พิมพ์หน้านี้ - In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ikora ที่ 03-12-2011 23:28:33

หัวข้อ: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 03-12-2011 23:28:33
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เพิ่งแต่งครั้งแรก ฝากเนื้อฝากตัว และฝากใจไว้ในอ้อมอกมิตรรักแฟนเพลง (หือ?) ด้วยนะคร้าบบบบบ

Note: นิยายเรื่องนี้อาจมีสถานที่หรือเหตุการณ์บางอย่างที่นำมาจากเรื่องจริง แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปบ้างเพื่อความบันเทิง และหลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือสถานที่นั้นๆ






สารบัญ


Season 1
Chapter 1: Pilot (Part 1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1749551#msg1749551) (Part 2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1749720#msg1749720)
Chapter 2: สวัสดีเพื่อนบ้าน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1752011#msg1752011)
Chapter 3: The Lost Key (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1755546#msg1755546)
Chapter 4: ม้า!! (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1756616#msg1756616)
Chapter 5: Where can I go then !!? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1983910#msg1983910)
Chapter 6: ไปเที่ยวกันมั้ย - มั้ย - มั้ย - มั้ย - มั้ย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1986106#msg1986106)
Chapter 7: New Friends (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1993214#msg1993214)
Chapter 8: ไม่รู้จักโต (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1995672#msg1995672)
Chapter 9: Cover (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg1998338#msg1998338)
Chapter 10: ฤดูที่ฉันเหงา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2011104#msg2011104)
Chapter 11: Pass Out (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2308725#msg2308725)
Chapter 12: อยู่ในปาร์ตี้ร้อนยังกับไฟเออร์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2309160#msg2309160)
Chapter 13: Sing! (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2311410#msg2311410)
Chapter 14: Plaisir Coupable (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2313893#msg2313893)
Chapter 15: โด๊ เร มี โด๊ เร มี ซ่อล หล่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2315170#msg2315170)
Chapter 16: One Step Closer (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2331829#msg2331829)
Chapter 17: ฉาวโฉ่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2333460#msg2333460)
Chapter 18: Suddenly I See (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2335540#msg2335540)
Chapter 19: แอนนี่ (Season 1 Finale) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2336024#msg2336024)





Season 2
Chapter 20: Waking Up In Vegas (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30248.msg2351908#msg2351908)
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 1]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 03-12-2011 23:33:40
Chapter 1: Pilot

(Part 1)

   “Excuse me, where can I get a taxi?” ผมถามเจ้าหน้าที่ของสนามบิน ซึ่งเจ้าตัวก็บอกชี้ทางเป็นภาษาอังกฤษให้กับผมอย่างคล่องแคล่ว หลังจากนั้นผมก็เดินไปเรื่อยๆตามที่เค้าบอก

   ผมไม่ได้มาประเทศนี้มานานแล้วเหมือนกัน ถ้าพูดให้ถูกต้องเรียกว่ากลับมามากกว่า เพราะผมเคยอยู่ที่นี่จนถึงตอนหกขวบ แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ค ซึ่งสมัยนั้นสนามบินสุวรรณภูมิที่ผมกำลังเดินลากกระเป๋าอยู่นี่ก็ยังไม่ได้สร้างเลยด้วยซ้ำ ภาษาไทยที่เมื่อก่อนผมเคยพูดเหรอ... ลืมเกือบหมดแล้วล่ะ ผมพอจะอ่าน เขียน และฟังได้บ้าง แต่ผมพูดไทยแทบจะไม่ได้เลยล่ะ... แล้วผมสื่อสารกับพวกคุณคนอ่านยังไงน่ะเหรอ แหม่ ก็คนเขียนเค้าไม่ลงทุนนั่งพิมผมบรรยายตัวเองเป็นภาษาอังกฤษหมดหรอกจริงมั้ยครับ

   Don’t cry for me Argentina
        The truth is I never left you…


เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมกดรับโทรศัพท์หลังจากรู้ว่าใครโทรมา

“What ‘up mom?”

“Oh! So, you’ve arrived now”

“Yep! Just get outta the plane. It’s so hot lately.” โอเค คือ พอดีแม่ผมเป็นฝรั่ง เราเลยไม่พูดไทยกันเลยน่ะ เอาเป็นว่า เพื่อไม่ให้คุณผู้อ่านงุนงงกันมากกว่านี้ ผมจะขอให้คนเขียนช่วยแปลที่ผมพูดกับแม่เป็นภาษาไทยก็แล้วกันนะ

“แม่บอกแกแล้วแอนนี่ ว่าประเทศไทนร้อนจะตายก็ไม่เชื่อ แพ็กแต่ละชุดนี่หนาเตอะเชียว” แม่ผมเริ่มบ่น

“น่า แม่ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมคงชินเองแหละ, ว่าแต่ ธุระที่นู่นเสร็จรึยังล่ะ”

“ยังเลย แม่ยังทำเรื่องอยู่ที่วอร์ชิงตัน อยู่เนี่ยะ”

“แล้วอย่างงี้จะมาที่นี่เมื่อไหร่เนี่ยะ”

“อีกซักสัปดาห์นึงกว่าพาสปอร์ตแม่จะได้น่ะ ก็คงไปราวๆนั้นแหละ”

“สัปดาห์นึง???? นี่แม่เพิ่งไปทำพาสปอร์ตรึไง ทำไมมันนานจังง่ะ”

“แม่ก็ยุ่งๆหลายเรื่องนะแอนนี่ ไหนจะทำพาสปอร์ต เอกสารย้าย ไหนจะเรื่องที่พักให้แกที่นู่นอีก, เอ้อ แล้วนี่ไปคนเดียวได้แน่นะ”

“ได้อยู่แล้วน่า บอกแท็กซี่เค้าก็น่าจะรู้จักนะ... จะกลัวก็แต่เค้าฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องอ่ะดิ่”

“แท็กซี่ที่สนามบินน่าจะรู้เรื่องอยู่แล้วล่ะ ไม่งั้นแกก็พูดภาษาไทยสิ เผื่อเค้าจะรู้เรื่อง”

“หนักกว่าเดิมอะสิแม่ คราวที่แล้วที่พูดให้ป้าจูดี้ฟังแกยังฮาท้องแข็ง แล้วนี่เจ้าของภาษาเค้าฟังเอง เค้าไม่ยิ่งฮาชักดิ้นเลยเหรอ”

“แอนนี่ แกอย่าลืมสิลูก ว่าแกก็มีเชื้อไทยอยู่ครึ่งนึง ภาษาไทยมันก็เหมือนภาษาแกเองเหมือนกันนะ”

“เอาเหอะแม่ ผมเอาตัวรอดได้น่ะ ไม่ต้องห่วง”

“จ่ะๆ งั้นแค่นี้แหละ แม่แค่จะโทรมาเช็คว่าแกถึงไทยปลอดภัยมั้ย”

“ปลอดภัย ไร้กังวล แค่นี้นะแม่ อีกอาทิตย์เจอกัน”

“จ่ะ”

หลังจากที่ผมกดวางสายลงไป อยู่ดีๆก็มีร่างๆหนึ่งชนเข้ากับผมอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกว่ามือถือขอผมหายวับไปพร้อมกับชายร่างสูงใหญ่ ใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนาสีดำ

“Hey!! Hey!!! Stop!!!” ผมตะโกนแล้วทิ้งสัมภาระ วิ่งไล่ตามไอ้หัวขโมยนั่นไป

มันวิ่งเร็วซะจนผมคิดว่า มันต้องเป็นสตั้นจากฮอลลีวู้ดเก่าแน่ๆ ซักพักนึง เสียงนกหวีดจาก รปภ. ก็มาช่วยสมทบผม

“It’s okay, mister. We’ll take care of this” พนักงานคนนึงกล่าว และห้ามผมวิ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าตอนนี้ไอ้โจรนั่นวิ่งหายไปไหนไม่รู้

“But it’s my phone!!” ผมยังคงดื้อดึง

“It’s alright, sir. We will find him”

ผมเดินอย่างหัวเสียกลับไปที่สัมภาระ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็วอหาตัวไอ้หัวขโมยนั่น แต่ในขณะที่ผมเดินกลับอยู่นั่นเอง ผมก็สะดุดเข้ากับชายคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ในกลุ่มคนที่เพิ่งลากกระเป๋าออกมา หมอนั่นใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกับไอ้โจรนั่นนี่หว่า มึงไม่รอดแน่ไอ้ขโมย

“Give me back” ผมเดินไปสะกิดไอ้หมอนั่น

“ห๊ะ” หนุ่มตี๋ร่างสูงใหญ่ ผิวสีแทนหันมามองผมด้วยสีหน้างุนงง เช่นเดียวกับคนอีกสี่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย

“Don’t play with me, you idiot! Give – my – phone back!!”

“เห้ย อะไรของไอ้ฝรั่งนี่เนี่ยะ ไม่รู้เรื่องเว้ย” แน่ะไอ้นี่ ถึงกูพูดไทยไม่ได้ แต่กูฟังออก อย่ามาตอแหลนะมึง

“Huh” ผมหัวเราะในลำคอ “You think you can fool me, right? I just saw the donkey wears these pieces of shit took my phone away”

“Hey! Hey! Calm down! Calm down!” ผู้ชายที่ดูสูงอายุกว่าไอ้หน้าตี๋นี่เข้ามาปรามอย่างงงๆ

“Oh! I see. So you guys work as a gang??” ผมมองคนเหล่านั้นแบบเหยียดๆ ก่อนจะหันไปตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ๆ

“Mister Officer!!! I found that thief!!!”

“เห้ยๆ ติ๊บเติ๊บเหี้ยไรมึง กูไม่ใช่โจร!!” ไอ้หน้าตี๋นั่นเริ่มโวยวาย

“ผมคงต้องขอตัวคุณไปให้ปากคำก่อนครับ เพราะรูปร่างและชุดที่คุณใส่เหมือนชุดของขโมย ที่ขโมยมือถือของมิสเตอร์คนนี้” เจ้าพนักงานพูดหลังจากเดินมาถึง

“แต่ผมก็ไม่ได้ไปไหนเลยนะพี่ ผมอยู่กับครอบครัวผมเนี่ยะ” มันยังโวยวาย

“ยังไงทางเราคงต้องขอตัวคุณไปค้นร่างกายก่อนนะครับ รบกวนด้วย”

“เอาน่าลูก แปบเดียว ช่วยๆคุณฝรั่งคนนี้เค้าก่อน ถ้าเราบริสุทธิ์จริงยังไงก็ไม่มีปัญหา” เสียงผู้หญิงกล่าวกับไอ้ตี๋นั่น ท่าทางคงเป็นพ่อแม่มัน

“ชิ ก็ได้ เดี๋ยวมานะ” มันจำใจอย่างหน้าเสียก่อนจะหันมามองกินเลือดกินเนื้อให้ผม ที่ยิ้มเยาะให้กับไอ้ขี้ขโมยอย่างมัน


   “พี่ ผมไม่ได้ทำนะ ผมจะทำไปทำไม” ไอ้ตี๋ใหญ่ ยังโวยวายอยู่ในห้องสอบสวนเล็กๆในสนามบิน

   “พี่ก็ไม่ได้ว่าน้องทำซะทีเดียว แต่น้องดันใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกัน แถมแต่งตัวเหมือนกันอีก แล้วเราก็ไม่ให้ตรวจร่างกายอย่างนี้ พี่ก็ปล่อยออกไปไม่ได้หรอก”

   “พี่ ฟังนะ ผมเพิ่งกำลังจะเข้ามหา’ลัยปีนี้เอง ผมจะทำแบบนี้ให้เสียอนาคตทำไม”

   ผมหัวเราะในลำคอนิดๆ ขณะเปรยตามองมัน

   “ขำไรมึง!”
   
“You always lie like this, isn’t it?”

“ลายไรนักหนามึงง่ะ ฟังกูรู้เรื่องรึงะ กูยังฟังมึงไม่ค่อยรู้เรื่องเลย” เออ กูฟังรู้เรื่อง แต่กูไม่บอกมึงหรอก แม่งยังทำหน้ายักษ์ใส่ผมอีก ทั้งคำพูด ทั้งท่าทางแม่งกวนส้น ผมเลยยักไหล่เยาะเย้ยมันกลับ

“พี่ ผมไม่ได้ทำผมบอกแล้วจริงๆ ไอ้เหี้ยฝรั่งนี่แม่งมั่ว” แม่งมาด่ากุเหี้ยอีก

“Excuse me? Are you trying to insult me, thief?”

   “ติ๊บเหี้ยไรเมิ้งงงงงงง กุไม่ได้ขโม้ยยยยย” มึงยังปากแข็ง ทั้งชุดทั้งรูปร่าง ทั้งทรงผมสั้นๆตั้งๆนั่นอีก มึง – ชัด – ชัด
   
“อินซ้อนอะไร กูไม่รู้เรื่อง แต่มึงง่ะมั่ว!! กูอยู่ของกูดีๆ ไอ้ฝรั่งขี้นก!” แม่งชี้หน้าด่ากุใหญ่
   
“Don’t push me, you skank!!”
   
“เอ้าๆๆๆๆ!! ใจเย็นๆก่อน Calm down, Calm down” เจ้าหน้าที่ปรามผมกับมันไว้ ก่อนจะมีเรื่องตะลุมบอนกัน ก่อนจะหันไปหาไอ้หัวขโมยนั่น “น้อง ยังไงพี่ก็ต้องตรวจค้นตัวน้องก่อนนะ แล้วถึงค่อยปล่อยเราไป”
   
“พี่มันไม่รุกล้ำผมเกินไปหน่อยรึไง” มันยังโวยวาย
   
“นะน้อง พี่ขอความร่วมมือ ไม่งั้นเราก็ไปไหนไม่ได้” เจ้าหน้าที่ทำหน้าจริงจัง จนไอ้นั่นเงียบกริบ อะฮ่าๆๆๆๆ ไงล่ะมึง จ๋อยอ่ะดิ่ จะชวดมือถือกุซธแล้ว



   
“ขออนุญาตครับ” เจ้าพนักงานอีกคนเปิดประตูเข้ามาในห้อง
   
“เชิญ”
   
“เราจับคนร้ายที่ขโมยมือถือของมิสเตอร์คนนี้ได้แล้วครับ” หือ??? อ่าว??? เอ๊ะ??? จับได้แล้ว??? แล้วไอ้เชี่ยตี๋ใหญ่นี่มันอะไรยังไงวะ เห้ย! จับถูกคนรึเปล่า...
   
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดไอ้ที่คิดไว้ออกมา เจ้าหน้าที่ก็วางมือถือ iPhone 4 ของผมมาให้ผมตรวจสอบ ผมเปิดดูข้อมูลเพื่อยืนยันว่ามันใช่ของผมรึเปล่า ซึ่งปรากฏว่ามัน..... เออ ใช่ ของกุเอง.... อ้าว ชิบหายแล้วแอนนี่ หน้าแหกแน่มึง งานนี้

   “Mr. Anthony, is that yours?” เจ้าหน้าที่ถามผมอีกที
   
“e-errrr… y-yeah” ผมตอบเสียงเบา หน้าก้มแทบจะมุดดินหนีแล้วตอนนี้
   
“ห๊ะ? มึงพูดอะไรนะ ไอ แค้น เหี้ย ยู” สัด ได้ที ไอ้เหี้ยนี่กัดกูใหญ่ ทำท่าเงี่ยหูเข้ามากวนกูอีก
   
“It’s mine!! Okay? I’m sorry!!” ผมแขวะตอบไปอย่างอายสุดฤทธิ์ หน้าร้อนผ่าวไปหมด
   
“งั้นก็โอเคตามนี้นะครับ เรื่องก็จบแล้ว” เจ้าหน้าที่พูดขำๆ ทำผมอายหนักกว่าเดิม ก่อนจะหันไปหาไอ้โจร เอ้ย! ไอ้ตี๋ใหญ่นั่น

“น้อง ยังไงพี่ขอโทษด้วยนะ ไปได้แล้วล่ะ”
   
“ยังไม่จบหรอกครับ ไอ้ฝรั่งนี่มันกล่าวหาผมอย่างงี้ ผมน่าจะเรียกร้องค่าเสียหายมันนะ” อ้าว สัด กุขอโทษมึงไปแล้วนะ
   
“อ – เอ่ออออ” เจ้าพนักงานตะกุกตะกัก ก่อนจะหันมาแปลที่แม่งพูดให้ผมฟัง “He said that –“

   “I know what he said” ผมเดือดปุดๆ อย่างรำคาญกับมาดกวนตีนของมัน แล้วจึงหันไปพ่นคำด่าภาษาอังกฤษให้มันหน้าหงายเล่น “Listen carefully and closely, you big hippopotamus but tiny ant’s poop brain skank, I misunderstood that you are a thief because you wears like that idiot and I already apologized for that but, now, I come to think of it, you are worse than that guy. Your selfishness and your idiotic attitude smell like your armpit and you act like someone punched you in your face with a pair of sandals that was picked up from a trash can. So, why don’t you keep your mouth shut, stop thinking about any of my money, and take your time buying good eyeliner and draw a great shape to make your eyes bigger.”

   งงอะดิ่มึง กุพูดอะไร นั่งอึ้งเลย ผมเห็นมันพึมพำประมาณว่า “พูดเหี้ยอะไรวะ” ขณะที่ผมยิ้มลุกขึ้นและหันไปขอบคุณเจ้าพนักงานทั้งหมด ก่อนจะเดินออกมา โชคดีที่เหมือนครอบครัวไอ้ตี๋นี่จะไม่ได้รออยู่แถวนั้น ไม่งั้นผมคงอายยิ่งกว่าเดิม มันน่าอับอายจริงๆกับเรื่องนี้ ผมรีบเดินดุ่ยๆ ไปขึ้นแท็กซี่ ก่อนจะบอกเป้าหมายสู่คอนโดย่านใจกลางกรุงเทพแห่งหนึ่ง ซึ่งแม่ผมทำการติดต่อเช่าไว้ให้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

   เฮ้อออออ เรื่องนี้รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ยังไงก็ขอให้ผมอย่าเจอคนประเภทนี้อีกเลย ทั้งไอ้ขโมยนั่น ทั้งไอ้ตี๋กวนบาทานั่น... ยิ่งไอ้ตัวหลังนี่ ยิ่งบอกว่ามันอยู่มหา’ลัย ผมยิ่งเสียวๆว่ามันจะอยู่มหา’ลัยเดียวกับที่ผมกำลังจะเข้าอยู่รึเปล่านะ... -*-


อัพสั้นๆ รอ Part 2 เดี๋ยวมาต่อนะฮะ เร็วๆนี้แหละคับพ้ม ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเด้อ!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 1]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 03-12-2011 23:39:08
น่าสนใจครับ จะตามต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 1]
เริ่มหัวข้อโดย: dezzetoeiiz ที่ 03-12-2011 23:46:33
 :mc4: :mc4: :mc4: โอ้เรื่องใหม่ๆ
เริ่มมาก็มีเรื่องกันซะแล้ววุ้ย แล้วงี้ไปเจอกันในมหาลัยคงกัดกันตาย  :m20:
แอนนี่ดูด่าแบบไฟแลบขนาดนี้ ถ้าพระเอกปากไม่จัดเท่าจะไปเถียงทันมั๊ยเนี่ย แถมไม่ได้ด่าเป็นภาษาไทยอีก = =

รอติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 03-12-2011 23:57:49
Listen carefully and closely, you big hippopotamus but tiny ant’s poop brain skank, I misunderstood that you are a thief because you wears like that idiot and I already apologized for that but, now, I come to think of it, you are worse than that guy. Your selfishness and your idiotic attitude smell like your armpit and you act like someone punched you in your face with a pair of sandals that was picked up from a trash can. So, why don’t you keep your mouth shut, stop thinking about any of my money, and take your time buying good eyeliner and draw a great shape to make your eyes bigger.”

เน่ เมิงฟังกูพูดนะ ชัดๆ เน้นๆ นะ ไอ้ยักษ์ แต่สมองเท่าขี้มด กูแค่พลาดไปหน่อยเว้ย เพราะเมิงใส่เสื้อผ้าเหมือนไอ้โจรที่ขโมยมือถือกูนั่นไง แล้วกูก็ขอโทษมึงแล้วด้วย มึงมันอุบาท เห็นแก่ตัว แถมยังทำหน้าเหม็นเหมือนใครเอารองเท้าเน่าๆ ไปปาหัวอีก กูว่ามึงหุบปากไปซะ อย่าคิดเรียกร้องค่าเสียหายจากกู เอาเวลาไปซื้ออายไลน์เนอร์ แล้ววาดตาตัวเองให้มันใหญ่กว่านี้เหอะ ไอ้เจ๊กเอ้ย

อ้ากกกก มาเป็นชุดเลยอ่ะ ช่วยแปลให้นะ - - ไม่รู้ถูกใจป่ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 1]
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 04-12-2011 00:00:43
ภาษาปะกิดยาวเป็นพรืดนั่น ให้ตายยังไงก็ไม่อ่าน ฮาาาา
ว่าแต่ใครรุกใครรับน้า
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 1]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 04-12-2011 00:03:37
Listen carefully and closely, you big hippopotamus but tiny ant’s poop brain skank, I misunderstood that you are a thief because you wears like that idiot and I already apologized for that but, now, I come to think of it, you are worse than that guy. Your selfishness and your idiotic attitude smell like your armpit and you act like someone punched you in your face with a pair of sandals that was picked up from a trash can. So, why don’t you keep your mouth shut, stop thinking about any of my money, and take your time buying good eyeliner and draw a great shape to make your eyes bigger.”

เน่ เมิงฟังกูพูดนะ ชัดๆ เน้นๆ นะ ไอ้ยักษ์ แต่สมองเท่าขี้มด กูแค่พลาดไปหน่อยเว้ย เพราะเมิงใส่เสื้อผ้าเหมือนไอ้โจรที่ขโมยมือถือกูนั่นไง แล้วกูก็ขอโทษมึงแล้วด้วย มึงมันอุบาท เห็นแก่ตัว แถมยังทำหน้าเหม็นเหมือนใครเอารองเท้าเน่าๆ ไปปาหัวอีก กูว่ามึงหุบปากไปซะ อย่าคิดเรียกร้องค่าเสียหายจากกู เอาเวลาไปซื้ออายไลน์เนอร์ แล้ววาดตาตัวเองให้มันใหญ่กว่านี้เหอะ เผื่อจะมองเห็นโลกได้ดีขึ้น ไอ้สาดดดดด

อ้ากกกก มาเป็นชุดเลยอ่ะ ช่วยแปลให้นะ - - ไม่รู้ถูกใจป่ะ

เป๊ะเลยฮะ แปลฮาซะคนเขียนขำพรืดเลย 5555555+ ชอบๆ  :m20: :m20: :m20:

ภาษาปะกิดยาวเป็นพรืดนั่น ให้ตายยังไงก็ไม่อ่าน ฮาาาา
ว่าแต่ใครรุกใครรับน้า

แปลตามคุณ Vesi เลยคับพ้ม ส่วนเรื่องรุกรับนี่ ดูกันต่อไปเด้อคับเด้อ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 1]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 04-12-2011 00:52:39
เจอกันครั้งแรกก็ไม่ประทับใจกันซะแล้ว

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 1]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 04-12-2011 01:13:04
Part 2 มาแล้วคับพ้มมม

ชีวิตประจำวันของผมหลังจากมาอยู่กรุงเทพก็ไม่ค่อยมีอะไรมากครับ ของใหญ่ๆอะไรที่ต้องใช้ก็ขนมาก่อนอยู่แล้ว ก็มีแค่ผมกับกระเป๋าใบใหญ่ที่ลากมาด้วยก็อยู่ได้สบาย คอนโดที่ผมกับแม่ (ซึ่งยังหลั่นล้าอยู่วอชิงตัน)มาเช่าก็โอเคครับ สิ่งอำนวนความสะดวกครบดี ทั้งฟิตเนส ซาวน่า สตรีมมิ่ง สระว่ายน้ำ สวนหย่อม บรรยากาศก็โอเคครับ อยู่ใกล้ๆรถไฟฟ้า ส่วนเรื่องของกินนี่ผมทำเองได้ อยู่เองได้ เพราะแม่ผมก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านแต่ไหนแต่ไรแล้ว ที่อเมริกา แม่ผมก็ง่วนอยู่แต่งานที่สถาบันภาษาสากล ที่แม่มาเมืองไทยก็เพราะอย่างงี้แหละครับ เพราะแม่เลือกมาทำงานเป็นผู้จัดการสาขาของสถาบันภาษาสถาบันนี้ในไทย นอกจากนี้ แม่ก็มีความหลังกับประเทศนี้ เพราะแม่เจอพ่อผมที่ประเทศนี้แหละ อ้อ พ่อผมเสียไปนานแล้วครับ ตั้งแต่ตอนหกขวบนั่นแหละ ผมถึงย้ายไปอยู่กับแม่ที่อเมริกา

เอาล่ะๆ พักเรื่องอดีตของผมไว้ก่อนดีกว่า เพราะผมอยากสาธยายความประทับใจของการมาอยู่ที่ประเทศไทยมากๆ เพราะความ civilize ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้ ผู้คนก็ยิ้มแย้มน่ารักดี (ยกเว้นไอ้บ้าสองตัวเมื่อหลายวันก่อน) แถมย่านที่ผมอยู่นี่ก็ ชาวต่างชาติเยอะครับ เพราะงั้นเลยรู้สึกไม่เหงาเท่าไหร่

วันนี้ผมเองก็ไม่มีอะไรทำมากนัก เบื่อจากการนั่งเล่นคอม รอเวลา มหา’ลัยที่นี่เปิดก็มาเข้าฟิตเนสหน่อยละครับ ฟิตเนสที่นี่ก็กว้างขวางอยู่นะ แถมสงบดี ไม่ค่อยมีคนมาใช้หรอกครับ เช่นเดียวกับตอนนี้ ห้องโล่ง วู้วววว ห้องนี้เป็นของกู นี่แหละความเป็นส่วนตัว

ผมเริ่มกิจกรรมโดยการปั่นจักรยาน วิ่ง ตามด้วยวิดพื้น และยกเวท ซึ่งในขณะที่ยกเวทอยู่นั่น ใครคนนึงก็เข้ามาในฟิตเนส Damn It! กูอุตส่านึกว่าจะอยู่เงียบๆ มีใครมาวะเนี่ยะ แล้วผมก็ได้คำตอบตอบหลังจากหันไปป๊ะหน้าเข้ากับมันครับ.... มันครับ.... ผมหมายถึง มันนั่นแหละครับ



 ไอ้เหี้ยตี๋ใหญ่นั่นอีกแล้ว




“Oh Shit” ผมสบถเบาๆ แต่มือนี่ผลอยทำเวทร่วงไปแล้ว

“โอ้ย เหี้ย” แม่งสบถตามซะอีกแน่ะ

“What are you doing here?”

“ฟิตเนส” แม่งตอบทำหน้ากวนตีน แอ๊คเซ้นมึงกากได้โล่มาก “ไอ โก ทู ฟิตเนส ดู ยู ติ้ง ไอโก เหี้ย ทู อีตติ้ง เหรอวะ”
ภาษาอังกฤษไรมึงเนี่ยะ มี เหรอวะ ด้วย –“- แถมตอบกวนตีนกูอีก กูละรำคาญ

“Do you live here?”

“ไม่มั้ง กูถึงเข้าฟิคเนสได้เนี่ยะ” อิเวร ผมสบถกับตัวเองในใจ สบถเพราะเรื่องที่มันอยู่ที่นี่ แถมยังพูดกวยประสาทอยู่นั่นแหละ

“Can’t you just.. talk like everyone else talk?”

“ห๊ะ? พูดเหี้ยไรมึง กูฟังไม่รู้เรื่อง” กูละเอือม ถ้ากูพูดไทยได้รู้เรื่อง กูด่ามึงไปแล้วโว้ย

“Uhhh, never mind. I’m tired of you, man” ผมโบกปัดมือแล้วหันไปสนใจเวทต่อโดยพยายามไม่ยุ่ง

“เฮ้ยๆๆ ไรมึงเนี่ยะ ทำเมินกู แล้วทำกูงงสองรอบและ ที่สนามบินนั่นอีก” แม่งไม่เลิกรา ตามมาดึงผมหันไปพูดอีก น่ารำคาญจริง
“What do you want from me?”
“แอโฟโลใจ”
“What?” แอ๊คเซ้นอย่างงั้นใครจะรู้เรื่อง

“ซอรี่ ยูโน้- มี” อะไรวะ ชี้ไปที่ตัวเองอีก... อ่ออออ มันคงจะขอโทษผม เอ้อ ก็รู้สำนึกดีนี่

“Okay. I understand now that you feel sorry” ผมเริ่มยิ้มให้มันอย่างเป็นมิตรมากขึ้นพลางเอามือตบไหล่มัน

“เห้ย กูบอกให้มึง ซอรี่ กู” อ่าว เหี้ย อะไรวะเนี่ยะ กูต้องซอรี่อะไรมึงอีกล่ะ กูขอโทษไปแล้วนะ ชักโมโหและเห้ย

“Sorry for fucking what?! I already said it!!”

“อ่าว เหี้ยนี่ พูดดีๆดิ่ ไมต้องฟักก้งฟักกิ้งไรวะ” แล้วที่เมิงพูดล่ะ ดีโคตร

“You should have shame for yourself!! You shouldn’t be in Thailand!”

“อ่าวเหี้ย! มึงด่าประเทศกูไมเนี่ยะ!!” กูด่าเมิงง่ะแหละ!! กูบอกว่ามึงมันความอัปยศของประเทศนี้ ประเทศนี้ดีจะตาย แต่เมิงน่ะมันตัวชิบหาย

“It has nothing to do with your country!! This country is great but you are shit!!”

“สัดนี่ ด่าประเทศกูอยู่นั่นแหละ ทนไม่ไหวแล้วนะเว่ย!!!” ไอ้ควายมันโวยวายแล้วพุ่งหมัดกะจะต่อยหน้าผม

แต่ผมหลบมันทันครับ ผมเคยเล่นรักบี้ตอนอยู่นิวยอร์ก เรื่องความไวผมเป็นต่ออยู่แล้ว แต่เห้ย!! มันขยับขามาจังหวะที่ขาผมหยับไปพอดี ผมเสียหลักล้มทันที มือผมก็กวัดไกวไปจับตัวมันหวังจะเป็นที่ยึด แต่แม่งเจือกเสียหลักมาพร้อมกัน แล้ว.........



............................
........................
...............
.........
...
..


T_____________________T

มึงเอาปากมาประกบกูทำม้ายยย ฮือออออ แถมแม่งยังมองกูตาค้างอีก มือมาโอบกุด้วย ออกป๊ายยยยยยยย

“Shit! Shit! Shit! Shit! Shit! Let me go!!” ผมตะเกียกตะกายดิ้นหลุดจากตัวมัน หน้าตอนนี้ทั้งผมทั้งมันแข่งกันแดง

“แม่ง ติดเสนียดหมด จูบกะผู้ชาย แม่งเอ๊ย” ยังกะกูอยากจูบมึงตาย!

ผมกับมันยืนมองกันอึ้งๆซักพัก แล้วในที่สุด ผมก็หมดความอดทน แล้วรีบเดินออกมาก

“เห้ย ยังเคลียร์ไม่จบเว่ย!! เห้ย!!”

ผมไม่ตอบครับ รีบเดินดุ่ยๆหนีขึ้นห้องไปเลย ใครจะกล้าอยู่ล่ะวะครับ อายก็อาย โมโหก็โมโห มันขนลุกไปหมด ยี้ๆๆๆๆๆๆ คืนนี้จะเอาเดคคอลกลั้วปากซักสามรอบ เย้ย!!


“อยู่ที่นี่สัปดาห์นึงคนเดียวเป็นไงมั่งล่ะ” แม่ผมถามหลังจากแม่มาถึงคอนโด (เข้าสู่หมด English to Thai translation กันอีกรอบนะฮ้าฟฟฟ)

“ก็ดีอ่ะแม่ ตอนแรกเจอเรื่องนิดหน่อย แต่ช่างเถอะ” ครับ เรื่องของไอ้บ้านั่นน่ะแหละ แต่หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เจอมันอีกเลย... ซึ่งก็ดีแล้ว ไม่งั้นคงน่ารำคาญแย่

“ตายและ นี่มาไม่กี่วัน แกไปมีเรื่องแล้วเหรอ”

“นิดหน่อยแม่ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว” ผมตอบพลางไขประตูห้อง

“แล้วนี่แม่ซื้ออะไรมาเนี่ยะ จากแอร์พอร์ตเหรอ”

“อื้ม พอดีแม่ผ่านร้านเค้กตรงนั้น เลยซื้อเค้กมาด้วยน่ะ”

“โหหห น่ากินจังเลยแม่ เค้กสตรอเบอรี่นี่นา” ผมร้องอย่างตื่นเต้นเมื่อเจอของโปรดของตัวเอง

“ของโปรดแกไม่ใช่เหรอแอนนี่”

“ช่ายยยยย ขอบคุณมากนะแม่นะ” ผมตอบพลางเลื้อยกลิ้งไปกอดแม่อย่างดี๊ด๊า โอ้ววว เค้กสตรอเบอรี่นี่แหละ สวรรค์ของผมเลย ผมมัวแต่เพ้อจนเพิ่งมาสักเกตว่าแม่กำลังจะหั่นเค้กแล้วแบ่งใส่จานหลายๆจาน

“อ่าวแม่ ทำไรเนี่ยะ”

“ก็กะจะแบ่งเค้กส่วนนึงไปให้ข้างๆห้องบ้างน่ะ”

“เฮ้ยยยย แม่ ไม่ต้องหรอก เราเอามากินเองนี่แหละ” แหงสิ แม่ จะเอาไปให้คนแปลกหน้าทำไมตั้งหลายชิ้น

“อะไรกันแอนนี่ แกกะมาอยู่นี่นี่จะไม่รู้จักพึ่งพาอาศัยอะไรใครรึไง” แม่ผมบ่น แล้วลงมือแบ่งเค้กลงจานสามจานแล้วส่งให้ผม

“อ่ะนี่”

ผมรับมาอย่างงุนงง

“แกเอาไปให้ห้องซ้ายมือเรา ห้องขวามือเรา แล้วก็ห้องตรงข้ามกะเรานะ โอเคมั้ย แล้วก็พูดดีๆล่ะ ถ้าเค้างงก็พูดไทยไป จะได้ฝึกด้วยปะ”

“โห่ ไรอ่ะแม่ ไม่เอาอ่ะ”

“แอนนี่ แกโตจนเข้ามหา’ลัยแล้วนะ นี่ดีนะที่แม่ไม่ให้แกไปเรียนที่ เนวาด้า ไม่งั้นแกอยู่หอคงไม่ยุ่งกะใครสิ” ก็จริงครับ

“เฮ้อออออ ไปก็ไป” ผมจำใจลุก “งั้นเดี๋ยวมานะแม่ อย่าแย่งผมกินหมดล่ะ”

“จ้าๆๆ”

ผมตัดสินใจกล้าๆกลัวๆในการเคาะแต่ละห้องอยู่นานครับ คนมันอายนี่หว่า เกิดในห้องเค้างงผมขึ้นมา หรือเค้ารำคาญล่ะ ยิ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้อยู่... แต่ปรากฏว่าผลออกมาก็ดีกว่าที่คาดครับ ห้องซ้ายมือผมเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ต้อนรับเราเป็นอย่างดี แถมคุยฝรั่งปร๋อจนเราสนิทกันได้ในไม่ช้า ส่วนห้องขวามือก็เป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก และคุณยายอีกหนึ่งคนที่น่ารักไม่แพ้กัน อัธยาศัยดี แบบนี้แหละครับความน่ารักของคนไทย ที่ผมว่าเป็นสเน่ห์ของ Land of Smile

แล้วทีนี้ก็เหลือห้องตรงข้ามผมนี่แหละครับที่ยังไม่ได้เคาะประตู... เป็นอีกครั้งครับที่ผมกล้าๆกลัวๆหลังจากที่ผ่านมาสองห้องแล้ว แต่ครั้งนี้ผมมีความมั่นใจมากขึ้นแล้ว เพราะสองห้องที่ผ่านมาน่ารักขนาดนั้น ห้องนี้ก็คงเช่นกัน... โอเค แอนนี่ ยิ้มกว้างๆ ทำเสียงสดชื่นไว้ ร่าเริงๆ แล้ว...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เงียบ... ผ่านไปซักพักนึงแล้วก็ไม่มีการเปิดประตูแหะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เงียบ... มันยังเงียบอีก เอาวะ ถ้าครั้งสุดท้ายยังเคาะแล้วไม่เปิดก็เข้าห้องละนะ คงจะไม่อยู่แล้วล่ะถ้าอย่างงั้น

ก๊อก ก๊อก....

กึกๆๆๆ

เสียงปลดล็อกประตูดังมาจากข้างใน โอเค เค้าเปิดและ อย่าลืมแอนนี่ เมิงแค่ยิ้ม แล้วพูดน่ารักๆเหมือนสองห้องที่ผ่านมา คุณเพื่อนบ้านห้องนี้จะเป็นยังไงนะ

ประตูเปิดแล้ว...

“Excuse me. I bring you some c…”





คำว่า Cake หายไปทันทีที่เห็นไอ้เพื่อนบ้านครับ



หน้าผมตอนนี้โคตรจะเหยเก เสียอารมณ์สุดๆเช่นเดียวกับหน้าไอ้เวรเพื่อนบ้าน ที่จะเป็นใครไปไม่ได้ล่ะครับ นอกจากไอ้ห่ารากตี๋ใหญ่นั่น ใบหน้าไม่รับบุญระคนอึ้งทึ่ง (แต่ไม่เสียว) เกิดขึ้นพร้อมกัน และผมก็เผลอสบถขึ้นมาเบาๆ

“What the …”

“Fuck” มันช่วยเติมคำสุดท้ายให้ ขณะที่เรายังยืนอึ้งกันอยู่ตรงนั้น






To be continued
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-12-2011 01:40:46
เนื้อคู่ประตูตรงข้าม
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 04-12-2011 09:09:30
ฮามากๆๆ  555

ชอบๆๆๆ  ฝึกภาษาดีด้วยแฮะ  อิอิ

+1  ให้เลยยย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 04-12-2011 09:33:36
ฮามาก :laugh: สงสัยแอนนี่เจอเนี้อคู่ละ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 04-12-2011 10:03:18
ชอบผู้ชายตี๋ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :z13:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: qwank8 ที่ 04-12-2011 10:57:39
ฝรั่งเคะหรือเมะ สัญชาตญาณบอกว่าเคะ -..-
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: cn9095 ที่ 04-12-2011 11:07:31
ชอบๆๆๆๆๆ

ชอบอ่านคำพูดภาษาอังกฤษ เอาเยอะๆเลยนะะคร้าบบบบบบ

รอๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 04-12-2011 11:30:04
5555555 มีการช่วยเติมคำสุดท้ายให้
ฮาดีอ่ะ ชอบบบบบบบ 
ตรงคำด่าตอนบทที่หนึ่งนี่แจ่มมาก  o13 ยาวพรึด อ่านคำด่าจุใจเลย -.-
อ่านเเล้วมันส์ ได้อารมณ์อยากด่าคนตาม   :laugh: (เอ๊ะ หมายความว่าไง??)
ชอบอ่านภาษาอังกฤษด้วย 
รอตอนต่อไปๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-12-2011 11:34:08
 :laugh:   ท่าจะหนีกันไม่พ้นแล้วละม้างสองคนนี้
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 04-12-2011 11:42:02
ฝรั่งเคะหรือเมะ สัญชาตญาณบอกว่าเคะ -..-

 o13  :z2: :z2: :z2: :z2:

5555555 มีการช่วยเติมคำสุดท้ายให้
ฮาดีอ่ะ ชอบบบบบบบ 
ตรงคำด่าตอนบทที่หนึ่งนี่แจ่มมาก  o13 ยาวพรึด อ่านคำด่าจุใจเลย -.-
อ่านเเล้วมันส์ ได้อารมณ์อยากด่าคนตาม   :laugh: (เอ๊ะ หมายความว่าไง??)
ชอบอ่านภาษาอังกฤษด้วย 
รอตอนต่อไปๆ  :z2:

อนุมัติให้เอาไปด่าได้ฮะ คนฟังคงเอ๋อเหรอเหมือนไอ้ตี๋แหละ วะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

และจากหลายๆความเห็น เรื่องภาษาอังกฤษจะพยายามเอาให้เยอะพอประมาณนะฮะ เพราะเยอะเกินไปเดี๋ยวจะมึนงงสับสนวุ่นวาย และคนแต่งอาจเขียนไม่รู้เรื่องเอง (เอ๊ะ?)  :o8:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: CrazierM ที่ 04-12-2011 12:20:09
ไม่ชอบแอนโทนี่เลยแฮะ หมั่นไส้ๆๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 04-12-2011 19:21:05
เนื้อคู่....ประตูตรงข้าม ๕ ๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 04-12-2011 20:16:42
ถือได้ว่าเป็นการฝึกภาษาไปในตัวนะ ชอบอ่านค่ะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-12-2011 08:59:12
 :mc4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 05-12-2011 09:41:04
555 ตลกมากกกกก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 05-12-2011 10:07:16
ขอบคุณทุกกำลังใจ และคำติชมนะฮว๊าฟฟฟฟฟ

ตอนสองตอนนี้ปั่นอยู่ได้เกินครึ่งแล้ว

แต่ตอนนี้คนเขียนอยากแวะมาบอกว่า สุขสันต์วันพ่อ วันนี้ทุกคนอย่าลืมบอกรักพ่อด้วยนะฮะ (จริงๆบอกทุกวันจะดีที่สุดเน้)






แล้วก็






ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 05-12-2011 10:32:20
ฮาอ่ะ  ตลกจัง :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Chapter 1 Part 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 05-12-2011 10:57:19
ตอนที่สองมาแล้วฮะทุกท่าน ม๊วฟๆ (แล้วเมื่อกี้ ตรูจะมาเม้นก่อนเพื่อ?? 555555+)










ตั้บๆๆๆๆๆๆ

อื๊อออ อะ อ๊า อิ อิไต๊

เสียงเนื้อกระทบกันดังเป็นจังหวะประกอบกับเสียงนางเอกหนังเอวีดังประสานกันช่วยเสริมความเสียวซ่านของผมได้เป็นอย่างดี โอห์... ซี้ดดดดด... หนังเรื่องนี้แม่งเจ๋งจริงๆ

ผมเร่งมือที่กำลังรูดขึ้นรูดลงอยู่ที่แท้งปรมณูขนาดมหึมาของผม (คิคิ ภูมิใจ) ร่างของผมที่เปล่าเปลือยเต็มไปด้วยเหงื่อขณะที่กำลังดูหนังโป๊ และเร่งให้เจ้ามังกรแผลงฤทธิ์

“โอออออออห์ ซี้ดดดด โอยย อาห์” ผมจะไม่ไหวแล้วครับตอนนี้ ใกล้เต็มทีแล้ว

“อะ อาห์”

อิหย๊า อื๊อออ

“โอ้วววว ซี้ดดดด”

อ๊า อ๊า อื๊ออออออออ

“อึก อะ อ๊า”




ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เวรเอ๊ย ใครมาเคาะประตูตอนนี้วะ หมดอารมณ์กันหมด

“เฮ้อออออ” ผมถอนหายใจหลังจากหมดความรู้สึกเสียวไปแล้ว ก่อนจะรีบแต่งตัวและกด pause ไปที่หนังที่ดูค้างอยู่

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

โอยยยย รู้แล้วๆ เคาะอยู่ได้กำลังเดินไปแล้วน่า

ก๊อก ก๊อก...

ผมรีบปลดล็อกประตูของผมก่อนที่มันจะเคาะไปมากกว่านี้ น่ารำคาญจริงๆครับ เคาะอะไรอยู่ได้ แถมเคาะก็ใช่ว่าเคาะแบบเบามือนะ

“Excuse me. I bring you some c…”

……………
……..

..
?????????????????????????????????????????????????????

เห้ย ไอ้ฝรั่งขี้นกนี่มายืนหน้าห้องผมได้ไงเนี่ยะ เวรกรรมจริงๆ  นอกจากมังกรจะไม่ได้พ่นไฟแล้ว ยังมาเจอไอ้นี่อีกแล้วเหรอเนี่ยะ แน่ะๆๆๆ มึงยังมาทำหน้าบู้เป็นตูดหมาตามกูอีก นึกว่ามึงเซ็งคนเดียวรึไง

“What the …”

“Fuck” อะกูเติมคำให้ ไหนๆ มึงก็จะอุทานคำเดียวกับกูอยู่และนี่














Chapter 2: สวัสดีเพื่อนบ้าน








“ม – มึงมาทำอะไรหน้าห้องกูเนี่ยะ” ผมถามหน้าตายังมู่ตู้อยู่

“I live in this room” มันตอบหน้าเซ็งๆ พลางชี้ไปที่ห้องฝั่งตรงข้ามผม... เอ้อออ มึงฟังภาษาไทยออกนี่หว่า ตอบกูได้เนี่ยะ... เดี๋ยวนะเห้ย เมื่อกี้บอกว่าอยู่ห้องไหนนะ

“เฮ้ย ม – มึงอยู่ห้องนี้เนี่ยนะ”ผมถามอีกอีก ซึ่งมันก็พยักหน้าตอบ “เห้ย!! อะไรวะเนี่ยะ ทำไมกูต้องมาเจอมึงบ่อยขนาดนี้เนี่ยะ”

“Like I what to! I don’t wanna be near you in 60 miles if my mom didn’t ask me to!!” เอ่ออออออ ฟังไม่รู้เรื่อง มันพูดอะไรวะ รู้แต่มีคำว่า มัม

“อะไรมึง พูดอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง”

“Huhhh. You’re such a pain in the ass” อ่าว อยู่ดีๆมาด่ากุอะไรแอ๊สๆ หาเรื่องกูอีก

“เห้ย อยู่ดีๆมาด่ากันงี้ได้ไงวะ อะไรแอ๊สมึง”

“Argggggh!!!! You are an idiot! I just bring this cake to you ‘cuz my mom ask me to, okay?” โอเค ฟังไม่รู้เรื่อง รู้แต่มันยื่นเค้กมา... อะไรเนี่ยะ เอามาให้ผมรึไง

“โอ๋ นึกว่าอะไร นี่มึงจะมาง้อกูใช้ม้ายเนี่ยะ” ผมยิ้มให้ แสดงออกว่า กูเหนือกว่า “โอเค้ มึงมาขอโทษกูก็ดี กูล่ะเบื่อจริงๆพวกฝรั่งอีโก้สูงเนี่ยะ”

“Huhhhh” มันถอนหายใจอีกรอบ ก่อนจะทำหน้าแบบเหลืออดกับผม พร้อมยกจานเค้กขึ้นมา

แพร่ด!!

เต็มๆครับ ผมได้เค้กมันเต็มๆ... เต็มหน้าผมนี่แหละ มันเอาเต้กที่จะให้มาโป๊ะหน้าผม สตอเบอรี่หอมหวนเต็มหน้า คงจะช่วยรักษาสิวผมได้เป็นอย่างดี เห้ย!! จะบ้าเรอะ ผมหมายถึง ไอ้ฝรั่งนี่แม่งวอนตีนใหญ่แล้ว

“ไอ้สัด!! มึงหาเรื่องกูนี่หว่า!!!” ผมยกกำปั้นเตรียมหาเรื่องมันเต็มที่

แต่ประตูจากห้องของมันก็เปิดออกก่อน จนผมต้องชะงักมือกลับ

“Annie, why are you taking a long time?? Oh!!” หญิงฝรั่งคนหนึ่งออกมาแล้วก็ต้องอ้าปากค้างกับความหล่อของผม.... ซะเมื่อไหร่ละครับ เค้าตกใจกับภาพตรงหน้านี่แหละก่อนจะรี่เข้ามาหาไอ้ฝรั่งนั่น “Wh – What’s going on here??!!”

“Mom, I just slipped and this guy is helping me” แม่? อ่อ ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ไอ้ฝรั่งขี้นกนี่อ่ะนะ... แต่เห้ย เดี๋ยวก่อน กูฟังที่มันตอแหออกนะเว่ย ไอ้นี่นิ่

“Gosh! How come you’re so clumsy!!” หญิงคนนั้นพูดอะไรเหมือนปรามๆลูกเค้าสักอย่างก่อนจะหันมาหาผม “เอ่อ ขอโทษแทนลูกชั้นด้วยนาคะที่แกซุ่มซ่ามไปหน่อยน่ะค่ะ”

“อ – เอ่อออ ม – ไม่เป็นไรครับ” เห้ย!! แหม่มพูดไทยได้????? แถมพูดชัดกว่าผมอีก อะไรเนี่ยะ เมพขิงๆ “จริงๆก็ช่วยๆกันไปน่ะครับ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”

“ขอบคุณมากนะคะ ยังไงเพื่อเป็นการขอโทษ เชิญคุณมาทานเค้กกับเราก่อนก็ได้นะคะ”

“เอ่ออออ ไม่เป็นไรดีกว่าฮะ รบกวนเปล่าๆ” แหงล่ะครับ ใครจะอยากไปเข้าห้องไอ้ฝรั่งขี้นกนี่... ถึงแม่มันจะดูใจดีก็เหอะ

“It’s alright. ไม่ได้รบกวนอะไรเลยค่ะ มาเถอะ” คุณแหม่มพูดจบก็เข้ามาลากมือผมไปที่ห้องเค้าโดยมีหน้าไอ้ฝรั่งขี้นกมองอย่างค้านๆ เช่นเดียวกับหน้าผมที่เอ๋อรับประทานไปเช่นกัน




หลังจากผมล้างหน้าล้างตาในห้องของไอ้ฝรั่งเรียบร้อย แม่ของมันก็ให้ผมกินเค้กเพิ่ม ซึ่งดูเหมือนไอ้ฝรั่งมันจะไม่ชอบใจมากนัก คาดว่าคงจะไปแย่งของมัน ผมจึงหันไปยิ้มเยาะมันอย่างมีชัย คิคิ สะใจว่ะ

“เอ่อออ ดิชั้นชื่อ นาตาชาค่ะ นาตาช่า แมคอาดัมส์” คุณแม่ฝรั่งผมน้ำตาลบอก ก่อนจะผายมือไปที่ไอ้ฝรั่ง “ส่วนนี่ แอนนี่ค่ะ แอนนี่ แม็คอาดัมส์”

พรืด… อะแฮ่มๆๆ

“ขอโทษครับ พอดีเสลดติดคอนิดหน่อย” ผมพูดเสียงอ่อยๆหลังจากพยายามเปลี่ยนจากการหัวเราะ มาเป็นกระแอม ผู้ชายบ้าอะไรชื่อแอนนี่ แต๋วชะมัด... เหมือนมันจะรู้ครับว่าผมขำ หันมาค้อนใหญ่ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจครับ ยักไหล่ยิ้มๆ (วะฮ่าๆๆๆๆๆๆ) “ผมชื่อ พริก ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”

พรืด… อะแฮ่มๆๆ  :beat:

ไอ้ฝรั่งชื่อแต๋วหัวเราะพรืดชัดเจนกว่าผม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกระแอมเช่นกัน ทั้งผมทั้งคุณนาตาชาหันไปมองมันสายตากินเลือดกินเนื้อ มันจะขำอะไรชื่อผมวะครับ?? มันโบกไม้โบกมือเชิงขอโทษ แต่หน้ามันยังคงยิ้มอยู่ ตอนนี้ผมก็แอบเห็นคุณนาตาชายิ้มเล็กๆแล้วครับ


“Sorry, I just… think of something… Prick”

พรืด… อะแฮ่มๆๆ

เห้ย อะไรเนี่ยะ คราวนี้เป็นคุณนาตาชาแอบขำแทน  o22

“Ah! Sorry. รู้สึกเจ็บคอเหมือนกันนะค่ะ Anyway, คุณ – พริก ต้องขอโทษอีกทีเรื่องเมื่อกี๊นะคะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่แอนนี่แกพูดไทยไม่ค่อยได้น่ะค่ะ” อย่าเปลี่ยนเรื่องสิโว้ยยยยย ชื่อกูมันฮาตรงหนายยยยยย - -****  :sad4: มันได้แต่คิดอย่างงั้น แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปหรอกครับ มันคงน่าเกลียดกับผู้หลักผู้ใหญ่

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ว่าคุณนาตาชานี่พูดไทยคล่องจังเลยนะครับ”

“อ่อ พอดีเมื่อก่อนดิชั้นเคยมาอยู่เมืองไทยนี่แหละค่ะ อยู่มาห้าปีก็เจอกับพ่อแอนนี่เค้า แล้วเราก็ย้ายกลับไปอเมริกาหลังจากชั้นมาอยู่ได้สิบเอ็ดปี”

“อย่างงี้ก็แสดงว่า แอนนี่เป็น...”

“Yep, I’m half-caste”  :try2: :undecided:???? อะไรแคทๆของมันนะ แมวเหรอ?? ซึ่งเหมือนคุณนาตาชาแกจะเห็นผมทำหน้างงๆน่ะครับ

“แอนนี่หมายถึงว่า แกเป็นลูกครึ่งน่ะค่ะ” อ๋ออออออ อย่างงี้นี่เอง ไอ้แค้ทๆไรนี่แปลว่าลูกครึ่งสินะ แต่จะว่าไป ไอ้หมอนี่ดูไปดูมาก็หน้าโซนเอเชียได้เหมือนกันนะ บางมุมก็ฝรั่ง บางมุมก็เอเชีย เอ้ออออ ก็หล่อแบบสองภูมิภาคดีแหะ.... แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับเค้านะคุณ อย่าคิดไปไกลฮะ

“แล้วงี้ - ไมพูดไทยไม่ได้ล่ะ ….แอนนี่” ผมหันไปถามมันด้วยสีหน้าฝืนพูดสุดๆ แกล้งพูดสุภาพกะมันนี่มันกระดากปากจริงๆ แต่ทำไงได้ แม่มันอยู่ ด่าไม่ได้  :try2: ซึ่งเหมือนมันเองก็ทำหน้าฝืนรับฟังผมพูดไปนะ

“I can but….. ซำเนี๊ยงมันออกหมาร์แปลกค์หมายเล่อะห์ (สำเนียงมันออกมาแปลกมั้ยล่ะ)” ........พรืดดดดดดดดดดดดดดด วะฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอยยยยยยยยย  :laugh3: :haun5: :m20: :laugh: :jul3: ไม่เคยได้ยินฝรั่งคนไหนพูดออกมาแล้วฮาขนาดนี้ ไม่สิ ไอ้นี่มันลูกครึ่งด้วยซ้ำ

“อะ อะแฮ่ม ขอโทษครับ” ผมรีบกลั้นหัวเราะทันที ลืมไป แม่มันอยู่

“ไม่เป็นไรหรอกค่า” คุณนาตาชาพูดกลั้วหัวเราะ “ดิชั้นเองยังขำเลย คนอื่นได้ฟังก็หัวเราะกันทั้งนั้น อ้อเดี๋ยวขอตัวไปล้างจานก่อนนะคะ”

เธอว่าพลางเก็บจานทั้งหมดแล้วหายไปในห้องครัว ทิ้งผมไว้ให้อยู่กับไอ้แอนนี่

หลังจากเธอไปได้ไม่นาน ผมก็อดไม่ได้ครับ ขอกัดมันซะหน่อย

“นี่ แอนนี่” ผมลากเสียงพลางขยับตัวไปใกล้ๆมัน พยายามทำท่าสะดี้ดสะดิ้งกวนโอ๊ยที่สุด  :m3: มันมองมาหน้าตาเหลอหลา

“……What?”

“เป็นตุ๊ดรึเปล่าเนี่ยะเทอร์ ชื่อแอนนี่เนี่ยะ น่ารักเชียวนะยะ” กัดไปได้หนึ่งดอกครับ เล่นซะไอ้ฝรั่งหน้าเสียเลย

“It’s Anthony. Annie is just my nickname”

“แล้วทำไมมึงไม่ชื่อเล่นชื่อ โทนี่ล่ะวะ แหมมมมมม เมิงอยากชื่อแอนนี่เองก็บอกมาเห๊อะ”

“Noooo! Everyone calls me Annie. I don’t know why and that’s it.” วะฮ่ะๆๆๆๆ แม่งเถียงไม่ออกครับ หน้าตาเอ๋อยิ่งกว่าเดิมอีก

“Oh – By the way, why is your name Prick?” เวรกรรม สวนคำถามมาอีก เอ๊ะ ว่าแต่ชื่อผมมันเอาไปแซวอะไรได้วะเนี่ยะ

“อะไรมึง ก็พริกไง กินแล้วเผ็ดๆ” ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าผมแสดงความงงงวยแค่ไหน

“Really? You really don’t mean anything else?” มันถาม หรี่ตาทำหน้ามีชัย

“ม – มันมีความหมายอื่นด้วยเหรอวะ” ก็ผมไม่แน่ใจนี่ครับ

“Awwww. How naïve you are”

“ล – แล้วมันแปลว่าไรล่ะเห้ย ไม่บอกกุ”

มันหัวเราะเยาะเย้ยผมอีกรอบครับ (อายชิบเลยตรู) แล้วมันก็ชี้มาที่หว่างขาผม

“เห้ยๆๆๆๆ! ทำเหี้ยไรมึง อยู่ดีๆมาชี้เป้ากู” ผมโวยวายแล้วรีบเอามือปิดทันที

“Calm down, you idiot! I didn’t even want to point at yours” มันทำหน้าขึงขังก่อนอธิบายต่อช้าๆ “It’s a slang word means…”

“Penis” มันพูดชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะยิ้มกว้าง หน้าผมเริ่มแดงแล้วครับ  :o8: อายชะมัดเลยเห้ย!! ชื่อกูทำไมมันกลายเป็นแปลว่า โอโบ๊ะจามะ ไปได้ว้า อ๊ากกกกกก!!!

“เห้ย! เมิงอย่ามามั่วซั่วนะ!! ชื่อกุเนี่ยนะจะแปลว่า ค-ย!! เมิงจะหลอกด่ากูก็บอกมาเหอะ!!”

“I’m serious” เมิงบอกเมิงซีเรียส แต่หัวเราะไปด้วยเนี่ยนะ “You can ask my mom if you want to”


T____________________T

มีหลักฐานยืนยันอีก ฮือออออ ตอนแรกจะแกล้งมัน กลายเป็นมันแกล้งกลับเลยงานนี้ โชคดีนะเนี่ยะ คุณนาตาชากลับมาพอดี

“คุยอะไรกันอยู่เหรอคะ ดูสนิทกันเร็วดีจังเลย” เข้าใจผิดแล้วครับ

“เอ่ออออ ป – เปล่าครับ พอดีทำความรู้จักแอนนี่นิดหน่อยน่ะฮะ ฮ่ะๆๆๆๆ”

“Mom, he just wondering t-“ ผมรีบกระโจนไปปิดปากมัน ทำให้คุณนาตาชาทำหน้างงๆ

“อ่อๆๆๆ ผมแค่สงสัยว่า คุณนาตาชาทำงานอะไรน่ะครับ ฮ่ะๆๆๆๆๆ” เฮ้ออออออ เกือบแถไปไม่ถูก

“เอ๊ด อี โอออออ (Let me go)” มันโวยวาย ผมเลยปล่อยมือออกจากปากมันครับ มันก็หันมาค้อนใส่ผมอีก เอ๊า ไอ้นี่! กุผิด??

“ดิชั้นทำงานให้สถาบันภาษา International Language Institute ในประเทศไทยน่าค่ะ”

“อย่างงี้คุณนาตาชาก็เป็นครูสอนภาษาเหรอครับ”

“ใช่ค่ะ”

“ถ้าอย่างงั้นก็ดีเลยสิครับ พอดีผมอยากจะหาที่เรียนภาษาอังกฤษอยู่พอดี ถ้ายังไงช่วยสอนให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ”

“อ่อ ได้สิคะคุณ – พริก” -_-“”

“แต่ดิชั้นว่า...” หือ อะไรครับคุณนาตาชา มีแต่ดิชั้นว่าด้วยเนี่ยะ “ดิชั้นว่า ให้แอนนี่สอนให้ดีกว่ามั้ยคะ”

........................
.....................
...............
..........
.....
..

เห๊ะ?? ผมหูฝาดรึเปล่า

“อะฮ่ะๆๆๆๆ ไม่เป็นไรมั้งครับ เกรงใจแอนนี่เค้า”

“Yep, couldn’t agree more” ไอ้ฝรั่งช่วยเสริมจริงจัง

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดีซะอีกนี่คะ ยังไงดิชั้นก็กะอยากจะฝากแอนนี่ให้เรียนภาษาไทยกับคุณพริกอยู่แล้ว ถ้าลูกคนนี้เกิดเข้ามหา’ลัยแล้วใช้ภาษาไทยไม่ได้ คงสื่อสารกับเค้าลำบากน่าดูเลยค่ะ” กลายเป็นงั้นไป! จะให้ผมสอนไอ้เด็กฝรั่งนี่ด้วยเนี่ยนะ “คุณพริกจะได้เรียนภาษาแบบไม่ต้องเสียเงินเลย ถ้าเรียนกับดีชั้นนี่ต้องเสียเงินนะคะ”

เอออออ ก็จริงนะได้เรียนฟรี เห้ย!! มันใช่ประเด็นซะที่ไหนล่ะครับคุณนาตาชา

“อ – เอ่อออ คุณนาตาชาครับ ผมว่า –“

Oh my pretty pretty boy I love you
Like I …


โทรศัพท์คุณนาตาชาดังขึ้น ไอ้โทรศัพท์บ้า!!

“เอ่ออ งั้นตกลงตามนี้นะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะคุณพริก” เธอก้มหัวเล็กน้อยขอบคุณผม โดยมีผมกับไอ้ฝรั่งนั่งหน้าเอ๋ออยู่ “ดิชั้นขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”

แล้วเธอก็เดินออกไปพร้อมความงุนงงของผมและไอ้ฝรั่ง ไอ้ครั้นผมจะปฏิเสธคุณนาตาชาอีกก็กระไรอยู่ ก็นางเล่นคิดซะว่าผมรับปากไว้แล้วซะด้วย แต่จะว่าไป ทนๆกับไอ้ฝรั่งนี้อีกหน่อยละกัน ถ้ามันทำตัวน่ารำคาญก็ค่อยเตะโด่งมันก็ได้ เฮ้อออออ

“ฟังนะ พรุ่งนี้มึงมาที่ห้องกู แล้วเดี๋ยวกูจะเตรียมเรื่องที่จะให้มึงสอน แล้วกูจะสอนมึงด้วย เข้าใจมั้ย” ผมทำหน้าเซ็งหันไปบอกกับมัน “กูก็ไม่ได้อยากจะสอนไรมึงนักหรอก ถ้าไม่ติดว่าแม่มึงขออ่ะนะ”

“Like I want to” แม่งตอบหน้ากวนตีนมาอีกครับ - -*

“เออ!” ผมตอบเซ็งๆก่อนจะเดินไปลาคุณนาตาชา แล้วเดินกลับมาที่ห้องผม

เฮ้อออออ ความซวยของผม ทำไมมันไม่หมดซะทีวะครับ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากสอนกันมาสามวัน ซึ่งสุดท้ายก็มาลงที่อิหรอบเดิม... ด่ากันทุกที ด่ากันไปด่ากันมา จนผมรำคาญมากแล้ว และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมพยายามจะใช้ความอดทนกับมันจนสอนมันได้เกินครึ่งชั่วโมงเป็นครั้งแรก (เช้ดดดดดดดดดดด)

“ผม – อา – ยุ – สิบ – แปด – ปี อ่ะ ไหนมึงลองพูดดิ๊” ผมค่อยๆชี้สะกดคำทีละตัวที่เขียนในกระดาษให้ไอ้ฝรั่งดู

“พอมอายูสี่แป๊ทผี” -*-

“โอยยยย ไม่ใช่ๆๆ ผม – อา – ยุ – สิบ – แปด – ปี”

“พ้มพะยูนซี่แพทปี้”  :undecided:

“ปี้เหี้ยไรมึงล่ะ ปีๆ กูบอกว่าปี ก็ปีดิ่”

“I’m trying!! Okay??”

“เฮ้อออออ เออๆๆ มึงไปท่องคำนี้มาด้วยแล้วกัน” ผมตอบอย่างรำคาญ ก่อนจะเปลี่ยนมาชี้ประโยคภาษาอังกฤษที่ไอ้ฝรั่งเขียนโน้ตมาให้ผมบ้าง “มึงมาสอนคำนี้กูมั่ง”

“Okay, this sentence is used in the situations like when you apply for a job and –“

“มึงไม่ต้องอธิบายยาวหรอก สอนกูมาเหอะ” ฝรั่งขี้นก หันมาทำตาเขียวใส่ผมทันที ตากูไม่แคร์หรอก ยักไหล่ ไม่ใส่ใจ อะฮุฮุฮุ

“Huhhhh. Well, repeat after me” มันบอกก่อนจะชี้ไปที่แต่ละตัวอักษร “I would like to apply for a job and this is my resume”

“ไอวู้ดไลค์ทูแอพพายฟอร์อะจ้อบแอน... แอนอะไรนะ”

“And this is my resume”

“แอนดิ้ดอิ๊ดมายเรซูมี่”

“No, No, No, No, No. ‘Re-su-me’ (เรซูเม่) not ‘Re-su-myyyyy’ (เรซูมี่) and ‘This is’ not ‘did id’, alright. Try again… And let’s not see the note” แล้วมันก็ดึงโน้ตคำที่มันเขียนออกไป

“ไอวู้ดลายทูแอพพลีฟอร์โบลจ๊อบ...”

“Stop! Stop!... What the fuck is that blow job about??!” มันโวยวาย

“เอ๊า กูจำไม่ได้นี่หว่า จำได้ว่า จ๊อบๆ กูก็นึกออกแต่ โบลจ๊อบ นี้แหละ”

“You are such a perv!!”

“เพิ้บไรวะ เพอเฟ็ค??”

“I mean pervert เว่ย!!” แน่ะ ที่คำด่าละมึงชัดถ้อยชัดคำไทยเลยนะเห้ย!!

“เอ๊า!! ไอ้นี่ ก็คนมันจำไม่ได้จะให้กูทำไงล่ะวะ!!”

“Man!! Why don’t you try to focus on the lesson!!!”

“กูไม่ได้ใช้โฟกัสโว้ยย!! กูใช้ทรอซ!!”

“What??”

“อะไรวะ! โฟกัสไงมึง ยี่ห้อโรลออนไง เอ๊อ ไอ้นี่จวยว่ะ”

“Not that deodorant, you stupid! I mean try to listen to what I say, okay? If you don’t listen to me and speak properly I think you might speak some simple sentences like ‘I love cats’ or ‘I want to eat McDonald’ when you are 60!!!! Damn, Focus!!”

“แล้วมึงพูดมาอย่างงี้กูจะฟังรู้เรื่องม้ายย!!!”

“I already speak slowly!!! You dumb!”

“กูดำตรงไหน!! กูผิวคล้ำเฉยๆเฟ่ย!!”  :o211:

“Gosh!! Why can’t you try to understand what I said?”

“พูดให้กูรู้เรื่องหน่อยสิวะ!! อย่างงี้กูจะสอนเมิงได้ม้าย!!”

“I tried every single damn method to make you understand clearly but you don’t!!”

“เมิงพูดอะไรของเมิ้งงงงงงงงงงงงง กุฟังไม่รู้เรื้องงงงงงงงงง”

“Ah, forget it. I’m tired” มันโบกมือโบกไม้หลังจากเบื่อหน่ายกับผม ซึ่งผมเองก็ไม่ต่างกัน คุยกันได้ไม่กี่คำก็ไม่รู้เรื่องแล้ว “I’m gonna leave now”

“เออ ไปเหอะมึงง่ะ ใครเค้าอยากให้มึงอยู่”

มันถอนหายใจ ก่อนจะหันมามองหน้าผม

“Bitch, be glad I walked in”

“อ่าว ไอ้เชี่ยนี่ด่ากุนี่ไอสัด” ผมรีบวิ่งจะไปกระโดดถีบนอดหน้ามัน แต่มันวิ่งเร็วกว่า ฝรั่งอะไรวะ วิ่งเร็วยังกะลิงลม ตลกจริงๆ 555555+ เอ่อออ.... แต่ก็น่ารำคาญชิบโป้งน่ะนะ

โอยยยยย แล้วอย่างงี้บทเรียนภาษาอังกฤษของผมจะไปรอดมั้ยเนี่ยะ... แล้วบทเรียนภาษาไทยของมันจะไหวมั้ย... คือผมไม่ได้ห่วงมันนะคุณ แค่คิดว่ามันจะไหวมั้ย แค่นิดนึง = =”




To be continued
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 05-12-2011 12:42:51
อุ๊ย เสียงเรียกเข้ามือถือของนาตาช่าเพลงเดียวกะเค้าเลย

แล้วคลาสสอนภาษาคลาสนี้จะไปรอดไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: dezzetoeiiz ที่ 05-12-2011 12:55:13
 :m20: :m20: เอ๊อะ จะไปรอดกันยังไง อีท่าไหนวะคู่นี้เนี่ยยยย
เห็นทีจะมีแต่ด่ากันตลอดศก ขำคุณ ... พริก จริงๆนะ แหม่ เถียงแต่ละอย่าง ฟังแอนนี่ไม่ออกก็เลยไม่รู้จะเถียงยังไง  :laugh:

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: JangBouyoung ที่ 05-12-2011 13:38:01
 :laugh: หัวเราะค้างงง แล้วจะไปกันรอดป่ะเนี้ยะะะ ต่างคนต่างพูดไม่รู้เรื่อง กร้ากกกกก :m20:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 05-12-2011 14:22:14
Goshhhhhhhhhh ฮาวคัม ฮาวคัม ฮาวค๊ามมมมมมมม  :m20: :m20:

พริก turns to Prick     :laugh:

เข้ามา หัวเราะ อ่านแล้วฮาก๊าก

ชอบค่ะ !!

อ่านแล้วได้ขุดภาษาในกรุออกมาลับๆขัดๆ ถูๆ ไปในตัว

สารภาพว่าความจริงอ่านตั้งแต่ตอนแรกที่เอามาลงแล้ว

แต่ไม่มีจังหวะได้เม้น ( เม้นในมือถือมันช่างลำบากลำบน ฮ่วย !)

วันนี้ฤกษ์ดี เอาเป็นว่า เม้น กะ บวก +1 ให้จ้ะ   :mc4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 05-12-2011 14:29:17
พริก ... เพิ่งรู้อ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-12-2011 14:36:11
เรียนไปด่าไป มันคงจะรู้เรื่องอะนะคะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 05-12-2011 14:45:38
รุนแรงกันจริงๆ เดี๊ยวสุดท้ายแอนนี่คงจะด่าไทยได้ชัดเจนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: diFil ที่ 05-12-2011 14:59:17
กรี๊ดด ชอบบ 5555
อ่านไปนั่งขำไปค่ะ  :laugh: :laugh:
รอลุ้นแอนนี่กับ PRICK 555
บวกเป็ดให้นะคะ รอติดตามค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 05-12-2011 16:04:33
เพิ่งเข้ามาอ่าน
เหมือนได้ฝึกภาษาไปในตัวเลย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 05-12-2011 17:06:48
อ่านไปสองตอน ฮาเิงิบ :m20:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 05-12-2011 17:07:33
ช่วยสอนคำว่ารักให้แอนนี่ทีสิ พริก ฮ่าๆๆ o13
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 05-12-2011 17:24:28
เชียร์แอนนี่ รับ วะ ฮ่าๆๆๆ :laugh: :laugh:

Prick Opp!!!  :laugh:

I like this name. Ha ha ha   I  can't say a word... :z2: :z2:

I think everybody like it.

Finally, Please Up Up Up and Up  o18
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 05-12-2011 20:19:07
จริงๆแล้วคำว่า Prick นอกจากแปลว่า โอโบ๊ะจามะ ในลักษณะของศัพท์แสลงแล้ว ยังใช้ในการด่าได้อีกด้วยครับ เช่น

That prick stole my boyfriend!! เป็นต้นนะฮะ

แล้วก็เป็น verb ได้ด้วยนะ แปลว่า ทิ่ม เสียดแทง (...เอ่อะ ไมมันส่อจังวะ  :oo1:)

นั่นแหละครับ เค้าก็เลยไม่ได้ใช้คำนี้กัน ไม่ว่าจะคำนาม หรือกริยาก็แล้วแต่อ่ะนะ

แวะมาแปะข้อมูลเล็กน้อยฮะ ตอนที่สาม เริ่มเขียนไปนิสนุงแล้ว ใจเย็นๆกันนะฮว้าฟ จุ๊บุจุ๊บุ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 05-12-2011 20:44:06
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ เหมือนฝึกภาษา   :laugh:

แต่ลดๆการใช้อีโมรูปภาพ  (   o13 o22 :o8:  ) อีโมติค่อน -*- = =; หน่อยนะคะ  แล้วก็ 55555+ ด้วยค่ะ อ่านแล้วขัดๆแปลกๆ   :L2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 05-12-2011 20:52:36
ท่าทางจะตีกันตายก่อนรู้เรื่อง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: kogomon ที่ 05-12-2011 22:35:00
+ 1 ให้กับเรื่องฮาๆ ครับ

แถมได้ขุดภาษาอีก

^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 05-12-2011 23:28:48
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ เหมือนฝึกภาษา   :laugh:

แต่ลดๆการใช้อีโมรูปภาพ  (   o13 o22 :o8:  ) อีโมติค่อน -*- = =; หน่อยนะคะ  แล้วก็ 55555+ ด้วยค่ะ อ่านแล้วขัดๆแปลกๆ   :L2:

ขอบคุณมากฮะ จะพยายามลดๆลงดูนะฮีาฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: OTAKKIEZ ที่ 06-12-2011 20:16:49
กลายเป็นทั้งคู่จะได้คำด่ามาแทนล่ะมั้งเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: qwank8 ที่ 06-12-2011 20:26:50
ชอบบบฝรั่งงะ  :man1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 07-12-2011 14:03:23
ตอนที่ 3 มาแล้วครับ ช่วงนี้คนเขียนยุ่งๆกับชีวิตนิดหน่อย อาจจะมาอัพนิยายช้ายังไงต้องขอโทษด้วยนะฮะ ^ ^  :call:






“มีนเมินเหี้ยไร กูแปลไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่องเว้ย!!”

“ค้อเมิงแม่งยับค่ายนี่วาร์ แทนเท้ชึทอนแร็พแค็กฮายมันดีแคร์นีน่อย!!! (ก็เมิงแม่งหยาบคายนี่หว่า แทนที่จะต้อนรับแขกให้มันดีกว่านี้หน่อย!!!)”

นั่นแหละครับผมเอง ผมเถียงมันเป็นภาษาไทย ยอมรับครับว่า ถึงจะเรียนกับไอ้ตี๋นี่แค่เดือนเศษ (ซึ่งก็เป็นเดือนเศษที่น่าหงุดหงิดมาก) แต่ก็ออกเสียงภาษาไทยหลายๆคำได้ชัดขึ้นบ้าง... โดยเฉพาะคำที่ใช้ด่ากับมันนี่แหละ

….. โอ้ ดูผมสิครับ หน้าตาตอนด่ากับมันนี่น่ากลัวจริงๆ ธรรมดาผมไม่ใช่คนนิสัยแบบนี้ซะหน่อย

“ไอ้นี่!!! ออกเสียงยังไม่ถูกยังทำกระแดะพูดไทยอีกนะมึง พูดก็พูดไม่รู้เรื่อง!!”

“เอ๊า!! And when I speak English, you don’t have the gut to understand it at all!!!”

“เอ๊า ไอ้นี่นิ่!! อยู่ดีๆมึงก็พูดอังกฤษ จะเอายังไงวะ!! กูฟังไม่รู้เรื่องเว้ย!!” (พริก) โอ้ ดูผมสิครับ แววตาเปร่งประกาย เกรี้ยวกราด การตะเบ็งเสียงที่เห็นเส้นเลือดที่คอเป็นมัดๆ ราวกับว่าผมอยู่ในสงครามที่กำลังสู้อยู่กับทหารเลวชาวตะวันตก

(แอนนี่) หุบปากเหอะน่าไอ้ตี๋ น่าตาเมิงตอนด่า น่าเกลียดกว่ากูอีก... เห็นมั้ยครับคุณคนอ่าน ขนาดตอนบรรยาย เราสองคนยังอดจะทะเลาะกันไม่ได้ ก็ไอ้เจ้านั่นมันน่ารำคาญนิ่ครับ... ว่าแต่ว่า ตอนนี้มันเป็นตอนของผมไม่ใช่เหรอ คุณคนเขียน ทำไมให้ไอ้นี่โผล่มาด้วยล่ะ Hey!!












Chapter 3: The Lost Key


เรื่องของเรื่องที่เราทะเลาะกันใหญ่โตมันไม่ได้มาจากแค่เรื่องภาษาหรอกครับ แต่มันเกิดจากว่า...





(เมื่อสองวันก่อน)

“เอ้อ ตายจริงแอนนี่แม่ลืมไปเลย” แม่ผมสะดุ้งตัวขึ้นระหว่างที่เราทานข้าวกันอยู่

“หือ? อะไรแม่” ผมถามขณะสูดเส้นบะหมี่ต้มยำไม่ใส่พริก (อี๋ๆๆๆๆ ชื่อนี้ไม่อยากจะพูดเลย) ไม่ใส่ขิง ไม่ใส่น้ำพริกเผา และไม่ใส่กะทิ (แหม ผมกินเผ็ดไม่ได้นี่)

“แม่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้มีสัมนาที่ต่างจังหวัด ไปสามวัน”

“เอ๊า ไม่บอกซะมะรืนนี้เลยล่ะแม่”

“ก็มันเพิ่งนึกได้นี่นา”

“แล้วคือยังไงอ่ะ “

“อ่าว แล้วเราอยู่ได้มั้ยล่ะคนเดียว”

“แม่ อย่าลืมสิว่าผมอยู่คนเดียวมาสัปดาห์นึงก่อนแม่จะมาอีกนะ อยู่ได้อยู่แล้วน่า”

“อืมม งั้นก็ดี แม่จะได้อุ่นใจ ถ้ามีอะไรก็โทรมาบอกแม่แล้วกัน”

“รับแซบ!!”


แล้ววันรุ่งขึ้นแม่ก็ออกไปสัมนาแต่เช้า ซึ่งแน่นอนว่านั่นหมายถึงเวลาของ...... อิสรภาพ!!!! เยี่ยมจริงๆ อย่างงี้ผมก็ไปเที่ยวไหนก็ได้ตามสบายโดยไม่ต้องมีแม่มาคอยคุม เยส!! งานนี้แหละ พารากอนจ๋า เซนทรัลเวิร์ดจ๋า สยามจ๋า มาบุญครองจ๋า อยากไปมานานแล้ว วี้วววววว!!!  :mc4:

แล้วเมื่อวาน กับวันนี้ของผมก็หมดไปกับการเดินเล่น ช็อปปิ้ง ตามย่านวัยรุ่นของคนไทย จะว่าไปเด็กสยามนี่ก็หน้าตาดีเยอะนะครับ ดูเป็นดารากันได้แทบจะทุกคนเลย แถมยังตาถึงกันเยอะซะด้วย เพราะผมมักจะเห็นสายตาหวานแหววที่ส่งมาให้ผมเป็นระยะๆ เอิ๊กๆๆๆๆ ช่วยไม่ได้นะ คนมันหน้าตาดีก็อย่างงี้แหละ










(เมื่อวานนี้)

Don’t cry for me Argentina
The truth is I never left you…


เอ๊ะ ใครโทรมาตอนนี้วะ กำลังเลือกเสื้อใหม่อยู่เลย

“Hello?”

“ไอ้ฝรั่ง มึงอยู่ไหนวะ” ไอ้... พริก (วะฮ่าๆๆๆๆ) เวรแล้วไง ลืมไปเลยว่าต้องเรียนภาษา

“E – errrrr, today I’m kinda busy ว่ะ Maybe we should skip class today”

“หือ?? เอางั้นเหรอ?”

“Yep. I’m so busy right now” ผมตอบขณะที่ได้ยินเสียงมันร้อง ‘เยส’ เบาๆจากปลายสาย

“เออๆ โอเคๆ ไม่เป็นไรนะเว่ย ตามสบายเมิงเลย พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ยันสัปดาห์หน้า ถ้าไม่ว่างก็ได้นะ กูไม่ซีเรียส” มันพยายามตอบแบบเก็บอาการดีใจครับ ไม่ใช่แค่เมิงคนเดียวว่ะไอ้ตี๋ กูก็ดีใจที่ไม่ต้องไปเจอหน้ามึง

“Okay. I take my time”

หลังจากนั้น ผมก็วางสายไปด้วยความรู้สึก... ดีใจสุดๆไปเล้ยยยย!! วู้วว!! เอาล่ะครับๆๆ ได้เวลาผมช็อปปิ้งต่อแล้ว ขอตัวก่อนนะแจ๊










(วันนี้)

ของพะรุงพะรังไปหมดเลยครับ วันนี้ผมไปเดินแถวประตูน้ำมา ที่ห้างแพลตตินั่ม ซึ่งมีเสื้อผ้าเยอะแยะมากมายให้เลือก ผมล่ะถูกใจไปหมดเลยครับ ถึงแม้เสื้อผ้าจะออกแนวคนละสไตล์กับที่เค้าใส่กันที่อเมริกาก็เถอะ แต่อย่างที่เค้าว่า ‘เข้าเมืองตะหลิว ต้องตะหลิวตาม’ (ใช่เหรอ?) ...นั่นแหละครับ เอาเป็นว่า เราก็ต้องตามเทรนด์ของบ้านนี้เมืองนี้กันหน่อยแหละนะ ผมก็เลยซื้อเสื้อผ้ามา แทบจะเรียกได้ว่า โละของเก่าเลยล่ะ

...แต่ว่า....... เอ๊ะ?? ทำไมผมล้วงกระเป๋าผมแล้วไม่เจอกุญแจห้องซะทีนะ?? อืมมมมม หาทุกซอกของกระเป๋าก็แล้ว กระเป๋ากางเกงก็แล้ว กระเป๋าเสื้อก็แล้ว เปิดดูในกางเกงในเผื่อจะเจอก็แล้ว อะเจ๊ย! จะบ้าเหรอ มันไม่อยู่ในนั้นหรอก!! แต่ยังไง ผมหาที่ไหนที่ไหนก็ไม่มี..... เฮ้ย.....

เง้ออออออออออออออ!!! กรูทำกุญแจห้องหายยยยยยยยยยยยย!!!  :sad4:

ซวยแล้วๆๆๆๆ จะทำยังไงดีล่ะครับเนี่ยะ แม่ก็ไม่อยู่ ไอ้กุญแจอีกอันนึงก็อยู่ที่แม่ผมซะด้วย งานนี้เข้าห้องไม่ได้ แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ยะ....

เฮ้อออออ งานนี้เห็นที คงต้องขออาศัยซักห้องที่เราทำความรู้จักไว้ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ซะแล้วล่ะ ....อ๊ะๆ!! คุณผู้อ่านอย่านึกเชียวนะว่าผมจะขอไปอยู่ห้องไอ้ตี๋ penis น่ะ ไม่มีทางหล่ะครับ ผมรำคาญมัน และมันก็รำคาญผม ไม่อยากจะเยื้องย่างเข้าไปในนั้นซะเท่าไหร่หรอก

ก๊อก ก๊อก ก๊อก
 
“Excuse me. Is anybody inside??” คำถามนี้เกิดขึ้นจากปากผมไม่รู้กี่สิบรอบแล้ว ผมเคาะประตูเรียกได้ว่าเกือบจะทุกห้องของชั้นนี้แล้วครับ แต่ทำไมนะทำไม... ทำไมไม่มีใครอยู่ในห้องกันเลยล่ะ ฮือออออ อย่างงี้ก็เท่ากับว่าผมน่าจะเหลืออยู่ตัวเลือกเดียวสินะ ฮือออออออ คุณผู้อ่านครับ มาถึงจุดนี้ เชิญจิ้นกันได้ตามอัธยาศัยเลย เพราะผมไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว กับการที่ต้องแบกหน้าไปเคาะห้องมันเนี่ยะ

“It’s gonna be alright, Annie…. Just one night” ผมปลอบใจตัวเองเมื่อมายืนอยู่หน้าห้องมัน แต่ทำไม คำปลอบใจผมมันดูส่อจังวะ

ตึก ตึก...

ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เหงื่อเริ่มไหลออกมาตามซอกมือ เสียงหัวใจผมดังชัดในหัวมากขึ้นทุกทีทุกที...

ตึก ตึก ตึก ตึก...

ผมค่อยขยับเข้าไปใกล้ประตูห้องมันมากขึ้น จังหวะหัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างน่ากลัว...

ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก...

ผมค่อยๆยกมือขึ้นช้าๆ เพื่อเตรียมเคาะประตู...

ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก...

“Alright, Annie. Just knock it!” ผมบอกตัวเอง ก่อนจะเริ่มเคาะประตู แต่แล้ว....

