พิมพ์หน้านี้ - $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: omomy ที่ 22-02-2017 15:55:09

หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 22-02-2017 15:55:09
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 22-02-2017 16:14:18
Image ตัวละคร
(http://cdn-th.tunwalai.net/files/story/138779/636215389192404860-story.jpg)

(https://scontent.fbkk1-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/15825928_1807436396143131_877785818886710613_n.jpg?oh=57a4184409c70c54042b23219ff56617&oe=594A5CA4)
พาย พิลาศ ฤทธิ์ภักดี ชายหนุ่มเดือนคณะศิลปกรรม ปี3 เขาคือผู้ชายที่สวยกว่าดาวมหาลัย และมีคนรุมจีบมากมายจนมีคนอิจฉาตั้งฉายาให้ว่า...เดือนปีกทอง


(https://pbs.twimg.com/media/B0yr4bMCQAA9NB2.jpg)
ภีม ราชฤทธิ์ หนุ่มปีหนึ่งเดือนมหาลัยสุดหล่อที่ไม่ว่าจะสาวแท้สาวเทียมเห็นเป็นต้องหวั่นไหว ได้รับการยกย่องจากคนทั้งมหาลัยว่าเป็นเดือนที่หล่อที่สุดเท่าที่เคยมีมา
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 22-02-2017 16:16:08
ตอนที่ 1 เมื่อเจอเดือน

“อย่าคับ อย่าทำผม พี่อย่าทำผม” ผมร้องขอความเห็นใจจากพี่ชายแท้ๆของผม ในขณะที่เขาตึงแขนผมไว้ทั้งสองข้างพร้อมบดจูบไปทั่วหน้าซอกคอ และใบหูผม นี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ผมโดนแบบนี้ แต่ทุกครั้งผมรอดจากเงื้อมมือเขาเสมอ แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกสิ้นหวังเรื่องเกิน เพราะทางออกจากตรงนี้ของผมดูริบหลี่นัก

“จะดิ้นไปทำไมละพาย พี่กำลังจะให้ความสุขพายนะ เรากำลังจะเป็นของกันและกันแล้ว” เสียงเขาพูดระหว่างที่ไซร้ผมอย่างหื่นกระหาย

“เราเป็นพี่น้องกันนะพี่พล ปล่อยพายเถอะคับพี่ พายขอร้อง อย่าทำกับพายแบบนี้เลย” ผมขอร้องเขาทั้งน้ำตา ผมกลัว ผมไม่อยากมีอะไรกับเขา ผมเป็นผู้ชาย ผมขยักแขยงทุกการสัมผัสของเขา

“พี่ไม่หยุด วันนี้พายต้องเป็นของพี่” เขาฉีกกระชากเสื้อผ้าของผมออกจนหมด มือของเขาลูบไล้ไปทุกส่วนในร่างกายผม ตอนนี้มือผมเป็นอิสระบ้างแล้ว แต่ก็ทำได้แค่ยันเขาเอาไว้เท่านั้น

“อ้า...อย่า...ปล่อยผม...อย่า” เขาดูดหัวนมผมพร้อมกัดอย่างแรง ผมพยายามจิกผมเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล นิ้วเขาเริ่มล้วงเขาไปในก้นผม

“ปล่อย...อย่า..ไม่ๆๆๆๆๆๆ” ผมได้แต่กรีดร้อง ทำได้เท่านั้น ผมทำได้แค่นั้น...

เฮือกกกกกก.......ผมตื่นจากฝัน!!! ในที่สุดผมก็ตื่นจากฝันที่แสนน่ากลัว ผมมักจะฝันถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นอยู่บ่อยครั้ง มันทำให้ผมเจ็บปวด ผมได้แต่กอดร่างที่สั่นสะท้านของตัวเองเอาไว้ พร้อมน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาอย่างมากมายจนไม่อาจหยุดได้ ผมต้องทำยังไง ถึงจะหลุดพ้นจากเขา และเรื่องแบบนี้ได้
ผมชื่อพาย นายพิลาศ ฤทธิ์ภักดี ชีวิตผมมันไม่ได้ดีนัก อย่างที่ทุกคนได้อ่าน ผมจมอยู่กับอดีตที่โหดร้าย ที่เกิดจากการกระทำของพี่ชายแท้ๆของผม ตอนนี้ผมหนีออกมาอยู่หอตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย มันเป็นช่วงเวลาที่ผมสบายใจที่สุด เพราะพี่พลพี่ชายแท้ๆของผมเขาพยายามขมขืนผมตั้งแต่ ม.ต้น ผมใช้ชีวิตตอนนั้นไปกับการหนีเขา ผมจึงต้องทำตัวเข้มแข็ง เพื่อให้พ่อแม่เห็นว่าผมดูแลตัวเองได้ จนท่านทั้งสองยอมให้ผมออกมาอยู่ข้างนอก ถึงแม้ตอนแรกพี่ชายผมเหมือนจะมาด้วย แต่ดีที่พ่อแม่อยากให้เขาอยู่บ้านมากกว่า ผมจึงปลอดภัย อย่างน้อยผมก็คิดว่าตอนนี้ผมปลอดภัย...

“ทำหน้าเครียดอีกแล้วนะมึง ฝันร้ายอีกแล้วหรอ” กิตเพื่อนรักของผมที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถม มันรู้เรื่องทุกอย่างของผม ร่วมถึงเรื่องของผมกับเขา...

“อืม” ผมพยักหน้าตอบไปอย่างเหนื่อยล้า

“มันผ่านไปแล้ว มึงเข้มแข็งกว่าตอนนั้น เขาทำร้ายมึงไม่ได้แล้ว” กิตลูบหลังผมเบาๆเป็นการปลอบใจ ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด

“โธเว้ย กูน่าจะพามึงไปแจ้งตำรวจ” มันสบถออกมา อาจจะเพราะเห็นว่าสีหน้าผมไม่ได้ดีขึ้น
“กูแค่กลัว...ทุกครั้งที่ฝันถึงมัน...กูจำได้ทุกสัมผัสที่เขาแตะต้องกู มันน่ากลัว น่าขยักแขยง จนกูนึกรังเกียจตัวเอง” ผมร้องไห้ และระบายความในใจกับกิต

“มึงไม่ได้น่ารังเกียจคนที่น่ารังเกียจคือไอ้พี่พลตะหาก มึงไม่เป็นไรแล้วนะเว้ย” มันลูบหลังผมอย่างเบามือ

“ขอบใจนะมึง”

“กูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย ไม่ดิเรารู้จักกันจนเป็นเหมือนคนครอบครัวเดียวกันด้วยซ้ำ”  ไอ้กิตมันปล่อยผมจากอ้อมกอดและยิ้มให้ผม กิตมักพูดให้ผมสบายใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่มีทางหายไป ผมอาจจะทำตัวดูเข้มแข็งต่อหน้าเพื่อน แต่ในใจผมก็ยังลืมมันไม่ได้อยู่ดี

“มึงคงไม่ได้สังเกตว่า เดือนมหาลัยกำลังมองมึงตาเป็นมัน” กิตบอกผมก่อนจะพยักพเยิดไปทางที่เดือนมหาลัยคนนั้นนั่งอยู่ ผมมองตามที่เพื่อนบอกก็สบตากับรุ่นน้องเดือนมหาลัยเข้าเต็มๆ ขนาดมองไกลๆเขายังดูหล่อสมคำร่ำลือ

“เพื่อนน้องมันก็ซุบซิบมึงด้วย กูว่าต้องพูดเรื่องที่มึงเป็น...แน่เลยวะ” กิตบอกผมเหมือนไม่อยากเอ่ยคำนั้นออกมา

“เรื่องที่กูเป็นเดือนปีกทองอะหรอ” ผมถามกลับ

“ใช่ มึงน่าจะแก้ข่าวนะ ชื่อเดือนปีกทองฟังดูเพราะดี แต่ความจริงมันก็เป็นคำด่า เหมือนที่คนเขาว่าผู้หญิงขายตัวว่าคุณโสนั้นแหละ” กิตบอกผมด้วยความหวังดี ผมรู้ แต่มันก็เป็นแค่ชื่อที่คนเรียกกันผมไม่ได้สนใจอะไร

“กูไม่ได้เป็นแบบนั้น ใครจะคิดยังไงก็ช่าง กูไม่สนใจคนพวกนั้นหรอก”

“มึงนี้นะ หน้าสวยๆนิ่งๆไม่แคร์โลกนี้แหละที่ทำให้ฉายาเดือนปีกทองติดตัวมึงมาตั้งสามปี”

“ไอ้กิต กูเป็นผู้ชาย สวยเชี่ยอะไร” ผมติดจะโมโหเล็กน้อย สวยอะไรวะก็แค่หน้าหวานเหมือนแม่เท่านั้นเอง

“แต่เดือนนั้นยังมองมึงอยู่เลยนะเว้ย อ่อยซะหน่อยไหม”

“ไอ้กิตกูจะไปอ่อยเขาทำไม” ผมว่ามัน

“เดือนมหาลัยปีนี้ชื่อ น้องภีม ฉายาโคตรเดือน เป็นเดือนที่หล่อที่สุดในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเลยนะเว้ย เขาน่าจะสนใจมึง อ่อยเลยมึง เพื่อจะได้ตังค์กินหนม” กิตมันชอบพูดล้อเล่นคับ

“ไอ้เชี่ย” ผมด่ามันพร้อมตบหัวไปที

“อารมณ์ดีขึ้นละเนอะ 55555” มันแซวผม เวลาอยู่กับมันทำให้ผมสบายใจขึ้นได้เยอะจริงๆ

“เออ”

“แต่กูพูดจริงนะเรื่องอ่อยไว้อะ 55555555”

“โอ๊ยกูไม่รู้จะด่าอะไรมึงแล้ว”

“โอ๋ๆ กูไม่เล่นละ555555 เอาเป็นว่าไปเรียนกันเหอะ เดี๋ยวเลิกเรียนกูพาไปเที่ยว” กิตพูดอย่างร่าเริงก่อนจะพาผมไปเรียน


หลังเลิกเรียน
“มึงไปรอกูหน้ามอนะ เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อน” ไอ้กิตบอกก่อนจะวิ่งไปเข้าห้องน้ำ

“โอเค” ผมตอบรับก่อนจะเดินไปรอที่หน้ามอ แต่เหมือนผมจะโชคไม่ดี ที่ต้องมาเจอกับเขา...

“วันนี้วันศุกร์ จะไม่กลับไปค้างที่บ้านหรอ พี่อุตสามารับนะ” พี่ชายผมที่มารอดักผมที่มหาวิทยาลัยเอ่ยอย่างอ่อนโยนตอนเจอผม ถึงแม้น้ำเสียงเขาจะเหมือนชายที่เป็นห่วงน้องทั่วไป แต่ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่ ผมกลัว ตัวผมเริ่มสั่นตั้งแต่เห็นหน้าเขา

“ไม่คับ ผมมีนัด อย่ามายุ่งกับผมดีกว่า” ผมบอกก่อนจะเดินหนีเขาไป แต่เขาก็กระชากแขนผมไว้ซะก่อน

“จะไปหาหนุ่มที่ไหนอีก เลิกทำตัวส่ำส่อนซะที พี่ไม่ชอบ” เขาพูดด้วยเสียงที่โกรธเกรี้ยว

“ความส่ำส่อนมันเป็นงานของผม ผมเป็นเดือนปีกทอง พี่ไม่เคยได้ยินหรือไง” ผมโดนตั้งฉายาจากคนที่ผมไม่เล่นด้วยหลายคนทำลายชื่อเสียงของผม แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันอาจเป็นเกราะป้องกันตัวผมจากคนๆนี้ก็ได้ ความน่ารังเกียจของสิ่งที่ผมทำ ผมเชื่อว่าเขาคงรับไม่ได้

“เคย และพี่ก็ไม่ชอบที่แกทำตัวแบบนี้ แกต้องใช้เงินเยอะถึงขนาดต้องขายตัวเลยหรือไง” เขายังคงพูดกับผมด้วยความโกรธ

“ใช่ ผมต้องการเงินเพื่อที่วันนึงผมจะใช้ปีกทองนี้บินหนีไปให้ไกลที่สุด” ผมยังคงเถียงเขาอย่างไม่ลดละ

“งั้นมาขายให้กูนี่” เขาพยายามดึงผมไปกอด แต่ผมผลักเขาออกได้ทัน

“พี่ไม่มีเงินพอจะซื้อผมหรอก พี่น่าจะรู้ว่าคนที่เคยซื้อผมเป็นคนรวยทั้งนั้น” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัยเท่าที่จะทำได้

“มึง...”

“พายคับ บอยมารับแล้ว” ก่อนที่เขาจะด่าผมด้วยความโกรธ เพื่อนของผมก็มาพอดี มันทำตัวเป็นเสี่ยเพื่อมาช่วยผมไว้จากสถานการณ์นี้ ไอ้กิตต้องส่งมันมาแน่ๆ

“ไปกันเถอะคับบอย...ไปนะคับพี่ ผมมีงานต้องทำ อ่อ ถ้าพี่จะฟ้องพ่อแม่ก็เชิญ ผมมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้แล้ว” ผมบอกแกมขู่พี่ชายผมก่อนจะเดินจับมือบอยออกมา บอยเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ร่ำรวยของผม ดีที่วันนี้มันขับเบ็นซ์มา ปกติมันขับแต่มอไซต์คับ

“ขอบใจนะบอย” ผมบอกมันตอนเข้ามานั่งในรถ

“ไม่เป็นไร ไอ้กิตมันบอกให้มาช่วย โดนคนมาขอซื้อบ่อยแบบนี้เป็นกูคงกระทืบคาตีนไปแล้ว” บอยมันพูดอย่างออกรสออกชาติ

“กูชินแล้ว ช่างเหอะ”

“มึงน่าจะไปจัดการไอ้พวกปล่อยข่าว เสียชื่อเสียงชิบ ให้กูช่วยป่าว” บอยเสนอตัว พร้อมยักคิ้วให้ผม

“ไม่เป็นไร กูชอบโดนเรียก เดือนปีกทอง เพราะดี”

“มึงนี่โรคจิต 555555” มันพูดก่อนจอดให้ผมลง แถวๆห้างสรรพสินค้า

“ยังไงวันนี้ก็ขอบใจมากนะบอย บายยย” ผมลามันก่อนรีบเดินเข้าห้างไป กลัวไอ้พี่พลมันจะขับรถมาเจอ


ครืด...ครืด โทรศัพท์ผมสั่น ไอ้กิตน่าจะโทรมา

“มึงอยู่ไหนวะ” ผมถามมันทันที

--ร้านฮอตพอท มึงมาเร็วกูรอมึงอยู่—

“โอเคๆ” ผมบอกก่อนจะวางสาย และรีบเดินไปหามัน

“โอ๊ะ...ขอโทษคับเป็นอะไรรึเปล่า ผมรีบไปหน่อย” ผมบอกขอโทษผู้ชายที่ผมพึ่งเดินชน  แต่พอเงยหน้ามองเขาก็ทำผมอึ่งไปไม่น้อยก็เขาทั้งสูง และหล่อเกินไป จนน่าอิจฉาเลยทีเดียว

“ไม่เป็นไรคับพี่พาย” เขาเรียกชื่อผมถูกด้วย

“เออ..เรารู้จักกันหรอคับ” ผมถามเขาตามความจริง

“พี่พึ่งสบตาผมเมื่อกลางวันลืมแล้วหรอคับ” อ่อ ผมจำเขาได้แล้ว พอได้มองใกล้ๆไอ้นี้มันโคตรเดือนจริงๆ

“น้องภีม เดือนมหาลัย”

“ใช่คับ”

“แต่น้องรู้ชื่อพี่ได้ไง” ผมถามกลับด้วยความสงสัย

“พี่พายดังมากนะคับ ใครๆก็รู้จัก” คำว่าใครๆก็รู้จักนี่ นึกถึงฉายาของตัวเองขึ้นมาเลย

“อ่อ...ดังแต่เรื่องไม่ดีมากกว่า” ผมบอกเขาไป เขากลับมองผมยิ้มๆ แปลกๆ

“เดือนปีกทอง เป็นฉายาที่เพราะดีนะคับ” เขาบอกพร้อมยิ้มให้ผม เขาจะมองหน้าผมแล้วยิ้มอะไรนักหนา มีอะไรที่มันตลกติดหน้าผมรึเปล่า ผมชักสงสัยแล้ว

“น้องคงไม่รู้ความหมายของฉายา”

“รู้สิคับ ผมยังอยากจะถามพี่เลยว่า พี่ขายเท่าไหร่” เขาถามผมพร้อมหุบยิ้ม กลายเป็นดูจริงจังไปซะฉิบ

“น้องจะซื้อพี่หรอ!!!” ผมถามด้วยความาตกใจ

“หึหึ” เขาไม่ตอบแค่ยิ้มเจ้าเล่ห์เท่านั้น ไอ้หน้าหล่อนี้ดูไม่เป็นมิตรขึ้นมาแล้ว

ครื่ด...ครืด เสียงโทรศัพท์จากไอ้กิตโทรเข้ามาซะก่อน ผมเลยไม่ได้คุยกับเขาต่อ

“กูกำลังไป...รอแป๊ป..กูจะรีบเดินไป” ผมบอกอย่างรีบๆก่อนจะวางสาย

“ไปก่อนนะภีม บายยยย” ผมรีบวิ่งไปที่บันไดเลื่อนทันที ภีมแค่ยิ้มให้ก่อนจากกัน ดีที่ผมติดธุระ ไม่งั้นผมคงต้องหลอกเขาเหมือนคนอื่นๆแน่ๆว่าผมขายตัว เพื่อให้ทุกคนเรียกผมว่า เดือนปีกทอง ผมจึงไม่เคยปฏิเสธคนที่มาถามราคา เพราะถ้าดูมีเงิน ผมจะตั้งค่าตัว ตัวเองไว้สูงจนเขาไม่กล้าซื้อ


หลังจากกินข้าวกับไอ้กิตเสร็จมันก็มาส่งผมที่หอคับ แต่ผมเผอิญเห็นรถของพี่พลที่จอดอยู่หน้าหอผม ผมเลยบอกให้กิตส่งผมที่เซเว่น ผมแปลกใจจริงๆที่พี่ชายผมเขามารอที่หออีก ถ้ามืดแล้วเขายังไม่กลับ คืนนี้ผมจะทำยังไงดีเนี่ย ระหว่างที่คิดว่าจะทำยังไงดี ผมก็เลยกลับเข้าไปที่มหาวิทยาลัย ไปนั่งเล่นที่สวน และภาวนาให้พี่ชายผมกลับบ้านไปสักที

“พี่พายคับ” ผมมองที่เขาในทันทีที่เขาเรียกผม ภีมเดือนมหาลัยมาทำอะไรที่นี้กัน

“คับ?” ผมตอบรับอย่างสงสัย

“ที่ผมถามค้างไว้ว่า เท่าไหร่ ผมอยากได้คำตอบ” เขาถามคำถามที่ผมยังไม่ได้ตอบเมื่อตอนเย็น นี้เขามาเพื่อถามผมแค่นี้หรอ ผู้ชายอะไรแปลกจริงๆ

“เออ...ห้าหมื่นต่อคืน” ผมตอบในราคาที่สูงไว้ก่อน ผมไม่รู้ว่าน้องเขารวยไหม แต่ก็แต่งตัวดี ดูสมาท ไม่น่าจะยอมจ่ายเยอะเท่าที่ผมบอกไป แค่เพื่อเซ็กซ์ข้ามคืนกับผม

“ผมตกลง คืนนี้เลยได้ไหมคับ” เขาตอบตกลงแทบจะทันทีที่ผมพูดจบ จะเอายังไงดีละ ผมอึ่งไปอยู่นานเหมือนกัน เพราะผมไม่รู้จะทำยังไงดี จะเลี่ยงเขายังไงดี

“คือ..วันนี้ผมมะ..” ผมมองไปที่ข้างหลังเขา ก็เจอกับรถพี่ชายผมที่เพิ่งเลี้ยวเข้ามาในมหาวิทยาลัย นี้มันวันอะไรของผมเนี่ย จะทำยังไงดี ผมไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

“ได้ ไปห้องนายนะ” ผมว่าไปกับภีมน่าจะปลอดภัยกว่าเจอกับพี่ชายตัวเอง เพราะภีมก็น่าจะเป็นสุภาพบุรุษดี

“โอเคคับ ไปที่รถผมดีกว่า” เขาเดินนำผมไปที่รถของเขา พอเห็นรถผมก็รู้ทันทีเลยว่าตัวเองคิดผิดที่บอกเขาไปแค่ห้าหมื่นต่อคืน เพราะภีมขับแอสตัน มาติน
 
“คิดอะไรอยู่คับ ต้องรัดเข็มขัดนะคับ...พี่พาย” เขาเอื้อมมารัดเข็มขัดนิรภัยให้ผม และเรียกผมว่าพี่พายพร้อมมองตาผม มันทำให้ผมนึกถึงใครคนนึง เขาเป็นรุ่นน้องตอนสมัยมัธยมของผม เขาเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ผมรู้สึก...ชอบ



TBC...

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-02-2017 18:19:13
 :katai5:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 22-02-2017 20:55:49
ทำไมชีิวิตนายเอกฉันรันทดขนาดนี้ สวยเสียเปล่า เลยไม่มีแฟนเลย

อิมเมจนายเอก เหมาะดีค่ะ แต่อิมเมจพระเอก เราว่าหล่อน้อยไปอ่ะ ถ้าโครเดือนนี่น่าจะหล่อขั้นเทพกว่านี้เนอะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 22-02-2017 21:35:15
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านทุกคนนะค่ะ และพร้อมรับคำติชมทุกอย่างค่ะ เรื่องอิมเมจพระเอกยังมีอีกคนที่คิดไว้ ชอบไม่ชอบยังไงบอกได้นะจ๊ะ   :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 23-02-2017 11:24:46
ตอนที่ 2 ความจริงที่ค้างคา

ภีม พาร์ท

ผมชื่อภีมคับ เป็นนักศึกษาปีหนึ่งคณะนิติศาสตร์ และเป็นเดือนมหาลัยมาหมาดๆ ตอนนี้ผมกำลังนั่งมองคนที่ผมแอบรักมาตั้งแต่ม.ต้น เขานั่งหน้ามุ่ยอยู่คนเดียวหลังจากที่กลับจากห้าง ผมเห็นเขากลับไปที่หอ แต่ไม่รู้ทำไมถึงเดินกลับเข้ามาในมหาลัยอีก ผมอยากเดินเข้าไป และถามว่าพี่จำผมได้ไหม แต่เขาคงจำผมไม่ได้ ก็ผมเปลี่ยนไปมากซะขนาดนี้ จากเด็กอ้วนหน้าสิว กลายเป็นหุ่นนายแบบ เดือนมหาลัย แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ครั้งแรกที่ผมเห็นเขาในมหาวิทยาลัยคือตอนเช้าของวันนี้ เขากำลังนั่งคุยกับเพื่อนสนิทอย่างพี่กิต เขาดูเศร้า และเครียด ผมอยากเป็นคนกอดปลอบเขาคนนั้น อยากเข้าไปสิงพี่กิตซะเลย แต่ก็ทำได้แค่นั่งมอง

“พี่พาย เดือนปีกทอง” พลอยเพื่อนร่วมกลุ่มของผมทักขึ้นมา

“พลอยรู้จักพี่พายด้วยหรอ” ผมถามด้วยความแปลกใจ

“ใครไม่รู้จักก็แย่แล้วภีม พี่พาย พิลาศ เดือนคณะศิลปกรรม ปีสาม สวยจนเหล่าดาวมหาลัยยังต้องคำนับ” พลอยว่าพลางมองพี่พายด้วยความชื่นชม

“ดาวมหาลัยเกี่ยวไรด้วยวะ” ไอ้เจตเพื่อนในกลุ่มผมอีกคนเป็นคนถาม

 “ก็ในเพจคนหน้าตาดีของมหาวิทยาลัย พูดกันว่า ดาวมหาลัยคนล่าสุดยังไม่สามารถโค่นล้มความงามของเดือนศิลปกรรมปีสามได้เลย ก็เหมือนภีมอะที่ได้ชื่อว่าเป็นเดือนที่หล่อที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มหาลัยเคยมีมา ส่วยพี่พายถ้าไปประกวดดาวได้นะ เขาก็จะกลายเป็นดาวมหาลัยที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยมีมาเหมือนกัน” ผมฟังพลอยเล่าถึงความหน้าตาดีของพี่พายไปอย่างมีความสุข ก็การได้ฟังคนชื่นชมคนที่ตัวเองชอบ มันก็ทำให้มีความสุขเป็นธรรมดาคับ

“แต่มีข่าวลือที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับพี่พายเท่าไหร่” พลอยมองหน้าผมกับเจตพร้อมทำหน้าเสียดาย

“เรื่องเดือนปีกทองหรอ” เจตถามกลับ

“เดือนปีกทอง?” ผมทวนคำพร้อมทำหน้าสงสัย ถึงตอนแรกพลอยจะเรียกพี่พายตามด้วยคำๆนี้ ผมก็ดันไม่ได้สนใจเท่าไหร่

“มันเป็นฉายาที่เพจคนหน้าตาดีของมหาลัยเป็นคนตั้งให้พี่พาย ซึ่งคนทั้งมหาลัยก็เรียกเขาอย่างนั้น เดือนปีกทอง ตามข่าวลือที่ว่า พี่พายขายตัว”

“ขายตัว!!!!!!” เป็นอะไรที่โคตรตกใจเลยคับ คนที่ผมแอบรักมาตลอดขายตัวเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้ เขาเป็นคนดีน่ารัก น่าถนุถนอม แล้วเขาก็ไม่ใช่คนใช้เงินฟุ่มเฟือยอะไรจะไปทำงานแบบนั้นทำไม พอรู้แบบนั้นผมเลยใช้เวลาว่างไปกับการตามดูพี่พาย และผมก็ไม่เห็นมีใครเคยได้พี่พายกลับไปด้วยสักคน จนผมตัดสินใจคุยกับเขาตอนที่เขาออกไปกับพี่บอยเพื่อนที่คณะ และพี่บอยไปส่งเขาที่ห้างสรรพสินค้า


และมาถึงตอนนี้ ที่ผมได้แต่นั่งมองเขา ตั้งคำถามในใจว่าอะไรทำให้เขาต้องหน้ามุ่ยเหมือนไม่ชอบใจกับอะไรสักอย่างแบบนั้น มันดูไม่เหมาะกับความสวยเกินชายของเขาเลย ผมอยากจะไปจับปอยผมยาวๆที่หล่นลงมาปิดหน้าไปทัดหูเขาซะเหลือเกิน แต่ก็ทำไม่ได้ เรื่องหน้าเครียดๆของเขาผมก็กลุ้ม แต่ที่ผมกลุ้มกว่าคือข่าวลือว่า ผู้ชายที่ผมแอบรักมาหลายปีคนนี้ขายตัว แถมยังมีพวกนักศึกษารวยๆหลายคนไปยืนยันในเว็บเพจคนหน้าตาดีของมหาวิทยาลัยว่าเคยนอนกับเขาแล้วด้วย ผมเครียดมากตอนรู้เรื่อง คนที่ผมรักเขาเป็นคนใจดี น่ารัก ทำไมถึงต้องทำอะไรแบบนี้ เฮ้ออออ.......ผมต้องคุยกับเขา

“พี่พายคับ” ผมเขาไปทักเขา

“คับ?” เขาตอบรับอย่างสงสัย

“ที่ผมถามค้างไว้ว่า เท่าไหร่ ผมอยากได้คำตอบ” ผมพูดตรงประเด็นในทีเดียว

“เออ...เอออ.....ห้าหมื่นต่อคืน” ราคาสูงพอตัว แต่เขาคงไม่รู้ว่าแค่นี้ผมจ่ายสบายมาก เพราะเขาทำหน้าเหมือนโล่งใจอะไรบางอย่างตอนบอกราคาผม

“ผมตกลง คืนนี้เลยได้ไหมคับ” ผมตอบตกลงในทันทีที่เขาพูดจบ พร้อมรอยยิ้มที่สุดแสนจะดีใจของผม

“คือ..วันนี้ผมมะ.....ได้ ไปห้องนายนะ” เขาดูลังเลก่อนจะตอบตกลงผม

“โอเคคับ ไปที่รถผมดีกว่า” ผมรีบเดินนำเขาไปที่รถในทันที 

“คิดอะไรอยู่คับ ต้องรัดเข็มขัดนะคับ...พี่พาย” เขาหน้าแดงตอนผมคาดเข็มขัดให้ โคตรดีใจเลยคับตอนนี้ เมื่อกี้ตอนเรียกชื่อเขา ผมอยากจะจูบเขาด้วยซ้ำไป

ระหว่างทางพี่พายเงียบตลอดเลย เขาดูเกรงๆ และกังวลแปลกๆ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา ผมอยากรู้จริงๆว่าเขากังวลอะไร เรื่องผมรึเปล่า หรือเขาไม่ชอบผมกันนะ ผมหล่อขนาดนี้แล้ว เขายังไม่ชอบอีกหรอ ไม่หน่า...โอ๊ยยย...ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว พี่พายคับ ทำไมถึงมีอิทธิพลกับผมนักนะ
ตอนนี้เรามาถึงคอนโดผม ห้องของผมเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดห้องเดียวบนชั้นบนสุดของคอนโดนี้ ก็ครอบครัวผมเป็นเจ้าของนี้คับ รวมถึงธุรกิจมากมายในประเทศ ทำให้ผมเรียนรู้ที่จะหาเงินจากการเล่นหุ่นตั้งแต่ม.ปลาย ผมเลยมีเงินเป็นของตัวเองมากมาย และการที่จะซื้อคนที่ผมรักมานอนด้วยมากกว่านี้ผมก็จ่ายได้

“พี่เป็นอะไรรึเปล่าคับ” เขาทำหน้าเครียดอีกแล้วตอนเข้ามาในห้องผม

“เออ...เปล่าๆ” เขาตอบ แต่สีหน้าก็ยังคงกังวล สงสัยผมต้องทำอะไรที่มันดูผ่อนคลายก่อนการเริ่มเรื่องที่ผมพยายามอดทนอยู่

ผมเดินไปที่ตู้เย็นหยิบแชมเปญออกมา พี่พายไม่ค่อยชอบกินพวกเหล้าหรืออะไรขมๆ เพราะพี่พายแพ้แอลกอฮอลล์ แต่แพ้ไม่มากนัก ผมเลยคิดว่าแชมเปญนี้แหละที่เขาน่าจะกินได้ง่ายที่สุด เห็นไหมคับว่าผมใส่ใจเขาขนาดไหน บางทีก็อดภูมิใจตัวเองไม่ได้ที่รู้เรื่องพี่พายได้มากมายขนาดนี้

“ดื่มกับผมก่อนนะคับ” ผมยื่นแก้วแชมเปญให้เขา เขารับอย่างเก้ๆกังก่อนจะดื่มแก้เขิน พอเขาดื่มหมดไปแก้วหนึ่ง ก็เหมือนว่าเขาจะเมาซะแล้วคับ คออ่อนจริงๆ ผมนั่งดื่มที่เหลือจนหมดก่อนที่ผมจะพาเขาไปที่ห้องนอน และเริ่มทำสิ่งที่ผมอดกลั้นมาตลอด

“จะ...จะทำอะไร” เขาถามผมหน้าแดง เหมือนจะยันตัวผมออก แต่ก็ไม่มีแรง ตอนนี้เขาทำได้แค่กำเสื้อผมไว้เท่านั้น

“ก็ทำตามที่เราตกลงกันไว้ไงคับ” ผมบอกก่อนจะหอมแก้มเขาลามไปซุกไซร้ที่หู และซอกคอของเขา

“อะ...อ๊า...อืม...เดี๋ย...อ๊า” เขาครวญครางตอนผมรุกหนักขึ้น

“หอมมากเลยคับ..พี่พาย” ผมเรียกเขาด้วยเสียงที่เริ่มกระเส่า

“เรีย...เรียกชื่อผมอีกสิคับ” เขาครวญครางพลางร้องขอให้ผมเรียกชื่อเขา ผมที่กำลังถอดเสื้อผ้าเขาจนเปลือยเปล่านั้นก็ได้แต่ซุกหน้าไว้แนบหูเขาก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อเขาอีกครั้ง

“พี่พายคับ”

“อ๊า...สะ...สโนว์บอล” ผมชะงักไปเล็กน้อยตอนเขาเรียกผมแบบนั้น ก็มันเป็นชื่อที่เขาเรียกผมตอนที่ผมยังอ้วนหน้าสิว ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าผมชื่ออะไร ผมเอาสโนว์บอลไปให้เขาเพราะรู้ว่าเขาชอบ เขาเลยเรียกผมว่าสโนว์บอลมาตลอด พอรู้ว่าเขาครางเรียกแบบนั้นทำให้ผมทั้งแปลกใจ และก็ดีใจมาก

“พี่พายเป็นของผมนะคับ” ผมกระซิบข้างหูเขาก่อนจะถอดปราการด่านสุดท้ายออกจากร่างกายเขาได้ ผมผละออกมารีบถอดเสื้อผ้าตัวเองก่อนจะเข้าไปขึ้นคร่อมเขาอีกครั้ง และเริ่มจูบริมฝีปากน่าจูบนั้น ผมบดเบียดจนเขาเผยอปากให้ผมได้สอดลิ้นเข้าไป เขาตอบรับผมดีเกินขาด ผมหยุดความหื่นกระหายไม่ได้แล้ว

ผมลูบไล้ไปทั่วร่างกายของพี่พายที่ดูท่าเขาแอ่นตอบสนองผมแทบทุกส่วน ก่อนจะไปดูดที่ยอดอกเขา การแอ่นตอบรับยิ่งทำ ให้ผมตื่นเต้น

“อ๊า...สโนว์บอล” เขายังคงครางเรียกชื่อผมเมื่อก่อน ถ้าเขาชอบผมเหมือนที่ผมชอบเขา การที่เขาเป็นของผมวันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจที่สุด

ผมหยิบเจลที่เก็บไว้ตรงหัวเตียงมาบีบใส่นิ้ว ก่อนจะลูบที่ช่องทางด้านหลัง พร้อมกับสอดนิ้วเข้าไป เขาหน้าหน้าเจ็บปวดเล็กน้อยก่อนจะจิกแขนผม

“นี้ยังไม่ใช่ของจริงนะคับพี่พาย...อืม”เขาดึงผมไปจูบอย่างดูดื่ม ดูท่าเขาจะเสียวมากพอดู ผมเลยถอืนนิ้วออกก่อนจะใช้ของจริงแทรงเข้าไปในตัวเขา

“อ๊า...จะ...เจ็บ” เขาร้องออกมาทันที

“ใจเย็นๆนะคับ อย่าเกรง พี่พายคับ....อ๊า....อืม” ผมครางก่อนจะจูบเขาให้ลิ้นของเราเกี่ยวตวัดกันจนเขาคลายเจ็บลง ผมถึงเริ่มขยับเข้าออกจากช้าไปจนเร็วอย่างที่ผมก็ไม่อาจควบคุมความต้องการที่ตัวเองมีต่อพี่พายได้

“อ๊า...สะ...เสียว” เสียงครางนี้ของพี่พายยิ่งทำให้ผมกระแทกเข้าออกแรงขึ้น

“ผมก็เสียวคับ...อ๊า...ฟิตมากเลยคับที่รัก” ผมดูดทั้งปากทั้งยอดอกเขาอย่างหื่นกระหาย พร้อมทำรอยไวส้ทุกทีในตัวเขาที่ปากผมลากผ่าน

“สะ...สโนว์บอล พะ..พี่ไม่ไหวแล้ว” เขาบอกก่อนจะปลดปล่อยออกมาโดยที่ผมแทบจะไม่ได้จับที่แกนกลางของเขาเลย

“ผมก็ไม่ไหวเหมือนกันคับ...อา...อ๊า..” ผมปลดปล่อยในตัวเขา แบบตามเขามาติดๆ ก่อนจะถอนกายออกและดึกเขามานอนอยู่ในอ้อมกอดผม

“ผมรักพี่พาย” ผมจูบหน้าผากเขาก่อนจะพูดอย่างเหนื่อยหอบ เขากอดตอบผมในทันที การที่เขาทำแบบนั้นยิ่งทำให้ผมอดใจไม่ไหว…

ตอนนี้แผ่นหลังขาวเนียนที่ผมลูบไล้เล่นตรงหน้านี้ยังคงสงบคงเพราะหลับลึกจากความเหนื่อยล้า ที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะความตระกละของผมที่ทำเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่พอสักที เท่าที่นับได้ผมมีอะไรกับเขาไปมากกว่าสี่รอบจนเช้านี้เองถึงได้หยุดพัก ดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ผมเลยปล่อยให้เขาหลับอย่างสบายๆไปทั้งวัน แต่บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ทำให้ผมสงสัยว่า ผู้ชายที่ผมแอบรักคนนี้ขายตัวจริงๆหรอ เพราะเขาไม่ได้ร้อนแรงเหมือนคนที่เจนเรื่องอย่างว่า เขาแทบจะนอนให้ผมกระทำอย่างเดียวเท่านั้น เขาดูไร้เดียงสากับเรื่องแบบนี้เกินไป เขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็น...คนแรกของเขา


“ฮัลโหล พี่แทน ผมมีเรื่องอยากให้พี่ช่วยสืบหน่อยคับ” ผมโทรหาหัวหน้าบอดี้การ์ดของที่บ้าน เขาเป็นหน่วยสืบราชการลับเก่า เขาคือคนเดียวที่จะไขข้อข้องใจให้ผมได้

--นายน้อยมีเรื่องอะไรให้ผมรับใช้คับ—

“ผมอยากให้พี่ช่วยสืบเรื่องของคนๆนึงให้ผมหน่อย เขาชื่อ พิลาศ ฤทธิ์ภักดี ผมต้องการรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับตัวเขาอย่างละเอียด” ผมบอกไปด้วยเสียงที่จริงจัง เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดที่จะสืบเรื่องทั้งหมดของเขา เพราะผมคิดว่าเรื่องของคนที่ผมรัก ผมต้องศึกษาด้วยตัวเอง แต่วันนี้จำเป็นต้องให้พี่แทนช่วยจริงๆ
 
--ได้คับนายน้อย—

“พี่แทนผมต้องการข้อมูลทั้งหมดวันนี้นะคับ” ผมบอกเขาไปด้วยความร้อนใจ

--รับทราบคับ— เขาตอบรับก่อนจะวางสายไป

จะเที่ยงแล้ว แต่เมียผมก็ยังไม่ตื่นสักที ต้องเรียกว่าเมียสิคับ ก็ผมแน่ใจแบบนั้น นานๆทีถึงจะพลิกตัวไปมา ผมสั่งที่บ้านให้พ่อครัวใหญ่ทำอาหารให้ แล้วเอามาส่งให้ผมที่คอนโด ป้าทับแม่บ้านที่ทางบ้านผมส่งมาดูแลทำความสะอาดให้ตอนกลางวัน และป้าแกเป็นคนจัดโต๊ะอาหารให้ผม ป้าทับเธอรู้ว่าผมมีคนมานอนด้วย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมนั่งอ่านหนังสือไปรอคนที่ผมรักตื่นไปด้วย จะบ่ายสองแล้วเขาเหมือนจะงัวเงียตื่นขึ้นมา เขาดูงง และก็ตกใจ ผมอดยิ้มในความน่ารักนั้นไม่ได้จริงๆ

“ตื่นแล้วหรอคับ” ผมทัก

“เออ...อืม...นี้กี่โมงแล้ว” เขายังถามผมแบบอายๆ หลังจากที่เขาทำท่าเหมือนจะโวยวาย แต่ก็ไม่ได้โวยวายออกมา

“บ่ายสองละคับ” ผมบอกเขาอย่างสุภาพ

“เฮ้ย สายขนาดนี้แล้วหรอวะ” เขาตกใจอีกครั้งก่อนจะรีบลุกขึ้น แต่ก็เหมือนจะล้มลงไปอีก ก็โดนผมเล่นซะขนาดนั้นนี้คับ ผมรีบเข้าไปประคองอย่างรวดเร็ว เขาเขยิบตัวออกห่างจากผมเล็กน้อย และยังคงหน้าแดง แค่นั้นก็ทำให้ผมอยากจะปล้ำเขาอีกสักรอบ ผู้ชายอะไรโคตรจะโดนใจผมเลย

“ไม่ต้องรีบหรอก พักอีกหน่อยก็ได้ วันนี้วันหยุดนะ” ผมบอกเขา

“ก็ใช่ แต่ที่นี้มันห้องนายไม่ใช่หรอ ผมเกรงใจ ขอตัวก่อนละกัน” เขาบอกก่อนจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาดูระวังตัวไม่ให้ตัวเองล้มลงไป

“เสื้อผ้าผมละ” เขาถามอย่างตื่นๆ

“ผมให้แม่บ้านเอาไปซัก ใส่เสื้อผ้าผม แล้วไปทานข้าวด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับดีกว่าคับ เดี๋ยวผมจะได้ไปส่งด้วย แถวนี้ไม่มีแท็กซี่หรอก” ก็คอนโดผมอยู่ย่านคนรวยที่มีรถขับกันแทบทุกคน ยังไงเขาต้องให้ผมไปส่งแน่นอน

“เออ....เอออ” เขาทำท่าคิดเหมือนจะปฏิเสธ

“นี้คับเสื้อผ้าผม” ผมเอาเสื้อผ้าวางไว้ให้เขาก่อนจะเดินออกมารอที่ห้องอาหาร สักพักเขาก็เดินออกมาพร้อมเสื้อที่หลวมๆของผม ผมแทบอยากจะเข้าไปอุ้มกลับเข้าไปในห้อง เพราะเขาใส่บ๊อกเซอร์ตัวสั้นของผมไว้ที่ท่อนล่างแค่ตัวเดียว

“กางเกงนายตัวใหญ่ผมใส่ไม่ได้ เลยใส่ได้แต่ไอ้นี้” เขาบอกอย่างอายๆ โอ๊ยยย ผมอยากปล้ำเขาจัง เสื้อยืดตัวหลวมๆยาวถึงเข่า กับผิวขาวๆ ผมยาวที่มัดรวบเป็นมวยไว้อย่างรวกๆ เพิ่มความลุ่มหลงที่ผมมีต่อเขาไปอีกเยอะเลยคับ

“มาทานข้าวเถอะคับ” ผมบอกเขาด้วยท่าทีที่พยายามทำเป็นไม่สนใจอย่างมากที่สุด เขาเดินเข้ามานั่งอย่างเกรงๆเหมือนเดิมก่อนจะเริ่มทานข้าวกับผม

“ฮืม...อร่อยมาก” เขาอุทานออกมาตอนทานเข้าไปคำแรก แต่พอเขาเห็นผมมองอยู่เขาก็หลบตาผมอายๆเหมือนเดิม

“อาหารจากพ่อครัวที่บ้านผมคับ ผมสั่งให้ทำมาพิเศษ เพื่อชดเชยความเหนื่อยให้พี่พาย” ผมบอกเขาพร้อมหยอดเขาเล็กน้อย เขาโคตรน่ารักเลย และดูท่าเขาจะหิวมาก ทานข้าวไปหลายจาน จนเราแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลย พออิ่มเสื้อผ้าของเขาที่ผมส่งซักก็มาพอดี เขารีบเดินไปเปลี่ยนชุด และกลับมานั่งรอผมเงียบๆที่ห้องนั่งเล่น

“ไปคับ เดี๋ยวผมไปส่ง” ถึงอยากจะรั้งตัวไว้ แต่ก็ไม่รู้จะรั้งยังไงแล้วคับ ผมเลยตัดสินใจพาเขากลับส่ง


พอมาถึงหน้าหอของพี่พายดูเหมือนเขาจะตกใจอะไรบางอย่างถึงไปยอมลงจากรถ เขามองไปที่ผู้ชายที่ยืนพิงรถอยู่ แววตาที่ดูสั่นไหวนั้น เหมือนกับกำลังกลัว…

“เป็นอะไรรึเปล่าคับ” ผมถาม

“เออ เปล่าคับ” แล้วก็รีบลงจากรถไป ผมมองเขาเดินไปที่ทางเข้าหอ โดยมีชายคนนั้นเดินตามเขาไปด้วย ผมอดสงสัยไม่ได้ เลยไปจอดรถแอบไว้ และตามไปดู

พี่พายหยุดก่อนที่จะเดินเข้าประตูหอพัก หอพักที่นี้ดูมีระบบปลดภัยดีคับต้องสแกนบัตรก่อนเปิดเข้าไป ชายคนนั้นก็หยุดด้วย พี่พายดูเหมือนกำลังสั่น แต่ก็พยายามทำตัวเข้มแข็ง ผมอยากเข้าไปจับมือเขาไว้จัง

“กลับไปซะ ผมจะขึ้นหอ” เขาบอกชายคนนั้นด้วยเสียงที่เย็นชา

“พี่อยากคุยด้วย ขึ้นไปคุยที่ห้องพายก็ได้นี่” ผู้ชายคนนั้นตอบกลับด้วยเสียงติดจะเจ้าเล่ห์สักหน่อย

“ไม่ ผมจะไม่ยอมให้พี่มีโอกาสแบบนั้นอีก” เขาตอบกลับด้วยความโกรธ น่าแปลกที่คนน่ารักของผมดูโมโหขนาดนี้

“โอกาสแบบนั้นนี้คือแบบไหนคับพาย พี่ไม่เคยทำร้ายพายนะ” ผู้ชายคนนั้นยังพูดอย่างใจเย็น

“พี่เคยทำ แต่พี่จะไม่มีวันได้ทำร้ายผมอีก ผมไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ผมนับไม่ไหว แต่พี่ทำร้ายผมมากเกินไป” เขาพูดพร้อมน้ำตาที่เออขึ้นมาจากการคิดถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้น

“ทำมาเป็นหนีพี่ แต่ก็ไปให้คนอื่นทำ แบบนี้เรียกว่าไม่ชอบหรอ” เขาดูเริ่มโกรธด้วยเหมือนกัน

“ใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่พี่ชายแท้ๆแบบพี่” พี่พายดูโกรธจนพูดออกมา พี่ชายแท้ๆ? ผมก็เคยได้ยินมาบ้างว่าเขามีพี่ชาย แต่ไม่เคยเห็นสักที

“พาย เดี๋ยว” พายแตะการ์ดเข้าประตูหอ และปิดมันในทันที ทำให้ผู้ที่เป็นพี่ชายตามเข้าไปไม่ได้ เขาดูเซ็งๆไปเหมือนกัน ก่อนที่จะขับรถออกไป


ผมกลับเข้ามานั่งในรถก่อนที่จะโทรไปหาพี่แทนอีกครั้งด้วยความร้อนใจ

“ฮัลโหลพี่แทน ได้เรื่องยังคับพี่”

--ได้แล้วคับ ผมกำลังจะเรียบเรียงข้อมูลส่งให้นายน้อยอยู่พอดี—

“พี่เล่ามาก่อนก็ได้คับ ผมร้อนใจ” ผมบอกอย่างไม่ปิดบัง

--ได้คับ นายน้อย ตามประวัติคุณพิลาศ ฤทธิ์ภักดี เป็นลูกคนเล็ก มีพี่ชายหนึ่งคน ทางบ้านมีธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก ฐานะปานกลาง ตอนนี้เรียนมหาวิยาลัยเดียวกับนายน้อย คณะศิลปกรรม ตอนเข้าเรียนปีแรกก็ได้เป็นเดือนคณะ แต่ด้วยความที่ดูจะสวยมากกว่าหล่อเลยชวดตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัย และเพราะหน้าตาที่ดึงดูดผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเลยมีคนมาจีบมากมาย แต่ทุกคนก็โดนปฏิเสธหมด คนที่โดนปฏิเสธส่วนใหญ่เป็นหนุ่มหล่อของมหาลัยทั้งนั้น เพื่อรักษาหน้าตัวเองจึงมีการปล่อยข่าวลือเรื่องคุณพิราศขายตัวออกมา จนทั้งมหาลัยให้ฉายาว่า เดือนปีกทอง—

“แล้วเรื่องขายตัวเป็นเรื่องจริงรึเปล่า” ผมถามเพื่อความแน่ใจ

--ไม่เป็นความจริงคับนายน้อย จากที่สืบมาไม่เคยมีใครเคยมีอะไรกับคุณพิราศเลยแม้แต่คนเดียวคับ— ได้ยินแบบนั้นผมยิ้มจนแทบจะหุบไม่ลงเลยละคับ ผมเป็นคนแรกของเขา โคตรดีใจเลย

“ผมมีอีกเรื่องที่อยากรู้ เรื่องของพี่ชายของเขา เขาทะเลาะกันเรื่องอะไรรึเปล่า”

--เรื่องนี้เหมือนจะมีข่าวลือจากแฟนเก่าของพี่ชายคุณพิราศว่า พี่ชายคุณพิราศดูท่าจะรักน้องมากเกินปกติ เหมือนจะเป็นเชิงชู้สาวคับ—

“เชิงชู้สาว?” ผมทวนคำด้วยความตกใจ

--ผมได้ข้อมูลมาแค่นี้คับ เพราะนอกจากนั้นดูท่าจะไม่มีใครรู้เลย—


“ขอบคุณมากคับพี่แทน” หลังจากวางสายพี่แทนผมก็นึกไปถึงคำพูดที่พี่พายพูดกับพี่ชายเขาวันนี้ ผมก็รู้ทันทีว่าพี่ชายของเขาคงจะทำเรื่องแบบนั้นกับเขาแน่ๆ โธเว้ยยยย แค่คิดผมก็ทนไม่ได้แล้ว ถ้ามันขมขืนพี่พายอย่างที่ผมคิด ผมก็อยากจะกระทืบมันจริงๆ ถึงมันจะเป็นพี่ชายแท้ๆของพี่พายก็ตาม



TBC...
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-02-2017 17:46:03
พวกที่จีบพายไม่ติด กลัวเสียหน้า
เลยใส่ร้าย ป้ายสีพาย ว่าพายขายตัว
ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ชายจริงๆ
จะเสียศักดิ์ศรี เสียหน้า หน้าตาใหญ่โตนักหรอ
จีบไม่ติด ก็ไม่ติดสิ อะไรกันนักกันหนา
ทำให้คนเขาเสียชื่อเสียง แย่มาก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ปล.   ขอแก้คำผิดนะ
ควรคราง ------ ครวญ
เสียงที่เริ่มกระเซ่า ------- กระเส่า
เขาครวนครางพลางร้องขอให้ผมเรียกชื่อเขา ------ ครวญ
บอร์ดี้การ์ด ------ บอดี้( body)
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 23-02-2017 18:04:12
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: ขอบคุณมากค่ะ ส่วนคำผิดที่บอกเข้ามา ได้แก้แล้วนะค่ะ ขอบคุณคำติชมอีกครั้งค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 23-02-2017 19:47:17
รอตอนต่อไปค่ะ ภีมต้องจัดการพวกบ้าปล่อยข่าวลือให้พี่พายเสียดายด้วยนะ
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 24-02-2017 14:54:15
ตอนที่ 3 คิดถึง


พาย พาร์ท

ผมเข้าห้องแล้วรีบล็อกประตูในทันที ถึงรู้ว่าพี่พลเข้ามาไม่ได้ตั้งแต่ประตูแรก แต่ผมก็ยังกลัว ทุกครั้งที่เจอเขาผมมีแต่ความหวาดกลัว ผมต้องทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าเขาทั้งๆที่ผมกลัวจนข้างในสั่นไปหมด แล้วไหนจะเรื่องที่เมื่อคืนผมเสร็จไอ้เดือนหน้าหล่อนั้นอีก ผมกำลังจะกลายเป็นเดือนปีกทองอย่างที่คนอื่นว่าจริงๆ ผมนอนกับผู้ชายที่มาขอซื้อบริการผม ผมได้แต่นั่งกอดเข่าตรงประตู และร้องไห้เพื่อปลดปล่อยความกลัว และความอัดอั้นในใจ

หลังจากที่ผมร้องไห้จนพอใจแล้ว ผมก็รีบโทรไปหาไอ้กิตทันที เพราะมันเป็นคนเดียวที่ผมจะระบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟังได้

“มึงมีอะไรกับไอ้โคตรเดือนหรอ!!!” มันตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจ

“ไอ้กิตเบาๆหน่อยมึง”

“แล้วมึงขายเด็กนั้นไป ได้เอาเงินมายัง”

“เฮ้ยยยย...กูลืมไปเลยวะ” พอตื่นมาเห็นสภาพตัวเองผมก็อายจนลืมเรื่องนั้นไปเลย

“เสียตัวฟรีอีกเพื่อนกู”

“ไอ้เชี่ยกิต กูโทรมาระบายเว้ย ไม่ได้ให้มึงมาด่ากู แม่งคิดว่ากูอยากมีอะไรกับผู้ชายหรอวะ”

“กูรู้ว่ามึงไม่อยากมีหรอก แต่ผู้ชายหรือเกย์รุกส่วนใหญ่เขาอยากมีกะมึง”

“โธเว้ยยยยย...แล้วนี้มึงว่ากูควรไปเอาเงินค่าเสียตัวกูป่าววะ”

“มึงถามเชี่ยไรแบบนี้ ก็ต้องไปเอาดิวะ โดนจิ้มมานะเว้ย เสียเปรียบๆ”

“แต่กู...อายว่ะ” ผมยอมรับอย่างจนใจ

“มึงเป็นเดือนปีกทองนะเว้ย ทำตัวให้สมกับเป็นมืออาชีพหน่อย” ไอ้กิตพูดเตือนสติผมได้อย่างดีเลยคับ ก็ผมเป็นเดือนปีกทอง ผมก็ต้องเชี่ยวชาญกับเรื่องแบบนี้

“เออว่ะ แต่กูก็ต้องรวบรวมความกล้าอยู่ดี หนีเรื่องแบบนี้มาตั้งนาน สุดท้ายมาพลาดท่ากับผู้ชายอยู่ดี”

“เรื่องมันผ่านไปแล้วมึง อย่าไปคิดมาก เหมือนเรื่องครั้งนั้นที่มันผ่านไปนานแล้ว มึงก็ไม่ควรคิดถึงมันเพื่อบั่นทอนตัวเองอีก ครั้งนี้มึงเสียแบบไม่ค่อยรู้ตัว น่าจะทำให้มึงทำใจได้ง่ายกว่าครั้งก่อนอยู่มากนะ” กิตมันพูดเพื่อปลอบใจผม...เหมือนทุกครั้ง

“ขอบใจมึง”

“พักผ่อนเยอะๆเดี๋ยวพรุ้งนี้วันอาทิตย์ กูไปหามึงที่หอ” กิตบอกแค่นั้นก่อนจะวางสายไป ทิ้งผมไว้กับความเงียบในห้องเหมือนเดิม...

ผมอาบน้ำ และมานอนสลบบนเตียง พลางคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนว่าทำไมผมถึงไม่ได้นึกรังเกียจเขาเหมือนที่พี่พลเคยทำ หรือเพราะคำพูดกับน้ำเสียงแบบนั้นทำให้ผมนึกถึงใครบางคน ใครที่ผมเคยรู้สึกชอบมากกว่าทุกๆคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผม แต่ใครคนนั้นเป็นแค่รุ่นน้อง เราไม่ได้คบกัน เขาเป็นหนุ่มตัวอ้วนกลม ผิวขาว มีสิวที่หน้าเหมือนเด็กวัยกำลังโตทั่วไป ผมเจอกับเขาคนนั้นตอนผมเรียน ม.4 เด็กคนนั้นอยู่ ม.2 เราอายุห่างกันประมาณสองปี เขาโดนเพื่อนแกล้งจนแอบมาร้องไห้ในห้องน้ำ ผมที่มาปัสสาวะก็ได้ยินเสียงร้องไห้กระซิกๆออกมาจากห้องน้ำด้านในสุด

“ฮือๆ พี่คับ ผมสู้เขาไม่ได้ โดนแย่งค่าขนมไปหมดเลยคับ” เขาเหมือนคุยโทรศัพท์อยู่กับใครอีกคน

“แต่ผมพยายามแล้วนะคับพี่”

“คับ ผมจะไม่ร้องไห้คับ ผมจะเข้มแข็ง” ดูจากน้ำเสียงคนที่เขาคุยด้วยไม่ได้ช่วยเขาได้มากเท่าไหร่ ก็เป็นเด็กผู้ชายนี่คับพอร้องไห้ก็จะต้องโดนว่าๆอ่อนแอเกินไป หลังจากวางสายไปได้สักพักเขาก็ยังคงมีสะอื้นให้ได้ยินเป็นระยะ ผมอดสนใจน้ำเสียงขี้อ้อนขอความเห็นใจของเขาไม่ได้จนต้องยืนอยู่ตรงนั้น เพื่อรอเจอหน้าเด็กชายที่น่าสงสารคนนี้ซะหน่อย

แกร๊ก...ในที่สุดเขาก็เปิดประตูออกมา ผมที่อยู่อยู่หน้าห้องน้ำทำเขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะเข้าไปกอดเขา มันเป็นความรู้สึกแรกที่ผมอยากทำกับเด็กที่น่าสงสารคนนี้

“ถ้าอยากร้องไห้ ก็ร้องกับพี่ได้นะ ความเข้มแข็งต้องค่อยๆสร้าง เพราะปุบปับอยากจะมี มันไม่ใช่เรื่องง่าย” พอผมพูดจบตัวเขาก็สั่นอีกรอบจนร้องไห้ออกมา เขากอดผมตอบ และซุกหน้าที่ไหล่ผม เราอยู่ท่านั้นกันเกือบจะห้านาทีจนเขาผละตัวออก แล้วเอาแต่มองพื้นไม่กล้าสบตาผม

“เออ...ขอบคุณคับพี่”

“พี่ชื่อพาย”

“ขอบคุณคับพี่พาย” เขายิ้มให้ผมพร้อมคำขอบคุณ

“ขอยืมมือถือหน่อย” เขายืนมือถือมาให้ผมแบบงง เด็กอะไรซื่อชะมัดเลย ผมคิดแบบนั้นเพราะเขายื่มมือถือให้ผมทันทีแบบไม่ได้คิดอะไรเลยด้วยซ้ำ

“อะ..นี่ไลน์พี่ มีอะไรไลน์มานะ เครียดคนเดียวมันไม่ดีหรอก พี่ก็เคยเครียด แต่พี่มีเพื่อนที่คอยรับฟังปัญหา มันทำให้พี่สบายใจขึ้น” ผมบอกเขาก่อนจะเข้าไปกอดเขาอีกครั้ง และเดินออกมา
หลังจากนั้นเด็กน้อยคนนั้นก็ไลน์มาหาผมแทบทุกวัน จนเราสนิทกันมาก ถึงผมจะลืมเรื่องการถามชื่อจริงเขาไป แต่ก็ดูจะไม่เป็นปัญหาระหว่างเราสักเท่าไหร่


“นี่คับ ผมให้พี่” น้องชายตัวกลมเขายื่นกล่องของขวัญให้ผมระหว่างที่เรานั่งรอเวลาเลิกเรียนกันที่ข้างสนาม เพราะวันนี้อาจารย์ประชุม เลยทำให้เราว่าง

“ของขวัญหรอ!!! ให้พี่ทำไมอ่า” ผมถามด้วยความตกใจ

“เนื่องในโอกาสที่ผมอยากให้คับ รับไว้นะคับพี่พาย ผมรู้ว่าพี่ชอบอันนี้” เขาบอกผมพร้อมรอยยิ้มที่น่ารักที่ผมมักเห็นบ่อยๆช่วงนี้

“ก็ได้คับ ขอบใจนะ” ผมยิ้มตอบเขาพร้อมกับเกะของขวัญออก สิ่งที่อยู่ในนั้นเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกชอบจริงๆอย่างที่เขาพูด

“สโนว์บอล สวยจัง” ผมอุทานพร้อมเขย่าสโนว์บอลเพื่อให้เกล็ดหิมะข้างในวนไปมา ตรงกลางสโนว์บอลเป็นรูปปั่นนางฟ้ากอดหมูตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน มันเป็นงานประณีตมาก ดูสวยงาม น่าจะเป็นงานสั่งทำ ผมชอบสุดๆเลยคับ

“ขอบใจมากนะสโนว์บอล” หลังจากนั้นผมก็เรียกเขาว่าสโนว์บอลตลอด จนไม่เคยได้ถามชื่อจริงเขาอีกเลย




ก๊อก...ก๊อก

“ไอ้พายตื่นโว้ย กูมาหาแล้ว” เสียงเพื่อนตัวแสบผมนั้นเองคับ ผมได้แต่งัวเงียลุกจากเตียงเพื่อไปเปิดประตูให้ไอ้กิต

“มึงจะโวยวายอะไรแต่เช้าวะ กูกำลังฝันดีเลย” การฝันถึงสโนว์บอลเป็นฝันดีเดียวที่ผมมีคับ

“ฝันว่าโดนโคตรเดือนเอาหรือไง”

โป๊กกกกกกก...โดนผมตบหัวไปทันที

“ปากเสียนะมึง”

“กูพูดเล่น ตบกูซะแรงเลย หรือว่ามึงคิดถึงโคตรเดือนจริงๆวะ” ผมทำท่าจะตบหัวมันอีกรอบ แต่มันดันหลบทัน และเช้านั้นก็เหมือนจะเป็นการละเล่นวิ่งตบหัวกันเพื่อออกกำลังกายยามเช้าซะมากกว่า
หลังจากความวุ่นวายยามเช้าผมกับไอ้กิตก็แต่งตัวหล่อไปหาไรกินในมหาวิทยาลัยกันคับ ก็มหาวิทยาลัยผมเปิดทุกวัน จนแทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่สองของนักศึกษาทุกคนไปแล้ว

“โต๊ะว่างเยอะแยะ แยกกันไปเลือกของกิน แล้วเจอกันแถวนี้” ไอ้กิตบอกผมก่อนจะแยกกันไป ผมเดินไปร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำก็เจอกับผู้ชายที่ตอนนี้ผมอยากจะแทรกตัวลงไปในพื้น หรือหายตัวหนีไปเดี๋ยวนั้นเลย

“หนูพายเอาไรดีจ๊ะ เหมือนเดิมไหม” ป้าร้านอาหารทักผม ก่อนที่ผมจะใช้วิชาตีนแมวหนีออกมา
 
“คับ อะ...เอาแบบเดิมคับ”

“ได้จ้ารอต่อจากพ่อหนุ่มนี่แป๊ปนะ” ป้าบอกให้ผมรอต่อจากโคตรเดือนที่ยืนออร่าพุ่งอยู่ตรงนี้ ผมมองเขา แต่ก็ต้องหลบตาในทันที เพราะไอ้บ้านี้เล่นจ้องผมอยู่แล้ว

“คิดถึงจังเลยคับ พี่พาย” ภีมก้มมากระซิบที่ข้างหูผม เล่นเอาขนลุกไปหมด

“หน้าแดงแล้วคับ” เขายังคงกระซิบเพื่อแกล้งผม

“หรือกำลังคิดถึงเรื่องคืนนั้น” ผมถึงกับต้องเงยหน้ามองเขาเลยคับ

“ไอ้...อย่าตายหรอ พูดอะไร คนตั้งเยอะ” ผมจะด่า แต่ก็ต้องเบาเสียงลง

“พี่เป็นเดือนปีกทองยังต้องอายเรื่องแบบนี้อีกหรอคับ” เขาพูดพร้อมรอยยิ้มกวนๆ ตอนนี้หน้าเราห่างกันแค่ไม่กี่เซ็นเห็นแบบนั้นผมเลยรีบผลักเขาออกไปทันที

“ไอ้บ้า” ผมว่าเขาด้วยเสียงที่เบาหวิว

“หึหึ” เสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์ๆของเขาลอยมาตอนที่ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่

“อะได้แล้วคับ ของโปรดพี่” ภีมบอกพลางยื่นข้าวไข่เจียวหมูสับที่พึ่งทำเสร็จมาให้ผม

“เฮ้ย รู้ได้ไง แล้วนายมาก่อน ของนายละ” ผมถาม

“ผมก็สั่งไอ้นี้แหละพี่ แต่ให้พี่ก่อน ผมไม่ชอบให้เมียโมโหหิว” เรื่องที่จะถามว่าแล้วรู้ได้ไงว่าผมสั่งข้าวไข่เจียวหมูสับหายไปทันทีกับคำว่าเมียที่ไอ้เด็กบ้านี่เรียกผม

“กวนตีน” ผมว่าได้แค่นั้นเพราะไม่รู้จะเถียงอะไรจริงๆ เลยรีบจ่ายตังค์แล้วออกมา

“ไม่ต้องหรอกจ๊ะ พ่อหนุ่มนี่จ่ายให้แล้วละ” แต่ป้าเจ้าของร้านดันไม่รับเงินผม เพราะไอ้โคตรเดือนยืนยิ้มอย่างภูมิใจที่จ่ายเงินให้ผมเนี่ยแหละ

“เฮ้ย..จ่ายให้ทำไม” ผมถามทันที

“ค่าตัวไงคับ ผมยังจ่ายไม่ครบเลยนะเนี่ย เหลืออีกต้อง สี่หมื่นเก้าพันเก้าร้อยหกสิบบาท” ภีมยังคงมากระซิบตอบผม ผมที่อายจนไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่ยืนกัดปาก

“อย่ากัดปาก ผมไม่ชอบ มันดูยั่ว” เขาเอามือมาลูบตรงปากผมก่อนที่ผมจะถอยแล้วรีบเดินหนีมา



“ทำหน้าเป็นตูดเลย มึงเป็นไรวะ” ไอ้กิตถามผมตอนผมนั่งลงที่โต๊ะ

“เจอโคตรเดือน” ผมบอกแค่นั้น ไอ้กิตก็ทำตาโตก่อนจะทำตาเล็กตาน้อยเหมือนจะแซว

“หยุดเลยนะมึง ห้ามพูด ห้ามแซวอะไรทั้งนั้น” ผมบอกดักไว้ก่อน

“กูว่ามึงต้องรู้สึกชอบน้องเขาบ้างแน่ๆ”

“ไอ้เชี่ยกิตพูดไร กูชอบผู้หญิงเว้ย จะไปชอบผู้ชายได้ไง” ผมตกใจจนข้าวที่กำลังกินเกือบพุ่งออกมา

“น้องมันได้มึงเป็นเมีย มึงยังไม่ยักกะโกรธ มึงแค่หงุดหงิดเรื่องเล็กๆน้อยๆที่น้องเขาแกล้งมึงซะ
มากกว่า ไม่แปลกหรอวะ” มันพูดมาก็ถูกคับ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่โกรธเขา

“อาจจะตอนนั้นกูจำไม่ได้กูเลยไม่โกรธก็ได้”

โป๊กกก...ผมโดนไอ้กิตเบิดกระโหลกอย่างจัง

“อย่ามาแถไอ้แสส มึงอะจำได้ แต่ทำเป็นจำไม่ได้มากกว่า อย่ามาซึน”

“กูไม่รู้เว้ย รู้แต่กูไม่เคยชอบผู้ชาย” ผมยังคงยืนยัน

“แล้วน้องสโนว์บอลของมึงละ” ทำผมค้างได้อีกช๊อตละเพื่อนผม

“อันนั้นข้อยกเว้น” ผมตอบตามที่ผมคิด

“โธ่ ไอ้แถ ไอ้ซุย” โป๊กกกก...คราวนี้ผมตบมันบ้าง

“หุบปากและกินข้าวไปเลยไป” ผมบอก

“ขอโทษนะคับ ขอนั่งด้วยได้ไหม” เสียงขออนุญาตโคตรหล่อเลยคับ ผมจะบอกไม่ให้ก็โดนเพื่อนตัวดีดักหน้าซะก่อน

“เชิญคับน้องภีม ไหนๆก็เป็นผัวเพื่อน พี่อนุญาต” มันพูดเสร็จก็ยักคิ้วไห้ผม

“ไอ้เชี่ยกิต” ผมต้องด่าคับแม่งพูดได้เลวมาก

“หึหึ ขอบคุณคับพี่กิต” ภีมมันบอกกิตก่อนจะนั่งลงข้างๆผม

“นายไม่มีเพื่อนหรือไงทำไมต้องมานั่งนี้ด้วย” ผมถามอย่างหงุดหงิด

“ก็ผมอยากนั่งกับพี่ไม่ได้หรอคับ” เสียงเหมือนจะอ้อน แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ

“อยากนั่งก็นั่งไป” ผมบอกแค่นั้น และกินข้าวของตัวเองต่อ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบนานพอสมควร เพราะไอ้หล่อที่มานั่งด้วยก็กินข้าวอย่างเงียบสงบเหลือเกิน

“ภีม เมื่อไหร่จะจ่ายค่าตัวเพื่อนพี่” ไอ้กิตทำลายความเงียบด้วยคำถามที่ผมไม่กล้าถาม

“คืนนี้คับ” ภีมตอบหน้าตาย

“ทำไมต้องคืนนี้” ผมเป็นคนถามด้วยความอยากรู้

“ก็คืนนี้พี่ไปกับผมอีกสักคืน รวมถึงเวลาทั้งวันนี้ของพี่ แล้วผมจะให้รวบยอดทั้งหมดที่เดียว” ภีมหันมาตอบผมพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมอึ่งจนไม่รู้จะแก้เกมส์ตรงนี้ยังไง

“น้องจะซื้อเพื่อนพี่อีกคืนหรอ” ไอ้กิตถามตรงๆ

“ใช่คับ พี่พายว่างไหมละคับวันนี้” ภีมตอบกิตก่อนจะหันมาถามผม

“มะ....”

“ว่างดิ เพื่อนพี่ว่าง” ผมมองไอ้กิตด้วยความตกใจว่ามึงมาตอบแทนกูทำเชี่ยอะไร

“ไอ้กิต เราต้องคุยกัน” ผมบอกก่อนจะลุกไปลากมันไปคุยไกลจากภีม

“มึงตอบตกลงแทนกูไม”

“มึงก็ไปเอาเงินก็จบ มึงกลัวน้องเขาปล่ำมึงหรอไง เคยได้กันแล้วไม่เป็นไรหรอก” ไอ้กิตพูดกวนผม

“โอ๊ยยย ไอ้บ้า กูไม่ได้อยากได้อีกรอบนี่หว่า”

“งั้นมึงมองไปที่ตรงหน้าคณะเรา” ผมมองตามมือที่ไอ้กิตชี้ก็เจอเลยคับ พี่พลมาทำบ้าทำบออะไรอีกวะเนี่ย

“กลับไปนั่งที่โต๊ะกัน เขาเห็นมึงแล้ว” ไอ้กิตบอกผมก่อนที่เราจะกลับไปที่โต๊ะที่ไอ้หน้าหล่อนั่งอย่างโดดเด่น

“ใจเย็นไว้นะมึง ใช้น้องมันเป็นไม้กันหมาไว้” ไอ้กิตกระซิบบอกผมก่อนจะนั่งลงที่เดิม

“พาย” พี่พลเรียกผมก่อนจะนั่งลงข้างผมที่ว่างอยู่ ผมรีบลุกขึ้นก่อนจะอ้อมไปนั่งข้างภีม แล้วดันภีมมาอยู่ตรงกลางแทน

“นี่เพื่อนใหม่พายหรอ พี่ไม่คุ้นหน้าเลย” พี่พลหน้าเสียนิดหน่อยก่อนถามขึ้นมา

“ไม่ใช่เพื่อนคับ แต่ผมเป็นผัวพายคับ” ภีมตอบซะพี่พลอึ่งไปเลย แต่ไม่ใช่แค่พี่พลอึ้ง ผมกับกิตก็อึ้งเหมือนกันที่ภีมกล้าพูดแบบนี้กับพี่ชายผม

“ฮะ..ผัว นี่น้องพูดอะไร” พี่พลถามเสียงดัง

“ก็ผัวไงคับพี่พล ผู้ชายคนนี้เป็นผัวพาย พายขอตัวก่อนนะคับ” ผมบอกแค่นั้นก่อนรีบลากภีมออกมาทิ้งไอ้กิตนั่งอยู่กับพี่พล ไอ้กิตทำหน้าเหมือนบอกว่าที่เหลือกูจัดการเอง ผมเลยเบาใจ

ผมจูงภีมเดินออกมาจนถึงสวนในมหาวิทยาลัย ผมโคตรเหนื่อย ไม่รู้จะทำไงดี ทำไมไอ้พี่พลมันไม่หยุดสักทีก็ไม่รู้ ระหว่างที่ผมกำลังคิดไม่ตก ภีมก็ดึงผมไปกอดแบบไม่ทันตั้งตัว

“อยากร้องก็ร้องออกมาซิคับ ความเข้มแข็งต้องค่อยๆสร้าง นึกอยากจะทำตัวเข้มแข็งมันไม่ง่ายหรอกนะคับ ผมรู้” เขาลูบหลังผมเบา จนน้ำตาผมไหลมาจากไหนก็ไม่รู้ ผมรู้สึกโคตรอ่อนแอเลย แล้วคำพูดประโยคนี้ยิ่งทำให้ผมนึกถึง....สโนว์บอล แต่พอรู้ตัวผมก็รีบเช็ดน้ำตา และผละออกจากอ้อมกอดของเขา

“เออ...ขอบใจ”

“ไปยิงธนูกันไหมคับ แก้เครียดดีเหมือนกันนะคับ” เขาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เหมือนรู้ว่าผมเครียดเรื่องอะไร ทั้งๆที่ผมก็ไม่เคยบอกอะไรเขาเลย

“อืม ลองดู” ผมตอบตกลงในทันที ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกไว้ใจเขาขนาดนี้


ณ สนามยิงธนู

“เดี๋ยวผมสอนให้คับ ขั้นแรกก็ ยืนหันข้างให้กับเป้า กางขาแบบนี้คับ” เขาสอนผมพร้อมทำท่าให้ดู ก่อนจะให้ผมถือธนู

“ดึงลูกธนูพร้อมสายธนูด้วยนิ้วชี้กับนิ้วกลางนะคับ แบบนั้นละคับ ดึงมาแนบแก้มเลยคับ” เขาแนะนำพร้อมซ้อนตัวมาอยู่ข้างหลังผมเพื่อจับมือผมให้ถูกต้อง

“ทีนี้ใช้ตาขวามองเข้าไปที่รู้ที่คันธนูเพื่อเล็งเป้าคับ มือที่จับคันธนูให้ดันให้สุดตรงกลางด้ามอยู่ตรงง่ามนิ้วชี้กับนิ้วโป้งนะคับ ดันปลายแขนให้สุดเลย” ผมทำตามที่เขาบอกก่อนจะยิงลูกแรกออกไป เข้าเป้าสีเหลืองคับ ถึงจะไม่ได้โดนจุดแดงตรงกลาง แต่ก็ทำให้ผมตื่นเต้นมาก

เรายิงธนูกันเกือบสองชั่วโมง มันทำให้ผมผ่อนคลายได้อย่างประหลาด ผมรู้สึกชอบมาก และภีมก็เทคแคร์ผมแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะอาหารหรือน้ำ เขาก็หามาให้ผมตลอด เขาแค่นั่งดูผมยิ่งธนู ทุกครั้งที่ยิงเข้าตรงกลางเข้าก็จะทำท่าดีใจไปกับผมด้วย เขาคอยให้กำลังใจระหว่างเล่นตลอด มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่ผมมีให้กับเขา ผู้ชายที่ผมพึ่งรู้จักไม่นาน แต่เขากลับให้ผมนึกถึงใครคนนั้นที่ทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับเขาเหมือนกัน…สโนว์บอลของผม



TBC...
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-02-2017 17:10:54
ภึม พาย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-02-2017 17:52:54
มีคำผิดนะคะ

“เออ...ชอบใจ (ขอบใจ)”
คับ (ครับ)
อึ่ง (อึ้ง)
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 24-02-2017 18:03:48
เป็นเรื่องที่ชอบมากๆ

ชอบนิสัยตัวพระนาย

ไม่ง้องแง้งดี

เป็นกำลังใจให้คับ

หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 25-02-2017 15:10:42
ตอนที่ 4 ยอม

หลังจากที่ภีมพาผมทำกิจกรรมยิงธนู และจบด้วยดูหนัง ผมก็มาที่คอนโดเขาอีกครั้ง ถึงจะมาด้วยความเต็มใจ แต่ก็ใช่ว่าผมจะยอมนอนกับเขาอีก
 
“เออ...เรามาตกลงเรื่องค่าตัวพี่ดีกว่า คืนนี้พี่คงอยู่ด้วยไม่ได้ ขอแค่ค่าตัวเมื่อคืนวานก็พอ” ผมบอกด้วยความกล้าที่ผมมี เพราะผมก็ไม่รู้จะอ้างอะไรกับเขา เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียตัวอีกครั้ง...

“แต่พี่มาถึงห้องผมแล้วนะคับ แค่เอาเงินอย่างเดียว ไม่กลัวผมปล้ำหรอ” เขาถามพร้อมรอยยิ้มทะเล้นของเขา

“น้องชอบมีอะไรกับคนที่ไม่เต็มใจหรอ” ผมถามเขากลับ

“ถ้าเป็นพี่ไม่เต็มใจผมก็อยากมี แต่ผมว่าพี่ต้องเต็มใจอยู่กับผมคืนนี้แน่นอน” ภีมตอบกลับมาด้วยความมั่นใจ

“เอาความมั่นใจนั้นมาจากไหน” ผมสวนกลับในทันที ผมไม่ยอมดื่มอะไรอีกแน่

“ก็พี่ชอบผม นั้นก็เป็นความมั่นใจที่มากพอแล้วคับ” เขายังตอบวกวนๆระหว่างที่เดินมานั่งข้างผมที่โซฟา

“ไอ้บ้า อย่ามาหลงตัวเอง พี่ไม่ได้ชอบเราซะหน่อย” ผมตอบปฏิเสธเขาในทันทีที่เขาพูดจบ

“ถึงใจพี่จะบอกไม่ แต่ร่างกายพี่มันบอกว่าใช่นะคับ” เขาพูดใกล้หูผม พร้อมเอาแขนมาโอบเอวผมไว้

“ปล่อย!!!” ผมบอกเขาด้วยเสียงที่ดุที่สุด แต่ดูท่าจะไม่ได้ผล เขาผลักผมนอนลงบนโซฟาก่อนจะเลียใบหูผม ผมใช้แรงทั้งหมดผลักเขา แต่ก็เหมือนกำลังผลักกำแพงเหล็กที่ไม่มีวันสั่นสะเทือนได้

“พี่พายคับ” น้ำเสียงเขาแทบทำให้สติผมล่องลอย เสียงที่เหมือนกับสโนว์บอล

“ดะ...เดี๋...” เสียงผมหายไปตอนเขาบดริฝีปากเขาลงมา มันช่างนุ่มนวล และร้อนแรงในเวลาเดียวกัน ตอนนี้จากมือที่ผลักเขา ผมได้แต่ขย่ำเสื้อเขาไว้เท่านั้น

“พี่พาย” เสียงที่ผมไม่อาจต้านทานได้ ทำให้ตอนนี้เขาสอดลิ้นเขามาในปากผม ผมที่เหมือนจะไม่ยินยอม แต่ร่างกายทั้งหมดก็เหมือนจะขัดกับความคิดของผม ผมกำลังตอบรับ

“พี่พายคับ” เขายังคงเรียกชื่อผมในขณะที่ปากยังจูบผมอยู่ ยิ่งเขาเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงแบบนี้เท่าไหร่ ผมยิ่งรู้ว่าตัวเองไม่อาจต้านทานเขาได้เลย ผมเคลิ้มไปกับเสียงของเขาจนไม่มีสติพอจะห้ามอะไรอีกแล้ว

“พี่พายคับ” เขายังคงเล่นกับจุดอ่อนของผม ตอนนี้หลังผมสัมผัสกับเตียงนุ่มๆที่ไม่รู้ว่าเขาอุ้มผมมาถึงเตียงนี้ยังไง ปากของเรายังคงดูดดื่มซึ่งกันและกัน ยังไม่มีแม้สักวินาทีที่เขาถอนปากออกจากการจูบของเรา

“พี่พายของผม” ตอนนี้ผมรู้สึกเสียวซ่านไปหมด เขาลูบไปทั่วตัวผม ใช้นิ้วสะกิดที่ยอดอกผม ผมถึงรู้ว่าตอนนี้ผมเปลือยเปล่าซะแล้ว ผมลืมตามองเขาในห้องที่มืดมิด มีแค่แสงจันทร์ และไฟจากข้างนอกที่ส่องเข้ามาให้ผมได้เห็นหน้าอันหล่อเหลาของเขาอย่างชัดๆ เขายังคงหลับตา และจูบผมอย่างดูดดื่ม ก่อนจะถอนปากออก โดยมีน้ำลายเชื่อมระหว่างปากของเรา เป็นการยืนยันถึงความหื่นกระหายที่เรามีต่อกันในขณะนี้

เขามองมาที่ผม ลูบใบหน้าของผมอย่างอ่อนโยน และยิ้มให้ผม ด้วยรอยยิ้มที่ผมชอบมานานแสนนาน เขาทำให้ผมนึกถึงชายคนเดียวที่ผมรัก ผมอดไม่ได้ที่จะดึงเขามาจูบอีกครั้งด้วยตัวผมเอง ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงยอมเขาขนาดนี้ แต่ผมรู้แค่เพียงว่าผมต้องการเขา เหมือนสัมผัสที่โหยหามาตลอด

“อ่า...พี่พายคับ” เสียงครางเล็กๆของเขา กล่าวขณะที่มือเขาลูบไล้ไปถึงก้นผม ก่อนจะใช้นิ้วที่ชุ่มไปด้วยเจลสอดเข้ามาข้างในตัวผม จากาหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้ว

“อะ...เจ็บ” ผมจับแขนแกร่งของเขาไว้แน่น

“พี่พายคับ ไม่ต้องเกร็งนะคับ” ปากที่ยังจูบผมกล่าวกับผมอย่างใจเย็น ก่อนจะละมาดูดที่ยอดอกผม ผมเสียวจนแอ่นอกรับสัมผัสให้เขาดูดชิมอย่างกระหาย ทำให้ผมลืมสัมผัสที่เจ็บปวดเบื้องล่าง นิ้วของเขาดันเข้าออกจนผมอดที่จะดึงเข้าขึ้นมาจูบไม่ได้

“อ่า พี่พายคับ ผมชอบพี่มากนะคับ” เขามักพูดตอนที่เราจูบกัน มันยิ่งทำให้ผมอดใจไม่ไหว มือผมลูบไล้ไปตามกล้ามของเขา ไปถืงแผ่นหลัง ก่อนจะไปจับที่ก้นเขา เพื่อให้เขากระแทกเข้ามาในร่างกายผม

“อ่า...พี่พาย” เขาครางออกมาก่อนจะสอดความเป็นชายของเขาเข้ามาในตัวผม อย่างช้าๆ จนแนบสนิทกับตัวผม 

“อ่า...สโนว์บอล” ผมเผลอครางชื่อของสโนว์บอลออกมา แต่เขากลับไม่ได้ตกใจหรือหยุดการกระทำที่เรากำลังทำกันอยู่

“อ่า...ยังแน่นเหมือนเดิมเลยนะคับ เจ็บหรือเปล่าคับ พี่พาย” เขาถามผมด้วยเสียงกระเส่า ผมมองหน้าเขาที่อยู่ห่างกันไม่กี่เซ็น จมูกเรายังคงชนกัน ขณะที่เหลือไหลโทรมกายไปหมด

“ไม่เจ็บแล้ว” ผมเขินไม่น้อยตอนตอบเขา แต่ความเขินนั้นก็หายไปทันทีที่เขาจูบผมอย่างดูดดื่มอีกครั้ง พร้อมกับขยับท่อนล่างเขาออกอย่างช้าๆ จนเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“อะ...อ่า...สะ...เสียว” ผมครางออกมาเสียงดังตอนที่เขาไซร้ซอกคอผมอย่างชำนาญ มันยิ่งทำให้ผมเสียวจนต้องเอาแขนทั้งสองขึ้นไปคล้องคอเขา

“ผมก็...อ่า....เสียวคับ....พี่..พาย” เขาครางก่อนกระแทกเข้ามาที่ตัวผมอย่างรวดเร็วหลายครั้ง

“พี่ก็...อ่า...เสียว” เขากลับมาดูดปากผมอีกครั้ง ลิ้นของเราพันเกี่ยวกันด้วยความปรารถนาอย่างรุนแรง

“ผมจะ....อ่า....จะแตกแล้วคับ” เขาครางเสียงดังก่อนจะกระแทกเข้ามาในตัวผมจนสุด ทำให้ผมรับรู้ถึงแรงกระตุกภายในตัวหกเจ็ดครั้งก่อนที่เขาจะทิ้งกายนอนทับกายผม พร้อมหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ผมกอดเขาเอาไว้โดยไม่รู้ว่าทำไมร่างกายผมถึงต้องการเขามากขนาดนี้

“อย่าคิดว่าคืนนี้จะจบแค่นี้นะคับ ผมยังต้องการพี่อยู่ และต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะหยุดไม่ได้แล้ว” เขาบอกผมด้วยเสียงหอมกระเส่าก่อนที่บทรักอันร้อนแรงของเราจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง และอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าคืนนั้นเรามีอะไรกันไปกี่ครั้ง ผมรู้แค่เพียงว่ากว่าเขาจะหยุดก็เกือบเช้า จนผมหลับไป…




เฮือก!!!!!! “อย่าทำผม อย่า!!!!” ผมตื่นจากฝันร้ายของผมกับพี่พลอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรนะคับพี่พาย ผมอยู่ตรงนี้แล้วคับ” ผมเพิ่งรู้ตัวว่าผมอยู่ในอ้อมกอดของภีม เขาลูบหลังผมอย่างอ่อนโยน ผมได้แต่ซบอยู่ในอ้อมกอดเขา เพราะมันทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย

“พี่พายพึ่งหลับไปไม่กี่ชั่วโมงเองนอนอีกหน่อยนะคับ เดี๋ยวผมนอนเป็นเพื่อน” เขาเอนตัวลงนอนพร้อมกับผมในอ้อมกอด ผมรู้สึกเขินอายเล็กน้อยเพราะเราต่างเปลือยเปล่ากันอยู่ทั้งคู่ แต่ผมอุ่นใจในอ้อมกอดนี้ ผมจึงอยากที่จะอยู่แบบนี้ไปอีกสักพัก

ภีมหลับไปแล้ว แต่ผมกลับไม่ง่วงเลย ผมได้แต่นอนมองหน้าเขา ทำไมคนหล่อขนาดนี้ถึงมาสนใจผมนะ และทำไมเขามักจะทำให้ผมนึกถึงสโนว์บอล ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่ผมนอนมองภีมอยู่ในอ้อมกอดของเขา

“ถ้าพี่ยังเอาแต่มองผมแบบนี้ ผมคงอดใจไม่ไหวแน่” เขาบอกผมขณะที่ยังหลับตาอยู่ ก่อนจะลืมตาและยิ้มให้ผม

“เปล่ามองสักหน่อย” ผมทำได้แค่แถไปงั้น

“หึหึ ไปอาบน้ำไหมคับ เดี๋ยวผมบอกที่บ้านให้ส่งอาหารมา เราจะได้กินข้าวกัน วันนี้พี่ไม่มีเรียนใช่ไหมคับ” เขาถามผมขณะที่จมูกเขายังคลอเคลียอยู่กับแก้มผม

“อืม ไม่มี งั้นขอไปอาบน้ำก่อนละกัน” ผมบอกเขาก่อนจะรีบลุกเพื่อไปเข้าห้องน้ำแก้เขิน แต่ความคิดไปไกลกว่าตัวคับ เพราะผมแทบจะลุกได้ช้ามากๆ เพราะร่างกายมันเหนื่อยล้าเกินไป

“ให้ผมอุ้มไหม” เขาถามพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไม่ต้อง พี่ไหว แค่นี้เอง” ผมใช้แรงทั้งหมดที่มีลุกขึ้นจากเตียง และเดินอย่างรวดเร็วเข้าห้องน้ำ ก่อนจะทรุดนั่งลงที่ฝาชักโครก ผมเริ่มรู้สึกปวดเนื้อปวดตัวไปหมด ไม่น่าไปยอมไอ้เด็กนี้เลยจริงๆ แล้วครั้งนี้ก็เป็นความผิดของผมเต็มๆ คงอ้างว่าไม่รู้ตัวเหมือนคราวก่อนไม่ได้ แต่ทำไมผมถึงใจง่ายกับไอ้เด็กนั้นขนาดนี้ ผมได้แต่คิดระหว่างที่รวบรวมกำลังเพื่อไปอาบน้ำ จนอาบน้ำเสร็จผมก็ยังหาเหตุผลมาตอบเพื่อบั่นทอนความรู้สึกใจง่ายของตัวเองไม่ได้

ผมออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเสื้อผ้าของภีมว่างอยู่บนเตียง ส่วนเสื้อผ้าผมไม่อยู่อีกแล้ว แค่นี้ผมก็พอเดาได้ว่าเขาคงเอาเสื้อผ้าผมไปซักให้ รักความสะอาดสมเป็นลูกคุณหนูจริงๆ ผมส่ายหน้าให้กับความคิดเรื่องการเรียกภีมว่าคุณหนูดูตลกไม่น้อย ก่อนจะแต่งตัวแล้วออกมาเจอกับภีมที่กำลังนั่งกินโอวัลตินอยู่ที่โซฟา ผมรู้ได้ไงว่าเขากินโอวัลตินหรอคับ ก็กลิ่นเป็นเอกลักษณ์ขนาดนั้น

“ดื่มโอวัลตินสักแก้วไหมคับ ระหว่างรออาหารมา” เขาบอกผมก่อนจะดูอะไรสักอย่างในไอแพดของเขา

“ก็ดี” ผมบอกก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตัวถัดจากที่ภีมนั่งอยู่

“มานั่งกับผมสิคับ” เขาบอกผมขณะที่ตายังคงมองที่ไอแพดอยู่

“เราอ่านข่าวไปเถอะ พี่ไม่อยากกวน” ผมบอกก่อนจะนั่งเกร็งๆ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี

“ผมแค่ดูหุ้นเฉยๆคับ พอดีวันนี้หุ้นตัวที่ผมเล่นไว้ขึ้นพอดี เดี๋ยวจัดการขายหุ้นตัวนี้เสร็จแล้วผมจะไปนั่งด้วย พี่จะได้เลิกนั่งตัวตรงเป็นหินสักที” เขาพูดนิ่งๆก่อนจะแซวผม แล้วยิ้มด้วยสีหน้าชอบอกชอบใจกับท่าทีตื่นๆของผม เพราะผมดันตกใจที่เขาแซวเลยนั่งห่อไหล่ไปซะอย่างนั้น บ้าจริงโคตรขายหน้าเลย

“นี่โอวัลตินของคุณพายค่ะ นายน้อยค่ะ อาหารมาส่งแล้ว เดี๋ยวรอป้าจัดโต๊ะสักห้านาทีนะค่ะ” ป้าแม่บ้านที่ผมเจอคราวก่อน เธอเอาโอวัลตินมาให้ผมก่อนจะหันไปบอกภีม

“ได้คับ ขอบคุณคับป้า” ภีมบอกป้าเขาอย่างสุภาพ ก่อนที่ป้าเขาจะเดินออกไป

“เสร็จละคับ” หลังจากป้าเขาออกไปไม่นาน ภีมก็พูดขึ้นมาเสียงดัง แล้วลุกมานั่งที่โซฟาตัวเดียวกับผม พร้อมกับเอาแขนมาโอบเอวผมหลวมๆ พร้อมใบหน้าที่มาซุกไว้ตรงคอผม ผมที่ตัวเกร็งอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งเกร็งเข้าไปใหญ่

“หึหึ...ฟอด” เขาหัวเราะเจ้าเล่ห์ก่อนจะหอมผมฟอดใหญ่ ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไรดี ก็ผมไม่ใช่พวกผู้หญิงที่จะมานั่งทำท่าเหนียมอาย ผมเลยได้แต่กัดปากแก้เขินเท่านั้น

“ผมเคยบอกแล้วว่าอย่ากัดปาก ผมไม่ชอบ หรือพี่จงใจยั่ว” เขาพูดพลางมองหน้าผมอย่างจริงจัง ผมได้แต่ทำหน้าเอ๋อเพราะไม่รู้จะตอบเขาว่าอะไร แต่ก็คงไม่ทันละคับ เพราะภีมเริ่มขยับเพื่อที่จะมาจูบปากผม ผมได้แต่หลับตาปี๋เท่านั้น

“อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะนายน้อย” เสียงป้าแม่บ้านเป็นระฆังช่วงชีวิตผมไว้แท้ๆ ผมรีบลุกออกจากอ้อมแขนเขาในทันที แล้วเดินไปที่โต๊ะอาหารอย่างรวดเร็ว

ระหว่างทานข้าว ผมแทบไม่มองเขาด้วยซ้ำ ผมก็ไม่รู้ทำไมเป็นแบบนี้ โดนผู้ชายคนนี้ทำเรื่องอย่างว่าไปตั้งหลายครั้ง ผมก็ยังนั่งทานข้าวร่วมโต๊ะกับเขาได้ ไม่เหมือนกับพี่พลที่ผมแทบจะไม่กล้าเข้าใกล้เลยด้วยซ้ำ

“พี่พายคับ” เขาเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่ผมหลงใหล น้ำเสียงที่เหมือนกับผู้ชายที่ผมชอบมากที่สุด ผมจึงคิดขึ้นมาได้ในทันทีว่าทำไมผมถึงปล่อยตัวปล่อยใจกับภีมขนาดนี้ เพราะเสียงเขาเหมือนสโนว์บอลของผม

“พี่พายคับ” เขาเรียกผมดังขึ้น ผมเลยหันไปมองเขาเป็นเชิงถามว่ามีอะไรรึเปล่า เขายิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนทำหน้าตาจริงจัง

“พี่พายเป็นแฟนผมได้ไหมคับ” ผมอึ้งไปนานทีเดียวคับหลังจากได้ยินคำถามที่ผมไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาตอบ และเป็นคำถามที่ผมคงให้คำตอบเขาตอนนี้ไม่ได้

“เออ...” ผมอยากจะบอกอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี เลยได้แต่เงียบ

“พี่พายคงไม่ชอบผม” เสียงเขาเศร้าลง บ้าจริงทำไมต้องทำเสียงเหมือนสโนว์บอลของผมด้วย

“เออ...ก็ไม่เชิง” ผมตอบเขาแค่นั้น แต่เขากลับยิ้มซะกว้าง

“ตอนนี้ แค่นี้ก็พอคับ” เขาบอกผมพร้อมกับรอยยิ้มแบบนั้น ยิ้มเหมือนคนที่มีความสุขมาก ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะเอาคำตอบว่าชอบไม่ชอบไปทำไม ผมยอมเขาตั้งขนาดนี้แล้วแท้ จะว่าไม่ชอบเลยคงไม่ได้ แต่ถ้าความจริงคือผมยอมเขาเพราะเขามีเสียงที่เหมือนสโนว์บอล มันจะยังเรียกว่าชอบอยู่รึเปล่านะ



ครืด------ครืด โทรศัพท์ผมสั่นขณะที่นั่งอยู่บนรถของภีม แต่ชื่อที่ปรากฏทำให้ผมไม่อยากรับสายนี้สักเท่าไหร่

“ให้ผมรับให้ไหม” ภีมถามขึ้นมาด้วยเสียงที่เรียบเฉย

“ไม่เป็นไร” ผมบอกเขาพลางกดรับสาย

“ฮัลโหล”

--พายหรอออ พี่คิดถึงงง พายมากกก— เสียงพี่พลเหมือนจะเมาหนักพอตัว

“พี่โทรมามีอะไรคับ” ผมถามด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด ไม่แยแสที่สุด

--มาหาพี่หน่อยสิพายยย มาหาพี่ พี่รักพายนะ รักมากกว่าไอ้หน้าหล่อนั้นอีกกก— ผมได้แต่ส่ายหัวเพราะผมไม่อาจจะพูดอะไรกับเขาได้อีกนอกจาก

“แค่นี้ก่อนนะคับ พายไม่ว่าง” ผมตอบก่อนจะกดวางสายไป พี่พลคือปัญหาใหญ่ในชีวิตที่ผมไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย แม้แต่ตอนนี้ที่ผมโตขนาดนี้ ยังหาทางออกกับเรื่องของเขาไม่ได้สักครั้ง

ภีมส่งผมที่หน้าหอ เรียกสายตาคนแถวนี้ได้ไม่น้อย สายๆแบบนี้ นักศึกษาที่ไม่มีเรียนต่างออกมาหาอะไรกิน มองรถของภีมเป็นตาเดียว ก่อนลงจากรถ ภีมทำท่าจะลงมาด้วย แต่ผมห้ามไว้เขาเลยบอกว่ากลับถึงคอนโดแล้วจะโทรหาผม ผมเลยตอบตกลง เขาจึงยอมกลับไป ไม่งั้นข่าวลือเรื่องโคตรเดือนกับเดือนปีกทองคงดังไปทั่วแน่ๆ

“สมกับเป็นเดือนปีกทอง มีผู้ชายรวยขนาดนั้นมาส่งด้วย” ผู้ชายที่ดูท่าทางน่าจะเป็นรุ่นน้องผมพูดขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังเดินเข้าหอ ผมไม่ได้ตอบอะไร แค่เดินผ่านเขาไปเฉยๆเท่านั้น

“ผู้ชายที่มาส่งนั้นโคตรเดือนใช่ไหมคับ” ผมชะงักเท้าเล็กน้อย แต่ก็เดินต่อเพราะผมไม่ชอบต่อล้อต่อเถียง

“หยิ่งเหลือเกิน เป็นแค่เดือนปีกทองแท้ๆ” น้ำเสียงนิ่งๆที่ฟังก็รู้ว่าประชดประชัน กลับทำให้ผมไม่รู้สึกโกรธอะไร ก็โดนแบบนี้ตั้งแต่ปีหนึ่ง ถ้าน้องคนนี้จะมายั่วให้ผมโกรธเพื่ออะไรก็ตาม เขาก็จะได้รู้ว่ามันไม่ได้ผล

“พี่นี้แค่ขายตัว คนก็ให้ฉายาซะเพราะ ทำงานน่ารังเกียจแบบนี้ไม่อายหรอคับ” เขายังคงพูดังขึ้น ผมจึงหยุด และหันไปมองหน้าน้องเขา

“มีคนมาชอบ ดีกว่าไม่มีใครเอาคับ” ผมบอกแค่นั้นก่อนจะขึ้นหอทันที และก็ไม่คิดจะหันไปดูท่าทีของน้องคนนั้นด้วยซ้ำ

“สุดยอดเลยมึง คำสั้นๆทำเอาไอ้น้องปีหนึ่งนั้นอึ้งไปเลย”  ไอ้กิตโผล่มาข้างหลังกระโดดกอดคอผม ทำเอาผมเซจนเกือบล้ม

“มึงแอบดูอยู่หรอ” ผมถามตอนไขกุญแจห้อง

“กูกะจะเข้าไปแซวมึงเล่นซะหน่อย แต่ไอ้เด็กนั้นปากกวนตีนจริงๆ กูเกือบจะไปต่อยปากมันให้มึงด้วยซ้ำ ปกติ มึงไม่ค่อยถือสากับเรื่องพวกนี้ วันนี้เป็นไรไปตอกกลับน้องเขาได้”

“ไม่รู้ว่ะ น้องมันดูจงใจเกิน กูว่าแปลกๆ” ผมตอบตามตรงคับ เพราะตอนนั้น ผมไม่รู้เป็นไร ผมรู้สึกเกลียดน้ำเสียงแบบนั้น เลยอยากจะให้น้องเขาหุบปากซะที

“เอาเถอะ เดี๋ยวกูไปสืบให้ว่าไอ้เด็กนั้นมันเป็นใคร กล้ามาว่าเดือนปีกทองผู้มีชื่อเสียงของมหาลัยเราได้”

“ไม่ต้องหรอก กูไม่ได้อยากรู้” ผมตอบด้วยความเบื่อหน่าย

“แต่กูอยากรู้ ใครกล้ามาทำเพื่อนรักกู กูจะจักการมันให้มึงเอง” ไอ้กิตยิ้มอย่างภูมิใจ ผมได้แต่ส่ายหัวในความตลกของมัน

“หรือว่าให้โคตรเดือนจัดการให้ดี ไอ้เด็กนั้นก็ดูหลงมึงดีนะ นี้ได้ตังค์กินหนมยัง”

“เฮ้ย กูลืมเลยวะ” ผมลืมเรื่องค่าตัวไปเลย

“เสียตัวฟรีอีกแล้วดิมึง”

“นั้นดิ”

“เฮ้ยจริงดิ เมื่อคืนมึงกับโคตรเดือนได้กันอีกแล้วหรอว่ะ” ผมรีบเอามือปิดปากมันในทันที ถึงตอนนี้อยู่ในห้อง แต่ใช่ว่ากำแพงจะหนานี้คับ แค่พูดเสียงธรรมดายังได้ยินเลยบางที นี้เล่นอุทานซะดังขนาดนี้

“เดี๋ยวกูเอาถุงเท้าอุดปาก มึงนี้เสียงดังตลอด” ผมว่ามันไปที

“กูตกใจ ไหนมึงบอกไม่ได้ชอบไง แล้วไปยอมน้องมันอีกทำไม” มันถามผม พร้อมทำหน้าเหมือนต้องการคำตอบจริงๆจากใจผม

“ไม่รู้วะ น้องมันเสียงเหมือนสโนว์บอล กูเลย...”

“ยอม?”

“ประมาณนั้น” ผมยอมรับอย่างจนใจว่าผมยอมภีมจริงๆ

“แล้วมึงจะเอาไงต่อ”

“ไม่รู้วะ ก็ใช้ชีวิตตามเดิม ไม่หลวมตัวอีก แค่นั้นมั้ง” ผมพูดจบไอ้กิตก็ทำหน้าเหมือนเป็นห่วงพร้อมกับจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เงียบไป

“เดี๋ยวกูขอนอนต่อสักหน่อยวะ มึงออกจากห้องเมื่อไหร่ก็ล๊อคประตูให้กูด้วยละกัน” ผมบอกก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง ส่วนไอ้กิตที่ปกติก็ชอบมาสิงที่ห้องผมอยู่แล้วก็เปิดคอมเล่นอินเตอร์เน็ต ขณะที่ผมกำลังจะหลับ


“ไอ้พายเกิดเรื่องแล้วมึงงงงงงง” ไอ้กิตตะโกนซะดังเลย ผมได้แต่งัวเงียลุกไปที่คอมว่าอะไรทำให้ไอ้กิตตะโกนขนาดนี้

“อะไรวะ”

“มึงดูข่าวในเว็บเพจของคนหน้าตาดีของมหาลัยดิ มีคนถ่ายรูปมึงลงจากรถแอสตันมาตินได้ แถมยังตั้งกระทู้ว่า เดือนปีกทองผู้ฉาวโฉ่ ได้กางปีก และกางขาให้กับโคตรเดือนลิ้มลองซะแล้ว ไอ้เชี่ยโคตรแรง กูว่าต้องาเป็นไอ้เด็กปากหมาเมื่อเช้าแน่เลยมึง ไปจัดการเลยไหม กูว่ามันน่าจะอยู่หอข้างเรา เดี๋ยวกูจะต่อยให้เลือดกลบปากเลย ทำแบบนี้ได้ไงวะ”

“ใจเย็นมึง” ผมเตือนสติไอ้กิตที่ดูก็รู้คับว่าโกรธมาก ผมที่เคยโดนเรื่องแบบนี้บ่อยก็ไม่ค่อยจะสนใจอะไรคับ

“มึงแม่งใจเย็นเชี่ยไร หัวข้อเหี้ยๆแบบนี้ไม่ค่อยมีตั้งแต่มึงอยู่ปีสอง นี้กลับมาอีก กูโคตรไม่ชอบเลย” ไอ้กิตหน้าดำหน้าแดงไปหมดละคับ

“กูยังใจเย็นได้ มึงก็ต้องใจเย็นได้เหมือนกัน” ผมบอกมันพร้อมตบบ่าเบาๆก่อนจะกลับไปนั่งที่เตียง

ครืด----ครืด โทรศัพท์ผมสั่น
 
“ฮัลโหล”

--เป็นอะไรไหมคับ ผมพึ่งเห็นกระทู้-- เขาถามผมด้วยเสียงที่ร้อนรน

“ไม่เป็นไร สบายมาก ตอนปีหนึ่งพี่โดนมากกว่านี้อีก” ผมบอกภีมไปตามตรง

--แต่ผมไม่สบายใจ ผมไม่ชอบให้ใครว่าพี่แบบนี้ พอจำได้ไหมว่ามันเป็นใครที่ยืนอยู่มุมที่ถ่ายภาพมาได้-- เขาถามด้วยเสียงที่จริงจัง ฟังแล้วดูโมโหไม่น้อย

“รู้ แต่ไม่แน่ใจว่าใช่น้องเขาไหม”

--มันเป็นใครคับ บอกผม ผมจะไปจัดการมันเอง--

“ไม่ต้องภีม พี่ไม่เป็นไร”

--พี่เป็นของผม เป็นเมียผม ผมไม่ชอบให้ใครมาว่าเมียผมแบบนี้ โธเว้ย ผมน่าจะลงไปส่งพี่ตั้งแต่ทีแรก-- ผมอึ้งไปแล้วคับตอนนี้ เสียงเขาจริงจังจนน่ากลัว ดูท่าภีมก็โมโหแทนผมไม่ใช่น้อย เหมือนอยู่ใกล้กองไฟสองกองที่กำลังลุกโชนจนเผาทุกสิ่งทุกอย่างได้ยังไงยังงั้น

“พี่จำมันได้ ภีมอยากกระทืบมันใช่ไหม เดี๋ยวพี่ช่วยอีกแรง” ไอ้กิตมันแย่งโทรศัพท์ผมไปคุยกับภีมเฉยเลย ผมได้แต่เอามือกุมหัวกับความใจร้อนของผู้ชายสองคนนี้จริงๆ

“พอเลยทั้งสองคน” ผมดึงโทรศัพท์กลับมาก่อนจะตัดสาย แล้วกดเบอร์โทรออก

“ฮัลโหล นิว เราพายนะ” ผมโทรหานิว เธอเป็นหนึ่งในแอดมินของเว็บเพจ คนหน้าตาดีของมหาลัย

--พายยยยย เราขอโทษเราพึ่งเห็นกระทู้ เรากำลังจะโทรหาพายพอดี เราลบกระทู้ให้พายละนะ จะให้เราเอาเรื่องคนที่โพสไหม-- นิวพูดกับผมด้วยความตกใจปนกระตือรือร้น นิวเป็นเพื่อนที่ไม่ได้สนิทมาก แต่ก็เป็นคนดี ผมถึงไม่ค่อยโดนโพสแรงๆในช่วงสองปีนี้

“ไม่ต้อง ขอเก็บเป็นหลักฐานก็พอ ฝากนิวรวบรวมหลังฐาน แล้วส่งไฟล์ทางเมลล์ให้เรานะ” ผมบอกมิวด้วยเสียงที่ปกติ

--พายไม่โกรธเราใช่ไหม เราพึ่งเรียนเสร็จ เห็นเพื่อนที่คณะเม้าท์กัน เลยรีบลบให้พายเลย ขอโทษนะพายยยย-- เธอดูท่าจะขอโทษขอโพยผมอีกนาน
 
“ไม่เป็นไร เราโอเค ขอบใจนะนิว” ผมบอกด้วยเสียงที่เป็นมิตรกิ่นวางสายไป

“แค่นี้ก็เรียบร้อย”

“มันไม่มีวันเรียบร้อย มึงก็รู้ว่าคนทั้งมหาลัยน่าจะได้อ่านกันหมดแล้ว”

“กูก็ทำตัวปกติก็จบ กูเป็นเดือนปีกทองนะ ต้องกลัวอะไร”
 
“มึงนี้นะ กูจะไม่ยอมหรอก ไอ้เด็กนั้นกูจะหาทางจัดการมันแทนมึงเอง” ไอ้กิตยังคงอยู่ในอารมณ์โกรธ  ผมได้แต่ถอนหายใจ และเตรียมพร้อมสำหรับการพบเจอผู้คนที่คงจะไม่ง่ายอีกครั้ง...



TBC...
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-02-2017 16:04:07
บางทีการหนีก็ไม่ใช่คำตอบที่ดีนะพาย
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 25-02-2017 16:30:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 25-02-2017 16:53:33
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-02-2017 16:55:12
เด็กคนนั้นคงแอบชอบภีมนะคนอ่านว่า

อิจฉาพายละซิ555

การยอมโดนกล่าวหาว่าขายตัวมันแรงนะ

ถ้าในชีวิตจริงคนเราต้องแก้ต่างบ้าง

ไม่ใช่ไม่ทำไรเลย แบบนี้มันไม่ถูกต้องกับตัวเราเองนะพาย

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 26-02-2017 02:07:08
การยอมให้คนคิดว่าขายตัวไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาพลนะ. เพราะชื่อเสียงฉายโฉ่ขนาดนี้. พลก็ยังตามตื๊อ แกข่าวเรื่องเดือนปีกทองเถอะ.
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 26-02-2017 07:01:05
อ่านไปอ่านมา พายเปนคนค่อนข้างหน้าลำคานนะ  ไม่รู้สิ อ่านแล้วไม่ชอบคาแร็กเตอพายอะ
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 26-02-2017 15:11:38
ตอนที่ 5 เพื่อน

กิต พาร์ท

ผมชื่อกิตคับ ประกิต ลักษณะรัตน์ เป็นเพื่อนพายมาตั้งแต่ประถม พายมันเป็นเด็กน่ารักมีแต่คนมาชอบ ส่วนใหญ่ตอนนั้นมีแต่คนชอบแกล้งมัน แต่พายเป็นพวกสู้คนคับ นั้นทำให้ผมประทับใจกับผู้ชายคนนี้ ยิ่งโตพายก็ยิ่งมีเค้าความสวยมากกว่าผู้ชายทั่วไป จนทำให้จากการถูกแกล้ง กลายเป็นลวนลาม แต่ผมก็ไม่เคยต้องห่วงมัน เพราะมันเก่งเรื่องเอาตัวรอด จนมาช๊อคเรื่องที่พี่ชายแท้ๆของตัวเองพยายามข่มขืนตอน ม.ต้น มันสนิทกับพี่ชายพอสมควร ก็ไม่เคยคิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ ถ้ามีใครมาเล่าให้ฟังผมก็คงไม่เชื่อ เพราะพี่พลดูเป็นพี่ชายที่แสนดีจะตาย

จนวันหนึ่งที่ผมได้เห็นกับตา ผมไปหาพายที่บ้าน พ่อแม่พายไม่อยู่ ด้วยความที่สนิทผมเลยเดินขึ้นไปหาพายที่ห้องด้วยตัวเอง ผมมองลอดเข้าไปเพราะประตูห้องนอนพายเปิดแง้มอยู่ สิ่งที่ผมเห็นทำผมช๊อคไปในทันที พายกำลังถูกพี่พลข่มขืน เขากำลังเอานิ้วสอดเข้าไปที่ก้นพาย ในขณะที่พายเปลือยเปล่า และร้องไห้อ้อนวอน ขอร้องพี่พลไม่ให้ทำแบบนั้น แต่ใบหน้าที่หื่นกระหายนั้นก็ไม่หยุด พอผมได้สติ ผมผลักประตูเข้าไป และต่อยพี่พลจนล้มไปกองกับพื้น ผมรีบเอาเสื้อผ้าให้พายใส่อย่างลวกๆ ตัวพายสั่นไปหมด ผมพาพายมาอยู่ที่บ้านผม และโทรบอกพ่อแม่พายว่า พายจะมาค้างทำรายงานกับผมสักอาทิตย์ พ่อแม่พายท่านเป็นคนง่ายๆ ให้อิสระลูกพอสมควร เลยไม่ได้ติดใจอะไร


หลังจากวันนั้นพายกลายเป็นคนเงียบ หวาดกลัวการสัมผัส และร้องไห้ตลอดเวลาจนตาสวยๆนั้นบวมไปหมด ผมรักพายนะคับ แต่ผมรักเหมือนเพื่อน เหมือนญาติ ผมเคยนับถือความเข้มแข็งของมัน แต่ตอนนี้มันกำลังพังทลาย สิ่งที่ผมทำได้ คือการเป็นเพื่อนที่ดีของเขา ให้กำลังใจพายเท่านั้น

“นี้เป็นครั้งแรกที่เขาทำกับกูถึงขั้นนี้...เมื่อก่อนเขาแค่กอด แค่หอม จนเริ่มที่จะลูบไล้ตัวกู และนั้นคือการเลยเถิดขั้นสุดท้ายที่กูไม่เคยคิดว่าเขาจะกล้าทำ กู...กลัว” มันระบายกับผมก่อนจะร้องไห้ออกมา เป็นครั้งแรกที่ผมสามารถกอดปลอบมันได้ หลังจากที่มันนิ่งเงียบมาสามวันเต็ม

“มึงไม่เป็นไรแล้วนะเว้ย”

“ขอบใจที่มึงมาช่วยกูไว้ทัน ก่อนที่...” พายร้องไห้อย่างมากมายพร้อมกอดผมไว้แน่น ผมเห็นมันเป็นแบบนี้ก็อยากกลับไปตืบพี่ชายมันอีกสักทีสองที

“ขอเวลาอีกหน่อย กูจะค่อยๆเข้มแข็งขึ้นด้วยตัวกูเอง” หลังจากคำพูดนั้น พายก็ทำได้อย่างที่มันพูดจริงๆ มันกลับมาเข้มแข็ง แต่แฝงไปด้วยความเย็นชาในบางครั้ง มันกลายเป็นคนไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่ ภายนอกอาจดูร่าเริงเหมือนที่มันเคยเป็นแต่ใครจะรู้ว่ามันแทบจะลอยตัวเหนือดราม่าทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตมัน

หลังจากนั้น พอมันกลับไปอยู่บ้าน มันก็มักจะขอไปนอนกับพ่อแม่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถ้าวันไหนพ่อแม่ไม่อยู่มันก็จะมานอนกับผม หรือโดนสวนใหญ่ผมก็ไปนอนเป็นเพื่อนมัน และไม่นานพายก็ได้เจอสิ่งที่ทำให้มันมีความสุขอีกครั้ง...น้องสโนว์บอล

เด็กผู้ชายตัวอ้วนกลม ขาว ดูน่ารัก และก็ขี้แยมากๆ จากความสนิทสนมแบบรุ่นพี่รุ่นน้องก็กลายเป็นพายเองที่ดันไปหลงรักน้องมัน แต่ก็ไม่กล้าบอก ทั้งๆที่ผมก็คิดว่าน้องมันก็ชอบพายไม่น้อยไปกว่าที่มันชอบน้องเขาเลย

ผมผลักดันมันมาตลอดจนเรียนจบเรื่องน้องสโนว์บอล แต่ขนาดเรียนจบมันก็ยังไม่พูด จนน้องมันเหมือนจะมีแฟน พายมันถึงกับเฮิร์ทเลยคับ แต่มันก็เสียใจไม่นาน เพราะบอกว่าเตรียมใจไว้แล้ว ผมก็อดสงสารไม่ได้อยู่ดี



ตอนที่เราเขามหาวิทยาลัย ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ไปให้ความมั่นใจกับพ่อแม่มันว่ามันสามารถอยู่หอเองได้ และผมก็อยู่หอเดียวกันสามารถช่วยเหลือกันได้ จนพ่อแม่มันยอม มันถึงได้ออกมาจากความหวาดระแวง

แต่โชคชะตาก็ยังเล่นตลกเพราะตอนปีหนึ่งด้วยหน้าตาที่ดันมาดีที่สุดในคณะ เลยทำให้ถูกส่งเป็นตัวแทนเดือนคณะ โดยที่มันก็ไม่ได้เต็มใจเท่าไหร่ แต่คณะเรามีมันคนเดียวนี้แหละคับที่ดูดีที่สุดแล้ว ที่เหลือก็เซอๆกันทั้งนั้น และพอถึงงานประกวดเดือนดาวของมหาวิทยาลัยมันก็กลายเป็นที่รู้จักเพียงชั่วข้ามคืน โด่งดังไปทั่วมหาวิทยาลัย จนหัวกระไดคณะไม่แห้งกันเลยทีเดียว

“พายยยยย แย่แล้วมึง ไอ้พวกหนุ่มๆไฮโซที่มึงปฎิเสธไป มันไปรวมตัวกันตั้งกระทู้ว่ามึงขายตัว จนเว็บเพจเขาให้ฉายามึงว่า เดือนปีกทองละเนี่ย” ผมตกใจมากตอนเห็นกระทู้ในเว็บเพจเขียนแบบนั้น

“แล้วไง” มันตอบพร้อมเงยหน้าจากการวาดรูปที่ริมระเบียงหอ สีหน้ามันดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนตามเคย

“ไอ้พายมึงบ้าหรอ โดนด่าขนาดนี้มึงยังเฉย” ผมถามมันอย่างร้อนใจ

“มันก็แค่เรื่องไม่จริงกับฉายาที่เพราะดีก็เท่านั้น คิดไรมากวะ” มันลอยตัวเหนือดราม่าอีกแล้ว

“มึงนี้แม่ง เดี๋ยวกูจัดการเอง” ผมบอกมันก่อนจะจัดการโทรหาพี่รหัสเพื่อขอความช่วยเหลือในการจัดการกับกระทู้นี้ เพราะเว็บเพจนี้ทำโดยนักศึกษา น่าจะหาตัวผู้ดูแลได้ไม่ยาก จนในที่สุดกระทู้นั้นก็ถูกลบไป แต่มันก็สายไปอยู่ดีเมื่อข่าวลือเหมือนไฟลามทุ่ง คนในมหาลัยตอนนั้น แทบไม่มีใครไม่รู้จัก...เดือนปีกทอง

ถ้าถามว่าพายมันเป็นยังไงที่ถูกคนในมหาลัยเข้าใจผิดหรอคับ มันปกติคับ ร่าเริงเป็นปกติ เฟรนลี่เป็นปกติ และไม่สนใจคนนินทารอบๆตัวเป็นปกติ มันใช้ชีวิตโคตรจะไม่รู้สึกรู้สาจนบางที่เพื่อนที่คณะยังโมโหแทน

“ไอ้สาสพาย มึงแก้ข่าวซะทีสิวะ กูว่ามึงปล่อยไว้นานไปแล้ว” ชายเพื่อนที่คณะพูดกับมันระหว่างที่เรากำลังเดินไปโรงอาหาร

“มึงคิดว่ากูเป็นแบบนั้นป่าว” มันถามชาย

“เปล่า” ชายตอบ

“งั้นต้องแก้ทำไม พวกมึงก็รู้ว่าไม่จริงเท่านั้นก็พอ” มันเป็นแบบนี้แหละคับ คำพูดที่ยังไม่ทันตอบชายผมก็รู้ว่ามันจะพูดว่าอะไร มันไม่เคยอาย ไม่เคยต้องหลบซ่อนเพราะเสียใจที่โดนใส่ร้าย มันเข้มแข็ง และตายด้าน ผมคิดว่างั้นนะ เรื่องเดียวที่ทำให้มันเสียใจได้ก็คือเรื่องพี่ชายมัน

“ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าที่พี่พลทำกับกูแล้ว แค่เรื่องโดนด่าว่าขายตัว จิ๊บๆ” มันตอบหน้านิ่งทั้งๆที่พึ่งโดนมหาลัยเรียกคุย แต่มหาลัยทำอะไรมันได้ละคับ ก็ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันได้ว่ามันทำจริง แค่ลมปากคนเท่านั้น

“แล้วมึงเห็นไหม มหาลัยยังทำไรไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานว่ากูทำจริง  แบบนี้ต้องกลัวไรวะ”

“ถ้ามึงมีคนรักขึ้นมาสักคน มึงคงไม่อยากให้เขาคิดว่ามึงขายตัวแน่ๆ มึงจะต้องเสียใจในอนาคต กูเตือนเพราะเป็นเพื่อนนะเว้ย”

“กูรู้ แต่คงไม่มีวันที่กูจะรักใครมากกว่าตัวเองหรอก” มันยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป บางที่ผมก็คิดว่าความเข้มแข็งที่มันสร้างขึ้นมา มันมากเกินไปจนทำให้มันแข็งกระด้างรึเปล่า


ครืด------ครืด

“ฮัลโหล” พายมันตอบรับเสียงนิ่ง ใครโทรมา หน้ามันโคตรเย็นชา เมื่อกี้ยังอ่านการ์ตูนตลกอยู่เลย

--พายทำไมทำตัวแบบนี้--

“พี่พลพูดเรื่องอะไร” พี่ชายมันโทรมาทำไมกัน?

--พี่รู้เรื่องที่พายทำที่มหาลัยแล้วนะ--

“แล้วไงคับ”

--พี่ไม่ชอบเลยที่พายทำตัวแบบนี้—

“ก็แล้วแต่พี่จะคิด โทรมาแค่นี้ใช่ไหม” แล้วมันก็ตัดสายไป ก่อนจะหันไปอ่านการ์ตูนและหัวเราะเสียงดังต่อ มันเป็นไบโพล่าเปล่าวะเนี่ย

“มึงไปหาหมอไหม”ผมถาม

“ไปไมกูสบายดี”

“กูว่ามึงป่วยทางจิต”

“ไอ้เชี่ยกิต”

“เรื่องนั้นอาจกระทบจิตใจมึงมากจนมึงไม่รู้ตัวว่ามึงป่วย” ผมพูดด้วยเสียงที่จริงจัง

“หยุดคิดแบบนั้นเลย มึงอาจจะคิดว่ากูบ้าที่ไม่ทุกข์ร้อนกับอะไรเลยในชีวิตแบบนี้ แต่กูมีความสุขมากกว่าต้องมานั่งคิด นั่งหาตัวต้นเหตุ นั่งบอกทุกคนว่ามันไม่จริง ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริงอยู่แล้ว” มันบอกก่อนตบบ่าผมเบาๆเป็นเชิงว่า ขอบใจกูสบายดีอะไรแบบนั้น


หลังจากนั้น ผมก็แทบจะไม่ได้เตือนมันเรื่องนี้เลย เพราะกระทู้ในเว็บเพจก็เบาบางลง จนปีสองก็กลายเป็นแค่ข่าวลือในมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น ผมว่าผมควรมีความสุขที่เห็นพายมันมีความสุขมากกว่า

แต่ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนเมื่อมันเจอกับโคตรเดือน ผมว่าไอ้เด็กภีมนี้แหละที่น่าจะทำให้พายมันสนใจตัวเองมากขึ้นบ้าง โคตรเดือนมันดูจริงจัง เพื่อนผมไม่น่าหนีไอ้เด็กนี้ได้แน่นอน มันเสียเปรียบโคตรเดือนตั้งแต่โดนน้องมันยัดเยียดความเป็นผัวให้ละคับ 55555



วันนี้ผมกะจะไปหามันที่หอสักหน่อย เพื่อถามว่าเมื่อวานได้เงินจากโคตรเดือนมารึเปล่า แต่ก็มาเจอช็อตเด็ดที่มันดันตอกกลับน้องปีหนึ่งที่มาว่ามันแบบนั้น ถ้าเป็นปกติมันก็แค่ยิ้มสวยๆ และเดินออกมาอย่างสง่างาม ลอยตัวเหนือทุกคำครหา แต่นี้กลับทนไม่ไหวต้องตอกหน้าน้องเขาแบบนั้น คงเป็นเพราะน้องเขาพูดเรื่องของมันกับโคตรเดือนแน่ๆ หรือไม่ก็เพราะมันคิดว่ามันกลายเป็นเดือนปีกทองเหมือนอย่างที่น้องมันพูด นอนกับโคตรเดือนเพื่อเงิน โดนพูดแทงใจดำเลยของขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ผมก็ไม่คิดว่าไอ้เด็กหน้าใสนั้นจะกล้าไปตั้งกระทู้แบบนั้น ผมโกรธจนอยากจะไปจับไอ้เด็กนั้นมากระทืบจริงๆ แต่คนที่โกรธมากกว่าผมก็โคตรเดือนที่รีบโทรมาหาทันที และฟังจากน้ำเสียง น้องมันคงต้องขับรถกลับมาหาเพื่อนผมแน่ๆ


ก๊อกๆๆๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูดัง อย่างร้อนใจ พอพายมันเปิดก็เป็นดังคาดคับ โคตรเดือนยืนหน้านิ้วคิ้วขมวด

“ภีม มาทำไม” พายมันถามตื่นๆ

“มันเป็นใคร” โคตรเดือนพูดด้วยน้ำเสียงที่ข่มความโกรธไว้อย่างเห็นได้ชัด

“เออ กูให้มึงคุยกับน้องเขาละกัน” ผมบอกก่อนจะปลีกตัวออกมา

ผมลงมารอพายมันคุยกับน้องเขาข้างล่างหอ นั่งเล่นเกมส์โทรศัพท์ฆ่าเวลา แต่สายตาที่แสนจะดีของผมก็เห็นไอ้เด็กหน้าใสนั้นยืนอยู่ตรงต้นไม้เหมือนรออะไรอยู่

“รอคนที่ไม่มีวันจะหันมามองน้องงั้นหรอ” ผมถาม น้องมันดูตกใจไม่น้อย

“พี่พูดอะไร” เสียงแข็งเชียว ผมเข้าไปกระชากคอเสื้อเด็กนั้นทันที

“อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงทำอะไร ถ้ามึงไม่หยุด กูจะทำให้มึงเสียหายมากกว่าเพื่อนกู” เด็กนี้มองผมด้วยความตกใจ

“กูไม่ได้ทำอะไร ปล่อยกู” น้องมันเสียงสั่นอย่างเห็นได้ชัด แต่พยายามทำตัวเหมือนไม่กลัวผม

“หึหึ ปากแข็ง น่าหาไรมาอุดปากเหมือนกันนะ” ผมนึกครึมอะไรไม่รู้ที่พอเห็นเด็กนี้กลัวก็เกิดสนุกขึ้นมา

“มึงจะทำไร” ผมยืนหน้าไปใกล้น้องเขา

“ก็หาไรมาอุดปากไง” ผมแกล้งยืนหน้าเข้าไปใกล้อีก

“ปล่อยกู หน้าอย่างมึงไม่มีสิทธิมาใกล้กูด้วยซ้ำ”

“ปากดีจริงๆ คนอย่างกูไม่เอาปากไปโดนของน่ารังเกียจแบบมึงหรอก” ผมพูดเสร็จก็ควักหญ้าที่ถอนจากพื้นมาก่อนจะเดินมาหาไอ้เด็กนี้ แล้วยัดใส่ปากไปเต็ม

“กินหญ้าก็ดีนะ เหมาะดี 55555555” ผมหัวเราะอย่างสะใจ

แช๊ะ แช๊ะ ผมถ่ายรูปน้องมันด้วยก่อนจะเดินออกมา มันสำลักอย่างหงุดหงิดก่อนวิ่งหนีไป นึกว่าจะแน่ไอ้เด็กอ่อนเอ้ย

“อ้าวภีม จะกลับแล้วหรอ” ผมถามตอนเห็นภีมเดินออกจากหอ ด้วยอารมณ์ไม่ดีนัก

“เปล่าคับ เมื่อกี้ผมรีบเลยจอดรถไว้หน้าหอ จะไปเอารถไปจอดที่ๆจอดรถของหอ แล้วค่อยขึ้นไปหาพี่พายอีกทีคับ”

“เคลียนานหน่อยนะน้อง เพื่อนพี่มันดื่อ”

“คงต้องทำให้หายดื่ออีกสักคืนคับ”

“ฮะ??? น้องหมายความว่าไง จะค้างที่นี้หรอ” ผมถามด้วยความตกใจ

“ใช่คับ กำหลาบความไม่รู้ร้อนรู้หนาวของพี่พายสักหน่อยคับ” น้องมันทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนจะขึ้นรถไป ดูท่าเพื่อนผมคงหนีไม่พ้นไอ้เด็กนี้แน่นอนคับ

ผมคงกลับไปห้องไอ้พายไม่ได้แล้ว เฮ้อ กลับห้องตัวเองก็ได้วะ




TBC...  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 26-02-2017 15:49:46
มาให้กำลังใจก่อนจ้า

เดี๋ยวเย็นๆมาอ่าน

ตอนนี้ทำงานอยู่

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: Nighttime ที่ 26-02-2017 17:10:50
สนุกมากจ๊าาา น่าสงสารพายจัง แต้ยังดีที่ภีมเข้าใจ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 26-02-2017 18:04:20
ภีมทำดีมาก. กำราบความไม่รู้สึกรู้สาของพายหน่อยเหอะ. สรุปไอ้เด็กคนนั้นชอบภีมเหรอ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 26-02-2017 18:53:12
เอาหญ้ายัดปากโถ่วววว 5555
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-02-2017 19:25:59
 :katai5:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 26-02-2017 20:02:44
ถึงเวลาที่พายจะกลับมามีความรู้สึกกับฉายาได้แล้วสินะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 26-02-2017 20:25:59
สนุกมากเลย

ตอนแรกคนอ่านคิดว่าพายเสร็จพี่พลไปแล้วซะอีก

ดีใจที่ยังไม่เสร็จพี่พล

และดีใจกับภีมด้วยคุณคือคนแรกของพาย

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-02-2017 20:55:10
การยอมให้คนคิดว่าขายตัวไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาพลนะ. เพราะชื่อเสียงฉายโฉ่ขนาดนี้. พลก็ยังตามตื๊อ แก้ข่าวเรื่องเดือนปีกทองเถอะ.
คิดเหมือน
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 27-02-2017 17:19:31
ตอนที่  6 แฟน!!!


ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูห้องผมดังขึ้น ผมเปิดประตูก็ตกใจไม่น้อย เพราะภีมยืนทำหน้านิ้วคิ้วขมวดอยู่หน้าห้องผม

“ภีม มาทำไม” ผมถามภีมด้วยความตกใจ

“มันเป็นใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังก็รู้ว่าโกรธแน่ๆ

“เออ กูให้มึงคุยกับน้องเขาละกัน” ไอ้กิตรีบชิงพูดก่อนจะเดินออกไป ทิ้งผมไว้กับระเบิดเวลาอย่างภีม น้องมันดูน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย

“ผมถามว่ามันเป็นใคร” เขายังทำเสียงเหมือนข่มความโกรธไว้พร้อมระเบิดตลอดเวลา

“พี่ไม่แน่ใจว่าใช่น้องเขาไหม ไม่มีหลักฐานยืนยัน” ผมตอบเสียงอ่อน นี้ผมกลัวไอ้เด็กนี้ทำไมกัน

“ผมจะไม่ยอมให้พี่เป็นแบบนี้อีกแล้ว คำว่าเดือนปีกทองจะต้องถูกลบออกจากทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพี่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พี่ไม่แคร์กับแค่ชื่อเรียกหรอก ไม่แคร์ว่าใครจะว่ายังไงด้วย” ผมบอกเขาตามความจริงที่ผมรู้สึก

“แต่ผมแคร์ และถ้าผมแคร์นั้นแปลว่าพี่สำคัญ อย่าปล่อยให้เรื่องบ้าๆแบบนี้ผ่านไปอีก” เขาทำเสียงดุใส่ผม ผมไม่รู้จะเถียงเขายังไง หน้าดุ น้ำเสียงก็ดุ ระหว่างที่คิดว่าจะบอกน้องมันยังไงว่าผมไม่ได้คิดมากอะไร ไม่ต้องมายุ่งก็ได้อะไรแบบนั้นก็เผลอกัดปากตัวเองด้วยความเคยชิน

“อืมมมม...” ภีมดึงผมไปจูบอย่างเร่าร้อนโดยไม่ทันตั้งตัว เขาใช้ลิ้นเข้ามาในปากผมอย่างชำนาญ ผมยืนจิตหลุดอยู่ตรงนั้นเกือบห้านาที เขาถึงผละออกจากปากผม

“ผมบอกแล้วว่าอย่ากัดปาก แต่นี้ถือเป็นการลงโทษเด็กดื่ออย่าพี่ละกัน” ผมอยากจะว่าไอ้เด็กบ้านี้ แต่ก็คิดคำไม่ออก

“อย่ากัดปากต่อหน้าผมอีก ถ้าพี่กัดปากตัวเองตอนนี้ ผมจะไม่สนแล้วว่าเมื่อคืนผมทำพี่เหนื่อยแค่ไหน เพราะผมจะทำให้พี่ลุกไม่ขึ้นอีกเลยทั้งวัน” เขามองคาดโทษผม

“เดี๋ยวผมเอารถไปจอดที่จอดรถของหอก่อน แล้วจะกลับมาหาพี่อีกที นอนพักรอผมก่อนนะคับ” ภีมพูดเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องไป ผมที่ยืนงงถึงนึกขึ้นได้ว่าไอ้เด็กนั้นมันจะมาค้างกับผมอีกหรอ!!!
ระหว่างที่คิดบ้าคิดบอไปเรื่องผมก็ง่วงซะเต็มประดาแล้ว เลยขอนอนพักสักหน่อย วันนี้มีแต่เรื่องวุ่นวายจริงๆ ในขณะที่ผมกำลังเคลิ้มหลับ


ก๊อกๆๆ ไม่ต้องบอกก็รู้คับว่าใครมา ผมเปิดประตูให้ภีม แต่คนที่อยู่หน้าประตูไม่ใช่ภีม

“พี่พล!!! ขึ้นมาได้ยังไง” ผมตกใจที่เห็นเขายืนอยู่หน้าประตู นี้ผมประมาทไปจริงๆ

“พี่คิดถึง คิดถึงจนทนไม่ไหวต้องมาหาพายที่นี้” เขาพูดขณะก้าวเข้ามาในห้อง แต่ผมผลักประตูปิดกันเขาไว้ แต่ดูท่าจะสู้แรงเขาไม่ได้เลย

“ออกไป” ผมบอกด้วยความกล้าทั้งหมดที่มี

“โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ คิดว่าพี่จะปล่อยพายไปหรอ ทีไอ้หนุ่มนั้นยังให้มันเอาได้เลย” เขาบอกก่อนกระชากแขนผม แล้วเหวี่ยงผมลงเตียง เขาโถมเข้าใส่ผมในทันที ผมยันเขาไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่ผมมี แต่ก็ไม่มีแรงมากพอที่จะให้เขาหลุดไปจากตัวผม

“ปล่อยนะเว้ยยยย”

“พูดจาให้มันเพราะๆสิพาย พี่กำลังจะให้ความสุขพายนะ แล้วพายจะรู้ว่าพี่ดีกว่าผู้ชายทุกคนที่พายเคยผ่านมา”

“ปล่อยกู” หน้าเขาซุกไซร้อยู่ที่คอผม ผมทั้งรังเกียจ และขยักแขยงเขา เขาลูบมาในเสื้อผ้าผม และพยายามถิดเสื้อผม แต่ผมก็ดันไว้สุดตัว ผมจะสู้ให้ถึงที่สุด ไม่เอาแบบวันนั้นอีกแล้ว แล้วไหนภีมบอกจะกลับมา ไม่เห็นกลับมาเลย ผมจะได้แต่ภาวนาในใจให้เขากลับมาสักที
 
“อย่าเสียงดังสิพาย อยากให้คนอื่นได้ยินหรอ”

“พายไม่มีอะไรต้องอาย ปล่อย ช่วยดะ.....” เขาเอามืออุดปากผมก่อนจะฉีกกระชากเสื้อผมออกอย่างาแรง ก่อนจะเอามาอุดปากผมไว้ ผมทั้งทึงหัวเขา ผลัก ต่อย แตะ แต่ก็ไม่มีแรงมากพอจะสู้

“ขัดขืนอะไรนักหนาวะ” เขาจับมือสองข้งของผมตรึงไว้ทันที ก่อนจะเลียที่แก้มผม ผมรู้สึกแย่มาก  และเขาก็มาจูบปากผม ผมขัดขืนหันหน้าไปทางอื่นสุดชีวิต เขาจึงได้แค่จูบ และเลียไปทั่วไปหน้าผม ก่อนจะไปซุกไซร้ที่ซอกคอ และกัดเข้าที่หัวนมผม ผมเจ็บจนน้ำตาไหล ผมเริ่มรู้สึกสิ้นหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง บางที่ภีมคงไม่กลับมา และไอ้กิตคงมาช่วยผมไม่ได้อีกแล้ว ต้องโทษที่ผมประมาทปล่อยให้เขาเข้ามาได้ ทั้งที่หนีมาได้ตลอดแท้ๆ ต้องมาเสร็จไอ้พี่ชั่วเอาวันนี้จริงๆหรอเนี่ย

ตอนนี้เขากระชากางเกงผมหลุดไปอย่างรวดเร็ว ผมพยายามร้องเปล่งเสียง แต่ก็ออกมาได้เพียงน้อยนิด ระหว่างที่เขาเอามือไปลูบก้นผม ผมก็ได้จังหวะต่อยเขาไปที แต่เขากลับจับไว้ได้ ก่อนจะต่อยเข้าที่ท้องน้อยผม เคยเห็นแต่ผู้หญิงโดนกันนี้พอโดนเข้ากับตัวเองก็จุกจนตัวงอ

“สิ้นฤทธิ์แล้วสินะพาย” ผมได้แต่กัดฟัน ไม่ยอม แต่ก็โดนต่อยเข้าที่ท้องอีกครั้ง คราวนี้ แรงที่มี แทบจะหายไปหมดในทันที เขาดึงผ้าอุดปากออก ก่อนจะมาดูดปากผม

“อย่า อย่านะ” ขณะที่ปากเขากำลังจะจูบผม เขาก็ถูกกระชากออกไปซะก่อน

“มึงทำเหี้ยอะไรเมียกู ไอ้ชั่ว” ภีมต่อยพี่พลไปหลายที เขาดูมีทักษะการต่อสู้พอสมควร เพราะพี่พลแทบทำอะไรเขาไม่ได้เลย

“มึงตายซะเถอะไอ้ชั่ว กล้าดียังไงมาแตะต้องเมียกู” ภีมยังคงกระทืบพี่พลด้วยความโกรธ

“เห้ย เกิดอะไรขึ้น” ไอ้กิตมาที่ประตูด้วยท่าทีตกใจ ดีที่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนอยู่ที่หอ

“ไอ้เชี่ยนี้มันจะข่มขื่นพี่พาย” พอภีมพูดจบ กิตก็เข้ามากระชากพี่พลที่ฟุบอยู่ที่พื้นไปแล้ว

“ไอ้พี่พลนี่หว่า เชี่ยเอ้ย มึงอีกแล้วหรอเนี่ย” ไอ้กิตต่อยพี่พลไปอีกทีทั้งๆที่ท่าทางล่อแล้เต็มที

“ภีมไปดูแลพายไป ไอ้เชี่ยนี้พี่เอาไปทิ้งข้างนอกเอง” ไอ้กิตบอกภีมก่อนจะลากพี่พลออกไป

“มึงอย่ามายุ่งกับเมียกูอีกนะ ไม่งั้นกูฆ่ามึงแน่” ภีมกระชากคอพี่พลให้มองที่เขาก่อนที่ไอ้กิตจะหิ้วพี่พลออกไป

“เจ็บมากไหมคับ” เขาเข้ามากอดผมไว้

“มันกัดพี่ด้วยหรอ แม่งไอ้ชั่วเอ้ย ผมน่าจะกระทืบให้กระดูกหักไปเลย” เขาหอมหน้าผากผม พร้อมลูบปลอบตัวผมเบาๆเพราะกลัวผมเจ็บ

“แค่นั้นก็หนักมากแล้ว ขอบใจนะภีม” ผมบอกเขาก่อนที่น้ำตาที่จะไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ร้องออกมาเถอะคับ ผมอยู่ตรงนี้ จากนี้ไปผมจะไม่ยอมให้ใครทำกับพี่แบบนี้อีก ถ้ามันไม่หยุด ต่อให้เป็นพี่ชายแท้ๆของพี่ ผมก็จะไม่เอามันไว้” น้ำเสียงเขาช่างจริงจัง และน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ผมได้แต่ร้องไห้ในอ้อมกอดของเขา ความกลัวเมื่อครู่ค่อยๆจางหายไป เขาทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย
 
“ผมนอนด้วยนะ” เขาบอกระหว่างที่เขาให้ผมนอนลงเพื่อพักผ่อน จมูกเราชนกัน ปากห่างกันแค่ไม่กี่เซ็น ทำให้หน้าผมร้อนไปหมด ทั้งๆที่ยังจุกอยู่ แต่ความเขินอายนี้มันไม่รู้เวล่ำเวลาจริงๆ

“หึหึ คิดอะไรทะลึ่งหรอคับ” เขายิ้มล้อผม

“เปล่า” ผมบอกเสียงเบา

“อยากให้จูบ?” เขาถามพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“อืมมมม” โดนจูบอีกแล้ว ผมเต็มใจที่เขาจูบผม ไม่เหมือนกับที่พี่พลทำ ผมไม่รังเกียจเขา กลับรู้สึกดีมากด้วยซ้ำ มันทำให้ผมเห็นความแตกต่างของภีม กับพี่พลอย่างชัดเจน ความแตกต่างของความรู้สึกที่ผมมีให้กับภีม ความรู้สึกที่มากกว่าแค่...ชอบ เขาถอนจูบก่อนจะยิ้มให้ผมด้วยสายตาห่วงใย

“เป็นไงบ้างคับ ยังเจ็บอยู่ไหม” เขาลูบใบหน้าผม ก่อนจูบที่หน้าผากผมอย่างอ่อนโยน

“ไม่ค่อยแล้ว ขอบใจมากนะภีม”

“ผมจะไม่ยอมให้พี่ต้องโดนใครทำร้ายอีกแล้ว ไม่ว่าจะทางร่างกาย หรือคำพูดก็ตาม” เขามองตาผม แล้วกอดผมไว้แน่นขึ้น

“ไม่ว่าใครจะมองพี่ยังไง ผมไม่เคยสน เพราะผมรู้ว่าพี่พายของผมตัวตนจริงๆเป็นยังไงนั้นก็พอแล้ว แต่ผมไม่อยากให้ใครมาว่าหรือทำร้ายพี่แบบวันนี้ได้อีก ผมเห็น ผมเสียใจนะคับที่ผมไม่สามารถปกป้องพี่ได้เลยนอกจากเป็นเชื้อไฟที่ทำให้พี่เสียหายมากขึ้น” เขาพูดเสียงที่จริงใจที่แฝงไปด้วยความเศร้าในน้ำเสียง ผมทำได้แค่มองหน้าเขา ลูบใบหน้าที่แววตานั้นดูเศร้าลง มันทำให้ผมหวั่นไหว และรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ใจไปหมด

“เป็นแฟนผม” คำพูดของเขาอ่อนโยน แต่แฝงแกมบังคับอย่างรู้สึกได้

“แต่พี่เป็นเดือนปีกทอง ภีมรับได้หรอ” ผมถามอย่างจริงจัง

“ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้ขายตัว และไม่เคยขายให้ใคร” เขาพูดด้วยเสียงที่จริงจังไม่ต่างกัน ผมอึ้งไม่น้อยที่เขารู้ความจริงเกี่ยวกับตัวผมแบบนี้

“ภีมรู้ได้ยังไง”

“ผมให้คนไปสืบมา ที่สำคัญครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน ผมก็รู้ว่าพี่คงไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อน”
 
“ใครบอกว่าไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้” ผมบอกลอยๆออกมาด้วยหวนนึกถึงเรื่องครั้งนั้นที่ผมเกือบถูกพี่พล...

