหาหอ หากเว้นเรื่องดื่มเหล้าไว้เรื่องหนึ่งแล้ว พี่เสือก็เป็นปกติดี ดูจะใจดีกว่าปกติซะด้วยซ้ำ------อาจมีเรื่องกับที่ทำงาน เป็นเด็กคงช่วยอะไรไม่ได้ เอาแค่ทำตัวไม่ให้เป็นปัญหา ทำตัวไม่ให้เป็นภาระกับพี่เสือ เท่านี้น่าจะพอ

กรตัดสินใจเช่นนั้น โดยหารู้ไม่ว่า การที่ตัวเองทำดีเอาใจเสือแบบนั้นกลับยิ่งทำให้เสืออาการทรุดหนัก เปลี่ยนจากระยะทำใจเป็น ระยะสุดท้าย!!!!!

ตั้งแต่กรมาพักด้วย เสือถามใจตัวเองแค่คำเดียว “มึงเหงาใช่มั้ย?”

หากหัวใจตอบว่า “ใช่” อะไรควรทำไม่ควร เขาจะรู้----- หากเป็นความเหงา มันจะทำร้ายกร ต้องเลิกให้ได้….. ทว่า กี่วันแล้ว หัวใจเสือกลับยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้….. ลังเลอะไรอยู่?

หากเป็นรัก…. รักจริง หรือ รักปลอมๆ…. รักเพราะหลงรักคนคนนี้ หรือรักเพราะอยากได้คนคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกัน แต่ไม่มีวันคว้าลงมาได้

หากรักกร เขาจะคว้ากรลงมาได้มั้ย?--------------คำตอบคือ “ได้”

ระหว่างกรกับเสือ ไม่มีเส้นกั้นอะไรกัน จะมีก็แค่ความเกรงใจต่อทศ
เสือ-----เกรงใจที่จะไปพรากเอาน้องชายสุดที่รักของทศมาดูแล ......
กร------เกรงใจที่จะแย่งเพื่อนคนสำคัญของพี่ชายที่ตัวเองรักและเคารพมา .....

เสือรู้จักเด็กคนนี้พอควร หากสิ่งที่เขาทำกับกรไปเมื่อครั้งก่อน กับที่แสร้งว่าเมาและทำอยู่เรื่อยๆ ในเวลานี้ น้องกรไม่ชอบ รังเกียจ กรจะไม่มีวันกลับมาค้างคืนกับเขาอีก กรจะไม่ให้ช่วยหาหออยู่แบบนี้

เสือห้ามตัวเองไม่ให้ฉวยโอกาสเอาความสงสารของกรมากอดไว้ไม่ได้ เขารู้ตัวดีว่ากรจัดเขาให้อยู่ในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง แต่เขาเป็นพี่ชายที่ได้สิทธิพิเศษกว่าไอ้เจต ไอ้โต้ ไอ้คิว หรือไผ่ ในหัวใจของกรเสือคือคนที่รองลงมาจากทศ

แค่อยากมีใครสักคน แค่อยากให้คนคนนั้นเป็นคนที่จับต้องได้ แต่ไม่ใช่จะเป็นใครก็ได้ น้องกรเป็นคนคนนั้นได้ ดูจากจังหวะการใช้ชีวิตที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ น้องกรเหมาะ ใจเสือเองยังยอมรับ ถึงเป็นความเหงาแต่หากน้องมีใจให้จริงเหมือนที่คาดไว้ เสือคิดว่าจะดูแลความสัมพันธ์นี้ไว้ให้ดีที่สุด

เสือเหนื่อยเกินไปแล้วกับการที่ต้องอยู่คนเดียวและถูกโดดเดี่ยวหัวใจ หัวใจดวงนี้มันหนัก มันมีภูเขาทับมันไว้ เสือถือมันไม่ไหวแล้ว ขอเถอะ ช่วยรับมันไปถือที ช่วยยกภูเขานี้ออกไปจากหัวใจเขาที…..

เขาขอมากไปหรือเปล่า?



มีต่อ Reply #74
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคห้า -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 24-03-2012 11:23:06
กำลังสนุกเลยอ่ะ

สนุกก็ต่อเลยนะ
เรื่อยๆ มาเรียงๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคห้า -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-03-2012 12:20:29
มัวแต่ป๊อด ไม่ลงมือซะทีแล้วเสียใจให้ได้อะไรขึ้นมาพี่เสือ
แล้วหวยมาออกที่น้องกรนี่เพราะเป็นตัวแทน หรือเป็นอีกคนที่จับต้องได้ หาคำตอบให้ได้ซะก่อนเถอะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคห้า -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 24-03-2012 13:22:28

ห้าวันที่ผ่านมา เวลานอนด้วยกันกรมักถูกพี่เสือแต๊ะอั๋งตลอด เกือบเสียจูบเป็นครั้งที่สามก็อีกหลายที…

ยิ่งพี่เสือทำกับตัวเองแบบนี้กรยิ่งสงสารพี่เสือ วันก่อนที่เจอพวกพี่ๆ พี่โต้เล่าให้ฟังว่า พี่เสือมันเครียด อยากเลิกรักพี่ทศ เลยดื่มน้ำชาย้อมใจ กรได้ยินแล้วใจสั่น มันเต้นรัวแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กรรู้สึกตื่นเต้น…..มาก

“13 ปีเลยเหรอพี่โต้” กรผิวฝากด้วยความอึ้งกับจำนวนตัวเลข กรมาสนิทสนมกับพี่ทศได้เจ็ดปีแล้ว แต่พี่เสือเอาหัวใจตัวเองไปผูกติดกับพี่ทศนานขนาดนี้ได้ยังไง

“เออดิ คงมาถึงจุดระเบิดแล้วมั๊ง” พี่โต้เคี้ยวข้าวผัดคำโต พอกลืนลงคอก็พูดหน้าตาเฉยว่า “มึงก็ระวังตัวไว้!”

กรหันหน้าขวับไปมองหน้าไอ้พี่โต้ ไอ้พี่โต้มันรู้อะไร? ทำไมพูดแบบนี้?

กรเอาจานชามไปล้าง แล้วถึงค่อยหยิบผ้าจะมาเช็ดโต๊ะ พี่โต้กลับไปแล้ว เพราะพี่เจตโทรมาตาม ทีแรกพี่โต้กะว่าจะรอจนพี่เสือกลับมา เห็นว่าจะชวนพี่เสือไปดูของอะไรสักอย่าง โทรหาพี่เสือ พี่เสือก็กลับมาถึงเลทกว่าปกติเพราะติดประชุม พี่โต้เลยบอกว่าจะกลับก่อน ไว้ว่างๆ ค่อยไปดูของด้วยกัน

ตอนที่เช็ดโต๊ะ กรเห็นกระดาษแผ่นหนึ่ง อ่านดูถึงรู้ว่ามันเป็นแผนที่คอนโดของพี่เจตซึ่งพี่โต้คงลืมวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว…. ช่างมัน ไว้ค่อยคืนพี่แกตอนเจอกันคราวหน้าละกัน กรพับมันไว้ในกระเป๋าสะพาย เผื่อลืมแล้วออกไปเจอพี่โต้จะได้มีคืนให้เลย

วันนั้นพี่เสือกลับมาหิวซก หน้าตาเหนื่อยมาก แต่วันนี้เป็นวันศุกร์ หยุดยาวอีก 3 วันเพราะวันจันทร์เป็นวันหยุด…. กินข้าวอาบน้ำเสร็จ เสือก็ไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ที่ระเบียงห้อง ประตูตรงระเบียงเปิดทิ้งไว้ ทุกวันพี่เสือจะเปิดโทรทัศน์ฟังเสียงข่าว แต่วันนี้บรรยากาศอยู่ในความสงบเงียบ กรไม่ชอบดูข่าว หากอยากรู้ข่าวกรจะอ่านเอาในเวปไซด์เอาเอง

สงสารพี่เสือ ยิ่งได้ยินที่พี่โต้เล่าเมื่อตอนเย็น กรยิ่งเอ็นดูพี่เสือเพิ่มขึ้น

ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมพี่เสือไม่กล้าสารภาพรักกับพี่ทศ แต่คำที่พี่โต้บอก กรรับฟังและเข้าใจ---- ‘ถ้ามึงเป็นผู้ชาย มึงรักผู้หญิง มันก็เป็นไปตามธรรมชาติ เจ็บแป๊บนึงก็หาย แต่หากมึงเป็นผู้ชายที่รักผู้ชาย มึงจะมีเรื่องให้ตัดสินใจมากกว่า ถ้ามึงรักผู้ชายคนนั้นมาก มึงกล้าแค่ไหนที่จะดึงเค้ามาอยู่ในทางของมึง’

บางครั้งสังคมก็ปกป้องเรา บางครั้งสังคมเดียวกันนั้นก็ทำร้ายเรา

มีชีวิตนั้นไม่อยากเลย แค่ปล่อยมันไปตามธรรมชาติก็พอ แต่การมีชีวิตในสังคมมัน ลำบาก อึดอัด ซับซ้อน ปวดหัว----- แม่เจน แม่อร และพ่อ ทั้งสามไม่ได้เกลียดโกรธกัน แต่สังคมขีดคั่นให้ทั้งสามคนมีชีวิตด้วยความอึดอัดลำบากใจ กรไม่สนขี้ปากชาวบ้าน พี่ทศไม่เก็บเอาคำพูดคนอื่นมาใส่ใจ แม่อรเดินหน้าใช้ชีวิตไปในแบบของตัวเอง เรื่องในครอบครัวขอแค่เพียงคนในครอบครัวเข้าใจ มันควรเพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ?

“พี่เสือ เค้กมั้ย?” กรนั่งลงบนเก้าอี้อีกฝั่ง ยกเค้กในมือขึ้นให้พี่เสือดู พี่เสือส่ายหน้า

กรหันไปสนใจกับการตัดเค้กเข้าปากตัวเองแบบเงียบๆ ตลอดเวลากรรู้ว่าพี่เสือมองตัวเองอยู่ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่เสือจ้องตัวเองแบบนี้

พี่เสือเหมือนคนในครอบครัวสำหรับกร เห็นพี่เสือทุกข์ กรไม่สบายใจ

หากหน้าตาที่เลือกเกิดไม่ได้ของตัวเองจะช่วยประโลมหัวใจพี่เสือได้บ้าง กรจะช่วยพี่ชายคนนี้

อากาศสดชื่นยามเมื่อผืนดินไม่ถูกแสงแดดสาดส่องโชยพัดขึ้นมาถึงระเบียงซึ่งสูงจากพื้นดินมากพอควร

“เพลาๆ มั่งเหอะพี่เสือ เหล้ามันไม่ช่วยให้คิดอะไรตกหรอกนะพี่ เสียสุขภาพเปล่าๆ ถ้าไม่เกินไปกรไม่พูดแบบนี้หรอกนะ” เค้กหมดแล้ว แก้วน้ำถูกยกขึ้นมาจรดริมฝีปาก

“ฮึ ห่วงพี่ด้วยเหรอเรา” พี่เสือเย้ยหยัน

“อ๋าว พี่ชายทั้งคน” กรเคือง

คำคำหนึ่ง เสียดแทงเข้าที่หัวใจหัวใจอีกฝ่าย------เจ็บเท่าไหร่ก็ไม่ชิน

ตาชั่งในหัวใจมันแกว่งเลือกน้ำหนักระหว่าง ‘คุณธรรมของพี่ชาย’ กับ ‘ความอยากมีอยากได้ของตัวเอง’….ด้วยความเจ็บปวดของหัวใจ ด้วยความเหนื่อยล้า ด้วยความที่อยากจะปลดปล่อย  และด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอร์ เสือจึงพลั้งปากพูดคำหนึ่งออกไป เมื่อพูดไปแล้วก็นึกเสียใจทีหลังอยู่เหมือนกัน แต่เขาไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ให้อยู่แบบนี้ก็ทรมาน ไม่เห็นหน้าคนที่รักก็ทรมาน ได้เห็นหน้าที่เหมือนคนที่รักตลอดเวลาก็ทรมาน ….. ทรมานเพราะตัวเองไม่มีคนของตัวเอง

“เป็นมากกว่าพี่ชายไม่ได้เหรอ”

กรหันขวับมองหน้าพี่เสือ พี่เสือไม่หลบตา กรเห็นความลังเลในแววตาของเสือ ครั้นมองนิ่งนานขึ้นกรจึงเห็นความเศร้าที่ฉาบบางๆ อยู่ในนั้น…. กรรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังระเบิดออกมาอย่างช้าๆ ทีละน้อย

มีใครมั้ยที่จะช่วยเขาได้ ต้องทำอะไรบ้างถึงจะช่วยเขาได้ กรคิดวนเวียนอยู่แบบนี้มาตลอดตั้งแต่เมื่อเย็น

แขนเรียวบางขาวผิดกับประชากรไทยทั่วไปยกขึ้นไปกอดรอบคอของคนที่ตัวโตกว่า ตอนที่เสียแม่ไป กรเสียใจจนบรรยายไม่ถูก แต่กอดของพี่ทศ ทำให้กรรู้ว่าเขายังมีคนอีกคนที่รักและห่วงใยกัน กอดนั้นเป็นกำลังใจให้กร กรนั้นทำให้กรมั่นใจว่ายังสามารถใช้ชีวิตได้ต่อ ด้วยกอดของพี่ทศความทรมาน ความเสียใจจึงทุเลาลง …. เขาอยากให้พี่เสือรู้สึกเช่นนั้นบ้าง

กอดแต่ฝ่ายเดียวกลายมาเป็นกอดซึ่งกันและกันในไม่ช้า ยิ่งอีกฝ่ายรัดตัวเองมากขึ้นเท่าไหร่ กรก็กระชับวงแขนตอบให้มากเท่านั้น อยากให้รู้ว่ามีคนเข้าใจ อยากให้รู้ว่ามีคนห่วงใย อยากให้รู้ว่าพี่ยังมีคนคนนี้อยู่ด้วย

นานเท่าไหร่กรไม่รู้ กรเคยกอดพี่ทศไว้ไม่ปล่อย กอดจนเผลอหลับไปก็มี

ทว่า เมื่อกอดมีน้ำหนักที่แปลกขึ้น เมื่อการกระทำบางอย่างเริ่มส่งความหมายมาให้กร

กรใจสั่น หัวใจเต้นรัว ไม่ใช่เด็กๆ ที่จะไม่รู้ภาษา และเมื่อใบหน้าถูกมือที่ใหญ่กว่าประคองไว้ เมื่อริมฝีปากประทับเข้าหา เมื่อกระแสไฟช็อตไปทั่วร่าง ความคิดต่างๆ เริ่มกระเจิดกระเจิง ในหัวขาวโพลน ร่างกายเหมือนไม่ใช่ของตัวเอง มันโอนอ่อนไปตามเขา จูบที่นุ่มนวล อ่อนโยน โลมไล้กรราวกับมันไม่มีที่สิ้นสุด

ความเนิ่นนานเดินทางมาถึงปลายทาง ใบหน้าที่เคลื่อนออกไป ระบายความรู้สึกผิดเล็กน้อย สายตาอมเศร้ายังคงจับจ้องมาที่กร กรรับฟังคำพูดของเจ้าของสายตาด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“พี่ขอโทษ….” ถึงกระนั้นแล้ว มือที่ประคองใบหน้าของกร กลับยังไม่ยอมปล่อย ตาที่จ้องกรกับยังไม่ยอมเบือนหนี

เหตุผลไม่สามารถใช้ได้ตอนนี้ ตอนที่หัวมันว่างเปล่า ตอนที่เหมือนโลกไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยนอกเสียจาก คนสองคนที่อยู่ตรงนี้ เวลาราวกับหยุดนิ่ง การตัดสินใจใช้เวลานานมั้ยกรไม่ได้จับเวลา เขาไม่รับรู้ว่าเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหน ไม่รู้เลยตัวว่าทำอะไรลงไป พูดอะไรออกไป…. กรไหลไปตามแรงขับดันจากภายในร่างกาย------ หัวใจ

“ไม่ต้องขอโทษ… หากเป็นผมได้….” เสียงพูดหยุดไป ก่อนที่จะตามมาด้วยคำสั้นๆ คำหนึ่ง “….ก็ได้…”

เสือได้มาแล้ว เป็นไปตามที่คาด คำว่าก็ได้เหมือนน้ำทิพย์ชะโลมใจ และเป็นน้ำกรดที่หยดลงมาทีละหยดพร้อมกันในตัว

เสือกอดรับสิ่งที่ปรารถนาตรงหน้านี้ไว้ ซึมซับความรู้สึกจากอ้อมกอดนั้น ปล่อยใจไปตามอารมณ์ที่เกิด เมื่อเสื้อยืดของกรถูกถอดออก เมื่อเห็นใบหน้าแดงซ่านผิดจากสีขาวนวลบนตัวของอีกฝ่ายแล้ว เสือจึงฉุกคิด และเอ่ยถาม “พี่ต่อได้มั้ย?”

ต่ออะไร…. ไม่โง่

ตัวเองต้องทำยังไง…. ตำแหน่งมันชัดเจน

พูดออกมั้ย…. กรที่นอนราบไปกับเก้าอี้ยาว โผตัวขึ้นไปกอดรอบคอของเสือ ซบหน้านิ่งกับซอกคอของอีกฝ่าย ทันใดนั้นตัวของกรก็ถูกเสืออุ้มเดินเข้ามาด้านใน เสือสาวเท้าอย่างไม่รีบร้อนแต่ก็ไม่ชักช้าไปยังห้องนอน กรถูกวางลงบนเตียงโดยไว แต่เสื้อของเสือถูกถอดออกไปจากตัวในเวลาที่เร็วยิ่งกว่า

เสื้อเชิ้ตถูกดึงทึ้งออกไปจากตัวโดยไม่ต้องแกะกระดุมเลยสักเม็ด เมื่อผิวที่เปลือยเปล่าสัมผัสกัน ความร้อนเริ่มสุมและลุกโชน กองไฟสองกองต่างสุมฟืนให้กันและกันอย่างไม่ขาด เครื่องปรับอากาศหาได้ขจัดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นมาบนตัวของคนทั้งสองไม่ เมื่อถึงพีธีการสุดท้าย ก่อนเสือจะสอดใส่ร่างกายตัวเองไปในตัวกร เขาหันมาจ้องตากับกรอยู่นิ่งนาน

คนของเรา ความรู้สึกเป็นแบบนี้เอง....เสือเก็บทุกความรู้สึกในเวลานี้ไว้ในส่วนลึกของหัวใจ จูบที่อ่อนโยนยิ่งถูกประทับลงไป เมื่อริมฝีปากแยกจากกัน ริมฝีปากหนึ่งนั้นก็เลื่อนขึ้นไปพรมจูบที่หน้าผาก “พี่ทำไม่ได้”

น้ำกรดที่หยดลงทีละหยดในหัวใจเสือ เริ่มส่งความแสบร้อนให้เจ้าตัวได้รู้สึก

“กรไม่ถือ พี่ไม่ต้องรู้สึกผิด กรเป็นได้”… กรยกมือขึ้นลูบใบหน้าของอีกฝ่าย

เสือกุมมือของกรไว้ เม้มปากตัวเองเข้าไปขบกัด กำมือของอีกฝ่ายไว้แน่นก่อนพูดว่า ““ถึงจะหน้าเหมือนกันยังไง หัวใจมันก็แยกออก”

ชัดเจนแล้วสำหรับเสือ… ความชัดเจนแลกมาซึ่งความผิดหวังจากคนอีกคน เมื่อใบหน้าถูกอีกฝ่ายตบฉาด เมื่อหมอนถูกกระหน่ำฟาดใส่ เสือหลับตารับการกระทำจากอีกฝ่ายนิ่ง

ไม่ใช่ว่าร่างกายไม่มีความรู้สึก หรือไม่มีอารมณ์ ทั้งตัวเองและกรมีอารมณ์ร่วมกันเต็มที่ แต่เสือไปต่อไม่ได้ ….ไม่ได้จริงๆ

เสียงกระทืบเท้าลงส้น ตามมาด้วยเสียงปิดกระตูดังปังใหญ่ แล้วความเงียบก็คลื่นคลานเข้ามา เสือรออยู่นาน แต่กรก็ไม่ออกมาจากห้องน้ำสักที ในที่สุดเมื่อใจสงบลงแล้ว เสือจึงลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า

“กรอยู่ที่ห้องนะ คืนนี้พี่…. ไว้พรุ่งนี้เช้าพี่จะกลับมา” เสือเคาะประตูห้องน้ำ เพื่อบอกอีกฝ่าย รออีกสักฝ่าย คนที่อยู่ข้างในก็ไม่มีท่าทีว่าจะออกมา เขาจึงตัดใจออกไป หากน้องไม่ยอมออกมา และหลบอยู่ในนั้นไปทั้งคืน น้องอาจไม่สบายได้

กรใจแข็งแค่ไหน เสือรู้ซึ้งกับตัวเองดี เสือยกห้องให้กร และเอาแค่รถกับกระเป๋าตังค์ไปด้วยในคืนนั้น



*****************************



น้ำตาไหลอาบแก้ม เสียงสะอื้นนั้นไม่มี ไม่ใช่กลั้นไว้ แต่มันไม่มีของมันเอง กรปล่อยให้น้ำตามันถั่งไหลออกมา และจะปล่อยให้มันหยุดของมันไปเอง

ชีวิตเขาผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาแล้วหลายครั้ง ทุกครั้งมักเกิดด้วยความเสียใจ และครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน

ทั้งที่รู้ว่าพี่เสือรักพี่ทศ ทั้งที่รู้ในใจเงียบๆ ว่าพี่ทศยกพี่เสือไว้ในฐานะหนึ่งที่พิเศษ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองจะต้องเป็นตัวแทนของคนอื่น ทั้งที่รู้ ทั้งที่รู้ ทั้งที่รู้………….

“บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า บ้า…..บ้า…….” กรด่าตัวเองให้มันจำ ทำตัวเองแท้ๆ ทำไมไม่ตั้งสติให้ดี ทำไมต้องทำ

นอกจากเสียใจ กรยังรู้สึกผิดหวังที่ตัวเองไม่สำคัญได้ถึงขนาดนั้น อับอายที่ตัวเองปล่อยตัวปล่อยใจให้พี่เสือเห็น เข้าหน้าพี่เสือไม่ติดอีกแล้ว ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย… ไม่อยากเลยจริงๆ หากย้อนเวลากลับไปได้ กรจะให้มันหยุดแค่กอดแรก…เท่านั้น

ยิ่งสำนึกว่าตัวเองไปเพิ่มภาระให้พี่เสือก็รู้สึกผิดมากขึ้น ยิ่งรู้ว่าตัวเองทำให้พี่เสือเป็นทุกข์ยิ่งขึ้น กรก็ยิ่งร้องไห้…. ทุกอย่างมันหยุดไม่ได้อีกแล้ว กรไม่รู้จะหยุดมันยังไง…. ภายในเวลาไม่นานเท่าไหร่ จากคนที่ฉลาดที่สุด กลับกลายมาเป็นคนโง่ที่สุดคนหนึ่ง

เพราะรัก… เขาถึงเป็นคนโง่

เพราะรัก… เขาถึงมองหน้าอีกฝ่ายไม่ได้อีก

เพราะรักที่ไม่เคยรู้ตัวว่าจะมีให้เขามากขนาดนี้… ทำให้ตัวเองละอายใจ


กรเดินโซเซออกมาจากห้องน้ำ ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มสูดกลิ่นของคนที่ตัวเองรักซึ่งติดอยู่กับหมอน กอดผ้าห่มที่ยังคงมีกลิ่นของเขาไว้แน่น ไปพร้อมกับหลั่งน้ำตา… ไม่อยากให้มีวันพรุ่งนี้ แต่วันพรุ่งนี้ไม่ฟัง และมันจะยังคงเดินทางมา

จงนับถอยหลังตอนรับการมาของมันเสียเถอะ…….

****************************


มีต่อ  Reply #77
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคห้า -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-03-2012 13:24:46
 :กอด1:

มาอ่านต่อยาวสะใจมากค่ะ  รอคลี่คลาย

ตกลงเสือทศ หรือ  เสือกร  กันแน่  รอ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] วรรคห้า -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 24-03-2012 13:51:22
คำผิดค่ะ

ทันใดนั้นตัวจองกรก็ถูกเสืออุ้มเดินเข้ามาด้านใน



น่าสงสารน้องกร ดีแล้วล่ะที่ทำเหมือนไม่รู้จักไอ้ควาย เอ้ย! เสือ น่ะ  :m31:

โหมด กำลังอิน/
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] จบในตัว -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 24-03-2012 14:03:40
วรรคหก




เมื่อเสือกลับมาที่ห้องในตอนเช้า ไม่มีร่องรอยของกร

ไม่ผิดจากที่คิด เขาเชื่อมั่นว่ากรจะไม่เป็นอะไร แต่ใจก็ยังนึกห่วง จนรวบรวมความกล้ากดเบอร์ของกร แต่กรก็ไม่รับสาย… รับก็บ้าแล้วสิ!

เสือเก็บห้องทั้งห้อง ทำความสะอาดครั้งใหญ่ หมดไปเกือบครึ่งวัน เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น เขารีบปล่อยกระจาดที่อยู่ในมือให้ล่วงลงพื้น แล้ววิ่งไปหาที่มาของเสียง โดยไม่สนใจแม้เสียงแตกแพล้งที่ลอยตามหลังมา

เชี่ยโต้…. ชื่อนั้นโชว์ขึ้น

“ตายรึยัง?” เสียงต้นสายกรอกมาหาอย่างยียวน

“เกือบแล้วว่ะ” เสือไม่ได้ขุ่นเคืองอะไรกับอีกฝ่าย ตอนนี้มันหมดแรงไปหมดทั้งตัว ไม่ใช่คนที่รอ กังวลตลอดว่าน้องไปไหน จะโทรหาทศก็ไม่กล้า กลัวทศจับได้ กลัวตัวเองเผลอบอกให้ทศฟัง

“ไอ้กรมันอยู่ห้องกู พรุ่งนี้กูจะไปส่งมันที่บ้าน ไอ้เจตมันหยุดงานพอดี กูเลยว่าจะไปเที่ยวบ้านไอ้ทศแก้เซ็งหน่อย ร้อนนรกเลย!” โต้บ่นถึงความร้อนของเมืองหลวงประเทศไทย

ไอ้โต้ไม่ถามอะไรมากความ มันถามแบบปกติ จะฝากอะไรไปให้ทศมั้ย กับจะให้เอาอะไรกลับมาให้มั้ย…. เสือขำอยู่ในใจ

อยากฝากน้องชายสุดที่รักของทศไปให้ทศ พร้อมคำว่า “ขอโทษ”

อยากได้คำว่า “ไม่เป็นไร” หรือ “ยกโทษให้” เป็นของฝากจากน้องชายของทศ

และถ้าเป็นไปได้ อยากฝากให้เอาหัวใจที่มันอัดแน่นด้วยความรักของเขาไปให้ทศ อยากให้ทศถือมันไว้ อยากให้ทศดูแลมัน

และอยากให้เอาหัวใจของทศกลับมาให้หน่อย

------- อยากได้แต่ในสิ่งที่ไม่สามารถเป็นจริงได้

เมื่อห้องถูกเก็บเรียบร้อย เสือจึงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ยาวนอกระเบียง มองฝูงนกกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่บินกลับรังพร้อมกับนั่งถามหัวใจตัวเองไปเรื่อยๆ … คำตอบอยู่ตรงหน้า  ใจทำใจยอมรับกับมันได้ เหลือเพียงแค่ว่า…..เสือจะรับมือกับมันอย่างไร


****************************


เดือนหนึ่งหลังจากนั้น ทศก็เข้ามาหาส่งกรเข้าหอ และแวะมานอนด้วยที่คอนโดในคืนสุดท้ายก่อนที่จะกลับบ้าน

ระเบียงห้องที่คอนโดเสือ จะมีอิฐสีแดงปูเต็มพื้นที่ บนอิฐจัดวางต้นไม้เล็กบ้างใหญ่บ้าง

คนคนหนึ่งออกแบบมันไว้ คนคนหนึ่งมาคอยจัดมัน และเปลี่ยนต้นไม้อยู่เรื่อยๆ… เขาสนุกก็ปล่อยเขาทำไป เสือไม่เคยห้าม ตรงระเบียงจึงแปลกใหม่ไม่จำเจ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ…. เก้าอี้ไม้เรียบๆ ทรงยาวสำหรับพอนั่งกันได้สองคน หากเบียดกันก็นั่งได้สามคน

คนคนหนึ่งชอบนั่งมัน…. ตอนเช้าก็นั่งมองฟ้า ตอนค่ำก็นั่งมองดาว ปล่อยใจไปเรื่อยๆ ตัดขาดความคิดกับเมืองที่สับสนวุ่นวายทั้งๆ ที่เราอยู่ในใจกลางของมัน เขาบอกกับเสืออย่างนั้น

ทุกครั้งที่คิดไม่ตก มีเรื่องให้กลุ้ม ความคิดสับสนวุ่นวาย เหนื่อย หรือแม้กระทั่งท้อ… เสือจะมานั่งอยู่ตรงนี้

ไม่ใช่ว่านั่งมองฟ้าแล้วสบายใจ แต่เขามานั่งเพื่อคิดถึงความทรงจำทั้งหมดที่ผ่านมา….ทุกนาที ทุกวันเวลา มีค่ากับเสือเสมอ เสือใช้ความทรงจำที่สร้างขึ้นมาร่วมกันกับคนคนนั้นเป็นเครื่องผ่อนความทุกข์ เป็นเสมือนเครื่องผลิตแรงใจ…ให้กับตัวเอง

นานมากแล้วที่คนคนนั้นไม่ได้มานั่งที่เก้าอี้ตัวนี้ แต่เสือยังได้คุยโทรศัพท์กับเขาบนเก้าอี้นี้อยู่ไม่ขาด ด้วยอาชีพและหน้าที่ ทำให้ตัวติดกันหรือเห็นหน้ากันตลอดแบบตอนยังเด็กไม่ได้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทิ้งห่างกัน

‘เพื่อนกันมันตัดกันไม่ขาดหรอกว่ะ’-------- เพราะคำนี้ เพราะเหตุนี้ เขาจึงรักษาและหวงความสัมพันธ์ระหว่างกันนี้ไว้

ไม่ต้องเป็นแฟนก็ได้ ไม่ต้องรักกันแบบนั้นก็ได้ ไม่ต้องเจอกันให้มากกว่านี้ก็ได้ ไม่ต้องกังวลหากเสือโกรธ น้อยใจ หรือเสียใจ ปล่อยเสือไว้สักพัก แล้วเขาก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง… ขอเพียงแค่ยังอยู่ ขอแค่ให้ได้พูดคำว่า “เรา” เสือขอแค่นั้นเอง

“เอ้า! มึง มะม่วงต้นบ้านกูเอง เดือนก่อนฝากมาไม่ถึงมึง ไอ้เชี่ยโต้เก็บไปแดกคนเดียวเลย เชี่ยจริงๆ มึงแดกซะให้เปรม กูยกมาให้มึงทั้งเข่งเลย” ทศเดินออกมาที่ระเบียงห้องพร้อมมะม่วงดิบที่เฉาะแล้วชามหนึ่ง

“มึงไม่แบ่งให้มัน เกิดมันรู้ กูน่ะหูชา ใกล้พวกมันแค่เนี้ยเอง” เสือคิ้วขมวด

“มึงอยากแบ่งก็แบ่งเอง วันนั้นกูแยกถุงให้เรียบร้อย แม่งก็รับปากกูดิบดีว่าถึงมือมึงแน่ เชี่ยเอ้ย! เลวเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ” ทศกระแทกก้นลงนั่งที่อีกฟากของเก้าอี้ไม้

วันนี้ลมพัดเย็นดี มีกลิ่นหลังฝนตกจางๆ พอรดน้ำต้นไม้ไปแล้ว กลิ่นสดชื่นจากใบไม้จึงลอยอบอวลทั่วระเบียง วันดีๆ กับคนแสนดี….ชีวิตนี้จะเอาอะไรอีกมั้ยไอ้เสือ?

“คราวนี้ไอ้โต้กับไอ้เจตมันคบกันยืดดีเนอะ” ทศชวนคุย

เสือพยักหน้าพลางกัดมะม่วงเข้าปาก เคี้ยวด้วยความมันส์…. แม่เจ้าเว้ย สมกับ “มะม่วงมัน” แม่งอร่อยสวรรค์ชั้นเจ็ดแบบนี้นี่เอง ไอ้โต้ถึงยอมเสียสัตย์กับเพื่อน!!

“หึ หึ หึ…เหลือเชื่อว่ามันจะรักกันแบบนั้นได้” ทศพูดกลั้วหัวเราะ

“เหงอ่างอั๊น….” มะม่วงมันคาปาก

“สัด เคี้ยวให้เสร็จค่อยพูด เดี๋ยวลำบากกูเอาส่งโรงบาลอีก” ทศเอาเท้าแตะขาเสือ

ก้วม ก้วม ก้วม … ฮึก ซู๊ดดดด อึก อึก อึก “ฮ๊าาา…” ดื่มน้ำไปสามอึก “อร่อยโคตรว่ะ!....นี่กูจะบอกว่า เห็นไอ้โต้มันอย่างงั้น แต่มันรักไอ้เจตฉิบหายเลยว่ะมึง ก่อนนี้แม่งไม่แสดงออก ทำเฉย ทำหน้าเบื่อ ฮึ มึงมาดูตอนนี้ซะก่อน ภรรเมียดีๆ นี่เอ๊ง ไม่รู้ผีอะไรดลใจให้มันเปลี่ยนไป ไอ้เจตเลยแจ๊คพ๊อต ซื้อหวยมาเป็นสิบปี หวยพึ่งยอมให้มันถูก” ไอ้เสือเทียบไอ้โต้เป็น “หวย”

เจตเขาซื้อหวยทุกงวดไม่เคยขาด แต่ไม่เคยถูกหวยสักที ไม่ใช่ว่าเลขไม่ตรง แต่ “หวย” ไม่ยอมให้ถูก…. ถึงคบกัน ถึงเอาโต้เป็นเมียได้ แต่โต้ไม่ได้รับสมยอมว่าเป็น “เมีย” เจตเลยสักครั้ง แต่หลังจากกลับมาจากทริป “ซิ่งไอ้เดสไปเที่ยว” โต้ก็เปลี่ยนไป ยอมเจตมากขึ้น รำคาญเจตน้อยลง ยอมอยู่ในฐานะเมีย และบอกรักเจตบ่อยขึ้น ผิดกับก่อนนี้--------

เจตรู้ว่าโต้รัก แต่เจตมันโรคจิตอยากให้อีกฝ่ายพูดให้มันฟังบ่อยๆ มันบอกว่า “มึงอ่ะ ทำแต่ละอย่าง บ่อนทอนความเชื่อมั่นกูทั้งน๊านนนน กูก็รู้แหละว่ารัก แต่พูดให้กูชื่นใจบ้างมันจะตายเรอะไง!”

หากเป็นคนอื่นคงน้ำตาปริ่ม โผไปกอด และบอกรักให้ฝ่ายที่เรียกร้อง แฟนทั้งคนนะครับ คนที่เรารักนะครับ เขาขอคำว่าว่ารัก …มันยากตรงไหน?

“สัด! ก็เพราะมันยากกูถึงไม่ทำไง เรียกร้องอยู่นั่นแหละ รำคาญเว้ย!” ยันตีนเข้ากลางท้องของแฟนที่รักแบบเต็มเหนี่ยว จนแฟนที่รักตัวลอยไปทรุดคุกเข่าที่กลางพรมผืนใหญ่หน้าชุดโซฟา

“ได้ครกจะเอาสาก!” โต้บ่นฉิว ของขึ้น รำคาญ----- ทำไม่ได้ก็ไม่ได้สิ จะเซ้าซี้ทำไม หาว่ากูบั่นทอนความเชื่อมั่นมึงเรอะ! เสือกคิดเอง เกี่ยวไรกับกู!

“อูยยยยย….ตะ โต้…..” ครางเสียงอ่อย “ได้คืบจะเอาศอก ไม่มีสำนวนครกสาก….”

ดีดผึงขึ้นมาจากโซฟา ก้าวฉับๆ เข้าไปหาแฟนที่รักอย่างไว และ ‘ถวายบาทา’

“ไม่ต้องเสือกมาสอนกู! เก็บเอาไปสอนนักเรียนมึงนู่น! กูจะพูด! กูจะบัญญัติ! มึงจะทำไม?! อย่างมึงนี่แหละเหมาะแล้ว!”

รู้อยู่ว่าโต้มีปมเรื่องภาษา แฟนที่รักก็ยังจะไปจี้ต่อมเขาอีก…..แต่ด้วยสำนึกในวิชาชีพ ทำให้เจตอดไม่ค่อยได้  อยากแก้คำพูดของเมียรักให้ถูกต้อง…. นี่กูผิดอีกแล้วเหรอเนี่ย!!!!!

“โตๆ กันแล้ว ความคิดมันก็ต้องเปลี่ยนบ้างสิวะ ถ้าเป็นแบบเดิมๆ คงได้เลิกกันอีกรอบว่ะ” ทศบอก

“แม่ง! น่าอิจฉา” เสือกัดมะม่วง เคี้ยวกร้วมๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

“อยากมีคนรัก?” ทศกัดมะม่วงเข้าปาก

“อื้อ”เคี้ยวกร้วมๆ

“กูก็รักมึงอยู่นี่ไง” กัดมะม่วงเข้าปากต่อจนหมดชิ้น

เสือใจหายวาบ ตั้งสติกับสิ่งที่ได้ยิน เหมือนเดิม เหมือนทุกครั้งที่เคยพูด เราเป็นเพื่อนกัน เราไม่ได้เกลียดกัน เราถึงรักกันไงไอ้เสือ ใจเย็นไว้มึง “ไม่ใช่ อิจฉารักแบบของพวกมัน แบบนั้นอ่ะ” หยิบมะม่วงมากัดต่อ ใจจดจ่ออยูกับความมันของมะม่วง ไม่สนใจกับความหวังเล็กน้อยที่ผุดขึ้นมาในหัวใจ…ตอนนี้

หากมันเป็นจริงก็คงดี…….

“กูก็รักมึง แบบที่มึงอิจฉาพวกมันนั่นแหละ” ทศยิ้มกริ่ม หน้าตาไม่ได้ล้อเล่น มันพูดจริง

“มึงอย่ามาอำ” เสือใจหายวาบ

“หึ หึ หึ.....มึงมานี่” พูดจบปุ๊บทศก็เหนี่ยวคอเสือเข้าไปหา ริมฝีปากของทั้งสองประกบกันโดยที่เสือไม่ไม่คาดคิด ทีแรกตกใจจนผลักอีกฝ่าย แต่แขนที่เหนี่ยวคอกับล็อคคอเขาไว้แน่น จากริมฝีปากประกบกันเฉยๆ กลับกลายเป็นจูบที่เสือเฝ้าฝันมานานหลายปี หัวใจเสือร้อนวูบวาบ มันเต้นระรัวจนรู้สึกอึดอัด

ริมฝีปากถอนออก หน้าผากจรดกันและกัน เสียงลมหายใจดังถี่กระชั้น

“ไอ้ทศ มึง......เป็นไรรึเปล่าวะ?”  เสืออึ้งกับการกระทำของคนตรงหน้า

“หึ หึ หึ....... มึงรักกูใช่มั้ย?” ทศจับคอเสือไว้หมั่น จ้องตาเสือแบบเจ้าเล่ห์

“ไอ้ทศ!” เสือตาโต

“อยากนอนกับกูป่าวล่ะ?” ทศถามขึ้นมาดื้อๆ

“เหี้ยทศ!” เสือตาค้าง

“โอกาสมึงมีครั้งเดียว เอาไม่เอา?” ทศพูดเสียงจริงจัง สายตายังจ้องกับเสือตลอดเวลา

“เอา!” เสือบอก..... ไม่คว้าก็โง่ไปมั้ย

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ทศหัวเราะพร้อมซุกหน้าเข้าที่ซอกคอของเสือ แขนกอดกระชับแผ่นหลังของอีกฝ่ายแน่น แน่นจนเสือเกือบหายใจไม่เข้า เสือกอดตอบอีกฝ่าย ทั้งสองต่างนิ่งเงียบ เสือรอเริ่มต้นจากอีกฝ่าย ให้เขาเริ่มเองเขาไม่กล้า แต่พร้อมรับนะ ขยับมาสักกิ๊กเหอะ เสร็จไอ้เสือแน่!!

“จูบกูทำได้ กอดกูทำได้ แต่มากกว่านั้นกูไม่ได้ว่ะ” ทศบอกแต่ยังไม่คลายวงแขนที่รัดตัวเสือไว้

“-มึง-แกล้ง-กู-” เสืออายแทบแทรกแผ่นดินหนี

“ไม่!” ทศคลายวงแขน ยกฝ่ามือทั้งสองกุมแก้มของเสือเอาไว้ “กูคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องคุยกัน.....มึงรักกู แบบนั้นใช่มั้ย?”

เสือพยักหน้า ------ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ พุ่งชนแม่งเข้าไปเลย

“กูรักมึง..... รักมากกว่าเพื่อน กูยกให้มึงเป็นคนพิเศษของกู ให้เป็นแฟนกับมึงกูก็ทำได้ แต่กูทำได้ไม่เท่ากับที่มึงหวัง” ทศบอก

“มึงรับกูได้เหรอ?” เสือแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน แต่หน้าที่เรียบตึงผิดปกติของทศทำให้เสือสะดุดใจ “มึงเป็นไรป่าวเนี่ย?”

“คบกันมั้ย? กูถามครั้งเดียว ไม่มีซ้ำ” ทศถาม

“มึงรักกูจริงง่ะ” เสือถาม

“จริง!” น้ำเสียงหนักแน่น

“ตรงไหน? ยังไง? เมื่อไหร่?” เสือถาม

“หึ หึ หึ แล้วมึงน่ะรักกูเมื่อไหร่?” ทศถาม

จ้องตากันสักพัก เสือก็หน้าแดงพรึ่บ คำที่เคยท่อง ความรู้สึกที่เคยกดเก็บ....มานานหลายปี ได้พูดจริงก็วันนี้.....พอบอกออกไปหมด สิ่งที่อีกฝ่ายบอกมากลับทำให้เสือทั้งตกใจและดีใจ.... ทศรักเสือ จริง! แถมเริ่มในช่วงเวลาเดียวกันด้วย

บางคนอาจบอกว่า “นี่ไม่ใช่ความรัก”

น่าขำ เอากฏเกณฑ์อะไรมาวัด ถามหัวใจตัวเองกันรึยังว่า “รัก” รึเปล่า?

เสือและทศผ่านการถามหัวใจตัวเองมาแล้ว

ทั้งสองฝ่ายต่างรักกัน ทว่ารักของทศยั้งตัวเร็วกว่าเสือ

“กูเคยคิดว่า กูอยู่กับมึงไปจนแก่ได้โดยไม่ต้องมีเมีย ไม่ต้องแต่งงาน ถ้ามึงยอมอ่ะนะ แต่พอนานไป กูว่ามันยังขาดอะไรไปสักอย่าง กูไม่ซีเรียสเรื่องของที่มึงมีแล้วกูก็มี.....หึหึหึ ไงก็ได้ แต่กูมีเซ็กส์กับผู้ชายแล้วเฉยๆ ว่ะ แต่อยู่กับมึงแล้วก็สบายใจดี แค่นี้...จบ ทั้งกรทั้งมึงทำให้ชีวิตกูพอดี กูพอแล้วกับจุดนี้ มีคนที่กูรัก มีคนที่รักกู......”

“มึงเลยถามว่าจะคบกันมั้ย?” ใจเสือปวดหนึบ ชื่อของใครอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ถ่วงความดีใจของเสือให้จมลงสู่ความมืดอันเป็นนิรันดร์

“ก็ไม่เชิงว่ะ....กูคิดมานแล้ว กูให้มึงไม่ได้เท่าที่มึงต้องการ กูสงสารมึงว่ะ กูรู้ว่าคนรักกันเค้าต้องให้กันมากแค่ไหน แต่กูก็รู้จักตัวเองดีพอว่ากูให้อะไรมึงได้บ้าง..... ที่กูพูดวันนี้ กูให้มึงถามใจตัวเองละกัน ว่าจะเอายังไงกับกู หากมึงรับข้อเสนอกูได้ เราก็เป็นแฟนกัน เหมือนไอ้โต้ไอ้เจตนั่นแหละ แต่หากมึงรับไม่ได้กับสิ่งที่กูให้ได้ “เท่านี้” เราก็เป็นเพื่อนกัน.... ปล่อยความรู้สึกมึงไว้กับกู แล้วมึงก็ไปต่อซะ”

“กูถามหน่อย มึงตอบกูจริงๆ นะ” เสือทำหน้าจริงจัง

“เอออ ว่ามา” ทศรับปาก

“ที่มึงบอกว่ามีเซ็กส์กับผู้ชายแล้วเฉยๆ มึงเคยมีอะไรกับใครวะ?” สงสัยมากที่สุด

“ฮ่าฮ่าฮ่า กูพูดแล้วมึงจะโกรธกูป่าววะ” ทศหัวเราะร่า

เสือส่ายหน้า ใจเต้นระทึก.....

เสือมองใบหน้ายิ้มกริ่มของอีกฝ่าย มือของทศยกขึ้น นิ้วพับเข้าหาตัว เหลือแค่นิ้วชี้ที่ยื่นออกมา------ที่เขา นิ้วชี้จิ้มมาที่อกด้านหนึ่งของเขา ทศขำอยู่ในลำคอ

“ห๊า!!!! กูเนี่ยนะ เชี่ยกูไปมีอะไรกับมึงเมื่อไหร่ ไม่ได้อยู่ในความทรงจำกูสักกะตี๊ดเดียว” หมาออกลูกเป็นไข่ยังน่าเชื่อกว่า *0*

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในความฝันมึงคืนไหนคืนนึงล่ะมั๊ง” ทศหัวเราะร่า

เค้นคอมันสักพักก็ได้ความว่า ไอ้ทศมันลักหลับไอ้เสือ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย ตอนนั้นทศอยากรู้ว่า ตัวเองจะยอมรับอีกฝ่ายได้แค่ไหน จับลูบคลำมันก็ได้อยู่ น้องชายไอ้เสือมันก็แข็งแรงดี ละเมอเรียกชื่อคนลักหลับมันได้ถูกคนด้วย แต่จนแล้วจนรอดทศก็ไม่ได้มีอารมณ์ถึงที่สุดกับเสือ ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่มันเฉยๆ ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีการตอบสนองอย่างที่คาดคิดไว้ แต่การกระทำในวันนี้ ตอกย้ำให้ทศมั่นใจว่า----- เขาไม่อยากเสียคนคนนี้ไป

ทศหันกลับมาคิดว่า..... หรือว่ารักไม่มากพอ

ทศเฝ้าคิดวนเวียนอยู่แบบนั้นมาตลอด จนปัจจุบัน “รัก” มีมากพอแล้วรึยัง ทศไม่รู้ แต่ “รัก” ยังคงอยู่ในใจทศเสมอ เท่าเดิม ไม่เปลี่ยน

ทศรักคนคนนนี้ แต่ “รัก” ของทศยังมีลิมิตของมันก็แค่นั้น....

อนาคต....ทศไม่รู้ หากอีกฝ่ายทำให้เขาเปลี่ยนได้ เขาก็พร้อมและจะไม่แข็งขืน

ตลอดมาทศสู้กับความคิดของตัวเองอย่างหนัก.... และวันนี้เขาต้องจัดการความรู้สึกที่มีระหว่างกันให้ชัดเจน จะรักก็รัก จะคบกันก็คบ จะเดินต่อไปก็เดิน ย่ำอยู่กับที่มันไม่มีอะไรดีขึ้นมา

“มึงรักน้องกู มึงรู้ตัวบ้างมั้ย?” ทศถอนหายใจ ทำไมเขาจะไม่รู้ใจเสือ

เสืออึ้ง และก้มหน้าลงไปพักที่หัวไหล่ของทศ เป็นนานกว่าจะพูดประโยคนี้ออกมา “กู......เสียใจ”

เขาทำให้ทศลำบากใจ

เขาทำให้กรต้องเจ็บ

แค่ตัดสินใจว่า “เราจะคบกัน” ไม่ง่ายเลยสำหรับทศ..... เสือรู้ดี เพราะถ้าหากทศตัดสินใจง่ายขนาดนั้น ทศคงไม่ปล่อยให้เวลามันยืดเยื้อมาถึงขนาดนี้

การยอมทำตามหัวใจสั่ง การยอมเป็นตัวแทนคนอื่น การก้าวตัดหน้าพี่ชายที่ตัวเองรักและเคารพ ไม่ใช่จะดี ไม่ใช่จะมองเห็นความสุข แต่กรก็เลือกมัน.... แต่แล้วเสือกลับ “ไม่รับ” ความรักที่คนคนหนึ่งฝ่าฟัน “ความรู้สึกผิดของตัวเอง” จนเลือดโชกก่อนที่จะยื่นมันมาให้เขา

ระหว่างพวกเขาซึ่งหันหน้าเข้าหากันเป็นสามเหลี่ยม ระหว่างเรา.... พวกเรามีแค่เชือกเส้นบางๆ ถือไว้เพื่อกั้นกลางความสัมพันธ์ของเราทั้งสามคน

เชือกเส้นบางๆ ที่แค่ทึ้งก็หย่อน แค่จับมันมากระตุกก็ขาด ทว่าพอคนเราอยู่หลังเส้นกั้นนั้นมานาน เชือกบางๆ เส้นนั้นกลับยากที่จะทำลาย

ความรักเป็นเรื่องยาก บางคนต้องเดินผิดกันจนเหนื่อย ถึงกลับมาทางที่ถูกได้ แต่!!!!.......อะไรล่ะที่เรียกว่า “ถูก” จะแน่ใจได้ยังไงว่านั่น “ผิด”

ตัดใจจากทศ ไปคบกร....เสือทำไม่ได้ คนนี้น่ะ รักมานานมาก

เลือกทศ เสียกรไป....เสือทำใจลำบาก เขาต้องทนอยู่กับความเสียใจไปตลอดชีวิตแน่

“กูกับมึงชัดเจนกันแล้วนะ กูจะอยู่ตรงนี้ ส่วนเรื่องมึงกับกร มึงไปจัดการเอาเอง กูไม่บังคับใจใคร แล้วกูก็ไม่ช่วยมึงด้วย จำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มึงมีกู!”

วาจาตัดญาติขาดมิตร คำทิ้งท้ายที่หนักแน่น กรีดแทงหัวใจของเสือให้อาบเลือด

เสือจับข้อมือทศไว้แน่น ทศพยายามจะลุกแต่ก็ลุกไม่ขึ้น ทศถอนหายใจหนักๆ ทีนึง หลังจากนั้นก็นั่งนิ่งๆ ให้เสื้อยืดที่ไหล่ซับน้ำตาให้กับอีกฝ่าย

ราวกับน้ำตาไม่มีวันหมด กระทั่งสายลมดึงตะวันให้คล้อยลงสู่เส้นขอบฟ้า กระทั่งฝืนฟ้าถูกห่มด้วยผ้าสีนิล กระทั่งดวงดาวเปร่งกระกายล้อกับแสงจันทร์เต็มดวง น้ำตานั้นก็ยังหลั่งริน

ให้มันไหลไป....สมค่ากับคำว่า “เสียใจ”






http://www.youtube.com/watch?v=rREEl9VGHuc&feature=channel (http://www.youtube.com/watch?v=rREEl9VGHuc&feature=channel)










[จบ]   :pig4:






โอเคนะ จบแล้ว มันจบแล้ว
[สองก้าว] จบแล้ว
พอโน๊ะ..... ขอไล่เก็บตรวจทานก่อน อาจมีพิมพ์เพิ่มลงไปบ้าง ใครตามมมาอ่านทีหลังน่าจะโชคดีไป 5555+ (รึเปล่า?)
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [สองก้าว] จบในตัว -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 24-03-2012 14:21:41
งง อ่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Chobkub ที่ 24-03-2012 14:48:39
เล่าเรื่องได้สนุกดีครับ จบแล้วหรอครับ มีต่อไหมครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 24-03-2012 15:01:14
ก้าวต่อไป




นิยายบางเรื่อง จบแบบค้างคา…

คุณจะเปิดหน้าต่อมาแล้วพบกับคำว่า “จบบริบรูณ์”

คุณจะอึ้งและทิ้งตัวอยู่ในความคิดสุดท้ายของตัวละคร

ว่ามันเป็นไงต่อ ทำไม อะไร ยังไง แบบนั้นใช่มั้ย แบบนี้รึเปล่า …….

 [สองก้าว] ของเสือจบไปแล้ว

ในเส้นทางความรัก เสือก้าวเข้าไปหาความรักทั้งที่ไม่รู้ใจตัวเอง

ต่อมา…. เมื่อเดินมาถึงต้นความรัก เสือเลือกที่จะก้าวผ่านมันไป และไม่เก็บผลของต้นความรักมากิน




เสือตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใคร เสือเลยไม่เลือกใครสักคน!!!!!


การเลือกใครสักคน หมายถึงการที่ต้องปล่อยให้คนที่ไม่ถูกเลือก เสียใจโดยลำพัง… แค่คิด ใจเสือก็เหมือนจะขาด เขาไม่สามารถปล่อยให้คนที่เขารัก มีความสุขแบบช้ำๆ บนความทุกข์ของคนอื่น หรือแม้แต่มีทุกข์เพื่อให้คนอื่นสุข

ในเมื่อต้องเจ็บด้วยกันทั้งสามฝ่าย… เสือจึงปล่อยให้เจ็บกันไปแบบนี้ เสือคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่ตนสามารถทำให้กับคนที่ตัวเองรักทั้งสองคนนี้ได้

เสือหวังว่า เจ็บในครั้งนี้จะจางลงไปเอง…..ในสักวัน












บางคนไม่รู้จะทำยังไงกับความรัก?

พอมีรัก ทำไมถึงทำแต่เรื่องโง่ๆ ในสายตาคนอื่น คิดแต่เรื่องที่คนอื่นไม่เข้าใจ ทำให้คนอื่นเห็นแล้วรู้สึกรำคาญแทน …..



…….

……

…..

….



..

.


เสือยังก้าวต่อไปในชีวิต เขายังทำตัวเหมือนเดิม ทั้งกับทศ และกับกร.... แต่เขาคงขอมากไปกรถึงให้กับเขาไม่ได้


ก้อนเนื้อที่เต้นอยู่ตรงหน้าอกเรา มันบงการเราได้ แต่เราบงการมันไม่ได้
เราทำได้แค่ “เป็นผู้รับความรู้สึก” จากมัน


หลายครั้งเมื่ออารมณ์มันพีคสุดๆ ขึ้นมาที ไอ้เสือมันก็จะมาชวนเพื่อนๆ ไปอาบเหล้า แหกปากเอาสิ่งที่อัดอั้นในใจออกมาไม่ยอมหยุด จนเมื่อรำคาญมากๆ ถึงมีประโยคเผด็จศึกไอ้เสือที่ว่า “มึงทำตัวเอง ไอ้ควาย!”

พอหัวไอ้เสือประมวลความหมายเสร็จปุ๊บ มันจะหยุดแหกปากแล้วเปลี่ยนมาเป็น “เสือร้องไห้” แทน
คำนี้ไม่ใช่จะพูดได้บ่อยๆ มันจี้ใจดำเสือที่สุด เพื่อนทุกคนพยายามเลี่ยงสุดชีวิต….. หากพูดให้ไอ้เสือได้ยิน ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไร มันก๊อกแตกได้ทันที

คนที่พูดประโยคนี้บ่อยๆ ได้โดยไม่แคร์ความรู้สึกของเพื่อนก็คือคนที่เริ่ม “บัญญัติประโยคเผด็จศึกไอ้เสือ” นั่นเอง

แต่ไอ้เสือมันแอบซาดิส ชอบไปชวนคนนั้นเค้ากินเหล้า ไปเมาให้เค้าด่า…. มันคงกะให้เจ็บและชินไปเองล่ะมั๊ง?!!!

สำหรับเสือ ถึงมันจะบ้า แต่มันก็ยังก้าวต่อไป

อนาคตเป็นสิ่งที่ปัจจุบันไม่รู้ พรหมลิขิตหน้าตาเป็นยังไง..... เสือคงได้เจอในสักวัน


เอวัง :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 24-03-2012 15:16:05
เป็นบทสรุปที่ "คาราคาซัง" มากสำหรับความสัมพันธ์ที่เป็นสามเหลี่ยมอันนี้

ทศ รักเสือ แต่ให้ได้แค่ความรัก

กร รักเสือ แต่ก็รักตัวเองด้วย เพราะฉะนั้นจึงเลือกที่จะจบความสัมพันธ์นี้

เสือ เป็นผู้ชายที่ "โคตร" โชคดี เพราะมีคนรักถึง 2 คน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่น่าสงสารที่สุดเหมือนกัน เพราะสุดท้ายแล้ว เสือ ก็ไม่เหลือใครเลย (หรือเปล่า?.....อันนี้ก็แล้วแต่คนแต่งละเนอะ)

ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ที่มีมาให้อ่านนะคะ ขอให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงทุกย่างก้าวค่ะ จะเป็นกำลังใจให้  :3123:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 24-03-2012 15:59:20
โอ้ว สงสารเสือที่สุดแล้ว
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-03-2012 17:11:45
 :เฮ้อ:

ก้าวต่อไป  ทั้งสามคนอาจจะเจอคนอื่นที่ทำให้สามเหลี่ยมสามมุมพังลงก็ได้เนอะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-03-2012 17:34:54
จบได้แนวมากๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 24-03-2012 18:13:11
อึมครึมจริงๆ แต่ก็ชอบมากอ่ะ เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 24-03-2012 18:35:45
ชอบตอนจบอ่ะ \(><)/
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 24-03-2012 19:37:15
มันช่างจบได้ค้างคาหัวใจดีจริงๆ แต่ก็นะชีวิตไม่ใช่ละคร ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 24-03-2012 21:01:59
อึดอัดอ่ะ รู้สึกว่ามันไม่สุด ไม่เต็มที่
มัน ค้างคา อย่างงี้ไม่ค่อยชอบเลย

แต่คุณผู้แต่ง แต่งดีนะคะ อินมากๆเลย
เราชอบ พาสแรกที่มีโตกะเต็ง อ่ะ น่ารักดี
^__^
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 24-03-2012 22:58:03
เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง...งืมๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-03-2012 23:46:42
 งงค่ะบอกได้อย่างเดียวว่างง


แล้ว กร จะรู้ไม่ว่าที่เสือ  ถามว่าเป็นมากว่าพี่ได้มั้ย  ถามเพื่อ?  แล้วพอกรตอบว่าได้  แต่เสือกลับบอกว่า ไม่เอา 
แล้ว "ไม่เอา"ของเสือเนี่ยเพราะ รักทศ  หรือรักกร

งงว่า เสือรักทศ แต่แอบเห็นแก่ตัวจะเอาน้องมาแทน  แล้วเปลี่ยนใจ  แต่พอทศมาบอกว่าก็รักนะ  ก็ละอายใจว่าเคยคิดเลวกะกรไว้เลยไม่กล้าคบกับทศ  อย่างนั้น
หรือป่าว

คือรู้สึกว่า เรื่องที่ปูมายังมาไม่ถึงจุดจบค่ะ  เลยไม่สามารถคิดต่อได้ว่า  มันจบอย่างไร
คือจากที่อ่านเหมือนว่า  เสือกับกร กลายเป็นคนไม่รู้จักกัน (แต่คนรู้จักกันมาก่อน) เสือกับทศ เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม (แต่ไม่เหมือนเดิม)

หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 24-03-2012 23:59:34
งงกว่าเดิม ??
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 25-03-2012 12:14:33
 งงค่ะบอกได้อย่างเดียวว่างง
 :กอด1:เราขอโต๊ดดดดดดดดดด

 ]แล้ว กร จะรู้ไม่ว่าที่เสือ  ถามว่าเป็นมากว่าพี่ได้มั้ย  ถามเพื่อ? 

อันนี้ไม่เข้าใจเน๊?
แล้วกรจะรู้มั้ยว่าที่เสือถามว่า เป็นมากกว่าพี่ได้มั้ย? ถามเพื่อ? แบบนี้รึเปล่า?
หากถามว่า กรรู้มั้ยว่าเสือกะเอาตัวเองเป็นตัวแทน... กรรู้นะคะ

อ้างอิงที่ว่า
“ไม่ต้องขอโทษ… หากเป็นผมได้….” เสียงพูดหยุดไป ก่อนที่จะตามมาด้วยคำสั้นๆ คำหนึ่ง “….ก็ได้…”
กับ
การยอมทำตามหัวใจสั่ง การยอมเป็นตัวแทนคนอื่น การก้าวตัดหน้าพี่ชายที่ตัวเองรักและเคารพ ไม่ใช่จะดี ไม่ใช่จะมองเห็นความสุข แต่กรก็เลือกมัน.... แต่แล้วเสือกลับ “ไม่รับ” ความรักที่คนคนหนึ่งฝ่าฟัน “ความรู้สึกผิดของตัวเอง” จนเลือดโชกก่อนที่จะยื่นมันมาให้เขา


นี่คือส่วนย้ำว่า กรรู้ตัวว่าพี่เสือเอากรเป็นตัวแทนพี่ทศตั้งแต่แรก

 ถามเพื่อ? 
คำนี้คืออยู่ในอารมณ์บิ๊วอยู่ใช่มั้ยเอ่ย....




 แล้วพอกรตอบว่าได้  แต่เสือกลับบอกว่า ไม่เอา 
แล้ว "ไม่เอา"ของเสือเนี่ยเพราะ รักทศ  หรือรักกร

ฮ้าาาาาาาาา จุดนี้ชิมิ.... เราแจงให้นะ แต่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องน๊าาาา  :m26:
เอานะ
นึกถึงหัวคนคนนึงไว้ คนที่มีรักแต่ไม่กล้า กลัวที่จะเสียบางอย่างไป พอคนนั้นกลัวมากเข้า นิสัยป่วงๆ มันก็เป็นตะกอนในหัวใจบิดบังหลายอย่างไว้ ไม่ให้ตัวเองรู้...

เสือรู้ตัวและตั้งใจว่าจะหาใครสักคนเข้ามาในชีวิต
เสือไม่ได้หวังให้ใครมาเป็น "ตัวแทน" เสือแค่อยาก "รักคนอื่น" "อยากมีคนที่รักเรา" "อยากมีคนของตัวเอง"
เสือหวังที่จะมีรักใหม่กับใครสักคน และคิดว่าตัวเองทำได้ มั่นใจว่าทำได้ จึงถามกรว่า "เป็นมากกว่าพี่ชายได้มั้ย?"

จำตอนนี้ได้มั้ย อ้างอิง
ตั้งแต่กรมาพักด้วย เสือถามใจตัวเองแค่คำเดียว “มึงเหงาใช่มั้ย?”

หากหัวใจตอบว่า “ใช่” อะไรควรทำไม่ควร เขาจะรู้----- หากเป็นความเหงา มันจะทำร้ายกร ต้องเลิกให้ได้….. ?


นี่ล่ะ เสือตระหนักรู้ผิดชอบ หากเหงาไม่ควรเอากรมาเป็นตัวแทน หากจะเอากรต้องตั้งใจที่จะรักให้ได้ และต้องทำให้ได้เท่านั้น!! ----- ใจเสือก็หนักแน่นอยู่น๊า

แต่ตอนที่เสือมองหน้ากร (ตอนจะเข้าด้ายเข้าเข็ม) ตอนนี้ล่ะที่เสือ.....รู้ตัว
อยากมีใครสักคน
ตั้งใจว่าจะรักกรได้ (ย้ำว่าใจของเสือไม่ตั้งใจเอากรมาเป็นตัวแทน เสือคิดว่าตัวเองจะมีรักใหม่กับกรได้)
แต่แล้วพอมองหน้ากร มองหน้าที่เหมือนกัน ถึงสีตาที่ต่างกัน..... แต่ในเวลาเดียวกันนั้นใบหน้าที่เสือเห็นคือใบหน้าของทศ------ เสือจึงตระหนักว่า ตัวเองยังไม่สามารถรักใครได้อย่างที่ตั้งใจไว้ หากไปต่อจะเป็นการทำร้ายตัวเองและกร

“ถึงจะหน้าเหมือนกันยังไง หัวใจมันก็แยกออก”----- คำนี้ เหมือนพูดให้กร แต่เสือพูดให้ตัวเองคล้ายรำพึงรำพัน


แล้วพอกรตอบว่าได้  แต่เสือกลับบอกว่า ไม่เอา 
แล้ว "ไม่เอา"ของเสือเนี่ยเพราะ รักทศ  หรือรักกร
ตอบ รักทศคนเดียว (ณ ขณะนั้น)


 งงว่า เสือรักทศ แต่แอบเห็นแก่ตัวจะเอาน้องมาแทน  แล้วเปลี่ยนใจ
แต่พอทศมาบอกว่าก็รักนะ ก็ละอายใจว่าเคยคิดเลวกะกรไว้เลยไม่กล้าคบกับทศ  อย่างนั้น
หรือป่าว

เสือรักทศ แต่เสือไม่ได้เห็นแก่ตัวเอากรมาเป็นตัวแทน เสือมั่นใจว่าจะรักกรได้ คิดว่าทำได้ แต่ก็ทำไม่ได้ในตอนหลัง พอรู้ในตอนสุดท้ายจึงไม่ยอมมีอะไรกับกร และหยุดไว้ตรงนั้น

พอทศมาบอกรัก ช่วงนี้ซับซ้อนนะ..... :เฮ้อ:
ละอายใจมันก็มีบ้างบางเบา แต่ที่เสือไม่คบทศเพราะคำนี้
“มึงรักน้องกู มึงรู้ตัวบ้างมั้ย?” ทศถอนหายใจ ทำไมเขาจะไม่รู้ใจเสือ

เสืออึ้ง และก้มหน้าลงไปพักที่หัวไหล่ของทศ เป็นนานกว่าจะพูดประโยคนี้ออกมา “กู......เสียใจ”


พอทิ้งกรไว้ในห้อง กลับไปเห็นห้องโล่งใจเสือก็หาย พอรู้ว่าน้องกรไปอยู่กับโต้ มีโต้พาไปส่งบ้านก็สบายใจ พอมานั่งคิดๆ ตรงระเบียง....."พึ่งรู้ตัวว่ารักเขาเข้าแล้ว" -------- แต่เป็นการรู้ลึกๆ อยู่ในใจ ทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไงที่เรียกว่า "ดี"----- พอไม่รู้คิดไม่ออกเสือก็ปล่อยมันไป ช่างมัน ไม่คิดหาทางที่"ดี" (นั่นคือความรู้สึกในหนึ่งเดือนนั้นของเสือ)


น้ำหนักของความรักระหว่าง กร กับ ทศ

ทศรักมานานมีน้ำหนักที่หนักกว่า สิบกว่าสร้างความผูกพันที่มากมายให้กับเสือ...ก่อเกิดเป็นความรู้สึกเคยชินให้กับเสือ....ถึงแม้เจ็บปวด แต่เสืออุ่นใจกับความรักที่ให้ทศ
รักที่เพิ่งเกิดกับกร.... มันยังเบาอยู่ แต่เสือเริ่มรู้ว่ามันมีน้ำหนักกับหัวใจตัวเองเพราะคำพูดของทศคำนี้
“มึงรักน้องกู มึงรู้ตัวบ้างมั้ย?” ทศถอนหายใจ ทำไมเขาจะไม่รู้ใจเสือ

เคยมั้ย? ที่รู้แก่ใจล่ะว่า รู้สึกยังไง แต่มันไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ ไม่รู้ว่า "ได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ" ..... นั่นแหละ คือความรู้สึกเสือ คนบ้าๆ โง่ๆ ควายๆ คนนึงที่พอทศย้ำ เขาถึงตระหนักรู้ถึง "น้ำหนักคำว่ารักที่มีให้กร"
มันมีน้ำหนักกับตัวเสือมากจนขนาดที่ คนที่รอคอยมาแสนนานมาบอกรักตัวเอง แล้วตัวเอง..... เกิดลังเลใจ

ถามว่าละอายใจมั้ย? เวลานั้นเสือมีแค่
อ้างอิง
เสืออึ้ง และก้มหน้าลงไปพักที่หัวไหล่ของทศ เป็นนานกว่าจะพูดประโยคนี้ออกมา “กู......เสียใจ”


คำเดียวเพียว คำนี้ไม่ได้เป็นคำขอโทษให้ทศเพียงอย่างเดียว แต่เสือรำพึงความรู้สึกตัวเองให้ตัวเองฟังด้วย
เสียใจต่อทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น แต่ความละอายมันแทบไม่เหลือแล้วในหัวใจเสือเวลานั้น.....เสือมีแค่คำว่า "เสียใจ"

เสือตั้งใจที่จะทำให้กรมาหลงตัวเอง ตั้งใจที่จะสอยเอากรมาเป็นเมีย ตั้งใจที่จะรักกร..... เสือมีความละอายเบาบางนะกับเรื่องนี้ ครั้นเรื่องนี้มีถึงบทสรุป เสือจึงแค่ "เสียใจ"---- ลึกๆ แล้วไอ้เสือมันเลว มันกล้าได้กล้าเสีย มันเห็นแก่ตัว....มันดีกับคนที่มันรักเท่านั้น----เหมือนเจต ...แต่การแสดงออกของเสือต่างออกไป

ไม่คบกับทศ
เพราะอย่างที่บอก เมื่อทศย้ำให้หัวใจเสือตระหนักรู้ว่า "รักกร"
เมื่อรู้แก่ใจจึงไม่กล้าตอบรับทศไปเลยในวันนั้น

หลังจากนั้นเมื่อคิดว่าจะเอายังไงดี เสือกลับยิ่งรู้ว่า ตัวเองรักกรมากขึ้นทุกครั้งที่คิดถึง

ห้องที่เคยอยู่ด้วยกัน สิ่งที่ได้ทำระหว่างกัน..... มันมีน้ำหนักให้เสือมากขึ้นๆ

จากเริ่มที่บางเบา กลายเป็นมีน้ำหนักเทียบเท่ากันจนเสือ เลือกไม่ได้..... จึงไม่เลือกใครสักคน



 คือรู้สึกว่า เรื่องที่ปูมายังมาไม่ถึงจุดจบค่ะ  เลยไม่สามารถคิดต่อได้ว่า  มันจบอย่างไร

เข้าใจถูกแล้วนะคะ เรื่องมันเดินทางมาไม่ถึงจุดจบ ผู้อ่านจะคิดต่อไม่ออก ไม่กระจ่าง....ว่าอะไร? ยังไง? จะแบบนี้รึเปล่า?

เคยมั้ย?..... ที่ได้ฟังเรื่องราวของใครสักคน ที่เขาใช้ชีวิตมาถึงจุดนี้ จุดที่เขาคุยกับเรา
เขาเล่าเรื่องการเดินทางของเขาให้เราฟัง เค้าเล่าให้เราฟังว่าพวกเขาจบที่ตรงนั้น
เรื่อง [สองก้าว] จบลง แต่ไม่ถึงจุดจบเพราะพวกเขายังไม่ได้เดินต่อ เพราะตอนนี้คือปัจจุบัน

หากบอกว่า "งั้นเอาตอนจบมา"  :laugh:
ผู้เขียนขอให้คำตอบว่า ----- ปล่อยให้พวกเขาเดินทางกันไปก่อน หากเขาเดินทางไปถึงจุดหนึ่งซึ่งเรียกว่า "ปลายทาง" กันแล้ว ผู้เขียนจะมาเล่าสู่กันฟัง
แต่หากพวกเขาเดินไปถึงปลายทางกันแล้วและไม่กลับมาเล่าให้ผู้เขียนฟัง  :z3: ผู้เขียนก็จนปัญญาอ่ะ

 คือจากที่อ่านเหมือนว่า  เสือกับกร กลายเป็นคนไม่รู้จักกัน (แต่คนรู้จักกันมาก่อน) เสือกับทศ เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม (แต่ไม่เหมือนเดิม)

เสือกับกร
เสือตั้งใจกลับไปเหมือนเดิม
กรกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้เพราะตัวเองทำตัวเอง
อ้างอิง
มันทรมานนะ หากคนที่สนิทกัน เกิดมองหน้ากันไม่ติดขึ้นมา…

สำหรับเขากับติ เพื่อนรักที่สนิทกันมาก เวลาโกรธกัน ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าขอโทษอีกฝ่าย ไม่ใช่ว่าเกลียดขี้หน้า แต่พอหายโกรธแล้วมันละอาย ละอายจนไม่กล้ามองหน้ากัน พอฉาบผนังคำว่า "ไม่กล้ามองหน้า" ไปนานวันเข้า ผนังนั้นจะหนาขึ้น หนาขึ้น หนาจนเราทุบมันไม่ได้….และคราวนี้ ความรู้สึกผิดของเราจะไม่มีวันส่งไปไม่ถึงอีกฝ่ายได้อีก

เราจะกลายเป็นเจ้าหญิงผู้โดดเดี่ยว อยู่ในห้องที่ฉาบด้วยผนังหนาทึบ รอวันที่ใครคนนั้นจะมาทุบมันให้เรา… หากเป็นเทพนิยาย เขาคงมีเจ้าชายมาช่วยพังมันให้ แต่พอเป็นชีวิตจริง ต่างฝ่ายต่างกลับเป็นเจ้าหญิงด้วยกันทั้งคู่

กำแพงจึงยังคงหนาและหนักไปเรื่อยๆ จนเราหาทางออกไม่ได้… และไม่มีทางออก

กรณีนี้ เจ้าหญิงคือกรแค่คนเดียว.... เจ้าหญิงรอให้เสือมาทลายกำแพงให้ แต่กรก็ดันเสกคำสาป "กำแพงล่องหน" ไว้ด้วย เสือเลยทลายยาก
ทศบอกแล้ว ทศไม่ช่วย.... หากทศช่วยดีดนิ้วเปาะเดียว กำแพงของกรก็หายวับไป.... ทศไม่ทำเพราะ

อ้างอิง
ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีการตอบสนองอย่างที่คาดคิดไว้ แต่การกระทำในวันนี้ ตอกย้ำให้ทศมั่นใจว่า----- เขาไม่อยากเสียคนคนนี้ไป


ทศก็มีความเห็นแก่ตัวนะ ไม่ไว้หน้าน้องเลยด้วย----- :เฮ้อ:นี่ล่ะหนอ มนุษย์

ส่วนความสัมพันธ์ของเสือกับทศ

เหมือนเดิม (แต่ไม่เหมือนเดิม) คุณคิดถูกแล้วค่ะ
เมื่อต่างรู้ใจกัน เมื่อใจตรงกัน อนาคตมันย่อมเปลี่ยน.....แต่เปลี่ยนไปยังไง ผู้เขียนไม่รู้ ยังไม่มีใครมาเล่าให้ฟัง

อ๊ะ เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีตัวละครใดมีตัวตนจริง ไม่มีคนเป็นคนใดมาเล่าให้ผู้เขียนฟัง
แค่นึกออกเฉยๆ แต่มันนึกออกมาได้แบบนั้น....แบบที่เห็น


อ่านแล้วงง เป็นการถูกต้องอ่ะนะ


ขออำภัยมากๆ ที่ทำให้งง สับสน คาใจ นอนไม่หลับ(ถึงขั้นงั้นรึเปล่า?)
เราผิดเองที่พิมพ์ไปแบบนั้น...... มันออกมาเอง เล่าได้เท่าที่รู้

ทว่า หากใครที่มาอ่านเม้นท์นี้นะ แล้วคุณกำลังเห็นด้วยกับประโยคนี้ (งง) คุณเดินทางมาถูกแล้ว

ในบทสรุป
บางคนไม่รู้จะทำยังไงกับความรัก?

พอมีรัก ทำไมถึงทำแต่เรื่องโง่ๆ ในสายตาคนอื่น คิดแต่เรื่องที่คนอื่นไม่เข้าใจ ทำให้คนอื่นเห็นแล้วรู้สึกรำคาญแทน …..


เคยรู้จักใครที่เป็นอย่างงี้บ้างมั้ย?....
"ไม่เข้าใจมันเลยว่ะ"...เคยพูดกับเพื่อนแบบนี้มั้ย?

บางคนก้าวไปในเส้นทางความรักทั้งที่ไม่รู้ใจตัวเอง

เรื่องความรัก ไม่มีใครรู้ดีเท่าหัวใจคนที่รักดอกหนา

ดังนั้น [สองก้าว] จึงเป็นอย่างที่ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านได้อ่าน


เอวัง



สุดท้าย
ขอบคุณมากๆ ด้วยใจจริง กับท่านผู้มีอุปการะคุณ minchy ที่กลั่นความสงสัยออกมาถามผู้เขียนจนได้
รู้มั้ยคะ? ผู้เขียนรอสิ่งนี้อยู่ทั้งวัน เมื่อวาน มานั่งรอ รอจนไปนอน 55555555+

ส่วนใหญ่คงงงจนบอกไม่ถูก จะถามว่างงตรงไหนก็ยังบอกไม่ถูกชิมิคะ? รู้น๊า หุหุหุ

แต่หากได้อ่านเม้นท์นี้แล้ว เกิดนึกออก จะถาม .... ถามมาเลย หากรู้ ผู้เขียนตอบให้ได้เลย บัดนาว
 :pig4:





งงกว่าเดิม ??
:กอด1:อ่านแล้วงง เป็นการถูกต้องอ่ะนะ เราเขียนให้งงเอง ขออำภัยด้วย
แต่หากอยากถามเป็นส่วนๆ เหมือนท่านผู้มีอุปการะคุณท่านอื่น ก็ได้นะคะ หากรู้จะตอบให้ค่ะ :กอด1: :กอด1:


[/color]
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 26-03-2012 05:20:55
สนุก,,,เนื้อหาเรื่องราวดีมากๆเลยค่ะ

แต่จบแบบปวดใจไปหน่อย

 :กอด1:

 :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: kimyunjae ที่ 26-03-2012 09:44:04
ไม่อยากให้จบแบบนี้เลย
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกลิงตัวอ้วน ที่ 26-03-2012 10:21:23
บทสรุปไม่ว่านะ
แต่เรื่องไปกรอกทรายปล่อยลอยค้างเติ่งแบบนั้นเลย?
flashback มาแล้วไม่กลับไปสรุปเหตุการณ์ตรงนั้นหน่อยเหรอครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [ก้าวต่อไป] สรุปจบ -- หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 26-03-2012 11:22:39
กรอกทราย....เป็นเรื่องของปัจจุบันอ่ะค่า
อนาคตยังไม่มีใครมาบอกผู้เขียน ดังนั้น หากอนาคตกลายเป็นปัจจุบันอีกครั้ง
ผู้เขียนจะนำมาพิมพ์ให้ได้อ่านกัน นะนะนะ :กอด1:

ปล่อยให้พวกเขาเดินทางกันไปต่ออีกสักพัก  :oni1:


ปล. ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่เม้นต์ และเพิ่มตัวเลขรีวิว
ผู้เขียน  :pig4: จากใจ
พวกคุณคือแรงใจของผู้เขียน....... เรายังอยู่ด้วยกันนะ และเราจะรอคอย "วันหน้าฟ้าใหม่" ไปด้วยกัน (มั้ง?! 55555+)
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: IWacKEE ที่ 26-03-2012 14:01:40
ชอบนะคะ สนุกมาก อาจจะงงๆ แต่ก็ต้องขอบคุณคนเเต่งที่อธิบายจนเข้าใจค่ะ  :pig4:

เรื่องนี้มันเศร้าๆ เนอะ   :o12:

ส่วนตัวชอบคู่  โต้ เจต กับคู่ โต เต็ง มากค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกลิงตัวอ้วน ที่ 26-03-2012 15:40:44
ยังไม่ค่อยเคลียร์ครับ
เข้าใจครับว่ากรอกทรายคือเวลาปัจจุบัน แล้วก็มีการ flashback ไปเรื่องของเสือ กร ทศ ใช่ไหมครับ
ผมว่ามันเหมือนค้าง ๆ ไงไม่รู้ เหมือนดูหนังที่ตัวละครแก่ ๆ เล่าอดีตตอนหนุ่มสาว แล้วแล้วโดนตัดจบ
สรุปว่าไอ้แก่นี่มันจะออกมาทำไม ก็เล่าจากอดีตไปตั้งแต่แรกเลยสิ ประมาณนั้น
(ประมาณสี่แผ่นดิน ต้นเรื่องแม่พลอยตอนแก่มาเล่า แต่ดันจบด้วยแม่พลอยตอนสาวแต่งงานกับคุณเปรม)
อย่างน้อยตอนจบก็น่าจะให้เป็นตัวละครตอนเปิดเรื่องก็ยังดี
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 26-03-2012 18:20:25
งอ งู ชนกันตรึม :serius2:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 26-03-2012 21:54:24
น่ารักดี แต่แบ่งเล่าเรื่อง เปลี่ยนมุมมองไปมายังไม่ค่อยชัด อ่านงงไปนิดอะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: สายลม ที่ 26-03-2012 23:06:12
ทศอยู่ห่างๆเป็นเหมือนเพื่อนกัน   เเต่มีความรักให้เสมอ

ส่วนเสือรักทั้งสองคนเเต่ระหว่างทศมันมีความผูกพันปนอยู่ด้วย

น้องกรถึงรักเสือเเต่ก็ไม่อยากที่จะเป็นตัวเเทนของใคร  โดยเฉพาะคนคนนั้นๆคือพี่ชายตัวเอง

ใช่หรือเปล่าอะ  คือว่าเราอ่านอย่างงงๆอะน่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 26-03-2012 23:39:53
อืมไปตจว กลับมาเห็นเรื่องเข้ามาอยู่ที่ นิยายที่จบแล้ว แอบตกใจ อ้าวจบแล้วหรอเนี่ย

ขอบคุณสำหรับคนเขียนที่มาขยายข้อข้องใจของคนอ่านอย่างเรานะคะ



ออกตัวก่อนว่าพยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าใจเสือในแบบที่คนเขียนอธิบาย ทั้งในเรื่องและนอกเรื่อง  แต่ยังไม่เข้าใจ  เค้าถึงว่าใจคนยากแท้หยั่งถึง

คิดมาตลอดว่า เสือในเรื่องมองทศเหมือน แอปเปิ้ลในสวนอีเดน (อันนี้แอบเปรียบเทียบเอาเอง) แต่อยู่ๆ พระเจ้าก็มาบอกว่า อะนี่แอปเปิ้ลเอาไปสิจะกินมั้ย อิตาเสือดันลังเลแบบคิดไว้แล้วนะว่าคงไม่ได้กินหรอกแอปเปิ้ลหน่ะชาตินี้ว่าจะไปกินสาลี่แทนแต่พอจะกัดสาลี่ก็ยังนึกถึงแอปเปิ้ลอยู่  พอแอปเปิ้ลมาอยู่ตรงหน้าดันไม่กินเพราะคิดอีกว่าจริงๆ อยากกินสาลี่

คนเขียนงงมั้ย  จะบอกว่าตอนพิมพ์คนอ่านก็งง
อยากจะถามแบบสรุปว่า ในเมื่อไม่ได้ละลายใจใดๆ แล้วทำไมไม่กินหล่ะ ถ้าเป็นเราจะกินมันทั้งคู่ไม่ให้เหลือ


ปล. ทศนี่ประมาณว่า รู้มานานแล้วว่าเสือคิดยังไง แต่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว แต่พอน้องจะมาตัดหน้า (มันรู้ได้ไงว่าน้องมาตัดหน้ามัน) รีบหางโผล่มาหวงก้างเลยใช่มั้ย :เฮ้อ:

ปล.2 +1 ให้ด้วยความขอบคุุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 27-03-2012 11:31:11
 :กอด1: ขอบคุณท่านผู้อุปการะคุณ ที่พยายามเข้าใจไปในทิศทางของผู้เขียน
ขอบคุณจากใจ อย่างสุดซึ้ง

แต่หลังจากนี้ไป หากท่านอื่นเกิดเข้าใจหรือคิดต่างกันไปก็ย่อมได้นะจ๊ะ...อิสระ เต็มที่ จงโบยบิน

สำหรับ [สองก้าว] ผู้เขียน "อยากเกรียน" งานเขียนของตัวเอง.... อยากทิ้งระเบิดไว้ในงาน ให้มีทั้งที่ถอดสลักและไม่ถอดสลัก
อยากเกรียนด้วยการปล่อยให้ผู้อ่าน ถอดสลักกันเอาเอง

เป็นงานเขียนที่ อึดอัดใจ ตอนพิมพ์ก็อึดอัดใจไม่ต่างกัน....แต่ก็นั่นล่ะนะ พิมพ์ไปแล้ว เหอเหอเหอ

การลำดับของผู้เขียน การแบ่งมุมการเขียน o13 ขอบคุณท่านผู้อ่านที่จี้ใจดำ หลอดไฟผู้เขียนเกิดในบัดดล ขอบคุณจากใจจริง
  :z3: ผู้เขียนวายป่วงมาก ต้องขออำภัยด้วย รับด้วยเกล้าและจะนำไปแก้ไขในงานอื่นๆ ให้ดียิ่งกว่าเดิม

ตอนพิมพ์บทสรุป ตั้งหัวข้อไว้ว่า

หากเสือละอายใจ เสือจะไม่ได้รักกรจากใจ
หากเสือรักกรจากใจ เสือจะแค่...เสียใจ

มีเท่านี้

หวังว่าจดหมายปลายเปิด [สองก้าว] จะสื่อสารไปถึงผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย


ถ้ามีแรงก็ยังจะเขียนต่อไปเรื่อยๆ...และขอเม้นท์นี้เป็นเม้นท์สุดท้ายละกันนะ

ขอบคุณท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่มาแสดงความเห็น เพิ่มตัวเลข...พวกคุณคือแรงใจของผู้เขียนเสมอ
และขอบคุณท่านผู้มีอุปการะคุณท่านอื่นๆ ที่จะมาต่อหลังจากนี้.... คุณคือแรงใจของผู้เขียนเช่นเดียวกัน

 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-03-2012 11:58:27
อ่านตอนแรกก็งงอยู่
พอมาอ่านเม้นท์ที่คนเขียนตอบ
ก็พอทำให้มองเห็นว่าความรักนั้น
มันไม่จำเป็นต้องสมหวังเสมอไป
รักเป็นสิ่งที่สวยงามที่ทำให้เรา
มีแรงต่อสู้ที่จะทำสิ่งต่างๆ
 :pig4: :L1: :กอด1:
 

หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 28-03-2012 23:35:58
อ่านถึงล่าสุดแล้ว

เขียนได้ดีมากครับ
รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวละคร



รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 29-03-2012 00:09:32
มันต้องมีซักวันที่่ทางแยกมาตัดกันอีก
แล้วมีการเปลี่ยนแปลง เพราะสงสารหมดทั้ง3คนเลย
คนที่มีความรักให้มากกว่า1 คนโดยที่ตัวเองยอมเจ็บเองดีกว่าจะให้คนที่ตัวรักทั้งสองคนเจ็บมันน่านับถือ
แต่ก็น่าหมั่นไส้ไปพร้อมๆกัน
ทั้งรักทั้งเกลียดเลยทีเดียว ก็ได้แต่ดูว่าอนาคตจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกมั้ย
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 29-03-2012 16:54:25
คือ อ่านจนจบแล้วไม่รู้สงสารเสือเลยซักนิด

อย่างที่โต้ด่านั่นแหละ ทำตัวเองทั้งนั้น

ไม่กล้าก้าวไปเผชิญ แถมยังไปลากคนอื่นมาเจ็บด้วย ถ้าไม่คอยไปให้ความหวังกร กรมันจะคิดเลยเถิดมาขนาดนี้ไหม

จริงๆถ้าเสือคิดว่ารักทศขนาดนั้นก็น่าจะคบกับทศไปเลย กรคงทำใจได้ง่ายกว่านี้  แต่นี่มันเหมือนก็ให้ความหวังกลายๆอยู่ แต่ก็ไม่เดินหน้าไปทางไหนซักทาง   ง่าวจริงๆ

หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 02-04-2012 14:30:41
อ่านจบแล้วก้อยังงงอยุนะคะ :confuse:
สรุปแล้วเสือรักกรแบบไหนกันแน่
รักแบบทศหรือแบบพี่น้อง
อยากให้มีต่อภาคปัจจุบันจังเลยค่ะ
เริ่มเรื่องเหมือนที่ปัจจุบัน
เลยอยากให้จบแบบปัจจุบันน่ะค่ะ :impress:
เปนความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
ขอบคุนค่า :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: jelemi ที่ 16-04-2012 00:12:48
ฮาร์ดคอสุดๆ ทั้งสองคู่เลย

ชอบๆๆๆๆอ่านแล้วยิ้มตาม

ขอบคุณนะฮะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 16-04-2012 03:15:11
สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 17-04-2012 14:09:18
 :เฮ้อ:   จบได้เหนื่อยมากกกกก
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: minimonmon ที่ 18-04-2012 19:37:53
 :laugh:โหดดีเน๊อะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: TiiTa ที่ 18-04-2012 21:04:15
หึง&ง้อ
น่ารักจริงๆอย่างที่คนเขียนแนะนำเลย ขอบคุณนะคะที่แนะนำแต่ดูเหมือนถ้าเป็นแนวปวดตับหน่อยๆ เราจะคอมเมนท์ได้ยาวกว่าแบบน่ารักๆนะ ฮ่าๆๆๆ อารมณ์เหมือนเครียดไปกับเนื้อเรื่องจนต้องระบายออกมา แต่ส่วนตัวชอบแนวน่ารักๆใสๆนะ(หลอกตัวเองป่ะวะ)เรื่องนี้ทำให้อยากฝากตัวเป็นแฟนคลับพี่โต้ชอบตั้งแต่เรื่องนู่นและ(อ่านเรื่องกระดาษมาก่อนเรื่องนี้) พี่โต้เท่อะ เราเหมือนโตเลยหลงรัก..มอเตอร์ไซค์พี่โต้ ฮ้า แต่เต็ง กับพี่เจตก็น่ารักดีน่าหึงหวงแฟนสุดๆ ชอบตอนที่พี่เจตไปทำร้าย เอ่อ จัดการกับความหึงของตัวเอง ฮ้า คือเฮียแกพูดจริงทำจริงมาก แล้วก็ชอบที่เต็งมาปกป้องโต น่ารักที่สุดเลยอะ แอบเห็นใจพี่เจตโดนเอาคืนซะ.. สองเท่าตามที่พี่โต้พูดจริงๆ เอ หรือมากกว่าสองหว่า ฮ่าๆ พี่โต้พี่เจตนี่พูดจริงทำจริง แถมจริงใจดีชอบ เราชอบนะที่แฟนมาหึงแบบพี่เจตเนี่ย ถึงจะงี่เง่าไปหน่อยแต่ก็เพราะรักแถมเคลียร์ง่ายอีกอธิบายก็เข้าใจ พี่โต้ก็หายโกรธง่าย ความรักแบบนี้แหละน่ารักดีเข้าใจกันถึงจะขี้หึงไปหน่อย ชอบนะหึงแล้วแสดงออกแบบนี้นะแบบว่าได้หาเรื่อง เอ๊ย ระบายออกกับคนที่คิดว่าเป็นชู้เป็นกิ๊ก ดีกว่าแบบที่เก็บไปคิดมากคนเดียว แบบนั้นทำเอาเราเครียดตามกลัวว่าทำให้คนรักไม่สบายใจ อ้าวเฮ้ยวกเข้าเรื่องส่วนตัวเฉย ก๊ากกก ถึงจะชอบพี่โต้ยังไงก็ยังคงวกเข้ามาเชียร์พี่เจต แบบเป็นนิสัยส่วนตัวของคนอ่านคนนี้ที่มักเข้าข้างรุก แฮ่ พี่โต้ก็จับจิต นิสัยก็ดี ใจดี น่ารัก อยากทำอะไรให้แฟนบ้าง ชอบจังเลย กะรี้ด~ (สาวแตกอีกแล้ว) พอๆ ดีกว่าพล่ามไปพล่ามมาก็วกวนอยู่นี่ เอาเป็นว่าขอบคุณคนเขียนสำหรับคำแนะนำและเขียนออกมาให้อ่านค่ะ^_^
ปล.ไม่ค่อยได้กล่าวถึงโตเต็งเลย คนเขียนคงไม่น้อยใจน้า แหะๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-04-2012 21:23:09
แอบเศร้านิดๆนะเนี่ย
แต่ก็ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 20-04-2012 18:36:39
เจตหึงได้น่ากลัวมาก
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 22-04-2012 12:18:37
ชอบทั้งสองคู่เลยอ่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 24-04-2012 01:22:22
สารภาพ อ่านแค่หึงง้อแหละ
สองก้าวและก้าวต่อไปไม่ได้อ่าน กลัวเศร้าค่ะ ไว้ภูมิคุ้มกันความเศร้าเข้มแข็งแล้วจะกลับมาอ่านนะคะ

หึงง้อน่ารัก
แต่แอบคิดว่าที่เต็งโกรธแล้วปล่อยให้โตลงกลางทางนี้แรงไปหน่อย เข้าใจว่าความโกรธของคนมันช่างน่ากลัวแต่
ถ้าปล่อยลงในกรุงเทพหรือแหล่งชุมชนก็อีกเรื่อง ถึงโตจะเป็นผู้ชายก็เหอะ แต่คนสมัยนี้มันเกินเยี่ยวยาเยอะนะ
ผู้ชายก็ผู้ชายเหอะ อย่างเบาะๆก็อาจเจอะแค่ลักทรัพย์ แต่ก็นะ
พาเอาจินตนาการไปว่าถ้าคนที่ขับรถมาเจอไม่ใช่พี่โต้ ไม่ใช่ลุงชาวสวนใจดี หรือไม่ใช่คนผ่านมาที่เป็นคนดี
แต่เป็นหมาป่าในคราบลูกแกะ อย่างเช่น แม่ม่ายสาวกระหายหิวที่น่าตาเป็นคนดี หรือชายแก่วิปริตในคราบนักบุณ
ถ้าโตโบกรถแบบนี้ได้จะเกิดอะไรขึ้น (ควรถามว่าข้าพเจ้าคิดอะไรออกไปคงสมควรกว่า แต่ตอนอ่านคิดงี้จริงๆนะ)
เอ๋ะ หรือว่าเต็งแอบขับรถตามโตแล้วเราอ่านข้ามหวา (คืออ่านข้ามเป็นประจำ ยิ่งเวลาอ่านหนังสือสอบนี้ต้องอ่านอย่างนี้สองรอบ เจอข้อความที่อ่านรอบแรกไม่เจอก็มาก บางทีข้ามเป็นย่อหน้ากันเลย)

แต่ก็ดีแล้วละที่ไม่เกิดอะไรขึ้น
แถมการที่เต็งปล่อยโตไว้ยังทำให้ทั้งคู่ได้เจอพี่โต้กับพี่เจตอีก (ที่สำคัญกว่านั้นคือทำให้ข้าพเจ้าได้อ่านเรื่องน่ารักๆแบบนี้อีก)
ยกความดีความชอบให้เต็งจ้า

สงสัยอีกอย่างคือ พี่เจตไม่ไว้ใจพี่โต้หรืออย่างไรถึงได้หึงแบบหน้ามือตาลายกันขนาดนี้
เคยเจอคนแจ้งความข้อหาทำร่างกายบ้างหรือเปล่า แบบหึงเพราะเข้าใจผิดแล้วดันหนักมือเกินอีกคนไม่ยอมอ่อนข้อให้อะไรแบบนั้น  อันนี้สงสัยจริงๆนะ

ปล.ตอนอ่านเรื่องนี้อ่านมีความสุขมากๆนะคะ ไม่ค่อยได้คิดอะไรเท่าไหร แต่ไมถึงได้เม้นดูเครียดและจริงจังเกิ๊นไปขนาดนี้ก็ไม่รู้
ปปล.แล้วเต็งรู้ที่อยู่โตได้ไงอะคะ เช็กสัญญาณโทรศัพท์หรอคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: khalwfarng ที่ 24-04-2012 21:08:15
อ่านเรื่องเสือ พออ่านจบแล้วตบเข่าฉาด....."ไหงจบแบบนี้วะ!"
หลังจากนั้นก็กลับไปอ่านอีกรอบ(ว่างมาก) อ้อ...เข้าใจในแง่เรียลลิสติคที่ผู้เขียนต้องการสื่อ
พออ่านเจอที่ทศบอกว่าจะไม่ช่วยเสือเรื่องกร รู้เลยว่า "เห็นแก่ตัว" มันพิมพ์เด่นชัดไว้บนหน้าผากทศ
อาจจะเป็นห่วงน้อง(ละมั้ง) แต่กลัวเสือจะแฮปปี้เอนดิ้งกับกรมันมีมากกว่าอีก
ลองวิเคราะห์ทุกตัวละคร ก็พอจะเข้าใจการกระทำ โดยเฉพาะเสือ แต่กรเรายังวิเคราะห์ไม่ออกในบางจุด
จนเมื่อลองกดเมนท์มาที่หน้าสุดท้าย บ๊ะ!!!! คนเขียนวิเคราะห์ไว้ให้แล้ว
แหม่ แอบเสียดายเวลาเล็กๆ แต่พอมาคิดอีกที
ลองวิเคราะห์ สังเคราะห์ แยกแยะเองดูบ้าง รอยหยักจะได้เพิ่มขึ้น  *ฮา
เป็นงานเขียนที่ยกนิ้วให้ค่ะ ยอดเยี่ยมจริงๆ....ไม่จบบริบูรณ์ แต่จบได้สมบูรณ์แบบ (ตามความคิดเรา)
ชีวิตจริง ไม่ได้เพอร์เฟคเสมอไป และมนุษย์นั้นก็ยากที่จะเข้าใจเหมือนกัน
...จะรอคอยก้าวต่อไป แม้มันอาจจะไม่ใช่ปลายทาง เราก็จะคอย ^ ^
(เชียร์กรนะฮับ อิอิ)
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 26-04-2012 12:26:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 01-05-2012 17:50:56
คู่เจตกับโต้ โหด มัน ฮา และ เท่มั่ก :-[
คู่โตกับเต็ง รักจริง ทิ้งกันไม่จริง (กลับมากอดกันงุ้งงิ้งน่ารักเชียว^^)
คี่ทศ เสือ กร มึน ซึม หงอย และคาใจเหมือนก้างน้อยติดเหงือก ถ้ามีต่อคงดี แง้วๆๆๆ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 13-05-2012 22:15:25
ทศ เสือ กร สามคนนี้ เป็นเรื่องสั้นที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดของคุณเลยละ อ่านมาครบแล้วนะ

เพราะเป็นเรื่องสั้น มันไม่ต้องปูอะไรมาก แต่มันตรง ดิบ และงามมาก บอกไม่ถูกแต่ประทับใจสุดๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายดี ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 14-05-2012 20:54:30
เอาหล่ะ เค้าจะเม้นละนะ

หึง ง้อ น่ารักอ่ะ แบบว่าทั้งสองคู่เลย อยากได้แฟนแบบเจตอ่า :กอด1:

สองก้าวและก้าวต่อไป คนเขียนใจร้ายดีเนอะ :sad12:

ตัวละครทั้งสามตัวต้องเจอแต่เรื่องมาทั้งชีวิต และไม่มีที่สิ้นสุด

พวกเขาจะไม่มีวันมีความสุขเลยหรอครับ 

อินจัดจนแทบบ้า คนเขียนเก่งมากครับ o13

สร้างตัวละครได้สมจริง ถามว่าถ้าผมไปอยู่ในวงงโคจรนั่น

ผมเองก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกันครับ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะครับ  :pig4:

แล้วจะตามไปอินเรื่องอื่นต่อ  :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: imissyou ที่ 16-05-2012 06:02:31
อ่า...จบแล้ว?  o22
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 17-05-2012 16:23:59
พี่เจตหึงโหดน่ากลัวมากอ่ะ
แต่ก็ยอมสยบแทบเท้าพี่โต้เนอะ
อยากอ่านตอนเค้าสวีตกันจังเลยค่า ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 12-07-2012 23:16:16
อ่านเรื่องสั้นของคุณมา สองสามเรื่องแล้ว อยากบอกว่าสนุกมากๆ
บางครั้งยังต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า  เฮ้ย!!!คนเขียนคิดได้ไง o13
เป็นการเล่าเรื่องที่สนุกมากๆ รวมทั้งการใช้ภาษา การพรรณนา โอ้ววว... เราขอเป็นแฟนพันธ์แท้นะคะ
จะไปตามอ่านทุกเรื่องเลย

ตามโต้มาจนเจอกับเรื่องพี่เสือเข้า เรื่องราวเปิดมาได้น่าสนใจมากๆ ทำให้เราอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวของควายห่มหนังเสือตะหงิดๆ
จากที่ตัวละครเล่าเรื่องให้ฟังมาจนถึงตอนนี้ เรารู้สึกชอบตัวละครทุคนเลย

เริ่มด้วยคุณทศ ผู้ที่เราคิดว่ามีอิทธิพลต่อเส้นใยสามเหลี่ยมบางๆนี้ที่สุด เราแอบเคืองคุณนะที่ทั้งๆที่รู้ความรู้สึกของเพื่อนมานานแต่กลับ
ส่งปลาย่างตัวน้อยไปเข้าปากเสือซะงั้น และดูท่าจะรู้ตัวก่อนที่ปลาย่างกับเสือจะรู้ตัวซะอีกว่าเค้าตกหลุมรักกันเข้าให้แล้ว ทั้งๆที่ตัวเองป้อนถึงมือ เฮ้อ!! สุดท้ายคุณทศดันมารู้ตัวว่าตัวเองก็หวงเสือตัวนี้มากซะงั้น แต่เราก็สงสารทศนะที่เคยถูกกรแย่งพ่อไปก็ทีนึงละ และกำลังจะมาแย่ง
ความรักที่เรารู้ว่าเป็นของเรามาตลอดไป เป็นใครก็คงทำใจยากอะนะ แต่ถ้ามองให้ดีๆกรเองก็ไม่ได้คิดจะแย่งเลยสักครั้งและเป็นฝ่ายที่ต้อง
เสียใจอยู่เสมอเหมือนกัน ทั้งๆที่เค้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เกิดมาพ่อก็ไม่สามารถให้คาวมรักได้เต็มร้อยเพราะต้องแบ่งให้ลูกที่มาก่อน กรเองก็ทำได้เพียงตั้งคำถามประสาเด็ก แต่สุดท้ายด้วยพื้นฐานจิตใจที่ดี กรก็ได้มอบความรักเต็มร้อยให้กับพี่ชายที่เคยแย่งพ่อกันมาตลอด และทั้งๆที่รู้สึกแปลกๆกับเสือแล้วแต่ก็ช่วยเสือจีบทศอีกแหนะ เราเลยรู้สึกว่ากรเสียสละจัง และน่าสงสารที่สุดด้วยหละT^T เราว่าเสือเองก็ไม่ควายเท่าที่คิดไว้นะ
เราว่าเสือไม่แปลกเลยที่จะรักทศและรู้สึกดีกัยทศมากๆๆ เพราะทศหนะเป็นคนดีคงคอยช่วยเสือมาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดูจากที่ทศดีกับกรด้วยอะนะ ไม่แปลกใจเลยที่กรกับเสือจะรักทศมากขนาดนี้

เราก็ได้แต่หวังว่าเวลาหรือเหตุการณ์บางอย่างจะเกิดขึ้นและทำให้ทุกคนมีความสุขในจุดของตัวเอง
ถ้าจะให้ดี....เราอยากให้กรได้รับความรักเต็มร้อยจากเสือกลับมาบ้างจัง โคตรอยากเห็นคู่นี้ได้กันจริงๆ
และอยากให้ทศไปมีลูกมีเมียซะ เพราะยังไงความรักที่มีให้เสือคงไม่ถึงขั้นยอมเป็นเมียใช่ปะ เก็บมิตรภาพและความสัมพันธ์พิเศษนี้ต่อไปดีกว่า
แล้วไปทำให้เสือเค้ามีคนที่รักและเติมเต็มอยู่ข้างๆเค้าสักที ถ้าจะให้ดีคนๆนั้นควรจะเป็นคนที่รักนายเหมือนพ่อ เหมือนแม่ เหมื่อพี่คนนั้นซะ
เพราะเป็นแม่ที่ดีก็ต้องอยากให้ลูกมีความสุขสิ รีบคิดให้ได้นะคุณทศ เราเอาใจช่วย
พี่เสือรีบทะลายกำแพงแล้วไปช่วยเจ้าหญิงออกมาซะนะ รีบต่อยอดจากเหตุการณ์ล้างตานี้เร็วๆเข้า แล้วจะรอนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 12-08-2012 05:43:26
อ่าาาาา

ต้องก้าวเดินกันต่อไป
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-08-2012 17:02:40
น่ารักอะ >//<
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 01-09-2012 18:37:30
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: kanunsak ที่ 27-09-2012 21:43:26
หน่วง........  มาก.............
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: dis_appear ที่ 27-09-2012 23:07:04
อ่านแล้วฮามาก  :m20: ซึ้งด้วยอ่ะ  :sad11:
ชอบมากกกกกกกกกก  :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: PazZ ที่ 15-10-2012 22:02:06
ภัสจะบอกว่า...ผลข้างเคียงจากการอ่าน...อึนไป10วัน เพิ่งมารีนี้เเหละ 5555
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 03-12-2012 22:13:50
ฮาๆ สนุกดี +1 โล้ด
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 05-12-2012 04:41:59
เข้ามาอ่านอีกรอบ และทำความเข้าใจตัวละครอีกครั้ง แล้วก็ค้นพบว่า คนเขียนเขียนค้างสุดๆ
อดีตไล่มาพบปัจจุบันแล้ว แต่เรื่องราวก็ยังไม่มีตอนต่อ ทศไปโลดแล่นในเรื่องของธี ยังมีการ
พูดถึงเลยว่าคู่ของตัวเองมีมือที่สาม แต่คนเขียนไม่มีบทบาทของทศในปัจจุบันให้เห็น
ราวกับเลือกให้เสือและกรแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้เขียน ง่ะ... อยากให้ปัจจุบันและอนาคตของ
ทั้งสามชะมัด (ถ้ายากนัก 3p ก็อาจเป็นทางเลือกนะ)
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: PoP~Pu ที่ 06-12-2012 23:53:11
อ่านหึง-ง้อ น่ารักระเบิด เจอสองเก้าเข้าไป ไหงมันคนละฟิลกันขนาดนี้!!!ฮ่าๆ
โอยยเจ็บปวดกับสามเหลี่ยมรักคุด
เจ็บปวดกันไปทั้งสามคน แต่เหมือนเสือจะเจ็บคูณสองนะ
จบแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะเราก็เชียร์ทั้งทศ ทั้งกร
ถ้าเสือเลือกใครสักคนอีกคนก็ต้องเจ็บปวด เพราะฉะนั้นแกเจ็บสุดไปละกันไอ้เสืออ ฮ่าๆๆ
แต่ถึงพูดอย่างนี้ชั้นก็รักแกนะเสือ แกน่ะน่าสงสารที่ซู้ดดดด เป็นพระเอกรักคุดที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 25-02-2013 15:29:55
อ่านเรื่องแรกการบรรยายเรื่องแปลกดีชอบคัน่ารักดีแต่เรื่ิองที่สองให้ความรู้สึกแบบ..จะสงสารเสือ...แต่หลังๆสงสารหมดเลย..เลยออกจะงงๆแต่คนแต่งก็ตั้งใจให้งงอยู่แล้วอะเน๊อะเอิ๊กๆ
.ยังไงก็ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: PazZ ที่ 25-02-2013 21:06:24
เข้ามาอ่านรอบที่เท่าไรไม่ ..รู้เเต่ภัสอึนอ่ะคุณเบาเบา  :sad4: :sad4: มันเเอบค้าง เเต่มันก็เเอบจบเเล้ว<< ???
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 25-04-2013 20:35:34
อืม... เพิ่งได้มาอ่านและเพิ่งมีโอกาสมาเม้นค่ะ

เข้าใจนะ เข้าใจความรู้สึกของเสือดี โดยเฉพาะในส่วนที่ว่า ทำไมเสือถึงได้ไม่ยอมบอกทศไปว่ารัก
เรื่องนี้ขอเอามาเล่าสู่กันฟังนะคะ เพราะเกิดกับตัวเอง และมันค่อนข้างคล้ายคลึงกันอยู่เล็กน้อย

ฟ้าแอบรักเพื่อนคนนึงมาตั้งแต่ประถมสองค่ะ นั่งอยู่ข้างกัน ทะเลาะกัน กัดกัน คุยกัน อยู่ด้วยกันทุกวัน ความรู้สึกที่ว่าเราอบอุ่นใจและไม่อยากให้เขาหายไปมันเริ่มก่อตัวช้าๆ รู้ตัวอีกทีเราก็ไม่สามารถละสายตาไปมองคนอื่นได้อีกแล้ว มันเจ็บปวดกับการที่เขาก็มีใครหลายคนวนเวียนเข้ามาหา แล้วยกเราไว้ในฐานะที่ไม่ชัดเจน เพราะเขาไม่เคยพูดอะไร แต่ก็เหมือนจะรู้ สิ่งที่ทำได้ก็แค่เฝ้ามองเขาแล้วก็ปกปิดความรู้สึกของตัวเองต่อไป ถามว่าพอห่างกันเมื่อขึ้นมัธยม โดยที่ไม่เคยได้บอกว่าชอบ แล้วฟ้ายังชอบเขาอยู่มั้ย

ตอนนี้มันกลายเป็นความรักไปแล้ว เราไม่เอ่ยถึงเขา เขาไม่ได้มาอยู่รอบตัวเรา แต่ที่สุดลึกๆในใจแล้ว เขามีตัวตนอยู่เสมอ ในยามที่เราค้นลงไปในหัวใจตัวเอง

มันน่าแปลก ในวันที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทั้งๆที่มีโอกาส แต่เขาก็ทำให้เรารู้สึก ทั้งอยากเจอ และไม่อยากเจอ ได้ในเวลาเดียวกัน

อยากให้เขาสนใจ อยากให้เขาคุยกับเรา แต่พอนึกถึงความรู้สึกที่เรามีให้เขาแล้ว อะไรบางอย่างมันก็ฉุดรั้งเราเอาไว้ ไม่สามารถมองเขาได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป

พูดง่ายๆ คำว่า "เพื่อน" มันค้ำคอ และทับเอาไว้เหมือนภูเขาเหมือนที่เสือว่า

ถามว่าทำไม ในเมื่อเพื่อนๆก็ให้ความมั่นใจว่าทศไม่คิดมาก แต่เสือก็ยังกลัวอยู่

อันนี้น่าจะเพราะ หากเสือบอกไปแล้วเกิดต้องรับกับการสูญเสียความเป็นเพื่อนของทศขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง

เขาไม่กล้าพอที่จะรับความเสี่ยงนั้น เพราะรู้ดีว่าความเสี่ยงนี้มันมีความหมายกับเขามาก

เมื่อตอนที่ยังไม่ได้บอก เสือก็ยังมีสิทธิที่จะแอบรักทศได้ต่อไป มีความสุขกับการได้อยู่ตรงนี้กับทศ แม้ความอัดอั้นจะมีมาก แต่ความสุขจากการเฝ้ามองก็มากไม่แพ้กัน หากความผูกพันธ์และความรักที่เสือมีให้ทศมากถึงสิบสามปี เสือก็ไม่สามารถจะรับกับการหายไปของทศได้หรอก ถ้าการที่เขาบอกทศไป แล้วไม่สามารถมองหน้าคนที่ตัวเองรักได้อีก เขาจะบอกไปเพื่ออะไร???

คนบางคน ก็ไม่สามารถจะเผชิญหน้ากับความสูญเสียอย่างนี้ได้ เพราะเขารู้ตัวดีว่ารักมาก ดังนั้นตัวเองก็จะเจ็บมาก เจ็บเพราะไม่มีทางเลิกรักเขาได้ในเวลาอันสั้น ยิ่งการลืมกันยิ่งไม่มีทาง

กลัวเจ็บ... กลัวจะเสียคนที่ตัวเองรัก

อารมณ์เสือตอนนั้นก็น่าจะประมาณนี้ ใกล้เคียงกับที่ฟ้ารู้สึก



ส่วนเรื่องของกร ก็ต้องเข้าใจอีกว่า รักเขาไปแล้วโดยไม่รู้ตัว แล้วยังรักเท่ากับทศอีก
จากที่เสือกลับมาไม่กรแล้วใจหาย ก็น่าจะพอบอกได้ว่า การที่ชีวิตเสือปราศจากกร และทำให้กรเจ็บ มันทรมานจิตใจกันมากแค่ไหน ยิ่งทรมานมาก ยิ่งเจ็บมาก ยิ่งเสียใจมาก หมายความว่ายิ่งรักมากเท่านั้น

ส่วนตัวกรเอง เขารู้ดีว่าเป็นตัวแทนของทศในสายตาเสือ
ทศเป็นพี่ชาย เสือเป็นคนที่รัก
ยิ่งเสือรักทศมาก กรที่ต้องการความรักเหมือนกันก็ย่อมเสียใจ เพราะเขาไม่อาจได้รับความรักนั้น และเขาไม่สามารถทำร้ายทศที่เป็นพี่ชายได้ด้วย แม้จะเป็นยามที่เสือเสียใจและต้องการใครอย่างมากมายขนาดนั้น แต่เสือกลับไม่สามารถรับกรเข้ามาได้ มันก็ทำให้กรรู้แล้วว่า ทศ สำคัญมากขนาดไหน ถึงเสือจะยังไม่ได้สารภาพออกไปก็ตาม
กรเสียใจ และรู้ว่าไม่อาจทลายรักของเสือได้ เขาต้องสร้างกำแพงที่ทั้งสูงทั้งหนา และล่องหนเอาไว้ กั้นตนเองกับเสือให้ห่างกัน
เพราะเสือไม่ใช่คนของกรอย่างแท้จริง

เสือไม่สามารถเลือกได้ เพราะเขาทำให้ใครคนใดคนหนึ่งเจ็บจนถึงที่สุดไม่ได้ การที่เขาค้างคามันไว้แล้วตัดสินใจเดินออกมา จึงเป็นหนทางที่เขาคิดว่าดีที่สุด



ทศเองก็รักเสือ แต่รักของเขามันถูกหยุด เขาไม่สามารถให้เสือได้มากกว่าความรัก ไม่สามารถก้าวไปไกลกว่าจุดนี้ แต่เขาเองก็ช่วยทศในเรื่องน้องไม่ได้ เพราะเขาก็ถือว่าเสือรักเขาเหมือนกัน และเขาเองก็รักเสือไม่น้อย

จุดจบของเรื่องนี้ยังมาไม่ถึง และคนที่สามารถจะสรุปได้ดีที่สุด คงจะเป็นตัวเสือเอง
ก็คงต้องให้เวลาเสือต่อไปล่ะนะ



คอมเม้นตามความคิดความรู้สึกตัวเองค่ะ ดีไม่ดี ถูกไม่ถูกยังไงก็ขอบคุณและขอโทษด้วยนะคะ ^^  :mew2:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 25-04-2013 21:35:24
อืม... เพิ่งได้มาอ่านและเพิ่งมีโอกาสมาเม้นค่ะ

เข้าใจนะ เข้าใจความรู้สึกของเสือดี โดยเฉพาะในส่วนที่ว่า ทำไมเสือถึงได้ไม่ยอมบอกทศไปว่ารัก
เรื่องนี้ขอเอามาเล่าสู่กันฟังนะคะ เพราะเกิดกับตัวเอง และมันค่อนข้างคล้ายคลึงกันอยู่เล็กน้อย

ฟ้าแอบรักเพื่อนคนนึงมาตั้งแต่ประถมสองค่ะ นั่งอยู่ข้างกัน ทะเลาะกัน กัดกัน คุยกัน อยู่ด้วยกันทุกวัน ความรู้สึกที่ว่าเราอบอุ่นใจและไม่อยากให้เขาหายไปมันเริ่มก่อตัวช้าๆ รู้ตัวอีกทีเราก็ไม่สามารถละสายตาไปมองคนอื่นได้อีกแล้ว มันเจ็บปวดกับการที่เขาก็มีใครหลายคนวนเวียนเข้ามาหา แล้วยกเราไว้ในฐานะที่ไม่ชัดเจน เพราะเขาไม่เคยพูดอะไร แต่ก็เหมือนจะรู้ สิ่งที่ทำได้ก็แค่เฝ้ามองเขาแล้วก็ปกปิดความรู้สึกของตัวเองต่อไป ถามว่าพอห่างกันเมื่อขึ้นมัธยม โดยที่ไม่เคยได้บอกว่าชอบ แล้วฟ้ายังชอบเขาอยู่มั้ย

ตอนนี้มันกลายเป็นความรักไปแล้ว เราไม่เอ่ยถึงเขา เขาไม่ได้มาอยู่รอบตัวเรา แต่ที่สุดลึกๆในใจแล้ว เขามีตัวตนอยู่เสมอ ในยามที่เราค้นลงไปในหัวใจตัวเอง

มันน่าแปลก ในวันที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทั้งๆที่มีโอกาส แต่เขาก็ทำให้เรารู้สึก ทั้งอยากเจอ และไม่อยากเจอ ได้ในเวลาเดียวกัน

อยากให้เขาสนใจ อยากให้เขาคุยกับเรา แต่พอนึกถึงความรู้สึกที่เรามีให้เขาแล้ว อะไรบางอย่างมันก็ฉุดรั้งเราเอาไว้ ไม่สามารถมองเขาได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป

พูดง่ายๆ คำว่า "เพื่อน" มันค้ำคอ และทับเอาไว้เหมือนภูเขาเหมือนที่เสือว่า

ถามว่าทำไม ในเมื่อเพื่อนๆก็ให้ความมั่นใจว่าทศไม่คิดมาก แต่เสือก็ยังกลัวอยู่

อันนี้น่าจะเพราะ หากเสือบอกไปแล้วเกิดต้องรับกับการสูญเสียความเป็นเพื่อนของทศขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง

เขาไม่กล้าพอที่จะรับความเสี่ยงนั้น เพราะรู้ดีว่าความเสี่ยงนี้มันมีความหมายกับเขามาก

เมื่อตอนที่ยังไม่ได้บอก เสือก็ยังมีสิทธิที่จะแอบรักทศได้ต่อไป มีความสุขกับการได้อยู่ตรงนี้กับทศ แม้ความอัดอั้นจะมีมาก แต่ความสุขจากการเฝ้ามองก็มากไม่แพ้กัน หากความผูกพันธ์และความรักที่เสือมีให้ทศมากถึงสิบสามปี เสือก็ไม่สามารถจะรับกับการหายไปของทศได้หรอก ถ้าการที่เขาบอกทศไป แล้วไม่สามารถมองหน้าคนที่ตัวเองรักได้อีก เขาจะบอกไปเพื่ออะไร???

คนบางคน ก็ไม่สามารถจะเผชิญหน้ากับความสูญเสียอย่างนี้ได้ เพราะเขารู้ตัวดีว่ารักมาก ดังนั้นตัวเองก็จะเจ็บมาก เจ็บเพราะไม่มีทางเลิกรักเขาได้ในเวลาอันสั้น ยิ่งการลืมกันยิ่งไม่มีทาง

กลัวเจ็บ... กลัวจะเสียคนที่ตัวเองรัก

อารมณ์เสือตอนนั้นก็น่าจะประมาณนี้ ใกล้เคียงกับที่ฟ้ารู้สึก



ส่วนเรื่องของกร ก็ต้องเข้าใจอีกว่า รักเขาไปแล้วโดยไม่รู้ตัว แล้วยังรักเท่ากับทศอีก
จากที่เสือกลับมาไม่กรแล้วใจหาย ก็น่าจะพอบอกได้ว่า การที่ชีวิตเสือปราศจากกร และทำให้กรเจ็บ มันทรมานจิตใจกันมากแค่ไหน ยิ่งทรมานมาก ยิ่งเจ็บมาก ยิ่งเสียใจมาก หมายความว่ายิ่งรักมากเท่านั้น

ส่วนตัวกรเอง เขารู้ดีว่าเป็นตัวแทนของทศในสายตาเสือ
ทศเป็นพี่ชาย เสือเป็นคนที่รัก
ยิ่งเสือรักทศมาก กรที่ต้องการความรักเหมือนกันก็ย่อมเสียใจ เพราะเขาไม่อาจได้รับความรักนั้น และเขาไม่สามารถทำร้ายทศที่เป็นพี่ชายได้ด้วย แม้จะเป็นยามที่เสือเสียใจและต้องการใครอย่างมากมายขนาดนั้น แต่เสือกลับไม่สามารถรับกรเข้ามาได้ มันก็ทำให้กรรู้แล้วว่า ทศ สำคัญมากขนาดไหน ถึงเสือจะยังไม่ได้สารภาพออกไปก็ตาม
กรเสียใจ และรู้ว่าไม่อาจทลายรักของเสือได้ เขาต้องสร้างกำแพงที่ทั้งสูงทั้งหนา และล่องหนเอาไว้ กั้นตนเองกับเสือให้ห่างกัน
เพราะเสือไม่ใช่คนของกรอย่างแท้จริง

เสือไม่สามารถเลือกได้ เพราะเขาทำให้ใครคนใดคนหนึ่งเจ็บจนถึงที่สุดไม่ได้ การที่เขาค้างคามันไว้แล้วตัดสินใจเดินออกมา จึงเป็นหนทางที่เขาคิดว่าดีที่สุด



ทศเองก็รักเสือ แต่รักของเขามันถูกหยุด เขาไม่สามารถให้เสือได้มากกว่าความรัก ไม่สามารถก้าวไปไกลกว่าจุดนี้ แต่เขาเองก็ช่วยทศในเรื่องน้องไม่ได้ เพราะเขาก็ถือว่าเสือรักเขาเหมือนกัน และเขาเองก็รักเสือไม่น้อย

จุดจบของเรื่องนี้ยังมาไม่ถึง และคนที่สามารถจะสรุปได้ดีที่สุด คงจะเป็นตัวเสือเอง
ก็คงต้องให้เวลาเสือต่อไปล่ะนะ



คอมเม้นตามความคิดความรู้สึกตัวเองค่ะ ดีไม่ดี ถูกไม่ถูกยังไงก็ขอบคุณและขอโทษด้วยนะคะ ^^  :mew2:

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่ราวกับมาเปิดหัวสมองของ...เบาเบา...ดู...แล้วพิมพ์ออกมา

ณ อารมณ์นี้ที่ได้อ่านแล้วตอบกลับเลย
คงไม่มีคำไหนที่สมบรูณ์พร้อมมากกว่าคำว่า...ขอบคุณ

...
..
.

"ขอบคุณนะคะ"

หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Evil ที่ 16-05-2013 01:45:22
หึงง้อนี่ น่รักเกินไปแล้ว


ส่วนเสือ ให้ได้รู้ว่า สุดท้ายยังไงชีวิตก็ต้องมีวันต่อไป
ถึงแม้จะไม่ได้ใครมาครองก็ยังมีเค้าทั้งสองคนอยู่ข้างกายอยู่ตลอด

ความเจ็บปวดจะจางไปถึงแม้ไม่หายสนิทก็ยังทุเลาลงแน่นอน

สนุกนะค่ะ  อ่านแล้วงง แต่สุดท้ายก็ไม่งง
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 18-08-2013 15:00:22
ขอบคุณมากค่ะ อ่านเรื่องตี้แล้วอิงชีวิตจริงเหมือนกัน บางครั้งความรักก็ไม่แฮปปี้เสมอไป ทั้งเลือกไม่ได้ และไม่อยากเลือก กลัวที่จะเสียไปอย่าถาวร เก็บความรู้สึกดีๆไว้เล็กๆค่อยๆตอดมันไปก็พอกระชุ่มกระชวยหัวใจ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 21-02-2014 22:25:08
ไม่รู้จะสงสารใคร
ชีวิตบัดซบของเสือ
 :เฮ้อ:
ชอบโมเม้นต์ของพี่น้องนะ น่ารักมากค่ะ//แอบจิ้นทศกรเบาๆ555
แล้วทุกวันนี้พี่น้องเค้ามองหน้ากันยังไง ไม่มีจี๊ดๆ ในใจมั่งหรอเนอะ
คิดแล้วเกลียดไอ้เสือ(กลายเป็นไอ้เสือไปแล้ว555)
ทำให้พี่น้องสุดน่ารักของชั้นมีรอยร้าว
น้องกรต้องเจ็บแน่ๆ น้องมีพี่ทศแค่คนเดียวด้วย น้องคงรู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าทศก็รักเสือเคยบอกว่าวางไว้เป็นคนพิเศษสินะ
โอ๊ยย ไม่รู้ ไม่ชัดเจนเลยซักคน
คนที่งงสุดก็ทศนี่แหละ นางมาเปรี้ยงเดียวบอกว่ารักแล้วขอคบเลยแต่ห้ามเรื่องอย่างว่า
ดูไม่ออกว่ารักจริงมั้ย แต่ก็คงรักจริงแหละเนอะ เพื่อนที่ไหนจะมาจัดสวนริมระเบียงให้ทุกเดือน
หรือแค่กลัวว่าจะเสียเสือไปเพราะน้องเริ่มรุกแล้ว?
น้องกรก็เหมือนจะรักพี่ชายมาก แต่พอถึงเวลาก็เลือกจะตัดหน้าพี่ซะงั้น
หรือน้องจะไม่รู้ไม่แน่ใจว่าพี่ทศรักคนนี้?
พี่ทศก็เลือกไม่บอกว่าเสือไม่คบตัวเองเพราะรักกร แล้วเวลาสองพี่น้องมองหน้ากัน เค้าจะรู้สึกยังง้ายยยยยยยยยย
เสือเองสรุปตอนนี้รักใคร รักกรแต่รักทศจนเคยชิน?
ไม่เข้าใจมันเลยให้ตายเถอะ!
มองไม่เห็นทางออก แต่เชื่อว่าถ้าสุดท้ายเสือเลือกใครซักคน คนที่เหลือคงยิ้มให้ทั้งสองคนได้อย่างเข้าใจแน่ๆ (แล้วกลับไปร้องไห้คนเดียว555)
โอ๊ยย เรื่องมันจะเศร้านะ ไม่เอาๆ เชื่อเรา ทศกรเถอะ 555 พอดีกว่ายิ่งพิมพ์ยิ่งสับสน
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น..... [หึง & ง้อ] [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] --- จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: - lloJ!จิ้a - ที่ 23-02-2014 10:21:05
กรีดร้องก้องโลกา  :laugh: :laugh: :laugh:

เขาใหม่ เขาใหญ่ ฉันชอบ // ผิด!
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Miuki_me ที่ 08-04-2014 22:22:27
เห็นด้วยที่คนเราจะอยู่ด้วยกัน ต้องมีใจ อยากอยู่ด้วยกัน สำคัญที่สุด
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-04-2014 18:05:49
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: S.nonsuj ที่ 26-04-2014 15:39:02
เรื่องของคุณเบาเบา
คิดไว้ละอ่านแล้วต้องเป็นงี้  :oo1:

เรื่องหึงง้อ น่าร้ากกกกกกกกก :-[

เรื่องเสือทศกรเหมือนกับชีวิตจริง ที่ให้คนสามคนออกมาเล่าเรื่อง
จากอดีต มาถึงปัจจุบันก็ยัง....ไม่มีบทสรุป
อ่านเรื่องนี้แล้วต้อง"งงงงง"ในความสัมพันธ์ของทั้งสามตัวละคร ฮาาาา o22
เสือ รักทศสิบกว่าปีแต่เพื่อนค้ำคอ และเพิ่งมารู้ว่ารักกรด้วย
ทศ ให้ได้แค่รัก รู้ด้วยว่าเสือรัก ส่งน้องตัวเองมาอยู่ด้วยจนเสือรักอีก>> งงกับการกระทำของทศอ่ะ
กร สงสารเสือ รักเสือ จนยอมเป็นตัวแทนก็ได้...
โอ้ยสามเหลี่ยมมหัศจรรย์ :hao5:
คนเขียนคิดมาได้เนอะ

ชอบเรื่องของคุณเบาเบานะ จะตามไปอ่านเรื่องอื่นๆต่อละคะ  o13  :bye2:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 10-06-2014 23:12:22
หึง&ง้อ
อ่านแล้วต้องอมยื้มไปกับคู่รักทั้งสองคู่
แต่ว่าพี่เจตจะหึงโหดไปหนายยยย น่ากลัวมาก
สงสารโตเลยอ่ะ น้ำตาซึมเลย 555 //คือเอ็งจะอ่อนไหวเกินไปม๊ายยย  T_T

สองก้าว&ก้าวต่อไป
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาร่วงมากมาย T_T
และเนื่องจากเรื่องนี้มันจบ?มานานแล้ว
เลยได้อ่านทั้งคำอธิบายจากผู้เขียน และความเห็นจากผู้อ่าน
เลยไม่งง (คิดว่านะ) และพอเข้าใจตัวละครทั้ง กร เสือ ทศ
เข้าใจด้วยว่านิยายไม่ต้องจบแฮปปี้เอนดิ้งเสมอไป เจอมาหลายเรื่องแล้วด้วย ก็เศร้ากันไป
แต่ขอหน่อยเถอะ อารมณ์มันไม่จบจริงๆ นอนร้องไห้มาเป็นชั่วโมงแล้วเนี่ย เพลียตัวเอง T_T
ขอด่าไอ้เสือหน่อยได้ไหม 555
ไอ้ฟายเสือ ไอ้บ้าๆๆๆ ไอ้เสือห่มหนังควาย เอ๊ะ! รึ ไอ้ควายห่มหนังเสือ
เห็นใจนะเรื่องแอบรักเพื่อนอ่ะ แต่มันใช่เรื่องไหม ที่มาทำให้น้องกรของชั้นเสียใจเนี่ย
ยิ่งนึกถึงตอนที่แกขอ...น้องกรนะ แล้วน้องมันบอก "...ก็ได้"
แล้วคำว่า "เป็นไปตามคาด" คือไรฟระ โมโหๆๆๆๆ
ตั้งใจจะกินน้อง ตั้งใจทำให้น้องมันรัก คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
คิดว่ามันง่ายรึไงที่เอ็งจะตัดใจจากเพื่อนที่แอบรักมา13ปีได้ง่ายๆอ่ะ
แถมคนที่แกทำให้รัก ดันเป็นน้องชายของคนๆนั้นอีก มั่นใจมากใช่ไหมถึงไปให้ความหวังเด็กมันอ่ะ
บอกตรงๆเลยเราสงสารน้องกรมากๆๆๆๆ เด็กมันไม่มีพ่อมีแม่ โหยหาต้องการความรักจะตาย
ไอ้คุณเสือยังมาทำอย่างนี้อีก เด็กมันจะบอบช้ำเท่าไร ถึงกับต้องตั้งกำแพงขนาดนี้ ถึงขนาดต้องทำเป็นไม่รู้จัก!!!
แล้วไงอ่ะ ตอนนี้ก็รักน้องไปแล้ว เพื่อนทศก็ยังรัก ชั้นไม่สงสารแกหรอก ชิ 
กลับไปคุยกับเพื่อนทศได้เหมือนเดิม ก็ยินดีด้วย เพื่อนกันตัดกันไม่ขาด
แล้วก็ไม่ต้องมาตัดพ้อต่อว่าที่น้องกรมันไม่ยอมเหมือนเดิม ใช่ สิ่งที่แกขอมันมากไปจริงๆ
ลองนึกในมุมกลับกันดิ ถ้าแกเป็นน้องกร จะทำตัวเหมือนเดิมได้หรือ ถามจริงๆ T_T
สรุปแล้วคืออิชั้น นังคนอ่านคนนี้ โครตจะสงสารน้องกร
และก็แปลกใจตัวเองนิดๆ ที่ไม่ได้มีความรู้สึกสงสารไอ้เสือเลย!!!
เรามันคนแปลกรึเปล่าเนี่ย แต่รู้สึกงี้จริงๆนะ เฮ้อออ
***ต้องบอกว่าเม้นท์ไปด้วยอารมณ์ล้วนๆ เม้นท์ไปร้องไห้ไปตลอด
ปวดหัว ปวดตา แสบหน้าไปหมดแล้วเนี่ย เหอๆๆๆ เป็นเอามากว่ะตู
ต้องขอบคุณที่มันไม่ใช่เรื่องจริง ไม่งั้นจะนอนร้องไห้ไปอีกสองสามคืน (เคยเป็นมาแล้ว)
และต้องขอโทษจริงๆที่เม้นท์นี้มีแต่คำตัดพ้อต่อว่าประชดประชันไอ้เสือ
แต่อารมณ์ประมาณนี้จริงๆ มันมีแต่คำว่า ทำไม ทำไม ทำไมๆๆๆๆ ทำไมกรต้องมาเจอแบบนี้ T_T
สรุปให้ไอ้เสืออีกที "มึงทำตัวเอง ไอ้ควายยยยยย" โฮะๆๆๆๆๆ***

แหะๆ สวัสดีค่ะคนเขียน อยากบอกว่าเขียนเก่งมากๆๆๆๆๆ ทำเราอินมากๆเลยอ่ะ
สงสัยจะหน่วงๆไปอีกหลายวัน เป็นคนนิสัยไม่ดีค่ะ อ่านดราม่าแล้วชอบเอาไปคิดโน่นนี่ไปเรื่อย
มันก็จะเศร้ามากขึ้น เศร้าเรื่อยๆ ไม่จบ นี่กว่าจะเม้นถึงตรงนี้ก็ร้องไห้มาจะสองชั่วโมงแล้วมั้ง //เยอะเนอะ
คือจบแบบนี้เราโอเคนะ เข้าใจได้ แบบว่าให้ไปคิดต่อเองไรงี้
แต่เหตุการณ์กรอกทราย มันหายไปเฉยๆอ่าาา คือมันจบอยู่ที่อดีต ทั้งๆที่เปิดเรื่องมันเป็นปัจจุบันอ่าาา
คือแบบว่าไม่ต้องให้อีตาเสือกะน้องกรรักกันก็ได้ จบแบบเดิมก็ได้ เพียงแต่...
ย้อนกลับมาเหตุการณ์ปัจจุบัน ที่น้องกรทำเป็นไม่รู้จัก แล้วจบด้วยฉาก  "แล้วไอ้เสือก็ยิ้มให้ตัวเองเงียบๆ"
ให้คนอ่านค้างเหมือนเดิม ต้องไปคิดเองเหมือนเดิม แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันจบอ่ะค่ะ แบบนี้มันเหมือนมีต่อภาค2เลย //เอ๊ะ รึมี อิอิ
จริงๆคนเขียนอธิบายไปแล้วล่ะ พยายามเข้าใจแล้ว แต่ก็อยากสะท้อนความคิดคนอ่านอ่ะจ้าาา
สุดท้าย ขอบคุณมากๆ สำหรับเรื่องนี้ ที่จะอยู่ในใจอีกเรื่องหนึ่ง ^^
และขอโทษ ที่เม้นท์ยาวมากกกกกก น่าจะมากที่สุดที่เคยเม้นท์มาเลย T_T
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 11-07-2014 02:41:25
เสือ กร ทศ เป็นอะไาที่เจ็บปวด คนหนึ่งรัก แต่ ให้ได้แค่รัก คนหนึ่งรัก จนยอมให้ ส่วนอีกคน รัก แต่เลือกไม่ๆด้ เพราะกลัวคนที่รักเสียใจ เจ็บอะ บอกเลยว่าเจ็บสุด ๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 18-01-2015 10:06:23
น่ารักดีครับ ชอบ โต้ กับ เจต มาก ส่วน เสือ ทศ กร น่าเห็นใจ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 01-03-2015 21:28:58
ขอบคุณคนแต่ง คุณเบาเบา สำหรับนิยายเรื่องดีดีเรื่องนี้นะคะ   o13

ชีวิตต้องเดินกันต่อไป เป็นกำลังใจให้คุณเสือ ทศ และน้องกร
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 04-03-2015 15:08:44
พี่โต้ทั้งเท่ห์ ทั้งห้าวเลย ชอบค่ะ สองคู่นี้มีมุมความรักที่แตกต่าง แต่รักกันมากทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ohho99 ที่ 05-03-2015 09:27:17
สารภาพว่าอ่านแต่เรื่องแรกค่ะ อีกเรื่องดูจากคอมเม้นต์หลังๆแล้วไม่กล้าอ่าน
จิตใจยังไม่เข้มแข็งพอค่ะ 555
แต่เรื่องแรกน่ารักมากค่ะ เป็นคู่รักที่แมนๆดิบๆดีค่ะ ชอบมาก


+1 เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 09-11-2015 16:00:55
ชอบมากค่ะ แต่รู้สึกอินกับเรื่องของเสือ ทศ และน้องกรมากกว่า เป็นความสัมพันธ์ที่ทำใจลำบากจริงๆเนอะ ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่าน ยังคงอยากรู้เรื่องของน้องกรต่อไป ไม่รู้ว่าน้องกรจะไปอยู่ในเรื่องสั้นเรื่องไหนของคุณ.. :mew2:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 09-11-2015 22:42:06
เสือแนวรักพี่เสียดายน้องเลย
จบซะแล้ว ต้องก้าวต่อไป ใช่เลย ^^
โต้กับเจต เต้งกับโต แฮปปี้ที่สุด อิอิ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: maruneko ที่ 10-11-2015 13:42:16
ชีวิตมันต้องเดินต่อไป ไม่มีใครรู้ว่าบทสรุปของมันจะเป็นยังไง
เสือ คือ คนที่น่าสงสารที่สุด สำหรับความคิดเรานะ
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Jploiiz ที่ 10-11-2015 22:21:39
เรื่องของเสือ ทศ กร เป็นอะไรที่อ่านจบละขอสตั๊นไปสามวิ  o22
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: PazZ ที่ 12-11-2015 10:51:31
มาอ่านอีกรอบ.. เข้าใจอะไรเยอะขึ้นเลย
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 15-11-2015 16:53:32
หึง&ง้อ นี่น่ารักใสๆมาก  พอมาถึง สองก้าวและก้าวต่อไปนี่แบบ มันเป็นงานเขียนที่แสดงออกพฤติกรรมของมนุษย์ชัดๆคือมันเป็นตอนจบที่เหมือนไม่จบแต่ก็จบได้ดีนะ มันก็คงประมาณนี้เพราะนี่คือมนุษย์เมื่อมารวมตัวกันและเกิดความรักจะเป็นอย่างนี้ก็ไม่แปลก     ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะคะคนเขียน ^ ^
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-03-2016 04:06:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องสั้น [หึง & ง้อ] / [สองก้าว] และ [ก้าวต่อไป] จบในตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 19-04-2017 14:33:22
เป็นไรไม่รู้ ชอบคู่ เจต-โต้ มาก แย่งซีนตลอด