แอ๊ดดด

“มึงมีไรมึงก็พูดมา กูเห็นมึงยืนทำหน้าเป็นหมาแดกขี้อยู่หน้าห้องกูห้านาทีได้และ” ไอ้ตี๋พูดขึ้นหลังจากเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าเอือมสุดๆ

“W – Wait!! How could you know that I’m gonna knock the door??” ผมถามสีหน้าเหวอ

“ห๊ะ?? อะไรนะ” แม่งทำหน้าเอ๋อกวนทีนอีกและ

“The door!! How could you know!! I’m gonna …” ผมเคาะประตูหลังพูดจบ เผื่อไอ้เอ๋อนี่จะรู้เรื่องขึ้นมาบ้าง

“อ๋ออออ ก็มึงเล่นเดินเคาะทุกห้องในชั้นนี้ แถมพูดซะดัง กูจะไม่รู้ได้ไง” เอ่อะ มันพูดมางี้ ผมอายเลยครับ

“แหน่ะๆๆๆ เป็นไรเมิง อายอ่ะดิ่ หน้าแดงเป็นตูดลิงบาบูนเลย” มันแหย่แล้วหัวเราะกวนประสาท

“Shut up! I’m not that embarrassed”

“เออ เมิงจะพูดอะไรเมื่อกี้ก็ช่างเหอะ ว่าแต่ เมิงมีธุระอะไร”

“......” มันไม่กล้าพูดออกมาอ่ะสิครับงานนี้ จะมาขออยู่กับคนที่ด่ากันทุกวัน มีหวังบอกไป ผมโดนมันด่าเช็ดแน่ๆ

“อ่าว ไม่พูด??” กูไม่รู้จะพูดยังไงโว้ย

“E – Errrrr, Well….. Errrrrr”

“มึงเป็นกะละมังเหรอ น้ำเอ่อ รึไง??” มุขอะไรเมิงวะ แป้กชิบ

“No! I just…. Errrrrr……”

“จั๊สอะไร?”

“เฮ้อออออ” ผมถอนหายใจก่อนจะยอมบอกด้วยความอาย “คูเพิ่ร์งทำคุณแชฮ้องห้าย (กูเพิ่งทำกุญแจห้องหาย)”

“........???????” สีหน้ามันตอนนี้เป็น Question mark แล้วครับ “พูดเหี้ยไรมึงเนี่ยะ อิงลิช พลีส”

“I lost my key! I can’t enter my room, okay!?” ผมขึ้นเสียงเพราะทั้งอาย ทั้งสุดจะทนกับหูของไอ้พริก

“อ่าฮะ... แล้ว??” ไอ้นี่ ไม่ได้มีน้ำจิตน้ำใจจะช่วยเหลือกูเลยรึไง

“แลว what?! I can’t find a place to stay! My mom is going on a seminar!! She’s not here until tomorrow, okay??”

“เอ่อออออ...” มันทำหน้าเอ๋อ เรียบเรียงสิ่งที่ผมพูด “โซ ยูว้อนทูสะเตย์อินมายรู้ม??”

“That’s correct”

“เหอะๆ ฝันไปเหอะมึง กวนตีนอย่างมึง นอนเฝ้าโจรหน้าห้องกูดีกว่าว่ะ กร๊ากกกกก”  ไอ้เลวววววว แม่งจะปิดประตูใส่หน้าผมอีก ดีนะที่ผมยันประตูแล้วพยายามดันตัวเองเข้าไป

“เห้ยๆๆๆ!! อะไรมึง! กูไม่ให้เข้า!”

“ค้อคูชึเค้าอาร์ ซาร์ดดดดดด!!! (ก็กูจะเข้าอ่ะ สาดดดดดดด!!!)” ผมตะเบ็งเสียง ออกแรง และ

ตุ๊บ!!

สำเร็จครับ ผมผลักประตูเข้ามาในห้องมันได้ในที่สุด แต่ทว่า....

ขาของผมกับมันพันกันอีกแล้ว ไม่นะๆ นี่ผมจะล้มลงไปจูบกับมันอีกแล้วเหรอ ....ภาพตอนนี้สโลว์โมชั่นมากๆ ตัวของมันล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว ส่วนตัวของผมกำลังลอย และจะลงไปหามันแล้ว ใบหน้าของเราใกล้เข้ามา.... ใกล้เข้ามา... ใกล้เข้ามา.... และ.....



อั๊ก!! มันเอาเข่ายกขึ้นมากันครับ โอ้โห!! งานนี้เข่ามันกระแทกเต็มๆ แอนนี่น้อยแทบแตกสลายกันเลยทีเดียว

“Shit!!! It hurts!!!” ผมร้องเสียงหลง ขณะลงไปกลิ้งกับพื้น อื้อหือ หน้ามืดมากๆครับตอนนั้น ลมแทบจับ

“วะฮ่ะๆๆๆๆๆ ช่วยไม่ได้ เมิงอยากล้มลงมาหากูเองนะ ไอ้ฝรั่งขี้นก มันเป็นกลไกการป้องการตัวอย่างนึงน่ะ”

“You!!” ผมส่งสายตาอาฆาตไปให้มัน แบ๊คกราวน์ผมตอนนี้ลุกเป็นไฟแล้วฮะ

“เฮ้ยๆๆๆ ใจเย็นๆก่อนสินาย....” มันทำหน้าเหวอ เมื่อผมเริ่มเอาจริงครับ (แบ๊คกราวผมยังคงมีไฟลุกอยู่) มันค่อยๆถอยร่นเข้าไปในห้องขณะที่ผมค่อยๆก้าวอย่างร้ายกาจราวกับสิงโตที่พร้อมจะขยุ้มเหยื่อ “....ย – ยังไงเราก็คุยกันได้น่า เมิงอย่าเพิ่งโมโหดิ่วะ”

“You die!!!” ผมระเบิดออกมาก ก่อนจะกระโจนเข้าเกาะหลังไอ้ตี๋

“ว้ากกกกกกกกกก มึงเป็นตัวอะไร!!! ซอมบี้รึไงวะ เห้ย ปล่อยนะ!!!!!” มันโวยวายร้องลั่น ขณะที่ผมกำลังจะงับหัวมัน มันพยายามวิ่งหนีไปทั้งห้อง จนในที่สุด ผมก็เลิกเมื่อมันยอมให้ผมค้างห้องมันได้






“เอ้า มึงเอาไอ้นี่ไป” ไอ้ตี๋โยนถุงนอนมาให้ผม ผมมองมันสีหน้างงๆ?? จะให้กูนอนในนี้เนี่ยนะ??

“ทำหน้างงอะไรมึง มึงก็นอนในนั้นแหละ ไม่เคยนอนถุงนอนรึไง?”

“Hello?? I’m your guess. I should stay in your bed” ผมตอบแล้วเดินไปที่เตียงของมัน

“เห้ยๆๆๆ มากไปละเมิง” มันรีบกระโจนมาดันตัวผมออกไปจากเตียง “มาอาศัยกูอยู่ยังมาแย่งที่นอนกูอีก ได้ไงวะ”

“Come on, I can’t sleep in this… crap. It’s too old and stinky” แหงล่ะครับ ทั้งเก่าทั้งเหม็นใครจะไปนอนลง “Can’t we just – sleep in bed. I promise I won’t bite you, again”

“เห้อะ!! No way! ใครจะไปเชื่อเมิงวะ เมือ่กี้เล่นเอารากผมกูแทบหลุด ถ้าเมิงไม่นอนในถุงนอนนี่ก็ไปหาพื้นซักที่นอนนู่นไป”

“You’re so cruel” ผมเริ่มตัดพ้อ คนอะไรวะ ใจร้ายชิบ! แขกทั้งคนนะเว่ย

“เออๆๆ เอวเอิวอะไรกูไม่รู้เรื่อง ไปที่อื่นไปกูจะนอนและ” มันพูดแล้วเดินมาปิดไฟห้องนอนมัน ปล่อยให้ผมยืนหัวโด่เด่อยู่ในห้อง ก่อนที่มันจะล้มตัวลงนอนบนเตียงมัน... คิดจะเมินกูใช่มั้ยไอ้ตี๋ ด๊ายยยย กูจะหน้าด้านให้เมิงดูเอง กูไม่ยอมไปนอนบนพื้นหรอก

ผมไม่ลังเล ขึ้นไปนอนข้างๆมันอย่างเงียบๆ แต่เหมือนว่ามันจะรู้ตัวครับ

“เห้ยๆๆ อะไรมึง ขึ้นมาได้ไงวะ!” มันโวยวายแล้วดันผม ซึ่งเริ่มดิ้น ให้ตกเตียง

ผลัก!!

“Ouch! That’s hurt!!” ผมโวยวายขณะที่มันไปเปิดไฟ ผมส่งสายตาเดือดดาลไปให้มันทันที

“ไม่ต้องมาทำฤทธิ์เยอะเลยมึง! กูบอกแล้วว่าไม่ให้มึงมานอนบนเตียง!! จะอะไรนักหนาวะ!!”

“But I can’t sleep on the floor!!!”

“เรื่องของมึงสิ!! มาอาศัยกูอยู่แล้วยังมาทำตัวน่ารำคาญอีกนะมึง!!”

“Like I want to stay with someone so mean like you!!”

“มีนเมินเหี้ยไร กูแปลไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่องเว้ย!!”

“ค้อเมิงแม่งยับค่ายนี่วาร์ แทนเท้ชึทอนแร็พแค็กฮายมันดีแคร์นีน่อย!!! (ก็เมิงแม่งหยาบคายนี่หว่า แทนที่จะต้อนรับแขกให้มันดีกว่านี้หน่อย!!!)”

“ไอ้นี่!!! ออกเสียงยังไม่ถูกยังทำกระแดะพูดไทยอีกนะมึง พูดก็พูดไม่รู้เรื่อง!!”

“เอ๊า!! And when I speak English, you don’t have the gut to understand it at all!!!”

“เอ๊า ไอ้นี่นิ่!! อยู่ดีๆมึงก็พูดอังกฤษ จะเอายังไงวะ!! กูฟังไม่รู้เรื่องเว้ย!!”

“โอ๊ยยยย!! เมิงค้อแฮ็ทฟังบาซาร์ English คูฮายรูว์เรืองเซว่ะ!!! (มึงก็หัดฟังภาษาอังกฤษกูให้รู้เรื่องสิวะ!!!)” ผมหมดความอดทนกับความกวนประสาท น่ารำคาญ นิสัยเสียของมันเต็มทนแล้วครับ ให้ตายสิ อย่างหาอะไรมายัดปากมันจริงๆ

“พูดเหี้ยอะไรของเมิ้งงงงง!! กูฟังไม่รู้เรื่องตั้งแต่ต้นประโยคละ – อุ๊บ!!” ผมทนไม่ไหวแล้วครับ หยิบหมอนข้างของมันขึ้นมาตีหัวมันนี่แหละ หุบปากซะที เมิง

“เชี่ยนี่ จะเล่นอย่างงี้ใช่มั้ย! ได้ๆ” มันเลือดขึ้นหน้า แล้วคว้าหมอนของมันขึ้นมา ก่อนจะหวดใส่ผมเต็มที่ แต่ผมหลบได้ครับ

“Awwww, you suck at this. It’s my turn!”  ผมหวดหมอนข้างใส่มันไปอีกหนึ่งดอก

ก่อนที่มันจะหวดผมกลับอีก แล้วในที่สุด สงครามหมอนก็เริ่มขึ้นครับ ผมกับมันหวดกันเต็มที่หลายๆครั้ง จนในที่สุด ฟูกก็เริ่มฟุ้งกระจายเต็มห้อง ผมเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาบ้างแล้ว อยู่ดีๆทั้งผมทั้งมัน ทั้งๆที่ด่ากันอยู่ แต่ก็หัวเราะไปด้วยอย่างน่าประหลาด เออ ทำไมมันรู้สึกสนุกดีแหะ ไอ้การตีหมอนเนี่ยะ

“Whoa!!” กำลังคิดอะไรเพลินๆครับ อยู่ดีๆผมก็ลื่นล้มอีกแล้ว (วันนี้หลายรอบแล้วนะ!!!) ผมคว้าแขนมันเป็นหลักไว้ แต่มันก็ดันล้มตามผมลงมาด้วย

“เฮ้ย!!”

 และคราวนี้เข่าผมก็ยกขึ้นมากั้นไว้ไม่ทันครับ!! ชิบแล้ว!! หน้ามันใกล้เข้ามาอีกแล้ว!! ผมหลับตจาปี๋ ไม่อยากจะนึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อแต่ว่า...

......

ผมไม่รู้สึกว่าริมฝีปากมันมาประกบผม ผมจึงลืมตาขึ้นมาและพบว่า.... ใบหน้าของมันซึ่งแดงก่ำพอๆกับมะเขือเทศ อยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงเซน มันยันตัวเองไว้ได้ทัน อยู่บนตัวผมในขณะที่ผมเองตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกหน้าแดงขึ้นมาบ้างแล้ว และอยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกเหมือนหูผมอื้อไปหมด ได้ยินแต่เสียงจังหวะหัวใจเต้น... เอ่ออออออ.... อะไรวะเนี่ยะ อยู่ดีๆมารู้สึกอย่างงี้ได้ยังไงวะเห้ย!! ไม่ได้ๆๆๆๆๆ ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยครับ มันรู้สึกโหวงๆ ยังไงบอกไม่ถูก ยิ่งอยู่ต่อหน้ามันตอนนี้ ยิ่งไม่ชอบเลยครับ!!

“W – Well, Urrr” ผมเรียกสติตัวเอง และเหมือนไอ้ตี๋เองก็จะสะดุ้งได้สติขึ้นมา จึงรีบลุกขึ้นจากตัวผม ฟูกในห้องยกคงกระจายไปตามแรงลมของแอร์

“ม – เมิงจะนอนในนี้ก็ได้ ด- ด- เดี๋ยวกูไปนอนข้างนอกเองก็ได้ ไม่เป็นไร” มันพูดตะกุกตะกัก มือไม้ชี้ไปนู่นทีนี่ที

“N – No, it’s okay. I can stay outside” ผมพูด รู้สึกบอกไม่ถูก... เกร็งๆ คงเพราะรู้สึกยี๋ๆ จนไม่รู้จะพูดยังไง ซึ่งมันเองก็คงรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันแหละ...

“ไม่เป็นไรหรอก..” มันพูดเร็วๆเสียงอ่อยๆ แต่ไม่มองหน้าผม “กู – ขี้เกียจเถียงกับเมิงแล้ววันนี้”

มันพูดเสร็จแล้วก็เดินอาดๆออกไปทันทีครับ หน้าผมเองยังไม่หายแดง หัวใจยังเต้นเร็วๆอยู่ เฮ้ออออออ อะไรวะเนี่ยะ นี่ผม.... รังเกียจมันจนอาการเป็นขนาดนี้เลยเหรอ...

ผมสั่นหัวหงึกๆเพื่อให้ลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แล้วหันไปปัดพวกฟูกที่อยู่บนเตียงออก เรื่องเก็บกวาดไว้ค่อยช่วยมันทำพรุ่งนี้ก็ได้ ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรตอนนี้แล้ว อันที่จริง ผมไม่อยากจะออกจากห้องนอนไอ้ตี๋เพื่อไปเจอมันในตอนนี้ด้วยซ้ำ มัน... ขยะแขยง... ใช่ๆ มันขยะแขยง ยังไงไม่รู้สิ เอาเถอะครับ คืนนี้ผมนอนก่อนดูกว่า ยังไงก็ ราตรีสวัสดิ์นะครับคุณผู้อ่าน  :bye2:



To be continued
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 07-12-2011 20:03:59
อร๊ายยยย ภาษาไทยแอนนี่ยังเลิศ แต่ก็ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว (หน่อยจริงๆ) :z2:

ส่วน พ-พริ-ก ยังฉลาดเหมือนเดิม = = เค้าพูดไทยก็บ่น พูดอังกฤษก็บ่น ฮ่วยย :a5:

ขอให้กุญแจห้องหาไม่เจอเถอะ :call:

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 07-12-2011 20:22:42
สื่อสารยังไม่ทันรู้เรื่องแต่สปาร์คกันติด(?)ซะงั้น  :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 07-12-2011 20:30:38
ทั้งสองคนนี่มีแรงดึงดูดกันนะ จะจูจุ๊บกันก็จูบไปสิคร้าาา พริกบอกฟังไม่รู้เรื่องๆแต่ก็ดูเข้าใจตลอดนิ หรือใช้ภาษาใจฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: murasakisama ที่ 07-12-2011 21:11:18
พูดไทยก็ไม่รู้ พูดอังกฤษก็ไม่เข้าใจ ต้องพูดภาษากายใช่มะถึงจะเก็ท :impress2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-12-2011 21:35:17
คู่นี้สมน้ำสมเนื้อกันดีนะ คนหนึ่งพยายามหัดภาษาไทย คนหนึ่งหัดภาษาอังกฤษ 555555  แล้วก็ขอให้กุญแจหายต่อไปนานๆๆ นะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 07-12-2011 21:54:52
บ๊ะ ถ้าคำด่ามันจะชัดเจนขนาดนี้

แอนนี่หัวไวมากกกก 555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: dezzetoeiiz ที่ 07-12-2011 22:03:10
เอ๊อออออ พริก ... นายเก่งจริงๆนะ แม้จะฟังแอนนี่ไม่รู้เรื่อง แต่ก็รู้จนได้ว่าจะเอาอะไร  :laugh:
เคมีเข้ากันอย่างนี้ คงไม่ just one night แน่ๆเลยอ่ะ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 07-12-2011 22:35:24
ฮาแหลกลานนนน  55555

นายที่สุดก่อด๊ายเตี๊ยงมาน้าจ๊าหนูแอ๊นนี้
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: filmybutter ที่ 07-12-2011 22:49:24
555 อ่านเรื่องนี้ได้ฝึกภาษาไปพร้อมกัน

แอนนี้ แม่ส่งมาให้เรียนภาษาไทยให้พูดให้ชัด รู้สึกว่าเริ่มชัดแล้วนะคำด่า เนี่ย - -
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 3]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 08-12-2011 01:43:49
แวะเอาตอนใหม่มาแปะตอนตีหนึ่งครับ (จะมีใครอยู่อ่านมะเนี่ยะ -*-)




ผมค่อยๆลืมตาขึ้นตื่นบนโซฟาเมื่อยามเช้ามาเยือน ธรรมดาผมเป็นคนตื่นเป็นเวลาอยู่แล้ว เพราะงั้นต่อให้หลับตอนไหน ผมก็จะตื่นตอนหกโมงสี่สิบห้าเป็นประจำ จะว่าไป ไม่รู้ว่าเมื่อคืนผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กว่าจะหลับนี่สิครับ หนาวชะมัด พอปิดแอร์ก็ร้อนจี๋ แต่พอเปิดก็หนาวซะตัวขดเลย แต่ว่า... เอ๊ะ เมื่อคืนตอนผมนอนมันไม่มีผ้าห่มไม่ใช่เหรอ?? แล้วมันมาอยู่นี่ได้ไงเนี่ยะ ผีหลอก??!! แน่ๆเลย ต้องเป็นผีอำแน่ๆ!! ก็ว่าอยู่ว่าเคยได้ยินข่าวลือว่าอพาร์ตเม้นใกล้ๆนี่มีผี แต่ไม่นึกว่ามันจะมาเฮี้ยนถึงคอนโดนี่!! ไม่ได้ๆ ท่าทางจะต้องไปหาหมอผีมาไล่ซะแล้ว

ซ่า!!

“เฮ้ย!!!” ผมลุกกระโจนไปหลบหลังโซฟา อยู่ดีๆก็มีเสียงน้ำมันในกระทะขึ้นมาจากห้องครัวได้ไงวะ ในเมื่อผมอยู่คนเดียวนี่หว่า เฮ้ย มันชักจะเฮี้ยนหนักเกินไปแล้วนะ ฮือๆๆๆๆๆ กลัวโว้ยยย ตัวสั่นไปหมดแล้ว จะทำยังไงดี...

“กล้าๆหน่อยสิวะไอ้พริก มึงมีพระนะเว่ย” ผมปลอบใจตัวเองเบาๆ แล้วจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆโผล่หน้าพ้นโซฟาทีละนิดๆ




...........................
...........................
...........................
...........................



!!!



“เฮ้ย!!!!” มีใครยืนท้าวสะเอวอยู่ตรงหน้าห้องครัววะ น่ากลัวอ่ะ เป็นเงาตะครุ่มๆ ผมรีบมุดหัวกลับมาหลังโซฟาทันที ก่อนจะรวบรวมสติอีกรอบ แล้วโผล่หัวออกไปมองอีก

!!!!!!!!!!!!!



อีกแล้วครับ!! คราวนี้เงาตะครุ่มๆนั่นท้าวสะเอวเหมือนเดิม แต่ระยะห่างมันใกล้เข้ามา ตอนนี้มาอยู่ทางเข้าตรงห้องรับแขก ใกล้ๆผมแล้วครับ



“ฮะ – ฮะ – เฮ้ยยย... ไอ้พริกๆๆๆ สวดมนต์ๆๆสิวะ พุทโธ ธัมโม สังโค พุทโธ ธัมโม สังโค...” ผมสวดบทสวดเบาๆ ขณะที่รวบรวมความกล้าอีกครั้ง... และ... ตัดสินใจลุกขึ้นยืน...



!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



ร่างนั้นมายืนท้าวสะเอวถึงที่โซฟาผมแล้วครับ!! คราวนี้ผมเห็นร่างนั้นชัดเจนเลยที่เดียว...

“What the fuck are you doing??” ไอ้ฝรั่งถามสีหน้างงงวย ขณะยืนท้าวสะเอวมองผม... เอ่อออออ ผมลืมไปแหะว่ามันมานอนค้างห้องผมเมื่อคืน

“อ – เอ่ออออ น้อตติงๆๆ” ขืนบอกว่ากลัวผี จะได้โดนมันหัวเราะเยาะสิครับ... เดี๋ยวก่อนนะ มันใส่ผ้ากันเปื้อนผมนี่หว่า

“อ้าว!! เมิง!! ใครอนุญาตให้เมิงใช้ผ้ากันเปื้อนกูวะ!” ผมชี้หน้าด่า

“I’m hungry so I’m preparing a breakfast”

“ไม่ต้องเลยเมิง! ใครใช้ให้เมิงเอาของกูไปทำกับข้าว!”

“Do you wanna eat or not?” หิอ??

“นี่เมิงทำให้กูด้วยเหรอวะ”

“แนน้อน I’m not that heartless like you” มันตอบก่อนจะเดินเข้าครัวกลับไปทำอาหารต่อ เออ จะว่าไปมันก็มีน้ำใจเหมือนกันเว้ย






สิบห้านาทีต่อมาอาหารเช้าก็พร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารครับ

“เช้ดดดดดด เมิงทำสเต็กเป็นด้วยเหรอวะเนี่ย??”

“For me, it’s just a piece of cake” มันยิ้มท่าทางภูมิใจ แต่ว่าแต่...

“เค้กอะไรของเมิง ไอ้นี่เค้าเรียกว่าสเต็ก กับข้าวประเทศเมิงแท้ๆ ยังไม่รู้อีก โอ๊ ไม่ไหวๆ” ผมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายกับมัน ในขณะที่มันเองก็ดูจะฉุนที่ผมไปด่ามัน

“Whatever. I’m sick of you now” เอ๊า อยู่ดีๆก็หยิบจานมันเองออกไปกินอีกห้องเลยครับ

“นี่ๆ! มารยาทบนโต๊ะอาหารไม่มีรึไง”

“มายเม้ I don’t wanna see your face, it’s gross” มันตะโกนตอบมาจากห้องรับแขก

หลังจากนั้นผมกับมันก็กินกันเงียบๆครับ อื้ม สเต็กนี่อร่อยเหาะไปเลยแหะ ฝีมือทำอาหารไอ้ฝรั่งนี่ระดับภัตตาคารเลยนะเนี่ยะ

“ไอ้ฝรั่ง” ผมเรียกมันเมื่อเกิดข้อสงสัยแว๊บขึ้นมาในหัว

“What?”

“เมิงเอาผ้าห่มมาให้กูเหรอวะ”

“………Nope, youwalked in your sleep last night” แปลว่าอะไรอ่ะครับ ผมแปลไม่ออก

“อะไรวะ กูแปลไม่ออก”

“เมิงหล่อเม้อ” อ่า...ฮะ ถ้าผมเดาไม่ผิด มันน่าจะหมายถึงละเมอรึเปล่าหว่า

“เฮ้ย เป็นไปไม่ได้อ่ะ กูไม่เคยละเมอตอนนอนนะเว่ย”

“I’m serious. You talked in your sleep!” มันตอบผมมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“จริงเหรอวะ?” ผมถามตัวเองเบาๆ


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


เสียงใครมาเคาะประตูแต่เช้าวะ ผมถามตัวเองขณะเดินไปดูที่ตาแมวหน้าประตู

!!!!!! งานนี้ตกใจซะยิ่งกว่าผีอีกครับ

“ม้า!!”





















Chapter 4: ม้า!!


ใช่ครับ! ม้า!! ....ไม่ใช่ม้าอย่างที่คุณผู้อ่านคิดนะครับ ไม่ใช่ม้าที่ใช้วิ่ง แล้วร้องฮี้! แต่นี่คือ ม้าครับ!! ...เอ่อ ผมหมายถึง แม่ผมน่ะครับ!!!!

“ไอ้ฝรั่งๆ” ผมหันไปเรียก ขณะที่มันมองผมงงๆ “เมิงอยู่เงียบๆนะ”

“Why?”

“เออ!! เงียบก่อนเหอะน่า!!”

“Don’t you dare order me!!” ไอ้เชี่ยนี่ มาทำยืนโมโหกูอีก อ๊ากกกกกกก กูจะบ้า

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เฮ้ยมึง กูไหว้หล่ะ พลีสๆๆ บีไควเอท โอเค้?” ต้องยอมไหว้มันครับมันถึงจะนั่งลงแถมมีการหันมามองผมอย่างไม่พอใจอีกแน่ะ

หลังจากนั้น ผมก็เลยถอดเสื้อออกเผยเรือนร่างอันเซ็กซี่ของผมและเต็มไปด้วยมัดกล้ามเพื่อยั่วไอ้แอนนี่ เห้ย!! ใช่ซะที่ไหนล่ะครับ ที่จริงผมทำอย่างงั้นเพราะมีแผนน่ะ

“What are you doing?” ไอ้ฝรั่งถามตาโต

“ชู่ว!!!” ผมบอกให้มันเงียบอีกครั้งก่อนจะแง้มประตูเปิดนิดๆ

“พริก เราทำอะไรเนี่ยะ ปล่อยให้ม้ารอตั้งนาน” ม้าผมแขวะเสียงเขียวอยู่หน้าประตู

“เอ่อ ม้า รอแปบนึงได้มั้ยอ่ะ พริกยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย”

“เรานี่นะ ทำอะไรอยู่ เอาๆๆ ม้ารออยู่หน้าห้องแล้วกัน”

“โอเคคับม้า” ผมตอบยิ้มๆ ทั้งๆที่ในใจนี่ กรี๊ดแต๋วแตกไปแล้วครับ

“อย่าให้รอนานล่ะ!”

“โอเคคับๆ” ผมรีบปิดประตู แล้วถอนหายใจออกมาดังๆ

“…Is …everything alright?” ไอ้ฝรั่งถามผมเมื่อเห็นผมท่าทางเหมือนหนีตาย

“โน... อิตน่อต” ผมตอบแล้วย่างสามขุมไปที่มัน ก่อนจะจับมือมันลากไปในห้องนอน

“Wh – What are you doing??!!” มันถามอย่างตกใจแล้วสะบัดมือผมหลุดออก

“โอยยยย มึง! กูไม่ทำอะไรมึงหรอกน่ะ!” มันยังทำหน้างุนงงอยู่ “คืองี้... ม้ากูมา เพราะงั้น มึงไปซ่อนในตู้เสื้อผ้ากูก่อน”

“You mean… horse???” มันยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่ หน้าตอนมันงงนี่มันดูตลกดีแหะ 555555…. เอ่ออออ ไม่ใช่ๆ คือผมหมายถึงดูเหมือนคนปัญญาอ่อนน่ะครับ

“ไม่ใช่ๆ คือ... กูหมายถึงแม่กูมา ม้าเป็นภาษาจีนน่ะ”

“Oh… I see”

“เออๆ เมิงจะเห็นอะไรก็ช่างก่อน เมิงเข้าไปซ่อนในตู้ก่อน เร็ว” ผมพูดแล้วรีบจับมันยัดเข้าตู้โดยที่มันก็ยังโวยวายภาษาอังกฤษของมันไปเรื่อยๆโดยที่ผมไม่รู้เรื่องซักกะคำจนผมปิดตู้ไป

ผมรีบวิ่งมาที่หน้าประตูก่อนจะหยิบเสื้อขึ้นมาใส่ตามเดิม


ปัง! ปัง! ปัง!


“พริก!! แกจะให้ม้ารอแกถึงพรุ่งนี้เช้าเลยรึไง!!” เอาแล้วครับ แม่ผมเริ่มมีน้ำโหแล้ว ทุบประตูซะผมนึกว่าซอมบี้บุกเลยทีเดียว

“ใจเย็นม้าๆ อ่ะ เข้ามาได้แล้วคับ” ผมรีบเปิดประตูให้แม่เข้ามา

“โอยยย ร้อนจริงๆ แกจะให้ม้าละลายอยู่ข้างนอกก่อนรึไง” ม้าผมหันมาแขวะขณะเดินเข้ามา

“โห่ม้า มันต้องใช้เวลาแต่งตัวนิดนึง มาต้อนรับม้าทั้งที่”

“ย่ะ มาต้อนรับมา ก็แค่เสื้อยืดกับบ็อกเซอร์เองไม่ใช่รึไง”

“อะฮ่ะๆๆๆ ก็นั่นแหละฮะ... ว่าแต่ม้ามีธุระอะไรเหรอ มาที่นี่แต่เช้า ไม่ได้เปิดร้านรึไง”

“ก็ถ้าไม่มีธุระก็คงไม่รีบมาที่นี่ป่านนี้หรอก พอดีว่าป๊าเค้าลืมของเอาไว้ที่นี่น่ะ” ม้าพูดขณะเดินมานั่งที่โซฟาและสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

“พริก เดี๋ยวนี้แกทำสเต็กเป็นแล้วเหรอ?” ชิบแล้วไง! ไอ้แอนนี่ลืมเอาไอ้นี่ไปด้วยรึไงวะ ไอ้ผมเองก็ลืมสังเกตอีกที จะบอกยังไงดีล่ะ

“อ – เอ่ออออ อันนี้ของซิสเลอร์น่ะม้า พอดีเมื่อวานไปกินมาแล้วเหลือน่ะ...”

“ซิสเลอร์?? ม้าจำได้ว่ามันไม่มีเมนูแบบนี้นะ?”

“ป – ป – เป็นโปรโมชั่นพิเศษของช่วงนี้น่ะม้า มีแค่ช่วงนี้เท่านั้นแหละ อะฮ่ะๆๆๆๆๆ” เหงื่อตกเลยครับผม

“อ่อออออ งั้นเองเหรอ เอ้อ งั้นวันนี้เดี๋ยวพอปิดร้าน ม้าลองชวนป๊าไปกินดีกว่า” เย้ย!!

“อ – อ่า... มันหมดโปรโมชั่นไปแล้วเมื่อวานอ่ะม้า พ – พอดีว่าเมื่อวานเป็นวันสุดท้ายน่ะ”

“อ้าว! เหรอ!! น่าเสียดายจริงๆ ม้าว่ามันน่ากินดีนะ” ม้าพูดพลางใช้มีดหั่นสเต็กมานิดนึง “ม้าลองชิมหน่อยแล้วกันนะ”

“อ – เอ่อ...” คือม้าครับ ชิ้นนี้ไม่รู้ไอ้ฝรั่งมันแทะยังไงไว้นะครับ ระวังน้ำลายนะครับม้า น้ำลายครับ น้ำลาย

“ทำไม แค่นี้หวงให้ม้ากินไม่ได้เลยเหรอ” แน่ะ ตัดพ้ออีก

“เปล่าๆๆ ม้าจะกินก็กินได้ครับ” มายิ้มอย่างมีชัย แล้วก็จิ้นสเต็กชิ้นนั้นเข้าปาก อ้ำ! (อี๋!)

“อื้ม!! อร่อยมาก!!” ม้าทำตาซาบซ่านหวานซึ้งเหมือนมีใครมาสารภาพรักเป็นครั้งแรก “เสียดายจริงๆนะพริก ที่หมดโปรโมชั่นไปแล้ว”

“นั่นน่ะสิม้า ผมก็เสียดาย” ผมยังคงแถต่อไป

“เอ้อๆ แล้วนี่ม้าไม่ได้จะมาหาของให้ป๊าเหรอ”

“เออ ใช่ๆ ลืมไปเลย เดี๋ยวต้องรีบกลับด้วย” ม้ามีท่าทีรีบร้อนขึ้นมาทันทีก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวพลางพูดว่า “เอ... แต่ม้าก็ไม่รู้ซะด้วยสิว่าป๊าเค้าเอาไปไว้ตรงไหนของเค้า”

“แล้วเจ๊มะนาวกับไอ้ตะไคร้เป็นไงมั่ง” ผมถามถึงพี่สาวกับน้องชายผมครับ

“มะนาวมันก็ยุ่งๆช่วงนี้แหละ เห็นว่ามันต้องทำรับน้องอะไรไม่รู้ ส่วนไอ้ไคร้มันก็เหมือนเดิม มีเรื่องกับเค้าไปทั่ว” เหอะๆๆ นี่แหละครับนิสัยน้องผม ชอบมีเรื่องกับชาวบ้าน จนแม้แต่ผมเองก้เอือมระอา

“...พริก ทำไมเรามีสเต็กนี่อีกจานล่ะ” แม่ผมตะโกนถามขึ้นมาจากในครัว อะจ๊ากก!! ลืมจานของตัวเองไปซะสนิท ผมรีบเดินอ้าวๆ เข้าไปในครัวก็พบกับแม่ที่มองผมอย่างสงสัย

“อ่อออออ คือผมกะจะกินสองชิ้นเลยน่ะม้า” ผมพยายามไม่สบตาม้า

“แล้วทำไมแกไม่ใส่จานเดียว” แม่ผมเริ่มเข้าโหมดจับผิดซะแล้ว

“ก็ – ก็ – ก็จานเล็กขนาดนั้นอ่ะ มันใส่จานเดียวไม่พอหรอกม้า”

“งั้นเหรอ” นัยน์ตาแม่หรี่เล็กลง ส่วนเหงื่อของผมก็ออกมากขึ้น

“แน่สิคับ” เชือ่เถอะค้าบบบบบบ เดี๋ยวจะงานงอก

“แล้วมีสองจานนี่ไม่คิดจะแบ่งม้าเลยรึไง??” ม้าเปลี่ยนเรื่อง แล้วเข้าสู่โหมดดราม่าครับ

“อ้าว ก็ผมกะจะกินสองจานไงม้า ต – แต่ถ้าม้าจะกินก็กินได้นะ”

“ไม่ต้องหรอก ม้าไม่กิน หาของต่อไปก็ได๊” เอ๊า งอน?? ดราม่า?? อะไรยังไง เหอะๆๆ ช่างเถอะครับ

“งั้นเดี๋ยวผมไปช่วยหาในห้องนอนนะม้า” ผมตัดบทแล้วเดินออกจากครัวมา

“ใบสั่งสินค้าสีฟ้าๆนะ” ม้าตะโกนบอกไล่หลัง

“คร้าบบ”






“ไอ้ฝรั่ง” ผมเรียกมันเบาๆ เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้า ไอ้นี่ลงไปหลบมุมในตู้เหมือนพวกลูกหมาเลยครับ

“Thank God! There’s no air in here. I can’t breathe” มันเริ่มบ่น

“เออน่า มึงทนอยู่ในนี้ไปก่อน”

“Did your horse leave?” ไอ้นี่กวนตีน

“ฮอร์ส(บิดา)มึงสิ แม่กูเว่ย”

“Oh! Yeah. Your mother. Did she leave??”

“เหอะ ยังว่ะ ม้ากูจะหาใบสั่งสินค้าสีฟ้าๆน่ะ”

“ซีฝาๆ...” มันทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอื้อมไปหยิบบางอย่าง “You mean this?”

“จะบ้ารึไง! นั่นมันกางเกงในกู” ผมมะเหงกหัวมันแรงๆหนึ่งทีเมื่อมันหยิบกางเกงในสีฟ้าของผมขึ้นมา

“Ouch!!!”

“เสียงอะไรน่ะพริก??” แม่ผมตะโกนถามมาจากในห้องนั่งเล่น

“โอะ – โอ๊ย!! พอดีว่าหัวผมไปกระแทกโต๊ะน่ะครับ” ผมแถในขณะที่ไอ้ฝรั่งทำปากประมาณว่า ‘It’s hurt’

“ระวังๆหน่อยสิเรา” แม่ผมเตือน

“คับๆ”

“Ah! I found it!!” ไอ้ฝรั่งชูใบสั่งซื้อสีฟ้าที่อยู่ในกองกางเกงในผมขึ้นมา (มันเข้าไปอยู่ในนั้นได้ไงวะ???)

“เฮ้ย ดีๆๆ งั้นเอามา –“ ก่อนที่ผมจะยื่นมือไปหยิบใบนั่น ประตูห้องผมก็เปิดออก...

“เวรละ!! ซ่อน!” ผมบอกมันเสียงเบาๆแล้วรีบปิดตู้เสือ้ผ้าทันที แล้วจึงแกล้งทำเป็นหาของอยู่แถวนั้น

“ม้าหาห้องอื่นไม่เจอซะที น่าจะอยู่ในห้องนี้แหละ” ม้าเดินเข้ามาสีหน้าหงุดหงิด

“แต่พริกก้ดูหมดแล้วนะม้า ยังไม่เจอเลย... พริกว่าม้าไปนั่งพักข้างนอกก่อนดีกว่า”

“โอยย ไม่ได้หรอก ม้ารีบ เดี๋ยวลูกค้าจะมาบ่ายนี้แล้ว ม้าช่วยเราหาในนี้แหละ” ม้า!! ไม่เป็นไรครับ! ขืนหาไปหามาจะงานงอก...

“เอ้อ แล้วหาในตู้เสื้อผ้ารึยังล่ะ” ยังไม่ทันขาดคำเลยครับคุณผู้อ่าน

“อ – เอ่ออออ หาแล้วม้า มันไม่เจออ่ะฮะ”

“เราหาไม่ทั่วรึเปล่า เดี๋ยวม้าหาอีกที” แม่เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าทันที

“ไม่เป็นไรหรอกม้า” ผมกระโจนเข้ามาขวางม้าไว้

“เอ๊ะ เรานี่อะไรเนี่ยะ” ม้าผมทำหน้างุนงงปนกับหงุดหงิด แล้วจึงอ้อมตัวผมไปที่ตู้

“เอ่ออ ม้า...”

“อะไรล่ะ?”

“พริกปวดท้องอ่ะ อยู่ดีๆก็ปวดเนี่ยะ โอ๊ยยยยยย” แอ็คติ้งสุดฤทธิ์แล้วครับ หวังว่าม้าจะเชื่อ

“อ้าว เป็นอะไรน่ะลูก สงสัยสเต็กแน่ๆเลย” เยส! ได้ผลแน่ ม้าหันมาหาผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“งั้นเดี๋ยวนะพริก เรานอนไปก่อน เดี๋ยวม้าดูในตู้นี่แล้วเดี๋ยวเอายามาให้” โอ้วววว โน่วววววววว!!! ม้ายังคงคิดจะเปิดตู้ต่อไปครับ

ม้าผมหยุดยืนหน้าตู้...




ตอนนี้ภาพทั้งหมดเหมือนภาพสโลว์โมชั่นมากๆครับ...






ม้าค่อยๆจับที่ที่จับของตู้....






ตู้เสื้อผ้าค่อยๆเปิดออก....






ผมหลับตาปี๋ ไม่อยากจะนึกว่าจะเกิดอะไรขึ้น....






แล้วในที่สุดตู้ก็เปิดออกกว้าง......






เหงื่อผมไหลไม่หยุดแล้ว..... จะเกิดอะไรขึ้น.........




...................
..............
.......
...
..






ม้ายังคงยืนนิ่ง มองไปที่ตู้ซึ่งไอ้ฝรั่งหายไปแล้ว??

เป็นไปได้ยังไงกัน หรือไอ้ฝรั่งเป็นคริส แองเจิ้ลกลับชาติมาเกิด (ได้ข่าวว่าเค้ายังไม่ตายนะ)




“เริ่มจากตรงไหนก่อนดีล่ะ” ม้าผมพึมพำกับตัวเองในขณะที่ผมยังคงสับสนว่าไอ้ฝรั่งหายไปไหน

ม้าผมเริ่มค้นตู้จากตรงส่วนที่มีไม้แขวนเสื้อผ้าเยอะแยะไปหมด จนกระทั่ง...

“เอ๊ะ นั่นอะไรน่ะ??” ม้าผมพึมพำขณะเพ่งมองไปในบางสิ่งหลังราวแขวนเสื้อ


หมั่บ!!!


มือหนึ่งหลังไม้แขวน จับเข้าที่แขนม้าอย่างรวดเร็ว ม้าของผมสะดุ้งแต่ไร้ซึ่งเสียงร้อง ส่วนผมเองก็ตกใจเช่นกัน

“คูณณณณ....... ยาร์กกกกกก..... ดายยยยยยย.... อาย....... นี....... ช่ายยยยยย..... มายยยยยยยย......” เสียงอันแหบพร่าของอะไรซักอย่างดังขึ้น ขณะที่มีอีกมือยื่นใบสีฟ้าออกมาใส่มือม้าผมที่ตัวสั่นอยู่... เดี๋ยวนะ ไอ้นี่มัน... - -*

“อาววววววว..... พาย...... เลว....... ค้อ.......” เสียงแหบพร่านั่นยังคงฟังไม่รู้เรื่อง แต่ผมรู้แล้วว่ามันคืออะไร แต่มันสายไปแล้ว

“คลับเปยซ้า!!!!” (มันคงจะพูดว่า กลับไปซะนะ ผมว่า) ใบหน้าของไอ้ฝรั่งโผล่ออกมาอย่างน่ากลัวและรวดเร็ว ดวงตาที่มันพยายามจะถลน และเสียงร้องที่มันดัด ถึงแม้ผมจะรู้ว่าเป็นมัน แต่ม้าผมซึ่งไม่รู้ ในตอนนี้ก็...

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” หลังจากกรีดร้องอย่างตกใจ ม้าผมก็ล้มลงไปกองกับพื้น ไร้สติ

“ม้า!!!” ผมรีบวิ่งไปพยุงตัวม้าซึ่งนอนแน่นิ่งไปแล้ว “ม้า ทำใจดีๆก่อน ม้า!!”

“Is she alright?” มันถามสีหน้าสำนึกผิด

“ไม่ต้องมาทำสำนึกเลยเมิง!! ทำเหี้ยไรเนี่ยะ หลอกแม่กู!!” ผมมีน้ำโหครับ

“Excuse me? If I didn’t do that, your mom would kill you now!!”

“อ๊อ เหรอ??? เมิงก็เลยชิงฆ่าแม่กูก่อนงั้นสิ??!!”

“I didn’t kill her!! I just make her sleep”

“พอเลยมึง!! ทำแม่กูแล้วยังไม่สำนึกอีก!!”

“I – “



เทียน มี่ มี
นี เซี่ยว เตอ เทียน มี่ มี
เฮา เซียง.....



เสียงริงโทนม้าผมครับ

ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายใบเล็กๆของม้า แล้วจึงกดรับสาย

“ฮัลโหลครับ?”

“พริกเหรอ” !!! ป๊า??

“อ่าครับ” ผมพยายามทำเสียงให้นิ่งที่สุด

“เรียกม้ามาคุยหน่อยซิ ไปนานแล้วยังไม่กลับมาซะที ร้านก็จะเปิดแล้ว”

“เอ่ออออ ป๊า พริกว่าม้าคงคุยไม่ได้ตอนนี้อ่ะ”

“หือ ทำไมเหรอลูก”

“เอ่อออออ.... ม้าเป็นลมไปน่ะคับ”

“.....เฮ้ย!! จริงป่ะเนี่ยะ เกิดอะไรขึ้น??” เสียงป๊าของผมฟังดูตกใจมาก

“ไม่รู้เหมือนกันคับ แต่เดี๋ยวคงจะฟื้นเองแหละครัย ไม่ต้องห่วง” ผมพยายามกล่อมพ่อให้หายตกใจ

“.....แค่นี้นะ เดี๋ยวป๊าไปหา”

“อ้าว เห้ย! ป๊า!!” ผมรีบจะห้าม แต่ไม่ทันแล้วครับ วางสายไปซะแล้ว ป่านนี้ป๊าผมคงรีบวิ่งไปออกรถมาแล้วล่ะครับ....

แล้วตอนนี้ผมจะทำยังไงกับไอ้ฝรั่งนี่ล่ะครับเนี่ยะ ถ้าป๊ามาอีกคน รับรองงานงอกเป็นกองพะเนินแน่นอน...


To be continued
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: Dakzy ที่ 08-12-2011 04:37:02
โอ๊ยยยย มันฮามากค่ะ ไม่ไหวแล้ว ขำสุดๆ

ชอบค่ะๆ ขอปะกิดเยอะๆเลยค่ะ สนุกดีอ่ะ

คนนึงพูด อีกคนก็แปลไปคนละความหมาย มันจะตีกันตายก่อนมั้ยเนี่ย

ฟิวส์ขาดง่ายทั้งคู่อ่ะ มีลางว่าแอนนี่จะเคะล่ะ หุๆ

คนเขียนเก่งภาษาอังกฤษจังเลยค่ะ ขอเยอะๆเลยนะคะ เราจะได้ฝึกด้วย^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 08-12-2011 11:20:06
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :pigha2:

ขำจนกรามค้างไปหมดแล้วนี่ย  :m20:

แอนนี่หนูฮาได้ใจมากคะ   :laugh: :laugh:


บวก 1 ค่าาา
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: donghwa ที่ 08-12-2011 11:30:13
ฮามากค่ะ พึ่งมาอ่าน แบบว่าชอบมากกก
เวลาพริกกับแอนนี่ด่ากันนี่มันส์พะย่ะค่ะมาก
ว่าแต่แอนนี่ปากจัดมากกกกกเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
มุขเล่นคำภาษาอังกฤษฮามากเลยค่ะ ชอบมากอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
สนุกดีค่ะ แล้วมาต่อเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ปล.หนังโป๊ที่พริกดูนี่หนังญี่ปุ่นชัวร์! ฟังจากซาวด์แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 08-12-2011 12:18:06
ตลกดีครับคู่นี้ คุยกันคนละภาษา 5555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: BaII ที่ 08-12-2011 14:29:07
ตลกอ่ะ กลัวผีทั้งแม่ทั้งลูกเลย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 08-12-2011 15:21:21
ตลกมาก ๆ แล้วมาต่อ
เร็ว ๆ น้าชอบ o13
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 08-12-2011 15:34:10
เป็นเรื่องที่สนุกที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาใน2-3เดือนนี้เลยนะนี่ อ่านไปขำไปหัวเราะกับโทรศัพท์จนคนมองเลยอ่ะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 08-12-2011 19:25:31
ทำไมหนูพริกไม่ ให้แอนนี่ออกไปข้างนอกห้องตอนที่ม้าสลบอยู่ล่ะ -_____-
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 08-12-2011 20:21:12
ทำไมหนูพริกไม่ ให้แอนนี่ออกไปข้างนอกห้องตอนที่ม้าสลบอยู่ล่ะ -_____-

ใจเยนๆฮะ ตอนหน้าสิฮะ ตอนหน้า ตอนนี้ม้าเพิ่งสลบเอง พริกมันยังตกกะใจอยู่นะ  o13
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 08-12-2011 20:59:55
คำำสำเนียงแอนนี่อ่ะ :m20:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 08-12-2011 21:11:11
55555555 แต่สงสัยพริกจะซ่อนแอนนี่ไว้ทำไมอ่ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: artit ที่ 08-12-2011 21:13:30
ชอบเรื่องนี้ฮาดี อีกคนพูดอังกฤษ อีกคนก็แปลมั่ว  :laugh: ขำกระจาย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 08-12-2011 21:15:38
55555555 แต่สงสัยพริกจะซ่อนแอนนี่ไว้ทำไมอ่ะ

เพราะพริกอยู่คอนโดคนเดียวครับ ถ้าแม่เข้ามาเจอก็งานงอก ทางออกก็มีทางเดียวก็เลยพาไปซ่อนไว้ก่อนอ่ะนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 08-12-2011 21:34:25
ฮามาก 55555555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 08-12-2011 23:51:09
หลอกผีเลยเหรอแอนนี่ คิดได้ไง

แล้วทำไมพริกถึงให้พ่อแม่เจอแอนนี่ไม่ได้ล่ะ
ไม่เห็นจะมีอะไรซะหน่อย ถ้าแอนนี่เป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 09-12-2011 01:02:54
 :L2:
ฮามาก :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-12-2011 19:33:00
เริ่มสงสารม้าอยู่เหมือนกันนะ :m20: <<<แต่ก็ขำ :z6:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: หัวใจจะY ที่ 09-12-2011 21:00:49
แอนนี่ก้คิดได้เนอะวิธีนั้น55
เกิดม๊าพริกช็อคหัวใจวายตายไม่ได้เห็นหน้าลูกสะใภ้ เอ้ะ หรือลูกเขยในอนาคตจะเป็นเยี่ยงไร55
(ภาวนาให้แอนนี่เป็นฝ่ายรับเหอะ เพี้ยง! เราจะได้ไม่เสียดุลต่างชาติ)55

อ่านเรื่องนี้แล้วขำอุจจาระพรั่งพรูเลย
คนแต่งท่าทางจะเก็ทAอิ๊งแน่ๆ  หรือเคยไปอยู่ตปท.มารึป่าว
ภาษาพูดดูเป็นภาษาพูดที่ใช้กันจริงๆมาก อย่างศัพท์วัยรุ่นไรพวกนี้
ภาษาก้ไม่ยากเกินไป พอแปลได้ ไม่ได้ก้ข้ามไป55
แต่ขอยกนิ้วให้ว่า เก่งมากๆ
อ่านแล้วได้ทั้งค.สนุกฮา ได้ฝึกภาษาอังกฤษอีกตะหากแบบนี้ต้องแนะนำลูกหลานให้มาอ่านแล้ว555+

ปล.อยากอ่านต่อแล้วค่าคนเขียนที่น่ารักจ๋า>.<
ขอเลิฟซีนเยอะๆเลยย ห้าห้าห้า

 
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 09-12-2011 21:06:21
ฮามากครับ

รออ่านตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 09-12-2011 21:12:19
ฮามากเรื่องนี้ไม่ไหวแล้ว ขำจนปวดท้อง 55555555555555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: kogomon ที่ 09-12-2011 22:58:11
 :jul3: :laugh:  :m20:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: Theodore ที่ 10-12-2011 10:49:53
อ่านแรกก็ดีนะคับ เลยอ่านมาเรื่อยๆ พอถึงคำว่า ผมชื่อพริกคับ เท่านั้นแหละ ฮาขี้แตก สิบนาทีต่อมาถึงมาอ่านต่อได้ สัญญาจะอ่านทุกวัน อยู่ด้วยกันจนจบคับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: chai235 ที่ 11-12-2011 03:55:32
“For me, it’s just a piece of cake” มันยิ้มท่าทางภูมิใจ แต่ว่าแต่...

“เค้กอะไรของเมิง ไอ้นี่เค้าเรียกว่าสเต็ก กับข้าวประเทศเมิงแท้ๆ ยังไม่รู้อีก โอ๊ ไม่ไหวๆ” ผมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายกับมัน ในขณะที่มันเองก็ดูจะฉุนที่ผมไปด่ามัน

“Whatever. I’m sick of you now”

อยากบอกว่า คนอ่านก็เหนื่อยเหมือนกัน T_T

สนุกครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 11-12-2011 07:22:32
เนื่องจากช่วงนี้ mission ของคนเขียนเยอะมาก ยุ่งเหยิงมากครับ ชีวิตช่วงนี้ (ฮืออออออออ T T)

กลับบ้านดึกแทบทุกวัน  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เพราะงั้นเลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาแต่ง + อัพนิยาย ดังนั้นช่วงนี้อาจจะไม่ได้อัพตอนต่อไปนะครับ ต้องขออภัยไว้ด้วยน้าาาา T T

แต่ยังไงจะพยายามหาเวลา แต่งต่อและอัพให้ทุกคนได้เพลิดเพลินจำเริญใจกันนะฮะ



ปล. กว่าจะโพสข้อความนี้ได้ งงมากฮะ อยู่ดีๆมันก็ขึ้นว่า IP นี้โพสไปแล้วเมือ่ 90 วิก่อน ทั้งๆที่ผมยังไม่โพสเลย (อาร้ายยยยยย)
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-12-2011 09:25:31
ปล. กว่าจะโพสข้อความนี้ได้ งงมากฮะ อยู่ดีๆมันก็ขึ้นว่า IP นี้โพสไปแล้วเมือ่ 90 วิก่อน ทั้งๆที่ผมยังไม่โพสเลย (อาร้ายยยยยย)
เจอเหมือนกันเลย TT
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 11-12-2011 09:44:55
ฮาดี ชอบๆ ดูเรื่องนี้คงวุ่นไม่น้อย ม.เดียวกันไม่เท่าไร แต่อย่าบอกคณะเดียวกันด้วยนะ
ถ้าเป็นงั้นจะยิ่งฮามาก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: chai235 ที่ 11-12-2011 12:06:45
ปล. กว่าจะโพสข้อความนี้ได้ งงมากฮะ อยู่ดีๆมันก็ขึ้นว่า IP นี้โพสไปแล้วเมือ่ 90 วิก่อน ทั้งๆที่ผมยังไม่โพสเลย (อาร้ายยยยยย)
นึกว่าผมเป็นอยู่คนเดียว ชอบเรื่องนี้มากจะเมนท์แต่เย็นละ เจอปัญหานี้แหละ

อยากรบกวนคุณ ikora ใส่วันทีี update บนหัวข้อกระทู้ด้วยครับ เพราะบางทีก็จำไม่ได้ว่าตอนนี้อ่านไปยัง ถ้าได้วันที่ประกอบจะช่วยได้มาก ขอบคุณครับ

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 11-12-2011 14:59:53
555+ โคตร ฮาอ่ะ

พออ่านแล้ว รึสึกภาษา อังกฤษ ไม่ดีไปกว่าพริก เท่าไหรเลย 55555

แค่ก็เลยทำให้รู้สึกอินเข้าไปใหญ่

555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 11-12-2011 15:50:35
ก๊ากกกกกก
ฮาอะ คิดได้เนอะแอนนี่ หลอกเป็นผี
ป๊ามาจะทำยังไงล่ะพริก 55555

ยังไม่รู้อยู่ดีใครรุกใครรับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 11-12-2011 18:40:38
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: BaII ที่ 11-12-2011 18:43:42
รออ่านแอนนี่
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-12-2011 12:59:19
เหมือนได้เรียนภาษาไปด้วยเลย ไทยบรรทัดนึง อังกฤษบรรทัดนึง
คนเขียนเก่งจังครับ อยากเก่งภาษาอังกฤษแบบนี้บ้าง ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 15-12-2011 21:45:14
ซาหนุก  เฮ้ย  สนุกมากค่ะ o13
ฮาดีจริงๆ :m20:  คุยกันคนละภาษาแล้วยังเข้าใจกันไปคนละทางอีก
อ่านเรื่องนี้แล้วได้ฝึกภาษาและทำให้รู้ว่าตัวเองโง่อังกฤษแค่ไหน :z3:
+1 เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: arun do d ที่ 15-12-2011 22:08:04
 o13 สนุก ฮากลิ้งกันเลยที่เดียว  :m20:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: pinfai ที่ 15-12-2011 22:41:42
อ่านไปฮาไป

เหมือนจะได้ฝึกภาษาไปในตัว

อ่านได้ แปลไม่ออกนี้

ตึบเลย 5555+
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 16-12-2011 20:18:08
ทำไมพริกต้องกลัว ม้ากับป๊าเห็นแอนนี่อะ
ก็บอกไปดิว่าคนข้างห้องเข้าห้องไม่ได้แค่นี้
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 16-12-2011 22:47:08
อ่านเรื่องนี้เหมือนได้ฝึกภาษาดี

คำส่วนใหญ่ก็เข้าใจได้พออ่านแล้วแปลออก

แต่คนไหนไม่รู้เรื่องก็ใช้บริการพี่กูเกิ้ลช่วยอีกที

ประมาณว่าอันไหนยาวเกินที่จะแปลก็พึ่งพี่กูเกิ้ลไป 555+

แต่งงนิดหนึ่งอ่ะ ทำไมต้องกลัวป๊าม้าเห็นด้วย

ก็บอกไปเลยว่าเพื่อนบ้านทำกุญแจหายมาขออยุ่ด้วย

ป๊าม้าคงไม่เข้าใจผิดหรอกมั้ง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: praseat ที่ 28-12-2011 15:55:37
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:ยังไม่มาอีกเรอะ....เห้อ++ :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 29-12-2011 17:09:00
อ่านตอนม้าที่ไม่ใช่ฮอรส์นี่แล้ว ขำกลิ้งเลยอ่ะ
โชคดีที่นั่งอ่านอยู่คนเดียว ไม่งั้นคนอื่นต้องนึกว่าเราบ้าแน่ๆ 5555+
ขอบคุณมากๆที่แต่งเรื่องตลกๆๆให้ได้อ่านอารมณ์ดีมากๆเลย
ขอให้มีเวลามาแต่งต่อ และรออ่านตอนต่อไปนะฮะ

ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่เลยนะฮะ
ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง สาธุ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 29-12-2011 19:06:22
พึ่งเข้ามาอ่านสนุกมาก

คนนึ่งพูดอย่างนึ่งอีกคนแปลอย่างนึง ฮามากกก

มาอัพเร็วๆนะ ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 29-12-2011 19:57:46
 :laugh: ขนาดแปลไม่ค่อยออกยังฮาขนาดนี้
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-12-2011 21:18:34
ฮาโคตร   :m20:

มาต่อไวๆ นะครับ

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 30-12-2011 01:43:47
มาลงทีเหอะน้า

รอไม่ไหวแล้วง่า :serius2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 03-01-2012 00:58:52
เข้ามารอครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: ฝนไฟ ที่ 03-01-2012 20:54:05
เรื่องนี้สนุกดี ได้ฝึกภาษาไปด้วย แต่บางครั้งก็รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของตัวละครเท่าไหร่ ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลสำหรับเราในบางครั้ง (เราอาจจะอ่านไม่เข้าในเอง) แต่อยากรู้ว่าจะรักกันได้ไง กำแพงภาษาโหดใช่เล่นนะ
ตั้งหน้าตั้งตารอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: kogomon ที่ 04-01-2012 00:18:25
หายยย!!!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: praseat ที่ 07-01-2012 20:22:21
 :undecided: ดอง :undecided:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 07-01-2012 21:13:16
ฮา มากมาย
คิดได้ไงมุขนี้
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: patloom ที่ 07-01-2012 23:52:52
ขำท้องแข็ง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 09-02-2012 12:39:10
knock knock
เมื่อไหร่จะมาต่อฮะ หายไปนานเลย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: หัวเเม่มือ ที่ 09-02-2012 13:46:05
สนุกมากแต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องหลบด้วย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 10-02-2012 00:42:50
สนุกดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: aoommy ที่ 10-02-2012 01:23:51
มารอจ้า :call:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update - Chapter 4]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 13-05-2012 19:40:23

เย่ๆๆๆๆ หายไปจนผมว่าทุกคนนึกว่าผมตายไปแล้วแน่ๆ 555555 แต่ยังอยู่ครับผม พอดีตอนนั้นช่วงน้ำท่วมก็เลยยุ่งมากๆ แถมต้องเตรียมฟิตแอดมิชชั่นอีก ในที่สุดช่วงนี้ก็พอมีเวลาปั่นเรื่องต่อ ยังไงต้องขอโทษทุกๆคนจริงๆนะ สำหรับตอนนี้อาจจะสั้นซักหน่อย เพระามันเป็นตอนจบ part พอดี ยังไงก็ ขอขอบคุณทุกคนไว้ด้วยนะครับบบบบบ... จุ๊บๆ






“อ้าว เห้ย! ป๊า!!” ไอ้ตี๋ตะโกนอย่างตกใจ คาดว่าฝ่าย ‘ป๊า’ น่าจะวางสายใส่หน้ามันไป


“So…. What are we gonna do?” ผมถามเกร็งๆ ก็แหม มันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนิ่ครับ ไปทำแม่มันช็อค ขนาดนี้ ต้องถามอาการหน่อย


แต่มันก็ยังเงียบครับ และยังคงดูอาการแม่มันซึ่งนอนขากระตุกชี้ฟ้าแด่วๆต่อไป


“Is she dead?” ผมยื่นหน้าเข้าไปมอง จังหวะเดียวกับที่มันยืนขึ้นแล้วหันมาลากมือผมออกมาจากห้องแรงๆ


“Hey!! It’s hurt! You grab me too tight. Let me go!!” ผมสะบัดมือมันแรงๆทำให้แขนผมหลุดจากพันธนาการของมัน “What’s wrong with you!?”


“ยังจะมาทำโวยวายอีกนะมึง! สร้างปัญหาให้กูได้ไม่หยุดหย่อนจริงๆ!!” มันชี้หน้าผมก่อนจะเอามือกุมขมับแล้วถอนหายใจ ส่วนผมเหรอครับ จะทำอะไรได้ หน้าจ๋อยสิครับ โดนด่าว่าเป็นตัวสร้างปัญหาเนี่ยะ “เดี๋ยวอีกซักพักป๊ากูจะมาที่นี่...”


“พ้าร์?... You mean – fish??”


“นั่นมันปลา โว้ยยยยย!!!! ป๊าๆ อ่ะ ป๊า มาย ฟาเต้ออ่ะ!!” มันหันมาโวยวายแยกเขี้ยวแบ็กกราวด์เป็นสีแดง


“So why don’t you call your parents ‘พอร์’ and ‘แมร์’?”


“ภาษาจีนโว้ยยยยย!!! มันก็คือๆกันแหละน่า!!” โวยวายอีกละ


“Ah! I see. Chinese language is always complicated, isn’t it?” ผมทำท่าครุ่นคิด


“อืมมมม จะว่าไปก็จริงนะ ภาษาจีนหลายคำก็...” มันทำท่าครุ่นคิดตามก่อนจะ....


“มันใช่ประเด็นที่ไหลล่ะโว้ยยยยยยยยยย!!!” โวยวายอีกรอบครับ


“So, what’s the point here?”


“หือ?? ชี้อะไรวะ?? งง” เอ๊า พอเข้าเรื่องก็โง่เสวยอีกครับ


“Errrrr. I mean พราเดน”


“อ่อ ประเด็นน่ะเหรอ” มันทำท่านึกได้ก่อนจะเดินไปที่ประตู


“Yeah?”


“ประเด็นคือ เมิงต้องออกไปจากห้องนี้” มันพูดพร้อมกับเปิดประตูห้องมันออก ผมก็ได้แต่ยืนมองประตูสลับกับมองหน้ามัน








Chapter 5: Where can I go then!!?




“You’re kidding, right?” ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อที่มันพูด อยู่ดีๆจะมาไล่ผมเนี่ยนะ แล้วผมจะไปที่ไหนล่ะ ตอนนี้ห้องอื่นเค้าออกไปข้างนอกกันหมดแล้ว เหมือนอย่างเมือ่วานไง


“กูไม่เด็กแล้วเห้ย! กูโตแล้ว”


“I mean – You’re joking!”


“เห้ย! กูพูดจริงๆ เมิงต้องออกไป”


“Hell to the no! I’ll stay!” ผมเริ่มมีน้ำโห ยืนกอดอก


“อ่าว เหี้ยนี่! ห้องก็ห้องกู กูบอกให้ออกก็ออกไปเด๊ะ!!”


“Why do I have to leave?!!”


“บีคอส มาย ฟาเต้อ อีส คัมมิ่ง!!!”


“Huh!!” ผมอุทาน เอามือปิดปาก “God sake!! Did your father cheat on your mother?!! Are you alright??”


“.....ห๊ะ” มันทำหน้าเป็น Question mark


“You said your father is cumming – like have some orgasms with other girl??”


โป๊ก!!


“Ouch!!” โดนมันเขกหัวไปเต็มๆ เล่นซะผมเห็นดาวเต็มหัวผมเลย “What the fuck!!! That’s hurt!!”


“เออ สมน้ำหน้า อยากลามปามถึงพ่อมึงนัก” มันยืนกอดอกสะใจในขณะดูผมเอามือคลำหัว


“What’s so wrong with what i said?? You said your dad’s cumming”


“คนละ คัม กันแล้วมึงเอ๊ยยยย! กูหมายถึง ป๊ากูกำลังจะมา อันเด้อสะแต๊น?”


“Ahhh I see”


“ให้ตายสิ กว่าจะเข้าใจ”


“Okay. So, your dad’s coming so why I can’t stay?” ผมวกกลับเข้ามาประเด็นหลัก


“โอ๊ยยยย!! อยู่ไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้สิจะอะไรนักหนา!!” เอ๊า ถามดีๆ จะโวยวายอีกทำไมวะ


“Why!!???” ผมถามเสียงเข้มขึ้น


“ป๊าม้ากูได้ฆ่าเอาสิ!! ป๊าม้ากูไม่อนุญาตให้ใครมาค้างห้องกูโดยไม่ได้รับอนุญาต”


“Awwwww. Such overprotective parents” แหงหล่ะครับ พ่อแม่อะไรวะ หวงลูกเกิ๊น


“เออๆ มึงจะพูดเหี้ยอะไรของมึงก็เชิญ แต่ว่า เมิงอยู่ไม่ได้” มันพูดจบก็ลากผมออกมานอกห้องเลยครับ


“What??!! You can’t do this!! Where would I stay!!??”


“ไม่รู้เว่ย! เรื่องของเมิง”


ก่อนที่ไอ้พริกมันจะปิดประตู ผมก็อาศัยความไวของตัวผมกระโจนเข้าไปในห้องอีกครั้งอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วระดับ Godspeed


“เห้ย!! ไอ้นี่!!! พูดไม่รู้เรื่อง!!”


“It’s unreasonable!! Why don’t you just tell your parents that I lost my key??!!”


“เมิงเป็นโจอี้บอยรึไงวะ! แร็พอยู่นั่นแหละ!!!” หะ? ใครนะ โจอี้บอย? ไม่รู้จัก เค้าเป็นใคร


“I don't know who's that but whatever. Just – Tell – Them. I lost my key”


“โอเคๆๆ เรื่องกุญแจมันน่าจะใช้อ้างป๊าม้ากูได้” มันยกมือยอมจำนน “แต่เมิงอาจจะลืมไปว่า ป๊าม้ากูก็เคยมีเรื่องกับมึงเหมือนกัน”


จริงด้วย... ลืมนึกไปเลยเฮ้ย เรื่องนั้น ไอ้จะเอามาอ้างว่าเข้าใจผิดตอนนี้ก้อไม่ได้ ขนาดกะตัวลูก มันยังชั่วร้าย ยียวนขนาดนี้ แล้วตัวพ่อตัวแม่ล่ะจะขนาดไหน...


“W – Well…. I’ll just explain that it’s just a misunderstanding situation” เอาว่ะครับ ใจดีสู้เสือมันซักตั้ง


“เหรอออ มึงรู้มั้ยว่าหลังจากวันนั้นป๊ากูพูดด้วยซ้ำว่า ฝรั่งอย่างมึงถ้าเจออีกทีจะกระโดดถีบให้กระเด็นกลับอเมริกาไปเลยด้วยซ้ำ” โอ้ย อะไรมันจะโหดขนาดนี้วะ “เมิงเข้าใจรึยังว่าทำไมกุถึงไม่อยากให้ป๊ากับม้าเจอมึง เดี๋ยวเรื่องมันจะใหญ่โตอีก


“So what I’m gonna do”


“อย่างที่บอกนั่นแหละ มึงคงต้องออกไปก่อนว่ะ” นี่สรุปเอาจริงเหรอ


“Seriously? There’s no other way?? I mean I have no place to stay!!!” ผมเริ่มสติแตกสิครับ ผมจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ ห้องอื่นก็ไม่มีคนด้วย


“ก็กูบอกแล้วไงว่า เรื่อง – ของ – มึง”


“Fuck this! I’m not going anywhere!!” ผมโวยวายแล้วกระโจนไปหลบที่โซฟาของมัน


“บ๊ะ!!! ทำไมหน้าด้านงี้วะ! บอกให้ออกก็ออกไปดิ๊!!” พูดยังไม่ทันจบประโยคตัวมันก็มาคว้าผมไว้แล้วครับ แต่ใครมันจะยอมไปง่ายๆล่ะเห้ย! ผมก็คว้าหมับที่โซฟา แล้วพยายามยึดให้แน่นที่สุด แต่ฝ่ายมันเองก็ใช่ว่าแรงน้อยที่ไหน แรงยังกะควาย ดึงแล้วดึงอีกจนผมแทบจะไม่ไหวแล้ว แต่ทว่า ในที่สุด มันก็ยอมแพ้ความด้านของผมจนได้ครับ อิอิ “เออๆ กูยอมก็ได้ มึงอยู่ต่อได้...”


“That’s what I’m talking about!” ผมยิ้มอย่างมีชัย


“แต่”


“but?” แต่?? แต่อะไร มันพูดจบก็รีบเดินหายเข้าห้องมันไปก่อนจะออกมาพร้อมกับกางเกงว่ายน้ำและผ้าขนหนูของมัน


“เอานี่ไป”


“What’s this?”


“มึงลงไปว่ายน้ำข้างล่าง แล้ว... เดี๋ยวถ้าป๊ากูไปแล้ว เดี๋ยวกูลงไปบอกมึง” เอางั้นเหรอ?? แล้วผมจะเชื่อมันได้มั้ยเนี่ยะ


“Well… How can I trust you? You might just kick me out and left me in the pool…”


“แล้วมึงมีทางเลือกอื่นมั้ยล่ะ” ไม่มี แต่จะให้เชื่อไอ้หมอนี่ได้แน่ๆเหรอ “มึงไม่ต้องห่วงหรอก ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ เดี๋ยวกูลงไปหาถ้าพ่อแม่กูไปแล้ว”


เหยดดดดดด ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ หล่อจริงๆว่ะไอ้ตี๋ แถมทำหน้าจริงจังอีก เอาวะ น่าจะเชื่อมันได้แหละมั้ง “Alright. I’ll leave for now”


“กู้ด” มันพูดพร้อมกับดันผมไปที่หน้าประตู




หลังจากนั้นผมก็ลงไปว่ายน้ำด้วยกางเกงว่ายน้ำของมัน (หยีชะมัด แต่จะทำไงได้ล่ะ)ที่ชั้นลอยซึ่งเป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวคอนโด ผมเพิ่งจะสังเกตว่า มันใส่กางเกงไซส์ใหญ่มาก! ซึ่งผมต้องดึงสายซะจนแทบจะยาวระพื้นถึงจะพอดีตัวผม เฮ้อ แต่จะว่าไป เท่าที่ฟังไอ้พริกพูด ทำไมพ่อแม่มันดูจู้จี้ยังไงไม่รู้แหะ ต่างจากครอบครัวชาวอเมริกันโดยสิ้นเชิงเลย ปล่อยอิสระเต็มที่ ใช้ชีวิตได้ตามใจ อิสระใหม่จากวันทูคอล (เอ้ย ไม่ใช่แล้ว) ผมสงสัยจริงๆว่ามันไม่อึดอัดบ้างเลยรึไง


เวลาล่วงเลยไปนานเกือบๆสามชั่วโมงเห็นจะได้ ที่ผมกึ่งว่ายกึ่งลอยกึ่งตีน้ำกึ่งพ่นน้ำกึ่งนอนแผ่อยู่ในสระ ท่ามกลางแดดที่จ้า จนผมรู้สึกได้ว่า จากความเป็นฝรั่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ผมเริ่มโอนสัญชาติเป็นแอฟริกันแล้ว ทำไมมันนานอะไรนักหนาเนี่ยะ จนป่านนี้ไอ้พริกยังไม่โผล่หัวมาซะที ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจขึ้นจากสระน้ำ แล้วรีบไปอาบน้ำเช็ดตัว แล้วมาใส่เสื้อเตรียมขึ้นไปหามัน อะไรมันจะนานนักหนาวะ แล้วอยู่ดีๆ


“แบร่!!!!” ไอ้พริกโผล่ออกมาจากเสาต้นหนึ่ง แทบจะหน้าชิดกับหน้าผม


“Aaaaaaaaa!! Fuck me!! Fuck me!!” ผมก็ตกใจสิครับ รีบถอยออกมาทันที แต่ดูเหมือนไอ้พริกเองก็ตกใจเหมือนกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพราะคำอุทานของผม


“กูไม่เอามึงหรอก ไอ้ฝรั่งนี่” มันทำหน้าแหยๆหลังจากตั้งสติได้


“Huh” ผมถอนหายใจก่อนจะโวยวาย “What the hell are you doing! If I have heart attack, I could die!!”


“โอยยย โวยวายอะไรมึง แอ๊ดทงแอ๊ดแท็ก แฟ้บ บรีสเอ็กเซล อะไรไม่รู้เรื่อง กูก็หยอกเล่นๆเฉยๆ ได้เห็นมึงทำหน้าเหวอด้วย 555555”


“Argh, whatever. What took you so long?” ผมถามทันทีว่าทำไมถึงช้านัก


“ห๊ะ??” ทำหน้าเอ๋อกวนบาทากูอีก


“I mean it’s almost three hours –“ ผมชูนิ่วสาม แล้วชี้ไปที่นาฬิกาที่อยู่ไม่ไกลมากนัก “- since I left the room!”


“อ๋ออออ คือจริงๆแล้วอ่ะนะ” มันเดินเข้ามาตบบ่าผมท่าทางกวนประสาท “ป๊าม้ากูกลับนานและล่ะ”


“What?”


“กลับนานแล้ววว ม้ากูซักพักก็ได้สติ บอกว่าจะไปหาหมอผีอะไรนี่แหละ แล้วป๊ากูก็พาม้ากูซิ่งไปเลย กูก็เลยได้มีเวลา มาแอบเห็นฝรั่งหน้าเจื่อน ว่ายน้ำไป ว่ายน้ำมา แล้วก็ทำหน้าเป็นตูด –“ มันพูดแล้วหันหน้ามาทำหน้าล้อเลียนใส่ผม “- เนี่ยะ แบบเนี้ยะ กร๊ากๆๆๆๆ”


“i – i – i – i Here!!” โอยยยยย แม่ง สรุปว่ามาแอบดูอยู่ตั้งนาน เลวมาก แล้วก็ไม่โผล่หัวมา


“โว๊ะ คำด่าภาษาไทยชัดเชียวมึง สุโค่ยว่ะ แหม่ๆ แต่ก็น่ารักดีนะมึง”


“Cute? Me?” งงว่ะ นี่สรุปว่าชมเหรอ


“ก้อออออ มันดูฮาดี พิศดาร ไม่เหมือนคนยังไงไม่รู้ กร๊ากกกกๆๆๆๆ” มันพูดก่อนจะเดินนำผมไปที่ลิฟต์ ปล่อยให้ผมยืนยั๊วะ กับคำชมแบบลูบหลังแล้วตบหัวของมันนี่แหละ





To be continued
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 13-05-2012 19:47:47
 :sad4:กลับมาแย้วหรอออออออออออออออออ?  :man1: :man1: อั๊ยๆๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5]
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 13-05-2012 20:37:52
ในที่สุดก้อกลับมาต่อแล้ววว  :sad4:

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5]
เริ่มหัวข้อโดย: aoommy ที่ 13-05-2012 20:42:51
 :mc4:ว้าวกลับมาแล้ว เรารักเรื่องนี้มาก ขอตัวไปอ่านก่อนนะ จ๊วฟฟฟ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 13-05-2012 21:07:54
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 13-05-2012 22:06:35
เพิ่งเข้ามาอ่าน ฮาม้ากกก :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet~ ที่ 13-05-2012 22:17:53
เพิ่งได้อ่านตอนคนเขียนกลับมาต่อ
อ่านไปขำไปจนคนข้าง ๆ ถาม 5555

“i – i – i – i Here!!”
คำนี้แอนนี่ด่าได้ชัดที่สุดเลยอ่ะ  :z1:

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5]
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 13-05-2012 22:33:35
ชอบเรื่องนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงแม้ว่ามันจะเข้าใจยากหน่อยก็เถอะ 555  :-[
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 14-05-2012 00:39:12
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามนะค้าบบบ

ว่าแต่ เวลาแอนนี่พูด ให้มี subtitle ท้ายประโยคด้วยดีป่าวอ่าาาา จะได้เข้าใจเนื้อเรื่องกันทุกคนด้วย เพื่อนๆคิดว่ายังไงดีอ่ะคับบบ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-05-2012 00:44:24

 มีก็ได้ ไม่มีก็ดี บางทีก็อยากแปลเองบ้าง ให้ความรู้สึกร่วมในเหตุการณ์ดี ว่าบางทีไอ้คนฟัง มันก็ฟังไม่รู้เรื่อง  :a2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: Smilelimsminy ที่ 14-05-2012 01:40:58
i here ชัดเชียวนะแอนนี่...  :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 14-05-2012 03:35:07
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ  o13 สนุกมากกกกกก ฮาสุดๆ 
และเราก็ได้ข้อสรุปว่า  พริกรับเถอะนะ 555  เชียร์พริกรับอย่างเป็นทางการ   :z1: 55555
แอนนี่เหมาะเป็นรุกไงไม่รู้เคอะ ดังนั้นพริกรับดีที่สุด  :impress2:

ปล  :pig4: นะค่ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 14-05-2012 09:27:14
ตลกมากอะคู่นี้ 55555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 14-05-2012 09:40:34
กร้ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 14-05-2012 09:46:43
น่ารัก = . . =
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 14-05-2012 10:03:23
เย้ๆ มาต่อแล้วดีใจจัง  :mc4:
มีไม่มีก็ได้ แล้วแต่คนแต่งเลยว่าจะขี้เกียจหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 14-05-2012 13:14:33
ฮาทุกหย่อมหญ้าจริงๆเรื่องนี้

แนะนำว่าไม่ให้อ่านในที่เงียบและมีคนมาก
เพราะคุณจะขำดังอย่างไม่น่าเชื่อ
555ะ

+1 ให้จ้าาาา  อย่าหายไปอีกล่ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 14-05-2012 13:57:20
โอ๊ยย ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ ฮามากกกก
รู้สึกคำด่านี่เเอนนี่จะพูดชัดเป็นพิเศษ กร๊ากๆๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet~ ที่ 14-05-2012 14:42:34
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามนะค้าบบบ

ว่าแต่ เวลาแอนนี่พูด ให้มี subtitle ท้ายประโยคด้วยดีป่าวอ่าาาา จะได้เข้าใจเนื้อเรื่องกันทุกคนด้วย เพื่อนๆคิดว่ายังไงดีอ่ะคับบบ

สำหรับเราแล้วแต่คนเขียนค่ะ เพราะศัพท์ที่ใช้ก็ไม่ยากเท่าไหร่พอเดา ๆ ได้ ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-05-2012 20:32:19
กลับมาแล้ว นึกอยู่สักพักถึงจะอ่านต่อได้ ="=
ยินดีต้อนรับกลับจ้า หุหุ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 13/5/2012 - Chapter 5+ สอบถามความเห็น]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 14-05-2012 23:29:19
ตอนที่ 6 มาแล้วนะฮว้าฟฟฟฟ ตอนนี้แอบมีแฝงอะไรเยอะแยะเหมือนกันนะครับผม

ส่วนเรื่องมี subtitle มั้ย จากที่เพื่อนๆผู้อ่านบอกมา เราก็เห็นด้วยกับหลายๆคนที่บอกว่า เวลาไม่มี sub จะได้รู้สึกเหมือนค่อยๆเข้าใจเนื้อเรื่องไปตามพริกด้วย เพราะงั้นเราขออนุญาตไม่ใส่ sub ไว้แล้วกันนะครับ แต่ถ้าใครสงสัยคำไหนหรือยังไงก็ เม้นบอกเรามาได้นะครับผม ตอนนี้ไปอ่านตอนต่อไปกัยเลยดีกว่าจ้าาาาา









“Arghhhh, I’m so tired of these stuffs!” ไอ้ฝรั่งบ่นแล้วซุกหน้าลงไปในชีทภาษาไทยที่ผมไปซีมาจากหนังสือ ‘หัดฝรั่งพูดไทย’

“เห้ยๆๆๆ มึงตั้งใจหน่อยดิ้ เดี๋ยวอีกสามวันกูเปิดเรียนแล้ว ไม่มีเวลามาสอนมึงออกเสียงอะไรมากมายแล้วนะเว่ย” ผมหันมาเขย่าตัวมันที่นั่งข้างๆผม ตอนนี้เรานั่งกันบนพื้นและพิงโซฟาอยู่ครับ

หลังจากเรื่องวุ่นวายของป๊ากับม้าผมเมื่อเกือบหนึ่งเดือนก่อน ซึ่งตอนนี้ม้าก็ต้องดื่มน้ำอัมฤทธิ์ไล่ผีฝรั่งเช้าเย็นและก่อนนอน (มันใช่ผีที่ไหนล่ะม้า -*-) ตอนนี้เหตุการณ์ทุกอย่างก็แทบจะไม่มีอะไรมากไปกว่าอาการงอแงของไอ้แอนนี่ อาการโวยวายของผม ด่ากันแทบทุกวัน... ก็มีแค่นั้นแหละครับ

“กูมายวายแลว มุนมดแลว” อืม... ถ้าผมเดาไม่ผิด มันน่าจะหมายถึงว่า มันไม่ไหวแล้ว มันมึนแล้วล่ะมั้ง จะว่าไปพัฒนาการการพูดของมันก็ใช้ได้เลยนะครับคุณผู้อ่าน สอนมันเดือนสองเดือนมันก็เริ่มพูดภาษาไทยรู้เรื่องมากขึ้นแล้ว ผมเองก็รู้สึกว่าผมอ่านและพูดภาษาอังกฤษได้มากขึ้นไปในตัวเหมือนกัน

“แล้วจะเอาไงล่ะ มึงจะพักรึไง?”

“Yeahh. Give me a BIG BIG break” จะเอาเบรคยาวๆแค่ไหนละวะ กูจะรู้มั้ยเนี่ยะ

“งั้น เอ่อ... เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำแล้วออกมาก็ต่อละกัน”

“No way! แคมุงข้าวห้องนาม มานแพบดิวเอง!! (แค่มึงเข้าห้องน้ำมันแป๊บเดียวเอง)”

“แค่นั้นก็พอแล้วมึง เดี๋ยวก็จะไม่ค่อยมีเวลาสอนแล้วน่ะ”

“Then I’m not gonna practice these things anymore” แม่งกอดอกทำน่าบึ้ง พองแก้มตุ๊บป่องเลย คิดว่าน่ารักรึไงวะ...... เออ แต่แม่งก็ดูแบ๊วดีนะ

“เอ๊า ไอ้นี่ จะมาทำงอนอะไรวะ แล้วมึงจะเอายังไง?”

“ตังแตกุมา Thailand กุยางไม้เคยดายเทวที่หนายเลย (ตั้งแต่กูมาเมืองไทย กูยังไม่เคยเที่ยวที่ไหนเลย)” มันเริ่มพูดแล้วทำหน้าตาเป็นเชิงขอร้อง “เมิงพากุปายเทวทีด่ายไม้ (มึงพากูไปเที่ยวทีได้มั้ย)”

อ่าว ไหงมาขอกูซะงั้นล่ะ?? แล้วแม่มึงไง อยู่ดีๆมาขอกูทำไม ไม่อยากไปเว่ย “อ่าว แล้วไมมึงไม่ไป ask your mother ล่ะวะ” (เป็นไงครับ เดี๋ยวนี้ผมเริ่มออกสำเนียงได้บ้างแล้วนะ คิคิ)

“She’s been busy lately so she can’t take me anywhere” อธิบายจบปุ๊บ แม่งก็เพิ่มดักรีความแบ๊ว ทำตาเป็นประกายวิ้งๆเลยนะมึง “Please, Prick… พรืดดดดดด”

แล้วมึงจะมีแอบขำชื่อกูอีกทำม้ายยยยยย!!!

“Please, Prick. Take me out” โอ้โห มันน่าถีบมั้ยเนี่ยะ มาแอบขำกู แล้วมาขอร้องกูอีก เฮ้อออออ

“เอางั้นเหรอวะ” ผมถาม ซึ่งก็ได้คำตอบมาเป็นการพยักหน้าหงึกๆ “งั้น..... พาไปใกล้ๆละกัน พารากอนมั้ย”

“ปายแล่ว (ไปแล้ว)” เอ๊า แล้วบอกไม่เคยไป

“งั้นเซน’เวิร์ล”

“ปายแล่ว”

“แพลตตินั่ม”

“ปายแล่ว”

“เทอร์มินอล 21”

“ปายแล่ว”

“โอ้ยยยยยยยยยยยยยย ไอ้เหี้ยนี่!! แล้วมึงบอกไม่เคยออกไปเที่ยวแล้วพอกูเสนอที่ไป มึงก็บอกว่าไปแล้ว” ผมลุกขึ้นยืนโวยวายแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ “วุ้ย! ไม่ต้องพามึงไปไหนและ อยู่ที่นี่เนี่ยแหละ”

“Nooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo” เสียงโหยหวนของไอ้ฝรั่งดังไล่หลังผมมา ก่อนจะต่อยๆเงียบไปเมื่อผมปิดประตูห้องน้ำ









Chapter 6: ไปเที่ยวกันมั้ย – มั้ย – มั้ย – มั้ย – มั้ย





“เอ้า นี่” ผมชี้ดินสอไปที่ชีท ที่คำว่า พื้นฐาน “ไหนมึงออกเสียงดิ๊ พื้น-ถาน”

“พืน – ทา...” ไอ้ฝรั่งตอบเสียงอ่อยๆ และมองชีทด้วยสายตาเลื่อนลอย

“เอาใหม่ๆ พื้น – ถาน”

“พืน – แทน” ยังคงเป็นซอมบี้อยู่

“นี่มึง ตั้งใจหน่อยดิ่ ตั้งสติๆ” ผมพูดแบบเริ่มมีน้ำโหแล้วครับ สอนไปห้าคำ กว่าจะออกเสียงได้แต่ละคำ ปาเข้าไปเกือบสี่สิบนาที “เอาอีกรอบๆ พื้น – ถาน”

“........” แม่งไม่ตอบเลยซะงั้น โอยยยยย - -*

“เฮ้ออออออ” ผมถึงกับฟุบลงไปกับโต๊ะ แล้วพูดอย่างเบื่อหน่าย อะไรมันจะงอแงอย่างงี้วะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยเป็น“เอออออ โอเคๆ มึงอยากไปเที่ยวใช่มะ ไปก็ไป”

“Really???!!!” นั่นๆ ทีงี้ล่ะกระโดดเป็นผีเข้าเชียวนะมึง

“เอออ อยู่ต่อ มึงก็ไม่ติดจะฟังอยู่และนี่ สัส” ผมตอบอย่างเบื่อหน่าย ส่วนไอ้ฝรั่งเองก็ลุก ไม่ๆ มันกระโดดด้วยซ้ำ แล้วเดินไปเดินมาอย่างตื่นเต้น เหมือนเวลาแมวได้กลิ่นอาหารเลยแหะ

“So let’s go somewhere!”

“แล้วมึงจะไปไหนล่ะ ที่กูพูดไปเมื่อตอนโน้น มึงก็ไปหมดแล้วนี่”

“Yep. I only go to department store but I haven’t gone to any historical places here”.....กูงง

“ห๊ะ?? อะไร ฮิสทีเรียๆ”

“I mean…. Errrr….. ซะทานทีปราวัดแสด” ....งงหนักกว่าเดิม ผมทนไม่ไหวเลยไปเอากระดาษมาให้มันเขียนแทนครับ วิธีนี้ผมสองคนใช้บ่อยอยู่เวลาที่คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือแม้แต่ตอนด่ากันแล้วฟังไม่รู้เรื่องอ่ะนะ ซึ่งพอมันเขียนเสร็จผมก็ถึงบางอ้อทันที ไอ้แอนนี่มันอยากไปพวกสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของบ้านเรานั่นเองครับ

“แล้วมึงอยากไปที่ไหนก่อนล่ะ”

“Well, let me think…. I’ve seen Wat Srichum (วัดศรีชุม) and I think it’s beautiful” วัดศรีชุมเหรอ... อืม เคยได้ยินอยู่นะ... วัดศรีชุม วัดศรีชุม... เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน

“พ่อมึง!! วัดศรีชุมมันอยู่สุโขทัย! กว่ามึงจะไปถึงก็ได้เวลากลับบ้านแล้วมั้ง! มึงเอาในกรุงเทพดิ่เห้ย”

“Don’t have to be so fuzzy. I just said what I think” บ่นอะไรของมันอีกวะ “Well…. Start from Emerald Buddha, then.”

Emerald Buddha เหรอ... คืออะไรวะคุ้นๆ เอ๊ะๆๆ เหมือนผมเคยได้ยินที่ไหนซักที่... “วัดพระแก้วป่าววะ”

“Ah! Ah! That’s right!” มันจะตื่นเต้นอะไรนักหนาวะ ยังกะถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง

“โอเค งั้นก็ไปเตรียมตัว เร็วๆเข้าล่ะ เดี๋ยวก็ไปไม่ทัน” ผมเกาหัวแกร๊กๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปเก็บของและเปลี่ยนเสื้อผ้า

“Yes sir!!” ส่วนไอ้ฝรั่งกระดี๊กระด๊ารีบวิ่งด้วยความเร็วแสงไปที่ห้องมันทันที

หลังจากที่เราสองคนใช้เวลาแต่งตัวไม่นานพวกเราก็พร้อมจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปเที่ยวกับพวกเรา แอนนี่ และพริกกี้ ในรายการ เทย – เที้ยวไทยย (ชิ้ง) เย้เยเย่ เห้ย!! ไม่ใช่ จะบ้าเหรอ เอาใหม่ครับ เอาใหม่ หลังจากที่พวกผมสองคนแต่งตัวกันเสร็จ พวกเราก็ไม่รอช้า รีบโบกแท็กซี่หน้าคอนโดแล้วตรงดิ่งไปที่วัดพระแก้วกันทันที

“Wowwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwww!!” เสียงไอ้ฝรั่งร้องอย่างตื่นเต้นหลังจากลงจากแท็กซี่ ท่าทางมันดูตื่นเต้นมากๆ ยืนจ้องวัดพระแก้วติดสตั๊นไปเกือบนาทีได้

“แล้วนี่มึงจะยืนอยู่ตรงนั้นจนนกมันขี้มาใส่รึไง ตามกูมา” แล้วผมก็เดินนำมันเข้าไปข้างใน โชคดีที่พวกเราแต่งตัวกันมิดชิด กางเกงยาว รองเท้าผ้าใบ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนเป็นผ้าที่ทางเจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ เพราะว่าการใส่กางเกงขาสั้นหรือขาสามส่วน รวมถึงพวกรองเท้าที่ไม่หุ้มส้น หรือพวกกระโปรงก็เป็นเหมือนการไม่ให้เกียรติสถานที่ของเค้าครับ

หลังจากผมสองคนผ่านเข้ามาข้างในจนถึงซุ้มที่เรียกว่า ประตูพิมานชัย ก็เจอกับซุ้มจำหน่ายตั๋วสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งไอ้แอนนี่ก็ต้องจำใจไปต่อคิวซื้อตั๋วราคา 400 บาท ในขณะที่ผมซึ่งเป็นคนไทยอยู่แล้ว ฟรีครับ คิคิคิ ซึ่งนี่แหละทำให้ผมสามารถยิ้มเยาะเย้ยมันอย่างมีชัยในขณะที่มันเดินหน้าเบ้ นับเงินในกระเป๋าก่อนจะเข้าไปข้างใน

เมื่อเข้ามาข้างในส่วนของโบสถ์ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตอยู่ ไอ้ฝรั่งก็กลับมาร่าเริง ดูตื่นเต้นอีกรอบ ไอ้เจ้านี่นี่ก็ตลกดีนะครับ เดี๋ยวๆก็เศร้า เดี๋ยวๆก็ตื่นเต้น อารมณ์เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว แถมชอบทำท่าทางหงอๆหรือดีใจเหมือนกับแมวอีกด้วย ดูแล้วตลกดีชะมัด

หลังจากที่แอนนี่มันอิ่มหนำกับความสวยงามตระการตาของวัดพระแก้วเรียบร้อย ผมก็ชวนมันให้ไปไหว้ศาลหลักเมืองที่อยู่ใกล้ๆกัน

“But I’m Christian. Is it okay?” มันถามเมื่อผมชวนมันให้เข้าไปไหว้ศาลหลักเมืองด้วยกัน

“ไม่เป็นไรหรอกน่า มันอยู่ที่ใจมากกว่าว่ะ” ผมหันไปยิ้มให้มัน ซึ่งมันก็พยักหน้าหงึกๆแล้วเดินตามผมเข้าไป หลังจากที่ผมไหว้สักการะหลักเมืองเรียบร้อย ผมก็หันมาเห็นมันทำท่าเก้ๆกังๆเหมือนพยายามทำตามผม ซึ่งก็ทำให้ผมอดหัวเราะกับท่าทางของมันไม่ได้

“What’s so funny?” ผมหันขวับมาค้อนใส่ผม

“มึงไม่เคยไหว้พระมาก่อนใช่มั้ยเนี่ยะ”

“Hello? I said I’m Christian” มันตอบทำท่าทางกวนประสาท

“เอ๊า เชี่ยนี่ ถามดีๆ” ผมพูดเบาๆเพราะอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็อดหันไปแยกเขี้ยวใส่มันไม่ได้

“So?” มันส่งสัญญาณถามด้วยหน้าตากวนประสาทเช่นเคย และกรอกตาไปที่มือของมันเป็นเชิงให้ช่วยสอนมันหน่อย

“เฮ้ออออ อ่ะ เริ่มแรก มึงพนมมือแบบนี้” ผมทำท่าแล้วให้มันทำตาม ซึ่งดูท่าทางมันตั้งใจทำตามมากจริงๆ “อื้มแบบนั้นแหละ แล้วเสร็จแล้วมึงก็นั่งแบบนี้” พูดเสร็จผมก็นั่งท่าเทพบุตร ซึ่งมันก็ทำตามอีกเช่นกัน

“Ouch” มันทำหน้าเหยเก และร้องออกมาเสียงเบาๆทันทีที่อยู่ในท่าเทพบุตร พร้อมกับบ่นออกมา “This hurts”

“แรกๆก็เจ็บแบบนี้แหละ เดี๋ยวมึงก็ชิน” แล้วผมก็หยิบธูปที่อยู่ในมือมัน ไปจุดให้ เพราะท่าทางเก้ๆกังๆแบบมัน กว่าจะจุดธูปได้ก็สอนกันยาวล่ะครับ “อ่ะ เอาธูปนี้ไป แล้วตั้งใจอธิษฐาน และกราบไหว้หลักเมืองซะ”

“อาทิดทาน? กราบวาย??” นั่น สองคำนี้ยังไม่เคยสอน

“เอ่ออออออ ก็กราบไหว้ like pay homage อ่ะ and อธิษฐานก็แบบ pray for yourself ขอพรอ่ะ”

“Ahhhh Okay. I get it”

“เออ นั่นแหละ กราบไหว้และอธิษฐานซะ เสร็จแล้วบอกกู” มันพยักหน้าแล้วหันไปเพ่งจิตตั้งใจกราบไหว้หลักเมือง ด้วยสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันดูมีความสุข อิ่มบุญ ดูร่าเริงอย่างบอกไม่ถูก แล้วซักพักนึงมันก็หันมา “เสร็จและ?”

“อื้ม” มันพยักหน้า ผมจึงเอาธูปจากมือมันไปปักไว้

“โอเค คราวนี้ทำแบบนี้นะ” พูดเสร็จผมก็ก้มลงกราบ ซึ่งมันก็ทำตามพร้อมเสียงโอดโอยเล็กน้อย เป็นอันจบคอร์สการสอนการกราบไหว้บูชา... แต่ก็ยังขาดการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ที่ใช้กับพระน่ะนะ

หลังจากสักการะบูชาศาลหลักเมืองเรียบร้อย ไอ้แอนนี่มันก็ง้องแง้งขอไปเดินให้อาหารนกพิราบที่สนามหลวง ซึ่งผมก็ไม่ได้ปฏิเสธหรอกครับ ไหนๆมาที่เดียวก็เอาให้คุ้มไปเลยละกัน ซึ่งหลังจากที่ไอ้ฝรั่งกึ่งให้อาหาร กึ่งวิ่งไล่นกพิราบ (เหมือนเด็กเลยเว้ย) ผมก็นึกถึงกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบทำที่นี่สมัยเด็กๆครับ

“เฮ้ย ไอ้แอนนี่ ชักว่าวกัน”

“Huh??” มันทำหน้าเหวอๆขณะโยนอาหารกำสุดท้ายให้กับนกพิราบ

“หือ อะไรเล่า ชักว่าวกันเหอะ กูอยากว่ะ”

“Urrrrr…. Is it supposed to be here?” มันยังคงทำหน้าเหวออยู่

“ก็เออดิ่ ถ้าไม่ชักที่นี่แล้วจะชักที่ไหนวะ คนเค้าก็ชักว่าวกันที่นี่เยอะแยะ” อะไรของมันวะ จะทำหน้าตกอกตกใจ ตาโตทำไม

“Well, It’s kind of retarded. You know, doing something like that here” มันเริ่มทำท่ากระอักกระอ่วนใจมากขึ้น

“เอ๊อออ ไอ้นี่ มาสนามหลวงทั้งที จะไม่กล้าทำไมวะกะอีแค่เล่นว่าว ตกลงจะเล่นไม่เล่น”

“Urrrr…. Okay” มันตอบแบบสองจิตสองใจ แล้วมองหน้าผมแบบกล้าๆกลัวๆ แปลกๆเว้ย

“โอเค งั้นไป” แต่ก่อนที่ผมจะก้าวเท้า ก็เห็นไอ้ฝรั่งเริ่มรูดซิบกางเกงของมันเตรียมจะถอด จนผมกระโจนไปห้ามเกือบไม่ทัน “เห้ยๆๆๆๆ มึงทำเหี้ยไรเนี่ยะ”

“ก้ออออ เมิงบอกวาร์ ชัควาว ชายม้าย” ผมพยักหน้าตอบ “ก้ออออ How can we masturbate if we don’t take our pants off”

....เดี๋ยวนะ pants กางเกง take off ถอด... ถอดกางเกง masturbate… ช่วยตัวเอง.... โอยยยยยยยย!!! ไปกันใหญ่แว้วววววววว ผมแทบจะทำ extreme facepalm แบบใน 9gag จริงๆ

“ไม่ใช่ครับโว้ยยยยย! ชักว่าวกูหมายถึง playing kite เข้าใจมั้ยยยยย”

“Oh… right” มันทำหน้าเจี่ยมเจี้ยมขึ้นมาทันที

“ไอ้บ้าเอ๊ย ในหัวมึงคิดอะไรอยู่เนี่ยะ” ผมเดินบ่นแต่ก็กึ่งขำไปด้วย ไอ้นี่อะไรมันจะเอ๋อแดกได้ขนาดนี้ แล้วผมก็เดินนำมันไปที่ร้านขายว่าว (ซึ่งหมายถึงว่าวจริงๆนะครับ)

หลังจากที่ผมได้สอนมันเล่นว่าว สอนมันชักไปชักมาจนเหนื่อยหอบกันทั้งคู่แล้ว พวกผมก็มานั่งเล่นกันที่เก้าอี้ข้างๆสนามหลวง ประจวบกับพอดีมีคุณลุงมาขายไอติมถัง ผมเลยชวนมันกินซะหน่อย อากาศก็ร้อน แถมผมเชื่อว่ามันก็คงไม่เคยกินของแบบนี้ด้วย

“อ้ะ มึงลองกินดู” ผมยื่นแท่งสีเขียวส่งให้มัน

“What’s that? Seems like ice-cream” มันถามด้วยหน้าตาสงสัย

“อื้ม ไอติมนั่นแหละ เค้าเรียกว่าไอติมถัง”

“อาย-ทิม-ทาง”

“ไอ-ติม-ถัง”

“อาย-ทิม-ถั่ง”

“อื้ม นั่นแหละ มึงลองออกเสียงแต่ละคำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวซักวันก็ชัดเองแหละ” ผมพูดก่อนจะหันไปเลียไอติมของตัวเองก่อนที่มันจะละลาย

“You look so kind today” มันหันมามองผมงงๆ ทำตาโตๆ “What’s wrong?”

“เอ๊า พอกูไม่เถียงกับมึง มึงก็งงซะงั้น”

“Nothing. It’s just quite awkward”

“อะไรวะ หวอดๆ ฮอกวอร์ตเหรอ แฮรี่รึไง”

“No! I mean strange.” เอ๊า จะเหวี่ยงทำไมวะ

“เหวี่ยงไมเนี่ยะ กูก็แค่เห็นว่ามาเที่ยว กูก็ไม่อยากให้มันเสียบรรยากาศ แค่นั้นเอง รึมึงจะให้กูหาเรื่องมากวนมึง กูทำได้นะ”

“Knock it off! It’s good to have a break from argument” คือ ผมไม่รู้หรอกครับมันบ่นอะไร ก็เลยกวนประสาทมันไปเลยดีกว่า

“บ่นเหี้ยไรวะ กูฟังไม่รู้เรื่อง”

“What?” นั่นไง แม่งเริ่มหันมาค้อนผมและ

“พูดมาเป็นประโยคยาวๆงี้กูจะฟังทันได้ไงมึง แถมบ่นงึมงำอยู่ในคออีก ยังกะเสียงแมวร้องเลยมึง”

“Damn you! I should not start the topic” มันเริ่มบ่นอีกและ

“อะไรมึง หิวปลาทูเหรอ บ่นเนี่ยะ”

“Urrrgh!” มันเหวี่ยงใส่ผมก่อนจะลุกเดินไป

“อ้าว เห้ย! จะไปไหนน่ะ รู้ที่ทางแถวนี้รึไง” เหมือนมันจะนึกได้ครับ เดินหน้าแดงกลับมานั่งหน้าพองเชียะ เพิ่งเคยเห็นฝรั่งหน้าแตก ตลกดีแหะ “กร๊ากกกกกๆๆๆๆ ตลกดีว่ะ กูล่ะชอบหน้ามึงตอนแบบนี้จริงๆ”

“Shut up! It’s not funny you’re pissing me off!” บ่นอีก แล้วผมก็ฟังไม่รู้เรื่องอีก ได้แต่หัวเราะสะใจที่มันทำอะไรผมไม่ได้ เพราะผมฟังไม่ออกว่ะครับ วะฮ่าๆๆๆ

Starships were meant to flyyyyy, Hands up and touch the skyyyyyyy

“เอาอีกและไอ้นี่ เปลี่ยนริงโทนอีกและ เสียงอันที่แล้วใช้สามวันเอง แถมเพลงอะไรก็ไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่องอีก” ผมบ่นขึ้นขณะมองมันด้วยสีหน้าเอือมระอาขณะที่มันกำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“Shhhh!!” มันหันมาขู่ฟ่อก่อนจะรับโทรศัพท์ “Hi mom…….  Just hanging around outside with Mr. Cock”

อืมมม เท่าที่ลองแปลๆดู แม่มันโทรมา แล้วมันก็บอกว่าออกมาเที่ยวข้างนอกกับนาย... นาย... เอ๊ะ! Cock มันแปลว่า...

“เห้ย! มึงเรียกกูว่าอะไรนะ”

“Shhhh!!! I’m on the phone, you know” มันหันมาทำหน้าจริงจังกับผมก่อนจะหันไปคุยกับคุณนาตาชาต่อ “Yeah, mom. Okay. I’m sorry. His name is Prick…. I feel dizzy today so I ask him to be my guide around Bangkok….”

มันคุยอะไรของมันต่อไป ผมก็ฟังไม่ออกแล้วล่ะครับ รู้แต่ว่ามันคุยลื่นไหลมาก แถมคุยซะเร็วปรือเลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนมันบอกว่า “Bye mom. See ya”

“Okay. Where should we go next” มันหันมาถามผม

ผมมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดลงๆ แล้วก็หันมาดูนาฬิกาข้อมือผมซึ่งบอกเวลา หกโมงแล้ว “โอ้ เย็นขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ยะ ไปหาอะไรกินกันมั้ย”

“Where?”

“Do you know เยาวราช?”

“I’ve heard of it” มันตอบมาเสียงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่

“เคยไม่เคยไม่รู้ละ กูจะพามึงไปแดกที่นั่น” แล้วผมก็ลุกขึ้นเดินเอาไม้ไอติมไปทิ้งขยะก่อนจะโบกแท็กซี่ไปเยาวราช

ไม่นานหลังจากนั้น ผมกับไอ้แอนนี่ก็มาถึงย่านเศรษฐกิจเก่าของชาวจีนในเมืองไทย เยาวราช ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากป้ายไฟที่ติดอยู่ตามตึกคูริมสองข้างทางเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้านในยามค่ำคืน ถนนเส้นนี้ยังเต็มไปด้วยผู้คนเหมือนเช่นตอนสมัยเด็กๆที่ป๊ากับม้าพาผมมาบ่อยๆ

“This is hilarious” ไอ้แอนนี่ทำตาโตอีกรอบแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมันขึ้นมาถ่ายรูปแล้วอัพลง Instagram ของมัน

“เอ้าๆ ระวังรถด้วยมึง” ผมเตือนมันหลังจากดึงมันเข้ามาในเลนถนนรเพราะมีรถขับแทบจะเฉี่ยวมันอยู่แล้ว “มัวแต่ดูมือถืออยู่นั่นแหละ”

“Stop whining for one second okay?” มันหันมาแขวะ ก่อนจะเดินมองข้างหน้าแล้วถามผม “So Prick, what are we doing here?”

“อ๋อ มาตามหาพ่อค้าแซ่บ เอ้ย!! มาหาอาหารอร่อยๆแซ่บๆกิน” ผมตอบแล้วชี้ไปที่ร้านข้างหน้า “นี่ไง ร้านนี้แหละ กูมากินเวลามาที่นี่ประจำแหละ”

ร้านประจำของผมก็จัดได้ว่าเป็นห้องแถวธรรมดาๆที่เค้าซื้อหรือเช่าผมก็ไม่แน่ใจ ติดกันสองคูหา เป็นร้านอาหารจีนที่ผมว่าอร่อยที่สุดในย่านนี้แล้วครับ แถมเค้ายังมีอาหารไทยอีกด้วย เรียกว่ามีความหลากหลายพอตัวเลยล่ะ

“มึงเอาอะไร” ผมถามมันหลังจากที่เห็นมันอ่านเมนูมาพักหนึ่ง เรื่องเมนูมันก็คงไม่มีปัญหาครับเพราะเมนูร้านเค้ามีทั้งเขียนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

“Ummm… I don’t know. You choose for me.”

“แล้วมึงนั่งอ่านทำเตี่ยอะไรอยู่ตั้งนาน”

“It’s all look SOOO tasty. I can’t choose any of these!” แล้วมันก็ทำตาเป็นประกายกับเมนูอาหาร

“ทำหน้าแมวอีกและมึง งั้นเดี๋ยวกูสั่งให้เลยและกัน” ผมหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันไปเรียกพนักงาน แล้วผมก็นึกอะไรสนุกๆออก “พี่ครับ เดี๋ยวผมจดเองดีกว่าครับ” ผมบอกกับพนักงานซึ่งทำหน้างงๆก่อนจะยื่นใบออร์เดอร์มาให้ผม

สิบห้านาทีหลังจากนั้นอาหารก็มาครบ ซึ่งก็ถือว่าเร็วนะ สำหรับร้านที่มีคนแน่นไปสามชั้นตลอดเวลา แถมอาหารหน้าตาก็น่ากินทั้งนั้นเลยแหละคุณผู้อ่าน ซึ่งไอ้แอนนี่ก็ไม่รอช้าครับ ฟาด ผมขอใช้คำว่าฟาดเลย ฟาดอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างกับแร้งลง

“Ohhhhhh god. This is so SO delicious” มันพูดขณะที่ยังเคี้ยวผัดโป๊ยเซียนกับข้าวอยู่เต็มปาก

“มึงค่อยๆกิน ค่อยๆพูดก็ได้ เดี๋ยวก็ติดคอตามหรอก” ผมเตือนขณะซดน้ำต้มยำกุ้งซึ่งเป็นไฮไลท์เด็ดที่อยากให้มันกินอยู่ “เอ้อ แอนนี่ มึงกินต้มยำกุ้งรึยัง อร่อยมากเลยนะ” ผมพูดแล้วตักต้มยำกุ้งใส่ถ้วยของมัน

“Really? Thanks so much!” มันยิ้มกว้าง ก่อนจะค่อยๆตักน้ำต้มยำขึ้นมาซด

วินาทีนี้แหละครับที่ผมรอคอย ทันทีที่มันซดน้ำเข้าไป ผมถึงกับยิ้มร่ากับหน้าแดงก่ำไปจนถึงหูของไปทันที มีไอและสำลักเล็กน้อยก่อนจะพัดหน้าตัวเองแล้วซดน้ำเปล่าไปหนึ่งแก้วใหญ่

“Wha – What’s this??” มันถามเสียงหอบ แล้วสูดน้ำมูก ขณะที่น้ำตาไหลออกมา “Why is this so spicy?”

“กร๊ากกกกกๆๆๆๆ ก็กูสั่งพิเศษให้มึงไง เผ็ดมากสิบกะโหลก”

“What?”

“ก็ ต้มยำกุ้งน้ำข้นเผ็ดมากสิบกะโหลก กูกินแบบนี้จนชินแล้ว คิดว่ามึงน่าจะชอบเหมือนกันอ่ะนะ กร๊ากๆๆๆๆ”

“Oh! Damn you!” มันพูดก่อนจะลุกวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที

หลังจากนั้น มื้ออาหารทั้งมื้อ รวมถึงตลอดทางกลับคอนโดกร่อยลงทันที ผมพยายามชวนมันคุย พยายามแซวมัน แต่ก็ได้แต่คววามเงียบกับแก้มป่องๆเป็นสัญญาณตอบกลับครับ ผมก็รู้แหละครับว่าแกล้งมันเกินไป แต่ง้อเท่าไหร่ก็ไม่หายเนี่ยะ ไม่รู้จะทำยังไงดี

“นี่ หายโกรธกูเถอะ กูไม่ได้ตั้งใจนี่นา” ผมถามด้วยน้ำเสียงหวานๆ (ฝืนแทบตาย) ขณะที่เราสองคนขึ้นลิฟท์มาที่ห้องของพวกเรา

“........” แก้มป่องเช่นเคย

“เฮ้ยยยย หาดโกรธเถอะน่า นะๆๆ”

เฮ้อออ จนมาถึงหน้าประตูห้องของพวกเรา มันก็ยังไม่หันมามองหน้าของผมครับ เอาวะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยง้อมันก็ได้ แต่เลยเมื่อผมหันไป ก็เห็นท่าทางมันลุกลี้ลุกลน ดูในกระเป๋าสะพาย กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงมัน แล้วมันก็นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะหันมาหาผมด้วยหน้าที่แดงก่ำไปถึงหูอีกรอบ “…..Hey …..Ummmm I think I lost my key again”

“หือ? หายอีกแล้วเหรอ??” ผมถาม ซึ่งมันก็พยักหน้าช้าๆ “ก้อเคาะให้แม่มึงมาเปิดให้ดิ่”

“When she called me, she said she ‘s gonna work overnight” พอจะเดาๆออกครับ เหมือนว่าแม่มันจะทำงานค้างที่บริษัทเลย

“So?” ผมตอบเลียนแบบสำเนียงมัน ถึงแม้ผมจะพอเดาออกก็เถอะว่ามันต้องการอะไร

“Can I stay in your room for one night?” มันถามด้วยท่าทางจนมุม

“จะดีเร้ออออ มานอนค้างกับคนที่มึงโกรธด้วยเนี่ยะ ไม่อึดอัดแย่เหรอ” ผมทำหน้ากวนประสาทกลับ

“Just answer. Can I or Can’t I” มันตอบเสียงฟึดฟัด

“แล้วถ้ากูให้ค้าง มึงหายโกรธป่ะล่ะ”

“Urrrrrr” มันคำรามในลำคออย่างรำคาญ “Fine! I forgive you!”

ผมหัวเราะอย่างมีชัยก่อนจะเปิดประตูห้องให้มันเข้าไป

“So, who’s gonna sleep in bed?” มันตั้งประเด็นคำถามใหม่ทันทีที่ผมล็อกประตูห้องเรียบร้อย


To be continued


เย้เยเย่ ตอนนี้มีเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเล็กน้อยนะครับ จะบอกว่าคนเขียนเอง ไม่ได้ไปวัดพระแก้วมาเกือบๆปีแล้ว รายละเอียดก็เลยอาจจะจำไม่ได้ อาจจะมีผิดพลาด ถ้าเพื่อนๆ เห็นตรงไหนพลาดไปก็บอกมาเลยนะครับ ยังไงก็ซอรี่ซอรี่ไว้นะที่นี้ด้วยเน้อออ :))
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-05-2012 23:44:53

 ถ้าพริกว่างๆ ยืมตัวพริกหน่อยสิ จะเอาไปสอนไอ้มังคุดมันหน่อย ทางนี้สองคำยังไม่กระดิกเลย  :z3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 15-05-2012 12:13:59
ถ้าพริกว่างๆ ยืมตัวพริกหน่อยสิ จะเอาไปสอนไอ้มังคุดมันหน่อย ทางนี้สองคำยังไม่กระดิกเลย  :z3:

5555555 พริกมันก็ยังไม่รอดเลยครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 15-05-2012 13:02:03
มาต่อเร็วมากเลย สนุกนะ แต่บางทีก็งงภาษาอังกฤษบ้าง แต่ไม่เป็นไร เพราะจะได้ฝึกภาษาไปด้วย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: Smilelimsminy ที่ 15-05-2012 14:24:39
ทำไมทำกุญแจหายบ่อยจังว้า ..หรือว่า .. o18
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-05-2012 14:42:13
หายไปนาน ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 15-05-2012 15:14:08
แอนนี่น่ารักอ่ะ มีงอนด้วย งุ้งงิ้งดี ๕๕๕
ตลกไปหาพ่อค้าเเซ่บ สงสัยพริกจะดูเทยเที่ยวไทยบ่อยไปนะ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ เดี๋ยวมาลงตอนหม่ห้นค+ตอนพิศษ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 15-05-2012 15:16:53
ฮอ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: kogomon ที่ 15-05-2012 16:45:42
เย้... มาต่อแล้ว

สนุกดีครับ ได้ภาษาไปด้วย  ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 15-05-2012 17:36:05
มารอๆ :3123:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 15-05-2012 18:04:49
อ๊าค อยากอ่านต่อ อ๊าค สนุกมาก อ๊าค!!!!ชอบทั้งพริก(ฮา!!!)กับแอนนี่เลยคะ น่าร๊ากกกกกกกกกก โอ๊ย ชอบอ่ะ!!!
มาต่ออีกนะคะ ต้องการมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 15-05-2012 18:36:55
แอนนี่น่ารักเนอะ  :-[
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 15-05-2012 19:32:56
กุญแขหายอีกแล้วเหรอ...

หายบ่อยระวังนะ ฮิฮิ :z1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 15-05-2012 20:23:52
วันหลังต้องเอากุญแจห้อยคอไว้เลย :m20:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 15-05-2012 20:29:27
ฮุฮุฮุ กุญแจหายบ่อยแบบนี้ ต้องให้คนข้างตัวเก็บไว้นะ จะได้ไม่หาย :impress2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 15-05-2012 21:16:28
2คนนี้ชักยังไงๆแล้วนา 555 งอนกันไปง้อกันมาน่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 15-05-2012 22:08:15
วันหลังต้องเอากุญแจห้อยคอไว้เลย :m20:

แง่ะ มีคนเดามุขออกด้วย 5555555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 16-05-2012 18:00:52
เรื่องนี้ ฮ่า มากชอบ

อ่านรวดเดียวเลยนะเนี่ย

รีบๆมาต่อนะจ้า  รออยู่
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 16-05-2012 20:46:22
ยังคงความฮาเช่นเดิมจริงๆ5555
แอบสงสัยเหมือนกันนะเนี่ยยย
ลอสมายคีย์บ่อยจริ๊ง  555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 16-05-2012 20:53:48

  แอนนี่ you sure? มันหายจริงๆหรือยู แอบขว้างทิ้งกันแน่ แอนนี่  :m28:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: witchhound ที่ 16-05-2012 22:32:27
แอนนี่ทำไมทำกุญแจหายบ่อยจัง
จงใจปล่าวเนี่ย?
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 18-05-2012 00:29:46
555555 ทุกคนสงสัยเรื่องเดียวกันหมดเลย

แวะเข้ามาเล็กน้อยครับ เพราะตอนนี้ยังปั่นตอนต่อไปได้ไม่มากเท่าไหร่เลย ขอเวลาหน่อยน้าาาา  :pig4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 18-05-2012 00:49:44
รอเน้อ :man1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-05-2012 01:32:13
พึ่งเข้ามาอ่านได้ไม่กี่ตอนเอง (ยังไม่ถึงปัจจุบัน)
อยากบอกว่าฮามาก ขำน้ำตาเล็ด
พูดกันคนละภาษา ด่ากันไฟแล่บ
สนุกมาก ๆ คนเขียนเก่งจริง ๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 18-05-2012 17:30:51
อ่าา คล้ายๆว่าพริกจะรุก รับไม่ได้หรอไงอ้ะ เค้าอยากให้พริกรับแง้  :o12:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 14/5/2012 - Chapter 6]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 19-05-2012 19:07:12
เอาตอนใหม่มาแล้วครับบบ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยฮาเท่าไหร่นะ เครียดๆไปนิด มีสาระไปบ้างนะเออ







“อ่ะ” แม่เรียกผมพร้อมกับยื่นสร้อยที่ร้อยติดกับกุญแจมาให้ผม

“อะไรเนี่ยะ แม่”

“กางเกงในมั้ง ถามได้ ก็เห็นอยู่ว่ากุญแจ” เอ๊า แม่ ถามดีๆ

“ก็รู้แล้วน่าว่ากุญแจ แล้วเอามาทำเป็นสร้อยทำไมล่ะ”

“จะได้ไม่ทำหายอีกไง แม่ต้องไปปั๊มกุญแจมาให้แกสองรอบแล้วนะ 3 เดือนเนี่ยะ แล้วแต่ละครั้งที่หาย ก็ต้องไปกวนพริกเค้า ไม่เกรงใจเค้าบ้างรึไง” แม่ผมเริ่มเทศน์

“ก็... เกรงใจ แต่ทำไงได้อ่ะ มันหายไปตอนไหนผมยังไม่รู้เลย” ผมตอบเสียงจ๋อยๆ

“แอนโทนี่ เราเองก็โตแล้วนะ กุญแจดอกเดียวรับผิดชอบไม่ได้ อีกหน่อยจะไปรับผิดชอบงานใหญ่ๆที่ไหนได้ล่ะลูก” แม่ผมลูบหัวผม ก่อนจะจะหอมแก้มฟอดใหญ่แล้วเดินไปที่ประตู “แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปเป็นเพื่อนน่ะ”

“ผมโตแล้วน่ะแม่ ไปเองได้น่า”

“โตแล้วแต่ก็ทำกุญแจหายไปสองดอกแล้ว”

“แม่อ่ะ” ผมหันไปแขวะแม่เล็กน้อย ซึ่งแม่ผมก็หัวเราะแล้วโบกมือลาก่อนแม่จะออกไปทำงาน

“โชคดีนะลูก” แม่อวยพรผมก่อนจะปิดประตู ปล่อยให้ผมยืนอยู่กลางห้องด้วยความตื่นเต้น

สามสัปดาห์แล้วครับหลังจากที่ผมได้ออกจากคอนโดไปเที่ยวกับไอ้พริกที่วัดพระแก้ว บอกตามตรง ผมไม่เคยเห็นอะไรที่สวยงามขนาดนี้มาก่อน เหมือนกับไปอยู่ในโลกของนิยายแฟนตาซีจริงๆ ทุกอย่างมันดูตื่นตาตื่นใจ และมันยังฝังอยู่ในความทรงจำผมจนถึงตอนนี้ แต่ว่าหลังจากวันนั้นสามวัน ไอ้พริกมันก็เปิดเรียนของมันครับ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจถามซักเท่าไหร่ว่ามันเรียนที่มหา’ลัยไหน รู้แต่ว่ามันเรียนหลักสูตรภาคภาษาไทยธรรมดา ก็เลยเปิดก่อนผม ส่วนของผมเป็นหลักสูตรนานาชาติ แต่เป็นของมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังย่านกลางเมืองแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ที่ไอ้พริกเปิดเทอมมานี่ผมยังไม่เคยเจอมันเลยซักครั้ง ไอ้เรื่องที่สอนภาษาน่ะเหรอครับ รู้มั้ยครับว่ามันตอบว่ายังไง

“เฮ้ย กูไม่ไหวจริงๆว่ะมึง” มันตอบผมมาอย่างงี้เมื่อสามสัปดาห์ก่อนครับ

“So, we’re not gonna have any practicing from now on?” ผมเริ่มโวยวาย

“ไม่ไหวจริงๆว่ะแอนนี่ งานรับน้องตอนนี้เหนื่อยมากๆ แทบทุกวัน แถมบางครั้งเสาร์อาทิตย์ด้วย” มันตอบพร้อมทำหน้าเหมือนกับว่าจะตายในอีกไม่กี่นาทีนี้

ดูมันสิครับคุณผู้อ่าน แล้วตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมก็แทบไม่เห็นหัวมันเลย แล้วก็ไม่มีการคิดจะมาทักทายอะไรหรอกนะ ห้องก็อยู่ตรงข้ามกันแค่นี้แท้ๆ! คิดแล้วมันก็น่ากระโดดข่วนหน้ามันจริงๆครับ... เอ้อ แต่จะว่าไป เมื่อสัปดาห์ก่อนก็เจอมันอยู่ครั้งนึงที่ฟิตเนส เจอด้วยความบังเอิญมากกว่า แต่ตอนนั้นก็พอได้ทวนภาษาอังกฤษไปบ้างแหละนะ

ส่วนสำหรับวันนี้ การออกนอกคอนโดไปเผชิญโลกกว้างของผมอีกครั้งนึง ซึ่งในวันนี้ผมก็ต้องไปมหา’ลัยของผมเช่นกันครับ เพราะของผมเองตอนนี้ถึงแม้จะยังไม่เปิดเทอม แต่พวกรุ่นพี่ที่คณะก็มีการนัดให้มารับน้องแล้วเหมือนกัน ซึ่งผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่หรอกครับว่าการรับน้องคืออะไร เพราะที่อเมริกาไม่มีเรื่องแบบนี้ ก็หวังว่าคงจะไม่ใช่อะไรที่โหดร้ายรุนแรงก็แล้วกันน่ะเนอะ





Chapter 7: New Friends


“โอ๊ยยยยยย หิวข้าวแล้ววววว!!” เสียงของไอ้ต้นร้องพลางบิดขี้เกียจหลังจากกิจกรรมรับน้องห้องเชียร์จบลงตอนเที่ยงพอดิบพอดี

“ไปกินอะไรกันดีล่ะ” ผมถามขึ้น อ๊ะๆ สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่สงสัยว่าทำไมผมพูดไทยได้ชัดแจ๋ว กับเพื่อนๆคนไทยของผม ไม่ต้องแปลกใจครับ จริงๆแล้วพวกเราคุยกันเป็นภาษาอังกฤษน่ะแหละ แต่เพื่อไม่ให้ทุกท่านงงจนเกินไป ผมเลยจ้างพี่ๆทีมงานพันธมิตรมาช่วยภาคเสียงของพวกผมให้ เสียงหล่อใช่มั้ยล่ะ อะเฮ้อ

“นึกไม่ออกว่ะ กูก็ไม่ค่อยได้มาม. พอๆกับมึงนั่นแหละแอนนี่” ไอ้ต้นตอบ แล้วหันไปหา เพื่อนของผมอีกคนนึง “กินไรดีวะ ไอ้มิว”

Arrrrrr!!!!!! Fuck you I won’t do what you telling me!! เสียงเพลงว้าแหกปากดังมาจากไอ้มิวที่นั่งใส่เฮดโฟนฟังเพลงแบบไม่แคร์สื่ออยู่ข้างๆไอ้ต้น จนไอ้ต้นต้องพยายามพูดอีกที

“เอ่อ – “

Fuck you I won’t do what you telling me!!!

“ไอ้มิว – “

Mother fuckaaaaaaaaaaaaaaa!!!!!!!!!!!!

“มิวครับ –“

- aaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaa!!!! แล้วก็จบเพลงที่มันฟังพอดีกับที่ไอ้ต้นสะกิดเรียกมันอีกครั้ง ไอ้มิวถอดเฮดโฟนออก แล้วหันมาถามพวกผมด้วยเสียงเรียบๆ เย็นชืด ตามสไตล์ของมัน

“ว่าไง?” ให้ตายสิ ทำไมเวลาไอ้มิวมันพูดทีไร ผมได้ยินเสียงแบ็คกราวน์เพลง heavy metal ดังขึ้นมาทันที

“จะกินอะไร” ผมถามย้ำ ในขณะที่ตอนนี้คนในห้องรับน้องออกไปกันเกือบหมดแล้ว

“อะไรก็ได้” มันตอบ พร้อมแบ็คกราวน์เสียงว้ากซึ่งมาจากไหนก็ไม่รู้

“งั้นมึงเลือกเลยต้น” ผมเสนอ

“กูอยากกินฮาจิบังว่ะ”

“แถวนี้มีเหรอวะ” ผมถามขึ้น

“มีดิ่ ห้างใกล้ๆม.นี่ไง กูไปเซอร์เวย์มาตั้งแต่วันสัมพาษณ์แล้ว”

“เหรอ วันสัมพาษณ์กูมาแปบเดียวแล้วก็กลับว่ะ” ผมตอบ

“เอออ มึงก็เปิดหูเปิดตาแบบกูนี่ จะได้รู้ทิศทาง” ไอ้ต้นยิ้มอย่างภูมิใจ แล้วลุกขึ้นนำผมกับไอ้มิวออกไป “ไปเหอะพวกมึง เดี๋ยวคนเยอะ”

เอาล่ะ เพื่อไม่ให้คุณผู้อ่านงงเป็นไก่ตาแตกไปมากกว่านี้ว่าไอ้สองตัวนี้มันมาจากไหน มีบทมาได้ยังไง ช่วงที่พวกเราสามคนเดินไปฮาจิบังกัน ผมจะเล่าให้ฟังคร่าวๆแล้วกันนะ คือ ผมเองก็เคยมามหา’ลัยก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ตอนสอบสัมภาษณ์ งานแรกพบอาจารย์ และงานทั้งหลายแหล่ที่มหา’ลัยผมมีจัดตั้งแต่ช่วงปิดเทอม ทำให้ผมรู้จักกับเพื่อนที่คณะบ้างแล้ว แต่ที่ผมคุยกันจนสนิทตั้งแต่ในเฟสบุ๊คจนถึงตอนเจอกันตัวเป็นๆ (ต้น: กูยังไม่ตายนะ สัส) ...นั่นแหละครับ ก็ที่คุยๆกันบ่อยสุดก็ไอ้ต้นกับไอ้มิวนี่แหละ ซึ่งผมก็ยังงๆอยู่เลยว่า ผมไปสนิทกับมันสองคนได้ยังไง

เริ่มกันที่ไอ้ต้นก่อนละกัน ไอ้นี่มันเฟรนลี่ครับ เข้ามาเป็นฝ่ายทักผมก่อนเลย ไอ้นี่มันตัวพอๆกับผมครับ หน้าตาดูรู้ว่าเป็นคนไทยแท้แน่ๆ ตาโต ผิวคล้ำเล็กน้อย ส่วนนิสัยของมัน จากการที่ผมแอดเฟสบุ๊คมันไปก็พบว่า... มันเป็นคนเพี้ยนมากครับ เข้าไปดูรูปที่มันถ่าย ไม่เคยมีรูปไหนที่ถ่ายท่าธรรมดาๆเลย ไหนจะรูปตบตูดตัวเองตอนงานเลี้ยงรุ่น รูปทำท่าโชว์ดุ้นตอนงานแต่งของลุง ทำท่าหกสูงถ่ายรูปกับรูปปั้นคิวปิ้ด เขี่ยไขรูปปั้นเดวิดตอนไปอิตาลี และอื่นๆอีกมากมาย

ส่วนไอ้มิวสิก ผมรู้จักมันก็เพราะไอ้ต้นไปทักอีกเช่นกันครับ ไอ้นี่มันออกแนวแรงไม่แคร์สื่อ เจาะหูซ้ายสามรูหูขวาอีกห้ารู ย้อมผมสีบลอนด์ไฮไลท์ชมพู ซึ่งก็ไม่ได้ดูแย่กับมันนะ เพราะมันก็ออกแนวตี๋อยู่แล้ว ไอ้มิวชอบทำตัวแนวพั้งค์ อีโมๆ กูเกลียดโลก ขนาดเฟสบุ๊คมัน ยังทำ cover เป็นรูปสีดำเขียนด้วยเลือดว่า Life sucks, fuck you เล่นเอาผมแทบจะปิดโปรไฟล์มันทิ้งเลยทีเดียว

“กี่ท่านคะ” เสียงพนักงานฮาจิบังเรียกสติผม อ้าว นี่มาถึงร้านแล้วนี่หว่า

“สามคนครับ” ไอ้ต้นตอบ

“สามท่านรอประมาณแปดคิวนะคะ”

“แปดคิวเลยเหรอครับ” ไอ้ต้นทำหน้าเบ้ ก่อนจะถามต่อ “ประมาณกี่นาทีครับ”

“อืมมม น่าจะประมาณสี่สิบนาทีค่ะ เดี๋ยวยังไงรบกวนรอด้านนอกแล้วกันนะคะ” พนักงานบอก แล้วเราสามคนก็เดินออกมารอข้างนอกร้าน

“หรือจะกินร้านอื่น” ไอ้มิวถาม “ยังไงก็คงไม่ได้โต๊ะเร็วนี้หรอก”

“หรือจะนั่งกับพี่ล่ะ มิว” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากข้างหลังพวกเรา เมื่อผมหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นชายใส่แว่น ตัวสูง ท่าทางสุขุม ผู้ชายคนนั้นทักพวกเราราวกับว่ารู้จักใครซักคนในกลุ่มพวกเรา แล้วพี่เค้าก็พูดต่อ ทำให้ผมรู้นั่นเองว่าเค้ารู้จักกับใคร “ไม่ได้เจอกันนานนะมิว ผมสีนี้เข้ากับเราดีนะ”

“ขอบคุณ แต่เรื่องนั่งกับพี่แจ๊ส ไม่เป็นไรดีกว่าครับ” ไอ้มิวตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เอ่ออออ คือ” ไอ้ต้นก็มีท่าทางงุนงงเช่นเดียวกับผม

“อ้อ ขอโทษทีๆ ที่ไม่ได้แนะนำตัว พี่ชื่อแจ๊สเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าของมิวสิกน่ะ” อย่างนี้นี่เอง แต่ทำไมดูไอ้มิวมันดูไม่สบอารมณ์ที่เจอรุ่นพี่มันมันยังไงไม่รู้ “นี่เพื่อนของมิวเหรอ”

“จะรู้ไปทำไม” นั่น ไอ้มิว มึงพูดกับรุ่นพี่มึงอย่างงั้นได้ไงวะ

“เอ่อ ผมต้นครับ เพื่อนของมิว”

“I’m Annie. Nice to meet you”

“Nice to meet you, Annie. แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักต้นด้วยนะ” พี่แจ๊สพูดอังกฤษเก่งมาก สำเนียงเหมือนเป็นภาษาแม่เลยทีเดียว “แล้วนี่ทำไมไม่เข้าไปกันล่ะ”

“คิวมันเต็มน่ะครับ เลยต้องรออีกตั้งสี่สิบนาที” ไอ้ต้นตอบ

“มานั่งโต๊ะพี่สิ เพื่อนๆพี่นั่งกันอยู่ข้างใน”

“Is it okay?” ผมถามด้วยความเกรงใจ

“No, it’s not okay” ไอ้มิวตัดบทก่อนที่พี่แจ๊สจะได้พูดอะไร “เราไปกินที่อื่นกันก็ได้ ไม่ต้องมายุ่งกับพวกเราหรอก”

“เฮ้ย มิว รุ่นพี่มึงนะเว่ย” ไอ้ต้นเตือน

“แล้วไง! ถ้าพวกมึงอยากกินกับพี่แจ๊สมันมากก็เชิญแล้วกัน เจอกันวันพรุ่งนี้!” ไอ้เชี่ยมิวเหวี่ยงก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ผมกับไอ้ต้นยืนงงอยู่ตรงนั้น

“อ้าวเห้ย ไอ้มิว! ไปไหนของมึงวะน่ะ เห้ย!” ไอ้ต้นตะโกนเรียกมัน แต่ดูเหมือนมันจะไม่สนใจซะแล้ว

“Are you okay?” ผมถามพี่แจ๊สด้วยความเป็นห่วงหลังจากเห็นสีหน้าพี่เค้าไม่ค่อยดี

“I’m fine. Thanks”

“เดี๋ยวผมไปตามมันให้มั้ยพี่” ไอ้ต้นมีท่าทีเป็นห่วงพี่แจ๊สพอๆกับผม

“ไม่เป็นไรหรอกต้น” พี่แจ๊สห้ามต้นไว้ขณะมองไอ้มิวเดินลงบันไดเลื่อนจนลับสายตาไป แล้วจึงเปลี่ยนสีหน้าหันมาพูดอย่างยิ้มแย้มกับผมและไอ้ต้น “ถ้าอย่างงั้น เข้าไปข้างในกันเถอะ”

ผมกับไอ้ต้นเดินตามพี่แจ๊สเข้าร้านไป ซึ่งพี่เค้าก็ได้บอกพนักงานว่าขอเก้าอี้นั่งเพิ่มหนึ่งตัวให้พวกผมซักคนหนึ่ง เพราะอีกคนนั่งเบียดโซฟากันก็ได้ แล้วพี่เค้าก็เดินนำผมไปที่โต๊ะที่พี่กับเพื่อนๆเค้านั่งอยู่

เก้าอี้ตัวหนึ่งว่าง ซึ่งน่าจะเป็นที่ของพี่แจ๊ส เก้าอี้อีกตัวหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งกับผมทรงรากไทร ส่วนที่โซฟานั้นมีผู้ชายสองคนนั่งอยู่ คนหนึ่งรูปร่างพอๆกับผม และมีหน้าตาคล้ายๆกับใครคนนึงที่ผมรู้จัก ในขณะที่อีกคนหนึ่งมีรูปร่างใหญ่ กำยำ และผมก็ถึงกับร้องเหวอทันทีที่มองหน้าชายร่างใหญ่คนนั้น

“Shit!” ผมเผลออุทานออกมาเสียงดัง ทำให้ทั้งโต๊ะหันมามองผม รวมถึงชายร่างใหญ่คนนั้นด้วย... ไอ้พริก!!?

“เห้ย” มันร้องขึ้นมาเหมือนกัน

“เห้ย!” คราวนี้ไม่ใช่เสียงของทั้งผมทั้งไอ้พริกครับ เป็นเสียงของผู้ชายที่นั่งข้างๆไอ้พริกมัน

“เห้ย??” เอาเข้าไป คราวนี้เป็นเสียงไอ้ต้นบ้างและ

“เห้ย...” อ้าว เสียงเจ้ผู้หญิงร้องบ้าง “...เห้ยเหี้ยอะไรกันวะ”

“เอ่ออออ เกิดอะไรขึ้นกันเหรอทุกคน” พี่แจ๊สถามออกมาอย่างงุนงง

“ไอ้ต้น” ผู้ชายที่นั่งข้างๆไอ้พริกเรียกเพื่อนผม

“พี่ต่อ” ไอ้ต้นมองหน้า ‘พี่ต่อ’ งงๆ “มาที่นี่ได้ไงวะพี่”

“กูก็มากินข้าวกับเพื่อนสิวะ” พี่ต่อตอบ

“ต่อ มึงรู้จักน้องเค้าเหรอวะ” พี่แจ๊สถาม

“ทำไมจะไม่รู้จัก น้องกูเอง” อ้าว โลกกลมไปแล้วครับ สรุปว่าพี่คนนี้เป็นพี่ไอ้ต้นนี่เอง มิน่า หน้าตามันถึงคล้ายกัน

“แล้วมึงเห้ยอะไรไอ้พริก” เสียงเจ๊สาวที่ตอนนี้ผมว่าเจ๊โหดมากกว่าถามไอ้ตี๋

“อ่อ... ก้อฝรั่งเนี่ยะ เอ่อออ อยู่คอนโดเดียวกับกู” ทุกคนในโต๊ะหันมามองผมงงๆ จะงงอะไรกันนักหนาวะวันนี้

“Urrrr… Hi! I’m Annie. Nice to meet you” ทำอะไรไม่ถูกครับ แนะนำตัวไปก่อนเลย จังหวะนั้น พนักงานก็ยกเก้าอี้มาวางที่หัวโต๊ะพอดี

“โอ้โห อะไรมันจะโลกกลมขนาดนี้ ดราม่าสุดๆ” เจ๊โหดพูดขึ้น

“ฮ่ะๆๆ นั่นสิ” พี่แจ๊สหัวเราะ แล้วดบกมือให้พวกผม “เอ้าน้องๆนั่งกันก่อน”

ขอบคุณครับพี่ ยืนนานเริ่มเมื่อยและ แล้วก่อนที่ผมจะนั่งไปที่เก้าอี้หัวโต๊ะนั่นเอง ไอ้ต้นก็ลงไปแหมะก้นนั่งเสียแล้ว... นั่นเท่ากับว่า...

“เฮ้ยไอ้พริก เขยิบที่ให้น้องเค้านั่งหน่อยดิ่วะ” พี่แจ๊สบอกไอ้ตี๋

“อ่าวววว แล้วไมมึงไม่เอาเก้าอี้อีกตัวมาให้มันนั่งล่ะวะ” นั่นสิพี่แจ๊ส ผมไม่อยากไปนั่งเบียดกับมันนักหรอก T T

“มึงเห็นคนหน้าร้านมั้ย” เจ๊โหดชี้ไปที่หน้าร้านซึ่งตอนนี้มีคนรอคิวอยู่ล้านแปดเห็นจะได้ “มึงก็เห็นว่าคนเอยะ ถ้าเราไปเอาเก้าอี้มาเยอะ มันก็ยิ่งไม่พอให้เค้านั่งสิวะ อย่าแล้งน้ำใจสิเห้ย!”

“เออ ใจดำว่ะมึง” พี่ต่อสมทบ

“นั่นสิ ไปเบียดเบียนคนอื่นเค้า” ตามมาด้วยพี่แจ๊ส

ส่วนไอ้พริกตอนนี้ หน้ามันเป็นแบบนี้ไปเลยครับ T3T ผมล่ะแอบสะใจ ว่ะฮ่ะๆๆๆๆๆ.... แต่อีกนัยหนึ่งก็เท่ากับว่า ผมไม่มีทางเลือกสินะ

“เอ้า ยูๆ” เฮือก เจ๊โหดเรียกผมเป็นภาษาอังกฤษ “ซิตดาวๆ เน็กซ์ทู ไอ้เหี้ยเนี่ยะ”

ผมทำตามอย่างว่าง่ายครับ เสียงเจ๊แกโหดจริง

“ต้นนี่กูรู้จักและว่าเป็นน้องมึง” เจ๊โหดพูดกับพี่ต่อแล้วหันมาหาผม “ว้อทอะเบายู ว้อทยัวเนม”

“Ur…. Annie” พรืดดดดด เสียงกลั้นขำดังมาจากเจ๊โหดทันที อาร้ายยยยยย ก็กูชื่อนี้นี่หว่า

“ซอรี่ๆ ยัวเนมอีสคิ้ว นะ”

“มึงจะจีบเด็กฝรั่งรึไงมึง” ไอ้พริกแกล้งแซวเพื่อน

“จีบเหี้ยไร กูเป็นทอม” น่านนน ที่ผมสันนิษฐานไว้เป็นจริงซะด้วย “มายเนมอีส ทราย นะ”

ผมพยักหน้ารับ

“ไอแอม ต่อ” พี่ต่อแนะนำตัวบ้าง ก่อนจะหันไปถามน้องชาย  “แล้วนี่มึงกะเพื่อนรู้จักไอ้แจ๊สได้ไงวะ ต้น”

“อ่อออ คือ...” ไอ้ต้นหันแว้บไปมองพี่แจ๊ส เพราะไม่รู้ว่าเรื่องไอ้มิวมันเป็นอะไรยังไง

“พอดี น้องมึงกับแอนนี่เป็นเพื่อนกับรุ่นน้องกูที่โรงเรียนเก่าน่ะ ก็เลยชวนมากินด้วย”

“แล้วรุ่นน้องมึงอยู่ไหนวะ” พี่ต่อถาม

“กลับไปแล้ว... พอดีเค้ามีธุระน่ะ” ผมกับไอ้ต้นเงียบ ไม่มีใครแย้งเรื่องที่พี่เค้าโกหก เพราะมันก็คงเป็นเรื่องระหว่างพี่แจ๊สกับไอ้มิวว่าสองคนนั้นคงไม่ถูกกันด้วยเหตุผลบางอย่าง

“แล้วรุ่นน้องมึงคนนั้นผู้ชายผู้หญิงวะ ถ้าผู้หญิงกูจีบได้ป่ะ” พี่ทรายพูดยิ้มๆ

“ไอ้นี่นิ่ หม้อกว่าผู้ชายอีก” พี่ต่อแขวะพี่ทราย แล้วพี่ทรายก็เถียงกลับฉอดๆ

ในตอนนั้น ผมไม่ค่อยรับรู้อะไรเท่าไหร่หรอกครับ นอกจากตอนที่พนักงานมารับออร์เดรอ์จากผมกับไอ้ต้น เพราะผมก็เกร็งไปหมด ทำตัวไม่ถูก ไอ้พริกเองก็เงียบๆ น่าแปลกที่เมื่อตอนปิดเทอมผมกับมันด่ากันน้ำไหลไฟดับ แต่ตอนนี้พอมาเจอกันข้างนอกกับกลุ่มเพื่อน พวกเราต่างเงียบทั้งคู่ สำหรับผมคงเพราะไม่อยากให้มันเสียภาพพจน์กับคนอื่น แต่สำหรับมันผมไม่รู้ แต่ซักพักนึงเท่านั้นแหละครับ ผมก็รู้แล้วว่า ผมเข้าใจผิดที่ว่ามันเงียบๆไปเพราะมันเกร็ง...

“เอ้อ พวกมึงรู้รึเปล่า จริงๆแอนนี่ฟังภาษาไทยออกนะ พูดภาษาไทยชัดมากเลยด้วย” ที่แท้มันคงหาเรื่องกวนประสาทผมอยู่นั่นเองสินะ

“จริงดิ่” พี่แจ๊สมีท่าทางสนใจทันที

“อยากได้ยินว่ะ” เสียงดังมาจากพี่ต่อ

“เอาคำว่าอะไรดีล่ะ” ไอ้พริกยิ้มแฉ่งแล้วหันมายักคิ้วกับผม ไอ้เวรเอ๊ย ผมขอกระทุ่งเอวมันแรงๆทีนึงเหอะ “อุ๊บ – เฮ้ยพวกมึงลองนึกคำยากๆซักคำดิ่ แอนนี่ได้หมดแหละว่ะ”

กูไปบอกมึงตอนไหนว่ากูพูดได้วะสาดดดดดดดดด!!!!

“เอาอันนี้ๆ เช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด” นั่นไง เจอคำยากจากเจ๊โหดเข้าให้

“What?”

“เช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด” ไอ้ต้นทวนคำให้ช้าๆ หน้าตามันก็ดูสนใจอยากได้ยินผมพูดเช่นกัน

“Urrrrr…”

“อะไรวะแอนนี่ ตอนอยู่ที่คอนโดพูดคล่องเลยไม่ใช่เหรอ” ไอ้เชี่ยพริก เมิงเลวมาก!!! มากดดันกูอีก!!

“Urrrr – Chaw Fart Fuck Fuck, Yell Fart Fuck Pat”



………………………….

…………………….

………………

……….

……



ทั้งโต๊ะเงียบกันอยู่นานครับ ยกเว้นไอ้พริกที่เม้มปากพยายามกลั้นหัวเราะ และแล้ววินาทีนั้นก็มาถึง

“ว้ากกกกก ฮ่ะๆๆๆๆๆ วะฮ่ะๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังประสานกันไปทั้งโต๊ะ พี่ต่อกับไอ้ต้นถึงกับทุบโต๊ะพร้อมๆกัน

“วะฮ่ะๆๆๆ เป็นไงล่ะมึง แอนนี่มันพูดชัดมั้ยล่ะ อ๊ากกก!!!” เสียงไอ้พริกร้องลั่นเมื่อผมเอาเท้าไปเหยียบมันแล้วขยี้ๆๆ

“What’s wrong, Prick? Are you alright?” ผมถามมันแล้วยิ้มมุมปากอย่างสะใจ

“ไอ้เชี่ย” มันงึมงำขณะกัดฟันกรอดๆ

“By the way, everyone” ผมเริ่มเป็นฝ่ายเปิดประเด็นบ้าง มึงอยากเล่นอย่างงี้กับกูใช่มั้ยไอ้พริก ด๊ายย “I have a word to tell you to day”

“Really, What is it?” ไอ้ต้นถาม

“Do you know that prick, in English, has a meaning?” พรืดดดดดดด เก็ทมุขผมไปแล้วครับหนึ่ง ไอ้ต้นนั่นเอง มันนั่งกลั้มหัวเราะขณะที่ไอ้พริกหันมามองหน้าผมด้วยสายตาปานจะกินเลือดกินเนื้อ

“แปลว่าอะไรเหอร” เจ๊ทรายถาม

“It means…” ผมพูดพร้อมกับโชว์นิ้วกลางไปกลางโต๊ะเล่นเอาพี่แจ๊ส สะดุ้งเล็กน้อย “…this”

“Penis?” พี่แจ๊สถาม ผมจึงพยักหน้าตอบ และแล้ว วินาทีนั้นทุกคนก็เงียบลงอีกรอบ


…………………………………………………………..

……………………………………………………

……………………………………….

……………………….

………………..

……….



“ว้ากกกกก ฮ่ะๆๆๆๆๆ วะฮ่ะๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังประสานกันไปทั้งโต๊ะอีกรอบ คราวนี้ไม่ใช่แค่พี่ต่อกับไอ้ต้นที่ทุบโต๊ะสะใจ แต่ทุกคนบนโต๊ะเลยก็ว่าได้

“โอ๊ยยยย ไอ้หัวค_ย ว่ะฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆ” พี่แจ๊สเรียกขึ้นมาอย่างสะใจ

“เฮ้ย ได้ฉายาใหม่มันแล้วว่ะ” พี่ทรายขำแล้วปาดน้ำตา

ส่วนไอ้พริก ตอนนี้หน้าแดงแจ๋ไปเรียบร้อย แล้วมองผมอย่างเคียดแค้น ส่วนผมน่ะเหรอ ยิ้มเยาะเย้ยมันอย่างมีชัยสิครับ ไงล่ะมึง อย่างมาเล่นกับกูดีนัก

“Oh. I’m sorry. I didn’t mean to make you shy.” ผมกระซิบกระซาบกับมันในขณะที่ทุกคนยังคงฮากร้ากอยู่ แล้วอยู่ดีๆผมก็รู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หมัดของไอ้พริกจะซัดเข้าที่หน้าผมท่ามกลางความตกใจของคนอื่นที่นิ่งเงียบลงทันที

****************************************************************************

“ไหวมั้ยวะ แอนนี่” ไอ้ต้นถามผมขณะกลับบ้าน เนื่องจากผมกับมันนั่งรถไฟฟ้าไปทางเดียวกัน ส่วนไอ้พริกน่ะเหรอครับ มันคงไม่มากับผมหรอก หลังจากต่อยผมไปตอนกลางวัน แม่งก็หายหัว

“ก็โอเคอ่ะ แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บๆอยู่แหละ” ผมพูดแล้วลูบๆแผลระบมที่อยู่บนหน้าผม

“แล้วมึงจะเอาไงวะ เรื่องพี่พริก เดี๋ยวกลับไปเจอกันไม่ทะเลาะกันตายเหรอวะ”

“กูไม่รู้ ไม่อยากยุ่งกับแม่งและ” ผมตอบอย่างเหนื่อยใจ

“เออๆ ถ้าเจอยังไงมึงกใจเย็นๆละกัน”

ในที่สุดผมก็กลับมาถึงคอนโดผมซะที ตลอดทางผมก็เอามือลูบคลำๆเผลอ เพราะมันยังตุบๆอยู่ที่หน้าผม จนในที่สุดผมก็มาถึงชั้นของผมซะที เมื่อผมออกจากลิฟต์และเดินมาที่ทางเดินไปยังห้องผม ไอ้เชี่ยพริกก็ยืนรอผมอย่ที่หน้าห้องอยู่แล้ว

มันหันมามองผมเหมือนจะพูดอะไร แต่มันก็ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่ตรงนั้น ผมเดินมาที่ห้องของผมโดยไม่สนใจการมีตัวตนอยู่ของมัน

“หน้ามึงเป็นยังไงบ้าง...” มันพูดเสียงอ่อยๆ และตะกุกตะกัก ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ ว่าหน้ากูเป็นยังไง ดูซิบวมยังกะเนื้องอก

ผมไม่ตอบมัน และหันไปส่งสายตาท้าทายมัน ก็รู้อยู่หรอกครับว่ามันคงรู้สึกผิด แต่ผมก็เหนื่อยหน่ายที่จะต้องมาต่อล้อต่อเถียงกับมันแล้ว

“เอ่อ... มึงยังทำกุญแจหายอยู่รึเปล่า... ไม่งั้นมารอแม่มึงในห้องกูก็ได้”

“It’s alright” ผมตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วหยิบสร้อยที่ร้อยกุญแจไว้ให้มันดู “I have mine”

ผมหันไปไขกุญแจห้องผม แล้วจึงเข้าไปในห้อง โดยไม่ได้ใส่ใจสีหน้าของมันเลย... ว่าสีหน้ามันเศร้าแค่ไหน ย้ำว่า ผมไม่ได้ใส่ใจจริงๆนะ





To be continued
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 19-05-2012 20:23:55
คุณพี่พริกคง'หลุด'ไปนี๊ดดดดด

คุณน้องแอนนี่ก็อย่าโกรธไปเลยนะจ๊ะ อิอิ

ตอนนี้น่ารักมากๆ  (ไม่น่าโดนต่อยเลยเชียว 5555)

+1 ให้จ้าาา  มาอัพไวๆน้าาา
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: karmdodcom ที่ 19-05-2012 20:25:36
...ตอนต้นๆมันฮา...ไหนตอนท้ายมันลงซีเรียสอ้ะ T[]T
..
เฮ้ยย!!พริกคะ! ไปต่อยน้องแอนนี่เค้าได้ยังง๊ายยย! ไม่ยุติธรรมอ้ะ แกไปแกล้งเขาก่อนไม่ใช่หรอ เค้าแกล้งคืนก็...สมควร!!
..แอนนี่คะ! งอนไปเล้ยย! งอนให้พี่พริกเขาหน้าเสียเลยค่ะ! ให้พี่พริกเขามาง้อแล้วจับให้จดินเลยค่ะ!
(แค้นแทน...ต่อยหน้าแอนนี่ได้ไงอ๊าาา T[]T!!)

ปล. ..เพิ่งรู้ ว่าพริกเรียนปีสูงกว่าแอนนี่..
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-05-2012 20:38:05
เหอะๆ ทำไมขี้น้อยใจจัง o18
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 19-05-2012 20:45:01

 เจ็บจี๊ดๆ อะเจ็บจี๊ดๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-05-2012 21:04:46
พี่พริกเอาคืนแรงไปไหมสงสารแอนนี่

ชื่อมีสับสนปนกันค่ะแม็กกับแจ๊ส และมิวกับคิว
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 19-05-2012 21:19:22
พี่พริกเอาคืนแรงไปไหมสงสารแอนนี่

ชื่อมีสับสนปนกันค่ะแม็กกับแจ๊ส และมิวกับคิว

แก้เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมากๆค้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 19-05-2012 21:28:52
ต่อยทมว
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 19-05-2012 21:33:26
พี่พริกไปต่อยแอนนี่ทำมัยอ่าพี่ไปแกล้งเค้าก่อนนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 19-05-2012 22:24:21
แอนนี่ของเราโกรธซะแล้ว
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 19-05-2012 22:35:21
ทำแอนนี่เจ็บซะงั้น แรงไปนะprick  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 19-05-2012 22:46:57
โห ทำไมทำงี้ล่ะพริก อย่าไปยอมนะแอนนี่ :m16:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: tra_daday ที่ 20-05-2012 00:37:35
 :impress3: :impress3: มาต่อยแอนนี่น้อยเค้าทำไมอ่าาาาา งอลลลล  ชอบเรื่องนี้ครับ เป็นกำลังใจให้น่ะ มารอทุกวัน อิๆๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 20-05-2012 01:06:16
อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม







ไม่รู้จะพูดว่าอะไร แรกๆก็ฮา มาจะบ้าตอนจบเนี่ย อึ้งเลย








แอนนี่จัดให้หนัก เราเชียร์เธออยู่เพราะเราชื่อเหมือนกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: AoR-yayun ที่ 20-05-2012 01:47:23
ค้างงงงงงงงง แอร๊ยย พี่พริกคะ แกล้งน้องเค้าก่อนแล้วจะไปต่อยเค้าทำมายยยยย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 20-05-2012 20:29:22
แหะๆๆ พริกดูไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่เลยเนอะ เดี๋ยวตอนหน้าจะได้รู้ความคิดของพริกแล้ว อดใจรออีกซักพักนะค้าบบบ

แต่แอบมีดราม่าเยอะอ่ะ ถ้าฮาน้อยๆยังไง ขออภัยไว้  ณ จุดนี้ก่อนนะฮว้าฟ  :L1: :pig4:



ปล. จริงๆตอนแรกจะให้นิยายนี้มันดราม่านะ แต่ออกมากลายเป็นฮาเลย 55555555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 20-05-2012 20:32:18
อ้าวววว กลับมาเขียนต่อแล้วเหรอเนี่ย
เรื่องภาษาอังกฤษในบทเนี่ย ผมว่าบางอัน มุกภาษาอังกฤษนะ ถ้าแปลเองเข้าใจ โคตฮาเงิ่บเลย แต่มันก็แล้วแต่คนอ่ะ แปลก็ดีเผื่อคนภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: naiin ที่ 20-05-2012 22:18:28
               แกล้งเค้าแล้วพอเค้าเอาคืนแล้วโกรธ หาความแมนไม่เจอเลย ช่างน่าขำนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 20-05-2012 22:36:20
ไอ้พี่พริก  :z6:
แม่งทำไมทำตัวงี้วะ ตัวเองไปล้อเขาก่อนแท้ๆ

แอนนี่งอนเลยนะ งอนนานๆเลย ชิชะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 20-05-2012 22:54:02
กรี๊ด!ไอ้เห้พริก!แค่นี้ต้องต่อยเลยเหรอวะ!!!แม่งเป็นเด็กม.ต้นรึไงถึงโกรธขนาดควบคุมตัวเองไม่ได้น่ะ ห่า!
ขออภัยคนแต่งนะคะถ้าหยาบคายไปนิด แต่เค้าโกรธ แอนนี่ของเค้าโดนรังแกกกกกกกกก :m31:
แอนนี่คะ อย่าไปใจอ่อนง่ายๆ กรุณาโดดถีบขาคู่ก่อนถึงจะใจอ่อนได้นะคะ ฮึ๋ยๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: ririri ที่ 20-05-2012 23:01:19
เป็นชาวซุ่มมานาน ล๊อคอินเพื่อมาเม้นเลย  อยากบอกว่าสนุกมากเลยเรื่องนี้ แถมได้ฝึกภาษาด้วย อิอิ   :a9:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 21-05-2012 00:29:02
พริกนิสัยเด็กอะ ทำร้ายคนอื่นเวลาไม่พอใจ ไม่ matureเลย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 19/5/2012 - Chapter 7]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 21-05-2012 01:02:48
รู้สึกตอนนี้กระแสเกลียดพริกจะเริ่มมาแล้วแหะ  :try2:
แต่เอาจริงๆ คนเขียนเองยิ่งเขียนก็ยิ่งไม่ชอบพริกเหมือนกันอ่ะ ยิ่งตอนล่าสุดนี้ยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ 55555555 (พริก: อ้าวคุณคนเขียน  o18) แต่ยังไงก็นะ ตอนใหม่นี่ ผมตั้งใจจะทำเพื่อให้ข้อคิดกับใครหลายๆคนที่อาจจะทะเลาะกับเพื่อนหรืออะไรก็แล้วแต่เลยละครับ ถือซะว่าไอ้พริกมันเป็นตัวแทนของใครหลายๆคนที่เผลอทำเรื่องแบบนี้ไปก็แล้วกันนะ (จริงๆเรื่องพริกต่อยแอนนี่แอบเอามาจากเรื่องจริงของเพื่อนนิดนึงอ่ะ *w*)







ผมนั่งรอ ยืนรออยู่หน้าห้องของผมอยู่นานเกือบเป็นชั่วโมงแล้ว รอเวลาให้ไอ้คนที่ผมเผลอไปต่อยหน้ามันกลับมาซะที ช่างมันและ รับน้องเย็นนี้ ยังไงผมก็ต้องคุยกับมันให้ได้ ตั้งแต่เมื่อกลางวัน พอผมต่อยมันเสร็จ ผมก็เดินออกมาสงบสติอารมณ์ก่อน ก็มันเล่นเอาเรื่องชื่อผมไปพูดซะให้เสียๆหายๆ มันก็ต้องยั้วะกันบ้างแหละ แต่ตอนนี้ผมก็เข้าใจแล้วว่า สิ่งที่ผมทำมันไม่ถูก ยังไงก็คงต้องเคลียร์กับมันหน่อยล่ะ...

ไอ้ฝรั่ง... ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับมาอีกวะ

ติ๊ง

เสียงลืฟต์ดังขึ้นจากอีกฟากของตึก ผมลุกขึ้นยืนเพื่อดูว่าใช่คนที่ผมรออยู่รึเปล่าที่จะออกมาจากลิฟต์แล้วก็พบว่า...

เป็นคุณยายวรนาทที่อยู่ห้องถัดจากผมไปสามห้อง แกยิ้มทักทายก่อนจะถามว่า “ทำไมไม่เข้าห้องไปล่ะจ๊ะพ่อหนุ่ม”

“อ่ออออ พอดีอยากออกมาสูดอากาศนอกห้องน่ะครับ” เป็นการแถที่ดูไร้เหตุผลมาก แต่ผมก็นึกไม่ออกว่าจะตอบว่ายังไงไม่ให้เป็นเรื่องยาว

แกพยักหน้าแล้วยิ้มตอบ “ระวังมืดๆเข้า เดี๋ยวโดนตะขาบกัดนะพ่อหนุ่ม”

เอ่อออ -_-“ ทำไมต้องตะขาบวะ

ติ๊ง

เสียงลิฟต์ดังขึ้นอีกรอบ ผมจึงหันไป แล้วก็พบว่าไอ้ฝรั่งยืนอยู่ตรงนั้น ถึงตอนนี้อยู่ดีๆในหัวผมว่างเปล่าเลยครับ ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดกับมันยังไง โดยเฉพาะ ‘มันในตอนนี้’ ที่ดูท่าทาง ไม่มีการโวยวาย ไม่กระโจนเข้ามางับผม ไม่มีอาการว่าอยากจะเดินเข้ามาข่วนผมแต่อย่างใด มีแต่สายตาที่ดูเหมือนจะละเลยการมีตัวตนของผมไปซะแล้ว ถึงตอนนี้ผมก็ยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน

ไอ้ฝรั่งเดินมาจนถึงประตูห้องมันแล้ว และผมยังไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว... พูดสิวะไอ้พริก พูดอะไรออกไปซะหน่อยสิ ให้มันรู้ว่าเราก็รู้ว่าสิ่งที่เราทำไม่ถูกต้อง

“อ – เอ่อ หน้ามึงเป็นยังไงบ้าง....” เป็นคำถามที่โง่มากครับ ผมรู้ดี ก็เห็นอยู่ว่าหน้ามันบวมจนจะเป็นเนื้องอกอยู่แล้ว... แต่ผมคิดไม่ออกจริงๆว่าควรจะพูดอะไร

“........” ผมได้ความเงียบและสายตาดุๆที่ส่งมาเป็นคำตอบ จะพูดอะไรดีวะพริก พูดอะไรที่ทำให้คนตรงหน้ายอมใจอ่อนสิ อะไรซักอย่าง ลองนึกดู

“เอ่อ... มึงยังทำกุญแจหายอยู่รึเปล่า... ไม่งั้นมารอแม่มึงในห้องกูก็ได้”

“It’s alright” มันตอบผมด้วยน้ำเสียงเย็นชาแบบที่ผมไม่เคยได้ยินมันพูดมาก่อน แล้วมันก็โชว์กุญแจที่ตอนนี้ร้อยมาเป็นสร้อยให้ผมเห็น  “I have mine”

แล้วมันก็หันไปไขประตูเพื่อเข้าไปในห้องมัน ผมพยายามรวบรวมความคิด หาคำพูดที่จะทำให้มันกลับมาเหวี่ยง กลับมาโวยวาย กลับมากวนประสาทผม แต่สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนั้นก็เพียงแค่...

“...แอนนี่” ...พึมพำเบาๆในขณะที่มันปิดประตูห้องมันลงตรงหน้าผม

ปัง!!










Chapter 8: ไม่รู้จักโต




“ไอ้พริก” ...............

“ไอ้พริก..” ...............

“ไอ้เชี่ยพริก!!” ใครวะ เรียกอยู่ได้ คนกำลังนึกๆอะไรอยู่ พอหันไปปุ๊บ เหล่าสหายของผมนั่งมองผมด้วยสีหน้าเอือมระอาทันที

“มองอะไรของพวกมึง” ผมถาม

“มองหมามั้งถามได้ ก็มองมึงไง” ไอ้ทรายตอบกวนประสาทอีกตามเคย

“มองกู? แล้วมองทำไมวะ”

“ก็กูเรียกมึงไปเจ็ดแปดรอบแล้ว มึงก็เหม่ออยู่นั่นแหละ” ไอ้แจ๊สตอบ ยังคงมองหน้าผมอย่างพินิจพิเคราะห์ตามสไตล์ของมัน

“อ – อ้าว... เหรอ??”

“ไม่ต้องมาอ้าวเหรอเลยมึง คิดอะไรอยู่ล่ะ” ไอ้ต่อถาม สายตาเพ่งเขม่ง

“คิดถึงเรื่องน้องแอนนี่อยู่อะดี๊” ไอ้แจ๊สเสือกรู้ดี มีการมองผมด้วยหางตาอีกต่างหาก

“ป – ป๊าววว จะไปคิดถึงเรื่องนั้นทำไม๊”

เพี๊ยะ

“เชี่ยทราย ตบหัวกูทำไมเนี่ยะ!” ผมโวยวายถามมัน

“ยังจะมาถามอีก มึงไปต่อยหน้าน้องเค้าแล้วแทนที่จะสำนึกนะ!”

“ก็ – ก็จริงๆ กูก็นึกอยู่แหละว่าจะไปพูดกับมันอยู่เมื่อไหร่ดี” ผมตอบแบบอายๆ เพราะมันเสียฟอร์มครับ ธรรมดาผมเคยง้อใครที่ไหน

“ถ้าคิดแล้ว มึงจะทำยังไงต่อ” ไอ้แจ๊สถามด้วยสีหน้าจริงจัง

“ก็ยังไม่รู้เลยว่ะ เจ้าตัวก็ไม่ยอมคุยกับกูเลย”

“ก็แล้วมึงไปต่อยหน้าเค้าทำไมล่ะ” ไอ้ต่อถาม

“ก็ตอนนั้นกูปรี๊ดนิ่ อยู่ดีๆเอาชื่อกูไปล้อเลียนกับคนอื่นนี่หว่า”

เพี้ยะ!

“โอ๊ยยย ไอ้ทราย! คราวนี้อะไรมึงอีกเนี่ยะ!”

“ยังจะถามกูอีก ไอ้พริก! มึงนี่มันไอ้หัวกระดอจริงๆว่ะ!ถามหน่อย  มึงเนี่ยนะควรปรี๊ด ได้ข่าวว่ามึงไปกวนตีนน้องเค้าก่อนไม่ใช่รึไง มึงถามคุณผู้อ่านได้เลยว่าใครเป็นฝ่ายกวนประสาทใครก่อน”

“เออ รู้แล้วน่า ก็นี่ไง ถึงหาทางคุยกับมันอยู่เนี่ยะ” ผมตอบไอ้ทรายก่อนจะนึกอะไรดีๆออก “นี่ไง ไอ้ต่อ มึงก็ให้น้องมึงช่วยพาแอนนี่มาหากูหน่อยดิ่”

“เห๊อะ ปัญหามึง มึงก็แก้เองสิวะ” ไอ้ต่อ ไอ้เพื่อนใจร้าย พูดเสร็จมันก็ลุกหนีไปเลย... อ้าว ไอ้ทราย ไอ้แจ๊สก็ลุกด้วย

“อ่าว เห้ย! ไปกันหมดเลย”

“ก็พวกกูมีเรียนบ่ายนี่หว่า บอกให้ลงเรียนด้วยกัน มึงก็เสือกอินดี้ ไม่ยอมลง”ไอ้แจ๊สบอก แล้วจึงเดินตามไอ้ต่อไป

เพี้ยะ!

“มึงตบหัวกูทำไมอีกเนี่ยะทราย!!”

“กูหมั่นไส้มึง” มันตอบหน้ากวนก่อนจะเดินตามไอ้ต่อกับไอ้แจ๊สไปเรียนตอนบ่าย ในขณะที่ผมที่ไม่ได้ลงวิชาเดียวกับพวกมัน ก็นั่งหาทางคุยกับไอ้ฝรั่งต่อไป... จะว่าไป ผมยังไม่รู้เลยว่ามันอยู่คณะไหน เผื่อวันนี้มันมีรับน้อง ผมจะได้ไปหามันได้

“ไอ้ต่อ!!!” ผมตะโกนเรียกมันก่อนที่มันจะเดินขึ้นตึกวิศวะไป “วันนี้น้องมึงมารับน้องอยู่ป่ะ”

“มา”

“แล้วน้องมึงอยู่คณะอะไรวะ”

“BBA ไง... นี่มึงจะไปหาแอนนี่เลยเหรอวะ?”

“เออดิ่”

“เย้ดดดดด จะเอาจริงแล้วเว้ย” ไอ้แจ๊วยิ้มแฉ่ง

“ต้องอย่างงี้สิมึง!” ไอ้ทรายยิ้มตามพร้อมด้วย เพี้ยะ! ดังๆให้ผม “สู้ๆเว่ย”

“มึงเลิกตีกบาลกูเห๊อะ สมองกูจะไหลอยู่และ” ผมแขวะไอ้ทรายก่อนจะเดินแยกกับเหล่าสหายของผมไป

จากคณะวิศวะของผมไปคณะบัญชีไม่ได้ไกลอะไรมากครับ เดินไปประมาณสิบนาทีก็ถึงพอดี ผมเดินไปที่ตึก BBA ที่อยู่ใกล้ๆกับตึกใหญ่ของคณะบัญชี ที่นี่ค่อนข้างเงียบมาก คงเพราะนอกจากพวกเด็กปีหนึ่งที่มารับน้องแล้ว ปีอื่นๆคงไม่ค่อยมากัน  อีกสิบนาทีน่าจะได้เวลาที่เลิกรับน้องกัน ผมเลยยืนรออยู่ที่ใต้ตึก เพราะเป็นที่ที่พอลงจากลิฟต์หรือบันไดเลื่อนก็ต้องผ่านเสมอ แล้วนั่งรอ ให้ได้เวลาเลิกซะที

.....10 นาทีต่อมา.....

แต่ว่าทำไมถึงยังไม่ลงมากันอีกนะ แปลกจริงๆ มันควรจะได้เวลาลงมาแล้วนี่หว่า นี่นาฬิกาผมก็ตรงเป๊ะนะ ทำไมยังไม่ลงมาอีก

......5 นาทีต่อมา.....

ในที่สุดก็เริ่มได้ยินเสียงคนเดินลงมาจากบันไดแล้ว ลิฟต์ที่ลงมาถึงชั้นล่างเปิดออก เด็กปีหนึ่งหลายคนเดินแห่กันออกมาจากลิฟต์ รวมถึงบันไดที่ตอนนี้หนาแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย ผมพยายามชะเง้อมองหาคนที่ผมต้องการจะเจอมากที่สุดในตอนนี้ แต่ผมก็หาไม่เจอซะที จนในที่สุด บริเวณใต้ตึก BBA ก็กลับมาไร้ผู้คนอีกครั้ง... และผมก็ยังไม่เห็นวี่แววของเด็กฝรั่งหัวฟู ผมบลอนด์ที่ผมอยากเจอเลยแม้แต่นิดเดียว

“เฮ้อออ” ผมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเดินออกจากตัวตึกไป แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงคุยดังขึ้นอีกรอบ ถึงผมจะฟังไม่ออก แต่สำเนียงและเสียงนั่น ผมรู้ทันทีว่าเป็นใคร ผมรีบวิ่งกลับเข้าไปที่ตึก พอดีกับที่คนที่ผมอยากเจอเดินมาเจอกันพอดี จนหน้าเราทั้งคู่เกือบชนกัน

“เฮ้ แอนนี่” ผมเริ่มทักทาย แต่อีกฝ่ายยังคงนิ่ง มองผมด้วยสายตาเย็นชา ไอ้น้องต้นที่ยืนอยู่ข้างก็ทำสีหน้าบุญไม่รับเมื่อเห็นผมเช่นกัน ส่วนเด็กพั้งค์อีกคนหนึ่งนี่ผมไม่รู้ว่าใครแต่ –

- aaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaa!!!!!

- โอ้ เพลงเฮวี่เมทัลดังมาจากไหนเนี่ยะ

“เอ่ออออ Can I talk to you?” ผมหันกลับมาถามแอนนี่ (เสียงเพลงเมทัลหายไปแล้วแหะ)

“No” มันตอบเสียงเรียบ

“Why?”

“Because I still have a thought inside me” ...มีความคิดบางอย่างอยู่งั้นเหรอ??

“ความคิดอะไร?”

“You now, thought about punching you in the face and kicking your balls until you scream like a dog being slit its throat.” โอเค ผมแปลไม่ออกครับ รู้เรื่องแค่อยากต่อยหน้ากับเตะไข่ผม แถมพวกเสียงโหดซะด้วย

“That’s metal” ไอ้เด็กพั้งค์พูดแล้วยิ้มมุมปาก –aaaaaaaaaaaaaaaaaaa!!!! แล้วเพลงแบ็คกราวน์ก็มาอีกและ

“น่า แอนนี่ กูขอเวลาคุยแปบเดียวเอง”

“Fuck off, Prick. Before I do what I just said.”

“พี่พริกอย่าเพิ่งคุยดีกว่าครับ อย่างที่แอนนี่มันบอก ตอนนี้มันยังปรี้ดอยู่” ไอ้ต้นเสริม ซึ่งผมเองก็จะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากพยักหน้าแล้วปล่อยให้ไอ้ฝรั่งกับเพื่อนๆมันเดินไป

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เด็กพั้งค์นั่นหันมาทักผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งแน่นอนว่าเพลงเมทัลดังขึ้นอีกครั้ง (ให้ตายสิ! ใครเปิดเพลงอะไรกรอกหูจากไหนวะ!!!)

“Oh, by the way.” ไอ้ฝรั่งหยุดหันมามองผม “Forget all about the language lesson ‘cause, you know, I don’t give a single fucking fuck”

อื้อหือ ฟักซะเยอะเชียวพ่อคุณ กะเอาซะหลายรอบเลยรึไง เฮ้อออออ

โอเคครับ ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่า มันโกรธมากแค่ไหน เพราะนอกจากท่าทีเย็นชาแล้ว มันยังดูร้ายกับผมไปเลยด้วย... ร้ายจนผมเองรู้สึกแปลบๆมาก ใจนึงก็อยากเข้าไปกระชากมันเข้ามาคุยให้รู้เรื่อง แต่อีกใจนึงผมก็เข้าใจครับว่าทำไมมันถึงทำอย่างนี้ มันเป็นเพราะผมเองที่คุมอารมณ์ไม่อยู่...

ผมยอมรับว่าผมเครียดเรื่องจัดกิจกรรมรับน้อง เพราะผมเองก็เป็นหัวหน้ารับผิดชอบในหลายๆเรื่อง แต่ผมก็ควรจะแยกแยะออกในเรื่องอารมณ์ แล้วที่ไอ้ทรายพูดก็ถูก ผมเป็นฝ่ายหาเรื่องแอนนี่ก่อน แต่ตอนนี้ประเด็นอีกอย่างคือ ผมขอโทษไม่เป็น... คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมไม่เคยขอโทษใครมาก่อน มันไม่ใช่วิถีผมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และผมก็ไม่รู้จะทำยังไงด้วย

*********************************************************************************

“กาก” คำพูดจากเพื่อนๆผมซึ่งประสานเสียงพร้อมๆกันเหมือนวงออร์เคสตร้าหลังจากที่ผมเล่าเรื่องเมื่อตอนกลางวันให้พวกมันฟังในตอนเย็น ซึ่งตอนนี้ พวกเราก็กำลังนั่งกินอาหารกันอยู่ที่แม็คโดนัลที่พารากอนครับ

“แทนที่มึงจะพูด ‘ขอโทษ’ เลยเนี่ยะ มันจะเป็นอะไรไปวะ” ไอ้ต่อแยกเขี้ยว

“มันง่ายซะทีไหนล่ะวะ พวกมึงก็รู้ว่ากูเคยพูดคำนี้ซะเมื่อไหร่... ยกเว้นกับพ่อแม่”

“มึงก็นึกว่าน้องเค้าเป็นพ่อแม่ดิ่วะ” ไอ้ทรายแนะนำ

“เป็นคำแนะนำที่สมควรมากครับทราย” ไอ้แจ๊สประชด

“แล้วไม่งั้นจะให้ไอ้พริกมันทำยังไงล่ะ แม่งก็ทำตัวปี๋(หิด)อยู่อย่างงี้อ่ะดิ่”

“ก็บอกแล้วววว พวกมึงช่วยกูหน่อย แบบ ไปบอกไอ้ฝรั่งก็ได้ว่า กูเสียใจ” ผมเริ่มงอแง

“ตลกแล้วไอ้พริก ทำอย่างงั้นมันจะมีความหมายอะไรวะ” ไอ้แจ๊สหันมาพูดเสียงจริงจัง

“ปีสองแล้วนะมึง ทำตัวให้มันสมกับอายุด้วย ไม่ใช่มาทำตัวเป็นเด็กม.ต้น ผิดมึงก็ยอมรับผิดดิ่” ไอ้ต่อเทศน์

“แมนๆหน่อยมึง แค่เรื่องไปต่อยเค้าก่อนนี่ก็ไม่แมนอยู่และ” ไอ้ทรายเสริมทัพ เอาเข้าไปครับ แต่ละคน แทบจะกินหัวผมอยู่แล้ว

“เฮ้ย ไอ้พริก มึงดูนู่น” ไอ้ต่อเรียกผมให้มองไปทางทิศที่มันมอง บร๊ะจริงๆครับ บังเอิญหรือฟ้าช่วยผม ไอ้ฝรั่งมันมาเดินเล่นพาราก้อนพอดี แถมมาคนเดียวด้วย อย่างงี้เข้าถึงง่ายหน่อย

“ไปเลย ไอ้พริก” เสียงไอ้แจ๊สเชียร์ ซึ่งตอนนี้เอง ผมก็ไม่รอช้าแล้วครับ รีบลุกขึ้นเดินไปหาไอ้ฝรั่งทันที

“Oh shit” มันครางในลำคอทันทีที่เห็นผม

“ซั่บดู้ดดดดด” ผมทักทายอย่างกวนๆ “ฮาวยู่ แหมน”

“.......” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก... แป้กแล้วกู แค่เริ่มมาก็เน่าแล้ว

 เอ่อๆๆๆ แล้วจะพูดอะไรต่อดีวะ

“เอ่อออ มาคนเดียวหรอวะมึง”

“Nahh” มันตอบด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เอาวะอย่างน้อยก็ยังตอบ

“อ่าว แล้วคนอื่นล่ะ”

“Upstaires” โอเค อยู่ชั้นอื่น

“งั้น... เดี๋ยวกูเดินเป็นเพื่อนให้เอามะ”ผมฝืนยิ้มแฉ่ง

มันหันมายิ้มให้ผมแบบกว้างสุดๆก่อนจะหุบลง “No. Thank you.”

แล้วมันก็เดินหนีผมไปที่บันไดเลื่อน เวรล่ะครับ ผมทำอะไรไม่ถูกและครับ ถึงคราวหันไปหาเพื่อนๆผมที่นั่งหน้าแทบจะติดเป็นหนึ่งเดียวกับกระจกร้านแม็คฯ พวกมันก็ทำท่าทำทางเป็นเชิงให้ผมเดินตามไอ้แอนนี่ไป ผมก็

“เอาล่ะวะ” ผมถอนหายใจแล้วรีบเดินตามมันไป โดยที่ตอนแรกมันก็ไม่ได้สังเกตหรอกว่าผมตามมันมา จนกระทั่งมันขึ้นบันไดเลื่อน

“Urrrrgh. Can you just fuck off and leave me alone, please” มันพูดอย่างหมดความอดทนเมื่อหันมาเห็นผม

“ก็ได้” ผมตอบแล้ววิ่งขึ้นไปที่บันไดขั้นเหนือกว่ามัน “แต่มึงต้องคุยกับกูก่อน”

“No way”

“ถ้างั้นกูก็จะเดินตามมึงไปเรื่อยๆนี่แหละ แต่กูจะพูดไปด้วย”

“Whatever” มันพูดเมื่อมาถึงชั้นบน และพยายามเดินเร็วๆให้พ้นผม แต่มีเหรอผมจะไม่ทัน ในเมื่อผมตัวใหญ่กว่ามันอีก

“ฟังนะ แอนนี่ เรื่องของเรื่องก็คือ กูเครียดเรื่องรับน้อง แล้วพอตอนนั้นมึงโผล่มาพอดี กูก็แค่อยากจะกวนมึงเล็กน้อย แต่พอมึงกวนกูกลับ กูก็ปรี้ดจัดเพราะเรื่องรับน้องอยู่แล้ว กูไม่ได้มีเจตนาจะทำจริงๆ กูก็ตกใจเหมือนกันที่กูทำไปอย่างนั้น เข้าใจกูหน่อยสิวะ”

“How am I supposed to understand?” มันหยุดแล้วหันกลับมามองผมด้วยสีหน้าหงุดหงิดสุดๆ “You embarrassed me first. (คนเขียน: embarrass แปลว่าทำให้อายจ้า คำนี้แอบยากอยู่) And when I embarrassed you, you PUNCH me. Is there anyway I can understand?”

ผมอ้ำอึ้งครับ... ไม่ใช่เพราะผมฟังไม่รู้เรื่องนะ แต่เพราะทุกสิ่งที่มันพูดมามันถูกหมด ใช่ มันจะเข้าใจได้ยังไงในเมื่อผมเป็นฝ่ายทำมันพังหมด

“แอนนี่ มึงน่าจะเข้าใจสิว่ากูรู้สึกยังไง” นั่นคือคำพูดที่ผมตอบเพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไง

“Say it. Say how you feel.”

“ห๊ะ ค – คือ มึงก็น่าจะรู้น่า”

“Right. I know. I know that when I ate that spicy Tom Yum Kung and I’m angry, you’re not even say sorry to me. When I waited for your unreasonable situation (situation แปลว่า สถานการณ์คร้าบบ) with your mom and dad in the pool for three hours, you don’t even say you’re sorry.” มันเริ่มใส่อารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ “And now, even when you hurt me, don’t you have anything to say?”

“มันจะไม่เกิดขึ้นอีก กูสัญญา” ผมพูดด้วยเสียงจริงจัง “มึงจะไม่เจ็บตัวอีก”

“Is it?” มันยิ้มมุมปากแล้วชี้ไปที่แก้มข้างที่ยังคงบวมของมัน “Touch this.”

“ห๊ะ?”

“Touch this.”

“เอ่ออออ เอาจริงดิ่” ผมถามด้วยสีหน้างุนงง ซึ่งมันก็พยักหน้าหงึกๆ

ผมเอานิ้วค่อยๆเลื่อนเข้าไปจิ้มแก้มมัน จนบุ๋มลงไปเล็กน้อย แล้วมันก็กระโจนพร้อมเอามือไปปิดแก้มมันทันที

“Aww!!! It hurts!!” แล้วมันก็หันมามองผม “Now, you hurt me again and you promised! ”

“เฮ้ย! แต่มึงบอกให้กูไปจิ้มนะ!” งงสิครับ ก็มันบอกให้ผมไปจิ้มแก้มมันเองนี่หว่า

“That’s not  excuse. And wrong answer for what you have to say.” มันตอบยิ้มๆแล้วเดินไปทางน้ำพุทางเข้าห้าง

“เฮ้ย เดี๋ยวก่อนสิมึง เรายังคุยกันไม่ –“

ตู้ม! ซ่า!

ยังไม่ทันที่พูดจบประโยค ผมก็สะดุดเท้าตัวเองแล้วล้มกลิ้งลงไปในน้ำพุ ท่ามกลางเสียงร้องตกใจของผู้คนแถวนั้น ผมเห็นแอนนี่หันมามองผมซักพัก แล้วจึงเดินหายไป แล้วพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างก็เข้ามาช่วยดึงผมขึ้นจากน้ำ

ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมควรทำยังไง คำพูดของไอ้ฝรั่งยังก้องอยู่ในหัวผม

“And now, even when you hurt me, don’t you have anything to say?”

ใช่ ผมมันทำตัวงี่เง่ามาตลอด ไม่รู้จักโต ไม่รู้จักแยกแยะ แถมยังไม่รู้จักขอโทษอีก

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ที่เพื่อนผมบอก ที่แอนนี่โมโห ผมทำมันพังเอง และผมรู้แล้วว่าต้องทำยังไงต่อไป...

หลังจากเช็ดตัวให้แห้งและเล่าให้เพื่อนๆฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว ผมกับเพื่อนก็แยกย้ายกลับ โดยที่ผมยังอยู่ในสภาพเปียกปอนอยู่นิดๆ

”แล้วมึงจะเอายังไงล่ะทีนี้” ไอ้แจ๊สถาม ตอนที่พวกเรากำลังจะแยกย้ายกัน

“ท่าทางแอนนี่จะโกรธหนักซะด้วย” ไอ้ทรายพูดสีหน้าจริงจัง

”กูก็จะทำในสิ่งที่กูควรจะทำไปนานแล้วไง” ผมตอบ

”ยังไงวะ” ไอ้ต่อถาม

”ไปขอโทษมัน แต่กูต้องขอให้พวกมึงช่วยด้วยนะ”

”ไอ้พริก ก็กูบอกแล้วไงว่า -” ไอ้ต่อทำท่าจะเทศน์ แต่ผมเบรคมันไว้ก่อน

”เปล่าๆ เรื่องขอโทษ เดี๋ยวกูเป็นคนบอกแอนนี่เอง แต่พวกมึงต้องช่วยอะไรกูซักหน่อย”

เพื่อนๆของผม ทำหน้างงกันหมดครับ ผมจึงบอกพวกมันไปว่า

”พวกมึงฟังเพลงกันบ่อยป่ะวะ”





To be continued





ตอนหน้า พริกจะง้อแอนนี่ได้หรือไม่ แล้วพริกจะขอโทษแอนนี่ยังไง แล้วเกี่ยวอะไรกับการฟังเพลง หึหึหึหึหึหึหึ  :interest:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 21-05-2012 02:23:12
ง้อให้ได้นะพริก อิอิ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 21-05-2012 10:43:43
พริกกี้  เราเชียร์เธออยู่นะ
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 21-05-2012 11:44:45
ช้พลงป็นสื่อสิน
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 21-05-2012 11:45:27
ฮึ๋ย อารมณ์ยังกรุ่นอยู่อย่างต่อเนื่อง ชิชะ ไอ้บ้าพริก!คือก็โอเคนะที่เริ่มจะรู้สำนึกขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังโกรธอยู่ดีอ่ะ ฮือ แอนนี่ของเค้า!!!
ชอบแอนนี่ น่ารักอ่ะ ช๊อบชอบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-05-2012 12:25:53
เอาเหอะสำนึกได้ก็ดีแล้ว น้องแอนนี่คงรอให้ขอโทษอยู่
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 21-05-2012 13:29:12
จะง้อแอนนี่หรอ เค้ารออยู่นะจ๊ะ o13 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 21-05-2012 15:45:48
ไชโย กลับมาอัพแล้ว
เป็นเรื่องที่ตลกมากกกกกก
รออ่านมาตลอด ขอให้ลงจนจบเรื่องนะครับ  5555+
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 21-05-2012 16:11:10
ขอโทษแล้วจีบเลยดิ อิอิ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 21-05-2012 16:45:10
เดินหน้าเลยไอ้น้อง ง้อเเละพูดขอโทษให้ได้
เเอบเข้าใจพริกอยู่นะ เพราะเมื่อก่อนเราก็เคยเป็นเเบบพริกเหมือนกัน  ทั้งที่รู้สึกผิดมาก อยากพูดขอโทษเเต่พูดไม่ได้ ไม่เคยง้อก่อน
เเต่พอมีเรื่องเเรงๆเกิดขึ้นกับเราครั้งนึงเเล้ว กลายเป็นว่า คำว่าขอโทษเป็นคำที่กล้าพูดได้จากใจของเราจริงๆไปเลยอ่ะ

พริกสู้ๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 21-05-2012 19:53:46
เวรของกรรมที่พริกไม่เคยง้อใครไม่เคยขอโทษใครนอกจากพ่อและแม่ เห้อ พริกเอ้ย ลองพูดดูสักครั้งเถอะแล้วจะรู้สึกดีนะ การที่เราทำอะไรผิดยอมรับผิดแล้วขอโทษออกมาสถานการณ์ต่างๆก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นนะ ดีใจที่พริกอยากขอโทษแอนนี่ สู้ๆๆแล้วกัน แล้วพริกจะพบว่าคำว่าขอโทษไม่ได้ไม่ไดพูดยากเลย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-05-2012 20:36:49
อย่าว่ากันนะ ตอนนี้คิดว่าพริกงี่เง่าอ่ะ  :z3:
ทำผิดแล้วยังปากหนัก ไม่ยอมขอโทษอีก o18
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 21-05-2012 21:21:30
รอดูตอนหน้า พริกจะเอาเพลงไหนมาง้อแอนนี่น้ออออ  :impress2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 21-05-2012 23:53:05
อย่าว่ากันนะ ตอนนี้คิดว่าพริกงี่เง่าอ่ะ  :z3:
ทำผิดแล้วยังปากหนัก ไม่ยอมขอโทษอีก o18 o13

ไม่ว่ากันคร้าบบ เราเข้าใจนะ บางอารมณ์เรายังแอบคิดว่าพริกงี่เง่าเหมือนกันเลย
แต่ก็ นั่นแหละครับ เพราะพริกยังไม่รู้จักโตเหมือนที่เพื่อนๆพริกบอก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 22-05-2012 00:01:17

หง่ะ ! บังเอิญเป็นคนประเภทเดียวกับ พริกด้วยอะดิ ....ต่อมจี๊ดมันแตกง่ายเวลาใครกวนตีนใส่ อารมณ์แบบนี้ก็เป็นบ่อย อยากให้เข้าใจบ้างว่า บางที คำว่าขอโทษ มันออกมาจากปากยากจริงๆ พยายามจะทำดีลบล้างแล้วนะ ....ยอมอ่อนให้บ้างเถอะ คำว่าขอโทษอาจจะออกจากปากเรายาก แต่ถ้านายยอมพูดคำว่าให้อภัย ... เราก็มาเป็นเหมือนเดิมได้ไม่ใช่หรอ?

*ปล ไม่ได้งี่เง้า แต่ถ้าเข้าใจและยอมเรานิดนึง ก็ดี  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 22-05-2012 11:13:46
สู้ๆ นะพริก 

ง้อ  แอนนี่ให้ได้

ร้องเพลงง้อ เลยรึเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: coon_all ที่ 22-05-2012 14:12:24
มัน ฮา มาก
อ่านไทยก็ฮาอังกฤษก็ฮา
เหมือนอยู่กันคนละโลกอ่า
คนแต่งสู้ๆนะ ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 22-05-2012 19:38:44
ว้าว แอนนี่โกรธยาวนานมากเลยอ่ะ แต่พริกก็ไมถูกจริงๆนะที่ทำอะไรไม่เคยขอโทษเลย สงสัยจะร้องเพลงง้อแอนนี่แน่เลย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 22-05-2012 19:59:04
ชอบเรื่องตรงที่ตรูต้องฝึกภาษาอังกฤษไปให้ตัวนี่แหละ
ทำให้เรารู้ตัวว่า สกิลการอ่านจับใจความอังกฤษของเรานั้น ด๋อยมากก TT^TT
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 22-05-2012 20:42:56
พี่แจ๊สกับมิว มีซัมติง อะไรกันเปล่าหนอ...

พริก ง้อแฟน เอ้ยยยย แอนนี่ให้ได้นะ 5555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 22-05-2012 21:52:44
มาแล้วครับอีกหนึ่งตอน อาจจะเป็นตอนที่สั้นไปนิด แต่รับรองว่าได้เห็นแง่มุมของแอนนี่แน่นอน แถมความฮาอีกเล็กน้อยครับพ้มมมมม





ตู้ม! ซ่า!

เสียงดังมาจากข้างหลังผม เมื่อผมหันกลับไปดูก็พบว่า ไอ้คนที่กำลังตามกวนประสาทผมเมื่อกี้ ตกลงไปในน้ำพุของห้างไปซะแล้ว  ให้ตายสิ ทำไมไม่เดินให้มันระวังซะหน่อยนะ นี่ยังดีที่หัวไม่ไปฟาดอะไรเข้า....... เออ แต่ยังไงซะก็สมน้ำหน้าเหมือนกัน ทำกะกูไว้เยอะ ฟ้าฝนเอาคืนแล้วมั้ยล่ะไอ้ตี๋ คริคริ

จะยังไงก็เหอะ ไหนๆตอนนี้มันก็ไม่ได้เป็นอะไรและ พนักงานของห้างก็มาช่วยมันและ ก็คงไม่ต้อง... ไม่ต้องสนใจอะไรนิ่ รีบเดินหนีไปดีกว่า ก่อนที่มันจะตามมาทัน

“ไปซะนานเชียวแอนนี่” ไอ้มิวพูด หลังจากที่ผมเดินมาเจอกับมันและไอ้ต้นซึ่งไปซื้อซีดีเพลงกันมา พวกเรานัดเจอกันตรงทางออกพาราก้อนตรงทางขึ้น BTS ฝั่งริมสุดด้านถนนอังรีดูนัง

“โทษทีๆ พอดีมีเรื่องอะไรนิดหน่อยน่ะ”

“เรื่องอะไรวะ” ไอ้ต้นถาม

“เจอพวกโรคจิต ชอบสะกดรอยตามน่ะ”

“แน่ใจเหรอ” ไอ้มิวแหย่

“เออน่ะ กลับกันเหอะ” ผมรีบตัดบท แต่แล้วก็มีเสียงนึงดังขึ้นมาจากข้างหลังผม

“Annie” ผมหันไปมองเจ้าของเสียงและพบว่าเป็นพี่แจ๊สนั่นเอง

“พีแจ๊ส Hi” ผมทักขึ้น
“Hi… ไงต้น พี่เราอยู่นู่นแน่ะ” พี่แจ๊สเบ้หน้าไปทางที่ไอ้พริกเพิ่งจะลงไปเล่นน้ำเมื่อกี้นี้ “หวัดดี มิว”

ไอ้มิวทักทายกลับด้วยการ กลอกตา หันหน้าไปทางอื่นแล้วพูดว่า “Come on. Let’s go home.”

“เดี๋ยวก่อนสิมิว... พี่จะมาคุยกับแอนนี่ ขอเวลาแปบเดียวนะ”

ไอ้มิวมองหน้าพี่แจ๊สด้วยหางตาซักพัก แล้วยักไหล่ เอ๊ะ สองคนนี้มันต้องมีเรื่องไม่ถูกอะไรกันอยู่รึเปล่านะ ผมเห็นไอ้มิวมันดราม่าใส่พี่แจ๊สมาสองรอบและ

“Annie…” เอาล่ะ ในเมื่อตรงนี้จะเริ่มเป็นคำพูดภาษาอังกฤษรวดเดียวหมด เพราะงั้น พี่ๆทีมพากย์ช่องเก้า ช่วยพากย์เป็นพี่แจ๊สด้วยครับ “...เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆไอ้พริกมันถึงตกน้ำพุไปล่ะ”

“มันซุ่มซ่ามเองนิ่พี่ ช่วยไม่ได้” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก... มันคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ

“พี่เข้าใจนะว่าเรายังโกรธมันอยู่ แต่นี่มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ ถ้าเกิดมันเกิดหัวฟาด หรือเป็นอะไรขึ้นมาเราจะไม่ห่วงมันซะหน่อยเลยเหรอ” ไม่หรอก มันไม่เกินไปหรอก แต่ว่าหัวฟาดเหรอ??

“แล้วมันเป็นอะไรรึเปล่าล่ะครับ”

“เปล่า มันไม่ได้เป็นอะไร” ก็ดีแล้วนิ่... เอ่อ หมายถึง แล้วทำไมผมต้องห่วงมันล่ะ ถ้าอย่างงั้นน่ะ

“เห็นมั้ยล่ะครับ มันก็ไม่เห็นเป็นอะไรนิ่”

“แต่เราก็ไม่คิดจะเข้าไปช่วยหรืออะไรเลยเหรอ”

“แล้วทีมันต่อยหน้าผมล่ะครับ! มันสมควรให้ผมช่วยมั้ย!”

“แอนนี่ ฟังนะ...”

“พี่แจ๊ส กลับไปหาเพื่อนพี่เถอะครับ พวกผมจะกลับแล้ว” แล้วผม ไอ้ต้น (ซึ่งมีสีหน้าไม่สบายใจเท่าไหร่) และไอ้มิว (ซึ่งมองพี่แจ๊สไล่หลังด้วยสายตาเย็นชา) ก็เดินออกจากพารากอนมา โดยที่คำพูดนึงของพี่แจ๊สยังคงก้องอยู่ในหัวผม .....ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ ถ้าเกิดมันเกิดหัวฟาด หรือเป็นอะไรขึ้นมา.....

ไม่หรอกน่ะ ไม่ใจร้ายเกินไปซะหน่อย มันจะได้รู้สึกซะบ้างว่าการโดนกระทำมันมีความรู้สึกเป็นยังไง












Chapter 9: Cover






Hey, ey, ey, ey. Like a girl gone wild, a good girl gone wild.
I'm like…


เสียงริงโทนใหม่ของผมดังขึ้นเป็นรอบที่แปดล้านได้แล้วมั้ง ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี่ผมพยายามหลบหน้าไอ้พริกมันตลอด แต่ด้วยเวทย์มน คุณไสย หรืออะไรก็แล้วแต่ อยู่ดีๆมันก็หาเบอร์ของผมเจอจนได้ครับ (Oh! Gosh!!!) แล้วนับจากนั้นมามันก็โทรหาผมมาตลอด รอบแรกผมก็ยังไม่รู้หรอกว่าเบอร์ใคร ผมถึงรับสายไป





(Flashback!!!)

Hey, ey, ey, ey. Like a girl gone wild, a good girl gone wild.
I'm like…


”Hi. It’s Anthony speaking.”

”ดีกันน้าาาาาาาาาาาาาาห์  :กอด1:” อะจึ้ย เสียงแบบนี้มัน.... ตัดสายดีกว่า

ตู๊ด.. ตู๊ด.. ตู๊ด.. ตู๊ด..





(กลับมาปัจจุบัน แจ้)

โอยยยยย แค่นึกถึงตอนนี้ยังขนลุกซู่อยู่เลยครับ ทำเสียงกระเส่าผ่านโทรศัพท์มาซะด้วย ให้ตายเหอะ!

Hey, ey, ey, ey. Like a girl gone wild, a good girl gone wild.
I'm like…


โทรมาอีกแล้ว โว้ยยยยย อะไรกันนักกันหนา นี่มันเวลากินข้าว เมิงจะไม่กินรึไง โทรมาอยู่ได้!!!

“จะไม่รับหน่อยเหรอ” ไอ้ต้นถามขณะมองไปที่โทรศัพท์เจ้าปัญหา

“ไม่มีทาง ปล่อยให้มันโทรมาจนแบตหมดน่ะแหละ”

“ใจแข็งจังนะมึงเนี่ยะ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร มันเป็นสุภาษิตไทยน่ะ เข้าใจมั้ย”

“วันนี้มึงมาแนวไหนเนี่ยะ สอนธรรมะกูด้วย”

“ฮ่ะๆๆๆๆๆ ก็แค่บอกดู เชื่อสิ ถ้าไอ้มิวอยู่มันก็คงอยากให้มึงเลิกโกรธพี่พริกเหมือนกันแหละน่า” พอดีว่าไอ้มิวมันรีบกลับน่ะครับ มันก็เลยแยกกับพวกผม แล้วผมกับไอ้ต้นก็มานั่งกินข้าวที่โรงอาหารคณะนี่แหละ

“เห๊อะ ไม่แน่หรอก ก็ดูอย่างมันเอง มันก็ยังไม่อภัยพี่แจ๊สเล้ย” ผมพูดไปตามที่เห็น

“ให้อภัย??” ไอ้ต้นทำสีหน้าสงสัย

“ก็... คือกูก็ไม่รู้หรอกนะว่าสองคนนั้นเค้ามีเรื่องอะไรกันมาก่อน แต่ดูท่าทางพี่แจ๊สก็คงจะเคยทำให้ไอ้มิวโกรธเหมือนกันล่ะม้างง”

“ก็ไม่รู้ว่ะ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ดีๆจะไปถามซะด้วย” ก็จริงนะ อยู่ดีๆไปถามน่าเกลียดตายเลย “แต่ว่า มึงก็น่าจะเห็นนิ่ ถ้ามึงโกรธแล้วหนีหน้าพี่พริกไปเรื่อยๆ มันจะอึดอัดมั้ยล่ะ”

“อืม.... ก็จริงของมึงนะ...” ผมเริ่มจับประเด็นในสิ่งที่มันพูดได้ แต่ในใจของผม ก็ยังคงสับสนอยู่ดี

“มึงก็ลองคิดดูดีๆและกัน” ไอ้ต้นพูดพร้อมกับลุกขึ้น “เดี๋ยวกูมา ไปเข้าห้องน้ำแปบนึง”

“อืม” ผมตอบรับ และปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความคิด สิ่งที่มันทำ มันก็ไร้เหตุผลและงี่เง่าเกินไป แถมมันเองก็ไม่ยอมพูดคำคำนั้นกับผมซะที... แต่ถ้ามองอีกแง่ สิ่งที่มันทำอยู่ก็เท่ากับว่ามันรู้สึกผิดกับสิ่งที่มันทำไว้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ... จะยังไงก็เหอะ ตอนนี้อยู่ดีๆก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังเข้ามาก่อกวนโสตประสาทของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“กินข้าวด้วยคนดิ่” เสียงที่ฟังแล้วกวนประสาทดังขึ้นจากข้างๆผม พร้อมกับร่างของเจ้าของเสียงที่ตามมา “ทำไมมากินข้าวคนเดียววะ แล้วไอ้ต้น กับไอ้เด็กพั้งค์ไปไหนซะล่ะ แค่กๆ”

“His name is Music.” ผมตอบเสียงเรียบ

“นั่นแหละ ต้นกับมิวสิกไปไหนซะล่ะ แค่กๆ”

“Somewhere. They’ll be here soon.” จะถามอะไรนักหนาวะ รำคาญ

“แน่ใจเหรอวะ เอ... เมื่อกี้กูเพิ่งเห็นมิวสิกสะพายกระเป๋าออกนอกมหา’ลัยแล้ว ส่วนไอ้ต้นเมื่อกี้กูเจอในห้องน้ำ มันบอกเดี๋ยวจะไปหาพี่มันต่อเลยให้กูมานั่งเป็นเพื่อนมึง... มันคงไม่กลับมาเร็วๆนี้หรอกมั้ง” อ้าว ไอ้ต้น เจ้าหักหลังข้า!!

“So?”

“So, let me sit here with you” มันยิ้มแฉ่ง ไม่น่าเชื่อแหะว่าถึงสำเนียงมันจะแปร่งๆ แต่พูดได้คล่องขึ้นเยอะเลยนี่... เอ่อ แต่ก็ยังงั้นๆอยู่แหละถ้าเทียบกับเจ้าของภาษาน่ะนะ แล้วจะเอายังไงกับมันดีล่ะเนี่ยะ เล่นนั่งไม่แคร์สื่ออยู่อย่างงี้

“Fine. I can find another place to sit” ผมลุกขึ้นยืนแล้วตั้งท่าจะเดินไปหาที่นั่งใหม่ แต่ว่า

“เดี๋ยวก่อน” มันคว้าข้อมือผมไปจับไว้แน่น โดยไม่ได้สนใจสายตาชาวบ้านที่หันมามองด้วยความงุนงงแต่อย่างใด “มึงฟังกูก่อนได้ป่าววะ แค่กๆ”

“Let me go. People stare at us” ผมพูดเสียงเบาจนแทบกระซิบ

“งั้นมึงก็นั่งลง แล้วฟังกูก่อน” มันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

แต่ว่า ไม่! ทำไมผมจะต้องฟังที่มันสั่งด้วยล – อ้าว เห้ย! แล้วอยู่ดีๆทำไมผมนั่งลงที่เดิมแล้วล่ะ ในหัวผมมันก็บอกอยู่แท้ๆว่าให้เดินหนีไปซะ ให้ตายสิ เสียหมาชะมัด

“Speak up real quick. I don’t have much time.”

“โอเค...” มันถอนหายใจแล้วนั่งลงข้างๆผม พร้อมทำสีหน้าจริงจัง.... เอาเข้ หล่อว่ะ... ผมหมายถึงว่า คิดว่าหล่อรึไงวะ “แอนนี่ เรื่องที่กูต่อยมึง กูเข้าใจแล้วว่ามันไร้สาระมาก และกูก็ผิดเองที่ทำตัวงี่เง่าในตอนนั้น จริงอยู่....... จริงอยู่ ไอ้เรื่องที่กูเครียดเรื่องรับน้องมันอาจจะทำให้กูสติหลุดได้ง่าย...... แต่ที่กูทำมันก็งี่เง่าเกินไป งี่เง่าและไร้เหตุผลจริงๆ.... แอนนี่..... กู...... เอ่อ กู...... คือ กู.... ข – กูขอโทษ”

ไอ้พริกพูดกับผมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมไม่เคยเห็นมันจริงจังกับอะไรมากขนาดนี้ และผมรู้สึกมันได้... แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะยกโทษให้มันนะ

“กูขอโทษมึง จากใจจริง” มันพูดพร้อมเอามือมาตบบ่าผมเบาๆ... แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่า... ผมจะยกโทษ... ให้มัน...

“Urrr…” อ้าวเห้ย พูดสิวะแอนนี่ ไมอ้ำอึ้งอย่างงี้ล่ะกู

“เอ้อ จริงสิ มึงเคยฟังเพลงเกาหลีมั่งป่ะวะ” เห มาอารมณ์ไหนวะ กูปรับมู้ดไม่ถูก

“Umm… Yeah? A little bit.”

“แล้วมึงรู้จักวง Super Junior ป่ะ แค่กๆ” ทำไมวันนี้มันไอบ่อยแหะ แต่ว่าแต่ วงนี้เหรอ เหมือนเคยได้ยินนะ ที่อเมริกาตลาดเพลงเกาหลีไม่ค่อยมีมาโปรโมทเท่าไหร่ แต่วงนี้เคยฟังอยู่เพลงนึงติดหูดี

“I’ve heard them” ตอบไปสั้นๆก่อนดีกว่า อยู่ดีๆอะไรของมันวะ... เอ๊ะ อ้าว แล้วกูจะตอบทำไมวะ ยังไม่ได้บอกว่าจะยกโทษให้เลย ชิชิ

“เหรอ ดีๆ เพราะว่า เอ่อ... กูมีเพลงๆนึงอยากจะให้....” เพลง?? เอาจริงดิ่ “เพื่อเป็นการ... เอ่อ ขอโทษ แต่คือ กูไม่รู้จักเพลงฝรั่งที่มีความหมายขอโทษ เพลงไทยมึงก็คงไม่ฟัง ก็... เห็นเพลงนี้มันมีเนื้ออะไรขอโทษ ไม่รู้ ยังไงก็...”

ก็... ก็แล้วมันก็ลุกขึ้นไปยืนตรงที่โล่งๆ ด้วยท่าทางเกร็งๆ แล้วซักพักนึงเท่านั้นแหละครับ อยู่ดีๆ ลำโพงอินเตอร์คอมในโรงอาหารก็มีเสียงเพลงจังหวะอิเล็กโทรนิกกับบีตกลองหนักๆก็ดังขึ้น แล้วผมก็ถึงกับแทบสำลักน้ำลายทันทีกับ หนึ่ง ไอ้พริก มึงเอาไมค์ลอยมาจากไหนวะ!! สอง ไอ้ต้น!? พี่ต่อ!? พี่แจ๊ส!? เจ๊โหดด้วย!? ใส่ไมค์ลอยเดินมาจากไหนกันวะเนี่ยะ ไม่อายคนเลยรึไง มุงดูกันเป็นม็อบแล้ว!!





Dance Dance Dance Dance (เด็กอ่ะ เด็กอ่ะ โอ้!)

Dance(เด็กอ่ะ เด็กอ่ะ โอ้!) Dance(เด็กอ่ะ เด็กอ่ะ โอ้!) Dance(เด็กอ่ะ เด็กอ่ะ โอ้!) Dance(เด็กอ่ะ เด็กอ่ะ โอ้!)

Dance (เอ้อ เอ๊อ) Dance (เอ้อ เอ๊อ)

เอ้อ เอ๊อ เอ้อ เอ๊อ เอ้อ เอ๊อ เอ้อ เอ๊อ

Sorry Sorry Sorry Sorry

บึ๊ดจ้ำบึ๊ดจ้ำบึ๊ดจ้ำบึ๊ดจ้ำ (หน้าผม -*-)

ชุลหลีอยากจะขอโทษปลาช่อน (ปลาช่อน?? กูเหรอเห้ย??)

ปลาช่อน ปลาช่อนราดพริก เบ้เบ่

Shawty Shawty Shawty Shawty

นุ้งนิ้ง บึ๊ดจ้ำบึ๊ดจ้ำบึ๊ดจ้ำ

ซูชิเดี๋ยวกูเลี้ยงนะเอามะ

ปลาช่อน ปลาช่อน ปลาเก๋า เบ่เบ่

…………………………..



อาร้ายยยยยยยยยยยย!! มันท่องอะไรก๊านนนนน จำได้ว่าถึงเคยฟังแค่สองรอบ กูก็ไม่คุ้นว่ามีเนื้อเพลงไทยเลยนะเห้ย แล้วไอ้ท่าขาหมุนๆเกือบลื่นนั่นมันอะไร ร้องมั่วกันได้อีกนะ เอ้อ แต่โอเค ท่อนกลางๆเพลงที่เจ้ทรายแกออกมาเต้น ใช้ได้อยู่ๆ... เห้ออออออ นี่คือเพลงที่ให้ผมเหรอเนี่ยะ 5555555555555555 ฮาจริงๆ

............................

เอ้อ เอ๊อ เอ้อ เอ๊อ เอ้อ เอ๊อ เอ้อ เอ๊อ

โอ๊เย้ เย้ๆๆๆๆๆๆๆ ฮะฮ่า (-*-)



............................................................

...............................................

.......................................

...............................

.......................

.................

............

......

...




ฮูก ฮูก เอ่ออออ ซาวด์เอ็ฟเฟ็กนกฮูกมาจากไหนครับ -*-


เพลงจบแล้ว และทุกคนในโรงอาหารก็ติด silence ไปเกือบหนึ่งนาที หลังจากนั้น ทุกคนก็แยกย้ายกันไปกินอาหาร ซื้อกับข้าว ทำกับข้าว ซื้อน้ำ หรืออะไรก็แล้วแต่ตามปกติ โดยที่ไอ้พริกกับเพื่อนๆของมันและไอ้ต้นก็ค่อยๆเดินจ๋อยๆมาหาผม

“เป็นไง?” มันถามอย่างไม่มันใจ

ผมยืนขึ้นแล้วถอนหายใจ “To behonest, your dance – Lame. Your singing – Horrible.”

“แล้ว – แล้วมึงยกโทษให้กูรึยังล่ะ”

ผมหยิบกระเป๋าแล้วยิ้มมุมปากให้มัน “Bye” แล้วผมก็เดินจากมันไป

“Hey! Annie, wait!!” ไอ้ต้นเรียกแล้วเดินตามหลังผมมา

ปล่อยให้มันสติแตกไปอย่างงั้นแหละครับ ส่วนผมก็ผมแอบหัวเราะโดยที่ไม่ให้มันเห็น ให้ตายสิ อะไรมันจะฮาขนาดนี้ ถึงจะเป็นการร้องและเต้นที่ทุเรศมาก แต่ผมชอบนะ 55555555

โอเค... ผมยกโทษให้มันก็ได้ แต่ผมยังไม่บอกมันหรอก ให้มันนั่งเครียดนอนเครียดไปอีกซักพักแล้วกัน เอาคืนๆ หึหึหึหึหึหึ


**********************************************************************************


สองวันต่อมา วันนี้ผมอยู่ที่คอนโดอย่างสบายใจแล้วครับ ไหนๆก็หมดช่วงเทศกาลรับน้องแล้ว อีกไม่กี่วันก็คงเปิดเทอม แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไอ้พริกก็เงียบหายไปเลย หลังจากวันนั้น จนผมเริ่มสงสัยแล้วว่า หรือว่ามันถอดใจที่จะง้อผมแล้ว (ไรว้า อุตส่าห์ยกโทษให้แล้วนะ)

แล้วจู่ๆ

Hey, ey, ey, ey. Like a girl gone wild, a good girl gone wild.
I'm like…


ไอ้ต้นก็โทรมาหาผม

“ว่าไง”

“ฮัลโหล เฮ้ย แอนนี่ คุยได้ป่าววะ”

“ก็ได้อยู่ ทำไมวะ”

“เออๆ คือ มึงช่วยไปดูห้องพี่พริกหน่อยดิ่วะ ว่าพี่เค้าอยู่รึเปล่า”

“ตลกและ มึงก็รู้อยู่ว่ากูยังไม่พูดกับไอ้พริก มึงยังจะให้กูไปหามันอีก... คราวที่แล้วแอบไปช่วยมันง้อ กูยังไม่คิดบัญชีมคงเลยนะเห้ย”

“โอยยยยย มึง เอาไว้ก่อนดีกว่า คือพี่กูบอกว่า พี่เค้าไม่ได้ไปม. มาสองวันแล้ว ไม่รู้เป็นอะไรรึเปล่า โทรไปหาก็ไม่รับ” อ้าว ซะงั้นอ่ะ เป็นอะไรของมันนะ

“เหรอ... แต่กูไม่อยากไปดูว่ะ” ขอเล่นตัวซักนิดแล้วกันนะ คิคิ

“มึงอย่าเพิ่งมาดราม่าอะไรตอนนี้เลย เมิงช่วยไปดูให้หน่อยแล้วกันน่าว่าพี่เค้าเป็นอะไรรึเปล่า”

“เออๆๆๆ โอเคๆ กูไปดูก็ได้วะ แล้วเดี๋ยวกูโทรไปบอก”

“ดีมาก”

“เดี๊ยะเหอะมึง”

“ฮ่ะๆๆๆๆ โอเค ฝากด้วย บาย”

ให้ตายสิ ไอ้พริกมันคิดอะไรของมันอยู่เนี่ยะ นึกจะหายตัวไปเฉยๆ จะดราม่ารึยังไง ห้องก็อยู่ตรงข้ามกันแค่นี้ จะมาง้ออีกหน่อยไม่ได้รึไงฟระ! คิดแล้วมันอารมณ์บ่จอยครับ

ก๊อกๆๆ

“Prick! Are you in there?” เงียบครับ ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ

ก๊อกๆๆ

“Prick! Are you there?”ยังคง เงียบอยู่ครับ

ก๊อกๆๆ

“Prick!” ไม่ตอบ เอาเถอะ สงสัยมันคงไม่อยู่ละมั้งครับ อาจจะกำลังไปมหา’ลัยอยู่ เดี๋ยวผมโทรกลับไปบอกไอ้ต้นก่อนดีกว่า





แอ๊ดดดดด....

ในขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูเข้าห้องตัวเองอยู่นั้น อยู่ๆประตูห้องไอ้พริกก็ค่อยๆเปิดออก และเมื่อผมหันไป ผมก็พบกับร่างของชายตัวใหญ่คนหนึ่งที่ดูซีดเซียว ขอบตาดำคล้ำ เส้นเลือดนัยตาเป็นสีแดง และท่าเดินโซเซไปมา.... ซอมบี้...!!???

“เฮือก!!!” เสียงร้องของผมเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้ และมันค่อยๆเดินเข้ามาหาผมเรื่อยๆ...





To be continued

ตอนหน้า... สรุปว่า ตัวอะไรโผล่ออกมาจากห้องไอ้พริก!?
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 21/5/2012 - Chapter 8]
เริ่มหัวข้อโดย: donghwa ที่ 22-05-2012 21:55:17
เอ้าๆๆ พริกเอ้ยยย
ไม่ได้อ่านแค่สองตอนเอ็งตั๊นหน้าน้องแอนนี่ไปซะแล้นนน
ง้อเค้าให้ได้นะแก เหอะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 22-05-2012 22:16:23

 ปลาช่อนยอมอ่อนให้ยัง?
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 22-05-2012 22:18:58
พริกม่สบยน่น่สงสร
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: naiin ที่ 22-05-2012 22:21:31
  55555555555555555555555555 แอนนี่อภัยให้เพราะท่าเต้น
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 22-05-2012 22:24:33
ขำตอนซอรี่ๆมาก :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ดีกันเถอะ ~
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 22-05-2012 22:48:02
โอ๊ย...
แย่อ่ะ...
เราแย่แล้ว...
พริกคะ เต้นกับร้องง้อกลางโรงอาหารเนี่ยนะ!
น่ารักเว่อ!
แย่อ่ะ ยกโทษให้ไปซะแล้ว!!!
คิดได้ไงเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 22-05-2012 23:05:06
ง้อได้ฮามากๆอ่ะพริก 5555555555
ซอรี่โคตรฮาเลยอ่ะ ซับนรกยังอายเหอะ55555 ชอบๆๆ
แอนนี่หายโกรธแล้วแต่ยังฟอร์มอยูซะงั้น
แล้วซอมบี้นั้นใช่พริกรึป่าว นี่คิดมากที่อลแอนนี่ไม่ยกโทษถึงขนาดล้มป่วยเลยรึเนี่ย น่าฉงฉาน
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: donghwa ที่ 22-05-2012 23:13:37
กร้ากกกก คิดได้อ่ะ ซอรี่ๆ เวอร์นี้ฮาจริงอะไรจริง ว่าแตาฃ่ตกน้ำทีเดียวเฉาเลยเฮ้ยพระเอกเรา
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: Mocha01 ที่ 22-05-2012 23:15:42
ชอบบๆๆๆ คงจะเดาได้แล้วว่าใครกดใคร เหอะๆ :haun4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 22-05-2012 23:28:22
อ้าวพริกเป็นอะไรไป
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 22-05-2012 23:44:14
ก๊ากๆๆๆๆๆๆ
Sorry เวอร์ชันนี้ฮาได้อีกอ่ะ!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-05-2012 00:20:51
ถ้าไม่ฮาคงไม่ยกโทษให้สินะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 23-05-2012 00:35:38
พริกป่วยแน่ๆเลยอ่ะ เห็นไอมาตั้งแต่ตอนไปง้อแอนนี่แล้ว






ขอบอกเพลงซอรี่นี่ชอบมากอ่ะ ฮาสุดอ่ะ  :m20: :laugh: :pigha2:






มาต่ออีกนะจ๊ะ วันละตอนจะดีมาก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 23-05-2012 12:25:40
ฮษ ไปไหมเนี่ย

เพลง sorry ของเรา   ไม่คิดว่าจะฮ่าขนาดนี้

แอนนร่ งอลนานไปนะพริกป่วยเลย  ไปดูแลด่วน!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: sunwars ที่ 23-05-2012 13:26:43
นึกภาพตามแล้วฮามากอ่ะ ฮาๆๆๆ
ใจอ่อนได้แล้วนะปลาช่อน คึคึ
น้องแอนนี่เล่นตัวดีนัก เลยเจอซอมบี้เข้าให้แล้ว
ติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 23-05-2012 16:51:01
เปลี่ยนแนวเป็นผีหลอกวิญญาณหลอน? เพลงนี้ก็ฮาจริงไรจริง  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 23-05-2012 17:15:18
 :laugh:  แผนไรอีกเนี่ย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaame ที่ 23-05-2012 17:52:23
อือหื้อออออออ ซอรี่เวอร์ชั่นนี้มีปลาช่อนด้วย 55555
ซอมบี้ พริกป่าว -0- !!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 23-05-2012 19:57:05
ก๊ากกก ขำลั่นบ้านกับซอรี่ซอรี่ ถ้าเราเป็นแอนนี่คงขำลั่นไปต่อหน้าพริกเเล้ว กลั้นไม่อยู่หรอก ๕๕๕๕ :jul3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-05-2012 20:15:00
นี่ถ้าไม่บอกว่าแอนนี่เป็นผู้ชายนี่คิดว่าผู้หญิงนะ งอนเก่งเชียว :laugh:
พริกขอโทษไปแล้ว ถึงตาดูแลพริกบ้างแล้วล่ะ หุหุ ทำเอาป่วยเลย :z2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 23-05-2012 20:56:37
หลังจาก พริดร้องเพลง(?) + เต้น(?) เสร็จ ทุกคนติดสตั๊น 5555 :z2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: art_francais ที่ 23-05-2012 21:11:10
มาตามอ่านเรื่องนี้วันแรกคับ จะติดตามนะคับพี่ อ่านแล้วฝึกภาษาอังกฤษดี นานนานมีแบบนี้ที สู้ๆค้าบบบบบ ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: kogomon ที่ 23-05-2012 22:25:49
5555

แอนนี่ ระวังพริกดูดเลือดเน้อออออ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 24-05-2012 20:41:21
พริกร้องเพลงได้ฮามากกก  :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: oatty ที่ 24-05-2012 23:00:43
เข้ามาอ่านทีเดียว 9 ตอนรวด สนุกมากๆเลยครับ

ยิ่งตอนพี่พริกเต้นง้อนี่แบบว่า  :laugh:

รีบมาต่อเร็วๆนะครับบบ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: howru ที่ 24-05-2012 23:54:14
ขอฮาเนื้อเพลง :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: catwander ที่ 25-05-2012 00:29:56
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 25-05-2012 13:08:35
แวะเข้ามาบอกว่า ตอนใหม่กำลังเขียนอยู่นะครับบบบ แต่ช่วงนี้ยุ่งมากๆเลย ยังไงจะรีบเอามาแปะให้เร็วที่สุดแน้ะแจ๊ะ

ขอบคุณทุกๆคนสำหรับการติดตามนะคร้าบบบบบ

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-05-2012 21:44:22
เข้าแถวรอ หุหุ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: lazat.mchub ที่ 26-05-2012 12:45:47
Sorry เวอร์ชั่นนี้ถึงกับข้างพุ่ง  :laugh:

มาต่อเร็วๆนะฮ้าบบบ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 28-05-2012 00:07:11
รอยู่นะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: catwander ที่ 28-05-2012 11:12:38
รออยู่ด้วยคนจ้า
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: ppanudet ที่ 29-05-2012 07:15:15
มาต่อเร็วๆนะครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 30-05-2012 03:55:46
ยังไงก็รีบมาแปะนะ หายไป ตั้ง ๘ วันแล้ว เราตั้งตาคอยทุกวันเลย อยากอ่านอีก รีบมาน้าาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: ppanudet ที่ 31-05-2012 01:49:41
มาดันครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 31-05-2012 21:16:51
รอด้วยคน คิดถึง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 22/5/2012 - Chapter 9]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 01-06-2012 18:26:54
กลับมาแล้วค้าบบบบบบบ หลังจากหายไปเกือบสองสัปดาห์ ขอโทษทุกคนจริงๆน้าาาาา ช่วงนี้ชีวิตยุ่งเหยิงมากมาย แถมใกล้เปิดเทอมที่มหา'ลัยแล้ว ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะได้เข้ามาอัพบ่อยแค่ไหน แต่รับรองครับว่ามาอัพตอนต่อๆไปแน่นอน แต่คงไม่ได้บ่อยแบบทุกสองวันอะไรอย่างงี้นะ ขอโทษทุกคนด้วยนะครัาบบบบบ

เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปติดตามตอนต่อไปกันเลยแจ้










“เฮอออออออออออ” เสียงหายใจติดขัดดังมาจากชายที่อยู่ตรงหน้า ผิวซีด ขอบตาดำ นัยตามีเส้นเลือดขึ้นเด่นชัดจนแอนนี่ตกใจ ...ซอมบี้ ช่างเหมือนซะเหลือเกิน

“เฮือก” เด็กหนุ่มผมบลอนด์ชาวต่างชาติร้องขึ้นอย่างตกใจ กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

“เฮออออออออออออ” ซอมบี้ตัวนั้นยังคงค่อยๆลากสังขารเข้าไปใกล้ๆแอนนี่มากขึ้นๆ

“เฮือก” แอนนี่พยายามร้องมากขึ้นเท่าไหร่ แต่ด้วยความกลัวที่ถาโถม เสียงจึงไม่เล็ดลอดออกมา

“เฮออออออออออออ”

“เฮือก”

“เฮออออออออออออ”

“เฮือก”

“อะแค่กๆๆๆ!! แค่กๆๆๆ!! พอเห๊อะ” .....เสียงของซอมบี้ที่อยู่ตรงหน้าแอนนี่พูดขึ้น แค่กๆๆๆ อะ แค่กๆๆๆ แหวะ... เสียงของผมเอง







Chapter 10: ฤดูที่ฉันเหงา




“Prick?” ไอ้ฝรั่งมองผมแบบงุนงง แหงหล่ะ ผมเห็นตัวเองในกระจกตอนนี้ยังแทบจะกรี๊ดด้วยโน้ตคีย์สูงแบบเสียงหลบเลยทีเดียว นี่มันซอมบี้ชัดๆ

“เออ.. แค่กๆ กูเอง”

“You look horrible” ไอ้ฝรั่งยังคงมองผมแบบไม่เชื่อสายตา “What have you done to yourself?!”

“ก้ออออ เรื่องมันมีอยู่ว่า พอดีทำกับข้าวน่ะ แค่กๆๆ แล้วกูก็ใส่น้ำตาล เครื่องเทศน์ สารพัดของกุ๊กกิ๊กลงไป แต่เผอิญดันเติมสารพิเศษลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ...” หึหึหึ ถึงจะป่วยแต่สปิริตการกวนตีนของผมไม่ได้ป่วยตามครับ

“ซานเคย์มีเอ็กส์ (สารเคมีเอ็กซ์) ha ha ha” มันหัวเราะได้ประชดประชันมาก “That’s funny. Good luck with your Powerpuff Girls, then.”

“เฮ้ยๆๆ ใจเยนๆ กูไม่กวนและ แค่กๆ” ผมรีบคว้ามือของคนตรงหน้าก่อนที่มันจะเข้าห้องไปได้ แต่ถึงอย่างงั้น แรงผมก็แทบจะไม่ค่อยมีอยู่แล้ว “เข้ามาคุยในห้องกูก่อนได้มั้ย กูไม่มีแรงแล้ว”

แล้วไอ้ฝรั่งก็เดินเข้ามาในห้องผม โดยมีผมลากสังขารตัวเองตามมานั่งที่โซฟา ซึ่งดูเหมือนมันเองก็พยายามจะช่วยประคองผมนะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง มันจึงทำตัวเงอะๆงะๆไม่เข้ามาพยุงผมซะที

“นี่มึงหายโกรธกูรึยัง” ผมถามประเด็นนี้ ทันทีที่ก้นแตะโซฟา เล่นเอาหน้าขาวๆตรงหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย

“N- No. I’m still angry” หึ โกรธได้ไม่นานร็อก เจอท่าเต้นกับสไตล์การร้องกูไปเมื่อสองวันก่อนยังไงก็ต้องใจอ่อนบ้างแหละวะ

“ถ้ายังโกรธ อะแฮ่มๆ แล้วมึงมาหากูทำไม” ผมแย้บไปอีกคำถาม

“Ton called me! P’Tor want to check if you’re okay! You – You haven’t answer the phone” โอเค เหตุผลเข้าท่า แล้วทำไมต้องหน้าแดง

“สงสัยกูลืมปิดเครื่องไว้น่ะ แค่กๆๆ อะแหวะ”

“Jesus! You look like hell.”

“ขนาดนั้นเลยทีเดียว”

“Are you going to tell me what have you done?” มันถาม

“ก็...”





(เมื่อสองวันก่อน)

ซ่า ซ่า

เสียงฝนตกอย่างหนักในช่วงบ่าย หลังจากที่ผมโชว์การง้อแบบเสต็ปเทพกับเพลงเกาหลีสุดฮิตไปแล้ว ถึงเจ้าตัวจะดูอ่อนลงบ้าง แต่ก็ยังคงงอนผมอยู่ เฮ้อออออ เศร้าครับ ตอนนี้ก็ต้องมานั่งนึกแผนต่อไปกัน

กริ๊งงงงงง!!

เสียงออดหมดเวลาเรียนช่วงบ่ายดังขึ้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ผมนึกไอเดียอะไรดีๆขึ้นมาได้

“โอเค งั้นวันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนแล้วกันนะ” เสียงอาจารย์อนุชิต อาจารย์หนุ่มไฟแรง สุดเฮฮาของคณะผม “เอ้อๆๆๆ แล้วคราวหน้าอย่าลืมเอาการบ้านมาส่งด้วยนะทุกคน”

“เฮ้ย เดี๋ยวกูมานะ พอดีมีเรื่องอยากจะถามอาจารย์แกหน่อย” ไอ้ต่อพูด และเดินตามอาจารย์ไป ถึงอาจารย์แกจะเพิ่งยี่สิบปลายๆ แต่ก็ถูกบรรจุให้เป็นอาจารย์ประจำของมหา’ลัยผมแล้ว ด้วยความที่แกเก่งขั้นเทพ แถมยังซี้กับเด็กๆเพราะความที่แกใจดีอีกด้วย แล้วแกเองก็เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของไอ้ต่อมันด้วย

“เฮ้ย พวกมึง พอจะมีเวลาป่ะวะ” ผมถามทันทีที่ไอ้ทรายกับไอ้แจ๊สกำลังลุกขึ้น

“ทำไมวะ” ไอ้แจ๊สถาม

สิบนาทีต่อมา พวกเราก็ลงมาหน้าตึกคณะผม ในขณะที่ผมเตรียมตัวทำตามแผน

“เอ่อออออ มึง จะดีหรอวะ” ไอ้ทรายถามอย่างไม่มั่นใจขณะที่มันถือมือถือเตรียมถ่ายคลิปของผม

“ดีสิวะ บรรยากาศอย่างงี้นี่แหละ ใช่เลยเว่ย แค่กๆๆ”

“น่านน แล้วมึงไออย่างงี้เนี่ยนะ จะไหวเหรอวะ” ไอ้แจ๊สถาม

“ไหวแน่นอน!!” ผมทุบหน้าอกตัวเองเพื่อแสดงความฟิตออกมา “ในบรรดาพวกมึงทุกคน กูถึงที่สุดอยู่และ มึงอย่าลืม กร๊ากกกกๆๆๆๆ กร๊ากกก แค่กๆๆๆ แหวะ”

(หน้าของไอ้แจ๊สและไอ้ทราย = =”)

“โอเค... งั้นกูจะถ่ายและนะ พร้อมยัง” ไอ้ทรายถามและกดอะไรซักอย่างในมือถือ

“เดี๋ยว แปบนึงๆ” ผมยกมือห้ามมันไว้เมื่อคิดไอเดียอีกอย่างออก ผมถอดเสื้อของผมออก ท่ามกลางสายตาของประชาชีที่อยู่แถวๆนั้นอย่างไม่อายฟ้าดิน คิคิ จะอายทำไมครับ คนมันหุ่นดี มีกล้ามให้โชว์

“เอ่ออออ ไอ้พริกเอ้ย งานนี้มึงป่วยหนักแน่ๆ” ไอ้แจ๊สพูดเสียงจริงจังเช่นเคย

“เอาเหอะน่ะ เอาเป็นว่ากุพร้อมและ ไอ้ทรายถ่ายเลย ไอ้แจ๊ส เปิดเพลงด้วย” ผมสั่งมันพร้อมชี้ไปที่วิทยุที่มันถืออยู่

“โอเค เริ่มละนะ 5 – 4 – 3 – 2 –action!”

ผมเดินออกไปกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนเนื้อตัวเปียกปอนไปหมด (อะเฮ้อออ เซ็กซี่มั้ยล่ะครับบบ) แล้วค่อยๆหันกลับมาและเดินมาที่กล้องอย่างช้าๆ พร้อมกับดนตรีที่บรรเลงตามเพลงที่ผมเลือก ผมอ้าปากร้องตามทันทีที่ถึงท่อนที่ควรจะร้อง

“และช้านคิดเถิ๊งงงงงง!!! และยังคิดเถิ๊งงงงงงง!!! ในคืนที่ฝนโปรยลงอยู่ด้วยกันตรง!!! เน้!!!!!

ช้านเหงาเธอรู้หมายยย!!! ฉันหนาวจนแทบขาดจายยยย!!!!!.....”


“โอ๊ยยยยย!!! หนวกหู!!!” เสียงจากผู้หญิงคนหนึ่งในตึกตะโกนดังขึ้นมา

“ร้องเหี้ยอะไรอยู่ได้!!!! ยังกะหมาตกลูก!!!” เพื่อนชีช่วยเสริม

“เอ่อะ...” ผมชะงักงันไปเลย

“......เค้าพูดถูกนะ” ไอ้แจ๊สมองหน้าผมอย่างเป็นงานเป็นการ

“เสียงมึงเหมือนหมาตกลูกจริงๆ” ไอ้ทรายเสริม

(กลับมาที่เวลาปัจจุบันจ้า)




“Wait.. So, you got sick because you made music video in the rain?”

“อ่าฮะ”

เพี้ยะ!!!

“โอ๊ยย!! ไอ้บ้าเอ๊ย ตบหัวกูทำไม!! แค่กๆๆๆๆๆ”

“Are you crazy? It was raining that hard and you still went out there?” ไอ้ฝรั่งพูดเสียงเครียด

“แค่กๆ ก็กูจะทำ MV มาขอโทษมึงอีกตัวอ่ะ” ผมพยายามตะเบ็งเสียงแข่ง แต่เสียงก็ไม่ค่อยจะออกมาแล้วครับ

“You don’t have to!”

“ก็มึงไม่ยอมหายโกรธกูซักทีอ่ะ”

“W - Who said I’m still angry?”

“......แค่กๆๆๆ ห๊ะ”

“I said ……who said I’m still angry” มันตอบหน้าเรียบๆ แต่ใบหน้ามันตอนนี้แดงไปถึงหูแล้วครับ

“อะ อ่าว แค่กๆ แล้วทำไมตอนนั้น...”

“I - I just wanna make you crazy. It’s fun.” มันแสยะยิ้มออกมา

“หนอย ไอ้นี่นิ่ กวนนักนะ” ผมพยายามจะเอามือไปเขกหัวไอ้ฝรั่งตัวแสบ แต่ผมก็ต้องชักมือกลับเมื่อผมไออย่างหนักแทน

“Are you alright?”

“ไม่เป็นไรหรอก... ก็แค่.. ต้องไปยืนตากฝนเพื่อหาทางง้อคนที่มันหายโกรธไปแล้ว... แค่กๆๆ” ผมขอเข้าสู่โหมดดราม่าหน่อยละกันนะ คิคิ

“Alright! Alright! I don’t mean to make you sick, okay? I’m sorry” ทำหน้าเศร้า ทำตาแบ๊วๆใส่กูอีกแล้วโว้ย ไอ้แอนนี่ อย่างงี้ขอแก้เผ็ดความกวนให้เมิงอยู่นานๆหน่อยละกันนะ

“เฮ้ย มึง...” ผมพยายามยันตัวลุกขึ้นยืน “...พากูไปที่เตียงหน่อย”

มันพยักหน้าแล้วพยายามเดินมาพยุงตัวผม ซึ่งจริงๆผมก็เดินเองไหวแหละครับ แต่ก็อยากแกล้งให้มันมาปรนนิบัติซะหน่อย เล่นเอาเจ้าตัวบ่นอุบเรื่องความหนักของตัวผมเลยทีเดียว

“Here you go” มันปล่อยผมลงที่เตียงก่อนจะถามอีกรอบ “How does it feel?”

“ก็ร้อนอ่ะ... ปวดหัวนิดหน่อยด้วย” ผมตอบด้วยเสียงแหบพร่า

“Where’s medicine? I’ll get you one.”

“ในตู้เล็กๆข้างตู้เย็นในห้องครัวน่ะ” ไอ้ฝรั่งพยักหน้าแล้วเดินออกไป

“Prick!” เสียงมันลอยดังออกมาจากห้องครัว

“หือ” ผมตอบรับด้วยเสียงที่ดังที่สุดที่ผมจะทำได้ (แต่ก็ไม่ได้ดังซักเท่าไหร่เลย)

“Prick!”

“หือ”

“Hey! I’m calling you” มันเดินเข้ามาในห้องผมท่าทางเหวี่ยงๆ ซึ่งผมก็ชี้ไปที่คอผมเป็นเชิงบอกว่าผมเจ็บคอ “Oh.. Sorry.”

“What happened?” ผมถาม เริ่มใช้ภาษาอังกฤษได้บ้างแล้ววว

“I can’t find aspirin or paracetamol” ตายละ ลืมไปด้วยว่าแอสไพรินกับพาราหมด ไม่ได้ซื้อเลย

“โอ้... เหมือนกูจะลืมซื้อ...”

“Oh… Bummer”

“งั้น ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้อง –“

“I’ll go to a drug store and get some.” แม่งพูดยังไม่ทันจบก็เดินจากห้องนอนผมไป แต่แล้วซักพักหนึ่งมันก็เดินกลับเข้ามา “รานขายยายูหนาย รู้แมะ”

เอ๊า กำ นี่มึงจะไปซื้อยา ยังไม่รืที่ไปอีกเหรอเนี่ยะ “เอ่อออ จากคอนโด ออกไปเลี้ยวซ้าย เดินไปเรื่อยๆจนเจอแยกเลี้ยวขวา ข้ามสะพานลอย ลงไปเลี้ยวซ้าย พอเจอซอยแรกเลี้ยวขวา เจอซอยแรกเลี้ยวซ้ายอีกที เดินไปสามบล็อกจะเจอร้านอยู่ทางด้านขวา โอเคป่ะ”

“............... Say it again?”

“เฮ้ออ ฟังดีๆนะ ออกจากคอนโด เลี้ยวซ้าย เจอแยกเลี้ยวขวา ข้ามสะพานลอย ลงไปเลี้ยวซ้าย เจอซอยแรกเลี้ยวขวา เจอซอยแรกอีกที เลี้ยวซ้าย เดินไปสามบล็อกจะเจอร้านอยู่ทางด้านขวา” มันพยายามหลับตานึกภาพตามที่ผมบอกซักพักหนึ่งแล้วจึงพยักหน้า

“Okay….. I’ll be back soon. Just sleep, yeah?”

ผมพยักหน้าและตอบมันว่า “เดี๋ยวกูเปิดมือถือไว้แล้วกัน มีอะไรก็โทรมา”

มันพยักหน้าตอบแล้วมันก็หยิบกุญแจผมไป และออกจากห้องไป

หลักจากนั้นผมก็หันไปเปิดโทรศัพท์ของผมที่หัวเตียง และไม่นานนัก ผมก็ค่อยๆเผลอหลับไปด้วยความเพลีย บวกกับอาการป่วยของผมอยู่แล้ว


ร้องไห้หาพ่อเธอหรือ เห็นเธอตะโกนหาพ่อ เจ็บช้ำจนน้ำตาคอ ให้พ่อมาเช็ดน้ำตา

เสียงริงโทนมือถือผมดัง ปลุกผมให้ตื่นขึ้น ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ผมหลับไป และเมื่อผมหันไปเห็นนาฬิกาก็พบว่า... 4 ชั่วโมง??!! ผมหลับไปตั้ง 4 ชั่วโมง?? แล้วป่านนี้ทำไมแอนนี่มันยังไม่กลับมาอีกล่ะ??

ร้องไห้หาแม่เธอหรือ เห็นเธอตะโกนเรียกหา เจ็บช้ำหัวใจอ่อนล้า

เสียงมือถือผมร้องใหญ่ ผมจึงเอื้อมไปหยิบมาดู สายเข้าจากไอ้ฝรั่งครับ มีอะไรรึเปล่า ป่านนี้ยังไม่กลับมา แถมยังโทรมาอีก

“ฮัลโหลมึง ป่านนี้แล้วทำไมยังไม่กลับมาอีกวะ” ผมถามหลังจากรับสาย

“Urrrr… To be honest, I got lost”

“หือ อะไรหลอดๆนะ”

“No.” มันตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน “I mean… กูลงทาง”

“ลงทาง?? ลงทางไหนล่ะ ก็ลงทางฟุตบาตไม่ใช่รึไง”

“No. I mean I don’t know where I am right now!” อ่าว... ลงทางซะงั้นเหรอไอ้ฝรั่ง

“อ้าวๆ แลวตอนนี้มึงอยู่ตรงไหนล่ะ มึงพอจะรู้มั้ย กูจะได้บอกทางไปร้านยาได้”

“Urrrrr….. ยูนา... ห้าง very big” ห้างใหญ่ๆ??

“แล้วชื่อห้างอะไรล่ะ บอกมา”

“Urrrr…. It says Mega… Mega Bangna” เมกะบางนาเหรอ อืมมมมม จากห้างเมกะบางนาไปร้านขายยาก็... เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ

“แอนนี่ เมื่อกี้มึงบอกว่า มึงอยู่ที่ไหนนะ...”

“Mega Bangna. Why??” โอ้ คุณพระ!!!

“เห้ย!!!! แค่กๆๆๆๆๆ อูแหวะ แค่กๆๆๆ เฮ้ย... มึงไปโผล่บางนาได้ไงวะครับ”

“I don’t know… I just walked and then I got on to BTS”

“แล้วเมิงไปอยู่ในบีทีเอสทำม้ายยยยย!! แค่กๆๆๆๆๆ”

“From what you told, I have to get on BTS มายช้ายเรอ”

“กูบอกตอนไหนเนี้ยยยยยยย แล้วอีกอย่าง คอนโดเราอยู่นานา กูจะให้เมิงไปซื้อยาทำบ้าอะไรที่บางนาวะ แค่กๆๆๆๆ”

“Oh… Shit… So, what should I do?” มันตอบ น้ำเสียงยังฟังดูงงกับชีวิต

“เรียกแท็กซี่ แล้วบอกว่าให้กลับมาที่คอนโดเรา มาถึงแล้วมึงโทรมาหากูแล้วกัน เดี๋ยวกูพาไป”

“You don’t have to. I – I can go by myself.”

“แค่กๆๆ เดี๋ยวคราวนี้มีหวังได้ไปซื้อยาที่เชียงใหม่หรอกมึง มาแล้วโทรมา แค่นี้นะ” ผมวางสายแล้วนอนต่อทันที เฮ้อออออ ให้ตายสิ ไอ้ฝรั่งตัวยุ่ง ขืนหลงทางอย่างงี้บ่อยๆ ผมจะปล่อยให้มันไปไหนไม่ได้เลยใช่มั้ยเนี่ยะ ขอเอาเท้าก่ายหน้าผากหน่อย

**********************************************************************************

“ว่าไง มาถึงแล้วใช่มั้ย” ผมรับสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาในอีกสี่สิบห้านาทีต่อมา

“Yeah, but you don’t need to come with me. Just take a rest.” ไอ้ฝรั่งตอบด้วยน้ำเสียงฟังดูเกรงใจ (หรือเป็นห่วงผมก็ไม่รู้นะ คิคิคิ)

“แค่กๆๆ กูพอไหวแล้ว เดินไปได้น่ะ อีกอย่าง เผื่อมึงจะมาซื้อยาคราวหน้าจะได้รู้ที่”

“Are you sure?”

“เออออออน่ะ แต่ยังไงมึงต้องขึ้นมาข้างบนก่อนละมั้ง กุญแจอยู่ที่มึง จะได้มาล็อคประตูด้วย”

“Okay”

“อื้ม”

หลังจากวางสายไปไม่นาน ไอ้ฝรั่งก็ขึ้นมาข้างบนด้วยสีหน้าจ๋อยเป็นแมวอดกินปลา แล้วยิ่งจ๋อยเข้าไปอีกเมื่อผมเทศน์กับมันว่าให้รู้จักจำทาง รู้จักสังเกตบ้าง จะได้ไม่หลงอีก และหลังจากการเดินไปเทศน์ไปของผมได้ไม่นาน ผมก็พามันมาที่ร้านขายยาได้ในที่สุด (โดยที่ผมต้องลากสังขารที่เหมือนซอมบี้จนมาถึงที่ร้านขายยา ท่ามกลางสายตาของคนที่มองมาอย่างหวาดกลัว)

กริ๊งๆ

เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้นเมื่อเราเปิดประตูเข้าไป

“เชิญครับ” เภสัชกรณ์ของร้านกล่าวต้องรับก่อนจะหน้าถอดสีทันทีเมื่อหันมาเห็นผม “เฮือก!”

ตึง!!! ......เอ่อ เสียงเอ็ฟเฟ็คหนังผีดังมาจากไหนครับคนเขียน

“อ – เอ่อ... มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าครับ” เภสัชกรณ์ถามด้วยท่าทางหวาดกลัว ขณะที่มองผมกับไอ้ฝรั่งสลับกันไปมา

“Urrr…. Do you understand English?” แอนนี่ถามเภสัชกรณ์ก่อน

“อ – ไอ ไอแคนลิสซึ่น บัท พูดไม่ได้อ่ะ” นี่หน้าผมตอนป่วยมันหลอนขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงกับกลัวมากเลยทีเดียว

“Okay… ม้ายเปนรายครับ I understand Thai language”

“อ – เอ่ออออ แล้วนั่น...” เภสัชกรณ์มองมาทางผมอย่างกลัวๆ... ใครก็ได้ขอกระจกหน่อยได้มั้ย

“เพือนพ้มขรั่บ He has a fever and we run out of aspirin or paracetamol”

“น – แน่ใจนะครับว่าเค้าเป็นหวัด ไม่ใช่ – ไม่ใช่ว่าเค้าไปกระโดดกินหน้าใครเหมือนที่ไมอามี่”

“แฮ่!!!” แสดดด กวนตีนกูดีนักไอ้เภสัช ขอขู่หน่อย “เดี๋ยวกูจะกินหน้าเมิงนี่แหละคนแรก แค่กๆๆ”

“Calm down, Prick.” ไอ้ฝรั่งหันมาปรามผม ก่อนจะสั่งต่อ “Sit. Sit.”

สั่งให้นั่งสินะ โอเคๆ อ่ะ นั่งๆ... เห้ย! นี่มันสั่งหมาไม่ใช่เรอะ

“สรุปว่าเพื่อนคุณเป็นหวัดเฉยๆแน่นะครับ” เภสัชกรณ์ถาม แต่ยังคงมองผมแบบไม่แน่ใจ

“Yep. Certainly.”

“โอเคครับ งั้นจะเอายาอะไรบ้างนะครับ”

“คอ ไทลินอล แพงหนึ่งครับ...”

**********************************************************************************

หลังจากซื้อยามาเรียบร้อย พวกเราก็กลับมาที่ห้องผมกัน แอนนี่บอกให้ผมไปนอนที่ห้อง เดี๋ยวมันจะเอายาไปให้ ซักพักหนึ่งแผ่นเจลลดไข้ก็วางแหมะอยู่ที่หัวผม

“หือออออ จะไม่เช็ดตัวให้กูหน่อยเหรอ” ผมยิ้มกวนประสาทให้มัน

“Hell no.” มันส่งสายตาค้อนมาให้ผม “I don’t wanna make my hands dirty.”

“โอ้โหหห แค่กๆ ปากดีจริงๆ” ผมหัวเราะในลำคอก่อนจะถามอีกหนึ่งคำถาม “แล้วสรุปว่าปลาช่อนหหายโกรธชุลหลียัง”

“What?”

“ก็เพลงไง Sorry Sorry น่ะ”

“Like I saide, I’m not angry at you anymore…. But if you still ask me, I’ll be angry again.”

“โอเคๆ ไม่ถามแล้วก็ได้ แค่กๆๆๆๆ อูแหวะ แค่กๆๆๆๆ” อะไรจะไอได้ฮาร์ดคอร์ขนาดนี้นะผมเนี่ยะ

“You should take a rest now.” มันพูดพร้อมลุกขึ้นจากเตียงผม “I’ll be back in my room. Take those medicine and sleep.”

“ไม่อยู่เป็นเพื่อนกูก่อนเหรอ” ผมทำเสียงออดอ้อนมันหน่อย แหม ไหนๆมีคนมาดูแล(+ มาให้กวนประสาท)ทั้งที ก็ไม่ค่อยอยากให้มันไปหรอกครับ เงียบปาก

“In your dream, man. I have my stuff to do.”

“โห่ ไรว้า”

“See ya.” มันหันหลังกลับแล้วเดินจากไป ส่วนผมก็กินยาและก็เดินไปล็อคห้องผม ก่อนจะกลับมานอนตามคำสั่งของไอ้ฝรั่ง (ว่าแต่ทำไมต้องไปเชื่อฟังมันฟระ)

**********************************************************************************

เช้าวันต่อมา ไม่น่าเชื่อครับ อาการหวัดของผมหายไปเกือบหมดแล้ว เหลือแค่อาการเจ็บคอเล็กน้อย ซึ่งนั่นเท่ากับว่า ผมไม่ต้องขาดเรียนอีกแล้ว แหม ต้องขอบใจไอ้พยาบาลชาวต่างชาติมันนะเนี่ยะที่ช่วยดูแลให้ซะดี (เหรอ?) ว่าแต่ ไหนๆก็ไปม.ได้และ รีบไปอาบน้ำแต่งตัว กินข้าว แล้วรีบไปม.ดีกว่า

“อ้าว คุณนาตาชา อรุณสวัสดิ์ครับ” ผมทักทายหม่อมแม่ของไอ้ฝรั่งที่หน้าประตูเมื่อเราออกมาจากห้องพร้อมกัน

“อ้าว สวัสดีค่ะคุณพริก เห็นแอนนี่บอกว่าป่วย หายดีแล้วเหรอคะ”

“ก็เหลือเจ็บคออยู่นิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วครับ ขอบคุณมากครับ”

“ค่ะ ดีแล้วล่ะคะ”

“แล้วนี่จะไปทำงานเหรอครับ”

“ค่ะ แต่ก็... ยังสองจิตสองใจอยู่เลยว่าจะลาดีมั้ย”

“ทำไมเหรอครับ”

“ก็เจ้าแอนนี่น่ะสิคะ อยู่ดีๆก็เป็นหวัดซะอย่างงั้น ก็เลยคิดว่าจะลามาดูแลมันซะหน่อยดีมั้ยน่ะค่ะ” อ้าววววว ซะอย่างงั้นน่ะไอ้ตัวยุ่ง ติดผมมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยะ

“เอ่อ.... งั้นไม่เป็นไรก็ได้ครับคุณนาตาชา เดี๋ยวผมช่วยดูมันก็ได้”

“จะดีเหรอคะ แล้วนี่คุณพริกไม่ได้ไปมหา’ลัยเหรอคะ”

“อ่อ... เปล่าๆครับ พอดี เอ่อออ ผมว่าจะไปธุระน่ะครับ แต่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร ยังไงคุณนาตาชาไปทำงานได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมดูแลแอนนี่มันให้”

“เอางั้นเหรอคะ...”

“ครับ”

“งั้นก็... ยังไงต้องขอโทษแล้วก็รบกวนคุณพริกด้วยนะคะ”

“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ยินดีๆ” ไหนๆมันก็อุตส่าห์ดูแลผมจนหายน่ะนะ

“งั้น ยังไงฝากด้วยนะคะ” คุณนาตาชาพูดและยื่นกุญแจห้องของเธอให้ผม

“ครับผม”

“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ” แล้วคุณแม่ยังสาวก็เดินจากไป

ส่วนผมเองก็หยิบโทรศัพท์เพื่อโทรไปหาไอ้แจ๊สทันที “ฮัลโหลไอ้แจ๊สเหรอ เออโทษทีที่กูปิดเครื่องไปสองวัน พอดีกูไม่สบายน่ะ........ อ๋อ กูไม่เป็นไรแล้ว หายดีแล้ว.......... วันนี้เหรอ วันนี้ก็คงยังไม่ไปม.เหมือนกันว่ะ.......... ธุระนิดหน่อยน่ะ ยังไงไม่ต้องเป็นห่วง กูไม่เป็นไรและ เออๆ แค่นี้นะ เออๆ หวัดดีๆ”

ผมวางสายแล้วจึงไขกุญแจห้องไอ้ฝรั่งแล้วเดินเข้าไป





To be continued

ตอนหน้าเรื่องยุ่งเหยิงในวันเปิดเทอมวันแรกของแอนนี่จะเป็นอย่างไร!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: artit ที่ 01-06-2012 19:10:36
ดูกันไปดูกันมา  :L1:  :L1:  :L1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2012 19:22:53
พริกลงทุนง้อจนป่วยเชียว
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 01-06-2012 19:39:05
ผลัดกันป่วยผลัดกันเฝ้าไข้
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: SnowFlakez ที่ 01-06-2012 19:49:25
กินหน้าศพที่ไมอามี่ ฮ่าๆ  :m20: 
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: karmdodcom ที่ 01-06-2012 20:16:55
เง้อออ...
ตอนต่อปายยยย ><!
แหม พยาบาลจำเป็น..(ความจริงอยกเห็นใส่ชุดนางพยาบาลนะ)
แอนนี่ป่วยแทนพริกกกกล่ะ.<!  :o8:
หูยยยย...แล้วคราวนี้พริกจะดูแลผู้ป่วยคนใหม่ยังไงเนี่ย...  :z1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 01-06-2012 20:24:33
ดูเเลกันไปดูเเลกันมา ครุคริ น่ารักจริงๆ :z1:
ฮาเเอนนี่ ไปซะบางนาเลยนะ กร๊ากกก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-06-2012 20:26:44
ผลัดกันป่วยซะงั้นเนอะ น่ารักดี :o8:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 01-06-2012 22:20:04
พออีกคนหายอีกคนก้อมาเป็นแทนซะงั้น  :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 01-06-2012 22:31:23
มันฮามว๊ากกกก
ขำจนปวดท้อง
ต่างคนต่างก็สื่อสารกันไม่รุ้เรื่อง ^o^

เหอะๆ ดูแลกันไปมา
และรักกันเองชิมะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักมึงไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 01-06-2012 22:39:07
คู่นี้เขาสลับกันป่วย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 01-06-2012 23:40:28
ไปหายาให้เขากิน ไหงวันต่อมาเป็นเองล่ะเนี่ย - -"
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 02-06-2012 00:08:20
น่ารักืผลัดกันดูแลกันดีจริงๆๆ
ตอนนี้พริกคงเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมากแล้วแน่เลย เห็นพูดกับแอนนี่รู้เรื่องขึ้นเยอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: MarietaMona ที่ 02-06-2012 00:14:56
สนุกมากกกเลยย อ่านแล้วขำตลอด  :m20:
ชอบพริกจัง น่ารักดีอ่ะ ชอบที่มีอิ้งด้วย จะได้ฝึกภาษา
สู้ๆ น้า้ค้า เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Theodore ที่ 02-06-2012 01:16:09
ฮาโครตๆ อัพเดตสถานการณ์ดีนะ มีแก้ผ้าแดกหน้าด้วย

ขอไทลินอลแป๊งนึงคับ
น...นี่มันไม่ใช่ไทลินอลนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ppanudet ที่ 02-06-2012 03:12:51
มาต่อเร็วๆนะครับ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 02-06-2012 05:16:25
ตอนหน้จสปคกันสิน
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-06-2012 11:41:37
รอตอนต่อไปจ้า :z2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 02-06-2012 12:50:36
ความสัมพันธ์คืบหน้าไปทีละเล็กทีละน้อย  อิอิ
ป่วยติดๆกันอย่างนี้
เมื่อไหร่จะหายล่ะเนี่ยย  555

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 02-06-2012 13:08:48
ว้าว มาต่อแล้วก็หวานแบบเล็กๆ น่าสนุกจัง มาต่ออีกนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Mocha01 ที่ 02-06-2012 18:44:06
ฝรั่งมาแล้วววว วู้วว รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: oatty ที่ 02-06-2012 22:45:09
 :laugh: :laugh: :laugh:

ฮาเกินไปแล้วววว ซอมบี้ที่ไมอามี่ ไทลินอลแป๋งนึง หลงไปบางนา 55555555
แถมตอนนี้ยังมีแอบหวานกันนิดๆแล้วด้วย รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะครับบบ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 03-06-2012 20:20:17
สลับกันป่วย

ดูแล กันไปมา จะได้ไปเรียนกันไหมเนี่ยคู่นี้อ่า
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 04-06-2012 01:12:54
แอร๊ย น่ารักจริงน๊า ฮุฮุ อ่านแล้วมีความสุข แอนนี่ฮามาก จากนานาไปบางนา เลิศ!ไม่ใช่แอนนี่ทำไม่ได้นะเนี่ย! o13
ปล.ยังคงขำชื่อพริกไม่หาย :jul3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 04-06-2012 12:40:20
ติดหวัดไปมา  :-[
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 04-06-2012 13:11:29
 :m20: :m20: :m20: :m20:


ฮามาก!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 07-06-2012 03:58:16
แอนนี่น่ารักกกกกกกกกก ><
เมื่อไหร่จะรักกันน้าาาาา ....อยากอ่านหวานๆแล้วอ่ะ 5555
ว่าแต่... แอนนี้เป็นเคะใช่มั้ยยยย ?  :-[

ชอบเรื่องนี้มากเลย.. อ่านแล้วเหมือนได้ฝึกภาษาด้วย..
เราเป็นคนโง่ภาษาอังกฤษมากๆ จริงๆแล้วก็แปลไม่ค่อยจะออกหรอก แปลออกแต่ง่ายๆ 5555555

สนุกมากค่ะ! รีบๆมาต่อน้าาาาา >3<
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 13-06-2012 20:04:04
เริ่มนานแล้วนะ T_T
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ppanudet ที่ 14-06-2012 04:56:34
มาดันๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kuronotsuki ที่ 14-06-2012 07:38:36
ชอบพี่ เภสัชอ่ะ อย่างกวน55 แดกหน้ามันเลยพริก555 รอตอนต่อไปนะคะ สู้ๆ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 14-06-2012 09:32:01
รอเด็กฝรั่งอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kogomon ที่ 21-06-2012 02:01:44
มาตั้งโต๊ะรอจ๊าาา
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ppanudet ที่ 24-06-2012 03:40:37
มาต่อได้้แล้ว คิดถึงมาก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 24-06-2012 11:08:53
รออยู่นะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: karmdodcom ที่ 24-06-2012 13:26:00
คิดถึงจังค่ะ ><
...รอแอนนี่ กับ พริกกกกก ><!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 24-06-2012 21:16:15
น่าสนุกแล้วสิๆ  ชอบเรื่องนี้จัง ได้ฝึกภาษาอย่างแรง อยากให้พิมเป็นอังกฤษไม่มีช่วงแปลไทย(กว่าจะแปลได้คงตายแน่เลยงิ) ชอบแอนโทนี่อ่ะ><
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 26-06-2012 18:16:26
แอนนี่น่ารักมากก ยังติดใจฉากที่พระเอกชวนไปชักว่าวอยู่เลย

ส่อไปนะ ขำมาก อ่านไปทั้งขำทั้งอายแทนไป 55555

รออยู่นะคะ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Hibino ที่ 02-07-2012 16:12:00
1 เดือนผ่านไป ... รอติดตามความสัมพันธ์ ของทั้งคู่
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: vocaloid ที่ 02-07-2012 19:54:20
ขึ้นเดือนใหม่แล้วน้าา
มาต่อได้แล้ว  :call:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Mocha01 ที่ 09-07-2012 18:44:35
 :z3:
เดือน 7 แล้วหนอออออ เมื่อไหร่จะมาสัก :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 09-07-2012 19:46:07
คิดถึงๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: karmdodcom ที่ 09-07-2012 19:49:57
1 เดือนผันผ่าน...
T^T เง้อ คิดถึงจังค่าาา
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-08-2012 20:51:05
หายไปเลย :m15:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Thengja ที่ 04-08-2012 21:13:56
นางเอกที่เป็นตุ๊ดชื่อเอนนี่เหรอ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: fastation ที่ 05-08-2012 00:09:51
สนุกดีอะ ฮามากตอนร้องเพลงง้อ
รออ่านตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 05-08-2012 18:16:28
ลืมกันรึยังเอ่ยย

รออยู่น้า><
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 05-08-2012 22:34:48
ยังคงรอคอย ยุน้า

เมื่อไรจะมาเนี่ยยยย  มาแจ้งข่าวหน่อยก็ดีนะจ้า

อย่าหายไปแบบนี้
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelymoo ที่ 06-08-2012 18:48:21
ฮามากกกกกกกก อ่านไปหัวเราะไปปวดท้องสุดๆเลยค่า

สำเนียงสุดยอด 5555  :pandalaugh: :pandalaugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 07-08-2012 00:03:43
พยาบาลติดไข้หวัดแทนคนป่วยซะแล้ว
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 22-08-2012 22:36:46
ยังรออ่านอยูนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 23-08-2012 21:47:11
รอตอนต่อไปๆ  :m5:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 27-08-2012 19:26:15
แค่มาแจ้งข่าวก็ได้นะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 12-10-2012 21:44:03
หายไปเลย รออยู่น้าาาาาา
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 13-10-2012 19:45:31
แวะมาดูก็ยังไม่มา T-T
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 13-10-2012 22:19:08
เมื่อไหร่จะมาซะที 4 เดือนแล้วนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 20-10-2012 04:32:35
เพิ่งเข้ามาติดตาม อ่านแล้วชอบมากกก  o13
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 24-01-2013 22:21:26
 :เฮ้อ: คิดถึง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/6/2012 - Chapter 10]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 04-03-2013 04:07:55
Surprise comeback!! กลับมาแล้ววววว ขอโทษจริงๆนะก๊าบบบบ พอดีปีที่แล้วเรายุ่งมากถึงมากที่สุดจนไม่มีเวลาเขียนเลย แต่ตอนนี้เวลาพอจะมีแล้วนะ เพราะงั้น คงเห็นตอนต่อๆไปค่อยๆมาเรื่อยๆ ยังไงก็ขอให้ใครที่ยังอ่านอยู่คอยติดตามกันต่อไปนะจ๊ะ คราวนี้ไม่หายไปนานแล้วนะ เอาล่ะๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปอ่านตอนใหม่ ณ เวลาตีสี่ได้เลยจ้าาา > <




“มึงไหวแน่ป่ะเนี่ยะ” เสียงไอ้คนที่มาดูแลผมบอก ขนาดไล่เท่าไหร่ไอ้ถึกนี่ก็ไม่ยอมไปซะที

“I told you. I’m fine.” เพราะงั้นเลิกมาป้อนข้าวป้อนยาซะทีเห๊อะ สี่วันและนะ “แค่กๆๆๆ อะแฮ่มๆ”

“น่ะ พูดยังไม่ทันขาดคำ มึงก็ไอซะและ แหมๆๆๆ ทำเป็นอวดเก่ง” กวนประสาทกูอีก!