“ผมไม่สนอดีตของพี่ ไม่สนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื้อกี้ด้วย ผมสนแต่ตอนนี้ พี่เป็นของผมเท่านั้น ผมก็พอใจแล้ว” เขากระชับวงแขนเพื่อกอดผมแน่นขึ้น

“เลิกเป็นเดือนปีกทอง...” จมูกเขาฝังที่หน้าผากผม “...เพื่อผม สโนว์บอลของพี่นะคับ” ผมได้ยินเขาพูด แต่ได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่นัก เพราะผมเพลียเกินกว่าจะตอบอะไรได้นอกจาก…

“อืม” แล้วผมก็จมสู่ห้วงนิทรา นี้เป็นครั้งแรกที่ผมหลับได้อย่างวางใจ ผมฝันดี ผมรู้สึกอบอุ่น



ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนกลางดึก ผมยังนอนอยูในอ้อมกอดของภีม เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ ทำให้รู้ว่าเขาหลับสนิท ผมว่าเขาก็คงเหนื่อยเหมือนกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ บางทีเขาดูเหนื่อยกว่าผมด้วยซ้ำ เพราะเขาแทบจะแย่งความกังวลใจของผมไปหมด ทำไมช่วงเวลาที่เรารู้จักกันไม่กี่วัน ทำให้ผมรู้สึกดีกับเขามากขนาดนี้ เหมือนเรารู้จักกันมาเป็นปี ถ้าผมจะมอบใจให้เขาไป ผมจะเจ็บอีกรึเปล่านะ ผมคิดแบบนั้นก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหน้าเขาเบาๆ สิ่งที่เขาพูดก่อนที่ผมจะหลับ ประโยคหลังคืออะไรกันนะ ผมจำไม่ได้ แต่รู้ว่าประโยคนั้นของเขาทำให้ผมยิ้มได้ ผมเลยตอบรับเขาไป

ผมนอนมองหน้าภีมอยู่เป็นชั่วโมง ผมไม่รู้สึกง่วงอีกแล้ว ผมแค่อยากมองหน้าเขาให้มากที่สุด เพราะมันทำให้ผมมีความสุข อบอุ่นใจ และอยากแก้ไขสิ่งนั้น สิ่งที่ผมละเลยมาตลอด...ตัวผมเอง
เขาเริ่มงัวเงียลืมตาจากการหลับใหล เขามองผมที่มองเขาอยู่แล้วยิ้ม เป็นยิ้มที่ผมอดยิ้มตามไม่ได้เลยจริงๆ มันดูจริงใจ และน่าหลงใหล

“เจ็บตรงไหนรึเปล่าคับ” เขาถามด้วยความเป็นห่วง

“เปล่า”

“ไปหาหมอดีไหม ให้หมอตรวจว่าไปเป็นไรจริงๆ”

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก พี่แข็งแรงจะตาย โดนแค่นี้ จิ๊บๆ” ผมบอกพลางยิ้มให้เขา ให้เขารู้ว่าผมสบายดี

“ผมอยากให้พี่ย้ายไปอยู่กับผม” เขาพูดขณะกอดผมไว้

“หืม ไม่เอา พี่อยู่ที่นี้ได้” ผมปฏิเสธในทันที

“เขาขึ้นมาได้ แปลว่าที่นี้ไม่ปลอดภัย ไปอยู่กับผม ผมจะได้สบายใจ”

“พี่...”

“นะคับ ผมขอร้อง” เขาทำเสียงอ้อนผม ผมว่าภีมก็ดื่อพอๆกับผม

“ภีมอย่าดื่อสิคับ” ผมทำเสียงอ้อนกลับ ไม่ได้ทำนานแล้ว พอทำทีก็อายเหมือนกันนะเนี่ย ภีมอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกรุ่มกริ่มออกมา

“ถ้าพี่เล่นไม้นี้ ผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจาก ย้ายมาอยู่ที่นี้กับพี่” คำตอบเขาทำผมอึ้งมากกว่าเขาซะอีก แล้วแบบนี้ใครกันแน่ที่ดื่อ

“ไม่มีทางปฏิเสธได้เลยใช่ไหม” ผมถามอย่างไม่ได้จริงจังนัก

“ใช่คับ ผมอยู่ด้วย พี่ปลอดภัยแน่นอน” เขายิ้มให้ผมด้วยความภูมิใจ

“แน่ใจหรอ”

“ก็ปลอดภัยจากคนอื่น แน่นอน ส่วนกับผม พี่คงต้องแลกเปลี่ยนการคุ้มครองด้วยการขอลวนลามเล็กๆน้อยๆ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์อย่างสบายใจ

“เด็กบ้ากาม”

“กับพี่เท่านั้นคับ”

“เฮ้ออออ” ผมได้แต่ถอนหายใจปลงๆ

“งั้นพรุ้งนี้ผมจะย้ายมาอยู่กับพี่ที่นี้ ในฐานะแฟนทดลอง”

“แฟนทดลอง?” ผมถามด้วยความงง

“ก็พี่คิดว่าเราพึ่งพบกันได้ไม่นาน ถึงผมจะได้พี่ไปหลายครั้งแล้ว จะเรียกว่าแฟนก็เร็วไป แทนตัวเองเป็นผัวพี่ก็คงไม่ยอม งั้นผมเป็นแฟนทดลองงานก่อน ถ้าพี่ยอมให้ผ่านงานเมื่อไหร่ ผมก็จะได้เป็นแฟนจริงๆของพี่สักที” เขายิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์ และดูจะสนุกกับความคิดของตัวเองไม่น้อย ผมไม่คิดว่าโคตรเดือนที่สาวแท้สาวเทียมในมหาวิทยาลัยคลั่งไคล้จะนิสัยเด็กแบบนี้.......แต่ก็น่ารักดีนะคับ




TBC...  :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 27-02-2017 17:26:28
พี่พลน่าจะส่งไปให้ตำรวจับ น่่ารำคานมาก
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 27-02-2017 19:56:48
ครับแบบนี้เชียร์ภีมขาดใจ

คนอะไรทั้วดีทั้งหล่อขนาดนี้

อยากได้คนอย่างภีมบ้าง

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-02-2017 20:07:29
สงสัยจะไม่ได้ยินตอนภีมบอกว่าตัวเองคือสโนว์บอล
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 28-02-2017 05:58:10
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-02-2017 07:09:27
ภึม พาย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ภึม ปกป้องพายได้
ว่าแต่ภีม จะช่วยยุติสมญานามพาย
ที่ถูกเรียกว่าเดือนปีกทองได้ยังไง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 28-02-2017 11:23:43
เมื่อไหร่พายจะรู้ว่าภีมคือสโนว์บอลค้า 

ลืมบอกค่ะ เห็นไรท์เปลี่ยนอิมเมจภีมแล้ว คนนี้แซ่บดีค่ะ ชอบ ๆๆๆ
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 01-03-2017 12:22:37
ตอนที่ 7 ชีวิตคู่ (หรอ!!!)

วันรุ่งขึ้นภีมก็ไปเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่กับผมจริงๆ แต่ตอนที่เขาไปเก็บเสื้อผ้าเขาก็ยังไปเรียกไอ้กิตให้มาช่วยอยู่เฝ้าผมตอนที่เขาไม่อยู่

“ผัวมึงนี้ดีนะ กูชอบดูรักมึงดี” ไอ้กิตมันจงใจพูดกวนผมคับ

“ไอ้เชี่ยกิต ผัวอะไรพูดดีๆดิ”

“โห มึงนี้ จริงๆเลย ยอมน้องมันขนาดนี้ไม่เรียกน้องมันว่าผัว จะเรียกว่าอะไร คนที่กำลังดูใจกันอยู่หรอ”

“ยังไม่เรียกอะไรทั้งนั้น หุบปากมึงเลย แล้วเมื่อวานมึงไปทิ้งพี่กูที่ไหน” ผมถามเพราะอยากรู้คับไม่ได้ห่วงอะไรมากมาย

“พ่อแม่มึงไม่รู้หรอก กูพาเขาไปส่ง รพ. เดี๋ยวดีขึ้นคงไปพักที่รีสอร์ทมากกว่ากลับบ้าน พี่มึงก็กลัวพ่อแม่มึงรู้จะตายว่าเขาคิดจะเอามึงทำเมียอะ”

“ดีแล้ว กูก็กลัวพ่อแม่รู้อยู่ ไม่อยากให้พวกท่านเสียใจว่ะ พวกท่านหวังพี่กูสืบทอดกิจการมากกว่ากูซะอีก” ผมตอบอย่างปลงๆ

“แล้วเรื่องเด็กที่ตั้งกระทู้เมื่อวาน กูว่าต้องรีบจัดการมัน มันต้องชอบไอ้โคตรเดือนชัวร์”

“มึงอยากทำไรละ อยู่ดีๆก็พูดถึงเด็กนั้นขึ้นมา”

“กูถามความเห็นมึง มึงเป็นผู้เสียหาย”

“กูยังไม่รู้ รู้แต่ว่ากูควรยุติการเป็นเดือนปีกทองซะที”

“เป็นเมียที่ดีจริงๆ พอผัวบอกให้เลิกก็เลิก ว่านอนสอนง่ายนะมึงเนี่ย ที่กับเพื่อนดื่อชิบหาย” มันมองแนวประชดชัน

“กูเปล่าทำตามที่เขาบอก กูคิดเอง” ผมก็แถนั้นแหละคับ

“ไอ้....ไม่อยากจะด่ามึงเลย เด็กนั้นมันดีดน้ำมันพรายใส่มึงเปล่าเนี่ย”

“บ้าหรอ หุบปากมึงเลยกลัวตีนชิบ ไปกินข้าวไป ที่มานั่งประชดประชันกูนี้ โมโหหิวใช่ไหม”

“รู้ใจกูจริง มึงทำไรไว้อะ” มันถามเพราะถ้าผมไม่ออกไปไหนผมก็มักจะทำอาหารกินเอง ส่วนไอ้กิตมันทำไม่เป็นหรอกคับนอกจากนั่งกวนตีนเพื่อนไปวันๆ

“ไข่เจียว”

“ไอ้สาสพาย ของเบสิคโคตรๆ กูไปซื้อร้านป้าในมอก็ได้เปล่าวะ”

“ล้อเล่น กูมีแกงส้มชะอมไข่”

“โฮฮฮฮ...อาหารใช้เวลาทำเยอะ อย่าบอกนะว่าทำให้ไอ้โคตรเดือนกินอะ”

“ไม่ใช่”

“มึงทำเครื่องแกงส้มเอง”

“อืม” ผมตอบรับระหว่างอุ่นแกงส้มที่เตาให้มัน

“เสียเวลาเด็ดชะอม มาทอดไข่เอง?”

“อืม” มันจะถามอะไรนักหนาเนี่ย ส่วนใหญ่อยากกินอะไรผมก็ทำเองอยู่แล้ว

“ปกติมึงไม่ทำอะไรที่ต้องใช้เวลานานตอนอยู่หอนี่”

“ก็กูอยากกิน”

“อย่าโชว์ฝีมือมัดใจเด็กมากกว่ามั้ง”

“ไอ้กิต แซวกูอีกมึงไม่ต้องกิน”

“เฮ้ยยยย ไม่แซวแล้วคับ คุณพิราศ ให้กระผมกินเถอะนะคับ” มันทำท่าจะเข้ามาอ้อน แต่ผมเอาตีนยันมันไว้ซะก่อน

ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูขัดการยันหน้าไอ้กิตด้วยเท้าของผม

“มึงไปเปิดประตูดิ” ผมบอกไอ้กิต ก่อนมันจะรีบเดินไปเปิดประตู คนที่มาก็ไม่ใช่ใครคับ โคตรเดือนยืนหล่ออยู่หน้าประตูนี้เอง

“กลิ่นหอมออกมาเลยคับ ทำไรกันคับเนี่ย” ภีมถามสีหน้ายิ้มแย้ม

“เมียน้องมันอุ่นอาหารรอไง” ปากกวนบาทาอีกละคับไอ้กิต

“ทำอะไรคับ หอมจัง” ภีมเดินมาอยู่ข้างหลังผม พร้อมจับเอวผมเบาๆ

“อุ่นแกงส้มชะอมไข่ กิตมันบอกหิว” ผมบอกเขาพลางทำหน้าปกติที่สุด เพราะการที่เขาอยู่ใกล้ขนาดนี้ ผมก็ยังไม่ชินเท่าไหร่

“ผมก็หิวเหมือนกัน” เสียงเขาอ้อนไม่น้อย

“ไปนั่งกับรอกับกิต พี่อุ่นเสร็จแล้ว” ผมบอกก่อนที่ภีมจะเดินไปนั่งโต๊ะอาหารที่ไอ้กิตมันนั่งทำหน้ากวนตีนรอเป็นที่เรียบร้อย

ผมเอาแกงส้มใส่ชาม และตักข้าวให้ครบทุกคนก่อนจะนั่งลงโดยมีภีมคอยมองการกระทำของผมตลอดเวลา ทำให้ไอ้กิตยิ้มเล็กยิ้มน้อยเหมือนพร้อมจะแซวอยู่แล้ว

“มึงคิดอะไร ก็หยุดเลย ไม่งั้นกูเก็บจานข้าวมึงแน่” ผมบอกมันเสียงดุ

“คับๆ คุณพิราศ ผมจะนั้งกินจนอร่อยลืมแซวแน่นอน” มันบอกพลางเริ่มทาน ดีที่ผมทำเยอะ เพราะเพื่อไอ้กิตไว้แล้ว ไม่งั้นภีม และผมคงไม่ได้กินแน่นๆ

“อร่อยจังคับ พี่ไปซื้อร้านไหนมาคับ” ภีมถามผมหลังจากที่ทานไปหนึ่งคำ

“เพื่อนพี่มันทำเอง อาหารโบราณมันทำเป็นหมด” ไอ้กิตบอกกับภีม เขาดูอึ้งๆไปไม่น้อย พร้อมมองผมอย่างตื่นตะลึง

“อะไรจะดูตกใจขนาดนั้น” ผมถามเขา

“ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่ทำอาหารเก่ง เป็นเรื่องนึงที่ผมคงต้องจดไว้”  ผมกับไอ้กิตมองหน้ากันงงว่าเขาจะต้องจดอะไร แต่ก็ไม่ได้ถามคับ เพราะต่างคนต่างหิว

เอิกกกก...เสียงเรอไอ้กิตดังลั่นห้อง ผมนี้แทบอยากจะตบปากมัน

“มึงนี้ กูบอกแล้วว่า...”

“อย่าทำแบบนี้มันดูทุเรศ เดี๋ยวกูจะเอามึงไปอบรบกับย่ากูที่ต่างจังหวัด...มึงจะพูดแบบนี้ใช่ไหมละ” มันรู้ทัน เพราะผมพูดกับมันบ่อย

“คุณย่าพี่เป็นชาววังเก่าสินะคับ” ภีมถาม

“ไม่ใช่หรอก คุณทวดตะหาก คุณทวดเป็นคนเข้มงวด ตอนออกจากวังมาก็ติดระเบียบมาด้วย จึงสอนลูกหลานเรื่องมารยาทอย่างเคร่งครัด การทำอาหารนี้ พี่ก็เรียนมาจากคุณย่าที่สืบทอดจากคุณทวดมาอีกที” ผมเล่าให้เขาฟังระหว่างที่เก็บจานไปล้าง เขาเดินตามผม พร้อมมองด้วยแววตาที่ดูเปล่งประกายแปลก

“พี่เลยเป็นแม่บ้านแม่เรือน”

“ก็ประมาณนั้น ย่าพี่บอกเป็นผู้ชายก็ทำอาหารได้ พ่อพี่ไม่มีลูกสาว ย่าพี่เลยสอนพี่แทน บอกเอาไว้ทำให้สาวกินก็ได้”

“เปลี่ยนเป็นเอาไว้ทำให้ผมกินแทนได้ไหมคับ”

“จะอ้วกกกก” ไอ้กิตตะโกนขึ้นมาจากหน้าจอคอมที่มันกำลังเล่นเกมส์อยู่ ผมได้แต่ส่ายหัวในความเสือกของมัน ภีมก็ยิ้มเล็กๆ

“เดี๋ยวผมล้างให้นะคับ” ภีมเสนอตัวล้างจานให้ผม

“มองผมแบบนี้คิดว่าผมล้างจานไม่เป็นหรอคับ ถึงผมจะมีแม่บ้าน แต่ผมก็ทำเป็นแทบทุกอย่างเป็นเหมือนกันนะคับ เรื่องงานบ้านอะ” เขาแก้ต่าง อาจจะเพราะผมมองเขาอย่างแปลกใจ แต่ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอมองเขาแบบนั้น

“คับๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ฝากด้วยแล้วกัน”ผมทำท่าจะเดินออกจากครัว ภีมก็จับมือผมไว้ซะก่อน

“อยู่เป็นกำลังใจให้ผมก่อนสิคับ วันนี้ไม่เจอพี่ตั้งครึ่งวัน กว่าจะจัดการเก็บของ และธุระบริษัทพ่อเสร็จ ผมคิดถึงพี่มากๆๆๆๆๆ” ประโยคสุดท้ายเขาทำเสียงอ้อนก่อนจะดึงมึอผมไปถูข้างแก้มเขา

“ก็ได้ๆ ปล่อยได้แล้ว” ผมบอกก่อนจะไปเอากระดานวาดรูปมานั่งวาดใกล้ๆเขาในขณะที่เขาลงมือล้างจาน

“วาดรูปอะไรคับ” เขาถาม

“รูปภีมล้างจาน สีหน้าดูตั้งใจดี” ผมบอกเขาตามความจริง เพราะระหว่างที่ผมคิดว่าจะวาดรูปอะไรระหว่างรอเขาดี ก็เห็นสีหน้าที่ดูตั้งใจของเขาแล้วชวนให้ผมนึกอยากลองวาดรูปเขาเก็บไว้

“จริงหรอคับ ผมต้องมองหน้าพี่ตลอดปะ” เขาบอกพร้อมยืนหน้ามาใกล้ผม

“ไม่ต้องๆ ล้างจานตามปกติก็พอ”

“อ่อ โอคับ” แล้วเขาก็ไปล้างจานต่อ ซึ่งผมก็รีบวาดโครงล้าง และรายละเอียดสำคัญไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวเขาก็ล้างเสร็จแล้ว

“ดูดีกว่าตัวจริงอีก” ภีมยืนหน้ามาจากข้างหลังผม เขาล้างจานเสร็จแล้ว แล้วผมก็กำลังเก็บรายละเอียดที่จดจำได้อยู่

“ไม่หรอก โคตรเดือนหล่อแบบนี้ วาดออกมาก็ต้องดูดีดิ”

“หล่อแบบผม พี่ชอบเปล่าละ” ผมชะงักไปเล็กน้อยแต่ไม่ได้ตอบเขา

“หึหึ” เขาแค่หัวเราะแบบนั้น และวางคางลงบนไหนผม เรียกเลือดให้หน้าผมจนร้อนไปหมด

“กูกลับห้องละ ไม่อยากขัดจังหวะ” ไอ้กิตบอกก่อนจะเดินออกไปทันที มันรีบไปไหนของมัน

“นี้ก็เย็นแล้ว พี่ขออาบน้ำก่อนนะ” ผมก็รีบออกจากสถานการณ์ที่ทำให้ผมหน้าร้อนจนเหมือนจะเป็นไข้ เลยรีบไปหยิบผ้าเช็ดตัว และวิ่งเข้าห้องน้ำไป


พออกมาจากห้องน้ำ ผมก็พันผ้าที่เอว และมีผ้าผืนเล็กเช็ดผมไปด้วย ภีมที่นั่งเล่นไอแพดของตัวเองที่โซฟา ก็รีบลุกมากอดผม

“ฟอดดด...หอมจัง”

“อย่าคิดทะลึ่งเชียว ไปอาบน้ำไปคับ” ผมบอกเขาแบบนั้นก่อนจะผลักเขาเข้าไปในห้องน้ำ เขายิ้มให้ผมอย่างอ้อนๆก่อนจะยอมอาบน้ำโดยดี ส่วนผมก็แต่งตัว แล้วมานั่งเช็ดผมต่อ ก่อนจะไปหยิบไดรเปาผมมานั่งเป่าที่โซฟาตามความเคยชิน

“ชุดนอนพี่โคตรยั่วอะ” ภีมที่พึ่งออกจากห้องน้ำ เขาก็พันผ้าที่เอว อวดหุ่นล่ำๆสมส่วนของเขา และเขาก็มาแย่งไดรเป่าผมจากมือผมไป

“เดี๋ยวผมเป่าผมให้” เขาบอกก่อนจะเริ่มจับผมของผมไปเป่าไดร ผมก็นั่งให้เขาเป่าผมให้อย่างว่าง่าย พอเป่าเสร็จเขาก็กอดผมจากข้างหลังในทันที

“พี่นี้หอมไปหมดทั้งตัวเลย” เสียงกระเส่าของเขาทำให้ผมรู้ว่าเขาต้องการอะไร เพราะส่วนแข็งกลางลำตัวของเขาดันหลังผมอยู่

“ผมต้องการพี่ พี่พาย” สิ้นเสียงเขาสมองผมก็ขาวโพลนไปหมด พร้อมที่จะให้อะไรต่อมิอะไรที่เขาต้องการเกิดขึ้น อย่างเต็มใจ คืนนี้เขายังคงกระหายผมเหมือนที่เคยเป็น ถึงเหนื่อย แต่กลับทำให้ผมรู้สึกเติมเต็ม...



ผมตื่นก่อนภีม เขายังคงนอนหัวยุ่ง แต่ก็ยังหล่อ เห็นแล้วอิจฉาเหมือนกันนะเนี่ย ผมลุกจากเตียงก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วมาปลุกภีมที่นอนอย่างมีความสุข

“ภีมคับ ตื่นได้แล้ว” ผมเขย่าแขนเขาเบาๆ

“ค้าบบบ” เสียงยืดยาวของเขาทำให้รู้ว่าขี้เกียจตื่นแน่ๆ

“ลุกได้แล้ว อาบน้ำแต่งตัว เดี๋ยวทำไรให้กิน”

“หืม พี่จะทำอะไรหรอคับ” เขาถามอย่างกระตือรือร้น

“ข้าวไข่เจียวหมูสับ” ผมพูดจบก็ดึงเขาลุกจากเตียงได้สักที เขาอาบน้ำแต่งตัวออกมาออร่าของโคตรเดือนก็เปล่งประกายแต่เช้าเลย

“ไม่ว่าพี่ทำอะไรก็ดูน่ากินไปหมด” เขาปากหวานอะไรแบบนั้น ผมอดที่จะดีดปากเขาไม่ได้

“โอ๊ย พี่ดีดปากผมทำไม”

“ปากหวาน หมันไส้” ผมบอก

“หึหึ” เขายิ้ม “เวลาพี่หมันไส้ผมน่ากอดชะมัด” เขาบอกก่อนจะหอมผมเข้าเต็มรัก ผมไม่เคยปฏิเสธเขาได้เลยสิน่า

“กินข้าวได้แล้ว” ผมบอกเสียงดุเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มทานข้าวกัน พอทานข้าวเสร็จ ผมก็เตรียมแยกกับภีมเพื่อไปเรียน แต่เขาดันดึงแขนผมไว้ซะก่อน

“ผมไปส่ง”

“ไม่ต้องหรอก คณะเราอยู่คนละทางเลย” คณะผมพอเข้ามหาลัยต้องเลี้ยวซ้าย แต่คณะภีมต้องเลี้ยวขวา

“ผมอยากไปส่ง พี่ก็รู้ว่าผมดื่อแค่ไหน ถ้าไม่ขึ้นรถผมดีๆ ผมจะอุ้มไป” เขาพูดขู่ด้วยน้ำเสียงเอาจริง

“ก็ได้ๆ” ผมบอกก่อนจะเดินไปที่รถเขา ตอนแรกผมกะจะไปกับไอ้กิต แต่ไอ้กิตดันบอกว่ามีธุระต้องไปทำก่อน เลยบอกให้ผมไปคณะก่อนมันเลย

“วันนี้เลิกเรียนกี่โมงคับ” ภีมถามระหว่างที่เรานั่งอยู่ในรถ

“บ่ายสาม”

“พี่มีธุระต้องไปไหนต่อไหมคับ”

“ไม่มี พี่คงกลับหอ”

“งั้นผมไปรับมานั่งเล่นรอผมที่คณะ และกลับพร้อมกัน”

“เฮ้ย ทำไมต้องให้พี่ไปนั่งรอละ”

“ก็ผมเป็นห่วง ผมทำอะไรพี่ชายพี่ไม่ได้เลย เพราะพี่ไม่อยากให้พ่อแม่พี่รู้เรื่อง ผมเลยต้องกันไว้ก่อน พี่ชายพี่โคตรจะไว้ใจไม่ได้ และตอนนี้ไม่ใช่แค่พี่ชายพี่ ไอ้พวกที่มันเห็นกระทู้วันก่อนมันก็จะคิดว่าซื้อพี่ได้ ผมจะไม่ยอมให้ใครก็ตามตอแยของๆผม” เขาบอกอย่างจริงจัง พร้อมจับมือผมข้างหนึ่งไว้แน่น

“ตกลงตามที่ผมบอกนะคับ” ภีมกระชับมือเพื่อให้ผมรู้ว่าเขาไม่ยอมให้ผมปฏิเสธแน่ๆ

“เฮ้อ ก็ได้ พี่ขัดภีมไม่ได้นี่” ผมบอกตามตรง ถ้าขัดเขาผมก็กลัวว่าคนดื่ออย่างเขาจะทำอะไรแผลงๆ

“น่ารัก” เขาบอกพลางยิ้มกว้างอย่างมีความสุข


“อย่าพึ่งลงคับ” เขาบอกผมขณะที่รถมาถึงหน้าคณะ

“ทำไมคับ” ผมถาม เขาก็ลงจากรถเพื่อมาเปิดประตูให้ผม

“จะมาเปิดให้ทำไม พี่ไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องรอคนมาเปิดให้สักหน่อย” ผมบอกเขาอย่างไม่ได้จริงจังนัก

“ก็อยากให้คนรู้ว่าผมให้เกียติพี่ ไม่ใช่เหมือนข่าวลือ” เขาบอกและยิ้มให้ผม แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาคิดมาแล้วว่าจะแก้ปัญหาเรื่องข่าวลือที่ผมขายตัวให้เขายังไง

“เฮ้ยไอ้พาย มึงมากับโคตรเดือนเลยหรอวะ” ไอ้บอยเอ่ยทัก เพราะมันกำลังเดินเข้าคณะพอดี

“สวัสดีคับ ผมภีม แฟนพี่พายคับ” อยู่ดีๆภีมก็ไหว้ไอ้บอย พร้อมบอกสถานะตัวเองเสร็จสรรพ

“ยินดีที่รู้จักน้องโคตรเดือน พี่ชื่อบอยเพื่อไอ้พาย เอ๊ะ เฮ้ยยยยย เมื่อกี้น้องว่าอะไรนะ บอกว่าเป็นแฟนไอ้พายหรอ” ความรู้สึกโคตรช้า มันรับไหว้น้องก่อนจะแนะนำตัวเอง และมาคิดได้ว่าภีมบอกสถานะตัวเองกับผมว่าอะไร

“ใช่คับ เป็นแฟน” นี้ก็ย้ำจริง

“ไม่ต้องย้ำก็ได้มั้ง...แล้วไหนบอกจะเป็นแฟนทดลองกับพี่ก่อนไง” ประโยคหลังผมกระซิบถามเขา

“ก็ใช่คับ ผมบอกเป็นแฟน ส่วนคำว่าทดลอง ผมพูดในใจ” แล้วเขาก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ผม

“ผมไปก่อนจะคับพี่บอย ฝากพี่พายด้วยนะคับ เดี๋ยวตอนเย็นผมมารับนะคับ...ฟอดดดด” เขาบอกก่อนหอมผมและขึ้นรถไป

“ไงมึง ปฏิเสธผู้ชายมาตั้งหลายปี มาพลาดท่าโคตรเดือนซะได้”

“หยุดแซวเลยมึง ไปเรียนเหอะ”

“แล้วไอ้กิตละ” บอยถาม

“มันบอกไปทำธุระเดี๋ยวตามมา”

“ร้อยวันพันปีมันมีธุระกะเขาด้วยหรอวะ 55555” ผมก็คิดแบบไอ้บอยคับ คนอย่างไอ้กิตร้อยวันพันปีมีธุระกะเขาด้วย

หลังจากเข้าเรียน ไอ้บอยผู้ที่ผีเจาะปากมาพูดก็ทำให้เรื่องของผมกับภีมดังไปทั่วคณะ ผมนี้แทบจะไล่เตะปากไอ้เพื่อนของผมแทบทุกคนแล้ว แต่ผมก็ต้องหยุดการทำร้ายพวกมันเพราะไอ้กิตที่พึ่งมาถึง

“มึงโดดเรียน กูจะฟ้องแม่มึง” ผมบอกมัน

“ไอ้พายเพื่อนรัก กูมีธุระจริงๆมึงอย่าขู่แบบนี้ดิวะ” มันทำท่าทางขอร้องผม

“ผู้ชายถึกอย่างมึงทำมาอ้อนขอร้อง โคตรตลกวะ 5555555555 ขอถ่ายรูปเอาไปเปะหน้าคณะหน่อย” ไอ้บอยหยิบมือถือออกมาก่อนจะโดนไอ้กิตเตะไปซะก่อน

“มึงมานี้เลย มึงมีธุระอะไรวะ โดดเรียนนะเว้ยยยยย”

“ธุระส่วนตัว บอกไม่ได้วะ”

“ฮะว่าไงนะ กูเพื่อนสนิทมึงนะ มึงโดดเรียนเลยนะเว้ยยยยยยยยย”

“มึงทำเสียงยังกับเป็นแม่กู”

“ไอ้กิต แม่มึงฝากกูช่วยดูมึงเหมือนกัน แต่ถ้าไม่สะดวกบอกกูก็เข้าใจ” จบผมคิดแบบนั้น คนเราก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวกันบ้าง เลยไม่คาดคั้นมัน ถึงแม้เราจะรู้จักกันมานานก็ตาม


พอเรียนเสร็จผมก็มานั่งรอภีมที่หน้าคณะ ไอ้กิตก็ไปห้องน้ำเลยมีผมนั่งรออยู่คนเดียว สายตาคนคณะอื่นที่เดินผ่านดูก็รู้ว่าอ่านกระทู้นั้นมา

“พายคับ ว่างหรอ สนใจไปกับพี่ไหม” อยู่ดีๆก้มีพี่ปีสี่มาทักผม หน้าตาก็ไม่ได้แย่ แถมน้ำเสียงดูสุภาพ แต่ประโยคที่พูดไม่ถูกใจผมเลย

“ไม่ว่างคับ แล้วผมก็ไม่ได้ขายด้วย”

“ถึงพี่ไม่หรอเท่าโคตรเดือน แต่พี่ก็มีเงินมากพอที่จะจ่ายนะ” เขาพูดพร้อมทำท่าจะนั่งลงข้างผม แต่ก็โดนภีมดึงไว้ซะก่อน

“ขอโทษนะคับ พี่มีธุระกับแฟนผมหรอ” ภีมพูดสุภาพ แต่สีหน้า และแววตาโคตรน่ากลัว

“แฟนน้องหรอ ก็พายเป็นเดือน่ปีก...”

“ถ้าพี่ไม่หุบปากว่าแฟนผมอีก ผมต่อยปากแตกแน่” รังสีอำมหิตแผ่ซานออกมาจากภีมทันที เขารีบสะบัดแขนที่โดนภีมจับไว้แล้วเดินหนีไป

“แม่งเป็นแฟนกัน” ผมได้ยินเสียงพี่เขาสบถกับเพื่อนที่ยืนรออยู่ไม่ไกล

“ปล่อยพี่ไว้ไม่ได้เลยนะเนี่ย ซิ่วมาเรียนกับผมไหม เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา” เขาพูดที่เล่นทีจริง

“บ้า เด็กจริงๆเราเนี่ย” ผมบอกพลางดีดหน้าผากเขาไปทีนึงเบาๆ

“หึหึ แล้งพี่กิตละคับ”

“ไปห้องน้ำ นั้นไงมาละ” ไอ้กิตเดินหัวเสียมา

“ไปแค่ห้องน้ำมึงหงุดหงิดขนาดนี้เลยหรอ” ผมถาม

“เออ นิดหน่อย นี้ผัวมึงมาแล้ว กูไปก่อนนะ” มันบอกก่อนจะรีบเดินหนีไป เฮ้อ วันสองวันนี้มันแปลกๆจริงๆ

“ไปกันเถอะคับ” ภีมบอกผม ก่อนจะเปิดประตูรถให้ผมอีกครั้ง

“เดี๋ยวผมจะพาพี่ไปแนะนำกับเพื่อนผม” เขาบอกพร้อมทำหน้าภูมิใจ ผมได้แต่ยิ้มให้กับความน่ารักของเขา

“แล้วจะให้พี่นั่งรอหน้าคณะหรอ” ผมถาม

“เข้าไปนั่งในห้องกับผมสิคับ”

“เฮ้ยพี่ไม่ได้เรียนคณะนี้จะเข้าไปได้ไง”

“มหาลัยเราให้อิสระจะตายพี่ก็น่าจะรู้นี้คับ ผมเห็นเพื่อนคณะอื่นมานั่งในห้องยังมีเลย”

“พี่ก็พอรู้มาบ้าง แต่ไม่เคยทำ”

“งั้นก็เคยกับผมคนแรกไง จะได้เป็นครั้งแรกอีกเรื่องที่พี่ทำกับผม” เขาตอบพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม

“ทะลึ่ง” ว่าได้แค่นั้นจริงๆคับ แต่การไปนั่งกับเด็กปีหนึ่งดูน่าอายยังไงก็ไม่รู้...



TBC...
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 01-03-2017 14:11:07
 o13
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-03-2017 14:29:16
ภีมโคตรเดือน แก้ข่าวให้พายได้และ
กิต ที่ยุ่งๆนี่เพราะเรื่องเด็กตั้งกระทู้แกล้งพายสินะ
ภีม ดูปกป้องคุ้มครองพายได้
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-03-2017 17:27:33
ถึงตอนนี้บอกไม่ได้ขาย

ก็ไม่มีใครเชื่อ

ดีแล้วที่ภีมออกตัวว่าเป็นแฟน555

นายกิตแปลกๆไปตั้งแต่ไปส่งพี่พล

บอกตรงๆแอบจิ้นพลกับกิตนะ

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-03-2017 20:44:49
รอออ่านต่อ น่าติดน่าตาม
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 01-03-2017 21:37:12
ภีมโคตรแสนดีอ่ะ แต่อยากเห็นภีมหึงโหด 555
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 02-03-2017 22:22:51
ตอนที่ 8 เปิดตัว


พอมาถึงที่คณะภีม ผมก็สังเกตได้ว่ามีคนเยอะผิดปกติ แต่ระหว่างที่เดินเข้าคณะผมก็รู้แล้วละคับว่าสาวๆ และหนุ่มๆที่ไม่ค่อยแท้มาทำอะไรแถวนี้เยอะแยะ ก็โคตรเดือนมันหล่อซะขนาดนี้นี่คับ

“ไอ้ภีม เฮ้ยยย พะ...พี่พาย” เพื่อนภีมดูตกใจมากตอนเห็นผม

“ก็พี่พายไง ยืนอึ้งอยู่นั้นแหละ หวัดดีแฟนกูด้วย” ภีมบอกเพื่อนเขา

“แฟน!!!”

“ใช่ พี่พายแฟนกู หวัดดีแฟนกูเดี๋ยวนี้ไอ้เจต”  เขาดูออกคำสั่งเสียงเข้มขึ้น

“เออ หวัดดีคับพี่พาย” น้องเจตหวัดดีผม พร้อมยิ้มแก้เขิน

“หยุดมองแฟนกูแบบนั้นเลยมึง เดี๋ยวกูต่อยตาแตก”

“กูเปล่าสักหน่อย พี่พายมาทำอะไรที่คณะเราหรอคับ” น้องเจตถามผมพลางยิ้มจนตาแทบปิด

“เออ มารอภีมเรียนเสร็จหนะ” ผมบอกเขาตามความจริง

“พวกมึงยืนทำไรกัน ไม่เข้าเรียนหรอ” น้องผู้หญิงที่พึ่งเดินเข้ามาทัก

“พลอย นี้ๆพี่พายมาด้วย” น้องเจตแนะนำอย่างตื่นเต้น แต่ตืนเต้นอะไรนั้นผมก็ไม่รู้

“พี่พาย!!! พี่พายมาทำอะไรค่ะ มาหาใครคะ เดี๋ยวพลอยหาให้ค่ะ หรือพี่พายมีธุระอะไรที่คณะพลอยรึเปล่าคะ เดี๋ยวพลอยพาเดินไปนะคะ” เธอดูตื่นเต้น กระตือรือร้น และปลื้มผมอย่างเห็นได้ชัด

“พี่มารอภีมเรียนคับ”

“รอไอ้ภีม?”

“ใช่พี่พายเขามารอกู มึงเจอเขาแล้วยังไม่หวัดดีเลย มีมารยาทกับแฟนกูด้วย” ภีมบอกพร้อมทำหน้าภูมิใจ

“แฟนมึง? มึงมโนหรอภีม” พลอยถามแบบนี้ทำผมอดขำไม่ได้

“กูไม่ได้มโนอะไรทั้งนั้น พี่พายเป็นแฟนกูจริงๆ ใช่ไหมคับพี่พาย” เขาหันมาถามผมเชิงอ้อนในประโยคสุดท้าย

“ใช่คับ พี่เป็นแฟนภีม”

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด ไม่จริงแกมาคว้าดาวมหาลัยในมโนคติของพวกกูไปได้ไง” พลอยกรี๊ดซะผมตกใจ แต่คำว่าดาวมหาลัยนี้ทำผมอึ้งไปเล็กน้อย

“ไอ้เจตเก็บแฟนมึงดิ ไปกันคับพี่พาย” เขาบอกเจตก่อนจูงผมเข้าห้องเรียนเขาไป พอเข้าไปในห้องก็เรียกสายตาของคนทั้งห้องให้หั่นมาที่ผมกับภีม ดูน่าอายไม่น้อยที่เดียว

“นั่งข้างผมตรงนี้” เขาบอกก่อนที่ผมจะนั่งลงอย่างว่าง่าย

“งั้นกูนั่งข้างพี่พายฝั่งนี้นะ” พลอยบอกอย่างกระตือรือร้น

“มึงไปนั่งกับแฟนมึงข้างหน้า เดี๋ยวแฟนกูตกใจหน้ามึง ไม่มีความสุขพอดี” ภีมแซวเพื่อน ผมยิ้มไปกับคำพูดของเขา ไม่ค่อยเห็นมุมนี้ของเขาสักเท่าไหร่

“ไอ้ภีม มึงอย่ามาหวง พี่พายยังไม่ว่าอะไรเลย”

“กูหวง กับเพื่อนกูก็หวง ไปนั่งกับไอ้เจตข้างล่าง” พลอยยอมลงไปนั่งข้างเจตอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ช่วงที่เรียน ก็ดูคนอื่นเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เพราะมัวแต่มองภีม และผม

“นักศึกษา ตั้งใจเรียนกันหน่อย มองคนหล่อไม่ช่วยให้สอบได้หรอกนะ” อาจารย์พูดด้วยเสียงที่ไม่ได้จริงจังนักติดตลกด้วยซ้ำ

“แล้วคุณพิราศ มาเรียนฟื้นความจำหรอคับ ผมจำได้ว่าคณะคุณเจอกันแค่ตอนปีหนึ่งนะที่มีวิชาผม” อาจารย์เหมือนจะแซวเล่นซะมากกว่า เพราะน้ำเสียงไม่ได้น่ากลัวเลย

“เออ...”

“ผมชวนพี่พายมาคับ เพราะผมไม่ชอบให้แฟนนั่งรอข้างนอกคับ” ภีมพูดเสียงดัง จนอาจารย์อึ้งไปเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มๆพลางสายหน้าเบาๆ

“ตามใจ ตั้งใจเรียนละกัน” อาจารย์บอกก่อนจะกลับไปสอนต่อ ส่วนผมตอนนี้ก็หน้าแดงจนจะระเบิดแล้วคับ


ระหว่างที่นั่งฟังอาจารย์สอนไปพร้อมกับภีมก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบจากรอบข้างเรื่องที่ผมกับภีมเป็นแฟนกัน บางคนนี้ก็ส่งไลน์หาเพื่อนจนเริ่มเห็นคนออกันที่หน้าประตูห้องเรียน

“มึงจะออกไปยังไง เรียนเสร็จแล้ว แต่คนออกันหน้าประตูห้องเต็มเลย” พลอยถามภีม

“ก็เดินออกไปปกติ” ภีมบอกก่อนจับมือผมเดินออกมา ทุกคนที่ยืนอยู่ก็หลีกทางให้ บางคนก็เดินหนีไปทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็แอบถ่ายรูปผมกับภีมอยู่

“กูคงต้องอัพเดทเปิดเว็บเพจคนหน้าตาดีของมหาลัยดูซะหน่อย” พลอยบอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“ไปกินข้าวกันไหมคับพี่พาย” เจตเป็นคนชวนผม

“ก็ได้คับ” ผมตอบเจต เพราะผมก็หิวเหมือนกัน

“ไปกินกับผมสองคนดีกว่านะคับ” ภีมทำเสียงอ้อนผม

“มึงนี้ขี้หวงเกินไปละ” เจตว่าภีม

“มีกระทู้ลงภาพคู่แกกับพี่พายเต็มเลยไอ้ภีมมมมม” พลอยพูดเสียงดังจนพวกผมตกใจ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ดู

ภาพคู่เยอะอย่างที่พลอยว่าจริงๆคับ บางคนก็มาเม้นท์ว่าไม่น่าเชื่อว่าเป็นแฟนกัน เพราะผมเป็นเดือนปีกทอง บางคนก็บอกผมกับภีมเหมาะสมกันดี และดูเหมือนคอมเม้นท์ดีๆจะมีมากกว่าไม่ดีนะคับ

“ดูท่าสาววายต้องตั้งเพจแฟนคลับแกกับพี่พายขึ้นมาแน่ๆ” พลอยบอกพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตอนมองภาพในโทรศัพท์

“หนึ่งในนั้นคงมีพลอยด้วยแน่ๆ” เจตบอก

“แน่นอน สนับสนุนเต็มที่คะพี่พาย” พลอยบอกด้วยสายตาแน่วแน่ ผมได้แต่หัวเราะเล็กน้องกับท่าทางจริงจังของพลอย

“ไปกินข้าวกัน” เจอบอกก่อนที่เราทั้งหมดจะเดินไปที่โรงอาหาร


ระหว่างนั่งกินข้าวก็ทำให้ผมได้รู้เรื่องเกรียนๆของภีมเยอะแยะเลยคับ ได้เห็นอีกมุมของผู้ชายแสนดีตรงหน้าผมว่านอกจากจะบ้ากามแล้วยังเป็นคนติงต๊องอีกตะหาก

“พี่รู้เปล่า ตอนที่มันเข้าห้องเรียนสายนะ มันแอบเดินอ้อมเข้าไปทางประตูหลังห้อง ก่อนจะถึงที่นั่งมันดันสะดุดขาตัวเองกลิ่งตั้งแต่หลังห้องไปหน้าห้องแทบจะโดนขาอาจารย์เลยทีเดียว อาจารย์ได้แต่ส่ายหน้าแบบปลงๆ”

“ใช่ค่ะพี่พาย ยังมีอีกเรื่องตอนนั้นพึ่งเข้ามาใหม่ๆ มันก็ทำลับๆล่อกับรุ่นพี่ ทำท่าเหมือนซื้ออะไรผิดกฎหมาย อาจารย์เห็นโดยเรียกคุย ปรากฏว่ามันซื้ออะไรรู้ไหมพี่...มันแอบซื้อรูปพี่พายที่แฟนคลับพี่ถ่ายมาขาย เป็นรูปแบบส่วนตัวสุดๆ เสียไปตั้งห้าพัน” ผมมองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ รูปอะไรตั้งห้าพัน!!!

“ขอดูได้ไหมว่ารูปอะไร” ภีมได้แต่ยิ้มๆ และหยิบให้ดูอย่างช้าๆ เจตกับพลอยก็เหมือนอยากรู้เหมือนกัน

“ไอ้เจตกับพลอยมึงห้ามดู ไม่งั้นกูยันล้มทั้งคู่” ภีมบอกอย่างจริงจัง ขณะที่ผมดูรูปที่ภีมหยิบให้ มันเป็นรูปที่ดูส่วนตัวจริงๆคับ  เป็นรูปที่ผมใส่ชุดไปรเวทที่เปียกปอน เพราะวันนั้นฝนตกจนตัวเปียกไปหมด แต่ที่มันน่าอายคือผมดันใส่เสื่อสีขาว กับกางเกงขาสั้นสีขาวที่แทบจะเห็นทุกส่วนของผมเลยด้วยซ้ำ ดีที่รูปผมนั้งเอียงข้างพิงโซฟาที่คณะในห้องจัดนิทรรศการของนักศึกษา พร้อมเช็ดผมของตัวเองไปด้วย
 
“เซ็กซี่โคตรๆ” ภีมกระซิบบอกผม ผมได้แต่กระทุ้งซอกไปที่ท้องเขาทีนึง

“ทะลึ่งนะเราเนี่ย” ผมว่า

“ก็เห็นพี่เขาพูดเรื่องรูปเซ็กซี่ของพี่ในกระทู้ ผมก็เลยลองโทรไปขอดูรูปและคุยเรื่องราคา ตอนนั้นแทบจะต้องประมูลกันเลยพี่รู้ไหม ผมเลยบอกราคาที่สูงที่สุดไปก่อน ห้าพัน เขาเลยตกลงขาย” ภีมบอกอย่างภูมิใจ

“รูปโป๊หรอพี่ ไอ้ภีมมันเก็บไว้ติดตัวตลอด พวกผมยังไม่เคยเห็นเลย” เจตบอก

“ประมาณนั้น” ผมบอก

“แบบนี้อนาจาร แจ้งตำรวจจับเลยพี่”

“มันไม่ได้โป๊ขนาดนั้น แล้วก็เป็นรูปที่ถ่ายที่สาธารณะ วันนั้นเพื่อนพี่อยู่ตั้งแยะแยะ” ผมบอก

“เพื่อนพี่ก็เห็น” ภีมทำหน้าตกใจ

“บ้าหรอ พี่นั้งหันข้างแบบนั้นรอไอ้กิตมันเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ใหม่ ไม่มีใครเห็นหรอก เพื่อนพี่ถึงจะเถื่อน แต่ก็ไม่กล้าเล่นพิเรนกับพี่เท่าไหร่” ผมบอกไปตามความจริง ภีมถึงทำหน้าตาคลายกังวล เด็กคนนี้มันชอบผมมากขนาดไหนกัน บางทีผมก็อดสงสัยไม่ได้

“อ่อ คับ งั้นเดี๋ยวผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคับ” ภีมบอกก่อนจะลุกไป ส่วนผมนั่งกินข้าวเสร็จก็ขอไปเข้าห้องน้ำด้วยเหมือนกัน ก็เลยได้เห็นเสน่ห์อันล้นเหลือของภีม

“พี่ชื่อเนตรนะค่ะ พี่อยากรู้จักน้องมากขึ้น สนใจคุยกับพี่ไหม” สาวสวยกำลังส่งสายตาหวานเยิ้มให้ภีม เป็นผมคงเขินเหมือนกันนะเนี่ยถ้ามีผู้หญิงสวยๆแบบนี้มาจีบ

“ผมมีแฟนแล้วคับ พี่พาย เดือนศิลปกรรมปีสามเป็นแฟนผม” เขาบอกชื่อและคณะผมเสร็จสรรพ เล่นเอาผมตกใจไม่น้อยนะเนี่ย

“พาย นี้น้องชอบผู้ชายหรอ แล้วพายที่ว่านี้มันเดือนปีกทองคนนั้นนะหรอ” เธอก็ตกใจที่ภีมบอกว่าชอบผม จะไม่ให้เธอตกใจได้ยังไง ก็ภีมดูมาดแมน ไม่มีทีท่าว่าจะชอบผู้ชายเลย

“ใช่คับ”

“แต่ใครๆก็รู้ว่าพายมันขายตัว ภีมยังชอบมันอีกหรอ” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงรังกียจผม

“ใช่น้องภีม ใครๆก็รู้ว่าพายขายตัวนะ” เพื่อนของผู้หญิงคนนั้นก็เอาด้วยอีกคน ตอนแรกผมกะจะออกไปตอกหน้าพวกปากเสียสักหน่อย

“อย่าเรียกแฟนผมแบบนั้น แฟนผมไม่ใช่เดือนปีกทอง และแฟนผมไม่ได้ขายตัว พวกพี่ไม่รู้จริงฟังแค่ข่าวลืออย่ามาปากเสียแถวนี้ดีกว่า ถ้าพี่ดูถูกแฟนผมอีก ผมจะไม่ไว้หน้าถึงแม้พี่จะเป็นผู้หญิงก็ตาม” ภีมบอกด้วยความโกรธพร้อมชี้หน้าพวกเธอ ก่อนที่จะเดินออกมาเจอผมยืนอยู่ แล้วเขาก็กอดผมทันทีโดยไม่สนใจสายตาคนที่แอบมุงดูอยู่ตอนแรก หรือคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเลย

“โกรธรึเปล่าคับที่มีคนเรียกพี่ว่าเดือนปีกทอง แถมยังว่าๆพี่ขายอีก” เขาถามเสียงอ่อนโยน แต่แฝงด้วยความโกรธจัดจนสัมผัสได้

“ไม่คับ” ผมตอบ

“พี่ยังคง...คิดว่าชื่อนั้นปล่อยไว้ไม่ต้องสนใจก็ได้งั้นหรอคับ ให้คนว่าพี่แบบนั้นก็ได้งั้นหรอคับ” เขากอดผมแน่นขึ้น เหมือนกำลังหงุดหงิดจนจะระเบิดออกมา

“โกรธพี่หรอ” ผมถามเขาเสียงเบา

“ผมหงุดหงิดตัวเองมากกว่า ที่ผมไม่สามารถ...” เขากำลังโทษตัวเองที่ผมยังคงเฉยชากับคำเรียกเหล่านั้น

“ทำไมต้องหงุดหงิดตัวเองด้วยละ ที่พี่ไม่โกรธ เพราะภีมว่าผู้หญิงคนนั้นแทนพี่ไปแล้ว ภีมปกป้องพี่แล้วไม่ใช่หรอ” ผมบอกพลางลูบหลังเขาเบาๆ

“พี่กำลังจะทำให้ผมเป็นบ้า” เขาซบหน้าลงที่ไหลผม

“งั้นพี่คงเป็นคนไม่ดีละสิ” ผมบอกเขาเชิงหยอกล้อ

“ไม่คับ พี่พายของผมเป็นคนดีที่สุด ที่ผมบ้า เพราะผมชอบพี่มาก เป็นความผิดผมเองที่คุมตัวเองไม่อยู่สักที”

“งั้นก็ไม่ต้องคุมตัวเองสิ อยากบ้าก็บ้า พี่รับได้”

“อ๊ะ” ผมร้องเพราะเขาดูดคอผม ผมว่าต้องขึ้นรอยแน่ๆ ถึงจะมีอะไรกันหลายครั้ง แต่ภีมไม่เคยทำรอยทิ้งไว้นอกร่มผ้าเลยสักรอย

“นี้คือเรื่องบ้าเรื่องแรกที่ผมทำ...ตีตราจอง” เขาผละจากอ้อมกอดมามองหน้าผม ก่อนจะจูงมือผมกลับไปที่โต๊ะ

“ไปเจอกันในห้องน้ำหรอวะ แต่หายไปนานนะเว้ย” เจตทำหน้าตาเป็นเชิงแซวผมกับภีม

“เพราะยัยพี่เนตรนิเทศศาสตร์ปีสามใช่ไหม” พลอยพูดพร้อมเงยหน้าจากโทรศัพท์

“ลงโซเชียลแล้วหรอวะ” ภีมถาม

“มึงโคตรเท่ห์อะ ในนี้มีแต่คนบอกว่ามึงปกป้องพี่พาย เป็นแฟนโคตรดีของมหาลัยไปละตอนนี้ นี้ไม่รวมช๊อตเด็ดที่กอดกันอีกนะ กูนี้กดเซฟมือหงิกเลย” พลอยบอกพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“เออ ตามนั้นแหละ กูกับพี่พายกลับก่อนนะ เหนื่อยละวันนี้” ภีมบอกก่อนจะพาผมไปที่รถและขับกลับหอ



พอกลับถึงห้องผมก็อาบน้ำ ส่วนภีมก็ตามเข้ามาอาบกับผม เขาดูอ้อนมากกว่าปกติ น่ารักกว่าปกติ และผมจะปฏิเสธเขายังไงคับ เรื่องอย่างว่าในห้องน้ำจึงกลายเป็นหนึ่งประสบการณ์ของผมที่ตื่นเต้นจริงๆ

“ผมชอบเป่าผมให้พี่จัง” เขาเป่าผมของผมจนแห้งก่อนจะดมที่เส้นผมอย่างหลงใหล ก่อนจะกอดผมจากด้านหลัง

“ผมอยากทำให้พี่แบบนี้ไปชั่วชีวิต” เขาพูดขณะที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้มผม

“ปากหวาน พี่ไม่ใช่พวกเคลิ้มไปกับลมปากหรอกนะ”

“งั้นผมก็จะพิสูจน์ด้วยตัวผมเอง”

“พี่มีอดีตที่ไม่น่าจำนัก แต่พี่ก็อยากบอกภีม” อยู่ดีๆผมก็อยากบอกทุกอย่างที่เกี่ยวกับผมให้เขารู้ คงเพราะผมไว้ใจเขามาก เขาดูนิ่งเพื่อฟังผมเล่าอย่างใจเย็น ทั้งๆที่ผมรู้สึกได้ว่าใจเขาเต้นแรงมาก

“พี่กับพี่พล เราเป็นเหมือนเพื่อนสนิทของกันและกันมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นคนปกป้อง และดูแลพี่เสมอ พี่ทั้งรักและไว้ใจเขา ในฐานะพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น แต่ประมาณพี่ ม.2 พี่ก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกไป เขาแตะต้องพี่มากเกินไป ทำอะไรๆที่พี่น้องปกติเขาไม่ทำกัน จนลามมาถึงวันที่ทุกอย่างพังทลายลง...”

ตัวผมสั่นขึ้นมาเอาโดยไม่รู้ตัว ภีมที่กอดผมอยู่ก็กระชับกอดผมแน่นขึ้น ซุกหน้าที่คอผม ให้ผมรู้สึกแค่ลมหายใจของเขา

“ตอนนั้นพี่ ม.3 วันหยุดที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน...พี่พลเขา...ข่มขืนพี่” ผมได้แต่กัดปากข่มน้ำตาเพื่อเล่าให้เขาฟังให้จบ

“พอแล้ว ผมไม่อยากรู้แล้ว ผมไม่อยากเห็นพี่ทรมาน ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมเคยบอกแล้วว่าผมไม่สนว่าพี่ผ่านอะไรมา ขอร้องถ้าพี่เจ็บก็อย่าเล่าเลยนะคับ เพราะเวลาพี่เจ็บ ผมโคตรปวดใจเลย” เขาเริ่มน้ำตาไหลแทนผม ผมได้แต่จับมือเขาที่โอบกอดผมไว้

“พี่อยากให้ภีมรู้ทุกอย่างของพี่...วันนั้นพี่โดนพี่พลข่มขืนเกือบสำเร็จ ถึงกิตจะมาช่วยทัน แต่ทุกการสัมผัสจากเขา มันทำให้พี่หวาดกลัว เป็นฝันร้ายที่ยังคงหลอกหลอนพี่อยู่  แต่เพราะภีมนะ มันถึงได้หายไป และพี่ดีใจนะที่คนแรกของพี่คือภีม” ผมบอกเขาก่อนน้ำตาจะไหลออกมา เขาที่ร้องไห้ที่ไหลผม หอมแก้มผมเบาๆ ก่อนที่เขาจะจูบผม และผลักผมนอนลงให้ใต้ตัวเขา

“ผมรักพี่ รักมานานแล้ว ผมก็มีเรื่องจะบอกพี่ ผมคือสะ...”

ก๊อกๆๆๆๆ

“ไอ้พายยยยยยย เปิดประตูหน่อย กูรู้ว่ามึงอยู่ในห้องนะ” ไอ้กิตที่หายไปเกือบทั้งวันโผล่มาก็เสียงดังเลย ภีมเดินไปเปิดประตูให้มันขณะที่ผมเช็ดหน้าตาตัวเอง
 
“ภีม พาย ปะ”

“ไปไหน” ผมถามอย่างงุนงง

“ไปเที่ยวผับกัน กูอยากเที่ยว กูอยากเมา”



TBC...  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-03-2017 00:03:07
 :ling1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-03-2017 02:13:15
ตัดฉับเลย
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 03-03-2017 02:44:50
กำลังสนุกอ่ะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: iaum ที่ 03-03-2017 05:05:54
อ๊ายยย :hao7: ภีมมม รอจ้า กำลังสนุกเลยเด้อ :hao6:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-03-2017 11:16:28
ดีแล้วที่เปิดใจคุยกัน

ภีมจะบอกอยู่แล้วเชียว

นายกิตมาขัดจังหวะ

นายกิตนานเป็นไร

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-03-2017 11:57:53
คู่พระนางเขาน่ารัก  แต่กิตนี่มีเรื่องไรน้ออออ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: BB-c-TOO ที่ 03-03-2017 13:18:54
คือ ดีมากกกกกกกก ละมุนละไม มีเรื่องราวที่น่าติดตาม ขอให้เป็นแบบนี้ไปตลอด ไม่อยากยกถ้วยมาม่านะจ๊ ขอให้พายแต่เรื่องดีๆ ไม่ต้องร้องไห้ .. คือเพิ่งเข้ามาอ่านแต่อินหนักมากกก #ภีมพาย
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 03-03-2017 14:21:43
 :mew1: :mew3:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 04-03-2017 20:51:29
ตอนที่ 9 ของๆผม


“ไปเที่ยวผับกัน กูอยากเที่ยว กูอยากเมา” มันบอกหน้าจริงจัง ผมกับภีมได้แต่มองหน้ากันไปมา

“เลิกมองหน้ากันสักที ไปแต่งตัว กูนัดไอ้บอยไอ้ชายไว้แล้ว เอาผัวมึงไปด้วยกันเนี่ยแหละ เร็ว!!!” ผมกับภีมก็ดันบ้าจี้รีบแต่งตัวตามที่มันบอก

“มึงเป็นไรเปล่าเนี่ย อกหักมา?” ผมถามไอ้กิตระหว่างที่นั่งรถไปผับใกล้ๆกับมหาลัย

“บ้าหรอ กูเนี่ยนะอกหัก” มีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่คบกันมาก็เห็นมันชอบผู้หญิงไปทั่ว มีแฟนมาก็หลายคน แต่มันกลับไม่เคยต้องการที่จะเมาเวลาต้องเลิกกับใครสักคน นี้เรียกว่าผิดปกติอย่างมาก


พอมาถึงผับไอ้บอยกับไอ้ชายก็นั่งจองโต๊ะรออยู่แล้ว แล้วผมก็รู้สึกคิดผิดทันทีที่พาภีมมาด้วย เพราะแค่เขาเดินเข้ามาในงานก็แทบจะดึดดูดสายตาทุกคู่ไปจนหมด ผมไม่สบอารมณ์เอาซะเลย

“น้องภีมมาด้วยหรอ กลัวเพื่อนพี่มันนอกลู่นอกทางหรือไง” ไอ้บอกแซว

“เปล่าหรอกคับ ผมหล่อขนาดนี้จะมีใครมาสู้กับผมได้ละพี่” ไอ้นี้ก็อวยตัวเองจัง ผมอดหมันไส้ไม่ได้ ต้องเหยียบเท่าไปสักที เขาเหมือนจะร้องออกมา แต่ก็แค่หันมายิ้มให้ผม พร้อมสายตาคาดโทษเล็กๆ

“เออ ไม่มีใครสู้แกได้หรอก ไอ้พายมันจะไปไหนพ้นวะ 55555” แซวเล่นกันสนุกปากเชียว

“เดี๋ยวกูล้มโต๊ะ หยุดแซวเลยพวกมึง มีปากก็กินเหล้าไป” ระหว่างที่ผมต่อปากต่อคำกับไอ้บอย และไอ้ชาย เจ้าภาพที่ชวนก็กินไม่ลืมหูลืมตา ผมสงสัย แต่ก็ไม่อยากถาม เพราะไอ้กิตเป็นพวกปากแข็ง ถ้าไม่อยากพูดใครไปง้างปากมันๆก็ไม่บอกหรอก

“ใจเย็นๆไอ้พาย วันนี้มึงเอาอะไร สไปร์ซ หรือโค้ก” ไอ้ชายถาม ดูท่าวันนี้พวกมันจะดื่มกันหนักเลยให้ผมกินแค่น้ำอัดลม ถ้าแค่นั่งชิล มันจะให้ผมดื่มด้วยนิดหน่อย

“โค้กละกัน” ผมบอก

“พี่พายแพ้แอลกอฮอล์ใช่ไหมคับ” ภีมถาม

“ใช่แล้ว ภีมรู้ได้ไง”

“ผมรู้แทบทุกอย่างเกี่ยวกับพี่ เพราะพี่สำคัญ” เขาบอกพลางยิ้มที่ชวนให้หลงใหล ผมนี้ใจเต้นจนเหมือนจะหลุดออกมาจากหน้าอก

“กูจะอ้วก เลี่ยนชิบ ไปหยอดกันที่ห้องไป” ไอ้กิตแขวะก่อนจะกระดกเหล้าไปหมดแก้ว

“ภีมๆมาเดี๋ยวพี่ชงให้” ไอ้ชายบอกก่อนจะชงสเหล้ามาให้ภีม ดูเข้มพอตัว แต่ภีมก็ดูเหมือนผู้ชายทั่วไป กินเหมือนน้ำเปล่า ไม่สะทกสะเทือน

“ดื่มเก่งจัง”

“พี่ผมบอกให้ดื่มให้เป็น พอช่วยงานที่บ้านต้องออกงานสังคมเยอะจะได้ไม่เสียเปรียบ” เขาพูดพลางยิ้มอย่างน่ารักให้ผม ผมอดยิ้มตามไม่ได้ บางทีเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ไม่น้อย


เรานั้งดื่มกันไปหลายแก้ว ไอ้กิตเริ่มที่จะมึนแล้ว ไอ้ชายก็หิ้วสาวที่ส่งสายตาให้กลับไปก่อน ไอ้บอยนี้ก็บอกครั้นเนื่อครั้นตัว ร้อนๆแปลกๆ ผมก็นึกว่ามันไม่สบาย แต่พอเจอสาวถูกใจก็ออกไปอีกราย

“ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคับ” ภีมบอกก่อนจะเดินไป ผมที่เห็นเขาเริ่มพูดเสียงแปลกๆ เลยอยากตามไปดูเขาสักหน่อย

“พี่ฝากไอ้กิตหน่อยนะไอ้แจ๊ค” ผมโชคดีที่เจอรุ่นน้องที่คณะพอดีเลยฝากไอ้กิตไว้กับรุ่นน้องก่อน

“เดี๋ยวพี่จะรีบไปไหน” ไอ้แจ๊คน้องรหัสผมเป็นคนถาม

“รู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆวะ ฝากไอ้กิตไว้กะพวกมึง ดูแลมันด้วย กูไปละเดี๋ยวมา” ผมรีบเดินออกมาทันที


พอมาถึงห้องน้ำ ผมก็เดินไล่หาที่ละห้อง เพราะเขาไม่ได้ยืนฉี่ที่โถ คงเขาไปในห้องน้ำแน่ๆ แต่เขาไม่ใช่ฟุบคาส้วมไปแล้วรึเปล่า

“อะภีมอย่าใจร้อนสิ เดี๋ยวเราถอดให้” เสียงคนที่พูดออกมาทำเอาผมหน้าชาไปชั่วขณะ

“เงี่ยนชิบ” เสียงภีม!!! ผมไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำแบบนี้ ผมอยากจะตะโกนด่าหรือทำอะไรก็ได้ที่ผมพอจะทำได้ แต่ผมตัวแข็งไปหมด เพราะการกลัวความจริง...ความจริงที่เขานอกใจผมในระยะเผาขนเช่นนี้

“เดี๋ยวเราถอดกางเกงให้” เสียงนั้นดูกระหายไม่น้อย เสียงของผู้ชายที่คุ้นหู

“ผมเงี่ยนมากเลยคับ พี่พาย..” เสียงที่เขาเรียกชื่อผม ทำผมตื่นจากผวังแห่งความกลัว มันไม่ปกติแล้ว

“เราก็เงี่ยน ของภีมแข็งเต็มที่ละนี้ ใหญ่อย่างที่เราคิดไว้เลย” เสียงนั้นทำให้ผมโกรธจัด

“พี่พาย ภีมขอนะคับ อะ..เฮ้ย นายไม่ใช้พาย ปะ...ปล่อยเรา” เสียงภีมกระเส่า และเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย ขนาดที่เขาเริ่มรู้สึกว่าคนที่เห็นไม่ใช่ผม น้ำเสียงเขาแหบพลาอย่างรู้สึกได้ แต่ความกระเส่าในน้ำเสียงก็ยังทำให้คนฟังเสียวกระสันได้ ผมไม่รอช้าให้สถานการณ์เกินเลยไปมากกว่านี้ เลยถีบประตูห้องน้ำอย่างแรง ด้วยความโกรธของผม ประตูห้องน้ำก็พังในทันที คนข้างในดูตกใจจนนิ่งค้างไป
สิ่งที่ผมเห็นคือภีมถอดกางเกงออกเรียบร้อยนั่งบนชักโครก ส่วนไอ้เด็กเชี่ยนั้นนั่งที่พื้นพร้อมที่จะกลืนกินของภีมที่แข็งขึงให้เห็นเต็มตา

“อย่าเข้ามานะพวกมึง ไม่งั้นกูกระทืบเรียงตัวแน่” ผมบอกคนที่จะเข้ามาในห้องน้ำ สิ่งแรกที่ผมกลัวคือคนเห็นของภีมซะมากกว่า ทุกคนดูกลัวผม เพราะผมโกระจัดจนเหมือนจะระเบิดได้

“มึงออกมา” ผมกระชากมันที่กำลังชะงักออกมาจากห้องน้ำ พร้อมเหวี่ยงไปที่ประตูทางเข้า แทบเท้าคนที่ยืนอออยู่

“มึงมอมยาแฟนกูหรอ” ผมบอกก่อนจะเตะไอ้เด็กนั้นเข้าที่ท้องแบบไม่ทันตั้งตัว

“กูถามว่ามึงมอมแฟนกูหรอ” มันกลัวผมจนตัวสั่นในขณะที่ผมบีบปากมัน

ตอบ!!!” ผมพูดเสียงดัง

“กูวางยาในน้ำแข็ง” น้ำแข็ง? แย่แล้ว มิน่าไอ้ชายไอ้บอยถึงดูเสี้ยนนัก ดีที่ไอ้กิตมันหลับไปก่อน แต่มันหลับไปแล้วฤทธิ์ยายังอยู่รึเปล่า ส่วนผมไม่ค่อยกินน้ำ รู้สึกร้อนๆวูบๆบ้าง แต่ก็ยังคุมตัวเองได้อยู่ แบบนี้มันเกินไปแล้ว

“ไอ้เด็กเชี่ย” ผมบอกพลางต่อยมันไปอีกที ระหว่างที่ผมต่อยมันก็ได้ยินเสียงคนที่มุงดูกระซิบกัน “นี้มันพี่พาย ศิลปกรรมนี้หว่า” “สวยแต่โหดสัสอะ” “เขาต่อยเด็กนี้ทำไมวะ” “แย่งผู้ชายกันชัวร์” “ใครวะ” “กูอยากรู่ว่าผู้ชายคนนั้นใครวะ” “เขาเป็นแฟนภีมไม่ใช่หรนอ” และอีกมากมาย คำต่างๆนาๆที่ผมรับเข้ามาระหว่างที่ซ้อมไอ้บ้านี้ ชวนให้โมโหมากขึ้นจนรุ่นน้องผมก็กรูกันเข้ามาในห้องน้ำ

“เกิดไรพี่พาย ไอ้เด็กนี้หาเรื่องพี่หรอ” ไอ้แจ๊คน้องรหัสผมเป็นคนถาม

“ใช่ ลากมันไปที กูไม่อยากเห็นหน้ามัน” พวกรุ่นน้องรีบไปหิ้วปีกมันออกไป

“เดี๋ยวไอ้แจ๊ค มึงจะเอามันไปทำอะไรก็เชิญ กูรู้ว่ามึงชอบแบบนี้” ผมบอกไอ้แจ๊ค พอมันได้ยินที่ผมบอกก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์จนน่ากลัว

“ตามบัญชาคับนายท่าน” มันบอกก่อนโค้งเล็กๆให้ผม ไอ้แจ๊คมันเคยปลื้มผม ด้วยความที่ผมเป็นคนตรงๆ และไม่ยอมใครง่ายๆ แถมผมยังไม่สนใจคนอื่นๆ จนเหมือนไม่เคยกลัวอะไร มันเลยเห็นผมเป็นไอดอลของมัน ซึ่งผมแทบจะไม่เคยไปไหนกับพวกมันด้วยซ้ำ แต่เวลาขอให้ช่วยอะไรแม่งเต็มที่สุดๆ

“มึงจำไว้ไอ้เด็กอ่อน ผู้ชายคนนี้เป็นของกู ไม่มีใครมีสิทธิแตะต้องทั้งนั้น บทเรียนที่มึงจะได้รับ มึงต้องจำไปจนตาย” ผมโกรธจนทำอะไรที่อยากทำลงไป ผมส่งเด็กขาวๆแบบนั้นไว้ในมือไอ้แจ๊ค คงไม่รอดแน่ ถึงรู้แบบนั้น แต่ผมก็ไม่มีอารมณ์ที่จะดึงความดีมาหยุดไอ้แจ๊คหรือแม้แต่ตัวเองไว้

พอมันออกไปหมดผมหันมาหาภีมที่ดูจะเริ่มนั่งชักว่าว เพราะทนฤทธิ์ยาปลุกไม่ไหว

“ถ้าใครก้าวเข้ามากูไม่เอาไว้แน่” ผมบอกทุกคนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ ทุกคนดูจะกลัวผมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้

“ภีม หยุดชักเดี๋ยวนี้” ผมเดินเข้าไปบอกภีมเสียงเข้ม

“พี่พาย พี่พายของผม ผมไม่ไหวแล้วคับ ผมอยากจริงๆ” ดูท่าต้องทำอะไรอย่างก่อนที่เขาจะชักจนแตกตรงนี้ได้อายคนทั้งผับแน่

“ไม่อยากได้พี่หรอ” คงต้องใช้ไม้ตาย

“อยากสิคับ ผมอยากได้พี่ที่สุด”

“งั้นก็ใจเย็น แล้วไปทำที่ห้องเรานะ” ผมบอกเขาก่อนจะดึงกางเกงเขาขึ้น รูดซิบใส่เข็มขัดให้เรียบร้อย ก่อนจะพยุงเขาออกมา เขาทั้งเมา และโดนยา ทำให้ผมเหนื่อยในการรพยุงเขาออกมาไม่น้อย ทุกคนที่ยืนดูอยู่รีบหลบทางให้ผมทันที


ระหว่างที่กำลังจะขึ้นรถแท็กซี่ ตอนนั้นเองที่ผมนึกขึ้นได้ว่าผมทิ้งไอ้กิตไว้กับพวกไอ้แจ๊ค แต่ไอ้แจ๊คมันลากเด็กนั้นไปแล้ว แล้วไอ้กิตละ ไม่เห็นอยู่ในกลุ่มไอ้แจ๊คเลย มันไปทิ้งไอ้กิตไว้ที่ไหนรึเปล่า  ผมรีบโทรศัพท์หาไอ้แจ๊คทันที

“ไอ้แจ๊ค มึงทิ้งกิตไว้ในผับรึเปล่า” ผมถาม

“เปล่านะพี่ ไอ้เชนมันบอกว่าเดี๋ยวมันพาพี่กิตกลับเองให้ผมไปสนุกกันให้เต็มที่”

“ไอ้เชนหรอ มันรู้จักบ้านกิตหรอวะ” ผมอดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้ภีมจะเกาะผมเป็นปลาหมึกก็ตาม

“มันบอกรู้จักพี่”

“มันไว้ใจได้เปล่าเนี่ย” เชนเป็นรุ่นน้องเงียบๆนั่งหล่อเซอไปวันๆ ผมเลยไม่ค่อยได้คุยด้วย

“ได้ดิพี่ ไอ้เชนมันเป็นคนดีที่สุดในกลุ่มผมละนะ” ไอ้แจ๊คพูดอย่างภูมิใจ

“อ่อ งั้นโอเค” ผมวางสายมันไป โล่งใจไป ไอ้แจ๊คพูดแบบนั้นผมก็คงไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว เลยพาภีมขึ้นแท๊กซี่อย่างสบายใจ

 
ระหว่างทางภีมพยายามซุกไซร้ผมตลอด ดีที่หออยู่ใกล้ ผมรีบพยุงเขาเข้าห้อง พอทิ้งเขาลงเตียงผมก็แทบหมดแรง แต่แค่นั้นคงไม่เรียกหมดแรงจริงๆ เพราะพอผมนั่งลงที่เตียงก็โดนภีมรวบตัวลงนอนในทันที คืนนั้นผมมีอะไรกับภีมไปไม่น้อยกว่าหกครั้ง มันรุนแรง และเร่าร้อน จนฤทธิ์ยาคลายลงตอนแดดส่องเข้ามาที่ห้องแล้ว

ผมลืมตาตื่นก็ช่วงตะวันกำลังคล้อยลงแล้ว ผมปวดเนื้อปวดตัวไปหมด ทำได้แค่เงยหน้ามองผู้ชายที่กอดผมไว้ เขายังคงหลับสนิท ผมลูบใบหน้าเขาด้วยความหวงแหน ผมจูบที่หน้าผากเขา จูบแก้มเขา และจูบปากเขา ผมกลัวเหลือเกินที่จะเสียเขาไป ตอนนี้ผมได้แต่กอดเขา เพื่อให้ตัวเองรู้ว่าภีมคือของจริง เขาอยู่กับผม และเป็นของผม แค่ไม่กี่อาทิตย์ที่เราเจอกัน มันกลับทำให้ผมรักเขาได้มากขนาดนี้ ผมรู้สึกเหมือนเรารู้จักกันมานาน แต่ผมก็นึกไม่ออกซะทีว่าเคยเห็นหน้าหล่อๆนี้ที่ไหน

“พี่รักภีมนะ” ผมกระซิบบอกเขาก่อนที่จะหลับไปอีกครั้ง เพราะความเพลีย


ผมงัวเงียตื่นขึ้นมากลางดึง เพราะผมเหนี่ยวตัวเหลือเกินกับกิจกรรมที่รุ่นแรงเมื่อวาน ผพยายามลุกขึ่นอย่างยากลำบาก ไม่คิดว่าร่างกายจะโดนกระทำได้มากขนาดนี้ มากจนเรี่ยวแรงแทบจะหายไปจนหมด ผมอาบน้ำอย่างเชื่องช้าที่สุด ความเย็นของน้ำช่วยให้ผมสดชื่น และไล่ความคิดที่แสนเหนื่อยล้าเมื่อวานหายไป แต่สิ่งที่รู้สึกได้มากกว่านั้นคือ ก้นผมมีเลือดออก มันเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าผมกับภีมเราทำกันมากขนาดไหน ผมได้แต่ล้างออกด้วยความยากลำบาก เพราะผมต้องล้างคราบอสุจิที่ภีมปล่อยข้างในครั้งแล้วครั้งเล่าด้วย พออกมาจากห้องน้ำก็เห็นภีมนั่งผิงหัวเตียงอยู่ เขาดูนิ่งขรึม และเศร้า

“โกรธผมรึเปล่าคับ” ภีมถาม

“ทำไมต้องโกรธคับ” ผมค่อยๆเดินไปหาเขา

“ผมไม่ระวังตัว เกือบทำให้พี่พายเสียใจ” เขาบอกอย่างสำนึกผิด

“คิดมากไปแล้ว” ผมบอกก่อนจะนั่งลงข้างเขาอย่างช้าๆ ยังเจ็บอยู่เลยแฮะ

“ผมโกรธตัวเอง” พอได้ยินประโยคนี้ ผมได้แต่ดึงเขามากอดเอาไว้

“โกรธตัวเองทำไม พี่ยังไม่โกรธภีมเลย นี้ขนาดภีมทำพี่ซะมากมายขนาดนั้น จนระบมไปหมด พี่ก็ยังไม่โกรธ” ผมบอกด้วยความรู้สึกจากใจผม พลางพูดเล่นนิดหน่อย เพื่อผ่อนคลายเขา เขากอดตอบผมแน่น

“ผมขอโทษคับ มันหยุดตัวเองไม่ได้เลย ยิ่งพอรู้ว่าได้ทำกับพี่ ผมกลับโลภอยากได้มากขึ้น และมากขึ้น”

“พี่เต็มใจ ฉะนั้นหยุดโทษตัวเองได้แล้ว”

“ผมรู้สึกโคตรไม่ดีเลยที่ทำแบบนั้น พอคิดถึงก็อยากต่อยไอ้เชี่ยนั้นเหมือนกัน” ผมได้แต่กอดปลอบเขา

“พี่จัดการไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็กลับมาเป็นภีมที่น่ารักของพี่ได้แล้ว” ผมได้แต่ใช้น้ำเสียงอ้อนเขาเท่านั้น ก็มันเป็นท่าไม้ตายเดียวที่ภีมชอบ

“จัดการ?”

“ด้วยวิธีที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อย่ารู้เลย”

“พี่นี้ร้ายจัง” ตอนนี้เขารวบตัวผมไปนั่งที่หว่างขาเขา โดยมีเขาซ้อนอยู่ด้านหลังกอดผมไว้

“โอ๊ะ...เจ็บ” ก้นผมเจ็บแปลบขึ้นมาเลย

“ขอโทษคับ เป็นอะไรมากไหม เดี๋ยวผมไปซื้อยาให้ดีกว่า” เขาดูรีบร้อนที่จะช่วยผม

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย พี่ว่างั้นนะ”

“หรือไปหาหมอไหมคับ” เขาพยายามจะอุ้มผม แต่เขาก็ดูหมดแรงเหมือนกัน

“พักเถอะคับ”

“แต่...”

“ไม่เชื่อพี่หรอคับ” ผมทำเสียงอ้อนเขาซะหน่อย

“นอนพักก็ได้คับ” เขาตอบตกลงก่อนจะดูดคอผมเบาๆ

ครือ----ครืด โทรศัพท์ผมมีสายเข้า พอหยิบมาดูก็เป็นไอ้กิตนั้นเอง

“ฮัลโหล”

--ไอ้พาย มึงทิ้งกูแล้วหนีกลับไปกับผัวหรอ— เสียงมันดูโมโหผมพอตัว

“เปล่านะ มีเรื่องที่ผับนิดหน่อยกูเลยฝากมึงไว้กับพวกไอ้แจ๊ค มีอะไรเปล่าเนี่ย” ผมถามอย่างสงสัย

--โธ่เว้ยยยย มึงฝากกูไว้กับใครไม่ฝาก มาฝากกูไว้กับพวกไอ้แจ๊คเนี่ยนะ—

“มึงเป็นอะไร เมื่อคืนไอ้แจ๊คบอกให้เชนไปส่งมึง เพราะเชนมันรู้ว่าบ้านมึงอยู่ไหน”

--มึงแม่งปล่อยกูไว้กับไอ้เชี่ยเชนอะ มันเลวที่สุดในคณะแล้ว— มันเริ่มโวยวาย

“อย่าบอกว่าเชนมันเอามึงไปทิ้งไว้กลางทางนะ แล้วมึงเป็นไงบ้าง ตอนนี้อยู่ไหน มีใครทำอะไรมึงเปล่า บอกกูมาดิ” ผมเริ่มตกใจจนอดถามเยอะแยะไม่ได้

--เปล่าๆๆๆๆ ไม่มีไร แค่นี้นะ— มันรีบตัดสายผมอย่างรวดเร็ว เป็นบ้าอะไรเนี่ยไอ้กิต

“พี่กิตโดนทำร้ายหรอคับ” ภีมถามด้วยความเป็นห่วง

“มันบอกเปล่า ช่างเหอะ เดี๋ยวค่อยไปเค้นคำตอบวันหลัง ตอนนี้พักผ่อนซะ” ผมบอกภีม เขาก็เขยิบมานอนราบปกติโดยมีผมในอ้อมแขนก่อนจะกระชับกอดผมแน่นขึ้น

“พี่รู้ไหม ผมรักพี่มานานแล้ว ผมรักพี่ตั้งแต่ ม.2 จนตอนนี้ปี 1 พี่ก็ยังเป็นคนเดียวที่ผมรัก” เขาเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปสักพัก ผมชะงักไปเล็กน้อยตอนที่เขาบอกแบบนั้น แต่ผมก็ใจเย็นฟังเขาพูดต่อไป

“พี่จำครั้งแรกที่เราเจอกันได้ไหมคับ” เขาถามขณะเอาจมูกคลอเคลียที่แก้มผม

“ที่ห้างหรอ” ผมตอบ

“ไม่ใช่คับ ที่โรงเรียนมัธยม ผมนั่งร้องไห้เพราะโดนแกล้งอยู่ในห้องน้ำ พอผมเปิดประตูออกมาพี่ก็เข้ามากอดผม และบอกว่า ถ้าอยากร้องไห้ ก็ร้องกับพี่ได้นะ ความเข้มแข็งต้องค่อยๆสร้าง เพราะปุบปับอยากจะมี มันไม่ใช่เรื่องง่าย แค่ประโยคนั้นของพี่ก็ทำให้ผมหลงรักพี่ในทันที ใจผมมันบอกว่าพี่คือสิ่งที่ผมต้องการมาตลอด คนที่ปลอบโยน และคนที่เข้าใจ” ผมอึ้ง และตกใจกับความจริงที่ไม่คาดคิด ผมพลิกตัวไปประชันหน้ากับเขาในทันที

“สะ...สโนว์บอล!!!” ผมบอกเสียงแหบพล่า

“ใช่คับ ผมคือสโนว์บอล”



TBC...  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-03-2017 22:03:15
รู้ความจริงแล้ว
สโนว์บอลคือ ภีม
ว่าแต่โดนยากันมิใช่น้อย หลายคนเลย
ว่าแต่เชน นี่สิ แจ็คบอกดีที่สุดในกลุ่ม
แต่กิต ว่าเลวที่สุดในกลุ่ม มันยังไงกัน :hao3:
แล้วคนที่เลวที่สุด พากิตไปซะด้วย
เชน ชอบกิต ใช่มั้ย เอ่อ...กิต มีผัว เหมือนพายใช่ปะ  :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-03-2017 22:06:29
คนแต่งเวลามาลงนิยาย

ให้ลงวันที่...ต่อท้ายตอนที่....

จะดีมากเลย

คนอ่านจะได้รู้ว่ามาลงให้แล้ว..

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 9 (04/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 05-03-2017 09:37:24
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และคำแนะนำนะค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4::
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 9 (04/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-03-2017 10:15:58
คนนั้นคือน่านใช่ไหม

เลวที่สุดอยากได้..อยากโดน..

จนลืมไปว่าภีมเค้ามีแฟนแล้วนะ

หรือไม่แคร์..อยากรู้ว่าแจ็คจะจัดการยังไง555

ว้าย..ภีมเกือบเสียคัวให้คนอื่นแล้ว

แต่ดีต่อใจมากๆเลยที่พายมาช่วยทัน

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 9 (04/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-03-2017 10:16:57
อ้างจาก: omomy link=topic=58409.msg3591578#msg3591578
date=1488681444
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และคำแนะนำนะค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4::

ครับผมเรื่องสนุกมากๆ

เป็นกำลังใจให้เสมอคับ

สู้ๆ

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 9 (04/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 05-03-2017 11:03:48
พี่พายเห็นเงียบๆก็แอบโหดนะจ๊ะ ได้บอกซะทีว่าคือสโนว์บอล

พี่กิตเสร็จเชนยัง :hao3:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 9 (04/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 05-03-2017 11:36:52
อ่านตอนแรกใจหายแว้บ นึกว่าภีมนอกใจพาย. ที่แท้โดนยานี่เอง. สนุกมากค่ะ. มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 07-03-2017 03:02:41
ตอนพิเศษ กิตผู้เพรียงพร้ำ

กิตพาร์ท

บ้าที่สุด ผมตื่นมาในสภาพเปลือยเปล่ากับไอ้เชน รุ่นน้องที่ผมเกลียดที่สุด มันเป็นคนที่ผมหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้

“กูมานอนกับมึงได้ยังไง” ผมถามเสียงนิ่ง

“พี่น่าจะโดยยาปลุกเมื่อคืน ผมเลยช่วย...สนองให้” มันบอกหน้าตาย ผมละอยากตั้นหน้ามัน แต่ก็ข่มอารมณ์ไว้ ก่อนที่ผมจะบ้าทำอะไรที่ผมก็รู้ว่าไม่มีวันชนะมันลงไป ผมรีบลุกขึ้นอย่างระวังเพื่อหยิบเสื้อผ้ามาใส่ ผมรู้ว่าผมโดนมันกระทำมากขนาดไหนเมื่อคืน จากรอยดูดบนตัวผม

“ไอ้เชี่ยเชน มึงสดหรอ” ผมด่ามันด้วยความตกใจ เพราะพอผมยืนน้ำกามใส่ๆก็ไหลจากก้นผม

“ใช่” มันตอบพร้อมยิ้มกวนๆให้ผม

“ไอ้เลว” ผมพูดได้แค่คำนั้นก่อนจะรีบใส่เสื้อผ้า และ ออกจากห้องมัน

“เดี๋ยวก่อน” เชนดึงแขนผมไว้ก่อนที่จะเปิดประตู

“อะไร”

“พี่ยังรักผมอยู่ใช่ไหม” เขาถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“ไม่”

“โกหก”

“กูเปล่า”

“เวลาพี่โกหก พี่ชอบหลบตา”

“กูบอกว่าเปล่า ปล่อย”

“หึหึ ไม่ยอมรับก็ตามใจ แต่ขอบคุณสำหรับเมื่อคืนนะคับ ผมโคตรมันส์เลย” เชนพูดกวนตีนผมเหมือนแบบที่เขาชอบทำ

ผัวะ...ผมต่อยเขาไปที

“ปากหนัก แล้วมือก็ยังหนักด้วย พี่ต่อยผม รู้ไหมว่าจะโดนอะไร” เขากักผมไว้ตรงประตูด้วยแขนทั้งสองข้าง

“อืมมม” เขาบดจูบผมอย่างรุนแรง ผมผลักเขาเต็มแรงแต่ไม่เป็นผล เพราะเชนตัวใหญ่กว่าผม และดูท่าผมคงต้องออกกำลังกายบ้างแล้ว

“นี้คือค่าตอบแทนที่พี่ต่อยผม”

“ไอ้เชน มึงมันเลว”

“ผมเลว? ใช่ แต่เลวแล้วได้เอาพี่ก็คุ้มอยู่นะ”

“ปล่อยกู”

“เวลาพี่โกรธ โคตรทำให้ผมเกิดอารมณ์เลย” เขายังคงกวนตีนผม

“มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก”

“แน่ใจหรอคับ” เขามาพูดใกล้หน้าผมมากขึ้น

“กูจะไม่ใจอ่อนกับมึงอีก ปล่อย” ผมบอกด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด

“หึ พี่รักผมจะตาย ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะทนใจแข็งได้อีกนานแค่ไหน”

“อย่ามาหลงตัวเอง ไอ้เชี่ยเชน”

“ก็คอยดูไปละกัน” มันมากระซิบข้างหูผม ก่อนจะปล่อยแขนที่กักผมไว้ออก ผมรีบเดินไปที่ประตูเพื่อออกจากห้องเชนในทันที

“จำเหตุการณ์เมื่อกี้ไว้ ถ้าผมไม่ปล่อยพี่ก็ไม่มีสิทธิไป และคราวนี้ผมจะต้องได้พี่คืนมา” เขาพูดขึ้นมาก่อนที่ผมจะปิดประตู

“ไม่มีวัน” นั้นคือคำที่ผมสวนกลับไป



ระหว่างทางกลับบ้าน ผมก็รีบโทรหาไอ้พาย เพราะเมื่อคืนก่อนที่ผมจะเมาหรือโดนฤทธิ์ยาผมยังอยู่กับพายอยู่เลย

--ฮัลโหล— พายรับโทรศัพท์เสียงเหนื่อยๆ

“ไอ้พาย มึงทิ้งกูแล้วหนีกลับไปกับผัวหรอ” ผมถามมันด้วยความโมโห

--เปล่านะ มีเรื่องที่ผับนิดหน่อยกูเลยฝากมึงไว้กับพวกไอ้แจ๊ค มีอะไรเปล่าเนี่ย— มึงนี้เองทิ้งกูไว้กับพวกมัน

“โธ่เว้ยยยย มึงฝากกูไว้กับใครไม่ฝาก มาฝากกูไว้กับพวกไอ้แจ๊คเนี่ยนะ” ผมอดว่ามันไม่ได้

--มึงเป็นอะไร เมื่อคืนไอ้แจ๊คบอกให้เชนไปส่งมึง เพราะเชนมันรู้ว่าบ้านมึงอยู่ไหน— และมึงอีกที่ปล่อยกูไปกับคนที่เกลียดที่สุดในชีวิต

“มึงแม่งปล่อยกูไว้กับไอ้เชี่ยเชนอะ มันเลวที่สุดในคณะแล้ว” ผมรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของมัน แต่ก็อดที่จะอารมณ์เสียไม่ได้ 

“อย่าบอกว่าเชนมันเอามึงไปทิ้งไว้กลางทางนะ แล้วมึงเป็นไงบ้าง ตอนนี้อยู่ไหน มีใครทำอะไรมึงเปล่า บอกกูมาดิ” พายเริ่มถามด้วยความเป็นห่วง

“เปล่าๆๆๆๆ ไม่มีไร แค่นี้นะ” ผมเลยรีบตัดบทก่อนจะวางสายไป และพอมาถึงห้องผมก็รีบอาบน้ำล้างคราบอสุจิของไอ้เชนออก แล้วนอนหลับเพราะความเหนื่อยล้าอย่างสุดๆ


สองปีก่อน
“ไอ้พาย ไอ้กิต มาช่วยพวกกูหน่อย มึงว่างนี่” รุ่นพี่ชื่อพี่โก๊ะเรียกเรา

“ช่วยไรพี่” ผมถาม

“ไปยืนหน้าคณะเรียกเด็กเข้ามาดูงานของเราหน่อย ถ้าได้มึงกับไอ้พายไปยืนหน้าคณะนะ งาน Open House ปีนี้เด็กตรึมแน่ๆ” พี่โก๊ะยิ้มอย่างชอบใจ

“เออ ผมไม่...” ไอ้พายตอบ

“ห้ามปฏิเสธ เอาโบชัวร์ไปยืนหน้าคณะ ถึงบ่ายสองพอ โอเคเปล่า” จากไม้อ่อนมาเป็นไม้แข็ง พวกผมก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วคับ

“บ่ายสองห้ามเบี้ยวนะพี่” ไอ้พายบอก

“กูคำไหนคำนั้นเว้ย” พี่โก๊ะบอกก่อนจะยื่นโบชัวร์คณะมาไว้ในมือเรา

เราสองคนมายืนหน้าคณะ และเป็นดังคาด ความสวยของไอ้พายเรียกเด็กหนุ่มที่มาดูงาน ได้อย่างมากมาย รวมถึงสาวๆที่ดูจะปลื้มผู้ชายหน้าสวยอย่างมันไม่น้อย

“พี่น่ารักจังนะคับ” เด็กผู้ชายคนหนึ่งกล่าวทักผมระหว่างที่พายมันโดนรุมขอถ่ายรูป

“ฮะ” ผมนึกว่าหูฟาดที่ไอ้เด็กนี้ชม

“ผมบอกว่าพี่น่ารักจังคับ” ไอ้เด็กตัวสูงหน้าหล่อ แต่ดูกวนตีน และเจ้าชู้ยิ้มให้ผม

“เออ...ขอบใจ” ผมไม่รู้จะตอบอะไร ใช่ว่าไม่เคยโดนชม แต่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงชมผม นี้เป็นครั้งแรกที่ผู้ชายชมผม

“ผมสนใจอยากรู้เรื่องคณะ ขอไลน์พี่ได้ไหมคับ” เขาถาม

“เข้าไปคุยกับพี่ๆข้างในดีกว่า พี่ก็เพิ่งปีหนึ่งไม่ค่อยได้รู้อะไรหรอก” ผมตอบปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุด

“ก็ได้คับ” เขาตอบตกลงก่อนที่จะเดินเข้าไปในคณะกับเพื่อนเขา

“ไอ้พายไปเหอะ บ่ายสองแล้ว” ผมบอกไอ้พายที่เริ่มทำหน้ามุ้ยเพราะอากาศร้อนมาก

“จะรีบไปไหน เดี๋ยวพวกกูพาไปเลี้ยงข้าว วันนี้เด็กมาเยอะกว่าปีที่แล้วอีก เพราะพวกมึงเลย” พี่โก๊ะมาขัดเราไว้ซะก่อน

“ไอ้พายคนเดียวมากกว่าพี่ ผมแค่ยืนแจกโบชัวร์เฉยๆ”

“มึงด้วยแหละ ไอ้เด็ก ม.6 ที่หล่อๆหน้ากวนตีนๆอะ มันขอไลน์มึงจากพวกกูด้วย” พี่โก๊ะบอก

“เฮ้ย แล้วพี่ให้มันเปล่า” ผมถามด้วยความตกใจ

“กูก็ให้ไปดิ ไอ้เด็กนั้นบอกจะมาเรียนที่นี้แน่ๆ ยังไงก็เป็นรุ่นน้องเราอยู่แล้ว” พี่โก๊ะพูดอย่างอารมณ์ดี

“ไอ้พี่โก๊ะ!!!” ผมพูดชื่อเขาเสียงดัง

“ไอ้กิตมึงอย่ามาเสียงดังใส่กู น้องมันก็เหมาะกับมึงดีนะ 555555555” พี่โก๊ะบอกก่อนจะเดินนำหน้าไป

“รีบตามมาเดี๋ยวกูไม่เลี้ยงนะเว้ย”

“ปกติเห็นมีแต่สาวมาขายขนมจีบมึง นี้มีผู้ชายกล้ามาขายขนมจีบมึงด้วยวะ 5555” ไอ้พายหัวเราะอย่างสะใจ

“เดี๋ยวกูเตะปากมึงเลย รีบตามพี่โก๊ะไปเลยมึงกูอยากกินของฟรี” ผมพูดอย่างอารมณ์เสียก่อนที่จะเดินตามพี่โก๊ะไป


ไลน์---ไลน์ เสียงไลน์ดัง

(สวัสดีคับพี่กิต) ผมดูรูปดิสเพลเป็นรูปถ่ายยืนหล่อหน้ารถบีเอ็มก็รู้เลยว่าใคร ไอ้เด็กกวนตีนนั้นเอง

(ได้ไลน์พี่มาได้ไง) ผมถาม

(พี่โก๊ะให้มาคับ)

(พี่ไม่อยากรู้ชื่อผมหรอ)

(ไม่อะ พี่ไม่ชอบผู้ชาย)

(แต่ผมชอบพี่ แค่นั้นก็พอ) ผมอ่านแค่นั้นก็เลิกตอบกลับมัน


ครืด----ครืด โทรศัพท์ผมสั่น

“ฮัลโหล”

--ผมชื่อเชนนะคับ—

“น้องได้เบอร์พี่มาด้วย?” ผมอุทานด้วยความแปลกใจ

--หึหึ ผมชอบพี่บอกแล้วไงคับ—

“พี่ไม่ชอบ แค่นี้นะ”

--ถ้าพี่ว่างผมขึ้นไปหาที่ห้องแน่— ผมชะงักไประหว่างที่จะตัดสาย

“หมายความว่าไง” ผมรีบถาม

--ผมอยู่หน้าหอพี่—

“โรคจิตหรอ พึ่งเจอกันวันเดียวมาทำเชี่ยอะไรหน้าหอคนอื่น”

--พี่พูดหยาบก็ดูดีนะ ผมชอบ— มันยังทำน้ำเสียงกวนตีน

“มึงบ้าเปล่าเนี่ย” ผมบอกก่อนจะตัดสาย คืนนั้นผมนอนหลับไม่สนิทเลย เพราะดันฝันถึงไอ้เด็กบ้านี่


เช้าวันต่อมาผมตื่นเช้า เพราะนอนไม่ค่อยหลับ ผมกะจะเดินไปหาอะไรกินที่เซเว่น แต่ตอนที่ลงมาหน้าหอก็เจอกับไอ้เด็กเชนนั่งหน้ากวนส้นอยู่ที่ม้านั่งหน้าตึก

“มึงมาทำไรแต่เช้า” ผมถามแบบไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่

“ผมมาดักรอพี่ไง”

“โรคจิตแน่ๆมึงอะ” ผมว่า

“ผมชอบพี่”

“อย่ามายุ่งกับกู กูมีแฟนแล้ว” ผมหาข้ออ้างเพื่อที่จะให้เด็กบ้านี้หยุดกวนผมสักที

“พี่พายหรอคับ” มันถามกลับ

“ใช่” กูขอยืมชื่อมึงมาใช้ก่อนนะพาย

“หึ ผมไม่เชื่อ”

“ตามใจมึง”

ไอ้เด็กน่ารำคาญนี้ก็วนเวียนอยู่กับชีวิตผมตลอด ผมกลัวไอ้พายแซวเหลือเกินเรื่องไอ้เด็กบ้านี้ ถึงมันไม่เคยเผยตัวต่อหน้าเพื่อนสนิทผม แต่ผมต้องหาขอตกลงกะมัน

“เลิกมาตามกูนะ เดี๋ยวไอ้พายกับเพื่อนที่คณะแซวกู” ผมบอก ตอนลากมันมาคุยกันสองคน

“งั้นพี่คุยไลน์กับผมทุกครั้งที่ผมทักมา ตกลงเปล่า” มันพูดกลับอย่างรวดเร็วเหมือนคิดเอาไว้อยู่แล้ว

“เออๆ ตามนั้น” ผมบอกมันอย่าขอไปที ก่อนจะเดินหนีออกมา


หลังจากนั้น ผมกับไอ้เชนเราก็คุยกันทุกวัน จนกลายเป็นความเคยชิน และจากความเคยชินกลายเป็นความชอบ ผมชอบมัน และชอบมากด้วยตอนนั้น ความตื้อของมันทำให้ผมคิดว่ามันรักผม ผมถึงยอมนอนกับมัน ยอมเป็นรับให้มัน แต่ทุกอย่างก็พังทลายลงในวันที่ผมไปห้องมันแล้วเห็นมันนอนกอดอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ผมช็อคไปเลย

“มึงทำแบบนี้ทำไม” ผมถามทั้งๆที่ไม่ควรต้องถามอะไรแล้ว

“ก็แค่เซ็กซ์ พี่อย่าคิดมากสิคับ ผมยังชอบพี่มากที่สุดเหมือนเดิม” คำตอบของมันทำให้ผมอึ้งไปนานพอสมควร

“มึงเห็นกูเป็นอะไร ของตายหรอ”

“ก็...เปล่า” มันเหมือนจะเถียง แต่ก็เถียงไม่ออก

“มึงเลิกยุ่งกับกูเถอะ จากนี้ต่างคนต่างอยู่”

“ไม่!!! ผมไม่ยอมเสียพี่ไป” มันรีบเข้ามากอดผม

“ปล่อยกู”

“ถ้าพี่ไม่ชอบผมจะไม่ทำอีก ให้โอกาสผมนะ” เขากอดผมแน่นขึ้น พร้อมขอร้องจนผม...ใจอ่อน


แต่คนเจ้าชู้แบบมัน โอกาสคือสิ่งที่ไม่ควรได้เลย หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้สองเดือน ผมก็รู้สึกว่ามันแปลกไป มันมาหาผมน้อยลง ทักไลน์ก็ไม่ค่อยตอบ ผมเลยแอบไปที่คอนโดมันที่อยู่ใกล้มหาลัย เพราะตอนนี้มันมาเป็นรุ่นน้องผม เด็กปีหนึ่ง ส่วนผมก็ปีสองแล้ว ผมเข้าไปที่ห้องมันก็เห็นเสื้อผ้าวางเกลื่อนไปหมดเหมือนถอดอย่างเร่งรีบ ผมเดินไปจนถึงหน้าห้องนอน เสียงครวญครางก็ดังออกมา ผมรู้เลยว่าผมนี้มันโง่มากแค่ไหนที่หลงเชื่อคนเจ้าชู้อย่างมันมาได้ตั้งนาน ผมเปิดประตูห้องมันในทันที ภาพที่ผมเห็นก็เป็นอย่างที่คิด แต่คราวนี้มันมีอะไรกับผู้ชาย

“เฮ้ยยย พี่กิต!!!” มันตกใจจนผลักผู้ชายคนนั้นออกในทันที

“จากนี้ไปมึงอย่ามายุ่งกับกูอีก” ผมพูดด้วยเสียงที่เย็นชาที่สุด ก่อนจะเดินออกมา

“เดี๋ยว ผมแค่กำลังจะทำให้มันจบ แค่เซ็กซ์เพราะสถานการณ์พาไป ทีมเป็นแค่แฟนเก่าเท่านั้น” คำแก้ตัวที่เชี่ยที่สุดของมัน ผมไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้วตอนนั้น

“อย่าจับตัวกู อย่ายุ่งกับกู ออกไปจากชีวิตกูซะ กูเกลียดมึง” ผมทำหน้านิ่งที่สุด เย็นชาที่สุด ทั้งที่ใจผมแหลกสลายไปหมดแล้ว เชนยืนนิ่งหลังจากเห็นท่าทางจากคำพูดของผม

ผมกลับถึงห้อง และร้องไห้จนแทบขาดใจ มันเจ็บจนปวดไปหมดทั้งใจ ผมไม่อยากเป็นแบบนี้เลย คืนนั้นผมร้องไห้ทั้งคืน พอตอนเช้าผมก็ต้องทำตัวให้เข้มแข็งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมไม่อยากให้พายเป็นห่วง มันมีเรื่องทุกข์มากพอแล้ว และอีกอย่างผมไม่ควรจะไปคิดถึงคนเลวแบบนั้น พอกันทีกับความอ่อนแอของความรัก หลังจากเหตุการณ์นั้น เชนก็ไม่ได้มายุ่งกับผมอีก ผมก็ร่าเร่งตามปกติ ถึงจะได้ข่าวว่าเชนไม่ค่อยมาเรียน ก็ไม่ทำให้ผมหวั่นไหวเท่าไหร่นัก


แต่โชตชะตาก็ดันมาเล่นตลกกับผม เพราะต้องไปจัดการไอ้เด็กทีมที่มาด่าพายในกระทู้ แค่เห็นที่มันพูดกับพายก็รู้แล้วว่ามันคงแอบชอบภีม โคตรเดือนของเพื่อนผม และมันนี้แหละที่ทำให้ผมต้องมาเจอไอ้เชนอีก ทั้งที่ไม่เจอกันมาเป็นปี

“มึงแกล้งเพื่อนกู หน้าตาก็ดี ไม่น่าร่านนะคับน้อง”

“มึงดีตายละ กูจำได้แล้ว ก็คิดอยู่ว่าหน้าคุ้นๆ มึงเป็นเมียเก่าพี่เชนนี้เอง”

ผัวะ…ผมต่อยมันไปทีหนึ่ง โคตรไม่สบอารมณ์เลย

“พี่เชนช่วยทีมด้วย” เชนดูตกใจไม่น้อย มันน่าจะบังเอิญผ่านมามากกว่า เพราะเพื่อนมันที่ชื่อฟิวก็ตกใจเหมือนกัน

“พี่กิตโหดดีจัง” ไอ้ฟิวเป็นคนพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม ก่อนที่เชนจะพยุงทีมขึ้นมา

“เมียเก่าพี่เชนต่อยเราอะ พี่เชนต้องจัดการนะ” ได้ทีก็ฟ้องใหญ่เลยคับ

“เมียเก่าไอ้เชนใครวะ พี่กิตหรอ นายโดนต่อยจนมึนหรือไง อย่ามาว่ารุ่นพี่กูนะมึง” ไอ้ฟิวออกตัวปกป้องผม ผมตบไหล่มันเบาๆเป็นการขอบใจ ส่วนไอ้เชนก็แค่ยืนนิ่งๆไม่ได้ทำอะไร

“อย่าให้เมียมึงมายุ่งกะเพื่อนกูและแฟนเพื่อนกูอีก ไม่งั้นกูไม่เอาไว้แน่” ผมบอกไอ้เชนตอนเดินสวนมันออกมาจากจุดเกิดเหตุ

นั้นคือครั้งแรกที่ไม่เจอกันหลังจากที่ไม่เจอเป็นปี และด้ายแห่งโชคชะตาก็คงแข็งแรงมากจนลากผมมานอนกับมันเมื่อคืน...



TBC...  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-03-2017 08:44:18
มาให้กำลังใจจ้า

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 07-03-2017 09:08:01
จะว่ายังไงดีล่ะ ตอนที่คบกันเชนก็ทำตัวไม่ดีจริง ๆ แถมพอมาเจอกันอีกครั้งก็ดูจะฝากเรื่องเลวร้ายอีกเรื่องไว้ในความทรงจำของกิตเสียอย่างนั้น
เชียร์กิตค่ะ ตัดออกไปจากความทรงจำเลย สันดานมันแก้ยาก โดยเฉพาะพวกไม่รู้สำนึก
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 07-03-2017 09:22:30
เชนเลวมากอ่ะ  แต่ชอบกิตมากๆ สตรองดี เจอแฟนเลว ๆ นอกใจครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ไม่คร่ำครวญร้องไห้ให้เชนเห็น ไม่ขอร้องยื้อเหมือนคนไม่มีค่า กลับมาเจอกันก็ยังสตรอง ขอให้สตรองแบบนี้ตลอดไปนะ ถ้าเชนยังเลวเหมือนเดิมก็อย่ากลับไปคบกะมันอีก
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 07-03-2017 16:37:51
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:  หวังว่าจะชอบตอนพิเศษกันนะค่ะ อาจจะมีตอนของกิตมาให้อ่านกันอีก  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-03-2017 20:48:22
สงสารกิตจัง อย่าใจอ่อนง่ายๆนะกิต
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 07-03-2017 21:00:12
ติดตามจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-03-2017 21:07:50
แจ็ค เห็นเชนในแบบเพื่อนๆ ก็ต้องว่าเชนดี
กิต คงเจ็บช้ำมากที่เชนเป็นอย่างนี้
ใครก็ต้องไม่อยากได้แฟนที่เจ้าชู้อย่างเชนทั้งนั้น
เชน ต้องเข้าหากิต อีกแน่ๆ และเข้าหาได้
เพราะกิตก็ไม่อยากให้พายรู้อยู่ด้วย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-03-2017 23:19:28
กิตเจอหนักอยู่นะเนี้ย :กอด1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 08-03-2017 16:51:31
มาตามลุ้นคุณเพื่อนกิตแทนละกัน น่าสนใจจริงๆ เรื่องนี้ต้องมีส่วนขยายนะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนพิเศษ (07/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 08-03-2017 20:59:35
 :pig4: แปะโป้งติดตาม
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 10 (09/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 09-03-2017 19:18:24
ตอนที่ 10 สโนว์บอล


พาย พาร์ท

“สะ...สโนว์บอล” ผมเอ่ยด้วยความตกใจ

“ใช่คับ ผมคือสโนว์บอล...ของพี่พาย” เขาพูด ก่อนประโยคสุดท้ายจะกระซิบที่ข้างหูผม ผมอึ้งไปนานกว่าจะตั้งสติได้

“ทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่แรก”

“ไม่มีโอกาสบอกมากกว่าคับ ผมชอบพี่มาตั้งแต่ตอนนั้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่พี่กอดผม พี่ทำให้ผมอยากไปโรงเรียน และทำให้ผมพยายามที่จะมาเรียนมหาลัยเดียวกับพี่ อยากเจอพี่ พอเจอแล้วก็ดันมีข่าวลือเรื่องเดือนปีกทองซะก่อน ผมไม่เชื่อว่าพี่จะทำแบบนั้น เลยลองซื้อพี่ดู แต่ดูเหมือนว่าผมจะโชคดี ที่พี่เกิดอยากขายขึ้นมา” เขาพูดขณะนั่งซ้อนหลังผม แล้วเอาคางเกยที่ไหล่ผมไว้

“ไม่ได้อยากขายหรอก ตอนนั้นดันเจอพี่พลพอดี เลยเอาตัวรอดไว้ก่อน แต่ไม่คิดว่าจะโดนมอมจนเสียท่า” ผมบอกเขาพลางแกล้งมองเขาอย่างโมโห

“หึหึ ก็พี่น่ารัก ผมเลยอดใจไม่ไหว วันนั้นตอนพี่เมารู้ไหมโคตรยั่ว ถึงผมรู้ว่าพี่แพ้ แต่ก็คิดว่าแค่แก้วเดียวมันน่าจะช่วยผ่อนคลายความเกร็งของเราได้ และผมไม่ปล่อยให้พี่เป็นอะไรแน่นอน ไม่นึกว่าพี่กินไปแก้วเดียวก็เมาซะแล้ว ผมก็นั่งกินจนหมดก่อนพาพี่ไปนอน และพี่ก็ยั่วผม” เขาพูดอย่างสนุกสนาน

“โม้” ผมว่า

“หึหึ รู้ไหมคับคืนนั้นพี่เคลิ้มเรียกผมว่าสโนว์บอลด้วย” เขาจูบที่ไหลผมหนึ่งที

“พี่...แอบชอบสโนว์บอลมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเหมือนกัน ตอนนั้นภีมทำให้พี่นึกถึงความอ่อนแอของตัวเอง และภีมก็กลมน่ารักดี”

“แล้วตอนนี้ หุ่นแบบนี้ยังชอบไหมคับ” เขาถามทีเล่นทีจริง

“ชอบ พอรู้ว่าภีมคือสโนว์บอลก็ยิ่งชอบมากขึ้น” ผมบอกเขาตามความจริง

“ผมรักพี่” เขาดูดคอผม ก่อนจะซุกไซร้ขึ้นมาที่กกหู

“อืมมม” และจบที่ปากผม เขาจูบผมอย่างนุ่มนวล

“จากนี้ไปผมจะเป็นของพี่คนเดียว ผมสัญญา และจะทำให้พี่เห็นว่า การที่พี่ให้ใจกับผม พี่คิดถูก” หลังจากนั้นเขาก็นอนกอดผมไว้ ผมอุ่นใจเหลือเกินที่มีเขาอยู่ตรงนี้...


“พี่พายคับ ตื่นเถอะคับ จะสายแล้ว” ภีมปลุกผม ผมงัวเงียมองหน้าเขาที่อยู่ห่างแค่ไม่กี่เซ็น

“พี่เพลียอะ”

“งั้นผมพาไปอาบน้ำ” พอพูดเสร็จเขาก็อุ้มผมไปห้องน้ำทันที เขาช่วยถูสบู่ให้ผม ดีที่เขารู้ว่าไม่ควรซ้ำกับผม เพราะผมยังไม่ไหว เขายืนน้องชายแข็ง แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ ผมเลยจับเข้าให้

“ซี๊ด...จะทำอะไรคับ” เขาถามหน้าเสียงตอนผมขยับมือ

“ก็ช่วยภีมไง แข็งขนาดนี้” ผมว่าผมก็บ้ากามเหมือนกันนะเนี่ย

“พี่เหนื่อยอยู่นะ...ซี๊ด”

“แค่ชักให้คับ” หลังจากนั้นผมก็ช่วยเขาจนเสร็จ ส่วนของผมเขาจับมันนิดเดียวก็ไปละคับ ก็มองหน้าภีมแล้วมันเสียวนี่หน่า มันเป็นครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้ให้คนอื่น แต่มันกลับเป็นความสุขที่ผมได้ทำให้เขา...
พอออกจากห้องน้ำ ภีมก็ช่วยผมเป่าผม ก่อนจะแต่งตัวเตรียมเข้ามหาลัย

“พี่น่าจะเรียนเสร็จก่อนผม มารอผมที่ม้านั่งในคณะนะคับ” เขามองผมอย่างอ้อนๆ

“ก็ได้” ผมก็ไม่อยากกลับไปที่หอคนเดียวเหมือนกัน

“พี่น่ารักที่สุด” เขากอดผมก่อนจะออกจากห้อง แต่พอเปิดประตูไอ้กิตก็ล้มตัวลงมาทันที มันน่าจะนั่งพิงประตูอยู่ แต่งตัวนักศึกษาเรียบร้อยเชียว

“มึงมานั่งทำไรหน้าประตูเนี่ย” ผมถาม

“กูกลัวรบกวน” มันว่า

“รบกวน? มึงจะไปมหาลัยพร้อมกูหรอถึงมานั่งรอ”

“ใช่” มันบอกพร้อมยิ้มกว้าง

“มึงก็มีรถ”

“รถกูมีปัญหาพอดี ให้กูไปด้วยนะ” มันบอกพร้อมทำท่าจะมาอ้อนผม

“ก็ได้ อย่าทำท่าแบบนั้น กูยันออกจริงๆ” ผมบอกมัน ภีมหัวเราะไปกับคำพูดผม

“ที่ไอ้ภีมมันยังทำได้เลย”

“มึงกับภีมต่างกัน”

“เห็นผัวดีกว่าเพื่อน” มันทำมางอน

โป๊กกกก...โบกไปที

“มึงอย่ามาทำงอน เดี๋ยวโดนอีกที จะไปด้วยก็ตามมา” ผมบอกก่อนจะเดินไปที่ลานจอดรถ

“พี่พายสวัสดีคับ” ไอ้เชนที่ดูเหมือนยืนรอใครอยู่ที่หน้าหอทักผม

“พี่กิตสวัสดีคับ” พอมันหันไปไหว้ไอ้กิต ไอ้กิตก็ทำเป็นไม่เห็นมันซะอย่างงั้น ดูท่ามันจะไม่ชอบไอ้เด็กนี้จริงๆ

“มารอเพื่อนหรอ” ผมถามเป็นเชิงทักทายกลับ

“เปล่าคับมารอเมีย” มันตอบพร้อมยิ้มกวนๆ ผมก็อึ้งไปเล็กน้อย พูดตรงดีแฮะ ปกติผมแทบจะไม่เคยพูดกับเชนเลยด้วยซ้ำ

“อ่อ งั้นไปก่อนนะ” ผมบอกก่อนที่จะเดินไปที่รถกับภีม แต่ไอ้กิตก็ดึงผมไว้ซะก่อน พอผมหันไปมองก็เห็นไอ้เชนมันดึงมือเพื่อนผมไว้ นี้จะเล่นรถไฟเกาะกันไปรึไง

“มึงปล่อยกู” ไอ้กิตบอกไอ้เชน

“มึงก็ปล่อยกูด้วย” ผมบอกมันอีกที

“เอากูไปด้วย” มันทำหน้าขอร้องผม

“มีเรื่องอะไรกันวะเนี่ย มึงสองคน” ผมถาม

“เปล่า/มี” ไอ้กิตตอบเปล่า ไอ้เชนบอกมี สรุปมีหรือไม่มีเนี่ย

“เฮ้อ..สรุปเอาไง มึงไปคุยกับน้องมันก่อนไหม” ผมถอนหายใจก่อนจะถามมัน

“ไม่ๆ กูจะไปกับมึง” ไอ้กิตรีบตอบผมในทันที

“งั้นไอ้เชนปล่อยเพื่อนกู กูกับไอ้กิตจะไปเรียน” ผมบอกมันหน้านิ่ง มันมองผมเหมือนประเมินสถานการณ์ก่อนจะปล่อยไอ้กิต  เราถึงได้ขึ้นรถไปเรียนกันสักที


ระหว่างที่นั่งในรถไอ้กิตก็ทำเฮฮาปกติ แต่ผมรู้ว่ามันไม่สบายใจอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้ถาม ผมเป็นพวกไม่ชอบคาดคั้น ถ้าเพื่อนจะบอกอะไร มันก็คงต้องบอกผมเองโดยที่ไม่ต้องถามอะไร

“เดี๋ยวตอนเย็นๆเจอกันนะคับ” ภีมบอกก่อนจะขับรถออกไป ส่วนผมก็เข้าเรียนกับไอ้กิต

“ไอ้กิต ได้ข่าวว่ามึงเสียท่าให้ไอ้เชนรุ่นน้องเราหรอ” อยู่ดีๆไอ้บอยก็ถามขึ้นมาตอนเรียนเสร็จ
“ไอ้เชี่ย พูดไร ใครบอกมึง มั่วแล้ว” มันว่าเป็นชุดเลย

“เห็นรุ่นน้องมันพูดกัน ไอ้แจ๊คมันบอกว่าไอ้เชนเมา แล้วพูดออกมา” ผมมองหน้าไอ้กิตที่ตอนนี้หน้าซีดเชียว

“ไม่มี มันมั่ว” มันบอกก่อนจะเดินหนีไป มันต้องมีอะไรแน่ๆ

“อย่าไปแซวไอ้กิตมัน มันไม่ชอบให้แซว มึงก็รู้” ไอ้บอยยิ้มแก้เกอที่โดนผมบ่นใส่

“มึงว่างเปล่า” ไอ้บอยถามผม

“ว่าง มีไร”

“ไปคณะนิติเป็นเพื่อนกูหน่อย” ไอ้บอยบอกพร้อมทำท่าขอร้อง

“กูต้องไปอยู่แล้ว แต่มึงติดสาวคณะนิติหรอวะ” ผมถาม

“ประมาณนั้น” มันบอกเหมือนมีอะไรลับลมคมใน แต่ผมก็ไม่ถามเหมือนกัน เพราะดีที่มีคนไปส่ง


พอมาถึงคณะนิติศาสตร์ ไอ้บอยมันก็เดินมานั่งรอที่ม้านั่งด้านในกับผม

“มึงก็รอหรอ” ผมถามมัน

“อืม แต่เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนท้องไม่ค่อยดี” มันบอกก่อนจะรีบเดินออกไป ส่วนผมก็นั่งเล่นโทรศัพท์ระหว่างรอ

“พาย” ผมเงยหน้ามองคนที่เรียกผม ผู้ชายหน้าหล่อ เดือนมหาลัยปีสามนี้เอง

“หมอก” ผมเรียกชื่อเป็นเชิงทักกลับ

“มารอภีมหรอ” หมอกถาม

“ใช่”

“ทำไมพายถึงยอมคบกับภีม” มันถามตอนที่นั่งลงข้างผม ผมรีบเขยิบออกในทันที

“ภีมเป็นคนดี” ผมบอกแค่นั้น

“พายจะบอกว่าเราไม่ดีสินะ” มันทำเสียงเศร้า

“อาจจะใช่” ผมตอบตามที่ผมคิด

“พายจะไม่ยกโทษให้เราหรอ” หมอกทำเสียงขอร้อง

“เราไม่ได้โกรธหมอกแล้ว แต่สิ่งที่หมอกทำ มันทำให้เราเสียความรู้สึก”

“เราไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นเราเสียใจ เราชอบพายมาก พอพายปฏิเสธเรา เราก็ขาดสติ จนทำให้พายเสียชื่อเสียง แต่ก็ไม่ใช่แค่เราที่ทำแบบนั้น คนอื่นก็พูดกันก่อนแล้ว” เขาเหมือนสำนึกผิด แต่ก็ยังหาข้อแก้ตัว

“คนอื่นเราไม่โกรธ ไม่รู้สึกอะไร เพราะคนพวกนั้นแค่เข้ามาถาม เข้ามาจีบ ซึ่งเราก็ปฏิเสธอย่างโจ่งแจ้ง พวกนั้นถึงโกรธจนทำให้เราเสียชื่อเสียง แต่กับหมอก หมอกเป็นเพื่อนที่ดีกับเรามาตลอด ตั้งแต่ประกวดดาวเดือน หมอกก็ค่อยช่วยเรา แต่พอเราบอกว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย และไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับหมอก หมอกกลับมาใส่ร้ายเราด้วยอีกคน มันทำให้เราเสียความรู้สึก” ผมบอกไปตามที่ผมคิด

หมอกเคยเป็นเพื่อนที่ดีมากสำหรับผม พอประกวดเสร็จหมอกได้เป็นเดือนมหาลัย คนชื่นชอบมากมาย เขากลับมาบอกว่ารักผม ซึ่งผมไม่ได้ชอบเขาแบบนั้น ผมอาจจะปฏิเสธด้วยท่าทีเย็นชาเกินไป เขาถึงโกรธผมขนาดนี้ แต่ผมคิดว่าการที่เราจะปฏิเสธใครเราก็ควรบอกไปตรงๆ อย่างคำที่ว่าตัดบัวไม่เหลือใย อย่าให้มีความหวังต่อกันอีก นั้นถึงจะไม่เกิดปัญหาที่หลัง แต่ใครจะคิดว่าหมอกก็เป็นหนึ่งในผู้ชายที่ยืนยันว่าผมขายตัว พอมีเดือนสุดหล่อที่ดูเป็นคนดีแบบนี้มาพูด เรื่องขายตัวของผมก็มีน้ำหนักมากขึ้น จนกลายเป็นไฟลามทุ่ง จากกลุ่มเล็กๆที่เม้าท์กันอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ก็กลายเป็นทุกคนในมหาลัยที่เชื่อ และเริ่มเรียกผมว่า...เดือนปีกทอง

“เราขอโทษนะพาย แต่ทำไมตอนนั้นพายบอกไม่ชอบผู้ชาย แต่ก็คบกับมันละ” เขาเริ่มงอแงไม่เข้าเรื่องซะแล้ว

“ภีมเป็นผู้ชายคนเดียวที่เรารัก นั้นคือคำตอบ” ผมบอกก่อนที่เขาจะมาจับมือผม แต่ผมขืนไว้

“เป็นเราไม่ได้หรอพาย” เขายังทำเสียงอ้อนวอนผม

“หมอก อย่าทำแบบนี้” เขาทำให้ผมรู้สึกเวทนา

“เรารักพายมาก ผ่านมาสองปีเราก็ยังตัดพายจากใจไม่ได้ รู้ไหมวันนี้ตอนที่เห็นพาย ใจหมอกมันเต้นแรงมากขนาดไหน” หมอกจับมือผมไปแนบแก้มเขา เขาจับมือผมแน่นมาก ทำให้ผมดึงมือออกได้ยาก

“จะจับมือเมียผมอีกนานไหมคับรุ่นพี่” ภีมพูดเสียงนิ่งจนน่ากลัว หมอกรีบปล่อยมือผมในทันที แต่สายตายังคงมองผมอย่างอาลัยอาวรณ์

“ไปกันเถอะคับ” ภีมบอกก่อนจะจูงมือผมออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะปล่อยมือผมอย่างอารมณ์เสียตอนเดินไปลานจอดรถ

“อืมมมมม” เขาจับหน้าผมก่อนที่จะกดจูบอย่างรุนแรง มันดุดัน และเร่าร้อน เขาสอดลิ้นเข้ามา และกัดปากผมเล็กน้อยก่อนจะถอนปากออกไป

“มีอะไรจะพูดไหม” เขาถามเสียงสั่น ก่อนจะหันหลังให้ผมเหมือนกำลังระงับความโกรธอยู่ ในขณะที่ใจผมเต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผาวไปหมด ในสถานการณ์นี้ผมรู้ว่าผมผิด ผมเดินไปกอดเขาที่ยืนหันหลังให้ผม

“พี่กับหมอกไม่ได้มีอะไรกันนะ” ผมบอกพร้อมซบหน้ากับแผ่นหลังกว้างของภีม

“ผมทนไม่ได้ที่เห็นพี่นั่งให้เขาลูบมือเล่นแบบนั้น” เขาถามผมเสียงสั่น อะไรทำให้เขาไม่มั่นใจตัวเองแบบนั้น ในเมื่อผมรักเขามากขนาดนี้แท้

“ภีมคือผู้ชายคนเดียวที่พี่รักนะ มั่นใจตัวเองหน่อยสิ” ผมคลายอ้อมกอดเขา ก่อนจะจับเขาหันหน้ามามองผม

“ผม...หึง” เขาตอบเสียงอ่อย

“พี่รู้” ผมบอกเขา

“ผมอดหึงไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าพี่รักผม”

“สโนว์บอล เด็กน้อย” ผมอดแซวเขาไม่ได้ ก็เขาทำท่าเหมือนตอนเป็นสโนว์บอลขี้แยไม่มีผิด น่ารักจริงๆ

“เห็นผมหึง แล้วยังมาแซวอีกหรอคับ แบบนี้ต้องโดนทำโทษ” เขาบอกพลางกอดผมเอาไว้ แล้วหอมผมไปหลายฟอด

“แช๊ะๆๆๆ หวานกันแบบนี้ต้องเก็บรูปไปขายสักหน่อย” เจตเพื่อนภีมพูดอย่างร่าเริง

“ก่อนเก็บรูปไปขายเอามาให้พลอยดูก่อนนะ” พลอยที่เพิ่งมาถึงบอกกับเจต ก่อนจะยื้อแย่งโทรศัพท์กันเป็นเด็กๆ

“พวกมึงวิ่งไล่จับกันไปละกัน กูไปก่อนนะ” ภีมบอกเพื่อนก่อนที่จะพาผมขึ้นรถกลับหอ

“อ้าวไอ้ภีม ไม่ไปกินข้าวด้วยกันหรอ” เจตตะโกนเรียก

“กูจะกลับไปกินกับเมียสองคน” ภีมบอกแค่นั้นก่อนจะขับรถออกมา


พอถึงหอก็เห็นไอ้กิตยืนหน้าดำหน้าแดงคุยกับไอ้เชน นี้ยังทะเลาะกันอีกหรอเนี่ย ดูท่าไอ้เชนจะชอบใจมากกว่า เพราะมีแค่เพื่อนผมคนเดียวที่ดูไม่สบอารมณ์

“ไอ้กิต” ผมเรียก

“เฮ้ย ไอ้พาย” มันดูตกใจมากตอนเห็นผม

“ยังทะเลาะกับน้องมันอยู่อีกหรอ” ผมถาม

“เปล่า ไอ้เชน มึงจะไปไหนก็ไป” มันบอกไอ้เชนก่อนจะรีบเดินขึ้นหอไป ไอ้เชนแค่ไหว้ผมก่อนจะเดินทำหน้าเซ็งออกไป

“พาย” พี่พลเดินสวนกับไอ้เชนเข้ามาพอดี นี้วันบ้าอะไรของผมเนี่ย

“พี่พล มีอะไรคับ” ผมถามโดยมีภีมจับมือผมเอาไว้

“แม่บอกคิดถึง ให้พี่มาบอกให้พายกลับบ้านบ้าง” พี่พลดูกลัวภีมไม่น้อย แค่โดนภีมซ้อมใหญ่ไปแค่ครั้งเดียว เขาถึงกับกลัวภีมได้ขนาดนี้เลยหรอ

“ทำไมแม่ไม่โทรมาหาผมละคับ”

“พี่มาทำธุระพอดีเลยแวะมาบอกให้แม่ พายกลับบ้านบ้าง พี่ เออ พี่จะพักที่รีสอร์ทระหว่างที่พายอยู่บ้าน โอเคไหม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายจะขอร้องผม

“ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ได้คับ” ผมตอบตกลงเขา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาโทรหาแม่ต่อหน้าพี่พล

“ฮัลโหล แม่หรอคับ”

--พายหรอลูก ไม่ค่อยโทรหาแม่เลยนะ—

“พายขอโทษคับแม่ แม่ฝากพี่พลมาบอกพายใช่ไหมคับ” ผมถามแม่ทันที

--ใช่จ๊ะ เจอพี่พลแล้วหรอลูก แล้วจะกลับมาเสาร์อาทิตย์นี้เลยไหม—

“ได้คับ พายจะพาแฟนกับเพื่อนไปด้วยนะคับแม่” ผมบอกแม่ไปแบบนั้น ทำเอาภีมกับพี่พลมองผมเป็นตาเดียว พี่พลมองผมด้วยความตกใจ ส่วนภีมมองผมด้วยความดีใจ

--แฟน!! พายมีแฟนแล้วหรอลูก ผู้ชาย?— แม่ถามซะผมอึ้งไปเลย

“แม่รู้ได้ไงคับ”

--แกสวยขนาดนั้น จะมีผู้หญิงที่ไหนยอมคบด้วยละ— แม่แซวผม

“แม่ไม่โกรธหรอคับ”

--ไม่หรอกลูก พามาเจอครอบครัวเราก็ดีนะ—

“ได้คับ ไว้เจอกันคับแม่”

--จ๊ะ แม่รักลูกนะ— แล้วแม่ก็วางสายไป

“ขอบคุณที่มาบอกคับพี่ ผมไปก่อนนะคับ” ผมบอกแบบนั้นก่อนจูงมือภีมขึ้นห้องมา ผมรู้ว่าพี่พลอยากจะพูดกับผม แต่ผมก็ยังไม่อยากพูดกับเขาอยู่ดี


“ให้ผมไปด้วยได้จริงๆหรอคับ” ภีมถามผมด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด

“อืม พี่บอกแม่แล้วนิ ว่าจะพาแฟนไปด้วย”

“พี่จะบอกที่บ้านว่าเราเป็นแฟนกันหรอคับ” เขากอดผมเอาไว้ตอนถามดูกังวลไม่น้อย

“ใช่ แม่พี่รู้แล้วว่าแฟนพี่เป็นผู้ชาย” ผมบอกเขาพลางกอดตอบเขาไว้แน่น

“ไว้หลังจากกลับมาจากบ้านพี่ ผมจะพาพี่ไปแนะนำที่บ้านผมด้วย” เขาจูบที่กระหม่อมผมอย่างแผ่วเบา
ก๊อกๆๆๆ ผมเปิดประตูก็เจอไอ้กิต ยืนตาแดงใส่ผม มันร้องไห้มา!!!

“มึงเป็นอะไรเปล่า” ผมรีบถามด้วยความเป็นห่วง

“กู...” มันมองภีมเล็กน้อยเป็นเชิงว่าอยากพูดกับผมสองคน

“เดี๋ยวผมไปรอข้างนอกก็ได้คับ” ภีมบอกก่อนจะเดินออกไป

“กูเหนื่อยวะ ยิ่งเจอมันตลอดเวลาลากูยิ่งจะไม่ไหว” มันบอกด้วยเสียงที่เหนื่อยล้า และเศร้า

“เจอใคร”

“ไอ้เชน”

“ไอ้เชน?”

“กูไม่เคยบอกมึง แต่กูกับมันเคยมีอะไรกัน” ผมอึ้งไปนานหลายนาที

“มึงเคยบอกว่าชอบผู้หญิง แล้วไปมีอะไรกับเด็กนั้นได้ไง” ผมถามด้วยความตกใจ

“มันตามจีบกูจนใจอ่อน แล้วเราก็เลิกกัน แต่วันนั้นที่เราเมา แล้วมึงให้มันพากูกลับ กูก็มีอะไรกับมันอีก” มันบอกผมอย่างเศร้าๆ

“กูขอโทษนะ”

“ไม่ใช่ความผิดของมึง ก็มึงไม่รู้นี่”

“แล้วที่มันมารอมึงหน้าหอเพราะเรื่องคืนนั้นหรอ” ผมถาม

“ใช่ มันอยาก...ขอคืนดี” คำว่าขอคืนดีทำไมฟังแล้วเจ็บปวดแบบนี้นะ

“ไปพักสมองที่บ้านกูวันหยุดนี้ดีกว่า” ผมบอกมัน มันดูสีหน้าดีขึ้น

“ก็ดี กูจะได้ไม่ต้องเห็นหน้ามันสักวันสองวัน” แล้วมันก็ดึงผมไปกอดเมื่อพูดจบ

“กูกลัววะ” มันตอบเสียงอ่อย

“กลัว?”

“กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน”



TBC...  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 10 (09/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-03-2017 19:57:27
ตอนแรกคิดว่ากิตจะคู่พี่พลซะอีก

พายปากตรงกับใจดีนะชอบๆ

ภีมก็เป็นพระเอกที่แลดูอบอุ่นมากๆ

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 10 (09/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-03-2017 20:08:13
หนีก็หนีให้สุดเลยกิต อย่าใจอ่อนง่าย ๆ บทเรียนมีเยอะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 10 (09/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-03-2017 20:38:51
ผู้ชายที่เข้าหาจีบพาย ล้วนพาเรื่องไม่ดีมาสู่พาย
ทั้งที่รู้ว่าพายไม่ได้ขายตัว แต่แพร่ข่าวออกไป
หมอกก็เช่นกัน เลวปล่อยข่าวใส่ร้ายอีก ทั้งที่เป็นเพื่อนกัน
บอล ก็ทำไม่ถูกต้องหลอกพายมาเจอหมอก
ภีม ได้ไฟเขียวจากทางบ้านพายแล้ว
กิต ถ้าจะหนีไม่พ้นเชน
แต่เชนจะคบกิตต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ถ้าทำตัวแบบเดิม คบหลายคน มั่วไม่เลิก กิตจบจริงแน่
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 10 (09/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 09-03-2017 22:58:42
ไม่อยากให้กิตใจอ่อน
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 10 (09/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-03-2017 12:16:50
สงสารพี่กิตอ่ะ อย่าใจอ่อนง่ายๆนะพี่
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 11 (13/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 13-03-2017 23:26:47
ตอนที่ 11 ความเข้าใจ

วันศุกร์โชคดีที่เรามีเรียนกันแค่ตอนเช้า ผมกับภีม และเพื่อนของผมอีกสามคนอย่างไอ้กิต ไอ้บอย และไอ้ชาย ก็พร้อมที่จะไปบ้านผมแล้วคับ

“กูอยากคุยกับมึงหน่อยได้เปล่าวะ” ไอ้บอยเดินมาบอกผม ผมงงๆ แต่ก็เดินมาคุยกับมันสองคน

“เมื่อวันก่อน มึงกับหมอก เป็นไงบ้าง” ผมมองมันอย่างงงๆว่ามันมาถามเรื่องนี้ทำไม แต่สมองก็ประมวลผลว่าที่ผมเจอหมอกคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

“มึงหลอกกูไปเจอหมอกหรอ” ผมถามด้วยความตกใจ

“กูขอโทษ หมอกเขาบอกกูว่าอยากขอโทษมึง กูก็เห็นใจเขา” มันบอกพร้อมทำหน้าสำนึกผิด

“มึงมีอะไรกับหมอกเปล่าเนี่ย ปกติถ้าไม่ใช่คนที่มึงหลงรัก กูก็ไม่เคยเห็นมึงตามใจใครมาก่อน โดยเฉพาะหมอกมันเคยทำร้ายกู ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมึง มึงไม่มีทางเห็นมันดีกว่ากูแน่ถ้ามึงกับมันไม่มีอะไรกัน” ผมบอกพลางจับผิด

“กูเปล่านะเว้ย กู...กู...กูแค่สงสารจริงๆ” แค่คำพูดมันก็มีพิรุธละ

“เกิดอะไรขึ้นระหว่างมึงกับมัน บอกกูมา กูไม่ได้โง่นะเว้ย”

“กู...โธ่เว้ย มึงนี้แม่งเซ้นท์แรงจริงๆ”

“เล่ามา”

“เรื่องเกิดวันที่เราไปผับกัน” แค่เกริ่นผมก็รู้ละคับ วันนั้นก็โดนยากันหมด มันน่าจะโดนไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

“แต่วันนั้นมึงออกไปกับผู้หญิงที่เจอกันนี่หว่า แล้วไปกับหมอกได้ไงวะ” ผมรีบถามอย่างสงสัย

“เฮ้ย แค่ประโยคแรกมึงก็รู้แล้วหรอว่าเกิดอะไรขึ้น” มันมองผมอย่างตกใจ

“กูฉลาด” ผมไม่ได้เล่าให้มันฟังเรื่องที่เราโดนยาปลุกกัน

“เออ...ก็วันนั้นแหละ ระหว่างที่กูจะได้พี่ผู้หญิงคนนั้น ผัวเขาดันมาเจอซะก่อน กูเกือบโดนซ้อม พอดีหมอกมาช่วยไว้พอดี และพามาส่งที่หอ ตอนแรกกูก็โกรธที่มันใส่ร้ายมึง แต่มันช่วยกูอะ แล้วคืนนั้นกูก็เป็นบ้าอะไรไม่รู้พอมันพามาส่งถึงเตียงกูก็เสี่ยนจนทนไม่ไหว และก็...” มันเงียบไป

“ได้กัน” ผมเสริมต่อ

“เชี่ย...แบบนั้นแหละ กูไม่คิดว่าจะทำแบบนั้นกับผู้ชาย แต่กูอดไม่ไหวจริงๆ ตอนเช้ากูก็ขอโทษเขานะเว้ย กูไม่เจอกับเขาได้วันสองวัน เขาก็ส่งข้อความมาหากู ขอให้กูช่วยพามึงมาเจอเขา เขาอยากขอโทษมึง แล้วเรื่องคืนนั้นเขาจะยกโทษให้กู”

“มึงก็เชื่อหมอกมัน”

“ก็กูทำผิดกับเขาไว้ กูก็อยากทำอะไรให้เขาบ้าง แล้วเขาไม่ได้ขอโทษมึงหรอ” มันถามด้วยความซื่อของมัน

“หมอกมันบอกว่าชอบกู อยากให้กูไปคบกับมันอะไรประมาณนี้แหละ”

“เห้ยยย ได้ไง เขาจะไปขอคบมึงทำไม มึงก็มีแฟนแล้ว” มันทำท่าทางไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด

“ไอ้บอยเดี๋ยวกูตบหัวคว่ำ มึงดูท่าจะหลงไอ้หมอกเข้าซะแล้วมั้งเนี่ย”

“เปล่านะเว้ย กูแค่ไม่คิดว่าเขาจะหลอกกู” มันพูดอย่างผิดหวัง ผมเข้าใจมันนะคับ ไอ้บอยเป็นคนซื่อ รักเพื่อน และถ้ามีแฟนก็โคตรรักแฟน มันถึงโดนผู้หญิงหลอกให้เสียตังค์บ่อยๆ

“ไปกันเหอะ ภีมจะหึงกูกะมึงแล้วเนี่ย” ผมบอก เพราะผมเห็นภีมมองมาทุกสิบวินาทีได้ แต่ภีมก็มองผมบ่อยอยู่แล้ว ถ้าผมอยู่ในรัศมีที่เขาเห็น ผมแทบจะสบตาภีมทุกครั้งที่มองไปที่เขา เรื่องหึงผมแค่แกล้งไอ้บอยเฉยๆ 55555

“ผัวมึงหล่อกว่ากูเป็นล้านเท่าจะมาหึงอะไรวะ”

“มึงดู” ผมพยักเพยิดให้มันมองไปทางภีม

“เออว่ะ มองมาตลอดเลย” มันทำหน้าเหมือนตัวเองทำผิด

“เลิกทำหน้าเศร้าได้แล้ว ปะไปกัน” ผมบอกพลางพามันมาที่รถ

“ภีม พี่ไม่ได้คิดอะไรกับพายเลยนะเว้ย มันเป็นแค่เพื่อนพี่เท่านั้น อย่าคิดมากนะ” ไอ้บอยมันบอกภีมก่อนตบไหล่ภีมเบาๆ ภีมหันมามองผมแบบงงๆ ผมได้แต่หัวเราะกับความซื่อของไอ้บอย ไอ้ชายกับไอ้กิตก็แอบขำด้วยเหมือนกัน


วันนี้ภีมขับรถเบ็นซ์มา ไอ้ชาย ไอ้บอย ไอ้กิตนั่งหลัง ภีมเป็นคนขับ ส่วนผมก็นั่งข้างเขา พอภีมออกรถ ไอ้บอยก็เอาแต่มองผมกับภีม ตอนนี้เรื่องที่มันกังวลคงเป็นเรื่องที่ผมแกล้งว่าภีมหึงมันกับผมแน่ๆ

“ภีมอย่าโกรธพายนะเว้ย พี่รู้สึกผิดถ้าทำให้ภีมเข้าใจพายผิด พายมันรักภีมนะ กับพี่มันไม่คิดอะไรแน่นอน” อยู่ดีๆไอ้บอยมันก็พูดขึ้นมา คราวนี้พวกผมสามคนฮากร๊ากเลย 555555

“กูล้อมึงเล่นไอ้บอย ภีมไม่ได้หึงมึงกับกูหรอก มึงนี่ก็เชื่อ 55555” ผมบอกมัน

“อ้าว ไอ้พาย ไอ้หลอกลวง” ไอ้บอยทำหน้าเหลอหล้ายิ่งทำให้ผมขำ 555555

“พวกมึงก็รู้ทำไมไม่บอกกู” ไอ้บอยหันไปว่าไอ้กิตกับไอ้ชาย

“ภีมมันเป็นโคตรเดือนนะเว้ย มึงมันแค่หล่อพอใช้จะไปเทียบได้ไง 5555” ไอ้ชายบอก

“พวกมึงแม่งมาแกล้งกู น้องมันจะคิดว่ากูเป็นบ้าอะไรมาบอกมันแบบนั้น”

“ตอนแรกผมก็งงคับ แต่เห็นพี่พายแอบหัวเราะผมก็รู้ว่าแกล้งพี่เล่น” ภีมพูดยิ้มๆ

“ร้ายทั้งผัวทั้งเมีย” มันว่าก่อนจะแย่งขนมในมือผมไปกินแก้อาย 555555

ระหว่างทาง ภีมก็แวะปั้มให้เราเข้าห้องน้ำหรือไปหาอะไรกินเพิ่มที่เซเว่น กลุ่มผมก็ดันมีแต่ผู้ชายหล่อๆยกเว้นผมมั้งคับที่ไม่ได้หล่อจนสาวเหลียวแบบนั้น

“น้องชื่ออะไรค่ะ คือเพื่อนพี่อยากขอไลน์ได้ไหม” มาอีกแล้วคับสาวใจกล้าที่มาขอไลน์ภีม

“ไม่ได้คับ ผมมีแฟนแล้ว” ภีมบอกกลับไปหน้านิ่ง ก่อนจะจูงมือผมมาที่รถ ทำเอาผู้หญิงคนนั้นยืนอึ้งไปเลย

“เสน่ห์แรงนะเนี่ย แค่แวะปั้มสาวๆก็มาหาละ” ผมพูดแซวเขา

“พี่ก็ใช่ย่อย ไอ้กลุ่มเด็กนักเรียนที่แวะปั้มนั้น มองพี่จนตาจะถลนออกมาอยู่แล้ว” ภีมบอกก่อนทำหน้าให้ผมมองไปที่รถทัวร์ที่จอดไม่ไกลนัก

“โรงเรียนชายล้วนมาเที่ยวหรือไงเนี่ย” ผมพูดตามที่เห็น ก็ทั้งรถทัวร์ไม่เห็นผู้หญิงเลยสักคน

“หยุดมองได้แล้วคับ เดี๋ยวเด็กพวกนั้นคิดว่าพี่อ่อย ได้ใจแตกกันพอดี” ภีมบอกพลางจับหน้าผมหันมาหาเขา

“ชายล้วนแบบนั้นน่าจะแตกกันหมดละมั้ง” ผมยิ้มทะเล่นให้ภีม

“พี่พายทะลึ่ง” เขาบอกก่อนจะจูบผม

“เฮ้ยๆๆๆ ไอ้พาย” ไอ้บอยมาถึงก็เรียกผมเสียงดัง จนผมกระเด้งออกจากภีมโดยอัตโนมัติด้วยความตกใจ

“อะไรมึงเสียงดังเชียว” ผมว่าไอ้บอย

“มึงดูนั้น ไอ้ชายมันยืนคุยกับดาวคณะวิทย์” ไอ้บอยรีบชี้ให้ผมดู ผมก็มองตามก็ต้องร้องอ๋อ เพราะผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ไอ้ชายหิ้วออกจากพับวันยาปลุกเซ็กซ์นั้น ไอ้ชายมันล่ำลาดาววิทย์ก็เดินหน้ายิ้มมาหาเราเลยคับ

“มึงวนัดน้องเขามาหรอวะ” ไอ้กิตถาม

“เปล่าบังเอิญ” ไอ้ชายตอบ

“บังเอิญซะหน้าบานเลยนะมึง” ไอ้กิตบอกเสียงติดจะหมันไส้ไม่น้อย

โป้กกก...โป้กกกก

“มึงตบกูไม” ไอ้บอยว่า

“ใช่กูด้วย” ไอ้ชายก็โดนไอ้กิตตบหัวไปเหมือนกัน

“ไอ้บอยมึงผิดที่ทำกระตายตื่นตูมจนไอ้พายมันไม่ได้จูบกับภีม ส่วนไอ้ชายกูหมันไส้เฉยๆ” ไอ้กิตบอกก่อนจะนั่งกินขนมที่มันซื้อมา

“กูมีความสุขกูจะไม่ทำร้ายมึง” ไอ้ชายพูดอย่างอารมณ์ดี

“กูขอโทษนะเว้ยไอ้พาย กูไม่รู้ว่ามึงอยากจะมาผสมพันธ์อะไรกันตอนนี้” ไอ้บอยพูดจากวนบาทาผม ผมเลยทำท่าจะโบกกะบาลมัน

“อย่านะเว้ย กูยิ่งไม่ค่อยฉลาดอยู่ ถ้าโดนมึงตบอีกทีสมองกูคงหายไปเลย” มันทำท่าขอร้องอย่างตลกๆในสไตล์ของมัน ผมเลยยอม กลัวเพื่อนไม่ฉลาด 55555


ในที่สุดเราก็มาถึงบ้านผมสักที บ้านผมเป็นบ้านเรือนไทยแบบโบราณ มรดกตกทอดมาจากปู่ทวด บ้านหลังใหญ่พอตัว ความจริงครอบครัวผมก็ไม่ได้รวยนักหรอกคับ แค่ทางต้นตระกูลเป็นพวกเจ้าขุนมูลนายเลยทำให้ลูกหลานมีที่ซุกหัวนอนที่ดีได้ พอมาช่วงท้ายๆตระกูลก็เรียกว่าเหลือแค่นามสกุลกับบ้านที่ใหญ่โต แต่ข้างในว่างเปล่า ยังโชคดีที่ยังเหลือที่ดินเก่าของต้นตระกูลอยู่บ้าง เลยเอามาต่อยอดทำเป็นรีสอร์ท อยู่ไกลจากบ้านประมาณสองกิโล

“สวัสดีคับแม่” ผมพูด ก่อนจะโผเข้ากอดแม่เข้าเต็มตัว

“แม่แก่ละนะ เดี๋ยวก็ล้มพอดี ไหนมาให้แม่ดูสิ แกไม่ได้กลับบ้านมาตั้งสองปี สวยขึ้นเป็นกองเลยนะ”

“สวยอะไรละแม่ ผมหล่อจะตาย” ผมอดทำเสียงงอนแม่ไม่ได้

“กล้าพูดนะ มีแต่คนบอกแกเหมือนแม่ แต่ดูตอนนี้สิสวยกว่าแม่อีก ว่าแต่คนไหนแฟนแกละ” แม่ถามผมอย่างอารมณ์ดี

“ผมไงคับแม่” ไอ้กิตเสนอหน้าขึ้นมาทันที

“เจ้ากิตนี่ ถ้าพายจะเป็นแฟนแก พายมันเป็นไปนานแล้ว 55555” แม่ผมยิ้มอย่างชอบใจ ก็ไอ้กิตมันเป็นเพื่อนสนิทผมนี่คับ มันแทบจะเป็นลูกอีกคนของแม่ด้วยซ้ำ

“แม่อะ ผมเหมาะกะพายสุดละนะ” ไอ้กิตทำงอน

“คนนั้นตะหากที่ดูเหมาะกะพาย” แม่ผมบอกพลางชี้ไปที่ภีม เล่นเอาภีมยิ้มจนหน้าแดงเลยคับ

“แม่นี้เดาเก่งสุดๆ” ผมบอก

“พ่อหนุ่มนี้จริงสิ? โอ้ยลูกเขยแม่หล่อขนาดนี้เชียว” แม่ผมพูดอย่างมีความสุข

“คับคนนี้แหละแฟนพาย”

“เรียกว่าผัวพายดีกว่าคับแม่” ไอ้กิตเอาอีกละคับ

“ตากิต แกนี้ เดี๋ยวมีผัวบ้าง แม่นี้แหละจะหัวเราะให้ดังไปถึงสยามเลย” แม่ผมเป็นคนหัวสมัยใหม่พอสมควรคับ เล่นเอาซะไอ้กิตหน้าจ๋อยเลย 5555

“มาๆเข้าบ้านเอาข้าวของไปเก็บ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ามานั่งกินข้าวกันลูก” แม่ผมเดินนำพาทุกคนเข้าบ้าน

“แล้วพ่อละคับ” ผมถาม

“พ่อแกก็นู้นดูต้นไม้อยู่หลังบ้านนั้นแหละ” พ่อผมท่านชอบปลูกต้นไม่คับ เป็นคนใจเย็น แต่เวลาโกรธก็น่ากลัวสุดๆ

“นี้ห้องลูก” แม่ผมบอกผมยิ้มๆ
 
“ทำไมผมถึงมานอนห้องพ่อแม่ละคับ” ผมถามเพราะห้องเก่าผมจะอยู่อีกฝั่งของบ้าน ติดกับห้องพี่พล

“พ่อกับแม่ย้ายไปนอนห้องพายแล้วละลูก ห้องพายลมดี พ่อกับแม่ย้ายไปตั้งแต่พายไปอยู่หอหน่ะ” แม่บอกผมพร้อมรอยยิ้มที่ดูฝืนๆพิกล

“อ่อคับ ขอบคุณมากคับที่ยกห้องใหญ่ให้พาย” ผมกอดแม่เพื่อแสดงความขอบคุณที่ท่านยกห้องที่ไม่มีความทรงจำแย่ๆให้ผม

“พายสบายใจ แม่ก็ดีใจลูก ภีมก็อยู่กับพายนะ ส่วนที่เหลือตามแม่มา แม่กับพ่อช่วยกันจัดห้องว่างห้องใหญ่ให้นอนกันแล้ว” แม่ผมบอกก่อนจะเดินนำพวกไอ้กิตไป

“มาเก็บของกันเถอะคับ” ผมบอกภีม

“แม่พี่ใจดีจัง ให้ผมนอนกับพี่ด้วย” เขาบอกพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“อย่าคิดทะลึ่งเชียว นี้บ้านไม้นะ ทำอะไรก็ได้ยินหมดแล้ว” ผมทำท่าดุเขาเล็กน้อย

“แค่กอดก็ได้คับ ไม่น่ารุนแรงเท่าไหร่” เขาบอกก่อนจะกอดผมเอาไว้

“ผมมีความสุขจัง”

“พี่ก็มีความสุขที่แม่พี่ไม่ว่าเรื่องของเรา”

“ผม...” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะใช้จมูกซุกไซร้ไปทั่วแก้มผม

“ไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว เดี๋ยวจะได้ไปกินข้าว” ผมปรามเขาก่อนจะเปิดกระเป๋าเลือกเสื้อผ้าให้เขาใส่


“สวัสดีคับพ่อ” ผมทักพ่อตอนมาถึงโต๊ะอาหาร

“ไม่เจอกันนาน แก่ก็ยังสวยเหมือนแม่ไม่มีผิด” พ่อเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบแซวเรื่องความสวยของผม

“พ่ออะ”

“นี่แกจำน้องหวานได้ไหม ลูกคุณอานนท์ไง” พอผมบอกพลางพยักหน้าไปทางผู้หญิงที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว คุณอานนท์ที่ว่านี้เป็นเพื่อนพ่อผมคับ

“เธอคือดาวคณะวิทย์” ผมอุทานออกมา

“ใช่ค่ะพี่พาย พี่พายน่าจะจำหวานไม่ได้ ตอนเด็กๆหวานชอบมาเล่นตุ๊กตากับพี่พายบ่อยๆ” หวานบอกพลางยิ้มให้ผมอย่างชื่นชม

“เล่นตุ๊กตา?” ทำไมผมจำไม่ได้

“ก็หวานเห็นพี่พาย แล้วนึกว่าเป็นเด็กผู้หญิงเหมือนกัน ตอนนั้นหวานยังเรียกพี่พายว่าพี่สาวเลยนะคะ” เธอยังคงยิ้มหวานเหมือนชื่อของเธอ

“หวาน!!!” ไอ้ชายมาถึงก็เรียกหวานซะดังเลย

“พี่ชาย หวานว่าแล้วว่าพี่ชายต้องอยู่ที่นี้ด้วย” เธอพูดสียงอ่อนเสียงหวาน

“หนูหวานรู้จักเพื่อนพายด้วยหรอจ๊ะ” แม่ผมถาม

“ใช่คะ พี่ชายเป็นแฟนหวานเอง” เธอตอนอย่างภูมิใจ ดูท่าเธอจะชอบไอ้ชายจริงๆ

“อ้าวหวานเป็นแฟนกับเพื่อนพายหรอ พ่อก็นึกว่าเป็นแฟนพายซะอีก เห็นตอนแรกบอกจะพาแฟนมา พอพ่อเห็นหนูหวานพ่อเลยเข้าใจผิดเลย แล้วนี่ใครแฟนพายละ" พ่อผมถามก่อนจะทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

“ผมเองคับ” ภีมพูดขึ้นมาทันที

“นายหรอ!!!” พ่อผมมองเขาอย่างตกใจ ผมเองก็ตกใจที่พ่อเรียกเขาเสียงดังแบบนั้น

“คับ ผมเป็นแฟนพี่พายคับ” ภีมตอบอย่างฉะฉาน

“สมกันดี” พ่อผมพูดแค่นั้น และก็กินข้าวต่อ ผมมองแม่แบบงงๆ แต่แม่ก็แค่ยิ้มให้ผมเฉยๆ

“พี่พายกับภีมเป็นคู่รักที่ดังมากเลยนะคะ หวานกับเพื่อนตั้งหลายคนลงชื่อเป็นแฟนคลับจนมีเพจในเว็บของมหาลัยด้วย” หวานพูดอย่างชื่นชม

“จริงหรอจ๊ะ” แม่ผมดูสนใจขึ้นมาทันที

“หวานกับเพื่อน และพี่ๆที่คณะที่เป็นสาววายปลื้มพี่พายมากเลยคะ นี้มีรุ่นพี่หวานคนหนึ่งคลั้งไคล้เรื่องชายรักชายมากจนทำหนังสือยื่นขอทุนทดลองที่ต่างประเทศเรื่องการทำให้ผู้ชายท้องได้ด้วยนะคะ นี้ก็ได้ทุนไปทำการทดลองมาได้หลายปีแล้ว” ผมนี้สำลักข้าวเลยคับ แม่คุณเรียนวิทยาศาสตร์แล้วจะทดลองอะไรแบบนั้นได้หรอ ภีมยิ้มก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อยแล้วลูบหลังให้ผม

“ถ้าพี่มีลูกกับผม คงน่ารักไม่น้อย” ภีมแซวผม

“ทานข้าวไปเลย” ผมว่าเขาแก้เขิน

“ถ้าพี่พายอยากมี เดี๋ยวหวานบอกพี่เขาให้นะคะ เห็นพี่ที่คณะคุยกันว่าการทดลองเป็นไปได้ด้วยดีในสัตว์ทดลอง ใกล้ได้ทดลองกับคนละคะ” หวานเธอพูดอย่างภูมิใจ ผมเห็นรอยยิ้มเธอแล้วเสียวสันหลังขึ้นมาเลย

“อย่าเลยหวาน พี่เป็นผู้ชายปกติดีแล้ว” ผมว่า

“แม่ว่าก็น่าสนใจดีนะ” แม่ผมพูดแล้วก็หัวเราะเหมือนแกล้งผม

“แช๊ะๆ” ผมมองไปที่ต้นเสียงก็เห็นหวานถ่ายรูปผมกับภีมอยู่

“ถ่ายไปลงเพจคะ พี่พายกับภีมเหมาะสมกันจริงๆ” หวานมองรูปในโทรศัพท์อย่างชอบใจ ในขณะที่ไอ้ชายก็ตักนู้นตักนี้ให้น้องเขากินตลอด


มืออาหารที่วุ่นวายก็จบลง ผมกับไอ้กิตช่วยกันล้างจาน ส่วนภีมช่วยแม่ผมเก็บโต๊ะ และทำความสะอาด ไอ้ชายก็นั่งสวีทอยู่กับน้องหวานที่ดูจะเล่นโทรศัพท์อยู่ ส่วนไอ้บอยก็เอาแต่จองโทรศัพท์เหมือนกัน แต่มันทำหน้าหงุดหงิดตลอดเวลา

“สบายใจขึ้นแล้วสิมึง” ผมถามกับไอ้กิต

“อืม ดีขึ้นเยอะเลยวะ ขอบใจมึงที่เป็นห่วงกู” มันบอกพลางยิ้มให้ผม

“มึงมีอะไรก็บอกกูได้เสมอ แต่มึงจะทำยังไงต่อไปตอนกลับไปมหาลัย”

“กูยังไม่รู้วะ”

“ถ้าอยากตัดก็เข้มแข็งไว้ ยังไงมึงก็เลี่ยงการเจอน้องเขาไม่ได้”

“กูจะพยายาม” มันพูดหน้าเศร้า

“มึงคงเคยรักมันมาก”

“ใช่ กูเคยรักมันมาก”

“แต่มึงไม่เคยทำให้กูรู้เลยว่ามึงมีความรัก”

“ชีวิตมึงมันเศร้าอยู่แล้ว กูไม่อยากเอาอะไรไปรบกวนมึง”

“กูอยากให้มึงรบกวนกูมากกว่า ตอนกูแย่มึงก็ช่วยกูไว้ พอมึงแย่มึงจะเก็บไว้คนเดียวหรอวะ กูเป็นเหมือนคนในครอบครัวมึงนะเว้ย” ผมบอกพลางจับไหลมันเบาๆ

“กูรู้ มึงเป็นคนเดียวที่กูพูดด้วยได้ทุกอย่าง แต่กูไม่อยากให้มึงมาเครียดด้วยจริงๆ ในตอนนั้นกูแอบคบเชน กูทั้งรักทั้งทุ่มเท เพราะน้องมันก็ดีกับกู ทำให้กูรู้ว่ามันแคร์กูที่สุด แต่...” มันเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้

“กูคบผู้ชายที่เจ้าชู้ ทั้งๆที่ดูก็รู้ว่ามันเป็นคนแบบนั้น กูก็ยังมองแต่สิ่งดีๆที่มันทำให้กู กูเชื่อที่มันสัญญาว่าจะเลิกเจ้าชู้ กูเกือบจะแนะนำมันกับมึงแล้วเพราะกูมั่นใจในตัวมัน แต่ในที่สุดคำสัญญาที่มันเคยให้ไว้ก็พังทลายลงเหมือนกับใจกูที่แตกสลาย กูเสียใจมาก แต่กูก็ต้องเข้มแข็ง คำพูดของมึงช่วยเตือนสติกูไว้” มันพูดพลางดึงผมไปกอด ผมทำได้แค่ลูบหลังมันขณะที่ไอ้กิตมันเล่าทั้งน้ำตา ผมไม่เคยเห็นมันเศร้าขนาดนี้ คงเพราะมันรักเชนมาก และยังคงรักอยู่ แต่เก็บซ่อนเอาไว้

“คำพูดกูหรอ” ผมถาม

“มึงเคยบอกว่า ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าที่พี่พลทำกับมึงแล้ว ประโยคนี้ของมึงทำให้กูคิดได้ว่าปัญหาที่กูเจอมันน้อยกว่ามึงมาก เรื่องแค่นี้ทำร้ายกูไม่ได้หรอก กูคิดแบบนั้น และเก็บความรู้สึกทั้งหมดกับเชนไว้ในส่วนที่ลึกที่สุด...”

“ตอนนี้มึงก็ไม่ได้อ่อนแอ ปัญหาของมึงมันต้องมีทางออกแน่นอน” ผมลูบหลังมันอย่างให้กำลังใจ

“ขอบใจมึงมาก กูไปละกูนัดจะไปซื้อเหล้ากับไอ้บอยสักหน่อย” มันบอกก่อนจะเดินออกไป ผมหันมาก็เจอภีมมองอยู่จากลานนั่งเล่นกลางบ้าน ก่อนจะเดินมาหาผม

“ไปเดินเล่นกับผมไหมคับ ผมอยากให้พี่พาไปดูรอบๆบ้าน” ภีมบอกพลางจับมือผมไปจูบเป็นการออดอ้อน

“อ้อนเป็นเด็กเลย” ผมว่า

“ฝึกไว้อนาคตจะได้เลี้ยงลูกคล่องๆไง”

“งดแตะต้องตัวพี่หนึ่งวัน พูดไม่เข้าหู” ผมว่า

“ผมล้อเล่น อย่าโกรธนะคับ” เขาทำท่าขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

“555555 ตลกดี สโนว์บอลเด็กน้อย” ผมแค่แกล้งเขาเล่น

“ปะไปเดินเล่นกัน” ก็เป็นผมเองเนี่ยแหละคับที่จูงเด็กโข่งอย่างภีมมาเดินเล่นข้างล่าง เราเดินไปจนถึงหลังบ้านที่ติดแม่น้ำสายใหญ่ ก่อนจะนั่งพักที่ศาลาริมน้ำ ที่ยกพื้นไม้สูงเหมือนเรือนนั่งเล่นขนาดเล็ก ผมนั่งพิงหมอนสามเหลี่ยม ส่วนภีมก็นอนลงมาหนุนตักผม ลมพัดมาตลอดทำให้เราไม่ร้อนเท่าไหร่นัก
 
ครืด---ครืด ภีมหยิบโทรศัพท์มาคุยขณะนอนหนุนตักผมอยู่

“ฮัลโหล”

“พี่เช็คหุ้นแล้วหรอคับ ถ้าตัวนั้นขึ้น พี่ก็ขายเลยก็ได้ ถ้าไม่ขายตอนนี้พรุ้งนี้มันต้องตกแน่คับ”

“คับ ตอนนี้ผมอยู่บ้านแฟนคับพี่”

“ใช่คับ คนที่เคยเล่าให้ฟัง”

“555 ก็แฟนผมน่ารัก”

“พอกลับไป จะแวะเข้าบริษัทคับ ฝากบอกพ่อกับแม่ด้วยว่าผมจะพาแฟนไปหา” ภีมพูดกับพี่เขาอย่างสบายใจ

“คับผม สวัสดีคับพี่ภี” และว่างสายไป ก่อนจะมองผมแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ผมละชอบที่เขายิ้มแบบนี้จริงๆ 

“พี่ชายผมบอกอยากเจอพี่ด้วยคับ ผมอยากให้พี่ไปเจอครอบครัวผมไวๆจัง” ภีมบอกผม ก่อนจะจับมือผมไปจูบเล่น

“พี่ชายภีมอายุห่างกันมากไหม” ผมถาม เพราะผมไม่ค่อยได้รู้เรื่องเขาเลย ทั้งที่คบกันมาขนาดนี้แท้

“หกปีคับ พี่ภีเป็นคนเก่งมากตอนนี้เขาก็ขึ้นเป็นประธานบริษัทในเครือของครอบครัวทั้งหมด” ภีมพูดอย่างชื่นชม

“พี่ชายภีมชื่อภีหรอ”

“ชื่อเต็มๆก็ภีมะ ผมเลยเรียกว่าพี่ภี”

“ชื่อคล้ายกันจังเลย”

“ใช่คับ พ่อชอบความหมายของชื่อ พอมีผมเลยตั้งชื่อว่าภีม”

“แล้วชื่อหมายความว่าอะไร”

“น่าเกรงขามคับ”

“น่าเกรงขามจริงๆนั้นแหละ” ผมพูดลอยๆขึ้นมา

“อืมมมม” เขาลุกมาจูบผมอย่างดูดดื่ม ก่อนจะผลักผมนอนลงไปกับพื้นไม้ แล้วเอาลิ้นเข้ามาในโพรงปากผม ลิ้นเราเกี่ยวพันกันจนผมรู้สึกลุ่มร้อนไปหมด และเขาก็ถอนปากออก

“หึหึ พี่ชอบยอมผมแบบนี้ ถ้าผมมีอะไรกับพี้ตรงนี้จะทำยังไง” เขาถามพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“ก็ยอมไง” ผมบอกก่อนจะยิ้มให้เขาเป็นเชิงยั่วเล่น

“งั้นผมจะกินละนะ” ภีมทำท่าจะโผเข้ามาหาผม

“เฮ้ยยยย พวกมึงอยู่นี้เอง ไอ้กิตให้มาชวนไปนั่งชิลกันที่ใต้ถุนบ้าน” ไอ้บอยบอกตอนที่วิ่งมาถึง มันดูตกใจเหมือนกัยที่เห็นภีมคร่อมผมแบบนี้ตอนที่มันพูดจบ

“กูมาขัดจังหวะรึเปล่า” มันพูดเสียงอ่อย พลางยิ้มแห้งๆ

“เปล่า ไปกัน” ผมบอกก่อนจะรีบลุก และเดินนำไปที่ใต้ถุนเรือน

“โทษนะเว้ยภีม อดปล้ำไอ้พายเพราะพี่เลย”

“ไม่เป็นไรคับ เวลาปล้ำพี่พายผมมีเยอะ” ภีมพูดเสร็จก็รีบเดินมาจับมือผม และเดินไปด้วยกัน ผมได้แต่ส่ายหน้าในความทะเล้นของเขา


“มาๆๆๆ ชนเหล้ากับกูสักแก้วไอ้พาย” เสียงไอ้กิตฟังก็รู้ว่ามันดื่มไปหลายแก้วแล้ว ผมละกลัวพ่อแม่ว่าจริงๆ เพราะนี้ก็เริ่มค่ำแล้ว เดี๋ยวพ่อแม่ผมก็นอนละคับ

“กูไม่ชอบเหล้ามึงก็รู้ กูแพ้ด้วย” ผมว่า

“แค่แก้วเดียว แล้วมึงก็แพ้ไม่มาก กินเป็นเพื่อนกูนะๆๆๆๆ” มันเริ่มทำท่าจะอ้อน

“เออๆ ก็ได้ เอามา” ผมบอกอย่างจนใจ

“ให้ผมกินแทนก็ได้นะคับ” ภีมมากระซิบบอกผม

“ไม่ได้โว้ยยย” ไอ้กิตเหมือนมันจะรู้ทัน

“กูกินเอง มึงเลิกโวยวาย เดี๋ยวพ่อแม่กูว่า นี้มันเริ่มมึดแล้ว” ผมบอกไอ้กิต ก่อนจะดื่มแก้วที่มันยื่นมาให้

“โอเคๆ มึงก็กินด้วยไอ้โคตรเดือน” ไอ้กิตหันไปส่งแก้วเหล้าที่ไอ้บอยชงให้กับภีม


เรานั่งกินกันจนดึก ผมกินไปสองแก้ว ก็เมาจนจะเสียสติละคับ ส่วนไอ้บอยก็หลับไปแล้วรายนั้นโดนกรอกไปเป็นสิบแก้ว ไอ้ชายก็นอนหนุนตักหวานที่ดูท่านคืนนี้เธอคงอยากจะนอนบ้านผม ไอ้กิตก็คิแข็งเกินไปมันยังนั่งสลึมสลืออยู่เลย และคนสุดท้ายแฟนผมก็สภาพเดียวกับไอ้กิตเลยคับ

“พี่พายคับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำนะคับ” ภีมเมา แต่ก็ยังรักษาบุคลิกความหล่อไว้ได้อย่างดี ไม่เหมือนไอ้เพื่อนผมสามคนสภาพดูไม่ได้เอาซะเลย

“เดินดีๆนะ” ผมบอกพลางตั้งสติมองเขา เพราะตอนนี้ผมเริ่มเวียนๆ งงๆแล้ว ผมเลยเอนตัวนอนลงข้างๆไอ้กิต ที่น่าจะสลบแล้ว เมื่อกี้ยังมองหน้าผมอยู่เลย

“พี่พายค่ะ” เสียงหวานเหมือนจะปลุกผม เพราะเธอสะกิดตัวผมด้วย

“อือ” ผมตอบได้แค่นี้จริงๆคับ พอนอนลงแล้วเหมือนตัวเองพร้อมจะหลับตลอดเวลา

“หวานชอบพี่พาย” เธอพล่ามอะไรของเธอก็ไม่รู้ ก่อนจะเปิดเสื้อผมขึ้น ผมพยายามปัดป้องมือของเธอออก แต่ก็ไม่มีแรงเลย ผมอยากตะโกนให้ไอ้ชายมันมาลากเมียมันออกไปแต่ก็ทำไม่ได้

“แล้วหวานก็ชอบพี่ภีมด้วย หวานเลยทำแบบนี้” เธอปัดแขนผม แล้วถอดเสื้อผมได้สำเร็จ เพราะตัวผมไม่ได้ใหญ่นัก นี่เธอจะปล้ำผมหรอ ไม่เอานะ ผมไม่อยากมีอะไรกับแฟนเพื่อน

“หวานอยากเห็นพี่มีครอบครัวแบบนิยายที่หวานอ่าน” สิ้นคำของเธอ ผมก็รู้สึกถึงบางอย่างจิ้มเข้ามาที่ท้องน้อยผม เหมือนจะเป็นเข็ม ผมมองลางๆเหมือนจะเป็นเข็มฉีดยา ก่อนที่เธอจะฉีดบางอย่างเอามาในท้องน้อยผม แค่เธอฉีดเข้ามาผมก็รู้สึกแสบแปลกๆที่ท้องน้อย มันเย็นและร้อนวูบวาบไปหมด นี้เธอทำอะไรผมเนี่ย!!!


TBC...  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 11 (13/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 14-03-2017 00:49:49
น้องหวานมัดมือชกกันงี้เลยหรอลูก 5555+ ทำได้ดีๆ ถ้าสำเร็จยิ่งดีเข้าไปใหญ่
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 11 (13/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 14-03-2017 08:13:32
อย่างนี้ไม่ดีแน่ พระเอกเราขยันซะขนานี้ ลูกดกแน่ๆ หุหุ :oo1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 11 (13/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-03-2017 08:59:27
รู้สึกว่าบทนี้มันจะเหนือจริงไปหน่อย
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 11 (13/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 14-03-2017 11:06:01
เดี๋ยวๆ นี่เป็นนิยายแฟนตาซีแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 11 (13/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-03-2017 12:23:08
ตกใจนึกว่าหวานจะปล้ำพี่พาย555

แบบนี้ก็ได้เหรอ...

เอาแบบว่าพี่พายท้องเองได้จะดีมากๆ

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 11 (13/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 14-03-2017 13:45:52
ดี ๆ ๆ โคตรเดือนกับโคตรดาวมีลูกน่าจะหน้าตาเริ่ด แต่ขอให้พายเรียนจบก่อนนะ ค่อยมี 
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 11 (13/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-03-2017 19:08:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 11 (13/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-03-2017 06:29:22
คือมันก็จะดีอ่ะนะถ้าพายมีลูกได้แต่การทดลองมันสำเร็จแล้วหราหวาน o22
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 12 (15/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 15-03-2017 15:16:36
ตอนที่ 12 เปลี่ยน


กิต พาร์ท

ผมรู้สึกตัวขึ้นมากลางดึก ผมเลยพยุงตัวเองขึ้นไปนอนที่ห้องที่แม่ของไอ้พายเตรียมไว้ให้ ผมคิดว่าน่าจะถูกห้องนะ ก็บ้านไม่ทรงไทย ห้องมันก็เหมือนกันหมดแหละ แต่ก่อนที่ผมจะเคลิ้มหลับไปก็รู้สึกาถึงอ้อมกอดของใครบางคน ผมคิดว่าเป็นไอ้บอยแน่ๆ ตื่นมาต้องกระทืบมันสักหน่อยตอนนี้ ผมไม่มีแรงเลย
“อย่า!!!” ผมงัวเงียตื่น เพราะได้ยินเสียงคนร้องซะดังลั่นบ้าน ผมลุกขึ้นมามองรอบตัวก็รู้สึกแปลกๆ ห้องที่แม่ไอ้พายเตรียมให้มันเป็นแบบนี้หรอวะ แต่พอจะลุกจากเตียงก็ติดมือคนที่โอบผมไว้ซะก่อน ผมคิดว่าเป็นไอ้บอยแน่ๆ แต่ความจริงมักทำให้เราตกใจเสมอ

“ไอ้พี่พลลลล” ผมตกใจมากก่อนจะถีบไอ้พี่พลตกเตียงไป

“โอ๊ยยย ใครถีบกูวะ” ไอ้พี่พลงัวเงียก่อนจะทำหน้าเหมือนเห็นผีตอนมองมาที่ผม

“มึงมานอนห้องกูได้ไง” ผมถามทันที

“มึงตะหากมานอนห้องกูได้ไง” ไอ้พี่พลก็สวนกลับทันที ผมรีบมองรอบห้องก็เห็นโต๊ะทำงานกับภาพไอ้พี่พลบตั้งอยู่ บ้าชิบผมมานอนห้องผิด

“เออ...แล้วมึงให้กูนอนด้วยทำไม ทำไมไม่บอก” ผมว่า

“กูเมาเมื่อคืน กลับมาก็ดึกมากแล้ว แต่กูจำห้องตัวเองได้ เลยนอนหลับไป” ไอ้พี่พลบอกในทันที

“มึงคงไม่ได้ทำอะไรกูนะ” ผมพูดอย่างกังวล

“มึงสวยตายละ กูถึงอยากได้”

“ดีแล้วที่ไม่มีอะไร กูไปละ” ผมบอกก่อนจะรีบเดินหนีออกมา แต่พอผมออกมาก็เห็นพ่อกับแม่ และคนอื่นๆมุงอยู่ที่หน้าห้องไอ้พายมัน ผมเลยทำเป็นเนียนเข้าไปดูด้วย พอไปถึงห้องก็เห็นไอ้พายนั่งหน้าซีดเหงื่ออกเต็มไปหมด มันฝันร้ายแน่ๆแบบนี้ และเสียงที่ปลุกผมก็น่าจะเป็นเสียงของมัน

“ฝันร้ายหรอลูก” แม่ไอ้พายถามอย่างเป็นห่วง มันทำหน้านิ่งก่อนจะมองไปที่หวานที่ยืนยิ้มอยู่ มันเหมือนโกรธหวาน แต่ก็ดูผ่อนคลายลงในเวลาอันสั้น

“น่าจะใช่คับ คงแค่ฝันไป” มันดูกังวล ไม่น่าจะใช่ความฝันปกติ แต่ก็ดูไม่น่าเกี่ยวกับไอ้พี่พล

“ร้องซะดัง กูนึกว่ามึงจะตาย” ไอ้ชายว่า

“ขอโทษที่ปลุกมึงละกัน พายไม่เป็นอะไรคับแม่ แม่ไปนอนต่อเถอะคับ” ไอ้พายมันบอกไอ้ชายก่อนจะหันมาคุยกับแม่มัน

“นอนต่ออะไรละ นี้ก็สายแล้ว เมื่อคืนคงดึงกันละสิ ปะไปอาบน้ำกันได้แล้ว” แม่พายบอกก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกลับห้องอาบน้ำแต่งตัว


ผมที่ทำหน้ามึนกลับมาที่ห้องก็โดนไอ้ชายกับไอ้บอยมองเหมือนจับผิด ผมก็ได้แต่รีบหยิบผ้าเช็ดตัวหนีเข้าห้องน้ำไป

“หวานไปไหนแล้วละ” ผมถามตอนออกจากห้องน้ำ เพราะตอนแรกยังเห็นเธอนั่งอยู่กับไอ้ชายอยู่เลย

“กลับไปแล้ว เห็นบอกว่าจะรีบกลับไปบอกข่าวดีกับใครอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ” ไอ้ชายบอกก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ

“มึงหายไปไหนมาทั้งคืน” ไอ้บอยถามผม

“หายบ้าไร กูก็นอนกับพวกมึงเนี่ย” ผมรีบแก้ตัว

“อย่ามาซุยหวานบอกไม่เห็นมึงตั้งแต่เมื่อคืน”

“กูเข้ามานอนหลังหวานหลับ กับออกไปเดินเล่นก่อนหวานตื่นไง” ผมแถสุดชีวิตคับ

“อ่าว หรอ ขอโทษที่เซ้าซี้มึง กูเป็นห่วงกลัวมึงนอนตากยุง” ไอ้บอยคนซื่อเชื่อผมด้วยคับ ถ้าเป็นไอ้พายกับไอ้ชาย ได้ซักผมจนเช้าของวันพรุ้งนี้แน่ๆ

“เออๆ ขอบใจที่เป็นห่วง” ผมบอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา แต่ตายละหว่าหายไปไหนเนี่ย

“มึงเห็นโทรศัพท์กูเปล่า” ผมถามไอ้บอย

“กูยังไม่เห็นเลยนะ” มันบอกก่อนจะเล่นโทรศัพท์ต่อ หรือว่าผมจะทำตกที่ห้องไอ้พี่พล โอ๊ยผมต้องไปห้องมันอีกหรอเนี่ย แต่มันน่าจะไม่อยู่ห้องแล้วนะ


ผมต้องแอบเดินไปที่ห้องไอ้พี่พลเพื่อไปหาโทรศัพท์ กลัวไอ้พายเห็นชะมัด ผมรู้สึกเหมือนตอนนี้ตัวเองเป็นขโมยยังไงชอบกล ผมเปิดประตูห้องพี่พลก่อนจะรีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว ต่ขาเจ้ากรรมดันไปสะดุดชนกับคนข้างหลังจนล้มลงไปทับซะได้

“เฮ้ยยย...”ไอ้พี่พลร้องซะดังจนผมต้องเอามือปิดปากมัน

“ชู่ๆๆๆ เงียบๆหน่อยเดี๋ยวก็ได้มากันทั้งบ้านพอดี” ผมบอกก่อนจะปล่อยปากเขา

“มึงเข้ามาห้องกูทำไม จะปล้ำกูหรอ” ไอ้พี่พลพูดซะผมเสียหายเลย

“กูไม่ได้เป็นโรคจิตเหมือนมึงนะ” ผมว่า

“เออ กูเป็นโรคจิตแล้วทำไม ก็กูรักพายอะ แต่กูจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว กูสัญญากับแม่แล้วว่ากูจะรักพายแบบพี่น้องให้ได้” ผมคงไปว่าแทงใจดำมันเข้าให้ ไอ้พี่พลถึงดูอารมณ์ขึ้นขนาดนี้ แต่เดี๋ยวสัญญากับแม่เหรอ!!!

“นี้คุณแม่รู้เรื่องแล้วหรอ” ผมถามด้วยความตกใจ ไอ้พี่พลมันดูเศร้า แต่มันก็ทำเป็นเย็นชาไม่สนใจผม

“ออกไปได้แล้ว” มันบอกผม

“ไม่”

“อยากเป็นเมียกู?” ไอ้พี่พลอยู่ดีๆมันก็กวนตีนผม

“กูมาเอาของไม่ได้มาทำอย่างอื่น” ผมบอกมันก่อนจะก้มลงหาโทรศัพท์ว่ามันตกใต้เตียงรึเปล่า

“อันนี้รึเปล่าที่มึงหาอยู่” ไอ้พี่พลบอกก่อนจะชูโทรศัพท์ผมขึ้นมา

“มึงเก็บไว้แล้วทำไมไม่ให้กูตั้งแต่ทีแรก” ผมว่ามัน

“กูอยากแกล้งมึงเล่น” ไอ้พี่พลมันตอบหน้าตาย

“เอาคืนมา” ผมบอกเสียงแข็ง

“พูดเพราะๆกับกูดิ กูจะคืนให้” มันยังคงกวนตีนผม

“คืนกูมาเดี๋ยวนี้ ใครอยากจะพูดเพราะๆกับมึง” ผมเริ่มอารมณ์เสียละ

“ถ้าไม่พูดเพราะๆกับกู ก็มาเป็นเมียกู เลือกเอา” ไอ้เชี่ยพี่พลมึงงงง

“กวนตีน แค่โทรศัพท์เครื่องเดียวกูถึงขนาดต้องเป็นเมียคนโรคจิตจอย่างมึง ตลกหรอ” ผมว่า

“นั้นดิ คิดไปคิดมา รูปร่างแบบมึงเนี่ย โทรศัพท์เครื่องนึงยังแพงไปเลย”

“ไอ้เชี่ยพล”

“ไอ้กิตถ้ามึงเรียกกูแบบนั้นอีกทีกูจับมึงทำเมียแน่” หน้าตามันเอาจริงจนน่ากลัว เอาไงดีหว่า ตอนนี้ผมดูยังไงก็เสียเปรียบถึงตัวจะเท่ากัน แต่หุ่นมันล่ำกว่า

“เออๆ ไม่เรียกแล้ว พี่พลขอโทรศัพท์ผมคืนคับ” คงต้องใช้ไม้อ่อนในการเอาตัวรอด

“พูดดี” มันยืนโทรศัพท์คืนผมอย่าง่ายดาย

“ทำตัวน่ารักต้องได้รางวัล” ไอ้พี่พลมันพูดเสร็จก็หอมผมไปฟอดหนึ่งเต็มๆ

“ไอ้เชี่.....อืมมม” มันปิดปากผมทันทีที่ผมแหกปากด่า และรวบมมือผมไว้แน่น จนตอนนี้เหมือนมันกอดผมเต็มตัว ผมอยากจะต่อยมันจริงๆ

“เงียบๆดิวะ เดี๋ยวคนอื่นก็รู้หมดหรอกว่ามึงมาอ่อยกูถึงห้องอะ” ไอ้พี่พลพูดก่อนหอมผมอีกครั้ง  ก่อนจะโยนผมลงเตียง และเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ไอ้เชี่ยพี่พล เจอคราวหน้ากูต่อยหน้ามึงแน่


“เจอโทรศัพท์แล้วหรอวะ” ไอ้บอยถามผมตอนที่ผมนั่งลงที่โต๊ะอาหาร

“เออ” ผมตอบ

“เจอที่ไหนละ” ไอ้พายถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหมือนรู้อะไรบางอย่าง

“แถวนี้แหละ”

“หรอ” คำว่าหรอของมันชวนขนลุกชะมัด อย่าบอกนะว่ามันรู้ว่าผมไปที่ห้องพี่มันมาอะ

“ใช่” ผมตอบแค่นั้น ก่อนที่คุณแม่พายจะส่งจานข้าวมาให้

“พี่พายไม่สบายรึเปล่าคับ” ภีมมันทักพายขึ้นมาจนเราทุกคนต้องมองมันเป็นตาเดียว

“เออ มึงหน้าซีดวะ” ผมว่า

“กูมึนๆหัววะ ปวดท้องนิดหน่อยด้วย” ไอ้พายบอก

“ไปโรงพยาบาลไหมคับ เดี๋ยวผมพาไปตอนนี้เลย” ภีมผู้เป็นแฟนตัวอย่างของคนบนโลกได้แสดงความห่วงใยจนเราเริ่มกังวลเหมือนกัน เพราะปกติพายมันเป็นคนแข็งแรง ไม่น่าจะป่วยง่ายๆแบบนี้

“ไม่เป็นไร ไม่ได้ปวดมาก แค่ปวดหน่วงๆเดี๋ยวก็หาย” พายรีบปฏิเสธในทันที

“แต่...”

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ แล้วกินยาก็หายแล้ว” ไอ้พายบอก

“งั้นเดี๋ยวแม่เตรียมยาให้” คุณแม่รีบไปเตรียมยาให้ไอ้พายทันที ตอนแรกดูท่าคุณพ่อจะร่วมมือกับภีมลากมันไปโรงพยาบาลแล้ว แต่พอมันบอกไม่เป็นไรก็แปลว่ามันไม่เป็นไรจริงๆ พายเป็นคนตรงๆ เราเลยไม่ขยั้นขะยอพามันไปโรงพยาบาล



หลังจากกินข้าวไอ้พายก็กินยา แล้วก็ไปพักผ่อน ส่วนพวกผมก็หาไรทำ มาต่างจังหวัดแบบนี้ อากาศก็ดี ผมเลยไปพายเรือเล่น ไอ้บอกก็แก้ผ้าว่ายน้ำดีที่ไม่มีใครอยู่แถวนี้ไม่งั้นได้อับอายแน่ไอ้บ้านี้เล่นแก้ไม่เหลือสักตัว ส่วนไอ้ชายก็นั่งเล่นโทรศัพท์ตรงท่าน้ำ มันว่ายน้ำไม่เป็นเลยไม่ลงมาด้วย ผมเลยให้มันช่วยนั่งเฝ้าไอ้บอยไว้

ผมพายเรือเล่นไปตามแม่น้ำที่ไหลไม่แรงมากนักวันนี้ จนมาถึงรีสอร์ทของครอบครัวไอ้พาย มาไกลเหมือนกันแหะ ผมเลยกะจะเลี้ยวหัวเรือกลับ แต่ผมพายไม่คล่องเรือเลยหมุนวนซะงั้น เอาไงดี ผมเลยพยายามเอาพายทวนน้ำดูก็ไม่ได้ผล ทำไปทำมาผมดันตกน้ำซะได้ บ้าจริงดีที่ว่ายน้ำเป็น แต่เรือก็ลอยไปไกลแล้ว  ผมเลยต้องว่ายขึ้นที่ท่าของรีสอร์ทก่อน พอขึ้นมาได้ก็หอบเลยคับ เหนื่อยชะมัด แล้วจะกลับไงเนี่ย

“คิดถึงกูจนต้องมาหาเลยหรอวะ” ผมหันไปมองที่ต้นเสียงก็เห็นอพี่พลยืนกอดอกอยู่

“คิดถึงบ้าไร ไม่เห็นหรอว่ากูตกน้ำอะ” ผมว่า

“นึกว่าว่ายมา เห็นถึก”

“กวนตีน”

“พูดอะไร” ไอ้พี่พลมันเดินเข้ามาดึงผมขึ้นไปมองหน้ามันที่อยู่ห่างกันไม่กี่เซ็น

“กูเพื่อนเล่นมึงหรอ” ไอ้พี่พลดูโกรธคับ

“ไม่ใช่ และกูก็ไม่ได้อยากได้มึงเป็นเพื่อนด้วย” ผมบอกแล้วทำท่าไม่สนใจที่มันกำลังโกรธที่ผมพูดจาไม่เพราะ

“งั้นมึงก็อยากได้กูเป็นผัวอะดิ” มันพูดจบก็อุ้มผมพาดบ่าแล้วเดินพาผมไปที่ไหนก็ไม่รู้ พนักงานที่หยุดไหว้ไอ้พี่พล ก็ต้องตกใจที่เห็นไอ้บ้านี้อุ้มผมมา

“เอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อคลุมอาบน้ำมาสักชุด” ไอ้พี่พลสั่งพนักงานที่กำลังตกตะลึงก่อนจะพาผมเข้ามาในบังกะโล และโยนผมลงบนเตียง

“มึงจะทำไรกู” ผมถามด้วยความตกใจ

“กูไม่เอามึงทำเมียจริงๆหรอก ผิวก็ไม่ขาว หน้าตาก็งั้นๆ”

“ไอ้...” ก๊อกๆๆๆ ผมยังวด่าไม่เสร็จพนักงานก็เอาผ้าเช็ดตัวกับชุดคลุมอาบน้ำที่มันสั่งมาส่ง มันรับมาก่อนปิดประตู และโยนผ้าใส่หัวผม

“ไปอาบน้ำไป”

“กู..”ผมกำลังจะเถียง

“หรือมึงอยากให้กูฝืนใจตัวเองปล้ำมึง ทำท่าเรียกร้องความสนใจเหลือเกิน” ไอ้พี่พลแม่งปาก...

“กูขี้เกียจเถียงกับมึงแล้ว” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป นี้มันวันบ้าอะไรของผมเนี่ย เจอไอ้พี่โรคจิตนี้ตั้งแต่เช้ายันบ่าย


“เอาไป แต่งตัวซะเดี๋ยวให้คนที่รีสอร์ทไปส่ง” ไอ้พี่พลยื่นเสื้อผ้าให้ผมตอนที่ผมออกมาจากห้องน้ำ

“ขอบใจ” ผมบอกตามมารยาท

“พูดเพราะก็เป็นนี่”

“กูรู้บุญคุณคน” ผมบอก

“พูดเพราะได้ไม่เท่าไหร่นะมึงอะ”

“มึงมันไม่น่าเคารพ” ผมบอกก่อนจะใส่กางเกง แต่บ้าเอ้ยยยผ้าเช็ดตัวดันหลุดพอดี ผมจะคว้า แต่ไอ้พี่พลดันมาดึงไปซะก่อน ผมที่ใส่กางเกงอยู่ก็เซล้มพอดี

“มึงนี้เนียนดีเหมือนกันนะ” ไอ้พี่พลมันมาพยุงผมขึ้นก่อนจะโยนผมลงเตียง และมาขึ้นครอมผมในทันที

“มึงเป็นบ้าหรอ อยู่ดีๆก็มาคร่อมกูเนี่ย”

“ก้นมึงโคตรเนี่ยเลย เห็นแล้วอยาก”

“ไอ้เชี่ยพลลล” ผมด่าด้วยความตกใจเพราะมันทำท่าจะไซร้คอผม มันจงใจแกล้มผมแน่ๆ

“พูดไม่สุภาพกูไม่ชอบ” ไอ้พี่พลพูดก่อนจะจับหน้าผมให้มองที่เขาก่อนจะกดจูบลงมา

“อืมมมม” ผมดันมันไม่ออกจริงๆ ผมกะจะกัดปากมัน แต่ดันเป็นการเปิดปากให้มันส่งลิ้นร้อนๆเข้ามาในปากผม ลิ้นเราเกี่ยวกันไปมา จนผมทำอะไรไม่ถูก มันลูบไล้ผมไปทั้งตัว ผมรู้สึกไร้เรี่ยวแรงไปหมด

ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตู ไอ้พี่พลมันถอนปากออกไป แล้วห่มผ้าให้ผม ก่อนจะเดินไปเปิดประตู ตอนนี้ผมได้แต่นอนหอบหายใจอยู่บนเตียง แม่งจูบเก่งชะมัด

“รถเตรียมเรียบร้อยแล้วคับคุณพล” พนักงานบอกไอ้พี่พล

“ขอบใจ” มันบอกก่อนจะปิดประตู และเดินมานั่งที่เตียง

“ลุกมาแต่งตัวซะ ถ้ามึงไม่รีบลุกขึ้นมา กูจะเอามึงจริงๆ” มันบอกเสียงมีแววหื่นกระหาย ผมรีบลุกจากเตียงใส่เสื้อผ้าในทันที

“หึหึ” เสียงหัวเราะในลำคอของเขาฟังแล้วเจ้าเล่ห์ชะมัด ผมเปิดประตูออกจากห้องก็เจอคนขับรถที่ยืนรออยู่

“เชิญคับ” เขาบอกก่อนจะนำทางไปที่รถ


ผมกลับมาถึงบ้านไอ้พาย ก็เห็นภีมกำลังนอนหนุนตักไอ้พายอยู่ใต้ถุนบ้าน มันมองผมด้วยสายตาแปลกๆพิกล เหมือนกำลังจับผิดผมอยู่

“มึงหายดีแล้วหรอ” ผมถามไอ้พาย

“ใช่ รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว มึงเหอะไปหาพี่ชายกูมา?” มันถามหน้าเจ้าเล่ห์ นี้มึงพี่น้องชอบทำหน้าแบบนี้รึไงเวลาชอบใจอะไร

“เปล่า” ผมรีบปฏิเสธ

“ไอ้ซุย กูเห็นนะ”

“เห็นเชี่ยไร” ผมพูดด้วยความตกใจ

“ชู่ว์ๆๆๆๆ เบาๆภีมหลับอยู่” มันบอกผมก่อนจะมองว่าภีมตื่นรึเปล่า

“เมื่อเช้ากูโทรหามึงตอนมึงกลับไปที่ห้อง แต่คนที่รับโทรศัพท์มึงคือพี่ชายกู แล้วนี้มึงยังนั่งรถรีสอร์ทกลับมาอีก” มันมองจับผิด

“กูทำโทรศัพท์หล่น ส่วนเรื่องรถ กูๆ...กู...กูหลงทาง” ผมแถสุดชีวิตตามเคย

“อย่าบอกกูนะว่ามึงแอบได้กับพี่พลอะ”

“บ้าหรอ!!!”

“กูบอกอย่าเสียงดัง” มันดุผม

“โทษที กูปวดท้องขอไปห้องน้ำก่อนนะ” ผมรีบหาทางออกก่อนจะเดินหนีมา

“ที่พี่พลดูตัดใจจากกูได้นี้เป็นเพราะมึงรึเปล่านะ” มันพูดลอยๆขึ้นมาเพื่อให้ผมได้ยิน ไอ้บ้าพายคิดได้ไงวะเนี่ย



TBC...  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 12 (15/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-03-2017 15:38:47
มาให้กำลังใจก่อน

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 12 (15/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 15-03-2017 16:16:43
 :laugh:เป็นคู่ที่เหมาะสมมากพี่พลหื่นได้อีก
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 12 (15/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-03-2017 16:56:45
พายจะท้องได้ป่าวนะ

อยากให้ท้องได้

กิตกับพี่พลเคมีเข้ากันอยู่นะ

เชียร์ๆคู่นี้พี่พลจะได้เลิกตอแยพายซะที

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 12 (15/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-03-2017 17:16:56
ถ้าจะให้พี่พลคู่กับกิต ก็อยากให้รักกันนะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 12 (15/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-03-2017 17:33:42
หวานแอบฉีดยาให้พาย สามารถตั้งท้อง มีลูกได้
พี่พล เริ่มเบนมาชอบกิต แล้วเชนล่ะ 3p หรอ
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 13 (17/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 17-03-2017 16:29:14
ตอนที่ 13 หน้าที่


พาย พาร์ท

ผมว่าไอ้กิตต้องมีอะไรกับพี่พลแน่นอน ท่าทางมันทีพิรุดขนาดนั้น แต่คนอย่างไอ้กิตถ้าไม่เปิดปากเองคงเค้นยาก ผมเลยต้องปล่อยมันไปก่อน ตอนนี้ที่ผมสงสัยคือหวานฉีดยาอะไรผม แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังฉีดยารึเปล่า หรือว่าผมโดนเธอฉีดยาปลุก แต่มันมีแบบฉีดด้วยหรอวะ แล้วอีกอย่างถ้าผมมีอะไรกับเธอจะตื่นมาข้างภีมได้ไง ผมมั่นใจว่าที่ผมเห็นเลือนรางว่าหวานฉีดยาให้ผมเป็นเรื่องจริง ผมคงต้องถามเธอให้มันรู้ดำรู้แดงกันไป

“ไปก่อนนะคับแม่ หวัดดีคับ พ่อหวัดดีคับ” ผมบอกก่อนลาท่านทั้งสอง

“ดูแลตัวเองนะลูก แม่ฝากพายด้วยนะภีม” แม่ผมบอกด้วยความเป็นห่วงก่อนหันไปยิ้มให้ภีม

“ไว้ใจผมได้เลยคับแม่” ภีมทำหน้าภูมิใจสุดๆ

“หวัดดีคับคุณพ่อคุณแม่” ทุกคนบอกลาพ่อกับแม่ผมก่อนจะขึ้นรถกลับมาที่มหาวิทยาลัย


ระหว่างทางทุกคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลยนอกจากนอนตลอดทาง ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเรามาพักผ่อน แต่ขากลับเรากลับหลับกันหมด

“แวะปั้มไหมคับ” ภีมถามขณะที่เห็นป้ายปี้มอยู่ไม่ไกล

“ไม่ต้องหรอก หลับกันหมดแล้ว แล้วภีมง่วงไหม พี่จะได้ปลุกไอ้กิตมาขับแทนก่อน” ผมถามเขาด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรคับ ผมไหว เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” ภีมบอกพร้อมยิ้มให้ผม

“กินขนม แก้ง่วง” ผมป้อนขนมเข้าปากภีม

“พี่นี่น่ารักจริงๆ”

“อยู่ดีๆมาชม เขินนะ” ผมบอกเขาก่อนจะป้อนเขาไปอีกคำ

“ก็เวลาพี่ดูแลผมโคตรน่ารักเลย ผมจะอดใจไม่ไหวละเนี่ย” เขาทำเสียงอ้อนผม

“ทะลึ่ง ขับรถไปเลย กินขนมไปด้วย” ผมป้อนเขาไปสี่ห้าชิ้นจนเต็มปาก 5555

พอมาถึงมหาลัย ไอ้บอยกับไอ้ชายก็รีบแยกไป ส่วนไอ้กิตที่อยู่หอเดียวกันก็ทำเป็นหลบตาผมก่อนที่จะรีบขึ้นหอไป ไอ้นี้มีพิรุดอย่างปิดไม่มิด

“พี่กิตเป็นอะไรรึเปล่าคับ” ภีมถามผม

“น่าจะเพราะเจ้านั้น” ผมบอกพลางพยักพเยิดไปทางคนที่นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าหอ ไอ้เชนนั้นเอง มันมองจนไอ้กิตหายลับไป แปลกปกติมันน่าจะเข้าไปคุยแล้ว

“หวัดดีคับพี่พาย” ไอ้เชนทักผม

“อืม มาหาไอ้กิต?” ผมถาม

“คับ”

“แล้วไม่เรียกมันละ”

“ผมแค่อยากคุยกันดีๆ แต่พี่กิตยังไม่พร้อมคุย ผมก็จะรออีกสักพัก” ไอ้เชนบอกเสียงนิ่ง

“เลิกเจ้าชู้ได้แล้วหรอ” ผมถามตรงๆ ไอ้เชนดูอึ้งไม่น้อยที่ผมถามแบบนี้

“พี่กิตเล่าให้ฟังหรอคับ”

“ใช่”

“ผมรักพี่กิตคับ แต่เรื่องเซ็กซ์ผมคิดว่ามันคนละเรื่องกัน” มันตอบนิ่งๆ แต่คำตอบทำผมงง

“หมายความว่าไง”

“ผมไม่เคยนอกใจพี่กิต ผมแค่นอกกาย มันเป็นแค่เซ็กซ์ ไม่ได้มีความรัก”

“มันก็เป็นคำแก้ตัวของคนที่ไม่รู้จักพอ” ผมสวนกลับในทันที มันอึ้งที่ผมโกรธใส่ ก็ผมโกรธแทนเพื่อนผมอะคับ ถ้าไอ้กิตมาได้ยินมันคงเสียใจน่าดู

“ผมก็ยังยืนยันว่าผมรักพี่กิต ผมไปละคับ” ไอ้เชนบอกก่อนเดินหนีไป ตรรกะอะไรของมันวะ ผมได้แต่ถอนหายใจ

“ผมรักพี่ และจะมีพี่แค่คนเดียวเท่านั้น” ขณะที่ผมกำลังจะเดินขึ้นหอ ภีมก็พูดขึ้นมา

“พี่ไว้ใจภีม แต่รู้ไว้นะ ถ้าวันไหนภีมผิดคำพูดพี่จะไม่ให้อภัย” ผมบอกเขาเสียงนิ่ง อาจจะเพราะผมอารมณ์เสียมาจากไอ้เชน แล้วเขาก็ดันพูดขึ้นมาพอดี

ครืด—ครืด ภีมกดรับโทรศัพท์

“คับ”

“พรุ่งนี้ผมจะเข้าบริษัทคับพี่”

“แล้วตอนเย็นผมจะพาแฟนไปที่บ้านนะคับ” เขาพูดพลางมองผม พร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ผมสบายใจ ทำให้อารมณ์ครุกรุ่นเมื่อครู่ของผมหายไปเป็นปลิดทิ้ง

“คับ รับรองว่าน่ารักกว่าเมียพี่เยอะ 5555 หวัดดีคับ” แล้วก็วางสายไป ก่อนจะเดินมากอดผม

“พรุ่งนี้ไปบ้านผมนะคับ ไปกินข้าวกับที่บ้านผม”

“อืม” ผมตอบรับก่อนที่เราจะมีอะไรกัน ภีมคงอดกลั้นมาตั้งแต่ตอนอยู่บ้านผม เขามีอะไรกับไม่ต่ำกว่าสี่รอบ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็กลางดึก ผมถึงลุกไปอาบน้ำส่วนภีมก็หลับไปเรียบร้อยแล้ว

ผมออกมาริมระเบียงเพื่อรับลมหลังอาบน้ำเสร็จก็เจอเพื่อนตัวดียืนทำหน้าเครียดอยู่

“คิดว่าเป็นพระเอกเอ็มวีหรอ” ผมทักมัน

“กวนตีนกูซะดึกเลยนะ เอากับผัวเสร็จละดิ” มันว่า

“สาสสส มึงได้ยินหรอ” ผมถามด้วยความตกใจ

“ก็ไม่ แค่แซว 5555” ไอ้กิตมันทำหน้ากวนพร้อมหัวเราะเสียงดัง

“ชู่ๆๆๆ ภีมหลับแล้วเบาๆหน่อย” ผมรีบห้ามมัน

“อ่าวหรอ ดูท่าจะหลายยก” มันยังแซวไม่เลิก

“ปากดี ขอให้มึงโดนพี่กูบ้าง” ผมแซวโดนจุดอ่อนมันพอดี

“กูกับพี่มึงไม่มีอะไรกัน มึงเหอะพรุ้งนี้ไปเรียนมึงโดนแซวตายแน่”

“อะไรของมึง” ผมถาม

“รอยดูดหราขนาดนี้มาถาม อาบน้ำได้สังเกตเปล่าเนี่ย” ผมรีบเข้าห้องน้ำแล้วเปิดไฟเช็คในทันที รอยแดงเลย ทำไมตอนอาบน้ำเมื่อกี้ไม่เห็น แล้วผมก็เดินออกมาหาเพื่อนตัวดีที่ยืนยิ้มกวนบาทาผมอยู่

“เป็นไงชัดเจน 5555”

“หยุดเลยมึง ไปนอนไป กูไม่คุยด้วยแล้ว” ผมบอกก่อนจะเดินกลับเข้าห้อง

“ยืนเป็นเพื่อนกูก่อนดิ” มันบอกเสียงอ่อน ผมมองหน้ามันดูท่าทางจะคิดเรื่องอะไรที่หาทางออกไม่ได้แน่ๆ

“คิดเรื่องเชน?” ผมถามตามตรง

“ก็ใช่”

“ก็ใช่ แปลว่าไม่ได้คิดถึงไอ้เชนคนเดียว” ผมพูดพลางไม่มองหน้ามัน

“มึงนี้อ่านใจคนได้รึไง” มันถามน้ำเสียงแปลกใจ

“เรารู้จักกันมานาน ถ้ามึงไม่พูดกูก็ไม่มีทางรู้ แต่หลังๆนี่เห็นมีแต่ผู้ชายมาติดพันมึงกูเลยเดาเอา”

“เดาเก่งเหลือเกิน” มันแกล้งทำเสียงประชดผม

“กูยังเดาได้อีกว่ามึงกำลังคิดถึงพี่ชายกูด้วย” ผมบอกพลางยิ้มเข้าเล่ห์ใส่มัน

“มึง...” เถียงไม่ออกเลยคับ ไอ้กิตจนมุมแล้วเป็นแบบนี้ตลอด

“ไปชอบพี่ชายกูได้ไง” ผมถามมัน

“ไม่ได้ชอบ ยังไม่รู้ว่าชอบรึเปล่า แค่ไม่ได้รู้สึกแย่เหมือนเมื่อก่อน” มันบอกพร้อมทำหน้ากังวล

“เพราะตอนนี้เขาไม่ได้มายุ่งกับกูแบบนั้นละมั้ง”

“กูคิดเรื่องที่เขาทำกับมึง กูก็รับไม่ได้อยู่นะเว้ย”

“พี่พลเขารักกูมากเกินไป จากความหวงน้องกลายเป็นอยากครอบครอง ถ้าตอนนี้เขาเปลี่ยนไปได้ กูก็พร้อมจะให้อภัยเขานะ อย่างน้อยการสร้างความไว้ใจกันขึ้นมาใหม่ อาจจะทำให้กูไม่ต้องรู้สึกกลัวเขาอีก”

“มึงไม่ฝันร้ายแล้วหรอ” ไอ้กิตถามอย่างเป็นห่วง

“ตั้งแต่คบกับภีมกูก็ไม่ได้ฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว บางทีกูก็คิดว่าถ้าเรากลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้ พ่อแม่กูคงดีใจ ยังไงมันก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นลูกไม่ใช่หรอวะ ที่จะทำให้พ่อแม่สบายใจ”

“มึงรู้หรอ”

“รู้?”

“ก็รู้เรื่องที่พ่อแม่มึงรู้เรื่องที่พี่พลทำกับมึง” มันถามพร้อมทำหน้าตกใจ

“ก็พอเดาได้จากการที่กลับบ้านครั้งนี้ พ่อแม่กูอุตสาย้ายห้องกูเพื่อให้กูสบายใจ ดูก็รู้แล้วว่าพวกเขาคงรู้แล้ว”

“มึงนี้เดาเก่ง น่าจะไปเป็นหมอดู”

“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง กูอยากจะให้มึงคิดให้ดีก่อนที่พี่ชายกูจะมาทำคะแนน อย่าพึ่งตัดสินใจกลับไปคบไอ้เชน” ผมบอกมันด้วยความหวังดีจากใจ เพราะตรรกะของไอ้เชน แม่งโคตรรับไม่ได้

“นี้มึงจะเชียร์พี่มึงหรอ”

“มึงเป็นพี่สะใภ้กูดีกว่า กูว่า”

“กูอาจจะเป็นพี่เขยมึงก็ได้” มันตอบกวนๆ

“ไม่มีทาง หุ่นอย่างมึงรุกพี่กูไหวก็บ้าแล้ว 555555”

“ไอ้เชี่ยพายดูถูกกูเกินไป”

“สบายใจขึ้นละดิ” ผมบอกพลางยิ้มให้มัน

“อืม ขอบใจ”

“ไปนอนไป พรุ่งนี้ต้องไปเรียนนะเว้ย” ผมบอกก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน ผมนอนลงบนเตียงก็โดนภีมรวบตัวไปกอดในทันที

“ไปยืนคุยกับพี่กิตตั้งนาน ไม่ได้กอดพี่ผมนอนไม่หลับเลย” เขาบอกพลางจูบมาที่หน้าผากผม แล้วหลับไป


ตอนเช้าภีมมีเรียนเช้า และต้องเข้าบริษัท เขาเลยออกไปก่อน แต่ก่อนไปเขาก็เขียนโน้ตให้ผมว่าตอนเย็นจะมารับผมไปกินข้าวกับครอบครัวเขา พร้อมกับบอกให้ไอ้กิตช่วยมาดูแลผมด้วย!!!

ก๊อกๆๆๆๆ

“ผัวมึงนี้คิดว่ามึงเป็นเด็กสองขวบรึไง พอไม่อยู่ก็โทรมาปลุกกูแต่เช้าว่าฝากดูแลมึงหน่อย กูละเชื่อเขาเลย” ไอ้กิตที่เดินเข้ามาก็บ่นเลยคับ

“กูเห็นข้อความกูยังตกใจ” ผมว่า

“ไอ้โคตรเดือนมันหลงมึงเกินนนนนนนน”

“มั้ง ไปกินข้าวกันเหอะ” ผมบอกก่อนจะลากมันลงจากโซฟาไปหาอะไรกิน เพราะไอ้กิตมันเข้ามาก็ดันนอนฟุบลงที่โซฟาทันที

ครืด---ครืด ไอ้กิตมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะมองผมเหมือนมีความลับบางอย่าง

“พี่กูหรือไอ้เชน” ผมถามขณะปิดประตูห้อง

“พี่มึง” มันตอยเสียงอ่อน

“งั้นกูไปรอที่รถ อยากคุยก็คุยกูไม่ได้ห้ามมึงนี่” ผมบอก ก่อนจะเดินออก ผมรอนานพอสมควร คุยกันนานขนาดนี้คงไม่ต้องถามแล้วละมั่งว่าชอบพี่ผมรึเปล่า

“รอนานเปล่าวะ โทษที” มันเดินมาหาผมที่นั่งรอหน้าหอด้วยท่าทางเขินๆ แมนๆอย่างมันมาทำท่าเขินไม่เข้าเลยจริงๆ

โป๊กกก ผมโบกหัวไอ้กิตไปที

“มึงตบกูไม”

“หมันไส้ โดนพี่กูดีดน้ำมันพรายใส่รึไง” ผมแซว

“ไอ้เชี่ยพายพูดบ้าไร ไม่มี!!!”

“หน้ามึงโคตรไม่มีเลย รีบไปขับรถเลย เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน” ผมบอกก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ ระหว่างทางมันก็ทำหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว

“มึงทำหน้าเหมือนอะไรรู้ไหม” ผมพูดขึ้นมาเพราะเริ่มเลี่ยนกับท่าทีของมันละ

“อะไร”

“ก็เหมือนผู้หญิงที่ตกหลุมรักใหม่ๆไง มึงเอาวิญญาณผู้หญิงที่ไหนมาสิงมึงเนี่ย”

“ไอ้พายกูทำหน้าปกติเหอะ”

“ไอ้ซุย” ผมบอกก่อนจะลงจากรถเพราะถึงคณะพอดี

“หวัดดีค่ะพี่พาย พี่กิต” หวานทักผม เธอดูจะมานั่งรออยู่กับไอ้ชาย และไอ้บอย

“คับ” ผมบอกก่อนจะเดินนำทุกคนเข้าห้องเรียน โดยมีหวานตามมาด้วย

“นี้หวานไม่มีเรียนหรอ” ไอ้กิตถาม

“ไม่มีคะ หวานว่างตอนบ่าย เลยมานั่งเรียนกับพี่ชาย” หวานบอกพลางคล้องแขนไอ้ชายเอาไว้ แล้ววันนี้มันจะเรียนรู้เรื่องไหมเนี่ย หวานดูเกาะแกะตลอดเวลาขนาดนี้


พอเรียนเสร็จผมก็ออกมานั่งรอภีมที่มาหินหน้าคณะ โดยมีพวกไอ้กิตนั่งเป็นเพื่อน ผมบอกให้มันกลับก่อนก็ไม่ไป ไอ้บอยไอ้ชาย และหวานเลยต้องอยู่ด้วย

“โคตรเดือนมันฝากมึงไว้กับกู กูก็ต้องแลมึงจนกว่ามันจะมารับดิวะ” ไอ้กิตบอก

“มึงมีเหตุผลอะไรมากกว่านี้แน่ ปกติถ้ามึงตื่นเช้าแบบที่มึงว่ามาวันนี้จริง ปานนี้มึงต้องกลับไปนอนแล้ว ไม่มานั่งกับกูแบบนี้หรอก” ผมบอกพลางทำท่าจับผิด

“ไอ้พายกู...”

“มึงนี้รู้ทันทันจริงๆ 55555 สุดยอด” ไอ้บอยพูดขัดไอ้กิต

“ว่าแต่ไอ้ชายมึงไม่ไปกับน้องหวานรึไง ให้น้องเขามานั่งรอเป็นเพื่อนกูทำไม” ผมถามด้วยความสงสัย

“หวานว่างนั่งรอเป็นเพื่อนพี่พายได้คะ” เธอบอกพลางยิ่มใสๆแบบจริงใจให้ผม ผมละสงสัยจริงๆว่าเธอเป็นคนยังไงกันแน่

“เดี๋ยวหวานขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” เธอบอกก่อนจะเดินไป ผมที่หาโอกาสคุยกับเธออยู่จึงรีบของตัวเข้าห้องน้ำตามเธอไปในทันที


“หวาน เดี๋ยวก่อน” ผมเรียกเธอก่อนที่เธอจะเข้าห้องน้ำไป

“มีอะไรค่ะพี่พาย” เธอถามหน้าซื่อ

“วันนั้นเธอทำอะไรพี่” ผมถาม

“วั้นนั้น? วั้นไหนค่ะ หวานยังไม่เคยทอะไรพี่เลยนะคะ” เธอตอบพร้อมทำหน้าไม่รู้เรื่อง แต่คิดว่าจะปิดผมมิดหรอ ยัยเด็กนี่

“เธอฉีดอะไรให้พี่ บอกมา” ผมถามเสียงนิ่ง ให้ดูน่ากลัว่ขึ้น

“5555 พี่พายพูดอะไรค่ะเนี่ย หวานจะไปทำอะไรพี่แบบนั้นได้ค่ะ ตลกจังเลย” เธอทำหัวเราะเหมือนผมเล่าเรื่องตลกให้เธอฟังซะอย่างนั้น ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป แต่ก่อนประตูจะปิดลงเธอได้พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมงงมากขึ้นไปอีก

“รออีกสักปี ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป” สิ้นคำของเธอผมก็ได้แต่ยืนอึ้งไป เพราะผมไม่รู้ว่าคำพูดนั้นหมายความว่ายังไง  ผมกลับมาถึงโต๊ะม้าหินอ่อนก็เจอภีมนั่งรออยู่แล้วคับ เขายิ้มให้ผมเป็นการทักทายก่อนเดินมากอดผมเข้าเต็มรัก

“คิดถึงจังเลยคับ” ภีมกระซิบข้างหูผม

“เหมือนกัน ไปกันเถอะ” ผมบอกเขาก่อนที่จะเดินไปที่รถด้วยกัน

“ผัวมาละทิ้งเพื่อนเลยนะ” ไอ้กิตแซว

“ไอ้กิตเดี๋ยวโดนกูตบกะบาลแน่” ผมคาดโทษมันก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ

“เป็นไงบ้างคับวันนี้” ภีมถามผม

“ก็ดีคับ เรียนสนุกดี ภีมละคับ เมื่อเช้าออกไปได้กินอะรึเปล่า” ผมถามเขาด้วยความเป็นห่วง

“กินคับ ขนมปังกับโอวัลตินเซเว่น” เขาบอกยิ้มๆ

“อิ่มหรอ น่าจะปลุกพี่ จะได้ทำอะไรที่มันอิ่มๆให้กินก่อนไปเรียน”

“ผมทำพี่เหนื่อยทั้งคืนกว่าจะได้นอน ผมเลยอยากให้พี่พักมากกว่า”

“แต่พี่ทำได้นะ”

“ขอบคุณคับ” เขาบอกก่อนใช้มือที่ว่างมากุมมือผมไว้ขณะขับรถ

“จะว่าไปพี่ก็ตื่นเต้นนะที่ต้องไปบ้านภีมวันนี้”

“ไม่ต้องกังวลหรอกคับ พ่อแม่ แล้วก็พี่ผมเป็นคนใจดี” เขาบอกพลางบีบมือผมเพื่อให้ความมั่นใจ มันช่วยให้ผมสบายใจขึ้นเยอะเลย

“ผมไม่ไปส่งเมื่อเช้ามีคนมาจีบบ้างเปล่า” เขาเปลี่ยนจากจับมือมาลูบมือผมเล่น

“ไม่มีคับ หายห่วง” ผมยิ้มให้เขา

“หวงพี่จัง เรียนจบแล้วผมจะไปสู่ขอนะ” เขาพูดทีเล่นทีจริงกับผม พร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์

“ได้ เดี๋ยวพี่บอกพ่อแม่ให้เตรียมตัวไว้ก่อน” ผมยิ้มตอบเขา



ภีมขับรถเลี้ยวเข้ามาในบ้านของเขาก็ เป็นบ้านที่ใหญ่โตสมกับเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆของประเทศจริง กว่ารถจะขับไปถึงตัวบ้าน ผ่านสวนที่ทอดยาวไปไกลลิบ บ้านเขากว้างขนาดไหนกันเนี่ย พอรถจอดก็มีคนรับใช้ผู้ชาย และผู้หญิงมายืนตอนรับยังกับในหนัง ภีมจอดรถก่อนเดินมาเปิดประตูให้ผม ผมเดินลงอย่างขัดเขินไม่น้อย

“สวัสดีคะนายน้อย คุณท่านกับคุณหญิงรออยู่แล้วคะ” คุณป้าที่ยืนรอตอนรับมาบอกภีมขณะที่เรากำลังเดินขึ้นบันไดเข้าบ้าน

“คับป้าน้อย” ภีมบอกคุณป้าคนนั้นก่อนจะพาผมเข้ามาในบ้านผ่านห้องโถงทรงกลมที่มีโต๊ะกับแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่วางไว้ตรงกลาง  ก่อนจะเปิดประตูเข้ามาในสวนห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่มีคุณพ่อกับคุณแม่ของภีมนั่งอยู่

“นี่คุณพ่อกับคุณแม่ผมคับ” ภีมแนะนำท่านทั้งสองกับผม

“สวัสดีคับคุณพ่อ คุณแม่” ผมไหว้ท่านทั้งสอง

“สวัสดีจ๊ะหนูพาย น่ารักอย่างที่ภีมบอกจริงๆ” คุณแม่ภีมชมผมก่อนจะยิ้มให้อย่างอบอุ่น

“ส่วนนั้นพี่ชายผมคับพี่ภีมะ” ภีมแนะนำพี่ชายเขา ดูหน้าตาดี แต่ถ้าเทียบจริงๆภีมยังคงหล่อกว่ามาก
“สวัสดีคับพี่ภีมะ”

“เรียกพี่ว่าพี่ภีเหมือนเจ้าภีมก็ได้” พี่ภีก็ดูเป็นมิตรกับผมเหมือนกัน

“มานั่งข้างๆแม่หน่อยสิจ๊ะ” คุณแม่ของภีมบอกผม ผมเลยขยับไปนั่งข้างท่าน

“สวย น่ารัก ไม่แปลกใจที่ภีมจะชอบหนูขนาดนี้” แม่จับคางผมดูหน้าอย่างเชยชม

“ขอบคุณคับคุณแม่”

“ฝากดูแลเด็กดื่ออย่างภีมด้วยนะลูก ตั้งแต่แม่เลี้ยงภีมมาดูจะมีแค่หนูพายคนเดียวที่เอามันอยู่” คุณแม่ยังคงยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น

“คุณหญิงคะ ตั้งโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” ป้าน้อยเข้ามาบอกอย่างนอบน้อม

“ขอบใจจ๊ะแม่น้อย เราไปที่โต๊ะอาหารกันเถอะ” คุณแม่บอกก่อนจะจูงมือผมไปที่ห้องอาหารโดยมีคุณพ่อ พี่ภี และภีมเดินตามมา

“นั่งข้างแม่นะจ๊ะ เราจะได้คุยกันด้วย” ผมนั่งลงข้างท่าน อาหารเต็มโต๊ะไปหมด ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยที่ดูน่ากินทั้งนั้น

“ชอบอาหารไทยไหมหนูพาย” คุณพ่อถามผม

“ชอบมากคับ” ผมตอบพร้อมยิ้มให้ท่าน

“เห็นเจ้าภีมบอกว่าหนูพายทำอาหารเป็นด้วยใช่ไหมจ๊ะ” คุณแม่ท่านถามผมระหว่างที่ภีมตักอาหารมาใส่ในจานผม

“ใช่คับ พอดีคุณย่าท่านเคยสอนให้ตั้งแต่ผมเป็นเด็กคับ”

“แม่ก็ชอบทำอาหารไทยเหมือนกัน วันหลังหนูพายมาทำอาหารเป็นเพื่อนแม่ได้ไหมจ๊ะ”

“ได้คับ คุณแม่กับคุณพ่อชอบทานอะไรหรอคับ”

“แม่ชอบทานแสร้งว่ากุ้งลูก ส่วนคุณพ่อหน่ะชอบหมูโสร่ง เคยได้ยินไหมจ๊ะ”

“คุณย่าเคยสอนผมทำอยู่คับ ไว้วันหลังผมทำให้ทานนะคับ”

“จริงหรอจ๊ะ ดีจังที่มีเด็กที่รู้วิธีทำอาหารโบราณแบบนี้อยู่” ท่านมองผมอย่างชื่นชมก่อนจะถามเกี่ยวกับครอบครัวผมบ้าง ชีวิตผมบ้างไปเรื่อย จนทานอาหารเสร็จ คุณแม่ก็ชวนผมไปนั่งที่ศาลาในสวน โดยมีภีมเดินตามมาอย่างเงียบๆ พร้อมกับให้ลองชิมบุหลันดั้นเมฆที่ท่านทำเอง


 “หนูพายเคยกินไหม ขนมนี้เดี๋ยวนี้หาทานยากเหลือเกิน ดีที่คุณแม่ของแม่ทานสอนให้ตั้งแต่แม่เด็กๆ” คุณแม่บอกก่อนจะตักใส่จานให้ผมชิมชิ้นหนึ่ง

“เคยกินครั้งเดียวตอนเด็กๆคับ คุณย่าท่านทำให้กิน ขนมนี้เรียกว่า บุหลันดั้นเมฆ ใช่ไหมคับ”

“ใช่จ๊ะ” ท่านตอบพลางยิ้มให้ผมอย่างชื่นชม

“ผมชอบชื่อมากเลยคับ บุหลันดั้นเมฆ คุณย่าเคยเล่าให้ฟังว่า ขนมนี้คิดค้นมาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ "บุหลันลอยเลื่อน" ในรัชกาลที่ 2 โดยสีเหลือตรงกลางคือบุหลัน แทนดวงจันทร์ ส่วนสีฟ้าครามรอบๆคือท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่ถ้าเปลี่ยนจากไข่แดงตรงกลางเป็นทองหยอดจะเรียกว่า บุหลันดั้นหมอก ใช่ไหมคับ”

“ใช่จ๊ะ ทั้งสวย และยังฉลาดเฉลียว เจ้าภีมคนนี้แม่ชอบ อย่าให้หลุดมือไปเชียวละ” คุณแม่บอกภีมพลางทำหน้าจริงจังกำชับอย่างดิบดี ผมได้แต่นั่งยิ้มเขินๆ

“ไม่มีวันปล่อยหลุดมือแน่นอนคับแม่” ภีมบอก ก่อนที่เราจะนั้งกินบุหลันดั้นเมฆกันจนหมด ผมถึงได้ลาคุณพ่อคุณแม่กลับหอ

“ไว้มาอีกนะจ๊ะหนูพาย” คุณแม่บอกผมพร้อมรอยยิ้มความใจดีที่ท่านมอบให้

“คับคุณแม่ สวัสดีคับ คุณพ่อสวัสดีคับ พี่ภีสวัสดีคับ” ผมกล่าวลาทุกคนก่อนจะขึ้นรถกลับหอมากับภีม

“แม่ผมท่านชอบพี่มากเลยนะ ผมว่าแล้วว่าใครๆที่รู้จักพี่ก็ต้องชอบพี่กันทั้งนั้น” ภีมบอกขณะกุมมือผมไปด้วย ผมยิ้มตอบเขา เพราะผมก็ดีใจไม่น้อยที่ท่านชอบผมเหมือนกัน


ถึงตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตผมจะดูมีความสุข แต่อนาคตที่กำลังจะถึงกลับทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าทำไมผมไม่ตักตวงความสุขที่ได้อยู่ให้มากกว่านี่ เพราะอนาคตที่จะถึงนั้น ผมเหลือแต่ความโหยหาเขาเท่านั้น....



TBC...  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 13 (17/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 17-03-2017 16:49:20
อ้าวนี่ไม่ใช่นิยายฟิลกู๊ดเหรอ กลายเป็นมาม่าซะละ. อย่าเลยเรากลัวมาม่า
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 13 (17/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-03-2017 21:54:31
อะไรยังไงคนแต่ง

ตอนสุดท้ายประโยคมันแปลกๆ

เหมือนกับว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน

ไม่เอาคนอ่านไม่เอาแบบนั้นนะ.

ขอร้อง..

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 13 (17/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-03-2017 22:18:22
ไม่ค่อยชอบใจการกระทำของหวานเลย การฉีดสารบางอย่างเข้าร่างกายคนอื่น ก็ควรได้รับการยินยอมจากเจ้าของร่างกายก่อนไม่ใช่หรือ แถมพอทำไปแล้วยังไม่ยอมเปิดเผยผลกระทบหรือสิ่งที่จะเกิดกับร่างกายของเจ้าของอีก
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 13 (17/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-03-2017 08:35:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 13 (17/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 18-03-2017 13:30:22
หวานนี่ให้อารมณ์ของความเกลียดนะ แสดงออกถึงพื้นฐานของนิสัยที่น่ารังเกียจ ไม่ควรมีใครให้ความรักและไม่คู่ควรเลยกับเรื่องดีๆ เฮ้อออ
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 18-03-2017 16:18:36
ตอนที่ 14 ไว้ใจ


ผมกับภีมเราคบกันมาปีกว่าแล้ว เราไม่เคยทะเลาะกันเลย เราไม่เคยขึ้นเสียงใส่กันด้วยซ้ำ จนบางทีก็อดคิดไม่ว่าถ้ามีวันที่เราทะเลาะกันขึ้นมามันจะเจ็บปวดขนาดไหน มันจะรุนแรงจนเราต้องเลิกกันเลยรึเปล่า แต่ตอนนี้เวลานี้ เวลาจะเจอกันยังไม่มี เรื่องที่ผมเคยกังวลจึงตกไปได้เลย เพราะภีมต้องไปช่วยงานที่บริษัท พอเลิกเรียนเสร็จเขาก็ต้องไปทำงาน ส่วนผมที่รอรับปริญญาก็ว่างจนต้องมาเรียนงานที่รีสอร์ทเหมือนกัน โดยมีไอ้กิตอยู่เป็นเพื่อน เพราะมันก็มาเรียนรู้งานเหมือนกัน เนื่องจากพี่ชายผมอยากให้มันมาเป็นเลขา จะได้อยู่ใกล้ๆตลอด ผมละอดหมันไส้ไม่ได้จริงๆ พอรักกันแล้วอะไรๆก็ดูจะหวานไปซะหมด ถึงผมจะเคยหวานเหมือนกันก็ตาม...

“ไปกินข้าวกันเถอะ” พี่พลเดินเข้ามาชวนผมพร้อมไอ้กิต ในห้องทำงานของผม ผมที่กำลังเรียนรู้งานกับผู้จัดการรีสอร์ทเลยต้องหยุดมือเพื่อพักสักหน่อย

“วันนี้ทานที่รีสอร์ทหรือทานที่ข้างนอกดี” พี่พลถามผม

“รีสอร์ทก็ได้คับ พายไม่อยากออกไปข้างนอก” ผมบอก

“ใช่ๆผมก็ขี้เกียจนั่งรถออกไป” กิตเห็นด้วยกับผม

“งั้นไปห้องอาหารกันคับ” พี่พลบอกก่อนจะเดินจูงมือไอ้กิตไป พี่ชายผมเนี่ยไม่เคยอายใครหรอกคับ เขามีแฟนเป็นผู้ชายก็พาเดินจูงมือไอ้กิตไปทั่วรีสอร์ทแล้ว พอเห็นแบบนี้ก็อดนึกถึงภีมไม่ได้ ผมไม่ได้เจอเขานานเท่าไหร่แล้วนะ สองเดือนได้แล้วมั้ง


ตอนนี้ถ้าผมไม่ทำงานก็จะมานั่งเล่นที่หอ เพื่อภีมจะว่างมาหา ดูเป็นการรอคอยที่สิ้นหวังน่าดู แต่ผมก็ยังคงรอเขาอยู่ดี ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน และมีอะไรกันก็สองเดือนก่อน ถึงตอนนี้ผมจะเหงา และโหยหาภีม ผมก็ต้องอดทน เพราะเขาทำงาน ผมไม่อยากทำตัวงี่เง่าให้เขาไม่สบายใจ แค่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยภีมก็เหนื่อยจะแย่แล้ว

“นั่งหน้าสวยคนเดียวแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนจีบหรอกคะพี่พาย” พลอยเพื่อนของภีมมานั่งที่ม้าหินพร้อมกับแฟนของเธอ

“ไม่มีใครกล้าจีบพี่หรอก เจอเธอสองคนเป็นก้างขวางคอขนาดนี้” ผมบอก เพราะหลังจากทีผมกับภีมไม่ค่อยอยู่ด้วยกัน เขาก็ส่งเพื่อนสนิทเขามาดูแลผมแทน ใครที่คิดจะมาจีบผมโดนไล่ไปหมดแหละคับ ก็สองคนนี้ทำตัวยังกับเป็นจงอางหวงไข่ น่ากลัวใช่ย่อย

“หนูกับเจตเป็นหน่วยพิทักษ์พี่พายตะหากละคะ” พลอยพูดพลางป้อนขนมในมือให้เจต

“ไอ้พายยยยย มึงเห็นนี่ยัง” ไอ้กิตตะโกนเรียกผมมาแต่ไกล

“อะไร”

“ข่าวไอ้โคตรเดือนกับดาราสาวที่ชื่อ มายอะ” ผมมองโทรศัพท์ที่ไอ้กิตส่งให้ดูเป็นข่าวซุบซิบดาราว่าดาราสาวดาวรุ่งอย่างน้องมายกำลังคบหาดูใจกับทายาทเศรษฐีพันล้านอย่างภีม

“กูไว้ใจภีม” ผมบอกแค่นั้น

“แต่นี้มันบ่อยเกินนะเว้ย ข่าวภีมกับดาราคนนี้” ไอ้กิตพูดก็ถูกคับที่ว่าข่าวนี้ผมเห็นแทบทุกวัน บางทีก็มีข่าวว่าไปกินข้าวด้วยกัน ไปดูหนังด้วยกันอะไรแบบนั้น แต่ผมก็เลือกที่จะไว้ใจ และเชื่อใจผู้ชายที่ผมรัก ก็เท่านั้น...

“พลอยถามไอ้ภีมแล้วนะคะ ภีมบอกไม่มีอะไร พี่พายไม่ต้องห่วงคะ” พลอยบอกผม พลางทำหน้าเชื่อใจในตัวเพื่อนของตัวเองอย่างเต็มที่

“พลอยเจอภีมหรอ” ผมถามด้วยความแปลกใจ

“เปล่าคะโทรคุย”

“พลอยโทรแล้วภีมรับ แต่ทำไมพี่โทรไปไม่ค่อยรับ บางทีก็บอกยุ่งอยู่คับ แล้วก็วางไปเลย” ผมอดพูดด้วยความน้อยใจไม่ได้ เขารับโทรศัพท์ผมนับครั้งได้

“ภีมอาจจะยุ่งจริงๆก็ได้พี่พายอย่าคิดมากนะคะ” พลอยปลอบผม ผมที่เป็นอะไรก็ไม่รู้อยู่ดีๆก็เกิดอารมณ์อ่อนไหวขึ้นมาเริ่มร้องไห้ โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องทำตัวอ่อนแอแบบนี้

“เห้ยยย มึงไม่เป็นไรนะเว้ย” ไอ้กิตดึงผมไปกอดทันที

“โทษทีวะช่วงนี้กูอารมณ์อ่อนไหวไปหน่อย” ผมบอกขณะพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้

“มึงไหวเปล่า”

“ยังไหว...มั้ง” ผมตอบเสียงเหนื่อย

“พี่พาย” พลอยเรียกผมด้วยน้ำเสียงสงสารอย่างเห็นได้ชัด

“พี่กลับห้องก่อนนะ” ผมบอกก่อนจะเดินขึ้นหอไป โดยมีไอ้กิตตามมาด้วย


พอเข้าห้องผมก็ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเสื่อของภีมที่เขาใส่ครั้งล่าสุดตอนมาหาผม ผมยังไม่ได้ซักให้เขาเลย ผมหยิบเสื้อตัวนั้นออกมาเพื่อดมกลิ่น มันทำให้ผมสงบ ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ช่วงหลังๆมานี้ผมติดกลิ่นของภีมเป็นพิเศษ พอดมเสื้อเขามันทำให้ผมหายหงุดหงิด หายกังวล และสบายใจอย่างประหลาด

“มึงนี่รักไอ้เด็กนั้นมากเกินไปรึเปล่า เผื่อใจหน่อยไหมมึง ตอนนี้อะไรๆก็ไม่แน่นอน กูกลัวแทนมึงจริงๆ” ไอ้กิตโอบไหลผมเหมือนเป็นการปลอบใจ

“กูรู้ แต่กูยังอยากไว้ใจเขาให้ถึงที่สุด” ผมบอกเสียงสั่น

“จนกว่าเขาจะทิ้งมึงหรอ” ไอ้กิตพูดจนผมอึ้งไปเลย

“คงงั้น” นั้นคือคำตอบจากใจผม ผมเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการคอยเขาอย่างไร้จุดหมาย แต่ผมคงทนไม่ได้ถ้าจะบอกเลิกเขาก่อน เพราะผมรักเขา รักมากจริงๆ

“กูขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ มึงเห็นข่าวซุบซิบนั้นแทบทุกวัน มึงยังทนได้อีก เป็นกุคงบอกเลิกไปแล้ว”

“กูยังอยากรั้งเขาไว้ แม้ไว้จินตนาการก็ยังดี” ผมบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

“เรื่องนี้แล้วแต่มึงละกัน แต่กูอยากบอกอะไรไว้อย่าง การตัดสินใจเด็ดขาดลงไป อาจทำให้เจ็บ แต่เรื่องทุกอย่างก็จะจบด้วยเหมือนกัน ถึงจะทรมาน แต่มึงจะผ่านมันไปได้เหมือนกู” ไอ้กิตกอดผมอีกครั้ง พลางลูบหลังเบาๆ


ตู๊ดดดด—ตู๊ดดดดดด เสียงรอสายดังตอนผมโทรหาภีม ผมรอเขาด้วยใจเต็มระรัว

--ฮัลโหล-- เสียงเขาดูเหนื่อยๆ

“สะดวกคุยรึเปล่า”

-- ตอนนี้ผมยุ่งๆคับ (อ่า ภีมคะ)— เสียงผู้หญิงแทรกเขามาในโทรศัพท์ ทำผมอึ้งไปเล็กน้อย เสียงครางอ่อยๆนั้นคืออะไร

“งั้นแค่นี้ก่อนก็ได้” ผมรีบบอกก่อนวางสายไป ผมพยายามจะไม่คิด แต่สมองของผมก็ดันคิดเรื่องที่เลวร้ายที่สุดขึ้นมาจนได้ เสียงเหนื่อย กับเสียงครางของผู้หญิง มันจะเป็นอะไรได้อีก เขานอกใจผมหรอ หรือผมอาจคิดมากไปเอง ผมรู้สึกเจ็บไปหมดทั้งใจ มันร้าวจนไม่รู้จะทำยังไงดี ผมได้แต่กอดเสื้อเขาแล้วร้องไห้ ผมรู้สึกเริ่มสิ้นหวัง...



ก๊อกๆๆๆ

“ไอ้พายยยย ตื่นยัง” เสียงไอ้กิตเคาะประตูเรียกผม ผมมองไปรอบมีแค่ผมกับใจที่กำลังจะแตกสลาย ผมมองตัวเองในกระจกก่อนจะบอกว่าเรื่องเมื่อวานที่ผมโทรหาภีมมันเป็นแค่ความฝัน มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ผมแค่ฝันไป ภีมเขาไม่มีวันทิ้งผมแน่นอน ถึงรู้ว่าเป็นการหลอกตัวเอง ผมก็ขอเก็บความหวังที่น้อยนิดนี่ไว้ อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมีแรงที่จะสู้ต่ออีกวัน....

“ไอ้พายยยย ตื่นยัง” ไอ้กิตเรียกผมอีกครั้ง

“พึ่งตื่น” ผมเปิดประตูให้มันเข้ามาในห้อง

“มึงร้องไห้ มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า” มันจับหน้าผมให้มองมัน

“ไม่มี เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนรอแป๊บ” ผมบอกก่อนจะเดินหนีเข้าห้องน้ำมา

พออกมาก็เห็นพี่พลนั่งรออยู่กับไอ้กิต พี่พลมองผมด้วยความเป็นห่วง ขอบตาผมคงแดง และบวมไม่น้อย พี่พลเดินมา และกอดผม ผมรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดพี่ชายผมอีกครั้ง ตั้งแต่เขาคบกับไอ้กิต เขาก็กลายเป็นพี่ชายคนเดิมที่ผมเคยรู้จักตอนเด็กๆ

“ไหวไหม วันนี้หยุดละกันนะ” พี่พลบอกพลางลูกหลังปลอบผมเบาๆ

“ไหวคับ พายไม่อยากเสียงาน ไปกันเถอะคับ” ผมบอกด้วยเสียงที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่จะทำได้ พี่พลดูจะไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ทำตามที่ผมบอก เพราะผมก็ไม่ยอมนอนจมความทุกข์ตรงนี้แน่ๆ



เวลาผ่านไปอีกเดือนผมกำลังจะรับปริญญา และผมก็ยังหวังว่าภีมจะมาหาผมโดยเร็ว ตอนนี้มีแต่ข้อความว่า คิดถึงนะ รักนะคับ รอผมหน่อยนะ วนอยู่สามประโยค ผมไม่รู้ว่าเชื่อได้ไหม เพราะข่าวล่าสุดที่ภีมไปดูงานที่ต่างประเทศดูเหมือนดาราสาวคนนั้นจะตามไปด้วย เธออยู่กับภีมตลอดเวลา ส่วนผมทำได้แค่อ่านข้อความของเขา

หลังจบพิธีรับปริญญา

“พี่พายคะ ยินดีด้วยคะ” พลอยกับเจตเดินมาพร้อมดอกไม้ช่อโต

“ขอบใจนะพลอย เจต” ผมบอกก่อนรับดอกไม้มา

“ส่วนนี้จากภีมคับ” เจตบอกก่อนจะส่งกล่องของขวัญให้ผมกล่องหนึ่ง ผมรับมาด้วยมือที่สั่นเทา ผมอ่านข้อความที่ติดมายิ่งทำให้ความหวังผมเพิ่มพูนมากขึ้น

--แด่ที่รักของผม ของขวัญชิ้นนี้ผมหวังว่าพี่พายจะชอบนะคับ มันเป็นของขวัญที่ผมสั่งทำพิเศษให้พี่ มันจะแทนความรู้สึกรักของผมที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ผมรักพี่มากนะ มากที่สุดในชีวิต
                                                                                                                                      รัก จากภีม—


ผมกอดของขวัญเขาไว้ด้วยความสุขใจอีกครั้ง อย่างน้อยเขาก็ทำให้ความหวังที่กำลังจะมอดดับของผมกลับมาลุกโชนอีกครั้ง

ผมแกะของขวัญที่ภีมให้ตอนกลับมาที่หอ สิ่งของข้างในเป็นอย่างที่ผมคิด สโนว์บอล ที่ข้างในเป็นรูปปั้นเทวดา ยืนมองผู้ชายที่นั่งคุกเขาพร้อมกับโชว์แหวน และมีคำเขียนว่า Will you Marry Me แล้วตรงฐานของสโนว์บอลมีปุ่มให้กด ข้างๆตัวไขลานหีบเพลง ผมกดปุ่มนั้นด้วยใจที่เต้นระรัว

--รอผมนะคับ ผมจะรีบไปขอพี่ให้เร็วที่สุด— จบคำผมก็ไขลานหีบเพลงในสโนว์บอล มันเป็นคนตรีเพลง เธอคือดวงใจของฉัน ผมได้แต่นั่งกอดสโนว์บอลที่ภีมให้ด้วยความหวังอย่างเต็มเปี่ยม เขายังรักผมอยู่ แค่นั้นก็พอแล้ว



หลังจากวันนั้นผมก็ออกจากหอกลับมาอยู่บ้าน โดยมีพี่พลช่วยเรื่องขนของ ไอ้กิตก็กลับมากับผมด้วย แต่ระหว่างที่รอพี่พลเก็บของใส่รถ ไอ้กิตที่ดูโทรศัพท์อยู่ก็ทำหน้าตกใจก่อนจะมองผม

“มีอะไร” ผมถาม

“ทำใจดีๆนะมึง” มันบอกด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ทำยังกับมีคนตาย” ผมว่า

“มึงดูนี้” มันส่งโทรศัพท์ให้ผมดู ผมอึ้งไปนานพอตัวกับภาพที่ผมเห็น รูปในโทรศัพท์เป็นรูปภีมจูบกับดาราสาวคนนั้นที่ระเบียงคอนโด เป็นภาพที่ปาปารัซซี่ถ่ายมาได้ ผมส่งโทรศัพท์คืนไอ้กิตก่อนเข้าไปนั่งรอในรถอย่างรวดเร็ว และร้องไห้... ร้องไห้จนเหมือนจะขาดใจ ผมไว้ใจเขา ผมกำลังมีความหวัง แต่ตอนนี้ผม...ผม...กำลังพังทลาย ความรักผมมันพังทลายลงจนไม่เหลืออะไรให้ยึดอีกต่อไป...

ผมเปิดประตูรถเดินไปหาพี่พล “พาผมไปคอนโดภีมหน่อยคับ”

“พาย...” พี่พลเรียกชื่อผม เหมือนจะห้าม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะพาผมไปที่รถพร้อมกับไอ้กิตที่ตามมาด้วยกัน

“รับได้หรอ ถ้าเห็นสิ่งที่คิดมันเกิดขึ้นจริง” ไอ้กิตถามผมด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ได้ก็ต้องได้ กูอยากเคลียแบบเห็นหน้า” ผมบอกได้แค่นั้น รับไม่ได้ก็ต้องทนให้ได้


เรามาถึงคอนโดภีม ผมก็บอกที่Lobby ว่ามาหาภีม แต่เขาก็ไม่ให้ผมขึ้น ดีที่เจอป้าแม่บ้านของภีม เธอเลยพาผมขึ้นมา พอเปิดเข้ามาในห้อง ผมก็เดินเข้าไปก็ไม่เห็นเขาอยู่ แต่ได้ยินเสียงน้ำ ผมเลยรู้ว่าเขาคงอยู่ในห้องน้ำ นั้นยิ่งทำให้ผมกลัวมากขึ้น ไอ้กิตที่ตามมาด้วยจับมือผมแน่น

“รอกูตรงนี้” ผมบอกให้มันรอกับป้าแม่บ้านก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน ละเดินไปที่ห้องน้ำ พอเปิดประตูห้องน้ำสิ่งที่ผมเห็นก็ทำให้ใจผมพังทลายจนไม่เป็นชิ้นดี ผู้หญิงคนนั้นก้าวเข้าไปอาบน้ำกับภีมด้วยร่างเปลือยเปล่า

“มาย ขะ...พี่พาย!!!” เขามองที่ผู้หญิงคนนั้นก่อนจะมองเลยมาเห็นผม เขาดูตกใจไม่น้อยที่เห็นผมยืนอยู่ที่นี้ เขารีบออกจากห้องอาบน้ำ มาหาผม

“พี่พายคือ...”

“พอสักที แค่นี้ก็พอแล้ว” ผมพูดก่อนจะรีบเดินหนีออกมา ภีมคว้าผ้าเช้ดตัวก่อนจะเดินมาคว้าแขนผมไว้ ต่อหน้าไอ้กิตและป้าแม่บ้านที่มองอยู่ด้วยความตกใจ

“ฟังผมก่อน” ภีมพูด

“เกิดอะไรขึ้น” ไอ้กิตถามผม ตอนนี้ผมไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น ผมไม่อยากให้น้ำตาไหลออกมา ผมไม่อยากให้ใครเห็นว่าผมอ่อนแอ ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแบบนี้ ไม่อยากเจ็บอีกแล้ว

“ไอ้ภีมนี้อะไร ยัยดารานั้นมาแก้ผ้าอยู่ตรงนี้ได้ไง” ไอ้กิตถามขณะที่ดาราสาวนั้นเดินพันผ้าขนหนูมาออกจากห้องน้ำมายืนมองอยู่ด้วย

“คือมันมะ...”

“ฉันก็เป็นแฟนภีมไง เข้ามาขัดจังหวะไม่มีมารยาทเลย” เธอประกาศกร้าวจนผมรู้ว่าผมคงทนอยู้ตรงนี้ไม่ได้แล้ว

“พอกันทีนะภีม เอาคืนไป” ผมบอกก่อนจะหยิบสโนว์บอลที่เขาให้ปาลงพื้นจนแตกเป็นเสียงๆ แล้วรีบสะบัดมือเขาวิ่งหนีออกมาทันที

“อย่าตามมานะมึง” ไอ้กิตบอกภีมก่อนจะวิ่งตามผมออกมา เราลงลิฟมาด้วยกัน ถึงผมจะเห็นภีมวิ่งตามมาสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวก็ตาม


ผมมาถึงรถก็รีบให้พี่พลออกรถทันที ไอ้กิตนั่งหลังกับผม คอยกอดปลอบผม ผมร้องไห้จนไม่รู้ว่ามีน้ำตาให้ไหลออกมาอีกรึเปล่า รู้แต่ว่า ผมทนไม่ไหวแล้ว

ครืด—ครืด ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เจอชื่อภีมหราอยู่ที่หน้าจอ ผมคิดได้ว่ามีบางอย่างที่อยากจะพูดกับเขา จึงกดรับ

--พี่พาย คือผม...---

“พอเถอะภีม พี่เหนื่อย”

--หมายความว่าไงคับ พี่จะเลิกกับผมจริงๆหรอ—

“พี่เคยบอกภีมเมื่อสองปีก่อนว่า ถ้าภีมนอกใจพี่ พี่จะไม่มีวันให้อภัยภีม เพราะฉะนั้น พี่เป็นคนรักษาคำพูด...ลาก่อน” ผมตัดสายเขาในทันที และร้องไห้อย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง โดยที่กอดไอ้กิตไว้แน่น เพื่อหวังว่าอ้อมกอดของมันจะบรรเทาความเจ็บปวดในใจผมได้บ้าง แต่ผมคงไม่มีทางดีขึ้น ผมเจ็บ ผมปวดไปหมด จนทนไม่ไหวอีกแล้ว...

“พายๆๆๆ พายยย” ผมได้ยินเสียงของไอ้กิตกับพี่พลเรียกชื่อผมพร้อมกันก่อนที่สติจะดับวูบไปอย่างสมบูรณ์



“เคสแบบนี้ผมไม่เคยเจอมาก่อนเลย เป็นการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติอย่างมาก”

“แต่น้องผมเป็นผู้ชายจะท้องได้ไงคับ” เสียงพี่พล

“หมอถึงบอกว่ามันผิดปกติ ร่างกายสร้างเด็กขึ้นมาได้เอง แปลกมาก แต่หมอจะลองปรึกษาเพื่อนหมอเธอเป็นนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่เป็นคนคิดค้นและกำลังทดลองเรื่องการตั้งครรภ์ในเพศชายให้นะคับ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไทยพอดี”

“ขอบคุณมากคับหมอ” พี่พลกับคุณหมอ?

“แล้วเพื่อนผมมันจะเป็นอะไรไหมคับ” เสียงไอ้กิต

“ไม่หรอกคับ แต่หมอคงต้องขอตรวจอย่างละเอียดอีกทีนะคับ” ผมได้ยินเสียงโต้เถียงกันไปมาตลอด นี้ผมมาอยู่ที่โรงพยาบาลแน่ แต่ใครท้อง พี่พลทำใครท้องรึเปล่า ผมสลึมสลือมองไปที่ๆสามคนนยืนคุยกันอยู่

“ตื่นแล้วหรอลูก” คุณแม่ผมที่นั่งอยู่รีบเดินมาหาผมในทันที

“ผมเป็นอะไรคับแม่ ทำไมทุกคนถึงมาอยู่ที่นี้” ผมถาม

“พาย...หมอบอกว่าพายท้องหน่ะลูก” แม่ผมกุมมือผมไว้ขณะที่ท่านบอก คำตอบนั้นทำผมตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

“ท้อง!!!”




TBC...
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 18-03-2017 16:48:03
หวานนี่แปลกๆ นะ ถึงจะลุ้นให้เป็นอย่างที่คิด แต่ทำไมหวานถึงไม่ยอมบอกอะไรเลยล่ะ พายเป็นเจ้าของร่างนะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-03-2017 17:34:01
ภีมน่ะละที่ทำตัวห่างออกมา แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ห่างพอแล้ว งานยุ่งแค่ไหนถ้าอยากคุยด้วยมันก็ต้องหาเวลาได้อยู่แล้ว ถึงจะช่วงสั้น ๆ ก็เถอะ เรื่องผู้หญิงก็อีก อยู่ห่างแฟนแต่ไม่ระวังตัวก็ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 18-03-2017 18:18:16
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลังก็ได้นะ

แต่ภีมก็ไม่ควรห่างเหินกับพาย แม้งานยุ่ง แต่แค่โทรหาแฟน หรือแวะมาหาบ้าง ไม่มีเวลาขนาดนี้เชียว คนเราถ้ารัก ถ้าคิดถึง ทำได้ทั้งนั้นแหละ โทรหากันแป๊บเดียวจะเสียเวลาสักเท่าไหร่ แล้วข่าวกับมาย ถ้าไม่จริง ได้ข่าวแล้ว ควรคิดว่าพายจะคิดยังงัย คนห่างกันมันอาจคิดไปได้ร้อยแปด นี่ไม่โทรหา พอพายโทรมาก็อ้างว่ายุ่ง พอมีข่าวกับหญิงก็ไม่บอกอะไร สมควรโดนเท

ส่วนพาย คำว่าไว้ใจ กับ โง่ นี่มันใกล้เคียงนะ ถึงจะไว้ใจก็ควรถามบ้าง ไปหาเขาบ้าง ตัวเองก็ว่างแท้ ๆ สงสัยเรื่องมายก็ถามหรือไปหาที่คอนโดเลย พอเห็นกับตาควรคุยกับภีมต่อหน้ามายเลยจะได้เคลียร์ แต่ดันว่ิ่งหนีมาซะเฉย ๆ

แต่ยังงัยก็เข้าข้างพายอ่ะ สงสารนาง ตอนแรกคิดว่าภีมรักนางมาก ไม่คิดว่าพอคบกันจะละเลยและทิ้งขว้างพายแบบนี้ ไม่เป็นไรลูก สวยๆ อย่างเรา ถึงมีลูกติดก็หาผุู้ใหม่แซ่บ ๆ ได้ คนชอบเราเยอะแยะ เทภีมเลยค่ะ เชียร์ ๆๆๆ ถึงไม่มีไรกะยัยมาย แต่ละเลย ทิ้งขว้าง ไม่โทรหา ไม่รับสาย ไม่เคลียร์ข่าว ไม่เล่าอะไรเลย สมควรโดนเทสุด ๆ

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 18-03-2017 19:07:33
ภีมเลวมาก!!!   งานนี้ขอเชียร์ให้พายเป็นซิงเกิ้ลมัมค่ะ  ความไว้ใจที่มีให้ถูกทำลายขนาดนี้ยากที่จะกลับคืน   นี้อินมากบอกเลย
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-03-2017 19:09:45
 :mew5: มาม่าชามโต
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-03-2017 19:45:31
ว่าแล่วว่าตอนที่แล้ว

ประโยคท้ายๆมันแปลกๆ

เป็นแบบนี้เองซินะ

ภีมนายทำจริงหรือเปล่าบอกมา

ถ้าทำจริงนิหมดกันนะ..

กับความดีที่ทำมาตลอด

ไม่ว่างแต่พาคนอื่นไปกินข้าวไปดูหนังได้

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 18-03-2017 20:39:12
นายเอกก้อโง่ พูดแต่เชื่อใจๆ สุดท้ายเสียใจถึงอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด ส่วนพระเอก ก้อน่สลำคาน รักมากมายแต่มีอะไรทำไมไาบอก หวังว่าพายจะไม่บูชาความรัก ยอมยกโทษให้มันง่ายๆนะ ขอเถอะ ขอนายเอกใจแข็งบ้าง ใจอ่อนเป็นขนมเปียกปูนไม่เอาแล้ว เบื่อ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-03-2017 21:41:46
ภีม มีเหตุผลอะไร
ส่งสโนว์บอลมาขอแต่งงาน
แต่ไม่มีเวลามาหา โทร ก็ไม่ค่อยรับ
ไปไหนๆได้กับดาราคนนั้น
ภาพที่ถ่ายจูบกับดาราคนนั้น
ทุกอย่างเป็นเพราะทำให้ที่บ้านพอใจ
เพราะมีเรื่องธุรกิจที่จะล้มของบ้านมาเกี่ยวข้องใช่ปะ
แล้วจะปล่อยให้มารักกับพายเหรอ
ดูมันแปลกๆ ถ้าว่าภีมยังรักพาย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 19-03-2017 00:25:24
ภีมไหนบอกว่ารักมาก รักมาตลอด สำคัญที่สุดแต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ การกระทำมันเปลี่ยนตามเวลาหรอ ไม่ว่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรก็เถอะ แต่สิ่งที่ทำคือการทำร้ายพายชัดๆ แล้วนี่พายดันมาท้องอีก เวรกรรมแท้
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 19-03-2017 01:33:38
ถึงขนาดแก้ผ้าแล้วอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน ยังจะแก้ตัวว่าอะไรอีก. ต่อให้มีเหตุผลอะไรฟังไปก็เหมือนแก้ตัวอยู่ดี แถมชะนียังพูดว่าเป็นแฟนกันแล้วการกระทำที่ผ่านมาอีกไม่มีเวลาให้แฟนแต่เอาเวลาอยู่กับชะนีตัวเมียแล้วบอกรักนักรักหนาหาพระเอกใหม่เถอะ :m31:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 19-03-2017 10:35:11
ภีมมีเหตุผลอะไรที่ทำแบบนี้ :angry2:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-03-2017 11:02:17
มาให้กำลังใจ

มารออ่านคับ

รอๆ :z2:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 19-03-2017 18:59:29
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-03-2017 19:19:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 19-03-2017 23:43:15
ค้างงงงงง
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 14 (18/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-03-2017 10:57:14
ถึงขนาดแก้ผ้าแล้วอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน ยังจะแก้ตัวว่าอะไรอีก. ต่อให้มีเหตุผลอะไรฟังไปก็เหมือนแก้ตัวอยู่ดี แถมชะนียังพูดว่าเป็นแฟนกันแล้วการกระทำที่ผ่านมาอีกไม่มีเวลาให้แฟนแต่เอาเวลาอยู่กับชะนีตัวเมียแล้วบอกรักนักรักหนาหาพระเอกใหม่เถอะ :m31:

โอ่ว...ความคิดเห็นนี้ตรงประเด็นที่สุดของที่สุด

หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 20-03-2017 14:56:18
ตอนที่ 15 ผิดเอง


ภีมพาร์ท

ครืด---ครืด ผมรับโทรศัพท์เป็นสายที่พี่ชายผมโทรเข้ามา

“ฮัลโหล”

--ไอ้ภีม พี่มีเรื่องให้แกช่วยวะ— พี่ภีบอกผมด้วยเสียงจริงจัง

“เรื่องอะไรพี่” ผมถาม

--พ่ออยากพาแม่ไปเที่ยวพักผ่อนสักหน่อย เลยอยากให้แกมาช่วยงานที่บริษัทระหว่างที่พ่อไม่อยู่—

“เมื่อไหร่พี่” ผมถาม

--เริ่มอาทิตย์หน้า—

“โอเคคับ” ผมตอบตกลง และเริ่มไปทำงานที่บริษัทหลังจากที่คุณพ่อกับคุณแม่ไปพักผ่อน แต่การช่วยงานที่บริษัทของผมดันเป็นไปได้ด้วยดีกว่าที่พี่ตั้งเป้าไว้ คุณพ่อเลยมีคำสั่งให้ผมมาทำงานที่บริษัทเป็นการถาวร ผมเลยต้องนั่งเคลียงานที่เคยคั้งค้างให้เร็วที่สุด ระหว่างที่เคลียงานก็ส่งไอ้เจตกับพลอยไปเป็นไม้กันหมา กันคนมาจีบพี่พายของผม ผมไม่กล้าไปหาพี่พาย หรือโทรหาด้วยซ้ำ เพราะผมเป็นโรคติดพี่พาย แค่ได้ยินเสียงเขาผมก็แทบจะทิ้งงานกลับไปแล้ว

“พี่พายทานอะไรยังคับ คิดถึงจังเลย”

--ทานแล้ว ภีมก็หาอะไรกินด้วยนะ พี่เป็นห่วง— แค่นั้นละคับวันนั้นผมทิ้งงานกลับไปหาในทันที เลยโดนพี่ภีกับพ่อดุเป็นการใหญ่ ที่ทิ้งงานกะทันหัน พวกท่านเลยยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับงานโปรเจ็คใหญ่ให้ผม ถ้าสามารถทำได้ท่านจะให้ผมพักจนกว่าจะเรียนจบค่อยมาทำงานเป็นผู้บริหารเต็มตัว ผมเลยโหมทำงานมาตั้งแต่ตอนนั้น และใช้วิธีส่งข้อความไปหาเขาแทน แค่ส่งไลน์คุยกันผมยังแทบอดรนทนไม่ไหวเลย แต่เพื่อเวลาที่จะได้อยู่กับพี่พายต้องสู้สักหน่อย

แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะไม่เป็นใจ เมื่อคุณพ่อไปตรวจสุขภาพประจำปี และพบว่าท่านเป็นโรคหัวใจ โปรเจ็คที่ผมทำเกือบเสร็จเลยกลายเป็นต้องมาช่วยบริหารอย่างเต็มตัว

“พ่อจะวางมือ คงต้องฝากภีมดูต่อนะลูก” พ่อบอกผมขณะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล

“คับ”

“แกดูแลงานฝั่งเอเชีย ส่วนให้พี่ชายแกดูแลฝั่งยุโรป มีงานที่ยั่งคั้งค้างอยู่ไม่น้อย ฝากแกเคลียหน่อย ถ้าเคลียทั้งหมดแล้ว แกน่าจะมีเวลาว่างมากพอที่จะทำอะไรที่แกอยากทำ”

“อดทนหน่อยนะลูก” แม่ผมจับมือให้กำลังใจผม

“ก็ได้คับ แต่หลังจากเคลียทุกอย่างเสร็จแล้ว ผมจะแต่งงานกับพี่พายนะคับ” ผมบอกพ่อกับแม่อย่างจริงจัง

“ได้สิ แม่ชอบหนูพาย ถ้าอยากแต่งแม่จะพาพ่อแกไปสู่ขอด้วยตัวเอง” แม่ผมให้ความมั่นใจกับผม จนผมคิดที่จะสู้ทำงานหามรุ่งหามค่ำ พร้อมกับเรียนไปด้วย เพื่อเคลียงานจนงานทุกอย่างลงตัวพอจะมีเวลาอยู่กับพี่พายบ้าง


เวลาผ่านไปเป็นปีโปรเจ็คที่ค้างไว้กำลังไปได้สวย แต่เรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้น เมื่อผมต้องมาทำงานร่วมกับดาราสาวที่ชื่อมาย เธอดูชอบผม แต่ก็ไม่เคยกระโตกกระตากจนน่าเกลียด ผมเลยไม่ได้ระวังตัว และผมก็ไม่เคยอ่านข่าวซุบซิบเลยไม่รู้ว่ามันมีข่าวอะไรจนพลอยโทรมาหาผม

--แกมีอะไรกับยัยมายนี้จริงๆหรอ— พลอยทำเสียงโมโหใส่ผม

“ดาราที่ชื่อมายหรอ ไม่มีนะ เขาแค่มาเป็นพรีเซนเตอร์ในโปรเจ็คงานของกูเท่านั้นเอง”

--แต่ข่าวซุบซิบมันบอกว่าแกไปเที่ยวกับเขา ไปดูหนังกับเขาด้วยนะ—

“ไปกันใหญ่แล้ว กูเจอเขาแค่ตอนทำงานเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น หรือไปเที่ยวที่ไหนกันแน่นอน แค่กูทำงานก็ไม่มีเวลาแล้ว” ผมว่า

--งั้นข่าวนั้นก็เป็นแค่ข่าวลือ?—

“ใช่ มีรูปยืนยันรึไง” ผมถาม

--ไม่มีอะ—

“เห็นปะ ไม่มีหลักฐาน แต่เฮ้ย!!! แล้วพี่พายว่าไงบ้าง โกรธกูไหม” ผมรีบถามด้วยความตกใจ

--พี่พายบอกไว้ใจมึง— ผมนี้ยิ้มเลยคับ พี่พายไว้ใจผมเสมอ

“แบบนั้นกูก็สบายใจ”

--มึงมาหาพี่พายบ้างดิวะ—

“ตอนนี้โปรเจ๊คใกล้จะเสร็จแล้ว เลยยุ่งโคตรๆเลยวะ ถ้าไปเจอเขากูต้องทนไม่ได้จนทิ้งงานนี้ไปแน่ มึงก็รู้ว่ากูติดพี่พายแค่ไหน อดมาได้สามเดือนกูก็ใจจะขาดละเนี่ย ฝากมึงดูแลพี่พายก่อนนะเว้ย อีกไม่นานกูก็จะได้ไปอยู่กับเขาแน่นอน”

--อย่าให้มันนานกว่านี้แล้วกัน—

“กูรีบอยู่แล้ว”

พอได้ยินว่าพี่พายไว้ใจผม ผมก็เลยคิดว่าไม่ต้องอธิบายอะไร จนเรื่องมันเลยเถิดขนาดนี้ แบบนี้เขาคงเรียกว่าเหริงสินะคับ เหริงกับคำว่าไว้ใจ ของพี่พาย พี่พายของผมเป็นคนเข้มแข็ง ไม่งี่เง่า ไม่เคยร้องขออะไร ผมเลยทำแค่ส่งข้อความไปหา เพราะคิดว่าแค่นั้นเขาจะเข้าใจ...



ครั้งสุดท้ายที่เจอเขาเมื่อสามเดือนก่อน เป็นอะไรที่เกินห้ามใจจริงๆ ผมแอบไปหาเขาตอนกลางดึก หลังจากเสร็จการประชุมที่ยาวนาน

“พี่พายคับ” ผมกระซิบที่ข้างหูเขาขณะที่เขานอนอยู่จนเตียง

“อืม...ภีม” เขางัวเงียมองผม

“คับผมเอง”

“ทำงานเสร็จแล้วหรอ เป็นยังไงบ้างทุกอย่างผ่านไปด้วยดีใช่ไหม แล้วนี่ภีมกินอะไรมาหรือยัง” เขาถามผมด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ยังคับ แต่ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” ผมตอบพลางคลอเคลียอยู่ข้างแก้มเขา ผมโคตรจะคิดถึงเขาเลย เราคบกันมาตั้งนาน ผมไม่เคยห่างเขานานขนาดนี้มาก่อน เพราะอย่างมากก็แค่ห่างตอนที่เราแยกกันไปเรียน แต่พอเรียนเสร็จเราก็จะเจอกันเสมอ

“กินข้าวมื้อสุดท้ายตอนกี่โมง” เขาถามก่อนจะจับหน้าผมให้มองหน้าเขาตรงๆ

“10 โมงเช้าคับ” ผมบอกพร้อมจูบมือเขาที่จับหน้าผมไว้

“แบบนั้นไม่ดีเลย ไม่มีเวลาว่างก็ควรจะกินข้าวสิคับ” เขาบอกก่อนจะลุกไปที่ส่วนครัวเปิดตู้เย็นแล้วหยิบไข่ออกมาสองฟองกับหมูสับที่แช่เอาไว้

“ไม่ต้องทำให้ก็ได้คับ แค่นอนกอดพี่พายผมก็สบายใจจนไม่ต้องกินอะไรแล้ว” ผมบอกเขาพร้อมกับกอดเอวเขาจากด้านหลัง

“ไม่ได้ ถ้าอยากกินพี่ก็กินข้าวให้อิ่มก่อน” เขาพูดเสร็จก็เงยหน้ามาหอมแก้มผม น่ารักโคตรรรรรร อยากจับเขาลงเตียงซะเดี๋ยวนี้เลย

“ไปนั่งรอก่อนนะ” ผมยอมมานั่งรอแบบที่พี่พายบอก ผมนั่งมองเขาหุงข้าวในหม้อข้าวเล็กๆของเขา กับเจียวไข่เจียวหมูสับกลิ่นหอมจนสะกิดต่อมหิวของผม จากตอนแรกที่ไม่ค่อยรู้สึกหิว ตอนนี้หิวมากเลย
พอพี่พายทำเสร็จ ผมก็นั่งรอที่โต๊ะเรียบร้อย เขาวางข้าวหน้าไข่เจียวหมูสับให้ผม ก่อนจะนั่งฝั่งตรงข้าม พร้อมส่งยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น ผมทานข้าวไปมองพี่พายไป โคตรมีความสุขเลยคับ ผมอยากอยู่กับเขาแบบนี้ตลอดไป เพราะฉะนั้นผมต้องเคลียงาน และโครงการที่คุณพ่อค้างไว้ให้หมด ถ้าทำเสร็จงานโดยปกติก็ไม่ค่อยมีอะไรแล้วคับ นอกจากงานเซ็นต์เอกสารเท่านั้น

“พี่พายคับ” พอกินเสร็จผมก็ไม่รอช้าที่จะปล้ำเขาในทันที

“อ่า...ภีม” ผมฬซุกไซวร้ซอกคอของเขา พร้อมกับดูดจนเกิดรอยด้วยความหื่นกระหาย

“ผมคิดถึงพี่พายนะคับ”

“อืมมมม” ผมดูดปากเขาพลางถอดเสื้อผ้าเขาออกจนหมด ผมจูบเขาอย่างดูดดื่มที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาส่งลิ้นร้อนๆเข้ามาในปากผมเป็นการตอบสนอง ลิ้นของเราพันเกี่ยวกันอย่างเร่าร้อน

“พี่ก็คิดถึง...อ่า...ภีม” ผมถอนปากจากปากเขาก่อนจะดูดเลียยอดอกของเขา พร้อมขบกัดเบาๆ แค่นั้นร่างกายขาวสวยของพี่พายก็ดิ้นด้วยความเสียว

“พี่พาย” ผมลากลิ้นจากยอดอกเขาลงไปที่สะดือก่อนจะไปที่แก่นกลางของเขา ผมครอบปากลงไปก่อนจะดูดขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง

“อ่า...พะ...ภีม...พี่เสียว” เขาขยำผมของผมในมืออย่างสั่นเทา

“เดี๋ยว..ตะ...แตกคับ” เขาพูดก่อนจะดึงผมขึ้นมาจูบอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง แล้วเขาก็ผลักให้ผมอยู่ใต้ตัวเขา พร้อมถอดเสื้อผ้าผมไปด้วย จนปราการด่านสุดท้ายหลุดไป พี่พายจับแก่นกลางของผมเต็มอุ้มมือเขา แล้วเลียชิมมันไปรอบๆอย่างหื่นกระหายเช่นกัน ก่อนจะครอบปากลงมาจนมิด และดูดเข้าออกอย่างเอร็ดอร่อย

“อ่า...เสียวคับ...พี่พาย” ผมครางเสียงดัง เพราะแทบจะทนไม่ไหว

“ให้ผมเข้าไปนะคับ” ผมบอกเสียงสั่นด้วยความเสียว

“คับ” เขาถอนปากออกก่อนมองผมด้วยสายตายั่วยวนจนทนไม่ไหว จับเขาพลิกอยู่ใต้ผมในทวงท่าเบสิค

“พร้อมนะคับ” ผมกระซิบบอกเขา

“คับ” คำตอบของเขาเจือจางไปด้วยเสียงเหนื่อยหอบ ก่อนที่ผมจะเอาเจลมาทาที่ก้นของเขา แล้วค่อยๆใส่เข้าไป

“อะ...อ่า” เสียงครางของพี่พายทำให้ผมทนไม่ไหวจนใส่เข้าไปรวดเดียวมิด ก่อนที่จะค่อยๆขยับเข้าออกอย่างช้าๆ จนเร็วขึ้น

“อืมมมม” พี่พายเอามือมาคล้องคอผม แล้วบดจูบอย่างรุนแรง และเร่าร้อน

“อ่า...จะแตกละคับ” ผมครางเสียงกระเส่า

“แตกข้างในเลยคับ” เสียงครวญครางของพี่พายทำให้ผมทนไม่ไหวจนปลดปล่อยเข้าไปในตัวเขาจนหมด ก่อนจะหมดแรงนอนทับเขาทั้งๆที่ผมยังไม่ถอนกายออก

“รักนะคับพี่พาย” ผมกระซิบบอกข้างหูเขาด้วยความเหนื่อยอ่อน

“พี่ก็รักภีมนะ รักมากที่สุด” คำว่ารักของพี่พายกระตุ้นความอยากของผมขึ้นมาอีกครั้ง คื่นนั้นผมก็ทำกับเขาจนเช้าเต็มรีมิตที่ตัวเองจำทำได้เลยคับ พอตอนเช้าผมก็โดนเรียากตัวกลับไปทำงานก่อนที่พี่พายจะตื่น ผมเลยเขียนโน้ตฝากไว้ว่าผมรักเขา ให้รอผมหน่อย ก่อนจะจูบหน้าผากเขาหนึ่งที และออกมา…



ครืด—ครืด โทรศัพท์สั่นระหว่างที่ผมลงพื้นที่ดูงานโปรเจ๊คโครงการสร้างคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ของบริษัท แดดร้อนมาก และดูเหมือนพื่นที่นี้จะมีปัญหาเรื่องสภาพดิน ผมอยากรู้ปัญหาอย่างละเอียดจึงต้องลงพื้นที่เอง จะได้ตัดสินใจได้ด้วยตัวเองว่าควรจะทำยังไงต่อ

“ฮัลโหล” ผมรับโทรศัพท์

--สะดวกคุยรึเปล่า— เสียงพี่พายทำผมหายเหนื่อยขึ้นมาทันที แต่ระหว่างที่ผมกำลังมีความสุขจากการได้ยินเสียงพี่พาย คนงานที่ดูงานก็ดันไปเหยียบรังงูเข้า แล้วไหนจะมายที่อยู่ดีๆก็มาโผล่ที่นี้ซะได้
“ตอนนี้ผมยุ่งๆคับ” ผมตอบไปตามความจริง

“อ่า ภีม” เสียงมายมาครวญครางอะไรตรงนี้ ผมมองไปก็เห็นเธอกำลังเดินมาหาผมแล้วส้นสูงของเธอก็ไปปักลงบนพื้นดินทำให้เดินลำบาก เธอเลยร้องเรียกให้ผมช่วย

--งั้นแค่นี้ก่อนก็ได้— แล้วพี่พายก็วางสายไป ผมก็คิดว่าพี่พายคงเข้าใจว่าผมยุ่งจริงๆเลยไม่อยากรบกวน ผมเลยเดินไปดูคนงานที่เหมือนจะโดนงูกัด ดีที่มีคนช่วยไว้ทันก่อนเรียกรถพยาบาล

“ภีมรอมายด้วยสิคะ” มายเธอเดินมาถึงผมจนได้

“มายมาทำอะไรที่นี้คับ” ผมถามตรงๆ

“มายมาถ่ายละครแถวนี้คะ เห็นรถภีมเลยกะจะมาทักทายซะหน่อย” เธอบอกพร้อมยิ้มหวานให้ผม

“ผมมีธุระต้องไปทำต่อ ขอตัวนะคับ” ผมบอกอย่างสุภาพก่อนจะเดินหนีออกมา



หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ดูเหมือนผมจะเจอเธอบ่อยขึ้นในงานของบริษัท จนมาถึงวันที่ผมต้องไปงานปาร์ตี้ของผู้ร่วมทุนชาวต่างชาติรายใหญ่ที่คอนโดของผม เพราะผมลงทุนเปิดห้องโชว์รูมให้เขาอยู่ไปก่อนขณะที่เขาอยู่กรุงเทพ

และระหว่างที่ผมยืนเซ็งๆอยู่ที่ริมระเบียงมายที่ถูกเชิญมาด้วยก็มาจูบผมเข้าทีเผลออย่างจัง ผมตกใจมากจนผลักเธอออกอย่างแรงเหมือนกัน ผมกำลังจะด่าเธอแต่ผู้จัดการเธอเข้ามาซะก่อน

“ขอโทษนะคะคุณภีม ยัยมายเมานะคะ เลยอาจจะทำตัวลุ่มล่ามกับคุณภีม พี่ต้องขอโทษจริงๆนะคะ” ผู้จัดการเธอไหว้ขอโทษขอโพยผม ผมเลยต้องยอมปล่อยไป

“ไม่เป็นไรคับ ครั้งนี้ผมจะว่าอะไร แต่รู้ไว้นะคับว่าผมไม่ชอบใจอย่างมาก” ผมมองเขาด้วยสายตาที่เอาเรื่องจนผู้จัดการนั้นดูตกใจมากก่อนจะหิ้วปีกเธอออกไป พอเธอออกไปแล้วผมเลยไปลาผู้รวมทุนที่ดูจะจ้างสาวๆมานอนด้วย และกลับห้องในทันที


แต่ดูเหมือนเรื่องร้ายๆของผมจะไม่จบแค่นั้น เช้าวันนี้ผมตื่นมาด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทีที่ต้องไปเจอกับผู้หญิงอย่างมายอีก เพราะจากวันนั้นผมระวังตัวมาก ถึงเธอจะแกล้งล้มใส่ผมในชุดที่ดูโป๊อยู่บ้าง ผมก็รีบเดินหนีห่างจากเธอ ผมว่ามายเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวขึ้นมาซะแล้ว

ขณะที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ผมก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาก่อนที่ผมจะหันไป เธอดก็เข้ามาในส่วนห้องอาบน้ำกับผมซะแล้ว ผมตกใจมากที่เห็นมายเข้ามาอาบน้ำกับผมพร้อมร่างกายเปลือยเปล่า

“มาย ขะ...พี่พาย” แต่ที่ตกใจกว่าคือพี่พายยืนมองอยู่นอกห้องน้ำ ผมที่จะถามว่ามายเข้ามาได้ยังไง จึงต้องปัดคำถามนั้นทิ้ง แล้วรีบเดินตามพี่พายออกมาทันที

“พี่พายคือ...” ผมพยายามจะอธิบาย

“พอสักที แค่นี้ก็พอแล้ว” พี่พายไม่สนใจที่ผมจะพูดด้วยซ้ำ

“ฟังผมก่อน” ผมพยายามรั่งพี่พายไว้ จนเดินออกมาถึงห้องนั่งเล่น

“เกิดอะไรขึ้น” พี่กิตกับป้าแม่บ้านดูตกใจที่เห็นพี่พายร้องไห้ และผมออกมาสภาพกึ่งเปลือยแบบนี้

“ไอ้ภีมนี้อะไร ยัยดารานั้นมาแก้ผ้าอยู่ตรงนี้ได้ไง” และที่แย่กว่านั้นคือมายก็เดินออกมาด้วยทำให้มีคนเข้าใจผิดผมเพิ่มขึ้น

“คือมันมะ...” ผมรีบอธิบายในทันที

“ฉันก็เป็นแฟนภีมไง เข้ามาขัดจังหวะซะได้” แต่ดูเหมือนว่ามายจะปากไวกว่า ผมมองเธอด้วยความโกรธเท่าที่ผมจะมาได้ ผมอยากจะฆ่าเธอซะด้วยซ้ำ

“พอกันทีนะภีม เอาคืนไป” พี่พายคว้างสโนว์บอลที่ผมให้เพื่อของแต่งานแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ววิ่งหนีไป

“อย่าตามมานะมึง” พี่กิตผลักผมตอนที่ผมทำท่าเหมือนจะวิ่งตาม แต่ผมไม่สนผมกำลังจะวิ่งตามพี่กิตกับพายไป แต่ป้าแม่บ้านดึงผมไว้ซะก่อน

“ไปแต่งตัวก่อนเถอะค่ะนายน้อย วิ่งออกไปตอนนี้ก็ตามได้ไม่ไกล” เธอบอกเตือนสติผม ผมเลยรีบไปใส่เสื้อผ้าในทันที แต่พอออกมาก็เจอมายนั่งอยู่ที่โซฟา

“ยังไม่ไปอีกหรอ” ผมถามด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ

“ภีม มายไม่ได้ตั้งใจนะคะ”

“อย่ามาตอแหล ออกไป” ผมบอกพลางเปิดประตู แต่พอเปิดประตูก็เจอกับผู้จัดการของมายยืนทำหน้าตกใจที่เห็นผม พร้อมกล้องในมือ

“พวกมึงทำงานเป็นขบวนการหรอ กูเคยบอกแล้วใช่ไหมว่ากูไม่ชอบ” ผมมองหน้าด้วยความโกรธ ก่อนจะโทรศัพท์หาเลขาของพี่ภี ที่ขึ้นชื่อเรื่องจัดการทุกอย่างได้อย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม

--สวัสดีคับนายน้อย— เลขาของพี่ภีรับสาย เขาเป็นคนที่จงรักภักษ์ดีกับตระกูลของผมมาหลายรุ่น

“จัดการเรื่องดาราที่ชื่อมายให้ที เอาออกจากโปรเจ๊ค และโครงการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริษัท รวมถึงบริษัทในเครือทั้งหมดด้วย”

--ได้คับนายน้อย— นี้แหละคับเลขาพี่ภี ให้จัดการอะไรได้ตามนั้นดดยไม่ถามเหตุผลสักคำ

“หาพรีเซ็นเตอร์ใหม่ด้วย ผมต้องการดาราที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ ไม่เอาพวกดาวรุ่งหน้าด้านแบบนี้อีก”

--ได้คับนายน้อย—

“มีอีกอย่างที่ผมอยากให้คุณทำ” ผมมองมาย และผู้จัดการเธอด้วยสายตาอำมหิต

--ว่ามาได้เลยคับนายน้อย—

“โทรไปที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ให้แบนดาราสาวคนนี้ด้วย ไม่อย่างนั้น เราจะถอดสปอนเซอร์ออกจากทุกรายการของทุกช่องที่เราสนับสนุนในทันที” ผมบอกเสียงเด็ดขาด

--ได้คับนายน้อย—

“ทำให้เสร็จวันนี้นะ”

--ตามที่ต้องการคับนายน้อย—

“พวกมึงออกไปจากห้องกูได้แล้ว” ผมบอกเสียงโหด

“คุณภีมอย่าแบบนั้นเลยนะคะ พี่ขอร้อง” ผู้จัดการของมายรีบคุกเข่าขอร้องผม

“เราไปกันเถอะคะพี่ ภีมไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก เขาก็แค่ขู่เราเท่านั้น มายเป็นพรีเซ้นเตอร์ให้กับงานเขาไปจนงานเสร็จหมดแล้ว แล้วจะมายกเลิกได้ไง” เธอพุดเหมือนเหนือกว่าผม

“ผมทำได้ก็แล้วกัน ออกไป!!!” ผมบอกเสียงดัง

“ไม่มีทางตามสัญญาถ้ายกเลิก บริษัทต้องจ่ายค่าเสียหายนะ” เธอดูยังไม่ยอม

“พวกมึงจะไม่ได้อะไรจากบริษัทกูทั้งนั้น เพราะถ้าพวกมึงจะฟ้อง กูจะเอาหลักฐานการเข้าห้องโดยไม่ได้รับอนุญาติของมายไปแจ้งความว่าเธอมาขโมยของ ถึงเธอจะไม่ได้ขโมย แต่กูก็มีวิธีที่จะทำให้เธอไปอยู่ในคุก และเสียชื่อเสียงมากกว่านี้แน่ๆ เลือกเอาละกัน” ผมบอกก่อนจะผลักเธอออกไป แล้วรีบไปตามหาพี่พาย

ระหว่างทางผมเอาแต่โทษตัวเองที่ประมาทเกินไป ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะพลาดอะไรได้มากขนาดนี้ ผมทำให้พี่พายเสียใจ แม่งทำไมตอนนั้นถึงได้โง่ขนาดนี่วะ  ผมตามไปหาพี่พายที่หอก็ไม่เจอ เลยกะจะตามไปที่บ้านพ่อแม่เขาดู ผมได้แต่หวังว่าเขาจะฟังผม และกลับมาหาผมอีกครั้ง...




TBC... :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-03-2017 15:02:49
คนแรก

ขอตัวไปอ่านก่อน

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-03-2017 15:15:21
เห้อออ...โล่งใจมาก

มันไม่ใช่อย่างที่คิด

ภีมก็พยายามง้อพี่พายหน่อยละกัน

ยิ่งช่วงนี้กำลังท้องอยู่

อารมณ์แปรปรวนแน่ๆ

สู้ๆเดินหน้าง้อต่อไป

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-03-2017 15:29:44
ก็แย่ละ เป็นเรื่อง ยากแล้ว

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 20-03-2017 16:31:00
โอ้ยยยยยย ตอนที่แล้ว ด่าซะเสียหมาเลย พระเอกช้านนน
ความจริงปรากฎแล้ว ง้อเมียด่วนๆ เลยจร้า
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-03-2017 16:54:06
นอกจากจะจัดการกับนังมายและผู้จัดการแล้ว คู่กรณีอีกหนึ่งไม่สิอาจจะมากกว่านั้นนะ ก็คือ คนที่บอกความเคลื่อนไหวและข้อมูลของภีมให้ยัยดารานั่นรู้ ไม่อย่างนั้นตอนที่ไปดูหน้างานนางจะรู้ได้ยังไง แถมดันรู้คอนโดที่ภีมอยู่ด้วย (ควรต้องสืบหาหนอนตัวนี้ให้ได้นะ เรื่องแค่นี้ยังไม่รู้จักเก็บความลับ แล้วเรื่องในบริษัทจะไว้ใจได้ยังไง)
แล้วอีกหนึ่งที่ควรเอาเรื่องคือ คนที่ให้กุญแจหรือคีย์การ์ดเข้าห้องภีม เราคิดว่าภีมอยู่คอนโดหรูการรักษาความปลอดภัยสูงเสียอีก ถ้ามีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นแสดงว่าการจัดการของคอนโดนี้ไม่ได้มาตรฐาน สมควรเอาเรื่องอย่างที่สุด การที่ใครสักคนจะจ่ายเงินมาก ๆ เพื่อที่อยู่อาศัย นอกจากจะเป็นที่พักระดับหรูหราสะดวกสบายแล้วการรักษาความปลอดภัยต้องดีเยี่ยมสิ นี่อะไร แสดงว่าใครก็สามารถแอบอ้างเข้าห้องคนอื่นได้หรือไง หรือว่าภีมไม่ล็อคห้อง (ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าละ) แต่ที่จริง คอนโดระดับนี้น่าจะเป็นระบบสแกนนิ้วมือ หรือใส่รหัสเข้าห้องมากกว่านะ

อนุญาตให้ภีมรีบตามไปง้อพี่พาย แล้วกลับมาสะสางความแค้นนี้ให้เราด้วยล่ะ (?)
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 20-03-2017 17:52:20
ยังไงพายก้ออย่าใจอ่อนนะ ให้มันง้อสะให้ตาย ทำอะไรแทนที่จะบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้แต่นี่กับไม่พูดหรืออธิบายเลยว่าหายไป ไปทำอะไร ยังไง ปล่อยให้อีกคนร รอ รอ รอ จนสุดท้ายเกิดเรื่องเพราะความใจเยน คิดว่าเรื่องแค่นี้ไม่เปนไร เพราะไอ้เรื่องเล็กน้อยพวกนี้แหละ มันจะก่อตัวเป็นเรื่องใหญ สุดท้ายก้อใหญ่จริงๆ พายก้อท้องอีก สม สม สม รอดราม่าเลย อยากอ่าน
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 20-03-2017 18:17:52
 :angry2:ยังไงงานนี้ภีมก็ผิดเต็มๆอยู่ดี  ทั้งที่ตัวเองก็เริ่มรู้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร แล้วตัวเองยังย่ามใจคิดว่าทุกอย่างควบคุมได้เพราะตัวเองไม่ได้คิดอะไรกับอีกฝ่าย แต่ในทางกลับกันถ้าภีมเป็นฝ่ายที่รอและเชื่อใจคนรักแต่พอวันนึงถึงที่สุดจนทนไม่ไหวต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองแต่ต้องมาเห็นอะไรแบบนั้น ต่อให้เชื่อใจยังไงแต่ภาพมันฟ้องขนาดนั้นก็ทำใจให้เชื่อว่าไม่มีอะไรไม่ได้หรอก อยากให้คิดถึงใจอีกฝ่ายมากกว่านี้และควรจะจัดการขั้นเด็ดขาด กับชะนีแต่แรกไม่ใช่วัวหายแล้วมาล้อมคอกแบบนี้ สุดท้ายก็ทำให้คนที่รักต้องเสียน้ำตา :fire:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 20-03-2017 19:05:11
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 20-03-2017 19:10:44
เบะปากมองบนเลยคะงานนี้    ถึงยังไงภีมก็ดูเป็นคนผิดค่ะ  ทิ้งให้แฟนเสพข่าวซุบซิบมานานคนเนาถึงจะบอกว่าไว้ใจแต่ใจมันทำไม่ได้อย่างปากว่าหรอกนะ ถึงจะไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นแต่แค่ทำให้คนที่รักเสียน้ำตานั้นมันก็ผิดมากแล้ว
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 20-03-2017 19:17:24
 o12
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-03-2017 20:51:46
เช็คคำหน่อยนะคะ คำผิดมีพอสมควรซึ่งบางทีมันเยอะมันบ่อยเกินไป ทำให้คนอ่านรำคาญได้ ** รออ่านต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 20-03-2017 21:46:17
ทำไมอ่านแล้วรู้สึกสมน้ำหน้าพระเอก
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 21-03-2017 12:55:01
เห็นไหม เราเดาไว้ไม่มีผิด ว่าต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง เพราะเรายังเชื่อว่าภีมรักพาย แต่เรายังยืนยันคำเดิมว่า ภีมละเลยและทิ้งขว้างพายแบบที่ไม่น่าให้อภัย ต่อให้งานยุ่งแค่ไหน แค่โทรคุยกับคนที่คุณบอกว่ารักมากๆ วันละไม่กี่นาที ทำไม่ได้เชียวหรือ อีกอย่างสิ่งที่คุณทำปัญหาที่คุณเจอ ควรบอกให้พายรู้บ้าง ให้ได้รับรู้ความเป็นไปของกันและกัน ไม่ใช่พอโทรไปหาก็ไม่ว่าง แถมไม่โทรกลับ งานนี้สมควรโดนเทค่ะ ถ้าไม่เทต้องให้ได้รับความเจ็บปวดสาสมกับที่พายเคยเจ็บมาหลายเดือน ง้อให้ตาย ทุรนทุรายให้หนัก อ้อ ให้มีคู่แข่งสุดแซ่บสูสีกับภีมมาให้กระอักเล่น ๆ ก็ดีนะคะ//ยิ้มชั่วร้าย
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 22-03-2017 11:16:25
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทุกคำติชม จะปรับปรุงให้ดีขึ้นคะ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 15 (20/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-03-2017 11:27:58
แวะมาส่อง

มาให้กำลังใจ

รอๆ

หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 16 (22/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 22-03-2017 16:06:53
ตอนที่ 16 ลูก!!!


พาย พาร์ท

“นี้ทุกคนล้อผมเล่นหรอคับ อยากแกล้งให้ผมขำรึเปล่า เพราะเห็นผมเสียใจเลยอยากให้ผมหัวเราะใช่ไหม” ผมถามเพราะไม่อยากเชื่อ ถึงแม้สีหน้าทุกคนจะบอกว่ามันจริงก็ตาม

“ใจเย็นก่อนนะลูก ทุกปัญหาย่อมมีทางออก” แม่บอกผมก่อนจะกอดผมไว้ ส่วนคุณพ่อผมท่านแทบจะไม่พูดอะไรนอกจากมองผมด้วยความเป็นห่วง

“พ่อของเด็กคือภีมสินะ” ไอ้กิตถาม

“คงงั้น” ผมตอบเพราะยังไงภีมก็เป็นคนเดียวที่ผมมีอะไรด้วย พลางคิดไปด้วยว่ามีอะไรกับผู้ชายด้วยกันจะท้องได้ไง ผลตรวจอาจจะเกิดอะไรผิดพลาดก็ได้

“กูว่าใช่” ไอ้กิตเสริม

“พี่จะให้มันมารับผิดชอบ” พี่พลบอกก่อนจะเดินออกไป

“อย่า!!!” ผมตะโกนบอกเขาเสียงดังจนเขาต้องหยุด

“อย่าบอกเขา หรือใครที่เกี่ยวข้องกับเขา เรื่องของพายกับเขามันจบแล้ว ถ้าพายท้องจริง เด็กคนนี้ก็จะเป็นลูกของพายคนเดียวเท่านั้น” ผมบอกด้วยเสียงที่เข้มแข็ง แต่ก็สั่นเครือ

“พาย พี่ว่า...”

“ไม่ ยังไงก็ห้ามบอกเขา พายไม่อยากให้เขามายุ่งกับชีวิตพายอีก” ผมบอกพี่พล

“แล้วมึงจะทำไงต่อ” ไอ้กิตถาม

“กูเรียนจบแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร อาจต้องพักงานที่รีสอร์ทไปก่อน” ผมบอก

“เรื่องงานไม่ต้องห่วง พักไปเลยจนกว่าจะคลอด แต่เรื่องเด็กภีมนั้นดูไม่น่าจะยอมเลิกง่ายๆ” พี่พลบอกผมด้วยเสียงที่เป็นห่วง

“ถ้าอย่างนั้น อย่าให้เขารู้ว่าพายอยู่ไหนก็พอ ถ้าพายหายไปสักพัก เดี๋ยวเขาก็เลิกสนใจเอง พายมันเป็นแค่ของตาย ไม่นานเขาก็จะลืม” ผมบอกทั้งที่ในใจปวดร้าว

“กลับไปอยู่บ้านเรานะลูก” แม่ผมบอกก่อนจะกอดผมไว้

“ถ้ากลับไปอยู่บ้าน ภีมก็จะหาพายเจอ” ผมพูดด้วยความกังวล

“ไปอยู่เรือนบุหลันของคุณย่าไหมลูก ไม่มีใครหาเจอเจอแน่นอน แล้วอีกอย่างจะได้อยู่ใกล้กันด้วย” พ่อผมแนะนำขึ้นมาหลังจากมองผมด้วยสายตาเป็นห่วงอยู่นาน

“เรือนบุหลัน?”

“พายเคยไปตอนเด็กๆไงลูก อยู่บนเกาะกลางแม่น้ำหลังบ้านเรา ตอนนี้มีต้นไม่ขึ้นจนแทบมองไม่เห็นตัวบ้านด้านในแล้ว” แม่ผมอธิบาย

“พายคงจำไม่ได้ เพราะพอพายขึ้นประถม คุณย่าก็ย้ายออกมาอยู่กับเรา เพราะท่านแก่มาก จะให้นั่งเรือเข้าออกคงลำบาก” พ่ออธิบายเสริม เพราะหน้าผมคงดูงงน่าดู ตั้งแต่จำความได้ ผมก็ไม่เคยไปเรือนบุหลันกลางน้ำอีกเลย แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำ เรือนบุหลันเป็นเรื่องที่คุณย่าทวดเคยสร้างไว้หลบคุณปู่ทวดเวลางอนกัน คุณย่าผมท่านก็ใช้ที่นี้ตอนนั้นที่งอนคุณปู่ มันเป็นเรือนที่อบอุ่นมากในความรู้สึกผม ภาพเลือนลางที่จำได้คือคุณย่าท่านทำขนม กับคุณป้าที่เป็นคนรับใช้ของคุณย่า ท่านมักจะนั่งยิ้มให้ผมที่ชานหน้าเรือน มันช่างร่มเย็น และเงียบสงบ

“พายพอจำได้แล้วคับ เรือนบุหลันที่อบอุ่นของคุณย่า” ผมบอกเหมือนพูดกับตัวเอง

“งั้นพักผ่อนก่อนนะลูก เดี๋ยวพรุ้งนี้เราน่าจะออกจากโรงพยาบาลได้” แม่บอกผมพลางจัดหมอนให้ผมนอนลง

“ผมกลัวว่าภีมจะมาเจอผมซะก่อน”

“พี่จะแจ้งโรงพยาบาลให้ปิดเป็นความลับ” พี่พลบอกก่อนจะเดินออกไป


หลังจากนั้นผมก็นอนพักผ่อน และได้แต่คิดว่าผมจะทำยังไงต่อไป การตัดใจจาดภีมสำหรับผมก็ยากพออยู่แล้ว ตอนนี้มามีลูกกับเขาอีก ผมลูบท้องตัวเองเบา รู้สึกแปลกๆเหมือนกันที่มามีลูกแบบนี้

ก๊อกๆๆๆ คุณแม่ผมที่นั่งอ่านนิยายอยู่เป็นเพื่อนผมท่านก็ไปเปิดประตูให้

“สวัสดีคะ ขออนุญาตนะค่ะ” เสียงผู้หญิงบอกก่อนที่จะเดินมาหาผมอย่างรวดเร็ว เธอมองผมด้วยความตื่นเต้น และดีใจ

“รู้สึกยังไงบ้างค่ะ ปวดหัว  หรือเจ็บท้องบ้างรึเปล่า” เธอถามผมเป็นชุดเลย

“ใจเย็นๆเจน น้องเขาตกใจหมด” คุณหมอที่เดินตามเข้ามาพูดเชิงห้ามเธอพร้อมหัวเราะให้กับท่าทางของเธอ

“ฉันชื่อเจนนี่ยะ เรียกเจนนี่” เธอชื่อเจนนี่ สวยเปรี้ยว และดูฉลาดมาก

“คับๆเจนนี่ มาแนะนำตัวกับน้องเขาก่อน” คุณหมอบอกก่อนจะมองมาที่ผม

“น้องพายคับ นี่เจนนี่เป็นเพื่อนหมอที่ทดลองเรื่องการตั้งครรภ์ในผู้ชายอยู่ที่อเมริกา พึ่งกลับมาพักผ่อนที่ไทยได้ไม่นาน” คุณหมอแนะนำเธอ 

“สวัสดีคับ” ผมกล่าวทัก

“พี่มีเรื่องอยากถามน้องพายหน่อยค่ะ คือว่า น้องพายรู้จักหวานคณะวิทยาศาสตร์ที่มหาลัยน้องไหมค่ะ” พี่เจนนี่ถามสีหน้าดูจริงจังขึ้นมาทันที

“นี่พี่รู้จักหวานด้วยหรอคับ” ผมถามด้วยความตกใจ

“พี่ว่าแล้วว่าน้องพายต้องรู้จักยัยหวานอสรพิษ พี่คิดว่าหวานคงเป็นคนฉีดสารที่ช่วยทำให้เกิดภาวะการตั้งครรภ์ในเพศชายให้น้องพายแน่ๆ” พี่เจนนี่บอกผม เธอทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดแทนหวานยังไงยังงั้น และการที่พี่เจนนี่บอกแบบนี้ก็ทำให้ผมนึกถึงวันที่ผมถูกหวานฉีดอะไรบางอย่างเข้ามาที่ท้องน้อยผม

“น่าจะเป็นหวานคับ เพราะผมเคยถูกเธอฉีดอะไรบางอย่างเข้ามาที่ท้องน้อย” ผมบอก

“จริงหรอลูก!!!” แม่ผมที่ยืนฟังอยู่ท่านอุทานด้วยความตกใจ

“ตอนนั้นพายเมามาก แล้วพายก็เห็นเหมือนหวานฉีดอะไรเข้ามา แต่พอตื่นมาก็นึกว่าฝัน เพราะลองไปถามหวาน เธอก็ทำหน้าเหมือนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมเล่าให้แม่ฟัง

“หวานขโมยสารที่พี่เอามาเพื่อโชว์ในงานสมนาที่พี่ต้องเข้าร่วมเมื่อสองปีก่อน พอดีหวานเป็นลูกพี่ลูกน้องพี่ พี่เห็นว่าเรียนที่เดียวกันคณะเดียวกันเลยเอาให้ดู และเผลอบอกวิธีทำ แต่ไม่คิดว่าหวานจะเอาไปใช้จริงๆ เพราะพี่ยังไม่เคยทดลองในมนุษย์มาก่อน แต่ในสัตว์ทดลองต่างๆได้ผลอย่างมาก ในระหว่างที่น้องพายท้องอยู่พี่คงต้องขอเป็นคนดูแลร่วมกับคุณหมอ ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนรีบแจ้งพี่ทันทีเลยนะ” พี่เจนนี่เข้ามาจับมือผม พร้อมทำหน้าเป็นห่วงอย่างมาก

“ขอบคุณมากคับ” ผมบอก

“พี่สิต้องขอโทษมากกว่ารับคำขอบคุณ งั้นพี่ไม่กวนแล้ว น้องพายพักเถอะจ๊ะ” พี่เจนนี่บอกก่อนจะเดินออกไป แต่ก็ต้องหันมาลากพี่หมอที่ยืนยิ้มให้ผมอยู่ไปด้วย

“ไปได้แล้ว” พี่เจนนี่บอกพี่หมอ

“เออๆ น้องพายคับ พี่ชื่อนัทนะคับ” พี่หมอนัทบอกชื่อเขาก่อนจะเดินออกไป

“ตอนนี่สบายดีใช่ไหมลูก” แม่ผมถามด้วยความเป็นห่วง

“สบายดีคับ” ผมยิ้มให้แม่ก่อนจะหลับตาลง ผมรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันทีที่เปลือกตาปิดลง



ในตอนเช้าของอีกวันทีผมตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล ผมรู้สึกเวียนหัว และคลื่นไส้อย่างมาก แต่พอไปอวกในห้องน้ำก็ยิ่งทำให้เพลีย

“ดีขึ้นไหมลูก” แม่ผมเข้ามาช่วยประคองผมไปที่เตียงขณะที่ผมออกมาจากห้องน้ำ

“เวียนหัวนิดหน่อยคับแม่ พายอยากได้อะไรบางอย่าง ขอโทรศัพท์ก่อนนะคับ” ผมบอกก่อนที่แม่จะส่งโทรศัพท์ให้ผม

ตู๊ด---ตู๊ด เสียงรอสาย

--ฮัลโหลลล— เสียงไอ้กิตงัวเงียออกมาจากโทรศัพท์

“ไอ้กิตกูเองนะ”

--ใครวะ— เสียงมันยังคงเหมือนไม่อยากตื่น

“น้องผัวมึงไง” ผมบอกกลับกวนๆ

--ผัวอะไร ผัวกูก็นอนอยู่กับกูดิ—

“ไอ้เชี่ยกิต ตื่น!!!” ผมตะโกนเสียงดังใส่หูโทรศัพท์

---โอ๊ยยย ไอ้พายตะโกนทำไมวะ— เสียงมันคงตื่นเต็มตาละคับ

“กูมีเรื่องให้มึงช่วยหน่อย” ผมบอก

--อะไรว่ามา—

“ไปเอาเสื้อเชิ้ตตัวสีฟ้าของภีมที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้ากูมาให้หน่อย พอมึงเปิดซิบก็จะเห็นเลย” ผมอธิบายสิ่งที่ผมอยากได้

--เอาไปทำไรวะ— มันถาม

“กูเวียนหัว กูดมเสื้อตัวนั้นและกูรู้สึกดีขึ้น เอามาให้กูเดี๋ยวนี้เลย ก่อนที่กูจะเวียนหัวอวกแตกตายซะก่อน” ผมบอก

--นี้มึงแพ้ท้อง แล้วอยากได้กลิ่นผัวตัวเองเนี่ยนะ— มันยังคงถาม

“เออ รีบเอามานะเว้ย ปลุกพี่กูที่นอนอยู่ข้างมึงด้วย แล้วระวังตัว เดี๋ยวภีมจะรู้ว่ากูอยู่ไหน” ผมบอกย้ำเรื่องภีมด้วย เพราะผมรู้ว่าถ้าภีมอยากรู้อะไรเขาจะสืบให้ถึงที่สุด

--แล้วกูจะไปหามึงไง ไอ้เด็กนั้นมันก็เฝ้าอยู่หน้ารีสอร์ทตลอดเนี่ย—

“นั่งเรือออกมา” ผมคิดได้เลยรีบบอก นั่งเรือออกมาเป็นอีกวิธีที่เขาน่าจะคาดไม่ถึง

--ท้องแล้วฉลาดขึ้นเยอะนะมึง ยืมสมองลูกมาคิดเปล่าเนี่ย—

“ไอ้เชี่ยกิต เอาเสื้อมาให้กูเดี๋ยวนี้” ผมบอกก่อนตัดสายในทันที

“ติดกลิ่นภีมหรอลูก” แม่ผมถามยิ้มๆ

“ใช่คับแม่ ได้กลิ่นแล้วมันสบายใจ” ผมบอก

“ไม่อยากเห็นหน้า แต่ใจอยากได้กลิ่นละมั้งเนี่ย” แม่ผมท่านแซวผมคับ ผมยังไม่บอกท่านว่าทำไมถึงเลิกกับภีม แต่แม่ผมก็เหมือนผมคับ ถ้าเรื่องนี้ไม่อยากบอกก็จะไม่เซ้าซี้ถาม

“แม่อ่า” ผมตัดพ้อก่อนจะนอนลงที่เตียงทันที

ก๊อกๆๆๆ

“เป็นยังไงบ้านคับน้องพาย วันนี้ปกติดีรึเปล่าเอ่ย” พี่หมอนัทเข้ามาถามอาการผมแต่เช้า

“ทำงานเช้าจังนะคับ” ผมถามเป็นเชิงทักทาย

“ก็น้องพายเป็นเคสพิเศษเลยต้องรีบมาดูคับ” พี่หมอนัทบอกพลางยิ้มซะกว้างเลย เขาเป็นหมอที่หน้าเด็กมาก เขาน่าจะเป็นแฟนพี่เจนนี่ละมั้งเนี่ย

“นัท มาถึงก่อนเราอีกแหะ วันนี้เป็นไงบ้างจ๊ะพาย ให้พี่เจาะเลือดไปเช็คหน่อยนะ” พี่เจนนี่บอกก่อนมาเจาะเลือดผม

“ดูสวยเปล่งปลั่งขนาดนี้ ลูกน่าจะแข็งแรงนะจ๊ะ” เธอแซวผม

“ผมเป็นผู้ชายนะพี่ สวยอะไรกัน” ผมว่า

“เนี่ยเขาเรียกว่าสวยจ๊ะ ผู้ชายอะไรสวยกว่าผู้หญิงซะอีก” พี่เจนนี่ยังแซวผมพร้อมยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

“ไม่คุยกับพี่เจนนี่ละคับ”

“555 อารมณ์แปรปรวนจริง สัญญาณแบบนี้ดีเลย แปลว่าเด็กกำลังเต็บโตในนี้” เธอบอกพลางชี้นิ้วมาที่ท้องผม

“แล้วนี้พ่อของเด็กละ” พี่เจนนี่ถามผม

“เลิกกันไปแล้วคับ” ผมบอกตามตรง

“ถ้าพายไม่อยากได้เด็กคนนี้ก็บอกพี่นะ พี่ยินดีรับไปเลี้ยง” พี่เจนนี่มองผมด้วยสายตาสงสาร

“ไม่เป็นไรคับ เขาเกิดจากความรักของผม ถึงตอนนี้จะไม่มีรักนั้นแล้ว แต่เด็กคนนี้ก็ยังเป็น ...รักของผม” ผมตอบพี่เจนนี่ในทันที ไม่มีภีมผมก็เลี้ยงเขาได้ ก็เขาเป็นลูกผมนี่คับ

“มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะจ๊ะ” พี่เจนนี่บอกก่อนจะเดินออกไป

“หมอไปก่อนนะคับ” พี่หมอนัทก็ยิ้มหล่อๆให้ผมก่อนไป เขาดูเป็นผู้ชายนิ่งๆขี้อายยังไงก็ไม่รู้



“พายโทรศัพท์มึงเป็นไรวะ กูโทรมาหาก็ไม่รับ” ไอ้กิตพูดขณะหยิบเสื้อของภีมให้ผม

“กูเอาซิมทิ้งไปแล้ว เมื่อเช้ากูก็ใช้โทรศัพท์แม่โทรหามึง” ผมบอกระหว่างที่ลุกขึ้นนั่ง

“อ่าวหรอ โอเค แต่มึงรู้ไหมกว่ากูจะออกมาได้แม่งโคตรยาก ผัวมึงมันฉลาดเกิน ไปดักตรงทางแม่น้ำซะงั้น กูเลยต้องย้อนกลับไปรีสอร์ท แต่งตัวเป็นพนักงานประจำเรือของรีสอร์ทแล้วออกมาเนี่ย” ไอ้กิตพูดอย่างอารมณ์เสียเล็กน้อย

“แล้วพี่พลละ” ผมถาม

“ไม่ได้มาเขาบอกขอรับหน้าอยู่ที่รีสอร์ท ทำให้เหมือนไม่รู้เรื่องอะไร”

“อ่อ ขอบใจที่เอาเสื้อมาให้นะ” ผมบอกก่อนจะดมเสื้อในมือ มันทำให้ผมสบายใจอย่างประหลาดจริงๆ

“หน้ามึงเหมือนโรคจิต” ไอ้กิตบอก

“เดี๋ยวกูต่อย” ผมบอก

“แพ้ท้อง แล้วอยากได้กลิ่นแฟนก็อย่างนี้แหละกิต” แม่ผมอธิบายให้กิตฟังคับ

“มีแบบนี้ด้วยหรอคับ เห็นในละครชอบกินแต่ของเปรี้ยว”

“การแพ้ท้อง แล้วชอบอะไรแปลกๆใครๆก็เป็นกัน” แม่ผมบอกพร้อมยิ้มให้กิตก่อนจะเข็นโต๊ะทานอาหารให้ผมที่เตียง

“อ่อ เป็นแบบนี้นี่เอง” ไอ้กิตตอบเหมือนพูดกับตัวเอง

“แล้ววันนี้เราจะกลับยังไงคับแม่  ผมไม่อยากเจอภีม” ผมถามแม่ระหว่างที่กำลังทานข้าว

“นั่งเรืออ้อมไปอีกทาง แม่มีทางลัดเขาเรือนบุหลัน” แม่ผมบอกก่อนจะมองผมเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง

“แม่ว่าคุยกับเขาดีไหมลูก พายดูไม่มีความสุขเลย แม่ดูออก” แม่ผมพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“ไม่คับ พายคุยมาพอแล้ว พายเหนื่อย พายรอเขามาตั้งหลายเดือน พายไม่อยากกลับไปเป็นแบบนั้นอีก”

“เขาอาจจะมีเหตุผลที่ต้องหายไปก็ได้นะลูก” แม่ปลอบผมเพราะยังไม่รู้ว่าผมเจออะไรมา

“พายรู้ว่าเขาหายไปทำงาน แต่สิ่งต่างๆที่พายเห็นมันทำให้พายไม่รู้จะเอาอะไรมาไว้ใจเขาได้อีก พายรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ที่ไว้ใจเขา พายรักภีม รักมากแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน พายเลยคิดว่าแค่ไว้ใจกันก็น่าจะพอ แต่มันไม่เคยพอ เราไม่ค่อยได้คุยกัน เพราะพายคิดว่าเราเข้าใจกัน แต่ความจริงเราไม่เคยเข้าใจกันเลย พายคิดว่าเขารักพายมาก แต่ความจริงพายมันก็เป็นแค่ของตาย
พายพอแล้วแม่ พายคิดว่าแค่ลูกคนเดียวพายเลี้ยงได้ และจากนี้ไปความรักที่พายมีให้ภีมจะมอบให้กับลูกของพายกับเขาแทน” ผมรู้สึกถึงขอบตาที่ร้อนผ่าวขนาดที่พูดถึงสิ่งที่ผมรู้สึกอยู่ มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

“แล้วพายจะบอกลูกว่าอะไร ถ้าเขาถามหาใครอีกคน” แม่ผมถามพลางมองหน้าผมด้วยสายตาอบอุ่น

“พายจะไม่ปิดบังว่าเขาเป็นใคร ลูกจะรู้ว่าเขาชื่ออะไร แล้วลูกของพายก็จะรู้ว่าเขาเกิดจากความรัก” ผมบอก ไอ้กิตจับมือผมเป็นเชิงให้กำลังใจ




เวลาผ่านไปสองเดือนที่ผมกลับมาพักที่เรือนบุหลันของคุณย่า ผมมีความสุขที่นี้ อากาศดี ลมเย็นสบาย ผมนั่งเล่นที่ชานหน้าเรือนพร้อมกับกอดเสื้อของภีมเอาไว้ การแพ้ท้องที่ขาดกลิ่นของภีมไม่ได้นี้ เป็นเหมือนสิ่งย้ำเตือนว่าผมรักคนๆนี้มากแค่ไหน 

ตอนนี้ผมไม่ค่อยได้ทำอะไรนอกจากนั่งเล่นที่ชานหน้าเรือน เรือนบุหลันเป็นเรือนไทยชั้นเดียวไม่ได้ยกสูงมาก ขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นก็จะเจอชานระเบียงกว้าง ก่อนจะถึงประตูเรือนด้านใน และพี่พลให้คนงานที่รีสอร์ทมาทำความสะอาด ตกแต่งให้สวยงามเหมือนเดิมก่อนผมย้ายเข้ามา ส่วนหน้าชานระเบียงกว้างก็มีผ้าปูไว้ให้ผมมานอนเล่นได้ ด้านในเรือนก็แบ่งเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆ ใกล้กับห้องนั่งเล่นด้านขวาเป็นครัว ด้านซ้ายเป็นห้องนอนมีห้องน้ำอยู่ด้านในครบครัน ดีที่เกาะกลางน้ำนี้ใหญ่พอสมควร บ้านก็เลยดูไม่อึดอัด ผมไม่แปลกใจเลยที่คุณย่าทวดกับคุณย่าชอบที่นี้

ทุกวันจะมีคนงานจากรีสอร์ทไม่ซ้ำหน้าส่งอาหารมาให้ผม เพื่อกันภีมรู้ และตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี้ก็ไม่ค่อยได้ข่าวภีมนัก เพราะคุณแม่จะแวะมาอาทิตย์ละครั้ง ท่านพูดเพียงว่าภีมมาหาผมทุกวัน ถึงคุณพ่อคุณแม่จะไม่เคยบอกว่าผมอยู่ไหน แต่ภีมก็ยังคงไม่ลดละความพยายาม...

“ภีมดูผอมลงมานะลูก เขาดูหมดอาลัยตายอยากมากขึ้นทุกวัน พายจะไม่ยอมเจอเขาหน่อยหรอลูก” แม่พูดด้วยน้ำเสียงสงสารภีมอย่างจับใจ ผมได้ยินแบบนั้นก็อดห่วงเขาไม่ได้ ถึงแม้ในใจผมยังโกรธเขาอยู่ก็ตาม นี้ก็พึ่งผ่านไปสองเดือน มันนานก็จริง แต่ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมมั่นใจได้ว่าถ้าไปหาภีมแล้วเขาจะไม่ทรยศต่อความไว้ใจของผมอีก แถมตอนนี้ท้องผมก็เริ่มโตแล้ว ผมคงไปเจอเขาอย่างที่แม่ต้องการไม่ได้

“ฝากแม่ดูแลเขาด้วยแล้วกันนะคับ ถ้าเขามาที่นี้ทุกวัน ก็ฝากแม่บังคับเขากินอะไรสักหน่อย” ผมบอกด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ถ้าพายพูดเอง แม่ว่าเขาน่าจะฟังมากกว่านะลูก”

“พายยังไม่อยากเจอเขาคับ ถ้าเขาอยากรอพาย อยากทรมานตัวเองก็เรื่องของเขาแล้ว” ผมบอกก่อนจะเดินไปนอนลงที่ชานระเบียง และหยิบเสื้อของเขาขึ้นมากอดไว้ พลางลูบท้องของตัวเองเบาๆ

“แม่ควรใจอ่อนหรือเปล่าคับ...ภาม”




TBC... :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 16 (22/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 22-03-2017 16:18:12
ไม่ควรใตอ่อน สมน้ำหน้ากับการกระทำภีม สม สม สม สม
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 16 (22/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-03-2017 18:11:29
มาแล้วๆ

ขอตัวไปอ่านก่อน

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 16 (22/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-03-2017 18:32:56
เรือนกลางน้ำ เข้าใจสร้าง
เอาไว้ไปอยู่เวลางอนกัน
แต่คงน่าอยู่ เย็นสบาย 
ปาย ตั้งชื่อลูกแล้ว ภาม
ไม่ใกล้เคียงชื่อพ่อเลย เนี่ยเกลียดพ่อมาก
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 16 (22/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 22-03-2017 18:45:41
ตอนนันภีมก็ปล่อยในพายรอหนิ  งั้นคราวนี้ภีมก็ก็คงต้องเป็นฝ่ายรอบ้างละแล้วกันนะ 
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 16 (22/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 22-03-2017 19:03:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 16 (22/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 22-03-2017 19:24:29
ไม่มีใครว่าหรอกนะพาย ถ้าจะให้โอกาสแก้ตัวกับคนที่สำนึกผิดแล้ว

แต่จงอย่าให้โอกาสคนคนเดิมเป็นครั้งที่ 3
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 16 (22/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-03-2017 19:28:39
ก่อนจะตัดสินใจ

ฟังอะไร..จากภีมหน่อยไหม

ไม่อยากให้พายเลิกกับภีม

ทั้งที่ยังไม่ได้ฟังเหตุผลจากภีมก่อน

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 16 (22/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 22-03-2017 21:58:32
ต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง  :sad4:
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 23-03-2017 16:16:24
ตอนที่ 17 เรื่องของคนสองคน


กิต พาร์ท

ผมมองเพื่อนรักของผมนั่งเศร้าอยู่ที่ชานระเบียงของเรือนบุหลันอย่างเหม่อลอย ใบหน้าสวยกับพื้นหลังที่เป็นเหมือนป่า ช่างชวนให้น่ามองจนคนที่มองอยู่อดละสายตาไม่ได้ รวมถึงผมกับพี่พลที่มาเยี่ยมในวันนี้

“น้ำลายจะไหลแล้ว” พี่พลเรียกผม

“น้ำลายอะไร”

“ก็มองพายจนน้ำลายจะไหลแล้ว อย่าบอกนะว่าแอบชอบพายด้วยอีกคนอะ” เขาทำเสียงกวนผม

“บ้า กูชอบพายแบบเพื่อน ไม่มีเกินเลย” ผมตอบเขา

“อย่าให้รู้นะว่าคิดมากกว่าเพื่อน กูจะจับมึงขังไว้ที่รีสอร์ทกูตลอดชีวิตเลย”

“ว่าแต่กู คุณมึงเหอะยังคิดอะไรอยู่เปล่า”

“ไม่แล้ว ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นแล้ว เวลาเห็นพายแล้วรู้สึกรักแบบน้องมากกว่า” ไอ้พี่พลตอบพร้อมทำหน้าจริงจัง

“แต่ก็อดมองไม่ได้เหมือนกันแหละ พายมันดูสวยเข้ากับบรรยากาศรอบตัวชะมัด” ผมว่า

“สวย แต่...เศร้า” พี่พลพูดเสียงเบา

“พายกับภีม ไม่มีวันตัดกันขาดหรอก” ผมพูดกับพี่พลขณะที่พี่พลเอาหัวมาหนุนตักผม

“ทำไมคิดงั้น” พี่พลถามผม

“พายรักภีมมาก และนิสัยอย่างพาย ใจแข็งได้ไม่นานหรอก ถึงผมจะโกรธภีมไม่น้อยไปกว่าพายก็เถอะ แต่เด็กในท้องพายจะเป็นโซ่ทองคล้องใจให้กับทั้งสองคนนั้นได้แน่ๆ ยังไงมีครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าก็ดีกว่าเลี้ยงลูกคนเดียว”

“พี่อยากให้พายใจอ่อนนะ เห็นสภาพไอ้เด็กนั้นเมื่อเช้าก่อนแอบมาที่นี้แล้ว ไม่เหลือเค้าความหล่อเลย” พี่พลพูดด้วยน้ำเสียงสงสารภีม

“ผมเห็นครั้งล่าสุดอาทิตย์ที่แล้วก็ดูแย่พอตัว วันนี้ดูแย่กว่าเดิมอีกหรอพี่” ผมถามเพราะเมื่อเช้าผมไม่ได้อยู่ที่รีสอร์ทกับพี่พล

“โคตรโทรม หนวดเคราก็ไม่โกน หมดความหล่อของโคตรเดือนที่กิตเคยเรียกไปเลย นี้พายก็ท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว พี่หวังว่าพายจะลดทิฐิมาเจอกันก่อนที่จะคลอด”

“เรื่องของคนสองคน เราก็เข้าไปยุ่งมากไม่ได้ แต่ผมว่าพายมันใจอ่อนแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปคุยกันยังไง หรือเจอภีมยังไง คิดไปคิดมาก็ผ่านมาตั้งสี่เดือนแล้ว”

“ถ้ารอพายคิด คงคลอดเสร็จก็ยังไม่ดีกันแน่ๆ พี่ว่า อย่างน้อยภีมก็ควรรู้ว่าตัวเองมีลูก ไม่งั้นก่อนจะได้คุยกัน ไอ้เด็กภีมมันคงตายก่อนพอดี สภาพตอนนี้ก็ตรอมใจจะแย่แล้ว” พี่พลพูดก่อนจะลุกขึ้น

“จะไปไหน” ผมถาม

“บอกภีม” พี่พลตอบ

“เดี๋ยว!!! ผมยังไม่ไว้ใจภีม ผมไม่อยากให้พายเสียใจอีก” ผมเป็นห่วงเพื่อน เพราะสิ่งที่พายเจอ เป็นผมก็รับไม่ได้ หัวอกคนเป็นเพื่อนก็ต้องเข้าข้างเพื่อนอยู่แล้วละคับ

“งั้นมากับพี่ มาดูสภาพไอ้เด็กภีม แล้วบอกพี่ว่าควรจะอยู่เฉยรึเปล่า” พี่พลบอกก่อนจะดึงตัวผมยืนขึ้น

“จะกลับแล้วหรอ” ไอ้พายถามตอนผมกับพี่พลเดินออกมา

“ใช่ ถ้ามีอะไรก็กดปุ่มโทรฉุกเฉินที่โทรศัพท์ไปหาที่บ้านเลยนะ” ผมบอกมันด้วยความเป็นห่วง

“กูยังไม่คลอดตอนนี้หรอก และเดี๋ยวพี่เจนนี่กับพี่หมอนัทก็มาแล้ว” พายบอกพลางยิ้มเล็กน้อยให้กับความเป็นห่วงของผม ดูท่ามันจะคิดว่าผมวิตกมากเกินไป

“อย่าใจอ่อนกับไอ้หมอนัทละ” ผมบอก เพราะแค่มองก็รู้ว่าพี่หมอนัทแอบชอบพาย ขนาดมันท้องนะเนี่ย

“บ้า ใครจะไปชอบพี่หมอละ” พายบอก

“อย่าบอกว่ามึงไม่รู้ว่าพี่หมอนัทเขาชอบมึง”

“รู้ แสดงออกขนาดนั้น แต่กูไม่ได้ชอบเขานี่หว่า ผู้ชายที่กูชอบมีคนเดียวเท่านั้นแหละ” มันตอบผมก่อนจะเสียงเบาลงในประโยคสุดท้าย

“เออๆ กูไปละ” พอเห็นมันเริ่มเข้าโหมดเศร้า ผมก็ไม่รู้จะทำไงเลยบอกลาแล้วเดินออกมากับพี่พล เขาจับมือผมไว้ ผมมองหน้าเขาที่อยู่ดีๆก็จับมือ เพราะปกติพี่พลไม่ค่อยชอบเดินจับมือเท่าไหร่ ก็นิสัยผู้ชายทั้งคู่นี่คับ

“อย่าคิดมากแทนพายเลย ถ้าอยากให้พายมีความสุข เราก็คงต้องช่วยกัน” เขากระชับมือผมแน่นตอนพูดจบ เราลงเรือกลับไปที่รีสอร์ท ก่อนจะเอารถพี่พลขับกลับมาบ้าน ดูอ้อมไปสักหน่อย แต่ก็เพื่อตบตาภีมแหละคับ



พอลงจากรถผมก็เดินเข้าไปในบ้านก็เห็นคุณพ่อนอนกลางวันอยู่ที่เตียงไม้ใต้ถุนบ้าน ส่วนคุณแม่กำลังนั่งอ่านนิยายอยู่ที่เก้าอี้โยกใกล้ๆ

“คุณแม่สวัสดีคับ” ผมทักท่าน ท่านมองผมแล้วยิ้มให้อย่างอบอุ่นเหมือนเดิม

“สวัสดีจ๊ะ เดี๋ยวนี้ดูเรียบร้อยขึ้นนะ เตรียมเป็นสะใภ้แม่เต็มตัวละสิ” คุณแม่แซวคับ เล่นเอาเขินจนหน้าร้อนไปหมด

“เปล่านะคับแม่ ผมก็เรียบร้อยแบบนี้มาตั้งนานแล้ว” ผมบอกแบบอายๆ

“เมื่อก่อนกวนเบื้องล่างจะตาย 555” คุณแม่พูดแล้วหัวเราะ จนผมทำอะไรไม่ถูกเลย

“แม่ก็อย่าไปแซวมันสิคับ มันหูเหอแดงหมดแล้วเนี่ย” พี่พลพูดก่อนจะโอบไหลผมไว้หลวมๆ

“แล้วนี่โดดงานกันมาหรอ” คุณแม่ถามพี่พลคับ

“วันนี้งานไม่ค่อยเยอะคับ เลยไม่เข้าไปที่รีสอร์ท แล้วแม่คับ ไอ้เด็กนั้นละคับ” พี่พลถามหาภีม

“ภีมหรอ? นั่งอยู่ที่ท่าน้ำนู้นแหนะ นั่งนิ่งจนจะกลายเป็นหินอยู่แล้ว น่าสงสารจริงๆ” คุณแม่บอกพร้อมทำเสียงเศร้า

“สภาพแย่มากเลยหรอคับแม่” ผมถามคุณแม่

“แย่มาก แม่อดเป็นห่วงไม่ได้ ต้องบังคับให้กินข้าวตลอด แต่พอกินก็กินไปแค่คำสองคำ แม่ไปพูดกับพายรายนั้นก็นิ่ง บอกแค่ให้แม่ช่วยดูเขาหน่อยถ้าเขามาที่นี้ ทิฐิสูงเหลือเกิน แม่กลัวว่าภีมจะไม่ไหวเอานะ” น้ำเสียงของแม่เต็มไปด้วยความสงสารเวทนา

“แล้วแม่คิดว่าจะทำไงดีคับ” พี่พลถาม เหมือนถามหาความเห็นมากกว่า

“แม่ก็รอเรามาคุยกันเนี่ยแหละว่าจะเอายังไง พายก็ท้องอยู่แม่ก็ไม่กล้าขัดมากเป็นห่วง ส่วนภีมแม่ก็สงสารจับใจ”

“ผมจะไปคุยกับภีมคับ แล้วดูว่าภีมจะทำไงถ้ารู้ว่าพายท้อง”

“อืมก็ดี ไปเถอะ คุยเสร็จแล้วพามากินข้าวด้วยนะลูก” คุณแม่บอกพี่พลกับผม ก่อนจะเดินไปหาภีมที่ท่าน้ำ


ผมมาถึงท่าน้ำก็เห็นภีมนั่งเหม่อลอยอยู่ เขาดูไม่มีเค้าของโคตรเดือนอยู่เลยจริงๆ เสื่อยืดกางเกงยีนส์ กับร่างกายที่ดูผอมลงอย่างเห็นได้ชัด หน้าตาก็โทรมมีแค่เครา ดูอิดโรย เหมือนคนไม่ค่อยได้นอน ผมก็เซอๆดูไม่ได้เอาซะเลย

“ภีม” พี่พลเป็นคนทัก ภีมหันมามองอย่างเชื่องช้า

“คับ” เขาตอบรับนิ่งๆ

“ทำไมถึงยังรอพายอยู่ละ” พี่พลพูดขณะนั่งลงฝั่งตรงข้ามที่ศาลาริมน้ำ

“ผมรักพี่พาย”

“แต่นายก็มีอะไรกับคนอื่นไม่ใช่หรอ” พี่พลถาม

“เปล่าคับ ผมไม่ได้มีอะไรกับดาราคนนั้น” ภีมตอบอย่างหนักแน่น

“แล้ววันนั้นเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่พี่กับพายเห็นมันเป็นเรื่องจริงไม่ใช่หรอ” ผมถามภีม

“วันนั้นผมไม่ได้มีอะไรกับมายจริงๆคับ เขาขโมยคีย์การ์ดห้องไปจากผม เขาแกล้งล้มทับผมตอนที่ทำงานแล้วแอบหยิบคีย์การ์ดไป ตอนนั้นผมไม่ได้ฉุกคิดอะไร แค่คิดว่าทำหายไปเฉยๆ แล้ววันนั้นมายก็ใช้คีย์การ์ดที่ขโมยไปเข้ามาตอนที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่พอดี พอผมหันมาเห็นมายก็เห็นพี่พายยืนอยู่แล้ว ทั้งหมดไม่มีอะไรเลยจริงๆนะคับ หลังจากนั้นผมก็ไล่มายออกจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัททั้งหมด ไม่ได้ข้องเกี่ยวกันอีก” ภีมพูดอธิบายอย่างจริงจัง

“แล้วที่มีข่าวมาตลอดละ ว่าไปเที่ยวกัน ไปดูหนังกัน” ผมถาม

“เป็นแค่ข่าวที่มายปล่อยออกไปเท่านั้น นอกจากเรื่องงานผมไม่เคยไปไหนมาไหนกับมายเลยนะคับ”
 
“พี่จะแน่ใจได้ไงว่ามันเป็นเรื่องจริง” พี่พลถาม

“เช็คข่าวตอนนี้ก็ได้คับ ผมจัดการมายให้ออกไปจากชีวิต และทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับผมแล้ว และเลขาพี่ชายผมก็เป็นพยานได้ว่าผมไม่มีอะไรกับมายจริงๆ”

“พี่เชื่อเรา” พี่พลบอกหน้านิ่ง

“แต่...” ผมยังไม่อยากเชื่อ พอจะพูดอะไรพี่พลก็ห้ามผมไว้ซะก่อน

“ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้คนเดียวที่ผมรักก็คือพี่พาย ไม่มีวันเปลี่ยนใจคับ” ภีมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มั่นใจ และจริงจัง

“ที่พี่มาคุย ไม่ใช่แค่เรื่องที่เข้าใจผิดกัน แต่พี่มีเรื่องที่จะต้องบอกภีม” พี่พลบอกก่อนจะทำหน้าดูจริงจังมาก

“คับ”

“พายท้อง”

“ท้อง!!!” ภีมดูตกใจ แต่ก็นิ่งไปเหมือนใช้ความคิด

“ตอนนี้ก็ท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว” พี่พลบอกต่อ

“แต่พี่พายเป็นผู้ชาย” เสียงภีมยังคงสับสน

“พี่คงไม่ต้องบอกนะว่าพายท้องกับใคร” พี่พลพูดเสริม

“กับผม? พี่พายท้องกับผมหรอคับ” ภีมพูดทวนคำตอบอย่างสับสน และดูตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน

“เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณสองปีก่อน ที่พวกเรามาเที่ยวที่บ้านพายกัน ตอนนั้นหวานก็มาด้วย แล้วตอนที่พายเมาหวานก็แอบฉีดสารที่ใช้ในการทดลองให้พาย หวานแอบขโมยสารมาจากลูกพี่ลูกน้องที่ทดลองเรื่องนี้อยู่” ผมอธิบาย

“ตอนนั้น ที่พี่พายปวดท้องตอนเช้าเพราะแบบนี้หรอคับ” ภีมถาม

“ใช่ พายเลยท้องได้” ผมตอบภีม

“ถ้าพี่พายท้องกับผม ผมก็ยิ่งต้องอยู่กับพี่พาย ให้ผมเจอพี่พายเถอะนะคับ” ภีมดูร้อนร้นขณะขอร้องผมกับพี่พล

“พี่จะพาเราไปเจอพาย พูดทุกอย่างที่ต้องพูด พายก็ใจอ่อนลงมากแล้ว ไม่งั้นคงไม่ตั้งชื่อลูกให้คล้ายชื่อพ่อขนาดนั้น” พี่พลบอก

“พี่พายตั้งชื่อลูกแล้วหรอคับ ผู้หญิงหรือผู้ชายคับ” ภีมดูตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“ผู้ชาย พายตั้งชื่อว่า ภาม” ผมบอก

“ภาม” ภีมเอ่ยก่อนจะยิ้มออกมา เขาดูกลับมาเป็นโคตรเดือนที่ยิ้มง่ายเหมือนเมือก่อนในทันที

“แล้วพี่พายอยู่ที่ไหนคับ” ภีมถาม

“ฝั่งนู้น” พี่พลบอกพลางชี้ไปที่เกาะกลางแม่น้ำฝั่งตรงข้าม

“พี่พายอยู่ที่นั้นหรอคับ ผมเฝ้าตามหาพี่พายมาตลอดสี่เดือน เขากลับอยู่ใกล้แค่นี้” ภีมพูดก่อนที่จะมองไปที่ฝั่งนั้นด้วยสายตาห่วงหาอาทร

“มาสิเดี๋ยวพี่พาไปเรือนบุหลัน” พี่พลบอกก่อนจะเดินไปที่เรือ โดยมีผม และภีมตามไป

“เรือนบุหลัน?” ภีมถาม ขณะที่พี่พลพายเรือออกมาจากท่า

“เกาะกลางน้ำนั้นเป็นพื่นที่ของครอบครัวพี่เหมือนกัน บนนั้นจะมีเรือนไม้หลังหนึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยคุณย่าทวด และตั้งชื่อว่าเรือนบุหลัน ร่มเย็น เงียบสงบ พายก็ดูชอบมากเหมือนกัน” พี่พลเล่าให้ภีมฟัง

“ชื่อเพราะจังนะคับ แล้วเราต้องพายเรืออ้อมไปหรอคับ” ภีมถามเพราะเราไม่ได้พายเรือไปจอดตรงๆ

“ท่าเรือของเรือนบุหลันกลางน้ำอยู่ด้านหลังไปทางแม่น้ำอีกสาย” ผมบอกก่อนที่เรือจะแล่นผ่านจนถึงด้านหลัง มีร่มไม้สูงตลอดทาง ดูร่มเย็นมาก เพราะแสงส่องผ่านไม่เยอะเท่าไหร่


พอมาถึงท่าน้ำ พี่พลกับผมก็ขึ้นมาผูกเรือไว้กับท่า ส่วนภีมตามขึ้นมาที่หลังก็มองสำรวจรอบตัว

“ทางเข้าของแม่น้ำสายนี้ดูลึกลับน่าดู พี่พายอยู่คนเดียวที่นี้หรอคับ” ภีมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ใช่ แต่ไม่ต้องห่วงว่าไม่ปลอดภัย ที่แถวนี้ยังเป็นที่ของที่บ้านพี่อยู่ ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก” พี่พลบอก

“เราจะไปส่งภีมที่เรือนบุหลันไหมคับ” ผมถามพี่พล

“ส่งแค่นี้แล้วกัน ภีมเดินขึ้นบันไดตามทางไปก็เจอเรือนบุหลันแล้ว ถึงจะดูเหมือนเป็นป่า แต่ไม่ได้กว้างอย่างที่คิดหรอก” พี่พลบอกภีม

“ของคุณคับพี่พล พี่กิต” ภีมบอกก่อนจะเดินขึ้นไป ส่วนผมก็ทำท่าจะขึ้นเรือ แต่ก็โดนพี่พลดึงไว้ซะก่อน

“อะไรคับ” ผมถาม

“ไปแอบดูกัน” พี่พลบอกยิ้มๆ

“ไหนบอกจะให้ภีมไปเอง” ผมถาม

“แต่พี่ไม่ได้บอกว่าจะไม่แอบดูนิ” พี่พลบอกก่อนจะจูงผมแอบตามภีมไปติดๆ โดยไม่ให้เข้ารู้ตัว



ภีมหยุดอยู่ที่หน้าเรือน มองไปเขาก็จะเห็นพายนอนหลับอยู่ตรงชานระเบียง โดยมีพัดลมพัดให้ผมปลิวเล็กน้อย ยังกับดูฉากสวยๆของละครอยู่ยังไงยังงั้น

“พี่พาย” ภีมเรียกชื่อพายออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงที่ฟังก็รู้ว่าเต็มไปด้วยความคิดถึง แต่พอภีมจะเดินเข้าไปพี่หมอนัทกับพี่เจนนี่ก็เดินออกมา ภีมเลยรีบหลบข้างทาง เขาคงไม่อยากเจอพายพร้อมคนอื่น

“พายคับ” พี่หมอแตะตัวพายเบาๆเป็นการปลุก แต่สายตานี่บอกได้เลยว่าไม่มีใครดูไม่ออกว่าชอบพายมากแค่ไหน

“ปล่อยน้องนอนไปก่อนก็ได้ นี่ก็ท้องโตมากแล้ว” พี่เจนนี่บอก

“เราจะกลับกันเลยหรอ กูอยากอยู่กับน้องเขาอีกหน่อย” พี่หมอนัทพูดซะผมจะอ้วกเลย น้ำเสียงเลี่ยนๆยังไงไม่รู้

“มึงเป็นแค่หมอนะ ไม่ใช่ผัวน้องเขา” พี่เจนนี่ว่าไปทีคับ

“แต่น้องเขาก็ไม่มีผัวนี่  กูก็มีสิทธิสิวะ” พี่หมอนัทพูดอย่างมั่นใจ
 
“ใครว่าไม่มีคับ เป็นหมอพูดแบบนี้กับคนไข้ ดูไม่มีจรรยาบรรณเลยนะคับ” ภีมที่คงทนไม่ไหว เดินเข้าไปหา

“จะมีเรื่องเปล่าเนี่ย ไปห้ามไหม” ผมถามพี่พล

“ดูสถานะการณ์ไปก่อน อย่าพึ่งเข้าไป” พี่พลบอกอย่างใจเย็น

“น้องเป็นใครคับ” พี่หมอนัทถาม

“ผมก็เป็นสามีพายไงคับ” ภีมพูดอย่างมั่นใจ

“สามี!!!” พี่หมอนัทกับพี่เจนพูดพร้อมกัน ด้วยความที่สองคนนี้พูดเสียงดัง พายเลยตื่นเลยคับ

“มีอะไรหรอคับพี่หมอ พี่เจนนี่” พายถามสองคนนั้น่ก่อนจะมองมาเห็นภีม

“ภีม!!!”

“คับผมเอง” สิ้นคำภีมสายตาพายก็เต็มไปด้วยความห่วงหาอย่างปกปิดไม่มิด ก่อนจะเมินหน้าไปทางอื่น

“มาที่นี่ได้ไง” พายถาม

“พี่พลกับพี่กิตพามาคับ” ภีมบอก

“พี่พลกับไอ้กิตหรอ!!!” พายดูตกใจที่ภีมบอกแบบนั้น

“อย่ามาโกหก พี่ไม่เชื่ออะไรเราอีกแล้ว” พายพูดทั้งๆที่น้ำตาคลอ

“ฟังผมอธิบาย ให้โอกาสผมหน่อยนะคับพี่พาย” ภีมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน

“ไม่ พี่หมอนัทพาพายเข้าเรือนทีคับ” ไอ้พายมันกำลังดึงพี่หมอนัทมาร่วมในเรื่องวุ่นๆซะแล้ว

“ให้สามีเขาพาเข้าไปดีกว่าคับคุณหมอ” พี่พลอยู่ดีๆก็เดินออกไปโดยไม่บอกผมสักคำ

“พี่พล” พายเรียกชื่อพี่มันเหมือนกำลังจะถามว่าเข้าข้างภีมทำไมอะไรแบบนั้น

“เรื่องของคนสองคน คนนอกไม่ควรเข้าไปยุ่ง จริงไหมคับคุณเจนนี่ คุณหมอนัท” พี่พลมองสองคนนั้นเหมือนกับจะให้รู้ว่ากำลังทำตัวเป็นส่วนเกินอยู่

“เออ คะๆ คุณพลก็พูดถูก งั้นเจนนี่กับนัทต้องขอตัวกลับก่อนนะคะ” พี่เจนนี่พูดก่อนจะลากพี่หมอนัทออกไปด้วยกัน พอสองคนนั้นเดินไปจนลับตา พี่พลก็เดินขึ้นเรือนไปหาพาย

“ภีมมาพยุงพายเข้าไปข้างในสิ” พี่พลหันมาเรียกภีม

“พี่พล” พายเรียกพี่พลด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“ก็อยากเข้าไปข้างในไม่ใช่หรอ” พี่พลว่า

“ไม่อยากเข้าแล้ว”พายดูท่าจะเริ่มงอนละคับ ตั้งแต่ท้องเนี่ยมันทำตัวเป็นเด็กๆเลย

“งั้นก็คุยกับภีมตรงนี้”

“มะ...”

“อย่าปฏิเสธ โตแล้วนะพาย กำลังจะเป็นแม่คนแล้วด้วย ใช้เหตุผลฟังภีมอธิบายก่อน” พี่พลดุพายไป พายก็ยิ่งทำท่างอนคับ ผมอดส่ายหน้าในความงี่เง่าของมันไม่ได้จริงๆ

“ไปกันกิต ให้สองคนนี้เขาปรับความเข้าใจกัน” พี่พลบอกแล้วจูงผมออกมาทันที

“ใช้เหตุผลนะพาย ถ้าไม่ฟัง ก็ไม่ต้องออกไปจากเรือนบุหลันทั้งคู่เนี่ยแหละ” พี่พลพาผมมาขึ้นเรือ แล้วก็ปลดเชือกเรืออีกลำที่จอดไว้สำรอง ก่อนจะพายเรือและลากเรือสำรองที่พึ่งปลดเชือกไปออกมา คราวนี้ท่าเรือของเรือนบุหลันก็ไม่มีเรือให้เข้าออกได้อีก

“แน่ใจว่าจะทิ้งสองคนนั้นไว้แบบนี้อะพี่” ผมถามด้วยความเป็นห่วง

“วิธีนี้เท่านั้น สองคนนั้นถึงจะคุยกันได้สักที” พี่พลบอกพร้อมทำหน้าโล่งใจ ผมก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะใช้ความรักคุยกันมากกว่าใช้อารมณ์...




TBC... :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 23-03-2017 16:31:40
รอเขาเคลียร์กัน
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-03-2017 17:02:40
มาให้กำลังใจเดี๋ยวมาอ่าน

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-03-2017 18:16:01
พี่พลทำถูกต้องแล้ว

คราวนี้ควรทำหน้าที่พี่ชายดีมากๆ

พายก็ฟังภีมแก้ตัว เฮ้ย..อธิบายก่อนนะ

เห็นแล้วสงสารภีมมากๆ

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-03-2017 18:33:41
พี่พลทำถูกต้องแล้ว

คราวนี้ควรทำหน้าที่พี่ชายดีมากๆ

พายก็ฟังภีมแก้ตัว เฮ้ย..อธิบายก่อนนะ

เห็นแล้วสงสารภีมมากๆ

เห็นด้วย
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 23-03-2017 19:22:07
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 23-03-2017 19:39:23
พี่พลทำดี ได้ใจ~~~~
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 23-03-2017 19:45:07
แม้ภีมจะผิด แต่รับกรรมมาสี่เดือนแล้ว ดูท่าคราวนี้คงเข็ดไปอีกนาน พายก็ยังรักอยู่ อภัยให้เขาเถอะ  ลูกก็ใกล้คลอดแล้ว
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-03-2017 22:25:10
จะได้เคลียร์กันซักที  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 23-03-2017 23:10:48
ใจอ่อนเถอะพาย อย่าทรมานตัวเองเลย
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 29-03-2017 01:17:09
 :mew1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 17 (23/03/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 06-04-2017 17:28:05
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านนะค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยไม่ได้มาลงตอนต่อไป แต่ถ้าพรุ้งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาดจะมาลงตอนต่อไปนะค่ะ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 18 (07/04/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 07-04-2017 15:01:57
ตอนที่ 18 เพราะรัก


พาย พาร์ท

ผมมองพี่พลกับไอ้กิตเดินจากไปอย่างไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่เจอภีมตั้งหลายเดือน พอเห็นเขาตอนแรก เขาดูไม่เหมือนผู้ชายที่ผมเห็นตอนจากมาเลยสักนิด เขาดูโทรม และเศร้า ผมเกือบจะลุกไปหาเขาด้วยซ้ำ แต่พอนึกถึงเรื่องวันนั้นก็อดที่จะโกรธเขาไม่ได้ จนต้องเมินหน้าหนีเขาในทันที

“พี่พายคับ” เขาเรียกผมเสียงอ่อน ผมหันมามองใบหน้าเขาที่ไม่เหลือเค้าโครงของโคตรเดือนเลยสักนิด หนวดเคราที่ไม่โกนนั้น กับตาเศร้าๆกำลังทำให้ผมใจอ่อน ผมกำลังจะลุกหนีเขาเข้าไปในเรือน แต่ด้วยท้องที่โตขึ้นทำให้ลุกอย่างลำบาก จนภีมต้องเข้ามาช่วยพยุง

“ปล่อย!!!” ผมบอกเขาเสียงดัง แต่เขาก็ยังโอบตัวผมไว้แน่น

“ไม่คับ เดี๋ยวล้มไปจะทำยังไง ลูกเรายังไม่ครบกำหนดคลอดเลยนะคับ” ภีมพูดติดจะดุผมนิดหน่อย

“ลูกของพี่ตะหาก” ผมรีบค้านในทันที ก็คนมันโกรธปากก็เลยไวตาม

“ลูกของเราคับ ก็พี่เป็นเมียผมนี่นา” ภีมพูดพลางยิ้มให้ผม แต่หน้าที่ดูซูบซีด ถึงแม้จะยิ้มก็ไม่ได้ทำให้เขาดูสดใสขึ้น ยิ่งเห็นใกล้ๆผมยิ่งปวดใจ อยากจะสัมผัสหน้าเขาขึ้นมา ตอนนี้ผมพยายามเก็กหน้านิ่งที่สุด แต่มือของผมก็ดันไปสัมผัสหน้าเขาโดยไม่รู้ตัว

“ไม่สบายรึเปล่า” พอรู้ตัวว่าผมสัมผัสหน้าเขา ผมก็อดไม่ได้ที่จะถามเขาถึงสิ่งที่ผมคิดตั้งแต่เห็นหน้าเขาครั้งแรก ยิ่งมองใกล้ๆสภาพของภีมก็ยิ่งทำให้ผมทนโกรธเขาต่อไปไม่ไหว

“ผมคิดถึงพี่ คิดถึงจนแทบบ้า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า และเหนื่อยล้า ก่อนจะกุมมือผมที่แนบแก้มเขาเอาไว้พร้อมกับถูแก้มของตัวเองเข้ากับมือของผมอย่างหวงแหน

“ภีม” ผมได้แต่เรียกชื่อเขาเท่านั้น

“ผมไม่เคยมีอะไรกับมาย ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพราะมายจัดฉากทั้งหมด พี่จะเอาหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดที่คอนโดผมวันนั้น หรือจะเอาหลักฐานอะไรก็ได้ที่ผมมีตอนนี้เพื่อให้พี่มั่นใจว่าผมมีแค่พี่คนเดียว ผมรักแค่พี่คนเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ใช่พี่ผมก็ไม่ต้องการใครอีก ขอร้องนะคับ...อย่าทิ้งผมไปได้ไหม” คำพูดและน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยคำอ้อนวอน จนผมไม่อาจต้านทานเขาได้อีกแล้ว

ผมดึงภีมเข้ามาในอ้อมกอดทันที เขากอดผมแน่นขึ้นซุกหน้าลงที่ไหล่ของผม และร้องไห้ออกมา ผมก็ร้องไห้ด้วยเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงปวดใจขนาดนี้ ทรมานขนาดนี้ ผมคงรักภีมมาก มากจนตอนนี้ผมไม่อยากออกจากอ้อมกอดเขาเลย เราอยู่ในอ้อมกอดของกันละกันเป็นชั่วโมงจนมืดค่ำ เขาพยุงผมเข้าเรือนโดยที่เราไม่ได้พูดอะไรกันเลย


ตอนนี้ผมเข้าไปอาบน้ำ ส่วนภีมก็นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น ระหว่างที่อาบน้ำผมก็ได้แต่คิดถึงคำพูดของเขา ผมรู้ว่าผมเชื่อคำพูดของเขาได้ เขาดูโทรมขนาดนั้นเพราะตามหาผม ผมไม่อยากทรมานเขาอีกแล้ว

ผมแต่งตัวออกมาหาเขาที่นั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น ภีมที่จุดตะเกียงรอบบ้านเสร็จพึ่งจะนั่งลง เขามองมาที่ผมด้วยสายตาที่คล้ายจะถาม และอ้อนวอนผมในคราวเดียวกัน

“ไปอาบน้ำสิ” ผมบอกเขาพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดตัวให้เขาไปด้วย ภีมยิ้มก่อนจะทำตามที่ผมบอก พอเขาเข้าห้องน้ำไปแล้วผมก็เก็บเสื้อผ้าที่เขาถอดทิ้งไว้ และเตรียมชุดใหม่วางไว้ให้เขาบนเตียง

พอเขาออกมาจากห้องน้ำ ผมได้มองเขาสภาพกึ่งเปลือยเต็มๆตา เขาดูผอมมากที่เดียว ผมหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูกจึงเดินหนีออกมารอที่ห้องนั่งเล่น

“หิวรึเปล่า” ผมถามตอนเขาเดินออกมา

“ไม่ค่อยหิวคับ” เขาตอบ

“ไม่ค่อยก็แปลว่าหิว ไปกินข้าวสิ มีข้าวอยู่ในหม้อ กับข้าวอยู่บนโต๊ะอาหารในครัว ลองเปิดฝาชีดูว่ากินได้ไหม ถ้ากินไม่ได้พี่จะทำไข่เจียวให้” กับข้าวที่มีก็เป็นน้ำพริกกะปิคับ ผมกลัวว่าเขาจะกินไม่ได้เพราะมันเผ็ดมาก น้ำพริกเผ็ดๆเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบกินตอนท้องแบบนี้

ภีมเดินเข้าไปกินข้าวในห้องครัวอย่างว่าง่าย ก่อนที่ผมจะเดินตามเข้าไปดู ผมเห็นเขาเหงื่อแตกพอสมควรระหว่างกินข้าวกับน้ำพริก เขากินผักที่ผมเตรียมไว้เกือบหมด ผมว่าแล้วว่าคงเผ็ดเกินไป

“ถ้ากินไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนกิน เดี๋ยวพี่ทำไข่เจียวให้” ผมบอก

“ไม่เป็นไรคับ ผมกินได้ พี่กำลังท้องอยู่ จะให้มาทำอะไรแบบนี้ได้ไง” ภีมรีบเดินมาหาผมก่อนที่ผมจะเปิดตู้เย็นหยิบไข่ออกมา

“ทำได้ ไปนั่งรอเดี๋ยวนี้ ดูซิเหงื่อแตกเยอะขนาดนี้ยังบอกว่ากินได้อีก” ผมดุเขาไปที ก่อนจะเริ่มทอดไข่ ระหว่างที่ผมถอดไข่ภีมก็เดินมายืนดูผมข้างๆ

“ให้ผมทำดีกว่าคับ” ภีมบอกผม

“ไม่เป็นไร คราวก่อนภีมก็ทอดไหม้ไปทีนึงแล้ว” ผมบอกเขาพลางนึกถึงครั้งที่อยู่ด้วยกันเมื่อก่อน ภีมเคยอยากทำอาหารให้ผมกิน ตอนแรกเขาไปซุปเปอร์มาเก็ตซื้อของตั้งมากมาย กับตำราอาหาร ผมเลยบอกให้เขาลองทอดไข่ดูก่อนว่าเป็นไง ปรากฏว่าไหม้หมดเลย สุดท้ายมือนั้นผมเลยต้องทำให้เขาทานตามเดิม

“ผมคิดถึงพี่ คิดถึงตอนพี่ทำอาหารให้ผมกินแบบนี้ที่หอ คิดถึงตอนที่พี่แสดงออกว่าห่วงใยผม คิดถึงจนกลัวว่าที่เห็นอยู่นี้เป็นแค่ความฝัน” เขาพูดพลางกอดผมจากด้านหลังแล้วซุกหน้าที่ซอกคอผม

“พี่ก็คิดถึง” ผมบอกเขาตามที่ใจคิด ภีมก็กระชับกอดผมแน่นขึ้น


หลังจากภีมทานข้าวเสร็จเราก็มานั่งเล่นกันที่หน้าชานเรือนที่จุดตะเกียงสว่างไสวเต็มไปหมด พร้อมกับเปิดพัดลมไล่ยุง ผมนั่งพิงหมอนสามเหลี่ยม ส่วนภีมก็เอาหัวมาหนุนตักผม

“ผมขอโทษ” ภีมพูดขึ้นมา

“ภีมบอกว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น แล้วจะขอโทษทำไม” ผมถามพลางลูบหัวเขาเบาๆ

“ผมขอโทษที่ผมประมาท ขอโทษกับความโง่ของผม ผมทำให้พี่เสียใจ ทำให้พี่ต้องมาอุ้มท้องลูกอยู่คนเดียวแบบนี้” เขาพูดพลางเอาหน้าแนบกับท้องของผม

“ถือซะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน วันหน้าอย่าให้เกิดเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้นอีก” ผมบอกเขาอย่างอ่อนโยน

“ผมสัญญาคับ ผมจะไม่พลาดอีกแน่นอน”

ตุบ---ตุบ ผมรู้สึกตึกๆที่ท้อง เจ้าตัวแสบถีบอีกแล้ว

“พี่เป็นอะไรรึเปล่าคับ” ภีมรีบถาม เพราะภามคงถีบโดนแก้มเขาที่แนบกับท้องผมเต็ม

“ลูกถีบหน่ะ” ผมบอก

“ถีบพ่อแทนแม่หรอคับภาม” ภีมพูดพลางเอาแก้มแนบที่ท้องผมอีกครั้ง

ตุบ---ตุบ ดูเหมือนเจ้าตัวแสบจะถีบแทนคำตอบ

“พี่พลบอกว่าพี่ตั้งชื่อลูกว่าภามหรอ” ผมถามเขา

“ใช่คับ ชื่อนี้ก็คล้องกับเราสามคนดีนะคับ ภีม ภาม พาย” เขาพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะจูบที่ท้องผมเบาๆ

“อืม” ผมตอบรับอย่างยิ้มๆ และไม่นานภีมก็หลับไป

ผมได้แต่ลูบหน้าเขาที่หลับสนิทอยู่ที่ตักของผม เขาดูผ่อนคลาย และหลับสบาย ผมก็สบายใจไปด้วย ผมเฝ้าคิดถึงเขามาตลอด วันนี้เขามานอนอยู่กับผมแล้ว ผมก้มลงไปจูบที่หน้าผากเขาเบาๆ ก่อนจะเขย่าตัวปลุกให้เขาไปนอนข้างใน ไม่งั้นยุ่งกัดแย่เลย

“ภีม ภีมคับ”

“คับ พี่พายปวดตรงไหนรึเปล่าคับ” เขาสะดุ้งตื่นมาสำรวจผมในทันที

“เปล่า พี่ไม่ได้เป็นอะไร แค่จะปลุกให้ภีมเข้าไปนอนข้างใน เดี๋ยวยุงกัด” ผมบอกเขา

“อ่อคับ” เขาลุกขึ้น และพยุงผมเข้าไปในเรือนพร้อมกัน

คืนนี้ผมนอนกับภีมบนเตียง ผมอนุญาตเขาเองแหละคับ การมีเขานอนด้วยก็ดีเหมือนกัน เพราะผมจะได้ไม่ต้องใช้เสื้อของเขามาดมก่อนนอนอีก


“ภีม ภีม” ผมเขย่าตัวปลุกเขา

“คับผม” เขาตอบรับพลางงัวเงียมองหน้าผม

“สายแล้วคับไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวเราไปทานอาหารที่บ้านแม่พี่กัน”

“ได้คับ” เขาดูว่าง่ายเหมือนที่เคยเป็น ระหว่างที่ภีมไปอาบน้ำผมก็นั่งอ่านนิยายรอเขาหน้าเรือน หน้าเรือนบุหลันเป็นที่ๆผมรู้สึกสบายที่สุด ร่มเย็น และมีลมพัดมาตลอด การมาอยู่ที่นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมใจเย็นลง

ตุบ—ตุบ เจ้าตัวเล็กถีบอีกแล้วคับ

“หิวแล้วหรอคับคนเก่ง” ผมลูบท้องพลางพูดกับลูกในท้องไปด้วย

“เดี๋ยวนี้ถีบบ่อยนะคับ ดีใจที่เจอคุณพ่อหรอคับ” ผมยังคงพูดหยอกล้อกับลูกในท้องเหมือนที่ผมทำประจำ ผมมักจะหาเรื่องมาคุยกับเขาทุกๆวัน เขาตอบรับผมเสมอ แค่รู้สึกว่าเขาแข็งแรงผมก็ดีใจคับ

ตุบ—ตุบ “ตอบรับหรอคับคนเก่ง” ผมลูบท้องก่อนที่ภีมจะลงมานั่งข้างๆ

“คิดถึงจังเลยคับคนเก่งของพ่อ” ภีมมาถึงเขาก็เอาหูมาแนบท้องผมทันที

“ภีมไม่รู้สึกแปลกที่พี่ท้องได้หรอ” ผมถาม

“ไม่คับ ผมดีใจซะอีกที่พี่มีลูกกับผม แค่นี้พี่ก็หนีผมไม่พ้นอีกแล้ว มีภามเป็นโซ่ทองคล้องใจขนาดนี้” เขาบอกพลางยิ้มให้ผม ก่อนที่จะจูบลงที่ท้องผมอย่างแผ่วเบา

“คิดอะไรเจ้าเล่ห์จริงๆ พี่ว่าโกนหนวดซะหน่อยไหมคับ” ผมถามเขา เพราะหนวดมันครึมจริงๆ

“พี่มีมีดโกนหรอคับ” เขาถามผม

“มีคับ อยู่ในห้องน้ำ ตรงตู้หลังกระจก” ผมบอก ก่อนที่ภีมจะลุกเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ แต่ผมรู้สึกว่าเขาคงจะโกนหนวดด้วยมีดโกนแบบนั้นไม่เป็นแน่ๆ เพราะเป็นมีดโกนจริงๆไม่ใช่ที่โกนหนาดแบบที่ขายในห้างสรรพสินค้า พี่พลชอบโกนด้วยมีดโกนแบบธรรมดา เขาเลยเอามาทิ้งไว้ที่เรืองบุหลัน เพื่อเขาและไอ้กิตมาค้างเป็นเพื่อนผม

พอผมเดินมาถึงหน้าห้องน้ำก็เป็นอย่างที่คิดคับ ภีมดูเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าประจก พอเห็นผมเขาก็ยิ้มให้ผมแบบคนที่มีความสุขจนล้นออกมา เห็นแล้วน่าหมันไส้อยู่เหมือนกัน

“มาคับ เดี๋ยวพี่โกนให้” ผมบอกเขาก่อนที่จะเข้าไปยืนตรงหน้าเขา แล้วหยิบมีดโกนจากมือเขามา

“ผมไม่อยากให้พี่ยืนนาน ผมทำเองดีกว่าคับ” เขาจับเอวผมไว้เป็นเหมือนการบอกว่าผมท้องอยู่นะ

“งั้นมานี้” ผมบอกพลางจูงมือเขาออกมานั่งที่พื้นในห้องนั่งเล่น ส่วนผมนั่งบนเก้าอี้พร้อมผ้าหนึ่งผืนวางใกล้ๆ

“แบบนี้พี่ก็ไม่เมื่อยแล้ว ยื่นหน้ามาคับ” ผมบอกเขาพร้อมยิ้มให้กับความน่าเอ็นดูของผู้ชายที่ยื่นหน้าให้ผมโกนหนวดอย่างว่าง่าย

“ผมรักพี่มากนะคับ” เขาบอกรักผมอีกแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานเขาก็บอกรักผมตลอดที่มีโอกาส

“พี่รู้” ผมบอกเขา

“ถึงพี่รู้แล้ว แต่ผมก็อยากบอกอยู่ดี เพื่อทดแทนเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน” เขาบอกพลางยิ้มให้ผม ผมชอบที่เขาดูสดใสขึ้น รอยยิ้มของเขาทำให้ผมยิ้มไปด้วย

“พี่ก็รักภีม รักมากเหมือนกัน อยู่นิ่งๆได้แล้วคับ เดี๋ยวมีดโกนบาดเอา” ผมบอกเขา

พอโกนหนวดให้เขาจนเสร็จ เขาก็กลับมาดูเหมือนโคตรเดือนที่ผมรู้จักหน่อย ยิ่งมีรอยยิ้มที่ดูเหมือนผู้ชายที่มีความสุขตลอดเวลาแบบนี้ นี้แหละคนที่ผมรัก

“ผมรักพี่จัง” เขาบอกพลางเอาจมูกของตัวเองมาถูกับจมูกผม

“แล้วนี้ได้ไปเรียนบ้างรึเปล่า” ผมถามเขา

“ไปบ้างคับ เวลามีสอบ” เขาบอกขณะที่จมูกเขายังคลอเคลียอยู่ที่แก้มผม

“แล้วการเรียนเป็นยังไงบ้าง แค่สอบอย่างเดียวผ่านรึเปล่า” ผมถามเขาด้วยความกังวล ถ้าผมเป็นต้นเหตุให้เขามีปัญหาเรื่องการเรียนผมคงไม่สบายใจ

“ผมสอบผ่านสบายมากอยู่แล้วคับ” เขาตอบพร้อมยิ้มให้ผมแบบเด็กๆที่ภูมิใจในตัวเอง

“แบบนั้นก็ดีแล้วคับ” ผมบอกอย่างโล่งใจ

“พ่อเก่งใช่ไหมคับภาม” ภีมพูดพลางจูบที่ท้องผมอีกครั้ง 

“แล้วเรื่องงานละคับ” ยังมีอักเรื่องที่ผมเป็นห่วง ก็ภีมเป็นคนมีความรับผิดชอบเยอะนี่คับ

“ผมขอคุณพ่อพักเรื่องงานไว้ก่อนคับ ไม่มีพี่ผมก็ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น” เขาบอกก่อนจะกอดผม แล้วทำท่าอ้อนเป็นเด็กๆ

“ขี้อ้อนขึ้นนะเรา” ผมว่า

“ไม่เจอพี่ตั้งนาน อยากอ้อนให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ”

“พอเลย” ผมทำท่าดุเขาไปที

“ผมสัญญานะคับว่าจะเป็นพ่อที่ดีของลูก และเป็นสามีที่ดีของพี่ จะไม่มีวันทำให้พี่เสียใจอีก ขอร้องละคับ...แต่งงานกับผมนะ” เขาบอกพลางหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋า สงสัยที่เขาไปคุ้ยหาเสื้อผ้าตัวเองในตะกร้าผ้าของผมคงหาสิ่งนี้

“คับ” ผมตอบรับก่อนที่เข้าจะกอดผมเข้าเต็มรัก และสวมแหวนให้ผม

“คืนดีกันเร็วดีจริงๆ กูก็ลุ้นแทบแย่ว่ามึงจะฆ่าภีมตายไปรึเปล่า” ไอ้กิตที่พึ่งมาถึงก็แซวเลยคับ

“กูไม่ได้โหดขนาดนั้นนะ” ผมบอก

“อารมณ์มึงแปรปรวนจะตายใครจะไปรู้” ไอ้กิตยังคงเถียงผม

“พอเลยสองคน ปะไปกินข้าวที่บ้านกันได้แล้ว แม่เตรียมอาหารไว้ตั้งเยอะ” พี่พลบอกพลางเดินนำเรามาที่เรือเพื่อที่จะกลับไปทานข้าวที่บ้านคับ

“พี่พลแน่ใจได้ไงว่าผมจะยอมคืนดีกับภีม” ผมถามระหว่างที่นั่งเรือออกมา

“แค่เห็นหน้าไอ้เด็กนี้ก็ใจอ่อนซะขนาดนั้น” พี่พลบอก

“ใครใจอ่อน ตอนแรกที่เห็นตกใจเหอะ” ผมแถ

“ปากแข็ง” ไอ้กิตพูด

“กูเปล่า” ผมบอกก่อนจะนั่งหันไปมองแม่น้ำด้านข้างแทนไม่งั้นโดนต้อนจนมุมแน่

“เพราะพี่รักผมมาก ผมรู้” ภีมบอกพลางหอมผมไปที ทำเอาผมเขินไปเลย

“หวานจริง เลี่ยน” ไอ้กิตทำท่าจะอ้วก

“มึงก็บอกให้พี่พลหอมมึงดิ มาแขวะกูไม” ผมว่ามัน

“พี่หอมไปทั้งคืนแล้ว ให้กิตมันพักบ้าง” พี่พลพูดแบบนี้ ไอ้กิตนี้ไปไม่ถูกเลยคับ มันเลยรีบเปลี่ยนไปคุยเรื่องงานกับพี่พลแทน

“แถวนี้สงบดีนะคับ” ภีมพูดกับผม

“ใช่ อยู่แล้วสบายใจ” ผมบอก

“พี่จะกลับไปอยู่เรือนบุหลันอีกไหมคับ”

“พี่อยากอยู่ที่นั้นอีกสักพัก ภีมไม่ชอบเรือนบุหลันหรอ” ผมถามเขา

“เปล่าคับ ผมชอบมาก ผมเห็นว่าพี่อยู่ที่นั้นเพราะหลบผม แต่ตอนนี้เราก็เจอกันแล้ว”

“ขอพี่พักอยู่ที่เรือนบุหลันอีกสักหน่อยนะ” ผมบอกเขา

“แค่เดือนเดียวนะคับ พี่ใกล้คลอดแล้ว ผมอยากให้พี่ออกมาอยู่ข้างนอกมากกว่า อย่างน้อยอยู่บ้านคุณแม่พี่ได้ไหมคับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้อง กับสายตาที่เป็นห่วง

“พี่ก็เห็นด้วยกับภีมนะ เวลาคลอดจะได้ไม่ลำบาก” พี่พลหันมาบอกผม คงแอบฟังผมกับภีมอยู่แน่ๆ

“กูด้วย” ไอ้กิตก็ตามมาอีกคน ถ้ามติเป็นเอกฉันท์ขนาดนี้ ผมคงดื่อไม่ได้แล้วสิ

“ตกลงหรือไม่ตกลงคับ” ภีมถามพลางมองหน้าผมซะใกล้เลย

“ก็ได้ตามนั้น” ผมตอบ



“ในที่สุดก็ออกมาหาแม่ที่นี้ได้สักที ถ้าภีมไม่เข้าไปหา แม่คงต้องเห็นแกคลอดที่เรือนบุหลันแน่ๆ” แม่ผมท่านบ่นผมเล็กน้อยตอนที่ผมเดินเข้าบ้าน

“แม่อย่าบ่นพายสิคับ พายท้องอยู่นะ” ผมอ้อนท่าน

“แกก็ใช้มุขนี้ตลอด” แม่ผมพูดอย่างปลงๆ

“มากินข้าวกันมา” พ่อผมเป็นคนเรียกเราไปนั่งที่โต๊ะอาหารคับ

วันนี้อาหารเต็มโต๊ะไปหมด ภีมคอยตักนู้นตักนี้ให้ผมกินตลอด เขาดูแลผมอย่างดีเหมือนี่เขาชอบทำ วันนี้กลายเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด ผมได้อยู่กับคนที่ผมรักมากมาย



วันเวลาที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มีแต่ความทรงจำดีๆของผมกับภีมเต็มไปหมด ความทุกข์ที่เกิดขึ้นผมจะไม่เอามาใส่ใจอีก จากนี้ผมจะคุยกับเขาให้มากเวลามีปัญหา ผมจะได้ไม่ต้องเสียเขาไปอีก ผู้ชายคนแรกที่ผมรัก ผู้ชายที่ไม่สนว่าผมจะเป็นเดือนปีกทอง หรือคนที่ผ่านเรื่องอะไรมา เขายังคงรักผมด้วยความบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด...



“คิดอะไรอยู่คับคนดี” ภีมเดินเอาผ้ามาคลุมไหลให้ผม ขณะที่ผมนั่งอยู่ที่ริมน้ำยามเย็น

“คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาคับ พี่ดีใจที่ภีมมาอยู่กับพี่ตรงนี้ ดีใจที่ภีมได้ใช้เวลากับลูกก่อนที่ลูกจะคลอด สองเดือนที่ผ่านมาพี่มีความสุขที่สุด” ผมบอกเขา ตลอดเวลาตั้งแต่ผมคืนดีกับเขาวันนั้น ภีมเป็นคนที่ดูแลผมดีมาตลอด เขาใส่ใจผม และลูกในท้อง

“ผมรักพี่ และรักลูกของเรา”

“บางทีพี่ก็คิดว่าเร็วไปไหม เพราะภีมยังเรียนอยู่ พี่กลัวว่าพี่จะเอาชีวิตวัยรุ่นที่ควรจะมีของภีมไปรึเปล่า การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันคงไม่ง่าย” ผมบอกเขาตามที่ใจผมคิดมาตลอด

“ไม่คับ ผมยอมแลกทุกอย่าง เพื่อให้มีพี่อยู่ข้างๆผมตรงนี้ แค่นี้ผมก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว” เขาโอบกอดผมจากด้านหลัง

“ภีม พี่...โอ๊ยยย...ปวดท้อง” อยู่ดีๆ ผมก็ปวดท้องจนแทบจะทนไม่ไหว ดีที่ภีมพยุงผมไว้ไม่งั้นผมคงล้มไปที่พื้นแน่ๆ

“พี่ว่าพี่จะคลอดแล้ว” ผมบอกภีม

“คลอด!!!!!”



TBC :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 18 (07/04/17)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 07-04-2017 15:31:26
 o13
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 18 (07/04/17)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-04-2017 19:01:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 18 (07/04/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-04-2017 19:19:14
เป็นนายเอกที่ไม่งี่เง่าดี

แบบนี้ชอบมากๆ

สงสารภีมมากๆเลย

จะคลอดแล้วเหรอ

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 18 (07/04/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-04-2017 19:22:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 18 (07/04/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-04-2017 20:51:38
ดีกันซักที  :mew1: :mew1: :mew1:
ลูกภาม กำลังจะคลอด :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 18 (07/04/17)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-04-2017 22:06:55
จะเจอน้องภามแล้ว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 18 (07/04/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-04-2017 00:37:05
กว่าจะเข้าใจกันได้...
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 18 (07/04/17)
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 23-04-2017 00:54:59
 :a5รอ
หัวข้อ: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 ตอนจบ (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 17-05-2017 20:11:01
ตอนที่ 19 ครอบครัว


ภีม พาร์ท

พี่พายปวดท้องจนแทบจะทนไม่ไหว เขากำเสื้อผมไว้แน่ ในขณะที่ผมโทรศัพท์หาพี่เจนนี่

“พี่เจนนี่คับ พายจะคลอดแล้วคับ” ผมบอกพี่เจนนี่ทันทีที่พี่เขารับโทรศัพท์

“เฮ้ยยยย แย่ละ ภีมรีบพาพายมาที่โรงพยาบาลหมอนัทนะ เข้าทางด้านหลัง พวกพี่จะรอรับอยู่” พี่เจนนี่บอกผมด้วยความตกใจ แต่ยังดีที่พี่เขามีสติพอสมควร

“คับ ได้คับ ผมจะรีบพาพายไปทันที” ผมวางสายพี่เจนนี่ก่อนจะอุ้มพี่พายไปที่รถ โดยมีคุณพ่อกับคุณแม่พี่พายเดินตามมาด้วยความกังวล

“พี่เจนนี่กับหมอนัทจะเตรียมสถานที่ให้ อดทนไว้ก่อนนะคับที่รัก” ผมบอกพี่พายด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ก่อนจะจูบที่หน้าผากเขาเป็นการให้กำลังใจ

“ให้พายมานอนหลังรถกับแม่นะ จะได้นอนสบายๆ” พ่อพี่พายบอกทุกคน

“ทนหน่อยนะลูก” คุณแม่บอกพี่พายด้วยความเป็นห่วง

“ปวดท้องจังเลยคับแม่” พี่พายเสียงสั่น

“เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว” คุณแม่พยายามบอกปลอบพี่พาย ตอนนี้ทุกคนกังวลกันหมด

“ภามเตะท้องแรงมากเลย” พี่พายยังคงพูดเสียงสั่น

“อย่าทำแม่เจ็บสิคับภาม” ผมที่ขับรถอยู่เอื้อมมือไปจับท้องพี่พาย เพื่อบอกเจ้าตัวแสบที่อยู่ในท้องให้ช่วยพี่พายหน่อย ก่อนจะดึงมือกลับมาขับรถอย่างเร่งรีบที่สุดเท่าที่จะทำได้



“ภีมอุ้มพายขึ้นเตียงก่อน” พี่เจนนี่บอกผมให้อุ้มพี่พายขึ้นเตียง แล้วเขาก็เข็นพาห้องผ่าตัด

“ผมเข้าไปได้ไหมคับ” ผมถามพี่หมอนัทที่สีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างจากผม

“เราต้องผ่าตัด น้องรอข้างนอกดีกว่านะ” พี่หมอนัทบอกก่อนจะตบไหล่ผมเบา

“ไม่ต้องกังวล พวกพี่จะทำให้เต็มที่ พายและลูกจะปลอดภัย” พี่หมอนัทบอกผม เพราะผมคงสีหน้าไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเดินเข้าห้องผ่าตัดไป

“ผมจะรอพี่อยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัวนะคับ” ผมปล่อยมือจากพี่พายก่อนที่จะเขาเข้าไปในห้องผ่าตัด

เราทุกคนรอด้วยความเป็นห่วง ยิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งกังวล ผมกลัวไปสารพัด จนแทบจะนั่งไมติด คุณพ่อนั่งกุมมือคุณแม่ พวกท่านก็ดูกังวลมากเช่นกัน ผมได้แต่เดินวนไปมา

“เป็นไงบ้าง” พี่กิตที่พึ่งมาถึงถามผมอย่างร้อนใจ

“ยังไม้รู้เลยคับ พี่พายเข้าไปตั้งนานแล้ว” ผมบอกพี่กิต

“ใจเย็น” พี่พลบอกผม ผมได้แต่พยักตอบรับ แต่ยิ่งรอนานๆ ผมยิ่งรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า ผม่เลยต้องนั่งลงเพื่อระงับสติของตัวเอง



“เด็กกับแม่ปลอดภัย เดี๋ยวพี่จะเข็นเด็กไปห้องพักที่เตรียมไว้ก่อน” พี่เจนนี่ที่เดินออกมาบอก ทำให้เราทุกคนโล่งใจกันเป็นแถว ก่อนที่จะเข็นภามออกมา ผมรีบเดินไปยืนข้างๆเขา แต่ก็ไม่กล้าจับ เพราะผมยังไม่ล้างมือเลย ภามตัวเล็ก หน้ากลมเชียว เขาดูเหมือนเด็กทารกทั่วไป แต่ที่ไม่เหมือนคือความรู้สึกผมที่มีให้เขา ผมตื่นเต้น และตื้นตัน จนน้ำตาไหลออกมาเอง

“ภาม” ผมได้แต่เรียกชื่อเขาเบาๆ ลูกของผมกับพี่พาย ผู้ชายที่ผมรักที่สุด


ตอนนี้เราทุกคนมาอยู่ในห้องพักที่พี่เจนนี่กับพี่นัทเตรียมไว้ให้ พี่พายยังไม่ฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบ ส่วนเจ้าตัวเล็กอย่างภามก็ยังหลับอยู่ พี่พลที่ตามมาที่หลังเอาเสื้อผ้ามาให้ผมกับคุณพ่อคุณแม่ได้อาบน้ำ และเปลี่ยน เพื่อความสะอาด ผมถึงได้อุ้มภามสักที

ถึงจะดูเก้ๆกังๆ แต่ผมก็พยายามระวังที่สุด เขาดูบอบบางเหลือเกิน ผมน้ำตาไหลออกมาเองเฉยเลย มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมากสำหรับผม ผมไม่รู้ว่าทำตัวตัวเองถึงดีใจ และตื่นตันอะไรได้มากขนาดนี้...


“ภะ..ภีม” พี่พายเรียกผมที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงเขา

“คับ เป็นไงบ้างคับ เจ็บตรงไหนรึเปล่าคับ” ผมรีบถามเขาด้วยความเป็นห่วง

“ภามละ” พี่พายถามพลางมองไปรอบๆ

“พี่หมอนัทพาไปตรวจเดี๋ยวก็กลับมาคับ” ผมจับมือพี่พายไว้ด้วยความเป็นห่วง เพราะหน้าเขายังดูเหมือนคนไม่มีแรงอยู่เลย

“อืม” พี่พายตอบรับอย่างเหนื่อยล้า

“พักผ่อนอีกสักหน่อยนะคับ ถ้าภามกลับมา ผมจะปลุกพี่ทันที” ผมบอกพลางจูบหน้าผากพี่พายไปที

แอ๊ด---ประตูเปิดพร้อมพี่หมอนัทอุ้มภามเข้ามาพอดี

“ตื่นแล้วหรอคับพาย” พี่หมอนัททัก

“คับ ผมขออุ้มภามได้ไหมคับ” พี่พายรีบบอกหมอนนัททันที ก่อนที่หมอนัทจะยืนภามให้พี่พายอุ้ม ลูกของเรายังคงหลับสนิท

“ภาม...” พี่พายพูดแค่นั้น น้ำตาเขาก็ไหลออกมา ผมยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้พี่พาย เขามองผมพร้อมรอยยิ้มที่ผมชอบที่สุด

“ลูกของเรา” พี่พายพูด

“ใช่คับลูกของเรา” ผมกอดพี่พายเอาไว้ระหว่างที่เขาอุ้มภามอยู่ ผมมีความสุขมากที่วันนี้ผมมีครอบครัวที่สมบูรณ์กับคนที่ผมรักที่สุด...




หนึ่งปีผ่านไป

พาย พาร์ท

วันนี้ผมมีนัดกับภีมที่มหาลัย เพราะว่าเขาต้องซ้อมร้องเพลงให้กับงานประกวดดาวเดือนปีล่าสุด ทางมหาลัยเห็นว่าภีมได้รับฉายาโคตรเดือน จึงอยากให้ภีมมาแสดงอะไรในปีสุดท้ายก่อนเขาจบสักหน่อย
ผมอุ้มเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนที่ดูท่าจะตื่นเต้นกับสิ่งรอบตัวน่าดู คงเพราะพึ่งตื่นนอนเลยคึกแน่ๆ ตอนนี้ภามอายุได้ 1 ขวบแล้วคับ ออกเสียงเรียกได้บ้างแล้ว คำแรกที่เจ้าตัวเล็กเรียกได้คือ แม่ ผมตกใจไม่น้อยตอนได้ยินเสียงเรียกจากเขาครั้งแรก ส่วนคำต่อมาที่ภามเรียกได้คือ พ่อ ทำเอาภีมที่ได้ยินยิ้ม ร้องตะโกนด้วนความดีใจใหญ่ที่ภามเรียกเขาว่าพ่อ ผมอดขำไปกับท่าทางเหมือนเด็กๆของเขาไม่ได้เลยจริงๆ

ครืด---ครืด ผมหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าอย่างลำบากสักเล็กน้อย

--พี่พายถึงยังคับ ไอ้ภีมให้ผมโทรถามพี่— เจตเพื่อนภีมเป็นคนโทรหาผม

“ถึงแล้ว กำลังเดินเข้าไป ที่ซ้อมยังอยู่ที่หอประชุมใช่ไหม”

--ใช่คับพี่ รีบมาแสดงความเป็นเจ้าของนะพี่ สาวๆที่ประกวดดาวมหาลัยมันจะกินไอ้ภีมอยู่แล้ว—

“5555 ได้จะรีบไป” ผมบอกก่อนจะว่างสายไป

ภีมที่ได้ชื่อว่าโคตรเดือน ตอนนี้เขาก็ยังเป็นผู้ชายที่ไม่มีใครมาโค่นล้มความหล่อของเขาได้ เขายังคงเป็นที่หนึ่งในเหล่าเดือนอยู่ ผมภูมิใจเหมือนกันนะเนี่ยที่มีแฟนหล่อแบบนี้

“โทษทีมึง กูมาช้า” ไอ้กิตที่พึ่งมาถึงบอกผมด้วยสภาพที่ดูเหนื่อยหอบ

“มึงวิ่งมาหรอ เงื่อออกเยอะแบนี้”

“ใช่ดิ กูปล่อยไอ้พี่พลไปจอดรถแล้วรีบมาหามึงเนี่ย ช่วงนี้งานกูยุ่งมากไม่ค่อยได้เจอมึงเลย คิดถึงภามด้วย” ไอ้กิตบอกก่อนจะเอื้อมมือมาจับเจ้าตัวเล็กที่มองมันอยู่ก่อนแล้ว

“จำพี่กิตได้ไหมคับภาม” ไอ้กิตจับมือภามโยกไปมา มันดูรักลูกผมไม่น้อยเหมือนกัน

“อ่า---อ่า” ภามร้องอ้อแอ้เหมือนกำลังจะบอกว่าจำได้ ทำเอาไอ้กิตยิ้มแป้นเลย

“มึงมาอยู่กับภีมที่คอนโดที่นี้ เราเลยไม่ค่อยเจอกัน กูอยากให้พี่มึงมาเปิดโรงแรมในกรุงเทพนี้ซะจริงๆ” ไอ้กิตมันบ่นขณะที่ยังเล่นกับภามอยู่

“กรุงเทพมันวุ่นวายการแข่งขันก็สูง เปิดที่บ้านกูนั้นแหละดีแล้ว”

“กูคิดถึงภามนี้หว่า นี้ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันเกิดภามนะ กูคงหาข้ออ้างให้พี่มึงพามากรุงเทพไม่ได้แน่ๆ”

“อยากมีไหมละ เดี๋ยวพี่ไปบอกคุณเจนนี้ให้ทำให้ท้องได้ซะเลย” พี่พลที่พึ่งมาถึงบอกกับไอ้กิตที่ทำหน้าอึ่งไปเป็นที่เรียบร้อยกับข้อเสนอแบบนั้น

“บ้าหรอ เห็นไอ้พายตอนท้องลำบากจะตาย” ไอ้กิตรีบปฏิเสธพร้อมส่ายหน้าอย่างแรงในทันที

“ลำบากกูก็มีความสุข” ผมบอกพลางยิ้มให้มันอย่างภูมิใจ

“เออๆ กูไม่ว่ามึงละ แล้วนี้ต้องไปรอภีมที่หอสประชุมหรอวะ” ไอ้กิตถาม

“ใช่” ผมบอกขณะเดินนำไปที่หอประชุม

“พวกส่ต๊าฟจะไม่ว่าอะไรหรอวะ เราเป็นคนนอกแล้วนะเว้ย” ไอ้กิตถาม

“ไม่เป็นไรหรอก ภีมบอกพวกสต๊าฟไว้แล้ว ไม่ต้องห่วง”



ณ หอประชุม

“พี่พายยยยย/พี่พายยยยย” เจตกับพลอยเรียกผมซะเสียงดังจนคนที่กำลังพักจากซ้อมหันมามองพวกผมกันหมด

“เบาๆก็ได้” ผมบอกสองคนนั้น

“ไม่เจอพี่พายตั้งงนานยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ พลอยขอเซลฟี้ด้วยสักรูปนะคะ” พลอยพูดเสร็จก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทันที

“นี้น้องภามใช่ไหมคับ หล่อเหมือนพ่อเลยนะเนี่ย” เจตถาม

“อืม ดูเหมือนพ่อพอตัวเลย” ผมบอก

“มาเล่นกับพี่พลอยไหมค่ะ” พลอยยืนมือออกมาพลางเรียกร้องความสนใจจากภาม

“พี่อะไร แกเป็นอาแล้วเหอะ” เจตบอกพลอย

“พี่ก็พอยะ เนอะน้องภาม พี่ก็พอนะคะ” พลอยว่าเจตก่อนหันมาเล่นกับภาม

“แล้วนี่ภีมละ” ผมถามก่อนที่คู่รักนี้จะเถียงกันต่อ

“อยู่หลังเวทีคับ กำลังเตรียมตัวซ้อมรอบสุดท้าย พรุ้งนี้ก็งานจริงแล้ว พวกพี่มานั่งรอตรงนี้ก่อนดีกว่าคับ” เจตบอกผม ก่อนจะพาไปนั่งมุมที่พวกน้องเขานั่งกันอยู่ก่อนแล้ว
 
“เออ พี่พายเดือนศิลปกรรมรึเปล่าคะ” น้องผู้หญิงที่เป็นสต๊าฟสองสามคนเดินเข้ามาถามผม

“ใช่คับ”

“ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมค่ะ”

“เอออ ได้คับ” ผมบอกก่อนที่พวกเธอจะเข้ามารอบถ่ายรูปกับผม และเจ้าตัวเล็กที่ผมอุ้มอยู่

“นี้น้อยชายพี่พายหรอค่ะ น่ารักจังเลยค่ะ” พวกน้องสต๊าฟที่ถ่ายรูปเสร็จเริ่มให้ความสนใจกับเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดผม

“ไม่ใช่น้อยชายหรอกคับ ลูกพี่เองคับ” ผมบอก พร้อมกับยิ้มให้พวกเธอ

“ลูก!!!” ทุกคนดูตกใจไม่น้อย ผมก็ได้แต่ยิ้มแหละคับ

“มาแล้วหรอคับพี่พาย” ภีมที่เดินออกมาจากหลังเวทีเห็นผมเข้าพอดี

“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม” ผมถามเขา

“นิดหน่อยคับ พี่ละคับ เหนื่อยไหม” เขาถามพลางยืนมือมาหาเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกผม

“พ่อ---พ่อ” ภามก็โผเข้าหาภีมเหมือนกัน

“คับผม เป็นไงบ้างคับภาม คิดถึงพ่อไหมเอ่ย” ภีมหอมแก้มภามฟอดใหญ่เต็มๆ คนที่อยู่รอบข้างอย่างพวกผมก็ยิ้มไปกับความน่าเอ็นดูของพ่อลูกคู่นี้ มีแต่สาวๆสต๊าฟที่ดูจะอึ่งไปแล้ว มองผมกับภีมสลับกันไปมา ผมก็เข้าใจละคับว่ามันน่าตกใจแค่ไหนที่ผู้ชายสองคนจะมีลูกด้วยกันแบบนี้

“เออ น้องวันคับ คิวผมอีกนานไหมคับ เห็นน้องๆซ้อมที่เดิมกันมานานแล้ว ผมไม่ได้ออกซะทีเลยเดินออกมาถามดู” ภีมพูดน้ำเสียงสุภาพ

“อ่อ ขอโทษคะพี่ภีม พอดีพวกหนูเจอพี่พายเลยแว๊บมาถ่ายรูปด้วยคะ” น้องสต๊าฟที่ภีมเรียกพี่วันทำท่าขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

“เดี๋ยวผมขอซ้อมเลยนะคับ พอดีผมมีนัดกับลูกและภรรยาต่อคับ” ภีมบอกก่อนจะส่งภามมาให้ผมอุ้ม พร้อมหอมแก้มผมฟอดใหญ่

“รอแป๊ปนะคับ ซ้อมอีกรอบเดียว เดี๋ยวมาหา” ภีมบอกแล้วเดินกลับเข้าหลังเวทีไป พร้อมน้องๆสต๊าฟที่มีเวลาให้อึ้งกับรื่องที่เกิดขึ้นแป๊ปนึงก่อนเดินตามไป

“ผัวมึงนี้ดูมีอำนาจจริงๆ” ไอ้กิตมากระซิบแซวผม

“มึงนั่งอยู่เฉยๆไปเลย” ผมว่ามัน

“อ๊า---แอ๊” ดูท่าภามจะหิวซะแล้ว ผมเลยอุ้มเจ้าตัวเล็กนอนลงก่อนจะหยิบขวดนมออกมาจากกระเป๋า แล้วป้อนเขา สักพักเจ้าตัวเล็กก็เหมือนจะหลับแล้วคับ

“เสร็จแล้วคับ” ภีมเดินมาหาผม พร้อมกับรับภามที่ดูดนมเหมือนจะหลับไปอุ้มไว้เอง

“ภีมจะไปฉลองวันเกิดเจ้าตัวเล็กที่ไหน” ไอ้กิตถาม

“โรงแรมคับ คุณพ่อคุณแม่ พี่ชายผม แล้วก็คุณพ่อคุณแม่พี่พายน่าจะรออยู่แล้วคับ”

“รวยสุดยอด” ไอ้กิตพูด

“ผมอยากให้เป็นวันเกิดปีแรกของภามที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าคับ” ภีมบอกพร้อมรอยยิ้มที่หล่อเหล่าของเขา ก่อนจะจูงมือผมไปที่รถ

พอมาที่รถเราต่างก็แยกย้ายกันไปขึ้นรถของตัวเอง ผมจึงต้องรับภามมาอุ้มระหว่างที่ภีมขับรถอีกครั้ง ภีมเป็นแฟน และพ่อที่ดีมาก เขาช่วยผมเลี้ยงภามตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ เราไม่จ้างพี่เลี้ยงเลย เพราะผมอยากเลี้ยงภามด้วยตัวเอง ส่วนภีมเขาก็คิดแบบผมเช่นกัน นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ภามติดผมกับภีมมากกว่าใคร


ณ โรงแรม

“สวัสดีคับทุกคน” พวกเราที่พึ่งมาถึงต่างสวัสดีผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่งคุยกันอยู่ในห้อแกรนบอลรูมอยู่แล้ว พ่อแม่ผมกับพ่อแม่ของภีมพวกท่านคุยกันถูกคอพอสมควร

“ภามหลับแล้วหรอลูก” คุณแม่ภีมถามผมคับ

“ยังหรอกคับ แค่งัวเงียคับ กินนมไปเยอะพอสมควร พึ่งตบหลังให้เรอไปบนรถระหว่างมานี่เองคับ” ผมบอกท่านด้วยรอยยิ้ม

“งั้นเรามาเริ่มงานกันเลยดีกว่า ก่อนที่ตัวแสบของเราจะหลับซะก่อน” คุณพ่อของภีมบอก ภีมจึงส่งสัญญาณบอกพนักงาน ก่อนที่พวกเขาจะดับไฟ และเอาขวดนมที่สั่งทำเป็นตัวไดโนเสาร์ผูกโบว์ออกมา เจ้าตัวเล็กกินจุของผมก็ตาหวานพอเห็นนมอีกขวด ผมนึกว่าลูกจะอิ่มแล้ว แต่ดูท่าของแฮปปี้เบิร์ดเดย์จะเรียกร้องความสนใจได้
“แฮปปี้เบืร์ดเดย์ ทู ยู---“ ทุกคนร้องเพลงวันเกิดก่อนที่จะเอาขวดนมไดโนเสาร์ให้เจ้าตัวเล็ก ภามดูชื่นชอบไม่น้อย ก่อนจะดูดกินอย่างเอร็ดอร่อย และในที่สุดเจ้าของวันเกิดก็หลับไปพร้อมกับขวดนมขวดใหม่


นี้ถือเป็นงานวันเกิด และงานรวมญาติเลยก็ว่าได้ เราทุกคนต่างได้มาเจอกัน มาพูดคุยกัน เพราะหลังจากผมคลอด ผมก็อยู่ที่บ้านสวนกับครอบครัวผมสักพักให้แม่ผมท่านสอนการเลี้ยงลูก แล้วผมก็มาอยู่คอนโดกับภีมที่กรุงเทพ ซึ่งผมก็แทบจะไม่ได้เจอใครเลยนอกจากครอบครัวภีมบ้างบางครั้ง ส่วนใหญ่ผมจะอยู่กับภีม และภามสามคน เรียกว่า เลี้ยงมาด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งหมดของผมกับภีมเลยก็ว่าได้
ภีมจะรีบกลับจากมหาลัยมาช่วยผมเลี้ยงภามตลอด เขาไม่เคยไปเที่ยวไหนกับเพื่อนจนบางที่พลอยกับเจตก็โทรมาขออนุญาตผมพาภีมไปปาร์ตี้ แต่ถึงผมอนุญาตเขาก็ไม่ไป ภีมมักบอกว่าเขาห่วงผมกับลูก คิดถึงตลอดเวลา กลับมาห้องคือที่ๆเขามีความสุขที่สุด

ส่วนพี่ชายผมกับไอ้กิต ไม่ต้องบอกทุกคนก็คงรู้ว่าพวกเขามีความสุขดี ไอ้กิตทำงานเป็นเลขาให้พี่พล พวกเขามีทะเลาะกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไอ้กิตก็ต้องง้อพี่พลตลอด เพราะมันชอบทำตัวเป็นเด็กเอง
พี่พลก็เป็นพี่ชายที่ดีของผมเหมือนเดิม ผมยินดีที่เรามีวันนี้กันได้ วันที่ผมกับพี่พลไม่มีเรื่องในอดีตมากวนใจกันอีก เราได้กลับเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเดิม

จะว่าไปผมก็ต้องขอบคุณพี่พลเหมือนกัน เพราะเรื่องที่เลวร้ายก็ทำให้ผมเจอคนดีๆแบบภีม คนที่ทำให้เดือนปีกทองอย่างผม กลายเป็นเพียงเดือนธรรมดาที่รู้จักรักตัวเอง และรู้จักรักคนที่รักผมจริงๆ เขาเป็นคนที่มาดึงปีกทองออกไปจากหลังของผม วันนี้ผมเป็นแค่คนธรรมดาที่มีความสุขกับคนรอบตัว และครอบครัวที่ผมกับภีมสร้างมันมาด้วยกัน

“คิดอะไรอยู่หรอคับ ออกมายืนระเบียงแบบนี้” ภีมถามผมขณะที่ผมยืนอยู่ที่ระเบียงของห้องแกรนบอลรูมที่อยู่บนชั้นสูงสุดของโรงแรม

“คิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา” ภีมสวมกอดผมจากทางด้านหลังขณะที่ผมอุ้มภามที่หลับแล้วอยู่ในอ้อมแขน

“ขอบคุณนะคับ”

“พี่สิต้องขอบคุณภีม เพราะภีม พี่ถึงรู้ว่าตัวเองก็มีคนที่พร้อมจะรักพี่ ไม่ว่าใครจะบอกว่าพี่เป็นยังไง”

“เดือนปีกทอง เพราะชื่อนี้ผมถึงมีโอกาสได้เข้าใกล้พี่โดยที่ไม่ต้องคิดแผนอะไรให้เนิ่นนาน” เขาบอกพร้อมซุกหน้าลงที่ซอกคอผม

“ถ้าไม่ใช่เพราะชื่อที่ดูเข้าหาง่ายแบบนี้ ผมคงยังไม่รู้ว่าจะจีบพี่ยังไงด้วยซ้ำ” เขาพูดพลางจูบซอกคอผมไปด้วย

“คงต้องขอบคุณคำว่าเดือนปีกทองด้วยสินะ”

“ใช่คับ เพราะนั้นคือจุดเริ่มต้นของเรา”

“พี่รักภีมนะ”

“ผมก็รักพี่พายคับ เดือนของผม”

จากนี้ไปเดือนสามดวงที่อยู่รวมกันจะส่องแสงจนความมืดมิดยังต้องสลายหายไปอย่างแน่นอน เพราะความความรักมักทำให้คนเราเข้มแข็ง...



THE END




ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ติดตามอ่านมาจนถึงตอนจบ และต้องขอโทษที่มาต่อช้าด้วยคะ
หวังว่าทุกคนจะชอบ และมีความสุขกับการอ่านนิยายเรื่องนี้คะ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-05-2017 20:32:33
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-05-2017 08:38:41
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-05-2017 10:19:03
 :3123: :L2: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 18-05-2017 10:45:28

หวานละมุน ละไม

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 18-05-2017 20:50:49
ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ
ในที่สุดก็แฮปปี้กันถ้วนหน้า
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 19-05-2017 00:58:48
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีคร่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 19-05-2017 06:06:30
ขอบคุณค่ะ สนุกมากๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 19-05-2017 13:01:40
น้องภามๆๆๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 19-05-2017 15:12:47
กลับตาลปัตร  พายท้องได้ซะงั้น  - -"   
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 19-05-2017 16:00:01
น่ารักมาเลยยย
ภีม พาย ภาม
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sawapalm ที่ 19-05-2017 16:31:21
หวานนนนนนนนนนจนหยดสุดท้ายยยยยยย  :mew1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-05-2017 17:54:03
สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 19-05-2017 22:20:33
 :pig4:  ขอบคุณคะที่แต่งนิยายน่ารักๆ แบบนี้มาให้อ่าน  :L2:
 ชอบอะ มีหลากหลายรส แต่ความหวานของน้องภีมพี่พายนำโดดมาเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 20-05-2017 00:08:33
ขอบคุณคับ เป็นเรื่องราวที่มีหลายรสชาตื
สนุกมากเลยคับ  ชอบชอบ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 20-05-2017 20:44:47
 :pig4: :pig4:สนุกมากเลย ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 21-05-2017 01:33:29
 :o8:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 21-05-2017 05:49:16
 o13
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 ตอนจบ (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Arya_987 ที่ 21-05-2017 11:20:50
 o13
ตอนที่ 19 ครอบครัว


ภีม พาร์ท

พี่พายปวดท้องจนแทบจะทนไม่ไหว เขากำเสื้อผมไว้แน่ ในขณะที่ผมโทรศัพท์หาพี่เจนนี่

“พี่เจนนี่คับ พายจะคลอดแล้วคับ” ผมบอกพี่เจนนี่ทันทีที่พี่เขารับโทรศัพท์

“เฮ้ยยยย แย่ละ ภีมรีบพาพายมาที่โรงพยาบาลหมอนัทนะ เข้าทางด้านหลัง พวกพี่จะรอรับอยู่” พี่เจนนี่บอกผมด้วยความตกใจ แต่ยังดีที่พี่เขามีสติพอสมควร

“คับ ได้คับ ผมจะรีบพาพายไปทันที” ผมวางสายพี่เจนนี่ก่อนจะอุ้มพี่พายไปที่รถ โดยมีคุณพ่อกับคุณแม่พี่พายเดินตามมาด้วยความกังวล

“พี่เจนนี่กับหมอนัทจะเตรียมสถานที่ให้ อดทนไว้ก่อนนะคับที่รัก” ผมบอกพี่พายด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ก่อนจะจูบที่หน้าผากเขาเป็นการให้กำลังใจ

“ให้พายมานอนหลังรถกับแม่นะ จะได้นอนสบายๆ” พ่อพี่พายบอกทุกคน

“ทนหน่อยนะลูก” คุณแม่บอกพี่พายด้วยความเป็นห่วง

“ปวดท้องจังเลยคับแม่” พี่พายเสียงสั่น

“เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว” คุณแม่พยายามบอกปลอบพี่พาย ตอนนี้ทุกคนกังวลกันหมด

“ภามเตะท้องแรงมากเลย” พี่พายยังคงพูดเสียงสั่น

“อย่าทำแม่เจ็บสิคับภาม” ผมที่ขับรถอยู่เอื้อมมือไปจับท้องพี่พาย เพื่อบอกเจ้าตัวแสบที่อยู่ในท้องให้ช่วยพี่พายหน่อย ก่อนจะดึงมือกลับมาขับรถอย่างเร่งรีบที่สุดเท่าที่จะทำได้



“ภีมอุ้มพายขึ้นเตียงก่อน” พี่เจนนี่บอกผมให้อุ้มพี่พายขึ้นเตียง แล้วเขาก็เข็นพาห้องผ่าตัด

“ผมเข้าไปได้ไหมคับ” ผมถามพี่หมอนัทที่สีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างจากผม

“เราต้องผ่าตัด น้องรอข้างนอกดีกว่านะ” พี่หมอนัทบอกก่อนจะตบไหล่ผมเบา

“ไม่ต้องกังวล พวกพี่จะทำให้เต็มที่ พายและลูกจะปลอดภัย” พี่หมอนัทบอกผม เพราะผมคงสีหน้าไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเดินเข้าห้องผ่าตัดไป

“ผมจะรอพี่อยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัวนะคับ” ผมปล่อยมือจากพี่พายก่อนที่จะเขาเข้าไปในห้องผ่าตัด

เราทุกคนรอด้วยความเป็นห่วง ยิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งกังวล ผมกลัวไปสารพัด จนแทบจะนั่งไมติด คุณพ่อนั่งกุมมือคุณแม่ พวกท่านก็ดูกังวลมากเช่นกัน ผมได้แต่เดินวนไปมา

“เป็นไงบ้าง” พี่กิตที่พึ่งมาถึงถามผมอย่างร้อนใจ

“ยังไม้รู้เลยคับ พี่พายเข้าไปตั้งนานแล้ว” ผมบอกพี่กิต

“ใจเย็น” พี่พลบอกผม ผมได้แต่พยักตอบรับ แต่ยิ่งรอนานๆ ผมยิ่งรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า ผม่เลยต้องนั่งลงเพื่อระงับสติของตัวเอง



“เด็กกับแม่ปลอดภัย เดี๋ยวพี่จะเข็นเด็กไปห้องพักที่เตรียมไว้ก่อน” พี่เจนนี่ที่เดินออกมาบอก ทำให้เราทุกคนโล่งใจกันเป็นแถว ก่อนที่จะเข็นภามออกมา ผมรีบเดินไปยืนข้างๆเขา แต่ก็ไม่กล้าจับ เพราะผมยังไม่ล้างมือเลย ภามตัวเล็ก หน้ากลมเชียว เขาดูเหมือนเด็กทารกทั่วไป แต่ที่ไม่เหมือนคือความรู้สึกผมที่มีให้เขา ผมตื่นเต้น และตื้นตัน จนน้ำตาไหลออกมาเอง

“ภาม” ผมได้แต่เรียกชื่อเขาเบาๆ ลูกของผมกับพี่พาย ผู้ชายที่ผมรักที่สุด


ตอนนี้เราทุกคนมาอยู่ในห้องพักที่พี่เจนนี่กับพี่นัทเตรียมไว้ให้ พี่พายยังไม่ฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบ ส่วนเจ้าตัวเล็กอย่างภามก็ยังหลับอยู่ พี่พลที่ตามมาที่หลังเอาเสื้อผ้ามาให้ผมกับคุณพ่อคุณแม่ได้อาบน้ำ และเปลี่ยน เพื่อความสะอาด ผมถึงได้อุ้มภามสักที

ถึงจะดูเก้ๆกังๆ แต่ผมก็พยายามระวังที่สุด เขาดูบอบบางเหลือเกิน ผมน้ำตาไหลออกมาเองเฉยเลย มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมากสำหรับผม ผมไม่รู้ว่าทำตัวตัวเองถึงดีใจ และตื่นตันอะไรได้มากขนาดนี้...


“ภะ..ภีม” พี่พายเรียกผมที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงเขา

“คับ เป็นไงบ้างคับ เจ็บตรงไหนรึเปล่าคับ” ผมรีบถามเขาด้วยความเป็นห่วง

“ภามละ” พี่พายถามพลางมองไปรอบๆ

“พี่หมอนัทพาไปตรวจเดี๋ยวก็กลับมาคับ” ผมจับมือพี่พายไว้ด้วยความเป็นห่วง เพราะหน้าเขายังดูเหมือนคนไม่มีแรงอยู่เลย

“อืม” พี่พายตอบรับอย่างเหนื่อยล้า

“พักผ่อนอีกสักหน่อยนะคับ ถ้าภามกลับมา ผมจะปลุกพี่ทันที” ผมบอกพลางจูบหน้าผากพี่พายไปที

แอ๊ด---ประตูเปิดพร้อมพี่หมอนัทอุ้มภามเข้ามาพอดี

“ตื่นแล้วหรอคับพาย” พี่หมอนัททัก

“คับ ผมขออุ้มภามได้ไหมคับ” พี่พายรีบบอกหมอนนัททันที ก่อนที่หมอนัทจะยืนภามให้พี่พายอุ้ม ลูกของเรายังคงหลับสนิท

“ภาม...” พี่พายพูดแค่นั้น น้ำตาเขาก็ไหลออกมา ผมยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้พี่พาย เขามองผมพร้อมรอยยิ้มที่ผมชอบที่สุด

“ลูกของเรา” พี่พายพูด

“ใช่คับลูกของเรา” ผมกอดพี่พายเอาไว้ระหว่างที่เขาอุ้มภามอยู่ ผมมีความสุขมากที่วันนี้ผมมีครอบครัวที่สมบูรณ์กับคนที่ผมรักที่สุด...




หนึ่งปีผ่านไป

พาย พาร์ท

วันนี้ผมมีนัดกับภีมที่มหาลัย เพราะว่าเขาต้องซ้อมร้องเพลงให้กับงานประกวดดาวเดือนปีล่าสุด ทางมหาลัยเห็นว่าภีมได้รับฉายาโคตรเดือน จึงอยากให้ภีมมาแสดงอะไรในปีสุดท้ายก่อนเขาจบสักหน่อย
ผมอุ้มเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนที่ดูท่าจะตื่นเต้นกับสิ่งรอบตัวน่าดู คงเพราะพึ่งตื่นนอนเลยคึกแน่ๆ ตอนนี้ภามอายุได้ 1 ขวบแล้วคับ ออกเสียงเรียกได้บ้างแล้ว คำแรกที่เจ้าตัวเล็กเรียกได้คือ แม่ ผมตกใจไม่น้อยตอนได้ยินเสียงเรียกจากเขาครั้งแรก ส่วนคำต่อมาที่ภามเรียกได้คือ พ่อ ทำเอาภีมที่ได้ยินยิ้ม ร้องตะโกนด้วนความดีใจใหญ่ที่ภามเรียกเขาว่าพ่อ ผมอดขำไปกับท่าทางเหมือนเด็กๆของเขาไม่ได้เลยจริงๆ

ครืด---ครืด ผมหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าอย่างลำบากสักเล็กน้อย

--พี่พายถึงยังคับ ไอ้ภีมให้ผมโทรถามพี่— เจตเพื่อนภีมเป็นคนโทรหาผม

“ถึงแล้ว กำลังเดินเข้าไป ที่ซ้อมยังอยู่ที่หอประชุมใช่ไหม”

--ใช่คับพี่ รีบมาแสดงความเป็นเจ้าของนะพี่ สาวๆที่ประกวดดาวมหาลัยมันจะกินไอ้ภีมอยู่แล้ว—

“5555 ได้จะรีบไป” ผมบอกก่อนจะว่างสายไป

ภีมที่ได้ชื่อว่าโคตรเดือน ตอนนี้เขาก็ยังเป็นผู้ชายที่ไม่มีใครมาโค่นล้มความหล่อของเขาได้ เขายังคงเป็นที่หนึ่งในเหล่าเดือนอยู่ ผมภูมิใจเหมือนกันนะเนี่ยที่มีแฟนหล่อแบบนี้

“โทษทีมึง กูมาช้า” ไอ้กิตที่พึ่งมาถึงบอกผมด้วยสภาพที่ดูเหนื่อยหอบ

“มึงวิ่งมาหรอ เงื่อออกเยอะแบนี้”

“ใช่ดิ กูปล่อยไอ้พี่พลไปจอดรถแล้วรีบมาหามึงเนี่ย ช่วงนี้งานกูยุ่งมากไม่ค่อยได้เจอมึงเลย คิดถึงภามด้วย” ไอ้กิตบอกก่อนจะเอื้อมมือมาจับเจ้าตัวเล็กที่มองมันอยู่ก่อนแล้ว

“จำพี่กิตได้ไหมคับภาม” ไอ้กิตจับมือภามโยกไปมา มันดูรักลูกผมไม่น้อยเหมือนกัน

“อ่า---อ่า” ภามร้องอ้อแอ้เหมือนกำลังจะบอกว่าจำได้ ทำเอาไอ้กิตยิ้มแป้นเลย

“มึงมาอยู่กับภีมที่คอนโดที่นี้ เราเลยไม่ค่อยเจอกัน กูอยากให้พี่มึงมาเปิดโรงแรมในกรุงเทพนี้ซะจริงๆ” ไอ้กิตมันบ่นขณะที่ยังเล่นกับภามอยู่

“กรุงเทพมันวุ่นวายการแข่งขันก็สูง เปิดที่บ้านกูนั้นแหละดีแล้ว”

“กูคิดถึงภามนี้หว่า นี้ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันเกิดภามนะ กูคงหาข้ออ้างให้พี่มึงพามากรุงเทพไม่ได้แน่ๆ”

“อยากมีไหมละ เดี๋ยวพี่ไปบอกคุณเจนนี้ให้ทำให้ท้องได้ซะเลย” พี่พลที่พึ่งมาถึงบอกกับไอ้กิตที่ทำหน้าอึ่งไปเป็นที่เรียบร้อยกับข้อเสนอแบบนั้น

“บ้าหรอ เห็นไอ้พายตอนท้องลำบากจะตาย” ไอ้กิตรีบปฏิเสธพร้อมส่ายหน้าอย่างแรงในทันที

“ลำบากกูก็มีความสุข” ผมบอกพลางยิ้มให้มันอย่างภูมิใจ

“เออๆ กูไม่ว่ามึงละ แล้วนี้ต้องไปรอภีมที่หอสประชุมหรอวะ” ไอ้กิตถาม

“ใช่” ผมบอกขณะเดินนำไปที่หอประชุม

“พวกส่ต๊าฟจะไม่ว่าอะไรหรอวะ เราเป็นคนนอกแล้วนะเว้ย” ไอ้กิตถาม

“ไม่เป็นไรหรอก ภีมบอกพวกสต๊าฟไว้แล้ว ไม่ต้องห่วง”



ณ หอประชุม

“พี่พายยยยย/พี่พายยยยย” เจตกับพลอยเรียกผมซะเสียงดังจนคนที่กำลังพักจากซ้อมหันมามองพวกผมกันหมด

“เบาๆก็ได้” ผมบอกสองคนนั้น

“ไม่เจอพี่พายตั้งงนานยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ พลอยขอเซลฟี้ด้วยสักรูปนะคะ” พลอยพูดเสร็จก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทันที

“นี้น้องภามใช่ไหมคับ หล่อเหมือนพ่อเลยนะเนี่ย” เจตถาม

“อืม ดูเหมือนพ่อพอตัวเลย” ผมบอก

“มาเล่นกับพี่พลอยไหมค่ะ” พลอยยืนมือออกมาพลางเรียกร้องความสนใจจากภาม

“พี่อะไร แกเป็นอาแล้วเหอะ” เจตบอกพลอย

“พี่ก็พอยะ เนอะน้องภาม พี่ก็พอนะคะ” พลอยว่าเจตก่อนหันมาเล่นกับภาม

“แล้วนี่ภีมละ” ผมถามก่อนที่คู่รักนี้จะเถียงกันต่อ

“อยู่หลังเวทีคับ กำลังเตรียมตัวซ้อมรอบสุดท้าย พรุ้งนี้ก็งานจริงแล้ว พวกพี่มานั่งรอตรงนี้ก่อนดีกว่าคับ” เจตบอกผม ก่อนจะพาไปนั่งมุมที่พวกน้องเขานั่งกันอยู่ก่อนแล้ว
 
“เออ พี่พายเดือนศิลปกรรมรึเปล่าคะ” น้องผู้หญิงที่เป็นสต๊าฟสองสามคนเดินเข้ามาถามผม

“ใช่คับ”

“ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมค่ะ”

“เอออ ได้คับ” ผมบอกก่อนที่พวกเธอจะเข้ามารอบถ่ายรูปกับผม และเจ้าตัวเล็กที่ผมอุ้มอยู่

“นี้น้อยชายพี่พายหรอค่ะ น่ารักจังเลยค่ะ” พวกน้องสต๊าฟที่ถ่ายรูปเสร็จเริ่มให้ความสนใจกับเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดผม

“ไม่ใช่น้อยชายหรอกคับ ลูกพี่เองคับ” ผมบอก พร้อมกับยิ้มให้พวกเธอ

“ลูก!!!” ทุกคนดูตกใจไม่น้อย ผมก็ได้แต่ยิ้มแหละคับ

“มาแล้วหรอคับพี่พาย” ภีมที่เดินออกมาจากหลังเวทีเห็นผมเข้าพอดี

“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม” ผมถามเขา

“นิดหน่อยคับ พี่ละคับ เหนื่อยไหม” เขาถามพลางยืนมือมาหาเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกผม

“พ่อ---พ่อ” ภามก็โผเข้าหาภีมเหมือนกัน

“คับผม เป็นไงบ้างคับภาม คิดถึงพ่อไหมเอ่ย” ภีมหอมแก้มภามฟอดใหญ่เต็มๆ คนที่อยู่รอบข้างอย่างพวกผมก็ยิ้มไปกับความน่าเอ็นดูของพ่อลูกคู่นี้ มีแต่สาวๆสต๊าฟที่ดูจะอึ่งไปแล้ว มองผมกับภีมสลับกันไปมา ผมก็เข้าใจละคับว่ามันน่าตกใจแค่ไหนที่ผู้ชายสองคนจะมีลูกด้วยกันแบบนี้

“เออ น้องวันคับ คิวผมอีกนานไหมคับ เห็นน้องๆซ้อมที่เดิมกันมานานแล้ว ผมไม่ได้ออกซะทีเลยเดินออกมาถามดู” ภีมพูดน้ำเสียงสุภาพ

“อ่อ ขอโทษคะพี่ภีม พอดีพวกหนูเจอพี่พายเลยแว๊บมาถ่ายรูปด้วยคะ” น้องสต๊าฟที่ภีมเรียกพี่วันทำท่าขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

“เดี๋ยวผมขอซ้อมเลยนะคับ พอดีผมมีนัดกับลูกและภรรยาต่อคับ” ภีมบอกก่อนจะส่งภามมาให้ผมอุ้ม พร้อมหอมแก้มผมฟอดใหญ่

“รอแป๊ปนะคับ ซ้อมอีกรอบเดียว เดี๋ยวมาหา” ภีมบอกแล้วเดินกลับเข้าหลังเวทีไป พร้อมน้องๆสต๊าฟที่มีเวลาให้อึ้งกับรื่องที่เกิดขึ้นแป๊ปนึงก่อนเดินตามไป

“ผัวมึงนี้ดูมีอำนาจจริงๆ” ไอ้กิตมากระซิบแซวผม

“มึงนั่งอยู่เฉยๆไปเลย” ผมว่ามัน

“อ๊า---แอ๊” ดูท่าภามจะหิวซะแล้ว ผมเลยอุ้มเจ้าตัวเล็กนอนลงก่อนจะหยิบขวดนมออกมาจากกระเป๋า แล้วป้อนเขา สักพักเจ้าตัวเล็กก็เหมือนจะหลับแล้วคับ

“เสร็จแล้วคับ” ภีมเดินมาหาผม พร้อมกับรับภามที่ดูดนมเหมือนจะหลับไปอุ้มไว้เอง

“ภีมจะไปฉลองวันเกิดเจ้าตัวเล็กที่ไหน” ไอ้กิตถาม

“โรงแรมคับ คุณพ่อคุณแม่ พี่ชายผม แล้วก็คุณพ่อคุณแม่พี่พายน่าจะรออยู่แล้วคับ”

“รวยสุดยอด” ไอ้กิตพูด

“ผมอยากให้เป็นวันเกิดปีแรกของภามที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าคับ” ภีมบอกพร้อมรอยยิ้มที่หล่อเหล่าของเขา ก่อนจะจูงมือผมไปที่รถ

พอมาที่รถเราต่างก็แยกย้ายกันไปขึ้นรถของตัวเอง ผมจึงต้องรับภามมาอุ้มระหว่างที่ภีมขับรถอีกครั้ง ภีมเป็นแฟน และพ่อที่ดีมาก เขาช่วยผมเลี้ยงภามตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ เราไม่จ้างพี่เลี้ยงเลย เพราะผมอยากเลี้ยงภามด้วยตัวเอง ส่วนภีมเขาก็คิดแบบผมเช่นกัน นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ภามติดผมกับภีมมากกว่าใคร


ณ โรงแรม

“สวัสดีคับทุกคน” พวกเราที่พึ่งมาถึงต่างสวัสดีผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่งคุยกันอยู่ในห้อแกรนบอลรูมอยู่แล้ว พ่อแม่ผมกับพ่อแม่ของภีมพวกท่านคุยกันถูกคอพอสมควร

“ภามหลับแล้วหรอลูก” คุณแม่ภีมถามผมคับ

“ยังหรอกคับ แค่งัวเงียคับ กินนมไปเยอะพอสมควร พึ่งตบหลังให้เรอไปบนรถระหว่างมานี่เองคับ” ผมบอกท่านด้วยรอยยิ้ม

“งั้นเรามาเริ่มงานกันเลยดีกว่า ก่อนที่ตัวแสบของเราจะหลับซะก่อน” คุณพ่อของภีมบอก ภีมจึงส่งสัญญาณบอกพนักงาน ก่อนที่พวกเขาจะดับไฟ และเอาขวดนมที่สั่งทำเป็นตัวไดโนเสาร์ผูกโบว์ออกมา เจ้าตัวเล็กกินจุของผมก็ตาหวานพอเห็นนมอีกขวด ผมนึกว่าลูกจะอิ่มแล้ว แต่ดูท่าของแฮปปี้เบิร์ดเดย์จะเรียกร้องความสนใจได้
“แฮปปี้เบืร์ดเดย์ ทู ยู---“ ทุกคนร้องเพลงวันเกิดก่อนที่จะเอาขวดนมไดโนเสาร์ให้เจ้าตัวเล็ก ภามดูชื่นชอบไม่น้อย ก่อนจะดูดกินอย่างเอร็ดอร่อย และในที่สุดเจ้าของวันเกิดก็หลับไปพร้อมกับขวดนมขวดใหม่


นี้ถือเป็นงานวันเกิด และงานรวมญาติเลยก็ว่าได้ เราทุกคนต่างได้มาเจอกัน มาพูดคุยกัน เพราะหลังจากผมคลอด ผมก็อยู่ที่บ้านสวนกับครอบครัวผมสักพักให้แม่ผมท่านสอนการเลี้ยงลูก แล้วผมก็มาอยู่คอนโดกับภีมที่กรุงเทพ ซึ่งผมก็แทบจะไม่ได้เจอใครเลยนอกจากครอบครัวภีมบ้างบางครั้ง ส่วนใหญ่ผมจะอยู่กับภีม และภามสามคน เรียกว่า เลี้ยงมาด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งหมดของผมกับภีมเลยก็ว่าได้
ภีมจะรีบกลับจากมหาลัยมาช่วยผมเลี้ยงภามตลอด เขาไม่เคยไปเที่ยวไหนกับเพื่อนจนบางที่พลอยกับเจตก็โทรมาขออนุญาตผมพาภีมไปปาร์ตี้ แต่ถึงผมอนุญาตเขาก็ไม่ไป ภีมมักบอกว่าเขาห่วงผมกับลูก คิดถึงตลอดเวลา กลับมาห้องคือที่ๆเขามีความสุขที่สุด

ส่วนพี่ชายผมกับไอ้กิต ไม่ต้องบอกทุกคนก็คงรู้ว่าพวกเขามีความสุขดี ไอ้กิตทำงานเป็นเลขาให้พี่พล พวกเขามีทะเลาะกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไอ้กิตก็ต้องง้อพี่พลตลอด เพราะมันชอบทำตัวเป็นเด็กเอง
พี่พลก็เป็นพี่ชายที่ดีของผมเหมือนเดิม ผมยินดีที่เรามีวันนี้กันได้ วันที่ผมกับพี่พลไม่มีเรื่องในอดีตมากวนใจกันอีก เราได้กลับเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเดิม

จะว่าไปผมก็ต้องขอบคุณพี่พลเหมือนกัน เพราะเรื่องที่เลวร้ายก็ทำให้ผมเจอคนดีๆแบบภีม คนที่ทำให้เดือนปีกทองอย่างผม กลายเป็นเพียงเดือนธรรมดาที่รู้จักรักตัวเอง และรู้จักรักคนที่รักผมจริงๆ เขาเป็นคนที่มาดึงปีกทองออกไปจากหลังของผม วันนี้ผมเป็นแค่คนธรรมดาที่มีความสุขกับคนรอบตัว และครอบครัวที่ผมกับภีมสร้างมันมาด้วยกัน

“คิดอะไรอยู่หรอคับ ออกมายืนระเบียงแบบนี้” ภีมถามผมขณะที่ผมยืนอยู่ที่ระเบียงของห้องแกรนบอลรูมที่อยู่บนชั้นสูงสุดของโรงแรม

“คิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา” ภีมสวมกอดผมจากทางด้านหลังขณะที่ผมอุ้มภามที่หลับแล้วอยู่ในอ้อมแขน

“ขอบคุณนะคับ”

“พี่สิต้องขอบคุณภีม เพราะภีม พี่ถึงรู้ว่าตัวเองก็มีคนที่พร้อมจะรักพี่ ไม่ว่าใครจะบอกว่าพี่เป็นยังไง”

“เดือนปีกทอง เพราะชื่อนี้ผมถึงมีโอกาสได้เข้าใกล้พี่โดยที่ไม่ต้องคิดแผนอะไรให้เนิ่นนาน” เขาบอกพร้อมซุกหน้าลงที่ซอกคอผม

“ถ้าไม่ใช่เพราะชื่อที่ดูเข้าหาง่ายแบบนี้ ผมคงยังไม่รู้ว่าจะจีบพี่ยังไงด้วยซ้ำ” เขาพูดพลางจูบซอกคอผมไปด้วย

“คงต้องขอบคุณคำว่าเดือนปีกทองด้วยสินะ”

“ใช่คับ เพราะนั้นคือจุดเริ่มต้นของเรา”

“พี่รักภีมนะ”

“ผมก็รักพี่พายคับ เดือนของผม”

จากนี้ไปเดือนสามดวงที่อยู่รวมกันจะส่องแสงจนความมืดมิดยังต้องสลายหายไปอย่างแน่นอน เพราะความความรักมักทำให้คนเราเข้มแข็ง...



THE END




ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ติดตามอ่านมาจนถึงตอนจบ และต้องขอโทษที่มาต่อช้าด้วยคะ
หวังว่าทุกคนจะชอบ และมีความสุขกับการอ่านนิยายเรื่องนี้คะ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Arya_987 ที่ 21-05-2017 11:29:14
 o13
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 21-05-2017 18:59:35
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ

คนแต่งจะมีตอนพิเศษๆไหมคับ

จะรอนะคับ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Eldorado ที่ 21-05-2017 20:57:19
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้มาให้ได้อ่านกันนะคะ ^__^ :mew1: :กอด1: :-[
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 22-05-2017 15:06:29
มีรุ่นลูกต่อไหมคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 22-05-2017 20:11:33
น่ารักอ่ะ ชอบแนวนี้จัง
แบบท้องได้ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 23-05-2017 01:17:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwzaa ที่ 23-05-2017 12:04:40
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 23-05-2017 14:41:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 25-05-2017 02:04:33
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 26-05-2017 05:10:32
ขอบคุณมากๆค่ะ :pig4: :pig4: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 26-05-2017 17:23:49
ยังไม่อยากให้จบเลย สนุกๆ
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 26-05-2017 23:11:33
 :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Dream_Garden ที่ 29-08-2017 19:20:00
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Napa ที่ 30-08-2017 09:44:32
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: omomy ที่ 06-10-2017 17:52:10
มีภาคต่อที่เขียนไว้บ้างแล้ว แต่ภามจะเป็นคู่รองของเรื่องต่อไปนะค่ะ ชื่อเรื่อง โคตรรัก ฝากนักอ่านทุกท่านด้วยนะ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 09-10-2017 13:11:52
มันก้อออกจะหวานๆหน่อย  :pig4:
หัวข้อ: Re: $$_เดือนปีกทอง_$$ ตอนที่ 19 [ตอนจบ] (17/05/17)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 21-11-2017 22:56:58
ดีนะที่พายยอมใจอ่อนให้  :m16:

ขัดใจตรงภีมที่มัวแต่เป็นสุภาพบุรุษนี่แหละ เกือบไปแล้ว  :เฮ้อ:

รอภาคน้องภามนะจ้ะ  :katai5:  :pig4:  :L1: