พิมพ์หน้านี้ - ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ex-soulL ที่ 29-06-2018 20:53:02

หัวข้อ: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 29-06-2018 20:53:02
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



❖ SECRECY ❖ ลับรัก


สารบัญ
Intro (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67644.0)  //  Chapter One. (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67644.30)  //  Chapter Two. (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67644.60) 
Chapter Three. (https://goo.gl/tbbxHG)  //  Chapter Four. (https://goo.gl/52mZwd)  // Chapter Five. (https://goo.gl/W6xGef) 
Chapter Six. (https://goo.gl/Bzxtgh) // Chapter Seven. (https://goo.gl/LfGKcz) //  Chapter Eight. (https://goo.gl/qrA9LP)
Chapter Nine. (https://goo.gl/1mC2A3) // Chapter Ten. (https://goo.gl/Qu5ciw) // Chapter Eleven. (https://goo.gl/8zouUU)
Chapter Twelve. (https://goo.gl/dyx9bZ) // Chapter Thirteen. (https://goo.gl/5Z5hJV) // Chapter Fourteen. (https://goo.gl/Rfcm4U)
Chapter Fifteen. (https://goo.gl/GRaj9M) // Chapter Sixteen. (https://goo.gl/9WTorg) // Chapter Seventeen. (https://goo.gl/317RWR)
Chapter Eighteen. (https://goo.gl/MJ6Jee) // Chapter Nineteen. (https://goo.gl/VXQ9GA) // Chapter Twenty. (https://goo.gl/mRrNFH)
Chapter Twenty-One. (https://goo.gl/NJihkY) // บทส่งท้าย. (https://goo.gl/H8fiQD)




(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 29-06-2018 21:11:54
❖ SECRECY ❖

ลับรัก.


(https://www.picz.in.th/images/2018/06/30/N776Xg.jpg)



✿.。.:* *.:。✿*゚’゚・✿.。.:* *.:。✿


ซูเปอร์สตาร์แทบไม่มีคำว่าส่วนตัว

แต่ซูเปอร์สตาร์ก็เป็นเพียงคนคนหนึ่งที่มี ‘ความต้องการ’

ฉะนั้นหน้าที่ของฝุ่นคือรองรับความต้องการนั้น

...แล้วเก็บเป็นความลับเท่าชีวิต

✉ ✉



Intro

“อะ อึก...” เสียงร้องอึกอักดังเพียงในลำคอเมื่อริมฝีปากบางถูกกัดอย่างพยายามกลั้นเสียงอันน่าอาย ช่องทางแคบซึ่งมีบางอย่างคาอยู่ขมิบปริบจนสิ่งนั้นอ่อนนิ่ม

“โอเค ผ่าน”

“อ๊ะ” สิ้นสุดคำว่าผ่านสิ่งนั้นก็ถูกดึงออกไปให้ความโล่งเข้ามาแทนที่ สะโพกซึ่งโก้งโค้งจึงค่อยๆ ทิ้งตัวลง จากนั้นผ้าผืนบางก็ถูกตวัดมาคลุมตรงส่วนล่างเพื่อปกปิดความเปลือยเปล่า

“คะแนนดีทุกด้านเลยนะ” มือบางตวัดเซ็นลายเซ็นลงในช่องผู้ประเมินเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนจะปิดแฟ้มลงจนดังฉับ

“ขอบคุณครับ” คนบนเตียงตอบรับเสียงเบา

“มีทักษะ มีการเรียนรู้ และมีพัฒนาการที่ดี ที่สำคัญคือมีความตั้งใจ ยินดีด้วย...แล้วมาลุ้นกันว่าคนที่นายจะได้ดูแลนั้นเป็นใคร”

“ครับ...”

“ขอให้โชคดีนะฝุ่น”


To Be Continued...


ฮี่ๆ แอบมาแปะอินโทรเรื่องใหม่~
เปิดไว้ก่อนเฉยๆ เพราะบอกไม่ได้นะคะว่าจะลงตอนไหน ตอนนี้มีแค่นี้จริงๆ กร๊ากกกก
จากที่มีสามล้านพล็อตในหัวสุดท้ายก็เคาะลงที่พล็อตนี้
เรื่องนี้จะไม่ได้มีแค่ความหื่น แต่จะมีหลายประเด็นที่อยากจะเขียนให้โตขึ้น
พยายามจะลดความหื่นลง ไม่ให้เรทจนเกินไปนัก(อินโทรนี่มันลดลงตรงไหน! 5555555555555)
หวังว่าทุกคนจะคอยติดตามและให้ความรักกับนักเขียนตัวเล็กๆ คนนี้เช่นเคย
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากเอ็นดูโซแอลด้วยน้าาาา เรื่องนี้แท็ก #secrecyลับรัก นะคะะะะะ
ไม่แน่ ถ้าคนอยากอ่านเยอะอาจจะมาลงเร็วก็ได้ อิอิ


แฟนเพจ : https://www.facebook.com/writerexsoull/
Twitter : https://twitter.com/exsoull_
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 29-06-2018 21:25:19
แค่อินโทรก็ขนาดนี้แล้วววววววววววววว ติดตามม  :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 29-06-2018 21:44:18
แค่อินโทรก็หูวววววววว แล้วค่ะ  :o8:
ตื่นเต้น อยากรู้จักน้องฝุ่นมากกว่านี้แล้ว   :mew2:




หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 29-06-2018 22:00:06
แค่อินโทรก็ได้กลิ่นความแซ่บ...
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Sushinana ที่ 29-06-2018 22:15:44
หายใจฟืดฟาดเลยค่ะคิดดีมั่ยดั้ยเรยยยยยย ขอแบบนายเอกใสๆยั่วเยนะ5555
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 29-06-2018 22:40:06
OMGGGGG
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-06-2018 22:43:15
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-06-2018 23:14:01
 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-06-2018 23:37:16
ทำไมถึงรู้สึกว่าจะร้อนแรงกว่าเดิม..มมมมมม   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Spoypopoy ที่ 30-06-2018 00:30:22
 :jul1: นี่คือแค่อินโทร
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: NoteZapZa ที่ 30-06-2018 01:07:35
มีความร้องแรง มีความดราม่า ติดตามตอนต่อไปเลยค่ะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 30-06-2018 03:29:33
อยากอ่านต่อออ เท่านี้ไม่พอค่า T^T
 ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 30-06-2018 07:14:17
พล็อตน่าสนใจมากกก ท่าทางจะแซ่บ :z1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 30-06-2018 08:28:26
รออ่านเลย แซ่บ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 30-06-2018 09:04:37
ว้าวๆๆๆ น่าติดตามมาก
ลดความหื่นหน่อยก็ดีค่ะ
เราแก่แล้ว อ่านไม่ไหวละค่ะ
หายใจไม่ทัน ๕๕๕๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 30-06-2018 09:39:24
ได้กลิ่นมาม่า
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 30-06-2018 12:18:06
รอคอย.
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 30-06-2018 12:46:01
มารอน้อนคนใหม่ แซ่บลื้มมมมมมมม  :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: aiiya ที่ 30-06-2018 14:21:50
น้องฝุ่นของเราจะแซ่บแค่ไหนน้าาาาาา อยากรู้จิมจิม
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 30-06-2018 14:45:15
 :a5: :a5: :a5: :-[ :-[ :-[ :-[  จะมาม่ามั้ยยย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 30-06-2018 15:56:04
รอค่ะ ท่าจะแซ่บมากกกกกก :m25:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 30-06-2018 16:25:13
อือหือ :haun4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 30-06-2018 19:50:21
ระ ระ...รอติดตามแน่นอนค่ะ   :m25:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Namnamboy ที่ 30-06-2018 19:57:14
เปิดมาขนาดนี้เราจะไม่ตั้งใจรอเลย ไม่เลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 30-06-2018 23:03:11
กรี๊ดดดดดดด เเค่อินโทรก็เเซบเเล้ว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: brenda ที่ 01-07-2018 12:51:53
น่าติดตามมมมมม ^^
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Punmile09 ที่ 01-07-2018 13:25:00
อู้ยยยยยยยยย :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Intro] : 29/06/2561
เริ่มหัวข้อโดย: sweetie ที่ 01-07-2018 14:10:28
รอติดตามจ้า แต่ไม่อยากซดมาม่าเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 01-07-2018 20:47:16
เอาอีกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 01-07-2018 20:55:22
 เปิดเรื่องได้น่าสนใจมากกกกกค่ะ :jul1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 01-07-2018 21:06:49
แค่ตอนแรกก็แซบแล้ววว หนูฝุ่นนนนนนนนนนน
สงสารฝุ่นน คงเหงาน่าดู ต้องมีมาม่าแน่เลยย เพราะเป็นถึงดาราดัง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 01-07-2018 21:56:26
แซ่บบบบบบบบบตั้งแต่เริ่มเนี่ยมันยังงั๊ยยยยย ต้องแซ่บเพิ่มอีกแน่ชั่ยมั่ยชั่ย รออออออเลย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 01-07-2018 21:59:08
เมะเด็กกว่า ชอบจังค่ะ กรุบๆ ดี   :hao6:
จะได้เขยิบสถานะกันตอนไหนเนี่ย T^T
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-07-2018 22:21:34
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 01-07-2018 22:26:26
น่าติดตามมมม
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-07-2018 22:40:11
ต้องใจนิ่งแค่ไหน...ถึงจะทำอาชีพนี้ได้  :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 02-07-2018 00:06:56
โอโหแซ่บบบบบบบบ เมะเด็กกว่านี่มันกร๊าวใจจจจจจจจ :hao6:
ดูแลทุกอย่างจริงๆ ไม่เว้นแม้เรื่องบนเตียง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 02-07-2018 01:48:01
นี่แค่45%ยังแซ่บขนาดนี้ 55%ที่เหลือจะขนาดไหน ซี๊ดดดด แสบปากรอพริกทั้งสวนไปเลยจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: lolli_candy99 ที่ 02-07-2018 02:51:37
 :impress2: รอๆๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 02-07-2018 06:27:50
ฝุ่นถูกฝึกจากที่ไหนอ่ะ  :hao6: สังสัย คริคริ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 02-07-2018 14:34:55
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ชอบมากกกกกกกกกกกกกก o13
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [ch.1 45%] : 01/07/2561
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 02-07-2018 15:52:21
น่าติดตามมากๆๆๆๆ แต่ดราม่าแน่เลย.... แต่รอค่าาา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Rewrite ch.1 50%] : 03/07/2561 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 03-07-2018 22:18:57
ฝุ่นต้องฝึกหนักขนาดไหนกันน้ออ จะมีโอกาสได้อ่านช่วงที่น้องฝึกมั้ยคะ แล้วก็รออีกสามวันไม่ไหวเหมือนกันค่ะ 555555   :z1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Rewrite ch.1 50%] : 03/07/2561 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 03-07-2018 22:22:46
ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาต่อไวๆ   :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Rewrite ch.1 50%] : 03/07/2561 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 03-07-2018 22:42:47
บอกเลยว่ามันดีมากๆเลยค่ะ บรรยายดีค่ะ เราชอบบบบ
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Rewrite ch.1 50%] : 03/07/2561 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 03-07-2018 23:07:19
อืมมมมม จริงๆค่อนข้างชอบฉบับก่อนรีไรท์นะ
ฟีลลิ่งได้เลย คือเส้นเรื่องก็กำลังไปได้ดี
ถ้าอยากจะอธิบายไม่ให้งง
ตัดเป็นพาร์ทอดีตพาร์ทความทรงจำก็ได้นะ
นิยายไม่จำเป็นต้องเขียนจาก 1 ไป 2 ไป 3 เสมอไป

เอนี่เวย์ รีไรท์มาแล้วอ่ะเนอะ
อันนี้เหมือนอ่านเรื่องใหม่ไปเลย
รู้สึกว่ามู๊ดแอนด์โทนเปลี่ยนไปด้วย

ยังไม่กล้าเดาหรือคาดหวังอะไร
เพราะดูเหมือนคนเขียนจะอยากลองแนวใหม่นี้
แนวแบบขมุกขมัวไม่สดใสพื้นเพไม่ค่อยบวก
เอาจริงๆพี่หินก็เทาเข้มตลอดเรื่องอ่ะเนอะ555
จะลุ้นไปด้วยค่ะแต่คงไม่กล้าวางใจอะไร

เป็นกำลังใจนะคะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Rewrite ch.1 50%] : 03/07/2561 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 03-07-2018 23:50:16
งือออ แซ่บมากกก หน้าร้อนไปหมดแล้ววว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Rewrite ch.1 50%] : 03/07/2561 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-07-2018 04:27:09
ทำไมไม่เห็นมีตอนรีไรท์ 50%  เลยอ่ะ แต่ตอนเก่าก็ไม่เห็นนิ มีแต่ต่อนอินโท  :m28:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Rewrite ch.1 50%] : 03/07/2561 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 04-07-2018 08:30:36
เห็นจากในเพจว่าซ่อนตอนที่ลงเมื่อคืน
ไม่รู้ว่าคนเขียนนอยด์จากไหน เลยมาดูเม้นต์
เห็นที่เม้นท์ชอบแบบเก่ามีแค่เรา เลยตกใจ
อาจจะนอยด์จากคอมเมนท์เรารึป่าว

เราเองที่เม้นว่าค่อนข้างชอบแบบที่แล้ว
ก็คือเราว่าแบบที่แล้วก็น่าสนใจดีแล้ว เวิคแล้ว
เห็นคนเขียนไปกังวลจนมารีไรท์
เราก็เลยแค่อยากบอกว่าจริงๆที่เขียนมาตอนแรกก็ดี
แล้วอันที่รีไรท์มาก็ไม่ใช่ไม่ดี เราก็ชอบ ชอบทั้งคู่
เพียงแต่เรางงที่คนเขียนกังวลจนรีไรท์เท่านั้น
เลยอาจจะโฟกัสไปว่าแบบเก่าก็เขียนต่อได้ไรงี้
เราแค่อยากให้คนเขียนมั่นใจในสิ่งที่ทำอยู่แค่นั้น

จริงๆคนเขียนจะเขียนอะไรมา
เราก็อ่านหมดนั่นล่ะค่ะ กับตัวโซแอลเอง
เราก็ติดตามมาตั้งแต่เรื่องแรก ตามมาตลอด
มีหนังสือโซแอลครบทุกเล่ม และก็ยังจะติดตามต่อไป

ส่วนที่บอกว่าเส้นเรื่องเทาๆ
เพราะเรื่องแบบนี้ แนวคนดังนี่
ถ้าให้เข้มข้นมันก็ต้องเทาอยู่แล้วอ่ะ
มันเป็นความรักที่เกิดขึ้นในความลับนี่หน่า
ดราม่ามันก็คงต้องมีถึงได้บอกว่าไม่วางใจ
คือหมายถึงต้องเผื่อใจรับดราม่า(><)

เอาเป็นว่าเราไม่รู้หรอกว่าคนเขียนนอยด์จากไหน
แต่บอกเลยว่าเราเองมีเจตนาดี
แต่ถ้าคนเขียนไม่โอเคกับข้อความเราจริงๆ
หลังไมค์มาได้เลยจ้า(^__^)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Rewrite ch.1 50%] : 03/07/2561 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 04-07-2018 10:24:34
มีดราม่าอะไรเราไม่รู้ แต่เรารอได้ รอโซแอลพร้อมอัพ เราก็พร้อมหวีด พร้อมสกรีมไปพร้อมๆ ด้วยกัน เนอะ สู้ๆ  o13
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Rewrite ch.1 50%] : 03/07/2561 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: Emmaline ที่ 04-07-2018 20:47:49
โอ้มายก้อด :haun4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 07-07-2018 20:19:32
Chapter One

At the beginning.

ดวงตาเรียวรีกวาดอ่านอักษรทุกตัวบนหน้ากระดาษอย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อพบว่าไม่มีตรงไหนติดขัดจึงวางนิ้วมือลงบนแท่นหมึกสีน้ำเงิน ประทับรอยนิ้วมือลงในตำแหน่งชื่อตัวเองจากนั้นจึงส่งให้ผู้จัดการส่วนตัวทำต่อกัน เมื่อเอกสารถูกส่งกลับให้ฝ่ายนั้นก็เป็นอันว่าสัญญาฉบับนี้เสร็จสมบูรณ์

“ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ค่ะ” คนพูดยกมือขึ้นไหว้หลังจากเก็บเอกสารลงในกระเป๋านิรภัยแล้วเรียบร้อย

“อย่างที่เราแจ้งไปว่าจะต้องมีการทความคุ้นเคยกันก่อนทั้งสองฝ่าย เพื่อเป็นการละลายพฤติกรรมและถือเป็นการประเมินความพอใจของลูกค้าก่อนเริ่มงาน...ขอเชิญคุณภาวิดาที่ห้องรับรองสักหนึ่งชั่วโมงนะคะ”

ผู้จัดการหญิงวัยทำงานเหลือบมองคนในความดูแลของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับ

“หวังว่าลูกค้าของเราจะพึงพอใจ สวัสดีค่ะ”

พูดจบก็หยัดกายลุกขึ้นพร้อมกระเป๋าเอกสารในมือ ตามด้วยภาวิดาที่ต้องเดินออกไปด้วยกัน กระทั่งประตูห้องชุดสุดหรูปิดลง ทิ้งให้คนสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองหน้ากันเงียบๆ หากแต่ไม่นานนักคนตัวเล็กกว่าก็ลุกขึ้นยืนแล้วโค้งให้

“ขออนุญาตครับ”

สิ้นเสียงคำขออนุญาตอีกคนก็เดินมาทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน ปารินทร์จ้องมองทุกการกระทำนั้นด้วยความอยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะทำอะไรและทำอย่างไร

แล้วสิ่งที่อยากรู้ก็เริ่มได้คำตอบ กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดออกไปหนึ่งเม็ดอย่างนุ่มนวล ใบหน้าเล็กโน้มและเคลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนที่ริมฝีปากบางได้รูปจะประทับลงบนผิวเนื้อตรงต้นคอแผ่วเบาคล้ายกับขออนุญาตอีกครั้ง และเมื่อไม่มีคำกล่าวว่า แรงจูบซับจึงเพิ่มมากขึ้น

ปารินทร์ไม่ได้ตกใจกับการรุกรานนั้น ชายหนุ่มไม่ได้ไก่อ่อนขนาดที่จะต้องตื่นเต้น มันมีเพียงความอยากรู้ระคนสงสัย

อยากรู้ว่าภายใต้ท่าทางเรียบนิ่งที่เขาถูกใจตั้งแต่วินาทีแรกนี้จะมีอะไรซ่อนอยู่...   

สัมผัสซึ่งแต่งแต้มไปตามลำคอค่อยเป็นค่อยไป ความใกล้ชิดนำพากลิ่นหอมอ่อนของบางอย่างซึ่งมาจากตัวของอีกฝ่ายเข้าจมูก ผู้ชายวัย 22 ปีที่อยู่ในช่วงพลุ่งพล่านถูกกระตุ้นได้ไม่ยาก เพียงเท่านี้ร่างกายของปินก็เริ่มมีปฏิกิริยา ลมหายใจร้อนขึ้นกว่าที่เป็น

“จูบหรือเปล่าครับ”

ริมฝีปากนุ่มอุ่นผละออกมาถาม คนที่กำลังถูกทำลายสติสัมปชัญญะอย่างช้าๆ จึงขมวดคิ้วเพราะไม่ค่อยเข้าใจนัก

“...”

“เราไม่มีสิทธิ์จูบหากลูกค้าไม่อนุญาต” ปารินทร์ถึงบางอ้อ

ทำงานละเอียดกันจริงๆ

“จูบสิครับ ผมอนุญาต”

คำตอบที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนซึ่งเป็นสัญลักษณ์การค้าของนักร้องคนดังทำเอาคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีมาตลอดถึงกับหายใจผิดจังหวะ แม้จะเพียงเสี้ยวเดียวที่อีกคนไม่มีทางสังเกตเห็นแต่ฝุ่นก็รู้ตัวเองดีว่ากำลังถูกความอ่อนโยนของ ปิน ปารินทร์ เล่นงาน

แต่ไม่ว่าอย่างไรความสั่นไหวเล็กๆ ก็ต้องถูกสลัดทิ้งไป ริมฝีปากบางทำหน้าที่ต่อด้วยการเคลื่อนเข้าไปใกล้ ยามมันแนบสนิทเข้าหาส่วนเดียวกันจูบแรกระหว่างคนทั้งสองจึงเริ่มขึ้น

ปารินทร์ปล่อยให้ปลายลิ้นเล็กเป็นฝ่ายรุกเร้า ฝุ่นทำได้ดีตามที่ถูกเทรนมา จูบนี้จึงหวานละมุนและเจือความร้อนแรงเอาไว้ได้อย่างลงตัว

“อยากให้ผมอ่อนโยนหรือรุนแรงขึ้นกว่านี้” ฝุ่นผละออกมาถามอีกครั้งเพื่อให้สัมผัสนี้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด

คำถามที่ทำให้ปินยกยิ้ม คล้ายกับมีความขันเจืออยู่

ไม่ให้ขันได้อย่างไร ดูคำถามที่แสนล่อแหลมนั่นสิ...แบบนั้นเขาควรจะเป็นฝ่ายถามมากกว่า

“แล้วคุณชอบแบบไหนครับ” คนถูกถามถามกลับอย่างขี้เล่น คราวนี้อีกคนถึงกับนิ่งไปก่อนจะตอบออกมาแผ่วเบา

“...แล้วแต่สถานการณ์ครับ”

“กับสถานการณ์ตอนนี้ล่ะ?”

“ผมชอบแบบที่จูบไปเมื่อกี้”

สัมผัสเมื่อครู่มันไม่ได้เป็นไปโดยไม่คิดอะไร ทุกการแตะต้องเป็นไปด้วยความใส่ใจในปฏิกิริยาของคนตรงหน้า

“งั้นผมก็ชอบแบบนั้น” ฝุ่นพยักหน้ารับราวกับจะจดจำเอาไว้ว่าปารินทร์ชอบให้สัมผัสแบบไหน “ว่าแต่...”   

“ครับ?”

“เราจะทำความคุ้นเคยกันไปถึงขั้นไหนดีครับ”

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือตาฝาด ฝุ่นรู้สึกเหมือนความขี้เล่นนั้นเป็นเพียงสิ่งบดบังหมาป่าเจ้าเล่ห์ตัวข้างใน ชั่ววินาทีหนึ่งเหมือนกับดวงตาคมจะเป็นประกายขึ้นมา

“ผมมีเวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงอยู่นะ”

“...”

“บางทีเราอาจจะมากกว่าแค่คุ้นเคยกัน”

คราวนี้ความไม่แน่ใจแปรเปลี่ยนเป็นแน่ชัด หมาป่าที่พรางตัวอยู่ตลอดปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้า

“ความจริงแล้ววันนี้เราจะทำความคุ้นเคยกันแค่ปากกับมือ...แต่ถ้าคุณอยากทำมากกว่านั้นคาดว่าคุณภาวิดาจะรอนานมากนะครับ”

“ทำไมถึงนานมากล่ะ”

“เราจะไม่รีบร้อนในครั้งแรกเพื่อให้ลูกค้าได้รับสัมผัสที่ดีที่สุด”

คนฟังถึงกับหลุดยิ้มกับคำตอบที่ได้รับ ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าที่นี่จะใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอนขนาดนี้

แต่ก็อย่างว่า เงินมหาศาลก็ย่อมต้องได้การบริการที่ยอดเยี่ยม

“งั้นก็ทำความคุ้นเคยกันเท่าที่ตั้งใจไว้ตอนแรกก็ได้ครับ ไว้อีกสามวันที่ผมจะย้ายเข้ามาที่นี่ค่อยทำมากกว่านี้”

“...”

“ผมเผื่อเวลาไว้ทั้งคืนอยู่แล้ว”

ขนอ่อนในกายคนฟังลุกชันขึ้นมาอย่างน่าประหลาดทั้งที่ปินยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม

“เรื่องของอีกสามวันคงต้องเอาไว้ก่อน ตอนนี้ผมต้องทำต่อแล้วครับ” เพราะกลัวว่าเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงจะไม่ทันการจึงเอ่ยบอกอีกฝ่ายออกไป

“เชิญครับ”

เห็นความจริงจังบนใบหน้านั้นแล้วปินจึงต้องกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้สุดความสามารถ อารมณ์วูบไหวที่มอดดับไปเพราะความขบขันกำลังจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง...



At the moment.

“อืม...ดี” คำชื่นชมนั้นทำให้ส่วนล่างที่กำลังทำงานขยับเร็วขึ้น จังหวะที่แตกต่างจากเดิมส่งผลให้ปารินทร์กัดฟันกรอด แหงนเงยใบหน้าไปด้านหลัง เปล่งเสียงครางต่ำด้วยความถูกใจ

เมื่อความต้องการพุ่งสูงขึ้นจนใกล้จะแตะจุดสูงสุดคนด้านบนก็ถูกจับพลิกให้เป็นฝ่ายนอนลง ส่วนที่หลุดออกจากกันสอดแทรกเข้ามาอีกครั้ง โดยที่ขาเรียวก็ขยับเปิดทาง อีกทั้งสะโพกบางยังตอบรับแรงส่งอย่างลื่นไหล

ไม่ให้เสียชื่อคนที่ได้คะแนนระดับท็อปในบททดสอบการใช้สะโพก...

การตอกตรึงรุนแรงต่อเนื่องไปอีกเพียงไม่กี่นาทีร่างกายสูงใหญ่ก็เกร็งขนัด ช่องทางแคบตอดรัดถี่รัวบ่งบอกว่าคนใต้ร่างกำลังรู้สึกไม่ต่าง เสียงครวญครางของคนทั้งสองดังผสมคลอเคลียกับเสียงการเสียดสีอันรุนแรง

ไม่นานนักสะโพกสอบก็กระตุก ปลดปล่อยความต้องการทั้งหมดให้ออกมาคั่งค้างอยู่ส่วนปลายของเครื่องป้องกัน ขณะที่หน้าท้องบางก็เปรอะเลอะด้วยความต้องการของเจ้าตัว

“ลุกออกไปได้แล้ว”

ฝุ่นจำเป็นต้องพูดขึ้นเพราะส่วนที่ยังเชื่อมต่อกันถูกขยับเข้าออกเบาๆ ไม่หยุด แม้การสุขสมจะผ่านพ้นไปหลายนาที หากเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่พ้นว่าคงมีรอบที่สามเกิดขึ้น

“ก็ฝุ่นไม่ยอมหยุดรัด จะออกได้ยังไง”

คนด้านบนตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ประโยคแสนทะลึ่งอาจทำให้คนอื่นอายได้บ้างแต่ฝุ่นที่ชินกับนิสัยของอีกฝ่ายแล้วจึงรู้สึกปกติ

ต่อหน้าคนอื่นนักร้องที่มาแรงที่สุดในยุดนี้อาจดูขี้เล่นและสุภาพ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้วคนสุภาพกลับไม่เป็นอย่างนั้นนัก

“ไม่รัดแล้ว ออกไปได้แล้ว”

คนที่ถูกฝึกแม้กระทั่งจังหวะบีบรัดของช่องทางตัวเองเอ่ยบอกพร้อมกับส่วนนั้นที่คลายตัวลง ไม่รั้งปารินทร์เอาไว้อีกต่อไป

“เสียดายจัง จะรัดอีกแน่นๆ ก็ไม่ว่าหรอก”

ไหนล่ะคนสุภาพของแฟนคลับทั้งประเทศ ดูคำพูดคำจา

ฝุ่นถอนหายใจพลางส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะขยับไปหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบเลอะอันมากมายบนร่างกาย กระทั่งเรียบร้อยแล้วจึงหันกลับมาทิ้งหลังพิงกับพนักเตียง โน้มตัวไปคว้าผ้าห่มผืนใหญ่บนพื้นมาคลุมตัวเองเอาไว้บางส่วน

“ถอดให้หน่อย”

คนพูดขยับเข้ามาหาในท่าคุกเข่า ฝุ่นปรายตามองสิ่งที่ปินหมายถึง จากนั้นจึงเอื้อมมือไปดึงมันออกให้แล้วทิ้งลงถังขยะข้างเตียงโดยไม่อิดออด ทั้งยังดึงทิชชู่มาเช็ดส่วนนั้นให้แผ่วเบา

การดูแลปารินทร์มันเป็นหน้าที่ของเขา ต่อให้เจ้าตัวจะบอกว่าให้ใช้ปากทำความสะอาดให้ก็ต้องทำ

อืม ก็ใช่ว่าจะไม่เคย

“เสร็จเองได้แต่ถอดเองไม่ได้ มือเป็นอะไร” บ่นออกไปทั้งที่ก็ทำให้ทุกครั้ง   

“ก็ไม่ได้เป็นอะไร แค่อยากให้ฝุ่นถอดให้” ปารินทร์ยิ้ม แต่ฝุ่นส่ายหน้า   

“จะแช่ตัวหรือเปล่า จะได้ไปเตรียมน้ำให้”

“เดี๋ยวผมอาบฝักบัวดีกว่า”

“งั้นก็รีบไปอาบ พรุ่งนี้มีงานตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ”

“อาบด้วยกันไหม” ยังไม่วายเอ่ยถามกันด้วยสายตาวิบวับ

“มีเวลาก็ควรจะพัก” ฝุ่นเพียงแค่ให้คำแนะนำเพราะไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธใดๆ

หน้าที่ของตัวเองคือคอยดูแลอีกคนในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือตอนไหน หากปารินทร์ต้องการก็ต้องพร้อมเสมอ

“รู้แล้วครับ จะไปอาบน้ำแล้วก็รีบนอนเดี๋ยวนี้เลย”

ตอบรับแบบกวนอารมณ์แล้วก็กดจูบลงมาบนปากเร็วๆ ก่อนจะก้าวลงจากเตียงไปทางห้องน้ำทั้งอย่างนั้น

ฝุ่นโคลงหัวด้วยความอ่อนใจ ตลอดสองปีที่ดูแลปินมาซูเปอร์สตาร์ของใครหลายคนก็ทำเรื่องน่าปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเพราะอายุเพียง 24 ปี จึงมีความซนเจืออยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นคนที่ใจดีไม่น้อย

ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อยู่สุขสบายทั้งกายและใจแบบนี้...

ระหว่างที่รอปินอาบน้ำเตียงนอนแสนยับย่นก็ถูกจัดการด้วยการเปลี่ยนผ้าปูผืนใหม่ ขยะในถังเล็กถูกมัดปากเรียบร้อย กายเปลือยเปล่าก็ถูกชุดคลุมอาบน้ำปกปิดให้มิดชิด ส่วนชุดนอนของปินนั้นไม่ต้องเตรียมให้เพราะอีกฝ่ายจะสวมเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวนอน

“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เป่าผมให้แห้ง”

ฝุ่นดุเล็กน้อยเมื่อร่างสูงที่ส่วนบนเปิดเปลือยเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่หัวยังเปียกชื้น

“ขี้เกียจ”

“เดี๋ยวก็ได้ป่วย แล้วจะยุ่งไปกันใหญ่”

สุดท้ายคนมีหน้าที่ต้องดูแลจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำซึ่งผ่านเข้าไปยังห้องแต่งตัว หยิบผ้าผืนเล็กที่ถูกผับไว้ในตู้ติดมือออกมา

“นั่งลงตรงนี้”

ปารินทร์ทรุดตัวนั่งลงบนขอบเตียงตามคำบอก ก่อนฝุ่นจะก้าวขึ้นบนเตียงแล้วขยับไปทางด้านหลัง ต่อมาผ้าผืนเล็กก็ทำหน้าที่ซับความเปียกชื้นออกจากเส้นผม

“อย่าดุนักสิ” อีกคนเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเย้าแหย่

“ไม่ให้ดุยังไง ดื้อขนาดนี้”   

“ฝุ่นพูดเหมือนผมเป็นเด็ก”

“ก็เด็กไหมล่ะ”

“เด็กกว่าแค่อายุ ที่เหลือโตกว่าหมดโดยเฉพาะ...” คำสุดท้ายถูกทิ้งช่วงไปนานชวนให้คนฟังคิดลึก

“โดยเฉพาะอะไร”

“ร่างกายไง ฝุ่นตัวนิดเดียว”

ฝุ่นรู้ดีว่าจริงๆ แล้วอีกคนไม่ได้หมายถึงร่างกายหรอก แต่ไม่พูดออกมาย่อมดีแล้ว

เพียงห้านาทีผมที่เปียกชื้นก่อนหน้าก็แห้งหมาด ผ้าเช็ดหัวจึงถูกนำไปเก็บพร้อมทั้งที่ฝุ่นพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำให้เรียบร้อย

“บอกให้นอน ทำไมยังเล่นโทรศัพท์อยู่อีก” ออกจากห้องน้ำมาคิดว่าปินจะหลับไปแล้ว ที่ไหนได้ยังนั่งเล่นโทรศัพท์ไม่ยอมนอน

“ผมก็ดูข่าวบ้างอะไรบ้าง ทำแต่งานจนแทบจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องแล้ว”

ตารางงานแน่นเอี๊ยดยิ่งกว่าผู้คนที่เบียดเสียดกันอยู่บนรถเมล์ เวลานอนยังแทบไม่มี เวลาเล่นโทรศัพท์นั้นจึงไม่ต้องพูดถึง แค่วันนี้ได้กลับมาพักตอนสี่ทุ่มแล้วพรุ่งนี้ไม่มีงานเช้าก็ถือว่าดีมากโข

“ยังไงก็ควรจะรีบนอน เดือนนี้ได้พักแค่วันนี้วันเดียวนะ”

“เฮ้อ เหนื่อยจัง”

ปินทิ้งหัวลงบนตักของคนที่ทรุดตัวนั่งลงบนเตียง เสียงถอนหายใจดังยาวเสียใจฝุ่นไม่กล้าว่าอะไรกับการกระทำนี้

แค่เห็นเขายังเหนื่อยแทน

“อดทนหน่อย เดือนหน้าก็ได้พักมากขึ้นแล้ว”

“ได้พักตั้งสองวันติดแหนะ” แค่ว่างตลอดหนึ่งวันก็ถือว่ามากแล้ว

“ก่อนจะถึงวันนั้นวันนี้ต้องนอนก่อน”

โทรศัพท์บนมือใหญ่ที่วางอยู่กับอกถูกหยิบออกไปวางลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง หัวของปินถูกช้อนขึ้นโดยมือเล็ก ชายหนุ่มจึงได้แต่ขยับไปนอนดีๆ

“นอนก็ได้”

ฝุ่นเอื้อมมือไปปิดไฟบนหัวเตียงให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืด จากนั้นจึงกลับมาบนเตียงอีกครั้ง กระชับผ้าห่มผืนของตัวเองเข้าหาตัว

“ฝุ่น”

“หืม”

“ฝันดีนะ”

“ฝันดี”

--

‘นิตยสารที่ปินขึ้นปกขายหมดเกลี้ยงแผงเลย รู้สึกยังไงบ้าง?’

‘ดีใจครับ ดีใจมากๆ ก็ต้องขอบคุณทุกคนเลยที่ติดตามและให้การสนับสนุนกันดีขนาดนี้ ทีมงานและผมตั้งใจกับงานชิ้นนี้มาก’

‘แล้วเมื่อไหร่จะใจอ่อนรับงานละครสักที?’

‘อันนี้คงอีกสักพักเลยครับ ยังอยากโฟกัสที่งานเพลงให้เต็มที่ เมื่อไหร่ที่พร้อมหรือทุกอย่างลงตัวกว่านี้ถึงจะตัดสินใจอีกครั้ง’

‘แล้วจะได้ฟังซิงเกิ้ลใหม่เมื่อไหร่คะ’

‘ใกล้แล้วครับ อีกไม่นานเกินรอ ยังไงก็ฝากทุกๆ คนติดตามด้วยนะครับ’

คนที่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ตั้งใจดูข่าวตรงหน้านี้ไม่น้อยก่อนภาพจะถูกตัดไปเป็นข่าวอื่นในเวลาต่อมา ฝุ่นไม่รู้ตัวว่าตัวเองถอนหายใจออกมาแผ่วเบา ตุ๊กตาโลมาตัวนุ่มนิ่มบนตักถูกกอดกระชับแน่นขึ้น

ไม่อยากยอมรับหรอกว่าเหงา   

เจ้าเด็กดื้อนั่นไม่ได้มาหาเกือบเดือนแล้ว...

หน้าที่ของฝุ่นก็เป็นอย่างนี้ เขาถูกฝึกฝนและคัดเลือกเพื่อให้ดูแลใครสักคนที่มีชื่อเสียงให้ต้องรักษา อาจเป็นดารานักร้อง นักการเมือง หรือนักธุรกิจ

ซึ่งใครคนนั้นสำหรับเขาก็คือนักร้องวัยรุ่นซูเปอร์สตาร์ระดับประเทศอย่าง ปิน ปารินทร์

การฝึกฝนนั้นมีทุกด้าน เริ่มตั้งแต่เรื่องบุคลิกภาพ การวางตัว งานบ้าน และอื่นๆ ไปกระทั่งถึงเรื่องบนเตียง โดยเรื่องสุดท้ายนี้เป็นการฝึกที่ละเอียดและเข้มงวดที่สุด คนที่ผ่านจะได้รับการการันตรีว่าเพียบพร้อมในทุกด้าน

โดยเฉพาะด้านการมอบความสุขทางกาย ทุกคนจะต้องเป็นงาน เชี่ยวชาญทั้งการใช้มือ ปาก และส่วนล่างเพื่อปรนเปรอความสุขให้อีกฝ่าย แต่ละพาร์ทก็จะแบ่งย่อยไปอีกเป็นหัวข้อ เช่น การใช้มือจะต้องเริ่มจากดูแลมือให้อ่อนนุ่ม ฝึกฝนเรื่องน้ำหนักมือและควบคุมจังหวะให้เหมาะสม เป็นต้น

ระยะเวลาฝึกอยู่ที่หนึ่งปีถ้วน ส่วนระยะเวลาการทำงานขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคนจ้าง และทุกการฝึกจะใช้อุปกรณ์เทียมเท่านั้น นั่นหมายความว่าทุกคนไม่เพียงแค่เพียบพร้อมแต่ร่างกายจะบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่เคยต้องมือใครอื่นแม้แต่ปลายก้อย

ถามว่าทำขนาดนี้แล้วได้อะไร...

ฝั่งเขาจะได้เงินตอบแทนมหาศาล ส่วนอีกฝั่งจะได้เรื่องความปลอดภัยอันสูงลิ่ว มั่นใจได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเรื่องนี้จะไม่มีทางรั่วไหล นักข่าวหรือคนอื่นไม่มีทางได้กลิ่น

จริงอยู่ที่ว่าจะมีอะไรกับคนทั่วๆ ไปก็ย่อมได้ แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนพวกนั้นจะไม่ออกมาพูดหรือเก็บหลักฐานอะไรไว้เพื่อเอากลับมาแบล็คเมล์ทีหลัง

ความเสี่ยงจึงถูกแทนที่ด้วยอะไรที่มั่นคงกว่าหลายเท่า...

ช่องโทรทัศน์ถูกเปลี่ยนไปนานแล้วหลังจากที่ข่าวบันเทิงไม่มีข่าวของปิน เมื่อหันหน้ามองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลากว่าห้าโมงเย็น ร่างเพรียวจึงกดปิดโทรทัศน์แล้วหยัดกายลุกขึ้นเดินไปทางห้องครัว

จริงๆ จะโทรสั่งจากข้างล้างก็ได้ เพียงแต่ฝุ่นรู้สึกเบื่อกับการไม่มีอะไรทำจึงเลือกที่จะทำมื้อเย็นด้วยตัวเอง

--

“นั่งหน้าบูดเป็นตูดลิงแบบนี้แฟนคลับมาเห็นคงดราม่าตาย”

ผู้จัดการส่วนตัวที่เพิ่งนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวเอ่ยขึ้นให้คนที่กำลังง่วนอยู่กับโทรศัพท์ละสายตาไปมอง

“ใครจะไปหน้าบูดใส่แฟนคลับกัน”

“ก็ไม่รู้สิ เห็นนั่งหน้าหงิกแบบนี้กลัวว่าจะเผลอไปทำต่อหน้าคนอื่น”

“ผมไม่ทำหรอกพี่ก็รู้”

“แล้วสรุปหงุดหงิดอะไร อุตสาห์ได้มีเวลาพักตั้งชั่วโมง”

“ผมโทรหาพี่แล้วเขาไม่รับ” เป็นอันรู้กันว่าพี่ที่ว่านั้นหมายถึงใคร

ปารินทร์ไม่มีมีพี่ มีเพียงน้องชาย และเพราะฝุ่นอายุมากกว่าสามปีจึงเรียกแทนอีกคนว่าพี่ยามคุยกับผู้จัดการส่วนตัวเพื่อไม่ให้ใครเอะใจ

“อาจจะนอนอยู่หรือเปล่า”

“ตอนห้าโมงเย็นเนี้ยนะ”

“ไม่ก็ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้เลยไม่ได้ยิน” คนฟังถอนหายใจพลางเหลือบสายตามองหน้าจอที่ขึ้นว่ากำลังรอสาย จนมันตัดไปอีกครั้ง

“เก็บอาการหน่อย อย่าให้ใครสังเกตได้” เห็นท่าทางนี้แล้วภาวิดาก็อดเตือนไม่ได้

“ครับ” ปารินทร์รับคำโดยง่าย ลมหายใจแห่งความงุ่นง่านถูกสูดเข้าปอดลึกเพื่อดันให้มันกลับเข้าไป ก่อนเบื้องหน้าจะกลับมาเป็นปารินทร์ของทุกคนเช่นเดิม

“ดีแล้ว พักผ่อนต่อเถอะ ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนจะต้องถ่ายต่อ เดี๋ยวพี่จะเข้ามาตามอีกที”

“ครับ”

--

หน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบแล้วดับลงไปทำให้คนที่เพิ่งเดินออกจากห้องครัวชะงักกึก ฝุ่นขมวดคิ้ว หยิบเครื่องมือสื่อสารบนโต๊ะขึ้นมากดดู เมื่อเห็นการแจ้งเตือนว่าไม่ได้รับสายปินเกือบยี่สิบสายดวงตาก็เบิกกว้าง นิ้วเรียวรีบกดปลดล็อกหน้าจอจากนั้นจึงเข้าไปที่แอปพลิเคชั่นไลน์ ส่งสติกเกอร์กลับไปอย่างรวดเร็ว

ทำได้เพียงเท่านั้นเพราะไม่สามารถโทรหรือส่งข้อความที่ส่อให้รู้ถึงความสัมพันธ์ใดๆ ได้

ร่างเพรียวทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา สายตาจับจ้องหน้าจอโทรศัพท์ในมือนิ่งกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณสิบนาทีจึงวางมันลงพร้อมทั้งถอนหายใจแผ่วเบา

ปินคงไม่ว่างแล้ว...

--

00.18 น.

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์สั่นครืดคราดจากโต๊ะข้างหัวเตียงทำเอาคนที่เพิ่งหลับลงงัวเงียรู้สึกตัวตื่น มือเล็กเอื้อมไปคว้าอย่างสะเปะสะปะก่อนจะพยายามลืมตามองชื่อของคนที่โทรเข้ามา

พอเห็นว่าเป็นใครก็ขยับลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว

“ฮัลโหล” ฝุ่นรับสายด้วยเสียงที่พยายามไม่ให้แหบพร่า ด้วยระยะเวลานานกับการไม่ได้อยู่ด้วยกันจึงก่อให้เกิดความตื่นเต้นและดีใจเล็กๆ ไม่ต่างจากทุกครั้งที่ปินโทรมา

(ผมโทรหาตอนเย็นทำไมไม่รับ) คนที่มักขี้เล่นอยู่เสมอคราวนี้กลับเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ปินทั้งเหนื่อยกับงานและหงุดหงิดที่ไม่ได้คุยกับอีกฝ่าย เกือบสัปดาห์แล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน พอมีเวลาว่างสักหนึ่งชั่วโมงเขาก็รีบยกโทรศัพท์ ทว่ากลับพบเพียงความผิดหวัง กระทั่งไม่ย่อท้อที่จะพยายามโทรหาฝุ่นอีกครั้งหลังจากเพิ่งเสร็จงานของวันนี้

“ตอนนั้นอยู่ในครัว ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์” ฝุ่นไม่รู้ตัวเลยว่าเสียงของตัวเองแผ่วลงกว่าเคย

(ผมโกรธดีไหม ฝุ่นก็รู้ว่าผมไม่มีเวลามากนักทำไมถึงไม่พกโทรศัพท์ติดตัวเอาไว้ตลอด ไม่ได้คุยกันเป็นอาทิตย์มันน่าหงุดหงิดรู้หรือเปล่า)

ปกติแล้วฝุ่นเป็นคนขี้รำคาญแม้จะเป็นคนที่มีความอดทนสูง การถูกพูดด้วยน้ำเสียงและประโยคแบบนี้ควรทำให้รู้สึกไม่พอใจ หากแต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ริมฝีปากถึงอมยิ้มน้อยๆ ในหัวคิดถึงสีหน้าของคนพูดออกได้อย่างชัดเจน

คงเหมือนโกลเด้นตัวใหญ่ที่กำลังหงุดหงิดเพราะไม่ได้กินข้าว

“อย่าโกรธสิ” คนที่พูดความรู้สึกของตัวเองออกมาไม่เก่งเอ่ยได้เพียงเท่านั้นทั้งที่อยากพูดอะไรมากมาย

(จะไม่ให้ผมโกรธมีข้อแลกเปลี่ยนหรือเปล่า)

คิ้วของคนฟังขมวดเข้าหากัน มืออีกข้างยกขึ้นมาขยี้ตาน้อยๆ ท่าทางคล้ายเด็กเพิ่งตื่นนอน

น่าเสียดายที่ปินไม่ได้เห็นภาพนี้

“อยากได้อะไรล่ะ”

คำถามเข้าทางนั้นทำให้ปินยกยิ้ม ความเกรี้ยวกราดก่อนหน้าเบาบางลง แม้จะรู้สึกง่วงจนแทบสลบแต่ก็ยังถ่างตาคุย

(ใส่ชุดเหมียวให้ดูหน่อย)   

“ไม่เอา” ตอบกลับทันควันยามในหัวเผลอนึกถึงภาพตัวเองอยู่ในชุดที่อีกฝ่ายบอก

ชุดเหมียวนั่นปินซื้อมาจากญี่ปุ่น แต่ฝุ่นอายเกินกว่าจะสวมใส่ มันจึงนอนอยู่ในซอกหลืบของตู้เสื้อผ้าเฉยๆ มาแล้วหลายเดือน

(หึ ผมล้อเล่นน่า)    

“...”

(เหนื่อยจัง อยากมีฝุ่นมาคอยดูแล)

น้ำเสียงหยอกเย้าเลือนหายกลายเป็นเหนื่อยอ่อน เสียงถอนหายใจยาวบ่งบอกให้รู้ว่าหน้าที่ที่ปินแบกรับนั้นหนักไม่น้อย

“อีกไม่กี่วันก็ได้พักแล้ว” คนทางนี้ก็ทำได้เพียงปลอบประโลม

(เสร็จงานจะรีบกลับไปหาให้เร็วที่สุด)

ฝุ่นไม่ควรจะใจเต้นกับคำพูดที่ไม่ได้คิดอะไรจากอีกคน ทว่าหัวใจเจ้ากรรมกลับไม่เชื่อฟัง จังหวะที่เต้นอย่างราบเรียบแปรเปลี่ยนเป็นถี่ขึ้น ปลายนิ้วบีบบี้ผ้าห่มไปมา

แค่ปินพูดคล้ายกับอยากเจอก็เป็นแบบนี้แล้ว

“...อืม”

(เดี๋ยวผมต้องวางแล้วนะ พรุ่งนี้มีงานเช้า)   

“...”

(ฝันดีครับ) ปินเตรียมดึงโทรศัพท์ออกจากหู จำต้องกดวางสายแม้ใจจะไม่อยากวางเลยสักนิด

“ปิน...” แต่แล้วเสียงเรียกแผ่วที่ดังขึ้นก็ทำให้ต้องแนบโทรศัพท์เข้ากับหูอีกครั้ง   

(หืม?)

“จะใส่ชุดเหมียวรอ”

(...)

“ฝันดี”

แล้วสัญญาณก็ถูกตัดไปโดยไม่รีรอ ริมฝีปากบางถูกกัดแน่น หัวใจเหมือนจะทะลุออกมานอกอกด้วยความกระดากอาย คนพูดถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้า ในหัวมีเพียงประโยคอันน่าอายที่ตัวเองพูดออกไปเมื่อครู่

บ้าแล้วฝุ่น พูดออกไปได้ยังไง!


To be continued.

I’m back ~
กลับมาแล้วนะคะะะ
หลังจากที่คิดและไตร่ตรองดีแล้ว
จึงได้การดำเนินเรื่องออกมาแบบนี้
 และครั้งนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกแล้ว
หวังว่าทุกคนจะให้ความรักกันอย่างอบอุ่นเช่นเคย
ฝากพี่ฝุ่นกับน้องปิน #secrecyลับรัก
ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ^^


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 07-07-2018 21:11:47
ชอบจังเลยเมะลูกหมาที่เด็กกว่าเนี่ยยยยยยยย ปินกลับมาไวๆมาดูฝุ่นใส่ชุดเหมียว :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-07-2018 21:39:08
แค่แอบมีเธออยุ่ในใจ..ก็พอ รึเปล่า??? เอ็นดูฝุ่น   :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 07-07-2018 21:53:09
wow  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 07-07-2018 21:56:59
มันใช่
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 07-07-2018 22:03:33
รอด้วยคน อยากเห็นๆๆๆ
คงแซ่บน่าดู
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-07-2018 22:18:12
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 07-07-2018 22:18:33
 :hao7: อร้ายยยยย ทำไมน่ารัก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-07-2018 23:11:41
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: 
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 08-07-2018 01:20:40
หืมมม รอดูพี่ฝุ่นในลุคน้องเหมียวเลยงับบ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-07-2018 03:41:10
รอดูนะพี่เหมียว  :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 08-07-2018 06:46:14
ชุดเหมียวววววววววววว เเค่คิดใจก็เต้นเเรงเเล้ว
ขอบคุณนะค้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 08-07-2018 08:22:41
ปินดูอ้อนและติดฝุ่นมากนะเนี่ย อยู่กันตั้งสองปีแล้วไม่รู้สึกอะไรมั่งเหรอ
รอชุดเหมียวเลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Septemberry ที่ 08-07-2018 09:27:05
รออออออออดูเหมียวววววววว แอร๊ยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 08-07-2018 15:39:42
น้องเหมียววววววว ไม่ได้นอนแน่ฝุ่น 55555  :hao6:
จริงๆ ทั้งคู่ดูชอบกันนะ แต่ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยนายจ้างกะลูกจ้างงี้ทำให้ฟีลเหมือนจะหน่วงๆ T^T
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ มาต่อไวๆ นะคะ ><
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 08-07-2018 16:30:15
แค่นี้เราก็ยิ้มปริบแล้ว
รอชุดเหมียว อิอิ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 08-07-2018 17:22:56
Fighting SoulL !! ชอบๆๆๆ (สนุกทั้ง 2 ver. เลยย)  ต้องงี้สิคนเก่ง สตรองค่าาา You’re never walk alone. #กอดๆๆ Fighting ปิน!! เร็วๆเข้า รีบเคลียร์งาน เหมียวรออยู่  :z1:~~~
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 08-07-2018 19:51:36
ติดตามจ้า  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 08-07-2018 20:10:10
มันเศร้าเนาะ รักแต่เปิดเผยไม่ได้ เป็นกำลังใจให้ฝุ่นนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 08-07-2018 23:36:06

ปินชอบฝุ่นเหมือนที่ฝุ่นชอบปินไหมน้า.. :mew2:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-07-2018 01:00:38
คงจะดาร์กๆ รออ่าน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 09-07-2018 13:13:23
 :mew4:  รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 13-07-2018 03:21:34
น้องฝุ่นนนนนนน!!!
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter One.] : 07/07/2561 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 13-07-2018 23:24:58
นุ้งปินรู๊กกกกก อยากจิวาร์ปมาดูคนใส่ชุดเหมียวรอเลยละสิ!
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 14-07-2018 22:52:13
Chapter Two.

‘จะใส่ชุดเหมียวรอ’

ดั่งขนมหวานชิ้นเลิศที่ถูกตั้งไว้เพื่อหลอกล่อให้ไปหา...

การทำงานในห้าวันที่ผ่านมาของปินผ่านพ้นไปด้วยความกระตือรือร้นสุดขีด แม้กายจะเหนื่อยและอ่อนล้า ทว่าสิ่งที่รอคอยอยู่ช่างหอมหวาน จนเพียงแค่นึกถึงก็มีกำลังใจสู้กับงานต่อ

และยิ่งตอนนี้ที่ยืนอยู่หน้าห้องหัวใจยิ่งลิงโลดราวกับเพลงที่ปล่อยออกมาคว้ารางวัลเพลงแห่งปี

ในเวลาสามทุ่มเศษ เสียงระบบสแกนนิ้วมือทำงาน เสียงกดรหัสหกหลังดังตามมา ก่อนเสียงประตูปลดล็อกจะดังขึ้น
ร่างสูงเดินเข้าไปข้างในจากนั้นประตูจึงปิดลงตามหลัง ตรงหน้ามีเพียงความว่างเปล่าและเงียบงัน มีเพียงความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่ทำให้รู้ว่ามีใครอยู่ในนี้

ปินเดินตรงไปโดยมีเป้าหมายคือห้องนอน แต่แล้วยังไม่ถึงครึ่งทางดีร่างเพรียวของคนที่อยากเจอก็ปรากฏตัวขึ้นก่อน

“กลับมาแล้วเหรอ”

ฝุ่นเอ่ยถามขณะเดินออกมาพร้อมแก้วน้ำเปล่าในมือ ปินจึงพยักหน้าพร้อมทั้งรับมันมาดื่ม ยามที่ดวงตาจับจ้องคนตรงหน้าซึ่งอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำโดยไม่ละไปไหน

“เพิ่งอาบน้ำเสร็จเหรอ”

“อื้อ” มือบางเอื้อมมารับแก้วแล้วนำไปวางลงบนโต๊ะใกล้ๆ

“นึกว่าเปิดประตูเข้ามาแล้วจะเห็นแมวฝุ่นซะอีก”

คนที่กำลังจะหมุนตัวกลับมาชะงักไปเสี้ยววินาที ทว่าท่าทีภายนอกก็ดูไร้ซึ่งความผิดปกติใดๆ จนปินไม่อาจสังเกตเห็น

“ไปอาบน้ำก่อนดีไหม ทานข้าวมาหรือยัง”

“ผมทานข้าวแล้ว งั้นไปอาบน้ำดีกว่า...ฝุ่นจะถูหลังให้ไหม”

ดวงตาเรียวรีเล็กลงเพราะรอยยิ้มบนริมฝีปาก ความอารมณ์ดีแม้ใบหน้าจะดูเหนื่อยล้าเจือมาด้วยความเจ้าเล่ห์แบบที่คนอื่นคงไม่สามารถสัมผัสได้ แต่ฝุ่นย่อมรับรู้

หมาป่ากำลังจะออกมา
   
“อยากให้ถูให้หรือเปล่าล่ะ”

“แน่นอนว่าผมต้องอยากสิ แต่ว่าตอนนี้มีสิ่งที่ต้องทำก่อน”

คราวนี้แขนขาของหมาป่าเริ่มโผล่ออกมาทีละนิด ระยะห่างระหว่างกันสั้นลงเนื่องจากอีกคนก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้น

“อะไร”

“Kiss me,please.”

 ปินยื่นหน้ามากระซิบข้างหูด้วยเสียงทุ้มนุ่มที่ทำให้คนฟังหลงใหลกว่าค่อนประเทศ ก่อนสัมผัสบางเบาจะประทับลงบนข้างลำคอจนฝุ่นหยุดหายใจไปหนึ่งจังหวะ

หากแต่ก็ไม่มีเวลาหวั่นไหวได้นาน ยามอีกคนผละออกไปจึงได้รับสิ่งที่ร้องขอในทันที

ริมฝีปากปากที่ห่างหายกันไปเป็นเดือนแนบชิดเข้าหากันด้วยความคิดถึง เรียวลิ้นทั้งสองต่างเกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างที่ไม่มีใครยอมใคร

เสียงจูบดังขึ้นในความเงียบ จากที่ตั้งใจเพียงแค่จูบกลับกำลังเลยเถิดไปไกลเมื่อสายผูกเอวของชุดคลุมอาบน้ำถูกกระตุกออกแผ่วเบา

“ฝุ่น...”

ปินส่งเสียงครางในลำคอยามสาบเสื้อแยกออกแล้วเผยให้เห็นแมวน้อยที่ถูกซุกซ่อนไว้ข้างใน เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าน้ำลายช่างกลืนลงคอได้ยากลำบาก ขณะคนที่ถูกมองรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัวยิ่งกว่าครั้งไหน

ยิ่งกว่าครั้งแรกที่มีอะไรกัน...

“ก็บอกว่าจะใส่ชุดเหมียวรอ”

ฝุ่นเอ่ยขึ้นเสียงเบาด้วยความกระดากอาย ถึงจะพยายามกดเสียงให้ราบเรียบแค่ไหนทว่าความสั่นไหวก็ยังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน

ปินยกยิ้มพลางขยับถอยหลังเพื่อมองภาพตรงหน้าให้กว้างขึ้น

“น่ารัก”

สีชมพูของชั้นในหนังตัวเล็กเข้ากับผิวขาวราบกับน้ำนมของฝุ่นตามที่คิดเอาไว้ คำชมนั้นทำให้ฝุ่นรู้สึกเหมือนเลือดในกายร้อนขึ้นจนลวกผิวไปทั่วร่าง

ปินต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่พุ่งเข้าไปฟัดคนตรงหน้าในทันใด

ปกติหมาเห็นแมวแล้วต้องอยากไล่ แต่เขากลับอยากฟัดแมวตัวนี้ให้ส่งเสียงเว้าวอนอยู่ใต้ร่าง

“ถอดชุดคลุมออกสิครับ ผมอยากเห็นหางตรงด้านหลัง”

หากปินอยากดูก็ต้องถอด

ริมฝีปากสีสดถูกขบกัดจนความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความชา แต่ถึงอย่างนั้นมือก็ยังขยับเลื่อนชุดคลุมออกจากตัว ถึงจะอ้อยอิ่งแค่ไหนสุดท้ายแล้วมันก็ลงไปกองอยู่บนพื้น เปิดเปลือยทุกอย่างให้อีกคนเห็นจนแทบหมดสิ้น

เพียงเท่านั้นหมาป่าก็ปรากฏกายขึ้นเต็มตัว

ร่างสูงของปารินทร์เดินอ้อมไปสำรวจสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น ชั้นในสีชมพูเข้มมีส่วนเว้าตรงกลางด้านหลังเพื่อให้หางสีชมพูสามารถเชื่อมออกจากกายบาง ภาพนั้นทำเอาเลือดลมในกายของคนมองร้อนผ่าว ตัวตนภายใต้กางเกงดุนดันขึ้นมาจนปวดหนึบ

“ฝุ่นยังใส่ไม่ครบนี่ ต้องมีปลอกคอแล้วก็หูด้วย”

ลมร้อนจากการหายใจและการพูดกระทบเข้ากับใบหู ฝุ่นตัวแข็งทื่อเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกคนอยู่ใกล้กันเพียงใด

“ก็เดี๋ยวไปใส่ในห้อง...”

“อืม งั้นผมเข้าไปรอในห้องน้ำนะ อยากอาบน้ำแล้วมีแมวฝุ่นมาถูหลังให้”

ความใกล้ชิดนั้นผละออกไปแล้วทว่าความร้อนตามกายยังคงอยู่ ดั่งอีกคนขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิมมากกว่าจะถอยห่าง

ฝุ่นสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยใจอันสั่นไหว แข้งขาที่หมุนเปลี่ยนทิศแล้วก้าวเข้าไปยังห้องนอนเหมือนจะสั่นจนแทบควบคุมไม่ได้ ยามรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่อยู่ภายใน

ก่อนหน้าต้องใช้ความอดทนอย่างมากกับการนิ่งเฉย แต่ตอนนี้ที่ปินรู้แล้วจึงปล่อยให้ตัวเองแสดงความอึดอัดออกมาได้มากขึ้น

มันเสียดสี ไม่อยู่นิ่งเวลาขยับตัว...   

แกร๊ก

เสียงเปิดประตูห้องน้ำตามเข้ามาดังขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปราวๆ ห้านาที คนที่นอนรออยู่ในอ่างอาบน้ำพร้อมทั้งเปิดเพลงคลอไปด้วยจึงลืมตาขึ้นมอง ก่อนจะพบเข้ากับลูกแมวที่กำลังก้าวเข้ามาหาอย่างเชื่องช้า

ไม่สิ เป็นแม่แมวต่างหาก มีหูเล็กๆ และปลอกคอครบ

“ลงมาด้วยกันสิครับ”

ปินเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเนื่องจากเห็นฝุ่นจะก้าวไปทางด้านหลัง ต่อมาอ่างอาบน้ำกว้างจึงมีคนสองคนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

“ทำไมไม่บอกว่าจะแช่อ่าง”

“แค่เปิดน้ำเอง ผมทำได้”

“เมื่อยหรือเปล่า เดี๋ยวนวดให้”

“ไม่เมื่อยเลย ฝุ่นขยับมานี่สิ”

สายตาเลื่อนลงมองบ่งบอกให้รู้ว่าคือตรงไหน และแน่นอนว่าฝุ่นต้องทำตาม ทั้งเป็นเพราะคำสั่งและความต้องการของตัวเอง

ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ชอบการใกล้ชิดปิน

“ถ้านั่งลงมันจะรู้สึกหรือ”

มือใหญ่หยาบสากจากการเล่นดนตรีเกี่ยวหางที่ลอยขึ้นมาบนน้ำไปมาเบาๆ ขณะที่คนถูกถามรู้สึกเหมือนน้ำเย็นๆ ในอ่างกำลังกลายเป็นน้ำต้มเดือด

“...รู้สึก” คนที่ทำได้เพียงคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเอ่ยตอบ

“รู้สึกมากเท่าของผมหรือเปล่า”

ปลายนิ้วเลื่อนมาจนเกือบถึงตำแหน่งที่หางและร่างกายเชื่อมต่อกัน ก่อนปินจะค่อยๆ จับมันหมุนวนให้ฝุ่นรู้สึกจนต้องกัดริมฝีปาก

หมาขี้แกล้ง

“ว่าไงครับ รู้สึกเท่าของผมไหม”

“มะ ไม่”

“อืม ไม่มีประโยชน์แบบนี้งั้นถอดเลยดีไหม”

ถามไปอย่างนั้นหากแต่การกระทำกลับสวนทางกับคำพูด ส่วนที่อยู่ข้างในถูกดันให้ลึกขึ้นจนมือเล็กต้องวางลงบนแขนใหญ่เป็นการบอกให้หยุด

“อึก”

“แมวฝุ่นน่ารักจัง”

 ริมฝีปากร้อนร้ายประทับลงมาหลังจากคำพูดนั้นก่อนจะไล้เลียไปตามกลีบปากแผ่วเบาราวกับบอกให้เลิกกัดปาก ปินยอมหยุดการผลักดันสิ่งนั้นเข้ามาหากแต่มือกลับเลื่อนไปฟ้อนเฟ้นสะโพกบาง ไม่นานนักร่างสูงก็ผละออก จับฝุ่นให้ยันเข่าขึ้นแล้วดันให้ขยับไปค้ำแขนอยู่กับขอบอ่างแทนที่ตัวเอง

“มีปลอกคอแสดงว่าแมวตัวนี้มีเจ้าของ...ใช่ไหม”

เสียงกระซิบระผิวตรงตำแหน่งของสิ่งที่กำลังพูดถึง แผ่นอกแข็งๆ แนบชิดกับแผ่นหลังจนส่วนล่างรับรู้ได้ถึงส่วนที่ดุนดันขึ้นมา

“อือ”

“ตอบหน่อยได้ไหมครับว่าเจ้าของแมวฝุ่นชื่ออะไร”

“ปิน...”

“ผมอยากจะใจเย็น แต่มันทำได้ยากเหลือเกิน”

มือที่ลูบไล้ปลุกเร้าอารมณ์คนร่างเล็กผละออกไป หางสีชมพูที่ลอยล่องถูกเกี่ยวไปไว้ด้านข้าง ขณะที่ฝุ่นกำลังประมวลผลว่าความใจเย็นที่ปินพูดหมายถึงเรื่องใด บางส่วนก็คลืบคลานเข้ามาในตัว

“อึก”

เข้ามาทั้งที่ส่วนหัวของหางยังอยู่ในกาย...

“เจ็บไหมครับ”

ฝุ่นส่ายหน้า

มันไม่เจ็บ แต่รู้สึกได้มาก รู้สึกทุกการเคลื่อนไหวของสองสิ่งที่เบียดกันอยู่ข้างใน

“ฝุ่นคิดถึงผมไหม”

ใบหน้าคนถามยังคงระบายยิ้มอ่อนโยน แตกต่างจากส่วนล่างที่ไม่อ่อนโยนต่อคนรองรับเลยสักนิด

“อะ อื้อ”

“คิดถึงผมไหม” ถามย้ำอีกครั้งบ่งบอกว่าไม่พอใจเพียงเสียงรับคำ

“คะ คิดถึง”

พอตอบออกไปก็ได้รับการเติมเต็มขั้นสุด...

“ผมก็คิดถึง” ความคิดถึงมาพร้อมการขยับกาย

มือที่ดันอยู่กับขอบอ่างกำแน่น หัวใจสั่นไหวกับคำที่ได้ยิน ร่างกายสั่นไหวกับสิ่งที่ได้รับ

ยามปินขยับเข้ามาเติมเต็ม วัตถุเรียวรีก็จะถูกดันเข้าไปลึกยิ่งกว่า

“อื้อ”

ไม่ไหว...

“วันนี้จะเล่นกับแมวให้หายคิดถึงเลย”

หมาป่าผู้หิวโหยมองหางสีชมพูด้วยดวงตาวาววับ จากนั้นจังหวะเชื่องช้าเนิบนาบก็เปลี่ยนไป...

--

ร่างเพรียวที่สลบไสลไปเนิ่นน่านเริ่มขยับตัว เปลือกตาที่ปิดสนิทกระพือเปิด ความเมื่อยล้าที่ยังหลงเหลือเป็นสิ่งแรกที่รู้สึก ยามสายตาพร่ามัวเลื่อนไปข้างกายแล้วพบเพียงหมอนข้างและความว่างเปล่าฝุ่นจึงค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นนั่ง

สิ่งที่ปกปิดร่างกายอยู่คือเสื้อนอนตัวใหญ่ของอีกคน เมื่อขาเรียวตวัดลงไปยืนข้างเตียงปลายเสื้อจึงหล่นลงมาปกปิดในระดับหน้าขา

ฝุ่นเดินออกจากห้องนอน ได้ยินเสียงโทรทัศน์เปิดอยู่แว่วๆ จึงตรงไปทางนั้น

“ฝุ่นตื่นแล้วเหรอ”

คนที่เอนกายดูทีวีสบายๆ ในวันหยุดของตัวเองหันมาหาพลางขยับกายขึ้น หมาป่าตัวเมื่อวานหายไปแล้ว เหลือเพียงหมาโกลเด้นตัวเดิม

“กินข้าวหรือยัง” แม้ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายตื่นมาตอนไหน แต่เวลาเกือบเที่ยงนี้ก็ควรที่จะต้องมีอะไรตกถึงท้อง

“ผมกินนมจืดกับไข่ก่อนจะไปออกกำลังกายตอนสายๆ”

“ฟิตขนาดนั้นเลย” ร่างของคนถามทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน

“ได้รับพลังงานจนเต็มหลอดแล้ว ให้ไปปีนเขายังไหว”

ฝุ่นโคลงหัวด้วยความอ่อนใจ นึกถึงปารินทร์อีกคนในเมื่อคืนแล้วแทบนึกถึงหมาตัวนี้ไม่ออก

แต่ก็ชินเสียแล้ว ปินก็เป็นอย่างนี้...เวลานั้นจะเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ แบบที่ยังคงความเป็นหมาอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนไปเป็นหมาป่าก็เท่านั้น

“งั้นเดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะทำมื้อเที่ยงให้” ฝุ่นตั้งท่าจะหยัดกายลุกขึ้นเพื่อกลับไปอาบน้ำในห้อง

“เดี๋ยวก่อนฝุ่น” ทว่ามือหนากลับเอื้อมมารั้งข้อมือไว้เบาๆ ให้กลับมานั่งลงเช่นเดิม

“มีอะไร”

คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยด้วยความสงสัย ก่อนคนที่เรียกเอาไว้จะตอบคำถามด้วยการทาบทับริมฝีปากเข้าหา จากนั้นจึงเลื่อนปลายจมูกไปกดลงตรงข้างแก้มแผ่วเบา

“ขอบคุณสำหรับแมวฝุ่นครับ” ปินผละออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้มหวานละมุน

“...อืม” คนถูกขอบคุณทำเพียงรับคำพลางหยัดกายขึ้นแล้วก้าวเร็วๆ ไปทางห้องนอน ไม่เปิดโอกาสให้ปินรั้งเอาไว้ได้อีกครั้ง
ร้ายกาจ

ไม่ว่าจะเป็นหมาปิน หรือหมาป่าปิน ก็ร้ายกาจทั้งนั้น



“ห้องเก็บของจะเต็มอีกแล้วนะ” ฝุ่นเอ่ยขึ้นเมื่อจัดของมากมายที่ปินได้จากแฟนคลับให้เข้าที่แล้วเรียบร้อย

ห้องสำหรับเก็บของเหล่านี้โดยเฉพาะไม่มีพื้นที่ให้สามารถยัดอะไรเข้ามาได้อีก

“ผมว่าจะบอกแฟนคลับแล้วว่าไม่รับของ รับแต่จดหมายก็พอ”

“ควบคุมได้เหรอ”

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คงดีขึ้นกว่านี้...ผมอยากให้เขาเอาเงินไปทำอะไรที่มีประโยชน์กับตัวเอง หรืออะไรที่มีประโยชน์กับคนที่เขาขาดแคลนจริงๆ”

ปินคิดเรื่องนี้มาแล้วสักพัก คงถึงเวลาที่ต้องบอกออกไปอย่างจริงจัง

“ก็ลองดู” ฝุ่นให้การสนับสนุน

หลังจากปินบันทึกภาพในห้องด้วยมือถือเสร็จ คนทั้งสองก็ออกจากห้องแล้วกลับมายังหน้าทีวีเช่นเดิม

“ไม่ได้มีเวลาว่างมานาน รู้สึกแปลกๆ จังแฮะ” คนที่กำลังอัพไอจีสตอรีเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนคลับเอ่ยขึ้น

“อยากทำงานตลอด?”

“เปล่า แต่แค่ไม่ชินนิดหน่อย เดือนหน้าก็คงจะยุ่งแบบมากๆ ยาวไปถึงปลายปีเลย”

โทรศัพท์ในมือถูกวางลง เมื่อคิดถึงคิวงานอันแน่นเอี๊ยดแล้วปินก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้

“เพลงใกล้เสร็จแล้วเหรอ”

“อื้อ พรุ่งนี้น่าจะสมบูรณ์ เดี๋ยวผมจะเปิดให้ฝุ่นฟังคนแรกเลย”

ฝุ่นยิ้มรับ ก่อนจะสะดุ้งให้กับหัวที่ทิ้งลงมานอนบนตักโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

“ผมชอบเวลาว่างที่ได้อยู่กับฝุ่นแบบนี้” คนพูดหลับตาลงพร้อมทั้งเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มผ่อนคลาย

ความเหนื่อยล้าวุ่นวายถูกวางลงจากบ่าชั่วคราว การได้ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาเป็นสิ่งที่ปินแสนชื่นชอบ

ความฝันและความรักต้องแลกมาด้วยความสงบสุข หลายครั้งที่ชายหนุ่มก็ถามตัวเองว่ามันคุ้มค่าจริงหรือเปล่า

“มีงานทำเยอะๆ ก็ดีกว่าไม่มีงาน” มือบางสางผมเส้นหนาไม่เป็นทรงให้คนบนตักแผ่วเบา

คนตรงหน้านี้ต้องเหนื่อยแค่ไหน ฝุ่นรู้และเห็นมันทั้งหมด

“ก็คงอย่างนั้น แต่บางทีก็อยากไม่มีงานเหมือนกัน” เสียงหัวเราะทุ้มดังตามมา

“ตอนนี้มีโอกาสก็ต้องคว้าไว้ก่อน ค่อยพักตอนสามสิบสี่สิบก็ยังไม่สาย”

“นั่นสิ...เอ้อ ผมว่าจะถามหลายครั้งแล้ว เห็นฝุ่นเปรยๆ ว่าอยากเรียนทำขนม ดูที่ไหนไว้หรือยัง” เปลือกตาที่ปิดลงก่อนหน้าลืมขึ้นมองคนด้านบนยามเอ่ยถาม

“ก็ดูไว้บ้างแล้ว”

“เอาสิ อยากสมัครที่ไหนก็สมัครเลย จะได้ไม่เบื่อตอนผมไม่อยู่ด้วย”

“ใครเบื่อ ไม่มีหมาคอยกวนสบายจะตาย” คราวนี้คนนอนขยับลุกพรวดขึ้นมานั่ง ดวงตาหรี่ลง คิ้วขมวดเข้าหากัน

“แน่ใจนะ?”

“แน่” ปินยกยิ้ม เก็บซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้ข้างใรในจากนั้นจึงพูดออกมา

“งั้นฝุ่นคงจะสบายมากเลย หลังจากโปรโมตเพลงนี้เสร็จผมต้องบินไปทำงานที่จีนสองเดือน” คนแสนจะสบายชะงักกึกกับคำว่าสองเดือนที่ได้ยิน

และแน่นอนว่าท่าทางนั้นไม่อาจรอดพ้นสายตาคนที่จับจ้องอยู่ก่อนแล้ว

ต้องไปทำงานที่จีนจริง แต่ไปเพียงสองอาทิตย์เท่านั้น

“ก็...ดีสิ แบบนั้นยิ่งสบายมากๆ”

สบายมากแต่เสียงกลับเบาลงโดยไม่รู้ตัว

“อืม ฝุ่นสบายก็ดีแล้ว ยังไงก็อย่าลืมสมัครเรียนทำขนมนะ ผมจะได้จัดการเรื่องค่าเรียนให้”

ปินไม่คิดแกล้งอีกคนมากไปกว่านั้นจึงวกกลับไปเรื่องที่ยังคุยค้างเอาไว้

ใกล้ถึงเวลาจะไปค่อยแกล้งอีกหน่อย

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวจ่ายเอง”

“ผมบอกว่าจัดการให้ก็คือจะจัดการให้”

ใครว่าหมาตัวนี้เชื่องและเชื่อฟังคนง่าย ความดื้อรั้นในตัวปินมีไม่น้อยเลยล่ะ เช่นในยามนี้ที่ท่าทางของเจ้าตัวบ่งบอกชัดว่าจะไม่ยอมให้จ่ายเงินค่าเรียนเอง

“งั้นก็ตามใจ” ฝุ่นได้แต่รับคำอย่างจำยอม “แล้ว...จะไปทำอะไรที่จีน”

ปินคงระบายยิ้มกว้างจนเต็มหน้าหากไม่พยายามกลั้นเอาไว้ สุดท้ายฝุ่นก็ไม่อาจอยู่สบายได้ตามที่ปากพูด น้อยครั้งมากกับการที่จะถามกันถึงเรื่องรายละเอียดงาน เจ้าตัวคงไม่รู้ว่ากำลังเผยท่าทีอะไรออกมา

“ก็ไปโปรโมตเพลงแล้วก็เตรียมตัวสำหรับแฟนมีตติ้ง”

“อืม”

รับคำแล้วก็เลื่อนสายตาไปยังหน้าจอ ทำทีเป็นไม่สนใจเรื่องนี้ต่อแล้วทว่าความเป็นจริงในหัวกลับคิดถึงเรื่องระยะเวลาสองเดือนไม่หยุด

สองเดือนเลยเหรอ...นานไปหรือเปล่า

“ฝุ่น”

“หืม” คนถูกเรียกขานรับพร้อมทั้งหันไปหา ต่อมาริมฝีปากของปินก็ฉกวูบเข้ามาแนบชิด แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ อีกคนถึงจูบกันแต่ฝุ่นก็ตอบรับสัมผัสนี้กลับไปด้วยความเต็มใจ

“เรามาเล่นเกมกันดีไหม”

ปินถามขึ้นหลังจากผละริมฝีปากออก โดยที่ฝุ่นถูกจับให้ขยับขึ้นมานั่งบนตัก

“เกมอะไร”

“เกมพูดความจริง”

“ยังไง”

“เราจะสลับกันถามคนละสามคำถาม แล้วต้องสัญญาว่าจะตอบแต่ความจริงเท่านั้น”

“เล่นก็เล่น”

“งั้นผมเริ่มนะ” ฝุ่นพยักหน้ารับ

“ฝุ่นชอบให้ผมจูบตรงไหนมากที่สุด”

ถามออกไปพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ส่วนคนถูกถามก็ย่นจมูกใส่คนถามทันทีที่ได้ยิน

“ทำไมถึงต้องถามคำถามนี้”

“เอ้า ก็ผมอยากรู้...ตอบตามความจริงนะครับ ถ้าฝุ่นโกหกถึงผมจะไม่รู้แต่เทวดารู้นะ”

“ไม่ต้องพูดขนาดนั้นก็ตอบอยู่แล้ว ไม่ใช่คนชอบโกหกสักหน่อย”

“งั้นก็ตอบมา ผมรอฟังอยู่” คนรอฟังยิ้มกริ่ม ขณะที่ฝุ่นใช้เวลาคิดคำตอบอยู่ชั่วครู่

“ขา...”

คำตอบนั้นแสนจะธรรมดา ทว่าคนที่รู้ตำแหน่งของขาส่วนที่ว่านี้ดีทำสายตาแพรวพราว ส่วนคนตอบก็เบือนสายตาหนีไปทางอื่นเป็นที่เรียบร้อย

“เหมือนจะตกไปคำนึงนะ ฝุ่นต้องบอกว่าตรงซอกขา”

“มันก็เป็นขาไหมล่ะ” ตอบกลับเสียงสะบัดอย่างกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง

“อะๆ โอเค งั้นตาฝุ่นถามบ้าง”

คนที่มองไปทางอื่นดึงสายตากลับมา ครุ่นคิดคำถามยามมองหน้าปารินทร์ไปด้วยว่าอะไรจะเป็นสิ่งที่ตัวเองอยากรู้จากคนคนนี้

“ถ้าไม่ได้เป็นนักร้องจะเป็นอะไร”

“อืม...เอาจริงนะ ผมไม่รู้เลย ผมเกิดมาพร้อมกับการชอบร้องเพลง เสียงคือสิ่งเดียวที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้และเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดในชีวิต”

พ่อของปินเสียไปแล้วตั้งแต่ชายหนุ่มยังเป็นเด็ก

พ่อที่สอนให้ร้องเพลง พ่อที่มอบเสียงอันนุ่มทุ้มนี้ให้...

“ถ้าจะให้เลือกจริงๆ ล่ะก็...ผมคงจะเป็นจิตรกรเหมือนแม่ล่ะมั้ง”

ส่วนฝีมือด้านการวาดภาพที่ไม่เลวร้ายนักได้รับมาจากคนเป็นแม่ ถึงแม่จะไม่ใช่จิตรกรชื่อดังแต่ก็เลี้ยงเขากับน้องมาได้ด้วยเงินจากตรงนั้น

“ยังไงก็ยังอยู่ในสายศิลปินสินะ”

“ก็พ่อกับแม่เป็นศิลปินทั้งคู่เลยนี่นา...ตาผมถามฝุ่นแล้ว”

“ว่ามาสิ”

“ฝุ่นชอบส่วนไหนในร่างกายผม”

“ทำไมมีแต่คำถามเทือกนี้” ฝุ่นขมวดคิ้วมุ่น ไม่เพียงแต่คำถามแต่มือซุกซนก็เริ่มไต่เข้ามาภายในเสื้อเป็นที่เรียบร้อย

“ก็ผมอยากรู้”

“...”

“ตอบเร็ว”

“เอว”

“เอวผมดีเหรอ”

ปึก

“ทะลึ่ง” เสียงก่อนหน้าคือมือที่ฟาดลงบนหน้าอกของปิน ตามมาด้วยคำที่ว่าตามลำดับ

“ก็ฝุ่นตอบแบบนี้จะให้ผมคิดยังไง” เสียงหัวเราะทุ้มดังในลำคอ

“ไม่ใช่แบบที่คิดก็แล้วกัน”

“แล้วเพราะแบบไหน”

“จะตอบถ้ามันเป็นคำถามที่สาม”

ปินถอนหายใจให้กับความเคี่ยวของอีกคน และมันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่คำถามที่สามถูกคิดเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น

“ไว้ผมค่อยหลอกถามฝุ่นก็ได้” ฝุ่นยักไหล่ตอบกลับเพราะคิดว่าจะไม่หลุดคำตอบนี้ออกไปโดยง่าย

ใครจะบอกกันล่ะว่าที่ชอบเอวเพราะเวลากอดมันเหมาะเจาะกับแขน ไม่รู้สิ...เขาชอบกอดปินโดยการสอดทั้งสองแขนโอบรอบเอว ซบหน้าเข้ากับแผ่นอกหรือแผ่นหลังกว้างอยู่อย่างนั้น

“แล้วคำถามที่สองของฝุ่นล่ะ”

“เคยอยากเลิกเป็นนักร้องบ้างไหม”

“ทำไมคำถามของฝุ่นมีแต่คำถามยากๆ” คนถูกถามขมวดคิ้ว

“ยากตรงไหน”

“ตรงนี้แหละ...ผมยอมรับว่าก็มีบ้างนะ บางทีมันเหนื่อยมาก ทำงานเยอะมาก มีกฎเกณฑ์เยอะแยะไปหมด แต่มันก็ถูกตัดไปด้วยความคิดที่ว่าผมอยู่ตรงนี้เพราะอะไร มีหลายคนที่อยากเป็นแบบนี้แต่ก็ไม่มีโอกาส ถือว่าตัวเองโชคดีมากแล้ว ผมคงจะเลิกเป็นนักร้องในตอนที่เพลงของผม เสียงของผม ไม่ได้ทำให้คนฟังมีความสุขอีกต่อไป”

ฝุ่นจับจ้องประกายในดวงตาของปินโดยไม่ละไปไหนเลยสักวินาที ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ปินจะจริงจังเสมอเพราะความรักที่มีต่อการร้องเพลงอย่างเต็มเปี่ยม

“เหลือคำถามสุดท้ายของปินแล้ว” ฝุ่นเอ่ยขึ้น

“ถามอะไรดีนะ~” ปินแสร้งทำเป็นคิดเล็กน้อย

“คิดไม่ออกก็ไม่ต้องถาม”

“ใจเย็นๆ สิ...ผมคิดออกแล้ว”

“...”

“ตอนผมไม่อยู่ฝุ่นคิดถึงผมเวลาไหนบ้าง”

นี่ต่างหากคือสิ่งที่อยากรู้ที่แท้จริง

ฝุ่นที่เพิ่งรู้ตัวว่าตกหลุมหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าให้นั่งนิ่งงัน นึกอยากจะทุบอีกคนหลายๆ ทีให้กับความเจ้าแผนการนี้ทว่าเมื่อพูดออกไปแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น

“ที่ให้เล่นเกมเพราะอยากถามคำถามนี้สินะ”

“ทำไมฝุ่นเก่งจัง”

ยังมีหน้ามายิ้มระรื่นตอบ

“หลายเวลา” แต่ฝุ่นยังฉลาดพอที่จะตอบคำถามแบบไม่โกหกและไม่เข้าเนื้อตัวเอง

“ทุกเวลาเลยหรือเปล่า” ถึงจะพอใจกับคำตอบแต่ปินก็ยังอยากได้ยินมากกว่านั้น

“ครบสามคำถามแล้ว”

“โธ่ฝุ่น”

“ไม่ต้องมาโธ่ ตัวเองพูดเองก็ต้องคำไหนคำนั้นสิ”

ปินมองหน้าคนแสนใจร้าย จากนั้นจึงขยับไปกัดริมฝีปากบางเล็กตรงหน้าด้วยความมันเขี้ยว

“อื้อ เจ็บ”

“ผมจะกัดฝุ่นทุกที่เลย”

“พอก่อน ยังเหลืออีกคำถาม”

“ผมให้เวลาสามวินาที” จากปากก็เลื่อนลงไปที่คอแล้วเรียบร้อย

จะกัดให้สมกับที่ฝุ่นชอบเรียกว่าหมาปิน

“แล้วปินล่ะ”

“หืม?”

“ตอนไปทำงานคิดถึงกันเวลาไหนบ้าง”

คำถามนั้นทำให้ปินชะงัก ปากที่คลอเคลียอยู่กับซอกคอบางผละออกห่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกคน

และเป็นอีกครั้งที่ฝุ่นหลบสายตาด้วยการทำเป็นมองอย่างอื่น

“ทุกเวลา”

“...”

“ผมคิดถึงฝุ่นทุกเวลานั่นแหละ”

ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง ไม่อยากคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันจะเป็นมากกว่าคนดูแลและคนถูกดูแล

แต่สองปีที่ผ่านมามันสร้างความรู้สึกและความผูกพันให้ลึกๆ แล้วฝุ่นปรารถนาในสิ่งที่ไม่ควรปรารถนา

สิ่งที่กำลังทำให้ใจเต้นแรงในตอนนี้...สิ่งที่ไม่รู้เลยว่าปินคิดอะไรกับคำพูดนั้นมากน้อยแค่ไหน

ไม่รู้และไม่กล้าคิด


To be continued.

มาต่อตอนที่ 2 แล้วนะคะะะ
ฝากแท็ก #secrecyลับรัก
ฝากหมาปินกับแมวฝุ่นด้วยน้า


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 14-07-2018 23:05:09
โอ๊ยยยยยยยย จะเปงล๊มมมมมมมมมมมมม :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-07-2018 23:35:39
แมวฝุ่น....งุ้ย อยากเห็น   :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 14-07-2018 23:53:10
ไม่อยากให้ดราม่าเลย อยากให้มีเเต่ความน่ารัก เเต่ก็ชอบค่ะ (ดราม่าน้อยๆนะคะ)
ขอบคุณค่ะคุณโซแอล
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-07-2018 00:24:42
คำตอบสุดท้าย ตายอย่างสงบ  :heaven
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 15-07-2018 00:43:51
พี่ฝุ่นคนซึนต้องให้ปินง้างปากบ่อยๆซะแล้วว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 15-07-2018 01:52:23
เขินเป็นพิเศษ เวลาที่ปินพูดครับ  :o8:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 15-07-2018 01:55:06
 :pighaun: อมจีย์!! ร้อนแรงมากเลยเหมียวฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-07-2018 05:08:53
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 15-07-2018 10:19:03
หื้ออออ น่ารักมากเลยยยยยย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-07-2018 12:00:18
ทำไมมัน่ารักน่าฟัดขนาดนี้น่ะ
ฉากแม่แมวสั้นจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 15-07-2018 13:16:40
เขิลๆๆๆๆ :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 15-07-2018 19:07:34
นุ้งเหมียวววววววววววว  :hao6:
น่ารักๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 16-07-2018 02:38:50
โอ้ยยย เขินน 5555
หมาโกลเด้นกลายเป็นหมาป่าไปแล้วว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 17-07-2018 05:46:20
Hot!!   :m25:
เพราะความคิดถึงสินะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 17-07-2018 07:51:10
 :haun4:
ตอนฝุ่นบอกว่าชอบเอวของปิน คิดดีไม่ได้เลย อร๊ายยยย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 17-07-2018 19:51:15
น่ารักๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Two.] : 14/07/2561 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 17-07-2018 23:23:03
ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 05-09-2018 20:27:51
Chapter Three.

ขาหมูถูกตุ๋นจนเปื่อยในน้ำต้มยำที่ถูกปรุงได้อย่างลงตัวเดือดปุดๆ อยู่ในหม้อ มือเล็กใช้ช้อนตักน้ำขึ้นมาชิมรสชาติเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ก่อนใบหน้าจะแสดงออกว่าพึงพอใจ ต่อมาเตาจึงถูกปิด ผักชีซึ่งถูกหั่นเตรียมไว้ในจานถูกลงโรยใส่ในหม้อเป็นลำดับสุดท้าย

ต้มยำขาหมู...ของโปรดปิน

หมับ

“อื้อ หอม” เสียงพูดข้างหูมาพร้อมกับท่อนแขนที่สอดมารัดรอบเอว ใบหน้าของปินซุกอยู่กับไหล่เล็ก เสียงเอ่ยแหบพร่าอย่างคนเพิ่งตื่น

“หอมก็รีบไปอาบน้ำ จะได้กินข้าว” ฝุ่นคนต้มยำในหม้ออีกเล็กน้อยจากนั้นจึงวางทัพพีลงบนจานข้างๆ เตา

“ง่วง” หมาน้อยงอแง

“ใครบอกให้เล่นเกมจนดึกดื่น”

“ก็นานๆ ผมจะได้พัก”

“แล้วสรุปนี่จะนอนต่อหรือกินข้าว”

คนถูกกอดหมุนตัวกลับไปหาคนด้านหลัง ขณะที่ปารินทร์ยังคงยืนตาปรือคล้ายกับจะหลับต่อทั้งอย่างนี้

“ฝุ่นทำต้มยำขาหมูแบบนี้จะนอนต่อได้ยังไง”

แม้จะพูดแบบนั้นแต่ดวงตาของคนง่วงก็ยังไม่ลืมขึ้น ฝุ่นได้แต่ส่ายหัวให้กับท่าทางที่เหมือนเด็กน้อยนี้อย่างอ่อนใจ มือเล็กยกขึ้นวางประกบแก้มของปินเอาไว้ทั้งสองข้าง

“ถ้าง่วงมากก็นอน ค่อยตื่นมากินก็ได้”

“ผมทั้งอยากนอนและอยากกินในเวลาเดียวกัน ทำยังไงดี” ดวงตาเรียวรีลืมขึ้นหนึ่งข้างพร้อมทั้งหัวเราะน้อยๆ ขณะที่ฝุ่นถอนหายใจดังเฮือก

“งั้นก็ไปกินในความฝัน” ประโยคนี้เรียกเสียงหัวเราะจากคนฟังให้ดังขึ้น

“ฮ่ะๆ ผมอาบน้ำก่อนดีกว่า จะได้รู้สึกตื่นกว่านี้”

“อืม” ฝุ่นรับคำ ทว่าคนที่บอกจะไปอาบน้ำกลับไม่ได้ผละออก ท่อนแขนที่ยังโอบรอบเอวกระชับขึ้นอีกจนร่างกายแนบชิดกันยิ่งกว่าเดิม จากนั้นปลายจมูกโด่งก็กดลงบนแก้มเนียนทั้งด้านซ้ายและขวา

“ตอบแทนสำหรับต้มยำขาหมู” ปินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ตอบแทนหรือเอาเปรียบกันแน่”

“ตอบแทนสิ หอมของปิน ปารินทร์ นักร้องซูเปอร์สตาร์เชียวนะ” พูดเองก็หลุดหัวเราะเอง

“ไม่เห็นจะอยากได้” ฝุ่นแสร้งทำหน้าเอือมระอาทั้งที่ข้างในนั้นกำลังยิ้ม

นั่นสิ ถูกปินหอมทั้งที่นี่นะ

“โธ่ แกล้งพูดเอาใจผมหน่อยก็ได้”

“เลิกเล่นแล้วไปอาบน้ำได้แล้ว”

ต้องทำเป็นพูดด้วยเสียงเข้มขึ้นเจ้าหมาตัวโตถึงได้ยอมปล่อยแล้วขยับถอยหลัง

“ไปจริงๆ แล้ว”

ฝุ่นมองตามแผ่นหลังกว้างไปกระทั่งลับสายตารอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นบนใบหน้า อีกหนึ่งวันหยุดของปินที่จะได้ใช้เวลาร่วมกันทั้งวัน เป็นอะไรที่ดีเหลือเกิน

ดีกว่าอยู่คนเดียวมากโขเลยล่ะ



‘หากได้ยินคำนั้น แล้วต้องสูญเสียทุกอย่าง
หากได้ฟังคำนั้น แล้วฉันไม่เหลืออะไร
หากว่าเธอรู้สึก อย่างที่ฉันวาดฝันเอาไว้
ต่อให้โลกต้องแตกสลาย ต่อให้โลกนี้พังทลาย
...ฉันยอม’


“เพราะไหม ฝุ่นชอบหรือเปล่า”

“...”

“ฝุ่น”

“หะ หือ” คนถูกเรียกสะดุ้งเล็กน้อยพลางดึงสายตาซึ่งไม่รู้ว่าโฟกัสอยู่ที่ไหนให้กลับมาสนใจใบหน้าของคนข้างตัว

“ผมถามว่าเพราะไหม ไม่เพราะเหรอ?”

ท่าทางนิ่งเงียบนั้นทำให้คนที่คาดหวังเริ่มใจแป้ว คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน รู้สึกเหมือนประกาศผลสอบแล้วคะแนนออกมาน้อยทั้งที่คิดว่าตัวเองทำข้อสอบได้

“เพราะสิ เพราะมาก ดีมากเลย” ฝุ่นพูดจากใจจริง จากความรู้สึกทั้งหมดโดยไม่ได้อวยปินเลยแม้แต่น้อย

เสียงของดนตรี เสียงของปิน ทุกท้วงทำนองและเนื้อร้อง...มันดีมากจริงๆ

“ไม่ต้องกลัวว่าผมจะเสียใจ ถ้ามันไม่ดีฝุ่นก็พูดออกมาเลย ผมพร้อมฟัง” คราวนี้กลายเป็นฝุ่นที่ขมวดคิ้ว

“ที่พูดเนี้ยไม่ได้พูดเอาใจ เพลงมันเพราะจริงๆ...ทำไม ไม่เชื่อเหรอว่าพูดจริง” ปลายหางเสียงเข้มขึ้นคล้ายกับไม่พอใจจนปินต้องรีบเอ่ยเสียงเบา

“ก็ตอนแรกฝุ่นทำเหมือนไม่ชอบ”

“ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

“สรุปว่าเพราะใช่ไหม”

เมื่ออีกคนยืนยันว่าอย่างนั้นจึงลองถามย้ำเพื่อความมั่นใจ ความกังวลก่อนหน้านี้ค่อยๆ เบาบางลง

“อื้อ ก็ต้องเพราะอยู่แล้ว ทุกคนตั้งใจขนาดนี้”

เพราะอยู่ด้วยกันจึงเห็นถึงความตั้งใจอันมากมายของปิน และไม่ใช่เพียงแค่คนเบื้องหน้าแต่คนเบื้องหลังก็ทุ่มเทกับทุกรายละเอียดไม่แพ้กัน

“ผมก็ตั้งใจ”

“รู้แล้ว”

“งั้นขอรางวัลให้คนตั้งใจหน่อย”

ใบหน้าคนพูดขยับเข้ามาใกล้ ดวงตาเปล่งประกายคล้ายกับลูกหมาตอนเห็นกระดูก ท่าทีดูทะเล้นจนฝุ่นถอนหายใจใส่

“เล็กๆ น้อยๆ ก็เอานะคนเรา”

“เอาหมดแหละ แม่สอนให้เป็นคนรู้คุณค่าของทุกอย่าง”

ฝุ่นถึงกับส่ายหัวให้กับคนที่ยกแม่ขึ้นมาอ้าง อ่อนใจกับความตอดเล็กตอดน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมตามใจด้วยการเคลื่อนหน้าเข้าไปจูบ เพียงแค่ริมฝีปากแตะกันเสียงดูดดึงก็ดังขึ้น สัมผัสอ่อนหวานดำเนินไปยาวนานกว่าที่ตั้งใจเพราะหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์

“พอเลย เดี๋ยวก็เลยเถิด”

มือบางดันอกปินเอาไว้นิดๆ เบรกจูบที่กำลังจะนำพาอารมณ์บางอย่างไปไกลให้หยุดอยู่เพียงเท่านี้

“แล้วเลยเถิดไม่ได้เหรอ”

เสียงเอ่ยถามเจือความเว้าวอน ดวงตาเรียวรีจับจ้องมองปากสีสดที่ฉ่ำไปด้วยน้ำสีใสจากตัวเองโดยไม่วางตา

“ก็ได้อยู่แล้ว แต่อยากให้พักผ่อนมากกว่า”

ประโยคนั้นทำให้ปินถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะดึงสายตาให้เลื่อนขึ้นไปสบกับคนพูด

“นี่ไง ผมพักอยู่”

“นอนให้เยอะๆ นอนชดเชยช่วงเวลาที่จะไม่ได้นอน”

“ฝุ่นพูดซะผมเห็นภาพ” ปินทำหน้าขยาดพร้อมทั้งเอนตัวกลับมานั่งหลังตรง จากนั้นจึงทิ้งน้ำหนักไปยังพนักโซฟาด้านหลังอย่างหมดแรง

แค่พูดเรื่องงานก็เหนื่อยขึ้นมาทันใด

“ก็มันจริง เวลาทำงานได้นอนวันละกี่ชั่วโมงกัน...ดูแลตัวเองให้มากๆ ใช้ร่างกายหนักขนาดนี้สักวันจะป่วยเอา”

“ครับ แม่ครับ จะนอนแล้วครับ”

ถ้อยคำกึ่งประชดประชันนั้นได้รับสายตาเขียวปั๊ดตอบกลับ ฝุ่นมองแรงเสียจนคนพูดไม่อาจควบคุมความขันของตัวเองเอาไว้ได้

“ฮ่ะๆ เดี๋ยวผมเอาไอแพดไปเก็บแล้วเอาผ้าห่มกับหมอนออกมาปูนอนดีกว่า อยากนอนบนพื้น จะได้ดูทีวีไปด้วย”

การแกล้งคนร่างเล็กถูกหยุดไว้เพียงเท่านั้นก่อนปินจะเอ่ยไปอีกเรื่องพลางดึงตัวออกจากพนักโซฟาแล้วหยิบไอแพดมาไว้ในมือ

“เอาไอแพดไปเก็บเถอะ เดี๋ยวไปเอาผ้าห่มกับหมอนมาให้”

ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ ปินรับคำด้วยการพยักหน้าจากนั้นจึงหยัดกายขึ้น ฉวยโอกาสที่อีกคนเผลอก้มลงไปหอมแก้มนิ่มเร็วๆ แล้วเดินไปทางห้องทำงานโดยมีเสียงบ่นดังตามหลังมาให้ได้ยกยิ้ม



“อื้อ แบบนี้จะเอาหมอนข้างมาทำไม” ฝุ่นส่งเสียงในลำคอพร้อมทั้งดิ้นน้อยๆ ทว่าแรงรัดรอบตัวก็ไม่ได้คลายออกแม้แต่นิดเดียว

“นั่นสิ มีฝุ่นหมอนข้างก็ไม่จำเป็นแล้ว”

คนที่นอนกอดหมอนข้างประจำกายเอ่ยตอบท่าทีสบายๆ สวนทางกับคนถูกกอดที่อึดอัดจนแก้มแดงเรื่อ

“ไม่เห็นต้องกอดแน่นขนาดนี้ หายใจไม่ออก”

“อ้าว อย่างนี้ต้องผายปอด”

ใบหน้าที่ตั้งท่าจะจู่โจมเข้ามาทำให้ฝุ่นรีบมุดหลบเป็นพัลวันพร้อมทั้งส่งเสียงโวยวายไม่หยุด

“หยุดนะปิน ถ้าไม่เลิกแกล้งจะงดจูบหนึ่งอาทิตย์”

กึก

“โอเคๆ บทลงโทษฝุ่นนี่โหดชะมัด” เพราะรู้ถึงความเด็ดขาดของอีกคนดีการแกล้งจึงชะงักราวกับถูกกดปุ่มหยุด

ปินคลายอ้อมแขนออกเหลือเป็นเพียงกอดหลวมๆ ให้ฝุ่นได้มีพื้นที่ในการหายใจมากขึ้น

จริงอยู่ที่อีกคนช่างเอาใจทั้งด้วยหน้าที่และนิสัยส่วนตัว แต่หากฝุ่นได้พูดคำไหนทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น ไม่มีอ่อนข้อ ฉะนั้นหากไม่หยุดคงไม่ได้จูบเจ้าตัวเป็นอาทิตย์จริงๆ

แบบนั้นได้ใจขาดตาย

“ก็ชอบแกล้งกันนัก” ฝุ่นบ่นทั้งยังหอบหายใจจากการดิ้นเล็กน้อย

“ฝุ่นน่าแกล้งนี่” หมาตัวใหญ่ยิ้มแฉ่ง

“น่ากงน่าแกล้งอะไรล่ะ จะนอนก็นอนจะดูหนังก็ดูหนัง ห้ามเล่นอีก เข้าใจไหม”

“เข้าใจครับบบ”

ฝุ่นได้แต่ส่ายหัวด้วยความอ่อนใจแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเอียงหัวกลับไปซบอกกว้างของคนขี้แกล้งแล้วนอนดูหนังไปด้วยกันอย่างเงียบๆ

วันหยุดของซูเปอร์สตาร์ก็มีเพียงเท่านี้

--

เมื่อเพลงใหม่ถูกปล่อยออกไปตารางงานของปิน ปารินทร์ ก็หฤหรรษ์จนแทบไม่มีเวลาแม้แต่เข้าห้องน้ำ บางคราวก็ได้กลับมาพักที่ห้องชุดสุดหรูบ้างหากสถานที่ทำงานอยู่ใกล้ จึงยังพอมีเวลาเห็นหน้าฝุ่นให้ได้ชื่นใจนิดๆ แม้จะเป็นเพียงเวลาไม่กี่นาทีก็ตาม

“เดือนนี้ไม่มีวันหยุดนะ แต่พี่ก็พยายามจัดตารางให้ปินได้กลับไปพักที่ห้องบ่อยๆ นอนอยู่แต่ในรถแบบนี้คงเบื่อตาย”

“อืม” คนที่หลับตาพักอยู่ทำได้เพียงส่งเสียงรับในลำคอเพราะอ่อนล้าเกินกว่าจะพูดอะไร ขณะที่คนเป็นผู้จัดการก็ได้แต่มองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความเห็นใจ ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้

เป็นเวลากว่าเที่ยงคืนกับการเล่นดนตรีที่เพิ่งเสร็จสิ้น ปินไม่อาจกลับไปพักที่ห้องเนื่องจากสถานทำงานของพรุ่งนี้เช้าอยู่ไกลกันไม่น้อย ที่นอนในค่ำคืนนี้จึงต้องเป็นรถนอนซึ่งมีทุกอย่างครบครันอย่างที่เจ้าตัวแสนจะคุ้นเคย

“เดี๋ยวพี่ไปหาน้ำผึ้งมะนาวมาให้จิบ”

ปินได้แต่พยักหน้ารับ กระทั่งสัมผัสได้จากการเคลื่อนไหวว่าผู้จัดการลงจากรถไปแล้วจึงค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นพลางบิดขี้เกียจเพื่อคลายความเมื่อยล้าของร่างกาย

เหนื่อย...อยากคุยกับฝุ่น

รู้สึกแล้วก็ไม่รอช้าที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอีกคน

“ทำงานเสร็จแล้วเหรอ” รอเสียงสัญญาณดังเพียงไม่กี่ครั้งปลายสายก็กดรับจนคนโทรหายกยิ้ม

“รอโทรศัพท์ผมอยู่เหรอ”

“...เปล่าสักหน่อย” เอ่ยปฏิเสธหากแต่เสียงกลับเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อถือ

“แล้วนี่ทำไมยังไม่นอน” เพราะมีเวลาคุยไม่มากนักปินจึงไม่เซ้าซี้เรื่องนั้นต่อ

“ก็ยังไม่ง่วง”

“ทำไมยังไม่ง่วง”

“ก็ยังไม่ง่วง จะให้ว่ายังไงล่ะ” น้ำเสียงนั้นกระเง้ากระงอด บ่งบอกว่าคนถูกถามจี้เริ่มไม่พอใจ

ไม่พอใจที่กำลังจะถูกต้อนให้จนมุม

“นึกว่าที่ยังไม่ง่วงเพราะผม”

ใบหน้าของปินประดับด้วยรอยยิ้มบาง ขณะในหัวกำลังจินตนาการถึงสีหน้าของคนในสายไปพร้อมกัน

คิดถึง

“ไม่เกี่ยวสักหน่อย”

“คิดถึงผมไหม”

“...” คนถูกถามนิ่งเงียบไปหลายวินาที กระทั่งเสียงทุ้มต้องเอ่ยเรียกอีกครั้ง

“ฝุ่น”

“หืม”

“นึกว่าสายหลุดไปแล้ว”

“ยังอยู่”

“สรุปคิดถึงผมไหม” ปินถามย้ำเมื่อยังไม่ได้คำตอบ

“คำตอบก็เหมือนทุกครั้งที่ถามนั่นแหละ”

“ฝุ่นก็พูดสิ ต่อให้ไม่ต่างจากทุกครั้งผมก็ยังอยากได้ยิน”

“...คิดถึง”

เพียงเท่านั้นรอยยิ้มบางก็กลายเป็นกว้างขึ้นจนเต็มหน้า ถึงแม้จะได้ยินคำนี้ทุกครั้งที่คุยกันแต่ความอิ่มเอมก็มีมากไม่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เลยสักนิด

“ผมก็คิดถึงฝุ่นนะ”

ขณะที่คำตอบกลับซึ่งเป็นคำเดิมก็ยังคงทำให้ฝุ่นใจเต้นได้เหมือนทุกครั้งเช่นเดียวกัน

“วันไหนจะได้กลับห้อง” ฝุ่นถามเสียงเบา

“พรุ่งนี้ก็ได้กลับแล้ว”

“จริงเหรอ” น้ำเสียงนั้นเจือความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด

“อื้ม แต่คงจะดึกมาก ได้นอนสามสี่ชั่วโมงเหมือนเคย”

“เท่านั้นก็ยังดี”

“ฝุ่นว่ายังไงนะ” เพราะอีกคนพูดอยู่ในลำคอปินจึงถามขึ้นอีกครั้งเนื่องจากไม่ค่อยได้ยิน

“เปล่า ปินพักผ่อนเถอะ ทำงานมาทั้งวันแล้ว”

“อยากคุยกับฝุ่นมากกว่านี้ แต่จะไม่ไหวแล้ว เหนื่อยมาก”

คราวนี้ความเหนื่อยล้าถูกส่งออกมาผ่านทางน้ำเสียง มือก็นวดคลึงขมับไปในคราวเดียวกัน ยามที่ปลายสายก็รีบตอบกลับมาด้วยความเป็นห่วง

“รีบนอนนะ อย่าลืมกินวิตามินด้วย”

ฝุ่นยำเตือนด้วยเพราะรู้ว่าปินชอบละเลยการกินวิตามินบำรุงหากไม่บังคับ

“อื้อ ฝันดีนะครับ”

“ฝันดี”

เมื่อวางสายแล้วร่างสูงก็หยัดกายขึ้นเพื่อไปชำระร่างกาย หลังจากกลับออกมาก็พบเข้ากับผู้จัดการซึ่งนั่งรออยู่พร้อมแก้วน้ำเล็กๆ ในมือ

“จิบสักหน่อย คอจะได้ไม่แห้ง”

“ขอบคุณครับ” ปารินทร์รับมาพลางทรุดตัวนั่งลงบนพื้นที่สำหรับนอนในคืนนี้

“พี่เตรียมวิตามินไว้ให้แล้วนะ เสร็จแล้วอย่าลืมทานล่ะ”

ประโยคนั้นทำให้ปินชะงัก คิดถึงคนที่เพิ่งจะคุยกันแล้วก็ระบายน้อยๆ อยู่หลังขอบแก้ว

“ครับ” ผู้จัดการวัยกลางคนพยักหน้ารับก่อนจะหยัดกายขึ้นเพื่อไปพักในส่วนของตัวเอง

--

“วันนี้เรียนทำขนมอินทนิลไป แต่ทำไมทำวุ้นต่อล่ะหืม” น้ำเสียงอ่อนโยนจากครูผู้สอนทำขนมเรียกให้คนที่กำลังง่วนอยู่หน้าเตาละสายตาขึ้นไปมอง

“...” ฝุ่นเงียบ ครุ่นคิดกับการหาคำตอบอยู่ชั่วครู่

“คนรักชอบทานวุ้นเหรอจ๊ะ”

คำว่าคนรักทำให้คนถูกถามไปต่อไม่ถูก ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนไม่อาจอธิบายให้คนนอกเข้าใจได้จึงได้แต่ตอบคำถามนั้นออกไปเสียงเบา

คนรักเหรอ

“...ครับ พอดีเขากลับดึก เลยอยากทำขนมที่สามารถกินแบบแช่เย็นได้”

ตอนกลับมาปินคงไม่มีเวลาแม้แต่จะทานอะไรเลยคิดว่าจะแช่เย็นไว้รอตอนเช้า เอาไว้ให้อีกคนเอาไปทานบนรถพร้อมข้าวกล่องที่จะเตรียมให้

“ที่มาเรียนทำขนมไทยเพราะเขาใช่ไหมหืม” คนสอนต่อด้วยรอยยิ้ม

“ครับ พอดีเขาชอบทานขนมไทย”

“ฝุ่นนี่น่ารักจังเลยนะ ถ้าอย่างนั้นครูไม่กวนแล้ว ใช้ครัวได้ตามสบายนะจ๊ะ เดี๋ยวครูจะไปช่วยดูแลเด็กอีกคลาสก่อน” ฝุ่นพยักหน้ารับ เมื่ออีกฝ่ายออกไปจากห้องจึงหันกลับมาสนใจการเคี้ยวผงวุ้นในหม้อต่ออย่างตั้งใจ



02.38 น.