“It’s not your business, okay? I – AM – FINE.”

“ดื้อจริงๆเลยมึงนิ่!” ทำหน้าดุๆใส่ผมอย่างเดียวไม่พอครับ ไอ้พริกเอามือใหญ่ๆของมันมาวางทาบลงที่หน้าผากผมทันที ไม่พอมันยังเปลี่ยนมาจับที่ขอผมอีกแน่ะ ไอ้นี่นิ่ “ตัวยังรุมๆอยู่เลย แล้วบอกว่าไม่เป็นไรแล้วได้ไง”

“Stop touching me already.” ผมพูดแล้วเอามือของมันออกไป “It’s my first day at university. Fine or not, I have to go.”

“โอเค.... กูฟังไม่ค่อยทันเท่าไหร่ อธิบายให้เคลียอีกทีซิ”

“คืออออ มานวันแหรกทีมหา’ลาย ยางไหงกูก็ต้องปายยูดี (คือมันเป็นวันแรกที่มหา’ลัย ยังไงกูก็ต้องไปอยู่ดี)”

“อืมมมมม งั้นเหรอ... งั้นมึงเอายาติดไปรึยัง”

“Yep.”

“ดีมาก งั้นไปม.กันดีกว่า” มันยิ้มร่าแล้วลากตัวผมออกจากห้อง แต่ผมห้ามมันไว้ก่อน

“Wait. Wait. Why do you come with me? You said you have exam this afternoon.”

“ก็ใช่ กูมีสอบตอนบ่าย แต่ตอนเช้า กูไปก็ไปนั่งอ่านหนังสือก่อนไง” โว้ะ! ก็อ่านที่ห้องเมิงไม่ได้รึไง

“Then, just read here. You don’t have to come with me.”

“อ่านที่ไหนก็เหมือนกันแหละน่า ไปเหอะๆ เดี๋ยวมึงก็ไปสายกันพอดี” แล้วมันก็ดึง (แกมกระชาก) ผมให้ไปด้วยกันโดยที่ผมก็บ่นงึมงำตลอดทาง








Chapter 11: Pass Out




“แค่กๆๆๆ”

“มึงไหวแน่นะ แอนนี่” ไอ้มิวถามหลังจากเห็นผมไอมาตลอดคาบแรก

“พวกกูได้ยินมึงไอจนไส้จะออกปากตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ถ้าไม่ไหวขออาจารย์ไปห้องพยาบาลก็ได้นะ” ไอ้ต้นเสริม

“โอ๊ย ไม่เป็นไร ชิวๆ” ผมยิ้มร่าตอบ ก่อนจะลงท้ายด้วย “แค่กๆๆ อะฮุแหวะ แค่กๆๆๆ”

“อ้าวนี่!! ข้างหลังน่ะคุยอะไรตั้งแต่คาบแรก!! ถ้าไม่เรียนก็เชิญข้างนอก!!.... แค่กๆๆๆๆ” อื้อหือ หวัดกูนี่แพร่เร็วไปถึงอาจารย์หน้าห้องเลยเว้ย

ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

“อ้ะ ออดดังและ วันนี้พอแค่นี้ก่อน แล้วเดี๋ยวสัปดาห์หน้าเราจะมาต่อกันเรื่อง Global Business” อาจารย์พูดขณะที่นักเรียนรีบเก็บของประหนึ่งหนีปอบหยิบ “อย่าลืม สัปดาห์หน้ามี essay 10 หน้านะ”

“หะ!!! 10 หน้า!!! เค้าสั่งตอนไหนวะ” ไอ้ต้นร้องเหวออย่างตกใจจนตาแทบถลนออกจากเบ้า

“ตอนต้นคาบเลย ซึ่งมึงก็มัวแต่นั่งเล่น Line Pop อยู่ไม่ใช่รึไง” ไอ้มิวตอบ

“แต่ให้ 10 หน้ามันก็เยอะไปจริงๆแหละน้า” ผมร่วมบ่น

“นั่นดิ่ แถวบ้านกูเรียกรายงานแล้วล่ะ 10 หน้าเนี่ยะ” ผมกับไอ้มิวพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของไอ้ต้น และผมช่วยเสริมด้วย

“แค่กกกกกกกกกกกกก แค่กๆๆๆๆๆๆๆๆ”

ผมไอตลอดทั้งคาบเช้า จนตอนนี้ปอดผมแทบจะออกมาอยู่ข้างนอกอยู่แล้วครับ แค่กกกกกกกกกกก แค่กๆๆๆๆ โอ้ย! ขนาดตอนบรรยายผมยังไอเลย เห้อ

“เอาจริงๆนะแอนนี่ กูว่ามึงไปตึกพยาบาลเหอะว่ะ” ไอ้ต้นถามหลังทานอาหารกลางวัน

“นั่นสิ หน้าตอนนี้มึงซีดกว่า เจอร์ราด เวย์ ใน MV เพลง Helena อีก” ไอ้มิวมีสีหน้าจริงจัง

“......ใครวะ แค่กๆ” ผมงงสิครับ ใครวะ

“นักร้องนำวง My Chemical Romance ไง”

“อ๋อออออออ เจอร์ราดๆ” ไอ้ต้นทำท่าเหมือนจะเก็ท “ที่เล่นเรื่อง 300 ไง”

“นั่นมันเจอร์ราด บัตเลอร์!! แค่กๆๆ” ถุย จริงๆ ไอ้เพื่อนพวกนี้ “ไปๆ ไปเก็บจาน จะได้ไปเรียน แค่กๆๆ”

“อ้าว ต้น มึงไม่กินผักเหรอวะ” ไอ้มิวถาม เมื่อเห็นไอ้ต้นเทผักทิ้งในถังขยะก่อนเก็บจาน

“ไม่อ่ะ... กูรักโลก”

“พ่อง! มึงเป็นน้องเนยเหรอ แค่กๆๆๆๆ” ผมพยายามจะเล่นมุกเกรียนใส่ไอ้ต้นต่อ แต่

ตึก ตึก

อยู่ๆผมก็หูอื้อ และไอ้ยินแต่เสียงหัวใจของตัวเองเต้นหนักขึ้น

ตึก ตึก

ผมไม่รู้ว่าสีหน้าของตัวเองตอนนี้เป็นยังไง แต่ที่แน่ๆ ไอ้มิวกับไอ้ต้นที่กำลังหัวเราะอยู่ หันมาหาผมด้วยท่าทางตกใจ

ตึก ตึก

“เฮ้#%*&^ อนนี่ มึ$^&&*(&& วะ” ผมฟังสองคนนั้นไม่รู้เรื่องว่าพูดอะไร ขณะพยายามสะกิดผมที่ยืนนิ่ง

ตึก ตึก

สายตาผมพร่ามัว ผมเซลง และในที่สุด.....

**********************************************************************************

“ไหนลองพูดดิ๊ อิไตอิไต” เสียงไอ้ต้นลอดเข้ามาในโสตประสาทของผม

“Noo-Loo” เสียงแปลกๆเหมือนเสียงเด็กปนกับเสียงสังเคราะห์ดังขึ้น

“มึงไปสอนมันพูดอย่างงั้น มันจะพูดได้มั้ยล่ะ” เสียงไอ้มิวพูดขึ้นในขณะที่ผมพยายามลืมตา

“เอาน่าๆ ให้น้องมะรุมลองฝึกคำพวกนี้บ้างไง จะได้คุยกับคนเก่งๆ” เสียงนุ่มๆที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น เป็นลำดับถัดไป พอดีกับที่ผมลืมตา และสังเกตเห็นได้ว่า เจ้าของเสียงเป็นหนุ่มที่ดูตัวใหญ่ หน้าตาแบบไทยแท้ๆ แต่บุคลิกการวางตัว ดูเพียงแว๊บเดียวก็ดูออกว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี ดูเป็นคุณชายแบบที่ผมเคยเห็นในละครหลังข่าวที่แม่ชอบเปิดให้ดูบ่อยๆ แล้วนางเอกก็ชอบโดนตัวอิจฉาตบเพราะกำลังจู๋จี๋กับคุณชายที่หน้าตาเป็นแบบนี้ แต่สุดท้าย คุณชายกับลูกคนใช้ก็ได้ครองรักกันอยู่ดี.... ที่ผมเล่าไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่อย่างใด เอ่อออ.... คุณคนเขียนครับ ตั้งสติหน่อยครับ

“เป็นไงบ้าง” ผู้ชายเสียงนุ่มเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นว่าผมตื่นจึงรีบเข้ามาดูอาการผมซึ่งนอนอยู่บนเตียงทันที... เอ๊ะ เตียง?

“ที่นี่ที่ไหนเนี่ยะ แค่กๆ” ผมถาม

“ตึกพยาบาลน่ะ มึงสลบไป พวกกูสองคนกับพี่เค้าเลยแบกมึงมาที่นี่แหละ” ไอ้มิวอธิบาย

“OOOOO Tell Me more!” เสียงสังเคราะห์นั่นดังขึ้น และเมื่อผมหันไปดูผมก็พบกับ

“เฟอร์บี้!!!!!” ผมกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะหลบเข้าไปในผ้าห่ม

“เฮ้ยๆๆ ใจเย็นๆ เป็นอะไรๆ” ไอ้ต้นที่กำลังเล่นกับเฟอร์บี้สีม่วงหน้าตาสยดสยองหันมามองผมอย่างงุนงง

“ใจเย็นๆน้อง เป็นอะไรเหรอ” พี่ผู้ชายที่นั่งข้างเตียงถาม

“ผ – ผมกลัว”

“กลัว?” ทุกคนงง

“จะงงทำไมเล่า ผมกลัวเฟอร์บี้นี่ แค่กๆๆๆ” คำตอบผมเล่นเอาทั้งห้องหัวเราะ

“มึงกลัวได้ไงเนี่ยะ” ไอ้มิวถาม

“ก็ แค่กๆๆ ก็กูเคยฝันนี่ ว่าจริงๆ เฟอร์บี้มันเป็นปีศาจกินมนุษย์ ถ – ถ้ามันรวมร่างกันเมื่อไหร่ โลกนี้ถึงดับสูญแน่”

“....เอ่ออออ กูว่า มึงเพ้อพิษไข้และล่ะ” ไอ้ต้นตอบ

“เอาล่ะๆ ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวพี่เอาน้องมะรุมไปเก็บก็ได้” พี่เสียงนุ่มหันมายิ้มให้ผมก่อนทำท่าจะลุก

“ไม่ต้องหรอกพี่ ผมยังอยากเล่นกับมันอยู่ เดี๋ยวผมออกไปเล่นข้างนอกละกัน” ไอ้ต้นบอกแล้วอุ้มไอ้มะรุมออกไป ขณะที่มันก็ยังพยายามสอนให้ไอ้มะรุมร้อง ‘อิไต’ ให้ได้

“ขอโทษนะ พี่ทำให้เรากลัว” พี่เสียงนุ่มยิ้มแล้วตบบ่าผมเบาๆ

“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ แค่กๆ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผมไว้ พี่...”

“พี่ชื่อชายครับ อยู่ปี 2 บัญชีอินเตอร์เหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ น้องแอนนี่”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ พี่ชาย” พี่ทิ้งโกโก้ที่ชั้นปลูกเองนะ!! ถุย!! ไม่ใช่แล้วครับ!! “แล้ว อยู่ดีๆ ทำไมกูเป็นลมวะมิว”

“ยังจะถามอีกนะ หมอบอกว่าไข้ขึ้น 37 องศา ถ้าไม่รีบพามาป่านนี้มึงช็อคไปแล้ว”

“แล้วตอนนี้ไข้ลงรึยังล่ะ” พี่ชายพูดพลางเอามือมาจับหน้าผากผม... เอาจริงๆนะครับคุณผู้อ่าน ขนาดผมไม่ได้ชอบผู้ชาย.... ย้ำนะครับ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมยังหวั่นไหวกับพี่เค้าเลย บ้าจริง! “ยังร้อนอยู่เลย พี่ว่าเราพักที่นี่นี่แหละ ไม่งั้นก็กลับบ้านไปพักผ่อนซะนะ”

“ขอบคุณมากครับพี่ ผมคงนอนที่นี่ซักพักแล้วค่อยกลับแหละครับ แค่กๆๆ”

“งั้นเดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนด้วยแล้วกัน”

“ไม่เป็นไรครับพี่ พี่กลับไปเรียนเถอะ ผมเกรงใจ”

“อ่อ พอดีพี่ไม่มีเรียนบ่ายอยู่แล้ว อยู่กับพวกเรานี่แหละ จะได้ทำความรู้จักรุ่นน้องไง” พี่ชายตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

แล้วพวกเราก็นั่งคุยกันจนสนิทกันอย่างรวดเร็ว เวลาทั้งบ่ายผ่านไป โดยที่ผมก็ได้รู้เรื่องราวมากมายของพี่ชาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ที่บ้านพี่เค้าเป็นตระกูลนักธุรกิจชื่อดังและยังมีเชื้อสายขุนนางเก่า เรื่องที่พี่เค้าเป็นลูกคนโตและจะรับช่วงต่อของธุรกิจจากทางบ้านหลังจากเรียนจบปริญญาโท ซึ่งพี่เค้าวางแผนจะไปเรียนต่อเมืองนอก เรื่องความชอบในเรื่องแฟชั่นและงานศิลปะที่พี่เค้าพูดบรรยายได้ไม่หยุดหน่อน แถมเสียงของพี่ชายเวลาร้องเพลงนี่ นุ่มเพราะมาก จนเวลาล่วงเลยมาถึงเกือบบ่าย 3 โมงครึ่ง

“ผมว่าผมพอจะกลับไหวแล้วล่ะครับ แค่กๆ” ผมตอบพลางจะลุกจากเตียง

“ไหวแน่เหรอ มึงง่ะ” ไอ้ต้นถาม

“ไหวๆ” ผมตอบและลงจากเตียง แต่เหมือนขาผมยังไม่ค่อยมีแรง ผมจึงเซจนเกือบล้ม ดีที่พี่ชายมาช่วยประคองผมได้ทัน

“อย่าฝืนสิ ร่างกายอย่างงี้จะกลับเองไหวรึเปล่า ให้พี่ไปส่งมั้ย”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”

“แล้วแอนนี่จะกลับยังไงล่ะ”

“คงนั่งรถไฟฟ้ากลับอ่ะครับ”

“กูว่าจากสภาพมึง ให้พี่เค้าไปส่งก็ดีนะ ยังไงพี่เค้าก็ขับรถมา” มิวแนะนำอย่างเป็นห่วง

“แต่ว่า...” ผมกระอึกกระอักอย่างเกรงใจ แต่ก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไรก็มีเสียงหนึ่งแทรกมาจากทางประตูห้อง

“เค้ากลับเองได้” ไอ้พริก? มันมาที่นี่ได้ไงเนี่ยะ

“How did you know I’m here?”

“ไอ้ต้นมันแมสเสจมาบอกว่ามึงป่วย ดีที่กูสอบเสร็จเร็ว” มันตอบชัดเจน แต่สีหน้าและน้ำเสียงฟังดูแปลกๆ

“เอ่อ พี่ชายครับ นี่พี่พริกครับ เป็น...” ต้นทำท่าจะแนะนำตัวแต่

“เป็นคนที่อยู่คอนโดเดียวกับแอนนี่” ไอ้พริกชิงตอบ เสียงห้วน “ห้อง-ตรง-ข้าม-กัน”

“ยินดีที่ได้รู้จัก เราชื่อชาย” พี่ชายยิ้มอย่างเคร่งขรึมตอบ

“ตอนนี้เรามาแล้ว ยังไงเราพาแอนนี่ไปส่งถึงที่ห้องได้แน่ ไม่ต้องรบกวนนายหรอก”

“แน่ใจนะ ถ้าเกิดระหว่างทางแอนนี่เกิดทรุดขึ้นมา นายจะไหวเหรอ”

“หึ” ไอ้พริกยิ้มอย่างโหดเหี้ยม น่าแปลกแหะ “ไหวซะยิ่งกว่าไหว”

ผมไม่รู้ว่าบรรยากาศตอนนี้ทำไมมันถึงดูตึงเครียดแปลกๆ ซึ่งผมว่าไอ้ต้นกับมิวก็คงสัมผัสได้โดยไม่ต้องเรียกคุณริว จิตสัมผัส

“ถ้างั้น ก็ฝากน้องเค้าด้วย” พี่ชายพูดจบไอ้พริกก็เดินเข้ามาประคองผม

“ขอบคุณมากที่ดูไอ้ฝรั่งให้” ไอ้พริกหันมามองพี่ชายขณะที่พยุงผมออกไป

**********************************************************************************

พวกผมสองคนนั่งแท็กซี่กลับคอนโด โดยที่บรรยากาศยังคงเงียบจนน่าผิดปกติ ไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้พริกมันดูเงียบๆขนาดนี้

“How is your test? แค่กๆ” ผมถามเพื่อทำลายความเงียบ

“Great” จบ - -“

“And?”

“What?”

“Any details?” ผมถาม ซึ่งคำตอบที่ได้คือ สั่นหัว

รถแท็กซี่มาจอดหน้าคอนโดแล้ว พอมันจ่ายค่าแท็กซี่เสร็จมันก็พยุง (กึ่งกระชาก) ผมออกจากรถทันที

“Ouch! It hurts!” ผมร้องเมื่อมันบีบแขนผมแรงขึ้น จนผมต้องสะบัดออกจนผมเซ “What the fuck is wrong with you?”

“ยังจะมาถามอีกเหรอ!” มันหันมาพ่นไฟใส่ผมทันที “มึงเป็นลมทำไมไม่บอก!? Huh?! Why don’t you text me!!?”

“Why do I have to?!!” ผมสวนกลับบ้าง

“แล้วถ้ากูไม่รู้เรื่องจากไอ้ต้นเนี่ยะ กูจะรู้มั้ยว่ามึงเป็นหนักขนาดนี้!! ไอ้พี่ชายนั่น มึงจะไปไว้ใจได้ยังไง เพิ่งเจอกันครั้งแรก!!”

“He’s sophomore in my faculty!! I know I can trust him!! He’s –“

“โอ๊ยย!!! พูดเหี้ยอะไรฟังไม่รู้เรื่องโว้ย!!” มันระเบิดอารมณ์สุดๆ ถ้าเป็นธรรมดาที่มันพูดอย่างงี้ผมคงด่ากลับไปแล้ว แต่ครั้งนี้ มันดูจริงจังเกินกว่าจะเป็นแค่การโวยวาย “มันจะเป็นเหี้ยอะไรก็ช่างมัน! แต่มึงควรจะบอกกูบ้าง!”

“I’m fine!!”

“Fine บ้าอะไร กูก็เห็นอยู่! กูไม่สนุกนะเว่ยที่ต้องเป็นห่วงว่ามึงจะเป็นยังไงเนี่ยะ!!”

“Then, don’t!” ผมสวน

“ไม่ต้องเหรอ?...” มันมีท่าทางสงบลงก่อนจะหันหลังแล้วเดินขึ้นห้องไป

“P – Prick…” ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำอะไร แต่ผมรู้สึกใจหาย เมื่อมันอยู่ในลักษณะแบบนี้ ผมได้แต่พูดออกไปเบาๆว่า “I – I’m sorry แค่กๆๆ”

ผมเดินขึ้นมาบนห้องแบบคนหมดแรง ถึงผมจะอาการดีขึ้นแล้วก็ตาม แต่ร่างกายผมก็ยังไม่ปกติดี ผมล้นลงนอนบนโซฟาทันทีที่ถึงห้อง แม่ของผมยังไม่กลับ แต่ผมก็รู้สึกไม่สบายมากทั้งกายและใจ และร่างกายผมก็ไม่พร้อมที่จะไปบู๊กับไอ้พริกมันตอนนี้ เพราะงั้นตอนนี้ ผมขอพักผ่อนก่อนดีกว่า



ก๊อกๆๆ
 


เสียงเคาะประตูเบาๆดังขึ้น

ผมลากสังขารตัวเองไปเปิดประตู และพบว่าคนที่มาเคาะก็คือ

“ไปนอนโซฟาซะ เช็ดตัวให้” ไอ้พริกบอกด้วยน้ำเสียงห้วนๆ มันยังคงหน้าบึ้งอยู่

น่าแปลกที่ผมว่าง่าย ไม่โวยวายและยอมไปนอนแต่โดยดี มันไปหยิบผ้าขนหนูพร้อมน้ำอุ่นใส่กะละมังมาวางไว้ข้างๆผม และถอดเสื้อผมออก

“Prick” ผมเรียกมันขณะที่มันเริ่มเช็ดตัวผม แต่มันก็ยังเงียบ “I’m sorry”

“อืม” มันตอบเสียงเบาขณะเช็ดตัวผมไปด้วย

“And – Thank you”

“ฟอร์?”

“For taking care of me” คำพูดนั้น ไม่รู้ไปสะกิดอะไรมัน แต่มันหยุดเช็ดตัวผมไปชั่วครู่หนึ่ง

“หุบปากน่า นอนนิ่งๆไป” มันพูดเสียงแผ่วเบาแล้วเช็ดตัวผมต่อ ไม่รู้เพราะอะไร ผมถึงยิ้มให้กับการกระทำของมัน และถ้าผมมองไม่ผิด เหมือนผมเองก็เห็นว่ามันแอบยิ้มขณะเช็ดตัวให้ผมอยู่เหมือนกัน


To be continued

ตอนหน้า จะเป็นอย่างไรเมื่อการไปเที่ยวผับจะทำให้ทั้งพริกและแอนนี่ไม่มีวันลืม
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 04-03-2013 07:19:13
เชรดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด กลับมาแล้ว!!!!ดีใจโฮก ดีใจที่วันนี้เปิดบอร์ด~~~~~~~

อั่ก!หึงอ่ะหึง!!!!เอาแล้ว เอาเข้าแล้ว มันปรากฏแล้ว ลางแห่งรัก!!!!
กรี๊ดกร๊าดวี๊สว้าย!
แล้วไหนจะอาการใจหายอีก ถึงแม้ว่าอาจจะเพราะไข้ แต่เราก็จะเหมาว่ามันเพราะเริ่มหวั่นไหว ฮิฮิฮิ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-03-2013 07:42:04
อะหึง ล่ะซี้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้   :-[ :-[
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-03-2013 10:35:09
หายไปนานจนแอนนี่ป่วยเรื้อรัง (ล้อเล่น)
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 04-03-2013 10:42:17
มาต่อเสียที ย๊ากกกกกกก

เคยติดอ่านซ้ำไปซ้ำมาจนจะจำได้ทุกคำพูดแล้ว คุณนักเขียนอย่าหายไปอย่างนี้อีกน้า เราใจไม่ดีเลย

มาต่อแล้ว ดีใจมากๆๆค่ะ เป็นกำลังใจให้น้า

ชอบแอนนี่
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 04-03-2013 11:33:52
ขอโทษคุณผู้อ่านทุกคนจริงๆนะะะะ  :sad4:

แต่ตอนนี้ว่างแล้วจ้าาา

เพื่อเป็นการไถ่โทษ ผู้อ่านคนไหนมีข้อเสนอแนะ หรือคำถามอะไรถึงคนเขียน โพสมาได้เลยนะก๊าบบบบ

หรือจะถามเรื่องนิยายก็ได้นะจ๊ะ

ขอโทษทุกคนอีกทีจ้ะะ  :m15:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 04-03-2013 12:06:57
 :z13:
กลับมาแล้วๆๆๆ :mc4:
หายไปนานมากกกกกก
รออ่านๆๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: N_N ที่ 04-03-2013 12:23:59
อ๊ากกกกก กลับมาแลวๆ :z2: :z2:
รอตอนหน้า มันตองมี ซัมติงแน่ๆ :haun4:

ปล.อย่าหายไปอีกนาาาา
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 04-03-2013 12:47:53
กลับมาแล้วๆ แต่ทำไมต้องกลับมาพร้อมตัวสร้างความร้าวฉานด้วย (เซ้นท์เราบอกว่างั้นน่ะนะ)

+1 สำหรับการกลับมาเน้อ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: railay ที่ 04-03-2013 14:03:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: railay ที่ 04-03-2013 14:04:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 04-03-2013 14:13:29
ได้มีแฟนเป็นฝรั่งไม่รู้ตัว5555555555555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 04-03-2013 15:07:12
ดีใจที่ไม่ทิ้งไป
เกือบลืมหมดแล้ว สงสัยต้องกลับไปอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 04-03-2013 15:21:30
กลับมาแ้วววว ว้ายยยย :m3: :m3: :m3:
มีหึง อร๊ายยยย
ลุ้นตอนหน้าจุงเบย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 04-03-2013 15:31:52
ผีหลอกเปล่าเนี่ย ต้องกลับไปดูใหม่อีกที
ปล.เพื่อเป็นการไถ่โทษอัพมาเลยวันละตอน55555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: powderje ที่ 04-03-2013 16:53:50
 :a5: อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก สปอยได้หน้าอ่านมากเลย รักสุ๊ดดด  :z2:
ซึ่งอะกลับมาแต่งต่อละ :impress3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 04-03-2013 17:08:19
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!

*ขยี้ตาสามที*

กลับมาแล้วววววววววววว นึกว่าจะไม่มาแล้วนะเนี่ย  :o12:
ของแบบนี้มันต้องมีตัวเร่งปฏิกริยา และดูท่าทางสารจะตอบสนองได้ไวมากๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 11 ไอ้ฝรั่งกลับมาแล้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 04-03-2013 18:35:28
มาแล้ววววว เพิ่มอีกตอนเป็นการไถ่โทษน้าาาาา ตอนนี้ยังคงความพ่อแง่แม่งอนของทั้งคู่อยู่นะ แต่ทั้งสองคนก็เริ่มเปิดใจมากขึ้นแล้ว เพราะงั้นอ่านต่อเลยจ้าาาาา




Con los terroristas

เสียงเพลง Harlem Shake ยังคงดังอยู่ในผับอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผมกับไอ้ฝรั่งยังคงยืนมองภาพที่พวกเราแอบเห็นผ่านบานประตูในห้องน้ำที่ปิดไม่มิด

”อือออห์...”

เสียงครางที่เต็มไปด้วยตัญหาราคาของชายหนุ่มสองคนในห้องน้ำที่กำลังบรรเลงเพลงรักกันอย่างดูดดื่ม ทำให้ผมสร่างเมาได้ทันที ซึ่งผมแน่ใจว่าไอ้ฝรั่งเองก็คงไม่ต่างจากผมนัก

“What… the hell?” มันกระซิบกับผม ลืมไปเลยว่าเมื่อกี้เราเพิ่งจะกัดกันอยู่ “Is that…”

“กู... กูก็ไม่รู้ว่ะ” ผมตอบเสียงเบาๆ เพื่อไม่ให้คู่รักสองคนนั้นได้ยิน

ผมยื่นมือไปเตรียมจะแง้มประตูนั้นออก ผมหันไปมองแอนนี่เป็นเชิงถามให้แน่ใจว่าจะเปิดประตูออก มันพยักหน้า ซึ่งผมก็พยักหน้ากลับ ผมค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำบานนั้นออก.....








Chapter 12: อยู่ในปาร์ตี้ร้อนยังกับไฟเออร์




(เช้าวันนั้น)

“อะไรวะ” ผมถามไอ้ทรายเมื่อมันวางบัตรส่วนลดอะไรซักอย่างลงบนโต๊ะ

“บัตรส่วนลด 30% เฉพาะวันนี้ที่ Route 77 RCA” ไอ้ทรายตอบอย่างภูมิใจ “กูได้มาจากพี่ที่รู้จัก เจ๋งมั้ยล่ะ”

“เอออออ เฮ้ย น่าสนๆ พวกเราก็ไม่ได้ไปแฮงค์มาตั้งนานแล้วนี่หว่า” ไอ้ต่อเสนอ ดูท่าทางตื่นเต้น

“เฮ้ยๆๆ เที่ยวเทิ่วอะไรกันวะ ไม่เอาๆ สถานที่อโคจร” แน่นอนครับ ผมต้องปฏิเสธ กลับไปเรียนภาษาอังกฤษกับไอ้ฝรั่งน่าจะได้ความรู้มากกว่า

“แหมมมมม ไอ้พริก ได้ข่าวว่ามึงน่ะตัวดีเลยนะเมื่อก่อนเนี่ยะ เอะอะชวนเที่ยวๆ” อุ้ย เจอไอ้ต่อสวน

“นั่นสิ เมื่อก่อนนี่ตัวตั้งตัวตีเลย แต่ว่า...” อะไรๆ ไอ้แจ๊สมาทำหน้าเจ้าเล่ห์อะไร “ตั้งแต่มึงมีครูสอนภาษาส่วนตัวเนี่ยะ รู้สึกจะว่านอนสอนง่ายขึ้นเยอะนะ”

“เฮ้ยยยยย ได้ครูสอนภาษา หรือได้ภรรยาเป็นฝรั่งว้า” เชี่ยทราย โอ้ยยยย!!

“เชี่ยกันไปใหญ่แล้วพวกมึง!! ไอ้นั่นก็ผู้ชาย กูก็ผู้ชาย!! กูจะไปเอามันมาเป็นเมียได้ยังไงวะ!!” เออ จะบ้ารึเปล่าวะ พวกมึงเนี่ยะ

“ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ...” ไอ้แจ๊สยังคงทำหน้าเจ้าเล่ห์ “แต่ทำไมมึงต้องหน้าแดงวะพริก”

“เออออเฮ้ย แม่งหน้าแดงใหญ่เลยว่ะ” ไอ้ต่อก็ด้วย ไอ้พวกเพื่อนเวร

“โอ๊ยยยยยย!!! อากาศมันร้อนเว้ย!! เออๆๆๆๆ กูไปเที่ยวด้วยก็แล้วกัน!! แล้วนี่ก็จะได้เวลาคาบเช้าแล้ว รีบขึ้นเรียน!!” ผมรีบตัดบทพูด แล้วรีบเก็บของ ลุกขึ้นทันที เห้อ! บ้ากันไปใหญ่แล้ว ผมจะไปคบกับไอ้ฝรั่งได้ยังไงกัน! คิคิ

**********************************************************************************

“Alright. That’s it for today.” ไอ้ฝรั่งพูดพลางถอนหายใจเมื่อหมดเวลาเรียนภาษา แน่นอนครับว่าภายใต้การดูแลของผม มันหายหวัดไปตั้งนานแล้ว ผมเก่งใช่มั้ยล่ะครับ

“That’s it? เอ่ออ Don’t you เรกูระลี่ทีดมีโอเว่อทาม?” นั่นสิ ธรรมดามันสอนเกินเวลาไปเกือบชั่วโมง แต่วันนี้มันจบตรงเวลาแหะ

“Urrr… You mean… teaching overtime?” สำเนียงผมคงยังไม่โอเค มันเลยงงๆ ผมจึงพยักหน้าตอบไป “Well, I have business to do. You know, มีทูระ ต๋องปายทำ”

“อ่อออ มีธุระ”

“Yeah! Yeah! That’s right”

“เออ ดีๆ พอดี... พอดีกูก็มีธุระเหมือนกัน ฮ่ะๆๆๆ” ตอแหลจริงๆเลยกู

“Oh right! Hahahaha” มันหัวเราะแห้งๆตอบ แล้วจึงลุกออกไปเปิดประตู “Okay. Uhh…. Bye. Good luck”

“อ่าเหอะๆ ยูทูนะ บายๆ” ผมยิ้มแหยๆตอบขณะที่มันออกจากห้องผมไป

“เฮ้อออ” ผมถอนหายใจยาวๆ พลางบ่นขณะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาไอ้แจ๊ส “ทำไมกูต้องทำตัวเหมือนหนีแฟนเที่ยววะ”

“ฮัลโหลไอ้แจ๊สเหรอ.... เอ้อ มึงมารับกูได้เลย อีกสิบนาทีกูพร้อมออกแล้ว”

**********************************************************************************

Oppa Gangnum Style!

เที่ยงคืนวันศุกร์ เวลาที่คนกำลังเริ่มพลุกพล่านในผับแห่งนี้ เสียงเพลงดังตุ้บๆจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงอื่น พร้อมผู้คนมากมายที่ทั้งดื่ม กิน และเต้นกันอย่างสนุกสนาน ต้องขอบใจไอ้ทรายมันครับที่จองโต๊ะเอาไว้ก่อน ไม่งั้นพวกผมคงไม่มีที่แล้ว ซึ่งจริงๆ ต้องสารภาพผิดเลยครับว่า พวกผมเนี่ยะ มีแต่ไอ้แจ๊สเท่านั้นแหละครับที่อายุถึง 20 ปี ส่วน ผม ไอ้ทราย ไอ้ต่อน่ะ เพิ่ง 19 ขวบฝ่าๆครับ พวกเราก็เลยอาศัยทำบัตรปลอมเข้าไปครับ แหะๆๆๆ

“เอ้า ชนหน่อย!!” เสียงไอ้ต่อตะโกนเรียกทุกคนให้ชนแก้ว แข่งกับเพลงกังนัมสไตล์

“ชน!!!!” ทุกคนยกแก้วชนพร้อมกัน ก่อนจะซดสเมอร์นอฟเข้าปากดื่มกันอึกใหญ่ๆเป็นแก้วที่ 5

“เฮ้ย! พวกมึงมีเล็งโต๊ะไหนไว้ป่าววะ!” ไอ้ทรายตะโกนแทรกพลางสอดส่องมองสาวๆที่แต่งตัวเรียกเรตติ้งกันใหญ่

“ไม่อ่ะ! กูมาเที่ยวอย่างเดียว!” ไอ้แจ๊สตอบ

“กูดูก่อนว่ะ!!” ไอ้ต่อตอบบ้าง “ถ้าน่ารักก็ไม่แน่ว่ะ!!”

“ส่วนกู –“

“มึงไม่ต้องตอบก็ได้ไอ้พริก!! กูรู้มึงไม่ดูหรอก!! เดี๋ยวเมียฝรั่งมึงด่า! กร๊ากกกกกก” เชี่ยทราย แม่งเปิดประเด็นอีกและ เล่นเอาฮากันทั้งวงเลย แม่งเอ๊ย

“เออ!! เดี๋ยวคอยดูเหอะมึง!! กูนี่แหละ จะจีบแม่งให้ทั้งร้านเลย!!”

“อะหรออออ” ไอ้ต่อ ทำหน้าประชดประชัน “อย่าให้กูโทรไปฟ้องแอนนี่ละกันนนน”

“โทรไปเลย!!! ทำไมกูต้องกลัววะ!!” ....เออ แต่ทำไมมันรู้สึกร้อนๆหนาวๆยังไงไม่รู้แหะ


Starship were meant to fly


“เฮ้ย พวกมึง! เต้นกันเว้ยๆ! เพลงนี้กูชอบ!!” ไหนๆเพลงโปรดของผมก็มาครับ ขอตัดบทชวนทุกคนเต้นเลยก็แล้วกัน

“อ่ะๆๆๆ!! เต้นๆๆๆๆ” เออ ว่าง่ายดีแหะ หรือเพราะเริ่มเมาๆเคลิ้มๆกันแล้ว


We higher than a motherfucker!!


ช่วงจังหวะที่บีทหนักๆของเพลงบรรเลงไปพร้อมกับที่คนทั้งผับกำลังเต้นอยู่นั่นแหละครับ ที่ผมสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง แว๊บๆอยู่ในฝูงชนที่กำลังออกลายการเต้นอยู่ แต่ด้วยความมืด ผมจึงไม่ค่อยมั่นใจนักว่าสิ่งที่ผมเห็นเป็นของจริง หรือเพราะความเมาของผม

“ไอ้พริก! ไปไหนวะ!” ไอ้แจ๊สถาม เมื่อเห็นผมเดินจากโต๊ะ เข้าไปในกลุ่มคนที่เต้นอยู่

“เอ่ออ... พอดีกูเจอผู้หญิงคนนึง น่ารักดี!! ว่าจะไปทำความรู้จักซะหน่อย!!” ผู้หญิงที่ไหนวะ ไอ้ที่กูเห็นจะใช่ผู้หญิงรึเปล่ายังไม่รู้เลย

“อย่าไปทำท่าหลีเค้าล่ะมึง!!” ไอ้ต่อเตือน ซึ่งผมก็ตอบรับด้วยนิ้วกลางของผม


Starship were meant to fly. Hands up and touch the sky.


ผมค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆ ตำแหน่งที่ผมเห็นอะไรซักอย่างเมื่อกี้เรื่อยๆ จนภาพทุกอย่างเริ่มชัดเจน ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ผมกลับสังเกตเห็นถึงคนๆเดียวในที่นั้น ซึ่งผมไม่คิดว่าจะเจอมันในที่นี้

ก่อนอื่น ผมอยากถามคุณผู้อ่านทุกคนก่อนครับว่า เคยกินหรือเคยเห็นกุ้งเต้นมั้ยครับ ตัวมันจะดีดดึ๋งๆ เมื่อโดนความร้อน นั่นแหละครับ ภาพที่ผมเห็นตรงหน้า มีไอ้ฝรั่งตัวเล็กๆคนนึง เต้นแบบไม่แคร์สายตาชาวบ้าน ด้วยท่าทางที่ ผมไม่แน่ใจว่า มันเพิ่งโดนน้ำร้อนลวก โดนตะปูเสกเข้าท้อง หรือว่าโดนข้าวสารเสกมา แต่ท่าทางการเต้นมัน ดูทรมานน่าดูครับ และทันทีที่มันหันมาเห็นผมเข้า มันก็หยุดเต้น ตัวแจ็งทื่อไปทันที

“ท่าเต้นเหี้ยอะไรเนี่ยะ”

“Prick?” มันทวนชื่อผมอย่างงุนงง

“มึงมาทำอะไรที่นี่เนี่ยะ!” ผมถามอย่างรู้สึกฉุนเล็กน้อย

“I’m dancing!” ตอบด้วยหน้ายียวนซะด้วยนะ

“มากับใคร ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก!”

“What about you?! You don’t tell me either!”

“ก – ก็ถ้าบอก มึงจะให้กูมาไม่ล่ะ!” มึงยิ่งชอบขี้บ่นอยู่ด้วยนี่หว่าไอ้ฝรั่ง

“Same!!” มันเถียงครับ

“แล้วนี่ มึงเข้าผับได้ไง!! มึง 18 ไม่ใช่เหรอ!!”

“Fake Id! By the way, what about you?! You’re not 20 either, huh!?” เอ่อะ... มันย้อนกลับแถมเล่นซะไปไม่ถูกเลยครับ

“เอ่อ...”

“What?”

“เออออ ก็เหมือนมึงนั่นแหละ เรื่องนั้นชั่งเหอะ!” บ๊ะ วันนี้มันวันอะไรวะ กูต้องคอยตัดบทชาวบ้านตลอดเลยวุ้ย “แล้วนี่มึงมากับใคร!?”

“Ton is in the toilet! Mu is in the live music zone!” อ๋ออ ก็คือ ไอ้ต้นไปเข้าห้องน้ำ ส่วนมิวไปอยู่โซนดนตรีสด

“ต้นมาด้วยเหรอ??!” ไอ้ฝรั่งพยักหน้า “ไอ้ต่อรู้ป่าววะ”

“What? P’ Tor is here?” มันมีท่าทางตกใจ “Shit! I have to tell Ton”

“เฮ้ยๆๆ!! Hold onๆๆๆ” ผมรีบคว้าแขนมันไว้ก่อนที่มันจะหนีไป เพื่อที่จะถามคำถามที่สำคัญกว่า “ไอ้ชายล่ะ! มาด้วยรึเปล่า!”

“Huh??” มันทำหน้างง

“ไอ้ชาย!! มันมาด้วยรึเปล่า!!” ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพอพูดเรื่องนี้ทีไร ผมขึ้นทุกที

“Noo!! What the fuck?? We just met in the university! How can he be here!!!???”

“....เออๆ ช่างเหอะๆ กูก็แค่ถาม!!”

“ไอ้พริก!!” ไอ้ต่อโผล่มาทางด้านหลังพวกผม “มึงขอเบอร์สาวได้ – อุ้ย...”

ไอ้เพื่อนเชี่ยครับ จะเพิ่มงานงอกให้ผมเหรอครับ ดูหน้าไอ้ฝรั่งมองผมสิครับ ตาเขียวปี๋เชียว เอ๊ะ แต่ทำไมผมต้องกลัวมันล่ะ ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ แถมเราก็ไม่ได้ไปขอเบอร์ใครเค้าด้วย

“A girl’s number?” เฮ้ย ทำไมมึงทำหน้าดุจังวะ แอนนี่

“อ่อ... เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกแอนนี่ เอ่อะ ว่าแต่ มาไงอ่ะ”

“Oh, I’m with Mu and Ton. Huh -” นั่น มันหลุดปากบอกไปเองเลยวุ้ย

“หะ?! ไอ้ต้นมาเหรอ?! ไหนบอกว่าวันนี้ไปติวบ้านเพื่อนไงไอ้น้องตัวแสบ!!”

“Annie, I’m back, man” เสียงน้องของไอ้ต่อดังมาจากด้านหลังก่อนมันจะชะงักเมื่อหันมาเห็นพี่ชายตัวเอง “เอ่อะ พี่ต่อ!”

“ไอ้ต้น!! ไหนมึงบอกว่าไปติวหนังสือ!! นี่มึงแอบหนีมาเที่ยวนี่หว่า!!”

“โถ่ แล้วพี่อ่ะ!! ไม่ได้หนีมาเที่ยวรึไง!!” นั่น เหตุการณ์ซ้ำเหมือนเมื่อกี้เลยแหะ

“อ้าว! นั่นมันต่อตระกูลนี่!” เสียงใครซักคนขัดจังหวะพี่น้องกัดกัน และเมื่อพวกเราหันไป ก็พบกับบุคคลซึ่งเราไม่คิดว่าจะเจอในที่แห่งนี้

“อ – อาจารย์อนุชิต!?” ผมกับไอ้ต่อพูดขึ้นพร้อมกัน ผมยังคงงุนงงว่าอาจารย์มาเที่ยวที่แบบนี้ด้วยเหรอ แต่ดูเหมือนไอ้ต่อจะยิ้มแย้มให้อาจารย์ดี ก็รู้สึกไอ้ต่อมันจะสนิทกับอาจารย์เค้านี่เนอะ

“วันนี้วันรวมญาติรึไงวะ” ต้นบ่นขึ้น

“Who’s that?” ไอ้ฝรั่งถาม

“My professor น่ะ” เล่นเอาไอ้ฝรั่งงงว่าอาจารย์มหา’ลัยมาเที่ยวผับอย่างนี้ด้วย

“อาจารย์มาทำอะไรที่นี่ครับ!” ไอ้ต่อถามด้วยความดีใจ

“มากับเพื่อนน่ะ!! จริงๆอาจารย์ก็มาเที่ยวที่นี่บ่อยอยู่นะ พอดียังไม่อยากแก่น่ะ!! 555555”

“555555 อาจารย์ยังไม่แก่ซะหน่อย ก็รุ่นไล่ๆกับผมนะ!!” ไอ้ต่อท่าทางเริงร่า แล้วหันมาแนะนำตัวพวกผม “อาจารย์อันนี้เพื่อนๆผมครับ ไอ้นี่ไอ้พริก อาจารย์รู้แล้ว นี่แอนนี่ครับ อยู่บัญชีอินเตอร์กับน้องผมครับชื่อ ต้น แล้วก็มีแจ๊สกับทราย นั่งอยู่ที่โต๊ะน่ะครับ”

“ยินดีที่รู้จักนะครับ” อาจารย์อนุชิตยิ้มอย่างเป็นมิตร “จริงๆเรียกว่าอาจารย์โก้ หรือพี่โก้ก็ได้นะ ไม่ได้อยู่ในมหา’ลัย”

“ครับบ” พวกผมตอบรับพร้อมกัน

“เอ้อ ต่อนั่งโต๊ะไหนล่ะ เดี๋ยวจะได้ไปทักทายทรายกับแจ๊สด้วย”

“ตรงนู้นครับอาจารย์ เดี๋ยวพาไป”

“เรียกพี่ก็ได้น่า” อาจารย์... อ่า พี่โก้พูด แล้วไอ้ต่อก็นำพวกเราทุกคนไปที่โต๊ะ

“เอ้ย อาจารย์” ไอ้ทรายกับไอ้แจ๊สตกใจพร้อมๆกัน “ส – สวัสดีครับ/ ค่ะ”

“หวัดดีๆ ไม่ต้องตกใจ วันนี้ไม่ได้มาในฐานะอาจารย์ มาในฐานะพี่น่ะ มาสนุกกันนะ” พี่โก้... รู้สึกแปลกๆที่เรียกอย่างงี้แหะ อ่า พี่โก้สร้างบรรยากาศความเป็นกันเองกับทุกคน แต่ทุกคนก็ยังเกร็งๆกันอยู่ดี

“อ – อ้าว แอนนี่ ต้นด้วย หวัดดีๆ” ทรายหันมาทักทายไอ้ฝรั่งกับเพื่อน

“Hi”

“หวัดดีพี่”

“อ้าว... แล้วมิวไม่มาด้วยเหรอ” ไอ้แจ๊สถาม

“มิวอยู่โซนดนตรีสดน่ะพี่ มันไม่ค่อยชอบโซนนี้หรอก มันบอกคนพลุกพล่าน” ไอ้ต้นตอบ

“เหรอ...” ไอ้แจ๊สตอบเสียงเรียบๆ

**********************************************************************************

“พี่โก้ค้าบบบบบบบ ต่อไม่หวายแล้วววววววว โลกนี้หมุนเป็นวงกลมเลยยยยยยย” เสียงไอ้ต่อโวยวายด้วยความเมาอยู่บนตักพี่โก้ ตอนนี้ทุกคนเมากันเกือบหมดแล้วครับ เหลือแต่ผมกับไอ้แจ๊สที่ยังพอไหวอยู่

“เดี๋ยวกูมานะ...” ไอ้แจ๊สพูดแล้วลุกขึ้นทันที

“เห้ย! เมิงปายหนายวะ” ไอ้ทรายถามขณะที่ตัวเซไปเซมา

“กูว่าจะไปฟังดนตรีสดซักหน่อยน่ะ...” มันพูดเสร็จก็เดินออกไป

“อะไรของมันวะ” ผมบ่นด้วยความมึนงง

“Hey! You!!” อยู่ดีๆไอ้ฝรั่งที่เมาจนหลับไปพร้อมกับไอ้ต้นแล้วก็ลุกขึ้นมากระโจนใส่ผม

“เฮ้ยๆๆๆๆ!! อะไรๆๆ”

“What the fuck is that!!! Huh??”

“อะ – อะไรๆ” งง โวยวายอะไรวะ

“พี่โก้ โผมม่ายหวายแล่ววววววววววว อุแหวะ” ไอ้ต่อทำท่าผอืดผอม

“เฮ้ยๆๆๆ ท่าทางต่อไม่ไหวแล้ว” พี่โก้พูดพลางรีบประคองไอ้ต่อลุกขึ้น “เดี๋ยวพี่พามันไปอาเจียนก่อนนะ”

“ผมช่วยมั้ย” ผมอาสาช่วย ในขณะที่อีกมือพยายามกันแอนนี่ไม่ให้มันกระโดดมากัดคอผม

“ไม่เป็นไรๆ เราจัดการแอนนี่เถอะ”

“ห้องน้ำอยู่ด้านนู้นนะครับ” ผมชี้บอกทาง

“ไม่ทันและหล่ะ พี่คงพามันออกไปอ้วกนอกร้านน่าจะเร็วกว่าน่ะ” ก็จริงนะ เพราะจากโต๊ะผมมันผ่านทางออกก่อนจะไปถึงห้องน้ำซะอีก

“Arrrrr!!!!” หมดด้านนู้นด้านนี้ก็จะงับอย่างเดียวเลย เฮ้ย!!!

“โอ้ยยย!!! อะไรมึง!!”

“You fucker!!! What was that?! Huh??!!”

“อะไร มึงพูดเรื่องอะไร!!!”

“Rarrrrrhh!!!!”

“โอ้ยยยยย!!! โอ้ยยยย ฟังไม่รู้เรื่องแล้ว มึงมานี่!!!!” ผมพูดแล้วลากไอ้ผีดิบนั่นออกจากโต๊ะ

“เฮ้ยยยยยย เมิงงงงง ปายหนายยย” เสียงไอ้ทรายไล่หลังผมมา “อย่าทิ้งกูวววววววววววว”



ซ่า!!

“Whattt??” เสียงไอ้แอนนี่ร้องขณะที่ผมเอาน้ำในอ่างล้างมือล้างหน้ามัน ดีนะครับที่ไม่มีใครเข้าห้องน้ำตอนนั้น ไม่งั้นคงมองกันใหญ่แหละ

“ชู่ววววว มึงเงียบๆไม่ได้รึไง เป็นบ้าอะไรเนี่ยะ”

“What about you?? Are you crazy??” มันสวนกลับแต่ก็ยอมลดเสียงให้เบาลง

“Crazy what?”

“So, you’re just going to ask a number from a girl?”

“อ๋ออออ... เรื่องนั้นน่ะเหรอ” ผมเข้าใจและ “กูแค่หาข้ออ้างเพื่อจะมาดูว่าใช่มึงมั้ย กูเห็นมึงอยู่นานแล้วหล่ะ แต่ไม่มั่นใจ”

“Really?” ไอ้ฝรั่งดูสงบลง “That’s it?”

“That’s it. มึงมั่นใจได้เลยว่ากูไม่ขอเบอร์ผู้หญิงที่ไหนแน่นอน” ผมพูดอย่างจริงจังกับมัน เพราะผมอยากให้มันเชื่อใจผม แต่ว่า “....ว่าแต่ มึงจะแคร์เรื่องนี้ทำไมวะ ว่ากูจะขอเบอร์ใครมั้ย”

“Uh…. It’s just…”

“Just? Just what?”

“Urr…. What about you? Why do you care about P’Chai so much?” เอ่อะ... เจอย้อนกลับอีกแล้วครับ

“เอ่อออ เรื่องนั้นก็”


”อาห์...”

หือ เสียงอะไรวะ แว่วๆมาจากในห้องน้ำ ผมหันไปมองไอ้แอนนี่เพื่อดูว่ามันได้ยินเหมือนกันมั้ย มันหันมามองผมเหมือนกัน งั้นก็คงได้ยินทั้งคู่แล้วหล่อครับ

”ร้องเบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวข้างน้องก็ได้ยินหรอก” เสียงที่ฟังดูคุ้นหู ดังออกมาจากห้องน้ำห้องหนึ่ง

”ก็เล่นดันเข้ามาแรงอ่ะ มันเสียวนี่” อีกเสียงที่คุ้นหูพูดขึ้นด้วยความกระเส่า

”งั้นเดี๋ยวค่อยๆทำนะ”

ผมสองคนค่อยๆเดินมาจนถึง หน้าประตูห้องที่เป็นต้นกำเนิดเสียงและพบว่า กลอนล็อคของประตูนั้นเสียอยู่ ประตูจึงแง้มอยู่เล็กน้อย ผมหันไปมองไอ้ฝรั่งก่อนที่จะค่อยๆแง้มเพิ่มเล็กน้อย เพื่อให้เห็นภาพที่อยู่ภายใน

Con los terroristas

เสียงเพลง Harlem Shake ยังคงดังอยู่ในผับอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผมกับไอ้ฝรั่งยังคงยืนมองภาพที่พวกเราแอบเห็นผ่านบานประตูในห้องน้ำที่ปิดไม่มิด

”อือออห์...”

เสียงครางที่เต็มไปด้วยตัญหาราคาของชายหนุ่มสองคนในห้องน้ำที่กำลังบรรเลงเพลงรักกันอย่างดูดดื่ม ทำให้ผมสร่างเมาได้ทันที ซึ่งผมแน่ใจว่าไอ้ฝรั่งเองก็คงไม่ต่างจากผมนัก

“What… the hell?” มันกระซิบกับผม ลืมไปเลยว่าเมื่อกี้เราเพิ่งจะกัดกันอยู่ “Is that…”

“กู... กูก็ไม่รู้ว่ะ” ผมตอบเสียงเบาๆ เพื่อไม่ให้คู่รักสองคนนั้นได้ยิน

ผมยื่นมือไปเตรียมจะแง้มประตูนั้นออก ผมหันไปมองแอนนี่เป็นเชิงถามให้แน่ใจว่าจะเปิดประตูออก มันพยักหน้า ซึ่งผมก็พยักหน้ากลับ ผมค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำบานนั้นออกจนสุด

สองคนตรงหน้าผมและแอนนี่อยู่สภาพเปลือยเปล่า ทั้งสองคนหยุดกิจกรรมร่วมรักกันและหันมามองผมทั้งสองด้วยความตกใจ ในขณะที่พวกผมเองก็ตกใจไม่แท้กัน

“Oh – My – God” ไอ้ฝรั่งอุทานออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา

“นี่พวกมึงสองคน...” ผมได้แต่พูดแค่นั้นกับสองคนตรงหน้า เพราะคำพูดที่เหลือ... ผมนึกไม่ออกแล้วครับ








To be continued

อยากรู้ล่ะสิว่าใครๆๆ อิอิอิอิ ม่ายบอกกกกก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: MaiSwifties ที่ 04-03-2013 19:16:14
ใครเนี่ยยยยยยยยยยยย :m16:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 04-03-2013 20:09:07
มิวกับพี่แจ๊สหรือเปล่า แต่เอ...เขาไม่ถูกกันไม่ใช่เหรอ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 04-03-2013 21:03:04
จบแบบนี้เราไม่ว่า(จริงๆหวีดร้องโหดร้ายอยู่) แต่อย่าทอดทิ้งเราไป3เดือน ให้เราค้างคาอยู่แบบนี้!!!!!!!
อั่ยๆๆๆ อ่านแล้วมันก๊าวใจดีจริงๆ แอนนี่นะ น่ารักเป็นแม่ แล้วพ่อแง่แม่งอนแอบหนีแฟนเที่ยวนั้นมันอะไร น่ารักเว่อ!!!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: powderje ที่ 04-03-2013 21:17:44
 o22  ใคร?????????
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 04-03-2013 21:20:33
ท่าทางจะรุ้จักกันนี่ อิอิ o18
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-03-2013 21:24:22
อ๊ากกกก ค้างแบบนี้ไม่ไหวน้าาาา :m31:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 04-03-2013 22:15:46
ใครล่ะนั่น :m28:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 04-03-2013 22:40:16
แอร๊ยยยยยยยยยยย พึ่งเห็นเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวเลย ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกเลยค่ะ ฮาๆ กัดๆกันดี อิอิ

แต่จบแบบนี้โอ้ย จะฆ่ากันหรอคะ 555555555+ ต่อเลยๆด่วนค่า อิอิ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: oatty ที่ 05-03-2013 01:18:48
ค้างคาครับ!!!! หายไปนาน พอกลับมาที คนเขียนก็ปล่อยระเบิดลูกใหญ่เลยนะครับ 555555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: lazat.mchub ที่ 05-03-2013 02:11:30
ทำไมถึงทำกับฉันได้  :z3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 05-03-2013 07:03:12
O-MY-GODDD!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 05-03-2013 08:25:26
โอ้ววววว ขอเดาว่าเป็นมิวกับพี่แจ๊สใช่มั้ย  o22

มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 06-03-2013 00:58:44
โอ๊ย  ใครอ่ะ 
ต้องเป็นพี่แจ๊สกับมิวสิคแน่ๆๆ


เพิ่งเข้ามาอ่านจ้า

ชอบมากๆเลย  ตรงที่มีบทสนทนาภาษาอังกฤษ  แบบว่ามันทำให้ได้เรียนรู้อ่ะนะ
เป็นคนที่ชอบอ่านในนิยาย แต่ถ้าเป็นนิยายภาษาอังกฤษล้วนก็ไม่ค่อยอ่าน 5555+
แล้วก็ไม่ชอบศึกษาไอ้พวกสอนภาษาอังกฤษ  แต่อยากเก่งภาษา(สรุปแล้วจะเอายังไง)

แต่อยากบอกว่าชอบมากๆเลย โดยฉะเพราะ พริกกับแอนนี่
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 06-03-2013 10:49:26
ใคร

พี่โก้ กับต้น อ่าป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 06-03-2013 13:03:02
ชอบเรื่องนี้มาก ฮาก๊ากได้ทุกตอน แต่หายเงียบไปจนถอดใจไม่รอแล้ว
ดีใจวันนี้ได้มาอ่านต่อ ขอบคุณมากนะฮะ
ถ้ายังไงรบกวนลงจนจบเรื่องเลยน้า ขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งฮะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: Frote ที่ 06-03-2013 13:32:56
เพิ่งเห็นว่ามาอัพแล้ว ดีใจมากกกกกกกกกค่ะ 5555555
*กระโดดโลดเต้นรอบบ้านทีนึง*

สงสัยจังว่าใครกันที่อยู่ในห้องน้ำ
รีบๆมาเฉลยไวๆนะคะ XD
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 06-03-2013 14:48:38
มิวแจ๊ส หรือ  โก้ต่อ เอ่ยยยย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 06-03-2013 15:48:47
 :a5:  ครายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :z3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-03-2013 17:01:18
คำเตือน : เข้าห้องน้ำต้องล็อกทุกครั้ง มิเช่นนั้น อาจเป็นเช่นนี้
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 06-03-2013 18:45:49
มาต่อแล้ว :กอด1:่
คนในห้องนำ้เดาว่าเป็นมิวแจ๊ส
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 06-03-2013 19:24:50
อร๊ากกกกกก ใครเนี้ยยยย

มิว แจ๊ส          ต่อ พี่โก้

ฮ่าาาา เอาแล้วไงง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 4/3/2013 - Chapter 12 อัพอีกตอนจ้าาา]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 06-03-2013 22:12:14
ตอนใหม่มาแล้วคับป๋มมมม ตอนนี้ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ที่ชอบ นั่นคือเรื่อง Glee จ้าาาา เพราะงั้น ตอนนี้มีร้องเพลงด้วยนะก๊าบบบ ส่วนเรื่องของ 2 คนที่อยู่ในห้องน้ำนั้น.... ยังไม่เฉลยยยย อิอิอิอิ




”อ – อือออออห์” เสียงครวญครางของการพลอดรักในห้องส้วมเมื่อสามวันก่อนมันยังก้องอยู่ในหัวผมจนถึงตอนนี้

”อาร์สสสสสส”

”อ – อืมมมมมมห์” เสียงครางแม่งเริ่มถี่ขึ้นเว้ยเฮ้ย

”ออออออออร์ส”

”แอนนี่...” หือ?

”แอนนี่...” ทำไมครางเป็นเสียงกูวะ

”แอนนี่” เฮ้ย อย่ามาเรียกกู

”แอนนี่!!” เย้ย!!!

”ไอ้แอนนี่!!!”

“เฮ้ย!! อื้อออ อ้าห์!!!” ผมสะดุ้งโหยงหลุดจากภวังค์เมื่อไอ้ต้นเบิ๊ดกะโหลกผมไปทีนึง

“อื้ออ้าเหี้ยไรมึง นี่มึงฟังที่ไอ้มิวมันชวนมึงเมื่อกี้มั้ยเนี่ยะ!!”

“หะ – หา? เอ่ออออ โทดทีว่ะ พอดีช่วงนี้...” ผมพูดขอโทษแล้วมองไปที่ไอ้มิว “กูมีเรื่องให้คิด”

“อ่อ... เออเหรอ มึงก็อย่าเหม่อให้มันมากนักแล้วกัน” ไอ้มิวตอบ

“ว่าแต่เมื่อกี้มึงพูดว่าไงกันบ้างนะ”

“โอเค งั้นเดี๋ยวพวกกูจะรีเพลย์อีกรอบ” ไอ้ต้นยกมือขึ้นแล้วตะโกน “อ้าว คัท!! เริ่มฉากเมื่อกี้ที่ไอ้มิวพูดใหม่ครับ!! ประจำที่!!”

พูดอะไรของมันวะ ยังกะถ่ายหนังถ่ายละคร กูล่ะงง

“เทปสอง แอ็คห้า เทคสี่” ไอ้มิวพูดงึมงำอะไรของมันก็ไม่รู้

“แอ็คชั่น!!” เล่นเอาผมสะดุ้งเลยครับ ท่าแอ็คชั่นของไอ้ต้น

“Heyyy ดู๊ดดดด” ไอ้มิวทำเสียงหล่อหันไปพูดกับไอ้ต้นและหันมามองผม

“Heyyyy วอทซั่บบบบ ดู๊ดดดดด” ไอ้ต้นนี่อาการหนักกว่าครับ ทำหน้าฟินเป็นอาเบะซะด้วย

“พอดีว่า กูน่ะ...” แล้วไอ้มิวก็โยนโบรชัวร์แผ่นนึงมาที่โต๊ะ ตรงที่ผมนั่ง “...เห็นโบรชัวร์ไอ้นี่น่ะ น่าสนใจดีม้า (วิ้งงงงง)”

“อะเห้ออออ เยี่ยมมากเลยดู๊ดดดด ท่าทางงานนี้ -”

“เอ้า คัต!!! ปิดกองครับ ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานครับ!!” ผมปรบมือไปในห้องเรียนที่ว่างเปล่า แล้วหันมามองไอ้สองตัวกากเพื่อนผม “คือจริงๆ มึงบอกตั้งแต่แรกก็ได้นะว่ามันมีงานประกวดร้องเพลงของมหา’ลัยแล้วจะชวนกูไปประกวดด้วย ถูกมะ”

“ถูก” สองตัวพูดพร้อมกัน

“เออ บอกแค่นี้ก็จบ มึงจะเล่นละครเพื่อออ”

“ไม่รู้...” ไอ้มิวทำหน้าเจื่อนๆแล้วชี้ที่ไอ้ต้น “ไอเดียไอ้นี่”

“เอ๊า มาโทษกูอีกเน่อะ”









Chapter 13: Sing!




 “รายละเอียดการสมัคร” ไอ้ต้นเริ่มอธิบายกติกาที่ในโบรชัวร์บอกไว้ “สามารถสมัครได้ทุกชั้นปี ทุกเพศ ทุกสถานะ”

“บอกไมวะ” ไอ้มิวทำหน้าเอือม

“นั่นดิ่”

“เออ เอาหน่ะๆ เค้าพิมพ์มาอย่างงี้นี่หว่า” ไอ้ต้นตัดบทพวกผมแล้วอ่านต่อ “การแข่งขัน ผู้สมัครจะต้องจับคู่กับผู้สมัครอีกคนหนึ่งโดยจะสุ่มจากผู้สมัครทั้งหมด เพื่อทำการร้องเพลงแข่งกันสองรอบโดยกรรมการจะให้คะแนน ใครได้คะแนนมากกว่า จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศไป ซึ่งในรอบชิงชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขัน จะได้ร้องเพลงหนึ่งเพลง และจะตัดสินจากการให้คะแนนอีกเช่นกัน”

“เดี๋ยวนะ หมายความว่ายังไงวะ” ผมเริ่มงงๆ

“สรุปสั้นๆก็คือ มีแข่งสองรอบ รอบแรก ร้องเพลงคู่สองเพลง แต่ว่าก็คือแข่งกันน่ะแหละ ส่วนรอบสุดท้าย ร้องเดี่ยว” ไอ้มิวสรุปความให้ฟัง

“นั่นแหละ” ไอ้ต้นอ่านต่อ “สำหรับเพลงในรอบต่างๆ ในการร้องเพลงคู่ทั้งสองเพลง จะถูกสุ่มจับฉลากจากเพลงต่อไปนี้..... แล้วมันก็มีลิสต์อยู่ยี่สิบกว่าเพลงว่ะ...”

“ยี่สิบกว่าเพลงเลยเหรอ!!??” ผมคว้าโบรชัวร์มาดูแล้วก็ถึงกับตกใจ “โหหหหหห เยอะมากอ่ะ!! แถมบางเพลงเป็นแมชอัพด้วย!!”

“แมชอัพ??”

“เอ่อออ มันคือการเอาเพลงตั้งแต่สองเพลงขึ้นไป มามิกซ์ทำนองกับจังหวะเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นเพลงใหม่อ่ะ” ผมอธิบาย

“ถ้าอย่างงั้น คนที่ได้เพลงแมชอัพไป ซวยตายเลยดิ่!” ไอ้มิวทำหน้าตาตื่น

“ก็คงงั้นนะ แต่ถ้ามองอีกแง่ ก็เหมือนวัดสกิลว่ามึงจะร้องเพลงนั้นได้ดีแค่ไหน บางทีถ้ากรรมการประทับใจอาจจะให้คะแนนเยอะก็ได้” ไอ้ต้นพูด

“ก็จริงของไอ้ต้นนะ”

“อ่ะ เอามาๆ เดี๋ยวกูอ่านต่อ” ผมยื่นโบรชัวร์เพื่อให้เพื่อนผมอ่านต่อไป “สำหรับเพลงในรอบสุดท้าย จะให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกเองได้ โดยส่งเพลงที่ต้องการจะร้องไปที่อีเมล์ ซิงกิ้งคอนเทสแอดจีแม้วดอทคอม สามารถรับใบสมัครและส่งได้ที่บู๊ทใต้ศาลาใหญ่ตั้งแต่วันนี้จนถึง 17 กันยายน”

“17 กันยาเหรอ งั้นก็มะรืนแล้วสิ”

“ก็ใช่ดิ่ แอนนี่ ถ้าจะสมัครกันก็ต้องรีบสมัครแล้วล่ะ” ไอ้มิวทำหน้าจริงจัง “กูสมัครนะ น่าสนใจดี”

“กูคงไม่ว่ะ ร้องเพลงไม่ใช่ทางกู” ไอ้ต้นรีบปัดมือปฏิเสธ

“แล้วมึงง่ะ” ไอ้มิวถามผม ในขณะที่ผมนั่งนิ่งๆ คิดอยู่ในใจว่าจะเอายังไงกับเรื่องแข่งร้องเพลงดี...











”อืออออออ อาห์สสสสสส” เชี่ยยยย!!! กูจะเหม่อเรื่องนี้ทำไมนักหนาวะ!!

**********************************************************************************

“เฮ้ออออออออ” เสียงไอ้พริกตี๋ถึกดังอยู่ไม่ไกลจากหูผมมากนัก “กูก็เข้าใจนะว่า มึงอยากเปลี่ยนอารมณ์จากสอนเฉยๆ เป็นให้กูเรียนรู้จากหนังบ้างเนี่ยะ.... แต่ว่า... ‘เมาลิน รูจี’!! ทำไมต้องเรื่องนี้! ทำไมต้อง ‘เมาลิน รูจี’!!!”

“First of all, it’s called ‘Moulin Rouge’ (มูแลง รูจ). And second, I think it would be better for you to practice English with the movie that contains music.”

“เออๆๆๆๆ พล่ามๆไปเหอะ ยังกะกูจะลุกไปหยิบหนังเรื่องอื่นได้นี่...” มันพูดหน้าเอือมๆแล้วมองผม “ในเมื่อมึงนอนตักกูอยู่เนี่ยะ”

...................................

...........................

.................

...........

.......

...




อุ้ยยยยยย....








ผมทำอะไรลงไปเนี่ยยยยยยย ลงไปนอนตักมันเพื่อออออออ!!!!!?????




“I – It’s just that I’m a little bit tired!!! And I have a lot to think so I –“

“โอเคๆๆๆๆ พอและๆ” มันหัวเราะกวนตีนแล้วกดหัวผมลงไปที่เดิม “กูไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย มึงนอนไปก็ได้”

“Like I want to!” เออ ยังกะอยากนอนตักตายงั้นแหละ

“Really??” ผมพยักหน้าตอบ ในขณะที่มันทำหน้ากวนตีนยั่วผม “แหม่ แต่ใครวะ นอนตักกูตั้งแต่หนังเริ่มไปแค่สิบนาที”





!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! #$@^&%&^$#*&(*)&!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!






“Hey Annie!”

“What?”

“Annie…” มันเรียกชื่อผมพร้อมเขยิบหัวมาใกล้ขึ้น

“What??”

“Annieeee….” อีเหี้ย! เสียงอยู่ข้างหูเลยนี่หว่า!!

“For fuck sake!! Whattttt!!!!???” ผมรีบผลักหัวมันออกทันทีแล้วเปลี่ยนมานั่ง

“ฮิฮิ” มันยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วชี้มาที่ผม “มึงหน้าแดงใหญ่เลยอ่ะ”





!!!!!!!!!!!!!! FFFFFFFFFUUUUUU-!!!!!!!!!!!!!#$@^&%&^$#!!!!!!!!!!!!!!!!^&$&*%(*&*!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!&^%^%(&*^*(!!!!!!!!!!#$@^&%&^$#*&(*)&!!!!!!!!!!!!!!!!!! >/////////////< !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!








อี.... อี..... โอ๊ยยยยยยยย!!! ไอ้ตี๋!!! มึงกวนตีนมาก!!!! บังอาจมาแกล้งกูอย่างนี้งั้นเลยเหรอ ยังจะหัวเราะอีกนะมึงนี่!!!ไอ้!! ไอ้!!!

“Shut up!!! Just watch the movie!!!”

“555555 เออๆ โอเคๆ...”

หลังจากที่พวกเรานั่งดูหนังจนผ่านไปประมาณครึ่งเรื่อง ซึ่งบอกตามตรงว่าผมแทบไม่ได้สนใจหนังเลยครับ เพราะภาพในหัวที่ Route 77 มันก็ยังอยู่ แถมเรื่องการประกวดร้องเพลงอีก ซึ่งผมก็ยังลังเลอยู่เลยว่าจะสมัครดีมั้ยอีก

“เป็นอะไรเหรอ ท่าทางมึงดูเครียดๆ” ไอ้พริกมันจับสังเกตได้

“Nope…. Nothing.”

“โกหก”

“It’s nothing” ผมตอบปัดๆอย่างรำคาญ

“โกหก ดูก็รู้แล้ว มึงเครียดเรื่องสองคนนั้นอยู่ใช่มั้ยล่ะ” รู้ทันอีก!

“Huhhhhh. Well…. Since that day, I can’t….” ผมลังเลที่จะเล่า แต่ก็เล่าในที่สุด “I can’t get that picture… out of my head.”

“เฮ้อออ กูเข้าใจน่า I can’t, too.” มันพูดน้ำเสียงจริงจัง “But it’s his business.”

“But it’s wrong! I mean I have no offense with two guys love each other but -”

“ใช่ กูเข้าใจ It’s wrong แต่เราทำอะไรได้ล่ะ”

“This shouldn’t be a secret”

“Annie… เค้าเป็นเพื่อนพวกเรานะ Think about it จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนรู้ คิดว่าคนอื่นจะรับได้เหรอ”

“…..”

“ฟังนะ” ไอ้ตี๋พูดด้วยเสียงจริงจัง พร้อมแตะบ่าผม “เรื่องพวกนี้น่ะ เจ้าตัวควรจะบอกด้วยตัวเอง คนไหนทำผิด เจ้าตัวก็ควรยอมรับผิดเอง เราไม่มีสิทธิไปบอกใครเค้าหรอกนะว่าใครคบกับใคร”

“…..”

“ที่มึงพูดมากูก็เห็นด้วยนะ แต่ในเมื่อเค้ายืนยันจะคบกัน เราก็ทำอะไรไม่ได้”

“Huhhhh… You’re right. It’s their decision anyway.”

“ใช่ม้า เพราะงั้น อย่าไปเครียดเรื่องนี้เลยน่ะ ดูหนังต่อเหอะมึง กูกำลังลุ้นเลย”

“หน่ายบอกว่าม่ายชอบแนวนี่ไหง (ไหนบอกว่าไม่ชอบแนวนี้ไง)”

“เฮ้ยยย ก – ก็ดูแล้ว มันก็หนุกดี”

“Ha ha ha แถ่ร์โคดๆ (แถโคตรๆ) Oh and…. Actually, I have something to ask”

“หือ?”

“I’ve been thinking of joining the singing contest”

“เอ่ออออ... singing contest? You?”

“Aha”

“.... มึงเอาจริงเหรอ”

“Yeah! Why?”

“ไม่รู้ดิ่ แต่แข่งร้องเพลงนี่ มันไม่ใช่แค่ร้องเพลงธรรมดานะเว่ย มึงต้องส่งอารมณ์ให้คนฟังด้วย”

“ซ๊งอาหรม?”

“อ่า.... อื้ม นั่นแหละ เอาเป็นว่า ถ้ามึงสกิลไม่พอ มึงก็เน่าจั้งแต่รอบแรกแน่นอนนะฮว้าฟ”

“Oh please! Don’t try to be like an expert singing coach to me!” อะโด่ ทำมาอวด สกงสกิลอะไร้ มึงร้องเพลงได้รึเปล่าเหอะ “You can sing?”

“กูก็เคยร้องให้มึงฟังไม่ใช่รึไง” แน่ะ ยังมาทำภูมิใจ

“You mean that ‘Sorry, sorry’? ดายคาวว้า รองเนื้อยังดำนามอยู่เลย์ (ได้ข่าวว่า ร้องเนื้อยังดำน้ำอยู่เลย) or That ‘ระดูที่ชั้นเห่า’”

“ฤ – ฤดูที่ฉันเหงา”

“Yeah, yeah. That’s song you’re like heavy-metal screaming more that singing”

“อู้ววววว คอมเม้นซะเจ็บเลยนะไอ้ฝรั่งงงงง”

“I just keep it real” ผมพูดแล้วยกไหล่อย่างไม่แยแส

“คีปอิดเรียวเหรอมึง ได้ๆ” มันชี้หน้าท้าผม แล้วเดินไปหยิบมือถือมันมาเสียบเข้ากับลำโพง “ไหนๆ ดูความสามารถคนจะแข่งร้องเพลงหน่อยดิ๊”

“Don’t try me” ผมแสยะยิ้มมองไปยังไอ้ตี๋

“ดวลกันซักเพลง ร้องแข่งกันนี่แหละ” มันพูดด้วยท่าทางมั่นใจ

“Arr! Hell no!! You’re going to cheat”

“ชีท? โกง?” มันชี้ตัวมันอย่างงงๆ “How?!”

“You’re definitely going to sing Thai song! And I can’t  completely speak Thai!”

“อะโด่! อย่ามั่วสรุปเด่ะ! ใครบอกว่ากูจะร้องเพลงไทย”

“Huh?”

“เห็นกูห่วยๆอังกฤษ แต่เวลากูจำเพลงไหนได้ กูร้องได้แบบฝรั่งเลยนะเว้ย”

“Oh come on! Bring it on!!”

“เออๆๆ พูดห่าไรไม่รู้ เอาเป็นว่า กูเลือกเพลง ‘One Thing’ ของ ‘One Directions’ มึงร้องได้ป่ะล่ะ”

“I don’t like that band but I like the song so… Okay!!”

“โอเค ตามนั้นนะ มีอะไรจัดมา! เอาให้กูหงายให้ได้!” แน่น้อนนนนน เดี๋ยวป๋าจัดให้! ไอ้ผมก็เคยอยู่แก๊งบีบอยเก่าสมัยไฮสคูล เดี๋ยวผมจะทั้งเต้นทั้งร้องให้มันดูเล้ย!

“You don’t have to tell me that”

“โอเคคคคค เริ่มละนะ” พูดจบ ไอ้ตี๋ก็กดเปิดเพลงให้เริ่มเล่นทันที






”I tried playing it cool” ไอ้ตี๋เริ่มร้องก่อนครับ ...อื้มม เสียงไม่เลวนี่ ทำหน้าตาท่าทางเท่ห์ ดูยั่วยวนมากครับ ยั่วยวนกวนตีน ”But when I'm looking at you, I can't ever be brave ‘cause you make my heart race”

”Shot me out of the sky” ตาผมบ้างล่ะ ผมเริ่มร้องและออกสเต็ปเต้นไปด้วย ซึ่งท่าทางมันอึ้งเหมือนกันที่ผมเต้นได้ ”You're my kryptonite. You keep making me weak. Yeah, frozen and can't breathe”

”Something’s gotta give now ‘cause I'm dying just to make you see” หือ! ไอ้ตี๋มันก็เต้นเป็นเหรอ ไม่ได้การ ขอโชว์สเต็ปเต้นบ้าง

”That I need you here with me now” แต่ก่อนที่ผมจะได้โชว์สเต็ปอะไรไปมากกว่านี้ มันก็คว้ามือผมไว้ข้างนึง แล้วเข้ามารวบตัวผมไว้ จนเราทั้งคู่อยู่ในท่าแบบเต้นรำ หือ!! แล้วมึงยิ้มทำไมวะไอ้พริก

”Cause you've got that one thing” พวกผมสองคนร้องประสานเสียงกัน ขณะที่เต้นคู่กันไปด้วย

”So get out, get out, get out of my head
And fall into my arms instead
I don't, I don't, don't know what it is
But I need that one thing
And you've got that one thing”


!!! แล้วอยู่ๆ ท่าก็จบลงด้วยการที่ผมไปอยู่ในอ้อมแขนมัน หึ้ย!! อะไรวะเนี่ยะ!! ผมรีบดันตัวมันออกก่อนที่ผมจะร้องต่อ... โดยที่มีเสียงมันคอยแบ็คอัพไปด้วย

”Now I'm climbing the walls
But you don't notice at all
That I'm going out of my mind
All day and all night”


หึ้ยย!!! มองกูอยู่ได้ ขนาดกูพยายามเต้นหนีแล้วนะ

“Something’s gotta give now
Cause I'm dying just to know your name
And I need you here with me now
Cause you've got that one thing”
มันมารวบตัวผมไว้อีกแล้วครับ > <!!

”So get out, get out, get out of my head
And fall into my arms instead
I don't, I don't, don't know what it is
But I need that one thing
And you've got that one thing”


เพลงจบลง... โดยที่ผมกับมันนิ่งจ้องหน้ากันอยู่...

ให้ตายสิ ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน

“Not Bad…” มันพูดด้วยเสียงเบาๆสั่นๆจนเหมือนกระซิบ ขณะที่แขนอันแข็งแกร่งของมันโอบตัวผมไว้ มือของมันกุมมือข้างหนึ่งของผมไว้ ในขณะที่มืออีกข้างของผมที่ว่างอยู่ก็วางพาดไปที่อกแน่นๆของมัน ใบหน้าของเราใกล้กันจนผมสัมผัสได้ทุกลมหายใจเข้าออกของพริก ดวงตากลมใสดูน่ารักของมัน จ้องผมจนทำให้ผมแทบละลาย ผมยิ้มดีใจกับคำชมของมัน ก่อนที่หน้าของเราจะค่อยๆใกล้กันเรื่อยๆ.... เดี๋ยวนะ! นี่กูทำอะไรอยู่เนี่ยะ!!

“Y – You, too!! You, too!!” ผมพูดขึ้นเมื่อผละออกจากไอ้ตี๋ ซึ่งตามจริง ไอ้ตี๋เองก็เหมือนจะจกใจและผละออกจากผมในเวลาเดียวกัน

“อ – เอ้อๆ ขอบใจๆ... กูว่า... จริงๆ มึงลงแข่งได้เลยล่ะ”

“R- Really? Thanks…. W- What about you?”

“กูเหรอ... เอ่ออออ ก – กูไม่ได้ลงแข่งนี่”

“I think you should” ผมพูดตามจริง

“เอาจริงดิ่”

“Yeah… I mean you can sing. You can dance and….”

“And อะไร....?” เออ นั่นสิ ผมจะ and อะไรนะ... ล – แล้วทำไมผมต้องยิ้มวะเนี่ยะ เห้ยๆๆ แอนนี่ๆ หุบยิ้มๆๆๆ

“A – And You’re good”

“อ – อ่ออออ หะๆๆๆ ขอบใจๆ” มันยิ้มแห้งๆแล้วพูดต่อ “แล้วนี่ เลือกเพลงไว้รึยังล่ะ”

“Ummm…. I think of a couple of songs…. But, I think I find what’s best for me”

“เหรอ เพลงไรวะ”

“It’s called ‘Anything Could Happen’ by Ellie Goulding”

“อ่า.... ไม่รู้จัก...”

“Whatever, It’s my favourite song.”

“อ – อ๋ออออ”

“Well, that’s it for today. I’m going back to my room.” เหอๆๆ กลับดีกว่า ไม่ไหวแล้วครับ รู้สึกร้อนๆหนาวๆยังไงไม่รู้

“เอ่อ H – Hey เดี๋ยวก่อนดิ่ What about the movie? ยังดูไม่จบเลยนะ”

“เมิงดูว์ถ่อเลย์ก็ด้าย กูห้ายยืม (มึงดูต่อเลยก็ได้ กูให้ยืม) Bye”

“อ – เอ่อออ บายๆ เอ้อ! แอนนี่!”

“What?” ผมหันไปถามมัน และก็พบกับหน้าแดงแจ๋ของมัน พร้อมท่าทางลังเลอะไรซักอย่าง

“อ – เอ่อออออ ไม่มีอะไรๆ”

“What’s wrong with you?” ผมส่ายหัวแล้วจะเปิดประตู

“ฝ – ฝันดีนะเว่ย...”

เห....

เอ่อออออออออออออ ม – มึงมาไม่ไหนว่ะเนี่ยะไอ้ตี๋!!!... >/////<

“Y – Yeah!! You, too….. Good night!!” ผมพูดอย่างรวดเร็วแล้วพุ่งออกมาจากห้องมันพร้อมหน้าของผมที่ตอนนี้ร้อนฉ่า จนสามารถต้มมาม่าได้แล้วครับบบบบ





To be continued

ตอนหน้า ใครกันคือสองคนที่แอนนี่กับพริกเจอ!! และพิเศษ คนบรรยายไม่ใช่แอนนี่และพริก จะเป็นใคร ติดตาม!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: Frote ที่ 06-03-2013 22:25:01
ลุ้นจังว่า 2 คนนั้นคือใคร
อยากรู้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: powderje ที่ 06-03-2013 22:31:06
กรี๊ดดดด!!!!!!!!1D!!!!! :a5:
นี้มัน วงในดวงใจ แว๊กกก ปลื้มอ่ะ  :o8:

ปล. ค้างคาใจมากเรื่องบุคลในห้องน้ำ :z3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: nubeebaa ที่ 06-03-2013 22:37:07
สรุปว่า  ใครในห้องน้ำคะ ????
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 06-03-2013 22:42:51
จะน่ารักไปหนายยยยยย  :-[

อ่านไปบิดไปเลย เขินแทนสองคนนี้

แต่ว่า ใครกันที่อยู่ในห้องน้ำาาาาา อยากรู้!!  :z3:

แล้วมาต่อไวๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 06-03-2013 22:55:56
โอ๊ย ดูเหมือนบรรยากาศแห่งรักโฉยมานะเนี่ยพริก แอนนี่
ว่าสองคนในห้องน้ำเนี่ย มิวกับแจ๊สแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 06-03-2013 23:38:44
โอ๊ย แก้มคนอ่านจะแตกแล้ว ทำไมน่ารักงี้ว๊า ยิ่งช่วงเพลงนะ โอยอูยอู้วววววววววววววว/นวดแก้ม
บ้าเอ๊ย น่ารักกันขนาดนี้ โจ่งแจ้งกันขนาดนี้ รู้ตัวซะทีเถอะ!!!!!!แต่ไม่รู้ก็ยังน่ารักอยู่ดี อั่ยยะ!!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 06-03-2013 23:49:28
ชอบเรื่องนี้อะอ่านแล้วก็แบบเชคภาษาอังกฤษตัวเองฮ่าๆ แอนนี่ก็นะคิดแต่เรื่องในห้องน้ำคิคิ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 06-03-2013 23:59:07
ณ จุดๆนี้ ไม่อยากรู้สองคนนั้นแล้ว แต่อยากรู้ความสัมพันธืที่เริ่มพัฒนาของแอนนี่พริกแทนแล้ว แอร้ยยยย น่ารักไปไหนคะนี่คู่นี้

สนุกมากค่ะ ดีใจที่มีเวลามาต่อถี่ๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ^_^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: railay ที่ 07-03-2013 08:51:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 07-03-2013 09:30:06
แอนนี่รู้จักมาม่าแล้วสินะ   อาหารประจำชาติเลยนะนั่น  :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 07-03-2013 10:46:34
เพลงชื่อเพลงนี่อะไรนะ ระดูที่เห่าๆ อะไรนั่น เทอน่ารักมากแอนนี่น้อย
พี่พริกก้อซึนๆนะนเนี่ย  :o8: :-[ :impress2:
รักไอ้ฝรั่งจิงๆ รักคนไทยด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 07-03-2013 12:11:57
คู่นี้ มันมาแบบมึนๆลอดเลยนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 07-03-2013 13:09:18
ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 07-03-2013 16:08:11
แอร๋ย มาน้อยๆแต่ต่อยหนัก 5555555+ จะบอกว่าเค้าก็ชอบดูกลีค่า แต่ดูแค่ภาคสามเอง ต่อจากนั้นมันไม่ค่อยอยากไงไม่รู้ 5555+
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 07-03-2013 16:20:22
กรี้ดดดดดด 1D
//ชอบ ฟรืดดด
ชอบวันดีและแอนนี่คือ one thing :)
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 07-03-2013 17:41:41
เริ่มรู้สึกขึ้นมา..มากขึ้น

รอลุ้นตอนต่้อไปจร๊า!!!!!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: MaiSwifties ที่ 07-03-2013 17:54:41
 :o8:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 6/3/2013 - Chapter 13 งานนี้มีร้องเพลง]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 07-03-2013 18:05:30
แวะเข้ามาทักทายเล็กน้อยจ้าาา

ตอนใหม่ตอนนี้กำลังแก้ๆบางจุดอยู่ พร้อมกับปั่นอีกสองตอน ยังไงรออีกหน่อยน้าาาา

ส่วนตอนนี้ พอดีพอมีเวลาบ้าง (แล้วทำไมไม่ไปปั่นตอนต่อไปล่ะวะ -*-) ก็เลยลองวาดรูปตัวละครแต่ละตัวเล่นๆนะ

ให้เป็น special gift กับคนอ่านทุกคนนะก๊าาาาาบบบบ



[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 07-03-2013 18:28:30
ค่อยๆรักกันเบาๆ :-[
ปล.รูปสวย o13
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: karmdodcom ที่ 07-03-2013 19:34:52
...ดู glee เหมือนกันเล้ยยย ><
ตอนนี้แอนนี่..น่ารักม๊ากกก ฮ่าๆ
..อยากให้พริกได้ลงร้องเพลงคู่กับแอนนี่ในงานประกวดจังน้าาา
รอต่อค่าาา แล้วอย่าหายไปอีกน้า..ใจหายอ้ะ TT

ปล. ขอบคุณที่ยังเป็นเพลง one thing....ใช้ don't speak มานี่เคืองอ้ะ..T[]T (เคิร์ทกับเบลน เพลงนี้จี๊ดมาค่ะ ฮืออ)
ปลล. นึกไปนึกมา..แอบอยากเห็นแอนนี่ร้องเพลง starship ขึ้นมาเบาๆ ก๊ากกก!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: N_N ที่ 07-03-2013 20:13:56
อ๊ากกก เอาปืนมายิงกันดีกว่า
เอามีดมาแทงกันเลยหม๊ายยยย


ค้างงงง :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 07-03-2013 20:16:03
คู่นี้นี่.... น่ารักดี 555+
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 07-03-2013 22:06:25
ตอนนี้ทำเอายิ้มเเก้มปริมาก น่าร๊ากก :-[
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 07-03-2013 22:42:01
โถ แอนนี่ ถ้าจะน่ารักขนาดนี้ละก็ เป็นภรรเมียพริกไปน่ะดีแล้วววววววว :impress2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 08-03-2013 14:07:50
อ๊าย

อยากอ่านต่อจังเลย

แอนนี่น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 08-03-2013 18:35:48
เห็นรูปตาฟ้าหน้าใส
น่าหยิกแก้มมาก
อยากขโมยกลับบ้าน
กดบวกปล่อยเป็ด
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 08-03-2013 21:53:46
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: oatty ที่ 09-03-2013 00:45:23
อ่านตอนนี้แล้วยิ้มแก้มปริทั้งตอนเลย

แล้วสรุป... สองคนในห้องน้ำใครครับบบบบ!!!!  :z13: :z13: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 7/3/2013 - ความคืบหน้าตอนล่าสุดและ รูปภาพวาดเล่น]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 09-03-2013 19:57:09
ตอนใหม่มาแล้วจ้าาาาา ตอนนี้อาจจะติดเรทไปนิดนึงนะ แต่ตอนนี้มีผู้บรรยายคนใหม่มาทำหน้าที่เฉพาะกิจ 1 ตอนจ้าาาาา เนื้อหาอาจจะเครียดนะ ไปอ่านกันเลยก๊าบบบบ






แฮ่ก แฮ่ก


เสียงหอบหายใจของเราสองคนประสานกัน สลับกับเสียงริมฝีปากของผมที่สัมผัสไปทั่วทุกอณูขุมขนของคนที่ผมรัก ผมใช้แขนที่ใหญ่และแข็งแกร่งโอบตัว ‘เขา’ เอาไว้ภายในอ้อมกอดของผม

นี่คือสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดเวลาเราอยู่ด้วยกันครับ ร่างกายที่ใหญ่หนาของผม กล้ามแขนที่แข็งแรงพอที่จะปกป้องเขาได้ พุงนุ่มๆ ซึ่งผมยอมรับครับว่าผมก็พอจะมีบ้าง และที่สำคัญ

“ไอความอบอุ่นจากพี่ ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะครับ” เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา ขณะเอาหน้าซบลงที่หน้าอกของผม

ผมไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าการยิ้ม และหัวเราะเบาๆ พร้อมกับลูบหัวคนในอ้อมกอดของผม ผมค่อยๆเลื่อนตัวเขาขึ้นมาเพื่อที่จะได้มองดวงตาใสๆคู่นั้นได้สะดวกขึ้น

“รู้อะไรมั้ย” ผมกระซิบบอกขณะที่จมูกของเราชนกัน

“อะไรเหรอ”

“พี่มีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับเราเลยนะ” ผมเลื่อนหน้าไปจูบหน้าผากสุดที่รักหนึ่งฟอดใหญ่ก่อนจะรู้สึกสะกิดในใจเล็กน้อย “...ถึงแม้ว่าสิ่งที่พวกเราทำอยู่ มันอาจจะดูไม่เหมาะสนก็เถอะ”

“แต่เราสองคนก็บริสุทธิ์ใจนะครับ!!...” เจ้าตัวแสบของผมทำแก้มป่องขณะที่มือขยี้เสื้อของผมบริเวณหน้าอกจนหลุดลุ่ย “...หรือว่าพี่ ...คิดจะฟันผมเล่นๆงั้นเหรอ”

“พูดเป็นเล่นน่ะ” ผมจริงจัง เพราะความรู้สึกของผมที่มีต่อน้อง มันเป็นเรื่องจริง “พี่น่ะ รักเรามากรู้มั้ย”

“รักมากเลยเหรอ...”

“อื้ม มากกว่าทุกสิ่งเลยล่ะ” พูดจบ ผมก็เอาริมฝีปากของผมไปประกบกับริมฝีปากชมพูบางของเจ้าตัวแสบของผมอย่างนุ่มละมุนที่สุด เขาเองก็รับจุมพิตของผมไปอย่างเต็มใจ

ผมเปลี่ยนจากริมฝีปากมาเป็นที่ซอกคอ ซึ่งทำให้เขาเกร็งขึ้นมาทันที

“อาห์สสสสสส” เสียงครางในลำคอของน้อง ทำให้อารมณ์ภายในของผมยิ่งปะทุมากขึ้น

ผมเลื่อนมือสองข้างไปลูบตามตัวของน้อง ผิวที่เนียมนุ่มภายใต้ชุดนักศึกษาน่าสัมผัส ในขณะที่น้องเขาเองก็ปลดกระดุมเสื้อผมจนหมด


แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก


เสียงลมหายใจของเราสองคนถี่ขึ้นเรื่อยๆขณะที่น้องพรมจูบบริเวณหน้าอกและท้องของผมจนผมทนเก็บอารมณ์ไว้แทบไม่อยู่แล้ว

“อ่ะห์” น้องร้องขึ้นเบาๆเมื่อผมรวบตัวน้องเค้ามากอดอีกรอบ

“เป็นของพี่อีกครั้งเถอะนะ” ผมพูดเบาๆพร้อมมองหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้า

“ถ้าเป็นพี่แล้ว อีกกี่ครั้งผมก็ยอมครับ”



ก๊อกๆๆ



ก่อนที่เราสองคนจะทำอะไรเกินเลยกว่านี้ ก็มีสียงเคาะกระจกดังขึ้น..... คือ.... ผมลืมบอกไปน่ะครับ ว่าตอนนี้เราสองคน นั่งพลอดรักกันอยู่ที่เบาะหลังรถของผมเอง

“ใครน่ะ” ผมพูดอย่างเสียอารมณ์นิดๆ ขณะที่น้องสุดที่รักของผมซึ่งนอนทับผมอยู่ หันไปมองเจ้าคนที่เคาะรถนั้น

“ไม่รู้อ่ะครับ มันหันหลัง แถมตัวสูงเลยรถด้วย ผมมองไม่ชัด”

“ยังไงก็ แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า” พูดเสร็จ พวกผมสองคนก็รีบจัดแจงติดกระดุมเสื้อ จัดเสื้อผ้าตัวเองให้ดูเป็นระเบียบที่สุด

“เดี๋ยวพี่เปิดออกไปเอง” ผมบอกน้องเค้า เพราะนี่ก็เป็นรถผม หากมีคนอื่นเปิดประตูแทน มันอาจจะดูน่าสงสัยได้ “เรารอในนี้ก่อนนะ”

“ครับ” เจ้าตัวแสบว่าง่าย

ผมเปิดประตูอีกด้านหนึ่ง แล้วจึงหันไปมองหน้าเจ้าคนที่มาเคาะรถผมเมื่อกี้นี้

“บนรถ? เอาจริงเหรอ?” พริกหันมาถามผมด้วยสีหน้าเอือมระอาเล็กน้อย “คราวที่แล้วก็ในห้องน้ำ คราวนี้ในรถเลยเหรอ”

“มันดูชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ?” ผมถาม เพราะผมคิดว่าพวกเราสองคนก็พยายามทำอะไรไม่ให้ประเจิดประเจ้อแล้วนะ

“เอ่ออออ มองในระยะ 10 เมตรยังดูออกเลยว่าทำอะไรกันครับ แหม่” พริกตอบด้วยท่าทางยียวนสไตล์เค้า ซึ่งบางครั้งผมก็อยากจะเบิ๊ดกะโหลกกับท่าทางของเจ้าหมอนี่ซักครั้งนึงจริงๆครับ แต่ก็ทำไม่ได้..... เพราะมันถือไพ่เหนือกว่า

“ข – ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ” พริกพยักหน้าพร้อมเดินเข้ามาใกล้ผม “พูดตรงๆเลยนะครับ ผมเข้าใจว่าอาจารย์ –“

“เรียกว่าพี่โก้ก็ได้” ผมไม่ชอบให้คนเรียกว่าอาจารย์น่ะครับ มันทำให้รู้สึกแก่ทั้งๆที่ผมเพิ่งจะ 28 ปีเอง

“อ่า พี่โก้ครับ....... ไหนๆก็เรียกแบบพี่แล้ว ก็ขอพูดแบบสนิทๆกันเลยและกันเนอะ”

“เอาเลยๆ ตามสบายๆ”

“คือ... ผมก็เข้าใจอะนะ ว่าพี่กับไอ้ต่อน่ะ รักกันมาก รักกันปานจะเอากันทุกที่ตั้งแต่หลังคาบ้านยันสายล่อฟ้า แต่ว่า เลือกที่หน่อยก็ดีนะพี่ แล้วนี่ พี่ก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว อดทนหน่อยดิ่พี่ เอะอะจะแทงๆอย่างเดียว ไม่ไหวแล้วม้างงง”

เอ่ออออ พูดซะผมงงเลยครับว่าใครเป็นอาจารย์ใครเป็นลูกศิษย์

จริงสิ จนป่านนี้แล้ว ผมยังไม่ได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลย ต้องขอโทษจริงๆนะครับ ผมมีชื่อว่า โก้ ครับหรือที่เด็กๆที่นี่เรียกผมว่า อาจารย์อนุชิต ส่วนเด็กหนุ่มหุ่นนายแบบที่อยู่ข้างๆผมนี่ ผมเรียกเค้าว่าเจ้าลิงน้อยครับ ส่วนชื่อจริงๆของเค้าชื่อ ต่อ ครับ เราสองคนเป็นอาจารยผืกับลูกศิษย์ในที่ปรึกษา แต่ว่า..... เราสองคน คบกันมาตั้งแต่ตอนที่ต่ออยู่ปี 1 แล้วครับ








Chapter 14: Plaisir Coupable





“อีกอย่างนึงนะครับพี่ คือ ผมไม่อยากให้เพื่อนผมต้องจบชีวิตการเรียนด้วยเรื่องนี้ และก็ไม่อยากเห็นอาจารย์ที่สอนดีๆคนนึงต้องตกงานเพราะเรื่องพวกนี้เหมือนกัน”

“พี่ขอบใจพริกมากนะที่เตือนพี่” ผมยิ้มขอบใจในความหวังดีของลูกศิษย์ครับ พร้อมกับอธิบายในแง่มุมของผมบ้าง “แต่..... พี่พูดตรงๆว่า นี่เป็นครั้งแรก ครั้งแรกจริงๆที่พี่ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย.... ทุกครั้งที่พี่อยู่กับต่อ พี่ – พี่รู้สึกเหมือนมีชีวิตอีกครั้งนึง”

“พี่ตายแล้วเหรอพี่” .....มันกวนตีนครับ

“พี่ตาย – ถุย!! ไม่ใช่ พี่หมายถึงว่า ตอนพี่อยู่กับต่อ พี่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน...” พริกนิ่งเงียบรับฟัง “...บางทีถ้าพริกเจอคนที่พริกรักมากๆ พริกอาจจะรู้สึกแบบนี้ก็ได้”

“ผม.....” อยู่ดีๆพริกก็มีท่าทางลังเลเล็กน้อย “...โห่! ผมไม่มีหรอกพี่!! จะไปมีที่ไหนกันล่ะ”

“อ้าว ก็แอนนี่ไง” เสียงต่อลอดออกมาจากกระจกประตู

“แอนนี่พ่องงงงง!!! กูไม่ได้ชอบมันเฟ่ย!! กูไม่ได้ชอบผู้ชายนะ!!”

“เอออออ มึงไม่ได้ชอบ...” เจ้าตัวแสบของผมยิ้มอย่างยียวน “แต่มึงรักใช่มะ”

“ใช่ กูรัก ถุย!!! รักเหี้ยอะไร ไม่รักโว้ย!!!! เดี๊ยะเหอะไอ้ต่อ มึงกวนตีนกูมากๆ เดี๋ยวกูจะป่าวประกาศให้หมด –“

“โอ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ ใจเย็นๆ” ผมรีบเข้าไปปิดปากเจ้าพริกก่อนที่งานจะเข้าพวกผมสองคน “เรื่องนั้นน่ะ อย่าถือสาต่อเลยนะ เราก็น่าจะรู้นี่ว่ามันก้เป็นแบบนี้แหละ”

“เป็นแบบไหนอ่ะพี่โก้!” ชะอุ้ย! งานงอกแล้ว เจ้าต่อทำหน้างอนตุ๊บป่องซะแล้ว

“อ – เอ่อออ น่ารักไง น่ารักแบบนี้เลย” ผมจิ้มแก้มต่อเล่นๆ

“โฮยยยยย กูขอกระโถนอ้วกหน่อย” ไอ้เจ้าพริกบ่น

“ว่าแต่ ที่มาเคาะเรียกพี่ที่รถนี่ มีอะไรรึเปล่าพริก หรือแค่มาเตือนเรื่องพี่กับต่อเฉยๆ”

“ก็ พอดีมีอะไรอยากจะถามพี่โก้หน่อยน่ะ”

“อะไรเหรอ”

“ผมได้ข่าวมาว่า พี่เป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินการประกวดร้องเพลงประจำปีนี้เหรอครับ”

“อื้ม ใช่ เค้าเชิญพี่ในฐานะศิษย์เก่าแล้วก็อดีตสมาชิกชมรมนักร้องประสานเสียงน่ะ”

“พี่พอจะรู้มั้ยครับว่า รอบแรกที่ต้องร้องแข่งใครกันต้องแข่งกับใครบ้าง”

“ไม่รู้หรอก เพราะเค้าจะสุ่มเลือกก่อนเริ่มแข่งเลย... ทำไมเหรอ? พริกสมัครแข่งงั้นเหรอ?”

“ครับ อันที่จริงตอนแรกก็กะว่าจะไม่สมัครหรอกครับ” พริกพูดยิ้มๆ “แต่ในเมื่อมีคนที่เชื่อในความสามารถผม เค้าอยากให้ผมลงสมัครดูน่ะครับ...”

“หือ?”

“แอนนี่แหงมๆเบยยยยย” ต่อแซว


ชิ้งง!!!


รังสีอำมหิตแผ่ซ่านรอบๆตัวพริก จนเจ้าต่อกระโจมมาหลบหลังผมทันที

“อ – เอาล่ะๆ เอาเป็นว่า ใครจะแข่งกับพริกน่ะพี่ยังตอบไม่ได้นะ แต่ว่า พี่ก็พอจะช่วยเราได้บ้าง”

“ยังไงเหรอครับ”

“พี่มีเนื้อเพลงของเพลงในการแข่งทั้งหมด รวมถึงเพลงแมชอัพด้วย เดี๋ยวพี่จะปริ้นให้ แล้วมาเอาเนื้อเพลงหลังเลิกเรียน นี่ก็... ถือเป็นการขอบคุณที่ไม่ได้บอกเรื่องของพี่กับต่อให้ใครรู้ด้วยอ่ะนะ”

“โอเคครับ งั้นเดี๋ยวหลังเลิกเรียนผมจะมาเอาเนื้อเพลงแล้วกันครับ” พริกหันไปมองข้ามไหล่ผม “ไอ้ต่อ ไปเรียนได้แล้วมึง ทำเป็นออเซาะแฟนอยู่ได้ หมั่นไส้สัด”

“เออๆๆ รู้แล้ว” ไอ้ต่อเดินไปหาพริก แล้วหันมาลาผม “ไปก่อนนะครับพี่โก้ เดี๋ยวเย็นนี้เจอกันนะ”

“อื้ม ตั้งใจเรียนนะต่อ” ผมโบกมือลาทั้งสองคนก่อนจะไปหยิบกระเป๋าของผมที่อยู่ในรถ แล้วจึงขึ้นไปที่ห้องพักของผม

**********************************************************************************

ก๊อกๆๆ

“เชิญครับ” ผมตอบเสียงเคาะที่หน้าประตูในขณะที่สายตายังคงง่วนอยู่กับเอกสารการสอนมากมายที่ผมเตรียมไว้

“หวัดดีครับพี่” ต่อกับพริกทักทายผมขณะเข้ามา

“อ้าว นี่เลิกเรียนกันแล้วเหรอ”

“นี่สี่โมงแล้วนะพี่” เจ้าพริกชี้นาฬิกาให้ผมดู

“เวลาผ่านไปเร็วชะมัดเลยแหะ พี่ยังตรวจชีทสไลด์สำหรับคาบต่อไปไม่เสร็จเลย”

”อ่า... แล้วนี่พี่ปริ้นท์เนื้อเพลงทั้งหมดให้ผมรึยังครับ”

“อ๋อ ปริ้นแล้วๆ” ผมเปิดลิ้นชักของผม และหยิบกระดาษปึ๊งหนายื่นให้พริก “อ่ะ อันนี้เป็นเนื้อเพลงทั้งหมด กว่าจะเริ่มแข่งก็อีกสามสัปดาห์ น่าจะพอมีเวลาฝึกร้องไปนะ”

“ขอบคุณมากครับ” พริกไหว้ขอบคุณผมแล้ว จึงลุกออกไป “ผมไปก่อนนะพี่... ไม่อยากอยู่เป็น กขค. คิคิ”

“เดี๊ยะเหอะ ไอ้เจ้านี่” ผมหัวเราะในลำคอขณะที่เจ้าพริกปิดประตูออกจากห้องผมไป

“อีกเยอะมั้ยพี่โก้ ให้ต่อช่วยมั้ย” ต่อถามขึ้นเมือ่เห็นผมยังคงยุ่งอยู่กับชีท

“ไม่เป็นไรหรอกต่อ เดี๋ยวที่เหลือพี่เอากลับไปทำที่บ้านก็ได้” ผมยิ้มตอบเจ้าตัวแสบของผม และเก็บชีททั้งหมดลงกระเป๋าของผม

“จะดีเหรอ เดี๋ยวไม่เสร็จนะ”

“ดีสิ เพราะตอนนี้มันเป็นเวลาของต่อ ไม่ใช่เวลาของงานนะ” ผมยื่นหน้าไปจุ๊บหน้าผากน้องหนึ่งที ทำให้เจ้าตัวหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา

“งานไม่เสร็จขึ้นมา อย่ามาโทษต่อละกัน” ต่ออมยิ้มแล้วสะบัดหน้าหนีอย่างเคอะเขิน

“แล้วพี่เคยโทษเราด้วยเหรอครับ” ผมทำหน้ากสนใส่เจ้าต่อ พร้อมลูบผมเล่นๆ “แล้ว วันนี้จะกินอะไรดีล่ะ”

“อืมมม ร้ายเชอร์แตมดีมั้ยอ่ะ”

“ถ้าต่ออยากกินร้านนั้น พี่ก็โอเคครับ”

“งั้นก็ร้านเชอร์แตมแล้วกันครับพี่โก้”

“โอเคๆ แต่ก่อนอื่น...” ผมเดินไปที่ตู้เอกสารซึ่งผมใส่รหัสไว้ ผมไขรหัสแล้วนำถุงใบใหญ่ที่อยู่ข้างในออกมาวางที่โต๊ะ “...อย่าลืมพรางตัวก่อนนะ”

ใช่แล้วครับ เวลาผมกับต่อไปไหนด้วยกัน เราก็ต้องทำอย่างนี้ทุกครั้ง ในถุงใบใหญ่มีอุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้ในการพรางตัว วิกผม แว่นตา แว่นกันแดด หมวก เสื้อผ้า และอื่นๆอีกมากมาย พวกผมเลือกอุปกรณ์ที่จะใส่เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตเสร็จแล้ว ก็เปลี่ยนชุด และรีบออกจากมหา’ลัยไปที่ร้านเชอร์แตมทันที

ร้านเชอร์แตมเป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก ข้างในมีการตกแต่งสไตล์ยุโรป ดูน่ารักและโรแมนติก ถึงแม้ว่าโต๊ะที่นี่จะติดกันไปหน่อยก็ตาม

“พี่โก้” ต่อเรียกผมขณะที่เรากำลังกินสปาเก็ตตี้กันอยู่

“หืม”

“พี่โก้เคยเบื่อมั้ยที่เราต้องคอยปลอมตัวอย่างงี้อ่ะ”

“ไม่นะ... ต่อเบื่อเหรอ”

“เปล่าครับ” ต่อยิ้มและสั่นหัว “ตรงกันข้ามนะ ต่อว่าสนุกดีออก จะมีแฟนคู่ไหนที่เหมือนกับเราบ้างเนอะ”

“นั่นสินะ พี่ก็ว่าสนุกออก รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลย”

“พี่โก้ พูดเหมือนคนแก่อยู่เรื่อยเลย 5555555”

“พี่ก็ไม่ใช่อายุน้อยๆแล้วนา”

“Yep. You’re 28” เสียงๆหนึ่งดังแทรกมาจากโต๊ะข้างหลังของผม

“????” พวกผมสองคนหันไปมองด้วยความงุนงง ขณะที่เด็กหนุ่มผมน้ำตาลบลอนด์ลุกขึ้น ถอดแว่นดำที่ใส่อยู่ แล้วหันมาหาพวกผม พร้อมกันนั้น เจ้าพริกก็เดินมาสมทบด้วย

“Hi! P’ Tor and Professor Koh” แอนนี่ทักทายด้วยหน้าตานิ่งๆ

“อ้าว แอ-“

“Hold on” ผมรีบพูดขัดเจ้าต่อ และพยายามทำเนียนต่อไป “What are you talking about? Who were you calling?”

“Oh please” แอนนี่ทำหน้าเอือม และมองผมทั้งสองสลับกัน “Did you guys notice the colors of your wigs?”

“ไอ้ต่อ วิกผมมึงง่ะ เขียวแป๊ดขนาดนั้น กูเดินกลับไปมหา’ลัยแล้วหันกลับมายังเห็นสีวิกมึงเลย” พริกพูด

“And Professor Koh -”

“Urr. P’ Koh is okay.”

“Nope. I like to call you this way. Anyway, Your wig is even worst. It’s like…. A combination between Lady Gaga’s hair and a bald man”

ผมถอดวิกของผมออกมาดูแล้วก็พบว่า วิกของผมมันมีอะไรกลมๆอยู่ตรงกลางกระหม่อมจนเหมือนคนหัวล้านที่มีผมสีน้ำทะเลด้วย

“ให้ตายซี้ ผมว่าผมบอกแล้วนะ ว่าจะทำอะไรก็ขอให้เนียนหน่อยยยย” พริกบ่น

“And Professor Koh, you are professor. Don’t you think that what you did is kind of childish?” แอนนี่พูดซะจนผมสำนึก “You know that I’m completely disgusted both of you for what you did. I have no problem that you’re in love with the same gender but I don’t like this student-teacher romance. It’s… It’s just very wrong and you seem to think that it’s fun. Be serious!! I disagree that you should be together but if you want your relationship to last long and don’t ruin your lives, be more serious about your actions.”

“เอ่ออออ... จะให้กูแปลมั้ย” พริกอาสา

“ไม่เป็นไรพริก” ผมพูดด้วยสีหน้าตึงเครียด “พี่เข้าใจที่แอนนี่พูดทุกคำแล้ว...”

“ว่าแต่... พวกมึงมาทำอะไรกันที่นี่” ต่อถามพริกและแอนนี่ด้วยท่าทางจ๋อยลงจากเมื่อสักครู่

“กูกับแอนนี่ลงแข่งร้องเพลงกันทั้งคู่ กูซีร็อกชีทเพลงมาให้แอนนี่น่ะ”

“แหมมมมม จะมาเดทกันก็ –“

“ต่อ” ผมรีบขัดก่อนที่ต่อจะพูดอะไรมากกว่า ด้วยความที่บรรยากาศมันยังไม่อยู่ในอารมณ์ที่ควรจะเล่น ซึ่งต่อก็เงียบแต่โดยดี

“We’re leaving. Thank you for your music sheet and enjoy your dinner.” พูดจบ แอนนี่กับพริกก็เดินออกจากร้านไป

“เฮ้อออออ” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ และนิ่งเงียบไป ต่อเองก็นิ่งเงียบไปเหมือนกัน บรรยากาศตอนนี้มีแต่ความเงียบเข้าครอบคลุม ผมทบทวนกับสิ่งที่แอนนี่พูด ซึ่งทุกอย่างก็ถูกอย่างที่เจ้าตัวได้บอกไป ถ้าคนอื่นๆรู้ว่าผมมีความสัมพันธ์เชิงชู้รักกับลูกศิษย์นอกจากเค้าจะเค้าจะรับไม่ได้แล้ว ผมสองคนคงโดนตราหน้าไม่จนวันตาย นี่ยังไม่รวมคนที่รักเกียจความสัมพันธ์ของชายรักชายอีกนะ

“พี่โก้... สปาเก็ตตี้เย็นหมดแล้ว... รีบกินกันดีกว่านะ”

“ต่อ” ผมหันไปมองหน้าคนที่ผมรักด้วยความขนขื่น “.....พี่ – พี่รักต่อนะ”

“ผมก็รักพี่ครับ...” ต่อเองก็มีสีหน้าเศร้า เจ้าตัวคงจะรู้สึกได้ว่าระหว่างเราสองคนมันจะเกิดอะไรขึ้น

“พี่รักต่อ แต่... พี่ไม่อยากให้ต่อต้องเสี่ยงอันตราย”

“อันตราย... จากอะไรเหรอครับ”

“จากทุกคน... ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูก จากพี่เองนั่นแหละ พี่จะเป็นคนทำให้ต่อหมดอนาคต”

“เหรอครับ?... แต่สำหรับผม ผมกับเห็นอนาคตของเราชัดเจนมากเลยนะ” ต่อพูดพลางหันไปมองถนนด้านนอกอย่างเลื่อนลอย “ผมกับพี่... เราสองคนอาจจะมีบ้านหรือคอนโดเล็กๆ มีหมาตัวนึง ผมอาจจะทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ซักที่ ในขณะที่พี่โก้เองก็เป็นอาจารย์ที่นี่ต่อไป เราจะไปเที่ยวกันทุกๆวันหยุด หาที่ที่จะมีแค่เราสองคนเท่านั้น และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข”

“ต่อ...”

“นั่นแหละครับ อนาคตที่ผมเห็น”

“ต่อลองคิดถึงความเป็นจริงสิ ทุกสิ่งทุกอย่างที่แอนนี่กับพริกพูดน่ะ ระหว่างเรา มันจะมีแต่ปัญหาทั้งนั้น”

“เราก็ อยู่แบบนี้ต่อไป ไม่ได้เหรอครับ”

“แต่ความจริงมันก็คือความจริงนะต่อ ซักวันนึงทุกคนก็จะรู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน”

“ครับ ความจริงมันก็คือความจริง... เหมือนความจริงที่ว่า เราสองคนรักกันไงครับ”

“...” ผมเถียงไม่ออกครับ เพราะมันเป็นเรื่องจริง ผมรักต่อ ต่อรักผม “ใช่ ต่อ เรารักกัน มันไม่ผิดหรอกที่เราจะรักกัน... แต่มันผิดที่ เราน่าจะรู้ว่า เรารักกันได้ แต่เราไม่ควรจะคบกันในฐานะนี้ต่างหาก”

“...”

“ต่อ เรารักกันอยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกผิดนะ ต่อไม่รู้สึกผิดเหรอที่มาครบกับอาจารย์ของตัวเอง”

“รู้สึกผิดครับ...”

“แล้วต่อไม่รู้สึกผิดเหรอที่มาคบกับผู้ชายด้วยกัน พ่อแม่ต่อรับได้เหรอ”

“...รับไม่ได้ครับ”

“พี่ก็รู้สึกผิดเหมือนกัน... พี่ไม่อยากจะทำร้ายต่อไปมากกว่านี้อีกแล้ว พี่ไม่อยากให้ต่อโดนตราหน้าว่าคั่วกับอาจารย์ ไม่อยากเห็นต่อโดนไล่ออก ไม่มีการศึกษา พี่ไม่อย-”

“พี่โก้ครับ” ต่อตัดบทด้วยเสียงที่สั่นเครือ และเงยหน้ามองผม น้ำตาปริ่ม จนทำให้ผมรู้สึกเหมือนหัวใจแทบจะหยุดเต้น “แต่ตอนนี้ พี่โก้ก็ทำร้ายผมแล้วนะครับ”

“ต่อ พี่ขอโทษ แต่เรื่องนี้ –“

“ผมเข้าใจแล้วครับพี่ เรื่องของเรา ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ ผมเข้าใจทุกอย่าง เข้าใจมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ผมก็หลอกตัวเอง เพราะผมมีความสุขมากทุกครั้งที่อยู่กับพี่โก้ ทุกครั้งที่พี่กอดผม ทุกครั้งที่พี่จูบผม ทุกครั้งที่พี่จับมือผมไว้ แต่ก็อย่างที่พี่โก้บอก ในใจลึกๆ ผมก็รู้สึกผิดมาตลอด..... และที่ผมบอกว่าพี่ทำร้ายผม ไม่ใช่เพราะว่าพี่บอกว่าทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ แต่พี่ทำร้ายผมเพราะว่า... เพราะว่าพี่ทำให้ผมตื่นจากการหลอกตัวเอง”

“ขอโทษนะ...”

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่โก้... ในเมื่อพี่โก้คิดว่าระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ .....เราเลิกกันเถอะครับ” ต่อหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น ส่วนผมเองตอนนี้รู้สึกโหวงๆไปหมดแล้ว “ผมรักพี่นะครับ”

“พี่ก็รักต่อนะ” นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะตอบกับคนที่ผมรักไป แต่ตอนนี้ผมไม่สามารถอ้าปากพูดมันออกมาได้ ต่อเดินออกไปแล้ว พร้อมกับน้ำตา และหัวใจของผม ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนคนตาย รู้สึกเคว้งคว้าง ไม่รู้จะทำยังไงต่อแล้วครับ

“เอ่ออออ.... คุณลูกค้าคะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับคุณลูกค้า” เสียงของพนักงานถามผมอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นผมร้องไห้ไม่หยุด แต่ ญ ตอนนั้น ผมก็ไม่สนใจแล้วครับว่าใครจะมองผมยังไง



ยังไงซะ หัวใจของผมมันก็โดนทำลายไปแล้ว









To be continued

ตอนต่อไป การประกวดร้องเพลงรอบแรกเริ่มต้นขึ้น!! และพบกับคู่แข่งของพริกและแอนนี่ที่จะทำให้ทั้งสองคนช็อค และโจทย์เพลงที่ได้ซึ่งทำให้ทั้งคู่ถึงกับตื่นตะลึง!!! พร้อมเนื้อหาและเพลงที่จัดเต็ม!!

ปล. Plaisir Coupable เป็นภาษาฝรั่งเศษ แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Guilty Pleasure ครับผม

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-03-2013 20:24:26
เศร้า :sad4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: yongsulewa ที่ 09-03-2013 21:25:07
อ่านรวดเดียววว รีบๆมาต่อน้าาา :o12:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: kuronotsuki ที่ 09-03-2013 21:43:24
เศร้าแต่ก็จริงอ่ะ ชาย-ชายไม่เท่าไหร่แต่อาจารย์กับลูกศิษย์นี่เป็นประเด็นใหญ่อ่ะ ถ้าอยู่กันคนละมหาลัยก็ยังโอนะ

เฮ้อ..รอติดตามคู่นายตี๋พริกกับน้องฝรั่งอยู่นะคะ  :call:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 09-03-2013 22:03:01
ดราม่ามาไงวะเนี่ย
ไม่คิดว่าคู่ในห้องน้ำจะเป็น โก้กับต่อ กรี้ดดดดดด
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 09-03-2013 22:11:13
คู่นี้เศร้าฝุดๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 09-03-2013 22:23:49
พลิกล็อค!! พี่โก้กะต่อเหรอเนี่ย 0-0

เศร้าอ่ะตอนนี้  :o12:

แต่ในความเศร้าก้ย้งมีความฮา ใส่เข้าไปได้ไง วิกสีเขียวกะสีน้ำทะเล -"-

แล้วมาต่อเร็วๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: powderje ที่ 09-03-2013 23:01:01
เศ้ราอะ ฮื่อออ!~~
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: MonaLis ที่ 10-03-2013 01:06:12
จริงๆ แอนนี่ก็ไม่ควรไปยุ่งกะเรื่องเค้าปะ
55555555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 10-03-2013 01:12:27
เศร้าอะ T_T
รีบๆเรียนให้จบละมาคบกันก็ได้นิ...
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 10-03-2013 01:43:27
สองคนนี้พัฒนาภาษาขึ้นเยอะจากตอนแรกเลยนะ ภาษาไทยของแอนนี่ เริ่มอ่านแล้วพอรู้เรื่องบ้างแล้ว ส่วนพริกเนี้ยมีไทยคำอังกฤษบ้างเริ่มตอบโต้ได้ ที่สำคัญ ไม่ค่อยจับประเด็นผิด แล้วก็บ่นไม่รู้เรื่องแล้ว แม้ว่าแอนนี่จะพ้นภาษายาวเป็นพรืด 555555

นอกจากด้านภาษาพูดแล้ว ภาษากายก็ไม่ธรรมดานะคะ มีแตะเนื้อต้องตัวกันเกินงาม 555 แต่เบนชอบ มว๊ากกกกก

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 10-03-2013 03:28:49
คุณพี่โก้ ก็ย้ายมหาลัยสิคะ
อยู่มหาลัยเดียวกันแบบนี้  มันอันตรายเกินไปอ่ะ  คนละมหาลัยก็ว่าไปอย่าง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: oatty ที่ 10-03-2013 13:47:32
หักมุมมากอ่ะ ไม่คิดว่าเป็นต่อกับพี่โก้  :a5: o22

แต่เรื่องนี้มันเศร้าแต่จริงนะ อาจารย์กับลูกศิษย์ เราว่าต่อให้ย้ายมหาลัยมันก็ยังแปลกๆอยู่ดี แถมถ้าจะลาออกไปหางาน เป็นเรื่องจริงกว่าจะหาได้นะ สมัยนี้ เห้อออออ  o6

แต่แอนนี่ก็ร้ายจังเลยแหะ พูดตรงเกิ๊น  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 9/3/2013 - Chapter 14]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 11-03-2013 00:41:51
ตอนใหม่มาแล้วจ้า หลังจากตอนที่แล้วจะเครียดกันเกินไป ตอนนี้ขอกลับมาฮาเหมือนเดิมนะค้าบบบ










“หล่า ลา ลา ลา ล้า ลา ลา ลา หล่า” เสียงไอ้ฝรั่งครับ มันร้องอย่างงี้มาประมาณครึ่งชั่วโมงได้และ

“มึงหอนทำเหี้ยไรเนี่ยะ ครึ่งชั่วโมงและ กูเห็นมึง หล่า ล้า หล่า ล้า อยู่เนี่ยะ”

“It’s a voice training!”

“โอ๊ะ! หันมาเหวี่ยงกูอีก มึงดูดิ๊ ชาวบ้านชาวช่องเค้ามองกันหมดแล้ว มีใครเค้าร้องแบบมึงมั่งง่ะ” ผมพูดแล้วชี้ไปรอบๆหอประชุม ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยผู้เข้าแข่งขันและกองเชียร์

“อย่าเพิ่งกัดกันสิ ไอ้สองคนนี้นิ่ จะแข่งแล้ว โฟกัสไปที่เพลงของแต่ละคนสิ” ไอ้ทรายหันมาปรามพวกผม

“ใช่ๆ เรื่องพวกนี้มันต้องทุ่มเทนะ” ไอ้แจ๊สสนับสนุน

“แหม พอออกมาจากปากของคนที่ไม่เคยทุ่มเทให้กับอะไรเลย แม้แต่ความรักเนี่ยะ มันฟังดูแปลกๆนะครับพี่แจ๊ส” มิวสิกซึ่งนั่งอยู่ข้างๆไอ้ฝรั่ง พูดด้วยเสียงอันเย็นชา แล้วจึงหยิบเฮดโฟนขึ้นมาฟังเพลง เสมือนตัดขาดจากโลกภายนอก

“เฮ้ยยยย มิว อะไรของมึงวะ เห็นเจอกับพี่แจ๊สทีไร กัดเค้าตลอดเลยนะมึง” เสียงต้นปรามขึ้น

“น่าๆ ไม่เป็นไรหรอก” แจ๊สยิ้ม “มิวเค้าคงแซวพี่เล่นๆน่ะ อย่าไปคิดอะไรมากเลย”

“ก็ดูมันดิ่พี่ แล้วนี่ยังทำเมินกู นั่งฟังเพลงอีกนะมึง”

“เดี๋ยวกูมานะ” ไอ้ต่อที่นั่งนิ่งไปนานพูดขึ้น “ไปล้างหน้าซะหน่อย”

“อ่ะ อืม” ผมตอบรับขณะที่มองมันเดินเศร้าๆจากที่นั่งไป

“เฮ้ย ไอ้ต่อเป็นอะไรวะ” ไอ้ทรายหันมากระซิบถามพวกผม

“ปวดขี้มั่งพี่ หน้าให้นะ” ไอ้เจ้าต้นตอบแล้วฉีกยิ้มกว้าง

“ห่า นั่นพี่มึงนะ” ไอ้แจ๊สพูดปราม

“โห่ พี่แจ๊ส ก็ดูหน้าพี่ต่อดิ่ หน้ามันเหมือนปวดขี้จริงๆนะ” ก็ใช่อยู่หรอก แต่กูว่าไม่น่าใช่เรื่องปวดขี้ว่ะต้น เอาจริงๆผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าไอ้ต่อมันเป็นอะไร เพราะตั้งแต่วันที่ไอ้ฝรั่งมันไป bitch ใส่ไอ้ต่อกับพี่โก้ มันก็ดูเงียบๆนะ ผมเองก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายกับไอ้คู่นี้มากแล้ว เพราะสองคนนี้ก็ท่าทางจะไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อแล้ว ขนาดผมเองยังไม่เคยเห็นสองคนนี้ไปนึงส่องซั่มกันที่ไหนให้อุจาดตาเลย... บางทีมันอาจจะอึดอัดที่ไอ้แอนนี่มันไปพูดก็ได้มั้งครับ

“เน่! เพราะมึงง่ะ!” ผมหันไปกระซิบกับไอ้ฝรั่ง

“What?”

“มึงง่ะ ไปพูดแรงๆใส่ไอ้ต่อกับพี่โก้ที่เชอร์แตม แม่งเลยเครียดเลย!”

“It’s not my fault! I just tell the truth!”

“แล้วมึงพูดรักษาน้ำใจสองคนนั้นหน่อยไม่ได้รึไง! พูดอย่างงั้นมึงไปเป็นแฟนสองคนนั้นเลยดีกว่า!”

“กูว์รักซาน้ำจายแล่ว!!”

“รักษาโพ่งง ดูไอ้ต่อมันทำหน้าเครียดแล้วเห็นมั้ย!!”

“เอ้าๆๆๆๆ อย่าเพิ่งกัดกันครับๆ คนเค้ามองกันใหญ่แล้ว” ไอ้เจ้าต้นเตือนสติผมพร้อมชี้ไปบริเวณที่นั่งรอบๆให้เห็นว่าทุกคนมองพวกเราที่ทำท่าขู่แฮ่ๆใส่กัน

ตอนนี้พวกเราอยู่ในงานการประกวดร้องเพลงที่ทางมหา’ลัยจัดขึ้นในรอบแรก และผมก็มั่นใจอย่างเต็มที่ว่า ผมกับไอ้ฝรั่งต้องผ่านเข้ารอบแน่นอนครับ เพราะพวกผมต่างฝึกร้องเพลงจากในชีทเพลงที่พี่โก้ให้มาเป็นอย่างดี








Chapter 15: โด๊ เร มี โด๊ เร มี ซ่อล หล่า







“Annie?” เสียงเก๊กหล่อดังขึ้นจากด้านหลังพวกผม พอผมหันไปเท่านั้นแหละครับ แม่งเอ๊ยยยยยย อยากจะกระโดดเข้าไปกัดไอ้หมอนี่จริงๆ ชื่ออะไรนะ ชั่ว?

“P’ Chai! What are you doing here!” เอออ! ไอ้ชาย ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกไม่ชอบหน้ามันเหลือเกิน แล้วผมก็ไม่อยากให้ไอ้ฝรั่งไปสนิทสนมกับมันได้ ให้ตายสิ!

“มาขอส่วนบุญม้าง” ผมตอบ ซึ่งทั้งไอ้แอนนี่และไอ้ชั่วก็หันมามองผมเป็นทางเดียว

“อ – เอ่ออออ ขอโทษนะฮะ พอดีว่า ไอ้เชี่ยนี่” ไอ้ทรายชี้มาทางผม “กับน้องแอนนี่เพิ่งทะเลาะกัน มันก็เลยเหวี่ยงๆน่ะฮะ”

“อ่อออ ไม่เป็นไรครับๆ” ไอ้ชั่วยิ้มแล้วหันไปคุยกับแอนนี่ “So, these are your friends, too?”

“Yep. They’re in the same year as you. This is Prick…. Or you can call him ค่วย”

“Kพ่องงงงงงง กูชื่อพริกเฟ้ยยยยยยย”

“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ พริก” แม่งหันมาทำหน้าเข้มใส่ผมอีก อย่างจะเตะก้านคอจริงๆพับผ่า

“ยินดีที่ได้รู้จัก”

“And That’s P’Jazz and P’Sai. Oh! And that’s P’Tor” มันชี้ไปที่ไอ้ต่อ ซึ่งเพิ่งเข้ามานั่งด้วยหน้าตาปวดขี้เหมือนเดิม “He’s Ton’s brother.”

“สวัสดีครับ ผมชื่อชายครับ เป็นรุ่นพี่ของแอนนี่ ต้น มิว ยินดีที่รู้จักนะครับ”

“ว้าววววว” ไอ้ทรายร้องเพื่ออออ

“เฮ้ย พริก” ไอ้แจ๊สสะกิดแล้วดึงผมไปกระซิบ “กูว่า มึงเจอคู่แข่งโหดๆและว่ะ”

“อะไรวะ”

“ก็ไอ้ชายเนี่ยะ ท่าทางแม่ง เพอร์เฟ็คแมนโคตรๆ ถ้าเค้าจีบแอนนี่นะมึง มึงอาจจะแห้วก็ไอ้นะเว่ย”



โป๊ก!!



“โอ๊ย! มึงเขกกะโหลกกูทำเหี้ยไรวะ” ไอ้แจ๊สเอามือไปลูบหัวตัวเอง

“เชี่ยนี่! ยังไงแอนนี่เค้าก็เลือก – กูหมายถึง.... กูไม่ได้จีบแอนนี่มัน!!”

“What are you guys whispering about?”

“อะ – เอ่อออออ นอตติงๆๆๆๆ” แล้วผมจะสะดุ้งทำไมวะเนี่ยะ!

“Suspicious” ไอ้ฝรั่งทำน่าพินิจพิเคราะก่อนจะหันไปคุยกะไอ้ชั่วต่อ “Anyway, you haven’t answered me what you’re doing here.”

“Oh! I’m joining the contest, too!” หืออออออ ถ้าฟังไม่ผิด รู้สึกมันจะเข้าร่วมร้องแข่งด้วยอ่ะนะ อืมมมมม..... หะ!!!??

“Really!? That’s great! I mean we’re joining the contest, too.”

“Really!?” ไอ้ชั่วท่าทางตื่นเต้น “นี่แข่งกันหมดทุกคนเลยเหรอครับ”

“อ๋อ ไม่หรอกครับ เฉพาะ แอนนี่ พริก แล้วก็มิวน่ะครับ” ไอ้แจ๊สตอบ

“งั้นเหรอครับ ยังไงก็ขอให้โชคดีนะครับ..... คุณพริก” อื้อหืออออ มึงอวยพรกู แต่หน้ามึงนี่ดูออกแนวแช่งยังไงพิกลนะครับ แหม่

“อืม โชคดี”

“And both of you, too! Annie and Mu!”

“You, too.”

“ขอบคุณครับพี่”




อีดอกกกกกกกกกก มีคนโทรมา มารับโทรศัพท์หน่อยสิ เรเร้วววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!




เห้ย!! ใครแกล้งเปลี่ยนเสียงริงโทนผมวะเนี่ยะ ผมหันไปมองควับก็เห็นไอ้ทราย กับไอ้แจ๊สหัวเราะเยาะกันใหญ่ (เอ่ออออ ส่วนไอ้ต่อยังปวดขี้อยู่)

“เอ่อออ รับโทรศัพท์ก่อนดีกว่ามั้ยครับ พริก” ไอ้ชั่วทำมารู้ดี

“รู้แล้วๆ หยิบอยู่ๆ ฮัลโหล.... อ่อ พี่โก้เหรอครับ” แว๊บนึงที่ผมพูดชื่อพี่โก้ ไอ้ต่อก็สะดุ้งแล้วหันมามองผมทันที ผมปัดมือเบาๆ เป็นเชิงส่งซิกว่า ไม่ได้เกี่ยวกะเรื่องมึง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มึงสองคนคงดราม่ากันอยู่ “หะ!!! อะไรนะพี่ ชิบหายแล้วสิ!....... ตายๆๆๆ แล้วผมสองคนก็ไม่ได้เช็คอีเมล์กันเลยด้วย...... โอ้ยยยยย แย่แล้วๆๆๆ ครับๆ หวัดดีครับ”

“What’s going on?”

“พี่โก้โทรมาบอกว่า กรรมการเค้าเปลี่ยนกฎให้ทุกคู่ต้องร้องเพลงแมชอัพหนึ่งเพลง เพลงธรรมดาหนึ่งเพลง แล้วเพลงแมชอัพ จะสุ่มด้วยว่า ใครต้องร้องท่อนของเพลงไหน”

“What the fuck?!”

“เค้าส่งอีเมล์มาบอกตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนแล้วนะครับ” ไอ้ชั่วนี่เสือกอีกและ

“ก็ไม่ได้ดูอ่ะสิ! มัวแต่นั่งซ้อมร้องกันอยู่เนี่ยะ”

“ผมก็นึกว่ารู้กันแล้ว เลยยไม่ได้เตือนอีกที” ไอ้เจ้ามิวพูดหน้าเรียบๆ

“What should we do!!!??” ไอ้แอนนี่นอยใหญ่แล้วครับ

“Calm down, calm down.” ไอ้ชั่วเอามือแตะบ่าแอนนี่ มึงจะแอบแต๊ะอั๋งก็บอกมาเหอะสาดดดดด!!! “Let me help you”

“How?”

“คือ” เจ้าชั่วมองพวกเราทุกคน “พอดีผมมีเพื่อนเป็นสต๊าฟงานนี้ แล้วเค้าพอจะมีเนื้อเพลงแมชอัพอยู่ ผมก็เลยได้เนื้อเพลงมาน่ะครับ”

“Wowwww!! P’ Chai!!! You’re my hero!!” หึ! ดีใจใหญ่นะไอ้ฝรั่ง

“No problem! Here, just read this” ไอ้ชายยื่นเนื้อเพลงให้ไอ้ฝรั่งแล้วหันมาทำหน้าขอโทษกับผม “เอ่ออออ คุณพริก พอดีผมมีชีทแค่ชุดเดียว ยังไงคงต้องรอแอนนี่ดูเสร็จก่อนนะครับ”

“เออๆ ไม่เป็นไร”....แต่จริงๆเป็นโว้ยย

“เมิงดูกะกูว์กอด้ายนา”

“เมิงดูให้เสร็จก่อนไปน่ะแหละ เดี๋ยวกูค่อยดู” แม่งเอ๊ย อารมณ์เสียครับ

แล้วหลังจากนั้น ไอ้ชายชั่วกับแอนนี่ก็นั่งช่วยกันดูเนื้อเพลง ร้องอย่างงู้น แสดงท่าอย่างนี้ เหอะ! ติวกันดีจังนะพวกมึง! ไอ้ชาย ไอ้ไข่ดัน!

**********************************************************************************

”อิหยา อิหยา อ๊าห์”

”เห็นหมีหนูไหม!!”




และแล้วการแสดงเพลงแมชอัพระหว่าง ‘คันหู’ กับ ‘เห็นหมีหนูไหม’ ก็จบลงท่ามกลางเสียงปรบมือที่.... เอ่ออออ แทบไม่มี คนส่วนใหญ่รีบวิ่งออกไปอ้วกกันเรียบร้อยครับ เพราะไอ้คนที่ร้องเห็นหมีหนูไหมก็หุ่นล่ำๆ แถมเอาพร็อพเป็นฮูล่าฮูปมาเต้นด้วย ส่วนไอ้คนที่ร้องคันหู ก็เป็นผู้ชายอ้วนๆคนนึง ที่ทำท่าเกาหูตลอดมั้งเพลง

“เอาล่ะครับ สำหรับคู่ต่อไป” พิธีกรผายมือไปที่หน้าจอซึ่งจะแสดงชื่อและหน้าตาของผู้เข้าแข่งขันคู่ต่อไป



ปิ๊ง!!



ทันทีที่หน้าจอแสดงผู้เข้าแข่งขันคู่ต่อไป ผมก็ถึงกับอ้าปากค้างทันทีครับ เพราะมันเป็นชื่อและรูปของผม คู่กับ...

“Holy shit” ไอ้แอนนี่อึ้งแล้วหันมามองผม

“ขอเชิญผู้เข้าแข่งขันคู่ต่อไป น้องพริกและน้องแอนโทนี่ขึ้นมาบนเวทีเลยครับ!!” เสียงพิธีกรเรียกชื่อเราสองคนท่ามกลางเสียงปรบมือ ยกเว้นแต่เพียงพวกเราที่ดูท่าทางตกใจและไม่คาดคิดมาก่อนว่า เราสองคนจะต้องมาร้องเพลงสู้กัน

และเมื่อเราสองคนขึ้นสู่เวที หน้าจอก็เปลี่ยนอีกครั้งเพื่อแสดงเพลงแมชอัพที่พวกเราต้องร้อง ซึ่งพวกเราก็ได้เพลงแมชอัพของ....

“สำหรับเพลงแมชอัพที่ทั้งสองคนต้องร้องได้แก่.....”



ปิ๊ง!!



“Party Rock Anthem และ Gangnam Style โดยน้องพริกร้องท่อนของ Party Rock Anthem ส่วนน้องแอนโทนี่ร้องท่อนของ Gangnum Style ครับ!!”

ชิบหายแล้ว เพลงฝรั่งครับ แร็พด้วยครับ!! ถึงผมจะเคยฟังมาบ้าง แต่ผมดันไม่มีเพลงนี้ในมือถือซะด้วย งานนี้ตายแน่นอนครับ ในทำนองเดียวกัน ผมหันไปมองหน้าไอ้แอนนี่ มันก็ทำหน้าเหวอไม่แพ้กันครับ

“I don’t know Korean!!”

“เอาล่ะครับ เมื่อพร้อมแล้ว! เริ่มการแข่งขันได้เลยครับ!!” พวกกูไม่พร้อมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!

ถึงจะพูดอย่างงั้นก็เถอะครับ ดนตรีก็เริ่มขึ้นอยู่ดี




Party Rock!” โอเค ท่อนแรกมันยังพอได้อยู่ครับ

Oppa Gangnum Style!” ไอ้ฝรั่งก็พอไหวบ้างครับ มันพยายามทำท่าแร็พไปด้วย “Gangnum Style!

Yeah! Let’s go!!

ไนเจลโดนดาร์ สบงห่อร์งี้ทำมายยุงโดนจ่าร์” เอาล่ะครับ ไอ้แอนนี่ ตอนนี้ดำน้ำลงไปก้นมหาสมุทรเรียบร้อย... อื้มๆ แต่ท่ามันยังได้อยู่นะ เดอะโชมัดโกออน ใช่มะๆ “copy you เอาแตร์จ้อง แล้ว you จาซือกอเอี๊ยะ you น้อจ่าร์
บะหมี่ or ปลาชิวจาเอาว์ดีย์ๆ น้องพี่ก้อร์ได้จ่าร์ คือร็องปั้นปั้นชาลาเปาว์จ่าร์


จบท่อนมันไปในขณะที่มันยังดำน้ำเล่น ต่อไปก็ถึงตาผมตามมันไปแล้วครับ T_T

Yeah! I’m running for this salt and I got demon in my toe. Rock and roll. No high-low. We party rock!! วู้วววว” มั่วได้โล่แล้วครับตอนนี้ เต้นทั้งน้ำตาตกใน อายชิบเลยครับคู้นนนน “Yeah! Stop climbing and rapping on rice so the top know that I’m แซ่บปิ่น

นารี Dead Whoa! ชาลาเปาว์ร้อง Whoa! คือรุ่นนอง Hey! มามาเทโว Hey!
นารี Dead Whoa! ชาลาลาโว้โว! I don’t know! Hey! Korean, don’t know! Hey!
จึทำมึนรองมั่วร์ตอไปกูว์งงชิบฮา- ฮา- ฮา- ฮา- ฮ- ฮ- ฮ- ฮ- ฮ- ฮ- ฮ- ฮ- ฮ- ฮาย!!!


Everyday I’m-

Gangnum Style!!

โอเค! มาถึงท่อนนี้ค่อยโล่งหน่อยครับ ผมเชื่อว่าคนดูร้อยละแปดสิบห้าในหอประชุมมันไม่รู้หรอกครับว่าพวกผมแร็พด๋อยอะไรกัน แค่พวกผมเต้นท่ากังนัมกับท่าของสลับเท้าไปมาตอนท่อนฮุค เค้าก็ยืนปรบมือเต้นตามกันแล้วครับ พวกผมมองหน้ากันยิ้มๆ อย่างรู้กันครับว่า ยังไงก็พอจะรอด ขอแค่เน้นความสนุกเข้าไว้

Op Op Op Op

Everyday I’m-

Gangnum Style! Ehhhhhhhh Sexy Lady! Op Op Op Op

Everyday I’m -

“Gangnum Style!”





เพลงจบลงหลังจากพวกเราเต้นกันอย่างเมามันครับ ท่ามกลางเสียงปรบมือจากทุกๆคน (บางคนผิวปากให้พวกเราด้วยซ้ำ) พวกเค้าคงคิดว่าพวกเรารู้เนื้อเพลงดีครับ แต่จริงๆแล้ว.... มั่วจุงเบยครับ

“We made it!” ไอ้ฝรั่งโผเข้ากอดผมทันทีหลังจากพวกเราลงมาทางหลังเวที

“โว้วววว ฮ่ะๆๆๆๆ เย็นไว้ไอ้เสือ” ผมหัวเราะ แล้วขยี้หัวไอ้ฝรั่งเล่น ขณะที่มันกอดผมอย่าดีใจ “ใช่ We made it ว่ะ”

“You know! I was so fucked up right there when I don’t even know what to rap. I mean… It’s Korean! How the fuck am I supposed to know Korean!....” โอเค ผมไม่ค่อยได้ฟังที่มันพล่าม เอ๊ย! พูดซักเท่าไหร่หรอกครับ ส่วนนึงคงเพราะผมฟังบางคำไม่ออก เพราะมันพูดเร็วมาก แต่อีกส่วนนึงคือ การที่ผมได้เห็นหน้ามันขัดๆ ขณะที่มันเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าอกผม.... หน้าอกผม.... กอด?? เอ่อ.... “And Then I –“

ท่าทางมันเองก็จะเพิ่งรู้สึกตัวครับ มันถึงขยับออกมาจากตัวผม

“Oh…. It…. It’s just a friend’s hug…”

“อ – อื้มม ใช่ๆ F- Friend’s hug” อ่า.... แล้วทำไมพวกเราต้องหน้าแดงกันด้วยล่ะเนี่ยะ

“Yeah!! Like… What’s up, dude!” มันทำท่าฮิปฮอปแล้วเอาหน้าอกมาบั๊มผมจนมันกระเด้งออกไป “Urrr…. Like this.”

“อ่าฮะ... วอทซั่บ ดู๊ด” เอ่ออออ บรรยากาศดูแปลกๆขึ้นมาทันทีครับ น่าแปลกจริงๆที่มันบอกว่า เมื่อกี้เป็น ‘Friend’s hug’ แต่ทำไมผมถึงรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ แถมรู้สึกเหมือนกับมันไม่ใช่อย่างงั้นยังไงไม่รู้แหะ... แต่ก่อนที่ผมจะคิดมากไปกว่านี้ เพื่อนๆคนอื่นๆ ก็โผล่มาที่ข้างหลังเวทีซะก่อนครับ

“เฮ้! พวกมึง!” ไอ้ทรายวิ่งนำมาคนแรก

“พวกมึงจะมากันทำไมวะ เดี๋ยวพวกกูก็กลับออกไปนั่งกับพวกมึงแล้ว”

“ก็มาแสดงความยินดีสิพี่ โหหหหหห ไม่ยักกะรู้ว่าพี่แร็พฝรั่งได้ด้วย” ไอ้ต้นดูตื่นเต้น

“And I didn’t realize that you can rap Korean! That’s cool, Annie!” ไอ้เจ้ามิวหันไปพูดอย่างตื่นเต้นกับไอ้ฝรั่ง

“เอ่อออ แหะๆๆๆ” พวกเราสองคนได้แต่หัวเราะแห้งพร้อมๆกันครับ ไม่แน่ใจว่าควรจะบอกดีมั้ยว่าแร็พมั่ว

“เก่งกันทั้งคู่เลยนะครับ” นั่น ไอ้ชั่วยิ้มเสนอหน้ามาอีก “Annie! How can you rap Korean!!”

“Hahahaha It’s very hard na P’Chai”

“But you did it great!” เห้ยๆๆๆ มาลูบหัวแอนนี่ของก- มาลูบหัวแอนนี่ทำไมวะเห้ย “I’m so proud of you”

“Thank you so much, P’ Chai” ไอ้ฝรั่งนี่ก็ทำท่าดีใจใหญ่เชียวนะ หึ!

“เอ่ออออ เป็นพ่อลูกกันรึเปล่าครับ ดูจะอินกันทั้งคู่” ไอ้แจ๊สกัดซะจนผมอยากจะเข้าไปกอดแบบ ‘Friend’s hug’ ซะจริงๆครับ

“อ- อ๋ออออ ผมภูมิใจในตัวน้องคนนี้น่ะครับ” ไอ้ชั่วกล่าวแล้วยิ้มมองไอ้ฝรั่ง “น้องคนนี้ ถึงจะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่ก็รู้สึกผูกพันน่ะครับ”

“เอาล่ะๆๆๆๆๆๆ” ผมรีบตัดบท “กลับไปนั่งที่ รอดูคู่ต่อไปแข่งดีกว่า”

“นั่นสิ อยู่ตรงนี้แล้วชักจะเบื่อๆแล้ว” โอ้โห ไอ้ต่อที่เงียบไปนานพูดขึ้นเล่นเอาผมอยากจะ ‘Friend’s hug’ ไปอีกคน

“และตอนนี้ ชื่อผู้เข้าแข่งขันสองคนต่อไปก็คือ น้องมิวสิกและน้องชายนั่นเองครับ!!” เสียงประกาศดังขึ้นจากหน้าเวที ที่เล่นเอาพวกผมตกใจกันไปอีกรอบครับ

“เฮ้ย วันนี้มันวันญาติตีกันรึไงวะ” ไอ้ต้นพูดขึ้น

แต่ท่ามกลางความอึ้งของทุกคน ดูท่าทางมิวสิกจะตั้งสติได้คนแรก

“พี่ชายครับ” มิวยื่นมือไปให้ไอ้ชั่ว “ทำให้เต็มที่กันนะพี่”

“อื้ม มิวสิกก็เช่นกันนะ” ไอ้ชั่วกล่าวพร้อมจับมือมิวสิก

“Music! P’Chai! Fighting!!”

“แต๊งนะแอนนี่”

“Thank you, my lovely brother” โอ๊ยยยยยยยยยยย มึงจะมาหว่านเสน่ห์อะไรกับไอ้ฝรั่งนักหนา รีบขึ้นไปให้ไอ้มิวมันเชือดเถอะมรุงงงงงงง!!!

“เมื่อกี๊พี่พริกพูดไรนะ อะไรเชือดๆ” อ่าว ชิบหาย นี่ผมเผลอลั่นออกไปจนไอ้ต้นมันได้ยินเลยเหรอ

“ป- เปล่าๆๆ พี่แค่บ่นว่า รีบไปนั่งดูกันเถอะ ในนี้มันร้อนจนแทบเดือดน่ะ”

“อ่ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ เหรอครับ”

“ก็เออเส่ะ! รีบไปกันได้แล้วน่า แอนนี่! ไปกันเหอะ”

“Aha. Good luck, guys.” มันพูดแล้วตามผมที่เดินนำดุ่ยๆไป

“โชคดีนะมิว ทำให้เต็มที่นะ” ไอ้แจ๊สอวยพรบ้าง

“ไม่ต้องมาอวยพรหรอกครับ เดี๋ยวผมก็ซวยพอดี” อู้ยยยยย แรว้ง

“กัดกันอีกแล้วสิน่า” ไอ้ทรายบ่น

“เอาน่าๆ งั้นพวกเราก็กลับไปนั่งกันเถอะ สองคนนี้จะได้ขึ้นเวทีซะที” ไอ้แจ๊วปราม(อีกแล้ว) “ยังไงก็โชคดีนะครับ ทั้งมิว ทั้งชายด้วย”

“ขอบคุณนะครับ” ไอ้ชั่วยิ้มขอบคุณส่วนมิวสิกเดินขึ้นเวทีไปแล้ว

พวกผมรีบวิ่งกลับมานั่งที่ เวลาเดียวกับที่หน้าจอแสดงชื่อเพลงแมชอัพที่ทั้งสองต้องร้อง ซึ่งทำให้ผมและคนอื่นๆงงไม่แพ้กับเพลงของผมกับไอ้ฝรั่งเลยครับ

“เพลงเหี้ยไรเนี่ยะ” ผมงึมงำกับตัวเอง

“กูว่ามันคนละฟีลเลยนะสองเพลงเนี่ยะ” ไอ้ทรายพูด

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ดูทั้งสองฝ่ายจะพอใจกับท่อนที่ตัวเองได้ เมื่อดูจากรอยยิ้มและแววตาที่มั่นใจของทั้งคู่

“ก่อนจะร้อง ผมอยากจะบอกว่า” อยู่ดีๆไอ้ชั่วก็แทรกพิธีกรขึ้นมาครับ “ท่อนที่ผมจะร้องเนี่ยะ... ผมอยากจะมอบให้กับคนคนนึงครับ”

ไอ้ๆๆๆๆๆๆ!!!! มึงไม่ต้องมองมาทางนี้ก็ได้ กูพอจะรู้แล้วว่ามึงจะหมายถึงใคร ไอ้ห่ารากห่าต้น!!!

“Who?”

“ดูเหมือนบางคนจะไม่รู้ตัวว่ะพี่” ไอ้ต้นหันมากระซิบกับผม “ก็ดีและเนาะ พี่จะได้จีบได้เต็มที่”

“จีบพ่อง กูไม่ได้จีบ”

“แหมๆๆๆ” ไอ้ต้นยิ้มแป้นซะจนผมอยากจะตบหน้ามันซักป้าบ แต่ก่อนที่ผมจะทำอย่างนั้น เสียงบนเวทีก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ผมเองก็ อยากจะมอบท่อนเพลงนี้ที่ผมได้ร้อง ให้กับคนอีกคนนึงครับ” มิวสิกพูด... และหันมาทางพวกผมอีกรอบครับ

“เอ่ออออ ไอ้แจ๊ส กูว่าน้องเค้ามองมึงว่ะ” ไอ้ทรายบอก

“อืม...” ไอ้แจ๊สตอบเงียบๆ ดูตัวมันแข็งทื่อจ้องมองมิวสิกกลับแบบแปลกๆ

“What the hell is going on here?” ไอ้ฝรั่งมองอย่างงงๆ ไม่ต่างจากผม

พวกเราหันกลับไปมองที่คนร้อง และชื่อเพลงแมชอัพที่ดูไม่เข้ากันอีกรอบ





ชาย: Can’t Smile Without You (Barry Manilow)

มิวสิก: F**k You (Lily Allen)










To be continued

ตอนต่อไป การแข่งขันในรอบสองระหว่างพริกกับแอนนี่ที่จบลงด้วยความช็อค!!!!

credit เพลงแมชอัพของพริกและแอนนี่: http://www.youtube.com/watch?v=HGOxAxpYqTk (http://www.youtube.com/watch?v=HGOxAxpYqTk)

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 11-03-2013 01:18:45
 :z3: กับตอนของพี่โก้ เฮ้อ แอนนี่ บาปนะคะทำคนเลิกกัน หนูกรุ๊ปบีใช่ไหมคะ ตรงซะ!

เฟรนฮักอะไรก๊านนนนนนนยน พริกก็เหอะหลุดมาขาดนี้ยอมรับความจริงได้แล้วววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 11-03-2013 01:29:15
พริกกับแอนนี่ร้องเพลงได้สุดยอดอ่ะ o13

จะฮาไปไหนเนี่ย :laugh:

มิวสิค มอบคำนี้จะดีเหรอ?  ระวังพี่แจ๊สจับกดเด้อ o18
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 11-03-2013 02:34:47
55+ ท่าทางคนฟังเขาคงไม่ได้รู้เลยสินะว่า ไอ 2 ตัวบนเวทีมันมั่ว!! ถูกแค่ท่อนฮุคนิดๆ หน่อยๆ 55+ 
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: railay ที่ 11-03-2013 06:36:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 11-03-2013 06:59:19
พริกกับแอนนี่เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองเนี่ย อึดอัดแทน
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 11-03-2013 07:33:19
โอ๊ยยยยยย ฮาได้อีกอ่ะ  :m20:

คู่พริกกะแอนนี่นี่แบบ ยังกะการ์ตูนตาหวาน เขินกันไปเขินกันมา แล้วเมื่อไรมันจะคืบหน้าล่ะเนี่ยย  :เฮ้อ:

มาต่อไวๆนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 11-03-2013 08:02:49
หือมิว..
แจกฟักทองพี่แจ๊สเรอะ
กร๊ากกก สองพระนายร้องอะไรกันน่ะ
เริ่มหมั่นไส้อิพี่ชายห์ //เขี่ยๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 11-03-2013 08:41:16
ฮาตอนรั่วกันร้องเพลงเนี่ยแหล่ะ  :m20:

แต่ก็สงสารต่อกับเฮียโก้เนอะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: MaiSwifties ที่ 11-03-2013 10:38:33
:laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-03-2013 12:08:14
ประกวดร้องเพลงหรือแข่งตลกกันละนี่ ฮาน้ำตาเล็ด

พี่พริกเจอคู่แข่งทำเป็นฮึดฮัด ทีตัวเองยังทำปากแข็ง เดี๋ยวได้ซดแห้ว

พี่โก้กับต่อถ้าคบกันเงียบ ๆ ไม่ทำหวือหวา ไม่น่ามีปัญหาอะไร
คนเห็นด้วย กับคนไม่เห็นด้วยมันมีพอกันนั่นแหละ อยู่ที่เรามั่นคงจริงใจต่อกันแค่ไหน
แคร์คนอื่นแล้วมานั่งอมทุกข์อยู่อย่างนี้ไม่มีประโยชน์อะไร

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 11-03-2013 12:22:09
สนุกอ่ะ ...รอคอยตอนต่อไปน๊า
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 11-03-2013 16:11:20
เพิ่งเข้ามาอ่าน ได้ 3 ตอนค่ะ
สนุกมากกกก
แค่ตอนแรกก็ชอบแล้วค่ะ !!  o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: powderje ที่ 11-03-2013 16:26:02
พ่อหนุ่มซึนโวะ เดะเจอหมาคาบไปแด...หลอกพริก ไฟท์ติงเด้อ  :angry2:
อีพี่ชาย อ๊ากก  o22 ทุกงานเลยปะ คือแบบ ขัดตลอดๆ   :m16:
.
.
รอคู่ต่อ :z3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-03-2013 18:10:32
ดำน้ำได้ฮามากอ่ะ :laugh:
พริก...ถ้าช้าระหว่างจะโดนพี่ชั่วคาบไปแด๊กเน้อ o18
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 11-03-2013 21:45:06
อ่านทันแล้วว

อย่างฮาอะ มิวสิค ได้เพลง F**k you เนี่ย 555555555 5
ชอบๆ ๆ สงสารพี่แจ๊สเบาๆ แต่ฮามากกว่า :really2:

รออัพนะค้าา :)
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 11-03-2013 22:13:33
แอนนี่คาวาอิสุดๆๆๆๆ
พริกอย่างให้น้องโดนแย่งไปน้า :m16: :m31: :angry2: :serius2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 12-03-2013 02:16:01
ฮามากอะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: oatty ที่ 15-03-2013 11:04:46
ตอนใหม่ยังไม่มาเหรอ รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 15-03-2013 19:34:32
โอ๊ยยยยยยยย ฮาอ่ะ 55555555+ เพลงแมชเข้ากันมากเลยคู่ พริก-แอนอ่ะ

แต่คู่ต่อมานี่เหมือนจงใจเลือกเลยเนอะ เพลงของ Lily Allen อ่ะ รู้จักค่า เราชอบมากเลย 55555+
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: jonathan2624 ที่ 15-03-2013 22:43:05
ฮามากๆๆๆ ชอบมากคร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 11/3/2013 - Chapter 15]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 18-03-2013 21:41:14
ขออภัยที่ไม่ได้อัพเป็นเวลานานนะครับ พอดีตอนนี้คนแต่งอยู่ที่ รพ.

เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย เลยไม่มีเวลาอัพลงเลย

ยังไงขอเวลาอีกซักพักนึง จะกลับมาต่อแน่นอนนะ ^^
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: jonathan2624 ที่ 18-03-2013 22:19:45
หายเร็วๆ นะค้าบบบบบ  :bye2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 18-03-2013 22:32:34
หายเร็วๆนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: Angel.JS~ ที่ 19-03-2013 00:13:44
อ่านไป กลั้นขำไป ชอบมากเลยค่ะ แอนนี่น่ารักมากๆๆๆๆๆ  :-[

เป็นกำลังใจให้นะค้าาาาา

รอวันพี่พริกค์ *สำเนียงอิ้งฤ*
ยอมรับหัวใจตัวเองซะที 55555

อิดีท*
เพิ่งเห็นว่าคนแต่งเข้ารพ.  :monkeysad:

หายไวไวนะค้าาาา  :m15:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 19-03-2013 02:07:58
เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้า

หายไวๆน่ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 19-03-2013 07:05:33
เป็นอะไรมากไหมครับ หายไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: poohmai ที่ 21-03-2013 11:59:44
คิดถึงมากๆครับ มาต่อหน่อยย
คนเขียนขอให้หายไวๆนะคับ ^^  :impress2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 21-03-2013 12:08:30
ขอให้หายเร็วๆนะคะ คนอ่านเป็นห่วงนะคะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 21-03-2013 13:13:01
โอยยย ขำที่ร้องเพลงมั่วกันมาก55555555555555555
พริกก็ออกอาการซะ รุกซักทีเถิด ไม่งั้นระวังมคปด.
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 21-03-2013 15:46:52
หายไวไวนะฮะ รักษาสุขภาพด้วย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-03-2013 19:43:59
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 18/3/2013 - แจ้งข่าวด่วน]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 28-03-2013 17:34:34
กลับมาแล้วครับบบ เนื่องด้วยสังขารตอนนี้ยังไม่เที่ยงเพราะแขนขวาหัก เลยทำให้ตอนนี้พิมพ์อะไรอาจจะลำบากนิดนึง
ก็เลยอาจจะอัพช้าหน่อย ขอบคุณทุกคนมากที่เป็นห่วงนะครับ ตอนนี้คนเขียนนึกไว้แล้วว่าจะให้เรื่องของไอ้ฝรั่งแบ่งเป็น 4 ปีแบบในซีรีส์ฝรั่ง 555555 แล้วก็ใกล้จะถึงตอนจบของปีแรกแล้ว ยังไงก็อย่าลืมติดตามและสนับสนุนไอ้ฝรั่งกันต่อไปนะครับผม



คุณผู้อ่านเคยได้ยินมั้ยครับว่า เพลงบางเพลงก็ทำให้เราเคลิ้มไปกับมันได้ ทั้งๆที่บางทีเราอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยก่อนที่จะฟังหรือร้องเพลงนี้ แต่เมื่อฟังจบ มันจะมีชั่วขณะหนึ่งที่คุณยังคงมีอารมณ์ค้างของเพลงๆนั้นอยู่ เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นกับผมครับ เกิดขึ้นสดๆร้อนๆเมื่อกี้นี่ก่อนที่ผมจะวิ่งออกมาจากประตูหอประชุมเลยล่ะครับ

(40 นาทีที่แล้ว)


” You see I feel sad when you're sad
I feel glad when you're glad
if you only knew what I'm going through
I just can't smile without you”


พี่ชายร้องเพลงด้วยเสียงนุ่มละมุน ขณะที่ส่งสายตามาทางพวกผม... ผมไม่แน่ใจว่าผมคิดไปเองรึเปล่า แต่ท่าทางราวกับว่า พี่เค้าจงใจร้องเพลงนี้กับผมยังไงอย่างงั้น ผมได้ยินเสียงหายใจฟึดฟัดจากไอ้พริกเป็นระยะๆ จนออกแนวน่ารำคาญ

”Fuck you” ไอ้มิวเริ่มร้องแล้วชี้มาทางพวกผมอีกแล้ว

อะแฮ่ม เสียงกระแอมดังมาจากแถวๆพี่แจ๊ส

”Fuck you very, very much
Cos we hate what you do and we hate your whole crew
So please don't stay in touch

Fuck you, fuck you very, very much
Cos your words don't translate and it's getting quite late
So please don't stay in touch”


” Do you get” ไอ้มิวยังคงร้องต่อ ด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่พี่แจ๊สเองก็กำลังค่อยๆถูกเก้าอี้สูบหายไปซะแล้วครับ

”Do you get a little kick out of being small minded?
You want to be like your father
His approval your after
Well that's not how you'll find it

Do you,
Do you really enjoy living a life that's so hateful?
Cos there's a hole where your soul should be
You're losing control of it and it's really distasteful”


”And now you know I can't smile without you” กลับมาเป็นพี่ชายร้องต่อขณะส่งวิ้งขยิบตาให้กับผม (เดารอบที่สาม) ซึ่งทำเอาผมและพวกพี่ๆเพื่อนๆที่นั่งตรงนั้นถึงกับ

“โอ้ กูอยากจะอ้วก” ไอ้ต้นทำท่าผอืดผอมให้กับท่าวิ้งขยิบตาของพี่ชายที่ผมขอบอกว่า เชย และเสี่ยวที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา

“ไอ้คุณชายนี่ มันก็ดูเท่ห์ดีนะ แต่ท่าวิ้งๆมัน กูไม่ไหวว่ะ” พี่ทรายพูดขณะลูบหลังพี่ต่อที่อ้วกไปแล้ว


“I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
you see I feel sad when your sad
I feel glad when you're glad
if you only knew what I'm going through
I just can't smile”









Chapter 16: One Step Closer







เพลงจบลงพร้อมเสียงปรบมือที่... เอ่อ... ไม่ค่อยจะประสานกันซักเท่าไหร่ เป็นไปได้ว่าทุกคนอยู่ในอาการงงงวยกับเพลงสองเพลงที่เนื้อหาไม่เข้ากัน และการส่งสาส์นจากผู้เข้าแข่งขันทั้งสองที่ออกแนวแปลกประหลาด รวมถึงอาจจะ... อ้วกอยู่ก็เป็นได้

“ขอบคุณทุกคนมากครับ” พี่ชายยิ้มขอบคุณในขณะที่สายตายังคงจ้องมองมาทางผมอยู่ (ผมเดาเอา) และส่งท้ายด้วยท่าขยิบตาครั้งใหญ่ที่...


อูแหวะ


เล่นเอาอ้วกพร้อมกันทั้งหอประชุม

“โอย หมดกันข้าวเย็นกู” ไอ้พริกบ่นงึมงำ

“ก่อนลงเวที ขอฝากอะไรไว้อย่าง” ไอ้มิวคว้าไมค์มาจากพี่ชาย และพูดด้วยสีหน้าผอืดผอมเล็กน้อย แต่สายตายงคงเย็นชากลับจ้องมาที่คนคนเดียว... พี่แจ๊ส (ผมเดาเอาอีกแล้ว) “ก่อนจะบอกว่าใครผิดปกติหรือทำอะไรผิดน่ะ หัดดูตัวเองซะบ้าง ขอบคุณ”

“เอ่ออออ แจ๊ส” พี่ทรายหันไปถามพี่แจ๊สที่นั่งไม่ติดเก้าอี้ “กูไม่แน่ใจว่าน้องมันหมายถึงมึงมั้ย แต่มึงเคยไปทำอะไรน้องเค้าไว้รึเปล่าวะ”

“ป – เปล่า เปล่าซะหน่อย”

“แน่ใจนะมึง” พี่ต่อที่เงียบไปนานก็ยังหันมาถามด้วยความสงสัย

“ก็เออสิวะ นี่ ฟังนะ เอาเป็นว่าตอนม.ปลาย กูเคยทำตัวไม่ดีกับเด็กในโรงเรียนไว้หลายคน แต่ตอนนี้กูปรับปรุงตัวแล้ว โอเค้? ก็แค่.... น้องเค้าคงยังติดลุคของกูตอนม.ปลายอยู่นั่นแหละ”

“งั้นเหรอครับ” เห้ย!! ไอ้มิวลงจากเวทีเร็วมาก แปบๆนี่มาโผล่ตรงที่นั่งได้ไงเนี่ยะ

“เชี่ยมิว! ตกใจหมด มึงมีสกิลเทเลพอร์ตรึไงวะ” ไอ้ต้นสะดุ้งโหยง

“มิว...” เสียงพี่แจ๊สอ่อยลง

“ใช่ครับพี่ ผมไม่ชอบพี่เพราะเมื่อก่อนพี่ทำตัวไม่ดี แค่นั้นครับ” มันพูด แล้วยื่นหน้ามาใกล้ๆพี่แจ๊ส “แค่นั้น จริงๆ

“เอ่ออออ มีเรื่องอะไรกันรึเปล่าครับ” พี่ชายที่เพิ่งจะเดินกลับมา ถามด้วยสีหน้างุนงง

“ไม่มีอะไรครับพี่” ไอ้มิวเดินเข้าไปนั่งที่ ตามมาด้วยพี่ชายที่มานั่งข้างหลังผมกับไอ้ตี๋

“Hey Annie” พี่ชายสะกิดผม “How was my singing?”

“Great! You have very smooth voice”

“Thanks.”

“หึ! ชมเหลือเกินนะ” เสียงไอ้พริกแทรกอย่างเสียมารยาท ผมหันไปค้อนใส่มัน มันเลยกลับไปนั่งฟังคู่ต่อไปซึ่งกำลังร้องเพลงคู่อยู่

“I feel so lucky to get this song, you know?”

“Really? Why?”

“Because, you know, I really dedicate this song to you.”

“O – Oh” ผมอึ้งกับความพูดตรงของพี่ชาย ไอ้พริกหันควับมามอง

“But as my brother.”

“Ohhhhh! Okay! Haha.” โล่งหน่อย นึกว่าอยู่ดีๆพี่ชายจะมาจีบกูซะงั้น

“หึ ให้มัน บราเด้อออออ จริงๆแล้วกันคุณชายยยยย. ไอ้พริกแหวะ

“แน่นอนครับพริก มีอะไรเหรอครับ” พี่ชายขยับไปพูดเบาๆกับไอ้ตี๋ “รึว่าหึง”

“เห้ย! หึงเหิงอะไร ป่าวววววว ก็แค่ถามดู!” โอ้ยยยย บรรยากาศมันเริ่มทะแม่งๆยังไงไม่รู้ซะแล้วครับ

“Ok. This is getting awkward.”

“No, no. It’s fine. I’m just joking with Prick.” พี่ชายพูดกลั้วหัวเราะแล้วหันมา... ขยิบตาให้ผมหนึ่งที... โอ้ กูจะอ้วก

“Urrrr…. I think I need some fresh air now.” ผมสูดหายใจเข้าแล้วลุกขึ้น “I gotta go outside for a while”

“โจ๊กกิ้งอะไรเล่า ไม่ตลกน่ะ” ผมได้ยินเสียงไอ้พริกหันไปเห่าใส่พี่ชายขณะที่ผมเดินออกมาข้างนอก

**********************************************************************************

อูแหวะ!!!!


อะแฮ่มๆ หลังจากความพยายามในการสูดอากาศบริสุทธิ์ยามพลบค่ำที่หน้าหอประชุมไม่เป็นผล ผมเลยตัดสินใจมาอาเจียนในห้องน้ำนี่แหละครับ ให้ตายสิ! ไม่น่าเชื่อว่า หน้าตาหล่อๆอย่างพี่ชาย เวลาขยิบตาวิ้งๆนี่มันสามารถทำ damage ถึงขั้น critical hit ให้กับผมได้ขนาดนี้

“เดี๋ยวก่อนสิ ฟังพี่ก่อน” เสียงคนคุยกันดังขึ้น จากตรงอ่างล้างมือ

“ครับ ฟังอยู่” เสียงคุ้นๆแหะ

“ถ้าฟังจริงๆก็ เอาเฮดโฟนนั่นออกก่อนได้มั้ย” เสียงฟังดูเป็นผู้ใหญ่นี้ก็คุ้นๆแหะ

ผมค่อยๆเอาหูแนบกับประตูห้องน้ำห้องของผมเพื่อให้ได้ยินชัดขึ้น

“ฟังพี่นะ มิว” หือ? มิว? หรือว่า พี่แจ๊สกับไอ้มิวเหรอ? “พี่รู้ว่าพี่เคยทำอะไรกับมิวไว้ตอนม.ปลาย และมันไม่สมควรให้อภัย”

“ครับ ก็รู้นี่ครับ”

“...แต่ตั้งแต่ตอนนั้นที่มิว... เอ่อ มิวคิดจะฆ –“

“เลิกพูดถึงเรื่องนั้นเถอะครับ มันเป็รสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตผมแล้ว”

“พี่รู้... แล้วพี่ก็รู้ด้วยว่าสาเหตุเป็นเพราะพี่”

“ครับ”

“สิ่งที่เกิดขึ้น มันทำให้พี่รู้สึกตัว มันทำให้พี่อยากปรับปรุงตัวใหม่... แล้วพี่ก็ทำได้แล้ว”

“เหรอครับ? ยังไงเหรอครับ?”

“พี่อ่อนโยนลง พี่เปลี่ยนจากเด็กเกเรจนกลายเป็นเด็กเรียนเก่ง พี่ได้เป็นตัวแทนหัวหน้าของเด็กวิศวะปีหนึ่ง พี่ –“

“แล้วไงเหรอพี่ พี่แจ๊สจะเปลี่ยนภายนอกมากไหน แต่ผมรู้ ว่าข้างในแล้ว ลึกๆ พี่ก็ยังเป็นพี่เหมือนเดิม”

“ผิดแล้วมิว พี่เปลี่ยนไปหมดแล้ว”

“ถ้าอย่างงั้นพี่กล้าบอกกับทุกคนรึเปล่าล่ะครับ กล้าบอกรึเปล่าว่าสิ่งที่ผมเป็นมันไม่ผิด กล้าบอกคนอื่นรึเปล่าครับว่าสิ่งที่พี่เป็นมันไม่ผิ –“

“พี่ไม่ได้ –“

“นั่นไง! สุดท้ายพี่ก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย”

“...พี่ขอโทษ แต่พี่ยังไม่พร้อมเรื่องนี้”

“งั้นเอาไว้พร้อมแล้ว เราค่อยคุยกันครับพี่”

“เดี๋ยวก่อนสิมิว”

“พี่แจ๊ส ปล่อย – มือ – ผม”

“พี่ไม่ปล่อย จนกว่ามิวจะเข้าใจพี่”

“ผมเข้าใจพี่ดีครับ เข้าใจทุกอย่างด้วย! เพราะงั้นปล่อย”

“ไม่”

“จะปล่อยหรือจะให้ผมบอกทุกคนว่าผมกับพี่เคยเป็นอะไรกัน”




It's fun to stay at the Y.M.C.A.
It's fun to stay at the Y.M.C.A.



ชิบหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้พริกเข้าใจโทรมาหากูตอนนี้นะ!!! งานเข้าแล้วววววว

“Hello” ผมรับเสียงเบาที่สุด

[แอนนี่ มึงอยู่ไหนเนี่ยะ]

“I’m in the toilet”

[มานี่เร็วเข้า เค้าเรียกชื่อมึงกับกูแล้ว]

“Is it round 2 already?”

[ก็เออสิวะ เร็วๆเข้า แล้วแม่งไม่ยอมบอกโจทย์เพลงก่อนจนกว่าเราจะขึ้นเวทีด้วย]

“O – Okay. Fine. I’ll be there”

ผมกดวางหูแล้วคิดในใจว่าจะเอายังไงดีครับ ไอ้มิวกับพี่แจ๊สตอนนี้ก็นิ่งไปทั้งคู่ น่าจะออกไปจากห้องน้ำแล้ว เพราะงั้น.... เอาวะ! ออกไปเลยละกัน!!


เฮือกกก สองคนนั้นยังอยู่ครับ ทั้งสองคนมองผมด้วยสายตาตกตะลึง เอ่ออออออออออออ ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆ เอ่อ เดินออกไปเลยละกัน เอาวะ!!



“O – Oh!!! Mu! P’ Jazz! Umm…. What are you doing here?! I – I don’t hear anything. Okay. Bye!” แล้วผมก็รีบวิ่งติดจรวดไปหาไอ้พริกที่รออยู่ในห้องประชุมทันที


“มึงไปไหนมาเนี่ยะ เค้ารอกันอยู่” ได้ทีสวดกูใหญ่เลยนะไอ้ตี๋

“เรืองย๋าว I can’t tell you about that. Just – Just go on the stage!” ผมกับไอ้ตี๋รีบขึ้นบนเวทีทันที

“เอาล่ะครับ ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนมาแล้ว” พิธีกรเริ่มพูดทันที “ต่อไป เรามาดูกันดีกว่าครับว่าในรอบนี้ทั้งสองคนจะได้ร้องเพลงอะไร”


ปิ๊ง


“A Thousand Years ของ Christina Perri ครับ”

“What?” ผมถึงกับโพล่งออกมาด้วยความตกใจ

“เอาจริงดิ่!” ไอ้ตี๋ก็ตกใจไม่แพ้กัน

“Hey! This is a couple’s song!”

“แล้วพวกผมก็ไม่ได้เป็นแฟนกันนะพี่” ทั้งผมและไอ้พริกค้านพิธีกรกันทั้งคู่

“ยังไงเพลงก็ถูกเลือกแล้ว กติกาก็ต้องเป็นกติกานะน้องๆ” พี่พิธีกรกระซิบกับพวกผม “พี่ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเราสองคนไม่ร้องก็ต้องถือว่าสละสิทธิ์ไปทั้งคู่ โอเคนะ”

“...ร้องก็ร้อง” ไอ้ตี๋หันมาบอกกับผม

“What? Are you serious?”

“I’m serious. แอนนี่ มันแค่เพลงเพลงเดียว ไม่มีอะไรหรอกน่า Just sing, okay?”

“…..Arrrghh! Whatever!”

“เอาล่ะครับๆๆ ตอนนี้ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนพร้อมแล้ว เริ่มเพลงได้!”


เสียงเปียโนและไวโอลินเริ่มเล่น ขับกล่อมบรรยากาศทั่วห้องให้อยู่ในภวังค์อย่างรวดเร็ว บรรยากาศรอบตัวผมอยู่ดีๆก็ทำให้ผมรู้สึกเลื่อนลอย เคลิบเคลิ้มอย่างบอกไม่ถูก ผมหันไปมองไอ้พริก จังหวะเดียวกับที่มันหันมามองผม สายทาที่ทอประกายนั่น ผมไม่เคยสังเกตเห็นมันมาก่อน ผมหลบตาจากมัน แล้วเริ่มร้อง

”The day we met
Frozen I held my breath
Right from the start
I knew it I found a home for my
Heart beats fast”


ผมหันกลับไปมองหน้ามันอีกรอบ น่าแปลกที่คราวนี้ผมควบคุมตัวเองไม่ให้เบือนหน้าหนีไปจากใบหน้าเข้มนั้นไม่ได้ ไอ้พริกเดินเข้ามาหาผมในขณะที่ผู้คนในหอประชุม อยู่ๆก็ค่อยๆหายไปจากการรับรู้ของผม

”Colors and promises
How to be brave
How can I love when I’m afraid to fall
But watching you stand alone
All of my doubt suddenly goes away somehow”


เราสองคนมองหน้ากันนิ่งใน ตัวเราใกล้ชิดกันเรื่อยๆ และร้องท่อนต่อไปพร้อมกัน

” One step closer

I have died everyday waiting for you
Darling don’t be afraid I have loved you
For a thousand years
I’ll love you for a thousand more”


ผมรู้สึกตัวและพยายามเดินหนีจากไอ้ตี๋ตัวแสบที่ส่งสายตาและรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ

”Time stands still” ให้ตายสิ! ทันทีที่มันเริ่มร้อง ผมก็หันกลับไปมองมันโดยอัตโนมัติ

”Beauty in all she is
I will be brave
I will not let anything take away”


ผมร้องคลอตามไปด้วยในขณะที่ จู่ๆ ภาพทุกอย่างในหัวผมก็แล่นเป็นภาพมัน ภาพตอนที่ทะเลาะกับมันครั้งแรกที่สนามบิน ตอนที่ทะเลาะกับมันในฟิตเนส ตอนที่ต้องไปอยู่ในห้องมันเพราะลืมกุญแจ ตอนที่ไปเที่ยวรอบกรุงกับมัน

”What’s standing in front of me
Every breath
Every hour has come to this”


ภาพต่างๆยังคงวิ่งอยู่ในหัวผม ในขณะที่เราสองคนร้องเพลงด้วยกัน

”One step closer”

ภาพผมสอนมันพูดภาษาอังกฤษครั้งแรก ภาพที่มันพยายามอธิบายความหมายของคำว่า ‘ปฏิบัติ’ ให้ผมเข้าใจ ภาพเรากระโดดดีใจเมื่อมันพูดภาษาอังกฤษแบบสำเนียงฝรั่งได้เป็นคำแรก

”I have died everyday waiting for you
Darling don’t be afraid I have loved you
For a thousand years
I’ll love you for a thousand more”


ภาพของมันเช็ดตัวผมตอนที่ผมไม่สบาย ภาพของผมเช็ดตัวมันบ้างตอนที่มันไม่สบาย ภาพตอนที่ผมกับมันเต้นด้วยกันในผับ ภาพตอนเราคุยกันว่าจะเลือกเพลงอะไร ภาพตอนมันหันมายิ้มกับผมตอนนั่งกินข้าวด้วยกัน ภาพทุกภาพวนเวียนในหัวของผม และ....

”And all along I believed I would find you
Time has brought your heart to me
I have loved you for a thousand years
I’ll love you for a thousand more”


ภาพของมันที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม ในตอนนี้ เวลานี้

อยู่ๆผมรู้สึกน้ำตาไหลโดยไม่รู้สาเหตุ ผมมองมัน และมันก็จ้องกลับมาที่ผม ใบหน้าของเราค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้กันมากขึ้น ผมหลับตาพริ้ม ขณะที่ใบหน้าไอ้พริกใกล้เข้ามาจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจ

เสียงเพลงค่อยๆเบาลง ในขณะที่ริมฝีปากของเราประกบกัน มันช่างรู้สึกอบอุ่นและเร่าร้อนอย่างบอกไม่ถูก แต่แล้ว... การรับรู้ถึงจุมพิตที่อบอุ่นของไอ้พริกก็หายไปทันทีเมื่อผมนึกขึ้นได้ว่า... เราสองคนกำลังจูบกัน... บนเวที

ผมผละตัวออกจากไอ้ตี๋แล้วหันไปมองผู้คนทั้งหอประชุมที่อยู่ในความเงียบ เงียบกริบจนได้ยินเสียงหายใจได้อย่างชัดเจน ผู้ชมบางคนอ้าปากค้างในสิ่งที่เห็น

นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ยะ.... ผมทำอะไรลงไปเนี่ยะ.... พระเจ้า! นี่ผมคิดอะไรถึงได้ทำอย่างงั้นเนี่ยะ!! เพราะเพลงพาไปแน่ๆ เป็นเพราะแบบนั้นแน่ๆ แต่.... ถึงจะเป็นอย่างงั้นก็เถอะ!! ผมทำแบบนั้นไปได้ยังไงเนี่ยะ!!!

“แอนนี่...” ไอ้พริกเรียกผมเบาๆ

ผมสะดุ้งหันไปมองมันด้วยความตกตะลึง นี่เราทำอะไรกันลงไปเนี่ยะ “W – What have we done?”

ผมทำอะไรไม่ถูกแล้วครับ รู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมหันหลังให้กับพริกแล้ววิ่งลงจากเวทีทันที

“แอนนี่! เดี๋ยวก่อนสิแอนนี่!!” เสียงมันเรียกผมดังขึ้น แต่ผมไม่หยุด ผมรู้สึกตกใจ อับอายเพราะเพียงแค่.... เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น

นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ยะ!!! ผมได้แต่ถามตัวเองอย่างนั้น

เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!!




เหี้ยเอ๊ย!!




To be continued
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 28-03-2013 17:55:29
กรี้ดดดดดด!
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
เขินมากๆเลยคะ
เขินเพลงและบรรยากาศที่พาไป~
จูบกันแล้วจ๊าาา
ต่อหน้าประชาชน กรี้ดดดดดด
ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
จิ้มมั้ยๆ :katai4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 28-03-2013 18:10:29
จูบกันกลางเวที :hao6: ถ้าเราไปเห็นสงสัยกรี๊ดแตกแหงมๆ :z1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 28-03-2013 18:18:46
แอร้ยยยยยยยยยยยยยยย

ไม่ไหวแล้วโว้ย หวานไปแล้วนะเฮ้ยคู่นี้!!!!!!!!!!!!!!

แอนนี่ กลับมาก๊อนนนนนนนนนน :hao7:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: MaiSwifties ที่ 28-03-2013 18:49:55
อืมมม  ห่ะ! o22

จะ จะ จูบ! ท่ามกลางสายตาผู้คน :a5:

กรี๊ดลั่นบ้านค่ะ :ling1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: jonathan2624 ที่ 28-03-2013 19:14:18
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆว๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เขิลลลลลเลย :hao6:อะ สนุกมากๆ รออ่านตอนต่อไปคร้าบบบบ  :pig4:

ปล.ว่างๆ ไปอ่านเรื่องผมมั่งน้า
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 28-03-2013 19:23:18
ตลกมากกก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 28-03-2013 20:20:14
เอาแล้ว จุ๊บกันแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 28-03-2013 20:53:53
แอนนี่กับพริกเปิดตัวได้แรงมากกกก   :impress2:

แต่ตอนนี้ฮาพี่ชายกะท่าวิ้งพิฆาตมากค่ะ  :m20:

แล้วมาต่อไวๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 28-03-2013 21:17:40
อ๊ากกกกกกกกกก    เค้า ได้กันแล้ว!!! 


เอ๊ย!   จูบกันแล้ววววว!!  :-[ :-[ :-[


ต่อหน้าประชาชีเลยด้วยยย  เขิลแทนอ่ะ   อรั๊ยยยย  :o8:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 28-03-2013 22:23:10
อั้ยยะ แอนนี่จ๊ะ ถ้าน้องจะเคลิ้มขนาดนี้ ......  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: เกเร ที่ 29-03-2013 00:18:40
 :laugh: ไอซืนฝรั่งเอ้ย เเกนิมัน จริงๆเลย ไปขัดขวางความรักต่อกับจารย์แล้วยัง ได้ยินเรื่อง ซัมติงของ มิวกับแจสอีก 555+

บิ๊กเซอร์ไพร มันตอนจูบกลางเวทีนี้แหละ  :hao6: สะใจ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-03-2013 01:32:30
เพลงพาไปหรือหัวใจเรียกร้องกันแน่น้องแอนนี่
แจ๊ส-มิว รักซ่อนเร้นอีกคู่
ขำมุกทำตาวิ้ง ๆ ของพี่ชาย แล้วคนแหวะกันทั้งหอประชุม
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 29-03-2013 05:07:09
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

จูบแล้ว!!

แถมบนเวที ต่อหน้าสาธารณะชนอีก
โอ๊ว  ช่างกล้า
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 29-03-2013 20:21:20
โอ๊ย บ้าไปแล้ว โอ้ย บ้าไปแล้ว บ้าไปไแล้วววววววววววว
จูบกันไปแล้ว จูบกันไปแล้วววววววววว อยากจะกรีดร้องเป็นภาษาเมโสโปเตรเมีย!!!!!!
เฮือก!!!!!
อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 29-03-2013 21:41:14
 :mew1: น่ารักจริงคู่นี้ มาต่ออีกเน้อ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: powderje ที่ 30-03-2013 00:34:23
 :katai5: จูบบบบบบ กันนนนน
หาเร็วๆนะจะ :mew1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 30-03-2013 11:34:37
จูบแรกของทั้งสองคน ต่อหน้าสักขีพยานร่วมหลายร้อยคน
จะดังไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: boyza_Casanova ที่ 30-03-2013 14:02:20
มาต่อเร็วๆนะครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 28/3/2013 - Chapter 16 มาแว้ววว]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 30-03-2013 16:22:22
มาแล้วครับ ส่งอีกตอนขณะที่แขนยังคงเข้าเฝือกอยู่ ตอนนี้แอบมีดราม่าเพราะความซึนของแอนนี่เล็กน้อยนะครับ ไปอ่านกันเลยครับบบ






คุณผู้อ่านเคยรู้สึกเหมือนกับตระหนักถึงอะไรซักอย่างหลังจากฟังเพลงบางเพลงมั้ยครับ มันไม่ใช่ความรู้สึกแค่ชั่ววูบ ไม่ใช่อารมณ์เพลงมันพาไป แต่เป็นการค้นพบตัวเอง ค้นพบความรู้สึกบางอย่างข้างใน นี่คือความรู้สึกของผมหลังจากที่ร้องเพลงนี้จบ ความรู้สึกหลังจากที่จูบไอ้ฝรั่งไป โดยที่ลืมไปว่าเรากำลังอยู่บนเวที

ผมวิ่งตามไอ้ฝรั่งที่วิ่งออกนอกหอประชุมไป โดยไม่ได้สนใจคนในหอประชุมที่มองตาม ไม่ได้สนใจเพื่อนของผมแต่ละคนที่ทำท่าผุดลุกผุดนั่งจากเก้าอี้ ผมเพียงแต่วิ่งไล่ตามแอนนี่ไปเท่านั้น ในขณะที่ในใจของผมก็พยายามรับรู้ถึงสิ่งที่ผมพยายามเก็บซ่อมไว้มานาน ซึ่งผมไม่รู้ว่าความรู้สึกของผมที่เป็นแบบนี้มันถูกหรือผิด แต่ผมรู้แค่ว่า ทั้งหมดใจของผม ผมรั-

“แอนนี่!!!” ผมตะโกนไล่หลังเมื่อเห็นมันหยุดวิ่งลงตรงสวนคณะอักษรศาสตร์ เราสองคนต่างหอบกันทั้งคู่ “คุยกันก่อนดิ่ อย่าเพิ่งหนี”

“.....” ไอ้ฝรั่งยังคงเงียบ หันหลังให้กับผม

“แอนนี่ กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจที่จะ.... เอ่อ ทำแบบนั้นบนเวที I’m sorry.”

“It’s fine….” มันหันมามองผม ด้วยหน้าตาแปลกๆ วินาทีนั้นผมรู้ทันทีว่ามันยังคงพยายามรวบรวมสติตัวเองอยู่ “You know… I – I let you do that to so…. It’s my fault, too.”

“Right……..” ผมพยักหน้าตอบ

“Aha…….”

“…………..”

“……………”

“………….”

“……………..”

“……………..”

“……………..”

“เฮ้อออออ” หลังจากความเงียบที่ยาวนาน เราสองคนก็ถอนหายใจพร้อมกัน

“Man, this is awkward”

“It is.” ให้ตายสิ ผมควรจะพูดอะไรต่อดี ในใจผมตอนนี้ ผมอยากจะบอกมันอยู่ประโยคเดียวด้วยซ้ำ แต่... ถ้าผมบอกมันไปตอนนี้ ตรงนี้ ผมไม่รู้ว่า ผมกับมันจะยังเป็นเหมือนเดิมมั้ย และผมก็ไม่มั่นใจว่ามันจะรู้สึกแบบเดียวกับผมรึเปล่า “แอนนี่... เอ่ออออ บนเวทีน่ะ ตอนที่เราร้องเพลงกัน มันทำให้กูได้รู้อะไรบางอย่าง เอ่ออออ.... คือ กูรู้สึกว่า.... อ่า .......กู .......กู”

“I know…”

“You know?”

“Yeah, I feel like that, too.” เฮ้ยยยย นี่ผมเข้าใจไม่ผิดใช่มั้ย

“จ – จริงเหรอ!”

“Yep, I mean เวลาร๋องเพลง แล่วอินไปกับเพลงมานเป๋นเรืองปกติ right?” .....อ่า ผมเริ่มไม่เก็ทแล้วแหะ “After that… what we did on stage I come to realize that….”

“…..”

“We did that because we are close friends, right?”

“……Oh ……Right” นี่คือสิ่งที่มึงคิดสินะ แอนนี่

“เราเป๋นเพื่อนสนิทกาน ใชมะ!”

“.... อ – อื้ม นั่นสินะ เราเป็นเพื่อนสนิทกันนี่หว่า ห่ะๆๆๆ”

“Huhhhhh…… So…… What we’re gonna do next?”

“ห – หา?”

“Well, we – we ki – we did that…. So people will start to talk about that.”

“เราก็... เอ่อออออ..... ก็บอกไปว่าเตี๊ยมกันไว้ไง! บอกไปว่านี่เป็นการแสดง!!”

“I wouldn’t believe it”

“But we have no other good excuses”

“….Yeah, you’re right”

“งั้นเอาตามนี้นะ!”

“อ่าฮะ อาวตาร์มนี้แหละ Best friend!”

“………Yeah, best friend…….” ผมยิ้มตอบรับเพื่อนสนิทของผมไป ทั้งๆที่ในใจ แทบอยากจะเอาหัวไปโขกกำแพงแรงๆซักร้อยที










Chapter 17: ฉาวโฉ่










เฮ้ยมึงงง ลิ้นฝรั่งนุ่มมั้ยวะ

ไอ้พริก กูนึกว่ามึงชอบแบบน้องจ๊ะ คันหู ไม่นึกว่ามึงจะชอบแบบน้องจู๋ คันฮะ นะเนี่ยะ

แม่กูเพิ่งซื้อถั่วดำมาให้ เอาไปกินมั้ย

มึงเล่น Brokeback Mountain ด้วยเหรอวะ

เหยยยยยย อิดอกพริก เป็นแบบกูก็ไม่บอกนะอิหอยยยยย

เธอจะมีใจรึปล่าววววว เธอจะมองมาที่ฉันรึปล่าววววว




นี่เป็นแค่ตัวอย่างของสิ่งที่ผมได้เจอหลังจากเรื่องเมื่อวานจบลง ทั้งในเฟสบุ๊ค ในไลน์ ในแชท หรือแม้แต่เมื่อกี้นี้ก่อนที่ผมจะมานั่งกับเพื่อนๆ ทุกคนต่างทักและมองมาที่ผมด้วยสายตาแปลกๆ เฮ้ออออออ

“เรื่องก็เป็นแบบที่ว่านี่แหละเจ๊” ผมคุยโทรศัพท์กับพี่สาวผม หลังจากเจ๊แกเห็นเพื่อนๆในเฟสบุ๊คแซวกันใหญ่ “แต๊งกิ้วนะที่เจ๊กับไอ้ขามเข้าใจอ่ะ... แต่อย่าบอกป๊ากับม้านะ... เออๆๆ ครับๆๆ..... ก็................... ไม่ได้คิดอะไรรรรรร มันแค่เผลอๆไปน่ะ...... เอ้อๆ แค่นี้ก่อนนะเจ๊ หวัดดีครับ”

“เอาล่ะ ไอ้พริก หลังจากมึงวางสายจากอาเจ๊มะนาวของมึงไปแล้ว มึงมาดูงานชิ้นใหญ่อีกชิ้นของมึง” ไอ้ทรายพูดโดยไม่ละสายตาไปจากโน้ตบุ๊คของมัน

ผม ไอ้แจ๊ส และไอ้ต่อรีบขยับมาดูคลิปที่ไอ้ทรายเปิดอยู่ในยูทูบ


ตี๋ใหญ่ไวไฟ ดูดปากกับไอ้ฝรั่งหน้าใสกลางเวที


“เชี่ยยย” ผมหน้าซีดไปทันที “ใครถ่ายวะเนี่ยะ”

“ใช้ชื่อ account ว่า เลียหน้าจัง... โชคดีที่ดูเหมือนว่าจะมีคนนี้คนเดียวที่ถ่ายคลิปนี้ไว้” ไอ้ทรายค้นหาในยูทูบ

“หรืออออ อาจจะเป็นคนเดียวที่เอาคลิปลงยูทูบในตอนนี้” ไอ้ต่อเสริม

“เอาไงดีวะ... ถ้าไอ้แอนนี่เห็นคลิปนี้ มีหวังงานเข้าแน่ๆ”

“ทำไมวะ” ไอ้แจ๊สถาม

“ก็..... มันนอยมากอ่ะดิ่ ตอนนี้กูกับมันยิ่งทำตัวกันไม่ถูกเวลาเจอหน้ากันด้วย”

“แหงหล่ะ... เล่นออกตัวแรงกลางเวทีซะขนาดนั้น” ไอ้แจ๊สถอนหายใจ “นี่ดีนะ เค้าแค่ตัดสิทธิ์พวกมึงออกจากการแข่งขัน ไม่ใช่ไล่มึงออกที่ทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบนั้น”

“งั้น... กูทำในที่ลับตาได้ใช่มะ”

“นี่สรุปมึงคิดยังไงกับแอนนี่เนี่ยะ” ไอ้ทรายถาม ไอ้แจ๊สกับไอ้ต่อหันมามองควับ

“อ – เอ่อออออ กู... เอ้ยยย!!! เรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยว่ากันดิ่ ตอนนี้เราต้องหาตัว เลียหน้าจังให้ได้ก่อนสิวะ!!”

“ตัดบทเลยนะมึงงง” ไอ้ต่อมองด้วยหางตา

“หึ! เอาเป็นว่า หาตัวคนปล่อยคลิปนี้ได้แล้วค่อยมาเค้นคอมึงก็ได้” ไอ้แจ๊สแสยะยิ้มชั่วร้าย... ไม่ค่อยจะเห็นมันทำหน้าชั่วร้ายแบบนี้ซักเท่าไหร่ เพราะธรรมดามันจะทำตัวเงียบขรึม

“เออออออน่ะ!”

“ว่าแต่ จะหาตัวไอ้ เลียหน้าจัง ได้ยังไง” ไอ้ทรายทำหน้าครุ่นคิด

“เรื่องนั้นน่ะไม่ต้องห่วงหรอก” ไอ้แจ๊สตอบหน้านิ่งๆ “กะลา! กะปอม!”

“ครับ!!!” เสียงสองเสียงดังขึ้นจากข้างหลังเสาตึกใกล้ๆที่ที่พวกผมนั่ง แล้วชายสองคนก็โผล่มา คนหนึ่งตัวอ้วนไว้ผมทรงกะลา ส่วนอีกคนหนึ่งตัวผอม และไว้ผมทรงโมฮอว์ก

“ค – ใครอ่ะ” ไอ้ต่อถาม

“เลขาส่วนตัวของกู ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยประธานชั้นปีน่ะ”

“เลขา?”

“กูนึกว่าช่างกล”

“แล้วนี่... เค้ารู้ได้ยังไงวะ ว่ามึงอยู่นี่”

“กะลา กับกะปอม ตามกูไปทุกที่แหละ”

“ทุกที่?”

“ใช่”

“ด – เดี๋ยวนะ งั้นเวลาไปไหนกัน ไปเที่ยว ไปต่างจังหวัด ไปรับน้อง”

“ใช่”

“เหยดดดดดด”

“แม่งอยู่กันได้ไงวะ”

“เอาเถอะๆ” ไอ้แจ๊สปัดมือจากพวกผมแล้วหันไปพูดกับสององครักษ์ “กะลา กะปอม ได้ยินหมดแล้วใช่มั้ย”

“ครับ!!”

“หาตัวเลียหน้าจังมา แล้วเอามาให้ฉันให้ได้... อ้อ! จับเป็นมาล่ะ”

“ครับผม!!!”


ควับ!


แล้วเพียงแว้บเดียว กะลากับกะปอมก็หายไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

“อู้หูววววววว”

“กูลืมบอกไปน่ะ กะลากับกะปอมเป็นลูกศิษย์เก่าจากสำนักนินจาโออิชิน่ะ”

“โหหหหหห.....” ผมตื่นตะลึงกับความเทพของสองเบ๊ของไอ้แจ๊ส ก่อนจะหันไปถามไอ้ทราย “เดี๋ยวนะ โออิชิมันไม่ใช่ร้านอาหารเหรอ”

**********************************************************************************

การพบกันระหว่างผมกับไอ้ฝรั่งในแต่ละวันตลอดช่วงเวลานี้ เป็นไปอย่าง เอ่ออออออ แปลกประหลาด พิสดาร อย่างบอกไม่ถูกครับ เวลาต้องไปไหนด้วยกันเราก็จะเงียบทั้งคู่ทั้งๆที่ธรรมดา เราจะคุยกัน ไม่ก็กัดกัน เหมือนในหัวผมมันว่างเปล่าไปหมด แล้วดูเหมือนไอ้ฝรั่งเองก็จะดูหลีกเลี่ยงที่จะเจอผมด้วย อย่างเช่น

(เมื่อตอนเย็น หน้าห้องของผม)

“ว่าไงมึง”

“Hey!”


ปัง!! แล้วมันก็นีบปิดประตูเข้าห้องไป



(เมื่อเช้า ที่โรงอาหารรวม)

“เฮ้ย แอนนี่”

“Oh! It’s time to go to class! Bye!”

“...เจ็ดโมงเนี่ยนะ” ผมงึมงำขณะที่มันวิ่งออกจากโรงอาหารไป



(ตอนนี้ ซึ่งผมโทรไปหามันอยู่)

“ฮัลโหล เฮ้ยมึงๆ วันนี้จะติว –“

[Ahhh! Sorry, I’m in Professor’s room. Bye!]

ผมถอนหายใจหนึ่งเฮือก แล้วหันมาร่วมเป็นสักขีพยานในการทำสนธิสัญญาระหว่างไอ้แจ๊ส กับไอ้แน็ค เจ้าของ account เลียน่าจัง ที่โถงตึกคณะวิศวะ

“ไอ้แน็ค มึงต้องเข้าใจว่าคลิปที่มึงเอาลงไป มันทำให้คนอื่นอับอายนะเว่ย”

“แต่ไอ้พริกมันทำเองนี่หว่า อารมณ์มันพาไปกลางเวที แล้วไงวะ! กูก็ถ่ายคลิปเฉยๆ คนไลค์กันให้พรึ่บ”

“ใช่! กูเป็นคนทำเรื่องเอง!” ผมเข้าไปร่วมพูดด้วย “และกูก็แก้อะไรไม่ได้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเอามาอัพลงยูทูบนี่หว่า”

“คนไลค์กูเพียบขนาดนี้ มันก็คงต้องเป็นเรื่องของกูด้วยว่ะ แหม่ สาวๆสวยๆแอดกูมากขึ้นอีกเพียบเลย” เห้ย! แม่งทำหน้ากวนตีนอีก!

“ไอ้สัด! มึง!”

“ไอ้พริก ใจเย็นๆ นี่โถงคณะ จะทำอะไรก็รักษาภาพมึงก่อน” ไอ้แจ๊สปรามไว้

“ช่ายยยย มาตื้บกูตรงนี้ เดี๋ยวมึงจะโดนข้อหา เกย์ซาดิสม์นะมึง” อื้อหือ!! มันน่าเข้าไปกระทืบซักที

“ไอ้แน็คคคค มึงก็อย่าเพิ่งกัดไอ้พริกให้มากนักเลย” ไอ้แจ๊สแสยะยิ้มชั่วร้ายออกมาอีกรอบ

“ก็แค่โจ๊กนิดๆหน่อยๆแค่นั้นเอง”

“โจ๊กเหรอ.... งั้น.... กูก็มีโจ๊กชุดใหญ่ๆให้มึงเหมือนกัน” ไอ้แจ๊สหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเปิดคลิปคลิปหนึ่งให้ไอ้แน็คดู ซึ่งทำให้ไอ้แน็คถึงกับหน้าซีดทันที “มึงใจเด็ดมากเลยว่ะแน็ค คั่วสาว... ในห้องอธิการบดี เอ๊ะ... ถ้าคลิปนี้มันหลุดไปบ้าง คนจะกดไลค์กูเยอะขึ้นรึเปล่าวะ???”

“เออๆๆๆ!!! กูเอาคลิปมันออกก็ได้ แต่มึงห้ามลงคลิปนี้นะเว่ย” ไอ้แน็คลุกขึ้น แล้วมองพวกผมทุกคนก่อนจะเดินจากไป “แสบมากนะพวกมึง”

“เฮ้อออออ” ไอ้แจ๊สกลับเข้าสู่โหมดนิ่งขรึมของมัน “เอาล่ะ เท่านี้ก็จบแล้ว”

“มึงเป็นมาเฟียป่ะวะ” ไอ้ต่อถาม

“เปล่า แต่อีกหน่อยก็ไม่แน่ว่ะ”

“เท่ากับว่า ทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้นแล้วล่ะ... ยกเว้นเรื่องที่คนยังล้อไอ้พริกอยู่” ไอ้ทรายบิดขี้เกียจ

“ยังหรอก ยังมีอีกเรื่องนึง” ไอ้แจ๊สกลับเข้าสู่โหมดชั่วร้ายแล้วมองมาที่ผม “ไง ตกลงไว้แล้วนี่หว่า ว่าหมดเรื่องนี้แล้วมึงจะบอกพวกกูเรื่องมึงกับแอนนี่”

“ฮ – เฮ้ย” งานเข้าแล้วสิครับ “จ – จะบอกอะไรอีกเล่า มึงก็เห็นๆกันอยู่ตอนนั้น แล้วกูก็บอกแล้วว่าอารมณ์มันพาไปปปป”

“ไอ้พริก นี่มึงไม่รู้ตัวเองเลยรึไง” รู้เว่ย ไอ้แจ๊ส ต – แต่ไม่รู้จะบอกยังไงนี่หว่า แอ๊บแบ๊วไปนี่แหละวะ

“ร – รู้อะไรของมึง”

“รู้ตัวซะทีเหอะ ว่ามึงคิดยังไงกับแอนนี่” !!!!! มันรู้ได้ไงวะ

“กูคิดกับมันเป็นเพื่อนสนิทไง!!!”

“เหรออออออ” ไอ้ทรายแทรก “เพื่อนสนิทนี่เค้าจูบกันเนอะ แหม่ะ! อารมณ์พาไป ฟังขึ้นตายล่ะมึง”

“ไอ้พริก กูเป็นคนมองคนออก” ไอ้แจ๊สพูดต่อ “กูรู้ว่าจริงๆมึงก็รู้ว่ามึงเองคิดยังไงกับแอนนี่”

“เฮ้ออออ” ผมละเกลียดมันจริงๆ ไอ้เพื่อนบ้า เสือกรู้ใจผมไปซะหมด “ก็... เออออออ ก็ – ก็ อย่างงั้นแหละ... มึงคิดถูกแล้ว”

“......”

“แต่ว่า กูไม่รู้จะบอกยังไง จะป่าวประกาศให้คนอื่นรู้มันก็... ไม่รู้เค้าจะคิดยังไง อีกอย่าง... แอนนี่มันจะคิดยังไงวะ”

“ไอ้พริก” ไอ้ต่อพูดบ้าง “อย่างน้อย ถ้ามึงบอก มึงก็ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆนะเว่ย มึงก็น่าจะรู้ว่าการต้องรักใครแบบหลบๆซ่อนๆมันเจ็บปวดแค่ไหน”

“??? ไอ้ต่อ พูดยังกับมึงเคย” ไอ้ทรายหันไปมองแบบงงๆ ไอ้แจ๊สเอียงคอสงสัย

“ก็ – ก็แค่พูดเฉยๆไง แบบว่า เคยมีเพื่อนเป็นแบบนั้นนนน”

“ยังไงก็เถอะ มันก็ยังแปลกๆอยู่ดี คนอื่นจะมองยังไงล่ะวะ” ผมถามคำถามที่คาใจผมมานาน

“มันไม่สำคัญว่าคนอื่นจะมองยังไงว่ะพริก” ไอ้แจ๊สจับบ่าผม “ตอนนี้คนอื่นเค้ารู้ เค้าแซว แล้วเค้ามามีส่วนได้ส่วนเสียอะไรระหว่างมึงกับแอนนี่วะ”

“.....”

“พริก รักเค้าก็บอกเค้าไป มันก็ยังดีกว่าเก็บเอาไว้ หรือทำเป็นว่าไม่มีอะไร กูไม่อยากให้มึงต้องมาเสียใจในภายหลังเหมือนกู”

“เหมือนมึง?”

“ใช่... กูกะมิวน่ะ... เคยเป็นแฟนกัน”

“.........เห!!!!!!????” ผม ไอ้ต่อ ไอ้รายร้องประสานเสียงพร้อมกันอย่างตกใจ มิน่าล่ะ!!! เห็นสองคนนี้มันมีซัมติงกันมาตั้งนานแล้วววววว > <

“จ – จริงดิ่”

“อืม... แต่ด้วยความที่กูกลัวคนอื่นจะนินทาว่าร้ายอะไร กูเลยค่อยๆทำตัวห่างจากมิวไป จนในที่สุด พวกเราก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ แล้วมิวก็ไม่ให้อภัยกูอีกเลย... เพราะกูเห็นสายตาคนอื่นที่มองมา ดีกว่าคนที่กูรัก... กูไม่อยากให้มึงเป็นแบบนั้นว่ะพริก”

“อืม.... กูขอบใจพวกมึงมาก เอาล่ะ!”  ผมลุกขึ้นยืน “วันนี้กูจะไปบอกรักแอนนี่แล้วโว้ย!!!!”

“เอ่อออ ไอ้พริก มึงพูดดังไปแล้ว”

**********************************************************************************

“เฮ้ย แอนนี่!” ผมทักมันขณะที่มันกำลังจะเข้าห้องมัน

“Hey! I’m busy right now”

“Wait, wait, wait.” ผมรีบคว้าตัวมันไว้ก่อนที่มันจะเข้าห้อง “ทำไมต้องหลบหน้ากูด้วยวะ”

“What?”

“ดูก็รู้แล้วว่ามึงพยายามหลบหน้ากู มึงเป็นอะไรของมึงวะ”

“I –“ ไอ้ฝรั่งถอนหายใจ และมีสีหน้าเครียดอย่างชัดเจน “I don’t know how to be around you anymore. Like, ที่มอ กอร์มีแต่คนแบบว๋า Heyyyyy How’s Chinese tongue? Did you suck his dick, yet? ขี๋คล่องหมายยย เอาไส้กรอกหมายยย... You know, It’s – It’s too much. And then, there’s a clip on Youtube. Apparently, It was deleted today but hundreds of people saw it!”

“แอนนี่ แอนนี่ ใจเย็นๆก่อน กูรู้ว่าทุกอย่างมันแย่มาก แต่กูไม่อยากให้ทุกอย่างมาทำให้มึงต้องหลบหน้ากู หรือว่ารู้สึกอึดอัดเวลาอยู่กับกูแบบนี้”

“Well…. I know…. It’s just - It happened so fast and I don’t know what to do…. I need time alone, Prick. Please…. I’m not ready to stay around you for now.”

“โอเค.... กูเข้าใจ...” ถึงผมจะพูดอย่างงั้นก็เถอะครับ แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนไอ้ฝรั่งจะหายไปจากชีวิตผมอีกยาวนานยังไงก็ไม่รู้... “กูจะรอก็แล้วกัน”

“Thanks….” แอนนี่หันมายิ้มให้ผม แล้วเข้าห้องไป “See you… soon”



ปัง





To be continued


ตอนต่อไปแอนนี่ผู้ปฏิเสธตัวเองจะเอายังไงต่อกับชีวิต เมื่อการกระทำของเค้าจะส่งผลถึงความสัมพันธ์ที่มีต่อพริก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 30-03-2013 19:42:01
พริก..สู้ต่อไป :a1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: oatty ที่ 30-03-2013 19:50:55
ง่ะ น้องแอนนี่ตื่นสินะ โดนคนแซวแถมเปิดตัวซะแรงขนาดนี้เลยทำอะไรไม่ถูกเลยยยย

พริกสู้ต่อไปนะะะ ถึงน้องจะทำตัวซึนไปบ้าง  o13

ขอให้แอนนี่รู้ใจตัวเองเร็วๆเห๊อะะะะะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: MaiSwifties ที่ 30-03-2013 20:29:27
อ่า ไม่คิดว่าแอนนี่งี่เง่าอะไรนะ

คิดว่าถ้าโดนล้อขนาดนี้ แล้วยังไม่ได้โวยวายอะไรใส่พริกอีก

อืม ยังดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 30-03-2013 20:39:00
เข้าใจความรู้สึกแอนนี่นะ คนไม่ได้เป็น แล้วจูบกลางผู้คนขนาดนั้น ทำตัวไม่ถูกหรอก

พริกโปรดเข้าใจแอนนี่หน่อยนะจ๊ะลูก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 30-03-2013 21:12:07
 :เฮ้อ: จะเป็นไงต่อไปเนี่ย เข้าใจทั้งคู่เลยนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: jonathan2624 ที่ 30-03-2013 21:18:30
รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 30-03-2013 22:02:59
สู้ๆทั้งคู่
ใครแซวแม่จะเอาปืนใหญ่ไปยินใส่หลังคาบ้าน
 :angry2:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 30-03-2013 23:48:12
>< แอนนี่ ยอมรับมาซะดีๆว่าชอบพริกอะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: PoofuGirl ที่ 01-04-2013 13:10:32
เป็นเรื่องที่อ่านสักพักแล้วลืม จำชื่อเรื่องไม่ได้ หาลิงค์ไม่เจอ
ในที่สุดก็อ่านตามทันถึงปัจจุบันแล้ว  :hao5:


แอบสงสารแอนนี่ >_<
ดูเหมือนน้องต้องทนเก็บกดเอาไว้คนเดียว
คือก็ไม่รู้ว่าไอ้ที่รู้สึกไปมันคืออะไร ยังงง ๆ กับตัวเองอยู่
แอบไปสร้างความร้าวฉานกับคู่พี่โก้น้องต่อ
พอมาเป็นเรื่องของตัวเองก็เลยสับสน เฮียพริกต้อง
ให้เวลาน้องหน่อยนะก๊ะ คงกำลังมึนอยู่

อยากบอกว่าเฮียพริกคาแรคเตอร์ในเรื่องเราคิดมาโดยตลอดว่า
เฮียแอบสาวกว่าน้องในบางครั้ง แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีผลในแนวราบสินะ  :hao6:
สู้ ๆ ค่ะ ชอบการดำเนินเนื้อเรื่องนะ น่ารักเรียบง่าย
มีแต่เนื้อ ๆ ดีไม่ยืดหรือยาน เรื่องกระฉับดีค่ะ
ได้ฝึกปะกิตไปในตัวด้วย  :really2:

รอมาต่อนะคะ   :katai5:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 01-04-2013 13:38:05
เปิดตัวซะแรง ไม่สับสนก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
ขอเวลาให้แอนนี่คิดหน่อยละกัน  :sad11:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 01-04-2013 14:19:31
พริก สู้ๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 01-04-2013 15:58:30
พริกสู้ๆ เอาใจช่วยน๊า

แอนนี่อ่ะ  ทำไมต้องหลบหน้าพริกด้วย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 30/3/2013 - Chapter 17 มาแล้วแจ้]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 01-04-2013 18:54:10
ตอนรองสุดท้ายของช่วง season แรกของไอ้ฝรั่งมาแล้วครับ เรื่องตอนนี้มีดราม่าจัดหนัก เตรียมตัวกันไว้ให้ดีครับ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลยครับ!!









“เดือนนึงและนะ”

“เดือนนึงอะไรวะ?” ผมหันไปถามไอ้ต้น

“ก็เดือนนึงแล้วนะ ที่มึงบอกว่าจะปรับตัวเข้าหาพี่พริก แต่จนตอนนี้ กูก็ไม่เห็นมึงจะกลับไปคุยกับพี่เค้าเลย”

“อันที่จริง กูก็ยังคุยกับมันนะ” ผมเถียงพลางนึกถึงบทสนทนาหน้าห้องซึ่งผมมักจะพูดแค่ ‘Hey!’ หรือ ‘I’m busy’

“เอาจริงๆ ตอนนี้คนเค้าก็ไม่ได้แซวเรื่องมึงกับพี่เค้าแล้วนะแอนนี่ คุยกับแฟ- กับเพื่อนสนิทมึงได้แล้วน่า”

“กูทำไม่ได้ ทุกๆครั้งที่กูเห็นหน้ามัน ภาพตอนนั้นที่พวกกูทำอะไรบนเวทีมันก็... โผล่ขึ้นมาทุกทีเลย”

“แล้วมึงชอบมั้ยล่ะ” ไอ้มิวถาม

“ไม่... ไม่... ไม่รู้ว่ะ มันแปลกๆอ่ะ”

“เฮ้ออออ เพื่อนเอ๋ย เรื่องนี้อันที่จริงมึงต้องลองถามตัวเองดูว่ะ พวกกูพูดอะไรไปมันก็ไม่หนักแน่นเท่ารู้ตัวเอง” ไอ้ต้นตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากแล้วลุกขึ้น

“ยังไงวะ”

“มึงต้องรู้ด้วยตัวเองว่ะ” ไอ้ต้นโบกมือขณะลุกจากที่นั่งไป “ไปล่ะ กูมีนัดกับเพื่อนที่ชมรม”

“เพื่อนที่ชมรมเหรอ? หึหึ” ไอ้มิวหัวเราะในลำคอขณะมองไอ้ต้นเดินหายลับไป

“มีอะไรเหรอวะ”

“กูว่า ไม่น่าใช่เพื่อนน่ะสิ”

“หมายความว่าไง”

“มึงไม่ได้ยินข่าวลือเรื่องที่ไอ้ต้นมันตามจีบ ยูกิ ที่เป็นรองดาวคณะเหรอ”

“เคยนะ แต่กูไม่ค่อยเชื่อข่าวลือพวกนี้เท่าไหร่หรอก ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองน่ะ”

“อ่าฮะ แต่เผอิญว่า เมื่อสองวันก่อนกูดันเห็นมากับตาตัวเองไง”

“เห เห็นไอ้ต้นกับยูกิน่ะเหรอ”

“ช่ายย เดินจับมือกันซะด้วย”

“ร้ายยยยย ไม่เห็นเอามาเปิดตัวบ้างเลย”

“มันอาจจะยังไม่พร้อมมั้ง... เหมือนที่พี่แจ๊สมันไม่พร้อมไง” เฮือกกกกก อยู่ดีๆมันมาลากเข้าเรื่องนี้ได้ไงวะเนี่ยะ ตั้งแต่วันนั้นที่ผมได้ยินสองคนนี้คุยกันในห้องน้ำ ผมกับไอ้มิวก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย ประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เอ่อ... ไอ้มิว เรื่องวันนั้นน่ะ -”

“กูไม่ซีเรียสหรอก แต่พี่แจ๊สน่ะไม่แน่ ตั้งแต่วันนั้นเจ้าตัวก็เงียบๆหายไปเหมือนกัน”

“อ่า... ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ เห็นท่าทางมึงรำคาญเค้าจะตาย”

“มึงคิดอย่างงั้นเหรอวะ” เอ๊า หันมาทำหน้าเครียดใส่กูซะงั้น คนอื่นเค้าก็คิดอย่างงั้นกันหมดแหละครับบบบ

“เอ่อออ ก็ดูมึงรำคาญทุกครั้งที่เค้ามาหามึงเลยนี่หว่า”

“เฮ้ออออ กูมันเป็นประเภท รักมากเกลียดมาก น่ะสิ”

“???”

“เอาเป็นว่า กูจะเล่าให้มึงฟังแล้วกัน ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง ทั้งมึงทั้งคนอ่านจะได้รู้เรื่องราวทั้งหมดด้วย”

“คนอ่าน??”

“ใช่ คนอ่าน ที่อ่านเรื่องของพวกเราอยู่ตอนนี้ไงล่ะ”










Chapter 18: Suddenly I See










“กูกับพี่แจ๊ส รู้จักกันครั้งแรกตอนกูอยู่ม. 5 ตอนนั้นกูเป็นเด็กใสๆมาก มองโลกในแง่ดี และมีนิสัยร่าเริง ส่วนพี่แจ๊สเองตอนนั้นก็เป็นนักเลงประจำโรงเรียน มีเรื่องชกต่อยกับชาวบ้านเป็นประจำ”

“โหหหห ทำไมพวกมึงฟังดูต่างกับตอนนี้เลยวะ” ผมทึ่งขณะที่มองผมสุดแนวกับหูที่เจาะจนพรุนทั้งสองข้างของไอ้มิว

“มันมีจุดเปลี่ยนน่ะ ต่อนะ พวกกูสองคนเริ่มสนิทกัน ตอนที่มีงานกีฬาสีของโรงเรียน ตอนนั้นกูเป็นประธานสี เลยมีหน้าที่ควบคุมงานทั้งหมด ซึ่งหนึ่งในลูกงานก็คือพี่แจ๊ส ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ค่อยชอบหน้ากูเท่าไหร่ แหงล่ะ ถูกรุ่นน้องสั่งเป็นเบ๊ นิสัยอย่างพี่เค้า มันไม่ใช่อยู่แล้ว แต่แล้ววันนึง... ขณะที่กูกับพี่แจ๊สเถียงกันเรื่องคัตเอาท์อยู่ จู่ๆนั่งร้านที่ใช้ทำแสตนด์ก็เกิดพังขึ้นมา...”

“เฮ้ย! แล้วเกิดอะไรขึ้นวะ”

“พี่แจ๊สเข้ามาบังตัวกูไว้ ทำให้ได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล กูที่รู้สึกผิดในตอนนั้นก็ไปเฝ้าพี่เค้าทุกวันจนพี่เค้าหายดี ในตอนนั้นทัศนคติของพวกเราสองคนที่มีต่อกันก็เปลี่ยนไป เราเปลี่ยนจากการเถียงกันทุกวัน เป็นช่วยกันทำงาน เราสนิทกันมากขึ้น ไปไหนด้วยกันมากขึ้น พี่แจ๊สมีนิสัยอ่อนโยนลง ส่วนกูก็เป็นคนที่เข้มแข็งมากขึ้น จนกระทั่งกีฬาสีจบลง สีของเราไม่ได้รางวัลอะไรเลย นั่นทำให้กูเสียใจมาก เพราะกูทุ่มเทกับงานนี้สุดๆ แต่ในขณะที่กูเศร้าใจอยู่นั่นเอง มีคนคนนึงที่เข้ามาโอบกูไว้ แล้วบอกว่า ไม่เป็นไร”

“พี่แจ๊ส?” เช้ดดดด ทำไมผมฟังไปหน้าแดงไปวะครับ >/////<

“ใช่ พี่เค้าเป็นคนปลอบกูในตอนนั้น กูไม่รู้ว่ากูนั่งอยู่ตรงนั้นกับพี่เค้านานแค่ไหน แต่สุดท้าย...” จู่ๆไอ้มิวก็หยุดพูดแล้วมีสีหน้าแดงขึ้นมาแทนครับ อะไรวะๆ เล่าต่อดิ่ วิญญาณสาววายกำลังเข้าสิงกูเลย

“สุดท้าย.... สุดท้ายอะไรวะ?”

“สุดท้าย เราก็... จ-จูบกัน” กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จิ้นแตกคร้า เอ๊ย! ครับบบบบบบบบ “แต่เรื่องมันไม่ได้สวยงามแบบนั้น ทันทีหลังจากที่เราจูบกัน พี่แจ๊สก็ตกใจ แล้วเดินวิ่งหนีหายไป หลังจากนั้น พี่แจ๊สก็กลับไปเป็นพี่แจ๊ส ไอ้จิ๊กโก๋จอมหาเรื่องคนเดิม แต่ที่ร้ายกว่าคือ ทุกครั้งที่พี่เค้าเห็นกู เค้าจะเข้ามาหาเรืองกูอยู่ตลอด แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ทุกครั้งที่มีโอกาส ที่กูกับพี่เค้าอยู่ด้วยกัน พี่เค้ามักจะเข้ามา...... จูบ.... หรือทำอะไรมากกว่านั้น ทุกครั้งไป”

“เห้ย! ไหงงั้นอ่ะ”

“กูสับสนมาก และกูก็รู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด ซ้ำร้ายคือ กูรู้ตัวเองอยู่ตลอดว่า... ในตอนนั้น กูรักพี่เค้ามาก แต่พี่เค้ากลับทำกับกูเหมือนของเล่น”

“....” ผมพูดอะไรไม่ออก ด้วยความสงสาร ไม่นึกว่าเรื่องทั้งหมดมันจะซับซ้อนขนาดนี้

“มึงเห็นรอยนี่มั้ย” ไอ้มิวยื่นแขนขวามาให้ดูรอยหลายๆรอยที่ข้อมือของมัน “เรื่องทั้งหมดมันเปลี่ยนไป เมื่อกูสติหลุด กูหยิบคัตเตอร์มา แล้วหวังจะกรีดให้เลือดในตัวกูไหลออกมาให้หมด”

“!!!!!!!!!!!!!!!!!” ผมอ้าปากค้างครับ ไม่เคยนึกมาก่อนว่าไอ้มิวจะเคยคิด... เอ่อ... ฆ่าตัวตายมาก่อน

“ณ วินาทีนั้น กูคิดว่าพี่แจ๊สคือทุกสิ่งในชีวิตกู และมันทรมานมากที่กูต้องตกอยู่ในสภาพแบบนั้น โชคดีที่พ่อแม่มาเจอกูทัน และรีบนำส่งโรงพยาบาลก่อนที่เลือดจะหมดตัวกูซะก่อน หลังจากกูฟื้นตัวและเข้ารับการบำบัดจิตใจ กูก็คิดได้ว่า เรายอมตัดสินใจทำอะไรโง่ๆเพียงเพราะผู้ชายคนเดียวที่ทำกับเราแบบนี้เหรอ เราจะยอมเป็นของเล่นกับคนแบบนี้ต่อไปเหรอ หลังจากนั้น พอพี่แจ๊สได้ข่าว เค้าก็มาเยี่ยมกูที่สถานบำบัด เค้าเสียใจในสิ่งที่เค้าทำ เพราะเค้าคิดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกูกับเค้ามันผิด มันวิปริต เค้าขอโทษกู และขอโอกาสกูอีกครั้ง”

“แล้วมึงว่าไงต่อ”

“กูในตอนนั้นเหรอ... ความคิดของกูมันเปลี่ยนไปแล้วล่ะ กูปฏิเสธและเลิกยุ่งกับพี่เค้า กูกลายเป็นคนใหม่แบบที่เป็นอย่างทุกวันนี้”

“โอ้.... พระเจ้า” เรื่องทั้งหมดช่างราวกับผมฟังเรื่องการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ยังไงอย่างงั้น “แล้ว... ตอนนี้มึงยังรักพี่เค้าอยู่มั้ย”

“ไม่รู้สิ... รัก... มั้ง แต่ก็เกลียดมาก กูไม่เคยโทษเค้าที่ทำให้กูคิดฆ่าตัวตาย เพราะมันเกิดจากความโง่ของตัวกูเอง แต่ กูเกลียดเค้า ที่เค้าทำกับกูเหมือนของเล่น”

“แต่เค้าเปลี่ยนไปแล้วนะเว่ย”

“มึงรู้ได้ไง”

“กูไม่รู้หรอก แต่คนเรามันก็เปลี่ยนกันได้ไม่ใช่เหรอ”

“อ่าฮะ... เหมือนอย่างที่มึงเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อพี่พริกงั้นเหรอ”

“.............หมายความว่าไง”

“แอนนี่เพื่อนรัก ทั้งหมดที่กูเล่ามาเนี่ยะ กูไม่ได้แค่อยากให้มึงรู้เรื่องทั้งหมดแล้วจบนะ แต่กูอยากให้มึงเอาไปคิดด้วย เหตุการณ์มันอาจจะไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรคล้ายกันหรอกนะ”

“......”

“มึงควรจะจัดการกับตัวเองให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป กูไม่รู้หรอกนะว่าพี่พริกเค้าจะเป็นประเภทสติหลุดแบบกูมั้ย แต่กูพูดได้อย่างเดียว ไม่มีเพื่อนสนิทคนไหน ที่จูบกันและยังคิดถึงเรื่องจูบกันจนผ่านไปแล้วหนึ่งเดือนหรอก” ไอ้มิวตบบ่าผมที่นั่งนิ่งอยู่แล้วลุกขึ้น “กูมีเรียนตอนบ่าย ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”

ผมนั่งอยู่ตรงนั้นนานมากครับ ใช้เวลาทบทวนในสิ่งที่ไอ้ต้นกับไอ้มิวได้บอกผม หมายความว่ายังไงกันที่ว่าผมกับไอ้พริกในตอนนี้ เรื่องราวมันก็คล้ายๆกับพี่แจ๊วกับไอ้มิว แล้วเรื่องที่ว่าผมต้องรู้ทุกอย่างด้วยตัวเองอีก ไหนจะเรื่องที่ไอ้มิวพูดเหมือนกับว่า ผมไม่ได้รู้สึกกับไอ้พริกเป็นแบบเพื่อนสนิทอีก ให้ตายสิ!! ผมไม่ชอบความรู้สึกนี้จริงๆ และทุกครั้งที่นึกถึงมัน ทำไมใจผมมันเต้นไม่เป็นจังหวะไปซะทุกทีเลยวะ!!

“โอ๊ยยยยยย!! แม่งเอ๊ย!!”

“เป็นอะไรน่ะ ท่าทางดูเครียดเชียว” เสียงหล่อๆนุ่มๆดังขึ้นตรงหน้าผม

“อ้าว! พี่ชาย สวัสดีครับ!” ผมยิ้มทักพี่ชายสุดซี้ที่ได้เป็นรองแชมป์การแข่งขันร้องเพลงเป็นที่เรียบร้อย “ไม่มีอะไรหรอกพี่ ก็มีเรื่องเครียดๆนิดหน่อยน่ะ”

“ยังเครียดเรื่องบนเวทีร้องเพลงอยู่อีกเหรอ”

“นี่ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอพี่”

“ก็นะ มีซักกี่เรื่องที่ทำให้น้องชายสุดที่รักของพี่เครียดได้ขนาดนี้”

“เฮ้ออออ ก็อย่างที่พี่คิดแหละครับ ถึงตอนนี้คนเค้าจะเลิกล้อแล้ว ด้วยเหตุผลที่ทุกคนคิดว่าผมเป็นเกย์ไปแล้วจริงๆ หรือเค้าเบื่อ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ตอนนี้ผมมองหน้าไอ้พริกไม่ติดจริงๆอ่ะ”

“แล้วทำไมถึงมองหน้าพริกไม่ติดล่ะ”

“ไม่รู้สิพี่ ทุกครั้งที่เห็นหน้ามัน ผมรู้สึกแปลกๆอ่ะ... แล้วก็นึกถึงเรื่องบนเวทีนั่นทุกทีเลย”

“รู้สึกแปลกๆยังไงเหรอ”

“มัน... บอกไม่ถูกอ่ะครับ มันตุ้มๆต่อมๆยังไงไม่รู้สิ... ต-แต่ผมคิดกับมันแค่เพื่อนสนิทนะพี่ ตอนนี้ผมไม่แอบชอบใครหรอกครับ!”

“เหรอ..... พี่ถามแอนนี่หน่อยสิ แล้วแอนนี่เคยมีแฟนมาก่อนมั้ย”

“ไม่เคยครับ”

“เคยแบบว่า... รู้สึกแอบชอบใคร มาก่อนมั้ย”

“เอ่ออออ.... ผมเคยชอบผู้หญิงคนนึงในชมรมหนังสือพิมพ์ชื่อจูเลีย ตอนอยู่ม.สี่อ่ะพี่”

“แล้วความรู้สึกตอนนั้นมันเป็นยังไงอ่ะ”

“ความรู้สึกตอนนั้นเหรอ” ผมพยายามนั่งนึกถึงความรู้สึกตอนไปเที่ยวกับจูเลียทุกๆวัน ไปไหนด้วยกันตลอดเวลา “ก็... รู้สึกว่าอยากไปเที่ยวกับเค้าตลอด อยากเอาเพลงนั้นเพลงนี้ให้ฟัง อยากคุยด้วยกัน... ประมาณนั้นอ่ะพี่”

“เอ่ออออ โอเค มีอะไรมากกว่านั้นมั้ย?”

“เอ่ออออ ไม่มีแล้วนะพี่”

“แบบว่า ไม่รู้สึก ตื่นเต้น หรือว่าใจเต้นรัว หรือหน้าแดงเวลาอยู่กับจูเลียเลยเหรอ”

“อ่ออออ มีครั้งนึงพี่ ตื่นเต้นมาก ตอนนั้นไปนั่งรถไฟเหาะที่ Six Flag ครับ”

“แอนนี่ๆ นั่นไม่ใช่ความรู้สึกของการแอบชอบเลยนะ”

“เหรอครับ”

“ใช่ พี่ว่ากับจูเลีย เราแค่รู้สึก ผูกพัน และก็สนิทสนมด้วยเฉยๆ”

“โอ้.... งี้ผมก็ไม่เคยแอบชอบจูเลียเลยเหรอ” แปลกแหะ แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกแบบที่พี่ชายเค้าว่าจริงๆแหละ ไม่เคยอยากจับมือ โอบเอว หรืออยากจูบ... เคยแต่อยากตบหัวมันแค่นั้นเอง

“โอเค งั้นพี่เปลี่ยนคำถามละกัน แอนนี่” พี่ชายมีสีหน้าที่จริงจังมาก “ถ้ามีคนมาบอกชอบแอนนี่ แล้วขอแอนนี่เป็นแฟน แอนนี่จะยอมเป็นแฟนกับเค้ามั้ย”

“เอ่อออ” เป็นคำถามที่ดูไม่เกี่ยวกับอะไรเลย แต่ก็ลองตอบดูครับ “เอาจริงๆ ถ้ามีคนมาขอผมเป็นแฟน  ถ้าผมยังไม่มีใคร ยังไงผมก็คงลองคบกับเค้าดูนะพี่”

“ชัวร์เหรอ”

“ชัวครับ”

“จริงรึ”

“จริงซิ”

“แน่นะ”

“อ่ะ แน่สิ”

“ไม่ยั่วนะ”

“ไม่ยั่ว- โอ๊ยย! พี่ชายครับ จะมาร้องเพลงอะไรเนี่ยะ พี่-“

“เป็นแฟนกับพี่นะ” !!!!!!! โว้วว อะไรวะเห้ย! ไม่ทันตั้งตัวเลยแฮะ

“เอ่ออออ อะไรนะพี่”

“เป็นแฟนกับพี่มั้ย”

“อ- โอ้ว... เอ่อ” ผมพูดไม่ออกครับ ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจที่พี่เค้าซึ่งเป็นผู้ชายมาขอคบกับผมนะ เพราะยังไงซะตอนนี้ทุกคนก็คิดว่าผมเป็นเกย์อยู่แล้ว... จนผมก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นหรือไม่เป็น แต่... ถ้าผมตอบพี่เค้าไป ไอ้พริกมันจะว่ายังไงวะ... เดี๋ยวก่อน เกี่ยวอะไรกับไอ้พริกวะครับ!!

“พี่พูดจริงๆนะว่า พี่แอบชอบแอนนี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว... แล้วก็... ในเมื่อตอนนี้ที่แอนนี่ไม่มีใคร และก็ไม่ได้แอบชอบใคร บางทีพี่ว่า ถ้าเราลองคบกันดู...”

“เอ่อ... พี่ชายครับ ผม...” โอเค ตั้งสติไว้ๆ ค่อยๆพูด “ผมรักพี่นะ... แต่ในฐานะพี่ชายคนนึงที่เราสนิทกัน... และผมก็รู้สึกขอบคุณมากที่พี่รู้สึกอย่างนี้กับผม แต่ว่า... ผมคบกับพี่ไม่หรอกครับ...”

“.....เพราะอะไรเหรอแอนนี่ หรือรังเกียจที่พี่ชอบผู้ชาย... ถึงจริงๆแล้วพี่จะเป็นไบก็ตาม”

“ไม่ได้รังเกียจเลยพี่ ผมเองตอนนี้ทุกคนก็คิดว่าผมเป็นอยู่แล้ว... จนผมเองก็ไม่แน่ใจตัวเองด้วยซ้ำ... เพราะงั้นผมไม่ได้รังเกียจพี่เลย”

“ถ้าอย่างงั้นเราก็คบกันได้นี่นา... ในเมื่อแอนนี่ไม่มีใครนี่”

“พี่ชายครับ แล้วพริกมันจะคิดยังไงล่ะ!” อุ๊บบบบบบส์ กูพูดอะไรออกไปเนี่ยะ

“หึหึ” พี่ชายหัวเราะในลำคอ “นั่นสินะ... แล้วพริกเค้าจะคิดยังไงล่ะ”

“กูพูดอะไรออกไปเนี่ยะ” ผมเอามือปิดปากขะอุทานออกมา

“พี่ถามแอนนี่อีกครั้งนะ เวลาแอนนี่นึกถึงพริก แอนนี่รู้สึกยังไง”

“รู้สึก... หัวใจเต้นแรงมาก มันไม่เป็นจังหวะ ตื่นเต้นตลอดเวลา... มีความสุขมาก... และอยากอยู่ใกล้มาก... ครับ...”

“เหรอ.... จริงๆยังมีมากกว่านั้นใช่มั้ย”

“อ – อืม...” ผมพยักหน้าตอบ บอกตรงๆว่าตอนนี้หน้าแดงมากครับ ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว

“เฮ้ออออ แอนนี่ พี่รักแอนนี่นะ แต่ตั้งแต่ที่แอนนี่กับพริกจูบกันบนเวทีนั่น... พี่ก็รู้แล้วล่ะว่า แอนนี่เลือกใคร เพียงแต่แอนนี่ยังไม่รู้ตัวเอง จนถึงวันนี้” ....นั่นสินะ ทั้งๆที่ตลอดเวลาทุกอย่างก็ดูชัดเจนมาตลอด แต่เราเลือกที่จะมองข้ามมัน เลือกที่จะมองข้ามความรู้สึกมันไป ทั้งๆที่ตลอดเวลา ผมคิดอย่างงั้นกับมันมาตลอด.....

“พี่ชาย... ผม –“

“ไม่ต้องบอกพี่หรอก พี่รู้ว่าเราจะพูดอะไร  เก็บไว้พูดกับคนที่เราควรจะพูดดีกว่านะ” พี่ชายยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วลุกขึ้น “พี่รักเรานะ และก็จะรักไปเสมอ... น้องชาย”

**********************************************************************************

“สัปดาห์หน้าก็จะสอบแล้วนี่แอนนี่” แม่ของผมถามขึ้นขณะเตรียมเสื้อผ้าสำหรับแพ็คของ หลักสูตรนานาชาติของผม ปิดเทอมตามต่างประเทศ เพราะงั้นหลังสัปดาห์หน้าที่เป็นสัปดาห์สอบก็จะหมดช่วงเทอมหนึ่ง พอดีกับช่วงวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่

“ใช่แม่ แล้วก็จะได้กลับไปเยี่ยมอเมริกาซะบ้าง”

“ชวนพวกเพื่อนๆเราไปมั้ย อย่างพริกหรือต้นกับมิวอย่างงี้”

“เดี๋ยวผมลองถามพวกเค้าดูก่อนครับ” ผมตอบยิ้มๆ ถ้าไอ้พริกกลับมา ผมคงยังไม่บอกมันเรื่องไปเที่ยวอเมริกาหรอกครับ เพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นที่ต้องบอก

“อ่ะ แล้วนี่ยิ้มอะไรน่ะเรา หน้าแดงเชียว ไข้ขึ้นเหรอ”

“ป่าวน่ะแม่! ก็ยิ้ม วันนี้แม่แต่งตัวสวยดีไงงงง”

“อู๊ยย ปากหวานนะลูกคนนี้”



ตุบ!!



“เสียงอะไรน่ะ” แม่ผมถามขณะที่เราสองคนมองไปที่หน้าต้องเราอย่างตกใจ

“เดี๋ยวผมไปดูเอง”

“ระวังนะลูก”

ผมเดินไปแง้มประตู เพื่อจะดูว่าต้นเหตุเสียงที่หน้าห้องคืออะไรแล้วก็พบกับ

“Prick!!” ผมรีบยกตัวไอ้พริกที่ล้มอยู่หน้าห้องขึ้น

“อ้าว พริก เป็นอะไรน่ะลูก!” แม่ผมรีบออกมาช่วยพยุงตัวไอ้ตี๋ที่เหม็นไปหมด “หืม กลิ่นเหล้าหึ่งเลย”

“โผมมไม่เป็นรายครับ” ไอ้พริกตอบเสียงเมา แล้วยื่นกุญแจห้องมันให้แม่ผม “ช่วยพาโผมมมเข้าห้องเทท”

“อ่อ ค่ะๆ” แม่ผมรีบเปิดประตูห้องมัน แล้วพามันไปนอนที่โซฟา “โอยยย ตายๆ แล้วแม่ก็กำลังยุ่งกับเรื่องเก็บของกับตั๋วกลับอยู่ด้วย”

“It’s alright, mom.” ได้โอกาสอยู่กันสองคนจะได้คุยกับมันเรื่องของเราซะที >/////< “I can handle this by myself. You just go to your stuff and all.”

“Ok, dear. Call me if you need any help.” แม่ผมออกไป แล้วทีนี้ก็เหลือผม กับไอ้พริกสุดที่รัก ในสภาพ.... เมาเป็นหมาเชียว

“โอ้วววว เฮ้ แอนนี่ย์ เมิงม่ายทักกูแค่ เฮ้ กับแอมบิ๊ซซี่ แล้วเหรออออออ”

“No. Actually, I have something that I wanna talk to you. I-“

“กูด้ายยินเหมือนเมิงงงงจะกลับอเมกาเหรอวะ”

“Yeah. I-”

“อู้ววววว นี่เมิงเกลียดกูขนาดจาหนีกลับปราเทศเลยเหรอ แอนนี่”

“What? No! กูม๋ายได้รังเกียจเมิง”

“โน เหี้ยไรวะ!! มึงไม่คุยกับกู หนีหน้าไปเป็นเดือน!! แล้วเมิงบอกว่า ขอเวลาแปบเดียวววว!!! ทุกวันนี้เจอกันไม่ได้เลยยย!!! มึงมีปัญหาอะไรวะ!!”

“Prick, you need to calm down. You’re drunk”

“กูไม่สนว่ากูเมาหรือไม่เมา!!” ไอ้พริกกระชากตัวผม มันบีบแขนทั้งสองผมจนเจ็บไปหมด

“Ouch! It hurts”

“Hurt เหรอ? แล้วที่มึงหายไปเนี่ยะ กูไม่เฮิร์ทเหรอ!! ห๊ะ!!” มันบีบแขนผมแรงขึ้น จนผมน้ำตาจะไหล

“Prick! Let me go! It hurts!!”

“กูปล่อยมึงแน่!! แต่ขอกูระบายหน่อยเหอะ!!! มึงรู้มั้ย!!” ไอ้พริกตะโกนใส่หน้าผม สายตาดูดุดันและก้าวร้าว แต่เสียงกลับฟังดูเจ็บปวดและสั่นเครือ “มันเจ็บแค่ไหน ที่อยู่ๆมึงก็หายไปเนี่ยะ!!! ไม่พูดไม่จาเหี้ยอะไรซักคำ อยู่ๆก็หนีหน้ากันไปแบบนี้น่ะเหรอ!!”

“Prick, please… Let me go…” ผมดิ้นในอ้อมแขนที่บีบตัวผมแน่น ขณะที่น้ำตาค่อยไหลออกมา

“อยากหนีกูไปขนาดนั้นเลยใช่มั้ย...”

“No-“

“ได้ เดี๋ยวกูจะให้มึงหนี... แต่ตอนนี้ ขอกูได้ทำตามที่กูรู้สึกก่อนเถอะ” พูดจบมันก็โยนผมลงบนพื้นอย่างรุนแรง จนผมรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว ผมพยายามจะบุกนี้ แต่ก็ทนแรงควายขอมันที่ลงมากดตัวผมไว้ไม่ได้

“No!!! Prick! No!!” ผมร้องโหยหวนขณะที่ไอ้พริกจับตัวผมที่คว่ำอยู่ เป็นหงาย

“Look at me, Annie! Look at who you hurt!!” มันก้มลงมาจูบผมอย่างรุนแรง ริมฝีปากที่เคยนุ่มนวลเหมือนครั้งตอนเราจูบกันบนเวที ถูกเปลี่ยนเป็นความรุนแรงป่าเถื่อน ขณะริมฝีปากนั้นบดขยี้ริมฝีปากของผม ผมพยายามดิ้นสุดแรง แต่ก็ไม่สามารถต้านแรงบีบของอ้อมแขนมันได้ มือของมันเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อผมออกอย่างรวดเร็ว มันเปลี่ยนจากการบดขยี้ริมฝีปากผม ไปนัวเนียลงบนหัวปทุมถัน

“Prick!... Ah – Ahhhh” ผมดิ้นและครางในขณะที่ลิ้นของมันยังคงเลียวนและขบกัดที่หน้าอกของผม

“ชอบใช่มั้ย!! ห๊ะ!!” มันฉีกเสื้อผ้าตัวเองออก พร้อมสายตากระหาย ประดุจปีศาจ มือเลื่อนลงมากระชากกางเกงผมออกจนหมดอย่างรวดเร็ว จนผมอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า

“Prick กูข่อร้อง” ผมร้องไห้ขณะที่พยายามต้านความเสียวกระสันที่เกิดจากแรงลิ้นของมันที่สลับวนระหว่างหน้าอก หน้าท้อง และอวัยวะสำคัญของผม

“ขอร้องเหรอ!! เออ! กูจะจัดให้มึงร้องจนคอแห้งเลย!!” มันแสยะยิ้มแล้วถกกางเกงตัวเองลง จนเผยให้เห็นอาวุธขนาดมหึมาพอๆกับร่างกายของมัน ทั้งความหนา ความยาว รวมถึงเส้นเลือดปูดโปนนั่น ทำให้ผมน้ำจาไหลออกมาทันที “มึงชอบก็ไม่ต้องฝืน!”

“No…” ผมร้องออกมาทั้งๆที่แทบจะไม่มีเสียงแล้ว ทันใดนั้น ผมก็รู้สึกได้ว่า ท่อนเนื้อของไอ้พริกมันกำลังเข้ามาข้างในตัวผม “A – Arrrrrrrrrrrh!!!!! Arrrrrrrrrrrrh!!!”

“ดี!! ร้องเข้าไป!!” ผมยังคงโหยหวน รู้สึกได้ว่า เลือดออก มันรู้สึกเสียว และทรมานมาก ผมพยายามตะกิดตะกาย ดิ้นเพื่อนำร่างตัวเองออกจากท่อนลำนั้น แต่แรงดึงของไอ้พริกก็แรงกว่า มันเสียบเข้าไปจนสุดลำ จนผมรู้สึกจุกและหายใจไม่ออก

“Arrrrrrrrrrrrrrh!!!!! Arrrrrrrrrrrrrrh! It hurts!!!!!!” ผมพยายามดิ้นแต่ก็ไม่มีแรงอีกแล้ว เสียงร้องของผมหายไป ในขณะที่ไอ้พริกที่ยังคงง่วนกับการไซร้คอผม และเอามือชักท่อนเนื้อของผมไปด้วย เร่งจังหวะที่เอว เข้าๆออกๆ จากเบาๆ เป็นแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการกระแทกร่างของผมที่ตอนนี้นอนนิ่งไร้เรี่ยวแรง

“จำ! เอา! ไว้! ว่า! ที่! มึง! เจ็บ! มัน! ยัง! เทียบ! กับ! ที่! กู! เจ็บ! ไม่! ได้! เข้า! ใจ! มั้ย!” ไอ้พริกพูดทั้งน้ำตาขณะที่ยังคงเพิ่มแรงกระแทกร่างผมไปเรื่อยๆ ...ผิดแล้วไอ้พริก กูต่างหากที่เจ็บมากกว่า ผมน้ำตาไหลขณะที่ปล่อยให้มันไซร้คอผมและจูบผมทั้งน้ำตาต่อไป ผมน้ำตาไหลขณะที่มันชักจน น้ำสีขาวข้นพ่นออกมาจากอวัยวะของผมจนเลอะทั่วหน้าท้องของผมและมัน ผมน้ำตาไหลในขณะที่มันทนไม่ไหวและพ่นน้ำรักเข้ามาในร่างกายของผมจนล้นออกมาเลอะเปรอะปนรวมกับเลือดของผม ผมยังคงนิ่งว่างเปล่าขณะที่ผมโดนอุ้มเข้าไปในห้องมัน เพื่อโดนทำร้ายเป็นรอบที่สอง ในใจของผมยังคงคิดวนถึงเรื่องราวทั้งหมด ความเจ็บปวดที่ไอ้พริกทำกับผมในตอนนี้.... แล้วย้อนกลับไปถึงคำพูดของไอ้มิวที่บอกเอาไว้







“มึงควรจะจัดการกับตัวเองให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป กูไม่รู้หรอกนะว่าพี่พริกเค้าจะเป็นประเภทสติหลุดแบบกูมั้ย”









ผมตื่นขึ้นมาเช้าวันรุ่งขึ้น บนเตียงของไอ้พริก พร้อมความรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว ผมหันไปมองข้างๆ แล้วพบกับไอ้พริกที่นั่งกอดเข่าตัวเอง ตัวสั่นเทิ้ม

ผมลุกขึ้นจากเตียงเงียบๆ แล้วไอ้พริกก็กระโจนเข้ามากอดผมจากด้านหลัง

“เจ็บมากมั้ย...” มันถามด้วยเสียงสั่นเครือ... มันร้องไห้ แต่ผมกลับรู้สึกด้านชาไปหมด

“.....”

“ขอโทษ เมื่อคืนกูเมา... เมาจนกูทำร้ายมึงไป”

“.....”

“แอนนี่... ขอร้อง พูดอะไรหน่อยได้มั้ย กูขอโทษ” มันพูดทั้งน้ำตา

“…..” ผมรวบรวมสติ กลั้นน้ำตาตัวเอง แล้วหันไปพูดกับมันว่า “I’m leaving to America…. And I’ll never come back again”

“.....แอนนี่ Please…” ไอ้พริกหน้าตาเบ้ พร้อมจะร้องไห้เต็มที

“Goodbye” ผมรีบแต่งตัวแล้วเดินโซเซด้วยความเจ็บปวดออกจากห้องมันไป








To be continued in

Chapter 19: แอนนี่

ตอนหน้า ตอนจบปีแรกของรักแกไง...ไอ้ฝรั่ง บทสรุปจะเป็นอย่างไรคอยติดตาม!!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/4/2013 - Chapter 18 มาแว้ววววว]
เริ่มหัวข้อโดย: MaiSwifties ที่ 01-04-2013 19:39:36
เฮ้ย! ไรเนี่ย รวดเร็วมาก

เหมือนมันกำลังจะเป็นไปได้ด้วยดี ก็ดั๊น  :katai1:

What the heck is Prick doing!!! :ling1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/4/2013 - Chapter 18 มาแว้ววววว]
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 01-04-2013 20:04:49
It's hard to say. Both of you have done a mistake. Not ordinary mistake, but a tough one, to be sure. I glad to see that Prick feels sorry for his behavior, still, what is done is really need an atonement.

Annie, you're strange one. You aren't deny your feeling. However, you choose to pick your feeling above what that needs to be consider most. It is not a good quality for a starting couple. Nevertheless, there will always a chance to change. All you need is a clear, crystal mind.

This is good story. I love it.
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/4/2013 - Chapter 18 มาแว้ววววว]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 01-04-2013 20:08:36
อยากด่าพระเอก

เชี่ยเอ้ย ทำแอนนี่ได้ไงวะ แม่งงงงงงงงงงงงงงงงง (อิน)
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/4/2013 - Chapter 18 มาแว้ววววว]
เริ่มหัวข้อโดย: jonathan2624 ที่ 01-04-2013 21:02:28
ดราม่าง่า สงสารแอนนี่  :mew6:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/4/2013 - Chapter 18 มาแว้ววววว]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 01-04-2013 21:51:05
เอ่อะ... :a5:
อะไรอ่ะพริก อะไรอ่ะ เเกทำอะไรลงไปห๊ะ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/4/2013 - Chapter 18 มาแว้ววววว]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 01-04-2013 22:55:58
เป็นดราม่าที่เข้มข้นมากอ่ะ






พริกนี่รวดเร็วจริง ๆ ยังไม่ทันฟังอะไรเลยก็จัดหนักซะแล้ว






ส่วนแอนนี่นางช้าอ่ะ กว่าจะตัดสินใจพูดออกมาได้ก็ต้องมาเสียจิ้นไปซะแล้ว






คุณแม่แอนนี่นี่ไม่ได้ยินเสียงลูกเลยหรอ หายไปไปไหน ไม่มีมาตามอ่ะ นางหายไปไหน






ยังไงก็อยากรู้บทสรุปของเรีื่องนะ เราติดตามาตั้งแต่ต้นอ่ะ เห็นกันมาตลอด อย่าดราม่านะ เอาใหฟ้สมหวัง ลูก 3 คนกับอีก 3 คู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 1/4/2013 - Chapter 18 มาแว้ววววว]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 02-04-2013 01:27:51
ทนไม่ไหว ขออัพตอนสุดท้ายของซีซั่นแรกเลยแล้วกันนะครับบบบบบ ตอนแรกกะรออีกสองวัน แต่ทนไม่ไหวแล้ว ขอปล่อยเลย แล้วหลังจากนี้ขอพักเบรกอีกแปบนึง แล้วจะมาต่อใหม่นะครับ






ก๊อกๆๆ



ผมเดินไปเปิดประตูห้องผม

“Surprise!!!” ไอ้ต่อ ไอ้แจ๊ส และไอ้ทรายโผล่หน้าเข้ามาในห้องผมพร้อมๆกัน

“อ้าว พวกมึงเองเหรอ” ผมพูดอย่างไม่ได้สนใจอะไรขณะหลีกทางให้พวกมันเข้ามาในห้องอันแสนรกสกปรกของผม

 “เฮ้ยยยยย นี่คริสต์มาสทั้งทีนะมึง! เก็บตัวอยู่ในนี้ทำไมวะ” ไอ้ทรายมองหน้าอันซีดเซียวของผม

“ใช่ แล้วหนวดน่ะ โกนซะมั่งดิ่” ไอ้ต่อเสริม

“ไอ้พริก กูเข้าใจนะว่ามึงเศร้าที่แอนนี่กลับไปเมืองนอก แต่ถ้ามึงอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไรเลยแบบนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนะเว่ย” ไอ้แจ๊สตบบ่าผม

“จะให้ทำยังไงวะ กูพยายามติดต่อ ทั้งเฟสบุ๊ค ไลน์ ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม สไกป์ หรือแม้แต่อีเมล์ ก็ติดต่อไม่ได้ซักทาง”

“พยายามหาต่อไปสิมึง แล้วที่สำคัญ ดูแลตัวเองด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองโทรมแบบนี้”

“กูจะโทรมหรือจะดูดี ยังไงแอนนี่มันก็คงเกลียดกูไปแล้วอยู่ดีแหละ”

 “พริก กูไม่รู้นะว่ามึงกับแอนนี่ทะเลาะกันรุนแรงขนาดไหน เพราะมึงไม่ยอมเล่ารายละเอียดให้พวกกูฟัง แต่บางทีแอนนี่แค่อยากหนีไปหาที่เงียบๆคนเดียว แค่ซักพักก็ได้”

“ไม่หรอก เพราะกูทำผิดกับแอนนี่ไว้ ยังไงมันคงไม่ให้อภัยกูแน่นอน” ผมตอบขณะที่น้ำตาเริ่มไหลออกมา ผมต้องพยายามกลั้นไว้ ทั้งน้ำตา และความรู้สึกเสียใจที่คอยหลอกหลอนผมตั้งแต่วันที่แอนนี่เดินออกจากห้องผมไป

“เฮ้ออออ” ทุกคนถอนหายใจพร้อมกัน แล้วบรรยากาศในห้องก็เต็มไปด้วยความเงียบ

“ยังไงก็เถอะ! ที่พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อจะพามึงออกไปสูดอากาศข้างนอกซะบ้าง” ไอ้แจ๊สยิ้ม

“มึงจะได้ลืมความทุกซะ” ไอ้ต่อเสริม แหม่ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากปากของคนที่เพิ่งเลิกกับแฟนมาไม่นาน

“เพราะงั้น เราจะพามึงไปเดินเล่น เซ็นทรัลเวิร์ลกัน ไอ้ทรายทำท่าตื่นเต้น

“กูไม่ไปไม่ได้เหรอวะ”

“ไม่ได้!” ทุกคนพูดพร้อมกันก่อนจะลากผมไปแต่งตัว

**********************************************************************************

โอเคครับ ท่านผู้อ่าน รายละเอียดต่อจากตรงนี้ไป ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากการบอกเล่าของมิวกับต้นแล้ว ผมก็พอจะนึกๆภาพตามออก ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง

“มึงนัดกูมาที่นี่ทำไมวะ” ต้นถามมิวขณะเดินไปรอบๆข้างเซ็นทรัลเวิร์ลซึ่งประดับประดาไปด้วยไฟระยิบระยับ “กูต้องเลื่อนเดทกับยูกิเลยนะเว่ย”

“สรุปว่ามึงสองคนคบกันจริงๆใช่มั้ย”

“ก็... เราดูๆกันอยู่น่ะ ยังไงก็เหอะ มึงลากกูมาที่นี่ทำไมเนี่ยะ”

“มาพบกับคนคนนึงที่กูดันไปรู้ข่าวมาว่ายังติดต่อกับแอนนี่น่ะสิ” ดูเหมือนว่าไอ้ฝรั่งเองก็จะไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนสนิทของตัวเองนะครับ

“ตั้งแต่ไอ้แอนนี่หายตัวไปเลย ยังมีคนติดต่อกับมันได้อีกเหรอ”

“ใช่” มิวยิ้มอย่างมั่นใจและหันมาอธิบายให้ต้นฟัง “กูเห็นคนคนนี้ลับๆล่อๆคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้เมื่อหลายวันก่อน พอกูแอบฟัง ก็เลยได้ยินว่ากำลังคุยกับแอนนี่”

“เช้ดโด้! มิว! มึงควรไปเป็นนักข่าวว่ะ ตอนแรกมึงก็เห็นกูกับยูกิจับมือกัน แล้วตอนนี้ยังเห็นใครซักคนนี่คุยกับแอนนี่อีก”

“แล้วสรุปว่า มึงกับยูกินี่ดูๆกันถึงขั้นไหนแล้ว”

“มากกว่าเพื่อน..... โอ้ย! อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องดิ่ แล้วสรุปว่าคนที่ยังติดต่อกับแอนนี่อยู่คือใครวะ”

“มึงลองคิดดูนะต้น แอนนี่บอกพวกเราก่อนจะกลับอเมริกาว่า ‘กูคงไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว กูไม่อยากเจอหน้าไอ้พริกอีก’”

“อ่า โอเค มึงไม่ต้องดัดเสียงให้เหมือนแอนนี่ก็ได้”

“ยังไงก็เหอะ ถึงจะไม่ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่กูรู้สึกได้ว่า แอนนี่กับพี่พริกต้องมีเรื่องอะไรกันบางอย่างที่... ใหญ่โตมาก จนทำให้แอนนี่มันถึงกับหนีกลับอเมริกาไป... กูสัมผัสได้“

“แล้วยังไงต่อวะ”

“เพราะงั้น ที่แอนนี่มันไม่ติดต่อกับเรา เงียบหายไป เพราะว่า พวกเรายังมีความเกี่ยวเนื่องกับพี่พริกอยู่ พี่ต่อ พี่ของมึงสนิทกับพี่พริก เพราะงั้นถ้าแอนนี่มันติดต่อกูหรือมึง มันคงกลัวว่าต้องโดนพวกกลุ่มพี่พริกเค้นคอหาที่อยู่แน่ แล้วบวกกับกูที่มีนิสัยชอบช่วยเหลือผู้อื่น มันคงคิดว่ากูคงต้องช่วยพี่พริกแน่ๆ”

“เอ่อออออ มึงก็ไม่ได้ชอบช่วยเหลือผู้อื่นขนาดนั้น และอีกอย่าง กูว่ามึงลืมความสัมพันธ์ระหว่างมึงกับพี่แจ๊สที่ดูมีซัมติงไปรึเปล่า”

“เรื่องนั้นกูไม่นับ เพราะฉะนั้น คนเดียวที่ไอ้แอนนี่มันพอจะสนิทด้วย แล้วยังติดต่อสารทุกสุขดิบของพวกเราได้บ้างก็คือ...”

“ยูกิ เหรอ?”

“ถุยยยยยย!!!! แอนนี่มันเคยคุยกับยูกิอยู่แค่ประโยคเดียว ซึ่งก็คือ ‘ชอบสีผมของเธอจัง’ ซึ่งกูไม่เห็นว่ามันจะสนิทกันตรงไหน”

“อ่ะเหรอ เอ่ออออ... คนที่แอนนี่มันสนิทด้วย นอกจากพวกเรา กลุ่มพี่พริกแล้วก็มี....” แล้วต้นก็นึกออกทันที “หรือว่า!!”

“นึกออกแล้วใช่มั้ย พี่เค้าน่ะแหละ ที่ยังติดต่อกับแอนนี่อยู่”

“น้องมิว น้องต้น” เสียงเจ้าตัวที่รู้เบอร์ติดต่อกับแอนนี่ทักมาแต่ไกล

“อ้าว พี่ชาย มาเร็วจังเลยนะพี่”

“มีธุระอะไรเหรอ เรียกพี่ออกมาข้างนอกเนี่ยะ”

“ก็มีนิดหน่อยอ่ะครับ” มิวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“เราอยากจะถามพี่ชายเรื่องที่อยู่ของแอนนี่น่ะพี่” ต้นถามไปตรงๆ ซึ่งเล่นเอาไอ้ชั่วถึงกับทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว

















Chapter 19: แอนนี่







“พี่บอกไม่ได้หรอกว่าตอนนี้แอนนี่ใช้เบอร์หรือ user อะไรอยู่ พี่สัญญากับเค้าไว้แล้ว” ไอ้ชั่วเดินเร็วๆ พยายามจะสลัดสองสหายของแอนนี่ให้พ้น แต่ก็สลัดไม่หลุดซะที

“แต่นี่พวกผมเป็นเพื่อนมันนะพี่ พวกผมก็อยากคุยกับมันบ้าง”

“พี่เข้าใจ แต่แอนนี่เค้าไม่อยากบอกเราสองคนนี่”

“ทำไมเหรอครับ” มิวถามด้วยสีหน้าตึงเครียด

“ก็... ต้นมีพี่ชายเป็นเพื่อนสนิทกับพริก เพราะงั้นถ้ารู้อะไรก็อาจจะถูกบีบให้บอกไป ส่วนมิวเอง แอนนี่ก็รู้นิสัย ว่าชอบช่วยเหลือคนอื่น เพราะงั้นก็อาจจะช่วยพริกก็ได้”

“อ่ะ แน่นอน ผมชอบช่วยเหลือคนอื่น”

“มิว มันใช่เวลามั้ยเนี่ยะ” ต้นมองมิวด้วยความเอือมระอา

“อะแฮ่ม เอ่อ... แต่ถึงอย่างงั้นพวกผมก็อยากติดต่อกับแอนนี่อยู่ดีนะพี่”

“แต่ถ้าพี่บอกไป แอนนี่ต้องโกรธพี่แน่ๆ”

“พี่ชาย แอนนี่เป็นเพื่อนพวกผมนะ พี่จะยึดเค้าไว้คนเดียวไม่ได้”

“พี่ไม่ได้ยึดเค้าไว้ แต่เค้ายังไม่อยากติดต่อใครในตอนนี้โดยเฉพาะพริก”

“พี่ก็เลยจะติดต่อกับเค้าแค่คนเดียวเหรอพี่” ต้นเริ่มอารมณ์ขึ้น “พี่ชาย ผมรู้นะว่าพี่คิดอะไรกับแอนนี่ แต่พี่จะยึดเค้าไว้คนเดียวไม่ได้”

“เรารู้เหรอ”

“พี่ครับ มีแต่ไอ้แอนนี่เท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่าพี่คิดยังไงกับมัน” มิวบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แล้วพี่ก็น่าจะรู้นะว่า แอนนี่มันเลือกใคร... ถึงแม้ตอนนี้มันอาจจะปิดกั้นความรู้สึกนั้นไปแล้วก็ตาม”

“พี่รู้ มิว และอันที่จริง แอนนี่เองก็รู้ความรู้สึกตัวเองแล้ว”

“งั้นเหรอครับ!?” ต้นมีท่าทีตื่นเต้น

“ใช่ แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง วันต่อมา แอนนี่ก็มาบอกพี่ว่า ‘ทุกอย่าง มันจบแล้วครับพี่ ยังไงผมก็จะกลับอเมริกา แต่พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ยังไงผมก็จะติดต่อกับพี่เหมือนเดิม’ ประมาณนี้แหละ”

“โอเค พี่ชายครับ ไม่ต้องเลียนเสียงแอนนี่อีกคนก็ได้” ต้นยกมือปรามไว้

“ยังไงพี่ก็ขอโทษด้วยนะ พี่คงให้เราติดต่อกับแอนนี่ในตอนนี้ไม่ได้”

“เมื่อกี้มึงบอกว่าติดต่อกับแอนนี่เหรอ?” เสียงของคนคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังไอ้ชั่ว

“!!!!” ทุกคนหันมามองคนคนนั้นอย่างตกใจ ขณะที่คนคนนั้นกระชากคอเสื้อไอ้ชั่วขึ้นด้วยความโมโห

“กูถามว่า มึงติดต่อกับแอนนี่เหรอ!?” ผมพยายามกดเสียงตัวเองไม่ให้คำรามท่ามกลางผู้คนในเซ็นทรัลเวิร์ล ใช่ครับ คนคนนั้นคือผมเอง ผมที่เดินมากับเพื่อน ทันได้ยินประโยคสุดท้ายที่ไอ้ชั่วพูดกับมิวและต้นเมื่อกี้นี้ “มิว! ต้น! นี่เราก็ติดต่อแอนนี่ด้วยเหรอ? ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ!”

“พี่พริก ใจเย็นก่อนพี่ พวกผมก็กำลังถามพี่ชายอยู่เหมือนกันว่าติดต่อแอนนี่ได้ยังไง” ต้นอธิบาย

“เหรอ!!” ผมหันมากัดกรามมองไอ้ชั่วพร้อมจะฆ่ามันทุกวินาที “มึงบอกมา จะเบอร์ จะเมล์ จะไลน์ จะเหี้ยอะไรก็ได้! แอนนี่อยู่ไหน!!”

“เฮ้ยๆ พริกมึงใจเย็นก่อน คนเริ่มมองกันเยอะแล้ว” ไอ้ต่อเข้ามาห้าม แต่ก็ถูกผมสะบัดมือออกไป

“ผมบอกคุณไม่ได้หรอก แอนนี่เค้าไม่อยากคุยกับคุณ”

“แต่กูต้องคุยกับแอนนี่ กูต้องคุยกับแอนนี่ให้ได้!”

“เลิกงี่เง่าซะทีเถอะพริก! ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณทำอะไรที่ทำให้แอนนี่โกรธจนต้องหนีคุณกลับอเมริกาน่ะ! แต่อยู่ๆ คุณจะมาเรียกร้อง โวยวายให้คนที่คุณทำอะไรเค้าไว้ กลับมาคุยกับคุณเนี่ยนะ!! มันไม่เหี้ยไม่หน่อยเหรอครับ!!”


ปั้ก!!!


ฟิวส์ผมขาดทันที ผมต่อยไอ้ชั่วลงไปนอนกับพื้นพร้อมกระโจนเข้าไปเตรียมอัดมันซ้ำครั้งที่สองกับสาม เพื่อนๆของผม รวมถึงมิวและต้น เข้ามาห้ามไว้ เวลาเดียวกับที่รปภ.เข้ามาลากตัวผม ที่คุมสติตัวเองไม่อยู่ ออกจากห้างไป

“พี่ชาย เป็นไงมั่งพี่” มิวที่อยู่รั้งท้ายเข้ามาช่วยพยุงไอ้ชั่วขึ้น

“ไอ้พริกเนี่ยะ หมัดหนักเป็นบ้าเลยแหะ ขอบใจมากนะ มิว”

“ไม่เป็นไรพี่ ถึงยังไง ผมก็ชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว”

“หึๆ ทำเป็นภูมิใจไปนะ”

“ว่าแต่... พี่ชายล่ะครับ”

“หือ?”

“ไม่อยากช่วยเหลือคนอื่นบ้างเหรอ”

“มิว...”

“ลองคิดดูนะพี่ พี่ก็รู้ว่าแอนนี่มันเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ ถึงมันจะบอกว่าไม่อยากเจอพี่พริกก็เถอะ แต่เชื่อผมสิ จริงๆแล้วลึกๆ มันก็อยากให้พี่พริกติดต่อกับมันนะ”

“เฮ้ออออ นั่นสินะ... จริงๆอาจจะเป็นความเห็นแก่ตัวลึกๆของพี่เอง ที่อยากให้แอนนี่หันมาคิดกับพี่แบบนั้นบ้าง แต่รู้มั้ย ทุกครั้งที่แอนนี่ติดต่อพี่มา คำถามแรกที่เค้าถามคืออะไร”

“อะไรเหรอครับ”

“เค้าจะถามเสมอว่า พริกเป็นไงมั่ง แล้วก็ค่อยถามถึงเรา ถึงต้น แล้วก็ค่อยถามถึงพี่” ไอ้ชั่วพูดด้วยสีหน้าปลง “นั่นสินะ ถ้าแอนนี่โกรธพริกจริง ก็คงไม่ถามถึงเค้าหรอก....... บางทีพี่ควรจะทำใจซะที”

“ครับพี่ ทำใจ แล้วเริ่มต้นใหม่” มิวยิ้มให้กับไอ้ชั่ว

“ชอบใจนะ มิว”

“ไม่เป็นไรครับ ผมชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว”

“นี่เราเป็นคนขี้อวดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยะ”

“ฮ่ะๆๆๆๆ”

**********************************************************************************

โป๊ก!!



“โอ๊ย!!!” ผมร้องเสียงหลงทันทีที่หัวโขกพื้น เป็นครั้งแรกที่โดนยามหามออกมานอกห้าง ไม่สิครับ ที่ถูกแล้ว ต้องบอกว่า โดนเขวี้ยงออกมามากกว่า “ไม่ต้องโยนก็ได้มั้งพี่ เจ็บนะโว่ย!!!”

“เฮ้ยๆๆ มึงใจเย็นๆก่อน” เพื่อนๆของผมเข้ามาสมทบทันที

“แม่งเอ๊ย อยากเข้าไปตั๊นหน้าไอ้ห่านั่นอีกหน่อย รู้ว่าติดต่อกับแอนนี่ยังไงเสือกไม่บอก อะโถ่! จะเก็บไว้จีบอะดิ่ไอ้สัส!!!” แม่ง พูดแล้วขึ้นว่ะ พับผ่า!

“เฮ้ยๆ พี่พริก สงบสติก่อน” ต้นเขย่าตัวผม “พี่ ผมเข้าใจนะว่าพี่ชายทำไม่ถูก แต่ไปต่อยเค้าอย่างงั้น ผมว่าไม่ได้ประโยชน์ว่ะพี่ แล้วก็ เรื่องของพี่กับแอนนี่อ่ะ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงมายังไงนะ แต่พี่ต้องคุมสติตัวเองหน่อยดิ่ครับ พี่อยากขอโทษมันไม่ใช่เหรอ สติเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาอย่างงี้ แทนที่จะไปขอโทษ เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีกอ่ะพี่”

“ต้นพูดถูกนะพริก ถ้ามึงยังเป็นแบบนี้ มึงเองจะพาลทำให้เรื่องเสียเข้าไปอีกนะเว่ย” ไอ้ทรายเสริม

“ใจเย็นพี่ ผมว่า ยังไง ไอ้แอนนี่ ลึกๆมันก็ยังอยากคุยกับพี่อยู่แหละ ไอ้นี่มันปากไม่ตรงกับใจ”

“งั้นจะทำไงล่ะ” ผมถาม เพราะตอนนี้มันหมดหวังเหลือเกิน

“ถ้าติดต่อทางนี้ไม่ได้ ก็ไปหาที่นู่นเลยดิ่พี่” เออออเว้ย เป็นคำแนะนำที่ดีที่... ทำไมกูไม่คิดมาก่อนวะ โง่ชิบหาย

“เออว่ะ ไอเดียดีๆ!!” แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า “แต่อเมริกามันไม่ใช่เล็กๆนะเห้ย! จะเริ่มจากที่ไหนล่ะวะ!!”

“พอร์ตแลนด์ โอเรกอน” เสียงไอ้ชั่วดังขึ้น ผมลุกขึ้นทำท่าจะไปต่อยมันอีกรอบแต่ทุกคนก็ห้ามไว้

“อะไรมึง อยากต่อยกันตรงนี้รึไง ไม่มียามแล้วนะเว่ย!”

“ใจเย็นก่อนครับพี่ พี่ชายไม่ได้จะมาหาเรื่องครับ” มิวที่เดินตามไอ้ชั่วมา ปรามไว้

“ไม่ได้ยินเหรอพริก ผมบอกว่า พอร์ตแลนด์ โอเรกอนไง”

“คืออะไรวะ” งงว่ะครับ พูดเหี้ยอะไรของมัน

“นึกออกแล้ว!! ชื่อเมืองในอเมริกาใช่มะ” ไอ้ต่อดีดนิ้วอย่างตื่นเต้น

“ครับ แอนนี่กลับไปอยู่กับญาติที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน”

“เจ๋ง! งั้นก็ไปเลยดิ่พี่!” ไอ้เจ้าต้นเชียร์ใหญ่

“เดี๋ยวก่อน... อยู่ดีๆมึงมาบอกกู ต้องการอะไรรึเปล่า...” ผมไม่ไว้ใจไอ้เจ้านี่จริงๆ

“............... ขอคุยด้วยสองต่อสองได้มั้ย” มันพูดแล้วเดินนำผมให้ห่างจากคนอื่นไป

“มีอะไรว่ามา” ผมถามเมื่อมันหยุดเดิน ขณะนี้ผมอยู่ห่างจากเพื่อนๆผมไกลมาก..... มันจะเอาปืนยิงผมมั้ยเนี่ยะ

“เอานี่ไป” มันยื่นกระดาษใบนึงให้ผม

“อะไร?” ผมรับไว้แล้วนั่งดู รายละเอียดทั้งเบอร์ ชื่อ user ต่างๆ

“นี่คือเบอร์โทรซัพท์ user ต่างๆทั้งในเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม Line ID และสไกป์ ยังไงซะ ก่อนไปหาเจ้าตัวที่นู่นก็ลองพยายามติดต่อเค้าไปก่อนก็ดี”

“หึ ถ้าเจ้าตัวเห็นว่าใครติดต่อมา มันคงบล็อกไปเลยรึเปล่า”

“พริก...”

“หือ”



ปั้ก!!!



อื้อหือออออ!! หมัดไอ้ชั่วนี่ หนักไม่แพ้หมัดผมเลยเว้ย

“มึงต่อกูอ่อ!!”

“อย่างเมื่อกี้ เค้าเรียกว่าป้อนอาหารละมั้งครับ”

“มึง!”

“ผมแค่อยากเตือนสติคุณซะหน่อย”

“เตือนสติ?”

“ใช่ แอนนี่น่ะ เค้าเลือกคุณมาตั้งนานแล้ว ไม่งั้นเค้าจะยอมให้คุณจูบเป็นนาทีๆบนเวทีนั้นเหรอ”

“.....”

“คนเรา บางคนกว่าจะรับหัวใจตัวเองได้ ก็นานจะตาย แล้วยิ่งทั้งคุณทั้งแอนนี่เป็นผู้ชายทั้งคู่ แอนนี่ไม่เคยนะพริก แล้วเค้าก็ใช้เวลาปฏิเสธอยู่นาน แต่สุดท้ายเค้าก็ยอมรับตัวเองได้”

“......”

“ผมไม่รู้ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นนะพริก แต่เห็นได้ชัดว่า ความพยายามที่แอนนี่จะบอกรักคุณมันล้มเหลว” .....อะไรนะ

“เมื่อกี้บอกว่าอะไรนะ”

“แอนนี่ คิดจะบอกรักคุณวันนั้น” เชี่ยเอ๊ย!!!!

“เชี่ย... นี่.... กูทำอะไรลงไปเนี่ยะ...”

“ไม่ว่าคุณจะทำอะไรลงไป แอนนี่กำลังรอให้คุณขอโทษอยู่... ผมก็หวังว่าเค้าจะกลับมาเลือกผมบ้าง แต่เปล่าเลย จนถึงตอนนี้เค้าก็ยังเลือกคุณอยู่” พระเจ้า!! นี่ผมทำร้ายมัน ทั้งๆที่มันกำลังจะบอกรักผมเหรอ ไอ้เชี่ยพริก ทำไมมึงมันเหี้ยอย่างงี้!! ต่อจากนี้ไปลูกช้างจะไม่กินเหล้าจนเมาขาดสติอีกแล้วครับ!!

“งั้นเหรอ...” ผมพยายามกลั้นน้ำตา แล้วยิ้มตอบไอ้ชั่วไป “...อย่างงี้นี่เอง ....ขอบคุณมาก”

“ไม่เป็นไร ฝากดูแลแอนนี่ด้วย” ไอ้ชั่วยิ้ม แล้วเดินจากไป ก่อนจะหยุดแล้วหันมาพูดกับผม “ขออะไรอย่างนึงได้มั้ย”

“หือ?”

“เวลาจะบรรยายตัวผมน่ะ ช่วยอย่าเรียกว่าไอ้ชั่วได้มั้ย”

“เห?” ไอ้ชั่วมันรู้ได้ไงวะครับ

“ใช้ว่าไอ้ชั่วอีกแล้วนะ” โอเค กูเรียกมึงว่าไอ้ชายก็ได้ “ขอบคุณครับ”

“อ่าฮะ...” เฮ้ย มันรู้ได้ไงวะ!! เดี๋ยวก่อนๆ ช่างเหอะ ยังไงตอนนี้กระดาษในมือที่ไอ้ชายให้มาสำคัญกว่า

ผมรีบวิ่งไปหาทุกคนที่รออยู่ทันที แล้วคว้ากระเป๋าของผมก่อนจะรีบวิ่งกลับบ้านไป

“เฮ้ย! ไอ้พริกไปไหนวะ ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย” ไอ้ทรายตะโกนถามไล่หลังมา

“กูมีธุระด่วนว่ะ! โทษที ต้องไปง้อเมีย!!” ตอบเสร็จ ผมก็รีบติดจรวดกลับห้องผมทันที และผมรู้วิธีที่จะติดต่อกับมันที่เหมาะสมที่สุดในตอนนี้แล้ว

ผมรีบเปิดคอม สมัครสมาชิกสไกป์ account ใหม่เพื่อไม่ให้มันจำได้ รีบแอด user มันทันที และ....



Anthony Bi-atch is online




บิงโก!!! เอาล่ะ ต่อไปก็แค่คลิกวิดิโอแชท แล้ว invite มันมาเล่น และก็ รอ......


..........................................................
............................................
..............................
..................
.........
...
.


“Who’s that?” ในที่สุด!!! มันก็ยอมวิดิโอแชทกับผม ไอ้ฝรั่งเปลี่ยนทรงผม ตัดผมสั้นๆแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบนะเนี่ยะ เดี๋ยวๆ ไม่ใช่เวลามาดูความน่ารักของมันนะ แล้วไหงหน้าจอผมดับล่ะ.... “I said who’s that?”

เอ่อ.... ดูเหมือนผมจะลืมเปิดกล้องแหะ เอาล่ะ ขอเวลาเปิดก่อนนะ.... โอเค เปิดและ!

“!!! …..Prick!?” มันตกใจทันทีที่เห็นผมบนหน้าจอ

“เฮ้....”



Anthony Bi-atch is offline


………………………………….หมดกันครับ ทันทีที่มันเห็นหน้าผม มันก็ล็อคออฟทันที นี่สรุปมันคงเกลียดผมจริงๆ ไม่ใช่ว่าปากไม่ตรงกับใจแล้วหล่ะครับ

“เฮ้ออออ” ผมถอนหายใจ แล้วลากสังขารอันหมดความหวังของผมไปที่โซฟา อยู่ดีๆ น้ำตาของผมมันก็เริ่มไหลออกมาเองอีกแล้ว แต่ตอนนี้ผมไม่อยากจะฝืนกลั้นมันอีกต่อไปแล้วครับ ผมอยากร้องไห้ออกมาจนกว่าผมจะไม่มีแรงให้ร้องอีกแล้ว “แอนนี่ กูขอโทษ..... กูขอโทษ....”

กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ กูขอโทษ



ปิ๊งป่อง


เสียง notification ดังขึ้นมาจากคอมของผม ผมปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นไปดูที่คอมเพื่อพบว่า



Anthony Bi-atch is video calling

Answer     Decline



Answer สิวะ จะ Decline หาพ่อง

ทันทีที่ผมกดรับสาย หน้าจอก็ปรากฏไอ้ฝรั่งกับทรงผมสั้นสุดน่ารักอีกครั้ง ส่วนผม... โอ้โห นี่กูร้องไห้จนตาบวมเลยเหรอเนี่ยะ

“ว่าไงไอ้ตี๋” ไอ้ฝรั่งยิ้มตอบผม “...นี่มึงร้องไห้เหรอเนี่ยะ”

“ไง ไอ้ฝรั่ง” ผมตอบด้วยเสียงแหบแห้ง เดี๋ยวก่อนนะ... “เฮ้ย!!! มึงพูดไทย!!!”

“ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ ตกใจใช่มั้ยล่ะ กลับมานี่กูก็ให้แม่กูสอนพูดไทย แล้วก็หัดคุยกันเป็นภาษาไทยจนถึงตอนนี้แหละ”

“สุดยอด You speak Thai fluently!”

“Thanks! And it seems that you speak English fluently, too. Congratulations!”

“ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ ขอบใจนะ”

“สรุปว่า... มึงร้องไห้จริงๆเหรอ ขี้แยว่ะมึง!!! มึงควรจะแมนกว่ากูหน่อยสิ!!!”

“หยุดพูดเลยมึงง่ะ!! ใครใช้ให้มึงปิดสไกป์ไปเมื่อกี้วะ คนเค้าอุตส่าห์พยายามติดต่อแทบตายนะเว่ย!!”

“ก็ – ก็กู... ไปเซ็ตผมมานี่ ตอนแรกหัวกูฟูชิบหาย ใครจะ... อยากให้มึงเห็นเล่า”

“งั้นเหรอ” ผมพูดกลั้วหัวเราะขณะปาดน้ำตา “ทรงนี้ก็... น่ารักดีนะ”

“อ – เออ ขอบใจ” แม่งหน้าแดงด้วย น่ารักว่ะ

“แล้วคุณนาตาชาเป็นไงมั่ง ตอนมึงกลับไป กูไม่ได้ลาท่านเลย”

“แม่สบายดี ตอนแรกแม่ก็ตกใจที่เห็นสภาพกูใน... เอ่อ วันนั้น... กูบอกแม่ไปว่า มึงเมาแล้วทับตัวกูหลายรอบมาก... ก็เลยเป็นแบบนี้” ทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ ผมรู้สึกจุกๆแปลกๆทันที “ซึ่งในทางเทคนิค... มึงก็ทับกูหลายรอบมากจริงๆ”

“แอนนี่ เรื่องนั้นน่ะ...” ผมพยายามจะพูดต่อ แต่สุดท้าย ผมก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกแล้ว “แอนนี่ กูขอโทษ กูขอโทษจริงๆ กูขาดสติ แล้วตอนนั้นกู... แม่งเอ๊ย!”

“พริก ใจเย็นๆ กูเข้าใจแล้วว่ามึงเมา มึงขาดสติ และกูก็เข้าใจว่ามึงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และกูก็ให้อภัยมึง”

“จริงเหรอ! มึงพูดจริงๆใช่มั้ย!”

“อื้ม วันนี้วันคริสต์มาส เป็นวันดี กูควรให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากนี้ พอกูกลับมาที่พอร์ตแลนด์นี่ แล้วได้มีเวลาอยู่เงียบๆคนเดียว มันทำให้กูคิดได้ว่า กูเองก็เป็นคนที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้” ไอ้ฝรั่งยิ้มตอบ แต่น้ำเสียงก็เริ่มสั่นเครือเหมือนกัน มันเองก็ร้องไห้ “กูเองก็ต้องขอโทษมึงด้วยนะ... ที่กูทิ้งมึง หายไปจากชีวิตมึงแบบนี้... แต่กูแค่ต้องการเวลาทบทวนเรื่องทั้งหมด และพอมาถึงตอนนี้... แม่งเอ๊ย!... กูคิดถึงมึงเหี้ยๆอ่ะ”

“กูก็คิดถึงมึง...” ร้องไห้น้ำตาท่วมจอกันทั้งคู่ครับตอนนี้ “แอนนี่... กลับมาเถอะนะ ทุกคนรอมึงอยู่ นะ... กูขอร้อง”

“ฮ่ะๆๆๆๆ” แอนนี่หัวเราะขณะปาดน้ำตาออก “นั่นสินะ... แต่คงกลับตอนนี้ไม่ได้หรอก”

“...ทำไมล่ะ”

“คงต้องรอหลังปีใหม่น่ะ ที่บ้านกูตอนนี้จัดงานฉลองกันใหญ่เลย”

“แต่มึงกลับมาแน่ๆใช่มั้ย”

“อื้ม... กูจะกลับไป”

“เยส! เมียกูจะกลับมาแล้ว”

“เมียพ่องดิ่! เดี๋ยวกูก็ไม่กลับหรอกสัส!”

“โอ๋ๆๆๆๆๆ กูขอโทษๆๆ”

“ลามปามนักนะมึง” แม่ง หายไปแป๊บเดียว กลับมานอกจากจะพูดไทยคล่องแล้ว เสือกด่าเก่งอีกแหะ

[Annie!!! Come over here!! I need help!!] เสียงคุณนาตาชาลอดผ่านมาจากนอกห้องแอนนี่

“In A minute, mom!!” ไอ้ฝรั่งหันไปบอกแม่แล้วหันมาตอบผม “เฮ้ย กูต้องไปแล้ว เดี๋ยวไว้คุยกันนะ เดี๋ยวกูส่งเบอร์ส่งอะไรไปให้”

“เดี๋ยวก่อนๆๆๆ แอนนี่”

“หือ”

“ก่อนมึงจะไป... กูมีคำถามอยากจะถามมึงหน่อย” เอาว่ะ! มันถึงเวลาแล้ว!

ตึก ตึก

“โอเค... ขอเร็วๆนะมึง แม่กูเรียก”

ตึก ตึก

“แอนนี่... กูรักมึงนะ” ตึก ตึก “รักมากกว่าอะไร... ในโลกนี้อีก...”

ตึก ตึก

“อืม... กูรู้...” มันตอบพร้อมหน้าที่แดงก่ำ ตึก ตึก “ก- กูเอง... กูก็รักมึง... เหมือนกัน...”

ตึก ตึก

ตึก ตึก

“ง – งั้น... มึง... กับกู...” ตึก ตึก”เรามา... เป็นแฟนกันมั้ย...”

ตึก ตึก

ตึก ตึก

แอนนี่ชะงักและหน้าแดงไปอีกซะพัก ก่อนจะยิ้มออกมา

ตึก ตึก

ตึก ตึก

วินาทีนั้นทุกอย่างรอบตัวผมหยุดเคลื่อนไหว ยกเว้นหัวใจผมที่เต้นแรงขึ้นเป็นทวีคูณ ผมแทบอยากจะกระโจนผ่านจอคอมพิวเตอร์ไปหามันถ้าทำได้ แอนนี่ยังคงยิ้ม ทุกอย่างล้วนผ่านไปรวดเร็ว แต่กลับดูช้ามากในความรู้สึกของผม

ตึก ตึก

ตึก ตึก

ตึก ตึก

ตึก ตึก

ตึก ตึก

ตึก ตึก

ตึก ตึก

แอนนี่ค่อยๆอ้าปากออก แล้วพูดว่า....



























End of Season 1

Season 2 Coming soon

ปล. อย่าฆ่าคนเขียนนะครับบบ  :hao5:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Fina
เริ่มหัวข้อโดย: Cappello ที่ 02-04-2013 02:05:14
กรีดร้องง !!!!!! คนเขียนใจร้ายอ่า อุตส่าห์คิดว่าก่อนนอนมาแอบดูซะหน่อย อ่านแล้วยิ่งอยากรู้เข้าไปอีก ฮึ้ย!!!!!
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: PoofuGirl ที่ 02-04-2013 02:09:06
เจอดราม่าจัดหนักจนช็อกไปหนึ่งตอน  :katai1:
แบบเฮือกๆๆๆๆๆๆๆ พริกทำอะไรออกไป!!!!!

พอมาตอนจบของซีซั่น น่ารักดีค่ะ
พี่ชายดูไม่ค่อยเต็มใจช่วยเท่าไหร่ แต่ก็ช่วย (ได้บุญเยอะนะเนี่ย จัดหนักหาคู่ให้หน่อยเร็ว!)
อยากให้มิวกับพี่แจ๊สกลับมาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง
แอนนี่ใจอ่อนกับพริกแล้ว ทีนี้ก็อยากเห็นคู่มิวกับพี่แจ๊ส
กลับมางุ้งงิ้งกันบ้าง พี่โก้กับต่อด้วย  :hao3:

รอ Season 2 ค่ะ !  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: Satanza321 ที่ 02-04-2013 05:31:01
กำลังพยายามอ่านตามให้ทันเลยครับ แต่ดันมาจบภาคซะก่อน หุหุ ค้างมาก :z3:

กว่าพริกกับแอนนี่จะเข้าใจกับ ยอมรับใจตัวเองลุ้นแทบแย่ (หรอ ต้องลุ้นต่อภาค 2 ซะแล้วว่าแอนนี่จะตอบพริกว่ายังไง :impress2: )

แล้วคู่ของพี่โก้กับต่อ เขายังไงกับต่ออะครับ ไหนจะคู่พี่แจ๊สกับมิวอีก ลุ้นครับ(จะมีต่อในภาคต่อไปมั้ยน๊า :katai1: )
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 02-04-2013 10:42:45
อยากรู้อ่ะ ค้างมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 02-04-2013 12:52:51
บ้านคนเขียนอยู่ไหนครับ เหอะๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 02-04-2013 17:04:18
ว๊ากกกกกกกกกกกก  :serius2:   รีบมาต่อเลยยยยยย   :katai4:

ไม่งั้นเค้าจะตามไปหลอกหลอนคนเขียนในฝันให้ดู   :katai1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 02-04-2013 18:30:24
กรี๊ดดดดดดดดดดดด ตัดฉับจบซีซั่นแรกแบบนั้นซะงั้นอ่ะ :hao7:

แต่ตอนนี้ขอฮาก่อนนะ แบบว่าตอนมันจะดราม่าก็เศร้าไม่ออกเพราะมิวนี่แหละทำขำตลอด ฮ่าๆๆ


รอตอนต่อไปนะคะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 02-04-2013 19:45:16
อ้ายขัดใจ  :ling1:รีบมาต่อนะไม่งั้นงอน :m16:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: jonathan2624 ที่ 02-04-2013 19:54:17
วิ่งไปหยิบปืนลูกซอง...ไล่ยิงคนเขียนนนนน  :m31: :m31:

ย้อเย่นค้าบบบบ  :hao6: สนุกมากๆ รีบลงภาคสองน้าาาาาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 03-04-2013 12:49:21
คนเขียนจบได้ใจร้ายมากเลยอ่า
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 2/4/2013 - Chapter 19 (Season1 Finale)]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 03-04-2013 13:56:39
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

หลายคนตอนนี้คงกำลังหาบ้านคนเขียนอยู่แน่เลย

ใจเย็นๆนะครับผม ตอนนี้เขียนตอนต่อไปเสร็จแล้ว แต่ขออุบไว้ก่อน ขอให้แขนตอนนี้ดีขึ้นอีกหน่อย ไม่นานเกินรอแน่นอน

เพื่อเป็นการขอบคุณ และไม่ทำให้เพื่อนๆคนอ่านอึดอัดรอเกินไป ผมขอแย้บๆเรื่องในปี 2 นิดนึงเป็นการขอบคุณนะครับบ




ผมคิด Theme ของแต่ละ Season ไว้ อย่าง Season แรงคือการค้นพบตัวเอง

ส่วน Season นี้ผมคิด Theme ไว้คือ ชีวิตคู่ ครับ



อิอิ บอกไว้เท่านี้ก่อนเนอะ ถ้ามีเวลาผมจะมาแย้บๆรายละเอียดเพิ่มนะครับ

 :bye2:  :mew1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 3/4/2013 - อัพเดตข่าว Season 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 03-04-2013 15:44:39
แล้วจะรออ่านค่ะ

อ๊ายยยยยยยยย><
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 3/4/2013 - อัพเดตข่าว Season 2]
เริ่มหัวข้อโดย: jonathan2624 ที่ 03-04-2013 16:21:06
น่าสนุกกกก รออ่านค้าบบบบบ  :hao6:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 3/4/2013 - อัพเดตข่าว Season 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Satanza321 ที่ 03-04-2013 16:28:53
อั้ยยะ งั้นก็แสดงว่า...(ทุกคนก็รู้คำตอบกันแล้วอะดิ :impress2:)
รอภาค 2 ครับ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 3/4/2013 - อัพเดตข่าว Season 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 03-04-2013 16:41:30
มาเมื่อไหร่บอกนะครับจะไปซื้อป๊อปคอร์นมานั่งรอ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 3/4/2013 - อัพเดตข่าว Season 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 03-04-2013 17:01:04
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

กรีดร้อง ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 3/4/2013 - อัพเดตข่าว Season 2]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-04-2013 18:15:58
อ๊ากกกกก :m31: พูดว่าอะไร
แต่...เขาจะกลับมาแล้วใช่มั้ย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [Update 3/4/2013 - อัพเดตข่าว Season 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 05-04-2013 01:37:07
เข้ามาปล่อยของเรื่อยๆครับ เพื่อไม่ให้เพื่อนๆหงอยเหงากันช่วงรอ

วันนี้เลยมีอัพเดตต่างๆมาให้ทุกคนตามนี้เลยครับ


- ธีมชีวิตคู่ ที่บอกไปอาจจะไม่ได้หมายถึงแอนนี่กับพริกก็ได้นะครับ  :z1:



- เรื่องราวของ season 2 จะเป็นเรื่องต่อจากตอนจบภาคแรกในช่วงครึ่งปีหลังจากนั้น (เลยต้องตัดเป็นปีๆไปอ่ะ  :mew3:)



- พอดีว่าวาดรูปเล่นๆเลยเอามาให้ดูกัน ตัวละครที่จะมีบทสำคัญใน Season 2 อิอิ (ยังไม่ได้ลงสงลงสีอะไรเลย -w-")



วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนนะครับ แล้วจะมาทักทายเพื่อนๆอีกเรื่อยๆเด้อ


See ya!

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [5/4/2013 - สัพเพเหระ ครั้งที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Riko ที่ 08-04-2013 19:46:39
ฮ่วยยยยยยยยยยยยยยยยย แอนนี่ต้องเซเยสแน่ๆ แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :impress2:
ขอบคุณน๊าาาาา ติดตามจ้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [5/4/2013 - สัพเพเหระ ครั้งที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Satanza321 ที่ 09-04-2013 21:42:33
คนคิ้วเข้มๆนั้นคงเป็นพริกใช่เปล่า หล่ออะ(แอนนี่อย่าเอาไม้ไล่ตีเค้าน๊า :m29:)
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [5/4/2013 - สัพเพเหระ ครั้งที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 10-04-2013 12:20:32
สนุกมากฮะ แอนนี่น่ารักสุดๆ
รออ่านตอนต่อไป
สุขสันต์วันสงกรานต์ด้วยนะฮะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [5/4/2013 - สัพเพเหระ ครั้งที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 17-04-2013 00:47:47
 :katai1:

โดดข่วนหน้าคนเขียนเลย

ลุ้นตัวโก่งเลยอะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [5/4/2013 - สัพเพเหระ ครั้งที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 18-04-2013 00:49:58
สวัสดีวันสงกรานต์ย้อนหลังสำหรับทุกคนนะครับผม

ไปเที่ยวสงกรานต์ หรือไปเล่นน้ำกันมาสนุกมั้ยเอ่ย

ไหนๆก็หลังสงกรานต์ทั้งที ขอมาอัพเดตเรื่องราวของไอ้ฝรั่งกันหน่อยครับ

ซีซั่นสอง ผมว่าจะเอาลงภายในสัปดาห์นี้แล้ว ยังไงรอลุ้นกันได้เลยนะครับว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง

เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยและเป็นของขวัญวันสงกรานต์ ผมขอลงสามประโยคในตอนแรกให้ทุกคนได้เอาไปอ่านๆดูก่อนแล้วกันเน้อออ แล้วเจอกันเร็วๆนี้จ้าาาาา





“นั่นไง ป้ายเวกัส!”





“ขอโทษนะ...”





“หนีเร็ว?”






แค่นี้ก่อนเน้อออ แล้วเจอกันนะคร้าบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - แถลงครั้งสุดท้ายก่อนซีซั่น 2]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 18-04-2013 01:47:47
คุยกันดีแล้ว กลัวดาม่าข้ามซีซั่น หวังว่าแอนนี่จะตอบตกลงนะ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - แถลงครั้งสุดท้ายก่อนซีซั่น 2]
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 18-04-2013 02:35:21
 :mew1:
รออ่านนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - แถลงครั้งสุดท้ายก่อนซีซั่น 2]
เริ่มหัวข้อโดย: Satanza321 ที่ 18-04-2013 16:39:36
รออยู่น๊า :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - แถลงครั้งสุดท้ายก่อนซีซั่น 2]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-04-2013 19:09:30
 :oni3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - แถลงครั้งสุดท้ายก่อนซีซั่น 2]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 18-04-2013 19:32:43
รออ่านต่อค่ะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - แถลงครั้งสุดท้ายก่อนซีซั่น 2]
เริ่มหัวข้อโดย: nicedog ที่ 18-04-2013 22:26:24
กรี๊ดดดดด!!!

สนุกมากๆเลยค่ะ

อ่านแล้วยิ้มไปด้วยทุกตอนเลย

จะรออ่านตอนต่อไปนะค่ะ

รีบๆลงนะ

กรี๊ดดดดด(น่ารักที่สุดเลย)!!!>////<
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - แถลงครั้งสุดท้ายก่อนซีซั่น 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ikora ที่ 18-04-2013 23:11:30
วี้ววววววววววววววววววววว ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ ของซีซั่น 2 ซะที หลังจากที่ผมห่างหายไปนาน กลับมาคราวนี้ เรื่องราวที่ค้างจากตอนที่แล้วจะถูกเฉลย ในช่วงครึ่งปีต่อมา ก่อนเปิดเทอมขึ้นปี 2 ของแอนนี่ เรื่องราวจะเป็นยังไง ไปชมกันเลยคร้าบบบบบ

















ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ และแสงแดดอันเจิดจ้า รถจี๊พสองคันมุ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง

“วู้วว” เสียงหัวเราะและตะโกนอย่างสนุกสนานของเหล่าวัยรุ่นชาวต่างชาติดังมาแต่ไกล.... เอ่อ ต่างชาติในที่นี้ ผมหมายถึงชาวไทยนะ

“ซิ่ง! ไป! เลย!” ไอ้ต้นตะโกนอย่างมีความสุข ขณะที่กางแขนรับลมบนรถจี๊บคันใหญ่ซึ่งผมขับอยู่

“ไม่ร้อนรึไงวะไอ้ต้น กูยังร้อนเลย”  ผมถามขณะที่สายตายังมองถนนข้างหน้าอยู่

“ช่างแม่งเหอะแอนนี่ ต้องเข้าใจ แม่งไม่เคยเจอทะเลทราย” ไอ้มิวซึ่งนั่งคุยอยู่กับพี่ชายพูดขึ้น

“ว่าแต่ ทำไมต้องพาไอ้ชายมาด้วยล่ะแอนนี่” เสียงของคนนั่งข้างๆผมดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “ให้ตายสิ ขนาดมาถึงอเมริกา ไอ้เจ้านี่ก็ยังมาด้วยเหรอเนี่ยะ”

“จะให้ผมบอกอีกกี่ครั้งล่ะพริก ผมคิดกับแอนนี่เป็นแค่น้องชายแล้วน่า” พี่ชายยิ้ม แล้วขยับมาตบบ่าไอ้ตี๋ที่นั่งข้างๆผม “เลิกหึงแอนนี่พร่ำเพรื่อได้แล่ว”

“เออ มึงง่ะ หึงอะไรนักหนา นี่ขนาดยังไม่ได้คบกัน ถ้ากูตอบตกลงมึงไปเมื่อครึ่งปีก่อน มึงไม่ฆ่าพี่เค้าเลยเหรอ” ผมหันไปแขวะไอ้ตี๋

“หนวกหูน่า ถึงมึงจะปฏิเสธ แต่มึงก็บอกว่าคบๆดูๆกันไปเรื่อยๆ ไม่ใช่รึไง” มันเอาจมูกมาจิ้มๆจมูกผมเล่น “เพราะงั้น กูก็ถือว่า มึงก็เปิดโอกาสให้ ใช่ม้า”

“ตอบแบบดาราเลยนะ” ไอ้มิวแขวะ

“แถวบ้านกูเค้าก็เรียกว่าเป็นแฟน แต่ไม่ออกสื่อว่ะ แอนนี่” ไอ้ต้นก็อีกค้น

“ปั๊ดโถ่! ดูๆนิสัยไปก่อนโว้ย!! ยังไม่ใช่แฟน!!” ผมโวยวาย แล้วเผลอปล่อยมือจากพวกมาลัยรถ


เอี๊ยดดดดดดดด


“แว้กกกกก!!!” ร้องเหวอกันทั้งรถเลยทีเดียว

“ขับภาษาอะไรเนี่ยะ แอนนี่!” ไอ้ตี๋โวยวาย

“ก็ใครใช้ให้มากวนตีนกูตอนขับรถเล่า!!”

“ไม่ได้กวนตีนเฟ่ย! แล้วสกิลขับรถแบบนี้เนี่ยะ ไปให้เด็กป.หนึ่งขับดีกว่ามั้ง!!”

“อ๋อเหรอ... งั้น... กูว่าคงไม่ต้องดูๆกันไปและล่ะมั้ง ไม่ปลื้ม!”

“อ – อ่ะ เง้อออออ!!!”

“ตายและ ดูท่าจะมีคนโดนน็อคไปซะแล้ว” ไอ้มิวแสยะยิ้มขณะที่กลับไปนั่งกดมือถือตามเดิม

“เจอไม้นี้ไป ยังไหวอยู่มั้ยครับพริก” พี่ชายที่เปลี่ยนไปนอนตักมิว แซวไอ้พริกที่ตอนนี้ตัวแข็งทื่อไปซะแล้ว

“อ – อะแฮ่มๆ จะยังไงก็เถอะนะ แอนนี่ จริงๆแล้ว ถ้ากูมีใบขับขี่สากลก็คงขับแทนมึงได้หรอกนะ มึงจะได้ไม่ต้องเมื่อยไง” แหม่ พลิกสถานการณ์ได้ดีนะไอ้ตี๋

“ไม่เป็นไรหรอกน่ะ กูเป็นเจ้าบ้านก็ต้องต้อนรับพวกมึงดีๆหน่อย ใช่มะ”

“หึๆ” ไอ้ตี๋ยิ้มแล้วยีหัวผมใหญ่ “น่ารักกกก”

“เชี่ย! อย่ายีผม กูเพิ่งเซ็ตมาเมื่อเช้า”

“อ่าว โทดทีๆ! แต่ผมทรงไหนก็น่ารักอยู่แล้วน่า”

“เอ่ออออ พี่กับแอนนี่ จอดข้างทางแล้วสวีทกันให้เสร็จก่อนดีมั้ย ผมจะอ้วกและ” ไอ้ต้น แม่งก้างขวางคอชะมัด เอ้ย! ไม่ใช่

“อะไร!! คนเค้าจะสวีทกะแฟน เดี๊ยะมึง!!”

“เย้ยย!! โทดคับพี่!!”

“ยังไม่ใช่แฟนซะหน่อยโว้ยย!!” ต้องให้พูดอีกกี่ครั้งวะ เขินนะแสดดดดดด

“ทรายไลน์มาน่ะ” พี่ชายลุกจากตักไอ้มิว แล้วบอกทุกคน “รถคันหน้าบอกว่าใกล้จะถึงเวกัสแล้วนะ”

“ใกล้แล้วเหรอพี่” ไอ้มิวชะโงกหน้าไปดูไลน์จากมือถือพี่ชาย

“อืมมม ก็เริ่มเข้าเขตเมืองแล้ว” ผมช่วยคอนเฟิร์มอีกแรงในฐานะเจ้าบ้าน

“นั่นไง ป้ายเวกัส!” ไอ้ต้นชี้ให้ดูป้ายขนาดใหญ่ ตกแต่งอย่างฟู่ฟ่า เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเขียนว่า



Welcome to Fabulous Las Vegas, Nevada

















Chapter 20: Waking Up In Vegas







“โอ๊ยยยย เมื่อยๆๆๆ” พี่ต่อบิดขี้เกียจขณะลงจากรถจี๊บอีกคันที่มาถึงที่โรงแรมก่อน เอ่อ... จะว่าโรงแรมก็ไม่ถูกครับ ออกแนวเหมือน Motel เก่าๆมากกว่า

“This is it. This is where we stay for our trip.” เจนนิเฟอร์ ลูกพี่ลูกน้องของผมที่อาสาขับรถอีกคันพาทุกคนมาด้วยพูดขึ้น (จริงๆ มันกะโดดเรียนมาเที่ยวน่ะครับ)

“โห ได้บรรยากาศจริงๆว่ะ” ไอ้ต้นมองไปรอบๆ ขณะช่วยกันยกข้าวของขึ้นไปบนห้อง

“บรรยากาศบ้านผีสิงเหรอไอ้ต้น พื้นเก่าซะ” พี่ต่อบ่น

“เถอะน่า งบเรามีแค่นี้ มาถึงเวกัสได้ก็ดีแล้ว” พี่แจ๊สยิ้มแหยๆ ตอบแบบรักษาน้ำใจ “แต่เอาจริงๆ พี่ดูในทีวีนึกว่าจะหวือหวากว่านี้นา”

“อ่อ พวกที่หวือหวาๆ พวกคาซิโน อะไรพวกนั่นน่ะไม่ใช่ตรงนี้หรอกพี่” ผมตอบ

“หา?”

“อ้าว ยังไงวะเนี่ยะ” ไอ้พริกเกาหัวแกร๊กๆ

“คือจริงๆตอนนี้ เราอยู่ในเขตเมืองของเวกัส แต่ไอ้พวกคาซิโน ที่เที่ยวดังๆทั้งหลายแหล่ มันอยู่ทางนอกเมืองไปทางใต้ ตรงนั้นเค้าเรียกกัน The Strip”

“มีงี้ด้วยเว้ย” พี่ทรายงง

“เอาน่าๆ เดี๋ยวพักกันซักแปบ แล้วเดี๋ยวเย็นๆหน่อยค่อยขับไป” ผมบอกทุกคน แล้วหันไปคุยกับเจนนิเฟอร์ “Jen, We’ll leave around 4, okay?”

“Alright” เจนตอบก่อนจะเข้าห้องไป

**********************************************************************************

สี่โมงเย็น รถสองคันก็ออกแล่นไปตามถนนอีกครั้ง จากที่พักของพวกเรา แล่นลงมาทางใต้ประมาณหกกิโลเมตร ในที่สุดพวกเราก็ถึง The Strip

“เหยดดดดดดดดด อลังการสัดอ่ะ!” ไอ้พริกตื่นเต้นขณะถ่ายรูปแทบจะทุกที่ที่รถแล่นผ่าน

“สุดยอดเลย สวยกว่าที่เห็นในทีวีอีก” พี่ชายพูดขณะมองไปรอบๆ ส่วนมิวกับต้นตอนนี้ อ้าปากค้างเป็นที่เรียบร้อย

“ไลน์บอกคันนู้นด้วยนะ เดี๋ยวจะไปวนให้ทั่วรอบนึง แล้วเลือกเอาว่าจะไปเริ่มตะลุยตรงไหนก่อน” ผมบอกพี่ชาย

“ได้เลย”

“เอาล่ะ ทุกท่าน ตั้งใจดูสองข้างทางให้ดีนะคร้าบบบบบบ” จบที่ผมพูด ผมก็เหยียบคันเร่งขับวนไปรอบๆเขตท่องเที่ยวและแสงสีของเวกัสทันที ผ่านตึกสูงใหญ่ มากมาย หลากขนาดและรูปร่าง มีทั้งปราสาท โดมละครสัตว์ หอคอย หรือแม้กระทั่งหอไอเฟลขนาดย่อยก็ยังมี จนกระทั่งวนครบรอบ “ครบรอบแล้ว! สรุปว่าจะไปเริ่มจากที่ไหนก่อน”

“กูโหวตหอไอเฟล” เสียงโหวตจากไอ้มิว

“กุขอ ตึกที่มีภูเขาไฟข้างหน้าอ่ะ” ไอ้ต้นโหวต

“พี่โหวตปิรามิด” พี่ชายโหวต

“กูก็ปิรามิดด้วย” ไอ้พริกโหวต ส่วนผมก็

“กูอยากไป Paris ว่ะ”

“อ้าวววว เสียงเสมอ” ไอ้ต้นพูด

“ลองถามคันนู้นดูดิ่” ไอ้มิวเสนอ

“ได้ๆ” พี่ชายรับคำ แล้วรีบพิมพ์กลับไป ซักพักนึงอีกคันนึงก็ตอบกลับมา “คันนู้นก็โหวตปิรามิดว่ะ”

“โอเค งั้นก็ตามนี้ เราจะไปเริ่มต้นกันที่โรงแรม Luxor นะครับทุกโค้นนนน” แล้วผมก็รีบเหยียบคันเร่งอีกครั้งเพื่อรีบซิ่งไปให้ถึงโรงแรมหรูหราทรงปิรามิด ที่มีรูปปั้นสฟิงก์ต้อนรับอยู่ด้านหน้า

รถจี๊บสองคันขับเข้าสู่ลานจอดรถหน้าโรงแรมที่เริ่มมีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินเข้าไป ในขณะที่ผม และเพื่อนๆพี่ๆ ต่างลงจากรถด้วยความตื่นเต้น

“แอนนี่ๆ ถ่ายรูปให้หน่อยดิ่” ไอ้มิวรีบยื่นมือถือให้ผมทันที เพื่อให้ถ่ายรูปมันกับตึกปิรามิดด้านหลัง

“เอ่อ... พี่ชาย ออกจากเฟรมหน่อยครับพี่ ไม่งั้นถ่ายไม่ได้” ผมโบกมือปัดๆให้พี่ออกจากกล้อง

“เฮ้ยๆ ถ่ายกับพี่เค้าด้วย” ไอ้มิวบอก แล้วกวักมือเรียกพี่ชายที่ยืนเก้ๆกังๆให้เข้ามาถ่ายด้วย ในขณะที่พี่แจ๊สดูท่าทางจะอารมณ์เสียนะ

“นึง ส่อง ซั่ม”


แชะ


“เอ้าๆ เฮ้ยถ่ายให้พี่มั่งสิมิว” ไอ้พริกเดินเข้าไปยืนแทนที่พี่ชายที่เดินออกมาแล้ว

“โอเคครับ” ไอ้มิวรับมือถือจากไอ้ตี๋

“แอนนี่ มาถ่ายด้วยกันดิ่”

“หือ? ไม่เอาอ่ะ กูเคยมาแล้ว ไม่ถ่ายอ่ะ”

“เหอะน่า ถ่ายกับกูหน่อยสิ” ไอ้ตี๋นี่ก็อ้อนจริ๊ง

“อู๊ยย อินี่! ก็เคยมาแล้ว รูปที่กูถ่ายตรงนี้เลยก็มีสองสามรูปแล่ว”

“แต่รูปที่เรามาด้วยกันอ่ะ ยังไม่มีเลยนะ” เอ่อะ.... เขินเบย

“เหยดดดดดด” พี่ต่อปรบมือ

“ดูเหมือน ไอ้แอนนี่จะโดนเคโอไปแล้วนะ” ฮึ่ย! หุบปากไปเลยไอ้ต้น!

“เออๆๆๆๆ ถ่ายด้วยก็ได้วะ” ผมรีบเดินเข้าไปยืนใกล้ๆไอ้ตี๋ก่อนคนอื่นจะกวนประสาทไปมากกว่านี้

“ใกล้ๆกันหน่อยสิ ทั้งสองคน” แหน่ะ! พี่ชายก็เอากะเค้าด้วย ไอ้ตี๋นี่ก็รีบขยับเลยนะ ไอ้เชี่ย!

“ชิดกว่านี้หน่อยดิ่” พี่ทรายสมทบ ไอ้นี่ก็ได้ใจขยับใหญ่

“A little closerrrrrr” ยัยเจน เล่นกะเค้าด้วย!

“โอ๊ย! มึงเขยิบมาติดกูขนาดนี้ ไม่กอดกูเลยล่ะ!” ดูมันสิครับ! เขยิบมาชิดจนตัวผมกับตัวมันแทบจะรวมเป็นคนเดียวกันแล้ว

“โอเคนะ ยิ้มหน่อย นึง ส่อง ซั่ม”


แชะ


อื้มมมมม อุ่นจัง เมื่อกี้ลมยังพัดเย็นวู่บๆอยู่แล้ว แล้วไหงตอนนี้...

“แว้กกกกกก!!! What the fuck! มึงกอดกูเพื่อ ไอ้ตี๋!”

“อ่าว ก็มึงบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าให้กอดน่ะ” โอ๊ยยยยยยย กวนตีน แถมยิ้มกวนตีนอีก สาดดดดดดดด!!

“หึ่ยยยยยย โอ๊ยยยยยย” ร้อนหน้าไปหมดแล้วครับ ไม่รู้จะพูดอะไร เดินนำคนอื่นเข้าโรงแรมไปแล้วกัน “เข้าไปกันได้แล่ว!!”

“คร้าบบบบบบ” ไอ้ตี๋ยังคงยียวนกวนประสาท

เมื่อมาถึงข้างในตัวโรงแรม เหล่าคณะทัวร์ของผมก็ร้องว้าวดังๆกันอีกรอบกับสถาปัตยกรรมการตกแต่งภายในในสไตล์อิยิปต์โบราณ ที่สุดแสนอลังการ มีรูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ รวมถึงการจำลองวิหารศักดิ์สิทธิ์มาไว้ภายในอีกด้วย

“โอ้โหหหหห ใหญ่จัง” ไอ้มิวมีท่าทางตื่นเต้น

“เฮ้ย ไม่ต้องชม ของกูเก้านิ้วกำลังเหมาะๆ” ไอ้ต้นยิ้มกวนๆ ทำท่าลูบเป้าตัวเองซะงั้น

“ถุย! กูหมายถึงตึก”

“So, what are we gonna do now?” เจนถาม

“Go to Casinoooooo!!!” ตอบพร้อมกันเชียวนะครับ แหม่

“โอเคๆ งั้นก็ไปคาซิโนกัน”

“เดี๋ยวก่อนๆ”  ไอ้พริกรั้งตัวผมไว้ ก่อนจะหันไปถามเจนนิเฟอร์ “Jenny, Can I borrow Annie? I’m kinda hungry and I don’t know where to go.”

“Sure!  That him with you.” เอ่อออ ไม่ปรึกษากูหน่อยเหรอ “Annie, take him to that restaurant. I’m sure it’s going to be super delicious.”

“Come on! Why don’t we just play Casino and then have dinner together”

“It’s alright, Annie. พวกเราไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ไปกินกับพริกเถอะ” พี่ชายพูดดัก แล้วตามมาด้วยเสียงสนับสนุนจากคนอื่นซึ่งพูดพร้อมกันว่า

“ช่ายยยยยยยยย”

“Arrrrrr. Whatever.” แล้วผมก็เดินนำไอ้พริก พาไปยังร้านอาหารที่บ้านผมเคยมากิน “ตามมาไอ้ตี๋”

ร้าน T&T หรือ Tacos & Tequila อยู่ชั้นเหลือขึ้นมาจากล็อบบี้ไม่มากนัก ในร้านตกแต่งบรรยากาศสไตล์โมเดิร์น ผสมกลิ่นอายสไตล์แบบเม็กซิกัน หลังจากที่ไอ้พริกจัดแจงบอกกับพนักงานว่าเรามาสองคนเสร็จสรรพประหนึ่งว่าเคยมาเที่ยวแล้ว พนักงานก็พาเรามาที่โต๊ะคู่ ซึ่งอยู่ในมุมที่ถือว่าเป็นส่วนตัวพอสมควร

หลังจากที่พวกเราได้รับอาหาร ซึ่งเป็นสไตล์เม็กซิกันและอ่านชื่อยากมาก (ไอ้พริกใช้เวลาอ่านชื่อเมนูของมันอยู่ห้านาทีจนพนักงานต้องช่วยกันอ่านให้มันฟัง) รวมถึงไวน์ที่ผมปฏิเสธในตอนแรก แต่มันก็ยังคะยั้นคะยอจะให้ผมสั่งให้ได้ มันก็เริ่มคุยเข้าประเด็นกับผม

“อาหารที่นี่น่าตาแปลกๆดีเนอะ”

“ก็ อาหารเม็กซิกัน มันก็แนวๆนี้แหละมึง ทาโก้ส์อ่ะ ลองกินดู”

“อื้มม” มันอ้าปากงับทาโก้ส์เข้าไปคำใหญ่ “หร่อยดีแหะ รสแปลกๆว่ะ”

“ใช่มะ ตอนนั้นกูมากินกับที่บ้าน รสชาติถูกใจมากเลย หลังจากนั้นกูก็ติดทาโกส์มากๆ”

“แอนนี่ ชอบกินทาโกส์เหรอ”

“ชอบสิ อร่อยจะตาย”

“อื้มมมมม” มันพยักหน้าแล้วก็หันไปกินต่อ แต่หน้าตาอมยิ้มดูน่าสงสัยแหะ

“ทำไมวะ”

“ไม่มีอะไรหรอก.... เอาไว้เดี๋ยวกลับเมืองไทย เดี๋ยวกูทำให้เอามั้ย”

“ห่ะๆ เดี๋ยวกูก็ท้องเสียหรอก”

“อะไรว้า อุตส่าห์อยากจะทำให้สุดที่รักแดก สุดที่รักเสือกไม่ยอมแดกซะงั้นอ่ะ”

“เอ่ออออ พริกครับ มึงเรียกกูว่าสุดที่รักก็ช่วยปรับรูปประโยคให้มันดีนิดนึงนะครับ”

“คร้าบบบบบ... ว่าแต่ ยอมรับแล้วเหรอว่าเป็นสุดที่รักกูอ่ะ”

“ถุยเหอะ!!! เฟ่ย!! บอกแล้วว่าขอดูๆไปก่อน”

“ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ รู้แล้วน่าๆ” ไอ้ตี๋ยิ้ม ผมยิ้ม พวกเราต่างก็มองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าเงียบๆ แล้วไอ้พริกก็พูดเสียงอ่อนโยนแบบที่มันมักจะพูดเวลามัอะไรสำคัญๆ “แอนนี่...”

“หืม”

“กูรักมึงนะ”

“หึๆ” ผมยิ้ม หัวเราะในลำคอ ผมดีใจ และรู้สึกมีความสุขที่มันยังคงรู้สึกอย่างนั้นกับผม ส่วนผมเอง... “กูก็รักมึงเหมือนกัน”

“อื้ม กูรู้” มันยิ้ม ซึ่งนั่นทำให้สะกิดต่อมของผมจนผมหุบยิ้มทันที

“ขอโทษนะ...”

“ขอโทษเรื่องอะไร”

“เรื่องที่กู ยังไม่พร้อมจะเป็นแฟนมึง...”

“เรื่องนั้นน่ะช่างเถอะ กูเข้าใจ... กูซะอีกที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น... ถ้ามึงไม่พร้อมที่จะคบกัน กูก็เข้าใจ”

“ขอบคุณนะ... แต่ยังไง กูก็ยังอยากคบกับมึงนะ... แค่ขอเวลา ลบเรื่องนั้นให้ได้ก่อน...” ภาพที่มึงฉุดกระชากลากถูกูในตอนนั้น มันยังคงอยู่ในหัว ขอเวลาลบมันหน่อยนะพริก

“อื้ม.... แต่ยังไงก็เถอะ ไหนๆตอนนี้มึงกับกูก็อยู่ด้วยกันแล้วเนอะ... กูก็... มีอะไรอยากจะให้หน่อยน่ะ” ไอ้ตี๋ล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางเคอะเขินแปลกๆ

“...อะไรวะ”

“มึงหลับตาก่อนดิ่”

“ทำไมต้องหลับอ่ะ”

“เอาเหอะน่า หลับตานะๆ”

“อ่ะๆ ก็ด่ะ” หลับตาช่วยๆมันหน่อยครับ แล้วซักพักหนึ่งในความมืด ผมก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมากระทบรอบคอผม “...อะไรอ่ะ ...ลืมตาได้ยัง”

“แปบนึงดิ่ ....อืม ....เรียบร้อย ลืมตาได้แล้วหล่ะ” ผมค่อยๆลืมตา และเห็นสร้อยที่ห้อยอยู่รอบคอผม ผมเอามือขึ้นจับสร้อยขึ้นมาดูสิ่งที่ร้อยห้อยอยู่ให้ชัดเจนมากขึ้น

“นี่มัน...”

“แหวนไง กูร้อยใส่สร้อยนี่ไว้ เมื่อไหร่ที่มึงพร้อมที่จะคบกับกู เมื่อไหร่ที่มึงพร้อมที่จะเดินไปด้วยกันกับกู หยิบแหวนนี้มาใส่ที่นิ้วนะ”

“พริก...” โอ้ยยยยยย!!!!! หน้าแดงโว้ย แสดดดด

“กูจะรอนะ รอวันที่เราจะไปด้วยกัน”

“....” ผมยิ้มให้กับผู้ชายตรงหน้า ให้ตายสิ แอนนี่ นี่ยังไม่พออีกเหรอที่จะทำให้มึงลืมเรื่องในวันนั้น คนคนนี้รักมึงมากกว่าอะไร มึงเองก็ไม่ได้สับสนกับความรู้สึกตัวเองแล้ว จะรออะไรอีกวะ “....ขอบคุณนะพริก ....ตอนนี้กูเองก็คิดว่า –“



ตึ๊ง ดึ่ง



เสียงไลน์ของไอ้พริกดังขึ้น



ตึ๊ง ดึ่ง



ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นข้อความของไอ้มิว ส่งมาว่า

“หนีเร็ว?” ผมกับพริกพูดพร้อมกันด้วยความสงสัย

“เกิดอะไรขึ้นวะ” ไอ้พริกถาม

“ไม่รู้สิ เดี๋ยวกูลองโทรหามิวดูนะ”

“อื้ม”

ผมรีบกดโทรศัพท์โทรหาไอ้มิว รอจนมันรับสาย ด้วยเสียงที่ดูสั่นๆ และเหมือนจะหอบด้วยความเหนื่อย

“ฮัลโหล ไอ้มิว เกิดอะไรขึ้นวะ”

[มึงสองคน รีบหนีเร็ว]

“หนี? หนีทำไมวะ? แล้วนี่ทำไมเสียงมึงสั่นๆวะ”

[กูวิ่งอยู่]

“หา? วิ่ง! วิ่งเพื่อ?”

[เพื่อเอาชีวิตรอดสิวะ!! พวกกูโดนมาเฟียไล่ตามมาอยู่เนี่ยะ!]

“หะ!!! เกิดอะไรขึ้นวะ!!”

[เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง พวกมึงรีบหนีลงมาก่อน!!]

“อ่า มิว คือกูกะพริกไม่ได้มีเรื่องกับเค้า ไม่ต้องหนีก็ได้ว่ะ”

[ไอ้เชี่ย กุญแจรถอยู่กับมึงง่ะ!! ไม่มีรถแล้วพวกกูจะหนียังไงวะ นั่งไปคัยเจนไม่พอเฟ่ย!!]

“เออว่ะ!! โอเคๆ งั้นเดี๋ยวพวกกูรีบไป”

[เออๆ เจอกันที่รถเลย]

แล้วมันก็วางสายไป

“ว่าไงมั่ง” ไอ้พริกถามทันทีที่ผมวางสาย

“ไอ้พวกนั้นอ่ะดิ่ ไม่รู้ไปคาซิโนอีท่าไหน ไปมีเรื่องกับมาเฟีย”

“หา!!!”

“ไม่ต้องหาอ่ะไอ้ตี๋ รีบไปกันเหอะ” ผมยกมือเรียกพนักงานให้เก็บตังค์ จ่ายเงิน แล้วรีบออกจากร้านทันที

พวกผมรีบลงมาข้างล่าง ทันทีเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งในชุดสีดำ รีบวิ่งลงมาจากสองชั้นด้านบน ซึ่งผมคิดว่า น่าจะเป็นพวกมาเฟียที่พวกเพื่อนๆของผมไปมีเรื่องด้วย

“นั่นน่าจะใช่พวกมันนะ” ไอ้พริกก็คิดแบบเดียวกัน

“เร็วเข้า รีบไปที่รถก่อนพวกมันจะไล่ตามมาทัน” พวกผมรีบวิ่งลงมาเรื่อยๆ ผ่านล็อบบี้ ในขณะที่ชายชุดดำกลุ่มนั้นก็วิ่งไล่ตามมาไม่ไกลนัก พวกผมเร่งฝีเท้า ฝากผู้คนที่เดินสวน จนเกือบจะชนกับบางคนเสียด้วยซ้ำ แล้วในที่สุดเราก็วิ่งมาถึงลานจอดรถด้านนอก ซึ่งตอนนี้เป็นตอนกลางคืนไปเรียบร้อยแล้ว

“พริก!! แอนนี่!!” พี่ชายโบกมือตะโกนเรียกพวกเราจากบนรถจี๊บ พวกผมไม่รอช้ารีบวิ่งไปที่รถให้เร็วที่สุด จนเรียกได้ว่า แทบจะกระโจนขึ้นไปนั่งบนรถกันเลยทีเดียว

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ!!” ผมกับพริกถาม ซึ่งได้รับคำตอบเป็นเสียงโวยวายของทั้งพี่ชาย ไอ้ต้น ไอ้มิว

“อย่าเพิ่งถามเถอะ”

“รีบสตาร์ทรถก่อน”

“เร็วเข้าสิ”

“เดี๋ยวพวกมันก็ตามมาทันหรอก”

“เร็วเข้าเถอะน่า” เสียงทุกคนโวยวายพร้อมกันในขณะที่ผมเสียบกุญแจแล้วเตรียมสตาร์ทรถ แต่ทว่า.....



แอ่ด แอ่ด แอ่ด แอ่ด แอ่ด.....


แอ่ด แอ่ด แอ่ด แอ่ด แอ่ด.....



“เฮ้ คันนั้นน่ะ ไปได้ยังวะ เดี๋ยวมันก็ไล่ตามมาทันหรอก!” เสียงพี่ทรายตะโกนมาจากรถอีกคันนึง

“มันสตาร์ทไม่ติดอ่ะ!!!” ผมตะโกนบอก ชิบหายแล้วครับ เหมือนในหนังเป๊ะเลย เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานทีไร รถไม่เคยจะสตาร์ทติดทุกที

“เฮ้ย! ชิบหายแล้ว”

“ลองสตาร์ทอีกทีซิ”

“น้ำมันหมดรึเปล่า”

“ก็เปล่านิ่”

“รถเป็นอะไรวะ”

“เป็นยานพาหนะไง”

“ถุย!”

“เอาไงดีวะ”

“ลงไปเข็นทันมั้ย”

“มึงจะบ้าเหรอ!!”




“Here they are!!!!” เสียงตะโกนไล่หลังจากพวกกลุ่มชายชุดดำ

“เชี่ยยยยย มันวิ่งกันมาแล้ว” ไอ้ต้นตะโกน

“แอนนี่ สตาร์ทให้ติดสิ”

“มันมาแล้ว”

“มันมีปืนเร็วๆ”

“กูเยี่ยวจะราดแล้ว”

“เรเร้วววววววว”



บรึ้น!!



“สตาร์ทติดแล้วๆ!” ผมตะโกนบอกทุกคน รวมถึงเพื่อนที่อยู่อีกคันด้วย

“เออออออ ออกรถก่อน มันวิ่งมาจะทันอยู่แล้ว” สิ้นคำสั่งไอ้พริก ผมก็รีบออกรถซิ่ง ฝ่ากลุ่มชายชุดดำที่กระโจนหลบกันแทบไม่ทันออกมา ตามมาด้วยรถของเจนที่ซิ่งตามกันมาติดๆ



“วู้วววววววว!!!!!” ทุกคนตะโกนด้วยความดีใจทันทีที่สลัดไอ้พวกมาเฟียทิ้งจนได้

“เฮ้ออออ รอดจนได้” ไอ้มิวถอนหายใจ

“ยังกะในหนังเลย เหี้ยเอ๊ย” ผมถอนหายใจตาม

“เดี๋ยวก่อนนะ” ไอ้พริกชะโงกหน้าไปข้างหลัง แล้วชี้ไปยังถุงผ้าที่มิวกับพี่ชายกอดอยู่ “ถุงอะไรอ่ะ”

“อ – อ่อออ ถุงนี้เหรอ” พี่ชายยิ้มแห้งๆ “ก็ ถุงนี้แหละที่เป็นต้นเหตุของเรื่องน่ะ”

“หมายถึงยังไงวะ” ไอ้พริกถาม

พี่ชายและไอ้มิวเลยตอบด้วยการเปิดถุงนั่นขึ้นมา ซึ่งทำให้ผมช็อคจนแทบจะทำรถคว่ำกันเลยทีเดียว

“เงิน!!!!” ใช่ครับ เงิน!!! ท่าทางไม่ใช่น้อยๆด้วย

“เท่าไหร่เนี่ยะพี่”

“ก็.... สี่ล้านอ่ะ”

“บาท?”

“ดอล” เอาเข้ย์!!!!!! สี่ล้านดอล เยอะสาดดดดดดดดดด

“เห้ย แล้วได้มายังไงว่ะ ไอ้ชาย”

“ก็ไอ้เจ้าต้น กับต่อเพื่อนพริกอะดิ่ ไปพนันโป๊กเกอร์กับไอ้พวกนั้นไว้ ตั้งสี่ล้าน”

“แถมไปโกงเค้าด้วย ถึงได้ชนะมันมาไง” ไอ้มิวเสริม “แล้วมันก็ดันจับได้ ก็เลยโดนวิ่งไล่มานี่แหละ”

“ก็ใครจะไปรู้เล่า ว่าโต๊ะนั้นอ่ะ มีแต่มาเฟีย แม่งเอ๊ย เกือบสมองระเบิดแล้วมั้ยล่ะ” ไอ้ต้นพูด หน้าซีดเผือด

“แหม่ มาทำพูด มึงง่ะ ตัวต้นเรื่องเลย ต้น” ไอ้มิวด่า

“เอาหน่ะๆ ผ่านมาได้แล้วก็ดีแล้วหล่ะ” พี่ชายปราม

“ว่าแต่.... เงินพวกเนี้ยะ จะเอาไปทำอะไรดี” ไอ้พริกถาม “จริงๆ เงินที่โกงเค้ามา เอาไปคืนเค้าอ่ะ ดีที่สุด แต่ถ้าเอาไปคืนตอนนี้ มีหวังสมองเละกันหมดแน่”

“อืม....” ผมนึกในใจ จนในที่สุด ก็ได้ไอเดียมันๆ สุดเหวี่ยง “เอางี้มะ ไหนๆ ก็มาเที่ยวเมืองแห่งแสงสีทั้งที...”

และแล้ว พวกเราก็ตัดสินใจ ผลาญเงินเหล่านั้นไปกับการเข้าผับนู้น ออกผับนี้ ซื้อเสื้อผ้า เข้าโรงหนัง แล้วก็มาต่อที่ผับ ซื้อเหล้า ซื้อเบียร์ ค็อกเทล ไวน์ เบียร์ เหล้า.... เอ่อ เหมือนจะบอกซ้ำนะ แต่ช่างเถอะ ผมเริ่มเมาและ ขอไปสนุกกับทุกคนก่อนนะครับ ไหนๆก็กำลังจะท้าดื่มกันอยู่แล้ว ขอตัวก่อนนะ เอิ๊กกกกกก

**********************************************************************************

“งืมมมมมม โอยยยยย” แดดแยงตา แสบตาจุงเบยยยยยยย ผมพยายามลุกขึ้นจาก เอ่ออออ..... เตียงละมั้ง ผมมาอยู่บนเตียงได้ไงเนี่ยะ แต่ช่างเหอะ โอ้ยยย ทำไมมันรู้สึกมึนอย่างงร้วะเนี่ยะ หืมมมม แล้วนี่ใครนอนอยู่ข้างๆผมเนี่ยะ อ่อ ไอ้พริกเหรอ “พริก.... พริก.... ไอ้พริกตื่น”

“งืมมมมมม หงั่มๆๆๆ” แหน่ะ ไอ้นี่ นอนเป็นเด็กเชียวมึง ขนาดใส่ชุดสูทยังทำตัวปัญญาอ่อนเชียวนะ....

หือ....

ชุดสูท....


..................................
.........................
...............
......
..

เห!! ชุดสูท ทำไมมันใส่ชุดสูท แล้วมานอนบนเตียง.... เตียงแม่งมีโรยดอกกุหลาบด้วยเห้ย!! แล้ว.... เห้ย!!! ไหงผมเองก็ใส่ชุดสูทวะครับ!!! ชิบหายและ

“สร่างเมาเลยกู” ผมรีบลุกจากเตียงเพื่อพบกับตัวเองอยู่ในสภาพด้านบนชุดสูท ด้านล่างบ็อกเซอร์ ซึ่งก็ไม่ต่างจากไอ้ตี๋ที่นอนขึ้นอืดอยู่บนเตียง ในขณะที่ผมมองไปรอบๆ ก็พบกับเพื่อนๆคนอื่นที่นอนแฮงค์กันอยู่ทั้งนั้น

ไอ้ต้นก็ใส่ชุดสูท พี่แจ๊ส พี่ทราย พี่ต่อก็ใส่ชุดสูท ยัยเจนใส่ชุดราตรี แต่....

“เห้ย!!” ผมถึงกับร้องเหวอทันที่ที่เห็นพี่ชายนอนแก้ผ้า โดยที่มีไอ้มิวในสภาพที่เปลือยเปล่าเช่นกัน นอนซบอกพี่เค้าอยู่ “What did we do last night?....”

หัวใจผมเต้นรัว และรัวมากขึ้นเมื่อมองไปที่มือข้างซ้ายของตัวเอง....

“Oh…. You gotta be kidding me…”

ผมมองไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของผม... แหวนที่ไอ้ตี๋ให้ผมเมื่อวานนี้....









ผมใส่ไปซะแล้ว








To be continued

ตอนหน้า เกิดอะไรขึ้นเมือคืน กล้องวิดิโอสามารถบอกคุณได้ทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 18-04-2013 23:27:23
อ๊าก!!!ชอบเรื่องนี้มากมันทำให้เราฝึกภาษาด้วย

คู่รักที่พูดคนละภาษาเเต่เข้าใจกัน ฮ่า
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 18-04-2013 23:47:06
มาเเล้วๆ
โอ้ววว น้องเเอนนี่เผลอใส่เเหวนไปซะเเล้วซี :hao3:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 19-04-2013 00:48:40
เดี๋ยวกละบมาอ่าน
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 19-04-2013 01:38:07
เมาแล้วแต่งงานกันไปแล้วป่าว

เพราะเวกัสมีกันงาน กับจดทะเบียนแบบด่วนนะ ไม่ถึงชม.เสร็จหมด

อ่านจากไหนจำไม่ได้ละ แต่มีหลายคุ้ที่เมาแล้วแต่งงานกันโดยไม่รู้ตัวก็มี
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Satanza321 ที่ 19-04-2013 02:25:14
โอ้ว แอนนี่-พริก คบกันตอนเมาด้วยแหละ :m3:
เอ่อพี่ชายกับมิวนี่อย่าบอกนะว่า...กันแล้วอะ อะไรเนี้ยพึ่งตอนแรกเร็วไปมั้ย :haun4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 19-04-2013 03:00:00
กำ! เปิดเรื่องก็วุ้นวายแล้ว กร้ากกก
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: railay ที่ 19-04-2013 03:52:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: jonathan2624 ที่ 19-04-2013 16:06:27
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ สนุกง่าาาาา มาต่อด่วนนนนน  :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 19-04-2013 17:24:52
เมาเละ จริงๆ
แต่งงานกันแล้วแหงแซะ
ที่เวกัส อะำไรก็เกิดขึ้นได้
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 19-04-2013 17:59:30
คบกันตอนเมานี่เอง :hao7:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Theodore ที่ 19-04-2013 18:34:37
Hangover ภาค 4

5555
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 19-04-2013 20:02:25
แต่งงานกันแล้วหรอ?????
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 19-04-2013 20:21:23
ใส่แล้วใส่เลยนะแหวนอะห้ามเปลี่ยนใจ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ทำไมสองคนนั้นเปลือย
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: เกเร ที่ 19-04-2013 21:17:11
 :hao7: วุ่นวายกันตั้งแต่ต้นเรื่องเลยเว้ย ไหงไปๆมาๆ พี่ชายกับมิวมาอะเซเดเฮกันได้หว่า
แล้วพวกมาเฟียมันจะตามมาเจอไหม
แล้วเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
ต้องดูที่กล้องตอนหน้าแล้วละสิ :hao6:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-04-2013 22:33:22
มีถ่ายคลิปกันด้วยวุ้ย :hao6:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 20-04-2013 21:34:09
อ้าวแต่งงานกันซะแล้วเร๊อะ 55555555
ส่วนคู่มิวกะคู่พี่ชายนี่ลุ้นอยู่นะ อิอิ  :z1:
อยากให้มิวคู่กะพี่ชายอ่ะ แบบพี่ชายเทคแคร์ดีมากก เป็นสุภาพบุรุษมากกกก
(แต่ตลค.ลักษณะนี้ชอบกลายเป็นตัวประกอบอยู่เรื่อย) อยากให้พี่ชายสมหวังอ่ะ คู่กะมิวเห๊อะะะะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: mach201 ที่ 21-04-2013 02:26:51
นี่มันคือ Hangover ภาคใหม่!?
แจ่มเลยแอนนี่ ยินดีด้วย มีสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว5555+
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 21-04-2013 03:57:56
แต่งงานโดยไม่รู้ตัว

5555+
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 02-07-2013 14:49:38
รออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 02-07-2013 20:04:49
หายไปเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 02-07-2013 23:11:54
เอิ่ม ใส่ไปอย่างรวดเร็วมากอะแอนนี่
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 23-07-2013 11:57:56
รออยู่นะฮะ รบกวนมาอัพด้วย พลีสสสสส
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 06-10-2013 03:10:45
หายไปนานจนเค้าจะโหวตนิยายดองเค็มให้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 06-10-2013 16:20:56
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 03-01-2014 10:20:09
Happy New Year 2014
ขอให้มีความสุข ไม่เจ็บ ไม่จน นะคร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 24-08-2015 20:06:43
ไม่เห็นมีตอนสุดท้ายเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Earlzicemon ที่ 22-09-2016 08:59:19
พี่เค้าไม่แต่งต่อละหรอครับ
กำลังสนุก กลับมาได้ไหมครับ  :hao5: 555555
ร้องไห้ :sad4:  :sad4:  :sad4: