ตอบคอมเม้นท์ครับแปลว่าเหตุเกิดขึ้นนานมากกกกกกกกกกกกกกกก :hao3:
:เหอะ1: :เหอะ1:
เหตุการณ์ช่วงนี้...
ผม....13
เจ๊นิด...15
เฮียมี่.....17
ปัจจุบัน
เจ๊นิด...ลูกอยู่ม.ต้นแล้วครับ
ผม....ไม่มีลูก
เฮียมี่...ไม่มีลูก
ไอ้นิว...เมียมันจะคลอดลูกปลายปี
ส่วนของฝากขออุบไว้ตอนหน้านะครับ
:a5: :a5:
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านตอนนี้จบ เริ่มมองเห็นลางๆแล้วว่าคง จะเรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย แน่ๆ เราว่าเรื่องนี้พระเอกก็คงเป็นเฮียมี่ นั้นล่ะ แต่กว่าจะผ่านอุปสรรคทุกอย่างมาได้จนถึงปัจจุบันก็คงหนักน่าดู จากตอนนี้ เฮียมี่ ที่เราเข้าใจว่าเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวเชื้อสายจีน คงต้องรับภาระเยอะ แล้วยังเป็นลูกคนเล็ก คงจะเชื่อฟังบรรดาเจ๊ๆ พอสมควร ตามประสาน้องที่ดี...แต่เราว่าถ้าเฮียมี่มั่นคงกับหน่อยและรักหน่อยจริง ถึงความรักมันจะเริ่มเร็วไปมากกกกกก็เถอะ...เฮียคงหาทางพิสูจน์ตัวเองและจัดการกับที่บ้านเฮียได้....ไหนจะเรื่องระยะทางของทั้งคู่อีกเน๊าะ...ไม่รู้จะมีมือที่สาม สี่ ห้า เข้ามาเป็นบทพิสูจน์หรือป่าว.....คอยลุ้นและเป็นกำลังใจให้เฮียมี่และหน่อย ต่อไปๆ
บอกตรงๆ ไม่ได้อ่านเรื่องแบบนี้มานานมากแล้ว เหมือนย้อนเวลากลับไปในวัยเด็ก บรรยากาศแบบหนังเรื่อง แฟนฉัน อ่ะ...แต่ไม่เอาตอนจบแบบแฟนฉันน่ะ...อยากได้แบบแฮปปี้ๆ คู่กันๆ
เจ้นิด ได้อารมณ์หัวหน้าแก๊งค์ฝ่ายหญิง ตัวแม่ สาววายนิดๆ
หน่อย ก็ออกแนวน่ารักๆ ใสๆ มั้ง?
ไอ่น้องนิว...ออกมาฮาทุกตอน มันมึนและซื่อได้ใจจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
อ่านมาขำๆ เจอประโยคนี้เข้าไปเริ่มซึมเลยเรา
"เสียงหัวเราะของผมในวันนั้นเป็นการหัวเราะครั้งสุดท้าย
ก่อนที่เสียงสะอื้นเข้ามาแทนที่อีกนาน"
รอตอนต่อไปไม่ไหวแย้ววววๆๆๆๆ
ในช่วงวัยริรักของผม
โชคดีที่มีเจ๊นิดเป็นพี่เลี้ยง
หากไม่มีแก..
ผมคง..
ไม่มีสามีเพียงคนเดียว...จากแสนล้านคน...55555
ขอโทษน่ะค่ะอยากรู้ว่าตอนนี้คนเขียนอายุเท่าไกร่อ่ะค่ะอยากรู้เหมือนกันเลย (แอบคิดว่าน่าจะรุ่นเดียวกัน อิอิ)
อยากรู้ว่าเรื่องมันผ่านมากี่ปี
ในช่วงวัยริรักของผมอ่านข้อความนี้แล้วแทบกริ๊ด อายแทนเลย น่ารักมาก ๆ เลยคะ :m3:
โชคดีที่มีเจ๊นิดเป็นพี่เลี้ยง
หากไม่มีแก..
ผมคง..
ไม่มีสามีเพียงคนเดียว...จากแสนล้านคน...55555
อายเค้ามั๊ยเนี่ย...
http://www.youtube.com/v/RUmLIYZd6vw
มักแล่วครับ
ชิบ กะ เดล
:katai2-1:
ว้าย ๆ :m3: อยากเห็นหน้าตาผีบ้านนี้จัง อำกันอีท่าไหน เสื้อผ้าหายได้ล่ะเนี่ย อิอิ :m7:^
"เฮียหมอ"คิดเหมือนเม้นนี้เลย :-[
เค้าเชียร์เฮียมี่อย่างเต็มกำลังได้แล้วใช่มั้ยยยยย
:mew1:
ฝันดีงับพี่หน่อย เฮียมี่ :กอด1:
:m29: :m29:
เขียนโดยเป็นตัวตนจริงๆดีกว่านะครับ
อาจจะไม่ค่อยถูกใจคนอ่านนะครับ
โอ๊ย อยากจะกรีดร้องออกมาเป็นอักษรเทวนาครี หน่วงหนักในหัวอกเหลือเกินค่ะ คุณหน่อยเองก็ช่างกระไร ปล่อยค้างไว้แบบหมิ่นเหม่เหมือนกับเอายาพิษมาให้พร้อมกับถือขวดยาแก้พิษไว้ในมือ จะยื่นให้มิยื่นให้แหล่ ทรม้าน ทรมาน
น้ำตาปริ่มตาตั้งแต่ตอนพิเศษดูงานต่างประเทศนั่นแล้ว ที่เฮียหมอทำคุณหน่อยร้องไห้ รู้สึกถึงความทุกข์ ความเสียใจผ่านตัวอักษรเลยค่ะ ยิ่งกลับมาอ่านช่วงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีก ยิ่งเหมือนกับจะต้องแบกเอาเทือกเขาคีรีมันจาโรไว้คนเดียว! เศร้าขนาด แถมยังเปิดเพลง Someone like you ของ Adele และ Broken Vow ของ Lara Fabian คลอเป็นแบ็คกราวด้วย โฮ้ย เรื่องมันจะเศร้าไปไหน!
ก่อนจะเพ้อพร่ำรำพันถึงความขุ่นข้องหมองใจของผู้อ่านอย่างดิฉันก็ขอเกริ่นนำอะไรเสียนิดหน่อย
ความจริงแล้วบอร์ดนี้นั้นเริ่มมาจากคุณเซ็งเป็ด ซึ่งสมัยนั้นดังเปรี้ยงปร้างด้วยเรื่องเล่าอันอุดมด้วยรสชาติ จึงได้มีผู้ศรัทธาก่อตั้งบอร์ดนี้ขึ้นมาจนเกิดเป็นเล้าเป็ดอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ดิฉันเองก็อยู่ตั้งแต่เริ่มบอร์ด จนเดี๋ยวนี้ก็นานหลายปี มันเป็นนานปีที่รู้จักวงการเรื่องวาย หากจะนับย้อนกันไปจริงๆ แล้ว ก็คงจะเข้าขั้นเลขสิบ
ตอนนั้นเว็บแรกที่ทำให้ได้อ่านเรื่องวาย และพบเจอกับสิ่งที่ใช่ของตัวเอง ก็น่าจะเป็นเว็บสตอรี่ที่เล่าเรื่องชีวิตเกย์ ซึ่งตอนนั้น คุณพชรยังโลดแล่นครองพิภพเล่าเรื่องเกย์ระดับ 30+ และดิฉันก็เป็นแฟนเหนียวแน่นคอยติดตามอยู่มิได้ขาด จากนั้นก็ได้รู้จักกับบอร์ดปาล์ม และตามมาด้วยหลายต่อหลายบอร์ดต่อจากนั้น และด้วยเหตุผลกลนี้เอง จากการได้อ่านเรื่องเกย์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่า ก็ทำให้กระสันต์อยากเขียนขึ้นมาบ้าง ติดแต่ว่ามิได้มีวัตถุดิบใกล้มือ ก็ได้แต่หยิบเอามาจากจินตนาการเสียส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ประเภทของเรื่องเกย์ที่จับจิตจับใจ ก็เห็นจะไม่พ้นประเภท "เรื่องเล่า" ไปได้ เรื่องเล่านี้ต้องเป็นเรื่องเล่ามาจากเรื่องจริง เพราะอ่านทีไรเราก็จับความรู้สึก "จริง" จากเรื่องเล่านั้นๆ ได้ และไอ้ประเภทเรื่องเล่านี้ก็หาอ่านกันไม่ได้ง่ายๆ นัก ในเล้าก็นับนิ้วได้เลยทีเดียว และยิ่งจะนับเรื่องที่ "โดน" จริงๆ แล้ว ก็คงนับได้ไม่เกินหนึ่งฝ่ามือ "รักจริงยิ่งกว่านิยาย" เป็น ๑ ในบรรดานั้น
เมื่อแรกเห็นชื่อเรื่อง ก็คิดว่าเป็นเรื่องเศร้า เห็นจะคล้ายกับมิวสิควิดีโอคุณปองศักดิ์ใน "เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย" จึงได้แต่ผ่อนผันเรื่อยมา แต่เมื่อเห็นคนแนะนำบ้างในกระทู้ปักหมุด และเห็นจำนวนหน้าซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบ้าง ก็คิดว่า อาจมีอะไรดีมากๆ ในเรื่องนี้เสียแล้ว จึงได้ลองเข้ามาอ่านดู ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็นเรื่องเล่า แถมยังพบอีกว่า เป็นเรื่องเล่าที่ "ดี" หลายอย่าง
๑. ภาษาดี
หากจะอธิบายให้แน่ ก็ต้องลำดับเป็นขั้นตอน อย่างแรกก็คงเขียนได้ถูกตามหลักภาษาไทย แม้จะมีผิดบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับกวนใจ แต่โดยมากแล้วจะเขียนได้ถูกต้อง อย่างที่สองก็คงเป็นเรื่องความสั้น กระชับ ของภาษา สมบัติข้อนี้เอง ทำให้มันอ่านง่าย ไม่ลายตา และไม่ลำบากกับการทำความเข้าใจ เพราะใช้ภาษาตรง จริงใจ และเข้าสู่เนื้อหา ไม่ต้องเยิ่นเย้อ อ้อมค้อม และพรรณนาให้มากความ (อันนี้ดิฉันชอบทำ เหอ เหอ) ซึ่งสิ่งนี้แหละ เป็นเหมือนปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อารมณ์ของเรื่องสื่อถึงผู้อ่านได้ อย่างน้อย ดิฉันก็คงหนึ่งละที่ได้อ่านบทที่หนึ่งแล้ว ก็ต้องอุทานว่า "ในที่สุด!"
๒. ลำดับเรื่องดี
ศาสตร์การเขียนระบุว่า หากคุณลำดับเรื่องอย่างมั่ว เรื่องของคุณก็พังภินธุ์ "รักจริงยิ่งกว่านิยาย" ทำได้ดีระดับ ให้ ๕ เต็ม ๕ ก็ด้วยการค่อยปล่อยไม้เด็ด และเนื้อหาออกมาทีละน้อยทีละนิดนั่นปะไร ทำให้ผู้อ่านติดตามพร้อมกับตามติดประชิดขอบเตียง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น มันเหมือนกับคุณผู้เขียนกำลังประดิดประดอยผืนผ้าสักชิ้นหนึ่ง ใส่ใจ ใส่ความพิถีพิถันลงไป ทำให้ได้แผ่นผ้าที่งาม ถูกใจ น่ามอง อย่างที่เพื่อนผู้อ่านหลายท่านในนี้บอกไว้ ว่า "รักจริงยิ่งกว่านิยาย" อ่านแล้วเหมือนวรรณกรรมเยาวชน ดิฉันเห็นด้วย โดยเฉพาะเรื่องเล่าตอนหน่อยยังเด็กในช่วงอายุระหว่างประถมถึงมัธยมสอง มันดูสะอาด บริสุทธิ์ และการได้เฝ้ามองความคิดของเด็กน้อยคนหนึ่งค่อยๆ ก่อร่างขึ้นจนเติบใหญ่ ผ่านความเจ็บปวด ผ่านเหตุการณ์ทดสอบต่างๆ ก็ยิ่งทำให้เราได้เหมือนกับชิดใกล้กับแกนหลักของเนื้อเรื่องเข้าไปอีก อ่านแล้วอดคิดถึงตอนอ่าน "ความสุขของกะทิ" ไม่ได้
๓. เนื้อหาดี
หากมิใช่เพราะเนื้อหาดี ก็ย่อมไม่อาจดึงดิฉันให้ติดกับเรื่องนี้ได้หรอก อยากจะเอ่ยชมคุณหน่อยจังเลยค่ะ ว่าเขียนได้ดีมากๆ บทจะหวานก็หวานจนต้องกัดหมอน บทจะซึ้งก็ซึ้งแทบน้ำตาลไต่ตอม บทจะสอนสั่งก็ดีเสียจนต้องยกนิ้วให้ โดยเฉพาะตอนเจ๊นิดสอนน้องโดยยกตัวอย่างจำนวนเด็กนักเรียนในห้องเรียน ฯลฯ ยิ่งชอบใหญ่ และบทจะเศร้าก็เศร้าจนดึงเอาความทรงจำฝังใจของคนอ่านให้ฟุ้งขึ้นมาอีก จนมีอารมณ์ร่วมด้วยเสียได้ เรียกว่าเศร้าเคล้ากับน้ำตาอย่างแท้จริง
สรุปก็คือชอบเรื่องนี้มาก และคงจะไม่เขียนถึงความรู้สึกเศร้าทุกข์ตรอมตรมของดิฉันแล้วละค่ะ เพราะจะมากเกินงาม เกรงใจเจ้าของเรื่อง อิอิ เพราะที่เขียนมาก็มากไปแล้ว แต่จะขออีกหน่อยก็แล้วกัน
คือเรื่องใครเป็นพระเอก แรกเริ่มเมื่อคุณหน่อยยังไม่เฉลย ก็คิดว่าเฮียปานอาจมีวิน แต่เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ ดันไม่ใช่ เห็นจะเป็นเฮียมี่เจ้าเก่า และยิ่งอ่านก็ยิ่งเห็นว่าควรเป็นเฮียมี่ เพราะแม้ปานจะเปรี้ยวจี๊ดปานใด แต่ก็เหมือนของใหม่ที่น่าลิ้มลอง แต่เพียงชั่วลิ้มรสแล้วก็เห็นว่าแรงต่อลิ้นเกินไป ไฉนเลยจะเท่าขนมหวานอันเคยคุ้นปากกันอยู่แล้ว คนเขารักมานาน ชอบมานาน และจองมานาน ก็ต้องปล่อยให้เป็นของเขาไป เฮียปานก็คงได้แต่มองอยู่ไกลๆ และไม่สร้างความร้าวฉานจึงจะทำให้เรื่องออกมาดี
แต่เห็นฉากสุดท้ายของตอนล่าสุดแล้ว อยากจะอุทานกับหน้าจอคอมพ์ว่า "มาม่ารสต้มแซบ!"
:mew1:
ถ้าเปรียบเฮียมี่เป็นที่นอนอ่อนนุ่ม แอร์เย็นฉ่ำ เฮียปานก็เป็นฟูกอุ่นจากการตากแดดมาทั้งวัน วางรออยู่ที่ชานบ้านลมโกรกโห ช่างเปรียบปาน ต่างกันสุดๆ เห็นภาพเลย ว่ามันเก่าๆยุ่ยๆ :m23:
นายพรานเผลอเรอ
พลาดพลั้ง
หลงละเมอ
เผลอ
มอง
ชะนี
555555555555
"เออจริง งั้นต้องรีบยิงบ่อยๆ เดี๋ยวเมียไอ้ปานท้องก่อน":z1: ท้าทายเฮีย โดนซะ
“มี่ มี่ เปิดประตู ทำอะไรอยู่”
ใครมา....:laugh:
เฮียบอกผมว่าแล้วอย่างนี้หน่อยจะไปไหนรอด :mew1: :mew1:
เรียนเท่าที่อยากจะเรียน
ไม่ต้องฝืน
ให้มีความสุขกับมัน
ไม่ต้องวิตก
ไม่ต้องกังวล
ไม่ต้องน้อยใจ
เพราะ
เฮีย
เรียน
เพื่อผม
ไปแล้ว
ครับ
และแล้ว
ผมก็ได้ตัดสินใจเรียนมหาวิทยาลัยเปิดที่มีชื่อเสียง
เฮียบอกผมว่า
เรียนเท่าที่อยากจะเรียน
ไม่ต้องฝืน
ให้มีความสุขกับมัน
ไม่ต้องวิตก
ไม่ต้องกังวล
ไม่ต้องน้อยใจ
เพราะ
เฮีย
เรียน
เพื่อผม
ไปแล้ว
ครับ
ตอนนั้นผมมองพี่โบ้เหมือนดาราที่เราชื่นชอบ
ก็ปลื้มความหล่อของแกแค่นั้นเองครับ
แต่งานรับน้องครั้งนี้มันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ตอนนี้ให้รุมประณามหยามเหยียดได้ครับผม
รักผมน้อยลงไม่ว่า
แต่อย่าเลิกรักกันนะครับ
นิยายรักที่เขียน..เจตนาเดิม ตั้งใจจะอ้างอิงเรื่องจริงแค่บางส่วนขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องเล่า^^ และที่สำคัญคุณรักเฮียมี่ไม่มีเปลี่ยน ..... ปลื้มค่ะปลื้ม!!!!! :mew1:
แต่พอย้อนกลับไปอ่านเนื้อเรื่องตั้งแต่อักษรตัวแรก
มีตรงไหน เหตุการณ์ไหนไม่จริงบ้างนะ เนื้อแท้ล้วนๆ
ตัดสินใจแล้วครับ ในเมื่อผมเป็นเจ้าของเรื่อง..เป็นชีวิตรักของผม
ขอเขียนตามใจปรารถนา มีแอบหวั่นๆบ้างว่าจะขัดใจคนอ่าน
เพราะตัวตนผมไม่ใช่คนดี แสนดี ส่วนลึกยังมีความต้องการ อยากรู้ อยากสัมผัส
ความรักที่แตกต่างจากที่มีอยู่
แต่รับรองไม่เกินเลย และไม่เปลี่ยนใจแน่นอนครับผม
“พี่โบ้”
“ไอ้ปาน”
“เฮียปาน”
ส่วนผมขอตัวออกไปหาซื้อ
มาม่า..สักโหล
อิอิ
เจอกันพรุ่งนี้ครับผม
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ครับผม
ใครยังไม่พบรักแท้...ขอให้ได้เจอะเจอในเร็ววัน
ใครที่มีรักแท้...ขอให้ราบรื่น หนักแน่น
สาาาาธุ เพี้ยงงงงงงงง
ยังค่ะ ยังลงโทษไม่พอ เพราะตอนนั้นคุณหน่อยไม่น่ารักซะจริง ๆ อิอิ o18