ร่างสูงที่เดินแต่ละก้าวอย่างเหนื่อยล้าถอนหายใจเฮือกยามมาหยุดอยู่หน้าห้อง เพียงเห็นบานประตูความเหนื่อยนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม ก่อนปารินทร์จะไม่รอช้าที่จะกดรหัสและสแกนนิ้วมือเพื่อเปิดประตูเข้าไป

ไฟในห้องสว่างโล่ เครื่องปรับอากาศทำงานเย็นจัด ทว่ากลับไร้เสียงของการเคลื่อนไหว สองขายาวจึงก้าวตรงไปทางห้องนั่งเล่น และภาพที่เห็นก็ทำให้เกิดรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า

ฝุ่นนั่งหลับอยู่บนโซฟาโดยมีหมอนโลมาประจำตัวอยู่ในอ้อมแขนเหมือนเด็กน้อย

“อื้อ กลับมาแล้วเหรอ” เมื่อร่างกายลอยสูงขึ้นคนที่เผลอหลับไปก็รู้สึกตัวตื่นก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังถูกอุ้มด้วยใครอีกคน
จุ๊บ

“ครับ” ปินประทับจูบลงบนริมฝีปากเล็กก่อนตอบกลับ

“ไม่ต้องอุ้มหรอก ปล่อยเถอะ”

“เดี๋ยวผมจะพาฝุ่นไปนอน” ปินไม่ฟังคำพูดนั้น โดยที่ขาก็ก้าวยาวๆ ไปทางห้องนอนด้วยจังหวะมั่นคง

“เดินเองได้”

“ฝุ่นอย่าดื้อสิ”

คำพูดพร้อมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ทำเอาถูกอุ้มถึงกับไปต่อไม่ถูก ดวงตากลมโตเลื่อนลงมองเพียงคอเสื้อ หัวใจเต้นถี่รัวขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากความคิดถึง

ประตูห้องนอนถูกเปิดด้วยความร่วมมือจากร่างเล็ก กระทั่งถึงเตียงนอนฝุ่นก็ถูกวางลงโดยที่คนอุ้มก็ทรุดตัวนั่งลงข้างกัน

“หิวหรือเปล่า” ปินส่ายหน้าตอบคนที่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “เดี๋ยวอาบน้ำให้”

ข้อเสนอนั้นคงถูกตอบรับในทันใดหากเป็นเวลาปกติ แต่นี่เป็นเวลาเกือบจะตีสาม อีกทั้งพรุ่งนี้ยังมีงานแต่เช้าปินจึงทำได้เพียงปฏิเสธ

“กลัวว่าจะไม่แค่อาบน้ำ ฝุ่นนอนเถอะ เดี๋ยวผมจัดการตัวเองแป๊บเดียว”

“แต่ว่า...” คำแย้งนั้นถูกดักทางด้วยจูบอ่อนหวานที่ทาบทับลงมา การกระทำซึ่งบ่งบอกชัดว่าปินไม่ต้องการให้พูดอะไรทำให้ฝุ่นได้แต่ลอบถอนหายใจแล้วตอบสนองจูบนี้กลับแทนการดูแลเรื่องอาบน้ำ

“ผมขออาบน้ำไม่นาน”

สัมผัสวาบหวามผละออกจากกันจนเกิดเสียงดังจุ๊บตามด้วยคำพูดของปิน จากนั้นร่างสูงจึงหยัดกายขึ้นแล้วสาวเท้าไปทางห้องน้ำเร็วๆ เนื่องจากพลังงานใกล้จะหมดลงทุกที

ฝุ่นมองตามหมาที่มีสภาพอ่อนล้าไปด้วยความเป็นห่วง แม้ความรู้สึกง่วงจะยังมีอยู่ทว่าก็ไม่อาจข่มตาลงได้หากปินไม่ได้เอนตัวลงเคียงกัน



เวลาหกโมงเช้านาฬิกาประจำกายก็เขย่าตัวปลุกเบาๆ ให้คนขี้เกียจตื่นรู้สึกตัว แขนยาวดึงร่างเล็กลงมากอด นิ่งงันได้เพียงห้านาทีเสียงเรียกก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ปิน เดี๋ยวสายนะ”

“อื้อ เหนื่อยจัง”

ฝุ่นได้แต่ทอดมองคนที่กอดตัวเองอยู่ด้วยความเห็นใจ หากแต่เป็นเพราะหน้าที่ที่ปินไม่อาจเลี่ยงจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้

“ค่อยไปหลับต่อบนรถนะ ตอนนี้ต้องตื่นแล้ว”

มือนิ่มไล้ไปตามกรอบหน้าแกร่งแผ่วเบาพร้อมทั้งเสยผมยุ่งเหยิงของคนที่ยังไม่ตื่นไปทางด้านหลัง

“อือ” เสียงตอบรับอย่างเหนื่อยหน่ายดังขึ้น ก่อนแทนแขนที่รัดแน่นจะคลายออกให้ฝุ่นได้ขยับตัวขึ้นมานั่ง ไม่นานนักปารินทร์ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งตาม

“จูบหน่อย” เด็กงอแงร้องขอทั้งที่ตายังเปิดลืมได้ไม่เต็มที่และฝุ่นก็แสนเต็มใจให้ในสิ่งที่อีกฝ่ายร้องขอ

“มีพลังขึ้นบ้างหรือยัง” ร่างเล็กเอ่ยถามยามผละริมฝีปากออกห่าง

“นิดหน่อย”

เสียงถอนหายใจดังเฮือกมาพร้อมกับการขยับตัวลงจากเตียง ปินยืนจูนสติตัวเองอยู่ชั่วครู่กระทั่งอีกคนก้าวลงมายืนข้างกันแล้วสอดมือเข้าหาจึงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ยังไม่ทันได้เอ่ยถามแรงรั้งจากคนข้างตัวก็ทำให้ต้องก้าวตาม สภาพคล้ายกับเด็กถูกพ่อแม่จูงพาไปที่ไหนสักแห่งเพราะกลัวหลง

ซึ่งสถานที่ที่ฝุ่นพาไปก็คือห้องน้ำนั่นเอง

“รีบอาบน้ำนะ เดี๋ยวเจ็ดโมงพี่หวานจะมารับ”

“อืม”



“วันนี้มีวุ้นเหมียวด้วย” ดวงตาเรียวรีเบิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อหลังจากทานข้าวเสร็จกล่องขนมก็ถูกหยิบมาวางลงตรงหน้า

เพราะปินคิดว่าจะไปนอนต่อบนรถข้าวกล่องของฝุ่นจึงถูกกินตั้งแต่อยู่ห้อง

“เอาไว้ทานบนรถนะ คนละกล่องกับพี่หวาน”

“ผมจะกินคนเดียวหมดเลย”

“อย่าขี้เหนียว” คนถูกว่าหัวเราะร่วน อยากหยิบขนมที่คนตรงหน้าทำให้มากินเสียเดี๋ยวนี้ทว่าก็ไม่มีเวลามากพอจะทำอย่างนั้น

“ผมต้องไปแล้ว” โทรศัพท์ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะสั่นครืดคราดบอกให้รู้ว่าเวลาระหว่างกันได้หมดลง

“อื้อ” ฝุ่นรับคำพร้อมทั้งถือกระเป๋าและถุงกล่องขนมไปส่งอีกคนที่หน้าประตู “ดูแลตัวเองด้วยนะ”

“ฝุ่นก็เหมือนกันนะ”

พูดจบก็โน้มตัวลงไปจูบหน้าผากเนียนทิ้งท้าย ก่อนจะรับของทั้งหมดมาไว้ในมือแล้วเดินออกจากห้องพร้อมรอยยิ้ม

--

ระหว่างคนที่ตัวเองดูแลไม่อยู่ฝุ่นก็สามารถทำทุกอย่างได้ตามที่อยากทำ โดยหนึ่งในสิ่งที่ควรจะทำอยู่เสมอก็คือการดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย

ห้องฟิตเนสส่วนกลางซึ่งมีไว้สำหรับพนักงานนั้นใหญ่โตและครบวงจร ด้วยเพราะแต่ละห้องต่างมีห้องออกกำลังกายส่วนตัวที่นี่จึงไม่ค่อยมีผู้คนนัก ฝุ่นเลยชอบนัดเจอเพื่อนเพื่อคลายความเบื่อจากการไม่มีอะไรทำอยู่บ่อยครั้ง

“คิดถึงจัง ไม่ได้เจอฝุ่นมาสักพักเลย”

ประโยคทักทายดังขึ้นเมื่อร่างเล็กในชุดออกกำลังกายเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า

“ใครกันล่ะที่ไม่ว่าง” คนไม่ว่างได้แต่ยิ้มแหย จากนั้นจึงทรุดตัวนั่งลงข้างกัน

“ก็ช่วงนี้คนของเราว่าง เลยไม่ค่อยมีเวลาได้เจอฝุ่นไง” คนหน้าหวานพูดเสียงอ้อมแอ้ม แก้มเนียนป่องทั้งสองข้างแดงเรื่อตามประสาคนขาวจัดที่ผิวขึ้นสีได้ง่าย

บลูคือคนซึงมีหน้าที่แบบเดียวกันและถูกฝึกมาด้วยกันจึงมีความสนิทสนมมาตั้งแต่ตอนนั้นกระทั่งถึงตอนนี้ หากให้ฝุ่นอธิบายถึงคนที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนก็คงต้องบอกว่าอีกฝ่ายมีความน่ารักอยู่มาก ทั้งหน้าตาและนิสัยที่แม้แต่คนแบบเดียวกันยังอดเอ็นดูไม่ได้

“แต่วันนี้ว่างใช่ไหม”

“อื้อ ว่างจนถึงวันเสาร์เลย”

“ดีแล้วล่ะ ออกกำลังกายเสร็จจะได้ไปนั่งเล่นที่ร้านกาแฟด้วยกัน”

นอกจากจะมีฟิตเนสแล้วยังมีร้านกาแฟเล็กๆ อยู่ในตึกนี้ เรียกได้ว่าที่นี่มีทุกอย่างครบครันโดยไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก

“เอาสิ ว่าแต่ฝุ่นเถอะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง”

“ก็ไม่เป็นยังไง เรื่อยๆ” ได้ยินคำตอบแล้วคนฟังก็ยิ้มรับอย่างสดใส

สดใสจนทำให้คนที่อยู่ใกล้อยากยิ้มตาม

“ดีจัง”

“บลูก็คงดีเหมือนกันสิ หน้าตาสดใสเชียว”

คำพูดดูไม่มีอะไร หากแต่ดวงตาของฝุ่นทอความล้อเลียนเล็กๆ ให้คนถูกมองเม้มปากเข้าหากันด้วยความขัดเขิน

“ก็นิดหน่อย ช่วงนี้เขาว่างเลยได้ดูแลบ่อยๆ น่ะ”

ฝุ่นยิ้มตามท่าทีของเพื่อนแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเอ่ยเตือนอีกฝ่ายสักเล็กน้อย

“บลู...”

“หืม”

“อย่าแสดงออกให้มากล่ะ อย่าลืมว่าเราทำให้เขารู้ไม่ได้...โดยเฉพาะกับเบื้องบน”

เพียงเท่านั้นรอยยิ้มกว้างก็จืดจางลงกลายเป็นเพียงยิ้มบาง ทว่าคนที่รู้ว่าฝุ่นเตือนด้วยความหวังดีก็พยักหน้ารับ สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วปัดเป่าความรู้สึกขุ่นๆ ให้หายไป

“อื้ม เราไม่ลืมกฎสำคัญที่ว่าห้ามรักคนที่ตัวเองต้องดูแลได้หรอก”

“...เราก็จะพยายามไม่ลืมเหมือนกัน”

คนทั้งสองต่างยิ้มด้วยความรู้สึกที่เข้าใจซึ่งกันและกัน

ห้ามไม่ได้หรอก รู้ตัวว่าห้ามกันไม่ทันแล้ว สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดจึงคือการพยายามไม่แสดงออกให้มากเกิน และไม่ให้เบื้องบนรู้อย่างเด็ดขาด

ระหว่างที่ดูแลอีกคนนี้ ถึงจะรักก็ห้ามพูดอะไรทั้งนั้น


TBC.

เซอร์ไพร์สสสสสส กลับมาแล้วค่า>////<
ยุ่งกับพี่หินนานจนใกล้จะเสร็จแล้วเลยมีเวลามาเขียนหมาปิน เย้ๆ
ใครคิดถึงกันก็คอมเมนต์มาหน่อยเร๊ว
ย้ำว่าเรื่องนี้คงไม่ม่ามากขนาดนั้น
ไม่ต้องกลัวท้องอืดกันนะคะ อิอิ
ฝากแท็ก #secrecyลับรัก
ฝากแฟนเพจ ฝากทวิตเตอร์ด้วยเนอะ
ถ้าอยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ ต้องส่งกลจมาเยอะๆ น้า
เยิฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 05-09-2018 20:43:00
พี่ฝุ่นน่ารักก ดูแลดี๊ดี
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 05-09-2018 21:07:53
บลูได้ดูแลใครนะ
ผุ่นน่ารักมาก มีทำอาหารที่ปินชอบ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: VIP4ever ที่ 05-09-2018 21:28:06
เขินๆๆๆๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 05-09-2018 22:05:02
คิดตึ๋ง.....งงงงงงงงงงงง    :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-09-2018 22:53:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 05-09-2018 23:40:22
ทำไมดูดราม่า รักแต่บอกไม่ได้ งื้อออ
ชอบหมาปิน หมาสุดๆ ขี้อ้อนน่ารักก  :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-09-2018 00:43:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-09-2018 03:13:31
อ้อนจังเลยจังหนูปิน  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 06-09-2018 09:00:32
เป็น ความรัก ที่อยู่ ข้างใน เนอะ... พี่ฝุ่นน้อง มัน ก้อ คิด ไม่ ต่าง นะ.. รอเวลาจ้า
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: chun22 ที่ 06-09-2018 10:24:58
ติดตามๆๆๆๆๆ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: NCJung ที่ 06-09-2018 20:21:08
นึกว่าตาฝาด​ ที่ไหนได้​ หมาปินมาแล้วจริงๆด้วย​ // รับรู้ถึงลางความดราม่าอยู่เนืองๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 06-09-2018 23:07:59
อบอุ่นหัวใจ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 06-09-2018 23:51:45
 :o8: รักกัน เหมืิอนต้องแอบคบเลยอ่าา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 07-09-2018 07:40:20
หมาปินขี้อ้อนจริงๆเลยยย
ฝุ่นกะบลูน่ารักมากก สงสารด้วย ชะตาเดียวกันเลย รักเขาแต่ห้ามบอก น้องงง TT
รอตอนหน้านะคะ ชอบมากกก ><
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 08-09-2018 11:01:58
มี 2 คู่หรอ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 08-09-2018 11:46:22
หม่นตอนท้าย
ถ้ารักกันก็ไม่ได้เหรอออออออ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Three.] : 05/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-09-2018 12:16:02
โอ้ยยยยย สงสาร
รักก็บอกให้รุ้ว่ารักไม่ได้ งื้อออ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 11-09-2018 19:44:28
Chapter Four.

“ตัวอุ่นๆ นะ”

เห็นใบหน้าที่ซีดเซียวกว่าปกติฝุ่นจึงลองเอามือแนบไปตามซอกคอและข้างแก้มของอีกคน เมื่อพบว่าปินมีอาการไม่ต่างจากที่คิดนักคิ้วก็ขมวดเข้าหากันทันใด

“มือฝุ่นเย็นหรือเปล่า” ปินจับมือเล็กออกมากุมไว้หลวมๆ พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง

“ไม่เย็น ยังไงก็กินยากันไว้ก่อนเลย ถ้ารู้สึกว่าอาการหนักขึ้นต้องรีบบอกพี่หวาน เข้าใจไหม” คิ้วได้รูปยังคงไม่คลายออกจากกันซ้ำยังขมวดแน่นขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ผมแข็งแรงดี ฝุ่นไม่ต้องห่วงหรอก”

“แข็งแรงแค่ไหนถ้าทำงานหนักขนาดนี้ก็มีสิทธิ์ป่วยได้ทั้งนั้น”

ตลอดทั้งเดือนปารินทร์ทำงานหนักติดต่อกันทุกวัน กว่าจะได้นอนเวลาก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่ บางวันเตียงนอนยังไม่ทันอุ่นก็ต้องลุกขึ้นไปทำงานต่อแล้ว

“อาทิตย์หน้าตารางโปรโมตเพลงเสร็จงานผมก็น้อยลงแล้ว” ปินพยายามพูดให้คนตรงหน้าสบายใจ

“กลัวว่าร่างกายจะไม่ไหวไปถึงตอนนั้นน่ะสิ”

“เป็นห่วงผมเหรอ” รอยยิ้มเย้าหยอกจุดขึ้นบนใบหน้า ขณะมือหนาก็แกว่งไปมาเบาๆ

“ยังจะเล่น รีบกินข้าวซะ เดี๋ยวจะไปเอายามาให้”

คนถูกถามถือโอกาสเปลี่ยนเรื่องอย่างแนบเนียน ยังไม่ทันที่ปินจะได้พูดอะไรต่อมือเล็กก็ดึงออกจากการเกาะกุม จากนั้นฝุ่นก็หมุนตัวออกจากห้องทานอาหารไปอย่างรวดเร็ว

คนที่มองตามได้แต่โคลงหัวกับท่าทางนั้น ทว่าไม่นานความยิ้มแย้มหยอกเย้าที่มีต่ออีกคนก็เลือนหาย ความกังวลถูกฉายออกมาแทนที่

เขากำลังจะไม่สบาย...ปินรู้ตัวเองดี



“อย่าลืมว่าถ้ารู้สึกไม่ดีให้บอกพี่หวานทันที”

“รู้แล้วครับ ย้ำหลายรอบจัง”

แววตาที่มองคนตรงหน้าโอนอ่อน ความเป็นห่วงซึ่งฉายชัดอยู่ในดวงตาคู่สวยทำให้รู้สึกอารมณ์ดีทั้งที่อาการปวดตุบกำลังเล่นงานอยู่รอบหัว

“ที่ย้ำเพราะว่าคนแถวนี้ดื้อไง”

จุ๊บ

“ก็ดื้อกับฝุ่นแค่คนเดียว” จูบปากสีสดเร็วๆ แล้วผละออกพร้อมกับยิ้มกว้าง ขณะที่คนถูกสัมผัสก็รู้สึกร้อนที่แก้มราวกับกลายเป็นคนป่วยเสียเอง

“ไม่ต้องมาพูด ลงไปได้แล้ว พี่หวานรอนานแล้ว”

“ขอกำลังใจก่อนไปทำงานหน่อยครับ” คนพูดโน้มหน้าลงไปใกล้จนปลายจมูกห่างกันเพียงไม่กี่เซ็น

ปินแกล้งทำด้วยคิดว่าฝุ่นคงจะขยับหนีแล้วพูดด้วยเสียงดุๆ ทว่ามันกลับผิดคาดเมื่ออีกคนดันปลายจมูกเข้าหาคลอเคลีย ริมฝีปากแตะกันเล็กน้อย

“ถ้ากลับมาแล้วไม่ป่วยจะให้ชุดใหญ่”

แมวขี้ยั่วถอยห่างออกไปแล้วแต่สัมผัสบางเบานั้นยังคงตรึงอยู่ที่เดิมในความรู้สึกของปิน

“แมวฝุ่นขี้ยั่ว”

ฝุ่นทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรจนปินคิดว่าหากไม่ติดงานเขาคงดึงเจ้าตัวมาฟัด ทำให้เหมียวตัวแสบครวญครางอยู่ใต้ร่างด้วยความมันเขี้ยว

“ผมไปทำงานแล้วดีกว่า”

ยิ่งอยู่นานก็รั้นแต่จะทรมานเพราะอยากทำอะไรมากกว่านี้ปินเลยคิดว่ารีบออกจากห้องตอนนี้คงเป็นเรื่องที่ดีกว่า

“อืม อย่าลืม...”

“ถ้ารู้สึกไม่ดีให้บอกพี่หวานทันที ผมจำได้แล้วน่า” คำพูดของฝุ่นยังไม่ทันถูกเอ่ยจนจบเสียงทุ้มก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน

“จำได้แล้วก็ทำด้วย”

“ครับผม ไปจริงๆ แล้ว” เมื่อใบหน้าเล็กกดลงรับปินก็ส่งยิ้มให้ทิ้งท้าย จากนั้นจึงหมุนตัวเปิดประตูแล้วก้าวออกจากห้องไป



“ไหวหรือเปล่าปิน”

ภาวิดาเอ่ยถามเด็กหนุ่มด้วยความเป็นห่วงเมื่อหลังจากเสร็จงานปินก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องแต่งตัวด้วยท่าทางหมดแรง

“พอไหวครับ”

“ผ่านคืนนี้ไปก็จะดีขึ้นแล้วล่ะ อดทนหน่อยนะ”

เธอได้แต่เอ่ยปลอบเนื่องจากไม่อาจทำอะไรได้มากกว่านั้น ขณะที่คนป่วยได้แต่พยักหน้ารับ ลมหายใจที่ออกจากจมูกกลายเป็นลมร้อนจนปินหลับตาแน่น

อดทนไว้ก่อนปารินทร์



เสียงกริ่งจากหน้าห้องดังขึ้นทำให้คนซึ่งนั่งกอดเข่าดูทีวีอยู่ลุกพรวด ขาเรียวก้าวเร็วๆ ไปทางประตู ก่อนฝุ่นจะรีบเปิดมันออกด้วยความรวดเร็ว

“ฝากด้วยนะฝุ่น พรุ่งนี้มีงานสำคัญ เดี๋ยวหลังจากนั้นคงได้พาไปเช็กอาการที่โรงพยาบาล”

“ผมไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั้น” คนป่วยที่ไม่เจียมตัวเอ่ยแทรกทั้งที่ตัวเองกำลังถูกประคองอยู่

“ไม่เป็นอะไรแต่เกือบวูบกลางงาน”

เปลือกตาของคนที่เพิ่งรู้เรื่องนี้เบิกกว้าง ในอกเกิดความวูบโหวงเนื่องจากมีความเป็นห่วงมากล้น ทว่าสิ่งที่แสดงออกได้มีเพียงความนิ่งเฉย

“เดี๋ยวผมดูแลปินต่อเองครับ พี่หวานกลับไปพักเถอะ”

ผู้จัดการคนเก่งรับคำพร้อมทั้งปล่อยแขนออกจากร่างสูงเมื่อฝุ่นขยับเข้ามาประคองปินต่อ

“เจอกันพรุ่งนี้” ปินพยักหน้ารับกระทั่งประตูห้องปิดลงแล้วเหลือเพียงตัวเองและอีกคนอยู่ด้วยกันสองต่อสอง

“ไปพักในห้องนะ” ร่างสูงใหญ่อ่อนแรงถูกพาไปยังห้องนอน

“ฝุ่นจะไปไหน” แขนเล็กถูกรั้งเอาไว้ขณะที่คนป่วยนั่งอยู่บนเตียง

“จะไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้”

“ผมอยากอาบน้ำ”

“ไม่ได้” ฝุ่นเอ่ยปฏิเสธทันทีด้วยสีหน้าจริงจัง

“วันนี้อากาศร้อน ผมเหนียวตัวมาก”

ปลายหางเสียงเจือความเว้าวอนด้วยปินรู้ดีว่าสิ่งที่ขอนั้นขัดแย้งกับอาการป่วย ทั้งสีหน้าของแมวเหมียวตัวนี้ยังเรียบนิ่งจนน่าหวั่นเกรง

“จะอาบได้ยังไงในเมื่อไม่สบายแบบนี้” ไม่เพียงแค่หน้าแต่เสียงก็เรียบนิ่งไม่ต่างกัน

“น้ำอุ่นก็ได้ แป๊บเดียวเอง...นะครับ”

เกิดความเงียบขึ้นยาวนานเป็นสาที สองสายตามองสบก่อนจะเป็นปินที่ทำลายความเงียบนั้นด้วยการเอื้อมมืออีกข้างไปลูบมือเล็กที่ตัวเองจับไว้เบาๆ

“สัญญาว่าจะรีบอาบแล้วรีบกินยานอนเลย”

เห็นความวูบไหวอยู่ในดวงตาคู่สวยปินจึงรอคำตอบอย่างใจเย็น ไม่นานนักฝุ่นก็ถอนหายใจออกมาแผ่วเบา

“ให้เวลาห้านาที ห้ามอาบนานกว่านั้น”

“ครับ” เจ้าหมาป่วยรับคำด้วยรอยยิ้มกว้าง ดูเริงร่ากว่าที่ควรจะเป็นจนฝุ่นมองค้อน ระหว่างพาคนแสนดื้อไปอาบน้ำก็ย้ำซ้ำๆ ว่าห้ามใช้เวลานานกว่าที่บอกเอาไว้

ตลอดคืนฝุ่นข่มตานอนไม่หลับ ต้องคอยตื่นขึ้นมาดูแลคนป่วยทุกๆ ชั่วโมง ยิ่งเมื่อความร้อนจากตัวปินมีทีท่าว่าจะสูงขึ้นยิ่งกระวนกระวายอยู่ไม่สุข ตอนเกือบรุ่งจึงกลายเป็นนั่งเฝ้าไม่ไปไหนกระทั่งถึงเวลาที่อีกฝ่ายต้องตื่นไปทำงาน

“ตัวร้อนขึ้นกว่าเมื่อวานนะ ไหวหรือเปล่า”

ร่างเล็กซึ่งยืนติดกระดุมเสื้อให้ปารินทร์เอ่ยถามขึ้น แม้จะพยายามปกปิดความเป็นห่วงใยเอาไว้แค่ไหน สุดท้ายมันก็ยังเล็ดลอดออกมาให้คนถูกเป็นห่วงได้เห็น

ปินยกยิ้ม อาการปวดตุบรอบหัวที่มากขึ้นกว่าเมื่อวานเหมือนจะเบาบางลงด้วยเพราะท่าทางของคนตรงหน้า

“ไหว เดี๋ยวบ่ายๆ ก็ไปหาหมอแล้ว ฝุ่นไม่ต้องห่วงนะ” มือซึ่งกำลังจะกลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายชะงักไปเล็กน้อย

“ใครเป็นห่วง”

แต่งตัวให้ร่างสูงเรียบร้อยฝุ่นก็ขยับถอยห่าง ทำทีเป็นหมุนตัวเอาชุดคลุมอาบน้ำอีกคนไปเก็บขณะที่ปินก็ก้าวตามอย่างไม่ยอมแพ้

“แมวปากแข็ง”

“ใครปากแข็ง” คนถูกว่าหมุนขวับกลับมาเมื่อเห็นว่าปินอยู่ใกล้กว่าที่คิดก็ถอยหลังหนีด้วยความตกใจ

“คนแถวนี้ไง” ใบหน้าหล่อกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“มัวแต่พูดอะไรอยู่นี่ รีบไปทานข้าวทานยาได้แล้ว” ฝุ่นเลี่ยงเดินไปอีกทางโดยไม่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากหมาป่าที่กำลังจะเผยตัวออกมา

“ปวดหัวจัง”

“ปิน”

คนที่ได้ยินคนป่วยพึมพำหมุนตัวกลับ ขาก้าวเข้าไปใกล้ปารินทร์แทบจะทันใด ก่อนจะโดนท่อนแขนใหญ่โอบแล้วรั้งเข้าหา

“ไหนบอกไม่ได้เป็นห่วงผมไง”

ใบหน้าซีดเซียวยิ้มกว้าง ดวงตาที่แดงเรื่อกลับเป็นกระกายสวนทางกับสภาพของร่างกายลิบลับ

“นี่แกล้งกันเหรอ”

ฝุ่นที่เพิ่งประมวลผลได้ถามกลับเสียงขุ่น ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายป่วยอยู่จะทุบให้ช้ำในกันไปข้าง

มาเล่นกับความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไง...

“ก็ฝุ่นปากแข็ง”

“ไม่ได้ปากแข็ง”

“นี่แหละปากแข็ง...เป็นห่วงก็บอกว่าเป็นห่วง บอกให้ชื่นใจหน่อยสิครับ” หมาตัวใหญ่เอ่ยอย่างออดอ้อน ท่อนแขนที่อยู่รอบเอวเล็กขยับรัดแน่นขึ้น

“พูดแล้วจะหายป่วยหรือเปล่า”

“ฝุ่น” เสียงเรียกชื่อนั้นทอดยาวด้วยความอ่อนใจ “ทำไมแมวตัวนี้ใจร้ายนัก”

ปินคลายอ้อมแขนออกพร้อมทั้งก้าวถอยหลังเนื่องจากรู้สึกเหมือนพลังทางร่างกายหายไปหมดกับคำพูดตัดรอนนั้น

“เลิกเล่นแล้วไปทานข้าวทานยาได้แล้ว” ฝุ่นกอดอกแล้วเอ่ยด้วยเสียงเข้มขึ้น ไม่สนใจต่อท่าทางเหงาหงอยของคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารในยามเช้าแปลกไปจากทุกวัน ยิ่งด้วยเพราะอาการป่วยของปินทุกอย่างจึงยิ่งเงียบ กระทั่งคนต้องออกไปทำงานยืนอยู่หน้าประตู

“ผมไปทำงานแล้วนะ” เสียงทุ้มที่แหบกว่าปกติเล็กน้อยเอ่ยบอก

“อืม” ฝุ่นรับคำเพียงสั้นๆ

แกร๊ก

เสียงประตูเปิดออกเมื่อไม่มีการล่ำลาที่มากกว่านั้น

“ปิน”

คนถูกเรียกชะงัก คิ้วเข้มเลิกขึ้นโดยอัตโนมัติ ทว่าเมื่อหันกลับมาจะถามคนเรียกว่ามีอะไรสิ่งที่คือคำตอบกลับเป็นปากนุ่มหยุ่นที่แนบเข้ามาหา

ไม่เพียงแค่แนบแต่ลิ้นเล็กยังลุกล้ำเข้ามาอย่างไม่กลัวเชื้อไข้ที่อาจแพร่ไปสู่ตัวเองได้

“เป็นห่วง” ฝุ่นกระซิบชิดริมฝีปากของอีกคนก่อนจะทาบทับปากเข้าหาหนักๆ ทิ้งท้าย

“นึกว่าจะไม่ได้ยินซะแล้ว” ปินยกยิ้มจากนั้นจึงเป็นฝ่ายจูบคนร่างเล็กกลับ

“ตัวใหญ่อย่างกับหมี ทำมางอนเรื่องแค่นี้”

“ผิดเหรอที่ผมอยากให้ฝุ่นเป็นห่วง”

“ก็รู้อยู่แล้ว จะมาทำเป็นถามทำไม” ฝุ่นคิดว่าตัวเองไม่ได้ปกปิดความรู้สึกมากมายขนาดนั้น และคนตรงหน้าก็รับรู้ดีเพียงแต่ก็ยังแกล้งให้ต้องพูดออกมา

“ผมอยากได้ยินจากปากของฝุ่นไง”

“ก็บอกไปแล้ว”

“ได้ยินแล้วชื่นใจ” คนพูดแสร้งทำหน้าชื่นใจจนคนมองกลอกตามองบน

“ชื่นใจแล้วก็รีบหายป่วยด้วย”

“จะพยายามครับ...ผมสายแล้ว โทรศัพท์สั่นไม่หยุดเลย ยังไงเดี๋ยวตอนไปหาหมอจะโทรหรือไม่ก็ไลน์หานะ”

ปินยังอยากอยู่อย่างนี้ ไม่อยากก้าวออกจากห้องไปทำงานเลยสักนิดแต่เป็นเพราะหน้าที่จึงไม่อาจเลี่ยงได้ จำต้องตัดใจขยับห่างจากร่างนุ่มนิ่มทั้งที่ยังอยากอยู่ด้วย

“อื้ม”

--

“หมอสั่งให้แอดมิดดูอาการสักสองคืน” ประโยคทีได้ยินมาตามสายโทรศัพท์ทำเอาใจคนฟังหล่นวูบ

“...”

“ยังไงเดี๋ยวพี่จะส่งคนไปรับฝุ่นนะ คงต้องให้มาช่วยดูแลปินหน่อยเพราะพี่ต้องดูเรื่องตารางงาน วุ่นวายไปหมดเลยล่ะ”

“ได้ครับ” ฝุ่นแทบจะรับคำในทันที และเมื่อผู้จัดการของปินวางสายไปก็รีบเดินเข้าไปยังห้องนอน เก็บของที่จำเป็นทั้งของตัวเองและอีกคนเอาไว้พร้อม ยามคนที่มารับมาถึงก็รีบลงไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

ระหว่างทางฝุ่นถือโอกาสเช็กความเคลื่อนไหวในโซเชียล คงเพราะข่าวยังไม่ถูกเผยแพร่จึงยังไม่มีกระแสใดๆ

ลมหายใจหนักอึ้งถูกพรูออกมาแผ่วเบาเมื่อคิดไปว่าหากการเข้าโรงพยาบาลของปินถูกเผยแพร่สิ่งใดจะตามมา

ความวุ่นวายของทั้งแฟนคลับและนักข่าว...

เปลือกตาสีอ่อนหลับลงอย่างไม่อยากคิด



“ฝุ่น”

คนที่อยู่ในชุดของโรงพยาบาลเอ่ยเรียกทันทีที่เห็น ถึงใบหน้าจะยังขาวซีด บนหลังมือมีเข็มน้ำเกลือ แต่ดวงตาเรียวรีกลับเป็นประกาย

“ฝุ่นมาพอดี ฝากปินแป๊บนะ พี่ไปคุยโทรศัพท์ก่อน”

การล้มป่วยของซูเปอร์สตาร์ที่ตารางงานถูกวางเอาไว้แล้วสร้างความปวดหัวให้กับผู้จัดการซึ่งเป็นคนดูแลส่วนนี้โดยตรงไม่น้อย ภาวิดาต้องคุยกับผู้ใหญ่ไม่ได้หยุดหย่อน เมื่อฝุ่นมาถึงจึงรีบฝากฝังปินเอาไว้ ก่อนจะออกไปรับโทรศัพท์ที่อื่น

“ไหนบอกว่ายังไหว” ร่างเล็กเอ่ยถามพร้อมทั้งเดินไปทรุดตัวลงบนเก้าอี้ข้างเตียงของคนป่วย

“ก็ยังไหว หมอแค่อยากดูอาการเฉยๆ ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” ปินเอ่ยแย้งทั้งที่ตัวเองทำได้เพียงนอนนิ่งๆ อยู่บนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง

“ดูสภาพตัวเองก่อนพูดหน่อยไหม” ฝุ่นโคลงหัวด้วยความอ่อนใจ

“ผมไม่เป็นอะไรหรอก แค่มาเปลี่ยนที่นอนก็เท่านั้น”

คนป่วยยังคงพูดได้พร้อมรอยยิ้มบาง ดวงตาสวยทอดมองคนที่อยู่ตรงหน้า รู้ดีว่าปารินทร์พยายามแสดงออกไม่ให้คนอื่นต้องเป็นห่วง แต่ถึงเจ้าตัวจะพยายามแค่ไหนก็ห้ามความรู้สึกนั้นที่เกิดขึ้นไม่ได้

เป็นห่วงจะแย่แล้ว

“เป็นไปได้ก็อย่าเปลี่ยนเป็นที่นี่อีกเลย” ฝุ่นพูดออกไปเสียงเบา แทบอยากจะเว้าวอนขอหากไม่ต้องปกปิดความรู้สึกทั้งหมดของตัวเอง

และความสั่นไหวอันมากมายจากดวงตาคนพูดปินรับรู้ถึงมันได้เป็นอย่างดี

“ผมขอโทษนะที่ทำให้ฝุ่นเป็นห่วง” คราวนี้คนเป็นห่วงไม่ปากแข็งเอ่ยคำปฏิเสธ

“...”

“ต่อไปจะดูแลตัวเองให้มากขึ้นครับ” มือใหญ่วางแนบลงบนแก้มเนียน ใช้ปลายนิ้วลูบเบาๆ แทนคำปลอบโยน

การทำให้อีกฝ่ายเกิดความกังวลไม่ใช่เรื่องที่ทำให้รู้สึกดีเลยสักนิด

แกร๊ก

เสียงเปิดประตูขัดจังหวะทำให้คนทั้งสองผละออกจากกันแล้วกลับมานั่งและนอนอยู่ในท่าที่ไม่ได้ดูใกล้ชิดกันเกินกว่าคนดูแลกับผู้ถูกดูแล

“ข่าวออกไปแล้วนะ คงมีความวุ่นวายมากมายเกิดขึ้น แต่เราจะรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการไม่ให้ทั้งแฟนคลับและนักข่าวมาที่นี่นอกจากจะมีการแถลงข่าว เดี๋ยวค่ายจะส่งคนมาเฝ้าหน้าห้องและกระจายตัวตามจุดต่างๆ เผื่อมีใครบุกขึ้นมา คนจากทางฝุ่นก็จะมาด้วย”

ภาวิดาเดินเข้ามาหาพร้อมทั้งรายงานความเคลื่อนไหวทั้งหมดอย่างยาวเหยียด

ฝุ่นเหลือบตามองคนบนเตียงเล็กน้อยจากนั้นจึงส่งเสียงรับคำในลำคอ

บริษัทเขาถือความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง กับปินซึ่งเป็นคนที่มีชื่อเสียงจึงยิ่งต้องใช้ความปลอดภัยขั้นสุด เผลอๆ อาจมากกว่าความปลอดภัยที่ค่ายเพลงของปินต้องรักษาเสียอีก

“พี่ให้งดเยี่ยมด้วยนะ นอกจากทีมหมอ คนในครอบครัวปิน พี่ ฝุ่น แล้วก็คุณธนกรณ์ จะไม่มีใครได้เข้ามาในห้องนี้อีก”

“แบบนั้นก็ดีเหมือนกันครับ” ปินเห็นด้วยเนื่องจากการให้เยี่ยมอาจนำพาความวุ่นวายมาให้

“ว่าแต่ปินจะให้คนไปรับแม่กับน้องที่ชลบุรีหรือเปล่า”

“ไม่ดีกว่าครับ ไม่อยากให้แม่นั่งรถนาน ผมนอนโรง’บาลแค่สองวันเอง”

แม่และน้องของปินอยู่อีกจังหวัดที่ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพมากนัก หลังจากหมอสั่งให้แอดมิทชายหนุ่มก็โทรบอกแม่แล้วเรียบร้อย ถึงแม้คนทั้งสองจะอยากมาหาแค่ไหนแต่ด้วยไม่อยากให้ผู้ให้กำเนิดต้องปวดแข้งปวดขากับการนั่งรถจึงบอกว่าไม่ต้องมา

“โอเค นี่นักข่าวโทรมาจนพี่รับสายจะไม่ทันแล้ว อีกหน่อยพยาบาลน่าจะมาเช็ดตัวให้ปินแต่ฝุ่นจัดการแทนไปเลยนะ เซฟไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ”

“ได้ครับ” คนที่ต้องทำหน้าที่แทนพยาบาลตอบรับเบาๆ

“เดี๋ยวพี่คงเคลียร์งานอยู่ที่ห้องสำหรับคนเฝ้านานเลย มีอะไรฝุ่นก็เรียกนะ”

“ครับ”

หลังจากผู้จัดการวัยกลางคนเดินผ่านเข้าไปยังห้องพัก คนป่วยก็กลับมาเริงร่า ดวงตาเรียวจ้องมองใบหน้าคนข้างเตียงด้วยความระยิบระยับ

“มองอะไร” ฝุ่นถามขึ้นเมื่อเห็นความไม่น่าไว้ใจนั้น

“มองพยาบาลจำเป็นของผมไง”

“...”

“ฝุ่นน่าจะใส่ชุดนางพยาบาลด้วยนะ แบบนั้นผมคงจะหายป่วยทันทีเลย”

“ทะลึ่ง” เสียงตวาดดังขึ้นพร้อมกับแก้มเนียนที่เหมือนจะร้อนผ่าวเพราะในหัวเผลอคิดภาพตามคำพูดอีกคน

ฝุ่นหน้าแดงซ่านพาให้คนมองรู้สึกเอ็นดูจนอยากจับมาฟัดแก้มแรงๆ แต่เนื่องจากสังขารไม่เอื้ออำนวยจึงทำได้เพียงนอนนิ่ง
“แล้วฝุ่นคิดอะไรเหรอ หน้าแดงเชียว” ปินเอ่ยพลางหัวเราะแผ่วๆ

“ไม่ได้คิด”

ก๊อก ก๊อก

คงถูกหมาป่าไล่ต้อนจนจนมุมหากเสียงเคาะประตูไม่ดังขึ้นราวกับเป็นเสียงช่วยชีวิต ทางด้านปินที่รู้สึกแสนเสียดายก็ลอบถอนหายใจ ขณะที่ฝุ่นรู้สึกโล่งอกเสียมากกว่า

“ดิฉันมาเช็ดตัวให้คนไข้ค่ะ” พยาบาลท่าทางใจดีที่อายุอานามดูไม่น้อยเดินเข้ามาพร้อมอ่างใบเล็กในมือ

“เดี๋ยวจัดการเองครับ ผมเป็นคนดูแลเขา” ฝุ่นหยัดกายขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินอ้อมไปหาอีกฝ่าย

“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวอีกสักครู่ดิฉันจะมาเก็บอุปกรณ์นะคะ”

“ครับ”

วางอ่างลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วพยาบาลก็ค้อมตัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้อง ทิ้งความเป็นส่วนให้กับคนไข้และผู้ดูแลอย่างรู้หน้าที่

ครืด

เสียงรูดผ้าม่านรอบเตียงดังขึ้นเมื่อฝุ่นจัดการรูดมันเพื่อป้องกันภาพไม่เหมาะสมที่อาจจะมีคนเปิดประตูเข้ามาเจอ

“ไม่ถอดข้างล่างด้วยเหรอ”

ปินแสร้งถามยามเสื้อถูกดึงปมเชือกออกจนหมดแล้วร่างเล็กก็หมุนตัวไปบิดน้ำออกจากผ้าโดยไม่แตะต้องส่วนล่างแม้แต่น้อย

“เช็ดข้างบนก่อนแล้วค่อยถอด”

คนถูกถามตอบกลับพร้อมทั้งหมุนกายกลับมา จากนั้นจึงค่อยๆ ใช้ผ้าหมาดเช็ดตามใบหน้าซีดเซียวให้คนป่วยอย่างแผ่วเบา

“ถอดพร้อมกันเลยสิ ผมไม่ว่า”

“ป่วยอยู่ยังจะมาหื่น”

ฝุ่นตั้งใจทำสีหน้าเอือมระอาให้คนตรงหน้ารับรู้ แต่ถึงอย่างนั้นปินก็ไม่มีแววว่าจะสะทกสะท้าน

“หื่นที่ไหน แค่เปลือยต่อหน้าฝุ่นยังไม่เรียกว่าหื่นหรอก”

“...”

“ต้องทำอะไรมากกว่านั้นอีกเยอะถึงจะเรียกว่าหื่นได้”

“ถ้าไม่หยุดพูดจะให้พี่หวานมาเช็ดตัวให้”

เจ้าหมาแสนกวนยอมปิดปากฉับเพราะคำขู่ รู้ว่าฝุ่นสามารถทำอย่างนั้นได้จึงปล่อยให้พยาบาลจำเป็นเช็ดตัวให้ต่อโดยไม่ก่อกวนอะไรอีก

กระทั่งถูกเช็ดตัวส่วนบนให้ทุกซอกทุกมุมแล้วกางเกงกำลังจะถูกถอด มือเล็กจับอยู่ตรงปมเชือก ฝุ่นใช้แรงดึงเพียงนิดมันก็หลุดออก ต่อมาขอบกางเกงก็ถูกดึงลงไปทางปลายเท้าให้กายของปารินทร์เหลือเพียงเสื้อและชั้นในที่ติดกาย

“ถอดกางเกงในด้วยสิ ฝุ่นจะไม่เช็ดปินน้อยให้เหรอ”

“ทำไมต้องเช็ด” คิ้วได้รูปขมวดมุ่น เริ่มเหนื่อยกับคนขี้แกล้งจนอยากโยนผ้าใส่หน้าหล่อๆ นั่น

“อย่างนั้นปินน้อยก็ไม่สะอาดสิครับ”

“ตรงนั้นเจ้าของก็ค่อยไปทำความสะอาดในห้องน้ำเองไหม”

“ผมป่วยนะ ไม่มีแรงทำหรอก”

เสียงพูดนั้นอ่อนอ่อยเหมือนคนไม่มีแรงอย่างที่เจ้าตัวว่า แต่ฝุ่นซึ่งอยู่กับอีกฝ่ายมาไม่น้อยรู้ดีว่าปินกำลังแกล้งทำ เห็นท่าทางไม่หยุดเล่นนั้นแล้วจึงจำต้องปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ปิน ไม่เล่นนะ...ถ้าเช็ดแล้วเกิดมีอารมณ์ขึ้นมาจะทำยังไง”

กับส่วนนั้นซึ่งถูกกระตุ้นได้ง่ายอย่างที่สุดเพียงแค่แตะต้องมันก็พร้อมจะตื่นเพริด จะให้เช็ด ถู ลูบ คลำ ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าการเช็ดตัวจะไม่จบลงเพียงเท่านี้

“ฝุ่นรู้ดีที่สุดนี่ว่าต้องทำยังไง”

“รู้ แต่อยากให้พักผ่อน หน้าซีดจนไม่รู้จะซีดยังไงแล้วรู้ตัวไหม” ท้ายประโยคเจือไปด้วยความเป็นห่วงจนคนที่ยังคงเล่นนิ่งงัน

“...”

“เช็ดตัวแล้วก็พักผ่อน หายแล้วอยากจะเล่น อยากจะแกล้ง อยากจะทำอะไรจะให้ทำเต็มที่ โอเคหรือเปล่า”

เสียงพูดนั้นไม่ได้ฟังดูดุหรือหงุดหงิด หากแต่มันกลับเต็มไปด้วยความวอนขอ

ขอให้หายป่วย อยากได้อะไรจะทำให้ทั้งนั้น

“ฝุ่น” คนถูกถามไม่ตอบทว่าเอ่ยเรียกให้ฝุ่นรับคำ

“หืม”

“จูบหน่อย” คำร้องขอที่ไม่น่าเกิดในสถานการณ์ตอนนี้ดังขึ้น

ฝุ่นไม่เข้าใจสิ่งที่ปินเรียกร้องนัก ดวงตาเรียวซึ่งมักบ่งบอกสิ่งที่เจ้าตัวคิดคราวนี้ถูกปกปิดให้ไม่อาจคาดเดาได้

สุดท้ายแล้วใบหน้าเล็กก็ยอมโน้มลงไปใกล้ บดเบียดริมฝีปากเข้าหาให้อีกคนเริ่มต้นจูบโดยไม่เอ่ยตั้งคำถามให้มากความ
กลีบปากสองคู่ขบเม้มดูดซับ ปลายลิ้นชื้นแฉะเกาะเกี่ยวกันลึกซึ้ง จูบอ่อนหวานดำเนินไปเรื่อยๆ จวบจนกระทั่งคนบนเตียงเป็นฝ่ายผละออกแล้วไล้ปลายนิ้วไปตามริมฝีปากบางเบาๆ พร้อมทั้งเอ่ยขึ้น

“ขอบคุณนะครับ”

“ขอบคุณอะไร” ฝุ่นถามด้วยความไม่เข้าใจ

“ขอบคุณที่เป็นห่วง ขอบคุณที่ใส่ใจ” ปินยิ้มแบบที่ไม่ได้เจือด้วยความขี้เล่นแบบก่อนหน้า

เป็นยิ้มที่ออกมาจากความรู้สึกทั้งหมด

“...”

“ผมดีใจที่มีฝุ่นนะ”

มี...ที่ไม่รู้ความหมายว่ามีในแบบไหนกลับทำให้คนฟังอุ่นซ่านไปถึงหัวใจ บางอย่างในตาของคนพูดราวกับเป็นบางอย่างที่ตัวเองมีและหวังรอคอยจากอีกคน

ฝุ่นเลื่อนสายตาลงมองอกของปินแทนใบหน้า ถึงจะไม่มีความชัดเจนระหว่างกันมากกว่านั้นแต่ก็ยังเป็นสุขกับตรงนี้

“เหมือนกัน”

TBC.

มาต่อแล้วววว ขยันฝุดๆ เล้ย
คราวนี้หมาปินป่วย ต้องการกำลังใจมักๆ
ฝากติชมและเป็นกำลังใจให้หมาปิน(และคนเขียน)ด้วยนะคะ
จะได้มาบ่อยๆ เลยยย
ฝากแท็ก #secrecyลับรัก ด้วยค่า


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 11-09-2018 20:18:15
เจ้าปินอย่าป่วยอีกนะสงสารพี่ฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-09-2018 20:34:22
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 11-09-2018 20:42:52
ไม่รู้จะสงสารใครดีระหว่างพี่ฝุ่นกับน้องปิน
แต่น้องปินนี่หนักไปทางกวนจนจะไม่อยากสงสารกลายๆละ แต่น่าเห็นใจนางอยู่ไม่น้อย
ก็คนมันห่างกันนานเลยคิดถึง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-09-2018 20:45:13
ยิ่งป่วยยิ่งอ้อนหนักมากเลยปิน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-09-2018 20:52:58
แอบลุ้นฉากเช็ดตัวอ่ะ 555  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: VIP4ever ที่ 11-09-2018 20:57:46
ละมุนมาก ขออย่าดราม่าเลยนะ พลีสสสสสส
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-09-2018 21:04:07
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: chanitsa.le ที่ 11-09-2018 21:10:59
หวานขนาดนี้ มาม่าจะชามใหญ่ขนาดไหนนนนนน :katai1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-09-2018 02:43:15
ได้ทีล่ะอ้อนใหม่เชียวนะ ปิน  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 12-09-2018 06:48:17
หมาปินขี้อ้อนนนน
ฝุ่นน่ารักกก เป็นศิลปินขนาดนี้มาม่าต้องหนักแน่ๆ  :ling3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 12-09-2018 07:59:14
 :katai1:
โอ๊ยยย รอปินหาย แล้วฝุ่นโดนจัดชุดใหญ่ กิกิ

หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 12-09-2018 11:52:48
หมาปินป่วยก็ยังจะแกล้งแมวฝุ่นอีก ขอบคุณค่ะโซแอล รอหมาปินแมวฝุ่นตอนหน้าค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: benceii ที่ 12-09-2018 12:12:49
มีไม่กี่ตอนแต่กลิ่นความดราม่าฟุ้งมาก อยากอ่านดราม่าจัด ๆ กับความรักต้องห้ามนี้
เพราะดูแล้วว่าถ้าหมาปินกับพี่ฝุ่นจะรักกันได้ต้องมีคนเสียสละในบางสิ่งบางอย่าง จะรอนะคะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Four.] : 11/09/2561 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 12-09-2018 12:47:27
หมาปินขี้อ้อนนนปนสำออยหน่อยๆ 5555555
กลัวว่าเมื่อคนของทางฝุ่นมาที่โรงบาลความจะแตกจังวุ้ย ไม่น้า
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 15-09-2018 20:40:34
Chapter Five.

“นอนได้แล้ว”

“ฝุ่น ผมเพิ่งตื่นเองนะ” เสียงเรียกชื่อนั้นอ่อนอ่อยทั้งยังเจือด้วยเสียงหัวเราะอย่างอ่อนใจ

ร่างเล็กซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ไปไหนคอยแต่จะกำชับให้นอนทั้งที่เขาเพิ่งตื่นได้ไม่ถึงชั่วโมง

“ก็นี่มันเวลานอน”

“ผมหลับไปตอนหัวค่ำ ตอนนี้เลยตาสว่างน่ะสิ”

เวลาสี่ทุ่มซึ่งควรเป็นเวลานอนกลับกลายมาเป็นเวลาตื่น ด้วยเพราะฤทธิ์ยาและการพักผ่อนจึงทำให้รู้สึกว่าไข้ลดลงบ้างแล้ว แม้จะยังปวดหัวอยู่แต่ก็ไม่มากเท่าตอนกลางวัน

“หลับตาลงเดี๋ยวก็หลับเอง” พยาบาลที่แสนเคร่งเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้ต่อการจะให้นอน

“ให้ผมได้คุยกับฝุ่นอีกนิดเถอะ”

“จะคุยอะไร”

“จะว่าไปแล้วนี่ก็ถือเป็นเดทแรกของเราเลยนะ” ดวงตาของปินโอนอ่อน ริมฝีปากฉีกยิ้มบางๆ ขณะมองหน้าอีกคนยามเอ่ยพูด

“...”

“ที่นี่ทำให้เราได้อยู่ด้วยกันข้างนอกเป็นครั้งแรกเลย”

“...” คนฟังนิ่งเงียบเนื่องจากไม่รู้จะพูดอะไรโดยที่ดวงตาก็มองสบกับคนบนเตียงอย่างไม่ละไปไหน

ก็จริง นอกจากในห้องแล้วเราก็ไม่เคยได้ออกไปไหนด้วยกันเลยสักครั้ง

“การเข้าโรงพยาบาลก็มีข้อดีเหมือนกันแฮะ”

“ไม่เห็นจะเป็นเรื่องดีตรงไหน” ฝุ่นพูดเสียงเบาพร้อมทั้งดึงสายตาไปมองทางอื่นเพื่อคลายบรรยากาศรอบตัวให้เบาบางลง

เมื่อกี้มันคล้ายกับมีมวลความรู้สึกโอบล้อมให้ดำดิ่ง

“ดีสิ ผมได้พักด้วย”

ปินยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ถึงจะอ่อนแรงและปวดหัวไม่น้อยแต่ก็ยังเป็นสุขกับการได้พักร่างกาย ทั้งยังมีพยาบาลคนพิเศษมาคอยดูแลอยู่แบบนี้

“พักแบบอื่นจะดีกว่าไหม” ดวงตาคู่สวยเลื่อนกลับมามองหน้าคนป่วยอีกครั้ง

ไม่อยากให้ป่วยเลยสักนิด

“มองในแง่ดีไง” คนฟังโคลงหัวอย่างไม่เห็นด้วยกับความคิดนั้นนัก

“อยากทานอะไรหรือเปล่า พี่หวานซื้อผลไม้ไว้ให้เยอะแยะเลย”

ผู้จัดการคนเก่งกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากมีครอบครัวต้องดูแล และด้วยเพราะตรงนี้มีทั้งฝุ่นและบอร์ดี้การ์ดหน้าห้องภาวิดาจึงสามารถวางใจได้

“ผมอยากกินนม”

“ช็อกโกแลต?”

“รู้ใจจัง”

คนแสนรู้ใจแสร้งทำหน้าเอือมระอาก่อนจะหยัดกายขึ้นแล้วเดินไปทางห้องครัวเพื่อหยิบนมที่ไม่ได้ถูกแช่เย็นมาให้ปารินทร์

จะไม่รู้ได้อย่างไร ในเมื่อปินชอบกินนมช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจ

“กินเสร็จแล้วก็แปรงฟันนอน”

มือหนารับกล่องนมที่ถูกเจาะให้เรียบร้อยมาไว้ในมือ ปากอ้างับหลอด จากนั้นกลิ่นช็อกโกแลตที่แสนโปรดปรานก็อบอวลอยู่ในประสาทสัมผัส

ปินอมยิ้ม ไม่ได้ยินประโยคนั้นของอีกคนเพราะมัวแต่สนใจสิ่งที่อยู่ในปาก

“ได้ยินหรือเปล่า”

ดวงตาคนถูกถามเลื่อนขึ้นมอง โดยไม่ต้องบอกฝุ่นก็เดาได้จากความเลิกลั่กว่าเมื่อกี้คนป่วยไม่ได้ฟัง

“กินนมกล่องนี้หมดแล้วต้องไปแปรงฟันนอน”

“ต้องรอย่อยด้วยสิครับ” ปินผละปากออกจากหลอดแล้วเอ่ยตอบ

“ดื้อ” คนถูกว่ายิ้มรับ

“ให้ผมได้อยู่กับฝุ่นแบบนี้อีกหน่อยนะ พอตอนเช้าพี่หวานก็มาแล้ว”

ได้ยินประโยคนั้นคนที่เคร่งกับการพักผ่อนก็พูดอะไรไม่ออก ใจค่อยๆ พ่ายแพ้ให้กับคนตรงหน้า คล้ายกับว่ายังไงก็ต้องยอมปินอย่างไม่อาจแข็งใจต่อเหตุผลนั้นได้

“ยังไงกินเสร็จก็ต้องไปแปรงฟัน จะได้ทำความสะอาดปินน้อยด้วย”

ถึงแม้จะไม่ได้ตอบรับออกมาชัดเจนแต่ปินก็แปลความหมายจากประโยคนี้ได้ว่าฝุ่นอนุญาตให้ยังไม่นอนได้

“ฝุ่นทำให้สิ” เอ่ยแล้วก็กลับมาดูดนมต่อราวกับพูดเรื่องทั่วไป

“ปิน” ฝุ่นเรียกอีกคนเสียงเรียบ

“สัญญาว่าจะไม่ให้มันตื่น...นะครับ” ปินพูดทั้งที่หลอดยังคาอยู่ในปาก ดวงตาเรียวฉายแววระยิบระยับอย่างไม่น่าเชื่อถือ

“เชื่อได้ที่ไหน” ฝุ่นพึมพำพร้อมทั้งถอนหายใจ

ไม่ได้มีปัญหากับการต้องดูแลปินเนื่องจากเป็นหน้าที่ตัวเอง ต่อให้จะมากกว่านี้ก็ทำให้เพียงแต่กลัวว่าการทำความสะอาดนั้นจะไปกระตุ้นอารมณ์บางอย่างให้ตื่นขึ้น

นมช็อกโกแลตหมดลงแล้วร่างเล็กจึงหยิบกล่องไปทิ้งขยะก่อนจะเดินกลับมาพยุงคนไม่สบายเข้าห้องน้ำ ให้ปินแปรงฟันพร้อมทั้งฉี่ให้เรียบร้อย จากนั้นจึงถอดทั้งกางเกงโรงพยาบาลและกางเกงชั้นในของคนร่างสูงออก ตอนนี้ปินน้อยที่ไม่น้อยจึงปรากฏอยู่ตรงหน้า

“ฝุ่น”

“หืม?” มือที่เอื้อมไปหยิบฝักบัวชะงักเล็กน้อย

“ความจริงแล้วฝุ่นก็ไม่ได้ทักทายปินน้อยมากสักพักแล้วนะ” คนฟังหันกลับมาหาคนพูด ดวงตาคู่สวยเข้มขึ้นกับประโยคที่ได้ยิน

“ป่วยอยู่ห้ามหื่น”

“ผมแค่พูดเฉยๆ”

ปินยักไหล่พลางยกยิ้มน้อยๆ ถึงอยากจะทำอย่างที่ใจคิดทว่าสภาพร่างกายก็ไม่ไหว คนที่เจียมสังขารตัวเองดีจึงทำเพียงยืนนิ่งให้ฝุ่นทำความสะอาดส่วนนั้นอีกทั้งยังพยายามข่มจิตข่มใจไม่ให้รู้สึกยามถูกมือเล็กสัมผัสไปมา

ไม่น่าเลย...

ปินได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ เพราะการอยากแกล้งฝุ่นเล่นๆ กลับกลายเป็นแกล้งตัวเองเสียมากกว่า

--

วันต่อมา
21.01 น.

“ดึกแล้ว จะหยิบกีตาร์ขึ้นมาทำอะไร”

ร่างเล็กที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินตรงมายังเตียงคนป่วย ฝุ่นถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามีกีตาร์ที่พี่หวานเอามาให้อยู่ในแขนของอีกคน นิ้วแกร่งสะกิดสายมันให้เกิดเสียงคลอเบาๆ

“ผมอยากร้องเพลง”

“ดึกแล้วก็ควรพักผ่อน ดีขึ้นใช่ว่าจะหายสนิท” คิ้วได้รูปขมวดมุ่น

“ผมหายแล้วน่า พรุ่งนี้หมอก็ให้กลับบ้านแล้ว” ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้ม เสียงกีตาร์เริ่มดังเป็นทำนองเพลงมากยิ่งขึ้น

“ถึงจะหายแล้วก็ควรพัก ก็เพราะพักผ่อนน้อยไม่ใช่หรือไงถึงได้ป่วยแบบนี้”

ปินมองคนพูดที่ยืนอยู่ข้างเตียง ใบหน้าผุดผ่องเนื่องจากเพิ่งอาบน้ำดูอ่อนใสจนไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะอายุยี่สิบเจ็ด

ฝุ่นมักเข้มงวดและจริงจังกับการดูแลเขาอยู่เสมอ ยิ่งในยามที่กำลังป่วยทุกอย่างก็ยิ่งเคร่งมากขึ้น ดูได้จากสีหน้าท่าทางในตอนนี้

“ฝุ่น...ตรงนี้ เวลานี้มีแค่เรา วางหน้าที่นั้นลงแล้วเป็นฝุ่นแบบที่อยากเป็นเถอะนะ”

“...”

“ผมขอแค่เวลานี้ ได้ไหม”

ตลอดเวลาสองปีกว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ได้ก่อเกิดความอึดอัดแต่มันก็ไม่ได้มีอิสระพอจะทำได้ทุกอย่าง

ครั้งแรกกับการอยู่ด้วยกันข้างนอก ปารินทร์อยากใช้ช่วงเวลานี้แบบคนธรรมดาคนหนึ่ง

ขณะที่ฝุ่นซึ่งได้ยินดังนั้นก็นิ่งเงียบ ภาพปินส่งยิ้มให้จางๆ ปรากฏอยู่ตรงหน้า โดยไม่ทันจะได้ตอบอะไรเสียงดนตรีก็ดังขึ้นเป็นทำนองเพลงที่แสนจะคุ้นหู

ตั้งแต่ฉันได้พบเธอ แรกวันพบเธอ
แสนเป็นสุขล้น
คงจะเป็นสวรรค์เบื้องบน
ส่งของขวัญล้ำค่า ให้เธอกับฉันมา
ไม่ต้องการเลยสิ่งใดแล้ว แค่มีเธอก็สุขใจ


โอ้เธอคือวันใหม่ คือแรงบันดาลหัวใจ
คือสิ่งมหัศจรรย์ คือฝันที่ฉันเฝ้ารอ

เสียงร้องนุ่มทุ้มเป็นสิ่งที่คนฟังรู้ซึ้งถึงอานุภาพอยู่แล้ว หากแต่เมื่อมันรวมกับสายตาสื่อความหมายและรอยยิ้มน้อยๆ กลับยิ่งรุนแรงมากขึ้นจนฝุ่นเหมือนจะยืนไม่อยู่

จะมองไปที่ใด โลกช่างสดใส โอ้ชีวิตช่างมีคุณค่า
และมีสิ่งดียิ่งกว่า ตั้งแต่ฉันได้มีเธอ


เพลงจบลงพร้อมเสียงดนตรี หลงเหลือเพียงความเงียบงันทว่าความรู้สึกฝุ่นราวกับถูกตรึงอยู่ในวินาทีเมื่อครู่

คือสิ่งมหัศจรรย์ คือฝันที่ฉันเฝ้ารอ...งั้นเหรอ

“ไม่ค่อยได้ร้องเพลงแนวนี้เลยแฮะ” ปินพูดกับตัวเองด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ

“...”

“ฝุ่นว่าโอเคไหม”

“...ก็โอเค” กว่าจะดึงสติซึ่งจมจ่อกับความรู้สึกนั้นให้กลับมาได้ก็เป็นเวลาที่ปินเลิกคิ้วขึ้นเนื่องจากรอคอยคำตอบ

“อยากฟังเพลงไหนอีกไหม เดี๋ยวผมร้องให้ฟัง” คนถูกถามส่ายหัวช้าๆ

“อยากร้องเพลงอะไรก็ร้องเถอะ”

“งั้นฝุ่นนั่งลงก่อน ผมเตรียมร้องให้ฟังหลายเพลงเลย”

ท่อนแขนเล็กถูกจับก่อนจะเกิดแรงรั้งให้ต้องทรุดตัวนั่งลงตรงปลายเตียง โดยมีคนป่วยในชุดโรงพยาบาลพร้อมด้วยกีตาร์นั่งหันหน้าเข้าหา

ฉันนั่งยิ้มลำพังหัวเราะลำพัง
สดชื่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ตั้งแต่ได้พบกับเธอนั้น
เรื่องจริงกับความฝันเกิดขึ้นด้วยกันทันตา



ฉันอยากจะหยุดเวลานี้
ตั้งแต่วินาทีที่ชีวิตมีเธอเข้ามา
เธอทำให้คนที่เหนื่อยล้า
นั้นกล้าจะเปิดหัวใจ


หยุด หยุดชีวิตหยุดกับคนนี้
แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรักทั้งหัวใจ
จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว


“จะร้องเพลงจีบกันรึไง” ฝุ่นถามขึ้นเมื่อเพลงจบลง

ด้วยได้ฟังเพลงแรกแล้วจึงตั้งสติกับเพลงที่สองได้ แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจก็สั่นไหวไม่น้อยกับความหมายของเนื้อเพลง

“แล้วจีบได้ไหมครับ” ใบหน้าหล่อโน้มเข้ามาใกล้ ดวงตารีเป็นประกายแพรวพราว

“ระดับปิน ปารินทร์ต้องจีบใครด้วยหรือ”

“มันไม่ได้อยู่ที่ว่าผมเป็นใคร แต่อยู่ที่คนบางคนต่างหาก”

“...” ฝุ่นไม่กล้าถามว่าคนบางคนนั้นคือใครทั้งที่ใจแสนอยากรู้

“ผมไม่ได้อยากเป็นปิน ปารินทร์สำหรับเขา...แต่อยากเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง”

ความรู้สึกซึ่งถูกซ่อนเอาไว้ในส่วนลึกคล้ายกับกำลังจะปรากฏขึ้นให้รับรู้ ถึงจะเป็นเพียงระหว่างกันทว่าก็เพียงพอแล้วสำหรับใจดวงน้อย

ฝุ่นรู้...ปินรู้

และเรารู้ว่าควรทำอย่างไร เป็นอย่างไร และจะอยู่กับมันอย่างไร

“ดึกแล้ว พักผ่อนเถอะ”

ฝุ่นเอ่ยเปลี่ยนเรื่องพร้อมทั้งขยับกายลงจากเตียงด้วยวิธีการที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นี้ แต่แล้วแขนก็ถูกรั้งเอาไว้ให้ต้องหยุดชะงัก โดยที่ปินไม่ยอมปล่อยกระทั่งต้องหมุนกายกลับไปหา และราวกับอีกคนรออยู่ก่อนแล้ว สัมผัสนุ่มนวลจึงแนบลงบนริมฝีปากในวินาทีต่อมา

“กู๊ดไนต์คิสครับ” ปินทำเพียงแค่แนบชิดแล้วผละออกก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม

“อย่าให้มันมากนัก”

“...”

“โดนเอาคืนบ้างเดี๋ยวจะหนาว”

ถึงแมวตัวนี้จะไม่ได้มีฤทธิ์หรือพลังเยอะ แต่มันก็มีวิธีการเอาคืนในแบบของมัน

“ทำไมครับ ฝุ่นจะทำอะไร”

หมาป่าซึ่งคิดว่าตัวเองมีกำลังมากกว่าย่ามใจ และเมื่อการจู่โจมแบบไม่คาดคิดเกิดขึ้นจึงทำได้เพียงนิ่งงัน มองใบหน้าเล็กอย่างพูดอะไรไม่ออก

ความรู้สึกที่ปลายลิ้นนุ่มตวัดเลียกลีบปากเบาๆ ติดอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน

โดนแมวเลียปากงั้นหรือ

“กู๊ดไนต์”

ฝุ่นเอ่ยทิ้งท้ายก่อนกีตาร์ที่วางอยู่บนเตียงจะถูกเอาไปเก็บให้บ่งบอกว่าอีกคนไม่มีสิทธิ์ทำอย่างอื่นนอกจากนอน ต่อมาไฟในห้องก็ถูกปิดลงเหลือเพียงดวงเดียวที่ส่องแสงสลัวๆ จากนั้นฝุ่นจึงเดินกลับมายังโซฟาตัวใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงคนป่วยนัก

มีห้องสำหรับคนเฝ้าไข้ ทั้งยังมีเตียงนอนให้ครบครันแต่ด้วยกลัวหากเกิดอะไรขึ้นแล้วจะไม่รู้คนดูแลจึงเลือกนอนตรงนี้

“ฝุ่น”

“หืม” คนถูกเรียกที่กำลังจะเอนกายลงนอนหันหน้าไปทางคนเรียก

“ระวังผมจะเอาคืน”

“ไม่ระวังได้ไหม...เพราะรอให้เอาคืนอยู่”

แมวฝุ่นขี้ยั่ว!

--

ซูเปอร์สตาร์คนดังนอนโรงพยาบาลเพียงสองคืน เมื่ออาการไข้ดีขึ้นและไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อนอย่างที่กังวลหมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ถึงอย่างนั้นก่อนกลับก็ต้องมีการแถลงข่าวเล็กๆ สำหรับแฟนคลับหลายคนที่เป็นห่วงและอยากรู้อาการ

“สาเหตุการป่วยมากจากอะไรครับ”

“อย่างที่ทุกคนคงพอจะทราบกันอยู่แล้ว มาจากการทำงานหนักแล้วก็พักผ่อนน้อยครับ”

“ตอนนี้หายดีหรือยังคะ”

“ก็ประมาณ 90% ครับ ยังคงต้องพักอีกหนึ่งวันเพื่อให้ร่างกายเต็มที่ที่สุด” แม้จะได้ออกจากโรงพยาบาลวันนี้หากแต่ปินก็ยังต้องพักร่างกายอีกสักนิดเพื่อความมั่นใจ

“แต่ก็ยืนยันว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วใช่ไหมคะ”

“ครับ แข็งแรงแล้ว ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกคน”

“ฝากอะไรถึงแฟนๆ ที่เป็นห่วงจนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับหน่อยครับ”

“ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้ทุกอย่างโอเคแล้ว สัญญาว่าจะพยายามไม่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงอีก แล้วก็หวังว่าจะไม่มีใครต้องมาป่วยแบบผม...แล้วเจอกันวันมะรืนครับ”

นักข่าวยังอยากถามมากกว่านี้ทว่ามีสิทธิ์เพียงเท่านั้นจึงจำต้องทำเพียงเก็บภาพต่อ และเมื่อซูปเปอร์สตาร์ลงจากโต๊ะแถลงข่าวฝูงสื่อมวลชนก็เคลื่อนย้ายไปตามแฟนคลับ ปินให้เวลาส่วนตัวกับแฟนคลับอีกสักพัก เนื่องจากบอกไปแล้วว่าไม่รับของมีค่าวันนี้จึงมีแต่จดหมายและดอกไม้แทบทั้งหมด

“กลับบ้านกันดีๆ นะครับ”

เมื่อทุกคนตะโกนตอบรับร่างสูงจึงโบกมือลาพร้อมทั้งแปะมือที่แฟนคลับยื่นมาหาให้ทั่ว ก่อนจะก็ออกจากตรงนั้นโดยมีผู้จัดการส่วนตัวอย่างพี่หวานเดินนำไปขึ้นรถ

ครืด

เสียงประตูรถถูกเลื่อนเปิดและปิดลงในนาทีเดียวกัน จดหมายบางส่วนในมือใหญ่ถูกฝุ่นยื่นมือมารับไปเก็บไว้ให้เรียบร้อย

“กลับห้องเลยนะ” ภาวิดาหันมาถาม

“ครับ”

--

“ช่วงนี้งานของปินก็จะลดลงบ้างแล้ว แต่เดี๋ยวเดือนหน้าจะมีถ่ายแบบ พี่คงต้องฝากฝุ่นดูเรื่องอาหารการกิน แล้วก็เรื่องออกกำลังกายด้วยนะ”

“ได้ครับ”

“โอเค วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว ปินพักผ่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน”

คนทั้งสองเดินไปส่งผู้จัดการคนเก่งที่หน้าประตู โดยภาวิดาย้ำเรื่องงานพรุ่งนี้กับปินอีกเพียงเล็กน้อยก่อนจะก้าวออกจากห้องไป ขณะที่คนเพิ่งทำงานเสร็จก็เดินกลับมาทิ้งตัวลงบนโซฟา

หลังจากหายป่วยปินก็กลับมาทำงานตามตารางที่รันไว้ตามปกติ ถึงจะไม่มากเท่าช่วงที่เพลงถูกปล่อยออกไปแต่ก็ยังมีงานทุกวัน

“กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำหน่อยไหม” ร่างเล็กเอ่ยถามพลางทรุดตัวนั่งลงข้างๆ

“เมื่อกี้เปิดตู้เย็นเจอไอติมกะทิด้วย วันนี้ฝุ่นเรียนทำไอติมมาเหรอ”

แทนที่จะลุกขึ้นอาบน้ำอย่างที่อีกคนบอกปินกลับไม่สนใจประโยคนั้น ทั้งยังขยับตัวมาทิ้งหัวลงบนตักเล็ก นอนมองหน้าฝุ่นไปพลางๆ ยามรอคำตอบ

“อืม แต่ต่อไปจะไม่ทำขนมให้แล้วเพราะปินต้องคุมน้ำหนัก” ได้ยินดังนั้นใบหน้าหล่อก็บูดบึ้ง ตามมาด้วยเสียงบ่นพึมพำ

“โธ่ แบบนั้นผมก็ตายพอดี ทำให้กินวันละคำสองคำก็ได้”

“จะให้กินแค่อาทิตย์ละครั้ง ต่อไปนี้จะทำอาหารคลีนให้นะ ต้องออกกำลังกายทุกวันด้วย”

ปินถอนหายใจดังเฮือก ร่างสูงที่ทอดกายนอนหงายพลิกตัวไปอีกด้าน ใบหน้าซุกเข้ากับแผ่นท้องบาง

“เฮ้อ พี่หวานไม่น่ารับงานถ่ายแบบนั่นเลย”

“แล้ว...” คนที่อยากรู้อะไรบางอย่างกำลังจะพูดออกมา แต่ก็ต้องหยุดค้างเอาไว้เนื่องจากเกิดความไม่แน่ใจขึ้นกระทันหันว่าควรถามหรือไม่

“แล้วอะไรครับ” ปินพลิกหน้ากลับมาถาม คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดๆ

“มันต้องโชว์ขนาดนั้นเลยเหรอพี่หวานถึงต้องให้ฟิตหุ่น”

พอได้ยินประโยคนั้นก็คล้ายกับว่าริมฝีปากคนฟังอยากจะยกยิ้ม หากแต่ด้วยกลัวจะทำให้แมวขี้หวงรู้ตัวจึงทำเป็นไม่รับรู้ถึงความหวงที่แฝงมาแล้วตอบด้วยสีหน้าปกติ

“ก็นิดนึงครับ มีถอดเสื้อด้วยละมั้ง”

“ถ้าถึงขั้นถอดเสื้อก็ไม่นิดนะ ไม่เคยถ่ายแบบที่ต้องถอดเสื้อออกเลยไม่ใช่เหรอ”

ราวกับดวงตาคู่สวยโตขึ้นกว่าที่เป็น อีกทั้งคำถามยังเจือความร้อนรนอยู่เล็กๆ

“ยังไม่แน่ใจเลย คงต้องดูหน้างานอีกที...ว่าแต่ฝุ่นถามทำไมหืม”

ปินแสร้งถามเหมือนไม่รู้เรื่องราวทั้งที่กำลังกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม

ความเหนื่อยล้าจากงานถูกบรรเทาลงด้วยท่าทางน่ารักที่ไม่รู้ตัวนี้จนรู้สึกเหมือนไม่ได้ออกไปทำงานมาอย่างไรอย่างนั้น

“ก็...ถามเฉยๆ”

“อืมมม”

“อืมอะไร ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้มากินข้าว”

ท่าทางไหวหวั่นที่เผลอแสดงออกถูกกลบเกลื่อนด้วยเสียงราบเรียบ บทสนทนาเบี่ยงหัวไปเป็นเรื่องอื่น และปินก็ยอมปล่อยผ่านด้วยการยันตัวขึ้นนั่ง

“อาบให้หน่อยครับ” คนอ้อนขอยิ้มตาใส

“โตขนาดนี้ยังจะมาให้อาบให้อะไรอีก”

“ฝุ่นก็รู้ว่าผมไม่ได้หมายถึงอาบน้ำแบบนั้น”

“ไม่รู้” ฝุ่นเบือนหน้าหนี ไม่มองหน้าคนที่ส่งสายตาอย่างมีความหมายมาหา แต่แล้วปลายคางก็ถูกนิ้วแกร่งเชยให้หันกลับ ปินขยับใบหน้ามาใกล้จนปลายจมูกแตะกันแผ่วเบา

“อาบน้ำให้ปินหน่อย”

หมาป่าเจ้าเล่ห์

ฝุ่นว่าอีกคนอยู่ในใจขณะที่แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าว ใจเต้นตึกตักกับคำแทนตัวนั้น ร่างกายแข็งทื่อขึ้นทันใดเมื่ออีกคนดันปลายจมูกบี้กันไปมา

“ว่าไงครับ”

“จะให้อาบก็ให้ลุกสิ”

สุดท้ายก็เป็นฝุ่นที่ต้องผละหนี ทำเป็นลุกขึ้นยืนด้วยเพราะไม่อาจทนกับความใกล้ชิดที่แสนสั่นไหวหัวใจนี้ได้

ถึงจะเคยใกล้ชิดกันถึงไหนต่อไหนแต่สถานการณ์เมื่อกี้มันแตกต่างกับความใกล้ชิดในแบบนั้น

“ฝุ่นอาบด้วยกันนะ”

“ไม่อาบได้ด้วยเหรอ”

ปินยกยิ้มกับคำตอบที่ได้ยิน จากนั้นมือใหญก็เอื้อมไปจับมือเล็กแล้วออกแรงรั้งให้เดินเข้าห้องนอนไปด้วยกัน

“ไหนบอกว่าจะให้อาบให้ไง”

เพียงแค่ก้าวเท้ามาหยุดอยู่ใต้ฝักบัวหมาตัวใหญ่ก็แปลงร่างเป็นปลาหมึกที่ยื่นมือมายุบยับตามร่างกาย ท่าทางคล้ายกับจะเป็นฝ่ายอาบน้ำให้กันเสียมากกว่า

“อาบด้วยกันก็ได้”

เสียงทุ้มดังอยู่ข้างหูจากทางด้านหลัง ตามมาด้วยสัมผัสบางเบาตรงหัวไหล่ให้กายเล็กสั่นสะท้าน จากเพียงแค่นาบริมฝีปากลงบนผิวเนื้อปินก็เริ่มขบเม้มดูดดึง มือเคลื่อนไหวไปตามสีข้าง บีบตรงนั้นเคล้นตรงนี้ตามที่ใจอยากทำ

“อื้อ” เสียงร้องดังขึ้นเมื่อฟันซี่คมกัดลงบนต้นคออย่างไม่เบาแรงนัก

“มันเขี้ยวแมวฝุ่น” ปินพึมพำ ต่อมามือเล็กก็ยกขึ้นยันกับผนังเนื่องจากถูกดันมาชิด โดยมีร่างสูงตามติด ลมหายร้อนคลอเคลียอยู่บริเวณหลังคอไม่ห่าง

คอบางระหงซึ่งมีรอยจางๆ จากกิจกรรมครั้งก่อนถูกเติมเต็มให้ร่องรอยเหล่านั้นกลับมาเข้มดั่งเดิม

สีกลีบกุหลาบแดงช้ำถูกแต่งแต้มไปทั่วราวกับจิตรกรกำลังสร้างสรรค์ผลงานด้วยความสุนทรีย์ บางครามันเกิดความซ่านเสียว บางคราก็เจือไปด้วยความเจ็บแปลบ แต่ถึงอย่างนั้นคนถูกกระทำก็แสนยินดีจะรับเอาไว้

ฝุ่นกัดปากเมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากสะโพกขึ้นมายังแผ่นอก เม็ดตุ่มไตถูกลูบไล้บีบบี้ ยามที่ปลายลิ้นร้อนก็ค่อยๆ ปาดไล้ไปตามใบหู

“อะ อือ” ความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นขึ้นอีกหนึ่งระดับเรียกเสียงครางในลำคอเล็กให้ดังแผ่ว จุดอ่อนไหวทั้งสองถูกเล่นงานพาให้อารมณ์วาบหวามโหมกระหน่ำ

หมาป่าที่กำลังค่อยๆ กลืนกินลูกแมวยกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางนั้น ก่อนร่างขาวเนียนจะถูกจับพลิกให้แผ่นหลังแนบกับผนังแล้วริมฝีปากได้รูปก็ฉกวูบลงไปจูบ

มือบางวางลงบนไหล่กว้างพลางบีบเบาๆ เมื่อถูกสัมผัสอย่างเร่าร้อน ส่วนล่างชูชันขยับเข้ามาแนบชิด อีกทั้งปินยังดันให้ส่วนนั้นถูไถกันไปมาจนก่อเกิดความรู้สึกบางอย่างที่หมุนวนอยู่ตรงท้องน้อย

ทุกอย่างคงจะดำเนินไปด้วยการนำพาของร่างสูงหากนี่ไม่ใช่ฝุ่นซึ่งถูกฝึกฝนเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี...

ร่างเล็กผละริมฝีปากออกแล้วทรุดตัวนั่งลงโดยไม่ให้อีกคนตั้งตัว จากนั้นมือนุ่มก็เคลื่อนเข้ากอบกุมส่วนร้อนผ่าว คนที่ถูกแตะต้องเกร็งร่างกายขึ้นทันใด

“ฝุ่น” เสียงเรียกชื่อนั้นแหบพร่าเมื่อรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

ปินยื่นนิ่งทั้งที่ข้างในกำลังสั่นไหว ดวงตาเรียวรีมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า กลางกายถูกขยับรูดรั้ง กระทั่งมันรู้สึกเกือบจะเต็มที่บางสิ่งซึ่งรุนแรงกว่ามือหลายเท่าก็เข้ามาครอบครอง

“อืมมม” เสียงครางต่ำดังก้อง ฝ่ามือใหญ่สอดเข้าหากลุ่มผมนิ่มทางด้านหลัง ใบหน้าแกร่งเชิดหงาย

ปินรู้ถึงความเก่งกาจนี้ของฝุ่นดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยคุ้นชิน ไม่เคยรู้สึกน้อยลงแม้จะมีอะไรกันมาถึงสองปี

ลิ้นเล็กรองอยู่ส่วนใต้ ขยับพลิกซ้ายขวา ขณะเคลื่อนริมฝีปากเข้าออกช้าๆ

จากผู้นำที่กลายมาเป็นผู้ตามถึงกับกัดฟันกรอด ยิ่งเมื่อส่วนปลายถูกปาดไล้ตามรอยแยกร่างสูงใหญ่ก็เกร็งจนขาสั่น มือที่วางอยู่บนผมของอีกคนกำแน่น เมื่อรู้ตัวจึงรีบคลายออกด้วยกลัวว่าฝุ่นจะเจ็บ

“อืม...ขอโทษครับ ฝุ่นเจ็บหรือเปล่า” คนที่ไม่อาจพูดตอบทางสายตา

ปินควรจะคลายใจกับคำตอบนั้นแต่การถูกมองแบบนี้และเห็นตัวตนตัวเองอยู่ในปากเล็กๆ นั่นมันสร้างความปั่นป่วนมหาศาลจนไม่อาจใจเย็นต่อไปได้

ป๊อก

เสียงส่วนนั้นหลุดออกจากปากเมื่อมือหนารั้งแขนฝุ่นให้ลุกขึ้นยืน ปินดันอีกคนกลับไปชิดผนัง ท่อนแขนใหญ่ข้างหนึ่งช้อนขาเรียวขึ้น ส่วนอีกข้างก็ประคองส่วนใหญ่โตพร้อมทั้งดันสะโพกเข้าหาช่องทางแคบโดยไม่แม้แต่จะเบิกทาง

“อึก” ความคับแน่นนั้นพาให้คนที่เป็นฝ่ายรองรับอึดอัดและจุกเสียด แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้บาดเจ็บเนื่องจากร่างกายทั้งสองรู้จักกันเป็นอย่างดี

ปินพยายามใจเย็นด้วยการก้มลงไปจูบคนอายุมากกว่า ถึงจะดูสวนทางกับการกระทำแรกอยู่บ้าง แต่ก็แก้ตัวทีหลังระหว่างรอให้ฝุ่นปรับตัว

กระทั่งความอึดอัดระหว่างกันดีขึ้นสะโพกสอบจึงเริ่มขยับ แน่นอนว่าเพราะมีสารหล่อลื่นเพียงเล็กน้อยมันจึงฝืดเคืองในจังหวะแรก แต่ด้วยตัวฝุ่นที่ถูกฝึกฝนและด้วยความเชี่ยวชาญของปินทุกอย่างจึงค่อยๆ รื่นไหลขึ้นตามลำดับ

จากการเคลื่อนไวช้าๆ ก็เปลี่ยนเป็นเร็วจนไม่อาจจูบกันได้อีก

“อะ อ๊า” เสียงครางหวานดังเล็ดลอดโดยไม่มีการอดกลั้น ท่อนแขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่ง ใบหน้าสวยโน้มไปพิงกับอกกว้าง ร่างกายสะท้อนขึ้นลงจากการตอกตรึง

ตัวตนซึ่งถูกโอบรัดด้วยความอุ่นร้อนปล่อยน้ำมาหล่อลื่นทีละน้อยจนช่วยให้การสอดกายไม่ติดขัด เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องพอๆ กับเสียงครางและเสียงหอบหายใจจากคนทั้งสอง

ฝุ่นหลับตาลงแน่น ขนอ่อนในกายลุกชัน ทุกการหวดสะโพกของปินทำให้ร่างกายสั่นสะท้าน ทว่ายามทุกสิ่งกำลังเป็นไปอย่างลื่นไหล อยู่ดีๆ อีกคนก็ผ่อนจังหวะลงมาเป็นเพียงหมุนวนให้คนที่กำลังจะถึงปลายทางชะงักค้าง

“ปะ ปิน” ฝุ่นผละใบหน้าออกจากอกกว้างแล้วเงยขึ้นมองคนตรงหน้า แววตาเป็นประกายเว้าวอนโดยไม่รู้ตัว

“ว่าไงครับ”

คนขี้แกล้งเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม ขณะที่ฝุ่นเริ่มขมวดคิ้ว เมื่อความต้องการไม่ถูกตอบสนองจึงลองพยายามขยับเอง แต่ด้วยขาอีกข้างพาดอยู่กับแขนอีกคนและปินก็เคลื่อนไหวสะโพกอย่างไม่ให้ความร่วมมือจึงไม่อาจทำอะไรได้

“อย่าแกล้ง อื้อ”

จริงอยู่ที่แบบนี้ก็ทำให้รู้สึกเสียวซ่านไม่ต่าง แต่มันไม่มากพอสำหรับเวลานี้ที่ต้องการมากกว่านั้น

“แกล้งอะไรกันครับ”

“ถ้าไม่ทำก็ปล่อย จะทำเอง”

คนฟังถึงกับหยุดทุกการเคลื่อนไหวเพราะประโยคนั้น ก่อนปินจะหลุดหัวเราะออกมาทั้งที่กำลังอยู่ในอารมณ์หวามไหว

“ทำไมใจร้อนจังหืม” ฝุ่นไม่หัวเราะหรือยิ้มตาม ใบหน้าติดจะบึ้งตึงด้วยซ้ำ

“ก็แกล้งอยู่นั่น”

“โอ๋ๆ ผมแกล้งหน่อยเดียวเอง ทำแล้วครับทำแล้ว...ไว้รอบสองแมวฝุ่นค่อยโชว์ฝีมือแล้วกัน” คนหงุดหงิดไม่สนใจอะไรนอกจากการเคลื่อนกายซึ่งสานต่อจากจังหวะเมื่อครู่

เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการความขุ่นเคืองในอกก็จางหาย ความรุนแรงจากการสอดประสานพาให้อารมณ์ที่ค้างคาดำเนินต่อ ปินตอกตรึงสะโพกเข้าหาหนักๆ เพียงไม่กี่นาทีเสียงครางหวีดหวานก็ดังขึ้น กายบางเกร็งกระตุก ความต้องการของฝุ่นถูกปลดปล่อย

ขณะที่ร่างสูงยังคงขยับกายต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะดึงแก่นกายออกในจังหวะสุดท้าย รีดเค้นทุกหยาดทางด้านนอกเนื่องจากไม่อยากให้อีกคนต้องลำบากทำความสะอาด

หลังจากที่ขาถูกวางลงบนพื้นฝุ่นก็ทิ้งตัวไปหาคนตรงหน้าอย่างหมดแรง

จุ๊บ

“ผมเปิดน้ำนะ” สัมผัสหนักๆ กดลงตรงกลางหัวเล็ก ก่อนมือหนาจะเอื้อมไปเปิดน้ำเพื่อดับความร้อนซึ่งอบอวลอยู่รอบกาย

“อื้อ” ฝุ่นตัวสั่นเมื่อน้ำที่ไหลกระทบกายเย็นเฉียบ

“หนาวเหรอ เปิดน้ำอุ่นไหม”

ปินตระกองกอดอีกคนเข้าหาตัวราวกับจะให้ความอบอุ่น ฝุ่นจึงเงยหน้าขึ้นแล้วตอบคำถามนั้นด้วยการส่ายหัว

“จะทำอีกรอบหรือเปล่า” คิ้วเข้มเลิกขึ้นกับคำถามที่ได้ยิน

“ทำไมครับ”

“จะได้ยังไม่อาบน้ำ”

“งั้นเดี๋ยวค่อยอาบ” หมาป่าแสนเจ้าเล่ห์ระบายยิ้ม


TBC.

ตอนนี้มาพร้อมเอ็นซี~ -////-
ความจริงเหนื่อยมาก ไม่อยากเขียน NC แล้ว
แต่ด้วยสงสารหมาปิน กลัวน้อยหน้าคนอื่นเขา
กลัวคนไม่รู้ว่ามีความสามารถ เลยฮึบเขียนออกมา
(เอ๊ะ หรือกลายเป็นโชว์ค.สามารถพี่ฝุ่นนะ5555)
ตอนนี้อาจมึนๆ งงๆ บางที่เพราะเขียน+ตรวจขณะดูบอล
หลังๆ อาจยิ่งหนักเพราะลุ้นมาก
สมาธิไปกับบอลหมดเลย555555
พิดพลาดจุดไหนยังไงก็บอกกันมาได้นะคะะะ
อย่าลืมแท็ก #secrecyลับรัก ด้วยยย
ถ้ากำลังใจน้อยหมาปินอาจไม่ได้โชว์ความสามารถอีกน้า


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)

หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-09-2018 21:09:46
แกล้งมาก ๆ ระวังฝุ่นทำเอง แบบ ให้หมาปินรับบ้างนะ 555555555555
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-09-2018 21:24:02
ไม่รู้หมาหรือแมวใครเชี่ยวกว่าใครเลย    :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 15-09-2018 22:03:09
ทำไมเขิน..นนนน   :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-09-2018 22:41:03
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-09-2018 23:09:51
 :jul1: :haun4: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 15-09-2018 23:33:45
น่ารักไปอีก ความจริงเรียกว่าคู่รักลับๆ ได้เลยนะคู่นี้
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 15-09-2018 23:38:09
ฮื้อออออออ จาเปงลมมมมม แมวฝุ่นน่ารักอ่ะ ชอบ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 16-09-2018 01:34:42
ว้ากกกก พี่ฝุ่นอ้อนได้แบบใมกสสแทดาแสกมกวก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-09-2018 03:17:14
นี่ขนาดพึ่งหายป่วยนะเนี่ย ความหื่นไม่เคยลดเลยนะ หนูปิน  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 16-09-2018 07:11:18
ผลงานโซแอลเยี่ยมสุดๆ
ชอบเรื่องนี้ หมาปิน แมวฝุ่น
งื้อออออ รอตอนต่อไปอยู่นะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ  :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 16-09-2018 07:15:09
เต็มอิ่มม่ะคุณปิน..
แมวฝุ่น...น่ารักอ่ะ เห็นภาพเลยแฮะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 16-09-2018 07:17:28
โง้ยยย ความสามารถของหมาปินนน
ขี้แกล้งจริงๆ เชียว 55555 แมวฝุ่นก็แซ่บนา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 16-09-2018 07:31:32
น้องปินขี้อ้อน.. พี่ฝุ่นสัญญาแล้ว.. หายป่วยให้หมด...
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 16-09-2018 16:26:26
 :L2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 16-09-2018 21:29:34
หมาปินก็ไม่น้อยหน้านาาาาาา  :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Five.] : 15/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 18-09-2018 10:51:36
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 28-09-2018 23:33:19
Chapter Six.

“ช่วงนี้เจอที่ฟิตเนสบ่อยเว้ย มีงานอะไรถามจริง” ไหล่ถูกกระแทกจากทางด้านหลัง ก่อนคนทักทายจะเดินอ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้า เมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมอาชีพที่สนิทปารินทร์ก็แสร้งทำหน้าเบื่อหน่าย

“ทีมึงไม่มีงาน ยังมาส่องสาวที่ฟิตเนสเฉยๆ ได้เลย”

“เรื่องส่องสาวกูไม่เถียง แต่ด่าเรื่องไม่มีงานนี่มันเจ็บ” คนถูกว่าแสดงท่าทางเกินความจริงจนปินโคลงหัว

ธนทัตคือเพื่อนร่วมอาชีพและเป็นเพื่อนร่วมค่ายที่ฝึกซ้อมมาด้วยกัน แม้อีกฝ่ายจะเพิ่งเป็นนักร้อง แต่ชื่อเสียงก็อยู่ในขั้นเป็นที่รู้จัก มีฐานแฟนคลับไม่น้อย

“นี่เป็นนักร้องหรือนักแสดง”

“ฮ่ะๆ สรุปว่ามีงานอะไร”

“ก็เหมือนมึงนั่นแหละ”

“ถ่ายแบบ?”

“อืม” ธนทัตทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะชวนเพื่อนคุยอีกเล็กน้อยถึงได้แยกย้ายไปหาเทรนเนอร์ของใครของมัน



ฟอด

“อื้อ ทำอาหารอยู่เห็นไหม”

ฝุ่นซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเย็นร้องออกมายามถูกอีกคนจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว ขณะที่เมื่อร่างเล็กทำอะไรไม่ได้ปินยิ่งแกล้งหนักขึ้น กดปลายจมูกไปทั้งแก้มซ้ายขวา

“ปิน!” เสียงวางทัพพีลงบนจานเปล่าดังพอๆ กับเสียงเรียกชื่อหมาแสนซน ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็ไม่หยุดการกระทำ อีกทั้งท่อนแขนยังรัดเอวบางแน่นขึ้น

ฟอด ฟอด ฟอด

“เรียกทำไมครับ” ปินเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มแฉ่งอย่างไม่สะทกสะท้านต่อสายตาเขียวปั๊ด

“ทำไมถึงได้ขี้แกล้งนัก”

“ก็ผมคิดถึงฝุ่น ไปออกกำลังกายกับคุยงานที่ตึกมาทั้งวันเลย” ตึกคือสถานที่ที่เข้าใจความหมายกันดีว่าคือค่ายเพลง

แม้จะไม่มีอีเวนต์หรืองานอื่นๆ แต่ก็ต้องเข้าตึกไปคุยงาน บ้างก็ซ้อมร้องเพลงหรือซ้อมดนตรี ไม่ก็ไปออกกำลังกายเช่นวันนี้

“คิดถึงอะไร แยกกันไม่กี่ชั่วโมง” น้ำเสียงฟังดูคล้ายกับเอือมระอาทว่าแววตากลับสวนทางอย่างปิดไม่มิด

คำหวานที่ถูกพูดด้วยท่าทีปกติพาให้ใจคนฟังเต้นด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น เลือดสูบฉีดขึ้นมายังแก้มทั้งสองข้าง

“ไม่กี่ชั่วโมงที่ไหน ตั้งหลายชั่วโมง ว่าแต่เย็นนี้ฝุ่นทำอะไร”

“สปาร์เก็ตตี้เส้นโฮลวีทซอสอกไก่”

“น่ากินจัง”

“งั้นก็รีบอาบอาบน้ำ จะได้มาทาน”

“ผมหมายถึงคนทำ” ริมฝีปากสีสดเม้มเข้าหากันอย่างไม่รู้จะพูดอะไร

ไม่ได้ถูกประโยคเสี่ยวๆ นั้นเล่นงานแต่เป็นเพราะดวงตาเรียวที่ทอความกรุ้มกริ่ม ปากได้รูปอมยิ้มน้อยๆ พร้อมด้วยปลายนิ้วแกร่งที่คลึงขึ้นมาตามแนวกระดูกกลางหลัง

“ไปอาบน้ำ” ฝุ่นพยายามดึงสติตัวเองไม่ให้ไหวหวั่นไปกับสัมผัสตรงหน้า

จุ๊บ

“โอเคครับ คนทำค่อยกินหลังทานข้าวก็ได้” ทาบริมฝีปากลงมาเร็วๆ แล้วร่างสูงก็ผละออกห่าง จากนั้นจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องครัวไปราวกับสายลม ทิ้งให้ฝุ่นได้แต่มองตามก่อนจะระบายยิ้มอ่อนใจ



“ร่างกายผมเปลี่ยนไปบ้างไหม” เสียงทุ้มดังขึ้นเหนือหัวคนที่นอนเกยอยู่บนอก หลังจากคนทำอาหารถูกกินจนเรียบร้อยโรงเรียนหมาปิน

ฝุ่นนิ่งคิดขณะสมาธิถูกรบกวนด้วยมือหนาที่ลูบไหล่ไปตามแผ่นหลัง ภาพที่ทำให้ได้เห็นสิ่งที่ปินถามชัดเจนที่สุดคงภาพแห่งความร้อนแรงเมื่อครู่

ร่างใหญ่เปลือยเปล่าไปทุกสัดส่วน ทุกการขยับ ทุกการเคลื่อนไหว...

“ก็...กล้ามท้องชัดขึ้น”

“ดีใจจังที่ฝุ่นสังเกตเห็น” เกิดรอยยิ้มภูมิใจเล็กๆ บนใบหน้า

ปกติแล้วการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งที่พยายามทำอยู่เสมอหากมีเวลา แต่ช่วงนี้พยายามหนักขึ้นกว่าเคย เมื่ออีกคนเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนั้นจึงรู้สึกดีใจไม่น้อย

“ก็อยู่ด้วยกันทุกวัน”

“ปกติถ้าอยู่ด้วยกันจะไม่ค่อยเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง แสดงว่าฝุ่นเป็นคนช่างสังเกตมากเลยนะ” ริมฝีปากบางล่างถูกขบกัดเนื่องจากคำพูดของปารินทร์

จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า ทุกอย่างที่เป็นปินเขาสังเกตมันทั้งหมด

“ใครก็รู้ทั้งนั้น ไปถามพี่หวานดูสิ” ร่างเล็กขยับตัวเล็กน้อยเพื่อคลายความอึดอัดของตัวเอง

“ถามทำไม พี่หวานไม่ใช่เมียผมสักหน่อย”

ถามทำไม ไม่ใช่เมีย

งั้นคนที่ถูกถามก็เป็น...

แรงกัดบนปากเพิ่มมากขึ้นจนรู้สึกชาหนึบ หัวใจคนฟังเต้นถี่รัว คล้ายกับจะมากกว่าตอนที่มีอะไรกันเมื่อครู่

“หึ ไปอาบน้ำกันไหม” ปารินทร์เอ่ยเปลี่ยนเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นเสียงหัวเราะในลำคอก็ยังดังออกมาให้ได้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกสนุกกับคำพูดเมื่อครู่

“อาบก็ได้ แต่ห้ามแกล้ง” ฝุ่นหันหน้ากลับมามองคนข้างตัว ปลายคางวางลงบนอกแกร่ง 

“แกล้งอะไร เห็นผมเป็นคนอย่างนั้นเหรอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้น ขณะที่ดวงตาทอประกายวิบวับอย่างสวนทางกับคำพูด

“เห็นเป็นยิ่งกว่านั้นอีก” เสียงหัวเราะทุ้มดังขึ้น ไม่ปฏิเสธคำกล่าวว่าทั้งยังขยับลงจากเตียงแล้วช้อนร่างบางขึ้นอุ้ม เรียกเสียงอุทานด้วยความตกใจของฝุ่นให้ดังขึ้น

“ปิน! บอกว่าอย่าแกล้งไง”

“ไม่ได้แกล้ง แค่จะพาไปอาบน้ำ”

“ก็พาไปดีๆ สิ จะอุ้มทำไม”

“ผมอยากอุ้มเมียตัวเองนี่ครับ”

ผ่าง

ฝุ่นรู้สึกเหมือนสมองโดนน็อคเอ๊าท์ คล้ายกับมีสายฟ้าฟาดลงกลางหัว พาให้ร่างกายแข็งทื่อ ประสาทการรับรู้ดับสิ้น
ไม่รู้ตัวว่าถูกพาเข้าห้องน้ำมาตอนไหน ไม่รู้แม้แต่ว่าร่างสูงกำลังอาบน้ำให้

เมีย...

“เสร็จแล้ว ไปแปรงฟันกัน”

ฝุ่นได้แต่เดินตามเจ้าของมือที่เอื้อมมาจับแล้วออกแรงรั้งให้เดินตามอย่างล่องลอย ดวงตาเลื่อนมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลานิ่งงัน

เป็นเมียปินงั้นเหรอ

--

วันถ่ายแบบ

“ฝุ่นทำอาหารคลีนอร่อยจนผมไม่คิดว่าตัวเองกินคลีนเลย” ปินมองอาหารตรงหน้าก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ยามมุมปากคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม

อาหารในเช้านี้คือสลัดอกไก่ย่างซึ่งส่งกลิ่นหอมฉุย รสชาติที่เคยลิ้มลองติดอยู่ในความคิด เป็นหนึ่งในเมนูอาหารคลีนที่โปรดปรานก็ว่าได้

“งั้นเดี๋ยวทำให้กินตลอด ต้มยำขาหมูก็คงไม่ต้องทำแล้ว”

“ไม่ได้สิ ไม่ได้กินมาเป็นเดือน ผมอยากกินจนใจจะขาด” ความยิ้มแย้มแปรเปลี่ยนเป็นอาการงอแงเล็กๆ ทำเอาคนมองโคลงหัวด้วยความอ่อนใจ

“กลับมาค่อยทาน”

“อยากรีบถ่ายรีบเสร็จเพราะรู้ว่าฝุ่นทำของโปรดไว้ให้นี่แหละ”

ตลอดหนึ่งเดือนอาหารที่ทานเข้าไปล้วนเป็นอาหารดีต่อสุขภาพ ถึงแม้ความยากจะถูกลดทอนลงด้วยฝีมือการทำอาหารของอีกคน ทว่าก็ยังอดคิดถึงเมนูทั่วไปที่มักกินอยู่เป็นประจำไม่ได้

“วันนี้ก็มีแค่งานถ่ายแบบไม่ใช่เหรอ”

“ครับ”

“เสร็จแล้วก็รีบกลับสิ” ได้ยินคนร่างเล็กเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาทั้งยังทำทีเป็นหยิบน้ำสลัดมาราดกลบเกลื่อนความรู้สึกในคำพูดตัวเอง

“จะกลับทันทีเลย” เพียงเท่านั้นคนฟังที่สนใจเพียงอาหารก็ไม่อาจกลั้นมุมปากให้ฉีกยิ้ม และคนที่เห็นรอยยิ้มนั้นก็ไม่คิดล้อเลียนให้แมวตัวนี้เขินอายจนเลิกแสดงท่าทีนี้



“ดี...ดีมาก...เยี่ยม...นั่นแหละ เพอร์เฟกต์!...โอเค เปลี่ยนชุดได้”

นักร้องหนุ่มยืนนิ่งให้ทีมงานเข้ามาซับหน้า ต่อจากนั้นภาวิดาจึงเข้ามาพาไปยังห้องแต่งตัว หลังจากเปลี่ยนชุดแล้วก็มานั่งให้ช่างทำผมทรงใหม่ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ได้พักไปในตัว

“เซตต่อไปนี่ต้องบอกว่าแซ่บสุด ขุดความแบดความเจ้าเล่ห์ออกมาให้สุดเลยนะคะ” ปินยกยิ้มทั้งที่ยังหลับตาเนื่องจากป้องกันละอองสเปรย์

“กังวลมากครับ กลัวทำออกมาได้ไม่ดี”

“ต๊าย รูปออกมาสวยทุกรูปขนาดนี้อย่าถ่อมตัวสิคะ อีกอย่างก็ฟิตหุ่นมาซะเฟิร์มขนาดนี้”

“จริงค่า น้องปินหุ่นดีขึ้นจริงๆ นะ ปกติก็ดีอยู่แล้วแต่ตอนนี้กล้ามยิ่งชัดไปหมด” ผู้ช่วยช่างก็ร่วมกันผสมโรงชม ทำเอาคนถูกชมหลุดหัวเราะ

“ตัวผมจะลอยแล้ว”

“ปีนี้ปังทั้งงานเพลงและงานอื่นๆ เลย ต้องกวาดศิลปินแห่งปีแน่”

“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”

“ได้ยินข่าวแว่วๆ ว่าจะมีแฟนมีตที่กับถ่ายแบบที่จีนด้วยใช่ไหม”

“ครับ” คนถูกถามรับคำพร้อมทั้งยิ้มรับบางๆ สองช่างร้องออกมาอย่างตื่นเต้นและคงพูดคุยมากกกว่านั้นหากทีมงานไม่เดินมาเร่งให้บทสนทนาจำต้องหยุดแล้วเหลือเพียงการตั้งใจทำงาน ไม่กี่นาทีต่อมานักร้องหนุ่มก็อยู่ในเสื้อผ้าหน้าผมชุดใหม่สำหรับการถ่ายแบบเซตต่อไป

“โอเค คอนเซปต์เซตนี้จะเป็นแนวผู้ชายแบดบอยหน่อยๆ มีความเซ็กซี่น่าค้นหา ฟีโรโมนฟุ้ง พี่ขอสายตาแบบที่มองแล้วผู้หญิงอยากเดินตาม ประมาณนั้นนะ” ปารินทร์พยักหน้ารับอย่างตั้งใจ ใช้เวลาทำสมาธิอีกเล็กน้อยจึงส่งสัญญาณว่าพร้อมให้ช่างภาพลั่นชัตเตอร์

เสื้อผ้า ท่าทาง และสายตานั้นทำให้ทีมงานหลายชีวิตที่อยู่หลังกล้องถึงกับแอบกรี๊ดไม่มีเสียง ปินไม่รู้ว่าตัวเองมีสเน่ห์มากเพียงใดเนื่องจากตกอยู่ในภวังค์ของความตั้งใจ ขณะที่ภาวิดาก็ระบายยิ้มด้วยความชื่นชม

ในการทำงานปารินทร์ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย



20.21 น.

“ขออีกจาน” หมาตัวโตหิวโซยื่นจานข้าวที่ไม่เหลือข้าวสักเม็ดมาตรงหน้า เพิ่มสกิลการอ้อนขอด้วยรอยยิ้มกว้าง

“หิวขนาดนั้นเลย” ร่างเล็กเอ่ยถามพลางตักข้าวในโถเพิ่มให้อีกเต็มจาน

“เพราะหิวด้วยเพราะอร่อยด้วย” ขาหมูถูกตุ่นจนเปื่อยในน้ำซุปต้มยำแซ่บๆ อร่อยเลิศรสจนคนที่ทานแต่อาหารรสชาติเบาท้องมาหนึ่งเดือนรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์

รสมือฝุ่นไม่มีตกเลย เมนูนี้ยิ่งราวกับถอดสูตรมาจากต้นตำรับ...ต้นตำรับของแม่ที่เขากินมาตั้งแต่เด็ก

“คงเพราะหิวมากกว่ามั้ง ยังไม่ทันจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดก็มานั่งกินข้าวซะแล้ว”

คนที่เพิ่งกลับจากการถ่ายแบบยังคงอยู่ในชุดลำลองตัวที่ใส่ออกไปในตอนเช้า ผมเผ้าก็ยังคงแข็งทื่อ ดีที่ว่าหน้าถูกทำความสะอาดมาแล้วเรียบร้อย

“ผมไม่ได้กินต้มยำขาหมูมาเดือนนึงแล้วนี่นา”

“ต่อไปก็กินแบบปกติได้แล้ว แต่ยังไงก็ต้องควบคุมนะ ไม่ใช่ว่าจะตามใจปากตัวเองทุกอย่าง”

“รู้แล้วครับ~ ฝุ่นนี่เข้มเหมือนเป็นพี่หวานสองเลย” ปินกลืนอาหารลงคอก่อนจะพูดด้วยสีหน้าล้อเลียน

“ขนาดเข้มยังดื้อขนาดนี้”

“ดื้อที่ไหน เป็นคนดีที่สุดแล้ว” คนฟังถึงกับโคลงหัว แต่ถึงอย่างนั้นในใจก็แอบยิ้มอยู่ในใจกับท่าทางของคนตรงหน้า

หมาปินที่เอร็ดอร่อยกับการทานข้าวดูไม่เหมือนนักร้องคนดังที่เห็นหน้าผ่านทางทีวีและป้ายโฆษณาที่ถูกติดอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง

ไม่ว่าปินจะเป็นใครสำหรับโลกภายนอกแต่ในโลกใบเล็กของเขาอีกคนเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆ เสมอ



“อื้อ อาบน้ำก่อน กลิ่นสเปรย์เซตผมตลบอบอวลไปหมด” ร่างเล็กเบี่ยงตัวหนีจากคนที่กำลังแปลงกายเป็นหมาป่าซึ่งจู่โจมเข้ามาจากด้านหลัง ทว่าก็หนีไปไม่ได้ไกลเพราะเอวถูกท่อนแขนใหญ่รัดเอาไว้

“ขี้เกียจ” ตอบสั้นๆ ก่อนจะเริ่มคลอเคลียร่างในอ้อมแขนต่อ

“ไม่ได้ปิน อาบน้ำก่อน อยากทำอะไรค่อยทำ” ฝุ่นยังคงพยายามหยุดยั้งสัมผัสนั้นด้วยเพราะอยากให้อีกคนสบายตัวกว่านี้

“ทำก่อนค่อยอาบไม่ได้เหรอ”

“ไม่ได้” ได้ยินคำตอบที่ถูกเอ่ยอย่างเด็ดขาดริมฝีปากได้รูปก็หยุดชะงัก เสียงถอดถอนหายใจดังตามมา ก่อนปารินทร์จะยอมตัดใจในที่สุด

“งั้นฝุ่นอาบให้นะ”

“อืม” คนถูกร้องขอรับคำโดยง่าย เพียงเท่านั้นคนแสนขี้เกียจก็มีความกระตือรือร้นขึ้นมาเล็กน้อย

ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว ร่างสูงถอดชุดที่ใส่อยู่ออกลงตะกร้ากระทั่งร่างกายเปลือยเปล่า ไม่มีความเขินอายต่อคนที่ยืนอยู่ด้วยเลยสักนิด

“จะแช่น้ำหรือจะ...” ประโยคคำถามถูกเอ่ยไม่จบเมื่อฝุ่นหมุนตัวกลับมาเห็นร่องรอยบางอย่างบนแผ่นอกแกร่ง มันสะดุดตาเสียจนร่างกายที่ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ของปารินทร์ไม่ถูกให้ความสนใจ

รอยซึ่งคล้ายกับลิปสติกผู้หญิง...

“ฝุ่นจะถามว่าจะแช่น้ำหรืออาบฝักบัวรึเปล่า” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างสงสัยเมื่ออยู่ดีๆ ร่างเล็กก็มีท่าทีแปลกไป

“...อืม” สายตาที่จดจ้องเพียงรอยนั้นถูกดึงกลับขึ้นไปยังใบหน้าหล่อเหลา แต่สติและความอยากรู้กลับไม่แปรเปลี่ยนตาม
“แช่อ่างสักหน่อยก็ได้ ไหนๆ วันนี้ก็มีเวลาแล้ว”

“...”

“ฝุ่น” ปินเรียกชื่อพลางสาวเท้าเข้าไปใกล้เมื่ออีกคนยังคงนิ่ง

“หะ หืม”

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า” ฝุ่นปฏิเสธพร้อมทั้งพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ

จะสงสัยทำไมในเมื่อไม่มีสิทธิ์รู้

“แต่ฝุ่นท่าทางแปลกๆ มีเรื่องอะไรไหม” ฝ่ามือใหญ่วางนาบลงบนหน้าผากเล็ก พอพบว่าคนตรงหน้าไม่ได้ตัวร้อนก็วางใจไปได้เปราะหนึ่ง

“ไม่มี แค่คิดถึงเรื่องทำขนมนิดหน่อย”

“แน่ใจนะ”

“แน่สิ จะให้คิดเรื่องอะไรล่ะ” ฝุ่นถามกลบเกลื่อนและมันก็ดูเหมือนจะได้ผลเมื่อความสงสัยในดวงตารีมลายหายไป

“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว งั้นเราไปอาบน้ำกันเถอะ” พอพูดถึงเรื่องนี้หางหมาป่าก็โผล่ออกมาทันควัน

“ตอนแรกยังบอกว่าขี้เกียจ”

“ก็ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว ฝุ่นถอดเสื้อผ้าเร็ว” คนตัวโตเร่งเร้าทั้งยังยื่นมือมาจับชายเสื้อจะดึงขึ้นให้แต่ฝุ่นรั้งเอาไว้ก่อน

เผลอเป็นไม่ได้เลย

“เข้าไปก่อน เดี๋ยวตามไป”

“ไม่เอา ถอดเลย จะอายกันทำไม ทีผมยังไม่อาย” ปารินทร์เอ่ยง่ายๆ ดวงตาเลื่อนลงมองตัวเองที่กายเปลือยเปล่าเป็นการยืนยันคำพูด

“ก็เพราะตัวเองหน้าด้านไง”

“ไม่เถียง” ไม่มีคำปฏิเสธหลุดออกจากปากเพราะนั่นคือความจริง สำหรับปินแล้วเมื่ออยู่กับฝุ่นความเขินอายก็ราวกับไม่มีอยู่บนโลก ท่าทางที่ทำให้คนฟังส่ายหน้าแล้วก้าวถอยหลังออกห่าง

“เข้าไปแปรงฟันรอก่อน เดี๋ยวตามไป”

“ก็ได้”

เป็นอีกครั้งที่หมาตัวโตถูกปราบด้วยแมวตัวน้อย ร่างสูงรับคำก่อนจะกดจูบลงบนปากเล็กเร็วๆ จากนั้นจึงเดินผ่านไปยังห้องน้ำทั้งอย่างนั้นโดยไม่คิดที่จะหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันกายแต่อย่างใด

คนมองคงรู้สึกอ่อนใจหากรอยที่ได้เห็นไม่รบกวนจิตใจจนรู้สึกวูบโหวง มันอาจเป็นรอยที่มาจากการทำงานแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหวั่นใจกับที่มา

ลักษณะนั้นไม่ใช่แค่การเอาลิปมาเขียนหรือแตะ ส่วนหนึ่งจางไปแล้วแต่อีกส่วนที่ยังอยู่พอให้ได้เห็นว่าเป็นรูปปากคน

เปลือกตาสีอ่อนหลับลง ริมฝีปากสีสดขบเม้มเข้าหากัน จากนั้นจึงสลัดความว้าวุ่นข้างในออก หมุนตัวไปถอดเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาสวม เสร็จเรียบร้อยจึงเดินตามปารินทร์เข้าไป

“ฝุ่นจะใส่ชุดคลุมทำไม ยังไงก็ต้องถอดอยู่แล้ว” คนที่นอนรออยู่ในอ่างทักขึ้น

“ใครจะถอดเสื้อผ้าเดินไปเดินมาโทงๆ เหมือนคนแถวนี้ล่ะ”

“ก็เราอยู่ด้วยกันสองคน จะถอดก็ไม่เห็นเป็นอะไร”

“ไม่อายกันก็อายผีอายสางบ้าง”

“บอกแล้วไงครับว่าไม่อาย ฝุ่นถอดชุดคลุมออกแล้วก็ลงมาได้แล้ว”

เสียงทุ้มเอ่ยเร่งเร้า พาให้ฝุ่นมองคนตรงหน้าด้วยความเอือมระอา แต่ถึงอย่างนั้นมือเล็กก็เลื่อนไปกระตุกเชือกผู้เอวออกแล้วเปลื้องชุดคลุมให้พ้นตัว ต่อหน้าสายตาวาววับของหมาป่าที่มองไม่วางตา

น้ำในอ่างไหวระลอกเป็นวงยามร่างเล็กก้าวเท้าและทรุดตัวนั่งลงไป

“เขยิบมาตรงนี้สิ” ตรงนี้ของปินถูกชี้ชัดผ่านทางสายตา และฝุ่นที่ไม่มีสิทธ์ปฏิเสธก็ขยับกายไปตรงนั้น นั่งลงทับขาแกร่งซึ่งทอดยาวอยู่ใต้น้ำให้บางส่วนแนบชิดกันสนิท

จุ๊บ

“วันนี้ผมกังวลเรื่องการถ่ายแบบนิดหน่อย กลัวว่าจะทำออกมาไม่ดี แต่สุดท้ายมันก็ผ่านไปได้ โล่งใจมากเลย” สัมผัสบางเบาเกิดขึ้นตรงแก้มเนียน ขณะที่ปินเล่าเรื่องวันนี้ให้ฟังอย่างที่ชอบทำ

“ถ้าตั้งใจยังไงก็ออกมาไม่แย่หรอก”

“อีกสองวันผมจะได้หยุด แต่หลังจากนั้นคงยุ่งจนหัวหมุนเพราะต้องเริ่มวางแพลนและซ้อมแฟนมีตที่จีน” พูดถึงจีนแล้วฝุ่นก็ใจกระตุกไปชั่ววูบ

ต้องห่างกันอีกแล้ว

“ที่บอกว่าไปสองเดือนน่ะเหรอ”

“อื้ม” คนถูกถามรับคำแบบกลั้นยิ้ม

“แค่แฟนมีตต้องไปอยู่ขนาดนั้นเลย”

“ก็...มีงานอย่างอื่นด้วยครับ”

“งานอะไร”

“ผมก็ยังไม่แน่ใจ เดี๋ยวรอพี่หวานคอนเฟิร์มอีกที” ปารินทร์เลี่ยงการตอบรายละเอียดได้อย่างแนบเนียน “แต่ตอนนี้ไม่ต้องสนใจเรื่องงานแล้ว มาสนใจเรื่องของเราดีกว่า”

ทั้งยังทำให้ฝุ่นไขว้เขวด้วยเรื่องอื่น

“ไม่เห็นมีอะไรต้องสนใจ” ฝุ่นเองก็เปลี่ยนอารมณ์ตามทันใด ดวงตาคู่สวยกลอกขึ้นมองบน ประโยคที่เอ่ยถูกตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“มีสิ ก็เรื่องนี้ไง” เรื่องนี้ที่ว่าถูกอธิบายด้วยมือหนาที่ซุกซนอยู่ใต้น้ำ บั้นท้ายเนียนถูกลูบไล้แผ่วเบา แต่ฝุ่นยังคงนิ่ง ทำเป็นไม่รับรู้เรื่องอะไรกระทั่งคนทำได้ใจ อธิบายหนักขึ้น

“อื้อ!” มือเล็กรีบตะครุบแขนอีกคนเอาไว้เมื่อมันถูกเลื่อนมาทางด้านหน้า “ไหนบอกจะอาบน้ำ ผมยังไม่ได้สระเลยนะ”

ปารินทร์เลิกคิ้ว แสร้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กลับ

“ช่างมัน เดี๋ยวค่อยสระ”

“อ๊ะ” แรงที่จับไม่มากพอจะรั้งมือของปินเอาไว้ได้ เสียงร้องจึงดังขึ้นเมื่อกลางกายเล็กถูกสัมผัส

ฝุ่นกัดริมฝีปาก สะโพกเริ่มไม่อยู่นิ่งเพราะการปลุกเร้า

“ปะ ปิน อาบน้ำก่อน” ถึงอย่างไรความเป็นห่วงก็ยังมีมากพอจะลองบอกอีกครั้ง แต่หมาแสนดื้อก็ไม่คิดฟัง มือที่เคลื่อนไหวไม่ยอมหยุดซ้ำยังขยับมากขึ้น

“ผมยังมีเวลาอาบน้ำอีกมาก” คนหน้าหล่อระบายยิ้มอ่อนโยน ทว่าการกระทำกลับไม่เป็นไปในทางเดียวกัน ราวกับรอยยิ้มนั้นคือภาพลวงตาที่หลอกล่อให้คนมองตายใจ

ริมฝีปากบางถูกกัดกลั้นเสียงอันน่าอาย มือซึ่งยังคงวางอยู่บนท่อนแขนแกร่งกำแน่น ฝุ่นสัมผัสได้ว่าจังหวะการเคลื่อนไหวค่อยๆ เร็วขึ้น สุดท้ายเมื่อทนไม่ไหวจึงเอนตัวไปอิงคนที่อายุน้อยกว่า ส่งเสียงอึกอัก ซบหน้าเข้ากับอกกว้าง

กระทั่งถึงจุดที่ไม่อาจทานทนร่างกายก็เกร็งกระตุก ปลดปล่อยความต้องการออกมาจนหมด

“นิสัยไม่ดี” ฝุ่นว่าให้อีกคนยามที่ยังคงหอบหายใจน้อยๆ

ฟอด

“ผมนี่เป็นคนดีที่หนึ่งแล้ว” ปารินทร์พูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะหลังจากกดจูบลงบนหัวเล็ก

“ขี้แกล้ง”

“แกล้งเพราะฝุ่นน่าเอ็นดู ผมชอบแกล้งฝุ่นจริงๆ ห้ามใจไม่ได้ทุกที”

“จะไม่ว่า...ถ้าแกล้งกันแค่คนเดียว” คนฟังอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง หัวใจที่เต้นด้วยจังหวะปกติเปลี่ยนเป็นถี่รัวเมื่อได้ยินประโยคที่คล้ายกับจะออดอ้อนซึ่งนานๆ ทีจะได้ยิน

“แกล้งใครคนเดียวครับ” นิสัยชอบแกล้งกำเริบอีกหน ปินแสร้งถามให้ร่างเล็กหลุดคำที่รอคอย

คำที่จะพูดทีฝุ่นนั้นลีลาเหลือเกิน เจ้าตัวไม่ค่อยชอบเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อจึงไม่ค่อยพูดมันออกมานัก

“...”

“ว่าไง ให้ผมแกล้งใครแค่คนเดียว” ฝุ่นขยับหน้าซุกอกของปินยิ่งขึ้น เงียบอยู่เป็นนาที กัดริมฝีปากจนความเจ็บเปลี่ยนเป็นชาหนึบ

“ฝุ่น” สุดท้ายก็พูดออกมาเสียงเบา

“อะไรนะ” ปินถามย้ำขณะยิ้มเต็มหน้า ท่อนแขนโอบกระชับคนบนตักเข้าหาตัวกว่าเดิม

“แกล้งฝุ่นแค่คนเดียวนะ”

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

ประโยคนั้นทำให้คนฟังใจเต้นโครมครามจนกลัวว่าคนที่ซบกันอยู่จะได้ยิน ปินไม่แข็งแกร่งพอจะต้านทานความน่ารักนี้ได้ จากเป็นคนแกล้งคล้ายกับจะถูกเอาคืนแบบน็อคเอ๊าท์ ได้แต่นิ่งงันอยู่อย่างนั้นกระทั่งฝุ่นผละหน้าออกแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง

“ปิน” เห็นปารินทร์นิ่งงันจึงลองเอ่ยเรียก ไม่มั่นใจนักว่าตัวเองไม่สมควรจะพูดแบบเมื่อครู่หรือเปล่า

พรึบ

“อ๊ะ!” การจู่โจมนั้นรวดเร็วจนฝุ่นไม่ทันได้ตั้งตัว

ปินเอื้อมมือไปปล่อยน้ำออกจากอ่างก่อนจะรั้งร่างเล็กให้ยืนขึ้น จากนั้นจึงเอื้อมมือไปเปิดฝักบัวตรงอ่างให้น้ำรินรดทั้งสองร่าง ถือโอกาสชำระผมอันแข็งทื่อไปพร้อมกัน

“ผมจะตายเพราะความน่ารักของฝุ่นแล้ว” ใบหน้าหล่อซบลงกับไหล่เล็ก ท่อนแขนตระกองกอดฝุ่นเอาไว้แน่น

น่ารักเกินไป ต้านทานไม่ไหวเลยจริงๆ

“...” ขณะที่ฝุ่นก็เม้มปากเข้าหากัน ไม่คาดคิดว่าคำพูดตัวเองจะส่งผลต่ออีกคนได้รุนแรงขนาดนั้น

 ไม่ใช่แค่เขาที่น่ารัก แต่ท่าทางของหมาปินในตอนนี้ก็ดูน่ารักไม่แพ้กัน

ร่างเล็กผละออกห่าง สองสายตาสบกันท่ามกลางสายน้ำ ก่อนจะเป็นฝุ่นที่เขย่งปลายเท้าขึ้นไปจูบคนที่สูงกว่า โดยปินก็ตอบรับสัมผัสนั้นในทันที

เสียงจูบดังคลอกับเสียงน้ำ ความเย็นฉ่ำรอบกายเริ่มเปลี่ยนเป็นร้อนระอุ ยามฝุ่นเคลื่อนใบหน้าลงมายังซอกคอปินยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว

จุ๊บ จุ๊บ

เสียงดูดดึงดังขึ้นเมื่อปากบางขบเม้มไปตามผิวเนื้อ ฝุ่นระมัดระวังร่องรอยอย่างเต็มที่ ทว่าภาพลิปสติกสีแดงกลับวาบเข้ามาในหัว ตอนนี้มันเลือนไปแทบจะทั้งหมดเพราะสายน้ำแต่ยังคงชัดเจนในความคิดของคนเห็น

ดวงตาคู่สวยสั่นระริก ความคิดสองฝั่งตีกันสับสนวุ่นวาย ทว่าสุดท้ายด้านร้ายก็เป็นฝ่ายชนะเมื่อฝุ่นเผลอออกแรงมากไปจนเกิดรอยบนลำคอแกร่ง

คนทำตัวแข็งทื่อ สิ่งที่ทำลงไปคือความผิดอันร้ายแรงเพราะปินเป็นที่จับจ้องของคนทั้งประเทศ

“ฝุ่น” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่ออยู่ดีๆ คนตรงหน้าก็ยืนนิ่ง

“ขอโทษ” แต่แล้วคำขอโทษก็ทำให้คนฟังงงยิ่งกว่าเดิม

“ขอโทษเรื่องอะไรครับ”

“...รอย” ปารินทร์เอามือจับคอตัวเอง

“แล้วยังไง”

“มันเป็นรอย” ฝุ่นเงยหน้าขึ้นมองคนที่สูงกว่าด้วยแววตาสั่นไหว ทางด้านคนที่รู้สาเหตุก็ระบายยิ้มพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาแผ่วเบา

“โธ่ฝุ่น ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”

“แต่ทุกคนจะเห็น มัน...”

“อย่าคิดมาก เดี๋ยวเวลาออกงานผมเอารองพื้นกลบรอยไว้ก็ได้” ปินที่รู้สาเหตุของท่าทางนิ่งงันนั้นเอ่ยพูดด้วยท่าทีสบายๆ

“...”

“ผมดีใจจะตายที่ฝุ่นทำมัน”

“...”

“เหมือนว่าผมได้เป็นของฝุ่นจริงๆ”

ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันฝุ่นระมัดระวังการทิ้งรอยจนบางครั้งก็รู้สึกเหมือนเป็นการมีอะไรกันที่ไม่สมบูรณ์ มีบางอย่างติดค้าง และมันก็คือสิ่งนี้ที่อยากให้ร่างเล็กทำมาตลอด

สัญลักษณ์ที่เป็นสิ่งบ่งบอกว่าเราเป็นของใครบางคน

“ให้ผมได้เป็นของฝุ่นนะ”

ฝุ่นนิ่งค้าง หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นให้กับประโยคซึ่งแสนจะเว้าวอน

ให้ได้เป็นของฝุ่นงั้นเหรอ...

หมดสิ้นแล้วความอดทน ฝุ่นให้ในสิ่งที่อีกคนต้องการในทันใด

TBC.

ลืมหมาปินแล้วหรือยังงงง ><
มาช้าเพราะมีงานเขียนหลายอย่างค่ะ
แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งหมาปินแน่นอนนน
แล้วเจอกันตอนหน้าน้า
ขอกำลังใจคนละเมนต์ด้วยยย จุ๊บ


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)

หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: benceii ที่ 28-09-2018 23:48:11
หมาปินต้องโชว์ความสามารถพิเศษเยอะ ๆ นะลูก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-09-2018 01:12:07
หมาปินอ้อนมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-09-2018 01:38:12
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-09-2018 02:48:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 29-09-2018 02:59:51
ทำไมจู่ก็รู้สึกเจ็บปวด ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็หวานชื่นแท้ๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-09-2018 04:17:58
อ่านแล้วระทวยไปหมดเลย  :jul1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-09-2018 09:52:45
ฝุ่นกังวลมากไป จริงๆ จะถามก็ได้ว่ารอยลิปมายังงัย อาจจะใช้ตอยถ่ายแบบก็ได้
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-09-2018 12:20:04
ยังคาใจเรื่องรอยลิปสติก   :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 29-09-2018 18:33:28
รักแต่แสดงออกไม่ได้ เศร้าจัง  :hao4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 29-09-2018 20:08:02
มันหวานนะแต่รู้สึกหน่วงๆทุกทีเลย งืออออ  :ling1:
เขินตอนหมาปินเรียกฝุ่นว่าเมียย ละลายยย  โอ๊ยยย สองครั้งเลย
หมาปินชัดเจนที่การกระทำนะะ แต่ก็อยากให้พูดออกมาบ้างไรงี้
ฝุ่นแม่ศรีเรือนจริงๆ
อยากรู้เรื่องลิปสติกอ่ะ ค้างคาาาา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 30-09-2018 04:27:05
โอ่ยย เขินน ความรู้สึกมันชัดเจนขนาดดนี้แล้วว
เรื่องต้นตำรับแม่นี่คงไม่มีไรใช่มั้ยอ่า กลัวใจ 55
แล้วรอยลิปนั่นอัลไล แค่แต่งไว้เพราะจะถ่ายแบบเฉยๆรึเปล่า รอตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 30-09-2018 12:04:36
ติดตามค่ะ สนุกมากกกกก

แต่แอบกลัว อนาคตของสองคนนี้ หวังว่าจะไม่น้ำตาท่วมนะคะ ><
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-09-2018 12:48:34
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-09-2018 14:15:25
น่ารัก อยู่กันมาสองปี ถูกใจตั้งแต่แรกเจอ
อาการจะยังปกติก็จะแปลกเกินไป
ตอนนี้ก็เริ่มมีอาการกันมากขึ้น มีห่วง มีหวง
ทำตัวได้น่าอ้อน และน่าดูแลไปอีก

ปินก็เรียกร้องได้น่ารัก เอ็นดูฝุ่นน่าดู
ฝุ่นอย่าพึ่งไปคิดไรมากเลยนะ
ทำตอนนี้ให้มีความสุขไปเหอะ
เชื่อว่าถึงเวลานั้น ปินช่วยได้แน่นอน

หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 30-09-2018 21:55:20
จะดราม่าไหมมมมมมมมม???
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 01-10-2018 00:26:51
หมาปินไปได้รอยนี้มาได้ยังไงคะ​ แต่เพราะรอยเลยไปกระตุ้น​ต่อมหึงฝุ่นให้ทำงานเข้า
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 03-10-2018 16:01:14
 :z1: ร้อนแรงละเกินนน หมาปิน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Six.] : 28/09/2561 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 11-10-2018 21:56:29
เขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  :-[
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 24-11-2018 22:02:42
Chapter Seven.

กระจกบานใหญ่ภายในห้องแต่งตัวสะท้อนภาพร่างสูงซึ่งอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ เอียงคอไปด้านซ้าย ขณะที่ดวงตาจดจ้องรอยนั้นอย่างพึงพอใจ

ปินยกยิ้มยามไล้มือไปตามร่องรอยที่ใครบางคนทำเอาไว้แผ่วเบา

รอยของฝุ่น สัมผัสของฝุ่น ติดตรึงอยู่บนผิว...ทว่ายังไม่เท่ากับที่ตรึงอยู่ในความรู้สึก

“ยังไม่แต่งตัวอีกเหรอ เดี๋ยวสายนะ” เสียงพูดและเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาหารั้งให้ความสนใจของปารินทร์เปลี่ยนทิศทาง

“กำลังจะแต่งครับ”

“กำลังจะแต่งอะไร หน้าก็ยังไม่ได้ลงครีมบำรุง” คิ้วได้รูปขมวดมุ่นยามร่างเล็กเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวสูง

“ผมแต่งตัวแป๊บเดียว”

“รีบเลย เดี๋ยวก็ต้องลงรองพื้นที่คออีก” ฝุ่นจับจ้องรอยจางๆ ที่ข้างลำคอของปินด้วยความเป็นกังวล แม้มันจะไม่ได้เด่นชัดนักแต่ก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้

สำหรับปิน ปารินทร์ แค่รอยยุงกัดยังเป็นประเด็น

“ความจริงผมไม่อยากปิดมันเลย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับที่ท่อนแขนใหญ่รั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด

“ได้ที่ไหนกัน”    

“นั่นสินะ ได้ซะที่ไหน”

ปินถอนหายใจออกมาแผ่วเบายามสายตาที่ฝุ่นทอดมองคนตรงหน้าก็วูบไหวไปเล็กน้อย มือบางยกขึ้นมาวางแนบกับแก้มสาก สัมผัสอันแสนแผ่วเบาทำให้ปินยิ้มบางๆ รับรู้ถึงการปลอบประโลม

ระหว่างกันมีเพียงความเงียบและความรู้สึกผ่านแววตา ก่อนจะเป็นฝุ่นที่เอ่ยขึ้น

“แต่งตัวเถอะ จะได้รีบออกไปทานข้าว” สัมผัสจากมือและกายถอยห่าง บรรยากาศอึมครึมรอบตัวสลายไปด้วยบทสนทนาเรื่องอื่น

ฝุ่นหยิบชุดที่เตรียมไว้ส่งให้ปารินทร์ เจ้าตัวรับไปแล้วจากนั้นจึงเปลื้องชุดคลุมออกจากตัวเพื่อจะสวมใส่ ความเปลือยเปล่าทุกสัดส่วนทำให้คนมองเบือนสายตาไปทางอื่น ไม่ถึงกับเขินอายแต่ก็ไม่รู้จะจับจ้องทำไม

กระทั่งร่างกายแสนสมส่วนถูกปิดปังด้วยเสื้อผ้าแล้วร่างสูงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจกฝุ่นจึงก้าวตาม เอื้อมมือไปเปิดกระปุกครีม ตามด้วยการปาดเนื้อครีมลงบนใบหน้าที่แหงนขึ้นรอ

“สบายจัง” ปินเอ่ยขณะหลับตาพริ้มให้ร่างเล็กทาครีมให้

“ไม่เห็นว่าการทาครีมมันจะยากตรงไหน ทำไมถึงได้ขี้เกียจนัก” หากไม่ทาให้ก็ต้องคอยกำชับ ไม่อย่างนั้นปารินทร์จะเนียนไม่ทา ไม่ดูแลผิวหน้าตัวเองอะไรทั้งนั้น

“ยาก เหนอะหนะไปหมด ผมไม่ชอบเลย”

“ทีทาให้ทำไมสบาย”

“เพราะเป็นฝุ่นไงครับ” ดวงตาเรียวเปิดลืมขึ้นหนึ่งข้างยามริมฝีปากคลี่ยิ้ม

“ไม่ต้องมาพูด”

“ไม่ทากันแดดไม่ได้เหรอ ครีมนี่ก็สองตัวแล้วนะ” ปินรีบท้วงเมื่อเห็นว่าอีกคนหยิบหลอดครีมกันแดดที่เกลียดแสนเกลียดขึ้นมา

มันเหนียวจะตาย!

“ไม่ได้ ครีมกันแดดนี่สำคัญมาก บอกแล้วใช่ไหมว่าให้ทาทุกวัน”

“มันเหนียวอะ ผมไม่ชอบ”

“เหนียวก็ต้องทน”

แล้วเนื้อครีมสีขาวก็ถูกป้ายลงบนใบหน้าให้ปินทำหน้าเหยเก ถึงคนทาจะเป็นฝุ่นแต่คราวนี้ก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาความไม่ชอบนั้นลงได้

“โอเค เสร็จแล้ว” ลงแป้งเด็กแบบใช้แปรงปัดผ่านใบหน้าหล่อเหลาอีกเพียงนิดก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้น “เอียงคอหน่อย”

ฝุ่นบอกอีกคนยามมือกำลังเขย่าขวดรองพื้นของปินที่นานๆ ทีจะได้ใช้ไปด้วย

เป็นดารานักร้องก็แบบนี้ ต้องมีเมคอัพติดห้องไว้บ้าง

“ถ้าเหงื่อออกมันจะหลุดไหม” ปินถามขึ้นด้วยความสงสัยขณะนิ้วเล็กกำลังแท็บรองพื้นกลบรอยนั้นเบาๆ

“เดี๋ยวจะลงให้หลายๆ ชั้น คงไม่หลุดง่าย แค่อย่าเอามือถูก็พอ”

“จริงๆ มันก็ไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้น ฝุ่นทำไม่แรง เหมือนรอยแมลงกัดมากกว่า”

“ยังไงก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน ถ้าพี่หวานรู้คงโดนไม่น้อย” ประโยคหลังถูกเอ่ยเสียงเบา

“ไม่เป็นไรหรอก ฝุ่นอย่ากังวลไปเลย รอยนี่วันสองวันก็จางแล้ว” มือหนาวางแนบกับเอวบางทั้งสองข้างแล้วรั้งคนที่เป็นกังวลเข้าหาตัว

“ต่อไปจะไม่ทำแล้ว” ฝุ่นเลื่อนสายตามาสบยามมือก็กดรองพื้นย้ำๆ ไปพร้อมกัน

“ต้องทำสิ แค่เปลี่ยนเป็นที่อื่นก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ” คนชอบให้ทำพยายามเกลี้ยกล่อมก่อนจะได้รับสายตาเอือมระอากลับมา โดยที่ปารินทร์ก็เอารอยยิ้มเข้าสู้

แค่เปลี่ยนเป็นที่ที่คนอื่นไม่สามารถมองเห็นได้เท่านั้น ไม่ยากเลย



“ปวดคอเหรอ”

“เปล่าครับ ทำไมเหรอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นยามดวงตาที่เหม่อลอยออกนอกรถเบือนกลับมามองผู้จัดการส่วนตัวซึ่งนั่งอยู่เบาะข้างๆ มือที่แตะอยู่คอตัวเองถูกเลื่อนลงมาวางบนตัก

“ก็เห็นยกมือขึ้นลูบคอบ่อยๆ”

“ผมไม่ได้เป็นอะไร” ปินตอบพร้อมรอยยิ้ม ทว่าในความคิดกลับนึกถึงที่มาของรอยนี้ไม่หยุด

“ว่าแต่คิดเรื่องสัญญาของฝุ่นหรือยัง” คนที่กำลังจมอยู่กับความคิดหลุดออกจากภวังค์หนึ่งไปยังภวังค์หนึ่ง

สัญญาของฝุ่น...

“คิดแล้วครับ”

“คุณกรณ์เขาไม่อยากให้ต่อสัญญา คงกลัวว่าเราจะผูกพันกันมากกว่านี้”

“แล้วพี่หวานว่าไงครับ”

“พี่เห็นด้วย”

--

เช้าวันหยุดปารินทร์ตื่นขึ้นมาด้วยความสดใส พลังงานถูกเติมจนเต็มหลอด ต่างจากร่างเล็กที่เป็นฝ่ายถ่ายเทพลังงานมาให้ซึ่งนอนหมดเรี่ยวแรงโดยยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น แขนและขากอดก่ายหมอนข้างพร้อมเอียงใบหน้าซุกซบ ผ้าห่มผืนใหญ่ปิดหน้าเล็กให้เห็นเพียงเสี้ยว แต่ถึงอย่างนั้นความน่ารักก็ยังฉายชัดในสายตาคนมอง

จะว่าอวยก็ใช่

ปินหัวเราะกับตัวเองพร้อมทั้งเกลี่ยปลายนิ้วไปตามแก้มเนียนเบาๆ

“อือ” ทว่าสัมผัสยุกยิกนั้นก็ยังทำให้คนหลับรู้สึกตัว นิ้วแกร่งจึงถูกดึงกลับ แต่เหมือนจะไม่ทันการณ์เมื่อเปลือกตาสีอ่อนขยับเปิดขึ้น

“ขอโทษครับ ผมทำฝุ่นตื่นเหรอ”

คนเพิ่งตื่นกะพริบตาเพื่อปรับการมองเห็น ความง่วงงุนที่มีสร้างความยากลำบากให้จนต้องหลับตาลงอีกครั้ง

ปินที่เห็นท่าทางนั้นจึงขยับเข้าไปกอด ลูบไล้แผ่นหลังบางภายใต้ผ้าห่มเป็นการกล่อมนอน

“นอนต่อนะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกยามร่างเล็กก็ซุกกายเข้าหาแล้วแน่นิ่งไปอีกครั้ง

ร่างหนาที่ส่วนบนเปลือยเปล่าเต็มใจอย่างยิ่งกับการจะนอนกอดอีกคนอยู่อย่างนี้แม้ตัวเองจะตื่นแล้ว กระทั่งผ่านไปสองชั่วโมงฝุ่นก็นอนเต็มอิ่ม ตื่นขึ้นมาได้แบบไม่มีอาการงัวเงียเช่นก่อนหน้า

“วันนี้เราจะทานอะไรกันดี” ปินเอ่ยถามคนข้างตัวหลังจากบ้วนฟองออกจากปากแล้วเรียบร้อย

“ปินอยากทานอะไร สั่งอาหารทะเลมากินดีไหม”

“ก็ดีนะ ไม่ได้กินอะไรจี๊ดจ๊าดนานแล้ว”

“งั้นก็รีบอาบน้ำ”

“ครับ~” หมาตัวโตรับคำพร้อมรอยยิ้ม ถึงจะรับปากแล้วแต่ด้วยนิสัยก็ยังอดแกล้งฝุ่นไม่ได้จึงใช้เวลาอาบน้ำนานไม่น้อย

การสั่งอาหารจากข้างนอกหลักการคือให้นำมาส่งที่ล็อบบี้แล้วพนักงานจะนำมาส่งบนห้องต่อ โดยชื่อที่สั่งจะใช้ชื่อปลอม หากเป็นการเก็บเงินปลายทางผู้ที่สั่งจะต้องโทรลงไปแจ้ง จากนั้นพนักงานจะจ่ายเงินให้ก่อนเพื่อป้องกันคนภายนอกรับรู้และเห็นหน้าของผู้ที่อาศัย

“ขอบคุณครับ” ฝุ่นกล่าวขอบคุณคนที่นำอาหารมาส่งถึงในห้องพร้อมทั้งให้ทิปอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะปิดประตูลง

“น่ากินมาก ท้องผมร้องเลย” เสียงทุ้มกล่าวด้วยความตื่นเต้นยามกวาดตามองอาหารบนโต๊ะหน้าโซฟาทีละอย่าง

ปินนั่งอยู่กับพื้น เป็นท่าทางที่ชอบนักหนาเพราะรู้สึกสบายกว่านั่งทานบนโต๊ะอาหาร

“หิวก็กินสิ”

“ผมรอฝุ่น” ร่างบางเดินมานั่งลงฝั่งตรงข้าม ได้เห็นอย่างนั้นปินจึงเริ่มลงมือทานข้าว

Rrrrr

ทว่ายังไม่ทันที่ข้าวจะเข้าปากเสียงโทรศัพท์ของฝุ่นที่วางไว้บนโซฟากลับดังขึ้น ปินทำหน้ามีคำถาม ยามที่ฝุ่นเอื้อมมือไปหยิบแล้วหยัดกายขึ้น

“กินก่อนเลยนะ” ดวงตาเรียวมองตามอีกคนไปขณะคิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน

ไม่บ่อยนักที่โทรศัพท์ของฝุ่นจะมีสายเข้า และทุกครั้งก็มักดูมีเรื่องบางอย่าง เมื่อถามก็จะได้คำตอบว่าไม่มีอะไรไปเสียทุกครั้ง

ปึก

“ฝุ่น” ภาพโทรศัพท์ที่หลุดจากมือเล็กแล้วหล่นลงบนพื้นทำให้ปินรีบวางช้อนลง จากนั้นจึงรีบลุกขึ้นเดินไปหา ฝ่ามือใหญ่แตะลงบนไหล่เล็ก พอได้สัมผัสจึงรู้ว่าร่างกายฝุ่นสั่นแค่ไหน

“ฝุ่น เป็นอะไรหรือเปล่า” ปินหันหน้าไปมองก่อนจะพบว่ามีน้ำตาหยดลงบนแก้มเนียน “ฝุ่น! เป็นอะไร บอกผมสิ”

เสียงทุ้มเต็มไปด้วยความร้อนรน รั้งร่างเล็กให้หันมาหา ถึงตอนนี้ฝุ่นถึงได้เริ่มมีสติ

“ปะ ปิน” เรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงสั่น ความอ่อนแอที่มีพาให้กายทรุดจนต้องทิ้งตัวเข้าหาอ้อมกอดแกร่ง

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ทุกอย่างจะต้องโอเค”

แม้ไม่รู้ว่าคนในอ้อมกอดกำลังเจอกับเรื่องอะไรแต่ปารินทร์ก็เอ่ยปลอบไว้ก่อน มือใหญ่ลูบแผ่นหลังเล็ก สร้างความอุ่นใจให้รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้

“ฮึก” มีเพียงเสียงสะอื้นที่ตอบกลับมา

น้ำตาของฝุ่นยังคงรินไหลไม่ขาดสาย สองแขนรัดเอวสอบแน่น ใบหน้าซบกับอกกว้างราวกับเป็นที่พึ่ง นานหลายนาทีกว่าแรงสะอื้นไหวนั้นจะคลายลง

“ขะ ขอออกไปข้างนอกได้ไหม” ใบหน้าที่เปรอะด้วยน้ำตาผละออก คำร้องของถูกเอ่ยเสียงสั่น

ด้วยหน้าที่ของตัวเอง เวลาที่ปินมีจึงถือว่าเป็นเวลาทำงาน การจะออกไปข้างนอกดูเป็นการเอาเปรียบ ทว่าปินกลับไม่คิดอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย

“ให้ผมไปด้วยไหม” ความอุ่นวาบแล่นเข้ามาในอกเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ได้คาดคิด แต่ถึงอย่างนั้นฝุ่นก็รีบส่ายหน้า

“ไม่ได้” เป็นครั้งแรกที่ปินรู้สึกว่าจุดที่ยืนอยู่มันน่าอึดอัด...

“ถ้าอย่างนั้นฝุ่นก็ตอบไลน์ผมบ้างนะ คอยบอกกันเป็นระยะว่าเป็นยังไง” ใบหน้าเล็กกดลงรับ “แล้ว...จะบอกผมได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”

ความวูบไหวในแววตาและท่าทางนิ่งเงียบทำให้คนถามรู้ทันทีว่าอีกคนไม่สะดวกใจ

มันเป็นเรื่องส่วนตัวสินะ เรื่องส่วนตัวที่เขาไม่มีสิทธิ์รับรู้

โลกส่วนหนึ่งของฝุ่นที่ไม่มีทางได้เข้าไป...

“ถ้าฝุ่นไม่สะดวกจะพูดก็ไม่เป็นไร ว่าแต่รีบมากไหม กินข้าวสักสองสามคำก่อนไปได้หรือเปล่า” เวลาล่วงเลยมาจนเที่ยงกว่า ด้วยคิดว่าหลังจากนี้ฝุ่นคงไม่ยอมแตะอาหารจึงอยากให้รองท้องสักหน่อยก่อนไป

“แต่...”

“ทานสักหน่อยเถอะนะ ถือว่าผมขอ” ฝุ่นพูดไม่ออกเมื่อถูกเว้าวอนขอ สุดท้ายก็ทำได้เพียงพยักหน้าตกลง

ปินพาคนร่างเล็กกลับมานั่งที่เดิมพร้อมทั้งตักเนื้อปูและกุ้งลงใส่ให้ในจาน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช้อนแล้วตักอาหารป้อนให้จนถึงปาก

ฝุ่นชะงักไปเล็กน้อย แต่ด้วยเวลาที่เร่งรีบจึงไม่ว่าอะไรแล้วอ้าปากรับ ทานไปได้เพียงสามคำก็ส่งสัญญาณบอกว่าไม่ไหวโดยที่ปินเองก็ไม่คิดบังคับมากไปกว่านั้น

“มีอะไรให้ช่วยก็บอกผมนะ” ปินเอ่ยย้ำก่อนฝุ่นจะออกจากห้อง

“อืม” เมื่ออีกคนรับคำร่างสูงก็ดึงคนอายุมากกว่าเข้าหาในอ้อมกอด กดริมฝีปากลงตรงข้างขมับ

“ผมอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรฝุ่นบอกผมได้เสมอ”

“ขอบคุณนะ” ฝุ่นซบหน้าหน้าลงกับไหล่กว้าง เปลือกตาปิดลงชั่วครู่ จากนั้นจึงผละออก

“ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”

สัมผัสหนักแน่นกดลงบนหน้าผากเนียนทิ้งท้าย สองสายตามองสบกัน ต่อมาฝุ่นก็หมุนตัวกลับไปเปิดประตูแล้วก้าวออกจากห้องไป โดยมีสายตาแห่งความเป็นห่วงมองตามจนลับสายตา

[45 %]

--

“คนไข้เริ่มมีอาการไม่ตอบสนอง หัวใจเต้นอ่อนลง เราพยายามกันอย่างเต็มแล้วแต่เหมือนคนไข้จะอยากพักแล้วนะ”

“...” ถ้อยคำที่ได้ยืนจากหมอเรียกน้ำตาที่ไหลลงให้ร่วงพรูกว่าเดิม กระนั้นฝุ่นก็ไม่มีอาการสะอึกสะอื้น ระยะทางที่มาถึงจากคอนโดพอจะทำให้มีเวลาให้คิดและตั้งสติ

“หมออยากให้ฝุ่นเตรียมใจ ดินเขาอยากพักแล้ว ยื้ออย่างถึงที่สุดก็คงจะไม่เกินคืนนี้”

“มันไม่มีทางอื่นแล้วใช่ไหมครับ” เสียงที่เอ่ยถามแทบมีเพียงลม และคำตอบที่ได้รับก็คือการส่ายหน้าช้าๆ จากหมอที่ขึ้นชื่อว่าเก่งที่สุดทางด้านนี้

“ผมอยากอยู่กับน้อง...จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย”

“ได้สิ”

คุณหมอระบายยิ้มอย่างพยายามสร้างกำลังใจให้ญาติคนไข้ ก่อนฝุ่นจะพาร่างกายอันแสนอ่อนแรงไปเปลี่ยนชุดแล้วเดินเข้าห้องไอซียูไปนั่งอยู่ข้างเตียง

เตียงที่บนนั้นมีร่างของน้องชายตัวเองนอนอยู่ น้องที่เป็นญาติคนเดียวในชีวิต

ดินอายุน้อยกว่าสามปี หลังจากพ่อแม่เสียเราก็อยู่ด้วยกันสองพี่น้องมาอย่างยากลำบาก ต่างคนต่างทำงานอย่างหนัก กระทั่งวันหนึ่งระหว่างปั่นจักรยานไปส่งนมตามบ้านดินก็เกิดอุบัติเหตุถูกรถประสานงามาชน สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา อาการค่อยๆ ทรุดลงเพราะภาวะแทรกซ้อน แต่ถึงอย่างนั้นฝุ่นก็ยังยื้อชีวิตน้องอย่างสุดความสามารถ ทำทุกอย่างตลอดสามปีเพื่อให้ดินยังมีลมหายใจอยู่

ขอแค่ยังมีลมหายใจเท่านั้น...

แต่สุดท้ายน้องของเขาก็คงเหนื่อยเต็มทน ถึงเวลาที่แม้แต่เครื่องช่วยหายใจก็ไม่อาจยื้อเอาไว้ได้

“พี่รักดินนะ ขอบคุณที่เกิดมาเป็นน้องชายของพี่” เอ่ยพูดกับคนที่อยู่ได้ด้วยสายระโยงรยางค์ทั้งน้ำตา

น้องชายที่น่ารักของเขา...

--

แกร๊ก

“ฝุ่น”

ปินยืนรออยู่หน้าประตูด้วยความรีบร้อนเมื่อรออีกคนกระทั่งถึงตอนเช้า และสภาพที่ได้เห็นก็ทำให้เขาต้องรีบเข้าไปพยุงฝุ่นเอาไว้

“มัน...ไม่มีปาฏิหาริย์” ฝุ่นหลับตาลงยามร่างกายถูกพยุงไว้ด้วยคนร่างสูง

ดินจากไปแล้ว ไม่มีน้องชายเขาอยู่บนโลกใบนี้แล้ว

“ไม่เป็นไรนะไม่เป็นไร” ขณะที่ถึงปินจะไม่รู้เรื่องอะไรแต่ก็ปลอบประโลมคนอ่อนแอเท่าที่ตัวเองจะสามารถ

ฝุ่นสภาพแย่กว่าตอนออกไปมาก ใบหน้าอิดโรย ดวงตาดำคล้ำ ท่าทางอ่อนแรง เห็นแล้วใจก็เจ็บปวดไปด้วยกัน
ไม่อยากเห็นฝุ่นเป็นอย่างนี้เลย

“ฮึก” เสียงสะอื้นไห้ดังอยู่ข้างใน น้ำตารินไหลราวกับจะขาดใจ มือที่กำเสื้อของปินกำแน่นจนสั่น และเมื่อความเข้มแข็งที่พยายามรักษาพังทลายลงฝุ่นก็ปล่อยโฮออกมาทั้งหมด

ไม่เหลือใครแล้ว...นอกจากปินก็จะไม่เหลือใครอีกแล้ว



ร่างเล็กที่ร้องไห้จนหลับไปถูกอุ้มมาวางลงบนเตียง ใบหน้าที่เลอะด้วยคราบน้ำตาถูกเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น ดวงตาเรียวรีทอดมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

“ผมอยู่ตรงนี้นะคนดี” ปินกระซิบเสียงแผ่วยามกดปากแนบลงบนหน้าผากเล็กแผ่วเบา

--

วันต่อมา

“ผมกลับมาแล้ว”

ประโยคเอ่ยบอกมาพร้อมกับท่อนแขนใหญ่ที่สอดรัดรอบเอวบาง คางแกร่งเกยอยู่บนไหล่ คนที่เหม่อมองไปยังท้องฟ้าอันมืดมิดด้านอกจึงเพิ่งรู้สึกตัว

“กลับมาแล้วเหรอ”

“อืม” ปินรับคำขณะพยายามทำตัวร่าเริงให้อีกคนไม่จมอยู่กับความเศร้าเกินไปนัก

เมื่อวานฝุ่นออกไปข้างนอกทั้งวัน ก่อนตอนดึกจะกลับมาด้วยสภาพที่ไม่สู้ดีนัก มาถึงวันนี้ก็ยังคงไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่เนื่องจากเมื่อคืนร้องไห้ตลอดทั้งคืน

“...”

“ผมหิวจังเลย มีอะไรทานหรือเปล่าหืม” ปินรีบพูดเมื่ออีกคนเหมือนจะกลับไปจมอยู่กับความคิดตัวเองเช่นเดิม และมันก็ดูเหมือนจะได้ผลเมื่อดวงตาแดงช้ำเลื่อนกลับมามองหน้ากันช้าๆ

“เดี๋ยวไปอุ่นให้นะ” ฝุ่นพูดอย่างเชื่องช้าพลางหยัดกายลุกขึ้นให้ปินต้องคลายอ้อมกอดออกแล้วเดินตาม

“วันนี้ฝุ่นทำอะไร”

“...” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างตัวเมื่อคนถูกถามเริ่มเหม่อลอยอีกครั้ง

“ฝุ่น!” คนเหม่อเกือบจะเดินชนเสา ปารินทร์จึงตะโกนเรียกพร้อมทั้งรั้งร่างเล็กให้พ้นจากตรงนั้น มือหนาทั้งสองข้างจับไหล่อีกคนเอาไว้นิ่ง

“ผมว่าฝุ่นไปนั่งดีกว่า เดี๋ยวผมหาข้าวทานเอง”

“แค่คิดอะไรเพลิน...” ฝุ่นได้แต่พูดเสียงเบา

“ผมรู้ว่าฝุ่นกำลังเศร้าแต่ฝุ่นอย่าเอาแต่เหม่อแบบนี้สิ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วจะแย่”

“...”

“ผมเป็นห่วงฝุ่น รู้ใช่ไหม” คนถูกเป็นห่วงมองใบหน้าของปินนิ่ง พลันน้ำตาก็ไหลมาคลอหน่วย

“อะ อื้ม”

“ฝุ่นยังมีผมอีกคน”

ปินจับมือเล็กมากุมเอาไว้ คราวนี้น้ำสีใสพรั่งพรูออกมาอย่างไม่อาจห้าม สุดท้ายฝุ่นจึงโถมกายเข้าหาคนร่างสูงทั้งตัว

“อย่าทิ้งฝุ่นนะ ฮึก อย่าทิ้งฝุ่นไป อะ อีกคน”

“ผมจะอยู่ข้างฝุ่นเสมอ” ร่างสูงทำได้เพียงปลอบโยนคนที่เพิ่งพานพบกับความสูญเสียอีกครั้ง

ความเจ็บปวดนี้ เขาจะช่วยแบ่งเบาเอาไว้เอง

--

1 สัปดาห์ผ่านไป

 “ฝุ่นกลับห้องหรือยัง”

“...ยัง” ปลายสายตอบเสียงเบา

“รีบกลับนะ ผมเป็นห่วง” คำว่าเป็นห่วงสร้างความอบอุ่นให้ใจอันหว่าเหว่ได้อีกครา

“อืม”

“งั้นเจอกันที่ห้องนะ”

“เดี๋ยวกลับแล้ว...จะรอ” ปินระบายยิ้มให้กับคำว่าจะรอนั้น

“ครับ”

เมื่อสายโทรศัพท์ถูกตัดไปลมหายใจหนักอึ้งก็ถูกพรูออก เส้นผมนิ่มปลิวตามลมไปด้านหลัง ก่อนฝุ่นจะเดินกลับไปซื้อปลามาปล่อยลงแม่น้ำตรงหน้าแล้วรีบกลับห้องไปรอใครบางคน



22.43 น.

เสียงจากในโทรทัศน์ไม่ได้ลอยเข้าหูคนที่นั่งอยู่บนโซฟา ดวงตาคู่สวยเหม่อมองไปไกลอย่างที่ชอบเผลอตัว ยังดีที่จังหวะการก้าวเดินหนักๆ ทำให้ฝุ่นรู้สึกตัว ไม่อย่างนั้นคงโดนดุเช่นทุกครั้ง

“กลับมาแล้วเหรอ” ร่างเล็กหยัดกายขึ้นแล้วค่อยๆ เดินไปหาคนที่เพิ่งกลับห้อง

“ครับ” ปินตอบรับพร้อมรอยยิ้ม “ฝุ่นเป็นยังไง ไปวัดมาแล้วสบายใจขึ้นไหม”

ฝ่ามือใหญ่วางแนบลงบนแก้มคนตรงหน้า ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆ ยามเอ่ยถาม

“อืม” ฝุ่นรับคำ สภาพจิตใจอาจไม่ได้ดีขึ้นมากนักแต่ก็ยังดีขึ้นกว่าอาทิตย์ก่อน ความสูญเสียวูบโหวงยังคงฉายชัดในความรู้สึก ไม่มีคืนไหนไม่ร้องไห้ และมีอ้อมแขนแข็งแรงของปินที่คอยโอบกอดปลอบประโลมอยู่ทุกวัน

“วันนี้ทานข้าวกี่คำ ถึงเจ็ดอย่างที่ตกลงกันไว้หรือเปล่า” คนถูกถามพยักหน้ารับ

“กินเจ็ดคำ” ปินถอนหายใจให้กับคำตอบ

“กินเกินสักสองสามคำบ้างก็ได้” ฝุ่นส่ายหัวบ่งบอกว่าไม่สามารถ

“ลืมเอาน้ำมาให้” ร่างเล็กเบิกตาขึ้นเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ ตั้งท่าจะหมุนตัวเดินไปเอา ทว่ามือหนารั้งเอาไว้เสียก่อน

“ไม่เป็นไร ผมไม่กระหายเลย”

“งั้นเดี๋ยวไปเตรียมน้ำให้อาบ”

“ผมอาบฝักบัวดีกว่า” คราวนี้ฝุ่นไม่มีอะไรจะพูด “ผมว่าฝุ่นไปนอนดีกว่านะ”

“ไม่ง่วง”

“ไม่ง่วงก็นอนเถอะ นอนไปนอนมาเดี๋ยวก็หลับเอง”

“แล้ว...”

“นะครับ เดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จจะตามไปนอนกอด” คนฟังคงรู้สึกดีกว่านี้หากไม่ได้เพิ่งพานพบกับความสูญเสียอันยิ่งใหญ่

ร่างเล็กจึงทำเพียงแค่รับคำ ยอมเดินตามแรงรั้งเข้าไปทางห้องนอนโดยไม่อิดออด



“ร้องไห้ทุกคืนแล้ว วันนี้ฝุ่นอย่าร้องเลยนะ” ท่อนแขนใหญ่พาดมากอดร่างเล็กเข้าหาตัวขณะกระซิบบอกอย่างร้องขอ

“...” ฝุ่นพลิกกายกลับมาหาทั้งที่ดวงตาแดงก่ำ

“คนที่ฝุ่นคิดถึงเขาจะยังอยู่ตรงนี้ เสมอ และตลอดไป” ตรงนี้ที่ว่าถูกแตะด้วยมือหนา แม้ปินจะไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังเจอกับเรื่องอะไรแต่บางคำพูดและอาการก็ทำให้เดาได้ว่าฝุ่นเพิ่งสูญเสียใครบางคนที่สำคัญไป

“ทรมาน...คิดถึงใจจะขาด” เปลือกตาสีอ่อนหลับลง ภาพของน้องชายไหลวนเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ

“วันนึงเวลาจะเยียวยาความทรมานนี้เอง ฝุ่นแค่ต้องอดทน” คนที่เคยสูญเสียคนสำคัญอย่างพ่อไปเข้าใจความรู้สึกนี้ดี

“ไม่อยากอดทนเลย”

“ฝุ่นห้ามพูดแบบนี้ ห้ามคิดอะไรบ้าๆ เด็ดขาด!” ปินตะโกนก้อง น้ำเสียงและท่าทางร้อนรนเป็นไปในทันที ความกลัวแล่นมาจับขั้วหัวใจเพราะคำพูดของอีกคน

ฝุ่นพูดเหมือน...

แม้แต่ฝุ่นเองยังแปลกใจกับปฏิกิริยาร้อนรนนั้น

“ไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตาย”

“ก็ฝุ่นพูดออกมาแบบนั้น”

“แค่บอกว่าไม่อยากอดทนไม่ได้หมายความว่าจะไม่อดทน”

“ฝุ่นสัญญานะว่าจะไม่คิดสั้น สัญญากับผม”

เป็นครั้งแรกตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ฝุ่นระบายยิ้มบางออกมาจากความรู้สึกข้างใน มือบางยกขึ้นมาแตะแก้มสากแผ่วเบา

“สัญญา” คำสัญญามาพร้อมกับสัมผัสอ่อนหวานบนกลีบปากได้รูป ลิ้นเล็กไล้อยู่บนปากอีกคนคล้ายกับจะเป็นฝ่ายปลอบโยน ก่อนความหวามไหวจะร้อนแรงขึ้นตามแรงดูดดึงของปลายลิ้น

อาทิตย์ที่ผ่านมาปินไม่แตะต้องและรบกวนกันในเรื่องแบบนั้น กระทั่งฝุ่นรู้สึกละอายที่ละเลยหน้าที่ ให้เรื่องส่วนตัวอยู่เหนือสิ่งที่ต้องทำ

“ฝุ่น ผมว่า...” ร่างสูงกำลังจะเอ่ยขัดแต่ปากก็ถูกทาบทับปิดกั้นคำที่จะพูด

เมื่อเห็นท่าทีจริงจังนี้ปินก็ยอมแพ้ ปล่อยให้ร่างบางปลุกเร้าทุกอย่างให้ตื่นเพริดพร้อมทั้งสานต่อทุกๆ สัมผัสที่ถูกเสนอมาอย่างเต็มใจ

--

“ฝุ่นโอเคหรือเปล่า ดีขึ้นบ้างไหม” มือเล็กถูกกอบกุมขณะที่บลูถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

เขาพอจะทราบเรื่องมาบ้างจากการคุยโทรศัพท์กันทว่ายังไม่ได้เจอเพราะฝุ่นบอกว่าอยากใช้เวลาอยู่คนเดียว อีกคนเพิ่งจะตกลงรับคำชวนมาออกกำลังกายด้วยก็วันนี้

“นิดหน่อยน่ะ” คนถามถูกถามตอบเพื่อนด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน

“ถ้ามีอะไรให้เราช่วยก็บอกเลยนะ”

“ขอบใจบลูมากนะ”

“หรือว่าจะออกไปข้างนอกกันไหม ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง” บลูเสนอเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้คนของตัวเองและคนของฝุ่นไม่อยู่ในช่วงกลางวัน

“เรา...อยากไปวัด” สถานที่เดียวที่ฝุ่นนึกออกคือสถานที่ทางพุทธศาสนา ตลอดทั้งอาทิตย์ก็ไปมาแทบทุกวัน

“ได้สิ งั้นไปวัดก่อน หลังจากนั้นค่อยไปทานข้าวแล้วก็หาร้านขนมบรรยากาศดีๆ นั่งดีไหม”

ฝุ่นนิ่งคิด เห็นถึงความตั้งใจอยากทำให้รู้สึกดีขึ้นของเพื่อนแล้วก็ได้แต่พยักหน้าตกลง ทว่าก็ยังมีเรื่องสงสัย

“แล้วเรื่องออกกำลังกายล่ะ”

“เดี๋ยวค่อยออกวันหลังก็ได้ ขึ้นไปเปลี่ยนชุดกัน แล้วอีกครึ่งชั่วโมงมาเจอกันที่ล็อบบี้”

คนชวนคล้ายกับจะมีอาการตื่นเต้นกว่า ฝุ่นทำได้เพียงเดินตามแรงรั้งไปทางลิฟต์ แยกย้ายกันไปตามชั้นที่แต่ละคนอยู่จากนั้นจึงกลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วออกเดินทางด้วยรถของบลู



(ทำไมไม่บอกฉันก่อนว่าจะออกไปข้างนอก) บลูเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ใบหน้าเศร้าสร้อยราวกับคนพูดยืนดุอยู่ตรงหน้า

“ขอโทษครับ...บลูแค่อยากพาเพื่อนมาทานข้าว”

(ฉันไม่ได้ว่าที่เธอออกไปข้างนอก แต่อยากให้บอกกันเพราะเผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้รู้)

“ต่อไปบลูสัญญาว่าจะบอกคุณก่อนทุกครั้ง”

(ครั้งนี้จะให้ฉันลงโทษไหม)

คำว่าลงโทษแปรเปลี่ยนใบหน้าที่เหงาหงอยเพราะถูกดุให้เป็นแดงซ่าน ความร้อนลามไล้ขึ้นมาตามตัว ในหัวพลันจินตนาการถึงวิธีการลงโทษที่รู้เป็นอย่างดีโดยไม่อาจห้าม

“...ครับ” แล้วก็ใจง่ายเหลือเกินที่รับคำยอมรับการลงโทษนั้นแต่โดยดี

(งั้นก็อย่ากลับดึกมากล่ะ ฉันเองก็จะรีบกลับไป...ลงโทษเธอ)

ริมฝีปากได้รูปบิดยิ้มพึงพอใจ ดวงตาคมเป็นประกายวาววับดั่งราชสีห์ ปากการาคาแพงในมือใหญ่ถูกหมุนไปมาขณะกำลังคิดวิธีที่จะลงโทษเด็กน้อยของตัวเอง

“คะ ครับ” จังหวะคำที่ถูกเว้นจังหวะไปพาให้คนฟังสั่นไหวไปถึงเสียง

(ฉันต้องวางแล้ว แล้วเจอกัน)

“สวัสดีครับ”

สายถูกตัดไปแต่บลูยังคงคิดถึงบทสนทนาเมื่อครู่ กระทั่งนึกขึ้นได้ว่าหนีออกมาคุยโทรศัพท์นอกร้านโดยทิ้งให้ฝุ่นนั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียวจึงรีบดึงสติกลับมาแล้วเดินเข้าไปในร้าน

“คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอ” ฝุ่นถามขึ้นยามเพื่อนทรุดตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“อื้ม ว่าแต่ฝุ่นยังตอบไลน์ไม่เสร็จอีกหรือไง” บลูถามกลับเมื่อเห็นว่าในมือของอีกคนยังถือโทรศัพท์เอาไว้ ระหว่างทางก็เห็นพิมพ์โต้ตอบกับใครสักคนอยู่เป็นระยะ

“เสร็จแล้วล่ะ” คนถูกถามตอบพร้อมรอยยิ้มบางเมื่อแจ้งเตือนปรากฏว่าปินส่งสติกเกอร์กลับมา

“เมื่อไหร่อาหารจะมาเสิร์ฟล่ะเนี้ย หิวจะแย่แล้ว”

“คงใกล้แล้วล่ะ” บลูมุ่ยหน้าเพราะความหิว

“ว่าแต่ได้ออกมาข้างนอกแบบนี้ฝุ่นสบายใจขึ้นบ้างไหม”

“อืม แต่ก็ยังคิดถึงอยู่ดี”

แม้จะเพิ่งแวะไปหาที่วัดก่อนมาที่นี่ทว่าความคิดถึงที่สลักอยู่ในใจก็ไม่เคยบรรเทาลงเลยแม้แต่น้อย

“ไม่เป็นไรนะ ถ้าฝุ่นคิดถึงน้องเดี๋ยวเราพามาบ่อยๆ” ฝุ่นพยักหน้ารับด้วยความซาบซึ้งใจ

การได้เจอบลูเป็นอีกความโชคดีในชีวิตจริงๆ

“ขอบใจบลูจริงๆ นะ”

“อื้ม ไม่เป็นไรเลย...อ๊ะ เหมือนอาหารจะมาแล้ว เรามาทานให้พุงกางกันดีกว่า”

บลูมีท่าทีสดใสขึ้นอีกสามเท่าเนื่องจากพนักงานมาเสิร์ฟอาหาร พาให้คนมองระบายยิ้มตามถึงแม้บางเวลาจะเผลอแสดงความเศร้าออกมาให้คนอื่นเห็นบ้างก็ตาม

น่าเสียดายที่ไม่เคยได้พาดินมาร้านดีๆ แบบนี้เลย


TBC.

ครบแล้วน้าาาา
ตอนนี้เฉลยสาเหตุของการมาทำงานนี้ของพี่ฝุ่น
แล้วก็แอบเอาคู่บลูมาตัดความเศร้าด้วย
อ่านเรื่องนี้ไม่ต้องคิดเยอะน้า
ทุกอย่างจะเป็นไปแบบไม่รุนแรงมาก
อ่านแบบแฮปปี้กันนะคะะะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
ฝากแท็ก #secrecyลับรัก ด้วยฮับ


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-11-2018 22:22:27
เกิดอะไรขึ้นกับฝุ่น..เป็นห่วง   :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-11-2018 22:37:18
ง่าาา สงสารฝุ่น มาต่อเร็วๆจิ หายไปนานเลย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-11-2018 22:50:08
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 24-11-2018 23:04:55
ฝุ่นเป็นอะไรอ่ะแงงงงงงงงงงงงงง  :mew6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-11-2018 01:12:38
เกิดเรื่องอะไรกับฝุ่น​กันนะ​ เอาช่วยให้ทุกเรื่องผ่านไปด้วยดีรวมทั้งเรื่องของปินด้วย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-11-2018 02:43:57
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-11-2018 02:52:37
มีใครเป็นอะไรมากหรือป่าว  :a5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 25-11-2018 03:07:16
เกิดอะไรขึ้นกันแน่
แล้วปินจะไม่ต่อสัญญาเหรอ ข้อดีคือจะได้หมดปัญหาเรื่องนายจ้างลูกจ้างไรนี่  แต่มันก็น่าหนักใจไม่น้อยน่ะนะ
รอที่เหลือค่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: koisuratreeJHZZ ที่ 25-11-2018 07:45:52
ฝุ่นเป็นอะไรน่ะ เกิดไรขึ้นนนนน :hao7: แต่หมาปินน่ารักมากเลย :o8:
รอที่เหลือและตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ไรท์ :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-11-2018 09:30:11
ใครเป็นอะไรรึเปล่านะฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 25-11-2018 11:08:24
เรื่องต่อสัญญาที่ว่าหรือเปล่าน้า
ฝุ่นนนนน ยังไงอ่ะ ห่วงจัง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-11-2018 22:59:04
นึกอยู่นานว่าตอนที่แล้วเป็นยังงัย 5555

ฝุ่นจะหายไปจากปินเลยหรือเปล่าน้อ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 25-11-2018 23:31:32
ฝุ่นตกใจเรื่องต่อสัญญาหรือเปล่า
คนที่ดูแลปินโทรมาป่าว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.] : 24/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 26-11-2018 10:25:22
พึ่งได้เข้ามาอ่าน มีความชื่นชอบ แนวนี้คิดแล้วมันต้องมีดราม่า แล้วมันก็กำลังจะมาใช่ไหมม นี่ชอบเวลาฝุ่นมากเลย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 26-11-2018 23:51:13
อยากอ่านคู่ของบลูด้วยเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 27-11-2018 00:28:52
โถ่ที่รัก นี่ถ้าทางผู้ใหญ่ไม่ให้ต่อสัญญา ฝุ่นก็ต้องเคว้งแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-11-2018 00:50:54
เศร้าเรื่องน้องดินยังไม่ทันหาย จะมีเรื่องไม่ต่อสัญญาเข้ามาอีกแน่​ สงสารฝุ่นจัง​ 
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 27-11-2018 03:03:48
สงสารฝุ่น :hao5:
คู่บลูนี่น่ารักนะเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-11-2018 06:38:21
สงสารฝุ่น.. :mew6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 27-11-2018 09:27:10
โอยยย ฝุ่น TT
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 27-11-2018 10:58:42
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-11-2018 11:30:48
สงสารฝุ่น ดีนะที่ยังมีปิน ยังมีบลู
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 27-11-2018 19:11:07
ถ้าไม่ต่อสัญญา ฝุ่นจะเป็นยังไง  :ling1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-11-2018 20:41:00
 :ling1:  แง้
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seven.]100% : 26/11/2561 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 27-11-2018 21:40:47
อย่าเศร้านะคะ ขอร้องงงงงงง  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 05-12-2018 21:14:23
Chapter Eight.

ถึงแม้เธอจะไม่อยู่ในชีวิตฉัน แต่เธออยู่ในหัวใจ
เธอมีความหมายเหลือเกินกับฉันในวันอ่อนไหว
เวลาที่เธออยู่กับฉันแม้มันจะสั้นเกินไป
แต่ฉันดีใจที่ได้รักเธอ ได้พบกับเธอ


ฮึก

ร่างเล็กที่นอนคู้ตัวเข้าหากันอยู่บนเตียงสะอื้นไห้ น้ำตาไหลรินจนปลอกหมอนเลอะเป็นวงขณะที่เพลงแสนเศร้าเล่นวนเคล้าคลอ

ผ่านมาสองอาทิตย์แต่ความเศร้าในใจยังไม่จางหาย ยิ่งยามต้องอยู่คนเดียวโดยไร้เงาปินเคียงข้างจิตใจยิ่งอ่อนไหวได้ง่ายขึ้น

คิดถึง...คิดถึงดินเหลือเกิน

ครืด ครืด

โทรศัพท์ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงสั่นครืดคราด มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า สูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมทั้งดันตัวขึ้นนั่ง จากนั้นจึงเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ เมื่อเห็นชื่อคนที่โทรเข้าก็พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

“ฮัลโหล”

(ฝุ่นนอนหรือยัง) ปารินทร์ถามขึ้นเป็นสิ่งแรกเพราะเวลาใกล้จะเข้าสู่วันใหม่เต็มทน

“ยัง”

(ไม่ได้ร้องไห้อยู่ใช่ไหม)

“...” คนถูกถามนิ่งเงียบเมื่อถูกรู้ทัน ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน น้ำตายังคงคลอหน่วย

(เปิดกล้องหน่อยครับ)

“ไม่เอา” ฝุ่นปฏิเสธเสียงสั่น

(ฝุ่น...เปิดกล้อง) เสียงทุ้มนุ่มกดต่ำลงบ่งบอกว่าไม่สามารถขัดความต้องการนั้นได้ คนร้องไห้จึงรีบสูดหายใจ กะพริบตาถี่เพื่อไล่หยดน้ำ กระทั่งคิดว่าตัวเองมีสภาพที่ดีขึ้นจึงกดรับวิดีโอเฟซไทม์

ฝั่งปารินทร์ยังคงเปิดไฟสว่างโร่แต่ทางฝุ่นมีเพียงแสงจากโคมไฟข้างหัวเตียง

(ร้องไห้อีกแล้ว) ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเมื่อถูกทัก

“...”

(ต้องกลับไปลงโทษแมวขี้แยซะแล้ว) ปารินทร์เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน ไม่ได้คิดจะดุหรือว่าอะไรเพราะรู้ดีว่าตอนนี้อีกคนต้องการกำลังใจที่สุด

“รีบกลับมาได้ไหม” เวลาปกติคำพูดแบบนี้คงไม่หลุดออกไป ทว่าความอ่อนแอที่มีกลับพาให้ปากตรงกับสิ่งที่ใจคิด ไม่ปกปิดความรู้สึกใดๆ

อยากให้ปินปลอบ อยากให้ปินกอด

(พรุ่งนี้ตอนค่ำผมก็กลับแล้ว ฝุ่นรอหน่อยนะ)

คนซึ่งถูกเว้าวอนขอส่งยิ้มให้กับคนบนหน้าจอ ใจอยากจะเอื้อมมือเข้าไปคว้าฝุ่นมากอดเสียตอนนี้ หากแต่เมื่อทำไม่ได้ก็จำต้องอดทนและกล่าวคำปลอบโยนคนเศร้า

“...อืม” ฝุ่นรับคำเนื่องจากรู้ว่าไม่ทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องรอ

ปินไปทำงานต่างจังหวัด จะให้กลับมาตอนนี้เลยไม่ได้

(คิดถึงนะครับ)

ได้ยินแล้วหัวใจที่แห้งเหี่ยวด้วยความโศกเศร้าก็ค่อยๆ ฟื้นคืน ข้างในเกิดความรู้สึกดี และมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากจนปลายจมูกร้อนผ่าว

“คิดถึงเหมือนกัน” ประโยคตอบกลับนั้นสั่นเครือนิดๆ

(เอาอย่างนี้ดีไหม เราวางโทรศัพท์ไว้แบบนี้แล้วนอนพร้อมกัน ฝุ่นจะได้รู้สึกว่าผมอยู่ข้างๆ ไม่ได้ไปไหน)

ปารินทร์จับโทรศัพท์ไปพิงกับหมอนอีกไปให้ได้ระดับใบหน้าก่อนจะนอนตะแคงข้างไปหา

“อื้อ” ฝุ่นเองก็ทำตาม กลายเป็นว่าต่างฝ่ายต่างตั้งโทรศัพท์ไว้ข้างตัว สายตามองคนที่อยู่ในจอราวกับนอนอยู่ข้างกัน
ข้อดีของเทคโนโลยีในยุคนี้

(ฝุ่นนอนนะ) ร่างเล็กส่งเสียงรับคำ จากนั้นจึงปิดเปลือกตาลงอย่างว่าง่าย

แปลกที่วิธีนี้กลับได้ผล คล้ายกับว่ามีใครอีกคนอยู่ด้วย ความว้าเหว่ในอกบรรเทาลง อาจจะไม่ถึงกับหลับได้โดยง่ายแต่ก็ดีกว่าต้องนอนอยู่คนเดียวพร้อมความเปล่าเปลี่ยวข้างใน

--

“แม่ เปลี่ยนเป็นนมยี่ห้อนี้ได้ไหม”

“ทำไมล่ะ”

“เพราะพี่ปินเป็นพรีเซนเตอร์”

“เรานี่นะ...อะ จะเอาก็เอา”

ดวงตาคู่สวยที่ยังคงเจือด้วยความเศร้าเหลือบมองสองแม่ลูกที่ยืนคุยกันอยู่ไม่ห่างก่อนจะหันกลับมาหน้าตรง บนพลาสติกซึ่งถูกซีลกล่องนมไว้เป็นแพคๆ มีรูปปารินทร์เรียงกันอยู่ละลานตา

ฝุ่นระบายยิ้มบาง คิดถึงคนที่จะกลับมาเย็นนี้ จากนั้นมือก็หยิบนมลงรถเข็นสองแพค



วันนี้ไม่เหงาหงอยจนเกินไปนักเพราะมีอะไรต้องทำระหว่างรอปิน หลังจากออกไปซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วถือโอกาสเดินเล่นอยู่หลายชั่วโมงฝุ่นก็กลับมายังห้อง จัดของทั้งหมดที่ซื้อมาให้เข้าที่ เสร็จเรียบร้อยก็เริ่มลงมือเตรียมอาหารมื้อเย็น

“คิดถึงผมไหม” 

แรงสอดรัดรอบเอวมาพร้อมเสียงทุ้มที่กระซิบถามข้างหู กลิ่นกายและความรู้สึกแสนคุ้นเคยทำให้รู้ว่าปินกลับมาแล้วโดยไม่ได้หันกลับไปมอง

ฝุ่นหรี่แก๊สให้เบาลง พลางเอี้ยวใบหน้ากลับไปด้านหลัง

“ทำไมกลับมาเร็ว” ตอนนี้เป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็น เร็วกว่าที่ปินบอกเอาไว้ถึงสองชั่วโมง

ฟอด

“รถไม่ติด” ปลายจมูกโด่งกดลงสูดความหอมจากแก้มเนียนก่อนเอ่ยตอบ

“ดื่มน้ำไหม”

“ไม่เป็นไรครับ...คิดถึงผมบ้างหรือเปล่า”

ร่างเล็กถูกจับให้หันมาประจันหน้า คราวนี้ฝุ่นจึงได้เห็นใบหน้าหล่อเต็มตา คนถูกถามไม่ตอบด้วยคำพูดแต่เขย่งปลายเท้าขึ้นทาบทับริมฝีปากเข้าหาอย่างแนบแน่น พอร่างเล็กจะผละออกปินก็รั้งเอาไว้แล้วเริ่มต้นจูบอีกคน

จุ๊บ

“ผมก็คิดถึงฝุ่น” ฝ่ามือใหญ่วางแนบกับแก้มนิ่ม หากไม่กลัวว่าอาหารบนเตาจะไหม้ปินคงทำอะไรมากกว่านี้ “ฝุ่นทำอาหารต่อเถอะ เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”

“อืม” เมื่อฝุ่นหมุนตัวกลับมาจัดการกับอาหารต่อพร้อมกับที่ร่างสูงเดินออกจากห้องครัวไป



“ฝุ่นเรียนคอร์สขนมไทยจบแล้วใช่ไหม จะเรียนอะไรต่อหรือเปล่า เรียนพวกอาหารคลีนหรือขนมเพื่อสุขภาพไหม” หัวไหล่มนเปลือยเปล่าถูกวาดเขียนด้วยปลายนิ้วแกร่งยามปารินทร์เอ่ยถาม

มื้ออาหารเย็นถูกต่อด้วยของหวานแสนเร่าร้อน กระทั่งทุกอย่างสงบลงจึงเป็นเวลาแห่งการพูดคุย

“อยากเรียนวาดรูป” กายบางที่อิงแอบอยู่กับกายหนาภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่เอ่ยตอบเสียงเบา

ฝุ่นเคยได้ยินมาว่าศิลปะช่วยเยียวยาจิตใจเราได้

“เอาสิ ฝุ่นไปดูคอร์สเรียนมาเลย สนใจอันไหนก็บอกผม” ปารินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ไม่คิดขัดข้องกับสิ่งที่อีกคนอยากทำเลยสักนิด

“อาทิตย์หน้าต้องไปจีนแล้วใช่ไหม”

ใบหน้าหล่อก้มลงมองคนที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขน เมื่อฝุ่นเงยหน้าขึ้นมองกันก็เห็นประกายของความสั่นไหวเจืออยู่ในดวงตาโต

“ไปแค่สองอาทิตย์เอง ตอนนั้นผมแค่แกล้งฝุ่นเฉยๆ” ริมฝีปากได้รูปทาบทับลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา

“จริงนะ”

“ครับ” เพียงเท่านั้นรอยยิ้มบางๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคนฟังให้ปินรู้สึกโล่งอกที่อีกฝ่ายไม่ได้จมอยู่กับความเศร้าเพียงอย่างเดียว

“แล้วเรื่องนั้น...ฝุ่นรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง”

มือที่วางอยู่บนไหล่เล็กถูกเลื่อนขึ้นมาแตะแก้มเนียน ปลายนิ้วขยับลูบไล้แผ่วเบาปลอบประโลม

“ดีขึ้นบ้างแล้วล่ะ”

ฝุ่นตอบพร้อมทั้งก้มหน้ากลับมาซบอกกว้างเช่นเดิน แขนเรียวซึ่งพาดอยู่กับลำตัวของปินก็กระชับแน่นขึ้นราวกับหาที่พึ่ง ขณะภาพน้องชายไหลวนอยู่ในหัว

“เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเองนะ”

“อื้อ”

“เราไปอาบน้ำกันดีกว่า”

คนร่างเล็กรับคำพลางผละออกจากการอิงแอบ และเมื่อร่างสูงวาดขาก้าวลงจากเตียงด้วยสภาพเปลือยเปล่าฝุ่นก็เบือนสายตาไปมองทางอื่น

แม้จะเป็นภาพที่เห็นจนชินตาแต่ก็ไม่คิดว่ามันมีความจำเป็นที่จะต้องมอง

“ปินไปรอในห้องน้ำก่อน”

“ยังอายผมอยู่อีกเหรอ” คนอายุน้อยกว่าถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าด้วยรู้ดีว่าที่อีกคนบอกให้เข้าห้องน้ำไปก่อนนั้นเป็นเพราะอะไร

“...”

“โอเค ผมเข้าไปรอในห้องน้ำก่อนก็ได้”

ชีเปลือยที่ไร้ซึ่งความอายเดินโทงๆ ไปทางห้องน้ำโดยไม่สนใจที่จะหยิบกางเกงบนพื้นข้างเตียงมาสวมเลยแม้แต่น้อย

ฝุ่นโคลงหัวด้วยความอ่อนใจ แต่ถึงอย่างนั้นในอกก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นสุขที่กำลังเยียวยาความโศกเศร้า

เดี๋ยวทุกอย่างก็คงดีขึ้นอย่างที่ปินว่า

--

‘ตื่นเต้นไหมกับแฟนมีตติ้งที่จีนซึ่งกำลังจะมาถึง’

‘ตื่นเต้นครับ ถึงแม้จะเป็นครั้งที่สองแล้วแต่ความรู้สึกก็ยังเหมือนกับครั้งแรกเลย’

‘เราเตรียมตัวยังไงบ้าง’

‘นอกจากในเรื่องของการร้องเพลงและเล่นดนตรีแล้วก็ยังมีโชว์ในด้านอื่นที่ผมต้องเรียนเพิ่ม ก็มีการเตรียมตัวในหลายๆ ด้านเลยครับ’

‘เห็นว่านอกจากแฟนมีตติ้งแล้วก็ยังมีงานอย่างอื่นด้วย’

‘ครับ แต่ยังบอกไม่ได้ ขออุบไว้ให้แฟนๆ ได้ลุ้นกันก่อน’


แล้วภาพก็ตัดกลับมาที่พิธีกรซึ่งพูดเรื่องของปินต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนไปพูดถึงข่าวของคนอื่นให้คนที่ไม่ได้มีความสนใจใครนอกจากปินปิดโทรทัศน์ลง

พอกลับมาจากต่างจังหวัดปินก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมตัว ออกจากห้องตั้งแต่เช้าแล้วค่อยกลับมาในตอนดึกดื่น เป็นอย่างนี้มาร่วมสัปดาห์

หาอะไรทำดีนะ

ฝุ่นครุ่นคิดกับตัวเองในยามบ่ายที่ไม่มีอะไรทำ

อืม...ออกกำลังกายที่ห้องแล้วกัน ร่างกายจะได้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าทั้งยังช่วยให้จิตใจสดใสไปด้วยได้

คิดได้ดังนั้นร่างเล็กก็ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเป็นชุดในห้อง ฝุ่นกลับมาเปิดโทรทัศน์ก่อนจะกดเข้าไปในยูทูปแล้วเลือกคลิปออกกำลังกายที่คิดว่าตัวเองทำตามได้ไม่ยาก



ลมหายใจแห่งความเหนื่อยถูกพรูออกทางปาก ร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผมตามกรอบหน้าเปียกลู่ รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ทันแต่เพราะคลิปยังไม่จบจึงกัดฟันสู้

อีก 5 นาทีเอง...

Rrrr

คิ้วได้รูปที่มีหยดเหงื่อเกาะอยู่ขมวดเข้าหากันเมื่อเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น มีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะโทรมา และด้วยเพราะกลัวว่าจะเป็นปิน ฝุ่นจึงพักการออกกำลังกายแล้วเดินกลับมาหาโทรศัพท์ที่โต๊ะหน้าโซฟา

เป็นปินจริงๆ

“ฮะ ฮัลโหล” จังหวะการพูดติดขัดเนื่องจากความเหนื่อย เสียงลมหายใจดังหอบอย่างไม่อาจควบคุม

(ผมจะ...ฝุ่นทำอะไรอยู่) ปารินทร์เอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเสียงที่ได้ยินจากปลายสายดูแปลกๆ พาให้คนฟังจินตนาการไปไกล

“แฮ่ก อะ ออกกำลัง กายอยู่”

แม้จะเป็นคำตอบที่ไม่ได้แตกต่างจากที่คิดเอาไว้นักแต่เสียงหายใจซึ่งมีลมออกมาหนักๆ ก็พลันทำให้ปินอดคิดถึงตอนอยู่บนเตียงไม่ได้

ภาพร่างเล็กขาวเนียนนั่งอยู่บนตักแล้วเป็นฝ่ายขยับเองวาบเข้ามาในหัวทำเอาปินลืมเลือนเรื่องที่ตัวเองจะพูดไปในทันใด

“ปะ ปิน...” ฝุ่นเรียกอีกฝ่ายอย่างมีคำถามเรียกเมื่อคนที่โทรมาเงียบเสียงไป ทว่าการถูกเรียกชื่อด้วยเสียงสั่นๆ นั้นกลับยิ่งทำให้ความคิดของคนที่ได้ยินเตลิดเปิดเปิง

(...ผมจะโทรมาบอกว่าวันนี้คงกลับเร็วหน่อย แล้วก็อยากทานขนมจีนน้ำยา ฝุ่นทำไว้ให้หน่อยนะ) ปินเอ่ยพูดรัวเร็วขณะที่เหงื่อเริ่มไหลทั้งที่อุณหภูมิรอบตัวไม่ได้ร้อนเลยแม้แต่น้อย

“อื้อ” คนที่ไม่ได้รับรู้ถึงความผิดปกตินั้นรับคำขณะซับผ้าไปตามลำคอ แผ่นอกบางยังคงสะท้านไหว

(แค่นี้ครับ) แล้วสายก็ถูกตัดไปในทันทีให้ฝุ่นชะงักด้วยความงุนงง มือบางผละโทรศัพท์ออกจากหูก่อนจะพบว่าปินตัดสายไปแล้วจริงๆ

สงสัยจะมีงานด่วน



ประตูห้องชุดสุดหรูถูกเปิดเข้ามาจากด้านนอกในเวลาสองทุ่มเศษก่อนคนที่เพิ่งกลับมาจะได้รับการต้อนรับด้วยน้ำหนึ่งแก้วพร้อมทั้งรอยยิ้มบาง

“วันนี้ซ้อมหนักไหม” ฝุ่นถามขึ้นยามรับแก้วเปล่ากลับมาถือไว้

“เบากว่าทุกวันนิดหน่อยเพราะได้กลับเร็ว”

“อาบน้ำมาแล้วเหรอ งั้นจะกินข้าวเลยไหม”

เสื้อผ้าที่ปินสวมอยู่ตอนนี้เป็นคนละชุดกับตอนออกจากห้องและกลิ่นแป้งที่ลอยออกมาจางๆ ก็ทำให้ฝุ่นรู้ว่าอีกคนอาบน้ำจากตึกมาแล้ว

“อื้ม ผมหิวแล้ว...หิวมากด้วย” ปินตอบด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเรียวรีเป็นประกายขึ้นมาแวบหนึ่งโดยไม่คนร่างเล็กไม่ทันได้สังเกต

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปห้องครัวกัน” ร่างสูงเดินตามอีกคนเข้าไปในห้องครัวขณะครุ่นคิดอะไรกับตัวเองไปตลอดทาง

“เดี๋ยวอุ่นน้ำยาสักหน่อยนะ จะได้ทานแบบอร่อย” คนที่เดินไปดูหม้อน้ำยาตรงหน้าเตาหันมาบอก โดยปินซึ่งกำลังทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ก็พยักหน้ารับ

เมื่อเตาแก๊สแบบระบบไฟฟ้าถูกเปิดแล้วหม้อได้รับความร้อนกลิ่นหอมฉุยของน้ำยาไก่ก็ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายไปทั่ว คนที่บอกว่าหิวควรให้ความสนใจในอาหารทว่าปินกลับเดินไปซ้อนหลังร่างบาง ประทับจูบลงบนไหล่เล็กให้คนถูกสัมผัสสะดุ้งน้อยๆ เกิดความสงสัยยิ่งกว่าเดิมเมื่อมือหนาเอื้อมไปปิดเตาแก๊ส

“ผมหิว”

“ก็กำลังอุ่นน้ำยาให้อยู่ อีกแป๊บเดียวนะ”

“หิวฝุ่น”

ยังไม่ทันที่ฝุ่นจะได้ประมวลผลริมฝีปากได้รูปก็ฉกลงมาจากด้านข้าง ก่อนร่างเล็กจะค่อยๆ ถูกขยับและจับพลิกให้หันมารับจูบแบบตรงๆ

เสียงหอบหายใจที่ได้ยินผ่านทางโทรศัพท์ยังคงติดอยู่ในหัวปิน และมันก็วนเวียนอยู่ตลอดจนแทบไม่มีสมาธิสำหรับการทำงาน

“ปิน นี่ห้องครัว” ปากบางผละออกห่างแล้วเอ่ยเตือนเมื่อรับรู้ได้ถึงกระดุมกางเกงที่ถูกปลด

“เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง” ปินตอบเพียงเท่านั้นก่อนริมฝีปากได้รูปจะขยับเข้าไปจูบฝุ่นอีกครั้งโดยที่มือก็ทำงานไปพร้อมกัน

ซิบถูกรูดลง ตามมาด้วยแรงรั้งที่ทำให้หัวกางเกงลงไปกองอยู่ใต้บั้นท้ายเล็ก

ฝุ่นขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงความแรงอารมณ์ที่มากกว่าปกติของปิน แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่าอาจเพราะตั้งแต่วันที่กลับจากต่างจังหวัดเราก็ไม่ได้มีอะไรกันอีกหมาตัวใหญ่เลยมีท่าทีหิวโซแบบนี้

“อืมมม” เสียงครางในลำคอดังขึ้นเมื่อร่างกายถูกลูบไล้ด้วยฝ่ามือใหญ่

เพราะปินเป็นนักดนตรีผิวบริเวณมือจึงด้านสาก มันควรจะรู้สึกระคายเวลาถูกสัมผัสแต่ความจริงแล้วกลับไม่เป็นอย่างนั้น
มันสร้างความซ่านกระสันได้ไม่น้อย

เมื่อปากและมือปลุกปั้นอารมณ์ของฝุ่นจนได้ที่ปินจึงจับอีกคนหันหลัง ซองถุงยางที่เตรียมเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงถูกล้วงออกมาแกะด้วยปาก ก่อนมันจะถูกสวมลงที่ส่วนใหญ่โตทันใด

“อื้ออออ” ใบหน้าเล็กแหงนขึ้นเมื่อความร้อนผ่าวถูไถอยู่ทางด้านหลัง ในหัวเกิดคำถามที่ว่าปินเอาถุงยางมาจากไหนแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถามเนื่องจากแท่งร้อนกำลังรุกล้ำเข้ามาในร่างกาย

มันรู้สึกคับแน่นไม่ต่างจากทุกครั้ง และยิ่งเมื่อครั้งนี้ที่ร่างสูงรีบร้อน ไม่มีการเบิกทางใด ความอึดอัดยิ่งเต็มตื้น

ฟันคมขบกัดลงบนไหล่เล็กยามค่อยๆ ดันตัวตนเข้าหา ขณะที่สองมือบางซึ่งค้ำยันกับขอบเคาน์เตอร์ก็กำแน่นอย่างอดทน
กลิ่นน้ำยาไก่ยังคงลอยอบอวลอยู่จางๆ ทว่านาทีนี้กลับไม่มีใครให้ความสนใจ

“อึก” ลมหายใจของฝุ่นสะดุดเมื่อปลายส่วนใหญ่โตเข้ามาลึกจนสุด ราวกับมันขยายขึ้นอีกนิด สร้างความอึดอัดได้มากขึ้นจนร่างเล็กต้องขยับกายน้อยๆ

เห็นท่าทางนั้นแล้วปินจึงช่วยเหลือด้วยการถอนกายออกแล้วเติมเต็มกลับเข้าไปใหม่ ทำอย่างนั้นซ้ำๆ อย่างแน่นหนักก่อนความเร็วจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ

“อะ อา ปิน อึก เบา”

สะโพกสอบที่เคลื่อนไหวช่วยให้ความอึดอัดลดลงจริงแต่สิ่งที่ตามมากลับมากกว่านั้นจนคนที่รองรับความเสียวซ่านแทบไม่ทันต้องเอ่ยบอก

หากแต่ปินไม่ได้ทำตาม จังหวะการตอกตรึงยังคงรัวเร็ว ซ้ำมือหนาที่ประคองสะโพกบางก็เคลื่อนมาเล่นงานแก่นกายเล็กทางด้านหน้า อีกข้างก็เลื่อนขึ้นมาบีบบี้เม็ดตุ่มไตกลางอกบาง

หมาป่า...ปินกลายเป็นหมาป่าไปแล้ว

จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ

ริมฝีปากร้อนพรมจูบไปทั่วหลังคอของฝุ่นจนเกิดเสียงทว่ามันช่างแผ่วเบาหากเทียบกับเสียงที่เกิดจากการประสานกายและเสียงครางแว่วหวาน

เมื่อปลายทางจะมาถึงฝุ่นก็รู้สึกแข้งขาอ่อนล้าพานจะล้ม มือจึงต้องเกาะเคาน์เตอร์ไว้แน่น อีกทั้งยังมีท่อนแขนแกร่งที่คอยโอบประคองอยู่รอบเอว

ดวงตาโตเลื่อนลงมองคราบเลอะตรงพื้นก่อนจะฟาดมือลงบนแขนของปินเท่าที่จะมีแรง

“ครัวเลอะหมดแล้ว”

ฟอด

“เดี๋ยวผมเช็ดเอง”

หมาป่าที่กลับมาเป็นโกลเด้นตัวเดิมยิ้มแฉ่ง น่าหมั่นไส้เสียจนฝุ่นต้องหยิกเจ้าตัวแรงๆ

“เอาออกไปได้แล้ว”

“ไม่ออกได้ไหม”

“ไม่ได้” ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สุดท้ายปินก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ด้วยการถอนกายออกห่างพร้อมทั้งรั้งกางเกงตัวเล็กขึ้นให้อีกคน ยามมือบางเอื้อมมาถอดถุงยางให้โดยไม่จำเป็นต้องร้องขอ

“เตรียมตัวมาอย่างดีเลยนะ” ฝุ่นหรี่ตามองคนตัวโตขณะหยิบทิชชู่มาห่อสิ่งที่ใช้แล้วเอาไว้

“ก็ฝุ่นทำเสียงเซ็กซี่ใส่ตอนโทรมา ปินน้อยมันก็เลยตื่นน่ะสิ” คนฟังอ้าปากค้างให้กับสาเหตุที่เพิ่งรับรู้

แค่เสียงที่เหนื่อยจากการออกกำลังกายนี่นะ

“ชักจะหื่นเกินไปแล้ว”

“ไม่เกินไปหรอกครับ นี่ปกติ” คนถูกว่าระบายยิ้ม ไม่มีแววว่าจะสะทกสะท้านกับกล่าวคำว่านั้นทั้งยังเก็บปินน้อยให้เข้าที่อย่างไม่รีบร้อน “เราไปอาบน้ำกันเถอะ ผมอยากกินขนมจีนน้ำยาไก่จะแย่”

“แล้วใครกันที่ทำให้เสียเวลา” ฝุ่นเข่นเขี้ยวตรงหน้าด้วยความเหนื่อยใจ

--

น้ำตาแห่งความเศร้าโศกค่อยๆ เลือนหายไปตามวันเวลาทว่าความเสียใจยังคงติดอยู่ข้างในไม่ไปไหน การข่มตานอนในแต่ละคืนอาจยากลำบากสำหรับฝุ่นอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นอ้อมแขนที่ตระกองกอดกันไว้แทบทุกคืนก็ช่วยให้หลับลงได้ในที่สุด

“ผมไม่อยู่ฝุ่นนอนได้ใช่ไหม” ร่างสูงที่ยืนนิ่งให้ฝุ่นแต่งตัวให้ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ได้สิ” ใบหน้าเล็กเงยขึ้นตอบพร้อมรอยยิ้มบาง

“ผมจะพยายามคอลหาบ่อยๆ”

“ถ้าปินไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ทำงานไปเถอะ”

“ฝุ่นสัญญากับผมนะว่าจะกินแล้วก็นอนให้เยอะๆ”

“อื้อ”

“พูดว่าสัญญาด้วยครับ” คนเด็กกว่าเอ่ยเสียงเข้มราวกับพูดกับคนอายุน้อยกว่าทั้งที่ฝุ่นเป็นพี่

“สัญญา”

“ถ้าฝุ่นผิดสัญญาผมกลับมาลงโทษนะ” วิธีการลงโทษถูกบ่งบอกด้วยสายตากรุ้มกริ่มอย่างมีความหมาย

“หื่น” ร่างเล็กว่าให้หมาตัวโตก่อนจะขยับตัวถอยห่าง “ออกไปทานข้าวเถอะ” ฝุ่นเอ่ยขึ้นเมื่อดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือแล้วพบว่าพี่หวานจะมารับปินในอีกครึ่งชั่วโมง

“ครับ”



“อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเอง โดยเฉพาะสุขภาพของเส้นเสียง” ฝุ่นย้ำกับคนตรงหน้ายามยืนอยู่หน้าประตู

ใกล้ได้เวลาที่ปินต้องออกจากห้องแล้ว

“บอกตัวเองด้วยครับ” ปินตอบกลับพร้อมทั้งบีบแก้มนิ่มเบาๆ

“รู้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ถ้ามีเรื่องอะไรฝุ่นคอลหาผมได้ตลอดเลยนะ” แววตาขี้เล่นเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังทั้งยังแฝงไปด้วยความอ่อนโยนพาให้คนมองรู้สึกอบอุ่นหัวใจ

“อื้ม”

“จะไปไหนต้องไลน์บอกตลอดด้วย”

“อืม”

“ต้องคิดถึงผมตลอด”

“ไม่บอกก็ต้องทำอยู่แล้ว”

ประโยคที่ถูกเอ่ยออกมาเสียงเบาทำให้ปารินทร์ระบายยิ้มกว้าง เกิดความรู้สึกเอ็นดูจนต้องโน้มหน้าลงไปหอมแก้มคนร่างเล็กทั้งซ้ายขวา

“ผมก็จะคิดถึงฝุ่น” แล้วริมฝีปากได้รูปก็แนบลงกับปากบางเนิ่นนานก่อนร่างสูงของปินจะผละออก “ดูแลตัวเองนะ”

ฝุ่นพยักหน้ารับ เมื่ออีกคนส่งยิ้มให้แล้วหมุนตัวหันหลังก็อดทนต่อความรู้สึกอยากกอดเอาไว้ไม่ไหว

หมับ

สองแขนเล็กโอบรอบคนที่ตัวโตกว่าจากทางด้านหลัง ซบหน้าเข้ากับแผ่นหลังกว้างด้วยความวูบโหวง

“ฝุ่นจะรอ...รีบกลับมานะ”

โหมดอ้อนที่ถูกใช้งานเพียงไม่กี่ครั้งเผยออกมาให้คนถูกกอดแทบไม่อยากก้าวเท้าออกจากห้อง หากแคนเซิลงานได้ปินคงทำทันทีในวินาทีนี้

ปารินทร์ค่อยๆ หมุนตัวกลับมากอดอีกคนเอาไว้จากนั้นจึงกดจูบลงบนหัวเล็กซ้ำๆ

“ครับคนดี”


TBC.

มาแล้ววววว มีความร้อนแรงเล็กๆ มาเสิร์ฟดั้ว
สงสารพี่ฝุ่นเนอะ ฮื่อออ
ฝากเป็นกำลังให้พี่ฝุ่นกับหมาปินด้วยนะคะะะ
ส่งกำลังใจเยอะจะได้มาถี่ๆ อิอิ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
แท็ก #secrecyลับรัก ฮับ


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-12-2018 21:33:27
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 05-12-2018 21:39:10
อยากให้ฝุ่นอ้อนบ่อยๆ..น่ารัก   :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: koisuratreeJHZZ ที่ 05-12-2018 21:46:32
หิวพี่เค้าตลอดเลยนะปินนนนนนนนนนนนน :hao3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 05-12-2018 22:03:20
หมาปินต้องได้โชว์ความสามารถพิเศษเยอะ ๆ สู้เค้าลูก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 05-12-2018 22:04:21
ปินรีบทำงานแล้วกลับมาหาฝุ่น​ คนรอมันเหงา
ระหว่างที่ปินไปทำงานจะมีอะไรเข้ามากวนใจฝุ่นไหมนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-12-2018 22:47:51
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-12-2018 22:49:02
อดทนนะฝุ่นนะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 05-12-2018 23:21:03
เป็นกำลังใจให้ฝุ่นนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-12-2018 23:53:37
ให้ฝุ่นสู้ ๆ ต่อไปนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 06-12-2018 09:25:14
สู้ๆ หนูฝุ่นเดี๋ยวก็ดีขึ้นเนอะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 06-12-2018 09:57:04
โอ้ยยย หิวฝุ่นตลอดดดด  เด็กดีของพี่ฝุ่น ชอบความอ่อนโยนปินที่คอยอยู่เคียงข้างฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Spoypopoy ที่ 06-12-2018 19:20:18
 :hao5: มีความกลัวดราม่าสุดใจ แต่ก็ต้องอ่านต่อไป เดี๋ยวมันค้างคาใจไม่หาย 55555
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 08-12-2018 07:45:28
ชอบตรงที่หมาปินใส่ใจฝุ่นมาก เป็นห่วงตลอด  :-[
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-12-2018 20:52:24
น้องจากไป ฝุ่นก็เสียใจมากแล้ว
ถ้าไม่ให้ต่อสัญญาอีก ฝุ่นจะอยู่ยังไง
สงสารฝุ่นมากเลย ยอมทำทุกอย่างเพื่อชีวิตน้อง
น่าเอ็นดูฝุ่น ห่วงปินก็ห่วง คิดถึงน้องก็คิดถึง

ปินเอ้ย เจ้าหมาตัวโต อ้อมกอดอบอุ่น
อย่าทิ้งไปนาน อย่าหายไปนะ

หลอนดราม่าแล้วค่ะ แต่เชื่อว่าปินจะไม่ยอม

หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eight.] : 05/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 09-12-2018 01:53:33
อ่านไปก็กลัวดราม่าไป กลัวว่าจะมาตอนไหน ฮืออออออ ไม่อยากเห็นฝุ่นเสียใจแล้ววว ทรมานไปหมดดดดด
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 12-12-2018 20:23:31
Chapter Nine.

‘วางแผงแล้วสำหรับปกซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดฮอต ปิน ปารินทร์ สำหรับใครที่จะจับจองต้องวิ่ง 4 x 100 เลยนะคะ เพราะว่าถ้าช้า หมด อดแน่นอนนนนน!
ปล.สำหรับรอยลิปสติกบนหน้าอกแน่นๆ นั้นแฟนคลับไม่ต้องเกรี้ยวกราดไปเพราะใช้อุปกรณ์เท่านั้นค่า’


ริมฝีปากแห้งผากถูกไล้เลียด้วยปลายลิ้นเมื่อฝุ่นเห็นกระทูข่าวในโทรศัพท์ที่เป็นตัวเฉลยข้อสงสัยและความคิดมากของตัวเอง

นี่หึงไปเองหรอกหรือ...

“ฝุ่น เราไปให้อาหารปลากัน” ร่างเล็กซึ่งผละไปคุยโทรศัพท์เดินกลับมาชวนเพื่อน ทว่าคนที่จมอยู่กับความคิดตัวเองเหมือนจะไม่ได้ยิน “ฝุ่น”

บลูเอ่ยเรียกพร้อมทั้งวางมือลงบนต้นแขนของฝุ่น

“หืม...บลูคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วหรือ” คนที่เพิ่งรู้สึกตัวหันมาถามเพื่อนเสียงเบา เรื่องที่วนเวียนอยู่ในหัวปลิวหายเมื่อดึงสติกลับมายังสถานการณ์ตรงหน้า

“คุยเสร็จแล้ว จะมาชวนฝุ่นไปให้อาหารปลากัน ว่าแต่เป็นอะไร คิดถึงดินอีกแล้วเหรอ”

“อะ อืม” ฝุ่นซึ่งไม่รู้จะตอบอะไรได้แต่รับคำไปตามน้ำ

“ไม่ต้องเศร้าแล้วนะ เดี๋ยวดินมองลงมาแล้วจะไม่สบายใจ” บลูระบายยิ้มสดใสอย่างพยายามทำให้เพื่อนรู้สึกดีขึ้น พอเห็นฝุ่นค่อยๆ ยิ้มตามก็รู้สึกเบาใจ

“ได้มาหาดินที่วัดบ่อยๆ แบบนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะ”

“ดีแล้ว งั้นเราไปให้อาหารปลากัน”

“ไปสิ”

--

หลังจากกลับมาจากวัดแล้วแยกย้ายเข้าห้องใครมันบลูก็ไม่มีอะไรทำนอกจากเปิดหนังดูระหว่างรอใครบางคน กระทั่งเสียงก๊อกแก๊กตรงประตูดังเข้าหูแว่วๆ จึงลุกจากโซฟา

“เป็นยังไงบ้างครับ”

ร่างบอบบางในชุดนอนบางเบาเดินมารับของจากคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา กระเป๋าทำงานและเสื้อสูทถูกนำไปวางไว้บนโซฟา ก่อนที่บลูจะเดินกลับมาหยุดอยู่หน้าร่างสูงอีกครั้ง

มือบางเอื้อมไปถอดเนกไทที่ถูกคลายออกไว้หลวมๆ พร้อมทั้งปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตราคาแพงลงให้อีกเม็ด จากนั้นก็หยิบแก้วน้ำส่งให้อีกคน

“เหนื่อย” คนถูกถามตอบเพียงสั้นๆ ยามยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

“จะอาบน้ำเลยไหมครับ”

“อืม”

“บลูรองน้ำไว้ให้แล้ว เดี๋ยวเอาของไปเก็บแล้วจะตามคุณกัญจน์ไปนะ”

“...” คิ้วคู่สวยเลิกขึ้นเมื่อคนตัวโตยังคงยืนนิ่ง ทว่าดวงตาเข้มดุซึ่งจับจ้องอยู่ตรงบางส่วนบนใบหน้าอย่างไม่วางตาก็ทำให้ได้คำตอบว่าทำไม

ร่างเล็กเขย่งปลายเท้าขึ้น ก่อนริมฝีปากจะแนบเข้าหาส่วนเดียวกันของอีกคนตรงหน้า มอบจูบลึกซึ้งเป็นการเพิ่มพลังให้กับคนแก่

“รีบตามมา”

ปลายนิ้วแกร่งไล้ไปตามกลีบปากบางสองสามครั้งจากนั้นกัญจน์จึงผละออกห่างแล้วหมุนตัวเดินไปทางห้องนอนโดยทิ้งสายตาให้บลูรับรู้ว่าครั้งนี้มันจะไม่ใช่เพียงแค่การอาบน้ำปกติ



“ฮึก” ฟันซี่ขาวขบกัดริมฝีปากล่างจนได้กลิ่นคาวเลือดเมื่อส่วนใหญ่โตรุกล้ำเข้ามาลึกสุด ทั้งยังคว้านวน งัดเสยเข้าใส่จุดกระสันโดยไร้ซึ่งความปรานี

สัมผัสเย็นชืดตรงแผ่นหลังซึ่งแนบอยู่กับกระจกของอ่างล่างหน้าไม่อาจช่วยดับความร้อนรุ่มที่เกิดจากกายคนทั้งสอง ใบหน้าเล็กบิดเบ้ ขาเรียวที่วางเป็นรูปตัวเอ็มถูกดันไปด้านหลัง เปิดอ้ากลางกายให้อีกคนแนบชิดได้ถนัดถนี่

“ดีหรือเปล่า” คนตัวโตเอ่ยถามขณะไล้ปลายลิ้นร้อนไปตามกลีบปากบางอย่างบ่งบอกว่าให้คลายแรงกัดออก ทว่ามันกลับเป็นสิ่งที่ทำได้ยากสำหรับบลู ร่างเล็กจึงเปลี่ยนจากการกัดปากตัวเองไปเป็นกัดไหล่หนั่นแน่น ระบายความเสียวซ่านโดยไม่กังวลว่าอีกฝ่ายจะเจ็บ

คุณกัญจน์เคยบอกว่าให้กัดและข่วนได้เต็มที่ เพราะยิ่งรุนแรงก็ยิ่งหมายความว่าเสียวมาก

“อื้อ ดีมาก ครับ”

จากการบดคลึงสะโพกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นขยับเข้าออก หอบความซ่านกระสันระลอกใหม่สาดซัดมาเล่นงานจนปลายเล็บสั้นกุดจิกลงบนแผ่นหลังกว้าง

กล้ามเนื้อบนร่างหนาทำงานแทบจะทุกมัด ทั้งต้นขา สะโพก และแผ่นหลัง แม้อายุจะล่วงเลยมาจนถึง 42 ปี แต่กัญจน์ ศิวะเกียรติ ก็ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ออกกำลังเป็นประจำสม่ำเสมอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายกับบลู

บทรักที่ทั้งเร่าร้อนและหวามไหวราวกับแผดเผาร่างเล็กให้ค่อยๆ มอดไหม้ กว่าคนอายุมากกว่าจะพึงพอใจและปล่อยให้บลูอาบน้ำก็เป็นตอนที่ยืนแทบไม่ไหว ขาสั่นระริก น่าตลกเสียจนเห็นแววตาคมเจือไปด้วยความขบขัน

“หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” กัญจน์กระซิบอยู่ข้างหูคนนอนหมดแรงโดยที่ท่อนแขนก็พาดอยู่บนเอวคอด ปลายจมูกโด่งแตะแต้มคลอเคลียอยู่กับหลังคอระหงไปเรื่อยๆ

“แต่บลูเหนื่อยแทน” เสียงหัวเราะทุ้มในลำคอดังขึ้น

“เหนื่อยก็พัก”

“คุณกัญจน์ก็หยุดลูบตรงนั้นตรงนี้สักทีสิครับ” ใบหน้าเล็กเอียงกลับมาพลางยู่ปากใส่คนด้านหลังน้อยๆ

“นิ่มดี”

“พอเลยครับ พรุ่งนี้มีประชุมกับท่านรองนะ”

พูดถึงเรื่องงานแล้วนักการเมืองที่ถือว่ายังหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาอย่างไม่เก็บอาการ

บางทีกัญจน์ก็เบื่อเส้นทางนี้เต็มทน

“ขี้เกียจ”

“ขี้เกียจก็ต้องสู้นะครับ แล้ววันนี้ก็พักผ่อนได้แล้ว”

บลูค่อยๆ หันกลับไปหาอีกทั้งตัว ก่อนริมฝีปากบางจะกดลงตรงดวงตาคมแผ่วเบา จากนั้นจึงผละออกมายิ้มให้แล้วได้รับสัมผัสตรงริมฝีปากกลับมา

“ฝันดี”

“ฝันดีครับ”

--

“พอก่อนนะครับ เดี๋ยวคุณกัญจน์ไปทำงานสาย”

มือเล็กรั้งใบหน้าที่ซุกไซ้ไปตามลำคอตัวเองเอาไว้พลางยื่นแปรงสีฟันส่งให้ ทั้งยังย้ำอีกคนด้วยสายตาว่าต้องรีบแล้ว

“ฉันไม่อยากไปเลยสักนิด” คนแก่ทำสีหน้าเบื่อหน่ายราวกับเด็กที่ถูกบังคับไปโรงเรียน

“ไม่อยากไปแต่ยังไงก็ต้องไป...ใช่ไหมครับ” บลูยิ้มบางพลางเลิกคิ้วถาม

“...”

“ไปทำงานก่อนนะครับ แล้วเย็นนี้บลูจะนวดให้” แล้วสีหน้าเบื่อหน่ายก็แปรเปลี่ยนเป็นกรุ้มกริ่ม ดูสบายอารมณ์ขึ้นทันตาอีกทั้งมือหนายังรับแปรงสีฟันไปจัดการตัวเองพร้อมฮัมเพลงในลำคอไปด้วย

คนแก่แสนหื่น

บลูได้แต่โคลงหัวแล้วเอื้อมมือไปหยิบแปรงสีฟันของตัวเอง



หากรายการที่ฝุ่นดูระหว่างวันบ่อยที่สุดคือรายการเพลงและรายการบันเทิง สิ่งที่บลูดูก็จะแตกต่างจากนั้นคนละขั้ว แต่ถึงอย่างไรร่างบางก็ยังติดตามเพจข่าวซุบซิบเอาไว้มากมายเนื่องจากเผื่อมีความเคลื่อนไหวในบางอย่าง

เช่นวันนี้

‘แก้ม มทิรา พูดถึงชีวิตคู่กับนักการเมืองหน้าหล่อสุดภูมิฐาน กัญจน์ ศิวะเกียรติ ที่ทุกคนจับตามองว่ายังดีอยู่ ไม่มีขาเตียงสั่นแบบที่เป็นข่าวลือแต่อย่างใด’
‘ยังเหมือนเดิมค่ะ เพียงแต่อาจจะแยกกันอยู่บ้างตามเรื่องของงาน บางทีเขาอยู่คอนโดก็สะดวกกว่า บางทีแก้มอยู่คอนโดก็สะดวกสำหรับแก้มมากกว่า แต่ก็ยังกลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านบ้างเหมือนเดิม’
‘แต่งงานกันมาจะห้าปีแล้ว เมื่อไหร่จะมีลูก?’
‘ตอนนี้ทั้งแก้มแล้วก็คุณกัญจน์ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเลยค่ะ แต่ว่าก็อาจจะต้องเริ่มคุยเรื่องนี้กันจริงจังแล้ว’
‘ยืนยันว่ายังรักกันดี’
‘ยังดีอยู่ค่ะ’
เซเลปสาวยังคงยืนยันเช่นเดิมแม้ว่าข่าวจะหนาหูและมีมูลมากขึ้นเรื่อยๆ



ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเมื่อในอกเกิดความวูบโหวงจนต้องวางไอแพดลงบนโต๊ะช้าๆ

ฝ่ายนั้นไม่ยอมปล่อยคุณกัญจน์ง่ายๆ เพราะมีพันธะมากมายหลายอย่าง เรื่องหย่าร้างจึงได้คาราคาซังมาถึงสี่ปี

บลูกะพริบตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อคิดได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวเอง

ถึงคุณกัญจน์จะหย่ากับภรรยาที่แยกกันอยู่มาแล้วสี่ปีแต่ก็ใช่ว่าอีกคนจะเลือกเขาสักหน่อย

คนสูงส่งและมีเกียรติขนาดนั้นไม่มีทางลดตัวมายกระดับเขาให้เป็นมากกว่าเด็กขายตัวหรอก

--

Pin sent a photo.
Pin : แสบ

ฝุ่นรีบกดเข้าไปดูภาพซึ่งถูกส่งมาจากอีกประเทศ เมื่อเห็นว่าแขนอีกคนมีรอยข่วนเป็นทางก็รีบพิมพ์ข้อความส่งกลับไป

Fhoon : โดนอะไรมา

ข้อความนั้นถูกอ่านในทันใดบ่งบอกว่าปินกำลังอยู่ในหน้าแชท

Pin : เล็บแฟนคลับ
Pin : เขาเข้ามารุม รู้ตัวอีกทีก็แสบไปแล้ว
Pin : *ส่งสติ๊กเกอร์
Fhoon : ทายารึยัง
Pin : แล้ว
Pin : บอกฝุ่นไว้ก่อน เผื่อมีข่าวจะได้ไม่ตกใจ
Fhoon : อืม
Fhoon : ทำอะไรอยู่
Pin : ซ้อมอยู่ครับ
Pin : ตอนนี้พัก

คิ้วได้รูปขมวดมุ่นเมื่อตัวเลขตรงกลางหน้าจอบอกเวลาจวนจะห้าทุ่ม นั่นหมายความว่าที่จีนก็เกือบจะเที่ยงคืน

Fhoon : ที่นู้นจะเที่ยงคืนแล้ว ยังซ้อมอยู่อีกเหรอ?
Pin : ใกล้ถึงวันแฟนมีตยิ่งต้องซ้อมหนัก
Fhoon : งั้นก็สู้ๆ
Pin : คิดถึงฝุ่นนะครับ
Fhoon : เหมือนกัน
Pin : ไม่เอาแบบนี้สิ ฝุ่นต้องพิมพ์กลับมาว่าคิดถึงมากกว่า

ฝุ่นระบายยิ้มก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ ให้กับเจ้าหมาขี้อ้อน

Fhoon : คิดถึงมากกว่า

ถึงอย่างนั้นก็ส่งข้อความที่อีกฝ่ายต้องการกลับไปโดยไม่มีอิดออด

Pin : *ส่งสติ๊กเกอร์

สติ๊กเกอร์รูปหัวใจถูกส่งกลับมา

Pin : ฝันดีครับ
Fhoon : *ส่งสติ๊กเกอร์

ก่อนจะจบบทสนทนาในค่ำคืนนี้ด้วยสติกเกอร์ให้กำลังจากฝุ่น เมื่อข้อความขึ้นว่า read แล้วไม่มีสิ่งใดตอบกลับมาโทรศัพท์ก็ถูกกดล็อกหน้าจอ สองแขนกระชับหมอนข้างเข้าหาตัว

วันนี้พี่จะไม่ร้องไห้

ฝุ่นให้คำสัญญากับน้องอยู่ในใจแล้วปิดเปลือกตาลงช้าๆ

--

“จบลงไปแล้วสำหรับงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศจีนของนักร้องซูเปอร์สตาร์สุดฮ็อตอย่าง ปิน ปารินทร์ เรียกได้ว่าแฟนคลับจีนนั้นไปกันล้นฮอล์ อีกทั้งนิตยสารที่เจ้าตัวเพิ่งขึ้นปกในเมืองไทยก็เกลี้ยงแผงทั้งที่ปล่อยออกมาได้เพียงวันเดียว ส่วนเรื่องที่แฟนคลับกระชากแขนจนถูกเล็บข่วนเป็นทางยาวปินก็บอกว่าไม่ได้ถือโทษอะไร เข้าใจว่าแฟนคลับอยากใกล้ชิดเพราะความชื่นชอบ ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากจะมีงานถ่ายแบบที่จีนแล้วยังแว่วมาว่ามีเอเจนซี่จีนทาบทามให้ไปเป็นพระเอกซีรีส์อีกด้วย โอ้โห แรงสุดๆ ฉุดไม่อยู่จริงๆ ค่ะคนนี้”

ดวงตาโตจับจ้องภาพซึ่งถูกฉายทางโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ ด้วยความยินดีกับอีกคน แม้จะได้คุยกับคนซึ่งกำลังถูกพูดถึงอยู่ในข่าวเพียงเล็กน้อยแต่ฝุ่นก็ไม่ได้รู้สึกแย่เนื่องจากเข้าใจดีว่าตอนนี้ปินกำลังยุ่งมากแค่ไหน

Rrrr

โทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องถูกคว้ามารับสาย

“สวัสดีครับ”

(คุณฝุ่นครับ คลาสเรียนตอนบ่ายนี้ผมขออนุญาตงดได้ไหมครับ พอดีว่าคุณแม่เข้าโรงพยาบาลกะทันหัน) ครูสอนวาดภาพที่ฝุ่นเรียนด้วยเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ

“ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา ว่าแต่แม่คุณเซนเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” ร่างเล็กรับคำในทันใด ทั้งยังถามถึงอาการของแม่อีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง

(เห็นว่าหน้ามืดเพราะความดันขึ้นน่ะครับ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ความดันขึ้นอีกหรือเปล่า...ยังไงผมขอโทษจริงๆ นะ ไว้จะชดเชยให้นะครับ)

“ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร ขอให้คุณแม่หายเร็วๆ”

(ขอบคุณมากครับ งั้นผมวางสายแล้ว ไว้เจอกันสัปดาห์หน้าครับ)

“สวัสดีครับ”

ฝุ่นวางโทรศัพท์ลงที่เดิมขณะกำลังคิดกับตัวเองว่าแล้ววันนี้ที่จะทำอะไร ใช้เวลาคิดอยู่ชั่วครู่ กระทั่งนึกออกมือบางจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วส่งไลน์ไปหาเพื่อนสนิทคนเดียวที่มี

Fhoon : ไปซื้อของกันไหม

บลูยังไม่อ่าน รอเกือบห้านาทีจึงค่อยมีข้อความตอบกลับมา

Blue : อ้าว ไหนฝุ่นบอกว่ามีเรียนวาดรูปไง
Fhoon : ครูเขาติดธุระน่ะเลยมาสอนไม่ได้
Fhoon : บลูว่างหรือเปล่า
Blue : ตอนนี้ก็ว่างนะ
Blue : แต่คงกลับดึกไม่ได้
Fhoon : คงกลับไม่ดึกหรอก
Blue : โอเค งั้นอีกสิบห้านาทีเจอกัน
Fhoon : *ส่งสติ๊กเกอร์

ตกลงกันได้แล้วร่างเล็กก็หยัดกายขึ้นจากโซฟาเพื่อเดินไปเปลี่ยนชุดในห้อง ทว่าพอครบสิบห้านาทีบลูก็ไลน์มาบอกว่าแต่งหน้ายังไม่เสร็จ กว่าจะได้ออกจากห้องจึงเลยเวลาที่ตกลงกันเอาไว้ถึงสิบนาที



“บลูว่าตัวนี้เหมาะกับเราไหม” ฝุ่นหันไปถามคนที่เลือกเสื้ออยู่ข้างกัน และเมื่อคนถูกถามหันมาเห็นก็ส่ายหน้าหวือ

“เก็บเลย แนวนี้ในถุงก็มีสองตัวแล้ว ฝุ่นควรเปลี่ยนสไตล์บ้าง”

“เปลี่ยนสไตล์?”

“อื้อ ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำบ้าง เป็นสีสันของชีวิต...นี่ เราว่าตัวนี้เหมาะกับฝุ่น” ร่างเพรียวหยิบเสื้อที่ดูๆ ไว้เมื่อครู่มาทาบใส่ตัวเพื่อน ขณะที่ฝุ่นก็ก้มลงมอง แล้วดวงตาโตก็เบิกขึ้นนิดๆ

“มันคอกว้างไปหรือเปล่า”

“ไม่หรอก นิดๆ หน่อยๆ เอง”

“...”

“เชื่อสิว่าเขาชอบ” เขาที่เข้าใจความหมายกันดีว่าเป็นใครทำให้คนไม่มั่นใจกัดริมฝีปากอย่างใช้ความคิด หากแต่สุดท้ายก็ยอมรับเสื้อตัวนั้นจากมือเพื่อนมา

“ลองดูก็ได้”

“ดีมาก” บลูระบายยิ้ม ทั้งยังคะยั้นคะยอให้ฝุ่นลองเสื้อและกางเกงแบบที่อีกฝ่ายไม่เคยใส่อีกหลายตัว



“มัวแต่ช็อปเพลิน ดูซิ ออกมาเจอรถติดเลย”
 
คนขับรถยู่ปากน้อยๆ เมื่อการจราจรใจกลางเมืองติดขนัดชนิดที่ผ่านไปเป็นชั่วโมงแต่รถกลับเคลื่อนตัวไปได้เพียงไฟแดงเดียว

“บลูรีบใช่ไหม” คำถามนั้นทำให้บลูหันมาเลิกคิ้ว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงถอนหายใจเบาๆ

“อื้อ...เขาใกล้จะกลับห้องแล้วน่ะ”

“ขอโทษนะที่เราพาออกมาข้างนอกวันนี้”

“เราไม่ได้จะว่าฝุ่นนะ เป็นเราต่างหากที่มัวแต่ซื้อของเพลินทั้งที่ฝุ่นชวนกลับตั้งเป็นชั่วโมงแล้ว” นึกแล้วบลูก็โกรธตัวเอง เวลาบนคอนโซลรถยิ่งส่งผลให้ร้อนใจหากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านั้น

ถ้าคุณกัญจน์ถึงห้องก่อนนี่ยิ่งแย่เลย...

“ผ่านแยกนี้ไปคงดีขึ้นแล้วล่ะ” ฝุ่นเอ่ยปลอบคนที่กำลังรีบ

“ขอให้เป็นอย่างนั้น”

จังหวะเพลงอันแสนสดใสในรถไม่อาจบรรเทาความหงุดหงิดงุ่นง่านลงได้ กระทั่งผ่านจากไฟแดงนั้นมาบลูก็เหยียบคันแร่งเท่าที่สามารถ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ทันใครบางคนที่กลับมาถึงห้องก่อนสักพักแล้ว

แกร๊ก

“หนีเที่ยวมา สนุกไหม”

ร่างสูงที่นั่งเอนกายทำงานอยู่บนโซฟาเลิกคิ้วถาม พาให้คนกลับช้าเม้มริมฝีปาก ร่างเล็กค่อยๆ เดินลากเท้าเข้าไปหาคนอายุมากกว่าด้วยท่าทางเจี๋ยมเจี้ยม

“บลูขอโทษที่กลับช้า”

แมคบุ๊กบนตักแกร่งถูกพับหน้าจอลงแล้วนำไปวางไว้ที่อื่น ก่อนดวงตาคมจะเลื่อนกลับมามองคนที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้า

“เดี๋ยวนี้หัดหนีเที่ยวแล้วใช่ไหม”

“...” ริมฝีปากบางถูกขบกัดอย่างไม่กล้าพูดอะไร

“ฉันถาม” กัญจน์เอ่ยย้ำอีกครั้งบ่งบอกว่าคนถูกถามไม่มีสิทธ์นิ่งเงียบ

“บลูขอโทษ” คนมีความผิดได้แต่พูดคำนี้ออกมา

กัญจน์หยัดกายขึ้นจากโซฟา ปลายนิ้วแกร่งเชยคางมนให้อีกคนเงยหน้าขึ้นมอง พลันริมฝีปากที่เป็นเส้นตรงก็ยกโค้งขึ้นให้ความเข้มดุที่แสร้งทำเลือนหายไป

จุ๊บ

“ฉันไม่ได้จะว่าอะไร” กัญจน์ก้มลงไปจูบเด็กของตัวเองเบาๆ ก่อนจะเอ่ยพูด

“คุณ...ไม่ได้โกรธที่บลูละเลยหน้าที่เหรอครับ”

คนที่ตามไม่ทันถามออกมาช้าๆ คิ้วขมวดเข้าหากัน รู้สึกสับสนกับท่าทางที่แปรเปลี่ยนไปของคนตรงหน้าเล็กน้อย

“เธอไม่ได้เป็นคนรับใช้ฉัน จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างฉันไม่ว่าหรอก”

“บลูนึกว่าคุณ...”

“ฉันแค่แกล้งเล่น” คนฟังยู่ปากน้อยๆ

“ตกใจหมดเลย คิดว่าทำคุณไม่พอใจซะแล้ว”

“ความจริงก็ไม่พอใจอยู่หน่อยๆ...แต่เธอรู้ดีว่าต้องทำยังไง” มือหนายกขึ้นมาแนบกับแก้มเนียน ปลายนิ้วแกร่งไล้อยู่ใต้ริมฝีปากสีเชอร์รีไปมาอย่างสื่อความหมาย

“บลูยังไม่ได้อาบน้ำ” บลูตอบเสียงเบา ไม่ได้มีปัญหากับการทำให้อีกคนพอใจแต่ไม่มั่นใจกับร่างกายตัวเองในเวลานี้อยู่เล็กน้อย

“No problem,Kiddie”

แล้วริมปากได้รูปก็ฉกรูปลงมาบ่งบอกว่าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ขณะที่คนถูกจู่โจมก็ตอบรับสัมผัสอีกคนแต่โดยดี

ความคุ้มค่าของโซฟาก็คือแบบนี้...ไม่ได้มีไว้นอนดูโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว

ส่วนการนวดที่บลูบอกเมื่อเช้าก็เอาไว้วันหลังแล้วกัน



“ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าห้ามให้ข่าวอะไรอีก...”

ร่างเล็กที่ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นเมื่อเสียงคุยโทรศัพท์ดังเข้ามาในห้วงการหลับใหล

“อย่าให้ผมต้องฟ้องหย่านะแก้ม...มันก็ไม่แน่ถ้าเกิดว่าเราคุยกันดีๆ ไม่ได้”

บลูเม้มปากเมื่อจับใจความได้ว่าเจ้าของแผ่นหลังกว้างกำลังคุยกับใครและคุยถึงเรื่องอะไร

ได้ยินกี่ครั้งก็ไม่อาจห้ามความวูบโหวงในอกได้

“คุณรู้จักผมดี...อย่าให้ฟางเส้นบางๆ ที่ผมมีมันขาดลง”

กัญจน์กดตัดส่ายเมื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการพูดหมดลง ลมหายใจร้อนถูกพรูออกหนักๆ จนแผ่นอกสะท้านไหว ก่อนจะต้องชะงักเมื่อมีบางอย่างสอดรัดรอบเอวและซบเข้ากับแผ่นหลัง

“อยากได้เครื่องดื่มหน่อยไหมครับ” คนด้านหลังเอ่ยถามเสียงเบา

“ก็ดีเหมือนกัน”

มือหนายกขึ้นเสยผมอย่างไม่สบอารมณ์ ทว่าเมื่อความแนบชิดทางด้านหลังจะผละออกกัญจน์ก็หมุนตัวไปคว้าร่างเอาไว้ ตามด้วยการทาบทับริมฝีปากเข้าหา

“ขอโทษที่ทำเธอตื่น” กัญจน์เอ่ยพูดขณะที่ริมฝีปากยังคลอเคลียกันไม่ห่าง

“ไม่เป็นไรเลยครับ เดี๋ยวบลูไปเอาเครื่องดื่มมาให้นะ”

พออีกคนพยักหน้าอนุญาตร่างเล็กในชุดนอนตัวโคร่งก็หมุนตัวเดินออกจากห้องโดยมีสายตาคมมองตาม

เด็กน้อยของเขา

--

“ฝีมือฝุ่นดีขึ้นมากเลยนะ” คุณครูหนุ่มเอ่ยชมเมื่อคลาสเรียนแบบส่วนตัวในวันนี้จบลงพร้อมกับผลงานที่พัฒนาขึ้นกว่าครั้งก่อนของลูกศิษย์

“เพราะมีอาจารย์เซนสอนไง” ฝุ่นพูดพร้อมรอยยิ้มบางขณะทอดมองผลงานตรงหน้าด้วยความภาคภูมิใจ

ที่ความเศร้าบรรเทาลงได้ก็เพราะศิลปะนี่แหละ

“ไม่หรอก ของแบบนี้มันอยู่ที่ฝีมือแต่ละคน...ผมดีใจนะที่วันนี้รอยยิ้มของฝุ่นมันสดใสขึ้นกว่าทุกครั้ง” ดวงตาโตเลื่อนไปมองคนพูดก่อนจะทำหน้าเหรอหราใส่คนที่อายุเท่ากัน

“งั้นหรือ”

“อืม วันแรกที่เราเจอกันฝุ่นดูเศร้า”

“...”

“ดีใจที่เห็นฝุ่นดีขึ้น ศิลปะมันเยียวยาจิตใจเราได้จริงๆ”

“อืม เคยได้ยินมาเหมือนกัน”

“คือ...เรียนเสร็จแล้วฝุ่นรีบไปไหนไหม” คิ้วได้รูปเลิกขึ้นอย่างถามว่ามีอะไร “ผมว่าจะชวนไปกินข้าวสักหน่อย”

คนฟังชะงักไปเล็กน้อย ก่อนบางอย่างในแววตาของคนเป็นครูจะทำให้ฝุ่นทำเพียงแค่ยิ้มแล้วกล่าวปฏิเสธ

“ฝุ่นไม่สะดวกน่ะ”

“อ่า ถ้าอย่างนั้นเอาไว้วันหลังก็ได้” คนชวนยกมือขึ้นมาเกาคอแก้เก้อ

“อืม เดี๋ยวขอตัวไปล้างมือก่อนนะ”

“ได้เลย”

ร่างบางลุกขึ้นยืนพลางถอดผ้ากันเปื้อนออกก่อนจะเดินไปตรงมุมล้างมือเล็กๆ ยามในหัวก็ครุ่นคิดถึงเรื่องคนด้านหลังไปพร้อมกัน



หลังจากเรียนเสร็จฝุ่นก็เดินทางกลับห้องโดยเลือกจะแวะซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของสด เมื่อได้ทุกอย่างครบก็โทรเรียกรถของที่พักมารับ

กึก

ฝุ่นขมวดมุ่นเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพบว่าไฟถูกเปิดเอาไว้ ร่างกายสัมผัสได้ถึงการทำงานของแอร์คอนดิชันเนอร์

หมับ

“ผมกลับมาแล้ว”

บางอย่างจู่โจ่มเข้ามากอดจากทางด้านหลังก่อนเสียงกระซิบข้างหูจะดังขึ้น พร้อมๆ กับกลิ่นกายอันแสนคุ้นเคยที่ลอยเข้าจมูกให้ฝุ่นได้รู้ทันทีว่าเป็นใคร

“ไหนบอกจะกลับพรุ่งนี้” ใบหน้าเล็กหันกลับไปหา พอเห็นหน้าปินแล้วถึงได้รู้ว่าความคิดถึงนั้นมีมากแค่ไหน

“ผมอยากเซอร์ไพร์สฝุ่นไง” เจ้าหมาตัวโตตอบพร้อมรอยยิ้ม แล้วแก้มเนียนก็ถูกหอมดังฟอด “แต่หน้าตาฝุ่นเหมือนไม่เซอร์ไพร์สเลย”

“ต้องทำหน้ายังไง” ฝุ่นขมวดคิ้วถามพลางหันกลับไปหาคนด้านหลัง โดยที่สองแขนยังเต็มไปด้วยถุงของสดมากมาย

“ก็ทำตาโตๆ แล้วก็พุ่งเข้ามาจูบผม อะไรแบบนั้น”

คนฟังนิ่งคิด จากนั้นจึงโน้มใบหน้าเข้าไปทำสิ่งที่ปารินทร์คาดหวัง ทั้งยังทิ้งถุงของลงบนพื้นอย่างไม่ใยดีเมื่อต้องยกมือขึ้นมาประกบแก้มสาก

สองเรียวลิ้นเกี่ยวพันกันด้วยความคิดถึง ก่อนร่างเล็กจะถูกอุ้มไปชิดกับประตูขณะเสียงดูดดึงของริมฝีปากสองคู่ดังคลอกับเสียงลมหายใจ

คิดถึง

ความคิดถึงทั้งหมดถูกสื่อสารผ่านทางสัมผัส...สัมผัสที่ไร้ซึ่งสิ่งใดขวางกั้น เสื้อผ้าถูกถอดออกแล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ

“อะ อื้อ...ปิน” ปลายเล็บสั้นกุดจิกลงบนไหล่กว้าง สองขาเกี่ยวกระหวัดรอบเอวสอบแน่นกันตก แม้จะมีฝ่ามือใหญ่ประคองอยู่ใต้บั้นท้ายแต่ฝุ่นก็ไม่อาจวางใจ

“คิดถึง จุ๊บ คิดถึงแมวฝุ่นมาก”

ปินพรมจูบไปทั่วดวงหน้าใส สัมผัสนั้นเป็นไปอย่างอ่อนโยนต่างจากการประคองสะโพกบางให้ยกขึ้นและกดลงโดยไม่ปรานี

ยิ่งห่างหายกันไปนานทุกอย่างยิ่งรู้สึกได้มากขึ้น

“อึก คิดถึงเหมือนกัน” ปินยกยิ้มเมื่อได้ยิน จากนั้นจึงตอกย้ำความคิดถึงที่ตัวเองมีให้ฝุ่นได้รู้จนแทบสำลักความซ่านเสียว


TBC.

มาแล้ววววว
มาพร้อมความฮอตเบาๆ ของทั้งสองคู่เลย
คู่ไหนเป็นยังไงคอมเมนต์มาได้น้า
#secrecyลับรัก


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 12-12-2018 20:50:39
ความหื่นแต่ละคนไม่ธรรมดา
ทั้งฝุ่นและบลูก็สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 12-12-2018 21:14:43
หมาปินต้องสู้นะลูก จะยอมแพ้คุณกัญจน์ไม่ได้  :haun4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-12-2018 21:31:43
คู่ของบลูน่าจะง่ายกว่าของฝุ่นนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-12-2018 22:00:17
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 12-12-2018 22:15:58
ชอบแนวแดดดี่กัญจน์ กับคิดดี้บลู   :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 12-12-2018 22:42:41
เอ็นดูฝุ่นมากเลยค่ะ เหมือนเด็กน้อยรอคอยคนรัก
ปินก็ไปไกลเรื่อยๆ แต่เชื่อว่าปินจะไม่ทิ้งฝุ่น

บลูนอยด์ง่ายกว่าฝุ่นอีกน่ะ ก็นะ คนมีพันธะ
แต่คุณกัญจ์จับจองบลูแล้วนะ เด็กน้อยของคุณกัญจ์
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 12-12-2018 23:28:00
นี่เขาเรียกความคิดถึงที่แสนหื่นนของหมาปินมั้ยย   :jul1:
คู่บูลก็ไม่น้อยหน้ากันเลย ชอบมากกกทั้งสองคู่เลย ดราม่าน่าจะหนักหน่วงพอกันอาชีพและหน้าที่ยากพอกันเลย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 12-12-2018 23:37:05
เก็บกดมาจากข้างนอกกันใช่มั้ยเนี่ย
แต่ละคน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-12-2018 23:44:01
ต่อมหื่นทำงานแล้วหรอ ปิน  :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 13-12-2018 07:29:36
เด็กๆ ต้องอดทน สู้ๆ นะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 13-12-2018 08:12:29
 :pig4 :z13:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 16-12-2018 08:31:13
แต่ละคู่แซ่บๆทั้งนั้น
คู่แดดดี้กับคิดดี้คือสุดยอด แต่คนมีพันธะ รีบเคลียร์ตัวเองเร็วๆนะคุณกัญจน์
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-12-2018 09:04:26
แลดูไร้ดราม่านะ แต่นี่มันแค่ผิวน้ำ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nine.] : 12/12/2561 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 17-12-2018 11:14:17
แงงงงง ค่บลูนี่เค้าฮอตเว่อ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 19-12-2018 19:35:41
Chapter Ten.

“อยู่นู้นคิดถึงฝีมือฝุ่นเป็นที่สุด” ปินซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้นด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม

กลิ่นต้มยำขาหมูลอยอบอวลทำให้น้ำลายไหล ไหนจะกลิ่นข้าวหอมกรุ่นที่มีควันลอยขึ้นจางๆ พาให้มือไม้ซึ่งถือช้อนส้อมเตรียมไว้แล้วขยับไปมาอย่างเริงร่า

“คิดถึงฝีมือมากกว่าคนอีกเหรอ” ฝุ่นแสร้งพูด ขณะที่คนฟังก็เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหลุดหัวเราะ

“ไม่อยู่ด้วยกันสองอาทิตย์ฝุ่นกลายเป็นคนขี้เล่นไปแล้วเหรอ”

“คงติดคนแถวนี้มา”

ปินยกยิ้ม อาหารตรงหน้าถูกละความสนใจไปชั่วครู่เมื่อสายตาจับจ้องอยู่บนใบหน้าน่ารัก

“ผมว่าเมื่อคืนก็บอกไปชัดเจนแล้วนะว่าคิดถึงฝุ่นแค่ไหน” ดวงตาเรียวรีทอความกรุ้มกริ่มจนฝุ่นต้องแสร้งทำสีหน้าเอือมระอา

“บอกแบบคนหื่นน่ะสิ”

“แต่ฝุ่นก็ชอบ?”

“กินข้าวได้แล้ว”

สุดท้ายคนที่เถียงไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนเรื่องด้วยการตักเนื้อขาหมูซึ่งถูกตุ๋นจนเปื่อยให้อีกคน ด้านปินเองก็ไม่คิดเซ้าซี้ประเด็นนี้ต่อเนื่องจากความหิว เมื่ออาหารเข้าปากเสียงพูดคุยก็เงียบลงทันใด



“ไปเรียนศิลปะแล้วชอบใช่ไหม” ปินถามขึ้นขณะดูผลงานของฝุ่นไปทีละชิ้น เพียงแค่เห็น คนซึ่งคุ้นเคยกับภาพวาดเป็นอย่างดีก็รู้ว่าคนวาดยังสลัดความเศร้าออกไปได้ไม่หมด

แม่บอกเสมอว่าภาพวาดมันหลอกความรู้สึกหรือความคิดของจิตรกร ณ เวลานั้นไม่ได้เลย

“อื้ม เหมือนได้ผ่อนคลายแล้วก็เยียวยาจิตใจ”

“ไว้ว่างๆ ผมจะพาฝุ่นไปเจอแม่”

ดวงตาโตมองหน้าคนพูดนิ่ง เหมือนเกิดความเงียบขึ้นมาชั่วขณะ แล้วปารินทร์ก็ระบายยิ้มบาง

“ระหว่างที่เติบโตและกว่าจะมาเป็นนักร้องผมเจอเรื่องมาเยอะมากมาย แล้วแม่กับศิลปะและดนตรีก็เป็นสิ่งที่ช่วยผมไว้”

“...”

“ผมเชื่อว่าแม่จะช่วยฝุ่นได้เหมือนกัน”

“อื้อ” ฝุ่นยิ้มกลับ ก่อนจะหลุบสายตาลงมองผลงานตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหน้า จากนั้นจึงค่อยๆ เอนหัวพิงกับต้นแขนแกร่ง เปลือกตาปิดลงอย่างเชื่องช้า

“ขอบคุณ” ร่างเล็กเอ่ยคำสั้นๆ ที่แทนความรู้สึกมากมาย

ช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ถ้าไม่มีปินก็ไม่รู้เลยว่าจะผ่านมันไปได้ยังไง

คนที่อายุน้อยกว่าแต่กลับเป็นผู้ใหญ่และแข็งแกร่งกว่าในเวลานี้ อาจเพราะปินผ่านอะไรมาไม่น้อยกว่าจะมาเป็นปิน ปารินทร์ที่ทุกคนรู้จัก

นั่นสิ ใครๆ ก็ต่างต้องพบเจอเรื่องที่ยากลำบากทั้งนั้น

“ไม่เป็นไรเลย ผมรู้ว่าถ้าเป็นผมฝุ่นก็จะอยู่ตรงนี้เหมือนกัน” มือหนาเอื้อมไปจับมือเล็กเอาไว้พลางสอดนิ้วประสานเข้าหา

“ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นหลักให้ปินได้ดีเท่านี้ไหม”

“เป็นสิ...ที่ผมผ่านหลายเรื่องมาได้ตลอดสามปีนี้ก็เพราะฝุ่นเหมือนกันนะ”

แล้วปินก็สัมผัสได้ถึงแรงกระชับตรงฝ่ามือ ฝุ่นไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกแต่สัมผัสนี้ก็บ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง

ริมฝีปากได้รูปกดจูบลงบนกลางหัวคนข้างกายแนบแน่น

เราผ่านอะไรด้วยกันมาไม่น้อยเลย

--

“วันนี้ฝุ่นดูอารมณ์ดี”

คนที่แวะมาดูนักเรียนตัวเองวาดภาพกล่าวด้วยความแปลกใจ ขณะที่คนไม่รู้ตัวก็เลิกคิ้ว มองภาพซึ่งตัวเองยังวาดไม่เสร็จว่ามันมีอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายรู้

“มีรูปเกี่ยวกับท้องฟ้าและแจกันที่มีดอกไม้อยู่หนึ่งดอก”

“...”

“ตรงนี้มันบ่งบอกความรู้สึกข้างในของฝุ่นน่ะ” ใบหน้าคนฟังกดลงรับช้าๆ

“อืม...ก็อารมณ์ดีกว่าทุกวัน” พูดไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พาให้คนมองรู้สึกเหมือนโดนมนต์สะกดแล้วยิ้มตาม

“มีเรื่องอะไรดีๆ งั้นเหรอ”

“คนที่คิดถึงกลับมาแล้วน่ะ” ฝุ่นเอ่ยตอบพร้อมทั้งหันกลับไปวาดรูปต่อ ด้านคนได้ยินก็กลายเป็นยิ้มจืดเจื่อน คำถามที่หวาดกลัวถูกเอ่ยออกไปด้วยเสียงไม่มั่นคง

“หมายถึงแฟน?”

“ฝุ่นอยากวาดรูปต่อให้เสร็จ” ดวงตาคู่สวยเหลือบมามองเล็กน้อย ทั้งที่คนร่างเล็กพูดพร้อมรอยยิ้มแต่คนฟังก็ยังรู้สึกได้ว่าอีกคนต้องการความเป็นส่วนตัว

“อ้อ โทษที งั้นผมไม่กวนแล้ว” คุณครูหนุ่มขยับถอยห่าง ปล่อยให้คนเป็นนักเรียนจมอยู่กับภวังค์ต่อทั้งที่ในใจกำลังเกิดความวุ่นวาย

ฝุ่นมีแฟนแล้วงั้นเหรอ...



Pin : เลิกเรียนกี่โมง ผมจะไปรับ

ฝุ่นเบิกตาขึ้นนิดๆ อย่างแปลกใจเมื่อกดอ่านข้อความไลน์ซึ่งถูกส่งมาหลังจากที่วาดรูปเสร็จพอดี

Fhoon : ทำงานเสร็จแล้วเหรอ
Pin : ครับ
Fhoon : ไม่ต้องมาหรอก เดี๋ยวนักข่าวจำรถได้

เพราะสถานที่ทำงานอยู่ไม่ไกลที่พักนักวันนี้ปินจึงเอารถส่วนตัวออกไป

Pin : ผมเอารถพี่หวานมา แล้วให้พี่หวานเอารถผมกลับ
Fhoon : เล่นอะไร
Pin : ผมอยากไปรับฝุ่น แล้วก็มีที่ที่อยากพาไป
Fhoon : ไม่กลัวนักข่าวเห็นเหรอ
Pin : เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง
Pin : สรุปเลิกกี่โมงครับ ผมกำลังจะออกไป
Fhoon : ใกล้จะเสร็จแล้ว
Pin : โอเค งั้นฝุ่นส่งโลเคชั่นมาเลย
Fhoon : *ส่งสติกเกอร์

ฝุ่นโคลงหัวน้อยๆ เมื่อไม่รู้ว่าหมาแสนซนกำลังคิดจะทำอะไร

“ฝุ่นวาดภาพเสร็จแล้วเหรอ”

คนถูกถามเงยขึ้นจากหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะพยักหน้ารับโดยที่ไม่ได้สังเกตว่าใบหน้าอีกคนไม่ได้ดูอารมณ์ดีเหมือนเคย

“เสร็จแล้ว”

“จะกลับเลยใช่ไหมครับ”

“น่าจะอีกสักพัก รอคนมารับน่ะ”

“งั้น...ไปรอที่คอฟฟี่ช็อปข้างล่างไหม เดี๋ยวผมรอเป็นเพื่อน”

“เอาสิ” ฝุ่นตอบรับง่ายๆ เมื่อไม่เห็นว่ามีอะไรเสียหาย

ร่างบางลุกขึ้นถอดผ้ากันเปื้อนแล้วเดินไปล้างมือ ชำระคราบสีน้ำตามนิ้วออกให้เรียบร้อย จากนั้นจึงกลับมาเก็บของและรับภาพวาดซึ่งถูกม้วนให้เรียบร้อยแล้วมาใส่กระเป๋า

“ฝุ่นดื่มอะไรดี” เซนถามขึ้นหลังจากที่เอาของวางลงบนโต๊ะ

“ช็อกโกแลตปั่นหวานน้อยแล้วกัน”

“รับขนมอะไรไหม” ฝุ่นส่ายหน้าตอบ แล้วร่างสูงก็เดินไปทางเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มจึงเหลือเพียงตัวเองที่นั่งรอ ไม่นานนักเซนก็กลับมานั่งลงฝั่งตรงข้าม

“ปกติแล้วหลังจากเลิกเรียนฝุ่นจะไปไหน”

“กลับห้อง ไม่ก็แวะซูเปอร์บ้าง”

“คราวหลังให้ผมไปเป็นเพื่อนได้นะ” คนฟังระบายยิ้มบางๆ

“เกรงใจเซนน่ะ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ผมเต็มใจ”

“อย่าเลย”

“ถ้าฝุ่นยังไม่มีใคร...” ฝ่ามือคนพูดเอื้อมมาวางบนหลังมือเล็ก ก่อนฝุ่นจะเลื่อนมือออกในแทบจะทันใด

“เซนอย่าทำลายความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนของเราเลยนะ”

ประโยคของอีกฝ่ายไม่ถูกเอ่ยจนจบ มันถูกแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบและรอยยิ้มบางซึ่งไม่ได้จางหายไปจากใบหน้าของฝุ่น

ฝุ่นรู้ เพียงแต่พยายามทำเป็นไม่เห็นมาตลอด

“...”

“ให้มันคงอยู่แบบนี้เถอะ ฝุ่นจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

อาจดูใจร้ายแต่เชื่อเถอะว่าการพูดตรงๆ มันดีสำหรับคนตรงหน้าที่สุดแล้ว

แววตาคนฟังมีแววเจ็บปวดและผิดหวัง นานหลายนาทีกว่าเซนจะเอ่ยปากพูด

“ผมขอถามแค่คำถามเดียว”

“ว่ามาสิ”

“ฝุ่นมีคนรักแล้วเหรอ”

“ขออนุญาตเสิร์ฟนะคะ”

คำตอบนั้นถูกขัดด้วยพนักงานที่มาเสิร์ฟเครื่องดื่ม ระหว่างเอื้อมมือไปขยับแก้วมาวางตรงหน้าฝุ่นก็เอ่ยตอบ

“มีแล้วล่ะ”

Rrrr

โทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องอยู่ในกางเกงถูกล้วงขึ้นมากดรับสาย

“ถึงแล้วเหรอ”

(ครับ อยู่ข้างหน้าแล้ว)

ตาคู่สวยเหลือบออกไปมองทางด้านหน้าตึก ด้วยความที่ร้านกาแฟเป็นกระจกใสจึงสามารถมองเห็นรถเก๋งที่แสนคุ้นตาจอดอยู่

“เดี๋ยวออกไป” แล้วฝุ่นก็กดวางสายก่อนจะเปิดกระเป๋าตังแล้วหยิบเงินแบงค์ห้าร้อยออกมาวาง

“ถือว่าเราเลี้ยงเซนแล้วกันนะ”

ร่างเล็กลุกขึ้นยืนโดยที่ไม่แตะต้องช็อกโกแลตปั่นแก้วนั้นเลยสักนิด

“ฝุ่น” คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เรียกเอาไว้ให้คนที่กำลังจะก้าวออกจากโต๊ะหยุดชะงัก

“...”

“ผมขอโทษ...อาทิตย์หน้าทุกอย่างจะเหมือนเดิม”

“อืม แล้วเจอกัน” ฝุ่นทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น แล้วก็เดินออกจากร้านไปขึ้นรถโดยมีสายตาอาวรณ์มองตาม



“เหนื่อยเหรอ ทำไมเงียบ” ฝุ่นหันไปถามคนข้างตัวเมื่อรถเคลื่อนตัวออกมาได้สักพักแต่คนที่ปกติมีท่าทีเริงร่ากลับนิ่งเงียบ ดูผิดปกติจากที่เคยเป็น

“เปล่า”

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“ไว้กลับไปคุยกันที่ห้อง” คิ้วได้รูปขมวดมุ่น ขณะสายตาทอดมองเสี้ยวหน้าซึ่งไม่หันมาหากันเลยตั้งแต่ขึ้นรถ

“ไม่ไปไหนแล้วเหรอ”

“ไว้วันหลังแล้วกัน”

ฝุ่นดึงสายตาออกไปมองนอกรถพลางรับคำในลำคอเสียงเบา บรรยากาศระหว่างกันดูอึมครึมไม่สดใส และคนอายุมากกว่าก็เลือกจะให้เวลากับอีกคน ปล่อยให้ปินได้ตกตะกอนความคิดและอารมณ์ ทั้งยังให้เวลาตัวเองได้เตรียมรับมือเรื่องที่จะคุย

แกร๊ก

“ผมเห็นผู้ชายคนนั้นจับมือฝุ่น” ร่างสูงหมุนตัวกลับมาแล้วเอ่ยเข้าประเด็นทันทีที่ประตูปิดลง

ปินมาถึงแล้วสักพักเนื่องจากการเสิร์ชชื่อสถาบันที่ฝุ่นเคยบอก และด้วยเพราะรอบร้านกาแฟเป็นกระจกใสจึงเห็นเหตุการณ์ในนั้นเข้าพอดี

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเห็นว่าฝุ่นดึงมือออก” ฝุ่นเอ่ยด้วยความใจเย็น

“ก็เห็น แต่ผมก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี”

ใบหน้าหล่อฉายแววหงุดหงิด แผ่นอกกว้างสะท้านไหวเพราะแรงหายใจอย่างคนกำลังโมโห

โมโหหึง...

“มันไม่มีอะไรปิน ไม่มีอะไรเลยจริงๆ”

“เขาชอบฝุ่นใช่ไหม”

“...อืม แต่คุยกับเขาไปแล้ว มันไม่มีอะไรทั้งนั้น”

“ไม่ต้องไปเรียนอีก” เสียงทุ้มเอ่ยออกคำสั่ง

“ปิน” คนฟังผ่อนลมหายใจช้าๆ พลางเรียกให้เจ้าของชื่อตั้งสติและมีเหตุผลให้มากกว่าที่เป็น

“ผมไม่ให้ฝุ่นไปเรียนกับมันแล้ว”

“มีเหตุผลหน่อย บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร เขาเข้าใจดีแล้ว”

“จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ช่าง ยังไงผมก็ไม่ไว้ใจที่จะให้ฝุ่นไปอยู่กับคนที่ชอบฝุ่นสองต่อสอง”

“ฝุ่นกับเขาโตพอที่จะแยกแยะเรื่องนี้ได้”

“ฝุ่นดูรู้จักเขาดีจังเลยนะ”

“...” น้ำเสียงค่อนขอดนั้นทำให้ฝุ่นนิ่งเงียบ ข้างในเกิดตะกอนขุ่นๆ เนื่องจากสงสัยว่าปินกำลังคิดอะไร

ไม่ไหวใจเขางั้นเหรอ

“อยากเรียนกับเขามากเลยใช่ไหม”

“มันไม่ใช่แบบนั้น แค่คิดว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไรถ้าเขาเข้าใจแล้ว”

“มันไม่ได้สำคัญว่าเขาเข้าใจไหม แต่สำคัญที่ว่าผมไม่อยากให้ฝุ่นอยู่ใกล้เขาอีก”

“ไม่เชื่อใจกันเหรอ” ร่างเล็กถามเสียงเบา ดวงตาโตมีแววตัดพ้อ

“...” และความเงียบจากคนถูกถามมันก็เป็นคำตอบได้ดี

“ทำไมทีฝุ่นยังเชื่อใจปินทั้งที่มีข่าวมากมายและปินก็ปฏิเสธการทำงานเพื่อกันไม่ได้เลย”

“...”

“ทำไมฝุ่นต้องเป็นฝ่ายเข้าใจปินอยู่คนเดียว”

ฟันซี่คมกัดปากข้างในตัวเองจนความเจ็บเปลี่ยนเป็นชาหนึบ ดวงตาคมทอดมองใบหน้าคนพูดด้วยความเสียใจไม่แพ้กัน

เสียใจที่ได้ยินอย่างนั้น หากแต่ปินก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวกับอีกฝ่ายมากเหลือเกิน

“ผมมันเห็นแก่ตัวมากเลยใช่ไหม”

เมื่อไม่มีอะไรจะพูดมากกว่านั้นร่างสูงก็หมุนตัวไปเปิดประตูออกจากห้องโดยที่ฝุ่นรั้งเอาไว้ไม่ทัน ร่างเล็กค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง น้ำตาไหลลงรินรดแก้มอย่างเชื่องช้า

นี่เป็นการทะเลาะกันที่รุนแรงที่สุดเลยก็ว่าได้



ผ่านมากว่าค่อนคืนแต่ปินก็ไม่ได้กลับห้องมา และคนที่เป็นห่วงก็นั่งรออยู่บนโซฟาอย่างไม่อาจข่มตาหลับ โทรศัพท์ซึ่งพร่ำกดโทรออกก็ไม่สามารถติดต่อได้จนใจคนรอเริ่มร้อนรน

เขาเสียดินไปก็เพราะการติดต่อไม่ได้แบบนี้...

ฝุ่นยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาขณะสองมือยังคงกดโทรศัพท์ไม่หยุด ทว่าก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ กระทั่งสีเข้มของท้องฟ้าด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีสว่าง คนที่รอคอยผล็อยหลับไปทั้งน้ำตา

ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในเวลาหกโมงเช้า ลมหายใจแห่งความเหนื่อยล้าถูกพรูออกขณะในหัวกำลังคิดว่าควรเอ่ยอะไรกับอีกคนเป็นอันดับแรก

กึก

สองเท้าแกร่งหยุดชะงักเมื่อเห็นฝุ่นนอนคู้ตัวอยู่บนโซฟา ก่อนปินจะรีบสาวเท้าตรงเข้าไปหา คราบน้ำตาที่ยังชื้นอยู่บนใบหน้าเนียนบ่งบอกว่าฝุ่นเพิ่งหลับไปและร้องไห้ตลอดทั้งคืน

ใจแกร่งเกิดความวูบโหวงขึ้นทันใด เหมือนมีบางสิ่งมาบีบรัดให้หายใจไม่สะดวก ความรู้สึกผิดเข้ามาแทนที่ พลันริมฝีปากก็โน้มลงแตะบนเปลือกตาสีอ่อนแผ่วเบา

“ผมขอโทษ” ปินกระซิบบอก ฝ่ามือหนาลูบแก้มเนียนไปมาแผ่วเบา จากนั้นจึงลุกขึ้นแล้วอุ้มร่างเล็กไปวางลงบนเตียงในห้องนอนเพื่อให้อีกคนได้นอนอย่างสบายตัว



กว่าคนที่หลับไปเพราะอ่อนเพลียทั้งกายและใจจะรู้สึกตัวตื่นก็เป็นเวลากว่าเที่ยง เมื่อฝุ่นเรียบเรียงสติแล้วพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่บนโซฟาก็กระวีกระวาดลุกออกจากห้องนอน หากแต่ความเงียบงันก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ปินมีงานช่วงสาย อีกคนคงออกจากห้องไปแล้ว

ถึงจะรู้สึกวูบโหวงอยู่แต่ก็สบายใจขึ้นมาได้ว่าปินปลอดภัย

ฝุ่นเดินลากเท้ากลับเข้าห้องนอนช้าๆ กระทั่งทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงจึงเพิ่งสังเกตว่าบนโต๊ะข้างหัวเตียงมีกระดาษโน้ตถูกวางทับเอาไว้ด้วยโทรศัพท์

‘เสร็จงานแล้วผมจะกลับมาคุย...ขอโทษที่ทำให้ฝุ่นร้องไห้’

ข้อความซึ่งถูกเขียนด้วยลายมือที่จำได้ดีปัดเป่าความไม่สบายใจออกไปกว่าครึ่ง มุมปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ จากนั้นลมหายใจก็ถูกสูดเข้าปอดลึก มือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อต่อสายหาใครบางคน

--

“เป็นอะไรหรือเปล่า ดูปินเครียดๆ” คนเป็นผู้จัดการส่วนตัวถามขึ้นหลังจากที่ปินลงจากเวที งานที่สองของวันนี้เสร็จสิ้นแล้วเรียบร้อยในเวลาสามทุ่มเศษ

“ผมทำงานไม่ดีหรือ” ปินหันไปถามคนข้างตัวอย่างจริงจังขณะกำลังใช้สำลีเช็ดเครื่องสำอางบางๆ ออกจากใบหน้า

เขาเป็นมืออาชีพพอที่จะไม่เอาเรื่องงานมาปะปนกับเรื่องส่วนตัว หากมีเพียงเสี้ยวที่เป็นอย่างนั้นและทำให้งานไม่เต็มร้อยก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้

“เรื่องงานน่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่พอไม่ได้อยู่บนเวทีปินก็เผลอคิด มีเรื่องอะไรบอกพี่ได้นะ”

“ไม่มีอะไรครับ ผมจัดการได้” เมื่อคนในความดูแลยืนยันว่าอย่างนั้นภาวิดาก็พยักหน้ารับ

“โอเค ถ้างั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ จะได้กลับกัน”

ปินรับคำ เมื่อเช็ดหน้าเสร็จเรียบร้อยก็หมุนตัวเตรียมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ทว่าผู้จัดการซึ่งเพิ่งนึกบางเรื่องขึ้นได้ก็เรียกเอาไว้

“เอ้อ...แล้วสรุปเรื่องสัญญาของฝุ่นว่ายังไง” คนถูกถามชะงัก ก่อนจะเอ่ยตอบในนาทีต่อมา

คำตอบที่ทำให้คนฟังเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ

--

โทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งไว้แต่คนที่นั่งอยู่ตรงหน้ากลับไม่ได้สนใจจะดูมัน ดวงตาคู่สวยจับจ้องเพียงเข็มนาฬิกา เวลาล่วงเลยจนเกือบจะเข้าสู่วันใหม่แต่ก็ยังไร้วี่แววคนที่รอคอย

กระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูแว่วๆ ร่างเล็กก็หยัดกายขึ้นโดยอัตโนมัติ สองขาเรียวก้าวตรงไปยังห้องครัวแล้วกลับออกมาพร้อมแก้วน้ำในมือ เมื่อคนสองคนเจอหน้ากันก็เหมือนถูกความเงียบโรยตัวเข้ามาปกคลุม เสียงจากโทรทัศน์ไม่อาจดังเข้ามาในโสตประสาท

“...ดื่มน้ำไหม” ฝุ่นเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนพร้อมทั้งเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าอีกคน ขณะที่ปินก็รับแก้วน้ำไปดื่มจนหมดโดยไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะหน้าโซฟา

“ถ้าฝุ่นอยากเรียน...”

“โทรไปยกเลิกคอร์สแล้ว” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันยามช้อนสายตามองคนที่สูงกว่า “ขอโทษที่พูดแบบนั้น”

ฝุ่นเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด ตลอดทั้งวันที่ได้มีเวลาทบทวนเรื่องราวก็พบว่าตัวเองมีส่วนผิดไม่น้อย ทั้งยังพูดจาทำร้ายจิตใจปินเช่นกัน

“ผมก็ขอโทษ” ฝ่ามือใหญ่วางแนบกับแก้มเล็กยามกล่าวคำขอโทษด้วยแววตาเจ็บปวด

การทำร้ายจิตใจคนที่เรารักไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำก็เป็นเรื่องที่รู้สึกแย่ทั้งนั้น

“ไม่ได้โกรธ” ใบหน้าเล็กเอียงเข้าหามือหนาพร้อมทั้งปิดเปลือกตาลง ซึมซับความไม่สบายใจที่ค่อยๆ ถูกปัดเป่าออกไปจากหัวใจช้าๆ

“ขอโทษที่ทำให้ฝุ่นร้องไห้”

“เป็นห่วง...เมื่อคืนไปไหนมา”

ดวงตาโตเปิดลืมขึ้นขณะก้าวขาไปหาปิน ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่น ยามท่อนแขนใหญ่ก็วาดโอบคนร่างเล็กเข้าหาตัว

“ผมแวะไปหาเพื่อน”

“เพื่อนคนไหน”

“ไอ้ทัตไง”

“ติดต่อไม่ได้...”

“ยอมรับว่าไม่พร้อมคุยกับฝุ่นเลยปิดเครื่อง กลัวว่าตอนนั้นยิ่งคุยแล้วจะยิ่งทะเลาะ” ปินอธิบายพร้อมทั้งกระชับแขนให้แน่นขึ้น

“ไม่เอาแบบนี้ แค่รับสายแล้วบอกว่าอยู่ไหนเฉยๆ ก็ได้”

คนฟังสัมผัสได้ถึงความสั่นเครือในน้ำเสียง คิ้วเข้มจึงขมวดมุ่น ก่อนริมฝีปากจะกดลงบนกลางหัวเล็กแผ่วเบา

“ครับ ต่อไปจะไม่ทำให้ฝุ่นเป็นห่วงอีก”

“ไม่ชอบเวลาทะเลาะกัน”

ฝุ่นกัดริมฝีปากเมื่อรู้สึกว่าตัวเองพูดมากเกินไป ทว่าก็ไม่อาจห้ามปากได้ทั้งที่ปกติมักจะเก็บความคิดทุกอย่างไว้กับตัว

อาจเพราะถ้าไม่พูดก็กลัวคนตรงหน้าไม่เข้าใจ

“ผมก็ไม่ชอบ แล้วก็ยิ่งไม่ชอบที่กลับมาแล้วเห็นฝุ่นร้องไห้”

“...”

“บางทีก็เหนื่อยใช่ไหมกับการที่ผมเป็นปิน ปารินทร์ของใครๆ” ใบหน้าเล็กส่ายไปมาอยู่กับอกกว้าง

“ขอโทษที่พูดแบบนั้น” ฝุ่นเอ่ยประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง

“ผมรู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัว...ฝุ่นอยากจะใช้ชีวิตแบบที่ฝุ่นควรจะได้ใช้หรือเปล่า”

คนฟังรู้สึกใจวูบไหวก่อนจะผละใบหน้าออกห่างแล้วเงยขึ้นมองคนพูด

“ปินหมายความว่ายังไง”

“บางทีผมก็อยากจะคืนอิสระให้ฝุ่น”

“...”

“ให้ฝุ่นไม่ต้องมาอดทนอยู่ตรงนี้ กับคนที่แม้แต่จะจับมือฝุ่นข้างนอกยังทำไม่ได้”

น้ำตาหยดใสไหลลงตรงหางตา ร่างกายฝุ่นเย็นเหยียบอย่างกลัวคำพูดต่อไปที่จะออกจากปากของคนตรงหน้า

ข้อนิ้วแกร่งเกลี่ยเช็ดน้ำตาออกให้คนร้องไห้แผ่วเบา

“ผมจะไม่ต่อสัญญาฝุ่นแล้วนะ”

“...”

“ฝุ่นมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องมาติดอยู่แค่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว”


TBC.

ฟิ้วววววววววว/วิ่งหนี
#secrecyลับรัก


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 19-12-2018 20:07:19
ฝุ่นมาทำงานนี้เพราะน้อว พอน้องเสียไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องทำงานนี้อีกก็ได้
หมาปินไม่ต่อสัญญาให้อิสระกับฝุ่น เพราะอยากจะคบกับฝุ่นโดยไม่มีสัญญาเป็นตัวผูกมัดรึเปล่า
เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม แต่ในสถานะใหม่ เพราะถ้าปินไม่ต่อสัญญาแล้ว ฝุ่นคงไม่ทำงานนี้อีก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-12-2018 20:07:54
โอยยยย ร้องไห้ น้ำตาร่วงเลยจ้า
ปินอาจจะคิดว่าดีแล้วที่ทำแบบนี้
แต่ความจริง ปินใจร้ายมากนะ

ถามกันก่อนไหมว่าอยากอยู่ต่อแบบนี้หรือเปล่า
ที่บอกว่าคิดถึง คือแค่คำพูดงี้ หรือเพราะเรื่องนี้
ทำปินอยากให้อิสระฝุ่น

สงสารใจฝุ่นมากเลยค่ะ ทะเลาะกันยังไม่ทันหายดี
มาเจอเรื่องแบบนี้อีก เสียใจหนักเลย

หรือปินจะพาฝุ่นไปหาแม่ แบบทำเซอร์ไพรส์
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-12-2018 20:27:15
ทะเลาะกันเสร็จ กลับมาด้วยคำพูดว่าไม่ต่อสัญญาแล้วนะ ฮืออออ ปินใจร้าย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 19-12-2018 21:05:38
 :katai1:
กรีดร้องงงง กลิ่นดราม่ากว่าตอนฝุ่นเสียดินกำลังมาแน่ๆ
เอาคุณกัญจ์กับบลูมาคั้นด่วนๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-12-2018 21:05:56
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-12-2018 21:36:47
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 19-12-2018 21:45:38
คืออารายยยยยยยยย(กรีดร้อง)
ไม่ต่อสัญญาเพราะอยากให้เป็นคนที่จับมือกันได้ตอนอยู่ข้างนอกใช่ม่ะ เป็นแบบนั้นใช่ป่าวววว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 19-12-2018 21:53:15
 :hao5: แงงงงงง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 19-12-2018 22:31:38


เฮ้ยยย ปินตัดสินใจแบบนี้ได้ยังไง

คืนอิสระให้ ก้อหมายถึงเลิกกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ

แล้วฝุ่นจะอยู่กับใคร เศร้าอ่ะ


 :hao5:  :mew2:  :hao5:  :mew2:  :hao5:  :mew2:  :hao5:  :mew2:


หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-12-2018 23:48:27
ถ้าไม่ต่อสัญญากับฝุ่น ก็คือเลิกกันนั่นแหล่ะ แล้วก็ให้ฝุ่นไปดูแลคู่สัญญาคนใหม่แทนงั้นหรอ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 19-12-2018 23:55:11
อยากให้ปินพาฝุ่นไปอยู่กับแม่อ่ะ จะได้วาดรูปด้วยแล้วก็อยู่ด้วยกันต่อไปได้ด้วย
สงสารฝุ่นง่าาาา :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 20-12-2018 00:16:40
ไม่คิดว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้ TT
คิดในแง่ดีว่าถ้าไม่ต่อสัญญาก็อาจจะเปิดเผยได้มั้ง
แต่สามปีเลยนะไม่มากแล้วก็ไม่น้อยเลย  :ling2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 20-12-2018 00:21:08
ดราม่าสุด
หนูฝุ่นเข้มแข็งนะ
ปินคิดดีๆ ทบทวนตัวเองดีๆ
เป็นกำลังใจให้ทุกคน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-12-2018 01:12:57
 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 20-12-2018 07:21:41
ถ้าปินไม่ต่อสัญญาฝุ่น. ฝุ่นก็ไม่ต้องทำงานนี้ต่อใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-12-2018 07:58:40
จ้า ไร้สัญญาจ้างแล้วไร้สัญญาใจด้วยป้ะล่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 20-12-2018 10:40:59
รอตอนต่อไป เราเชื่อว่าจะไม่ม่า
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 20-12-2018 22:36:43
 :sad4: แงงงงงง ปินนนนนน  อธิบายมากกว่านี้ดิ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 20-12-2018 23:36:45
น้องปิน.... น้องปินจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังใช่ไหมคะ
อย่าให้พี่ฝุ่นเจ็บไปมากกว่านี้เลยยย คนอ่านใจจะขาดแล้ววว แงงงงงง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 21-12-2018 14:54:23
ปินอาจจะอยากเริ่มต้นกับฝุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่เพราะหน้าที่แบบนี้ก็ได้ เนอะไ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 22-12-2018 12:37:25
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Ten.] : 19/12/2561 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 24-12-2018 22:32:51
ตามอ่านจนทันแล้วๆๆๆ....มาจบตอนนี้ได้ค้างคามากๆๆๆ...รอลุ้นตอนต่อไปนะคด
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 27-12-2018 21:14:34
Chapter Eleven.

“ฮึก...ไม่เอา ไม่ไป”

ฝุ่นร้องไห้จนปินไม่อาจเช็ดน้ำตาได้ไหว สองมือหนาจึงวางประกบใบหน้าเล็กไว้ทั้งสองข้าง ส่งเสียงปลอบประโลมให้อีกคนใจเย็น

ช่วงหลังมานี้ฝุ่นอ่อนไหวง่าย คงเป็นเพราะเรื่องหนักหนาที่เพิ่งเจอ

“ชู่ว ไม่ต้องร้องไห้นะคนดี”

“...” น้ำตายังคงไหลพรูจนมือของปินเปียกไปด้วยกัน

“ฝุ่น ฝุ่นครับ ผมไม่ได้จะทิ้งฝุ่นไปไหนถ้าฝุ่นยังอยากอยู่ตรงนี้”

“ยะ อยู่ ให้ฝุ่นอยู่นะ” เสียงสั่นๆ รีบเอ่ยทันใด อีกทั้งมือยังยกขึ้นมาจับข้อมือแกร่งเอาไว้แน่น

“สถานะระหว่างเราอาจจะเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกที่ผมมีต่อฝุ่นยังเหมือนเดิม มันแค่อาจมีบางอย่างที่ต้องเปลี่ยนแปลง”

ริมฝีปากได้รูปคลี่ออกเป็นรอยยิ้มน่ามอง ขณะปลายนิ้วก็ขยับเกลี่ยแก้มเปียกชื้นแผ่วเบา เกิดความรู้สึกทั้งเอ็นดูและสงสารคนร้องไห้เป็นเผาเต่าไปพร้อมกัน

“จะไม่ทิ้งกันใช่ไหม” ฝุ่นถามย้ำอย่างต้องการความหนักแน่นให้ใจอันสั่นไหว

“ผมมันเห็นแก่ตัว...และเห็นแก่ตัวจนไม่อาจปล่อยฝุ่นไปได้” ใบหน้าหล่อโน้มลงไปจนปลายจมูกโด่งปัดป่ายกับปลายจมูกเล็ก

“...”

“ฝุ่นจะมีอิสระในชีวิตได้ทุกอย่าง ยกเว้นตรงนี้” ปินเลื่อนมือลงมาวางบนอกด้านซ้าย สัมผัสให้รู้ว่าตรงไหนที่จะไร้ซึ่งอิสระ
หัวใจดวงนี้ไม่มีสิทธิ์เลือกคนอื่นอีกต่อไป

“ตรงนี้ก็ไม่ได้ต้องการอิสระอะไร” คนซึ่งน้ำตาเพิ่งหยุดไหลพูดเสียงเบา

“ถ้าอย่างนั้นก็เชื่อใจผมนะว่าจะไม่ทิ้งฝุ่นไปไหน”

ท่อนแขนแกร่งโอบรั้งร่างบางเข้าหาตัวอีกครั้งก่อนจะซบหน้าลงกับลาดไหล่เล็ก กอดฝุ่นเอาไว้แน่น

“แล้วเรื่องสัญญา...”

“ไว้ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง”

“อื้อ”

“ทำฝุ่นร้องไห้อีกแล้ว” คนในอ้อมแขนแกร่งถูกโยกตัวไปมาน้อยๆ อย่างปลอบประโลม

“ก็ไม่รีบพูดให้จบ” คำบ่นอุบดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงสูดน้ำมูกให้ปินหลุดยิ้ม

“ถ้าเผื่อฝุ่นทำหน้าดีใจผมก็อาจจะไม่พูดส่วนหลังไง”

“ไม่ดีใจหรอก ทำไมต้องดีใจกับการไม่ได้อยู่ด้วยกันด้วย”

“ผมจะทำให้เราได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”

แม้ไม่เห็นหน้าคนพูดแต่ประโยคซึ่งถูกเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นก็ทำให้ความวูบโหวงในอกคนฟังมลายหาย หลงเหลือเพียงความเชื่อมั่นที่มีต่อกัน

จะอยู่กับปินไม่ไปไหน...แม้ว่าจะไม่อาจจับมือกันข้างนอกได้ก็ตาม

--

สิ่งที่ปินตั้งใจจะพาฝุ่นไปแล้วเกิดการทะเลาะกันขึ้นก่อนถูกทดแทนในค่ำวันหนึ่งที่พรุ่งนี้ไม่มีตารางงาน

“ผมไม่เคยเห็นฝุ่นใส่เสื้อตัวนี้เลย”

คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อร่างเล็กเดินออกจากห้องแต่งตัวมาด้วยการแต่งกายที่แปลกตา

ขณะคนถูกทักก็ขมวดคิ้ว ก้มลงมองเสื้อที่ตัวเองสวมใส่ด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ

“ไม่โอเคเหรอ”

“มันก็โอเค...แต่คอกว้างไปหน่อยหรือเปล่า” ฝุ่นกะพริบตาปริบพลางส่ายหน้าไปมาช้าๆ

“ไม่หรอกมั้ง เราไม่ได้ต้องไปเจอใครอยู่แล้วนี่”

“ตอนนี้ไม่เป็นไร แต่ถ้าออกไปเดินข้างนอกผมไม่อนุญาตนะครับ”

ปลายนิ้วแกร่งไล้ไปตามกระดูกไหปลาร้าที่โผล่พ้นเสื้อออกมาอย่างสื่อให้รู้ว่าทำไมถึงไม่อนุญาต

“ทีตัวเองยังถอดเสื้อถ่ายแบบให้คนเป็นล้านดูเลย”

คนร่างเล็กเอ่ยเสียงเบาเมื่อรู้สึกวูบวาบในตำแหน่งที่ถูกสัมผัส ปลายนิ้วของปินทิ้งความร้อนเอาไว้จางๆ ราวกับมีประกายไฟกรุ่นติด

“แมวฝุ่นหวงผมหรือ” คิ้วเข้มเปลี่ยนเป็นเลิกขึ้นพร้อมทั้งถามคำถามเย้าหยอก

“...หรือว่าไม่ได้” คนถูกถามไม่ตอบออกมาตรงๆ อีกทั้งยังทำสีหน้าหาเรื่องเพื่อปกปิดความขัดเขิน

ปินระบายยิ้ม ขายาวก้าวเข้าไปใกล้อีกคนมากกว่าเดิมแล้วยกมือขึ้นสัมผัสแก้มเนียน ทอดมองใบหน้าน่ารักด้วยแววตาอ่อนโยน

“มันเป็นงาน แต่ไม่ว่ายังไงผมก็เป็นของฝุ่นคนเดียว...ทั้งตัวและหัวใจ

ฝุ่นคิดว่ามือหนาอาจมีไฟติดอยู่จริงๆ เพราะบริเวณข้างแก้มร้อนก็ขึ้นมาเหมือนถูกไฟลวก หัวใจเต้นถี่จนกลัวว่าคนอยู่ใกล้จะได้ยิน

“...ไปกันเถอะ เดี๋ยวรถติด” ร่างเล็กเป็นฝ่ายผละออก ทิ้งให้ปารินทร์ได้แต่หลุดยิ้มแล้วก้าวตามไปทีหลัง

แมวฝุ่นขี้เขิน ไม่ชอบได้ยินอะไรหวานๆ เท่าไหร่นัก



“จะพาไปไหน ทำไมต้องดูลึกลับขนาดนี้”

ฝุ่นถามขึ้นด้วยความหวาดระแวงเมื่อดวงตาถูกปิดด้วยผ้าทันทีที่ขึ้นรถ การมองเห็นที่มีเพียงความมืดมิดยิ่งเพิ่มความสงสัยให้กับคนที่ไม่รู้จุดหมาย

“ผมอยากเซอร์ไพร์ส” ปารินทร์ตอบกลับพลางฮัมเพลงของตัวเองที่เปิดคลออยู่ในรถอย่างอารมณ์ดี

“ไม่ได้จะลวงไปทำอะไรใช่ไหม” คนถูกถามหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ฝุ่นดูข่าวเยอะเกินไปหรือเปล่า”

“ใครจะรู้ สมัยนี้คนฆ่ากันง่ายจะตาย”

“คิดว่าผมจะกล้าทำแบบนั้นหรือไง”

“ไว้ใจได้เหรอ”

จุ๊บ

ปารินทร์โน้มหน้าไปจูบแก้มคนข้างตัวเร็วๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ได้สิครับ”

รถคันหรูกำลังมุ่งตรงไปตามเส้นทางที่เริ่มขรุขระ พาให้คนในรถซึ่งเผลอหลับไปรู้สึกว่าร่างกายโยกไหวจนต้องตื่น ฝุ่นขมวดคิ้ว ความสงสัยที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

รู้เพียงว่าถูกพามาต่างจังหวัดแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน

“ยังไม่ถึงอีกเหรอ” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามขึ้นในความมืด

“ใกล้แล้วครับ”

ปินขับรถต่อไปอีกประมาณห้านาทีก็หยุด จากนั้นหลังคารถก็ค่อยๆ ถูกเลื่อนกลับไปเก็บไว้ด้านหลัง เสร็จแล้วจึงโน้มตัวไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้อีกคน ปมผ้าผูกตาด้านหลังหัวเล็กถูกคลายออก

“ถึงแล้วครับ ฝุ่นลืมตาได้”

เปลือกตาบางกะพริบถี่เพื่อปรับการมองเห็น พอภาพตรงหน้าชัดขึ้นก็กวาดมองรอบตัว ก่อนจะเงยมองด้านบนเป็นลำดับสุดท้าย

“สวยจัง” ฝุ่นพึมพำเมื่อไม่ได้เห็นท้องฟ้าที่มีดวงดาวสวยงามแบบนี้มานานแสนนาน

ในเมืองกรุงท้องฟ้ามักถูกบดบังด้วยแสงไฟ ยากที่จะได้เห็นดวงดาวเปล่งประกายอย่างเต็มที่แบบที่กำลังเห็น

“ตรงนี้เป็นจุดชมวิวส่วนตัวในรีสอร์ทของเพื่อนผม นึกได้ว่าเราไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกด้วยกันเลยพาฝุ่นมา”

ใบหน้าเล็กหันกลับมามองคนพูด สองสายตามองสบด้วยความรู้สึกเดียวกัน

ไม่ต้องจับมือกันต่อหน้าใครๆ แค่เราได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว

“ขอบคุณนะ ชอบมากเลย” ฝุ่นเอ่ยกับคนข้างตัว

“ลงจากรถกัน” ร่างสูงดับเครื่องแล้วลงจากรถ จากนั้นจึงเดิมอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งให้ฝุ่นก้าวลงมา

อากาศในยามค่ำคืนเย็นกว่าตอนกลางวัน และเพราะรอบข้างคือต้นไม้จึงยิ่งทำให้รู้สึกสบายผิว ไม่ร้อนอบอ้าวแล้วก็ไม่ได้เย็นจนเกินไป

“อากาศดีจัง”

คนร่างเล็กเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงรั้วไม้เป็นทางซึ่งมีไฟดวงเล็กติดอยู่ ตรงนี้คือหน้าผาที่ด้านล่างเป็นต้นไม้ พลันให้จินตนาการว่าหากเป็นยามเช้าที่พระอาทิตย์ขึ้นคงสวยไม่แพ้กัน

“ผมชอบที่ตรงนี้มีแค่เรา”

แผ่นอกกว้างเคลื่อนเข้ามาชิดทางด้านหลัง ตามมาด้วยท่อนแขนแกร่งที่โอบรอบเอวบาง ปลายคางวางเกยอยู่บนไหล่ของฝุ่น

“...ชอบทุกที่ที่มีปิน”

“ว้า คำพูดผมกร่อยไปเลย สู้ฝุ่นไม่ได้ซะแล้ว” ใบหน้าหล่อเหลาเอียงมองคนในอ้อมแขนอย่างยอมแพ้

“...” ด้านคนหลุดพูดความรู้สึกอ่อนหวานออกไปก็ได้แต่นิ่งเงียบ ทำเป็นมองต้นไม้มองฟ้าไปเรื่อย

“แอบเสียดายที่วันนั้นไม่ได้มาเพราะพระจันทร์สวยกว่านี้” ดวงตาเรียวรีทอดมองพระจันทร์เสี้ยวตรงหน้าด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กๆ

“เสียใจที่เราทะเลาะกันด้วย” ฝุ่นหันมาพูดกับคนที่กอดตัวเองอยู่แล้ววางมือลงบนแขนที่สอดรัดอยู่ตรงหน้าท้อง

เมื่อย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นก็อดรู้สึกวูบโหวงในอกไม่ได้

ไม่ชอบการทะเลาะกับปินเลย

“มันคงต้องมีบ้าง แต่ไม่ว่ายังไงเราจะเข้าใจกันได้ถ้าพูดคุยกันอย่างมีเหตุผล...วันนั้นผมอาจจะงี่เง่าไป แต่ต่อจากนี้สัญญาว่าจะใช้สติให้มากขึ้น”

“เหมือนกัน”

“ถ้าสุดท้ายเราจะยังอยู่ด้วยกันก็ไม่รู้จะทะเลาะกันนานไปทำไม ถูกไหม” คนฟังพยักหน้ารับพลางทิ้งน้ำหนักไปพิงแผ่นหลังกว้างเอาไว้

“ปิน”

“หืม?” คนถูกเรียกขานรับ

“มาถ่ายรูปกันไหม”

“เอาสิ ผมเอากล้องมาด้วยพอดี”

คนตัวโตผละกายออกห่างเพื่อเดินกลับไปหยิบกล้องในรถ แล้วอุปกรณ์สำหรับถ่ายรูปก็ได้ทำหน้าที่เก็บความทรงจำในครั้งนี้เอาไว้หลายร้อยรูป

ทริปแรกของเรา



“ฝุ่นหนาวหรือเปล่า” ฝุ่นส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนเครื่องดื่มในมือจะถูกยกขึ้นมาจิบ

คนทั้งสองนั่งอยู่บนกระโปรงรถแล้วทอดมองท้องฟ้าพร้อมทั้งคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ

และอาจเพราะฝุ่นได้แอลกอฮอล์ที่อีกคนเตรียมมาอย่างดีช่วยเอาไว้ส่วนหนึ่งจึงไม่หนาวสั่นกับอากาศเย็นชืดรอบตัว

“แก้มแดงแล้ว” ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยแก้มเนียนที่แดงระเรื่อแผ่วเบา

“ไม่รู้ทำไม พอดื่มแล้วแก้มจะแดงทุกทีทั้งที่ยังไม่ได้เมา”

“ฝุ่นดื่มเก่ง อันนี้ก็ถูกฝึกมาเหมือนกันเหรอ”

“อืม ก็ถูกฝึกแทบจะทุกอย่าง”

“เกี่ยวกับตัวฝุ่น...มีอะไรที่พอจะเล่าให้ผมฟังบ้างได้ไหม” คนถูกถามนิ่งคิดไปเล็กน้อย

“พอพ่อแม่เสียไปเมื่อแปดปีก่อนฝุ่นกับน้องก็ทำงานกันอย่างหนักเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง ฝุ่นไม่ได้เรียนต่อเพราะต้องส่งน้องเรียนมัธยม กระทั่งวันนึงตอนที่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหารก็มีคนเข้ามาติดต่อให้ทำงานนี้...เพราะความจำเป็นเลยทำให้ตัดสินใจตกลง”

ความจำเป็นที่ไม่อยู่แล้ว...

ฝุ่นพยายามไม่ร้องไห้แม้ปลายจมูกและกระบอกตาจะร้อนผ่าว เวลาผ่านมาสักระยะความเข้มแข็งก็มีมากขึ้น อาจไม่มากมายแต่ก็พอให้ชีวิตเดินต่อได้ อีกทั้งยังพยายามบอกตัวเองตลอดว่าอย่าทำให้คนบนฟ้าต้องเป็นห่วง

“ผมดีใจที่ฝุ่นตกลงนะ”

ความเศร้าที่เจืออยู่ในทั้งน้ำเสียงและแววตาทำให้ปินโน้มใบหน้าลงไปใกล้ ริมฝีปากได้รูปทาบทับลงบนหน้าผากเนียน ก่อนปลายจมูกโด่งจะไล้ลงมาตามสันจมูกเล็ก ลมหายใจที่เจือด้วยกลิ่นองุ่นจากเครื่องดื่มในมือแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่ง

“กว่าจะได้มาดูแลปินนั้นไม่ง่ายเลย” ฝุ่นเอ่ยพูดพลางหลับตาลง

“...”

“กว่าจะผ่านแต่ละการฝึกมันยากมาก แต่ก็คิดเอาไว้ว่าเพื่อเงิน” ภาพการฝึกแต่ละขั้นตอนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ

“...”

“แต่พอได้เงินมาแล้วก็รู้ว่ามันไม่ได้ซื้อได้ทุกอย่างแบบที่คิด”

ประโยคนั้นดังแผ่วเบาจนปินรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด มือหนายกขึ้นมาแนบกับแก้มอีกคนพร้อมเอ่ยคำปลอบโยน

“ฝุ่นมีผมอยู่ตรงนี้”

ดวงตาคู่สวยเปิดลืมขึ้นมองคนที่อยู่ใกล้ชิด ทั้งที่ได้ยินประโยคนี้จากปินหลายครั้งแต่ก็ยังรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ยิน

“มันเป็นเรื่องโชคดีที่สุดสำหรับการตกลงรับงานนี้...โชคดีที่เป็นปิน”

แก้มสากถูกสัมผัสด้วยมือเล็ก จากนั้นจึงเลยไปวางแนบกับลำคอ แล้วฝุ่นก็เป็นฝ่ายแตะริมฝีปากเข้าหาริมฝีปากอีกคน

ความรู้สึกทั้งหมดถูกเอ่ยผ่านสัมผัสที่เกาะเกี่ยว มือบางขยับไปลูบไรผมตรงหลังคอแกร่ง รสชาติหวานปนขมติดอยู่ตรงปลายลิ้น ดั่งยิ่งจูบยิ่งรู้สึกมัวเมา

ขวดทั้งสองถูกปล่อยลงบนพื้นอย่างไม่มีใครใส่ใจ เสียงดูดดึงของริมฝีปากดังคลอกับเสียงแมลงที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ อาจเพราะแอลกอฮอล์ที่เจืออยู่ในกระแสเลือดความยับยั้งชั่งใจจึงลดน้อยลง รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังบางก็สัมผัสได้ถึงความแข็งของกระจกหน้ารถ ร่างกายอีกคนคร่อมอยู่ด้านบนขณะริมฝีปากยังคงแนบชิด

“ปะ ปิน ตรงนี้มัน...” ฝุ่นจำได้ว่าตัวเองพูดประโยคนี้ออกไปเพื่อหยุดยั้งการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับสถานที่ ทว่าพอซอกคอถูกสัมผัส หน้าท้องถูกลูบไล้ ความหนักแน่นก็ปลิวหายไปกับสายลม

มันเลยเถิดจนไม่อาจหยุดยั้ง

“อื้อ” ความเจ็บแปลบบริเวณลำคอมาพร้อมกับความเสียวซ่านตรงเม็ดกลางอกซึ่งถูกบีบบี้

แผ่นอกบางสะท้านไหวจากการหอบหายใจ ริมฝีปากสีสดถูกขบกัดบ้างคลายบ้าง

อากาศตอนกลางคืนในป่ายิ่งดึกยิ่งเย็น หากแต่คนทั้งสองกลับไม่รู้สึกถึงเนื่องจากความร้อนระหว่างกายที่เพิ่มขึ้นตามสัมผัสและอารมณ์

สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องลำคอคนตรงหน้า ความลื่นของกระโปรงรถส่งผลให้ตัวไถลลงมาเล็กน้อย โดยมีปินคอยขยับขึ้นทั้งยังช่วยคนร่างเล็กขยับไปด้วย

“ปะ ปิน” เสียงเรียกชื่อสั่นๆ ดังขึ้นเมื่อรู้สึกโล่งตรงส่วนล่าง ทั้งชั้นในและกางเกงตัวนอกของฝุ่นถูกเลื่อนลงไปกองตรงเข่า ก่อนกลางกายจะถูกแตะต้องด้วยมือสาก

“อ๊ะ อา” ปินเริ่มจากเพียงลูบไล้ จากนั้นจึงค่อยๆ ขยับรูดรั้ง

ใบหน้าเล็กซบลงกับไหล่แกร่ง พยายามส่งเสียงอยู่เพียงในลำคอ ขณะสะโพกบิดเร้าน้อยๆ

จังหวะของมือใหญ่เป็นขั้นบันไดไปเรื่อยๆ กระทั่งขั้นสุดท้ายมาถึง

ฝุ่นไม่อาจกลั้นเสียงครางหวาน ไม่อาจห้ามการเกร็งกระตุก ไม่อาจรั้งการปลดปล่อยได้อีกต่อไป

แล้วความต้องการก็ถูกรีดเคล้นลงบนหน้าท้องบาง จนเมื่อหมดทุกหยอดหยดคนเพิ่งปลดปล่อยก็ผละหน้าออกไปจูบอีกคน

จุ๊บ

“รอก่อนนะครับ” ปินกดริมฝีปากหนักๆ ทิ้งท้ายแล้วลงจากหน้ากระโปรงเพื่อไปหยิบสิ่งที่จำเป็นในรถ ทิ้งร่างเล็กให้นอนอยู่บนนั้นไม่กี่วินาทีก่อนจะกลับมาอีกครั้ง

สองขาเรียวที่ตั้งชันอยู่ถูกดันขึ้นเกือบชิดอก จากนั้นปินจึงค่อยๆ ขยับมาอยู่ตรงกลาง พยายามทรงตัวด้วยการจับขอบกระจกหน้ารถเอาไว้ด้วยมือหนึ่งข้าง

“ปิน เรา...” ฝุ่นไม่อาจพูดจนจบเมื่อริมฝีปากได้รูปทาบทับลงมาปิดกลั้นอย่างจงใจ วินาทีนี้ปินไม่สนคำตักเตือน ไม่สนใจว่าเราจะอยู่ที่ไหน เนื่องจากอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นด้วยเครื่องดื่มและสถานที่

ยิ่งไม่เหมาะ ยิ่งไม่สมควร มนุษย์เรายิ่งชอบลอง

ปินละมือออกจากการยึดเหนี่ยวมาปลดกระดุมและรูดซิปกางเกง ซองเล็กๆ ซึ่งถูกเหน็บไว้ที่กระเป๋ากางเกงทางด้านหลังถูกดึงออกมาฉีกด้วยมือและปาก ก่อนมันจะถูกสวมลงบนกลางกายใหญ่โต

ช่องทางสีกุหลาบถูกถูไถด้วยส่วนร้อนผ่าวอยู่เพียงไม่กี่ครั้งก็ถูกรุกล้ำเข้าไป

“อึก” ปลายเล็บสั้นกุดเผลอจิกลงบนกระโปรงรถอย่างลืมตัวเมื่อความอึดอัดคับแน่นที่เจือมากับความเสียวซ่านคลืบคลานเข้ามาในกาย

สะโพกสอบเดินหน้าช้าๆ และถอยหลังบ้างเป็นบางจังหวะ กระทั่งเติมเต็มความวางเปล่านั้นได้หมด

ฝุ่นทำได้เพียงผ่อนลมหายใจเพื่อผ่อนคลายร่างกาย ระหว่างนั้นปินก็กลับมาจูบซับไปตามลำคอบาง เพิ่มรอยใหม่เข้าไปรอยสองรอย ยามฝุ่นพร้อมแล้วจึงเริ่มต้นขยับ

“อืม” เสียงครางทุ้มดังอยู่ในลำคอแผ่วเบาเมื่อตัวตนถูกโอบรัดด้วยความนุ่มอุ่นทุกทิศทาง

อาจด้วยเพราะบรรยากาศ น้ำเมา และสถานที่ที่ทำให้รู้สึกมากขึ้นในอีกแบบ

ฝ่ามือใหญ่ที่วางอยู่บนเข่าเล็กขยับดันอีกนิดให้ส่วนล่างแนบชิดกันยิ่งขึ้น ขณะมืออีกข้างก็ยึดเหนี่ยวร่างกายไม่ให้ตกอยู่ตำแหน่งเดิม

ปินยังไม่ได้ขยับสะโพกเร็วแต่เน้นหนัก บดคลึงบ้าง หมุนคว้านบ้างสลับกันไปจนถึงจุดที่ต้องดำเนินการไปมากกว่านั้น

ร่างเล็กสั่นคลอนตามแรงตอกตรึงที่เพิ่มขึ้นอีกจังหวะ มาถึงตอนนี้ฝุ่นก็ไม่อาจกักเก็บเสียงครวญครางอันน่าอาย แม้จิตใต้สำนึกจะหวั่นกลัวคนผ่านมาได้ยินแต่ก็ยังห้ามใจไม่ได้

มันรู้สึกมากเกินกว่าจะอดทน

ดวงตาโตที่พร่ามัวเพราะความเสียวซ่านเลื่อนขึ้นมองท้องฟ้าด้านบน ความสวยงามระยิบระยับถูกลดระดับลงเพราะไม่มีสมาธิกับการเชยชมเท่าไหร่นัก

นอกจากเสียงหอบหายใจและเสียงครางจากคนทั้งสองที่ดังคลอกับเสียงแมลง ก็ยังมีเสียงอื่นให้ได้ยิน

พรึบ พรึบ

เสียงที่เกิดจากการเสียดสี...

“อา ปะ ปิน เร็ว...อื้อ” ดวงดาวบนนภาที่ใกล้จะเอื้อมถึงถูกเร่งเร้าให้อีกคนพาเข้าไปใกล้

ศีรษะเล็กซึ่งกระแทกกับกระจกรถไม่ได้อยู่ในความสนใจของเจ้าของเมื่อสิ่งที่ต้องการใกล้จะมาอยู่ตรงหน้า

ฝุ่นเว้าวอน อ้อนขอ ก่อนจะหวีดร้องออกมาในจังหวะสุดท้าย...

 “อ๊าาาาา” การปลดปล่อยครั้งที่สองเกิดขึ้น ขณะที่คนด้านบนยังคงขยับกายเข้าออก จนอารมณ์ที่ค่อยๆ มอดดับลงของฝุ่นเกือบจะถูกปลุกขึ้นมาอีกคราปินจึงปลดปล่อยออกมาตามกัน

“อืมมมม” เปลือกตาสีอ่อนหลับลงรับการกระตุกของบางส่วนในกาย แม้ไม่มีสิ่งใดถูกฉีดพ่นเข้ามา แต่ความแนบชิดอันลึกล้ำก็ทำให้สามารถรับรู้ได้และรู้ได้ว่ามันหมดสิ้นเมื่อไหร่

ปินแช่กายอยู่ในความอุ่นนั้นนิ่ง กระทั่งลมหายใจเริ่มกลับมาเป็นปกติจึงรั้งกายออกจากการเชื่อมต่อ ดวงตาเรียวรีทอดมองคนใต้ร่างเป็นประกาย ริมฝีปากยกยิ้ม

“ดาวที่นี่สวยจริงๆ”

ปึก

“กะ กลับได้แล้ว...อายท้องฟ้าจะแย่” ฝุ่

นหลบสายตาทำเป็นมองฟ้ามองดาว พอความอารมณ์ความต้องการหมดลงความกระดากอายอันมากมายจึงเข้ามาแทนที่

ให้ตาย...กับปิน...ตรงที่โล่ง...ตรงหน้ารถ

มันบ้ามาก

“ไม่ต้องอายหรอกครับ ฟ้าคงเข้าใจ” ต่างจากคนหน้าหนาที่ไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังพูดด้วยท่าทีสบายๆ

“เข้าใจว่าเราหื่นน่ะสิ” ฝุ่นเข่นเขี้ยว ก่อนจะไล่อีกคนให้ลงไปหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบเลอะตรงหน้าท้องซึ่งไหลและกระเซ็นถูกกระโปรงรถบางส่วนด้วยความกระดาก

แม้จะกลับเข้ามาในรถเพื่อกลับที่พักสำหรับคืนนี้ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ยังติดอยู่ในหัว ร่างกายรู้สึกวูบวาบราวกับยังคงถูกอีกคนแตะต้อง

ปล่อยให้มันเลยเถิดขนาดนั้นได้ยังไง...

ฝุ่นอยากทึ้งหัวตัวเอง ทั้งยังด่าความต้องการทางกายที่มีมากเกินจนไม่สนใจสถานที่

“วิวมันน่ามองกว่าผมอีกหรือ” คนขับรถที่ถูกเมินตั้งแต่ขึ้นรถมาเอ่ยถามขึ้น

“ขับรถไปเลย” ฝุ่นหันไปตอบแล้วก็หันกลับมาดูวิวนอกรถตามเดิมยามเสียงหัวเราะทุ้มดังตามมา

--

ฝุ่นแทบไม่มีเวลาชื่นชมที่พักแบบส่วนตัวเพราะต้องรีบกลับกรุงเทพในตอนฟ้ายังไม่สางเนื่องจากกลัวว่าจะมีใครเห็นปินเข้า ธนทัตทำหน้าที่ดูแลความสะดวกของเพื่อนโดยพาไปทางหลังรีสอร์ทที่ไม่มีผู้คน จากนั้นก็นำรถมาให้อย่างมั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครพบเห็น

“ขอบใจมากนะ” ปารินทร์เอ่ยกับเพื่อนยามนั่งอยู่ในรถแล้วเรียบร้อย

“ตอบแทนเรื่องนั้นไง” เรื่องนั้นที่ว่าก็คือการเป็นพ่อสื่อให้กับดาราสาวที่ปินรู้จักเป็นอย่างดี

“หึ...แล้วไว้เจอกันที่กรุงเทพ”

“เจอกัน” ธนทัตเลื่อนสายตาลึกเข้าไปเพื่อค้อมหัวบอกลากับอีกคน เมื่อฝุ่นพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มร่างสูงจึงขยับถอยห่างให้รถคันหรูเคลื่อนตัวออกจากรีสอร์ทไป



จากกาญจนบุรีมากรุงเทพใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง และคนที่รู้สึกอ่อนเพลียก็หลับมาตลอดทาง กระทั่งกลับมาถึงห้องฝุ่นก็รู้สึกหนักๆ หัว คราแรกคิดว่าเป็นเพราะเครื่องดื่มที่ดื่มเข้าไปเมื่อคืน หากแต่พอลมหายใจร้อนขึ้นก็รับรู้ได้ทันทีว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณว่าจะป่วย

“ฝุ่นทานยาทำไม รู้สึกไม่สบายเหรอ” ปินที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินเข้ามาในครัวเพื่อช่วยอีกคนทำมื้อเช้าเอ่ยถามขึ้น คิ้วเข้มขมวดมุ่น ขาแกร่งก้าวยาวๆ เข้าไปชิด ก่อนจะวางมือแนบกับหน้าผากเนียน

“แสบจมูกนิดหน่อย”

“ตัวรุมๆ คงเป็นเพราะตากน้ำค้างเมื่อคืน...ผมขอโทษ” คนที่เป็นสาเหตุกล่าวด้วยความรู้สึกผิดขณะลูบแก้มนิ่มไปด้วยอย่างแผ่วเบา

“คงเพราะช่วงนี้ฝุ่นไม่ได้ออกกำลังกาย ร่างกายเลยอ่อนแอน่ะ” ฝุ่นพยายามปลอบคนตรงหน้าไม่ให้รู้สึกผิด

“เป็นเพราะผมเอง ยังไงฝุ่นไปพักในห้องก่อนเถอะ เดี๋ยวผมทำอาหารเอง เสร็จแล้วจะเข้าไปบอก”

“ไม่เป็นไร ฝุ่นยังไหว”

“อย่าดื้อสิครับ ผมเป็นห่วง”

เห็นความเป็นห่วงทั้งในแววตาและน้ำเสียงนั้นแล้วฝุ่นก็ไม่อาจดื้อรั้นต่อไปได้อีก สุดท้ายจึงจำต้องพยักหน้ารับแล้วออกห่างจากคนร่างสูงเพื่อกลับไปยังห้องนอน

หยิบกล้องมาดูรูปรอสักพักปินก็ออกมาตามไปทานข้าว หลังจากนั้นก็ถูกบังคับให้นอนพัก

ค่ำมาอาการกลับทวีความรุนแรงขึ้นกลายเป็นคนป่วยเต็มตัว ทั้งปวดหัวตัวร้อนและเจ็บคอ

“จิบน้ำอุ่นนะ จะได้รู้สึกดีขึ้น”

ฝุ่นอยากเบือนหน้าหนีเพราะไม่ชอบจิบน้ำอุ่นแต่ความทรมานในร่างกายก็ทำให้ต้องทำตาม มันเจ็บคอจนเผลอแสดงท่าทีงอแงใส่อีกคน

“เจ็บคอ” คนป่วยซบหน้าผากเข้ากับอกกว้างพลางเอ่ยเสียงเบาให้ปินวาดวงแขนโอบรอบร่างบางพร้อมทั้งเอ่ยคำปลอบโยน

“อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวจิบน้ำอุ่นไปก็จะค่อยๆ ดีขึ้น” ฝุ่นซุกหน้าอยู่อย่างนั้นโดยไม่ขยับไปไหน กระทั่งปินต้องบอกให้นอนลง

“ฝุ่นนอนนะ พักผ่อนเยอะๆ จะได้หายเร็วๆ” ก้มลงพูดกับคนในอ้อมแขนทว่ากลับได้รับการส่ายหน้าเป็นคำตอบ

ปินนั่งมึนอยู่ชั่วครู่ เมื่ออีกคนไม่ยอมขยับจึงเข้าใจว่าฝุ่นคงจะอยู่ในท่านี้ไม่ไปไหน ชายหนุ่มยกยิ้มเมื่อนานๆ จะได้เห็นท่าทีงอแงจากคนอายุมากกว่า

ปารินทร์นั่งนิ่งให้คนไม่สบายซบอยู่หลายนาทีจนสัมผัสได้ถึงความนิ่งงันและจังหวะการหายใจที่สม่ำเสมอจึงค่อยๆ ดันฝุ่นลงนอน ผ้าห่มถูกขยับมาห่มให้ถึงอกแล้วตบท้ายด้วยการจูบหน้าผากแผ่วเบา

“หายเร็วๆ ครับแมวฝุ่น” เสียงทุ้มกระซิบบอกคนที่หลับใหล จากนั้นจึงหยัดกายขึ้นเพื่อตรงไปยังห้องทำงานเนื่องจากยังไม่ถึงเวลานอน

--

“ฝุ่นอยู่คนเดียวได้แน่นะ” ปินซึ่งกำลังจะออกไปทำงานในตอนเช้าถามย้ำเป็นรอบที่ห้า ขณะที่คนถูกถามซึ่งยังคงรู้สึกไม่สบายอยู่ก็รับคำ

“อื้อ” ฝุ่นยืนยันอีกครั้ง อาการเจ็บคอจนกลืนน้ำลายลำบากเริ่มดีขึ้น อาจเพราะได้น้ำอุ่นช่วยเอาไว้ ส่วนไข้นั้นยังคงมีอยู่ อาการโดยรวมยังถือว่าหนักแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นดูแลตัวเองไม่ได้

“ผมเป็นห่วงจัง” คนป่วยถูกรั้งเข้ามากอดแน่นๆ ใจปินไม่อยากออกไปทำงานเลยแม้แต่น้อย

“ไม่ต้องห่วง ฝุ่นอยู่ได้” เสียงพูดดังอู้อี้เล็กน้อยเพราะแมสก์ปิดปากและเพราะอาการคัดจมูก

“ถ้าไม่ไหวโทรบอกผมหรือไม่ก็พี่หวานนะ”

“อื้อ ไปทำงานเถอะ”

ปินผละออกมองหน้าคนร่างเล็ก ริมฝีปากได้รูปกดลงบนหน้าผากที่มีแผ่นเจลแปะอยู่ก่อนจะต้องตัดใจบอกลาในที่สุด

“แล้วผมจะรีบกลับ”

ฝุ่นโบกมือลาร่างสูงเล็กน้อยยามที่อีกคนยังดูอาลัยอาวรณ์กับการเปิดประตู กว่าปารินทร์จะก้าวออกจากห้องได้ก็ใช้เวลาหลายนาที และเมื่อประตูปิดลงคนป่วยก็เดินลากเท้ากลับมาทิ้งตัวลงบนโซฟาหน้าโทรทัศน์

ปวดหัวจัง...

เปลือกตาร้อนผ่าวเพราะอาการไข้ปิดลงอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนฤทธิ์ยาที่ทานเข้าไปหลังอาหารเช้าจะค่อยๆ เริ่มทำงาน แล้วสุดท้ายฝุ่นก็ผล็อยหลับไป



“ฝุ่นไม่สบายงั้นเหรอ” ภาวิดาถามขึ้นหลังจากปารินทร์เล่าให้ฟังถึงเหตุผลที่จะกลับเร็วกว่าตารางที่วางเอาไว้

“ครับ เป็นไข้หวัด อาการหนักไม่น้อยเลย...เพราะงั้นงานงานแต่งเย็นนี้ผมขอตัวนะพี่หวาน”

“แต่ผู้ใหญ่อุตสาห์เชิญ มันก็ดูเสียมารยาทอยู่หน่อยนึงนะ”

คนเป็นผู้จัดกาส่วนตัวทำสีหน้าครุ่นคิดถึงสิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ กลัวว่าผู้ใหญ่จะเคืองที่ปารินทร์ไม่ไปร่วมงานกะทันหัน

“เดี๋ยววันหลังผมจะเข้าไปขอโทษผู้ใหญ่เอง วันนี้ฝากพี่หวานจัดการให้ก่อนนะครับ...นะ”

“แล้วฝุ่นอาการหนักถึงขั้นดูแลตัวเองไม่ได้เลยเหรอ”

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นแต่ผมอยากดูแลเขา” ปินเอ่ยตอบทันควันเมื่อถูกเอ่ยถามแบบสะกิดใจเล็กๆ

ไม่ว่าจะป่วยน้อยหรือมาก ใครก็ต้องอยากดูแลคนที่เรารักทั้งนั้น

ขณะที่คนได้ยินก็ชะงัก ก่อนภาวิดาจะพูดกับคนตรงหน้าเสียงเรียบ

“ปินดูเป็นห่วงฝุ่นมากเลยนะ”

“...” คนที่เพิ่งรู้ว่าเผลอแสดงท่าทีอะไรออกไปนิ่งเงียบ แต่ถึงอย่างนั้นดวงตาเรียวรีก็ไม่ได้หลบสายตาคนดูแล มันแสดงออกถึงความไม่หลบซ่อนจนคนมองนึกหวั่นใจ

“ที่ผ่านมาไม่ใช่พี่ไม่รู้นะปิน แล้วพี่ก็ขอเตือนว่าอย่าให้ความรักมันสำคัญกว่าคนที่รักปินและความพยายามที่ปินทำมาทั้งหมด”

ภาวิดาผ่านโลกมามากและก็ใกล้ชิดกับเด็กหนุ่มตรงหน้าเป็นอย่างดี อะไรเกิดขึ้นบ้างทำไมเธอจะไม่รู้ไม่เห็น เพียงแต่เลือกที่จะไม่พูดก็เท่านั้น

“...”

“ปินอดทนที่จะปกปิดมันไปอีกนานได้ใช่ไหม”

“ผมรู้ว่าผมควรทำยังไง” ปินไม่ได้รับปากแต่เอ่ยประโยคที่บ่งบอกให้รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้ไปในทิศทางไหน

“พี่เชื่อปิน อย่าทำให้พี่ผิดหวังล่ะ...งานเย็นนี้พี่จะจัดการให้ แต่คราวหลังเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวต้องอยู่คนละส่วนกัน ที่พี่เตือนเพราะหวังดีกับปินรู้ใช่ไหม”

“ครับ ผมรู้ ผมจะไม่ทำให้พี่หวานผิดหวัง”

เมื่อคนในปกครองรับคำภาวิดาก็ลอบถอนหายใจพลางเลื่อนสายตาไปมองนอกรถ ในหัวคิดถึงเรื่องนี้ที่พยายามจะไม่คิดมาตลอดอย่างกังวลใจ

เธอกลัวว่าวันหนึ่งปินจะให้ความรักอยู่เหนือทุกอย่างเหมือนที่คนอื่นเป็น...แล้ววันนั้นเองที่ปิน ปารินทร์จะถูกสังคมทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี

มีความรักว่าหนักแล้ว มีความรักในเพศเดียวกันมันเป็นเรื่องใหญ่มาก


TBC.

มาแล้วค่าาา
มาช้าเพราะเมื่อวานเหนื่อยๆ
เห็นไหมว่าดราม่าแป๊บเดียวเอง อิอิ
ฝากให้กำลังพี่ฝุ่น แล้วก็ให้คะแนนความร้อนแรงของหมาปินด้วยนะคะ-.,-
ฝากแท็ก #secrecyลับรัก ด้วยน้าาาา


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 27-12-2018 21:47:41
โอยย หมู่ดาว แสงจันทร์ และสองเราา
สงสารหมาแมวคู่นี้จังเลยน้าา อยากให้จับมือกันแน่นๆแล้วผ่านมันไปด้วยกันน  :mew4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 27-12-2018 22:08:01
เป็นกำลังใจให้หมากับแมวฝุ่นนะคะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 27-12-2018 22:08:09
โอ้ยยยย หวานชื่นอยู่ดีๆ ทำไมตบท้ายด้วยมาม่าล่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-12-2018 22:24:04
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 27-12-2018 22:38:45
หุยยยน แสงดาวคืนนี้ช่างสวยงามจริงๆค้าาา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 27-12-2018 23:08:48
ตอนจบตอนนี้ไหงชวนให้คิดถึงดราม่าตูมใหญ่ งือออ
เป็นดาราก็ยากงี้สินะ เอาใจช่วย
ปินชวนเอ้าท์ดอร์เลยทีเดียวว ไม่เบานี่นาา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-12-2018 23:33:50
งื้ออออ มาหน่วงตอนท้ายซะงั้น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 28-12-2018 00:16:32
ปัญหาข้างหน้าที่เป็นปัญหาของสาธารณะช่างหนักหน่วง ฮืออออออ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 28-12-2018 01:06:47
เอ็นดูฝุ่นหนักมากนะปิน ถึงกับไข้ขึ้นเลย
สงสารฝุ่นนะ ใจไปแล้วจะดึงกลับมา มันยาก
ปินเลือกแล้ว แต่อยู่ที่ว่าจะทำให้เรามีความสุขหรือคนอื่นพอใจ
เชื่อว่าปินทำได้ และทำได้ดีด้วย

ฝุ่นป่วยแล้วอ้อนนะ น่ารักจังเลยค่ะ

คงไม่ดราม่าอีกรอบนะคะ กับการที่ปินเลือกฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 28-12-2018 02:37:24
แงงงง ดราม่าของจริงกำลังจะมาเหรอ ฮือออออออ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-12-2018 04:59:02
 :mew6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-12-2018 05:16:41
เกินดีแล้ว ไงมาพีคตอนท้ายๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 28-12-2018 07:11:17
ปินคนฮอต ดุมาก
จะมีดราม่ามาอีกไหมนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eleven.] : 27/12/2561 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 28-12-2018 08:37:21
หายไวๆนะแมวฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 09-01-2019 22:35:29
Chapter Twelve.

อาการป่วยของฝุ่นดีขึ้นในอีกสามวันต่อมา ไข้หายจนสนิท ทว่าหวัดยังคงเป็นอยู่ ร่างบางจึงยังต้องระมัดระวังเรื่องการทานของเย็นเช่นเดิม

“ฝุ่นจะทำอะไร” ปินถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนเดินไปเปิดตู้เย็นขณะกำลังทานข้าวเย็นกันอยู่

“กินน้ำ มันเผ็ด” คนถูกถามตอบเสียงเบา ประตูตู้เย็นยังคงถูกเปิดค้างเอาไว้อย่างนั้น ยามปากเล็กที่บวมเจ่อจากการกินส้มตำก็เป่าไปมา

“น้ำก็อยู่นี่ไง” ดวงตาเรียวรีปรายไปมองแก้วน้ำซึ่งถูกตั้งไว้บนโต๊ะตั้งแต่แรกเป็นการบอกว่าตรงนี้ไงคือน้ำที่ฝุ่นควรดื่ม

“มันไม่เย็น...ขอกินนิดนึง”

ความเผ็ดนั้นทำให้ปากและหน้าของฝุ่นแดงเรื่อ เมื่อมากอปรกับน้ำเสียงเว้าวอนขอจึงไม่แปลกที่คนถูกอ้อนจะใจสั่น สุดท้ายปารินทร์เลยเผลออนุญาตไปจนได้

“อึกเดียวเท่านั้น”

ฝุ่นยิ้มรับเมื่อได้ในสิ่งยินคำนั้น ก่อนมือจะรีบคว้าขวดน้ำมาเทใส่แก้วแล้วดื่มตามปริมาณที่ปินอนุญาต

“เผ็ดมาก ปินไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ” ร่างเล็กเดินกลับมานั่งลงที่เดิมพลางเอ่ยถามคนที่นั่งตักส้มตำเข้าปากเรื่อยๆ โดยไม่มีท่าทีอะไร

“ก็รู้สึก แต่ไม่มาก”

“ระวังพรุ่งนี้จะท้องเสีย”

ปารินทร์ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ขณะที่ฝุ่นนั้นล้มเลิกการทานส้มตำไว้เพียงเท่านั้นแล้วเปลี่ยนไปเลือกทานอย่างอื่นแทน



“ปิน”

“หืม” ร่างสูงซึ่งนอนทอดกายดูซีรีส์อยู่บนโซฟาขานรับพลางดึงสายตากลับมายังคนข้างตัว

วันนี้ปินมีงานเช้าถึงบ่าย ตอนเย็นจึงพอมีเวลาให้ได้พักผ่อนบ้าง

“แล้วเรื่องสัญญาเขาจะเรียกไปคุยเมื่อไหร่”

“น่าจะอีกอาทิตย์สองอาทิตย์นี้แหละ” ฝุ่นพยักหน้ารับช้าๆ

“ฝุ่นถามทำไม”

“ก็...แค่อยากรู้”

“ระหว่างนี้ฝุ่นก็ไม่ต้องคิดอะไร อยากทำอะไรก็บอกผม แต่ว่าถ้าจะไปเรียนเพิ่มก็ขอครูที่เป็นผู้หญิงมีอายุหน่อยแล้วกัน” ใบหน้าหล่อบูดบึ้งขึ้นมาครามครันเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น ด้านฝุ่นก็ยิ้มบางแล้วโคลงหัวอย่างอ่อนใจ

“ขี้หึง”

“แน่นอน มือข้างนี้ใช่ไหมที่ถูกเขาจับ” มือบางบนตักข้างที่ปินจำได้ดีถูกจับขึ้นมาพรมจูบไปทั่วราวกับจะกลบรอยนั้นด้วยสัมผัสของตัวเอง

“ปิน พอแล้ว นานขนาดนั้นมันคงลบไปหมดแล้วมั้ง”

จุ๊บ

“มีฝุ่นอยู่แค่คนเดียวผมก็ต้องหวงสิ” ริมฝีปากได้รูปเปลี่ยนมากดจูบลงบนแก้มเนียนแล้วเอ่ยพูดด้วยสายตาอ่อนหวานจนคนมองใจเต้น

การเป็นคนที่ใครสักคนหวงคงเป็นเรื่องที่ทำให้ใครๆ ก็รู้สึกดีไม่ต่างจากที่ฝุ่นกำลังรู้สึกในตอนนี้

“ผมขอถามอะไรฝุ่นหน่อยได้ไหม” ประโยคที่ผู้จัดการส่วนตัวพูดเอาไว้ดังเข้ามาในหัวให้ปินอยากรู้ความคิดคนตรงหน้า

“ว่า?”

แก้มซึ่งซูบลงเพราะอาการป่วยถูกสัมผัสด้วยปลายนิ้วแกร่งที่ขยับเกลี่ยไปมาแผ่วเบา

“ถ้าเราต้องอยู่แบบนี้กันตลอดไปฝุ่นจะทนได้ไหม”

อยู่กันแบบนี้คือสิ่งที่อธิบายทุกอย่างให้คนฟังเข้าใจได้โดยไม่ต้องขยายความ

นั่นคือเรื่องระหว่างเราจะเป็นความลับ ต้องหลบซ่อน และปกปิด...ตลอดไป

“ได้สิ” ฝุ่นรับคำพร้อมรอยยิ้ม มืออีกข้างที่จับกันเอาไว้อยู่ถูกกระชับแน่นขึ้น “ขอแค่ปินยังอยากให้อยู่”

“งั้นก็อย่าไปไหนนะ” ปารินทร์เว้าวอนขอคนตรงหน้า

การอยู่ตรงนี้มันไม่ง่ายเลยสำหรับฝุ่น เขากลัวว่าวันหนึ่งอีกคนจะทนไม่ไหวหรืออาจไม่อยากจะทน

“ไม่ไปไหนหรอก แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไร”

“ปินรู้ดีใช่ไหมว่าความลับมันไม่มีในโลก ถ้าเกิดวันหนึ่งเรื่องของเรามันหลุดออกไปจริงๆ ปินจะทำยังไง”

สิ่งที่เป็นกังวลที่สุดถูกเอ่ยออกไปเสียงแผ่ว คิ้วได้รูปขมวดมุ่นยามสายตาจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาด้วยความเป็นห่วง

เพราะปินเป็นปิน ปารินทร์ ความสำเร็จและชื่อเสียงยิ่งมีมากก็ยิ่งสะท้อนด้านลบกลับได้มาก

“ผมคิดทางออกเอาไว้แล้วล่ะ ฝุ่นไม่ต้องห่วงนะ”

“มันจะเป็นอะไรมากไหม” ปินระบายยิ้มกับความเป็นกังวลนั้น ก่อนจะบีบแก้มคนร่างเล็กเบาๆ

“อย่าเพิ่งคิดไปก่อนเลย เราคิดถึงแค่ปัจจุบันก่อนดีกว่า”

“อื้อ...”

“ดูหนังต่อกันนะ จนใกล้จะจบแล้วเนี้ย” ดวงตาเรียวรีเลื่อนกลับไปมองทางจอโทรศัพท์แล้วก็ได้พบว่าฉากการต่อสู้อันดุเดือดได้ผ่านพ้นไปแล้วเรียบร้อย

--

ปึก

“เมื่อไหร่คุณจะเลิกอ้างพ่อ เลิกอ้างชื่อเสียงหน้าตา แล้วก็เซ็นใบหย่าให้ผมซักที”

ฝ่ามือหนาทุบลงบนโต๊ะไม้เนื้อดีพลางเอ่ยถามผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเสียงรอดไรฟัน

กัญจน์คิดว่ามันเลยว่ามานานเกินกว่าที่จะอดทนต่อไปได้อีก

“แก้มก็บอกแล้วไงคะ ว่าให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อน”

“ผ่านพ้นช่วงนี้? คุณพูดแบบนี้มาจะสี่ปีแล้ว!” จากเสียงกดต่ำกลายเป็นตะคอก กัญจน์รู้สึกเหมือนเส้นเลือดข้างขมับเต้นตุบ ทุกการพูดคุยกับผู้หญิงคนนี้สร้างความปวดหัวให้เสมอ

เขาตกลงแต่งงานแล้วทนอยู่กับมทิราเป็นปีได้ยังไง

“ไหนๆ ก็ทนมาได้ตั้งสี่ปีแล้วก็ทนต่อไปอีกหน่อยจะเป็นอะไรคะ” มทิราลอยหน้าลอยตาพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน

จะให้เธอปล่อย กัญจน์ ศิวะเกียรติ ที่เป็นบ่อเงินบ่อทองตัวเองไปงั้นเหรอ...ไม่มีทาง

“ผมจะไม่ทนต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว”

“คุณจะทำอะไร จะฟ้องหย่าฉันเหรอ” คิ้วคู่สวยเลิกขึ้นถาม ปากที่เคลือบด้วยลิปกลอสสีชมพูดแหวานแหววบิดยิ้ม

“คุณรู้ดีใช่ไหมว่าถ้าผมทำคุณจะไม่เหลือหน้าตาและชื่อเสียงอะไรอีกต่อไป”

หลักฐานการเที่ยวเตร่และการมีความสัมพันธ์กับคนอื่นอยู่ในมือกัญจน์เป็นหางว่าว ฉะนั้นหากมีการฟ้องหย่าสำหรับกัญจน์แล้วแทบไม่ต้องเดาเลยว่าใครจะชนะ

“คุณกำลังขู่ฉันเหรอคะกัญจน์ อย่าลืมสิว่าไม่ใช่แค่ฉันที่มีหน้ามีตาในสังคม”

ทว่ามทิราก็ไม่สนใจเนื่องจากรู้ดีว่าสามีในกฎหมายไม่กล้าแลกจุดที่ตัวเองยืนอยู่กับอิสระที่จะได้รับด้วยวิธีนั้น

“...”

“ก็ลองดูแล้วกันว่าใครจะเสียมากกว่า”

ร่างบางระหงซึ่งยังคงดูดีในวัยสามสิบแปดหยัดกายขึ้นแล้วก้าวเท้าออกจากห้องทำงานของกัญจน์ไปด้วยรอยยิ้มมุมปาก ต่างจากคนในห้องที่สองมือกำแน่น แผ่นอกกว้างภายใต้เสื้อเชิ้ตราคาแพงสะท้านไหวเพราะแรงหายใจ



“กลับมาละ...อ๊ะ”

ริมฝีปากบางที่กำลังขยับถามถูกทาบทับด้วยปากได้รูปทำให้บลูไม่อาจถามอีกคนได้จบ

แรงบดเบียดดูดดึงทั้งยังขดกัดนั้นรุนแรงจนได้กลิ่นคาวเลือด ทว่าคนเจ็บก็ไม่คิดเคืองโกรธ มือบางยกขึ้นวางแนบกับลำคอแกร่งแล้วลูบไล้ไปมาเพื่อคลายความร้อนในอารมณ์ให้คุณกัญจน์เย็นลง

หากแต่กว่ากัญจน์จะมีสติและผ่อนแรงจูบลงปากเล็กก็ระบมไปไม่น้อย

“ฉันขอโทษ”

ดวงตาคมปิดลงก่อนจะเปิดลืมขึ้นยามปลายนิ้วไล้อยู่ตรงใต้แผลที่เกิดจากตัวเองไปมาแผ่วเบา

เป็นอีกครั้งแล้วที่กัญจน์เผลอมาลงกับเด็กตรงหน้า

“ไม่เป็นไรครับ คุณกัญจน์หงุดหงิดงานมาเหรอ”

“วันนี้ฉันคุยกับแก้มมา” ใบหน้าหวานกดลงรับ เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดในทันใด

“ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำดีกว่านะครับ เดี๋ยวบลูนวดให้”

ลมหายใจซึ่งยังคงร้อนกรุ่นถูกพ่นออก ก่อนกัญจน์จะรับคำ

“อืม”

“จะดื่มน้ำหน่อยไหมครับ”

“ไม่ล่ะ”

ร่างบางเขย่งปลายเท้าขึ้นแล้วกดจูบลงบนแก้มสากจากนั้นจึงเอื้อมมือไปประสานกับมือใหญ่ พาคนที่กำลังร้อนไปยังห้องน้ำในห้องนอน ทั้งยังจัดการถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำให้

“วันนี้บลูได้น้ำมันนวดกลิ่นกุหลาบมา เห็นว่ากลิ่นไม่แรงมาก คุณกัญจน์ลองดูหน่อยไหมครับ”

มือบางยื่นไปตรงหน้าคนที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงให้อีกคนทดสอบกลิ่น กระทั่งได้ยินเสียงรับคำจึงค่อยๆ เทน้ำมันลงฝ่ามือแล้วเริ่มนวดไหล่กว้างเป็นอันดับแรก

“กลิ่นไม่เลวนะ”

“ครับ บลูเห็นว่าไม่ได้เป็นกลิ่นกุหลาบที่แรงเกินไปเลยลองซื้อมาดู”

ปกติแล้วกลิ่นที่คนอายุมากกว่าชอบจะเป็นพวกดอกไม้ไทย เช่นมะลิ ดอกโมก หรือดอกราตรี แต่พอวันนี้ที่บลูเดินผ่านร้านขายแล้วได้ทดสอบดอมดมก็คิดว่าคุณกัญจน์น่าจะโอเคกับกลิ่นกุหลาบในแบบนี้

มือบางเคล้นคลึงจากไหล่ไปยังต้นคอพาให้คนถูกนวดผ่อนคลายจนต้องหลับตาลง

“อืม” เสียงครางต่ำในลำคอดังขึ้นเมื่อบริเวณเอวที่รู้สึกปวดจากการนั่งทำงานถูกนวดอย่างถูกจุด บลูทำอย่างเชื่องช้าไม่เร่งรีบ ตั้งแต่ไหล่ ต้นคอ ลงมายังเอวสอบ จากนั้นจึงเป็นขา กระทั่งถึงฝ่าเท้า

คนที่มีเรื่องหงุดหงิดในตอนนี้มีแต่ความเพลิดเพลิน และยิ่งเพลิดเพลินมากขึ้นเมื่อร่างเล็กบอกให้พลิกกลับมานอนหงาย
ถึงคราวนวดด้านหน้า...

แผ่นอกแกร่งถูกลูบไล้และลงน้ำหนักมือเป็นจุด เสียงพึงพอใจจะถูกเปล่งออกมาเบาๆ ยามเม็ดสีเข้มกลางอกถูกไล้วนนวดเคล้น

“ฉันมีอะไรจะถาม”

“อะไรหรือครับ”

คิ้วคู่สวยเลิกขึ้นเล็กน้อยขณะมือยังคงทำงาน ด้านคนถูกถามก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น

แสงไฟสลัวสีเหลืองนวลที่เกิดจากเทียนหอมขลับให้บลูซึ่งอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำดูเซ็กซี่ ยิ่งเมื่อร่างเล็กก้มลงมาเล็กน้อย คอเสื้อคลุมก็ยิ่งทิ้งลงห่างตัวพาให้คนนอนอยู่มองเห็นความขาวเนียนนั้นแทบเต็มตา

กัญจน์เกือบลืมสิ่งที่ตัวเองจะพูด

“ชีวิตกับสังคม เธอจะเลือกอะไร” คนถูกถามขมวดคิ้วอย่างคิดไม่ตกกับคำถามที่ได้ยิน

“อืม...ก็ขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายแล้วเราอยากใช้ชีวิตแบบไหนล่ะมั้งครับ”

“ยังไง”

“บลูไม่รู้ว่าที่ตัวเองคิดมันถูกหรือว่าดีหรือเปล่า แต่ว่าถ้าให้เลือกก็ต้องคิดว่าบั้นปลายชีวิตบลูอยากใช้ชีวิตยังไง ถ้าชีวิตที่คุณกัญจน์หมายถึงคือรูปแบบชีวิตที่เราอยากใช้ ชีวิตที่เป็นตัวเราเอง...บลูก็จะเลือกชีวิต”

“...”

“แต่ถ้าเกิดว่าบลูอยากอยู่กับสังคมแบบที่ตัวอยู่ตอนนี้ในช่วงเวลาสุดท้าย บลูมีความสุขกับมันดี บลูก็คงจะเลือกสังคม...ไม่รู้สิครับว่าชีวิตกับสังคมที่คุณกัญจน์พูดถึงจะใช่แบบที่บลูคิดหรือเปล่า” ใบหน้าเล็กมีความไม่มั่นใจเจืออยู่ ก่อนจะหลุบสายตาลงมองหน้าท้องแกร่งของคนวัยสี่สิบสองที่มือกำลังนวดวน

มองแล้วบลูก็เผลอคิดว่าอีกคนช่างดูแลตัวเองดีเหลือเกิน ไม่เหมือนคนวัยสี่สิบเลยแม้แต่น้อย

“เธอเข้าใจมันถูกแล้วล่ะ” ลมหายใจกัญจน์สะดุดไปเล็กน้อยเมื่อฝ่ามือนุ่มนิ่มเลื่อนลงไปแถวท้องน้อย

“แล้วถ้าเป็นคุณกัญจน์จะเลือกอะไรครับ”

ดวงตากลมโตเลื่อนกลับมามองที่ใบหน้าคร้ามคมอีกครั้งยามมือเคลื่อนต่ำลงไปแตะต้องส่วนนั้นอย่างเชื่องช้า

“...ฉันก็คงจะเลือกชีวิตเหมือนกัน”

บลูยิ้มรับกับคำตอบที่ได้ยินก่อนจะเริ่มขยับมือรูดรั้ง...

--

“ดีใจที่ทางรับเคยได้ดูแลคุณปารินทร์ ขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าที่เป็นอีกนะคะ” อีกฝ่ายกล่าวทิ้งท้ายขณะเก็บเอกสารเข้ากระเป๋านิรภัยแล้วเรียบร้อย

“ขอบคุณครับ”

หลังจากนั้นปินและผู้จัดการส่วนตัวก็ก้าวออกจากห้องรับรองด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน ภาวิดามีความคุรุ่นคิดและเป็นกังวล ขณะที่ปินรู้สึกเป็นอิสระราวกับโซ่เส้นเล็กๆ ที่คล้องข้อเท้าเอาไว้ได้ถูกปลดออก

“พี่ขอคุยกับปินเป็นการส่วนตัว” ฝุ่นซึ่งเอาน้ำออกมาต้อนรับค้อมหัวลงรับคำจากนั้นจึงปลีกตัวเข้าไปอยู่ในห้องนอนเงียบๆ

“หลังจากหมดปีนี้แล้วปินคิดจะทำยังไงต่อ” การเซ็นสัญญาเสร็จสิ้นแล้วแต่ระยะเวลาของปินกับฝุ่นยังไม่จบสิ้น มันยังคงดำเนินไปอีกได้ราวเดือนกว่า

“ผมซื้อคอนโดอีกที่ไว้แล้ว”

“อยู่กับฝุ่น?”

“ครับ แต่คนละห้อง”

“ห้องติดกันหรือเปล่า” ปินพยักหน้ารับ “แล้วถ้าไปมาหาสู่กันบ่อยๆ คนจะไม่เห็นหรือไง”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ ระบบความปลอดภัยที่นี่ดีมาก เป็นคอนโดของเพื่อนไอ้ทัต เขารับประกันเรื่องความเป็นส่วนตัว”

“...” ภาวิดาทอดมองปินนิ่งงัน ลองปินได้พูดแบบนี้แสดงว่าเจ้าตัวเตรียมการทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

“ผมรู้ว่าพี่หวานเป็นห่วง แต่ผมรู้ดีว่าตัวเองควรทำอะไรยังไง แล้วก็รับรองว่าจะไม่ทำให้ปิน ปารินทร์เสียชื่อเสียง”

“ปินเหมือนน้องของพี่ พี่เห็นปินมาตั้งแต่ตอนหัวเกรียน...ไม่ว่าจะทำอะไรพี่ไม่ว่าหรอกถ้ามันเป็นสิ่งที่ปินคิดดีแล้วว่าจะไม่มานั่งเสียใจในภายหลัง”

“ผมก็รักพี่หวานเหมือนพี่ และผมคิดดีแล้วในทุกอย่าง” ปารินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงและแววตาหนักแน่น ก่อนจะระบายยิ้มบางให้ผู้มีพระคุณอีกหนึ่งคนตรงหน้า

“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง ดูแลกันให้ดีๆ ล่ะ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่แค่ปินที่ถูกโจมตีแต่ฝุ่นก็จะโดนด้วย ความเป็นซูเปอร์สตาร์มันทำให้คนที่เรารักเดือดร้อนไปด้วยอย่างไม่อาจเลี่ยง”

“ผมจะระวังในทุกๆ อย่าง”

“ดะ...”

Rrrr

ภาวิดายังพูดไม่ทันจบเสียงโทรศัพท์ในมือปินก็ดังขึ้นขัดให้บทสนทนาต้องหยุดชะงัก

“สักครู่นะครับ ปาล์มโทรมา” ปินเอ่ยบอกจากนั้นจึงกดรับสายผู้เป็นน้องชาย “ว่าไงปาล์ม”

“พี่ปิน แม่ไม่สบาย เป็นไข้หวัดหนักแต่ไม่ยอมไปหาหมอ”

“ว่าไงนะ? แล้วทำไมเพิ่งโทรมาบอก” ปินถามกลับด้วยน้ำเสียงร้อนรน คิ้วเข้มขมวดเข้ากันแน่น

“แม่ไม่ยอมให้โทร บอกว่าเดี๋ยวพี่ปินเป็นห่วง นี่ปาล์มต้องแอบมาโทรเพราะแม่ตัวร้อนมาก”

ปารินทร์เหลือบสายตามองผู้จัดการส่วนแล้วก็ตัดสินใจในวินาทีนั้น

“พี่จะกลับชลเดี๋ยวนี้”

“แล้วงานพี่ล่ะ”

“ไม่เป็นไร ปาล์มคอยดูแลแม่ไว้นะ รอพี่ไปถึง”

“โอเค” คนเป็นน้องรับคำ เมื่อวางสายแล้วปินก็หันไปบอกคนที่สีหน้ามีคำถาม

“แม่ผมไม่สบายหนัก คราวนี้ถ้าผมจะแคนเซิลงานพี่หวานคงไม่ว่านะ” ภาวิตาเบิกตากว้างอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

เธอรู้ดีว่าปินรักแม่แค่ไหน และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นลูก

“พี่จะว่าได้ยังไงกันแม่ปินทั้งคน ว่าแต่แม่เป็นอะไร”

“ปาล์มบอกว่าไข้หวัดหนัก ไม่ยอมไปหาหมอ”

“งั้นพี่จะแคนเซิลให้สามวันนะ ถ้ามากกว่านี้คงไม่ได้จริงๆ”

“ขอบคุณมากครับ”

“แล้วนี่จะพาฝุ่นไปด้วยหรือเปล่า”

“ไปครับ” คนถูกถามตอบในทันใดไม่มีลังเล ด้านคนเป็นผู้จัดการจึงทำได้เพียงถอนหายใจแล้วเอ่ยกำชับเรื่องการระวังตัว
ปินโตพอที่จะรู้ว่าควรทำยังไง

“เฮ้อ งั้นเอารถพี่ไปแล้วกัน ขับรถตัวเองมันเด่นเกินไป อย่าลืมระวังตัวให้มากล่ะ ต้องมากๆ เลยนะปิน”

“ครับพี่หวาน”

--

เสียงเพลงที่เปิดคลออยู่ในรถไม่ได้ทำให้บรรยากาศดูสดใสเมื่อคนขับนิ่งเงียบกว่าปกติ อีกทั้งคิ้วเข้มยังขมวดมุ่น
ปินที่เผลอคิดเรื่องแม่หันไปมองคนข้างตัวเมื่อแก้มถูกสัมผัสด้วยมือบางแผ่วเบา

“แม่ไม่เป็นไรหรอก ปินอย่าเพิ่งคิดมากเลยนะ” ฝุ่นปลอบอีกคน ก่อนฝ่ามือใหญ่จะยกขึ้นมาจับมือเล็กแล้ววางลงบนตัก
ระหว่างนั้นปินก็เหลือบมองไฟแดงไปด้วย

“ผมแค่กำลังคิดวิธีจะทำให้แม่ยอมไปโรงบาล แม่ก็ดื้อเหมือนฝุ่นนั่นแหละ” เป็นครั้งแรกที่ปารินทร์ยิ้มออกมาหลังจากเดินทางมาร่วมชั่วโมง

“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย” คนไม่ดื้อเถียงกลับไม่เต็มเสียง

“ผมยังโอเค ฝุ่นไม่ต้องห่วงนะ”

นิ้วแกร่งค่อยๆ สอดประสานกับนิ้วเรียวพร้อมทั้งผ่อนความไม่สบายใจทางสีหน้าลงเพื่อไม่ให้ฝุ่นต้องเป็นห่วง

“อืม” คนฟังยิ้มรับเมื่อเห็นสีหน้าที่ดีขึ้น จากนั้นจึงดึงมือกลับเนื่องจากสัญญาณไฟจราจรเป็นสีเขียว

ฝุ่นหันกลับไปมองวิวนอกรถอีกครั้งพลันรอยยิ้มเมื่อครู่ก็ค่อยๆ เลือนหาย ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ความวูบโหวงในอกยิ่งมีมากขึ้น

ครอบครัวปินจะรับได้ไหม...

ไม่ทันไรสองข้างทางก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นบ้านคนที่ตั้งกันอยู่ห่างๆ รถเก๋งคันเล็กมุ่งไปตามถนนเส้นเล็กนั้นกระทั่งเลี้ยวเข้าไปจอดในบ้านไม้หลังหนึ่งซึ่งมีขนาดและพื้นที่อันกว้างขวาง

“ถึงแล้วครับ”

ปินดับเครื่องยนต์แล้วหันมาบอกให้คนที่แอบเป็นกังวลพยักหน้ารับ ฝุ่นลอบสูดลมหายใจเข้าลึก มือไม้เย็นเฉียบจนต้องจับกันเอาไว้หลังจากที่ก้าวลงจากรถ

ไม่นานนักก็มีเด็กหนุ่มร่างสูงเพรียววิ่งลงจากบ้านมาหา

“สวัสดีครับ” คนที่ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นน้องชายปินยกมือไหว้ให้ฝุ่นต้องรีบรับไหว้

“แม่เป็นยังไงบ้าง”

“นอนอยู่น่ะ ไข้ก็ลดลงบ้างแล้วแต่ก็ยังถือว่าสูงอยู่”

“แม่ไม่รู้ใช่ไหมว่าพี่จะมา”

“ยังไม่รู้ แต่ถ้าได้ยินเสียงรถก็อาจจะรู้แล้ว”

“เข้าบ้านกัน” ปินบอกคนเป็นน้องจากนั้นจึงหันมาคว้ามือฝุ่นให้เดินเข้าไปในบ้าน ทว่าเจ้าของมือกลับรีบดึงออกจนคิ้วเข้มขมวดมุ่น ดวงตาเรียวรีมองหน้าอีกคนอย่างมีคำถาม ขณะที่ฝุ่นรีบหันไปมองหน้าน้องชายปินที่เดินนำอยู่ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มองมาก็รู้สึกโล่งใจ

“เป็นอะไร” คนถูกถามส่ายหน้าน้อยๆ ยามที่ปินก็เก็บความสงสัยนั้นเอาไว้คุยกันสองคน

บ้านหลังนี้เป็นไม้สักทั้งหลังบรรยากาศจึงดูผ่อนคลายกว่าบ้านทั่วไป ลมพัดเอื่อยๆ จากส่วนของห้องนั่งเล่นซึ่งมีหน้าต่างอยู่โดยรอบหอบกลิ่นไม้ให้ลอยอบอวลผสมกับกลิ่นหอมอ่อนของดอกไม้ที่ห้อยประดับอยู่

ฝุ่นยิ้มรับกับความน่าอยู่นี้พร้อมทั้งกวาดสายตาสำรวจรอบๆ อย่างตื่นเต้น

อยู่กรุงเทพนอกจากห้องกับห้างแล้วก็ไม่ค่อยได้ไปที่ไหน พอได้มาเห็นอะไรแบบนี้จึงอดให้ความสนใจไม่ได้

“ปิน เดี๋ยวรอข้างนอกดีกว่า” ฝุ่นเอ่ยบอกเมื่อดูท่าแล้วว่าจะต้องเดินลึกเข้าไปทางห้องนอน

“เข้าไปด้วยกันนี่แหละ”

“แต่ว่า...” คำค้านถูกปฏิเสธด้วยการถูกปินเอื้อมมือมาจับแล้วรั้งให้ก้าวตาม แรงจับที่แน่นแบบไม่สามารถสะบัดออกได้ทำให้ฝุ่นไม่กล้าขัดขืน กระทั่งถูกพาเดินไปถึงหน้าห้องห้องหนึ่ง

ครืด

ประตูไม้แบบเลื่อนถูกเปิดออก ก่อน ณ มุมหนึ่งซึ่งเป็นที่นอนแบบฟูกจะได้เห็นผู้หญิงร่างอวบนอนอยู่ พอเดินเข้าไปใกล้ปินก็เป็นคลายมือออกให้ฝุ่นรู้สึกโล่งใจ

“ปะ ปิน” เสียงแหบแห้งดังขึ้นเมื่อคนป่วยลืมตามาเห็นคนเป็นลูก “แค่กๆ แม่บอกแล้วไงว่าอย่า โทร บอกพี่”

“แม่ไม่ต้องไปว่าปาล์ม ไม่สบายทำไมถึงไม่บอกปิน” ร่างสูงทรุดตัวนั่งลงบนพื้นพร้อมทั้งคว้ามือผู้ให้กำเนิดมาจับเอาไว้ ด้านฝุ่นก็ค่อยๆ นั่งลงทางด้านหลัง เว้นระยะห่างจากทุกคนไปพอสมควร

“นิด แค่กๆ เดียวเอง”

“แบบนี้ไม่นิดแล้ว” อุณหภูมิที่สัมผัสได้จากแขนนิ่มบ่งบอกว่าคนเป็นแม่ไข้ขึ้นสูง “ไปหาหมอนะ เดี๋ยวปินพาไป”

“ฮื่อ แม่ไม่เป็นไร” คนป่วยปฏิเสธทันใด

“งั้นคราวหน้าถ้าปินไม่สบายปินก็ไม่ไปหาหมอเหมือนกันนะ”

“...” คนเป็นแม่นิ่งเงียบอย่างพูดไม่ออก

“ไม่ดูแลตัวเองดีๆ ตามที่แม่บอกด้วยนะ”

คนที่จับจ้องเหตุการณ์อยู่ทางด้านหลังอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นวิธีการเกลี้ยกล่อมแม่ไปโรงพยาบาลของปิน

ปินกำลังจะบอกแม่สินะว่าตัวเองเป็นห่วงแม่แค่ไหน

“แค่กๆ ปินจะ ดะ ดื้อกับแม่เหรอ”

“ก็แม่ดื้อกับปิน”

“...”

“นะ ถือว่าปินขอ ปินกับปาล์มเป็นห่วงแม่มากรู้ใช่ไหม เรามีแม่แค่คนเดียวแล้วนะ” มือเหี่ยวย่นถูกยกขึ้นมาแนบกับแก้มสาก เสียงทุ้มนุ่มเต็มไปด้วยความเว้าวอน ความอ่อนโยนและอบอุ่นที่ฝุ่นได้เห็นจากปินในเวลานี้มันมากกว่าครั้งไหนที่ได้เห็นมา

คงเพราะไม่มีใครสำคัญไปกว่าแม่ผู้ให้กำเนิดแล้วจริงๆ

“พูด แค่ก แบบนี้แม่ก็ต้อง ยะ ยอมไปสิ” ลูกชายทั้งสองยิ้มรับกับคำที่ได้ยินอย่างโล่งใจ

“งั้นปินพาไปขึ้นรถนะ” ท่อนแขนแกร่งขยับเข้าไปรองใต้แผ่นหลังของแม่ก่อนจะค่อยๆ ประคองให้คนบนเตียงลุกขึ้นนั่ง “ปาล์มไปเอาพวกบัตรอะไรแม่มาไป”

“โอเค” คนเป็นน้องรับคำพลางลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้องไป

“แค่ก แล้วนั่น...” ฝุ่นเผลอกลั้นลมหายใจเมื่อแม่ของปินหันมามองแล้วเอ่ยถามขึ้น

“ฝุ่นครับ”

“สวัสดีครับ” คนที่ถูกปินแนะนำรีบยกมือขึ้นไหว้

“สะ สวัส ดีจ้ะ...เสียดาย แค่ก ที่แม่ไม่ สะ ดวกคุยด้วย”

ฝุ่นระบายยิ้มแก้อาการทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรตอบอะไรกลับไป แล้วก็ได้ปาล์มมาช่วยชีวิตเมื่อร่างสูงเพรียวกลับเข้ามาพร้อมกระเป๋าใบเล็ก

จากนั้นปินจึงประคองแม่ไปขึ้นรถโดยให้น้องชายนั่งกับแม่อยู่ตรงเบาะหลัง

“เดี๋ยวฝุ่นดูบ้านให้”

ปารินทร์ที่กำลังลังเลว่าจะพาฝุ่นไปด้วยดีไหมพยักหน้ารับเมื่อคิดว่าสิ่งที่มันเป็นทางออกที่ดีเหมือนกัน ก่อนร่างเล็กจะเปิดกระเป๋าเป้ที่ถืออยู่แล้วหยิบแมสก์กับหมวกมาส่งให้

“ใส่ไว้หน่อยนะ ไปถึงโรงพยาบาลคนจะได้ไม่แตกตื่น” คนที่เป็นห่วงแม่จนลืมเลือนเรื่องนี้ไปยกยิ้มขณะรับของมา

“เดี๋ยวผมโทรหานะ”

“อืม” ฝุ่นรับคำแล้วก็เดินไปเอากระเป๋าเดินทางตรงท้ายรถ เสร็จเรียบร้อยรถคันเล็กก็เคลื่อนตัวออกจากบ้านไป ตามด้วยประตูที่ค่อยๆ เลื่อนปิดลง

พออยู่คนเดียวฝุ่นก็ถือวิสาสะสำรวจบ้านโดยรอบ ความจริงบ้านหลังนี้มีสองชั้น ชั้นล่างเหมือนจะเป็นห้องครัวครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งก็เปิดโล่งแล้วมีที่นั่งสำหรับทานข้าวหรือไม่ก็นั่งเล่นเพราะมีเปลแขนอยู่อีกมุม ถัดกันไปก็เป็นสวนดอกไม้เล็กๆ
แม่ของปินน่าจะชอบดอกไม้ ฝุ่นสรุปเอาจากที่เห็นทั้งของจริงและในรูปวาดรอบบ้าน

เมื่อลองเปิดประตูเข้าไปสำรวจห้องครัวแล้วเห็นจานชามยังไม่ได้ล้าง อีกทั้งบางจุดยังเลอะเทอะก็อดไม่ได้ที่จะลงมือจัดการ


ดึกจนท้องฟ้าถูกย้อมเป็นสีมืด ดวงดาวเปล่งประกายพรั่งพราวคล้ายกับตอนไปกาญจนบุรี เสียงรถแว่วๆ จึงค่อยดังขึ้นให้ฝุ่นที่นั่งอยู่ห้องนั่งเล่นมาหลายชั่วโมงขยับตัว

“แม่เป็นยังไงบ้าง” ร่างเล็กถามขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงเดินขึ้นบ้านมา

“หมอให้แอดมิทดูอาการสามสี่วัน บอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี”

“ถึงมือหมอแล้วเดี๋ยวแม่ก็ดีขึ้น” คนถูกปลอบระบายยิ้มพร้อมทั้งรั้งร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด ใบหน้าแกร่งซุกอยู่กับไหล่เล็กคล้ายกับเป็นที่พักพิง

“ขอโทษที่ปล่อยให้ฝุ่นอยู่คนเดียว”

“ขอโทษทำไมกัน ไปเดี๋ยวก็วุ่นวายเปล่าๆ ปินดูแลแม่น่ะแหละดีแล้ว”

“ทานข้าวแล้วใช่ไหม”

“อื้ม ปินล่ะทานหรือยัง” เพราะเจ้าหมาตัวโตตรงหน้านี้โทรมาย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทำอะไรทานฝุ่นจึงใช้ครัวทำกับข้าวง่ายๆ อย่างไข่เจียวทานเป็นมื้อเย็น

“ยังเลย” คนถูกถามส่ายหน้าตอบให้คนถามขมวดคิ้ว

“โทรมาย้ำกันแต่ตัวเองกลับไม่ทานนี่นะ”

“ผมมัวแต่ดูแลแม่” ปารินทร์ผละไปหน้าออกจากไหล่ของอีกคนทว่าท่อนแขนกลับยังโอบรอบเอวบางเอาไว้ไม่คลาย

“ยังไงก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย...เดี๋ยวลงไปทำอะไรให้ทาน มีข้าวที่หุงไว้อยู่แล้ว”

จุ๊บ

“ครับ” ริมฝีปากได้รูปกดจูบลงบนปากบางเบาๆ ก่อนจะรับคำพร้อมรอยยิ้ม

ด้านฝุ่นก็ได้แต่โคลงหัวจากนั้นจึงรีบลงไปข้างล่างเพื่อทำอาหารโดยมีหมาตัวโตคอยป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่าง


TBC.

อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้มาเพราะงานเยอะ
พรุ่งนี้ชดเชยอีกตอนนะคะ
ใครไม่เมนต์จะงอนจริงๆด้วย/ล้อง


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-01-2019 22:47:05
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-01-2019 23:32:19
ตอนนี้แอบลุ้นคู่ของบลูมาก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 09-01-2019 23:37:41
น่าร้ากกกกกกกก อบอุ่นจัง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 10-01-2019 01:20:24
แม่จะว่าอะไรมั้ย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-01-2019 01:23:43
ตอนต่อไปคงจะออกช่วงสิ้นเดือน เตรียมต้มน้ำร้อนรอไว้ก่อนแล้วกัน  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 10-01-2019 01:40:24
งุ้ยย อยากให้ฝุ่นอยู่กับแม่ปินอ่ะะ
ปล.คุณกัญจน์นี่ดุจังเลยน้าาา :hao7:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 10-01-2019 05:03:34
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 10-01-2019 06:19:05
เอาใจช่วยทั้งสองคู่  :L1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 10-01-2019 06:43:57
สัญญาใกล้หมดแล้ว และดีใจที่ปินเลือกทางเดินไว้แล้ว
เชื่อว่าปินทำได้ค่ะ แต่ตอนนี้ต้องบอกที่บ้านก่อนนะ

เอ็นดูฝุ่นจังเลย ตอนนี้อะไรก็ยังไม่เปิดเผย จะอยู่จะวางตัวยังไง
ก็แอบลำบากใจนิดหน่อยเนาะ เอาใจช่วยนะเจ้าแก้มกลม

สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 10-01-2019 08:15:23
อบอุ่นแต่ก็ยังอึดอัด เป็นคนดังนี่ลำบากจริงๆ
เอาใจช่วยคุณกัญจ์
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 10-01-2019 10:19:52
ค่อยๆ​แก้ปัญหากันไป​  มันไม่มีอะไรง่ายดังใจคิด
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 10-01-2019 19:42:27
เอ้า!! เตรียมการซะพร้อมเชียวนะพ่อคนเจ้าเล่ห์
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twelve.] : 09/01/2562 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Chobreadyaoi ที่ 10-01-2019 21:23:46
คู่บลูก็น่ารัก ฝุ่นก็น่ารัก ขอเหมาสองคนนี้บ้างง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 12-01-2019 22:53:05
Chapter Thirteen.

ตอนเช้าปินก็ไปโรงพยาบาลตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ทั้งเอาของใช้ไปให้น้องชายที่ต้องไปโรงเรียนและรีบไปดูแลแม่ แต่ถึงอย่างนั้นฝุ่นก็ยังตื่นเช้ากว่าเพื่อทำอาหารใส่กล่องให้ปินไปทาน

ช่วงกลางวันฝุ่นก็ดูนั่นดูนี่ไปตามประสา ทว่าพอเลื่อนๆ โทรศัพท์อยู่กระทู้ข่าวของปินก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็น

‘รูปหลุดปิน ปารินทร์ระหว่างถ่ายแบบที่ประเทศจีน มีการเช็ดหน้าเช็ดตาให้นางแบบอย่างดูสนิทชิดเชื้อกันเกินกว่าเพื่อนร่วมงาน’

นิ้วเรียวไม่ลังเลยสักนิดที่จะกดเข้าไปดูภาพและเนื้อหาให้ชัดเจนขึ้น โดยในรูปนั้นมีอยู่สามรูป เป็นท่าทางที่ปินกำลังใช้ปลายนิ้วเช็ดบางอย่างออกจากแก้มนางแบบ ทว่าคนทั้งสองก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันจนน่าหวั่นใจ

‘ทั้งสองจะมีซัมติงกันจริงหรือเปล่าเราคงได้แต่เดากันเองอย่างที่ผ่านๆ มา เพราะหนุ่มปินพูดชัดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องส่วนตัวค่าาาา’

ดวงตาโตไล่อ่านเนื้อหาข่าวทางด้านล่างที่มีเพียงเท่านั้นก่อนฝุ่นจะลองเสิร์ชข่าวนี้ในกูเกิ้ลแล้วก็พบว่ามันไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

นั่นสิ มันจะมีอะไรมากกว่านั้นได้ยังไงในเมื่อปินไม่เคยตอบเรื่องส่วนตัว เนื่องจากเจ้าตัวมีจุดยืนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะอยู่ตรงนี้ด้วยผลงาน

ในใจมันรู้สึกวูบโหวงเล็กๆ กับข่าวที่เห็น แต่ไม่ถึงกับโกรธอีกคนในทันใดแม้ตอนนี้ความสัมพันธ์จะอยู่ในจุดที่สามารถรู้สึกอย่างนั้นได้

เรื่องราวที่ผ่านมาสอนว่าเราควรคุยกันก่อนที่จะตีโพยตีพายไปเอง

ฝุ่นไม่ได้โทรไปถามใดๆ เพราะรู้ว่าอีกคนคงกำลังดูแลแม่ คิดว่าจะรอจนกระทั่งปินกลับมาค่อยพูดคุยกัน



“เมื่อเช้าปาล์มแย่งข้าวผมกินด้วย กินจนเกือบหมดเลย” ร่างสูงบ่นทันทีที่กลับมาถึงบ้านในช่วงเวลาเกือบเที่ยงคืน ใบหน้าหล่อเหลาแสดงออกถึงการฟ้องเล็กๆ จนฝุ่นยิ้มอ่อนใจ

“แบ่งให้น้องหน่อยจะเป็นไร”

“เป็นสิ ฝุ่นตั้งใจทำให้ผมนี่” ฝ่ามือใหญ่คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวลวกๆ จากนั้นก็เดินมาหาคนที่นั่งอยู่บนเตียง “พรุ่งนี้ไปเยี่ยมแม่กันนะ”

คนฟังเม้มริมฝีปากเข้าหากันเมื่อได้ยินประโยคนั้น ในอกเกิดความยินดีและเป็นกังวลขึ้นพร้อมกัน และคนที่จับจ้องอยู่ก็รับรู้ได้ในทันใด

“ถ้ากังวลว่าแม่จะคิดยังไงก็หยุดเลย”

“...” ฝุ่นช้อนสายตาขึ้นมองคนที่โน้มตัวลงมาหาขณะฝ่ามือหนาก็ลูบแก้มนิ่มไปมาแผ่วเบา

“แม่เอ็นดูฝุ่น”

“แล้วเรื่องความสัมพันธ์ของเรา...”

“ไม่ต้องคิด ไว้ฝุ่นเจอแม่แล้วจะรู้เอง”

ปลายนิ้วแกร่งเลื่อนมาเกลี่ยริมฝีปากบางที่เผลอเม้มเข้าหากันอย่างไม่มั่นใจ ก่อนปินจะบอกให้อีกคนคลายปากออกด้วยการก้มลงไปจูบ ปลายลิ้นร้อนไล้เลียกลีบปากคู่นั้นจนมันเผยอออก เปิดทางให้คนที่ตั้งใจทำเพียงนิดเลยเถิดไปอีกขั้น

ริมฝีปากสองคู่บดเบียดเข้าหาขณะลิ้นเกี่ยวพันดูดดึง ร่างบางค่อยๆ เอนกายลงตามแรงดันลงมาที่เป็นไปอย่างธรรมชาติ รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังบางก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มของเตียง แต่ถึงอย่างนั้นฝุ่นก็ไม่ได้คิดจะเอ่ยท้วงหรือห้ามปราม

อาจเพราะเรื่องข่าวนั้นยังคงติดค้างอยู่ในหัวจึงต้องการความเชื่อมั่นจากอีกคน...

“เดี๋ยวผมไปหยิบของก่อน”

“ไม่ต้องหรอก”

คนที่กำลังจะผละออกถูกรั้งเอาไว้ด้วยมือเล็กและคำพูดนั้นให้ปินเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ หากแต่ก็ไม่มีเวลาคิดมากกว่านั้นเมื่อฝุ่นเป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาจูบ สองแขนเรียวคล้องลำคอแกร่งโน้มลงไปหา ตามมาด้วยปลายเท้าเรียวที่ขยับรั้งให้ปมผ้าเช็ดตัวคลายออกจากกัน

ร่างสูงที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าถูกดันให้นอนหงายโดยมีร่างเล็กขยับขึ้นมานั่งทับ แล้วฝุ่นก็ถอดเสื้อนอนออกไปทางหัว ก่อนจะหยัดกายขึ้นเพื่อรั้งกางเกงลงแล้วดึงขาซ้ายออกเหลือให้กางเกงทั้งชั้นนอกชั้นในกองอยู่ที่ขาด้านขวา

การกระทำนั้นทำให้ปินที่ทอดมองอยู่ร้อนผ่าวไปทั้งตัว ราวกับเห็นแมวน้อยกลายร่างเป็นแมวป่า ยิ่งยามฝุ่นก้มลงมาซุกไซ้ซอกคอความต้องการยิ่งเพิ่มขึ้น

ใช่ว่าฝุ่นไม่เคยรุกแต่ครั้งนี้ดูเหมือนมีบางอย่างแปลกไป

“อืม” เสียงครางต่ำดังขึ้นเมื่อปลายลิ้นซุกซนไล้วนอยู่ตรงเม็ดสีเข้ม อีกข้างก็ถูกลูบไล้อย่างที่ปินเคยทำให้คนด้านบน
แผ่นอกกว้างสะท้อนขึ้นลงตามลมหายใจหอบหนักเนื่องจากฝุ่นไม่เพียงแค่เลียแต่ยังดูดดึงราวกับจะเอาคืนที่เคยโดนกระทำ

“ฝะ ฝุ่น” กลายเป็นหมาป่าที่ต้องเอ่ยเรียกแมวตัวน้อยเสียงสั่นยามปลายลิ้นเล็กลากไล้ตั้งแต่แผ่นอกลงไปถึงแผ่นท้อง ทักทายแอ่งเล็กอยู่หลายนาทีก่อนจะขยับต่ำลงไป...

“อืมมมม” คนที่ถูกความอ่อนนุ่มชื้นแฉะเข้าครอบครองกลางกายเปล่งเสียงยาวอยู่ในลำคอ พลันฝ่ามือใหญ่ก็วางลงบนหัวเล็กทางด้านหลังเพื่อควบคุมจังหวะ หากแต่มันดูไม่มีประโยชน์อะไรเมื่อฝุ่นขยับปากเร็วกว่าที่คิด

ร่างหนาเกร็งจนหน้าท้องขึ้นเป็นลอน ดั่งเป็นนักโทษที่กำลังถูกทรมานให้ตายเพราะความสุขสม

ความเร็วที่อีกคนมอบหันมันทำให้คนได้รับแทบหายใจไม่ทัน แม้แต่ยามปลายทางมาถึงปินก็ยังไม่ทันได้บอก

“อะ อืม” ความต้องการถูกรีดเคล้นออกมาจนหมดสิ้นก่อนมันจะถูกใช้ประโยชน์ต่อด้วยการนำไปป้ายลงช่องทางแคบ ร่างเล็กหยัดขึ้นขณะสองขายังคร่อมหน้าขาแกร่งอยู่ จากนั้นนิ้วเรียวก็ค่อยๆ สอดเข้าไปในร่างกายตัวเองเพื่อเบิกทาง

อึก

คนที่ยังคงนอนหอบหายใจกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ให้กับภาพที่เห็น

คิ้วคู่สวยขมวดมุ่น ใบหน้าเหยเก ปากเผยอปล่อยลมหายใจแห่งความอึดอัด โดยที่นิ้วขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้า

ปินเผลอทอดมองการกระทำนั้นโดยไม่วางตา หลงลืมแม้กระทั่งจะเอ่ยปากช่วย

รู้ตัวอีกทีคนด้านบนก็กดกายลงมากลืนกินส่วนร้อนผ่าวนั่นเสียแล้ว

“ฝุ่นครับ”

การเรียกนั้นไม่ต้องการคำตอบและไม่มีสิ่งใดจะพูดต่อ ขณะที่คนถูกเรียกก็ได้แต่กัดริมฝีปากแล้วโยกกายขึ้นลงเท่าที่สามารถ

ใบหน้าแกร่งแหงนเงยไปด้านหลังยามเลื่อนมือทั้งสองข้างไปจับมือเล็กที่วางค้ำอยู่ตรงแผ่นท้อง นิ้วใหญ่สอดประสาน จากนั้นจึงยกเป็นหลักให้ฝุ่นจับเอาไว้

“อ๊ะ อื้อ” เมื่อเป็นคนควบคุมอยากให้เป็นอย่างไรฝุ่นก็ทำตามใจต้องการ

ตรงไหนที่ขยับแล้วคนใต้ร่างส่งเสียงสะโพกบางก็ยิ่งกดเข้าหา แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นแค่การตอบสนองอีกคนแต่คือการตอบสนองตัวเองด้วยเช่นกัน

“อึก อา อ๊ะ” ริมฝีปากบางไม่อาจหยุดยั้งการเปล่งเสียงครวญครางที่ดังพอๆ กับการเสียดสี พอไม่มีสิ่งที่เคยขวางกั้นกันไว้ก็ยิ่งรู้สึกได้มาก

รับรู้ทุกการเคลื่อนผ่าน รับรู้ทุกความลึกซึ้ง...

“อือ ฮะ อ๊า” มวลความอึดอัดตรงท้องน้อยดั่งพายุที่โหมกระหน่ำขึ้นเรื่อยๆ จนจังหวะการขยับนั้นต้องรุนแรงตาม

ฝุ่นไม่รู้ตัวว่าร่างกายเป็นไปอย่างไรในช่วงเวลาสุดท้าย รู้เพียงยิ่งได้ยินปินเร่งเร้ายิ่งตอบสนอง ยิ่งบางอย่างในกายอยากถูกปลดปล่อยออกมายิ่งสวนกายกลับ จวบจนความต้องการสุดท้ายมาถึงทุกอย่างก็นิ่งค้าง เว้นแต่สะโพกทั้งสองและบางส่วนที่กระตุกเยือก

กายบางทิ้งตัวลงนอนซบกับคนใต้ร่างอย่างอ่อนแรงพร้อมกับที่ปินก็วาดมือโอบรอบตัวฝุ่นเอาไว้

“ทำไมวันนี้แมวฝุ่นร้อนแรงจังครับ”

ประโยคนั้นติดขัดเล็กน้อยเนื่องจากลมหายใจยังไม่กลับมาเป็นสม่ำเสมอดั่งปกติ

“ละ แล้วชอบหรือเปล่า”

ฟอด

ปินผงกหัวไปจูบแก้มชื้นเหงื่อแล้วเอ่ยตอบ

“แน่นอนว่าต้องชอบ”

“ชอบมากกว่านางแบบนั่นไหม” คราวนี้คนฟังชะงักไป จากนั้นใบหน้าเล็กจึงเงยขึ้นเพื่อสบสายตา “เรื่องข่าวนั่น...”

“นึกว่าฝุ่นจะไม่ถามซะแล้ว” ฝ่ามือหนาลูบไล้บั้นท้ายเนียนทางด้านหลังไปมายามที่ปินก็ยกยิ้มมุมปาก

“หมายความว่ายังไง”

“ฝุ่นสามารถถามผมได้ทุกเรื่องและตลอดเวลาเลยรู้ไหม”

“...” คนที่ไม่ค่อยมีความกล้าได้แต่นิ่งเงียบ

“สงสัยหรือว่าอยากรู้ก็แค่พูดมันออกมา”

“ทำไมถึงจับแก้มเขา”

แม้จะพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาไปสักหน่อยแต่ปินก็ปล่อยผ่านเพราะถือว่าให้อีกคนได้ค่อยๆ ปรับตัว

“ตอนนั้นมันอยู่ในระหว่างการถ่ายแบบ ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ดีแต่ขนนกซึ่งเป็นอุปกรณ์ตกแต่งในฉากก็ปลิวไปติดอยู่ที่แก้มเขา ผมไม่อยากเสียเวลาเลยขออนุญาตแล้วหยิบออกให้ มันเป็นเหตุการณ์แค่เสี้ยววินาทีที่ผมยังลืมไปแล้วก็ไม่คิดว่าจะมีภาพหลุด”

“แต่ก็...หวง” เมื่อได้รับอนุญาตให้พูดได้ทุกเรื่องความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็ถูกเอ่ยออกไปเสียงแผ่ว ดวงตากลมหลบวูบลงมองเพียงลำคอคนใต้ร่าง

คนได้ยินหลุดยิ้มด้วยหัวใจที่พองโต สองแขนเลื่อนขึ้นมารัดร่างเล็กเอาไว้แน่น

แมวฝุ่นน่ารักเกินไปแล้ว

“หวงที่ผมจับแก้มเขาเหรอหืม”

คนถูกไล่ต้อนขยับกายเล็กน้อยเพื่อลดความเขินอาย ทว่าบางส่วนยังคงเชื่อมกันอยู่มันจึงส่งผลให้เกิดความรู้สึกวูบวาบขึ้นทั้งสองคน

“อื้อ”

“ขอโทษที่เผลอทำแบบนั้นครับ จะไม่จับแก้มคนอื่นอีกแล้ว”

“นอกจากจับแก้มก็ไม่ได้” ฝุ่นช้อนสายตาขึ้นมองอีกคนช้าๆ พาให้คนมองใจอ่อนยวบทั้งที่ไม่มีความออดอ้อนเจืออยู่ในทั้งแววตาและน้ำเสียง

เรียกว่าปินแพ้ให้คนตรงหน้าทุกทาง

“ครับ จะไม่อยู่ใกล้ ไม่แตะต้องเลยถ้าไม่จำเป็น โอเคไหม” คราวนี้ฝุ่นยอมพยักหน้ารับก่อนจะได้รับการฟัดแก้มรัวๆ

“อื้อ” ใบหน้าเล็กว่ายหนีเป็นพัลวัน แล้ววินาทีต่อมาเสียงร้องในลำคอก็ต้องเปลี่ยนเป็นเสียงครางเมื่อสะโพกสอบเริ่มขยับอีกครั้ง

“ให้รางวัลคนน่ารัก”

“อะ ไม่ได้อยาก ดะ ได้สักหน่อย อื้อ”

ถึงฝุ่นจะพูดอย่างนั้นแต่คนอยากให้ก็ยัดเยียดให้จนได้

--

“แม่ครับ ฝุ่นทำข้าวต้มปลากะพงมาให้ด้วยนะ”

ร่างสูงขยับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงพลางเอ่ยบอกแม่ด้วยรอยยิ้ม โดยที่ฝุ่นยืนอยู่ด้านหลัง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันด้วยความสั่นไหว

“ตื่นมาทำตั้งแต่กี่โมงล่ะหืม” ประภาเอ่ยถามคนร่างเล็กด้วยสีหน้าอ่อนโยนแม้เสียงจะแหบแห้งและฟังดูอู้อี้เพราะมีหน้ากากอนามัยขวางกั้น

“ก็ดื้อเหมือนแม่นั่นแหละ ผมบอกว่าไม่ต้องก็ยังแอบลุกมาทำ” สายตาคนเป็นแม่เลื่อนกลับไปยังลูกตัวก่อนจะเอ่ยพูด

“ว่าแต่คนอื่นตัวเองต่างหากดื้อที่สุด”

“ปินน่ะเป็นคนดีที่สุดแล้ว”

“งั้นข้าวผัดทะเลนี่ปาล์มขอนะ”

“ไม่ให้ ไปหากินที่โรงเรียนเอาเองเลย” ปารินทร์หันขวับไปตอบน้องชายโดยมีสีหน้าจริงจังจนฝุ่นอดยิ้มออกมาไม่ได้

ครอบครัว...ฝุ่นสัมผัสและรู้สึกถึงสิ่งนี้ได้จากคนทั้งสาม

ดีจังเลย

“ไหนบอกเป็นคนดี” คนเป็นน้องเถียงกลับอีกทั้งสายตายังจับจ้องกล้องข้าวผัดฝีมือฝุ่นอย่างไม่วางตา

“นี่มันคนละส่วนกัน”

“เรานี่ แค่ก แบ่งน้องหน่อยไม่ได้หรือ” ประภาเป็นคนเอ่ยห้ามทัพสองพี่น้อง ก่อนคนข้างเตียงจะหันหน้ากลับมาพูดด้วยความกระเง้ากระงอด ด้านคนน้องก็พูดสำทับว่าเห็นด้วย

“แต่อันนี้ฝุ่นทำให้ปิน”

นี่น่ะหรือซูเปอร์สตาร์...

คนเป็นแม่เห็นเพียงแต่เด็กน้อยที่ไม่เคยโตขึ้นเลยสำหรับเธอ

“ไม่ได้เจาะจงว่าต้องให้ปินคนเดียวสักหน่อย” ฝุ่นเอ่ยเสียงเบาผสมโรงให้คนไม่มีใครเข้าข้างยิ่งหน้าบูดบึ้ง

“โอเค ใครๆ ก็ไม่รักผม”

ปินยกแขนขึ้นมากอดอก แผ่นหลังกว้างทิ้งลงพิงกับพนักเก้าอี้ เมินสายตาหนีจากทั้งฝุ่นและแม่ราวกับเด็กน้อยแสนงอน

ชั่ววินาทีที่ฝุ่นบังเอิญหันไปสบตากับแม่รอยยิ้มก็หลุดออกมาพร้อมกัน

“เดี๋ยววันหลังทำให้กินใหม่ก็ได้ กล่องนี้ก็ให้น้องทานไปเถอะ”

มือบางวางลงบนไหล่แกร่งแล้วขยับไล้ปลายนิ้วไปมาเป็นการปลอบคนงอน

“...”

“ใช่ๆ พี่ปินอยู่กับพี่ฝุ่นตลอดจะกินเมื่อไหร่ก็ได้อะ”

“ก็ได้” สายตาคมดึงกลับมามองฝุ่นก่อนท่าทีแสร้งทำเมื่อครู่จะมลายหายกลับไปเป็นปกติ “ผมจะกินเมื่อไหร่ก็ได้”

ประโยคนั้นถูกเน้นหนัก อีกทั้งสายตาคนพูดยังวาววับจนฝุ่นรับรู้ได้ถึงความหมายของคำว่ากินในอีกแบบ คล้ายกับจะเห็นหางหมาป่าโผล่มาวับๆ แวมๆ

“เย้ งั้นปาล์มเอาข้าวกล่องนี้ไปโรงเรียนเลยแล้วกัน...ไปละ สวัสดีครับ”

เด็กหนุ่มวัยสิบแปดเก็บกล่องข้าวเข้ากระเป๋าก่อนจะหันมาไหว้ทุกคนแล้วเดินออกจากห้องไปโดยมีเสียงปินบ่นไล่หลัง

ก๊อก ก๊อก

ประตูปิดลงได้ไม่ทันไรเสียงเคาะก็ดังขึ้นให้ฝุ่นรีบขยับตัวถอยห่าง ทำเป็นเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างแนบเนียน และเมื่อกลับออกมาอีกครั้งก็เห็นปินกำลังเตรียมข้าวต้มให้แม่ทาน

“วานฝุ่นเทน้ำให้หน่อยครับ” ร่างเล็กพยักหน้ารับจากนั้นจึงรีบจัดการให้อย่างเต็มใจ

ยามปินป้อนข้าวต้มเข้าปากแม่ไปคำแรก คนทำก็นั่งลุ้นจนตัวแทบเกร็ง

“อร่อย” คนแก่เลื่อนสายมามองพร้อมทั้งกล่าวคำชมให้ฝุ่นระบายยิ้มโล่งอก

“ฝุ่นทำอร่อยทุกอย่างเลย” ได้โอกาสปารินทร์จึงรีบอวดให้แม่ตัวเองฟัง

“ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย” ด้านคนถูกชมก็เอ่ยแย้งเสียงเบา ฟันซี่ขาวขบกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อย

“ไว้คราวหลัง...มาทำแม่กินหน่อยนะ” ดวงตาโตเลื่อนจากใบหน้าของปินไปยังคนบนเตียงที่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

ถึงประโยคนั้นจะถูกเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งแต่ฝุ่นก็คิดว่าตัวเองได้ยินไม่ผิด ด้วยเพราะความไม่คาดคิดจึงได้แต่นิ่งงัน ความยินดีระคนตื่นเต้นหมุนรวมอยู่ข้างใน

“ถ้ามีโอกาสผมจะพาฝุ่นมาอีก” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นยามมองหน้าฝุ่นพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะหันกลับไปป้อนข้าวต้มแม่ต่อ
ระหว่างนั้นใบหน้าเล็กก็ก้มลงมองเพียงมือบนตักที่ปลายนิ้วบีบกันไปมา

แม่ปิน...อยากให้มาอีกงั้นหรือ



“เสียดายที่ปินไม่ได้อยู่ถึงวันที่แม่ออกจากโรงพยาบาล”

มือเหี่ยวย่นข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือถูกกอบกุมไว้ไม่ห่างขณะปารินทร์ซึ่งต้องกลับในเย็นวันนี้เอ่ยพูดกับผู้ให้กำเนิดด้วยความเสียดาย

“ปินกลับไปทำงานเถอะ แม่มีปาล์มอยู่ทั้งคน”

“ปินจะซื้อบ้านที่กรุงเทพให้แม่ไปอยู่ด้วย”

“ฮื่อ เปลืองเงินเปลืองทอง ไว้ปินว่างก็ค่อยกลับมาหาแม่เอาก็ได้”

“งั้นปีหน้ารับงานน้อยลงดีไหม จะได้กลับมาหาแม่บ่อยๆ”

“เรานี่ มีโอกาสก็ทำงานไปก่อน”

ปารินทร์ยิ้มรับกับท่าทางจริงจังนั้น ทว่าเมื่อพลิกข้อมือมาดูนาฬิการอยยิ้มก็เลือนหาย ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงซบกับฝ่ามือของแม่อย่างอาลัยอาวรณ์

“ไม่อยากกลับเลย”

จากโกลเด้นตัวโตกลายเป็นหมาตัวน้อยที่ออดอ้อนคลอเคลียผู้ให้กำเนิด ฝุ่นซึ่งไม่เคยได้เห็นมุมนี้จับจ้องภาพนั้นโดยไม่วางตา

ปินรักแม่มากจริงๆ

“แค่กๆ ดูเอาเถอะฝุ่นว่างอแงขนาดไหน” ฝุ่นได้แต่ระบายยิ้มเพราะไม่กล้าออกความคิดเห็น

“ไม่เห็นเหมือนตอนอยู่ในทีวีเลย ดูคูลซะไม่มี” ปาล์มที่นั่งเล่นเกมอยู่ในโทรศัพท์เอ่ยแซะพี่ชาย

“พูดมากเดี๋ยวตัดเงินค่าขนมนะ” เพียงเท่านั้นคนเป็นน้องก็เงียบเสียงลงแล้วสนใจเพียงเกมที่ตัวเองกำลังเล่น

“ไปๆ กลับกันได้แล้ว เดินทางดึกแม่เป็นห่วง”

ปินเงยหน้าขึ้นแล้วมองแม่อย่างไม่อยากห่าง ทว่าสุดท้ายคนเราก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

ร่างสูงตัดใจลุกขึ้นก่อนจะโน้มตัวลงไปกอดคนที่ตัวเองรักที่สุดเอาไว้

“แล้วปินจะกลับมาหาใหม่นะ” เสียงทุ้มกระซิบบอก

“จ้ะ เดินทางปลอดภัย” มือเหี่ยวตบลงบนแผ่นหลังกว้างเบาๆ จากนั้นคนเป็นลูกก็ผละออกห่าง

“ปินรักแม่นะ”

“แม่ก็รักปิน”

ปารินทร์ระบายยิ้มกับคำตอบกลับที่ได้ยิน แม้ไม่อยากจะกลับแต่สุดท้ายการบอกลาก็ต้องมาถึง

ฝ่ามือหนายกขึ้นประกบกันแล้วกราบลงบนเท้าของแม่เพื่อบอกลา

“ดูแลแม่ดีๆ ด้วย มีอะไรก็โทรบอก” คนร่างสูงหันไปบอกน้องชายที่เดินมาหยุดอยู่ทางด้านหลัง

“ไม่มีปัญหา...สวัสดีครับ” ปาล์มไหว้ลาทั้งพี่ชายและฝุ่นไปพร้อมกัน

“ฝุ่นขยับมาหาแม่หน่อยสิ”

คนถูกเรียกที่ยกมือขึ้นไหว้แม่ของปินชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยเหลือบมองอีกคนและเมื่อปินพยักหน้าให้จึงค่อยๆ ก้าวไปชิดกับเตียง

หมับ

“แม่ฝากปินด้วยนะ” ร่างเล็กถูกดึงเข้ากอดก่อนจะเอ่ยฝากฝังลูกชายตัวเองให้ฝุ่นช่วยดูแล

“...ครับ” คนที่ยังมึนงงสับสนอยู่เล็กๆ ได้แต่รับคำจากนั้นจึงผละออกแล้วถอยหลังกลับมายืนข้างปินอย่างเชื่องช้า เมื่ออีกคนเข้าไปกอดแม่ตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายเสร็จก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพอย่างแท้จริง

--

‘หลังจากที่รอคอยมาหลายวันเพราะปิน ปารินทร์แคนเซิลงานกะทันหันเนื่องจากคุณแม่ป่วย วันนี้นักร้องหนุ่มที่มีอีเวนต์ช่วงบ่ายก็ออกมาพูดถึงข่าวกับนางแบบชาวจีนเพียงสั้นๆ ว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น และเมื่อถูกถามว่าตอนนี้มีใครหรือไม่ เจ้าตัวก็บอกว่าขอพูดแค่เรื่องงานเหมือนเช่นทุกครั้ง นักข่าวทั้งหลายเลยได้แต่ถามถึงงานประกาศรางวัลในสัปดาห์หน้าว่าแอบลุ้นรางวัลศิลปินแห่งปีอยู่หรือไม่ คราวนี้ปินตอบแต่โดยดีว่าไม่ได้ลุ้นหรือคาดหวังใดๆ ตนเพียงแค่ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด หากได้ก็รู้สึกดีใจแต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เสียใจอะไรค่า’

คลิปการสัมภาษณ์จบลงภาพก็ตัดกลับมาที่พิธีกรสาวสองคน

“จริงๆ นักข่าวก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าหนุ่มปินคงไม่พูดอะไรมากตามนิสัยเขาแต่ก็ยังไปทำข่าวเพื่ออัพเดตเรื่องผลงานบ้างอะไรบ้าง”

“นี่ขนาดถามถึงเรื่องอาการคุณแม่ว่าเป็นอะไร ดีขึ้นแล้วหรือยัง เขาก็ตอบแค่ว่าดีขึ้นแล้ว...คือก็ต้องเข้าใจว่าปินเนี้ยเขาเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร คือเขาไม่ได้หยิ่งจะไม่ตอบ เขาตอบหมดนะถ้าเป็นเรื่องงาน แต่ถ้าเรื่องส่วนตัวคือแทบไม่พูดเลยเพราะเขาถือว่าเขาอยู่ตรงนี้ด้วยผลงานเท่านั้น แล้วเขาก็มีจุดยืนนี้มาตั้งแต่ต้น”

“แฟนคลับจะชอบเขาที่หน้าตาหรืออะไรก็เป็นเรื่องที่นอกเหนือจากนั้นเนาะ ยืนยันว่าหนุ่มคนนี้น่ารักจริงๆ ค่ะ แอมเคยทำงานกับเขา คือเข้าใจเลยว่านอกจากเสียงและความสามารถแล้วทำไมถึงได้มีคนรักคนชื่นชมเขามากมายขนาดนี้”

“ต้องบอกว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นตัวอย่างให้กับวัยรุ่นสมัยนี้เลยเนอะ”

“ใช่แล้วค่า”

ฝุ่นระบายยิ้มเมื่อได้ยินพิธีกรกล่าวชื่นชมปารินทร์ ในอกเกิดความรู้สึกภูมิใจราวกับเป็นคนถูกชมเสียเอง กระทั่งทั้งสองเปลี่ยนไปพูดถึงเรื่องดารานักร้องคนอื่นโทรทัศน์จึงถูกปิดลง

มือบางเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์แล้วกดเปิดหน้าแชทของอีกคนขึ้นมาเพื่ออ่านข้อความเก่าๆ แก้คิดถึง

คืนนี้ปินต้องไปต่างจังหวัดอีกแล้ว



พอไม่มีคนนอนเป็นเพื่อนทางโทรศัพท์ฝุ่นก็ไม่อาจข่มตาหลับได้สนิท เพลงของปินถูกเปิดวนตั้งแต่ยามค่ำคืนจนถึงเช้าอีกวันโดยที่ใจคนฟังก็เอาแต่เหม่อลอยไปหาเจ้าของเสียงทุ้มนุ่มอย่างคิดถึง

ฝุ่นไม่รู้ว่านั่งอยู่บนโซฟานานเท่าไหร่หากแต่รู้ว่านานเพราะแดดด้านนอกสว่างจ้า พลันท้องก็ส่งเสียงร้องบ่งบอกว่าทนความหิวไม่ไหวจึงได้ขยับตัวไปหาอะไรกิน

จะเที่ยงแล้ว...

ตึก ตึก ฟอด

“ทำอะไรอยู่ครับ” คนที่ยืนทำไข่เจียวหมู่สับง่ายๆ สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนมือบางจะรีบเอื้อมไปปิดเตาแล้วพลิกกลับไปหาคนด้านหลัง

“กลับมาแล้วเหรอ”

ร่างเล็กโถมเข้าหาคนตัวโต ด้านคนถูกกอดโดยไม่ทันตั้งตัวก็ชะงักค้าง หลายวินาทีปินค่อยกระชับแขนโอบกอดคนตรงหน้ากลับ

“ครับ ก็บอกฝุ่นไว้แล้วนี่ว่าจะกลับประมาณเที่ยง”

“นึกว่ารถติด ไม่เห็นไลน์มาบอกกัน” ปินยกยิ้ม ริมฝีปากได้รูปกดจูบลงบนหัวฝุ่นซ้ำๆ

“สรุปว่าทำอะไรอยู่ครับ มื้อเที่ยงเหรอ...แล้วนี่ทำไมฝุ่นยังไม่อาบน้ำ” พอถูกทักคนที่ยังไม่ได้อาบน้ำจึงเพิ่งนึกขึ้นได้

ฝุ่นรีบดันร่างสูงออกห่าง ยิ่งพอกลิ่นกายหอมสดชื่นของปินติดกายกลับมายิ่งอายกับสภาพตัวเอง

“ไปอาบน้ำก่อนนะ” แล้วปินก็ไม่ได้คำตอบว่าสรุปแล้วอีกคนทำอะไรเมื่อฝุ่นเดินเร็วๆ ออกจากห้องหัวไปทั้งอย่างนั้น

คนเพิ่งกลับห้องหลุดหัวเราะอย่างมึนงงก่อนจะขยับตัวไปดูอาหารบนกระทะ พอเห็นว่าเป็นอะไรก็ลงมือทำต่อให้เสร็จ



“ที่เปิดเพลงผมไว้แบบนี้เพราะว่าคิดถึงใช่หรือเปล่า”

ปารินทร์ทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวกว้างพร้อมทั้งรั้งแขนเรียวให้อีกคนนั่งลงตามกัน แล้วหัวแกร่งก็ทิ้งลงบนตักเล็ก ดวงตาเรียวรีทอดมองใบหน้าที่แสนคิดถึงจากทางด้านล่าง

เมื่อวานแทบไม่ได้แตะโทรศัพท์จึงไม่ได้คุยกับฝุ่นเลย

“...แค่อยากฟังแพลงเฉยๆ”

“ใต้ตาคล้ำๆ นี่ก็ไม่ใช่เพราะคิดถึงผมจนนอนไม่หลับเหรอ”

“ไม่ใช่”

“งั้นเหรอ เสียใจจัง” ใบหน้าหล่อแสร้งทำเป็นว่าเสียใจให้คนมองย่นจมูกใส่ด้วยความหมั่นไส้

“ไม่ต้องมาทำเป็นพูด...ไม่เห็นโทรมา” ท้ายประโยคเบาลงกว่าตอนต้น อีกทั้งดวงตาโตยังเลื่อนหนีไปมองอย่างอื่น

“ผมยุ่งมากจริงๆ ไม่ได้จับโทรศัพท์เลย”

“...”

“พรุ่งนี้หลังจากเข้าตึกตอนเช้าผมมีที่ที่จะพาฝุ่นไปด้วย” ประโยคต่อมาทำให้ฝุ่นหันกลับมามองคนบนตักพร้อมความสงสัย รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าปินยิ่งกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้

“ไปไหน”

“รอเซอร์ไพร์สนะ” คิ้วคู่สวยขมวดมุ่นกับคำตอบนั้น

“คนจะเห็นหรือเปล่า”

“ไม่ครับ ไม่ต้องห่วง” ได้ยินดังนั้นคนที่กังวลกับการต้องออกไปไหนด้วยกันสองคนก็เบาใจขึ้น

น้ำหนักบนตักและดวงตาที่กำลังมองสบกันอยู่เป็นสิ่งย้ำเตือนให้รู้ฝุ่นว่าปินกลับมาแล้ว ความวูบโหวงในอกตลอดค่ำคืนปลิวหาย เมื่อใจรู้สึกเป็นสุขกับการมีอยู่ของอีกคนปากจึงค่อยๆ โน้มไปแนบชิดกับปากได้รูป

“นอนไหม เดี๋ยวเย็นก็ต้องไปทำงานอีก” ฝุ่นกระซิบถามขณะริมฝีปากยังคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง

แล้วคำตอบของปินที่บ่งบอกว่าคงไม่ใช่เวลานี้ก็คือการที่มือหนายกขึ้นรั้งต้นคอเล็กให้ขยับลงมาอีกครั้ง

จูบแห่งความคิดถึงดำเนินไปจนคนด้านบนเริ่มรู้สึกปวดคอ กว่าสัมผัสนั้นจะแยกห่างจากกันก็เป็นตอนที่เจ้าของริมฝีปากบางรู้สึกเหมือนมันจะบวมเจ่อขึ้นเล็กน้อย

“ถ้าไม่มีงานต่อผมคงฟัดฝุ่นก่อนสักรอบ” ปลายนิ้วแกร่งไล้แก้มเนียนไปมาพลางส่งสายตาสื่อความหมาย

“...กลับมาค่อยฟัดก็ได้”

แล้วปินก็ต้องเลิกคิ้วกับคำตอบนั้นก่อนจะให้รางวัลคนน่ารักด้วยจูบอีกรอบ

TBC.


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-01-2019 23:08:17
แมวฝุ่นน่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-01-2019 23:22:02
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 12-01-2019 23:38:16
แมวฝุ่นนน ร้อนแรงงง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-01-2019 23:40:53
 :o8:   ฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-01-2019 00:18:40
นุ้งฝุ่นเวอร์ชั่นอัพเกรด..กล้าพูด กล้าทำ เอ็นดู   o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 13-01-2019 00:33:34
 :hao3:น่ารักกกดด
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 13-01-2019 01:11:49
แมวฝุ่นน่ารัก​ ขี้อ้อนมากขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 13-01-2019 03:30:23
คุณแม่ใจดีจังเลย  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-01-2019 03:50:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 13-01-2019 07:00:59
ลุ้นๆเซอไพร์กันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 13-01-2019 11:15:14
อู้!!!!  แมวฝุ่น แซ่บ!
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: CLShunny ที่ 13-01-2019 14:22:33
 :katai1:เพิ่งได้อ่านนอ่ะะะไรท์ ดีต่อใจเกินไปป มันดีมากเลย เค้ารู้ละว่ามันไม่สวยงามอ่ะแต่เค้าเลือกใช้ความรักความหวังและเวลาที่อยู่ด้วยกันก่อนเหตุผลอื่นๆๆอ่ะ เราอินมากเลยยยยยย แง้งงงงงง ไม่เป็นดาราได้ไหม555555รออออออ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 13-01-2019 15:20:26
นี่ไม่ใช่แมวเหมียวนะ นี่มันนายแมวยั่วสวาทชัดๆ  ฝุ่นแซ่บเว่อร์ / ความลับจะเป็นความลับไปได้นานแค่ไหนกันนะ?
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 13-01-2019 23:10:58
แมวฝุ่น ยั่วมาก อ่อยมาด้วย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-01-2019 05:38:08
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-01-2019 07:52:21
โอยยยยยใจบางแล้วจ้า ทำไมฝุ่นเป็นคนแบบนี้
ฝุ่นพัฒนานะ สถานะชัดเจนอะไรก็ดีแบบนี้แหละเนาะ
แล้วปินก็ชอบให้หวงด้วย น่ารักมาก น่าจับฟัดจริง
อะไรคืออ้อน อะไรคือเสียงอ่อย แต่ร้อนแรง โอ๊ยยยย

ปินคือเพ้อขนาดไหนน่ะ หวงฝุ่นมาก
และพาไปเปิดตัวกับแม่กับน้องแล้ว
ปินชอบเลยล่ะสิ ฝุ่นมามุมนี้แบบจัดเต็มมากจ้า

ดีใจกับฝุ่นที่แม่ฝากให้ดูแลปิน คือเปิดใจให้แล้วน้า
ปินโดนฝุ่นแกล้งรวม เป็นไงล่ะ ถึงกับงอนเก่ง 5555 เอ็นดู
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 14-01-2019 18:26:30
ดีต่อใจ น้องฝุ่นน่ารักมากๆ
ส่วนปิน ขี้หื่นจัง  :hao7:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ รอติดตาม
และรอซื้อเล่มแน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Thirteen.] : 12/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 16-01-2019 00:07:51
ฮื้อออ กลับมาค่อยฟัดก็ได้
อยากแปลงร่างแล้วน้วยแมวฝุ่นเดี๋ยวนี้เลยๆๆๆ :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 16-01-2019 19:47:42
Chapter Fourteen.

“ห้องเล็กกว่าเดิมหน่อย แต่ถ้าเอาสองห้องมารวมกันก็กว้างกว่า...ฝุ่นชอบไหม”

คนถูกถามซึ่งกำลังกวาดตามองไปโดยรอบหันกลับไปหาคนข้างหลังโดยที่ความสงสัยฉายชัดอยู่บนใบหน้า

ตั้งแต่เห็นภายนอก จอดรถ กระทั่งมาถึงห้องนี้ ฝุ่นก็มีแต่คำถามเต็มไปหมด

“ห้องใคร?”

ปารินทร์ก้าวเข้าไปใกล้ร่างเล็กมากกว่าเดิมพร้อมทั้งวาดแขนโอบรอบหลังเอวบางเอาไว้

“ห้องของเรา”

“...”

“หลังจากหมดสัญญาก็อยู่ที่นั่นไม่ได้แล้ว”

“รู้ แต่ไม่คิดว่าปินจะเตรียมการเอาไว้” ฝุ่นเอ่ยพูดช้าๆ

เรื่องข้อตกลงของที่นั่นเขารู้ดี อีกทั้งยังถูกเรียกไปรับฟังการสิ้นสุดสัญญาแล้วเรียบร้อย

สำหรับงานนี้จะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากอีกฝ่ายเลิกจ้างก็ไม่อาจไปดูแลใครต่อได้อีก แลกกับการได้รับเงินชดเชยมหาศาล

“ต้องเตรียมสิ บอกแล้วไงว่าผมจะจัดการทุกอย่างเอง”

คนฟังทอดมองคนที่พูดด้วยรอยยิ้มก่อนมือเล็กจะยกขึ้นวางแนบกับแก้มสากแผ่วเบา

ปินเป็นเด็กที่ไม่ได้มีความคิดเด็กเลย

“ไม่อยากทำให้ปินลำบากแล้ว”

“ผมไม่เคยลำบากเพราะฝุ่นเลย” ผ่ามือใหญ่วางทับลงกับหลังมือบางขณะเอ่ยพูด

“ฝุ่นอยู่ที่ไหนก็ได้ ไว้นานๆ ทีเราค่อยเจอกันก็ได้”

“ไม่ได้ ผมอยากเจอฝุ่นทุกวัน” คนตัวโตเอ่ยตอบทันควันด้วยสีหน้าจริงจัง

ด้วยรูปแบบการทำงานแล้วปินมีเวลาว่างไม่มากนัก และภายในช่วงสั้นๆ นั้นเขาก็ต้องสามารถเจอฝุ่นได้ตลอดเวลา

“...”

“จริงๆ ห้องนี้เป็นห้องติดกัน แต่ผมให้ช่างเข้ามาทำประตูตรงกลาง เราจะได้ไปมาหากันได้ตลอด”

ฝุ่นทำได้เพียงยิ้มรับเพราะไม่มีปัญหาใดๆ เลยกับการจัดการห้องนี้ของปิน

การคิดเผื่อถึงกันแบบที่ไม่ได้คาดคิดก่อให้เกิดความเต็มตื้นในอก คนที่แทบไม่เหลือใครเหมือนดั่งมีที่พึ่งพิงอันแข็งแกร่งให้หัวใจอันแสนหว่าเว้

ปลายเท้าเล็กเขย่งขึ้นก่อนริมฝีปากจะทาบทับลงบนปากได้รูปแนบแน่น เนิ่นนานกระทั่งน้ำตาไหลลงรินรดแก้มเนียนช้าๆ

“ร้องไห้ทำไมหืม” ปินผละออกถามพลางเช็ดความเปียกชื้นนั้นออกให้แผ่วเบา

“ขอบคุณ...ขอบคุณนะปิน” ฝุ่นโถมกายกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่นเท่าที่จะสามารถ

ปินคือความโชคดีที่มีค่าที่สุดในชีวิต

“เพราะฝุ่นคือความสุขของผม ผมจะทำทุกอย่างให้ฝุ่นมีความสุขเพราะผมเองก็จะมีความสุขไปด้วยเหมือนกัน”

คนฟังได้แต่พยายามกลั้นแรงสะอื้นยามหลับตาลงซึมซับความอบอุ่นจากทั้งทางกายและจิตใจ

ท่ามกลางผู้คนเป็นล้านที่ปินจะเลือกใครก็ได้แต่ตัวเองซึ่งไม่มีอะไรเลยกลับเป็นคนถูกเลือก

ฝุ่นเคยน้อยใจในความโชคร้ายของชีวิต ทั้งความยากลำบาก ทั้งการสูญเสียพ่อแม่และน้องชาย

ทว่าวันนี้ก็ได้รู้แล้วว่าความโชคดีที่พร่ำถามหาจากสวรรค์คือผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนี้

คือ...ปิน ปารินทร์

--

“ตื่นเต้นไหม” ฝุ่นเอ่ยถามขึ้นขณะกำลังเก็บกระเป๋าให้ปินไปแต่งตัวกับช่างมืออาชีพสำหรับงานประกาศรางวัลด้านวงการเพลงในคืนนี้

“ปกติครับ” คงจะปกติจริงๆ เพราะซูเปอร์สตาร์คนดังกำลังนั่งเล่นเกมแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“มีแต่คนตื่นเต้นแทนปินนะ”

เสียงรูดซิปกระเป๋าดังขึ้น เป็นอันว่าของใช้ที่จำเป็นถูกเตรียมไว้ให้อีกคนเรียบร้อยแล้วทั้งหมด

“แล้วฝุ่นตื่นเต้นหรือเปล่า” คิ้วเข้มเลิกขึ้นพร้อมกับที่ดวงตาเรียวรีเหลือบมามองแต่ก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเพราะปินต้องรีบหันกลับไปเล่นเกมต่อ

“ก็นิดหนึ่ง”

“ถ้าผมได้รางวัลจริงๆ ฝุ่นจะมีรางวัลพิเศษให้ไหม”

“ปินอยากได้อะไร” คำถามนั้นทำให้ปินกดล็อกโทรศัพท์โดยไม่สนว่าตัวเองจะแพ้

“อืม...” เสียงในลำคอถูกลากยาวกระทั่งคนร่างเล็กเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า จากนั้นฝุ่นจึงค่อยๆ หย่อนกายนั่งลงบนตักแกร่ง สองแขนยกขึ้นคล้องลำคอแล้วซบใบหน้าลงกับอกกว้าง

“นอกจากตัวกับหัวใจก็ไม่มีอะไรจะให้แล้ว”

ท่าทางคล้ายกับแมวฝุ่นกำลังออดอ้อนทำให้ปารินทร์แสนจะสุขใจ ร่างกายนุ่มนิ่มพร้อมกลิ่นหอมมีอนุภาพรุนแรงมากขึ้นเมื่อประกอบกับคำพูดแสนหวาน

“แค่นั้นแหละที่ผมอยากได้จากฝุ่น” ร่างเล็กบนตักถูกรัดแน่นจนฝุ่นต้องขยับกายไปมาน้อยๆ

“งั้นกลับมาจะให้”

“ให้อะไรครับ”

“ไว้กลับมาแล้วจะรู้”

“ถ้าผมไม่ได้รางวัลล่ะ” ฝุ่นผละใบหน้าออกจากอกแข็งๆ มาเงยมองเก้าอี้จำเป็น

“ก็ให้อยู่ดี” ปารินทร์ยิ้มรับ พลันริมฝีปากจะกดลงตรงปลายจมูกเล็กแผ่วเบา

“อยากวาร์ปไปหลังจบงานเลย”

“เพราะทำไม่ได้ตอนนี้เลยต้องออกไปทานข้าวได้แล้ว” ฝุ่นขยับกายลงไปยืนบนพื้นหลังจากเหลือบสายตามองนาฬิกาในห้องแต่งตัวแล้วพบว่าใกล้ได้เวลาที่พี่หวานจะมาเต็มทน

“เฮ้อ ก็ได้ครับ” แม้จะอยากนอนอยู่ห้องเฉยๆ แต่ปารินทร์ก็จำต้องตัดใจลุกขึ้น

มื้อเช้าผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วและเรียบง่าย พออีกคนออกจากห้องไปฝุ่นก็จัดการกับจานชามให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจึงทยอยเก็บของสำหรับการย้ายที่อยู่ต่อ

--

“คุณกัญจน์ดูอะไรแบบนี้ด้วยหรือครับ” คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเอ่ยถามขึ้นเมื่อโทรทัศน์กำลังฉายงานประกาศรางวัลอะไรสักอย่างซึ่งไม่คิดว่าคนอย่างคุณกัญจน์จะเปิดดู

โซฟาหรูยวบลงเพราะรองรับน้ำหนักจากร่างเล็กเพิ่ม ด้านคนถูกถามก็หลุดออกจากภวังค์แล้วหันไปมองคนข้างตัว

“แค่เผลอกดมาน่ะ”

“เขาร้องเพลงเพราะดีนะครับ หล่อด้วย” บลูพูดถึงคนซึ่งกำลังร้องเพลงปิดท้ายงานอยู่ในจอตรงหน้า

นั่นคงจะเป็น ปิน ปารินทร์ เขาพอจะรู้จักอีกฝ่ายตามข่าวและเพลงที่ได้ยินบ้างแต่ไม่เคยได้ให้ความสนใจอย่างจริงจัง

“หล่อกว่าฉันอีกหรือ”

สายตาที่จับจ้องไปข้างหน้าถูกดึงกลับมามองคนถาม เมื่อเห็นอีกคนหรี่ตาลงคล้ายไม่พอใจบลูก็หลุดหัวเราะแล้วขยับเข้าไปซบหน้าลงกับอกแกร่ง

“สำหรับบลูคุณกัญจน์ก็ต้องหล่อที่สุดอยู่แล้ว”

ประโยคเอาใจเรียกเสียงหัวเราะในลำคอคนฟังให้ดังขึ้น พลันความขุ่นมัวจากการที่เด็กตัวเองชมคนอื่นต่อหน้าก็มลายหายไป

“ช่วงนี้คุณเหม่อบ่อย คิดอะไรอยู่หรือครับ” บลูผละออกมองหน้าคนอายุมากกว่า ก่อนคนถูกถามจะชะงักไปเล็กน้อย

“ก็หลายเรื่อง” กัญจน์ยกแขนโอบรอบเอวเล็กยามเอ่ยตอบ

“อย่าคิดมากนะครับ เดี๋ยวตีนกาจะเพิ่มขึ้น”

“ว่าฉันแก่หรือ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นถามขณะที่เด็กน้อยในปกครองก็หัวเราะเสียงใส

“บลูล้อเล่น ไม่อยากให้คุณเครียด”

กัญจน์ที่แสร้งตีหน้าเข้มค่อยๆ ระบายยิ้มออกมา ดวงตาคมทอดมองคนในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดู

“ขอบใจนะ ถ้าไม่มีเธอคงเส้นเลือดในสมองแตกไปแล้ว”

“...” บลูได้แต่ยิ้มรับเมื่อได้ยิน

“เมื่อวานฉันไปหาแม่มา...ปรึกษาอะไรกับเขานิดหน่อย แล้วพอถามคำถามที่ฉันเคยถามเธอไปว่าชีวิตกับสังคมจะเลือกอะไรเขาก็ตอบแบบที่ไม่ได้ต่างจากเธอมากนัก”

บลูฟังสิ่งที่คุณกัญจน์เล่าออกมาอย่างตั้งใจ บางอย่างในแววตาและคำพูดนั้นบ่งบอกว่าอีกคนมีอะไรอยู่ในหัวมากมาย
การเป็น กัญจน์ ศิวะเกียรติ คงไม่ง่ายเลย

“บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่ฉันไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรในชีวิตอีกต่อไป”

กัญจน์ลอบสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อคิดย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีตและเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

เขาเติบโตมาด้วยชีวิตซึ่งถูกขีดเส้นโดยคนเป็นพ่อที่เป็นนักการเมือง แม้พ่อจะจากไปแล้วแต่หัวโขนที่พ่อทิ้งเอาไว้ก็ยังคงอยู่ มันกลายเป็นสิ่งที่ตรึงให้ไม่อาจจะเดินไปไหนอย่างที่ใจอยากทำ กระทั่งแม่ที่แยกทางกับพ่อมาตั้งแต่เขาเกิดเตือนสติเอาไว้

อย่าแคร์อะไรมากกว่าตัวเอง...คนเรามีเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น

“ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไงบลูก็จะเป็นกำลังใจและอยู่ตรงนี้เสมอถ้าคุณต้องการ”

คนฟังยิ้มรับพลางเกลี่ยนิ้วไปตามแก้มเนียนเบาๆ

ถ้าไม่มีเด็กคนนี้เขาจะเป็นยังไงกัน...

“วันหนึ่งฉันอาจไม่เหลืออะไรเลย เธอยังจะอยู่กับฉันไหม” คำถามนั้นดังแผ่วเบาไม่มั่นคงหนักแน่นดั่งที่กัญจน์เคยเป็น ส่วนคนถูกถามก็ระบายยิ้มสดใส แตกต่างจากคนอายุหลักสี่ลิบลับ

“ต่อให้ต้องกินข้าวกับเกลือบลูก็จะไม่ไปไหน” แล้วความสดใสนั้นก็เผื่อมาถึงกัญจน์ในที่สุด

จากนั้นริมฝีปากได้รูปจึงเคลื่อนเข้าไปทาบทับลงบนปากที่เอื้อนเอ่ยประโยคน่ารักนั้นด้วยความอ่อนโยน

ชีวิต กัญจน์ ศิวะเกียรติ ที่เป็นทีสีดำมาตลอดถูกเพิ่มสีสันด้วยสีน้ำเงินสดใสให้มันไม่ดูมืดหม่นจนเกินไปนัก

ถึงมันแทบจะกลืนเป็นสีเดียวกันแต่กัญจน์ก็รู้ดีว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไป

--

‘ศิลปินแห่งปีในค่ำคืนนี้เชิญกล่าวอะไรสักหน่อยครับ’

‘อันดับแรกเลยก็ต้องขอบคุณครับ...ขอบคุณทีมงานเบื้องหลังที่ทำงานกันอย่างหนัก ขอบคุณคุณกรณ์ ขอบคุณพี่หวาน ครอบคุณครอบครัว และที่สำคัญคือขอบคุณแฟนคลับสำหรับทุกการสนับสนุน ผมไม่อาจยืนอยู่ตรงนี้ได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว เพราะฉะนั้นรางวัลนี้จึงเป็นรางวัลของทุกคน ขอบคุณมากๆ ครับ’

ฝุ่นยิ้มตามคนในจอด้วยความยินดียามกล้องแพลนไปยังกลุ่มแฟนคลับของปิน ประโยคกล่าวขอบคุณอาจไม่ยาวมากนักแต่ดวงตาคนพูดนั้นบอกได้ทุกอย่าง

ปินรู้สึกดีใจและขอบคุณทุกคนมากจริงๆ



แกร๊ก...หมับ

คนที่เปิดประตูห้องเข้ามาในเวลาตีหนึ่งเศษถูกต้อนรับด้วยกอดแน่นๆ จนต้องชะงัก ปารินทร์ยกยิ้มเมื่อก้มลงมองก้อนบางอย่างที่พุ่งชนร่าง จากนั้นจึงวาดแขนโอบร่างเล็กกลับ

“ดีใจด้วยกับทั้งสองรางวัลเลย” ฝุ่นเงยหน้าขึ้นพูดกับคนเก่งของตัวเอง ก่อนจะได้รับจูบบนหน้าผากกลับมา

“ขอบคุณครับ...ขอบคุณฝุ่นที่มีส่วนช่วยให้ผมได้รางวัลด้วย” คิ้วได้รูปเลิกขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่ามีส่วนอย่างไร “เป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่สำคัญเหมือนกัน”

คนฟังยิ้มกว้างราวกับเป็นคนได้รางวัลด้วย

“ปีนี้เป็นปีของปินเลย”

“คงเป็นจังหวะชีวิตมากกว่า”

“เก่งจัง” คนถูกชมระบายยิ้มพลางซบหน้าผากเข้ากับหน้าผากของอีกคน

“ไหนรางวัล”

“จะเอาตัว...หรือหัวใจ” คำหน้าทำให้ดวงตาเรียวรีเป็นประกายวาววับ ทว่าคำหลังกลับทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อไม่แน่ใจว่าคืออะไร

“เลือกได้อย่างเดียวเหรอหืม”

“ได้ทั้งสองอย่างเลย”

“งั้นผมเลือกหัวใจก่อน ตัวเอาไว้ยาวๆ ทีหลัง”

ริมฝีปากบางถูกขบกัดอย่างไม่ค่อยมั่นใจแต่สุดท้ายแล้วฝุ่นก็ค่อยๆ เขย่งเท้าขึ้นกระซิบบางอย่างที่ข้างหูอีกคน

“รักปินนะ”

คนพูดกลับมายืนตรงเพื่อจับจ้องปฏิกิริยาคนฟัง หากแต่สิ่งที่ได้รับมีเพียงความนิ่งงัน สายตาที่มองสบมามีเพียงความว่างเปล่า

“ปิน...” กระทั่งฝุ่นต้องเอ่ยเรียก

พรึบ

“พูดให้ผมฟังอีกที” ปินซบหน้าลงกับลาดไหล่เล็กพลางกระชับท่อนแขนให้รัดคนตรงหน้าแน่นขึ้น

“รักปิน” เปลือกตาหนาหลับลงยามประโยคบอกรักนั้นดังไปมาอยู่ในหัว

ความรู้สึกที่เคยจินตนาการไว้ไม่อาจเท่าวินาทีที่เกิดขึ้นจริง...

เหมือนใจมันล่องลอย ปากไม่สามารถหุบยิ้มได้

“ปาดหน้าเค้กผมได้ยังไง”

“อะไรนะ?”

“ผมต้องเป็นฝ่ายพูดก่อนสิว่า...ผมรักฝุ่น” คนเป็นฝ่ายเซอร์ไพร์สถูกเซอร์ไพรส์กลับโดยที่ไม่คาดคิด

ความรู้สึกซึ่งเคยคิดว่าแค่รู้กันก็พอแล้วเมื่อถูกเอื้อนเอ่ยให้ชัดเจนมันกลับส่งผลต่อใจมหาศาล มากเสียจนน้ำตาแห่งความปลื้มปริ่มไหลมาคลอหน่วย

ปินรักเขา...ปินรักฝุ่น

“ฝุ่นก็รักปิน”

“ปินก็รักฝุ่น”

คนทั้งสองหลุดหัวเราะให้กับคำบอกรักกันกลับไปกลับมานั้นแผ่วเบา ก่อนปารินทร์จะผละหน้าออกมาจูบคนอายุมากกว่าอย่างอ่อนโยน

“ถึงเวลาสำหรับรางวัลอีกอย่างหรือยัง” ฝุ่นไม่ตอบด้วยคำพูดหากแต่ตอบด้วยการแนบริมฝีปากเข้าหา

แล้วคืนนี้นักร้องแห่งปีก็ได้รับรางวัลจนอิ่มเอมกายและใจ

--

“ฝุ่นครับ เดี๋ยวค่อยจัดก็ได้ วันนี้อุตสาห์เป็นวันหยุดของผมทั้งทีนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้วยความทนไม่ไหวเมื่อร่างเล็กเอาแต่ทำนู้นทำนี่กับห้องใหม่ไม่หยุดทั้งที่ย้ายเข้ามาอยู่ได้สามวันแล้ว

“ใกล้จะเสร็จแล้ว”

“ฝุ่นพูดแบบนี้มาเป็นชั่วโมงแล้วนะครับ”

“ครั้งนี้ใกล้จะเสร็จแล้วจริงๆ” ร่างเล็กที่ง่วนอยู่กับการวางของเข้าตู้โชว์หันมาตอบไม่ถึงห้าวินาทีก็หันกลับไปอีกครั้ง กระทั่งสุดท้ายปารินทร์ก็ไม่ยอมทน ร่างสูงหยัดกายขึ้นจากโซฟาไปคว้าเอวบางเข้าหาตัวแล้วอุ้มหนีจากตรงนั้นทันที

“ปิน! ทำอะไร” คนถูกอุ้มดิ้นน้อยๆ จนถูกพามานั่งลงบนโซฟาโดยมีคนตัวโตคร่อมอยู่ด้านบน

“ผมไม่ให้ฝุ่นทำแล้ว ค่อยทำวันหลัง”

“แต่มัน...”

“ผมมีเวลาหยุดไม่กี่วันต่อเดือนเองนะ” คนที่แทบไม่มีเวลาพักเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังให้ฝุ่นรู้ตัวว่ากำลังละเลยเวลาอันแสนมีค่าที่ปินมี

ใบหน้าเล็กก้มลงชิดคออย่างรู้สึกผิด สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องลำคอแกร่งแล้วค่อยๆ รั้งเจ้าหมาโกลเด้นเข้ามากอด

“ขอโทษนะ”

“ไม่ได้โกรธแต่น้อยใจ”

“โกลเด้นเป็นหมาที่ขี้น้อยใจเหรอ” ฝุ่นผละออกมามองหน้าปินอย่างเย้าหยอก เมื่อเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาไร้แววโกรธขึงก็รู้สึกเบาใจ

“มากๆ เลยล่ะ” แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีงอนอยู่เล็กๆ

ริมฝีปากบางจึงทาบทับลงบนแก้มสากทั้งสองข้างพลางใช้ปลายจมูกลากไล้ไปมาอย่างเชื่องช้าออดอ้อน

“ง้อ”

“น้อยไปครับ”

คราวนี้ตำแหน่งที่ถูกจู่โจมกลายเป็นตรงริมฝีปากได้รูป ปลายลิ้นค่อยๆ ไล้เลียจากนอกก่อนจะสอดเข้าไปข้างในเพื่อเว้าวอนขอให้อีกคนหายงอน

จุ๊บ จุ๊บ

“หายงอนหรือยัง”

จุ๊บ

“หายก็ได้” ปินจุ๊บกลับพลางระบายยิ้มให้ฝุ่นได้ยิ้มตาม

“สรุปอุ้มออกมาทำไม”

“รายการที่ผมไปออกจะมาแล้ว”

“ตัวจริงก็อยู่นี่ ต้องให้ดูในทีวีอีกเหรอ”

“แน่นอน”

คนด้านบนพลิกตัวลงมานั่งข้างกันจากนั้นปินจึงขยับไปเลื่อนเก้าอี้เบาะสองตัวมาต่อเป็นโซฟายาวเพื่อเอนหลังพิงกับพนักโซฟาแล้วเหยียดขาไปจนสุด

“รายการมากี่โมง” ฝุ่นซึ่งนั่งเอนหลังอยู่ข้างกันเอ่ยถามขึ้นเมื่อรายการตรงหน้ายังคงเป็นรายการอื่น

“บ่ายโมงครึ่ง”

“อีกห้านาที”

“อืม”

“แล้วรายการแบบนี้เขาไม่สัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวเหรอ”

“เขาทำการบ้านมาแล้วครับ ก็เน้นไปถามประเด็นอื่นแทน”

“เช่นอะไร” ฝุ่นถามไปเรื่อยดั่งเป็นเจ้าหนูจำไม

“เช่นทำไมถึงมาเป็นนักร้องได้ ทำไมไม่พูดถึงเรื่องส่วนตัว ทำงานที่จีนเป็นยังไง ประมาณนั้น”

คนฟังพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า พอได้ยินอีกคนเล่าฝุ่นก็รู้สึกตั้งตารอเนื่องจากปินไม่เคยออกรายการแบบนี้มาก่อน

เมื่อรายการตรงหน้าจบลงก็มีดารามาแนะนำรายการต่อไป จากนั้นดนตรีประจำรายการที่ปินไปออกก็ดังขึ้นพร้อมภาพโลโก้

เริ่มต้นด้วยการที่ปารินทร์ร้องเพลงที่เพิ่งได้รับรางวัลเพลงฮิตประจำปี ดวงตาโตที่ทอดมองภาพนั้นเผลอจับจ้องนิ่งราวกับถูกเสียงและสายตาของในนั้นตรึงให้ตกอยู่ในภวังค์

“ทำไมมองผมในจอเคลิ้มกว่ามองตัวจริงอีก”

คนที่เพิ่งรู้ตัวตอนถูกทักเลื่อนสายตาไปมองคนข้างตัวด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก

“เคลิ้มอะไร ก็มองปกติ”

“ไม่ปกติเลย สายตาฝุ่นเหมือนอยากปล้ำผม”

“หลงตัวเอง ใครจะไปมองแบบนั้น” ร่างเล็กปฏิเสธหน้าดำหน้าแดงจนปินต้องเลิกเย้าแหย่แล้วเปลี่ยนมาเป็นร้องเพลงคลอตามไป

นานๆ ได้มีเวลาดูตัวเองทางหน้าจอเจ้าของร่างก็รู้สึกแปลกเล็กๆ ทว่าคนที่ดูจนชินแล้วก็เพลินตาจนเหมือนข้างตัวไม่มีปินตัวจริง

“เวลาโดนจี้ถามเรื่องส่วนตัวมากๆ อึดอัดบ้างไหม” ฝุ่นถามขึ้นเมื่อรายการเบรกแรกจบลง

รายการนี้เป็นรายการอัดเอาไว้ มันจึงสามารถเกิดอะไรขึ้นก็ได้ แต่หากเป็นรายการสด หรืออยู่ในวงนักข่าวบางทีคนถูกสัมภาษณ์ก็ต้องมีกึ๋น

“ตอนแรกอึดอัดแต่ตอนนี้ชินแล้วเลยไหลไปได้ง่ายขึ้น”

“ปินมีจุดยืนแบบนี้ทางค่ายไม่ว่าอะไรเลยเหรอ”

“ผมบอกเอาไว้ตั้งแต่แรก เขาก็ใช้เวลาตัดสินใจนานอยู่เหมือนกันนะกว่าจะโอเค...ผมบอกเขาว่าผมไม่ได้เรื่องมากนะ แต่ผมเป็นจะนักร้องเพราะชอบร้องเพลง ผมขายเสียง ขายผลงาน ไม่จำเป็นต้องขายเรื่องส่วนตัว”

“แล้วถ้าวันนั้นค่ายเขาไม่โอเคล่ะ”

“ก็ลองค่ายใหม่หรือไม่ก็คงทำเพลงเอง”

“กว่าจะเป็นปินนี่ไม่ง่ายเลยเนอะ” ได้ฟังเส้นทางชีวิตของปินแล้วฝุ่นก็รู้สึกนับถือคนอายุน้อยกว่าอยู่ไม่น้อย

เขาไม่มีความฝัน มีแค่ความคิดที่ว่าจะมีอยู่มีกินในแต่ละวันได้อย่างไร

แต่ถึงอย่างนั้นการดิ้นรนก็ไม่ได้แตกต่างกันนักจึงเข้าใจความยากลำบากนั้นดี

ปินดิ้นรนทำตามความฝัน ตัวเขาก็ดิ้นลงเพื่อปากท้องของครอบครัว

“ศิลปินดาราทุกคนก็เหมือนกัน มันไม่ง่ายเลยจริงๆ บางทีเราถึงอยากมีพื้นที่ส่วนตัวให้ได้สบายใจบ้าง อาจไม่ต้องมากมายแต่ขอสักนิดหนึ่งก็ยังดี”

“...”

“เวลาผมอยู่ห้องหรืออยู่กับฝุ่นเลยเป็นช่วงเวลาที่สบายใจมาก ผมเป็นแค่คนธรรมดา เป็นแค่ผู้ชายที่ชื่อปิน ไม่ใช่คนดังที่ใครๆ ก็ต่างจับจ้อง” ดวงตาเรียวทอดมองใบหน้าใสพร้อมทั้งใช้ปลายนิ้วม้วนวนเส้นผมของฝุ่นไปพร้อมกัน

“เวลาอยู่ข้างนอกมันไม่สบายใจเหรอ”

“ไม่ใช่ว่าไม่สบายใจหรือไม่มีความสุขนะ เวลาอยู่กับแฟนคลับก็เป็นอีกความสุขหนึ่งในชีวิต แต่มันเป็นความสุขในอีกแบบ แบบที่มีปิน ปารินทร์สวมทับร่างอยู่”

“แล้วปินก็อยากอยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆ ใช่ไหม”

คนถูกถามเลิกคิ้วขึ้นพลางนิ่งคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะตอบคำถาม

“การร้องเพลงมันคือทั้งชีวิตของผม”

“...” ฝุ่นได้แต่นิ่งเงียบ เพราะความใกล้ชิดจึงเห็นประกายในดวงตาปินซึ่งบ่งบอกความรักที่มีต่อการร้องเพลงได้มากมายกว่าคำพูด

“แต่ไม่ได้หมายความว่าชีวิตผมมีแค่การร้องเพลงเพียงสิ่งเดียว...ผมยังมีแม่ มีน้อง แล้วก็มีฝุ่น”

“...” คราวนี้ฝุ่นนิ่งเงียบเนื่องจากไม่คาดคิดว่าตัวเองจะรวมอยู่ในนั้น

“ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน” แม้ไม่รู้ว่าอีกคนหมายถึงเวลาใดแต่ฝุ่นก็รู้สึกอุ่นใจเพราะประโยคนั้นจนต้องเอียงหัวซบกับอกกว้าง สอดแขนคล้องกับเอวสอบแล้วกระชับแน่น ขณะรายการที่โฆษณาไปกลับมาเล่นต่อ

“ปินจะรับละครหรือไม่ก็ซีรีส์ไหม”

“วันนี้แมวฝุ่นกลายเป็นนักข่าวไปแล้วหรือ” คนถูกซักถามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ

“ก็อยากรู้”

“ไม่ครับ ผมไม่ถนัดอะไรแบบนั้น อีกอย่างก็เป็นนักร้อง ไม่ใช่ดารา”

“ทำไมทีถ่ายแบบไม่เห็นพูดแบบนี้”

ประโยคนั้นมีความหวงเจือมาด้วยจางๆ ทว่าปินกำลังสนใจตัวเองในโทรทัศน์จึงไม่ทันได้สังเกต

“เพราะถ่ายแบบก็เป็นอีกอย่างที่ผมชอบ”

“...”

“สนุกดีนะ ผมรู้สึกว่ามันเป็นอาร์ตที่ตัวเองสามารถทำได้ เผื่อวันไหนไม่ได้เป็นนักร้องแล้วก็ไปเป็นนายแบบแทนดีไหม”

“ไม่ดี” คำตอบที่ดังขึ้นในทันใดทำให้ปารินทร์เพิ่งสะดุดใจ

“ทำไมล่ะครับ”

“หวง” คนที่มีสิทธิ์พูดทุกอย่างเอ่ยบอกเพียงสั้นๆ หากแต่เสียงไม่ได้แผ่วเบาเช่นเมื่อก่อน

“หึ งั้นผมไม่รับงานถ่ายแบบอีกเลยดีไหม” ปารินทร์หลุดเสียงหัวเราอย่างพึงพอใจออกมาก่อนจะถามอย่างเอาใจคนตรงหน้า

“ถ่ายได้แต่ห้ามโชว์”

“โอเคครับ ผมจะจำไว้” ริมฝีปากได้รูปกดจูบลงบนกลางหัวเล็กยามที่เอ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม

ลืมไปว่าแมวฝุ่นขี้หวงไม่ต่างกัน


TBC.

มาแล้ววววว
เรียกได้ว่าเป็นตอนที่หวานมากเลยยย
โซแอลชอบฟีลของตอนนี้มากๆ
หวังว่าคนอ่านจะชอบเหมือนกันนะคะ
คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า
#secrecyลับรัก


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 16-01-2019 20:01:33
อื้อหือ...   :hao7:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 16-01-2019 20:26:10
น้ำตาลขึ้นนนนนนน :-[
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-01-2019 20:27:09
มีคนให้อ้อนมันก็ดีอย่างนี้แหละ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-01-2019 21:13:58
หวงก็บอกว่าหวงเนาะฝุ่นเนาะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 16-01-2019 21:22:03
แงงงง น่ารักมากกก ได้โปรดน่ารักไปทั้งเรื่องเลยนะะ55555 :impress2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 16-01-2019 21:31:59
ละมุนนนนน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-01-2019 21:37:28
ฝุ่นน่ารัก ชิงบอกรักก่อนด้วย ปินถึงกับลืมโลกไปเลย
เอ็นดูฝุ่นมากค่ะ ก็คนเค้าหวงอะเนาะ ยกตัวยกใจให้แล้วไง

ปินวางแผนมาดีมากเลยค่ะ คือบ่งบอกว่าปินพร้อมรับมือมาก

ชอบโมเมน์ปินฝุ่น หวานๆ อบอุ่นดีค่ะ มีมุมให้ได้เห็นตอนหยอกล้อ

คุณกัญจ์ตัดใจจบเรื่องแล้วใช่ไหม
บลูคงดีใจที่คุณกัญจ์ให้ความสำคัญมาก
ไม่ใช่แค่ความรู้สึกฉาบฉวย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 16-01-2019 22:06:54
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-01-2019 22:31:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 16-01-2019 22:53:38
งุ้ยๆๆๆ น่ารักทั้งคู่เลย
ว่าแต่ เหมือนใกล้จบแล้วเลยค่า เดาว่า'เวลา' นั้นอาจมาถึงเร็วๆนี้ ><  :serius2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 16-01-2019 23:51:43
น่าร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 17-01-2019 00:34:44
บอกรักกันแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-01-2019 04:18:31
ดีมาก เชื่อฟังฝุ่นไปตลอดเลยนะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 17-01-2019 17:56:41
หวานนนนน >////<  แมวฝุ่นเริ่มแสดงออกเยอะมากแล้ว น้องปินฟินลื้มมม 55555

ส่วนอีกคู่ น้องบลูน่าจะมีข่าวดีเร็วๆนี้เนอะะะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 17-01-2019 23:18:10
 :mew3: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 17-01-2019 23:55:10
มดขึ้นเลยค่ะ ชื่นใจจัง
//ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-01-2019 00:27:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-01-2019 07:37:02
อบอุ่นละมุนมาก ต่างคนต่างบอกรักกันได้แล้ว.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-01-2019 19:28:02
หวานเว่อมากไปกว่าเดิมอีก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fourteen.] : 16/01/2562 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 19-01-2019 22:30:41
ชอบความหวานของตอนนี้จัง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 23-01-2019 22:38:39
Chapter Fifteen.

ช่วงท้ายปีเป็นช่วงที่ปารินทร์ทำงานทุกวันแทบไม่ได้พัก แต่ถึงอย่างนั้นคนที่เคยชินกับช่วงเวลานี้ดีก็ไม่มีงอแง ฝุ่นใช้เวลาช่วงข้ามปีไปกับการเข้าวัดทำบุญ กระทั่งผ่านปีใหม่ไปสองอาทิตย์ทุกอย่างก็เข้าร่องเข้ารอยมากขึ้น

“พี่หวานสวัสดีครับ” ภาวิดารับไหว้ฝุ่นด้วยรอยยิ้มก่อนจะวางกระเป๋าลงบนโซฟาขณะกวาดสายตาสำรวจห้องที่ถูกตกแต่งจนเสร็จเรียบร้อยแล้วไปพร้อมกัน

“จัดของเสร็จหมดแล้วเนอะ”

“ครับ แต่ว่าก็ยังมีบางมุมที่ยังดูอยู่ว่าจะตกแต่งยังไง” ฝุ่นเอ่ยเสียงเบาพร้อมรอยยิ้มบาง

พอรู้ว่าพี่หวานรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับปินแล้วมันก็คล้ายกับจะรู้สึกผิดต่ออีกฝ่าย

“จะทำอะไรยังไงก็ระวังๆ กันด้วยล่ะ” ภาวิดาย้ำอีกครั้งอย่างเป็นห่วงคนทั้งสอง ด้านฝุ่นที่เข้าใจดีก็รับคำพร้อมกับพยักหน้า

“สวัสดีครับพี่หวาน มาเร็วเชียว” ร่างสูงที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จกล่าวทักทายผู้จัดการส่วนตัวพร้อมทั้งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า

“เผื่อเวลารถติดน่ะ”

“นึกว่าจะพาตัวเล็กมาด้วยซะอีก”

“มาก็วุ่นวายเปล่าๆ พอดีพ่อเขาจะพาไปสนามกอล์ฟ” ภาวิดาโบกมือทั้งยังทำสีหน้าอ่อนใจเมื่อพูดถึงลูกและผู้เป็นสามี

“อ๋อ งั้นก็ไปที่โต๊ะอาหารเลยดีไหมครับ”

ปารินทร์เลิกคิ้วถามยามหันหน้ามองคนทั้งสอง เมื่อทุกคนตอบรับก็พากันเดินตรงไปยังห้องครัว เริ่มต้นมื้อเช้าของวันด้วยกัน

วันนี้ปินมีงานตอนบ่ายไปกระทั่งถึงดึก แต่ด้วยมีเรื่องชุดใส่ออกงานที่จะต้องคุยกันภาวิดาจึงถือโอกาสมาทานข้าวที่ห้องใหม่ปินพร้อมทั้งมีของขวัญติดมือมาให้



“โอเค เอาประมาณนี้นะ” ภาวิดาจดข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ลงโทรศัพท์จากนั้นจึงหันไปขอบใจฝุ่นที่เอาขนมจานใหม่มาให้ “นี่พี่แหม่มก็ตื้อให้ปินรับละครเขาใหญ่เลย”

“ยังไม่จบอีกเหรอครับ” ปารินทร์ทิ้งตัวพิงกับพนักโซฟาขณะหยิบขนมชิ้นเล็กที่ฝุ่นลงมือทำเข้าปากไปด้วย

“เขาก็อยากได้กระแสเรา ยิ่งพอไปจีนแล้วมีฐานแฟนคลับจีนเพิ่มขึ้นเขาก็เลยยิ่งอยากได้”

“แต่ผมไม่ชอบการแสดง”

“พี่รู้ ถึงได้เสียดายทั้งพี่แหม่มแล้วก็เอเจนซี่จีนไงล่ะ”

เม็ดเงินและความโด่งดังที่จะตามมามหาศาลถูกปินปฏิเสธแบบที่ไม่คิดเลยแม้แต่น้อยทำเอาภาวิดาเสียดายแทนเล็กๆ ทว่าเพราะรู้จักนิสัยคนในปกครองดีเลยเข้าใจ

ปินไม่ได้เล่นตัว แต่เจ้าตัวไม่ชอบและไม่ถนัดจริงๆ จึงไม่รับ

Rrrr

“เชอร์รีโทรมา คงจะโทรมาถามคิวงานปิน”

โทรศัพท์ในมือภาวิดาที่ส่งเสียงร้องถูกกดรับ ก่อนเธอจะกรอกเสียงทักทายผู้ช่วยตัวเองลงไป

“ว่าไงเชอร์รี ใครติดต่องานอะไรมา”

(ไม่ได้ติดต่อค่ะแต่มีเรื่องใหญ่ คุณแม่ยังไม่เห็นใช่ไหม มีภาพหลุดปินตอนไปโรงพยาบาล นี่นักข่าวก็เขียนใส่ไข่ไปว่าเห็นคนนี้อยู่กับปินในตอนนั้นแถมยังบังเอิญอยู่คอนโดเดียวกันอีก เขาเลยบอกว่าที่ปินไม่มีใครและไม่ยอมเปิดเผยเรื่องส่วนตัวอาจจะเป็นเพราะมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน)

“ว่ายังไงนะ แล้วนี่ข่าวออกไปนานหรือยัง รูปอะไรยังไงเห็นชัดแค่ไหน”

ภาวิดาถึงกับหยัดกายลุกขึ้น สายตาที่มองปินนั้นบ่งบอกว่ามีเรื่องใหญ่จนปินเปลี่ยนมานั่งหลังตรง ด้านฝุ่นที่เพิ่งเดินกลับมาก็หัวใจหล่นตุบไปอยู่ตาตุ่ม ร่างกายแข็งค้างไม่ขยับไปไหน

(เพิ่งออกไม่กี่นาทีนี้เองค่ะ แต่รูปเห็นไม่ชัดมาก ปินก็ใส่แมสก์ใส่แว่นแต่เขาแคปชุดที่ปินเคยใส่มาเทียบกัน ส่วนอีกคนก็มีรูปตอนไปซื้อของที่ห้างมั้งคะ เขาเบลอหน้าไว้นิดหนึ่ง)

“รีบส่งกระทู้ข่าวนั้นมาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้เลย”

(ได้ค่ะ)

วางสายปุ๊บนักข่าวก็โทรต่อทันใดจนภาวิดาได้แต่กุมขมับ เมื่อเชอร์รีส่งไลน์มาจึงกดตัดสายแล้วรีบเปิดเข้าไปอ่าน

“มีเรื่องอะไรครับพี่หวาน”

“พี่ขอดูก่อนนะ”

‘ภาพหลุด ปิน ปารินทร์ กับชายนิรนาม’

หัวกระทู้จั่วมาว่าอย่างนั้น ก่อนจะตามมาด้วยเนื้อหาข่าวด้านล่าง

‘ต้องบอกว่ายิ่งพยายามปกปิดก็ยิ่งถูกขุดคุ้ย สำหรับประเด็นที่คนทั้งประเทศสงสัยใคร่รู้มาตลอดว่า เอ๊ะ ปินนั้นไม่มีใครจริงๆ หรือ หรือว่าแอบซุกใครไว้โดยที่เราไม่รู้

จากที่เป็นข่าวกับสาวๆ มาเป็นระลอกคราวนี้เป็นเรื่องใหญ่ของวงการค่ะเมื่อปาปารัซซี่เก็บภาพนี้ได้จากการที่ปินไปเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาล  มันคงไม่น่าผิดสังเกตหากคนที่มาด้วยนั้นไม่ใช่ผู้ชายที่ดูยังไงๆ ก็ไม่ใช่น้องชายปิน อีกทั้งหน้าตายังน่ารักและตัวเล็กจนผู้หญิงบางคนอาย นอกจากนั้นปาปารัซซียังยืนยันว่าหนุ่มคนนี้อยู่คอนโดเดียวกับที่ปินเพิ่งย้ายไป และแม้คนทั้งสองจะไม่ได้ใกล้ชิดอะไรกันมากแต่ปาปารัซซีก็ตั้งข้อสงสัยว่ามันจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่าที่จะไปไหนด้วยกันสองต่อสอง ซ้ำยังอยู่คอนโดเดียวกัน

เอ๊ หรือว่าข่าวกับนางแบบสาวชาวจีนที่ปินออกมายืนยันหนักแน่นว่าไม่มีอะไรทั้งนั้นจะเป็นเพราะตัวจริงของเขาไม่ใช่ผู้หญิงกัน!’

“บ้าเอ้ย!” ภาวิดาสบถพร้อมทั้งยกมือขึ้นเสยหัวอย่างหงุดหงิดทันทีที่อ่านจบ

“ว่าไงครับพี่หวาน”

ผู้จัดการวัยกลางคนเลื่อนสายตาไปมองหน้าปิน จากนั้นจึงยื่นโทรศัพท์ส่งให้พร้อมเล่าให้ฟังคร่าวๆ

“มีภาพแอบถ่ายตอนปินไปโรงพยาบาลแล้วก็ภาพฝุ่นตอนออกไปซื้อของที่ซูเปอร์” ฝุ่

นที่เดินมานั่งลงเคียงข้างปินชะโงกหน้าเข้าไปดูด้วยกัน

“ตัดสายทิ้งเลยปิน” ภาวิดาเอ่ยบอกเมื่อมีนักข่าวโทรเข้ามาอีกครั้ง

ปารินทร์พยักหน้ารับพลางเลื่อนดูรูปและข่าวไปเรื่อยๆ กระทั่งเสร็จสิ้น แล้วดวงตาเรียวรีก็เลื่อนไปเหลือบมองคนข้างตัวที่มีใบหน้าซีดเซียวอย่างเป็นห่วง

“คุณกรณ์โทรมาครับ”

มือหนาส่งโทรศัพท์คืนให้เมื่อเป็นคนสำคัญโทรมา ด้านคนที่ต้องรับสายก็เม้มปากเข้าหากันก่อนจะรับไปแล้วกดรับสาย

“ค่ะคุณกรณ์...เห็นแล้วค่ะ เดี๋ยวหวานจะรีบพาปินเข้าตึก...สวัสดีค่ะ”

ปารินทร์มองหน้าผู้จัดการตัวเองขณะที่กุมมือคนข้างตัวเอาไว้ไม่ปล่อย

รูปมันอาจไม่ชัดมากแต่นั่นก็หมายความว่าปาปารัซซีกำลังจับตามองฝุ่นอยู่

“โอเค เรามาคุยกันก่อน...จากที่พี่อ่านคือเขายังไม่รู้ แต่ว่าคงว่าสงสัยเพราะฝุ่นไปโรงบาลกับปินแล้วดันมาบังเอิญอยู่คอนโดเดียวกันอีก ให้พี่เดาคงตามปินมานานแล้ว”

“...” มือที่กระชับกันไว้ถูกบีบแน่นขณะนั่งฟังการวิเคราะห์ของภาวิดาที่เดินวนไปมาช้าๆ

“ปินอาจจะไม่พูดถึงเรื่องนี้เหมือนที่ผ่านมาก็ได้ แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องโดนจับตามองมากขึ้นกว่าที่เป็น เพราะฉะนั้นถ้าพี่จะขอให้ไม่ออกไปข้างนอกด้วยกันเลยจะได้ไหม”

ฝุ่นและปินมองหน้ากัน พลันปินจะเป็นฝ่ายเอ่ยรับคำเมื่อไม่เห็นการปฏิเสธใดๆ ในดวงตาคู่สวย

“ได้ครับ”

“เวลาออกจากห้องยังไงก็ออกประตูคนละห้องอยู่แล้วใช่ไหม”

“ครับ”

“แต่ว่าพรุ่งนี้เรามีอีเวนต์ สองสิ่งที่เขาจะถามแน่ๆ ก็คือฝุ่นเป็นอะไรกับปิน แล้วก็รสนิยมปินเป็นแบบไหน”

“...”

“เดี๋ยวเรื่องนี้เราจะเข้าไปคุยกับคุณกรณ์อีกที ส่วนฝุ่น...ช่วงนี้ก็อย่าเพิ่งออกไปไหนนะ”

“ครับ”

“เอาล่ะ เข้าตึกกันเถอะปิน”

ภาวิดาเก็บของต่างๆ เข้ากระเป๋าขณะที่ปินก็ยกยิ้มบางเบาพลางยกมือขึ้นลูบแก้มคนที่มีสีหน้าเคร่งเครียดแผ่วเบา

“ไม่เป็นไร มันจะผ่านไปได้”

ฝุ่นอยากจะยิ้มตามแต่ความหนักอึ้งในอกนั้นมีมากเกินกว่าจะฝืนใจได้

คนทั้งสองออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว เวลาต่อมาจึงเหลือเพียงฝุ่นที่ทิ้งตัวลงตรงหน้าประตูช้าๆ พร้อมกับใจที่เหมือนหลุดลอยไป

สิ่งที่กลัวมาตลอดมันมาถึงแล้ว...

--

“ผมเห็นด้วยกับการปล่อยให้มันราบเรียบไปเหมือนที่ผ่านมา ไม่ว่านักข่าวจะถามอะไรก็ตอบว่าไม่ใช่เรื่องงานเหมือนที่ปินเคยพูด สิ่งที่ต้องระวังก็คือการวางตัวของปินกับฝุ่น เป็นไปได้ผมอยากให้แยกกันอยู่ไปสักระยะ”

“...” ประโยคสุดท้ายจากผู้มีอำนาจและมีประสบการณ์สูงสุดทำให้ปินเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ทว่าก็ไม่นึกขัดเพราะรู้ว่าเป็นผลดีต่อตัวเองที่สุด

“ผมเข้าใจว่ามันยาก แต่ก็เพื่อตัวปินเอง”

“ครับ...แล้วถ้าเป็นระยะยาวล่ะ”

“ตอนนี้ให้ข่าวนี้มันซาลงก่อน จากนั้นก็ค่อยให้มันเป็นไป ปินก็ระวังตัวให้มากขึ้นไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน อย่าให้เขาได้จับประเด็นอะไรได้อีก”

“...” ใบหน้าแกร่งกดลงรับช้าๆ

“ผมรู้ว่าเราไม่อาจปกปิดมันไปได้ตลอด แต่ก็ให้มันราบเรียบที่สุดแล้วกัน”

ภาวิดาถอนหายใจขณะส่งเสียงรับคำ เธอหันไปมองปารินทร์ซึ่งนั่งนิ่งอยู่ข้างตัวก่อนจะยื่นมือไปแตะไหล่แข็งเกร็งแผ่วเบา

“ค่อยๆ ผ่านมันไป”

ปากได้รูปที่เอาแต่เม้มแล้วคลายออกยกขึ้นเป็นรอยยิ้มแรกในรอบหลายชั่วโมงตั้งแต่ที่เข้าตึกมา ด้านธนกรณ์เองก็ยกยิ้มตาม

“ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอแค่ปินเป็นปิน ปัญหามันเกิดเพื่อให้เราแก้”

“ขอบคุณคุณกรณ์กับพี่หวานมากครับ”

ปินยกมือไหว้คนทั้งสองด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง ขณะความกังวลในอกมีเพียงสองอย่างคือเรื่องตัวเองจะทำให้มีผลกระทบกับค่ายและทำให้แฟนคลับต้องผิดหวัง

“เอาน่า เป็นปิน ปารินทร์เต็มที่แล้วก็พอ”

ธนกรณ์เอ่ยปลอบเด็กหนุ่มรุ่นลูกด้วยรอยยิ้ม แม้จะหนักหนาเพียงใดแต่เชื่อว่าวันหนึ่งทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้

--

‘ปินเป็นเกย์จริงๆ เหรอ’
‘ว่าแล้วทำไมไม่มีใครสักที’
‘สายเหลืองนี่หว่า’
‘เสียดายยยยยย ไม่น่าเลยอะ’
‘ยังไงก็รักและสนับสนุนปินเสมอ’
‘ไม่นะะะ ปินต้องชอบผู้หญิงสิ’

ดั่งความรู้สึกนั้นย้อนแย้ง...

ฝุ่นไม่กล้าเปิดโทรทัศน์ดูข่าวหากแต่มือกลับกดเข้ามาดูคอมเมนต์ในอินสตาแกรมทั้งยังส่องแท็กในทวิตเตอร์ไม่หยุด สุดท้ายความเครียดที่มีก็ส่งผลให้ไมเกรนกำเริบ ถึงอย่างนั้นใจและกายก็อ่อนล้าเกินกว่าจะลุกขึ้นไปหยิบยามากิน

Rrrr

สายเรียกเข้ามาจากคนที่เงียบหายไปทั้งวัน มือบางค่อยๆ ยกมันขึ้นมาก่อนจะกดรับแล้วกรอกเสียงลงไปแผ่วเบา

“อื้อ”

(ฝุ่นทำอะไรอยู่ครับ) น้ำเสียงนั้นฟังดูสดใสแตกต่างจากอารมณ์คนฟังลิบลับ

“ไม่ได้ทำอะไร”

(ทำไมเสียงเครียดแบบนั้น)

“...” ฝุ่นไม่มีอะไรจะตอบ อีกทั้งอาการปวดหัวยังเต้นตุบจนต้องก้มหน้าซบลงกับเข่าตัวเอง

(ไม่เป็นไร ผมโอเคแล้วทุกคนก็โอเค ฝุ่นไม่ต้องคิดมากเข้าใจไหม) เสียงทุ้มเอ่ยสบายๆ อย่างไม่ให้อีกคนกังวลเกินไปนัก

“อื้อ...”

(มันอาจจะยากหน่อยแต่เราจะผ่านมันไปได้)

“ปิน...โอเคใช่ไหม”

(ผมโอเคสิ ฝุ่นนั่นแหละโอเคใช่ไหม)

“โอเค”

(คุณกรณ์เขาอยากให้เราอยู่ห่างๆ กันไว้ก่อน ช่วงนี้ผมเลยอาจจะไม่ได้กลับห้องนะ)

“อืม” แม้ใจจะเกิดความวูบไหวดั่งมีมวลบางอย่างวิ่งมากระแทกให้ซวนเซซ้ำหากแต่ฝุ่นก็เข้าใจในเหตุผลนั้นเป็นอย่างดี

(ผมรักฝุ่นนะ จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด)

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นจากประโยคที่ได้ยินในเวลาที่หวั่นกลัวที่สุด

ทั้งที่ตัวเองควรจะเป็นหลักให้คนเด็กกว่าพึ่งพิงแต่ตอนนี้ปินกลับดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด

“ฝุ่นก็รักปินนะ รักมาก...อยู่ตรงนี้เสมอ”

ทุกคำถูกเอื้อนเอ่ยอย่างพยายามไม่ให้สั่นไหว และเท่านั้นก็เพียงพอให้ความหนักอึ้งในอกของปินบรรเทาลง

(ดูแลตัวเองนะ ไว้ทุกอย่างโอเคแล้วผมจะกลับไป)

“ปินก็เหมือนกัน”

(ไว้พรุ่งนี้ผมจะโทรหานะครับ)

“อืม หมาปินของฝุ่นสู้ๆ”

ถึงจะเป็นประโยคที่แผ่วเบาแต่ก็ทำให้ปารินทร์หลุดยิ้ม นึกอยากคว้าคนพูดเข้ามากอดมาหอมแต่เพราะไม่อาจทำได้เลยทำเพียงตอบรับเสียงหนักแน่น

(ครับ แค่นี้เองเนอะ...ผมวางแล้วนะ)

ฝุ่นรับคำในลำคอก่อนสายจะถูกตัดไปให้ความเงียบเหงาเข้ามาแทนที่ดั่งเดิม

ต้องแยกกันอยู่งั้นเหรอ...

--

‘สำหรับข่าวที่ออกมาว่ายังไงบ้างคะปิน’

‘ก็ไม่ว่ายังไงครับ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน เพราะงั้นผมไม่ขอพูดถึงเหมือนเดิม’

‘แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องความรักแต่เป็นเรื่องรสนิยมของเราด้วย ตรงนี้ปินยืนยันไหมคะว่ายังเป็นผู้ชายปกติที่ชอบผู้หญิง’

‘การที่ใครชอบอะไรแตกต่างก็ไม่ได้หมายความว่าเขาผิดปกติใช่ไหม ผมว่าทุกคนก็เป็นผู้ชายปกติครับ’

‘สรุปปินเป็นเกย์หรือเปล่า’

‘ผมว่าเราไม่ควรจะมานิยามสิ่งที่คนอื่นๆ เป็น ผมก็เป็นผมอย่างที่เห็นนี่แหละ’

‘แบบนี้คนอื่นเขาจะหาว่าเราบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบเพราะชอบผู้ชายด้วยกันจริงๆ หรือเปล่า’

‘ผมไม่สามารถห้ามความคิดใครได้อยู่แล้ว ก็แล้วแต่ทุกคนเลย ส่วนเรื่องตอบคำถามจริงๆ ครั้งนี้ก็ถือว่าพูดเยอะที่สุดแล้ว’

‘แล้วคนในรูปเป็นอะไรกับปินคะ ทำไมถึงได้โรงพยาบาลด้วยกันสองต่อสอง’

‘ผมไม่พูดถึงคนอื่นดีกว่า’

‘เป็นญาติ พี่น้อง เพื่อน หรือว่าอะไรคะ’

‘ผมขอไม่พูดถึงครับ คนรอบข้างผมไม่ควรจะต้องมาถูกขุดคุ้ยเรื่องราวทั้งที่เขาไม่ได้อยู่ตรงนี้...แล้วก็ฝากถึงปาปารัซซีด้วยว่าเคารพคนอื่นนิดนึง ส่วนของผมผมไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่าส่วนของคนอื่นเช่นเรื่องคุณแม่ก็อยากให้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขาดีกว่า’

‘แต่ก็มีคนบอกว่าเป็นนักร้องเป็นคนที่อยู่ในสื่อก็เท่ากับขายเรื่องส่วนตัวกินไปแต่แรกแล้ว’

‘ผมว่าทุกคนก็อยากขายความสามารถมากกว่า ทุกคนอยากอยู่ตรงนี้เพราะผลงาน เพราะงั้นเราก็อยากให้คนอื่นพูดถึงผลงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว’

‘แล้วตอนนี้ปินมีใครหรือยังคะ’

‘ผมไม่ตอบเรื่องส่วนตัวครับ’

‘แง้มสักนิดไม่ได้เลยเหรอคะ คือคนจะได้รู้ว่าปินไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกัน’

‘ผมว่าผมไม่จำเป็นต้องมาป่าวประกาศให้ทุกคนเชื่อว่าผมเป็นยังไง หน้าที่และอาชีพผมคือร้องเพลง ถ้าเป็นเรื่องตรงนี้ผมพูดได้และเต็มใจพูดเสมอ’

‘ถ้าจะมีใครสเป็คปินจะเป็นยังไง’

‘ถามเรื่องงานกันบ้างดีกว่า ไม่พูดถึงเรื่องอื่นแล้วนะครับ’

หลังจากนั้นนักข่าวก็ถามถึงเรื่องงานอีกเพียงเล็กน้อยก่อนจะถ่ายรูปปินหลังสัมภาษณ์แล้วการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กก็จบลง

ยิ่งได้เห็นการตอบคำถามฝุ่นยิ่งรู้สึกว่าอีกคนเป็นผู้ใหญ่เหลือเกิน

ลมหายใจที่เป็นดั่งควันขมุกขมัวซึ่งสุมอยู่ข้างในถูกพรูออกมาอย่างเชื่องช้า เปลือกตาสีอ่อนดำคล้ำจากการนอนไม่หลับปิดลง ยามที่อาการปวดหัวจากเมื่อคืนยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นัก

ถ้าตัวเองอยู่ในจุดที่ปินอยู่จะทำยังไงนะ...นึกไม่ออกเหมือนกัน

ฝุ่นรู้สึกคิดถึงน้องขึ้นมาจับใจ หากสามารถออกไปไหนได้คงไม่พ้นจะอาศัยความสงบของวัดมาช่วยเยียวยาความกังวลใจทั้งหมดที่มี

ป่านนี้ปินจะเป็นยังไงบ้างนะ



“พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องอ่าน”

โทรศัพท์ในมือหนาถูกดึงออกไปวางไว้ที่อื่นหลังจากปารินทร์เลื่อนสายตาอ่านสิ่งที่คนอื่นพูดถึงในแท็กปินปารินทร์มาหลายนาที

“ผมอยากรู้ว่าแฟนๆ คิดยังไง”

“พอรู้แล้วมันสบายใจขึ้นไหม”

คนถูกถามนิ่งเงียบ ก่อนปินจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของโรงแรมอย่างเหนื่อยล้า

“บางคนก็ด่าทั้งที่ไม่รู้ความจริง”

“คนเรามันก็อย่างนี้แหละ ปินอย่าไปเก็บมาใส่ใจเลย”

ภาวิดานั่งลงตรงข้างเตียงพร้อมทั้งเอ่ยปลอบเด็กหนุ่มด้วยเสียงอ่อนโยน

เธอรู้ดีว่ามันยากสำหรับปินเพียงใด

“ผมทำแฟนคลับผิดหวัง...การชอบเพศเดียวกันมันผิดขนาดนั้นเลยเหรอ”

น้ำเสียงนั้นอ่อนอ่อยจนคนฟังรู้สึกสงสารจับใจ

“มันไม่ผิดหรอกปิน สำหรับความรักมันไม่มีอะไรผิดทั้งนั้น เพียงแต่บางคนเขาไม่ได้เตรียมใจสำหรับเรื่องนี้ เหมือนกับวันหนึ่งที่หิมะตกในเมืองไทย ก็คงจะช็อกกันเป็นธรรมดา แล้วมันก็ใช่ว่าทุกคนจะไม่เข้าใจ คนที่ยังสนับสนุนปินก็มีอยู่เยอะ วันหนึ่งเวลาจะทำให้พวกเขาเข้าใจสิ่งที่ปินเป็นเอง”

“ขนาดไม่ได้ชัดเจนกระแสยังขนาดนี้ ถ้าเรื่องมันชัดเจนจะขนาดไหน”

ท่อนแขนแกร่งยกขึ้นก่ายหน้าผากขณะที่ดวงตาเรียวรีจับจ้องเพดานสีขาวด้านบนอย่างเหม่อลอย

“...”

“จริงๆ ผมอยากเปิดเผย ไม่อยากปิดบังอะไร แต่ก็ทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะต้องรับผิดชอบความรู้สึกทุกคน คงได้แต่รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม”

“ก็ให้มันค่อยๆ เป็นไปอย่างที่คุณกรณ์แนะนำนั่นแหลนะนะ...สิ่งที่พี่จะบอกคือไม่ว่าอะไรจะเข้ามาปินต้องรู้หน้าที่ตัวเอง รู้ว่า ปิน ปารินทร์ ควรทำอะไรและทำมันให้ดีที่สุดเท่านั้นพอ”

“ผมสัญญาว่าจะไม่ให้งานบกพร่องแม้แต่จุดเดียว”

 ถึงคำพูดอื่นจะอ่อนล้าเพราะความเหนื่อยแต่ประโยคนี้ปินยังคงพูดมันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

“ดีแล้ว...ถ้าเรารักงาน งานก็จะรักเรา เคยได้ยินใช่ไหม”

ใบหน้าหล่อเหลาเอียงกลับไปมองทางผู้จัดการตัวเองพร้อมทั้งพยักหน้ารับ เห็นดังนั้นภาวิดาก็ยิ้มบางแล้วหยัดกายขึ้น

“วันนี้ก็พักผ่อนเถอะ แล้วก็มีอะไรจะฝากไปให้ฝุ่นไหม พรุ่งนี้พี่จะให้คนเอาของเข้าไปให้ฝุ่น”

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ความจริงไม่อยากฝากแต่อยากไปหาเอง ทว่าเมื่อทำไม่ได้ก็ได้แต่ฝากสิ่งที่อีกคนชอบทานไปแทน

“ช็อกโกแลตแล้วกันครับ”

“แค่นั้นนะ”

“ครับ แค่นั้น”

“โอเค งั้นพี่กลับล่ะ เจอกันตอนเช้า”

ร่างสูงดึงตัวเองขึ้นมาไหว้ลาภาวิดา จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนเช่นเดิมยามที่ในหัวคิดถึงคนอยู่สองคน

‘เข้าใจธรรมชาติของคน เข้าใจธรรมชาติชีวิต แล้วใจปินจะเบาลงนะลูก’

คำพูดของแม่ที่โทรมาหาดังเข้ามาในหัวให้ความว้าวุ่นใจค่อยๆ สงบลง

ชีวิตมันก็อย่างนี้สินะ...ไม่ใช่แค่เขาที่ต้องเจอสักหน่อย

--

ฝุ่นถอนหายใจออกแผ่วเบาหลังจากที่ไหว้พระเสร็จ ร่างเล็กพลิกตัวนอนพิงกับพนักเตียงก่อนที่สุดท้ายจะอดกดเข้าไปในแท็กปินปารินทร์ไม่ได้เช่นเดิม

‘บ่ายเบี่ยงขนาดนี้คือแฟนชัวร์ ถ้าไม่ใช่ก็ต้องปฏิเสธออกมาแล้วสิ...ต่อไปกูจะฟังเพลงของเขาอินได้ยังไงงงงง’
‘ชะนีก็คือเลิกมโนเพ้อพกไปเลย สรุปเขาชอบเก้งจ้า’
‘เพลงรักนี่คือแต่งมาจากชีวิตจริงงี้ป้ะ กุร้องไห้แล้ว’
‘ทำใจไม่ได้จริงๆ อะ’
‘เขายังไม่ได้บอกเลยว่าเป็นเกย์ ยังไม่ได้บอกว่าคนนั้นเป็นแฟน อย่าเพิ่งมโนกันจ้ะ’
‘ช็อกแล้วก็เสียใจกับข่าวนี้ที่สุดตั้งแต่ติดตามปินมา ขอหายไปสักพักนะ สัญญาว่าเข้มแข็งเมื่อไหร่จะกลับมา’

สุดท้ายเมื่อตามอ่านไม่ไหวและใจไม่เข้มแข็งพอจะอ่านต่อฝุ่นก็วางโทรศัพท์แล้วหลับตาลง

ทำให้ปินลำบากอีกแล้ว

Rrrr

เพราะไม่ต้องเดาว่าเป็นใครมือจึงรีบหยิบโทรศัพท์มากดรับวิดีโอเฟซไทม์

“ยังไม่นอนอีกเหรอ” ทักทายปินด้วยประโยคนี้เนื่องจากเป็นเวลากว่าเที่ยงคืนเศษ

(พี่หวานเพิ่งกลับไปน่ะครับ ฝุ่นเองก็ยังไม่นอนเหมือนกัน)

“...รอสายอยู่”

คนโทรมาระบายยิ้มบางเบา

(ขอโทษนะ พอดีผมยุ่งมาก เพิ่งจะว่างก็ตอนนี้เอง)

“อื้ม เข้าใจ...หลังจากสัมภาษณ์แล้วเป็นยังไงบ้าง”

สายตาคนถามเจือความเป็นห่วงระคนกังวลจนปินต้องเอ่ยตอบด้วยสีหน้าที่พยายามผ่อนคลายลง

(ก็มีกระแสเป็นธรรมดา แต่ผมยังไหว ฝุ่นไม่ต้องห่วง)

“ขอโทษที่ทำให้ปินลำบาก” ดวงตาโตหลุบลงมองมือที่วางอยู่บนตักของตัวองขณะเอ่ยพูดเสียงแผ่ว

(ฝุ่นอย่าพูดอย่างนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดาในอาชีพผมอยู่แล้ว)

“...”

(ห้ามโทษตัวเอง ผมกำลังต่อสู้อยู่ ฝุ่นต้องอย่ายอมแพ้)

“อื้อ” ฝุ่นเลื่อนสายตาขึ้นมองคนในหน้าจออีกครั้งยามส่งเสียงรับคำ

(พรุ่งนี้พี่หวานจะให้คนเอาของเข้าไปให้ ผมฝากของไปให้ด้วย คิดถึงเมื่อไหร่ก็หยิบทานนะครับ)

“ถ้าอย่างนั้นไม่ถึงนาทีก็หมดแล้ว”

ริมฝีปากได้รูปคลี่ออกเป็นรอยยิ้มกว้าง ดวงตาทอดมองฝุ่นด้วยความเอ็นดู พลังกายและใจที่เหลือเพียงน้อยนิดเหมือนถูกเติมจนเกือบเต็ม

แมวฝุ่นน่ารักอีกแล้ว

(ผมก็คิดถึงฝุ่นเหมือนกัน)

“วันนี้เหนื่อยหรือเปล่า”

คนถูกถามพยักหน้ารับโดยไม่ปฏิเสธ

(แต่แค่มีฝุ่นอยู่ตรงนี้ผมก็พร้อมจะสู้ต่อแล้ว)

“มัน...มีผลกระทบกับเรื่องงานหรือเปล่า”

(ไม่มีหรอกครับ)

“แล้วแฟนคลับล่ะ”

(อืม ก็มีคนรับไม่ได้บ้างเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้ที่มาหากันก็ยังน่ารัก เป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดของผมเลยล่ะ) ปารินทร์ไม่คิดโกหก แต่เลือกจะพูดถึงเรื่องราวดีๆ มากกว่าเรื่องราวที่แย่ให้อีกคนฟัง

“ดีแล้ว”

(แม่บอกว่าเราจะผ่านทุกเรื่องไปได้ถ้าปล่อยวางและมีสติ ที่สำคัญคือต้องไม่ยอมแพ้...ผมไม่อยากให้ฝุ่นจมปลักกับกระแสด้านลบ ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไงเราก็แค่ใช้ชีวิตในแบบของเรา ทำทุกวันให้ดี แค่นั้นก็พอ)

“อืม” ฝุ่นได้แต่รับคำอย่างไม่รู้จะพูดอะไรไปมากกว่านั้น

(งั้นคืนนี้ฝุ่นก็นอนนะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ฝันดีครับ)

“ฝันดี...คนเก่งของฝุ่น”

คนฟังยังคงนิ่งค้างกับคำที่ได้ยินทว่าภาพใบหน้าน่ารักนั้นถูกตัดไปตั้งแต่ที่อีกคนพูดจบ ไม่เปิดโอกาสให้ปินได้พูดหรือถามอะไรต่อจากนั้น

คนสองคนอยู่คนละแห่งแต่กลับกำลังรู้สึกแบบเดียวกัน

บนใบหน้ามีรอยยิ้ม หัวใจเป็นสุขแม้จะมีเรื่องหนักอึ้ง...แล้วก็ข้ามพ้นอีกหนึ่งวันไปด้วยกำลังใจจากกันและกัน


TBC.

ให้กำลังใจหมาปินกับแมวฝุ่นกันด้วยน้า
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
#secrecyลับรัก


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 23-01-2019 23:14:37
ก้าวข้ามมันด้วยความเข้มแข็งนะหนูๆ
คุณแม่ของปินต้องเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและอ่อนโยนมากแน่ๆ เลย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-01-2019 23:23:47
สงสาร
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-01-2019 00:06:19
เข้มแข็งให้มากๆนะฝุ่น อะไรที่มันบั่นทอนก็อย่าเก็บมาใส่ใจมากนัก
 :hao5:  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 24-01-2019 00:15:16
เข้มแข็งไว้น้ะ สู้ๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-01-2019 01:01:39
สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-01-2019 01:08:26
มีแบบทดสอบชีวิตมาให้ปินกับฝุ่นทำอีกแล้ว ขอให้ทำผ่านนะเด็ก ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 24-01-2019 01:18:34
สู้ๆนะทั้้งสองคน​ เอาใจช่วย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 24-01-2019 05:23:37
ทีมปิน&ฝุ่นนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 24-01-2019 06:55:09
ต้องสู้นะฝุ่น ไม่ท้อนะ
เคลียร์ให้จบเลยหมาปินของฝุ่น

รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะ  o13
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-01-2019 07:40:56
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-01-2019 07:44:34
สู้สู้นะทั้งสองคน.  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 24-01-2019 08:18:05
ฟู่ฟู่นะฮับ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 25-01-2019 21:50:39
ปินกับฝุ่นจะก้าวข้ามเรื่องเหล่านี้ไปได้แน่นอน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 25-01-2019 23:41:31
หมาปินกับแมวฝุ่น จะต้องผ่านมันไปได้ จับกันไว้แน่นๆนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 26-01-2019 16:53:25
มันอึดอึดใจจังเลย เอาใจช่วยทั้งสองคน
แฟนคลับถ้ารักจริงต้องเข้าใจปิน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 27-01-2019 07:25:35
สู้ๆทั้งคู่เลยจ้าาา แฟนคลับทางนี้ร้องไห้แทนแล้วววว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 28-01-2019 00:16:35
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Fifteen.] : 23/01/2562 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 29-01-2019 23:41:16
 :sad4: :sad4: เรารู้ว่าเธอสองคนจะผ่านมันไปได้นะะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 31-01-2019 19:47:59
Chapter Sixteen.

วันเวลาหมุนผ่านไปกว่าสัปดาห์แต่กระแสข่าวเรื่องปินกลับไม่ซาลง อีกทั้งยังมีการพยายามขุดประวัติฝุ่นจนแท็กปินปารินทร์อยู่ในความนิยมแทบจะตลอด

ขวดยาแก้ปวดหัวถูกเขย่าให้เม็ดยาไหลลงฝ่ามือก่อนฝุ่นจะโยนมันเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามหวังให้อาการปวดหัวนั้นบรรเทาลง

ร่างเล็กเดินกลับมาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา กล่องช็อกโกแลตหลายสิบกล่องว่างอยู่บนโต๊ะตรงหน้า และเมื่อทนความคิดถึงไม่ไหวก็หยิบอีกชิ้นเข้าปากอีกชิ้น

คิดถึงปิน...

ไม่ได้เจอกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว

จะด่าจนกว่าจะเห็น @AntiFanPin
ไม่เห็นจะน่ารักแบบที่เขาว่า #ปินปารินทร์

จะด่าจนกว่าจะเห็น @AntiFanPin
ถ้าส่องแท็กก็ขอให้รู้ไว้ว่ากำลังทำให้ชีวิตปินตกต่ำ #ปินปารินทร์

จะด่าจนกว่าจะเห็น @AntiFanPin
ปินควรจะได้อะไรที่ดี เหมาะสม และคู่ควรมากกว่านี้ #ปินปารินทร์

ฮึก

แม้จะพยายามห้ามใจไม่ให้เข้ามาส่องแอคนี้ยังไงแต่พอว่างฝุ่นก็เผลอกดเข้ามาแทบทุกครั้ง

อยากรู้ว่าถูกพูดถึงว่ายังไง...แล้วพอรู้ก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

เขากำลังทำให้ชีวิตปินตกต่ำจริงๆ

ออดดดดด

เสียงออดหน้าห้องที่ดังขึ้นทำให้ฝุ่นเลื่อนสายตาอันพร่ามัวไปทางประตูราวกับจะเห็นคนมาหา ความหวาดระแวงกับเรื่องที่เกิดขึ้นพาให้นั่งนิ่งไม่กล้าไม่เปิด กระทั่งเสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งจึงค่อยๆ ลุกไปส่องดู

มือบางยกขึ้นมาปาดน้ำตาก่อนจะทาบตาเข้ากับตาแมว แล้วก็ต้องรีบเปิดประตูเมื่อเห็นว่าคนที่มาหาคือใคร

“คะ คุณน้า” คนถูกเรียกยิ้มรับ

“สวัสดีจ้ะ ปินเขาให้แม่มาอยู่เป็นเพื่อนฝุ่นน่ะลูก”

“...เชิญข้างในก่อนครับ” ฝุ่นรีบเบี่ยงตัวหลบให้คนแม่ของปินเดินเข้ามาพร้อมทั้งรีบอาสาช่วยถือของในมือให้

“อาหารสดทั้งนั้น เอาไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อนแล้วกันนะจ๊ะ”

ใบหน้าซีดเซียวกดลงรับจากนั้นจึงเอาของทั้งหมดไปเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับออกมาพร้อมแก้วน้ำ

“น้ำครับ”

“ขอบใจนะจ๊ะ” ประภารับแก้วน้ำมาจิบเพียงเล็กน้อยแล้ววางมันลงบนโต๊ะพลางทอดมองคนที่นั่งลงบนโซฟาเดี๋ยวอีกตัวด้วยความเอ็นดู

“เป็นยังไงบ้างหืม”

คนถูกถามเม้มริมฝีปากเข้าหากันแล้วก็คลายออกยามเอ่ยตอบ

“ก็...สบายดีครับ”

“โกหกผู้ใหญ่บาปนะ”

“...”

“ดูจากหน้าตาแล้วแม่ก็รู้ว่าฝุ่นเป็นยังไง เครียดแล้วก็กังวลมากเลยใช่ไหม”

“ครับ” ฝุ่นหลุบตาลงมองมือตัวที่บีบกันแน่นอีกทั้งยังพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

“จำเอาไว้นะฝุ่น ต่อให้เราทำดีแค่ไหนถ้าคนจะไม่ชอบ เขาก็ไม่ชอบอยู่ดี...เขาไม่ชอบก็เป็นเรื่องของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเราต่อไป”

น้ำตาที่ไม่อาจกลั้นไหวไหลรินออกทางหางตาคู่สวยช้าๆ หากแต่ฝุ่นก็พยายามเช็ดมันออกอย่างรวดเร็ว

“ปินอยู่กับตรงมานานแล้วก็เข้าใจจุดนี้มาตลอดถึงได้อยู่ได้ ถามว่าคิดไหมมันก็คิดเป็นเรื่องปกติแต่ก็ไม่ได้ขนาดเอามาใส่ใจ ฝุ่นเองก็ควรจะทำแบบปินนะลูก”

“ฝะ ฝุ่นจะพยายาม” เสียงที่ตอบกลับติดขัดเพราะแรงสะอื้น

“มานี่มา มาให้แม่กอดหน่อย”

ดวงตาแดงเรื่อสั่นระริกก่อนฝุ่นจะค่อยๆ ขยับกายไปหาแม่ของปิน แล้วอ้อมแขนอบอุ่นก็โอบรอบร่างกายให้คนที่แทบลืมความรู้สึกนี้ไปแล้วน้ำตาร่วงพรู

คิดถึงแม่

“ปล่อยวางแล้วก็อย่าเก็บความคิดเห็นเหล่านั้นมาคิด”

“ฝุ่น ฮึก ทำให้ปินลำบาก ระ หรือเปล่าครับ”

“ถ้าปินเขาไม่ได้พูดออกมาก็อย่าไปคิดแทนเขาเลย ใครๆ ก็ต้องเจอเรื่องที่ลำบากกันทั้งนั้น” ฝ่ามือเหี่ยวย่นลูบไล้แผ่นหลังบางไปมาแผ่วเบา

“ถือว่ามันเป็นอีกหนึ่งบทเรียนของชีวิตนะลูกนะ”

ฝุ่นซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นๆ ที่ใจโหยหา จากนั้นก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงอย่างเงียบเชียบอยู่อย่างนั้น



“หลับไปแล้วล่ะ ท่าทางคงไม่ค่อยได้นอน หน้าตาซูบเซียวเชียว”

ปารินทร์ถอนหายใจกับสิ่งที่ได้ยิน จากนั้นจึงเอ่ยฝากฝังให้คนเป็นแม่ดูแลอีกคนแทนระหว่างที่ตัวเองไม่สามารถทำได้

(ผมฝากแม่ดูฝุ่นหน่อยนะครับ เป็นไปได้ก็อย่าให้ดูข่าวมากนัก)

“จ้ะ”

(ผมต้องวางแล้ว ไว้ยังไงจะโทรหาอีกที)

“ตั้งใจทำงานนะปิน แล้วก็พยายามปล่อยมันไป”

(ครับ รักแม่นะ)

“แม่ก็รักปิน”

สายโทรศัพท์ถูกตัดไปแล้วคนแก่ก็ลอบถอนหายใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปทอดมองคนที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียง

สิ่งที่ทั้งสองต้องมีให้มากคือความอดทนที่จะจับมือกันผ่านพ้นไป

--

“คิดดีแล้วใช่ไหมครับ” คนสนิทที่ทำงานด้วยกันมาร่วมสิบปีถามกัญจน์ขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ขณะที่คนนั่งพักสายตาอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ก็ส่งเสียงรับคำ

“อืม”

“คนอื่นๆ จะไม่ว่าอะไรเหรอครับ”

“ว่า แต่ก็แค่นั้นแหละ”

“แต่ว่า...”

ดวงตาคมเปิดลืมขึ้นพร้อมกับการหยัดกายนั่งหลังตรง เป็น กัญจน์ ศิวะเกียรติ แบบที่เคย

“ตอนนี้ประเทศเราไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้อยากอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นคงไม่มีเวลาไหนที่จะเหมาะเท่านี้แล้ว”

“มันอาจจะมีเรื่องวุ่นวายตามมาอีกมาก โดยเฉพาะเรื่อง...”

“เรื่องแก้ม...ฉันรู้ แต่ฉันคิดว่าตัวเองจัดการได้” เสียงทุ้มเอ่ยต่อสิ่งที่ฐากูรไม่กล้าพูดให้จบยามที่แววตาก็แสดงออกถึงความหมายมาดจนคนเป็นลูกน้องไม่มีอะไรจะพูดมากกว่านั้น

นายตัดสินใจแล้วเพราะงั้นจะไม่มีอะไรเปลี่ยนได้

“ครับ”

Rrrr

โทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าอย่างถูกเวลาดังขึ้นให้มือหนาเอื้อมไปหยิบมัน และพอเห็นว่าเป็นใครมุมปากได้รูปก็ยกขึ้น อาจจะเพียงนิดเดียวแต่ฐากูรที่ใกล้ชิดกับกัญจน์มานานรับรู้ได้ทันทีว่านายอารมณ์ดีเพียงเพราะชื่อของคนที่โทรเข้ามา

แล้วคนเป็นลูกน้องก็ค้อมหัวลงจากนั้นจึงเดินออกจากห้องไป

“อืม”

(คุณกัญจน์ว่างคุยหรือเปล่าครับ)

“ว่าง”

(พอดี...บลูมาซื้อของ แล้วตัดสินใจไม่ได้เลยอยากจะขอให้คุณกัญจน์ช่วยตัดสินใจหน่อยได้ไหมครับ)

“เอาสิ ส่งมาให้ดูในไลน์ก็แล้วกัน”

(ขอบคุณครับ แล้วคุณกัญจน์อยากได้อะไรหรือเปล่า หรือว่าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม)

“อยากได้เธอ แล้วก็อยากกินเธอ” กัญจน์ยกยิ้มเมื่อพูดจบแล้วได้ยินเพียงเสียงจอแจรอบข้าง ไร้เสียงใสๆ ตอบกลับมา

ด้านคนฟังก็ได้แต่ขบกัดริมฝีปาก คำตอบเพียงประโยคเดียวกลับส่งผลต่อหัวใจและร่างกายจนรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ภาพในหัวเผลอจินตนาการว่าอีกคนกำลังใช้สายตาแบบใดยามเอ่ยพูด

ก๊อก ก๊อก

“ฉันอยากแกล้งเธอต่อแต่ดูท่าว่าจะไม่มีเวลาแล้ว ยังไงก็ส่งรูปมาในไลน์แล้วกัน ยังพอมีเวลาช่วยดูให้”

(ครับ)

“ฉันวางแล้วนะ”

(คุณกัญจน์)

“หืม”

(ทำงานสู้ๆ นะครับ)

เป็นประโยคที่ช่างพื้นฐานและฟังดูเด็กทว่ามันกลับทำให้กัญจน์ยกยิ้ม ความเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่ต้องเจอและกำลังจะเจอถูกบรรเทาลงด้วยเด็กน้อยปลายสาย

“อืม” คนอายุมากกว่ารับคำในลำคอเพราะไม่รู้ว่าควรตอบกลับแบบใด จากนั้นจึงกดวางสายเมื่อฐากูรเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า

“ท่านโฆษกมาครับ”

โทรศัพท์ถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมด้วยสีหน้าที่แตกต่างจากเมื่อครู่อย่างลิบลับ ลมหายใจหนักอึ้งถูกสูดเข้าปอด ก่อนร่างภูมิฐานจะหยัดกายลุกขึ้น

ติ๊ง

ทว่าความจริงจังเครียดขึงบนใบหน้าคมเป็นอันต้องเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเห็นรูปทั้งสองที่ร่างเล็กส่งมา

‘สีไหนดีครับ’

ชุดนอนผู้หญิงลายลูกไม้แบบที่แทบจะซีทรูทั้งตัวมีสีแดงและน้ำเงิน

กัญจน์กระแอมไอเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกน้องเลิกคิ้วถามว่ามีอะไรหรือเปล่า ก่อนมือจะพิมพ์ส่งข้อความกลับไปอย่างรวดเร็ว

‘ซื้อมาทั้งสองนั่นแหละ...หรือจะเหมาหมดร้านก็ได้’

แล้วโทรศัพท์เครื่องหรูก็ถูกเก็บลงกระเป๋าด้านในเสื้อสูท ขณะที่บลูก็กัดริมฝีปากแน่น จากนั้นจึงค่อยๆ เดินกลับไปบอกพนักงานเสียงเบา

“เอาทั้งสองเลยครับ”

--

“ฝีมือใช้ได้เลยนะ” คนถูกชมยิ้มรับบางๆ อย่างดีใจ

กิจกรรมในวันต่อมาคือการวาดรูปเพื่อผ่อนคลายความเครียด โดยประภาเริ่มสอนฝุ่นจากการวาดรูปดอกไม้ที่ไม่ยุ่งยาก และคนรุ่นลูกก็ทำได้ดีไม่น้อย

“ตอนฝุ่นเรียนก็ได้วาดดอกไม้บ้างแต่เป็นสีน้ำครับ”

“ก็ยากไปอีกแบบเลยนะ”

“การวาดรูปก็ยากหมดเลย”

คนฟังระบายยิ้ม นอกจากจะเพราะประโยคที่ได้ยินแล้วยังเป็นเพราะความเศร้าสร้อยในดวงตาคู่โตนั้นดูเบาบางลง

“ได้เท่านี้ก็ถือว่าฝีมือฝุ่นไม่แย่เลยนะ”

“คุณน้าสอนดีมากกว่า”

ประภายิ้มรับก่อนจะวางมือจากกระดาษและดินสอตรงหน้าเมื่อนาฬิกาบอกว่าถึงเวลาเตรียมมื้อเย็น

“เดี๋ยวน้าไปซูเปอร์ก่อนนะจ๊ะ”

“ฝุ่นอยากไปด้วยจัง” คนพูดคล้ายจะบ่นพึมพำแบบไม่คิดอะไรแต่ประภาก็เข้าใจความรู้สึกที่เจือมากับประโยคนั้นดี

“เอาไว้วันหลังเนอะ” คนแก่พูดปลอบใจพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบหัวให้ฝุ่นรู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งอก ดั่งความเศร้าและความกังวลที่แบกเอาไว้ถูกปัดเป่าออกไปจากใจช้าๆ

เข้าใจแล้วว่าปินอบอุ่นเหมือนใคร

“แม่ไปนะ”

ฝุ่นพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปส่งแม่ของปินที่หน้าประตู กระทั่งทั้งห้องเหลือเพียงตัวเองลมหายใจหนักอึ้งก็ถูกพรูออกแผ่วเบา

จะด่าจนกว่าจะเห็น @AntiFanPin
สงสารปิน เก็บความเครียดไว้ไม่มิดเลย...ทำไมต้องมีข่าวออกมาในช่วงกำลังรุ่งแบบนี้ #ปินปารินทร์

มือซึ่งกำลังถือโทรศัพท์สั่นระริกไม่ต่างจากดวงตาเมื่อได้เห็นหน้าปินในแบบที่ไม่เคยได้เห็น

ตั้งแต่เกิดเรื่องอีกคนมักจะแสดงออกเพียงความเข้มแข็ง ฝุ่นจึงไม่เคยรู้เลยว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นมันซ่อนความเครียดเอาไว้มากมายเพียงใด

นิ้วมื้อลูบไล้หน้าจออย่างแผ่วเบาราวกับจะให้สัมผัสนี้ส่งไปถึงคนในรูป

แกร๊ก

คนที่กำลังจมจ่ออยู่กับโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นเมื่อคล้ายกับจะได้ยินเสียงเปิดประตูและเสียงฝีเท้าหนักๆ กระทั่งเห็นคนที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโทรศัพท์ในมือก็ร่วงผล็อย ร่างกายแข็งค้าง รอบข้างเหมือนมีเพียงความเงียบ แล้วการมองเห็นก็ค่อยๆ พร่ามัวเพราะหยดน้ำตา

“ดีใจก็ต้องยิ้มสิครับ ร้องไห้แบบนี้ผมคิดว่าฝุ่นเสียใจที่เห็นผมนะ” ปินก้าวมาทรุดตัวนั่งลงบนโซฟายามที่ฝ่ามือหนาก็ยกขึ้นแตะแก้มเนียนแผ่วเบา

“ฮึก” ความเครียดและความคิดถึงที่อัดแน่นอยู่ในอกถูกกลั่นกรองออกมาเป็นน้ำตาที่ไม่อาจสะกดกลั้น

ฝุ่นโถมตัวเข้ากอดคนตรงหน้าด้วยความโหยหา พอร่างกายสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ถึงได้เชื่อว่าไม่ใช่ความฝัน การห่างเหินเพียงหนึ่งสัปดาห์ยาวนานราวกับหนึ่งปีในความรู้สึก

“คิดถึงผมไหม”

คนถูกถามทำได้เพียงพยักหน้าหงึกหงักเนื่องจากดีใจจนไม่สามารถพูดอะไรได้

กลิ่นกายอันแสนอบอุ่นกรุ่นอยู่ปลายจมูกตอกย้ำการมีอยู่ ความอบอุ่นที่คะนึงหาแทรกเข้ามาแทนที่ความเปล่าเปลี่ยว

“เป็นยังไงบ้าง แมวฝุ่นดื้อหรือเปล่า” ปารินทร์ผละกายออกห่างเพื่อมองใบหน้าอีกคนให้ชัดหลังจากที่รับรู้ว่าแรงสะอื้นนั้นเบาลง

“ไม่ดื้อ” ฝุ่นส่ายหน้าไปมาช้าๆ

“จริงหรือ แต่จากที่ผมเห็นมันไม่ใช่แบบนั้นนะ” แก้มเนียนที่ไม่นุ่มนิ่มเหมือนเมื่อก่อนถูกลูบไล้ไปมา

“ปินก็ดื้อ” มือบางวางแนบกับแก้มสากเพื่อบอกให้รู้ว่าคนพูดก็ไม่ได้แตกต่างกัน

ปินระบายยิ้มมือถูกว่ากลับ ก่อนมือจะเลื่อนไปทัดผมนิ่มกับใบหูแล้วค่อยๆ โน้มหน้าลงไปใกล้ สุดท้ายริมฝีปากก็จรดเข้ากับส่วนเดียวกัน แนบชิดอยู่อย่างนั้นหลายวินาทีกว่าจะขยับดูดดึง

จูบแห่งความคิดถึงเริ่มต้นอย่างเชื่องช้าและค่อยๆ เป็นไป ดั่งกลัวว่ากันและกันจะเลือนหาย

จุ๊บ

“เข้าห้องกัน” ใบหน้าหล่อผละออกพลางกระซิบชิดริมฝีปากสีสด คำชวนซึ่งบ่งบอกว่ามีจุดประสงค์ใดทำให้ฝุ่นเกิดความลังเล

“แต่แม่ปิน...”

“เสร็จทันแม่กลับมาแน่นอน”

คนฟังรู้สึกร้อนๆ ที่บริเวณข้างแก้ม ทว่ายังไม่ทันจะได้ตกปากรับคำร่างกายก็ลอยขึ้นจากโซฟาด้วยท่อนแขนแกร่ง

“คิดถึงจะตายอยู่แล้ว”

เพียงประโยคเดียวฝุ่นก็ไม่มีคำคัดค้านใดซ้ำยังยกมือขึ้นคล้องลำคอแกร่ง ยอมให้อีกคนพาเข้าห้องไปอย่างง่ายดาย



ฟอด

“คิดถึงแม่จังเลย”

แก้มอวบอิ่มถูกช่วงชิงความหอมโดยปลายจมูกโด่ง ก่อนที่ปารินทร์จะฉวยถุงของมากมายจากมือแม่มาถือเอาไว้

“แน่ใจนะว่าคิดถึงแม่” คนเป็นแม่เลิกคิ้วถามระหว่างที่กำลังเดินไปห้องครัว ด้านคนถูกแซวก็รีบยิ้มกว้างเอาใจ

“ก็คิดถึงทั้งสองคนนั่นแหละครับ นี่ปาล์มคงร่าเริงใหญ่เลยใช่ไหมที่ได้อยู่บ้านคนเดียว”

“ก็ตามประสาวัยรุ่น”

“อย่าให้มากเกินจนแอดไม่ติดก็แล้วกัน”

“เรานี่ ก็รู้อยู่ว่าน้องเอาตัวรอดได้”

“รักจังน้า ลูกคนเล็กเนี้ย” ปินแสร้งทำหน้าน้อยอกน้อยใจจนถูกแม่ย่นจมูกใส่ด้วยความหมั่นไส้

“แม่ก็รักทั้งสองคนนั่นแหละ” ประภาโคลงหัวอย่างอ่อนใจและเมื่อเห็นสีหน้าที่ทำเป็นไม่เชื่อนั้นก็ฟาดมือลงบนท่อนแขนของลูกเบาๆ จากนั้นจึงช่วยจัดของเข้าตู้เย็นให้เรียบร้อย

“ว่าแต่นี่ฝุ่นไปไหน” ร่างอวบอิ่มที่เพิ่งกดหม้อหุงข้าวให้ทำงานหันไปถามร่างสูงซึ่งยืนล้างผักอยู่อีกด้าน

“หลับครับ”

“ทำอะไรล่ะฝุ่นถึงได้ผล็อยหลับไปเวลานี้”

ปารินทร์เอี้ยวตัวกลับมายิ้มกว้างให้คนเป็นแม่

“ก็...ผมอยากให้ฝุ่นพักผ่อน”

“อยากให้ฝุ่นพักหรือเป็นเพราะความหื่นตัวเอง”

“แม่ นี่ปินลูกแม่ไงครับ”

“ก็เพราะเป็นลูกไงถึงได้รู้จักดี” คนเป็นลูกยักไหลอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ก่อนจะหันกลับไปล้างผักต่อเมื่อเห็นแม่หยิบกระทะมาวางลงบนเตา

สามสิบนาทีผ่านไปอาหารมื้อเย็นก็เสร็จเรียบร้อยด้วยการร่วมด้วยช่วยกันของสองแม่ลูก

“สรุปว่าคืนนี้ว่าง?” อาหารจานสุดท้ายถูกวางลงบนโต๊ะยามประภาเอ่ยถามปินที่นั่งอยู่ตรงหน้า

“ครับ...แต่ยังไงก็คงค้างที่นี่ไม่ได้”

ถึงรอยยิ้มนั้นจะมีความจืดเจื่อนเจืออยู่จางเพียงใดแต่ผู้ให้กำเนิดที่เลี้ยงดูเจ้าตัวมาตั้งแต่แบเบาะก็รับรู้ได้ในทันที

คนร่างอวบจึงเดินอ้อมไปหาลูกชายพลางรั้งไหล่ปินเข้ามาหาตัว

“เหนื่อยหรือเปล่าลูก” เพียงคำถามเดียวความเข้มแข็งที่มีมาก็พังทลายลงแทบไม่มีเหลือ

ริมฝีปากได้รูปเม้มเข้าหากันพลางพยายามสะกดกลั้นความร้อนผ่าวตรงกระบอกตาเอาไว้

“นิดหน่อยครับแม่” เอ่ยคำว่านิดหน่อยทว่าเสียงพูดกลับสั่นเครือจนมือเหี่ยวย่นต้องวางลงบนไหล่กว้างแล้วลูบไปมา

“ชีวิตคนเรามันก็แบบนี้ เดี๋ยวอะไรๆ ก็ดีขึ้น”

“...ผมเสียใจที่ทำให้หลายคนต้องเสียใจ” ปินพูดออกมาเสียงแผ่ว

“...”

“ผมอยากทำทุกอย่างให้ดีกว่านี้ แต่ก็รู้ว่าต่อให้พยายามแค่ไหนมันก็ยังมีผลกระทบต่อคนอื่นเพราะการที่ผมอยู่ตรงนี้ได้ไม่ใช่แค่เพราะตัวเองเพียงคนเดียว...มันยากจังเลยครับกับการต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อทุกๆ คน”

ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่มีทั้งแฟนคลับ ค่าย และคนร่วมงานอีกมากมาย

“ค่อยๆ ทำค่อยๆ แก้ไป ปินต้องทำใจแล้วก็ยอมรับว่ามันเป็นธรรมชาติของอาชีพนี้”

สองแขนแกร่งยกขึ้นโอบรอบเอวของคนเป็นแม่ทั้งยังซบหน้าเข้าหาหน้าท้องนิ่มด้วยความเหนื่อยอ่อน

มีเพียงที่ตรงนี้ที่ปินแสดงออกถึงความอ่อนแอได้เสมอ

“เราไม่สามารถทำให้มันดีสำหรับคนทุกคนได้หรอกนะลูก” ประภาได้แต่ปลอบคนเป็นลูกด้วยถ้อยคำและสัมผัสอันแสนอบอุ่น หวังให้ปินเข้มแข็งให้มากและผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างราบรื่นที่สุด

“แม่ผิดหวังไหมที่ปินรักฝุ่น” คนถูกถามเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“แม่ดูผิดหวังเหรอ”

“ก็เผื่อแม่ผิดหวังแต่ไม่แสดงออก”

“ปินมีสิทธิ์ที่จะเลือกทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวลูกเอง ตอนปินบอกแม่ก็รู้สึกตกใจอยู่เล็กๆ แต่ไม่ได้มากมายอะไร”

“...”

“แม่เข้าใจ ความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอก”

ปารินทร์เงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้าใจตัวเองที่สุดพร้อมรอยยิ้มบาง

“ปินรักแม่ที่สุดเลย” มือเหี่ยวย่นวางลงบนหน้าผากลูกแล้วตีไปมาเบาๆ

“ฮึบทุกอย่างไว้แล้วก็ไปปลุกฝุ่นมาทานข้าวได้แล้ว”

ลมหายใจที่เจือความเหนื่อยล้าถูกสูดเข้าปอดลึกเพื่อเรียกพลังกายและใจกลับมา ก่อนร่างสูงจะลุกขึ้นหอมแก้มนิ่มดังฟอด

“ครับ”

ประภามองตามลูกชายไปอย่างความอ่อนใจ จากนั้นจึงเดินกลับไปเอาน้ำมาตั้งไว้บนโต๊ะ ขณะที่ปินเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน

“ผมกำลังจะมาปลุกพอดีเลย” ปินเอ่ยทักคนที่กำลังใช้ผ้าซับหยดน้ำออกจากใบหน้าขึ้นพร้อมทั้งเดินตรงไปหา

“ตื่นแล้ว”

“งั้นก็ออกไปทานข้าวกัน”

“อื้ม” ผ้าเช็ดตัวถูกนำไปแขวนให้เรียบร้อย แล้วร่างเล็กก็เดินตามคนตัวโตออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกกระดากอายต่อแม่อีกคนเล็กๆ

--

“ทำไมทานข้าวน้อยจังหืม” ปารินทร์เอ่ยถามขึ้นเมื่อห้องครัวเหลือเพียงตัวเองและคนที่กำลังยืนล้างจานอยู่ข้างตัว

“ไม่ค่อยหิวเลย”

“ไม่หิวก็ทานให้เยอะกว่านี้หน่อย อย่าทำให้ผมเป็นห่วงสิครับ”

คนถูกเป็นห่วงระบายยิ้มก่อนจะถามถึงอีกเรื่องที่เพิ่งจำได้

“ตอนแรกปินบอกว่าวันนี้มีงานไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงแวะมาที่นี่ได้ล่ะ”

“สื่อสารกันผิดพลาดนิดหน่อยน่ะ แต่ก็ดีแล้วแหละเพราะได้มีเวลามาหาแม่กับฝุ่นพอดีเลย”

คนฟังพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้าจากนั้นจึงหันกลับไปล้างจานต่อโดยมีเจ้าหมาตัวใหญ่คอยก่อกวนด้วยการหอมนู่นหอมนี่อยู่ไม่ห่าง



“ไม่อยากกลับเลย” มือเล็กถูกมือหนาจับเอาไว้ทั้งสองข้างพร้อมทั้งแกว่งไปมาเบาๆ ขณะที่ดวงตาเรียวรีทอดมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกอาลัย

“อย่างอแงสิ ไว้มีเวลาก็ค่อยแวะมาใหม่ก็ได้”

“ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะว่าง”

“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” ฝุ่นกระชับมือที่จับกันเอาไว้อย่างให้กำลังใจคนทำงาน แล้วร่างบางก็ค่อยๆ ขยับกายเข้าหาแผ่นอกของเจ้าหมาตัวโต สองแขนเลื่อนไปโอบรอบเอวสอบแน่น

“ไม่ว่าต้องเจอกับอะไรฝุ่นก็จะเอาใจช่วยปินเสมอ” เปลือกตาสีอ่อนหลับลงยามที่ปารินทร์ก็วาดแขนกอดอีกคนกลับ

“ผมรู้...เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”

“รักปินมาก รู้ใช่ไหม”

“ครับ ผมก็รักฝุ่นมาก”

ฝุ่นเงยหน้ามองคนที่ตัวเองหมดหัวใจ ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อทาบทับริมฝีปากเข้าหาเป็นจูบลึกซึ้ง

รักปินเหลือเกิน

“เดี๋ยวถึงโรงแรมแล้วผมจะโทรหานะ”

ปลายจมูกโด่งยังคงคลอเคลียกับปลายจมูกเล็กยามฝุ่นพยักหน้ารับ สุดท้ายปินก็ค่อยๆ จรดจมูกลงบนแก้มเนียน สูดกลิ่นกายที่แสนตรึงใจเข้าปอดเพื่อเพิ่มพลัง

“ขับรถดีๆ” ฝุ่นเอ่ยบอกเมื่ออีกคนขยับออกห่าง เตรียมตัวกลับ

“ครับ” ปินส่งยิ้มให้พร้อมทั้งเอื้อมมือไปเปิดประตู แล้วร่างสูงก็ก้าวออกจากห้อง ตามด้วยประตูที่ถูกปิดลง


TBC.

ขอกำลังใจให้หมาปิน ฝุ่น แล้วก็คนเขียนรัวๆ เลยยยย
ตอนนี้สั้นเพราะตัดบางส่วนออกไป
เพราะงั้นตอนต่อไปอาจมาเร็วขึ้นนะคะ
(แต่ช่วงนี้ยุ่งก็อาจจะมาอาทิตย์หน้าเหมือนเดิม><)
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
#secrecyลับรัก


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 31-01-2019 20:02:45
เอาใจช่วยใก้ผ่านอุปสรรคไปได้ทั้งสองคน   :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 31-01-2019 20:09:58
ฝุ่นไหวไหม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 31-01-2019 20:12:51
แมวฝุ่นหมาปินสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 31-01-2019 20:34:58
เอาใจช่วยนะทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-01-2019 21:15:36
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 31-01-2019 21:22:52
เอาใจช่วยทั้งคู่ให้ผ่านไปให้ได้
ฟ้าหลังฝนมักสวยงาม​ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 31-01-2019 22:04:38
สู้ๆน้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 31-01-2019 22:14:11
รักน้าาทั้งสองคน รักคนเขียนด้วย!!
เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป จับมือกันไว้แน่นๆน้าา :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 31-01-2019 22:43:30
สู้ๆ หมาปิน แมวฝุ่น และโซแอลลลล
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 01-02-2019 04:41:46
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่เลย ประเด็นนี้ค่อนข้างเรียลมากเว่อร์เลยนะคะ จริงๆความปสด.ของคนบางกลุ่มทำชีวิตคนคนหนึ่งพังได้เลยนะ อยากให้ผ่ายช่วงนี้ไปเร็วๆ สงสารฝุ่น;^;
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 01-02-2019 07:40:07
สู้ๆ นะทั้งสองคน จูงมือผ่านมันไปด้วยกันนะ.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Sixteen.] : 31/01/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 01-02-2019 13:16:45
สู้กับความเป็นจริงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 06-02-2019 20:26:09
Chapter Seventeen.

“ฝุ่นไม่สบายหรือเปล่าลูก หน้าตาดูไม่สดใสเลย” ประโยคคำถามถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเมื่อประภาเห็นว่าสีหน้าของฝุ่นดูร่วงโรย แม้แววตาท่าทางจะแสดงออกถึงความสดใสแต่ร่างกายภายนอกกลับไม่เป็นอย่างนั้น

ใต้ตาดำคล้ำ ใบหน้าซีดขาว อีกทั้งยังใช้รองพื้นกลบเอาไว้ทั้งที่ปกติไม่มีความจำเป็น

คนแก่วิเคราะห์กับตัวเองเงียบๆ

“นอนไม่หลับน่ะครับ” ฝุ่นตอบเสียงเบาด้วยรอยยิ้ม ขณะมือยังคงวาดรูปไปเรื่อยๆ

“แต่แม่ว่าเหมือนจะไม่ใช่แค่นอนไม่หลับนะ ฝุ่นทานข้าวน้อยด้วย” สามวันที่ผ่านมาคนรุ่นลูกกินข้าวในแต่ละมื้อไม่เกินสิบคำ ต่อให้คะยั้นคะยอเพียงใดก็เอาแต่ส่ายหน้าบอกว่าไม่ไหว

“มัน...ไม่ค่อยหิว”

“ไปหาหมอดีไหม”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็ดีขึ้น วาดรูปกันต่อดีกว่า”

คนแก่ลอบถอนหายใจหากแต่ก็ไม่เซ้าซี้อะไรต่อให้ฝุ่นต้องอึดอัดใจ



“แม่ก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกันว่าถ้าฝุ่นอยู่คนเดียวสามวันนี้จะไหวไหม” ประภาคุยกับคนเป็นลูกอย่างเป็นกังวลเนื่องจากตัวเองต้องกลับไปดูบ้านราวๆ สามวัน

(ผมไม่รู้เลยว่าฝุ่นเครียดอะไรเพราะเรื่องข่าวมันก็ทรงตัว ท่าทางภายนอกเขาก็แสดงออกปกติ แต่ร่างกายที่อ่อนแอมันปิดเราไม่มิด)

ความไม่สบายทางกายใช่ว่าปินจะไม่เห็น เวลาวิดีโอคุยกันเขาสังเกตได้ว่าฝุ่นซูบผอมลง อีกทั้งใบหน้ายังดูซีดเซียว ทว่าพอถามอีกคนก็บอกแค่เพียงว่าไม่เป็นไรแล้วก็ยิ้มหวานให้เสียทุกครั้ง

“นั่นสิ แม่อยากให้ไปหาหมอเจ้าตัวก็ปฏิเสธ”

(อาทิตย์หน้าผมมีวันว่างหนึ่งวัน ไว้จะลองคุยดูครับ)

“ยังไงช่วงที่แม่ไม่อยู่ถ้าระหว่างวันปินมีเวลาบ้างก็หมั่นโทรหาฝุ่นบ่อยๆ นะ”

(ครับแม่)

แล้วปารินทร์ก็ขอตัวไปทำงานต่อจากนั้นจึงวางสายไป ทิ้งให้ประภาครุ่นคิดถึงท่าทีของฝุ่นอยู่อย่างนั้น

พรุ่งนี้เธอต้องกลับบ้าน ฝุ่นจะอยู่ได้หรือเปล่า...

--

“ฝุ่นอยู่ได้นะลูก”

“ได้สิครับ สามวันเอง” เป็นอีกครั้งที่ฝุ่นตอบคำถามพร้อมรอยยิ้มเพื่อให้คนตรงหน้าสบายใจ

“ถ้ามีอะไรก็โทรหาแม่ได้นะ”

“ขอบคุณคุณน้ามากนะครับ” ฝุ่นกล่าวขอบคุณแม่ปินด้วยความซาบซึ้ง ด้านประภาก็ยิ้มรับพลางกล่าวคำบอกลา

“จ้ะ งั้นแม่ไปนะ”

“สวัสดีครับ”

คนถูกไหว้พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องไปแล้วเดินตรงไปทางลิฟต์

ขณะที่คนในห้องค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นราวกับพลังกายที่ทำเป็นว่ามีหมดลงในทันใด

ฮึก

เสียงสะอื้นไห้ถูกเปล่งออกมาโดยไม่มีปิดบังเมื่อทั้งห้องเหลือเพียงตัวเองคนเดียว

‘มันยากจังเลยครับกับการต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อทุกๆ คน’

ร่างเล็กทิ้งตัวซบลงกับประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง พร้อมกับที่ประโยคของปินไหลวนเข้ามาในหัว

จะไม่ทำให้ปินต้องเหนื่อยอีกแล้ว...

--

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าปิน” ภาวิดาถามขึ้นเมื่อหลังจากคุยงานแล้วขึ้นรถมาปินก็เอาแต่ง่วนอยู่กับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ผมติดต่อฝุ่นไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ปิดเครื่องตลอดเลย” ปินตอบกลับขณะที่มือก็ยังกดโทรออกไม่หยุด ในอกเกิดความร้อนรนขึ้นมาครามครันเพราะถึงเวลานี้มันเริ่มชัดเจนว่าเป็นความผิดปกติ

“อาจจะแบตหมดหรือเปล่า”

“แบตหมดก็ต้องชาร์จสิครับ...ก่อนแม่จะกลับแม่บอกฝุ่นท่าทางไม่ค่อยดี”

ได้ยินดังนั้นภาวิดาก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย ทว่าต้องพยายามเก็บอาการเพื่อไม่ให้ปินยิ่งเครียดไปกว่าเดิม

“เอาอย่างนี้ เดี๋ยวเสร็จงานตอนเย็นแล้วเราไปหาฝุ่นที่ห้องกัน”

“ครับ” ปารินทร์ได้แต่รับคำเพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจไปหาอีกคนในตอนนี้ได้



ยิ่งเร่งรีบร้อนรนทุกอย่างยิ่งดูช้าในความรู้สึก กว่างานจะเสร็จ กว่ารถจะขับไปถึง กว่าจะเดินขึ้นห้อง...ปินรู้สึกว่ามันช้ากว่าที่ใจต้องการไปมาก หากแต่สุดท้ายก็มายืนอยู่หน้าห้อง คีย์การ์ดถูกทาบตามด้วยการสแกนนิ้วมือ เมื่อความปลอดภัยถูกตรวจสอบจนเสร็จสิ้นลูกบิดประตูก็คลายการล็อกให้คนด้านนอกเปิดเข้าไปได้

ปินขมวดคิ้วเมื่อในห้องมีเพียงความมืดมิด พอเอื้อมมือไปเปิดไฟก็หันไปมองหน้าผู้จัดการที่มีสีหน้าสงสัยไม่แพ้กัน

“ฝุ่นอาจจะอยู่ในห้องนอนก็ได้” ภาวิดาเอ่ยปลอบทั้งที่ใจเริ่มรู้สึกแปลก กระทั่งปินก้าวยาวๆ ไปเปิดประตูห้องนอนแล้วเดินตามหาอีกคนจนทั่วก็พบเพียงความว่างเปล่า

 “ปิน...ปิน!”

คนถูกเรียกรีบวิ่งกลับออกมา ก่อนจะจับจ้องกระดาษในมือพี่หวานเป็นการถามว่ามันคืออะไร

“จดหมายของฝุ่น”

ดั่งความกลัวที่พยายามพร่ำบอกตัวเองว่าไม่มีอะไรถูกทลายลงด้วยประโยคนั้น

ปินเอื้อมไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาด้วยมือที่สั่นระริก ในอกเหมือนถูกกระชากหัวใจออกไปให้เหลือเพียงความวูบโหวงว่างเปล่า ริมฝีปากได้รูปเม้มเข้าหากันแน่น หลายวินาทีกว่าดวงตาเรียวรีจะเลื่อนไปกวาดอ่านข้อความบนนั้น

‘ถึง...ปิน
ถ้าปินเห็นจดหมายก็หมายความว่าคงไม่เห็นฝุ่นแล้ว
ฝุ่นไม่ได้เป็นอะไร สบายดี และทุกอย่างคือสิ่งที่ฝุ่นตัดสินใจเอง
คิดดีแล้วว่าเวลานี้ กับ ตรงนี้ มันอาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมสำหรับเรา
ต่อให้เรื่องมันจะซาลงแต่หลังจากนี้ก็ต้องระวังเรื่องของเราไม่จบสิ้น
สุดท้ายมันก็อาจจะมิสิ่งที่ทำให้ปินต้องเสียหายอีก
ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นแล้ว...
คงถึงเวลาที่ฝุ่นจะได้ใช้ชีวิตแบบคนอื่นๆ ได้เรียนรู้ชีวิตแบบคนทั่วไป
ขณะที่ปินก็จะได้ใช้ชีวิตของ ปิน ปารินทร์ อย่างเต็มที่
ฝุ่นไม่ได้ทิ้งปิน แต่แค่รอจนกว่าจะถึงวันนั้น...วันที่เวลาและอะไรมันเหมาะสมกับเรา
จะติดตามและเป็นกำลังใจให้เสมอ
รู้อยู่แล้วใช่ไหมว่ารักมาก?
                          จะรอ
                         ...ฝุ่น’


เมื่ออ่านจบร่างสูงก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เหมือนสมองมืดแปดด้าน ราวกับมึนงงแต่ก็ราวกับจะเข้าใจสิ่งที่ฝุ่นทำ

“ปิน” ภาวิดาวางมือลงบนไหล่กว้างแผ่วเบา

“...ฝุ่นไม่อยู่ที่นี่แล้ว” ปินเปล่งเสียงออกมาแทบจะมีเพียงลม

“แล้วปินจะเอายังไง ให้พี่ตามหาฝุ่นให้ไหม”

“...” ไม่มีเสียงตอบรับใด ก่อนปินจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าอย่างเชื่องช้า แล้วมือที่วางอยู่บนไหล่ก็ทำให้ภาวิดารู้ว่าคนตรงหน้ากำลังร่ำไห้

คนเป็นผู้จัดการได้แต่ลูบแผ่นหลังกว้างไปมาเพื่อปลอบประโลม

ไม่มีคำใดถูกเอื้อนเอ่ยออกมานอกจากท่าทางแตกสลายแบบที่เธอไม่เคยได้เห็นจากคนที่ตัวเองดูแลมากว่าสี่ปี



“ปินจะเอายังไงเรื่องฝุ่น”

ภาวิดาทรุดตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามหลังจากที่วางแก้วน้ำส้มลงตรงหน้าปินซึ่งยังมีท่าทีเหม่อลอย

สามชั่วโมงมันมากพอจะให้ปินมีสติมากขึ้นแต่ไม่มากพอจะให้ทำใจได้

“บางที...ผมอาจจะให้เวลาฝุ่นได้ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป” ประโยคแรกถูกเอ่ยออกมาอย่างเชื่องช้าโดยที่ดวงตาเรียวรีนั้นมองไปทางอื่นดั่งคุยกับความคิดตัวเองไปด้วย

“มันก็จริง หลังจากนี้เราก็ต้องระวังเรื่องนี้ไม่จบสิ้น ผมกับฝุ่นอาจจะต้องรอเวลาที่เหมาะสม”

“หมายความว่าปินจะปล่อยฝุ่นไปอย่างนี้เหรอ”

“ความจริงผมมีวิธีที่จะจัดการเรื่องนี้เอาไว้อยู่แล้ว แต่ในเมื่อฝุ่นอยากทำแบบนี้ผมก็จะเคารพการตัดสินใจของเขา” ริมฝีปากได้รูปถูกขบกัดจนความเจ็บเปลี่ยนเป็นชาหนึบ

“ปิน...”

คนถูกเรียกดึงสายตากลับมามองคนตรงหน้า

“ผมรู้ว่าการตามหาตัวฝุ่นมันไม่ยาก...แต่ผมจะให้เวลาเขาและให้เวลาเราสองคน”

“...”

“และเมื่อเวลานั้นมาถึง ผมจะไปหาเขาเอง”

--

“ฝุ่นตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม”

บลูถามคนเป็นเพื่อนด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่ฝุ่นโทรมาบอกเบอร์ใหม่และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆ ให้ฟัง

(อื้อ)

“ถ้าอย่างนั้นก็ทำใจให้สบาย ปล่อยวางเรื่องนี้ไปก่อน แล้วเดี๋ยวถ้าว่างเราจะไปหานะ”

(อืม...บ๊ายบาย)

“บาย” วางสายแล้วบลูก็ถอนหายใจออกมาจนคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเอ่ยถามขึ้น

“เป็นอะไร ทำไมถอนหายใจแบบนั้น” ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงนอนก้าวขึ้นเตียง ก่อนเด็กน้อยซึ่งมีสีหน้ากังวลใจจะขยับมานั่งอยู่ข้างตัว

“เรื่องเพื่อนน่ะครับ”

“ทำไม?”

“มีปัญหาชีวิตนิดหน่อย แต่เดี๋ยวเวลาคงทำให้ดีขึ้น”

กัญจน์พยักหน้ารับจากนั้นจึงเอี้ยวตัวไปหยิบไอแพดมาเช็กข่าวสารต่างๆ ด้านบลูก็เอนตัวลงนอนแล้วจับจ้องคนตรงหน้าอยู่อย่างนั้น กระทั่งคนถูกมองหันมาถาม

“มองฉันทำไม”

“แค่อยากมองครับ”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นแล้วก็ขมวดเข้าหากันเพราะคำตอบ

“เพราะฉันหล่อใช่ไหม” กัญจน์ถามอย่างเย้าหยอกหากแต่สิ่งที่บลูตอบกลับทำให้รู้สึกเหมือนคิ้วกระตุก

“บลูจะดูว่ามีตีนกาเพิ่มขึ้นกี่เส้นต่างหาก” พูดไปพร้อมยิ้มแฉ่งทั้งยังหลุดหัวเราะอย่างขบขัน พาให้คนถูกว่าว่าแก่ต้องวางไอแพดลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วหันไปตรึงแขนเล็กไว้กับเตียง

“เหมือนเด็กแถวนี้จะไม่อยากนอน” คนที่คร่อมอยู่ด้านบนพูดด้วยสีหน้าที่บลูมองแล้วถึงกับขนลุกซู่

“คะ คุณกัญจน์ บลูแค่พูดเล่นไปอย่างนั้นเอง”

“ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าถึงจะแก่ แต่ก็ยังแข็งแล้วก็แรง”

“อื้อ!”

แล้วคืนนั้นบลูก็ได้รู้อย่างถ่องแท้ว่าคุณกัญจน์ยังคงแข็งแรง พร้อมทั้งได้เรียนรู้ว่าไม่ควรจะแหย่คนอายุมากกว่าว่าแก่อีกต่อไป

--

“นายครับ คุณแก้มมารอแต่เช้าเลย”

กัญจน์พยักหน้ารับเมื่อได้ฟังสิ่งที่คนสนิทรายงานขณะเดินตรงไปยังห้องทำงานด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างจากเดิมทั้งที่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

“คุณคิดจะทำอะไร!”

เสียงหวานแหลมดังขึ้นทันทีที่ก้าวเท้าเข้าห้องจนฐากูรที่เป็นคนเปิดประตูให้นายจากด้านนอกต้องรีบปิดลง

“หมายถึงเรื่องอะไร”

ร่างสูงใหญ่เดินผ่านหน้ามทิราไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานด้วยท่าทางไม่ยี่หระ ต่างจากคนซึ่งกำลังจะกลายเป็นอดีตภรรยาที่มีสีหน้าราวกับระเบิดลง

“คุณยื่นเรื่องลาออกจากตำแหน่งงั้นเหรอ”

ร่างบอบบางในชุดเดรสราคาแพงยืนหน้าดำหน้าแดงอยู่ตรงหน้า อีกทั้งมือเล็กยังกำเข้าหากันแน่น บ่งบอกอารมณ์เจ้าตัวว่ากำลังไม่พอใจเพียงใด

“ข่าวไวดีหนิ”

“ไม่ต้องมาพูดถึงเรื่องฉัน คุณคิดที่จะทำอะไรกันแน่”

“คุณเคยพูดว่าระหว่างผมกับคุณใครจะเสียมากกว่า...ตอนนี้ผมไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว” ริมฝีปากได้รูปบิดยิ้มให้คนมองยิ่งรู้สึกเดือดดาน

“หมายความว่ายังไง” น้ำเสียงนั้นดังรอดไรฟัน

“ปกติคุณไม่ใช่คนโง่นี่”

“คุณกัญจน์!”

“ผมไม่จำเป็นต้องใช้หน้าตาทางสังคมอีกต่อไป เพราะฉะนั้นคงรู้ใช่ไหมว่าหลังจากนี้ถ้าผมจะฟ้องหย่าคุณมันก็ง่ายมาก” นิ้วแกร่งเคาะลงบนโต๊ะทำงานช้าๆ ขณะเอียงคอถาม

ด้านมทิราก็ค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับท่าทางของตัวเองยามนึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกสิ่งที่กัญจน์ต้องรักษา

“คุณไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก ถึงคุณจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วแต่คุณก็ต้องรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลอยู่ดี”

“การหย่ากับคุณมันทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลผมพังตรงไหน? มันก็แค่ชีวิตส่วนตัวที่ไปด้วยกันไม่รอด”

“...” คนที่คิดว่ายังมีอีกทางออกชะงักกึก คำพูดที่บอกชัดว่าไม่สนใจทำให้มทิรารู้สึกเหมือนกำลังจะจนตรอก

เธอไม่เคยคาดคิดว่ากัญจน์จะกล้าลาออกจากตำแหน่ง

“หรือต่อให้จะพังผมก็ไม่สน”

“นี่คุณ...”

“ผมเตรียมเอกสารและทนายเอาไว้แล้ว ถ้าคุณยังไม่ยอมหย่าก็ไปเจอกันที่ศาล อ้อ...แล้วบางทีหลักฐานการฟ้องหย่าก็อาจจะทำให้ชื่อเสียงของเซเลปคนดังอย่างคุณพังไม่เป็นท่า ถึงตอนนั้นพ่อคุณจะว่ายังไงบ้างนะ”

คนมีชนักติดหลังหน้าซีดเผือด ดวงตาคมสื่อความหมายชัดว่ามีหลักฐานอยู่มากเพียงใด

“นี่คุณขู่ฉันเหรอ” น้ำเสียงนั้นสั่นไหว แตกต่างจากตอนแรกลิบลับ

“คนอย่าง กัญจน์ ศิวะเกียรติ ไม่เคยขู่ใคร”

ดวงตาคู่สวยที่กรีดอายไลน์เนอร์มาคมกริบไหวสั่นระริก ความพ่ายแพ้ที่กำลังจะพานพบส่งผลให้ร่างกายเย็นเยียบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ในอกวูบโหวงเพราะสิ่งที่จะหลุดลอยไปในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

มทิราไม่ได้เสียดายกัญจน์ แต่เสียดายความสุขสบายที่มี

“...ห้าร้อยล้านพร้อมบ้านของคุณ ไม่เกี่ยวกับสินสมรส” มทิราเอ่ยต่อรอง

“ผมให้คุณหกร้อยล้านแต่ไม่ให้บ้านหลังนั้น”

“แต่ฉัน...”

“ผมมีเงื่อนไขให้คุณเท่านี้”

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น

ถึงแม้อยากจะต่อรองมากแค่ไหนแต่มทิราก็รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ได้มากกว่านี้

“ตกลง!”

กัญจน์ยกยิ้มแล้วหยัดกายขึ้นไปเปิดประตูเพื่อเอ่ยสั่งงานคนสนิท

“เชิญนายทะเบียนแล้วก็เรียกทนายมาที่นี่เดี๋ยวนี้”

“ครับคุณกัญจน์” ฐากูรค้อมหัวลงก่อนจะเดินออกไปจัดการตามคำสั่ง

“ถ้าเซ็นใบหย่าตอนนี้แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะได้หกร้อยล้าน”

ร่างสูงหมุนตัวกลับมาประจันหน้ากับคนพูด แล้วใบหน้าคมก็ดันขึ้นด้วยท่าทีมีอำนาจ

“อย่ามาดึงเกมทั้งที่คุณก็รู้จักคนอย่างผมดี”

สองมือเล็กกำแน่นเข้าหากันขณะฟันขบเข้าหากันจนเกิดเสียง

เธอไม่มีอะไรมาต่อรองผู้ชายคนนี้อีกต่อไปแล้ว...ไม่มีแล้วจริงๆ

--

“กลับกันดีๆ นะครับ ถึงบ้านแล้วรายงานตัวกันด้วย” ปารินทร์เอ่ยบอกเหล่าแฟนคลับมากมายตรงหน้าด้วยรอยยิ้มบาง

“ค่าาาาา” กลุ่มคนตอบกลับอย่างพร้อมเพรียง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรอกระทั่งนักร้องในดวงใจก้าวขึ้นรถจึงค่อยๆ พากันสลายตัว

ด้านคนบนรถก็ทิ้งตัวพิงกับเบาะอย่างอ่อนแรง รอยยิ้มเมื่อครู่เลือนหายจากใบหน้า เปลือกตาหนาปิดลงให้ภาพของใครบางคนฉายวาบเข้ามาในหัว

“ไหวไหมปิน” ภาวิดาถามคนข้างตัวขึ้นด้วยความเป็นห่วง

ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนปินยังคงเป็นปินคนเดิม หากแต่คนซึ่งมีหน้าที่ดูแลอีกคนรู้ดีว่าใจปินกำลังบอบช้ำเพียงใด

“ครับ” คนถูกถามรับคำโดยที่ดวงตายังคงปิดอยู่เช่นเดิม

“พี่หมายถึงใจน่ะไหวไหม”

คำถามนั้นทำให้ปารินทร์ลืมตาขึ้นมอง สายตาของคนสองวัยมองสบกันด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ก่อนคนอายุน้อยกว่าจะเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ

“ต่อให้ไม่ไหวก็ไม่มีทางเลือกอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ”

ภาวิดากลืนน้ำลายก้อนเหนียวหนืดลงคอเพราะไม่มีคำใดจะตอบกลับ ขณะที่ปินก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อจึงเลือกจะปิดเปลือกตาลงตามเดิม

จะมีประโยชน์อะไร คิดถึงแทบตายก็ยังไม่ใช่เวลาที่จะไขว่คว้าฝุ่นกลับมา

--

1 เดือนผ่านไป

“แม่ พี่ปินมาแล้ว”

เสียงตะโกนเรียกคนที่ง่วนอยู่กับสวนดอกไม้เล็กๆ ข้างบ้านดังเข้ามาในหูของคนที่ก้าวขาลงจากรถ ดวงตาเรียวรีกวาดมองไปโดยรอบ แล้วความทรงจำเมื่อครั้งก่อนก็ไหลย้อนเข้ามาในหัว

ครั้งที่กลับมากับใครอีกคน

“ปิน”

คนถูกเรียกหันหน้าไปหาผู้ให้กำเนิด เพราะมัวแต่คิดอะไรกับตัวเองปารินทร์จึงไม่รู้ว่าแม่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่

พรึบ

“เป็นยังไงบ้างหืม”

อ้อมกอดและคำถามนั้นทำให้คนที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นจากเดือนที่แล้วรู้ว่ามันไม่ใช่

ไม่รู้เมื่อไหร่ที่แก้มเปียกชื้นด้วยหยดน้ำตา หากไม่มีอ้อมแขนของคนเป็นแม่ร่างคงทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

“ไม่เป็นไรปินไม่เป็นไร เจ็บก็แค่ร้องไห้ออกมา” ถ้อยคำปลอบประโลมมาพร้อมกับสัมผัสอ่อนโยนบนแผ่นหลังกว้าง ความอ่อนแอครั้งนี้มากเกินกว่าครั้งไหนในชีวิตปิน แม้กระทั่งคนเป็นน้องยังต้องเดินมากอดพี่ชายจากทางด้านหลัง

“ผม...คิดถึงฝุ่น” มีเพียงประโยคเดียวที่ดังออกมาจากริมปากได้รูปอย่างสั่นไหว และนั่นก็ทำให้ประภากอดลูกแน่นยิ่งกว่าเดิม

ลูกชายเธอยังขนาดนี้ แล้วคนที่ไม่มีใครเคียงข้างจะขนาดไหนกัน

--

อึก

ร่างบางทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นห้องน้ำอย่างหมดแรงเมื่ออาหารที่กินเข้าไปเพียงน้อยนิดถูกขย้อนออกมาจนหมดสิ้น พาให้เรี่ยวแรงซึ่งไม่ค่อยมีตั้งแต่แรกปลิวหาย สภาพของฝุ่นในตอนนี้จึงเหมือนดั่งผักเปื่อยเน่า นอนกองอยู่อย่างนั้นจวบจนความอ่อนแรงพรากสติไป



ภาพความดำมืดที่ไร้ซึ่งความคิดและความรู้สึกทำให้คนที่ตกอยู่ในห้วงนั้นอยากอยู่ตรงนี้ตลอดไป ทว่าสุดท้ายแสงสีขาวก็ค่อยๆ แทรกเข้ามาแทนที่ ดึงให้ต้องกลับมาพบเจอกับโลกแห่งความเป็นจริง

“ฝุ่น...ฝุ่น ได้ยินบลูไหม” 

เสียงเรียกนั้นดังเข้ามาในโสตประสาท เปลือกตาสีอ่อนขยับปรือเปิดด้วยความยาก ก่อนความพร่าเลือนตรงหน้าจะแปรเปลี่ยนเป็นแจ่มชัดขึ้น

“บะ บลู”

“เป็นยังไงบ้าง โอเคหรือเปล่า”

ฝุ่นไม่ได้ตอบคำถามเนื่องจากกำลังกวาดสายตามองไปโดยรอบ แล้วก็ยิ่งมึนงงหนักเมื่อที่นี่มันไม่ใช่ห้องนอนในตึกอย่างเคย

“ที่นี่ที่ไหน”

“โรงพยาบาล...รู้ไหมว่าเราตกใจมากที่เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปเจอฝุ่นสลบอยู่ ถ้าวันนี้เราไม่บังเอิญมาหาพอดีจะเป็นยังไง”

น้ำเสียงของเพื่อนเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ทว่าคนที่อยู่ในอาการสับสนมึนงงยังคงประมวลผลทุกอย่างอย่างเชื่องช้า

โรงพยาบาล...

“มา...ที่นี่ได้ยังไง”

“คนขับรถของเราพามา”

ใบหน้าเล็กกดลงรับ ใจอยากจะลุกขึ้นนั่งหากแต่เรี่ยวแรงมีพอแค่ให้กระดิกนิ้วได้

“ฝุ่นพักเถอะ ดีขึ้นแล้วค่อยตื่นนะ”

ฝุ่นอยากจะลุกมาคุยกับเพื่อน ถามไถ่เรื่องราวต่างๆ ให้รู้เรื่องกว่านี้แต่สุดท้ายก็ไม่อาจฝืนความอ่อนแอทางกายได้



“คนไข้มีภาวะความเครียดสูง ร่างกายอ่อนแรง...แล้วก็ยังเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า” แพทย์หญิงดูผลจากการประเมินแล้วเอ่ยรายงาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า

“โรคซึมเศร้า?!” บลูถามย้ำด้วยเสียงที่ดังไม่น้อย

“ตอนนี้ยังเป็นภาวะเสี่ยงเท่านั้นค่ะ จากแบบสำรวจแล้วมันยังไม่รุนแรงถึงขั้นที่จะเป็นโรคซึมเศร้าเลย ฉะนั้นเราจึงต้องสร้างกำลังใจให้คนไข้รู้สึกดีขึ้น โดยขั้นแรกหมอจะแนะนำให้คนรอบข้างช่วยกันค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของคนไข้ก่อน”

“แล้วมันต้องทำยังไงบ้างครับ”

จากนั้นคนเป็นหมอก็ค่อยๆ อธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้บลูพยักหน้ารับอย่างตั้งใจฟัง



แกร๊ก

เสียงเปิดประตูดังเข้ามาในห้วงความคิดให้คนที่เหม่อมองไปนอกหน้าต่างดึงสายตากลับมา จากนั้นฝุ่นจึงเอ่ยถามบลูออกไปเสียงเบา

“หมอว่ายังไงบ้าง”

คนถูกถามทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงพลางระบายยิ้มสดใสให้คนบนเตียง

“ร่างกายฝุ่นอ่อนแรง ต้องทานอะไรบ้างแล้วนะ”

“...” คนไม่รู้สึกถึงความหิวได้แต่นิ่งเงียบ

“ระหว่างนี้บลูจะอยู่กับฝุ่นไม่ไปไหนเลย “

“เราเกรง...”

“ไม่ต้องเกรงใจ พอดีคุณกัญจน์ไปต่างประเทศ บลูเหงาก็เลยหนีมาเที่ยวระยองสักหน่อย”

“คุณกัญจน์?” คิ้วคู่สวยเลิกขึ้นกับชื่อที่ออกมาจากปากเพื่อน

“คนที่เราดูแลน่ะ” บลูบอกโดยไม่มีปิดบัง เมื่อเผลอนึกถึงคนแก่แล้วแววตาก็แปรเปลี่ยนไปจนฝุ่นสังเกตได้ “ไว้ฝุ่นออกจากโรงบาลแล้วเราไปเที่ยวกัน”

คนที่เผลอแสดงความรู้สึกอ่อนหวานรีบดึงสติกลับมาแล้วเปลี่ยนไปคุยอีกเรื่อง

“อือ” ฝุ่นรับคำก่อนจะยิ้มบางๆ ยามคิดได้ว่าไปผ่อนคลายสักหน่อยคงดีเหมือนกัน

“แต่ว่าจะออกจากโรงบาลได้ต้องร่างกายแข็งแรงก่อน อยากกินอะไรเดี๋ยวเราลงไปซื้อให้”

“ไม่...”

“ห้ามพูดว่าไม่เป็นไร เนี้ย บลูหิวมากๆ เลย ถ้ามีเพื่อนกินข้าวด้วยคงดี” ประโยคของฝุ่นถูกเอ่ยขัดทันใดทั้งยังคล้ายกับเป็นการเว้าวอนให้เจ้าตัวต้องทานข้าวเป็นเพื่อนบลูไปในตัว

“...เอาข้าวผัดก็ได้” สุดท้ายคนบนเตียงก็บอกเมนูที่คิดออกเพียงอย่างเดียวแก่เพื่อนไป

“โอเค บลูชอบกินนมหรือขนมอะไรไหม” ร่างเพรียวหยัดกายลุกขึ้นขณะถามต่ออีกเล็กน้อย

“นม...จืด ขนม...ทาโร่อบกรอบ” สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวถูกพูดออกไปอย่างเชื่องช้า ทว่าความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่สิ่งที่คนป่วยชอบ หากแต่เป็นสิ่งที่ใครอีกคนโปรดปราน

คนที่อยู่ในความคิดถึงของฝุ่นทุกลมหายใจ

“ได้เลย งั้นรอแป๊บ”

--

ก๊อก ก๊อก

“เช้าก็ไม่ทานข้าว เที่ยงก็ทานไปนิดเดียว...แม่เลยเอานมร้อนกับขนมปังปิ้งมาให้”

คนที่นั่งเล่นกีตาร์อยู่บนเก้าอี้ตรงระเบียงหันกลับไปมองแม่ที่เดินเข้ามาพร้อมถาดขนมและนมน่าทานในมือ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจทำคนไม่อยากทานอะไรรู้สึกหิว ปินจึงทำเพียงยิ้มรับ

“แม่วางไว้เลยครับ”

“แม่ไม่แค่วาง แต่จะนั่งดูปินทานด้วย”

“ผม...”

“ปินกำลังบกพร่องในหน้าที่นะ...อย่าลืมสิว่านอกจากผลงานแล้วร่างกายก็เป็นของ ปิน ปารินทร์ ด้วยเหมือนกัน”

ประภาเลิกคิ้วขึ้นขณะมองหน้าคนเป็นลูก กระทั่งปินต้องค่อยๆ วางกีตาร์ในมือลงแล้วหยิบนมขึ้นมาดื่ม

เห็นดังนั้นคนเป็นแม่ถึงได้ยิ้มออกมา

“หวานบอกแม่ว่าปินได้หยุดตั้งสามวัน ไม่อยากไปเที่ยวต่างประเทศบ้างเหรอหืม ไปใกล้ๆ บ้านเรานี่ก็ได้ ค้างสักคืนสองคืนแล้วค่อยกลับ”

“อยากอยู่กับแม่มากกว่า” ปารินทร์เอ่ยเอาใจคนที่นั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวให้คนฟังโคลงหัวไปมาเบาๆ

“ปากหวานจริงเชียว...แต่แม่ว่าปินไปพักผ่อนบ้างก็ดีนะ ทำงานเหมือนหุ่นยนต์แบบนี้เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา”

“แค่นี้ผมไหวอยู่แล้ว” แก้วนมที่พร่องลงไปกว่าครึ่งถูกวางลงบนโต๊ะโดยที่รอยยิ้มบางบนใบหน้าหล่อเหลาซูบเซียวยังคงอยู่อย่างนั้น “ขนาดไม่มีหัวใจยังอยู่ได้เลย”

ปินยังคงยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ฝืนเต็มทนในสายคนเป็นแม่

“อดทนนะปิน ฝุ่นเองก็ต้องอดทนมากเพื่อปินเหมือนกัน” มือเหี่ยวย่นวางลงบนฝ่ามือใหญ่ยามที่ประภาเอ่ยปลอบคนเป็นลูกด้วยความเห็นใจ

“บางทีผมก็คิด หรือผมดูจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดีพอฝุ่นเลยทำแบบนี้”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มสั่นไหวเล็กๆ จนประภาต้องบีบกระชับมือให้แน่นขึ้น

“มันไม่ใช่ว่าไม่ดีพอ ก็อย่างที่ฝุ่นว่า ให้เวลามันถึงจุดที่เหมาะสมกว่านี้คงดีกว่า”

“...”

“ก็ถือซะว่าปล่อยให้ฝุ่นได้ใช้ชีวิตอย่างที่ฝุ่นควรจะได้ใช้ ไว้ปินกับฝุ่นพร้อมเมื่อไหร่ค่อยว่ากันใหม่...อะไรที่คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันหรอกนะลูก”

ปารินทร์ลอบสูดลมหายใจ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงเพื่อระงับความเจ็บปวดวูบโหวงในอก

ขอให้เป็นดั่งที่แม่ว่า


TBC.

มาพร้อมชามมาม่า อิอิ
จริงๆก็ไม่ถนัดและไม่อยากเขียนเลย
แต่มันควรจะมีด้วยเหตุและผล ด้วยความเป็นฝุ่น
เพราะงั้นขอกำลังใจให้พี่ฝุ่นกับหมาปินกันเยอะๆน้า
ให้กำลังใจเราด้วยยย
แล้วเจอกันตอนหน้าค่าาา
#secrecyลับรัก


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-02-2019 20:51:12
แงๆๆๆสงสารน้องฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 06-02-2019 21:06:26
เลาเข้าใจฝุ่น ฝุ่นไม่อยากให้ปินเหนื่อย
น่าสงสารทั้ง2คนมากๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-02-2019 21:33:47
ชอบคุณกัญจ์ แดดดี่ สุดๆๆๆๆๆๆ   :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-02-2019 21:46:35
เครียด
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 06-02-2019 22:00:41
มันไม่ง่ายเลยจริงๆ​   สงสารคู่ปินฝุ่นมาก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 06-02-2019 22:02:45
ฮืออออออออออออออ เห็นใจทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 06-02-2019 22:03:48
น้ำตาซึมไปเลย :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-02-2019 23:03:51
จะเลือกทางไหนก็เจ็บทั้งคู่. แต่เดี๋ยวก็ดีขึ้นเน๊อะ.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 06-02-2019 23:58:28
สู้ๆ นะทั้งสองคน   :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 07-02-2019 00:00:54
 :hao5: ร้องตามหมาปินไปแล้ว ฮือออ รอแทวฝุ่นให้ไหวนะ :กอด1: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-02-2019 00:04:05
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 07-02-2019 00:04:33
แงง กดดันอ่ะ แล้วจะผ่านไปได้ไหมอ่ะถ้าไม่อยู่ด้วยกัน  :ling3:

ขอให้สองคนได้เจอกันเร็ว ๆ นะ

ส่วนคุณกัญจน์ เด็ดขาดมากค่ะ ส่วนบ้านนั้นเก็บไว้ให้ใครน้าา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 07-02-2019 00:23:44
สงสาร  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 07-02-2019 00:42:22
ฮื้ออออออออ อึมครึมมากค่ะ อ่านไปน้ำตาหล่นแมะ สงสารทั้งสองคนมากๆ ขอให้มันผ่านไปด้วยดีน้าาา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-02-2019 00:53:00
มีแต่คนป่วยทั้งนั้น  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 07-02-2019 05:45:34
 :sad4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 07-02-2019 10:39:07
สงสารทั้งคู่ ค่อยยังชั่วที่ฝุ่นมีบูลมาคอยดูแลพอดี
ฮืออออ อยากให้ถึงเวลาที่เหมาะสมเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 07-02-2019 12:21:13
ㅠㅠㅠㅠㅠ
สู้ๆทั้งคู่เลย ต้องผ่านไปให้ได้นะ!! แงงงง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 07-02-2019 13:28:18
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Seventeen.] : 06/02/2562 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 10-02-2019 07:53:54
ฝากบลูดูแลฝุ่นด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 13-02-2019 21:41:41
Chapter Eighteen.

(จะยังไงก็ช่างแต่กลับไปต้องเจอเธอ)

บลูเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างพยายามกลั้นยิ้ม

เสียงทุ้มดังราบเรียบคล้ายกับกำลังดุ แต่พอลองไตร่ตรองความหมายในประโยคดูแล้วคนฟังกลับรู้สึกดีมากกว่าจะหงอย

“สัญญาว่าคุณกัญจน์เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเห็นหน้าบลูทันทีเลย”

แล้วน้ำเสียงที่ตอบกลับไปอย่างสดใสก็ส่งผลให้คนฟังคลายคิ้วที่ขมวดมุ่น ใบหน้าเครียดขึงเปลี่ยนเป็นผ่อนคลาย

(ดูแลตัวเองด้วย มีอะไรก็บอกคนของฉัน) แม้แต่น้ำเสียงยังกลายเป็นทอดอ่อน

“ครับ คุณกัญจน์ทำงานสู้ๆ นะ”

(อืม...ฉันวางแล้วนะ)

“บ๊ายบายครับ”

แม้สายจะถูกตัดไปแล้วแต่บลูก็ยังคงยืนยิ้มอยู่อย่างนั้น กระทั่งได้ยินเสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออกถึงได้หลุดจากภวังค์

“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ”

“อื้อ” ฝุ่นที่เดินมานั่งลงบนเตียงรับคำในลำคอ

“หน้าฝุ่นใสจัง” บลูเดินไปหาเพื่อนแล้วโน้มตัวลงพร้อมทั้งใช้มือแตะที่แก้มเนียนใสแผ่วเบา

“บลูหน้าใสกว่าเราอีก”

“ใสที่ไหน ดูสิ สิวขึ้นด้วย”

นิ้วเล็กๆ ชี้ไปตรงแก้มตัวเองทว่าฝุ่นที่เพ่งมองกลับแทบไม่เห็นร่องรอยอะไรบนนั้น

“ไม่เห็นจะมีเลย”

“มีสิ นี่ไง...ว่าแล้วเราก็ไปอาบน้ำบ้างดีกว่า จะได้ออกมามาส์กหน้า” ว่าแล้วบลูก็วิ่งไปทางกระเป๋าตัวเอง ค้นนู้นค้นนี้อยู่สักพักจึงได้เข้าห้องน้ำไป

ดวงตาคู่สวยที่แม้ตอนนี้จะดูไม่สดใสมองตามเพื่อนไปพร้อมรอยยิ้มอ่อนบนใบหน้า

ฝุ่นออกจากโรงพยาบาลแล้วหลังจากที่หมอดูอาการอยู่สามวัน สภาพร่างกายค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ถึงสภาพจิตใจจะดีขึ้นไม่มากแต่ก็มีบลูคอยช่วยสร้างรอยยิ้มให้อยู่เสมอ

อีกหนึ่งความโชคดีในชีวิตคือมีเพื่อนที่แสนดีขนาดนี้

ลมหายใจเหนื่อยอ่อนถูกสูดเข้าปอด ก่อนฝุ่นจะค่อยๆ ขยับตัวไปเอนหลังพิงกับเตียง โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงถูกหยิบขึ้นมาส่องความเคลื่อนไหวของคนบางคน

พอเห็นรูปสวนดอกไม้เล็กๆ ที่ถูกอัปลงล่าสุดแล้วก็ระบายยิ้ม

ดีใจที่ปินได้กลับบ้านไปพักผ่อน

นิ้วเรียวไล้ไปตามหน้าจอแผ่วเบาดั่งจะให้สัมผัสนี้ส่งไปถึงเจ้าของแอ็กเคานต์

ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง...จะคิดถึงใจแทบขาดเหมือนกันหรือเปล่า

--

ซ่าๆ

คลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกหอบเอากลิ่นอายของทะเลปะทะจมูกให้คนไม่ได้มาเที่ยวนานอย่างบลูหลับตาพริ้มแล้วสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าจนเต็มปอด

“ฮ๊า กลิ่นทรายกลิ่นทะเลนี่มันสดชื่นจริงๆ เนอะฝุ่น” ใบหน้าน่ารักหันไปพูดกับฝุ่นด้วยรอยยิ้ม

“อื้อ”

“เราไม่ได้มาทะเลนานมาก...มีความสุขจัง”

ได้เห็นความสุขที่ฉายอยู่บนใบหน้าของบลูฝุ่นก็พลอยยิ้มตามไปด้วย

 ดีจังนะ...เขาเองก็อยากมีความสุขและสดใสเหมือนบลูในตอนนี้

“ฝุ่นก็ต้องมีความสุขเหมือนกันรู้ไหม”

ดวงตาคู่สวยหลุบมองหาดทรายตรงหน้าอย่างไม่รู้จะตอบอะไร

จะมีความสุขได้ยังไงในเมื่อไม่มีใครอีกคนอยู่ข้างกาย

“เราควรเริ่มจากอะไรดี? ไปนั่งเล่นริมชายหาดกันไหม” เห็นท่าทางนั้นแล้วบลูก็ไม่คิดจะเซ้าซี้เพื่อนจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นและหาอะไรทำอย่างที่หมอแนะนำ

ต้องให้ฝุ่นได้ทำกิจกรรมอื่นเยอะๆ

“เอาสิ” ฝุ่นเลื่อนสายตากลับมามองคนข้างกายพร้อมทั้งพยักหน้ารับ

“ปะ จะได้ถ่ายรูปด้วย”

คนร่างเพรียวกุลีกุจอไปเอากล้องในห้องพัก แล้วก็ลากฝุ่นลงไปยังชายหาด ดื่มด่ำช่วงเวลาบ่ายไปกับการนอนมองแผ่นน้ำและท้องฟ้าตรงหน้า แม้แดดจะแรงกล้าก็ไม่หวั่น



เมื่อกลางคืนมาถึงเก้าอี้ชายหาดบนหาดทรายแก้ว เกาะเสม็ดก็จะถูกเก็บแล้วเปลี่ยนเป็นโต๊ะสำหรับดินเนอร์ริมทะเล อีกทั้งยังมีไฟประดับเพิ่มบรรยากาศให้ดีขึ้นจนฝุ่นกวาดตามองรอบตัวอย่างชื่นชอบ

สวยจัง

“บลูขอถามอะไรหน่อยสิ”

เสียงของเพื่อนดึงรั้งจิตใจที่ล่องลอยไปกับบรรยากาศให้กลับมา ก่อนฝุ่นจะเลิกคิ้วเป็นการบอกว่าถามมาได้เลย

“ทำไมฝุ่นถึงเลือกมาอยู่ที่ระยองล่ะ” คนถูกถามนิ่งไปนิด จากนั้นจึงค่อยพูดออกมา

“มัน...ไม่ไกลกรุงเทพน่ะ”

แล้วก็ไม่ไกลจากชลบุรี...อีกหนึ่งเหตุผลไม่ได้ถูกพูดออกไป

“อืม ที่เที่ยวก็เยอะด้วยเนอะ”

“อือ”

“หลังจากนี้ฝุ่นจะเปิดร้านอาหารใช่ไหม” ฝุ่นพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มจางๆ

“มีอะไรให้เราช่วยก็บอกนะ”

“เกรงใจบลู แค่นี้ก็ช่วยเรามากแล้ว”

“จะมาเกรงจงเกรงใจอะไรกัน แต่ก่อนฝุ่นก็ช่วยเราไว้ตั้งหลายอย่าง” คิดถึงอดีตแล้วคนทั้งสองก็ยิ้มกว้างขึ้น “เดี๋ยวเรื่องนี้เราค่อยคุยกันอีกที ตอนนี้สั่งอาหารกันดีกว่า”

“อื้อ”

--

ตลอดระยะเวลาเดือนกว่าภายนอกปินยังคงเป็นปิน ปารินทร์คนเดิมที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีขาดตกบกพร่อง อีกทั้งข่าวเรื่องนั้นก็ค่อยๆ ซาลงเมื่อมีข่าวใหม่เป็นประเด็นขึ้นมา ทว่าภาวิดาที่เห็นปินในแบบปกติกลับมีความกังวลเพิ่มทุกวัน กระทั่งวันนี้ที่เธอไม่อาจอดทนไหวจึงเอ่ยขึ้นหลังจากมาส่งปินที่ห้อง

“ปิน พี่ว่าพักหน่อยดีกว่านะ เล่นไม่หลับไม่นอนโหมงานแบบนี้ร่างกายจะทรุดเอา” ภาวิดาเอ่ยกับคนที่ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา

“ผมนอนไม่หลับ” มือหนายกขึ้นมาคลึงขมับตัวเองไปมาพลางเอ่ยตอบ

“ถ้าอาการมันหนักขนาดนี้พี่ว่าไปหาหมอดีกว่า”

ในหนึ่งวันปารินทร์หลับไม่ถึงสามชั่วโมง สภาพก่อนแต่งหน้าร่วงโรยขึ้นเรื่อยๆ จนคนเป็นผู้จัดการต้องจัดตารางงานให้เบาลง

“ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวลองทานยาดู”

“ไม่ได้นะปิน เราจะกินทานยานอนหลับโดยไม่ปรึกษาหมอไม่ได้...ไม่รู้ละ มะรืนช่วงเช้าปินไม่มีงาน พี่จะนัดหมอให้”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ รู้ไหมว่าตอนนี้สภาพตัวเองแย่แค่ไหน”

“...”

แววตาคนอายุมากกว่ามีความเด็ดขาดจนปินไม่อาจแย้งอะไรได้

“ตามนี้...แล้วก็วันนี้ปินพักผ่อนได้แล้ว เจอกันตอนเช้า”

“สวัสดีครับพี่หวาน”

ปารินทร์ลอบถอนหายใจก่อนจะยกมือไหว้คนตรงหน้า และเมื่อประตูปิดลงก็ทิ้งตัวนอนบนโซฟา ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ขณะที่ห้วงความคิดมีเพียงใครบางคนอยู่ในนั้น

ฝุ่นจะเป็นยังไงบ้าง

--

“โอเค จากที่หมอได้ฟังแล้วก็จากแบบสอบถามนี้หมอว่าดีแล้วนะที่รีบมาหาหมอ...เพราะว่าอาการนอนไม่หลับเนี่ย มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่นำพาไปสู่โรคซึมเศร้าได้”

“ปินจะเป็นโรคซึมเศร้างั้นเหรอคะ” ภาวิดารีบถามหมอด้วยความตกใจ ขณะที่คนเป็นเองทำเพียงนั่งฟังนิ่งๆ

“หมอไม่ได้บอกว่าจะเป็น แต่มันมีโอกาสหากปล่อยให้อาการนอนไม่หลับเรื้อรังไปเรื่อยๆ ยิ่งกับอาชีพแบบนี้แล้วยิ่งมีความเสี่ยงสูง ต้องบอกว่าศิลปินไม่ว่าจะเป็นทางด้านไหนก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าสูงทั้งนั้นเพราะเขาใช้ความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานมาก พอตอนนี้มาบวกกับปัญหาบางอย่างในชีวิตที่เราปล่อยวางไม่ได้ หยุดคิดไม่ได้ มันก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก”

คนเป็นหมออธิบายอย่างใจเย็นพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าที่ทำให้คนไข้และญาติคนไข้คลายความกังวลลง

“แล้วแบบนี้ต้องทำยังไงคะ”

“ขั้นแรกหมอจะแนะนำให้ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตและความคิด...ง่ายที่สุดเลยคือเริ่มจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน อาหารมีผลกับร่างกายเรามาก ไม่ใช่มีผลแค่กับเรื่องของหุ่นเท่านั้น”

จากนั้นจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ค่อยๆ พูดถึงแนวทางการรักษา การแก้ปัญหา และพูดคุยกับปินอย่างเข้าอกเข้าใจ ส่งผลให้คนที่แบกเรื่องบางอย่างไว้ในอกรู้สึกเหมือนได้ปล่อยความหนักอึ้งนั้นออกไปครึ่งหนึ่ง

“โอเค ตามนี้นะ ในส่วนของยาถ้าไม่หนักหนาจริงๆ ก็ไม่ต้องทาน แล้วเดี๋ยวอีกสองอาทิตย์เรามาคุยกันอีกที”

“ขอบคุณครับหมอ”

คนถูกไหว้รับไหว้กลับก่อนที่คนทั้งสองจะหยัดกายขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกจากห้องตรวจไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวพี่จะให้คนไปรับแม่ปินมาอยู่ด้วย” ภาวิดาเอ่ยบอกเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาล

“ครับ” ปินรับคำ “พี่หวาน” แต่แล้วก็เรียกผู้จัดการขึ้นในนาทีต่อมา

“หืม”

“ผมอยากได้ที่อยู่ฝุ่น”

คนฟังเหลือบมองเสี้ยวหน้าหล่อที่ดูซูบผอมกว่าเมื่อก่อนนิ่ง กระทั่งปินเลื่อนสายตามาสบ

กระแสบางอย่างในดวงตาเรียวรีคู่นั้นบ่งบอกว่านี่ไม่ใช้คำขอแต่เป็นคำสั่ง

“พี่จะจัดการให้ แต่ปินรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ยังไม่ควรทำอะไร”

“ผมรู้”

“แต่พี่มีเงื่อนไข...ปินต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น ถ้าอาการดีขึ้นพี่ถึงจะบอกที่อยู่ฝุ่น”

ปารินทร์กดหน้าลงรับจากนั้นจึงหันหน้ากลับไปมองวิวนอกหน้าต่างทางขวามืออีกครั้ง

--

“เรากลับแล้วนะ แล้วเดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะมาหาใหม่” บลูเอ่ยกับคนตรงหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเสียดายกับการต้องกลับกรุงเทพ ทั้งยังรู้สึกเป็นห่วงฝุ่นไม่น้อย ขณะที่ฝุ่นก็พยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า

“ฝุ่นต้องดูแลตัวเองดีๆ มีอะไรก็โทรหาเราได้ตลอด พูดออกมาได้ทุกเรื่อง เข้าใจใช่ไหม”

“อื้อ”

“เราเป็นห่วงฝุ่นนะ”

ความเป็นห่วงที่เจืออยู่ในทั้งน้ำเสียงและแววทำให้ฝุ่นระบายยิ้ม

“ขอบใจบลูมากนะ ขอบใจมากจริงๆ”

ปลายหางเสียงสั่นไหวไม่มั่นคงเพราะความซาบซึ้งใจ ก่อนบลูจะเอื้อมมือไปจับอีกคนเอาไว้เพื่อย้ำให้เพื่อนรู้ว่ายังมีใครอยู่ตรงนี้

ฝุ่นเองก็เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามี

“ไม่เป็นไรเลย ไว้เดี๋ยวเจอกัน”

พูดจบบลูก็รั้งร่างที่บางกว่าเข้ามากอดแน่นๆ จากนั้นฝุ่นจึงเดินออกมาส่งเพื่อนขึ้นรถคันหรูที่จอดรออยู่นานแล้ว คนสองคนโบกมือลากันหย็อยๆ กระทั่งรถเคลื่อนไปจนลับสายตาฝุ่นก็เรียกกำลังใจให้ตัวเองด้วยการสูดลมหายใจ

ต้องหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ความคิดและร่างกายกลับไปแย่แบบเดิม

--

บลูกลับมาถึงกรุงเทพในเวลาบ่ายแก่ยามที่ใครบางคนจะบินกลับมาถึงเมืองไทยในตอนกลางดึก หลังจากทำนู้นทำนี่จนไม่มีอะไรทำคนร่างเล็กแต่ดูอวบอิ่มก็ไลน์คุยกับเพื่อนไปเรื่อย จวบจนเวลาเกือบจะล่วงเข้าสู่วันใหม่ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ฉุดรั้งให้ผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น

แกร๊ก

ร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมทั้งกวาดสายตามองหาใครบางคนไปด้วย ทว่ารอแล้วรอเล่าคนที่มองหาก็ไม่ออกมาต้อนรับ คิ้วเข้มเริ่มขมวดเข้าหากัน หากอุณหภูมิห้องไม่บ่งบอกว่ามีคนอยู่กัญจน์คงคิดว่าเด็กดื้อหนีเที่ยวยังไม่กลับ

กึก

ขาแกร่งหยุดชะงักเมื่อเห็นก้อนบางอย่างนอนขดอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น กัญจน์จึงสาวเท้ายาวๆ ตรงไปแล้วทรุดตัวนั่งลงมองคนที่ตัวเองแสนคิดถึงอย่างเอ็นดู

“อือ” สัมผัสยุกยิกบนแก้มทำให้คนหลับครางรับอย่างรำคาญ ทั้งยังขยับหน้าหนีน้อยๆ ให้คนที่ไล้ปลายนิ้วอยู่กับความนิ่มยกยิ้ม

สุดท้ายกัญจน์ก็ไม่คิดจะกวนเด็กน้อย ร่างเล็กจึงถูกช้อนอุ้มไปวางลงบนเตียงแล้วห่มผ้าให้อย่างดิบดี

“Good night my Kiddie”

เสียงกระซิบอันแสนนุ่มนวลดังขึ้นขณะริมฝีปากได้รูปคลอเคลียอยู่กับริมฝีปากบาง ดั่งประโยคนั้นดังเข้าไปในห้วงความฝันของคนหลับรอยยิ้มน้อยๆ จึงเกิดขึ้นให้กัญจน์ยิ้มตาม

แค่นี้ก็ทำให้คนที่เหนื่อยแสนเหนื่อยจากการบินไปดูธุรกิจที่อเมริการู้สึกหายเหนื่อยได้แล้ว



“อือ” คนที่นอนหลับจนเต็มอิ่มรู้สึกตัวตื่นในเวลาเจ็ดโมงเช้า เปลือกตาสีอ่อนค่อยๆ ขยับเปิดขึ้น ก่อนบลูจะเรียบเรียงเหตุการณ์อยู่ชั่วครู่แล้วหันไปทางข้างตัว

รอยยิ้มกว้างเกิดขึ้นเป็นลำดับต่อมาเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างปรากฏอยู่ตรงหน้า ร่างเล็กขยับเข้าไปชิด แขนเรียวพาดผ่านเอวสอบ ซบหน้าเข้ากับแผ่นหลัง แอบสูดกลิ่นกายที่แสนคิดถึงเข้าปอดลึก

คิดถึงคุณกัญจน์มาก

พรึบ

ร่างหนาพลิกตัวกลับมารั้งเด็กน้อยเข้าหาตัวจนคนไม่ได้ตั้งตัวสะดุ้งเล็กน้อย

“กวนอะไรฉันแต่เช้า” ปลายคางแกร่งวางลงกับหัวเล็กพลางเอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่า

“บลูทำคุณตื่นเหรอครับ”

“อืม”

“ขอโทษครับ...คุณกัญจน์นอนต่อนะ”

มือบางเลื่อนไปลูบแผ่นหลังกว้างเป็นการขับกล่อม แล้วคนที่ยังเหนื่อยกับการเดินทางกว่าสิบชั่วโมงก็หลับลงไปอีกครั้ง



“แย่จริง เมื่อคืนบลูเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้” ประโยคนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดขณะที่บลูค่อยๆ วางจานกับข้าวลงบนโต๊ะ

“ไหนว่ากลับมาก็จะเจอหน้าเธอทันที ฉันยืนรออยู่เป็นนาทีก็ไม่เห็น ไปเห็นหลับอยู่บนโซฟา”

คนที่เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวหัวเราะแห้งๆ พร้อมทั้งตักข้าวลงใส่จานให้คนพูด

“บลูไม่ได้ตั้งใจ”

กัญจน์โคลงหัวไปมา ก่อนบทสนทนาจะถูกหยุดไว้เท่านั้นแล้วเริ่มต้นมื้อเช้ากันในเวลาสายอย่างเงียบเชียบ



“แล้วเพื่อนเป็นยังไงบ้าง”

เสียงทุ้มดังขึ้นจากคนที่บลูนอนอิงแอบดูข่าวอยู่บนโซฟาเรียกให้ดวงตาโตเลื่อนกลับมายังข้างตัว

“ก็ดีขึ้นนะครับ แต่พออยู่คนเดียวก็ไม่รู้จะเป็นยังไง...อ้อ อาทิตย์หน้าบลูว่าจะขอคุณกัญจน์ไปเยี่ยมเพื่อน ไปเช้ากลับค่ำครับ”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อได้ฟัง ด้านคนต้องขออนุญาตก็มีสีหน้าไม่มั่นใจเล็กน้อยเนื่องจากกลัวว่าอีกคนจะไม่ให้ไป

“เอาสิ ไปค้างสักสองคืนก็ได้ ฉันไปด้วย” บลูกะพริบตาปริบๆ ให้กับคำตอบนั้น กัญจน์จึงอธิบายต่อ “ถือว่าไปพักผ่อน เช้าเธอก็ไปหาเพื่อน บ่ายหรือค่ำก็ไปกับฉัน”

คนฟังยิ้มรับด้วยความดีใจ

“ได้สิครับ ตอนบลูไปเที่ยวก็คิดถึงคุณกัญจน์ตลอดเลย อยากไปเที่ยวด้วยกัน”

กัญจน์รู้สึกเหมือนปากจะฉีกยิ้มให้กับคำว่าคิดถึงตลอดเลยจนต้องกระแอมไปเพื่อรักษาภาพพจน์

แก่ปูนนี้แล้วจะมานั่งยิ้มเพราะคำว่าคิดถึงงั้นหรือ

“ต่อไปคงมีเวลาเที่ยวเยอะขึ้น”

“ทำไมล่ะครับ” บลูถามขึ้นอย่างแปลกใจ ก่อนคนถูกถามจะนิ่งคิด มุมปากได้รูปยกขึ้นแล้วตอบคำถามในเวลาต่อมา

“ฉันเลือกชีวิตฉัน” แม้คำอธิบายจะสั้นแต่บลูก็เข้าใจความหมายนั้นได้ทันที

คนร่างเล็กไม่ได้ถามอะไรต่อจากนั้นนอกจากเลื่อนแขนไปโอบรอบเอวสอบ เบียดตัวเข้าหาคนตัวโต ซบหน้าเข้ากับอกกว้าง และกัญจน์ก็เข้าใจในความหมายของการกระทำนี้เช่นกัน

เด็กน้อยกำลังให้กำลังใจเขา

--

“แม่ พี่ปินไม่ยอมแบ่งปลาชิ้นสุดท้าย”

เสียงตะโกนจากลูกชายคนเล็กทำให้คนเป็นแม่ที่ง่วนอยู่กับการจัดการเก็บครัวหันไปมองที่โต๊ะอาหารพร้อมถอนหายใจ

โตขนาดนี้แล้วยังแย่งของกินกันเป็นเด็ก

“สองพี่น้องนี่นะ เอาไว้มื้อต่อไปแม่จะทำให้หารกันลงตัวแล้วกัน”

“จ่ายค่าปลามาเลย” คนเป็นน้องหันไปแบมือทวงด้วยความจริงจัง ปินจึงเอ่ยถามอย่างรู้ทัน

“อยากได้อะไร” เพียงเท่านั้นปาล์มก็ยกยิ้ม

“ไอแพดโปรรุ่นจอใหญ่ ความจำเยอะสุด พร้อมปากกา”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปซื้อ”

“เย้ จะกินปลากี่ชิ้นก็เอาไปเลย”

“ปินนี่ก็ตามใจน้องง่ายเกินไป ไอแพดเครื่องเดิมก็เพิ่งซื้อเมื่อปีที่แล้ว โทรศัพท์เครื่องใหม่ก็เพิ่งซื้อไปหยกๆ” ประภาเอ่ยปรามถึงจะรู้ดีว่าห้ามทั้งคนพี่คนน้องไม่ได้

เหมือนจะชอบเถียงกันแต่ก็ตามใจกันเป็นที่สุด อย่างปาล์ม พอรู้ว่าพี่ค่อยไม่สบายนักก็รีบแจ้นตามมาดูแล ไม่สนใจการขาดเรียนโดยบอกว่ามอหกแล้วที่โรงเรียนไม่ซีเรียส

“แม่ก็รู้ว่ายังไงปาล์มก็หาทางอ้อนเอาได้อยู่ดี ยังไงก็อย่าลืมสัญญาแล้วกัน” ปารินทร์หันไปพูดกับน้องชายอย่างจริงจัง

“รู้แล้วคร้าบ สอบติดแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วง”



“ปินไม่ได้วาดรูปกับแม่นานแล้วนะ” ประภาที่นั่งวาดรูปวิวของกรุงเทพอยู่ข้างปินเอ่ยขึ้นพร้อมยิ้ม

กิจกรรมหลังจากมื้อเช้าในวันที่ลูกชายมีงานค่ำคือการวาดรูปที่สองแม่ลูกมักทำด้วยกันเมื่อก่อน ขณะที่ปาล์มเลือกจะนอนเล่นเกม

“ตั้งแต่เป็นนักร้องก็ไม่ค่อยได้มีเวลาทำอะไรเลย” คนเป็นลูกตอบกลับพลางลอบถอนหายใจ

“แล้วอาการนอนไม่หลับดีขึ้นบ้างไหม”

“ก็ดีขึ้นนะครับ หลับสนิทได้มากขึ้นหน่อย คงเพราะมีแม่กับปาล์มมาอยู่ด้วย”

ได้ยินดังนั้นประภาก็เบาใจขึ้น

“เวลามีอะไรปินก็พูดกับแม่ได้ เมื่อก่อนเราก็คุยกันทุกเรื่องเลยใช่ไหม”

“พอผมโตขึ้นก็ไม่อยากทำให้แม่ลำบากใจ ไม่อยากเอาปัญหาของตัวเองไปทำให้แม่พลอยไม่สบายใจไปด้วย” ปินหยุดการวาดรูปแล้วหันมาพูดกับแม่ถึงสิ่งที่ตัวเองคิด

“ไม่มีปัญหาไหนของลูกที่คนเป็นแม่ไม่อยากรับฟัง แม่ไม่อยากให้ปินเก็บความเครียดเอาไว้คนเดียวแล้วจมอยู่กับมัน...โรคซึมเศร้าน่ะมันใกล้ตัวเรามากนะลูก คนรอบข้างแม่เป็นเยอะมากแล้วแม่ก็ไม่อยากให้ปินต้องทรมานแบบนั้น”

“ผมไม่เป็นหรอกครับแม่ไม่ต้องห่วง” ริมฝีปากได้รูปคลี่ออกเป็นรอยยิ้มให้ผู้ให้กำเนิดได้สบายใจ

“งั้นเล่าให้แม่ฟังซิว่าตอนนี้เป็นยังไง คิดอะไรอยู่”

“คิดถึงครับ” คนถูกถามตอบทันใด “คิดถึงฝุ่นทุกวินาที แต่ก็ต้องบอกตัวเองให้ใช้ชีวิตต่อ อดทนที่จะไม่ตามหา แล้วทำทุกอย่างให้เวลาผ่านพ้นไปเพื่อถึงวันนั้น วันที่เหมาะสมสำหรับเราสองคน”

ดวงตาเรียวรีเบือนกลับไปมองวิวตรงหน้าหวังให้ความวูบโหวงในอกบรรเทาลง

“ดีแล้วที่ปินทำแบบนี้ มันทรมานแม่รู้ แต่ปินเองก็รู้ดีว่าฝุ่นรักปินมากแค่ไหน และลูกทั้งสองก็กำลังทำสิ่งนี้เพราะความรักในกันและกัน”

“...”

“อย่าให้ความพยายามของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสูญเปล่า ความรู้สึกของเขาและเราที่อยู่ในนี้จงใช้มันเป็นพลัง”

แผ่นอกกว้างถูกสัมผัสให้รู้ว่าความรู้สึกในนี้นั้นคือตรงไหน

“ครับ ผมจะพยายาม”

 ฝ่ามือหยาบสากวางทับลงมือคนเป็นแม่แล้วหันมายิ้มให้บางๆ

--

“วันแรกก็ขายดีขนาดนี้ ต่อไปคงต้องจ้างลูกจ้างแล้วล่ะ”

บลูหันไปพูดกับฝุ่นด้วยความตื่นเต้นเมื่อการเปิดร้านวันแรกเป็นไปด้วยดีกว่าที่คนทั้งสองคาดหวัง

“ไม่ขนาดนั้นหรอก”

“ไม่ขนาดนั้นยังไง ดูสิ คนมาทานเต็มร้านเลย หรือเป็นเพราะเจ้าของร้านหน้าตาดีกันน้า” ดวงตากลมโตหรี่ลงพร้อทั้งเล่นหูเล่นตาให้ฝุ่นต้องรีบปฏิเสธ

“ไม่ใช่สักหน่อย คงเพราะแถวนี้ไม่มีร้านข้าวแกงเลยมั้ง”

“ยังไงเราก็ยินดีด้วยนะ ไว้เดี๋ยวจะแวะมาช่วยขายบ่อยๆ”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่วันนี้บลูมาได้ก็ดีใจแล้ว”

“ฝุ่นโอเคขึ้นบ้างแล้วใช่ไหม?” บลูเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แม้สีหน้าท่าทางเพื่อนจะเริ่มดีขึ้นแต่ก็วางใจไม่ได้เพราะสภาพจิตใจคือสิ่งที่ไม่อาจมองได้ด้วยตาเปล่า

“อืม ยุ่งกับการเปิดร้านก็คิดน้อยลงบ้างน่ะ”

“ดีแล้ว หาอะไรทำจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน อย่าลืมไปออกกำลังกายบ้างล่ะ สนามกีฬาก็อยู่แค่นี้เอง”

ฝุ่นพยักหน้ารับกิจกรรมที่อีกคนย้ำนักย้ำหนา ก่อนการพูดคุยจะถูกหยุดไว้เท่านั้นเนื่องจากมีลูกค้าในร้านเรียกคิดเงิน



“อร่อยกว่าฝีมือเธออีกนะ” ใบหน้าน่ารักกระเง้ากระงอดขึ้นทันใดจนกัญจน์หลุดหัวเราะ “อยากให้ฉันแกล้งชมเธองั้นเหรอ”

บลูส่ายหน้าไปมาน้อยๆ

“บลูรู้ดีว่าตัวเองทำอาหารสู้ฝุ่นไม่ได้”

“ก็สมแล้วที่เขาเปิดร้านอาหาร” กัญจน์ซึ่งได้ชิมฝีมือเพื่อนอีกคนพยักหน้าด้วยความเห็นด้วยกับกิจการนี้

อร่อยจริงๆ โดยเฉพาะต้มยำขาหมู

“งั้นบลูควรเปิดร้านนวดบ้างดีไหม”

คนที่นั่งทานข้าวเย็นอยู่ข้างกันถามขึ้น ทว่าคนฟังกลับขมวดคิ้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นราบเรียบเมื่อนึกไปถึงการนวดแบบที่ตัวเองได้รับ

“ถ้านวดแบบที่นวดให้ฉันก็ไม่ต้องคิด”

คนฟังพยายามกลั้นยิ้ม แสร้งเป็นตีหน้านิ่งไม่รู้เรื่องราวทั้งที่ตอนแรกแค่ตั้งใจพูดเล่นๆ เท่านั้น

“ทำไมครับ ถ้าบลูนวดให้คนอื่นแล้วมันยังไง เดี๋ยวนี้เขาก็นวดแบบนั้นกันเต็มเลยนะ เป็นการนวดคลายเครียด”

จากราบเรียบก็แปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียด ถึงขั้นที่ช้อนและส้อมในมือหนาถูกวางลงบนจานจนเกิดเสียง ซึ่งโดยปกติแล้วกัญจน์จะรักษามารยาทบนโต๊ะอาหารยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

“เธอเป็นของฉัน และฉันไม่อนุญาตให้เธอแตะต้องใครแบบที่แตะต้องฉัน”

“บลูก็หาลู่ทางไว้เผื่อคุณกัญจน์ไม่ต่อสัญญา” คนร่างเล็กเอ่ยเสียงเบา หากแต่ไม่ได้มาจากอาการหงอแต่เป็นเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ดูแลคนตรงหน้าต่อ

“ฉันไม่ต่อแน่”

แล้วคำตอบนั้นก็ทำให้แววตาบลูไหวสั่น มือบางค่อยๆ วางช้อนส้อมลง

ความจริงจังทั้งในแววตาและน้ำเสียงคนพูดชัดเจนว่าอีกคนไม่ได้ล้อเล่น ปลายจมูกเล็กร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด และน้ำตาคงจะไหลมาคลอหน่วยหากคุณกัญจน์ไม่พูดต่อ

“แต่ก็ไม่ปล่อยให้เธอไปไหน...ฉันจะไม่ถามความสมัครใจ ไม่ว่าเธอจะอยากอยู่กับฉันหรือไม่มันก็เป็นเรื่องของเธอ แต่ฉันอยากอยู่กับเธอมันเป็นเรื่องของฉัน”

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันขณะที่อารมณ์ตีโค้งกลับจนแทบตั้งตัวไม่ทัน

นานหลายนาทีกระทั่งควบคุมอารมณ์และสติได้บลูจึงพูดออกไปอย่างพยายามกลั้นอาการดีใจ

“เอาแต่ใจ”

“ไม่ได้แค่เอาแต่ใจ แต่เอาเธอได้ด้วย”

ดวงตาคนฟังเบิกกว้างขึ้นเนื่องจากตกใจกับประโยคที่แสนทะลึ่งนั้น และยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อร่างกายก็ถูกช้อนอุ้มโดยที่คนร่างสูงก้าวดุ่มๆ ไปทางห้องนอนอย่างไม่ฟังอะไรทั้งนั้น

กัญจน์จะลงโทษเด็กดื้อที่คิดจะไปนวดให้คนอื่น

“คุณกัญจน์ ข้าวเย็น...”

ปึง

“ฉันจะกินเธอแทน”



TBC.

มาแล้ววววว
ขอเอาคู่คุณกัญจน์กับนุ้งบลูมาคั่นความเศร้าหน่อยนะคะ ><
ทุกอย่างมีเวลาของมัน
เพราะงั้นรอการไปเจอกันของหมาปินกับแมวฝุ่นหน่อยนะ
#secrecyลับรัก


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 13-02-2019 22:09:44
 :katai2-1: :-[
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 13-02-2019 22:13:45
น่าสงสารทั้งคู่เลย เปิดวาร์ปไปตอนเค้าได้เจอกันเลยได้มั้ย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 13-02-2019 22:16:30
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-02-2019 22:26:55
#ทีมคุณกัญจน์    :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 13-02-2019 23:32:20
เมื่อไหร่จะถึงเวลานั้นของสองคนอ่า   :mew2:

อีกคู่ก็ดูจะลงตัวมีความสุขแล้ว   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-02-2019 23:38:27
นึกภาพ "บลูฮาวายบนโต๊ะอาหาร" อยากกินจังเลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 13-02-2019 23:57:37
ดูแลตัวเองกันดีๆหน่อยทั้งคู่เลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 13-02-2019 23:59:59
คุณกัญจน์แซ่บมากก

ส่วนปินฝุ่น สงสารอ่ะะ :katai1: :katai1:

หวังว่าบททดสอบคราวนี้จะทำให้สามารถผ่านเรื่องร้ายๆไปได้นะ :o12:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-02-2019 00:16:08
โอ๊ยยย สองคู่อารมณ์ต่างกันเลย เฮ้อออ สงสารปินกับฝุ่นมากๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-02-2019 07:12:07
คั่นอารมณ์จริงๆ ค่ะ น้ำตามาเต็มเลยค่ะ
สลับฟีล ก็ยังพอช่วยให้ยิ้มได้

สงสารปินฝุ่น อย่าถึงขั้นเป็นอะไรกันไปมากกว่านี้เลยนะ
ต่างคนต่างพยายามเพื่อกันและกัน เพราะรักอีกคนมาก

ฝุ่นตัดสินใจไม่ผิดหรอก แต่ทรมานตัวเองจังเลยนะ
ปินก็พยายามมาก อยากให้ทุกอย่างดี

เวลานี้ ต่างคนต่างรู้ว่ารักกันมากขนาดไหน คนรอบข้างรับรู้
ปินต้องได้เจอฝุ่นเร็วๆ นี้แน่นอน ฝุ่นก็เปิดร้านรอปินไปรับอยู่นะ

บลูมาช่วยได้เยอะเลย และโชคดีมากที่มาเจอตอนฝุ่นป่วย
คุณกัญจน์จะมาเนียนแบบนี้ไม่ได้นะคะ พร้อมเปิดตัวแล้วล่ะสิ
บลูโชคดีที่เป็นคนถูกเลือกและถูกรักแบบเต็มตัวแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-02-2019 21:24:50
คุณกันแซบไปอีก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Eighteen.] : 13/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-02-2019 23:57:24
ตามมาทันช่วงดราม่าพอดี
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 20-02-2019 22:06:47
Chapter Nineteen.

“ขอโทษนะที่วันนี้ไม่ได้ไปหาฝุ่น” บลูเอ่ยกับคนปลายสายด้วยความรู้สึกผิด ด้านคนฟังซึ่งรับรู้ได้ก็รีบตอบกลับมาในทันใด

(ไม่เป็นไรเลย)

“แต่ยังไงพรุ่งนี้เราก็จะไปหา ยังอยู่ที่ระยองอีกหนึ่งวัน”

(อื้อ บลูพักผ่อนเถอะ)

“โอเค แล้วเดี๋ยวเราโทรหาอีกทีนะ”

พอฝุ่นรับคำสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดให้บทสนทนาทางไกลนั้นจบลง

ร่างเล็กในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งหมุนตัวกลับไปมองคนที่นอนทอดกายจิบกาแฟในตอนสายอย่างสบายอารมณ์แล้วยู่ปากใส่น้อยๆ

สาเหตุที่ไปหาฝุ่นไม่ได้ก็เพราะคนแก่แสนหื่นนี้ไงล่ะ...เล่นซะสะโพกยอกเลย

“อารมณ์ดีจังเลยนะครับ”

แก้วกาแฟในมือหนาถูกวางลงบนโต๊ะก่อนกัญจน์จะหันไปยกยิ้มใส่เด็กน้อย

“แน่นอน”

“งั้นก็เชิญคุณกัญจน์อารมณ์ดีต่อไปเลยครับ บลูไปอาบน้ำแล้วดีกว่า”

“มาพักผ่อนทั้งที ทำตัวขี้เกียจสักวันคงไม่เป็นไรหรอก”

คนที่ตั้งท่าจะหยัดกายขึ้นหยุดชะงัก พอลองคิดไปคิดมาบลูก็เห็นด้วยกับคนข้างกาย ความตั้งใจจะไปอาบน้ำจึงแปรเปลี่ยนเป็นเอนกายลงนอนเพื่อทอดมองวิวทิวทัศน์ที่นอกระเบียงตรงหน้า ปล่อยใจไปกับความสงบสุขเล็กๆ จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพไว้

“เย็นนี้คุณกัญจน์จะพาบลูไปไหนเหรอครับ”

“ก็ดินเนอร์กันปกติ นานๆ จะได้เที่ยวที”

ใบหน้าเล็กกดลงรับพร้อมทั้งเลื่อนเฟซบุ๊กดูนั่นดูนี่ แล้วก็ต้องสะดุดกับกระทู้ข่าวในเพจที่ตัวเองติดตาม

‘สามีเซเลปสุดสวย แก้ม มทิรา ลาออกจากการดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วเรียบร้อย หรือข่าวลือที่ว่าทั้งสองจดทะเบียนหย่ากันแล้วจะเป็นเรื่องจริง!’

ดวงตาคู่สวยเลื่อนไปมองคนที่นอนอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวอีกตัวก่อนจะพบว่าคุณกัญจน์กำลังพักสายตา ถึงอย่างนั้นบลูก็ยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลายบนใบหน้าคร้ามคม

‘ข่าวในวงการการเมืองพัดโหมกระหน่ำ แต่ทางเราคงจะไม่สนใจอะไรหากไม่ใช่เรื่องของ กัญจน์ ศิวะเกียรติ สามีของเซเลปหญิงคนดังที่หลายคนติดตาม เอ๊ะ ไม่รู้ว่าการลาออกนี้จะเกี่ยวกับเรื่องของการหย่าร้างหรือไม่ หรือว่าการไปเที่ยวของคุณแก้ม มทิรา จะเป็นการไปพักใจและหลบนักข่าวกับประเด็นที่แสนหนาหูว่าทั้งสองได้จดทะเบียนหย่ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีใครสามารถคอนเฟิร์มเรื่องนี้ได้ คนชอบเผือกอย่างเราๆ คงต้องรอคุณแก้มกลับมาจากต่างประเทศ แล้วฟังคำสัมภาษณ์จากปากเจ้าตัวเอง’

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเมื่ออ่านเนื้อหาข่าวจนจบขณะที่ในหัวก็เกิดคำถาม

คุณกัญจน์หย่ากับภรรยาแล้วหรือยัง...

บลูหันไปมองคุณกัญจน์อีกครั้ง จับจ้องเสี้ยวหน้าคร้ามคมของคนวัยสี่สิบสองปีอยู่อย่างนั้น กระทั่งเปลือกตาหนาเปิดขึ้นจึงดึงสายตาไปมองทางอื่น

“ร้อนหรือเปล่า” เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าแดดเริ่มแรง แม้ตรงนี้จะเป็นมุมที่ไม่โดนแสงแต่อุณหภูมิรอบตัวก็สูงไม่น้อย

“ไม่ครับ” คนถูกถามส่ายหน้าน้อยๆ

“มานี่ซิ”

บลูจำต้องเบือนหน้ากลับไปมองคนเรียก เมื่อเห็นอีกฝ่ายขยับตัวให้ข้างกายมีพื้นที่ทั้งยังตบมือบอกให้ไปหาจึงพาตัวเองไปตรงนั้น

“สบาย” กัญจน์เอ่ยขึ้นยามวาดแขนพาดผ่านเอวเล็กแล้วกระชับอีกคนเข้าหาตัว

“คุณกัญจน์ไม่อาบน้ำง่ายเหรอ” บลูถามขึ้นเมื่อคนข้างกายซึ่งยังคงอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปทำอะไร

“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ”

ได้ฟังคำตอบแล้วคนร่างเล็กก็ลอบถอนหายใจ

ในเมื่อคุณกัญจน์อยากอยู่แบบเน่าๆ สักวันก็ตามนั้น

--

“มีอะไรอยากจะถามฉันหรือเปล่า” ผ้าเช็ดปากถูกคลี่วางลงบนตักแกร่งยามกัญจน์เอ่ยปากถามคนตรงหน้าขึ้น

ท่าทางครุ่นคิด ทั้งยังอึกอัก เหมือนมีอะไรตลอดทั้งวันนั้นทำให้คนที่ผ่านอะไรมามากรับรู้ได้ไม่ยาก

“...” บลูบีบมือเข้าหากันอย่างไม่กล้าพูดสิ่งที่ตัวเองสงสัยใคร่รู้

“พูดออกมาเถอะ เห็นเธอทำท่าเหมือนมีอะไรแล้วฉันพลอยอึดอัดไปด้วย”

ดวงตาคมจับจ้องไปที่เด็กน้อย พร้อมทั้งสื่อสายตาว่าให้พูดมันออกมา

“ทำไมพาบลูมาดินเนอร์ซะหรูเลยล่ะครับ เนื่องในโอกาสอะไรหรือเปล่า”

“แน่ใจนะว่าเป็นคำถามนี้”

คนถูกรู้ทันกัดริมฝีปากล่างด้วยความสั่นไหว ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนอายุมากกว่าแล้วก็หลุบมองจานอาหารบนโต๊ะสลับกันไปมาอยู่อย่างนั้น กระทั่งสุดท้ายก็ตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกลั้นใจเรียบเรียงคำพูดออกไปอย่างเชื่องช้า

“...มีข่าวลือว่า...คุณกัญจน์หย่ากับ...คุณแก้มแล้ว” ดวงตาสั่นไหวมองเพียงอาหารตรงหน้า

“ข่าวลืองั้นเหรอ เว็ปไหนหรือว่าเพจไหน ทำไมเขียนข่าวแบบนั้น”

ได้ยินดังนั้นบลูก็เหลือบสายตาขึ้นมองคนพูด เห็นความไม่พอใจเจืออยู่ในดวงตาคมแล้วในอกก็เกิดความวูบโหวง

“แสดงว่ามันไม่ใช่ความจริง...เหรอครับ”

“ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นเรื่องจริง” ริมฝีปากได้รูปบิดยิ้ม ต่างจากสีหน้าบลูที่เหมือนยังคงสับสนมึนงง “ฉันหย่ากับแก้มตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้ว...แล้วนี่ก็คือโอกาสของการดินเนอร์ในครั้งนี้”

เสียงดนตรีแผ่วเบาแสนสุนทรีย์เหมือนดังไม่เข้าหูบลูเมื่อได้ยินคำว่าหย่า ทั้งที่ไม่ควรจะรู้สึกอะไรแต่ใจกลับเกิดความยินดีอย่างไม่อาจห้าม

“ความจริงก็ว่าจะหาโอกาสบอกเด็กแถวนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็เพิ่งมีโอกาสดีๆ”

“คุณกัญจน์...” คนเรียกไม่รู้ตัวเรียกอีกฝ่ายทำไม เรียกแล้วก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อจากนั้น

“ฉันว่าจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ”

“...”

“เธอสนใจหรือเปล่า”

ใจที่หล่นวูบไปในวินาทีแรกถูกกระชากกลับมาที่เดิมจนบลูแทบตั้งตัวไม่ทัน

คะ คุณกัญจน์ชวนไปอยู่ด้วยกันงั้นเหรอ

“ถ้าบลูบอกว่าไม่ล่ะ” ถึงน้ำเสียงจะสั่นไหวทว่าบลูก็ยังแกล้งลองเชิงว่าคนตรงหน้าจะตอบอย่างไร

“ฉันก็จะอุ้มเธอขึ้นฮอฯไป”

คนฟังระบายยิ้มกว้าง มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ อีกทั้งดวงตายังร้อนผ่าว ในอกอิ่มเอมกับสิ่งที่ตัวเองได้รับ

คนที่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่มอต้นกำลังจะได้อยู่เคียงข้างคนมีเกียรติอย่างคุณกัญจน์งั้นเหรอ

“คุณ...ไม่รังเกียจเด็กขายตัวคนนี้เหรอครับ”

“เลิกคิดอะไรไร้สาระ ถ้ารังเกียจฉันจะอยู่กับเธอมาขนาดนี้ไหม” คิ้วเข้มขมวดมุ่นขณะที่น้ำเสียงก็เข้มดุขึ้นเพราะความคิดที่ไม่สมควรนั้น

“งั้นก็อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะครับ”

บลูกะพริบตาถี่ไล่หยดน้ำ ทั้งยังระบายยิ้มอย่างออดอ้อน

อยู่ในสถานะไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับคุณกัญจน์

“ก็ขึ้นอยู่ว่าเธออยากอยู่กับคนแก่ๆ แบบฉันไหม” คนแก่เองก็ยิ้มได้ไม่ต่างกัน

ชีวิตที่กัญจน์เลือกแล้ว...มันสุขใจเหลือเกิน

“คุณก็รู้อยู่แล้ว”

“ทีเธอยังไม่รู้ คิดอะไรว่าฉันจะรังเกียจ”

“ก็บลูเป็นแค่เด็กที่มีหน้าที่ดูแลคุณ” คนร่างเล็กเอ่ยเสียงเบา

“ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นกันแบบไหนมันก็ไม่สำคัญเท่ากับจะไปต่อกันยังไง...ฉันแก่แล้ว ไม่มานั่งพูดอะไรให้มากความหรอกนะ”

เพียงเท่านั้นเด็กที่แอบคิดอะไรไร้สาระมาโดยตลอดก็สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วยิ้มให้กว้างเท่าที่จะสามารถทำได้

“เข้าใจแล้วครับ”

“ระหว่างนี้ก็เที่ยวเมืองไทยให้เต็มที่ หมดปีนี้แล้วคงจะนานๆ ได้กลับมาที”

“บลูอยู่ได้ทุกที่ ขอแค่มีคุณ” พอมีโอกาสบลูก็หยอดให้คนแก่ไปต่อไม่เป็น สุดท้ายกัญจน์เลยต้องเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นพร้อมทั้งพยายามเก๊กหน้าสุดความสามารถ

 “หึ ทานข้าวเถอะ”

มือหนาหยิบมีดกับส้อมขึ้นมาจัดการกับอาหารตรงหน้า ระหว่างนั้นก็อดลอบมองบลูที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่แทบจะตลอดเวลาไม่ได้

กัญจน์ไม่เคยคิดว่าตัวเองตัดสินใจอะไรถูกเท่านี้มาก่อน

ต่อให้เขาต้องโดนญาติต่อว่า

ต่อให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์จะหุ้นตก

ต่อให้ต้องสูญเสียอะไรหลายอย่างไปแต่มันก็คุ้มแล้วที่ได้ชีวิตตัวเองกลับคืนมา

ชีวิตที่เขาอยากใช้มันมาตลอด

--

“คุณปินจะเข้าห้องน้ำหรือเปล่าครับ”

“ไม่ครับ” ปารินทร์เอ่ยตอบคนขับรถพร้อมรอยยิ้มบาง

“ถ้าอย่างนั้นรอผมสักครู่”

“ตามสบายเลยครับ”

เสียงประตูเปิดและถูกปิดลงดังขึ้นก่อนที่รถแวนจะเหลือเพียงร่างสูงที่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียว

ระยองงั้นเหรอ...

ปินเคยมาทำงานที่นี่หลายครั้ง แต่ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะได้มาเพราะจุดประสงค์อื่น

‘หมอบอกว่าอาการปินดีขึ้น...งั้นนี่ก็ตามที่สัญญา’

กระดาษแผ่นหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้า แถมมาด้วยรูปแอบถ่ายของคนที่อยู่ในทุกห้วงลมหายใจ

‘ฝุ่นย้ายไปอยู่ระยอง อยู่ชานเมืองหน่อยแต่ก็ยังเป็นอำเภอใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซื้ออาคารพาณิชย์สามชั้นอยู่ ข้างล่างเปิดเป็นร้านข้าวแกง’

ดวงตาเรียวรีที่เหม่อมองไปนอกรถถูกดึงกลับมามองรูปถ่ายในมือที่ดูมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง จับจ้องคนในรูปที่แสนคิดถึงอยู่อย่างนั้นยามที่หัวใจก็ค่อยๆ เต้นถี่รัวขึ้นมา

วันนี้แล้วที่จะได้เห็นฝุ่นด้วยตาตัวเอง...

--

“พี่ฝุ่น ออเดอร์จ้า”

มือบางเอื้อมไปหยิบกระดาษแผ่นเล็กจากเด็กสาววัยมัธยมปลายพร้อมทั้งส่งยิ้มให้ก่อนจะหันกลับมาตักอาหารใส่จานแล้วนำไปเสิร์ฟ

“เพิ่งจะบ่ายสองเองแต่กับข้าวจะหมดซะแล้ว พี่ฝุ่นไม่คิดจะทำเพิ่มเหรอ”

คนถูกถามส่ายหน้าไปมาช้าๆ

“เท่านี้ก็พอแล้วล่ะ ทำแค่พออยู่พอกิน”

“เดี๋ยวลูกค้าก็มาทำหน้าเสียดายใส่อีก” มะตูมที่มารับจ็อบเสริมในวันหยุดเสาร์อาทิตย์พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ผสมแอคติ้งเข้าไปอีกหนึ่งระดับ

“ก็มีไม่เยอะหรอก”

ปากที่กำลังจะอ้าเพื่อเถียงกลับว่าไม่เยอะซะที่ไหนเป็นอันต้องชะงักเมื่อมีคนเดินเข้าร้านมา แล้วดวงตาของมะตูมก็หรี่ลงมอง พิจารณาคนตรงหน้าอยู่ในใจ

คนนี้อีกแล้ว...

“วันนี้ต้มยำขาหมูหมดแล้วเหรอครับ” คนร่างสูงถามขึ้นเมื่อชะโงกมองกับข้าวในตู้แล้วพบว่าเมนูเด็ดไม่มี

“ครับ เหลือแต่อย่างอื่น”

“เสียดายจัง วันนี้ผมไม่น่ามาช้าเลย” ฝุ่นยิ้มรับคำพูดนั้นตามมารยาท จากนั้นอีกคนจึงเปลี่ยนไปเลือกเมนูอื่น “งั้นเอาเป็นต้มข่าไก่กับไข่ลูกเขยแล้วกันครับ”

“ทานนี่ใช่ไหมครับ”

“ครับ”

“งั้นเชิญข้างในเลยครับ”

ลูกค้าของร้านยิ้มรับ ทว่าก็ไม่ได้เดินไปในทันทีจนฝุ่นต้องทำเป็นหันไปตักข้าวถึงได้เดินต่อเข้าไป

“พี่สุดหล่อเขามาอีกแล้ว มาทุกอาทิตย์เลย ต้องชอบพี่ฝุ่นแน่ๆ” มะตูมโน้มตัวมากระซิบให้ฝุ่นโคลงหัวใส่ด้วยความอ่อนใจ

“มะตูมก็พูดไป เอาน้ำแข็งไปเสิร์ฟด้วยนะ”

“รับทราบค่ะ...แต่ว่ามะตูมไม่ได้พูดเล่นนะ สายตาที่เขามองพี่ฝุ่นมันเป็นแบบนี้เลย” พูดแล้วก็ทำสายตาใส่จนฝุ่นหลุดหัวเราะ แล้วเด็กสาวท่าทางแก่นเซี้ยวก็ผละออกไปตักน้ำแข็งใส่แก้วเพื่อเอาไปเสิร์ฟให้คนที่มาใหม่

“เอ่อ...”

ฝุ่นเงยหน้าขึ้นมองลูกค้าซึ่งยืนอึกอักอยู่ตรงหน้าหลังจากที่ทำออเดอร์เมื่อกี้เสร็จเรียบร้อย

“รับอะไรดีครับ”

“อะไรเป็นเมนูฮิตครับ” คนไม่เคยมาทานถามเสียงเบา ทว่าฝุ่นยังไม่ทันเอ่ยตอบมะตูมที่เดินกลับมาก็ชิงอธิบายแทน

“เมนูฮิตของร้านก็คือต้มยำขาหมู แต่วันนี้หมดแล้วค่ะน้า รับอย่างอื่นไปแทนได้นะ อร่อยเหมือนกัน”

“มะตูม เอาจานนี้ไปเสิร์ฟไป” เจ้าของร้านปรามคนพูดมากพร้อมทั้งมอบงานให้ทำ ตรงนี้จึงกลับมามีความเงียบอีกครั้ง

“งั้นผมเอาทุกเมนู อย่างละกล่องแล้วกันครับ”

คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหากันน้อยๆ แต่สุดท้ายฝุ่นก็ยิ้มรับคำแล้วเชิญให้ลูกค้าเข้าไปนั่งรอในร้าน

“ได้ครับ นั่งรอข้างในก่อนสักครู่นะครับ”



“มีขายอยู่หกเมนู เปลี่ยนไปทุกๆ วัน แต่ว่าตอนที่ผมไปเหลือแค่ห้าเพราะเห็นบอกว่าเมนูฮิตหมดแล้วครับ”

ปารินทร์ทอดมองคนร่างเล็กที่กำลังตักอาหารใส่จานอยู่อีกฝั่งด้วยดวงแววตาที่สั่นระริก

ความคิดถึง โหยหา อยากก้าวลงจากรถไปดึงฝุ่นเข้ามากอดมันประทุรุนแรงจนต้องกำมือแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองทำอย่างนั้น

มันยังไม่ถึงเวลา...ปินพร่ำบอกประโยคนี้เป็นรอบที่ล้าน

“เมนูฮิตคืออะไรครับ”

“ต้มยำขาหมู”

กึก

แล้วคำตอบนั้นก็ทำให้ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างเกร็งแน่น เกิดความหวงแหนเนื่องจากคนอื่นได้กินสิ่งที่ตัวเองโปรดปรานจนอยากปิดร้านฝุ่นลงวันนี้

“แล้วร้านเปิดกี่โมงครับ” ลมหายใจวูบโหวงถูกผ่อนออกมาช้าๆ ก่อนจะถามในสิ่งที่ให้คนขับไปสืบ

“เปิดอังคารถึงอาทิตย์ เวลาสิบเอ็ดโมงถึงสี่โมงเย็นครับ แต่เห็นเด็กเสิร์ฟบอกว่าบ่ายสามอาหารก็หมดแล้ว โดยเฉพาะต้มยำขาหมูที่จะหมดเร็วมาก”

ปารินทร์จับจ้องอีกคนโดยไม่วางตา ยิ่งเห็นลูกค้าผู้ชายหน้าตายืนคุยกับฝุ่นนานเกินกว่าที่ควรยิ่งอยากลงไปแสดงตัว

ไม่ว่าจะยังไงฝุ่นก็เป็นของเขาแค่คนเดียว...

“พี่หวานครับ...ติดต่อขอซื้ออาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามฝุ่นให้ผมที” ปินกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์เพื่อบอกสิ่งที่ต้องการไปยังปลายสาย

(ปินรู้ใช่ไหมว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร)

“ผมรู้ครับ”

(เฮ้อ แต่เท่าที่พี่รู้มาแถวนั้นมีคนอยู่เต็มหมดแล้วนี่)

“เสนอเงินจนกว่าจะมีคนขาย”

(โอเคปิน พี่จะจัดการให้) น้ำเสียงนั้นมีความอ่อนใจเจืออยู่แต่สุดท้ายภาวิดาก็ยอมรับปาก

“แล้วก็ซื้อรถคันใหม่ด้วยนะครับ”

(...ได้)

“ขอบคุณครับพี่หวาน”

--

เฮ้อ

ลมหายใจแห่งความเหนื่อยล้าถูกพรูออกทางปากหลังจากที่ฝุ่นอาบน้ำเสร็จแล้วเดินมาทิ้งตัวลงบนเตียงนอน
เปลือกตาสีอ่อนหลับลงให้การมองเห็นมีเพียงความมืด แล้วภาพของใครบางคนก็เด่นชัดขึ้นมาเหมือนดั่งทุกครั้ง

คิดถึงปิน...

เมื่อความคิดถึงเกิดขึ้นตัวก็พลิกไปหยิบโทรศัพท์มากดเข้าอินสตาแกรม พอไม่เห็นการอัปเดตใดๆ จากอีกคนฝุ่นก็ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

กว่าครึ่งปีแล้วสำหรับการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง มันเหนื่อยหนักหนาอย่างที่ใครหลายคนบ่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้ทรมานกลับไม่ใช่ความเหนื่อยนั้นแต่เป็นความคิดถึงที่มีต่ออีกคน

อยากมีปินคอยกอดเวลาเหนื่อยล้า

เผลอคิดถึงสัมผัสอบอุ่นแล้วน้ำตาก็ไหลมาคลอหน่วยโดยที่ฝุ่นไม่รู้ตัว

มือบางยกขึ้นมาเช็ดน้ำออกจากหน้า ทว่ายิ่งเช็ดกลับยิ่งไหล สุดท้ายฝุ่นจึงปล่อยมันไปทั้งอย่างนั้น

แล้วก็เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่หลับไปพร้อมน้ำตา

--

‘มาแล้วสำหรับซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดจากนักร้องสุดฮอต ปิน ปารินทร์ กับเพลงที่มีชื่อว่า เธอที่แสนไกล เรียกได้ว่าปล่อยออกมาคืนเดียวยอดคนดูก็ทะลุถึงห้าล้านวิว อีกทั้งยังขึ้นอันดับหนึ่งของทุกชาร์ตทุกคลื่นวิทยุแล้วเรียบร้อย นอกจากกระแสเพลงจะมาแรงแล้ว กระแสข่าวซุบซิบเรื่องความสัมพันธ์กับนางเอกเอ็มวีก็มาแรงไม่แพ้กันเลยค่า’

‘เหมือนเดิมครับ...ไม่มีอะไร’

‘คนจะจับตามองว่าไม่มีอะไรเพราะเป็นเกย์หรือเปล่า’

‘เคยพูดไปแล้วครับว่าแล้วแต่ความคิดของทุกคน’

‘งั้นกับไอด้ามีโอกาสพัฒนาไหม’

‘ไม่ขอตอบเรื่องส่วนตัวเหมือนเดิมครับ คุยเรื่องเพลงกันดีกว่า’



คนที่ยืนจัดร้านอยู่เผลอยืนนิ่งงันจนมะตูมเดินมาหยุดอยู่ข้างตัว

เป็นครั้งแรกที่อยากให้ปินพูดถึงเรื่องส่วนตัวบ้าง...

“พี่ฝุ่นเป็นแฟนคลับพี่ปินเหมือนกันเหรอ”

“ปะ เปล่า...พี่ก็ดูอะไรไปเรื่อย” ฝุ่นหันมาตอบคนข้างตัว

“แต่มะตูมเป็นแฟนคลับพี่ปินนะ คนอะไรทั้งหล่อแล้วก็เสียงดีมาก นี่เมื่อคืนก็นอนฟังเพลงเธอที่แสนไกลทั้งคืนเลย พี่ฝุ่นฟังหรือยัง”

“ฟังบ้างแล้วล่ะ”

เพราะฟัง...เช้านี้ถึงต้องเอาน้ำแข็งประคบตาและลงรองพื้นเพื่อกลบความบวมช้ำ

“เพราะเนอะ ถึงจะออกแนวเศร้าๆ หน่อยก็เถอะ”

คนอยู่ตรงนั้นเป็นอย่างไร
คนอยู่ตรงนี้แทบจะขาดใจ
คิดถึง...ต่อให้เธอนั้นจะอยู่ไกลแสนไกล
ไม่อาจไขว่คว้า เหนี่ยวรั้ง อ้อนวอนให้เธอไม่ไป
ฉันนั้นเลยเพียงทำได้ ก้มหน้าแล้วยอมห่างไกลใจตัวเอง


ฝุ่นไม่อยากคิดเข้าข้างว่าปินแต่งเพลงนี้เพราะตัวเอง

“ร้านเปิดหรือยังครับ”

เสียงที่ดังขึ้นเรียกให้คนทั้งสองหันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นลูกค้าที่แวะเวียนมาแทบทุกอาทิตย์มะตูมจึงร้องทักออกไป

“คุณน้ามาอีกแล้ว!”

ตลอดระยะเวลาประมาณสี่เดือนคุณน้าคนนี้ก็แวะมาซื้อกับข้าวที่ร้านอยู่เรื่อยๆ

“เปิดแล้วครับ เพิ่งเปิดพอดีเลย”

ฝุ่นขยับเก้าอี้ให้เข้าที่อีกเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมารับลูกค้าพร้อมรอยยิ้ม

“เอาเหมือนเดิมครับ”

“ทุกเมนูอย่างละกล่อง ยกเว้นต้มยำขาหมูที่เพิ่มเป็นสองกล่อง ใช่ไหมคะ?” มะตูมถามย้ำเพื่อความแน่ใจ กระทั่งอีกฝ่ายตอบรับกลับมาเด็กสาวก็ยิ้มแฉ่ง

“นั่งรอก่อนนะครับ”

ฝุ่นผายมือเชิญจากนั้นจึงเดินไปทางหน้าร้าน โดยมีลูกมืออย่างยะตูมคอยตักข้าวใส่กล่องให้

“คุณน้าย้ายมาอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เหรอคะ เห็นซื้อกับข้าวเสร็จก็เข้าไปตรงนั้นตลอดเลย” มะตูมถามขึ้นขณะที่ส่งถุงกล่องข้าวทั้งสองถุงไปให้อีกฝ่าย

“อ๋อ เจ้านายน่ะครับ เขามาพักผ่อนที่นี่”

“เจ้านายชอบทานกับข้าวร้านพี่ฝุ่นเหรอคะ” คนช่างจ้อถามไปเรื่อย

“ครับ”

“มาเป็นครอบครัวเลยเหรอคะ ซื้อหลายกล่องเชียว”

“เอ่อ...” คนที่คิดคำตอบไม่ทันได้แต่ลากเสียงอยู่ในลำคอ

“มะตูม ถามคุณน้าเยอะไปแล้ว...ไม่รบกวนแล้วดีกว่าครับ”

ดั่งเป็นเสียงช่วยชีวิตของคนขับรถวัยกลางคน ธนาระบายยิ้มอย่างโล่งอกกับการไม่ต้องคิดหาคำตอบนั้น

“ครับ ไว้เดี๋ยวจะมาอุดหนุนใหม่นะครับ”

“ขอบคุณครับ” ฝุ่นเอ่ยขอบคุณพร้อมทั้งส่งยิ้มให้ แล้วลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาเป็นระยะก็เดินเข้าไปที่อาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามอย่างเคย

--

2 ปีผ่านไป

‘ทำไมปินถึงไม่ต่อสัญญากับค่ายเดิมคะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า’
‘ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันครับ คุยกันด้วยดี’
‘แล้วอย่างนี้จะเซ็นสัญญากับค่ายใหม่หรือเปล่าคะ ได้ยินข่าวมาว่ามีหลายค่ายตามจีบ’
‘ไม่ครับ เป็นนักร้องอิสระ’
‘ทำไมล่ะคะ’
‘ไม่อยากให้ใครมามีผลกระทบกับการกระทำของตัวผมเอง ในอนาคตก็อาจจะทำอะไรที่เป็นตัวเองมากขึ้น ลองนู้นลองนี่ ก็ไม่อยากให้ค่ายมาแบกรับความเสี่ยงตรงนี้ไปด้วย’
‘แล้วเมื่อไหร่จะมีคอนเสิร์ตเดี่ยว’
‘เมื่อวันที่รู้สึกว่าตัวเองพร้อมครับ’
‘ปินก็เป็นนักร้องมาจะเจ็ดปีแล้ว มันยังติดตรงไหนยังไง’
‘ไม่ได้ติดตรงไหนยังไงหรอกครับ แค่รอเวลาที่เหมาะสม รอเวลาที่ใจผมบอกว่าใช่...ยังไงก็จะมีแน่ๆ ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ติดตามมาตั้งแต่มอต้นจนตอนนี้มะตูมขึ้นมหาลัยแล้ว เฮ้อ เก็บตังรอไปคอนเสิร์ตพี่ปินจนราจะขึ้นแล้วเนี้ย”

เด็กสาวที่กลายเป็นสาวเต็มตัวในวัยยี่สิบปีพร่ำเพ้อกับโทรทัศน์พร้อมทั้งเช็ดโต๊ะไปด้วย

“ขนาดนั้นเลยเหรอมะตูม” ฝุ่นที่เก็บเก้าอี้ไปเรียงกันไว้ด้านข้างเดินกลับมาถาม

“ขนาดนั้นเลยพี่ฝุ่น อยากเห็นพี่ปินร้องเพลงสดๆ อยู่ตรงหน้า ตอนนี้ไปตามที่เซ็นทรัลระยองได้ฟังพี่ปินร้องแค่ไม่กี่เพลงเอง” แฟนคลับปินตัวยงหันมาตอบด้วยท่าทางจริงจัง

“แค่ไม่กี่เพลงก็ยังเอามาเพ้อไปเป็นอาทิตย์”

“ก็เสียงพี่ปินทั้งทุ้ม แล้วก็นุ่มนี่นา”

“พอเลย เพ้ออยู่นั่นเดี๋ยวก็ไปตลาดให้แม่ไม่ทันหรอก...เดี๋ยวที่เหลือพี่เก็บต่อเอง”

“ไม่เป็นไร มะตูมช่วยแป๊บเดียว ค่อยซิ่งไปตลาดให้แม่ทีหลัง”

แล้วร่างมีน้ำมีนวลก็ขยับทำนู้นทำนี่ให้รวดเร็วขึ้น จนไม่กี่นาทีต่อมาร้านก็ถูกเก็บจนเรียบร้อย เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดในวันต่อไป

“มะตูมไปแล้วนะพี่ฝุ่น เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามาช่วยงานใหม่”

“อื้ม ตั้งใจเรียนล่ะ”

“ค่า สวัสดีค่ะ”

ฝุ่นโคลงหัวอย่างอ่อนใจยามมองตามมะตูมที่เดินไปสตาร์ทมอเตอร์ไซด์แล้วขับออกไปด้วยความรวดเร็ว

กี่ปีก็แก่นเซี้ยวไม่เปลี่ยน

ตึก ตึก

เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่ดังขึ้นจากอีกด้านเรียกให้ฝุ่นหมุนตัวกลับมาจากการมองตามมะตูม ก่อนจะเตรียมเอ่ยปากบอกลูกค้าว่าร้านปิดแล้ว

“ร้านปิดละ...”

ประโยคนั้นไม่อาจเอ่ยจนจบเมื่อหันไปเห็นคนตรงหน้าเต็มตา

แม้จะมีหมวกและแมสก์ปิดหน้าแต่รูปร่างและดวงตาเรียวรีคู่นั้นก็ทำให้ฝุ่นรู้ได้ทันที

ปิน!!



TBC.

อุ๊ยยยย เขาเจอกันแล้วน้าาา
ตอนหน้ามาลุ้นกันว่าปินจะมาหาฝุ่นในแบบไหน อิอิ
เป็นกำลังใจให้หมาปินกับแมวฝุ่นด้วยนะคะะะะ
แล้วก็แอบบอกว่าเล่มกำลังอยู่ในกระบวนการ
หยอดปุกหมูกันได้เล้ย
#secrecyลับรัก


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 20-02-2019 22:37:00
งุ้ยยย เค้าเจอกันแล้ววว
ในที่สุดดดด  :hao5: :hao5:
ได้อยู่ด้วยกันซักทีนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-02-2019 22:41:00
หลายปีเลยเนอะ
ถ้าเป็านเราคงตรอมใจละ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-02-2019 22:49:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-02-2019 22:52:14
Finally... :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 20-02-2019 23:08:48
ตื่นเต้นนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 20-02-2019 23:31:06
ร้องไห้ ผ่านไปสองปีเลยเหรอ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 20-02-2019 23:42:55
2ปีผ่านไปแล้วเข้มแข็งขึ้นแล้วนะทั้งสองคน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-02-2019 23:46:07
2 ปีแน่ะกว่าจะได้เจอกัน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-02-2019 23:56:02
ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-02-2019 23:56:22
2 ปีผ่านไปแล้ว จะมีปัญหาอะไรตามมาอีกป่ะเนี่ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 21-02-2019 00:23:39
เจอกันแล้ว แต่สองปีเลยนะ  :hao5:
คู่คุณกัญจน์ก็แฮปปี้แร้วหวังว่าจะไม่มีปัญหาตามมา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-02-2019 04:01:11
แยกห่างกันนานเลยนะคะ สองปี คงพิสูจน์อะไรได้เยอะ
รักมั่นคง ใจที่รอคอย ไม่เคยลืมเลือนกัน

สงสารฝุ่น ถึงจะเลือกออกมายังไง แต่ใจก็ยังรัก ทำใจยาก
แต่อย่างน้อย ฝุ่นก็ยังไม่มีอาการให้น่าเป็นห่วง

ปินรอดแล้ว ต้องรักษาใจ รักษากายมาพักใหญ่
เตรียมทุกอย่างจนพร้อม วันนี้กลับมาเปิดตัวแล้วค่ะ

รอวันรับฝุ่นกลับไปอยู่ด้วยกันนะ

ว้าวววว บลูเอ้ยย ยิ้มแก้มแตกแล้ว ยินดีกับบลูมากเลย
คุณกัญจน์เริ่ดมากจ้า พาไปดินเนอร์เพื่อฉลองความสุขที่แท้จริง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 21-02-2019 09:19:25
ตื่นเต้น ตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-02-2019 10:29:15
ได้เจอกันแล้ว​  อดทนมากเลยทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 21-02-2019 11:01:04
เจอกันแล้ววววววว ~
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 21-02-2019 17:04:00
คุยกันให้เข้าใจนะปินและฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 21-02-2019 21:36:37
โห.....สองปีเลยเหรอ อดทนกันได้นานขนาดนี้ ขอให้สมหวังกันซักทีนะ.  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 23-02-2019 12:18:15
น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมละนะ ตั้ง2ปี แงงงง
เอาใจช่วยทั้งคู่ๆๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 23-02-2019 19:14:15
ดีจังที่มีวาร์ป
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Nineteen.] : 20/02/2562 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 25-02-2019 17:51:58
ได้ความสดใสของบูลและหื่น..แค่กแค่ก มาช่วยเยียวยาใจ

 2ปีกับเวลาที่เหมาะสม ในที่สุดก็เจอกันได้สักที ฮือออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 27-02-2019 22:20:14
Chapter Twenty.

เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่ดังขึ้นจากอีกด้านเรียกให้ฝุ่นหมุนตัวกลับมาจากการมองตามมะตูม ก่อนจะเตรียมเอ่ยปากบอกลูกค้าว่าร้านปิดแล้ว

“ร้านปิดละ...”

ประโยคนั้นไม่อาจเอ่ยจนจบเมื่อหันไปเห็นคนตรงหน้าเต็มตา

แม้จะมีหมวกและแมสก์ปิดหน้าแต่รูปร่างและดวงตาเรียวรีคู่นั้นก็ทำให้ฝุ่นรู้ได้ทันที

ปิน!!


--

มือหนายกขึ้นถอดผ้าปิดปากออกช้าๆ ก่อนจะถามขึ้น

“ร้านปิดแล้วเหรอครับ”

เสียงทุ้มนุ่มที่แสนคิดถึงดังก้องอยู่ในหัว ภาพตรงหน้าพร่าเลือนขึ้นกระทั่งสุดท้ายฝุ่นก็มองเห็นไม่ชัด เมื่อไหร่ไม่รู้ที่แรงสะอื้นไห้ทำให้กายสั่นไหว

ปิน...คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือปิน

ขาสั่นๆ ก้าวเข้าไปใกล้โดยไม่รู้ตัว ทว่าอีกคนก็พูดขึ้นให้ต้องหยุดชะงัก

“ผมคงมาช้าไป...ไว้วันหลังจะมาใหม่นะครับ”

รอยยิ้มตามมารยาทและคำพูดแสนห่างเหินทำให้คนได้รับใจหล่นวูบ ทั้งที่เป็นคนเดินจากมาแต่วินาทีนี้ฝุ่นกลับก้าวเข้าไปคว้าแขนคนที่กำลังจะเดินออกจากร้านเอาไว้

“ปะ ปิน ปิน” เสียงเรียกชื่อดังซ้ำๆ ขณะที่มือก็กำแน่นไม่ยอมปล่อย

สัมผัสนั้นตอกย้ำว่านี่คือความเป็นจริงไม่ใช่เพียงฝัน

“ฮึก” น้ำตาไหลรินเป็นสายไม่ต่างจากวันที่ก้าวออกจากห้อง

ปินอยากแข็งใจก้าวออกจากตรงนี้ ทว่าความรู้สึกที่มีต่ออีกคนมันมากมายเกินกว่าที่จะทำแบบนั้น ร่างสูงยังคงยืนนิ่ง ฝ่ามือกำเข้าหากันแน่นจนขึ้นข้อขาว ขณะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“วันหลังผมจะมาใหม่”

ใบหน้าเล็กส่ายไปมา พออีกคนตั้งท่าจะก้าวออกไปอีกฝุ่นก็โถมตัวเข้ากอดจากทางด้านหลัง

มีเพียงความคิดเดียวที่ว่าไม่ให้ปินไป

“อึก ไม่...มะ ไม่”

ร่างกายคนถูกกอดเกร็งสั่นไม่ต่างจากคนกอด อีกทั้งปินยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากมายในการไม่หันไปกอดอีกคน

ทั้งที่อยู่ตรงนี้ สัมผัสกันแบบนี้ แต่กลับกอดไม่ได้

ฝุ่นควรได้เรียนรู้...

“ตอนฝุ่นจะไป ผมไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดคำว่าไม่ ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเอ่ยคำบอกลา”

“...” มีเพียงเสียงร้องไห้เป็นคำตอบ

“ที่ผมมาไม่ใช่ในฐานะปิน แต่มาในฐานะลูกค้า ร้านปิดแล้วเพราะงั้นวันนี้ผมขอตัว”

แขนเล็กที่โอบอยู่รอบเอวสอบถูกดึงออก แม้จะมีแรงขืนเอาไว้แต่ก็น้อยนิด ไม่อาจสู้อะไรกับแรงของปินได้

“ปิน ฮือ”

ร่างเล็กทรุดนั่งลงบนพื้นยามมองตามแผ่นหลังกว้างไป ก่อนดวงตาที่เต็มไปด้วยหยดน้ำจะเบิกขึ้นเมื่อเห็นปินเดินเข้าไปยังตึกตรงข้าม

ตรงที่จำได้ว่าคุณน้าคนนั้นเดินหายเข้าไปทุกครั้งหลังจากที่ซื้อกับข้าวเสร็จ

ปะ ปินรู้มานานแล้วงั้นเหรอ

ความสับสนมึนงงและเสียใจผสมปนเปจนแยกแทบไม่ออก หากแต่เหนือสิ่งอื่นใดน้ำตาและความคิดถึงคือสิ่งที่ชัดเจนที่สุด

--

วันจันทร์เป็นวันที่ร้านข้าวแกงปิด และต่อให้ไม่ใช่วันจันทร์ฝุ่นก็ไม่คิดที่จะเปิด ร่างเล็กนั่งอยู่ตรงหน้าต่างในห้องนอน เอาแต่จับจ้องอาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามตลอดทั้งคืน

ปินอยู่ในนั้นจริงๆ งั้นเหรอ

แล้วการรอคอยก็เป็นผลเมื่อผ้าม่านตรงชั้นสามถูกเปิดออก เผยให้เห็นความเคลื่อนจากคนที่อยู่ในนั้น

ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มทั้งน้ำตาทั้งที่อีกคนนั่งหันหลังให้ คล้ายกับว่าปินกำลังนั่งเล่นกีตาร์อยู่ในห้องนอน

ทำไมไม่เคยสังเกตเลยกันนะ หากสังเกตเพียงสักนิดอาจจะเห็นปินตั้งนานแล้ว

มือบางยกขึ้นแตะกระจกตรงหน้าก่อนจะพิงตัวอิงแอบราวกับว่าตัวเองกำลังซบแผ่นหลังกว้างอยู่

ไม่ใช่ฝัน...นี่ไม่ใช่ความฝัน

วันอังคารมาถึงพร้อมด้วยสภาพที่แสนร่วงโรยของฝุ่น เนื่องจากคอยเอาแต่เฝ้ามองฝั่งตรงข้าม กินข้าวก็นั่งตรงนั้น ทำอะไรก็เหลือบไปมองแค่ตรงนั้น ทั้งที่แทบไม่มีความเคลื่อนไหวใดจากอีกฝั่ง

“คุณฝุ่นเป็นอะไรหรือเปล่าครับ หน้าตาเหมือนไม่สบาย” ลูกค้าประจำอย่างอาณัตทักขึ้นเมื่อเห็นความผิดปกติจากเจ้าของร้าน

เขาลอบสังเกตอีกคนมาตั้งสองปี จะไม่รู้ได้อย่างไร

“เปล่าครับ” คนถูกถามวางจานข้าวลงให้แล้วทำเพียงยิ้มรับจากนั้นจึงหมุนตัวกลับไปที่หน้าร้าน

พอไม่มีอะไรทำก็นั่งมองฝั่งตรงข้ามอยู่อย่างนั้น กระทั่งมีรถคันคุ้นตามาจอดตรงหน้าห้องปิน ก่อนคนขับจะเดินลงมา
ฝุ่นรีบขยับตัวลุกขึ้นเมื่อเห็นลูกค้าประจำข้ามมาหา

“เอาเหมือนเดิมครับ”

“ผม...ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ” ฝุ่นรีบเอ่ยด้วยเสียงสั่นๆ ขณะที่อีกฝ่ายก็มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย

“ได้ครับ”

“คุณน้าซื้อข้าวทั้งหมดไปให้ใครเหรอครับ”

“คนที่อยู่ในนั้นน่ะครับ” ธนาชี้มือไปที่ฝั่งตรงข้ามให้ฝุ่นรีบถามต่อ

“กี่คนครับ”

“คนเดียวครับ แต่ส่วนมากเจ้านายจะแบ่งให้ผมทาน เขาจะหยิบแค่กล่องต้มยำขาหมูไป”

ริมฝีปากบางถูกขบกัดจนชาหนึบ อีกทั้งฝุ่นยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่ร้องไห้ออกมา

“งะ งั้นวันนี้เอาเหมือนเดิมนะครับ”

“ครับ อย่างละกล่องเหมือนเดิม” แล้วลูกค้าประจำก็เดินไปนั่งรอในร้านอย่างเคย

ฝุ่นเหลือบสายตาไปมองที่ฝั่งนั้นอีกครั้งราวกับจะมองให้ทะลุเข้าไป แต่แล้วก็รีบดึงสติกลับมาเมื่อคิดได้ว่าคนในนั้นอาจจะกำลังรอทานข้าวอยู่

มือเล็กจัดแจงทุกอย่างด้วยความตั้งใจที่มากขึ้น ข้าวในวันนี้จึงพิเศษทั้งในเรื่องของความรู้สึกและปริมาณ

“เขามาที่นี่บ่อยไหมครับ” ฝุ่นถามขึ้นขณะที่คนตรงหน้ากำลังจะยื่นเงินมาให้

“ก็ทุกครั้งที่ผมมาซื้อข้าวที่นี่น่ะครับ”

“แล้วแต่ละครั้งอยู่นานไหม” ความอยากรู้มีมากมายจนไม่อาจรักษาคำว่ามารยาทเอาไว้ได้

สุดท้ายธนาเลยจำต้องดึงมือที่ถูกเมินกลับแล้วเอ่ยตอบคำถามเสียก่อน

“สักวันหรือสองวันแล้วแต่งานเขาครับ แต่ช่วงนี้เหมือนจะอยู่นานหน่อย”

คนฟังระบายยิ้ม จากนั้นจึงค่อยยื่นถุงข้าวส่งไปให้

“ผมแถมต้มยำขาหมูให้อีกกล่องนึงนะครับ”

“ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร ของซื้อของขาย” ธนารีบปฏิเสธแล้วจ่ายเงิน ทว่าฝุ่นกลับทอนมาในราคาที่คิดเท่าเดิม

“ไม่เป็นไรครับ...ผมอยากให้จริงๆ”

สุดท้ายธนาก็ต้องยอมรับความใจดีนั้นมาอย่างไม่อาจปฏิเสธ

คนร่างท้วมข้ามฝั่งกลับไปแล้วก็ไขกุญแจประตูกระจกของตึกแถวห้องนั้นเข้าไป

ฝุ่นมองตามลูกค้าประจำด้วยรอยยิ้มบางเมื่อคิดว่าอาหารของตัวเองจะถูกนำไปให้ใครอีกคน

--

“เรานี่นะ คิดจะแกล้งอะไรฝุ่น” ประภาถามคนเป็นลูกด้วยความอ่อนใจขณะที่นั่งอยู่บนรถซึ่งมุ่งหน้าไปยังระยอง

“ผมแค่จะทำให้ฝุ่นรู้ว่าชีวิตปกติมันเป็นยังไง ตอนนี้เขาเปิดร้านอาหาร เราก็เป็นลูกค้า แค่นั้น”

“ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ในเมื่อตอนนี้ปินเองก็พร้อมแล้วไม่ใช่เหรอลูก”

คำว่าพร้อมของปินคือในเวลานี้ไม่ได้ติดสัญญากับค่ายใด เพราะฉะนั้นเมื่อทำอะไรผลกระทบต่อคนอื่นก็มีน้อยลง

“ทุกอย่างมันต้องค่อยๆ ปรับตัวและเรียนรู้ครับแม่...ถึงมันจะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับผมแล้วแต่ผมก็ต้องแน่ใจว่าฝุ่นพร้อมแล้วเหมือนกัน”

“อยากเช็กความพร้อมหรืออยากแกล้งฝุ่นกันแน่”

“...” คนขับรถไม่ได้ตอบอะไรให้ประภารู้เอาเองว่าปินตั้งใจจะทำทั้งสองอย่าง

ลูกชายเธอแอบงอนที่ฝุ่นหนีมาโดยไม่บอกกล่าวอยู่ตลอดเลยนี่นะ

“เอาเถอะ ถ้าปินบอกว่าปรับตัวก็คือปรับตัว ก็อย่างที่ปินเคยว่า ตอนนี้ปินจะทำอะไรก็ได้เพราะการกระทำมันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนอื่นแล้ว ก็มีเพียงแค่ความรู้สึกของแฟนคลับที่ต้องระวัง”

“ระหว่างสัญญาการเป็นนักร้องผมทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เมื่อวันนี้ที่ผมจะขอเป็นตัวเองครึ่งหนึ่งก็ได้แต่หวังว่าคนที่รักผมเขาจะยอมรับได้” ปารินทร์เอ่ยออกมาเสียงเบาเมื่อลองคิดถึงสิ่งที่อาจจะตามมาต่อจากนั้น

แต่ไม่ว่าอย่างไรแล้วความเป็นจริงก็คือความเป็นจริง เขาไม่สามารถเป็น ปิน ปารินทร์ ได้ตลอดทั้งชีวิต และเมื่อเป็นอิสระแม่กุญแจซึ่งขังความเป็นตัวเองเอาไว้ก็ถูกปลดล็อก

ปินจะค่อยๆ เป็นตัวเองมากขึ้น ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

“แต่ปินก็ต้องยอมรับถ้าหากจะมีบางส่วนที่รับไม่ได้ หรือมีบางส่วนที่เสียใจ” คนเป็นแม่เอ่ยย้ำในประเด็นที่สำคัญที่สุด

“ผมยอมรับได้ แล้วไม่ว่ายังไงแฟนคลับส่วนนั้นก็จะยังเป็นคนที่มีค่ากับผม”

“แม่เคารพในการตัดสินใจของปิน แล้วก็เชื่อว่าคนที่รักปินจริงๆ จะเคารพปินเหมือนกัน”

สองแม่ลูกสบสายตามองกันเล็กน้อยก่อนปินจะรีบหันไปมองถนนต่อ

“ขอบคุณครับแม่ ขอบคุณที่ทำให้ผมผ่านทุกอย่างมาได้”

“ก็แม่เป็นแม่ปินนี่ลูก” ประภาระบายยิ้มพร้อมทั้งเอื้อมมือไปลูบไหล่ของลูกเบาๆ

--

“พะ พี่ฝุ่น!” มะตูมเรียกชื่อเจ้าของร้านซึ่งยืนอยู่ข้างกันเสียงสั่นเมื่อเห็นคนที่เดินเข้าร้านมาโดยไม่มีการปิดบังหน้าตาใดๆ

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะฝุ่น”

ด้านคนถูกทักก็นิ่งค้าง ดวงตาที่จับจ้องอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ เลื่อนไปยังแม่ของปิน เกือบนาทีกว่าฝุ่นจะตั้งสติได้ว่าควรยกมือไหว้คนตรงหน้า

“สะ สวัสดีครับคุณน้า”

“จ้ะ พอดีแม่แวะมาเที่ยวระยอง เห็นว่าฝุ่นเปิดร้านเลยอยากจะมาลองชิมฝีมือหน่อย” คนที่ไม่ได้แก่ลงไปเท่าไหร่นักจำต้องโกหกเล็กๆ เพื่อเจ้าตัวแสบที่ยืนนิ่งอยู่ข้างกัน

“ยินดีมากครับ...ชะ เชิญที่โต๊ะเลยครับ”

ดวงตาคู่สวยไหวสั่นไม่ต่างจากใจเมื่อเหลือบมองปินแล้วพบว่าอีกคนไม่ได้สนใจกันอย่างที่คิด

ร่างเล็กพยายามสูดลมหายใจเพื่อตั้งสติยามเดินนำลูกค้าเข้าไปข้างใน และเพราะความเป็นปินโต๊ะอื่นๆ จึงเริ่มหันมาสนใจ บางคนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่าย

ความหวั่นกลัวเกิดขึ้นกับฝุ่นเล็กน้อย ทว่าปินกลับมีท่าทีนิ่งเฉย

“คนเยอะเหมือนกันนะ” ประภาเอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งลงแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ ร้าน “ปินเอาอะไรลูก”

“ต้มยำขาหมูครับ” ปารินทร์แทบไม่ต้องคิด

“งั้นแม่ควรทานอะไรดี” คนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะทานอะไรหันไปถามเจ้าของร้านซึ่งยืนรอรับออเดอร์อยู่ไม่ห่าง

“คุณน้าเอาเป็นแกงจืด กับปลาราดพริกดีไหมครับ จะได้ไขมันน้อยหน่อย” ฝุ่นเสนอ ทั้งยังกดเก็บความสั่นไหวของตัวเองเอาไว้ให้ลึก

“ได้จ้ะ”

“รับน้ำอะไรดีครับ”

“น้ำเปล่าแล้วกันลูก”

ใบหน้าเล็กกดลงรับจากนั้นจึงเดินกลับมาที่หน้าร้าน ก่อนมือบางจะวางค้ำกับเคาน์เตอร์ เรียกพลังงานของกายและใจด้วยการหลับตาลง

“พี่ฝุ่น พี่ปิน พี่ปินตัวเป็นๆ เลย” มะตูมขยับเข้ามากระซิบขณะที่มือกำแน่นด้วยความตื่นเต้น

นั่น ปิน ปารินทร์ เชียวนะ!

“อื้อ...” เปลือกตาสีอ่อนเปิดลืมขึ้นช้าๆ

“พี่ฝุ่นรู้จักกับแม่พี่ปินเหรอ ทำไมไม่เคยเห็นบอกเลย”

“เอาน้ำแข็งไปเสิร์ฟก่อนมะตูม”

“ค่ะ!” ความอยากรู้ยังคงมีอยู่แต่ความอยากเห็นนักร้องในดวงใจก็มีมากกว่า

มะตูมรีบรับคำแล้วทำหน้าที่อย่างแข็งขัน เมื่อเอาน้ำแข็งไปเสิร์ฟก็เห็นว่าเริ่มมีคนมาขอถ่ายรูปปารินทร์บ้างแล้ว



“อร่อยมาก ไว้แม่จะแวะมาอีกนะ” ประภาเอ่ยชมยามที่เดินออกมายืนรอลูกชายซึ่งกำลังแจกลายเซ็นและถ่ายรูปอยู่

“แล้วมาอีกนะครับ” ฝุ่นเอ่ยเสียงเบาทว่ากลับเต็มไปด้วยความเว้าวอนขอ

“ระหว่างที่มีสัญญากับค่ายปินถือว่าทำหน้าที่ในการเป็นนักร้องอย่างเต็มที่แล้ว หลังจากนี้เลยจะใช้เวลาเพื่อตัวเองมากขึ้น...ก็อยู่ที่ฝุ่นแล้วนะว่าจะยังไง” คนแก่พูดพร้อมรอยยิ้มบาง

“...” ฝุ่นได้แต่นิ่งเงียบ เกิดความรู้สึกทั้งยังหวั่นกลัวและดีใจเล็กๆ กับประโยคก็อยู่ที่ฝุ่นแล้วนะว่าจะยังไง

คล้ายกับทุกอย่างต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับเขาแล้ว

“อ้อ...แล้วก็เจ้าหมาน่ะ ขี้งอนอยู่เหมือนกันนะ” ประภารีบเอ่ยเมื่อเห็นว่าปินผละออกจากกลุ่มคนมาแล้ว “แม่กลับแล้วนะ แต่ว่ายังไงก็ยังอยู่ที่นี่ต่ออีกสองวัน”

“ครับ”

ร่างสูงเดินกลับมาแล้วเหลือบสายตามองฝุ่นเพียงเล็กน้อยก่อนจะพาแม่เดินข้ามฝั่งกลับไปยังที่อยู่ของตัวเอง

“พี่ฝุ่น พี่ปินย้ายมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!” มะตูมรีบถลาเข้ามาถามหลังจากที่ได้ทั้งลายเซ็นและเซลฟี่คู่กับนักร้องในดวงใจ

“...ไม่รู้เหมือนกัน” คนถูกถามทำได้เพียงเอ่ยตอบเสียงเบา

--

ก็อยู่ที่ฝุ่นแล้วนะว่าจะยังไง

ฝุ่นนังมองกระจกห้องนอนฝั่งตรงข้ามพลางคิดถึงแต่สิ่งที่แม่ของปินพูดด้วยไปมาในหัว สุดท้ายเมื่อหาทางออกไม่ได้จึงคว้าโทรศัพท์มาคอลไลน์หาเพื่อนที่อยู่อีกประเทศ

(ว่าไงฝุ่น)

“บลูว่างหรือเปล่า”

(ว่างสิ กำลังเหงาพอดีเลย คุณกัญจน์ออกไปทำงานน่ะ) คนที่ย้ายไปอยู่อเมริกาตอบกลับมาเสียงเล็กเสียงน้อย ทั้งสดใสแล้วก็เง้างอนในท้ายประโยค

“คือเรามีเรื่องจะปรึกษาหน่อย”

(ว่ามาได้เลย)

ริมฝีปากบางถูกขบกัดเล็กน้อยก่อนฝุ่นจะค่อยๆ เรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟัง

(ฝุ่นมีโอกาสได้เจอปินอีกครั้ง...แล้วก็กำลังลังเลว่าควรจะยังไงต่อใช่ไหม) บลูถามย้ำหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด

“อื้อ”

(ให้เดา ใจฝุ่นก็คงอยากไปต่ออยู่แล้ว แต่ก็กลัวผลกระทบที่จะตามมาเหมือนตอนนั้นใช่ไหม)

ผลกระทบที่ทำให้บลูรู้ว่าคนที่ฝุ่นดูแลอยู่คือใครเพราะจำคนเป็นเพื่อนได้แม้จะถูกเซนเซอร์ตาเอาไว้

“อืม”

(แต่เราว่าการที่เขามาที่นี่ ซ้ำยังไม่ได้ปิดบังหน้าตาอะไร มันก็ชัดเจนแล้วนะว่าปินอยากจะทำยังไง)

“...”

(เราไม่รู้ว่าเวลาที่เหมาะสมสำหรับฝุ่นกับปินมันมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง แต่การที่ปินไม่ได้มาหาฝุ่นเลยตลอดสองปีกว่าแล้วเลือกจะมาในเวลานี้มันก็คงเป็นเวลาที่ปินคิดว่าเหมาะสมแล้วล่ะ...อย่างที่แม่ปินพูด ก็อยู่ที่ฝุ่นแล้วว่าจะยังไง คำว่าเวลาที่เหมาะสมของฝุ่นคือตรงไหน ถ้าเป็นตอนที่รอจนไม่มีใครสนใจเรื่องปินก็คงจะไม่มีวันนั้น)

“....” คนฟังค่อยๆ คิดตามสิ่งที่บลูพูด

(ปินเองก็โตขึ้นในอีกระดับแล้ว ถ้าอีกคนพร้อมก็ต้องถามฝุ่นว่าพร้อมที่จะก้าวผ่านกระแสโจมตีไปด้วยกันหรือเปล่า ซึ่งคราวนี้ฝุ่นจะหนีแบบครั้งก่อนไม่ได้แล้ว...ความคิดเรา เราเชื่อว่าความราบเรียบของฝุ่นจะทำให้เรื่องนี้มันผ่านไปอย่างราบเรียบที่สุด มันอาจจะยากในช่วงแรก แต่ถ้าคนสองคนจับมือสู้ไปด้วยกันยังไงก็ผ่านไปได้)

“...”

(เป็นธรรมชาติที่ทั้งฝุ่นและปินเป็น ท้ายที่สุดแล้วคนอื่นจะเห็นและเข้าใจ)

“มันจะไม่เป็นไรใช่ไหม” คนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองถามปลายสายเสียงเบา

ถ้าจะไม่หนีแบบตอนนั้น มันจะโอเคจริงๆ ใช่ไหม

(หรือว่าฝุ่นพร้อมที่ปล่อยปินไปอีกล่ะ)

“...” ฝุ่นไม่ได้ตอบแต่ในใจกลับร้องตะโกนว่าไม่ขึ้นมาทันใด

(บางครั้งน่ะ โอกาสตรงหน้าก็อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะฝุ่น...ลองคิดดูว่าถ้าครั้งนี้ปินไม่รอแล้ว ถ้าเขาเลือกที่จะเดินไปพร้อมคนอื่นแทน ฝุ่นจะโอเคหรือเปล่า)

“ไม่สิ ไม่โอเคสิ” ริมฝีปากเล็กขยับตอบจนลิ้นแทบพันกัน

(ถ้าไม่โอเคก็ลุย ฮึบแล้วผ่านมันไปให้ได้ ใครจะด่าก็ด่าไป เราไม่สนใจซะอย่าง)

บลูส่งพลังให้เพื่อนทางน้ำเสียงที่ฮึกเหิม ขณะที่คนฟังก็นิ่งคิด จากนั้นจึงสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อตัดสินใจได้

“เราจะลองดู...ขอบคุณบลูมากเลยนะ”

(ไม่เป็นไรเลย มีอะไรก็โทรหาเราได้ แล้วเดี๋ยวเดือนหน้าเราจะกลับไปหา)

“จริงเหรอ” ฝุ่นถามกลับด้วยความดีใจ

(อื้อ ไปเที่ยวน่ะ)

“งั้นไว้เจอกันนะ”

(โอเค เจอกัน)

แล้วสายโทรศัพท์ก็ถูกวางไปหากแต่ทุกคำพูดของเพื่อนยังคงไหลวนอยู่ในหัว ตามมาด้วยประโยคที่แม่ปินเอ่ยด้วยเมื่อตอนกลางวัน

“ระหว่างที่มีสัญญากับค่ายปินถือว่าทำหน้าที่ในการเป็นนักร้องอย่างเต็มที่แล้ว หลังจากนี้เลยจะใช้เวลาเพื่อตัวเองมากขึ้น...ก็อยู่ที่ฝุ่นแล้วนะว่าจะยังไง”

มันถึงเวลาเหมาะสมที่ปินจะได้ใช้เพื่อตัวเองแล้วจริงๆ ใช่ไหม

--

“พี่ฝุ่น! มะตูมรู้แล้วว่าพี่ไปรู้จักกับแม่พี่ปินได้ยังไง”

มะตูมที่มาทำงานวันต่อมาด้วยความมุ่งมั่นพูดขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามาในร้าน ทั้งยังหรี่ตาลงให้คนถูกมองรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ

“มะตูมก็ว่าว่ารู้สึกคุ้นหน้าพี่จากที่ไหน นี่คือพี่ฝุ่นใช่ไหม...คนที่เคยมีข่าวกับพี่ปินเมื่อเกือบสามปีก่อน”

โทรศัพท์ในมือที่ปรากฏรูปถูกแอบถ่ายเมื่อสามปีก่อนถูกยกขึ้นให้ดูโดยที่ฝุ่นได้แต่ยืนนิ่ง ใช้เวลาตั้งสติอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเฉไฉไปเพราะภาพนั้นไม่ได้เห็นหน้าชัด ทั้งยังมีแถบสีดำคาดทับตาเอาไว้

“ละ เหลวไหลน่ามะตูม”

“งั้นพี่ก็บอกมาสิว่ารู้จักกับแม่พี่ปินได้ยังไง” มะตูมยังไม่ลดละความอยากรู้เมื่อเพียรถามเท่าไหร่ก็ไม่ได้คำตอบนี้

“ถ้าเขาไม่อยากตอบมาถามพี่ก็ได้”

เสียงทุ้มที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้หญิงสาวหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นใครเสียงเรียกชื่อด้วยความตกใจก็ดังขึ้น ทว่าความตกใจของมะตูมนั้นยังไม่เท่าที่ฝุ่นรู้สึก

“พะ พี่ปิน!” คนที่ทั้งช็อกและตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วครู่ เมื่อตั้งสติได้ร่างมีน้ำมีนวลจึงวิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าปารินทร์

“งั้นถามค่ะ...คนในรูปใช่พี่ฝุ่นหรือเปล่าคะ แล้วมีซัมติงจริงอย่างที่เขาเคยเม้ากันไหม”

ดวงตาเรียวรีมองรูปในโทรศัพท์แล้วก็เลื่อนสายตาไปมองคนด้านหลัง จากนั้นจึงตอบออกมา

“ใช่ทั้งหมด แต่ตอนนี้ไม่ได้มีซัมติงอะไรกันแล้ว”

คำตอบนั้นทำให้ฝุ่นแทบไร้เรี่ยวแรงที่จะยืน พร้อมๆ กับสิ่งที่บลูพูดดังเข้ามาในหัว

บางครั้งน่ะ โอกาสตรงหน้าก็อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะฝุ่น

หรือมันจะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ

“เคยคบกันจริงๆ ด้วย โอ๊ยยยย ทำไมพี่ฝุ่นไม่เคยบอกมะตูมเลย โอ้มายก็อด พระเจ้าช่วยกล้วยลำไย...พี่ปินกับพี่ฝุ่น...โอเคๆ...แต่ไม่ต้องห่วงค่ะมะตูมไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ขอแค่...ขอแค่ได้กอดพี่ปินพอ”

มะตูมทั้งตื่นเต้นและดีใจผสมปนเปกันไปหมด

“มาสิ” แล้วก็ยิ่งดีใจมากเมื่อคนตรงหน้าอ้าแขนออก

หญิงสาวไม่รอช้าที่จะพาตัวเองเข้าไปแนบชิด สองแขนกอดรอบเอวสอบขณะที่ใบหน้าก็ซุกเข้ากับอกแน่นๆ แล้วหลับตาลงพริ้ม

เป็นภาพที่ก่อให้คนมองรู้สึกอิจฉาอย่างไม่อาจห้าม

ฝุ่นอยากกอดปิน...แบบนั้น

“กรี๊ดดด ตัวพี่ปินหอมมากเลย เหมือนมะตูมฝันไปเลยอะ” มะตูมส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดพลางขยับตัวไปมาอย่างอยู่ไม่สุข

“มะตูม”

“ขา” คนถูกเรียกหันไปขานรับ แต่พอฝุ่นไม่ได้พูดอะไรต่อคนช่างจ้อก็หันกลับไปหาปินอีกครั้ง

“ว่าแต่พี่ปินมานี่จะมาซื้อข้าวหรือจะมาหาพี่ฝุ่นคะ”

“มาซื้อข้าวน่ะ”

ฝุ่นรู้สึกผิดหวังกับคำตอบจนต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากัน

“ว้า เสียดายจัง...”

“มะตูมไปจัดเก้าอี้ไป พี่จะไปเอากับข้าวออกมา...ระ รอก่อนนะ ยังจัดร้านไม่เสร็จน่ะ” ประโยคหลังฝุ่นเอ่ยบอกอีกคนเสียงสั่น อีกทั้งใจยังวูบโหวงเพราะสายตาราบเรียบที่มองกลับมา

“ถ้าอย่างนั้นเสร็จแล้วค่อยเอาไปส่งแล้วกันครับ ให้น้องมะตูมไปส่งก็ได้”

มะตูมที่ดีใจกับการถูกจำชื่อได้ยกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นเสียงกรี๊ด

ปิน ปารินทร์จำชื่อได้เชียวนะ

“เอาอะไรดี” ฝุ่นถามต่อเสียงเบา

“อะไรก็ได้ครับสองกล่อง เผื่อแม่ด้วย”

“อื้ม” พอร่างเล็กรับคำปินก็หันไปยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินข้ามฝั่งกลับไป

“พี่ฝุ่น ทำไมตอนนี้ไม่มีซัมติงกันแล้วล่ะ แล้วพี่ฝุ่นไม่คิดจะง้อพี่ปินเหรอ เหมือนพี่ปินจะยังงอนๆ อยู่เลยอะ”

“...” คนถูกถามไม่ตอบอะไรทั้งยังส่งสายตาให้รู้ว่าคนถามกำลังก้าวล้ำเรื่องส่วนตัว

“แหะๆ มะตูมอยากรู้นี่นา พวกพี่เหมาะสมกันมากเลยรู้ไหม” มะตูมหัวเราะแห้งๆ พลางพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนัก

“เหมาะสมงั้นเหรอ?” คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหากันเมื่อติดใจกับบางส่วนในประโยคเมื่อครู่

“อื้อ คนนึงหล่อ คนนึงน่ารัก มะตูมว่าเข้ากันมาก”

“แต่พี่...เป็นผู้ชายกับผู้ชายนะ”

“โอ๊ย สมัยนี้โลกมันไปถึงไหนแล้ว คนที่รับไม่ได้ก็แสดงว่าเป็นคนไม่ใจกว้างเลย”

“แล้วมะตูมโอเคเหรอที่คนที่ตัวเองชอบจะมีแฟน”

กลายเป็นว่าฝุ่นยอมเปิดเผยเรื่องส่วนตัวเพื่อที่จะฟังความคิดเห็นจากคนเป็นแฟนคลับปินอย่างมะตูม

“มะตูมน่ะโอเค แต่มะตูมก็เข้าใจคนที่จะไม่โอเคนะ...แต่ว่าน่ะ สุดท้ายพี่ปินเขาก็ต้องมีชีวิตเป็นของเขา ตอนนี้เขาก็อายุยี่สิบเจ็ดแล้ว มันก็ไม่แปลกอะไรที่จะมีแฟน”

“...”

“ที่ไม่มีซัมติงกันแล้วเพราะพี่ฝุ่นกลัวแฟนคลับไม่โอเคเหรอ”

“...” ใบหน้าเล็กกดลงรับอย่างเชื่องช้า

“ตอนแรกบางคนก็คงไม่เข้าใจหรอก แต่สุดท้ายถ้าพวกเขารักพี่ปินจริงพวกเขาก็จะเข้าใจไปเอง ศิลปินที่เรารักรักใครเราก็รักด้วยทั้งนั้น ยิ่งถ้าเป็นพี่ฝุ่นมะตูมจะยิ่งรักมากกกก จะเปิดเพจแฟนคลับให้ด้วยเลย”

ได้ยินว่ามีคนโอเคและเข้าใจฝุ่นก็ระบายยิ้ม ทว่าวินาทีต่อมากลับต้องค่อยๆ หุบลงเพราะนึกถึงสิ่งที่ปินพูดออกมาเมื่อครู่

“ขอบใจนะมะตูม แต่ปินบอกว่าไม่มีซัมติงกันแล้วนี่นา”

“ตอนนี้ไม่มีก็ทำให้กลับไปมีสิ...ง้อน่ะพี่ฝุ่น ง่ายนิดเดียว”

คนฟังกะพริบตาปริบๆ กับคำว่าง้อที่ได้ยิน

“ง้อเหรอ”

“อื้อ ถ้าพี่ปินยังไม่มีใครก็ง้อเลย มะตูมเอาใจช่วย เริ่มจากการเป็นคนเอาข้าวไปส่งไง!”



TBC.

เจ้าหมาทำเป็นเข้มมมม
ตอนหน้าก็จบแย้วน้า
มาลุ้นกันค่ะว่าพี่ฝุ่นจะง้อหมาขี้งอนยังไง
แอบบอกว่าเราชอบตอนหน้ามากกก
นอกจากตอนจบแล้วก็มีตอนส่งท้ายอีกตอนนะคะะะ
เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะ^^
#secrecyลับรัก


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-02-2019 22:27:11
ง้อกันดีๆนะแมวฝุาน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-02-2019 22:41:33
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-02-2019 22:58:48
คงต้องง้อยาวๆ เลย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 27-02-2019 23:02:45
มะตูมบอกเลขบัญชีมาเดี๋ยวโอนให้20 ทำดีมาก  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 27-02-2019 23:14:32
ง้อยังใงดีคะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 27-02-2019 23:28:59
จะงอนได้สักกี่น้ำน้าาาาเจ้าหมาปินน
ยิ่งแพ้ทางแมวฝุ่นอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2019 23:54:50
โอ๊ยยย งอนเก่งอีปินส์
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 28-02-2019 00:25:25
อยากให้ฝุ่นง้อแรงๆ ให้สมกับที่ห่างกันไปสองปีเลยย

 :z1: :z1: :haun4: :haun4: o13 o13
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 28-02-2019 00:31:28
จะง้อยังไงนะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 28-02-2019 00:59:15
เล่นตัวไปอีกจ้าเจ้าหมา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 28-02-2019 06:13:31
ฝุ่นเอ้ยย ปินมาหาขนาดนี้ ถ้ายังคิดมากและนอยด์อีก
คงเหมือนบลูบอก เค้าอาจจะไม่รอและไปหาคนอื่น
ข่มฝุ่นสักหน่อย เข้าใจว่ากลัวปินเดือดร้อน
แต่บางครั้ง ก็ต้องสู้เพื่อคนที่ฝุ่นรักนะ

ปินเอาคืนและทำเข้มมาก จริงๆ อยากจับอยากกอดจะแย่แล้ว
ปินแค่รอเวลา แล้วไม่อยากเริ่มก่อน เพราะอยากให้ฝุ่นรู้ตัวเอง

แม่ปินใจดีมากเลยนะ ใบ้คำขนาดนี้แล้ว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-02-2019 06:56:33
งอนให้สุดๆ ไปเลย ปิน  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 28-02-2019 07:46:01
ฝุ่นสู้ สู้ มีคนเอาใจช่วยตั้งหลายคน รีบๆ ไปง้อคนแสนงอนด่วนๆ เลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 28-02-2019 08:32:03
สงสารฝุ่นนะ ปินไม่คิดบ้างหรอว่าตอนที่ฝุ่นหนีมาฝุ่นก็เจ็บไม่แพ้ปินอ่ะ แล้วตอนนี้ยังมาทำอย่างงี้อีก ทำไมอะไรๆก็ต้องเป็นฝุ่นอ่ะ เล่นกับความรู้สึกฝุ่นทำไม ไม่ชอบเลย ละที่บอกให้ปินงอนหนักๆนี่ยังไงอะ ไม่สงสารฝุ่นกันหรอ :hao4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 28-02-2019 09:55:48
ง้อหนักๆ เลยนะฝุ่น เอาให้ปินน้ำหมดตัวไปเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-02-2019 10:10:53
รอดูฝุ่นจะง้อคนขี้งอนยังไง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-02-2019 10:13:27
สู้ๆนะฝุ่น
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 01-03-2019 06:56:21
รีบง้อเจ้าหมาขี้งอนเร็วๆนะฝุ่นนนน
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 01-03-2019 17:21:01
+1  o13 ขอบคุณครับ  :pig4: :katai5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 01-03-2019 18:19:18
หมาปินงอน  แมวฝุ่นต้องง้อ ง้อหนักๆเลย  คนรอให้ง้อใจจะขาดแล้วว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty.] : 27/02/2562 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 02-03-2019 13:08:48
หมาขี้งอนจริงเชียวว
ทุกคนเอาใจช่วยฝุ่นอยู่นะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 06-03-2019 22:26:01
Chapter Twenty-One.

ฝุ่นยืนมองประตูกระจกตรงหน้าราวกับเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น ใช้เวลารวบรวมความกล้าอยู่หลายนาทีกว่าจะกล้ายกมือขึ้นกดกริ่งตรงข้างประตู

แกร๊ก

หัวใจเต้นถี่รัวเมื่อประตูค่อยๆ ถูกเปิดออก

“อะ เอาข้าวมาส่ง”

“ช่วยเอาเข้ามาวางข้างในทีครับ มือผมเคล็ดนิดหน่อย”

“เป็นอะไร” ฝุ่นถามออกไปด้วยความเป็นห่วง โดยไม่ได้ฉุกคิดเลยว่ากล่องข้าวสองกล่องไม่ได้มีน้ำหนักมากพอจะทำให้คนที่สามารถเปิดประตูได้รู้สึกเจ็บ

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเผลอแสดงความเป็นห่วงมากเกินไปฝุ่นก็กัดริมฝีปากอย่างที่ชอบทำ และปินก็ไม่ได้ตอบคำถามนั้นหากแต่ดึงประตูให้เปิดออกกว้างแทน

ร่างเล็กค่อยๆ ก้าวเข้าไปแล้วจึงได้เห็นว่าชั้นหนึ่งของปินเป็นเหมือนห้องนั่งเล่นที่มีมุมดูโทรทัศน์และมีโต๊ะทานข้าวตั้งห่างออกไป

“วางไว้บนโต๊ะเลยครับ”

ฝุ่นทำตามคำบอกนั้นก่อนจะหมุนตัวกลับไปหาอีกคนเมื่อเรียบร้อยแล้ว

“นี่ค่าอาหารครับ”

ดวงตาโตเหลือบลงแล้วก็เลื่อนขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี

รัก คิดถึง อยากกอด...ขอโทษ

“ขอโทษที่วันนั้นไม่ได้บอกอะไรเลย” น้ำเสียงนั้นดังแผ่วทว่าหนักแน่นในเรื่องของความรู้สึก

ปารินทร์วางเงินและกระเป๋าตังลงบนโต๊ะ ดวงตาเรียวรีทำเพียงจ้องมองคนตรงหน้านิ่งๆ ราวกับกำลังเปิดโอกาสให้ฝุ่นได้พูดทุกเรื่องราว

“แค่คิดว่าไม่อยากทำให้ปินเดือดร้อน” แววตาคนพูดไหวสั่นระริก ยิ่งเมื่อสิ่งที่ได้รับจากอีกคนมีเพียงความนิ่งเงียบฝุ่นจึงยิ่งรู้สึกวูบโหวง กว่าปากได้รูปจะอ้าขยับก็เป็นเวลาที่ผ่านไปหลายนาที

“ช่างเถอะครับ มันผ่านมาแล้ว”

ความห่างเหินในประโยคทำให้ปลายจมูกของฝุ่นร้อนผ่าว คล้ายกับว่าคนตรงหน้าก้าวห่างออกไปทั้งที่ความเป็นจริงยังยืนอยู่ที่เดิม

“พร้อมแล้วที่จะเดินต่อไปด้วยกัน” ปลายหางเสียงนั้นสั่นเครือ น้ำตาจวนเจียนจะหยดลงแต่ฝุ่นก็พยายามกลั้นเอาไว้สุดความสามารถ

“...ผมว่าคุณกลับไปคิดให้ดีอีกนิดเถอะ ผมไม่พร้อมกับการที่จะถูกทิ้งเป็นครั้งที่สองหรอกนะครับ”

เสียงทุ้มที่ดังออกมามีความอ่อนลงเล็กน้อย หากแต่ความหมายในประโยคกลับส่งผลอย่างรุนแรงต่อใจคนฟัง ยามฝุ่นมองเห็นความเจ็บปวดและเสียใจในดวงตาคนพูดน้ำตาก็ไหลลงช้าๆ

“ฮึก คะ คิดแล้ว สัญญาว่าจะไม่ทิ้งมาแบบนั้นอีก”

“...”

“หายงอนฝุ่นได้ไหม”

ร่างเล็กก้าวเข้าไปใกล้คนตรงหน้าอีกนิด แล้วก็ต้องรู้สึกโล่งใจกับการที่อีกคนไม่ขยับถอยหนีเหมือนวันนั้น

“ไม่ครับ”

ความโล่งใจเกิดขึ้นเพียงครู่เดียวเพราะคำตอบต่อมานั้นเรียกความสั่นไหวให้เข้ามาแทนที่ ริมฝีปากเล็กถูกขบกัดเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไห้ ฝุ่นได้แต่ยืนมองหน้าคนที่ยังคงเป็นเจ้าของหัวใจตัวเองด้วยความพร่าเลือน

“ทิ้งผมมาแบบนั้น แล้วจะให้ผมหายทั้งที่คุณง้อไม่ถึงวันนี่น่ะเหรอ”

“จะง้อหลายๆ วันเลยก็ได้” ฝุ่นรีบตอบกลับขณะที่มือก็ยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า แล้วต่อจากนั้นปารินทร์ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

สองสายตามองสบกันนิ่งกระทั่งน้ำตาของคนที่ร้องไห้เริ่มแห้งเหือด เมื่อภาพตรงหน้ากลับมาชัดเจนความรู้สึกบางอย่างก็รุนแรงขึ้นจนฝุ่นเอ่ยออกไปเสียงเบาโดยที่แทบไม่รู้ตัว

“ไม่หายงอนแต่จูบก่อนได้ไหม”

ความเว้าวอนเจือออกไปอย่างที่ไม่ได้ตั้งใจ และนั่นก็ทำให้ปารินทร์รู้สึกไขว้เขว แม้จะพยายามใจแข็งและร้องห้ามตัวเองเท่าไหร่แต่หัวใจกลับไม่ฟัง ใบหน้าโน้มลงไปเรื่อยๆ ตามความต้องการในส่วนลึก หากแต่ชั่ววินาทีหนึ่งที่ตั้งสติได้ก็คิดว่าควรถอยห่าง

ทว่ากลับไม่ทันการณ์เมื่อริมฝีปากบางสีสดเป็นฝ่ายแนบเข้าหา ฝ่ามือบางทั้งสองข้างยกขึ้นวางกับแก้มสากเป็นการรั้งเอาไว้ไม่ให้ไปไหน สัมผัสใกล้ชิดในรอบเกือบสามปีดั่งเป็นการจุดชนวนระเบิด

สองเรียวลิ้นเกี่ยวพันรัดรึงด้วยความคิดถึง อีกทั้งยังส่งผ่านทุกความรู้สึกให้แก่กันและกันเท่าที่จะสามารถ

มันมีความโหยหา คิดถึง ขอโทษ และอีกมากมาย

หากปารินทร์ไม่หักห้ามให้หยุด ทุกอย่างคงเลยเถิดจนไปลงเอยแบบลึกซึ้ง

“ถ้าจะง้อก็กลับไปคิดให้ถี่ถ้วนว่าพร้อมจะรับมือกับทุกสิ่งที่จะตามมาหรือเปล่า...ต่อให้ผมจะพร้อม แล้วคุณล่ะพร้อมจริงๆ ไหม”

ร่างสูงเอ่ยพูดพร้อมทั้งขยับถอยห่างออกไปทั้งที่ใจไม่ได้อยากทำเลยสักนิด

ปินอยากจูบ อยากสัมผัสอีกคนมากกว่านี้ แต่มันยังไม่ถึงเวลา

“อะ อือ” ฝุ่นเม้มปากเข้าหากันเพื่อปกปิดความเสียดายที่มี

ความนุ่มหยุ่นหวานซ่านยังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้น ขณะบนกลีบปากยังรู้สึกราวกับกำลังถูกสัมผัสทั้งที่ปินละปากออกไปแล้ว

การตอบกลับและไม่ปฏิเสธนี้ทำให้ฝุ่นรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา

“เสร็จธุระแล้วก็เชิญครับ”

“แล้ว...สรุปว่ามือเป็นอะไร” คนที่ยังอยากอยู่ต่ออีกนิดพยายามหาเรื่องพูดคุย

“แค่เคล็ดนิดหน่อย”

“แล้ว...คุณน้าล่ะ”

“พักผ่อนอยู่ข้างบน”

“แล้ว...”

“เชิญกลับไปได้แล้วครับ...แล้วก็นี่ค่าอาหาร”

คนถูกไล่กลายๆ ทำหน้าเศร้าก่อนจะส่ายไปมาน้อยๆ

“ไม่เป็นไร”

“รับไป”

“...” ฝุ่นไม่ตอบอะไร อีกทั้งยังปฏิเสธการรับเงินด้วยการหมุนตัวเดินเร็วๆ ออกไปทางประตูให้ปินได้แต่มองตามอย่างเอื้อเอ็นดู

จะกี่ปีก็น่ารักไม่เปลี่ยนเลย

“สนุกไหมที่ได้แกล้งฝุ่น”

เสียงที่ดังมาจากบันไดเรียกให้ปินเลื่อนสายตาไปมอง แล้วคนถูกถามก็ยกยิ้มพร้อมยักไหล่น้อยๆ

“เรานี่นะ คราวนี้เกิดฝุ่นทิ้งไปจริงๆ แม่จะไม่เข้าข้างเลย”

“แม่อย่าแช่งผมแบบนั้นสิ” คนเป็นลูกชายรีบเดินไปออเซาะ ทำหน้าเศร้าเสียจนไม่เหลือเค้าความราบเรียบในเมื่อครู่

“ก็ขี้แกล้งซะแบบนี้ ยี่สิบเจ็ดแล้วนะเราน่ะ”

“ยี่สิบเจ็ดแล้วมีแฟนได้” ประภาโคลงหัวไปมาให้กับท่าทางที่ยังเป็นเด็ก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกดีใจเหลือเกินที่เห็นปินกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

“เตรียมตัวมาขนาดนี้คงไม่ต้องพูดแล้วมั้ง”

“ผมเตรียมตัวแล้วแต่ไม่รู้ว่าฝุ่นเตรียมหรือยัง”

ความขี้เล่นบนใบหน้าปารินทร์ลดน้อยลงเมื่อพูดถึงประเด็นนี้ คนเป็นแม่จึงให้กำลังใจลูกด้วยสัมผัสบนไหล่และคำพูดเสียงอ่อนโยน

“แม่ว่าเมื่อกี้ปินก็น่าจะได้คำตอบแล้วนะ” มือหยาบสากวางลงบนมือผู้ให้กำเนิดแล้วรั้งลงมาจับเอาไว้พลางหลุบตามองพื้นอยู่ชั่วครู่

“คำพูดกับสถานการณ์จริงมันไม่เหมือนกันนะครับ ถ้าเจอกระแสแบบครั้งก่อนอีกฝุ่นจะผ่านมันไปหรือเลือกที่จะวิ่งหนีมันอีกครั้ง” ประภากระชับมือที่จับกันไว้ให้แน่นขึ้น

“ในเมื่อปินคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วแม่เชื่อว่าฝุ่นก็จะพร้อมเช่นกัน”

ปารินทร์สบสายตากับคนเป็นแม่ เมื่อเห็นกำลังใจและความรักอันมากล้นในดวงตาคู่นั้นก็ค่อยๆ ระบายยิ้มแล้วพยักหน้ารับ

--

“คุณน้า”

ฝุ่นเอ่ยเรียกเมื่อสองแม่ลูกเดินข้ามฝั่งมาหาขณะกำลังเก็บร้าน

“พอดีแม่อยากไปเดินตลาด กลัวว่าจะให้คนแถวนี้ไปเดินด้วยก็จะทำคนอื่นเขาวุ่นวาย แม่เลยอยากจะมารบกวนฝุ่นให้ไปเป็นเพื่อนสักหน่อย”

คนแถวนี้ถูกปรายตามองก่อนประภาจะหันไปยิ้มให้คนร่างเล็ก

“ได้สิครับ ไม่รบกวนเลย...งั้นฝุ่นขอไปเอากระเป๋าตังแล้วก็ปิดร้านแป๊บนึงนะครับ” ฝุ่นตอบรับด้วยความกระตือรือร้น

“ได้จ้ะ”

ดวงตาโตลอบมองใบหน้าของปิน เมื่อเห็นว่าอีกคนมองมาอยู่เช่นกันก็ระบายยิ้ม ทว่าพอไม่ได้รอยยิ้มตอบกลับมาก็เลื่อนสายตาไปยิ้มบางๆ ให้แม่ปินแทน

“ทำเป็นเก๊กนัก” ประภากระซิบคุยกับลูกชายยามฝุ่นหมุนตัวเข้าไปข้างในร้านแล้ว

“นิดนึงครับแม่”

คนฟังโคลงหัวพลางถอนหายใจใส่ กระทั่งฝุ่นเดินกลับมาแล้วดึงประตูเหล็กม้วนลงมาปิดคนทั้งสามจึงเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ถัดจากร้านไป

“แล้วนี่ฝุ่นต้องซื้อของเตรียมไปทำอาหารขายหรือเปล่าหืม” ร่างอวบอิ่มเอ่ยถามขึ้นยามที่ก้าวลงจากรถมาแล้วและกำลังเดินเข้าสู่ตลาด

“พรุ่งนี้วันหยุดของร้านครับ ฝุ่นก็ค่อยมาซื้อพรุ่งนี้ ของจะได้สดกว่า”

“ถ้าเย็นนี้ว่างงั้นไปทานข้าวกับแม่นะ กินกับปินสองคนมันก็เหงา”

 ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันขณะที่ดวงตาโตก็แสดงออกถึงความไม่มั่นใจ

“เอ่อ...ถ้าปินไม่ว่าอะไรนะครับ”

ประภาหัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ยถึงคนที่ทำหน้าที่เป็นสารถีอย่างไม่อาจลงมาเดินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“หึ ยังไงปินก็ยังเป็นปิน ฝุ่นน่าจะรู้ดีว่าอะไรบ้างที่จะทำให้เจ้าหมาแสนงอนหายงอนได้”

ฝุ่นยิ้มรับคำพูดนั้นทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถง้อปินได้สำเร็จวันไหน

“แล้วทำไมปินถึงมีเวลาอยู่นี่หลายวันเหรอครับ”

“ก็อย่างที่แม่เคยบอก ปินอยากใช้เวลาเพื่อตัวเอง ปีนี้ก็เลยรับงานน้อยลงแล้วก็พักผ่อนให้มากขึ้น”

“ถ้าข่าวออก...”

“ถ้าปินไม่เตรียมตัวมาก็คงไม่ไปไหนมาไหนแบบเปิดเผยหรอกจ้ะ ฝุ่นเลิกคิดมากนะ ปล่อยมันไป” แม่ของปินเอ่ยพูดพร้อมทั้งหยุดเดินให้ฝุ่นต้องหยุดตาม

ยามเห็นความอบอุ่นและรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าคนพูดฝุ่นจึงลอบสูดลมหายใจแล้วพยักหน้ารับ

ต้องหัดเลิกคิดได้แล้วฝุ่น...จะไม่ยอมทิ้งปินไปอีกแล้ว



เมื่อคนทำอาหารมาเดินตลาดด้วยกันจึงใช้เวลาไปอย่างเพลิดเพลินจนปินต้องโทรมาถามคนเป็นแม่ว่าหลงตลาดอยู่หรือเปล่า

“เดินเพลินๆ ก็ผ่านไปจะสองชั่วโมงเลยเนอะ” คนแก่หันมาพูดกับฝุ่นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ยิ่งมองเห็นถุงในมือคนรุ่นลูกแล้วยิ่งนึกระอากับการเดินตลาดของตัวเอง

ก็นะ...คงไม่ต่างจากเวลาเด็กสาวเข้าร้านเครื่องสำอางสักเท่าไหร่

“คุณน้ายังแข็งแรงมากเลยนะครับ”

“อยู่บ้านก็ขยับตัวทำนู้นทำนี่อยู่เรื่อยๆ มันว่างไม่ได้น่ะ แม่เบื่อ”

คนฟังระบายยิ้ม ทั้งยังอดนึกถึงแม่ตัวเองขึ้นมาไม่ได้

“คุณฝุ่น”

คนที่ถูกเรียกระหว่างกำลังเดินไปที่รถหันไปหาคนเรียก เมื่อเห็นว่าเป็นใครฝุ่นก็ทักทายกลับ

“คุณณัต”

ลูกค้าเจ้าประจำนั่นเอง

“มาเดินตลาดกับคุณแม่เหรอครับ”

ฝุ่นหันมองแม่ของปินพลางรีบส่ายหัวปฏิเสธ

“เปล่าครับ นี่ เอ่อ...คุณน้าครับ”

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีจ้ะ” ประภารับไหว้อีกฝ่ายพร้อยรอยยิ้มแม้จะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีต่อฝุ่นจากดวงตาคู่นั้น

เจ้าหมาเอ๋ย มัวแต่เก๊กงอนมากๆ เข้า

ปี๊บ ปี๊บบบบ

คนทั้งสามสะดุ้งและหันไปมองทางต้นตอของเสียง ก่อนคิ้วคู่สวยจะขมวดมุ่นเมื่อราวกับว่ามันดังมาจากรถของปิน

“นี่ซื้อของกันเสร็จแล้วเหรอครับ” อาณัตถามต่อ เรียกสายตาทั้งสองคู่ให้กลับมามองยังเจ้าตัว

“ครับ กำลังจะกลับแล้วล่ะ”

“อ่า ครับ...งั้นไว้เจอกันวันมะรืนนะครับคุณฝุ่น”

“ครับ” ใบหน้าเล็กกดลงรับพร้อมทั้งค้อมหัวบอกลาอีกฝ่าย หลังจากอาณัตยกมือขึ้นไหว้แม่ของปินอีกครั้งฝุ่นจึงเดินต่อไปยังรถ

“แม่ได้ของมาทำมื้อเย็นเยอะแยะเลย” ประภาเอ่ยขึ้นหลังจากที่รถเคลื่อนตัวออกจากตลาดด้วยความเงียบงัน

“ครับ” ปารินทร์รับคำเพียงสั้นๆ ขณะใบหน้าก็ราบเรียบจนคนเป็นแม่รู้ได้ทันทีว่าปินคงเห็นฉากเมื่อกี้จากในรถ และเสียงแตรรถที่ดังขึ้นนั้นคงมาจากลูกชายของเธอเอง



“เดี๋ยวแม่จัดการตรงนี้ต่อเอง ฝุ่นไปตามปินลงมาทานข้าวเถอะ อยู่ชั้นสามน่ะ”

“ครับ” ฝุ่นรับคำพลางเดินไปล้างมือให้เรียบร้อยจากนั้นจึงเดินขึ้นไปยังชั้นสาม ดวงตาโตกวาดมองทุกรายละเอียดระหว่างทาง กระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องนอน รวบรวมกำลังใจด้วยการสูดลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นเคาะขออนุญาตคนด้านใน

แกร๊ก

ประตูถูกปลดล็อกและเปิดแง้มออกให้ฝุ่นเป็นฝ่ายค่อยๆ เปิดมันเข้าไป

“ปิน”

ใบหน้าเล็กชะโงกเรียกคนที่นั่งดีดกีตาร์อยู่ตรงปลายเตียง ทว่าอีกคนกลับไม่ได้มีท่าทาจะหันกลับมาราวกับว่าไม่ได้ยิน

“ปิน”

มีเพียงเสียงดนตรีที่ขานรับ

สุดท้ายฝุ่นจึงก้าวขาเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวัง พอได้อยู่ในห้องนอนของปินกลิ่นกายที่แสนคุ้นเคยก็โอบล้อมอยู่รอบตัวให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังถูกอีกคนกอดเอาไว้

คิดถึงความรู้สึกนี้จัง

“ปิน”

ความนิ่งเฉยที่ตอบกลับมาทำให้ฝุ่นขมวดมุ่น มือบางยกขึ้นมาแตะแผ่นหลังเปลือยเปล่าแผ่วเบา

พรึบ

“อ๊ะ” มุมการมองเห็นของฝุ่นตีลังกากลับเพราะร่างกายถูกรั้งให้นอนลงบนเตียง ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว กว่าจะตั้งสติได้ก็เห็นเพียงใบหน้าปารินทร์อยู่ตรงหน้า

“ปิน...คุณน้าให้มา อื้อ”

ประโยคนั้นไม่อาจเอ่ยจนจบเนื่องจากริมฝีปากบางถูกทาบทับ แรงบดคลึงดูดดึงที่ไม่ค่อยคุ้นชินทำให้ฝุ่นรู้สึกมึนงง เกือบนาทีกว่าจะเรียบเรียงเหตุการณ์ได้จากนั้นจึงตอบสนองสัมผัสนั้นกลับไป

สองแขนยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง แม้จะรู้สึกเจ็บริมฝีปากเพราะแรงขบกัดแต่ก็ใช้ความอ่อนหวานจากความรู้สึกของตัวเองตอบกลับ

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นแรงหายใจรุนแรงจากคนด้านบนก็ค่อยๆ สงบลงพร้อมกับสัมผัสตรงริมฝีปากที่อ่อนโยนขึ้น และเนื่องจากการห่างหายที่เนิ่นนานรู้สึกตัวอีกทีชายเสื้อก็มากองอยู่บนอก เม็ดตุ่มไตถูกบีบบี้ด้วยมือสาก

“อะ อื้อ ปิน พอก่อน” ฝุ่นเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกทั้งยังเอ่ยปากหยุดสัมผัสที่กำลังจะเลยเถิดเอาไว้

“ไม่พอ”

ทว่าคนกำลังร้อนตอบกลับทันควันพร้อมทั้งเปลี่ยนไปจู่โจมซอกคอบาง ทั้งขบทั้งกัดจนฝุ่นรู้สึกเจ็บแปลบแต่ก็ไม่ได้เอ่ยห้ามปราม ทำเพียงแค่ลูบไล้หลังคอของปินไปมาอย่างแผ่วเบา

“...คุณน้ารอทานข้าวอยู่นะ” ฝุ่นสะกดกลั้นความเจ็บเอาไว้แล้วเอ่ยพูดเสียงอ่อนโยน หากแต่สัมผัสของปากได้รูปและมือหนายังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“ปินครับ”

กึก

ริมฝีปากสีสดซึ่งบวมเจ่อคลี่ออกเป็นรอยยิ้มเมื่อทุกสัมผัสหยุดชะงักในที่สุด

“ถ้าปินต้องการ...จะเมื่อไหร่ฝุ่นก็ยอม แต่ตอนนี้ลงไปทานข้าวก่อนนะ คุณน้าอุตสาห์ตั้งใจทำมื้อเย็นให้”

ฝุ่นเลื่อนมือลงมาลูบไล้แผ่นหลังกว้าง ขณะที่อีกคนก็นิ่งงันอยู่อย่างนั้นหลายนาทีแล้วค่อยๆ ผละออกห่าง

ความรุนแรงทางสัมผัสทุกหยุดเอาไว้หากแต่ความรุนแรงในดวงตาคมยังมีอยู่

ปินกำลังไม่พอใจ...

ฝุ่นซึ่งไม่รู้สาเหตุขมวดคิ้วกับตัวเอง

“ปินเป็นอะไรหรือเปล่า” มือข้างซ้ายวางแนบกับแก้มสากยามเอ่ยถาม

“...”

“หงุดหงิดอะไร”

“ไม่มีอะไร”

คนตัวโตตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่กลับถูกรั้งเอาไว้ด้วยท่อนแขนเรียวที่โอบอยู่รอบตัว

ใบหน้าเล็กซุกอยู่กับไหล่แกร่ง ฝุ่นกอดปินเอาไว้อย่างไม่ให้ผละไปไหน

“บอกฝุ่นได้ไหมว่าเป็นอะไร”

“...”

“ไม่อยากให้ไม่สบายใจเลย”

“ไม่มีอะไรแล้ว” น้ำเสียงและท่าทางนั้นอ่อนลง และเมื่อปินดูท่าจะไม่ยอมเอ่ยคนเป็นห่วงจึงเลิกเซ้าซี้ คราวนี้เป็นฝุ่นที่ผละออกห่าง ทว่าก็ยังทิ้งท้ายด้วยสัมผัสบางเบาบนริมฝีปากได้รูป

“งั้นลงไปทานข้าวกันนะ”

พอความกรุ่นร้อนในดวงตาเรียวรีเจือจางลงฝุ่นก็ระบายยิ้มบาง จากนั้นจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งเมื่อคนด้านบนลุกออกไปจากตัว

ปารินทร์หยิบเสื้อยืดที่พาดอยู่ตรงเก้าอี้มาสวมลวกๆ เสร็จแล้วก็มองคนที่กำลังยืนขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไปให้ฝุ่นต้องรีบเดินตาม

--

ฝุ่นไม่ได้รับคำตอบเรื่องท่าทางหงุดหงิดของปิน แต่ถึงจะอยากรู้แค่ไหนก็ไม่คิดถามย้ำให้อีกคนต้องวกกลับมาคิด ยิ่งถูกแม่ของปินชวนไปเที่ยวเสม็ดระหว่างทานอาหารวันฝุ่นยิ่งรู้สึกเป็นสุขจนลืมเลือนเรื่องนั้นไป

“ฝุ่นเคยมาเที่ยวที่นี่หรือเปล่าลูก” ประภาหันมาถามยามกำลังเดินลงไปยังชายหาด

“เคยแล้วครับ”

“ก็อยู่มาตั้งนานนี่นะ แม่อยู่ใกล้แค่นี้แต่ยังไม่เคยมาสักที นี่พอปาล์มรู้เรื่องก็โวยวายใหญ่ว่าอยากมาด้วย”

“ตอนนี้ปาล์มเป็นยังไงบ้างครับ”

“ก็อยู่ปีสองแล้วจ้ะ คณะและมหาลัยที่อยากเข้านั่นแหละ ตอนนี้ก็กำลังยุ่งกับงานที่มหาลัยอยู่”

ฝุ่นยิ้มรับขณะเหลือบมองร่างสูงที่อยู่ถัดจากแม่ไปเล็กน้อย

เพราะใส่เพียงแว่นตาดำคนรอบข้างจึงจำได้ง่าย ระหว่างทางก็มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปปินอยู่เรื่อยๆ หากแต่เมื่อไม่เห็นความกังวลใดจากเจ้าตัวฝุ่นจึงคลายความกังวลลงเช่นเดียวกัน

ต่อให้จะมีข่าวออกก็จะไม่กังวล แค่ปล่อยมันไป

“แก นั่นปินปารินทร์ใช่ไหม” เสียงซุบซิบจากแกงซ์สาวสายที่นั่งถัดไปไม่ไกลนักดังมาลอยเข้าหู ฝุ่นเหลือบไปมองก็เห็นว่าสามสาวนั้นกำลังมองปินอยู่ ทำท่าอึกอักและปรึกษากันอยู่สักพักก็เดินตรงมาหา

“ปินใช่ไหมคะ”

“ครับ” เจ้าตัวรับคำพร้อมรอยยิ้ม เมื่ออีกฝ่ายได้ยินก็ส่งเสียงร้องเบาๆ จากนั้นจึงขอถ่ายรูปไปตามประสา

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเมื่อความใกล้ชิดนั้นก่อให้เกิดความรู้สึกรู้สึกร้อนๆ ในอก นอกจากทั้งสามจะสวยแล้วยังอยู่ในชุดบิกีนี่อวดส่วนเว้าส่วนโค้งส่วนดูมอย่างน่ามอง ขนาดฝุ่นเองยังชื่นชม แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ยิ้มแย้มให้อีกฝ่ายถ่ายรูปอยู่กัน

“ขอบคุณนะคะ พวกเราติดตามผลงานอยู่นะ”

“ขอบคุณครับ”

สามสาวเดินกลับไปนั่งที่เดิมแล้วแต่ความรู้สึกของฝุ่นยังคงไม่จางหาย ทั้งที่รู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีสิทธิ์รู้สึกอย่างนั้นทว่าก็ยังห้ามความรู้สึกไม่ได้จนต้องทำเป็นมองไปทางอื่น

“จะบ่ายโมงแล้ว แม่ว่าเราสั่งอะไรมาทานกันดีกว่า ฝุ่นทานอะไรดีลูก”

“อะไรก็ได้ครับ” ฝุ่นตอบแม่ของปินเสียงเบาพร้อมทั้งทำเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูนั่นดูนี่อย่างไม่อยากแสดงท่าทางอะไรออกไป

ท่าทางปั้นปึงเล็กๆ นั้นทำให้ปารินทร์ลอบยิ้มอยู่กับตัวเอง แม้กระทั่งนั่งทานมื้อเที่ยงด้วยกันฝุ่นก็ยังคงนิ่งเงียบ และยิ่งเงียบมากขึ้นเวลาที่มีคนสวยหรือน่ารักมาขอถ่ายรูปด้วย

“แม่รู้สึกเหนียวตัว อยากล้างหน้าล้างตาแล้วก็เข้าห้องน้ำสักหน่อย” ประภาหันไปพูดกับคนเป็นลูก

“เดี๋ยวปินเปิดห้องให้แม่อาบน้ำดีกว่า”

“จะเปิดห้องทำไม ห้องอาบน้ำก็มีอยู่เยอะแยะ”

“ไม่เป็นไรครับ ลูกแม่มีเงินเยอะ” คนเป็นแม่โคลงหัวไปมาอย่างอ่อนใจจากนั้นจึงหันไปชวนฝุ่นที่นั่งถ่ายรูปอยู่เงียบๆ

“เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำกันจ้ะ”

ฝุ่นเก็บโทรศัพท์ลงพลางพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินตามสองแม่ลูกไปยังห้องพัก ถึงจะมีความสงสัยเล็กๆ ว่าเปิดห้องพักทำไมเนื่องจากอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องกลับแล้วแต่ฝุ่นก็ไม่ได้ทักท้วงเพราะเป็นสิทธิ์ของปิน

“แม่ใช้ห้องนี้ เดี๋ยวปินใช้อีกห้อง”

ฝุ่นเม้มปากเมื่อไม่มีห้องสำหรับตัวเอง คิดเอาไว้ว่าเดี๋ยวคงต้องไปใช้บริการห้องน้ำบนเกาะ

“จ้ะ เสร็จแล้วเจอกันนะ”

“ครับ” ยามแม่เดินเข้าห้องแล้วปิดประตูลงปารินทร์ก็หันมาคว้าแขนคนข้างตัวทั้งยังออกแรงรั้งให้ก้าวตาม

“ปิน จะพาไปไหน”

คนถูกถามไม่ตอบแต่เดินไปไขกุญแจห้องถัดไปแล้วดึงร่างเล็กเข้าไปข้างใน ตามมาด้วยการปิดประตูลงและล็อกห้อง

“พาเข้าห้องมาทำไม” ฝุ่นถามขึ้นขณะที่อีกคนขยับขึ้นไปนั่งเอนหลังบนเตียงด้วยท่าทีสบายๆ

“ฝุ่นจะเข้าห้องน้ำก็ตามสบาย”

ปึง

ประตูห้องน้ำซึ่งถูกปิดลงด้วยท่าทางที่ดูจะเง้างอนนั้นทำให้ปินหลุดยิ้ม ก่อนมือหนาจะล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วพิมพ์ข้อความส่งไลน์ไปหาแม่

‘ขอบคุณครับ...รักแม่ที่สุดในโลก’

ฝุ่นนั่งกอดอกมองคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์ด้วยความรอคอย ทว่าผ่านไปเกือบชั่วโมงปินก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุก ซ้ำยังขยับกายลงเหมือนเตรียมตัวจะนอนจนร่างเล็กรีบก้าวเข้าไปหา

“เมื่อไหร่จะออกไป”

“...”

“เรือรอบสุดท้ายมันหกโมงนะ”

“...”

“ปิน”

คิ้วคู่สวยขมวดมุ่นเมื่อคนบนเตียงไม่ตอบแถมยังพลิกตัวหนีราวกับรำคาญ เห็นท่าทางนั้นใจฝุ่นก็วูบไหว รวมกับภาพอิงแอบแนบชิดกับแฟนคลับสวยๆ ในติดอยู่ในหัวแล้วปลายจมูกจึงร้อนผ่าว

“ใจร้าย” ได้ยินเสียงสั่นเครือปินก็พลิกกายกลับ พอเห็นตาดวงโตแดงเรื่อก็ลุกขึ้นรั้งอีกคนให้นอนลงข้างกัน

“งอแงอะไร”

“...” คนถูกถามไม่ตอบ ทั้งที่ในใจรู้สึกอยากหนีแต่เมื่อถูกกอดร่างกายกลับขยับบดเบียดเข้าหาอีกคนอย่างไม่ฟังคำสั่ง

“ฝุ่นต้องง้อผมไม่ใช่เหรอ ทำไมกลายเป็นคนงอนเองล่ะ”

“...”

“พร้อมที่จะคุยเรื่องของเราหรือยัง”

“...คุยอะไร” ในที่สุดคนงอนยอมเปิดปากพร้อมทั้งเงยหน้าขึ้นมอง

“ผมให้ฝุ่นกลับไปคิด สรุปว่าคิดแล้วหรือยัง”

ฝุ่นกัดริมฝีปาก ขณะความเง้างอนในใจเริ่มเบาบางลงยามเห็นความรู้สึกบางอย่างในดวงตาของปิน คล้ายกับจะเห็นเจ้าหมาตัวเดิมกลับมา

“ก็คิดตั้งแต่วันนั้นแล้ว...”

“งั้นบอกผมซิว่าต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นฝุ่นก็จะไม่ทิ้งผมไปอีก” ท่อนแขนแกร่งที่โอบอยู่รอบคนร่างเล็กกระชับแน่นขึ้น

“ไม่ได้ทิ้ง...แค่รอเวลาที่เหมาะสม” คนจากมาเอ่ยเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิด

ฝุ่นรู้ดีว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีนัก

“แล้วตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับฝุ่นหรือยัง”

“อื้ม” ฝุ่นตอบรับแล้วซบหน้าลงกับซอกคอแกร่ง เปลือกตาสีอ่อนหลับลงเพื่อกักเก็บความรู้สึกอบอุ่นนี้เอาไว้อย่างกลัวว่ามันจะหายไปในนาทีต่อไป

อ้อมกอดที่ทำได้เพียงคิดถึงตลอดมา...

“ยังรู้สึกเหมือนเดิมไหม”

“รักยังไงก็ยังอย่างนั้น คิดถึงทุกวินาที”

คนฟังยกยิ้มกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนปินจะกดจูบลงบนหัวเล็กแล้วเอ่ยคำที่ปลดล็อกทุกสิ่งระหว่างคนทั้งสอง

“ผมก็เหมือนกัน”

“ปิน...หายงอนแล้วนะ” เวลาผ่านไปเกือบห้านาทีฝุ่นจึงค่อยๆ ถามขึ้น วินาทีนี้ความงอนในใจตัวเองหลงเหลือเป็นเพียงเศษฝุ่นเล็กๆ

“หายก็ได้”

“ขอโทษที่ทำแบบนั้น ขอโทษที่ไม่บอก แต่เพราะไม่อยากทำให้ปินเดือดร้อนจริงๆ นะ”

“ผมเข้าใจแต่ก็ยังอดงอนไม่ได้ที่ฝุ่นไม่ปรึกษากัน...อย่างน้อยเราควรจะได้ติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ ไม่ใช่เงียบหายจากกันไปเลยแบบนี้”

ได้ฟังแล้วฝุ่นก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองคิดน้อยเกินไปจริงๆ

“ขอบคุณที่ปินยังให้โอกาสกัน ครั้งนี้จะไม่ทิ้งไปไหนแล้ว...สัญญา”

ใบหน้าเล็กเงยขึ้นพร้อมทั้งชูนิ้วก้อยมาตรงหน้าให้ปินต้องหลุดยิ้ม หากแต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมดึงมือไปเกี่ยวนิ้วก้อยเล็กๆ นั้นเอาไว้

“ต่อให้ทิ้งก็ไม่ยอมหรอกครับ” ปินซบหน้าผากเข้ากับหน้าผากเนียน ปลายจมูกโด่งปัดป่ายคลอเคลียกับปลายจมูกเล็ก มือที่เกี่ยวนิ้วเข้าหากันเปลี่ยนเป็นสอดนิ้วประสาน

“ฝุ่นบอกว่าถ้าผมต้องการเมื่อไหร่ก็จะยอม แล้วถ้าผมต้องการตอนนี้ล่ะ?”

ความร้อนวิ่งตรงมายังแก้มเนียนทั้งสองข้าง ประโยคบอกความต้องการตรงๆ นั้นทำให้ฝุ่นรู้สึกกระดากอาย ความใกล้ชิดที่ห่างหายไปเกือบสามปีส่งผลให้รู้สึกทั้งตื่นเต้นและขัดเขิน ในหัวเผลอจินตนาการไปถึงหลายสิ่งอย่าง

“...แต่คุณน้า”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ผมให้คนมารับแม่กลับแล้ว”

ปินยกยิ้มจากนั้นริมฝีปากได้รูปก็ทาบทับลงมาเป็นการเริ่มต้นสัมผัสที่ใจแสนโหยหา



TBC.

ใครที่คาดหวัง nc ตอนนี้บอกไว้ก่อนเลยค่ะว่าไม่มี555555
ตอนหน้าเป็นบทส่งท้าย ซึ่งจะเป็นตอนจบจริงๆ และสมบูรณ์กว่านี้
หมาปินไม่ได้ตั้งใจจะงอนจริงจังตั้งแต่แรก
เพราะฉะนั้นพี่ฝุ่นเลยได้ง้อพอเป็นพิธีนะคะ^^
คนรักกัน...จะแกล้งให้เสียใจนานๆคงทำไม่ลงเนอะ
แอบใจหาย แต่ทุกอย่างก็ต้องมีตอนจบ...
แล้ววันพุธหน้ามาส่งท้าย #secrecyลับรัก ไปด้วยกันนะคะ~
ปล. /ขอขายของ/ Secrecy ลับรัก จะวางขายที่งานหนังสือ
โดยออกกับ Deep Publishing
ฝากเล่มนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ
แล้วก็โซแอลจะมีไปแจกของและแจกลายเซ็นที่บูธด้วย
ใครว่างก็ไปรับหมาปินกับพี่ฝุ่นกลับบ้านแล้วก็เจอกันน้า


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-03-2019 22:45:31
ตัดเข้าโคมไฟเฉ๊ย..ยยยยยย    :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-03-2019 23:04:24
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-03-2019 23:06:21
เค้าดีกันแล้ว ดีใจ.  :katai2-1:

แม่ปินรู้ใจลูกที่สุดเลย ที่เหลือก็คนสองคนปรับความเข้าใจกันแล้ว ก็คงจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมเน๊อะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 06-03-2019 23:15:12
เค้าเข้าใจกันแล้ววววววววว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 06-03-2019 23:22:01
งุ้ยยย เค้าดีกันแล้ววว

รอฉากโคมไฟเลยค่ะ //ซ่อนกล้อง
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 06-03-2019 23:36:02
ไปนอนจินตนาการเองแล้วค่ะ ฮื้อออออออ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 07-03-2019 00:08:46
เป็นหมาตัวโตหรือเป็นหมาป่า เอ๊ะะะะะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-03-2019 00:20:57
ต้องมีคนมากระตุ้น ไม่งั้นปินก็แกล้งฝุ่นไปเรื่อยแน่ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 07-03-2019 00:26:20
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-03-2019 00:30:56
มีให้แม่กลับไปก่อน ส่วนตัวจะอยู่ค้างคืน รอบจัดจริง ๆ เลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 07-03-2019 05:38:06
ร้ายค่ะร้าย มาเป็นทีมเวิร์คเลยจ้า

ปินทำเข้ม ทำตึงใส่ฝุ่น กระตุ้นกันหนักมาก
ฝุ่นน่าเอ็นดู ทำไมขี้อ้อนแบบนี้นะ
มีเรียกร้อง แล้วความงอแงตอนหึง 5555

คุยกันสักทีนะคะ ตกลงปลงใจได้สักที
ฝุ่นต้องเดินไปด้วยกันให้ไหวนะ
ปินโตขึ้นมากแล้วจริงๆ

อะไรคือเปิดห้อง ให้คนมารับแม่กลับแล้ว


หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 07-03-2019 07:26:43
ดีใจกับทั้งคู่เลยยย รักคุณแม่สุดๆ ครอบครัวคือคนที่เราอยากให้เข้าใจที่สุดแล้วเนอะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-03-2019 09:53:39
ดีกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 07-03-2019 12:35:20
คนง้อน่ารักน่าฟัด คนงอน กลั้นใจงอนแทบตาย หมาปินเอ้ยยย

คุณแม่น่ารักที่สุดในโลก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [Chapter Twenty-One.] : 06/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-03-2019 12:43:10
เขาดีกันแล้ว​ หมาปินมันร้าย
ขอบคุณ​ คุณแม่ช่างรู้ใจลูกชายจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: ex-soulL ที่ 13-03-2019 22:16:10
บทส่งท้าย

‘จริงหรือเปล่าที่คนในข่าวเป็นแฟน’
‘ไม่ใช่แฟนครับ...เป็นคนรัก’
‘ใช่คนที่เคยเป็นข่าวด้วยเมื่อสามปีก่อนหรือเปล่า’
‘ใช่ครับ’
‘ทำไมครั้งนี้ถึงยอมออกมาพูด’
‘ผมเป็นนักร้องอิสระแล้ว เลยคิดว่าเรื่องนี้คงส่งผลกระทบต่อคนอื่นน้อยลง’
‘สรุปว่าเป็นเกย์ใช่ไหม?’
‘ไม่รู้สิครับ รู้แค่ว่าผมรักเขา’
‘แต่มีแฟนคลับบางส่วนรับไม่ได้’
‘ก็...ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง แต่ผมพูดได้เลยว่าทุกการทำงานผมทำอย่างเต็มที่และตั้งใจ เพราะฉะนั้นกับเรื่องส่วนตัวผมขอให้เป็นสิ่งที่ผมได้ทำอะไรด้วยความสบายใจ’
‘คบกันมาตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรือเปล่า’
‘อะไรแบบนี้ผมขอไม่ตอบแล้วกันครับ ขอให้เป็นเรื่องระหว่างเราสองคน’
‘มีอะไรจะพูดกับแฟนคลับไหม’
‘ผมรักพวกเขา พวกเขาคือคนที่มีค่ามีความหมายที่สุดในชีวิต ไม่ว่าวันนี้คุณจะยังรักหรือไม่ได้รักกันแล้วก็ขอให้รู้ว่าผมรักพวกคุณทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไขใด และทุกคนจะเป็นความทรงจำที่แสนมีค่าในชีวิตของผมตลอดไป’


“ฮื่อ พี่ปินแมนมากเลยพี่ฝุ่น” มะตูมหันมาชื่นชมคนในจอกับคนข้างกาย ขณะที่ฝุ่นก็ลอบถอนหายใจออกมาแผ่วเบา

“มันจะโอเคจริงๆ ใช่ไหมมะตูม”

“มะตูมตีพี่ฝุ่นสักทีดีไหม บอกแล้วไงว่าโอเค นี่ มีคนชมพี่ฝุ่นว่าน่ารักเต็มเลยนะ ดูแท็กปินฝุ่นสิ” โทรศัพท์ในมือถูกยื่นไปให้ฝุ่นดู

“มีอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ” มือเล็กหยิบโทรศัพท์มะตูมมาเลื่อนดูอย่างสนใจ

“ทีอย่างนี้ล่ะไม่รู้”

‘เมื่อวานไปร้านพี่ฝุ่นมาแล้ว ตัวจริงน่ารักมากแกกกกกกกก อาหารก็อร่อยมากกกกกกกกก #ปินฝุ่น’
‘ไม่ได้เป็นแฟนคลับปินแต่เคยไปทานอาหารร้านนี้ อาหารอร่อยและคนขายน่ารักจริงค่ะ คอนเฟิร์ม #ปินฝุ่น’
‘เห็นว่าพี่ปินถึงขั้นไปซื้อตึกอยู่ฝั่งตรงข้ามเลย กรี๊ด หล่อและรวยมาก #ปินฝุ่น’
‘ฉันอยากเห็นพี่ปินลงรูปพี่ฝุ่นในไอจีว้อยยยยย #ปินฝุ่น’
‘ฟินง่ะะะะะะ #ปินฝุ่น’


“มิน่าล่ะ เมื่อวานลูกค้าวัยรุ่นผู้หญิงเลยเต็มร้านเลย” ร่างเล็กพึมพำกับตัวเอง

“เลือกอ่านคอมเมนต์แบบนี้เข้าไว้แล้วก็เลิกสนใจคอมเมนต์แย่ๆ แค่นี้ชีวิตก็แฮปปี้แล้วพี่ฝุ่น”

คนฟังส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของพลางเลื่อนสายตาขึ้นมองคนอายุน้อยกว่าข้างกายที่คอยให้กำลังใจมาเสมอ

เรียกได้ว่ามะตูมเป็นอีกตัวช่วยสำคัญเลยล่ะ

“ขอบใจมะตูมมากนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ แลกกับกอดของพี่ปิน จะให้มะตูมไปรบก็ไม่หวั่น” มะตูมทำหน้าเคลิบเคลิ้มเมื่อคิดถึงอกแข็งๆ และกลิ่นกายหอมๆ ของปินที่ได้ใกล้ชิดมาแล้วหลายครั้ง

ได้กอดพี่ปินทุกครั้งที่เจอ แค่นี้มะตูมก็ตายตาหลับแล้ว

ท่าทางที่ทำให้ฝุ่นถึงกับโคลงหัวอย่างอ่อนใจ

“ไปทำงานต่อได้แล้ว ใกล้ได้เวลาเปิดร้านแล้วนะ”

“ค่า”



เพราะข่าวและรูปที่เผยแพร่ออกไปส่งผลให้มีแฟนคลับปินมาที่ร้านมากมาย สุดท้ายฝุ่นก็ไม่อาจรับมือไหวจนต้องปิดร้านเร็วกว่าที่เคย

“ไม่มีใครทำอะไรแย่ๆ หรอก แต่ว่าขอถ่ายรูปแล้วก็แอบถ่ายกันเต็มเลย” ฝุ่นเล่าให้ปลายสายฟังยามที่ทรุดตัวนั่งลงบนเตียงในห้องนอนบนชั้นสาม

ฝุ่นยังคงอยู่ที่ระยองขณะอีกคนไปๆ กลับๆ ระหว่างกรุงเทพ ชลบุรี ระยอง

(ฝุ่นโอเคหรือเปล่า) เสียงทุ้มนุ่มเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

“โอเค แค่ไม่ค่อยชินน่ะ”

ถึงจะถูกรุมล้อมแต่ทุกคนก็ล้วนน่ารักอีกทั้งบางคนยังมีของมาให้ ฝุ่นจึงไม่ได้รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงแต่ไม่ชินกับการถูกจับจ้องและเป็นที่สนใจก็เท่านั้น

(งั้นปิดร้านให้ข่าวมันซาก่อนดีไหม ไปอยู่กับแม่ที่ชลก่อนสักพัก)

“อืม...ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไปดูแลคุณน้าด้วย”

(โอเคครับ งั้นเดี๋ยวมะรืนผมไปรับนะ)

“อื้อ ปินก็โอเคใช่ไหม”

(โอเคมากๆ ฝุ่นไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเสร็จงานแล้วผมวิดีโอคอลหาอีกที)

เมื่อรับคำแล้วสายถูกตัดไปฝุ่นจึงกดเข้ามาในแอปที่ข่าวสารเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ดวงตาคู่สวยเลื่อนอ่านสิ่งที่ทุกคนพูดถึงในแท็กปินฝุ่นด้วยความตั้งใจ แม้จะมีข้อความไม่ดีแทรกมาบ้างแต่ก็ปล่อยผ่านแล้วเลือกสนใจแต่สิ่งที่ดีๆ

กว่าจะรู้ตัวว่าอ่านไปยิ้มไปก็เป็นตอนที่โทรศัพท์แบตหมดแล้วเห็นเงาสะท้อนตัวเองบนหน้าจอ

ถ้าเลือกโฟกัสแต่สิ่งดีๆ เราก็จะมีความสุข

--

“ปิน ต้องลุกไปทำกับข้าวช่วยคุณน้าแล้ว” ฝุ่นเอ่ยบอกเจ้าของอ้อมแขนแข็งแกร่งที่รัดแน่นอยู่รอบตัวเมื่อท้องฟ้าด้านนอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีสว่าง

หมาตัวโตทำเพียงส่งเสียงรับคำเช่นสองครั้งก่อนแล้วก็แน่นิ่งไปจนมือเล็กต้องหยิกต้นแขนเปลือยเปล่านั้นเบาๆ

“อื้ออออ” ปินส่งเสียงร้องพร้อมทั้งปรือตาขึ้นมอง

“ปล่อยได้แล้ว จะนอนต่อก็นอนไปแต่ฝุ่นจะลงไปช่วยคุณน้า”

“ผมอยากนอนกอดฝุ่นนี่” ปารินทร์เอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง ขณะที่สีหน้าก็ยุ่งเหยิงอย่างคนเพิ่งตื่น

“ก็กอดมาทั้งคืน”

“นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะครับ”

“เช้าก็ต้องปล่อย เดี๋ยวสายๆ พี่หวานก็จะมาอีก”

“เฮ้อ ก็ได้ๆ งั้นจุ๊บก่อน”

ใบหน้าเล็กส่ายไปมาอย่างอ่อนใจทว่าก็ยังยอมแนบปากเข้าหาคนงอแงทั้งยังกดย้ำซ้ำๆ กระทั่งปินยกยิ้มและคลายอ้อมแขนจึงผละออก

ด้านคนที่ยังง่วงก็หันไปคว้าหมอนข้างมากอดแทนก่อนจะหลับต่อ

ฝุ่นเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา จากนั้นจึงเดินลงไปข้างล่างเพื่อช่วยแม่ของปินทำอาหารเช้าดั่งเช่นเคย

“แม่บอกแล้วไงว่าฝุ่นไม่ต้องตื่นมาช่วยแม่ก็ได้นะลูก” คนแก่ที่หันไปหยิบกระทะมาวางลงบนเตาพูดขึ้นทั้งที่ก็พูดกับฝุ่นมาแล้วหลายรอบ

“ฝุ่นอยากช่วยครับ ไม่อยากอยู่เฉยๆ”

“แม่น่ะมันคนแก่ นอนเร็วตื่นเร็ว พอตื่นมาก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วล่ะ”

คนฟังทำเพียงยิ้มรับขณะเอื้อมมือไปหยิบกระเทียมซึ่งโขลกเอาไว้แล้วส่งให้ ทำหน้าที่เป็นลูกมือเหมือนทุกวัน

ใช้เวลาไปกับการทำมื้อเช้าไม่นานนักฝุ่นก็กลับขึ้นมาเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จแล้วจึงไปปลุกหมาตัวโตบนเตียง

“ปิน เจ็ดโมงกว่าแล้วนะ”

“อือ” คนนอนส่งเสียงรับในลำคอทั้งยังใช้เวลาราวสามนาทีค่อยลืมตาขึ้น “ฝุ่นอาบน้ำแล้วเหรอ”

ปารินทร์ขยับหัวมาวางลงบนตักบางยามเอ่ยถาม

“อื้ม ไปอาบน้ำ จะได้ลงไปทานข้าวกัน”

“ฝุ่นอาบให้หน่อย”

“วันนี้เล่นไม่ได้ ลุกเลย”

ได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆ ดังออกมาก่อนที่คนตัวโตจะดึงตัวขึ้นนั่งตรง แม้จะโงนเงนในนาทีแรกแต่หลังจากนั้นก็ตื่นเต็มตา

“รีบอาบน้ำ วันนี้แม่ทำผัดกะเพราะทะเลที่ปินบ่นว่าอยากกินด้วย” มือบางวางประกบลงบนแก้มสากพลางนวดไปมาให้ปินตื่นตัวขึ้นกว่าเดิม

“แล้วมีผัดกะเพราะฝุ่นไหม”

“ทำยังไง ตัดแขนตัดขาลงไปผัดเหรอ”

“ฝุ่นทำให้ความโรแมนติกกลายเป็นความสยองได้ยังไง”

ฝุ่นส่งเสียงหัวเราะเบาๆ จากนั้นจึงกดปลายจมูกลงบนแก้มสากเพื่อกระตุ้นให้ปารินทร์ลุกขึ้นอาบน้ำ

“ลงไปรอข้างล่างนะ” จะรั้งเอาไว้ก็ไม่ทันการณ์เมื่อร่างเล็กขยับลงจากเตียงแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องนอนไปโดยไม่รอฟังคำตอบ

ความขี้เกียจถูกพรูออกแล้วสูดความขยันกลับเข้าร่าง แล้วร่างสูงก็ก้าวลงจากเตียง พาตัวเองไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย



“นี่ขนาดเป็นเวลาพักและตัวเองก็มาเที่ยวกับครอบครัวยังอุตสาห์แวะมาคุยงานได้อีกนะครับ” เสียงทุ้มเจือไปด้วยความอ่อนใจยามเห็นผู้จัดการส่วนตัวซึ่งอยู่ในชุดสำหรับไปเที่ยวหอบแฟ้มงานมาหาถึงบ้าน

“มันเป็นหน้าที่นี่ ถ้าขี้เกียจก็รีบคุย พี่จะได้รีบไปเที่ยวเหมือนกัน ลูกงอแงแล้ว”

“น้ำกับขนมครับพี่หวาน”

“ขอบใจจ้ะฝุ่น” ภาวิดาหันไปพูดกับฝุ่นพร้อมทั้งเบ้ปากใส่คนที่ตัวเองดูแลเมื่อปินรั้งแขนฝุ่นเอาไว้ให้นั่งลงข้างกาย “โอเค ปินอยากให้คอนเสิร์ตออกมาเป็นประมาณไหน...”

--

แม้ปารินทร์ตั้งใจว่าจะใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้นหากแต่โปรเจกต์ชิ้นสำคัญที่แพลนเอาไว้ก็ทำให้ชีวิตยังคงยุ่งเหยิง พักผ่อนอยู่บ้านได้เพียงสามวันก็ต้องกลับไปกรุงเทพโดยมีฝุ่นติดสอยห้อยตามไปดูแล ทั้งยังได้ข้อสรุปเรื่องร้านข้าวแกงว่าคงต้องปิดตัวลง

“เรื่องที่จะหยุดทำร้าน...พี่ขอโทษนะ” ฝุ่นเอ่ยกับปลายสายด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

(พี่ฝุ่นจะขอโทษมะตูมทำไมกัน มะตูมไปทำงานพิเศษที่ร้านอื่นได้ ส่วนถ้าคิดถึงเดี๋ยวจะไปหาพี่ฝุ่นที่กรุงเทพเอง) มะตูมตอบกลับอย่างสดใส ไร้ซึ่งความเศร้าหรือถือโทษโกรธใดๆ

“มาเมื่อไหร่ก็บอกพี่ได้เลยนะ หรือถ้าพี่กลับระยองก็จะบอกมะตูมเหมือนกัน”

(ได้เลยค่า เห็นพี่ปินบอกว่าที่พี่ฝุ่นต้องปิดร้านเพราะมีงานสำคัญ แถมพี่ปินยังบอกอีกว่าจะให้มะตูมไปด้วย ยังไงตอนนั้นก็ได้เจอกันแน่ๆ)

“โอเค แล้วเจอกันนะ”

(เจอกันค่ะพี่ฝุ่น ฝากจุ๊บพี่ปินแล้วบอกว่ามะตูมคิดถึงด้วยนะคะ)

จบประโยคคนพูดก็หลุดหัวเราะคิกคัก ขณะที่คนฟังได้แต่โคลงหัวและระบายยิ้มอ่อนใจ

“แล้วพี่จะบอกให้”

(บ๊ายบายค่า)

วางสายแล้วประตูห้องน้ำก็เปิดออกอย่างได้จังหวะ ร่างเล็กหมุนกลับไปหาคนที่เดินออกมา เมื่อปินเลิกคิ้วถามจึงเล่าให้ฟัง

“โทรบอกมะตูมเรื่องที่จะปิดร้านน่ะ”

“อ๋อ ผมเกริ่นๆ ไปแล้วมะตูมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ” ปินทรุดตั่วนั่งลงตรงขอบเตียงพลางดึงร่างเล็กให้มายืนอยู่ตรงหน้า

“อื้อ คิดถึงเหมือนกันนะ เห็นมะตูมมาตั้งแต่มอหกเลย” นิ้วเรียวยกขึ้นเกลี่ยหยดน้ำที่ติดอยู่บนแก้มสากออกให้ยามเอ่ยพูดด้วยสีหน้าใจหายเล็กๆ

“แล้วไม่คิดถึงผมบ้างเหรอ” หมาตัวโตในวัยยี่สิบเจ็ดปีแสร้งทำเสียงเศร้าจนคนมองถอนหายใจใส่

 “ก็เพราะคิดถึงไงเลยเลือกปิดร้านแล้วตามมาดูแลแบบนี้” ฝุ่นนั่งลงบนต้นขาแกร่งข้างซ้ายก่อนจะบีบแก้มปารินทร์โดยไม่เบาแรง

เสียงโอดโอยดังขึ้นพอเป็นพิธีจากนั้นฝ่ามือใหญ่ก็ดึงมือเล็กลงมาจูบเบาๆ บนใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้ม ดวงตาเรียวรีจับจ้องคนรักด้วยความรู้สึกที่มี

“เรื่องกระแสเป็นยังไงบ้างครับ ฝุ่นโอเคหรือเปล่า”

“ดีกว่าที่คิดนะ อาจเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องงานของปินแล้วก็ไม่ได้สนใจความคิดเห็นแย่ๆ ด้วย” ฝุ่นตอบพร้อมรอยยิ้มบาง

“ดีแล้ว” แก้มเนียนถูกลูบไล้ไปมา

“ปินล่ะโอเคหรือเปล่า เสียใจบ้างไหม”

คนถูกถามกลับเลิกคิ้วขึ้นพร้อมทั้งถอนหายใจน้อยๆ บอกเล่าทุกอย่างโดยไม่คิดปิดบัง

“มันก็รู้สึกหวิวๆ บ้างเวลาที่เห็นข้อความไม่ดีที่มาจากคนที่เราจำได้ว่าเคยเป็นแฟนคลับ...แต่ก็นั่นแหละ เลือกที่จะโฟกัสคนที่ยังอยู่ดีกว่า”

“ปินไหวนะ?”

ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความเป็นห่วง แล้วปินที่รับรู้ได้เป็นอย่างดีก็ระบายยิ้มออกมา

“ไหวสิ ผมรู้ว่ายังมีแฟนคลับที่รักผมอีกมาก ที่สำคัญคือมีแม่ ปาล์ม ฝุ่น พี่หวานที่เป็นกำลังใจ”

ได้ยินดังนั้นฝุ่นก็ยกยิ้ม แขนเรียวเลื่อนไปโอบรอบบ่ากว้างจากนั้นจึงซบหน้าลงกับลาดไหล่กว้าง

“เป็นกำลังใจให้ตลอดไปด้วย...จะไม่เป็นฝุ่นที่วิ่งหนีมันอีกแล้ว” ท้ายประโยคดังแผ่วลงเมื่อฝุ่นนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยตัดสินใจด้วยความที่ไม่คิดให้มากพอ

“ขอบคุณนะครับ จากนี้ผมอาจจะยุ่งกับการซ้อมคอนเสิร์ตมากๆ ฝุ่นอยู่ได้นะ”

“อยู่ได้สิ ปินสู้ๆ” ใบหน้าเล็กผละออกห่างมามองหน้าปินพลางเอ่ยคำพูดให้กำลังใจด้วยเสียงฮึกเหิม

ความน่ารักนั้นถูกให้รางวัลด้วยจูบอ่อนหวาน ตามมาด้วยความร้อนแรงที่ปารินทร์มอบให้ฝุ่นอย่างเต็มใจ

--

6 เดือนผ่านไป

“ทั้งที่ขึ้นเวทีมาเป็นพันๆ ครั้งแล้วแต่ผมก็ยังแอบตื่นเต้นอยู่ดี”

ปารินทร์สูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ ขณะยืนอยู่ที่จุดสแตนด์บาย ยามมีโฆษณาที่เป็นพรีเซนเตอร์ถูกเปิดเสียงกรี๊ดจากกลุ่มคนก็ดังขึ้นให้ได้ยินเป็นระยะ เพิ่มความตื่นเต้นให้มีมากขึ้น

“หายใจเข้าลึกๆ แค่ออกไปแล้วก็สนุกกับมันนะ”

ใบหน้าหล่อที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ หันไปมองคนข้างกาย ฝ่ามือที่กุมกันไว้ถูกกระชับแน่นขึ้น เมื่อได้รับรอยยิ้มอ่อนหวานจากฝุ่นก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

“ฝุ่นห้ามละสายตาจากผมเลยนะ”

“รู้แล้ว หล่อขนาดนี้จะไปมองอย่างอื่นได้ยังไง”

ร่างสูงถูกแต่งตัว แต่งหน้า และทำผมให้ดูดีกว่าทุกวันจนฝุ่นรู้สึกใจเต้นทุกครั้งที่ทอดมอง แล้วก็เกิดคำถามกับตัวเองซ้ำๆ ว่าเป็นเขาจริงๆ เหรอที่ปินเลือก

“ปินพร้อมนะ” ยังไม่ทันจะยิ้มรับกับคำชมได้เต็มที่ภาวิดาก็ถามขึ้นให้มือที่จับกันไว้ต้องปล่อยออก เมื่อปินพยักหน้ารับทีมงานก็เดินมาหาพร้อมผายมือให้เดินเข้าไปใต้เวที

ทว่าก่อนไปคนตัวโตก็รั้งฝุ่นเข้าไปกอดก่อนจะเดินเร็วๆ ตามไปพร้อมกับเสียงกรี๊ดมากมายที่ดังขึ้น

“ฝุ่นไปนั่งกับพี่มา” ใบหน้าเล็กกดลงรับพลางก้าวตามภาวิดาไปยังจอมอนิเตอร์สำหรับดูภาพรวมที่หลังเวที

นอกจากจะทำหน้าที่เป็นกำลังใจฝุ่นยังคอยช่วยดูความเรียบร้อยเล็กๆ น้อยๆ จึงต้องอยู่หลังเวทีตลอดเวลา ต่างจากแม่และปาล์มที่นั่งชมอยู่ด้านนอก

เมื่อทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ดวงตากลมโตก็จับจ้องที่จอซึ่งยังคงมืดสลัว พอกล้องตัดไปที่กลุ่มผู้ชมจึงมีแสงระยิบระยับจากแท่งไฟเล็กๆ ในมือและจากที่คาดผมต่างๆ

เสียงกรี๊ดยังคงดังไม่หยุด และมันยิ่งดังขึ้นเมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น...

ฝุ่นระบายยิ้มกับภาพที่ได้เห็น ดวงตารื้นไปด้วยหยดน้ำอย่างยินดีไปกับปิน



คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกแบบเต็มรูปแบบของ ปิน ปารินทร์ดำเนินไปเรื่อยๆ เวลาสองชั่วโมงกว่าเหมือนจะยาวนานหากแต่ความเป็นจริงแล้วกลับแสนสั้น

ระหว่างนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสนุก ความสุข และความซึ้ง

คนบนเวทีที่ถูกแฟนคลับทั้งฮอล์เซอร์ไพร์สกลับถึงกับน้ำตาไหล เป็นครั้งแรกที่ปินร้องไห้ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ และเมื่อเพลงสุดท้ายมาถึงมันจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย

ดวงตาเรียวรีกวาดมองคนนับหมื่นตรงหน้าอย่างเชื่องช้า เก็บภาพนี้และความรู้สึกเอาไว้ให้สลักลึกอยู่ในความทรงจำ

ความฝัน ความรัก ทั้งหมดชีวิตนี้...

“สุดท้ายแล้ว ผมมีสิ่งที่อยากจะบอก...ขอบคุณทีมงานทุกคนที่เหนื่อยกันมาและทุมเทกับงานนี้ ขอบคุณคุณกรณ์ ขอบคุณค่าย TMM ที่ให้โอกาสเด็กคนนี้ในวันนั้น ขอบคุณพี่หวาน ผู้จัดการคนเก่งที่คอยอดทนและดูแลผมในทุกๆ เรื่อง ที่สำคัญคือขอบคุณแม่และน้องชาย ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างทุกช่วงเวลา ทำปินให้ก้าวผ่านทุกปัญหามาได้...”

กล้องจับใบหน้าคนที่ปินกล่าวขอบคุณไปทีละคน และทั้งหมดก็ล้วนมองคนพูดซึ่งอยู่บนเวทีด้วยความภาคภูมิใจ

“ขอบคุณคนบนฟ้าที่มอบพรสวรรค์อันมีค่านี้มาให้...แล้วก็ขอบคุณความรัก”

เสียงกรี๊ดดังขึ้นเมื่อกล้องจับมาที่เสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่ทุกคนอยากเห็นมากที่สุด

ฝุ่นยืนนิ่งงันไม่กล้าแม้แต่จะขยับสายตาเมื่อจอมอนิเตอร์ฉายภาพตัวเองไปทั่ว

“ขอบคุณนะครับ...” ประโยคนั้นแสนสั้นทว่ามันเพียงพอที่คนทั้งสองซึ่งสบสายตากันผ่านจอจะเข้าใจ

ริมฝีบางเม้มเข้าหากันด้วยความประหม่า ตื่นเต้น และเต็มตื้น กระทั่งกล้องตัดไปที่กลุ่มแฟนขลับฝุ่นจึงได้ปล่อยลมหายใจเพื่อระบายความเกร็ง

“ที่ขาดไม่ได้เลยคือขอบคุณทุกคนตรงนี้หรือบางคนที่อาจจะไม่ได้มา ตั้งแต่วันแรกที่เรียกตัวเองได้ว่าเป็นนักร้องจนกระทั่งถึงวันนี้แฟนคลับคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต ความรักของพวกคุณมันยิ่งใหญ่จนผมไม่สามารถที่จะตอบแทนได้หมด ได้แต่พยายามตอบกลับไปด้วยการตั้งใจงาน แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่พอหรอก บางครั้งก็เป็นปิน ปารินทร์ที่ไม่ดีพอ ทำผิดพลาดไปบ้าง แต่ทุกคนก็ยังอยู่ตรงนี้ ยังคงมอบความรักและสิ่งดีๆ มาให้ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง...”

การพูดถูกเว้นจังหวะไปสักพักเมื่อน้ำตาหยดลงบนแก้มสาก

ปินร้องไห้แค่นั้น แต่แฟนคลับร้องยิ่งกว่า แม้แต่ฝุ่นและภาวิดายังกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว

ทั้งชีวิตของปินคือแฟนคลับ ทั้งชีวิตของแฟนคลับก็คือปินเช่นเดียวกัน

“ไม่ว่าวันข้างหน้าผมจะอยู่ตรงไหน จะทำอะไร ช่วงเวลานี้ก็จะเป็นช่วงเวลาอันแสนมีค่าที่ผมจะเก็บเอาไว้และนึกถึงไปตลอดชีวิต”

แล้วคนที่ยืนอยู่บนเวทีก็โค้งตัวลงให้ผู้คนตรงหน้าอยู่เป็นนาที กว่าที่ปินจะเงยหน้าขึ้นพร้อมดวงตาอันแดงก่ำ

“ขอบคุณจริงๆ ครับ”

confetti ถูกโปรยลงมายามที่ปินเดินไปโบกมือให้ผู้คนรอบๆ เวที ก่อนที่ช่วงเวลาแห่งความสุขจะจบลงด้วยการบันทึกภาพระหว่างปินกับแฟนคลับ จากนั้นทีมงานและคนสำคัญก็ถูกเรียกขึ้นมาบนเวทีทั้งหมดเพื่อถ่ายภาพเอาไว้

เมื่อคนร่างเล็กที่ถูกภาวิดาลากขึ้นมาด้วยปรากฏกายเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นขึ้นอีกจนฝุ่นสะดุ้ง และหูก็แทบดับเมื่อท่อนแขนแกร่งพาดลงบนคอเพื่อรั้งให้ขยับไปยืนอยู่ตรงกลางทุกคนด้วยกัน

“ปะ ปิน” ฝุ่นกระซิบเสียงสั่นเนื่องจากไม่ชินกับการเป็นที่สนใจ

“ฝุ่นยิ้มหน่อยครับ” ฝุ่นไม่มีทางเลือกเมื่อตากล้องเดินมาตรงหน้า

และสุดท้ายทุกสิ่งก็จบลงพร้อมรอยยิ้ม : )



END.


ทุกครั้งที่พิมพ์คำว่า END ก็อดใจหายไม่ได้เลย
เดินทางกันมาจนถึงตอนสุดท้ายแล้วจริงๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์
ทุกกำลังใจที่มีให้กันมาเสมอนะคะ
สุดท้ายโซแอลก็ขอฝากหนังสือของ Secrecy ลับรัก
ไว้ด้วยน้าาา
เจอกันที่งานหนังสือ
(เรื่องนี้ออกกับ Deep Publishing
บูทสถาพรบุ๊คส์ P22 โซนC1)
และหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือทั่วไปเลยนะคะ
แล้วพบกันใหม่ในเรื่อง ดอกไอริส ณ ทิศตะวันออก ค่ะ ^^


(https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxjxJ.jpg) (https://www.facebook.com/writerexsoull/)   (https://www.picz.in.th/images/2018/07/02/NNxlnb.jpg) (https://twitter.com/exsoull_)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-03-2019 22:34:16
ในที่สุด...
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 13-03-2019 22:42:57
 :o8: :o8:
จบแล้วว สนุกมากๆค่ะ ดีใจที่สุดท้ายแล้วทั้งคู่สามารถผ่านมันมาด้วยกัน

ว่าแต่ ถ้าขอเรื่องแยกของคุณกัญจน์กับบลูได้มั้ยยย  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 13-03-2019 23:01:31
ยินดีกับความรักของปินและฝุ่นค่ะ
ใจหายหน่อยๆ ที่จบแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 13-03-2019 23:09:13
 :กอด1:  :กอด1:  :pig4: :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 13-03-2019 23:47:16
ในที่สุดก้สมกับการรอคอย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-03-2019 00:24:39
ลงเอยกันเสียที  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-03-2019 00:37:47
 :L2: :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 14-03-2019 00:50:36
จบแล้ววว ~~ ขอบคุณมากๆนะคะ รออ่านเรื่องต่อไปเลยค่าาา
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-03-2019 01:27:17
ดีมากๆ เลยค่ะ จบแบบอิ่มใจ สุขสันต์
กว่าจะมาถึงวันนี้ มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาเลย

ฝุ่นก็ยังน่ารัก น่าเอ็นดูไม่เปลี่ยน และจิตใจเข้มแข็งขึ้น
ปินก็ทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก พยายาม อดทน จนมีวันนี้

ความสำเร็จของปิน ดูได้จากความตั้งใจดี
ชอบโมเมนท์ปินอ้อนฝุ่น แล้วฝุ่นก็ตอบโต้น่ะ

ขอบคุณนิยายเรื่องนี้มากนะคะ มีครบทุกรส
และเราก็อินมากค่ะ น้ำตาไหลกับทุกตอนที่ซึ้งและเศร้า
บทส่งท้ายนี้ก็ไหลเพราะความสุขใจที่มีปินฝุ่นวันนี้
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-03-2019 02:12:21
ดีใจกับปินฝุ่น​
ขอบคุณมากๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 14-03-2019 04:37:35
 :m15: :pig4:  มีความฟิน มีความหน่วง และที่ชอบคือความหื่น ขอบคุณผู้เขียนมากๆเลยค่า  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 14-03-2019 07:27:51
จบแล้ววว ใจหายจริงๆ แต่ความรักของปินกับฝุ่นก็ยังอยู่เนอะ~
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-03-2019 07:32:52
ในที่สุดก็จบแบบมีความสุขกันทุกคน  :katai2-1:

คนอ่านก็มีความสุขเช่นกัน ขอบคุณมากค่ะ.  :3123:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-03-2019 09:09:01
จบแล้ว ซึ้งอ่ะ~
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-03-2019 11:05:03
 :3123: :3123: :3123:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-03-2019 11:44:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 14-03-2019 12:54:12
จบประทับใจมากกกก รวบกอดปินฝุ่น มีความสุขกันมากๆน้าา

 :L2: ขอบคุณนะคะ สนุกและน่ารักน่าประทับใจมากกก รักแมวฝุ่น รักหมาปิน รักโซแอล  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 14-03-2019 20:14:55
จบดี!!!!!!
ชอบอ่ะ...สนุกมากกกก
รองานชิ้นต่อไปอยู่นะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 16-03-2019 08:07:09
ฮือออ จบแล้วววทเรื่องนี้ดีมากจริงๆๆๆๆๆ
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่านนะคะ
ชอบมากๆเลยค่าาา :pig4:  :man1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 17-03-2019 15:09:09
อ่านไปลุ้นไป กว่าจะลงเอยกัน แต่แอบปันใจไปหลงคุ่คุณกัญกะน้องบลูหน่อยนึง แบบแดดดี้แบดๆมันใช่อ่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 20-03-2019 23:58:21
แฮปปี้กันแล้วน้า น่ารักมากๆค่ะ ขอบคุณนะคะ   :pig4: :o8:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: 15magnitude ที่ 22-03-2019 21:50:16
น้องบลูน่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 24-03-2019 03:24:54
ฝุ่นโตขึ้นมากเลยกล้าเผชิญปัญหามากขึ้นกว่าตอนแรกๆปินก็มั่นคงมาก คู่รองก็แซ่บมากแดดดี๊กับคิดดี้ของเขาาา :haun4: ปินนี่สุภาพบุรุษสุดหื่นนะ เงียบๆแต่แซ่บมากกก
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 13-04-2019 14:22:51
ประทับใจความรักของปินฝุ่นมากๆ คือเค้ารักกันจริงๆอ่ะ
พี่ฝุ่นก็น่ารักน่าเอ็นดู ปินก็มั่นคงสุด ครอบครัวปินอบอุ่นมากก คู่รองก็แซ่บสุด
สุข เศร้า เหงา ซึ้ง มาครบจริง ประทับใจค่าาาา
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Maccagadz ที่ 13-04-2019 23:35:11
ฮืออออ ประทับใจมากๆ ค่ะ ดีใจที่กดมาอ่าน ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องนี้
ชอบความพีฒนาของตัวละคร การอดทนรอกันและกัน เป็นดราม่าที่เราว่ามันเหมาะเจาะ
ไม่หวือหวามาก แต่มีอิมเพคสำหรับเรามากเลยค่ะ ทุกตัวละครมีหน้าที่และทำได้ดีเลย
ฮืออออ ลัฟๆๆ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 14-04-2019 14:06:42
มีความสุข น้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 15-04-2019 00:38:38
 :pig4: ขอบคุณสำหรับนิยายที่มีความน่ารัก สนุก และซาบซึ้งไปกับการเดินเรื่องของผู้แต่งค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 15-04-2019 07:58:24
ดีอ่ะ สนุก เดินเรื่องเร็ว ตัวละครนทุกตัววมีชีวิตต :hao5:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 19-04-2019 00:56:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 27-04-2019 16:24:11
หวงฝีมือทำกับข้าวของพี่ฝุ่นก็บอก5555  :กอด1: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: songsa1234 ที่ 28-05-2019 12:20:39
น่ารักมากกกกก
ปินดีมากจริงๆ จริงใจทุกอย่าง
เหมาะสมกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Carina ที่ 29-05-2019 17:37:43
ขอบคุณมากค่ะ  :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: sse29162 ที่ 31-05-2019 02:48:59
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 31-05-2019 11:11:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 01-06-2019 21:51:48
 o13
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 11:19:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 13-09-2020 15:50:47
มีแต่คำว่าน่ารักกกกกกกเต็มไปหมดเลย
 :-[
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 16-09-2020 11:34:38
ชอบเรื่องนี้มากเลย
น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 03-04-2021 20:25:19
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 04-04-2021 22:51:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: brave on better ที่ 09-04-2021 21:50:50
จบแล้ววว  :sad4: สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านได้ไหลลื่นมาก ที่สำคัญหยุดอ่านระหว่างตอนไม่ได้เลยจริงๆ ชอบการลำดับเหตุการณ์ ที่ทำให้ไม่รู้สึกหนักหรือเบาเกินไป ขอบคุณที่แต่งนิยายดีแลบนี้ให้อ่านกันนะคะ เปนกำลังใจให้นักเขียนสร้างสรรผลงานดีๆแบบนี้ต่อไปนะคะ 
:mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 22-04-2021 16:22:54
สนุกมากค่ะ อ่านแล้วเห็นถึงความจริงที่เกิดเลย ดีว่าสมัยนี้เปิดกว้างแล้ว มองที่ผลงานดีกว่า ขอบคุณความรักที่มั่นคงของทั้งฝุ่นและปินที่ไม่ทิ้งกัน :L1: :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 23-04-2021 03:33:13
อุแงงงงงง สนุกมากกกกก เพิ่งได้มาอ่าน นี่อ่านทีเดียวจบเลย
ปินคืออบอุ่นมากกกกกกกก แอบอยากอ่านคู่บูลต่อด้วย อิอิ

เยี่ยมมากกกกกก o13
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 12-06-2021 17:09:17
ขอบคุณนะคะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 25-03-2024 20:02:08
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 42บ./1วัน กด *104*68*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)
หัวข้อ: Re: ❖ SECRECY ❖ ลับรัก [บทส่งท้าย] : 13/03/2562 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 26-03-2024 20:58:30
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)