พิมพ์หน้านี้ - ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: RiRi ที่ 01-01-2017 20:56:55

หัวข้อ: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 01-01-2017 20:56:55
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊


สารบัญ

ปราบครั้งที่1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3547943#msg3547943)
ปราบครั้งที่2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3548760#msg3548760)
ปราบครั้งที่3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3550281#msg3550281)
ปราบครั้งที่4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3551852#msg3551852)
ปราบครั้งที่5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3553950#msg3553950)
ปราบครั้งที่6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3558865#msg3558865)
ปราบครั้งที่7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3583921#msg3583921)
ปราบครั้งที่8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3586093#msg3586093)
ปราบครั้งที่9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3590209#msg3590209)
ปราบครั้งที่10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3591941#msg3591941)
ปราบครั้งที่11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3600155#msg3600155)
ปราบครั้งที่12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3607682#msg3607682)
ปราบครั้งที่13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3695355#msg3695355)
ปราบครั้งที่14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3695881#msg3695881)
ปราบครั้งที่15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3696983#msg3696983)
ปราบครั้งที่16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3698825#msg3698825)
ปราบครั้งที่17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3701025#msg3701025)
ปราบครั้งที่18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3726522#msg3726522)
ปราบครั้งที่19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3747481#msg3747481)
ปราบครั้งที่20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3748216#msg3748216)
ปราบครั้งที่21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3750309#msg3750309)
ปราบครั้งที่22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3753847#msg3753847)
ปราบครั้งที่23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3753852#msg3753852)
ปราบครั้งที่24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3757229#msg3757229)
ปราบครั้งที่25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3758202#msg3758202)
ปราบครั้งที่26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3762860#msg3762860)
ปราบครั้งที่27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3771497#msg3771497)
ปราบครั้งที่28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3772366#msg3772366)
ปราบครั้งที่29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3773227#msg3773227)
ปราบครั้งที่30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57151.msg3774146#msg3774146)
ปราบครั้งที่31

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 01-01-2017 21:00:52
PRABZA
ปราบซ่า

(http://s10.favim.com/orig/161205/amour-black-and-white-crazy-cute-Favim.com-4915700.jpeg)


มาร่วมมือกันปราบเด็กดื้อ เด็กซ่าได้แล้ววันนี้

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 01-01-2017 21:09:10
(http://s10.favim.com/orig/160813/animals-black-cute-dogs-Favim.com-4631450.jpeg)



ปราบซ่า
ตอน...ปราบที่1




   
[ซ่า]
เสียงโหวกเหวกโวยวายดังเซ็งแซ่ในบริเวณโรงเรียนช่างชื่อดังในเมืองกรุง จะว่าครึกครื้นก็ใช่ จะว่าน่ารำคาญก็ไม่เชิง ชินเสียแล้ว เพียงแต่วันนี้มันไม่ระรื่นหูเพราะผมกำลังเซ็ง

“แม่ง น่ารำคาญ” ผมลุกขึ้นยืน ทิ้งบุหรี่ลงกับพื้น ใช้ปลายเท้าขยี้แรงๆ ปัดเศษดินเศษฝุ่นที่ก้นสองสามที

“จะไปไหนไอ้พัช” ไอ้กานถาม ผมโคตรเกลียดผมแสกกลางของมันจริงๆเลย กวนตีนสิ้นดี

“กลับหอ เบื่อ”

“เออๆ พอเมียไม่ว่างมึงก็อารมณ์เสียตลอด”

ผมส่ายหัวไม่สบอารมณ์ “เจอกันพรุ่งนี้”

“เออ บาย เฮ้ยพวกมึง ลาเพื่อนมึงหน่อย มันจะกลับแล้ว” ไอ้กานตะโกนบอกคนอื่นๆในกลุ่มที่อยู่ในละแวกเดียวกัน

“เห้ย ทำไมกลับเร็ว” นี่ก็ไอ้ตูน หน้าตาดีที่สุดในกลุ่มละ ผมไม่อยากจะยอมรับ แต่ผมเป็นรองจากมัน เพราะแค่ผมตาโตกว่ามันที่เรียวยาวดูมีเสน่ห์

“โชคดีเพื่อน” ไอ้เตี้ยนี่ชื่อนุ๊ก ทั้งเตี้ยและป้อม แต่นิสัยดี เฮไหนเฮนั้น เป็นคนฮาๆรั่วๆ

“หงุดหงิดเมียก็อย่าไปขวิดใครกลางทางละมึง” ส่วนนี่ก็ไอ้หวาย หน้าตาดี จุดเด่นของมันคือปากหมาเกินบรรยาย อยู่ๆเดี๋ยวก็รู้ ผมมีเพื่อนสนิทอยู่แค่สี่คนที่คุยได้ นอกนั้นก็คบแค่ผ่านๆ เฮฮาบ้าง แต่ไม่ไว้ใจเท่าไอ้สี่คนนี้

“สัด” ผมด่าพวกมันก่อนจะเดินออกจากโรงเรียน เตะฝุ่นไปเรื่อยๆ หอที่อยู่ไกลจากโรงเรียนพอประมาณ แต่ก็พอเดินได้ ขี้เกียจนั่งรถ อยากใช้ความคิดตอนเดิน

ครืดดดดๆๆ

ผมล้วงเอามือถือในกางเกงมาดู ที่บ้านโทรมา ผมกดรับสาย

“ฮัลโหล”

“ซ่า แม่ให้ถามว่าวันนี้มึงจะกลับบ้านไหม” ไอ้มิวมีศักดิ์เป็นน้าผม แต่อายุน้อยกว่าผมสองปี อะไรยังไงอ่านๆไปเดี๋ยวคุณก็รู้เองนั่นแหละ

“ไม่กลับ ทำไม มีอะไร”
“เปล่า แม่ให้ถาม เขาทำแกงส้มหน่อไม้ปลาสวายของโปรดมึงด้วย จะไม่กลับมาไง” เสียงมันเง้างอดเหมือนงอน

ผมหยุดเดิน มองรถราที่วิ่งผ่านตัวผมไปคันแล้วคันเล่า ก่อนจะโบกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่วิ่งผ่านมาพอดีให้หยุดจอด

“เออ งั้นบอกแม่ว่าเดี๋ยวกูกลับ” พูดจบก็กดตัดสาย กระโดดขึ้นนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ บอกจุดหมายปลายทางที่จะไป

ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงบ้าน บ้านผมก็ไม่ได้ไกลจากที่เรียน แต่ที่เลือกย้ายไปอยู่หอก็เพราะว่าผมอยากออกไปอยู่ส่วนตัว คนในครอบครัวผมก็ค้าน แต่ผมมันทั้งดื้อและรั้น ไม่ฟังใครหน้าไหนทั้งนั้นถ้าตัวเองต้องการอะไร สุดท้ายผมก็ดื้อแพ่งออกไปอยู่หอ โดยอยู่ห้องกับเพื่อนคนหนึ่งในเอก

“ไงซ่า เอ็งไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องบ้างเลยนะ” พี่แนนว่า ผมยกมือไหว้

“ก็กลับมาแล้วนี่ไง” ผมตอบ

“แม่บอกให้ไปอยู่กับแม่ก็ไม่เอา ดื้อด้านจริงๆ” พี่แนนบ่นอีกแล้ว ไม่รู้หรือไงว่าผมเบื่อ

อย่าเพิ่งสับสน พี่แนนที่ว่าก็คือแม่ของผมเอง แต่ที่ผมไม่เรียกเขาว่าแม่ก็เพราะว่า เขาไม่ได้เลี้ยงผมมา คนที่เลี้ยงผมมาคือแม่พิมพ์ หรือที่แท้จริงก็คือยายของผม

ไม่รู้สิ ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมก็เรียกเขาว่าพี่แนนมาโดยตลอด แม้ใครจะถามว่าทำไมผมไม่เรียกเขาว่าแม่ หรือพวกญาติพี่น้องบอกกับผมว่าผมควรเรียกเขาว่าแม่เพราะเขาคือแม่ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ยังยืนกรานที่จะเรียกว่าพี่แนน แล้วเรียกยายว่าแม่

มันคือความเคยชินที่เป็นมาตั้งแต่จำความได้ ให้เปลี่ยนมันยาก

และผมว่าเรียกแบบนี้ก็เหมาะสมแล้ว

“ซ่าเอ้ย คืนนี้นอนบ้านไหม” แม่ที่อาบน้ำเรียบร้อยทาแป้งหน้าขาววอกเดินโขยกเขยกออกมา ผมนั่งลงข้างพี่แนนยกมือไหว้แม่

“ไม่นอนอ่ะแม่ วันนี้มีอะไรกิน” ผมถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว

“แกงส้มปลาสวาย” แม่ตอบ แล้วก็เดินไปทำนู่นทำนี่ ผมนั่งคุยกับพี่แนนและพี่สาวอีกคนชื่อจี้ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง คือความจริงก็มีศักดิ์เป็นน้าผมแปบไอ้มิวนั่นแหละ แต่ยังไงล่ะ มันค่อนข้างซับซ้อน ผมอธิบายเลยแล้วกันแบบสั้นๆ

แม่ผม ซึ่งความจริงก็คือยาย เป็นแม่ของพี่แนน ซึ่งคือแม่แท้ๆของผม ส่วนไอ้มิวเป็นน้องพี่แนน และพี่จี้จัดเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่แนนและไอ้มิว ผมที่เป็นลูกพี่แนนจึงมีศักดิ์เป็นหลาน แต่ผมไม่เรียกพี่จี้ว่าน้า และกับไอ้มิว แน่นอน ผมเรียกมันว่าไอ้มิวนั่นแหละ เป็นอันจบการลำดับญาติ

ญาติพี่น้องผมมีหลายคน แต่พี่จี้เป็นพี่ที่ผมรักและเคารพมากที่สุด และเขาเข้าใจผมมากกว่าใคร เป็นคนที่ผมเปิดเผยความเป็นตัวเองและกล้าอ้อนมากที่สุดรองจากแม่ แต่พี่จี้ก็ชอบบ่นผมบ่อยๆว่าผมชอบเก็บเงียบไม่เปิดเผยความรู้สึก สันดานนี่น่ะ แก้ยากจนไม่อยากจะแก้

“อ่ะนี่ ของขวัญวันเกิดเรา” พี่จี้ส่งถุงของขวัญให้ ผมตาวาวเมื่อเห็นชื่อที่บนถุง

“โห ทำไมใจดีอ่ะ แพงไหมเนี่ย” ผมรับถุงของADIDASมาดู แกะกล่องออกดูของข้างใน พระเจ้า โคตรสวยเลย!

“ไม่แพงหรอก อันนี้ฝากรุ่นพี่ที่ทำงานที่ไปอเมริกาให้หิ้วมาให้” พี่จี้บอก ผมยกมือไหว้แล้วลองสวมรองเท้าคู่ใหม่ทันที

ผมไม่เคยใช้ของมียี่ห้อหรอก ถ้าจะมีก็มือสอง มีปัญญาซื้อของแพงที่ไหนล่ะ บ้านผมไม่รวย เรียกว่าจนก็ได้ แต่ผมก็ไม่อะไร มีอะไรให้ใช้ก็ใช้ แค่ไม่ต้องเดินเท้าเปล่าก็โอเค แต่ถ้าถามว่าความอยากได้อยากมีไหม มันก็ต้องมีเป็นของธรรมดาเปล่าวะ แต่ก็นะ ไม่มีก็ไม่ตาย อย่างน้อยขอให้มีข้าวกินที่บ้านให้กลับก็แล้วกัน

“เฮ้ย หาข้าวกินได้แล้ว” แม่ตะโกนบอก พี่แนนลุกขึ้นไปช่วย ผมนั่งอยู่ที่เดิมกับพี่จี้ บ้านพี่จี้อยู่เยื้องๆกับบ้านผม ใกล้ๆกันนิดเดียว แต่พี่จี้ไม่ค่อยออกมาจากบ้านหรอก เขาบอกว่าเบื่อ คนเยอะวุ่นวาย

“ซ่า สบายดีนะ” พี่จี้ถาม ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงเป็นห่วงแบบทุกครั้งที่จะถามเมื่อผมกลับบ้าน พี่จี้รู้ปัญหาในบ้านของผม เขาไม่เคยว่าในสิ่งที่ผมทำแม้จะไม่ดี เขาว่าพูดไปก็เท่านั้น ผมไม่ฟังเขาหรอก แต่เขาเชื่อว่าผมจะเรียนรู้ทั้งความผิดพลาดและความสำเร็จจากการกระทำของตัวเอง ผมถึงสบายใจที่จะคุยกับพี่จี้

“ก็ดี เรื่อยๆ” ผมตอบปัด ไม่รู้สิ ก็ไม่มีอะไรแย่หรือร้ายแรงอะไร

“มีอะไรก็ปรึกษาพี่ได้ พูดหลายรอบแล้วเหมือนกัน จำได้ใช่ไหมไอ้เด็กดื้อ”

“ฮะๆ รู้แล้วน่าฮู้วว ผมโตแล้วน่า ดูแลตัวเองได้”

“ให้มันจริง แล้วมีเงินใช้ไหม”

ผมหยุดนิ่ง กรอกตาเล็กน้อย “ก็มี”

“หึ มีน้อยล่ะดิ” พี่จี้ยิ้มขำ แล้วควักเงินในกระเป๋าตังยื่นให้ผม ผมมองงงๆ ไม่ยื่นมือไปรับ

“ให้ทำไม ไม่เอา” คือพี่จี้เองก็ไม่ได้มีเงินมาก แต่ก่อนลำบากมากกว่าครอบครัวผมอีก แต่ตอนนี้เรียนจบทำงานแล้วก็ดีขึ้น

“ไม่เป็นไร พี่พอมี ก็ไม่ได้ให้บ่อย นานๆที เอาไปเถอะ”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ รับไปเถอะน่า อีกไม่กี่วันเงินเดือนพี่ก็จะออกละ อย่าคิดมาก”

ผมยอมรับเงินหนึ่งพันบาทจากพี่จี้มาแล้วยกมือไหว้ เก็บใส่กระเป๋าไม่ให้ใครเห็นโดยเฉพาะพี่แนน ไม่งั้นพี่แนนก็จะบ่นผมอีกที่ใช้เงินเปลือง

หึ คิดดูแล้วกัน ผมกลับมาบ้านเขาถามผมสักคำไหมว่าเป็นไงบ้าง ไม่มีเลย

ผมกินข้าวเย็นกับแม่และคนในครอบครัว มีแต่ของโปรดผมทั้งนั้น แม่รู้ใจผมที่สุด ทุกครั้งที่ผมกลับบ้านผมจะได้กินอิ่มแปล้เพราะแม่จะทำแต่ของที่ผมชอบ หมดข้าวจานที่สองผมก็นั่งบีบขาให้แม่อีกแปบหนึ่งก่อนจะขอตัวออกมา

ผมนั่งเดินออกจากซอย เจอเพื่อนเก่าที่อยู่ซอยเดียวกันเลยหักคอให้มันขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งที่หอ ผมจะได้ไม่เปลืองค่ารถ แต่ยังไม่ทันขึ้นห้องโทรศัพท์ยี่ห้อไม่ดังราคาแค่พันกว่าบาทก็ดัง อย่างน้อยก็เป็นระบบแตะสัมผัสหน้าจอได้นะเว้ย อย่าได้ดูถูกเชียว

“ไอ้พัช! ไปกินเหล้ากับกูกัน กินฟรี มีรุ่นพี่เลี้ยงเว้ย!” ไอ้หวายพูดเสียงตื่นเต้นแทรกมาด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายดังกระหึ่ม แสดงว่ามันก็กลับบ้าน ครอบครัวมันคนเยอะไม่ต่างจากผม ไม่เคยไปเจอหรอกครับแต่มันเล่าให้ฟัง ไอ้หวายบ้านมันเป็นคนจีน ทุกคนพูดกันเสียงดังเหมือนโกรธกันมาเป็นชาติ แต่ความจริงคือคุยกันปกติ ไอ้หวายก็เป็น เอะอะเสียงดังไว้ก่อน ช่างไม่เข้ากับหน้าตาหล่อตี๋สักนิด

“ที่ไหนวะ” ผมถาม ไหนๆวันนี้ก็ว่าง ไปกินเหล้าแก้เครียดก็ดี

“ที่ร้านเรื่องเหล้าน่ะเว้ย เดี๋ยวกูขี่มอไซค์ไปรับ มึงรออยู่หน้าหอเลย อีกแปบถึง” มันพูดรวดเดียวแล้วก็วางสาย ผมไหวไหล่เดินขึ้นห้องพัก ขอเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อย ยังไม่อยากใส่ชุดเด็กช่างออกไปให้เจอตีนอริ

ทีแรกว่าจะเปลี่ยนแค่เสื้อผ้า แต่เหนียวตัวเกินทนเลยต้องอาบน้ำ ผมยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ผมชอบสำรวจตัวเอง ไม่ใช่อะไร ผมแค่อยากรู้ว่าร่างกายตัวเองเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ดู ก็เหมือนเดิม รูปร่างสูงร้อยแปดสิบ แต่แขนขาลีบมีแต่หนังไม่ค่อยมีเนื้อ ผมกินเยอะมากจนหลายคนยังตกใจ แต่ผมกลับผอมแห้งตัวเท่าเดิม ผมทำงานหนักเพราะช่วยที่บ้านขนของไม่ต่างจากกรรมกรหรอก ใช้แรงงานทั้งนั้นแต่ก็ไม่เห็นว่ากล้ามเนื้อมันจะป่องขึ้น ผมเป็นคนผิวขาวแต่ไม่ได้ขาวมากสว่างจ้าเหมือนผู้หญิง ส่วนที่โดนแดดก็จะออกเหลืองกว่าในร่มผ้าเล็กน้อย

สำรวจตัวเองจนพอใจก็เปิดตู้เสื้อผ้าคว้าเอาเสื้อยืดสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์สีดำเก่าๆขาดๆมาใส่ ทาแป้งฝุ่นที่หน้าเล็กน้อย ใช้นิ้วมือสางๆผมที่เปียกให้เป็นทรงก็เป็นอันเสร็จ โทรศัพท์ดังพอดี ไอ้หวายคงมาถึงแล้วมันเลยโทรมาตาม

“กูเสร็จแล้ว กำลังจะลงไป”

“เออ” มันตัดสาย ผมเก็บโทรศัพท์รุ่นปาหัวหมาแตกยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง

ผมใส่รองเท้าผ้าใบคู่เก่ง พูดให้ถูกคือมีอยู่คู่เดียว ใส่จนเปื่อย ลงมาถึงชั้นล่างไอ้หวายนั่งคร่อมรถมอเตอร์ไซค์คุยโทรศัพท์กับเด็กในสต็อก พอเห็นผมมันก็ยอดคำหวานทิ้งท้ายก่อนจะวางสาย

“ขึ้นมาเลยมึง งานนี้กินฟรีเหล้าดีมีให้ดื่มไม่อั้น” ไอ้หวายพูดอย่างลิงโลด ผมชักเปรี้ยวปากขึ้นมา กระโดดขึ้นรถมันตรงไปที่ร้านทันที ปกติพวกผมก็ดื่มบ่อยอยู่แล้ว ส่วนมากก็แสงโสมนั่นแหละ ราคาถูกดีกินง่าย ของแพงขึ้นมาหน่อยก็เรดแปดร้อยกว่าบาท แต่นานๆที เหล้าอะไรผมก็กินได้ ขอให้เมาก็พอ

ร้านที่ไอ้หวายพาผมมาผมเคยแค่นั่งรถผ่านบ้างเท่านั้น ไม่เคยมานั่งกิน ไอ้หวายบอกว่าร้านนี้เป็นร้านรุ่นพี่ที่มันรู้จัก แต่ผมไม่รู้จัก วันนี้ที่มาก็ในกลุ่มมีแค่ผมกับไอ้หวายสองคนเท่านั้นคนอื่นไม่ว่าง

“เฮีย! ผมมาแล้ว!” ไอ้หวายตะโกนลั่นจนคนทั้งร้านหันมามอง ผมยังไม่รู้เลยว่ามันทักใคร เพราะมันตะโกนแหกปากตั้งแต่หน้าประตูร้าน

“ตะโกนหาพ่อมึงเหรอ เสียงดังลูกค้ากูตกใจหมด” มีเสียงตะโกนด่ากลับมาจากตรงโต๊ะมุมในสุดของร้าน คนอื่นๆดูจะไม่ถือสา บางคนหัวเราะขำๆไม่คิดอะไร

“แหะๆ ก็ผมกลัวเฮียไม่ได้ยิน” ไอ้หวายพูดเสียงนุ่มเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ ดูยังไงมันก็กำลังประจบเขา

“เออ!  แล้วนั่นมึงพาใครมา” รุ่นพี่ของไอ้หวายทักผม ผมยกมือไหว้ พวกพี่เขาก็ทำหน้าเหวอรับไหว้

“ไม่ต้องตกใจพี่ เพื่อนผมถึงจะเฮ้วแต่มันมีมารยาทดี” ไอ้หวายอวยผม มันติดแล้ว ใครแก่กว่าและดูว่าน่าจะคบหากันได้ผมไหว้ไว้ก่อน แต่ถ้าใครที่ไม่น่าเคารพจะแก่กว่าเป็นร้อยปีผมก็ไม่สน

“ไม่เหมือนมึงใช่ไหม มารยาทแย่มาก” พี่หัวสกินเฮดรุ่นพี่ที่ไอ้หวายรู้จักพูดความจริง คนอื่นๆในโต๊ะหัวเราะขำกันสนุกสนาน

“โหย เฮียว่าผมทำไมเนี่ย ฮู้วว”ไอ้หวายทรุดตัวนั่งลงที่ว่าง ผมนั่งเก้าอี้ข้างๆมัน

“มาๆ ผมจะแนะนำให้รู้จักกันไว้  พี่กูที่หัวสกินเฮดสุดเท่คือเฮียบีท คนนี้นี่เฮียธีร์หล่อนุ่มกลมกล่อม นี่ก็เฮียกี่ถ้าไม่อยากเสียวก็อย่ามองหน้าเฮียเขา”

“ไอ้สัดหวาย กวนตีนแหละ”

“ฮ่าๆๆ ผมพูดผิดตรงไหนวะเฮีย ส่วนอีกคน เฮียปราบ อ้าว เฮียปราบไปไหนอ่ะเฮีย” ไอ้หวายโยกตัวมองซ้ายขวาและมองไปทั่วร้าน

“ไปคุยโทรศัพท์หลังร้าน” คนที่ชื่อเฮียธีร์ตอบ ภาพลักษณ์เขาเท่าที่เห็นก็ตรงตามที่ไอ้หวานบรรยาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ทรงผม การแต่งตัว ดูสะอาดสะอ้านน่าคบหามากที่สุดแล้วในบรรดาทั้งสามคนที่อยู่ตรงนี้ เพราะเฮียบีทดูกวนๆตั้งแต่ทรงผมสกินเฮด คิ้วเฉียงๆตาเรียวคม ถ้าไม่รู้จักมองแวบแรกบอกได้เลยว่ามีเรื่องได้ง่ายๆ หน้าตาเฮียแกดูวอนโดนยำตีนมากอะครับ

ส่วนเฮียกี่ ชื่อแปลกดี กล้ามเป็นมัดๆ สูงขาวและหน้าตาพิมพ์นิยมมาก คาดว่าน่าจะเป็นลูกครึ่ง แต่ไม่รู้ว่าครึ่งอะไร

“อ่อ ไม่เป็นไร เฮียปราบมาค่อยแนะนำ นี่ๆเพื่อนผมชื่อพัช เอามาจากชื่อจริงมัน”

“แล้วชื่อเล่น” เฮียธีร์เลิกคิ้วถามผม ผมยังไม่ทันตอบ ไอ้หวายก็หันมาโวยวายใส่ผม

“เออ แล้วชื่อเล่นมึงล่ะ ทำไมกูลืมสงสัย”

“เพราะมึงโง่ไง” ผมว่าเล่นๆ แต่แกล้งทำหน้าจริงจัง ความเครียดมักหายเมื่อผมอยู่ในวงเหล้า เฮียกี่ส่งแก้วเหล้าแก้วใหม่ให้ผม “ขอบคุณพี่”

“ยังไงล่ะพวกมึง เป็นเพื่อนกันเสือกไม่รู้จักชื่อเล่น” เฮียธีร์ถาม ถึงภายนอกจะดูสุภาพ แต่คำพูดคำจาแกก็เหมือนพี่ๆคนอื่นๆ เขาถึงบอกว่าคนพวกเดียวกันถึงจะคบกันได้

“ชื่อเล่นมึงอะไรวะ บอกกูมาเดี๋ยวนี้เลย” ไอ้หวายคาดคั้นจะเอาคำตอบเรื่องชื่อเล่น

“กูไม่บอก” ผมหยักคิ้วกวนๆ

“มึงนี่ กูเพื่อนมึงนะโว้ย” โวยวายจังวะ

“หึ” แต่ผมก็ไม่ได้ตอบ

เสียงโทรศัพท์ผมดัง ล้วงขึ้นมาดูชื่อ พลอย...ผมจะกดรับสายแต่ไอ้หวายเอาดึงมือผมที่ถือโทรศัพท์อยู่ออก

“อะไรของมึง ปล่อย”

“มึงจะรับทำไม ทำแข็งข้อบ้าง พลอยมันได้ใจเกินไปแล้ว” ไอ้หวายทำหน้าไม่ชอบใจ ความจริงมันไม่ชอบพลอยแฟนผม ก็หลายๆสาเหตุ มันพูดยาก แต่ผมรู้ว่ามันหวังดีกับผม ไอ้หวายคงเป็นคนสุดท้ายที่คิดจะทำร้ายผม

“อะไรของพวกมึง แล้วมึงไปยื้อโทรศัพท์ไอ้พัชมันทำไม” เฮียบีทถามหน้างง

“ก็เฮียดูมันดิ” มันทำท่าจะฟ้องเฮียพวกมัน “แฟนมันไม่สนใจใยดีมันด้วยซ้ำ เห็นไอ้พัชเป็นของตาย ไอ้นี่แม่งก็ยังทนอยู่ได้”

“กูรักของกู” ผมตอบหน้านิ่ง

“มึงมันโง่” ไอ้หวายด่าผม

“ปล่อย” ผมกระชากเสียงเล็กน้อยเมื่อไอ้หวายยังไม่ปล่อยมือออกจากโทรศัพท์ผม หน้ามันหงุดหงิดขึ้นทันที

“มึงแม่งก็เป็นแบบนี้ ใครพูดก็ไม่ฟัง”

ผมไม่เถียง ดึงมือตัวเองกลับ ลุกออกจากโต๊ะไปรับสายข้างนอก

“ว่าไงพลอย” ผมทิ้งตัวนั่งแถวๆห้องน้ำหลังร้าน หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ผมยอมรับว่าผมกินเหล้าเก่งและติดบุหรี่งอมแงม

“ซ่า อยู่ไหน ไปกินเหล้าอีกแล้วเหรอ” เสียงเหวี่ยงๆของพลอยดังแว้ดใส่ ผมไม่สนใจ ดูดบุหรี่เข้าปอด แล้วปล่อยควันสีขาวเทาออกจากจมูก

“เฮ้อ” ผมเผลอถอนหายใจเพราะหัวโล่งขึ้น

“อะไร อย่ามาถอนหายใจนะ บอกแล้วไงว่าให้เพลาๆหน่อยเรื่องกินเหล้า” พลอยบ่นมาอีกคำใหญ่

“นิดๆหน่อยเอง ก็ไม่มีอะไรทำ พลอยก็ไปกับที่บ้านไม่ใช่เหรอไง” ผมบ่นบ้าง อยากเจอแต่ก็ไม่ได้เจอเพราะพลอยบอกว่ามีธุระกับที่บ้าน

พลอยเงียบไปครู่สั้นๆ

“ก็..ใช่ แต่มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ กลับบ้านเลย ไม่ต้องกินเหล้าแล้ว”

“ไปหาได้ไหม” ผมถาม คิดถึงอยากเจอ

“มาทำไม” เสียงของพลอยกระชากที่ปลายเสียง ผมขมวดหัวคิ้วทันที ทำไมต้องอารมณ์เสียในเมื่อผมแค่อยากไปเจอแฟนตัวเอง หึ พูดให้ถูกคืออยากไปเจอเมีย ผมผิดตรงไหนวะ

“ก็อยากเจอ จะได้กลับเลยไง” ผมพูดห้วนๆบ้าง เริ่มอารมณ์เสียแล้วเหมือนกัน

“ไม่ต้องมาหรอก จะนอนแล้ว” พลอยพูด แต่ขัดใจผมฉิบหาย ขายกเตะก้อนหินแถวนั้นแก้เซ็ง

“ไม่เอา รอนะ เดี๋ยวไปหา” ผมตัดบทไม่สนใจ วางสายไม่รอให้ปฏิเสธ ผมอยากเจอ ใครจะพูดว่าผมว่า หลงแฟนยังไงก็แล้วแต่ แต่ผมรักของผม ก็ทั้งรักทั้งทน

ปึก!

“เหี้ย เดินไม่ดูทางวะ” ตัวผมก็ไม่ใช่เล็กๆ แต่ทำไมเซ ขอดูหน้าหน่อยดิว่าใคร

“มึงหรือกูกันแน่ที่ไม่ดูทาง”

ผมตวัดตามองไอ้คนพูดที่เดินชนผม สิ่งแรกที่เห็นคือความหมั่นไส้ คือมึงหล่อไปเปล่าวะ สำรวจด้วยสายตาคร่าวๆในไม่กี่วินาที

“มึงนั่นแหละเดินชนกู” ผมนั่งอยู่ตรงนี้ ลุกขึ้นยืนยังไม่ทันจะก้าวขาตัวผมก็เซเพราะแรงชน อย่างนี้ไม่ใช่มันผิดจะให้เป็นผมหรือไง ตลกเหอะ

“คราวหลังมึงก็มองทางบ้าง นั่งแม่งซะขวางทางเดิน”

ปึก

มันเดินชนไหล่ผมอีกรอบเข้าห้องน้ำ แม่งเอ้ย กวนประสาทฉิบหายคนเหี้ยอะไร ผมเดินหัวเสียกลับไปที่โต๊ะ คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ยังจะเจอคนกวนตีนอีก

“อ้าว เป็นไรมึงหน้าบึ้งตึง” ไอ้หวายทักผม

“กูกลับแล้วนะ หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้เฮียๆ

“เฮ้ยมึง จะรีบไปไหนวะ” ไอ้หวายคว้าแขนผมเอาไว้ได้

“กูจะไปหาพลอย” ผมบอกตรงๆ ไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง มันจะไม่พอใจก็เป็นไป ผมแคร์เพื่อนแต่เรื่องนี้ไม่ค่อยสนวะ

“อีกแล้วไอ้เหี้ย! ยอมเขาอยู่ได้ เขาถึงได้เห็นมึงเป็นของตายไง” แม่งบ่นอีกละ รำคาญ

“เออๆ กูไปละ” ผมจับมือไอ้หวายออกจากแขน เดินออกจากร้านโบกรถไปหาพลอยทันที ยังไงคืนนี้ก็ต้องได้เจอเพราะผมคิดถึง

“เฮียปราบ ไปไหนมาเนี่ย ผมมานั่งจนเพื่อนผมกลับไปแล้วเนี่ย”

“อะไรของมึงไอ้หวาย กูไปคุยโทรศัพท์แล้วก็ไปเข้าห้องน้ำมา มึงมีอะไร”

“ไม่มีไรเฮีย มาชนๆ”

ปราบนั่งลงตรงที่นั่งที่เคยมีเจ้าของแต่บัดนี้เจ้าของเดินลิ่วๆออกไปจากร้าน ทิ้งให้คนที่นั่งแทนที่มองตามด้วยสายตาที่ยากจะอ่าน แต่ก็แฝงไปด้วย ‘ความถูกใจ’





Talk:

อยากแต่งนิยายแบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่ใช้ความรู้สึกที่อยากแต่งพอ และอาจจะเป็นครั้งแรกที่นายเอกของเราหรือน้องซ่านั้นแมนร้อยเปอร์เซ็นต์ เรื่องนี้มีเค้าโครงจากเรื่องจริงอยู่เกือบครึ่งนะคะ เป็นเรื่องราวของคนใกล้ตัวริริเอง ยังไงก็ลองติดตามดูนะคะ

สไตล์การเขียนก็สลับกันเล่าระหว่างพระเอกนายเอกแบบที่ริริชอบ 

ดีไม่ดียังไงก็คอมเม้นให้กำลังใจกันด้วยนะคะ อยากอ่าน

ขอบคุณค่ะ  :L1:

 
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-01-2017 21:18:16
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 01-01-2017 21:26:32
ถือเป็นสำนวนแปลกใหมของคุณริริที่เราได้อ่าน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: GaIta ที่ 01-01-2017 21:35:21
น่าติดตาม รอค่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-01-2017 23:31:58
ชอบบบบ ตามต่อ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พัช ชื่อเล่น ชื่อซ่า แน่เลย (มโนและ)
ปราบ ซ่า  :mew1: :mew1: :mew1:
พลอย แฟนพัช ชักแหม่งๆ
ไม่ใช่คบซ้อนนะ
ปราบ ถูกใจพัชแล้ว
แอ่ะ....คนอ่านก็ถูกใจปราบซ่า เหมือนกัน :ling1: :ling1: :ling1:
ไรท์ มาต่อไวๆ นะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-01-2017 08:13:18
 :impress2: รอน้องซ่าด้วยคนจ้า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-01-2017 09:03:51
น่าติดตามมากกกก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 02-01-2017 13:12:19
 :pig4: :pig4:

 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 02-01-2017 14:22:05
 o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-01-2017 17:27:58
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 02-01-2017 17:38:13


มารอปราบซ่าด้วยคน  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 02-01-2017 21:57:38
ปราบซ่า
ตอนที่2
   
[ZA]
   ผมโบกรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่หอ รถมอเตอร์ไซค์คันเก่าที่พอจะขี่ได้เหลือน้ำมันแค่ก้นถัง วันนี้ผมเลยไม่ได้เอาออกไปขี่เพราะไม่มีเงินเติมน้ำมัน แต่เมื่อเย็นพี่จี้ให้เงินมาตั้งพันหนึ่งไอ้แก่ของผมเลยกลับมาโลดแล่นบนถนนอีกครั้ง ผมเติมน้ำมันจนเต็มถังแล้วก็รีบบึ่งรถไปที่บ้านของพลอยที่ห่างออกไปจากหอผมพอสมควร

   ผมชอบขี่รถเร็วฉวัดเฉวียนไปมา มันท้าทายและตื่นเต้น มากไปกว่านั้นผมรู้สึกว่าได้ปลดปล่อย ยามที่แรงลมตีกระทบหน้าผมรู้สึกว่าตัวเองได้รับอิสระ

บ้านของพลอยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรขนาดสองชั้น ผมเหยียบขาตั้งลงแล้วดับเครื่องยนต์ กดโทรศัพท์ต่อสายหาพลอย แต่ต้องต่อถึงสองครั้งกว่าพลอยจะรับ

“อะไรเล่า จะนอนแล้ว” พลอยว่าเสียงแข็ง

“อยู่ข้างล่าง ลงมาหาหน่อย” ผมบอก

“ซ่า พูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกว่าจะนอนแล้ว” พลอยยังคงพูดกับผมด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ผมเองก็เริ่มโมโหแล้วเหมือนกัน ผมไม่ใช่คนใจเย็น อะไรขัดใจนิดหน่อยก็รู้สึกหงุดหงิดได้ง่าย

“แล้วมึงพูดไม่รู้เรื่องเหรอวะ กูบอกว่าให้ลงมาเจอหน่อยมันจะตายหรือไง หรือให้กูกดกริ่งห๊ะ” ผมเริ่มโมโห ระยะนี้ผมทะเลาะกับพลอยบ่อยมาก เหมือนจะรู้เหตุผลเพียงแต่ผมไม่ยอมรับ เหมือนที่พวกเพื่อนๆมันด่าผมไงว่าผมโง่

“อย่ามาขึ้นมึงกูนะซ่า” พลอยตวาด ผมสะกดอารมณ์ตัวเองไม่ได้ลุกขึ้นยืนแล้วออกแรงถีบประตูรั้วแรงๆแก้เครียด

“ก็ลงมาสิ ห้านาทีก็ได้”

“...”

“พลอยลงมาหาหน่อย” ผมพูดเสียงอ่อน ยอมสุดๆล่ะ

“อืม รอแปบ” ได้ยินเสียงถอนหายใจ และในที่สุดพลอยยอม ผมกดวางสายยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง รอไม่นานพลอยก็ลงมาในชุดนอนเสื้อสายเดี่ยวตัวบางแล้วก็กางเกงขาสั้น อยากกอดวะ

พลอยเป็นผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง ไม่สูงมากประมาณร้อยหกสิบ ไม่ผอมไม่อ้วนดูมีน้ำมีนวลจับนุ่มมือดี กับผมสีดำยาวสวยจรดแผ่นหลัง พลอยอาจไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาดี เพราะผมไม่เคยคบใครที่หน้าตา แต่ไม่รู้ทำไมพอรักแล้วแม่งก็รักอยู่อย่างนั้น
 
“เมาหรือเปล่า” พลอยถาม ขยับเข้ามาใกล้เพื่อดมกลิ่น ผมเลยคว้าตัวพลอยมากอด

“ไม่ได้เมา กินไปนิดเดียวเอง” ผมหอมแก้มพลอยทั้งสองข้างด้วยความคิดถึง พลอยไม่ได้ห้าม ยกมือขึ้นกอดตอบผม

“ดึกแล้วก็ไม่ไปหลับไปนอน ไม่รู้จะมาทำไม พรุ่งนี้ค่อยเจอกันก็ได้” พลอยบ่นอยู่กับอกผม

“คืนนี้ไปนอนด้วยกันหน่อยดิ” ผมพูด

“ไม่ อย่ามาตลก กลับไปได้แล้วครบห้านาทีแล้ว” พลอยดันตัวออกจากอดของผม ผมขมวดคิ้วขัดใจในทันที

“ทำไมไปนอนไม่ได้”

“ซ่า อย่ามาเอาแต่ใจได้ไหม ไม่ได้ขอพ่อกับแม่แล้วท่านก็นอนแล้ว ดูเวลาด้วย ไว้วันหลังแล้วกัน กลับไปได้แล้ว” พลอยไล่ ผมก็เลยพยักหน้าส่งๆ ลูบหัวที่เริ่มยาวรุงรังเพราะไม่ได้ตัดมาสองสามเดือน

“ทำไมต้องไล่” ผมไม่เข้าใจ ทำไมมีแต่ผมคนเดียวด้วยวะที่อยากเจออยากเห็นหน้าอยากกอด

“ถ้าจะชวนทะเลาะก็กลับไปเถอะ”

“ทำไม เพราะว่ากูมันไม่มีเหมือนคนอื่นที่มึงคุยด้วยงั้นเหรอ” ผมพูดออกมา เรื่องนี้ผมรู้มาจากเพื่อนไม่ได้เห็นด้วยตนเอง ผมก็ไม่ได้ปักใจเชื่อที่เพื่อนบอกร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ พักหลังมานี้ผมแตะมือถือพลอยไม่ได้เลย ทั้งๆที่ปกติเอามาเล่นเกมก็ไม่เคยว่าหรือห้าม แต่เดี๋ยวนี้แค่แตะพลอยยังขึ้นเสียงใส่หาว่าผมไปยุ่งกับของส่วนตัว

“นี่ อย่ามาหาเรื่องกันนะ จะหาว่าพลอยมีชู้หรือไง”

“แล้วไม่จริงเหรอไง”

“ใครกันแน่วะ ซ่าต่างหากที่มีผู้หญิงคนอื่น เพื่อนที่คบก็ดีๆทั้งนั้นเวลาอยู่ในวงเหล้า ทำตัวไม่มีอนาคตรู้ไหมว่ามันน่าเบื่อ”

ผมหมดความอดทนกระชากไหล่พลอยทั้งสองข้าง มือที่กุมไหล่เล็กบีบแน่นจนพลอยร้องเจ็บ แต่ผมไม่ปล่อย ผมโมโหที่พลอยว่าเพื่อนผมและหาว่าผมมีคนอื่นทั้งๆที่ผมไม่เคยมีใคร ไม่เคยคุยกับใครด้วยแม้ว่าจะมีผู้หญิงสักกี่คนเข้าหาผมก็ตาม สิ่งที่พลอยพูดมันคือการกล่าวหาที่ผมโคตรจะเกลียด ว่าผมเรื่องไม่มีอนาคตผมไม่ว่า แต่อย่าเอาความผิดที่ผมไม่ได้ก่อมาว่าร้ายเผื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง

“ใครกันแน่ที่หาเรื่องทะเลาะ บอกไว้ก่อนเลยว่ากูไม่มีทางเลิกกับมึงหรอก มึงต้องเป็นของกูคนเดียวพลอย” ผมกัดฟันพูด พลักตัวพลอยไปกระแทกกับประตูเหล็กอย่างแรงเพราะความโมโหอย่างขีดสุด

“ไอ้เหี้ยซ่า เจ็บนะเว้ย” พลอยกรีดร้อง

“เออ กูก็เจ็บเหมือนกัน” ผมพูดไว้แค่นั้นแล้วก็ยกขาขึ้นคร่อมรถขับกลับหอ ยิ่งดึกถนนยิ่งโล่งให้ผมได้ออกแรงบิดคันเร่งมันมือ พายุที่ก่อตัวอยู่ข้างในคอยแต่จะระเบิด ริมฝีปากผมเม้มแน่น เอาความรู้สึกทุกอย่างไปลงไว้ที่มือ สุดท้ายผมก็กลับมาถึงหออย่างที่ไม่รู้ตัว รถไม่ชนตายก็บุญแค่ไหนแล้ว

ผมเดินขึ้นหออย่างเหม่อลอย ถึงผมจะโกรธพลอยยังไง สุดท้ายผมก็ไปจากผู้หญิงคนนี้ไม่รอด ผมจะยอมอยู่เงียบๆตราบเท่าที่ผมยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา แต่หากผมจับได้ว่าพลอยมีคนอื่นผมก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกันและผมจะไม่มีวันยอมให้พลอยทิ้งผมไปรักกับคนอื่น พลอยจะต้องอยู่กับผมคนเดียวจนกว่าจะตายจากกันไปข้าง

ผมยืนอยู่หน้าห้อง หยิบกุญแจห้องไขเปิดประตูออก แต่สิ่งที่เห็นภายในห้องทำให้ผมก้าวเข้าไปไม่ได้ ไอ้กฤษรูมเมทของผมกำลังเอากับแฟนของมันอย่างถึงพริกถึงขิง ผมทำได้แค่ปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้รบกวนคนข้างใน หันหลังยืนพิงกำแพงแล้วไถลตัวทรุดลงนั่งกับพื้น

เสียงครางและเสียงเตียงดังเล็ดรอดออกมาข้างนอก เวลาเที่ยงคืนกว่าแบบนี้คนส่วนมากนอนหลับกันแล้ว เสียงของคนในห้องสองคนจึงดังเป็นพิเศษ

ไอ้กฤษเพื่อนร่วมสถาบันช่างเป็นรูมเมทของผม ความจริงคือผมมาขออยู่กับมันเพราะจะได้ประหยัดค่าหอ แทนที่จะเสียคนเดียวเดือนละสามพันก็เสียแค่พันห้า ร่วมค่าน้ำค่าไฟก็สองพันนิดๆ ก็ดีกว่าเสียคนเดียวสี่พันห้าพัน แต่มันก็ไม่ได้พาแฟนมันมานอนบ่อยหรอกเพราะแฟนมันอยู่บ้าน เหมือนที่ผมก็พาพลอยมานอนที่นี่เหมือนกันในวันที่มันไม่อยู่

ส่วนคำถามที่ว่าทำไมผมไม่ไปอยู่กับเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ก็เพราะว่าไอ้พวกนั้นมันอยู่บ้านกันหมด มีผมคนเดียวที่ออกมาอยู่หอเพราะไม่อยากอยู่บ้าน ผมอยากมีอิสระผมคิดแค่นั้น

“อ๊าๆๆ อืม กะ กฤ...”

ผมถอนหายใจ ยกขาขึ้นชันเข่าใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดตัวเอง ผมควรจะได้มีความสุขกับแฟนแต่พักหลังกลับทะเลาะกันไม่เว้นวัน ผมเคยคิดว่าพลอยจะเป็นคนที่มอบสิ่งที่ผมต้องการได้เหมือนที่เธอเคยบอก แต่ว่าวันนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าความรักของเรายังเหมือนเดิมไหม

และก็เหมือนเดิมทุกครั้งที่ผมไม่มีใครอยู่เคียงข้าง มีเพียงตัวเอง

น้ำตาหนึ่งหยดไหลออกจากตา ผมรีบปาดมันทิ้ง ไม่อย่างนั้นหยดที่สองที่สามและสี่ก็จะตามมา

“เหนื่อยจังวะ” ผมบ่น ซบหน้าลงกับเข่า ไม่สนใจเสียงครวญครางของคนในห้อง ปล่อยตัวเองให้จมจ่ออยู่กับความคิดที่วกวน ยิ่งคิดยิ่งหลงทาง ยิ่งหาหนทางยิ่งไม่เจอทางออก

จากสิบนาทีเป็นครึ่งชั่วโมง จากครึ่งชั่วโมงเป็นสองชั่วโมงที่ผมต้องนั่งรออยู่หน้าห้อง เพราะไม่รู้จะไปที่ไหนเลยได้แต่นั่งรอให้คนทั้งสองคนเสร็จกิจกามเสียที แต่ดูท่าพวกมันจะคิดถึงกันและกันมากเกินไปจนร่างกายผมทนรอไม่ไหวเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น

“ไอ้พัช! มานอนอะไรตรงนี้วะ ไอ้พัช ตื่น”

ผมรู้สึกตัวเพราะเสียงเรียกแล้วแรงเขย่าที่ต้นแขน ทำเอาตัวผมสั่นจนเกือบจะเอนล้มลงไปทั้งร่าง แต่ไอ้คนมาเรียกมันดึงแขนผมเอาไว้ก่อน

“เสร็จแล้วเหรอวะ” ผมงัวเงียถาม เบิกตาโตๆของตัวเองมองรอบข้างก่อนจะมองรูมเมท ไอ้กฤษกับแฟนมันยืนมองผมด้วยแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย แต่แฟนมันหลบตาติดเขินอายเล็กๆ อยากจะบอกว่าไม่ทันแล้วแม่คุ๊ณ ทั้งภาพทั้งเสียงผมสัมผัสมาหมดละจากเมื่อคืนนี้

“เออ ขอโทษทีวะ เมื่อคืนเพลินไปหน่อย” ไอ้กฤษพูด

“ไม่เป็นไร งั้นกูขอเข้าไปอาบน้ำในห้องนะ” ผมลุกขึ้นยืน เซเล็กน้อยเพราะเหน็บกินไปทั้งขา

ผมอาบน้ำแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงต่อ ล้มเลิกการไปเรียนในวันนี้ พูดง่ายๆก็คือผมโดดเรียน ส่วนไอ้กฤษกับแฟนของมันออกไปตั้งแต่ที่ผมอาบน้ำแล้ว

ผมหลับตั้งแต่เช้ายันบ่ายโมง ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังติดต่อกันไม่หยุดหย่อน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครโทรมาถ้าไม่ใช่ไอ้พวกเพื่อนของผม ป่านนี้มันคงด่าผมไปถึงชาติหน้าแล้วที่โดดเรียนไม่โทรบอกพวกมัน

“อะไรพวกมึง” ผมรับสาย

“ไอ้เหี้ยพัช มึงหายหัวไปไหนวะไอ้สัส” มาก่อนคนแรกเลยคือไอ้นุ๊ก และก็เสียงกรนด่าของคนอื่นๆก็ดังตามมา มันคงเปิดเสียงให้ได้ยินกันทั่วหน้าแน่ๆ

“กูอยู่หอ” ผมตอบ

“แล้วทำไมมึงไม่มาเรียนห๊ะ” ไอ้หวายตะโกนใส่โทรศัพท์ เห็นมันอย่างนี้แต่มันเป็นคนที่ตั้งใจเรียนที่สุดในกลุ่ม

“กูขี้เกียจ” พอผมตอบไปแบบนั้นก็ถูกพวกมันด่าอีกระลอกใหญ่

“กูจะไปกระทืบมึงถึงห้องเลย จะไม่มาก็ไม่บอก ปล่อยให้พวกกูเป็นห่วง คิดว่ามึงโดนอริสอยไปแล้วไอ้เหี้ย มึงทำกูเครียด” ไอ้ตูนร่ายยาว

“เออๆ กูขอโทษที่ไม่ได้โทรบอก แต่กูสบายดี” ผมผิดเองที่ไม่โทรบอกพวกมัน เด็กช่างอย่างเราจะทำอะไรก็ต้องระวัง เพราะมีคนต่างสถาบันจ้องจะเล่นงานอีกเพียบ ต่อให้เราไม่วิ่งเข้าไปหาปัญหา พวกมันก็พร้อมที่จะวิ่งเข้ามาหาเราเอง คนภายนอกไม่มีทางเข้าใจพวกเราหรอก เพราะสุดท้ายเราก็เป็นได้แค่เด็กกุ๊ยเด็กอันธพาลต่อยตีกันให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปวันๆ ไร้อนาคต ไม่มีอะไรดี

“มึงห้ามทำแบบนี้อีกนะไอ้พัช พวกกูเป็นห่วง” ไอ้กานพูดเสียงจริงจัง

“อืม รู้แล้ว ขอบใจพวกมึงมาก” ผมรู้ว่าพวกมันเป็นห่วงผมมาก

“ให้พวกกูเข้าไปหาที่หอไหม” ไอกานถามอีก

“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูจะออกไปทำงาน”

“เออๆ พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน มึงห้ามโดดอีกเข้าใจนะ” ไอ้หวายกำชับ ผมอือออไปตามเรื่องแล้วกดวางสาย

และในทันทีทันใด มือของผมก็กดโทรออกหาผู้หญิงที่ผมเพิ่งจะทะเลาะด้วยเมื่อคืน...พลอย

สุดท้ายผมก็ยังรักเธออยู่ดี

แต่สายแรกที่โทรไปพลอยไม่รับสาย จนกระทั่งสายที่สองสายที่สามก็ยังไม่รับ ผมเริ่มหงุดหงิดจนต้องออกไปสูบบุหรี่ที่นอกระเบียงพลางกดโทรไปเรื่อยๆ สุดท้ายพลอยก็ปิดเครื่องหนี ถ้าไม่ติดว่าผมจะต้องออกไปทำงานผมคงบุกไปหาที่โรงเรียนไม่ก็ที่บ้านให้มันรู้แล้วรู้รอด

พลอยอาจจะกำลังโกรธผมอยู่ที่ผมทำรุนแรงกับเธอเมื่อคืน ไม่เป็นไร วันนี้ผมจะปล่อยไปก่อน แต่พรุ่งนี้ถ้าพลอยยังไม่รับสายอีกมีเคลียร์

ผมออกไปทำงานด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก ไปถึงร้านสะดวกซื้อชื่อดังที่มีโลโก้เป็นเลขเจ็ดก็ถูกหัวหน้างานบ่นที่หน้าผมบึ้งยิ่งกว่ามีใครเอาตีนมานาบหน้า และให้ผมรีบปรับสีหน้าก่อนที่จะไปยืนคิดเงินตรงตำแหน่งแคชเชียร์

“เอาดีๆพัช อย่าให้มีปัญหานะ” พี่นกเอ่ยเตือน ผมพยักหน้า เดินเข้าห้องน้ำเอาน้ำลูบหน้า ทิ้งความกลัดกลุ้มใจออกไปจากความคิดชั่วขณะ ยังไงผมก็ยังต้องทำงานใช้เงิน อย่าทำให้เกิดปัญหาเป็นดี เพราะผมขี้เกียจหางานใหม่แล้ว

คืนนี้ผมทำงานแบบตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง จนกระทั่งถึงสามทุ่ม ผมเงยหน้าดูนาฬิกา อีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเลิกงาน ผมอยากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแฟนผม แต่ทว่ายังทำงานอยู่ผมก็ไม่อยากจะเกเรมากนัก

ตื้อดึง

“เซเว่นอีเลเว่นสวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักทายลูกค้าเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด ทีแรกนั้นไม่ได้มอง แต่พอเงยหน้าเท่านั้น ผมก็แทบอยากจะเอาคำทักทายเมื่อตะกี้กลับคืนมา

ไอ้คนที่เดินชนผมในร้านเหล้าเมื่อคืน

มันจ้องผมนิ่งก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก เห็นชัดว่ามันจำผมได้เหมือนที่ผมจำมันได้

“ทำงานที่นี่เหรอ” มันเดินมาทักผม

ผมไม่ตอบ เลี่ยงไปรับของจากลูกค้าท่านหนึ่งมาคิดเงินแทน แต่ของมีแค่ชิ้นเดียวก็เลยเสร็จไว

“หยิ่งเหรอไง ถามไม่ตอบ”

“...”

“อ่อ เป็นใบ้”

“กูไม่ได้เป็นใบ้” ผมอดทนไม่ไหวเลยแก้ต่างให้ตัวเอง แม่งบ้าหรือไงมาหาว่าคนอื่นเป็นใบ้

“ชู่วว เบาๆดิ มีที่ไหนพนักงานพูดมึงกูกับลูกค้า” มันพูดด้วยท่าทางและสีหน้ากวนตีน ถ้าไม่ติดว่าทำงานอยู่ผมกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปซัดมันละ

“กูไม่รู้จักมึง อย่ามายุ่งกับกู” ผมกัดฟันพูดเสียงต่ำ

“หึหึ เดี๋ยวก็รู้ว่าจะได้รู้จักหรือไม่ได้รู้จัก” มันพูด

“...” ผมเลือกที่จะเงียบไม่อยากคุยกับมัน

“เอาบุหรี่ยี่ห้อ N ซองหนึ่ง” มันสั่ง

ผมหันไปหยิบของแล้วมาคิดเงิน แม่งรวยแน่ๆสูบของแพงด้วย

ผมคิดตั้งเสร็จก็รับตังทอน แต่ไม่รู้ว่าผมคว้าเงินผิดหรือเพราะอะไร มือผมกับมือมันถึงได้สัมผัสกันมากกว่าครึ่ง ผมรีบชักมือกลับ เอาจริงๆก็ไม่ทันสังเกตหรอกว่าผมไปโดนมือมันหรือมันมาโดนมือผมกันแน่ แต่ที่รู้ๆ ผมยัดตังทอนใส่ในถุงบุหรี่แล้ววางตรงหน้ามัน ซึ่งมันก็ไม่ได้ว่าอะไร รับไปแล้วเดินออกจากร้าน

ผมทำงานต่อจนกระทั่งหมดเวลางาน เคลียร์นู่นนี่นั่นในร้านจนเรียบร้อยก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่ม ผมเดินออกจากร้านพลางบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ และสิ่งที่ทำในเวลาต่อมาก็คือต่อสายหาพลอย

สายแรกไม่รับ ผมกดต่อสายสอง รอจนเกือบสัญญาณจะตัด

“พลอย” ผมเรียกเสียงเรียบ พยายามที่จะไม่หงุดหงิด แม้ว่าอารมณ์กรุ่นๆช่วงเย็นจะยังหลงเหลืออยู่

“มีอะไรหรือเปล่า พลอยทำการบ้านอยู่” พลอยตอบเสียงปกติ เหมือนว่าเราสองคนไม่ได้ทะเลาะกันมาก่อน

“ซ่าขอโทษนะเรื่องเมื่อวาน”

“อืม ไม่เป็นไร”

“เอ่อ วันนี้ไปหาได้ไหม” ผมยกมือเกาคอแก้เขิน ยืนแอบอยู่หน้าเซเว่นเพราะจิตใจจ่มจ่ออยู่กับการคุยโทรศัพท์

“ไม่ได้ วันนี้การบ้านเยอะ ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน พลอยว่าจะชวนไปดูหนัง”

“ได้ดิ พรุ่งนี้ตอนเย็นนะ เดี๋ยวไปรับที่โรงเรียน”

“อืม แค่นี้นะ”

“บาย ฝันดีนะ” ผมยิ้มกว้างอารมณ์ดีที่สุดในรอบวัน

เฮ้อ ค่อยสบายใจหน่อย ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่เป็นอันทำอะไรทั้งวัน ใครจะว่ายังไงก็ช่างสำหรับเรื่องพลอย ตอนนี้ผมยังโอเคที่จะคบกับพลอยไม่ว่าพลอยจะเป็นยังไง ไว้ผมทนไม่ได้ขึ้นมาค่อยว่ากันอีกที

ผมหันซ้ายหันขวา ก็ไม่รู้จะหันทำไมในเมื่อมอเตอร์ไซค์ของผมก็จอดอยู่หน้าร้าน ผมเดินไปที่รถ ว่าจะขับไปหาข้าวกินมื้อดึกอีกรอบค่อยกลับหอ หวังว่าไอ้กฤษจะไม่พาแฟนของมันมากกกันอีกนะ ไม่งั้นผมคงได้นอนหน้าห้องอีกวันและมันจะทำให้ผมปวดเมื่อยร่างกายไปทั้งวัน
ผมขึ้นคร่อมรถ เสียบกุญแจและถอยรถออกจากที่จอด แต่ก่อนที่ผมจะสตาร์ทเครื่องยนต์ก็มีคนมายืนขวางหน้ารถมอเตอร์ไซค์ ผมเงยหน้ามองแล้วก็เจอกับใบหน้าที่ผมโคตรจะหมั่นไส้

“มึงยังไม่กลับไปอีกเหรอ” ผมถาม

“ไปกินข้าวกับกูไหม กูเลี้ยง” มันไม่ตอบคำถามผมแต่ถามคำถามกลับแทน

“ทำไมกูต้องไปกับมึงด้วย มึงโรคจิตหรือไง” ผมพูดอย่างหงุดหงิด ผมไม่รู้จักมัน เจอกันครั้งแรกเมื่อวานที่เดินชนกัน แล้วก็ตอนที่มันมาซื้อบุหรี่ในเซเว่นจนกระทั่งตอนนี้

“กูเหมือนคนโรคจิตตรงไหน ความจริงมึงต้องเรียกกูว่าพี่ด้วยซ้ำนะซ่า กูแก่กว่ามึง”

“มึงรู้จักชื่อเล่นกูได้ไง” ผมยอมรับว่าตกใจ เพราะนอกจากคนในครอบครัวญาติพี่น้องและพลอย ผมก็ไม่เคยบอกชื่อเล่นกับใคร แม้แต่อยู่ต่อหน้าเพื่อนผมพลอยก็ยังเรียกผมว่าพัช เพราะบอกว่าจะเก็บชื่อซ่าไว้เรียกคนเดียวจะได้ดูพิเศษกว่าคนอื่น

“ก็กูได้ยินมึงแทนตัวเองตอนคุยโทรศัพท์ หรือชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อมึง” มันเลิกคิ้วถาม

“เรียกกูว่าพัช” ผมกดเสียงเข้ม

“ไม่ กูจะเรียกมึงว่าซ่า”

“ไม่ได้ มึงห้ามเรียกชื่อนั้นของกู”

“ทำไม”

“กูให้คนสำคัญเท่านั้นเรียก”

“อ่าหะ” มันยักไหล่ได้กวนส้นตีนมากๆ “ดึกล่ะ ไปกินข้าวกัน”

“มึงเพ้อเจ้ออะไร ถอยไปอย่ามาขวางทาง”

“ซ่า...” มันเรียกชื่อเล่นจริงๆของผมอีกครั้ง และยังคงไม่ยอมหลีกทางให้ ผมชักจะเริ่มหมดความอดทน ถ้ามันยังกวนตีนผมอีกนิดผมจะขับรถชนมันเสียเลย

“มึงจะถอยไหม”

“จะไม่ไปกินข้าวกับกูใช่ไหม”

“ไม่ไป กูกับมึงไม่รู้จักกัน ถอยไป” ผมโบกมือไล่เหมือนมันเป็นแมลงวี่แมลงวันที่น่ารำคาญ

“อ่อ ต้องรู้จักกันก่อนว่างั้น”

“...”

“กูชื่อปราบ ครั้งหน้าเจอกันอย่าลืมเรียกกูว่าพี่นะครับน้องซ่า”

ไอ้คนโรคจิตแสยะยิ้มชั่วร้ายแล้วก็เดินกลับไปที่รถของมันที่จอดอยู่ใกล้ๆ ผมมองมันจนกระทั่งทั้งคนและรถหายลับไปกับตา

“หึ ฝันหรือไงที่จะให้กูเรียกมึงว่าพี่ กูไม่คิดอยากจะเจอมึงอีกด้วยซ้ำ ไอ้คนประสาท”

ผมส่ายหน้าเซ็ง สตาร์ทรถได้ก็ขี่ไปซื้อโจ๊กเจ้าเด็ดที่ตลาดโต้รุ่งเอากลับไปกินที่ห้อง คืนนี้ไอ้กฤษไม่อยู่ห้อง ผมก็เลยสบายตัวสบายใจ กินอิ่มนอนหลับ ลืมเรื่องของไอ้คนชื่อปราบไปเสียสิ้น






 :L2:

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 02-01-2017 22:24:46
 :katai5: :katai5:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-01-2017 22:47:08
นี่มาจีบหรือมากวนประสาท
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-01-2017 23:03:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-01-2017 23:12:07
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากกกกกกก
。◕‿◕。
พลอย ชิงว่าซ่าก่อน
เพราะกลบเกลื่อนความผิดตัวเองหรือเปล่า
ดูพลอยแปลกๆ อยากให้ซ่ารู้เรื่องพลอยไวๆ
ปราบ ติดใจซ่าแค่ชนกัน แล้วตามมาเจอเหรอ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-01-2017 23:23:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 03-01-2017 06:48:01
พี่ปราบ ชอบน้องซ่าแล้วหรอคะ หรือแค่ถูกใจเฉยๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-01-2017 07:42:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 03-01-2017 08:01:24
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-01-2017 13:28:59
ซ่าาจะโดนปราบใช่มั้ย 555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 03-01-2017 19:01:25
พี่ปราบไม่ธรรมดา เห็น,คุยกันแป๊บเดียวติดใจน้องซ่าซะแลฺ้ว ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 04-01-2017 19:33:59
ปราบซ่า
ตอนที่3


   
[ZA]
ขณะนี้ผมอยู่ที่โรงพยาบาล กำลังรอรับยาและข้างๆกันก็คือพลอยแฟนของผมกับเพื่อนผมอีกสี่คน ทุกคนอยู่ในความสงบต่างจากเหตุการณ์ที่เจอมาก่อนหน้านี้

“ทำไมต้องมีเรื่องตลอดเลย ไม่เข้าใจ” พลอยบ่น

“ก็พวกมันกวนตีน” ผมตอบเสียงแข็ง แม้ว่าปากจะเจ็บก็ตาม

“เหอะ ทำตัวอย่างกับหมา ชอบนักกัดกัน” พลอยด่าใส่ผมและเพื่อน หน้าชาดิกู พลอยมองผมด้วยหางตาอีกทีก่อนจะเดินหนีไป

“เฮ้ย จะไปไหนวะ” ผมลุกตามไปกระชากมือพลอย แต่เธอสะบัดมือผม

“จะกลับบ้าน ไม่อยากยุ่งกับอันธพาล”

เป็นอีกครั้งที่ผมหน้าชา ไม่ใช่เพราะรู้สึกอ่อนไหวที่โดนด่า หนักกว่านี้ผมก็เจอมาแล้ว แต่ว่า...ก่อนหน้านี้ แม้ว่าผมจะมีเรื่องต่อยตี กินเหล้าเที่ยวกลางคืนยังไง ถึงพลอยจะบ่น ถึงจะไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่เคยมองกันด้วยสายตาที่แสดงออกมาว่ารังเกียจและรำคาญ คำว่าไม่อยากเข้าใกล้กับสีหน้ามันไปในทิศทางเดียวกันจนผมหวั่นใจ

ผมเดินเข้าไปคว้าแขวนพลอยไว้ เธอหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผมเซ็งๆ

“ปล่อย”

“เดี๋ยวดิ รอกลับพร้อมกัน อีกไม่กี่คิวก็ได้ยาแล้วเนี่ย”

“ไม่ จะไปไหนก็ไปเลย วันนี้แยกย้ายกันกลับ”

“อะไรวะ ก็ไหนบอกว่าวันนี้จะไปหาไรกินกันแล้วดูหนังไง”

“ไม่มีอารมณ์”

“ต้องให้กูทำอารมณ์ให้ก่อนไหม” ผมเดินย่างสามขุมเข้าไปใกล้ เริ่มขึ้นมึงขึ้นกูเพราะอารมณ์เสีย ผมอาจจะผิดที่ไปมีเรื่องต่อยตี ถึงผมจะไม่ชอบที่พลอยชอบบ่น แต่ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามันไม่เคยแสดงออกว่าไม่อยากอยู่ใกล้หรือไม่อยากเจอหน้าผมอย่างวันนี้

“อย่ามาพูดจาแบบนี้นะ”

“หึหึ” ใช่สินะ กูมันกุ๊ยนี่ จะไปอะไรกับเด็กนักเรียนโรงเรียนเอกชนบ้านรวยล่ะวะ แม่งก่อนที่จะคบกันก็บอกว่ารับได้ กูเป็นแค่เด็กเทคนิคก็ไม่เป็นไร รับได้ ความรักไม่แบ่งแยก กูพยายามบอกแล้วว่าคบกับกูไม่สวยหรู แต่ก็บอกว่ารักกูรับได้ทุกอย่าง แล้วนี่คืออะไรวะ

ได้ใจกูไปแล้วทำแบบนี้เหรอ

“ปล่อย” พลอยมันพูดย้ำอีกครั้ง

“ได้” ผมเดาะลิ้นที่กระพุ้งแก้ม พยักหน้าหัวเสีย “กูจะปล่อยให้มึงกลับบ้านวันนี้ แต่กูไม่ปล่อยมึงไปตลอดแน่พลอย จำไว้” ผมชี้หน้าพลอยที่หงุดหงิดเป็นอย่างมาก ก่อนจะด่าผมหนึ่งคำแล้วเดินกระแทกเท้าจากไป ผมยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเขาประกาศเรียกชื่อผมให้ไปรับยา

“ไหวไหมมึง หน้ามึงเหี้ยมาก” ไอ้ตูนถามสีหน้าเป็นห่วง

ผมไม่พูดอะไร เดินออกจากโรงพยาบาลมาพร้อมพวกมัน เงินค่าข้าวหายไปหลายมื้อกับค่ายาและค่ารักษา แถมมีเมียคนหนึ่งแม่งก็ไม่ได้ดั่งใจ

“อย่าหาว่ากูยุแยงเลยว่ะ แม้พูดไปมึงอาจจะไม่เชื่อ แต่พลอยมันมีคนอื่นนอกจากมึงจริงๆนะเว้ยไอ้พัช” ไอกานมันพูดหน้าเครียด ผมหันไปจ้องหน้ามัน ไม่ได้โกรธเพื่อนแม้ว่าคำพูดของมันจะทำให้ผมหน่วงในอกก็ตาม

“เออ แล้วไหนจะท่าทีเบื่อมึงหนักหนาขนาดนั้นอีก กูเห็นแล้วรำคาญลูกตา ถ้าจะมีคนอื่นก็บอกเลิกมึงไปเลยเหอะ ทำแบบนี้แม่งเรียกว่าสำส่อนชัดๆ” ไอ้หวายก็ใส่อารมณ์มาเต็ม ผมตวัดตามองมันอย่างไม่ชอบใจ คือยังไงพลอยก็ยังได้ชื่อว่าเป็นแฟนเป็นเมียผมอยู่ มันจะทำตัวไม่ดียังไงผมก็ไม่อยากให้เพื่อนเอามันมาพูดไม่ดีแบบนี้

“จนกว่ากูจะเลิกกับมัน อย่าพูดแบบนี้ให้กูได้ยินอีกนะไอ้หวาย กูไม่ชอบ” ผมกระแทกเสียงใส่มัน

ไอ้หวายเลยทำหน้าโกรธใส่ผมกับมา “ให้มึงเลิกกับมัน เหอะ รอให้มันเอากับผัวคนใหม่ให้มึงเห็นก่อนล่ะมั้งวันนั้นถึงจะมาถึง”

ผมแสยะยิ้มแล้วกัดฟันพูด “ก็รอให้วันนั้นมาถึงก่อนล่ะกัน”

เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนคบกับพลอยต่อได้ไหม

“เออๆ คืนนี้ไปหาเหล้ากระแทกปากกันดีกว่าวะ” ไอ้นุ๊กเสนอขึ้นมาหลังจากที่เรากำลังนั่งรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ วันนี้ผมไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มา ซึ่งก็ดี ไม่งั้นรถอาจจะพังระหว่างตีกับคู่อริ

“หาคนเลี้ยงเหล้าสิหรือมึงจะจ่ายไอ้นุ๊ก ค่าหมอค่ายาเมื่อกี้หมดไปหกร้อยกว่าบาท เงินของอาทิตย์นี้กูไม่เหลือแล้ว” ไอ้กานบ่นครับ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับพวกมันทั้งสองคน หนึ่งคือทั้งอยากกินเหล้า สองคือเงินไม่มี คืนนี้ผมต้องไปทำงานแต่กำลังคิดว่าจะโทรไปลาดีไหมแม้ว่าโควต้าการขาดงานของผมจะเข้าใกล้เส้นแดงมากขึ้นทุกที แต่สภาพผมตอนนี้ไม่เหมาะให้ไปทำงานเท่าไหร่ รวมไปถึงสภาพจิตใจด้วย บอกตามตรงว่าผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย ถ้าได้เมาก็คงดี

“เดี๋ยวกูหาคนเลี้ยงเหล้าให้ พวกมึงก็กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวก็แล้วกัน ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวกูโทรบอก” ไอ้หวายที่สูบบุหรี่อยู่เอ่ยขึ้น

“เยี่ยมมากมึง หาให้ได้นะ” ไอ้ตูนยิ้มแป้นแล้นทันที

“เออ แล้วมึงล่ะพัชคืนนี้จะไปไหม มึงต้องไปทำงานนิ” ไอ้หวายเงยหน้าถามผม

“เออ เดี๋ยวกูโทรไปลางาน” ผมบอก รู้สึกอยากบุหรี่ขึ้นมาเหมือนกัน แต่แม่งหมด

“มึงลางานบ่อยขนาดนี้ไม่เสี่ยงโดนไล่ออกเหรอวะ”

“ก็คงงั้น แต่มึงจะให้กูไปทำงานสภาพนี้เนี่ยนะ คงโดนไล่กลับอยู่ดี” ทั้งหน้าและตามแขนขาลำตัวมีแต่แผล เขาคงให้ผมทำงานหรอกวันนี้น่ะ

“เออ เอาไงก็เอา แยกย้าย ดึกๆเจอกัน” ไอ้นุ๊กตัดจบเพราะรถที่มันต้องขึ้นกลับบ้านมาแล้ว จากนั้นต่างคนก็ต่างทยอยกลับ

ผมกลับมาถึงห้องพักก็เจอกับไอ้กฤษกับแฟนมันนอนคุยบนเตียงกระหนุงกระหนิง มันสองคนหันมามองผมเล็กน้อยก่อนที่รูมเมทของผมจะเอ่ยทัก

“ไปตีกับใครมาวะ สภาพดูไม่ได้เลย”

“พวกเดิมๆ วันนี้ทำไมมึงไม่ไปเรียน” ผมถาม เมื่อคืนผมไม่ได้นอนที่ห้อง กลับไปนอนบ้าน และพอไปถึงวิทยาลัยก็ถึงได้เห็นว่ามันไม่ได้ไปเรียน เพราะถ้ามันไปสภาพมันตอนนี้ก็คงไม่ต่างกัน อย่าถามเลยครับว่าตีกันไปทำไม ตีกันไปเพื่ออะไร มันไม่มีเหตุผลนอกจากคำว่าศักดิ์ศรีหรอก ยิ่งเห็นคนที่กวนตีนจนน่าเอาตีนถีบยอดหน้า ขาและมือมันก็กระตุกไปเอง

“กูไม่สบายนิดหน่อย แฟนกูก็เลยมาดูแลที่ห้อง”

ผมมองสำรวจสภาพมัน ทุกอย่างก็ดูปกติดี ไม่เห็นว่ามันจะเจ็บไข้ได้ป่วยตรงไหน สงสัยจะป่วยการเมืองอยากอยู่กับแฟน ไม่ว่ากันครับ ชีวิตใครชีวิตมัน เพราะชีวิตผมก็ไม่ได้ดี อยากทำอะไรทำไปเถอะถ้าตัวเองพอใจ

ผมเดินไปอาบน้ำและขึ้นมานอนบนเตียงของตัวเอง เสียบหูฟังเพลงด้วย ไม่อยากรับรู้ความหวานจากเตียงข้างๆกัน ผมเผลอหลับไปจนกระทั่งมีสายโทรเข้ามา เป็นไอ้หวายที่โทรมาบอกว่าพวกเฮียที่มันรู้จักจะเลี้ยงเหล้า ครั้งที่แล้วที่ไปผมก็ยังไม่ได้กิน ครั้งนี้กะว่าเอาให้เต็มที่ หงุดหงิดอยากระบาย

ผมเปิดตาให้กว้างแล้วมองรอบๆห้อง มีเสียงน้ำจากห้องน้ำ มองดูที่เตียงข้างๆ ไอ้กฤษกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า คงไม่ต้องบอกว่าตอนที่ผมหลับพวกมันทำอะไรกัน

“เดี๋ยวกูจะออกไปข้างนอกนะ ไม่แน่ใจว่าคืนนี้จะกลับไหม” ผมบอก ถ้าเมามาก อาจจะไปนอนบ้านเพื่อนคนใดคนหนึ่ง

“คืนนี้แฟนกูก็จะนอนที่นี่เหมือนกัน”

แปลง่ายๆคือคืนนี้กูไม่ควรกลับมานอนที่ห้องสินะสินะ โอเค กูเข้าใจ

“เอ่อพัช กูมีเรื่องจะบอก” ไอ้กฤษวางมือถือลงแล้วมองหน้าผมก่อนจะหลุบตาต่ำทำหน้าลำบากใจ

“อะไรวะ” ผมถาม ลุกขึ้นเดินไปหาเสื้อผ้าเปลี่ยน ไอ้หวายบอกว่าเฮียมันจะพาไปร้านเหล้าร้านใหม่ที่ค่อนข้างดูดีนิดหนึ่ง เสื้อผ้าก็เลยต้องดูดี ผมกะว่าจะใส่คู่กับรองเท้าที่พี่จี้ซื้อให้ ก็คงจะพออัพเกตให้ผมดูไม่สถุลมากนัก

“คือ แฟนกูจะย้ายมาอยู่นี่ด้วย” ไอ้กฤษพูดเสียงเบา ผมหยุดมือที่กำลังหาเสื้อแล้วหันไปมองหน้ามัน

“ที่ห้องนี้อ่ะนะ” ผมทวนถาม

คือหอพักนี้มันเล็กมาก แค่ผมอยู่กับมันสองคนก็แทบจะเดินชนกันอยู่แล้ว ถ้ามีแฟนมันมาอยู่ด้วยอีกคนจะอยู่กันยังไงวะ ไม่ขี่คอกันเลยเหรอ อีกอย่างแฟนมันเป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชายจะอยู่กันยังไง ไหนจะตอนที่มันกับแฟนมันเอากันอีก ผมไม่ต้องออกไปรอนอกห้องจนกว่ามันจะทำกิจธุระเสร็จหรือวะ บอกตามตรงว่าผมไม่อยากออกไปนอนพิงกำแพงหน้าประตูอีกแล้ว กูเมื่อย กูหนาว ยุงก็เยอะ

“อืม กูก็เลยอยากจะ...”

“...” ผมหันไปมองไอ้กฤษทั้งตัว ลุ้นคำที่มันกำลังจะพูด ทำไมกูรู้สึกว่าสีหน้ามันกับประโยคถัดมามันจะไปในทิศทางที่เลวร้ายวะ

“คือ มึงหาหอใหม่อยู่ได้เปล่าวะ กูอยากได้ความเป็นส่วนตัวอยู่กับแฟนสองคน”

“มึงว่าอะไรนะ” ผมกลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ แต่ประโยคเมื่อกี้ทำเอากูมึนหัวหนักมาก

“คือห้องนี้กูเป็นคนเช่าตั้งแต่แรกใช่ไหมล่ะ และตอนนี้แฟนกูจะมาอยู่ด้วย มึงหาหอใหม่ได้ไหมวะ กูไม่ได้ปุบปับจะให้มึงย้ายออกนะเว้ย มึงหาหอก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูช่วยหา”

ผมเหมือนถูกเอาหินปาหัว โอเค สิ่งที่มันพูดผมก็พอเข้าใจได้

“กูขอโทษนะเว้ยพัช แต่...”

“ไม่ต้องขอโทษหรอก กูเข้าใจ ห้องนี้เป็นชื่อมึงนี่ ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูหาที่อยู่ใหม่ได้” ผมบอกกับมัน พยายามฝืนยิ้ม แต่แม่งโคตรยาก

“มึงไม่โกรธกูใช่ไหม”

ผมหลุดขำ...แบบฝืนๆ

“เออ อย่าคิดมาก กูเข้าใจ” ผมยักคิ้วให้มันก่อนจะหันหน้าเข้าหาตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกเสื้อต่อ แต่การเลือกเสื้อตอนที่จิตใจว้าวุ่นเป็นอะไรที่ยากลำบากพอควร สุดท้ายคว้าอะไรได้ผมก็ใส่ รีบแต่งตัวแล้วรีบออกจากห้อง มานั่งสูบบุหรี่ที่โต๊ะม้าหินด้านล่าง

สูบบุหรี่ไปได้ครึ่งมวนไอ้หวายก็โทรมา ผมล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมากดรับ

“เออ”

“พัช มึงรออยู่ที่หอนะ เดี๋ยวเฮียปราบขับรถไปรับ กูกับเฮียใกล้จะถึงหอมึงล่ะ ลงมารอข้างล่างเลย”  เสียงไอ้หวายดังมาตามสายแข่งกับเสียงเพลงที่น่าจะเปิดในรถ

“เออ กูอยู่ข้างล่างหอแล้ว” ผมพูด

“โอเคมึง เจอกัน”

ไอ้หวายเป็นคนตัดสาย ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะอัดบุหรี่เข้าปอดไม่กี่ทีก็หมดมวน สมองผมยังไม่โล่ง มันปวดตุบๆ เรื่องน่าปวดหัวประเดประดังเข้ามาพร้อมๆกัน ไหนจะเรื่องพลอย เรื่องเงิน เรื่องหอพัก หน้าตัวก็เจ็บ แม่งมีอะไรน่าหงุดหงิดกว่านี้อีกไหม

ผมนั่งหลับตานิ่งๆไม่นานก็ได้ยินเสียงรถยนต์ ลืมตามองก็เจอกับรถยนต์คันหรูที่มีตราสี่ห่วงกลมๆอยู่ด้านหน้า จะบอกว่าคุ้นตาก็คงประหลาด แต่เหมือนว่าผมจะเคยเห็น

“ไอ้พัช ขึ้นรถเร็ว” กระจกรถเบาะหน้าเลื่อนลงแล้วหน้าไอ้หวายก็โผล่ออกมา นี่คงเป็นรถของเฮียมันแต่ไม่รู้คนไหน ผมเปิดประตูหลังเข้าไปนั่ง ยกมือไว้และเอ่ยทักเจ้าของรถ

“หวัดดี...พี่” เสียงของผมกระตุกเบาลงเมื่อเจ้าของรถมันหันมาให้เห็นชัดๆว่าเป็นใคร

“เฮียปราบ นี่พัชเพื่อนผมเอง ไอ้พัชนี่เฮียปราบครั้งที่แล้วมึงกลับไปก่อนเลยไม่ทันได้เจอ รู้จักกันไว้เพราะคืนนี้เขาจะเป็นคนเลี้ยงเหล้าพวกเราเอง”

ครั้งที่แล้วงั้นเหรอ...อยากจะบอกไอ้หวายว่ากูเจอแล้ว แต่ไม่คิดว่าไอ้นี่มันจะเป็นรุ่นพี่ของไอ้หวาย

“ทำตัวตามสบายนะ ไม่ต้องเกร็ง” เฮียปราบของไอ้หวายพูดกับผม ดวงตาของมันมีแต่ความเจ้าเล่ห์บวกกับมุมปากที่ยกยิ้มข้างเดียว ดูแล้วกวนประสาทสุดๆ

ไม่คิดเลยว่าผมจะต้องวนเวียนมาเจอกับมันอีก

‘กูชื่อปราบ ครั้งหน้าเจอกันอย่าลืมเรียกกูว่าพี่นะครับน้องซ่า’

แต่ในเมื่อต้องมาเจอกันอีกครั้ง แถมยังเป็นรุ่นพี่ของไอ้หวาย แม้ว่าก่อนหน้านี้ผมจะไม่ค่อยชอบใจ แต่หากว่ามันเป็นคนดีผมก็จะนับถือมันเป็นพี่ด้วยอีกคน

“ทำแผลก่อนออกมาหรือยัง” อยู่ๆระหว่างทางเจ้าของรถก็พูดขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ย

“เฮียถามผมเหรอ” ไอ้หวายเป็นคนตอบ

“เออ ถามมึงกับเพื่อนมึงนั่นแหละ” ตอบก่อนจะมองหน้าผมผ่านกระจกมองหลัง

“ผมทำแล้ว มึงทำยังไอ้พัช” ไอ้หวายชะโงกหน้ามามองผมที่อยู่ข้างหลัง

“ยัง” หลังจากกลับจากโรงพยาบาลผมก็ยังไม่ได้ใส่ยาหรือกินยาแก้อักเสบด้วยซ้ำเพราะไม่มีแก่ใจจะทำ

“เอา ทำไมไม่ทำวะ” ไอ้หวายโวยวายใส่ผม

“กูลืม” ผมตอบ ทีแรกว่าจะทำ แต่พอไอ้กฤษพูดเรื่องให้ผมย้ายออกจากห้อง ผมก็ลืมหมดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง

“ไอ้หวาย มึงเปิดคอนโซลข้างหน้า มียาทาแก้ฟกช้ำอยู่ เอาให้ซะ...ให้พัชทาไป” พี่ปราบพูด เขามองหน้าผมตอนที่กำลังจะหลุดเรียกชื่อเล่นที่แท้จริงของผมออกมา ก่อนจะเปลี่ยนไปเรียกชื่อเล่นที่เพื่อนผมและคนอื่นๆเรียก มันก็ไม่ใช่ความลับหรอก แต่ตอนที่แตกเนื้อหนุ่มใหม่ๆผมรู้สึกว่าชื่อซ่ามันไม่ค่อยเท่ เลยให้คนอื่นเรียกว่าพัชแทนก็แค่นั้น ไม่มีอะไรพิเศษ

“นี่ใช่ไหมเฮีย อ่ะมึงเอาไปทาซะไอ้พัช” ไอ้หวายส่งตลับยาทามาให้ผม แต่ผมไม่รู้ว่าต้องทาตรงไหนบ้าง ไอ้หวายเลยเป็นคนทาให้

“เฮียปราบนี่สมกับเป็นลูกเจ้าของโรงฝึกชื่อดังจริงๆ มีของแบบนี้ติดรถด้วย”

“ลูกเจ้าของโรงฝึก” ผมทวนคำ เหลือบมองพี่ปราบเล็กน้อย แบบนี้ก็แสดงว่าต่อยตีเก่งสิวะ ต้องบอกว่าผมโชคดีหรือเปล่าที่ไม่ได้มีเรื่องกับพี่เขาจนโดนตีน

ไม่ใช่ว่ากลัวนะครับ แต่ที่ต่อยตีกันอยู่ทุกวันกับอริต่างสถาบันมันคือการตีกันมั่วซั้ว มีอาวุธและพรรคพวก แถมตัวก็ไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่สูงใหญ่แบบพี่ปราบ

“กูถามหน่อยสิ ตีกันมันสนุกตรงไหนวะ” พี่ปราบถามขึ้น ผมกับไอ้หวายมองหน้ากันก่อนที่ไอ้หวายจะหลุดขำ

“ความสะใจไงพี่” ไอ้หวายตอบ สั้นๆง่ายๆ แม้จะไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด แต่อย่างที่บอก มันเลยจุดที่ต้องมาถามแล้วว่าทำไปทำไม เพราะถ้าเราไม่ทำ มันก็ทำเราอยู่ดี มันคือการอยู่รอด อย่ามาพูดว่าต่างคนต่างอยู่ มันไม่มีจริงในโลกของเด็กช่าง

“วันไหนตายห่าขึ้นมาไม่ใช่พวกมึงหรอกนะที่จะเสียใจ จำเอาไว้ กูก็พอจะเข้าใจ แต่ว่า...” พี่ปราบหยุดพูดก่อนจะมองสบตากับผม “คิดจะต่อยตีกับชาวบ้าน ก็อย่าแพ้กลับมามึงเจ็บอีกฝั่งต้องเจ็บมากกว่า เข้าใจไหม”

ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกว่าประโยคเมื่อกี้พี่ปราบเน้นย้ำให้ผมเข้าใจ

“ค้าบ ทราบแล้วครับพ่อ” ไอ้หวายทำทะเล้นกลับ

เพี๊ยะ!

“เดี๋ยวมึงจะโดน”

ไอ้หวายโดนพี่ปราบตบหัวอย่างแรงจนหน้าเกือบกระแทกคอนโซลรถ

“เฮียปราบ! มือหรือตีนเนี่ย ผมเจ็บตัวอยู่นะเว้ย” ไอ้หวายโวยวายเสียงดันลั่นรถ แต่ทำไมผมรู้สึกขำก็ไม่รู้

“สม อยากกวนตีนกูดีนัก ช่วยเรียบร้อยเหมือนเพื่อนมึงหน่อยได้ไหม”

“โหย อย่างไอ้พัชเนี่ยนะเรียบร้อย พูดผิดผมให้พูดใหม่ เฮียยังไม่รู้จักมันดีพอ ส่วนมึงไม่ต้องมายิ้มเลย อู้ย มึนหัว”

ผมหมั่นไส้เลยผลักหัวมันเล่นซ้ำรอยที่พี่ปราบเพิ่งจะตบหัวมันไป ไอ้หวายโวยวายใหญ่โต ทั้งผมและพี่ปราบก็ได้แต่หัวเราะเยาะใส่มัน สมน้ำหน้า พูดมากดีนัก


ร้านที่พี่ปราบขับรถพามาเป็นร้านที่ค่อนข้างหรูมีระดับ คาดว่าหากไม่มีคนเลี้ยงผมคงไม่มีปัญญามาเอง และไม่รู้ว่าพี่ปราบแกเส้นใหญ่หรืออะไรผมกับไอ้หวายก็เลยไม่โดนตรวจบัตรประชาชนในขณะที่คนอื่นๆโดนกันถ้วนหน้า

“แล้วไอ้พวกนั้นอ่ะ ไม่มาเหรอวะ” ผมถามไอ้หวายระหว่างเดินตามพี่ปราบเข้าไปในร้าน

“มันเพิ่งส่งข้อความมาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว ไว้มันโทรมาค่อยออกไปรับ” ไอ้หวายตอบ ตอนนี้ยังไม่ดึกเพลงก็เลยยังไม่ดัง คนก็ยังไม่เยอะมากนัก ทำให้มองเห็นบรรยากาศโดยรอบและเห็นว่าผู้หญิงที่นี่งานดีสัด

เป็นผู้หญิงแบบที่ผมทำได้แค่มอง แบบหมาวัดมองเครื่องบิน

“ไง ชอบเหรอ แบบนั้นน่ะ” พี่ปราบเอาไหล่สะกิดผมที่ยืนมองผู้หญิงพวกนั้นตาไม่กระพริบ

“หรือพี่ไม่ชอบ ของสวยๆงามๆ” ผมย้อนถาม

“หึหึ ชอบ” พี่ปราบมองผมด้วยสายตากรุ่มกริ่มปนหื่น ถ้าใช้สายตาแบบนี้มองพวกหญิงพวกนั้น รับรองว่าได้กินชัวร์

เดินมาถึงโต๊ะ พวกพี่ๆหน้าเดิมก็นั่งอยู่แล้ว และไอ้หวายก็รีบเข้าไปประจบพี่ๆมันรายตัว

“ผมรักพวกเฮียที่สุดเลย คืนนี้ขอหนักๆ ผมอยากเมา ขอสาวๆด้วยยิ่งดี” ไอ้หวายตะโกนเสียงดัง เข้าไปแทรกกลางระหว่างเฮียธีร์กับเฮียบีท เฮียกี่ที่นั่งถัดจากเฮียบีทเอื้อมมือไปจิ้มแผลบนหน้ามัน แกล้งจนไอ้หวายร้องเจ็บ

“หน้ามึงดูไม่ได้ขนาดนี้ยังคิดจะเอาหญิง ทำแผลหรือยัง กูเอาเหล้าฆ่าเชื้อให้ไหม แม่งมาทีไรเสียงดังทุกที” เฮียกี่บ่น แต่ปากแกยกยิ้มบางๆนะครับ

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้รอบวงก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม พี่ปราบก็มานั่งข้างๆผม

“เออ มึงไม่ต้องยกมือไหว้ก็ได้ กูไม่ถือ ไอ้หวายมันก็ไม่ค่อยไหว้พวกกูนักหรอก ทำตัวตามสบายมึง” เฮียบีทพูดอย่างเป็นกันเอง ผมพยักหน้า แต่ครั้งหน้าเจอกันก็คงยกมือไหว้ มันชินไง ถ้าไม่ได้รู้สึกเกลียดแล้วอายุมากกว่าผมก็ยกมือไหว้หมดแหละ

“เอาอะไร เบียร์หรือเหล้า หรือไวน์ สั่งเลยพวกกูเลี้ยงปลอบใจที่พวกมึงเพิ่งไปโดนตีนมา” เฮียธีร์ถามผม ผมมองขวดเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะ ไม่รู้หรอกยี่ห้ออะไรเพราะไม่รู้จัก แต่คิดว่าน่าจะราคาแพง

“ขอเหล้าแล้วกันครับ” ผมบอก

“เฮียบีท เพื่อนผมมันมาถึงแล้วอ่ะ พาออกไปรับมันข้างหน้าหน่อยดิ” ไอ้หวายลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปพร้อมเฮียบีท

“กินข้าวมายัง” พี่ปราบถาม ผมส่ายหัว

“ยังเลยพี่”

“งั้นมึงกินข้าวก่อน เหล้าไว้ค่อยกิน” พี่ปราบพูดเสียงเข้ม ยกมือเรียกพนักงานให้เอาเมนูอาหารมาให้ ผมหยิบมาเปิดดู แค่เห็นราคาอาหารกูก็อิ่มแล้ว แพงไปไหนวะ

“ทำไมอาหารมันแพงนักอ่ะพี่” ผมเงยหน้าถาม

“ไม่ต้องสนใจ จะกินไรสั่งเลย” พี่ปราบพูด

“ป๊ามากอ่ะ” ผมขำเบาๆ คนมันรวยก็งี้ ในเมื่อพี่ปราบอนุญาตผมก็ไม่เกรงใจ สั่งข้าวผัดง่ายๆโง่ๆกับต้มยำและทอดมันกุ้งอีกอย่าง ระหว่างรอก็ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ อึกแรกคือ-นลุกซู่ เฮียธีร์ชงเข้มสุดๆ

“เฮียธีร์ ชงนี่กะมอมผมเลยป่ะ” ผมถาม เฮียธีร์เลิกคิ้วก่อนจะยิ้ม

“คออ่อนเหรอมึง”

“ใครคออ่อนเฮีย ไม่มีเหอะ” หยามเรื่องไรหยามได้ แต่เรื่องนี้มีเคือง ผมกินเหล้ากินเบียร์เกือบทุกวัน ถ้าคออ่อนก็เกินไปล่ะ

“กินๆเข้าไปเหอะมึง ป๋าที่นั่งข้างมึงจ่าย ขวดนี้เจ็ดพันเลยนะมึง” เฮียบีทตอบ ผมหันไปมองหน้าพี่ปราบทันที

“เหล้าเหี้ยไรวะพี่ปราบ แพงฉิบหาย” ผมตกใจนะ คือเจ็ดพันนี่ผมซื้อข้าวกินได้เป็นเดือนสองเดือนเลยอ่ะ

“ของดีราคาก็ต้องดี กูอนุญาตให้มิกซ์ได้แค่น้ำเปล่ากับโซดา ห้ามน้ำอัดลมเด็ดขาด เสียของ” พี่ปราบพูด แต่ตาโคตรดุ เหมือนจะต่อว่าที่ผมไปด่าเหล้าแก

“มึงรู้เปล่าว่าไอ้ปราบนี่เซียนของมึนเมา แดกมาแล้วทุกยี่ห้อทุกแบบทุกชนิด แดกยันราคาหลักแสน” เฮียกี่อธิบายความเป็นพี่ปราบเพิ่มเติม ผมหันไปทำตาโตใส่

“หลักแสน! แค่แสงโสมก็พอมั้งพี่ กินไปก็ฉี่ออกมาเหมือนกันแหละ เมาเหมือนกัน เสียเงินเยอะแยะทำไม”

เพี๊ยะ

“ฮ่าๆๆ โดนเข้าให้แล้วไง” เฮียบีทมันขำที่ผมโดนพี่ปราบตกปาก ไม่เจ็บมาก แต่พอมันโดนแผลที่ผมโดนต่อยมาก็แสบเอาเรื่องอยู่

“มึงห้ามพูดแบบนี้อีก เหล้าดีมึงเอามาเปรียบกับเหล้าธรรมดาไม่ได้ มันไม่เหมือนกัน” พี่ปราบดุหน้าเครียด ซึ่งผมงงมาก อะไรของเขาวะ

“ใจเย็นๆ น้องมันไม่รู้ มึงไม่ต้องตกใจไอ้พัช เดี๋ยวมึงก็ชิน แล้วก็ไม่ต้องคิดมาก มีของดีให้กินก็กินไป” พี่กี่บอกพร้อมกับยกแก้วเหล้าให้ผมชน

“มาแล้วค้าบมาแล้วว” เสียงไอ้หวายอีกล่ะ ก่อนที่มันจะเริ่มแนะนำพี่ๆของมันให้ไอ้กาน ไอ้นุ๊กและไอ้ตูนรู้จัก เมื่อรู้จักกันครบหมดแล้วก็หาที่นั่งและเริ่มเมากันทันที






ต่อข้างล่าง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 04-01-2017 19:34:54
ผมนั่งกินข้าวโดยมีไอ้กานแย่งกินอยู่ข้างๆ และดูเหมือนว่ากับข้าวที่ผมสั่งมากินจะไม่พอสำหรับกระเพาะควายๆอย่างพวกผม

“พี่ สั่งอีกได้เปล่า ไม่อิ่มวะ” ไอ้กานถามแล้วมองหน้าเฮียทุกคน

“เออ อยากกินไรมึงสั่งเลย ไม่ต้องขออนุญาต”

“ใจดีโคตร ขอบคุณนะครับ” ไอกานยกมือไหว้ถวายบังคมเหนือหัวกวนๆ ก่อนจะรีบเรียกพนักงานมาสั่งอาหารเพิ่มทันที

“กูไม่ได้ใจดีหรอก แต่เห็นแล้วสงสาร สภาพพวกมึงแต่ล่ะคนเหมาะที่จะนอนโรงพยาบาลมากกว่าออกมาลั้นลาในผับ”

“เรื่องตีเรื่องต่อยเพลาๆบ้างเถอะพวกมึง ตายห่ามาสักวันพวกกูจะไม่ไปงานศพ” พี่ธีร์บ่นใส่หน้าไอ้หวาย คิดว่ามันจะสำนึกไหม อย่าว่าแต่มันเลย พวกผมได้แต่มองหน้ากันแล้วเงียบ

“ไม่เอาน่าเฮีย วันนี้งดสวดนะ หวายขอร้องงง” ไอ้หวายทำหน้าอ้อน แต่เป็นอ้อนตีนนะ เลยโดนเฮียปราบที่นั่งตรงข้ามถีบเก้าอี้เข้าให้

“ผมถามไรหน่อยดิ คนหล่อไฮโซแบบพวกพี่ทำไมมารู้จักกับไอ้หวายได้อ่ะ” ไอ้ตูนถามด้วยความสงสัย

“อ้าวๆ พูดงี้หมายความว่าไงวะเพื่อน จะหาว่ากูโลโซเหรอ” ไอหวายโวย

“เออ มึงเพิ่งรู้ตัว” ไอ้นุ๊กเสริมทัพไอ้ตูน

“แม่กูรู้จักกับแม่มัน” เฮียบีทตอบ “เพื่อนมึงเป็นคนใจง่าย เล่นกับกูสองสามครั้งเท่านั้นแหละติดแจ สุดท้ายก็เลยรู้จักกับเพื่อนกูทุกคน”

“ผมว่าพี่ซวยแล้วแหละที่รู้จักคนอย่างมัน” ไอ้กานพูด

“ไอ้เหี้ยกาน ว่ากูเหรอ”

“หูมึงไม่ดีหรือเปล่าเพื่อน เมื่อกี้กูชมมึงคำโตเลยวะเว้ย”

“ไอ้เหี้ยกาน”

ไอ้หวายหยิบถั่วปาใส่หัวไอ้กาน แต่ทำมันมันถึงมาโดนหน้าผากผมได้วะ

“ไอ้หวาย” ผมเรียกมันเสียงเขียว

“โทษทีมึง กูพลาดวะ” ไอห่านี่พูดง่าย

“ตาเหล่เหรอมึง ฮ่าๆๆ กูพาไปหาหมอไหม” ไอ้กานนี่ก็กวนตีนไม่เลิก

“เดี๋ยวกูเขวี้ยงแก้วแม่ง”

“กร๊ากก” ดูทุกคนจะชื่นชอบที่ไอ้หวายโดนแกล้ง ต่างก็หัวเราะด้วยความสะใจ

สองชั่วโมงผ่านไปสภาพทุกคนไม่มีดี จากที่นั่งก็ยืนกันหมด เก้าอี้ถูกเอาออกไปเพราะแค่จะยืนก็ยังไม่มีที่ ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะยิ่งมัน ไอ้กานกับไอนุ๊กลากผมไปเต้นอยู่ใกล้ๆกับกลุ่มสาวๆ อาศัยความหน้าด้านและความเมาล้วนๆ จนกระทั่งเหนื่อยก็กลับมาที่โต๊ะ ไอ้หวายเฮียธีร์และเฮียบีทหายไปไหนไม่รู้ เหลือพี่ปราบกับเฮียกี่ที่ยืนโอบสาวอยู่ที่โต๊ะ

ผมรู้สึกอยากสูบบุหรี่ แต่เขาไม่ให้สูบในนี้เลยว่าจะออกไปสูบข้างนอก ตบๆกระเป๋ากางเกงหาของที่ต้องการแต่ดันลืมไปว่าบุหรี่ผมหมดและยังไม่ได้ซื้อ ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยหันไปสะกิดพี่ปราบ

“มีอะไร” พี่ปราบละความสนใจจากสาวมามองหน้าผม

“พี่มีบุหรี่ป่ะ” ผมถาม

“มี จะเอา?”

“อืม อยากอ่ะ” ผมตอบ พี่ปราบล้วงซองบุหรี่จากกระเป๋ากางเกงให้ทั้งซอง ไอ้ตูนเห็นเข้าพอดีเลยเอ่ยปากขอด้วยเพราะมันไม่ได้พกมา จากนั้นผมและไอ้ตูนก็เลยเดินไปทางห้องน้ำ ที่ด้านหลังจะมีที่ให้ยืนสูบบุหรี่

อากาศข้างนอกเย็นนิดหน่อย แต่ได้เหล้าดีเข้าไปเลยทำให้ร่างกายอบอุ่น ผมจุดบุหรี่ยืนสูบกับไอ้ตูน มีคนอื่นใกล้ๆอีกสองสามคนแต่ไม่ได้สนใจ

พอเดินออกจากวงเหล้า แม้จะเมา แต่สิ่งแรกที่ผมคิดถึงก็คือพลอย

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ไม่มีสายเข้าสักสาย ตั้งแต่ที่แยกกันตอนเย็น พลอยไม่คิดจะเป็นห่วงหรือโทรหาผมเลยเหรอวะ ความจริงวันนี้ผมมีนัดจะไปดูหนังกับพลอย แต่ดันงานเข้า พลอยแม่งก็เลยหายหัวไปเลยตั้งแต่เย็น

ในเมื่อไม่โทรมาผมก็จะเป็นคนโทรหาไปเองครับ มาดเมิ้ดอะไรกูไม่มีทั้งนั้น มีแค่ว่าอยากโทรอยากคุย ยังไงผมก็ผิดแหละงานนี้

แต่ต่อสายหลายครั้งรอจนกระทั่งสัญญาณตัดพลอยก็ไม่ยอมรับสาย

“มึง กูจะเข้าไปแล้วนะ” ไอ้ตูนที่สูบบุหรี่เสร็จแล้วสะกิดบอกผม

“เออ เข้าไปก่อนเลย กูโทรหาพลอยแปบ” ผมบอก ไม่ได้มองหน้ามัน เลยไม่รู้ว่ามันมองหน้าผมด้วยสายตาแบบอึดอัด ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับเข้าไปในร้าน 

ผมไม่ละความพยายาม กดต่อสายอย่างใจเย็นจนกระทั่งรู้สึกว่ามีคนมานั่งข้างๆ ผมเอาโทรศัพท์ออกจากหูเมื่อสัญญาณตัดไปอีกครั้ง

“ออกมาทำไมอ่ะพี่ ไม่อยู่กับสาวเหรอ” ผมถามพี่ปราบที่มานั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างๆ แต่ซองที่พี่ปราบให้มายังอยู่ที่ผม

“ทำไมกูต้องอยู่กับสาวด้วยอ่ะ” คนหล่อย้อนกลับมาหน้ากวน

“อ้าว ก็เห็นสีกันอยู่” ผมพูดตามที่เห็น

“คุยไปงั้นๆ”

“เหรอ”

“แล้วมึงอ่ะ ออกมานั่งทำไร” คราวนี้พี่ปราบถามบ้าง ผมเลยก้มมองโทรศัพท์ในมือ ตัดสินใจเลิกโทร พรุ่งนี้ค่อยไปหาที่บ้านไม่ก็ที่โรงเรียนพลอยทีเดียว

“โทรหาแฟน แต่ไม่รับสาย”

“ทะเลาะกัน?”

“อืม ประมาณนั้น เรื่องที่ผมโดนตีนมาเนี่ยแหละ” ได้ทีผมก็ถือว่าระบายไปในตัว

“ผู้หญิงก็งี้ ไม่อยากให้แฟนมีเรื่องต่อยตี”

“ผมว่ามันหลายเรื่อง”

“ยังไง”

“เหมือนแฟนผมจะพยายามเอาตัวออกห่าง”

ผมรู้ตัวดีว่าสิ่งที่พลอยทำคืออะไร แต่ผมจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้น

“คุยกันดีๆดิ ผู้หญิงอาจจะน้อยใจ มึงก็ทำตัวดีๆหน่อย”

“ผู้หญิงไม่ได้ชอบคนเลวเหรอวะพี่” ผมหันไปขมวดคิ้วถามหาคำตอบจากพี่ปราบ

“ฮะๆๆ ผู้หญิงของมึงอาจจะชอบคนดีก็ได้”

กูต้องเป็นคนดี...งั้นเหรอ

จากนั้นผมกับพี่ปราบก็เงียบใส่กันอยู่ราวห้านาที คิดๆไปตอนที่ผมเจอพี่ปราบครั้งแรกกับครั้งที่สองที่เซเว่น บอกตามตรงว่ามันกวนตีนผมมาก และยังมีหน้ามาชวนผมไปกินข้าวอีก การกระทำของเขาเรียกได้ว่าบ้าบอเลยทีเดียว

“พี่ปราบ ถามไรหน่อยดิ”

“ว่ามา” ร่างสูงขยับหันเข้าหาผมอีกเล็กน้อย

“วันก่อนที่พี่ชวนผมไปกินข้าวอ่ะ พี่รู้จักผมแล้วเหรอว่าเป็นเพื่อนกับไอ้หวาย ทำไมถึงเข้ามาชวน” จะว่าข้องใจก็ได้ ตอนนั้นผมคิดว่าคนบ้าอะไรชวนคนไม่รู้จักไปกินข้าว

“กูรู้จักมึงตั้งแต่วันที่มึงกับกูชนที่ร้านเหล้าแล้ว” พี่ปราบตอบ ผมเบิกตากว้างเพิ่มนิดหน่อย

“จริงดิ พี่รู้ป่ะว่าพี่โคตรกวนตีนเลย” ผมพูดตรงๆ พี่ปราบจ้องหน้าผมก่อนจะพยักหน้า

“กูรู้สึกว่ามึงเป็นเด็กที่น่าสนใจดี ไหนๆก็เป็นเพื่อนกับไอ้หวาย กูเลยอยากรู้จัก” พี่ปราบอธิบายเพิ่มเติม

“แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ”

“เพราะกูตลกหน้ามึงตอนหงุดหงิด” พี่ปราบยักคิ้วใส่

“กวนตีน” ผมพูดเสียงเบา

“เออ มีไรจะถามอีกไหม”

“ไม่มี” ผมส่ายหัว

“หึหึ กูบอกแล้วไงว่าเดี๋ยวมึงก็ต้องเรียกกูว่าพี่”

ผมเหล่ตามองพี่ปราบอีกที แม้จะรู้จักกันแล้ว แต่ผมยังรู้สึกว่ามันกวนประสาทอยู่ดี แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่าพี่ปราบเป็นคนที่ไว้ใจได้ น่าจะเป็นผู้รับฟังที่ดี อาจด้วยเพราะเขาโตมากกว่าผม

“ซ่า...” พี่ปราบเรียกผมด้วยชื่อเล่น ครั้งนี้ผมไม่ได้รู้สึกไม่ชอบอะไร เพราะยังไงก็รู้จักกันแล้ว “เข้าข้างในเหอะ”

“อืม”

ผมเดินตามหลังพี่ปราบเข้าไปในร้านอีกครั้ง มาถึงโต๊ะทุกคนก็ดูสนุกสนานเต็มที่ ทั้งเหล้า ดนตรี และผู้หญิง เฮียธีร์ดันผู้หญิงคนหนึ่งมาให้ผม แต่ผมดันไปให้ไอ้กานทันที

“ไม่เอาเหรอมึง” เฮียธีร์ตะโกนถามผมทำหน้ากรุ้มกริ่ม ผมส่ายหัวแรง ถึงผมจะนิสัยแย่ทำตัวไม่ดียังไง แต่ผมก็รักเดียวใจเดียวครับ

“อย่าไปถามมันเลยพี่ ไอ้เหี้ยนี้มันกาก รักอยู่ได้ผู้หญิงคนเดียว” ไอ้กานที่เมาเละเป็นหมาหันมาด่าผม

“รักเดียวใจเดียวเหรอมึง” พี่ปราบกระซิบถามผม มือก็ส่งแก้วเหล้าแก้วใหม่มาให้

“ผิดเหรอ” ผมถามกลับ

พี่ปราบยิ้มมุมปากที่ดูแล้วโคตรดูดี “ดีแล้ว เป็นเด็กดีแบบนี้กูชอบ”

หลังจากนั้นผมก็แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ความเครียดความหงุดหงิดทั้งหลายถูกขว้างทิ้งไปไกลด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ปริมาณมากที่ไหลเวียนอยู่ในร่าง เสียงเพลงมันๆนี่มันดีสุดๆ ไม่รู้สึกเจ็บปวดบาดแผลบนหน้าและตามร่างกายเลยสักนิด รู้อย่างเดียวว่ากูเมามาก เดินไม่ไหว ใครหิ้วไปไหนมาไหน ก็ได้แต่ลากเท้าตามไป

“มึงไปส่งไอ้สามคนนี้ไป ส่วนไอ้หวายกับไอ้พัชกูจะไปส่งเอง”

“เออๆ ขับรถกลับดีๆมึง”

ผมถูกคนหิ้วขึ้นนั่งบนรถ ผมพยายามลืมตามองแต่ก็ทำไม่ค่อยได้ หนังตามันคอยจะปิดลงอย่างเดียว มึนหัวไปหมด

“ไอ้หวาย ลงมาดีๆ ถึงบ้านมึงแล้ว”

“ถึงแล้วเหรอ ขอบคุณนะเฮีย ขอบคุณคร้าบบ ไปส่งเพื่อนผมดีๆนะเฮีย ผมเข้าบ้านแล้วน้าาาาาา”

ผมฝืนลืมตามองตามหลังไอ้หวายที่เดินเข้าบ้านไป

“ซ่า...ไหวไหม” พี่ปราบที่ขึ้นรถมาแล้วถามผม

ผมส่ายหน้าไม่โกหก กูไม่ไหว

“จะอ้วกไหม” พี่ปราบถามอีก เอามือมาลูบหน้าผม

“อึก ไม่”

“งั้นเดี๋ยวกูไปส่งที่หอนะ บอกทางไหวไหม กูจำไม่ได้”

พอพี่ปราบพูดถึงหอ ผมก็ถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่ากูโดนเพื่อนไล่ออกจากห้อง และต้องหาหอใหม่ และคืนนี้แฟนไอ้กฤษมันมานอนที่ห้องด้วย แล้วผมจะไปนอนที่ไหน ให้นอนหน้าห้องผมไม่เอาแล้วอ่ะ จะนอนบ้านไอ้หวายก็ไม่ได้ขอมัน บ้านมันอยู่กันเยอะ ผมเกรงใจ

จะให้กลับบ้านสภาพนี้ เช้ามาโดนด่าหนักแน่

“พี่ปราบ...” ผมหันไปเรียกคนข้างๆ

“อะไร” พี่ปราบที่กำลังขับรถหันมามองผมแวบหนึ่ง ผมเห็นหน้าเขาไม่ค่อยชัด ภาพเบลอไปหมด

“ผมไม่มีที่นอน” ผมพูดเสียงยานคาง

“ทำไมวะ”

คำถามของพี่ปราบเหมือนเสียงสวรรค์ ผมก็พูดแม่งหมดเลยสิ่งที่อยู่ในใจ

“เพื่อนผมมันจะพาแฟนมาอยู่ด้วย มันให้ผมไปหาหอใหม่ ผมไม่มีที่อยู่แล้ว คืนนี้มันพาแฟนมานอนด้วย มันไม่ต้องการให้ผมกลับไปนอนเป็นก้าวขวางคอ วันก่อนมันสองคนก็พากันมาเอาที่ห้อง พี่รู้ไหมผมต้องนอนนอกห้องหน้าประตู โคตรทรมานเลย ยุงเยอะด้วย”

อึดอัดใจไม่มีคนพูดด้วยมานาน ได้ทีกูฟ้องใหญ่อ่ะ

พี่ปราบนิ่งเงียบไปก่อนจะพูดเสียงนิ่งๆ แต่รู้สึกดีเมื่อได้ฟัง “งั้น คืนนี้ไปนอนห้องกูก็แล้วกัน เอาไหม”

ผมคิดตามคำพูดของพี่ปราบ สมองประมวนผลช้าไปหน่อย แต่ยังพอเข้าใจ

“ห้องพี่?”

“เออ ห้องกูกว้างมาก มีที่ให้มึงนอนเกลือกกลิ้งได้สบาย ไม่ต้องไปนอนหน้าประตูห้องด้วย แถมฟรีผ้าห่มอุ่นๆหมอนนิ่มๆ ดีไหม”

“จริงนะ” ผมถามย้ำ ห้องๆนั้นที่แคบและไม่มีที่สำหรับผมแม้ว่าผมจะจ่ายค่าห้องครึ่งหนึ่งก็ตาม กลายเป็นว่ากูเหมือนกาฝากไปเลย ไม่สิ อีกหน่อยกูก็ไม่ต้องเป็นกาฝากแหละ เพราะกูกำลังจะไม่มีที่อยู่

“จริงสิ ห้องกูกว้างมากเลยนะ ไปไหม”

“อืม ไป อยากนอนแล้ว” ผมเริ่มฝืนหนังตาไม่ไหว อยากนอนเต็มแก่

“โอเค งั้นพี่ปราบจะพาน้องซ่าไปนอนนะครับ”

“อืม”

ผมอือออรับคำในคอก่อนจะค่อยปิดตาลงทันที ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ผมสบายใจแล้วที่คืนนี้มีที่ให้หลับนอน







Talk: เมื่อวานไม่ได้มาลงให้เพราะไปบิน กลับมาก็นอนยาวเป็นตาย
พี่ปราบยังไม่ได้เริ่มจีบน้องซ่านะ นางแค่ถูกใจ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบ
น้องซ่า...มามะ มาให้โอ๋ที
เจอกันตอนหน้าค่ะ จุ๊บๆ  :กอด1:



หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-01-2017 19:55:25
ง่าา. น้องซ่าจะโดนพี่ปราบทำไรป่าวอะ.  อิอิ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Shxaum ที่ 04-01-2017 20:01:37
ทำไมชีวิตน้องซ่าุึงรันทดปานนี้คะ พี่ปราบมาทำให้ชีวิตน้องดีขึ้นทีค่ะ ฮิ้วววว 55555555555555  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: GaIta ที่ 04-01-2017 20:09:57
เลิกกับพลอยเหอะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 04-01-2017 20:23:45
โห กฤษทำไมทำกับซ่าแบบนี้อะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 04-01-2017 20:26:53
ซ่าแลดูลำบากมากลูก~~

ยังไงคืนนี้นอนห้องพี่ปราบ หวังว่าคงจะรอดปลอดภัยดี อิอิ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 04-01-2017 20:34:03
ดูชีวิตซ่านี่ต้องสู้ตลอดเวลาเลย สู้กับที่บ้านแล้วนอกบ้าน

พอมาเจอพี่ปราบที่สนใจ น่าจะมีอะไรดีขึ้นจากความช่วยเหลือ

ของพี่ปราบ ดีค่ะ จะได้ไปด้วยกันเรื่อยๆ แบบเนียนๆ

เจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กชายมั่วนิ่ม ที่ 04-01-2017 20:47:53
 :katai2-1: :katai2-1:
เรื่องใหม่ริริมาแล้วววววว แนวนี้ไม่ชินเลยยย ฮ่าๆๆๆ
น้องซ่านิสัยจัดว่าแย่เลยค่ะ อารมณ์ร้อนเกิ๊นนนนนน มันจะเป็นปัญหาทีหลังนะหนู
มีปมกับที่บ้านสินะถึงได้แสดงออกมาแบบแข็งๆ ให้ตัวเองดูเป็นคนเข้มแข็ง
แต่ไม่เป็นไร มีพี่ปราบทั้งคน ฮ่าๆๆๆๆ พี่ปราบคงปราบได้อยู่หมัดสมชื่อปราบ
แถมวันนี้เมาแล้วแอบน่ารักด้วย แอบอ้อนหน่อยๆแบบนี้เดี๋ยวพี่ปราบก็หลงตายเลย

เป็นกำลังใจให้ริริค่ะ ^____^

 :L2: :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-01-2017 20:56:57
พี่ปราบ น้องซ่าาาาา ชอบอ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 04-01-2017 21:01:25
ซ่าจะเข้าถ้ำเสือแล้ว
จะโดนพี่ปราบจับกินมั้ยน้า
 :katai5: :katai5:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 04-01-2017 21:43:02
มีคนรักเยอะแยะทำไมทำตัวเหมือนเด็กมีปัญหาล่ะซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-01-2017 22:05:09
อืม....แต่พลอยมีคนรักใหม่ใช่มั้ย
แต่ไม่กล้าบอกเลิกซ่า
เพราะซ่าดูร้ายๆ
แล้วซ่าจะเจอความจริงเมื่อไหร่
ซ่าไปนอนห้องพี่ปราบ เข้าทางเลยนะ
พี่ปราบพาน้องซ่าไปนอนและ
ว่าแค่ซ่าจะได้หลับสบายจริงหรือเปล่า
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 04-01-2017 22:27:26
ใจเย็นๆ ก่อนนะปราบเอ้ย~ อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม  ค่อยๆ ล่อลวงค่อยๆ ตะล่อม ให้น้องมันไว้ใจกว่านี้อีกซักหน่อยค่อยจับกิน 55555  :oo1:   
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 04-01-2017 22:39:10
ค่อยๆร้ายลึก  ชอบแบบนี้ ชอบพระเอกแบบนี้ ชอบนายเอกแบบนี้เวลาอ้อนจะดูน่าร็ากกกก   :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Trystan ที่ 04-01-2017 23:06:11
มุมมองชีวิตใหม่ๆ  ชอบครับๆ o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: nongtao ที่ 04-01-2017 23:08:46
น่าสนใจ ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 05-01-2017 04:23:00
เหมือนหนูน้อยหมวกแดงซ่ากำลังจะโดนหมาป่าปราบล่อลวงพิกล  :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 05-01-2017 07:23:12
ความจริงซ่านี่ขี้อ้อนงุ้งงิ้งใช่มั้ย แต่ต้องเลือกคนอ้อน
เปลี่ยนใจมาอยู่กับพี่ปราบเถอะค่ะ มาอ้อนป๋าแทน 555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-01-2017 03:37:10
ปราบซ่า
ตอนที่4





[ZA]

“ซ่า ลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อน” เสียงพี่ปราบเรียกให้ผมลุกออกจากที่นอนของเขา แต่ผมไม่มีแรงแม้แต่จะทำอะไร

“อื้อ...” ผมร้องขัดใจในลำคอ เมื่อถูกมือใหญ่ดึงให้ผมลุกขึ้นจากเตียง ผมที่ทรงตัวไม่ได้โอนเอนไปมาเป็นตุ๊กตาล้มลุก

“ถ้าจะไม่อาบน้ำ กูจะให้นอนนอกห้องบนพื้น”

“นอนโซฟาได้ไหม” ผมไม่ไหวแล้ว ผมต้องการหลับและหลับอย่างเดียว ไม่นอนเตียงไม่เป็นไร

“ไม่ได้ กูไม่ชอบคนสกปรก ถ้าไม่อยากนอนพื้นก็ลุกไปอาบน้ำ” พี่ปราบพูดเสียงเขียว ขนาดมองอะไรไม่ค่อยชัดผมยังเห็นว่าเขาทำหน้าโหดอย่างกับยักษ์วัดแจ้ง

เพราะไม่อยากนอนพื้นเย็นๆ แถมที่นี่ก็ไม่ใช่หอตัวเองหรือที่บ้าน ผมก็เลยจำต้องลุกขึ้นจากเตียงลากสังขารไปอาบน้ำ แต่ว่า...ห้องน้ำอยู่ไหน

“นี่แปรงสีฟัน ผ้าขนหนูกับชุดนอน ห้องน้ำอยู่นี่ เข้าไปอาบซะ” พี่ปราบส่งของที่ผมจำเป็นต้องใช้มาให้ แล้วจับต้นแขนผมลากไปทางห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนนั่นแหละ

ผมทำอะไรด้วยความมึนงง แปรงฟันทั้งที่ตายังหลับไม่กี่ทีแค่พอเป็นพิธี ถอดเสื้อผ้าได้ผมก็พุ่งไปหาฝักบัว เปิดน้ำให้ไหลผ่านร่างกาย คว้าขวดอะไรที่วางไว้ได้ก็เอามาถูตัวลวกๆแล้วล้างน้ำออกเป็นอันเสร็จ พอร่างกายได้เจอน้ำเย็นๆก็รู้สึกสร่างเมาขึ้น ผมเช็ดตัวใส่ชุดนอนของพี่ปราบเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำ

“เสร็จแล้วก็ไปนอนเลย” พี่ปราบบอก ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำบ้าง

ผมมองเตียงหลังกว้างก่อนจะมองรอบๆห้อง อย่างหรู ห้องนี้คงแพงน่าดู

แต่ถึงแม้ว่าเตียงจะกว้างขนาดไหน แต่ผมก็เบียดตัวเองชิดริมเตียง ไม่ให้เกะกะเจ้าของห้อง จากนั้นก็หลับตานอนอย่างสบายตัวสบายใจ

ตื่นเช้ามาเพราะถูกเจ้าของห้องปลุก ผมจำได้ว่าวันนี้วันเสาร์และผมไม่มีเรียน ไม่มีความจำเป็นต้องตื่นตอนนี้

“พี่ปราบ ผมง่วง” ผมพูด ไม่ยอมลืมตา

“มึงจะนอนกูไม่ว่านะซ่า เอามือกับขาออกไปจากตัวกูก่อน กูจะไปอาบน้ำ”

พี่ปราบพูดจบผมก็ลืมตามองทันที ก่อนจะรีบเก็บขาเก็บแข้งของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ผมว่าเมื่อคืนผมก็นอนชิดริมเตียงแล้วนะ แต่ตอนนี้ผมวาดตัวเองกินพื้นที่เตียงเกินครึ่ง หนำซ้ำยังเกยขึ้นไปอยู่บนตัวพี่ปราบอีกด้วย

“โทษทีพี่ ผมเป็นคนนอนดิ้นอ่ะ” ผมพูดเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิด

“เออ ไม่บอกก็รู้ มาหมดทั้งศอกทั้งขา” พี่ปราบบ่น ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ

ผมอยากจะนอนต่อแต่ก็คงนอนไม่หลับแล้ว เลยคิดว่ากลับบ้านเลยดีกว่า รอจนพี่ปราบอาบน้ำเสร็จ ผมก็เข้าไปล้างหน้าล้างตาแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดเดิม

“พี่ปราบ ผมกลับก่อนนะ แล้วก็ขอบคุณมากที่ให้ผมนอนค้างด้วยเมื่อคืน” ผมยกมือไหว้ขอบคุณ

“รอกินข้าวก่อนสิ เดี๋ยวไปส่ง” พี่ปราบพูด ผมที่เริ่มหิวก็ไม่ขัด ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ความเกรงใจ ยังไงก็คิดว่าเริ่มสนิทกันแล้ว

ผมเดินตามหลังพี่ปราบเข้าไปในพื้นที่ที่ไว้ทำครัว ผมทำกับข้าวไม่เป็น ทำได้แค่ทอดไข่ต้มมาม่า ทอดไก่และไส้กรอกพอได้ แต่อะไรที่ยุ่งยากมากกว่านี้ผมไม่สามารถ

แต่ดูเหมือนว่าผู้ชายร่างสูงตรงหน้าจะมีฝีมือในการทำกับข้าวเข้าขั้นเป็นพ่อครัวได้ พี่ปราบดูคล่องแคล้วยามหยิบจับหั่นของ ทำทุกอย่างด้วยความว่องไวมาก ผมมองตามเพลินๆรู้ตัวอีกทีข้าวผัดกุ้งสีเหลืองหอมฉุยกับต้มจืดเต้าหู้ง่ายๆก็เสร็จพร้อมกิน

“มานั่งสิ” พี่ปราบพยักหน้าให้ผมนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว

ผมนั่งลงฝั่งตรงข้าม ก้มลงดมกลิ่นข้าวผัด แค่กลิ่นยังรู้สึกได้เลยว่าต้องอร่อยมากแน่ๆ ผมไม่รอช้าตักข้าวคำใหญ่เข้าปากทันที

“อืม อร่อยอ่ะพี่” ผมชมทั้งที่ข้าวยังเต็มปาก

“อร่อยก็กินเยอะๆ” พี่ปราบพูดยิ้มๆ ผมยิ้มกว้างตอบแล้วก้มลงกินข้าวและต้มจืดจนหมด จากนั้นก็อาสาล้างจานให้เป็นการตอบแทน

“เดี๋ยวกูไปส่งแล้วกัน” พี่ปราบพูดขณะเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือและกุญแจรถ

“ไม่เป็นไรพี่ ผมกลับเองได้” ผมรีบปฏิเสธ แค่นี้ก็รบกวนเขามากแล้ว และผมก็ไม่ใช่เด็กๆหรือผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใหญ่ไปส่งหรอก

“กูจะออกไปทำธุระพอดี ไปด้วยกันน่ะดีแล้ว”

ในเมื่อพี่เขาว่ามาแบบนั้น ผมก็ไม่พูดอะไร เดินตามพี่ปราบไปที่ลานจอดรถ มองรถพี่ปราบทีไรก็ขนลุกทุกที ไม่ใช่อะไร คือรถสวยหรูดูเท่ พูดได้เลยว่าผมโคตรชอบ ได้นั่งอีกครั้งถือเป็นบุญตูดมาก

พอเข้าไปนั่งในรถผมก็บอกพิกัดบ้านของตัวเองทันที พี่ปราบพยักหน้าเข้าใจแล้วก็เริ่มขับรถออกจากคอนโด ในรถมีเพลงสากลคลอเบาๆ ผมฟังไม่เข้าใจแต่ก็เคาะนิ้วตามจังหวะเพลง

“เมื่อคืนมึงบอกว่าเพื่อให้ออกจากหอ” พี่ปราบเริ่มชวนคุย และเป็นเรื่องที่ผมลืมไปชั่วขณะ โดนสะกิดอีกทีก็เริ่มรู้สึกเครียดขึ้นมา

“อืม ครับ” ผมตอบเบาๆในลำคอ

“แล้วจะเอายังไง” พี่ปราบถามต่อ ผมหันไปมองหน้าพี่เขาก่อนจะตอบ

“ก็คงหาหอใหม่”

“บ้านมึงก็อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนไม่ใช่เหรอซ่า ทำไมมึงไม่กลับไปอยู่บ้าน” พี่ปราบขมวดคิ้วถาม 

“ผมอยากอยู่ข้างนอก” นี่คือเหตุผลของผม

“แล้วมึงมีเงินไปเช่าหอใหม่อยู่คนเดียวหรือไง” บอกตามตรงเลยนะว่าผมรู้สึกว่าเสียงของพี่ปราบดุตลอดเวลา มันทำให้ผมรู้สึกเกรงและกลัว ดูมีอำนาจให้ต้องทำตามแบบบอกไม่ถูก

“ไม่มี” เงินจะกินผมยังไม่มีเลยตอนนี้ จะไปหาเงินจากไหนมาจ่ายค่ามัดจำหอใหม่

“...” พี่ปราบเงียบไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เขาละสายตาจากถนนมองหน้าผมเป็นระยะ

“ผมคงกลับไปอยู่บ้านสักพักจนกว่าจะหาหอใหม่และคนมาแชร์ได้” ผมพูดต่อ

“ไม่อยากอยู่บ้านเหรอ” พี่ปราบหันมาถามแทบทั้งตัวเมื่อรถติดไฟแดง

ผมหลุบตาต่ำ ไม่กล้าสบตาดวงตาคมๆ ก่อนจะหันออกไปนอกกระจก กลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงขึ้นเล็กน้อย

“ผมเป็นเด็กวัยรุ่นนี่พี่ ก็อยากอยู่ข้างนอกเป็นธรรมดา แบบว่ามันมีอิสระดีไง พี่ไม่ชอบเหรอ พี่ยังออกมาอยู่คอนโดเลย”

“เมื่อคืนกูนอนคอนโดเป็นครั้งที่สามในรอบเดือนนี้” พี่ปราบพูด

ผมหันไปมองหน้าเขางงๆ งั้นก็หมายความว่าพี่ปราบไม่ได้นอนคอนโดถาวรเหรอ

“ในเมื่อมึงก็ไม่ได้อยู่กินกับแฟน กลับไปอยู่บ้านเถอะ ไม่เปลืองเงินด้วย ข้าวก็มีให้กินฟรี นี่คือสิ่งที่กูจะแนะนำได้นะ”

“...”

“มึงโตแล้วซ่า กูเชื่อว่ามึงเข้าใจที่กูพูด”

“ผม...”


‘ผมไม่อยากกลับไปอยู่ที่บ้าน’


นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจ แต่ไม่คิดจะพูดออกไป

ผมให้พี่ปราบส่งผมที่ปากซอยบ้าน ผมไม่ลืมขอบคุณพี่ปราบอีกครั้ง ก่อนจากพี่ปราบขอเบอร์ผมไว้แล้วก็โทรเข้าโทรศัพท์ผมเป็นการแลกเบอร์กัน พี่เขาบอกว่าหากมีปัญหาอะไรก็โทรหาได้ทุกเมื่อ แต่ผมไม่รู้ว่า ผมจะได้โทรหาเขาหรือเปล่า

ผมเดินเข้าซอยไปเรื่อยๆ แดดช่วงเที่ยงร้อนได้ใจ ไม่ถึงสิบนาทีเหงื่อก็ออกท่วมตัว กลับมาถึงบ้านยังไม่ทันได้กินน้ำหรือเข้าบ้าน พ่อก็เรียกให้ผมไปช่วยงาน

“ซ่า มาช่วยพ่อยกกระสอบนี่ขึ้นรถสิ” พ่อพูด พ่อแก่มากแล้วแต่ยังคงต้องทำงาน เพราะคนอื่นๆในบ้านไม่คิดจะทำ

ผมหยุดเท้าที่กำลังจะเดินเข้าบ้านไปที่โกดังเก็บของแทน บ้านผมเปิดกิจการรับซื้อของเก่า นอกจากรับซื้อแล้ว ยังไปประมูลสินค้าจากโรงงานที่ต้องการทำลายทิ้ง หากประมูลชนะก็ได้งานมาทำชำแหละขายแยกประเภท กระดาษ พลาสติก เหล็ก ทองแดง อะไรพวกนี้

ผมช่วยพ่อยกกระสอบกระดาษทั้งหมดยี่สิบกว่ากระสอบขึ้นรถ พ่อกับน้าตั้มก็ขับรถเอาของไปขายที่โรงงาน ผมยืนมองตามหลังรถหกล้อก่อนจะถอนหายใจด้วยความเหนื่อย ตอนขนของขึ้นรถเหนื่อยแทบตายแต่น้าตั้มไม่โผล่หัวมาช่วยสักนิด แต่ตอนจะเอาไปขายนี่รีบกระโดดขึ้นรถเชียว เชื่อได้เลยว่างานไม่ทำแต่ได้เงินส่วนแบ่งเต็มๆ

น้าตั้มคือน้องชายพี่แนน แม่มีลูกสี่คน คนโตผู้หญิงชื่อพี่หญิง คนที่สองก็พี่แนนคนที่เป็นแม่แท้ๆของผม คนที่สามก็น้าตั้ม คนสุดท้ายก็ไอ้มิว

ใครๆก็บอกว่าแม่รักลูกผู้ชาย ดูได้จากที่น้าตั้มไม่ต้องทำงาน แต่ได้ส่วนแบ่งทุกครั้ง หรือทำงานแค่นิดเดียวก็ได้เงินแล้ว ส่วนไอ้มิวไม่ต้องพูดถึง เคยทำห่าอะไรบ้าง แค่ว่ามันดูรักเรียนมากกว่าใครในครอบครัวหน่อย แม่ก็ปล่อยให้มันใช้ชีวิตอย่างสบาย งานบ้านแทบไม่เคยแตะ ถ้าผมกลับบ้านผมทำ แต่ถ้าผมไม่อยู่แม่กับพ่อทำ

ทำงานเสร็จผมก็เดินก้มหน้ากลับบ้าน รีบอาบน้ำแล้วขึ้นห้องไปนอนพักเอาแรง แต่นอนได้ไม่เท่าไหร่ แม่ก็ตะโกนเรียกให้ผมลงไปช่วยงาน

“ซ่าไปดูดิว่าเขาเอาอะไรมาขาย” แม่บอก คนที่เอาของมาขายคือคนที่มาขายของเก่านั่นแหละ

“ทำไมแม่ไม่ใช้ไอ้มิวล่ะ” ผมถาม ไอ้มิวก็นอนดูโทรทัศน์ไม่ได้ทำอะไร แต่มาเรียกผมที่นอนอยู่บนห้องแทน

“แม่ใช้มึงไม่ได้ใช้กู อย่ามาโยน” ไอ้มิวเถียงกลับมาไม่ยอมทำ แม่งไม่เคยทำอะไรสักอย่างทั้งๆที่ก็โตเป็นควายอายุน้อยกว่าผมแค่สองปี

“มึงจะตีกันทำไม กูบอกให้ไปทำก็ไปทำสิไอ้ซ่า” แม่ว่า ผมเลยส่ายหัวเดินออกจากบ้านไปที่โกดังอีกครั้ง ผมหยิบของขึ้นตาชั่งด้วยความเซ็งสุดขีด จัดการงานตรงนี้เสร็จ แม่ก็ใช้ให้ผมซักผ้าต่อ ผมด่าไอ้มิวจากนั้นแม่ก็ด่าผมต่อ

ดีอะไรอย่างนี้

ผมมองหน้าไอ้มิวที่ทำลอยหน้าลอยตา ก่อนจะไปซักผ้าตามที่แม่สั่ง ไม่เท่านั้นผมยังต้องกรอกน้ำล้างจานอีก เรียกได้ว่าไม่ได้พักเลยจนกระทั่งเย็น

หน้าที่ไอ้มิวเท่าที่ผมเห็นคือไปซื้อกับกับข้าว แม่ควักเงินให้มันไปสองร้อย เชื่อไหมว่าเงินนั้นไม่เคยเหลือกลับมาคืนแม่ เพราะมันงุบเงินที่เหลือตลอด
“ไอ้มิว ซื้อขนมจีบมาให้กูด้วย” ผมตะโกนบอกตอนที่มันกำลังสตารท์รถมอร์เตอร์ไซค์
“เรื่อง!”

ผมกัดฟัน “กูอยากกินไอ้สัด ซื้อมาให้กูด้วย”

“กูไม่ซื้อ อยากกินไปซื้อเอง”

“แม่ ดูมันดิ” ผมหันไปฟ้องแม่

“อย่ามายุ่งกับกู กูยิ่งหงุดหงิดอยู่” แม่ด่าเสียงดัง ผมหน้าบึ้งใส่

“ถ้ามึงไม่ซื้อมาให้กูนะ มึงเจอดี” ผมชี้หน้าไอ้มิว

“แม่ให้เงินมาไม่พอ”

“พอ!”

“เฮ้ย พวกมึงเลิกตีกันได้ไหม ไอ้มิวไปซื้อกับข้าว ส่วนมึงไอ้ซ่า หุบปากบ้างเหอะ กลับมาทีไรต้องตีกับไอ้มิวให้กูปวดหัวทุกที”

ศึกระหว่างผมกับไอ้มิวหยุดลงทันที ไอ้มิวขับรถไปตลาดนัด ผมยืนนิ่งอยู่กับที่ ก่อนจะเดินออกไปหาเพื่อนที่อยู่ในซอยเดียวกัน

“มึง ขอบุหรี่ตัวดิ” ผมบอกไอ้เกมส์ มันล้วงในกระเป๋าส่งให้ผม

“คราวหน้าใช้คืนกูด้วย” มันบอก

“เออ รู้แล้วหน้า กูมีเงินเดี๋ยวกูซื้อมาคืนทั้งซองเลยแม่ง” ผมบ่น นั่งยองๆลงข้างมันแล้วเริ่มอัดบุหรี่เข้าปอด

“คืนนี้พวกกูจะไปเดินตลาดนัดรถไฟ ไปด้วยกันไหม” ไอ้เกมส์ชวน

“ไม่มีเงินวะ” ทั้งเนื้อทั้งตัวผมเหลืออยู่สามร้อยบาท กว่าเงินเดือนจะออกก็อีกหลายวัน ช่วงนี้เป็นไปได้ไม่อยากใช้เงิน

“มึงก็ขอแม่มึงสิไอ้นี่”

“กูขี้เกียจฟังเขาบ่น”

“เขาก็บ่นอยู่แล้วเปล่าวะแม่มึงอ่ะ บ่นได้ทุกอย่าง เมื่อวานกูขี้รถเข้าไปบ้านไอ้เอ็มผ่านหน้าบ้านมึงเขายังด่ากูเลย หาว่ากูขับรถเพ่นพ่านสร้างความรำคาญ เชื่อเขาเลย คนแก่นี่ขี้บ่นเนอะมึงว่าไหม”

“เออ”

แม่ผมแก่แล้ว อารมณ์คนวัยทอง สามนาทีดีหลังจากนั้นก็ด่าเรียบ โดนกันถ้วนหน้าตั้งแต่คนในบ้านรวมไปถึงคนในซอย บางครั้งแม่ก็พูดดี แต่บางครั้งก็ด่าซะใครเข้าหน้าไม่ติด

“สรุปไปไม่ไป”

“กูดูก่อน ขอเงินได้ก็ไป ขอไม่ได้ก็ไม่ไป”

ผมนั่งดูดบุหรี่จนหมดมวน เห็นไอ้มิวขี่รถกลับเข้ามาในซอยก็ตะโกนถามหาขนมจีบที่ผมฝากมันซื้อ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กินเพราะมันไม่ซื้อให้ผมจริงๆ ขัดใจชิบหาย ผมนั่งสงบจิตสงบใจอยู่ครู่ใหญ่ ขืนกลับบ้านไปตีกับไอ้มิวผมก็ได้โดนด่าอีก แถมขอเงินก็คงจะไม่ได้

ทำไงได้ ผมมันไม่ใช่ลูกรักลูกชายคนโปรดนี่

หลังกินข้าวเย็นเสร็จ ผมก็นั่งดูทีวีข้างๆแม่ มีไอ้มิวบีบนวดขาให้แม่อยู่ สักพักก็มีเสียงคนมาเรียก ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้เกมส์นั่นเอง

“พวกกูจะไปแล้วนะมึง” มันคงมาตามให้ผมออกไปตลาดนัดรถไฟด้วยกัน

“แปบหนึ่ง” ผมบอก เดินเข้าไปหาแม่

“แม่ ขอตังค์หน่อยดิ ไม่มีตังค์เลยอ่ะ”

“จะไปไหน” แม่ถาม ตาดูทีวีไม่ขยับ

“ไปตลาดนัดรถไฟ”

“กูไม่มีหรอก มึงทำงานแล้วไม่มีเงินเลยเหรอไงไอ้ซ่า” แม่หันมามองหน้าผม

“มันไม่พอนี่แม่” ผมเข้าไปอ้อน บีบๆนวดๆ”

“มึงเอาไปกินเหล้าซื้อบุหรี่หมดนะสิมึงน่ะ” แม่ตวัดตามองค้อนผม ก่อนจะใช้ให้ไอ้มิวไปหยิบกระเป๋าเงินในห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างมาให้

“จะเอาเท่าไหร่”

“ร้อยหนึ่งก็ได้” ผมบอก พอโดนด่าก็ไม่อยากขอเยอะให้โดนด่ามากไปกว่านี้ แค่ค่ารถก็พอ คงไม่ซื้ออะไรอยู่แล้ว

“ไม่พ้นกูเลยสักคน เอาไป” แม่หยิบเงินมาให้ผมร้อยหนึ่ง ผมรับมาแล้วยกมือไหว้ แล้วก็ออกจากบ้าน ระหว่างเดินไปขึ้นรถ ผมก้มมองเงินในมือที่ถูกกำจนยับย่นด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

ผมเกลียดอะไรบ้างอย่างที่กำลังถ่วงอยู่ในอกจนหายใจไม่ออก




ผ่านมาสองสามวัน ในที่สุดผมก็ต้องย้ายของออกจากหอ ไอ้กฤษช่วยผมเก็บของและขนของลงมาข้างล่าง มีกระเป๋าแค่สองใบเท่านั้น ข้าวของไม่เยอะ ใบหนึ่งเสื้อผ้า อีกใบเป็นหนังสือเรียน

“ขอบใจนะมึงที่เข้าใจกู เดี๋ยววันนี้ตอนเย็นแฟนกูก็คงขนของเข้ามาเลย” ไอ้กฤษพูด ใบหน้าไม่ปกปิดความดีใจ

ผมโคลงหัวเบาๆ “ไม่เป็นไร กูไปล่ะ”

“อืม เจอกันที่โรงเรียนพรุ่งนี้นะมึง”

“เออ”

ผมสะพายกระเป๋าเป้ไว้ข้างหลัง ส่วนกระเป๋าอีกใบก็รัดเชือกไว้กับเบาะรถมอเตอร์ไซค์ ผมขี่รถตรงกลับบ้าน มาถึงก็เจอพี่แนนนั่งคุยกับแม่อยู่หน้าบ้าน ผมยังไม่ได้บอกใครเรื่องที่ผมจะย้ายกลับมาอยู่บ้าน กะว่าจะมาบอกวันนี้ทีเดียว

“ไปไหนมาซ่า” พี่แนนถาม “แล้วนั่นขนอะไรมา”

ผมหิ้วยกมือไหว้แล้วยกกระเป๋าเข้าบ้าน “ของๆผมอ่ะ เอากลับมาจากหอ”

“ไม่อยู่หอแล้วเหรอ” แม่ถาม

“เพื่อนมันจะพาแฟนมาอยู่ด้วยนะ ผมเลยต้องย้ายออก”

“อ้าว ทำไมงั้นอ่ะ” พี่แนนอุทาน ผมเกิดความสงสัยว่าทำไมจะต้องทำท่าแบบนี้ เหมือนไม่ดีใจที่ผมกลับมาอยู่บ้าน

“มึงไม่พามันไปอยู่ที่บ้านด้วยล่ะ ห้องเหลือไม่ใช่เหรอไง” แม่หันไปพูดกับพี่แนน

“ไม่เอาอ่ะ จะอยู่บ้าน” ผมรีบร้องปฏิเสธทันควัน ขนาดบ้านหลังนี้ผมยังไม่อยากอยู่ นับประสาอะไรกับบ้านพี่แนน เขาอยู่กับแฟนใหม่เขาที่ไม่ใช่พ่อแท้ๆของผม พ่อที่ทำให้ผมเกิดมาตายไปนานแล้ว ตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้

“รีบปฏิเสธเลยนะ ไหนๆเพื่อนก็ไม่ให้อยู่หอแล้ว ของไม่ต้องเอาไปเก็บ เดี๋ยวไปอยู่กับแม่เลย” พี่แนนว่า ผมส่ายหน้าวืด

“ไม่เอาพี่แนน จะอยู่ที่นี่”

“ไม่ต้องเลย อยู่ที่นี่เอ็งก็ดีแต่ทำให้แม่ปวดหัวเพราะออกไปกับไอ้พวกเด็กแถวนี้ ขี้ยาทั้งนั้น ไหนเองชอบตีกับไอ้มิวให้แม่เครียดอีก” พี่แนนบ่นยกใหญ่พร้อมกับเอ่ยปากบังคับ

“ความผิดผมคนเดียวที่ไหนล่ะ” ผมย้อน

“เอ็งไม่ต้องเถียงได้ไหม”

“ไม่เอาอ่ะ ผมไม่ไป” ผมเริ่มรู้สึกแย่ที่พี่แนนพยายามจะให้ผมไปอยู่ที่บ้านด้วย แถมยังพูดเหมือนผมเป็นตัวปัญหาของบ้านนี้งั้นแหละ ทั้งๆที่งานผมก็ทำ อะไรๆผมก็ทำ แต่แม่งไม่มีดี

นอกจากนั้นผมไม่ชอบไปอยู่กับคนที่ไม่สนิทใจ ผมไม่ใช่คนสันดานดี จะให้ผมไปอยู่กับพี่แนนที่จุกจิกจู้จี้ อยู่กับพี่เบิร์ดแฟนพี่แนนน่ะไม่เอาด้วยหรอก เขาอารมณ์ร้อนและบ้าบอจนผมไม่อยากไปอยู่ร่วมชายคาบ้านคิดว่าผมไปอยู่แล้วเขาจะไม่ไล่ผมกลับมาเหรอ

“ใจเย็นๆ ให้มันอยู่ที่นี่ก่อนสักสองสามวัน แล้วค่อยให้ย้ายไป”

“แม่!” ผมเรียกแม่เสียงดัง ที่แม่เห็นดีเห็นงามกับพี่แนน ถึงจะไม่ได้ไล่ให้ไปปุบปับก็เถอะ

“เอางั้นก็ได้แม่ ไปๆ เอาของไปเก็บได้แล้วไป”

ผมคว้ากระเป๋าสองใบได้ก็กระแทกเท้าเข้าบ้านด้วยความหงุดหงิด ได้ยินเสียงแม่กับพี่แนนบ่นตามหลังมา ถ้ามือทั้งสองข้างว่างผมจะยกขึ้นมาอุดหูให้รู้แล้วรู้รอด

ตอนขอไปอยู่หอก็ค้านไม่ให้ไป พอกลับมาอยู่บ้านก็ไล่ให้ไปอยู่ที่อื่น

ชีวิตกูนี่ดีอะไรอย่างนี้

ผมโยนกระเป๋าสองใบลงบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตามไปติดๆ หลับตาแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลช้าๆ

ครืดๆ

โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์สั่นแจ้งว่ามีคนโทรเข้า ผมปาดน้ำตาออกจากแก้มก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาดูว่าใครโทรมา

‘พี่ปราบ’

ผมชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ สายเกือบจะตัดไปแล้วแต่ผมกดรับเสียก่อน

“รับช้านะมึง ทำอะไรอยู่” พี่ปราบถามเสียงนิ่งๆ ไม่บ่งบอกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน ตั้งแต่วันที่เขามาส่งที่บ้าน นี่เพิ่งจะได้ติดต่อกัน

“นอน” ผมตอบสั้นๆ เพราะรู้ว่าเสียงตัวเองไม่ปกตินัก ปลายสายเงียบไปแปบหนึ่ง

“เป็นอะไรหรือเปล่า เสียงมึงฟังดูแย่ๆ”

ผมอึ้ง ทำไมพี่ปราบถึงรู้ ผมพูดแค่คำว่านอนคำเดียว ไม่คิดว่าเสียงแค่นั้นจะทำให้เขาจับความผิดปกติได้

“เปล่า” ผมเลือกจะตอบสั้นๆอีกครั้ง แสร้งพูดให้ปกติที่สุด

“แน่ใจ”

“อืม”

“แต่กูไม่เชื่อวะ”

“...” แล้วทำไงถึงจะเชื่อ

“แต่กูว่ามึงมีเรื่องไม่สบายใจแน่ๆ”

“...” ผมยังคงเงียบ

พี่ปราบอาจพูดถูกอยู่หน่อยว่าผมมีเรื่องไม่สบายใจ เพราะที่มากกว่านั้นคือผมทั้งเสียใจ น้อยใจและโมโห โกรธจนอยากจะอาละวาดให้บ้านพัง ผมถึงไม่อยากไปอยู่กับพี่แนนไง ผมอยู่นี่เวลาผมหงุดหงิด ผมโวยวาย ผมระบาย แต่ถ้าต้องไปอยู่ที่นั่นผมคงเก็บกดจนอึดอัดตาย

ผมเสียใจที่ตัวเองกำลังถูกโยนไปโยนมาเพราะไม่มีใครต้องการ

ผมได้ยินเสียงถอนหายใจจากปลายสาย

“ซ่า มีอะไรเล่าให้พี่ฟังได้นะ”

“...” ผมไม่ได้พูด เพราะไม่รู้ว่าควรพูดอะไร มันพูดไม่ออก แต่จะเปร่งเสียงยังยาก

“อยากให้พี่ไปรับที่บ้านไหม” พี่ปราบถาม น้ำเสียงของเขาไม่ดุเหมือนทุกครั้ง เสียงพี่ปราบเบาลงจากปกติ ทุ้มและนุ่มนวล

“พี่...” ผมเรียกเขาเสียงเริ่มสั่น

“ว่าไง”

ผมกลืนก้อนสะอื้นลงคอก่อนจะพูด “มารับผมหน่อย” 

“อืม รอนะ เดี๋ยวไปรับ”






..........
Talk:
จะลงตั้งแต่สี่ทุ่มล่ะ แต่กลับมาแล้วเพลียเลยกะว่าของีบสักสิบนาทียี่สิบนาที เป็นไงล่ะยาวเกือบช้าเลยค่ะ สวัสดี
ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่แต่งยากมากอีกเรื่องหนึ่ง (ไม่เห็นเรื่องไหนบอกแต่งง่ายสักเรื่อง -_-;;) แต่งแล้วพอมาอ่านก็ต้องปรับต้องแก้ ต้องเสริมต้องเติม เพราะตัวละครของน้องซ่านั้นมีความยุ่งยากและละเอียดอ่อนในตัวเอง ซ่าเป็นเด็กที่อยู่ในวัยเลือดร้อน แต่กลับไม่รู้ว่าจะระบายความรู้สึกไม่ว่าจะรัก โกรธ เกลียด เสียใจ น้อยใจอย่างไร
ส่วนพี่ปราบ ไม่ต้องบอกเนอะว่าหน้าที่ของนางคืออะไร แต่จะรับมือกับซ่าได้มากขนาดไหนก็มาคอยดูกัน
แต่เอาเข้าจริงพี่ปราบไม่ได้มาสายโอ๋นะ บอกไว้ก่อน ว่าง่ายๆ นางมาเพื่อดัดสันดารน้องซ่าโดยเฉพาะ อย่าถูกหน้ากากเทวดาของนางหลอกเอาล่ะ
ชอบไม่ชอบยังไงพูดคุยบอกกันได้นะคะ
หากมีคำผิดขออภัย วานคนใจดีช่วยแจ้งช่วยเตือนกันหน่อยนะ
ขอบคุณคนน่ารักที่เข้ามาอ่านปราบซ่าค่ะ
ริริ

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-01-2017 04:46:57
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 07-01-2017 06:13:50
เราว่าซ่าเข้มแข็งได้กว่านี้นะ
ช่วงนี้ดูอ่อนแอเกินไป ไม่สมเป็นซ่ายังไงไม่รู้
เหตุผลอาจเพราะเรื่องปัญหาครอบครัวด้วยก็ได้

พี่ปราบพ่อศรีเรือนมากค่ะ ชอบผู้ชายทำกับข้าวเก่ง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 07-01-2017 11:10:10
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากค่ะ
ตอนล่าสุดนี่ น้องซ่าก็น่าสงสารเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 07-01-2017 13:16:38
อยากรู้ว่าจะปราบกันยังไง
น้องซ่าชีวิตน่าสงสาร แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะทำตัวเองด้วย ต้องมีคนกำกับดูแลซะหน่อย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 07-01-2017 14:12:24
ต้องค่อยๆโตไปนะซ่า แล้วมันจะดีขึ้น

มีพี่ปรสบเข้ามา มัยต้องดีขึ้นแน่นอน

เจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 07-01-2017 15:32:00
ซ่าอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออ่ะนะ  o7 o7
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กชายมั่วนิ่ม ที่ 07-01-2017 16:00:12
เข้าใจอารมณ์ซ่าพอสมควรนะ
ก็อยู่บ้านแล้วเป็นแบบนี้อ่ะ ใครจะอยากอยู่
ช่วงวัยด้วยแหละ มันเป็นช่วงที่ร้อนอ่ะเนอะ
สู้ๆ นะซ่าเอ้ยยยย ขอไปอยู่กับเฮียปราบเลยยย แกยอมอยู่แล้ว
แลเฮียปราบจะพร้อมเป ฮ่าๆๆๆ


หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 07-01-2017 16:02:47
ติดตามๆๆ สงสารซ่า  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 07-01-2017 16:04:59
พี่ปราบอ่านใจซ่าขาดเกินไปแล้ววว รีบรับมาร่วมหอ..(?)เลยค่าา  :impress2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-01-2017 16:28:06
อ่านแล้วหัวใจมันบีบตามเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 07-01-2017 16:49:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-01-2017 17:09:20
ซ่า มีปัญหาทั้งที่เกิดจากตัวเองและครอบครัว ทั้งบ้านมีพ่อทำงานคนเดียว
น้าตั้ม นกรู้ตอนทำงานไม่ช่วย แต่พอขนของไปขาย รีบตามไปเพราะจะได้ส่วนแบ่งที่ช่วยขาย
มิว ลูกเล็กของบ้าน เรียนดี คุ้มครองตัวเองได้เลย ซื้อแค่กับข้าว ยังได้เงินที่เหลือจากซื้ออีก
ซ่ากลับมาที่บ้าน งานในบ้านก็ต้องทำหมด ขนของ ซักผ้า ล้างจาน
แต่แม่ซึ่งคือยาย มองไม่เห็น เห็นแต่ซ่าเป็นตัวปัญหา ซ่าไม่อยู่คนเดียวไม่มีการทะเลาะทุ่มเถียง ซ่าเอาแต่ชกต่อย
คบเพื่อนติดบุหรี่ แวนซ์ในซอย
แต่มิวรักเรียน บีบๆนวดๆให้แม่ ก็ลูกแท้ๆ ตั้ม มิว กับหลาน ยายต้องรักลูกมากกว่าอยู่แล้ว
แม่แท้ๆ ก็มีแฟนใหม่ที่อารมณ์ร้อน บ้าบอ แถมแม่ก็จุกจิกขี้บ่น ซ่าย่อมไม่อยากไปอยู่ด้วย
ปราบ โทรหาในเวลาที่ซ่าน้อยเนื้อต่ำใจ  ซ่า ต้องกระโจนออกไปอย่างไม่ใยดีกับครอบครัวที่ไม่มีใครต้องการ
ปราบจะดัดนิสัยซ่าได้ ก็เป็นการดีกับซ่า อาจจะขัดใจซ่า แต่เทียบกับการมีที่อยู่ใหม่ ย่อมดีกว่าชัดๆ แฮ่....เม้นต์ซะยาวเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 07-01-2017 18:25:26
 :katai2-1: :katai2-1:

 :katai5: :katai5:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่4 :: 7/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 08-01-2017 00:34:04
 :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 09-01-2017 21:54:23
ปราบซ่า
ตอนที่5



[PRAB]

วางสายจากซ่าผมก็เดินไปอาบน้ำลวกๆ เพราะวันนี้ฝึกคาราเต้ให้ตัวเก็งของโรงฝึกที่เตรียมจะไปประกวดระดับประเทศทั้งวัน พอสอบเสร็จก็ดันคิดถึงไอ้เด็กซ่าขึ้นมาก็เลยโทรหา ใครจะไปคิดว่าโทรตอนได้จังหวะพอดี

เสียงที่ผมได้ยินตอนที่อีกฝ่ายพูด คือเสียงที่แหบและสั่นเล็กน้อย ผมรู้สึกผิดปกตินิดหน่อย และต่อมาเมื่อซ่าตอบคำถามเพียงสั้นๆแล้วเงียบไป ผมก็รู้ได้ทันทีว่ามันไม่ปกติแล้ว ผมนึกถึงสิ่งที่ที่ไอ้หวายเคยบอกไว้เกี่ยวกับซ่า เพราะผมโทรไปถามมันเรื่องที่ซ่ามันต้องออกจากหอพักนิดหน่อยหลังจากที่ส่งซ่ากลับบ้าน บวกกับผมอยากเจอด้วยเลยอาสาจะไปรับ


‘มันเป็นพวกชอบเก็บเงียบ ยิ่งเวลาไม่สบายใจนะเฮีย อย่างกับปากถูกเย็บไว้’

‘หมายความว่าถ้ามันเงียบก็แสดงว่ามันกำลังรู้สึกไม่ดีเหรอ’

‘ประมาณนั้น จะหลุดพูดตอนเมานั่นแหละ แต่ก็ไม่ทุกครั้งเสมอไป’


เท่าที่ประเมินด้วยสายตาหลังจากที่เจอกันไม่กี่ครั้ง ซ่าไม่ใช่เด็กอ่านยากแต่ก็ไม่ง่าย มันชอบทำตัวเป๋ไปเป๋มาให้คนรอบข้างเดาอารมณ์ไม่ถูก ผมค่อนข้างสนใจและรู้สึกสนุกไปกับการเรียนรู้ตัวตนจริงๆของมัน

“ป๊า กลับก่อนนะ” ผมตะโกนบอกพ่อหมายเลขหนึ่งที่กำลังเฝ้าเด็กทำความสะอาดโรงฝึกอยู่ เพราะดันจำได้ว่าเด็กที่มีเวรทำความสะอาดวันนี้เกเรงาน ทำไม่เรียบร้อย โดนผมจัดการไม่เท่าไหร่ โดนป๊าพูดได้คำเดียวว่าเละ ฮ่าๆๆ

“มึงจะรีบกลับไปไหน” ป๊าตะโกนกลับมา ยืนเท้าเอวทำหน้าขรึมสีสาวนอยสาวใหญ่ต่างลงความเห็นว่าเท่โคตร และผมก็เห็นด้วยว่าป๊าผมอย่างเท่ ยังไม่แก่เลยสักนิด

“จะแวะไปทำธุระข้างนอก บอกพี่ริชกับพี่เค้กให้ด้วยว่าเดี๋ยวกลับไปกินข้าวที่บ้าน ขอของโปรดเยอะๆ”

“เออ ขากลับบ้านแวะซื้ออาหารหมามาด้วย ไม่งั้นลูกมึงอดตายแน่” ป๊าสั่ง

“รับทราบครับคุณสงคราม”

“อย่ากลับบ้านเย็นล่ะ กูขี้เกียจรอกินข้าว”

“คร้าบบบ” ผมลากเสียงกวนป๊า แล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถ ขับไปตามเส้นทางที่จำได้อย่างดีแม้ว่าจะไปมาแค่ครั้งเดียว ผมกดโทรหาซ่าเมื่อใกล้จะถึงปากซอยบ้านมัน ผมยังไม่รู้เลยว่าบ้านมันอยู่ตรงไหนของซอย

“กูใกล้ถึงแล้ว” ผมบอก

“ผมรออยู่ปากซอย”

ผมเลิกคิ้วสูง แล้วกดวางสาย ไม่นานก็เห็นเด็กร่างสูงแต่ผอมแห้งยืนก้มหน้าเอาเท้าเขี่ยพื้นอยู่หน้าปากซอยบ้านมัน ผมจอดรถตรงหน้าเด็กซึมที่ซ่าไม่ออก เลื่อนกระจกรถให้มันเห็นว่าเป็นผม

“ขึ้นรถ”

ซ่าก้มหน้าลงมองก่อนจะเปิดประตูเขามานั่ง จากนั้นผมก็ออกรถขับไปเรื่อยๆ ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดี คนข้างๆเงียบไม่พูดไม่จา สีหน้ามันดูเรียบเฉย

“ซ่า” ผมเรียกให้มันหันมามอง ตาไม่แดงแหะ แสดงว่าไม่ได้ร้องไห้ หรือร้องไปแล้วก็ไม่รู้

“พี่จะไปไหน” ซ่าถาม จากตอนนี้เท่าที่สังเกตมันก็ดูไม่ได้แย่อะไร หรืออาจจะแย่แต่ปกปิดได้มิดชิด

“อยากไปไหนหรือเปล่า” ผมถาม

ซ่าส่ายหน้า “ไม่รู้สิ”

“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือไง” ผมถาม ซ่าเบนหน้ามองนอกกระจกรถ แล้วก็เงียบ ถ้าสิ่งที่ไอ้หวายพูดคือสิ่งที่ถูก แสดงว่าตอนนี้ซ่ากำลังมีเรื่องไม่สบายใจ

เห็นมันทำหน้ากึ่งนิ่งกึ่งเศร้าแล้วขัดใจชอบกล ผมชอบมองหน้ามันตอนกวนตีนหรือหาเรื่องมากกว่า เป็นไปได้ตอนยิ้มนี่ดีสุดล่ะ

“บางที ถ้าพูดมันออกมา อาจจะดีกว่าเก็บไว้กับตัวเองก็ได้” ผมค่อยๆตะล่อมให้เด็กพูดสิ่งที่อยู่ในใจ

แต่ซ่าก็ยังคงเอาแต่เงียบ ผมขับรถพามันไปเดินเล่นที่สวนสันติชัยปราการ แดดตอนเย็นๆไม่ค่อยร้อน ได้รับลมเย็นๆมันคงจะรู้สึกดีขึ้น

“เวลาเครียดๆกูชอบมานั่งดูวิวแถวๆนี้ มองเรือแล่นผ่านไปมา ไม่ต้องคิดอะไร แค่มองไปเรื่อยๆ จนว่าจะใจเย็นลงและรู้สึกสบายใจขึ้น” ผมพูด เราสองคนจับจองม้านั่งตัวหนึ่งที่หันหน้าออกแม่น้ำเจ้าพระยา

“อินดี้ดีเนอะ” ซ่าขำเบาๆ

“เก็บเรื่องเครียดๆไว้กับตัวไม่ดีหรอก มึงต้องปล่อยมันออกมา”

“...” ทีนี้เงียบกริบ

ผมว่ามันเป็นเด็กที่รับมือยากตรงเวลาที่มันตัดสินใจที่จะไม่พูดออกมาเนี่ยแหละ

และผมกำลังเดาว่า เวลามันเครียด มันจะระบายออกทางไหนได้ถ้าไม่พูด ร้องไห้ ทำลายข้าวของ หรือการใช้กำลังต่อยตี เท่าที่คิดสองอย่างหลังก็ดูเป็นไปได้ ผมเคยเจอเด็กประเภทนี้มาเยอะ ส่วนมากก็เด็กที่มาเรียนต่อสู้นั่นแหละ

ผมยังเดาไม่ออกหรอกว่าชีวิตของมันเป็นแบบไหน รู้แค่ว่ามันเป็นเด็กเรียนช่างกล มีเรื่องต่อยตีกับคู่อริ มีแฟนที่กำลังระหองระแหง นอกจากเรียนแล้วก็ยังต้องทำงาน โดนรูมเมทไล่ออกจากหอพักแบบประนีประนอม ภายนอกที่แสดงออกดูแข็งกร้าว แต่ไม่ได้ดูเข้มแข็ง

เพราะคนที่เข้มแข็งแล้ว จะสามารถพาตัวเองออกมาจากความทุกข์ได้โดยที่ไม่ต้องให้ใครนำทาง

ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากที่มาถูกใจคนอย่างมัน ก็แค่เด็กอายุสิบเก้า จะเอาอะไรมาก

“พี่ปราบ”

หลังจากที่ผมปล่อยให้ซ่าได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง โดยที่ผมทำเพียงแค่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนมัน ทุกครั้งที่มันมองมาก็จะเห็นว่าผมมองมันอยู่

ในที่สุด ดูเหมือนว่ามันกำลังจะเปิดเผยเรื่องที่อยู่ในใจ

“หืม” ผมตอบรับสั้นๆในคอ

“ถ้าพี่ต้องไปอยู่กับคนที่ไม่อยากไปอยู่ด้วย พี่จะทำยังไง” ซ่าเริ่มด้วยการตั้งคำถามใส่ผม

ผมประมวลคำถามที่ได้ยินก่อนจะตอบ “ไม่ทำยังไง ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป”

ทันทีที่ผมพูดจบ ม่านตาที่บีบตัวก็ขยายกว้างเหมือนถูกใจในคำตอบของผม ผมจับจ้องทุกอากัปกิริยา แต่ไม่ปล่อยให้ซ่ารู้สึกฮึกเหิมกับคำตอบของผมนาน ก็พูดประโยคต่อมาเพื่อขัดความคิดที่กำลังจะฟุ้งซ่านไปไกลของอีกคน

“ถ้าเป็นกูเมื่อตอนอายุเท่ามึงคงตอบแบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่”

“อ้าว” ซ่าทำหน้าเหวอ ดูแล้วตลกดี แต่ก็...น่ารัก

“จำเป็นต้องไปหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับเหตุผลมากกว่า”

“ทำไมต้องคิดถึงเหตุผล ก็คนไม่อยากไป” หน้ามันหงอย ก้มลงมองมือตัวเองที่บีบกันแน่น

มองยิ้มบางๆให้กับภาพที่เห็น “ตอนอายุสิบสองขวบ ป๊าต้องการให้กูไปเรียนซัมเมอร์ที่อังกฤษ ตอนนั้นกูไม่อยากไปและต่อต้าน แต่สุดท้ายก็ต้องไป รู้ไหมว่าตอนกูไปถึงนู่นทุกอย่างดูน่ากลัวไปหมด แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ทุกอย่างแม่งดูสนุกไปหมด ท้าทาย ทั้งผู้คนใหม่ๆที่ต้องพบเจอ และท้าทายใจตัวเอง”

คิดย้อนไปถึงตอนนั้นผมก็ตลกตัวเองนะ งอนป๊ากับพ่อ (งงไหมว่าทำไมมีสองคน ไว้ถ้าผมมีอารมณ์ผมจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน) ตอนนั้นไม่พูดไม่กินข้าวแม้จะแค่วันเดียวก็ตาม ไหนจะพี่ริชกับพี่เค้ก(เมียป๊ากับพ่อ)ก็เห็นดีเห็นงามไม่สงสารผมที่ต้องไปอยู่กับคนไม่รู้จัก แม้ว่าจะเป็นเพื่อนของป๊าก็ตาม

แต่วันนี้ผมต้องขอบคุณที่ได้ไปอยู่ที่อังกฤษเป็นเวลาสามเดือนเพราะผมได้เรียนรู้โลกมากขึ้น ที่สำคัญผมเอาชนะความกลัวในใจตัวเองได้

“แม่ผมจะให้ผมไปอยู่กับเขาที่บ้าน ต้องไปอยู่กับแฟนใหม่ของแม่ ผมไม่อยากไปเพราะไม่สนิทด้วย” ซ่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆเป็นโทนเดียว ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ผมกำลังสงสัยว่าถ้าแม่มันต้องการให้ไปอยู่ด้วย แล้วตอนนี้มันอยู่กับใคร

“ปกติไม่ได้อยู่บ้านกับแม่เหรอ” ผมถามอย่างสงสัย

“ผมอยู่กับยายและตา แต่ว่าผมเรียกยายกับตาว่าแม่ เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงผมมาตั้งแต่เกิด”

“แล้วแม่?”

“เรียกพี่แนน”

แปลกดี

กับที่บ้าน ผมเรียกเมียป๊ากับเมียพ่อว่าพี่ริชกับพี่เค้กเพราะเรียกแม่หรือหม่าม๊าคงฟังดูไม่ดี แม้บางครั้งจะเรียกก็เถอะ แต่เป็นการเรียกแบบขำๆมากกว่า เพราะทั้งคู่เป็นผู้ชาย ส่วนผมเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยงน่ะ คุณคงไม่งงนะ

“แล้วไงต่อ” ผมพูดเพื่อให้ซ่าเล่าต่อ

“ก็นั่นแหละ ผมกำลังเซ็ง เพราะต้องย้ายไปอยู่กับพี่แนน ผมไม่อยากไปอยู่หรอก ผมไม่ชอบแค่คิดก็อึดอัดแล้ว แต่แม่กลับไล่ให้ผมไปอยู่กับพี่แนน”

แม้จะต้องใช้ความพยายามในการเข้าใจลำดับเครือญาติของมัน แต่ผมจับจุดได้ว่า สาเหตุที่ทำให้ซึมไม่สมกับชื่อน่าจะเพราะน้อยใจที่ถูกยายที่มันเรียกว่าแม่สนับสนุนให้มันไปอยู่กับแม่แท้ๆมากกว่า

 เท่าที่ฟังมา ผมก็ไม่รู้หรอกว่าครอบครัวมันเป็นยังไง อบอุ่นดีไหม หรือมีปัญหาอะไรกันภายในหรือเปล่า เพราะซ่ามันไม่ได้เล่ามากไปกว่านี้ และถ้าเมื่อมันไม่เล่าผมก็ไม่อยากถาม เรายังไม่สนิทกันขนาดจะถามซักไซ้มากความ

“ลองไปอยู่ดูก่อนสิ” ผมแนะ

ดวงตากลมโตตวัดมองผมเคืองๆ “ผมไม่อยากไป”

“แต่กูอยากให้มึงไป อย่าเพิ่งเถียง” เห็นมันอ้าปากจะเถียงกลับมาผมเลยต้องรีบหยุด “ฟังกูนะซ่า มันไม่ตายหรอกถ้ามึงจะไปอยู่บ้านแม่กับพ่อใหม่ กูบอกให้มึงลองดู มันอาจจะดีกว่าที่มึงคิด สำหรับกูแล้ว วัยของมึงอยู่บ้านดีที่สุด เพราะมันไม่สิ้นเปลืองเงินทอง ถึงมึงจะทำงานหาเงินได้แล้ว แต่งานพาร์ทไทม์แบบนั้นมันพอใช้หรือไง”

ผมเว้นช่วง สายตาก็จ้องหน้ามันไม่ลดละ เด็กแสบที่ทำหน้าแข็งใส่ผมเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นเรียบเฉย แต่แววตาของมันยังเต็มไปด้วยความดื้อรั้น

“ผมไม่ใช่เด็กดี” เสียงพูดเบาจนแทบไม่ได้ยิน

“กลัวพ่อใหม่มึงรับนิสัยมึงไม่ได้”

“เหอะ ไม่ใช่สักหน่อย”

หึหึ เด็กหนอเด็ก

“มึงก็แค่ไปย้ายเข้าไปอยู่ ถ้ามันไม่เวิร์คมึงก็ลองคุยกับแม่มึงดู กูบอกเลยว่ามันอาจไม่สวยหรูหรอก แต่ว่า คนที่ไม่เคยอยู่ด้วยกันพอมาอยู่ด้วยกันมันก็ต้องปรับตัวเข้าหากันบ้าง มึงเป็นเด็กมึงต้องปรับก่อน ส่วนพ่อใหม่มึงกูว่าเขาน่าจะรู้ว่าต้องทำตัวยังไง”

“แล้วถ้าเขาไม่รู้ล่ะ” มันถามประโยคนี้ด้วยแววตาที่ติดจะเอาเรื่อง “เขาก็นิสัยไม่ดี ผมไม่ชอบเขา”

“ทำไม” ผมจี้ถามทันที

ซ่าเม้มปากเข้าหากันแล้วค่อยๆคลายออก “เขาขี้โมโหและโวยวาย”

“มึงรู้ได้ไง” ในเมื่อไม่เคยไปอยู่กับเขา ทำไมมันถึงว่าเขาใจร้อนและขี้โวยวาย

“ก็เวลาพี่แนนไปไหนมาไหนแล้วไม่บอกเขา เขาชอบโทรมาตามหาและโวยวายกับที่บ้าน แถมพี่แนนยังชอบมาบ่นให้แม่ฟังบ่อยๆว่าเขาด่า บางครั้งทำร้ายร่างกายก็มี” ริมฝีปากบางเฉียบที่ติดจะคล้ำจากการบุหรี่บ่นขมุบขมิบขัดใจ

 ฟังจากที่มันเล่าแล้วก็ไม่ค่อยน่าไปอยู่ด้วยเท่าไหร่ แต่แค่คำพูดของมันอย่างเดียวยังสรุปอะไรไม่ได้ ผมยังคิดว่ามันควรลองก่อนดีที่สุด

“กูยังย้ำคำเดินนะซ่า ว่าให้มึงลองไปอยู่ ถ้ามันแย่จริงๆ ไม่ไหวจริงมึงก็แค่กลับไปอยู่กับยาย แม่มึงจะได้รู้ด้วยว่าการที่มึงย้ายไปอยู่กับเขามันไม่โอเค เขาจะได้ไม่บังคับมึงอีก กับอีกทางก็คือ มันอาจจะดีมากๆก็ได้ แบบมึงกับพ่อเลี้ยงมึงเข้ากันได้ดีงี้ ใครจะไปรู้วะถ้าไม่ลอง”

ถึงผมจะพูดแบบนั้น แต่ถ้าถามความเห็นจริงๆของผมล่ะก็ บอกได้เลยว่าไม่เกินอาทิตย์หรอก ไอ้ซ่าร้องไห้แงๆวิ่งกลับไปซบอกยายมันแทบไม่ทันแน่

“ผมอึดอัด โคตรอึดอัดเลยพี่รู้ไหม ทำไมมีแต่เรื่องให้หงุดหงิดก็ไม่รู้ แม่งขัดใจไปหมด” มันกัดฟันพูด มือก็กำแน่นทุบกับต้นขาตัวเอง

“มึงจะผ่านมันไปได้” ผมให้กำลังใจ

ซ่ามองตอบสายตาของผม เราสองคนจ้องตากันเกือบสิบวินาที

“ผมกลัวผมทนไม่ไหว” ค่อนข้างน่าเหลือเชื่อที่มันยอมพูดความรู้สึกออกมาอย่างไม่ปิดบัง

ผมแบมือตรงหน้ามัน ซ่ามองตามมือของผม หัวคิ้วขยับเข้าหากันเล็กน้อย

“อะไรอ่ะพี่” มันถาม ก้มมองมือผมที่แบออกด้วยความสงสัย

“เอามือมึงมาวางบนมือกูสิ” ผมบอก

“ทำไมอ่ะ” ยังคงถามมาก

“เออน่า”

ผมนั่งจ้องหน้ามัน รอให้มันเอามือตัวเองวางลงมา

มือที่เล็กกว่าผมค่อยๆยกขึ้นจากหน้าขาตัวเอง แล้ววางลงบนมือผมช้าๆ ผมบีบมือมันเอาไว้แน่น จ้องมองเข้าไปในดวงตาที่สั่นไหวขาดความมั่นใจ จากที่กำลังสัมผัสมือของมัน บอกได้เลยว่าเด็กคนนี้คงใช้ชีวิตอย่างยากลำบากพอควร คงจะทำงานตั้งแต่เล็กแต่น้อย เพราะมือของมันสากและแห้งแตกระแหง ไม่นุ่มเหมือนมือใครที่ผมเคยจับ

“กูจะเติมพลังให้ เมื่อไหร่ที่มึงคิดว่าไม่ไหว ให้ส่งมือมาแล้วกูจะช่วยมึงเอง”

“...”

“กูให้เบอร์ไปแล้วนิ โทรหากูได้ตลอด”

“ถ้าผมอยู่กับเขาไม่ได้ล่ะ”

“กูรู้ว่ามึงเก่ง และมึงเป็นคนที่เข้มแข็ง” วิธีจัดการกับเด็กนั้นไม่ยาก ชมสักหน่อยความมั่นใจก็จะมา

“ผมกลัวเขาไม่ดีกับผม”

ผมเข้าใจความรู้สึกของมันในวันนี้ เพราะผมเคยผ่านมันมาแล้ว

“มึงจะอดทนใช่ไหม” ผมถามพร้อมลุ้นในคำตอบ ทำไมกูทำเหมือนกำลังปลอบลูกให้เข้าไปอยู่ในโรงเรียนประจำวะ

มันนิ่งก่อนจะพยักหน้าช้า “ผมจะพยายาม...พยายามอดทน”

“ดีมาก” ผมลูบหัวมันด้วยความเอ็นดู

“แต่ถ้าผมทนไม่ไหว...” แปบเดียวก็มีข้อแม้ซะแล้ว จะไหวไหมเนี่ยไอ้ซ่า!

ผมบีบมือมันแน่นแล้วใช้มืออีกข้างประกบมือมันให้อยู่ในสองมือของผม

“ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็โทรหากู เดี๋ยวกูไปรับมึงกลับบ้านเอง โอเคไหม”

“...”
“แต่ต้องหลังจากที่มึงพยายามที่จะอยู่กับแม่และพ่อใหม่ของมึงแล้วจนถึงที่สุดจริงๆ ไม่อย่างนั้นกูจะไม่ไปรับเด็ดขาด” มีผ่อนก็ต้องมีตึงไม่อย่างนั้นเอามันไม่อยู่ เด็กแบบนี้เอาใจอย่างเดียวไม่ได้มันจะเหลิง

“โด่ ไม่ง้อหรอก ผมนั่งรถกลับเองได้”

“กวนตีน” ผมด่าเข้าให้ เรียบร้อยว่าง่ายได้ไม่นานจริงๆไอ้เด็กคนนี้

   “เปนเด็กดีนะมึง”

เพราะกูชอบเด็กดี ที่แสบและซ่า

“พี่ปราบ ขอบคุณนะ” มันยิ้มอ่อนให้ผม ดวงตาที่เศร้าหมองมีประกายสดใจขึ้น

จนถึงตอนนี้ ผมเริ่มสงสัยในตัวเองหน่อยๆแล้วว่า ผมถูกใจไอ้เด็กเก็บกดคนนี้ที่ตรงไหนกัน

หน้าตา

ความกวนตีน

หรือความหว้าเหว่ที่ซ่อนลึกในดวงตาคู่นั้นกันแน่





หลังจากที่ปรับทุกข์กันเสร็จ และสีหน้าซ่าดูดีขึ้น ผมก็พามันไปส่งที่บ้าน และมันยังคงให้ผมจอดส่งมันที่หน้าปากซอย พอถามว่าทำไมไม่ให้เข้าไปส่งถึงในบ้าน มันก็ตอบมาแค่ว่าขี้เกียจอธิบายกับที่บ้านว่าใครมาส่ง มันไม่เคยรู้จักคนรวยๆแบบผม มันว่าอย่างนี้นะ เลยกลัวคนที่บ้านสงสัยแล้วจะถามซอกแซก มันบอกมันรำคาญขี้เกียจตอบ

จากเรื่องราวข้างต้น ผมก็พอสรุปได้ว่า นอกจากมันจะแข็งกระด้าง เป็นเด็กเก็บกด และใจร้อนแล้ว มันยังเป็นคนขี้รำคาญอีกด้วย

เออดี แต่ละอย่าง กูควรสนใจต่อดีไหม

แต่ทำไงได้...ทั้งหมดที่มันเป็น แม่งเรียกเลือดร้อนในกายผมให้รู้สึกอยากปราบ อยากสยบมันให้อยู่ ทำให้มันเชื่องและเชื่อฟังแต่ผม นอกจากนั้นผมยังอยากทำให้มันโตขึ้นเป็นเด็กดียังไงไม่รู้

ผมกลับมาถึงบ้านในเวลาทุ่มกว่า เลยเวลากินข้าวมาเกือบครึ่งชั่วโมง ทีแรกคิดว่าจะโดนด่าแล้ว ทว่าพอเดินเข้าบ้าน ทุกคนยังอยู่ละครซิทคอมกันอยู่ในห้องนั่งเล่น ไม่มีใครสนใจการมาของผมนอกจากเจ้าสองตัวที่วิ่งกระดิกหางระริกๆใส่ผม

ตัวแรกก็เจ้าซู่ซ่า ตัวที่สองชื่อปาปิก้า หมาพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ สองชื่อนี้ไม่ได้เป็นคนตั้ง คนตั้งก็คือพี่ริชกับพี่เค้ก เป็นหมาที่ผมซื้อมาเลี้ยงได้สามปีแล้ว ที่บ้านนี้ก็เคยมีหมาและแมวอย่างละตัว แต่ว่ามันก็ตายไปนานแล้วเหมือนกัน รู้สึกจะช่วงผมอายุเจ็ดแปดขวบมั้งถ้าจำไม่ผิด หมาชื่อสายไหมพันธุ์ปอม ส่วนแมวชื่อลูกหิน ผมจำความทรงจำช่วงนั้นได้รางๆ ตอนที่จะเลี้ยงเจ้าสองตัวนี้ก็คิดอยู่นานว่าคนที่บ้านจะเห็นด้วยไหม เพราะพี่เค้กกับพี่ริชไม่เคยคิดจะเลี้ยงสัตว์อะไรอีกเลยตั้งแต่เจ้าสองตัวนั้นตายจากไป แต่สุดท้ายผมก็ได้เลี้ยงและไม่มีใครห้าม

“ไง หิวเหรอไง นี่อาหารใครหืม อาหารใคร” ผมชูถุงอาหารมาให้เจ้าสองแสบดู พอเห็นถุงอาหารเจ้าซู่ซ่าก็กระโจนใส่ผมทันที ตัวมันก็ใช่ว่าจะเล็กๆ ทำเอาเซ ก่อนจะถูกหมาบ้าทำร้ายร่างกาย ผมก็รีบพามันออกไปกินข้าวนอกบ้าน

“พ่อ ผมพาไอ้สองแสบออกไปกินข้าวก่อนนะ” พ่อทราบหันมาเจอผมพอดี

“อืม เค้กครับ ตั้งโต๊ะเลยแล้วกัน ลูกกลับมาแล้ว”

“กลับมาช้านะมึง กูบอกว่าอย่ากลับช้าๆ”

“อย่าบ่นนะป๊า แก่แล้วดิ” ผมแซวก่อนจะเรียกหมาทั้งสองตัวให้ตามไปกินข้าวข้างนอก

นั่งเฝ้าดูเจ้าแสบสองตัวกินอาหารเม็ดด้วยความหิวโหย เวลามองมันก็รู้สึกมันเป็นหมาโคตรเท่ แต่ว่านิสัยจริงปัญญาอ่อนไม่เข้ากับหน้าตา

เจ้าซู่ซ่ากินหมดก่อนและกำลังจะเข้าไปแย่งเจ้าปาปิก้า ผมเลยต้องจับมันไว้จนกว่าเมียมันจะกินข้าวเสร็จ เป็นผัวที่ใช้ไม่ได้จริงๆ พยายามจะเข้าไปแย่งให้ได้จนผมต้องดุ นั่นแหละถึงจะหยุด

ฮัสกี้เป็นสุนัขสายพันธุ์เดียวกับหมาป่า เป็นหมานักล่า ทว่าพออยู่กับคนมากๆเขา ถูกเลี้ยงดูสั่งสอน ก็กลายเป็นหมาเชื่องๆน่ารักตัวหนึ่ง

จะว่าไปแล้ว ผมเพิ่งสังเกตว่าชื่อหมาผม กับชื่อของซ่ามันเหมือนกัน

“หึหึ ซ่า อย่าดื้อนะ” ผมจับหน้าของเจ้าซู่ซ่าเอาไว้ ผมเรียกแค่ซ่าสั้นๆ มันก็ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ใช่ว่าจะเชื่อฟัง เพราะมันไม่เคยฟังไง พี่ริชถึงได้ตั้งชื่อว่าซู่ซ่า ซนยิ่งกว่าลิงเสียอีก ข้าวของหลายอย่างในบ้านพังเสียหานก็เพราะมัน  ไม่เหมือนปาปิก้าที่เรียบร้อยกว่า อาจจะเพราะมันเป็นเพศเมียก็ได้มั้ง

เฝ้าตัวแสบสองตัวกินอาหารเสร็จ ก็ถึงเวลาที่คนต้องกินข้าวบ้าง แน่นอนว่าคนไม่มีคู่ก็เปล่าเปลี่ยวไป นั่งกินข้าวมองดูคู่รักสองคู่เอาใจกันอย่างชูชื่น เห็นแล้วมันอิจฉาโว้ย

ปลีกตัวกลับขึ้นห้องได้ผมคว้าโทรศัพท์มาดูเป็นอย่างแรก ครั้งก่อนผมได้เบอร์ ครั้งนี้ผมได้ไลน์ของซ่ามา คิดว่าคุยกันทางนี้น่าจะคุยได้บ่อยกว่า เพราะคนอย่างซ่ามันคงไม่โทรหาผมอยู่แล้วถ้าผมไม่โทรไปหามันก่อน แต่ถ้าเป็นพิมพ์ข้อความในไลน์ มันน่าจะทำ



ซ่า : MuePrab

Patcharakan :ครับ


ตอบซะสุภาพไม่เข้ากับตัวจริงเลย


ทำอะไรอยู่  : MuePrab

Patcharakan :เพิ่งคุยโทรศัพท์กับแฟนเสร็จ

เป็นไง ทะเลาะกันอีกไหม : MuePrab

Patcharakan :วันนี้ไม่ทะเลาะ


เรื่องแฟนมัน จะว่าไม่รู้สึกก็ไม่ใช่นะ แต่ทำไงได้ มาที่หลัง ตอนนี้กูยังแค่ถูกใจ ไม่ได้รู้สึกว่ากูต้องแย่งมาหรืออะไร อีกอย่างดูท่ามันจะไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย เลยคิดว่ตะล่อมให้มันค่อยๆซึมซับผมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตจนขาดไม่ได้ดีกว่า


แล้วบอกแม่หรือยังว่าจะไปอยู่กับเขา : MuePrab

Patcharakan :ไม่บอกหรอก
Patcharakan :ยังไงเขาก็บังคับอยู่แล้ว

มึงนี่มันมึงจริงๆซ่า : MuePrab

Patcharakan :ก็ผมน่ะสิ พี่คิดว่าใคร

คิดว่าเป็นเด็กหน้าหงอยงอนยายล่ะมั้ง : MuePrab


แซวแม่งเลย กวนตีนได้แบบนี้แสดงว่าดีขึ้นแล้ว


Patcharakan :โหยพี่ ใครทำแบบนั้น ไม่มีเหอะ

แล้วต้องย้ายไปบ้านแม่เมื่อไหร่ : MuePrab

Patcharakan :อาจจะอีกสองสามวัน
Patcharakan :แล้วแต่ว่าเขาจะเข้ามาเมื่อไหร่

เออ ทำตัวดีๆนะมึง  : MuePrab
อย่าให้สิ่งที่กูสอนต้องเสียเปล่า : MuePrab

Patcharakan :ค้าบบบบบบ

รีบนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ตื่นไปเรียนเช้า  : MuePrab

Patcharakan :ค้าบบบบพ่อ

เดี๋ยวมึงจะโดน : MuePrab

Patcharakan :55555

พรุ่งนี้มึงทำงานไหม : MuePrab

Patcharakan :ทำดิ ไม่ทำเอาเงินไหนกินอ่ะ

เลิกกี่โมง : MuePrab

ถามไว้ก่อน เผื่อผมว่างอาจจะแวะไปหา


Patcharakan :ทุ่มหนึ่ง

อืม : MuePrab

Patcharakan :ทำไม พี่จะมาเหรอ

อยากให้กูไปไหมล่ะ : MuePrab

Patcharakan :เลี้ยงข้าวไหมล่ะ พี่เคยบอกว่าจะเลี้ยงนิ

เออ อยากกินไรคิดไว้เลย กูเลี้ยง  : MuePrab

Patcharakan :ของแพงได้ไหม

ถ้ามึงอยากกิน กูก็จ่ายไหว : MuePrab

Patcharakan :ป๋ามากก

Patcharakan :ขอขอบคุณล่วงหน้าครับผม


เอาล่ะ เงินที่กูทำงานเก็บมาค่อนชีวิต จะได้ทำประโยชน์ล่ะ






.......
Talk:
ค่ะพี่ปราบ เงินที่มีก็เปย์ให้น้องมันหมดเลยแล้วกัน แต่เปย์มาเผื่อคนแต่งด้วยก็ได้ ฮ่าๆๆๆ
หลายๆคนอาจสงสัยว่าอยู่ๆ ครอบครัวPretty Boy อย่างทราฟ เค้ก สงคราม ริช โผล่มาได้ยังไง ที่จริงข้อมูลส่วนนี้ปรากฏอยู่ในตอนพิเศษในหนังสือ Mafia ‘n Doll นะคะ น้องปราบเป็นเด็กที่พี่สงครามรับมาเลี้ยง เนื่องจาก นางทั้งสี่คนมีลูกไม่ได้ไง ถ้าไม่หาเด็กมาเลี้ยงไว้เป็นลูก กิจการพวกนางๆทั้งหลายใครจะดูแล
ประจวบกับคิดถึงเด็กในสังกัดหน้าเก่า เลยก่อเกิดเป็นเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งเพราะปราบถูกเลี้ยงมาด้วยบุคคลสี่แบบเนี่ยแหละ ทั้งโหด เข้มแข็ง ใจดี และอ่อนโยน ทั้งหมดทั้งมวลที่หล่อหลอมเป็นพี่ปราบ จะทำให้รับมือกับน้องซ่าของเราได้อย่างง่ายได้(หรือเปล่า)
ความซ่าของซ่ายังมีอีกให้พี่ปราบได้หัวหมุนพอควร ติดตามชมเอาแล้วกัน
ขอบคุณสำหรับการติดตามและคอมเม้นนะคะ
รัก
ริริ
 :กอด1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-01-2017 22:20:29
เป็นความคิดที่ดีนะ
ช่วยคนที่เดือดร้อน
สั่งสอนอบรม ให้คำแนะนำ
ตั้งใจให้เขาเป็นเด็กดี
แม้จะมีจุดประสงค์แอบแฝง
เด็กวัยรุ่นแบบซ่ามีเยอะ
ทั้งที่มีพ่อแม่ มีผู้ใหญ่ในบ้าน
แต่คนในครอบครัวที่รู้คิด มีน้อยยยยยย
ปัญหาเลยไม่ได้แก้อย่างตรงจุด
ปราบเคยถูกเก็บมาเลี้ยง น่าจะเข้าใจปัญหาได้ดี
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 09-01-2017 22:29:27
 :katai2-1: :katai2-1:
 :katai5: :katai5: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 09-01-2017 22:34:25
อิพี่ปราบมันร้ายคะ คุณณณณณณณณณณณณ   พี่ปรายแม่งสายเปย์ ชัดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-01-2017 23:02:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-01-2017 23:13:00
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 10-01-2017 00:25:49
มาเกาะขอบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 10-01-2017 00:29:45
พี่ปราบเป็นผู้ใหญ่มากอ่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กชายมั่วนิ่ม ที่ 10-01-2017 09:04:21
ชอบตอนปราบสอนน้องมากกก สอนได้ดีค่อยๆ บอก ค่อยๆ สอน
เหมือนตอนพี่ครามปราบริชใหม่ๆ เลย ฮ่าๆๆๆๆ ดูๆ ไปนี่ซ่าแอบมีความคล้ายริชอยู่นะ
ปราบอยู่กับครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นมากกกก ๆๆๆๆๆๆ
ส่วนซ่าไม่รู้ว่าครอบครัวซ่านี่คือยังไง เพราะนี่มันเป็นแค่มุมของซ่าของเดียว
เลยดูเหมือนว่าซ่าโดนกระทำ แต่จริงๆ ถ้าซ่ากับครอบครัวเปิดใจคุยกันจริงจังมันอาจจะดีขึ้นก็ได้นะ
พี่ปราบช่วยดูแลซ่าหน่อยน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 10-01-2017 11:35:41
ชอบพี่ปราบมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-01-2017 12:43:26
รุกแบบมีชั้นเชิง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่5 :: 9/1/2017 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-01-2017 23:33:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่6 :: 9/1/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 16-01-2017 19:59:13
ปราบซ่า
ตอนที่6


[ZA]

เลิกเรียนเสร็จผมก็บอกลากับเพื่อนๆก่อนจะแยกตัวจากกลุ่มเพื่อนไปทำงานพิเศษ ช่วงนี้การเงินไม่ค่อยคล่อง เลยต้องขอเงินแม่ใช้ก่อน โดนบ่นโดนด่าบ้างก็ว่ากันไป

ผมเปลี่ยนชุดในห้องน้ำของร้าน อีกยี่สิบนาทีก็ถึงเวลาเข้างาน ผมหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาพลอยก่อน เพราะตอนทำงานจะโทรหาไม่ได้

“ซ่า ว่าจะโทรหาพอดี” พลอยรับสายด้วยความร่าเริง ผมเผลอยิ้มไม่รู้ตัว

“มีอะไรเหรอ” ผมถาม รู้สึกมีความสุขเมื่อรู้ว่าพลอยอยากคุยกับผม แทบลืมไปหมดว่าช่วงนี้เราบึ้งตึงใส่กันบ่อยแค่ไหน

“ว่างไหม ว่าจะชวนไปเดินซื้อของแล้วก็ดูหนังอ่ะ ครั้งที่แล้วก็ไม่ได้ดู”

ครั้งที่แล้วก็ตอนที่ผมไปตีกับเด็กต่างสถาบันแล้วโดนพลอยเมินใส่นั่นแหละ ผมรู้สึกดีนะที่พลอยโทรมาชวนผม แต่ว่าวันนี้ผมกลับไม่ว่าง

“วันนี้เหรอ ไม่ได้อ่ะ ทำงาน”

“ลางานไม่ได้เหรอ ช่วงนี้ไม่ได้เจอกันเลยนะ” พลอยทำเสียงงอแง ผมเหลือบตามองดูนาฬิกาก่อนจะมองหัวหน้างานที่เดินเข้ามาหยิบของหลังร้าน

“ไงมึง กว่าจะโผล่หน้ามาทำงานได้ ตัวแดงแล้วนะซ่า” เจอหน้าผมแกก็สวดเลย

“ค้าบๆ ขอโทษค้าบ” ผมพูดติดตลก แต่ในใจไม่ตลกด้วย ปลายสายคงได้ยินสิ่งที่หัวหน้าผมบ่น พลอยเงียบไปเลย

“ไว้วันหลังแล้วกันนะพลอย” ผมบอก วันนี้ผมลางานไม่ได้จริงๆ ยังไงก็ต้องทำงานถ้ายังไม่อยากหางานใหม่ นี่แย่กกว่าการหางานใหม่คือการสัมภาษณ์งาน

“น่าเบื่อ”

“...”

“ไม่ไปวันนี้ วันหลังก็ไม่ต้องไปแล้ว ไม่ได้เรื่อง” กระแทกเสียงใส่ผมจบก็ตัดสายไปเลย ผมได้แต่มองโทรศัพท์ก่อนจะถอนหายใจ พยายามไม่คิดอะไรมากแล้วเริ่มทำงาน

วันนี้ลูกค้าเยอะและผมทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์ เป็นงานที่ยุ่งตลอดเวลา ผมทำงานเพลินจนกระทั่งใกล้จะได้เวลาเลิกงาน ลูกค้าก็เริ่มลดน้อยลงมาหน่อย

ตื้อดึง ~

“เซเว่นสวัสดีค่ะ/ครับ”

เมื่อมีลูกค้าเข้ามา ทุกคนก็พูดประโยคเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง เพราะเป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนจำเป็นต้องพูด จนบางครั้งผมยังรู้สึกว่ามันตลกเลย

“แกๆ ผู้ชายคนนั้นอย่างหล่ออ่ะ สูง หุ่นดี กล้ามแขนเป็นมัดๆเลย” พี่พนักงานสาวในร้าสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ผม เริ่มกระซิบกระซาบพูดถึงลูกค้าที่เข้ามา

“ไหน จะมีใครหล่อกว่าผมอีก” ผมหันไปพูดเบ่งใส่

“มีแน่ หันไปดูนู่น” พี่แก้มดันหน้าผมให้หันไปทางบุคคลที่กำลังถูกพูดถึง ผมมองเขาพร้อมกับที่เขาก็หันมาสบตาผมพอดี

...พี่ปราบ…

“เห้ย ยิ้มมาทางนี้ด้วย เขาต้องยิ้มให้ฉันแน่ๆเลยแก” พี่แก้มยังคงเพ้อไม่เลิก ยิ่งพี่ปราบเดินเข้ามาใกล้เธอสองคนยิ่งยิ้มหวาน

“ไง เลิกงานยัง” พี่ปราบถามผม ทำให้พี่แก้มและพี่แจนตวัดหน้ามองผมด้วยความสงสัย ผมกระแอมไอในลำคอนิดนึง

จะว่าไปสองสาวก็พูดไม่ผิดหรอก ไอ้พี่ปราบมันหล่อจริงๆ หุ่นดีน่าตาดี พูดได้คำเดียวว่ากูอิจฉา

“ใกล้แล้วพี่ อีกครึ่งชั่วโมง”

“อืม กูไปรอที่รถนะ” พี่ปราบว่า แล้วก็ส่งขวดน้ำให้ผมคิดเงิน จากนั้นก็เดินออกไป

“ทำไมแกรู้จักกับเขา บอกมาเดี๋ยวนี้” พี่แจนซักถามผมทันที มีการมาจับแขนผมเขย่าด้วยนะ ส่วนพี่แก้มก็คงอยากจะเข้ามาถามเหมือนกันแต่ดันติดลูกค้า

“เขาเป็นรุ่นพี่ผม”

“รุ่นพี่ที่โรงเรียนช่าง!?” พี่แจนถามเสียงหลง ทำไมอ่ะ ถ้าเป็นเด็กช่างแล้วผิดตรงไหน

“ไม่ใช่ พี่แจนทำเสียงงี้หมายความว่าไง หาเรื่องเหรอ” ผมขยับเก้าเดินเข้าไปใกล้ แกล้งทำหน้าเหี้ยม

“ไอ้นี่นิ ถอยไปห่างๆเลย” พี่แจนผลักผมออกห่าง ผมหลุดขำแก

“พี่เขาไม่ได้เรียนช่างหรอก แต่ก็เป็นรุ่นพี่อ่ะ รู้แค่นี้พอล่ะ” ผมยักคิ้วกวนๆให้สองสาวที่ยืนเท้าเอวใส่ผม

“โหย อย่ามากั๊กได้ป่ะ” สาวๆโอดครวญกันใหญ่ ผมส่ายหน้ายิ้มๆ ยักคิ้วให้อีกทีก่อนจะหันไปคิดเงินลูกค้าและทำงานต่อจนกระทั่งเลิก

ที่ผมไม่บอกข้อมูลพี่ปราบมากกว่านี้ไม่ใช่อยากจะกั๊กอะไร คือความจริงแล้วกูไม่รู้ครับ จำได้แค่พี่ปราบเป็นลูกเจ้าของโรงฝึกสอนการต่อสู้ที่ไอ้หวายเคยบอกไว้ นอกจากนั้นผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่ปราบเลย

ผมเดินมาถึงรถยนต์คันหรู ที่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองขับสักครั้ง แต่คิดว่าคงไม่มีวันนั้น

ผมเข้าไปนั่งในรถ พี่ปราบที่นอนเอนตัวหลับอยู่ก็ลืมตาขึ้น มองสำรวจผมทั่วทั้งตัว คือผมเปลี่ยนชุดแล้วนะ ตอนนี้กลับมาอยู่ในชุดนักเรียนช่างตามเดิม

“ถ้ากูไปไหนมาไหนกับมึงในชุดนี้ กูจะโดนตีนไปกับมึงไหม” อ้าปากถามเหมือนจะล้อ แต่ผมก็หลุดขำนะ

“ผมว่ามันเห็นหน้าพี่ก็ไม่กล้าแล้วมั้ง” ผมแซวกลับ ไม่โกงครับ

“ฮะๆๆ คิดไว้ยังมึงว่าจะกินอะไร” พี่ปราบถามพร้อมกับออกรถ

“ไม่รู้วะพี่ กินไรก็ได้” ผมคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี ที่เมื่อคืนบอกไว้ว่าอยากกินของแพง เอาเข้าจริงก็ไม่รู้ว่าของแพงแม่งมีอะไรบ้าง ถ้าไม่ใช่อะไรที่ขายข้างทางผมว่ามันก็แพงหมดแหละ

พี่ปราบเหลือบมองผมแล้วก็เงียบไปสักพักใหญ่

“ครั้งนี้กูจะเป็นคนคิดให้นะ แต่ครั้งหน้าถ้ากูให้มึงเลือก มึงต้องเลือก” น้ำเสียงที่พี่ปราบใช้มันก็ปกตินะ แต่ในความรู้สึกมันเหมือนกำลังถูกดุไงไม่รู้

“จำเป็นต้องเครียดขนาดนี้ไหมพี่” ผมตอบกลับติดหัวเราะเบาๆ

“แล้วปกติเวลาไปกินข้าวกับแฟนมึง ใครเป็นคนเลือก แล้วเคยเจอไหมที่บอกว่ากินอะไรก็ได้อ่ะ มันลำบากคนตามใจเปล่าวะ” พี่ปราบบ่น และผมก็คิดตาม

ซึ่งปกติถ้าผมพาพลอยไปกินข้าว ถ้านับในสิบครั้งก็มีสักแปดครั้งแหละที่พลอยจะพูดว่าอะไรก็ได้ แต่พอชวนกินนั่นกินนี่แม่งก็ไม่เอา โคตรน่าหงุดหงิด

เอาเป็นว่าผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกพี่ปราบล่ะ

“โอเค งั้นคราวหน้าผมจะไม่ตอบว่าอะไรก็ได้หรือยังคิดไม่ออกแล้วกัน”

“ดีมาก”

“แล้ววันนี้พี่จะพาผมไปกินที่ไหนล่ะ”

“ร้านอากูล่ะกัน ง่ายดี กูแปะโป้งไว้ให้พ่อกูจ่ายได้”

“โหย หัวหมอนี่หว่า”

“ก็ถ้ากูจ่ายเอง อากูไม่เคยเอาเงินกูอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเงินพ่อกู อาเก็บทุกเม็ด เดี๋ยวกูโทรไปจองโต๊ะก่อน ป่านนี้คนน่าจะแน่นแล้ว”

ระหว่างทางไปร้านอาหารที่ว่า พี่ปราบก็ถามถึงงานและเรื่องเรียนบ้างเล็กน้อย แต่ส่วนมากจะเงียบมากกว่า ผมอยากจะถามเรื่องพี่ปราบนะ แค่ไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง

ร้านอาหารที่พี่ปราบพามา เป็นร้านที่ขายทั้งเหล้าเบียร์และอาหาร ที่สำคัญมีดนตรีสดด้วย คนมานั่งกินกันจนแน่นร้านแทบมองไม่เห็นโต๊ะว่าง

“หวัดดีครับเฮียปราบ” พนักงานในร้านพอเห็นพี่ปราบก็ยกมือไหว้ เอ่ยทักทายกันเป็นแถว

“อืม ได้โต๊ะไหม” พี่ปราบถาม

“ได้สิเฮีย ที่นั่งมุมในที่ประจำ ผมเคลียร์ให้แล้ว”

“ดีมาก”

“ผมทำดีใช่ไหม งั้นคืนนี้ขอทิปหนักๆนะเฮีย แล้วพาเด็กที่ไหนมาเนี่ย เด็กช่างซะด้วย เล่นของเถื่อนเหรอเฮีย”

“กวนตีนละไอ้นี่ ไปๆ อย่าพูดมาก ไปทำงาน” พี่ปราบไล่ ก่อนจะเดินนำไปที่โต๊ะ แต่ทำไมต้องจับมือผมเดินด้วยวะ ไม่ถึงสิบก้าวก็ถึงโต๊ะละ

“ผมเดินเองไน้น่า โตแล้ว ไม่ต้องจูงหรอก” ผมดึงมือกลับ มันแปลกๆนะเว้ย ผู้ชายมาจับมือจูงกันเดิน

“ทำไม กูจับไม่ได้เหรอน้องซ่า”

“พี่อย่ากวนตีนดิ”

สุดท้ายพี่ปราบก็จับข้อมือผมมาที่โต๊ะถึงได้ปล่อย ผมนั่งลงฝั่งตรงข้ามคนพามา ยังคงตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศในร้าน ดูเป็นอิฐๆปูนๆแบบสร้างไม่เสร็จ ตกแต่งด้วยโครงเหล็กสีน้ำตาลและหลอดไฟสีส้มสลับขาว

“ชอบวะพี่ ร้านสวยดี” ผมชม กลุ่มนักดนตรีที่เล่นอยู่เอ่ยลาแล้วก็เดินลงจากเวที เสียงเพลงที่เคยดังก้องร้านก็เหลือเพียงเสียงเพลงเบาๆสบายๆ

“อาหารก็อร่อย อ่ะ มึงเลือกดูว่าอยากกินอะไร คราวนี้มึงต้องเลือกนะ ห้ามบอกว่าอะไรก็ได้” พี่ปราบส่งเล่มเมนูมาให้ผมพร้อมพูดกำชับ

“รู้แล้วน่า ฮู้ว” ผมรับมาเปิดดู อย่างแรกที่ดูคือราคาอาหาร แต่ในเมื่อไม่ใช่คนจ่ายก็เลยเลิกสนใจ เบนสายตามองภาพอาหารที่ตกแต่งอยู่ตรงขอบๆเมนูเอา

อาหารมีเยอะมากถึงมากที่สุด ทั้งอาหารไทยและอาหารต่างชาติ ผมเปิดพลิกหน้าเมนูอยู่หลายครั้งแต่ก็ยังเลือกไม่ได้ เงยหน้ามองพี่ปราบก็เจอสายตาคมๆดุๆจ้องอยู่

กูห้ามพูดว่าอะไรก็ได้ หรือไม่รู้สินะ

งั้นกูสั่งของง่ายๆแล้วกัน

ผมเปิดเมนูกลับไปหน้าแรกที่เป็นของทอด “ผมเอาปลาทอดนิลทอดน้ำปลา”

“เอาเป็นปลากะพงแทนไหม” พี่ปราบเสนอ ดูท่าพี่ปราบคงอยากกิน ผมเลยพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก็แน่ละ กูไม่ใช่คนจ่ายเงิน

“ปลาอะไรก็ได้ ผมกินได้ไหม”

“แล้วอะไรอีก”

“แกงส้มชะอมไข่ใส่กุ้ง แล้วก็ ไข่เจียวหมูสับ”

“กูเลี้ยงทั้งที มึงสั่งไข่เจียวหมูสับเนี่ยนะ”

“เอ้า แล้วพี่จะเอาอะไรอ่ะ ไหนบอกให้ผมเลือกไง”

“เออๆ ไข่เจียวหมูสับก็ไข่เจียวหมูสับ”

“แค่นี่แหละ” ผมปิดเมนูแล้วส่งคืนให้พนักงาน พี่ปราบนั่งกอดเอาลิ้นเดาะกระพุ้งแก้มเล่น ก่อนจะหันไปสั่งอาหารเพิ่ม

“เอาผัดบล็อกโคลี่กุ้ง ใส่กุ้งเยอะๆมาอีกจาน แล้วก็พล่าทะเล ส่วนข้าวเอาเป็นข้าวผัดปู”

“เยอะไปเปล่าพี่” ผมท้วง แต่อีกใจหนึ่งก็แอบสนใจกับเมนูอาหารที่พี่ปราบเพิ่งพูดไป ท่าทางจะอร่อย ท้องผมก็เริ่มร้องแล้วด้วย

“เออน่า มึงจะเอาน้ำอะไร หรือจะเอาเบียร์”

“เอาเบียร์ดิพี่”

แหม บรรยากาศแบบนี้ มันต้องกินข้าวเคล้าเบียร์และฟังดนตรีสด เป็นบุญกูจริงๆที่ได้รู้จักพี่ปราบ หรือผมต้องขอบคุณไอ้หวายด้วยที่ทำให้ผมเจอพี่เขา

ไม่ใช่ว่าเพราะเขาจ่ายเงินค่าข้าวให้หรอกนะ อันที่จริงก็ส่วนหนึ่ง แต่นอกจากนั้นแล้ว ผมรู้สึกว่าอยู่กับเขาแล้วผมสบายใจอย่างบอกไม่ถูก หรือเพราะเขาดูใจเย็นและพึ่งพาได้

ผมรู้สึกแบบนั้น

ผมโครงหัวตามจังหวะเพลง กวาดสายตามองคนในร้านไปเรื่อยจนมาจบอยู่ที่พี่ปราบ พี่เขามองจ้องหน้าผมอยู่ นั่นทำให้ผมเกิดข้อสงสัยเล็กน้อย

“มองอะไรพี่”

“เปล่า”

อืม เปล่าก็เปล่า

ผมคิดว่า ผมควรทำความรู้จักกับพี่เขาสักหน่อย

“พี่ปราบ ถามอะไรหน่อยสิ” ผมเริ่มต้นง่ายๆ คือผมคิดอะไรที่ดูดีกว่านี้ไม่เป็น

“จะถามอะไร”

“คือผมไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับพี่เลยวะ” หรือแทบจะไม่รู้อะไรเลย ผมท้าวแขนลงกับโต๊ะ โน้มตัวเข้าไปใกล้มองสำรวจใบหน้าคนตรงข้าม ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจนถึงตอนนี้ผมยังคงรู้สึกหมั่นไส้ในความหล่อไม่เกรงใจใคร

“ทำไม อยากรู้จักกูเหรอ” พี่ปราบแม่งดันยื่นหน้าเขามาใกล้อย่างเร็ว ผมตกใจคิดว่าหน้าเขาจะชนหน้าผมเข้าให้เลยผงะเอนหลังพิงเก้าอี้

“อะไรของพี่เนี่ย ตกใจหมด มันก็ควรต้องรู้บ้างหรือเปล่าวะพี่” ผมโวยกลับเบาๆ รู้สึกตกใจมากกว่าที่จะไม่ชอบใจ

“ฮ่าๆๆ แค่นี้ทำมาเป็นตกใจ ที่จริงกูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของมึงเหมือนกัน” หลังจากหัวเราะขำผมเสร็จพี่ปราบก็กลับเข้าสู่โหมดจริงจัง

แต่ที่พี่เขาพูดมันก็จริง

“ถ้าอยากรู้จักกูมากขึ้น กูมีข้อเสนอให้ไหมล่ะ”

“อะไร” พี่ปราบมันทำหน้าเจ้าเล่ห์พิกล ดูไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้

“กูจะบอกเรื่องของกู และมึงก็บอกเรื่องของมึง แลกกัน ห้ามปกปิด ห้ามโกหก โอเคไหม”

ผมนิ่งเงียบไปกับข้อเสนอ มันไม่ใช่สิ่งที่ทำยากแต่อย่างได้ แต่ทำไมผมกลับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

เวลาที่เราต้องเปิดเผยตัวตนหรือเรื่องราวอะไรก็ตามที่ไม่อยากพูดถึงหรืออยากเล่า มันก็เหมือนการแก้ผ้าให้คนอื่นดู และผมรู้สึกไม่โอเค

“มึงไม่กล้าเหรอซ่า ไม่เห็นมีอะไรยากสักนิด” พี่ปราบยักคิ้วข้างเดียวอย่างคนเป็นต่อ

ผมกลั้นใจก่อนจะตอบตกลง พอโดนท้าหัวสมองก็ไม่คิดห่าอะไรทั้งนั้น “ก็เอาดิพี่ คิดว่ากลัวหรือไง”






ถึงเวลาที่ผมต้องย้ายที่อยู่ และเป็นการย้ายที่ไม่ได้เต็มใจหรือรู้สึกดี ผมใช้ความพยายามและความอดทนขั้นสูงแบบที่ไม่เคยมีตามคำแนะนำของพี่ปราบ เมื่อคืนพี่แกยังส่งข้อความมาปลอบขวัญผมอีกด้วย ฮ่าๆๆ อย่างตลกอ่ะ แต่ผมก็รู้สึกดีมากๆ

‘มึงทำได้ซ่า กูเชื่อว่ามึงจะต้องเข้ากับที่บ้านใหม่ได้ มึงอยู่กับแม่กับพ่อใหม่ได้อยู่แล้ว’

ตอนเห็นประโยคนี้ ผมเผลอหลุดยิ้มออกมาด้วย โคตรบ้าเลย แต่โคตรรู้สึกดีเช่นกัน แม้จะหวั่นๆในใจก็เถอะว่าผลลัพธ์มันจะออกมาตรงกันข้าม

ระหว่างผมและพี่ปราบมีเงื่อนไขหนึ่งที่ตกลงกันไว้วันก่อนที่เขาพาผมไปกินข้าว นั่นคือการทำความรู้จักกันและกัน ทีแรกผมก็คิดว่าจะแค่ถามตอบในสิ่งที่สงสัย แต่ไม่ใช่ คืนนั้นผมถามพี่ปราบได้แค่คำถามเดียว ผมมีสิทธิถามได้วันละหนึ่งคำถาม แรกเริ่มผมรู้สึกสงสัย แต่ผ่านมาสามวันแล้วผมรู้สึกสนุก ผมจะเป็นคนถามก่อน และพี่ปราบจะถามผมกลับบ้าง แต่สามวันแล้วพี่ปราบถามผมแค่คำถามเดียว

สิ่งที่ผมถามก็คือ พี่ปราบทำงานอะไร คำตอบที่ผมได้กลับมาคือโคตรของโคตรทึ่ง พี่ปราบทำงานกลับครอบครัว แต่งานแต่ละอย่างนั้นไม่ธรรมดา พี่ปราบเป็นครูฝึกศิลปะห้องกันตัว และยังทำงานที่อู่ซ่อมรถชื่อดัง เป็นรองประธานของกิจการโรงแรมหลายแห่งในประเทศไทย

ผมไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมพี่ปราบแม่งรวย

ทำงานเยอะขนาดนี้แต่ทำไมดูพี่ปราบมันว่างชอบกล

คำถามที่สองที่ผมถามคืออายุ ตอนนี้พี่ปราบอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ห่างกับผมแปดปี

คำถามที่สามที่ผมอยากรู้ก็คือ พี่ปราบมีเมียหรือยัง คืออายุเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ แถมหน้าที่การงานดี ผมเลยคิดว่าเขาน่าจะมีครอบครัวมีลูกแล้วหรือเปล่า แต่ปรากฏว่า...

‘กูยังโสด ไม่มีเมียมีลูกอะไรทั้งนั้น’

บอกเลยว่าผมไม่เชื่อ แต่พอพี่ปราบย้ำและผมแอบไปถามเอากับไอ้หวายอีกครั้ง ก็ได้รับการยืนยันกลับมาว่าพี่ปราบแม่งโสดจริงๆ

ไม่น่าเป็นไปได้ แต่เป็นไปแล้ว

ส่วนคำถามที่พี่ปราบถามผมกลับมานั้น ทำผมแปลกใจเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าเขาจะถามว่าผมอยากเป็นอะไร อยากทำงานอะไร คำถามนี้ผมตอบโดยไม่ต้องคิดเลยว่า ผมอยากทำงานเป็นช่างซ่อมรถ เพราะผมชอบรถ และผมก็กำลังเรื่องสาขาช่างกลอยู่ ความฝันของผมไม่ได้ยิ่งใหญ่หรอก แต่มันเป็นสิ่งที่ผมชอบ

“ซ่า ลงไปเปิดประตู แม่จะเอารถเข้าบ้าน” พี่แนนบอกเมื่อมาถึงบ้านทาวน์เฮ้าส์ของเขา ผมลงไปเปิดรั้วบ้าน แล้วโบกรถให้พี่แนนถอยรถเข้าจอดในที่จอด

ของที่ผมเอามาก็มีแค่เสื้อผ้า หนังสือเรียน และหมอนผ้าห่มที่ผมติดก็ไม่มีอะไรแล้ว พี่แนนพาผมขึ้นไปที่ห้องนอนเล็ก ที่บ้านมีทั้งหมดสามห้อง ห้องนอนใหญ่ที่พี่แนนกับพี่เบิร์ดนอนด้วยกัน อีกห้องเป็นห้องพระ และห้องนี้ที่ไม่ได้ใช้งานอะไร
เอาของเข้าไปเก็บแล้วกัน เดี๋ยวลงมาช่วยแม่ทำกับข้าวเย็นด้วย

“อืม” ผมหันไปพยักหน้าให้พี่แนน ก่อนจะหันกลับมามองสำรวจห้อง มีเตียงนอนกับตู้เสื้อผ้าแค่นั้น แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะไม่รู้ว่าผมจะทนอยู่ได้นานแค่ไหน

แต่...จะพยายามให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

ค่อนข้างประหลาดใจที่ภาพหน้าพี่ปราบลอยขึ้นมาในหัว

ผมใช้เวลาเก็บของไม่นาน นอนเล่นคุยโทรศัพท์กับพลอยอีกครึ่งชั่วโมง ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพลอยยังไม่ลุ่มๆดอนๆ ดีบ้างแย่ๆบ้าง แต่วันนี้คุยกันไม่ค่อยถูกคอเท่าไหร่ เพราะอีกฝ่ายคอยแต่จะตัดสายทิ้ง สุดท้ายผมก็เลยกดวางให้มันสมใจ

ผมลงมาช่วยพี่แนนทำกับข้าวเย็น พูดง่ายๆคือมาช่วยหยิบของเท่านั้น ผมทำอะไรเป็นที่ไหน

ตอนที่กับข้าวอย่างสุดท้ายใกล้จะเสร็จ พี่เบิร์ดก็กลับมา ผมหันไปเจอก็เลยยกมือไหว้ ผมกับพี่เบิร์ดเจอกันไม่ค่อยบ่อย และไม่ค่อยได้คุยกันด้วย บรรยากาศระหว่างผมกับเขาในตอนนี้ก็เลยน่าอึดอัด

“กลับมาแล้วเหรอ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมากินข้าวเย็น” พี่แนนยกจานยำไข่ดาวออกมาวางบนโต๊ะกินข้าว

“อืม ทำตัวตามสบายนะ แต่อย่าทำบ้านลง ฉันไม่ชอบ” พี่เบิร์ดพูดแล้วก็เดินขึ้นห้องไป ผมหันไปมองหน้าพี่แนนที่ไม่ได้ใส่ใจอะไร

อยู่ที่นี่ก็จะต้องเจออะไรบ้างวะ

วันนี้ผมกินข้าวไปแค่จานเดียวเพราะรู้สึกกินอะไรไม่ลงแม้จะหิวมากก็ตาม เพราะพี่เบิร์ดกับพี่แนนเอาแต่เถียงกัน

“พี่เบิร์ด ค่าไฟยังไม่ได้ไปจ่ายไม่ใช่เหรอ มันจะเลยกำหมดแล้วนะ” พี่แนนบ่นขึ้นมาอีก

“เออน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไปจ่ายเองอ่ะ นี่ไง ซ่าทำงานอยู่เซเว่นไม่ใช่เหรอ พรุ่งนี้ก็เอาไปจ่ายด้วยแล้วกัน” พี่เบิร์ดหันมาสั่งผม

“ครับ” ไม่อยากมีปัญหาตั้งแต่วันแรก ผมก็เลยตกลงที่จะทำให้  ไม่ได้หนักหนาอะไรอยู่แล้ว “เอาเงินไว้ให้ผมด้วยแล้วกัน” ผมบอก

“เงินพี่หมดแล้ว แนนก็เอาเงินแนนออกไปก่อนแล้วกัน”

“เอ้า แต่มันหน้าที่ที่พี่ต้องจ่ายนิ”

“ก็มันไม่พอ ออกๆไปก่อนเถอะน่า”

“มันจะพอถ้าไม่เลิกซื้อของไร้สาระเข้าบ้าน”

“อย่าบ่นได้ไหม มันน่ารำคาญ”

“ก็มันจริงไหมล่ะ”

“ผมขอตัวก่อนนะ” ผมลุกขึ้นออกจากโต๊ะกินข้าว ไม่อยากฟังคนสองคนที่กำลังทะเลาะกันจนน้ำลายกระเด็นใส่กับข้าว

“มึงจะไปไหนซ่า รอล้างจานด้วย”

เพราะงั้นแทนที่จะขึ้นห้อง ผมก็เลยเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่นแทน ระหว่างนั้นก็ตอบไลน์เพื่อนไปด้วย มันชวนกันออกไปนั่งชิวๆร้านเหล้าใกล้ๆ ผมที่กำลังเซ็งก็เลยตอบตกลง

พอพี่แนนกับพี่เบิร์ดกินข้าวเสร็จผมก็เข้าไปเก็บโต๊ะแล้วก็ล้างจาน จากนั้นก็แยกตัวขึ้นห้องไปอาบน้ำต่างตัวเตรียมออกไปผ่อนคลายอารมณ์

“พี่แนน ผมออกไปข้างนอกนะ” ลงจากบันไดเจอพี่แนนกำลังยกจานแตงโมไปให้พี่เบิร์ดในห้องนั่งเล่น

“จะไปไหนอีก ไม่ต้องไป อยู่ให้ติดบ้านบ้างเถอะ อยู่กับแม่มึงก็ออกจากบ้านทุกวันเลยนะซ่า”

“โหย ออกไปแป๊บเดียว” คือวันไหนที่ไม่ได้ทำงานผมก็อยากออกไปหาเพื่อนบ้าง

“ไม่ต้องเลยมึง เกเรนักอยู่นี่แม่จะดัดสันดานซะให้เข็ด”

ผมอ้อนขอออกจากบ้านอีกสองสามประโยค แต่พี่แนนยังคงไม่ให้ออกไป ส่วนพี่เบิร์ดก็นั่งนิ่งดูทีวีไม่สนใจ ผมทำอะไรไม่ได้ก็เลยเดินกลับขึ้นห้องด้วยความเซ็ง ผมโทรไปหาให้กาน บอกมันว่ามันนี้ผมออกไปไม่ได้ แล้วดูสิ่งที่มันตอบกลับมานะ กวนตีนฉิบหาย

“น้องพัชก็อย่าดื้อกับคุณแม่สิ” หัวเราะเยาะใส่ผมกันซะงั้น สงสัยแม่งเปิดลำโพงด้วย เพราะผมได้ยินเสียงหัวเราะของพวกมันทุกคน

“กูไม่ได้ดื้อ”

“ฮ่าๆๆ งั้นก็เป็นเด็กดีดูดนมแม่ก่อนนอนไปแล้วกันมึง”

“ไอ้เหี้ย แค่นี้แหละ หงุดหงิดฉิบหาย”

ผมโยนโทรศัพท์ไปบนเตียงมั่วซั่ว ถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ แล้วหลับตาลง ไม่ได้ทำอะไรแต่ก็รู้สึกเหนื่อย ถ้าเป็นปกติผมคงจะไม่สนใจแล้วก็เดินออกจากบ้านไป แต่ว่านี่ไม่ใช่บ้านผม นี่เพิ่งจะวันแรกที่ผมได้มาอยู่ที่นี่

ครืดๆ

เสียงโทรศัพท์สั่น ผมคว้าหยิบขึ้นมาดู คนที่ส่งมาก็เป็นคนที่สนับสนุนให้ผมมาอยู่ที่นี่



เป็นไงบ้าง วันแรกกับบ้านใหม่ : MuePrab

ผมอ่านและก็ทำได้แค่จ้องข้อความของพี่ปราบอยู่นานสองนานก่อนจะตอบ

Patcharakan :ก็ดีครับ

ซะที่ไหนล่ะ 





Talk:
ขอโทษที่มาลงช้า ติดงานพิเศษที่รับมาทำ เลยยุ่งๆ แต่ตอนนี้เสร็จล่ะ จะพยายามมาให้ได้ทุกวัน หรือทุกๆ วันเว้นวันนะคะ
ตอนนี้สรุปได้สองอย่าง
น้องซ่า = ของเถื่อน
พี่ปราบ = ของหายาก
สำหรับวันนีขอลาแต่เพียงเท่านี้ เจอกันใหม่วันหน้า สวัสดีค่ะ
ป.ล. ใครน่ารักสวยใจดี อ่านแล้วเม้นให้เค้าด้วยนะ จุ๊บๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่6 :: 9/1/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-01-2017 20:32:25
น้องซ่าท่าทางอึดอัดมากเลยอ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่6 :: 9/1/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: krenr ที่ 16-01-2017 20:56:41
น้องซ่าอึดอัดมากเลยย เก็บข้าวของไปอยู่กับพี่ปราบเถอะ... จีบน้องเร็วๆเข้าพี่ปราบ   :impress2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่6 :: 9/1/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-01-2017 22:27:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่6 :: 9/1/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 17-01-2017 00:28:43
อย่าโกหกสิเด็กดื้อ เดี๋ยวพี่ปราบนับได้นะ 555

พี่ปราบน่าจะช่วยปูทางว่าที่ศรีภรรยาได้เป็นอย่างดี
แต่จะให้ดีรับมาอบรมดูแลด้วยกันเลยดีกว่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่6 :: 9/1/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 17-01-2017 03:28:26
เราเป็นซ่าเราก็อึดอัดนะ เฮ้ออออ...
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่6 :: 9/1/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 18-01-2017 02:07:30
ดูแล้วไม่น่ารอด - -
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่6 :: 9/1/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 18-01-2017 06:10:44
ซ่าจะทนได้นานแค่ไหน...เป็นห่วงจริงๆ

พี่ปราบเอาซ่าไปอยู่ที่บ้านดีกว่านะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่ึึึ7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 21-02-2017 20:25:17
ปราบซ่า
ตอนที่7



"อืม...ซ่า เบาๆ"

ไม่มีเบาแล้วครั้งนี้ ไม่ได้นอนกับพลอยมาหลายวัน ผมที่เก็บกดไม่มีที่ระบายอารมณ์ ช่วยตัวเองมันไม่เท่าเอากับเมียหรอก

"พลอย อ่า"

ใกล้แล้วอีกนิดเดียว และผมว่าพลอยเองก็คิดเช่นเดียวกันเพราะสองขาที่เกาะเกี่ยวรัดเอวผมไว้แน่น และแรงเล็บที่จิกลงบนไหล่

ได้เลือดแน่

แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ขอให้ได้น้ำก่อน

จากนั้นก็เสร็จสมอารมณ์หมาย วันนี้ผมเลิกเรียนเร็ว และไม่มีงานต้องไปทำ เลยรอเวลาพลอยเลิกเรียนแล้วไปรับมาที่บ้านพี่แนน ทุกคนในบ้านผมรู้จักพลอยกันหมด และผมก็พาพลอยไปนอนค้างที่บ้างบ้างสองสามครั้ง แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ผมพาพลอยมาที่บ้านพี่แนน

ผมนอนกอดพลอยเล่นอยู่สักพักก็เผลอหลับไป สะดุ้งตื่นตกใจกันทั้งคู่เพราะมีคนมาเคาะห้อง ผมลุกขึ้นงงๆ หันซ้ายหันขวามองหาผ้าเช็ดตัวมาพันเอวลวกๆ ส่วนพลอยก็กระโดดลงจากเตียงหาเสื้อผ้ามาใส่ ผมรอจนพลอยแต่งตัวเสร็จถึงได้เปิดประตู

“ทำไรวะซ่า ทำไมเปิดช้า” พี่แนนบ่นหน้านิ่ว

“นอนอยู่ มีอะไรอ่ะ” ผมหาวพลางถาม มือก็เกาพุงแกรกๆ

“เปล่า ตื่นแล้วก็ลงไปข้างล่างด้วย” พี่แนนบอกแล้วก็ลงบันไดไป ผมยืนเกาหัวงงๆ ก่อนจะหันไปหาพลอยที่แต่งตัวเสร็จแล้ว ผมเลยเดินออกจากห้องไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำข้างนอก ก่อนจะพาเดินลงไปข้างล่าง ตอนนี้ทุ่มหนึ่งแล้ว ทั้งพี่แนนและพี่เบิร์ดกลับมาแล้ว ผมยกมือไหว้ เขามองผมก่อนจะไล่ไปมองแนน ดวงตาที่เรียบเฉยก็ฉายแววไม่พอใจ

กูว่าคราวหน้าพาพลอยมานอนเล่นที่บ้านไม่ได้แน่ๆ

มื้อเย็นพลอยนั่งกินข้าวด้วย พี่แนนไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้อยู่แล้ว แต่พี่เบิร์ดแทบไม่พูดไม่จาเลยผมเองก็เงียบ มีเพียงพลอยกับพี่แนนที่คุยกันสองคนตามประสาผู้หญิง ไม่มีเรื่องอะไรมาก กินข้าวเสร็จผมก็ขี้มอเตอร์ไซค์ไปส่งพลอยกลับบ้าน

รถน้ำมันหมดตอนขับเข้ามาได้ครึ่งซอย ก็เลยตองเข็นกลับเข้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงพี่เบิร์ดกับพี่แนนกำลังเถียงกัน

“แล้วงานบ้านก็ต้องช่วยกันทำบ้างไหม ต้องช่วยล้างรถ รดน้ำต้นไม้ ซักผ้าบ้าง นี่กลับมาก็พาผู้หญิงมานอนบ้าน มันใช้ได้เหรอวะ”

“จะบ่นอะไรนักหนาวะพี่เบิร์ด”

“บอกลูกแนนด้วย ว่าคราวหลังอย่าพาผู้หญิงมานอนที่บ้าน อย่าทำเหมือนเป็นโรงแรม”

“รู้แล้ว เดี๋ยวบอกเองน่า”

“ไฟเฟยน้ำก็ช่วยกันประหยัด คืนก่อนพี่เห็นเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งคืน รู้ไหมมันเปลืองเงิน”

ผมจอดรถในบ้านอย่างเงียบเฉียบ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไม่ส่งเสียงให้ใครรู้ เดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงหน้าปากซอย ผมโบกรถสองแถมแล้วนั่งรถตรงไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นไอ้นุ๊กโทรมาพอดี ผมก็เลยรับสาย

“ไอ้พัช มึงอยู่ไหนวะ” น้ำเสียงของมันค่อนข้างจริงจังผิดกับนิสัยเฮฮาที่แท้จริง

“ข้างนอก” ผมตอบสั้นๆ

“มึงมาที่ร้านแก้วนมเดี๋ยวนี้เลย ไอ้เหี้ย เมียมึงออกมาแดกนมกับผู้ชายที่ไหนไม่รู้”

ผมนิ่งเมื่อมันพูด มองออกไปนอกรถที่กำลังมุงตรงไปทางร้านที่ว่า ผมพยายามทำใจให้สงบเพราะตอนนี้ผมรู้สึกตื้อไปหมด

“มึงอยู่แถวนั้นเหรอวะ แล้วพลอยไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง” ผมถามไอ้นุ๊ก ถามว่าในใจร้อนรนไหม ร้อนมาก แต่ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูก ผมไปส่งพลอยถึงหน้าประตูบ้าน แล้วทำไมถึงออกมาอยู่ข้างนอกได้

“มึงนี่ถามโง่ๆนะไอ้พัช

“เออ กูออกมาซื้อนมสดให้พี่สาว ก็เจอแจ็คพล็อตเลย มึงรีบมาเลยนะ ก่อนที่เขาจะแดกกันเสร็จ”

“เออ อีกห้านาทีกูถึง” ผมกดวางสาย มือที่กำโทรศัพท์อยู่บีบแน่น

ผมมาช้าไปนิดหน่อยจากที่บอกเพราะรถติดไฟแดงนาน พอถึงรถสองแถวก็มาจอดหน้าร้านนมที่ว่า ผมเห็นไอ้นุ๊กเป็นคนแรก เพราะมันยืนชะเง้อคอมองอยู่นอกร้าน

“ไหนพลอย” ผมเดินไปถามไอนุ๊กประชิดตัว มันสะดุ้งหันมามองผมหน้าตื่น

“ไอเหี้ย ไม่มาให้เร็วกว่านี้วะ เมียมึงขึ้นรถเก๋งออกไปนู่นแล้วแม่ง” ไอ้นุ๊กดูหัวเสียมาก ผมมองไปตามทางที่ว่าแต่ไม่เห็นอะไรแล้ว เลยหันกลับมามองหน้าไอ้นุ๊ก ก่อนจะหยินโทรศัพท์ออกมาโทรหาพลอย แต่โทรไปแล้วพลอยไม่รับ ผมโทรอยู่ประมาณสามสายก็เลิกโทร เลยส่งขอความไปถามแทนว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์

“มึงโกหกกูหรือเปล่าไอ้นุ๊ก” เพื่อนๆผมอยากให้ผมเลิกกับพลอยทั้งนั้น แต่ผมยังทำไม่ได้ หรือบางทีอาจเป็นเพราะว่าตัวผมเองไม่คิดจะทำ

ไอ้นุ๊กหน้าบึ้งทันควัน “กูดูเป็นคนชอบโกหกหรือไง”

ไม่ ไอ้นุ๊กเป็นคนที่เล่ห์เหลี่ยมน้อยที่สุดแล้ว แถมมันยังโกหกไม่เนียนด้วย

“ใครจะไปรู้วะ พวกมึงอยากให้กูเลิกกับพลอยจะตาย” ผมไม่กล้าสบตามัน แสร้งเดินเข้าไปหาโต๊ะนั่งในร้าน ไอ้นุ๊กเดินตามหลังมานั่งข้างๆ

“ถึงกูจะไม่ชอบพลอย แต่ก็ไม่คิดจะทำอย่างที่มึงพูดหรอกไอ้พัช ไอ้เหี้ย ขอโทษกูเดี๋ยวนี้”

“อืมกูขอโทษ กูก็ไม่ได้คิดว่ามึงทำแบบนั้นจริงๆหรอก พูดไปงั้นแหละ” ทำผิดก็ยอมรับไป แมนๆครับ

ผมสั่งนมร้อนกับขนมปังปิ้งมากินกันแก้เซ็งนิดหน่อย ผมออกมานานไม่ได้บอกพี่แนนด้วย เขาก็ไม่ได้โทรมาตามผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย

“มึงไม่หาเมียใหม่วะ” ไอ้นุ๊กจิ้มขนมปังปิ้งเข้าปาก พออารมณ์ดีขึ้นมาถึงได้อ้าปากพูดอีกครั้ง

“ไม่เอา ขี้เกียจหาใหม่ เนี่ยแหละดีแล้ว” ผมตอบแบบที่พูดทุกครั้ง

“ดียังไงวะ กูเห็นมันไม่ให้เกียรติมึงเลย แถมแอบคุยกับพูดชายคนอื่นลับหลังมึง นี่ก็แอบมากันสองต่อสอง ได้ข่าวว่าเมื่อเย็นก็ไปกลับมึง”

“กูก็ไม่ได้ดี”

“ไอ้พัช มึงจะรักจะหลงอะไรมันนักหนา นี่กูจริงจังนะเว้ยที่พูดน่ะ” ไอ้นุ๊กเริ่มขึ้นเสียงอีกรอบ

“เอ้า แฟนกูนี่”

“ไอ้เหี้ย! กูมีเพื่อนแบบมึงได้ยังไงวะ”

“กูรักมัน พอใจยัง”

“แล้วมันรักมึงไหมละ ลืมตาบ้าง กูเพลียแทน”

“ช่างแม่งเถอะ”

“เออ อย่าให้กูเห็นว่าร้องไห้มาหากูนะมึง จะตบให้คว่ำ”

ถ้ามีวันนั้นจริง ผมก็ยอมให้มันตบอ่ะ เพราะกูจะถือว่าโง่เอง แต่ในวันนี้ผมยังพอใจที่จะอยู่แบบนี้ และอย่างที่บอกว่ายังจับไม่ได้คาหนังคาเขาผมจะยังไม่เอาเรื่อง ไว้จะๆเมื่อไหร่ ต้องมีใครสักคนที่เจ็บตัว




สำหรับผมสอบปฏิบัติไม่ยากเท่าไหร่ ผมชอบอยู่แล้วเรื่องเครื่องยนต์ แต่ข้อสอบเขียนผมขอลาตาย ไม่รอดจริงๆ

“กูกลับล่ะ ไม่ไหว ง่วงเหี้ยๆ” ไอ้นุ๊กพูดในสภาพที่ตาพร้อมจะปิดได้ทุกเมื่อ

“กูด้วย ไปล่ะ” ไอ้หวายก็ยอมแพ้

พวกผมเดินออกไปหน้าวิทยาลัย ตกลงกันว่าต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน แล้วค่อยมาเจอกันพรุ่งนี้เพราะเป็นวันเสาร์ วันจันทร์ยังเหลือสอบอีกวันหนึ่ง ที่มาเจอกันไม่ได้จะมาอ่านหนังสืออะไรหรอกนะ ไม่มีหรอกอะไรพวกนั้น ก็แค่นัดกันที่บ้านไอ้กานกินเหล้าแก้เครียดกันสักหน่อย

“อ้าวเฮีย มาได้ไงอ่ะ” ไอ้หวายทักบุคคลที่ยืนหล่อเท่ดูดีอวดสายตาสายๆอยู่หน้าวิทยาลัย

“หวัดดีครับพี่” พวกผมที่เหลือก็ยกมือไหว้

“สอบเป็นไงบ้างพวกมึง” พี่ปราบถามรวมๆ แต่สายตาเขาจ้องมองอยู่ที่ผม ผมเลยยิ้มให้พี่ปราบนิดๆ

“ทำไมเฮียรู้อ่ะ” ไอ้หวายถาม

“แล้วทำไมกูรู้ไม่ได้อ่ะ” พี่ปราบย้อน

“ก็เปล่า”

“แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่อ่ะครับ อย่าบอกนะว่ามาจีบสาวๆโรงเรียนผม” ไอ้กานเข้าไปกระแซะไหล่พี่ปราบทำหน้ากรุ้มกริ่ม หัวมันสูงแค่ไหล่พี่เขาเอง สะเออะมาก

“หึหึ คงงั้นมั้ง” พี่ปราบแม่งก็ดันเล่นด้วย

“หูยๆๆ คนไหนพี่ มีด้วยเหรอวะคนสวยๆอ่ะ ผมอยู่มายังไม่เห็นเจอเลย” ไอ้กานรีบทำหน้าแตกตื่นมองหาคนสวยอย่างที่ปากว่าด้วยท่าทางกวนส้นตีน พี่ปราบหลุดขำไปกับคามตลกของมัน

“กูแวะมาหาไอ้กี่เลยแวะมาที่นี่”

“แล้วแวะมาทำไม” ไอ้หวายยังไม่หยุดซักฟอก ทำตัวเยี่ยงเมียจิกผัว ไอ้นุ๊กกับไอ้ตูนมันเลยขอลากลับไปก่อน เหลือไอ้กาน ที่ยืนทำหน้าสลอนและผมที่ก็ไม่รู้ว่ายืนทำไม แต่ผมรู้สึกว่า...พี่ปราบน่าจะมาหาผม

ก็ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า

แต่เมื่อคืนเขาเป็นคนบอกว่า

‘ตั้งใจสอบให้เต็มที่ ถ้าทำดีจะมีรางวัล’

แต่ไอ้รางวัลอะไรนั้นผมคงไม่ได้หรอก คะแนนสอบในวันนี้อาจจะไม่ผ่านครึ่งด้วยซ้ำมั้ง

“เป็นเมียกูเหรอ” พี่ปราบยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าไอ้หวาย มันรีบผละออกห่างทันที

“เล่นไรของเฮียเนี่ย แล้วเมียเมออะไร บ้าหรือเปล่า ผมแค่สงสัยเหอะ”

“หึหึ กูมาหาไอ้...พัช จบไหม” พี่ปราบชะงักตอนจะเอ่ยชื่อผม

คราวนี้ไอ้หวายกับไอ้กานหันมามองหน้าผมอย่างรวดเร็ว ผมไม่ได้ตกใจอะไรเพราะคิดไว้อยู่แล้ว

“แหล่วๆๆๆ มึงกิ๊กกั๊กกับเฮียเขาเหรอวะน้องพัช กูจะฟ้องพลอยเมียมึงน้า” ไอ้หวายทำหน้าล้อเลียนผมเต็มที่ พี่ปราบแม่งก็หัวเราะตามด้วย

“กิ๊กกั๊กพ่อมึงสิไอ้กาน ไปไกลๆเลยไป กลับไปเลยมึง” ผมไล่มัน ไม่ชอบถูกแซวเท่าไหร่

“ว๊ายย เขินเหรอจ๊ะน้องพัช”

“ไอ้เหี้ยกาน” ผมด่าแล้วก็ไล่เตะมันให้รีบกระโดดขึ้นรถสองแถวกลับบ้าน มันเกือบจะตกรถเพราะจังหวะก้าวเท้ายาวไม่พอ

“สนิทกันเหรอถึงมาหากันด้วย” ไอ้นี่ก็ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ

“แล้วทำไมกูกับพัชจะสนิทกันไม่ได้ครับน้องหวาย ทีมึงกับไอ้กี่ยังสนิทกันถึงขนาดไปนอนข้างอ้างแรมบ้านมันแทบจะคืนเว้นคืนอยู่แล้ว” พี่ปราบสวนหน้าตากวนบาทาเป็นอย่างมาก เป็นตาไอ้หวายที่หน้าแดงแปร๊ด

บอกตามตรงนะ ถ้ามันจะไปนอนค้างบ้านไอ้บีทผมจะไม่คิดอะไรมากเท่ากับมันไปนอนค้างบ้านไอ้กี่ เพราะไอ้หวายกับไอ้บีทมันรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอไอ้หวายรู้จักพวกผม ด้วยความที่มันเป็นเด็กร่าเริงเข้ากับคนง่าย ถึงจะกวนตีนไปบ้างแต่ก็เป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะรู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ดี พวกผมถึงได้เอ็นดูมัน แต่ไม่รู้ว่าไอ้กี่นี่เอ็นดูไปถึงไหนแล้ว

“เฮียกี่บอกเหรอ” หน้ามึงเหรอหราไปนะบางที

“ก็กูเพื่อนกัน”

“จิ๊ ผมไม่พูดกับเฮียแล้ว กลับดีกว่า กูกลับแล้วนะไอ้พัช” ไอ้หวายเหมือนจะลืมเรื่องที่กำลังสงสัยไปเสียสนิท มันยกมือไหว้พี่ปราบแล้วบอกลาผม จากนั้นมันก็เดินไปเรียกวินมอร์เตอร์ไซค์กลับบ้าน

“มาหาผมมีอะไรอ่ะพี่” ผมถามเข้าเรื่องเมื่ออยู่กันสองคน

“ขึ้นรถสิ”

พี่ปราบเปิดประตูรถข้างคนขับให้ผมขึ้นไปนั่ง แปลกๆนิดหน่อยที่มีผู้ชายมาเปิดประตูรถให้ขึ้น แต่อย่าไปคิดอะไรมาก พี่ปราบมันยืนอยู่ใกล้ประตูพอดีก็เลยใจดีเปิดให้

“วันนี้เป็นไง ทำข้อสอบได้ไหม” พี่ปราบหันมาถาม เย็นๆแบบนี้รถติดนิดหน่อย แต่ก็พอไหลๆเคลื่อนๆไปได้

“ได้ทำ”

“ทำไม่ได้สินะ”

“ก็มันยากอ่ะพี่”

“มันยากหรือมึงไม่พยายามซ่า” คราวนี้เสียงดุมาเลยครับ ความจริงที่พี่ปราบพูดทำเอาผมนิ่งไม่รู้จะพูดแก้ตัวอะไรดี

“ช่างมันเถอะพี่ ตกก็ซ่อม ไม่เห็นยาก” ผมพูดปัดๆให้มันจบ แต่พี่ปราบไม่ยอมจบด้วย

“ช่างมันไม่ได้ ไม่ใช่ตกก็ซ่อม มึงต้องทำให้มันไม่ตก มึงควรต้องสอบให้ได้คะแนนดี”

“ก็มันยาก” ผมพยายามเถียงแม้จะรู้ว่ามันไม่เข้าท่า

“มันไม่ยากเกินความพยายามหรอกซ่า”

“เอาน่าพี่”

พี่ปราบถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่ผม ผมรู้ตัวดีว่าผมมันคนดื้อด้านไม่เอาไหน ไม่มีใครอยากจะใส่ใจหรืออะไรกับคนอย่างผมหรอก ชินเสียแล้ว สันดานผมมันเสียแก้ไขไม่ได้

ผมมองออกไปข้างนอกรถเพลินๆ พี่ปราบไม่ได้ขับรถเร็วเพราะรถเยอะ เขาขับชิดซ้ายแล้วไหลไปเรื่อยๆ ตอนเย็นคนเดินเท้าเริ่มเยอะขึ้น ผมมองดูคนนั้นทีคนนี้ทีจนกระทั่งสบเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตาและเป็นคนที่ผมรัก

“พลอย...”

คิ้วผมขมวดเข้าหากันเมื่อสังเกตเห็นว่าข้างๆพลอยคือผู้ชายในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวสีดำ เป็นคนต่างไว มากกว่านั้นคือมือที่จับกันไว้

ผมเปิดประตูเตรียมจะลงจากรถโดยไม่สนใจว่ารถจะกำลังแล่นอยู่หรือไม่ แต่ประตูถูกล็อคเอาไว้ และเมื่อผมกำลังจะกดปลดพี่ปราบก็กระชากแขนผมอย่างแรง

“มึงจะทำอะไรซ่า!” พี่ปราบตะคอกใส่ผมเสียงดัง

“พี่ปล่อยผม ผมจะลงไปหาพลอย มันอยู่กับผู้ชายคนอื่น!” ผมหันไปตะวาดเสียงใส่พี่ปราบเพราะความร้อนรนใจ

“กูไม่ปล่อย รถยังแล่นอยู่มึงจะลงไปมึงบ้าเหรอไง” พี่ปราบตะคอกกับ มือข้างหนึ่งเอื้อมมากระชากคอผมไว้อย่างแน่น อีกข้างก็บังคับพวงมาลัยด้วยความยากลำบาก แต่ผมไม่ได้สนใจตอนนั้น สายตาผมพยายามที่จะมองดูว่าตอนนี้พลอยกับไอ้ผู้ชายคนนั้นเดินไปที่ไหนแล้ว

“พี่ปราบ จอดรถเดี๋ยวนี้ ผมจะลง”

“กูจอดให้มึงแน่ ผ่านสี่แยกนี้กูจะจอดให้มึงลงเลยซ่า แต่ช่วยอยู่บ้าก่อนไอ้เหี้ยนี้” พี่ปราบด่าผมยกใหญ่ ผมดึงตัวเองกลับมานั่งไม่ยอมถูกล็อคคอเอาไว้ ผมมองไม่เห็นแล้วว่าแฟนผมเดินหายไปไหน พอพ้นสี่แยกได้พี่ปราบก็หักรถเข้าจอดที่ข้างทาง ผมรีบเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งข้ามถนนฝ่ารถที่ยังคงวิ่งไปมาด้วยความเร่งรีบเพื่อที่จะตามพลอยให้เจอ

แต่ผมก็หาไม่เจอ จุดที่ผมเห็นห่างออกไปอีกเป็นกิโลเมตรผมวิ่งดูจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ ผมเหมือนคนบ้าที่ทุกคนพากันขยับตัวออกห่าง หัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น ตอนตีกับพวกต่างสถาบันเลือดสาดปางตายผมยังไม่รู้สึกกลัวเช่นนี้เลย

“มึงจะมีคนอื่นไม่ได้ กูไม่ยอม” ผมกัดฟันพูดในขณะที่พยายามมองหาตัวตนเหตุที่ทำให้ผมวิ่งพล่านเป็นหมาบ้า

มากกว่าเงินทองที่ผมจะให้พลอยได้ คือผมให้ใจผมไปทั้งใจ ไม่เคยให้ใครมาสำคัญกว่ามัน เพราะฉะนั้นผมจะไม่ยอมเสียพลอยไป

“ไง หายบ้าหรือยังมึง” ความเย็นแตะที่ข้างแก้ม ผมนั่งพักเหนื่อยที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆจุดที่ผมเห็นพลอย พี่ปราบมายืนหน้าเข้มจ้องผมเอาเป็นเอาตาย

ผมไม่ตอบอะไร รับน้ำขวดมาดื่มรวดเดียวหมดขวดจนเกือบจะสำลัก

“หาเจอไหมแฟนมึงกับชู้อ่ะ”

“ไม่เจอ” ผมตอบเสียงห้วน กำลังอารมณ์ไม่ดี

“ไม่เจอก็กลับไปขึ้นรถ สภาพมึงตอนนี้ดูไม่ได้เลย” พี่ปราบไม่ได้พูดเกินจริง ร่างกายผมเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยและสีหน้าก็ดูไม่ได้สุดๆ

“ผมไม่ไปกับพี่แล้วนะ ผมจะไปรอพลอยที่บ้าน” ผมบอกกับพี่ปราบเมื่อเขาหมุนตัวจะเดินกลับไปที่รถ พี่ปราบนิ่งไปก่อนจะหันกลับมาหาผมที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม

“กูจะพาไปส่ง ไปขึ้นรถ”

“ไม่เป็นไรพี่ ผมไปเองได้”

“อย่าดื้อกับกู กูไม่ชอบ ไปขึ้นรถ”

ผมนิ่งชั่งใจคิด ถ้าพี่ปราบไปส่งก็ไม่เปลืองเงินดี ผมถอยหายใจแล้วยอมทำตามที่พี่ปราบต้องการ “ก็ได้ครับ”

พี่ปราบเดินนำผมกลับไปที่รถ ที่ย้ายที่จอดไกลไปอีกหน่อย เพราะจุดที่พี่ปราบจอดให้ผมลงมันจอดไม่ได้  ผมก้มหน้ามองรองเท้าเน่าๆของตัวเองแล้วจมจ่ออยู่กับความคิดเรื่องพลอยแบบไม่รู้ตัว จึงเดินชนแผ่นหลังพี่ปราบเข้าอย่างจัง

“มึงนี่อาการหนัก ขึ้นรถไป” พี่ปราบหันมาดุผมน้ำเสียงหงุดหงิด

ผมขึ้นมานั่งในรถ แล้วพี่ปราบก็ตามขึ้นมานั่งฝั่งคนขับ พี่แต่ยังไม่สตาร์ทรถ มือที่จับพวงมาลัยไว้เกร็งแน่น ผมรู้ว่าพี่ปราบกำลังอารมณ์ไม่ดีและต้นเหตุก็คือผม แต่พี่ปราบก็เก็บอารมณ์ได้ดีเมื่อเทียบกับผม วันนี้ผมทำตัวแย่ใส่พี่ปราบหลายครั้ง และผมรู้ว่าผมควรจะต้องขอโทษเขา

“พี่ปราบ ผมขอโทษนะที่เมื่อกี้ทำแบบนั้น”

“อืม” พี่ปราบหันมาสบตาผมแวบหนึ่งก่อนจะดึงหน้ากลับ “มึงแน่ใจว่าจะไปบ้านแฟนมึง”

“อืม ผมจะไปถามว่าผู้ชายที่ผมเห็นมันเป็นใคร”

“ถ้าแฟนมึงมีชู้ มันจะยอมรับกับมึงเหรอ” พี่ปราบย้อนถาม

“ก็ไม่”

“เออ ยังดีที่ฉลาด” พี่ปราบชม แต่ผมรู้สึกว่าถูกด่าอยู่กลายๆ

“แต่ถ้าไม่ไปหาไม่ถามผมก็ข้องใจอ่ะพี่ คืนนี้นอนไม่หลับแน่ๆ ไปเคลียร์เลยดีกว่า”

พี่ปราบถอนหายใจแรงๆใส่ผม เอียงตัวหันมาถามผมทั้งตัว และเขาทำให้ผมตกใจเมื่อมือสองข้างของพี่ปราบประคองแก้มผมเอาไว้ทั้งสองข้าง

ทำบ้าอะไรของพี่เขาวะ ผมกำลังจะดึงมือพี่ปราบออก แต่คำพูดต่อมาของเขาทำให้ผมได้แต่วางมือทับมือเขาเอาไว้

“ทุ่มเทกับอนาคตของมึงให้เท่ากับที่มึงทุ่มเทให้แฟนมึงหน่อยเถอะ แล้วชีวิตมึงจะดีกว่านี้ รักตัวเองให้มากกว่าที่รักคนอื่น ทำได้ไหม”

แววตาพี่ปราบที่จ้องมาเต็มไปด้วยความจริงจัง จ้องลึกอย่างต้องการสำรวจความรู้สึกนึกคิดของผม

“วิ่งตามหาอนาคตที่ดีของมึงให้ได้เท่ากับที่มึงตามหาผู้หญิงคนนั้นอย่างบ้าคลั่ง”

“ผมไม่มีหรอก อนาคตที่ดีน่ะ” ผมหลบสายตาที่แสนจะมุ่งมั่นของพี่ปราบ ผมสู้สายตาเขาไม่ได้ ผมไม่แข็งแกร่งพอในเวลานี้

“มึงมี แต่มึงต้องหา” ทุกคำพูดเสียงดังและฟังชัดทุกถ้อยคำ

“...”

“มึงโตพอที่จะเข้าใจในสิ่งที่กูสอน ไม่ใช่ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่เอาห่าอะไรทั้งนั้น ใครหน้าไหนก็ทนความดื้อด้านของมึงไม่ได้หรอก”

“ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทนสิ” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ ไม่หวังให้ใครอีกคนได้ยิน

“แต่โชคดีของมึงที่กูเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก ดังนั้น กูจะเคี่ยวเข็ญมึงเอง”

“อะไรพี่”

“วันนี้กูจะปล่อยเด็กดื้ออย่างมึงไปก่อน ไปหาแฟนมึง ไปทำห่าอะไรก็ได้ แต่วันพรุ่งนี้ กูจะมารับมึงไปที่คอนโด เตรียมหนังสือเรียนมึงไปให้พร้อมล่ะ ถ้าวิชาที่เหลือมึงไม่ได้คะแนนมากว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นกูจะไม่ยุ่งกับชีวิตมึงอีกเลย”

“จริงจังไปไหมพี่” จากที่เครียดเรื่องพลอย ผมเริ่มจะเครียดให้กับความจริงจังของพี่ปราบที่มีต่อผมแทน

“กูจริงจังได้มากกว่านี้”

“...”

“กูหวังดีกับมึงเพราะกูถูกชะตาด้วย มึงเป็นน้องที่กูชอบและรู้สึกดีด้วย เพราะฉะนั้นอย่างทำให้กูต้องผิดหวัง สัญญาว่าจะเป็นเด็กดีกับกู ฟังในสิ่งที่กูพูดและกูจะฟังในสิ่งที่หัวใจมึงร้องขอ”

พี่ปราบปล่อยหมัดฮุกเข้าหน้าผมอย่างจังด้วยคำพูดของเขา ความจริงใจของพี่ปราบทำให้ผมรู้สึกตื้นตันจนกลัว กลัวว่าผมจะทำให้พี่ชายคนนี้ต้องเสียความรู้สึกหากว่าผมไม่สามารถทำได้อย่างที่เขาหวัง ผมจะทำได้ไหม อย่าให้ผมต้องรับปากตอนนี้เลย ดีไม่ดีผมอาจจะกลายเป็นคนผิดสัญญาเอาได้ ซึ่งผมไม่อยากเป็นแบบนั้น






 :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่ึึึ7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-02-2017 21:34:17
คิดถึง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่ึึึ7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-02-2017 21:54:26
พี่ปราบ สุดยอด ไม่ว่าพี่ต้องการอะไรจากซ่า
แต่สิ่งที่พี่สอน แนะนำ ตักเตือนซ่า มันยอดมาก
“ทุ่มเทกับอนาคตของมึงให้เท่ากับที่มึงทุ่มเทให้แฟนมึงหน่อยเถอะ
แล้วชีวิตมึงจะดีกว่านี้ รักตัวเองให้มากกว่าที่รักคนอื่น ทำได้ไหม”
“วิ่งตามหาอนาคตที่ดีของมึงให้ได้เท่ากับที่มึงตามหาผู้หญิงคนนั้นอย่างบ้าคลั่ง”
“ผมไม่มีหรอก อนาคตที่ดีน่ะ”
“มึงมี แต่มึงต้องหา"
“กูหวังดีกับมึงเพราะกูถูกชะตาด้วย มึงเป็นน้องที่กูชอบและรู้สึกดีด้วย
เพราะฉะนั้นอย่างทำให้กูต้องผิดหวัง สัญญาว่าจะเป็นเด็กดีกับกู
ฟังในสิ่งที่กูพูดและกูจะฟังในสิ่งที่หัวใจมึงร้องขอ”

นี่แหละ สิ่งที่เหมาะสม คู่ควรกับซ่า
ถ้าซ่าปล่อยไป ยอมแพ้ จะไม่มีวันได้อนาคตที่ดีอีกเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 21-02-2017 22:27:30
นึกว่าไม่มาต่อซะแล้ว


ขอบคุณนะ | คิดถึงพี่ปราบ:)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 21-02-2017 22:56:15
ตาสว่างได้แล้วนะซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 22-02-2017 03:41:18
รักตัวเองให้เยอะๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 22-02-2017 18:11:23
พี่ปราบสุดยอด  :a9: :a9: :a9:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 23-02-2017 09:02:45
วิ่งตามผู้หญิงแบบนี้แล้วได้อะไร งง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-02-2017 09:54:03
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่7 :: 21/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: loveromance ที่ 24-02-2017 13:48:31
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 24-02-2017 22:28:53
ปราบซ่า
ตอนที่8



[ปราบ]

เสียงโทรศัพท์มือถือของผมแผดเสียงร้องเป็นครั้งที่สามขณะที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่ ผมเปิดน้ำล้างฟองสบู่ออกจากตัวลวกๆ เช็ดมือที่เปียกน้ำกับผ้าเช็ดมือแล้วหยิบโทรศัพท์ที่สั่นอย่างเอาเป็นเอาตายบนเคาน์เตอร์ล้างหน้ามาดูชื่อคนโทรแล้วจึงกดรับสาย

“มีเรื่องอะไรว่ะ โทรถี่เหลือเกิน” ผมถามด้วยความข้องใจ ปกติมันไม่เคยโทรถี่ขนาดนี้

“มีคนใช้ให้กูโทร” ไอ้กี่ตอบกลับมาเสียงเนือย

“ใคร” ผมถาม หมดอารมณ์จะอาบน้ำต่อก็เลยเดินออกจากห้องน้ำ หยิบผ้าขนหนูมานั่งเช็ดผมอยู่ที่ปลายเตียง วันนี้ผมกลับมานอนที่คอนโดแทนที่จะเป็นบ้าน เพราะพรุ่งนี้หมายมาดเอาไว้ว่าจะลากเด็กซ่ามานอนที่นี่ด้วย แต่อย่าหวังว่าจะเกิดเหตุการณ์แสนหวานขึ้น ก็แค่คิดจะพาเด็กมาดัดสันดารเท่านั้น วันนี้มันทำผมปวดหัวมาก

“มึงไปรับใครที่วิทยาลัยมันอ่ะ”

“อ่อ ไอ้หวายอยู่กับมึงหรือไง” ผมแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงไอ้เด็กป่วนกับเพื่อนของตัวเอง

“เออ ตรงมาบ้านกูแล้วก็มาสั่งให้กูโทรถามมึงเรื่องเพื่อนมัน”

“เฮียอ่า ไปบอกพี่ปราบเขาทำไม” เสียงไอ้หวายดังแทรกเข้ามา

“มึงส่งโทรศัพท์ให้ไอ้หวายดิ” ผมสั่งไอ้กี่ คิดจะให้เพื่อนผมมาง้างปากผมเหรอ ฝันไปเถอะมึง

“ไม่เอา เฮียกี่คุยเซ่”

“มันจะคุยกับมึง”

“หวายไม่คุย”

“งั้นกูกดวางนะ”

“ไม่เอา เฮียกี่ถามเฮียปราบก่อนสิ”

“ก็มันไม่คุยกับกู มันจะคุยกับมึง”

“เฮียอ่า”

“งั้นกูวาง”

“อย่านะ คุยเองก็ได้”

ผมนั่งฟังมันสองคนเถียงอยู่นาน กะว่าถ้าตกลงกันไม่ได้สักทีผมเนี่ยแหละจะเป็นคนกดวางสายเอง ปล่อยพวกมันเถียงกันให้เสร็จแล้วค่อยโทรมาใหม่

“เฮียปราบ”

“ไงมึง วิ่งโร่ไปหาเพื่อนกูถึงบ้านทำไม บ้านตัวเองไม่มีให้กลับหรือไง” ผมเล่นงานมันก่อนเลย จุ้นจ้านเรื่องผมดีนัก มึงโดนกลับบ้านกูจะเล่นให้ร้องไห้

“ละ แล้วทำไมล่ะ ที่เฮียปราบยังไปหาเพื่อนผมได้เลย”

“กูแค่ไปหามันที่โรงเรียนนะ ไม่ได้ไปนอนบ้านมันเหมือนมึง”

อย่างผมน่ะไม่ไปนอนบ้านไอ้ซ่าหรอก ลากมันมานอนที่คอนโดกับผมง่ายกว่าเยอะ แต่อย่าไปบอกมันครับ เพราะผมจะเล่นงานไอ้หวายคนเดียว

“ไม่เหมือนกันเปล่าวะเฮียปราบ ผมกับพี่กี่รู้จักกันมานานแล้ว แต่เฮียกับไอ้พัชเพิ่งรู้จักกันนะ”

“แล้วไง เพิ่งรู้จักกันแล้วสนิทกัน ไปมาหาสู่กันไม่ได้เหรอ”

“ก็ได้” ทำไมตอบไม่เต็มเสียงล่ะไอ้ตัวป่วน

“เออ แล้วมึงมีปัญหาอะไร หวงเพื่อนเหรอ แล้วพามันมารู้จักพวกกูทำไม” ผมแกล้งหาเรื่องมันครับ น้ำเสียงผมคงฟังดูหงุดหงิด แต่ตอนนี้ผมนอนกระดิกเท้าอยู่บนเตียงสบายใจมาก

“...” คราวนี้ไอ้หวายเงียบครับ

“ว่าไง เงียบทำไม”

“ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ ชิ เอาคืนไปเลย” สู้ไม่ได้ก็ถอยหนี อ่อนฉิบหาย

“มึงแกล้งอะไรมัน” ไอ้กี่ถามผม

“เหอะ กระจอกเหอะไอ้หวายอ่ะ ฝีปากแค่นี้ริอาจจะมาสู้กู”

“หึหึ มึงทำมันงอนเดินหน้างอออกจากห้องกูไปล่ะ”

“หาของกินยัดปากมันหน่อยเดี๋ยวก็อารมณ์ดีเหมือนเดิม” ผมเสนอแนะ ไอ้กี่ขำคงเพราะเห็นด้วย

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้นะ” ผมพูดตัดสาย

“เดี๋ยวไอ้ปราบ” ไอ้กี่รั้งผมไว้ “ความจริงกูก็กะโทรถามมึงเพราะไอ้หวายอยากรู้ แต่ตอนนี้ก็อยากรู้เองแล้ววะ”

“รู้อะไร”

“มึงชอบไอ้พัชเหรอ”

“...”

“ไม่ตอบแบบนี้ กูเดาว่าใช่”

“เออ กูชอบ”

ผมกับเพื่อนไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะอยากพูดหรือเปล่าแค่นั้น ถ้าถามก็ตอบ ถ้าไม่ถามแล้วขี้เกียจบอกก็เก็บเงียบ

“อยากให้กูบอกไอ้หวายไหม นี่คือสิ่งที่มันอยากรู้ที่สุด”

“ยังไม่ต้องบอก กูจะเอาไว้แกล้งมัน”

“ตามใจ”

“แล้วมึงกับไอ้หวายล่ะ เป็นอะไรกัน” มันถามผมได้ ผมก็ถามมันได้ เรียกว่าต่างคนต่างเสือก ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ

“ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน” ไอ้กี่ตอบแบบเรียบง่าย

“มึงชอบมัน” ผมถามอีก

“ก็ป่วนประสาทดี”

“หึหึ ของชอบมึงเลยนิ”

“เออ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้ แม่งหิวแล้วก็ตะโกนเรียกกูเลยไอ้เด็กนี่” ตอนท้ายมันคงจะบ่นถึงไอ้หวาย

“เออๆ รีบไปให้ข้าวให้เด็กมึงเถอะก่อนที่มันจะอาละวาด”

“ไอ้สัด แค่นี้”ไอ้กี่กดวางสายไปแล้ว ผมหัวเราะทิ้งท้าย

เรื่องไอ้กี่กับไอ้หวายมีนอกมีใน ถึงจะเพิ่งรู้แต่ทว่าก็ไม่ได้ทำให้ตกใจอะไรนัก ไอ้กี่น่ะได้ทั้งชายและหญิง ไม่แปลกถ้ามันจะคบกับไอ้หวายในอนาคตอันใกล้นี้ ถ้าไอ้หวายเก่งพอจะง้างปากไอ้กี่ให้บอกชอบหรือขอมันคบได้นะ

ส่วนผมตอนเด็กๆก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงน่ะ แต่พอโตมารู้ความรู้อะไรมากขึ้น ยิ่งพ่อกับป๊ามีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ คือพี่เค้กกับพี่ริช ผมก็เหมือนจะเคยชินกับความรักแบบนี้ไปซะแล้ว ไม่มีใครในครอบครัวบังคับหรือแนะนำให้ผมรักชอบผู้ชายด้วยกัน แต่มุมมองเรื่องความรักกับเพศมันเปิดกว้างมาตั้งแต่เด็ก ซึมซับจนไม่คิดว่านี่คือความผิดแปลกอะไร ดังนั้นผมก็เลยคบได้ทั้งหญิงและชาย แต่ที่ผ่านมาคบผู้ชายมากกว่า ส่วนผู้หญิงส่วนมากจะชอบมองมากกว่าที่จะอยากครอบครอง

ก่อนนอนผมส่งข้อความไปหาซ่าทางไลน์ ให้มันเก็บของมาห้องผมในวันพรุ่งนี้

ซ่า พรุ่งนี้สิบโมงเช้ากูจะไปรับมึงที่บ้าน : MuePrab
ส่งโลเคชั่นมาให้ด้วย : MuePrab
[/b]

รออยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ซ่าถึงจะตอบไลน์ผมกลับมา

Patcharakan : พี่ปราบเอาจริงเหรอ
เออ กูเอาจริง : MuePrab

เอาจริงเรื่องเรียนของมัน และผมจะ ‘เอา’ มันด้วย

Patcharakan : แต่ผมอยากกลับบ้านอ่ะ
Patcharakan : ไม่ไปได้ไหม ผมจะอ่านหนังสือที่บ้านก็ได้
คิดว่ากูควรเชื่อมึงไหม : MuePrab
Patcharakan : โหย ผมไม่หลอกพี่หรอก
เสียใจ กูไม่เชื่อ: MuePrab

มันส่งสติกเกอร์รูปเด็กผู้ชายร้องไห้มาให้ แต่ผมไม่สงสารมันหรอก

ต้องให้กูโทรไปขออนุญาตบ้านมึงให้ไหม : MuePrab
Patcharakan : ไม่ต้องครับไม่ต้อง
สิบโมงนะซ่า พรุ่งนี้เจอกัน : MuePrab
Patcharakan : คร้าบผม

“เฮ้อ” ผมถอนหายใจส่งท้ายสำหรับวันนี้ “เด็กอย่างมึงมันมีดีตรงไหนวะ ทำไมกูถึงรู้สึกถูกตาถูกใจด้วย”



สิบโมงตรงผมมาถึงบ้านแม่ของซ่าตามโลเคชันที่มันส่งมาให้ผมทางไลน์ ผมโทรออกไปหามัน ซ่ารับสายแล้วตอบรับว่ากำลังจะออกมา ผมคิดว่าควรเข้าไปทักทายแม่มันสักหน่อยก็เลยลงจากรถ

“จะออกไปไหนอีกล่ะห๊ะ! วันหยุดมึงไม่เคยอยู่ติดบ้านเลยนะซ่า กำลังสอบอยู่ก็เอาแต่เที่ยวเล่นแทนที่จะอ่านหนังสือ” เสียงแหลมของผู้หญิงดังเล็ดลอดตามไล่หลังซ่าที่กำลังเดินหน้ายุ่งออกมา พอเจอหน้าผมที่ยืนอยู่หน้าบ้านมันก็ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“อ่านไม่อ่านก็มีค่าเท่ากันแหละพี่แนน ผมไปแล้วนะ คืนนี้ไม่กลับ” แทนที่มันจะบอกกับแม่มันว่าจะไปอ่านหนังสือกับผม มันกลับตอบสิ่งที่ตรงกันข้าม คำพูดคำจาประชดประชันเป็นเด็ก แต่มันก็เด็กจริงๆนั่นแหละ

“อย่าบอกนะว่าจะอยู่กินเหล้ากับเพื่อนอีก มึงเหลวไหลกินไปแล้วนะซ่า”

ซ่าหยุดเดิน แล้วหันไปมองหน้าแม่มัน

“คืนนี้ไม่กินเหล้าหรอกน่า ไม่ต้องห่วง” พูดจบมันก็เดินผ่านหน้าผม ไม่ได้คิดจะแนะนำผมกับแม่มันให้รู้จัก ผมก็เลยทำได้แค่ยกมือไหว้แม่ไอ้ซ่าแล้วเอ่ยแนะนำตัวเบาๆ พร้อมบอกความจริงให้แม่มันรู้ด้วยความวันนี้ลูกชายเขาไม่ได้จะออกไปเกเรที่ไหน จะได้ไม่เข้าใจมันผิดๆ

“สวัสดีค่ะ คือผมเป็นรุ่นพี่จะพาซ่าไปติวหนังสือน่ะครับ คืนนี้ก็คงนอนที่คอนโดผมเลย”

“อ่อ อืม สวัสดี แล้วมันก็ไม่บอกว่าจะไปอ่านหนังสือ ชอบนักให้ด่าเนี่ย”

ผมว่าคงไม่มีใครชอบโดนด่าหรอก

“พี่ปราบ ไปได้ยังอ่ะ” เด็กดื้อมันเลื่อนหน้าต่างรถลงแล้วตะโกนถามผม

“ผมไปก่อนนะครับ” ผมเอ่ยลาพร้อมยกมือไหว้อีกครั้ง

“อืม ฝากมันด้วยแล้วกัน อย่าให้มันไปเกเรหรือเถลไถลที่ไหนให้คนอื่นต้องปวดหัว” ก่อนจะกลับเข้าไปในบ้าน แม่ของซ่ายังคงบ่นไม่หยุด ผมที่ยังยืนอยู่ที่เดิมประมวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ด้วยความว่องไว และก็สรุปได้คร่าวๆว่า

ดูๆซ่าไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ใช้เหตุผลเป็นหลัก เจอไม่ถึงห้านาทีมีแต่อารมณ์มาเต็ม

คนในครอบครัวดูไม่ให้กำลังใจเท่าไหร่ อย่างน้อยถามไถ่ก็ยังดี แต่นี้คล้ายกับว่ากล่าวโทษก่อนเลย

และตัวของซ่าเองก็เหมือนจะไม่ใช่เด็กชอบอธิบายหรือแก้ตัว ใครคิดยังไงมันก็ปล่อยให้เขาคิดอย่างนั้น หนำซ้ำยังขยี้ให้ตัวเองดูแย่เข้าไปอีก

ผมเดินกลับไปประจำที่คนขับ หันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของซ่า มันนิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไร อย่างรู้จริงๆว่าข้างในจะเฉยชาเหมือนที่แสดงออกมาหรือเปล่า

ก่อนที่จะเริ่มพูดคุยหรือถามอะไร ผมเลือกที่จะขับรถออกจากหมู่บ้านทาวน์เฮ้าส์แห่งนี้ก่อน ทิ้งเวลาสักระยะรอจนกระทั่งเด็กบนรถรู้สึกสบายใจขึ้น

“กินข้าวเช้าหรือยัง” ผมถาม

“ยัง เมื่อเช้าผมตื่นสาย”

“นอนดึกหรือไง”

“อืม ทะเลาะกับพลอย”

ก็ไม่น่าแปลกใจ

“แล้วว่าไงบ้าง”

“ก็ไม่ไง พลอยมันไม่ยอมรับบอกไม่ใช่มัน แต่พี่เข้าใจป่ะว่าผมคบกับมันมาสี่ปีจะเข้าปีที่ห้าแล้ว คิดว่าผมจำหน้าแฟนตัวเองไม่ได้หรือไง แม่ง คิดแล้วโมโห” อารมณ์มันมาเต็มครับ แต่สักพักก็เหมือนจะดีขึ้น

อย่าไปคิดอะไรมาก คนจะอยู่มันก็อยู่ คนจะไปมันก็ไป มึงต้องเข้าใจจุดนี้ แต่กูอยากแนะนำอย่างหนึ่งนะ วันใดที่จับได้คาตาว่าแฟนมึงนอกใจ กูอยากให้มึงเอาความรักที่ให้เขาไปกลับมารักตัวเอง” ขอเพียงมันรู้จักรักตัวเอง ผมเชื่อว่าซ่าจะเป็นเด็กดีกว่าที่เป็นอยู่

“ถ้าผมเจอแบบนั้นน่ะ แตกหักกันไปข้างอ่ะพี่ ไปปล่อยไว้ทำแม่หรอกพูดเลย”

“หึหึ ซ่าเหลือเกินนะมึงน่ะ” ผมยื่นมือไปผลักหัวมันเพราะหมันไส้ในคำพูดคำจาและสีหน้าที่แสนจะเอาจริงเอาจังว่ามันจะทำอย่างที่พูดจริงๆ สมชื่อสุดๆ

ผมพาซ่าไปหาข้าวกินง่ายๆ และแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของกินเล่นไปติดไว้ในห้องด้วย เพราะเชื่อว่ากระเพาะควายอย่างไอ้ซ่า ของกินในห้องผมตอนนี้คงไม่พอให้มันกิน

มาถึงห้อง ผมก็ให้ซ่าเอาข้าวของมันไปเก็บ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมาก หนังสือเสื้อผ้าของใช้เล็กน้อยถูกยัดลงในกระเป๋าเป้ใบเก่าที่ดูก็รู้ว่ามันคงใช้งานมานาน

“เอาหนังสือวิชาที่มึงต้องสอบออกมานั่งอ่านที่โซฟา กูจะเฝ้ามึงอ่านหนังสือทั้งวันเลยวันนี้”

“เอาเลยเหรอพี่”

“เออสิ มึงจะรออะไรล่ะ” ผมย้อนถาม

“ขอพักแปบดิ”

“มึงทำอะไรมาเหนื่อยหรือไงถึงต้องพัก หยิบหนังสือออกมา”

มันทำหน้าเซ็ง แต่ก็ยอมเดินกลับเข้าห้องนอนของผมไปหยิบหนังสือออกมาสองเล่ม กลศาสตร์เครื่องยนต์กับงานไฟฟ้ารถยนต์

“มึงเคยบอกว่าอยากทำงานเกี่ยวกับรถ” ผมพูดเมื่อเห็นหนังสือเรียนของมัน

“ใช่พี่ ผมรถมาก ยิ่งได้ขับรถซิ่งๆนี่ยิ่งชอบเลย”

“มันคนละอย่างกันหรือเปล่ามึง”

“ฮ่าๆๆ ผมถือว่าอย่างเดียวกัน” มันหัวเราะเสียงใสก่อนจะแบมือขอหนังสือกลับไปเปิดอ่าน ผมหยิบนิยายสอบสวนที่อ่านค้างไว้มานั่งอ่านเป็นเพื่อนมัน

แต่ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ เด็กข้างตัวผมมันเริ่มหยุกหยิก อยู่ไม่เป็นสุข เดี๋ยวถอนหายใจเดี๋ยวหมอบ สักพักก็หยิบมือถือออกมากดเล่น

“ทำอะไร กูบอกให้อ่านหนังสือไม่ใช่เหรอ” ผมลดหนังสือในมือตัวเองลงแล้วหันไปถามเด็กข้างตัวเสียงดุ

“ง่วงอ่ะพี่ อ่านแล้วจะหลับ”

“กาแฟไหม ในครัวมีไปชงเอา”

“ไม่เอาอ่ะ ผมไม่กินกาแฟ”

ผมก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ไม่อยากให้มันหาขออ้างนู่นนี่มาปฏิเสธการอ่านหนังสือ

“ไหนมึงบอกว่าชอบไงไอ้เครื่องยนต์นี่”

“ก็ชอบอ่ะ แต่อ่านหนังสือมันน่าเบื่อ”

“ถ้าอ่านในสิ่งที่ชอบแล้วเบื่อ ก็แสดงว่ามึงไม่ได้ชอบจริงๆ”

“ก็...” มันพูดอะไรไม่ออก แต่ผมเข้าใจนะ เวลาอ่านหนังสือสอบอ่ะมันชวนง่วงแค่ไหนต่อให้เป็นสิ่งที่ชอบ พอมีทฤษฎีและตัวหนังสือเข้ามาเกี่ยวข้องมันก็ดูน่าเบื่อได้ทั้งนั้น เพียงแต่ว่าเราต้องพยายามที่จะรับมันเข้าไปแม้ว่ามันจะน่าเบื่อขนาดไหน ตอนผมเรียนผมสอบ บอกเลยวันๆหนึ่งกาแฟไม่ต่ำกว่าสามแก้ว ครอบครัวผมมีกิจการหลายอย่างและผมต้องเรียนรู้ทุกอย่างเพราะพวกเขามีผมเป็นลูกแค่คนเดียว แล้วกิจการเหล่านั้นจะเป็นของใครถ้าไม่ใช่ของผม ผมเรียนปริญญาตรีสองใบพร้อมกัน เรียนวิศวะของมหาลัยรัฐชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศใบและเรียนบริหารของรามฯอีกใบ ก่อนจะต่อปริญญาโทพร้อมกับทำงานไปด้วย ลากเลือดพ่อตัว

“ถ้ามึงไม่พยายามอ่านมัน คะแนนสอบมึงก็จะไม่ดี ในตลาดของการรับสมัครงานเขาไม่เอาหรอกนะคนไม่เอาถ่านอย่างมึงน่ะ มีเด็กที่เรียนดีมีอนาคตไกลอีกมากมายที่ใช้งานได้ เด็กที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยดีๆก็เยอะแยะคิดว่าเขาจะรับมึงเข้าทำงานไหม ถ้ามึงเป็นเจ้าของบริษัทอ่ะจะรับไหมเด็กแบบนี้” ผมพูดให้มันคิดถึงความเป็นจริงของสังคมการทำงานที่แท้จริง

ผมอาจโชคดีนะ วาสนาดีก็ว่าได้ เพราะคนที่เลี้ยงผมไม่ใช่คนไม่มีฐานะทางสังคมหรือฐานะทางการเงิน ผมไม่จำเป็นต้องเร่ไปสมัครงานเพราะมีงานที่บ้านรองรับ แต่ก่อนที่ผมจะกลับมาทำงานของที่บ้าน ป๊ากับพ่อเห็นดีด้วยที่จะยื่นคำขาดให้ผมไปหางานทำที่อื่น ไม่มีหรอกครับที่เรียนจบปุบจะให้ทำงานที่บ้านน่ะ ป๊าครามน่ะเขี้ยวยิ่งกว่าอะไร บอกว่าผมต้องไปลองสมัครงานดู ถ้าผมสามารถทำให้เขาเห็นได้ว่าผมมีดีพอที่คนอื่นจะอยากได้ผมไปทำงานด้วย และผมสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นและองค์กรอื่นๆได้ เมื่อนั้นเขาถึงจะยอมรับในตัวผม

“คงไม่อ่ะพี่ เอาไปทำไมวะ” ไอ้ซ่าตอบ ก็ยังดีที่ยังคิดได้ หน้ามันแหยะพอควรเมื่อคิดถึงว่าแม้แต่ตัวมันเองก็ยังไม่อยากได้คนแบบมันเข้าทำงาน

“วันนี้อ่านให้จบเนื้อหาที่มึงต้องสอบ มีทั้งหมดกี่บท” ผมถาม

“สามครับ”

“กูให้เวลาสองชั่วโมงบทหนึ่ง อ่านแล้วจดโน้ตย่อว่าอันไหนที่มึงคิดว่าสำคัญ คิดว่าถ้ามึงเป็นคนออกข้อสอบ มึงจะออกตรงไหนดี ทำเสร็จบทหนึ่งกูจะให้พัก โอเคไหม” ผมหาทางออกให้มัน ต้องเริ่มสอนกันใหม่ตั้งแต่จุดเริ่มต้นว่าควรอ่านหนังสือยังไง เพราะเดาว่ามันคงไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน

“ครับ” ซ่ารับคำเสียงเบา เหมือนไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้

ผมวางมือลงบนไหล่ของมันเป็นการให้กำลังใจ ซ่าช้อนตาขึ้นมองผมเพราะมันนั่งต่ำกว่าผม “มึงทำได้ ไม่ยากหรอก เชื่อกู”

“ผม...จะลองดู” เวลามันทำหน้าสงบเสงี่ยมนี่มันน่ารักแปลกตาดี

“พยายามเข้า ถ้ามึงได้คะแนนเกิดเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์กูจะให้มึงขับลูกรักของกู เอาไหม”

ซ่าตาโตทันที แวววาวดูเป็นประกาย แบบนี้สิดีกว่าสายตาที่แสดงออกว่าหงุดหงิดหรือเศร้าหมองตั้งเยอะ

“พี่ปราบพูดจริงเหรอ” มันขยับขึ้นมานั่งบนโซฟา จับแขนผมเขย่าและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เข้ามาแนบชิดแบบนี้ คิดถึงใจคนคิดไม่ซื่อแบบกูบ้างไหมเนี่ยไอ้เด็กแสบ

“เออ ทำให้ได้แล้วกัน ลูกรักกูจะจอดรอให้มึงมาขับมันออกไปโลดแล่นบนถนน”

“พูดแล้วอย่าคืนคำน่ะพี่”

“มึงก็เหมือนกัน อย่าทำให้ผิดหวัง”

“วางใจได้เลยพี่ปราบ คนอย่างซ่า ถ้าคิดจะทำ ทำได้แน่นอน”

“กูจะรอดู”




วันนี้ทั้งวันซ่าดูทุ่มเทกับการอ่านหนังสืออย่างไม่น่าเชื่อ ผมยึดโทรศัพท์มันไว้ มีปล่อยให้ใช้เมื่อถึงเวลาพักของมัน ซึ่งมันก็ไม่ได้ใช้อะไรนอกจากทักคุยกับพวกเพื่อนมันและคุยโทรศัพท์กับแฟน

กระทั่งถึงเวลานอน ซ่าอาบน้ำทีหลังผม จัดการตัวเองเสร็จมันก็มาล้มตัวนอนลงข้างๆ ผมปิดไฟบนเพดานห้อง เปิดไว้แต่โคมไฟหัวเตียงเท่านั้น

“วันนี้ไม่มีอะไรอยากถามกูเหรอ”

ผมให้ซ่าถามผมทุกวัน วันละคำถามเพราะมันเป็นคนที่บอกว่าอยากรู้จักผมให้มากขึ้น แต่เมื่อวานเห็นมันเครียดผมกับมันเลยไม่ได้คุยอะไรกันมาก

“อืม ถามอะไรดีอ่ะ” มันหันมาถามผม หน้าตามันง่วงเต็มแก่

“แล้วอะไรที่มึงอยากรู้อีกอ่ะ”

มันคิดอยู่เกือบห้านาที ผมคิดว่ามันหลับไปแล้ว แต่พอหันไปมองก็เห็นมันนอนจ้องเพดานนิ่งๆ

“ครอบครัวพี่เป็นยังไงเหรอ เล่าให้ฟังหน่อยสิ คิดว่าครอบครัวพี่ต้องอบอุ่นมากแน่ๆ”

“ครอบครับกูเหรอ ไม่เหมือนครอบครัวปกติทั่วไปหรอก แต่มึงคิดถูกอยู่อย่าง ครอบครัวกูอบอุ่นมากๆ”

“เล่าหน่อยสิ ผมอยากฟัง” ซ่าพลิกตัวนอนตะแคงหันเข้าหาผม ดวงตากลมปรือปรอยเล็กน้อยเพราะเจ้าตัวพยายามฝืนเอาไว้ไม่ให้มันปิด

“กูไม่มีพ่อมีแม่ที่แท้จริง ครอบครัวที่กูอยู่ด้วยตอนนี้เขาเอากูมาเลี้ยงตั้งแต่กูเด็กๆเกิดได้ไม่กี่วัน” ผมเริ่มเล่า ซ่านอนมองผมตาใส ดูมันค่อนข้างให้ความสนใจกับสิ่งที่ผมเล่า

“พ่อแม่ใหม่ดีกับพี่ไหม” มันถาม คงจะเอาไปเปรียบเทียบกับตัวเองแหละมั้ง

“ทุกคนดีกับกู แต่กูไม่มีแม่ใหม่หรอกนะ”

“อ้าว” ซ่าทำหน้าฉงน ผมตะแคงไปหามันบ้าง

“กูมีพ่อสองคน มีป๊าครามกับพ่อทราฟ พวกเขาสองคนมีคนรักเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ เพราะพ่อกูทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันมาก พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเด็กกัน กูมีพ่อสองคนและกูมีพี่ชายอีกสองคนนั่นก็คือพี่เค้กกับพี่ริช คนรักทั้งสองคนพ่อกู”

ระหว่างเล่าผมก็ลอบสังเกตอาการของซ่าด้วยว่ามันจะตกใจหรือรับได้ไหมที่ครอบครัวผมเป็นเกย์ แต่ดูมันจะไม่ได้ตกใจอะไร พอมันไม่ได้แสดงอาการไม่ใช่หรือมีข้อสงสัยจะถามอะไรผมก็เล่าต่อ

“พวกเขาเลี้ยงดูกูมาให้ความรักความอบอุ่น ให้ที่อยู่ที่อาศัย ให้ความรู้ กูรักพวกเขามากจนไม่รู้ว่าตัวเองต้องการพ่อที่แท้จริง ตอนเด็กๆกูเรียกพี่ริชว่าม๊าและเรียกพี่เค้กว่าแม่ด้วยนะ แต่พอโตมากก็รู้ว่าเรียกแบบนั้นไม่ได้ เลยเลิกเรียก”

“พี่ตกใจไหมเมื่อรู้ว่าพ่อสองคนของตัวเองมีแฟนเป็นผู้ชาย” ซ่าถาม ผมยิ้มบางให้มัน

“แล้วมึงตกใจไหมเมื่อได้ฟัง”

“หึ ไม่” ซ่าส่ายหน้า ผมดีใจนะ เท่ากับว่ามันไม่ได้รังเกียจความรักรูปแบบนี้ แบบนี้เท่ากับผมยังมีหวัง แม้ว่ามันจะเป็นผู้ชายแท้ๆที่รักชอบผู้หญิง แต่ผมก็มั่นใจว่าผมสามารถทำให้มันชอบผมได้ในวันหนึ่ง แต่ต้องหลังจากที่มันเลิกกับแฟนมันน่ะนะ

“กูไม่ตกใจหรอก แต่งงมากกว่า เพราะตอนเด็กๆกูไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีแม่ แต่คนในครอบครัวไม่ได้ปกปิดว่ากูไม่ใช่ลูกเขา เขาเล่าความจริงทุกอย่างเมื่อกูโตพอรู้ความ ตอนนั้นถึงได้เข้าใจว่าทำไมไม่มีแม่ และตอนเด็กๆป๊ากูก็แกล้งให้กูเรียกพี่ริชว่าม๊า ให้เรียกพี่เค้กว่าแม่ กูค่อยๆซึมซับจนชินและเข้าใจว่าความรักของพ่อๆกูไม่ผิด เพราะเขาเผื่อแผ่ความรักนั้นมาให้กูด้วย”

“ดีจัง”

“แล้วครอบครัวมึงล่ะ” ผมถามกลับบ้าง มันถามผมแล้วก็ถึงเวลาที่ผมจะถามกลับบ้าง แต่ซ่ากับเงียบ หน้าเริ่มเครียด ริมฝีปากเม้มแน่น

“ครอบครัวผม ไม่อบอุ่นเหมือนพี่หรอก”

“แล้วไง มันไม่มีช่วงเวลาดีๆเลยเหรอ” มันต้องมีบ้างแหละ ผมไม่มีว่าตั้งแต่เกินจนโตว่าจะไม่มีความทรงจำดีๆกับครอบครัวเลย

“มีมั้ง ไม่รู้สิ ผมจำไม่ได้”

“มึงรักพวกเขาไหม”

ซ่าเงียบอีกแล้ว ผมรู้อีกอย่างก็คือ ถ้ามันโมโหมันจะระบายออกอย่างรุนแรงเหมือนที่มันทะเลาะกับแฟนมัน แต่ถ้ามันเสียใจหรือรู้สึกเศร้า เกิดความอึดอัดในจิตใจมันจะเงียบ และเรื่องของครอบครัวมันเป็นเรื่องที่มันชอบเงียบ

“หรือมึงไม่รักตายายกับแม่” พอผมพูดเหมือนใส่ร้ายมันก็ส่ายหน้า

“เปล่า ผมรักสิ แต่...เขาอาจไม่รักผมเท่าไหร่”

“รู้ได้ไงว่าเขาไม่รัก ไม่รักจะเลี้ยงมาขนาดนี้เหรอ”

“เลี้ยงเพราะทิ้งไม่ได้ต่างหาก” ซ่าพูดแทรกต่อทันที ผมตกใจเล็กน้อยที่มันคิดแบบนั้น

“ทำไมคิดแบบนี้” ผมซักต่อ และคิดว่ามันจะทำไหม เม้มปากแน่นเชียวล่ะ “ว่าไง มึงรู้ได้ไงว่าเขาไม่อยากเลี้ยงมึง มึงถามกูตอบ พอกูถามมึงตองตอบนะซ่า”

“ผมจะรู้ได้ไง ถ้าเขาไม่พูด” เสียงตอบกลับมาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

“เพราะเกเรหรือเปล่า เขาเลยเบื่อจะเลี้ยงมึงน่ะ มึงแสบน้อยที่ไหน” ผมพยายามดึงสถานการณ์ให้มันดีขึ้น แต่ค่อนข้างติดใจมากว่าทำไมซ่าถึงบอกว่าพวกเขาพูดว่าไม่อยากเลี้ยงมัน

“คงงั้นมั้ง” ซ่าเองก็คงพยายามที่จะดึงตัวเองออกมาจากความเศร้า มันเริ่มปั้นหน้าปกติและยักคิ้วใส่ผม นั่นยิ่งทำให้ผมเอ็นดูและสงสารมันมากขึ้น

“ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาน่ะมึงน่ะ” ผมว่าขำๆแต่ยกมือลูบหัวมันเบาๆ

ที่เป็นแบบนี้เพราะเรียกร้องความสนใจสินะ

ไอ้เด็กขาดความอบอุ่นเอ้ย

ผมไม่ได้ถามอะไรต่อ ต่างคนต่างนอนเงียบๆกระทั่งมันค่อยๆเคลิ้มหลับ ผมนอนจ้องมันไปเรื่อยๆ จนคิดว่ามันหลับไปแล้วแต่อยู่ๆมันก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมา

“ผมอิจฉาพี่ ถ้ามีคนรักผมเหมือนพี่ก็คงดี”

เด็กคนนี้โหยหาความรักที่สัมผัสและจับต้องได้ ความรักที่ซับซ้อนที่ผู้ใหญ่แสดงออกคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ซ่าจะทำความเข้าใจ

 “อยากมีครอบครัวที่อบอุ่นไหมล่ะ”

“...” หลับแล้วเหรอวะ

“ว่าไง อยากมีไหม” ผมถามอีก

“อืม” ไม่รู้ว่าแค่ครางในลำคอหรือตอบตกลง แต่ขอเหมาว่ามาตกลงแล้วกัน

ซ่าหลับไปแล้ว ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ มีเสียงกรนฟี้เบาๆให้ได้ยิน ผมดึงมันเข้ามากอดเบาๆ ถ่ายทอดความร้อนในร่างกายช่วยมันคนเด็กว่ารู้สึกอบอุ่นขึ้น

“หันมามองกูสิ แล้วกูจะหาครอบครัวที่อบอุ่นมาให้”






........................................
ซ่าอาจจะดูเหมือนคนโง่ที่วิ่งตามความรักจากพลอย แต่เพราะซ่าเป็นคนรักใครรักจริง เขาได้รับความรักที่บิดเบี้ยวจากคนในครอบครัว เลยฝากความหวังไว้ที่พลอย รักครั้งแรกและแฟนคนแรก

ด้วยเพราะซ่าเป็นคนยึดมั่นในความรัก รักเดียวใจเดียว รักคนๆหนึ่งโดยไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผล ต่อให้เขาไม่ดีก็ยังรัก นั่นทำให้พี่ปราบเกิดความสนใจในน้องซ่า คิดดูว่าถ้าน้องซ่ารักพี่ปราบ ยิ่งพี่ปราบดีขนาดนี้ จะติดพี่ปราบขนาดไหน  :impress2:

สำหรับเรื่องปราบซ่า ริริอยากให้มันแตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่ในท้องตลาด เพราะปกติพระเอกจะเลว จะทำตัวมีปัญหา ต้องให้ความรักและความดีของนายเองขัดเกลา คราวนี้กลับกันบ้าง นายเอกของเราที่มีปัญหาสุดๆ ทั้งปัญหาที่สร้างขึ้นเองทำตัวเองและคนอื่นสร้างให้ และแน่นอน สิ่งที่เราต้องการคือพระเอกขี่ม้าขาวค่ะ เรื่องนี้พี่ปราบคือพ่อพระมาโปรดน้องซ่าตัวจริงเสียงจริง ที่วันหนึ่งจะสั่นคลอนความแมนของน้องซ่าได้ในที่สุด (หรือไม่)

หวังว่าจะได้รับอรรธรสแบบใหม่ที่ริริพยายามรังสรรค์ออกมาอย่างดีที่สุดนะคะ

คิดเห็นหรือรู้สึกอย่างไรสามารถบอกกันได้นะคะ
 
ขอบคุณคนที่ติดตามอ่านค่ะ มามะ มากอดที   :กอด1:

  :L2: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 24-02-2017 22:58:13
พี่ปราบคนดี~~
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-02-2017 23:00:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-02-2017 23:02:40
ค่อย ๆ ฝึก ค่อย ๆ หัดกันไป
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-02-2017 23:32:49
 o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-02-2017 00:24:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: indyska ที่ 25-02-2017 02:05:01
จิ้มมมมมม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-02-2017 03:04:05
ซ่า เหมาะให้พี่ปราบ ปราบมากๆ :katai2-1:
คนครอบครัวอบอุ่น จะเติมเต็มคนขาดความรัก
ซ่าจะเลิกพลอยได้หรือ แม้เห็นด้วยตาตัวเอง :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 25-02-2017 07:32:12
ขอพี่ปราบห่อกลับที่นึงค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 25-02-2017 09:41:30
เขินนน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 25-02-2017 13:18:57
ขอบเรื่องนี้ตรงที่พี่ปราบตั้งใจจะช่วยให้น้องซ่าเป็นคนที่ดีขึ้นตั้งแต่ต้น ทั้งๆ ที่ตัวเองแค่สนใจซ่า ยังไม่รู้ว่าจะได้รักกันหรือเปล่า แต่ให้ความเป็นพี่ชายไปก่อนอย่างจริงใจ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 25-02-2017 13:43:34
เขาเหมาะสมกัน  :-[
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 25-02-2017 19:04:07
ปราบนี่เข้าคอนเซปยอดฮิตเลย
#จีบยังไงไม่ให้รู้ว่าจีบ
รุกแบบเนียนๆ  อิอิ  ปริ่ม  ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-02-2017 21:19:00
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 25-02-2017 22:02:17
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: ตบพลอยซักที ตบซ่าซักที แต่เข้าใจว่ายังเด็ก แต่เมื่อเรียนรู้ ซ่ามันจะรักตัวเองเป็น
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: GaIta ที่ 25-02-2017 22:49:30
โอ้ยยย พี่ปราบแสนดีเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-02-2017 12:19:28
ชอบๆๆๆ พี่ปราบช่วยชักจูงน้องซ่าไปในทางที่ดีด้วยนะ ให้ความรักความอบอุ่นน้องมากๆด้วย :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-02-2017 14:21:23
พี่ปราบคนดี มาเป็นลูกเขยพี่เถอะนะ :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-02-2017 01:02:02
พี่ปราบกับซ่าเหมือนอยู่คนละโลกกันเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่8 :: 24/2/2017 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 01-03-2017 09:49:49
พี่ปราบสุดยอด
น้องซ่าก็ต้องรักตัวเองให้มากๆนะ ^^
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่9 :: 24/2/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 02-03-2017 22:52:48
ปราบซ่า
ตอนที่9


[ปราบ]
ร่างสูงผอมแห้งยืนก้มตัว มือข้างหนึ่งท้าวเอวหอบแฮก ผมยืนหมุนลูกบาสเก็ตบอลรอมันชิวๆ เช้านี้ผมปลุกซ่าตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าแน่นอนว่าเด็กอย่างมันก็ต้องอิดออดเป็นธรรมดา แต่ผมไม่ตามใจลากมันลุกออกจากเตียง จับโยนเข้าห้องน้ำให้มันล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะพามันมาที่สนามบาสเพื่อออกกำลังกาย

ซ่าเป็นเด็กร่างสูง ผิวพรรณแม้จะไม่ถึงกลับดำคล้ำแต่ก็ไม่ได้ผ่องใสแถมยังหยาบกร้าน ดูผิวเผินดูจะแข็งแรงแต่เปล่าเลย เล่นบาสกับผมแค่ชั่วโมงเดียวถึงกับหอบแดก

“พักพอแล้วมั้ง” ผมถาม ซ่ายืดตัวขึ้นหันมาหาผมทั้งตัว

“พี่จะเล่นต่ออีกเหรอ” มันถาม

“เออ อีกสักหนึ่งชั่วโมงเดี๋ยวกูให้เลิกเลย”

“หิวแล้วอ่าพี่”

“รับไป วิ่ง!” ผมไม่ฟัง โยนบาสให้มันรับก่อนจะออกวิ่งไล่แย่งลูกบาสกับมันไปเรื่อยๆ ซ่าที่ตอนแรกเหมือนจะไม่ไหว พอเห็นผมรุกไล่มันก็ไม่ยอมแพ้ ฮึดสู้ผมอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะแพ้ไปด้วยคะแนน ยี่สิบห้าต่อเจ็ด

“พี่ปราบ ไปแข่งระดับประเทศไหม จะโยนแม่นไปไหน”

“เฉยๆวะ” ผมชอบเล่นบาสตั้งแต่เด็ก เล่นกันในครอบครัวสนุกสนาน ไม่คิดจริงจัง

“ผมพูดจริงนะพี่ พี่โคตรเก่ง”

“กูเล่นเอาสนุก ไม่ได้คิดจริงจัง”

“พี่แม่งจะเก่งเกินไปล่ะ ทำได้หลายอย่างเกิน” ซ่าเอนตัวลงนอนหงายข้างๆผม ผมก้มมองหน้ามันที่หลับตาปิดหายใจเข้าออกลึก

เม็ดเหงื่อที่เกาะตามไรผม ใบหน้า และร่างกาย รวมกับชุดบาสเสื้อแขนกุดเว้าลึกคอกว้าง ยังมีกางเกงที่ผ้าพลิ้วแนบไปกับลำตัว ทำให้ซ่าน่ามองขึ้นอีกเท่าตัว ดูเซ็กซี่แบบดิบๆ ให้อารมณ์อยากยื่นมือไปสัมผัสแล้วกระชากออกจากตัวมัน

แต่ก็ต้องตัดใจ ทำอะไรไม่ได้ ผมเรียกให้มันลุกขึ้น โยนผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่เตรียมมาให้มันหนึ่งผืนเช็ดเหงื่อตามร่างกายที่โผล่พ้นร่มผ้า ก่อนจะพากันขึ้นรถแล้วขับกลับคอนโด

แต่พอเปิดประตูเข้าไปในห้อง ผมก็ได้ยินเสียงกุกกักและได้กลิ่นของอาหาร พอจะเดาได้เลยว่าใครที่แอบมาบุกห้องผมโดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า

ซ่าที่ตามหลังเข้ามาดูจะสงสัยไม่น้อย ผมยิ้มให้มันแล้วบอกให้มันเข้าไปอาบน้ำในห้องนอนก่อนเลย ซ่าก็ทำตามแต่โดยดี ส่วนผมก็เดินเข้าไปในครัว เห็นคนตัวเล็กยืนหันหลังอยู่ก็ตรงเข้าไปกอดทันที

“พี่ริช คิดถึง” ผมกอดพี่ริชแน่น แอบขโมยหอมแก้มไปที จะทำแบบนี้ได้ก็ต่อเมื่อคุณสงครามเขาไม่อยู่เท่านั้น เพราะป๊านะหวงพี่ริชยิ่งกว่าอะไร ปากน่ะชอบพูดร้ายใส่พี่ริช แต่หลับหลังก็พากันไปโอ๋

“คิดถึงก็กลับบ้านสิคุณลูกชาย” พี่ริชหันมาพูดกับผมก่อนจะกลับไปสนใจหมูทอดในกระทะต่อ

“เดี๋ยวเย็นนี้ปราบกลับไปนอนที่บ้าน พี่ริชมาได้ไง”

“ขับรถแวะไปส่งป๊าเราที่โรงแรม ก็เลยแวะมาทำกับข้าวให้ไง”

“แล้วทำไมวันนี้ป๊าไม่ขับรถไปเองอ่ะ ปกติแกก็ขับไปเองไม่ใช่เหรอ”

“ก็ไม่รู้เหมือนกัน บอกว่าเหนื่อยขี้เกียจขับเอง เดี๋ยวตอนเย็นก็ต้องไปรับอีก”

“ถามปราบนะ ปราบว่าป๊าน่ะอยากอ้อน อยากให้พี่ริชไปรับไปส่งเป็นเด็กๆ”

ป๊าน่ะอ้อนพี่ริชหน้าตาย อะไรที่ทำเองได้แล้วไม่ทำน่ะ อันนั้นจะเรียกว่าการอ้อน แต่จะดูห้วนๆดูเป็นคำสั่งเสียมากกว่า

“อ้อนมืออ้อนตีนล่ะไม่ว่า ไปอาบน้ำไป เหม็นเหงื่อ อาบแล้วจะได้ออกมากินข้าวเช้า”

“ครับผม” ผมเดินกลับเขาห้องนอนไม่กวนพี่ริชต่อ ซ่าอาบน้ำเสร็จพอดี มันอยู่ในชุดอยู่บ้านสบายๆของตัวเอง

“มีคนมาหาเหรอพี่” ซ่าถาม มันคงได้กลิ่นอาหารและเสียงคนทำอะไรอยู่ในครัวตั้งแต่เข้ามา

“อืม แฟนป๊ากูเอง ชื่อพี่ริช ออกไปคุยกับเขาก่อนสิ” ผมบอก พยักหน้าไปทางประตูห้องนอน ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำ

“พี่ปราบ” มีเสียงเรียกพร้อมกับแรงดึงที่ชายเสื้อ

“อะไร” ผมหันไปหาซ่าอีกรอบ

“ผมรอพี่ออกไปพร้อมกันดีกว่า”

ผมหลุดขำ มันทำท่าเหมือนกลัวที่จะออกไปเจอพี่ริช “พี่ริชใจดี ไม่ต้องกลัวหรอก”

“ผมไม่ได้กลัวสักหน่อย”

“ไม่กลัวก็ออกไปสิ”

ซ่าดึงหน้าตึงใส่ผม หันซ้ายหันขวาอยู่สองทีก็เดินออกไปข้างนอก ผมหลุดยิ้มเล็กน้อยให้กับท่าทางจำใจแบบเสียไม่ได้

ผมเลือกที่จะไม่ออกไปดูแล้วไปอาบน้ำ ปล่อยให้ซ่ากับพี่ริชทำความรู้จักกันเอง ขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้องซ่าก็เคาะประตูแล้วเปิดเข้ามา

“พี่ปราบ พี่ริชให้มาตามไปกินข้าว”

“อืม” ผมหวีผมครั้งสุดท้ายเสร็จก็เดินตามซ่าไปที่โต๊ะทานข้าว กับข้าวสี่อย่างและข้าวกล้องร้อนๆควันลอยฉุยวางล่อน้ำลายอยู่บนโต๊ะ

“มาเด็กๆ นั่งกินข้าวกัน เลยเวลาข้าวเช้ามานานล่ะ” พี่ริชนั่งที่หัวโต๊ะ ผมกับซ่าก็นั่งกันคนล่ะฝั่ง ผมมองหน้ามัน ซ่าดูเรียบร้อยและนิ่งเงียบเมื่ออยู่กับคนไม่สนิท

“อร่อยไหมน้องซ่า” พี่ริชถามเมื่อเห็นว่าซ่าตักข้าวคำแรกเข้าปาก

ซ่าพยักหน้ายิ้มๆ “อร่อยครับ รสชาติเหมือนที่แม่ผมทำเลย”

“อร่อยก็กินเยอะๆนะ ตัวก็สูงทำไมผอมจัง” พี่ริชตักหมูทอดใส่จานของซ่า มันเอ่ยขอบคุณเบาๆแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินขาวไม่ค่อยพูด มีแต่ผมกับพี่ริชที่คุยกันไปมา

“คุยได้นะ พี่ไม่ดุหรอก” พี่ริชหันไปยิ้มให้ซ่า

“ครับ ผมไม่รู้จะคุยอะไรดี”

“รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยปราบเหรอ ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย” พี่ริชถามและสลับมองทั้งผมและเด็กข้างๆ

ซ่ามองหน้าผมเหมือนจะให้ผมตอบ แต่ผมส่ายหน้าเบาๆเป็นอันเข้าใจว่ามันต้องเป็นคนตอบ

“ผมไม่ใช่รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยพี่ปราบหรอกครับ ผมเรียนช่างกล เป็นเพื่อนของหวาย ไม่รู้พี่ริชรู้จักไหม”

“อ่อ น้องหวาย พี่จำได้ๆ ว่าไปแล้วก็ไม่ได้เจอนานแล้วเหมือนกัน”

พี่ริชเคยเจอไอ้หวายอยู่บ้างครับ เพราะมันชอบติดสอยห้อยตามไอ้บีทไปบ้านผมประจำทุกครั้งที่จัดปาร์ตี้ตั้งวงเหล้า ทำให้คุ้นหน้าคุ้นตาคนที่บ้านผม

“แล้วทำไมมานอนห้องปราบได้ล่ะ” คำถามนี้เจาะจงผมโดยเฉพาะ พี่ริชที่เป็นทั้งแม่และพี่ชายย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่ารสนิยมผมเป็นแบบไหน นี่คงจะสงสัยอยู่บ้าง

“พามาอ่านหนังสือสอบ” ผมตอบไปตามความจริง

“อ่านหนังสือสอบ?” พี่ริชถามเสียงสูง จ้องหน้าผมนิ่งก่อนจะละสายตาไปมองซ่าที่มองผมกับพี่ริชอยู่ก่อน

“อืม ให้อ่านเองมันคงไม่อ่าน เลยต้องคุมกันหน่อย” ผมขยายความอีกนิด แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้พี่ริชเข้าใจบางอย่าง ผมไม่ปิดบังกับพี่ริชหรอกว่ารู้สึกสนใจซ่าแต่ว่าผมไม่อยากให้เจ้าตัวเขารู้ตัวตอนนี้ว่าผมคิดยังไง

“งั้นเหรอ พี่ปราบดุไหมซ่า” พี่ริชกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ เห็นตัวเล็กน่ารักใจดีแต่อย่าคิดว่าไม่มีอะไรนะครับ ถ้าไม่แน่จริงจะเอาคุณสงครามอยู่หมัดได้เหรอ

ซ่ากรอกตาคิดก่อนตอบ “ก็ ไม่ดุเท่าไหร่ครับ”

“เหรอ ปกติปราบดุมากเลยนะ”

“พี่เขา เข้มงวดอ่ะ” ซ่าเสริมอีกหน่อย

“แล้วซ่าไม่รำคาญเหรอ”

“ไม่ครับ” ซ่าตอบยิ้มๆ

ผมแอบสะกิดพี่ริชไม่ให้ถามอะไรต่อแล้ว มีอะไรไว้ไปคุยกันนอกรอบ กินข้าวเสร็จซ่าก็อาสาล้างจานให้ เหมือนจะเป็นใจให้พี่ริชลากตัวผมออกไปซักไซ้ที่นอกระเบียง

“สนใจเหรอ” พี่ริชเริ่มเปิดประเด็น

“ครับ” ผมก็ตอบตรงๆ

“ดูแปลกกว่าคนอื่นๆที่พี่เคยเห็นนะ”

“ครับ พี่ริชคิดว่าไง”

“หมายถึงซ่าน่ะเหรอ”

“ครับ”

“แค่เราชอบก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ” พี่ริชย้อนถามกลับ ผมเข้าใจ ที่บ้านผมทุกคนเคารพการตัดสินใจของผม ไม่ว่าผมชอบหรืออยากทำอะไรไม่เคยมีใครห้าม แค่มองอยู่ห่างๆ ให้คำแนะนำเมื่อต้องการ เพราะทุกคนรู้ว่าหากผมทำอะไรหรือชอบใคร ผมต้องไตร่ตรองอย่างดีแล้ว

แต่กับซ่า ผมก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองใช้อะไรไตร่ตรองถึงได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตมัน เพียงแค่ตอนนี้ผมอยากให้ซ่าเลิกเดินหลงทางเสียที ผมจึงพยายามช่วยมันเท่าที่ผมจะช่วยได้

“เท่าที่สังเกตน่ะ ซ่าไม่ใช่เด็กที่มีอารมณ์ปกติธรรมดา ในดวงตาของเขาสะท้อนความหม่นหมอง และดูปิดกั้นตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าพี่เข้าใจถูกไหม แต่ลักษณะของซ่าก็เป็นแค่เด็กที่อยู่ในวัยต่อต้าน พี่ก็เคยเห็นมาก่อน พี่ว่าพี่เห็นตัวเองในตัวของซ่า”

“พี่ริช”

“แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอกน่ะ เพราะซ่าดูเข้มแข็งกว่าพี่ยังไงไม่รู้”

อาจจะไม่ใช่เข้มแข็ง แต่กระด้างมากกว่า ป๊าเคยเล่าเรื่องพี่ริชตอนเจอกันใหม่ๆให้ผมฟังบ้าง พี่ริชที่ไม่เป็นที่ต้องการในครอบครัวตัวเองในตอนนั้น ก็ต่อต้านและทำตัวแข็งใส่ทุกคนที่เข้าหา

“ปราบคงกำลังทำให้ซ่าเป็นเด็กดีขึ้นใช่ไหม”

“แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะรับได้มากแค่ไหน ผมยอมรับว่าสนใจมัน แต่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวซ่าทั้งนั้น”

“เป็นผู้ชายแท้ๆสินะ”

“ตอนนี้ยังมีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่เลย”

“แอบตีท้ายครัวคนอื่นหรือไง” พี่ริชพูดล้อผม “ปกติไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของไม่ใช่เหรอ”

ผมไหว่ไหล่เล็กน้อย “ข้อยกเว้นน่ะ”

“น้องซ่าเริ่มน่าสนใจขึ้นมาแล้ว ทำให้พี่ปราบแหกกฎตัวเองได้”

“ก็ไม่ขนาดนั้นครับส่วนหนึ่งเลยพอได้รับรู้ชีวิตครอบครัวมัน รู้ปัญหาของมันกับแฟนมัน ยิ่งมันทำตัวไม่เอาไหนผมก็รู้สึกเป็นห่วงเลยอยากช่วยเหลือ”

“หวังผลหรือเปล่า”

“ก็มีบ้าง แต่ผมยังไม่ได้คิดอะไรมากกว่านี้”

“ดีแล้ว ยิ่งซ่าไม่ใช่เกย์ แทนที่อะไรจะดีขึ้นเดี๋ยวจะแย่ลง” ความหมายของพี่ริชก็คือ อย่าทำให้ไก่ตื่นนั่นเอง

หลังจากคุยกับพี่ริชเสร็จ พี่ริชก็ขอตัวกลับก่อนเพราะจะแวะไปดูอู่รถด้วย ซ่าดูให้ความสนใจเรื่องอู่รถเป็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่ได้ถามอะไร ผมสั่งให้อ่านหนังสืออีกเล่มที่เหลือก็ยอมทำแต่โดยดีจนกระทั่งมันอ่านจนจบ ผมหยิบกระดาษย่อเนื้อหาที่ซ่าเขียนมาอ่าน มีทั้งย่อตรงประเด็นบ้างไม่ตรงบ้างแต่ก็ไม่ถือสาอะไร แค่เท่าที่เห็นว่ามันพยายามอย่างเต็มที่ ต่อให้คะแนนมันออกมาไม่ถึงที่ผมตั้งไว้ผมก็จะไม่ว่าอะไร

ตกเย็นผมไปส่งมันกลับบ้าน ไม่ลืมกำชับให้มันรีบนอนเร็วๆ แล้วพรุ่งนี้ต้องตั้งใจทำข้อสอบ ไม่อย่างนั้นขอตกลงถือเป็นโมฆะ ซ่าก็รับคำเป็นอย่างดี ก่อนกลับผมยื่นมือไปให้มัน ซ่ามองมือผมนิ่งๆก่อนจะวางมือมันบนมือผม

“กูเป็นกำลังใจให้ พรุ่งนี้พยายามเข้านะ” ผมพูดให้กำลังใจ

“ขอบคุณครับ ผมจะทำให้เต็มที่”

พี่ปราบจะรอฟังข่าวดีนะครับน้องซ่า




เช้าวันจันทร์ ผมส่งข้อความหาซ่าตั้งแต่เช้า กำลังคิดว่าตัวเองเป็นเอามาก แต่ความรู้สึกผมเหมือนคนที่ตื่นเต้นกังวลว่าเด็กที่ตัวเองปลุกปั้นให้ได้ดีจะทำได้อย่างที่ตั้งใจหวังไหม ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ว่าตอนเย็นให้อยู่รอผมจะไปรับ ทีแรกมันปฏิเสธเพราะว่าต้องไปทำงานพิเศษ แต่ถ้าวันนี้เย็นผมไม่ไปหามัน ก็จะไม่ได้เจอกันเลยอีกเป็นอาทิตย์เพราะผมต้องลงไปดูงานที่ภาคใต้แทนป๊า มันก็เลยรับปากว่าจะรอให้ผมไปรับที่วิทยาลัย

เพราะต้องไปรับมันตั้งแต่สี่โมงเย็น งานในวันนี้ผมก็เลยต้องเร่งรีบทำจนเลขาหัวหมุนบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ทั้งงานเอกสารและการประชุม รวมไปถึงนัดหมายต่างๆที่มีในวันนี้ เรียกได้ว่าไม่ได้อยู่กับที่นานเกินหนึ่งชั่วโมง ตะลอนไปทั่วกรุงเทพเมืองแห่งความวุ่นวาย

“เดือนนี้ถ้าคุณปราบไม่ขึ้นเงินเดือนให้แคท แคทไม่ยอมจริงๆด้วย” เลขาคนสวยของผมบ่นเมื่องานสุดท้ายเสร็จ

“จะเพิ่มให้เป็นพิเศษเลย เพราะฉะนั้นเลิกบ่นแล้วก็ไปจัดการตัวเองในห้องน้ำก่อนกลับบ้านซะไป” ผมมองสภาพเลขาตัวเองที่หน้ามันเยิ้มหัวฟูไม่เป็นทรง แตกต่างจากตอนเช้าลิบลับ

“โห นี่สภาพแคทเหรอนี่ รับไม่ได้อ่ะบอส โคตรน่าเกลียดเลย” แคทหยิบกระจกขึ้นมาส่องก่อนจะร้องเสียงหลง จากนั้นก็วิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างที่ผมบอก

ผมเก็บของ หยิบกระเป๋าเอกสารสำคัญติดมือมาด้วยแล้วออกจากห้องทำงานไปที่รถ ผมถอดเสื้อสูทกับเนทไทออก เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพับแขนขึ้นจนถึงข้อศอก สางผมอีกนิดหน่อยไม่ให้ดูทางการจนเกินไป

ระหว่างขับรถผมก็ส่งข้อความไปบอกซ่าว่าเสร็จงานแล้วกำลังจะไปรับ ใช้เวลาอยู่เกือบชั่วโมงกว่าผมจะมาถึง ล่าสุดมันบอกว่านั่งรออยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน มาถึงก็เห็นมันนั่งสูบบุหรี่เล่นโทรศัพท์เครื่องเก่าอยู่ ผมลดกระจกลงแล้วบีบแตรใส่

“เฮ้ย ขึ้นรถ”

ซ่าเงยหน้าจากโทรศัพท์ในมือ เมื่อเห็นผมมาแล้วมันก็ทิ้งบุหรี่ลงพื้นใช้เท้าขยี้ สะบัดเสื้อตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเดินมาขึ้นรถผม

“หวัดดีพี่ปราบ”

“อืม คาดเข็มขัดด้วย” ผมสั่งเมื่อเห็นมันไม่ใส่ใจ

“ความจริงพี่ไม่ต้องมารับผมก็ได้นะ อย่างกับมีพ่อมารับเลย”

“พ่อเลยเหรอ มึงไม่คิดว่าเป็นอย่างอื่นหรือไง” ผมไม่แก่ขนาดจะเป็นพ่อมันไหมล่ะ

“เป็นอะไรอ่ะ พี่ชายผมล่ะกัน ผมไม่มีพี่ชาย”

“เอาที่มึงสบายใจอ่ะซ่า”

“ฮ่าๆๆ แน่นอนสิครับ” วันนี้มันดูร่าเริงผิดปกติ อาจจะมีเรื่องอะไรดีๆที่ทำให้ผมรู้สึกดีไปด้วย

“สอบวันนี้เป็นไงบ้าง ทำได้ไหม” ผมถามถึงสิ่งที่อยากรู้

“ทำได้ เป็นครั้งแรกเลยที่ผมมั่นใจว่าผมต้องผ่านอ่ะ” ซ่าเล่าอย่างอารมณ์ดี ลอบมองก็เห็นมันยิ้มกว้างแทบไม่หุบ

“ดีกว่าวิชาก่อนหน้านี้ไหม”

“อืม ฟ้ากับเหวอ่ะ ขอบคุณนะพี่ปราบ”

ผมกับมันสบตากัน พอมันยิ้มผมก็ยิ้มตาม ถ้ามันมีความสุข ผมจะไม่มีความสุขได้ยังไง ก็เป็นคนเคี่ยวเข็ญมากับมือ

“ขอบคุณตัวมึงเองด้วย ถ้ามึงไม่เชื่อกู ไม่ยอมแพ้ วันนี้มึงก็คงทำข้อสอบไม่ได้หรอก” ถึงผมจะเป็นคนสั่งให้มันทำ แต่ถ้ามันไม่ทำจะมีอะไรดีหรือไง

“นั่นสิ มันแบบโคตรน่าเหลือเชื่ออ่ะ ไอ้กานบอกว่าผมโม้ด้วยเพราะผมบอกมันว่าทำข้อสอบได้ มันบอกด้วยนะถ้าคะแนนออกแล้วผมไม่ได้ตามที่พูดผมจะต้องพามันไปกินเหล้าแล้วหาหญิงให้มัน แต่ผมก็ท้ากลับไปว่าถ้าผมทำได้ มันต้องเลี้ยงข้าวผมหนึ่งเดือนเมื่อเปิดเทอม แต่ผมรู้ว่ายังไงผมก็ชนะแน่นอน”

ผมว่าซ่าในวันนี้ ดูสดใสกว่าวันไหนๆที่เจอกัน

“แวะกินไรก่อนแล้วกัน ยังทันใช่ไหม”

“ได้อยู่ กินเย็นตาโฟไหมพี่ ผมมีเจ้าเด็ด”

“เอาดิ”

ผมขับไปตามทางที่ซ่าบอก ร้านเย็นก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟเจ้าเด็ดที่มันว่าอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมันมากนัก สามารถกินเสร็จแล้วเดินไปได้เลย

ผมกับมันสั่งมาคนละชาม นั่งกินและคุยกันไปเรื่อยๆไม่มีอะไรมาก จนกระทั่งได้เวลางานผมก็เรียกพนักงานมาเก็บเงิน

“กูไม่อยู่อาทิตย์หนึ่งนะ แต่มีอะไรก็ส่งข้อความมาคุยด้วยได้ตลอด ว่างแล้วกูจะตอบ”

“ครับ ไว้ไม่มีอะไรทำผมจะทักไปกวนนะ” สอบวันนี้วันสุดท้ายหลังจากนี้ก็ปิดเทอม มันบอกว่าคงกลับไปช่วยงานที่บ้านและทำงานพิเศษ ไม่มีแพลนว่าจะไปเที่ยวไหน

“ผมคงต้องไปเข้างานแล้วนะพี่ เหลืออีกกี่นาทีแล้ววะ” ซ่ายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู คิ้วของมันเริ่มขมวดเข้าหากัน ก่อนจะยกมืออีกข้างมาตบนาฬิกาตัวเอง

ตุบๆ

“ไอ้เหี้ย นาฬิกาตาย” ซ่ามันอุทานเสียงค่อนข้างดัง มันพยายามตบแล้วก็ถอดนาฬิกามาเขย่า แต่มันคงไม่ช่วยอะไร นาฬิกาที่พังแล้วให้ตายก็ไม่เดิน

“ไหน เอามาดูดิ” ผมแย่งนาฬิกาในมือมันมาดู

“พี่มันไม่เดินอ่ะ ก็ว่าอยู่ ดูกี่รอบก็แม่งก็อยู่ที่เดิม”

“ยี่ห้อไรวะ ทำไมกูไม่รู้จัก” ผมพลิกดูหน้าหลัง แต่ยี่ห้อที่มันใส่ผมไม่คุ้น

“พี่ไม่เคยเห็นจริงอ่ะ” ไอ้ซ่าทำหน้าตกใจประมาณว่ามึงไม่เคยเห็นจริงๆเหรอ ให้ตายเถอะ สาบานได้ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเห็นยี่ห้อนี่เลย

“ก็เออดิ มึงซื้อที่ไหนมาละ จะได้เอาไปส่งซ่อม”

“เหอะ รุ่นนี้ไม่ต้องส่งซ่อมหรอกพี่ สองร้อยบาทราคาตลาดนัด วางขายกันเกลื่อนกราดพี่ไม่เคยเห็นหรือไง บ้านพี่ก็ไม่ได้อยู่หลังเขานะได้ข่าว”

“...” เออ กูผิดเองที่ไม่เคยเดินดูนาฬิกาตลาดนัด ได้ข่าวว่าเมื่อกี้มึงยังหงุดหงิดอยู่เลย ไหงเปลี่ยนมากวนตีนกูไวแบบนี้ล่ะน้องซ่า

“เซ็งวะแม่ง ผมเพิ่งเปลี่ยนถ่านไปเมื่อไม่กี่วันนี่เอง คงไม่ได้เป็นที่ถ่าน ความจริงมันก็รวนมาหลายรอบแล้ว พี่ว่าผมลองเขวี้ยงลงพื้นดีไหม เผื่อมันจะกลับมาใช้ได้”

“มึงตลกหรือไง”

“อ้าว ก็เผื่อมันจะฟื้น พลอยเป็นคนซื้อให้ผมด้วย ผมว่าผมเอาไปให้ร้านซ่อมดูดีกว่า”

พอได้รู้ว่านาฬิกาที่มันดูจะอยากให้กลับมาเดินหนักหนาเป็นของที่แฟนมันซื้อ ผมก็รู้สึกอยากยุให้มันทิ้งๆไปซะ ไม่ต้องไปเสียดายหรอก

“จะไปได้หรือยังเดี๋ยวมึงก็เข้างานสาย”

ผมเร่งเพราะซ่ายังคงเอาแต่ก้มๆแงะๆนาฬิกาที่ตายไปแล้ว ผมอยากบอกมันเหลือเกินว่าจะหมุนจะเคาะยังไงมันก็ไม่กลับมาใช้งานได้หรอก เพราะแบบนี้ไง ของบางอย่างซื้อมียี่ห้อหน่อยมันก็ดีกว่า ถ้าเงินไม่ถึงซื้อรุ่นที่ไม่แพงก็ได้ ที่ลดราคาก็มีเยอะแยะไม่ถึงกับต้องเอาให้แพงที่สุดหรอก เพราะของแบบนี้เราใช้มันอยู่ทุกวันและใช้ตลอดจนกว่าจะตายนั่นแหละ ผมให้ความสำคัญกับนาฬิกามากนะ

“พี่ปราบตอนนี้กี่โมงแล้ว” มันถาม ชะโงกหน้ามาดูนาฬิกาที่ข้อมือผม ผมส่งให้มันดู

“อีกสิบห้านาทีห้าโมง”

“เชี่ย ผมเข้างานห้าโมงด้วย งั้นผมไปแล้วนะพี่” มันกระวีกระวาดหยิบกระเป๋าลุกจากโต๊ะ แต่ผมคว้าข้อมือมันไว้ก่อน มันหันมามองงงๆ แต่แววตาเร่งกลับมาว่าจะมีอะไรก็รีบพูดรีบทำ ห้ามทำมันเข้างานสายเด็ดขาด ผมเลยแกะนาฬิกาข้อมือตัวเองส่งให้มันไป

“อะไร” มันถาม

“นาฬิกาไง เอาของกูไปใช้ก่อนไป”

“ไม่เอา เดี๋ยวผมดูเอาในร้านหรือขอคนอื่นดูเอาก็ได้”

“ไม่ต้อง เอาของกูไปเนี่ยแหละ” ผมจับนาฬิกาคาดใส่ข้อมือมันให้แทนเลย มันจะชักมือกลับแต่ผมถลึงตาดุใส่

“ให้ผมทำไมเล่า ของพี่น่าจะแพงนะ”

“อันนี้กูไม่ได้ให้ แค่ให้ยืม กูมีหลายเรือนไม่เดือดร้อน มึงก็ใช้ของกูไปก่อน”

“เอางั้นเหรอพี่”

“เออ”

“ขอบคุณครับ ไว้ผมซื้อนาฬิกาใหม่จะเอามาคืน  สวยวะพี่ แพงไหมเนี่ย” ซ่าก้มมองนาฬิกาบนจ้อมือมันด้วยดวงตาที่พราวระยับเหมือนชอบและถูกใจมาก ขาสองข้างเร่งซอยเท้าเดินไปข้างหน้า ผมก็เดินตามมันย้อนกลับไปเอารถ

“ห้าหมื่น” ผมตอบ

“ห๊า ห้าหมื่น เอาคืนไปเลย” ไอ้ซ่าร้องตกใจและทำท่าจะถอดนาฬิกาออกคืน แต่ผมจับมือมันเอาไว้ไม่ให้ถอดออก

“ห้ามถอดนะ ถอดมึงโดน”

“อะไรเล่า ผมไม่เอาหรอก เกิดทำเป็นรอยขึ้นมาผมไม่มีปัญญาซื้อใช้นะ”

“เออ ก็รักษาดีๆดิ ทำได้ไหม”

“มันยาก” พูดเสียงเบาทำปากขมุบขมิบ

“ทำได้ไหมซ่า แค่ดูแลรักษาของกูดีๆ” ผมใช้น้ำเสียงจริงจัง

มันลังเล แต่ก็พยักหน้า “ก็ได้ ผมจะพยายาม”

“ดี ไปได้แล้ว”

“ครับ ผมไปนะ”

มันโบกมือลาแล้วก็รีบวิ่งไปทำงาน ผมยืนมองมันจนลับสายตาถึงได้ขับรถกลับบ้านไปเตรียมตัวลงใต้ในวันพรุ่งนี้เช้า กลับมาค่อยพามันไปซื้อนาฬิกาเรือนใหม่แล้วกัน ถ้ามันไม่ซื้อเองหรือมีใครซื้อให้มันตัดหน้าผมเสียก่อนนะ





 :impress2:
ขอพี่ปราบห่อกลับบ้านที่หนึ่งค่ะ คนอะไรดีเบอร์นี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นและการติดตามนะคะ  :L1: :กอด1:
เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่9 :: 24/2/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-03-2017 23:58:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่9 :: 24/2/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: indyska ที่ 03-03-2017 03:57:43
อ๊าาางงงงชอบบบสวีทกันต่อได้เลยค่ะเดี๋ยวเอานังพลอยไปเก็บให้ #มานี่เลยนะหล่อนน :beat: :z2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่9 :: 24/2/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-03-2017 03:58:52
นาฬิกาพี่ปราบเรือนนี้ห้าหมื่นจริงรึเปล่า เราว่าน่าจะแพงกว่านี้นะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่9 :: 24/2/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 03-03-2017 05:50:46
สงสารซ่า ซ่าเด็กน้อยรักน่ากลัว ซ่าแม่งรักแบบบิดเบี้ยว ฉันเป็นพลอยไม่เอาอะ กลัวซ่า ไม่ทีไรดีสักอย่างด้วย ต่อให้จะเป็นเพราะครอบครัวก็เถอะ แต่ซ่าก็เลือกเดินตามทางที่ตัวเองต้องการด้วยส่วนหนึ่ง จะบอกว่า ไม่นะ ซ่า ครอบครัวแย่ แล้วมันก็ไม่ใช่เหตุผลปะ ถ้าเป็นคนรู้จักรักตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวลซ่าไม่รู้จักรักตัวเองสักนิด เราอาจจะมองคนละมุมกับคนเขียน แต่เราไม่ชอบเด็กแบบซ่าเลย มันน่าสมเพช แต่เราก็สงสารซ่า ที่อยู่กับครอบครัวแบบนั้น จนเกิดเป็นความคิดแปลกๆ

หวังว่าพี่ปราบจะทำได้แล้วกัน เชื่อว่าได้ เพราะพี่ปราบโคตรสตรอง

ส่วนซ่า เราไม่อวย รอด่าซ้ำ ในเวลาที่พลอยบอกเลิก เพราะ ซ่าไม่น่าฝากชีวิตไว้ด้วยเลยจริง ๆ คนไม่รักตัวเอง จะรักใครเป็น แล้วจะคิดอะไรได้


หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่9 :: 24/2/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 03-03-2017 06:35:18
ปราบเอาซ่าอยู่หมัดจริงๆ :katai5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่9 :: 24/2/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 03-03-2017 07:57:44
พี่ปราบสายเปย์ 555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่9 :: 24/2/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 03-03-2017 12:12:19
ความยึดติดของซ่าน่ากลัวนะ เอาดีๆ เห็นข่าวพวกหึงโหดปะ ยิ่งเป็นพวกกล้าได้กล้าเสียปบบซ่า จะไม่แปลกใจเลยถ้าวันนึงเห็นแฟนอยู่กับกิ๊กแล้วจะพลั้งมือฆ่าอ่ะ เราว่าซ่ากล้า
ซ่าอาจเกิดในครอบครัวที่ไม่อบอุ่น อันนี้น่าเห็นใจ แต่ถ้าเราเป็นผู้หญิงเราก็มีสิทธิเลือกทางที่ดีไหมอ่ะ เราจะมั่นใจกับแฟนที่ขู่เราขนาดนั้นได้ยังไง ไม่คิดว่าพ่อแม่จะเป็นห่วงหรอ5555 การที่สายอยู่สายนักเลง ตีกับคนอื่นไปทั่ว สังคมแบบนี้ผู้หญิงจะปลอดภัยไหมอ่ะ เดี๋ยวโดนศัตรูผัวฆ่าไรอีก ถ้ารักแฟนจริง(จำชื่อไม่ได้5555) ก็ควรปล่อยอ่ะ
ก็รอดูต่อไปว่าจะเป็นยังไง พี่ปราบช่วยขัดเกลาน้องให้มีความเป็นคนมากกว่านี้ละกัน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่9 :: 24/2/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 05-03-2017 17:42:02
ปราบได้อยู่หมัดนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 05-03-2017 21:55:57
ปราบซ่า
ตอนที่10



[ซ่า]
แดดบ่ายไม่เป็นมิตรกับผมในตอนนี้ที่ต้องขนของขึ้นรถเพื่อเอาไปขาย ปิดเทอมผมกลับมาช่วยพ่อกับแม่ทำงานเกือบทุกวัน ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ชีวิตผมเรื่อยๆ กับพลอยก็เหมือนจะดีขึ้น เมื่อวานก็เพิ่งมากินข้าวกับแม่ วันนี้เห็นว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนก็เลยไม่ได้คุยอะไรกันมาก

“ซ่า เดี๋ยวน้าไปกับพ่อเอง” น้าตั้มที่หายไปไหนเกือบสองชั่วโมงขณะที่ผมกับพ่อและลูกน้องคนอื่นยกของจู่ๆก็โผล่มา โคตรรู้เวลา

“แล้วแต่” ผมบอก ยกแขนขึ้นใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อ ก่อนจะเดินเข้าบ้าน

“เสร็จงานแล้วเหรอซ่า” แม่ที่นั่งดูโทรทัศน์หันมาถาม ข้างๆมีไอ้มิวนั่งนวดขาอยู่

“ครับ เสร็จแล้ว”

“แล้วใครเอาของไปขายอ่ะ” แม่ถาม ผมนั่งลงที่โซฟาหยิบส้มมาปอกกินรองท้อง กลางวันกินข้าวไปนิดเดียวเพราะพ่อเร่งต้องขนของให้เสร็จไม่งั้นเอาไปขายให้โรงงานไม่ทัน

“พ่อกับน้าตั้ม”

“อีกแล้วไอ้ห่านี่ งานการไม่ทำชอบหายหัว ตอนไปขายของทีไรเสนอหน้า ไม่แบ่งเงินให้ก็มาว่ากูอีก” พอรู้ว่าใครไปกับพ่อ แม่ก็บ่นคำใหญ่

ผมเห็นแม่ก็พูดอย่างนี้ทุกที บ่นอย่างนี้แต่ไม่เห็นเคยสั่งน้าตั้มได้เลยสักครั้ง

ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน เย็นนี้ผมนัดกับเพื่อนไว้ว่าจะออกไปนั่งกินข้าวจิบเบียร์เบาๆ ก็ไม่ใช่ร้านใครที่ไหน ร้านเฮียบีทรุ่นพี่ไอ้หวายนี่แหละ ง่ายดีแถมได้ราคาพิเศษ เหมาะกับพวกผมที่มีเงินน้อยเป็นที่สุด

“แม่ขอเงินหน่อย” ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่แล้วก็ลงมาขอเงินแม่ คือทุกครั้งที่ผมทำงานผมก็จะได้เงินเป็นค่าตอบแทน

“มิว ไปหยิบกระเป๋าตังแม่ในห้องนอนมาดิ” แม่ใช้ไอ้มิว แต่แทนที่มันจะไปหยิบ มันกลับทำหน้าบึ้งบ่นใส่ผม ถึงมึงจะมีศักดิ์เป็นน้ากู แต่ยังไงมึงก็อายุน้อยกว่ากูอยู่ดี

“มึงมาขออะไรแม่กู ไปขอแม่มึงนู่น”

“นี่ก็แม่กูเหมือนกัน” ผมแย้ง แม่เลี้ยงผมมา เขาก็คือแม่ผม

“ไม่ใช่เหอะ นี่แม่กูพ่อกู แม่มึงอ่ะพี่แนนนู่น ส่วนพ่อมึงก็ตายไปแล้ว อย่ามามั่ว”

“ไอ้เหี้ยมิว!!!” ผมเรียกชื่อมันเสียงดังด้วยความโมโห ขยับก้าวเข้าไปใกล้ไอ้มิว สองมือกำแน่น ทำไรมันไม่ได้หรอกแม่ยังอยู่ตรงนี้ ไม่งั้นอาจมีฟาดปากกันสักหมัดสองหมัด

“เรียกชื่อกูหาพ่อมึงเหรอ” ไอ้มิวยังไม่รู้สำนึก ทำหน้ายียวนใส่ผม พี่จี้ที่เดินเข้ามาในบ้าน ในมือมีจานกับข้าวหยุดยืนดูผมกับไอ้มิวตีกัน

“เงินที่กูขอแม่กูควรได้ เพราะวันนี้กูทำงานทั้งวันไม่เหมือนมึง” ผมพูดใส่หน้าไอ้มิว

“ทะเลาะอะไรกันอีก มิวก็อย่าไปหาเรื่องซ่ามันได้ไหม พูดจาแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ” พี่จี้ดุไอมิว มันหน้าเสียที่ถูกดุ

“ดูมันนะจี้ ตีกันทุกวัน ป้าล่ะปวดหัว” แม่หันไปพูดกับพี่จี้ “เอ็งก็ไปหยิบกระเป๋าตังมาได้แล้ว นั่งหน้างอเป็นส้นตีนอยู่ได้”

ไอ้มิวที่ทำอะไรไม่ได้เดินกระฟัดกระเฟียดเดินไปหยิบกระเป๋าตังมาให้แม่ แม่หยิบเงินส่งให้ผมสามร้อย จำนวนปกติที่ผมจะได้หากว่าผมช่วยงาน ผมไหว้แม่ก่อนจะลากลับ

“ซ่า” พี่จี้เรียกผมไว้ขณะที่ผมกำลังเดินผ่านบ้านของพี่จี้ “อย่าไปคิดอะไรมากกับคำของพูดของมิวมัน มันก็แค่แหย่เราเล่นเท่านั้นแหละ”

แต่ผมไม่ขำสักนิด

“อืม” ผมทำเพียงแค่ตอบรับเสียงในคำคอสั้นๆ

“ปากมันไม่ดี อย่าไปถือสา”

“ช่างเถอะพี่จี้ ผมขี้เกียจจะใส่ใจ”

“ดีแล้ว”

“ผมไปก่อนนะ”

“อืม ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”

ผมเดินออกมาโบกรถสองแถวนั่งกลับบ้านพี่แนน ตอนมาถึงยังไม่มีใครกลับมาที่บ้าน ผมก็เลยขึ้นห้องไปนอนพักหลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน จนได้เวลาไอ้นุ๊กโทรมาเรียกว่าพวกมันกำลังจะออกไปที่ร้านเรื่องเหล้าหรือร้านของเฮียบีท

ผมไม่ได้อาบน้ำใหม่อีกรอบเพราะเพิ่งอาบมา เปลี่ยนแค่เสื้อผ้าเท่านั้น เหลือบมองเห็นนาฬิกาของพี่ปราบ ตั้งแต่วันนั้นที่พี่ปราบให้ผมมา ผมก็ไม่ได้ใช้มันอีกเลย แม้ว่าเจ้าของมันจะเต็มใจให้ใช้ก็ตาม และไม่รู้ว่านึกยังไง คืนนี้ผมหยิบนาฬิกาของพี่ปราบมาใส่ไว้ที่ข้อมือข้างซ้าย

ลงมาชั้นล่างเห็นพี่แนนกับพี่เบิร์ดนั่งคุยกันหน้าเครียด ผมยกมือไหว้พี่เบิร์ดกับพี่แนน อยู่ร่วมกันมาสักพักหนึ่งยังไม่สามารถทำให้รู้สึกสนิทใจได้ ระหว่างผมกับพี่เบิร์ดเหมือนมีกำแพงขนาดใหญ่ขวางกั้นเอาไว้ ผมพยายามที่จะเข้าหาเขาตามคำแนะนำของพี่ปราบ แต่มันยากเพราะพี่เบิร์ดแสดงออกให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการเป็นครอบครัวเดียวกับผม เพราะอย่างนั้นผมก็ไม่แคร์ บ้านหลังนี้ก็แค่ที่ซุกหัวนอนเท่านั้น

“จะไปไหนซ่า” พี่แนนทักเรียกผมที่กำลังจะออกจากบ้าน

“ไปกินข้าวกับเพื่อน” ผมตอบ

“ไปเอาเงินมาจากไหนล่ะ ถึงจะได้ออกไปกินข้าวข้างนอกกับเพื่อน” พี่เบิร์ดพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง

หน้าผมตึงเมื่อได้ฟัง เอาเงินมาจากไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขา ในเมื่อผมไม่ได้ขอเงินเขามาใช้ “ผมทำงานหาเงินใช้เอง”

“พี่เบิร์ดใจเย็น เดี๋ยวแนนถามซ่าเอง” พี่แนนลูบแขนพี่เบิร์ดให้เขาสงบลง พี่เบิร์ดเลยพ่นลมหายใจเสียงดัง ทำให้ผมสงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“มีอะไรอ่ะพี่แนน”

“วันนี้ได้พาใครมาที่บ้านไหมซ่า” พี่แนนลุกขึ้นมายืนข้างๆผม

“เปล่า ผมไม่เคยพาเพื่อนมาที่นี่อยู่แล้ว”

เพราะปกติผมจะพาเพื่อนไปที่บ้านแม่มากกว่า เพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่มีใครว่า แต่กับบ้านของพี่แนนผมไม่เคยคิดจะชวนเพื่อนมาต่อให้คนๆนั้นจะเป็นคนดีอย่างพี่ปราบก็เถอะ

“แล้วเมื่อเช้าก่อนออกจากบ้าน ปิดบ้านดีหรือเปล่า” พี่แนนถามต่ออีก ผมนิ่งคิดก่อนตอบ

“ผมล็อคดีแล้ว” ผมออกจากบ้านเป็นคนสุดท้าย ก่อนออกก็ดูจนถี่ถ้วนแล้วว่าปิดหน้าต่างล็อคประตูเรียบร้อย ตอนกลับมาผมก็ต้องไขกุญแจเข้ามา ประตูไม่ได้ถูกเปิดทิ้งไว้

“เงินพี่เบิร์ดหายไป เอ็งเห็นบ้างไหม”

อ่อ นี่สินะเรื่องสำคัญที่ทำให้ผมถูกสอบสวนอยู่ในตอนนี้

“ไม่เห็นครับ” ผมตอบตามความจริง

“เอาเงินไปก็พูดมา จะได้ไม่ต้องหาตัวการ” พี่เบิร์ดพูดเสียงแข็ง ผมคิ้วกระตุกทันที

“พี่หมายความว่าไง” ผมถามกลับไปทันที รู้สึกโกรธกับประโยคเมื่อสักครู่นี้

“เงินหายไปจากบ้าน ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเอาไป รู้ไหมว่าเงินก้อนนี้จะเอาไว้โปะค่าบ้านหลังนี้” เสียงของพี่เบิร์ดเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ของผมก็พุ่งสูงขึ้นตามเสียงของเขาเช่นกัน

“ก็เลยจะหาว่าผมขโมยไปเหรอ”

“พี่เบิร์ด ซ่าใจเย็นๆ” พี่แนนพยายามจะห้าม

“ใจเย็นได้ไง! เงินแสนกว่าจะหามาได้ไม่ใช่ง่ายๆ ปกติอยู่กันสองคนวางเงินไว้ตรงไหนไม่เคยหาย ถ้าไม่ใช่ลูกแนนเอาไปแล้วใครจะเอาไป แนนเอาไปเหรอไง!” พี่เบิร์ดหันไปหาเรื่องพี่แนน

“จะบ้าหรือไง เงินค่าบ้านแนนจะเอาไปทำไม” พี่แนนปฏิเสธทันที บรรยากาศตอนนี้มีแต่ความตึงเครียด

“ก็นั่นสิ เงินพี่หาย ถ้าแนนไม่ได้เอาไป แล้วใครจะเอาไปล่ะ บ้านนี้มีอยู่กันกี่คน” คำพูดของพี่เบิร์ดยังคงเจาะจงว่าต้องเป็นผมที่เอาเงินไปแน่นอน ไม่ใช่ใครอื่น

“ผมไม่ได้เอาไป” ผมยืนยันหนักแน่น “ถึงผมจะเหี้ย ทำตัวไม่ดี ผมก็ไม่เคยขโมยเงินใคร”

ผมมองจ้องหน้าพี่แนน เขาเป็นแม่ผม ควรเชื่อผมสิ ถึงตลอดทั้งชีวิตที่ผมโตมาเขาจะไม่ได้เป็นคนเลี้ยงแล้วอยู่กับผมทั้งวันทั้งคืน แต่เขาจะไม่รู้จักผมเลยเหรอ หรือเขาจะเชื่อผู้ชายคนนี้มากกว่าลูกของตัวเอง

“ซ่า...” พี่แนนเหมือนจะพูดอะไร แต่โทรศัพท์ของผมดังขึ้นผมล้วงออกมาดู เป็นเบอร์ไอ้กาน

“เดี๋ยวกูโทรกลับ” ผมรีบตัดบทแล้ววางสาย แต่ยังไม่ทันได้เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ข้อมือซ้ายของผมก็ถูกพี่เบิร์ดกระชาก

“พี่ทำอะไร!” ผมดึงแขนกลับจ้องหน้าพี่เบิร์ดอย่างไม่ยอม อะไรๆผมก็ยอมลงให้ได้ แต่เรื่องนี้ผมไม่มีทางยอมเพราะผมไม่ได้เป็นคนทำ

“ไม่ได้ขโมยเงินไปงั้นเหรอ แล้วนาฬิกาเรือนเกือบแสนนี่ไปเอามาจากไหนห๊ะ”

ข้อมือของผมถูกพี่เบิร์ดบีบจนเจ็บ เขากระชากแขนผมแล้วยื่นไปให้พี่แนนดู พี่แนนก้มมองนาฬิกาบนข้อมือผมก็ทำหน้าอึ้งๆ ดวงตาเบิกกว้างก่อนจะช้อนตามองผมเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง

ผิดหวังเพราะคิดว่าผมขโมยเงินไปซื้อนาฬิกาหรือไง

“ผมไม่ได้ขโมยเงินพี่ และนาฬิกานี้ก็มีคนให้ผมยืมใช้” ผมไม่มีทางยอมเป็นคนผิดเพราะผมไม่ได้เอาเงินเขามา ทุกอย่างผมพูดความจริง

“มีคนให้ยืม เหอะๆ ไปหลอกเด็กอนุบาลเหอะวะ ใครเชื่อก็บ้า”

“ให้ผมโทรหาคนให้มาไหมล่ะ”

“พวกเอ็งก็คงเตี้ยมกันมา เชื่อก็โง่” พี่เบิร์ดยืนกรานอย่างเดียวว่ายังไงก็ไม่เชื่อผม ผมก็เลยหันไปหาพี่แนน

“พี่แนน ผมไม่ได้เอาไป”

“แล้วซ่าไปเอานาฬิกามาจากไหน”

“รุ่นพี่ให้มา พี่แนนก็เคยเจอแล้วนี่”

“ซ่า มันแพงมากเลยนะ ถ้าเอาเงินไปก็บอกแม่มาเถอะ ยอมรับผิดจะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา”

“พี่แนนไม่เชื่อผมเหรอ”

“คือ...” พี่แนนไม่ยอมตอบ ได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ

ผมไม่คิดเลยว่า พี่แนนจะไม่เชื่อผม

“ผมไม่ได้เอาไป จะให้ยอมรับหรือยังไง” ผมก้าวถอยหลัง หัวร้อนไปหมด ร่างกายค่อยๆสั่นเทิ้ม ผมพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้อาลาวาด และไม่ให้ร้องไห้

ถึงจะไม่ได้เลี้ยงผมมา แต่เกือบยี่สิบปีมานี้ เห็นผมเป็นเด็กขี้ขโมยหรือไง

“ไม่ต้องพูดมาก หลักฐานก็เห็นๆกันอยู่ ก็ไอ้นาฬิกาเรือนนี้ ไหนจะยังมีเงินออกไปเที่ยวกินข้าวข้างนอก เอานาฬิกาไปขายซะแล้วเอาเงินมาคืนพี่ จากนั้นพี่จะไม่เอาเรื่อง” พี่เบิร์ดสรุปแล้วก็สั่ง

ผมส่ายหน้ากัดปากแน่น “ผมไม่ขาย เพราะผมไม่ได้ขโมยเงินพี่มาซื้อ”

ของๆพี่ปราบ เรื่องอะไรจะต้องเอามาชดใช้

“เอ๊ะ ไอ้นี่ ฟังพี่นะแนน ถ้าไม่หาเงินมาคืน ต่อให้เป็นลูกแนนพี่ก็จะแจ้งตำรวจจับ”

“พี่เบิร์ด!” พี่แนนร้องเสียงหลง “แนนว่า ใจเย็นก่อนนะ ค่อยๆคุยกันก่อนนะ”

“ยังจะคุยอะไรอีก ลูกแนนเอาเงินพี่ไป แสนหนึ่งเลยนะไม่ใช่ร้อยสองร้อย”

“ผมไม่ได้เอาเงินไป นาฬิกานี้เป็นของรุ่นพี่ผม” ผมกำหมัดแน่น รู้สึกอยากต่อยหน้าคนให้แหก

“ยังไม่ยอมรับอีกหรือไง”

“เงินใครหายก็ไปหากันเอาเอง ผมไม่ได้เอาไป อยากเรียกตำรวจก็เชิญ”

ก่อนที่จะทนไม่ไหว ผมรีบเดินหนีออกจากบ้าน ก้าวเท้าให้เร็วที่สุด ไม่สนใจเสียงเรียกจากพี่แนนที่ดังไล่หลังมา ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ก้มหน้าไม่มองอะไรจนเกือบโดนรถเชี่ยว

“เดินห่าไงไม่ดูทางวะ อยากตายหรือไง!” เสียงกรนด่าของเจ้าของรถไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไร มันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่พี่แนนทำกับผม

ทำไมไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด

“กูไม่ได้เอาเงินไป กูไม่ได้ขโมย” ผมเฝ้าบอกตัวเองไปตลอดทาง

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อผมเดินอยู่ริมถนนใหญ่ ผมหยิบออกมาดูก็เห็นเป็นเบอร์ไอ้หวาย ผมไม่รู้ว่าควรรับดีไหม ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูก การถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยทำให้ผมมึนตึ้บ กระทั่งสายตัดไปหนึ่งสายและมันโทรกลับมาอีกรอบ

ผมกดรับสาย “เออ ว่าไง”

“มึงเมื่อไหร่จะมาเนี่ยไอ้พัช พวกกูรอนานแล้วนะ”

“กำลังไป” ผมตอบนิ่งๆ ถ้าอารมณ์ปกติคงกวนตีนมันกลับไปสักประโยค แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์

“เออ รีบๆมา”

ผมกดวางสาย หายใจเข้าปอดลึกๆ บอกกับตัวเองไว้ ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก โบกรถได้ก็มุ่งหน้าไปหาพวกมันที่ร้านเหล้า

ไปถึงผมก็ทักทายพวกมันแค่คำสองคำ ก่อนจะยกแก้วเหล้าที่ไอ้กานชงส่งมาให้ไม่พูดไม่จา พวกมันดูสนุกสนานต่างจากผม

นั่งกินเหล้าเคล้าเรื่องตลกที่ไอ้กานกับไอ้นุ๊กผลัดกันหยิบยกมาพูด ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้าง หัวเราะตามบ้างเพราะไม่อยากให้ใครผิดสังเกต แม้ว่าไอ้หวายกับไอ้ตูนจะมองผมหลายครั้งก็ตาม

“อะแฮ่ม สวัสดีหนุ่มๆ” เสียงหวานจากบุคคลอื่นเรียกความสนใจ พวกผมหันไปมอง ดูแล้วก็ยังไม่โตเท่าไหร่ แต่ก็เดาอายุไม่ได้

“มีอะไรเหรอคนสวย” ไอ้กานเริ่มเตาะ

“คือ เราสนใจเพื่อนนายอ่ะ” เธอพูด บิดตัวแบบอายๆ พวกผมมองหน้ากันก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ตูน

ผมกระตุกยิ้ม “ของมึงอ่ะ”

“ชอบใครล่ะ” ไอ้หวายเป็นคนถามผู้หญิงคนนั้น

เธอไม่ตอบ แต่ชี้มาทางไอ้ตูน เท่านั้นพวกผมก็หลุดขำ ไม่แปลกใจเพราะไอ้ตูนมันหน้าตาดี ใครเห็นใครก็ชอบ แต่เพราะมันหน้าตาดี เลยไม่ยอมหยุดอยู่ที่ใคร ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน สนองได้หมดถ้าเสนอ

“คิดดีแล้วเหรอสนใจเพื่อนผมคนนี้ หน้าตาดีก็เท่านั้น แต่ฟันแล้วทิ้งนา” ไอ้กานยังคงไม่เลิกแหย่สาวสวย ส่วนไอ้ตูนก็หลุดขำกับคำพูดของไอ้คนผมแสกกลาง

“อย่ามาหลอกกันหน่อยเลย” สาวเจ้ายังคงไม่เชื่อ

“เอ้า พูดจริงก็หาว่าหลอก จะหาคนจริงใจอยากพี่กานคนนี้ไม่มีอีกแล้วน้องเอ้ย”

ผมส่ายหัวให้กับไอ้เพื่อนตัวแสบ พูดกวนประสาทจนผู้หญิงเดินกลับโต๊ะตัวเองแทบไม่ทัน ไอ้กานแสดงสีหน้าเสียดายเล็กน้อยก่อนจะกลับมาชนแก้วเหล้าแล้วบ้าบอตามเดิม

“เป็นกูกูก็กลัว ไอ้ห่า แซวซะขนาดนั้น” ไอ้นุ๊กขำไม่หยุด

“กูออกจะคารมดี” ไอ้กานยังคงไม่สำนึก

“ดีกับผีสิมึง” ไอ้หวายพูดต่อ

“อิจฉากูสิพวกมึง แล้วมึงนี่เป็นอะไรไอ้พัช นั่งนิ่งเป็นหิน ทะเลาะกับเมียมาอีกเหรอไง”

ผมคิดว่าจะรอดแล้วนะ แต่สุดท้ายพวกมันก็ไม่ปล่อยให้ผมรอด

“เปล่า ไม่มีอะไร” ผมพูดปัด ไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกมัน ดีแต่จะทำให้อารมณ์ขึ้น เพราะผมรู้ว่าพวกมันไม่มีทางยอมให้ผมโดนปรักปรำและจะต้องหาทางช่วยผม แต่เรื่องนี้ยังไงก็เป็นเรื่องในครอบครัว ผมต้องจัดการเอง
ถึงเขาจะไม่เชื่อว่าผมไม่ได้ขโมย แต่หากพูดออกไปพวกมันจะต้องรุมว่าพี่แนนแน่ๆ เพราะงั้นก็อย่าพูดดีกว่า

“คิดว่ากูเชื่อไหม มึงพูดว่าไม่มีนั่นคือมี” ไอ้หวายจริงจังทุกครั้งเมื่อเป็นเรื่องผม

“เออน่า กูทะเลาะกับพี่แนน มึงไม่ชินหรือไง”

“มึงดื้อใส่เขาล่ะสิ” ไอ้ตูนพอรู้ว่าเรื่องอะไร มันก็ดูวางใจขึ้น ทุกคนเคยชินแล้วเรื่องผมทะเลาะกับพี่แนน แต่ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ถึงอย่างนั้น ผมก็ยินดีให้พวกมันเข้าใจเพียงแค่นี้

“มึงไม่ดื้อใส่แม่มึงเลยมั้ง” ผมย้อนเข้าให้มั้ง ไอ้ตูนเงียบทันที

“เออจริง มึงน่ะดื้อกับแม่มากกว่าใครในกลุ่มเลยไอ้ตูน แม่มึงบ่นให้กูฟังทุกวัน ล่าสุดนะ แม่มันมาบ่นกับกูว่าไอ้ห่านี่แอบเอารถออกไปขับแล้วเฉี่ยวจนเป็นรอย ไม่ใช่ครั้งเดียวด้วยนะ สองครั้ง โคตรเหี้ย”

“แม่กูบอกมึงเหรอ” ไอ้ตูนทำหน้าตกใจ มันคงไม่คิดว่าแม่มันจะเอาเรื่องมันไปเล่าให้ไอ้นุ๊กฟัง บ้านพวกมันอยู่ใกล้กัน เลยเจอกันบ่อย

เวลาผ่านไปจนเกือบสี่ทุ่ม โทรศัพท์ผมมีสายเข้าสองสายจากพี่แนน แต่ผมไม่ได้รับ มีอีกหนึ่งข้อความจากพลอย ผมกดเปิดอ่าน

-คืนนี้มาหาไหม ไม่มีใครอยู่บ้าน-

นานนับเดือนแล้วเหมือนกันที่ผมไม่ได้ไปนอนค้างที่บ้านพลอย ผมเลยส่งข้อความกลับไปว่าจะรีบไปหา

“พวกมึง กูกลับก่อนนะ จะไปหาพลอยที่บ้าน”

พอพวกมันได้ยินก็ทำหน้าเบื่อหน่ายพร้อมถอนหายใจแรง

“จะไปไหนก็ไป รำคาญมึงไอ้โง่”

ในเมื่อมันไล่แล้ว เราก็ไม่ต้องอยู่ต่อ ผมรีบออกจากร้าน โบกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถสองแถวแล้วเดินเท้าเข้าซอยบ้านพลอย

เจอหน้ากันปุบก็ไม่ต้องพูดให้มากความ พลอยลากผมขึ้นห้องจากนั้นก็เต็มที่กับชีวิต ผมระหว่างที่ทำผมยังไม่คลายความเครียดทำให้ผมไม่สามารถมอบความสุขให้พลอยได้อย่างเต็มที่

“เป็นอะไรซ่า วันนี้ดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว” พลอยถามผมที่นอนหงายอยู่ข้างๆ

ผมกับพลอยไม่เคยมีอะไรปิดบัง ผมเป็นยังไงรู้สึกยังไงผมมักบอกพลอยเสมอ เพราะเธอคือแฟนคือคนที่ผมรัก แม้ว่าหลังๆมานี้ความรู้สึกของพลอยอาจจะเปลี่ยนไป หรืออาจจะเป็นความรู้สึกของผมด้วย ที่ถึงแม้จะรัก แต่ก็เหนื่อยหน่ายเต็มที

“พี่เบิร์ดหาว่าซ่าขโมยเงินไป ซ่าไม่ได้ทำ”

“แล้วทำไมเขาหาว่าซ่าขโมยเงิน” พลอยขยับตัวลุกขึ้นมองหน้าผม

“เงินเขาหายไป เขาก็เลยหาว่าซ่าขโมย พอดีกับรุ่นพี่ให้นาฬิกาเรือนนี้มาเพราะอันที่พลอยให้มันเสีย เขาเลยหาว่าซ่าเอาไปซื้อนาฬิการาคาแพง”

“เงินเขาหายไปเท่าไหร่”

“แสนหนึ่ง” เท่าที่จับใจความได้ พี่เบิร์ดบอกเท่านี้ แต่ใครจะรู้ว่าความจริงแล้วมันเท่าไหร่ แล้วหายจริงไหม ในเมื่อผมไม่ได้เอาไป

“ห๊ะ! แสนหนึ่งเลยเหรอ”

“อืม พลอยคิดว่าซ่าขโมยไปหรือเปล่า”


“พลอยว่าซ่าไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น”
ผมจ้องหน้าพลอย นึกขอบคุณที่เธอยังเชื่อใจผม ต่อให้พวกเพื่อนจะพูดยังไงว่าพลอยไม่ดีว่าพลอยนอกใจ แต่พลอยก็ยังเป็นคนหนึ่งที่รู้จักผมดีว่าผมไม่มีทางขโมยเงินขโมยของใคร

แล้วทำไม...พี่แนนไม่เชื่อ

เพราะผมมันก็แค่เด็กที่เขาไม่ได้ตั้งใจให้เกิด จะไปสู้อะไรกับผัวที่นอนเคียงข้างกันทุกคืน

ผมควรชินได้แล้ว

“แล้วซ่าจะทำยังไงต่อ”

“ไม่ทำอะไร ก็ไม่ได้เอาไป”

“แล้วถ้าเขาเรียกตำรวจมาจับล่ะ”

“เรียกแล้วไง ก็ไม่ได้เอาไป” คำพูดผมเหมือนไม่แย่แส แต่ไม่ใช่ไม่รู้สึก

“ซ่าไม่เอานาฬิกาเรือนนี้ไปขายล่ะ แล้วเอาเงินไปให้เขา จะได้จบๆไป” พลอยเสนอความเห็นที่เหมือนจะพยายามช่วย แต่ทำให้ผมรู้สึกแย่และรับไม่ได้

“ทำแบบนั้นไม่เท่ากับยอมรับหรือไง แล้วนี่ก็ของของคนอื่น เอาของเขาไปขายจะบอกเขาว่ายังไงพลอย พูดอะไรคิดหน่อย” บอกแล้วไง ถึงผมจะเหี้ย ผมก็ทำเหี้ยแค่ตัวผมไม่ได้คิดทำเหี้ยใส่ใคร

“ก็บอกว่าซ่าทำหายไง พี่เขาคงไม่ว่าหรอก ดีกว่าโดนตำรวจจับนะ” ยิ่งพลอยพูดก็ยิ่งฟังดูแย่

“หยุดพูดเลยพลอย ซ่าจะไม่เอานาฬิกาของพี่ปราบไปขาย ต่อให้ตองติดคุกก็ช่าง บอกแล้วไงว่าไม่ได้เอาไป เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่หน้าที่ซ่าต้องมารับผิดชอบ”

ผมตัดบทแล้วพลิกตัวนอนหันหลังให้พลอย เราต่างคนต่างเงียบ ผมไม่ชอบเลยที่พลอยมีความคิดแบบนั้น เรื่องจบแล้วยังไง แต่ต้องกลายเป็นคนผิดและจากนั้นผมก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กขี้ขโมยไปจนตาย ถึงผมจะไม่ฉลาด  แต่เรื่องนี้ก็ไม่โง่

อีกอย่าง ของๆพี่ปราบก็เป็นของพี่ปราบ เขาให้ผมรักษานาฬิกาเรือนนี้ให้ดี ต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นผมก็จะดูแลมันอย่างดีให้สมกับที่พี่ปราบไว้ใจให้ยืม

พลอยหลับไปแล้ว ผมลุกออกจากเตียง คืนนี้คิดว่าจะนอนที่นี่ แต่จิตใจผมไม่สงบเลย ปกติเวลามีเรื่องไม่สบายใจถ้าผมได้พูดคุยกับพลอย ผมก็จะรู้สึกดีขึ้น แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน จิตใจผมยังไม่สงบ ผมอยากคุยกับใครอีกคน


คนที่อาจจะช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้

ผมลุกออกจากเตียง ห่มผ้าห่มให้พลอยก่อนจะเดินออกมาจากบ้านของพลอย กลับไปนอนบ้านแม่น่าจะสบายใจที่สุดแล้วในตอนนี้

มาถึงบ้านแม่ ทุกคนก็หลับกันหมด ผมไขบ้านเข้าไปอย่างเงียบเชียบแล้วปิดประตูล็อคไว้เหมือนเดิม เดินขึ้นห้องนอนตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ผมไม่อาจข่มตาหลับได้

ผมคิดว่าผมอยากคุยกับพี่ปราบ

ชั่งใจอยู่หลายนาที นาฬิกาบอกเวลาว่าดึกแล้ว อีกฝ่ายอาจจะนอนหลับฝันดี แต่ถึงอย่างนั้นนิ้วโป้งก็ยังกดโทรออก ยกโทรศัพท์แนบหูอยู่ไม่นานอีกฝั่งก็รับสาย

“ว่าไง ดึกแล้วทำไมยังไม่นอน” เสียงของพี่ปราบยังคงทุ้มน่าฟังทุกครั้ง และไม่น่าเชื่อว่าแค่ได้ยินเสียงใจผมก็สงบลงได้เยอะ

“พี่ปราบยังไม่นอนเหรอ” ผมถามกลับ

“กูเพิ่งทำงานเสร็จ เลยออกมานั่งจิบไวน์ฟังเสียงคลื่นทะเล มึงได้ยินไหม”

“อืม ผมได้ยิน อารมณ์ดีจังเลยเนอะ”

“กูน่ะอารมณ์ดี แต่เสียงมึงฟังดูไม่ดีเลยนะ มีอะไรไหนเล่าให้พี่ปราบฟังสิครับ”

“ทำไมพี่ถึงรู้” ผมถามเสียงแผ่ว ก้อนหินหนักที่ถ่วงอยู่บนบ่าถูกคำพูดพี่ปราบยกออกไป

“ถึงจะรู้จักมึงไม่นาน แม้จะแค่น้ำเสียงแต่กูก็เดาออกว่ามึงต้องมีเรื่องไม่สบายใจ”

“พี่ปราบ”

“หืม”

“พี่ปราบจะกลับมาเมื่อไหร่” แทนที่ผมจะเล่าเรื่องวันนี้เลย ผมกลับถามเรื่องอื่นก่อน

“อีกสามวัน ทำไม คิดถึงกูเหรอ”

ได้ยินเสียงพี่ปราบขยับตัวเบาๆ แทรกตามมาด้วยเสียงลม ถ้าได้อยู่ตรงนั้นคงจะรู้สึกดี

“เงียบเลยนะมึง ไม่พูดว่าคิดถึง กูไม่กลับนะ”

“เรื่องของพี่สิ ตลกหรือไง ผู้ชายที่ไหนบอกว่าคิดถึงกัน” มันแปลก ผมไม่พูดหรอก คิดถึงเหรอ ชวนขนลุกจะตายไป

“งั้นเหรอน้องซ่า”

“อืม แต่ว่า..ผมอยากเจอพี่นะ”

“หึหึ กูจะรีบกลับแล้วกัน สรุปโทรมานี่มีอะไร”
คราวนี้ผมเงียบจริงๆ ทั้งอยากเล่าและไม่อยากเล่า เหมือนเด็กที่กำลังจะโทรไปฟ้องพี่ปราบว่าตัวเองถูกรังแก แต่ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไง ผมไม่ได้ทำผิด ไม่จำเป็นต้องเดือดเนื้อร้อนตัว แต่การที่คนในครอบครัว คนที่ให้กำเนิดผมมาทำเหมือนเชื่อว่าผมทำผิด มันทำให้ผมรับไม่ได้

ยากที่จะยอมรับว่าพี่แนนเชื่อคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง

“ซ่า...เล่าให้พี่ฟังสิครับ”

เพียงแค่ถ้อยคำที่พร้อมจะรับฟังกับน้ำเสียงอ่อนโยน ผมก็เล่าออกไปจนหมดเปลือก แถมเผลอแสดงความอ่อนแอให้พี่ปราบรับรู้เป็นครั้งที่สอง ไม่ไหวเลยจริงนะมึง



................................

ขอบคุณคนอ่านที่ยังติดตามและคอมเม้นมาให้นะคะ ริริอ่านทุกคอมเม้นนะคะ :pig4:
มารอดูกันว่า ดอกบัวใต้โคลนตมดอกนี้ จะโผล่พ้นน้ำและผลิบานอย่างบริสุทธิ์ได้หรือไม่
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ :กอด1:



หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: pearlypear ที่ 05-03-2017 22:08:23
เกลียดคนแบบพี่แนนอ่ะ  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 05-03-2017 22:49:33
ต่อให้เป็นแม่ แต่ไม่เคยเลี้ยงดูลูก
หลงแต่ผู้ชาย ก็คงจะไม่เชื่อซ่าหรอก
สงสารซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-03-2017 23:06:21
สงสารซ่า แต่สิ่งที่ซ่าพยายามแสดงออกว่าเกเรก่อนหน้านี้ คนไม่สนิทไม่รู้จักจริง ๆ อย่างแนนก็คงเชื่อยากละว่าซ่าไม่ได้ขโมย
รอดูว่าคราวนี้พี่ปราบจะทำยังไง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-03-2017 23:22:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 05-03-2017 23:37:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-03-2017 23:40:09
คือแบบ พอเหมาะพอดีไปไหม เห้อออ สงสารซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 06-03-2017 00:03:55
โธ่ น้องซ่าของพี่ปราบ พี่ปราบรีบกลับมาช่วยแก้ปัญหาเร็ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 06-03-2017 00:16:04
พี่ปราบกลับมาเหอะ น้องกำลังตเองการที่พึ่ง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-03-2017 00:23:22
 :fire: ดั่งไฟซุมทรวง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 06-03-2017 00:42:05
สงสารซ่าอ่ะครอบครัวเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
แต่เหมือนไม่มีใครเข้าใจซ่าเท่าไร
ถึงกับโทรหาพี่ปราบฟินนนน :impress2: :impress2:

 :katai5: :katai5: :katai5:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 06-03-2017 01:34:04
คอนนี้พี่ปราบคือคนที่ซ่าไว้ใจมากที่สุดแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 06-03-2017 01:47:53
สงสารซ่านะ แต่ มันพอเหมาะพอดี เรากลับคอดว่า ไอ้พ่อเลี้ยงนั่นละ เอาเงินไปใช้อย่างอื่น แล้วเห็นนาฬิกาซ่าพอดีเลยสร้างเรื่อง หวังว่าอะไรจะดีขึ้น

แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะซ่าทำตัวเองด้วย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-03-2017 02:29:36
ไอ้พ่อเลี้ยงมันไม่อยากให้ซ่าอยู่ที่บ้านด้วยรึเปล่า เลยกุเรื่องว่าเงินหาย :m16:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 06-03-2017 03:38:19
พ่อเลี้ยงอยากได้เงินเลยบีบให้ซ่าเอานาฬิกาไปขายสินะ :serius2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 06-03-2017 07:15:39
แง๊ๆๆๆ ซ่าน่าสงสารมากอ่ะ เกลียดแนนกับไอ้เบิร์ดว่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 06-03-2017 11:51:02
นายขุดหลุมดักเด็ก โดยใช้ความจดีเป็นเหยื่อล่อ ...น่ากลัวชะมัด
แล้วซ่าก็ค่อยๆ ขาดไม่ได้ เรื่อยๆ ถถถถถ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 06-03-2017 19:50:38
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 06-03-2017 21:24:25
ชีวิตซ่าไม่ซ่าสมชื่อเลยนะ เศร้าเหลือเกิน
หวังว่าพี่ปราบจะปราบความเศร้าให้น้องซ่าได้นะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-03-2017 21:55:15
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 07-03-2017 01:25:53
ซ่าจะยังไงก็ตามพี่ปราบยังคงอยู่ข้างๆเสมอ

สู้ๆนะซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-03-2017 06:19:49
ซ่าเอ้ย น่าสงสารจังเลยลูก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-03-2017 08:52:34
ชีวิตซ่าถ้าไม่มีปราบเป็นที่พึ่งจะเป็นยังไง

มันยากนะกับการอยู่กับครอบครัวแบบนี้
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 07-03-2017 12:36:49
โอ้โหหห ไปรับซ่ามาแล้วไม่เลี้ยงดู ไม่ทำอะไรเลยมีแต่ด่านี่นะ อิพ่อเลี้ยงก็นะ มันเอาเงินไปเลี้ยงผู้หญิงป่ะน่ะ
ขอให้พี่ปราบกลับมาไวๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 07-03-2017 12:38:41
พี่ปราบนี่เหมือนแม่งูฟูมฟักไข่เหมือนกันนะเนี่ย ใครมาฉกไปคงน่าดู 55555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 12-03-2017 21:50:43
ชีวิตย้อนแย้งจริงเลยซ่า แต่อยู่มาได้แบบนี้ ไม่มีเรื่องยา ก็ดีแล้ว
เข้าใจซ่าเลย แม้แต่แม่ที่เกิดมา ยังไม่ดูแล ยังไม่เชื่อใจ จะแปลกอะไร ถ้ายายก็รักลูกตัวเองมากกว่าหลาน

ปราบเข้ามาถูกจังหวะนะ เพราะอยู่ในช่วงพีคพอดี
ปราบคงช่วยน้องได้เยอะแน่ แถมตอนนี้ซ่าสบายใจที่ได้คุยกับปราบด้วยนะ

ปราบทำเนียน แต่ก็ทำดี ดูอบอุ่นนะ ถึงจะแฝงด้วยโหมดโหดตลอด แต่ก็มีวิธีปราบเด็กซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่10 :: 5/3/2017 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-03-2017 22:32:09
อยากอ่านแล้ว  :ling1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-03-2017 20:22:01
ปราบซ่า
ตอนที่11

[ซ่า]
พี่ปราบเงียบไปเกือบห้านาที ผมเช็ดน้ำตาบนหน้าออก เกลียดตัวเองที่บังคับน้ำตาไม่ได้ ไม่อยากกลายเป็นคนอ่อนแอ

“เฮ้อ” จากที่เงียบไปพี่ปราบก็ส่งเสียงถอนหายใจตอบกลับมา “ตอนนี้อยู่ที่ไหน”

“อยู่บ้านแม่ ผมไม่อยากไปกลับไปนอนบ้านพี่แนน”

และผมไม่อยากกลับไปอยู่ที่นั่นอีกแล้ว

“ดีแล้ว อยู่บ้านยายมึงไปก่อนแล้วกัน ไว้กูจะรีบกลับไป แล้วค่อยไปขนของออกมาจากบ้านแม่มึงล่ะกัน”

ผมแปลกใจเล็กน้อย “พี่เชื่อว่าผมไม่ได้เอาไปเหรอ”

“แล้วมึงเอาไปหรือเปล่าล่ะ”

ผมส่ายหน้า ก่อนจะรู้สึกตัวว่าทำไปพี่ปราบก็ไม่เห็น “ผมไม่ได้เอาไป”

“กูเชื่อ”

บอกไม่ถูกว่ารู้สึกดีมากขนาดไหนที่มีคนเชื่อผมว่าผมไม่ได้ขโมยเงินของพี่เบิร์ด รู้สึกดีใจมากกว่าตอนที่พลอยบอกเสียอีก

“กูจะรีบเคลียร์งานแล้วรีบกลับไปยืนยันตัวตนว่านาฬิกานั้นเป็นของกู ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องเครียด มึงไม่ได้ทำอะไรผิดก็ทำตัวตามสบาย ถ้าแฟนใหม่แม่มึงจะเรียกตำรวจก็ให้เรียกมา เดี๋ยวกูส่งคนของกูไปจัดการให้”

น้ำใจที่พี่ปราบหยิบยื่นให้ผมรู้สึกดีและอยากขอบคุณเขามากๆที่ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาดีกับผมเสมอ แต่ว่าผมจะรบกวนเขาไปมากกว่านี้ไม่ได้ ถึงผมจะไม่ใช่ผู้ดี แต่ความเกรงใจก็ยังมีอยู่บ้าง

“ไม่เป็นไรหรอกพี่ พี่แค่มาบอกเขาก็พอว่านาฬิกานี้เป็นของพี่ แล้วก็ผมคงคืนให้พี่เลย มันไม่เหมาะที่จะอยู่กับผมหรอก ส่วนเรื่องข้าวของ พรุ่งนี้ถ้าผมมีอารมณ์คงเข้าไปเก็บแล้วย้ายออกมา ไม่อยากทิ้งไว้นาน” ผมบอกสิ่งที่ตัวเองคิดไว้เสร็จสรรพ

“แน่ใจ”

ก็...ยังไม่รู้

“อืม” แต่ผมก็เลือกที่จะโกหก ยังไงซะนี่เป็นปัญหาของผม ผมย่อมต้องจัดการเอง ตอนที่กดโทรหาพี่ปราบจิตใจผมก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รู้แค่ว่าผมอยากได้คนที่เข้าใจผมจริงๆ คนที่รับฟังและเชื่อว่าผมไม่ได้ทำผิดอะไร

“งั้นก็ตามใจ แต่จำไว้ว่าถ้ามีอะไรไม่โอเคให้รีบโทรหากูทันที เข้าใจไหม” พี่ปราบสั่งเสียงเข้ม

“พี่อาจจะทำงาน” ผมคาดเดา ก็เขาไปทำงานนิ ไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่จะว่างตลอดเวลา

“กูพกโทรศัพท์ตลอดเวลา โทรมาได้ทุกเมื่อ”

“...”

“รับปากกูสิ”

“ครับ ถ้าผมโมโหจนทนไม่ไหวจะโทรไปหานะ”

“เด็กดี”

ห๊ะ! เมื่อกี้พี่เขาเรียกผมว่าอะไรนะ

“ขนลุกว่ะพี่ เด็กดงเด็กดีอะไร”

“หึหึ สบายใจแล้วสิ” เสียงของพี่ปราบกลับมารื่นหูอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เสียงเขาค่อนข้างเข้มและดูจริงจัง

“ก็โอเค” ถ้าไม่คิดก็จะไม่หงุดหงิด คิดว่านะ

“ถ้างั้นมึงก็นอนได้แล้ว กี่โมงแล้ววะเนี่ย ตีสาม ไปๆ วางสายแล้วก็นอนซะ”

“ครับ พี่ก็ด้วย”

“อืม ฝันดีนะมึง อย่านอนร้องไห้ขี้มูกโป่งล่ะ”

“โหยพี่ นี่ใคร ไอ้ซ่านะครับ รุ่นนี้ไม่ร้องหรอก” พูดโม้ไปงั้นแหละครับ ใครจะยอมเสียหน้า ช่วยดูด้วย

“เหรออ งั้นเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วกูคงหูฟาดได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ใส่”

ถึงพี่ปราบจะเป็นรุ่นพี่ที่น่านับถือมาก พึ่งพาได้ดี แต่ก็กวนตีนสุดๆเช่นกัน

“แค่นี้นะพี่” ผมตัดบทและกดวางสาย

จากนั้นความเงียบก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่มีเสียงของเขาดังข้างๆหู รู้สึกโหว่งในอกแปลกๆ ผมเป็นอะไรวะ สงสัยอารมณ์ยังไม่คงที

“เฮ้อ ช่างแม่ง กูไม่คิดล่ะ ใครอยากทำอะไรทำไป กูไม่ได้ทำเป็นคนขโมยสักอย่าง หลักฐานก็มี กลัวห่าไรวะ” ผมบ่นกับตัวเองส่งท้ายก่อนจะหลับตาลงแล้วฝืนตัวเองให้นอนเสียที





วันถัดมาผมตื่นสาย ถึงแม้จะบอกตัวเองว่าไม่ต้องคิดอะไร แต่กว่าจะข่มตานอนได้ก็เป็นชั่วโมง และที่ตื่นก็ไม่ได้ตื่นเอง แต่ไอ้มิวมาปลุก

“ไอ้ซ่า มึงจะตื่นไหม แม่เรียกหลายรอบแล้วนะ” ไอ้มิวทำเสียงขุ่นกระชากผ้าห่มออกตัวผม

“เออ เดี๋ยวกูลงไป” ผมแย่งผ้าห่มกลับคืนมา เอาจริง ผมว่าผมยังไม่พร้อมตื่นตอนนี้ ตายังลืมไม่ขึ้นเลย

“เมื่อกี้มึงก็พูดแบบนี้แล้วก็นอนต่อ เดือดร้อนกูต้องขึ้นมาปลุกอีก”

“กูง่วงไอ้เหี้ย” ผมขึ้นเสียงหงุดหงิด ลืมตาก็ลืมไม่ขึ้น แถมเวียนหัวอีกต่างหากกู

“แต่เมื่อวานมึงก่อเรื่องไว้” ไอ้มิวพูดเสียงเอื่อย ยืนพิงกรอบประตู

ผมตาสว่างทันที หัวโล่งไปแวบก่อนจะกลับมาปวดอีกรอบ ถ้าไอ้มิวพูดมาแบบนี้ก็แสดงว่ารู้กันทั้งบ้านอย่างไม่ต้องสงสัย

“พี่แนนโทรมาพูดอะไรอ่ะ” ผม ลุกขึ้นจากเตียง คว้าเสื้อยืดที่ถอดทิ้งไว้เมื่อคืนมาสวม
 
“โทรมาบอกว่าเงินหาย พี่เบิร์ดเขาสงสัยมึง” ไอ้มิวเล่า ก่อนจะใช้สายตามองประเมินมาที่ผม “มึงเอาไปจริงเหรอ”

ผมจ้องตามัน “มึงคิดว่าไงอ่ะ กูดูร้อนเงิน?”

“ก็จริง มึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเยอะขนาดนั้นนี่” ไอ้มิวยักไหล่แล้วเดินลงบันไดไป

ผมเดินตามไอ้มิวลงมาข้างล่าง แม่กับพ่อนั่งข้างกันบนโซฟาไม้หน้าเครียด พอหันมาเห็นผมแม่ก็ถอนหายใจใส่พร้อมกับส่ายหน้า

“วันๆมีแต่เรื่องให้กูปวดหัวจริงเลยพวกมึงนี่” แม่บ่น ผมทำหน้าบึ้งทันที ปัญหาพวกนั้นผมไม่ได้เป็นคนหามาสักหน่อย โดนยัดเยียดให้ทั้งนั้น

“มึงได้เอาเงินเขาไปหรือเปล่าซ่า” พ่อถามผมแทน น้ำเสียงไม่ดุไม่ต่อว่า เหมือนถามเรื่องธรรมดาทั่วไป

“ผมไม่ได้เอาไป เงินเขาเก็บตรงไหนผมยังไม่รู้ ไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายกับของในบ้านเขาหรอก” ผมตอบพ่อตามความจริง

“แล้วมันโทรมาพูดได้ไงว่ามึงเอาไป” แม่ดูอารมณ์ไม่ดีมาก

"แม่ ผมไม่ได้เอาไปนะ"

"แล้วทำไมไอ้เบิร์ดมันสงสัยมึง" แม่ถาม


"พี่แนนเขาไม่ได้บอกเหรอว่าทำไม" ผมคิดว่าเขาน่าจะบอกจนหมดแล้วเสียอีก

"เขาบอกกูแค่ว่า เงินค่าบ้านไอ้เบิร์ดหายไปแล้วเขาสงสัยมึงเพราะมึงอยู่บ้าน แล้วมึงก็เดินออกมาจากบ้านแล้วไม่กลับไป เมื่อคืนแนนมันโทรหามึงก็ไม่รับสาย"

ใครจะไปอยากรับ

"เงินพี่เบิร์ดผมไม่เคยเห็น ไม่เคยเข้าห้องพี่แนนกับพี่เบิร์ดด้วย ปกติเขาก็ล็อคห้องตลอดผมจะ...."

จริงสิ พี่แนนล็อคห้องตลอดตอนที่ไม่อยู่ ผมเคยเผลอไปเคาะเรียกเพราะคิดว่าพี่แนนนอนอยู่บนห้อง ปรากฎว่าห้องล็อคและพี่แนนก็ออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมา

"ถ้างั้นมึงก็ไม่ได้เอาเงินไป แล้วมันซักไซ้อะไร" พ่อพูดบ่นๆ

"ก็รุ่นพี่ให้นาฬิกาผมมายืมใช้เพราะของผมพัง แล้วราคามันก็แพง พี่เบิร์ดเห็นเลยคิดว่าผมขโมยเงินเขาไปซื้อไง แต่มันของรุ่นพี่ผม จะให้ผมไปขายแล้วเอาเงินมาคืน ฝันไปเถอะ"

ยิ่งผมแน่ใจว่าตัวเองกำลังเป็นแพะรับบาปก็ยิ่งโมโห

"นาฬิกาอะไร" แม่ถามอย่างสงสัย ผมถอนหายใจเบาๆ แอบเคืองเจ้าของนาฬิกาเจ้าปัญหา ถ้าวันนั้นผมยืนยันจะไม่รับมาก็คงดี

"ใช่นาฬิกาที่อยู่บนหัวเตียงป่ะ ยี่ห้อนี้แพงมากเคยเดินผ่านเคาน์เตอร์ในห้าง บางเรือนเป็นแสนเป็นล้านก็มีนะแม่" ไอ้มิวทำเสียงตื่นเต้นชี้มือชี้ไม้ไปมา

"ซื้อนาฬิกาอะไรเป็นแสนเป็นล้าน ทำยังกับเงินหากันง่าย พวกคนรวย" แม่ผมเริ่มบ่นไปเรื่อย

"แล้วนาฬิกานั้นตกลงเป็นของใคร" พ่อยังไม่ลืมว่าเรากำลังคุยเรื่องอะไรอยู่

"ของรุ่นพี่"

"รุ่นพี่คนไหน ชื่ออะไร" แม่หันมาสนใจบ้าง

"แม่ไม่รู้จักหรอก" คงไม่ทีใครคาดถึงว่าผมจะมีรุ่นพี่ที่เป็นคนดีมีระดับต่างจากตัวเองราวฟ้ากับเหว

“แล้วมึงไปรู้จักเขาได้ยังไง มึงแน่ใจนะว่านาฬิกานั่นของรุ่นพี่มึง” พอแม่พูดแบบนี้จากที่อารมณ์เริ่มจะเย็นลงแล้วก็ดีดตัวขึ้นสูงอีกครั้ง

“ถ้าแม่ไม่เชื่อเดี๋ยววันหลังผมพามาหาเลย ให้เจ้าตัวเขามายืนยันว่านั่นเป็นนาฬิกาของเขา”

“อืม บอกให้เขามาล่ะกัน ไอ้แนนกับไอ้เบิร์ดมันจะได้หายข้องใจ” พ่อตัดบท ก่อนจะลุกไปทำงาน ส่วนผมแม้จะง่วงนอนแต่ตอนนี้คงนอนต่อไม่หลับแล้ว ก็เลยลุกขึ้นไปอาบน้ำกินข้าวจากนั้นก็ไปช่วยพ่อทำงาน

พอได้ทำงานหนักๆเหนื่อยๆ ผมก็ลืมเรื่องเงินแสนของพี่เบิร์ดที่หายไปได้ชั่วขณะ จนกระทั่งเย็นผมทำงานเสร็จและได้เงินค่าแรงจากแม่ คืนนี้ผมคิดว่าผมคงไม่ออกไปไหน เพราะอยากจะเก็บเงินนี้เอาไว้เป็นค่าเช่าหอพักใหม่ ผมไม่มีทางกลับไปอยู่บ้านพี่แนนอีกแล้ว ก่อนจะเปิดเทอม นอกจากทำงานกับแม่แล้ว ยังมีเงินที่ได้จากการทำงานในร้านสะดวกซื้ออีก

ช่วงค่ำพี่แนนกับพี่เบิร์ดมาที่บ้าน ครอบครัวผมกำลังนั่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย แค่เห็นหน้าเขาเท่านั้นผมก็หมดอารมณ์ หมดสิ้นความอยากอาหาร คงไม่ต้องบอกหรอกว่าเขามาที่นี่ทำไมถ้าไม่ใช่เรื่องเงิน

“ตามมาหาเรื่องถึงที่นี่” ผมบ่นลอยๆ พ่อกระแอมในคอใส่ผมให้ผมเงียบ

“กินข้าวมากันยัง มาๆ มากินข้าว” แม่เอ่ยปากชวนพวกเขา

“ไม่เป็นไรแม่ เดี๋ยวแนนกับพี่เบิร์ดกลับไปกินที่บ้าน” พี่แนนพูด

พี่แนนกับพี่เบิร์ดนั่งรอที่โซฟาไม้จนกระทั่งเรากินข้าวเย็นเสร็จ ผมกับไอ้มิวช่วยกันล้างจาน ส่วนแม่กับพ่อก็นั่งคุยอยู่กับพวกเขา

“แม่คงรู้เรื่องจากแนนแล้วว่าเงินค่าบ้านผมหาย” พี่เบิร์ดอ้าปากพูดเรื่องที่ทำให้เขามาที่นี่ในวันนี้ทันทีเมื่อมีโอกาส

“อืม เมื่อเช้าแนนโทรมาบอกแม่แล้ว และบอกด้วยว่าเอ็งคิดว่าไอ้ซ่าขโมยเงินไป” แม่พูด

“คือผมก็ไม่ได้อยากพูดว่าซ่าขโมยไปนะครับ แต่เราอยู่กันแค่สามคน เงินนั่นผมก็ไว้โปะค่าบ้าน เมื่อวานตอนเช้าก่อนผมออกจากบ้านเงินยังอยู่เลย กะว่าวันนี้จะเอาไปจ่าย ตกเย็นพอกลับมาเงินก็หายไปแล้ว และซ่าก็กลับไปที่บ้าน อยู่บ้านแค่คนเดียว ผมดูแล้วบ้านช่องก็ไม่มีร่องรอยการถูกงัด ในเมื่อซ่ายืนยันว่าก่อนออกจากบ้านล็อคบ้านเรียบร้อยแน่นหนา ถ้าขโมยเข้าบ้านก็ต้องมีร่องรอยงัดเข้า แต่นี้ไม่มีแล้วแม่จะให้ผมคิดว่าใครเอาเงินไป”

“เอ็งไม่คิดว่าเป็นแนนเอาไปหรือไง” พ่อที่นั่งเงียบมานาน พอเอ่ยพูดก็ทำให้พี่แนนกับเบิร์ดถึงกับอึ้ง

“พ่อ! ทำไมพ่อพูดอย่างนี้ล่ะ แนนจะขโมยเงินค่าบ้านตัวเองได้ยังไง” พี่แนนโวยวายขึ้นด้วยความไม่พอใจ

“ไอ้ซ่ามันอาจจะไม่ใช่เด็กดี ทำตัวเกเร แต่เรื่องเงินเรื่องทองข้ามั่นใจว่ามันไม่ขโมยแน่ๆ ข้าเลี้ยงมันมากับมือ เอ็งไม่ได้เป็นคนเลี้ยงนะแนน ข้าก็เข้าใจว่าเอ็งคงไม่รู้จักลูกของเอ็งดีพอ...”

“แต่คนเราถ้ามันหน้ามืดอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น” พี่เบิร์ดว่ากัดใส่ผม

“รู้ดีแบบนี้เป็นเองหรือเปล่า” ผมก็พูดขึ้นลอยๆบ้าง

“ซ่า เฉยๆไปไม่ต้องพูด” พี่แนนหันมาดุผม

ให้ผมไม่ต้องพูดเหรอ ในเมื่อผมเป็นคนที่เดือดร้อนจากเรื่องนี้ เหอะ โคตรดี

“แล้วพวกเอ็งจะเอายังไง มันบอกว่ามันไม่ได้เอาไป” แม่เริ่มอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด เพราะแกไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย

“แต่เงินผมหายไปนะแม่” พี่เบิร์ดขึ้นเสียงใส่แม่ ผมชักสีหน้าใส่ทันที ด่าว่าผมกล่าวหาผม ผมยังไม่โกรธเท่ากับทำมารยาทแย่ใส่แม่

“พี่เบิร์ด ใจเย็นๆ” พี่แนนรีบเกาะแขนห้ามพี่เบิร์ด

“ใจเย็นอะไรล่ะ ใครเอาไปก็น่าจะรู้ตัว รีบๆเอานาฬิกาไปขายแล้วเอาเงินมาคืน แล้วจะไม่ถือสาหาความ”

ที่มาวันนี้ก็เพราะต้องการสิ่งนี้สินะ จะให้ผมขายนาฬิกาของพี่ปราบให้ได้ คนอะไรโคตรหน้าด้าน

“โทษที่เถอะพี่เบิร์ด ผมไม่ได้เอาเงินพี่ไป ผมไม่เคยอยากได้ของๆคนอื่น ทำไมพี่ต้องมาอยากได้ของที่ไม่ใช่ของๆตัวเองด้วย”

“หมายความว่าไง แนนเลี้ยงลูกยังไงให้ก้าวร้าวขนาดนี้เนี่ย” พี่เบิร์ดหันไปว่าพี่แนน

“เฮ้ย! เลิกเถียงกันได้แล้ว กูรำคาญ” พ่อโพล่งขึ้นเสียงดังด้วยความโมโห ทุกคนจึงหุบปากแล้วนั่งกันเงียบๆ มีเพียงเสียงลมหายใจฮึดฮัดบ้างบางๆ

“ซ่า รุ่นพี่เอ็งจะมาเอานาฬิกาวันไหน” พ่อหันมาถามผม

“พี่เขาลงไปทำงานต่างจังหวัด กลับมาแล้วจะแวะมา” ผมตอบ

“แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นของรุ่นพี่จริงๆ ไม่ได้แอบอ้าง” พี่เบิร์ดถาม

“เขาเป็นเจ้าของ เขาต้องมีพวกกล่องพวกใบประกันอะไรพวกนี้อยู่แล้ว พี่ไม่ต้องห่วงหรอก รุ่นพี่ผมเขาไม่กระจอก” ผมพูดใส่หน้าแม่งเลย กวนตีน หาเรื่องจะเอาของๆคนอื่นให้ได้

“ถ้างั้นก็รอให้รุ่นพี่ไอ้ซ่ากลับมาก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน ไม่งั้นก็หาหลักฐานมา จากนั้นเอ็งจะจับมันเข้าคุกหรือจะให้มันหาเงินมาใช้กูจะไม่ยุ่งเลย” แม่พูดจบก็โบกมือไล่ ลุกขึ้นเดินเข้าห้องไปนอน

“แล้วผมจะต้องรออีกกี่วัน”

“กี่วันมึงก็ต้องรอ กูปวดหัวแล้ว” แม่ว่าเข้าให้

“กลับกันเถอะพี่เบิร์ด ให้พ่อกับแม่พักผ่อน” พี่แนนดึงแขนพี่เบิร์ดให้ลุกขึ้น มืออีกข้างก็คว้ากระเป๋าสะพายเตรียมกลับ

“ไปๆ กลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว” พ่อลุกขึ้นเดินออกไปส่งพี่แนนกับพี่เบิร์ดข้างนอกพร้อมกับปิดล็อครั้วบ้าน

หมดไปอีกวัน คืนนี้ผมไม่ได้โทรหาพี่ปราบ และพี่เขาก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรมา ผมนอนมองเพดานแล้วก็หลับไปด้วยจิตใจที่ค่อนข้างจะเหน็ดเหนื่อย





ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-03-2017 20:22:51

สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดก็คือถูกรบกวนการนอนหลับ เสียงโทรศัพท์ร้องดังตั้งแต่เช้าตรู่ ร้องจนดับไปแล้วครั้งหนึ่ง ผมตื่นมารับไม่ทันเลยไม่ได้สนใจ แต่ไม่กี่นาทีต่อมาก็ดังขึ้นมาอีกรอบ ผมลืมตาขยี้หัวอย่างหงุดหงิด ขัดใจที่โดนก่อกวน

หยิบโทรศัพท์มาดูจากที่คิดว่ารับสายแล้วจะด่าคนโทรมาสักสองสามคำ กลายเป็นว่าต้องปิดปากเงียบแล้วกดรับสายอย่างรีบเร่ง

“พี่ปราบ” ผมเรียกคนปลายสาย

“รับสายช้า เพิ่งตื่นหรือยังไง” เสียงพี่ปราบฟังดูสบายอกสบายใจ

“ดูนาฬิกาด้วยครับคุณชาย นี่เพิ่งกี่โมง” ผมกระแหนะเข้าให้ เจ็ดโมงเช้ามันใช้เวลาที่เด็กปิดเทอมอย่างผมควรตื่นแล้วเหรอ

“หึหึ คุณชายงั้นเหรอ ปากดีแบบนี้คือไม่เครียดแล้ว เรื่องที่เงินบ้านมึงหายกูไม่ต้องรีบกลับไปจัดการแล้วว่างั้น”

“อ้าวเฮ้ยพี่ ได้ไง รีบกลับมาเลยนะ มาเอานาฬิกาเจ้าปัญหาของพี่ไปเลย”

“เดี๋ยวนะมึง ว่านาฬิกากู”

“ว่าไม่ได้หรือไง”

“เออ ว่าไม่ได้”

“ไม่รู้ล่ะ รีบกลับมาเลยด้วย”

“บอกคิดถึงกูก่อนสิ แล้วเดี๋ยวกูรีบกลับไปหาเลย”

กวนตีน ผมขยับปากบ่นเบาๆไม่ให้เจ้าตัวได้ยิน

“ว่าไง ถ้าพูดนี่กูเก็บของกลับเลยนะ”

“อย่าแกล้งกันได้ไหมพี่ ผมร้อนใจจะตายห่าอยู่แล้ว”

“กูไม่ได้แกล้งสักหน่อย”

“จิ๊ เออ ผมคิดถึง พอใจยัง กลับมาให้ไวด้วย ไม่งั้นผมจะเอานาฬิกาพี่ไปขาย”

“ฮ่าๆๆ กูอยู่หน้าปากซอยบ้านมึงล่ะ แต่เข้าไปไม่ถูก รีบออกมารับกูล่ะเด็กน้อย”

“ห๊ะ!” ผมอุทานตกใจ ปลายสายวางไปแล้ว ผมจะร้องเรียกถามไถ่ว่าสิ่งที่เขาพูดหมายความว่ายังไงก็ไม่ทัน สมองจึงเริ่มประมวลสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

“อยู่หน้าปากซอย? ปากซอยบ้านกูเนี่ยนะ” ไม่ใช่บ้านพี่แนนใช่ไหม จำได้ว่าพี่เขาเคยมารับผมที่นี่ครั้งหนึ่งแต่ผมออกไปยืนรอที่ปากทาง ไม่ได้ให้เขาขับเข้ามา

เป็นไปได้เหรอ

ขณะที่กำลังพึมพำงงงวยกับตัวเอง เสียงเตือนข้อความเข้าก็ดังขึ้น ผมก้มมองมือถือในมือแล้วเปิดอ่าน

-รีบออกมา อย่ามัวแต่งง-

ผมดีดตัวลุกออกจากเตียงทันที หยิบเสื้อผ้ามาใส่แบบลวกๆ วิ่งลงไปแปรงฟันล้างหน้าจากนั้นก็ก้าวเท้าวิ่งสุดฝีเท้าไปที่หน้าปากซอย

รถที่จอดอยู่ เป็นรถพี่ปราบจริงๆ

ผมเดินไปเคาะกระจกฝั่งคนขับ กระจกค่อยๆเลื่อนเปิดเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเข้มดูดีที่ดวงตาถูกแว่นกันแดดบดบัง จากนั้นมุมปากหยักก็กระตุกยิ้มใส่คนมอง

“วิ่งออกมาเลยเหรอ ต้องคิดถึงกูมากขนาดไหนเนี่ย”

ผมไม่ได้สนใจคำพูดของพี่ปราบซักเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ที่ผมได้เห็นเขา แม้ปัญหาจะยังไม่ได้ถูกแก้ไข ทว่าผมรู้สึกว่าเคราะห์กรรมของผมกำลังจะจบลงในเร็วๆนี้

มีพี่ปราบคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยผมได้

“ซ่า ขึ้นรถมา แล้วค่อยมาจ้องกู”

“ห๊ะ อ่อ ครับ” ผมได้สติก็รีบเดินไปเปิดประตูรถขึ้นนั่งข้างๆพี่ปราบ

“บอกทางเข้าบ้านด้วย” พี่ปราบพูด ก่อนจะขับรถเข้าซอย จนมาจอดที่หน้าบ้าน มีแม่นั่งอยู่ที่เฉลียงหน้าบ้านด้านใน ส่วนพ่อน่าจะทำงานอยู่ในโรงเก็บของ

ผมลงจากรถพร้อมพี่ปราบ ในมือของเขาถือถุงกระดาษยี่ห้อเดียวกับนาฬิกาลงมาด้วย แม่มองผมกับพี่ปราบสลับกัน พอเห็นพี่ปราบยกมือไหว้แกก็รับไหว้ด้วยความสงสัย

“สวัสดีครับแม่ ผมชื่อปราบเป็นรุ่นพี่ของซ่าครับ” พี่ปราบแนะนำตัวเองกับแม่

“อ่อ ใช่เจ้าของนาฬิการาคาแพงๆนั่นใช่ไหม”

“ครับ นาฬิกาเรือนนั้นของผมเอง” พี่ปราบตอบยิ้มๆ

“นั่งก่อนลูก ซ่าเอ้ย ไปเอาน้ำเอาท่ามาให้พี่เขากินมา แม่ปลอกแก้วมังกรแช่ตู้เย็นไว้ หยิบออกมาด้วย” แม่หันมาบอกผม แล้วกวักมือเรียกให้พี่ปราบนั่งลงข้างๆกัน ผมเข้าไปรินน้ำใส่แก้วกับหยิบจานผลไม้ในตู้เย็นมาเสิร์ฟให้พี่ปราบที่หน้าบ้าน

ตั้งแต่ตื่นมาผมยังไม่เห็นไอ้มิวเลย สงสัยออกไปเที่ยวกับเพื่อน เมื่อวานเห็นมันคุยๆกับพวกเด็กในบ้านอยู่ คือนอกจากผมกับไอ้มิวแล้ว ก็ยังมีลูกของน้าตั้มกับเมียเขาชื่อดาวอีกสองคน สมาชิกในบ้านผมเยอะกว่านี้ ไว้เจอแล้วค่อยแนะนำไปทีละคนๆ

“เรื่องเงินของผัวไอ้แนนอ่ะ แม่ก็ไม่คิดว่าไอ้ซ่ามันจะเอาไปหรอก ตั้งแต่เด็กจนโตเรื่องเดียวเลยที่มันไม่ทำให้แม่ต้องปวดหัวคือเรื่องเงิน แม่ขี้หลงขี้ลืม วางเงินไว้มันก็ไม่เคยหยิบไปโดยไม่บอก ห้าบาทสิบบาทก็ยังบอก และมันก็ไม่ใช้เงินเกินตัว ถ้าเป็นไอ้มิวก็ว่าไปอย่าง ไอ้เด็กนี่หัวสูง แต่ก็นั่นแหละ แม่มั่นใจว่าไอ้ซ่ามันไม่ได้เอาเงินไปแน่ๆ ถ้าเป็นเรื่องต่อยตีขึ้นโรงพักล่ะก็ว่าไปอย่าง”

“ผมก็เชื่ออย่างนั้นครับ ผมรู้จักซ่าได้ไม่นาน แต่ก็พอดูออกและคิดว่าซ่าคงไม่ขโมย ขนาดนาฬิกาผมให้ยืม พอรู้ว่าแพงก็จะไม่รับไว้ ต้องบังคับถึงจะยอมใช้ แต่กลายเป็นผมทำให้ซ่าต้องลำบาก”

“นั่นแหละ นิสัยมันเลย ไม่ค่อยอยากได้ของๆใคร”

“นินทาอะไรผม” ผมเข้าไปแทรกระหว่างที่แม่กับพี่ปราบกำลังคุยกันเพลินๆ เพราะแอบขึ้นไปหยิบนาฬิกามาคืนให้เจ้าขอว

“พี่ปราบ นี่ของพี่” ผมส่งนาฬิกาคืนไปให้ พี่ปราบรับไปก่อนจะหยิบกล่องออกมาเก็บนาฬิกาเข้าที่เรียบร้อย และดูจะทนุถนอมสุดๆ

“แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องเงินที่หายไป กับเรื่องนาฬิกา เย็นนี้ผมจะไปคุยกับแม่ของซ่าและแฟนเขาเอง”


“ดีๆ แม่ฝากด้วยลูก พวกมันจะได้ไม่เข้าใจกันผิดๆ”   

“ตอนนี้ซ่าก็เหมือนน้องชายของผมคนหนึ่ง เกิดเรื่องเกิดราวเพราะนาฬิกาของผมด้วย เรื่องนี้ผมก็เลยต้องขอยื่นมือเข้ามาช่วย”

“เย็นนี้หรือพี่?”

 “แม่มึงกับแฟนเขาไปทำงานไม่ใช่เหรอ แล้วกูต้องกลับไปเอาของด้วย ตอนเย็นสะดวกสุดแล้ว” พี่ปราบพูดกับผมก่อนจะหันไปยิ้มหล่อให้แม่ “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“ขับรถกลับบ้านดีๆนะพ่อหนุ่ม แม่ขอบใจมากที่เมตตาช่วยไอ้ซ่ามัน” สายตาของแม่ผมที่มองพี่ปราบเหมือนมองพระที่มาโปรดหน้าบ้าน แต่ผมก็คิดอย่างนั้นนะ

“เรื่องเล็กน้อยครับ”

 “ผมออกไปส่งพี่ปราบที่หน้าบ้านนะแม่”

“เออ ไปๆ ไปส่งพี่เขา”

ผมเดินตามหลังพี่ปราบออกไปนอนบ้าน มีคำถามมากมายที่ผมอยากถาม ทำไมถึงกลับมาไวกว่ากำหนดแม้จะแค่สองสามวันก็เถอะ และพี่เขาจะไปคุยกับพี่แนนและพี่เบิร์ดยังไง

“ตอนเย็นก็ไปเจอกันที่บ้านแม่มึงเลยแล้วกัน ใกล้ถึงเมื่อไหร่เดี๋ยวกูโทรบอก มึงก็ยังไม่ต้องพูดอะไรมาก แล้วก็...ถ้าจะไม่อยู่ที่นั่นแล้วก็เตรียมเก็บของเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” พี่ปราบสั่งทิ้งท้ายก่อนกลับ

“ครับ พี่ปราบ...พี่ช่วยผมได้จริงเหรอ” ผมถามด้วยความหวังเต็มเปรี่ยม เรื่องวุ่นวายจะได้จบๆไปเสียที

“ถ้าช่วยไม่ได้กูจะมาทำไม”

“แต่ถ้าจับตัวคนผิดไม่ได้ เขาก็ยังจะโทษว่าเป็นผมอยู่ดี” ผมก้มหน้ามองเท้าตัวเองที่เขี่ยหินหน้าบ้านแก้เครียด ก่อนที่มือหนาของพี่ปราบจะวางลงบนหัวผมเบาๆ

“ไม่ต้องห่วง ถึงเย็นวันนี้มึงก็พ้นผิดแล้ว วางใจเถอะ”

“พี่...”

“กูจะจัดการให้เอง เลิกเครียดได้แล้ว และก็กินข้าวเยอะๆด้วย มึงผอมลงเหลือแต่กระดูกเดินได้ ไม่ไหววะ” พี่ปราบมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วส่ายหน้า

ก็คนมันเครียดจะให้กินข้าวลงแบบปกติได้ไง

“กูไปละ เจอกันตอนเย็น”

“ครับ สวัสดีครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่ปราบ รอส่งจนเขาขับรถออกไป

เฮ้อ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เอาวะ พี่ปราบบอกว่าช่วยได้ก็ต้องช่วยได้”




เวลาห้าโมงเย็น ผมออกจากบ้านแม่นั่งรถไปบ้านพี่แนน ผมกลับมาที่นี่ก่อนที่พี่แนนและพี่เบิร์ดจะกลับมา ก็เลยขึ้นห้องไปเก็บเสื้อผ้าและข้าวของที่มีอยู่แค่น้อยนิด ไม่ถึงสิบนาทีผมก็เก็บของเสร็จ จากนั้นก็ส่งข้อความไปบอกพี่ปราบว่าผมมาถึงบ้านพี่แนนและเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่เขาก็ส่งข้อความกลับมาบอกว่ากำลังมา

พี่แนนกับพี่เบิร์ดกลับมาถึงก่อนที่ปราบเล็กน้อย ผมไม่ลงไปข้างล่างจนกระทั่งพี่ปราบมาถึง พี่เขาจอดรถที่หน้าบ้าน รอให้ผมลงไปรับแล้วค่อยเข้ามาในบ้านพี่แนนพร้อมกัน

พี่เบิร์ดพอเห็นผมกับพี่ปราบก็ขมวดคิ้วใส่ ส่วนพี่แนนที่เคยเจอพี่ปราบมาแล้วครั้งหนึ่งก็ได้แต่มองพวกผมนิ่งๆ

“สวัสดีครับ” เพราะพี่ปราบอายุน้อยกว่าพวกเขาก็เลยต้องยกมือไหว้ตามมารยาท

“คุณเป็นใคร” พี่เบิร์ดถามพี่ปราบด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างห้วน

“ผมเป็นรุ่นพี่ของซ่า แล้วก็เป็นเจ้าของนาฬิกาเรือนนี้ด้วย” พี่ปราบแนะนำตัวพร้อมกับหยิบกล่องใส่นาฬิกามาให้พวกเขาดู

“จะแน่ใจได้ยังไงว่านี่เป็นของคุณ ไม่ใช่เด็กนี่ขโมยเงินผมไปซื้อ”

“นี่ครับ ใบรับประกันที่ระบุชื่อผมและวันที่ซื้อ เรือนนี้ผมซื้อมาได้สองปีแล้วครับ ไม่มีทางเป็นเงินคุณเอามาซื้อได้” พี่เบิร์ดส่งนาฬิกาและใบรับประกันพร้อมทั้งบัตรประชาชนของตัวเองให้พี่แนนกับพี่เบิร์ดตรวจสอบ

พอเห็นว่าเป็นของพี่ปราบจริงๆ และมีหลักฐานพร้อมพี่เบิร์ดก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ พี่แนนส่งนาฬิกาคืนให้พี่ปราบเมื่อหมดความสงสัย

“แต่ถึงอย่างนั้น แค่มีหลักฐานว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นของคุณ ก็ใช่ว่าซ่าจะไม่ได้ขโมยเงินผมไป อาจจะเอาเงินผมไปทำอย่างอื่นก็ได้” พี่เบิร์ดยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะโยนความผิดมาให้ผม

“พี่เบิร์ดพอเถอะ” พี่แนนปรามพี่เบิร์ดเสียงเบา ก่อนจะหันมามองผมแสดงอาการลำบากใจ “ซ่า ไม่ได้เอาเงินไปจริงๆใช่ไหม”

ยังจะต้องถามผมด้วยคำถามนี้อีกเหรอ

“จะต้องให้ผมพูดกี่ครั้งอ่ะพี่แนน ว่าผมไม่ได้เอาไป”

“แม่ก็อยากจะเชื่ออย่างนั้นนะซ่า แต่ว่าเงินเป็นแสนหายไป จะให้แม่นิ่งนอนใจก็ไม่ได้ ซ่าเป็นคนเดียวที่อยู่บ้าน ตอนเช้าแม่มั่นใจว่าเงินยังอยู่ ความจริงเงินก้อนนี้แม่กับพี่เบิร์ดเก็บกันมาสักพักเพราะจะเอามาโปะค่าผ่อนบ้าน แต่ตอนนี้มันหายไป ถ้าเอาไปก็ยอมรับมาเถอะ ซ่าอาจจะต้องช่วยแม่หาเงินก้อนนี้มาคืน ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก ถึงซ่าเอาไปจริงๆพี่เบิร์ดเขาก็ไม่แจ้งตำรวจหรอก”

ฟังที่พี่แนนพูดจบ ผมแทบอยากจะคว้าของอะไรสักอย่างทุ่มลงพื้นระบายความคับแค้นที่สุมอยู่ในอก แต่ผมทำได้เพียงกำมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่น จนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ตาก็จ้องหน้าพี่แนนอย่างไม่ยอมแพ้ ทำไมจะต้องให้ผมรับผิด ทำไมถึงต้องพูดเหมือนเชื่อว่าผมเอาเงินไป

“ขอแทรกหน่อยนะครับ ถึงผมจะยืนยันให้ดูว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นของผม ไม่ใช่ของซ่า แต่ว่าจะปล่อยให้เรื่องจบแค่นี้ก็คงไม่ได้ ยังไงซ่ามันก็เป็นรุ่นน้องผม และผมเห็นคนไม่ได้ทำผิดโดนกล่าวหาไม่ได้”

“ทำไม คุณจะเข้าข้างไอ้เด็กนี่หรือไง นี่มันเรื่องในครอบครัวผม คุณอย่ายุ่ง”

“คุณนับเขาเป็นครอบครัวด้วยเหรอครับ” พี่ปราบพูดนิ่งๆ แต่ทำให้พี่เบิร์ดหุบปากได้ พี่แนนก็หน้าเสีย และที่สำคัญคำพูดของพี่ปราบตอกย้ำความจริงให้ผมได้คิดอีกครั้ง

ผมไม่ใช่ครอบครัวของพวกเขา

ก็แค่...กาฝาก

“ความจริงแล้ว ถ้าคุณยอมจบง่ายๆ ยอมเชื่อง่ายๆว่าลูกของคุณไม่ได้ขโมยเงินไป ผมคงจะไม่ต้องทำแบบนี้” หน้าของพี่ปราบเข้มขึ้นอีกหนึ่งระดับ แววตาดุดันของเขาจ้องพี่เบิร์ดนิ่ง

“คุณจะทำอะไร” พี่เบิร์ดลุกขึ้นเดินมาประจันหน้ากับพี่ปราบ

“คุณแนน คุณเก็บเงินไว้ที่ไหน” พี่ปราบไม่สนใจพี่เบิร์ด หันไปพูดกับพี่แนนแทน

“ในห้องนอน ในลิ้นชักหัวเตียง”

“แล้วห้องนอนคุณใครจะเข้าออกก็ได้เหรอ ลิ้นชักไม่มีกุญแจล็อกหรือยังไง” พี่ปราบยิงคำถามใส่อีก

“เอ่อ...คือ...” พี่แนนอึกอัก หันไปสบตากับพี่เบิร์ด

“นอกจากพวกคุณแล้ว ยังมีใครที่มีกุญแจเข้าออกบ้านคุณได้อีก หรือมีแค่พวกคุณสามคนเท่านั้น” พี่ปราบตั้งคำถามไปเรื่อยๆ

“ที่จริง ก็ยังมีหลายของพี่เบิร์ดอีกคนที่มีกุญแจ” พี่แนนตอบเสียงเบา

“แนน หลายเบิร์ดมันเป็นเด็กดี มันไม่เอาเงินไปหรอก ไม่เหมือนเด็กบางคนแถวนี้” พี่เบิร์ดรีบแย้ง

“มีอีกคนที่มีกุญแจ แสดงว่าก็อาจจะเป็นคนนั้นก็ได้”

“นี่คุณ กล่าวหาหลานผมลอยๆไม่ได้นะ”

“แล้วคุณกล่าวหาซ่าลอยๆได้เหรอ” พี่ปราบตอบโตกลับทันที
“...”

“พวกคุณได้ให้ใครมาตรวจสอบลายนิ้วมือ หรือไปขอดูกล้องวงจรปิดหรือยัง”

“...” และอีกครั้งที่พี่เบิร์ดและพี่แนนปิดปากเงียบสนิท

พี่ปราบยิ้มบางๆใส่พวกเขา แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูแล้วทำให้รู้สึกหนาวๆร้อนๆ รอยยิ้มของพี่ปราบครั้งนี้ดูเจ้าเล่ห์และเต็มไปด้วยความหน้ากลัว เพราะดวงตาของเขาคมเฉียบแข็งกร้าว ไม่ได้ยิ้มตามปากที่หยักโค้ง

“ไม่เป็นไรครับ ภาพจากกล้องวงจรปิดของหมู่บ้าน ผมไปขอมาให้ดูแล้ว และผมเชื่อว่าหลักฐานแค่นี้ก็เพียงพอจะทำให้รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาเงินไป

พี่ปราบเดินออกไปนอกบ้านก่อนจะกลับมาพร้อมกับแท็บเลต พี่ปราบจิ้มหน้าจออยู่ไม่กี่ครั้งก็กดเปิดไฟล์วีดีโอให้ได้ดู

“ต้องบอกว่าพวกคุณโชคดีที่เลือกโครงการบ้านดี ภาพวงจรปิดที่มาจากกล้องได้คุณภาพมาตรฐานถึงได้ชัดขนาดนี้” พี่ปราบพูดแล้วหันมายิ้มให้ผม พยักหน้าให้ผมดูวีดิโอต่อ

ภาพที่เห็นคือหลังจากที่พี่เบิร์ดกับพี่แนนขับรถออกไปแล้ว ไม่นานผมก็ออกจากบ้านไปบ้านแม่ พี่ปราบกดหยุดวิดีโอ

“คุณดูนะ ซ่าออกจากบ้านตัวเปล่า เสื้อยืดแขนสั้นกางเกงยีนส์ ไม่มีกระเป๋าสักใบ คุณคิดว่าเขาจะยัดเงินแสนไว้ที่ส่วนไหนของร่างกาย” พี่ปราบพูดสันนิษฐานตามที่ตัวเองเห็น

พี่ปราบกดเล่นวีดิโออีกครั้ง หลังจากที่ผมออกจากบ้านแล้วก็ไม่มีใครเข้ามาที่บ้านในช่วงเช้า พี่ปราบกดเร่งความเร็ววีดีโอให้เร็วขึ้นจนมาถึงช่วงกลางวันที่มีคนกลับมาที่บ้าน แน่นอนว่าไม่ใช่ผมแต่เป็น…

“พี่เบิร์ด...พี่กลับมาที่บ้านเหรอ” พี่แนนละสายตาจากหน้าจอไปถามพี่เบิร์ด พี่เบิร์ดหน้าซีดเป็นไก่ต้มพูดไม่ออก ผมคิดว่าผมพอจะเดาได้ลางๆแล้วว่าอะไรเป็นอะไร

ต่อมาพี่เบิร์ดก็ออกมาจากบ้านด้วยประเป๋าสะพายข้างที่ค่อนข้างตุง ขึ้นรถและขับออกไป ตกเย็นผมกลับมาที่บ้าน และไม่ได้ออกไปไหนจนกระทั่งพี่เบิร์ดและพี่แนนกลับมา ก่อนที่จะปิดวีดิโอ ภาพสุดท้ายก็คือภาพที่ผมเดินออกจากบ้านหลังจากที่ตัวเองถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย

“ยังจะต้องสงสัยกันอีกไหมครับว่าใครเป็นคนเอาเงินไป เงินแสนคงไม่ปลิวออกจากบ้านไปได้ เพราะซ่ากลับมาที่บ้านอีกครั้งในตอนเย็นและยังไม่ได้ออกไปไหนจนพวกคุณกลับมาหรอกมั้งครับ”

“...” พวกเขาสองคนยังคงตกตะลึกกับความจริงที่ได้เห็นกับตาตัวเอง

“คุณแนนบอกเองว่าตอนเช้ายังเห็นว่ามีเงิน เพราะฉะนั้น เงินหายไปในวันนั้นอ่ะถูกต้องแล้ว เพียงแต่ที่ผิดคือคนที่เอาเงินไปไม่ใช่ซ่า แต่เป็นคุณนั่นแหละครับ...คุณเบิร์ด”






  :กอด1: :L2: :L1: :pig4:


หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 19-03-2017 21:00:37
โถ่ พี่เบิร์ดเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์มาก แต่ไม่เนียนนะคะ ไปเรียนมาใหม่ค่ะ จะตอแหลทั้งทีก็ต้องมีสกิลนะคะ จะให้โป๊ะไม่ได้555555555555
พี่ปราบควรเป็นของเราค่ะ พูดได้แค่นี้
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-03-2017 21:01:20
โห ดีนะที่หมู่บ้านมีกล้องวงจรปิด นึกไม่ถึงเลยว่าจะมี คิดอยู่ว่าจะหาหลักฐานมาได้ไง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-03-2017 21:06:41
โอ้ยยยย เกลียดครอบครัวซ่ามากอ่ะ อยากจะจับตบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 19-03-2017 21:20:24
ดีงามค่ะพี่ปราบ

ปรบมือให้เลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 19-03-2017 21:23:24
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 19-03-2017 21:32:12
พี่ปราบบบบบ ปรบมือค่ะ รอไรค่ะ !!!  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-03-2017 21:35:04
พี่ปราบสุดยอด  o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-03-2017 21:38:58
น่ารังเกียจมากกกกกก อิเบิร์ดนี่
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-03-2017 21:45:25
พ่อเลี้ยงซ่านิสัยแย่มาก ตัวเองทำผิดแล้วใส่ร้ายคนอื่น
พี่แนนก็ควรจะตาสว่างได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 19-03-2017 22:03:06
โถถ ไอ้เบิร์ด ไอ้นกกระจอก เล่นใหญ่รัชดาลัยมากกก อยากให้ชีแนนกะไอ้นกกระจอกนี่ได้รับบทเรียนไรสักอย่าง กล่าวหาคนอื่นและอยากได้ของของคนอื่นแบบหน้าด้านๆ  :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-03-2017 22:05:56
เท่มาก o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 19-03-2017 22:43:31
ทำไม ฉันเดาถูก 555
อยากให้พี่ปราบ ดัดนิสัยซ่าอะ คือ ปรับทัศนคติซ่า แต่ครอบครัวซ่า สรุปแล้วจริง ๆ เขาเชื่อใจซ่ากันหมดนะ แค่ลำเอียง ยกเว้นแม่ซ่าจริง ๆ

เราเชื่อว่าที่ซ่าเกเรเพราะซ่าเลือกจะทำตัวเองทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-03-2017 23:00:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 19-03-2017 23:09:52
เลิฟพี่ปราบมาก ณ  จุดนี้
พาซ่าออกมาเลยค่ะ สงสารน้องง :hao5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 19-03-2017 23:10:13
เนียนไปสิ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 19-03-2017 23:16:55
ปราบมาทีนี่กระจ่างเลยต้องแบบเน้ o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 19-03-2017 23:23:10
สมน้ำหน้า ว่าไงดีคุณแม่ดีเด่ :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 19-03-2017 23:24:19
ทำไม ฉันเดาถูก 555
อยากให้พี่ปราบ ดัดนิสัยซ่าอะ คือ ปรับทัศนคติซ่า แต่ครอบครัวซ่า สรุปแล้วจริง ๆ เขาเชื่อใจซ่ากันหมดนะ แค่ลำเอียง ยกเว้นแม่ซ่าจริง ๆ

เราเชื่อว่าที่ซ่าเกเรเพราะซ่าเลือกจะทำตัวเองทั้งนั้น


แม่ซ่าจริงๆคือพี่แนนนะ5555 ดูตลกร้ายเนอะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-03-2017 01:19:35
พี่ปราบมาโปรด ดีอะไรแบบนี้ นี่ถ้าไม่หลงซ่านะ ซ่าแย่แน่

สม โดนเองเลย คิดเอาเองว่าพ่อเลี้ยงเอาไป แม่นอยู่ แย่มาก
แม่ก็นะ ไม่อยากว่าเลยค่ะ แต่ที่ตาว่า ตาพูดถูก

ปราบจะพาซ่าไปอยู่ด้วยแน่เลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 20-03-2017 01:50:32
เป็นผมงี้ควักปืนประทับเล็งหัวมันแล้ว  :katai1:
พี่ปราบสุดยอดมาก ปรบมือรัวๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-03-2017 06:18:35
พี่ปราบ เหมือนเป็นพระมาโปรดจริงๆ
แม่ พ่อ(ยาย ตา) ยังเชื่อซ่า รู้นิสัยซ่า
แม่แท้ๆ ไม่เคยเลี้ยง ไม่ฟังลูก ไม่รู้นิสัยผัว รักแต่ผัว
เป็นซ่า จะเสียใจ ผิดหวังกับแม่แท้ๆแค่ไหน
ออกจากบ้านที่ไม่น่าอยู่นี้ไปเลย
แต่เข้าทางพี่ปราบนะ คงพาไปอยู่ที่อื่น
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 20-03-2017 07:09:54
อายแทน  สงสัยตั้งใจป้ายความผิดให้ซ่าเต็มที่
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 20-03-2017 09:00:57
เป็นครั้งแรกทีาเดาอะไรแบบนี้ถูก 555 มันดูน่าสงสัย เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ คุณนกกระจอก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: noozzz ที่ 20-03-2017 18:19:32
ยังกะอ่านโคนัน ยอดดนักสืบ อิอิ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 20-03-2017 18:33:36
อยู่แบบนี้ไม่ไหวหรอก คือทัศนคติซ่ามันลบแล้วอะ ถ้าปราบจะสอนซ่าต้องเอาออกมาจากสังคมแบบนั้นก่อนอะ

อยากไห้มีบทเรียนสำหรับไอพี่เบริด และบทเรียนสำหรับ แม่ ที่ไม่เคยทำหน้าที่แม่เลยซักครั้ง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 21-03-2017 09:20:49
สงสารซ่ามาก รอติดตามตอนต่อไปค่า :katai4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่11 :: 19/3/2017 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 22-03-2017 12:19:38
ว่าแล้วทำไมถึงอยากให้เอานาฬิกาไปขายจัง รีบยัดข้อหาให้ซ่าเลย เลวมาก :angry2: ถ้าไม่มีพี่ปราบนะซ่าเสร็จแล้ว
หัวข้อ: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 31-03-2017 20:09:25
ปราบซ่า
ตอนที่12




[ซ่า]
ข้าวของอันน้อยนิดของผมวางกองไว้บนเบาะที่นั่งด้านหลังรถพี่ปราบ หมดเรื่องหมดราวเสียทีกับเงินแสนที่หายไป ในที่สุดผมก็เป็นไท พ้นจากข้อกล่าวหาขโมยเงิน

ผมนั่งอยู่บนรถพี่ปราบ เสียงทะเลาะของพี่แนนและพี่เบิร์ดดังขึ้นเรื่อยๆ ดูไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอนนั้นหลังจากที่พี่ปราบพูดจบ ทุกคนในบ้านรวมถึงผมต่างตกใจมองพี่ปราบเป็นตาเดียว พี่เบิร์ดทำท่าจะปฏิเสธ แต่ว่าหลักฐานที่ปรากฏค่อนข้างแน่นหนาพอควร ถึงเขาจะตั้งสติได้ในภายหลังแล้วพ่นบอกพี่แนนว่าเขาไม่ได้เอาไป ก็คงเชื่อได้ยาก จะอะไรก็แล้วแต่ ขอแค่ผมพ้นผิดก็พอแล้ว สุดท้ายใครจะเป็นคนเอาเงินไปก็ไม่ใช่เรื่องของผม

ผมไม่น่ามาอยู่ที่นี่เลย ไม่ใช่ที่ของผมจริงๆ

‘มึงทำได้ซ่า กูเชื่อว่ามึงจะต้องเข้ากับที่บ้านใหม่ได้’

“เป็นอะไร” พี่ปราบถามขณะที่ขับรถออกจากหมู่บ้าน

“ผม...”

“ยังไม่สบายใจเหรอ”

“ผมทำไม่ได้” ผมก้มหน้าตอบได้แต่มองมือตัวเอง

“ทำอะไร” พี่ปราบถามกลับมาอย่างไม่เข้าใจ

“ผมทำไม่สำเร็จ ผมเข้ากับเขาไม่ได้ แม่งแย่ แย่ไปหมด”

คำพูดที่พี่ปราบเคยพูดไว้นั้น ผมหวังว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น แต่แล้วมันก็เป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆ พวกเขาไม่ต้องการให้ผมเป็นครอบครัวเดียวกับเขา

ผมที่กำลังจมจ่อกับความคิดของตัวเอง ถูกฝ่ามือที่ยื่นมาลูบหัวเรียกความสนใจ

“แต่อย่างน้อยมึงก็รู้ว่ามันแย่จริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่คิดขึ้นเอง วันนี้ได้ลอง วันหน้าก็ไม่มีอะไรต้องสงสัยว่ามันจะเป็นยังไง ถูกไหม”

ผมจ้องตาพี่ปราบ ก่อนจะยิ้มบางๆให้กับคำปลอบใจ

“ขอบคุณนะพี่ที่ช่วยเหลือผม”

“เล็กน้อย” พี่ปราบยักคิ้วข้างเดียวอย่างเท่  “ไม่ได้ร้องไห้ใช่ไหม” มือที่ลูบหัวผมเมื่อกี้เลื่อนมาแตะที่แก้ม

“บ้า ใครจะร้อง” ผมเบี่ยงหน้าหนีมือของเขา

“ไม่ร้องก็ดีแล้ว กูไม่ชอบเท่าไหร่ แต่ถ้ากูอยู่ด้วย จะร้องก็ไม่ว่าหรอก” พี่ปราบพูด สายตามองผมสลับกับมองถนน สิ่งที่ส่งผ่านมาคือความกังวลและความห่วงใยที่ผมไม่เคยได้จากใคร ไม่เคยมีใครมองผมด้วยสายตาแบบนี้มาก่อน เหมือนกับว่าผมสำคัญสำหรับเขาจริงๆไม่ใช่แค่ลมปาก

“ผมไม่ร้องหรอก” อย่างน้อยก็วันนี้ที่ผมยังเข้มแข็งพอ “พี่ปราบ ถามอะไรหน่อยสิ”

“อืม”

“พี่ปราบเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาได้ยังไง พี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ขอเขาดูได้ด้วยเหรอ” คิดขึ้นมาได้ก็เลยถามด้วยความสงสัย

“ใช้อำนาจมืดนิดหน่อย”

“อำนาจมืด?”

“พ่อกูเป็นเจ้าของบริษัทที่ทำโครงการหมู่บ้านนี้ พอรู้เรื่องกูก็เลยให้พ่อส่งคนมาดูให้ ก็เลยได้วิดีโอจากกล้องวงจรปิดมา”

ก็รู้อยู่แล้วนะว่าบ้านพี่ปราบน่าจะรวยมาก แต่นี่รวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้าไปด้วย ถือว่าโคตรไม่ธรรมดา ผมมารู้จักเขาได้ยังไงเนี่ย

นี่มันเจ้าชายชัดๆ

“พี่ปราบ ทำไมพี่มายุ่งกับผมอ่ะ” คนระดับพี่ปราบแล้ว ไม่ควรมาเสียเวลากับคนอย่างผมเลย

“กูยุ่งไม่ได้เหรอ” มองจากด้านข้าง ผมเห็นพี่ปราบเลิกคิ้วขึ้นสูง

“ไม่ใช่ คือคนระดับพี่อ่ะ มาคบคนแบบผมไม่เสียเวลาเหรอ”

พี่ปราบนิ่ง นิ้วมือของพี่ปราบเคาะลงบนพวงมาลัยเป็นจังหวะ หรือคำถามของผมจะไปกระตุ้นสติของพี่ปราบว่าแท้จริงแล้ว เขาไม่ควรมาเสียเวลาคบเด็กอย่างผมจริงๆ

ผมไม่รู้หรอกว่าโลกที่พี่ปราบอยู่มันเป็นยังไง แต่ผมรู้ว่าที่ผมเป็นและที่ผมมีมันก็แค่โลกเล็กๆใบหนึ่งที่ไม่อาจเทียบกับโลกคนรวยได้ อย่างน้อยๆในละครก็ฉายให้เห็นถึงความต่างของสังคม

“กูไม่ได้คบหามึงเพราะเรื่องธุรกิจ มึงก็เหมือนไอ้หวาย เป็นน้องที่กูเอ็นดูคนหนึ่ง กูถูกใจกูก็คบหาเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้อง มันแปลกตรงไหน กูไม่เคยคิดจะคบหาเพื่อนด้วยฐานะ แค่ถูกใจกูก็พอแล้ว เพราะฉะนั้นมึงไม่ต้องคิดอะไรมาก กูมายุ่งกับมึงไม่ใช่เพราะกูปัญญาอ่อนแยกแยะไม่ได้แน่นอน”

“ผมก็ไม่ได้คิดว่าพี่ปัญญาอ่อน” ผมรีบแย้ง

พี่ปราบกลับยิ้มขำ “หรือการที่กูมายุ่งกับมึง มึงไม่ชอบ ไม่พอใจ”

จะเป็นอย่างนั้นได้ไงล่ะ

“ผมคงโชคดีมากๆที่ได้รู้จักพี่ ขอบคุณพี่มากๆที่ดีกับผม” ทุกครั้งที่ผมไม่สบายใจก็มีแค่พี่ปราบที่เข้าใจ ทั้งๆที่เราเพิ่งรู้จักกันแท้ๆ

“อยากตอบแทนกูบ้างไหมล่ะ” พี่ปราบหันมาถาม

“พี่จะให้ผมทำอะไรอ่ะ” ขอเพียงผมช่วยพี่ปราบได้บ้าง ผมก็เต็มใจช่วย

“ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี อย่าเกเร ทำได้ไหม”

“...”

“ทำไม กูขอยากไปเหรอ”

“ปะ เปล่า คือผมกำลังงงว่า สิ่งที่พี่ขอ พี่ได้ประโยชน์ตรงไหน” ผมไม่เข้าใจจริงๆ

“ตอนนี้กูอาจจะยังไม่ได้ประโยชน์ แต่ถ้ามึงทำได้ ในอนาคตกูได้รับประโยชน์แน่นอน”

ถึงพี่ปราบจะพูดอย่างนั้นผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

“ว่าไง ทำให้กูได้ไหม”

“ก็ จะพยายามแล้วกัน”

“พยายามให้หนักๆ กูจับตาดูมึงอยู่ แล้วมึงจะเอาไงต่อ กลับไปอยู่บ้านยายมึงหรือเปล่า หรือจะไปอยู่กับกูที่คอนโดไหม”

“ไกลไปไหมคอนโดพี่กับโรงเรียนผมน่ะ” แต่ต่อให้ใกล้ผมก็คงไม่ไปรบกวนพี่ปราบหรอก ถึงผมจะรู้สึกว่าผมสนิทกับพี่ปราบแต่ก็ใช่ว่าจะเอาภาระไปโยนให้เขา “ผมว่าผมจะหาหอพักถูกๆดูอ่ะพี่ อยากออกมาอยู่คนเดียว”

ถ้าออกมาอยู่หอ ผมสามารถมีพื้นที่เป็นของตัวเอง สิ่งที่ไม่อยากเห็นก็ไม่ต้องเห็น ไม่อยากได้ยินก็ไม่ต้องได้ยิน วันหยุดผมแค่ไปช่วยพ่อทำงานที่บ้านก็พอ เสร็จแล้วก็กลับมานอนที่หอ ผมคิดว่ามันน่าจะสบายใจกว่าอยู่บ้าน เพราะทุกครั้งที่ผมต้องเห็นว่าน้าตั้มทำตัวแย่ยังไงแม่ก็ไม่เคยว่าหรือทำอะไร เห็นพ่อเหนื่อยโดยที่น้าตั้มเอาแต่นอน ไอ้มิวก็ไม่เคยช่วยงานที่บ้าน และเป็นผมคนเดียวที่ทำ ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายพูดว่าหาเรื่องผมประจำ บางอย่างพวกเขาทำเองได้ แต่พอผมอยู่แต่ละคนก็พลอยเป็นง่อยขึ้นมาทำกันไม่ได้เสียอย่างนั้น มันน่าหงุดหงิดจริงๆนะ

“ถ้างั้นมึงกลับไปอยู่บ้านไม่ดีกว่าเหรอ ประหยัดเงินด้วย”

“ก็ใช่ แต่ผมอยากได้พื้นที่ที่เป็นส่วนตัว บ้านผมคนเยอะวุ่นวาย เหนื่อย”

“สรุปคืออยากอยู่หอพัก”

“อืม ผมอยากอยู่คนเดียว”

“ถ้างั้น ให้กูช่วยหาให้ไหม” พี่ปราบอาสาอย่างมีน้ำใจ แต่ผมก็ยังมีความเกรงใจอยู่พอควร เรื่องบางเรื่องทำได้ด้วยตัวเองได้ก็ต้องทำเองก่อน

“ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวผมหาเอง พี่ทำงานของพี่เถอะจะได้ไม่เสียเวลา”

“แล้วแต่ ได้ไม่ได้ยังไงบอกกูด้วยแล้วกัน”

รถของพี่ปราบจอดลงที่หน้าบ้าน ผมขยับตัวหันไปหาพี่ปราบ นอกจากคำขอบคุณแล้วผมก็ไม่มีอย่างอื่นที่จะให้ตอบแทนอีก

“ขับรถกลับดีๆนะพี่ วันนี้ขอบคุณพี่มาก”

“อืม มึงก็นอนพักผ่อนซะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก”

“ครับ ผมไปก่อนนะ” ผมยกมือไหว้พี่ปราบ เปิดประตูหลังหยิบข้าวของลงจากรถ ยื่นรอส่งพี่ปราบก่อนจะเข้าบ้านไปนอนพัก

พรุ่งนี้เช้าผมยังต้องช่วยพ่อทำงานอยู่ ถ้าเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้า ช่วงบ่ายผมจะได้ไปหาหอพัก อีกอาทิตย์กว่าๆก็เปิดเทอมแล้วด้วย ผมรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้พักเลยด้วยซ้ำ





“เหลือห้องสุดท้ายแล้ว แต่ไม่มีของอะไรให้นะ มีแต่ห้องเปล่าๆ จะลดค่าเช่าให้ก็แล้วกัน” เจ้าของหอพักเล็กๆในซอยเปลี่ยวแต่ใกล้บ้านใกล้โรงเรียนเอ่ยบอกเมื่อผมเดินมาถามเขาว่ามีห้องว่างไหม

ผมใช้เวลามากกว่าสามชั่วโมงในการหาห้องพัก ที่ราคาถูกก็มักเต็ม ที่มีห้องเหลือราคาก็แพง ถ้าต่อเดือนเกินสองพันผมก็ไม่ไหวเพราะต้องจ่ายคนเดียว ไหนจะค่าน้ำค่าไฟอีก

“ผมขอดูห้องหน่อย” ผมพูดกับเจ้าของหอพัก แกเป็นป้าแก่ๆที่อายุน่าจะไม่ต่างจากแม่ผมมาก

หอพักนี้มีทั้งหมดสี่ชั้น ไม่มีลิฟต์ ขึ้นลงอาศัยบันไดเอา ห้องที่ว่างอยู่ชั้นสามห้องเกือบริมสุด สภาพหอพักที่นี่ถือว่าไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แต่ก็เหมาะแล้วสำหรับคนเงินน้อยอย่างผม

สภาพห้องภายในที่เห็นก็ไม่มีอะไรมาก เพราะมันไม่มีอะไรเลย เป็นห้องเปล่าๆขนาดเล็ก มีห้องน้ำที่เล็กมากๆอยู่ด้านหลังแบ่งพื้นที่กับระเบียงคนละครึ่ง บางจุดมีหยากไย่เกาะ บางจุดมีคราบดำตามร่องกระเบื้อง เหมือนยังไม่ได้ทำความสะอาด

“ถ้าสนใจเช่า คิดเดือนละพันห้าพอ ค่าน้ำค่าไฟต่างหาก ส่วนเรื่องทำความสะอาดก็ทำเอาเอง ถ้าจะให้ทำให้ต้องเสียค่าจ้าง”

“เดือนละพันห้าร้อยเหรอครับ” ราคานี้สำหรับผมถือว่าน่าสนใจมาก แม้ว่าสภาพห้องมันจะไม่ค่อยดีก็ตาม

“ใช่ มัดจำสามพัน พร้อมก็เข้าอยู่ได้เลย”

“ตกลงครับ ผมเช่าห้องนี้” ผมตอบรับอย่างไม่ต้องคิด เงินมัดจำสามพันผมพอมีติดตัว ไม่ต้องไปขอแม่เพิ่ม ถึงห้องจะแย่ไปหน่อย คิดเสียว่ามีที่ซุกหัวนอนก็นับว่าดีแล้ว

ไอ้กานโทรมาตอนที่ผมกำลังเดินลงบันได ผมกดรับสายก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกมัน สงสัยไปสุมหัวรวมตัวกันอยู่ที่ไหนสักแห่ง

“ไอ้พัช เป็นไงบ้างมึง ตายห่าไปหรือยัง”

“ตายห่าพ่อมึงสิ” ผมด่ากลับ

“ฮ่าๆๆ พ่อกูยังอยู่ดี พ่อๆ ไอ้พัชบอกว่า...”

“หุบปากมึงเลยไอ้เหี้ยกาน” ผมรีบพูดแทรกไม่ให้มันบอกพ่อมันว่าเมื่อกี้ผมพูดว่าอะไร ไม่ได้ตั้งใจจะด่าพ่อมันหรอก คนที่ผมจะด่าก็คือไอ้กานนั่นแหละ

“ฮ่าๆๆๆ กูขำ โอ๋ๆน้องพัชไม่ต้องกลัวนะ พ่อพี่ไม่อยู่ พี่หลอกเล่น”

ผมกัดฟันแน่น อยู่ใกล้ๆหน่อยไม่ได้กูจะเตะให้เตี้ยยิ่งกว่าเดิม

“โทรมามีอะไร กูยุ่งอยู่” ผมกระแทกเสียงถามไปตามสาย

“ยุ่งอะไรวะ กูจะโทรมาชวนมึงแดกเหล้า”

“แต่หัววันเลยนะไอ้เหี้ยนี่” ผมด่าเข้าให้ ที่จริงก็สนใจ แต่คิดว่าวันนี้ขอผ่านก่อนดีกว่า

“จะมาไหมล่ะ”

“ไม่ไป แค่นี้นะ กูทำเรื่องเช่าหอก่อน” ผมเตรียมจะวางสายแต่เสียงของพวกไอ้กานตะโกนโหวกเหวกโวยวายขัดขึ้น

“มึงจะย้ายมาอยู่หอพักอีกแล้วเหรอ” เสียงนี้เป็นเสียงไอ้หวาย

“เออ แค่นี้นะ”

“ดีๆ ไว้พวกกูจะไปถล่มห้องมึง” ไอ้นุ๊กแสดงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด

“เออ” ผมวางสาย แล้วเริ่มจัดการเรื่องหอพักทันที

หลังจากที่ตกลงทำสัญญาเช่าห้องพักและจ่ายเงินวางมัดจำเรียบร้อย ผมก็สบายใจขึ้น ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านอย่างอารมณ์ดี

ไม่ลืมส่งข้อความบอกพี่ปราบว่าผมหาห้องพักได้แล้ว เพราะเมื่อคืนพี่เขาสั่งไว้ว่าหาได้เมื่อไหร่ให้บอกเขาด้วย


ผมหาห้องได้แล้วนะพี่ปราบ : Patcharakan

ผมส่งข้อความไปบอก พี่ปราบไม่ได้ตอบในทันที ผมก็ไปทำอย่างอื่นที่พ่อและแม่ใช้จนเสร็จ หยิบมือถือออกมาดูอีกทีพี่ปราบก็ตอบข้อความกลับมาแล้ว


MuePrab : แถวไหน
แถวๆบ้าน ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่  : Patcharakan
ใกล้ทางไปโรงเรียนผมด้วย  : Patcharakan
MuePrab : ก็ดีแล้ว
MuePrab : ขนของอะไรยัง

ยังเลยพี่ พรุ่งนี้ค่อยย้าย : Patcharakan
MuePrab : พรุ่งนี้ประกาศผลสอบไม่ใช่เหรอ
พี่รู้ได้ไงอ่ะ : Patcharakan


ผมลืมไปเลยว่าพรุ่งนี้ต้องไปดูผลสอบที่โรงเรียน


MuePrab :ไอ้หวายบอกกู



เออเนอะ พี่ปราบสนิทกับไอ้หวายก่อนผมเสียอีก

รู้สึกตื่นเต้นแบบที่ไม่เคยเป็น เมื่อก่อนผลคะแนนจะออกมาเป็นอย่างไรผมไม่เคยสนใจเลยนะ ตกก็ซ่อม ผ่านก็รอดตัวแค่นั้น แต่ครั้งนี้ผมตั้งใจกว่าทุกครั้ง และหวังว่าคะแนนสามตัวสุดท้ายจะออกมาดี นอกจากความตื่นเต้นและ อีกด้านผมก็อดกังวลไม่ได้ว่าถ้ามันไม่ดีอย่างที่หวัง พี่ปราบจะ...


MuePrab : พรุ่งนี้ฟังผลแล้วบอกกูด้วย


ผมอ่านข้อความของพี่ปราบแล้ว ใช้เวลาคิดอยู่กว่าหนึ่งนาทีว่าจะตอบอะไรกลับไปดี


MuePrab : ตอบช้า
MuePrab : ทำไม กลัวคะแนนไม่ดีหรือไง
ใครกลัว ผมเหรอ ไม่มีอ่ะ : Patcharakan
MuePrab : หึหึ ไม่กลัวก็ดี
อย่าลืมสัญญาแล้วกัน  : Patcharakan
ให้ผมขับรถ  : Patcharakan
MuePrab : กูไม่ลืมอยู่แล้ว แต่ถ้าคะแนนไม่ดี
MuePrab : มึงโดน



แค่คำพูดไม่พอ พี่ปราบยังส่งสติ๊กเกอร์ไอ้หมีสีน้ำตาลแทงเข่าใส่กระต่ายขาวมาข่มขู่ผมอีกด้วย ผมเห็นแล้วทำอะไรไม่ได้ ส่งสติ๊กเกอร์กระต่ายขาวร้องไห้วิ่งหนีตอบกลับไปอันเดียวแล้วกดออกจากจากหน้าต่างแชท



 


และแล้ววันที่แสนจะตื่นเต้นก็มาถึง ผมมาถึงวิทยาลัยเช้ากว่าทุกครั้ง มานั่งรอพวกเพื่อนที่เหลือที่ยังมาไม่ถึง ปกติผมจะรอผลให้มาส่งที่บ้านนะ แต่ครั้งนี้อยากมาด้วยตัวเอง เมื่อคืนก็เลยโทรไปนัดพวกมันมา

ป้าบ!

หัวผมถูกตบเข้าอย่างจัง ทำเอาหน้าทิ่มหัวหมุนไปชั่วขณะ

“เฮลโล่ วอทซับแมน”

เสียงนี้

ผมกัดฟัน หลับตา สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนที่ตบหัวผม

“คนอื่นยังไม่มาเหรอวะ” ไอ้กานยังไม่รู้ความผิดของตัวเองครับ

ผมลุกขึ้นยืน เดินก้าวเข้าไปหามัน จากนั้นก็ออกแรงตบหัวมันกลับดังป้าบ หน้าสั่นยิ่งกว่าตอนที่ผมโดนตบเสียอีก

“โอ๊ย! ไอ้เหี้ยพัช กูเจ็บ” ไอ้กานเอามือกุมหัวลงไปนั่งยองๆ

“ฮ่าๆๆ เมื่อกี้ไอ้กานหน้าสั่นด้วย กูเห็น” ไอ้นุ๊กวิ่งมานั่งดูไอ้กาน หัวเราะอ้าปากกว้างไม่อายคนรอบข้างเลยสักนิด

“ฮืออ ไอ้นุ๊ก กูเจ็บ” ไอ้กานแสร้งร้องหันไปฟ้องไอ้นุ๊ด

“ใครใช้ให้มึงตบหัวกูก่อน คิดว่ากูไม่เจ็บไง” ผมว่าให้ แต่ไม่โกรธเหมือนตอนแรก ได้ทำคืนแล้วก็หายกัน

“อะไรกัน พวกมึงทำอะไร” ไอ้ตูนเดินหน้าหล่อมายืนข้างผม เบื่อแม่ง เดินไปที่ไหนมีแต่คนมอง

“มึงมาไม่ทันไอ้ตูน ไอ้พัชตบหัวไอ้กานจนหน้าสั่นอ่ะ โคตรตลก” ไอ้นุ๊กเล่าไปลูบหัวไอ้กานไป มันคงดีขึ้นแล้วถึงได้ลุกขึ้นยืนทำหน้างอนเป็นตูดใส่ผม สงสารตายล่ะ

“กูว่ากูตบมึงไม่แรงนะไอ้พัช ถ้ากูโง่ขึ้นมารับผิดชอบกูด้วย” ไอ้กานทำสะบัดสะบิ้ง

“ไม่ใช่มึงโง่อยู่แล้วเหรอ” ผมสวนกลับ ไอ้นุ๊กกับไอ้ตูนหัวเราะพยักหน้าเห็นด้วย

“พวกมึงรุมแกล้งกู ไอ้พวกนิสัยไม่ดี ไอ้หวาย ช่วยกูด้วยยยย” ไอ้กานรีบวิ่งไปหาตัวช่วยที่มาถึงเป็นคนสุดท้าย

ไอ้หวายที่เพิ่งมาถึงดูจะงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น หน้ามันดูง่วงๆเหมือนคนนอนไม่พอ ไม่ว่าไอ้กานจะเข้าไปออดอ้อนไอ้หวายยังไงไอ้นี่ก็คิดตามไม่ทัน หน้ามึนได้อีก

“เป็นไรของมึงเนี่ย ไม่สบายเปล่าวะ” ผมถาม

“เปล่าๆ เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่” ไอ้หวายส่ายหน้า

“เมื่อวานมึงกลับบ้านก่อนใครเลยนะ ทำไมไม่ได้นอน” ไอ้นุ๊กซัก ทุกคนหันไปมองไอ้หวายเป็นตาเดียว

“ทำอะไร ไม่ได้ทำ” จากที่หน้ามึนตอนนี้หน้าไอ้หวายดูตื่นตูมจนน่าสงสัย นิ่งๆไปก็จบ ไอ้ห่านี่ชอบเผยพิรุจ เท่ากับว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ไม่บอกพวกผม

พอเห็นพวกผมจ้องมันมากๆ มันก็โวยวายใส่ “จ้องกูทำไมเนี่ย ไปๆ ได้เวลาไปดูผลสอบแล้ว ใครตกเยอะสุดเลี้ยงข้าวด้วย”

ไอ้หวายดันหลังพวกผมให้เดินไปที่ห้องของอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อไปเอาผลสอบ พอนึกถึงสิ่งที่จะต้องเผชิญหน้าเป็นอันดับต่อไป ผมและคนอื่นๆก็ทิ้งเรื่องของไอ้หวายเอาไว้ข้างหลัง ครั้งนี้ผมจะสอบตกไม่ได้ โดยเฉพาะสามวิชาสุดท้ายที่ได้พี่ปราบช่วยติว เพราะผมไม่อยากให้เขาผิดหวัง

และความทุ่มเทของผมในครั้งนี้ถือว่าไม่สูญเปล่าเลย สามวิชาสุดท้ายผมได้คะแนนสูงมากเกินคาด ตั้งแต่เรียนมาผมยังไม่เคยได้คะแนนเยอะขนาดนี้มาก่อน ส่วนวิชาอื่นๆก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก คือผ่านมาได้อย่างฉิวเฉียด ผ่านทุกตัวไม่มีตัวไหนต้องสอบซ่อม

ส่วนคนอื่นๆ นอกจากไอ้ตูนที่ไม่เคยสอบตกแล้ว ก็ตกกันไปคนล่ะตัวสองตัว ไอ้หวายก็ไม่เว้น ตกตัวหนึ่ง หน้ามันนี่หงอยอย่างกับต้นไม้ขาดน้ำ

“ไอ้พัช ทำไมมึงไม่ตก ทำไมมึงได้คะแนนดี บอกกูมาเดี๋ยวนี้นะ มึงเล่นของใช่ไหม!” ไอ้กานแย่งผลสอบในมือไปดู พอรู้ว่าผมผ่านหมดทุกตัวก็ส่งเสียงเอ็ดตะโร

“เล่นของบ้านมึงสิ กูอ่านหนังสือโว้ย” ผมยืดอกตอบด้วยความภูมิใจ

“ถุย คนอย่างมึงเนี่ยนะอ่านหนังสือ” ไอ้หวายทำท่าถุยน้ำลายใส่ผม ไอ้นี่นิ ดูถูกกันเกินไปละ

“ทำไม คนอย่างกูอ่านหนังสือไม่ได้ไง ดูคะแนนกูนี่ถ้าไม่อ่านหนังสือกูจะได้มาได้ยังไง” ผมแย่งผลคะแนนสอบกลับคืนมา พวกมันยังมองผมอย่างน่าเหลือเชื่อ

“อะไรเข้าสิงให้มึงตั้งใจสอบเนี่ยไอ้พัช โลกถล่มแน่แล้ววว” ไอ้นุ๊กกางมือชูขึ้นฟ้าพร้อมทำหน้าเหมือนกลัวฟ้าจะถล่มลงมาจริงๆ ผมเลยเอากระดาษในมือตีหน้ามันไปที

“กวนตีน ไปๆ ไอ้กานมึงตกเยอะสุด เลี้ยงข้าวพวกกูเดี๋ยวนี้เลย”

“โธ่เว้ย ทำไมต้องเป็นกูด้วย” ไอ้กานร้องคร่ำครวญ

“ฮ่าๆๆ คนแพ้ก็ต้องดูแลตัวเองและดูแลพวกกูด้วย” ไอ้ตูนกอดคอไอ้กานเดินออกนอกโรงเรียน

“พวกมึงไปกินกันเลยนะ เดี๋ยวกูจะไปหาพลอย” ผมบอกพวกมัน นัดกับพลอยไว้แล้วว่าวันนี้มารับผลสอบแล้วจะพาพลอยไปหาอะไรกินกับดูหนัง

“เอ้า ไม่ไปด้วยกันวะ นานๆจะได้กินของฟรีจากไอ้กานสักที มึงโทรไปยกเลิกพลอยเลยนะ” ไอ้หวายพูด มันทำหน้าแบบอยากให้ผมไปด้วยมากๆ แต่ความจริงที่มันอยากให้ผมไปด้วยไม่ได้ว่าอยากให้ผมกินของฟรีหรอก แต่มันไม่อยากให้ผมไปหาพลอยมากกว่า ทำไมจะไม่รู้

“เฮ้ยๆ ไม่เป็นไร มึงไปหาแฟนมึงเหอะ กูจะได้เสียเงินน้อยหน่อย” ไอ้กานรีบไล่ผมทันที

“เว้ย!” ไอ้สามคนที่เหลือหันไปรุมตะโกนใส่ไอ้กาน ไอ้ผมแสกกลางสะดุ้งหัวเราะแหะๆ ผมยิ้มขำกับอาการของพวกมัน

“กูไปหาแฟน ไม่ได้ไปรบนะไอ้พวกนี้” ผมส่ายหัวเอือมๆ เดินแยกจากพวกเพื่อน กระโดดขึ้นรถเมล์ไปยังห้างใหญ่ที่ได้นัดแนะกับแฟนไว้

ผมนั่งรอพลอยไม่นานพลอยก็เดินมา เราไปหาอะไรกินกันเป็นอันดับแรก ผมตามใจพลอยทุกอย่าง วันนี้อยากกินอะไรอยากได้อะไร ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าผมแรงผมก็ให้ ชดเชยที่ผมไม่ค่อยได้มีเวลาไปหาพลอยมากนักเพราะผมต้องทำงานทั้งที่บ้านและที่ร้านสะดวกซื้อ

“ซ่า อิ่มแล้วเหรอ” พลอยถามผมแก้มป่องเพราะกำลังกินพิซซ่าอย่างอร่อย

“อืม อิ่มแล้ว” ผมไม่ค่อยชอบกินของพวกนี้เท่าไหร่

“พลอยกินหมดนี่ต้องอ้วนแน่เลย”

“กินไปเถอะ ไม่อ้วนหรอก” ผมดันจากไก่บาร์บีคิวให้พลอยกินให้หมด

ระหว่างรอผมก็เอาผลสอบออกมาถ่ายรูปส่งให้พี่ปราบดู พร้อมข้อความที่ส่งไปว่าผมทำได้

“ผลสอบเหรอ” พลอยถาม 

“อืม คราวนี้ซ่าได้คะแนนดีด้วยนะ” ผมอวดอย่างดีใจ
“ดีๆ ดีแล้ว” พลอยหยิบไปดูแล้วก็ส่งคืน ยิ้มให้นิดๆแต่ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก ผมแอบใจแป้วเพราะคิดว่าพลอยจะต้องตื่นเต้นมากกว่านี้กับความสำเร็จครั้งแรกของผม

พลอยไมได้สนใจอะไรผมอีก เธอก้มหน้ากินและเล่นโทรศัพท์ ผมก็เลยไม่รู้จะทำอะไร พี่ปราบยังไม่อ่านข้อความ อาจจะยุ่งๆอยู่กับงาน
ผมมองนู่นนี่ไปเรื่อย จนกระทั่งรู้สึกว่าถูกจ้องเลยมองผ่านกระจกร้านออกไปด้านนอก มีผู้ชายอายุน่าจะเท่าผมสามคนยืนมองผมกับพลอยอยู่ น่าตาพวกมันดูกวนประสาทใช้ได้

ผมละสายตาจากพวกมันมองพลอย พอเธอเงยหน้าผมก็ชี้ให้ดูที่สามคนนั้น

“พลอยรู้จักพวกมันหรือเปล่า” ผมถาม เพราะพวกมันสามคนยืนจ้องผมนานแล้ว

พลอยหันไปดู ก่อนจะชะงัก ผมเอียงหน้ามองสีหน้าของพลอยที่ดูจะตกใจไม่น้อย พอเลื่อนสายตาไปมองไอ้พวกนั้น มันจ้องพลอยและหันมาจ้องผมอย่างกวนตีน ผมนึกหมั่นไส้อยากจะออกไปถามว่ามันมองอะไร แต่พวกมันเดินหนีไปก่อน และพลอยก็ดึงมือผมไว้

“ซ่าอย่า ใครก็ไม่รู้อย่าไปสนใจเลย” พลอยห้ามผมหน้าซีด

“แน่ใจเหรอว่าไม่รู้จัก” ผมหรี่ตามอง ผมว่าพลอยต้องรู้จักพวกมันแน่ๆ


“แน่ใจสิ ไปดูหนังกันเถอะ พลอยอิ่มแล้ว”

“อืม” ผมจับแขนพลอยลุกจากโต๊ะไปจ่ายเงินแล้วเดินไปดูหนังเรื่องที่เจ้าตัวเขาอยากดู หนังเรื่องนี้สนุกดี ผมไม่ได้เก็บเรื่องของไอ้คนสามคนนั้นมาใส่ใจอีก ดูหนังเสร็จผมก็ไปส่งพลอยกลับบ้าน ก่อนจะนั่งรถกลับบ้านตัวเอง

ผมยังไม่ได้ย้ายของเข้าหอเลย ไม่อย่างนั้นไว้ก่อนวันเปิดเทอมค่อยย้ายก็แล้วกัน

ครืดๆ

เสียงโทรศัพท์สั่นแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า ผมเปิดอ่านทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นพี่ปราบตอบกลับมาแล้ว

คงเห็นผลสอบที่ผมส่งไปแล้วแน่ๆ



MuePrab : ทำได้ดีนี่
MuePrab : เก่งมาก



พี่ปราบชมอย่างไม่หวง ผมยิ้มกว้างเมื่อได้อ่าน แค่คำสองคำ ผมจ้องแล้วจ้องอีก อ่านออกเสียงซ้ำไปซ้ำมา

“กูเก่งมาก เก่งมาก”

นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกว่าผมเก่ง

และพี่ปราบเป็นคนแรกที่พูดกับผม

โคตรปลื้มเลยวะ ฮ่าๆๆๆ


ผมทำได้แหละ  : Patcharakan


ผมพิมพ์กลับไป


MuePrab : ครั้งหน้าก็ต้องให้ได้ดีกว่านี้ล่ะ
แน่นอน  : Patcharakan
พี่ปราบ อย่าลืมรางวัลผมนะ   : Patcharakan
MuePrab : กูไม่ลืม
MuePrab : พรุ่งนี้ลูกชายกูเป็นของมึงทั้งวัน
ลูกชาย? : Patcharakan
MuePrab : รถกูไง ลูกชายสุดรักกูเลยนะ
อ่ออออvรถนี่เอง : Patcharakan
MuePrab : ก็รถไง ทำไม มึงคิดถึงอะไร
เปล่า ไม่ได้คิดอะไร  : Patcharakan


อย่าว่าผมนะ แวบแรกที่อ่านคำว่า ‘ลูกชาย’ ผมนึกไปถึงไอ้นั่นของเขาอ่ะ
ฮ่าๆๆ เหี้ยมากกู คิดไปถึงนั้นได้ โคตรขำตัวเอง เรื่องนี้ห้ามให้พี่ปราบรู้เด็ดขาด ผมยังไม่อยากถูกเจ้าของโรงฝึกลงไม้ลงมือใส่ ฮ่าๆๆ




 :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 31-03-2017 20:48:08
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 31-03-2017 20:53:20
กรี๊ดดดดดดด
พี่ปราบนี่ฮีโร่ของน้องซ่าจริงๆ
กะแล้วไอ้เชี่ยเบิร์ดต้องเอาเงินไป เลวจริงๆ น่ากระทืบ!!!

น้องซ่าตัองเป็นเด็กดี อย่าให้พี่ปราบต้องโหดนะ 5555
ชอบอ่ะ ค่อยๆดูพัฒนาการของคู่นี้ไปเรื่อยๆ ^^

ขอบคุณriri นะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 31-03-2017 21:17:46
ถ้าพี่ปราบรู้เขาอาจจะดีใจก็ได้นะ (หัวเราะ) ซ่าเริ่มเอนเอียงแล้วไง...เลยรู้จักคิดอกุศลกับพี่ปราบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 31-03-2017 21:32:06
เรื่องจะเขามาหาซ่าเพราะยัยพลอยหรือเปล่าเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 31-03-2017 21:40:47
พลอยนี่มีแววสร้างปัญหามากๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 31-03-2017 21:44:41
ถ้าซ่าจะเอาอันนั้นปราบก็ให้ด้วยความเต็มใจ
เชื่อเราสิ เราเรียนมา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-03-2017 22:00:42
 o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-03-2017 22:02:54
ซ่า พ้นเคราะห์เพราะพี่ปราบ
คะแนนสอบก็ดีขึ้นเพราะพี่ปราบ
กิ๊กพลอย สินะที่เจอซ่ากับพลอย
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 31-03-2017 22:09:40
พลอยนี่ยังไง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 31-03-2017 22:14:43
เรื่อยๆ แต่ละมุน :-[
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 31-03-2017 22:33:24
ซ่า ไม่ได้ตอนนี้เดี๋ยวอีกหน่อยก็ได้จ๊ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: moobarpalang ที่ 31-03-2017 22:47:02
ำไมยังไม่เลิกกับอีพลอยนี่อีน้าาาา
ผัวใหม่ปะทะผัวเก่า นี่คนหรือวันทองเนี้ยะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-03-2017 23:12:36
ซ่าเอ้ยยยยยยยยยย คิดไปไหน 55555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 01-04-2017 00:30:07
พลอยนี่ยังไงคะ ไม่รักก้เลิกไม๊ หรือยังไงงง ???
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-04-2017 00:33:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-04-2017 02:31:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 01-04-2017 11:11:46
อูยยยยยยยย รักน้องซ่า เอ็นดูนาง ชีวิตลำเค็ญสู้ชีวิตเหลือเกินลูกเอ๊ยยย แข็งนอกแต่ข้างในบอบช้ำ หลงทาง  // พี่ปราบก็พ่อพระเหลือเกิน #เป็นผู้ใหญ่ใจต้องนิ่ง  แบบนี้สิถึงจะพาน้องโตแบบมีคุณค่าได้  สู้ๆนะ ทั้งซ่า ทั้งปราบ  ว่าแต่เมื่อไหร่จะได้เริ่มจีบกันเนี่ย?? นังชะนีพลอยยังสิงอยู่กับน้องซ่าไม่ไปไหนอยู่เลย 5555
ชอบงานคุณ RiRi นะคะ เรื่องโน้นก็อ่านแล้ว เป็นกำลังใจให้ค่ะ Fighto!!
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-04-2017 19:32:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 03-04-2017 21:46:04
ดัดนิสัย เข้ามาพัวพัน เข้ามาเปนส่วนนึงของกันและกันเนียนๆกันไป
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 16-04-2017 16:04:39
มารอปราบซ่า...
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: เเว่นตาอันเท่าบ้าน ที่ 17-04-2017 00:28:09
จะเอาอีกกกกกกกกกกก ฮื้ออออ อยากอ่านอีกค่ะ :ling1: :ling1: :ling1: อยากรู้ว่าซ่าจะขับลูกรักของพี่ปราบได้ดีเเค่ไหน ฮ้าๆๆๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: noozzz ที่ 23-04-2017 22:13:59
สงสัยพลอยจะเริ่มปันใจให้ชายอื่น
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 26-05-2017 02:16:16
คนเขียนไปไสสสส รอค๊อย :katai4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-05-2017 05:36:49
คิดถึง   :sad4:  :mew2: :heaven
ปราบ ซ่า  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 14-06-2017 21:55:46
คิดถึงพี่ปราบ น้องซ่าาาาา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Sorth ที่ 25-06-2017 02:42:55
 :jul3:หายนานเกิ้นนน....เห็นใจคนรอหน่อยนะ....มายังๆ :ruready
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 01-07-2017 19:58:58
อยากให้ซ่าเลิกกะพลอยซะที.  :katai1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-07-2017 20:05:48
รอ ปราบ ซ่า  :mew1:
คิดถึงมากกกกกกกกกกกกกก  :z3: :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: thebest12 ที่ 21-07-2017 10:53:25
คนแต่งไปหน่ายยย  งือ คิดถึง


 :ling1: :ling1: :z3: :z3: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่12 :: 31/3/2017 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 07-08-2017 09:06:10
คนแต่งมาต่อไวๆน๊าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 27-08-2017 18:50:11
ปราบซ่า
ตอนที่13


[ปราบ]

ออกกำลังกายตอนเช้าเหนื่อยๆแล้วกลับเข้าบ้านมาได้กลิ่นข้าวต้มหอมๆ ท้องก็ร้องดังตามสัญชาตญาณ หมาแสบสองตัวพุ่งตัวเข้าหาผม วิ่งพันแข้งพันขาดีใจที่ผมกลับมา คือพวกมึงกับกูก็ไม่ได้จากกันนานไหม

“ซู่ซ่า ปาปิก้า หยุด! นั่งลง” ผมออกคำสั่ง พวกมันหยุดระริกระรี้แล้วนั่งลง

“คอยนะ คอย” ผมสั่งอีก มองจนแน่ใจแล้วว่าพวกมันจะทำตามคำสั่ง ผมก็เดินไปหยิบกระดูกมาให้มันสองตัวเป็นของรางวัล พอได้ขนม ผมก็ไม่มีความหมาย หมาสองตัวเลิกสนใจผมแล้วคาบกระดูกกลับไปที่บ้านของพวกมัน

สลัดจากหมาบ้าพลังทั้งสองตัวได้แล้ว ผมก็เดินตรงเข้าครัวแทนที่จะขึ้นห้องไปอาบน้ำ

คนที่ตัวเล็กที่สุดในบ้านกำลังยืนปรุงรสข้าวต้มอยู่หน้าเตาพลางฮัมเพลงในลำคอ ผมค่อยๆย่องเข้าไปข้างหลังพี่เค้ก แล้วคว้าหมับที่เอวเล็กทั้งสองข้าง

“พี่เค้ก!” ผมตะโกนใส่หูเล็ก

“เฮ้ย!” พี่เค้กตกใจสะดุ้งตัวโยนเพราะบ้าจี้ ทำทัพพีที่ถืออยู่หล่นลงพื้น

“ฮ่าๆๆ ตกใจใหญ่เลย” ผมหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งพี่เค้กตั้งแต่เช้า

“ปราบนี่! แกล้งพี่ทำไมเนี่ย” พี่เค้กหันมาโวยวาย ก่อนจะก้มลงไปหยิบทัพพีขึ้นมาล้างน้ำ มองค้อนผมทีหนึ่งแล้วหันกลับไปสนใจหม้อข้าวต้มก่อน สงสัยจะงอน อย่างนี้ต้องง้อ

“พี่เค้ก ปราบหิวข้าว” ผมเข้าไปกอดเอวพี่เค้ก วางคางลงบนบ่าเล็ก

“ไม่ให้กินดีไหม” พี่เค้กตวัดหางตามองเคืองๆ

ผมยิ้มกว้างหลุดหัวเราะเสียงเบา “ให้กินเถอะ ลูกหิวมากๆเลย”

พอผมอ้อนเป็นเด็กๆ พี่เค้กก็หลุดยิ้มขำ พี่เค้กไม่เคยโกรธใครนานหรอก โกรธไม่ยากแล้วก็หายง่าย น่ารักสำหรับผมเสมอ

“เฮ้ย ไอ้ลูกชาย มาอ้อนอะไรเมียพ่อเนี่ย” พ่อดึงผมให้ออกห่างจากคนรักของตัวเอง พอกันทั้งพ่อทั้งป๊า ไม่รู้จะห่วงอะไรนักหนา กับลูกเต้าก็ไม่เคยเว้น เพราะแบบนี้ไง ผมเลยรู้สึกอิจฉา อยากมีเมียเป็นตัวเป็นตนกับเขาบ้าง ติดที่ว่าคนที่สนใจแม่งไม่รู้เรื่องอะไร เป็นชายแท้ที่ไม่เบี่ยงเบน จะแต๊ะอั๋งหรือลวนลามก็ต้องระมัดระวัง แถมมันเองยังมีห่วงผูกคอเอาไว้อีก ดูท่าผมว่ากว่าผมจะมีคนรักของตัวเองเป็นตัวเป็นตนก็คงอีกนาน

“โถ่พ่อ นิดหน่อยๆน่า ถ้าไม่ให้ผมกอดพี่เค้ก งั้นผมกอดพ่อนะ”

“มาๆ มากอดเลยมา” พ่อผมกางแขนออกทั้งสองข้าง สีหน้าเต็มใจให้ผมเข้าไปกอดอย่างยิ่ง

พี่เค้กที่ยืนดูผมกับพ่อตีกันก็หัวเราะร่าเริง พ่อเห็นก็ยิ้มปากกว้าง เข้าไปฟัดพี่เค้กหอมแก้มซ้ายขวาอย่างเมามัน

ที่ทำกันอยู่เนี่ย เกรงใจลูกคนนี้บ้างไหมพ่อ

“พี่ทราฟ ทำอะไรเนี่ย อายลูกบ้างเถอะครับ” พี่เค้กเอ็ด แต่ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยความสุข

“นั่นสิพ่อ ผมก็อิจฉาบ้างอะไรบ้างนะ” ผมกอดอกทิ้งเท้าข้างหนึ่งยักคิ้วกวน

“อิจฉาก็หาซะเมียซะ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว”

ผมอมยิ้มตามคำบอกของพ่อ พี่เค้กยิ้มกริ่มจ้องตาผมเหมือนรู้เท่าทันความคิดในหัวผม ถ้าให้เดา คิดว่าพี่ริชจะต้องมาบอกอะไรเกี่ยวกับซ่าให้พี่เค้กฟังแน่นอน

 “ไงไอ้ลูกชาย มายืนตัวเหม็นอะไรตรงนี้ ไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าว” ป๊าเดินเข้ามาในชุดพร้อมไปโรงฝึก

“ป๊า วันนี้ขอลาพักร้อนนะ งานสำคัญผมทำหมดแล้ว” ที่จริงวันนี้ผมต้องเข้าโรงแรม แต่ไม่ได้สำคัญอะไร เพราะเมื่อคืนผมให้เลขาส่งงานสำคัญที่ต้องจัดการมาทางอีเมลและจัดการเรียบร้อยแล้ว

“มึงลาแบบนี้เลย ง่ายๆเลย” ป๊าเลิกคิ้วถาม หันไปขอความเห็นจากพ่อแล้วก็พี่เค้ก สองคนนั้นจะทำอะไรได้นอกจากยักไหล่กับหัวเราะ

“แล้วจะทำให้มันยุ่งยากทำไมล่ะป๊า”

ป๊ามองแรงใส่ผมก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว “ขึ้นไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว ฝากบอกม๊ามึงด้วยไม่ต้องแต่งตัวนาน แค่ไปอู่รถไม่ต้องแต่งตัวดูดีไปให้ใครดู”

บ่นครับบ่น บ่นเพราะความหึงหวงล้วนๆ

“ทำไมป๊าไม่ไปบอกเองอ่ะ”

“เดี๋ยวมันหาว่ากูพูดมากอีก”

แล้วฝากผมไปพูดมันต่างกันตรงไหนครับคุณป๊า

“หวงเขาก็บอก พี่ริชได้ยินต้องดีใจแน่นอน” ผมพูดกับป๊า แต่ตามองพี่ริชที่เดินมาถึงห้องครัวแล้ว คนโดนกล่าวถึงก็ทำหน้าแดงซะอย่างนั้น

“พูดมากจริง” ป๊าตวัดตาดุๆใส่ผม ผมเพียงแค่หัวเราะแล้วขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ถือว่าลางานแล้วเรียบร้อย พร้อมที่จะไปให้รางวัลเด็กแสบ





สถานที่ที่นัดเจอกับซ่าไว้ก็ที่สถานีรถไฟฟ้าสายหนึ่งที่ใกล้มันและสะดวกผมที่สุด ผมเห็นเด็กตัวสูงโย่งยืนรอมาแต่ไกล วันนี้ยังเป็นวันธรรมดา รถบนท้องถนนในเมืองก็เยอะเป็นปกติ ถ้าจะให้มันขับลูกชายของผมก็คงต้องออกนอกเมือง

“พี่ปราบ สวัสดีครับ” ซ่าขึ้นมานั่งบนรถก็ยกมือไหว้ผมแบบที่ทำเป็นประจำ เป็นเด็กแสบซ่า หัวแข็ง ดูก้าวร้าว แต่มันเป็นเด็กที่มารยาทดีคนหนึ่งเลย

“อืม กินข้าวมายัง” ลูกชายผมค่อยๆเคลื่อนตัวออก มุ่งหน้าสู่เส้นทางออกนอกเมือง

“กินมาแล้ว พี่ปราบ จะให้ผมขับเจ้านี่จริงๆใช่ไหม” มันถาม หน้าตาตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด มือลูบคลำรถด้วยความหลงใหล ดูท่ามันจะชอบรถของผมมาก

“กูเป็นคนรักษาคำพูด แต่รอออกนอกเมืองให้รถน้อยกว่านี้ก่อน”

“ครับ ผมโคตรตื่นเต้นเลยอ่ะ”

เหมือนเด็กตัวเล็กๆที่ดีใจได้ของเล่น ผมยิ้มตามเด็กข้างๆที่ยิ้มกว้างจนตาหยี เห็นมันมีความสุขผมก็มีความสุข

ขับรถมาจนถึงถนนมอเตอร์เวย์ที่จะไปชลบุรี ถนนเส้นนี้รถน้อย วันธรรมดาไม่ค่อยมีคนออกเที่ยว ผมจงวางใจที่จะให้ซ่าขับรถของผม รถคันนี้ ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมรักมากที่สุด เพราะพี่ริชเป็นคนซื้อให้ พี่ริชไม่เคยยุ่งเกี่ยวเงินมากมายมหาศาลของป๊า ทุกบาททุกสตางค์คือเงินที่พี่ริชเก็บหอมรอมริบมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ผมจึงดูแลและใช้งานมันอย่างทะนุถนอม รถคันนี้นอกจากป๊าพ่อ พี่ริช พี่เค้ก และผม ก็ไม่มีใครแตะต้องได้ เพื่อนๆผมไม่เคยได้ขับ ซ่าถือเป็นคนแรกที่ผมอนุญาต

“ขับดีๆ ระมัดระวัง กูรักรถคันนี้มาก ไม่เคยให้ใครขับมาก่อนนอกจากคนในครอบครัว” ผมบอก

คนฟังที่กำลังมองสอดส่องตามที่นั่งรีบเงยหน้าขึ้นมองผม ดวงตาที่มักจะหม่นแสงเบิกกว้าง ไม่กี่นาทีต่อมามันก็เบ้ปากใส่ผม ทำหน้าทำตาเหมือนผมไปโกหกมัน

“ใช่เหรอ พวกพี่ธีร์ก็ไม่เคยเหรอ” มีการเอียงหน้าเหล่ตามอง

“กวนตีน เดี๋ยวกูไม่ให้ขับเลยนิ”

“ไม่เอา ผมจะขับ” ซ่ารีบโน้มตัวไปกอดพวงมาลัยรถไว้แน่น หัวส่ายดุกดิกไม่ยอม “พี่สัญญาแล้วว่าจะให้ผมขับ ห้ามคืนคำด้วย”

มาทำหน้าหาเรื่อง ผมผลักหัวมันเบาๆด้วยความหมั่นไส้

“มา กูจะสอนให้ มีบางจุดที่ไม่เหมือนรถญี่ปุ่นที่มึงเคยขับ เวลาจะเปลี่ยนเกียร์มึงต้องเหยียบเบรกก่อน ไม่งั้นมันจะไม่เปลี่ยนให้”

ผมสอนวิธีใช้งานเบื้องต้นเกี่ยวกับรถยี่ห้อนี่ให้มันรู้ ซ่าดูตั้งใจฟังและจดจำได้อย่างแม่นยำ พอให้ออกรถ ก็ติดขัดบ้าง แต่ไม่นานคล่องมือ ผมนั่งเกร็งบ้างเพราะค่อนข้างเป็นห่วง แต่เท่าที่ดูก็ถือว่ามันเป็นคนขับที่ดี มีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำจนลืมผมที่นั่งข้างๆ เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ผิวปากตามเสียงเพลงที่เปิดคลอ

“รถขับนิ่มมากเลยพี่ปราบ ผมชอบ” ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง มันถึงได้หันมาพูดกับผม “รถราคาแพงมันดีอย่างนี้นี่เอง”

“มันก็มีดีของมันหลายๆอย่าง วัสดุที่ใช้ประกอบรถก็แข็งแรง เปอร์เซ็นคุ้มกันชีวิตก็มีมากกว่า ฟังก์ชั่นดีกว่า แต่ยังไงก็ต้องขับรถอย่างมีสติ มีรถดีแล้วสติก็ต้องดีด้วย เข้าใจไหม” ผมถือโอกาสสอนไปในตัว คนเราให้ความใส่ใจกฎระเบียบจราจรน้อยมาก ขับรถด้วยอารมณ์ก็เยอะ นอกจากปัญหาการจราจรที่ตามมาแล้ว ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ตามมาด้วยเช่นกัน

 “คร้าบผม” มันลากเสียงยาวกวนๆ

“ขับไปชลบุรีถูกไหม” ผมถาม ใจคิดอยากจะพามันไปเที่ยวนอกเมือง ทะเลก็เป็นตัวเลือกที่ง่ายและดีที่สุด วันธรรมดาที่ไม่ใช่เทศกาลแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งดี คนน้อย ไม่แย่งกันกินแย่งกันใช้

“ก็พอได้นะพี่ ผมไม่เคยขับไปเอง แต่ว่าเวลาไปกับที่บ้านก็พอจำเส้นทางได้”

“งั้นก็ขับไป เพราะไงกูก็รู้ทาง”

“อ้าว แล้วพี่ถามทำไม”

“คนขับควรต้องรู้ ทำไม กูถามไม่ได้หรือไง”

“เปล่า พี่วางใจ จะไปไหนบอกผม เดี๋ยวผมพาไป” มันปล่อยมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยตบอก

 ผมผลักหัวมันด้วยความหมั่นไส้ แล้วปล่อยให้มันขับรถไปเรื่อยๆตามทาง มีบ้างที่มันไม่แน่ใจแล้วหันมาถามผมว่าควรเลี้ยวซ้ายหรือขวาดี แต่เรื่องที่พูดมากที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องรถผมที่มันพูดชมไม่ขาดปาก ไม่รู้จะถูกใจอะไรหนักหนา แต่เห็นมันอารมณ์ดีมีความสุขผมก็พอใจเป็นอย่างมาก

ไม่นานลูกรักของผมก็พาเราสองคนมาอยู่ที่พัทยา

“วู้วว วันนี้อาการดีวะพี่” ซ่าก้าวออกมาจากรถ ยืนชูแขนบิดขี้เกียจ ลมทะเลพัดเส้นผมบนหัวซ่าจนปลิวไหว

“อืม เมฆเยอะ ไม่ค่อยร้อน” ผมเงยหน้ามองเมฆก้อนใหญ่บนหัวที่บดบังดวงอาทิตย์เอาไว้

“พี่ปราบ ผมหิวแล้วอ่ะ” ซ่าเดินเข้ามาใกล้ มือลูบท้องไปมาพร้อมทำหน้าปะเหลาะไปด้วย ดูทะเล้นและน่ารักกว่าปกติ นี่ถ้าผมดึงมันเข้ามาฟัดแก้มที่เห็นลักยิ้มจางมันจะถีบผมไหม

เพราะไม่สามารถทำอะไรเด็กได้ ผมเลยต้องยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา ใกล้จะเที่ยงแล้ว ผมเองก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน

“อยากกินอะไรล่ะ” ผมมองรอบด้วยหาดูร้านอาหารที่น่าจะฝากท้องได้

“อาหารทะเลสิพี่ มาถึงทะเลมันต้องโดนปูกับกุ้ง พี่ปราบเลี้ยงน้า ผมอยากกิน” สงสัยมันคงจะอยากกินมากจริงๆ ดูได้จากมือของมันที่เกาะแขนผมเขย่าเบาๆ ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี

เออ แค่มึงทำแบบนี้ อยากได้อะไรขอให้บอก กูจะจัดให้ทุกอย่าง

ไม่ต้องรอให้น้องซ่าร้องขอนาน ผมรีบพามันไปหาอาหารทะเลเข้าปากเข้าท้อง แต่พอมาถึงร้านอาหาร คนที่ร้องอยากจะกินก็เอาแต่ก้มดูเมนูอาหารหน้านิ่วคิ้วขมวด

“เป็นไร แค่เลือกอาหารมันน่าหนักใจมากขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ผมถาม ถ้าสั่งเป็นคนสั่งคงเสร็จตั้งแต่นาทีแรก แต่เพราะวันนี้อยากตามใจเด็กที่สอบได้คะแนนดีในวิชาที่ผมนั่งเฝ้ามันอ่านหนังสือเลยรอให้มันสั่งเอง แต่ผ่านมาห้านาทีแล้ว สมุดเมนูที่มีแค่หกเจ็ดหน้า ถูกมันพลิกดูกลับไปกลับมาจะร่วมสิบนาทีได้แล้ว

“พี่ปราบ เปลี่ยนร้านไหม” ซ่ามันเอาเมนูป้องปากพูดเสียงเบา

“ทำไมอ่ะ ร้านนี้อร่อยนะเว้ย อาหารทะเลสดแบบเป็นๆ ราคาก็โอเค”

“โอเคบ้านพี่สิ อย่างแพงเลย” ไอ้ซ่ารีบสวน ผมเลยได้รู้ว่าสิ่งที่ทำให้มันเอาแต่ทำหน้าเครียดไม่สั่งอาหารสักทีคืออะไร

ก่อนหน้านี้ยังกล้าขอให้ผมเลี้ยงข้าวอยู่เลย มาตอนนี้กลับเป็นห่วงเรื่องราคาซะงั้น

“มึงไม่ต้องห่วงเรื่องราคา กูเลี้ยงเองน่า อยากกินอะไรสั่งเลย”

“แต่มันแพงนะพี่ เราไปนั่งกินที่เต้นไหม มันน่าจะถูกกว่า”

“ตรงนั้นมันไม่สด กินที่นี่แหละ สั่ง” ผมสั่งมันเสียงเข้ม ซ่าที่กำลังจะเถียงรีบก้มหน้ากลับไปดูเมนูอีกครั้ง ผมกวักมือเรียกพนักงานที่เดินมาแล้วรอบหนึ่งให้กลับมาอีกรอบ เพราะรอบแรกเด็กที่นั่งตรงข้ามเลือกอาหารไม่ได้สักที

“ดูแค่ชื่ออาหารที่อยากกินก็พอ ไม่ต้องไปดูราคา” ผมบอกเพราะมันยังไงลังเลที่จะสั่ง

“ผมเกรงใจ”

“มากับกูไม่ต้องเกรงใจ เราเป็นคนอื่นกันหรือไง” ผมไม่อยากให้มันเกรงใจกับผมจนเกินไปจนดูเหมือนห่างเหิน

สุดท้ายผมก็ต้องช่วยมันสั่งอยู่ดี จับทำเมียได้เมื่อไหร่ถ้ายังทำนิสัยแบบนี้อยู่กูจะจับตีก้นให้เข็ด

“เอาปูนึ่งหรือย่าง” ผมส่งคำถามให้มันเลือก

“ย่างครับ” มันตอบ

“เอาปูย่างสองกิโลกรัมครับ ไม่ต้องย่างแห้งมากนะ” ผมบอกกับพนักงาน

“กุ้งก็ย่างนะ” ผมถามความเห็น แต่ไม่ได้ให้มันเลือก ไม่งั้นไม่ได้กินกันพอดีข้าวเที่ยงวันนี้

“ครับ” และมันก็รับคำง่ายๆเหมือนเดิม

“กุ้งอีกสองกิโลกรัมครับ”

จากนั้นผมก็สั่งปลาเผากับหอยหวานเผาอีกอย่าง ส่วนข้าวก็เป็นข้าวผัดสับปะรดที่ไอ้ซ่าอ้าปากสั่งด้วยตัวเอง พออาหารมาถึง ดวงตากลมของมันก็ขยายกว้างขึ้นอย่างเป็นประกาย

ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ชอบให้มันทำหน้าเครียดหรือเศร้า ผมรู้ว่าถ้ามันกลับไปใช้ชีวิตของมัน อยู่กับคนในบ้านมัน มันอาจจะยิ้มได้ไม่กว้างและอาจมีเรื่องให้ไม่สบายใจ แต่ถ้าอยู่กับผม ผมอยากให้มันมีความสุขมากที่สุดเท่าที่วัยของมันควรจะได้รับ

ซ่าเริ่มกินจากข้าวผัดเป็นอย่างแรก มันตักข้าวเข้าปากสองคำติดแล้วค่อยเคี้ยวอย่างมีความสุข มองมันแล้วก็ได้แต่ยิ้มตามก่อนจะเริ่มกินอาหารตรงหน้าบ้าง ผมหยิบปูมาแกะเป็นอย่างแรก เด็กตรงข้ามหยุดช้อนในมือก่อนจะมองตามมือของผม จากนั้นมันก็หยิบปูขึ้นมาบ้าง ดูว่าผมแกะปูยังไงแล้วมันก็แกะตาม ต่างกันตรงที่เนื้อปูของมันแทบจะเละคามือ แต่ของผมได้กรรเชียงปูก้อนสวยมากิน

“แกะปูไม่เป็นหรือไง” ผมถาม

มันยิ้มแหยะแล้วส่ายหน้า “แกะไม่เป็นอ่ะพี่ ผมไม่ค่อยได้กินปูหรอก จะได้กินก็ตอนที่ตลาดเขามาขายลดราคา แต่มันไม่สดแบบนี้ และผมก็จะให้แม่แกะให้” ซ่าเล่าไปก้มหน้าแทะปูเละๆในมือไป

ผมก้มมองกรรเชียงปูในมือ ก่อนจะยื่นไปให้เด็กตัวโตที่น่าสงสาร “อ่ะ กูให้”

เด็กซ่าเลิกคิ้วสูง มองหน้าผมเหมือนไม่เชื่อ จากที่ไม่คิดจะแกล้ง ก็เลยว่าจะขอแกล้งเด็กเล่นสักหน่อย

“แต่เรียกกูว่าพี่ปราบครับ น้องซ่าอยากกินปูจังเลย” ผมบีบเสียงแหลมเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นซ่าทำหน้าเหวอ

“ไม่เอาหรอก ใครจะพูด” ไอ้ซ่าส่ายหน้า แอบเห็นแก้มตอบๆของมันเปลี่ยนเป็นสีแดง หน้าแก้มมันป่องมากกว่านี้ คงน่ารักไม่หยอก

“แค่พูดเอง เนี่ยเดี๋ยวกูแกะให้กินเลย ไม่เอาเหรอไง” ผมส่งเนื้อปูก้อนโตในมือยื่นเข้าไปใกล้ปากใกล้จมูกมัน ไอ้ซ่าซ่าสมชื่อ อาศัยจังหวะเผลอและความว่องไวงับเนื้อปูเข้าไปเต็มปากเต็มคำ โดยที่ผมไม่ได้คำพูดหวานหูกลับมาสักแอะ

“อื้ม ไม่ต้องแกะปูกินเอง อร่อยมากเลยครับพี่ปราบค้าบบบบ” มันแกล้งบีบเสียงพูดยิ้มหวานอย่างกวนตีน สองนาทีที่แล้วมันยังเป็นคนหน้าแดง คราวนี้กลายเป็นผมเสียแล้ว

ไอ้เด็กบ้า เล่นกับใจผมตลอดเวลา

มื้อนั้นผมเป็นคนแกะปูให้มันบ้าง แลกกับการที่มันแกะหอยหวานเผาและกุ้งส่งให้ผม แอบเห็นโต๊ะข้างๆเหลือบมองผมกับซ่าหลายครั้ง ก็คงจะสงสัยว่าผมและมันเป็นอะไรกัน แน่นอนว่าผมพึงพอใจหากว่าใครจะคิดว่าผมกับมันเป็นคู่เกย์ ยิ่งบริการเด็กกินจุยกใหญ่ จะมีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขา ก้มหน้าก้มตากินอย่างมีความสุข

ทานข้าวกลางวันกันเสร็จ ผมกับซ่าก็เดินเล่นไปตามชายหาด มันอยากเล่นบานาน่าโบ๊ท แต่เพราะการมาทะเลในวันนี้ตัดสินใจแบบฉับพลัน ทำให้เราไม่มีเสื้อผ้ามา แต่แน่นอนว่าไม่เป็นอุปสรรคในการตามใจเด็ก เพราะมีร้านขายเสื้อผ้าติดทะเลเยอะแยะให้เลือกซื้อ ระหว่างที่รอซ่าซื้อเสื้อผ้า ก็มีสายเข้าจากไอ้บีท

“ไอ้ปราบว่างเปล่าวะ”

ผมมองซ่าที่กำลังต่อรองราคากางเกงกับแม่ค้าก่อนจะตอบ “ไม่ค่อยวะ กูอยู่พัทยา มึงมีอะไร”

“มึงไปทำอะไรที่พัทยา”

“มาเที่ยว”

“เที่ยวกับใครวะ เด็กใหม่มึงเหรอ แต่ช่วงนี้กูไม่เห็นมึงควงใครเลย”

“ยังไม่ใช่เด็กกู กูมากับไอ้ซ่า”

“ซ่า? ซ่าไหนวะ ทำไมกูไม่เห็นได้ยินชื่อ”

“ก็ไอ้พัชนั่นแหละ” ผมลืมไปว่า พวกมันไม่รู้ชื่อจริงของซ่า

“ไอ้พัช...เพื่อนไอ้หวายอ่ะนะ” น้ำเสียงของมันเต็มไปด้วยความสงสัย

“เออ”

“มึงกับไอ้พัชไปสนิทกันตอนไหน แล้วทำไมเรียกมันว่าซ่า” มันถาม

“ก็สักพัก ซ่าอ่ะชื่อเล่นจริงๆของมัน แต่มันไม่ชอบให้ใครเรียก”

“กูว่ามึงแปลกๆนะไอ้ปราบ กูไม่เคยเห็นมึงพาไอ้หวายไปเที่ยวกันสองต่อสองโดยไม่มีพวกกูเลย” มันพูดก่อนจะเงียบไป “นี่อย่าบอกนะว่า...” 

“เออ ตามนั้น กูสนใจมันอยู่ รู้แล้วก็อย่ากระโตกกระตากเวลาเจอหน้ามันก็แล้วกัน เดี๋ยวไก่ตื่น” ถ้าไม่ยอมรับไป แล้วพวกมันเอาไปคุยกัน สุดท้ายก็รู้อยู่ดี เพราะที่ผมปฏิบัติต่อซ่าผมไม่ได้ทำแบบหลบๆซ่อนๆ คิดอย่างทำอะไรก็ทำ ยังไงพวกมันก็ต้องรู้

แต่ถ้าถามว่าอะไรที่ผมกลัว ก็คงเป็นความรู้สึกของซ่า ที่ผมทำดีกับมัน จะพูดว่าไม่หวังผลก็ไม่ใช่ แต่มากกว่าเพื่อให้ได้มันมาครอบครองแล้ว ผมกลับรู้สึกอย่างเป็นคนที่ช่วยให้ชีวิตมันดีขึ้นในฐานะพี่คนหนึ่ง ยังไงมันก็เป็นผู้ชายธรรมดาที่มีแฟนเป็นผู้หญิง จะให้เปลี่ยนมาชอบผู้ชายร่างโตแบบผมที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องรุกมันแน่ๆก็คงเป็นเป็นได้ยาก ณ วันนี้ ขอแค่เป็นคนที่สำคัญในชีวิตมันผมก็พอใจแล้ว

“มึงเปลี่ยนแนวตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็ตั้งแต่เจอมันละมั้ง” ผมพูดติดตลก

“ไอ้เหี้ย มึงนี่ทำเอากูงงเลยว่าตัวเองโทรมาหามึงทำไม ไอ้สัดปราบ แม่งทำกูตกใจหมด”

“ฮ่าๆๆ แล้วโทรมามีอะไร”

“เออ กูจะโทรมายืมรถกระบะที่บ้านมึงเอาไปขนของเข้าร้าน กูจะเปลี่ยนเก้าอี้นอกร้านใหม่”

“มึงเข้าไปเอาเลย ป๊าอยู่บ้าน เดี๋ยวกูโทรบอกให้”

“เออๆ ขอบใจ แล้วมึงจะกลับวันไหน”

“คงเย็นนี้ค่ำๆแหละ ยังไม่รู้วะ”

“ติดเด็กนะมึง กูว่าคืนนี้จะชวนมาแดกเหล้าซะหน่อย แค่นี้แหละ ไว้เจอตัวมึงโดนพวกกูซักยาวแน่ แค่นี้นะ” ไอ้บีทพูดเองเออเองเสร็จก็วางสายไป ผมเลยกดโทรหาป๊าบอกว่าไอ้บีทจะเข้าไปเอารถกระบะ

จัดการธุระให้ไอ้บีทเสร็จ ไอ้ซ่าก็ซื้อเสื้อผ้าเสร็จพอดี ออกมาในชุดใหม่พร้อมลงน้ำ กางเกงขาสั้นลายทาทางสีส้มสะท้อนแสงกับเสื้อกล้ามคว้านแขนจนถึงเอว แต่งแบบนี้เห็นได้ชัดเลยว่ามันพร้อมแห้งขนาดไหน ดูเป็นเด็กตัวสูงแกรนขาดสารอาหาร

“พี่ปราบ นี่ของพี่” ซ่ายื่นถุงเสื้อในมือส่งให้ผม “เข้าไปเปลี่ยนข้างในเลยพี่ ป้าเขาให้เปลี่ยนข้างในได้”

“ซื้อมาให้กูด้วยเหรอ” ผมมองถุงเสื้อผ้าในมืองงๆ ทีแรกว่าจะเดินไปเอาเสื้อผ้าในรถมาเปลี่ยน ไม่คิดว่ามันจะซื้อมาเผื่อผม

“ทีแรกผมจะถามว่าพี่จะเอาไหม แต่เห็นคุยโทรศัพท์อยู่ แล้วป้าเขาบอกว่าถ้าซื้อสองชุดจะให้ราคาพิเศษ ผมก็เลยตัดสินใจให้เลย แต่ผมซื้อกางเกงสีเดียวกับผมมานะ สีอื่นผมว่ามันไม่สวย” ประโยคสุดท้ายมันกระซิบบอกกับผม กันไม่ให้คุณป้าได้ยิน

“อืม งั้นกูไปเปลี่ยนก่อนแล้วกัน ฝากกระเป๋ากับโทรศัพท์ด้วย”

ตอนนี้ผมกับซ่าในสายตาคนอื่น เหมือนคู่รักกันจริงๆ เพราะมันดันเอากางเกงสีเดียวกันลายเดียวกัน พอมาเดินข้างๆกันอย่างนี้มันก็เหมือนกันคู่รักใส่ชุดคู่

“พี่ปราบ ทำไมคนอื่นเขามองเราสองคนแปลกๆอ่ะ”

“หึหึ นี่มึงไม่รู้เหรอ”

“ทำไมอ่ะ”

“ถ้าไม่รู้ก็ไม่ต้องรู้หรอก ไปติดต่อเขาสิ จะเล่นบานาน่าโบ๊ทไม่ใช่เหรอไง” ผมชี้นิ้วไปทางคนที่ปล่อยให้เช่าเรือกล้วย

 พอพูดเรื่องเล่น มันก็ลืมเรื่องที่สงสัย แล้ววิ่งไปหาคนเช่าเรือกล้วย ผมเดินตามไปพร้อมกับควักเงินจ่ายค่าเช่า จากนั้นเราสองคนก็ขึ้นมาอยู่บนเรือกล้วยที่กำลังวิ่งตรงไปในทะเล

“วู้วววว ฮ่าๆๆๆ”

เสียงหัวเราะของซ่าดังกึกก้องแทรกเสียงลม

“พี่ปราบระวังๆ เอียงซ้ายพี่เอียงซ้าย ฮ่าๆๆๆ”

ผมหวังว่า มันจะหัวเราะได้แบบนี้ทุกวัน คงไม่มีใครชอบให้คนที่เรารู้สึกดีด้วยต้องมีน้ำตา

เล่นน้ำทะเลกันจนเหนื่อย เหมือนผมได้ย้อนกลับไปในวัยที่หนุ่มกว่านี้ จนกระทั่งต่างคนต่างเหนื่อยหอบ ทิ้งตัวนั่งลงริมชายหาดให้คลื่นซัดกระเซ็นโดนปลายเท้า

“พี่ปราบ ขอบคุณนะพี่”

“เรื่อง” ผมหันไปมองคนพูด

“ก็ที่วันนี้ให้ผมขับลูกชายพี่ แถมยังพาผมมาเที่ยวด้วย ปิดเทอมนี้ผมทำแต่งาน ใกล้จะเปิดเทอมแล้วด้วย วันนี้เหมือนได้พักเลย”

“กูให้เป็นรางวัล เพราะมึงเป็นเด็กดีทำคะแนนสอบสองวิชาสุดท้ายได้สูง แต่กูอยากให้หลังจากนี้มึงตั้งใจเรียนเพราะอนาคตของมึงเอง อย่าทำเพียงเพราะว่ามึงจะได้ของรางวัล เพราะสุดท้ายแล้ว ผลของการตั้งใจเรียน ในอนาคตมึงจะได้เป็นรางวัลก้อนใหญ่กลับมา นั่นคือมึงหางานทำได้ เลี้ยงตัวเองได้ เอาตัวรอดในสังคมได้อย่างไม่ลำบาก ไม่ต้องเป็นภาระใคร”

ผมอยากให้มันทำเพื่อตัวเอง ซ่าเป็นเด็กที่มีแรงเยอะ แต่แรงใจมีน้อย ผมก็ได้แต่หวังว่าผมจะช่วยเพิ่มแรงใช้ให้มันได้บ้าง เพราะคนเราต้องใช้แรงใจขับเคลื่อนแรงกายในการทำสิ่งต่างๆ ที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จ

“ผมจะพยายามนะพี่ปราบ แต่บอกตามตรงเลยว่าผมไม่รู้ต้องทำยังไง”

“ถามกูได้ ปรึกษากูได้ กูพร้อมช่วยมึงตลอดจำเอาไว้”

“บางทีผมก็เหนื่อย เหนื่อยจนคิดอะไรไม่ออก” แววตาที่สะท้อนให้เห็นบ่นตัดพ้อต่อชีวิต

ผมแบมือตรงหน้ามันอีกครั้ง พร้อมส่งสัญญาณทางสายตาให้มันวางมือลงบนมือของผม ซ่ามองจ้องมือผมอยู่พักหนึ่งถึงได้ยอมวางมือลง ผมบีบมือมันแน่นสองครั้งติดเพื่อให้กำลังใจ

“มือกูพร้อมเสมอถ้ามึงเหนื่อย หรือหมดแรง กูจะเติมพลังให้”

“พี่ปราบ”

“โอเคไหม”

“อืม ขอบคุณครับ” แค่รอยยิ้มบางๆก็เพียงพอแล้ว

ผมปล่อยมือซ่า เปลี่ยนเป็นโอบไหล่มันเข้ามาใกล้ เขย่าตัวมันเล็กน้อยให้รู้สึกตัวว่ามันไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้คนเดียว มันไม่ใช่เด็กที่หันไปทางไหนก็พึ่งใครไม่ได้อีกแล้ว



""""""""""""""""""""""""""""""""'

สวัสดีค่าา ริริเองนะคะ
ตอนนี้กลับมาแล้วค่ะ และหลังจากนี้ก็จะลงนิยายให้ได้อ่านกันต่อเนื่องไปเลยค้าาาา
ใครที่ยังรออ่านพี่ปราบน้องซ่าอยู่ก็ขอบคุณมากๆนะคะ
กอดๆๆๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-08-2017 19:05:06
ดีใจ นึกว่าคนเขียนจะทิ้งไปเสียแล้ว
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-08-2017 20:19:53
ดีใจ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 28-08-2017 01:58:54
น้องซ่าผู้ซึ่งกำลังเดินเข้าปากเสือโดยไม่รู้ตัว. 5555555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 28-08-2017 06:14:24
กรี๊ดดดด พี่ปราบ น้องซ่า กลับมาแล้วววววว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 28-08-2017 07:29:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-08-2017 08:34:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-08-2017 09:49:46
ดีใจ ไรท์มา  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ปราบ ชอบเห็นซ่ามีความสุข ยิ้มได้อย่างกว้างขวาง
ก็ได้เห็นแล้ว
แถมซ่ายังอ้อนพี่ปราบกินอาหารทะเล
อ้อนขอเล่นบานาน่าโบ้ท

ปราบ ยังได้ใส่ชุดคู่กับซ่าอีก
กับเพื่อน ปราบก็บอกความจริงเรื่องซ่าด้วย

ถ้าซ่า ฉุกใจคิดได้ ต้องแปลกใจ
รถที่ไม่ยอมให้ใครขับนอกจากคนในครอบครัว แต่ทำไม ซ่าได้ขับ

ชอบที่ปราบแม้ทำเพื่อจีบซ่า
แต่ปราบก็สอนไปด้วย ให้ตั้งใจเรียนเพื่อตัวของซ่าเอง
ไม่ใช่เพื่อของรางวัล ต่อไปสามารถช่วยตัวเองให้อยู่ในสังคมได้ สุดยอดดดดด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 28-08-2017 14:56:04
ชอบพระเอกเรื่องนี้จัง มันให้ความรู้สึกแตกต่าง เพราะที่เคยๆอ่านมีแต่ไม่ชอบขี้หน้ากันแล้วค่อยกลายมาเป็นรัก เราชอบตรงที่มีสอนแทรกอยู่ตลอด ไม่ใช่เอะอะถูกใจก็ปล้ำ // ติดตามคับ แต่ตอนนี้อยากให้ซ่าจบๆกับพลอยซะทีอ่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-08-2017 16:26:53
คิดถึงพี่ทราฟน้องเค้ก พี่ครามน้องริช
ปราบอยู่กับครอบครัวขี้อ้อนนะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 28-08-2017 16:47:55
เลิกกับชะนีเถอะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่13:: 27/8/2017 P.7 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 28-08-2017 16:58:25
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่14:: 28/8/2017 P.8 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 28-08-2017 20:16:42
ปราบซ่า
ตอนที่14


[ปราบ]
วันต่อมาในช่วงบ่าย ผมบังคับให้ซ่าพาผมมาดูห้องพักของมัน พอมาถึงผมก็อยากจะหาห้องพักให้มันเสียใหม่ ถึงซ่าจะเป็นผู้ชายที่ดูแล้วไม่ได้บอบบางน่าทะนุถนอม หรือน่าล่อลวงให้จับไปกระทำชำเรา แต่มันก็เป็นเด็กหน้าตาดี ที่ผมเป็นห่วงก็คือกลัวมันจะถูกทำร้าย แถมสภาพห่อพักก็ทรุดโทรม มีรอยแตกรอยร้าว ดูยังไงๆก็ไม่ปลอดภัย

“มันจะอยู่ได้เหรอวะ” ผมถาม

“อยู่ได้ดิพี่ ทำไมจะอยู่ไม่ได้ อ่อ รู้แล้ว พี่มันคุณชายนี่น่า คนอย่างพี่อยู่ไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก”

“ไม่ใช่ว่ากูเป็นคุณชาย แต่มึงดู ขนาดกลางวันในซอยยังเปลี่ยว ตรงข้ามหอก็เป็นป่า มึงดูนั่น รอยร้าวยาวลงมาขนาดนี้ ความปลอดภัยอยู่ตรงไหนวะ” ผมเงยหน้าชี้ให้มันดูรอยร้าวบนผนังตึก

“อยู่ได้น่าพี่” ซ่ายังคงยืนยันในสิ่งที่มันคิด

“พากูขึ้นไปดูข้างบนดิ มึงหาที่ๆดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือไง” ผมบ่นมัน ดันหลังไอ้ซ่าให้เดินนำทาง จนมาถึงห้องเกือบริมสุดชั้นที่สาม แค่สังเกตจากประตู ลูกบิดสนิมขึ้นและจะพังแหล่มิพังแหล่

มันเปิดห้องออกให้ผมดู สภาพภายในไม่ต่างจากภายนอกนัก ผนังที่ทาสีไว้ทั้งผุกร่อนร่อนเป็นแผ่นๆ มีความสกปรกตามร่องพื้นและฝาผนัง เอาจริงๆคือผมไม่โอเคกับหอพักนี้

ห้องมันไม่มีอะไรเลย ที่นอนก็เป็นฟูกบางๆเท่านั้น หมอนใบ ผ้าห่มหนึ่งผืน มุมหนึ่งของห้องมีตะกร้าจานชามมีดวางไว้ใช้สอย ข้างที่นอนมีโต๊ะญี่ปุ่นวางอยู่ ด้านบนเต็มไปด้วยหนังสือเรียนของมัน ตู้เสื้อผ้าไม่มี มีแค่กระเป๋าเสื้อผ้าของมันที่วางไว้ข้างๆโต๊ะญี่ปุ่น

ผมอยากหันไปถามมันเหลือเกินว่าทำไมสภาพมึงถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ แต่เท่าที่สังเกตสีหน้าของซ่า ดูมันจะไม่อินังขังขอบสักเท่าไหร่

“ย้ายไหม เดี๋ยวกูหาให้ กูว่าบางทีจ่ายเพิ่มอีกสักหน่อย แต่ดูปลอดภัยกว่าและมีข้าวของเครื่องใช้มากกว่านี้” ผมหันไปถามและเสนอความคิดเห็นที่ผมว่าดี และผมจริงจังมากกับเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าอยู่ที่สกปรกไม่ได้ แต่มันมีเรื่องของความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้อง

“หาที่ไหนพี่ ผมขี่รถดูหมดแล้ว ไม่มีที่อื่นที่ได้ราคานี้หรอก เดือนละพันห้าเอง ที่อื่นสองพันห้า สามพันทั้งนั้น มันแพงไปผมจ่ายไม่ไหวหรอก”

“เดี๋ยวกูจ่ายค่าหอให้เอาไหม” ผมหลุดปากออกไป ไอ้ซ่าขมวดคิ้วติดกัน

ผมรู้ว่ามันออกจะตลกไปสักหน่อยที่พูดว่าจะจ่ายค่าหอพักให้ แต่ซ่าคือเด็กที่ผมชอบและถูกใจ ผมที่เลยวัยเรียนมาแล้ว ทำงานมีรายได้แบบเต็มตัว ผมคิดว่าผมจ่ายให้มันได้ถ้ามันต้องการ แต่ติดที่ว่ามันไม่รู้ว่าผมชอบมัน และตอนนี้ผมยังไม่คิดจะแสดงตัวในขณะที่มันยังมีแฟนเป็นตัวเป็นตน

“พี่จะมาจ่ายให้ผมทำไม บ้าเปล่า”

เออ กูบ้า แต่แม่ง กูเป็นห่วงมึงเข้าใจไหม!

“ไม่ว่ายังไงมึงก็ยืนยันที่จะอยู่ที่นี่

“อืม ก็แค่ไว้นอนเอง ผมไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว”

ผมยืนนิ่งๆ ทิ้งสายตามองรอบห้องมันอยู่ร่วมห้านาที ในเมื่อมันยืนยันว่าจะอยู่ที่นี่ ผมก็ต้องช่วยมันเท่าที่ช่วยได้ และต้องไม่กระโตกกระตากเกินไป เกิดไก่ตื่นรู้ตัวขึ้นมา ไอ้ที่ลงทุนลงแรงตะล่อมไปมันจะศูนย์เปล่า

“ข้าวของเครื่องใช้มีแค่นี้?”

“ครับ จะซื้อเพิ่มก็เสียดายตัง แค่นี้ก็พอแล้ว”

อนาถาไปไหมเด็กกู ถ้ามันชอบผู้ชายเรื่องคงง่ายกว่านี้

“เอาอย่างนี้แล้วกัน ที่บ้านกูมีเฟอร์นิเจอร์บางอย่างที่ไม่ได้ใช้แล้ว แต่ไม่ได้เอาไปทิ้งไหนยังเก็บไว้อยู่ เดี๋ยวกูจะพาไปดู”

“ไม่เป็นไรพี่ ไม่ต้องหรอก แค่นี้ผมอยู่ได้”

“ไม่ต้องแย้ง กูบังคับไม่ได้ถามความเห็น” ผมไม่รอให้มันปฏิเสธอีกรอบ เดินเข้าไปคว้าข้อมือมันพาเดินออกจากห้องพัก

ระหว่างทางมันเอาแต่ถามไม่หยุด ว่าผมจะให้มันยืมเฟอร์นิเจอร์เหรอ แล้วทำไมบ้านผมถึงมี ทำไมผมไม่ใช้ แล้วคนที่บ้านผมจะไม่ว่าเหรอถ้าจะให้มัน ถามจนกระทั่งผมขับรถมาถึงบ้าน

เวลานี้เป็นเวลาสี่โมงเย็น พี่ริชน่าจะอยู่ที่อู่รถ พี่เค้กก็อยู่ที่โรงเรียนสอนดนตรี ป๊าน่าจะเข้าบริษัทไปดูงาน ที่อยู่บ้านก็คงจะเป็นพ่อ

“เดี๋ยวเข้าไปหาพ่อกูก่อนแล้วกัน” ผมบอก

“ครับ” ไอ้ซ่ารับคำ มองบ้านผมอย่างสนอกสนใจ

บ้านของผมแต่งสไตล์ลอฟท์ที่ดูทันสมัย แต่กว่าจะลงตัวได้พวกพ่อๆก็ตีกันหลายรอบ ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ที่ทีแรกซื้อมาแล้วสุดท้ายมันไม่เข้ากับบ้านก็ต้องระเห็จไปอยู่ในโรงเก็บของ ย้ำว่าไม่ใช่ห้องเก็บของ แต่เป็นโรงเก็บของถึงจะถูกต้อง
 
ทันทีที่ก้าวเข้าบ้าน ไอ้หมาแสบของผมทั้งสองตัวก็โกยเท้าวิ่งเข้ามาหาผม กระโจนเข้าใส่ผมจนแทบหงายหลัง

“ไอ้ก้า ไอ้ซ่า หยุด!” ผมรีบสั่งให้ไอ้หมาบ้าพลังหยุด กว่าจะเชื่อฟังยอมนั่งลงดีๆก็ต้องดุไปอีกสองรอบ

“พี่เรียกหมาพี่ว่าอะไรนะ” ไอ้ซ่าถาม ผมงงๆในทีแรก แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อตะกี้ผมเรียกชื่อหมาบ้าสองตัวในฉบับสั้น ก็เลยไปเหมือนกับชื่อของมัน

“ไอ้ก้า กับไอ้ซ่า” ผมบอก

“นี่พี่เอาชื่อผมไปตั้งชื่อหมาเหรอ” ไอ้ซ่าทำหน้ายุ่ง ไม่ชอบใจ

“ชื่อเต็มมันชื่อซู่ซ่า กับปาปิก้า มันอยู่กับกูมาก่อนกูจะรู้จักมึงอีก”

“งั้นพี่ก็อย่าเรียกมันว่าซ่าเฉยๆสิ”

“สั่งกูเหรอ หึหึ” ผมยื่นหน้ายื่นตากวนตีนใส่ไอ้เด็กที่แสดงอาการเอาแต่ใจเรื่องชื่อ

 “อย่ายื่นหน้าเข้ามาดิพี่” มันดันไหล่ผมออก เพราะอีกนิดเดียวจมูกผมจะชนกับจมูกมันอยู่แล้ว

“ไปๆเข้าบ้าน ไอ้ลูกหมา มึงอยู่ข้างนอกนะ ไม่ต้องเข้าไป” ผมพูดกับซ่า จากนั้นก็หันไปสั่งหมาสุดที่รักสองตัวของผม ปาปิก้ากับซู่ซ่าก็เห่ารับคำก่อนจะหมอบรอนิ่งๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย

ผมพาซ่าเดินเข้าบ้าน แวะดูที่ห้องนั่งเล่นกับห้องครัวก็ไม่เจอพ่อ เลยคิดว่าน่าจะนั่งอยู่ในสวนหลังบ้าน ที่จัดทำระแนงไม้เลื้อยด้วยดอกกุหลาบแบบที่พี่เค้กชอบ วันว่างที่พ่อกับพี่เค้กอยู่ด้วยกัน ก็ชอบออกไปจู๋จี๋กันหลังบ้านเสมอ

“พ่อครับ” ผมเรียกพ่อทราฟที่กำลังนั่งเช็คหุ้นสบายใจ รายได้ทั้งหมดแกก็ให้เมียแกหมด สักวันผมก็อยากจะเจริญรอยตามพ่อ ฮ่าๆๆๆ

“สวัสดีครับ” ไอ้ซ่ายกมือไหว้พร้อมโค้งตัวอ่อนน้อม

“อืม สวัสดีๆ” พ่อผมรับไหว้หน้างงๆ คงเพราะแปลกใจว่าซ่าเป็นใคร ด้วยภาพลักษณ์ภายนอกกับอายุที่ดูน้อยกว่าผมอยู่หลายปี
“ชื่ออะไรล่ะเรา”

“ซ่าครับ”

พอไอ้ซ่าบอกชื่อ พ่อมองจ้องมันนิ่งๆก่อนจะยิ้ม พ่อจะดูเป็นผู้ชายอ่อนโยนอบอุ่น แต่มองอะไรค่อนข้างขาด

“ก็คงจะซ่าสมชื่อนะ”

เด็กที่โดนแซวยิ้มแหะๆ มือยกเกาท้ายทอยแก้เขิน

“พ่อครับ พอดีซ่ามันย้ายของเข้าหอ แต่ว่าหอมันไม่มีเลย ปราบเลยพามันมาดูเฟอร์นิเจอร์ในโรงเก็บของที่บ้านเราไม่ใช้”

“อ่อ ไปดูสิไปดู อะไรใช้ได้ก็เอาไปเลย เก็บเอาไว้ก็เสียเปล่า” พ่อเห็นด้วย พวกท่านอยากให้มีคนมาช่วยเอาไปใช้บ้าง เพราะอะไรที่ไม่ใช่บิ้วท์อิน บ้านผมจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยตามแต่ว่ามีอันไหนออกมาใหม่แล้วสวย

“ขอบคุณครับคุณน้า” ซ่ารีบยกมือไหว้อีกครั้ง

“เรียกพ่อเหมือนปราบนั่นแหละ” พ่อผมพูด สบตากับผมแล้วยิ้ม ทำไมทุกคนในบ้านจะต้องรู้ทันผมไปหมด

หลังจากขออนุญาตพ่อพอเป็นพิธี ผมก็พาซ่าเดินไปที่โรงเก็บของ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างอยู่ในสภาพดี ประกอบเรียบร้อยพร้อมใช้งาน นั่นเพราะตอนเอามาเก็บไม่ได้ถอดแยกส่วน

“ของพวกนี้มึงเลือกเอาไปไว้ที่ห้องได้เลย”

“จะดีเหรอพี่ ของมีราคาทั้งนั้น” ซ่าเดินสำรวจดูของ แตะๆลูบๆด้วยความสนใจ

“ของมีราคา แต่ตอนนี้มันไร้ค่ามาก ให้มึงเอาไปใช้มันจะได้เป็นประโยชน์”

“ก็จริง”

สุดท้ายมันก็ได้เตียงนอนหนึ่งหลัง ตู้เสื้อผ้าหนึ่งตู้ โต๊ะเขียนหนังสือ และทีวีพร้อมโต๊ะวางที่ผมต้องบังคับอยู่นานกว่ามันจะยอม

“มันไม่เยอะไปเหรอพี่ปราบ” ไอ้ซ่าถามขณะที่มองเด็กในบ้านยกของขึ้นรถกระบะเตรียมขนไปไว้ที่ห้องมัน นอกจากนั้นผมยังเตรียมสีทาห้องและอุปกรณ์ไปด้วย

“ไม่เยอะหรอก มึงไม่เห็นหรือไงว่าในโรงเก็บของยังเหลือของอีกตั้งเยอะแยะ มึงมาช่วยแบ่งๆไปใช้น่ะดีแล้ว ป๊ากูออกจะชอบ เวลาจะซื้ออะไรใหม่พี่ริชจะได้ไม่ด่าว่าเสียดายของเก่า”

“ผมโคตรเกรงใจเลยอ่ะ”

“กูกับมึงไม่ใช่คนอื่น ไม่อยากให้มึงมานั่งเกรงใจ เข้าใจไหม” ผมโอบไหล่มันเข้ามากอดแบบเนียนแล้วก็ปล่อยออกอย่างรวดเร็ว มันจะได้ไม่รู้สึกผิดสังเกต

“ขอบคุณมากเลยนะครับ”

“ไม่เป็นไร ไปๆ เอาของไปเก็บที่ห้องมึงกัน เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน”

ผมกับซ่านั่งลูกรักของผมกลับไปที่หอพักของมัน แล้วให้รถขนของของที่บ้านขับตามหลัง มาถึงผมก็ให้คนที่บ้านทาสีห้องใหม่เป็นอันดับแรก จากนั้นพอสีเริ่มแห้งนิดๆก็เอาเฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นเข้าห้องจนเรียบร้อยลงตัว ดูน่าอยู่มากกว่าครั้งแรกที่เห็น แต่ขัดใจอยู่อย่างเดียวคือห้องมันไม่มีแอร์ เพราะผมค่อนข้างขี้ร้อน มันเองก็ขี้ร้อน คิดว่าถ้าอยู่ห้องตอนกลางวันได้เหงื่อโซมกายอย่างไม่ต้องสงสัย

“ผมกลับก่อนนะครับคุณปราบ”

“ครับ”

คนงานในบ้านขอตัวกลับเมื่อทำงานเสร็จ ซ่ายกมือไหว้ขอบคุณและเอ่ยลา ผมทิ้งตัวนั่งในห้อง ควักผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อที่ไหลเป็นสายน้ำ ในขณะที่เจ้าของห้อง ยกชายเสื้อยืดสีเลือดหมูขึ้นเช็ดหน้าแบบลวกๆ เผยให้เห็นหน้าท้องขาวแห้งๆจนเห็นชายโครงกระดูกอยู่ตรงหน้า ผมคิดว่าถ้ามันมีกล้ามเนื้อมากกว่านี้อีกสักหน่อยคงเหมาะมือไม่น้อย

“มึงไปเก็บเสื้อผ้าไป คืนนี้ไปนอนค้างที่บ้านกูก่อน กลิ่นสีหึ่งแบบนี้มึงนอนไม่ได้หรอก”

“เห้ย ไม่เป็นไรพี่ ผมนอนได้” ปากพูดว่านอนได้ แต่มาทำจมูกฟุดฟิดแล้วเบ้หน้าให้เห็นนี่คืออะไรวะครับ

“กูบอกว่านอนไม่ได้ก็นอนไม่ได้ เลือกเอาว่าจะไปนอนบ้านกูหรือจะไปนอนบ้านแม่” ผมเชื่อว่าถ้ายื่นตัวเลือกแบบนี้มันจะต้องตอบตกลงร้อยเปอร์เซ็นต์

“โหพี่ปราบอ่ะ ผมไปนอนบ้านพี่ก็ได้ แต่เลี้ยงเหล้าด้วยดิ อยากกินเหล้าอ่ะ”

“เออ อยากได้อะไรอีกไหม”

พอเห็นผมตามใจก็ยิ้มแฉ่ง “ผมโทรชวนพวกไอ้หวายด้วยได้ไหมพี่ ผมอยากลั้นลาก่อนเปิดเทอมอ่ะ”

“เออ มึงก็โทรหาเพื่อนมึงแล้วกัน เดี๋ยวกูโทรหาเพื่อนกู”

“ขอบคุณครับ”





ตกเย็น ลานหญ้าหน้าบ้านผมก็ถูกปูทับด้วยเสื่อและข้าวของสำหรับตั้งวงเหล้า ผมกับซ่ามีหน้าที่เตรียมสถานที่หลังจากที่โทรเรียกพรรคพวกให้มาร่วมสังสรรค์กันแล้ว และหน้าที่ซื้อของกินกับเครื่องดื่มทั้งมึนเมาไม่มึนเมาเป็นหน้าที่ของไอ้พวกเพื่อนทั้งหลายที่จะต้องแวะซื้อก่อนเข้ามา

“อยากได้กับแกล้มอะไรอีกใหม่น้องซ่า เดี๋ยวพี่เค้กจะได้ทำให้” พี่เค้กถาม

“ไม่แล้วครับ แค่นี้ก็เยอะแล้ว” ไอ้ซ่ารีบยิ้มประจบ

ผมกับซ่ากลับมาถึงบ้าน คนอื่นๆในบ้านก็กลับมาก่อนพวกผมแล้ว และเมื่อรู้ว่าวันนี้ผมและเพื่อนๆจะมากินข้าวกันที่บ้าน พี่เค้กก็รีบเข้าครัวทำทั้งกับข้าวและกับแกล้มให้ โดยคอยถามตลอดว่าจะเอาอันนั้นไหม จะกินอันนี้หรือเปล่า ซ่ามันก็ตอบรับครับๆ ตอนนี้เลยได้กับแกล้มมาแกล้มเหล้าหกอย่าง 

“ปราบ ป๊าเรียกให้ไปหาในห้องทำงานอ่ะ” พี่ริชเดินเขามาเรียกผมในครัว ผมเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะกระซิบถาม

“เรื่องอะไรอ่ะพี่ริช” ถามไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวเตรียมใจถูก

“เรื่องน้องซ่า” พี่ริชทำหน้าเครียดขึ้นมาทันที

“จริงดิ”

“ไม่จริง ฮ่าๆๆ”

“โหยพี่ริช ปราบตกใจหมด”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร แต่ไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก ดูจากสีหน้าแล้วอารมณ์ดีอยู่”

“งั้นเดี๋ยวผมมานะครับ ฝากเด็กด้วย” ผมปรายตามองไปทางซ่าที่กำลังเป็นลูกมือให้พี่เค้กอยู่ พูดให้ถูกคือลูกมือช่วยชิม

“ไปเถอะ”

ผมเดินขึ้นชั้นสองตรงไปยังห้องทำงานของป๊า ซึ่งอยู่ข้างๆห้องนอนที่มีประตูเชื่อมเข้าหากัน ยังจำได้ว่าตอนเด็กๆหากคืนไหนผมนอนกับป๊าและพี่ริช แล้วป๊าต้องทำงานจนถึงดึก ผมจะงอแงหากป๊าไม่ยอมมานอนด้วย สุดท้ายป๊าก็ต้องเปิดประตูที่เชื่อมกับห้องทำงานไว้ แล้วผมกับพี่ริชก็จะนอนมองป๊าทำงานจนกระทั่งผมผล็อยหลับไป

ผมเคาะประตูห้องทำงานเพื่อบอกให้คนข้างในรู้ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป พ่อที่สวมแว่นตานั่งอ่านเอกสารในมือเงยหน้าขึ้น

“ป๊าเรียกผมมีอะไรเหรอ” ผมทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามโต๊ะทำงาน

ป๊าวางเอกสารในมือลง ถอดแว่นที่ทำให้หน้าป๊าดูเป็นผู้ชายอบอุ่นขึ้นออก

“พรุ่งนี้ไปดูงานที่โครงการคอนโดThe legendsตรงสาทรให้ที เห็นช่างบอกว่าจะมีปรับแบบบางส่วน เขาแจ้งมาแล้วแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีฝ่ายสถาปนิกไปดูงานที่นั่นด้วย” ป๊าเข้าเรื่องงานแบบไม่ต้องมีการเกริ่นนำก่อน

“กี่โมงอ่ะป๊า พรุ่งนี้เช้าผมต้องเข้าไปเซ็นเอกสารที่ตึกใหญ่”

“ช่วงบ่าย แต่กี่โมงเสร็จกูบอกไม่ได้ แต่คงไม่น่าจะนาน”

“ถ้าช่วงบ่ายผมก็โอเคอยู่ เดี๋ยวเข้าไปดูให้แล้วกัน แล้วป๊าโอเคกับแบบแล้วใช่ไหม”

“อืม ไม่ต่างจากเดิมมาก แต่ส่งผลเรื่องโครงสร้างและความมั่นคงได้ดีกว่า”

“ป๊าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการให้”

คุยเรื่องงานจบป๊าก็เงียบไป ใช้เพียงสายตามองจ้องผมราวกับจะเค้นหาความจริง คนมั่นใจอย่างผมจะแพ้ก็กับป๊าเนี่ยแหละ

“มองผมแบบนี้ทำไมป๊า” เริ่มร้อนๆหนาวๆ

“เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแนวแล้ว”

ไม่ต้องเดาเลยว่าป๊าหมายถึงเรื่องอะไร

“ทำไมทุกคนชอบถามแบบนี้ ผมก็ไม่ได้มีสเป็คตายตัวอยู่แล้วป่ะ”

“งั้นกูถามใหม่ เล่นๆหรือจริงจัง”

“ตอบยากว่ะป๊า ยังไม่รู้ว่าควรแค่เล่นๆหรือจริงจังดี เด็กมันยังไม่รู้เลยว่าผมคิดไม่ซื่อ และมันก็ไม่ใช่เกย์ พี่ริชเล่าให้ฟังบ้างยังล่ะ”

ป๊าพยักหน้า “ก็เล่านิดหน่อย แต่พอมาเห็นเองกับตา มึงนี่ทำกูทึ่งจริงๆ”

“มันน่ารักนะป๊า แค่ดูแข็งกระทื่อไปหน่อย”

“กูก็ไม่เถียงว่ามันหน้าตาน่ารัก แต่มึงคิดว่าเอาอยู่หรือไง นั่นอาจจะยิ่งกว่าม้าพยศก็ได้”

“ยังไม่แน่ใจ”

“กากวะ อย่าไปบอกใครนะว่าเป็นลูกกู”

“อ่ออ ใช่ซี้ กว่าจะได้พี่ริชมาป๊าก็ปราบไปเยอะนิ”

“เออ เพราะฉะนั้น ปราบม้าพยศไม่ได้ มึงดีดตัวเองออกจากสำมะโนครัวไปเลย บ้านกูไม่มีคนกากๆ”

“ป๊าคอยดูแล้วกัน”

จะมาดูถูกกันอย่างนี้ได้ยังไง คิดว่าผมโตมาด้วยการเลี้ยงดูจากผู้ชายห้าคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวอย่าง ป๊าคราม พ่อทราฟ อาเจ ลุงสอง และป๋าคาร์ลได้นั้น ผมจะห่วยแตกเรื่องจีบหญิงจีบชายงั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก

ยังไงผมก็ต้องทำให้ซ่ารักผม ยอมรับผมให้ได้ในวันใดวันหนึ่ง

ไม่เชื่อก็คอยดู






หกโมงเย็นทั้งเพื่อนผมและเพื่อนไอ้ซ่าก็มาถึงที่บ้าน พวกมันเข้าไปไหว้ทักทายผู้ใหญ่ในบ้าน ก่อนจะออกมาช่วยกันปิ้งย่างคอหมูไว้เป็นกับแกล้ม

“มึงมากับพี่ปราบก่อนได้ไงไอ้พัช” ทุกคนนั่งล้อมเป็นวงกลมกันอยู่ ไอ้หวายที่มองจิกผมกับไอ้ซ่าตั้งแต่มาถึงก็ถามโผงขึ้นกลางวง

“นั่นดิ ทำไมมึงมาถึงก่อนพวกกูวะ” และตามมาด้วยฝั่งเพื่อนผมอย่างไอ้บีทบ้าง มันยักคิ้วกวนตีนใส่ผม ตามมาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ของไอ้กี่ที่มองมาอย่างรู้ทัน จะมีก็แต่ไอ้ธีร์ที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว

“ก็มากับพี่ปราบไง” ไอ้ซ่าตอบพาซื่อ คือมันไม่คิดหรอกว่าคนที่ถามมันนะต้องการสื่อถึงอะไร เพราะสิ่งที่ไอ้ซ่าให้ความสนใจในตอนนี้ก็คือคอหมูย่างและเบียร์วุ้นเย็นๆมากกว่า

“ก็นั่นแหละ แล้วมาด้วยกันได้ไงละ” ไอ้หวายไม่หยุดซักถาม

“เรื่องของกู เนอะพี่ปราบเนอะ” ไอ้ซ่าถือวิสาสะโอบไหล่ผมแหย่ไอ้หวาย ผมก็เลยเล่นด้วยโดยการโอบไหล่มันคืนบ้าง

“เออ พวกกูสนิทกัน มึงจะทำไมไอ้หวาย มีปัญหา” ผมเลิกคิ้วแกล้งมัน

“ไม่ได้มีปัญหาสักหน่อย พี่บีทยังสงสัยเลยเหอะ” ไอ้หวายเริ่มหาพวก

“กูก็ถามไปงั้นๆแหละ”

“อ้าว พี่บีท ไหงงั้นล่ะ”

“แล้วมึงจะไปสนใจมันทำไมวะไอ้หวาย” เพื่อนมันที่ชื่อนุ๊กถามอย่างสงสัย

“ก็กูอยากรู้” ไอ้หวายยู่ปากใส่เพื่อนมัน

“บ้านกูเรียกเสือก” แล้วไอ้กี่ก็ด่าต่อทันที

“พี่กี่นิสัยไม่ดี ไปนั่งไกลๆเลยไป”

“กูนั่งตรงนี้ของกูอยู่แล้วมึงนั่นแหละไปไกลๆ”

“ไม่ไป ผมไม่ไป พี่จะทำไม”

ไอ้หวายกับไอ้กี่เถียงกันอย่างกับคู่ผัวเมียละเหี่ยใจ

ผมส่งสายตาให้ไอ้กี่จัดการกับไอ้ตัวแสบของมันซะ อย่าได้จุดประเด็นโต้งๆขึ้นอย่างนี้อีก มาถามนอกรอบได้ จะตอบความจริงให้ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าอย่าเพิ่งให้ไอ้ซ่ารู้จะดีกว่าว่าผมคิดยังไงกับมัน

จากทีแรกที่นั่งกินเหล้ากินเบียร์เคล้ากับแกล้ม ก็เริ่มดีดกีตาร์ร้องเพลงกัน มีพ่อกับป๊ามาร่วมแจมด้วยแปบๆ ก่อนจะกลับเข้าบ้านไปอยู่กับเมีย

และคราวนี้ผมได้รู้ว่า ไอ้ซ่าเป็นคนที่ร้องเพลงได้ห่วยแตกที่สุด จนไอ้ธีร์ต้องรีบประเคนแก้วเบียร์ใส่ปากมัน เพื่อที่มันจะได้หยุดร้องเสียที แก้วหูจะแตก

ยังไม่ทันเลยสี่ทุ่ม ก็เริ่มมีคนนอนเลื้อยเป็นงูไปกับพื้น แต่ก็ยังคงสนุกสนานเฮฮากันอยู่

“ไอ้ปราบ เกิดเรื่องแล้ว ป๊ามึงกับพี่ริชทะเลาะกัน” ไอ้บีทเดินมากระซิบกับผม ผมเลิกคิ้วสูง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปดูว่าสถานการณ์โอเคหรือไม่ ป๊าผมหัวแตกไปยัง

“เกิดอะไรขึ้นอ่ะพ่อ พี่เค้ก” ผมถามสองคนที่ยืนคุมเชิงอยู่หน้าประตูห้องนั่งเล่น

“ยังไม่มีอะไร แค่เถียงๆกัน” พี่เค้กหันมาบอก

“แต่ใครจะชนะอันนี้ยังบอกไม่ได้” พ่อพูด

ผมมองเข้าไปในห้อง พี่ริชยืนกอดอกจ้องหน้าป๊านิ่ง ในขณะที่ป๊าทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“แต่พี่ครามก็ไม่ควรส่งลูกน้องไปขับรถชนเขาไหมละ”

“อย่ามากล่าวหากูได้ไหม กูทำที่ไหน มันเป็นอุบัติเหตุ”

“คิดว่าริชจะเชื่อพี่เหรอ”

“แล้วมึงไม่เชื่อกู แต่มึงเชื่อมันว่างั้น”

“ก็เพราะริชรู้นิสัยพี่ดีไง ไม่พอใจอะไรเขานักหนาถึงต้องทำขนาดนี้”

“เหอะ” ป๊าสะบัดหน้ามองไปทางอื่น

“ยอมรับมาเถอะว่าพี่ทำน่ะ” พี่ริชพูดเสียงอ่อนลงเล็กน้อย ดูก็รู้ว่าพยายามหลอกล่อให้ป๊าสารภาพความผิด

สุดท้ายป๊าก็ยอมรับ “เออ กูทำ พอใจยัง”

“แล้วพี่ทำไปทำไม” พี่ริชถึงกับถอนหายใจแรง

“ถ้ามีรถขับดีๆแล้วใช้รับส่งเมียชาวบ้าน ก็อย่าขับมันเลยรถน่ะ และต่อไปนี้กูจะไปรับไปส่งมึงเองริช”

“แน่ใจว่าทำได้”

“เออ กูทำได้ เมียกูกูไปรับไปส่งเองได้ ไม่ต้องยืมมือคนอื่นหรอก”

“ริชจะคอยดู”

“เออมึงคอยดูได้เลยริช คนอย่างสงครามพูดคำไหนคำนั้นเว้ย”

“เอาที่พี่ครามสบายใจเลยครับ”

เอาเป็นว่าจบเรื่องกันไป ไม่ได้มีฝ่ายใดเลือดตกยางออกอย่างที่คิดเป็นห่วง

“พี่ครามทำเกินไปหน่อยนะเค้กว่า” พี่เค้กให้ความเห็นกับเรื่องสองคนนั้น พี่เค้กน่ะจิตใจดี ย่อมมองว่าป๊าทำเกินไปแต่สำหรับผู้ชายอย่างพวกผมแล้ว ผมคิดว่าที่ป๊าทำก็นับว่าสมควร

“แต่พี่ว่ามันทำดี เพราะถ้ามีเห็บหมัดตัวไหนมาเกาะแกะเค้กละก็ พี่ไม่ปล่อยไว้เหมือนกัน” แม้แต่พ่อที่ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นก็ยังเห็นด้วย

“ไม่ต้องเลยนะ เค้กไม่ชอบอันธพาล” พี่เค้กทำหน้าไม่ชอบใจ หยิกพ่อเข้าให้

“อู้ยย ครับผม ไม่ชอบก็ไม่ชอบครับ ฟอดด”

เอาเป็นว่า ผมออกไปอยู่ข้างนอกตามเดิมดีกว่า เพราะขืนยังอยู่ตรงนี้ต่อ ก็ไม่วายต้องทนมองป๊ากับพี่ริชจูบคืนดีกัน และยังต้องมาทนเห็นพี่เค้กกับพ่อเพิ่มความหวานใส่กันอย่างไม่มีวันจบสิ้น

“แสบสุดนี่ไม่มีใครเกินไอ้พัชแล้วผมบอกเลย วีรกรรมมันเยอะมากกกกกก”

“อย่าไปเชื่อมันพี่” ไอ้ซ่าโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่หน้ามันยิ้มตามันเยิ้ม เมาหนักแล้วอาการแบบนี้

“ต้องเชื่อพวกกูนี่ อยู่กับมึงมาจนพวกกูแทบจะยกให้เป็นท่านอาจารย์แล้ว”

“ไอ้สัดกาน” ไอ้ซ่าชี้หน้าเพื่อนมัน แต่ถูกปัดมือทิ้ง

ผมเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างไอ้ซ่า ก่อนจะส่งสายตาให้ไอ้ธีร์ชงเหล้าแก้วใหม่ให้ผม พอยกขึ้นดื่มเท่านั้น ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไอ้พวกเด็กๆมันเมาเร็ว พอเบียร์หมด พวกมันก็ต่อด้วยเหล้าทันที

“ไหนมึงเล่ามาสิ ว่าวีรกรรมของไอ้พัชมีอะไรบ้าง”

“ผมๆ ผมขอเล่า” ไอ้นุ๊กรีบยกมือขอพูด

“เออ มึงเล่าไอ้นุ๊ก ไอ้นี่ไม่โกหกเชื่อมันได้” ไอ้ตูนเด็กหน้าหล่อรีบสนับสนุนเพื่อนมันเลย แต่ไอ้นุ๊กก็ดูเป็นเด็กที่เรียบร้อยสุดแล้วในบรรดาพวกมัน

“อะไรของพวกมึงเนี่ย” ไอ้ซ่าแหวเสียงใส่เพื่อนมัน

“ผมเล่าแล้วนะ ไอ้พัชเนี่ย ทีแรกบ้านมันแม่มันอยากให้มันเรียนต่อมอ4แล้วเข้ามหาวิทยาลัย มันอยากเรียนเทคนิคแต่แม่มันไม่ยอม ทะเลาะกันบ้านแทบแตก ผมที่ไปหามันที่บ้านแทบหาทางกลับไปถูกเลย”

“อ้าว แล้วทำไมมึงกลายมาเป็นเด็กช่างได้เนี่ย” ไอ้ธีร์หันไปถามไอ้ซ่า ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน ซ่าไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้และผมก็ไม่เคยถาม

“ไม่มีอะไร ก็ผมอยากเรียนช่าง” ตอบได้ไม่ตรงคำถามสุดๆ

“โธ่ไอ้พัช มึงไม่บอกเขาไปล่ะว่าแม่มึงให้ไปสอบเข้าเรียนต่อมอสี่ แต่มึงไปสอบแต่ไม่ทำข้อสอบเลยอ่ะ” ไอ้หวายตะโกนใส่หน้าไอ้ซ่าที่แค่ยักไหล่เบาๆ

“พี่คิดดูนะมันกวนตีนขนาดไหน แม่มันส่งไปสอบสามที่ มันทำหมดทั้งสามที่ แม่มันก็สงสัยนะว่าทำไมมันไม่ได้เลยสักที่ มันดันเสือกตอบแม่มันว่ามันโง่” ไอ้กานเล่าต่อพร้อมใส่อารมณ์ในน้ำเสียงเต็มที่

“แล้วทุกวันนี้แม่มันไม่รู้เหรอ” ไอ้กี่ถามบ้าง

“รู้แล้วพี่ แม่มันไปถามอาจารย์เลยว่าลูกตัวเองสอบตกไปกี่คะแนน เขาถึงได้รู้ว่ามันไม่ทำข้อสอบเลย เข้าไปนั่งหลับแล้วก็ออกมา หลังจากนั้นเขาก็ไม่พามันไปสอบที่ไหน ยอมให้มันมาเรียนช่างอย่างทุกวันนี้” ไอ้นุ๊กเฉลย

“มึงนี่สุดยอดจริงๆว่ะไอ้พัช” ไอ้ธีร์ยกแก้วเหล้าให้ไอ้พัชแล้วกระดกดื่มจนหมดแล้ว

“ก็ผมไม่อยากเรียนต่อสายสามัญ ผมรู้ว่าผมไม่ชอบ ให้ผมเข้าเรียนช่างตั้งแต่แรกก็จบแล้ว ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่เรียนต่อหรือเปล่าวะ อนาคตผม ผมต้องได้เลือกเองไง”

“ธรรมดาเว้ย วัยกำลังต่อต้าน ไอ้บีทก็เคยเป็นตอนเข้ามหาวิทยาลัย พ่อแม่จะให้เรียนหมอ ไอ้เหี้ยนี่แอบไปสอบบริหารเฉย ทุกวันนี้ก็เลยกลายเป็นเจ้าของร้านเหล้าส่งคนไข้หาหมอด้วยโรคตับแข็ง

“ก็นี่มันความฝันกูไง” ไอ้บีทยักคิ้วหลิ่วตากวนตีน

หลังจากนั้นพวกมันก็พากันแฉเรื่องความแสบความชั่วของคนรอบข้างกันสนุกสนาน ไม่เว้นแม้แต่ผมที่ก็ร่วมวงด้วย

จนกระทั่งเลยเข้าวันใหม่ พวกเพื่อนผมก็ขอตัวกลับบ้านพร้อมหิ้วปีกไอ้พวกเด็กแสบกลับไปด้วย เนื่องจากผมสั่ง เหลือเพียงไอ้ซ่าคนเดียวเท่านั้นที่ผมบอกกับเพื่อนว่าจะจัดการเอง พวกมันก็พอรู้ว่าผมสนใจไอ้ซ่า เลยร่วมด้วยช่วยกันหิ้วเพื่อนของไอ้ซ่าออกจากบ้านผม

“อื้อ พี่ปราบ เพื่อนผมอ่ะ” ซ่าที่นอนแผ่หลาอยู่บนโซฟากลางบ้านผงกหัวทำตาปรือๆมองหาเพื่อนมัน ก่อนจะหลับตาลงแล้วทำหน้าพะอืดพะอม

“มันกลับไปแล้ว” ผมตอบ เก็บกวาดด้านล้างเสร็จพอดี และกำลังจะพามันขึ้นไปนอนกับผม

“อ้าว แล้วผมกลับไง” พูดทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา เสียงก็ยานคางเหลือเกิน

“จะกลับทำไม นอนนี่ดิ กูบอกแล้วไงว่าคืนนี้ให้มึงนอนบ้านกู” กูไล่เพื่อนมึงกลับไม่ใช่เพื่อการนี่เหรอวะซ่า

“นอนนี่ นอนไหนอ่ะ” ดวงตากลมที่ปิดสนิทค่อยๆลืมขึ้นข้างหนึ่ง

“นอนกับกูไง เตียงนุ่มๆ แอร์เย็นๆ ดีไหม” ผมก้มหน้าลงไปถามใกล้ ถึงซ่าจะสูบบุหรี่ แต่ปากมันก็ยังมีความอมชมพูอยู่บ้าง มันน่าเอาปากลงไปแนบด้วยจริงๆ

“ดีๆ ผมอยากนอนแล้วครับ” พูดเพราะขึ้นมาเชียวไอ้เด็กนี่

“หึหึ งั้นก็ขึ้นไปนอนกันครับ”

ไอ้ซ่าชูมือขึ้นทั้งสองข้างให้ผมช่วยดึงมันขึ้น ผมพยุงบวกประคองมันขึ้นมาที่ห้องนอนของผม ซ่าทำท่าจะพุ่งเข้าหาเตียงนอนอย่างเดียว

“เดี๋ยวมึงได้นอนบนเตียงกูแน่ แต่ตอนนี้มึงต้องไปอาบน้ำให้ตัวหอมๆก่อน เข้าใจไหม”

“อื้ออ ผมง่วง”

“อาบน้ำก่อน” ผมบอกมันอย่างใจเย็น

“พี่ปราบอาบให้หน่อย ผมยืนไม่ไหว แม่งจะล้ม”

จะไหวก็เกินไปแล้ว เล่นดื่มเหล้ายังกับน้ำเปล่า ได้ทีกระดกใหญ่

“มึงแน่ใจนะว่าจะให้กูอาบให้ มึงไม่อาย” ผมถามความสมัครใจก่อน เดี๋ยวหาว่าล่อลวงเด็ก แต่นี่เด็กมันเสนอมาเองเลย ผมต้องอยากสนองอยู่แล้ว

“อายไร ไม่อายหรอก มีเหมือนกัน เร็วๆดิพี่ พาผมไปอาบน้ำ ผมง่วง”

กูถือว่ากูถามแล้วนะ หลังจากนี้จะมาหาว่ากูลวนลามไม่ได้แล้วนะ แต่ผิวมันลื่นมือดีนะ ถ้ามันมีเนื้อกว่านี้อีกนิดหน่อย ตอนหอมแก้มมันน่าจะนุ่มกว่านี้ และส่วนที่จะนุ่มมากที่สุดก็น่าจะเป็นก้นของมัน



..................................................
สวัสดีค่า วันนี้มาลงให้ต่อเนื่องจากเมื่อวานเลย
แอบกระซิบว่า รีบเสพความสุขจากตอนนี้ไว้นะคะ เพราะตอนหน้าและต่อไปอีกนิดหน่อยจะเข้าสู่ดราม่าแล้ว
ใครที่รอให้ซ่าเลิกกับพลอยอยู่ เวลานั้นกำลังจะมาถึงแล้วค่า และพี่ปราบก็จะเริ่มรุกเต็มที่ มาติดตามร่วมกันต่อว่า น้องซ่าจะรับมือกับปัญหาต่างๆที่ถาโถมเข้ามาได้ยังไง
ขอบคุณนักอ่านที่แสนจะน่ารัก ที่ยังคงรออ่านพี่ปราบน้องซ่านะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและกำลังใจด้วย อ่านแล้วชื่นใจที่สุดเลยค่า  :o8:
เจอกันตอนหน้านะคะ ว่าแต่วันไหนดีเอ่ยยยยยย   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่14:: 28/8/2017 P.8 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 28-08-2017 21:58:53
ปราบลวนลามน้อง !!!
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่14:: 28/8/2017 P.8 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 28-08-2017 22:30:10
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่14:: 28/8/2017 P.8 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-08-2017 22:57:38
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่14:: 28/8/2017 P.8 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 28-08-2017 23:08:13
พี่ปราบน้องซ่าาา คิดถึงมากๆเลย
พี่ปราบรุกเลยค่ะ รอน้องรู้ตัวน่าจะอีกนานแน่นอน  :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่14:: 28/8/2017 P.8 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 29-08-2017 03:24:14
คิดถึงพี่ปราบกับซ่า มาแล้ววรอตอนต่อไปคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่14:: 28/8/2017 P.8 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 29-08-2017 09:13:45
นี้หายไปนานมาก เหมือนคนแต่งหนีไปแต่งงาน ฮ่ๆๆๆ แซวๆ

คือซ่าควรเลิกพลอยนานแล้ว ดูยึดติดเกิน มีปัญหามาเข้ามา แต่ซ่ามันยังมีพี่ปราบ

พระเอกแบบพี่ปราบนี้จะว่าดีก็ดี จะว่าเจ้าเล่ห์ก็นะ เพราะพี่ปราบกำลังเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของซ่า
เอาเถอะ ขอหวานๆไห้พี่ปราบด้วย เห็นใจนาง เห็นใจป้านี้ด้วยฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่14:: 28/8/2017 P.8 (กลับมาลงแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: B_SRIKHUNLA ที่ 30-08-2017 20:56:34
จะว่าไรมั้ยถ้ารอซ่าเลิกกับพลอย
 :mew4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 30-08-2017 21:22:51
ปราบซ่า
ตอนที่15


[ซ่า]
 เช้าวันศุกร์ที่ผมต้องตื่นไปเรียน ปกติผมจะตื่นตอนใกล้จะแปดโมง อาบน้ำแต่งตัวใช้เวลาไม่นานแล้วค่อยไปโรงเรียน ก็ทันเข้าเรียนตลอด แต่เช้าวันนี้ผมโดนปลุกตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าด้วยสายโทรศัพท์จากที่บ้าน

“ฮัลโหล ว่าไงแม่”

“กว่าจะรับสายนะมึง กูโทรไปหากี่รอบแล้วห๊ะ แม่ง ไม่มีใครได้ดั่งใจกูสักคน” รับสายไม่ทันถึงวินาที เสียงแม่ก็สวดยับมาแต่เช้า นี่ขนาดผมออกมาอยู่หอยังโดนขนาดนี้ ถ้ายังอยู่บ้านนี่ไม่รู้ว่าจะขนาดไหน

“เสียงดังอะไรอ่ะซ่า” พลอยบ่นแล้วก็พลิกตัวนอนหันหลังให้ผม เมื่อคืนพลอยขอมาค้างด้วย ตั้งแต่ผมย้ายออกมาอยู่หอ พลอยก็มานอนกับผมที่ห้องแทบจะวันเว้นวัน

“มึงฟังกูอยู่ไหมไอ้ซ่า เย็นนี้เลิกเรียนแล้วมาช่วยงานที่บ้านด้วย” แม่สั่งมาเสียงห้วน คงมีใครที่บ้านทำให้หงุดหงิด

“คืนนี้ผมเข้างานอ่ะแม่ ตอนเย็นจะนอน”

เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ และวันนี้ผมก็เลิกเรียนเย็น ช่วงเวลาทำงานเลยเป็นห้าทุ่มถึงหกโมงเช้าแทน เลิกเรียนแล้วผมอยากกลับห้องมาทำการบ้านแล้วนอนพักเอาแรงมากกว่า

“แล้วมึงมาช่วยที่บ้านก่อนได้ไหมละ ของต้องเอาไปขายเยอะแยะ มึงมาช่วยกันขนก่อน”

“ที่บ้านก็มีคนอยู่ตั้งหลายคนไม่ใช่เหรอแม่ ผมต้องทำการบ้านด้วย”

“มึงไม่ต้องมาหาเรื่องโกหกกู คนอย่างมึงเหรอจะทำการบ้าน หาข้ออ้างจะไม่มาช่วยกูล่ะไม่ว่า”

“...” ผมเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรดี 

“เอาเป็นว่ากูบอกให้มาช่วยก็มา” แม่รีบสั่งแล้วก็รีบวางสาย ผมมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือด้วยความเซ็ง

 คนอย่างผมนี่มันยังไงวะ มันน่าแปลกมาสินะที่คนอย่างผมจะหันมาเริ่มทำการบ้านไปส่งอาจารย์บ้าง มีอ่านหนังสือบ้าง แม้ว่าจะแค่วันละไม่กี่สิบนาทีก็ตาม

ผมไม่อยากได้คำชมหรอก เพราะไม่เคยคาดหวังอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องมาหาว่าผมโกหกด้วย

“ซ่า อยากกินโจ๊กที่ตลาดอ่ะ พาไปกินหน่อยดิ” พลอยลุกขึ้นนั่งขยี้ตา

“อืม ไปอาบน้ำแต่งตัวไป” ผมบอก พลอยมองหน้าผมเหมือนจะรู้และเข้าใจว่าอารมณ์ผมตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และก็รู้ด้วยว่าต้องเป็นเรื่องที่บ้าน  เลยไม่ได้พูดอะไร เพราะรู้ว่าปัญหาคนในบ้านผมไม่ยอมช่วยทำงานนั้นมันแก้ไม่หาย แม่มักทำได้แค่บ่นลับหลัง งานไม่ทำแต่ก็ได้เงินกัน แล้วใครมันจะไปอยากทำ สุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนทำทุกที อยู่ที่ไหนถ้าโดนโทรตามก็ต้องกลับไปทำ

พลอยอาบน้ำแต่งตัวพร้อมไปเรียนเสร็จ ผมก็เข้าไปอาบต่อ ระหว่างนั้นผมได้ยินเสียงโทรศัพท์พลอยดังข้างนอกแว่วๆ ก่อนที่เสียงพลอยจะตะโกนบอกว่าจะลงไปรอที่ข้างล่างหอพัก

ผมมองตัวเองในกระจก บอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไง ผมคิดว่าสายที่โทรเข้าเบอร์พลอยเมื่อตะกี้ จะต้องเป็นไอ้คนที่ชื่อปาร์ค เมื่อคืนตอนที่พลอยอาบน้ำ ผมก็เห็นเบอร์มันโทรเข้ามา ตอนที่ผมตัดสินใจว่าจะรับแทนดีไหม พลอยก็รีบพรวดพราดออกมาจากห้องน้ำแล้วแย่งโทรศัพท์กลับไป

ผมอยากจะถามว่าคนที่โทรมาเป็นใคร แต่มันไม่ได้จังหวะสักที และต่อให้ถามผมก็ไม่รู้ว่าพลอยจะบอกความจริงไหม หรือต้องรอให้จับได้แบบคาหนังคาเขาก่อนหรือเปล่า

ผมรีบล้างหน้าอาบน้ำให้เสร็จ ตอนที่กำลังจะแต่งตัว โทรศัพท์ผมก็ดังอีกรอบ เพียงแค่เห็นชื่อคนที่โทรมาผมก็รู้สึกว่า วันนี้มันคงไม่แย่เท่าไหร่

“ฮัลโหล” ผมรับสายพี่ปราบ กดเปิดลำโพงไว้แล้วเดินไปหยิบเสื้อกับกางเกงมาใส่

“ตื่นหรือยัง” พี่ปราบถาม

“ตื่นแล้วพี่ กำลังจะออกไปกินโจ๊กก่อนไปโรงเรียน”

“มึงมีอารมณ์ตื่นไปกินโจ๊กด้วยเหรอ”

“พลอยมันอยากกินน่ะพี่”

พี่ปราบเงียบไปสักพักก่อนจะถามต่อ “เมื่อคืนแฟนมานอนด้วยเหรอ”

“ครับ อยู่ดีๆพลอยก็บอกจะมานอนด้วยโดยที่ผมไม่ต้องชวน อย่างแปลก” ผมคุยไปแต่งตัวไปจนเสร็จ หยิบกระเป๋ามาสะพายข้าง คว้าโทรศัพท์บนเตียงมากดปิดลำโพงแล้วเอาแนบหู

“เย็นนี้อยากกินไรไหม ก่อนไปทำงานคืนนี้”

พี่ปราบรู้ตารางเรียนและตารางงานผมทุกวัน เพราะพี่แกบังคับให้ผมถ่ายรูปส่งไปให้ทางไลน์ หากวันไหนที่ผมต้องเข้างานกะดึก พี่ปราบจะพาไปหาอะไรกินก่อนเสมอ

“เย็นนี้คงไม่ได้อ่ะพี่ แม่โทรตามกลับไปช่วยงานที่บ้าน กว่าจะเสร็จก็คงทุ่มสองทุ่มนู่น” ผมใส่รองเท้าเสร็จพอดี ยังไม่ทันคุยกับพี่ปราบเสร็จ ก็มีสายซ้อน เป็นพลอยที่โทรมา

“พี่ปราบ รอสายแปบนะพี่ สายซ้อนอ่ะ” ผมบอกกับพี่ปราบแล้วก็กดสลับสายไปรับสายพลอย

“ว่าไงพลอย กำลังจะลงไป รอแปบ” ผมรีบบอกเพราะคิดว่าพลอยน่าจะโทรมาตาม

“ไม่ใช่ จะโทรมาบอกว่าเดี๋ยวไปโรงเรียนเองนะ ไม่ไปกินโจ๊กแล้ว” พลอยรีบพูดรีบบอก

“งั้นก็รอสิ เดี๋ยวไปส่ง” ผมบอก ไม่เข้าใจว่าจะไปเองทำไม

“ไม่ต้องๆ พลอยจะไปเองแค่นี้นะ” พลอยพูดอย่างร้อนรนแล้วก็วางสายไป ผมยืนงงอยู่ที่หน้าประตู ก่อนจะรีบวิ่งไปดูที่ระเบียงหลังห้องที่ตรงกับถนนฝั่งหน้าหอพัก

ผู้หญิงในชุดมัธยมคนหนึ่งนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของผู้ชายสักคนที่ไม่ใช่คนขับวิน และผู้หญิงคนนั้นก็คืนคนๆเดียวกับคนที่เพิ่งจะวางสายจากผม และไอ้ผู้ชายที่เป็นคนขับผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นใคร จะใช่ไอ้คนที่ชื่อปาร์คหรือเปล่า ผมว่าเวลานั้นที่ผมรอคงอีกไม่นาน

เพราะเรื่องพลอย ทำให้ผมลืมไปเลยว่าติดสายพี่ปราบไว้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนถึงโรงเรียนแล้ว ผมก็เลยส่งข้อความไปขอโทษแทน

ตกเย็นผมไปช่วยงานที่บ้าน พอผมไปถึง สิ่งแรกที่เห็นคือพ่อกับลุงคนงานและน้าๆอีกสองคนช่วยกันขนของขึ้นรถ แม่นั่งดูอยู่ข้างๆ เมียน้าตั้มก็นั่งกินน้ำแข็งไสอยู่ข้างแม่ ผมไม่เห็นน้าตั้ม ส่วนไอ้มิวนี่ไม่ต้องพูดถึง มันไม่เคยมาช่วยงานในบ้านอยู่แล้ว เป็นเกย์ที่โคตรจะสำอาง ผมล่ะเซ็งมันมาก เพราะมันไม่ยอมช่วยงานแล้วแม่ก็ไม่เคยว่ามันเลยสักครั้ง

“ไอ้ซ่ามาก็ดี ไปช่วยขนของสิ แม่งจะหกโมงเย็นแล้วยังไม่เสร็จเลย”

“แล้วน้าตั้มไปไหนอ่ะแม่” ผมถาม

“ไปขับวินมอไซค์แล้ว แม่ง ช่วยงานกูแปบๆก็หายหัว กูไม่เข้าใจเลยว่างานที่บ้านเยอะแยะไม่ทำ อยากจะไปขับวิน”

“มันจะทำทำไม่เล่า ไม่ทำมันก็ได้เงิน ออกไปขับวินก็ได้เงินอีกต่อ สบายจะตายมันน่ะ” พ่อบ่นมาจากบนรถหกล้อ

ผมฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ก็อย่างนี้ทุกที ถ้าพ่อกับแม่จะบ่นน้าตั้มตรงๆ หรือไม่ก็ไม่ต้องให้เงินจริงๆบ้าง น้าตั้มก็จะปรับปรุงตัว แต่ก็เพราะทำได้แต่ด่าตอนที่เจ้าตัวไม่อยู่ และยังให้เงินค่าแรงเต็มจำนวน มันจะไปมีประโยชน์อะไร

ผมกระโดดขึ้นรถหกล้อ บอกให้พ่อไปพัก แล้วก็ช่วยพ่อทำงาน ผมรีบขนพวกโครงเหล็กขึ้นรถเตรียมเอาไปขายที่โรงเหล็กในวันพรุ่งนี้ ทุ่มกว่าๆถึงได้เสร็จ ทีแรกผมกะว่าจะกินข้าวที่บ้าน แต่วันนี้แม่ไม่ได้ทำกับข้าว พอจะให้ไอ้มิวไปซื้อมันก็เกี่ยงให้ผมไปแทน บอกว่าจะอ่านหนังสือ ผมเลยเดินออกมาจากบ้านเลย ถ้าผมไม่อยู่ที่บ้านซะ ยังไงไอ้มิวมันก็ต้องไปซื้อกับข้าวให้พ่อกับแม่อยู่แล้ว เขาสองคนไม่มีทางอดมื้อเย็น แต่ถ้าผมยังอยู่ ผมคงได้ตีกับไอ้มิวจนบ้านแตกแน่

กลับมาถึงหอผมก็นั่งกินบะหมี่ที่ซื้อติดมือกลับมา ก่อนจะไปอาบน้ำแล้วล้มตัวนอนพักบนเตียง ได้หลับสักสองชั่วโมงก็ยังดีวะ ไม่งั้นคืนนี้ผมต้องทรมานเพราะความง่วงทั้งคืนแน่ๆ

เมื่อได้เวลาต้องตื่นไปทำงาน นาฬิกาก็ดังปลุก ผมแทบไม่อยากลุกออกจากเตียงเพราะว่าเหนื่อยมากๆ เมื่อเย็นก้มๆเงยๆขนเหล็กขึ้นรถจนปวดไปทั้งร่าง แต่ผมจะขาดงานไม่ได้ ไม่งันรายได้ผมจะหายไป

กว่าจะขุดตัวเองมาทำงานได้ผมก็เกือบสาย จะดีก็แค่ว่าพอเป็นกะดึกลูกค้าจะไม่ค่อยเยอะและไม่วุ่นวาย ส่วนมากผมก็เติมของนับของบ้าง ก่อนจะไปยืนหาวที่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ พวกพี่ผู้หญิงในร้านก็คุยเม้าท์กันไป ส่วนผมก็ยืนแคะเล็บแก้เบื่อระหว่างรอลูกค้า

ตื้อดึง

“เซเว่นอีเลฟเว่นสวัสดีครับ/ค่ะ”

ลูกค้าที่มาใหม่สามคนเดินเข้ามาในร้าน มองแล้วก็เป็นเด็กวัยรุ่นอายุพอๆกับผม มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากว่าหนึ่งในพวกมันผมไม่รู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน และที่มากไปกว่านั้นก็คือมันจ้องผมด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

“น่ากลัวอ่ะ เด็กสมัยนี้นี่ชอบวางท่าเป็นอันธพาลให้คนกลัว” พี่ผู้หญิงที่ทำงานกะเดียวกับผมบ่นขึ้นเบาๆ

พวกมันสามคนเดินวนไปวนมา ไม่ซื้อของอะไรสักอย่าง แต่หนึ่งในนั้นที่ผมคุ้นหน้า มันคอยแต่จะมองมาทางผม จนผมรู้สึกคิ้วกระตุกอยากเข้าไปถามมันมากๆว่าจะมองเหี้ยอะไรนักหนา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้ผมกำลังทำงาน

“พัชๆ พี่วานไปยกลังกล่องนมมาเติมที่ชั้นให้หน่อยสิ พี่ลากมาเตรียมไว้ให้แล้ว”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมทำให้” ผมบอกกับพี่เขา ด้วยความที่ว่าพี่ผู้หญิงสองคนเขาตัวเล็ก ผมก็เลยบอกไว้ว่างานหนักๆให้มาบอกผม เดี๋ยวผมทำให้ ส่วนงานอื่นที่ไม่ต้องใช้แรงมาก พวกพี่เขาก็จะช่วยผมทำ

 ผมเดินเข้าไปยกกล่องน้ำหลังร้านมาทีเดียวสามกล่อง ตรงไปยังชั้นที่วางพวกนมกล่อง จังหวะที่ผมกำลังจะวางกล่องในมือลงบนพื้น ตัวของผมก็ถูกถีบอย่างแรงจนตัวผมเซไปข้างหน้าพุ่งเข้าหาชั้นวางของ ด้วยน้ำหนักตัวผมและลังนมกล่อง ชั้นวางของที่ตั้งอยู่ก็เอียงล้มลงไปกับพื้น ข้าวของระเนระนาดกระจัดกระจาย

และผมที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวดี ก็ถูกไอ้พวกเวรรุมกระทืบพร้อมเสียงกร่นด่าผม

“วันนี้กูจะกระทืบมึงให้เละ ไอ้สัด กล้ามายุ่งกับเมียกู”

นั่นคือสิ่งที่ผมฟังและจับใจความได้ ผมรีบยันตัวลุกขึ้นถีบคนหนึ่งออกจากตัวผม ก่อนจะต่อยคนที่มันเอาแต่จ้องหน้าผมตั้งแต่เข้ามาในร้าน

“ไอ้เหี้ยเอ้ย! หาเรื่องกูหาพ่อมึงเหรอวะ!” ผมด่ามันกลับพร้อมทั้งถีบมันไปอีกที ก่อนที่ตัวของผมจะถูกพวกมันล็อคจากข้างหลังให้เพื่อนมันต่อยผม เสียงพี่ๆในร้านร้องกรี๊ดเสียงดัง ก่อนจะออกไปตะโกนเรียกคนมาช่วยผม

“ด่าถึงพ่อกูเหรอห๊ะ ครั้งนี้กูจะสั่งสอนมึงให้รู้สึกนึกว่าอย่ามายุ่งกับเมียชาวบ้าน” มันต่อยผมไม่ยั้ง ผมสะบัดตัวให้หลุดออกจากเพื่อนมัน แล้วก็พุ่งเข้าใส่มันจนไม่สนใจว่าข้าวของจะพังเสียหายแค่ไหน ตอนนี้สติผมถูกความโกรธเข้าครอบงำโดยสมบูรณ์

“กูไม่ได้ยุ่งกับเมียมึงไอ้เหี้ย!”

“ไม่ได้ยุ่งเหรอไอ้สัด! เมื่อคืนมึงพาเมียกูไปกกที่ห้อง อย่าคิดว่ากูไม่รู้ กูตามดูพวกมึงมาสักพักแล้ว!”

มือของผมที่กำลังจะต่อยหน้ามันหยุดชะงักทันที หมายความว่าไงว่าเมียมันนอนกับผมเมื่อคืน

“พลอยเป็นเมียกู ไม่ใช่เมียมึง!” ผมตะคอกใส่หน้ามัน มือที่ชะงักเมื่อกี้ถูกปล่อยออกไปเต็มแรง ให้เท่ากับใจที่ผมเจ็บในตอนนี้

“พลอยเป็นเมียกู มันเอากับกูมากี่ท่าแล้ว มึงมันแย่งเมียกู แอบลอบกินลับหลังกู!” มันพลิกตัวผมนอนลงกับพื้นแล้วปล่อยหมัดมาไม่ยั้ง

“ได้ ไหนๆมึงก็ยอมรับแล้วว่าเป็นชู้กับเมียกู งั้นวันนี้มึงตาย” มันควักมีดออกมาจากกระเป๋ากางเกงข้างหลังเตรียมแทงใส่ผม

“ตำรวจๆๆ ตำรวจมาๆ” พี่ๆในร้านร้องเรียกตำรวจ จากนั้นก็มีเสียงวอของรถตำรวจดังเข้ามาใกล้

“เฮ้ยไอ้ปาร์ค พอก่อนมึง ไอ้เหี้ย ตำรวจมาแล้ว”

“เร็วมึง ลุกเร็ว”

“กูจะฆ่ามัน”

“เดี๋ยวค่อยจัดการ มึงต้องหนีก่อนไอ้ปาร์ค!”

“เออ ฝากไว้ก่อนเหอะมึง”

พวกมันยอมล่าถอย แต่ก่อนไปไอ้คนที่ชื่อปาร์คยังหันกลับมาเตะผมเข้าที่สีข้างอีกหนึ่งที จากนั้นพวกมันก็วิ่งหนีไป

“พัชๆ เป็นอะไรมากไหม เจ็บหรือเปล่า โอ๊ยย เลือดออกหัวแตกด้วยแก”

พี่ที่ร้านตรงเข้ามาถามไถ่อาการบาดเจ็บของผม ก่อนจะมีคนมาช่วยผมให้ลุกขึ้น พวกเขาทำอะไรกับบ้างผมแทบไม่รู้สึกตัว ผมรู้แค่ว่าความเจ็บปวดจากที่ถูกคนรักหักหลังและทรยศมันทรมานมากกว่าความเจ็บปวดบนร่างกาย

สุดท้ายสิ่งที่ผมหลีกหนีมาตลอดวันนี้มันก็ปรากฏให้เห็นตรงหน้า

ทุกครั้งที่เพื่อนบอกว่าพลอยมีคนอื่น บอกว่าพลอยกำลังคบชู้จับปลาสองมือ ผมไม่เคยเชื่อและไม่อยากเชื่อ เพราะผมรักพลอยมาก ถ้าไม่เห็นตำตาผมก็พยายามที่จะหลอกตัวเองว่าพลอยไม่มีทางทำแบบนั้น เพราะรักผมจึงอยากจะรั้งพลอยไว้

มันคงดีกว่านี้ถ้าหากว่าพลอยจะทนอยู่กับคนเหี้ยที่ไม่มีอนาคตอย่างผมไม่ได้ แล้วขอเลิกผมไปซะ ผมอาจจะโวยวายบังคับไม่ให้มันทิ้งผมไป แต่มันก็ยังดีกว่าการที่มันทำเหมือนรักผมและต้องการผม แล้วมานอกใจกันแบบนี้

ผมจะต้องถูกหักหลังจากคนที่รักอีกสักกี่ครั้ง

แม่ที่ไม่เคยเชื่อใจ

พี่แนนที่กล่าวหาว่าผมเป็นขโมย

และพลอยผู้หญิงที่ผมรักสวมเขาให้ผม

ชีวิตนี้ยังมีใครบ้างที่รักผมจริง

คำตอบคือไม่มี คนที่รักผมมันไม่เคยมีมาแต่ต้น และมันคงจะไม่มีตลอดไป




หลังจากตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุแล้วสอบปากคำผมและพี่ๆในที่ทำงานจนเสร็จเรื่องเสร็จราว ตำรวจบอกจะตามติดพวกมันมาดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย วันต่อมาผมก็ถูกผู้จัดการร้านเรียกเข้าไปคุย และเพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถูกอริเข้ามาก่อกวนในร้าน แต่ก่อนหน้านี้จะเป็นทางคำพูด หรือไม่ก็ต่อยตีกันนอกร้าน ผู้จัดการเขาเลยยังละเว้นผมไว้ แต่ครั้งนี้มันเกินกว่าที่เขาจะทน ผมจึงถูกไล่ออกจากงาน ส่วนค่าเสียหายคงต้องรอให้ตำรวจจับพวกมันได้ก่อน

และที่บ้านผมก็ดันรู้เรื่องด้วย เนื่องจากพอผู้จัดการโทรหาผมไม่ติดในสองสายแรก เขาก็โทรไปหาเบอร์แม่ผม จากนั้นแม่ก็โทรไปฟ้องพี่แนน ผมที่นอนเซ็งอยู่ที่ห้องจึงถูกโทรตามให้มาฟังคำด่าที่บ้านแม่

"โดนเขาไล่ออกจากงาน มึงนี่นะซ่า ไม่ได้เรื่องได้ราวจริงๆ ก็บอกแล้วว่าไม่ให้เรียนช่างๆ มึงก็อยากจะไปเรียนเป็นนักเลง เลือดพ่อมึงนี่มันแรงจริงๆ กูละเบื่อ พ้นจากพ่อมึงมาได้ก็ยังต้องมาเจอมึงอีก"

"อะไรเล่าพี่แนน" ผมถามสวนอย่างไม่พอใจในสิ่งที่พี่แนนเอ่ยขึ้นมา

"ชีวิตมึงจะเอาอะไรรอด นิดหน่อยก็ตีต่อยหาเรื่อง อย่าหาความเดือดร้อนมาให้คนในบ้านจะได้ไหม"

“ผมไม่ได้ทำอะไรมันเลยนะ มันมาหาเรื่องผมเอง” ผมอธิบาย

“มึงอย่ามาแก้ตัว ก็ถ้ามึงไม่ไปเรียนช่างมันจะเกิดเรื่องแบบนี้ไหม”

ผมเม้มปากแน่น ผมคิดว่าเรื่องนี้ผมไม่ผิด ผมไม่ได้เป็นคนเดินไปหาเรื่องมันก่อน และผมก็ไม่ได้อยากจะโดนไล่ออกจากงานด้วย

“กูไม่ไหวแล้ววะเนี่ย ลูกมึงแม่งหาแต่เรื่องมาให้กูปวดหัว” แม่ก็ส่ายหัวทำหน้าหนักใจใส่ผม “ให้ไปอยู่กับมึงก็มีปัญหา พอย้ายไปอยู่คนเดียวไม่มีใครดูก็ไปมีเรื่องต่อยตี กูจะทำยังไงมันดีวะเนี่ย โอ๊ย ปวดหัว”

“คอยดูนะแม่ ไอ้ซ่ามันโดนไล่ออก พอมันไม่มีเงินจ่ายค่าหอ เดี๋ยวมันก็ต้องมาแบมือขอเงินแม่อีก” ไอ้มิวชอบอยู่แล้วเหยียบซ้ำเวลาผมล้ม

“ไม่รู้เรื่องอะไรมึงก็หุบปากไปเลยไอ้มิว”

“ทำไม กูพูดผิดตรงไหนไอ้ซ่า”

“ไอ้สัด” ผมเตรียมปี่เข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้มิว แต่น้าตั้มเข้ามาดึงตัวผมแล้วเหวี่ยงออก ตัวผมกระแทกเข้ากับเสากลางบ้าน

“มึงจะอย่ามาต่อยตีคนในบ้านนะไอ้ซ่า ทำตัวอันธพาลน่ะมึงน่ะ”

ผมกัดฟันตัวเองแน่น มองคนทุกคนที่กำลังรุมด่าผมอยู่ในตอนนี้ ผมพยายามที่จะควบคุมลมหายใจตัวเองที่เข้าออกอย่างแรงจากความโกรธ

“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมดูแลตัวเองได้ จะไม่มาเดือดร้อนแม่หรือพี่แนนหรอก” สิ่งเดียวที่ผมจะพูดได้ในตอนนั้น ถ้าผมมันตัวปัญหาของที่นี่มากนัก ผมก็จะอยู่ด้วยตัวของผมเอง

“มึงจะไปไหนไอ้ซ่า กลับมา เดี๋ยวมึงก็ไปมีเรื่องอีก ไอ้ซ่า” พี่แนนตะโกนเรียกผม

“ไอ้ตั้ม มึงไปตามมันมาสิ”

“แม่คิดว่าผมไปตามแล้วมันจะกลับเหรอ ปล่อยๆมันไปเหอะ เรื่องไร้สาระ”


เสียงตะโกนเรียกของแม่และพี่แนนค่อยๆเบาลงตามจังหวะฝีเท้าที่เร่งเร็วขึ้น ริมฝีปากเม้มแน่น ก้มหน้ามองแต่พื้น เมื่อน้ำตาหยดหนึ่งไหลออกจากเบ้าตาผมรีบปาดมันทิ้ง เมื่อความเสียใจถูกกดเก็บเอาไว้ภายในไม่ได้รับการปลดปล่อยก็กลายเป็นความโกรธโมโห อยากหาที่ลงที่ระบายให้หายอึดอัด

ใช่ว่าผมอยากถูกคนรักหักหลังแล้วสวมเขาให้

ใช่ว่าผมอยากโดนไล่ออกจากงาน เพราะถูกชู้ของแฟนมารุมกระทืบถึงที่

ใช่ว่าผมอยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้

ทำไมผมจะต้องถูกดุด่าอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องนี้ผมผิดอะไร ทำไมทุกคนจะต้องรุมด่าผมด้วย

ผมเป็นตัวปัญหามากนักเหรอ เป็นภาระนักใช่ไหม ถ้างั้นให้ผมเกิดมาทำไม  ทำไมผมไม่ตายๆไปตั้งแต่ที่เขาคิดจะทำแท้ง

“ทำไมกูต้องรอดมาด้วยวะ ตายไปตั้งแต่แรกก็คงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้”

ผมเดินแล้วต่อรถมาที่บ้านพลอยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ผมยืนอยู่ที่หน้าบ้านของคนที่ได้ชื่อว่าแฟน คนที่ผมเคยวิ่งมาหาได้ทุกครั้งที่ผมทะเลาะกับที่บ้าน คนที่คอยบอกให้ผมใจเย็นเสมอ แต่แล้วคนๆนี้ก็เป็นอีกคนที่ทำร้ายผม

ผมกดกริ่งหน้าบ้านพลอยอยู่สองครั้ง รอจนพลอยเดินออกมาเปิดประตูรั้ว แวบแรกที่เห็นผม พลอยมีท่าทีตกใจและทำท่าจะหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน

“พลอย จะหนีไปไหน มาคุยกันหน่อย” ผมเปิดประตูรั้วเข้าไปหาพลอยในบ้าน ที่ไม่เปิดเข้าไปตั้งแต่แรกก็เพราะว่ายังมีมารยาทอยู่ ทั้งๆที่ใจผมมันร้อนรนไม่ต่างจากมีไฟสุมอยู่ในอก

“ซ่าจะเข้ามาทำไม ออกไปก่อน” พลอยเปลี่ยนมาไล่ผมแทนที่จะเดินหนีเข้าบ้าน

“ทำไมต้องไล่ ไม่มีใครอยู่บ้านไม่ใช่เหรอไง หรือซ่อนใครเอาไว้” ผมหรี่ตามองพลอยอย่างจับผิด เบนสายตามองไปในบ้าน ผมรู้ว่าเวลานี้ยังไม่มีใครกลับมา พ่อแม่พลอยออกไปทำงานกันหมด

“เปล่า จะซ่อนใครไว้ ไม่มี”

“งั้นเข้าไปคุยกันในบ้าน” ผมเป็นคนนำพลอยเข้าไปในบ้านแทน คือทีแรกก็ว่าพอจะสงบสติอารมณ์ได้แล้วนะ แต่พอมาเจออาการของพลอยที่ดูไม่ค่อยอยากจะเจอหน้าผมแล้วอารมณ์มันก็ขึ้น

ผมมองสำรวจทั่วบ้านพลอย ไม่มีใครอยู่ แต่ข้างบนบ้านผมไม่รู้ และไม่คิดจะขึ้นไปค้น

“มานี่มีอะไรหรือเปล่า” พลอยเปิดปากถามผม เธอทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟา แต่ไม่ยอมสบตากัน

“ไอ้คนที่ชื่อปาร์คนี่เป็นใคร” ผมยิงคำถามไปตรงๆ พลอยฟังแล้วก็ตวัดตามองผม อีกนิดหนึ่งตาก็จะถลนออกมาล่ะ

“อะไร”

“ถามว่าไอ้คนชื่อปาร์คคือใครก็ตอบดิ ทำหน้าตกใจทำไม” ผมเริ่มขึ้นเสียงมากขึ้น

“ก็...เพื่อน” พลอยตอบอึกๆอักๆ ผมแสยะยิ้มให้กับคำตอบที่ได้

“เพื่อนเหรอ”

“ใช่ ก็เพื่อนไง” พลอยยังยืนยันที่จะโกหก

“เพื่อนหรือผัว เอาให้แน่ๆ มันอาจจะออกเสียงใกล้ๆกัน แต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ” ผมจี้ถามอีก จนกว่าผู้หญิงคนนี้จะยอมรับ

“พูดบ้าอะไรซ่า อย่ามาหาเรื่องกันนะ”

“หาเรื่องเหรอพลอย มึงเห็นรอยบนหน้ากูไหม ไอ้ปาร์คผัวมึงมันมาต่อยกูถึงในร้าน จนตอนนี้กูโดนไล่ออกไม่มีงานทำแล้ว นี่เหรอที่มึงบอกว่าเรื่องบ้าๆน่ะ”

“อะไรนะ” พลอยครางเสียงเหมือนไม่อยากจะเชื่อหู

“มึงยอมรับมาเถอะพลอย ว่ามึงมีคนอื่น”

“...” พลอยเงียบ และความเงียบก็เป็นคำตอบได้อย่างดีว่าสิ่งที่ผมคิดมันถูก

“ทำไมวะ! พลอยทำแบบนี้ได้ไง นอกใจแล้วไปนอนกับคนอื่น หรือกูเอาไม่ถึงใจ ถึงต้องเร่ไปให้คนอื่นเอาเหมือนผู้หญิงขายตัว ทำไมวะ!” ผมเดินย่างเข้าใกล้ตัวพลอยทีละก้าวๆ

เพี๊ยะ!

พลอยตบหน้าผมและผลักผมออกห่าง

“อย่ามาพูดจาดูถูกกันนะ”

“ไม่ให้ดูถูกแล้วทำแบบนี้ทำไมพลอย กูมีมึงคนเดียว รักมึงคนเดียว กูไม่เคยไปนอนกับผู้หญิงอื่นด้วยหรือแม้แต่จะคุยกับใครเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่กูน่าจะเหี้ยกว่ามึง แต่ดูมึงทำกับกูนะ” ผมหยุดพูดเพราะรู้สึกว่าตัวเองปากสั่นใจสั่นเกินไป มือทั้งสองข้างกำหมดเข้าหากันแน่น

“ก็เพราะที่มีอยู่มันไม่ดีไง ถึงได้ต้องไปหาคนไหมนะ ซ่าไม่รู้ตัวเองเลยหรือไง มึงไม่มีเวลาให้กู เดี๋ยวก็ทำงาน เดี๋ยวก็กลับบ้าน กูจะมีแฟนไปทำไมถ้าไม่มีเวลาจะอยู่ด้วยกันน่ะ”

“แค่นี้เหรอเหตุผลที่มึงคบชู้น่ะ!”

เหตุผลแม่งฟังไม่ขึ้นวะ

“เออ อาทิตย์ๆหนึ่งมึงว่างอยู่กับกูกี่วัน ไม่กลับบ้านก็อยู่กับเพื่อน กูเหงามึงเข้าใจไหม มึงเข้าใจไหมว่ากูเหงา!”

“งั้นมึงก็เลิกกับกูไปเลยดิ กูไม่ดีแล้วแล้วมึงทนทำไม! กูขอมึงเหรอ ขอให้มึงอยู่กับกูแล้วสวมเขาให้กูงั้นเหรอ มึงต้องการอะไรทำไมมึงไม่บอกกูล่ะห๊ะ! มึงหักหลังกูทำไม!!! มึงทำแบบนี้ทำไม!”

“ถ้ากูขอในสิ่งที่กูต้องการแล้วมึงทำให้กูได้เหรอ แค่ที่บ้านมึงโทรมามึงก็รีบแจ้นไปแล้ว คนที่บ้านมึงเพื่อนมึงสำคัญกว่ากูทั้งนั้นแหละ ไม่งั้นมึงไม่ทิ้งขว้างกูหรอก ขอเลิกงั้นเหรอ มึงจะยอมเลิกกับกูไหมละ”

“ถ้ามึงพูดว่าเลิก กูก็เลิก มึงจะลองไหมละ!” ผมพุ่งตัวเข้าหาพลอย พูดประชดประชันด้วยน้ำเสียงดังลั่น มือทั้งสองข้างกระชากเข้าที่ไหล่เล็กแล้วเขย่าอย่างแรง น้ำตาของผมไหลออกจากตา หมดแล้วซึ่งความอดทน

เพราะสิ่งที่ผมรอมาตลอดก็คือ ถ้าใจไม่อยู่ที่ผมแล้ว ก็บอกกันมาเลย แต่ถ้ามันไม่พูดผมก็ไม่คิดจะปล่อยมือมันไป ถึงแม้ผมจะเป็นคนที่ไม่มีอนาคต แต่ถ้ามันยังไม่คิดจะเลิกกับผม ผมก็ไม่คิดจะปล่อยมือ

“พูดออกมาดิ ว่ามึงไม่รักกูแล้วน่ะ”

“...” พลอยเงียบ จนกระทั่งตอนนี้มันก็ไม่ยอมพูดออกมา

“เสียดายอะไรอยู่วะพลอย” ผมกระซิบถาม หมดเรี่ยวแรงที่จะรั้งเอาไว้ ผมพยายามที่จะทำตัวให้ดีขึ้น พยายามที่จะปรับปรุงตัวเพื่อตัวเองและคนรอบข้าง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่จำเป็นอีกแล้ว

“ตัดสินใจได้เมื่อไหร่ก็มาบอกแล้วกัน กูจะให้เกรียติมึงเป็นครั้งสุดท้ายในการพูดมันออกมา” ผมยอมเปล่ามือออกจากไหล่ของพลอย ชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะก้มหน้าแล้วเดินออกมา

กลับไปบ้านก็ไม่มีใครต้อนรับผม คนรักก็ไม่มีใจจะรักกันแล้ว บนโลกใบนี้มีที่ไหนที่ผมจะยืนได้บ้าง

มีใครที่จะรักผมจริงๆบ้างไหม

ทำไมทุกคนต้องทำให้ผมรู้สึกว่า ความผิดมันเกิดมาจากผม ทุกความผิดมันมาจากผมคนเดียว




ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 30-08-2017 21:23:08


ผมไม่มีที่ไป เลือกที่จะมาหาเพื่อน กินเหล้าจนเมามาย อัดบุหรี่ใส่ปอดมวนต่อมวน พวกมันได้แต่นั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนผมหลังจากที่ผมบอกพวกมันว่าผมโดนไล่ออกจากงาน แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่บ้านและเรื่องพลอยให้พวกมันฟัง

ผมอยากโทรหาพี่ปราบ แต่ผมก็กลัวว่าจะทำให้เขาผิดหวังเหมือนคนที่บ้าน กลัวเขาจะรู้สึกแย่กับความไม่เอาไหนของผม พี่ปราบมีภาระมากมายที่ต้องดูแล ผมไม่อยากให้คนที่หวังดีกับผมต้องมาทุกข์ใจเพราะผมอีก

ส่วนเพื่อนผม พวกมันรุมถามรุมด่าจนเหนื่อยและหยุดไปเอง สิ่งที่พวกมันทำก็คือนั่งอยู่ข้างๆผมและดีดกีตาร์ร้องเพลงเบาๆ ผผมไม่ต้องการอะไรมากมาย แค่คนที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเหลือเพียงตัวคนเดียว

ผมตัดสินใจปิดโทรศัพท์เพราะไม่ต้องการติดต่อกับใคร ตอนนี้ผมต้องการที่จะลืมทุกอย่างไม่อยากรับรู้และคิดอะไรทั้งนั้น

ผมไม่เคยคิดจะเลิกรักพลอย แม้จะรู้ว่ามันทำร้ายผม แต่ผมยังรับความจริงไม่ได้ไหว

ผมไม่เคยลืมว่าทุกครั้งที่ผมทุกข์ใจ ผมหาไปหาใครได้ และใครที่คอยปลอบผมเสมอตั้งแต่ที่เราคบกันมา ผมไม่รู้ว่าพลอยคนนั้นหายไปไหนแล้ว

ฤทธิ์ของเหล้าช่วยทำให้ผมลืมเลือนความเสียใจและหลับไป ขอให้ในความฝัน ผมไม่ต้องถูกตามหลอกหลอนด้วยความที่พร้อมจะทำร้ายผม

"ว่าไงเฮีย โทรมามีอะไร ไปไม่ได้”

“ใครโทรมาวะ”

“เฮียกี่ จะชวนออกไปกินข้าวต้ม”

“แล้วจะไปยังไงล่ะ ไอ้ซ่านอนเมาเละเทะอยู่เนี่ย”

“เออ มึงเงียบๆก่อนดิไอ้ตูน กูคุยกับเฮียกี่แปบ”

“เพื่อนมึงเป็นอะไรไอ้หวาย” คนในสายได้ยินสิ่งที่พวกเด็กๆคุยกันเลยถามด้วยความสงสัย

“ก็ไอ้ซ่าแม่งเป็นไรไม่รู้ พวกผมต้องเฝ้ามันไม่ให้มันคลุ้มคลั่งและตอนนี้มันก็เมาหลับไปแล้ว"

“ตอนนี้พวกมึงอยู่ไหน” คนในสายถามต่อ

“อยู่หอมันเนี่ย”

“เออ มึงรอพวกกูแปบ เดี๋ยวกูกับไอ้ปราบไปหา”

“เอ๊ะ เฮีย แล้วเฮียจะมาทำไม อ้าว เฮียกี่วางสายไปและ อะไรของเขาวะ”

ไม่นานหลังจากที่หวายวางสายจากเฮียกี่ ชายร่างสูงใหญ่ของคนก็มาถึงห้องพักเก่าๆ คนแรกที่เดินเข้ามาในห้องก็คือปราบ ตามมาด้วยกี่

“ซ่ามันเป็นอะไร” ปราบถามพวกเด็กที่อยู่ในห้อง ก่อนจะมองไปยังร่างโปร่งที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง บนใบหน้าซีดเซียวมีร่องรอยเขียวช้ำ มีผ้าพันแผลปิดไว้ที่หน้าผากลวกๆ

“พวกผมก็ยังไม่รู้เรื่องครับ ไม่รู้มันไปมีเรื่องกับใครมาถึงได้สะบักสะบอมแบบนี้ ตามตัวมันก็มีรอย เมื่อกี้พวกผมแอบเปิดดู แต่กลัวมันตื่นเลยปล่อยมันไว้ก่อน” นุ๊กเล่าให้พี่ทั้งสองฟัง

“และมันก็เล่าว่ามันถูกไล่ออกจากงาน แต่พวกผมคิดว่าเรื่องมันต้องมากกว่านี้ น่าจะเป็นเรื่องที่บ้านมันนั่นแหละ น่าจะโดนด่ามาด้วย แต่ปกติโดนที่บ้านด่ามันก็ไม่เป็นแบบนี้นะ แต่ถามแล้วอะไรแล้วมันไม่ยอมปริปากบอก ผมนี่โมโหอยากจะหาคีมมาง้างปากมันมาก”

“โอ๊ย ง้างปากไอ้ซ่ายากยิ่งกว่าง้างปากจระเข้เสียอีก มีเรื่องทุกข์ใจชอบเก็บไว้คนเดียว”

ปราบมองเด็กที่ตัวเองชอบพอด้วยความรู้สึกหนักใจระคนเป็นห่วง และรู้สึกผิดหวังลึกๆที่ยามมีปัญหามันไม่นึกถึงเขาเป็นคนแรก

“ไอ้กี่ มึงพาพวกมันไปกินข้าวก่อนไป แล้วขากลับฝากมึงซื้อของกินเข้ามาให้กูด้วย เดี๋ยวกูดูแลมันเอง” ปราบหันไปบอกเพื่อน ซึ่งกี่ก็ทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว  ลากพวกเพื่อนๆของซ่าออกจากห้อง ทิ้งไว้แค่คนสองคนให้อยู่ด้วยกัน

ปราบเดินไปยืนใกล้ๆเตียงนอนก่อนจะทิ้งตัวนั่งลง ลูบมือเสยผมที่หน้าผากคนหลับออก ซ่าขยับตัวพลิกหันมาให้ปราบได้เห็นชัดๆ

“ใครทำอะไรมึงเนี่ย ทำไมถึงได้เจ็บตัวมาแบบนี้” ปราบถามโดยไม่รู้ว่าจะได้คำตอบกลับมาไหม

“เด็กซ่าของกูทำไมดูสิ้นฤทธิ์ขนาดนี้วะ หืม” ปราบได้แต่ลูบหัวปลอบคนที่นอนขมวดคิ้ว ก่อนที่ดวงตาบวมช้ำจะค่อยๆลืมขึ้นเล็กน้อย

“พี่ปราบเหรอ”

“อืม พี่เอง...นอนซะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก”

“พี่ปราบ อยู่กับผมนะ” เสียงที่เอ่ยขอ ฟังดูไร้เรี่ยวแรงจนน่าใจหาย

“พี่อยู่กับซ่าตรงนี้ นอนซะนะ”

มือแห้งไม่มีเนื้อคว้าจับที่มือของปราบ ดึงไปซุกไว้กับแก้ม ก่อนที่น้ำตาจะไหล่ลงช้าๆ แล้วตามมาด้วยเสียงสะอื้น

“ฮึก พี่ปราบ”

“ไม่ต้องร้อง พี่อยู่นี่แล้ว พี่จะปกป้องซ่าเอง”







…………………………………………………..
วันนี้มาลงแล้วค่า เมื่อวานติดธุระเลยไม่ได้มาลง
ถ้าไม่ติดบินหรือติดธุระ ริริจะพยายามมาลงให้อ่านต่อเนื่องกันนะคะ จะได้ไม่ขาดตอนเมื่อที่หายหน้าไป มีคนมาแอบแซวว่าคนแต่งแอบหนีไปแต่งงานมาหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ อยากแต่งอยู่นะ แต่ยังไม่มีผู้เป็นของตัวเองเลยตอนนี้ นี่กะว่าจะขโมยพี่ปราบมาจากน้องซ่าแล้วเนี่ย
ตอนนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนหลักในชีวิตซ่าเลยก็ว่าได้ แต่จะมีอีกจุดที่เกิดจากพี่ปราบโดยตรง เนื้อเรื่องจะอึมครึมแต่ไม่ถึงกับดราม่าหนักนะคะ อยากให้ค่อยๆเห็นพัฒนาการของตัวละคร ริริไม่ค่อยถนัดสร้างความสัมพันธ์แบบรวดเร็ว แต่พยายามจะไม่ทำให้มันอืดจนเกินไป หากมีข้อมูลส่วนหน้าไม่ถูกต้องสามารถบอกและพูดคุยกันได้เลยนะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นและทุกคนที่ยังกลับมาอ่านนะคะ คนอ่านหายไปเยอะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ริริกลับมาแล้ว ลงต่อจนจบแน่นอนค่า ใครใจดีอ่านแล้วก็แสดงตัวให้เขารู้ด้วยน้าว่าตัวเองอ่านอยู่ ขอๆกำลังใจนี้ดนึง  :mew1:
เลิฟๆ  :L1:

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 30-08-2017 21:43:46
รออ่านจร้า เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 30-08-2017 21:47:11
ซ่าน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 30-08-2017 22:33:05
ประโยคสุดท้ายของซ่าทำเอาน้ำตาร่วงเลย ซ่าเจออะไรมาเยอะจริงๆ พี่ปราบช่วยน้องด้วย อยู่ข้างๆน้องเป็นกำลังใจให้น้องนะ  :m15: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 30-08-2017 23:03:02
ตื่นได้แล้วคับซ่า ใครไม่รักก็รักตัวเอง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 30-08-2017 23:05:05
ชีวิตซ่าจะรันทดอะไรขนาดนี้ แต่เดี๋ยวคงดีจนน่าอิจฉาเพราะว่ามีพี่ปราบ :hao6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 30-08-2017 23:17:34
น้องซ่า หงอยเลย พี่ปราบโอ๋น้องก่อนเร็ว
ว่าแต่จุดเปลี่ยนจากพี่ปราบเองคืออะไรนะ อย่าให้น้องเสียใจไปกว่านี้เลย บอบช้ำไปหมดทั้งกายใจแล้ว :hao5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: helpmeiiz ที่ 31-08-2017 01:11:00
เมื่อไรซ่าจะหลุดพ้นสักที พี่ปราบปลอบน้องหน่อย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 31-08-2017 02:05:30
พี่ปราบอย่าทิ้งซ่าเชียว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 31-08-2017 06:19:21
น้องซ่าโคตรน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 31-08-2017 07:05:50
ชีวิต... ขนาดนี้ยังจะให้เกียรติผู้หญิงแบบนั้นอยู่เนอะ  :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 31-08-2017 07:14:27
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 31-08-2017 07:53:14
ขอบคุณริริค่ะ
ประสบการณ์จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นนะ
พี่ปราบต้องช่วยซ่าได้แน่

นี่เบื่อครอบครัวซ่ามากอ่ะ บอกเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 31-08-2017 08:26:14
เมื่อไหร่จะถึงช่วงฟ้าหลังพายุ(ฝน)ของซ่าหนอ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-08-2017 09:45:40
ครอบครัวซ่า ก็เหลือเกิน
แม่ พ่อ พี่แนน(แม่) ตั้ม(น้า) มิว(น้า) ล้วนแล้วแต่หลอกใช้กำลังแรงงาน
ได้แต่ใช้ กับด่า ส่วนตั้ม มิว ไม่ทำงานแต่ได้เงิน
 ซ่า ต้องหลุดจากตรงนี้ด้วย

พลอย รักซ่าจริงหรือ
ถ้ารัก ต้องไม่นอกใจ ไม่สวมเขาสิ
บอกว่าเหงา ซ่าไม่มีเวลาให้
ก็มีปาร์ค แก้เหงาให้แล้ว ก็เลิกกับซ่าซะสิ
แปลกๆนะ พลอยจับปลาสองมือ คงมีความสุข
ที่ให้ซ่ากับปาร์ค เป็นบ้าเพราะตัวเอง

พี่ปราบช่วยซ่า ให้หลุดจากวังวนของครอบครัว กับพลอย ไปเลย
ซ่าจะได้มีความสุขซักที
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 31-08-2017 09:53:45
มายาวๆแบบนี้เราชอบ อ่านสะใจเลย

สงสารซ่าอ่ะ เรื่องที่บ้านเราว่าเปราะบางมากที่สุด คือปกติถ้ามีเรื่องเกิดขึ้น คนส่วนใหญ่ก้จะคิดถึงที่บ้าน แต่ที่บ้านของปราบเป็นแบบนี้ แล้วเรื่องแฟนก็ยังซ้ำเข้ามาอีก โอ้ยยย เข้าใจความรู้สึกเลย

ต่อจากนี้พี่ปราบต้องดูแลปกป้องซ่าดีๆนะ น้องอ่อนแอมากแล้ว กลัวน้องจะไม่เชื่อในความรักอีกเลย

เป็นกำลังใจให้นักเขียนน้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: B_SRIKHUNLA ที่ 01-09-2017 21:51:16
อยากให้ซ่ามีความสุขจริงๆสักที
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 02-09-2017 00:44:31
รอต่อไป สงสารซ่าอ่ะ โดนเททุกทาง เซมาซบอกพี่ปราบดีกว่า55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่15:: 30/8/2017 P.8 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-09-2017 08:38:14
ดีใจมากก รอมานานค่ะ

ซ่าเอ้ย ทำไมชีวิตยุ่งยากแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยถ้าซ่าจะเกเร แต่ซ่าก็ไม่ทำ
เสียใจซ้ำซาก เจ็บซ้ำซาก แผลไม่หาย แล้วก็มีเพิ่มมาเรื่อยๆ ซ่าทนมาก บอกเลย

ปราบคะ รอบต่อไปถึงคิวแล้วนะ อย่านอยด์เลย น้องแค่กังวลว่าจะกวน ไม่ได้ไม่คิดถึงนะ

ชอบปราบนะ ชัดเจนดี ดูแลดีด้วย รับรองซ่าอบอุ่นจนร้อนแหละ ถ้าเปิดใจ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 03-09-2017 18:42:12
ปราบซ่า
ตอนที่16


[ซ่า]

อะไรที่ผมไม่อยากพูด ผมก็ไม่คิดจะพูดมันออกมา ความรู้สึกของผมมันไม่เคยสำคัญ บอกใครก็ไม่มีใครสนใจ ดังนั้นที่ผ่านมาผมจึงเลือกที่จะเก็บทุกอย่างเอาไว้กับตัวเอง ฝังมันเอาไว้ให้ลึกที่สุด ไม่ให้ใครเห็น แม้แต่ตัวเอง

แต่กับคนที่นั่งอยู่เบื้องหน้าผมคงไม่เข้าใจ

“เล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น เล่ามาให้หมดนะซ่า อย่าโกหกกู”

“ก็ผมเล่าไปแล้ว” ผมพูด ก้มหน้าหลบตา ตาพี่ปราบดุเกินไป กลายเป็นว่าผมไม่กล้าสบตาพี่ปราบ และเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้น คล้ายกับผมกำลังกลัวความผิด

“มึงคิดว่ากูเชื่อเหรอ”

“...”

“งั้นกูขอใช้สิทธิ์ในการถามตอบของวันนี้ ห้ามลืมว่ามึงจะต้องพูดความจริง ห้ามโกหก กูไม่ชอบคนโกหก และมึงห้ามทำ”

ผมกลืนน้ำลายลงคอ ก้มหน้านั่งบีบมือตัวเองอยู่ร่วมสิบนาทีได้ พี่ปราบก็ทำใจเย็นรอ ทั้งๆที่รอบตัวเขามีแต่ไอเย็นทำให้ผมรู้สึกเกร็ง

“พี่ปราบ...ถ้าแฟนนอกใจพี่ พี่จะทำยังไง” พี่เงยหน้าขอความเห็นจากเขา พี่ปราบจ้องตาผมแล้วถอนหายใจ

“ถ้าแฟนนอกใจกู นอกใจแบบตั้งใจ กูเลิกเลย”

“ถ้าเลิกง่ายๆ แสดงว่าพี่ไม่ได้รักเขาจริงเหรอ” เพราะตอนนี้ผมโมโหน้อยลง จากที่คิดว่าจะเลิกกับพลอย มันก็เกิดความลังเล

“รักเขาไม่รักเขาสำคัญตรงไหน สำคัญที่ว่าเขาไม่ได้รักมึง และมึงต้องรักตัวเอง” พี่ปราบย้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ

“แต่ผมทำใจไม่ได้” ผมก้มหน้าบอก

“เหตุผลนี้เหรอที่ทำให้มึงมีสภาพแบบนี้”

พี่ปราบใช้สายตามองสำรวจผมทั้งตัว สายตาของพี่ปราบเต็มไปด้วยความเป็นห่วง และมันทำให้ผมอ่อนแออีกครั้ง ผมพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหล เพราะดันนึกเปรียบเทียบไปว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมไม่ได้รับความเป็นห่วงจากใครที่บ้านเลยสักคน ไม่ไว้แม้แต่พลอย

“เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผมเข้างานกะดึก อยู่ๆก็มีคนมาหาเรื่องผมถึงในร้าน”

“ใคร”

“ชู้ของพลอย มันบอกผม ผม...ผมถึงได้รู้ว่าผมมันโง่มาโดยตลอด”

ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ ผมก็คงต้องเล่า สัญญาระหว่างผมกับพี่ปราบ ในหนึ่งวันผมสามารถถามอะไรพี่ปราบก็ได้ พี่ปราบจะพูดแต่ความจริง และพี่ปราบก็สามารถถามอะไรผมก็ได้ ผมต้องตอบความจริงเช่นกัน และผมไม่อยากผิดสัญญากับพี่ปราบ แม้ว่ามันจะทำให้ผมอึดอัดกับการเล่าเรื่องที่ผมไม่อยากเล่าก็ตาม

“มึงแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าแฟนมึงมีคนอื่น”

“เหอะ เมื่อวานผมไปถามมาแล้ว พลอยก็ยอมรับ พี่รู้ไหมว่าเหตุผลที่มันนอกใจผมคืออะไร มันบอกว่าผมไม่มีเวลาให้มัน ผมทำให้มันเหงา มันถึงต้องไปมีคนอื่น”

พี่ปราบนั่งฟังผมเงียบๆ เขาดึงมือผมไปจับไว้ข้างหนึ่ง แล้วปล่อยให้ผมระบาย พอได้พูดได้เล่า ผมก็หยุดตัวเองไม่ได้ ทุกความรู้สึก ทุกความเจ็บปวด ผมถ่ายทอดให้พี่ปราบได้รับรู้ พรั่งพรูราวกับเขื่อนแตก

“ผมเคยคิดว่าถ้ามันมีคนอื่น ก็คงเพราะผมมันไม่ดีไม่มีอนาคต คนๆนั้นจะต้องมีดีกว่าผม คนที่ผมสู้ไม่ได้ แบบนั้นผมคงจะรู้สึกดีกว่านี้ แต่ที่ผมเห็นมันไม่ใช่ ไอ้นั่นมันไม่ได้ดีกว่าผม ผมเลยไม่รู้เลยว่า ความจริงแล้วผมมันไม่มีดี หรือพลอยมันไม่รู้จักพอกันแน่”

“แล้วทำไมโดนไล่ออกจากงาน”

“พวกมันบอกพี่เหรอ”

“เออ เพื่อนมึงเป็นห่วงมึงนะ กูด้วย เป็นห่วงมึงมากมึงรู้บ้างไหม”

“ผมขอโทษ”

“ขอโทษกูทำไม”

 “ผมถูกไล่ออกจากร้าน เพราะที่ร้านข้าวของเสียหายพัง อีกอย่างเขาก็คงกลัวว่าเด็กช่างอย่างผมจะทำให้เขาและคนอื่นๆเดือดร้อน ผมไม่โกรธผู้จัดการเลยนะ ผมเข้าใจ แต่ทำมคนที่บ้านถึงไม่เข้าใจผมบ้าง ผมไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมยังอยากทำงาน แต่พวกมันมาหาเรื่องผม ผมไม่ได้ไปหาเรื่องมันก่อนเลย”

เสียงของผมเริ่มสั่นเครือ เล่าเรื่องไม่ค่อยปะติดปะต่อ รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่พี่ปราบก็ไม่ได้ขัด มือที่บีบกำมือผมไว้แน่นเป็นเสมือนฟางเส้นเดียวที่ผมมีไว้ยึดเหนี่ยว

“ใครไม่เข้าใจก็ช่าง กูเข้าใจ แค่นี้พอไหมหืม”

“พี่ปราบ...ผมไม่ผิดนะ”

“กูรู้”

“ฮึก”

“ร้องเถอะ ลูกผู้ชายร้องไห้บ้างก็ไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอหรอก” พี่ปราบกระเถิบเข้ามาใกล้ แล้วโอบไหล่ผมไว้ ให้ผมได้ซบหน้าลงกับบ่าแข็ง

“ผมไม่เข้าใจ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ ฮึก พี่ปราบ ผมเกลียด เกลียดชีวิตเหี้ยๆ ชีวิตแย่ๆคนแย่ๆ”

“กูก็แย่เหรอ” พี่ปราบถามสวนขึ้นมา ผมเงยหน้าจากไหล่มองตาพี่ปราบก่อนจะส่ายหน้า

“ผมมันไม่ดีใช่ไหมพี่ปราบ”

ถึงได้ไม่มีใครรักผม

“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามึงดีมากน้อยแค่ไหนหรอก แต่คนมันไม่พอ ต่อให้มึงเป็นเทวดามันก็ไม่เห็นมึงดี”

“ผมควรทำยังไงดีพี่ปราบ ผมคิดอะไรไม่ออกเลย”

“คิดไม่ออกก็ยังไม่ต้องคิด ตอนนี้สิ่งที่มึงต้องทำคือรักตัวเองให้มากๆ เจ็บตัวมานี่ไปหาหมอมาหรือยัง กินข้าวบ้างไหม ถ้ากูไม่มาหามึงจะปล่อยให้ตัวเองย่ำแย่ให้คนที่ทำร้ายมึงดูถูกดูแคลนเหรอ”

ผมรีบส่ายหน้า ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น

ผมไม่ได้อยากเป็นคนอ่อนแอ เพราะฉะนั้นผมถึงได้ไม่อยากพูด ไม่อยากบอกใคร เพราะผมรู้ว่า สิ่งที่ผมเก็บมาหลายปี หากเอ่ยออกมาแค่ขำเดียว ผมจะทนไม่ไหว เหมือนตอนนี้

“กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงตัดสินใจเรื่องแฟนยังไง ถ้าถามกู กูไม่อยากให้มึงเสียเวลากับคนที่ไม่ได้รักมึง มันอาจจะยากที่จะตัดใจ แต่มันคุ้มค่าแล้วเหรอที่จะเอาความรู้สึกดีๆให้คนที่ไม่เห็นค่าน่ะ”

“ผมพูดไม่ได้พี่ปราบ ผมทนไม่ได้ที่มันนอกใจผม แต่ผมไม่กล้าพูดคำว่าเลิก ผมอยากให้พลอยเป็นคนพูดออกมา แล้วผมจะจบ”

“แล้วถ้าเขาไม่พูด มึงก็จะทนเจ็บอย่างนั้นเหรอ ทนอยู่ไปแบบนี้น่ะเหรอ”

“ผมไม่รู้”

“ซ่า มึงฟังกูนะ กูจะพูดในฐานะคนนอกที่เป็นกลางที่สุด แม้ว่ากูจะไม่ชอบแฟนมึงก็ตาม กูอยากจะยุให้มึงเลิกกับมันไปเลย เหมือนที่เพื่อนมึงก็อยากให้มึงทำ แต่มึงต้องคิดนะว่า มึงจะเสียเวลากับคนๆนั้นโดยไม่ได้อะไรหรือเปล่า มือทั้งสองข้างของมึงจะไม่สามารไขว่คว้าสิ่งดีๆสิ่งใหม่ได้ ถ้ามึงไม่ทิ้งอันเก่าที่อยู่ในมือ” 

พี่ปราบจับมือของผมทั้งสองข้างให้แบออก

“ถ้ามึงไม่ทำให้มือว่าง สิ่งดีๆจะเข้ามาได้ยังไง มึงต้องเลือก ชีวิตในทุกวันคือความเสี่ยง แต่มันจะคุ้มกว่าไหมหากว่ามึงจะทิ้งคนไม่ดี เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอสิ่งที่ดีกว่า ปล่อยวางซะซ่า ใครที่ทำให้ทุกข์ก็ต้องตัดออกไป แล้วเลือกไว้แต่คนที่ทำให้มีความสุข”

แล้วพี่ปราบก็จับมือทั้งสองข้างผมกำหลวมๆ มือของเขาใหญ่พอที่จะกุมมือผมไว้ในอุ้งมือของเขา มือของพี่ปราบร้อน แต่อบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเจอ

“จะสุขจะทุกข์มึงเลือกได้ด้วยตัวเองนะซ่า และจำเอาไว้ว่ากูอยู่ตรงนี้กับมึง ถ้าไม่ไหวก็มาหากู เบอร์กูมึงก็มี ไลน์ก็มี ไม่ได้ติดต่อยากอะไร ทำไมถึงไม่ทำหืม”

“ผมไม่รู้” ผมส่ายหน้า ไม่กล้าบอกว่าผมกลัวเขาผิดหวังในตัวผมเหมือนคนที่บ้าน กลัวว่าเขาจะผลักไสและเอือมระอากับคนอย่างผม

“กลัวอะไรอยู่” พี่ปราบถามราวกับรู้ใจ “ถ้ามึงไม่พูดสิ่งที่คิดออกมาแล้วใครจะรู้”

ผมรู้ แต่ผมไม่กล้าพูด ยังไงก็ไม่กล้า

“เฮ้อ มึงนี่นะ บทจะไม่พูดก็ไม่พูด เอาเป็นว่าสิ่งที่กูควรพูดกูก็พูดหมดแล้ว ที่เหลือมึงก็คิดเอาแล้วกัน”

พอเห็นผมเอาแต่นิ่งไม่ยอมพูด พี่ปราบก็เลยไล่ผมให้ไปอาบน้ำอาบท่า บอกว่าจะพาไปหาข้าวกินและพาไปหาหมอเพื่อทำแผลบนร่างกาย 

ออกมาจากห้องน้ำพี่ปราบก็เรียกผมเข้าไปใกล้ ทั้งตัวผมมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันเอว ทำให้เห็นร่องรอยบนตัวเด่นชัด

“เข้ามาใกล้ๆดิ” พี่ปราบขยับตัวลุกขึ้นนั่ง จากที่นอนบนเตียง หัวคิ้วเข้มๆขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นร่องรอยบนตัวของผมในระยะแค่คืบ

“มึงปล่อยให้พวกมันทำให้เจ็บขนาดนี้” คิ้วที่ขมวดกันอยู่เปลี่ยนเป็นเลิกสูงขึ้นเมื่อถาม

“ก็พวกมันมากันตั้งสามคน แถมผมไม่ทันได้ตั้งตัวอีก”

“ก็ถ้ามึงมีความสามารถเกี่ยวกับการป้องกันตัวสักนิดมึงจะเป็นเจ็บหนักขนาดนี้กูพูดเลย นี่เป็นเพราะมึงเก่งแต่ต่อยตีแบบมั่วซั้ว โดนรุมขึ้นมาก็ทำห่าอะไรไม่ได้”

“ก็ผมไม่เคยเรียนอะไรพวกนั้นนี่พี่ พี่จะสอนผมไหมละ” ผมยังจำได้นะว่าไอ้หวายเคยบอกว่าพี่บ้านพี่เขาเปิดโรงเรียนสอนการต่อสู้

“ไม่อ่ะ กูขี้เกียจ”

“โด่ อะไรเนี่ย ไม่ใจเลย”

“ไปแต่งตัวไป กูหิวแล้ว”

“ค้าบบบ”






มื้อเช้าและมื้อเที่ยงพี่ปราบให้ผมเป็นคนเลือก ผมเองก็ไม่รู้จะกินอะไร ไม่มีความรู้สึกอยากอาหารเลยสักนิด สุดท้ายก็แวะกินก๋วยเตี๋ยว เป็นร้านห้องกระจกที่มีแอร์ แต่รสชาติธรรมดา อร่อยสู้ร้านรถเข็นข้างทางก็ไม่ได้

กินเสร็จพี่ปราบก็พาผมไปหาหมอ โรงพยาบาลที่พี่ปราบพามาเป็นโรงพยาบาลสุดหรู ที่ทั้งชาตินี้ผมคงไม่มีทางเหยียบย่างมาที่นี่เองอย่างแน่นอน เพราะไม่มีปัญญาที่จะจ่ายค่ารักษา อย่างเก่งก็รักษาโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งของผมยังใช้สิทธิรักษาสามสิบบาทได้ ก็เลยดีไป

“พี่ปราบ ที่จริงไปโรงพยาบาลธรรมดาก็ได้นะพี่ ที่นี่มันแพงไป ผมไม่มีเงินจ่ายค่าหมอหรอก” ผมกระซิบบอกพี่ปราบ

“ใครบอกจะให้มึงจ่ายล่ะ กูจ่ายให้” พี่ปราบหันมาตอบสบายๆ

“ไม่เอาพี่ พี่จะมาจ่ายให้ผมทำไม”

ธุระของเขาก็ไม่ใช่ คนที่บ้านผมยังไม่สนใจเลย ผมไม่อยากรบกวนพี่ปราบไปมากกว่านี้ ผมเกรงใจเขา แค่เขาดีกับผมก็เกินพอแล้วที่คนอย่างผมจะได้รับ

“กูขอซื้อได้ไหมไอ้ความเกรงใจของมึงนี่ กูเต็มใจจะจ่ายให้แล้วกูก็จะจ่าย และก่อนที่กูจะหงุดหงิดเอาบัตรประชาชนมึงมาเดี๋ยวนี้ จะได้ให้พยาบาลเขาทำประวัติ”

ในเมื่อเถียงหรือแย้งไม่ได้ ผมก็ได้แต่ยื่นบัตรประชาชนให้พี่ปราบ ไม่นานก็ถูกเรียกไปซักประวัติ จากนั้นก็เข้าไปทำแผล หมอที่นี่มือเบามากและก็สุภาพมากๆแบบที่ผมไม่เคยเจอ ทำแผลเสร็จก็ออกไปรับยา เสร็จสรรพทุกอย่างใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ ต่างจากโรงพยาบาลที่ผมเคยไป สามชั่วโมงแล้วยังไม่เสร็จ เป็นคนรวยมีเงินมันดีอย่างนี้นี่เอง

อะไรก็ง่าย อะไรก็ไว แถมหมอและพยาบาลยังพูดจาดีอีก ไม่เหมือนป้าพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐที่พอเห็นหน้าเด็กช่างอย่างผมเจ็บตัวไปปุบก็ทำหน้ารังเกียจ

“อยากไปไหนหรือทำอะไรไหม วันนี้กูว่าง” พี่ปราบถามขึ้น เมื่อเราขึ้นมาอยู่บนรถแล้ว และขับออกมาจากโรงพยาบาลแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง

“ไม่ครับ ผมไม่อยากทำอะไร”

“งั้นก็ไปออกแรงแล้วกัน เผื่อหัวมึงจะโล่งขึ้น”

“ออกแรง?”

“อืม เดี๋ยวกูพาไปต่อยมวย”

เพราะพี่ปราบว่ามาแบบนั้น ตอนนี้ผมก็เลยมายืนอยู่ที่โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ที่เป็นกิจการของบ้านพี่ปราบ ผมยืนทึ่งกับความใหญ่โตของที่นี่ได้ไม่นาน ก็โดนไล่ให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นพี่ปราบก็เรียกครูฝึกมาช่วยผมวอร์มร่างกาย จากนั้นพี่ปราบก็เป็นคนสอนผมเอง ตั้งแต่ตั้งการ์ด วางท่า ตำแหน่งขาและแขน

“มา หนึ่งสอง” พี่ปราบให้สัญญาณ ผมปล่อยหมัดซ้ายขวาตามที่พี่ปราบสอน

“ดี โยกตัวด้วย เตะมา” ผมปล่อยเตะขาขวาเข้าที่เป้า จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นต่อยสองจังหวะ ตามด้วยศอก และเปลี่ยนมาเตะอีกที

ผมฝึกกับพี่ปราบอยู่รวมสองชั่วโมง การต่อยมวยเรียกเหงื่อได้ดีมากๆ แต่เป็นการเสียเหงื่อที่ผมรู้สึกดี มันเหนื่อยแต่มันก็โล่งในเวลาเดียวกัน

พี่ปราบให้ผมฝึกแค่เท่านี้ เพราะร่างกายผมยังบอบช้ำจากการถูกรุมกระทืบมา ทีจริงพี่ปราบไม่อยากให้ผมมาออกกำลังหรอก แต่เขาบอกว่าผมต้องการการระบายออกมากกว่าเมื่อเช้าที่ผมระบายผ่านการร้องไห้ พี่เขาว่าผมเป็นเด็กเก็บกด ต้องได้ระบายออกเป็นแรงถึงจะหาย ไม่งั้นจิตใจผมจะไม่สงบ ซึ่งพี่เขาพูดถูกหมดทุกอย่าง

ที่ผ่านมาผมระบายอารมณ์โกรธ โมโห ด้วยการออกกำลัง ไปต่อยตีกับคู่อริบ้าง หรือผ่านการซิ่งมอเตอร์ไซค์บ้าง แค่วิธีเหล่านี้เท่านั้นถึงจะทำให้ผมสงบขึ้นได้ แม้จะแลกมาด้วยการเจ็บตัวทุกครั้งก็ตาม

หลังจากออกกำลังกายเสร็จ ผมก็ไปอาบน้ำในโรงอาบน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดิม นั่งรอพี่ปราบที่สวนหลังโรงฝึก ระหว่างที่นั่งว่างๆ ผมก็คิดสะระตะไปเรื่อย และเรื่องที่วนเวียนอยู่ในหัวก็คือเรื่องงาน ผมต้องหางานใหม่ แต่ปัญหาก็คือผมไม่รู้จะไปสมัครงานที่ไหนดี

“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดๆ ได้ออกแรงแล้วไม่รู้สึกดีขึ้นหรือไง” พี่ปราบเองก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เดินเข้ามาหาผม

“ก็ดีครับพี่ มันก็โล่งขึ้น แต่พอมาคิดว่าผมตกงาน ตอนนี้มีแค่เงินเดือนสุดท้ายที่ได้มาก่อนออก ผมยังต้องต้องกินต้องใช้ ยังต้องจ่ายค่าหออีก ผมไม่รู้จะไปหางานใหม่ที่ไหนเลย”

เพราะถ้าผมไม่มีเงินแล้วต้องกลับไปขอเงินที่บ้าน ผมคงโดนด่ามาอีกยกใหญ่ เผลอก็ไม่ได้เงินกลับมาใช้ด้วย ผมไม่อยากกลับไปให้เขาด่าหาว่าผมเป็นคนไม่เอาไหน เป็นภาระให้พวกเขาอีกแล้ว แม้ว่ามันจะเป็นคนจริงก็ตาม

“มึงอยากทำงานแบบไหน” พี่ปราบถาม ส่งขวดเครื่องดื่มเกลือแร่ให้ผมขวดหนึ่ง

“ผมไม่เกี่ยงงานหรอก งานขุดลอกท่อผมก็เคยทำมาแล้ว แต่เวลาไปสมัครงานที่ไหน พอเห็นว่าผมเป็นเด็กช่างเขาก็ไม่ค่อยรับ อีกอย่างผมไม่ชอบเวลาไปสัมภาษณ์งานอ่ะ มันกดดัน ผมเคยสมัครงานร้านอาหารอะไรพวกนี้มาเยอะอ่ะ แต่เขาไม่เคยรับ ตอนได้ที่นี่ก็เหมือนฟลุ๊คอ่ะ สุดท้ายก็ต้องมาออกจากงาน”

“ซ่า” พี่ปราบเรียกผม

“ครับ”

“กูหางานให้มึงได้นะ แต่มีข้อแม้”

“อะไรอะพี่ ให้ผมทำอะไรผมทำได้หมด” ผมดีใจที่ได้ยิน

“ขายยา”

“ตีนเหอะ” ผมหลุดปากด่าทันที ถึงผมจะเป็นเด็กเหี้ยแต่ก็ไม่ขนาดนั้นนะครับ ผมไม่มีทางไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาย

พี่ปราบมองหน้าผมดุดันทันทีที่ผมหลุดปากพูดคำหยาบไป ผมเลยต้องยกมือไหว้ขอโทษแทน

“ขอโทษครับพี่ มันตกใจอ่ะ ก็พี่พูดแบบนั้นได้ไงวะ ใจเสียหมด”

“งานร้านอาหาร เป็นพนักงานเสิร์ฟ”

“อย่างนี้เงินต้องดีดิพี่”

“เออ กูฝากให้ได้เพราะกูรู้จักกับเจ้าของร้าน แต่ถ้ามึงจะไปทำ มึงต้องสัญญากับกูว่ามึงจะทำตัวดีๆ ขยันทำงาน ไม่เกเรงาน ถ้าไม่เจ็บป่วยหนักมึงต้องไปทำงานตามเวรทุกครั้ง ถ้ามึงสัญญาว่าจะทำได้ทั้งหมดที่กูบอก กูจะฝากงานให้”

“...” ผมนิ่ง ไม่ใช่ลังเลว่าจะทำไม่ได้ แต่ผมกำลังค่อยๆทำความเข้าใจเงื่อนไขที่พี่ปราบบอกอยู่

“กูไม่ค่อยชอบเรื่องใช้เส้นสาย ยิ่งใช้แล้วเด็กที่ฝากมันทำกูเสียชื่อกูยิ่งเกลียด เข้าใจใช่ไหม”

“ครับ”

“สัญญาใช่ไหมว่าจะเป็นเด็กดี”

“ครับ ผมสัญญา ผมจะไม่ทำให้พี่ปราบเสียชื่อแน่นอน”

“กูเชื่อใจมึงนะซ่า อย่าทำให้กูผิดหวัง”

ผมยกมือไหว้พี่ปราบ ก่อนจะตัดสินใจขอบางอย่างที่ผมอยากทำ

“พี่ปราบ ผมขออะไรอย่างสิ”

พอผมเอ่ยปาก พี่ปราบก็จ้องผมราวกับแปลกใจ “ขออะไร”

“ผม...ขอกอดพี่ทีดิ” ผมพูดสิ่งที่ต้องการจบ พี่ปราบก็ทำตาโตกว่าปกติ เป็นอาการตกใจ ผมไม่รู้ว่าพี่ปราบจะคิดยังไงกับสิ่งที่ผมขอ แต่ผมรู้สึกว่า ผมอยากกอดเขา

“คือผมรู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่กับพี่วะ ผมอยากให้พี่เป็นพี่ชายของผม” พูดแล้วก็เขิน ผมเกาแก้มตัวเอง ไม่กล้าสบตาพี่ปราบเท่าไหร่ มันไม่ชินที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้

“หึหึ มาสิ อยากกอดก็กอด” พี่ปราบอ้าแขนออกกว้าง เห็นแล้วผมก็รู้สึกตื้นตันใจ ที่พี่ปราบไม่เคยรังเกียจเด็กเกเรแบบผมเลยสักครั้ง

“ขอบคุณครับ” ผมกระเถิบเข้าไปกอดพี่ปราบเอาไว้ ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำให้พี่ปราบผิดหวังในตัวผมเด็ดขาด




………………………………
สวัสดีค่ะ หยุดลงไปสองสามวัน อย่าเพิ่มตกใจนะคะ ไม่ได้หายไปไหน ริริติดบิน เลยเอาเวลาไปนอนพักและเตรียมตัวทำงานหมด วันนี้ว่างและสมองปลอดโปร่ง เลยพร้อมมาลงพี่ปราบและน้องซ่าให้ได้อ่านกัน
อ่านคอมเม้นแล้วรู้สึกพี่ปราบจะขายดีมากๆ มีแต่คนอยากได้ ฮ่าๆๆๆ พี่ปราบนี่เป็น ‘สามีดีเด่นปี2017’ เลยนะคะ แต่ถึงพี่แกจะดีแค่ไหนก็ยกให้น้องซ่าแกไปเถอะ อย่าไปแย่งน้องมัน เดี๋ยวมันไม่มีที่พึ่งแล้วจะเตลิด
ใครที่รอเขารักกัน มันก็จะอีกแปบๆนึงเลยนะตัวเอง แต่ตอนนี้น้องซ่าก็ติดพี่ปราบมากแล้ว แม้ว่าจะคิดกับพี่ปราบเป็นพี่ชายก็ตาม เอาน่า...ให้เวลาน้องซ่าคนแมนนิดนึง จะเปลี่ยนสไตล์มันก็ต้องใช้เวลา อิพี่ปราบมันก็ไม่ใช่พ่อพระสักเท่าไหร่ นางมีวิธีจัดการกับเด็กของนางอยู่แล้ว
ตอนต่อไปเร็วๆนี้นะคะ
ขอบคุณนักอ่านคนดีที่เข้ามาอ่านพี่ปราบน้องซ่าค่ะ เลิฟๆ  :mew1:

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-09-2017 19:01:52
ซ่าทำไมชีวิตแย่แบบนี้อ่ะ แม่ ยาย ก็ไม่สนใจ ลำเอียงอะไรขนาดนั้น ทั้งๆที่ก็ลูกเหมืนกัน มีครอบตรัวแบบนี้ ซ่าก็ยังตัดไม่ได้อีกเนาะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-09-2017 19:04:04
อู้ววว พี่ปราบผู้ชายอบอุ่น
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-09-2017 19:17:52
พี่ปราบก็อยากจะช่วย
น้องซ่าก้แสนจะเกรงใจ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

แต่พี่ปราบก็ให้ซ่าระบายเรื่องทุกข์ ออกมาจนหมด
ไม่เข้าใจความเป็นแมน แม้น แมน  ของซ่า
ที่ต้องให้พลอยบอกเลิกเสียก่อนถึงจะยอมเลิกจริง  :z3: :z3: :z3:
ทั้งที่นาง ยอมบอกว่า เหงา เพราะซ่าไม่มีเวลาให้
เลยมีชู้  นอกใจ สวมเขาให้ตัวเองแท้ๆ  :really2: :really2: :really2:
มันแมนแบบผิดมนุษย์มะนามั้ยนะ พ่อพระซะจริง ทิงนองนอย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ที่ปราบสอนซ่าดีนะ
ไปเสียเวลากับคนที่ไม่รักเรา ไม่ห็นค่าของเราทำไม แล้วเราก็ทุกข์
เอาเวลาไปอยู่กับคนที่เห็นค่าเรา ทำให้เรามีความสุขดีกว่า สุดยอดดดดด
ซ่าคิดได้ซะที เรื่องนังพลอยหุง พลอยเก๊
ก่อนนี้ว่าเพราะซ่าไม่รู้ ไม่เห็นด้วยตา เพื่อนเตือน บอกเท่าไรไม่เชื่อ
แล้วตอนนี้เป็นไง ทั้งรู้ ทั้งเห็น โดนตีน โดนยำ
พลอยบอกซ้ำ ก็ยังซื้อบื้อ ซ่าเอ๊ย.....เกินเยียวยาความบื้อ

แต่ก็ทำให้รู้นะว่า ซ่ารักใครรักเดียว ไม่นอกใจ รักจริง ไม่ทิ้งไม่ขว้าง   :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-09-2017 19:18:50
โธ่พี่ปราบ เขาเห็นพี่เป็นพี่ชายไปเสียแล้ว อยากเป็นมากกว่านั้นต้องพยายามอีกนะพี่นะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-09-2017 19:55:55
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 03-09-2017 20:12:33
โบ๋แล้วมั้งอิชอกการี เลิกๆไปเถอะ ยึดติดอะไรขนาดนั้น ขาดความอบอุ่นก็ใช่ แต่มันใช่ไหมที่จะไปเรียกร้องกับคนที่ไม่รัก ตอนไหนพี่ปราบจะผงาดเนี่ย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 03-09-2017 20:27:43
รอตอนต่อไปจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 03-09-2017 21:14:00
ได้พูดสักทีนะซ่า เก็บงำไว้ไม่บอกใคร ก็ต้องอึดอัดบ้างอะ ไม่ต้องเล่าทั้งหมด แค่เรื่องที่ไม่ไหวก็ได้
แต่ของซ่า คงไม่ไหวทุกเรื่องแล้วล่ะ ที่ผ่านมา เจอมาขนาดนี้ แล้วไม่เกเรหนัก ถือว่ารอดนะ
ตอนนี้ซ่ามีพี่ปราบเป็นพี่ชายละนะ 5555 ปราบทำให้ซ่าบอกจนได้ ช่วยทุกอย่าง เข้าใจไปหมด เป็นจุดพีคเลยนะ

ปราบเข้าใกล้น้องอีกก้าวแล้ว ตอนนี้ก็เป็นพี่ชายไปก่อนเนาะ รออีกแปบให้ซ่าไปตัดสัมพันธ์ก่อน ค่อยเลื่อนขั้น

เข้าใจซ่านะ ก็รักถึงจะแย่ยังไง ก็พูดไม่ออก เพราะถ้าพูดคือกลัวจบ
แต่รอบนี้ซ่าต้องพูดแล้วล่ะ เหมือนที่ปราบบอก อย่ามากำไว้เลย มันทรมาน
คนดีๆ รอบข้างก็ยังมี เพื่อนก็ห่วง ที่สำคัญกูห่วงมึงมาก รู้บ้างไหม พี่ปราบถาม 55555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-09-2017 23:04:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่16:: 3/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-09-2017 23:07:28
ซ่าทำเพื่อตัวเองบ้างเถอะนะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-09-2017 18:54:28
ปราบซ่า
ตอนที่17




[ซ่า]

ร้านอาหารที่พี่ปราบให้ผมมาทำงาน เป็นร้านที่เคยพาผมมากินและเจ้าของร้านก็เป็นอาของพี่ปราบ อาเจเป็นคนน่ารักและใจดีมากๆ ตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ วันนี้เป็นวันที่สามวันแล้ว มีผิดพลาดบ้าง ไม่รู้เรื่องรู้ราวบ้าง แต่อาเจก็ไม่เคยว่าเลย ถ้าอาเจเข้าร้าน อาเจจะสอนงานผมด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่เข้าร้านก็จะฝากพี่ๆที่ร้านให้ดูแลผมแทน

“พัช เอาจานนี้ไปเสิร์ฟโต๊ะสิบห้าโซนนอกทีนะ” พี่น้ำ พนักงานเก่าแก่ของร้านส่งจานอาหารให้ผม พร้อมบอกเลขโต๊ะ ผมค่อยๆประคองจานอาหารในถาดอย่างระมัดระวังแล้วเอาไปเสิร์ฟให้ลูกค้า

“น้องๆ สั่งอาหารหน่อย” ลูกค้าโต๊ะถัดไปที่เพิ่งเข้ามาโบกมือเรียกผม ผมยืนงงอยู่แป๊บนึง ก่อนจะรีบเดินไปรับออเดอร์ ดีที่ลูกค้าไม่ได้ถามว่าจานไหนเด็ดจานไหนดี เพราะผมยังจำเมนูได้ไม่ครบ จะให้แนะนำคงไม่ถนัด จดรายการอาหารเสร็จผมก็เอาไปวางไว้ในช่องรับรายการอาหาร จากนั้นก็เอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้ลูกค้าที่อยู่ชั้นที่สอง

 ทำงานไปจนกระทั่งสี่ทุ่ม ก็เห็นพี่ปราบนั่งคุยกับอาเจอยู่แถวๆบาร์เครื่องดื่ม ผมเดินเข้าไปทักทายพี่ปราบ ที่มักจะมาหาผมทุกวันที่ผมทำงาน ซึ่งส่วนมากก็มานั่งจิบเบียร์ฟังเพลง หากร้านยุ่งๆก็มาช่วยเทคแคร์ลูกค้า

พี่ปราบถือว่าเป็นขวัญใจของลูกค้าสาวๆเลยครับ วันๆหนึ่งพี่ปราบได้เบอร์โทรสาวมาเยอะมาก แต่ไม่เห็นพี่เขาจะสนใจใครสักคน

“พี่ปราบ มานั่งอ่อยสาวอีกแล้วอ่ะพี่” ผมเดินเข้าไปแซว อาเจหัวเราะเห็นด้วยกับคำพูดของผม

“ดีแล้วน้องซ่า ร้านอาจะได้มีลูกค้าเยอะๆ” อาเจยิ้มชอบใจ พี่ปราบก็น้อมรับไม่แย้ง

เรื่องชื่อเล่นของผม ผมก็ยังคงบอกคนอื่นๆว่าผมชื่อพัช แต่พี่ปราบเรียกผมว่าซ่าต่อหน้าอาเจ หลังจากนั้นเวลาอยู่กันสองคนหรืออยู่กับพี่ปราบ อาเจจะเรียกผมว่าซ่า

อย่างที่เคยบอกว่าผมไม่มีปัญหากับการที่คนอื่นจะเรียกผมว่าซ่าหรือพัช แต่ถ้าคนไม่สนิทมาถาม ผมจะให้เรียกพัชมากกว่า

“งั้นผมไปทำงานก่อนนะ พี่ปราบรอผมด้วย”

“อืม ตั้งใจทำงานล่ะ”

“ค้าบผม”

ผมฉีกยิ้มกว้างใส่พี่ปราบและอาเจ ก่อนจะวิ่งไปช่วยพี่ๆเสิร์ฟเหล้าเสิร์ฟเบียร์ ทำงานที่นี่ก็ดี ผมว่ามันเหมาะกับผมมากกว่าทำที่ร้านสะดวกซื้อ พี่ๆที่ร้านดีกับผมทุกคน ค่อยถามว่าทำได้ไหม มีอะไรปรึกษาพวกเขาได้ ผมว่าผมชักจะชอบที่นี่เขาแล้ว

ผมทำงานที่ร้านอาเจแค่อาทิตย์ละสี่วันเท่านั้น ตามตารางผมที่สะดวก ความจริงผมก็อยากทำทุกวันเพราะผมอยากได้เงินเยอะๆ แต่อาเจอยากให้ผมตั้งใจเรียนมากกว่า เพราะถ้าผมมาทำงานทุกวัน ต้องเลิกงานเวลาเที่ยงคืน จะทำให้ผมเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง และความเห็นของอาเจ พี่ปราบเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์

ดังนั้นวันที่ผมทำงานก็จะมี วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์และวันเสาร์ ซึ่งพอคำนวณตามค่าจ้างที่จะได้ในแต่ละวัน ก็ไม่ถือว่าแย่

ข้อดีอีกอย่างก็คือ พอผมมีงานทำ คืนนั้นผมก็ไม่ต้องมานั่งฟุ้งซ่านคิดเรื่องของพลอย ตั้งแต่วันนั้น ผมกับพลอยก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ผมเว้นระยะห่างออกมา ก็ยอมรับว่าผมยังทำใจไม่ได้ ผมคบพลอยมาหลายปี ทุ่มใจทั้งหมดให้กับคนๆเดียว จะให้ตัดใจในทันทีเลยผมก็ยังไม่เด็ดเดี่ยวขนาดนั้น มีบางครั้งที่ผมก็คิดถึงพลอย นับจากวันนั้นก็ผ่านมาแล้วห้าวัน ผมคิดว่าผมยังต้องการเวลามากกว่านี้ในการคิดและตัดสินใจ

ร้านอาเจปิดเวลาตีหนึ่ง ซึ่งทุกคนก็จะช่วยกันเก็บช่วยกันเคลียร์ของ สักตีสองก็ได้กลับ ซึ่งผมได้สิทธิพิเศษอยู่อย่างก็คือ ในวันจันทร์และวันพุธ ผมจะทำงานตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้วเลิกงานสี่ทุ่ม ไม่ต้องช่วยเก็บของ สามารถกลับได้เลย แต่สองวันนี้ก็จะได้ค่าแรงไม่เต็มวัน ซึ่งผมคิดว่าแค่นี้อาเจก็ใจดีกับผมมากๆแล้ว

ทำให้บางครั้งผมอดอิจฉาพี่ปราบไม่ได้ว่า เขาโชคดีที่ชีวิตรายล้อมไปด้วยคนดีๆ

“พี่ปราบทำอาหารอร่อยอ่ะ” หลังเลิกงาน คนอื่นกลับกันไปหมดแล้ว เหลืออาเจและผู้จัดการร้านที่ชื่อพี่โอที่กำลังเคลียร์งานกันอยู่ พี่ปราบก็เลยพาผมบุกเข้ามาในครัว ลงมือทำสปาเก็ตตี้หอยลายซอสไวน์ขาวสักอย่าง ที่อร่อยมากๆ ผมพูดเลยว่าใครที่ได้เป็นเมียพี่ปราบนี่โคตรโชคดี เก่ง หล่อ รวย ใจดี ทำอาหารเก่ง คนอะไรโคตรของโคตรเพอร์เฟค

“บ้านกูทำอาหารเป็นทุกคน ไม่ได้มากที่สุดก็มีอาสองกับป๊า กูก็เลยเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กๆ”

“ดีอ่ะ ผมนะทำได้แค่ทอดไข่ ทอดไส้กรอก อะไรที่ทอดง่ายๆอ่ะผมทำได้ แต่นอกนั้นไม่ได้เลย”

“เออ แล้วเรื่องคนที่มาหาเรื่องมึงนี่เป็นไงบ้าง ไหนเล่าดิ” พี่ปราบถามถึงความคืบหน้าเรื่องที่ตำรวจตามจับไอ้ปาร์ค

เมื่อวานตำรวจโทรมาหาผมและผู้จัดการร้านว่าคุมตัวไอ้ปาร์คไว้ได้แล้ว เลยเรียกผมกับผู้จัดการไปคุย ผมที่ต้องเอาผู้ปกครองไปด้วยก็จำเป็นต้องโทรไปหาพี่แนน แต่ก็ไม่วายโดนบ่นกลับมาอีก

“เขาก็ให้ทางบ้านไอปาร์คชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในร้าน กับค่ารักษาพยาบาลและค่าปลอบขวัญให้ผม ผมก็หวังว่ามันจะได้เข้าไปนอนในคุกนะพี่ แต่พ่อแม่มันก็วิ่งเต้นหาเงินมาประกันตัวมันออกไปจนได้ ก็แค่นี้แหละ”

“แล้วเงินที่ได้มาอยู่ไหน”

“พี่แนนเขาเอาไปให้แม่แล้วพี่ พี่คิดว่าผมจะได้ถือเงินห้าพันไว้ในมือเหรอ แต่ค่าทำแผล เดี๋ยวผมจ่ายคืนให้ตอนเงินเดือนออกนะพี่ ผมไม่อยากมีปัญหากับที่บ้าน ก็เลยไม่ได้ขอเงินคืนมา”

ความจริงแล้วเงินจำนวนนั้นมันควรเป็นของผม แต่ในเมื่อพี่แนนไม่ไว้ใจจะให้ผมเก็บเงินนั้นไว้กับตัวเอง แล้วบอกว่าเอาไว้ให้แม่ใช้จ่ายในครอบครัวดีกว่าให้ผมเอามาลงขวดเหล้า ผมก็ทำอะไรไม่ได้ เลยปล่อยผ่านไป ทั้งๆที่ผมควรจะมีเงินมาคืนพี่ปราบเขาแท้ๆ

“ไม่ต้องเอาเงินมาคืนกู เรื่องเงินกูไม่เคยคิดมาก ส่วนเงินที่มึงได้มาจากคู่กรณี มันก็อยู่ที่มึงตัดสินใจ แต่สำหรับค่ารักษาพยาบาล ถ้าตอนนี้เห็นกูเป็นพี่อย่างที่ปากว่า ก็อย่าเอามาคืนกู อันไหนกูบอกว่าให้ก็ให้ แต่ถ้าอันไหนพูดว่าให้ยืม นั่นค่อยคืน”

ผมกลืนสปาเก็ตตี้ แล้วรีบวางช้อนส้อม ยกมือไหว้ขอบคุณพี่ปราบ “ขอบคุณครับพี่”

“เออๆ กินเสร็จแล้วก็ไปล้างจาน จะได้กลับ มึงอยากดูหนังเรื่องนั้นไม่ใช่เหรอไง ดึกขนาดนี้แล้วมึงจะยังดูไหวไม่เนี่ย”

“ไหวๆพี่ ยังไม่ง่วง ว่าแต่...ขอจิบเบียร์ไปด้วยได้ไหมอ่ะ”

“เออ ตู้เย็นที่คอนโดกูมี ไม่ต้องห่วง”

“เยี่ยมไปเลยพี่”





คืนนี้เป็นคืนแรกที่ผมไม่ต้องนอนคนเดียวหลังจากที่รู้ความจริงว่าพลอยนอกใจผม ทุกคืนที่ผ่านมาผมไม่เคยนอนหลับสนิท คอยแต่จะฝันจึงภาพของพลอยและไอ้ปาร์คที่กำลังกอดก่ายกัน ฝันว่าพวกมันพร้อมใจกันเอามีมาแทงข้างหลังผม เสียงที่ดังก้องอยู่ในหัว ก็เป็นเสียงที่พลอยพร่ำบอกว่าไม่รักผมแล้ว พลอยเบื่อและไม่อยากเจอหน้าผมคนอย่าง

ไม่มีใครรู้ว่าผมผ่านแต่ละค่ำคืนมาได้ก็ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ต่อหน้าเพื่อนและคนอื่นๆ ผมพยายามทำตัวเหมือนว่าผมไม่เป็นอะไร ผมไม่คิดมาก แต่มันไม่ใช่ ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมกำลังจะไม่ไหว และที่ผมเอ่ยขอดื่มเบียร์ระหว่างดูหนังกับพี่ปราบนั้นมันก็คือข้ออ้าง เหตุผลจริงๆก็คือ ถ้าไม่ดื่มมัน ผมจะข่มตานอนไม่หลับ

พี่ปราบเองก็คิดว่าผมดีขึ้น คืนนี้เขาเลยชวนผมมาดูหนังที่คอนโด พอดีเป็นเรื่องที่ผมเองก็อยากดูพอดี และไม่อยากฟุ้งซ่านอยู่ที่ห้องเพียงลำพัง ผมเลยตอบตกลงที่จะมานอนกับพี่ปราบที่คอนโด

“เรื่องนี้ตอนภาคแรกผมโคตรชอบเลย ไม่รู้ภาคนี้จะเป็นยังไง”

“เขาว่าก็สนุกดี แต่บางคนก็ไม่ชอบ”

“แต่ตัวอย่างมันก็ดูจะสนุกนะ”

“อืม ก็แล้วแต่คนจะคาดหวัง หนังมาแล้ว ตั้งใจดู”

พอหนังเริ่มเล่นผมกับพี่ปราบก็จมจ่ออยู่กับเรื่องราวบนจอทีวี ผมตื่นเต้นกับเนื้อเรื่องที่กำลังดำเนิน จนคิดว่าอยากจะเป็นนักมายากลเท่ๆแบบนี้มาก ผมดูจนกระทั่งหนังจบก็ใกล้จะตีห้าแล้ว

“หนังอย่างเจ๋งอ่ะพี่ แม่งแผนซ้อนแผนแบบที่ทำเอาลุ้นทุกตอน”

“เออ ก็ถือว่าทำได้ดี สนุกดี”

“น่าจะมีหนังแนวๆนี้อีกนะพี่ ผมอยากดู”

“มึงก็ภาวนาให้เขาทำภาคสามก็แล้วกัน ส่วนตอนนี้มึงกับกูควรจะต้องไปนอนได้แล้ว อีกนิดก็ตะวันขึ้นแล้วเนี่ย”

“นั่นดิพี่ หาววว ผมก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน”

“งั้นก็ไปนอน”

ผมและพี่ปราบอาบน้ำตั้งแต่ก่อนจะดูหนัง ตอนจะนอนก็เลยสบาย กระโดดขึ้นเตียงได้ ผมก็หลับยาวไม่ฝันร้ายตลอดคืน

ด้วยความเหนื่อยล้าของร่างกายที่พักผ่อนไม่เพียงพอมาหลายวัน รวมไปถึงเบียร์อีกหลายกระป๋องที่ผมดื่มระหว่างดูหนัง ทำให้ผมหลับยาวจนกระทั่งเที่ยงวัน และที่ตื่นก็เพราะว่าพี่ปราบปลุก ผมไม่ได้ตื่นด้วยตัวเอง

พี่ปราบพาผมไปกินข้าว  และแวะร้านสะดวกซื้อ ซื้อของกินเล็กๆน้อยๆไปติดไว้ที่หอ หลังจากส่งผมที่หอพักเสร็จ พี่ปราบก็ขอตัวกลับไปทำธุระต่อ ไม่ลืมกำชับให้ผมดูแลตัวเองดีๆ





วันจันทร์หลังเลิกเรียน ผมกลับหอมาเปลี่ยนเตรียมไปทำงาน ตอนออกมาจากหอ ผมรู้สึกว่ามีคนจ้องผม แต่พอหันไปมองก็ไม่มีใคร ผมรู้สึกอย่างนั้นอยู่สองสามครั้ง แต่เพราะใกล้ได้เวลาเข้างาน ผมเลยไม่ใส่ใจ

ร้านอาหารอาเจอยู่ไกลจากหอของผมพอสมควรเลย โชคดีที่สามวันที่แล้วพี่ปราบมารับผมที่ร้านแล้วพาไปส่งหอ  ไม่อย่างนั้นผมได้นอนหลับบนรถเมล์เป็นชั่วโมงๆก่อนถึงหอแน่ๆ

มาถึงร้านอาหารพี่เจ ผมก็เข้าไปลงชื่อเข้างาน ผมยังใหม่และไม่คล่อง งานแต่ละวันยังต้องให้พี่ๆเขาบอกว่าผมต้องทำอะไร

วันนี้อาเจให้ซื้อของและวัตถุดิบทำอาหารมาลงที่ร้านเพิ่ม ผมก็เลยมาช่วยพี่ๆเขายกของเข้าร้าน สักพักก็มีพี่ผู้ชายชื่อเดชเดินเข้ามาหาผม

“พัช มีคนมาหาอะ อยู่หน้าร้าน”

“หาผมเหรอพี่”

ผมย้อนถามกลับอีกรอบเพื่อความแน่ใจ เพราะนอกจากพี่ปราบแล้ว จะมีใครอีกที่มาหาผม หรือว่าจะเป็นพวกไอ้หวาย

“อืม เป็นเด็กผู้หญิงอ่ะ”

“ผู้หญิง?”

ผมงงเข้าไปใหญ่ ไม่ใช่พี่ปราบหรือเพื่อนผมที่รู้ว่าทำงานอยู่ที่นี่ แต่กลับเป็นผู้หญิง ซึ่งผมมั่นใจว่าไม่มีคนรู้จักผมที่เป็นผู้หญิงรู้ว่าผมทำงานที่นี่แน่นอน เพราะผมไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลย นอกจากญาติพี่น้อง ก็มีแค่พลอยเท่านั้น

“น้องเขารออยู่หน้าร้านอ่ะ ลองออกไปดูละกัน”

“ครับ ขอบคุณครับ”

ผมยกถุงที่เต็มไปด้วยผักสดเข้าไปวางไว้ในครัว ก่อนจะออกไปดูที่หน้าร้านว่าใครมาหา

และผู้หญิงที่พี่เดชว่ามาหาผมก็คือพลอย พอเห็นผมพลอยก็ขยับเดินเข้ามาใกล้ ในหัวผมคิดไปต่างๆนานาถึงเหตุผลที่พลอยมาหาผม แม้จะแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมพลอยถึงรู้ว่าผมทำงานอยู่ที่นี่ ซึ่งพอคิดว่าผมรู้สึกเหมือนมีใครแอบมองผมเมื่อเย็น คนๆนั้นก็คงเป็นพลอย

“มาทำไม”

“ซ่า คือพลอย...”

“ถ้าจะมากินข้าวก็รอหกโมงเย็น ตอนนี้ร้านยังไม่เปิด” ผมบอก

“เปล่า ไม่ใช่ พลอยไม่ได้มากินข้าว”

“งั้นจะมาบอกเลิกหรือไง” ผมพูดเสียงแข็ง แม้ภายนอกผมจะดูนิ่งไม่แยแส แต่ข้างในกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

“เปล่า พลอยจะมาขอโทษ”

“ขอโทษทำไม ในเมื่อซ่ามันไม่ดีนิ ถ้าจะบอกเลิกก็พูดมาเถอะ ไม่ต้องมาขอโทษหรอก ไม่จำเป็น”

“...” พลอยเอาแต่ยืนนิ่งไม่พูดอะไรสักอย่าง จนเป็นผมเองที่เริ่มจะหงุดหงิด

“ถ้าไม่พูดก็กลับไปซะ เสียเวลาทำงาน” ผมหมุนตัวเดินกลับเข้าร้าน

“เราไม่ได้อยากเลิกกับซ่า”

เท้าผมหยุดเมื่อพลอยพูดประโยคนั้นด้วยเสียงที่สั่นเครือ ไม่ดังแต่ก็ไม่เบา

ผมหันกลับไปมองพลอยอีกครั้ง ซึ่งพลอยไม่กล้าสู้หน้า ผมยกยิ้มหยันให้กับตัวเอง

“แต่การกระทำของพลอย มันไม่ได้บอกแบบนั้นเลย” ผมพูดทิ้งท้าย เมื่อหน้าพี่ปราบลอยเข้ามาในหัว

‘รักเขาไม่รักเขาสำคัญตรงไหน สำคัญที่ว่าเขาไม่ได้รักมึง และมึงต้องรักตัวเอง’

คืนนั้นทั้งคืน ผมทำงานพลาดหลายครั้ง เหม่อลอยจนส่งอาหารผิดโต๊ะ และสีหน้าผมคงจะแย่มาก อาเจก็เลยให้ผมเข้าไปทำงานล้างจานในครัวแทน ไม่ต้องออกไปเสิร์ฟอาหาร ถือเป็นการทำโทษไปในตัว

หลังเลิกงานเดินออกมาจากร้านพร้อมพี่ปราบ ผมก็ไม่เห็นพลอยแล้ว พี่ปราบยังไม่รู้ว่าวันนี้ผมเจอพลอย ผมไม่ได้เล่า และอาการใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของผมอาเจก็รับปากว่าจะไม่เล่าให้พี่ปราบฟัง แต่วันพุธหน้าที่มาทำงาน ผมต้องไม่เป็นแบบวันนี้อีก ซึ่งผมก็รับปากอาเจแต่โดยดี ถึงชีวิตมันจะย้ำแย่แค่ไหน แต่ผมจะไม่ยอมเสียงานนี้ไป เพราะมันจะหมายความว่าผมผิดสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ปราบ







อ่านต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-09-2017 18:55:49

วันต่อมาพลอยโทรศัพท์มาหาผมแต่ผมไม่ได้รับ ไปเรียนแล้วตอนเย็นก็แวะไปนั่งกินเหล้ากับพวกเพื่อนที่ร้านเฮียบีท ซึ่งพอพี่ปราบรู้แกก็ตามมาด้วย ทั้งๆที่เมื่อเย็นแกส่งข้อความมาบอกว่าเหนื่อย อยากจะนอน

แต่พี่ปราบไม่ได้มานั่งกับผม เข้าไปคุยธุระกับเฮียบีทในห้องทำงาน พวกผมห้าคนก็เลยนั่งดื่มนั่งร้องเพลงไปเรื่อย และไอ้ตูนก็ยังเป็นคนที่ขายได้ดีที่สุด สาวๆแวะเวียนมานั่งที่โต๊ะให้พวกเพื่อนผมเชยชม ส่วนผมก็นั่งมองพวกมันหลีหญิงนิ่งๆ

“ไอ้พัช ไม่คุยกับสาวหน่อยวะ นั่งบื้อเลยนะมึง” ไอ้หวายนั่งทำตาเยิ้มพูดแซะผม

“เห็นใจมันหน่อยเพื่อน น้องพัชของพี่กานกำลังอกหัก ตอนนี้อะไรๆก็เลยเหี่ยว” เจ้าเก่าเจ้าเดิม ไอ้กานจอมกวนตีน

“ฮ่าๆๆ มึงก็ไปว่ามัน”

“ถ้าไอ้พัชมันไม่เอา พี่เอาเบอร์มาให้ผมก็ได้นะ” ไอ้กานขยิบตาใส่พี่ผู้หญิงที่มานั่งข้างผม เมื่อเห็นผมไม่สนใจพี่เขาก็ขอตัวกลับไปที่โต๊ะ ส่วนไอ้ตูนก็แลกเบอร์กับสาวเรียบร้อย ก่อนจะเดินพาสาวไปส่งที่โต๊ะ ไอ้หวายที่ทำเป็นปากดี แต่วันนี้ผมสังเกตเห็นว่ามันไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงเลยสักนิด ดูแปลกๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ

“ไอ้พัช ตกลงมึงเลิกกับพลอยหรือยัง” ไอ้หวายถาม ผมรู้ว่าที่มันลากผมมากินเหล้าในวันนี้ ก็เพื่อง้างปากผมเรื่องพลอย

“ยัง” ผมตอบตามตรง

“เอ้า มึงรออะไรอยู่เนี่ย จับได้คาหนังคาเขาแล้วไม่ใช่เหรอวะ ทำไมยังไม่เลิกอีก” ไอ้นุ๊กทำหน้าขัดอกขัดใจ

“นั่นดิ หรือมึงรอกูไปเป็นประธานเปิดงานมงคลหย่าร้างของมึงกับพลอยอยู่” ไอ้กานกระแทกแก้วเหล้าลงกับโต๊ะ ตอนนี้เหลือไอ้ตูนคนเดียวที่ยังไม่อ้าปากด่าผม

“แล้วมึงมีอะไรจะด่ากูไหมไอ้ตูน” ผมถามไอ้หล่อที่นั่งจ้องผม

“หึหึ กูขอด่าว่า ไอ้โง่”

นั่นสิ ผมมันคนโง่ โง่มาตลอด

“มึงจะเลิกกับมันไหมไอ้พัช กูขอเหอะมึง เลิกๆไปเถอะ เดี๋ยวกูหาผู้หญิงสวยๆซิงๆให้เลยก็ได้” ไอ้หวายเสนอปนขอร้องผม

“พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก กูจะไม่โง่อีก” ผมบอกพวกมันเสียงหนักแน่น

“มึงแน่ใจ” ไอ้นุ๊กหรี่ตา จ้องจะเอาคำตอบ

“เออ กูคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”

“พวกมึงปล่อยมันไปก่อน อย่าเพิ่งไปเร่งเร้ามัน ส่วนมึงนะไอ้พัช...ผู้หญิงดีๆหาไม่ง่าย แต่ที่ดีกว่าแฟนมึงน่ะถมเถไป หรือไม่อยู่เป็นโสดแบบกูก็ดีกว่า”

“เออ กูขอใจพวกมึง”

“ไม่เป็นไร เพื่อนกัน”

ไอ้ตูนมันกอดไหล่ผม ไอ้กานก็ตบบ่าทำหน้าซึ้งอย่างกวนส้นตีน ผมเลยดีดหน้าผากแม่งเข้าให้ คนที่ยังนั่งทำหน้าเหี้ยก็มีแต่ไอ้หวาย ที่จิ๊ปากจิ๊คอมองค้อนผมเป็นตุ๊ด ผมเลยจัดการจับแก้วเหล้ากรอกปากมันด้วยความรัก คนที่ห่วงผมเรื่องพลอยที่สุดก็ต้องยกให้ไอ้หวายเนี่ยแหละ

จนเวลาเกือบๆจะเที่ยงคืน พี่ปราบกับเฮียบีทก็ลงมานั่งกินเหล้ากับพวกผม พี่ปราบนั่งข้างๆผม พอเห็นว่าบนโต๊ะไม่มีกับแกล้มอะไรนอกจากถั่วลิสง แกก็บ่นแล้วจัดการสั่งกับแกล้มอย่างอื่นมาให้

“มึงกินข้าวเย็นหรือยัง” พี่ปราบถามผม

“ยังเลยพี่”

“ยัง แต่เสือกมานั่งกินเหล้าเนี่ยนะ” พี่ปราบดุผมต่อหน้าเพื่อน ไอ้กานกับไอ้นุ๊กมองผมกับพี่ปราบสลับกันแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ ทำหน้าทำตาอะไรของพวกมันไม่รู้ กวนประสาทชิบหาย

“แต่ผมกินขนมปังไปแล้ว” ผมบอก

“มันพอหรือไงเล่า เอาข้าวผัดมาจานดิ ไข่ดาวด้วย” พี่ปราบหันไปสั่งกับพนักงานร้าน ไม่นานกับแกล้มและข้าวก็ทยอยมาเสิร์ฟ ผมไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แต่ไม่กินไม่ได้ ไม่งั้นพี่ปราบได้บ่นผมจนหูชาแน่ๆ

กินข้าวเสร็จผมก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับไปที่โต๊ะก็เดินมาสูบบุหรี่แถวๆหน้าร้านติดถนนใหญ่ ผมยืนสูบไปเรื่อยๆพี่ปราบก็ตามออกมา

“ไงมึง มีอะไรเครียดหรือไง” พี่ปราบมักสังเกตอาการผมได้ก่อนใคร

“ก็...เรื่องเดิมๆแหละพี่”

“กูรู้ว่ามันต้องใช้เวลาในการเลิกรักใครสักคน แต่อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องเจ็บไปมากกว่านี้ รักตัวเองให้มากๆ กูย้ำหลายรอบแล้วนะ”

“ฮ่าๆๆ หลายรอบจริง” ผมเห็นด้วย แต่ก็รู้สึกดีที่มีคนคอยย้ำเตือนให้ เพราะผมชอบลืมเสมอ

“ความจริงกูอยากให้พวกมึงเพลาๆเรื่องออกมากินเหล้านะ แต่กูก็ไม่รู้จะพูดยังไง เอาเป็นว่าวันนี้กูอนุโลมก็แล้วกัน ถือว่าให้มึงออกมาคลายเครียดบ้าง”

ผมยิ้มให้กับความหวังดีของพี่ปราบ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชีวิตต้องวนเวียนแถวๆร้านเหล้าหรือวงเหล้า แต่ชีวิตผมก็มีแค่นี้ ไปเรียน ไปทำงาน นอนกิน และเวลาจะมาเจอเพื่อนก็คิดออกอย่างเดียวว่าจะต้องกินเหล้า

ไม่ต้องทำอะไร แค่นั่งดื่ม ฟังเพลงจนเมามาย แล้วก็หลับไปให้มันผ่านไปอีกวันหนึ่ง

ขณะที่ผมปล่อยสายตามองไปเรื่อย ก็สังเกตเห็นมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่จอดรอไฟเขียวอยู่หน้าร้าน คนซ้อนคือพลอย และเมื่อเพ่งดูดีๆ ถึงได้รู้ว่าคนขับเป็นไอ้ปาร์ค

“มึงมองอะไรอยู่ซ่า” พี่ปราบวางมือลงบนไหล่ผม ผมถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจ้องสองคนนั้นด้วยท่าทางเกร็งขึง

“พวกมันสองคน คือไอ้ปาร์คกับพลอย เมื่อวานพลอยมันมาหาผมที่ร้าน ผมคิดว่าพลอยจะมาบอกเลิก แต่มันกลับพูดว่าไม่ได้ยากเลิกกับผม แต่มันก็ไม่เลิกกับไอ้เหี้ยนั่นเหมือนกัน” ผมพูดเล่าเพื่อระบายความในใจ แม้ว่าในตอนแรกผมเลือกจะไม่เล่าก็ตาม

พี่ปราบมองตามสายตาผม ก่อนจะดึงมือผมให้เดินตามไปที่รถของพี่ปราบที่จอดอยู่แถวๆหน้าร้าน

“ไปไหนพี่” ผมถาม หันมองพลอยทีมองพี่ปราบที ขาก็เดินเป๋ๆตามแรงดึง จนกระทั่งเข้ามานั่งในรถ

“พี่จะไปไหน” ผมถามอีก ไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวแล้ว พี่ปราบมองกระจกข้างรถฝั่งเขา ก่อนจะมองหน้าผม

“พามึงไปพิสูจน์ว่า ถึงเวลาที่มึงจะตัดสินใจได้หรือยัง”

ผมไม่เข้าใจคำพูดของพี่ปราบสักเท่าไหร่ แต่พอพี่ปราบออกรถ  แล้วขับตามท้ายรถของไอ้ปาร์คไป ผมก็พอจะเดาได้ว่าพี่ปราบกำลังทำอะไรอยู่

จุดหมายปลายทางที่ไอ้ปาร์คขี่มอเตอร์ไซค์เลี้ยวเข้าไปก็คือโรงแรมม่านรูด พี่ปราบจอดรถที่หน้าโรงแรม ผมกำลังจะหันไปถามว่าพี่ปราบหยุดรถทำไม คำถามของพี่ปราบก็ดังขึ้นมาก่อน

“มึงพร้อมที่จะไปเห็นความจริงไหม”

“...”

“แทบไม่ต้องเดาเลยว่าพวกมันเข้าไปทำอะไรกัน คนที่บอกกับมึงว่าไม่อยากเลิกกับมึง แต่ก็มาเข้าโรงแรมกับผู้ชายอีกคน ถ้ามึงกล้าเข้าไปทุกอย่างมันจะง่ายสำหรับมึง”

ผมคิดตามคำพูดของพี่ปราบ ละสายตาจากคนที่มองผมด้วยความเป็นห่วงเป็นกังวล จับจ้องที่ทางเข้าโรงแรมม่านรูดก่อนจะตัดสินใจ

“ผมจะเข้าไป” สิ้นคำพูดของผม พี่ปราบก็ขับรถตรงเข้าไปข้างในทันที พี่ปราบจะจ่ายเงินค่าเปิดปากให้กับเด็กโบกรถ แต่เด็กโบกรถไม่ยอมบอกว่าพวกมันสองคนอยู่ที่ห้องไหน

“ถ้าไม่บอกกูจะแจ้งตำรวจ” พี่ปราบขู่

“เห้ยพี่ ผมบอกแล้วๆ ห้องโน่นเลยพี่”

“นำไปดิ” พี่ปราบสั่ง ก่อนจะขับรถไปตามแสงไฟฉายที่โบกนำทางไปยังห้องที่พลอยกับไอ้ปาร์คอยู่

พี่ปราบกับผมลงมายืนอยู่ที่หน้าห้อง เด็กโบกรถก็มายืนลุกลี้ลุกลนอยู่ใกล้ๆ

“มึงแน่ใจนะว่าห้องนี้” พี่ปราบหันไปถาม

“ครับๆ แน่ใจครับพี่ ผมพาพี่มาแล้ว พี่ก็อย่าแจ้งตำรวจนะพี่ ถ้านายรู้ว่าผมปล่อยเด็กเข้ามา นายเอาผมตายเลย”

“เออ ถ้าพวกมันอยู่ห้องนี่จริงกูจะไม่บอก ส่วนมึงก็เอาเงินนี่ไป แล้วปิดม่านเฝ้าเอาไว้” พี่ปราบส่งเงินให้มันไปห้าร้อย มันรีบรับเงินแล้วออกไปยืนเฝ้าข้างนอก

พี่ปราบดึงมือผมเอาไว้เมื่อเห็นว่าผมจะเคาะประตูห้อง กระซิบบอกให้ผมรอเวลาและจังหวะที่เหมาะสมกว่านี้ ผมก็ยอมเชื่อฟัง ทั้งๆที่ตอนนี้ผมตัวสั่นไปหมดแล้ว

“พร้อมนะ”

“ครับ”

พี่ปราบเคาะประตูห้อง ยืนรอสักพักก็ยังไม่มีใครมาเปิด พี่ปราบเคาะอีกรอบ แรงขึ้นและนานขึ้น แต่ก็ยังเงียบ คราวนี้ผมเป็นคนเคาะเอง เคาะติดๆกันไม่หยุด จากเคาะก็เปลี่ยนเป็นทุบประตู ในที่สุดคนข้างในก็ทนไม่ไหวออกมาเปิดประตู

“ไอ้เหี้ย กูบอกแล้วไงว่าไม่ให้มากวน...มึง!”

“เออ กูเอง”

ไอ้ปาร์คตกใจอย่างมากที่เจอผม พอตั้งตัวได้มันก็เตรียมจะปิดประตูหนี แต่พี่ปราบไวกว่า ดันประตูเปิดออกกระแทกตัวไอ้ปาร์คจนมันล้มลงกับพื้น เสียงผู้หญิงกรี๊ดดังขึ้น ผมเหลือบตาขึ้นมองก็เจอพลอยที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่บนเตียง

“ซ่า!!!” พลอยอุทานชื่อผมเสียงดัง

“พวกมึงมาทำไม จะทำอะไรกู!” ไอ้ปาร์คถูกพี่ปราบล็อคแขนกดไว้กับพื้น

“มึงไปจัดการเรื่องของมึงซะ ทางนี้กูจะดูให้เอง” พี่ปราบบอก พร้อมกับออกแรงกดตัวไอ้ปาร์คลงกับพื้นมากขึ้น

“อั้ก! ปล่อยกู”

ผมปล่อยให้พี่ปราบจับตัวไอ้ปาร์คไว้ แล้วเดินเข้าไปหาพลอยที่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง เธอพยายามที่จะดึงผ้าห่มมาปกปิดร่างกาย แต่มันไม่สามารถปกปิดความระยำที่พลอยทำไว้ได้


ผมจับตัวพลอยขึ้นมา มันคงถึงเวลาแล้วที่จะต้องตัดให้ขาดเสียที

“กูว่ากูเคยบอกมึงแล้วนะพลอย ว่าอยากให้กูจับได้แบบคาหนังคาเขา ไม่อย่างนั้นกูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ๆ” ผมเลื่อนมือข้างหนึ่งจากไหล่บางมาบีบแก้มที่ผมเคยหอม

“อึก ปล่อย” พลอยพยายามจะดิ้นหนีออกจากมือของผม ผมปล่อยมือที่บีบแก้มเลื่อนลงต่ำมาที่ลำคอ 

“ตั้งแต่กูรู้ว่ามึงนอกใจกูนะพลอย กูไม่ได้ต้องการให้มึงรู้สึกกับกูเหมือนเดิมหรอก กูรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แม้ว่ากูจะอยากให้มันเป็นเหมือนเดิมมากแค่ไหนก็ตาม แค่มึงบอกเลิกกูมาเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นมึงจะไปเอากับใครกูจะไม่ว่าเลย แต่มึงไม่พูด แล้วมึงก็มาทำเหี้ยระยำอย่างนี้เนี่ยนะ” ผมพูดเสียงแข็ง สายตาก็มองสำรวจไปทั่วตัวพลอยก่อนจะแสยะยิ้ม ตอนนี้ผมทำให้พลอยกลัวจนตัวสั่น

“ซ่า ปล่อยพลอย พลอยหายใจไม่ออก”

มือที่กำรอบคอพลอยไม่ได้เค้นแรง ผมรู้น้ำหนักมือตัวเอง แต่เพราะความกลัว ทำให้พลอยคิดว่าตัวเองหายใจไม่ออก ทั้งๆที่คนที่หายใจไม่ออกมันคือผมคนนี้

“วันนี้กูรู้แล้วพลอย ว่ากูทนเป็นคนโง่ให้มึงทำร้ายกูต่อไปไม่ได้แล้ว กูจะไม่ทนกับคนอย่างมึงอีกแล้ว”

“มึงจะทำอะไรพลอย ปล่อยกู” ไอ้ปาร์คตะโกนเสียงดัง ผมหันไปหาไอ้ปาร์ค หน้าของมันเอียงข้างแนบติดกับพื้น สายตาของมันเคียดแค้นเหมือนอยากจะพุ่งเข้ามาฆ่าผม

“กูไม่ทำอะไรมันหรอก เพราะมันเคยเป็นเมียกู นอนอ้าขาให้กูมาก่อนมึง และไม่รู้ว่านอกจากกูและมึง มันจะไปนอนให้ใครเอามันอีกบ้าง” ผมพูดให้ไอ้ปาร์คมันรู้สึกเจ็บแค้น ก่อนจะหันมาจ้องหน้าพลอย

“เพราะฉะนั้น มึงพูดออกมาซะ บอกเลิกกูซะ!” ผมสั่ง

“อึก”

“พูด กูบอกให้พูด ไม่อย่างนั้นกูจะบีบคอมึงแรงขึ้น” ผมพูดขู่ ไม่เข้าใจว่าจนป่านนี้พลอยจะยื้อผมไว้ทำไม

ที่ผมต้องการให้พลอยเป็นคนพูด เพราะผมเชื่อว่าคนที่บอกเลิกได้คือคนที่หมดรักแล้ว ในเมื่อผมยังหลงเหลือความรักให้พลอย มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะต้องเป็นฝ่ายพูด 

“ฮึก ฮือ” พลอยร้องไห้

“บอกเลิกกู พูดมาเซ่!! กูสั่งให้พูด มึงไม่ได้ยินหรือไงวะ!”

ผมเค้นแรงในมือหนักขึ้นแต่ไม่ถึงขั้นบีบ แล้วตะคอกใส่หน้าพลอยดังลั่น พลอยสะดุ้งแล้วรีบระล่ำระลักพูดในสิ่งที่ผมต้องการออกมา

“ละ เลิก เลิกแล้ว”

“พูดดังๆ!” ผมสั่งอีก ผมต้องการฟังคำบอกเลิกของพลอยชัดๆอีกครั้ง ให้มันฝังลงไปในจิตใจ ให้รู้ว่าคนๆนี้มันไม่ต้องการผมแล้ว หัวใจโง่ๆมันจะได้ไม่ต้องคอยคิดว่าไม่อยากเลิกเพราะพลอยอาจจะยังรักผมอยู่

“เลิก กูเลิกแล้ว พอใจยัง!” คราวนี้พลอยตะโกนใส่หน้าผมด้วยความไม่พอใจ แล้วผลักผมออกจากตัว จ้องหน้าผมด้วยความเกลียดชัง ผมมองพลอยแล้วสั่งให้ตัวเองจำ ต่อแต่นี้ไปอย่าไปรักคนแบบนี้อีก วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะรักผู้หญิงคนนี้

“ต่อจากนี้ไป มึงกับกูขาดกันพลอย ไม่เกี่ยวข้องกันอีก มึงไม่ใช่แฟนกูแล้ว และกูไม่ใช่แฟนมึง”

เมื่อผมได้ในสิ่งที่ผมต้องการ ผมก็เดินออกมาจากห้อง เดินตัวลอยๆขึ้นไปนั่งรอพี่ปราบในรถ ไม่นานพี่ปราบก็เดินตามออกมา ผมนั่งก้มหน้าซบฝ่ามือ พี่ปราบไม่ได้ถามอะไร สตาร์ทรถแล้วขับออกจากโรงแรมม่านรูด

น้ำตาผมค่อยๆไหลช้าๆ ตามมาด้วยเสียงสะอื้นที่ผมกลั้นไม่อยู่ พี่ปราบขับรถเบี่ยงออกเลนซ้ายเพื่อจอดที่ข้างทาง แล้วตัวผมก็ถูกดึงเข้าไปกอดโดยผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆผม

“พอได้แล้วนะซ่า กูขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่มึงจะร้องไห้ให้ผู้หญิงคนนั้น”

“ฮึก ฮืออ”

“ถือว่ากูขอ ทำให้กูได้ไหม”

ผมไม่ตอบ แต่พยักหน้าแทน ผมก็ไม่ชอบร้องไห้ แต่น้ำตามันไหลลงมาเอง ผมควบคุมมันไม่ได้เลย

“ดีมาก ให้มึงรู้เอาไว้เลยว่ากูไม่ชอบให้มึงร้องไห้ ไม่ชอบมากๆ”

มันจบแล้วจริงๆ ลาก่อนคนหลอกลวง


จากครั้งเราเคยมีกัน อยู่ ๆ ก็พลัน มาทิ้งกันไป
เจ็บช้ำเธอทำกันลงได้ หักอกห้ามใจไม่เคยลืมลง
เจ็บนี้มันแรงเกินตัว เรื่องราวในหัว มันตามมันเตือน
จะพร้อมจะยอมฟั่นเฟือน สติเลอะเลือน ถ้าลืมได้ลง
ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยรักใคร
ไม่อยากรู้ว่าเคย เคยถูกใคร หลอกจนเสียคนอย่างนี้
ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยนอนร้องไห้
ไม่อยากรู้ว่าเคย เคยให้ชีวิตใครไป
(เพลง ฟั่นเฟือน)
[/i]



..................................................................................................
สวัสดีค่า ริริมาแล้ว ตอนนี้จำเป็นต้องอึมครึมอีกครั้ง เพื่อให้ความรักแย่ๆของซ่าได้จบลงซะที ปรบมือให้นักแสดงของเราหน่อยค่ะ แต่ละคนเต็มที่กับตอนนี้จริงๆ  :katai2-1:
ใครจะว่าก่อนหน้านี้น้องซ่าดักดานไม่ยอมเลิกก็ช่าง แหม นิยายบางเรื่องนายเองถูกพระเอกทารุณ ก็ยังไม่ยอมเลิกรักได้เลยจริงไหม ดังนั้นมันก็จะตัดใจยากนิดนึงอ่ะนะ (ไม่ได้จะว่านิยายคนอื่นนะ เพราะพล็อตที่ว่ามานั้น ริริชอบอ่านมากๆๆๆ ฮ่าๆๆ แต่ไม่ถนัดแต่งแนวตบจูบให้พระเอกทำร้ายนายเอกสักเท่าไหร่ เลยต้องหาอ่านของชาวบ้านเอา)
เอาล่ะ เนื้อเรื่องต่อจากนี้ จะดำเนินไปยังจุดโศกจุดที่สอง โศกใหญ่ โศกครั้งสุดท้ายก่อนที่พระนายเขาจะได้สวีทวี้วิวกันซะที
ฉากสุดท้ายในตอนนี้ ทำให้นึกถึงเพลงฟั่นเฟือนเลย (เพลงแก่มากกกกกก ใครทันนี่รู้เลยว่าอายุเท่าไหร่) เลยจับเพลงนี้มาใส่ในเนื้อเรื่องซะ และมันได้อารมณ์หม่นๆเทาๆดีเหลือเกิน #ชอบใจ  :z2:
ช่วงสุดท้ายของพูดคุย ก็ต้องขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ ทำให้รู้เลยว่าทุกคนอินมากจริงๆ ฮ่าๆๆ ด่าน้องซ่าได้แต่อย่าแรง น้องซ่าคนแมนใจบางกว่าที่คุณคิด  :hao5:
เจอกันตอนหน้านะคะ  :katai2-1:
รักนะ จุ๊บๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 07-09-2017 19:18:08
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 07-09-2017 19:33:33
เจ็บแต่จบ ดีแล้วซ่า ในเมื่อมีเมียมันเหี้ยมีผัวดีกว่า 55555 o13 :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 07-09-2017 19:51:26
 :z3: นี้เข้าใจซ่า คบหลายปี คบคนเดียว แถมยังเป็นแค่เด็กอะไรันก็ยาก

แต่เอาเหอะผ่านๆไปซักที

กลัวใจซ่าเหลือเกินนนนน

เจ้กลัวพี่ปราบเฉามากตอนนี้ เป็นพี่ชายที่แสนดีทำทุกอย่างเพื่อน้อง แต่ก็ทุกการกระทำมันก็คิดได้อีกอย่างว่า น้องจะพึ่งได้แค่พี่ปราบเท่านั้น เจ้าเลหือยูนะ  แต่ไห้อภัย


รบกวนพี่ปราบรุกน้องบ้างได้แล้ววว ป้าจะเฉาตามพี่ปราบละเนี้ยยย ฮาาา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-09-2017 19:52:13
เลิกกันสักที  ยืดเยื้อมานานมาก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 07-09-2017 19:58:20
ยืดเยื้อลำไยมานาน เลิกสักที มันต้องเห็นเต็มตาเบอร์นี้เลยหรอ
 :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-09-2017 20:12:51
ในที่สุดก็เลิกกันซะที ผู้หญิงอย่างพลอยมีดีอะไร หึ!
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 07-09-2017 20:15:48
ซ่าตัดใจซะทีนะ
พี่ปราบแกจะได้รุกเต็มที่ด้วย 555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-09-2017 20:45:44
ซ่า ทำไมตัดใจยากนักนะ
หรือเพราะความที่ซ่าขาดความรัก
เลยยึดติดกับพลอย ที่รู้สึกว่าเป็นของตัวเองจริงๆ
เพื่อนๆด่าซ่าน่ะถูกต้องที่สุด  ซ่าเองก็ยอมรับด้วย

ซ่าทำตามพี่ปราบบอก คงมีแต่จะดีขึ้นแล้วนะ
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-09-2017 21:00:36
เห็นตำตาขนาดนี้ ก็คงจะตัดใจได้สักที
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 07-09-2017 21:35:45
ตัดใจให้ได้ทีเถอะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 07-09-2017 22:12:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 07-09-2017 22:27:52
พี่ปราบคนจริงมากกก
ดูแลปกป้องซ่าดีสุดๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-09-2017 00:42:06
งงกับพลอยจริงๆ ทำตัวขนาดนี้ ทำไมถึงไม่เลิกๆกับซ่าไปซะ รั้งไว้ทำไม
ต้องขอบคุณพี่ปราบที่ทำให้มีวันนี้!!!
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-09-2017 01:28:15
จบสักทีนะซ่า เจ็บแต่จบ ยังดีกว่าค้างคานะ

ปราบคือห่วงมาก ดีเวอร์ นี่ถ้าไม่รักนะ ฮึ่มมมม 55555

บางทีก็เซ็งบ้านซ่า เป็นอะไรกันมากไหม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 08-09-2017 19:50:05
ในที่สุดก็เลิกกันซะที
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 08-09-2017 20:59:19
ลุ้นว่าเมื่อไหร่ซ่าจะเลิกกับพลอย เลิกได้ซะที ต่อไปคนพี่ได้รุกอย่างเต็มที่แล้ว คนน้องจะรับไหวไหม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 09-09-2017 02:44:44
สำหรับเราการที่ทู่ซี้ทนจนทำให้อีกฝ่ายบอกเลิกก่อนได้ เป็นการสร้างภาพให้ตัวเองไม่ใช่คนเลวนะ
แต่เคสซ่านี่เลิกได้สักทีก็ดีแล้ว เหนื่อยใจแทนพี่ปราบ  :hao7:

รอมาม่าชามต่อไปชามสุดท้ายค่า อยากกินน้ำตาลหวานเชื่อมแล้ววว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: kail ที่ 09-09-2017 14:06:36
พี่ปราบ ทำไมพี่ดีแบบนี้ ดีใจแทนซ่าที่ได้เจอคนดีๆแบบพี่ปราบ //มีความอินระดับ10
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 09-09-2017 16:02:01
มาลงชื่อไว้ก่อน เพื่อนแนะนำ เรากลัวพลาด
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 10-09-2017 15:51:04
Like
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่17:: 7/9/2017 P.9 (กลับมาลงต่อแล้วค่าาา)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 10-09-2017 18:39:46
นี่ต้องจุดพลุรึเปล่า :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 27-10-2017 22:31:14
ปราบซ่า
ตอนที่18



[ซ่า]
หลังจากเกิดเรื่องโดนไล่ออกจากงาน ผ่านมาได้สองอาทิตย์ ผมก็โดนโทรเรียกให้กลับมาบ้านตั้งแต่สองวันที่แล้ว วันนี้ไม่ต้องไปทำงานผมก็เลยแวะมาที่บ้านตอนเย็น

แต่รู้สึกว่าผมจะเลือกวันผิด เพราะที่บ้านกำลังวุ่นวายได้ที่ ผมเลยนั่งรออยู่แถวๆหน้าประตูรั้ว ไอ้มิวก็นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ

“เขาทะเลาะอะไรกัน” ผมถามไอ้มิว

“พี่แนนจะเลิกกับพี่เบิร์ด คือกูว่าก็เลิกไปเถอะ พี่เบิร์ดมันก็นิสัยไม่ดี มีผู้หญิงอื่นด้วย ส่วนพี่แนนก็เจอผู้ชายคนใหม่ที่ทำงานไง แต่ตกลงเลิกกันไม่ได้ เพราะไอ้พี่เบิร์ดไม่ยอมรับว่ามีผู้หญิงคนอื่น ก็เลยพากันที่นี่มาให้แม่ช่วย” ไอ้มิวเล่าอย่างออกรสออกชาติ ผมมองเข้าไปในบ้าน พี่แนนกับพี่เบิร์ดเถียงกันเสียงดังจนน่าปวดหัว

“แล้วแม่จะช่วยอะไรได้วะ”

“มึงเข้าใจคนขี้ฟ้องป่ะ คือต่างคนก็มาบอกว่าอีกคนมีคนอื่นไง ไอ้พี่เบิร์ดไม่ยอมเลิก แต่พี่แนนมันจะเลิก หู้ว กูเบื่อ”

“ขี้ฟ้องเหมือนมึงอ่ะนะ”

“ไอ้เหี้ยซ่า กูไม่ได้ขี้ฟ้องเว้ย” ไอ้มิวโมโห ผมทำหน้าล้อเลียนมัน

“อ่อเหรอออ”

“ไปไกลๆตีนกูเลยไป” ไอ้มิวยกเท้าขึ้นจะถีบผม

“เหอะ” ผมแค่นเสียงไปที

นั่งรออยู่เกือบชั่วโมง แต่ดูว่าปัญหาจะตกลงกันไม่ได้ ผมเลยฝากไอ้มิวบอกแม่ว่าผมจะกลับแล้ว และที่เรียกผมกลับมาก็คงไม่ใช่ธุระสำคัญอะไร ไว้ว่างๆค่อยกลับมาใหม่อีกรอบ

ผมขี่มอเตอร์ไซค์ที่งอแงมาตั้งแต่เมื่อวานกลับห้องพัก ยังไม่ทันได้หน่อยก้นลงนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ ไอ้ตูนก็โทรมาชวนผมไปเตะบอล ทีแรกผมไม่อยากไป เพราะไม่อยากทำอะไร อยากอยู่เงียบๆคนเดียวในห้อง แต่ไอ้ตูนก็คะยั้นคะยอ บอกว่ายิ่งเศร้ายิ่งอกหัก ยิ่งต้องหาอะไรทำ ผมก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วตอบตกลง

นึกถึงวันที่ได้ต่อยมวยกับพี่ปราบ ผมก็ออกไปต่อยอีก แต่ช่วงนี้พี่ปราบก็ยุ่งๆเรื่องงาน ทำงานงานเดียวก็ว่าเหนื่อยแล้ว พี่ปราบต้องดูแลถึงสามสี่งาน เวลามีเรื่องอะไรผมก็เลยไม่อยากจะรบกวนพี่ปราบสักเท่าไหร่

ถึงพี่ปราบจะบอกว่าไม่ต้องเกรงใจ แต่เอาเข้าจริงผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้

สนามบอลที่มาเตะกันอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียน ที่จริงมันก็เป็นสนามปล่อยร้างนิดนึง แต่พวกเด็กช่างก็มาปรับปรุงจนมันสามารถเตะได้ 

ผมมาถึงสนามแล้ว แต่พวกมันยังมาไม่ครบเลย ไอ้คนชวนนี่ตัวดี ผมยังไม่เห็นหัวมันเลยด้วยซ้ำ

“ไอ้กิ่ว ไอ้ตูนมันอยู่ไหน” ผมตะโกนถามเพื่อนร่วมภาพที่วอร์มร่างกายอยู่กลางสนาม บ้านไอ้กิ่วกับไอ้ตูนอยู่ซอยเดียวกัน

“มันกำลังมา แวะไปส่งสาวอยู่”

“เออ”

ระหว่างรอเพื่อนๆมา ผมก็เลยเปิดอ่านข้อความ ชื่อแรกที่อยู่บนสุดเป็นของคนที่แสนจะเพอร์เฟค

MuePrab : ทำอะไร อยู่หอหรือยัง

ข้อความส่งมาเมื่อ 20 นาทีที่แล้ว

ออกมาเตะบอลกับไอ้ตูนครับ : Patcharakan

ผมกดส่งข้อความไป นั่งจ้องหน้าจอแค่เดี๋ยวเดียว ข้อความที่ผมส่งก็ขึ้นว่าอ่านแล้ว จากนั้นพี่ปราบก็ตอบข้อความกลับมา

MuePrab : เออ ดีๆ
MuePrab : ออกไปหาอะไรทำบ้าง มึงจะได้เลิกคิดเรื่องนั้น

ครับ : Patcharakan

แต่เผลอเมื่อไหร่ ผมก็คิดถึงมันทุกที คิดถึงความเจ็บปวดที่ตัวเองได้รับ คิดถึงความรักที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นทั้งชีวิตของผม แต่วันนี้มันไม่มีแล้ว

MuePrab : ดูแลตัวเองด้วย
MuePrab : เดี๋ยวกูต้องเข้าไปคุยงานกับลูกค้าละ

ค้าบผม : Patcharakan

คุยกับพี่ปราบเสร็จ ผมก็กดปิดโทรศัพท์ เปิดเพลงฟังไปเรื่อยจนไอ้ตูนกับไอ้หวายเดินเข้ามาตบหัวผม

“มันเจ็บนะเว้ย!” ผมด่าแล้วยกขาถีบคนที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด นั่นก็คือไอ้ตูน

“ฮ่าๆๆ เจ็บกว่าอกที่หักไหมวะมึง จะได้ลืมๆซะ” ไอ้หวายว่าแทงใจดำ มันสองตัวดูจะกะดี๊กะด๊าที่ผมเลิกกับพลอยได้สักที

มันรู้เรื่องได้เพราะไอ้หวายไปเสือกมาจากพี่ปราบ เนื่องจากเช้าวันถัดมาผมไม่ไปเรียน แล้วนอนเมาอยู่ที่หอ ตกเย็นพวกมันก็เลยมาถล่มห้องผม พอถามเท่าไหร่ผมก็ไม่ตอบเพราะไม่มีแรงจะพูดหรือคิดอะไร ไอ้หวายก็สวมตัวเป็นอับดุล เดาว่าพี่ปราบจะต้องรู้เรื่อง พอพี่ปราบบอกว่าผมเลิกกับแฟนแล้วเท่านั้นแหละ พวกมันร้องเฮกันเสียงดัง

ก่อนจะสั่งให้ไอ้นุ๊กกับไอ้กานออกไปซื้อเบียร์พร้อมกับแกล้ม มาเลี้ยงฉลองความโสดให้ผมยันเช้า วันต่อมาพี่ปราบก็โทรไปลางานกับอาเจให้ เพื่อให้ผมพักฟื้นจิตใจ

“ไปมึง เตะบอลกันได้และ วันนี้เครื่องร้อนโว้ย” ไอ้ตูนสะบัดแข้งขา แล้วลากคอผมลงสนาม

จากทีแรกไม่อยากออกมา แต่พอได้ลงเล่นผมก็สู้ตาย เรื่องความรักตอนนี้กูขอยามแพ้ก่อน แต่เรื่องแย่งลูกบอลมันยอมกันไม่ได้ เสียเมียเจ็บไม่เท่าเสียหน้าโว้ย!

และแล้วผลก็ออกมาเป็นอย่างที่หวัง ฝั่งผมชนะด้วยคะแนนสี่ประตูต่อสอง การแข่งขันในวันนี้เดิมพันด้วยการเลี้ยงหมูกระทะ เย็นนี้ผมก็เลยไม่ต้องเสียเงินค่าข้าว คิดถูกจริงๆที่ออกมา

พอทุกคนมาอยู่ที่หน้าเตา จากที่แย่งลูกบอล ก็เปลี่ยนมาแย่งหมู หมึก กุ้งบนกระทะ เพราะมากันหลายคน แถมวันนี้ดูที่ร้านคนจะเยอะเป็นพิเศษ โต๊ะที่ว่างโดยส่วนมากห่างกัน พวกผมกับไอ้พวกอีกทีมที่แพ้ เลยต้องนั่งแยก แต่ก่อนจะแยก พวกมันให้เงินพวกผมไว้แล้ว ตอนนี้บนโต๊ะผมก็เลยมีแค่สี่คนเท่านั้น

“ไอ้กิ่ว มึงแย่งหมูกู” ไอ้หวายโวยทันทีเมื่อไอ้กิ่วคีบหมูบนเตาเข้าปากหน้าตาเฉย

“อ้าวเหรอ กูก็คิดว่าของกู อ่ะ งั้นเดี๋ยวกูคืนให้” ไอ้กิ่วทำหน้าซื่อ จะคายหมูที่อยู่ในปากให้ ไอ้หวายรีบร้องยี้ด่ากลับไปอีกดอก

“ไม่ต้องคืน อย่าคายออกมานะไอ้สัด ต่อไปห้ามแย่งหมูกูอีก!” ไอ้หวายหน้าเง้าหน้างอ ไอ้ตูนเลยต้องบริจาคหมูของตัวเองให้ไอ้เปี๊ยกไปหนึ่งชิ้น

กินกันจนอิ่มอืด ไอ้กิ่วก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เพราะที่กินเข้าไปกำลังจะออก ไอ้นี่ท่อตรงตลอด ใครๆก็จำไอ้กิ่วได้ เพราะชอบออกไปเข้าห้องน้ำระหว่างเรียน

โทรศัพท์ของผมดังตอนที่กำลังจะตักน้ำแข็งใสเข้าปาก ชื่อที่ขึ้นโชว์คือพี่ปราบสุดหล่อ ผมรีบรับสายแล้วกรอกเสียงลงไป

“ว่าไงพี่ คุยกับลูกค้าเสร็จแล้วเหรอ” ผมจำได้ว่าเมื่อเย็นพี่ปราบติดธุระคุยกับลูกค้า

“อืม คุยเสร็จแล้ว ที่จริงจะเสร็จตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้ว แต่ลูกค้าแม่งกวนส้นตีน ดึงเชิงอยู่นั่น” พี่ปราบบ่นใหญ่

“แล้วตอนนี้พี่อยู่ไหน” ผมถาม ตาก็เหลือบมองไอ้หวายที่แทบจะเอาหูมาแนบกับโทรศัพท์ของผม

“พี่ปราบเหรอวะ” ไอ้หวายถามคิ้วขมวด

“อืม” ผมรับคำไปสั้นๆ

“กูอยู่บนรถ กำลังจะกลับบ้าน” เสียงพี่ปราบฟังดูล้าๆ

“พี่ขับรถอยู่เหรอ”

“เปล่า คนขับรถที่บ้านขับ แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหน ทำไมเสียงดัง”

“ผมอยู่ร้านหมูกระทะ วันนี้ผมเตะบอลชนะไง แล้วพนันไว้ว่าทีมไหนแพ้เลี้ยง นี่ตอนนี้ผมอิ่มมากเลยอ่ะ”

“กินเยอะๆ มึงผอมเกินไปแล้วช่วงนี้”

“ครับๆ”

“งั้นกูวางสายแล้วนะ พรุ่งนี้เจอกัน”

“โอเคพี่ บาย”

ผมกดวางสายพี่ปราบ แล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ตลอดการสนทนากับพี่ปราบ ไอ้เพื่อนทั้งสองคนของคนจ้องผมไม่วางตา แถมสายตาของมันยังเคลือบแคลงแปลกๆ

“มองอะไรของพวกมึง ไม่เคยเห็นคนคุยโทรศัพท์หรือไง” กับไอ้ตูนนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้หวายนี่หน้ามันกวนส้นตีนมากๆ

“คนคุยโทรศัพท์นะเคยเห็น แต่ที่ไม่เคยเห็นก็คือ มึงไม่เคยคุยจ้อแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเพิ่งอกหัก ทำตัวเงียบๆนิ่งๆหรอกเหรอ เวลาคุยกับคนอื่นล่ะหงอยเลย แต่เวลาคุยกับเฮียปราบทำไมมึงดูสดใส” ไอ้ตูนอธิบายอาการของผมเป็นฉากๆ

“อะไร กูก็ปกติ มึงจะให้กูทำเสียงนิ่งใส่พี่ปราบหรือไง” ผมย้อนถาม

“ไอ้พัช กูถามจริงๆนะ มึงกับพี่ปราบเป็นอะไรกัน” คนอื่นเข้าขำๆ ไอ้หวายมาซะเครียด

“อะไรของมึงหวาย กูกับพี่ปราบก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องไง หรือมึงไม่ใช่”

“กูกับพี่ปราบอ่ะ รุ่นพี่รุ่นน้องกันแน่ๆ แต่กับมึงกูว่าไม่ใช่”

“มันจะไม่ใช่อะไร พวกมึงหมายความว่ายังไง”

“ความหมายของพวกกูก็คือ กูว่าความสัมพันธ์ระหว่างมึงกับพี่ปราบ เป็นอะไรมากกว่าคนรู้จักหรือรุ่นพี่รุ่นน้อง ถ้าคนอื่นมองเขาก็คงคิดว่ามึงกับพี่ปราบคบกัน”

“คบกันห่าอะไร มึงพูดอะไรของมึงเนี่ย”

“ไอ้ตูนพูดถูก กูสงสัยมานานแล้ว กูรู้จักพี่ปราบมาก่อนมึง แต่เขาไม่เคยดูแลกูเท่ากับที่ดูแลมึง พี่ปราบงานยุ่งมากนะเว้ย เวลานอนแทบไม่มี แต่เขามาหามึงบ่อยมา มาหาที่โรงเรียน และมึงกับเขาก็ไม่ไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ อย่าคิดว่ากูไม่รู้ พี่กี่เล่าให้กูฟังเอง อีกอย่างวันนั้นที่มึงถูกซ้อม พี่ปราบก็รีบมาหามึง แถมยังอยู่เฝ้ามึงเองอีก มึงบอกกูสิว่าทั้งหมดที่กูกับไอ้ตูนพูดมาเนี่ย มันหมายความว่ายังไง”

ผมกับพี่ปราบดูเป็นแบบที่พวกมันว่าเหรอวะ

“กูกับพี่ปราบไม่มีอะไร” ผมจ้องพวกมันจริงจัง แต่ในใจมันสั่นๆ

“มึงจะบอกว่ามึงไม่ได้คิดอะไรกับพี่ปราบ” ไอ้หวายเลิกคิ้วสูงพอๆกับเสียงของมัน

“มึงจะให้กูคิดอะไร กูเห็นเขาเป็นพี่ชายกูคนหนึ่ง”

“มึงแน่ใจ”

“เออ กูแน่ใจ” ผมรักและเคารพพี่ปราบมาก ผมเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิง ไม่มีทางคิดแบบนั้นกับพี่ปราบแน่นอน

“แต่กูว่าพี่ปราบไม่ได้คิดแบบนั้น เขาต้องชอบมึงแน่ๆ”

“มึงหมายความว่ายังไง” พี่ปราบนี่ดูยังไงก็โคตรของโคตรแมน ไม่มีทางชอบผู้ชายหรอก อย่างไอ้มิวก็ว่าไปอย่าง

“พวกกูคิดว่าพี่ปราบกำลังจีบมึงอยู่” ไอ้ตูนตอบแทนไอ้หวาย

“เหี้ยแหละ พวกมึงบ้าหรือเปล่าเนี่ย คิดหาอะไรบ้าๆ” ผมร้องเสียงหลงกับความคิดของพวกมัน

“พวกกูไม่ได้บ้า พวกกูสังเกตมาสักพักแล้ว และตอนนี้ยิ่งมั่นใจว่าพี่ปราบชอบมึงแน่ๆ ไม่งั้นเขาไม่ดีกับมึงขนาดนี้หรอก ดีแบบที่คนรักกันทำให้กันอ่ะ”

ผมส่ายหน้าใส่พวกมัน

พี่ปราบดีกับผมมากๆก็จริง ดีแบบที่ไม่เคยมีใครดีกับผมมากก่อน และคิดว่านอกจากพี่ปราบก็คงไม่มีอีกแล้ว แต่ว่า...ผมไม่คู้ควรหรอกที่พี่ปราบจะมารู้สึกเชิงนั้นด้วย

ผมขอแค่ความหวังดีจากความสงสารก็พอแล้ว

“มึงอาจจะไม่อยากเชื่อนะเว้ย แต่กูจะบอกอะไรให้ว่า พี่ปราบน่ะเป็นเสือไบ ได้ทั้งชายและหญิง ไม่เกี่ยวเพศ”

“มึงรู้ได้ไง” ผมถาม ผมไม่คิดว่าพี่ปราบเป็นแบบนั้น คือผมไม่เคยเห็นเขามองผู้ชายเลย แต่มองผู้หญิงนี่เคยเห็นบ้าง

“เอ้า กูจะไม่รู้ได้ไง กูรู้จักพี่ปราบมาก่อนมึง เคยเห็นเขาคบกับผู้ชาย และความจริงเรื่องนี้พี่ปราบเขาก็ไม่ได้ปิดบัง เพียงแต่คงไม่ได้บอกมึง”

ผมนั่งนิ่งไปเลยเมื่อได้ฟังความจริงจากปากไอ้หวาย

“ความจริงกูว่าพี่ปราบเขาก็ดีนะเว้ย เขาทำให้มึงดีขึ้น ถ้าเขาจะจีบมึงกูก็โอเค” ไอ้ตูนพูด

“เออจริง พี่ปราบนี่กูโคตรเคารพ กูเชียร์เขาเหมือนกัน ดีกว่าพลอยเยอะอ่ะกูบอกเลย” ไอ้หวายเห็นดีเห็นงามกับคำพูดของไอ้ตูน

“กูว่ามึงเป็นแฟนพี่ปราบนี่สบายไปทั้งชาติอ่ะ”

“มึงพูดถูก กูเริ่มอิจฉามันละไอ้ตูน”

“เดี๋ยว พวกมึงเป็นเหี้ยอะไรเนี่ย” ผมรีบเบรกพวกมัน ก่อนที่ไอ้สองคนนี้จะเลอะเทอะมากไปกว่านี้ “ไม่มีใครจะคบกับใครทั้งนั้นแหละ”

“อ้าว ทำไมวะ พี่ปราบไม่ดีเหรอ” ไอ้หวายถามเสียงหลงเลย แต่ที่หลงยิ่งกว่าเสียงก็คือประเด็นสำคัญ

“ไม่ใช่ไอ้หวาย พวกมึงตั้งสตินะ พี่ปราบเป็นคนดี คนดีมากๆ แต่คือกูชอบผู้หญิง ก็ไม่ได้ชอบผู้ชายไง และอีกอย่าง ถึงพี่ปราบจะชอบผู้ชาย กูไม่ได้รังเกียจ แต่เขาควรเจอคนที่ดีกว่านี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่คนๆนั้นจะเป็นกู กูที่ไม่มีเหี้ยอะไรดีเลยสักอย่าง พวกมึงเข้าใจไหม”

ไอ้หวายกับไอ้ตูนนิ่งเงียบคิดตามในสิ่งที่ผมกำลังพูด และพวกมันก็ไม่ได้แย้ง

“เพราะฉะนั้น เรื่องกูกับพี่ปรางจึงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ และพวกมึงห้ามคิดอะไรแบบนี้อีก พี่ปราบเป็นคนดี อย่าเอาเขามาเกลือกกลั้วกับคนแบบกูในแง่นั้น”

พี่ปราบเหมือนคนที่ผมยกขึ้นไว้บนหิ้ง ผมจะไม่มีทางทำให้เขาสกปรกเพราะผมเป็นอันขาด

“เออๆ ก็แล้วแต่มึง แต่ถ้าวันหนึ่งใจมึงบอกว่าพี่ปราบคือคนที่ใช่ กูอยากให้มึงซื่อสัตย์ต่อใจตัวเอง” ไอ้หวายพูด

ผมเพียงแสยะยิ้มแล้วไม่คิดจะตอบอะไรกลับไป

ไม่สำคัญว่าพี่ปราบจะชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่เรื่องระหว่างผมกับเขา เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้






ชีวิตของผมไม่เคยอยู่อย่างสุขสบายได้นาน แม้ว่าความเจ็บจากการเลิกกับพลอยจะยังส่ออาการอยู่ทุกวันและบ่อยครั้ง แต่ผมก็ชินชาแล้วและอยู่กับมันได้ ก็แค่กดมันให้ลึกที่สุด ยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ผมพบเจออยู่บ่อยๆกับการไม่เป็นที่ต้องการของคนในครอบครัว

และทั้งๆที่ผมปล่อยมือจากผู้หญิงคนนั้นแล้ว แค่ไอ้ปาร์คมันก็ยังไม่เลิกจองล้างจองผลาญผมเสียที ครั้งก่อนที่ผมและพี่ปราบบุกไปถึงโรงแรมม่านรูด มันคงแค้นผมมาก วันนี้มันก็เลยยกพวกมาหาเรื่องผม ขณะที่ผมกำลังจะขึ้นไปเปลี่ยนชุดบนหอเพื่อไปทำงาน

ผมคนเดียวกับพวกมันเกือบสิบคน ผมรู้แค่ว่าในหัวคิดถึงแต่หน้าพี่ปราบ ถ้าพี่แกรู้เรื่องว่าผมมีเรื่องอีกแล้ว ไม่รู้ว่าแกจะทำหน้ายังไง มากกว่าความเจ็บปวดจนชาหนึบบนร่างกาย คือผมกลัวว่าพี่ปราบจะเสียใจที่ผมคอยแต่จะสร้างปัญหาอยู่ตลอด

ไหนจะคนที่บ้านอีก คราวนี้ผมต้องโดนด่าจนหูชาไปจนถึงชาติหน้า ข้อหาสร้างความเดือดร้อนที่ต้องหาเงินมารักษาผม

เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน คือเสียงของป้าเจ้าของหอที่ตะโกนโหวกเหวกอะไรสักอย่าง จากนั้นผมก็ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกเลย

“พวกมึงกลับไปได้แล้วไป เดี๋ยวกูเฝ้ามันเอง”

“เอางั้นเหรอเฮีย”

“หรือพวกมึงมีปัญหาล่ะ”

“ไม่มีปัญหาหรอกเฮีย ดีเสียอีก เดี๋ยวที่บ้านมันจะมา พวกผมไม่ค่อยอยากอยู่เจอสักเท่าไหร่ ขี้เกียจฟังเขาบ่น ยิ่งไอ้พัชยังไม่รู้สึกตัวแบบนี้ แม่มันก็จะหันมาบ่นพวกผมแทน”

“พวกผมฝากมันด้วยนะพี่ แม่งโคตรซวยเลย อยู่ดีๆก็มีตีนไปเสิร์ฟถึงที่”

“พวกมึงไม่ต้องห่วง กูจะดูแลมันเอง”

“งั้นพวกผมกลับแล้วนะ”

“พวกกูก็กลับล่ะ จะเอาอะไรก็โทรบอกล่ะกัน”

“อืม ขอบใจพวกมึงมาก”

จะว่ายังไม่รู้สึกตัวก็ไม่ใช่ แต่ผมไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตาหรือทำอะไรทั้งนั้น ได้ยินเสียงพูดอยู่รอบๆตัว แต่จับใจความไม่ได้ ในความเป็นจริงกับสติที่ล่องลอย ผมไม่รู้ว่าคนที่กำลังอยู่กับผมคือใคร แต่ผมหวังให้ใครคนนั้นเป็นพี่ปราบ เพราะเขาเป็นเทวดา ที่มักอยู่กับผมยามที่ผมต้องการใครสักคน

ผมหลับลึกไปอีกครั้ง ตื่นมาอีกทีก็รู้สึกตัวมากขึ้น ขยับลืมตาได้กว่าครั้งแรก จนกระทั่งผมลืมตาได้เต็มตา ก็กวาดมองไปทั่ว ผมรู้ตั้งแต่ก่อนจะสลบว่ายังไงตัวเองก็จะต้องมาฟื้นที่โรงพยาบาล เพราะถ้าผมไม่ถูกพามาโรงพยาบาลผมก็จะไม่มีทางฟื้น หมายความว่าตายไปแล้วนั่นเอง

ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องแปลกในความคิด แต่ที่แปลกก็คือผมอยู่ในห้องเดี่ยว ไม่ใช่ห้องป่วยรวม ใครมันเป็นคนจัดการวะ ค่าห้องแม่งต้องแพงแน่ๆ โดนแม่ด่าหูดับแน่นอน

“ซ่า มึงฟื้นแล้ว!”

“พี่ปราบ” และคนที่อยู่ตรงหน้าผม ก็คือคนที่ผมหวังเอาไว้ ว่าอยากให้เขามาอยู่ตรงนี้

ซึ่งพอพี่ปราบมาอยู่ต่อหน้าผม แทนที่จะดีใจ ผมกลับรู้สึกกังวล พี่ปราบจะต้องรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น และเขาจะรู้สึกยังไง ใกล้จะเอือมระอาจนอยากเลิกสนใจผมแล้วหรือยัง

เมื่อก่อนตอนเด็กๆผมแค่ไม่เป็นที่สนใจของคนในบ้าน ยิ่งผมโตและมีเรื่องบ่อยขึ้น เกเรมากขึ้น ที่บ้านก็เริ่มเบื่อหน่ายและระอาคนอย่างผม หลายต่อหลายครั้งที่แม่พูดว่าผมเป็นภาระ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ผมจะต้องได้รับสิ่งเหล่านั้นจากคนที่ผม...

พี่ปราบเขาเป็นเหมือนพี่ชายของผม เป็นเหมือนคนในครอบครัวที่เข้าใจผม และตอนนี้พี่ปราบจะยังเข้าใจผมอยู่ไหม

“ซ่า เป็นอะไร ได้ยินที่กูพูดหรือเปล่า”

ใบหน้าของผมถูกมือหนาทั้งสองข้างประคองให้เงยขึ้น คราวนี้ผมไม่สามารถหลบสายตาของพี่ปราบได้ เพราะผมกลัวว่าจะเห็นความผิดหวัง

แต่เปล่าเลย ผมกลับเห็นแต่แววตาของคนที่เป็นห่วงและเป็นกังวล

“พี่ปราบ” ผมเรียกเขาอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าผมไม่ได้ฝันไป

“อืม กูเอง เจ็บตรงไหนเป็นพิเศษไหม กูเรียกหมอเข้ามาดูอาการมึงแล้ว ตอนนี้ก็ดื่มน้ำก่อน”

ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะรู้สึกชาไปทั้งตัว ได้แต่อ้าปากงับหลอดดูดน้ำที่ส่งมาจ่อถึงปาก ผมดื่มจนเกือบหมดแก้ว ทันทีที่น้ำไหลลงคอ ถึงได้รู้ว่าลำคอนั้นแห้งผากเหลือเกิน รวมไปถึงความรู้สึกด้วย

ไม่นานหมอและพยาบาลก็เข้ามา พี่ปราบออกไปข้างนอก หมอยังไม่ทันตรวจเสร็จ เสียงจอแจก็ดังที่นอกห้องพักผู้ป่วย ก่อนที่ประตูจะเปิดออกแล้วตามมาด้วยเสีบงบ่นของแม่และพี่แนน แต่พอหมอดุว่าให้เบาเสียง ทุกคนก็เงียบ แต่สายตาที่มองมายังผมนั้น เต็มไปด้วยแววตาของการตำหนิ

ทันทีที่หมอตรวจเสร็จ ผมก็ได้แต่หลับตาลงแล้วทนฟังคำด่าว่าต่างๆนาๆที่ผมได้ยินมาจนชินชา

“ถ้าออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ไปหาหลวงพ่อสักหน่อย ไปให้เขาดูด้วยให้ ฉันว่าช่วงนี้ซ่ามันดวงตก ถึงได้เกิดเรื่องบ่อยๆ” ยายฝนแม่ของพี่จี้พูดขึ้น ทำให้ผมลืมตาขึ้นมองหลังจากที่นอนหลับตานิ่งมาพักใหญ่

“มันเกิดเรื่องบ่อยๆก็เพราะมันหาเรื่องตัวมันเองนั่นแหละ คบเพื่อนแต่ละคนดีๆทั้งนั้น ไม่พากันกินเหล้าเมายา ก็พากันไปต่อยตี”

“เอาน่า เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เอ็งก็ไม่ต้องไปด่ามันแล้ว มันไม่เจ็บหนักมากกว่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว” ยายฝนพูดกับพี่แนนเสียงเครียด ก่อนจะหันมามองผม

“ว่าไงซ่า บวชสักหน่อยไหมลูก ให้บุญกุศลได้ปัดเป่าเรื่องที่ไม่ดีออกไปจากชีวิต บุญกุศลจากการบวชนั้นสูงมาก พ่อแม่ก็ได้บุญด้วย เราเองก็ได้บุญ ชีวิตซ่าก็จะดีขึ้นนะลูก”

ผมฟังยายฝนพูดแล้วก็คิดตาม

ถ้าผมบวชชีวิตผมจะดีขึ้นจริงๆน่ะหรือ

“โอ๊ยน้าฝน พูดไปก็เท่านั้น มันไม่บวชหรอก” พี่แนนพูดขัดความคิดของผมขึ้น ผมตวัดตามองพี่แนนทันที แต่เขาไม่ได้มองผมอยู่ ผมถึงได้ดึงสายตากลับมาทัน ก่อนที่เขาจะเห็นสายตาของลูกไม่รักดีอย่างผม





แม่พ่อ พี่แนน และคนอื่นๆกลับไปแล้ว สักพักพี่ปราบก็กลับเข้ามาพร้อมด้วยถุงของกินสองถุงใหญ่ พี่ปราบมองหน้าผมแล้วไม่ได้พูดอะไร เอาของกินไปวางไว้บางโต๊ะ และของบางอย่างก็เอาใส่ไว้ในตู้เย็น

ท่ามกลางความเงียบ ผมเผลอหลับไปอีกครั้ง ตื่นขึ้นอีกทีก็เย็นแล้ว มีอาหารวางอยู่บนโต๊ะเลื่อนตรงหน้า

“ตื่นแล้วก็กินข้าวซะ จะได้กินยา” พี่ปราบเข้ามาจัดโต๊ะอาหารให้เลื่อนเข้ามาใกล้ผม ก่อนที่จะพยุงตัวผมลุกขึ้นนั้น ตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกเจ็บบริเวณท้อง จนต้องร้องซี๊ดออกมา

“เจ็บท้องเหรอ” พี่ปราบถาม

“ครับ ผมโดนอะไรบ้างเนี่ย”

ตอนไม่ขยับตัวมากมันก็ไม่เจ็บหรอก แค่รู้สึกตึงๆชาๆ แต่พอขยับก็เริ่มเจ็บและปวดร้าวไปทั้งตัว

“มึงโดนแทงเข้าที่ท้อง แต่ไม่ลึกไม่โดนส่วนที่สำคัญ จะมีก็กระดูกซี่โครงร้าว นอกนั้นก็แผลฟกช้ำตามตัวตามร่างกาย” พี่ปราบพูดจบก็ส่งช้อนให้ผม

ผมรับช้อนมาถือไว้ มองหน้าพี่ปราบ และเมื่อพี่ปราบยักคิ้วแล้วพยักหน้าไปทางชามข้าว ผมถึงได้เริ่มก้มหน้ากินอาหารที่ไร้รสชาติแบบเงียบๆจนหมด จากนั้นก็กินยาแก้ปวดแก้อักเสบตามหลัง

พี่ปราบเองก็กินอาหารที่ซื้อมาเงียบๆ ภายใตความนิ่งเฉย ผมไม่รู้ว่าพี่ปราบคิดอะไรอยู่ และจินตนาการของผมก็บอกผมว่า พี่ปราบกำลังผิดหวังในตัวผม สายตาที่จับจ้องพี่ปราบที่กำลังเก็บจานข้าวค่อยๆก้มต่ำลง จนกลายเป็นนั่งจ้องมือตัวเองที่บีบเข้าหากัน

“เป็นอะไร เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” พี่ปราบเดินเข้ามาถามไถ่ผมด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ แต่ผมกลับรู้สึกไปเองว่ามันแสนจะนิ่งเฉย

“ว่าไงซ่า ปวดแผลเหรอ” พี่ปราบถามอีกครั้ง

คราวนี้ผมส่ายหน้า “เปล่าครับ”

“แล้วเป็นอะไร สีหน้ามึงไม่ดีเลย” พี่ปราบลูบหัวผม และจับหน้าผมให้เงยขึ้น

“พี่ปราบ” พี่เรียกผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า อยู่ๆก็รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมา

“ว่าไง”

“ผมขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ” ผมก้มหน้าลงอีกครั้ง ไม่อยากเห็นแววตาที่อาจฆ่าผมให้ตายได้

พี่ปราบนิ่งเงียบไป ก่อนที่เขาจะขยับขึ้นมานั่งข้างๆผมบนเตียง แล้วโอบไหล่ผมไปกอดไว้

“ช่างมันเถอะ กูไม่ได้โกรธอะไร”

“ผมแม่งโคตรแย่เลยพี่ คนอย่างผมไม่น่าเกิดมาเลย”

เพราะเกิดมาแล้ว ไม่ได้ทำให้ใครรู้สึกดีเลยสักคน มีแต่จะคอยทำให้คนอื่นผิดหวัง

“มึงตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้หรือเปล่า ไหนบอกกูสิว่ามึงเป็นคนไปหาเรื่องพวกมันก่อนหรือเปล่า ถึงได้โดนเขากระทืบมาขนาดนี้”

ผมผงกหัวขึ้น รีบส่ายหน้าทันทีเพื่อเป็นการปฏิเสธ “ผมกลับหอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปทำงาน แต่พวกมันมาดักรอ ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ รู้ตัวอีกทีก็มาโผล่ที่โรงพยาบาลแล้ว” ผมรีบพูดรีบเล่าจนเกือบจะเข้าข่ายลนลาน พอเล่าจบก็แอบกังวลว่าพี่ปราบจะคิดว่าผมแก้ตัว แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้เริ่มก่อนจริงๆ

“ถ้ามึงบอกว่าไม่ได้เริ่มก่อน กูก็จะไม่โกรธมึงเรื่องนี้ แม้ว่ากูจะไม่ชอบที่มึงต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ก็ตาม ไอ้เด็กเวรพวกนั้น สงสัยต้องให้เจอดีสักทีจะได้รู้สำนึกซะบ้างว่าอะไรควรก็ไม่ควร มึงก็เหมือนกันนะซ่า หายดูแล้วย้ายออกจากหอนั้นเลย แล้วกูจะหาหออื่นให้อยู่ กูบอกแล้วว่าแถวนั้นมันไม่ปลอดภัย เพราะมันเปลี่ยวถึงได้กลายเป็นสถานที่ให้พวกมันยำตีนมึงจนสนุกสนาน พูดแล้วกูขึ้น”

ผมปล่อยให้พี่ปราบบ่นยาวเหยียด แม้ว่าจะคัดค้านเรื่องย้ายหออยู่ในใจก็ตามที แต่ก็ไม่ได้พูดขัดหรือเถียงแต่อย่างใด เวลานี้ผมควรนั่งเงียบๆแล้วปล่อยให้พี่ปราบอารมณ์เย็นลงจะดีกว่า

“แล้วที่บ้านมึงมาเยี่ยม เขาว่ายังไงบ้าง” พอพี่ปราบถามถึงที่บ้าน คำพูดของยายฝนก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง

“ผมก็ถูกด่าสิพี่ ผมก่อเรื่องขนาดนี้” ผมหัวเราะขื่นใส่ตัวเอง

“แล้วมึงได้เล่าให้เขาฟังเหมือนที่เล่าให้กูฟังหรือเปล่า”

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

“เอ้า แล้วทำไมมึงไม่พูดล่ะ”

“ก็เขาไม่ถาม”

พี่ปราบถอนหายใจเหมือนได้ยินคำตอบจากปราบผม และเขาคงเข้าใจผมมากพอที่จะไม่ถามอะไรต่อว่าทำไม

คนไม่อยากรู้ ไม่อยากรับฟัง พูดไปก็เหมือนแก้ตัว สู้ไม่พูดเลยเสียยังดีกว่า

“พี่ปราบ ผมว่าผมจะบวชวะพี่”

พี่ปราบแสดงอาการตกใจจนออกนอกหน้ากับสิ่งที่ผมบอก ผมแสยะยิ้มเล็กน้อย เพราะเข้าใจว่าทำไมพี่ปราบถึงแสดงท่าทางไม่เชื่อ

เพราะคนอยากผมพอพูดว่าอยากทำความดี มันมักเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในสายตาคนอื่นอยู่แล้ว แต่ว่า...ตัวผมเองก็อยากที่จะมีชีวิตที่ดีอย่างคนอื่นเข้าเหมือนกัน ผมไม่รู้หรอกว่า ถ้าผมบวชแล้วชีวิตผมจะดีขึ้นไหม แต่คำพูดของยายฝนกลับจุดไฟแห่งความหวังให้กับผม

ถ้าการสร้างบุญจะทำให้สิ่งแย่ๆในชีวิตผมหลุดออกไป ผมก็อยากจะลอง

“มึงคิดดีแล้วเหรอซ่า มึงพูดเล่นๆไม่ได้นะ”

“ครับ ผมอยากบวช ผมไม่อยากอยู่กับชีวิตแย่ๆแบบนี้อีกแล้ว พี่ปราบว่าผมจะทำได้ไหม”

ผมอยากได้ยินคำพูดสักอย่าง ที่จะลบล้างคำพูดของพี่แนนพี่บอกว่าผมไม่มีทางทำได้

“ถ้ามึงตั้งใจ กูเชื่อว่ามึงจะทำได้”

และยังเป็นคนๆนี้เสมอ ที่ยังคงเชื่อในตัวผม






.....................................
แอบย่องมาลง
ถ้าใครที่ตามเพจก็น่าจะพอรู้ว่าคนเขียนหายหัวไปไหนมา ด้วยยุ่งจัดส่งหนังสือพี่งูด้วย ติดเทรนด้วย พร้อมกับได้ผ่านช่วงเวลาที่แสนเศร้าโศกของคนไทยทั้งประเทศมาแล้ว
วันนี้ริริก็เลยเอาพี่ปราบน้องซ่ามาให้อ่าน
ตอนนี้กับตอนหน้า ก็เป็นจุดเปลี่ยนจุดใหญ่ในชีวิตของน้องซ่า กับจุดเปลี่ยนสุดท้ายที่กำลังจะตามมา เนื้อหาจำต้องเศร้าเพื่อปูทางไปสู่แสงสว่างที่ยั่งยืน
ไม่รู้จะยังมีคนรออ่านมา แต่ถ้าใครยังรออ่านแล้วอ่านมาจนถึงตอนนี้
ริริขอขอบคุณด้วยใจจริงเลยค่ะ
และหวังว่าเราจะเจอกันอีกในตอนต่อไปนะคะ
ด้วยรัก
ริริ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 27-10-2017 22:53:43
ยังคงรอพี่ปราบและน้องซ่าอยู่เสมอ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-10-2017 22:56:12
รอความยั่งยืนนั้น
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 27-10-2017 22:59:57
พี่ปราบน้องซ่ามาซักที รอนานมากๆๆแล้ว คิดถึงๆๆๆๆ จอให้ซ่าเจอเรื่องดีๆๆๆบ้างเถอะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 27-10-2017 23:17:22
เกือบลืม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-10-2017 23:22:10
ดีใจ ไรท์มา  :mew1: :mew1: :mew1:

ไม่เข้าใจคนอย่างไอ้ปาร์ค เป็นชู้กับเมียเขาแท้ๆ
จนผัวตัวจริงเลิกกับเมียไปแล้ว  ยังมาหาเรื่องเขาไม่เลิก
เพราะเสียหน้ารึเปล่าที่พลอยยังรักพัชอยู่
แล้วสมควรเปลี่ยนจากกางเกงไปนุ่งกระโปรง
เพราะไม่กล้าหาเรื่องเขา แบบตัวต่อตัว พาเพื่อนมายำตีน แทงเขาอีก

เห็นควรด้วย พี่ปราบ สมควรจัดมันให้หนักๆ เอาให้มันพูดไม่ออกไปเลย
อันธพาลชัดๆ ดีแต่หมาหมู่ แล้วไม่รู้จักแล้ว

แม่อย่างแนน ไม่รักลูกก็ไปไกลๆลูกเลย
ชีวิตแนน มีแต่ผู้ชาย ผัวใหม่ตลอด
เคยถามลูกสักคำไหม ว่าเกิดอะไร ทำไมถึงเกิด
มีแต่บ่น ด่า ตำหนิลูก โทษว่าเป็นความผิดลูกอย่างเดียว
กำลังใจ ชมเชย พูดดีๆกับลูก ไม่เคยปรากฎ
แก่จนตายยังไม่รู้จักความเป็นแม่หรอก

แต่ซ่า ก็ควรพูดบ้าง เขาไม่ถามก็บอกได้  เชื่อไม่เชื่อก็ได้พูดความจริง
บอกไปเลยว่า ไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องมาบ่นมาว่า  มีแต่ทำให้ลูกเสียกำลังใจ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 28-10-2017 00:04:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 28-10-2017 07:11:04
ซ่านี่น่าสงสารนะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-10-2017 07:52:29
ชีวิตซ่าถ้าไม่ได้ปราบจะเป๋ไปขนาดไหน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-10-2017 09:33:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-10-2017 19:36:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 28-10-2017 22:16:19
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-10-2017 22:34:45
เพิ่งเข้ามาอ่านทรอติดตามจ้าา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: elephantisme ที่ 29-10-2017 12:01:07
ขโมยเฮียปราบมาเก็บไว้เองได้มั้ยคะเราขอยืกซักวันได้มั้ยซ่าาาา 55555555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 29-10-2017 19:22:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 29-10-2017 20:48:44
น้องซ่าสู้นะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 29-10-2017 23:39:23
ห่างหายจากงานคุณริริไปนานมากเลย หลังจากเรื่องพี่งู ดีใจมากๆที่กลับมากับงานชุดทีเราชอบที่สุดของคุณริริชุดนี้เป็นชุดที่รักมากๆดีใจที่ได้เจอคนที่รักกลับมามห้เราไเ้พบเจออีกครั้ง อ่านรวดเดียวแบบสนุกมากๆอ่ะ ชอบซ่าจัง ตอนแรกขัดใจอ่ะ เพราะมันตรงกับบุคลิกเด็กวัยรุ่นยุคนี้จริงๆ ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆ เด็กๆก้อมักจะมาจากครอบคาัวที่มีปัญหาน่ะแหละแต่ผู้ใหญ่ก้อมักจัไม่เข้าใจว่าตนเองทำอะไรผิด พี่ปราบเริ่ดมากๆ สามีดีเด่นแห่งชาติชายในฝันของสาวๆที่ยอมยกให้ซ่าเท่านั้น รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 31-10-2017 22:28:10
ซ่านี่ชีวิตสุขสงบไม่ได้สักวัน มีแต่เรื่องเข้ามาตลอด
พี่ปราบควรรับไปดูแล 24ชม.นะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 31-10-2017 23:22:27
สงสารซ่ามาก ทำไมชีวิตมีแต่เรืีอง
แต่เรื่องแบบนี้มันก็พูดยาก
เพราะเราเป็นคนหนึีงที่ไม่เข้าใจชีวิตวัยรุ่นเลย...
บางทีมันไม่มีเหตุผล เกรี้ยวกราด รุนแรง
เราไดัแต่ตั้งคำถามว่า "ทำไม"
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 03-11-2017 02:11:03
เป็นพี่ปราบที่ซัพพอร์ตน้องตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 03-11-2017 17:39:09
ดีต่อใจค่ะ ที่มาต่อให้ลุ้นแล้ว

ซ่าผิดหวังซ้ำ แถมคนในบ้านยังเมินเฉย ไม่แปลกที่ซ่าจะกลัวปราบผิดหวัง
ปราบดูแลน้องดีมาก ถ้าพกเข้าบ้านด้วยได้ แบบไม่กลัวน้องกังวล คงพกไปแล้ว

ทีมเพื่อนไม่ได้เชียร์เนาะ แต่จะรอดู 55555

ซ่าไม่เชื่อ ไม่คิดตอนนี้ไม่เป็นไร แต่เหมือนเพื่อนบอก พอถึงเวลาอย่าปิดตัวเอง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่18:: 27/10/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-11-2017 20:20:09
ตั้งใจจะบวชก็ขอให้ทุกข์โศกทุกอย่างพ้นไปซะทีเนอะซ่า สงสารจังเลยลูก เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ดีที่มีพี่ปราบเป็นที่พึ่งทางใจ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 03-12-2017 20:03:27
ปราบซ่า
ตอนที่19


ผมนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลาห้าวัน ก็กลับมาพักที่บ้าน ความจริงอาการผมไม่ได้หนักที่จะต้องนอนนานขนาดนั้น แต่ว่าพี่ปราบไปทำอีท่าไหนไม่รู้ หมอเลยไม่อนุญาตให้ผมกลับ คนที่บ้านผมก็บ่น แต่พอหมอบอกว่าค่าใช้จ่ายมีคนจ่ายให้หมดแล้ว พวกเขาก็สงสัยซักถาม พี่ปราบก็เลยบอกว่าเป็นสวัสดิการพนักงาน ส่วนเกินจะไปหักเอากับเงินเดือนแทน พ่อกับแม่ก็เลยเลิกบ่น

ตั้งแต่เกิดเรื่องผมก็ยังไม่ได้กลับไปที่หอ พี่ปราบให้ผมเลือกระหว่างบ้านกับคอนโดพี่ปราบ แต่ผมไม่อยากรบกวนพี่ปราบมากไปกว่านี้จึงเลือกกลับมาอยู่บ้าน

ผมไปเรียนกลับมาตอนเย็นก็นอนเล่นเกมในบ้าน ในขณะที่คนอื่นๆทำงานอยู่ในโรงโกดัง เมื่อผมทำงานไม่ได้ กระดูกซี่โครงที่ร้าวยังไม่สมานตัวดี คนที่ต้องทำงานหนักขึ้นก็คือน้าตั้ม ดังนั้นผมจึงได้ยินคำด่าทอดังมาเรื่อยๆเมื่อน้าตั้มรู้สึกเหนื่อย สารพัดเรื่องที่เขาจะหยิบยกขึ้นมาด่าและว่า ซ้ำเติมในความผิดของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สิ่งที่ผมทำได้ก็คือทำเป็นหูทวนลม แต่ใจถือทุกคำพูดนั้นไว้ ผมอยากสลัดมันทิ้ง แต่จิตใจกลับทำตรงกันข้าม

ตอนนี้ผมรู้สึกอย่างเดียวว่าผมเหนื่อย เหนื่อยเกินกว่าจะคิดว่าวันพรุ่งนี้ผมควรมีชีวิตยังไง

ห้าโมงเย็นทุกคนก็เลิกทำงาน แม่กับพ่อเดินกลับเข้ามาบ้าน เตรียมเงินจ่ายค่าแรงรายวัน ยายฝนมานั่งคุยกับแม่ตั้งแต่แม่เลิกงานเรื่องที่อยากให้ผมบวชพระ

“มันไม่บวชหรอก คนอย่างไอ้ซ่าน่ะเหรอจะเอาอะไร”

“พี่พิมพ์ก็อย่าไปพูดอย่างนั้น เดี๋ยวฉันคุยกับหลานเอง”

“เออ มึงก็ลองพูดดูแล้วกันฝน เผื่อมันจะฟังคนอื่นบ้าง กูพูดแม่มันพูดมันไม่เคยจะฟังห่าอะไรหรอก” ในขณะที่แม่กำลังบ่นผมอย่างเมามัน ยายพิมพ์ก็กวักมือเรียกผมให้ไปหา

“ซ่าเอ้ย มาหายายสิ มานั่งตรงนี้”

ผมลุกออกไปนั่งขัดสมาธิข้างๆแม่ ก้มหน้าลงเอานิ้วเขี่ยตามร่องกระเบื้องไม่ได้สบตาใคร

“ซ่า อยากบวชไหม วันนี้ยายไปหาหลวงพ่อที่วัด เอาวันเดือนปีเกิดซ่าไปถามท่านมา เขาบอกว่าช่วงนี้ซ่าจะมีเคราะห์หนัก ทั้งเรื่องผู้หญิงและจะไปถึงขั้นเลือดตกยางออก ที่ผ่านมามันแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะลูก หลวงพ่อบอกว่าจะมีอีก แต่ถ้าซ่าบวช อยู่ใต้ผ้าเหลือง บุญใหญ่นี้จะช่วยผลักเคราะห์ใหญ่นี้ออกไปได้ ชีวิตซ่าจะได้ดีขึ้น”

ผมเงยหน้ามองตายายฝนแวบนึงแล้วก้มหน้าลงอีกรอบ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกไม่กล้าที่จะพูดความต้องการของตัวเองให้คนรอบตัวรับรู้

ถึงแม้ว่าผมจะตัดสินใจที่จะบวช แต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกอยู่ดี

“ว่าไงซ่า บวชเนอะ จะได้ไปหาหลวงพ่อดูฤกษ์บวช”

ผมพยักหน้าน้อยๆเป็นการตกลง ยายฝนดูพึงพอใจที่ผมยอมทำตาม ในสายตาทุกคนผมคือเด็กที่ดื้อรั้น ชอบแหกคอก แต่ครั้งนี้ผมตั้งใจจริง ไม่ได้ตัดสินใจบวชเพราะใครบังคับ แม้ว่าจะทำให้คนอื่นรอบข้างโดยเฉพาะพี่แนนเชื่อได้ยากก็ตาม

“ตกลงเอ็งจะบวชใช่ไหมซ่า” พี่แนนถาม ทันทีที่ยายฝนเล่าให้พี่แนนฟังว่าผมยอมบวช และยายฝนได้ไปหาฤกษ์บวชกับหลวงพ่อมาแล้ว

“อืม” ผมตอบในลำคอสั้นๆ ก็ผมไม่มีทางเลือก ยังไงชีวิตผมมันก็ไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้อีกแล้ว แค่ลองดูอีกซักตั้ง ให้มันรู้กันไปว่าชีวิตนี้มันจะหาดีไม่ได้

“มึงคิดดีแล้วแน่นะ” พี่แนนยังคงไม่เชื่อว่าผมจะตัดสินใจแบบนี้ ยังไงในความคิดของพี่แนน ผมก็ยังเป็นเด็กที่ไม่มีหัวคิดอยู่ดี

“เอ็งจะไปเซ้าซี้อะไรมันนักเล่า ให้มันบวชๆไปนั่นน่ะดีแล้ว อยู่ในวัดเผื่อผีห่าซาตานที่ทำให้มันเกเรจะหลุดออกจากตัวมันไปบ้าง” แม่พูดให้พี่แนนเลิกเซ้าซี้ผม แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกดี

“แนนไม่คิดว่ามันจะทำได้หรอกแม่ เดี๋ยวกูจะคอยดูว่ามึงจะบวชได้สักกี่วัน กูว่าไม่เกินสามวันก็ศึกแล้ว”

ผมฟังแล้วก็ได้แต่อึ้ง ที่ผ่านมาผมอาจจะเกเรนะ แต่คนอย่างผมจะทำความดีบ้างไม่ได้เลยหรือไง ถ้าผมไม่เหมาะที่จะเป็นคนดี ทำไมถึงไม่พอใจที่ผมเป็นคนเลวล่ะ

ต้องการอะไรจากผมกันแน่ ทำไมต้องดูถูกกันขนาดนี้

“เอาอีกแล้วนะ มึงนี่ชอบเดินหนีจริงๆเลยเวลาแม่บ่นแม่ด่าเนี่ย”

ไม่เดินหนีออกมาไม่ได้ เพราะผมไม่ต้องการให้พี่แนนเห็นน้ำตาของผม

เพราะอย่างนี้ไง ผมถึงไม่อยากเป็นคนดี สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครเห็นค่าสักคน

ผมไม่รู้จะไปที่ไหน ก็เลยมาหาไอ้ตูนที่บ้านมัน ที่ผมเลือกมาหาไอ้ตูนมากกว่าคนอื่นๆก็เพราะว่าไอ้ตูนมันไม่พูดมากให้ผมรำคาญ ผมแค่อยากได้ที่สงบๆ โดยที่ไม่ใช่การกลับไปอยู่ที่หอคนเดียว ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะไปหาพลอยที่บ้าน แต่วันนี้ผมไม่มีใครคนนั้นที่จะคอยอยู่ข้างๆกันแล้ว

แต่คนที่ผมคิดถึงในเวลานี้ไม่ใช่พลอย แต่กลับเป็นพี่ปราบ ถ้าไม่ติดว่าเมื่อเช้าพี่ปราบส่งข้อความว่าวันนี้เขามีประชุมทั้งวัน ผมคงจะไปหาพี่ปราบแล้ว  แต่ในเมื่อทำไมไม่ได้ ผมเลยมาที่บ้านเพื่อนแทน

“คิดไงวันนี้มาหากูที่บ้านเนี่ย” ไอ้ตูนเปิดประตูบ้านให้ผมเข้าไป

“เบื่อๆวะ” ผมบอก มองสำรวจรอบบ้านไอ้ตูนไปด้วย

“พ่อแม่กูยังไม่กลับ ถ้าหิวก็ไม่มีอะไรให้มึงกินหรอกนะ”

“เออ กูไม่ได้หิว”

ผมทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟา หน้าโทรทัศน์มีเครื่องเล่นเกมต่อทิ้งไว้ ผมกับไอ้ตูนก็เลยประลองฝีมือผ่านเกมต่อสู้นิดหน่อยจนเริ่มรู้สึกเบื่อก็หยุด เลยเปลี่ยนมานั่งดูรายการทีวีแทน ผมนั่งมองหน้าจอโทรทัศน์ แต่ใจไม่ได้จดจ่อในสิ่งที่มองอยู่

“เฮ้ย เป็นเหี้ยอะไร นั่งเหม่อเป็นพระเอกเอ็มวีเลยนะมึง” ไอ้ตูนยกเท้าขึ้นถีบหน้าขาผมให้รู้สึกตัว

“ไอ้ตูน กูมีไรจะบอก” ผมคงจะทำหน้าจริงจังเกินไปกว่าที่เคยเป็น ไอ้ตูนถึงขยับตัวออกห่าง

“อย่าบอกนะว่าจะยืมเงิน”

“กูจะบวช”

“แล้วไป เพราะเดือนนี้กูใช้เงินค่าขนมหมดแล้ว”

“...”

“...!” เหมือนมันจะรู้ตัวแล้วว่า เมื่อตะกี้ผมพูดอะไรออกไป “มึงว่าไงนะ มึงพูดใหม่ดิ”

ผมสูดลมหายใจเข้าออกลึกก่อนจะพูดอีกรอบ “กูบอกว่ากูจะบวช”

“บวช! บวชพระอ่ะนะ”

“เออ บวชพระ”

“มึงล้อเล่นเปล่าเนี่ย ไม่ตลกนะเว้ย เล่นพระเล่นเจ้า มันบาป”

ดูท่าว่าผมคงไม่เหมาะที่จะทำความดีจริงๆ ไม่ว่าใครก็คิดว่าการที่ผมตัดสินใจบวชมันเป็นเรื่องที่น่าตกใจและเป็นไปไม่ได้ แต่จะโทษใครได้ ที่ผ่านมาผมมันแย่เอง

“กูไม่ได้ล้อเล่น ที่บ้านกูอยากให้บวช กูเซ็งกับปัญหาด้วย”

“กะหนีปัญหา”

“เออ”

ผมตอบไปสั้นๆ ขี้เกียจอธิบายว่ามากกว่าบวชให้ปัญหามันจบ นั่นคือการอยากให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะรู้ว่าพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ งั้นก็อย่าพูดเลยดีกว่า

“มึงแน่ใจแล้วใช่ไหมไอ้พัช”

“กูแน่ใจ”

“มึงทำเอากูงงมากๆ แต่กูว่ามึงบวชก็น่าจะดี ได้บุญๆ กูว่าเราควรต้องโทรหาไอ้พวกนั้น ให้มันมาฉลองให้กับมึง แปบนะ กูโทรก่อน”

สุดท้ายผมก็ไม่ได้อยู่แบบเงียบๆ พวกที่เหลือก็ตามมาถล่มบ้านไอ้ตูนอยู่ดี ยิ่งพอพ่อแม่ไอ้ตูนรู้ว่าผมจะบวช ก็อยากจะให้ลูกตัวเองบวชบ้าง บอกว่าจะได้เพลาๆเรื่องผู้หญิงลงซะบ้าง

คืนนี้ก็เมาปลิ้นกันไป ทั้งคนนอนค้างที่บ้านไอ้ตูน อัดๆกันนอนในห้องนอนของมัน ตื่นมาตอนหกโมงเช้า ผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน

ความจริงผมคิดจะหยุดเรียน แต่เมื่อเช้าได้รับข้อความจากพี่ปราบว่าให้ตั้งใจเรียน ผมเลยต้องแบบสังขารไปเรียน ยังไงผมก็จะไม่ทำให้พี่ปราบผิดหวัง






เมื่อผมตัดสินใจดีแล้วว่าจะบวช คนที่บ้านก็เริ่มเตรียมงาน ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง ก็เลยอยู่เฉยๆ ไว้ใครบอกให้ทำอะไรก็ทำ แต่ที่แน่ๆคือผมต้องไปดรอปเรียน เพราะหลวงพ่ออยากให้ผมบวชให้เร็วที่สุด ท่านว่าผมจะมีเคราะห์หนักในเร็วๆวันนี้ หากผมบวชไม่ทัน อาจถึงแก่ชีวิตได้ คนที่บ้านผมก็เลยเร่งงานกันใหญ่

ทีแรกพี่แนนบอกว่าผมไม่มีความจำเป็นต้องดรอปเรียน เพราะผมคงบวชได้ไม่เกินสามวันก็ต้องศึก ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับผมขาดเรียนธรรมดา ถึงตอนนั้นก็แค่กลับไปเรียน และอาจไม่ถูกตัดสินสอบด้วย เพราะผมคงขาดเรียนไม่นานจริงๆ

ฟังแล้วผมก็โกรธนะ แต่ผมไม่พูดอะไร คนที่ยืนยันให้ผมดรอปเรียนเป็นพี่จี้ที่พูดกับพี่แนน แต่ถึงไม่มีใครพูดให้ ผมก็คิดเองตัดสินใจเองได้แล้ว ไม่คิดจะฟังคำพูดของพี่แนนหรอก

ก็เท่ากับว่าตอนนี้ผมไม่ต้องไปเรียนแล้ว แต่ต้องเตรียมตัวบวชในอีกหนึ่งอาทิตย์ที่จะถึงนี้แทน

เรื่องบวชผมเล่าให้พี่ปราบฟังแล้ว แต่ช่วงนี้พี่ปราบงานยุ่งมาก พี่ริชกับป๊าพี่ปราบดันมาป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่คู่ ทำให้งานที่พี่ปราบต้องทำมีมากขึ้น พี่ปราบเลยไม่ได้โทรคุยหรือมาหาบ่อยเหมือนก่อน แต่ก็จะมีส่งข้อความมาให้เสมอ ถามว่าวันนี้ผมทำอะไร หรือเล่าว่างานเขาเยอะขนาดไหนแค่นั้น

เมื่อเช้าผมไปตระเวนซื้อเครื่องอัฏฐบริขาร ก็มีชุดผ้าไตร บาตรพระ และข้าวของเครื่องใช้ที่ผมจะต้องใช้เมื่อผมบวชเป็นพระอยู่ในวัด กว่าจะได้ของครบก็ต้องเดินหากับยายฝนและพี่จี้อยู่หลายชั่วโมง กลับมาถึงบ้านผมก็เลยนอนงีบตรงโซฟา นอนหลับได้ไม่นานผมก็ตื่นเพราะคนเดินเข้าออกในบ้านตลอดเวลา

“ไอ้ซ่าล่ะแม่”

“นอนอยู่ในบ้าน”

นอนๆอยู่ก็ได้ยินเสียงเสียงพี่แนนที่เพิ่งมาถึงถามถึงผม แต่เพราะผมขี้เกียจฟังเขาบ่นต่อตัว เลยแสร้งนอนหลับอยู่อย่างนั้น

“เอาแต่นอนหรือไงซ่า ไม่ลุกขึ้นมาช่วยคนอื่นเขาทำงานทำการ” พี่แนนเดินเข้ามาปลุกผม แต่ผมก็ยังทำเป็นนิ่ง

“เอ็งปล่อยมันไปเถอะ เมื่อเช้ามันก็ตื่นออกไปซื้อของกับน้าเอ็งแต่เช้า เพิ่งกลับมาเมื่อสักพักนี่เอง” เสียงแม่พูด

“ก็แล้วไป แต่ตอนบวชจะมาทำตัวขี้เกียจเอาแต่นอนไม่ได้นะแม่ บอกมันด้วย”

“ไม่หรอกแนน เดี๋ยวเขาบวชแล้วก็ดีขึ้น” ยายฝนบอก

“สาธุเลยน้าฝน เออแม่ เดี๋ยววันนั้นพี่โอ๊ตจะมาด้วยนะ อย่าพูดว่าไอ้ซ่ามันเป็นลูกหนูนะแม่ หนูไม่ได้บอกพี่โอ๊ตไว้”

“แฟนใหม่เหรอแนน”

“ก็คนนั้นไงน้าฝนที่หนูเล่าให้ฟังอ่ะ”

“อ่อ ที่ว่าคุยตั้งแต่ก่อนเลิกกับเบิร์ดอ่ะนะ”

“อืม เดี๋ยววันงานเขาจะมาด้วย คือหนูหลุดปากบอกไปว่าจะไปติดต่อวัดเรื่องงานบวช พี่เขาเลยบอกว่าอยากมาร่วมงานบุญด้วย แต่คือเขาไม่รู้ว่าหนูมีลูกแล้ว”

“บอกเขาไปก็ได้มั้ง”

“คงก่อนอ่ะน้าฝน ตอนนี้หนูกับพี่โอ๊ตกำลังไปด้วยดี ไม่อยากให้มันสะดุด”

“เดี๋ยวมันก็รู้ มึงจะปิดเขาไปนานเท่าไหร่อ่ะแนน” เสียงแม่ถามขึ้น

“แม่ก็บอกพวกเด็กๆด้วยแล้วกัน ยังไงซ่ามันก็เรียกหนูว่าพี่แนนอยู่แล้ว กะว่าเดี๋ยวให้พี่โอ๊ตมาวันบวชเลยทีเดียว”

“ตามใจมึงแล้วกัน ความแตกขึ้นมามึงก็เคลียร์กันเอาเอง”

ผมนอนฟังแล้วก็ได้แต่คิดว่า...ผมแม่งไม่น่าเกิดมาจริงๆ เหมือนอยู่ผิดที่ผิดทาง เกิดมาแล้วก็ไม่ได้มีใครต้องการ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดมาทำไม ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไร

ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในบ้าน ผมแสร้งทำเป็นพลิกตัวนอนตะแคง หันหน้าเข้าหาพนักโซฟา เพื่อปกปิดไม่ให้ใครรู้ว่าผมได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเมื่อสักครู่ และผมมันก็อ่อนแอที่ควบคุมน้ำตาไม่ได้

บางทีการที่ผมตัดสินใจบวชก็อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด ผมอยากออกไปจากตรงนี้ อยากไปให้ไกลๆจากทุกคน การอยู่อย่างโดดเดี่ยวจริงๆมันคงดีกว่าการที่มีครอบครัวแต่เหมือนไม่มี

ถ้าไม่มีพวกเขาเลย...มันจะดีกว่าไหม

พอใกล้ถึงวันงานบวช ทุกอย่างก็ดูเร่งรีบกันมาก ผมก็ต้องแวะเวียนไปที่วัดทุกวัน เพื่อฟังคำแนะนำของหลวงพ่อ ท่านจะบอกว่าจะต้องทำตัวยังไง ต้องสวดต้องท่องบทสวดไหนให้ได้ก่อนจะถึงวันบวชจริง ผมก็ได้การบ้านมาเป็นการท่องบทสวดต่างๆที่ต้องใช้ ก็ยากสำหรับผมพอสมควร

ถ้ารู้สึกเบื่อผมก็มาช่วยเขาห่อริบบิ้นเหรียญไว้โปรยทาน อันที่ผมทำก็จะไม่ค่อยสวย แต่ก็พอใช้ได้อยู่ ไอ้เพื่อนๆของผมก็แวะมาดูที่บ้านบ้าง เพราะช่วงก่อนบวช ยายฝนขอเอาไว้ว่าให้ผมอยู่แต่บ้านจะดีกว่า ผมที่อยากละจากปัญหาเลยไม่คิดจะออกไปไหน ยกเว้นต้องออกไปซื้อของหรือไปวัดก็ไปกับคนในบ้าน

ก่อนวันสุกดิบ ผมก็ยกพานดอกไม้และธูปเทียนเพื่อขอขมาลาบวชกับพ่อแม่และญาติพี่น้องในบ้าน ซึ่งก็มีแค่พ่อแม่และยายฝนเท่านั้น ส่วนพี่แนนเขาไม่มา เขาจะมาอีกทีก็วันสุกดิบแทนเลย

ตอนกลางคืนที่ผมนอนอยู่ในห้องนอน อยู่ๆก็รู้สึกร้อนรุ่ม จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร รู้แต่ว่าผมอึดอัดและอยากออกจากบ้าน ช่วงที่ผมกำลังจะทนไม่ไหว โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น

ผมรีบกดรับสายพี่ปราบ รู้สึกได้เลยว่าเสียงที่เปล่งออกไปสั่นและขาดช่วง

“เป็นอะไร ตื่นเต้นหรือไง เสียงถึงได้สั่นน่ะ” พี่ปราบแซวผมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ที่พอจะช่วยให้จิตใจผมสงบได้ครึ่งนึง

“พี่ปราบผมเป็นอะไรไม่รู้” ลำคอแห้งผาก อยู่ๆผมก็รู้สึกอยากออกจากบ้าน อยากไปกินเหล้า เหมือนจิตใจฝ่ายชั่วกำลังจะประท้วงหลังจากที่ผมเก็บเนื้อเก็บตัวเตรียมบวชมาร่วมหนึ่งอาทิตย์

“เป็นอะไร ตอนนี้มึงอยู่ไหน” เสียงของพี่ปราบดูเข้มขึ้นและจริงจังขึ้น

“ผมอยู่บ้าน แต่ผมอึดอัด หายใจไม่ออกอ่ะพี่ ใจมันหวิว ตอนนี้ผมอยากออกไปข้างนอก ไม่อยากอยู่บ้านเลย” ผมเล่าให้พี่ปราบฟังอย่างร้อนรน จนเกือบพูดแทบไม่รู้เรื่อง ได้แต่ผุดลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินวนไปวนมารอบห้อง

“ซ่า ใจเย็นๆ หายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติให้ดี”

“ผม...พี่ปราบ ผมปวดหัวอ่ะพี่ ผมไม่อยากอยู่บ้าน”

แม่งเอ้ย! ผมเป็นอะไรว่ะ แล้วทำไมในบ้านมันร้อนขนาดนี้วะเนี่ย

“ซ่า ฟังพี่ มันไม่มีอะไร พรุ่งนี้มึงจะปลงผมนาคแล้ว และวันต่อไปคือวันที่มึงจะได้บวช จะได้เข้าไปสู่จุดที่เป็นบุญเป็นกุศลอย่างใหญ่หลวง ที่มึงเป็นอยู่ตอนนี้เขาเรียกว่ามาร มันไม่ใช่ผีห่าซาตานที่ไหน แต่มันคือจิตใจของมึงเอง มึงต้องระงับจิตของตัวเองให้ได้ ต้องมีสติ อย่าให้อุปสรรคแค่นี้มาทำลายความตั้งใจของมึงได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวมึงและจิตใจของมึงในตอนนี้มันเป็นอุปสรรค เป็นมารที่กำลังรอให้มึงเดินออกนอกเส้นทาง และเมื่อมึงทำตามใจมัน มันจะหัวเราะเยาะมึงที่มึงไม่สามารถไปสู่ธรรมมะได้ ดังนั้นแล้วมึงอยากจะแพ้มันงั้นเหรอ ไหนมึงตอบกูสิ ว่ามึงจะยอมแพ้มันไหม”

“ไม่ ผมไม่ยอมแพ้” ผมตอบไป แม้ว่าทั่วทั้งปากและคอจะแห้งผาก

“ถ้าไม่อยากแพ้ มึงต้องสู้ มึงชนะมันได้ง่ายๆขอแค่มึงชนะใจตัวเองซ่า มึงทำได้ เมื่อบวชเสร็จ มึงจะได้หัวเราะเยาะมัน ที่มันไม่สามารถดึงจิตใจของมึงให้ตกต่ำลงได้ เข้าใจที่กูพูดไหม”

ผมฟังและคิดตามคำพูดของพี่ปราบทุกคำ พี่ปราบค่อยๆพูด ค่อยๆบอก ผมรู้ว่าที่พี่ปราบพูดนั้นไม่ได้หลอก คนที่บ้านผมก็พูดเหมือนกันว่ากลัวผมจะผ่านช่วงเวลาก่อนบวชไปไม่ได้ แต่เพราะที่ผ่านมามันไม่มีอะไรผมเลยย่ามใจ จนกระทั่งคืนนี้ที่ผมรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้

“ผมรู้สึกไม่ดีเลยพี่”

ผมทิ้งตัวนั่งลงกับเตียงอย่างคนหมดแรง ในหัวปวดตุบๆ มีแต่ภาพของสิ่งแย่ๆในชีวิตผมต่างๆที่ผุดขึ้นมา คำด่าทอของพ่อแม่ การไม่ยอมรับจากแม่แท้ๆของตัวเอง คนรักเก่าที่หักหลัง ทั้งหมดนี้มันอัดแน่นอยู่ในหัวจนแทบจะระเบิด จนเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นว่า ผมไม่ควรบวช เพราะไม่ว่ายังไงชีวิตผมก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงและดีขึ้นได้

“มันจะผ่านไป มึงจะผ่านมันไปได้”

“ผมจะทำได้ใช่ไหมพี่”

“มึงทำได้แน่ๆ กูมั่นใจ และในเมื่อกูยังมั่นใจ มึงก็ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง”

ใช่แล้ว ถ้าพี่ปราบยังคงเชื่อในตัวผม แล้วยังจะมีอะไรต้องกลัว

ตลอดทั้งคืนพี่ปราบคอยอยู่เป็นเพื่อนผมผ่านทางสายโทรศัพท์ ไม่ปล่อยให้ผมคิดมากและฟุ้งซ่านไปคนเดียว ความจริงพี่ปราบก็ไม่ใช่คนพูดเก่ง แต่เมื่อคืนพี่ปราบสรรหาเรื่องมาเล่าให้ผมฟัง ตั้งแต่ที่ป๊าพี่ปราบบ่นโวยวายใหญ่ที่ตัวเองมาป่วย แต่ถึงจะป่วยก็ยังต้องดูแลพี่ริชไปด้วย เพราะพี่ริชป่วยหนักกว่า ส่วนพี่เค้กก็ดูแลคนป่วยสองคนไปด้วย ทำงานบ้านหนักขึ้นจนเกือบทำให้ป่วยไปอีกคน และคนที่ได้รับบ่นหนักที่สุดก็เป็นพี่ปราบกับพ่อทราฟ ที่วิ่งหน้าวิ่งหลังวุ่นไปหมด

ในที่สุดผมก็เผลอหลับไปในขณะที่พี่ปราบยังคงพูดอยู่  ในยินแว่วว่าพี่ปราบบอกฝันดี แต่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจริงหรือความฝัน แต่ถึงจะเป็นความฝันมันก็เป็นเรื่องราวดีๆ





สิ่งที่ผมไม่เคยจินตนาการว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้มาก่อน นั้นคือวันที่ผมอยู่ในชุดผ้าเหลือง ยืนมองญาติโยมหน้าโบสถ์ด้วยความสำรวม เหมือนผมคนเก่าได้ออกจากร่างไป แล้วผมคนใหม่ก็มาอยู่ในร่างๆนี้ ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือไม่ แต่ผมรู้สึกว่าโลกที่อยู่เบื้องหน้าผมในตอนนี้ สว่างและชัดเจนมากกว่าที่เคย

ผมมองเห็นแม่ พ่อ พี่แนนและแฟนใหม่ของเขา ยายฝน พี่จี้ มิว น้าตั้ม รวมไปถึงพี่ปราบ เพื่อนๆ และคนอื่นๆอยู่เบื้องหน้า ทุกคนยืนอยู่เบื้องหน้า ผมยิ้มให้กับทุกคนก่อนจะเดินเข้าไปใกล้แม่ ให้แม่ได้ใส่ดอกบัวที่เตรียมมาลงในย่าม

หลังจากเสร็จสิ้นการฉลองพระใหม่ ผมก็ต้องไปรายงานตัวต่อเจ้าอาวาสและพระท่านอื่นๆในวัด ท่านก็สอนและชี้แนะวิถีทางและการวางตัวของพระ ทั้งยังแนะนำว่าช่วงบวชใหม่นี้ หากไม่มีกิจจำเป็นอย่าออกมาเดินเพ่นพ่านในตอนกลางคืน ท่านว่าจะมีสิ่งบางอย่างมากวนหรือทดลองใจในช่วงที่เรียกว่าบุญกำลังแรง และแน่นอนว่าคนที่กลัวผีอย่างผมจึงเชื่อฟังข้อนี้เป็นพิเศษ

ช่วงแรกๆของการเป็นพระค่อนข้างลำบากสำหรับผม ทั้งการต้องตื่นแต่เช้า กฎระเบียบเคร่งครัด จะนั่งจะเดินอะไรก็ต้องสำรวมไม่งั้นจะถูกหลวงพ่อดุ ยากกว่าอะไรที่เคยทำมาในชีวิตก็คือการต้องนั่งสมาธิ แรกๆผมนั่งไม่ได้เลย ฟุ้งซ่านคิดนู่นคิดนี่วุ่นวายไปหมด แต่หลังๆก็พอจะอยู่นิ่งได้บ้าง สิ่งที่ทรมานอีกอย่างก็คือการงดสูบบุหรี่ หลายครั้งที่เกือบลงแดงตาย (อาจดูเวอร์ แต่อาการค่อนข้างใกล้เคียง)

จากที่เคยใช้ชีวิตตามใจตัวเอง จะเรียนไม่เรียน จะตื่นจะนอนกี่โมง หิวเวลาไหนก็กิน อยากเมาเวลาไหนก็เมา ไม่สนใจใคร มาตอนนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรอบ ก็ทำให้ผมเกือบถอดใจอยู่หลายรอบ แต่คนๆเดิมคนเดียวที่คอยให้กำลังใจให้ผมสู้ต่อไปได้ก็คือโยมพี่ปราบ

ในทุกวันพระ โยมพี่ปราบจะมาใส่บาตรและมานั่งพูดคุยกับผมเสมอไม่เคยขาด โยมพี่ปราบยังเป็นโยมพี่ที่ดี

เมื่อวันเวลาผ่านไปเข้าเดือนที่ห้าของการบวชเป็นพระ อะไรที่ไม่เคยชิน อะไรที่เคยกลายเป็นเรื่องยาก ก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอีกต่อไป

สำหรับวันแม่ในปีนี้ ผมก็ได้รับมอบหมายให้ขึ้นเทศน์เนื่องในวันแม่ และตรงกับวันพระพอดี ดังนั้นญาติโยมก็จะมาทำบุญตักบาตร และฟังเทศน์ฟังธรรมในวัด

ก่อนจะถึงวันนั้น ผมไปเดินบิณฑบาตที่บ้าน และได้บอกให้โยมแม่มาร่วมงาน รวมไปถึงฝากไปบอกโยมพี่แนนด้วย

เมื่อถึงวันแม่ที่ผมต้องขึ้นให้ธรรมเทศนาโยมแม่กับโยมพ่อก็มาใส่บาตร เมื่อได้เวลาอันสมควรผมถึงเริ่มกล่าวแสดงธรรมเนื่องในวันแม่ ขณะที่กล่าวไปผมก็เห็นโยมพี่ปราบและครอบครัวค่อยๆคลานเข่าเข้ามาร่วมฟังด้วย สีหน้าของทุกคนต่างเบิกบานใจ ผมพูดพร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ จนกระทั่งเทศน์จบผมก็ยังไม่เห็นโยมพี่แนน นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้มาร่วมการขึ้นแสดงธรรมเทศนาของผมในวันนี้

ผมจึงได้แต่ก้มหน้าแล้วยิ้มให้ตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าโยมพี่แนนจะไม่มา แต่ว่าก็ยังมีคนที่รักและหวังดีกับผมมาร่วมงานในวันนี้ แล้วผมยังจะต้องหวังให้มากมายไปมากกว่านี้ทำไม

จบพิธีการต่างๆในช่วงเช้าแล้ว ผมก็กลับมาที่กุฏิ ก็เจอกับโยมพี่ปราบและครอบครัว ส่วนโยมพ่อโยมแม่กลับไปตั้งแต่ที่ฟังเทศน์จบแล้ว ก็คงจะรีบกลับไปทำงานตามเดิม เพราะถ้าโยมพ่อโยมแม่ไม่เป็นคนเริ่มงาน คนอื่นๆในบ้านก็จะยังไม่ทำอะไร

ครอบครับของโยมพี่ปราบนำอาหารคาวหวานที่ทำเอง รวมไปถึงชุดสังฆทานมาทำบุญต่างหาก ผมก็รับของพร้อมกล่าวบทสวดและบทกรดน้ำจนเสร็จสรรพ

“อาหารนี่โยมพี่ตั้งใจทำมาเลย เพราะเห็นปราบบอกว่าหลวงพี่ชอบ” โยมพี่เค้กบอก

“ขอบคุณโยมพี่มากๆเลย” ผมพูดแล้วยิ้ม ผมไม่ใช่คนคุยเก่ง มาอยู่ต่อหน้ากันแบบนี้ ผมก็ไม่รู้จะคุยอะไร”

“หลวงพี่ยังขาดเหลืออะไรไหม ผมจะได้นำมาถวาย” พี่ปราบถาม

“ไม่เป็นไรโยมพี่ อาตมาไม่ได้ขาดอะไร” ผมบอก การแทนตัวเองว่าอาตมา แรกๆผมก็ไม่ชิน แทนตัวเองว่าผม แต่หลวงพ่อบอกว่าควรต้องเรียกแทนตัวเองว่าอาตมาให้ติดปาก จะได้ถือว่ากระทำตามประเพณีอย่างถูกต้อง

“หลวงพี่บวชมาได้กี่เดือนแล้วครับ” โยมพ่อของพี่ปราบถาม

“เดือนนี้เดือนที่ห้า” ผมตอบ

“นานเหมือนกัน นานกว่าตอนผมบวชอีก” โยมป๊าพูดพลางทำท่านึกถึงอดีตไปด้วย

“จริงเหรอพี่คราม พี่เคยบวชด้วยเหรอ ทำไมริชไม่รู้”

“ไอ้ครามมันบวชได้อาทิตย์เดียวเอง มันเป็นคนบ้างานไง อยู่วัดไม่ได้กลัวเงินทองจะหายถ้าไม่ได้ทำงานเอง”

“มึงก็บวชมากกว่ากูแค่แปบเดียวเถอะไอ้ทราฟ ทำมาเป็นพูด”

ผมนั่งยิ้มมองดูความอบอุ่นของคนในครอบครัวนี้ กว่าครึ่งชั่วโมงที่ครอบครัวของโยมพี่ปราบมานั่งพูดคุยกับผม ก่อนจะขอตัวกลับไปทำงานทำหน้าที่ของตัวเอง ผมเองก็มีหน้าที่ที่ต้องทำเช่นกัน เป็นหน้าที่ที่ต้องทำให้ดีที่สุดในขณะที่ยังครองผ้าเหลือง

จากคำปรามาสของใครต่อใครในวันนั้น วันนี้ผมได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า ผมไม่ใช่คนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ หกเดือนแล้วที่ผมได้บวชเป็นพระ ได้อยู่ในผ้าเหลืองด้วยความสงบสุขมาครึ่งปี และตอนนี้ผมพร้อมที่จะออกไปใช้ชีวิตปกติอย่างมีสติมากขึ้น

ผมหวังเอาไว้ว่า ชีวิตของผมหลังจากนี้ จะได้พบสิ่งดีๆกับใครเขาสักที

“ไปลาหลวงพ่อมาแล้วเหรอ”

“ครับพี่ปราบ ขอบคุณครับพี่ที่มารับผม”

“ไม่เป็นไร กูเต็มใจ”

และยังคงเป็นพี่ปราบคนเดิม ที่มารับผมออกจากวัดในวันที่ผมสึกจากการเป็นพระ

“จะกลับบ้านเลยไหม” พี่ปราบถามหลังจากที่ขึ้นมาบนรถ

“ผมอยากไปที่โรงเรียน ไปติดต่อเรื่องกลับไปเรียนต่ออ่ะ พี่ปราบพาผมไปได้ป่ะ”

“อืม ได้ เดี๋ยวกูพาไป”

เรื่องเรียนต่อผมคิดไว้ตั้งแต่ตอนยังบวชแล้ว ผมอยากรีบเรียนให้จบๆ จะได้ออกมาหางานทำ แล้วใช้ชีวิตอยู่เอง ผมคิดเอาไว้แล้วว่า หลังจากนี้ผมจะต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้แล้ว จะไม่ยอมเป็นภาระของครอบครัวอีกต่อไป





………………………………………
สวัสดีค่ะ
มีคนแวะไปขอให้มาลงต่อ วันนี้เลยมาลงต่อให้นะคะ
หากเนื้อหาส่วนไหนผิดพลาด ข้อมูลไม่ถูกต้อง ก็แนะนำติชมด้วยนะคะ ริริเป็นผู้หญิง ไม่เคยบวช และจำไม่ได้แล้วว่าตอนที่ลูกพี่ลูกน้องตัวเองบวชนั้นทำอะไรบ้าง แต่ก็ถามข้อมูลมาจากผู้ใหญ่เอา ได้มาประมาณนี้นะคะ
ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักที่ยังแวะเวียนมาบอกว่าคิดถึงพี่ปราบน้องซ่า จะรีบมาลงตอนหน้าให้ได้อ่านกันนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ :กอด1:
 
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-12-2017 20:18:55
ขอให้ซ่าเป็นคนใหม่ มีสติในการใช้ชีวิตให้มากขึ้น
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-12-2017 20:26:19
ซ่าพยายามเป็นผู้เป็นคนดิ้นรนจากการปรามาสของครอบครัวนะเนี่ย ดีแล้ว เริ่มต้าชีวิตใหม่ ^^
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-12-2017 20:37:43
ติดตามอ่านจนกว่าเรื่องจะจบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-12-2017 21:10:03
ดีใจ ไรท์มา คิดถึงมากกกกกกกกก  :mew1: :mew1: :mew1:

แนน เป็นแม่ที่แย่มาก  :fire: :fire: :fire:
ทำตัวไม่สมกับเป็นแม่ตลอด
เลี้ยงก็ไม่ได้เลี้ยง ดูแลรึก็เปล่า
มีแต่ยายที่เลี้ยง ไม่เคยชมลูก ให้กำลังใจลูก
แต่ยังกล้าด่าลูก แปลกประหลาด ประสาทมาก ไม่เคยมองตัวเอง

ซ่า แข็งนอก อ่อนใน คิดมากกับแม่ที่ทำตัวแย่ๆ
ตัดใจ เรื่องน้อยใจ เรื่องด่าว่าของแม่ ทำตัวห่างๆไปเลย
ไม่ต้องข้องแวะกับแม่ที่ไม่รักลูก หาแต่ผู้ชาย
สึกออกมาตั้งใจเรียน จะได้จบมามีงานทำ
ทำใจ ทำตัวให้เข้มแข็ง เพื่อชีวิตที่ดีของตัวเองดีกว่า
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:         
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 03-12-2017 23:06:16
ซ่ามาไกลมากกกกกก แต่พี่ปราบก็ยังคงอยู่ข้างๆ อยากเห็นพัฒนาการของคู่นี้มากเลยเด้อ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 03-12-2017 23:48:12
ต้องขอบคุณคนไปทวงมากค่ะ 55555

พี่ปราบงานดี อยู่ในเวลาที่ต้องการ ไม่ห่างหายไปไหน มาได้ถูกจังหวะบ่อยๆ
ทำให้ซ่าเข้มแข็งได้เยอะ

ซ่าก็อดทนนะ สู้มาขนาดนี้ อย่ายอมแพ้ง่ายๆ ยังไงก็มีพี่ปราบ
แล้วใช้ชีวิตให้สมกับที่สร้างสติมา ถึงความจริงจะโหดร้ายและแย่แค่ไหนก็ตาม

ปราบจะพาซ่าไปอยู่ด้วยไหมนะ แบบพาไปเลยน่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-12-2017 00:14:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-12-2017 00:39:06
เจ็บมากไหมซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 04-12-2017 06:49:57
แนนเป็นแม่ที่ไม่สมกับการเป็นแม่ ปากนี่เหมือนผีเจาะมาพูด ก็สมควรแล้วที่ซ่าเรียกแค่พี่  แต่นางคงชอบจะได้หลอกผู้ได้

ซ่าจากนี้คงได้พบเจอกับสิ่งที่ดีๆ แล้วนะ โดยมีพี่ปราบอยู่เคียงข้าง หวังว่าจะรู้ใจตัวเองเร็วๆ มีสิ่งมีค่าไว้ในมืออย่าทำหลุดเชียว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 04-12-2017 09:21:46
ดีใจที่มาอัพต่อจ้ะ คิดถึงมาก :mew1:ซ่าขอให้ใช้สติให้มากน่ะ มีพี่ปราบเสมอน้า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 04-12-2017 19:02:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 04-12-2017 20:02:24
ชีวิตของน้องซ่า ต้องดีขึ้นแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่19:: 3/12/2017 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 04-12-2017 22:07:50
หวังว่าบวชแล้วอะไรๆมันจะดีขึ้นนะ อย่างน้อยคงมีสติขึ้น รุ้จักปลงอะไรไม่เป็นอย่างใจคงปล่อยวางได้บ้าง
ขอให้ชีวิตจากนี้มีแต่เรื่องดีๆๆเถอะนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 04-12-2017 22:15:08
ปราบซ่า
ตอนที่20

[ซ่า]
หลังจากผมสึกจากการเป็นพระ กลับมาเป็นมนุษย์ธรรมดาเดินดินคนหนึ่งแล้ว ผมก็กลับมาเรียนต่อ และยังคงเลือกที่จะอยู่หอพักแทนที่จะกลับไปอยู่บ้าน

การได้บวชเป็นพระ ไม่ได้ทำให้ผมละทางโลก หรือตัดสิ้นซึ่งกิเลสไปได้หมด ก็แค่ผมได้มีช่วงเวลาที่สงบสุขช่วงหนึ่งในชีวิต เป็นช่วงเวลาที่ผมไม่ทุกข์กับสิ่งรอบตัว ดังนั้นแล้ว เมื่อผมกลับมาเป็นไอ้ซ่าคนเดิมที่ไม่ได้อยู่ในผ้าเหลือง ผมก็ยังคงเป็นไอ้ซ่าคนเดิม ที่อาจจะมีสมองมากขึ้น มีความคิดมากขึ้น ที่จะทำให้ชีวิตตัวเองมันดีกว่าที่เคยเป็น

ผมบอกกับแม่ตั้งแต่วันแรกแล้วว่า ผมจะขอย้ายออกไปอยู่เอง ผมจะกลับไปเรียนแล้วตั้งใจทำงานที่ร้านอาหาร เงินเดือนครึ่งหนึ่งผมจะแบ่งให้พ่อกับแม่ใช้ แต่แลกกับการที่ผมจะไม่ได้กลับมาบ้านบ่อยๆ ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไม่ได้เห็นด้วย เพราะถ้าผมไม่อยู่บ้าน ก็จะไม่มีคนช่วยงาน แต่ดีที่ยายฝนช่วยพูด และบอกว่าที่บ้านก็มีคนเยอะแยะ แต่ไม่ทำงานกัน ถ้าผมไม่อยู่ ยังไงทุกคนก็จะต้องทำงานเองเพราะไม่มีทางเลือก

ที่อยู่ใหม่ของผมไม่ใช่หอพักธรรมดาๆ แต่เป็นคอนโดห้องหนึ่งที่ดูดีมากเกินไปสำหรับผม แต่ในสายตาพี่ปราบมันไม่ใช่อะไรที่สวยหรูขนาดนั้น

“กูว่ามันก็ไม่ต่างจากห้องพักธรรมดาหรอก แต่มันใกล้โรงเรียนมึง และก็พอจะแบ่งเป็นสัดส่วน แต่ที่ดีคือมันมีรปภ.อยู่เฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะฉะนั้นกูว่าที่นี่โอเค กูยอมรับได้”

จะไม่ยอมรับได้ได้ยังไง ในเมื่อพี่ปราบเป็นคนหาคอนโดนี้ และตัดสินใจเอาเองทุกอย่าง

“แต่ผมว่ามันมากเกินไป เอาแค่หอพักเช่ารายเดือนธรรมดาก็พอ ผมยังต้องหาเงินใช้เองนะ”

ถึงผมจะชอบคอนโดนี้ และคิดว่าถ้าได้อยู่คงสบายดี แต่มันก็เกินตัวผมไปหน่อย ผมน่ะอยู่ยังไงก็ได้ แต่ขอให้มีเงินเหลือกินข้าว และห้องพักเล็กๆไว้ซุกหัวนอนก็พอ

“ซ่า” พี่ปราบหันมาทางผมอย่างจริงจัง สายตาที่แน่วแน่สื่อให้ผมรู้ว่าเขาตัดสินใจดีแล้ว “กูจะไม่ถกเถียงเรื่องนี้กับมึง และกูตัดสินใจแล้ว กูจะซื้อคอนโดนี้ แล้วปล่อยให้มึงเช่า กูคิดเดือนละสามพัน โอเคไหม”

ผมได้แต่ฟังแล้วพูดอะไรไม่ออกอยู่สักพัก ก่อนจะมองไปรอบๆห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายไว้อยู่แล้ว โทนห้องเป็นสีเทาน้ำเงิน ก็ดูแมนๆดี

“ถ้าผมไม่เอาอ่ะ” ผมเหลือบตามองพี่ปราบ กระดิกเท้าทำหน้ากวนตีนใส่ เขาทำหน้าหงิกทันที

“กูบังคับ”

“งั้นผมอยู่ก็ได้ สามพันนะ ห้ามขึ้นราคาทีหลัง ไม่จ่ายเงินค่ามัดจำด้วย ตอนออกก็ห้ามหักเงินเด็ดขาด โอเคไหมครับ” ผมกอดอกคำนวณส่วนได้ส่วนเสียของตัวเอง ข้อเสนอนี้แน่นอนว่าผมมีแต่ได้กับได้ แต่ผมไม่คิดว่าพี่ปราบจะตกลงหรอก ผมไม่อยากเอาเปรียบเขาว่ะ

“เออ กูไม่เปลี่ยนใจ ไม่ขึ้นเงิน แถมค่าน้ำค่าไฟให้ด้วย ไม่ต้องจ่าย”

แต่ผิดคาด ผมคิดผิด

“ห๊ะ บ้าหรอพี่ ไม่สบายเปล่าวะ” ผมเดินเข้าไปจับหน้าผากลูบแก้มพี่ปราบใกล้ๆ แต่พี่ปราบปัดมือผมกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วยกมือลูบแก้มผมตอบ

“กูสบายดี”

ตกลงกันได้ พี่ปราบก็ไปทำเรื่องติดต่อซื้อคอนโดห้องนี้ ทุกอย่างดูง่ายเพียงปลายนิ้ว คนมีเงินมันดีจริงๆ อยากทำอะไรอยากได้อะไรก็ไม่ต้องคิดให้มากความ แต่ผมรู้ว่าเบื้องหลังความร่ำรวยแบบพี่ปราบได้มันก็ไม่ง่าย ดูได้จากเวลาที่เขามาบ่นเรื่องงานให้ผมฟัง

ก่อนเปิดเทอม ผมยังมีเวลาอีกเกือบสองเดือน เลยขออาเจทำงานที่ร้านอาหารแบบเต็มอัตรา ผมขอทำทุกวันแบบไม่มีวันหยุด แต่ทั้งพี่ปราบและอาเจแย้ง ผมเลยได้หยุดวันอาทิตย์หนึ่งวัน

พี่ปราบก็แวะมาหาผมที่ร้านช่วงค่ำบ่อยแต่ไม่ทุกวัน บางวันที่ไม่มีงานแต่เช้า พี่ปราบก็จะมานอนที่ห้องผม ทีแรกผมก็แปลกใจว่าเขาเปลี่ยนไซส์เตียงนอนเป็นกว้างใหญ่เต็มพื้นที่ทำไม แต่ทุกวันนี้รู้แล้วว่าเพราะอะไร เพราะว่าเตียงห้าฟุตมันจุผู้ชายตัวใหญ่สองคนไม่ได้ยังไงล่ะ

“ได้เวลาแล้ว ยังไม่ไปอาบน้ำแต่งตัวหรือไงซ่า” พี่ปราบเงยหน้าขึ้นจากสิ่งที่กำลังทำอยู่มองนาฬิกาแขวนผนังเรือนใหญ่

“พี่ปราบ ขี้เกียจไปทำงานว่ะ” ผมนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง รอเวลาไปทำงาน ส่วนพี่ปราบที่วันนี้ไม่ได้ออกไปไหน อยู่ที่ห้องผมตั้งแต่เมื่อคืนกำลังนั่งอ่านเอกสารในไอแพด

“งั้นลาหยุดไหมละ วันนี้กูอยากดูหนังด้วย”

“ลาได้ไงเล่า” ถึงผมจะขี้เกียจ แต่ก็ใช่ว่านึกจะไม่อยากไปทำงานแล้วจะไม่ไปได้ตามใจ คนในร้านถึงจะดีกับผม แต่ก็ชอบพูดกันว่าผมเด็กเส้น แม่งโคตรไม่ชอบเลย ถึงจะเด็กเส้นพี่ปราบฝากงานให้ก็จริง แต่ก็ผมทำงานจริงๆเหมือนกัน ไม่เคยอู้งานเลยสักครั้ง

“มึงทำงานมาเดือนกว่าแล้วไม่ได้ลาหยุดเลยสักครั้ง”

ผมเงียบ เพราะไม่เข้าใจว่าพี่ปราบหมายความว่ายังไง เขากดโทรศัพท์โทรหาใครสักคน จนกระทั่งพี่ปราบเรียกชื่อคนๆนั้นที่รับสาย

“อาเจ วันนี้ผมโทรมาลางานให้ซ่าวันนึงนะ”

“เฮ้ย! พี่ปราบ ผมไม่ลานะ”

ผมกระโจนเข้าใส่พี่ปราบทันที กะว่าจะแย่งโทรศัพท์ แต่พี่ปราบเบี่ยงตัวหนี ร่างของผมเลยเกยอยู่บนตักพี่ปราบแทน และตอนที่จะลุกขึ้น พี่ปราบก็ใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวล็อกช่วงเอวของผมไว้ จะลุกขึ้นก็ลุกไม่ได้ ต้องเป็นเพราะเขาสอนต่อสู้แน่ๆ ขาถึงได้มีกำลังรัดคนตายได้

 “ได้ๆครับ เดี๋ยวผมซื้อมาฝาก งั้นแค่นี้นะครับ อาอย่าลืมแวะไปหาป๊ากับพ่อที่บ้านด้วยนะ ครับ สวัสดีครับ”

“พี่ปราบ จะโทรลางานให้ผมทำไมเนี่ย วู้ว”

อย่าหาว่าผมขยันเลย แต่ถ้าลางานกะทันหันโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า และไม่มีอะไรสำคัญ จะถูกหักเงินห้าร้อยบาท และผมยังไม่อยากเสียเงินห้าร้อยบาทไป

“พักบ้างดิ อีกสองวันกูต้องไปดูงานที่เขาใหญ่ ถึงตอนนั้นหนังที่กูอยากดูก็ออกพอดี”

“พี่ก็ไปดูกับเพื่อนพี่ดิ ผมจะไปทำงาน ลาแบบนี้ผมโดนหักเงินนะเว้ยพี่”

“ห้าร้อยบาท มากูจ่ายให้” พี่ปราบเอื้อมหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วควักแบงก์ห้าร้อยส่งให้ผม ผมมองเงินในมือพี่ปราบอย่างไม่ชอบใจ

“พี่จะเอาเงินฟาดหัวผมเหรอไง” เสียงผมนิ่งมาก และหน้าผมไม่มีแววตลก ผมจริงจัง ถึงผมจะจน แต่ผมก็ไม่คิดจะเอาเปรียบใคร โดยเฉพาะคนที่ดีกับผม

“กูไม่ได้คิดอย่างนั้น” จากที่เล่นๆ พี่ปราบเริ่มรู้สึกรน ดูได้จากสีหน้าที่หลุดกรอบของเขา

“พี่กำลังทำอะไรอยู่ ผมโคตรไม่เข้าใจพี่เลย” ผมไม่อยากจะคิดว่ามันจะเป็นแบบที่ไอ้หวายกับที่ไอ้ตูนว่า เพราะพี่ปราบก็ไม่ได้มีท่าทีล่วงเกิน หรือมีท่าทีจีบผม แต่ที่เขาทำให้ผม ผมว่ามันมากเกินกว่าที่คนรู้จักจะทำให้กัน

“เฮ้อ เอาเถอะ มึงไปอาบน้ำป่ะ เดี๋ยวกูไปส่งที่ร้าน”

พี่ปราบถอนหายใจแล้วตัดบทง่ายๆ กลับไปนั่งไขว่ห้างหยิบไอแพดขึ้นมาดูอีกครั้ง ผมคิดว่าเรายังคุยไม่รู้เรื่อง แต่พี่ปราบเข้าโหมดห้ามกวนอีกครั้ง ผมก็เลยไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน

คนที่มาส่งผมที่ร้านอาเจก็พี่ปราบนั่นแหละ ผมโทรหาอาเจตั้งแต่อยู่ที่คอนโดแล้วว่าผมไม่ลางาน อาเจดูจะงงๆแต่ก็ตอบรับว่ารู้เรื่อง

พอมาถึงที่ร้านอาหาร พี่ปราบก็เดินตามผมเข้ามา แต่แยกไปหาอาเจ ส่วนผมก็แยกไปทำงานที่ตัวเองต้องทำ เวลาผ่านไปจนถึงหนึ่งทุ่มโดยที่ผมไม่รู้ตัว พี่ปราบกับอาเจกลับไปตั้งแต่ตอนที่มาส่งผมได้ไม่นาน เห็นว่าที่บ้านนัดรวมพลญาติพี่น้องอะไรสักอย่าง

นอกจากทำงานแล้ว ผมก็ยังอ่านหนังสือเรียนล่วงหน้าเผื่อไว้ด้วย อย่าเพิ่งตกใจแล้วเข้าใจผิดว่าผมคิดจะทำเอง ซ่าคนเดิมไม่ได้หายไปไหน และมันไม่หายไปง่ายๆ ถ้าพี่ปราบไม่ออกคำสั่ง ผมก็ไม่คิดจะทำ เพราะอย่างมากที่ผมจะทำได้ก็คือความตั้งใจที่จะกลับไปเรียนให้จบๆวุฒิการศึกษาระดับปวช.เท่านั้น

ถึงแม้ว่าอ่านไปแล้ววันนี้ พรุ่งนี้ก็ลืม แต่พี่ปราบบอกว่า ถ้าผมได้กลับไปเรียนในเนื้อหาที่ผมได้อ่าน และทำความเข้าใจไปบ้างแล้วจากคำอธิบายของพี่ปราบ เนื้อหาที่ลืมๆก็จะกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง

สารภาพเลยว่า ผมแทบจำไม่ได้แล้วว่าระเบียบวินัยที่มีตอนที่บวชเป็นยังไง สุดท้ายแล้วผมก็ยังเป็นผม อาจมีสติมากขึ้นนิดหน่อย นิดหน่อยจริงๆ เข้าใจโลกมากขึ้น ว่าบ้างอย่างเราให้มันเป็นดั่งใจไม่ได้ ก็ต้องช่างมัน จะพูดว่าปล่อยวางผมก็ทำไม่ได้ถึงขนาดนั้น ถ้าหากเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นในชีวิต ก็แค่พูดว่าช่างมันแล้วปล่อยให้มันเป็นไป

เพราะผมเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่สามารถเปลี่ยนโชคชะตาได้ ก็ได้แต่รอดูว่านับจากนี้โชคชะตาจะเล่นสนุกอย่างไรบ้างกับชีวิตของผม





คืนวันเสาร์ที่ผมเลิกงานตอนตีหนึ่ง กูถูกไอ้หวายมาตามถึงร้านอาเจ ลากผมไปนั่งกินเหล้าที่ร้านเฮียบีทซึ่งก็คือร้านเรื่องเหล้า แม้จะงงๆ แต่เหล้าฟรีมีหรือที่คนอย่างผมจะไม่สนใจ

ผมไปถึงร้านเฮียบีทก็เกือบตีสองแล้ว ไม่มีคนอื่นในร้านเพราะได้ปิดร้านเป็นที่เรียบร้อย ป่านนี้แล้วถ้ายังไม่ปิดมีหวังโดนพ่อมาร่วมพูดคุยถึงในร้าน

“เฮียบีท เฮียกี่สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ทั้งสอง “วันนี้เฮียธีร์ไม่มาเหรอพี่” ผมถามเพราะไม่เห็นแก ส่วนพี่ปราบไม่อยู่ที่นี่อยู่แล้ว เพราะตอนนี้แกอยู่ดูงานที่เขาใหญ่ เห็นว่าต้องปรับปรุงรีสอร์ทกันยกใหญ่ แถมแบบก็ไม่ตรงใจเลยอยู่ยาวกว่าที่คิด

“ไม่มา ไม่รู้ติดแม่หรือติดเมีย” เฮียบีทบอก ไอ้นุ๊กที่มาถึงก่อนจัดแจงที่นั่งให้ผม ไอ้ตูนกับไอ้กานหยิบแก้วเหล้าและถังน้ำแข็งออกมาวาง ไอ้หวายวิ่งออกมาจากเคาน์เตอร์หิ้วเหล้ามาสองขวดเต็มๆ

“หยิบขวดนั้นมามึงจ่ายเองนะไอ้หวาย ไอ้ห่าล่อซะของแพงเลย”

“โหยเฮียบีท ขี้งกว่ะ ผมจะกิน แต่ผมไม่จ่ายหรอก”

“ไอ้กี่ งั้นมึงจ่ายแทนมัน”

“เกี่ยวอะไรกับกู” ไอ้กี่ส่ายหน้า “มึงเอาไปเก็บไอ้หวาย กินของถูกๆก็พอ”

“ไหนพี่กี่สัญญาแล้วไง ว่าวันนี้พามากินเหล้าจะให้กินอะไรก็ได้อ่ะ โคตรขี้โกหกเลย” จากนั้นไอ้หวายก็บ่นใหญ่โต พวกผมได้แต่มองมันแล้วส่ายหัวขำๆ ไอ้ห่านี่แม่งขี้บ่น แต่ไม่มีใครใส่ใจจะโมโหมันหรอก สุดท้ายเฮียกี่ก็ยอมจ่ายค่าเหล้าให้มัน พวกผมที่นั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวก็พลอยลาภปากไปด้วย ไอ้กานกับไอ้หวายมีการแท็คมือกันลับหลัง ที่ไอ้หวายเอาเหล้าแพงมากินได้สำเร็จ

“เป็นไงบ้างวะซ่า ไปบวชมา” เฮียกี่ถาม ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าผมชื่อเล่นชื่อซ่า ไอ้เพื่อนผมรู้ตั้งแต่วันที่ผมบวชแล้วและเวลามันไปใส่บาตรกับครอบครัวที่วัด ก็มาถามชื่อเล่นผมอีก ผมที่อยู่ในผ้าเหลืองจะโกหกก็ไม่ได้ เลยต้องบอกความจริงพวกมันไป และพวกมันก็คงจะมาบอกพวกพี่ๆเขานั่นแหละ แต่ผมก็ไม่ได้อะไรกับชื่อเล่นหรอก ตอนเด็กๆแค่รู้สึกว่าชื่อซ่ามันไม่เท่แค่นั้นเอง

“ก็ดีพี่ สบายใจดี”

“ตอนนี้มึงเป็นรุ่นน้องกูแล้วนะไอ้ซ่า เสียดายวะ มึงเลยไม่ได้เรียนปวส.พร้อมพวกกูเลย” ไอ้นุ๊กทำหน้าเสียดาย

“มึงไม่ต้องเสียดายหรอกไอ้นุ๊ก ถ้ามันไม่บวช มันอาจจะตายคาตีนคู่อริแล้วไม่ได้กลับมาเรียนอีกเลยก็ได้” ไอ้ตูนเป็นคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องบาปเรื่องเคราะห์กรรม ไอ้นี่ถ้าไปที่บ้านผม ชอบไปคุยเรื่องธรรมะกับยายฝน มันรู้เรื่องพวกศาสนาดีนะ แต่ไม่ค่อยจะปฏิบัติตาม

“ก็จริง งั้นมึงก็ตามพวกกูมาให้ทันก็แล้วกัน” ไอ้หวายตบบ่าผมแปะๆ ตาเริ่มเยิ้มเพราะมันยกแก้วไม่หยุด

“หึหึ เอาไว้มึงขึ้นปวส.ปีแรก กูจะรับน้องมึงให้อ่วมเลยไอ้ซ่า ต้องจัดหนักๆ เตรียมตัวไว้ดีๆนะน้องนะ” ไอ้กานแสยะยิ้มชั่วร้าย ไอ้หวายกับไอ้นุ๊กหันไปพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้กาน

“กวนตีน กูไม่ต่อปวส.แม่ง กูจะไปต่อมหาวิทยาลัยโว้ย” ผมเชิดหน้ายักคิ้วใส่พวกมัน พอได้ยินว่าผมจะต่อมหาวิทยาลัยพวกมันก็ร้องโห่ใส่ผมทันที ไม่เชื่อว่าผมจะเรียนมหาวิทยาลัยได้

คืนนั้นพวกผมเมากับยิ่งกว่าหมา เกือบจะกลับคอนโดไม่ได้ แต่ก็ได้อานิสงค์จากเฮียบีทพาพวกผมทั้งห้าคนมาส่งที่คอนโดผมได้สำเร็จ ผมไม่มีสติจะบอกทางหรอก คนที่บอกทางกลับมาที่คอนโดผมเป็นพี่ปราบ ตอนที่ผมกำลังเมาได้ที่ พี่ปราบก็โทรมาหาผม แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง เฮียบีทเลยเอาโทรศัพท์ผมไปคุยแทน จากนั้นก็ยุติการกินเหล้าเดี๋ยวนั้น พร้อมเอาพวกผมมาโยนไว้ที่ข้างล่างคอนโด ปล่อยให้พวกผมคลานขึ้นห้องกันเอง ก็นับว่าพี่เขาใจดีมากแล้ว พวกผมเลยยกมือถวายบังคมให้เฮียบีทก่อนกลับ

“กลับขึ้นห้องไปดีๆเลยพวกมึง ไอ้เหี้ยปราบมาเจอมึงในสภาพนี้กูนี่โดนด่ายับแน่”

เฮียบีทเขาบ่นอะไรไม่รู้ก่อนไป ผมไม่สนใจ ตอนนี้อยากกระโดดขึ้นเตียงนอนมากๆ เลยกอดคอไอ้พวกเพื่อนตัวดีขึ้นห้อง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาถึงห้องได้ยังไง รู้แต่ว่าหัวถึงหมอนผมก็หลับเป็นตาย

ตื่นอีกทีก็เกือบเที่ยงเพราะความหิว ผลักร่างไอ้กานกับไอ้หวายออกจากตัวได้ก็รีบลุกออกจากเตียง จนเผลอเหยียบไอ้นุ๊กที่นอนกอดผ้าห่มอีกผืนที่พี่ปราบใช้ประจำบนพื้น กวาดตามองก็เจอไอ้ตูนนอนตายอยู่บนโซฟา ซึ่งเป็นคนที่นอนสบายที่สุด เพราะโซฟาในห้องเป็นโซฟาตัวใหญ่ที่พี่ปราบสามารถนอนเอนได้ไม่อึดอัด

ผมล้างหน้าล้างตาอาบน้ำแบบลวกๆแต่คิดเองว่าสะอาดดีแล้ว ก็รีบออกมาเปิดหาอะไรกินในตู้เย็น ที่คิดว่าจะมีของกินกลับมีแต่ความว่างเปล่า หันซ้ายหันขวาไม่เจออะไร ผมก็เลยเดินไปหยิบเงินในลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงแล้วลงไปซื้อข้าวข้างล่างคอนโด

ผมสั่งของง่ายๆอย่างกระเพราไก่ไข่ดาวทั้งหมดห้ากล่อง ซื้อมาเผื่อให้พวกข้างบนด้วย เดี๋ยวค่อยไปเก็บเงินกับพวกมันทีหลัง

กลับขึ้นมาบนห้อง ไอ้ตูนกับไอ้นุ๊กก็ตื่นกันแล้ว เหลือแค่ไอ้สองคนบนเตียงที่ยังนอนกรนฟี่ๆไม่สนใจโลก

“มึงไปไหนมาวะ แล้วนี่ห้องมึงเหรอ” ไอ้นุ๊กขยี้ขี้ตาแล้วมองไปรอบๆห้อง

“เออ ห้องกู ลุกขึ้นไปล้างหน้าแล้วมาแดกข้าว”

ผมวางถุงข้าวไว้บนเคาน์เตอร์ครัว ลงมือแกะกล่องข้าวของตัวเองมานั่งกินที่โต๊ะกินข้าว ที่นั่งได้แค่สองคนเท่านั้น มือก็คว้ารีโมตโทรทัศน์กดหาอะไรดู

 “อืม หิวข้าว” เสียงไอ้หวายละเมอมาจากบนเตียง ไอ้ตูนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำเลยเดินไปปลุก

“ไอ้หวายไอ้กาน ตื่นได้แล้ว แดกข้าวเว้ย”

“หืม ข้าวๆ กูได้กลิ่นผัดกระเพรา แม่จ๋า ขอไข่ดาวด้วย” ไอ้กานสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็ร้องโวยวายหาแม่ ป่วนประสาทจริงๆไอ้พวกเหี้ยนี่

“จ่ายกูมาด้วย กล่องละสี่สิบ ใครไม่จ่ายไม่ต้องกิน” ผมตะโกนบอกพวกมัน ไอ้นุ๊กถึงกับสำลักข้าว

“มึงอย่ามาขี้งกได้ไหมไอ้พัช เลี้ยงข้าวเพื่อนแค่นี้ไม่ได้ไง มีเก็บงงเก็บเงิน” ไอ้กานที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำบ่น

“กูไม่เลี้ยงหรอกพวกมึงนะ เงินทองไม่ได้หาได้ง่ายๆนะไอ้สัด”

“แหมๆ ทำเป็นพูดนะมึง บอกกูมาซะดีๆว่ามึงอยู่กับเฮียปราบใช่ไหม” ไอ้หวายยืนเท้าเอวมองไปบนโต๊ะเครื่องแป้ง

ผมลืมไปเลยว่าในห้องผม นอกจากสิ่งของที่เป็นของผมแล้ว ก็ยังมีสมบัติของพี่ปราบกระจายอยู่ทั่วห้อง ตั้งแต่เสื้อผ้า น้ำหอม นาฬิกา รองเท้า และอื่นๆอีกหลายอย่าง

“นั่นแหน่ๆ เดี๋ยวนี้น้องพัชไวไฟนะเรา แอบออกมาอยู่กินกับผู้ชายสองต่อสอง” ไอ้กานทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย ยกนิ้วชี้สองนิ้วมาจิ้มเข้าหากัน ผมเลยคว้ากุญแจห้องที่อยู่ใกล้มือที่สุดปาใส่หัวมัน แต่ไอ้กานดันหลบได้

“อะไรยังไงวะ กูงง” ไอ้นุ๊กที่ดูจะไม่รู้เรื่องที่สุดพยายามมองคนนั้นทีมองคนนี้ทีเพื่อหาคำตอบ

“พวกมึงอย่าพูดมั่วซั่ว กูไม่ได้อยู่กับพี่ปราบ ห้องนี้พี่เขาหาให้ แต่กูจ่ายค่าเช่าด้วย” ผมไม่ชอบให้พวกมันพูดถึงพี่ปราบในแง่นั้น พี่ปราบเป็นคนดี แม้แต่การถูกนินทาก็ไม่ควรโดนคู่กับคนไม่ดีแบบผม

“แล้วทำไมมีของพี่ปราบอยู่ในห้อง อย่าปฏิเสธนะว่าไม่ใช่ กูจำนาฬิกาเรือนนี้ได้ของพี่ปราบ เสื้อผ้าในตู้ก็ของพี่ปราบ รองเท้าหน้าประตูอีก” ไอ้หวายเดินชี้ข้าวของที่เป็นของพี่ปราบจนทั่วห้อง ไอ้พวกที่เหลือก็ทำตาเหลือกตาโปนเดินไปดูตาม ก่อนจะมองผมด้วยแววตาล้อเลียน

“อุบ๊ะ เอาแหล่วๆๆๆๆ น้องซ่ากูจะออกเรือนแล้วนะเนี่ย มีคนมาดามใจให้แล้ว ได้ดิบได้ดีแล้ว อย่าลืมกูนะน้องซ่า ตายแล้วๆ น้ำตากูจะไหลด้วยความดีใจ” ไอ้กานเล่นใหญ่กว่าใครเพื่อน ทำเป็นเดินมากอดผม แล้วบีบน้ำตา ผมหมั่นไส้เลยถีบขามันเข้าให้

“คราวนี้แม่งเล่นของใหญ่ด้วย เพื่อนกูแม่งเจ๋งโคตร” ไอ้นุ๊กก็มาชูนิ้วโป้งใส่

“กูว่ามึงปฏิเสธยากแล้ววะไอ้ซ่า” ไอ้ตูนขยิบตาเจ้าชู้ใส่ผม

“เออ สรุปยังไงกันแน่วะ พวกกูรับได้นะ มึงอย่าคิดมาก เฮียปราบเป็นคนดี ถ้ามึงกับเฮียรักกัน กูก็ยินดี” ไอ้หวายที่ดูจริงจังกับเรื่องนี้มากที่สุด มากเกินไปจนผมสงสัย

“ทำไมพวกมึงดูอยากจะให้กูกับพี่ปราบได้กันนักวะ มึงดูปากกูนะ พี่ปราบกับกูเราไม่ได้มีอะไรกัน ไม่มีอะไรทั้งนั้น กูเป็นผู้ชายแท้ๆ ที่ไม่มีทางจะคบกับผู้ชาย เพราะกูชอบผู้หญิง” ผมพูดอย่างหนักแน่น ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ อึดอัดจนบอกไม่ถูก

“กูไม่ได้พูดมั่ว มึงกล้าพิสูจน์ไหมล่ะ พนันกันสักตั้งว่าเฮียปราบชอบมึงหรือเปล่า” ไอ้หวายยังคงไม่ยอมแพ้

“เออ น่าสน กูเอาด้วย กูว่าเฮียปราบชอบมึง ชัวร์ๆ อับดุลรู้ อับดุลเห็น” ไอ้กานก็เข้าร่วมไปกับไอ้หวาย

“เออ เอาก็เอาดิว่ะ กูบอกเลยว่าพี่ปราบไม่ได้ชอบกู” ผมเองก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน

การพนันในครั้งนี้ มีผมคนเดียวที่คิดว่าพี่ปราบไม่ได้ชอบผม นอกนั้นพวกมันพนันว่าพี่ปราบชอบผมแน่นอน ถ้าผมชนะ พวกมันจะต้องจ่ายให้ผมคนละพัน แต่ถ้าพวกมันชนะ พวกมันจะได้พันเดียวแล้วเอาไปแบ่งกันสี่คน ผมคิดไว้แล้วว่ายังไงผมก็ต้องชนะ ผมอยู่กับพี่ปราบมากกว่ามัน ไม่มีทางที่จะดูผิดหรอก 

พี่ปราบก็แค่เห็นผมเป็นน้องชายเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้





ต่อโพสล่าง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 04-12-2017 22:15:25
คำท้าพนันเรื่องระหว่างผมกับพี่ปราบก่อกวนจิตใจผมอยู่ตลอดเวลาที่ว่าง ผมไม่อยากจะคิดกับพี่ปราบในแง่ที่ไม่ดี แต่บางครั้งก็เผลอคิดไปว่า ถ้าพี่ปราบเป็นเสือไบอย่างที่ไอ้หวายบอก และพี่เขาชอบผม คิดถึงตรงนี้ทีไร ผมพยายามสลัดความคิดว่าพี่ปราบชอบผมทิ้งไปทันที แล้วบอกกับตัวเองว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ถ้าหากมันเป็นเรื่องจริงล่ะ ผมจะทำยังไง

พี่ปราบยังคงทำงานอยู่ที่เขาใหญ่ มีโทรมาบ้างแต่ส่วนมากจะส่งข้อความมา เรื่องที่คุยกันก็ทั่วๆไป ไม่มีทีท่าว่าจะรุกจีบผมอย่างที่เพื่อนๆผมคิด

แต่เพื่อความสบายใจ ผมจะถามกับพี่ปราบตรงๆในวันที่พี่เขากลับมาจากเขาใหญ่ ไอ้พวกเพื่อนผมจะได้รู้กันสักทีว่าใครคิดถูกใครคิดผิด

คืนนี้อาเจให้ผมทำงานอยู่หน้าเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม เพื่อเรียนรู้วิธีการผสมค็อกเทลสูตรต่างๆจากพี่บิ๊ก รุ่นพี่ที่ทำงานที่ร้านนี้มาตั้งแต่อาเจเปิดร้านเลย พี่บิ๊กทำได้ทุกอย่างและเก่งมากๆ พนักงานที่นี่ทุกคนก็เลยต้องเกรงใจรวมไปถึงเกรงกลัวพี่บิ๊กเพราะความเนี๊ยบของพี่แก

“พัช ไหนลองหยิบส่วนผสมของเฟรนช์เจ็ดสิบห้ามาสิ”

ช่วงที่ลูกค้าซาลงพอที่จะมีเวลา พี่บิ๊กก็ให้ผมลองทำค็อกเทลเอง ทุกครั้งที่มีลูกค้าสั่งค็อกเทลพี่บิ๊กก็จะเริ่มสอนด้วยการใช้ให้ผมหยิบส่วนผสม บอกสัดส่วนที่ต้องใส่ วิธีการผสม การเลือกทรงแก้ว จนกระทั่งกลายมาเป็นเครื่องดื่มสีสวยพร้อมเสิร์ฟ

ผมเป็นคนหัวช้าอยู่แล้ว แต่เรื่องเหล้าบอกเลยว่าผมจำไวมาก และทำออกมาได้ดีจนพี่บิ๊กยังเอ่ยปากชม

“พัชๆ มีคนมาหาอ่ะ อยู่หน้าร้าน” พี่ในร้านเดินมาบอกผม ก่อนจะรีบปลีกตัวไปรับออร์เดอร์จากลูกค้าที่จะสั่งอาหาร

“พี่บิ๊ก เดี๋ยวผมมานะ”

“อืม แต่อย่านานล่ะ”

ผมเดินออกจากเคาน์เตอร์บาร์ไปที่หน้าร้าน ผมคิดว่าอาจจะเป็นเพื่อนผม หรือไม่ก็พี่ปราบ เพราะมีไม่กี่คนที่รู้ว่าผมทำงานอยู่ที่นี่ แต่ใครจะรู้ว่าคนที่กำลังยืนรอผมอยู่ที่หน้าร้าน กลับเป็นคนที่ผมคิดว่าไม่น่าจะมาเจอผมที่สุด

“ซ่า” พลอยเรียกชื่อผมด้วยความดีใจ ก่อนจะวิ่งเข้ามากอดผม ผมยืนนิ่งด้วยความงงปนไม่เข้าใจ

“มาทำไม” ผมถาม

“พลอยคิดถึงซ่า” พลอยพูดพลางเงยหน้ามองผม สิ่งที่เห็นคือตาทั้งสองข้างของพลอยแดงช้ำ ดูก็รู้ว่าร้องไห้มาอย่างหนัก

“คิดถึง?” ผมทวนคำด้วยความสงสัย

คิดถึงผม คิดถึงทำไม คิดถึงเพื่ออะไร

“ซ่าเลิกงานกี่โมง เดี๋ยวพลอยนั่งรอนะ” พลอยเลิกกอดผม เธอปาดน้ำตาที่กำลังไหลออก

ผมถอนหายใจหนักหน่วง ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบใช้หัวสมองคิด และการมาของพลอยผมก็ไม่อยากคิดว่าเพราะอะไร ยังไงก็จบกันไปแล้ว ผมไม่อยากจะเจอพลอยอีก เพราะผมไม่อยากกลับไปคิดถึงความเจ็บปวดที่ผู้หญิงคนนี้เคยทำไว้

“พลอยมีธุระอะไรไหม ถ้าไม่มีก็กลับไปเถอะ เราจะทำงาน”

“พลอยไม่ได้จะกวนนะ พลอยนั่งรอเงียบๆข้างนอกได้”

“ก็แล้วแต่” พูดจบผมก็เดินกลับเข้าร้าน กลับไปทำในสิ่งที่ผมควรทำ นอกจากนั้นผมยังแย่งงานคนอื่นทำไปทั่ว จนทุกคนได้แต่เกาหัวด้วยความงง ผมแค่อยากให้ตัวเองวุ่นวาย จะได้ไม่ต้องคิดว่าทำไมพลอยถึงมาหาผม

หลังเลิกงานผมกลับเกือบทีหลังสุด ออกร้านพร้อมอาเจ และวันนี้ผมขอรบกวนติดรถอาเจไปลงที่รถไฟฟ้า เพื่อที่จะนั่งไปลงที่คอนโด

ตอนออกจากร้านต้องออกทางหลังร้านเพราะที่จอดรถอยู่ด้านหลัง ผมเลยไม่รู้ว่าพลอยยังรอไหม แต่คิดว่าพลอยคงไม่รอ เพราะเวลาผมไปตามนัดช้า พลอยก็มักจะไม่รอผม พลอยไม่เคยทนรออะไรได้นานๆ และครั้งนี้ก็น่าจะเหมือนเดิม

ผมคิดว่าพลอยจะรับรู้ได้ว่าผมไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเธอ และเรื่องระหว่างผมกับพลอยมันได้จบไปแล้ว แต่พลอยก็ยังคงมาหาผมที่ร้านในคืนต่อมา

ตอนที่พี่ในร้านมาบอกผมก็แค่พยักหน้ารับรู้ แต่ไม่ได้ออกไปหาพลอย เพราะคิดว่าไม่จำเป็น

แต่ความอดทนของพลอยมีมากกว่าที่ผมคิด รวมไปถึงร่องรอยเขียวช้ำบนใบหน้าพลอยที่ทำให้ผมตกใจอยู่เหมือนกัน

“ซ่า ช่วยพลอยหน่อยได้ไหม” พลอยดึงรั้งชายเสื้อของผมเอาไว้ ไม่ให้ผมได้เดินหนี หลังจากที่พลอยยัดเยียดเล่าที่มาของบาดแผลให้ผมฟัง ว่าคนที่ทำก็คือไอ้ปาร์ค ผมก็รับฟังนะ แล้วก็ปล่อยให้คำพูดพวกนั้นลอยไปกับเสียงรถที่ขับผ่าน

พลอยเลือกไอ้เหี้ยปาร์คเอง ถ้าอยู่กันไม่ได้ก็เลิกกันไปซะ แล้วไปมีคนใหม่ เหมือนที่พลอยเคยทั้งผมไปหาไอ้เหี้ยนั่น

“เราช่วยอะไรพลอยไม่ได้หรอก กลับบ้านไปเถอะ”

“เรากลับบ้านไม่ได้ เราไม่อยากให้พ่อแม่เห็นเราในสภาพนี้ แล้วเราก็ไม่อยากกลับไปหาปาร์คให้โดนตีอีกแล้ว ฮึก”

“งั้นก็ไปหาเพื่อนสิ”

“ซ่า มันดึกแล้ว พลอยไม่อยากรบกวนเพื่อน ซ่าให้พลอยไปนอนด้วยคืนนึงนะ ซ่าออกมาอยู่หอนี่ นะซ่านะ” พลอยปล่อยชายเสื้อเปลี่ยนมาเกาะแขนผมแน่น

ผมดึงมือพลอยที่เกาะแขนผมออก แล้วดึงตัวพลอยให้ออกห่าง

“พลอย ฟังนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”

พลอยก้มหน้าลงร้องไห้ ผมไม่ใช่ผู้ชายเย็นชาที่จะทนเห็นน้ำตาของผู้หญิงได้ ไหนจะเป็นผู้หญิงที่ผมเคยรักอีก

“แค่คืนเดียวนะซ่านะ คืนนี้พลอยไม่มีที่ไปจริงๆ”

“...”

“ซ่าเพิ่งบวชมาไม่ใช่เหรอ คิดซะว่าทำบุญได้ไหม”

“แค่คืนเดียวเท่านั้น หลังจากนี้พลอยไม่ต้องมาหาซ่าแล้วนะ”

“อืม แค่คืนเดียว”

เพราะระยะเวลามันยังไม่มากพอที่จะทำให้ผมลืมพลอย และเพราะสงสารผมก็เลยให้ที่นอนกับพลอยหนึ่งคืน ผมให้พลอยนอนบนเตียง ถึงแม้จะรู้สึกไม่ชอบนิดหน่อย ภาพพี่ปราบที่นอนอยู่บนเตียงแวบขึ้นมาในหัว เกิดคิดได้ว่าถ้าพี่ปราบรู้เข้าจะว่ายังไง แต่ผมก็ไม่มีทางเลือก ซ้ำยังตัดใจไล่ไม่ลง เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

ผมทิ้งตัวนอนบนโซฟา ห้องทั้งห้องมืดสนิท ได้ยินเสียงสะอื้นจากคนที่นอนบนเตียง ถึงแม้ปิดประตูกระจกกั้นระหว่างห้องนอนกับโซนนั่งเล่นก็ยังได้ยิน

ผมนอนไม่หลับเพราะไม่สบายใจ กดโทรศัพท์เข้าหน้าจอที่คุยกับพี่ปราบ พร้อมส่งไปถามว่านอนหรือยัง รอเกือบชั่วโมงพี่ปราบก็ยังไม่อ่านและยังไม่ตอบกลับมา ผมเลยคิดว่าพี่ปราบคงจะนอนแล้ว เพราะพี่ปราบจะกลับมาตอนบ่ายของวันนี้

เมื่อไม่มีอะไรทำ ผมก็นอนหลับตานิ่งจนค่อยๆเคลิ้มหลับ ระหว่างครึ่งหลับครึ่งตื่น ผมรู้สึกได้ว่ามาคนขึ้นมาทับบนตัวผม ทีแรกผมคิดว่าเป็นผีอำ แต่ผ่านไปสักพักและเริ่มรู้สึกตัวมากขึ้น ก็เลยรู้ว่าสิ่งที่กอดรัดลูบไล้ผมอยู่คือพลอย

“ออกไปพลอย อย่าทำแบบนี้” ผมดันตัวพลอยออกจากตัว แต่พลอยก็ยังคงโถมตัวเข้าใส่ผม ผมเบี่ยงตัวหลบแล้วลุกขึ้นยืน

“ซ่า พลอยไม่เหลือใครแล้ว เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม” พลอยเดินร้องไห้ทำท่าจะเข้ามากอดผม แต่ผมถอยหนี แล้วเดินไปเปิดไฟ

“ถ้าจะพูดอะไรเพ้อเจ้อก็กลับไปนอนเถอะพลอย เช้ามาก็กลับบ้านไปซะ” ผมพูดดีๆ ไม่ใช่ไม่โกรธนะ ผมโกรธมากที่พลอยทำแบบนี้ แต่เพราะตอนนี้ผมไม่ใช่ไอ้ซ่าคนเดิม ผมจึงนิ่งได้มากกว่าเก่า

“ไม่เอาอ่ะซ่า พลอยยังรักซ่านะ พลอยขอโทษ พลอยเลิกกับปาร์คแล้ว พลอยสัญญาว่าพลอยจะไม่นอกใจซ่าอีก เรากลับมาคบกันเถอะนะ” ความดื้อรั้นของพลอยผมเจอมาตลอดเวลาหลายปีที่คบกันมา ผมเคยทนได้แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ที่ผมตัดพลอยออกจากชีวิตไปแล้ว

ยังรักแล้วยังไง แต่ความรู้สึกผมเสียไปแล้ว มันไม่มีทางกลับมารักกันได้หรอก

“พลอยจะมายุ่งกับคนไม่มีอนาคตอย่างซ่าทำไม อยากไปไม่ใช่เหรอ ไม่ชอบอยู่กับคนไม่มีอนาคตไม่ใช่เหรอไง” ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าพลอยคิดอะไรอยู่

“เปล่านะ พลอยไม่ได้คิดแบบนั้นเลย”

“อย่าหลอกตัวเองเลยวะพลอย ซ่าไม่มีอะไรให้หรอก แค่ที่นอนในคืนนี้เท่านั้นที่ซ่าให้ได้”

“แต่เรารักซ่านะ”

“อย่าพูดว่ารักเลยพลอย ไม่อยากจะฟังวะ เพราะซ่าไม่เชื่อ”

“เราต้องการซ่า”

“แต่เราไม่ต้องการ”

“ซ่า...”

“สำหรับซ่า ตอนนี้พลอยได้เป็นคนอื่นไปแล้ว และซ่าไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับพลอยอีก”

“เพราะว่าซ่าไปนอนกับผู้ชายเพื่อแลกเงินใช่ไหม ถึงกลับมาคบกับพลอยไม่ได้”

“อะไรนะ” ผมถามเสียงเบาหวิว ที่พลอยพูดเมื่อตะกี้มันหมายความว่ายังไง

ผมยังไม่ทันได้คำตอบจากพลอยดี ประตูห้องก็เปิดออก คนมาใหม่เป็นเจ้าของห้องตัวจริง ทันทีที่พี่ปราบเปิดไฟในห้อง และผมได้สบตาคมเข้มของเขา ผมรู้เลยว่าพี่ปราบไม่พอใจ

“โทษที กูไม่คิดว่ามึงจะมีแขก เลยไม่ได้กดออดเรียก”

“พี่ปราบ คือ...” ผมพูดอะไรไม่ออก กังวลไปแล้วว่าพี่ปราบจะเข้าใจผิดหรือไม่ ที่พลอยมาอยู่ในห้องผมตอนกลางคืนดึกดื่น และยังเผลอกลัวไปว่าพี่ปราบจะคิดว่าผมกับพลอยมีอะไรกัน

“งั้นกูกลับละ แค่จะแวะมาดูเฉยๆ” พี่ปราบไม่รอให้ผมพูดอะไร ก็ปิดประตูลงแล้วเดินจากไป ผมยืนนิ่งมองไปที่ประตูอยู่นาน จนกระทั่งพลอยเดินมากอดผมจากด้านหลัง

มือทั้งสองข้างกำแน่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ทันทีที่รู้สึกตัว ผมก็หันกลับไปผลักตัวพลอยออกห่าง จนเธอเซเกือบล้ม ผมรู้ว่าพี่ปราบต้องโกรธแน่ๆ ถึงจะไม่รู้เหตุผล แต่สายตาพี่ปราบว่างเปล่าจนผมใจหาย และคนที่ผิดก็คงเป็นผมที่พาพลอยกลับมานอนที่ห้องในคืนนี้

“กลับเข้าไปนอนในห้อง แล้วพรุ่งนี้เช้าช่วยรีบกลับไปด้วย”

“แต่...”

“ไปนอน!”

“อ่ะ อืมๆ” พลอยรีบพยักหน้าทั้งน้ำตา ก่อนจะรีบกลับไปที่ห้องนอน

ผมหันหลังมองกลับไปที่ประตู ก่อนจะหยิบคีย์การ์ดกับกุญแจเดินออกจากห้อง ลงลิฟต์มาถึงข้างล่างคอนโด สายตากวาดมองหาไปทั่ว แต่ผมรู้ว่าพี่ปราบกลับไปแล้ว ผมเลยตัดสินใจที่จะใช้โซฟาตรงล็อบบี้เป็นที่พักให้ผ่านค่ำคืนนี้ไป

เอาเถอะ ถือซะว่าทำบุญ ผมกับพลอยจะได้หมดเวรหมดกรรมต่อกันไปซะที แม้ว่าผมจะต้องมานั่งตบยุงทั้งคืนก็ตาม


หวังว่าพี่ปราบจะเข้าใจ




...
ก็นะ ต้องมีตัวกระตุ้นอย่างพลอยเข้ามาหน่อย ความสัมพันธ์ระหว่างนุ้งซ่ากับพี่ปราบจะได้ชัดเจนมากขึ้น
ไม่มีดราม่างี่เง่านะคะ พี่ปราบแกโตพอ แต่ก็มีหงุดหงิดบ้าง ออกแนวไปแอบหงุดหงิดคนเดียวมากกว่า ส่วนนุ้งซ่า นางไม่ฉลาดนะ แต่นางไม่โง่ บวชมาแล้ว ก็รักตัวเองมากขึ้น แต่คนมันเคยผูกพัน ก็มีสงสารกันบ้างอะไรบ้าง แต่หัวใจน่ะมีเจ้าของใหม่แล้ว แค่ไม่ยอมรับเท่านั้นเอง
เมื่อวานที่ลงเห็นมีคนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ วันนี้บินลงมา นอนพักไปงีบก็รีบมานั่งตรวจคำผิดรอบนึงก่อนจะลงให้ได้อ่านกัน ถ้ายังมีคำผิดอยู่ก็ขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณคนน่ารักที่ยังติดตามอ่านพี่ปราบน้องซ่าค่ะ
ด้วยรัก  :L1:
ริริ
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 04-12-2017 22:39:27
หวังว่าซ่าจะรู้นะว่าต้องง้อพี่ปราบจริงจังแล้ว งอนแรง 55
แล้วเนี่ย แคร์ความรู้สึกพี่เขาขนาดนี้ ก็ยอมๆรับซะเถอะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-12-2017 22:56:13
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-12-2017 23:28:42
สัมภเวสียังจะมาคอยวุ่นวายกับซ่าอีก สงสัยมารอรับบุญ ซ่าแผ่ส่วนกุศลให้ไปๆ จะได้จบๆ :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-12-2017 23:43:24
ซ่า ควบคุมอารมณ์ จิตใจได้ดีมาก
ขนาดหนีกลับ ปฏิเสธ พลอยจริงจัง
พลอยยั่วยวน เคยๆกัน ซ่ายังไม่ยอมพลอย เก่งมาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

พลอย ก็อะไรของนาง ทำตัวเองเลว
เลือกปาร์ก ทิ้งซ่าเองแท้ๆ
ทำให้ซ่าถูกผัวใหม่รุมทำร้ายจนเจ็บหนักเข้าโรงพยาบาล
ยังกลับมาวอแวกับซ่าอีก
เป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตร้ายๆ ไม่น่าข้องแวะยุ่งเกี่ยวอีกเลย
พลอยคงรู้แล้วว่า ระหว่างปาร์กกับซ่าใครไม่เคยลงมือลงเท้ากับตัวเอง
พลอยน่ะ ลิิงได้แหวนชัดๆ

ซ่า รีบปรับความเข้าใจกับพี่ปราบเร็วเลย
แคร์พี่ปราบซะอย่างนี้  คราวนี้จะรู้ใจตัวเองได้หรือยัง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-12-2017 00:24:16
ซ่า หลังจากนี้ต่อไป ใช้ชีวิตอย่างมีสติ สิ่งที่ได้บวชเรียนมา

นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน สู้ ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 05-12-2017 00:41:11
ดีใจที่มาลงต่อออ เข้าใจซ่านะ แต่ก็เข้าใจพี่ปราบ ปรับความเข้าใจกันเร็วๆนะคู่นี้
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-12-2017 01:04:34
งงกับผู้หญิงอย่างEพลอย
โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเมิงนะ
เกลียด!!!
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-12-2017 01:44:23
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-12-2017 04:02:59
ชะนีตัวนี้หน้าคอนกรีตเนอะ ทำอะไรไว้ไม่รู้ตัวอีกด้วย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 05-12-2017 09:16:13
พี่ปราบอย่าเข้าใจน้องผิดน้า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 05-12-2017 09:47:01
ก็พอเข้าใจอ่ะนะ เฮ้อ ปล่อยไปบ้างเถอะพี่ปราบ เราว่าการรักซ่ามันโคตรเหนื่อยเลย เอาจริงๆ เหอๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-12-2017 10:06:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 05-12-2017 12:58:53
 :L2: :L2:  :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 05-12-2017 13:43:10
ไม่มีใครเข้าใจหรอกถ้าไม่อธิบาย บัย ซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 05-12-2017 19:03:28
ดีแล้วที่ซ่าเข้มแข็งและรู้ทัน งานนี้พี่ปราบเสียใจแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 05-12-2017 20:37:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่20:: 4/12/2017 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-12-2017 00:31:35
ใจอ่อนจนได้นะซ่า แล้วก็นะ มาเห็นพอดี พี่ปราบช้ำใจแย่

ปราบอย่าเคืองน้องนะ กลับมาดูน้องด้วย
ซ่าดูไม่ออกไม่แปลก ถึงปราบจะห่วงกว่าคนอื่น แต่ไม่มีทีท่าไง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 08-12-2017 21:22:50
ปราบซ่า
ตอนที่21


[ซ่า]

ในตอนเช้าผมกลับขึ้นไปที่ห้อง และทำในสิ่งที่ควรทำเป็นสิ่งแรก ปลุกพลอยที่กำลังนอนหลับให้ตื่น เมื่อเช้าแล้ว ได้นอนหลับแล้ว ก็ควรกลับไปได้สักที

“ซ่า ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้หรือไง” พลอยทำหน้าอ้อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็อาจจะได้ผลอยู่หรอก แต่ใช้กับไม่ได้เวลานี้

“ไม่ได้ รีบล้างหน้าแต่งตัวแล้วกลับไปได้แล้ว”

“อย่าใจร้ายสิซ่า”

“ถ้าใจร้าย ซ่าไล่กลับไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เร็วๆ”

“เหอะ” พลอยกระแทกทั้งเสียงและเท้า ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ

เป็นชั่วโมงกว่าพลอยจะแต่งตัวเสร็จ ผมไม่รออะไรทั้งนั้น ลากแขนพลอยออกจากห้อง ลงไปส่งขึ้นรถที่หน้าคอนโด

“ซ่า ถ้าคืนนี้...”

“ไม่มีคืนนี้ พลอยไม่ต้องมาหาซ่าแล้ว เราเลิกกันแล้ว จบกันแล้ว ซ่าไม่คิดจะกลับไปคบกับพลอยอีก”

“เพราะว่าซ่าหันไปชอบผู้ชายแล้วใช่ไหม”

คำพูดของพลอยสะกิดความสงสัยที่มีมาตั้งแต่เมื่อคืน ที่พลอยพูดว่าผมนอนกับผู้ชายแลกเงิน ถ้าไม่ใช่เพราะจู่ๆพี่ปราบก็โผล่มา จนทำให้ผมลืมซักไซ้พลอยว่าไปเอาเรื่องไร้สาระมาจากไหน ผมคงถามให้รู้เรื่องไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมขี้เกียจจะพูดอะไรให้มากความ

“ก็แล้วแต่พลอยจะคิดแล้วกัน ถ้าคิดแล้วพลอยไม่กลับมาหาซ่าได้ก็จะดีมาก ลาเลยแล้วกัน” ผมโบกมือไปที แล้วหันหลังเดินกลับเข้าคอนโด

กลับขึ้นมาบนห้อง ผมก็เดินไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง จากนั้นก็หลับยาวจนถึงบ่าย

พี่ปราบเงียบหายไปเลยตั้งแต่เมื่อคืน ไม่มีทั้งข้อความทั้งสายโทรเข้า ผมกลัวว่าพี่ปราบจะโกรธที่ผมเอาคนอื่นเข้ามาในห้อง ยังไงห้องๆนั้นก็เป็นของพี่ปราบ แม้ว่าผมจะจ่ายค่าเช่าอยู่ก็ตาม

จนผมมาทำงานที่ร้านจนเกือบจะได้เวลาเลิกงาน พี่ปราบถึงได้แวะมา แต่เขาไม่ได้มาหาผม พี่ปราบหายไปคุยกับอาเจบนห้องทำงาน จนร้านปิดพี่ปราบถึงได้ลงมา

“อ้าวซ่า ยังไม่กลับเหรอ หรือว่ารอเจ้าปราบ” อาเจทักผมงงๆ ตอนนี้นอกจากผมกับพี่ผู้จัดการร้านอีกคนก็ไม่มีคนอื่นแล้ว

“อ่อ ครับ” จะว่ารอพี่ปราบก็ใช่ ทั้งๆที่พี่ปราบก็ไม่ได้บอก ไม่รู้ด้วยว่าพี่ปราบว่างพอที่จะคุยกับผมไหม

พี่ปราบมองหน้าผมก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก แค่พี่เขายิ้ม ผมก็รู้สึกโล่งใจได้หน่อย บางทีผมอาจจะคิดมากเกินไป พี่ปราบอาจจะไม่ได้ไม่พอใจผมก็ได้ เป็นผมที่คิดมากไปเอง

“งั้นอากลับก่อนนะ บอกป๊าเราด้วยว่าเรื่องงานเดี๋ยวอาจัดการให้” อาเจหันไปคุยกับพี่ปราบ ก่อนจะพูดลากลับบ้านกับผม “อาไปแล้วนะซ่า พักผ่อนเยอะๆ พรุ่งนี้อาให้หยุดนะ ไม่ต้องมาทำงาน ไปเที่ยวกับปราบก็ได้ พักผ่อนกันสักหน่อยจะได้มีแรง”

ผมไม่ทันได้ตอบรับเรื่องหยุดงานไปพักผ่อนอะไรนั่น อาเจก็โบกมือบ๊ายบายแล้วเดินออกไป พี่ปราบหันมายักคิ้วให้ผมทีนึง

“ไง รอกูมีอะไรหรือเปล่า” คำถามที่ถามผมแบบนี้โคตรไม่ใช่พี่ปราบเลย แต่มันก็ทำให้ผมรู้ว่าพี่ปราบไม่พอใจผมชัวร์ รอยยิ้มเมื่อตะกี้นี้เป็นผมคิดเข้าข้างตัวเองไปเอง

“กลับไปคุยที่ห้องได้ไหม ผมพี่เรื่องจะคุยกับพี่อ่ะ” คืออาเจเขาปิดร้านแล้ว ผมกับพี่ปราบก็ควรจะรีบออกจากร้าน

“วันนี้กูจะไปนอนคอนโดกูนะ คอนโดที่กูอยู่” พี่ปราบบอก นั่นหมายความว่าเขาจะไม่ไปที่คอนโดที่ผมอยู่ และถ้าผมอยากจะคุยกับเขา ก็ต้องตามเขาไปนั่นแหละ ทำไมผมรู้สึกว่าพี่ปราบกำลังงอนผมอยู่เลยวะ อย่าบอกนะว่าพี่ปราบชอบผมอย่างที่ไอ้หวายบอกจริงๆ

ไม่อ่ะ เป็นไปไม่ได้

“งั้นผมไปนอนที่คอนโดพี่ก็ได้ ผมว่าห้องพี่ต้องมีเหล้าไม่ก็เบียร์แน่ๆ ดีเลยผมยิ่งอยากๆอยู่” ผมยักคิ้วคืนให้พี่ปราบ ก่อนจะเดินตามพี่ปราบไปขึ้นรถ มุ่งหน้าไปคอนโดสุดหรูที่ผมไม่ได้มานานแล้วเหมือนกัน ก็ตั้งแต่ผมเช่าคอนโดห้องเล็กของพี่ปราบ ผมก็ไม่เคยมาที่นี่เลย จะมีแต่พี่ปราบที่แวะไปหาผมที่ห้องแล้วนอนค้างอาทิตย์ละครั้งสองครั้งเท่านั้น

พี่ปราบขับรถยิงตรงรวดเดียวถึงคอนโด ระหว่างทางพี่ปราบเงียบไม่พูดไม่จา นับเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่นั่งในรถพี่ปราบแล้วเงียบขนาดนี้ แม้แต่เพลงก็ไม่เปิด

เข้ามาในห้องของพี่ปราบ เจ้าของห้องก็เดินไปกินน้ำ ผมมองสำรวจห้องอย่างที่ชอบทำ ตู้เก็บเหล้าตรงนั้นผมชอบเดินไปดู แต่ไม่เคยได้สัมผัสเลยเพราะพี่ปราบเขาหวง ห้องพี่ปราบก็ยังเหมือนเดิม สะอาดเรียบร้อย ไม่รกเละเทะเหมือนห้องที่ผมอยู่

“นั่งลงสิ ไหนว่ามีเรื่องจะคุยกับกูไง” พี่ปราบวางกระป๋องเบียร์ตรงโต๊ะหน้าโซฟาทั้งหมดสี่กระป๋อง ผมรีบนั่งลงแล้วหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่ม

เบียร์นอกนี่มันรสชาตินุ่มลิ้นดีจริงๆ

หลังจากที่ได้แอลกอฮอล์เข้าร่างกายแล้วพอสมควร ผมก็กล้าที่จะพูดในสิ่งที่อยากพูดกับพี่ปราบ แม้ว่าผมจะไม่กล้าสบตาพี่ปราบก็ตาม

“เมื่อคืน ผมขอโทษนะพี่” พูดขอโทษจบ ผมก็กระดกเบียร์อีกอึกนึง เขาว่าคนเราจะกล้าขึ้นเมื่อเมามาย

“ขอโทษเรื่องอะไร” ทั้งๆที่รู้ แต่พี่ปราบกลับยังถาม เพราะเขารู้ว่าผมไม่ชอบพูดหรืออธิบายอะไร แต่ถ้าอยู่กับพี่ปราบ ผมไม่เคยได้ปิดปากเงียบ อย่างน้อยก็ต้องมีสักครั้งสองครั้งในห้าครั้งที่ต้องเปิดปาก

“เรื่องที่พลอยมานอนที่ห้อง” แต่ผมก็ทำได้เท่าที่ผมทำได้

เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง ผมก้มหน้า เลยไม่รู้ว่าพี่ปราบจ้องหน้าผมอยู่ จนกระทั่งผมรู้สึกว่ามันนานเกินไป เลยเงยหน้าขึ้นมอง ความรู้สึกบางอย่างถูกสื่อผ่านแววตาคมส่งตรงมาให้ผม ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันทำให้หัวใจผมหวิวและสั่นแบบแปลกๆ

“ไหนเล่าให้กูฟังสิว่าเรื่องมันเป็นมายังไง”

“พลอยมาหาผมที่ทำงาน เมื่อคืนครั้งที่สอง พลอยถูกทำร้ายมาและไม่มีที่ไป เลยขอมาพักกับผมคืนหนึ่ง ผมไม่ได้อยากให้อยู่หรอก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง” ผมเล่าเรื่องไม่เก่งนัก เท่าที่พอเรียบเรียงได้ก็มีเท่านี้ แต่พี่ปราบขมวดคิ้วคล้ายไม่พอใจ ก่อนที่คิ้วเข้มจะคลายตัวออก พี่ปราบยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มจนหมด แล้วถอนหายใจ

“มึงยังรักเขาอยู่?”

รักเหรอ

บอกไม่ถูกว่ายังรักไหม แต่ผมยังไม่เคยลืมว่าผมกับพลอยเคยคบกัน และก็เคยมีช่วงเวลาดีๆด้วยกัน

แต่มันจบไปแล้ว ต่อให้รักผมก็ไม่อยากรื้อฟื้น

“ผมแค่สงสาร”

ยังไงก็เคยรักกันมาก่อน

“ให้กูเดานะ ถ้ากลับมาหามึงได้ และยิ่งถูกทำร้ายมา ก็แสดงว่าเขาต้องการกลับมาคบกับมึง”

พี่ปราบเป็นคนเก่งที่ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ดี

“ทำไมพี่เดาเก่ง” ผมหัวเราะ แต่ใจไม่ได้ขำตาม

ถ้ายังรักอยู่แล้วยังไง ผมไม่เคยลืมคนที่เคยหักหลัง คนที่เคยทำให้ผมเจ็บเพราะไว้ใจมากเกินไป

“แต่ผมไม่กลับไปหรอก เข็ดแล้ว” ผมยิ้มเยาะตัวเอง

“แน่ใจว่าจะไม่กลับไป”

“แน่ใจดิพี่ ถึงผมจะโง่นะ แต่ผมไม่คิดจะกลับไปหาคนที่หักหลังผมหรอก”

ไม่มีทาง

“งั้นก็อย่าไปให้ความหวังเขา กูเข้าใจว่าคนที่เคยรักเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือ จะตัดใจไม่ช่วยเลยก็ไม่ได้ แต่ต้องดูด้วยว่าเขาหวังอะไรไหม ถ้าเขาไม่หวังจะกลับมาคบกับมึง มันก็ดี แต่ถ้าเขาหวัง เชื่อเถอะเขาต้องว่าที่มึงช่วยเหลือเป็นเพราะมึงยังรักเขาอยู่ กูชอบที่มึงยังเป็นเด็กมีน้ำใจนะ ยังไงก็ผู้หญิง ดึกดื่นแบบนั้นก็คงปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ แต่ก็ต้องแสดงให้ชัดเจนว่ามึงไม่คิดจะกลับไปคบกับเขาแล้ว ถ้ามึงอย่าตัดเขาออกจากชีวิตจริงๆ”

ผมคิดว่าผมชัดเจนพอแล้วกับสิ่งที่แสดงต่อพลอยเมื่อคืน ไม่สนหรอกว่าพลอยจะเชื่อไหม ผมไม่กลับไปซะอย่าง พลอยก็ทำอะไรผมไม่ได้

“อีกอย่างกูไม่ชอบด้วยที่มึงพาใครไปที่ห้องแบบนั้น กูหวง” และแล้วพี่ปราบก็พูดออกมาว่าเขาไม่ชอบให้ใครไม่ยุ่มย่ามที่ห้อง

“ผมขอโทษพี่ ผมก็คิดแหละว่าพี่หวงห้องอ่ะ คราวหลังผมไม่พาใครมาแล้ว แต่พวกไอ้หวายมาได้ใช่ไหมพี่”

“เออ แล้วก็นะ...กูไม่ได้หวงห้องอย่างที่มึงคิด”

“อ้าว” งงเลย ถ้าไม่ได้หวงห้องแล้วหวงอะไร ทำไมถึงห้ามไม่ให้คนอื่นมาที่ห้อง คงไม่ใช่ว่าหวง...

หรือผมควรจะถามออกไปเลยดี เรื่องที่สงสัย

ผมยังมีสิทธิ์ในการถามเรื่องที่อยากถามได้วันละข้อ แล้วผมควรจะถามว่าอะไรดี ถามว่าพี่ปราบชอบผู้ชายเหรอ หรือพี่ปราบชอบผมหรือเปล่า พี่ปราบเป็นเกย์ ไม่สิ ไอ้หวายบอกพี่ปราบเป็นเสือไบ คือได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจริงหรือมั่ว คิดไปคิดมาแล้ว ผมว่าถามคำถามง่ายๆก่อนแล้วกัน

ถ้าให้ถามว่าพี่ปราบชอบผมไหม ผมว่าผมไม่พร้อมจะฟังคำตอบ

ดีไม่ดีเกิดไม่ใช่ขึ้นมา พี่ปราบคงคิดว่าผมเพ้อเจ้อแล้วคิดว่าผมแม่งโคตรหลงตัวเอง

“เป็นอะไร นั่งเงียบไปเลย” พี่ปราบทักถามผมที่กำลังเรียบเรียงประโยคคำถาม

“พี่ปราบ วันนี้ผมขอใช้สิทธิ์ถามคำถามพี่หนึ่งข้อ”

“เอาสิ เดี๋ยวกูไปหยิบเบียร์มาเพิ่มก่อน จะเอาด้วยไหม” พี่ปราบลุกขึ้น รวบหยิบกระป๋องเปล่าไว้ในมือเพื่อเอาไปทิ้ง

“จัดมาสิพี่ ไม่ต้องถามหรอก” ของชอบผมอยู่แล้ว กินแทนข้าวยังได้เลย

พี่ปราบเดินหายไปในโซนครัว ก่อนจะกลับมาพร้อมกับเบียร์สองกระป๋อง พอเว้นช่วงผมก็เริ่มป๊อดที่จะถามเรื่องนั้น เลยตัดสินใจดื่มเบียร์ย้อมใจไปอีกครึ่งกระป๋องรวด

“อ่ะ มีอะไรจะถามก็ถามมา” พี่ปราบดูพร้อมตอบ แต่ผมกลับไม่พร้อมที่จะถาม แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถามๆไป เรื่องที่สงสัยจะได้รู้ความจริงสักที

“พี่ปราบ...” พี่ปราบอะไรดีวะ

“หืม อะไรของมึง อ้ำๆอึ้งๆ จะพูดอะไรก็พูด”

กูแม่ง เอาวะ ถามก็ถาม

“พี่ปราบเป็นไบแบบได้ทั้งชายและหญิงเหรอพี่”

ถามออกไปแล้ว พี่ปราบดูจะไม่ตกใจกับคำถามของผม เขาแค่นั่งจ้องหน้าผม สีหน้าเรียบเฉยเหมือนผมถามเรื่องดินฟ้าอากาศ

“เอ่อ คือไอ้หวายมันบอกอ่ะ” ผมพูดต่อ

“เออ กูเป็นไบ ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง”

“พี่ชอบผู้ชายเหรอ” ถึงจะคิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้ เพราะไอ้หวายน่าจะรู้จักพี่เขาดีกว่าผม และเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดกันเล่นๆ แต่พอได้ฟังความจริงจากปากพี่ปราบเองแล้ว ก็อึ้งไปเหมือนกัน

คนอย่างพี่ปราบแม่งโคตรเพอร์เฟคเลยไง แมนด้วย ไม่ได้เหมือนไอ้มิว หรือตุ๊ดเด็กแถวบ้าน แถมบางครั้งพี่ปราบก็มองผู้หญิงสวยๆหน้าอกใหญ่ๆด้วย ถ้าไม่บอกผมก็ไม่คิดว่าแกจะชอบผู้ชาย

“ทำไม ตกใจเลยหรือไงมึง”

“ตกใจดิพี่ พี่ชอบผู้ชายจริงๆอ่ะนะ” ขออีกสักที แบบกระจ่างแจ้งกันไปเลย

“เออ กูชอบผู้ชาย ผู้หญิงกูก็ชอบ กูได้หมดถ้าถูกใจ กูไม่รู้หรอกว่าคนอื่นมองยังไง แต่การที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกัน รักกัน มันไม่จำกัดหรอกว่าเพศไหน มันขึ้นอยู่ที่ว่าพวกมึงเข้ากันได้หรือเปล่า เข้าใจกันหรือเปล่า มึงคิดว่ารักคืออะไร สำหรับกูรักก็คือรัก รักคือความเข้าใจและการยอมรับ”

“ผม...ไม่รู้”

ผมไม่เคยคิดสนใจผู้ชาย และผมไม่ได้สนใจผู้หญิงเยอะขนาดนั้น ตั้งแต่โตมาผมมีแฟนแค่สองคน คนแรกก็ตอนเด็กมากๆ กับพลอยที่คบตั้งแต่ผมเรียนมัธยมต้นแล้ว และที่คบกับพลอยก็ไม่ใช่เรื่องหน้าตาหรืออะไร เพราะตอนนั้นพลอยเข้าใจผมมากที่สุด เข้าใจว่าผมเป็นคนยังไง ผมมีปัญหาอะไร ครอบครัวเป็นยังไง มีพลอยคนเดียวที่เข้าใจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว คนที่เข้าใจผมคนเดียวตอนนี้คงเป็นพี่ปราบ

ความรักของผม บางทีก็อาจจะเหมือนกับพี่ปราบนั่นแหละ

“ถ้ามีคนที่เข้าใจมึงมากๆ ดีกับมึงทุกอย่าง รับที่มึงเป็นมึงแบบนี้ และรักมึงที่เป็นผู้ชาย แต่คนๆนั้นก็เป็นผู้ชายเหมือนกับมึง มึงก็จะปฏิเสธเขาอย่างนั้นหรือไง”

“ผม...ผมไม่เคยคิดจะคบกับผู้ชาย”

คำถามนี้ยากเกินไปที่ผมจะตอบ

“งั้นวันนี้กูขอถามมึงบ้าง มึงรังเกียจไหมที่กูเป็นแบบนี้”

ผมรีบส่ายหัวทันที “ผมไม่มีทางรังเกียจพี่หรอกน่า ไอ้มิว พี่ปราบจำได้ใช่ไหม มันก็เป็นเกย์เหมือนกัน”

สุดท้ายจะเพศไหนก็คนอยู่ดี

“งั้นก็ดีที่มึงไม่รังเกียจกู กูง่วงแล้ว แยกกันอาบน้ำแล้วกัน”

“ครับ”

ผมแอบมีเสื้อผ้าใส่นอนไว้ที่ห้องพี่ปราบ แค่เข้าไปหยิบในลิ้นชักที่พี่ปราบยกให้ผมทั้งชั้น แล้วมาอาบน้ำข้างนอก ผมอาบเสร็จแล้ว พี่ปราบยังอาบไม่เสร็จเลย ผมก็เลยชิงนอนก่อน แต่ว่าวันนี้ผมเลือกที่จะนอนที่โซฟาข้างนอก ทุกที่ครั้งก่อนๆผมจะนอนในห้องนอนของพี่ปราบ แต่ผมคิดว่าวันนี้ นอนข้างนอกคงดีกว่า

ผมไม่ได้รังเกียจ เพียงแต่ว่า ถ้าพี่ปราบคิดอะไรกับผมจริงๆ ซึ่งผมยังไม่กล้าถาม ก็เลยคิดว่าถ้ามันยังคลุมเครืออยู่แบบนี้ ผมขอนอนแยกดีกว่า

“ซ่า ทำไมไม่เข้าไปนอนในห้อง”

ผมสะดุ้งตื่นเมื่อถูกเจ้าของห้องเรียก งัวเงียลืมตามองก็เจอพี่ปราบยืนกอดอกค้ำหัวอยู่

“ไม่เป็นไรพี่ ผมนอนโซฟาได้” ผมบอก พร้อมที่จะปิดตาลงอีกรอบ

“สรุปคือมึงรังเกียจกู” พี่ปราบถามเสียงกดต่ำ ดูเหมือนแกจะเริ่มไม่พอใจ

“เปล่าพี่ ดึกแล้ว พี่ไปนอนเถอะ”

“...”

“ผมไม่ได้รังเกียจจริงๆนะ”

“มึงแน่ใจว่าไม่รังเกียจ”

“ผมแน่ใจ”

แต่ผมไม่พร้อมที่จะเข้าไปนอนกับผู้ชายที่อาจจะคิดแบบนั้นกับผม

“งั้นก็แล้วแต่มึง” พี่ปราบเดินกลับเข้าไปในห้อง ก่อนจะออกมาอีกรอบ พร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ พร้อมกับปรับอุณหภูมิแอร์ให้ผมเสร็จสรรพ ก่อนเข้าห้องนอนก็บอกฝันดี

คนที่เป็นแค่พี่น้องกัน เขาทำแบบนี้กันจริงๆเหรอวะ

ผมรู้ตัวว่าผมกำลังปิดหูปิดตาตัวเอง แต่ผมแค่ไม่อยากรับรู้ กลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ปราบจะเปลี่ยนไป






แต่ถึงผมจะปิดหูปิดตาตัวเองยังไง เพื่อไม่ต้องรับรู้ความรู้สึกของพี่ปราบ แต่คนอื่นเขาไม่ได้มองผ่านเหมือนผม ผมพยายามที่จะไม่สนใจเวลาที่พี่ปราบมาหาผมก่อนเลิกงานทุกๆวัน แล้วพี่ๆในร้านก็จะสะกิดกันแล้วก็แอบกระซิบ

แรกๆผมก็ไม่รู้ คิดว่าพวกเขาก็คงจับกลุ่มคุยกันไปเรื่อย แต่ถามว่ารู้สึกแปลกไหม มันก็แปลกแหละ บางครั้งก็ถูกแซวว่าผมเป็นเด็กพี่ปราบ อย่าแกล้งผมมาก เดี๋ยวพี่ปราบมาจัดการ ผมก็คิดว่าพวกเขาพูดเล่นๆไง แต่ครั้งนี้ที่มาได้ยินกับหูมันเริ่มจะไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆแล้ว

“เอาจริงๆเฮียปราบคือโคตรหล่อ โคตรดูดี ถึงพัชมันจะนิสัยดี แต่ดูยังไงก็ไม่เข้ากัน”

“เออ นั่นดิ ที่จริงถ้าเฮียปราบแกชอบผู้ชายนะ ก็หาได้ดีกว่านี้หรือเปล่า”

“พวกแกก็พูดกันไป ไอ้พัชมันก็มีดีของมันแหละมั้ง ไม่งั้นเป็นเด็กพี่ปราบไม่ได้หรอก ดีไม่ดี ลีลาบนเตียงมันอาจจะดีก็ได้นะเว้ย”

“เออ อาจจะจริง หรือไม่เฮียแกก็อาจจะไม่ได้จริงจัง คนระดับเฮียปราบนะ ต้องคบกับคนรวยๆมีการศึกษามากกว่านี้อยู่แล้วแหละ”

“นั่นดิ แกคงอาจเล่นๆกับพัชก็ได้”

“แต่ถ้าคบเล่นๆ ก็น่าจะหาได้ดีกว่านี้ไหม”

“พี่ปราบกับพัชให้อารมณ์ดอกฟ้ากับหมาวัดเลย ว่าไหมแก ฮ่าๆๆ”

ผมก็รู้นะ ว่าไม่มีใครไม่เคยถูกนินทา แม้แต่พระพุทธเจ้ายังถูกนินทาเลย และที่ผ่านมาชีวิตผมถูกด่าทั้งต่อหน้าและลับหลังมาเยอะ แต่ผมไม่เคยสนใจ ถ้าไม่ไหวมากๆก็ต่อยปากแม่งแค่นั้นจบ จะได้หยุดเห่า แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน

สุดท้ายคนอย่างผมก็ลากพี่ปราบให้มาสกปรกด้วย ที่พี่ปราบถูกมองไม่ดีก็เพราะมารู้จักกับคนอย่างผม
 
ใครจะมองผมเสียหายๆยังไงก็ได้ ไม่สนใจอยู่แล้ว ถ้าพวกเขาไม่ใช่คนที่ให้ผมกิน แต่ผมยอมไม่ได้ที่จะมีคนว่าพี่ปราบแบบนั้น

และวิธีแก้ปัญหาที่คนโง่อย่างผมคิดได้อย่างเดียวก็คือ ผมต้องอยู่ให้ห่างพี่ปราบเข้าไว้ พี่ปราบจะได้ไม่ต้องมาแปดเปื้อนเพราะผม

แต่มันไม่ง่ายหรอก เพราะพี่ปราบก็คือพี่ปราบ

ผมคิดว่าวันนี้พี่ปราบจะไม่มา แต่พอเลิกงานก็เจอพี่ปราบนั่งรออยู่บนรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ที่โคตรสวย สวยมากๆ สวยเหี้ยๆ ถ้ารถคันนี้เป็นผู้หญิง ผมว่าผมเจอเนื้อคู่อ่ะบอกเลย

“ไงมึง เห็นรถใหม่กูแล้วตะลึงไปเลย” พี่ปราบทักขำๆ ผมละสายตาจากรถมองเจ้าของที่กำลังยิ้มหล่อมีความสุข

“สวยวะพี่ คิดไงหันมาขี่มอเตอร์ไซค์” ผมถามอย่างอยากรู้ ถึงแม้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ของพี่ปราบจะเป็นมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ไม่ใช่เวฟร้อยยี่สิบห้าเหมือนของผมก็ตาม และท่าทางว่าจะแพงมากด้วย สีดำมันเงาไปทั้งคัน ดูดุดันโคตรเท่

“ที่จริงกูชอบรถทุกประเภท พี่ริชเปิดอู่ซ่อมรถ กูเห็นและซึมซับมาแต่เด็ก เจอรุ่นนี้ถูกใจก็เลยซื้อ”

ผมเดินไปดูรอบๆตัวรถ พลางลูบคลำเล็กน้อยด้วยความชอบใจ ชาตินี้ผมจะมีปัญญามีรถมอเตอร์ไซค์สวยๆแบบนี้ไหมวะ ถ้าไม่ติดว่าผมอยากเว้นระยะห่างกับพี่ปราบ ผมคงขอพี่เขาลองขี่ดูแล้ว

“ป่ะ กลับคอนโดมึงกัน กูเพิ่งได้รถมาวันนี้ เลยพามาให้มึงซ้อนเป็นคนแรกเลยนะ” พี่ปราบก้าวขายาวๆคร่อมรถ

สิ่งที่เคยทำอยู่บ่อยๆ แต่วันนี้ผมกลับรู้สึกตะขิดตะขวงแปลกๆ ที่จะต้องนั่งรถกลับไปกลับพี่ปราบ กลับไปที่คอนโดผม และมองจากกระเป๋าเป้ข้างหลังพี่ปราบแล้ว คืนนี้พี่เขาจะต้องนอนค้างที่ห้องผมแน่

“ไม่เป็นไรพี่ ผมนั่งรถไฟฟ้ากลับเองได้ พี่กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ” ผมปฏิเสธ อีกอย่าง ถ้าจะให้ผมขึ้นไปซ้อนพี่ปราบ มันคงไม่เหมาะ ถึงรถมอเตอร์ไซค์จะคันใหญ่ แต่ที่นั่งมันเล็กนิดเดียว และส่วนมากรถแบบนี้คนซ้อนมักเป็นผู้หญิง เพราะเบาะรถจะเทไปข้างหน้า ถ้าไม่มีใครสงสัยว่าพี่ปราบอาจจะคิดเกินเลยกับผม ผมก็คงไม่ต้องมาคิดอะไรวุ่นวายแบบนี้

ผมหันกลับไปมองในร้าน ก็เห็นพนักงานที่ยังไม่กลับมองจ้องมาทางผมกลับพี่ปราบ คำนินทาเมื่อตอนเย็นก็แวบกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง

‘ที่จริงถ้าเฮียปราบแกชอบผู้ชายนะ ก็หาได้ดีกว่านี้หรือเปล่าวะ’
‘พี่ปราบกับพัชที่ให้อารมณ์ดอกฟ้ากับหมาวัดเลยวะ’

คิดแล้วแม่งโคตรแย่ แย่ของคำว่าแย่คือแย่เหี้ยๆ

“ขึ้นมารถมาเร็วๆซ่า วันนี้กูเหนื่อย อยากรีบกลับไปอาบน้ำพักผ่อน” พี่ปราบเร่ง มือก็ยุ่งกับการใส่หมวกกันน็อคสีดำสีเดียวกับรถ

“ไม่เอาอ่ะพี่ วันนี้ผมอยากนอนคนเดียว ผมกลับเองได้” ผมทำเป็นเดินเลี่ยงๆออกมาให้ห่างจากตัวรถ

“อะไรของมึงเนี่ย กูบอกอยู่ว่าจะไปนอนด้วย ขึ้นมาเร็ว จะได้รีบไป”

“ไม่งั้นเราแยกกันไปก็ได้ เจอกันที่คอนโดเลย” ผมพยายามปั้นหน้าให้เป็นปกติ แต่การที่ผมไม่ยอมไปกับเขานั่นแหละโคตรผิดปกติ พี่ปราบถึงไม่ยอมให้ผมเลี่ยง

“มึงมีปัญหาอะไรซ่า ไหนบอกกูดิ มึงก็ชอบมอเตอร์ไซค์ไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่อยากซ้อน”

“รถพี่คันใหญ่ ผมไม่ขึ้นไปซ้อนหรอก รถแบบนี้คนซ้อนข้างหลังมันต้องผู้หญิงดิ”

ผมพูดตามที่คิดก็ส่วนหนึ่ง ใครจะไปกล้านั่งซ้อน  อีกส่วนคือ คนในร้านยังมองมาอีก ถ้าผมขึ้นไปซ้อนท้ายรถพี่ปราบ มันจะต้องมีเรื่องเสียๆหายๆระหว่างผมกับพี่ปราบออกมาอีกแน่ ถึงผมจะไม่สนใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชอบ ยิ่งไม่อยากให้พี่ปราบต้องถูกพูดถึงแบบเสียๆหายๆอีกด้วย

“เอาตรรกะอะไรคิด ประสาทนะมึง ขึ้นมาเร็วๆ กูร้อน”

“ไม่เอา พี่ไปเถอะ”

“อย่าเรื่องมากได้ไหม”

“ก็ผมไม่ชอบ มันเหมือนผู้หญิงถ้าขึ้นไปนั่ง”

“เชื่อกูเถอะ ถ้ามึงขึ้นมานั่งไม่มีใครว่ามึงเป็นผู้หญิงหรอก สูงก้างซะขนาดนี้ ใครมองเป็นผู้หญิงกูว่าตาบอดอ่ะ ไอ้เด็กนี่ คิดได้ว่าตัวเองจะเหมือนผู้หญิง อย่างไอ้หวายกูจะไม่ว่าเลย สรุปจะขึ้นไหม”

คราวนี้พี่ปราบแม่งไม่เข้าใจผมเลย

“ผมไม่ชอบอ่ะพี่”

ไม่ชอบที่มีคนบอกว่าผมขายตัวนอนกับผู้ชาย

ไม่ชอบที่ทุกคนบอกว่าผมกับพี่ปราบมีอะไรกัน

ไม่ชอบที่ผมทำให้พี่ปราบต้องลดตัวลงมาเกลือกกลั้วด้วย

ถ้าพี่ปราบชอบผมจริงๆ แล้วทุกอย่างระหว่างผมกับเขามันจะเปลี่ยนไป

ผมไม่ชอบที่สุด

“มึงลองหรือยังถึงบอกว่าไม่ชอบน่ะ มึงลองก่อนดิ ลองขึ้นมา มึงอาจจะชอบก็ได้”

“ถึงลองผมก็ไม่ชอบ”

ทั้งการซ้อนท้ายรถในสถานะการณ์ตอนนี้ และคบกับผู้ชายด้วยกัน

“ก็ลองก่อนดิ มึงอาจจะชอบก็ได้”

“พี่ให้ผมขี่แล้วพี่ซ้อนไหมล่ะปราบ” ผมแกล้งพูดไปอย่างนั้นแหละ ถึงจะอยากขี่ แต่คิดว่าไม่ดีกว่า

“ไม่ได้ นี่รถกู กูขี่ได้คนเดียว เว้นแต่ว่า...” พี่ปราบเว้นช่วง

“อะไร” ผมก็ถามกลับและรอฟังอย่างลืมตัว

“คนที่จะขี่ได้นอกจากกูต้องเป็นเมียกูเท่านั้น”

“...!”

“เอาไหมล่ะ กูจะได้ให้ขี่”

“เหี้ย” ผมหลุดปากอุทานอย่างไม่ตั้งใจ พี่ปราบไม่ได้โกรธ เขาแค่หัวเราะแล้วส่ายหัวเท่านั้น

“เอ้า ด่ากูซะงั้น เร็วๆ อย่าต้องให้ลงจากรถไปลาก ไม่งั้นมึงได้อายยิ่งกว่าซ้อนมอไซต์กูร้อยเท่า”

สุดท้ายผมก็กลับมาที่คอนโดด้วยการซ้อนมอเตอร์ไซค์พี่ปราบ ตลอดทางผมนั่งเกร็งเอนตัวไปข้างหลัง มือทั้งสองข้างจับที่ตัวจับด้านหลังไว้แน่น ซึ่งถ้าเป็นผู้หญิงซ้อนก็จะต้องนั่งกอดเอวคนขี่แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า เพราะทรงของเบาะที่ลาดเอียงไปข้างหน้าบังคับ

มาถึงห้องพี่ปราบก็ออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง ผมก็เลยเข้าไปอาบน้ำก่อนที่พี่ปราบจะใช้ต่อ

แต่งตัวเตรียมจะนอน ผมก็ยืนมองไปที่เตียง ผมคงจะไม่ต้องคิดอะไรมาก กระโดดขึ้นเตียงนอน แล้วปล่อยให้พี่ปราบตามมานอนบนเตียงกับผมทีหลัง แต่นั่นมันก่อนที่ผมจะรู้ความจริงบางอย่าง

ดังนั้น คืนนี้ผมก็เลยตัดสินใจขนหมอนกับผ้าห่มมานอนบนโซฟาตัวใหญ่ ถึงจะรู้ว่ายังไงพี่ปราบก็ต้องถามว่าทำไมผมถึงไม่นอนบนเตียง แต่จะให้ปล่อยผ่านแล้วปล่อยให้เป็นแบบเมื่อก่อนมันก็ไม่ใช่

พอพี่ปราบออกมา เขามองผมที่นอนเล่นเกมในโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ จนกระทั่งแต่งตัวเรียบร้อย ปิดไฟเตรียมเข้านอน เสียงพี่ปราบก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“อึดอัดใช่ไหม ที่รู้ว่ากูชอบผู้ชาย” เพราะไม่มีแสงไฟ ผมจึงไม่รู้ว่าพี่ปราบทำหน้ายังไง แต่เสียงของเขาค่อนข้างเบาหวิว

“เปล่าครับ” แต่ผมเลือกที่จะโกหก แม้จะรู้ว่าพี่ปราบไม่มีทางเชื่อ

“คืนนี้อยากจะใช้สิทธิ์ในการถามคำถามกูไหม” พี่ปราบเสนอขึ้นมา

ผมเองก็อยากถาม แต่ก็กลัวคำตอบ แต่ผมเองก็ไม่อยากอยู่อย่างอึดอัดอีกต่อไป

“พี่ปราบชอบผมหรือเปล่า”

“...” พี่ปราบเงียบ แต่ดูไม่ได้ตกใจ ไม่มีคำปฏิเสธว่าที่ผมพูดไม่เป็นความจริง ความเงียบกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดที่สุดในเวลานี้

“พี่ปราบ ไอ้หวายบอกผมว่า พี่อาจจะชอบผม แบบ...เป็นคนรัก ไอ้หวายมันโกหกผมใช่ไหมพี่” ตอนที่ถาม ผมกำลังคาดหวังให้คำตอบมันออกมาว่า พี่ปราบไม่ได้ชอบผม ไอ้หวายมันคิดไปเอง แต่คำตอบที่ได้ เขย่าสมองผมจนมึนงงไปหมด

“ไม่หรอก ไอ้หวายไม่ได้โกหก แต่กูชอบมึงจริงๆ ชอบมึงแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักชอบใครอีกคนหนึ่งได้”

ผมเพิ่งรู้สึกว่า สิทธิ์ถามคำถามได้หนึ่งข้อ มีข้อเสียก็ตรงที่ว่า คำตอบจะต้องเป็นความจริง ห้ามโกหกเด็ดขาด

ความรู้สึกของพี่ปราบ ก็เป็นเรื่องจริงที่ผมหลีกหนีไม่ได้

“กูขอถามมึงบ้างนะซ่า”

“...”

“มึงรังเกียจกูมากไหม”

ไม่...ผมไม่เคยรังเกียจ แต่เพราะผมก็คือผม และผมกับพี่ปราบ มันไม่มีทางเป็นไปได้

“ไม่ครับ แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้นกับพี่”

อย่าลดตัวลงมารักคนอย่างผมเลย ผมมันไม่คู่ควรหรอก




....................................................................................
ให้เวลาน้องมันหน่อยนะพี่ปราบ เด็กมันไม่เคย ถึงจะรู้สึกดียังไง มันก็ปฏิเสธไว้ก่อน ต้องกลัวต้องคิดมากเป็นธรรมดา จะเปลี่ยนชายแท้ให้มารักกับผู้ชายด้วยกัน ก็ต้องใช้เวลานิดนึง  :katai2-1:
เอาล่ะค่ะท่านผู้ชม อีกไม่นานแล้วจริงๆที่สองคนนี้จะรักกัน แต่ก็จะรักกันได้ ก็ต้องผ่านคลื่นดราม่าไปอีกลูกก่อนนะ  ว่าแต่จะเอาคลื่นลูกใหญ่หรือลูกเล็กดี 5555555  :laugh:
มาเอาใจช่วยให้น้องซ่าและพี่ปราบกันค่า
ใครที่แวะกลับมาอ่าน ทั้งคนเก่าคนใหม่ ริริขอบคุณมากนะ โดยเฉพาะคนที่เม้นให้ รักที่สุดเลย :m3: มีกำลังใจไปปั่นต่อได้อีกเยอะ
แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้าค่ะ ดีไม่ดีอาจมาถึงสองตอนเลยนะเธอ หึหึ :laugh3:
วันนี้จบไว้แค่นี้ค่ะ บ๊ายบายย :bye2:

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 08-12-2017 21:44:33
เอาใจช่วยทั้งคู่  :mew2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 08-12-2017 21:53:53
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-12-2017 22:40:40
หน่วง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-12-2017 23:02:26
ปราบ ซ่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ซ่า ทำเพื่อห่างปราบ
เพราะแคร์ลมปากคน
โดยบอกตัวเองว่าไม่อยากทำให้ปราบดูต่ำลงเพราะคบกับซ่า
กับเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ชอบผู้ชาย
ซ่า ไม่คิดว่าปราบจะเจ็บ ทุกข์ในใจ ช้ำใจที่เห็นซ่าทำเหมือนรังเกียจ
ปากก็ว่าไม่รังเกียจ แต่การกระทำมันใช่

แล้วถ้าเป็นปราบห่างซ่าซะเอง
คราวนี้ซ่าจะรู้สึกไหมนะ ว่ามันทุกข์ทรมานแค่ไหน
ซ่า ย้อนคิดไปว่ารักพลอยเพราะพลอยเข้าใจซ่า
ก็ตอนนี้ซ่า มีพี่ปราบเข้าใจซ่าคนเดียวนะ
รอซ่ารู้ตัว เข้าใจตัวเอง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-12-2017 23:09:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 08-12-2017 23:11:24
ห่างกันสักพักให้เห็นข้อเปรียบเทียบและขอตัวกระตุ้นชั้นดีทางฝั่งพี่ปราบจะดีมากนะจ๊ะ บอกซ่าไปเลยปราบโอเคแค่พี่น้องกัน หึๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 08-12-2017 23:12:36
อ้าวซ่าผ่านเรื่องมาม่ามาตั้งเยอะจะมาใจเซาะเรื่องพี่ปราบเนี่ยะนะ
ปวดใจแทนพี่ปราบจริงๆ จะสู้รึจะถอยกันละทีนี้ :ling3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-12-2017 23:22:15
ปัญหาตอนนี้คือ ซ่ายังไม่รักปราบใช่ปะ แล้วเมื่อไหร่ถึงจะรักหว่า แล้วพลอยจะก่อปัญหาให้กับซ่าอีกต่อไปไหมเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 08-12-2017 23:26:21
เอาคลื่นลูกเล็กพอค่ะ ใจไม่แข็งแรงพอต่อดราม่า 555555
สงสารน้องซ่าาา น้องยังดูสับสนอะ ยิ่งมาเจอคนอื่นพูดอีก พี่ปราบอย่าพึ่งทิ้งน้องนะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-12-2017 23:43:11
มันก็จะลำบากๆหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 09-12-2017 02:57:28
ขอให้ผ่านช่วงมรสุมไปให้ได้นะพี่ปราบกับน้องซ่า เอาใจช่วยทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-12-2017 05:53:43
ซ่าไม่เคยมองตัวเองว่าดีไง เลยกลายเป็นว่า อะไรก็รู้สึกไม่คู่ควร หน่วงดีแท้
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Disthaporn ที่ 09-12-2017 07:30:38
พี่ปราบก็ต้องให้เวลานุ้งซ่าหน่อยเนอะ ซ่าทั้งไม่เคยชอบผู้ชาย เเล้วก็คิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับพี่ปราบอีก ยังไงก็ต้องรู้สึกไม่ดีก่อนที่รู้ว่าพี่ปราบชอบ  เเล้วซ่าก็เป็นคนที่เเบบครอบครัวก็ไม่เห็นคุณค่าอ่ะ เเล้วจะมาคิดว่าตัวเองมีค่าพอคู่ควรกับพี่ปราบก็ยิ่งไม่ใช่ไปใหญ่เลย เเต่ก็สงสารพี่ปราบนา :o12: อุตส่าห์ทั้งรักทั้งเปย์ขนาดนี้ เเต่อดใจรอนิดนึงละกันเนอะพี่ปราบบ
จะรอสองตอนต่อไปนะคะ5555555 เป็นกำลังใจให้ปั่นต่อๆๆ สู้ๆค่ะ :กอด1: :pig4:
ปล. ขอมาม่าก้อนเล็กๆพอนะคะ ช่วงนี้ลดน้ำหนักอยู่ :ling1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 09-12-2017 08:08:48
กลัวพี่เขาจะถูกมองไม่ดี แต่ไม่ได้กลัวที่จะลองคบกันซินะ
พี่ปราบจับกวดก้นเค้นความจริงเลย
ไม่งั้นพี่ปราบก็คงได้นอยน้อยใจไปอีกนาน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-12-2017 08:59:44
ค่ะ ขอให้ปราบเข้าใจซ่านะ อย่าพึ่งเสียใจ

ซ่าคิดมาก ซ่านอยด์ ก็ปกติ ต่างกันมาแต่แรก แถมซ่าก็คิดมากมาตลอด
แล้วยังบอกตัวเองว่าไม่ชอบผู้ชายด้วย เลยไม่ชอบปราบแบบนั้นไปอีก

แต่ซ่าไม่เรียนรู้เลยนะว่าอย่าแคร์คำคนอื่นมากกว่าคนที่รักเรา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-12-2017 12:33:12
ต้องให้เวลาซ่านะพี่ปราบ แล้วดูคำนินทาแต่ละคนดิ :angry2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-12-2017 13:12:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 09-12-2017 22:52:22
คงต้องใช้เวลาเป็นตัวช่วยอธิบาย
อะไรๆ ก็จะเข้าใจง่ายขึ้น

ลุ้นนะ#ปราบซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่21:: 812/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 09-12-2017 23:31:51
ซ่าอย่าคิดเองเออเองซิ
ซ่าต้องถามพี่ปราบด้วยยยย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-12-2017 22:43:03
ปราบซ่า
ตอนที่22


[ซ่า]

เรื่องที่ผมกลัวสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริง ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ปราบไม่เหมือนเดิม หลังจากที่พี่ปราบสารภาพกับผมตามความจริงว่าพี่ปราบรักผมแบบคนรัก ไม่ใช่แบบพี่ชายน้องชายอย่างที่ผมเข้าใจ และผมได้ปฏิเสธพี่ปราบไปว่าผมไม่ได้คิดกับพี่ปราบแบบนั้น

บอกไม่ถูกว่าพี่ปราบไม่เหมือนเดิมยังไง ทั้งที่เขาก็เหมือนเดิม แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่ บางครั้งก็อาจเป็นเพราะผมเองที่พยายามทำตัวออกห่าง

และที่ต่างไปจากเดิมเลยก็คือ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา พี่ปราบไม่แวะไปที่คอนโดผมอีกเลย ทั้งๆที่น่าจะเป็นเรื่องดี เพราะพี่ปราบเว้นระยะห่างให้กับผม ถึงเขาจะชอบผมแต่เขาก็ไม่ได้ทำให้ผมลำบากใจ จะมีก็แต่ผมเนี่ยแหละที่รู้สึกว่ามันเริ่มจะไม่โอเค

ผมออกจากบ้านมา ชีวิตก็เหมือนจะมีแค่พี่ปราบ พอเขาห่างหายไป ผมก็รู้สึกเคว้ง ผมเคยคิดว่าผมอยู่คนเดียวได้ แต่เอาเข้าจริงมันก็เหงามาก แต่จะเรียกร้องอะไรได้ ในเมื่อผมเลือกที่จะให้มันเป็นแบบนี้เอง

ถึงจะอึดอัดที่มีอะไรก็ต้องเก็บไว้คนเดียว ถึงพี่ปราบจะบอกว่าถ้าผมมีปัญหาอะไรโทรหาเขาได้ตลอด แต่ผมก็ไม่กล้า ผมปฏิเสธเขา ทำให้เขารู้สึกแย่ แล้วยังจะไปมีหน้ารบกวนอะไรเขาอีก

ผมรับมาจากพี่ปราบมากเกินไป และถ้ายังจะเอาแต่เป็นผ่านรับโดยให้สิ่งที่พี่ปราบต้องการไม่ได้ ก็หน้าด้านเต็มทน

อีกหน่อยผมก็คงจะชินกับการอยู่คนเดียว

โรงเรียนเปิดเทอมผมก็กลับไปเรียนต่อเทอมสุดท้ายให้จบ ผมยังจำคำสอนของพี่ปราบได้เสมอ ถึงจะเรียนไม่เก่งก็ไม่เป็นไร ขอแค่ตั้งใจเรียนและทำให้ดีที่สุดก็พอ ดังนั้นถึงแม้ผมกับพี่ปราบจะห่างๆกัน แต่ผมก็ยังคงตั้งใจเรียนและไม่ทำตัวเกเร ผมไม่อยากให้พี่ปราบผิดหวัง แม้ว่าพี่ปราบจะไม่รู้ไม่เห็นก็ตาม

เช้าไปเรียน เย็นก็ไปทำงาน จากที่ทำงานทุกวันแล้วหยุดวันอาทิตย์ ผมก็ทำเฉพาะวันที่ไม่ได้เรียนเต็มวัน กับวันเสาร์อาทิตย์แทน

วันนี้ผมไม่มีเรียนตั้งแต่บ่ายสอง ก็เลยรีบกลับคอนโดแต่งตัวไปที่ร้าน หวังไว้ว่าอาจจะได้เจอพี่ปราบ แล้วก็ได้เจอจริงๆ แต่เป็นการเจอพี่ปราบในแบบที่ต่างออกไป

“อ้าวซ่า มาแล้วเหรอ ทำไมวันนี้มาไวจัง” อาเจที่กำลังนั่งคุยกับพี่ปราบแล้วก็แขกที่เป็นผู้หญิงสวยหันมาทักผม ผมเดินเข้าไปใกล้แล้วยกมือไหว้ทุกคนตรงนั้น

ผู้หญิงคนนี้เป็นใครไม่รู้ เพราะผมไม่เคยเห็น แต่คงจะสนิทกับพี่ปราบเพราะว่านั่งติดกันมากจนเกินกว่าที่ควรเป็น

แล้วทำไมผมต้องไปสนใจด้วยว่าพวกเขาจะนั่งติดกันขนาดไหน โคตรประสาทเลยผม

“พอดีเลิกเรียนเร็วครับ เลยรีบมา งั้นเดี๋ยวผมไปทำงานก่อนนะ” ผมรีบพูดแล้วเดินเลี่ยงออกมา

ผมควรสบายใจ ทำงานไปแล้วไม่ต้องคิดอะไร แต่ทำไมถึงรู้สึกกระวนกระวายอยู่ไม่เป็นสุข

“นั่นใครวะพัช ผู้หญิงที่นั่งข้างพี่ปราบอ่ะ” พี่ในร้านเดินเข้ามาถามผมที่กำลังเก็บโต๊ะอยู่ ผมมองไปทางโต๊ะพี่ปราบอีกครั้งก่อนจะส่ายหน้าตอบ

“ไม่รู้สิครับ”

พี่คนที่มาถาม ก็เป็นหนึ่งในคนที่พูดเรื่องผมกับพี่ปราบ ที่มาถามก็คงอยากจะได้เรื่องไปนินทาต่อตามประสาพวกอยากรู้อยากเห็น

“เฮ้ย ทำไมไม่รู้อ่ะ เอ็งกับพี่ปราบสนิทกันจะตาย”

“ก็สนิทกัน แต่ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง”

ผมไม่ได้รู้จักพี่ปราบดีพอ ถึงแม้ผมคิดว่าผมรู้เรื่องพี่ปราบดี แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด

“เอ็งว่าแฟนพี่ปราบหรือเปล่าวะ ดูดิ มีการจับมือกันด้วย มันต้องอย่างนี้สิวะ ถึงจะดูเหมาะสมกัน”

“ครับ” ผมตอบรับสั้นๆ รีบเก็บทำความสะอาดโต๊ะแล้วยกจานไปเก็บในครัว

เพราะทุกคนมองว่าพี่ปราบไม่เหมาะสมที่จะมายุ่งกับคนอย่างผม ถึงได้รู้สึกดีที่พี่ปราบจะได้อยู่กับคนที่คู่ควร มันก็ถูกแล้ว ผมไม่ว่าพวกเขาหรอก

เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว

คืนนี้เป็นอีกวันที่ผมได้มาประจำอยู่ที่บาร์เครื่องดื่ม เป็นลูกมือของพี่บิ๊ก ช่วงสามสี่ทุ่มลูกค้าจะเยอะและสั่งเหล้าถี่ต่อเนื่อง พี่บิ๊กทำคนเดียวไม่ทัน เลยให้ผมมาช่วย จะได้หยุดมือบ้างเป็นช่วงๆ

“สนุกไหม” พี่ปราบแวะเดินมาคุยกับผมรอบแรกของวัน ทั้งๆที่เขาอยู่ที่ร้านมาตั้งแต่ตอนเย็น

“ก็สนุกดีพี่ ผมทำได้หลายอย่างแล้ว พี่อยากลองชิมเหล้าฝีมือผมไหม” ผมยิ้มแล้วรีบพูด อะไรวะ นี่กูดีใจเหรอ

“ไหน เอามาลองสักแก้วสิ มีเมนูไหนจะนำเสนอกู บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าไม่อร่อยกูไม่จ่ายเงิน”

“โหยพี่ปราบ จะแกล้งให้ผมจ่ายเงินให้หรือไง”

“กูไม่แกล้งมึงหรอก ทำให้ดีๆก็แล้วกัน”

“ได้เลย พี่รอชิมเถอะ”

สูตรค็อกเทลที่ผมจะทำให้พี่ปราบลองชิมดูก็คือ Scotch Manhattan เพราะส่วนผสมไม่เยอะ และผมชอบ พี่บิ๊กยังชมว่าผมทำได้รสชาติดี ยังไงก็ไม่ต้องจ่ายค่าเหล้าให้พี่ปราบแน่นอน

เริ่มจากใส่เหล้าสกอตวิสกี้ยี้ห้อชีวาส เวอร์มุตแบบหวาน และเหล้าสมุนไพรที่ใช้เพียงสองสามหยดลงในกระบอกเช็คเกอร์ ใส่น้ำแข็งสักสี่ก้อน จากนั้นผมก็ออกแรงเขย่าด้วยความเมามัน แต่ก็ถูกหลักตามที่พี่บิ๊กสอนมาว่าควรเขย่าเร็วและแรงขนาดไหนถึงจะพอดี พอได้ที่ก็เทใส่แล้วตกแต่งด้วยลูกเชอร์รี่ก็เป็นอันเสร็จ พร้อมเสิร์ฟให้พี่ปราบชิม

“Scotch Manhattan” พี่ปราบเอ่ยชื่อค็อกเทลได้ถูกต้อง ทั้งๆที่ผมไม่ได้บอกก่อนว่าจะทำอะไรให้ชิม

“พี่รู้ด้วย?”

“นี่ใคร กูเซียนของมึนเมา ไหนมาลองดิว่าอร่อยแค่ไหน” พี่ปราบยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ดวงตาคมเข้มหลับลงช้าๆ เหมือนกำลังดื่มด่ำอยู่กับรสชาติ พี่ปราบลืมตาอีกทีก็ตอนที่กลืนเหล้าลงคอไปแล้ว

“เป็นไงบ้างพี่” โคตรจะลุ้นเลย คือถ้าผมทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดี ผมจะได้เลื่อนขั้นมาทำงานตรงบาร์ ค่าแรงก็จะได้มากกว่าเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารเกือบเท่าตัวเลย

“อืม”

“...”

“รสชาติมันก็...”

“พี่ปราบ อย่ากวนได้ไหมเนี่ย”

“หึหึ อร่อยดี ลงตัวเลย ถ้าไม่บอกกูคงคิดว่าไอ้บิ๊กทำ”

“เยส!!!” สุดยอดเลยไอ้ซ่า มึงทำได้

“ดีใจหน้าบานเลยนะ” พี่ปราบแซวที่ผมยิ้มกว้าง “ฝึกๆเอาไว้ กูรู้ว่ามึงหัวไวเรื่องเหล้า เลยบอกให้อาเจให้มึงมาฝึกงานกับไอ้บิ๊ก ช่วงนี้ก็ตั้งใจล่ะ อย่าทำให้กูต้องเสียชื่อที่แนะนำมึง”

“พี่ปราบแนะนำผมให้อาเจเหรอ” ทีแรกผมคิดว่าอาเจอยากให้ผมมาลองทำด้วยตัวเอง ไม่ทันคิดว่าจะเป็นคนที่ช่วยผมอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ผมเลือกจะปฏิเสธความรู้สึกของพี่ปราบ แต่พี่ปราบก็ยังทำเพื่อผม

“อืม ถ้ามึงเป็นบาร์เทนเดอร์ เงินเดือนจะได้มากขึ้น จะได้พอใช้ มึงต้องส่งกลับไปให้ที่บ้านด้วยไม่ใช่หรือไง”

“ก็ครับ ขอบคุณนะครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่ปราบ ไอ้รู้สึกดีมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ยิ่งรู้ความจริง มันยิ่งตอกย้ำว่าผมเป็นเด็กเส้นแบบที่ใครๆเข้าใจ

“ปราบ หายมาอยู่ตรงนี้นี่เอง เราอยากดื่มค็อกเทลอยู่พอดีเลย แนะนำให้หน่อยสิว่าอะไรอร่อย” ผู้หญิงที่นั่งข้างพี่ปราบตั้งแต่ผมเข้าร้านมาเดินมานั่งข้างๆ แล้วเกาะแขนพี่ปราบไว้แน่น

“ปราบว่าการ์ตูนดื่มเยอะแล้วนะ เดี๋ยวก็ขับรถกลับบ้านไม่ไหวหรอก” พี่ปราบหันไปพูดกับสาวสวยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มหูแบบที่ผมก็ชอบฟัง ที่ผมไม่ค่อยเห็นพี่ปราบใช้พูดกับใคร เอาจริงๆตั้งแต่ผมคบกับพี่ปราบมา ก็ไม่เคยเห็นพี่ปราบควงสาวสวยหรือผู้ชายคนไหนให้ผมเห็น

บางทีพี่ปราบอาจจะกำลังตัดใจ มันก็ดีแล้วไงไอ้ซ่า เขาจะได้ไม่ต้องชอบมึง ทุกอย่างมันกำลังเป็นแบบที่มึงต้องการไง แล้วมึงจะหงุดหงิดทำเหี้ยอะไรวะ

“ซ่า ทำค็อกเทลดื่มง่ายๆให้การ์ตูนสักแก้วสิ”

“ครับ” ผมรับคำ เลือกทำเป็นสูตรง่ายๆที่ทำได้ พี่ปราบคุยกับพี่การ์ตูนสนุกสนาน ผมเสิร์ฟเครื่องดื่มให้พี่ปราบเสร็จ ดูรอบด้านแล้วไม่มีอะไรให้ผมทำ ผมเลยออกไปช่วยคนอื่นเสิร์ฟอาหารแทน เพื่อที่ผมจะได้ไม่อยู่เป็นตัวประกอบให้คนอื่นเขา

ที่จริงแล้ว พี่ปราบก็ยังเหมือนเดิม แต่คนเห็นแก่ตัวมันก็คือผมเอง ที่อยากจะให้พี่ปราบทำกับผมเหมือนเดิม แต่ไม่อยากให้เขาคิดกับผมเกินเลยกว่าพี่น้อง ไม่อย่างนั้นผมจะไม่สบายใจ

คนที่ผิดมันคือผมเอง





(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-12-2017 22:43:42


มีวันหยุดราชการยาวสามวันติด ตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ ทีแรกผมก็ไม่คิดจะไปไหน จนไอ้หวายโทรมาชวนไปกาญจนบุรี ไปนอนแพริมน้ำ และคนที่คิดอยากจะไปไม่ใช่ไอ้หวาย แต่เป็นเฮียธีร์กับเฮียกี่ ซึ่งแน่นอนว่าไอ้หวายต้องเสนอหน้าไปด้วยอยู่แล้ว และมันก็จะไม่ยอมไปคนเดียวให้พวกพี่เขาแกล้ง มันก็เลยลากพวกผมไปด้วย

เราออกเดินทางตั้งแต่เช้า ผมนั่งรถไปกับพี่ปราบเฮียธีร์และไอ้ตูน เพราะเมื่อคืนไอ้ตูนแวะมานอนกับผมที่คอนโด ไอ้หวายกับไอ้กานไปกับเฮียบีทกับเฮียกี่ ไอ้นุ๊กไม่ได้ไปด้วย แม่มันพาไปทำทำบุญที่ต่างจังหวัด ได้ทีไอ้หวายก็เลยโทรไปแกล้งไอ้นุ๊กยกใหญ่

ระหว่างทางนอกจากแวะปั๊มน้ำมันกับแวะกินข้าว ก็ขับรถมุ่งหน้าตรงไปที่พักเลย เป็นความต้องการเฮียบีทที่ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนเพราะต้องเคลียร์งานที่ร้านเหล้าทั้งคืน แกเลยอยากรีบๆไปถึงแล้วก็รีบๆนอน ไอ้หวายส่งข้อความมาเล่าว่าระหว่างทางแกก็หลับตลอดทาง

“อยากแวะซื้อของอะไรไปเพิ่มใหม่ ถึงที่พักแล้วจะได้ไม่ต้องออกมาอีก” พี่ปราบมองผมผ่านกระจกมองหลัง

“ไม่เอาแล้วครับ” ไอ้ตูนตอบก่อน

“ผมก็ไม่เอา”

“แน่ใจนะ ตอนดึกอยากได้อะไรกูไม่พาออกมาแล้วนะ”

“ครับผม ไม่เอาอะไรแล้วครับ” ผมพูดขำๆ รู้สึกอุ่นวาบในอกกับการใส่ใจของพี่ปราบ จะบอกยังไงดีว่าผมโคตรคิดถึงบรรยากาศแบบนี้เลย

มาถึงที่พักเฮียธีร์เป็นคนไปติดต่อรับกุญแจ พวกผมคือตื่นเต้นมาก วิ่งไปที่แพดูวิวรอบๆที่พัก วันนี้แดดไม่ร้อนลมเย็นสบายด้วย เห็นน้ำแล้วอยากจะกระโดดลงไปเล่นมันเดี๋ยวนี้เลย

“เฮ้ย พวกมึง มาเอากุญแจห้อง” เฮียกี่ตะโกนเรียก

“ได้มาสามห้อง ห้องสามคนสองห้อง และห้องสองคนอีกห้องหนึ่ง จะนอนกันยังไง” เฮียธีร์ถาม พวกผมได้แต่มองหน้ากันแล้วปล่อยให้พวกพี่เขาตัดสินใจ คือพวกผมไม่ได้ใช่คนออกเงินไง นอนไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ

“จะไปยากอะไร กู มึง ไอ้บีท นอนด้วยกัน ไอ้หวาย ไอ้ตูนนอนกับไอ้กาน ส่วนพวกมึงสองคนก็นอนด้วยกันซะ ไหนๆก็สนิทกันยิ่งกว่าเพื่อนซะอีก เชิญ” เฮียบีทที่ง่วงนอนถึงขีดสุด จัดแจงห้องพักให้กับทุกคนโดยไม่ถามความเห็น โยนกุญแจห้องสามคนให้ไอ้หวาย แล้วส่งกุญแจห้องสองคนให้พี่ปราบ

“เฮียธีร์ คือ ให้ไอ้หวายนอนกับพี่ปราบดีกว่านะ เดี๋ยวผมไปนอนกับไอ้พวกนั้น” ผมรีบหาทางออกให้ตัวเอง หันไปมองหน้าพี่ปราบคิดว่าพี่เขาจะช่วยพูด แต่พี่ปราบเอาแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ ไม่รู้ส่งข้อความหาใคร ผมเห็นพี่ปราบตอบไลน์ทั้งวันเลย

“ไม่เอา กูไม่นอนกับพี่ปราบหรอก มึงอย่าเรื่องมากนะ ไปเว้ยพวกมึง กูอยากเล่นน้ำแล้ว” ไอ้หวายที่เหมือนจะชอบใจที่แกล้งผมได้ รีบล็อคคอไอ้ตูนกับไอ้กานที่ยิ้มหน้าเหี้ยเดินไปที่ห้องพัก

“เอาน่ามึง กูเห็นมันไปนอนกับมึงบ่อยๆ กลัวไรวะ” เฮียบีทตบบ่าผมแล้วรีบเดินไปที่ห้อง พี่อีกสองคนก็ส่งยิ้มกวนๆมาให้ ดูก็รู้ว่าพวกเขารู้ว่าพี่ปราบคิดกับผมยังไง

“ไป เข้าห้องเก็บของ” พี่ปราบเก็บโทรศัพท์แล้วหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นมาถือ พยักหน้าไปทางห้องนอนก่อนออกเดินนำ

ถึงผมจะคิดว่านอนยังไงก็ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมต้องนอนกับพี่ปราบสองต่อสองหรือเปล่า

เอาเถอะ ผมรู้ว่าพี่ปราบไม่ทำอะไรผมหรอก แค่...อยู่ๆก็รู้สึกไม่ชิน

ห้องพักเป็นไม้ทั้งหลัง เตียงนอนใหญ่หลังเดียวสำหรับนอนสองคน เอาวะ ทำเป็นไม่เคยนอนกับพี่ปราบไปได้ไอ้ซ่า 

“จะไปเล่นน้ำไหม เขามีให้ขึ้นแพแล้วให้กระโดดลงน้ำว่ายกลับที่พักด้วย” พี่ปราบที่กำลังรื้อของออกจากกระเป๋าถาม

“เล่นพี่ ผมไปเปลี่ยนชุดนะ” พอได้ยินว่าจะลงน้ำ ผมก็หูผึ่ง รีบรื้อหาเสื้อผ้าในกระเป๋าแล้วถอดเปลี่ยนมันตรงนั้น ลืมไปเลยว่าพี่ปราบก็อยู่ในห้อง

“หึหึ รีบเป็นเด็กๆเลยนะมึง” พี่ปราบยิ้มขำตอนที่ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว นั่นแหละผมถึงได้นึกขึ้นได้ ก็กระดากอยู่หรอกแต่ไม่ใช่ว่าจะอายอะไรมากมาย

“ผมออกไปข้างนอกนะพี่” ผมหันไปบอกพี่ปราบที่ยังไม่ได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

“อืม จะเล่นจะอะไรก็ระวังนะมึง”

“ครับผม”

ผมรีบไปหาไอ้พวกเพื่อนชั่วที่ห้องของพวกมันทันที ผมคิดว่าพวกมันจะต้องเตรียมพร้อมลงน้ำเหมือนกับผมแน่นอน แต่พอเปิดประตูเข้าไป พวกมันกำลังเปิดเพลงเต้นแร้งเต้นกาไปพร้อมกับวิดีโอคอลหาไอ้นุ๊ก ให้มันด่าเล่นๆ

“ไอ้พวกเหี้ย คราวหน้ากูจะไม่พลาดกูบอกเลย”

“แต่คราวนี้มึงพลาดแล้วไง”

“ยะฮู้ว ทำบุญให้สนุกนะมึง เอาบุญมาฝากกูด้วย ส่วนทางนี้จะทั้งเมาทั้งมันแทนมึงเองนะจ๊ะน้องนุ๊กสุดที่รักของพี่กาน”

“ไอ้เหี้ยกาน กูไม่ให้บุญมึงหรอก คนอย่างมึงมีแต่บาป”

“ฮ่าๆๆ ไม่ได้มาแล้วอารมณ์เสียนะมึง”

“แม่ ไอ้พวกนี้มันแกล้งผม”

โคตรจะวุ่นวายเลย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไปร่วมวงแกล้งไอ้นุ๊กด้วย สนุกดี เห็นมันหัวฟัดหัวเหวี่ยงบ่นเสียดายที่ต้องไปทำบุญในวันเดียวกับที่พวกผมมาเที่ยว แต่พอแม่มันเรียกให้ไปหาหลวงพ่อ มันก็รีบวางสายแล้ววิ่งแจ้นไปหาแม่มันทันที

หมดเรื่องสนุกแล้วผมก็ไล่เตะไอ้สามคนที่เหลือให้มันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียที

“มึงจะรีบไปไหน มันมีรอบออกแพเว้ย อีกตั้งเกือบชั่วโมง” ไอ้ตูนที่เอาแต่คุยกับเมียคนที่ห้าร้อยยี่สิบสามเบี่ยงตัวหนีมือผมที่เริ่มจะทุบตีมัน แม่งไม่ยอมลุกออกจากที่นอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพร้อมลงน้ำสักที

“พวกมึงๆ ออกไปถ่ายรูปเท่ๆข้างนอกกันดีกว่า แล้วเปลี่ยนโปรไฟล์เฟสบุ๊กให้เหมือนกันทุกคน” ไอ้หวายนำเสนอความคิดที่เข้าท่า

“เดี๋ยวไอ้นุ๊กมันก็โวยวายอีก”

“ดีออกไง ได้แกล้งมัน สนุกดี”

“มึงอย่าไปแกล้งน้องนุ๊กเขา เดี๋ยวกูตัดแปะหน้าไอ้นุ๊กใส่ลงไปเอง”

“แหม นี่ใช้ไอ้กานตัวจริงไหมเนี่ย ทำไมมึงดูเป็นคนดีรักเพื่อนจังเลย”

“ว่าไม่ได้นะครับพวกคุณ ผมมันคนจิตใจดี รักเพื่อนรักฝูง รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตีนะครับ”

“ไอ้สัด ไม่ได้คล้องจองกันเลย” ผมด่าไอ้กาน ที่ขำขันกับคำพูดบ้าบอของมันเอง

เพราะยังไม่ถึงเวลาลงแพไปเล่นน้ำ แต่พวกผมก็เตรียมตัวพร้อมมากสำหรับการเปียก มันมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กๆแช่ได้อย่างเดียวแต่ว่ายไม่ได้อยู่สองสระ พวกผมก็เลยลงไปแช่น้ำในนั้นแทน

“พวกมึงทำอะไรกัน คิดว่าตัวเองเป็นบอยแบนหรือไง” เฮียบีทมองพวกผมด้วยสายตาเหมือนจะรับไม่ได้ ที่พวกผมนั่งพิงขอบสระเรียงกัน ใบหน้าแต่ละคนก็สวมแว่นตาดำไว้กันแดดด้วย อย่างเท่

“กูว่าไม่ใช่บอยแบน แต่เหมือนคนตาบอดรวมตัวกันมากกว่า” ปากแบบนี้ไม่ใช่ใคร เฮียกี่เจ้าเก่าเจ้าเดิม

“ไปเลยชิ่วๆ คนขี้เก็กไปตรงนู้นเลย” ไอ้หวายสะบัดมือไล่พี่กี่ที่มองไอ้หวายยิ้มๆ ผมว่ามันแปลกนะ แต่ไม่รู้ว่ามันแปลกยังไง

“เออ กูไปหาสาวๆกลุ่มนั้นดีกว่า ไปพวกมึง ไปหาของสวยๆงามๆตู้มๆดู แถวนี้แม่งมีแต่เด็กเถื่อน ฮ่าๆๆๆ” เฮียกี่แกดูจะมีความสุขที่แหย่ไอ้หวายได้ ไอ้นี่ก็น้ำหน้าบึ้งเป็นตูด

จะว่าไปแล้ว พี่ปราบแกไม่เห็นจะพูดจะแซวอะไรพวกผมเลย และปกติก็ไม่เห็นจะไปส่องสาวกับพวกเฮียๆ วันนี้เขาคิดยังไงเดินไปร่วมวงกับสาวฝรั่งผมทองนมเป็นนมตูดเป็นตูด

ไหนบอกว่าชอบผมไงวะ ตอนนี้คุยกับสาวแบบหน้าบาน

ประสาท

ไม่ใช่พี่ปราบนะ กูเนี่ยแหละประสาท จะไปสนใจทำไม พี่ปราบชอบผู้หญิงก็ดีแล้ว เขาจะได้ไม่ต้องมาชอบผม

ได้เวลาที่แพจะออกรอบ พวกเราก็ขึ้นไปบนแพแล้วใส่เสื้อชูชีพ แล้วก็ไปนั่งหย่อนเท้าในน้ำตอนที่แพลอยน้ำไปทางต้นน้ำ เฮียธีร์ที่จะไม่ลงน้ำก็ทำหน้าที่เป็นช่างภาพไป ผมไปขอดูรูปในกล้องเฮียธีร์มาด้วย โคตรเจ๋ง ถ่ายสวยมาก และกล้องของพี่ธีร์ก็ตัวละเป็นแสน ราคาน่ากลัวมาก

ถึงจุดที่ปล่อยลงน้ำ กลุ่มผู้หญิงก็จะเรียบร้อยๆหน่อยก็ค่อยหย่อนตัว หรือมีผลักเพื่อนลงน้ำบ้าง แต่พวกผู้ชายวัยฉกรรจ์อย่างพวกผม ถ้าไม่ถีบเพื่อนก็ตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังลงไป ส่วนผมโดนไอ้กานผลักตกน้ำ จุกไปดิ แต่โคตรสนุก เสียอย่างเดียว พอใส่เสื้อชูชีพแล้วตัวผมมันทิ้งลงแนวดิ่ง ว่ายไปข้างหน้ายากมาก ไอ้กานกับไอ้หวายแม่งเอาแต่ขำผม ไอ้ตูนไปว่ายใกล้ๆสาวหน้าตาน่ารัก ไม่มีใครช่วยผมสักคน กลายเป็นผมรั้งท้ายสุดในกลุ่ม

“ทำไมไม่ว่ายไป”

“เฮ้ย” อยู่ๆก็มีคนมากระซิบข้างหู พร้อมกับมือที่โอบเอวผมไว้ใต้น้ำ

“ตกใจอะไร” พี่ปราบถาม ผมพยายามเบี่ยงตัวหนี แต่ไม่ยอมปล่อยมือที่กอดเอวผมออก

“พี่มาทำอะไรตรงนี้” ผมคิดว่าพี่ปราบว่ายอยู่ข้างหน้าๆ ใครจะไปรู้ว่าอยู่ดีๆจะโผล่มาข้างหลัง

“มึงมากกว่ามาทำอะไรตรงนี้ เขาว่ายไปกันหมดแล้ว”

“มันว่ายไม่ไปอ่ะ” ผมบอกไปตามความจริง

“หึหึ มากูช่วย” ช่วยของพี่ปราบคือเขากระชับกอดเอวผมแน่นขึ้น

“พี่ ไม่เป็นไร”

“ไปด้วยกัน ช่วยกันว่าย มึงก็ตีขาแรงๆ”

ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ ก็เลยปล่อยให้พี่ปราบช่วยพยุงให้ตัวผมว่ายไปข้างหน้าพร้อมๆกับพี่ปราบ ซึ่งผมว่าเขาไม่ได้ทำกันแบบนี้นะ มันน่าจะเป็นท่าอื่นมากกว่า

“ฮั่นแหน่ ที่มาช้าเพราะแอบไปสวีทกันมานี่เอง” ไอ้กานปล่อยหมาออกจากปากทันทีที่ผมกับพี่ปราบเริ่มว่ายน้ำเข้าไปใกล้

“กูนึกว่ามึงไปช่วยสาวฝรั่งเสียอีก” เฮียบีทพูดกับพี่ปราบ

“ผู้หญิงเขาว่ายแข็ง ไอ้เด็กนี่หรอก ลอยตัวนิ่งอยู่กลางน้ำเลยต้องไปช่วย”

“กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเดี๋ยวนี้เขาช่วยกันท่านี้ กอดเอวไอ้ซ่าแน่นเชียว” เฮียกี่ก็พูดซะผมดีดตัวออกห่างพี่ปราบแทบไม่ทัน

“อยากสวีทกันก็บอกมา” ไอ้หวายยังคงล้อ พวกมันยังไม่รู้ว่าผมรู้แล้วว่าพี่ปราบชอบผม ผมยังไม่กล้าบอก ไม่ใช่ว่าไม่อยากจ่ายเงิน แต่กลัวพวกมันจะมาล้อผมเนี่ยแหละ ผมเลยไม่กล้าพูด

“พวกมึงอย่าพูดบ้าๆ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ผมขึ้นแล้วนะ” คราวนี้ผมจ้วงเต็มแรงไปที่แพแล้วดันตัวขึ้นข้างบน พี่ปราบมองจ้องผม สายตาดูเจ็บปวด แต่ก็แค่แปบเดียว เพราะหลังจากนั้นพี่ปราบก็ไม่สนใจอีกเลย เป็นผมเองที่รู้สึกผิด

เล่นน้ำเสร็จก็แยกย้ายไปอาบน้ำ จะได้ออกมากินข้าวเย็นตามเวลาที่รีสอร์ทกำหนด ผมกลับเข้าห้องก่อนก็เลยอาบน้ำก่อน อาบเสร็จก็ออกมาเจอพี่ปราบกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ได้ยินพี่ปราบเรียกคนปลายสายว่าการ์ตูน

“พี่ ผมอาบเสร็จแล้ว” ผมพูดแทรกขึ้นกลางปล้อง พี่ปราบเหลือบตามองผมก่อนจะพยักหน้า กดวางสายแล้วหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ

ทีแรกก็คิดว่าอะไรๆจะดีขึ้น แต่พอมีคนพูดและตีความว่าผมกับพี่ปราบในทำนองชู้สาว ผมก็เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง และรู้สึกอึดอัดและวางตัวไม่ถูก

ถึงเวลากินข้าวเย็น ผมออกไปพร้อมพี่ปราบ ซึ่งคนอื่นไปถึงก่อนและจองที่ไว้ก่อนแล้ว ผมเดินไปตักอาหารที่อยากกิน ใช้แรงว่ายน้ำไปเยอะ พอเห็นอาหารผมก็หน้ามืดทันที ตักแทบจะทุกอย่างที่เขามีไว้ให้

“หิวเหรอไง” พี่ปราบที่นั่งข้างผมถาม

“มากเลยพี่ ยำอร่อย พี่ลองป่ะ” พี่ปราบไม่ได้ตักยำรวมมิตรมา ผมที่ตักมาจานใหญ่เลยตักกุ้งตัวโตกับปลาหมึกชิ้นใหญ่ใส่จานข้าวพี่ปราบ

“ขอบใจ อืม อร่อยจริง รสชาติจัดจ้าน”

“ใช่ไหมพี่ อร่อยเหมือนอาเจทำเลย”
“เออ มึงพูดถูก” พี่ปราบพยักหน้าเห็นด้วย

“พวกมึงสองคนคิดว่ามาฮันนีมูนเหรอครับ สนใจเพื่อนหน่อยไหม ไหนไอ้ซ่า ตักยำมาให้กูชิมสิ”

เฮียบีทนี่อยู่เฉยๆไม่ได้เลย ต้องแซวผมกับพี่ปราบตลอด ถ้าพี่ปราบไม่ได้ชอบผมมันก็ขำๆสนุกดีอยู่หรอก แต่ไม่ใช่ไง พี่ปราบชอบผมจริงๆ และเรื่องนี้ทำผมอึดอัดใจตลอด มันเลยไม่ขำเหมือนที่ผ่านมา

“เฮียอิจฉาเขาหรือไง มาๆผมตักให้ครับ” ไอ้กานลุกขึ้นยืนโน้มตัวมาตักยำของผมไปใส่จานเฮียบีท

“กูจะแดกลงไหมเนี่ย” เฮียบีทก้มมองยำในจานตัวเองอย่างชั่งใจ

“ฮ่าๆๆ ไอ้กานมันอุตส่าห์ตักให้ มึงดูตามันสิ อ้อนสุดๆ” เฮียธีร์ก็ชงต่อเลย

“ผมว่าอ้อนตีนมากกว่า ฮ่าๆๆ” ไอ้ตูนเสริม

ทุกคนหันไปสนใจไอ้กานแทนแล้ว ผมก็นั่งกินข้าวเงียบๆ หัวเราะบ้างพูดบ้างไปเรื่อย แต่คงจะเงียบเกินจนพี่ปราบรู้สึก

“มึงไม่ต้องคิดมาก เพื่อนกูมันก็แซวขำๆ”

ผมปั้นหน้ายิ้มไม่ให้พี่ปราบคิดมาก “ไม่เป็นไรพี่”

กินข้าวเสร็จก็เริ่มตั้งวงเหล้าตามแบบฉบับผู้ชายที่ระเบียงหน้าบ้านผมเพราะอยู่ตรงกลาง เหล้าพร้อมกับแกล้มขนมห่อก็พร้อม พี่ปราบเอากีตาร์มาด้วย ไม่นานนักแต่ละคนก็เริ่มไม่สมประกอบ

เริ่มเมาพวกพี่ๆก็ถกปัญหาเรื่องงานเรื่องหุ้นเรื่องธุรกิจที่พวกผมฟังไม่เข้าใจ แต่ไอ้การกับไอ้หวายก็ดึงมาที่เรื่องตลกได้ตลอดเวลา หรือไม่ก็ดีดกีตาร์ร้องเพลง เฮียธีร์ร้องเพลงเพราะมาก หน้าก็หล่อแล้วเสียงยังหล่ออีก แต่ถ้าไอ้กานแหกปากเมื่อไหร่ ผมละกลัวเหลือเกินว่าคนอื่นๆที่เขามาพักจะปาร้องเท้าใส่พวกผม

“ทุกคนๆ ฟังผมหน่อย” ไอ้หวายลุกขึ้นยืนกลางวงเหล้า ปรบมือให้ทุกคนที่กำลังคุยกันฟังมัน

“อะไรของมึงไอ้หวาย” ไอ้กานเงยหน้าถาม

“ผมมีเรื่องหนึ่งสงสัย อยากจะถามเฮียปราบ” ปากมันพูดถึงพี่ปราบ แต่สายตามองผม รู้เลยว่ามันจะถามเรื่องอะไร ผมหน้าเสียทันที พยายามจะลุกขึ้นไปห้ามไอ้หวาย แต่ไอ้ตูนรั้งผมไว้

“ปล่อยกูไอ้ตูน!” ผมหันไปตวาดไอ้ตูน เท่านั้นแหละ

“แล้วพวกมึงสองคนเป็นอะไรอีกเนี่ย” เฮียธีร์หันมาสองใจผมกับไอ้ตูนบ้าง

จะถามอะไรก็ถามไอ้หวาย” เฮียบีทพูดเปิดทางให้ไอ้เพื่อนชั่ว

“ผมจะถามว่า...”

“อย่านะไอ้หวาย” ผมชี้หน้ามันหน้าเครียด

“เฮียปราบชอบไอ้ซ่าเหรอ” แต่มันไม่ฟังผม ถามคำถามที่ผมไม่อยากให้มันพูดที่สุดออกมา

ทุกคนเงียบพร้อมกัน ไอ้ตูนปล่อยตัวผมแล้ว แต่ผมไม่กล้าที่จะเงยหน้าสบตาใครเลย ได้แต่รอฟังว่าพี่ปราบจะตอบว่ายังไง ถ้าพี่ปราบพูดความจริงออกมา ทุกคนก็จะรู้กันหมด ซึ่งผมไม่อยากให้ใครรู้ แค่พวกเขาสงสัย ยังคอยแต่จะจับคู่ผมกับพี่ปราบ แล้วถ้าพวกเขารู้ความจริง ผมรู้เลยว่าผมไม่ชอบแน่ๆ ขอให้พี่ปราบไม่พูดมันออกมา

ผมลองสบตาพี่ปราบที่กำลังมองผมด้วยสายตาแน่วแน่ ผมส่ายหน้าเบาๆไม่ให้เขาพูด แต่พี่ปราบไม่เชื่อผม

“ใช่ กูชอบไอ้ซ่า” พี่ปราบพูดออกไปแล้ว ทุกคนไม่มีใครพูดอะไร มองพี่ปราบกับผมสลับกัน

“สรุปพวกมึงสองคนคบกันอยู่เหรอ” เฮียธีร์ชี้มาที่ผมกับพี่ปราบ

“ไม่ใช่!” เพราะตกใจ เสียงของผมเลยกระแทกกระทั้นไปนิด “ผมไมได้คบกับพี่ปราบ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย” ผมรีบพูดต่อ

“แล้วเฮียจีบไอ้ซ่ามันอยู่เหรอ” ไอ้ตูนยิงคำถามใส่พี่ปราบบ้าง

“กูดูเหมือนจีบมันเหรอ” พี่ปราบกลับถามกลับแทน

“พวกพี่ไม่ตกใจเลยเหรอ” ไอ้กานดูจะงงที่พวกเฮียๆดูปกติไม่ตกใจอะไร

“มีอะไรน่าตกใจ พวกกูรู้และสงสัยก่อนพวกมึงอีกมั้ง รู้สึกระแคะระคายมาตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้ไอ้ปราบไม่พูดก็พอจะดูออก”

ตั้งแต่แรก? มันคือตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่ตอนไหน

“เฮียบีท ตั้งแต่แรกมันคืออะไร” คราวนี้ผมเป็นคนถามเอง

“ก็ตั้งแต่ที่พวกกูรู้จักมึงนั่นแหละ ไอ้ปราบไม่เคยทำดีกับใคร ไม่เคยเสียเวลาช่วยเหลือใคร ที่มันไปหามึงคอยดูแลมึงก็เพราะมันชอบมึงไง กูพูดถูกไหมไอ้ปราบ”

“พี่...” ผมหันไปมองพี่ปราบอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“อืม กูเข้าหามึงเพราะกูชอบมึง” แต่ไหนแต่ไรพี่ปราบไม่เคยพูดโกหก คนอย่างพี่ปราบมักพูดแต่ความจริงเสมอ เป็นคนพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม

“พี่เข้าหาผม พี่ต้องการอะไร”

ช่วยบอกที่ว่าแค่สงสารคนไม่มีอะไรดีในชีวิตอย่างผม

“เพราะกูอยากได้มึง”

ไม่ใช่เหตุผลนี้ ผมไม่อยากได้ยิน

“เอ้า พี่ปราบเขาบอกมึงแล้วว่าเขาชอบมึง มึงจะตกลงคบกับเขาไหมน้องซ่า” ผมตวัดสายตาไม่พอใจใส่ไอ้กานที่เล่นไม่ดูเวล่ำเวลา

“พวกกูก็อยากรู้นะ เพื่อนกูชอบมึง แต่มึงดูไม่อะไรกับเพื่อนกูเลย มันทำทุกอย่างก็เพื่อมึง มึงจะไม่ตอบแทนมันหน่อยเหรอวะ” เฮียกี่พูดจาได้ไม่เข้าหูผมสุดๆ

เพราะพี่ปราบดีกับผม ผมต้องตอบตกลงใช่ไหม มันไม่เล่นตลกกับความรู้สึกผมเกินไปเหรอ

“พวกมึงอย่าพูดอย่างนั้น กูไม่ได้อยากให้มันตอบแทนความรักของกูหรอก พอๆ มึงเห็นหน้ามันไหม เดี๋ยวก็หมดสนุกกันพอดี” พี่ปราบช่วยพูดให้ทุกคนหยุดซักไซ้ผมเสียที

ตลอดค่ำคืนผมนั่งก้มหน้ากินเหล้าไม่พูดหรือเล่นอะไรกับคนอื่นๆ ตอนนี้ทั้งรู้สึกผิดหวังแล้วก็เสียใจ ถ้าพี่ปราบไม่ได้ชอบผม เขาก็จะไม่ดีกับผมใช่ไหม ไม่ช่วยเหลือผมใช่ไหม ผมก็จะไม่มีใครใช่ไหม แล้วถ้าผมไม่ตอบรับความรักของพี่ปราบ ผมผิดใช่ไหม

พี่ปราบทำให้ผมเพราะหวังต้องการผม ในเมื่อวันนี้พี่ปราบไม่ได้ เขาก็จะไปจากผม จากนั้นผมก็จะกลายเป็นคนๆเดิมที่ไม่มีใครต้องการ

นี่ผมหวังอะไรอยู่ โคตรงี่เง่าเลย

ผมแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่ากลับมานอนที่ห้องได้ยังไง ทันทีที่ความเย็นกระทบผิวหน้าและลำคอ ตาทั้งสองข้างก็ค่อยๆลืมขึ้น คนตรงหน้าที่ดูแลผมก็ยังเป็นพี่ปราบ

“จะอ้วกไหม” พี่ปราบถาม ผมส่ายหน้า

“ทำไมพี่ถึงชอบคนอย่างผม”

ผมไม่มีอะไรดีเลย ไม่คู่ควรด้วย

“กูรักมึงเพราะรัก แต่มึงอย่าคิดมาก กูจะไม่ทำให้มึงลำบากใจหรอก เอาเป็นว่ากูจะเลิกรักมึง โอเคไหม”

“...”

เลิกรักผมงั้นเหรอ

ทำไมฟังแล้วถึงปวดใจจังวะ

“ซ่า ก่อนกูจะไป ให้กูจูบได้ไหม”

“...” เมื่อกี้พี่ปราบพูดว่าอะไร คงไม่ได้จะทำจริงใช่ไหม

“ไม่ตอบกูถือว่าอนุญาตนะ” พี่ปราบคิดเองเออเอง เพราะสมองผมประมวลผลช้า รู้ตัวอีกที่พี่ปราบก็จูบผมแล้ว และเมื่อลิ้นพี่ปราบแทรกเข้ามาในปากของผม ร่างกายของผมเหมือนถูกไฟช็อต ผมรีบผลักพี่ปราบออกจากตัวทันที แล้วคู้ตัวนอนหันหลังใส่พี่ปราบทันที

“ซ่า...”

เกิดอะไรขึ้น ผมทำอะไรลงไป

“ซ่า...” พี่ปราบเรียกผมอีกครั้ง มือใหญ่และหนาจับเข้าที่ไหล่พยายามจะพลิกตัวผมให้นอนหงาย

“อย่า” ผมพูดเสียงสั่น ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก “อย่ายุ่งกับผม”

“กูขอโทษ”

“อย่ามาใกล้ผมอีก ผมไม่ได้เป็นเกย์”

ผมไม่รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองจะทำร้ายใครไหม แต่ตอนนี้ผมอยากร้องไห้ พี่ปราบคนเดิมไม่มีอีกแล้ว รวมทั้งผมคนเดิมด้วย ผมไม่ใช่เด็กดีของพี่ปราบอีกต่อไป






ขากลับผมยังคงนั่งรถมากับพี่ปราบ ขอไปกับเฮียกี่แต่บ้านเฮียกี่อยู่คนละทางกับห้องผม ถ้าผมไปด้วยต้องขับย้อนไปย้อนมา ผมไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนไปกับความต้องการของผม เลยยอมขึ้นรถพี่ปราบเหมือนเดิม โดยผมเลือกที่จะปิดตาหลับตลอดทาง สุดท้ายก็เผลอหลับไปเอง ตื่นก็ตอนที่พี่ปราบปลุก

“ถึงคอนโดแล้วซ่า”

“ครับ” ผมงัวเงียตื่น มองออกไปนอกรถ ถึงแล้วจริงๆด้วย ผมยกมือไหว้พี่ปราบ หยิบกระเป๋าเตรียมลงจากรถ

“ซ่า เดี๋ยวก่อน” พี่ปราบเรียกเอาไว้ ผมเลยหันไปมองหน้าเขา “กูขอโทษ”

“ไม่พี่ พี่ไม่ต้องขอโทษหรอก”

“ กูต้องขอโทษ ขอโทษแทนเพื่อนกูด้วย พวกมันไม่รู้ว่ากูไม่ได้หวังอะไรจากมึง และพวกมันก็ไม่ได้จั้งใจจะพูดให้มึงรู้สึกไม่ดี”

“...”

“จริงๆกูก็หวัง แต่กูรู้ว่ากูเปลี่ยนมึงไม่ได้ รู้มึงไม่ได้ชอบผู้ชาย และกูจะไม่บังคับ จะถอยห่างออกมาจากมึง ขอให้มึงสบายใจ”

“ผม...”

ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ ผมอยากให้ชีวิตผมมีพี่ปราบ แต่ถ้ารั้งเขาไว้ก็จะเป็นการทำร้ายเขา

“มันก็ความผิดกูเอง ต่อไปนี้มึงสบายใจได้นะซ่า มึงจะไม่ต้องอึดอัดที่มีผู้ชายอย่างกูมาชอบมาอยู่ใกล้ๆ แต่ถ้าการที่กูอยากอยู่ใกล้มึงมันเป็นปัญหา กูก็จะถอยออกไปเอง มึงก็รู้ว่ากูหวังดีกับมึงเสมอ ยังเป็นพี่ชายของมึง มีปัญหาส่งข้อความมาหากูได้ กูยินดี ถ้าอยากโทรมาก็ได้ถ้ามึงต้องการ แต่กูจะอยู่ในที่ของกู ไม่ไปวุ่นวายกับมึงอีก โอเคไหม” เสียงพูดของพี่ปราบค่อยๆผ่อนเบาลงเหมือนคนหมดแรง แววตาของพี่ปราบยังอ่อนโยนเหมือนเดิม แต่ความหมายของประโยคค่อยๆทำให้ผมรู้สึกใจหาย

ไม่ดี...ผมอยากพูดออกไป แต่ปากมันหนัก เพราะใจหนึ่งผมก็อยากยุติเรื่องบ้าๆพวกนี้ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว

“ผมขอโทษ” ที่พูดได้ก็มีแต่คำๆนี้เท่านั้น

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษ” พี่ปราบขยับเข้ามาใกล้ ยกมือลูบหัวผมเหมือนที่เคยทำ ก่อนจะแบมือตรงหน้าผม ทุกครั้งที่ผมกำลังกลัวกับอะไรบางอย่าง มือคู่นี้จะยื่นมาตรงหน้าเสมอ และครั้งนี้ผมไม่ปฏิเสธที่จะจับมือพี่ปราบไว้อีกครั้ง

“ผม...”  เสียใจ

“กูไม่ได้โกรธมึงหรอกนะซ่า และกูไม่เสียใจกับทุกอย่างที่ทำให้ ทำให้เพราะชอบมันก็ใช่ แต่มากกว่านั้นคือกูหวังดีกับมึงจริง อย่าคิดมาก หลังจากนี้มึงก็ใช้ชีวิตของมึงไป กูจะใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนกัน เอาจริงๆที่ผ่านมากูไม่ได้คาดหวังว่ามึงจะต้องมารักมาชอบกูหรอก กูก็ยัดเยียดตัวเองให้มึงด้วย เพราะฉะนั้น...อย่าร้องไห้ มันจะยิ่งทำให้กูรู้สึกผิด”

ถ้าพี่ปราบไม่บอก ผมไม่รู้เลยว่าน้ำตามันไหลตอนไหน

“ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ มึงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กูก็จะกลับไปพักเหมือนกัน”

“ขอบคุณนะครับ ที่ผ่านมา ผมเป็นหนี้พี่ ผมขอโทษจริงๆ” ผมก้มหน้าไม่กล้าสบตา เลยไม่รู้ว่าพี่ปราบส่งยิ้มที่จริงใจที่สุดมาให้

และเพื่อไม่ให้ตัวเองอ่อนแอไปมากกว่านี้ ผมรีบลงจากรถแล้วเดินเข้าคอนโดขึ้นห้องพัก เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องแล้วผมก็ปล่อยให้ตัวเองนั่งพิงประตูร้องไห้เงียบๆ

“ผมขอโทษพี่ปราบ ผมขอโทษ” ผมไมได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย ถ้าผมเป็นผู้หญิง ผมจะไม่ทำให้พี่ปราบเสียใจ ผมจะไม่ทำ










 :L1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-12-2017 22:49:24
ปราบซ่า
ตอนที่23


[ซ่า]

นับจากวันนั้น ผมก็ไม่ได้เจอพี่ปราบมาสองอาทิตย์ได้แล้ว ทุกวันหลังเลิกเรียนผมไม่เคยเห็นคนที่เคยมายืนรอ เพียงเพื่อพาผมไปออกกำลังกายหรือพาไปทำกิจกรรมอย่างอื่น ทุกวันที่ไปทำงานที่ร้านอาเจ พี่ปราบก็ไม่เคยแวะไป พี่ๆในร้านถามหาพี่ปราบว่าหายไปไหน แต่ผมไม่รู้จะตอบยังไง ผมไม่กล้าแม้แต่จะส่งข้อความไปถามด้วยซ้ำว่าเขาสบายดีไหม

ชีวิตผมควรจะดีขึ้น สบายใจขึ้นที่ไม่มีผู้ชายมาแอบรักแอบชอบผู้ชายอย่างผม ผมควรดีใจแล้วมองหาผู้หญิงสักคนที่จะมาเติมเต็มความเหงาให้ผมได้ แต่ไม่ว่าจะมองใครผมก็เห็นแต่หน้าพี่ปราบ

ทำไมถึงเป็นอย่างนี้

ทำไมผมถึงอยากเจอพี่ปราบ การที่เขาไม่มายุ่งกับผมอย่างที่ผมเคยต้องการ มันโคตรไม่มีความสุข

ก่อนถึงเวลาร้านเปิด ผมที่เตรียมตัวเรียบร้อยก็ออกมานั่งสูบบุหรี่หลังร้านให้หัวโล่ง ไม่อย่างนั้นผมได้ทำหน้าเหี้ยใส่ลูกค้าโดยไม่รู้ตัวแน่ๆ

ตอนบวชผมเลิกบุหรี่ได้แล้ว แต่คราวนี้กลับต้องกลับมาพึ่งมันอีก เวลาเครียดมากๆมันก็พอจะช่วยให้อารมณ์ผมเย็นลงได้

ตลอดเวลาที่ทำงาน  เวลาที่ได้ยินเสียงประตูร้านเปิด ผมจะต้องหันไปมองทุกครั้งเหมือนคนเป็นโรคประสาท ถึงไม่อยากคิดว่าทำไมผมถึงต้องคอยมอง แต่ผมจะโกหกตัวเองได้ยังไงว่าผมหวังว่าจะเจอพี่ปราบสักครั้งที่มีคนเปิดประตูเข้ามาในร้าน

สี่ทุ่มเป็นเวลาพี่ปราบจะนั่งอยู่หน้าบาร์เครื่องดื่มตรงนี้ทุกวันที่ผมมาทำงาน ตอนนี้ผมได้ย้ายมาทำงานเป็นผู้ช่วยบาร์เทนเดอร์หรือพี่บิ๊กเต็มตัว นานๆครั้งถึงจะออกไปเดนเสิร์ฟอาหาร แต่ไม่เคยเห็นพี่ปราบมานั่งที่นี่อีกเลย

“ช่วงนี้มึงเป็นอะไร ไม่ค่อยยิ้มเลย” พี่บิ๊กวุ่นวายอยู่กับการเช็ดแก้ว แต่ก็ยังมีเวลาแวะมาใส่ใจอาการแย่ๆของผม

“เปล่าพี่” ผมเลี่ยงที่จะตอบ

“ทะเลาะกับเฮียปราบเหรอไง หรือว่าเลิกกันแล้ว” คิ้วของพี่บิ๊กเลิกขึ้นสูงเหมือนสงสัยและครุ่นคิดกับตัวเอง

“เลิกกันอะไรของพี่ ผมกับพี่ปราบไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“เรื่องจริง?” พี่บิ๊กดูจะตกใจนิดหน่อย “แต่เฮียปราบเขาชอบมึงนี่”

“ทำไมพี่รู้” ดูเหมือนคนรอบตัวพี่ปราบจะรู้เรื่องนี้กันหมด

“หรือมึงดูไม่ออก เฮียออกจะเทคแคร์มึงดี ไปถามคนในร้านได้ หรือถามอาเจ เฮียปราบไม่เคยต้องมานั่งเฝ้าเด็กหรือพนักงานที่ร้านแล้วพาไปส่งบ้านทุกวันหรอก”

มันก็จริง ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบจริงๆใครจะยอมทำแบบนั้น ทั้งๆที่พี่ปราบงานเยอะ แต่ก็ยังมาดูแลผมทุกวัน

“แต่ผมเป็นผู้ชาย” ผมพูดเสียงเบา ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าผมพูดกับพี่บิ๊กได้

“มึงจะบอกว่ามึงไม่ชอบผู้ชายหรือไง เหอะ หึหึ” พี่บิ๊กแค่นเสียงหัวเราะแล้วส่ายหน้า มองผมด้วยสายตาเหมือนผมมันเป็นคนโง่งี่เง่า

แต่ผมมันก็โง่งี่เง่าจริงๆนั่นแหละ

“ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องคบกับผู้ชายมาก่อน” เรื่องนี้ติดอยู่ในใจผมตลอด ผมสลัดมันออกไปไม่หลุด

“โอ้โห คำพูดมึงนี่กูนึกว่ามึงเกิดเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ไอ้พัชนี่มันยุคไหนแล้ว ไม่มีใครเขามานั่งถือกันแล้วว่าจะคบกับผู้หญิงหรือผู้ชาย มันต้องดูว่าใครที่ทำให้มึงมีความสุข ใครที่อยู่ด้วยแล้วชีวิตดีขึ้น”

“ผมไม่รู้” พี่ปราบทำให้ผมได้ทุกอย่างแบบที่พี่บิ๊กบอก แต่ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลย

“พัช มึงฟังนะ เรื่องของความรัก อย่าใช้สมองคิด ต้องใช้หัวใจ มึงอายุแค่นี้เอง จะต้องไปคิดอะไรมากมาย ทำตามใจตัวเองซะ อยากทำอะไรก็ทำ ถ้ามันไม่เวิร์คก็ปล่อยแม่งไป ความผิดพลาดในชีวิตไม่ใช่เรื่องแย่ มองให้มันสนุกมันก็จะสนุก ใช้ชีวิตให้เต็มที่ วันนี้ตอนนี้คนที่ดีมาอยู่ตรงหน้ามึง เขาเป็นผู้ชายแล้วไง พุ่งชนแม่งสักตั้งให้รู้ไปว่ามึงไม่ชอบจริงๆ มึงเคยมีแฟนไหม เลิกกันเหตุผลอะไร แล้วตายไหม ก็ไม่ตาย แล้วมึงจะไปคิดมากทำไมวะ เข้ากันไม่ได้ก็เลิก แต่ถ้าเข้ากันได้ มึงไม่คิดว่าแม่งจะต้องดีมากแน่ๆเหรอวะ”

“พี่ปราบจ้างพี่มาป่ะเนี่ย” ผมแค่พูดให้มันดูตลกไปงั้น แต่สมองผมกำลังวุ่นวายสุดๆ

“คนอย่างเฮียปราบยังจะต้องจ้างกูให้มาเป่าหูมึงเหรอ ลูกนักธุรกิจทั้งผู้หญิงผู้ชายเข้าหาพี่ปราบวันหนึ่งกี่คนมึงเคยรู้ไหม เขาเลือกได้ แต่มึงเลือกไม่ได้แล้วยังจะเรื่องมากอีก แล้วไม่ต้องมาพูดนะว่ามึงไม่ชอบผู้ชาย ถ้าเฮียปราบชอบกู บอกเลยต่อให้กูต้องเป็นเมียเขากูก็ยอม เพราะอะไรมึงรู้ไหม”

ผมส่ายหน้า พี่บิ๊กก็เป็นผู้ชายร่างใหญ่พอๆกับเฮียปราบเลยนะ ถ้าต้องไปเป็นเมียเฮียปราบ แม่งคงขนลุกน่าดู

“เพราะเฮียปราบเป็นคนที่จริงจังและจริงใจ เป็นผู้ชายแบบที่กูอยากเป็นมากๆ มีเหตุผลใจเย็นและเป็นผู้ใหญ่ มึงมองคนในร้านดิ ผู้ชายบางคนมีเงิน เต๊าะผู้หญิงไม่เรื่อย แต่เฮียปราบไม่เคย ไม่เคยให้ความหวังใครถ้าไม่คิดจะเล่นด้วย ผู้ชายน่ะมันก็ต้องมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่เคยเจอเด็กพี่ปราบมาทะเลาะตบตีแย่งกัน กูสังเกตว่าพี่ปราบเขาชัดเจนกับคนที่เขาหาเขาว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ ผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนเข้าข่ายจะสร้างปัญหาแกก็ไม่ยุ่งเลย มึงน่าจะรู้จักนิสัยเฮียดีมากกว่ากูนะจริงไหม”

ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าพี่ปราบเป็นคนแบบนั้น ให้เกียรติทุกคน ผมไม่เคยเห็นพี่ปราบทำตัวหม้อผู้หญิง ไม่เคยมองผู้หญิงแบบโลมเลียไม่ให้เกียรติ แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยเซ็กซี่และพร้อมจะเสนอตัวให้พี่ปราบแค่ไหน พี่ปราบก็ไม่เคยใส่ใจ กับผมเองที่พี่ปราบชอบมาตั้งแต่แรก แต่พี่ปราบก็ไม่เคยล่วงเกินผมเลย ยกเว้นที่กาญจนบุรี

“ผมสับสนว่ะพี่”

แก้วเหล้าใบหนึ่งที่มีเครื่องดื่มสีเหลืองอำพันถูกเลื่อนมาตรงหน้า ผมคิดว่าพี่บิ๊กจะให้ทายว่ามันคือค็อกเทลสูตรไหน แต่เขากลับบอกให้ผมดื่ม

“ดื่มซะ แก้วนี้กูเลี้ยงเอง กูรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ได้จะตัดสินใจได้ง่ายๆ มึงก็ค่อยๆคิด แต่อย่างที่บอก ให้หัวใจมึงนำทาง แล้วมึงจะไม่เสียใจ”

ต้องให้หัวใจนำทางยังไง ในเมื่อผมยังไม่รู้ใจตัวเองเลยสักนิด








เข้าอาทิตย์ที่สามแล้วที่พี่ปราบไม่ได้มายุ่งกับผม อาทิตย์ที่ผ่านมาพี่ปราบแวะไปที่ร้านอาเจสองครั้ง แต่ทั้งสองครั้งผมได้แต่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ พอพี่ปราบเห็นผมก็ไม่ได้เข้ามาคุย ก่อนจะขอตัวรีบกลับไป ดูยังไงก็รู้ว่ากำลังหนีหน้าผมชัดๆ ไหนคนไหนที่บอกว่าเรายังเป็นพี่น้องเหมือนเดิมได้ ทำไมพี่ปราบถึงทำเหมือนไม่อยากเจอหน้าผมด้วย

“เฮ้อ” หรือจะเป็นแค่ผมคนเดียวที่รู้สึกอยากเจอพี่ปราบจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร ป่านนี้พี่ปราบคงรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ที่ไม่มีผมในชีวิต

“ไอ้ซ่า มึงเข้าไปนอนหลับใต้ท้องรถหรือไง ตกลงรถเป็นอะไร มึงซ่อมหรือยัง” เสียงไอ้หวายตะโกนดังลั่นโกดังซ่อมรถของโรงเรียน ผมสะดุ้งเผลอยกตัวให้หัวโขกกับใต้ท้องรถ ไอ้สัด เจ็บเหี้ยๆ หัวโนแน่เลยกู

“ตะโกนหาพระแสงอะไรไอ้หวาย กูตกใจ” ผมตะโกนด่ามันกลับไป”

“จะเลิกเรียนแล้ว มึงทำงานเสร็จหรือยังล่ะ พวกกูจะกลับแล้ว หรือมึงจะนอนนี่”

อะไรวะ จะเลิกเรียนแล้วเหรอ ผมก้มมองดุนาฬิกาข้อมือ เรือนนี้ของพี่ปราบ ที่ไม่ใช่อันแพง แต่พี่ปราบซื้อให้เป็นของขวัญที่ผมตัดสินใจกลับมาเรียนต่อ

วันหลังผมจะไม่ใส่นาฬิกาเรือนนี้แล้ว ไม่งั้นผมก็สลัดพี่ปราบออกจากหัวไม่ได้สักที

“เออๆ กลับดิ กูต้องไปทำงาน” ผมไถลตัวออกจากใต้ท้องรถ ไอ้สี่คนยืนเท้าเอวมองหน้าผมเหมือนจะหาเรื่อง

“กูคิดว่ามึงตรอมใจตายใต้ท้องรถไปแล้ว นี่กะว่าจะโทรให้เฮียปราบมารับศพอยู่” 

“ไอ้สัด” ผมด่าไอ้หวายที่เอ่ยชื่อคนที่กำลังทำให้ผมเป็นบ้า “กูไม่ได้ตรอมใจเว้ย”

“เหรอ น่าเชื่อตายเลยมึง” ไอ้นุ๊กโยนกระเป๋าเป้ส่งมาให้ผม

“มึงรู้ตัวไหมว่าตั้งแต่กลับจากกาญจนบุรี มึงกลับมาเป็นคนเดิมที่วันๆเอาแต่นั่งทำหน้าอมทุกข์ เหมือนตอนที่มึงเลิกกับพลอยไม่มีผิด”

“ไม่ใช่ไอ้ตูน มึงพูดผิด ยิ่งกว่าอีก ตอนเลิกกับพลอย กูเห็นแม่งก็ยังเฮฮาได้ แม้บางครั้งจะชอบทำตัวเป็นพระเอกเอ็มวีเมียทิ้งก็ตาม แต่ตอนนี้กูคิดว่าแม่งเป็นซอมบี้ สารรูปดูไม่ได้เลย”

“เออ วันนี้กูก็ขอไม่ตลกนะ มึงไหวไหมวะไอ้ซ่า มึงต้องส่องกระจก บอกเลยว่าตอนนี้กูหล่อกว่ามึงอีก นี่กูไม่ได้โกหกเลยนะ กูพูดจริง” แรกๆก็เหมือนจะจริงจัง สุดท้ายคนอย่างไอ้กานก็ไม่พ้นกวนประสาทชาวบ้านอยู่ดี

“กูสบายดี” ผมโกหกให้พวกมันสบายใจ รวมถึงตัวผมเองด้วย

“มึงไม่สบายดี มึงอย่ามาโกหก” ไอ้หวายทำหน้าจะเป็นจะตายเสียยิ่งกว่าผมอีกมั้ง

“กูไม่เป็นไรหรอก กูสบายดี กูกลับล่ะ จะไปทำงาน” ผมยิ้มให้พวกมัน

“มึงอย่าหลอกตัวเองเลยซ่า พวกกูดูออกว่ามึงเองก็รู้สึกดีกับเฮียปราบ ทำไมวะ กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงกับเฮียตัดสินใจกันยังไง แต่ที่มึงเป็นอยู่แบบนี้มันดีแล้วเหรอวะ”

มันไม่ดีหรอก แต่ผมไม่รู้จะจัดการกับความกลัวของตัวเองยังไง






ผมกลับมาที่คอนโดและเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ผมเปิดประตูห้องในคอนโดแล้วต้องยืนค้างนิ่งอยู่หน้าประตู ที่เคยมีเจ้าของห้องแวะมาหามาอยู่เป็นเพื่อน ไม่ปล่อยให้ผมเหงาและโดดเดี่ยว

‘กินข้าวให้ตรงเวลาสิ กูบอกว่าไง เป็นโรคกระเพาะแล้วมึงจะรู้สึก’

ผมรู้สึกจริงๆ ตั้งแต่พี่ปราบไม่อยู่ผมก็ได้โรคมาหนึ่งโรค ผมก็อยากจะกินข้าวนะ แต่มันกินไม่ลง อาหารในตู้เย็นแทบไม่มี ที่จะมีก็แต่เหล้ากับเบียร์ ผมไม่พึ่งมันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นตอนกลางคืนผมจะนอนไม่หลับ

เหลือเวลาก่อนเข้างานสองชั่วโมง ผมไม่รู้จะทำอะไร ไม่อยากอยู่ห้องนานเกินไป ไม่อย่างนั้นผมก็คอยแต่จะนึกถึงตอนที่มีพี่ปราบอยู่ในห้อง ทำไมพี่เขาต้องตามมาหลอกหลอนผมด้วย

“พี่ปราบแม่ง นิสัยไม่ดี” คนตัวไม่อยู่ แต่ก็ส่งวิญญาณมากวนอยู่ได้

ผมยังไม่อยากเข้าร้านเลย ก็เลยพาตัวเองมาที่สวนสาธารณะที่พี่ปราบเคยมาตอนที่ผมกับเขารู้จักช่วงแรกๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมา แต่นั่งรถเมล์เพลินไปหน่อย ก็เลยมาลงที่นี่

‘เอามือมึงมาวางบนมือกูสิ...กูจะเติมพลังให้ เมื่อไหร่ที่มึงคิดว่าไม่ไหว ให้ส่งมือมาแล้วกูจะช่วยมึงเอง’

มือทั้งสองข้างค่อยๆแบออก สิ่งที่เห็นคือมือของผมที่กำลังสั่นเทาและว่างเปล่า มันสายไปแล้ว ต่อให้ยื่นมือออกไปจนสุดแขน ก็ไม่มีมือคู่นั้นที่คอยให้กำลังใจผมอีกต่อไปแล้ว

ในขณะที่ผมกำลังจมปรักอยู่กับความทุกข์ สายเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมรีบหยิบออกมาจะกดรับ แวบหนึ่งแอบคิดว่าเป็นพี่ปราบโทรมา แต่ก็ไม่ใช่ เป็นสายจากแม่

“ว่าไงแม่”

“ซ่า มีเงินให้แม่สี่ห้าพันไหม”

“ห้าพันเลยเหรอ แม่จะเอาเงินไปทำไรอ่ะ”

“เมียไอ้ตั้มอ่ะดิ มันโดนจับตอนไปซื้อยา ไอ้ตั้มมันก็เลยมาเอาเงินที่กูไปประกัน ไหนจะต้องจ่ายค่าแรงคนงานอีก ของก็ยังแยกไม่เสร็จ เลยยังไม่ได้เอาไปขาย แม่งเอ้ยกู ทำเท่าไหร่แม่งก็ไม่พอ แต่ละคนทำงานวันหนึ่งไม่ได้งานแต่จะค่าแรงกูเต็มที่” แม่บ่นยาวเหยียด ปัญหาเดิมๆที่ไม่เคยแก้ได้มาหลายปี ผมขี้เกียจจะฟังเลยตอบตกลงให้มันจบๆ

“เดี๋ยวผมโอนเข้าบัญชีให้ แม่ให้พ่อไปกดเอาแล้วกัน แล้วอย่าอดล่ะ ซื้ออะไรอร่อยๆกินด้วย”

“เออ ขอบใจมึงมาก”

แม่วางสายไปแล้ว ผมก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า เท่ากับว่าเดือนนี้ผมจะเหลือเงินใช้แค่เจ็ดพัน จ่ายค่าห้องให้พี่ปราบสามพันก็เหลือสี่พัน ไหนจะค่ากินค่ารถ เฮ้อ แค่คิดก็ไม่พอแล้ว แต่ถ้าไม่ให้แม่ แม่ก็อด ช่างเถอะ ผมอดได้ไม่เป็นไร แดกมาม่าเอาแล้วกัน

ผมไปทำงานเหมือนเดิม อาเจแวะมาคุยกับผมบ่อยขึ้น แต่บทสนทนาทั้งหมดไม่มีการกล่าวถึงถึงพี่ปราบเลย อาเจคงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกผม พออาเจไม่พูด ผมก็เลยต้องเป็นฝ่ายพูดเอง

“อาเจ พี่ปราบเป็นไงบ้างครับ” ผมแค่อยากรู้ว่าพี่เขาสบายดีไหม

อาเจเลิกคิ้วสูง เหมือนจะแปลกใจที่ผมเอ่ยปากถามเรื่องพี่ปราบ “ก็สบายดีนะ เห็นว่างานยุ่งๆน่ะ”

“เหรอครับ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ถ้าพี่ปราบสบายดีก็ดีแล้ว

“ซ่า อาถามอะไรหน่อยสิ”

“ครับ”

“ซ่าไม่ได้ชอบปราบเลยเหรอครับ”

“...”

“อาไม่อยากยุ่งเรื่องของเด็กๆหรอกนะ แต่ซ่ารู้ตัวไหมว่าตัวเองกำลังไม่มีความสุข มันทำให้เวลาทำงานซ่าไม่มีสมาธิ หน้าตาก็ไม่ยิ้มแย้ม ตอนนี้ก็ผอมจนโทรมอีก ทั้งหมดอาเดาได้ว่าซ่าไม่มีความสุขที่ต้องเลิกยุ่งกับปราบ แต่ทำไมซ่าถึงยอมทำร้ายตัวเองแบบนี้”

ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนดุเรื่องนี้แน่ๆ ผมรู้ตัวว่าผมไม่มีสมาธิทำงานเลย ปกติผมก็ไม่ใช่คนอัธยาศัยดีอยู่แล้ว ยิ่งมีปัญหาเข้ามาผมยิ่งไม่มีอารมณ์จะเข้าหาลูกค้าหรือชวนใครคุย

“ผมขอโทษครับอาเจ” ผมยกมือไหว้ขอโทษที่ทำงานได้ไม่ดี ไม่รู้จักแยกแยะเวลา

“เรื่องงานน่ะไม่เป็นไร แต่เรื่องปราบ อาอยากให้ซ่าลองกลับไปคิดดูนะ ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการคืออะไรกันแน่ ทำตามหัวใจตัวเอง ก่อนที่จะสายเกินไป อาเป็นกำลังใจให้” อาเจยิ้มให้ผม ไม่กล่าวต่อว่าอะไรอีก นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ ไหนจะทำพูดที่พูดเหมือนพี่บิ๊กอีก

ให้ผมทำตามใจตัวเอง

ถ้าตอนนี้ผมอยากเจอพี่ปราบ ผมต้องทำยังไง

เลิกงานผมนั่งรถแท็กซี่ไปยังคอนโดพี่ปราบ ถ้านั่งรถเมล์มันจะช้าเกินไป ผมกลัวพี่ปราบจะนอนหลับไปซะก่อน มาถึงผมก็ชั่งใจอยู่หลายรอบว่าจะโทรไปหาพี่ปราบดีไหม แต่เพราะผมอยากเจอเขามากๆ ก็เลยกลั้นใจกดโทรออก

ไม่มีคนรับ

สายที่สองก็ยังไม่รับสาย

และคืนนี้ผมใช้โควต้าความกล้าหมดแล้ว เลยไม่ได้กดโทรออกครั้งที่สาม เพียงแค่ส่งข้อความให้พี่ปราบง่ายๆว่าฝันดี วันนี้คงไม่ได้เจอ ผมคงต้องกลับก่อนแล้วค่อยมาหาไหม

ผมเดินก้มหน้าออกจากคอนโด มีรถขับสวนเข้ามาและผมกำลังขวางทางเขาอยู่ เลยต้องรีบหลีกทางก่อนที่รถหรูคุ้นตาจะสอยผมไปแดด

รถคันเมื่อกี้...ไม่ใช่แค่คุ้นตาหรอก

ผมรีบหันกลับไปดูให้แน่ใจอีกรอบ แล้วก็มั่นใจสุดๆว่านั่นคือรถของพี่ปราบ เพราะเลขทะเบียนรถมันตอบได้ชัดเจนที่สุด

รีบวิ่งตามรถพี่ปราบไป ผมรู้ว่าเขาจะจอดตรงไหนเพราะพี่ปราบมีที่จอดส่วนตัว วิ่งไปไม่ทันถึงก็ต้องหยุดชะงักอย่างจัง เมื่อผมเห็นพี่ปราบไม่ได้อยู่คนเดียว แต่อยู่กับผู้หญิงที่ผมก็เคยเจอเขามาก่อน...พี่การ์ตูน

จากที่คิดไว้ว่าถ้าได้เจอเขา ผมจะเขาไปทักทาย กลายเป็นว่าผมทำอะไรไม่ได้นอกจากหยุดยืนดูอยู่หลังเสา และยืนมองภาพคนสองคนเดินเข้าไปลิฟต์ในลานจอดเพื่อขึ้นห้อง



(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-12-2017 22:49:57
สิ่งที่ทำได้ก็คือพาตัวเองกลับห้องให้เร็วที่สุด ผมไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว จะผ่านคืนนี้ไปได้ ผมต้องใช้เหล้าเข้าช่วย เพียงแต่คืนนี้อาจจะต้องเพิ่มปริมาณมากกว่าทุกวัน ลมจากนอกระเบียงพัดเข้ามาในห้อง มาพร้อมกับยุงฝูงใหญ่ที่เริ่มจะดูดเลือดผมเป็นอาหาร

“กินซะมึง เดี๋ยวมึงก็ตายแล้ว เพราะเลือดกูเป็นพิษ” ผมยิ้มขำให้กับไอ้ยุงที่อยู่เป็นเพื่อนผม

“ทำไมต้องรู้สึกด้วยวะ ทำไมต้องเจ็บด้วย มึงควรจะดีใจไอ้ซ่าที่พี่ปราบจะเลิกชอบมึงแล้ว มึงควรดีใจ แต่ทำไมก็เจ็บจนอยากจะร้องไห้ขนาดนี้วะ

หรือผมจะ...รัก

“ไม่ กูไม่ได้รักเขา กูไม่ได้รัก”

ผมอยากจะอยู่คนเดียว แต่ไม่รู้ว่าไอ้หวายกับไอ้ตูนรู้ได้ยังไงว่าผมกำลังนั่งกินเหล้าอยู่ในห้อง เหล้าของพี่ปราบที่เอามาเอามาทิ้งไว้ที่ห้องสองขวด มันต้องมาแย่งผมกินแน่ๆ แต่ผมไม่ให้มันกินหรอก เพราะผมยังไม่เมา ยังไม่ลืมภาพที่พี่ปราบพาผู้หญิงคนอื่นขึ้นคอนโดเลย

“ไอ้ซ่า มึงเลิกกินได้แล้ว ไอ้เหี้ย แดกคนเดียวขวดกว่าเลยเหรอ” ไอ้หวายกระชากตัวผมขึ้นจากพื้นแล้วพยายามจะแย่งขวดเหล้าออกจากมือ

“อย่าเอาไป กูไม่ให้มึงกิน อึก มึง...มึงอยากกินมึงไปซื้อเอง” ผมชี้หน้าด่าไอ้หวายกับไอ้ตูนที่ยืนมองผมอย่างเห็นใจ ไม่ต้องมาทำหน้าน่าสงสาร กูไม่แบ่งให้ เพราะกูไม่มีเงินไปซื้อใหม่แล้ว อันนี้ของพี่ปราบที่เหลือทิ้งไว้ กูเลยโชคดีไม่ต้องเสียเงินซื้อ

“มึงถอยออกมาไอ้หวาย ตัวมึงเล็กกว่ามันตั้งเยอะจะลากไอ้ซ่าไหวได้ไง”

“ไอ้เหี้ย ตัวอย่างกับควาย เฮียปราบไม่น่าชอบมันได้เลยไอ้เพื่อนโง่ ทำกูลำบากไปด้วย”

“แล้วมึงรีบตามกูมาดูมันทำไมล่ะ ไม่ปล่อยมันนั่งจมกองเหล้าไปล่ะ”

“ก็เฮีบปราบโทรมาบอกให้กูมาดูมัน”

“เออ งั้นมึงก็อย่าบ่น หลีกไป”

พวกแม่งบ่นหาอะไรกันก็ไม่รู้ ก่อนที่ไอ้ตูนจะเข้ามาหามผมไปที่ห้องน้ำ แล้วเปิดน้ำฝักบัวราดตัวผม ไม่พอมันยังใช้สายฉีดก้นมาฉีดใส่ผมอีก ผมร้องห้ามด่ามันยังไงก็ไม่ฟัง พอแกล้งผมจนหนำใจ ก็ขังผมไว้ในห้องน้ำ ไม่สนใจเลยว่าผมจะอาบน้ำไหวไหม ผมไม่มีแรงก็เลยปล่อยให้ตัวเองนั่งอยู่ใต้ฝักบัว ปล่อยให้น้ำไหลรดตัวเองไปเรื่อย

ผมพยายามแล้วจริงๆที่จะไม่คิด แต่ผมทำไม่ได้

ผมไม่อยากยอมรับว่าความจริงแล้ว ผมต้องการให้พี่ปราบอยู่ตรงนี้กับผม

“มึงมันโง่ไอ้ซ่า โคตรโง่” ผมมันแค่คนโง่ที่ทำได้เพียงก่นด่าตัวเอง 

ผมนั่งจมอยู่กับตัวเองอในห้องน้ำอยู่นานพอสมควร จนรู้สึกว่าเริ่มสร่างเมาและเริ่มจะหนาว มือเท้าเริ่มเหี่ยวย่นน่าเกลียด ผมลุกขึ้นยืนด้วยความทุลักทุเลเพราะเหน็บกินขา ถอดเสื้อผ้าออกได้ก็อาบน้ำลวกๆ ก่อนจะออกจากห้องน้ำด้วยสภาพผ้าเช็ดตัวพันเอวผืนเดียว

“กูกะว่าถ้าอีกห้านาทีมึงไม่ออกมา กูจะโทรเรียกป่อเต็กตึ้งละ” ไอ้หวายชอบปากมากชอบบ่น แต่สีหน้ามันแสดงออกชัดเจนว่ามันเป็นห่วงผม

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จมาเดินไปที่ตู้เย็น ไม่รู้พวกมันสองคนเอาเหล้าผมไปซ่อนไว้ที่ไหน แต่ผมยังมีเบียร์อีกสามกระป๋องแช่อยู่ในตู้เย็น พวกมันคงหาไม่เจอเพราะผมซ่อนไว้อย่างดี

“มึงยังจะกินอีกเหรอไอ้ซ่า”

“พอได้แล้วมั้งมึง คืนนี้กูกับไอ้หวายจะมาอยู่เป็นเพื่อน”

“กูไม่ได้เป็นอะไร จะมาอยู่เป็นเพื่อนกูทำไม” ผมเปิดกระป๋องเบียร์ดื่ม แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาข้างไอ้ตูน ส่วนไอ้หวายนั่งอยู่บนเตียงนอนของผม

“มึงก็พูดแต่อย่างเนี่ย ไม่พูดใครจะเข้าใจมึงวะ เป็นอะไรก็พูดออกมา พวกกูเพื่อนมึงนะ ถึงจะไม่ฉลาดพอที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ แต่พวกกูนั่งฟังเฉยๆได้”

ผมยิ้มรับคำพูดไอ้หวาย เพื่อนของผมไม่ต้องมีเงินเยอะ ไม่ต้องมีชีวิตหรูหรา แต่พวกมันก็จริงใจกับผมเสมอ

“มึงอย่าถามเลยว่ากูเป็นอะไร เพราะตัวกูเองก็ไม่รู้”

ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตัวเองต้องการอะไรกันแน่

“งั้นมึงไม่ต้องคิด กูจะถามแล้วมึงก็ตอบ” ไอ้ตูนว่า

“จะทำอะไรของมึง” ผมถาม

“ช่วยมึงหาคำตอบไง มึงไม่รู้ว่ามึงเป็นอะไร แค่ตอบคำถามที่กูถามก็พอ มันจะช่วยให้มึงรู้ใจตัวเองมากขึ้น”

ช่วยให้ผมรู้ใจตัวเองงั้นเหรอ ถ้าความคิดของไอ้ตูนมันจะช่วยแก้ปัญหาที่ผมกำลังเผชิญอยู่ได้ ผมก็จะลองดู เพราะตอนนี้ผมไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกที่ตีรวนอยู่ในอกได้ยังไง

“ตอบตามความจริงนะไอ้ซ่า มึงไม่ต้องกลัวอะไร มึงจะรู้สักทีว่าที่มึงซังกะตายอยู่ทุกวันนี้มันเป็นเพราะอะไรกันแน่” ไอ้หวายบอก ผมก็พยักหน้าเข้าใจ

“วันนี้มึงเป็นอะไรทำไมถึงกินเหล้าเมาเป็นหมาขนาดนี้” เหมือนไอ้ตูนจะทั้งถามและด่าผมในประโยคเดียว

“กู...”

“เอาใหม่ กูว่าน่าจะยากไป ทะเลาะกับที่บ้านหรือเปล่า”

ผมส่ายหน้า ก็ไม่ได้ทะเลาะ แม่แค่มาขอเงิน ผมก็ไม่อะไรมากอยู่แล้ว แลกกับการไม่ต้องกลับไปอยู่ที่บ้าน ผมก็เสียเงินจำนวนนี้ได้

“งั้นก็มีปัญหากับที่ทำงาน”

“เปล่า” ถึงอาเจจะตำหนิเรื่องที่ผมไม่มีสมาธิในการทำงานมากพอ แต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงที่ผมจะต้องเก็บมาเครียด จะมีก็แต่…

“งั้นก่อนกลับมากินเหล้า มึงไปเจออะไรแย่ๆมาหรือไง”

ผมคิดถึงเหตุการณ์ที่ไปหาพี่ปราบที่คอนโด แล้วเจอพี่ปราบอยู่กับพี่การ์ตูน ถามว่าแย่มัน มันก็แย่จริงๆ

“อืม”

“อะไร” ไอ้หวายทำหน้าอยากรู้อยากเห็นทันที

“กูไปหาพี่ปราบที่คอนโด...” เอาจริงๆ ผมไม่อยากพูดเลยวะ

“พูดออกมาไอ้ซ่า ไม่พูดมึงก็จะไม่รู้ใจตัวเองสักที”

“กูเจอพี่ปราบอยู่กับผู้หญิง เหมือนเขาจะกำลังคบกัน” ผมเล่าเสียงเบา

“มึงรู้ได้ไงว่าเขาคบกัน”

“ไม่คบกันจะพาขึ้นคอนโดเหรอวะ” ผมสวนกลับคำถามของไอ้ตูนทันที ไอ้ตูนสะดุ้งเสียงของผม มันหันไปมองหน้าไอ้หวายก่อนจะหลุดยิ้ม ยิ้มห่าอะไร คนยิ่งเครียดๆอยู่

“แล้วมันไม่ดีเหรอวะ พี่ปราบมีแฟน เขาจะได้เลิกชอบมึงไง มึงจะได้ไม่ต้องอึดอัดที่มีผู้ชายมาชอบ”

มันก็ควรจะดีไง ผมเคยคิดว่ามันจะดี แต่มันไม่ดี กูหงุดหงิด

“มึงไม่ชอบใช่ไหม ที่พี่ปราบมีแฟน”

“...”

“ไอ้ซ่า”

“มั้ง” เพราะผมไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ชอบ จึงให้คำตอบจริงๆไม่ได้

“กูตอบให้ว่ามึงไม่ชอบ ถ้าชอบคงไม่แดกเหล้าหมดเป็นขวดๆแบบนี้” ไอ้หวายสรุปเอาเอง แต่ผมก็ไม่ได้เถียง

“แล้วมึงไปหาพี่ปราบทำไม”

ไปหาเพราะ...

“กูอยากเจอเขา”

“ทำไมมึงถึงอยากเจอ มีธุระเหรอ” 

ไม่มีธุระหรอก เพราะผมแค่...คิดถึง

“มึงคิดถึงเขาก็พูดไปไอ้ซ่า อ้ำอึ้งหาพ่อมึงเหรอไง” ไอ้หวายดูจะทนไม่ได้

“ไอ้หวายพูดถูกไหม” ไอ้ตูนถาม

“อืม” ผมก็ยอมรับไปตามความจริง “เออ กูคิดถึงเขา พวกมึงพอใจหรือยัง กูเคยเจอเขาตลอด พอไม่เจอมันก็อยากเจอเปล่าวะ”

“อ่อเหรอ” ไอ้หวายลากเสียงกวนตีน 

“ถ้าแค่คิดถึง ไม่มีอะไร ทำไมมึงต้องรู้สึกไม่ชอบตอนพี่ปราบพาผู้หญิงขึ้นคอนโดด้วย”

“...” ผมไม่รู้

“เฮ้อ พวกกูอ่ะรู้ดีเลยว่ามึงเป็นอะไร อยู่ที่ว่ามึงจะยอมรับความรู้สึกตัวเองได้หรือเปล่าไอ้ซ่า”

“อะไร พวกมึงรู้อะไร แล้วกูเป็นอะไร”

“มึงชอบพี่ปราบไง และมึงหึงเขาที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ไม่เจอเขามึงก็คิดถึงเขาจนไม่เป็นอันทำอะไร ทำตัวเหมือนศพเดินได้ ไม่มีชีวิตชีวา อย่างกับคนอกหัก แต่เพราะมึงอกหักจริงๆ เพราะมึงบอกเลิกพี่ปราบคนที่มึงรักไงไอ้เหี้ยซ่า” ไอ้หวายโวยวายใส่ผมดังขึ้นๆ มันดูหัวเสียพอควร แต่ผมหูอื้ออึงไปแล้ว ก่อนที่สมองจะค่อยๆชาและว่างเปล่า

“มึง อย่าพูดมั่ว” ผมใกล้จะหมดแรงเต็มที

“กูไม่ได้พูดมั่วไอ้ซ่า มึงต้องยอมรับความจริงได้แล้ว หรือถ้ามึงจะไม่ยอมรับความจริง คืนนี้มึงก็ปล่อยให้พี่ปราบเอากับผู้หญิงคนนั้นไป ก็มึงบอกเขาเป็นแฟนกันนี่ ขึ้นคอนโดไปด้วยกันแบบนั้นจะทำอะไรได้ และถ้ามึงไม่ได้รักพี่ปราบ ไม่ได้หึงอย่างที่มึงบอก มึงจะต้องรู้สึกอะไร ถ้ากูกับไอ้ตูนไปนอนกับผู้หญิง มึงจะเป็นบ้าเหมือนตอนนี้ไหม ก็แค่พี่ที่รู้จักคนหนึ่ง ไม่ใช่คนที่มึงรัก มึงก็ไม่ต้องรู้สึก เข้าใจไหม ไอ้เหี้ย”

สมองผมถูกช็อตไปตั้งแต่ที่ไอ้หวายพูดว่าพี่ปราบกับพี่การ์ตูนอาจจะนอนด้วยกัน

ผมควรนิ่งๆ ไม่ต้องรู้สึกอะไรใช่ไหม

แต่ทำไมหน้าอกต้องบีบรัดแน่นจนเจ็บจนอยากจะอาละวาด

“มึง...กู...” ปากผมสั่น มันไม่มีแรงที่จะพูด

“ไม่เป็นไรไอ้ซ่า กูรู้” ไอ้ตูนดึงไหล่ผมเข้าไปโอบแน่น

“กูจะทำยังไงดี” ผมเผลอกัดปากตัวเองแน่น กลัวที่จะพูดความจริงที่เพิ่งค้นพบออกมา จนริมฝีปากเริ่มจะปริแตกและมีเลือดไหล

หนีไม่ได้อีกแล้ว

ผมไม่เคยมองผู้ชาย ไม่เคยรู้สึกชอบหรืออยากลองคบหากับเพศเดียวกันมาก่อน แล้วทำไมถึงเกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ ทำไมถึงได้ชอบพี่ปราบ

คงไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่มันจะโอเคเหรอวะที่ผมรู้สึกแบบนี้กับพี่ปราบ

“ทำไมกูถึงชอบผู้ชายได้วะ” ผมตั้งคำถามกับตัวเอง และกับเพื่อนทั้งสองคนที่อยู่เป็นเพื่อนผมในตอนนี้

“มึงไม่ได้ชอบผู้ชายหรอก มึงชอบเฮียปราบไง” ไอ้หวายพูดเหมือนจะปลอบใจ

เฮ้อ สรุปกูชอบพี่ปราบจริงๆใช่ไหม

“แต่กูว่าไม่แปลกนะที่มึงจะชอบพี่ปราบ มึงคิดๆดูนะไอ้ซ่า พี่ปราบโคตรของโคตรจะดีกับมึง ดูแลมึงทุกอย่าง ที่พวกกูสงสัยก็เพราะเขาดูแลเอาใจใส่มึงดีเกินไปเนี่ยแหละ ยิ่งกว่าผัวเมียทำให้อีก เจอคนอย่างพี่ปราบเข้าไป มึงไม่รักอ่ะกูว่าแปลก”

มันก็จริงอย่างไอ้ตูนว่า พี่ปราบดีกับผมมากๆ มากจริงๆ เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครทำให้ผมมากเท่าที่พี่ปราบทำให้ ไม่มีใครเข้าใจผมโดยที่ผมแทบจะไม่ต้องพูดออกมาเลย ผมต้องการอะไรไม่ต้องการอะไรพี่ปราบรู้หมด และคอยแต่จะแนะนำผมในสิ่งดีๆ ผมทำผิดก็ไม่ด่า แต่จะถามเหตุผล ในขณะที่คนที่บ้านจะด่ามาก่อน เขาเป็นคนเดียวที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบาย อยู่ด้วยแล้วเป็นตัวของตัวเอง ไม่เคยอึดอัดเลย

แล้วดูสิ่งที่ผมตอบแทนพี่ปราบสิ

พอผมเงียบ ไอ้หวายกับไอ้ตูนก็เงียบ ไม่มีใครพูดอะไร พวกมันคงปล่อยให้ผมได้คิด แต่ผมเองกลับคิดอะไรไม่ออก มึนด้วย งงด้วย ผมชอบพี่ปราบ...ไม่อยากจะคิดเลยวะ กระดากทุกที เอาจริงนะ ผมชอบพี่ปราบจริงๆเหรอวะ ไม่อยากเชื่อ และไม่อยากให้มันเป็นเรื่องจริง แต่เป็นไปแล้ว แล้วยังไง พี่ปราบคงไม่กลับมาอีกแล้ว



‘ต่อไปนี้มึงสบายใจได้นะซ่า มึงจะไม่ต้องอึดอัดที่มีผู้ชายอย่างกูมาชอบมาอยู่ใกล้ๆ แต่ถ้าการที่กูอยากอยู่ใกล้มึงมันเป็นปัญหา กูก็จะถอยออกไปเอง’

‘หลังจากนี้มึงก็ใช้ชีวิตของมึงไป กูจะใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนกัน’




คำพูดทุกคำพูดของพี่ปราบค่อยๆไหลวนเวียนเข้ามาในห้วงความคิดตลอดเวลา ทั้งสีหน้าและน้ำเสียง บอกให้ผมรู้ว่าพี่ปราบเสียใจและหมดหวังกับคนอย่างผม แล้วตอนนี้ที่ผมรู้ใจตัวเองมันจะไปมีประโยชน์อะไร รู้แล้วได้อะไร สุดท้ายก็เหลือผมแค่ตัวคนเดียว

ส่วนพี่ปราบป่านนี้ก็คงมีความสุขกับสาวไปแล้ว ทำไงได้วะ ผมเลือกเอง

“เป็นอะไรมึง นั่งหน้าเครียดอีกล่ะ” ไอ้หวายยกเท้าถีบขาผมเบาๆ

“พวกมึง ขอบใจนะเว้ย”

“เรื่อง?”

“ที่ทำให้กูหายโง่” แม้จะเป็นในเวลาที่สายก็ตาม

“ไม่เป็นไร เห็นมึงเฉาเป็นผักชีเหี่ยวๆใกล้ตายพวกกูก็พลอยจะเหี่ยวตามไปด้วย”

“ตอนนี้มึงรู้ใจตัวเองแล้ว ก็ไปง้อพี่ปราบซะ จะได้เลิกเฉาซะที”

“มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ววะ พี่ปราบเขาคงคบกับผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว ไม่งั้นไม่พากันขึ้นห้องหรอก”

พี่ปราบไม่ใช่ใครที่พาคนไม่สนิทขึ้นห้องได้ นอกจากเพื่อนเขาทั้งสามคนที่ผมรู้จัก คนอื่นพี่ปราบจะให้รอด้านล่างแล้วลงมาหาเอง

เพราะฉะนั้น ผมคงหมดหวังแล้ว

“มึงอย่าเพิ่งคิดแบบนั้นดิ ไปถามให้แน่ใจก่อนว่ายังไง บางทีอาจจะไม่มีอะไรก็ได้” ไอ้หวายปลอบใจผม แต่ก่อนหน้านี้มันยังพูดอยู่เลยว่าพวกเขาต้องขึ้นไปทำอะไรกันแน่นอน

“เออ ไอ้หวายพูดก็น่าคิด เขาอาจจะอยู่คอนโดเดียวกันเฉยๆก็ได้ พี่ปราบตามติดมึงมาตั้งนานเขายังไม่ทำอะไรมึงเลย แล้วกับผู้หญิงที่มึงว่า น่าจะรู้จักกันได้ไม่นาน ไม่น่ามีอะไรหรอก มึงต้องเชื่อใจพี่ปราบดิวะ” ไอ้ตูนช่วยพูดอีกแรง ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาได้หน่อย หน่อยเดียวจริงๆ

ผมอยากจะเชื่อใจพี่ปราบ แต่ผมก็กลัว มาลองคิดย้อนดู ตอนที่พลอยมานอนที่หอง พี่ปราบมาเห็นกับตา พี่ปราบยังเชื่อใจผม แล้วทำไมผมถึงคิดว่าพี่ปราบจะไปนอนกับคนอื่น

ก็เพราะเขาอาจจะอยากตัดใจจากผมไง ทำไงดีวะกูเนี่ย จิตใจไม่สงบสุขเลย

“เอ้า เครียดหนักไปเลยเพื่อนกู”

“มึง กูว่า เขาอาจจะเลิกรักกูไปแล้วก็ได้ เจอหน้ากูเขาก็หนีตลอด ไม่โทรมาด้วย” จะให้ผมโทรไปก่อนก็ไม่กล้า ได้แต่รอให้เขาโทรมาแต่ก็ไม่โทร

“เอ้า ก็มึงปฏิเสธเขาขนาดนั้น คนเราก็ต้องถอยไปเลียแผลใจเว้ย ตอนมึงเลิกกับพลอยมึงพร้อมเจอหน้ามันเลยเหรอไหมละ เอาตอนนี้อ่ะ เจอแล้วยิ้มทักทายไม่เจ็บไม่โกรธเหี้ยอะไรเลย มึงทำได้ไหม”

ไม่ได้ ผมไม่เคยลืม และยังเจ็บ เพียงแต่ไม่ได้รักอีกแล้ว เพราะใจผมเปลี่ยนไปรักคนอื่น แล้วพี่ปราบจะคิดแบบเดียวกันหรือเปล่า ไม่อยากเจอหน้าผมอีกแล้ว

“กูว่าเขาก็ยังรักมึง แต่เขาก็ต้องรักตัวเองไง มึงไม่เคยฟังเพลงหรือไง คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง”

ผมต่างหากที่เป็นคนแพ้ที่ต้องดูแลตัวเอง ไม่ใช่พี่ปราบหรอก

“คิดๆแล้ว กูพอมีวิธีที่จะทำให้เขากลับมาหามึงอยู่นะ” ไอ้ตูนลูบคางเหมือนลูบหนวด แต่มันไม่มีหนวด ไม่รู้จะทำท่าไปทำไม

“อะไร” แต่ถึงผมจะรู้สึกหมั่นไส้ท่าทางของไอ้ตูน แต่คำพูดของมันจุดประกายความหวังให้ผมมาก

“มึงก็ต้องรักเขาให้มากกว่าที่มึงรักศักดิ์ศรีของตัวเอง มึงไม่ยอมรับเขาเพราะเขาเป็นผู้ชาย กล้าไหมล่ะ เดินเข้าไปหาเขาแล้วทำให้เขารู้ว่ามึงชอบน่ะ”

“ใช่ๆ มึงต้องเป็นฝ่ายจีบพี่ปราบแทนแล้วเว้ย เขาจีบมึงก่อนแล้ว คราวนี้ตามึงแล้ว”

“กูต้องจีบผู้ชายจริงๆเหรอวะ”

ผลั๊วะ! ผลั๊วะ!

“ไอ้สัด!” ผมโดนไอ้หวายกับไอ้ตูนตบหัวอย่างแรงสองที สร่างเมาทันตาเห็น

“ยังจะคิดเรื่องผู้หญิงผู้ชายอีกเหรอห๊ะ!”

“เออๆ จีบก็จีบ แม่งจะไปยากอะไรวะ”

กับผู้หญิงผมยังไม่เคยจีบเลย แล้วจะให้ไปจีบพี่ปราบที่เป็นผู้ชายเนี่ยนะ

แต่เอาวะ ลองแม่งสักตั้ง รอดไม่รอดไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้ผมอยากได้พี่ปราบคืนแล้ว เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที แต่พี่ปราบจะยังรู้สึกดีกับผมไหม เรื่องนี้ทำให้ผมกลัว ถ้าโดนเขาไล่กับมาล่ะก็ กูต้องกลับมาร้องไห้แน่ๆ






......................................................................................
สวัสดีค่ะ
อาจจะดูหายไปนาน แต่วันนี้มาลงให้สองตอนติดเลยน้า เพราะไม่อยากให้ค้างกับตอนดราม่าของตอนที่22นานเกินไป  :mew3:
เห็นใจน้องซ่าหน่อยเนอะ นางไม่ฉลาดอยู่แล้ว ไอคิวไม่ดี อีคิวก็ไม่เลิศ ก็เลยจะดูมึนงงและสับสนกับตัวเองพอตัว ไม่รู้ว่าอ่านกันแล้วจะพอเข้าใจไหม ว่าที่มันกลัวและไม่ชินน่ะ มันเขินไง แต่น้องซ่ามันโง่ นั่นแหละ โดนไซโคมันทุกทาง ทุกท้ายก็รู้ใจตัวเอง ต่อจากนี้ก็ต้องลุ้นว่าซ่าจะจีบพี่ปราบติดไหม แล้วพี่ปราบจะให้อภัยน้องหรือเปล่า  :impress2:
แอบคิดว่า...น่าจะต้องมีคนเดาได้ถึงสิ่งที่เราเก็บซ่อนไว้ยังไม่เฉลยออกมา ไหนใครคิดว่าตัวเองรู้ ก็บอกกันได้นะ ว่าเราหลอกคุณไม่สำเร็จ ฮ่าๆๆๆ  :laugh:
ดราม่าหนักๆไม่มีแล้วนะคะ โล่งใจได้เลย จะมีแค่กรุบกริบเท่านั้น พอเป็นสีสันให้ชีวิต
สองตอนนี้แต่งยากพอสมควร กับการต้องงัดเอาความเป็นน้องซ่าออกมาให้ทุกคนเข้าใจง่าย เพราะความเป็นซ่านั้น มันเข้าใจยากมากๆ มากถึงมากที่สุด เล่นเอาปวดหัวทุกครั้งที่เขียนเลย ถ้าชอบไม่ชอบยังไงบอกกันได้นะคะ
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและแสดงความเป็นห่วงพี่ปราบกันอย่างน่าเอ็นดู  :o8:
หวังว่าจะติดตามกันไปจนจบนะคะ
เจอกันอีกทีตอนหน้า
คืนนี้ฝันดีค่ะ
ริริ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 14-12-2017 23:13:28
จีบพี่ปราบโลดดดด กว่าจะรู้ใจได้นะซ่า 5555555555 ลุ้นแทบตาย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-12-2017 23:54:33
ไปง้อพี่ปราบเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-12-2017 00:03:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-12-2017 00:06:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-12-2017 01:59:32
ไม่อยากจะว่าซ่า สบประมาทซ่านะ แต่ขอหน่อยเถอะ  "น้ำหน้าอย่างซ่านี่นะจะจีบพี่ปราบ ไม่สำเร็จหรอก เว้นแต่พี่ปราบจะอ่อยให้"  :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-12-2017 03:23:11
หวังว่ายังไม่สาย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 15-12-2017 04:36:01
เอาใจช่วยน้องซ่า ให้ง้อพี่ปราบได้เร็วๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-12-2017 05:27:47
กว่าซ่าจะรู้ตัวเอง ลุ้นซะเหนื่อย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 15-12-2017 07:14:24
พี่ปราบกำลังทำไรบางอย่างอยู่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmy_kuneekorn ที่ 15-12-2017 07:30:30
ซ่าสู้สู้ เอาชนะตัวเองแล้วสถานีต่อไปคือใจพี่ปราบ แต่ความจริงก็ไม่ต้องเอาชนะพี่ปราบก็เทให้หมดแล้วล่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-12-2017 07:51:25
พูดคุยท้ายเรื่องเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีอื่นได้ไหมคะ เราอ่านไม่ค่อยเห็น เห็นใจสายตาคนเริ่มแก่นิดนึงเนาะ :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 15-12-2017 07:59:20
ซ่า สู้ ๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-12-2017 08:02:56
เดินหน้าเต็มกำลัง..ซ่าหรอ
ป่าว พี่ปราบบบบ555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Disthaporn ที่ 15-12-2017 08:16:01
ไม่ต้องกังวลนะคะ รู้สึกว่าตอนนี้พี่ริริเขียนได้ดีค่ะ o13 รู้สึกอินไปกับซ่ามาก :hao5: ติดตามมาตั้งเเต่maybe เลยค่ะ พี่ยิ่งเเต่งยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ หนูให้กำลังใจให้นะคะ  :กอด1:ส่วนพี่ปราบเคยดียังไงก็ดีอยู่ข้างนั้นนน  :mew2:  ซ่ารู้ใจตัวเองสักที ต่อจากนี้ต้องง้อพี่ปราบอย่างเต็มที่เเล้ว เเต่ยังไงพี่ปราบก็ให้อภัยอยู่เเล้ว ทั้งรักทั้งดูเเลอยู่ตลอด จะเชื่อใจพี่ปราบนะคะว่าไม่มีซัมติงอะไรกับการ์ตูน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 15-12-2017 20:14:49
 พี่ปราบวางแผนเอาไว้เปล่า ว่ามันจะได้รู้ใจตัวเอง

:m19: :m19: :m19:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 15-12-2017 21:14:22
โอ้ยยย รออ่านซ่าจีบพี่ปราบไม่ไหวแล้ว จะฮาขนาดไหนนะเนี่ย มาต่อไวๆๆๆๆนะครับ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-12-2017 22:21:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 15-12-2017 23:41:15
กว่าซ่าจะยอมรับใจตัวเอง เจ็บกันไปเท่าไหร่
แต่คิดว่าไม่ต้องจีบหรอกพี่ปราบอ่ะ ที่ทำให้เห็นๆ คนนุ้นคนี้มาพูดเนี่ยะพี่ปราบวางแผนมาใช่มะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 16-12-2017 00:25:29
เป็น2ตอนที่จุใจมาก ขอบคุณนะคะ
เรื่องแบบนี้ไม่มีใครผิดใครถูกหรอกค่ะ เราเข้าใจซ่านะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 16-12-2017 00:32:23
ตอนเขาอยู่ใกล้ๆ ก็ไล่เขา สบายละซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 19-12-2017 16:12:49
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน

ชอบมาเลยค่ะ ประทับใจทุกตอน

เป็นนิยายที่ดีมากเรื่องนึงเลย o13

อดใจรอตอนต่อไปแทบไม่ไหวแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่22-23:: 14/12/2017 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 19-12-2017 21:39:45
ดีต่อใจยิ่งนักกกก อยากอ่านต่อแล้ววว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 20-12-2017 18:33:33
ปราบซ่า
ตอนที่24





[ซ่า]

ปัญหาในตอนนี้ ไม่ใช่ว่าผมรู้สึกยังไงกันแน่ แต่เป็นผมจะทำยังไงต่อไปต่างหาก ผมควรเริ่มต้นจากตรงไหน ไอ้การจะเดินเข้าไปหาพี่ปราบแล้วบอกว่าผมชอบพี่ กลับมาได้ไหม คิดว่าง่ายก็ง่าย แต่มันทำยาก

สองวันที่ผ่านมา ผมใช้เวลาอยู่กับตัวเอง เฝ้าถามตัวเองว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม ผมชอบพี่ปราบจริงๆหรือเปล่า คำตอบที่ได้ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ผมจึงได้ตัดสินใจแล้วว่า...ผมจะลองดูอีกสักครั้ง ถ้าพี่ปราบเองยังชอบผม และให้อภัยคนโง่อย่างผมได้ บางทีผมอาจจะมีความสุขสักที

ผมกดโทรศัพท์โทรหาพี่ปราบ แต่ดันโทรไม่ติด มีแต่เสียงผู้หญิงบอกให้ฝากข้อความทิ้งไว้ตลอด ไม่ว่าจะโทรกี่ครั้ง โทรทั้งวันก็ไม่ติดสักที พี่ปราบไม่น่าจะปิดเครื่องนานขนาดนี้ ยังไงเขาเป็นนักธุรกิจ ต้องมีคนโทรหาติดต่องานบ้าง หรือว่าพี่ปราบจะบล็อกเบอร์ผม ต้องใช่แน่ๆ

ผมแทบหมดหวัง อยากล้มเลิกความตั้งใจที่อยากจะเจอและคุยกับพี่ปราบให้รู้เรื่อง แต่ว่า...ผมก็อยากได้ยินจากปากเขา หากพี่ปราบอยากตัดขาดกับผมจริงๆ ก็ขอฟังจากปากเขาให้ชัดเจน จากนั้นผมก็จะตัดใจ

นอกจากคอนโดของพี่ปราบแล้ว ผมก็ไม่รู้จะไปตามหาพี่ปราบที่ไหนอีก โรงฝึกผมเคยไปแค่ไม่กี่ครั้ง แน่นอนว่าจำทางไปไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบ้านของพี่ปราบเลย ผมเคยไปแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น

ดังนั้นผมจึงมานั่งรอพี่ปราบที่คอนโด ลองพยายามติดต่อพี่ปราบ แต่ก็ติดต่อไม่ได้สักที มือก็กดโทรศัพท์ ตาก็มองคนที่เดินเข้าออกคอนโดสุดหรู หลายคนที่เดินเข้าออกคอนโดมองผม เขาคงสงสัยว่าคนมอซออย่างผมมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออะไรที่นี่

แต่พี่รปภ.กับพนักงานที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์คุ้นหน้าคุ้นตาผมดี พวกเขาเลยไม่ได้ไล่ให้ผมไปเล่นที่อื่น

นั่งรออยู่นาน คนที่คุ้นหน้าก็เดินเข้ามาในคอนโด แต่ไม่ใช่พี่ปราบ คนที่มาเป็นพี่ริช เขายังไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีผมนั่งอยู่ตรงนี้ และผมก็ลังเลว่าจะเข้าไปทักพี่ริชดีไหม เผื่อว่าผมจะได้ขึ้นไปหาพี่ปราบพร้อมพี่ริช

“น้องซ่า มานั่งทำอะไรตรงนี้”

“เอ่อ ครับ” ผมมัวแต่คิดว่าจะเอายังไง พี่ริชก็เดินเข้ามาหาผมเองเสียแล้ว

“มานั่งทำอะไรที่นี่ครับ” พี่ริชตั้งคำถามอีกรอบ ทีแรกพี่เขาถามอะไรสักอย่าง แต่ผมไม่ทันได้ตั้งใจฟัง

“ครับ ผมมาหาพี่ปราบ” ผมตอบ ซึ่งไม่รู้ว่าคำตอบของผมมันผิดปกติตรงไหนหรือเปล่า คิ้วของพี่ริชถึงได้ขมวดเข้าหากัน สีหน้าก็เหมือนจะสงสัย

“แต่ปราบไม่อยู่นะ พี่เขาไม่ได้บอกเหรอ”

ผมส่ายหน้า คิดว่าพี่ปราบไม่ได้อยู่คอนโด แต่ไม่ใช่ “เปล่าครับ”

ผมไม่สามารถรู้ได้ว่าพี่ปราบจะอยู่ห้องหรือไม่ เพราะเขาปิดเครื่องไม่รับสายผมเลยสักครั้ง

“งั้นเหรอ” พี่ริชพึมพำกับตัวเองเบาๆ “ขึ้นไปข้างบนกับพี่ก่อนไหม” พี่ริชถาม

“ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมค่อยมาหาพี่ปราบใหม่ก็ได้” ผมลุกขึ้นยืน มือไม้เกะกะปัดกางเกงมั่วไปหมด

“ซ่า พรุ่งนี้ปราบก็ไม่อยู่นะ” พี่ริชเอ่ยขัดก่อนที่ผมจะยกมือไหว้ลา

“ครับ?” หมายความว่ายังไงที่พรุ่งนี้พี่ปราบก็ไม่อยู่ “พี่ปราบ...กลับไปอยู่บ้านเหรอครับ”

“เปล่าหรอก แต่ปราบเขาไปอิตาลีน่ะ ไปตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนแล้ว”

พี่ปราบไปอิตาลี!?

ไปโดยไม่บอกผมเลยเนี่ยนะ

ผมไม่มีความสำคัญเลยหรือยังไง ไปไกลขนาดนั้นเขาถึงได้ไม่บอกผมสักคำ ทั้งที่ผ่านมาแค่ไปต่างจังหวัด เขายังบอกผมเลย

“ขึ้นไปบนห้องปราบกันดีกว่า พี่มีเรื่องจะคุยกับซ่าด้วยนะ” พี่ริชจับข้อมือผมแล้วออกแรงดึงเบาๆให้เดินไปที่ลิฟต์ด้วยกัน

ผมเดินตามพี่ริชไปแบบตัวลอยๆ สายตาของพี่ริชคอยมองผมด้วยความเป็นห่วง มากกว่านั้นผมรู้สึกว่าสายตาของพี่ริชเต็มไปด้วยความเอ็นดู ซึ่งไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า

เข้ามาในห้องพี่ปราบ พี่ริชก็ให้ผมนั่งรอที่โซฟา แล้วเข้าไปในห้องนอนของพี่ปราบ ไม่นานก็มีแม่บ้านขึ้นมาที่ห้อง พร้อมกับพี่ริชที่ยกกองเสื้อผ้ากองใหญ่ให้แม่บ้านไปทำความสะอาด ยังมีผ้าห่มและผ้าปูที่นอนในห้องนอนที่พี่ริชควบคุมแม่บ้านเอง

“ปราบเขาค่อนข้างหวงห้องนอน แม่บ้านจะเข้าไปในห้องนอนไม่ได้ ถ้าปราบไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นพี่หรือพี่เค้กจะเข้ามาจัดการให้” พี่ริชเล่าให้ฟังหลังจากจัดการห้องนอนพี่ปราบเสร็จ แล้วย้ายไปจัดการที่ห้องครัว

“เอาโกโก้ร้อนสักแก้วแล้วกันเนอะ” พี่ริชชะโงกหน้ามาบอกผม ไม่ได้ถามว่าต้องการหรือไม่ แต่พี่ริชจัดการชงโกโก้ร้อนให้ผมเลย ผมที่เหมือนจะสร้างภาระให้พี่ริชแบบไม่รู้ตัวรีบเดินตามไปในครัวทันที

“ทำตัวตามสบายนะซ่า ไม่ต้องเกร็ง” พี่ริชยิ้มขำกับท่าทางงกๆเงิ่นๆของผม

“เอ่อ ครับ” ผมยิ้มแห้ง

โกโก้ร้อนๆกลิ่นหอมในแก้วมัคถูกวางลงตรงหน้าผมหนึ่งแก้ว อีกแก้วอยู่ในมือของพี่ริชที่นั่งฝั่งตรงข้ามของโต๊ะเตรียมอาหาร

กลิ่นหอมของโกโก้ลอยเข้าจมูกจนลืมตัวสูดดมแรงเต็มปอด ด้านบนเป็นฟองนมสีขาวๆด้วย ผมอดใจไม่ไหวต้องหยิบแก้วขึ้นมาดื่ม

“อร่อยไหม” พี่ริชยิ้มถาม

“อร่อยครับ ไม่หวานดี ขมๆ ผมชอบ”

“ปราบก็ชอบกินรสนี้ ผงโกโก้สามช้อน นมข้นหวานสองช้อนโต๊ะ นมข้นจืดกับนมสดอย่างละครึ่ง ปิดท้ายด้วยฟองนม เข้มข้นกลมกล่อมเลยใช่ไหม”

“ครับ”

อร่อยมากๆ ผมซดแปบเดียวก็หมดแก้ว พี่ริชทำให้กินแล้ว ผมก็อาสาล้างแก้วให้ ปล่อยให้พี่ริชเปิดตู้เย็นตัวใหญ่รื้อของกินที่ใกล้จะเสียออกมาทิ้ง

“ก่อนจะไปปราบเขาไม่ได้เคลียร์ตู้เย็น กลัวของจะเน่าคาตู้ พี่เลยมาเก็บของทิ้งให้” พี่ริชเล่า

“พี่ปราบไปนานเหรอครับ” ผมถาม แต่ก็พอจะเดาคำตอบได้จากการกระทำของพี่ริช ถ้าไปไม่นาน ก็ไม่น่าจะต้องเก็บของในตู้เย็นทิ้ง

“ก็น่าจะเดือนหนึ่งแหละมั้ง”

“เดือนหนึ่งเลยเหรอครับ” ใจของผมฟีบแบนเหมือนลูกโป่งถูกปล่อยลม

 ไปหนึ่งเดือน ไปแบบกะทันหันไม่บอกอะไรผมเลย เขาไปทำอะไร ไปคนเดียวหรือไปกับใคร ผมไม่รู้อะไรเลย อยากจะถามพี่ริชแต่ก็ไม่กล้า ปล่อยให้พี่ริชยืนจ้องผมคล้ายกับรอเวลา

“ซ่า...พี่ถามอะไรหน่อยสิ”

ผมเงยหน้าสบตากับพี่ริช

“ครับ”

“ซ่าทะเลาะกับพี่ปราบหรือเปล่า”

หนังตาของผมทั้งบนและล่างขยายตัวออกกว้างอีกเท่าหนึ่ง ตกใจกับคำถามที่เจาะจงปัญหาของผมกับพี่ปราบในขณะนี้ ที่ถึงแม้ว่าความจริงจะไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกันเลย ผมและเขาเราไม่เข้าใจกัน ไม่สิ ไม่ใช่พี่ปราบ แต่เป็นผมต่างหากที่ไม่เข้าใจเขา และไม่เข้าใจตัวเอง จนตอนนี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสบอกให้เขาเข้าใจไหมว่าผมรู้สึกเช่นไร

“คือ...ผม”

ผมไม่รู้จะพูดอะไร หลายสิ่งหลายอย่างอัดแน่นอยู่ในหัว แต่ไม่สามารถบอกเป็นคำพูดได้

“ปราบเขาชอบซ่ามากนะ พี่คิดว่าซ่าคงรู้เรื่องนี้แล้ว” ถึงผมไม่พูด พี่ริชก็เป็นคนพูดเอง และผมทำได้เพียงพยักหน้ารับกับสิ่งที่เป็นเรื่องจริง

“ปราบเขาทำให้ซ่าไม่สบายใจหรือเปล่า พี่รู้มาจากปราบว่าซ่าไม่ได้ชอบผู้ชาย พี่เขาไม่ได้ทำให้อึดอัดใช่ไหม หากพี่เขาทำอะไรไม่ดีกับซ่า พี่ริชขอโทษแทนปราบด้วยนะ”

ผมรีบส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่ครับ พี่ริชไม่ต้องขอโทษผมหรอก”

เรื่องนี้ไม่มีใครผิดทั้งนั้น ทั้งพี่ปราบและพี่ริชไม่จำเป็นต้องขอโทษคนอย่างผม คนที่ควรจะเอ่ยคำขอโทษ มันควรเป็นผม มากว่าคนที่ดีกับผมทั้งสองคนอย่างพี่ปราบและพี่ริช

“ก่อนไปอิตาลี ปราบเขาดูนิ่งเงียบเหมือนมีอะไรในใจ ซึ่งเขาไม่ได้บอกใครหรอกนะ แต่ว่าพี่เลี้ยงปราบมาตั้งแต่เล็กๆ นอกจากเรื่องของหัวใจแล้ว ปราบไม่เคยต้องคิดมากในเรื่องอื่นเลย”

พี่ปราบเครียดเพราะผม

“แต่ไม่เป็นไรหรอกนะซ่า ถ้าซ่าไม่ได้คิดกับพี่ปราบแบบนั้น ก็ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ความรักมีสมหวังก็ต้องมีผิดหวังเป็นธรรมดา ถ้าซ่ายิ่งไม่สบายใจ พี่ปราบก็จะรู้สึกไม่ดีไปด้วยนะ” มือเล็กนุ่มของพี่ริชวางกุมมือที่บีบกันแน่นของผม ตบเบาๆเพื่อปลอบโยน

แต่ทุกคนไม่รู้ว่าความจริงแล้วผมเองก็รู้สึกกับพี่ปราบเหมือนกัน

“พี่ริช...ผม”

“ครับ ระบายออกมาได้เลยนะ พี่ยินดีรับฟัง”

“ผมชอบพี่ปราบ ผมไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเขา”

ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง เรียบเรียงประโยคที่ดีกว่านี้ไม่ได้ แต่ผมอยากบอกให้พี่ริชรู้ว่าผมเองรู้สึกยังไงกับพี่ปราบกันแน่ ก็ไม่รู้ว่าบอกพี่ริชไปแล้วจะได้อะไร แต่ในเมื่อคนที่ผมอยากพูดด้วยเขาไม่อยู่ ตอนนี้ก็ทำได้แต่พูดกับผู้ปกครองเขาแทน

พี่ริชดูจะตกใจไม่น้อย แต่ก็หายตกใจเร็วเช่นกัน พี่ริชยิ้มให้ผม พลางบีบมือผมแน่นขึ้นเป็นจังหวะ มือคู่นี้อบอุ่นไม่ต่างจากมือของพี่ปราบเลย อาจเพราะเป็นคนๆนี้ที่เลี้ยงพี่ปราบให้เป็นคนมืออุ่นหรือเปล่า

“ซ่าแน่ใจนะ ไม่ได้ชอบพี่ปราบเพียงเพราะว่ารู้สึกผิดใช่ไหม”

เป็นอีกครั้งที่ผมเลือกที่จะส่ายหน้าแทนคำตอบ

“งั้นเล่าให้พี่ฟังได้ไหม ว่าเรื่องเป็นยังไงมายังไง เผื่อพี่อาจจะช่วยได้”

เพราะผมคิดว่าคงแก้ปัญหานี้เพียงคนเดียวไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องการตัวช่วย พี่ริชคือทางออกสำหรับผมในตอนนี้ ผมเล่าให้พี่ริชเท่าที่ความสามารถของตัวเองจะมี เล่าบ้างหยุดบ้าง แต่พี่ริชก็เข้าใจคำพูดของผมโดยที่ผมไม่ต้องอธิบายเพิ่ม

“สรุปคือ ตอนนี้ซ่ากลัวว่าปราบจะโกรธและเกลียด ที่ซ่าเลือกปฏิเสธเขาใช่ไหม”

“ครับ” ผมพยักหน้ารับคำตอบ

“งั้นก็วางใจได้ ถ้าถามพี่ เท่าที่เห็นตามอาการของปราบก่อนไปอิตาลี พี่ว่าเขาแค่รู้สึกเศร้าและผิดหวังเท่านั้นแหละ ไม่ได้โกรธหรือเกลียดซ่าหรอก”

ฟังแล้วไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย สุดท้ายก็คือผมที่ทำให้พี่ปราบเศร้าและผิดหวังอย่างที่พี่ริชบอก

“ปราบตอนนี้ก็เหมือนคนอกหักนั่นแหละ เชื่อพี่นะ ปราบเขาไม่มีทางเกลียดซ่า เพราะว่าซ่าไม่ได้ทำอะไรผิด”

ไม่จริง จะไม่ใช่ความผิดของผมได้ยังไง

“อย่าโทษตัวเองเลยนะ พี่รู้เรื่องที่ปราบชอบเราตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน จำได้ไหม”

ผมนึกย้อนตามคำพูดของพี่ริช วันนั้นที่ผมมานอนค้างห้องพี่ปราบเพราะต้องอ่านหนังสือสอบ ผมจำได้ว่าพี่ริชใจดีกับผมตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ไม่แสดงท่าทีรังเกียจเด็กเหลือขออย่างผมที่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับคนดีๆอย่างพี่ปราบ

“ปราบยอมรับกับพี่ว่าสนใจซ่า และอยากช่วยให้ซ่ามีชีวิตที่ดีขึ้น ที่พี่จะบอกก็คือว่า ต่อให้ความจริงแล้วซ่าจะไม่รักไม่ชอบปราบเลยซ่าก็ไม่ได้ผิดอะไร เรื่องความรักเรื่องของหัวใจมันบังคับกันไม่ได้ การที่ปราบทำอะไรหลายๆอย่างให้ซ่า ก็ไม่ได้หมายความว่าการไม่รับรักปราบเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และพี่เชื่อว่าปราบที่พี่เลี้ยงดูมา เขามีเหตุผลพอที่จะไม่โทษซ่า ได้รู้อย่างนี้แล้ว ซ่ายังชอบปราบอยู่หรือไม่”

“ผมชอบพี่ปราบครับ ชอบจริงๆ” ผมตอบในทันที เพราะผมไม่ได้ชอบเขาเพราะผมรู้สึกผิด แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่พี่ปราบเข้ามากลืนกินความรู้สึกนึกคิดของผมจนหมดสิ้น

“ถ้าซ่ายืนยันอย่างนั้น พี่เองก็ขอบคุณซ่าเองก็มีความรู้สึกดีให้ปราบ”

“แต่มันอาจจะสายไปแล้ว”

พี่ริชเลิกคิ้วสูง “ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”

ทำไมน่ะเหรอ

“วันนั้นที่พี่ปราบบอกว่าจะเลิกรักผม และจะไม่มาวุ่นวายกับผมอีก พี่ปราบก็เมินเฉยใส่ผมไปเลย แถมยังมีแฟนใหม่ไปแล้วด้วย ผมโทรไปอยากจะคุยด้วยพี่เขาก็ไม่รับสาย ไปต่างประเทศก็ไม่บอกผมสักคำ”

สาบานได้ว่าผมไม่ได้อยากรู้สึกน้อยใจ เพราะรู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์

พอเห็นพี่ริชยิ้มขำ ก็รู้ตัวว่าผมอาจจะเปิดเผยความรู้สึกมากเกินไป แต่จะแก้ตัวอะไรตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว

“เรื่องเมินเฉยนี่พี่เองก็บอกไม่ได้นะว่าเพราะอะไร ซ่าต้องคุยกับปราบเขาเอง ส่วนเรื่องแฟนใหม่ที่เป็นผู้หญิง พี่ยังไม่รู้เรื่องนะ และไม่มีใครรู้ด้วย ซึ่งถ้าปราบชอบใครจนถึงขั้นเป็นแฟนเนี่ยน่าจะต้องพามาให้ที่บ้านรู้จักแล้ว ตอนซ่าเขายังพามาที่บ้านเลย”

“ผมเหรอ”

ตอนไหนวะ หรือจะเป็นตอนที่พี่ปราบพาผมไปเอาข้าวของเครื่องใช้ที่บ้าน กับอีกครั้งหนึ่งก็ตอนที่ไปกินเหล้าบ้านพี่ปราบ

“เราอาจจะไม่ทันรู้ไง แต่พวกพี่รู้ ทั้งพ่อและป๊าเขาก็รู้กันหมดนั่นแหละ”

ไอ้อาการร้อนวูบวาบที่หน้าที่มันคืออะไรวะ ผมเปล่าเขินนะ

“เอาเป็นว่า ซ่าก็อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก รอให้ปราบเขากลับมาแล้วก็ค่อยคุยกัน ตอนนี้ห่างกันก็ถือซะว่าเป็นการพิสูจน์ใจตัวเองว่าจริงๆแล้วรู้สึกต่อกันยังไง พี่เชื่อว่าคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอกนะ”

ผมไม่มีอะไรจะตอบแทนให้พี่ริชนอกจากคำว่าขอบคุณ ผมบอกขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนพี่ริชหัวเราะเสียงดัง บอกห้ามไม่ให้ผมเอ่ยขอบคุณเขาอีก






   
หนึ่งเดือนผ่านไป

อีกไม่ถึงเดือนผมก็จะเข้าสู่การสอบ และก็จะเท่ากับว่าผมเรียนจบวุฒิปวช.อย่างสมบูรณ์ พวกเพื่อนผมอยากให้ผมต่อปวส.แบบพวกมัน แต่ว่าผมกลับลังเล เพราะคำพูดของพี่ปราบเคยแนะนำให้ผมเรียนต่อมหาวิทยาลัย เพียงแต่ว่าผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้ตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นได้

ผมยังคงโทรติดต่อพี่ปราบไม่ได้ มีเพียงรูปของพี่ปราบที่พี่ริชส่งมาให้ดูบ้างก็เท่านั้น อยู่ที่นู่นเขาคงมีความสุขดี ดูได้จากรูปถ่ายที่ยิ้มกว้างใส่กล้อง ทุกครั้งที่ได้เห็น ผมคิดเสมอว่า บางทีมันอาจดีแล้วที่เป็นแบบนี้ พี่ปราบคงมีความสุขดี และผมก็ควรอยู่ในที่ของผมต่อไป ผมก็อยู่แบบนี้ได้มาจนถึงทุกวันนี้ ไม่เป็นไรหรอก ผมอยู่ได้ หนักกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว

แต่ถึงจะปลอบใจตัวเองว่าไม่มีพี่ปราบผมก็อยู่ได้ เอาเข้าจริงผมก็ยังมารอพี่ปราบที่คอนโดของเขาเสมอเมื่อว่างจากไปเรียนหรือไม่ต้องทำงาน จะกลับห้องอีกทีหนึ่งก็เมื่อเข้าวันใหม่ไปแล้ว

ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม ผมคิดถึงเขา ที่มาก็แค่หวังว่าจะได้เจอพี่ปราบสักครั้ง หากว่าเขากลับมาเมืองไทยแล้ว

‘บอกคิดถึงกูก่อนสิ แล้วเดี๋ยวกูรีบกลับไปหาเลย’
'ว่าไง ถ้าพูดนี่กูเก็บของกลับเลยนะ'
'อย่าแกล้งกันได้ไหมพี่ ผมร้อนใจจะตายห่าอยู่แล้ว'
'กูไม่ได้แกล้งสักหน่อย'
'จิ๊ เออ ผมคิดถึง พอใจยัง กลับมาให้ไวด้วย ไม่งั้นผมจะเอานาฬิกาพี่ไปขาย'


ถ้าผมบอกเขาว่าผมคิดถึง เขาจะรีบกลับมาหาผมเหมือนครั้งก่อนไหม

ผมกลัว กลัวความห่างไกลจะทำให้พี่ปราบเปลี่ยนไป ถ้าเขาไปเจอใครที่ดีกว่าผม ถ้าคนๆเองก็รักพี่ปราบ ผมจะทำยังไง

“พี่ทำให้ผมรักแล้ว กลับมารับผิดชอบด้วย”

ผมส่งข้อความไปหาพี่ปราบอยู่สองข้อความ แต่ข้อความของผมไม่เคยถูกอ่าน และผมก็ไม่กล้าที่จะส่งไปอีก

พี่ริชบอกว่าโทรศัพท์ของพี่ปราบหายเพราะถูกล้วงกระเป๋าที่อิตาลี พี่ริชคงไม่มีทางโกหกผม และมันทำให้ผมมีความหวังเล็กๆว่าที่ผมโทรหาพี่ปราบไม่ติดไม่ใช่เพราะว่าเขาบล็อกเบอร์ผม แต่เป็นเพราะว่าโทรศัพท์ของเขาถูกขโมยต่างหาก

หลังจากเลิกเรียนแล้วไม่ต้องทำงาน ผมไม่เคยอยู่ที่ห้องจนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องนอนหลับ ที่ๆผมจะไปมีไม่กี่ที่ ส่วนมากก็เป็นที่ๆพี่ปราบพาผมไปทั้งสิ้น หรือไม่ผมก็ไปเตะบอลกับเพื่อนเพื่อให้หายฟุ้งซ่านแล้วเอาแต่คิดถึงคนที่มีความสุขอยู่ที่อิตาลี

แต่วันนี้ผมรู้ว่าตัวเองว่างมากเกินไป ว่างจนถึงขนาดเดินเรื่อยเปื่อยมาจนถึงร้านอาหารของอาเจ ผมหยุดยืนอยู่หน้าร้าน ก้มมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง วันนี้ไม่ใช่วันทำงานของผม แต่ไม่รู้ทำไม พอรู้สึกว่าไม่มีที่ไป ก็มักจะมาที่นี่ทุกที

ผมยืนอยู่หน้าร้านอยู่หลายนาที มองดูรถคันแล้วคันเล่าที่ขับเข้าไปในร้านแล้วขับออกมา และบางทีโชคชะตาอาจจะเล่นตลกกับผมมากเกินไป เพราะเมื่อผมตัดสินใจที่จะหันหลังกลับ รถยนต์คันคุ้นตาก็ขับผ่านหน้าผมเข้าไปในร้าน และจอดในจุดที่ไม่ไกลจากที่ผมยืนอยู่

เจ้าของรถก้าวลงจากรถ พร้อมกับจัดความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกาย ทันทีที่เขาหันมาทางผม หัวใจที่เต้นเบามาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็เต้นแรงขึ้นจนนับไม่เป็นจังหวะ ดีใจจนพูดไม่ออกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

“พี่...ปราบ” พี่ปราบกลับมาแล้ว

เขากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่

ทำไมผมไม่รู้อะไรเลย

แต่ผมก็ไม่ทันได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ขาทั้งสองข้างก้าวเข้าไปหาพี่ปราบ เขายังดูดีเหมือนเดิม เคยหล่อยังไงก็อย่างนั้น ยิ่งอยู่ในชุดราคาแพงแล้ว พี่ปราบตรงหน้าไม่ต่างจากเทวดาเลย

เขาเป็นเทวดาที่ครั้งหนึ่งเคยลงมาโปรดคนไร้ค่าอย่างผม

“พี่จริงๆด้วย”

พอได้มองดูเขาใกล้ๆ ผมก็แน่ใจว่าผมไม่ได้ฝันไป ไม่ได้คิดถึงจนเห็นเป็นภาพหลอน

“มีอะไร” พี่ปราบถามผมเสียงเรียบนิ่ง ไม่แสดงความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ ให้ผมได้รู้ว่าเขาเองก็อาจจะคิดถึงผมเหมือนกัน หรือมีแต่ผมที่คิดไปเองคนเดียว

“คือ...”

“ปราบคะ ทำอะไรอยู่ เอ๊ะ น้องคนนี้หน้าคุ้นๆนะ ”

ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร ก็มีเสียงหวานใสแทรกขึ้นมา...พี่การ์ตูน

ผมมองพี่ปราบสลับกับผู้หญิงที่เดินมาจับแขนพี่ปราบอย่างสนิทสนม ทั้งๆที่ผมมองอยู่ แต่พี่ปราบก็ไม่ได้ปัดมือเธอออก แต่กลับหันไปตอบคำถามพี่การ์ตูนแทน

“คนรู้จักน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”

คนรู้จัก? ผมเป็นแค่คนรู้จักเหรอ

รู้สึกได้อย่างเดียวในตอนนี้คือหน้าชา

“เฮ้ สองคนนั้นน่ะ มัวแต่สวีทอะไรกัน ไปอิตาลีด้วยกันมายังไม่พอใจหรือหรือไง” ผู้ชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพี่ปราบตะโกนถามคนสองคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าผม แต่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เขาไม่ได้สังเกตผมที่ยืนเป็นเงาไร้ตัวตน และไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ถึงได้พูดความจริงที่ผมยังไม่รู้ออกมา

พวกเขาไปอิตาลีด้วยกันมา ทำไมพี่ริชไม่เห็นบอกผมเลย

“งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะ ซ่า ไว้ค่อยคุยกัน” พี่ปราบดันหลังผู้หญิงให้เดินนำ ก่อนที่เขาจะหันมาพูดกับผมพร้อมส่งรอยยิ้มให้ เพียงแต่เหมือนมันจะไม่ได้มีความหมายอะไรให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองได้

แล้วพวกเขาก็พากันเดินเข้าไปในร้านอาหาร แขนของปราบถูกผู้หญิงคนนั้นคล้องกอด ผมยืนมองเหม่อจนพวกเขาสองคนหายเข้าไปในร้านอาหาร ก่อนจะหมุนเดินจากมาให้เงียบที่สุด

‘คนรู้จักน่ะ ไม่มีอะไรหรอก’

“คนอย่างมึง ชาตินี้ไม่มีใครเขารักหรอก ไม่มีจริงๆ”





ฉันอยู่ตรงนี้ได้ไม่ต้องเป็นห่วงกัน
เมื่อก่อนไม่มีใครฉันก็เคยผ่านมา
เธอ...พบคนที่ใช่ของไปดีเถอะหนา
หากเจ็บอีกนานแต่ว่าฉันคงไม่เป็นไร
เคยมีตัวคนเดียวก็แค่มีเท่าเดิม ก็แค่ไม่เหลือใคร

(เท่าเดิม – ลาบานูน)




...........................................
สวัสดีค่ะ เจอความอึมครึมกันอีกสักตอนนะคะ เพราะนี่มันตอนสุดท้ายแล้ว ฮิ้ววววววว :impress2:
เพลงในช่วงท้ายของตอนนี้ ก็เป็นเพลงที่บ่งบอกอายุเช่นกัน ฮา :laugh:
ก็ไม่มีอะไรมาก ขอบคุณทุกกำลังใจเลยนะคะ และดีใจมากที่ริริสามารถเขียนนิยายให้คนอ่านเข้าใจได้ ฮ่าๆๆๆ
และรอบนี้เป็นสีช่วงพูดคุยท้ายบทแล้วนะคะ ต้องขอโทษด้วยที่ครั้งก่อนๆใช้สีเหลือง แหะๆ
ช่วงนี้อากาศหนาวเร็วอย่างไม่คาดฝัน และแน่นอนว่าริริก็ป่วยเป็นหวัดไปเป็นที่เรียบร้อย ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพด้วยนะคะ ป่วยขึ้นมาแล้วมันหายยากเหลือเกิน โดยเฉพาะน้ำมูกไหลไม่หยุดเลย!
เอาล่ะ จะรีบๆคลอดตอนหน้าให้ได้ฟินกันนะคะ :o8:
สุดท้ายนี้ก็อยากบอกว่า รักคนอ่านทุกคนเลยค่ะ
กอดดด :กอด1:
ริริ


หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-12-2017 18:39:02
พี่ปราบ ซ่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ลุ้น ซ่าง้อ จีบพี่ปราบ
ซ่า น่ะซ่าสมชื่อ ไม่ซ่าอย่างเดียว ยังเซ่อซ่าด้วย

เอาล่ะสิ พี่ปราบไม่ได้รับข้อความที่ซ่าส่งไป
เพราะโทรศัพท์หาย
ไปอิตาลีก็ควงหญิงไป ควงหญิงกลับ
แถมปราบยังบอกหญิงว่าซ่าแค่คนรู้จัก
เศร้า หน่วงแทนซ่าเลย
ซ่ายิ่งมีปมว่า ตัวซ่านี่ ไม่มีใครรักซ่าอยู่ด้วย
คราวนี้ซ่าคงหายไปจากชีวิตพี่ปราบแน่
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-12-2017 18:43:17
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 20-12-2017 18:59:12
 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 20-12-2017 19:03:56
ตอนนี้ออกแนวหน่วงจิตหน่วงใจ เข้าใจซ่านะ รอที่จะมาอธิบาย อยากเจออยากเห็นหน้า อยากที่จะพูดคุยทำความเข้าใจ รอเป็นเดือนแถมมาเจอแบบนี้อีก พูดไม่ออกเหมือนกัน

ปล. เพลงนี้ก็ไม่นานนะ ริริ
เรายังไม่แก่หรอก 5555


หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 20-12-2017 19:10:30
ปวดใจแทนซ่า  :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-12-2017 19:19:35
อาจจะสายเกินไป แต่ถ้าซ่าตัดใจซะตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่เจ็บมากใช่มั้ย  ^^ สงสารซ่า ไม่อยากให้พยายามกับสิ่งที่มันดูจะเป็นไปไม่ได้ ซ่าอยากได้ความรักก็เข้าใจ แต่คนดีๆก็ยังมีโอกาสเจอเยอะนะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-12-2017 19:35:07
ปวดใจต่อไป
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 20-12-2017 19:46:01
กอดตัวเองแน่นๆ รักตัวเองให้มากๆ นะซ่าร์  :hao5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: windy49 ที่ 20-12-2017 19:53:24
สงสารซ่า  :hao5:
มันค้างมากเลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-12-2017 20:33:33
พี่ปราบแกล้งเด็กแบบนี้ไม่ดีน๊าา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-12-2017 20:44:14
แหงนมองฟ้า หาดวงดาว คราวหวั่นไหว
ก้มมองใจ ใช้ความคิด เราผิดไหม
อยากบอกฟ้า เพิ่งรู้สึก สำนึกใจ
แล้วบอกใคร เขาอีกคน ค้นใจเจอ


สงสารซ่า...กาซิก
พี่ปราบเลิกแกล้งซ่าเหอะ..สงสารน้อง

นะ..นะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 20-12-2017 20:46:49
ไม่ว่าจะเป็นการลองใจหรืออะไก็ตามเดินออกมาเถอะซ่า
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 20-12-2017 21:14:14
สมน้ำหน้าซ่าอยู่ดี เอาให้เต็มที่เลยปราบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 20-12-2017 21:17:23
อยากได้ตอนหน้าแบบรุนแรงมาก อีพี่ปราบจะทำแบบนี่กับน้องไม่ด๊ายยยย :katai4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-12-2017 22:13:22
สงสารทั้งคู่ ซ่าคงอยากปรับความเข้าใจกับปราบ ส่วนปราบคงอยากเอาคืนซ่า  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 21-12-2017 00:08:05
ตอนนี้ก็พอเข้าใจได้ว่าพี่ปราบกำลังตัดใจอยู่อ่ะนะ
แต่คำว่า "คนรู้จัก" มันก็แรงไปนิดนึง เง้อออ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 21-12-2017 05:31:05
คือถ้าไม่ต้องการกันแล้ว ซ่าก็ออกมาเถอะอย่าไปยุ่งเลยเราหมดวาระแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 21-12-2017 05:59:39
หมั่นไส้อีพี่ปราบ มาต่อไวๆๆๆนะครับ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-12-2017 08:04:42
เศร้าแทนน้อง  :mew2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 21-12-2017 09:51:10
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-12-2017 12:59:28
ในเมื่อพี่เขาบอกว่าเป็นแค่คนรู้จัก ก็ถอยออกมา
มันไม่ง่ายเลยที่ซ่าจะยอมรับตัวเอง พอน้องคิดได้
คนพี่ก็นะ......  อิพี่ปราบจะให้โอกาสน้องมันไหม
ถ้าไม่ ก็บอกน้องมันให้ชัดเจน  ( จริงๆสงสารทั้งคู่ )
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 21-12-2017 16:13:35
ปราบคะ...ไหนๆเราก็เศร้าและหดหู่หัวใจไปกับน้องซ่าแล้ว อย่าให้คดีพลิกแบบที่เราคิด(ระแวง)นะ...เอ็งวางแผนอะไรไว้หรือเปล่า? ไม่น่าไว้ใจเลยว่ะ ถ้ายังทำลูกฉัน(?)เสียใจต่อไป ฉันจะยุให้คุณคนแต่งหาพระเอกใหม่นะ! เจ้ไม่ยอมให้ซ่าน้อยเสียอกเสียใจเปล่าเปลี่ยวเอกาต่อไปหรอกนะยะ!!//ถึงพี่ปราบจะดีแค่ไหนก็ตาม...
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 21-12-2017 16:26:10
ในเมื่ออะไรมันสับสนเจ็บปวดปนเปไปหมด ก็พักดีไหมซ่า อยู่กับตัวเองเงียบๆ ให้เวลาได้คิด อย่าฝากชีวิตไว้ที่ใครอีก เมื่อก่อนก็พลอยตอนนี้ก็พี่ปราบ ไม่ว่าจะใครก็นำพาความเจ็บปวดมาสู่ซ่าทั้งสิ้น อาจดีแค่ตอนแรกแต่ลงท้ายก็เหมือนเดิม :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 21-12-2017 18:15:26
ซ่า สํ้ๆน่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 21-12-2017 20:05:20
หน่วงที่สุดตอนนี้ ไม่น่าเข้ามาอ่านเลย "คนรู้จัก" คำๆนี้ทำน้องชาไปเลย ปล่อยพี่เขาไปเถอะ ซ่าต้องอยู่ให้ได้ อยู่ด้วยตัวเอง ไม่มีใครรัก ก็รักตัวเองให้มากๆ ขยันทำงาน และตั้งใจเรียน เชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมาในชีวิตซ่า จะทำให้ซ่าประสบความสำเร็จชีวิตในอนาคต

บอกเลยตอนนี้ตอนเดียวปราบคะแนนติดลบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: elephantisme ที่ 21-12-2017 20:35:57
ค้างงง งือออ พี่ปราบอย่าใจร้ายกันเลยเส่
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 21-12-2017 20:56:20
ซ่าต้องโดนพี่ปราบแกล้งแน่ๆ ดีกันจะได้รุ้ว่ารักพี่ปราบมากขนาดไหน
อิพี่มันร้ายย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-12-2017 21:22:39
ปราบทำไมทำกับน้องแบบนี้ล่ะ ซ่าแค่รู้ใจตัวเองช้า ยอมรับตัวเองไม่ได้แค่นั้นเอง

ซ่าก็เฮิร์ทไปอีก แต่ก็นะ คนไม่รู้ตัว ตอนบอกว่าไม่ ก็จริงจังไปแล้ว
ตอนจะมาบอกว่ารัก จริงจังกว่า ก็เจ็บไปตามระเบียบ

ปราบทำอะไรอยู่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-12-2017 22:00:26
ปวดใจแทนซ่า พี่ปราบพูดงี้โคตรหน้าชาอ่ะ o22
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 22-12-2017 09:42:09
รอๆๆ สงสารทั้งสองเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่24:: 20/12/2017 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 22-12-2017 10:17:30
เป็นกำลังใจให้ซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 22-12-2017 16:06:11
ปราบซ่า
ตอนที่25



[ปราบ]

ผมไม่อยากจะยิ้มเลยนะ แต่ภาพเมื่อกี้ แม่งโคตรน่ารักเลย ไอ้เด็กซ่าของผม ตอนนี้ซ่าไม่ออกซะแล้ว ก็อยากจะวิ่งตามไปง้ออยู่หรอกนะ แต่งานเลี้ยงตรงหน้าก็ไม่ใช่ว่าจะเลี่ยงได้ในทันที

“ยิ้มอะไรเหรอปราบ” การ์ตูนเอียงคอถามอย่างสงสัย ผมดันมือที่เกาะแขนผมอยู่ออกช้าๆ ไม่ให้น่าเกลียดเกินไป

“ไม่มีอะไรหรอก” ผมตอบปัดๆไปให้มันจบเรื่อง

“ดีใจเนอะ การเซ็นสัญญาเกือบจะสำเร็จลุล่วงด้วยดี” การ์ตูนยิ้มกว้าง ผมก็ยิ้มตอบนิดๆตามมารยาท

งานเลี้ยงวันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองโปรเจคโรงแรมใหม่ที่อิตาลี ผมได้รับหน้าที่จากป๋าคาร์ล เพื่อนสนิทของป๊า ที่เป็นเสมือนพ่อทูนหัวของผม อิตาลีแทบจะเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของผมเลยก็ว่าได้ เพราะไปมาบ่อยมาก

และก็ได้อิทธิพลของป๋าคาร์ลที่เหมือนจะกลับมารุ่งเรืองด้านธุรกิจอีกครั้งหลังจากที่ผันตัวออกจากวงการมาเฟียตามที่ท่านเล่าให้ผมฟัง และเมื่อจะทำโรงแรมสักแห่ง ก็ต้องหาทีมออกแบบ ต้องมีการประมูลบริษัทผู้รับเหมา อะไรอีกมากมาย หนึ่งไหนนั้นก็มีบริษัทของเพื่อนผมที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าร่วมการประมูลงานในครั้งนี้

ซึ่งหนึ่งในทีมที่ร่วมงานก็คือการ์ตูน ลูกเจ้าของบริษัทรับตกแต่งภายในที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของเอเชีย นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงต้องไปมาหาสู่กับเธอและคนอื่นๆบ่อยในช่วงที่ผ่านมา

และตอนนี้งานที่ว่าพวกเขาก็ได้มาไว้ในมือแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำไปตามลำดับขั้นตอน งานเลี้ยงในวันนี้ พวกเขาก็เลยถือว่าเลี้ยงขอบคุณที่ผมเสนองานดีๆให้พวกเขาได้ลองทำกันดู ซึ่งที่พวกเขาทั้งสองทีมชนะการประมูลโครงการมาได้ ไม่ได้มาจากเส้นสายของผม แต่มาจากผลงานการนำเสนอที่ไร้ที่ติล้วนๆ และเพื่อที่งานทั้งหมดจะราบรื่นไปได้สวย  งานเลี้ยงในวันนี้ผมจึงเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยก็เป็นมารยาททางสังคม

ผมขอสิทธิ์ในการเลือกร้านอาหาร และแน่นอนว่าผมต้องมาอุดหนุนอาเจแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่คิดว่าผมจะเจอกับซ่าไวขนาดนี้

วินาทีแรกที่ผมได้เจอมัน ผมอยากจะเข้าไปใกล้ๆแล้วดูมันให้ชัดๆอีกสักที ทั้งคิดถึง สงสาร และเอ็นดูไปพร้อมๆกัน

ผมรู้ความเป็นไปของซ่าแทบจะตลอดจากรายงานของคนรอบตัว ผมรู้ว่าซ่ากำลังต่อสู้อยู่กับความรู้สึกที่ไม่ชัดเจนของตัวเอง ดังนั้นผมจึงต้องทำใจแข็งตัดทุกช่องทางการติดต่อ เพราะผมเองก็ต้องการความชัดเจนจากไอ้เด็กแสบเช่นกัน

ผมอยู่ร่วมวงในโต๊ะอาหารราวสองชั่วโมงเห็นจะได้ พอทุกคนเริ่มเมาผมก็คิดว่าได้เวลาที่จะบอกลา บวกกับว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่า ไม่รู้ป่านนี้เด็กดื้อมันจะคิดมากไปถึงไหนแล้ว

“ทุกคนครับ คืนนี้ผมขอตัวก่อนนะ ยังไงก็ทานต่อกันให้สนุกนะครับ ขอบคุณมากๆสำหรับการเลี้ยงอาหารเย็นในวันนี้” ผมลุกขึ้นยืนขึ้น ก่อนจะหันไปลากับทีมงานต่างชาติบนโต๊ะเป็นภาษาอังกฤษอีกที

“ทำไมปราบกลับไวจังเลย การ์ตูนยังสนุกอยู่เลย” การ์ตูนรีบคว้าแขนผมไว้ แล้วทำหน้าอ้อน มันก็น่ารักอยู่หรอกนะ เพียงแต่ว่า...ใบหน้าที่เกือบจะร้องไห้ของซ่าน่ารักกว่าเยอะ

“การ์ตูนอยู่ต่อก็ได้นะ” เขาจะอยู่หรือไม่ ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับผมตรงไหน

“ไม่ดีกว่า ถ้าปราบกลับ การ์ตูนก็จะกลับด้วย การ์ตูนขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ปราบรอแป๊บหนึ่ง”

ผมไหวไหล่เล็กน้อย ไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะหันไปลาคนอื่นบนโต๊ะอีกครั้ง ก่อนเดินออกมาจากโต๊ะ เห็นอาเจอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์กับบิ๊กบาร์เทนเดอร์ประจำร้าน ก็แวะเข้าไปทักทายก่อนกลับซักหน่อย

“ผมจะกลับแล้วนะอา ฝากดูพวกเขาแทนผมด้วย” ผมพยักหน้าไปทางทีมงานที่ยังคงสนุกกันอยู่

“ได้ อาจะดูแลแขกเราให้ ว่าแต่กลับไวนะเรา”

“ผมว่าเพราะวันนี้เด็กไม่มาทำงานไงอา เฮียแกเลยไม่รู้จะอยู่ในร้านต่อไปทำไม”

ผมชี้หน้าไอ้บิ๊กเป็นเชิงขู่ “มึงอย่าเอาความจริงมาพูดได้ไหม”

“ฮ่าๆๆ”

“ทำอะไรคิดถึงใจน้องเยอะๆนะปราบ อาว่าซ่าเป็นเด็กที่ยังแก้ปัญหาไม่เก่ง อากลัวน้องจะเตลิด” อาเจบอกด้วยความกังวล เพราะว่าอาเจก็รู้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างผมกับซ่ามาโดยตลอด และอย่างที่บอกว่าผมไม่มีความลับกับคนในครอบครัว ผมเป็นคนเปิดเผย และไม่แคร์ใครจะว่ายังไงในสิ่งที่ตัวผมเองต้องการ

“ไม่ต้องห่วงครับอา ผมจะดูแลซ่าเอง ผมว่าผมเอาอยู่”

“เอาให้อยู่จริงๆนะเฮีย ไม่อย่างนั้น ผมจะปลอบใจมันเอง” ไอ้บิ๊กแสยะยิ้มชั่วร้าย ผมหมั่นไส้แจกนิ้วกลางให้มันไปเน้นๆ กูฝากดูนิดดูหน่อย มาแอบเต๊าะเด็กกูซะงั้น

คุยกับอาเจเสร็จผมก็ออกมายืนรอการ์ตูนที่หน้าร้าน เรื่องระหว่างผมกับการ์ตูน เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน และที่ไปมาหาสู่มันก็แค่เรื่องงาน และผมก็เว้นระยะห่างเอาไว้อย่างดีแล้วว่าใครได้มากเท่าไหร่ แต่ถ้ามองไม่ออก ผมก็จะบอกให้ได้รู้

“ปราบคะ ออกมารอข้างนอกร้านนี่เอง” การ์ตูนกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาผม

“สรุปคือการ์ตูนจะกลับเลยใช่ไหม” ผมถามอีกครั้ง

“ค่ะ การ์ตูนจะกลับพร้อมปราบเลย ปราบไปส่งหน่อยเราหน่อยนะ”

เธอขยับเข้ามาใกล้ แล้วทำท่าจะจับแขนผม นอกเหนือจากเวลาอยู่ต่อหน้าซ่าที่ผมจะปล่อยตัวบ้าง เพราะอยากเห็นปฏิกิริยาของมัน ผมก็ไม่เคยให้ผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนถึงตัวโดยไม่จำเป็น เพราะถึงผมจะเป็นคนง่ายๆไม่เรื่องมาก แต่ก็ถือตัวพอควร การสกินชิพสำหรับผม ทำได้แค่คนในครอบครัวและคนที่สนิทมากเท่านั้น

ผมขยับตัวก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว ทำให้เธอชะงัก ใบหน้าเนียนใสเงยขึ้นสบตามองอย่างไม่เข้าใจ ผมไม่เห็นว่าจะมีอะไรเข้าใจยากตรงไหน ในเมื่อผมไม่เคยให้ความหวังเลยสักครั้ง

“ผมคงจะไปส่งไม่ได้หรอกนะ เอาเป็นว่า เดี๋ยวให้คนขับรถของผมไปส่งก็แล้วกัน การ์ตูนก็บอกกับเขาได้เลยว่าจะให้ไปส่งที่ไหน” ผมเสนอทางออกให้ เพราะขามาเธอไปรอผมที่บริษัท จึงเป็นการช่วยไม่ได้ที่จะต้องพาเธอมาด้วยกัน แต่ตอนกลับผมว่าไม่จำเป็น และผมก็ไม่เคยไปส่งเธอกลับบ้านมาก่อนเลยสักครั้ง

“ปราบคะ คือว่า...” เธอทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง และผมก็รู้ดีว่าเธอจะพูดอะไร

“อย่าชอบผมเลย หรือถ้าชอบผมไปแล้วก็ตัดใจเถอะการ์ตูน ผมมีคนรักของผมอยู่แล้ว และผมไม่คิดจะเปลี่ยนใจหรอกนะ”

หลังจากผมได้พูดแทนความในใจของเธอ แน่นอนว่าเธอต้องตกใจเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ผมรู้ว่าเธออยากจะพูดว่าอะไร มากกว่านั้นคือความเสียใจที่เธอแสดงออกผ่านทางแววตา การ์ตูนไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่อยากจะบอกชอบผม แต่ก็ไม่ใช่คนแรกที่ผมจะปฏิเสธเหมือนกัน

“ทำไม...เราคิดว่าปราบไม่มีใคร”

ไม่แปลกเลยที่เธอจะคิดเช่นนั้น และคาดว่าเธอคงสืบเรื่องของผมมามากพอตัว เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไม่มีเส้นสายหรือไม่มีอำนาจในมือ

“เพราะเขาอยู่ในใจ ที่ๆการ์ตูนมองไม่เห็นยังไงล่ะ” ผมยิ้มตอบ เมื่อคิดถึงคนที่อาจจะกำลังด่าทอผมอยู่ที่ห้องพัก

“งั้นเหรอ” เธอก้มหน้าลง อาการกลั้นน้ำตาก็ดูน่าสงสารอยู่ แต่มันไม่มากพอที่จะทำให้ผมสนใจ

“ผมรู้ว่าคุณเป็นมืออาชีพพอ เรื่องงานเรายังติดต่อกันได้ ผมไม่มีปัญหา และคุณคงไม่อยากให้เงินหลายร้อยล้านต้องเสียไปเพียงเพื่อผู้ชายอย่างผม จริงไหม” การ์ตูนเป็นคนทำงานเก่งมากคนหนึ่ง ถ้าเราจะเป็นเพื่อนกันได้ผมก็ยินดี

“หึหึ ปราบ...คุณนี่มันนักธุรกิจจริงๆ” เธอยิ้มขำทั้งๆที่น้ำตาไหล แต่เธอก็รีบปาดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว “เอาเถอะ ฉันชอบคุณก็จริง แต่ถ้าคุณพูดมาขนาดนี้ ฉันก็จะไม่ยื้อคุณไว้หรอกนะ สำหรับฉัน เงินสำคัญกว่าคุณ”

“หึหึ ขอบคุณครับ” ผมก้มหัวให้เธอเล็กน้อย “งั้นผมจะเรียกคนขับรถให้นะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันกลับเองได้ ความจริงแล้ว คนขับรถของฉันจอดรออยู่น่ะค่ะ”

“อ่อ ครับ งั้นผมไปนะ”

“ค่ะ”

“อ่อ ผมมีอีกอย่างที่จะบอก” ผมเดินไปได้สองก็เปลี่ยนใจหันกลับมาพูดสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะบอกเธอ

“อะไรคะ” เธอเอียงคอถาม

“คนรักของผม...เขาเป็นผู้ชาย เพื่อคุณจะไปตามสืบน่ะนะ จะได้ไม่ได้เหนื่อยมาก” ผมขยิบตาทิ้งท้าย แล้วรีบเดินจากมาพร้อมกับคำด่าทอยาวเหยียดที่แสนจะสุภาพ

อาจเพราะเคยรู้จักกันมาก่อน ผมเลยรู้ว่าการ์ตูนไม่ใช่คนชอบตื้อ และผมก็ไม่ได้ดึงเธอเข้ามาพัวพันกับชีวิตรัก แค่บางครั้งบางคราวมันประจวบเหมาะก็แค่นั้น เรื่องนี้ก็เลยจบลงด้วยดี







(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 22-12-2017 16:06:35
ผมหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องพักที่ผมลงทุนซื้อ เพียงเพื่อปล่อยให้เด็กคนหนึ่งเช่าในราคาที่เด็กคนนั้นจะยอมรับมันจากผมได้ และผมก็เอาเงินตรงนั้นที่มันให้มา ซื้อของกินต่างๆยัดใส่ไว้ในตู้เย็นไม่ให้ขาด ไม่อย่างนั้น เด็กซ่าอาจจะได้เป็นโรคขาดสารอาหารพร้อมกับโรคไต เพราะวันๆเอาแต่กินมาม่า ไม่กินแบบต้มก็กินแบบแห้ง

ผมเคาะประตูห้องสามที แล้วรอให้คนในห้องมาเปิด แต่ก็เงียบ ไม่มีเสียงอะไรเลย ผมลองเคาะอีกครั้ง แล้วก็ยืนรออย่างใจเย็น

ความจริงผมมีกุญแจและคีย์การ์ดอีกชุด เพียงแต่ผมอยากจะให้คนข้างในเปิดประตูให้ผมด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านมา ผมดึงดันเข้าหามันมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ซ่าจะต้องเปิดต้อนรับผมด้วยตัวเองบ้าง

ก่อนที่ผมจะเคาะประตูเป็นครั้งที่สาม ประตูห้องก็แง้มเปิดออก แต่เปิดออกแค่ครึ่งเดียว คนข้างในโผล่หน้าออกมาให้ได้เห็นแค่ครึ่ง แถมยังก้มหน้าไม่มองหน้าผมอีกด้วย

“เข้าไปได้ไหม” ผมถามหาคำอนุญาต เพราะประตูที่เปิดไว้ ถึงจะเปิดแต่ก็น้อยเกินกว่าที่ผมจะแทรกตัวเข้าไปได้ ผมต้องการให้มันเปิดออกให้กว้างกว่านี้

ซ่าดูจะลังเลในทีแรก แต่สุดท้ายมันก็ยอมเปิดประตูออกกว้าง ให้ผมได้เห็นสภาพของมันและห้องที่เคยเรียบร้อยเต็มตา

ช่วงที่ผมไม่อยู่ ซ่าคงปล่อยปะละเลยทุกอย่าง ทั้งห้องและตัวเอง

ผมกลับเข้ามายืนในห้องนี้อีกครั้ง แทบไม่ต้องกวาดตามองก็เดาได้ว่าที่ช่วงที่ผมถอยออกมา ซ่ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่แย่แค่ไหน และผมหงุดหงิดทุกครั้งที่รู้ว่ามันรักตัวเองไม่พอ

“มึงควรจะต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้นะซ่า” และก็อดไม่ได้ที่จะดุ ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมา พอหันไปมอง ก็เจอกับใบหน้าที่แดงก่ำและขอบตาบวมช้ำ แสดงว่าก่อนที่ผมจะมา มันคงร้องไห้หนักพอสมควร

“มีอะไรอยากจะพูดไหม” ผมถามคนที่เอาแต่ยืนก้มหน้า แม้กระทั่งผมก้าวไปยืนอยู่ตรงหน้า ซ่าก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้น ระยะระหว่างเราก็เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น เหมือนจะใกล้ แต่ความจริงคือยังไกล

“ทำไม...เราเป็นแค่คนรู้จักกันเหรอ”เสียงของคนตรงหน้าไม่ได้ดังไปกว่าเสียงของลมหายใจ แต่ผมก็ได้ยินชัดเจนจากความเงียบรอบตัว

“เพราะนั่นคือสิ่งที่มึงอยากให้เป็นไม่ใช่เหรอ” ผมย้อนถาม เพราะเป็นคนรักก็ไม่ได้ เป็นพี่ชายที่คอยอยู่ใกล้แต่ใจคิดไม่ซื่อก็ไม่ได้ แล้วผมจะเป็นอะไรได้อีกนอกจากคนรู้จักของมัน

“ไม่ใช่..ไม่ใช่แบบนี้”

“แล้วมึงต้องการแบบไหน”

“พี่กำลังเอาคืนผมใช่ไหม” และเมื่อมันเงยหน้ามองผม ดวงตาของมันเศร้าจนผมอยากจะดึงมันมากอด แล้วบอกว่าผมจะไม่ไปไหนอีกแล้ว ติดอย่างเดียวที่ว่า...ผมยังไม่มีสิทธ์

“ทำไมถึงคิดว่ากูทำอย่างนั้น” ผมถามเพราะอยากเข้าใจความคิดของมัน

“...” ไม่พูด เป็นคนที่ใช้ความเงียบได้เก่งจริงๆ

“มึงคิดว่ากูทิ้งมึงใช่ไหม คิดว่าพอผิดหวังกูก็เลิกทำดีและเมินเฉยใส่มึงใช่ไหม อาจคิดว่ากูมีคนใหม่เพื่อตัดใจจากมึง คิดว่ามันง่ายที่จะเดินจากคนที่ตัวเองบอกว่าชอบงั้นเหรอซ่า”

ถ้ามันเจ็บปวด ผมเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน เพียงแต่คนอ่อนแอมีได้แค่คนเดียว ถ้ามีคนอ่อนแอสองคน ใครจะเป็นคนประคับประคองความสัมพันธ์ที่แสนคลุมเครือนี้ให้ผ่านไปได้ คำตอบคือไม่มี

“ใช่แล้ว ทั้งหมดที่กูทำก็เพื่อเอาคืน”

ดวงตาที่หม่นแสงค่อยๆขยายกว้างด้วยความตกใจ

“ทำไม” เสียงถามที่สั่นจนไม่เป็นคำ

“กูต้องเอาคืนอยู่แล้ว คืนทั้งคำปฏิเสธและการผลักไส กูจะคืนให้มึงทั้งหมด เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่กูต้องการ สิ่งที่กูต้องการก็คือมึง มึงที่ไม่โกหกตัวเองและเปิดใจให้กู”

ผมไม่เคยอยากจะบังคับมันหรือทำให้มันลำบากใจ ดังนั้นนี่จึงเป็นวิธีเดียวที่ผมจะทำได้ เพื่อพิสูจน์ว่าซ่าคิดยังไงกับผม

“ทำไมกูต้องทำแบบนี้น่ะเหรอ มึงอาจจะคิดว่ากูกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของมึง แต่มึงเคยคิดไหมว่า ถ้ากูไม่ทำแบบนี้ วันนี้มึงจะรู้ใจตัวเองไหม ว่ามึงต้องการหรือไม่ต้องการกูกันแน่ ถ้ากูยังอยู่ใกล้ๆมึง มึงจะรู้ไหมว่าอยู่ได้หรือไม่ได้ถ้าไม่มีกู มึงจะรู้ตัวหรือเปล่าว่ามึงเองก็ต้องการกูเหมือนกัน ที่ผ่านมากูมองเห็นในแววตาของมึงว่ามึงก็อาจจะรู้สึกดีกับกู เพียงแต่กูยังไม่แน่ใจ ดังนั้นกูจึงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ความรู้สึกของมึงชัดเจน และกูวางเดิมพันครั้งนี้ไว้สูงมากเหมือนกัน”

“...”

“มึงคิดว่ากูไม่กังวลเหรอ ถ้าบังคับความรู้สึกได้ กูคงตัดใจไปนานแล้ว แต่กูก็ยังคงชอบมึงและเก็บงำมันมาได้เพราะความหวังดีที่กูมีให้มึงมันมากกว่า แต่พอวันหนึ่งความลับมันแตก และการกระทำของมึงก็บังคับให้กูต้องเลือกว่ากูควรอยู่หรือกูควรไป กูไม่ได้รู้สึกดีกับการที่อยู่ใกล้ๆมึงแบบพี่ชายคนหนึ่ง ในขณะที่มึงตัวเกร็งแล้วไม่เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งกูคิดว่ามึงคงรังเกียจ”

“ผมไม่ได้รังเกียจ!” ซ่ารีบแย้งเสียงดัง ที่แม้แต่ตัวมันเองยังตกใจเสียงของตัวเอง

“โอเคๆๆ ไม่ต้องโวยวาย มึงไม่ได้รังเกียจ กูรู้แล้วครับ มึงแค่เขิน งั้นกูพูดต่อนะ โอเคไหม” ผมถามความเห็นของเด็กที่ยืนน้ำตาไหลเงียบๆ ซึ่งมันไม่ตอบ เอาแต่พยักหน้า แล้วเม้มปากที่กำลังสั่นเอาไว้แน่น

“นั่นแหละ ตอนนั้นกูคิดว่ามึงรังเกียจกู ตอนอยู่ที่กาญจนบุรี กูให้ครั้งนั้นเป็นตัวตัดสินว่ากูควรต้องวางตัวยังไง กูสามารถทำให้มึงแบบเดิม ดูแลมึงแบบเดิมได้ แต่เพราะอะไรมันถึงไม่เหมือนเดิม เพราะมึงรู้แล้วว่ากูคิดยังไงและท่าทีของมึงในตอนนั้น มันทำให้เราทั้งคู่เข้าหากันไม่ติด ยิ่งพอถูกเพื่อนแซว และกูขอโทษอีกครั้งที่ไอ้กี่มันปากหมาไปหน่อย จากนั้นมึงก็ทนแรงกดดันไม่ไหว กูไม่รู้ว่ามึงคิดยังไง แต่สุดท้ายมึงก็ปฏิเสธกู จำได้ไหมว่าคืนนั้นพูดอะไรกับกูไว้” คำถามของผมอาจจะจี้จุดตรงไปหน่อย น้ำตาเม็ดโตเลยล่วงผล็อยลงมาทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะพยักหน้าอีกครั้ง

“ไหนมึงลองพูดอีกครั้งสิ” ผมบอก แล้วจากที่พยักหน้า มันก็ส่ายหน้าทันที

“พูดสิ กูอยากรู้ว่ามึงจำได้จริงๆไหม”

“ไม่...” เสียงของมันแหบพร่าอย่างน่าสงสาร แต่ผมจะไม่ปล่อยให้ความน่าสงสารของมันครอบงำผม ไม่อย่างนั้นวันนี้เราจะยังไม่เข้าใจกัน

“พูดสิ ไม่เชื่อใจพี่หรือไง” ผมลองพูดเพราะเผื่อว่ามันจะยอม และไอ้เด็กแสบของผมก็เอาแต่เม้มปากแน่น ผมค่อยๆลูบมือของมันทั้งสองข้าง ให้เวลามันทำใจ จนในที่สุดมันก็ยอมพูดออก”

“อย่ายุ่งกับผม อย่ามาใกล้ผมอีก ผมไม่ได้เป็นเกย์”

ผมยิ้ม เพราะมันจำได้ทุกคำที่เคยทำร้ายความรู้สึกของผมอย่างสาหัส

“และนั่นคือสิ่งที่มึงขอจากกูใช่หรือเปล่า...กูเคยขัดใจมึงสักครั้งไหมซ่า ไม่ว่ามึงขออะไรกูก็ทำให้ใช่ไหม แล้วตอบหน่อยสิ กูทำไม่ดีหรือเปล่า มึงพึงพอใจกับคำขอของตัวเองหรือยัง”

คำตอบที่ได้ยังคงเป็นการส่ายหน้า ผมคิดว่าถ้ามันยังส่ายหน้าติดต่อกันอีกสักพัก หัวมันได้กระเด็นหลุดลงไปกลิ้งที่พื้นแน่

“แล้ววันนี้ ยังอยากให้กูไปไกลๆอีกไหม”

“ไม่...”

ผมเงียบ ไม่ถามหรือพูดอะไรต่อ เพราะผมคิดว่าตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว ที่ซ่าควรต้องเป็นฝ่ายพูดสิ่งที่อยู่ในใจมันออกมาบ้าง มากหรือน้อยก็ยังดี

การลองใจมันไม่ได้ทำไปเพราะนึกสนุก ผมบอกว่าไง มันคือการเดิมพัน ถ้าผมเลือกเดินออกมา แล้วมันไม่อะไรกับผมเลย ผมคงไม่มีหน้ากลับไปอีกแล้ว เพราะคงเห็นได้ชัดเลยว่า ถ้าผมอยู่ใกล้มัน ซ่าจะอึดอัด แต่ถ้าผมถอยออกมา มันกลับมีความสุขดี ใครจะมีหน้ากลับไปทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเป็นทุกข์ ผมจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด

ในทางกลับกัน ถ้าผมถอยออกมา มันรู้ใจตัวเองจากช่วงเวลาที่ไม่มีผม ว่ามันเองก็ชอบผมและต้องการผมเหมือนกัน ในทางนี้ เป็นไปได้สองทาง นักลงทุนอย่างผม ทำอะไรก็ต้องประเมินความเสี่ยง แต่ถามว่าครั้งนี้ความเสี่ยงมีสูงมาก ที่มันอาจจะรู้ใจตัวเอง แต่ก็ไม่คิดจะก้ามข้ามความยึดติดเรื่องเพศ ผลลัพธ์ก็จะกลายเป็นศูนย์ และผมกับมันก็จะกลายเป็นเส้นขนานอยู่ดี ดังนั้นแล้ว เหลือเพียงยี่สิบห้าเปอร์เซ็นหรือน้อยกว่านั้นที่ผมมีโอกาสจะสมหวัง ผมกล้าพูดอย่างไม่อายเลยว่า ผมเองก็กลัวว่าผมจะเสียมันไปเหมือนกัน แต่คนรอบตัวก็ช่วยผมไว้ได้มากจริงๆ

อย่างน้อย วันนี้ผมก็รู้แล้วว่า มันสามารถยอมรับผมและความรู้สึกของตัวเองได้แล้วจริงๆ เพียงแต่ก็อาจจะต้องทำความเข้าใจกันสักหน่อย เพื่อให้ซ่าได้คิดถึงข้อเท็จจริงของการกระทำของผม

ผ่านมาราวห้านาทีที่มันเอาแต่ยืมก้มหน้าขบปากตัวเองจนแอบเห็นว่ามีเลือดซิบ แต่ผมก็ยังรอ ผมรอมานานแล้ว รออีกนิดก็ไม่เป็นไร มันทนไม่ได้เดี๋ยวมันก็พูดออกมาเอง

เพียงแต่ว่า พอยืนนานๆแล้วมันก็รู้สึกเมื่อย ผมเลยหมุนตัวหันหลังเพื่อที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา แต่ชายเสื้อกลับถูกดึงเอาไว้ไม่ให้ผมไปไหน

“อย่าไป ไหนพี่บอกว่า พี่...ชอบผม”

สาบานได้ว่าที่ผมหันหลังให้มันไม่ใช่เพราะว่าจะไปไหน กูแค่จะไปนั่งครับเด็กน้อย แต่การกระทำที่พยายามจะรั้งผมไว้ ก็ทำให้ผมยิ้มได้กว้างที่สุดในรอบเดือนกว่าที่ผ่านมา

เอาเป็นว่า ผมจะยอมทนเมื่อยต่ออีกสักพักก็แล้วกัน

“แล้วยังไง” พอโดนผมย้อนถามไป มันก็เริ่มทำเสียงอึกอัก จนต้องถามไปอีกรอบ ถึงได้ยอมเปล่งเสียงพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ผมอยากให้พี่อยู่กับผม”

“เพราะอะไร” ผมถามต่ออีก เด็กแบบนี้ต้องต้อนให้จนมุม

“...”

“...”

ซ่าสบตากับผม จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกมาก แล้วปล่อยลมออกมาอีกทีพร้อมกับคำพูดที่ผมรอคอยที่จะได้ยินจากปากมันที่สุด

“เพราะ...ผมว่าผมก็ชอบพี่เหมือนกัน”

อยู่ๆหัวใจของผมก็เต้นแรง และแรงขึ้นเรื่อยๆจนน่ากลัว ก่อนที่จะล่องลอยกับความสุขไปมากกว่านี้ ผมต้องรีบดึงสติตัวเองกลับมาเพื่อคุยกับซ่าให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน

“มึงต้องแน่ใจก่อนนะซ่า ว่าต้องการให้กูอยู่เพราะมึงรักกูจริง แต่ถ้าไม่ กูก็เจ็บนะ จะให้กูเข้าไปในชีวิตมึงเพื่อเป็นทางผ่าน แต่เมื่อสุดท้ายมึงรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้ชอบกู เพราะมึงบอกเองว่าไม่รักชอบผู้ชายด้วยกัน ถึงเวลานั้นกูควรทำยังไง”

“ผมไม่รู้” ซ่าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังสับสนอย่างมาก

“งั้นมึงก็ควรต้องทำให้ตัวมึงรู้ หาคำตอบซะ”

“ผมไม่รู้ต้องทำยังไง” มันก้มหน้ามองปลายเท้าอีกแล้ว ท่าประจำที่จะทำเวลาที่ตัดสินใจอะไรไม่ได้

“เฮ้อ” ผมถอนหายใจ แต่คงแรงไปหน่อย ไอ้เด็กซ่าเลยหน้าเสีย

“ผม...ผม...”

“จริงๆเลยมึง มานี่” ผมเรียกผมเข้ามาใกล้ แล้วกอดมันไว้ ไม่ยอมพูด ก็ใช้การกระทำเป็นตัวหาคำตอบก็แล้วกัน น่าจะง่ายกว่าให้มันหรือเอาเอง

“รังเกียจไหมที่กูกอดแบบนี้” ผมถามชิดใบหูนิ่ม

“หึ” ซ่าส่ายหน้าช้า ผมจึงทำขั้นต่อไป ด้วยการจูบหน้าผากเบาๆ

“แลวแบบนี้รังเกียจไหม ถ้าไม่ชอบก็บอกกู อย่าฝืน”

“เปล่า” ตอบเบาเหมือนจะไม่มั่นใจ

“เปล่าอะไร” ผมกระเซ้าเอาคำตอบ

“ไม่ได้รังเกียจ”

จุ๊บ

ต่อไปก็หอมที่แก้ม ซ่าสะดุ้งนิดหน่อย เพราะระยะที่ใกล้กันเพราะร่างกายที่แนบชิด ผมว่าผมได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวของคนตรงหน้า

“ผมไม่ได้รังเกียจนะ”

ผมยังไม่ทันได้ถามเลย มันก็รีบตอบเสียแล้ว ผมได้แต่แอบยิ้มขำไม่ให้มันเห็น พอมันเงยหน้ามองตา ผมก็รีบเก็กหน้านิ่งต่อ เริ่มพิสูจน์ขั้นต่อไป

“แล้วถ้ากูจูบ มึงจะยอมไหม” คราวที่แล้วที่ผมขอจูบ มันผลักผมออกอย่างแรง ทำเอาใจแป๋วไปพักใหญ่เลย ทั้งชีวิตเกิดมาไม่เคยมีใครปฏิเสธจูบของผมมาก่อน มันเป็นคนแรกเลย

ซึ่งครั้งนี้มันก็ใช้เวลาคิดนานเหมือนกัน นานจนอยากจะแกล้ง

“แสดงว่ามึงไม่ต้องการ”

ผมทำท่าจะปล่อยมือที่โอบเอวออก แต่ซ่ารีบจับแขนของผมทั้งสองข้างไว้แน่นไม่ให้ปล่อยตัวมัน แล้วเอาแต่ยืนเงียบ บางทีผมก็ไม่ควรเข้าใจอาการที่ซ่าไปเสียทุกเรื่อง ไม่อย่างนั้นมันจะเคยตัว คิดว่าไม่พูดไม่บอกแล้วผมจะต้องเข้าใจทุกอย่าง

“กูเบื่อโรคไม่ยอมพูดของมึงจริงๆ”

ผมหัวเสียกับนิสัยของมันเล็กน้อย ไม่รอให้มันอนุญาต จัดการคว้าคอมันมาจูบด้วยแรงที่ไม่เบา แต่ผมไม่ได้ขยับริมฝีปาก เพียงแค่แนบไว้ เพื่อรอให้อีกคนคิดและตัดสินใจว่าควรจะเอายังไงต่อ จะผลักผมออกเหมือนครั้งก่อน หรือจะจูบตอบกลับมา และเมื่อริมฝีปากอิ่มที่ผมแนบเอาไว้เริ่มขยับโต้ตอบ ผมก็ไม่คิดอะไรอีกแล้ว นอกจากกลืนกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้สมกับความคิดถึงและความปรารถนาที่เก็บซ่อนลึกไว้ข้างใน

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยขยับปากพูด แต่เวลาที่ได้จูบอย่างลึกซึ้ง ริมฝีปากที่มักปิดเงียบกลับให้ความรู้สึกที่ดีเกินบรรยาย

ยามที่ผมใช้ลิ้นสัมผัสอีกคนอย่างหยาบโลน ร่างกายผอมบางก็เริ่มสั่นสะท้าน แต่ก็ยินยอมให้ผมล่วงล้ำโดยไม่ขัดขืน ของเหลวใสช่วยให้การจูบในครั้งมันลื่นไหลมากขึ้น และบางทีผมอาจจะป่าเถื่อนกับมันเกินไปหน่อย รสชาติของเลือดถึงได้กระจายซ่านอยู่ในปาก เนื้อตัวก็สั่นระริกอย่างไร้เดียงสา แต่บางครั้งก็กล้าที่จะขบเม้มริมฝีปากของผมกลับมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ

และก่อนที่จะหยุดตัวเองไม่ได้ ผมจำต้องปล่อยให้ริมฝีปากที่เริ่มปริแตกทั้งจากฝีมือมันและฝีปากของผมให้เป็นอิสระ

“โอเคไหม” ผมถามอย่างเป็นห่วง มองคนที่หายใจหอบแต่ก็ยังพยักหน้าตอบว่าไหว

“มันแปลก” มันว่าหลังจากที่เริ่มหายใจสะดวก

“เดี๋ยวก็ชิน” ผมลูบแผ่นหลังที่ไม่ค่อยจะผึ่งผาย มักจะโค้งงอตลอดทำให้บุคลิกภาพมันกลายเป็นคนไม่มั่นใจ ซึ่งซ่าก็ไม่เคยมั่นใจในตัวเองตามลักษณะภายนอกที่แสดงออก

“พี่...จะไม่หายไปอีกใช่ไหม”

“อยากให้กูไปอีกไหมละ”

“ไม่” มันตอบในทันที และผมพอใจกับคำตอบในระดับหนึ่ง แต่ยังวางใจทั้งหมดไม่ได้ ถ้าผมจะเผื่อใจไว้บ้าง ก็คงไม่ผิดอะไร

“งั้นก็คบกับกู เป็นคนรักของกู ตกลงไหม” ผมก้มใบหน้าลงให้ระดับสายตาของเราตรงกัน ถึงมันจะตอบสนองว่ามันก็ต้องการผม แต่ดูเหมือนจะยังมีอะไรให้ลังเล

“แต่ว่าพี่กับ...พี่การ์ตูน”

จนป่านนี้แล้ว มันก็ยังคงเป็นเด็กที่ไม่ฉลาดอยู่ดี แต่ช่างเถอะ ผมชินเสียแล้วกับซ่าในฉบับอ่อนแอ คนๆนี้ไม่มีตรงกลาง ยามปกติมันจะแสบและซ่าสุดๆ แต่ยามอ่อนแอก็เหมือนจะกลายเป็นอีกคนไปเลย แต่เรื่องบางเรื่อง ก็จำเป็นต้องทำความเข้าใจกัน ผมอาจจะเดาอารมณ์หรือความคิดของมันได้ แต่มั่นใจว่าไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด

“จำเอาไว้อย่างนะซ่า กูไม่ใช่เทวดาที่จะสามารถอ่านใจมึงได้ทุกอย่าง ความรู้สึกมันเป็นเรื่องซับซ้อน ที่ถ้ามึงไม่พูด กูไม่อาจเข้าใจมึงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ กูรู้ว่าการที่เราจะคบกันมันไม่ง่ายสำหรับมึง นั่นหมายความว่ามันจะมีอีกหลากหลายเรื่องที่มึงสามารถเอามาเป็นปัญหาได้ ซึ่งนั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับกู เข้าใจไหม ที่กูจะพูดก็คือ กูสามารถช่วยมึงก้าวข้ามปัญหาต่างๆที่มึงอาจจะสร้างเอง หรือกูทำ หรือคนอื่นทำ กูช่วยแก้ได้ ขอแค่มึงพูดออกมา พูดความรู้สึกนึกคิดของมึงให้กูได้รับรู้บ้าง พูดออกมาเลยว่ามึงหึงและไม่พอใจที่กูอยู่กับการ์ตูน และมึงสงสัยว่ากูกับการ์ตูนอาจจะนอนด้วยกันไปแล้ว คิดเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหน เพราะถ้ามึงไม่พูด กูไม่รู้ แล้วกูจะตอบคำถามมึงได้ยังไง แล้วกูจะช่วยแก้ได้ยังไง จริงไหม”

“แล้วทำไมพี่รู้”

ผมคงต้องขอกรอกตามองบนสักหนึ่งรอบ

“มึงคงคิดว่ามึงแอบเนียน แต่ความจริงแล้วกูเห็นมึงตั้งแต่กูขับรถเข้ามาในคอนโดแล้ว”

“แต่พี่...”

และดูมัน...ขนาดผมบอกให้มันพูด มันก็ยังไม่กล้าที่จะพูด เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาฝึกกันยาว คืนนี้ผมจะปล่อยผ่านไปก่อน แค่นี้มันก็สะบักสะบอมพอสมควรแล้ว

“เพราะว่าตอนนั้นมึงไล่กูแล้วไง สิ่งที่กูทำได้คือโทรไปบอกไอ้หวายให้ไปดูมึง ส่วนเรื่องการ์ตูน กูไม่ได้พาเขาขึ้นคอนโด เอาเป็นว่ากูจะไม่ลงลึกว่าทำไมเขามาที่คอนโดกับกู เพราะมันอาจฟังดูไม่ดี ยังไงเขาก็ผู้หญิง แต่กูพาเขาไปนั่งรอที่ล็อบบี้ ไม่ได้พาขึ้นห้อง ส่วนกูก็ขึ้นไปเอาเอกสารลงมาให้เขา จากนั้นเขาก็แยกย้ายกลับไป ไม่มีอะไรมากกว่านั้น”

“...”

ผมเดินเข้าไปใกล้มันจนปลายเท้าของเราชิดกัน พร้อมกันนั้นแขนทั้งสองข้างของผมก็โอบกอดเอวแห้งๆของมันเข้ามาใกล้อีกรอบ ซ่าดูเกร็งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดีดตัวหนี เรื่องแบบนี้ผมรู้ว่าผมต้องให้เวลากับซ่าเยอะๆ เพราะมันไม่เคยต้องมือผู้ชายคนไหนมาก่อนและผมจะเป็นคนแรก

“มึงวางใจเถอะ ไม่มีใครเคยได้นอนบนเตียงหลังนั้นกับกูนอกจากมึง”

“...”

“สบายใจหรือยัง”

“ยัง”

“อ่ะว่ามา”

“แล้วที่พี่ไปอิตาลีกับเขา ไม่บอกผมด้วย”

อืม นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งสินะ แต่ผมแปลกใจอยู่อย่างว่า...พี่ริชไม่ได้บอกซ่าเหรอ ทำไมมันยังสงสัย ผมว่าผมโดนบุพการีเล่นคืนซะแล้ว เดี๋ยวจะกลับไปบอกให้ป๊าจัดการซะให้เข็ด แต่ก่อนจะให้ป๊าจัดการพี่ริชที่แกล้งผม ผมต้องไขข้อข้องใจให้คนขี้สงสัย อยากรู้แต่ไม่กล้าถามก่อน

“กูไปเรื่องงาน และไปเยี่ยมญาติที่นู่นด้วย ส่วนการ์ตูน เขาเองก็ไปกับทีมงานบริษัทเขา ทีมงานทั้งหมดมากกว่ายี่สิบชีวิตไปที่นั่น และกูนอนบ้านญาติ ส่วนพวกเขานอนโรงแรมที่แทบจะอยู่คนละฝั่งกับเมือง มีไปเที่ยวกันบ้าง แต่ก็ไปเป็นกลุ่ม เพราะกูคุ้นเคยที่นั่นมากที่สุด ไม่มีอะไรที่มึงต้องเป็นกังวล และถ้ามึงจะถามว่าทำไมกูไม่บอกมึง ก็เป็นเพราะกูตอนนั้นมีเด็กบางคนไล่กูไง บอกไม่ให้กูไปยุ่งวุ่นวาย กูรู้สึกงอนมากก็เลยไม่บอก เพราะฉะนั้น กูง้อมึงแล้ว มึงง้อกูหรือยัง” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่มัน ต้องขอบคุณไฟในห้องที่สว่างพอให้ผมเห็นแก้มแดงๆทั้งสองข้าง

ผมได้อธิบายความจริงไปแล้ว อยู่ที่ว่ามันจะเชื่อหรือไม่ พอได้ยินมันถอนหายใจแล้วหลุบตาต่ำอมยิ้มให้กับตัวเองคล้ายจะโล่งอก ทำให้ผมเบาใจได้อย่างหนึ่งว่ามันก็ไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยาก ซึ่งนั่นมันดีต่อสิ่งที่ผมจะพูดต่อไป

“ถ้าเข้าใจแล้ว กูกับมึงก็คบกันได้แล้ว โอเคไหม”

ถึงจะนิ่งไปเกือบเสี้ยวนาที แต่มันก็ตอบตกลง “ครับ”

“ถ้าจะคบกัน หลังจากนี้มึงต้องกล้าที่จะเข้าหากูในรูปแบบของคนรักบ้าง ตบมือข้างเดียวมันไม่มีทางดัง ความรักจะเกิดขึ้นจากคนเพียงคนเดียวไม่ได้ จะให้คนๆหนึ่งพยายามเข้าหาอีกคนฝ่ายเดียวตลอดไม่ได้ นั่นไม่ใช่ความรัก ความรักคือเรื่องของคนสองคน ที่คนสองคนจะต้องช่วยกันสร้างมันขึ้นมา มึงและกูต้องพยายามไปด้วยกัน มึงเข้าใจใช่ไหม”

“ผมจะพยายาม” ซ่าไม่ได้พูดแค่คำพูด แต่พูดผ่านแววตาที่มุ่นมั่นและเอาจริงเอาจัง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่ผมต้องการ

“แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว”

แค่มันบอกว่าจะพยายาม ผมก็รู้แล้วว่ามันจะต้องทำได้อย่างแน่นอน








หลังจากปรับความเข้าใจกันได้ ซ่าก็บอกให้ผมไปอาบน้ำเตรียมนอน ออกมาอีกทีห้องที่เคยรกเละเทะก็เก็บเรียบร้อย ไม่ถึงกับสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ดีกว่าทีแรก

ตู้เย็นของมันโล่งเตียน เหลือเพียงน้ำดื่มขวดเดียวและไม่เต็มขวดด้วย พอผมหันไปมองซ่าก็รีบหันหน้าหนี แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เปิดตู้เก็บของเหนือหัวดูก็มีแต่มาม่า ผมบอกกับตัวเองเลยว่าพรุ่งนี้ผมคงต้องพามันไปซื้อของเข้าตู้เย็นหน่อยแล้ว

ก่อนจะนอนผมมองไปที่เตียงกับโซฟาสลับกัน ล่าสุดถ้าไม่รวมที่ไปเที่ยวกาญจนบุรี ซ่ามันเลี่ยงที่จะนอนเตียงเดียวกับผม มาดูกันสิว่าคืนนี้มันยังอยากจะเลี่ยงอยู่ไหม

“จะให้กูนอนไหน โซฟา?” ผมถาม ซ่าที่ล้มตัวนอนบนเตียงไปแล้วผุดลุกขึ้นนั่งทันที

“เอ่อ...”

“ว่าไง”

“เตียงครับ”

“แน่ใจนะ”

“ครับ”

โอเค มันอนุญาตแล้วผมก็ไม่เกรงใจ ปิดไฟแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆมัน แอบตื่นเต้นเบาๆเพราะตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับซ่ามันต่างไปจากเดิม แต่ก่อนเป็นแค่รุ่นพี่ ทำได้อย่างมากก็แค่จับมือ โอบและกอด แต่ต้องดูตามสถานการณ์ด้วย ไม่ใช่นึกจะทำก็ทำ แต่ตอนนี้เป็นแฟนกันแล้ว ผมคิดว่าผมน่าจะมีสิทธิ์อยากจะทำก็ทำได้

เมื่อคิดแล้วก็ต้องทำ ผมพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาซ่า ที่นอนหันหลังให้ผมอีกที ร่างกายค่อยๆเขยิบเข้าไปใกล้ คนที่ยังไม่หลับสะดุ้งตกใจ แต่ก็ปล่อยให้ผมดึงเข้ามากอด ผมไม่ได้รัดแน่นจนหายใจไม่ออก เพียงกอดไว้หลวมๆเท่านั้น

ท่ามกลางความมืดกับเสียงของลมหายใจ ตอนที่ใกล้จะเคลิ้มหลับ เสียงแหบพร่าก็ดังขึ้นเรียกสติของผมให้ตื่นตัว

“พี่ปราบ”

“หืม” ผมส่งเสียงอื้ออึงในลำคอตอบรับ ยังคงปิดตาหลับแล้วรอฟังมันพูด

“ผมเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีอะไรเลย”

“รู้แล้ว”

ผมต้องการแค่คนธรรมดาที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตและความสุขให้กับผมเท่านั้น

“และบางครั้งผมก็แค่คนไร้ค่า”

คนทุกคนมีค่าอยู่ในตัวเอง แม้จะน้อยนิด แต่ก็ต้องมี ผมเชื่ออย่างนั้น อย่างน้อย ซ่าก็มีค่าต่อความรู้สึกของผม

“จนอดคิดไม่ได้ว่า...ถ้าผมหายไปจากโลกนี้ หายไปแบบเงียบๆ ก็คงไม่มีใครสังเกตเห็น และทุกคนก็ยังจะใช้ชีวิตอยู่ต่อได้อย่างสบายดี”

“ไม่หรอก ถ้าซ่าไม่อยู่ พี่คงเสียใจ”

ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น กอดเด็กคนหนึ่งที่ภายนอกก้าวร้าวและแข็งกระด้าง แต่ภายในบอบช้ำจนแทบแหลกสลายจากชีวิตที่ผ่านมา เพื่อให้มั่นใจว่าเขาอยู่กับผมตรงนี้ และผมก็อยู่กับเขาที่นี่ไม่ได้ไปไหนเช่นกัน

“ผมขอโทษนะ”

“ไม่เป็น ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว นอนซะ คืนนี้มึงจะฝันดี”

ใครเล่าจะรู้ว่าผมชอบซ่าเพราะอะไร

สำหรับความรัก ผมไม่ได้ต้องการคนที่เพียบพร้อมเพื่อมาอยู่เคียงข้าง ไม่ต้องการคนเก่งหรือฉลาด บ้านไม่ต้องรวย ชีวิตไม่ต้องสวยหรู นั่นไม่จำเป็นเลย

ผมแค่ต้องการคนๆหนึ่งที่ผมอยากจะใช้หัวใจและสองมือของผมดูแลเขาให้ดีที่สุด ให้เหมือนพี่พ่อดูแลพี่เค้ก ทั้งๆที่พี่เค้กเคยตาบอดมาก่อน หรือแม้แต่ป๊าที่ไม่เคยสนว่าพี่ริชจะไม่มีอะไรติดตัวแม้กระทั่งครอบครัว ยิ่งกว่านั้น ความรักของพวกเขาก็ยังเอื้อเฟื้อมาถึงผม เด็กที่ถูกทิ้งมาตั้งแต่เกิด นอกจากชีวิตแล้วก็ไม่มีอะไรติดตัว

เพราะฉะนั้นความรักของพ่อ ป๊า พี่เค้ก พี่ริช จึงเป็นความรักที่ผมอยากเอาเป็นเยี่ยงอย่างมากที่สุด

ความรักที่ขาดหายไปจากชีวิตของซ่า ผมจะเติมเต็มให้เอง











.......................................................................................
สวัสดีค่ะ
ตอนนี้มาไว เพราะทุกคนเรียกร้อง ฮ่าๆๆๆ ไม่ค้างแล้วเนอะ ทุกคนดูอินมาก มีหลายฝักหลายฝ่าย บางคนบอกซ่าสมควรโดนแล้ว บางคนว่าให้ปลดพี่ปราบจากการเป็นพระเอก แต่ก็มีคนที่เข้าใจว่ามันต้องวิน-วินด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ต้องรีบปล่อยตอนนี้ออกมาเลยทีเดียว อิพี่มันร้าย แต่มันก็รักของมันนะเอ้อ แกล้งบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ไปหรอก มั้งนะ ฮาๆๆ  :laugh:
ตอนนี้ยังมีใครร้องไห้หรือเปล่า ที่รู้ๆคนเขียนนี่แหละที่ร้องเอง ก็มันซึ้ง :mew6:
หลังจากนี้พี่ปราบจะสั่งสอนเด็กซ่าคนนี้ยังไงบ้าง ก็ขอให้ติดตามกันก่อนนะคะ อย่าเพิ่งหนีหายไปก่อนน้า  :impress2:
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
จุ๊บๆ  :จุ๊บๆ:
ริริ
 :bye2:

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 22-12-2017 16:23:51
ดีใจกับซ่าที่มีคนที่เข้าใจนะ
ดีใจกับพี่ปราบที่เด็กมันยอมนะ

จับมือกันฝ่าดราม่าต่อ (?)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 22-12-2017 16:46:08
อ่านแล้วแอบน้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 22-12-2017 16:50:11
มาเร็ว เคลียร์ข้อข้องใจ ชอบมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-12-2017 16:55:11
สบายใจ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 22-12-2017 17:43:01
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 22-12-2017 18:27:55
 :L2: :กอด1: :L2: :กอด1: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: windy49 ที่ 22-12-2017 18:38:04
เข้าใจกันแล้ว ดีใจ :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 22-12-2017 18:39:32
ซ่าควรโดนดัดหลังอะ ปราบทำถูก ตอนนี้ก้วินคู่แล้ว สบายใจ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-12-2017 19:10:33
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: ถอนหายใจรัวๆ โล่งอกที่ปรับความเข้าใจกันได้
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 22-12-2017 20:00:58
คือเอาจริงๆก็คือไอ้พี่ปราบแกล้งน้องมากไป แบบต้องเข้าใจซ่าหน่อย ซ่าไม่ได้ฉลาดรู้เท่าทันอะไรเท่าไหร่ค่อนข้างซื่อเกินไปด้วยซ้ำ แต่ไอ้พี่ปราบแกไม่เข้าใจน้องเล้ย กะเอาคื นและสั่งสอนแบบนี้ หักคะแนนความประพฤติพี่ปราบเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 22-12-2017 20:13:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 22-12-2017 20:17:50
เฮ้ออออ ไอ่เราพอซ่าทำร้ายจิตใจพี่ปราบก็เข้าข้างพี่ปราบ พอพี่ปราบเอาคืนก็เข้าข้างซ่า นอยด์ตาม 55555 เพราะรักทุกตัวละครไง แต่ปรับความเข้าใจกันได้ก็โล่งงงง  :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-12-2017 20:18:48
ก็นึกแล้วว่า พวกเพื่อนซ่าที่แห่กันมาหา
ต้องได้รับฝากจากพี่ปราบให้มาดูแลซ่า

ตอนนี้เรื่องการ์ตูน พี่ปราบก็ปฏิเสธชัดเจน
และซ่าก็รับรู้จากพี่ปราบแล้ว
อ่านแล้วยิ้มเลยที่พี่ปราบเห็นซ่าที่ร้านอาหารแล้วนึกเอ็นดูซ่า
ก็ว่าคนเคยรัก อยู่ๆจะงอน จนเลิกรักมันทำไม่ได้ง่ายๆ

แลวพี่ปราบ ก็ทดสอบซ่า
จนปากแตก เลือดซึมในปากซ่า ได้ผลเป็นที่พอใจ
นอนเตียงเดียวกันได้ ไม่ต้องมีใครแยกไปนอนโซฟา
พี่ปราบ ซ่า   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 22-12-2017 20:43:28
มันแบบบ โอ่โห ปลื้มลึกๆอยู่ในใจ พี่ปราบเขารักเขาหวงของจริง ฟูมฟักจนซ่าพัฒนามาได้ขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยนะคะว่าถ้ามีคนมาขโมยไข่จะเป็นยังไง พี่ปราบโคฟเป็นจงอางในร่างมนุษย์ขนาดนี้แล้ว 55555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-12-2017 20:49:00
ความคิดของเฮียช่างลึกล้ำอะไรเช่นนี้ แล้วอย่างนี้ซ่าจะไปไหนรอด  :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-12-2017 21:07:56
นึกว่าจิหน่วงต่อออ ดีกันแล้ว เย้ ๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-12-2017 21:16:04
อิพี่มันร้าย ค่อยๆปรับกันไป 
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 22-12-2017 21:35:21
โล่งใจ อยากให้ซ่ามีความสุขจริงๆ ซะที :กอด1: พี่ปราบคือความสุขของซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-12-2017 21:58:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 22-12-2017 23:44:48
นั่นไงแผนของอิพี่จริงๆ ถึงจะร้ายไปหน่อย แต่ก็ทำให้ซ่ายอมรับใจตัวเองได้สักที
หวังว่าจากนี้ชีวิตจะมีแต่เริ่องดีๆนะซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 23-12-2017 01:02:35
ดีมากค่ะพี่ปราบ ครั้งนี้น้องไม่คิดปลดพี่แล้ว ดูแลซ่าน้อยดีๆนะพี่น้า :กอด1: ...แต่น้องจะจับตาดูพี่ตลอดค่ะ หึหึ o18

น้องซ่าหนูก็เป็นเด็กดี เชื่อฟังพี่ปราบ ตั้งใจเรียนๆ ทีหลังก็ไม่ต้องกลัวดอกพิกุลหล่นมากนักหรอก ปล่อยออกมาบ้าง เก็บไว้รังแต่จะเป็นปุ๋ยนะหนูนะ
#ม๊วฟ!คนแต่งน่ารักที่สุด :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 23-12-2017 01:36:47
 :jul1: ทำไมเด็กห่ามๆแบบซ่า เวลาเขินมันถึงน่ารัก กร้าวใจป้าแบบนี้ กรีดร้องงงงง น่ารักเว่อร์  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-12-2017 07:28:41
แต่ละตอนยาวจุใจมาก ขอบคณคนเขียนค่ะ

น่านนน โดนพี่ปราบเล่นซะแล้ว
แต่ก็ทำให้ซ่าแน่ใจขึ้นล่ะนะ ว่าชอบพี่ปราบจริงๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 23-12-2017 08:04:08
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 23-12-2017 09:24:19
“และบางครั้งผมก็แค่คนไร้ค่า”

“จนอดคิดไม่ได้ว่า...ถ้าผมหายไปจากโลกนี้ หายไปแบบเงียบๆ ก็คงไม่มีใครสังเกตเห็น และทุกคนก็ยังจะใช้ชีวิตอยู่ต่อได้อย่างสบายดี”

ร้องเพราะประโยคนี้แหละค่ะ ฮืออ :o12:

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-12-2017 10:51:53
น้องซ่าาาาา ยอมรับตัวเองซะที ลุ้นแทบแย่
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 23-12-2017 12:27:20
อ่านตอนนี้แล้วซึ้งใจกับความรักของพี่ปราบมาก รักน้องซ่าแบบไม่มีเงื่อนไข
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 23-12-2017 15:27:56
ขอบคุณที่มาเร็วจ้า เพราะมันค้างมาก งานชุดนี้ดีต่อใจ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่25:: 22/12/2017 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-12-2017 18:53:00
ซ่า..ระวังหลัง
อิพี่มันจ้องจะตีค่ายให้แตกแล้ว

ปราบร้ายจริง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 30-12-2017 20:35:18
ปราบซ่า
ตอนที่26



[ซ่า]

หกโมงเช้า...เช้าไปที่จะตื่นหรือเปล่าวะ

แต่ที่ตื่นเพราะสะดุ้งจากความฝัน ฝันร้ายก็บ่อย แต่เมื่อตะกี้ทำเอาตาสว่างไม่กล้าหลับต่อเลย ถึงมันจะเช้าไปสำหรับผม แต่ว่ามันทำให้ผมรู้ว่าความฝันเมื่อตะกี้มันไม่จริง พี่ปราบยังไม่ได้ไปไหน ยังคงนอนอยู่ข้างๆ และเขาน่าจะนอนสบายกว่านี้ ถ้าขาข้างขวาของผมไม่ไปเกยพาดอยู่บนเอวสอบ

ผมค่อยๆยกขาออกจากตัวพี่ปราบ เผลอถอนหายใจด้วยความโล่งอกเสียงดัง จนทำให้คนข้างๆตื่น

“เอ่อ...ผมทำพี่ตื่นเหรอ” ผมขยับลุกขึ้นนั่ง ลูบหน้าลูบตาตัวเอง พร้อมเสยผมที่ปรกหน้าอยู่ออก ตื่นแล้วก็ตื่นเลย ผมคงไม่นอนต่อแล้ว

“กี่โมงแล้ว” ถามแล้วก็ลืมตามองนาฬิกาแขวนผนัง “หกโมง ทำไมวันนี้ตื่นเร็ว”

ไม่แปลกที่พี่ปราบจะสงสัย ในเมื่อปกติผมไม่เคยตื่นก่อนพี่ปราบเลยสักครั้ง ไม่รวมที่ตื่นมาเข้าห้องน้ำแล้วนอนต่อนะ เช้าสุดก็เจ็ดโมงครึ่งเพื่อไปเรียน

“วันนี้มีเรียนไหม” พี่ปราบลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง สะบัดหัวไล่ความง่วง ผมมองเขาตาไม่กระพริบจนพี่ปราบจับได้ กระดิกนิ้วเรียกผมให้ขยับเข้าไปหา และผมก็ดันไปทำตาม ก็คิดแหละว่าเขาจะเรียกไปทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่คิดว่าจะเรียกไปจูบ

จูบที่ไม่เหมือนเมื่อคืน เขาแค่คว้าคอผมเข้าไปจูบแนบแน่นแล้วปล่อยตัวออก หัวใจผมเต้นแรงหลังพี่ปราบปล่อยตัว เป็นครั้งที่สองที่ผมจูบกับผู้ชาย เพราะไม่ชินผมจึงรู้สึกหวิวในอก มันแปลกที่ต้องถูกคนเพศเดียวกันจูบ แต่มันก็รู้สึกดีแบบแปลกเหมือนกัน

“เป็นอะไร โดนกูจูบตอนเช้าแค่นี้ ช็อกตาเหลือกเลยหรือไง”

ผมรับปรับสีหน้าใหม่ทันที เมื่อกี้ผมทำตาเหลือกเหรอวะ

“อะไร ใครตาเหลือก ผมไปอาบน้ำดีกว่า” เถียงไว้ก่อน จริงไม่จริงก็ช่างมัน

หลังจากเข้ามาในห้องน้ำ ผมก็ยืนสงบสติและอารมณ์หน้ากระจกอยู่หนึ่งนาที ผมมีสีผิวที่ขาวแบบกระดำกระด่าง และยิ่งน่าเกลียดมากกว่าเดิมเมื่อมีริ้วแดงๆอยู่บนโหนกแก้ม

“หน้าแดงทำไมวะเนี่ย” ผมรีบเปิดน้ำล้างหน้า หวังให้มันช่วยล้างให้สีแดงบ้าๆบนแก้มหายไป แต่แม่งก็ไม่หาย แดงกว่าเก่าเสียอีก โคตรเหี้ยเลย ผมเป็นแฟนพี่ปราบแล้ว แถมตื่นนอนมาก็โดนจูบอีก เหมือนฝันเลย แต่มันคือความจริง

ก่อนที่จะสายเพราะมัวแต่คิดเพ้อเจ้อ ผมรีบอาบน้ำลวกๆเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ก็ออกจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวพันเอวแค่ผืนเดียว แล้วเดินไปหาเสื้อผ้าใส่หน้าตู้เสื้อผ้า โดยที่มีสายตาของพี่ปราบที่ยังคงนั่งพิงหัวเตียงคอยมองตามตลอดเวลา

ผมทำทุกอย่างตามปกติ แม้จะรู้สึกหวิวๆหลังยังไงไม่รู้ คว้าเสื้อผ้าได้ก็แต่งตัวมันตรงนั้น ตอนที่กำลังกลัดกระดุมเสื้อ พี่ปราบก็ทำผมตกใจด้วยการสวมกอดผมจากด้านหลัง ลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่แถวๆต้นคอและใบหู ผมยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก มือที่จับกระดุมอยู่ค้างยังไงก็ค้างอย่างนั้น

“แต่งตัวเสร็จแล้ว ลงไปซื้อของกินขึ้นมาด้วย หยิบเงินในกระเป๋าตังกูไปเลย อยากกินอะไรก็ซื้อมา”

ตอนพูดจำเป็นต้องเอาปากแนบกับหูผมขนาดนี้ไหมวะ รู้สึกหวิวจี๊ดจากสันหลังขึ้นสมอง อะไรวะเนี่ย นี่กูเขินเหรอไง

“ที่พูดเนี่ย เข้าใจไหม”

“รู้แล้ว พี่ก็ปล่อยสิ” ผมพยักหน้ารัว เบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนที่ร้อนโคตร

“กอดนิดกอดหน่อยทำมาเขินนะมึง รีบๆชินเข้า ตอนกูเอาจริงจะได้ไม่เป็นลมหัวใจวายตาย”

ป้าบ!

ล้อไม่พอ ยังมีหน้ามาตีก้นผมอีก จากนั้นก็หัวเราะขำเดินหนีเข้าห้องน้ำ ทิ้งผมให้ยืนอึ้งประมวลคำพูดทิ้งท้ายเมื่อกี้

“ไม่ให้เอาหรอกเว้ย” ผมโวยวายหลับหลังพี่ปราบเบาๆ แล้วเริ่มแต่งตัวต่ออีกครั้ง พยายามเลิกสนใจกับสัมผัสและคำพูดของผู้ชายที่กลายมาเป็นแฟนของผม เรื่องนี้คิดทีไรก็รู้สึกกระดากทุกที แต่ทำไงได้ ผมชอบเขาไปแล้วนี่ หวังให้ตัวเองชินเร็วๆเหมือนกัน จะได้เลิกใจเต้นแรงเวลาถูกที่ปราบโดนตัวสักที

เมื่อตะกี้พี่ปราบบอกให้ผมลงไปหาซื้อของกิน ผมหมุนตัวมองหากระเป๋าเงินของพี่ปราบ ก็เจอมันวางอยู่ตรงหัวเตียง ผมเปิดกระเป๋าพี่ปราบแล้วหยิบเงินแบงก์ห้าร้อยออกมาหนึ่งใบ เป็นใบที่มีมูลค่าน้อยที่สุดแล้ว นอกนั้นเป็นแบงก์พันกับบัตรอะไรไม่รู้อีกเยอะแยะมากมาย

ข้างล่างคอนโดนอกจากจะมีมินิมาร์ทแล้ว ช่วงเช้าๆก็ยังมีคนมาตั้งแผงขายของกินเยอะๆเต็มข้างทางไปหมด อย่างแรกที่ผมเดินเข้าไปซื้อก็คือข้าวเหนียวหมูปิ้ง

“ป้า เอาหมูสิบไม้ ข้าวเหนียวสี่ห่อ” ผมสั่งเสียงดัง คนรอคิวหลายคน ผมกลัวป้าแกไม่ได้ยิน

“ได้ๆ รอหน่อยนะ ไปซื้ออย่างอื่นก่อนก็ได้ลูก” ป้าเงยหน้าขึ้นจากเตาปิ้งบอกผม

“งั้นเดี๋ยวผมมาเอานะ”

“จ้า”

ผมเดินไปที่ร้านขายน้ำเต้าหู้ พี่ปราบชอบกิน ผมเลยสั่งมาสองถุง ไม่ลืมปาท่องโก๋ของชอบผมด้วย ไว้ก่อนขึ้นห้องจะแวะซื้อนมข้นหวานเอาไปจิ้มกินกับปาท่องโก๋ด้วย โคตรเข้ากัน

ไม่รู้ว่าเพราะผมหิวโซหรือเปล่า เลยได้ของกินอีกหลายอย่างติดมือขึ้นห้อง ถึงจะซื้อหมูปิ้งมาเยอะแล้ว แต่โจ๊กหมูใส่ไข่ก็น่ากิน ผมซื้อมาแค่ถุงเดียวพอ ถ้าพี่ปราบอยากกินด้วยผมจะยอมแบ่งให้ครึ่งนึง

 “พี่ไปเอาเสื้อผ้าที่ไหนมาอ่ะ” กลับขึ้นมาบนห้องพี่ปราบก็แต่งตัวใกล้จะเสร็จแล้ว ไม่รู้ว่าเขาไปเอาเสื้อผ้ามาจากที่ไหน ทั้งดูใหม่แล้วก็รีดจนเนี้ยบ

“ลูกน้องกูเอามาให้ ตั้งโต๊ะเลย กูหิวล่ะ”

“ครับผม นี่เงินทอนนะพี่” ผมควักเงินในกระเป๋ากางเกงวางคืนพี่ปราบ ใกล้ๆกับกระเป๋าสตางค์ของเขา แล้วก็กลับไปรื้อของกินใส่จาน

“ซื้อน้ำเต้าหู้มาให้กูด้วยเหรอ” พี่ปราบนั่งลงฝั่งตรงข้าม รับแก้วน้ำเต้าหู้ที่ผมส่งให้ไปดื่ม

“ก็พี่ชอบกิน” ผมบอก

“จำได้ด้วย” พี่ปราบเลิกคิ้วสูง ส่วนมุมปากยกยิ้ม

“ก็พี่มานอนที่ไรก็ให้ผมไปซื้อมาให้กินทุกที” จำไม่ได้ก็น่าจะเป็นโรคสมองเสื่อมแล้ว

“มึงก็กินเยอะๆน้ำเต้าหู้น่ะ ให้โปรตีนดีไม่มีไขมัน แต่มึงไม่ควรให้เขาใส่น้ำเชื่อมมาหวานเกินไป เข้าใจไหม”

“ค้าบ ทราบแล้วครับผม” ผมรีบยิ้มใส่ เพราะแก้วของผมมันหวานมาก ส่วนของพี่ปราบไม่หวานเลย ไม่รู้กินเข้าไปได้ยังไง

“แล้วทำไมซื้อโจ๊กมาถุงเดียว” พี่ปราบรื้อถุงของกินถุงอื่นดู

“ก็ผมซื้อหมูปิ้งมาเยอะแล้วไง พี่อยากกินเหรอ กินกับผมก็ได้นะ ผมแบ่งให้” ผมเลื่อนจากโจ๊กไว้ตรงกลาง แล้วกะจะลุกไปหยิบช้อนมาเพิ่ม แต่โดนพี่ปราบดึงมือเอาไว้

“ไปต้อง มึงกินเถอะ กูถามเฉยๆ”

“กินกับผมก็ได้นะพี่”

“เออน่า นั่งลงกินข้าว กูมีประชุมเช้า เดี๋ยวไปส่งมึงที่โรงเรียนก่อน” พี่ปราบเริ่มลงมือกินข้าวเหนียวหมูปิ้ง สลับกับแซนวิชที่ผมซื้อมา

“ผมไปเองก็ได้นะพี่ พี่ไปทำงานเถอะ” แต่ก่อนพี่ปราบก็ไม่เคยไปส่งผมที่โรงเรียน ผมเองก็โตแล้วด้วย ไปโรงเรียนเองได้ ไม่ต้องให้ผู้ปกครองไปส่งหรอก ไม่งั้นโดนเพื่อนล้อตายเลย

“ไม่เป็นไร ยังไม่สายขนาดนั้น วันนี้กูจะไปส่ง”
 
“แต่...”

“ไม่มีแต่ กูเป็นแฟนมึง และวันนี้กูจะไปส่งมึงที่โรงเรียน โอเคไหม”

“ผมไปเองได้จริงๆนะพี่” ผมก้มหน้าก้มตากินโจ๊ก ได้ยินคำว่าแฟนแล้วมันคันๆที่หัวใจยังไงชอบกล แต่ก็รู้สึกดีมาก

“หึหึ กูรู้มึงไปเองได้ แต่กูอยากไปส่งไง ได้ไหม” ทำไมต้องมาถามด้วยเสียงแบบนั้นว่า มันทุ้มเกินไป ใจสั่นเลยกู

“เออๆๆ ตามใจพี่แล้วกัน” ผมเออออกลบเกลื่อนอาการร้องวูบวาบบนใบหน้า

จนตอนนี้ผมก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองยังฝันอยู่เรื่อง เหมือนไม่ใช่เรื่องจริง เมื่อวานพี่ปราบยังคงหายไปจากชีวิตผม และกลับมาพร้อมกับผู้หญิงคนนั้นที่เหมาะสมกับพี่ปราบ จู่ๆวันนี้ผมก็ได้พี่ปราบกลับคืนมา แถมกลับมาในฐานะแฟนอีกต่างหาก

มันโคตรเหลือเชื่อเลยที่วันนี้ผมจะมีแฟนเป็นผู้ชาย และคนๆนั้นก็คือพี่ปราบ คนที่ดีแสนดีกับผม คนที่เฟอร์เฟคที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ ผมงงมากว่าเพราะอะไรพี่ปราบถึงมาชอบคนอย่างผมได้ บอกทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น คนที่หล่อและดูดีอย่างพี่ปราบ จะมารักมาชอบคนอย่างผม

“จะจ้องหน้ากูทั้งวันไหม กูจะได้โทรไปเลื่อนประชุม”

“ห๊ะ อะไรนะพี่” ผมสะดุ้งเลยดิ เผลอไปจ้องหน้าพี่ปราบตอนไหนว่า ผมว่าเมื่อกี้ผมกำลังก้มหน้ากินข้าวเช้าอยู่ไม่ใช่เหรอวะ

“กินเสร็จหรือยัง” พี่ปราบไม่แซวอะไรต่อ พยักพเยิดหน้าใส่ของกินบนโต๊ะที่พร่องไปจนเกือบหมด

“อิ่มแล้วครับ” ผมตอบ ลุกขึ้นเก็บถุงขยะรวบใส่มือไปทิ้ง ของกินที่เหลือก็โยนเข้าตู้เย็น แล้วเอาจานไปวางไว้ในซิงก์ล้างจาน ตอนเย็นกลับมาค่อยมาล้าง

วันนี้ไม่ต้องนั่งรถไปโรงเรียนเอง ทำให้ผมมาถึงโรงเรียนเร็วกว่าทุกวัน ผมบอกให้พี่ปราบจอดส่งผมที่ป้ายรถเมล พี่ปราบก็ไม่ยอม ขับเข้ามาจอดในโรงเรียนซะอย่างนั้น ผมก็เลยละล้าละลังไม่กล้าลงจากรถ คือพี่ปราบเขาคงไม่เข้าใจไง ว่าเด็กช่างอ่ะ เขาไม่ให้ใครมาส่งที่โรงเรียนกันแล้ว มันไม่เท่ ฮู้ว

“ไม่ลงหรือไง” พี่ปราบยักคิ้วกวนๆใส่ผม

“โธ่พี่อ่ะ ผมบอกว่าให้ส่งผมหน้าโรงเรียน”

“มาทำหน้าบึ้งนะมึง ถ้ายังไม่ลงก็ส่งกระเป๋าสตางค์มาให้กูดิ”

“อะไรนะพี่” ผมฟังถูกหรือเปล่าวะ ว่าพี่ปราบจะเอากระเป๋าสตางค์ผม

“กระเป๋าสตางค์มึงอ่ะ เอาออกมาให้กูดูสิ” พี่ปราบแบมือตรงหน้า ถึงจะงงๆแต่ผมก็หยิบกระเป๋าสตางค์ส่งให้พี่ปราบ

พอได้ไปแล้ว พี่ปราบก็เปิดกระเป๋าสตางค์ผมออกดู แล้วแหวกดูตามช่องเล็กช่องน้อย

“พี่หาอะไรอ่ะ” ในกระเปาสตางค์ผมไม่มีอะไรให้หาหรอก มีเงินร้อยกว่าบาทติดกระเป๋า บัตรประชาชน บัตรนักเรียน บัตรเอทีเอ็มและบัตรรถไฟฟ้า

พี่ปราบไม่ตอบอะไร เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ตัวเองขึ้นมา แล้วควักแบงก์พันใส่กระเป๋าสตางค์ให้ผมสองใบ ผมตกใจรีบไปแย่งกระเป๋าสตางค์กลับคืนมา แต่พี่ปราบไวกว่าผมไปหนึ่งก้าว

“พี่ทำอะไร เอาเงินมาใส่กระเป๋าผมทำไม”

“กูให้ไว้ใช้ มีเงินร้อยกว่าบาทติดตัวมันพอใช้หรือไง”

“พอน่าพี่ เดี๋ยวผมไปกดเอาได้”

“ได้ข่าวว่าช่วงนี้แม่มึงขอเงินมากกว่าเดิมไม่ใช่เหรอไง”

“พี่รู้ได้ไง” ผมหยุดมือที่กำลังยื้อแย่งกระเป๋าสตางค์คืนทันที เรื่องนี้ผมไม่ได้บอกใครเลย ไม่ได้บอกสักคนเดียว ผมมั่นใจ

“กูรุ้ได้ยังไงไม่สำคัญ แต่มันคือเรื่องจริง กูพูดถูกไหม”

“...” ใช่ มันคือเรื่องจริง เดือนที่แล้วแม่มาขอเพิ่มไปห้าพัน เดือนนี้แม่ขอเพิ่มสามพันเพราะเงินไม่พอหมุนใช้ในบ้าน

“เงินเดือนมึงไม่ได้เยอะ ส่งให้ที่บ้านเกินกว่าครึ่ง แล้วมึงพอใช่หรือยังไง”

“พอใช่สิพี่” ก็ผมไม่ได้กลับไปช่วยงานที่บ้าน เงินที่ผมส่งให้แม่ก็ถือเป็นการตอบแทน ผมยอมเสียเงินได้ อย่างน้อยผมอยู่ตรงนี้ก็มีความสุขกว่ากลับไปอยู่ตรงนั้น

“พอแค่ซื้อมาม่ากินประทังชีวิตสินะ”

พี่ปราบพูดซะผมทำหน้าไม่ถูกเลย ถึงจะเก่งจะฉลาด ก็ไม่ต้องพูดความจริงออกมาหมดก็ได้มั้ง

“กูจะไม่ยุ่งเรื่องที่มึงส่งเงินให้ที่บ้าน ที่มึงทำมันก็ดี เป็นเด็กดีรู้จักกตัญญู แต่ว่าอย่าทำจนเกินตัว ต้องรักตัวเองและดูแลตัวเองบ้าง” 

“ผมก็ดูแลตัวเองอยู่” ผมรีบแก้ต่างให้ตัวเอง แม้ว่ามันจะไม่จริงก็ตาม

“กูเชื่อมึงตายล่ะ เพราะฉะนั้น กูให้เงินมึงไว้ใช้ เรื่องเรียนก็ต้องใช่เรื่อง ข้าวก็ต้องซื้อ ไม่มีเงินมึงจะอยู่ได้ยังไง”

“แต่ผมไม่อยากเอาเงินพี่”

“ไม่เอาเงินที่กูแล้วจะไปเอาเงินที่ใคร ไปให้ไอ้บิ๊กเลี้ยงข้าวหรือไง”

“ทำไมพี่รู้อ่ะ พี่บิ๊กเล่าเหรอ แต่เขาบอกว่าจะเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวผมเองนะ ผมไม่ผิดซะหน่อย”

“กูก็ไม่ได้บอกว่ามันผิด แต่กับไอ้บิ๊กมึงยังยอบรับน้ำใจให้มันเลี้ยงข้าวได้ แล้วทำไมกูให้เงินแล้วมึงไม่อยากรับ”

โธ่ มันเหมือนกันที่ไหนเนี่ย

“ก็มันเยอะไป”

“มันไม่เยอะไปหรอก เงินสองพันใช้ไม่กี่วันก็หมดแล้ว”

“ก็นั่นแหละ พี่ไม่เห็นต้องให้ผมเลย”

“กูเป็นแฟนมึง น้ำใจจากแฟนมึงรับไม่ได้หรือไง แต่ทีคนอื่นรับได้”

“โหพี่ อย่าพูดอย่างนี้ดิ”

“งั้นก็รับเงินไป แล้วก็ใช้ด้วย กูไม่อนุญาตให้เอาเงินที่กูให้ไปเก็บบูชา”

ผมนั่งนิ่ง รับกระเป๋าสตางค์คืนมา แล้วเปิดดูเงินจำนวนสองพันบาทที่ย้ายที่อยู่มาอยู่ในกระเป๋าของผมแทนของพี่ปราบ ผมเข้าใจความหวังดีของพี่ปราบ แต่ไม่สบายใจเลย

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” พี่ปราบลูบหัวผม ดันแก้มขึ้นให้มองสบตาเขา

“เหมือนผมเกาะพี่กินเลยอ่ะ”

เพี๊ยะ!

พี่ปราบตบปากผมไม่แรงไม่เจ็บ แต่ก็ทำเอาตกใจ สะดุ้งเลยกู

“มึงห้ามพูดแบบนี้ อย่ามองว่าตัวเองเกาะกูกิน”

“...”

“ไหนตอบกูหน่อยสิ ตอนมึงคบกับคนที่ชื่อพลอย เคยเลี้ยงข้าวแฟนไหม ซื้อของให้ เขาอยากได้อะไรก็ซื้อให้”

ผมคิดไม่นาน ก็พยักหน้าแทนคำตอบ ทำไมจะไม่เคยล่ะ ตลอดเลาที่คบกับพลอย เวลาไปเที่ยวหรือไปกินข้าวดูหนัง ผมก็ออกเองเกือบทั้งหมด

“แล้วมึงคิดว่าแฟนมึงเกาะมึงกินไหม หรือมึงเองก็เต็มใจทำให้”

“ผมเต็มใจนะ” ถึงแม้ว่าบางทีพลอยจะเรียกร้องในสิ่งที่ราคาแพงมากเกินไป ผมก็พูดบ่น แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะทำงานเก็บเงินมาซื้อให้อยู่ดี

“แล้วสิ่งที่กูกำลังทำอยู่ตอนนี้ผมต่างจากที่มึงเคยทำให้แฟนเก่ายังไง

“ก็ผมเป็นผู้ชาย ผมต้องให้ผู้หญิงมากกว่าอยู่แล้ว”

“แล้วกูเป็นผู้ชาย เราควรทำยังไงดี ไม่ต้องมีใครให้ใครเลย”

“...” มันก็ไม่ใช่

“อย่าเงียบ คิดอะไรก็พูดออกมา บอกแล้วไงว่าพูดกับกูได้ทุกเรื่อง”

ผมตองพูดจริงๆเหรอ

“ซ่า...”

“ก็ผมเกรงใจ”

พอคำว่าเกรงใจหลุดออกจากปาก จากที่ไม่อะไร หน้าของพี่ปราบก็เข้มขึ้น ดูได้จากคิ้วที่เริ่มขมวดเข้าหากัน ผมรู้ว่าพี่ปราบไม่ชอบให้เกรงใจ แต่คนเรามันต้องมีความเกรงใจหรือเปล่าวะ

“ผมไม่ได้อยากให้พี่อยู่กับผม แล้วต้องให้เงินทองอะไรผม มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเกาะพี่กิน แล้วก็...คนอื่นอาจจะคิดว่าผมคบกับพี่เพราะเงิน”

ผมคิดแบบนี้จริงๆ ผมอยากอยู่กับพี่ปราบเพราะอยู่กับเขาแล้วผมสบายใจ ผมมีความสุข และผมไม่เหงา พี่ปราบรวยมากผมรู้ และที่ผ่านมาผมรับทั้งเงินและของกินจากเขาได้อย่างสบายใจเพราะตอนนั้นเขาเป็นรุ่นพี่คนหนึ่ง แต่วันนี้พี่ปราบไม่ใช่แค่รุ่นพี่หรือพี่ชาย แต่เขาเป็นแฟนผมแล้ว

ทั้งๆที่เพิ่งเป็นแฟนกันเมื่อคืน แค่ข้ามคืนเท่านั้น จะให้ผมรับเงินมากมายจากเขาได้อย่างหน้าชื่นตาบานได้ยังไง ผมอย่างนั้นผมเลยรู้สึกไม่ดี

“กูดูเป็นคนโง่ที่ปล่อยให้ใครที่ไหนก็ได้มาหลอกกินเงินหรือไง” พี่ปราบถามอย่างจริงจัง ผมส่ายหน้า ไม่คิดว่าพี่เขาจะโง่หรอก พี่ปราบฉลาดจะตายไป ไม่อย่างนั้นเขาจะวางแผนให้ผมยอมรับความรู้สึกของตัวเองได้สำเร็จเหรอ

พี่ปราบยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ผมเองก็ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว ส่วนพี่ปราบก็ต้องรีบไปประชุมเช่นกัน ตอนนี้จึงเหลือเวลาให้ผมกับพี่ปราบเถียงกันเรื่องเงินไม่มาก

“ก่อนที่กูจะไปประชุมสาย กูจะบอกมึงไว้ตรงนี้เลยว่า...เราสองคนเป็นแฟนกัน หน้าที่ของแฟนคือดูแลคนรักของตัวเองให้ดีที่สุด ในฐานะที่กูโตกว่ามึงและทำงานมีรายได้แล้ว กูสามารถดูแลมึงเรื่องนี้ได้ กูไม่ได้บอกมามึงจะเกาะกูกิน กูเองก็อยากดูแลคนที่กูรัก และเงินมันก็เป็นปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิต ส่วนมึง ตอนนี้มึงยังเด็ก ยังเรียนอยู่ ถ้ามึงอยากตอบแทน ก็เป็นเด็กดีให้กู ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน และการที่มึงเป็นเด็กกตัญญูต่อพ่อแม่ เงินที่มึงหามาได้ กูไม่สนใจว่ามึงจะเอาไปให้คนที่บ้านมากเท่าไหร่ เพราะมึงมองว่ามึงให้คนที่มึงถูกต้องไหม ต้องคิดไหมว่าตอนนี้คนที่บ้านเกาะมึงกิน ถ้ามึงไม่ได้คิดแบบนั้น ก็อย่าคิดว่าการที่กูให้เงินมึงใช้มันเป็นเรื่องที่แย่ คนอื่นจะพูดยังไงไม่ต้องสนใจ สนแค่กูก็พอแล้ว และกูเต็มใจทำให้”

“พี่...” ทำไมต้องดีกับผมขนาดนี้ด้วย

“สรุปเลย กูอยากดูแลมึงรวมไปถึงเรื่องเงิน ส่วนมึงก็สามารถดูแลกูได้ เช้าๆลงไปหาซื้อข้าวให้กูกิน ถ้าหัดทำได้ก็จะดีมาก และเป็นเด็กดีอย่าทำให้กูต้องปวดหัวก็พอ ตกลงไหม”

ฟังๆดูแล้ว เหมือนสิ่งที่ผมจะสามารถทำให้พี่ปราบได้ช่างเป็นเรื่องน้อยนิด แต่ ณ วันนี้ ผมก็คงทำได้เท่านี้

“ครับ...ขอบคุณนะพี่ปราบ” ผมยกมือไหว้พี่ปราบ ที่ถึงแม้จะเป็นแฟนกันแล้ว แต่ก็รู้สึกว่าเขาน่าเคารพอยู่ดี

“อืม เข้าใจก็ดีแล้ว เย็นนี้เลิกกี่โมง”

“สี่โมงเย็นครับ” ผมตอบ หยิบกระเป๋าเป้มากอดไว้ เตรียมลงจากรถ

“งั้นเลิกเรียนแล้วก็รอ เดี๋ยวกูมารับ”

“ไม่เป็นไรพี่ ผมกลับเองได้” ผมรีบปฏิเสธ ไม่ต้องดูแลผมดีขนาดนี้ก็ได้ ผมเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องประคบประหงม

“ตอนบ่ายกูต้องมาหาไอ้ธีร์อยู่แล้ว แวะรับมึงกลับไปด้วยก็ไม่หนักหนาหรอกน่า”

“อ่า ครับ” ถ้าแบบนั้น ผมก็ไม่มีปัญหา

“ตั้งใจเรียนล่ะ มึงใกล้จะสอบแล้วนี่”

“ครับ ผมไปแล้วนะ”

“อืม”

ผมยกมือไหว้พี่ปราบ แล้วลงจากรถเดินไปที่อาคารเรียน คนรอบข้างหันมามองผมด้วยความสนใจ เพราะผมเพิ่งจะลงมาจากรถราคาแพงหลายล้าน ก่อนหน้านี้มัวแต่คิดเรื่องเงินที่พี่ปราบให้ จนลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย

แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะถ้าใครมาล้อเรื่องมีคนมาส่งผมที่โรงเรียน ต่อยแม่งปากแตกให้พูดไม่ได้ก็สิ้นเรื่อง





(อ่านต่อข้างล่างค่ะ)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 30-12-2017 20:36:14



เพราะผมขาดเรียนไปหนึ่งเทอมก่อนที่จะจบ ทำให้ต่อมาลงเรียนปีนี้คนเดียว เพราะไอ้สี่คนนั้นมันก็เลยเรียนนำหน้าผมไปแล้ว ตอนเรียนมันก็เลยจะเหงาหงอยนิดหน่อย ก็มีเพื่อนคุยเล่นประปรายบ้าง แต่ไม่ถึงกับสนิท

พักเที่ยงผมก็ไปหาข้าวกินที่โรงอาหาร ก็มีแค่ช่วงนี้เท่านั้นที่ผมจะได้เจอไอ้พวกนั้น วันนี้ผมลงมาช้า พวกมันก็เลยไปซื้อข้าวมานั่งกินกันเรียบร้อยแล้ว ผมจึงเดินไปซื้อข้าวกับน้ำแล้วมานั่งกินพร้อมพวกมัน

“วันนี้หน้าตามึงดูแจ่มใสผิดปกตินะไอ้ซ่า” ผมหย่อนก้นนั่งได้ไม่ถึงห้านาทีไอ้หวายก็พูดทักขึ้นมาแล้ว

“เออ จริงวะ ดูน้องซ่าจะเจริญอาหารกว่าปกติด้วย”

หลังจากนั้นพวกมันก็มานั่งจ้องหน้าวิเคราะห์อาการผมกันใหญ่จนน่ารำคาญ ได้แต่ยันหน้าพวกมันออกห่าง แม้จะสงสัยอยู่เหมือนกันว่าหน้าผมเปลี่ยนไปตรงไหน เมื่อเช้าส่องกระจกผมว่ามันก็เหมือนเดิม

“มีอะไรดีๆหรือไงวะ”

“นั่นดิ”

“อะไรของพวกมึงเนี่ย กูปกติดี” ผมกลืนข้าวลงคอแล้วพูดสวนกลับ

“กูไม่เชื่ออ่ะ แก้มอมชมพูขนาดนี้” ไอ้นุ๊กเอานิ้วมาจิ้มแก้มผมเล่น ผมปัดมือมันออกจากหน้าทันที

“อมชมพูเหี้ยอะไรล่ะ” ผมเอาแก้มถูกหน้าทันที นี่ถ้ามีกระจกจะเอาขึ้นมาส่องแล้ว แต่ผู้ชายอย่างผมไม่เคยพกของแบบนั้น

ผมรีบจ้วงข้าวเข้าปาก กินเสร็จจะได้รีบหนีจากไอ้พวกเพื่อนกวนประสาทนี่สักที แต่พวกมันคอยแต่จะแกล้งผม เดี๋ยวดึงแก้ม เดี๋ยวดึงแขน เตะขา จนผมเริ่มจะทนไม่ไหว พวกมันถึงได้หยุดแล้วหัวเราะมีความสุข

“พอๆๆ เลิกแกล้งมัน จะอะไรก็ช่าง เพื่อนกูเลิกทำหน้าอมขี้ได้ก็ดีแล้ว ฮ่าๆๆ”

“เกือบจะหล่อแล้วไอ้ตูน ถ้ามึงไม่พูดเรื่องขี้ตอนที่กูกินข้าว” ผมด่าเข้าให้ จริงๆก็ไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่หรอกที่พูดเรื่องของเสียตอนกินข้าว แต่ผมอยากด่าก็เลยด่า

“คำสุดท้ายแล้วไหมไอ้ซ่า ทำมาเป็นพูด”

“แล้วไง คำสุดท้ายก็ข้าว”

“มึงสองคนนี่เถียงกันเป็นเด็กๆเลยนะ”

“แล้วมึงโตตายล่ะไอ้หวาย”

“ฮ่าๆๆๆ”

ถึงจะเป็นพักกลางวันที่โคตรจะวุ่นวาย แต่การมีพวกมันอยู่ก็ทำให้ผมไม่เหงา คิดไม่ออกเลยว่าถ้าผมไม่ได้เรียนต่อที่นี่ แล้วไปต่อมหาวิทยาลัย ผมจะได้เจอเพื่อนบ้าๆแบบนี้หรือเปล่า คิดว่าไม่น่ามี คนที่บ้ากว่าพวกมันคงไม่มีอีกแล้วบนโลกใบนี้

คนบ้าที่ทำหน้าเพื่อนได้ดี

ตกเย็นผมรีบวิ่งออกจากห้องเรียน เพราะพี่ปราบส่งข้อความมาบอกตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วว่ารออยู่ที่เดิมที่จอดรถเมื่อเช้า

ผมว่าผมออกมาเร็วแล้วนะ แต่ผมยังช้ากว่าไอ้หวายและคนอื่น ผมรู้ว่าเลิกเร็วกว่าผมหนึ่งชั่วโมง แต่ผมคิดว่าพวกมันกลับบ้านกันไปแล้ว ไม่คิดว่าตอนนี้พวกมันจะกำลังนั่งคุยอยู่กับพี่ปราบที่ม้าหินอ่อน

กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไม่ไปถึง~

“เห้ย ไอ้ซ่า ยืนทำหน้าตาขี้เหล่อะไรตรงนั้นวะ”

“นั่นดิ หรือจะให้พี่ปราบเดินไปอุ้มวะ”

“ฮิ้วววว”

ผมเปลี่ยนใจ ผมจะเลิกคบพวกแม่งเป็นเพื่อนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เลิก! เลิกคบแม่ง!

เกลียดพวกมันโว้ย!!

ถึงจะโวยวายใส่พวกมันอยู่ในใจ ผมก็ต้องเดินหน้าไปหาพวกมันอยู่ดี แต่ก่อนอื่นเลย ขอตบเรียงตัวให้หายแค้นสักหน่อยเถอะ

“ตะโกนหาพ่อมึงเหรอไอ้” ตบเสร็จแล้วก็ด่าซ้ำ พี่ปราบก็เอาแต่นั่งขำ ก่อนจะดึงข้อมือผมให้นั่งลงข้างๆ

“ไอ้สัด ตบแรงเลยนะมึง โอ๊ยมึน” ไอ้หวายทำหน้าเหยเก ลูบหัวปรอยๆ

“เออ กูเหมือนจะเห็นดาว” ไอ้ตูนทำตาปริบๆ ส่วนไอ้กานกับไอ้นุ๊กหันหน้ากอดกันแล้วทำเสียงสะอื้อนกระซิกๆเรียกร้องความสนใจ ผมนี่เท้ากระตุกเลยครับ แต่พี่ปราบดึงแขนเอาไว้

“ทำไมลงมาเร็ว คิดถึงกูหรือไง” แล้วทำไมต้องพูดดังด้วยความ ไอ้พวกนี้เลยทำหน้ายิ้มล้อผมกันหมด

“โอ๊ย เบาหวานขึ้นตา อิจฉาคนมีความรักเหลือเกิน” ไอ้กานเริ่มคนแรกเลย ผมแทบจะเอาตีนขึ้นมาก่ายหน้าผาก

แต่เดี๋ยวนะ ทำไมพูดเหมือนรู้ว่าผมกับพี่ปราบคบกันแล้ว

ผมหันควับไปมองหน้าพี่ปราบทันที “พี่บอกพวกมันเหรอ”

“อืม ก็พวกมันถาม” ตอบหน้าตาย ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

“พี่อ่ะ ไม่น่าบอกพวกมันเลย” ผมร้องโอดครวญ

“ทำไม อาย”

โหย พูดงี้ตบหน้ากันเลยเถอะ “ไม่ได้อาย แต่พวกมันชอบล้ออ่ะ พี่ดูดิ”

“อ่อ เขิน” พี่ปราบยิ้มกริ่ม

“อุ้ย ไอ้ซ่าเขินเหรอเนี่ย ไหนขอดูหน้าหน่อยดิ” ไอ้หวายกระโจนเข้ามาประคองหน้าผมให้หันไปทางพวกมัน มือน้ำหนักมือที่กดลงบนหน้า ทำเอาหน้าผมบู้บี้ไปหมด

ก่อนที่พวกมันจะแกล้งผมไปมากกว่านี้ คนที่ช่วยผมให้หลุดพ้นจากไอ้พวกชั่ว ก็คือคนที่ทำให้ผมถูกพวกมันรุมล้อเนี่ยแหละ ซึ่งถ้ารู้ว่าจะช่วยกันแบบนี้ อย่าช่วยกันเลยดีกว่า

“พวกมึงเลิกแกล้งแฟนกูได้แล้ว เห็นมันมันตัวแดงเป็นกุ้งแล้วเนี่ย น่ารักฉิบหาย ฮ่าๆๆ”

โอ๊ย! หัวร้อนเลยกู

ปล่อยให้ผมโดยพวกมันแกล้งจนหนำใจ จนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พี่ปราบถึงได้ยอมไล่พวกมันกลับบ้านแล้วพาผมขึ้นรถ

“โกรธเหรอไง” พี่ปราบคว้าคอผมให้หันไปทางเขาตอนรถติดไฟแดง เพราะผมเอาแต่มองไปนอกรถ

“เปล่า” ผมตอบสั้นๆ ไม่ได้โกรธอะไรหรอก

“จะเขินอะไรขนาดนั้น พวกมันก็แซวเล่นไปอย่างนั้นแหละ”

“ก็ผมไม่ชอบนี่”

“ไม่ชอบกู”

“ไม่ชอบพวกมันสิ”

“ฮ่าๆๆๆ น่ารักนะมึงนะ”

เสียรู้จนได้

“หึหึ หน้าแดงไม่หายเลยนะซ่า” พี่ปราบลูบแก้มผมเบาๆ ไม่ปรึกษากูเลยว่าจะรู้สึกยังไง

“พี่อย่าล้อได้ไหมเนี่ย”

“เออๆ ไม่ล้อและ ไหนมาหอมทีดิ” พี่ปราบรั้งคอผมเข้าไปใกล้ ผมรีบขืนตัว นี่มันกลางถนนนะเว้ย จะมาหงมาหอมอะไรตอนนี้

“อย่าดิพี่ จะไฟเขียวแล้ว”

“อีกสิบห้าวิ มึงก็รีบๆยื่นหน้ามากูจะได้รีบๆหอม”

“ไม่เอา”

“เร็วๆ อีกสิบวิแล้วเนี่ย”

“ไม่...”

“ซ่า...”

“เออๆ พี่แม่ง”

เลี่ยงไม่ได้ ก็ได้แต่ยืนหน้าเข้าไปให้พี่ปราบเข้าหอมให้มันจบๆเรื่อง ข้างเดียวไม่พอ ต้องสองข้าง แถมกดแรงจนแก้มผมเจ็บไปหมด สุดท้ายก็ออกรถไม่ทันไฟเขียว ดีที่คนข้างหลังเขาไปบีบแตรไล่

“กลับไปเย็นนี้กินข้าวเยอะๆหน่อยนะ แก้มไม่นิ่มเลยวะ หอมไม่สะใจ”

“ไม่กิน!”

แล้วก็ชอบพูดให้อายแบบนี่ เลิกดีไหมกู จะได้ไม่ต้องโดนคนนั้นคนนี้แกล้งให้อารมณ์เสีย

เฮ้อ คิดไปคิดมา ความคิดนี้เหมือนจะไม่ดีวะ





....................................
ตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจคำผิดเลยนะคะ ต้องขอโทษด้วย วันที่31 ริริมีบินข้ามคืน ที่บ้านเลยต้องไปกินปีใหม่วันนี้แทน ยังไงก็สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะ ขอให้น้องที่ยังเรียนอยู่ เรียนสอบได้คะแนนดี คนที่ทำงานแล้วขอให้การงานราบรื่น ที่สำคัญเลยขอให้ทุกคนมีเงินใช้ไม่ขาดมือ และขอให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนะคะ
สวัสดีปีใหม่ 2561 ค่ะ
อยู่กันอย่างนี้ต่อไปนานๆนะคะ ใครที่เคยอ่านพี่เสือเวอร์ชั่นเก่าก่อนลบมาแล้ว บอกเลยว่าปี2561 นี้ ริริกลับมาลงพี่เสือแน่นอนค่ะ
ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักที่อยู่ติดตามกันมาด้วยทุกวันนี้นะคะ ปีหน้าริริจะทำให้ดีกว่านี้ค่ะ (จะพยายามมาให้บ่อยกว่านี้ ฮ่าๆๆ”
ด้วยรัก
 :L1:
ริริ
 


หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 30-12-2017 21:16:47
 :m20: ซ่าเขินโคตรน่ารักกกกกก

พี่ปราบนี้มันมีนิสัยชอบแกล้งคนรักไช่มะ ฮ่าๆๆ หวานมากแต่ไม่เลี่ยนเลย

เอาอีกๆ ขอหวานๆอีก  หลังจากลุ้นๆ หน่วง มาเยอะ
น่ารักมากกกกกกกก  มาอัพอีกไวๆนะคะ :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-12-2017 21:39:50
 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 30-12-2017 21:46:59
555555 ขำซ่าคนเขิน ยังไม่ชินก็งี้แหละ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 30-12-2017 21:50:56
มีความสวีทเล็กๆ น่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 30-12-2017 22:00:28
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-12-2017 22:12:12
โว้ย พอดีกันกัน ปาน้ำตาลเรี่ยราดนะยะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-12-2017 22:16:56
Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์สุขสันต์ มีความสุขมากๆ

หวาน  :-[
พี่ปราบ ชอบแกล้งให้ซ่าเขิน
เพื่อนๆ ก็ล้อซ่า
ซ่า อายตอนพี่ปราบขอหอมตอนติดไฟแดง
แต่สุดท้ายก็ยอม  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 30-12-2017 23:13:56
 :-[
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-12-2017 23:54:26
น้องซ่ายังคงความคนแมน ไม่ยอมให้ใครว่าเกาะพี่ปราบกิน  นับถือ ๆ  :m20:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 31-12-2017 00:43:46
สวัสดีปีใหม่จ้า ขอให้คุณริริสุขภาพแข็งแรงร่ำรวยๆ น่ะจ้ะ และมาอัพบ่อยๆน่ะจ้ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-12-2017 01:42:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 31-12-2017 02:41:48
หวานเบาเบาาาา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 31-12-2017 05:41:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 31-12-2017 07:10:56
น้ำตาลตกพื้นเต็ม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 31-12-2017 07:45:42
มันก็จะหวานๆ หน่อย พี่ปราบขุนซ่าให้อ้วนเลยจะได้กอดหอมเต็มไม้เต็มมือ ฮิ้ววววว o18
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 31-12-2017 11:25:52
มีความเห่อแฟน อิ๋วววววว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 31-12-2017 20:06:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 31-12-2017 21:12:40
ขอบคุณนะคะ รอเจอกันปีหน้าค่ะ 5555

ซ่าคนซึม ถึงกับร้องไห้หนัก เพราะพี่ปราบเลยนะ
เหมือนที่ปราบบอก ถ้าไม่วางแผน ซ่าก็ไม่รู้ตัวสักที
ความเนียนนี้เลยต้องมา ทั้งที่ก็สงสาร ก็ห่วง ก็คิดถึง
แต่ต้องยอมเพื่ออนาคตที่สดใส และซ่าจะเข้าใจมากขึ้นฝ

ปราบแหย่น้องซะน่ารัก แถมร่วมด้วยช่วยกัน
ตอนนี้สมใจปราบแล้ว ได้ถึงเนื้อถึงตัวแบบไม่ต้องมีข้ออ้าง
เรื่องเดียวที่อ้างได้คือ ก็เป็นแฟนแล้ว ทำไรก็ได้ 55555

สวัสดีปีใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 31-12-2017 22:15:29
ชอบคนแบบซ่า อายแต่ใจมันก็รัก..ก็ต้องทำใจเอาให้ชิน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 03-01-2018 08:16:10
หวานกันเข้าไป มดเริ่มมาแล้วเห็นไหม?
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 03-01-2018 14:53:13
ขอหวานๆ อีกหลายๆ ตอนเลยได้ไหม หน่วงมาหลายตอนหล่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 03-01-2018 16:33:29
ซ่าน่ารัก หวานกันทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่26:: 30/12/2017 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 06-01-2018 22:47:39
ชีวิตซ่าจะค่อยๆดีขึ้นแล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 14-01-2018 19:55:03
ปราบซ่า
ตอนที่27


[ซ่า]
เพราะพี่ปราบทนไม่ไหวกับความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างอดอยากปากแห้งของผม ที่มีเพียงน้ำเปล่ากับมาม่าไว้ประทังชีวิตภายในคอนโด ผมจึงถูกหิ้วออกจากห้องไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต

"อยากได้อะไรก็หยิบเอาเลย" พี่ปราบเดินนำหน้าผมที่เข็นรถเดินตามหลัง ก่อนจะหยิบนมกล่องแบบเป็นแพ็คใส่รถเข็นสองแพ็ค

"พี่จะจ่ายเงินให้เหรอ" ผมถามแม้จะรู้อยู่แล้ว เรื่องของกินพี่ปราบมักควักจ่ายเสมอ

“ครับ ผมจ่ายครับคุณซ่า เชิญหยิบเลยครับ” พี่ปราบทำหน้าเหนื่อยหน่ายกับอาการย้ำคิดย้ำทำของผม ถ้าไม่ใช่พี่ปราบผมก็ไม่มานั่งคิดมากหรอก ผมไม่อยากให้เขารู้สึกว่าที่ผมบอกว่าชอบเขาและตกลงคบกับเขามันเพราะเรื่องเงิน ถึงผมจะขาดเงินทองใช้ แต่มันไม่จำเป็นขนาดนั้น ที่สำคัญเลยก็คือพี่ปราบ คนที่ผมอยากจะอยู่ด้วย ไม่ต้องให้เงินทองก็ไม่เป็นไร

นั่นแหละ พอพี่ปราบอนุญาต ผมก็หยิบของกินที่อยากกินใส่รถเข็น ทั้งขนมปัง ขนมห่อที่ผมชอบกินมากเป็นพิเศษ แต่ก็โดนพี่ปราบยั้งเอาไว้ได้หลายอย่าง เพราะว่าบางอย่างมันกินแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ เขาบอกว่ามันมีไขมันและคอเลสเตอรงคอเลสเตอรอลสูงสักอย่างเนี่ยแหละ ผมก็เออออตามไป ตามใจคนจ่ายเงินไว้ก่อน

“มึงทำอาหารอะไรได้บ้าง” พอเดินเข้าสู่โซนอาหารสด พี่ปราบก็หันมาถามเรื่องที่ผมไม่อยากจะตอบเลยทันที

“พี่จะให้ผมทำอาหารให้กินเหรอไง” ผมย้อนถามแทน

“เออ”

“ไข่เจียวก็ได้อยู่นะ ไข่ดาวผมก็ทำได้ ไข่ต้มก็โอเค”

“แล้วไข่มึงล่ะ”

“อร่อยเลยแหละ ถุ้ย! บ้าเหรอพี่” จะมากินไข่คนอื่นได้ไง

“ฮ่าๆๆ ก็เห็นพูดเหมือนจะเก่งแต่เรื่องไข่ๆ ทำไม...เขินเหรอ” พี่ปราบใช้นิ้วชี้สะกิดเขี่ยที่แก้มของผม มุ้งมิ้งจนต้องปัดมือเขาออก

“คนอย่างผมไม่เขินหรอก ชิวๆ” เรื่องทะลึ่งมันก็ปกติสำหรับผู้ชาย แต่ที่มันแปลกกว่าเดิมก็คือกูเคยแต่แซวเขาเรื่องใต้สะดือ มาโดนเองมันเลยจั๊กจี้พิลึก

“ไม่เขินก็ดี กูจะได้ไม่ต้องเกรงใจ” พูดแล้วก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ มันหมายความว่ายังไง พอจะถามพี่ปราบก็เดินหนีไปตักอกไก่ใส่ถุง

“ผมชอบกินน่องไก่” ผมบอกพี่ปราบที่ตักอกไก่ใส่ถุงเยอะมาก ผมไม่ชอบส่วนอกเพราะมันแห้งและจืด แต่ถ้าไม่มีอะไรกินก็กินได้

“อกไก่ไขมันมันน้อย ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ แต่ถ้ามึงอยากกินน่องก็ตักใส่ถุง”

“ครับ”

ผมกระเถิบไปตักน่องไก่ที่อยู่ในถาดใกล้ๆกัน เอาสักสี่น่องก็พอ ผมกินคนเดียว แค่นี้ก็พอ เสร็จจากไก่ พี่ปราบก็เดินไปเลือกหมูสันในกับกุ้งและปลาหมึกอีกอย่างละนิด จากนั้นก็ไปโซนผัก ผมทำกับข้าวไม่เป็น ก็เลยไม่รู้ว่าต้องเลือกอะไรยังไง แต่พี่ปราบคล่องแคล่วมาก เดี๋ยวหยิบนู่นดูนี่แล้วก็วางใส่รถเข็นที่ผมเข็นตามหลัง


ผลไม้ก็ได้มาหลายอย่าง ผมไม่มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษ จริงๆคือชอบหมดกินได้หมด ส่วนมากได้มาแบบที่ปลอกและหั่นเป็นชิ้นๆแล้ว ยกเว้นพวกองุ่นกับแอปเปิลที่ซื้อมาเป็นลูกๆ เวลากินแอปเปิลผมไม่ใช้มีดหั่นเป็นชิ้นๆ ผมชอบกัดกินเป็นลูกๆมากกว่า

เลือกของกินได้แล้ว ก็ย้ายไปหาซื้อของใช้ในห้อง ยาสระผมสบู่แทบจะหมดแล้ว ผมก็เลยเลือกซื้อไปเลย แต่เพราะพี่ปราบเองก็ใช้ด้วย เลยต้องถามความเห็นจากพี่ปราบทุกครั้งที่เลือก

หลังจากซื้อของเสร็จก็ไม่ได้แวะซื้อของอย่างอื่นหรือกินข้าวในร้านอาหาร พี่ปราบอยากกลับไปทำกินเองที่คอนโดมากกว่า ซึ่งผมก็ไม่ขัดศรัทธาเขา เพราะยังไงพี่ปราบก็ต้องเป็นคนทำอาหารเย็นอยู่แล้ว และผมก็กลายมาเป็นผู้ช่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

การเป็นผู้ช่วยเชฟในเย็นวันนี้ ผมว่าผมทำได้ดี ดูได้จากขนาดของแครอทที่จะใช้ทำแกงจืด ผมหั่นได้ขนาดกำลังกินแล้ว แต่สายตาของพี่ปราบที่เหลือบมองอย่างตำหนินั้นทำให้ผมเริ่มจะไม่มั่นใจ

“ถ้าจะหั่นใหญ่ขนาดนั้น อีกสักสองชั่วโมงมึงคงได้กินแกงจืดแน่นอน” พี่ปราบละสายตาจากกระทะเพื่อหันมาพูดกับผม

“ใหญ่ไปเหรอพี่” ผมก้มดูผลงานของตัวเองบนเขียงอีกรอบ มองยังไงๆผมว่าก็กำลังดี

“แล้วมึงเคยเห็นแครอทขนาดเท่าหัวหมาในแกงจืดไหมล่ะ”

“แหม พี่ก็พูดเกินไป มันไม่ใหญ่ขนาดนั้นสักหน่อย”

“แน่ใจ” พี่ปราบถามเสียงสูงเล็กน้อย

“เอ่อ มันก็...ใหญ่ นิดหน่อย” ผมเริ่มจะไม่มั่นใจในตัวเอง

“แค่นิดหน่อยเหรอ”

พี่ปราบปิดเตายกกระทะออกวางไว้ข้างๆ ก่อนจะเดินตรงมาดูผลงานที่ผมละเลงไว้ก่อนจะถอนหายใจ

“โถ่พี่ ก็ผมทำไม่เป็น นี่ครั้งแรกเลยนะ พี่ก็มาสอนผมสิ” ผมส่งมีดให้ แต่พี่ปราบไม่ได้รับมีดไปจากมือผม เขากลับขยับมายืนซ้อนหลัง วาดแขนโอบมือรอบตัว มือกุมมือผมที่จับมีดเอาไว้ ผมรู้สึกได้เลยว่าด้านหลังของผมแนบสนิทไปกับลำตัวของพี่ปราบ รวมไปถึงก้นที่ไม่อยากจะคิดว่าแนบสนิทติดกับอะไร

“มึงต้องจับมีดแบบนี้” พอเขาพูด ลมหายใจร้อนๆก็รินรดอยู่ข้างลำคอและใบหู ผมขนลุกเกรียวทั่วร่าง ได้แต่ยืนเกร็งและสติหลุด

“ซ่า ฟังที่พูดไหมเนี่ย”

“อ่า...” ไม่ได้ฟังไง กำลังสยิวอยู่

“พี่ถอยออกไปหน่อยดิ ผมไม่ถนัด” ผมลองกางแขนและไหล่ออก หวังให้หลุดออกจากอ้อมกอดของเขา  แต่พี่ปราบไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น แขนทั้งสองข้างที่ถือแครอทและมีดบีบกระชับตัวผมเข้าหาแน่นกว่าเดิม จากที่ไม่คิดว่าอะไรที่แนบอยู่กับก้นของผม ตอนนี้รับรู้ได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่ามันคืออะไร

แม่ง...ใหญ่ไปเปล่าวะ

"ไม่ถอย กูอยากทำแบบนี้กับแฟนมานานละ" พี่ปราบขยับแก้มแนบกับใบหน้าด้านข้างของผม

"..." เจอคนพูดตรงเกินไปก็ใช่ว่าจะดี กลายเป็นว่าไปต่อไม่ถูกเลย

"อย่ามัวแต่เขิน ตั้งใจดู คราวหน้าจะได้หั่นแครอทได้ขนาดน่ากิน” พี่

"อืม" ผมพยักหน้า แล้วก้มมองเขียง หัวใจเต้นเร็วกว่าเดิมสองระดับ
พี่ปราบเริ่มจากการสอนจับมีด กะขนาดแครอทที่จะใช้ใส่ในต้มจืด และต่อด้วยการหั่นให้เป็นดอกไม้ สองชิ้นแรกพี่ปราบทำให้ดู ก่อนจะให้ผมลองทำเอง ผมทำตามได้ไม่ยาก แต่จะง่ายกว่านี้ถ้าพี่ปราบจะเลิกกอดผมจากด้านหลังสักที

จะว่าเขินมันก็ใช่ จะว่ารู้สึกดีมากกว่านั่นก็ไม่ผิด เลยไม่รู้จะพูดไล่คนที่กอดคนอื่นแล้วเอาคางมาซบบ่าผมอย่างหน้าตาเฉยได้ยังไง

“เฮ้ หยุดมือพี่เลย” มีดเกือบบาดมือขณะหั่นแครอท เมื่อมืออุ่นร้อนเลื้อยเข้าไปในเสื้อ ไอ้ตอนที่ลูบอยู่ตรงเอวก็กระแอมไอไปแล้วที แต่นี่เลื่อนขึ้นสูงจนเกือบจะโดนนม ซึ่งเป็นจุดที่ผมรู้สึกไวที่สุด ดังนั้นต้องห้ามไว้ก่อนจะเลยเถิด

ตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่าชอบพี่ปราบ ผมก็รู้แล้วว่าผมจะไม่เหมือนเดิม จากที่เคยรุกก็ต้องเปลี่ยนเป็นรองรับ ต่อให้ผมอยากเป็นผู้นำ แต่พี่ปราบก็คงไม่ยอม แต่จะให้ผมยอมเลยก็ยังทำใจไม่ได้ ผมรู้ว่าว่าผมควรต้องศึกษาไว้บ้าง แต่เอาเข้าจริงผมก็เลือกที่จะปิดหูปิดตาตัวเอง แล้วบอกว่ามันยังไม่ถึงเวลานั้น ลามไปถึงมันคงไม่เกิดขึ้น

แต่เมื่อตะกี้ที่พี่ปราบลูบเอวลูบท้องจนเกือบจะไปหัวนม บางอย่างที่จ่อแนบอยู่ตรงก้นผมมันก็แข็งตัวขึ้นมา ทำให้ผมได้รู้ว่าพี่ปราบก็เป็นผู้ชายที่มีความต้องการเป็นปกติ แต่ไม่ปกติตรงที่มีปราบมีอารมณ์กับผู้ชายอย่างผมไง เป็นไปได้เหรอวะ ผมไม่มีนมไม่มีสะโพก ตัวก็ไม่นิ่ม ทำไมพี่ปราบถึงมีอารมณ์

“ทำไมผอมแบบนี้ มึงต้องกินเยอะๆ ลูบไปเจอแต่กระดูก” พี่ปราบหยุดมือที่กำลังลวนลามผม แต่บ่นเรื่องรูปร่างแทน

“ผมก็กินเยอะอยู่นะ แต่มันไม่อ้วน” ผมหั่นแครอทรูปดอกไม้เสร็จ ก็ส่งต่อให้พี่ปราบเอาไปทำต้มจืด

“ก็มึงกินแต่ของไม่มีประโยชน์ กินแต่มาม่างี้ อาหารแช่แข็งงี้ หนักกว่านั้นคือไม่กินอะไรเลย ต่อไปนี้ถ้าทำแบบนั้นอีกกูจะตีมึง” พี่ปราบหันมาพูดขู่ ผมก็ทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินหนีไปดูโทรศัพท์แทน

ใครจะอยากอดข้าว แต่มันไม่มีเงินให้ซื้อกิน จะทำยังไงได้










เวลาเช้าๆแบบนี้ ผมควรจะได้นอนหลับสบายอยู่บนเตียง แต่พี่ปราบไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น ปลุกผมตื่นตั้งแต่ตอนตีห้าครึ่ง ใช้เวลาล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าสิบนาทีก็โดนลากออกจากห้อง พาผมมาที่สวนสาธารณะใหญ่ใจกลางกรุงเทพเพื่อพาผมมาวิ่ง และเขาก็เตรียมตัวให้ผมอย่างดีไม่ให้ผมปฏิเสธได้ ตั้งแต่เสื้อผ้าออกกำลังกาย รองเท้าผ้าใบยี่ห้อไนกี้ที่ผมอยากได้แต่ไม่มีปัญญาซื้อ ขนาดผ้าขนหนูผืนเล็กก็ยังเตรียมให้ผมเลย นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีนาฬิกาอะไรสักอย่างที่คำนวณระยะทางที่วิ่ง และตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

ผมเริ่มวิ่งตั้งแต่หกโมงเช้า วิ่งได้แค่สิบนาทีผมก็เริ่มไม่ไหวแล้ว พอเข้านาทีที่ยี่สิบผมก็หมดแล้ว นั่งแผ่หลาอยู่บนม้านั่ง พี่ปราบที่นำหน้าผมไปและไม่ทันมองว่าผมไม่ได้วิ่งตาม วิ่งครบรอบกลับมาเจอผมที่นั่งเป็นหมาหอบแดก รู้สึกว่าหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ผมว่าผมก็ทำงานหนักตลอดนะ ขนเล็กขุดท่อ แต่ไม่รู้สึกจะขาดใจเหมือนตอนนี้

“ไหวไหมซ่า” พี่ปราบถาม น้ำเสียงของเขายังราบเรียบ ดูเหมือนไม่เหนื่อย ไม่เหมือนผมที่แค่จะหายใจยังลำบาก ได้แต่โบกมือตอบว่าไม่ไหว

“งั้นวันนี้พอแค่นี้ละกัน นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อน กูจะเดินไปซื้อน้ำเปล่ามาให้”

“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและสั่นพร่า พี่ปราบจ้องหน้าผม ทำหน้าครุ่นคิดอะไรสักอย่างก็จะออกเดินไปที่ร้านค้าขายน้ำ

ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมขวดน้ำสองขวด ส่งให้ผมขวดหนึ่ง ผมดื่มรวดเดียวครึ่งขวด เกือบจะสำลัก ดีที่ปรับจังหวะหายใจทัน น้ำที่เหลือผมก็ลาดหน้าตัวเองเป็นการล้างหน้าไปเลย เริ่มจะหายเหนื่อยก็รู้สึกสดชื่นขึ้นทันตา

พวกเราเดินกลับไปที่รถ ขับไปกินเกาเหลาเลือดหมูเจ้าดังที่จะเปิดแค่ตอนเช้าเท่านั้น สักสิบโมงเช้าก็ปิดร้านแล้ว ร้านนี้ผมเป็นคนแนะนำพี่ปราบเอง อยู่ในซอกหลืบหน่อยแต่ว่าอร่อยเหาะมาก

กินมื้อเช้าเสร็จก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง วันนี้มีปราบเจองานด่วน เลยไม่ได้ไปส่งผมที่โรงเรียน ทิ้งเงินไว้ให้ผมขึ้นแท็กซี่ไปเอง แต่ผมไม่ได้นั่งแท็กซี่หรอก มันเปลือง นั่งรถเมล์ก็ถึงเหมือนกัน แค่สิบสามบาทเองด้วย เงินที่เหลือผมเก็บไว้ซื้อขนมกินดีกว่า

วันนี้เป็นวันที่ผมตั้งใจเรียนมากอีกวันหนึ่ง เรียนเสร็จผมก็รีบเก็บกระเป๋าออกจากห้องเรียน เมื่อตอนเที่ยงพี่ปราบโทรบอกว่าตอนเย็นจะมารับผมที่โรงเรียน ตอนนั้นผมอยู่กับพวกไอ้หวายไอ้กานไอ้ตูนและไอ้นุ๊ก เรียกว่าครบแก๊ง ก็โดนแซวไปตามระเบียบ

ผมรีบวิ่งออกจากห้องเรียนตรงไปหาพี่ปราบหน้าโรงเรียน เพราะพี่ปราบน่าจะมาถึงแล้ว บวกกับผมไม่อยากให้ไอ้พวกเพื่อนผมมันมาเจอด้วย ผมขี้เกียจฟังพวกมันล้อ แต่ผมก็ช้ากว่าพวกมันอีกแล้ว แล้วดูหน้ายิ้มล้อของพวกมันนะ กวนตีนฉิบหาย

“วิ้ว เมื่อไหร่กูจะมีใครมารับมาส่งแบบนี้บ้างวะ”

“นั่นดิ กูก็อยากได้แบบนี้บ้าง”

“ฮ่าๆๆ”

ผมเกลียดพวกมัน

“เอ้อ เพิ่งนึกขึ้นได้ ไอ้ซ่า มึงติดเงินพนันพวกกูอยู่นะ” ไอ้ตูนพูดทวงเงินขึ้นมา ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยพนันอะไรกับพวกมันเอาไว้ เพราะตอนนั้นเอาแต่เศร้าคิดว่าชีวิตผมจะไม่มีพี่ปราบอีกแล้ว

และในเมื่อผมลืมไปแล้ว ทำไมพวกมันถึงยังจำได้วะ แล้วทำไมต้องพูดตอนที่พี่ปราบอยู่ด้วย ไม่จ่ายดีไหม

“พนันอะไรกัน” พี่ปราบหันมาเค้นผมทันที “อย่าบอกนะว่าพวกมึงเล่นการพนัน”

“เฮ้ย เฮียพูดไรเนี่ย ไม่ได้เล่นการพนัน” ไอ้หวายโบกมือปฏิเสธ หน้าตาแตกตื่น

“ใช่ๆเฮีย พูดซะน่ากลัวเลย” ไอ้กานรีบเสริม

“แล้วมันยังไง พวกมึงพูดมาเดี๋ยวนี้เลย” พี่ปราบซักไซ้ ทั้งยังหันมาจ้องหน้าผมที่ทำหน้าเบื่อหน่าย ในเมื่อไม่ได้คำตอบจากผม ก็หันไปจ้องไอ้หวายแทน

“ก่อนหน้านี้พวกผมแค่พนันกันเฉยๆว่าเฮียชอบไอ้ซ่ามันเหรอเปล่า แล้วไอ้ซ่ามันโง่ไง คิดว่าเฮียไม่ได้ชอบมัน พวกผมเลยต้องพนันกันว่าใครคิดถูก สรุปก็คือไอ้ซ่าแพ้พนันพวกผมเพราะเฮียชอบมันจริงๆ ก็แค่นี้แหละเฮีย”

พี่ปราบยืนฟังนิ่ง ในขณะที่ผมได้แต่ยืนเซ็ง ไม่ได้เซ็งที่พี่ปราบชอบผมนะ แต่เซ็งที่ต้องเสียเงินให้พวกมันต่างหาก ตั้งหนึ่งพันบาทเลยนะ ผมกินได้ตั้งหลายมื้อ

“เท่าไหร่” พี่ปราบถามขึ้น เอื้อมมือมาจับแขนผมที่กำลังรื้อหากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าเป้ ผมเงยหน้ามอง พี่ปราบส่ายหน้า

“หนึ่งพันบาทครับ” ไอ้นุ๊กตอบพี่ปราบ เขาพยักหน้าเขาใจก่อนจะควักเงินในกระเป๋าส่งให้พวกมัน แต่ทำไมให้ไปตั้งสี่พันวะ

“พี่ปราบ ให้มันทำไมเยอะแยะ สี่คนหนึ่งพัน ไม่ใช่คนละพันนะพี่” ผมรีบท้วงคิดว่าพี่ปราบเข้าใจผิด

“ให้ค่าขนมพวกมันที่ดูแลมึงไง” พี่ปราบลูบหัวผมให้ใจเย็น แต่คือมันไม่ใช่ไง

“แต่พี่ก็ไม่น่าให้มันเยอะขนาดนั้นอ่ะ พวกมึงเอาเงินคืนพี่ปราบไปเลย ค่าพนันแค่พันเดียว นี่มึงเอาไปตั้งสี่พัน”

“แหม เดี๋ยวนี้มีการดูแลเงินผัวนะมึง นี่เพื่อนไง เพื่อนที่คอยดูแลทะนุถนอมตอนที่มึงเสียใจอ่ะ จำไม่ได้เหรอ” ดูความกวนตีนของไอ้กานนะ ทะนุถนอมอะไร เอาแต่ด่าและตอกย้ำซ้ำเติมผมละไม่ว่า

“ผัวเหี้ยไรของมึง” ผมกัดฟันถลึงตาใส่ไอ้กานที่พูดจาเหลวไหล

“อ่ะๆ มาทำเป็นเขินนะกิ่วกิ้ว”

“กิ้วพ่องมึงสิ” ผมตีมือมันที่เอามาเขี่ยแก้มผม พอเห็นผมคบกับพี่ปราบ มันก็เล่นกับผมเหมือนผมเป็นผู้หญิง

“พอๆ เลิกแกล้งคนของกูได้ละ ได้เงินแล้วก็แยกย้าย” พี่ปราบดึงแขนผมที่กำลังจะตีกับไอ้กานลากไปที่รถ ผมตะโกนด่าพวกมันส่งท้ายก่อนจะขึ้นรถ

เย็นนี้ผมต้องไปทำงานที่ร้านอาเจ พี่ปราบพาผมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโด ขณะที่นั่งรอผม พี่ปราบก็โทรศัพท์คุยงานกับเลขาและกับคนอื่นอีกวุ่นวาย แต่เป็นเรื่องงานทั้งหมด สายตาก็จดจ่ออยู่กับไอแพดที่แสดงกราฟอะไรก็ไม่รู้ดูไม่รู้เรื่อง โลกการทำงานของพี่ปราบผมเข้าไม่ถึงจริงๆ และไม่รู้ว่าจะช่วยแบ่งเบาได้ยังไง เพราะผมไม่อยากเห็นใบหน้าเคร่งเครียดของพี่ปราบสักเท่าไหร่ ตั้งแต่กลับมาที่ห้องเพื่อรอผมเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่ปราบก็เอาแต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แถมบางครั้งงานเหมือนจะไม่ถูกใจก็โวยวายเสียงต่ำใส่คนที่โทรมา ทำเอาผมสะดุ้งตั้งหลายรอบ ถ้าผมเป็นคนปลายสายแล้วโดนด่าแบบนี้ กูร้องไห้อ่ะบอกเลย

ก็ได้แต่บอกตัวเองไว้ว่า อย่าทำให้พี่ปราบโมโห

ผมแต่งตัวเสร็จแล้ว ดูนาฬิกาที่บอกเวลาบ่ายสามครึ่ง ยังเหลือเวลาให้อ้อยอิ่งได้อีกเกือบชั่วโมง ผมที่อาบน้ำเสร็จแล้วแต่ใส่แต่กางเกงยีนส์ กระโดดขึ้นเตียงแล้วนอนพักสายตาแปบ เสื้อยังไม่ใส่เพราะกลัวมันจะยับตอนผมนอนงีบ กำลังเคลิ้มๆหลับก็รู้สึกว่าตัวเองถูกกอดจากข้างหลัง

“พี่...” ผมครางเรียกคนที่ขึ้นมานอนกอดผมเสียงเบา

“ให้นอนอีกสิบนาทีนะ” พี่ปราบกระซิบบอก แล้วกดจูบที่ขมับ

“ครับ” ผมตอบแล้วปล่อยให้ตัวเองกลับไปอีกครั้ง

ครบสิบนาทีพี่ปราบก็ปลุกผมให้ตื่นไปทำงาน เขาไม่เรียกไม่เขย่าตัว แต่ปลุกด้วยการจูบผมจนรู้สึกตัวตื่น

แรกๆก็คิดว่าตัวเองฝัน แต่ความชื้นแฉะและช่องท้องที่บิดตัวเสียวซ่านเกินจริง ทำให้ผมรู้ตัวว่าถูกลวนลามเข้าให้แล้ว แถมพอผมตื่นลืมตาแล้วส่งเสียงประท้วงในลำคอ แทนที่พี่ปราบจะหยุด กลับจูบหนักหน่วงและลึกซึ้งขึ้น ลิ้นของผมถูกฉกไปดูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ริมฝีปากทั้งบนและล่างถูกขบเม้มหนักเบาจนเริ่มเจ็บและชา ร่างกายของผมตื่นตัวขึ้นตามการปลุกเร้าขึ้นเรื่อยๆ มือใหญ่ร้อนที่ลูบไล้ตั้งแต่เอวขึ้นมาจนถึงหน้าอก ปลายนิ้วสะกิดเบาๆที่หัวนม ผมเกร็งตัวงอแล้วร้องครางเสียงหลง เป็นเสียงร้องที่โคตรจะน่าเกลียดและรับตัวเองไม่ได้ ทำไมถึงร้องอย่างกับผู้หญิงวะ ผมไม่ควรทำเสียงแบบนั้น พอพี่ปราบผละจากริมฝีปากไปไซ้ที่ซอกคอ ผมจึงเม้มปากแน่นไม่ให้ตัวเองร้องครางน่าเกลียดออกมา และเพื่อไม่ให้มันเลยเถิดไปมากกว่านี้ ผมต้องหยุดพี่ปราบโดยเฉพาะมือที่เลื่อนลงต่ำเพื่อปลดกระดุมกางเกงยีนส์

“พี่ปราบพอ พอแล้ว” ผมร้องห้ามเสียงกระท่อนกระแท่น

“ไม่ทำอะไรหรอกน่า” ปากบอกว่าไม่ทำอะไร แต่มือก็ไม่หยุดปลุกปั่นอารมณ์ของผม

“ไม่เอา อึก...อย่าลูบ” ผมเอื้อมมือไปจับมือพี่ปราบไม่ให้ลูบคลึงน้องชายของผม เดี๋ยวมันตื่นขึ้นมาแล้วจะยุ่ง แค่นี้ก็เริ่มจะตั้งลำแล้ว อีกอย่างคือผมไม่พร้อม

“เฮ้อ เด็กน้อยเอ้ย” พี่ปราบถอนหายใจใส่หูผม ก่อนจะหยุดมือ ทิ้งท้ายด้วยจูบหนักๆอีกหนึ่งที จากนั้นเขาก็ลุกออกจากตัวผมไปนอนแผ่บนเตียง แต่ไม่วายดึงผมขึ้นไปกอดเกยบนตัว

“พรุ่งนี้วันเสาร์ เลิกงานแล้วไปนอนกับกูนะ”

“ห๊ะ?” ผมอุทานเสียงหลง พลางลอบกลืนน้ำลาย

“แค่นอนเฉยๆน่า กลับไปนอนที่คอนโดกู พรุ่งนี้กูมีงานแต่เช้า ไม่สะดวกมานอนกับมึงที่นี่”

“งั้นพี่ก็กลับไปนอนที่ห้องก็ได้นี่ ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนผมหรอก”

“มึงนี่ชอบคิดเลยเถิดนะ ที่บอกว่าให้ไปนอนกับกูนะ คือกูอยากนอนกอดมึง แล้วไม่ต้องทำตาถลน กูรู้ว่ามึงยังไม่พร้อม แม้ว่ากูจะอยากเอามึงแค่ไหนก็ตาม กูจะทนไปอีกสักพักรอจนกว่ามึงจะพร้อมก็แล้วกัน”

“พูดอ้อมๆก็ได้มั้ง” ถ้าไม่ติดว่าจะทำให้คนมองทุเรศลูกตา ผมคงมองค้อนพี่ปราบไปแล้ว

“ไม่ล่ะ เสียเวลาทำมาหากิน”

ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อก็เลยนอนเงียบๆ เขาจะรอจนกว่าผมจะพร้อม แต่ผมมองไม่เห็นวันนั้นเลย ไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกว่าพร้อมที่จะเป็นฝ่ายถูกกด แม่งทำใจลำบากจริงๆ

ในเมื่อพี่ปราบบอกว่าอยากให้ผมไปนอนด้วยเฉยๆ ผมก็ตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องคิด เพราะผมเองก็อยากนอนกับพี่ปราบเหมือนกัน คนเป็นแฟนกันนอนด้วยกันมันก็เรื่องปกติในความคิดผม เพียงแต่ว่าเรื่องนั้น...ผมยังไม่กล้าจริงๆ

ผมมาถึงร้านอาเจก่อนเวลาร้านเปิดยี่สิบนาที ก็เข้าไปช่วยนับของและเตรียมเปิดร้าน ส่วนพี่ปราบขึ้นไปหาอาเจที่ห้องทำงาน จนกระทั่งร้านเปิดและมีลูกค้าเข้ามาในร้าน ผมที่ทำหน้าที่อยู่หน้าบาร์เครื่องดื่มคู่กับพี่บิ๊ก ค็อกเทลแก้วแรกลูกค้าสั่งเครื่องดื่มสูตรที่ผมยังไม่เคยทำ พี่บิ๊กเลยสอนและกำกับผมทีละขั้นตอน ก่อนนำไปเสิร์ฟพี่บิ๊กแบ่งเหล้าออกมาชิมหนึ่งจิบ เมื่อรสชาติไม่เพี้ยนก็ให้พนักงานนำไปเสิร์ฟลูกค้าได้

หลังหกโมงครึ่งลูกค้าก็เริ่มแน่นร้าน เครื่องไหนที่ผมทำจนคล่องมือพี่บิ๊กก็ลงมาให้ผมทำแทบจะทั้งหมด เพราะวางใจให้ผมทำโดยไม่ต้องคอยยืนกำกับได้ เพราะต้องใส่ใจคุณภาพและรสชาติของอาหารและเครื่องดื่ม ผมถูกกำชับให้ใส่ใจทำงานเป็นพิเศษ เพื่อที่ร้านจะได้ไม่เสียชื่อเสียง

ผมทำงานยุ่งจนหัวหมุนไปหมด คืนวันศุกร์และเป็นศุกร์สิ้นเดือนคนเลยเยอะมากกว่าปกติ ผมเองก็ขยันทำงานเต็มที่เพราะพรุ่งนี้เงินเดือนจะเข้า ผมคิดว่าเดือนนี้น่าจะได้ทิปเยอะกว่าเดือนที่แล้ว เพราะแค่คืนนี้คืนเดียวผมรับทิปจากลูกค้าไม่ต่ำกว่าสิบรายแล้ว มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ขั้นต่ำก็หนึ่งร้อยบาท มากสุดที่รับคืนนี้ก็ห้าร้อยบาท คนให้เมามาก ผมบอกแล้วว่าให้มาห้าร้อยแกก็โบกมือว่าให้รับๆ ผมจะไม่เอาแกก็โวยวายใส่ เลยต้องรับมา ถ้าเอาทิปทั้งหมดมารวมกันและแบ่งจ่าย ผมคิดว่าของวันนี้วันเดียวก็น่าจะได้เกินสองร้อยบาทอยู่ แค่คิดก็มีความสุขแล้ว

“หน้าตามึงดูอิ่มเอิบขึ้นนะ ตั้งแต่คบกับเฮียนี่ชีวิตมีความสุขขนาดนั้น” พอลูกค้าว่าง ปากพี่บิ๊กก็ว่างตามเช่นกัน

“ก็ดี” ผมตอบสั้นๆกลางๆ แต่พี่บิ๊กแสยะยิ้มกวนประสาทใส่ผม

“ไม่ใช่มั้ง มึงต้องตอบว่าดีมากๆ” พี่บิ๊กทำมาเป็นแก้คำพูดให้ผม แต่ผมไม่ยอมรับหรอกว่ามันดีมากจริงๆ

“แล้วแต่พี่จะคิด” ผมไหวไหล่ไม่สนใจสายตาล้อเลียน

“เฮ้อ กูละอยากรู้จริงๆว่ามึงไปทำเสน่ห์วัดไหนมา ถึงทำให้เฮียรักเฮียหลงได้ขนาดนี้”

“เฮียเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย ผมไม่ได้ทำเสน่ห์อะไรทั้งนั้นแหละ แล้วพี่ปราบก็ไม่ได้เป็นแบบที่เฮียพูดด้วย” ผมแก้ไขความเข้าใจผิดๆให้ใหม่ แต่พี่บิ๊กส่ายหน้า ขยับเข้ามากอดคอผมแล้วก้มหน้าลงมากระซิบ

“มึงแน่ใจ?”

“แน่ใจสิ”

“ถ้าไม่รักไม่หลง จะมาตามเฝ้าไปรับไปส่งเหรอไง เฮียปราบทำเหมือนว่างงานทั้งที่งานยุ่งจะตายห่า”

ผมไม่รู้จะแย้งยังไง เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมก็บอกพี่ปราบแล้วว่าไม่ต้องไปรับไปส่ง ผมโตแล้ว แถมเป็นผู้ชายตัวโตเท่าควาย ไม่ต้องมาดูแลอะไรมากมายเหมือนผู้หญิง แต่พี่ปราบก็ไม่ยอม ถ้าไม่ติดงานด่วนจี๋แบบไม่ไปไม่ได้ เขาก็จะต้องรับส่งผมตลอด

“นี่ไอ้ซ่า กูถามอะไรหน่อยดิ” พี่บิ๊กวาดมือคล้องคอผมเข้าใกล้แล้วกระซิบถามเสียงเบา เหมือนกลัวใครจะได้ยิน

“อะไร” ผมยกแขนพี่บิ๊กออกจากคอ แต่แกก็ยกแขนกอดคอผมอีกครั้ง รัดแน่นกว่าเมื่อกี้จะอึดอัด

“เฮียลีลาดีเปล่าวะ เป็นไงบ้าง แล้วของเฮียใหญ่ไหม”

ไอ้พี่บิ๊ก!!!

“ถามอะไรวะพี่”

“เอ้า ก็กูอยากรู้ ตอบมาดิ”

“ไม่” จะให้ตอบอะไรได้วะ ในเมื่อผมยังไม่เคยโดน ผมเพิ่งจะคบกับพี่ปราบมาได้อาทิตย์กว่าเองนะเว้ย ไม่ได้ไวไฟขนาดนั้นเสียหน่อย แม้ว่าเมื่อตอนเย็นจะเกือบๆก็เถอะ

“อย่าเก็บเงียบดิวะ เล่าให้ฟังหน่อยว่ามึงรู้สึกยังไง ดีเปล่าวะ”

ผมมองพี่บิ๊กอย่างรำคาญ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น หลบซ่อนไม่หน้าที่เริ่มจะเห่อร้อน แต่สายตาดันสบเข้ากับพี่ปราบที่เดินลงบันไดตรงมาหาผม สายตาเข้มมองจ้องผมดุดัน อารมณ์ไม่ดีเหรอวะ 

“ไอ้บิ๊ก เอามือมึงออกเดี๋ยวนี้” เดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์พี่ปราบก็พูดเสียงดุ นิ้วชี้กระดิกให้พี่บิ๊กเอามือออก ผมเบี่ยงตัวออกจากแขนพี่บิ๊กทันที แต่พี่บิ๊กก็รวบคอผมเข้าไปกอดได้อีกรอบ

“อะไรนะเฮีย ไม่ได้ยินเลยอ่ะ” แทนที่จะทำตาม เฮียบิ๊กเลือกที่จะกวนประสาทพี่ปราบแทน แน่ใจนะว่าพี่บิ๊กที่เคารพพี่ปราบจริงๆ

“อยากโดนไล่ออกไปรักษาหูก่อนไหมล่ะมึง” แววตาพี่ปราบไม่ล้อเล่นเลยสักนิด ผมยกยิ้มขำบางๆ รู้สึกสนุกที่พี่บิ๊กโดนแกล้งคืนบ้าง

“หู้ย เล่นแรงว่ะเฮีย ผมไม่พิศวาสมันหรอก อย่างไอ้ซ่านี่มีอะไรดี ผอมแห้งขนาดนี้ ไม่เร้าใจผมสักนิด” ไม่พูดดูถูกผมเปล่าๆ ผลักผมออกห่างอย่างแรงจนเซด้วย ไอ้พี่นิสัยไม่ดีชอบแกล้งน้อง

“นั่นมันเรื่องของมึง นู่นลูกค้า” พี่ปราบทำหน้าไม่แยแสใดๆ ชี้นิ้วไปทางลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาและเลือกนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ ห่างจากพวกผมไปสี่ที่นั่ง

“ไอ้ซ่า ไปรับออร์เดอร์ลูกค้าไป” พี่ปราบใช้พี่บิ๊ก พี่บิ๊กก็ไม่ใช้ผมต่อ และผมที่เป็นรุ่นน้อง ก็ต้องเดินไปหาลูกค้าตามคำสั่ง เดินไปได้สองก้าวก็โดนพี่ปราบดึงแขนไว้ไม่ให้เดินไป

“ซ่า ไม่ต้องไปทำ กูใช้มึงไอ้บิ๊ก”

“แต่ไอ้ซ่ามันเด็กเทรนผมนะเฮีย นี่เป็นหน้าที่ผม”

“กูจะให้เด็กกูพัก มึงจะทำไม”

“ก็ไม่ทำไมหรอก ผมไปทำเองก็ได้ เชิญมึงพักได้ตามสบายเลยนะน้องซ่า” พี่บิ๊กฉีกยิ้มกว้างลวงโลกพร้อมผายมือให้ผมพักได้ตามสบาย ก่อนจะรีบเดินไปรับแขกผู้หญิง ทีแรกทำเป็นไม่อยากไป แต่เจอสาวสวยเข้าหน่อยก็ชวนเขาคุยไม่ห่าง

“มึงก็เหมือนกัน กับกูนี่หวงตัวจัง กับไอ้บิ๊กนี่เดี๋ยวให้มันกอดๆ” ตรงนี้ไม่เหลือใครคนอื่น พี่ปราบก็หันมาดุผม คิดว่าจะรอดแล้วเชียว

“ผมเปล่าซะหน่อย” ผมปฏิเสธ ก็ผมไม่ได้เต็มใจ ไม่เหมือนพี่ปราบที่ผมเต็มใจให้กอด แต่ต้องอยู่ในห้องนะ ถ้าอยู่ข้างนอกผมยังไม่หน้าด้านพอ

“เปล่าอะไร กูไม่เห็นมึงขัดขืนเลย” 

“ผมขัดขืน พี่ไม่เห็นเอง”

“มึงแน่ใจ”

“ผมแน่ใจดิ”

“ช่างเถอะ เดี๋ยวกูจัดการมันเอง”พี่ปราบตัดบท แต่สีหน้ายังคงดุดัน

“พี่จะเอาอะไรไหม” ผมเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อพี่ปราบไม่ติดใจเอาความอะไรต่อ

“มึงอยากดื่มอะไร” ผมยืนงงกับคำถามของพี่ปราบ “อยากกินอะไรก็ทำมาสองแก้ว กูจ่ายเอง”

“ผมทำงานอยู่นะ จะดื่มได้ไง”

“กูซื้อดริ๊งก์มึงไง ทำไมมึงจะดื่มไม่ได้”

“เอ่อ...” นี่ผมกลายเป็นเด็กนั่งดริ๊งก์เหรอวะ

“เร็วสิครับน้อง พี่ทิปหนักนะ เดี๋ยวจ่ายทิปให้ทั้งคืน” ทั้งยิ้มกริ่มทั้งสายตาเจ้าชู้ ถ้าผมจะไม่เขินก็คงจะตายด้านไปแล้ว






…………………………………………………….
สวัสดีค่ะ ต้องขอโทษที่หายไปสิบกว่าวัน พอดีลงไปบินที่กระบี่ เอาคอมไปแต่ไม่เอาที่ชาร์ตไป จบข่าวเลยค่ะ แต่นี่กลับมาบ้านแล้ว วันนี้เลยรีบมาลงให้อ่านเลย ตอนนี้ก็หวานๆกันไป เป็นแฟนกันแล้ว แต่อิพี่ก็ยังคงเต๊าะว่าที่เมียได้อยู่ ชอบนักเห็นเด็กโข่งหัวแห้งๆเขิน เพราะมันดูน่ารักและตลกไปพร้อมกัน ฮา
จริงๆอีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว แต่เรื่องราวต่อจากนั้นจะไปอยู่ในตอนพิเศษ หวังว่าจะติดตามกันไปจนจบเรื่องนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นและคำทักทายที่ให้ริริมานะคะ ซาบซึ้งใจ รักที่สุดเลย

เจอกันตอนหน้านะคะในวันพรุ่งนี้นะคะ  :katai3:

ด้วยรัก  :L1:

ริริ
 :bye2:

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-01-2018 20:05:37
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 14-01-2018 20:17:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-01-2018 20:24:29
โอยๆ..........อยากได้อย่างพี่ปราบ  :ling1: :ling1: :ling1:

พี่ปราบ ซ่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
พี่ปราบ น่ารัก อบอุ่น ดแลซ่าดีมาก ทุกอย่าง
ซ่าได้คนรักสุดยอดดดดด
อย่างที่บิิ๊กบอกเลย ซ่าทั้งผอมแห้ง พี่ปราบมาหลงซ่าได้ไง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:         
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 14-01-2018 20:32:18
ขำความซื้อดริ้ง 5555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 14-01-2018 20:47:07
ขอยืมพี่ปราบควงซักคืนได้มั้ยน้องซ่า ตอนนี้มีความอิจฉาเบาๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 14-01-2018 20:54:56
แบบพี่ปราบ หาได้จากไหนคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-01-2018 21:03:28
อยู่ดีมีความสุขพี่ก็ดีใจ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 14-01-2018 21:23:06
 :m20: แม่ง...ใหญ่ไปเปล่าวะ รอวันซ่าพิสูจฮ่าๆๆๆ  แน่ใจหรอซ่าว่าไม่รู้ว่าทำไมพี่ปราบมาอารมกับหุ่น ซ่า รอวัน
ว่ามันยั่วพี่ปราบ ฮ่าาา

อิเฮีย นี้เต็าะเมียได้น่ารักดีจริงๆๆ


ขออรกๆ ซ่าเขินแล้วโคจรน่ารักเลย ฮ่าๆๆๆๆ

้ยังไม่อยากไห้จบคะ หน่วงมาตั้งนาน ฮือออออ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 14-01-2018 21:24:11
อิจฉา ครับ อิจฉา  :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-01-2018 22:40:57
พี่ปราบ พี่ปราบ ... อร๊ายยย เขิน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 14-01-2018 23:11:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 14-01-2018 23:12:59
อุแหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 14-01-2018 23:20:30
น่ารักกรุบกริบจริงๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 14-01-2018 23:34:13
ขอซื้อดริ้งค์พี่ปราบแทนได้มั้ยคะ 555
ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งนาน ในที่สุดน้องซ่าก็รู้ใจตัวเองเสียที หลักจากทำแม่ยกพี่ปราบ(ฮา)อย่างเราเสียน้ำตาให้หลายตอน

หวังว่าพี่ปราบจะประสบความสำเร็จในการเต๊าะเมียเด็กในเร็ววันนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 15-01-2018 00:20:15
ความเต๊าะ ว่าที่เมียของเฮียปราบบบบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-01-2018 00:30:56
ซ่าไม่รู้หรือไง หุ่นแห้ง ๆ อย่างซ่าล่ะที่พี่ปราบชอบบบบบ  :o8:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 15-01-2018 08:12:26
โว๊ะ..พี่ปราบมัน  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 15-01-2018 13:32:10
เฮ้ย คือดีมากอะนิยายเรื่องนี้ อ่านตอนแรกๆนึกว่าไม่มีอะไร แต่จริง ๆ ซ่อนอะไรไว้เต็มไปหมด ซ่ามีพัฒนาการเด่นชัดมาก พระเอกแบบพี่ปราบเนี่ยเกิดมาสมเป็นพระเอกจริง ๆ คือรักและหวังดี ให้สิ่งดีๆให้ความดูแลใส่ใจแบบทำให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น แบบน้องซ่ามีความคิดที่ดีขึ้นและรู้จักรักตัวเองแล้วอะ โอ้ย ผู้ชายแบบนี้อย่าปล่อยให้หลุดมือนะซ่าเอ๊ย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 15-01-2018 17:35:34
ปราบทำซะสงสารซ่าเลย ไม่รู้จะต้องม้วนกลับบ้านไหม

ชอบอะ ปราบดูแลดี และซ่าก็ปรับไปเยอะ เข้าใจเยอะขึ้น

ไฟติดตลอดนะปราบนะ ขึ้นง่ายเหลือเกิน 55555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่27:: 14/1/2018 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-01-2018 19:42:50
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 15-01-2018 22:40:56
ปราบซ่า
ตอนที่28


[ซ่า]
เป็นไปตามคาดหมาย วันถัดมาเงินเดือนผมเข้า ทิปที่เอามารวมกันทั้งเดือนแล้วแบ่งตามจำนวนพนักงานเดือนนี้ได้ถึงสามพันกว่าบาท เงินเดือนอยู่กับผมไม่เกินวัน ก็โอนย้ายไปอยู่ในบัญชีของแม่ครึ่งหนึ่ง ผมต้องแบ่งเก็บไว้จ่ายค่าเทอมเทอมสุดท้ายด้วยห้าพันบาท ค่าเช่าคอนโดที่ต้องจ่ายพี่ปราบอีกสามพันบาท เท่ากับว่าเดือนนี้ผมมีใช้จนถึงสิ้นเดือนสองพันกว่าบาท

คงไม่หนักหนาอะไรเท่าไหร่ ค่ากินส่วนมากพี่ปราบออกให้ ที่จะต้องจ่ายเองก็ค่าข้าวมื้อกลางวันที่โรงเรียนวันละห้าสิบบาท ที่เหลือก็ค่ารถซึ่งพี่ปราบไปรับไปส่งตลอด มีไม่เกินสองครั้งจะได้ไปเองหรือกลับเอง สองพันกว่าบาทผมน่าจะพอใช้อยู่

“ทำอะไรอยู่ หน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว” พี่ปราบเดินมายืนอยู่ข้างๆผมที่นั่งคำนวณเงินอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวในคอนโดของพี่ปราบ

“ไม่มีอะไรพี่” ผมรวบกระดาษที่บวกลบรายรับรายจ่ายไว้ไม่ให้พี่ปราบเห็น ปกติผมไม่ใช่คนทำอะไรรอบคอบอย่างการทำบันทึกรายรับรายจ่าย แต่ผมคิดแค่ครั้งเดียวตอนได้เงินมาเท่านั้นว่าต้องจ่ายอะไรก่อนบ้างแล้วเหลือเท่าไหร่ที่ใช้ได้ ซึ่งเงินก็เหลือประมาณเท่านี้ตลอด เดือนที่แล้วเหลือน้อยกว่านี้ผมยังอยู่มาได้เลย

“กระดาษอะไรเอามาดูสิ” พี่ปราบแบมือขอกระดาษทดเลขในมือผม

ผมส่ายหน้า “ไม่มีอะไรหรอก แค่เศษกระดาษอ่ะ ผมจะเอาไปทิ้งแล้ว”

“เอามาสิ เดี๋ยวกูทิ้งให้”

“ผมทิ้งเองได้” ผมเอากระดาษไปหลบข้างหลัง พี่ปราบหรี่ตามองตามมือผมทันที

“ถ้าไม่มีอะไรทำไมให้ดูไม่ได้”

“ก็...คือ...”

“เท่าที่กูเห็นเมื่อตะกี้ เงินเดือนนี้หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือแค่พันเดียวเองเหรอซ่า”

“สองพันกว่าบาทต่างหาก”

“...”

เหี้ยแล้ว หลุดปากได้ไงวะเนี่ยกู

ผมยิ้มแหยะๆที่โดนจับได้ ส่งกระดาษจดให้พี่ปราบที่แบมือขอหน้าเข้ม พี่ปราบหยิบกระดาษไปดู ดวงตาคมเข้มกวาดตามองตัวเลขในกระดาษไม่นานก็ขยำกระดาษนั่นทิ้งลงถังขยะ

“ค่าเทอมนี่คืออะไร ไม่ใช่ว่าต้องจ่ายไปแล้วเหรอ” พี่ปราบชี้ตัวเลขที่ผมเขียนไว้ว่าค่าเทอม ซึ่งความจริงแล้วมันต้องจ่ายตั้งแต่ก่อนเรียน แต่ที่บ้านผมไม่มีเงิน ผมเลยทำเรื่องขอผ่อนผัน

“คือตอนนั้นผมก็ไปขอเงินแม่อ่ะ แต่แม่ไม่มีเงิน ผมเลยยังไม่ได้จ่าย แต่เก็บเงินของเดือนนี้ก็พอจ่ายแล้ว วันพรุ่งนี้ก็ว่าจะเอาไปจ่าย”

พี่ปราบยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนั่งลงข้างๆผม หยิบปากกาขึ้นมาขีดฆ่าค่าเทอมกับค่าเช่าห้องของผมออก ผมชะโงกหน้าดูบนกระดาษให้ชัดๆว่าผมมองไม่ผิด แล้วเงยหน้ามองพี่ปราบส่งสายตาเป็นการขอคำตอบ

“ค่าเทอมกูจะจ่ายให้เอง ส่วนค่าเช่าห้องมึงไม่ต้องจ่ายกูแล้ว เงินที่มึงให้ที่บ้านก็เอาตามที่มึงสะดวกกูจะไม่ยุ่งส่วนนี้ แต่อย่าลืมว่าจะทำอะไรต้องดูกำลังตัวเองด้วย ที่เหลือมึงก็เก็บไว้กินไว้ใช้ ขาดเหลืออะไรก็บอกกู ห้ามปล่อยให้ตัวเองอดข้าวเด็ดขาด ไม่งั้นกูจะตีมึงจริงๆ”

ตีนี่ตีแบบไหนวะ ต้องใช้ไม้เรียวไหม?
ถึงจะสงสัย แต่ก็ไม่กล้ากวนตีนถาม เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็น ที่พี่ปราบร่ายยาวมาทั้งหมดนั้น ฟังดูดีแต่ผมว่ามันไม่ถูกต้องเกินกว่าครึ่ง

“พี่จะมาจ่ายค่าเทอมให้ผมทำไม ผมเก็บเงินได้แล้ว ผมจ่ายเองได้ ส่วนค่าห้องผมก็ต้องจ่ายพี่ ผมเช่าพี่อยู่นะเว้ย จะไม่จ่ายได้ยังไง” ผมประท้วงแบบที่ไม่ต้องคิดให้เยอะ

พี่ปราบนั่งไขว้ห่างจ้องตาผมนิ่งๆ นิ้วมือเคาะกับโต๊ะเป็นจังหวะการเดินของเวลา เกือบหนึ่งนาทีพี่ปราบก็หยุดเคาะนิ้วแล้วพูดกับผมด้วยท่าทีสบายๆ

“ถ้าตอนนี้มึงยังคบกับแฟนเก่า แล้วแฟนเก่ามึงมาพักอาศัยที่ห้องด้วย ห้องที่มึงไม่ต้องจ่ายค่าเช่าไม่ต้องผ่อน มึงจะเก็บเงินค่าเช่าห้องแฟนไหม” พี่ปราบตั้งคำถามกับผม ผมก็ส่ายหน้าตอบในเสี้ยววินาที

“ไม่เก็บ”

“นั่นสิ แล้วทำไมกูต้องเก็บค่าเช่ากับมึงด้วย ในเมื่อมึงจะจ่ายหรือไม่จ่ายกูก็ไม่เดือดร้อน” ที่พี่ปราบพูดมามันก็ถูก แต่ผมไม่สบายใจเลย

“เข้าใจที่กูพูดไหม”

“เข้าใจ” ผมตอบเสียงเบา

“กูไม่ขาดเรื่องเงินทอง ไม่จำเป็นต้องรีดเลือดเอากับปู โดยเฉพาะปูตัวนี้ที่เป็นแฟนกู เข้าใจหรือยัง”

ผมพยักหน้าอีกครั้งอย่างยอมจำนนในเหตุผลของเขา

“เรื่องต่อไป ทำไมกูต้องจ่ายค่าเทอมให้มึง นอกจากเป็นแฟนมึงแล้ว ตอนนี้กูเหมือนเป็นผู้ปกครองของมึงด้วย ในเมื่อที่บ้านมึงดูแลมึงเรื่องนี้ได้ไม่ดี กูก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของกูที่จะต้องทำ กูอายุมากกว่ามีงานมีรายได้ กูต้องดูแลมึงถูกต้องไหมครับน้องซ่า”

“แต่ถ้ามันลำบากพี่ พี่ไม่ต้องทำให้ผมขนาดนี้ก็ได้” ผมรีบบอก ผมชอบพี่ปราบ ไม่อยากเป็นภาระให้เขาต้องเหนื่อยหรือหนักใจไปมากกว่านี้

“กูบอกเมื่อไหร่ว่าลำบาก กูเต็มใจทำให้ กูบอกแล้วไงว่าอยากดูแลมึง ดูแลของกูคือทุกอย่างที่กูทำให้มึงได้ กูไม่ได้จะอวดรวยนะ แต่กูรวยกว่ามึง รายได้กูต่อเดือนคือหลักล้านเป็นขั้นต่ำ เข้าใจใช่ไหมว่าเลี้ยงมึงที่ผมแห้งตัวแค่นี้มันไม่ได้ลำบากกูเลย และค่าอาหารเลี้ยงลูกค้ามื้อๆหนึ่งที่กูต้องจ่ายแพงกว่าค่าเทอมของมึงรวมกันสามปีเสียอีก ในเมื่อกูจ่ายเงินให้คนอื่นได้ ทำไมกูจะจ่ายเงินให้แฟนกูไม่ได้ ถ้าเป็นมึง มึงจะไม่ทำแบบกูเหรอ มึงจะปล่อยให้แฟนตัวเองลำบากโดยเอาแต่ยืนมองเฉยๆหรือไง ในเมื่อมึงรู้อยู่แก่ใจว่ามึงช่วยเขาได้โดยที่มึงก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยสักนิด”

ผมเข้าใจที่พี่ปราบอธิบาย แต่ผมก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระให้เข้าโดยแท้ เพราะผมเอาแต่เป็นฝ่ายรับ ไม่ได้เป็นฝ่ายให้บ้างเลย

“อย่ารู้สึกไม่ดีที่จะรับความหวังดีจากกู” พี่ปราบดึงมือผมไปจับแล้วลูบเบาๆ

“ผมไม่เคยให้อะไรพี่เลย” ผมก้มหน้ามองมือพี่ปราบที่จับกุมมือผมไว้หลวมๆแต่มั่นคง

“แล้วมึงอยากให้อะไรกูล่ะ ถ้ามึงมีเงิน มึงอยากให้เงินกูใช้เหรอ”

ถ้าผมทำแบบนั้นผมคงจะประสาทไม่ดี เพราะถ้าผมมีเงินจริงอย่างที่พี่ปราบว่า ก็ไม่มีทางมีเท่าไหร่ปราบอยู่แล้ว

“หรือว่ามึงอยากจะส่งเสียกูเรียนต่อ บอกเลยว่ากูได้ปริญญาโทรมาสองใบแล้ว กูไม่ต้องการใบที่สามหรอกนะ และไม่ต้องการเป็นด็อกเตอร์ด้วย”

มันก็จริง

“แต่มึงเข้าใจผิดอย่างหนึ่งนะซ่า” พี่ปราบฉุดมือผมให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วลากผมเข้าไปใกล้ ขายาวๆของเขาแยกออกกว้างให้พอมีพื้นที่ให้ผมยื่นแทรกตัวอยู่ตรงกลาง

“มึงได้ให้บางสิ่งบางอย่างกับกูมาแล้ว นั่นก็คือใจของมึงไง ถ้ามึงไม่ได้ชอบกูเลย กูก็ยังสามารถให้ความหวังดีเหล่านี้กับมึงได้ แต่วันนี้มึงยอมรับใจตัวเองว่าชอบกู ไม่ผลักไสกู นั่นคือสิ่งที่กูต้องการและกูมีความสุข”

“...”

“แต่ถ้ามึงอยากจะให้กูมากกว่านี้ สิ่งที่กูย้ำเสมอคืออยากให้มึงเป็นเด็กดี เชื่อฟังกู และรักตัวเอง ถ้ามึงทำได้ กูจะถือว่าคือการให้ที่วิเศษที่สุด เข้าใจไหม”

ผมพยักหน้า แล้วยกมือไหวพี่ปราบ “ขอบคุณครับ”

“ด้วยความยินดี”







ในทุกๆวันที่พี่ปราบมาส่งผมที่โรงเรียน เขาจะเอารถยนต์มาส่งผม แต่ว่ารถยนต์ของเขาเสียต้องเอาเข้าศูนย์ คันอื่นก็อยู่ที่บ้านใหญ่ ซึ่งกว่าจะรอให้คนขับรถของที่บ้านเอามาส่งให้ก็เลยเวลาเรียนของผม ผมก็บอกพี่ปราบแล้วว่าผมไปโรงเรียนเองได้ แต่พี่ปราบก็ยังดึงดัน โดนให้ผมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันใหญ่คันหรูของเขาไปโรงเรียน วันนี้พี่ปราบเข้าไปดูอู่รถช่วงสายๆแทนพี่ริช เห็นว่าป๊าครามเข้าไปดูงานที่สำนักงานใหญ่เอง พี่ปราบเลยไม่ต้องเข้า จะเข้าทีเดียวก็ช่วงบ่ายที่ต้องเข้าประชุม

ผมชอบรถมอเตอร์ไซค์ของพี่ปราบนะ อยากลองขี่แต่ไม่อยากเป็นคนซ้อน แต่ก็ขัดอะไรไม่ได้ ได้แต่ซ้อนท้ายพี่ปราบไปเรียนในตอนเช้า

“พี่ จอดหน้าโรงเรียนนะ” ผมตะโกนลั่นหมวกกันน็อกแข่งกับลม

“อะไรนะ” พี่ปราบเอียงหน้ามามองเล็กน้อยแล้วตะโกนกลับมา

“ส่งผมหน้าโรงเรียนพอ” ผมตะโกนแทบจะสุดเสียง

“ทำไม”

“นะพี่ปราบ ผมขอร้อง”

พี่ปราบไม่ตอบ จนกระทั่งเกือบจะถึงหน้าโรงเรียน พี่ปราบก็จอดรถริมฟุตบาทห่างจากหน้าโรงเรียนผมประมาณสองร้อยเมตร ผมกระโดดลงจากรถมอเตอร์ไซค์ ถอดหมวกกันน็อกส่งให้พี่ปราบ ที่กำลังทำหน้านิ่งไม่ยอมมองหน้าผม โกรธผมหรือเปล่าวะ

“ผมไปเรียนก่อนนะพี่” ผมบอก ชี้นิ้วไปทางโรงเรียน

“อืม” พี่ปราบส่งเสียงในลำคอเท่านั้น

“เย็นนี้...” ผมกำลังจะบอกว่าไม่ต้องมารับ

“เดี๋ยวกูให้คนขับรถมารับ เขาถึงแล้วเขาจะโทรหามึง”

“อ่า ครับ” เพราะพี่ปราบดูอารมณ์ไม่ดี ที่เกิดจากผม ผมก็เลยไม่อยากขัดใจเขา ได้แต่พยักหน้ารับรู้แล้วยกมือไหว้ลาก่อนเข้าโรงเรียน

ผมคิดว่าเมื่อเช้าจะไม่มีใครรู้ใครเห็นมาผมนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ผู้ชายมาโรงเรียน แต่ทันทีที่เคารพธงชาติเสร็จแล้วกลับเข้ามานั่งในห้องเรียน เพื่อนร่วมห้องที่ผมจำชื่อไม่ได้ก็เดินมานั่งตรงหน้าผม พร้อมกับเพื่อนๆของมันที่กอดคอกันยืนล้อมโต๊ะผมไว้

“อะไร” ผมถามเสียงห้วนเล็กน้อย ถึงผมจะหยุดเรียนไปหนึ่งเทอม จนทำให้ต้องมาเรียนต่อในปีนี้ แต่พวกถือว่าเป็นรุ่นน้องผมอยู่ดี แต่ไอ้พวกนี้ไม่เคยมาคุยกับผม แถบชอบมองผมด้วยสายตากวนตีน ถ้าจะบอกว่าเด็กช่างชอบตีกับเด็กต่างโรงเรียนก็ไม่ผิด แต่จริงๆคือตีได้หมดถ้ากวนตีน

“เมื่อเช้ามึงซ้อนท้ายผู้ชายคนใหม่มาเหรอวะ”

เมื่อเช้า...ผู้ชายคนใหม่?

“นั่นดิ มึงเปลี่ยนคนเลี้ยงแล้วเหรอวะ ไม่ใช่คนที่ขับรถเก๋งนี่”

“แล้วเอากับผู้ชายเป็นไงวะ มึงเสียวตูดไหม”

ตึง!

ผมลุกขึ้นถีบโต๊ะเรียนออกจากตัวก่อนจะเข้าไปกระชากคอไอ้คนที่พูดประโยคสุดท้ายแล้วต่อยปากมันไปเต็มแรง ชนิดที่เรียกว่าทีเดียวได้เลือด

“พูดเหี้ยอะไรของพวกมึงห๊ะ!” ผมตวาดออกไปด้วยความโมโห

“กูพูดเหี้ยอะไร กูพูดความจริงเว้ย” หนึ่งในนั้นเดินเข้าไปหาเรื่องผม คงแค้นใจที่ผมต่อยเพื่อนมัน เลยจะมาเอาคืน แต่ผมไวกว่า ถีบยอดอกมันให้ออกห่าง เท่านั้นเพื่อนมันก็เข้ามารุมทันที

เสียงกรี๊ดร้องของเพื่อนผู้หญิงในห้องดังระงม แต่หูหัวผมร้อนไปหมด เพื่อนคนอื่นในห้องพยายามเข้ามาห้าม อีกส่วนก็รีบปิดประตูห้องเพราะกลัวเข้ามาเห็น จับพวกผมแยกกันพวกมันก็เข้ามาถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น

“กูแค่ถามในเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ไงว่าไอ้พัชมันขายตัวให้กระเทยจริงไหม แล้วกูก็เห็นด้วยว่าเมื่อเช้ามันมากับผู้ชายคนใหม่”

“จริงเหรอไอ้พัช”

“มึงขายตัวเหรอวะ”

“ให้ผู้ชายด้วย”

หลายต่อหลายเสียงและคำถามดังแทรกขึ้นไม่หยุด รวมทั้งสายตาที่มองผมเหมือนจะรังเกียจ ถึงจะถามเหมือนต้องการคำตอบว่าผมได้ทำเรื่องสกปรกแบบนั้นหรือไม่ แต่สายตาของพวกมันก็ตัดสินผมไปแล้ว ผมได้แต่ยืนโมโหกับคำกล่าวหาของพวกมันจนตัวสั่น

“กูไม่ได้ขายตัวเว้ย!!!” ผมตะโกนตอบความจริง แต่พวกมันก็ยังไม่เลิกสงสัย

“แต่พวกกูเห็นว่ามึงไปไหนมาไหนกับผู้ชาย มึงขึ้นคอนโดกับผู้ชายด้วย กูมีรูป เพื่อนกูส่งมาให้ดู” มันพูดแล้วควักโทรศัพท์มือถือมาส่งให้เพื่อนดู ผมไม่รู้ว่ารูปที่มันว่าเป็นแบบไหน แต่พวกผู้ชายในห้องที่ดูแล้วก็เงยหน้ามองผมด้วยแววตารังเกียจ จนผมทนไม่ไหวต้องไปแย่งมาดู

นี่มัน...เหี้ยเอ้ย

รูปในโทรศัพท์เป็นรูปที่พี่ปราบกอดเอวผมขึ้นคอนโด มันคงไม่มีอะไร ถ้าตอนนั้นพี่ปราบไม่ได้จูบเข้าที่แก้มผม ผมจำได้ว่าวันนั้นกลับไปจากไปวิ่งที่สวนสาธารณะ เป็นวันแรงที่ผมวิ่งเกือบหนึ่งชั่วโมง แก้มผมเลยแดง พี่ปราบเห็นก็บอกว่าหมั่นเขียวเลยกดจูบที่แก้มผมเร็วๆเพียงเสี้ยววินาที ไม่คิดว่าจะมีคนถ่ายไว้ได้ และไอ้คนที่ถ่ายก็ดันใกล้ตัวเหลือเกิน

มือของผมกำโทรศัพท์แน่นจนมันแทบจะแหลกคามือ แต่เจ้าของมันเข้ามาแย่งไปได้ก่อนที่ผมจะเขวี้ยงทิ้งลงพื้น

“ไงมึง ถึงกับแก้ตัวไม่ออกเลย ยอมรับมาเถอะว่ามึงหันตูดให้ผู้ชายเอานะ โคตรไร้ศักดิ์ศรีเลยวะ”

“ไอ้เหี้ยเอ้ย!”

เส้นความอดทนของผมขาดสะบั้นไม่เป็นชิ้นดี กระโจนตัวเข้าใส่ไอ้คนที่มันพูดจาหมาๆใส่ผม ผมซัดหน้ามันครั้งแล้วครั้งเล่า โมโหหน้ามืดจนไม่สนใจสิ่งรอบตัว แม้แต่ต้องที่ตัวเองโดนต่อยโดนเตะผมก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด กลับกันความเจ็บนั้นมันฝังลงไปบนหัวใจที่ไม่ได้เจ็บมานาน

และกว่าผมจะสงบสติอารมณ์ที่ร้อนเป็นไฟได้ ก็ตอนที่ครูมาจับแยกและส่งตัวผมไปที่ห้องปกครอง พร้อมทั้งโดนโทรเรียกผู้ปกครองมารับฟังความผิดของผมด้วย

ระหว่างที่รอให้พี่แนนมา ครูส่งผมไปทำแผลที่ห้องพยาบาล ทำแผลเสร็จก็ให้กลับมานั่งที่ห้องปกครอง ผมก็โดนซักถามว่าทำไมถึงมีเรื่องกัน แต่ผมไม่พูดอะไรออกไป ไม่ว่าครูจะถามยังไงผมก็ไม่พูด จนกระทั่งไอ้เหี้ยนั่นฟ้องครูว่าผมทำร้ายร่างกายมัน และผมทำเสียชื่อเสียงของโรงเรียนเพราะผมขายตัว ทำเอาผมเดือดปุดจนเกือบจะซัดมันอีกรอบ ถ้าไม่ติดว่าครูผู้ชายอีกคนห้ามเอาไว้ก่อน

“ที่นายธนัชพูดจริงเหรอเปล่า”

“ผมไม่ได้ทำ” ผมพูดแล้วทำตาขวางใส่ไอ้ธนัชที่ผมเพิ่งจะรู้ชื่อมันเมื่อครูพูด

“นายธนัชไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน” ครูหันไปซักไซ้เอาความกับมัน

“ผมมีหลักฐานนะครู ครูดูนี่” มันส่งรูปในโทรศัพท์ให้ครูดู พอครูดูแล้วก็เงยขึ้นจากโทรศัพท์มองหน้าผมซ้ำสองครั้ง

“นี่มันเธอหรือเปล่าพัชรกานต์”

ผมยืนกำหมัดแน่น ไม่อยากจะตอบอะไร แต่พอครูถามซ้ำรอบสองผมก็จำต้องพยักหน้าตอบ

“งั้นเธออธิบายมาสิว่าเรื่องมันเป็นมายังไง เธอได้ทำแบบที่นายธนัชพูดหรือเปล่า ห้ามโกหกครู เรื่องนี้ร้ายแรงมากถึงขั้นถูกไล่ออกได้ เข้าใจใช่ไหม”

ผมเงยหน้ามองครูด้วยความตกใจ ทำไมถึงต้องไล่ออก ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมแค่มีแฟน แค่แฟนผมเป็นผู้ชายเท่านั้น

“ผมไม่ได้ขายตัว ผมพูดความจริง” ผมกัดฟันตอบ

“แล้วผู้ชายในภาพนี้คือใคร ทำไมถึงกอดจูบกันแบบนี้”

“...”

“ตอบครูมาเดี๋ยวนี้พัชรกานต์”

“เขา...”

ก๊อกๆๆ

“ขออนุญาตค่ะอาจารย์ ผู้ปกครองของธนัชและพัชรกานต์มาถึงแล้วค่ะ”

ผมยังไม่ทันได้ตอบและคิดว่าจะไม่ตอบอะไร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ตามมาด้วยพี่แนนที่เดินเข้ามาก่อนพ่อของไอ้ธนัช สิ่งแรกที่เห็นคือสีหน้าและแววตาที่เหนื่อยหน่ายปนโมโหของพี่แนนที่มองจ้องมายังผม ผมเลือกที่จะเบือนหน้าหนีไม่อยากมองเห็น

“สวัสดีครับคุณพ่อของธนัช แล้วก็คุณแม่ของพัชรกานต์ ที่ผมต้องเรียกมาในวันนี้ต้องขอโทษที่รบกวนนะครับ แต่ว่าพวกเขาสองคนทะเลาะต่อยตีกันในโรงเรียน จนทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บและเกิดความเสียหายต่อข้าวของของโรงเรียน เลยต้องรบกวนเรียกให้มารับฟังน่ะครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” พ่อของไอ้ธนัชพูดเหมือนไม่ใส่ใจ

“แล้วเกิดเรื่องได้ยังไงเหรอคะ” พี่แนนเป็นฝ่ายถามคุณครูก่อน

จากนั้นเรื่องราวต่างๆก็ถูกเล่าให้ผู้ปกครองทั้งสองคนฟัง พ่อไอ้ธนัชนั่งฟังเฉยๆ ไม่รับรู้ไม่หือไม่อือ เหมือนฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ในขณะที่พี่แนนคอยแต่จะมองผมด้วยความตำหนิ จวบจนคุณครูเล่าจบพี่แนนก็หันมาถามผม

“ได้ทำแบบที่ครูเขาว่าไหม”

ต่อให้อยากเดาว่าสิ่งที่พี่แนนจะพูดกับผมคืออะไร แต่ผมก็ไม่เคยเดาถูก รู้แค่ว่ามันจะต้องไม่ใช่คำพูดที่ดี แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะกล้าถามผมแบบนี้

ผมขายตัวจริงไหม เรื่องแค่นี้ยังต้องถามผมอีกเหรอ

เพราะไม่ได้เลี้ยงดูผมมากับมือ ถึงได้ไม่รู้ใช่ไหมว่าผมเป็นคนยังไง

ถ้าผมปล่อยมือที่จิกกำแน่นอยู่ในตอนนี้ เลือดจะต้องไหลออกมาแน่ๆ ซึ่งผมก็ได้แต่กำมันเอาไว้ ไม่ให้เลือดมันไหลออกมา

“ว่าไง ทำไมไม่ตอบ” พี่แนนถามย้ำ ผมเงยหน้ามองหน้าคุณครูอย่างแน่นแน่ ไม่หันไปมองหน้าพี่แนน ตอบคำถามของทุกคนด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น

“ผมไม่ได้ขายตัว ผมไม่ได้ทำอะไรผิด”

ผมแค่รักเขา ผมไม่ผิด

“ต้องขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะครับ ก็คงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ยังไงก็คงจะต้องลงโทษให้ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์หลังเลิกเรียนเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์นะครับ”

“ลงโทษได้ตามที่คุณครูเห็นสมควรเลยค่ะ” พี่แนนหันไปพูดกับครู

“ตามนั้นครับครู ถ้าจบเรื่องแล้วผมไปนะ” พ่อของไอ้ธนัชโบกมือหนึ่งทีแล้วเดินออกไปเลย

คุณครูแยกย้ายกลับไปทำงานของตัวเอง ไอ้ธนัชก็หายไปแล้ว ตรงนี้เหลือเพียงแค่ผมกับพี่แนนสองคนเท่านั้น ผมอยากจะเดินหนีแต่เท้ามันก็ไม่ขยับ ผมแค่หวังว่าพี่แนนจะหันหลังแล้วเดินออกไป ไม่ต้องพูดอะไรอย่างพ่อไอ้ธนัชก็คงดี แต่สิ่งที่ผมหวังมันก็เป็นเพียงแค่ความฝันลมๆแล้งๆ ถ้ามีโอกาสที่จะได้ด่าว่าผม พี่แนนก็ทำเสมอ

“นึกว่าเอ็งไม่ก่อเรื่องแล้วนะซ่า วางใจหน่อยไม่ได้เรื่องก็มาตลอด”

ผมฟังแล้วก็ได้แต่แสยะยิ้มมุมปาก

“ดูสิว่าแม่จะต้องจะเสียเวลาขนาดไหน ขอลาออกมาก่อนเวลางานเนี่ยมันโดนหักเงิน งานก็ไม่เสร็จ”

“...”

“แล้วมันยังไง กับรุ่นพี่ที่หอมแก้มกันในรูป”

“ไม่มีอะไร” ผมตอบปัดๆไป คิดว่าพี่แนนไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้

“มันจะไม่มีอะไรได้ยังไง มึงคบกับผู้ชายอยู่เหรอ”

“...”

“มึงกลายเป็นเกย์เป็นตุ๊ดไปแล้วเหรอไง”

“เรื่องของผมน่า” ผมส่ายหัวด้วยความเซ็ง ทำไมเขาไม่กลับๆไปสักที ไหนบอกว่าเสียเวลานักหนาไม่ใช่เหรอไง

“เอ็งอย่ามาพูดกับแม่แบบนี้นะซ่า”

ผมได้แต่เม้มปากแน่น

“สรุปเอ็งคบรุ่นพี่เอ็งที่เป็นผู้ชายใช่ไหม ทำไมเอ็งไปคบกับเขาได้ หรือว่าเอ็งทำแบบที่เพื่อนพูด”

“ผมไม่ได้ทำ!” จะต้องให้พูดสักกี่ครั้งถึงจะเชื่อวะ เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ

“งั้นทำไมเอ็งไปคบกับเขาได้ เอ็งชอบผู้หญิงไม่ใช่หรือไง”

“...”

“กูล่ะเบื่อ คบกับผู้หญิงมึงก็มีปัญหาต่อยตี คบกับผู้ชายก็มีปัญหาต่อยตี แม่ว่ามึงไม่ต้องมีหรอกความรักนะ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนดีกว่าไหม จะได้ไม่ต้องสร้างแต่เรื่องสร้างแต่ปัญหา”

ความอดทนผมได้หมดลงแล้ว ผมหันหลังให้พี่แนนทันที พร้อมกับพูดสิ่งที่ใจคิดออกมา

“พี่แนนไม่ต้องยุ่งเรื่องของผมหรอก ขอโทษที่ครั้งที่ต้องรบกวน ต่อไปนี้ผมจะไม่สร้างปัญหาให้แล้ว พี่แนนวางใจได้”





(ต่อด้านล่าง)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 15-01-2018 22:44:38
นับตั้งแต่วันนั้น คนในโรงเรียนก็ผมมองแปลกๆ มองแล้วก็เอาไปพูดซุบซิบนินทา หนักหน่อยก็เดินเข้ามาล้อเลียนเรื่องที่ผมคบกับผู้ชาย เพื่อนผมที่เรียนปวส.ไปแล้วก็รู้เรื่องเมื่อไม่นานมานี้ พวกมันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ บอกจะไปเอาเรื่องคนที่มันปล่อยข่าว แต่ผมเพิ่งจะพ้นช่วงบำเพ็ญประโยชน์มา ไม่อยากมีเรื่องมีราวอีกก็ได้แต่ห้ามพวกมัน

เรื่องที่เกิดขึ้นพี่ปราบยังไม่รู้เรื่อง แต่เขาเห็นร่องรอยฟกช้ำบนใบหน้าผมแล้วถามว่าไปมีเรื่องกับใครมา บอกว่ามีเรื่องกับเพื่อนต่างโรงเรียนไม่ได้แน่ เพราะพี่ปราบไปรับไปส่งผมเองตลอด ถ้าเขาไม่ว่างก็ให้คนขับรถมารับ ทำให้ผมต้องตอบไปตามความจริงว่ามีเรื่องกับเพื่อนในห้องเรียน เพื่อนมันกวนตีนก็เลยต่อยกัน พี่ปราบไม่ได้ว่าไม่ได้ถามอะไรมากมาก สิ่งเดียวที่ถามคือว่า

‘มึงกับมัน ใครเจ็บกว่ากัน’

‘มัน’

‘ดี ถ้ามึงเจ็บกว่า วันหยุดกูจะซ้อมมึง’


สงสัยไหมว่าซ้อมของพี่ปราบคืออะไร เพราะต่อให้ผมบอกว่าผมเจ็บน้อยกว่าไอ้นั้น พี่ปราบก็ยังลากผมไปโรงฝึกเพื่อเรียนมวยกับคาราเต้อย่างจริงจัง

อีกแค่เดือนกว่าๆผมก็จะเรียนจบแล้ว ผมไม่อยากสร้างปัญหาอะไรอีก ถ้าพวกในโรงเรียนไม่ทำให้ความอดทนของผมหมดลง ผมจะก้มหน้ากัดฟันเรียน

อีกทางหนึ่งที่ผมคิดว่าจะช่วยให้ชีวิตผมในโรงเรียนสงบลง ก็คือให้พี่ปราบเลิกไปรับไปส่งผมที่โรงเรียน เพราะว่าตอนนี้ผมเหมือนกลายเป็นตัวตลกในโรงเรียนให้ทุกคนมองแล้วพูดล้อ ด่าว่าผมขายตูดบ้าง ถามว่าผมเป็นผัวหรือเมียบ้าง ลามไปยังถามว่าผมคบกับกระเทยที่แก่กว่าผมหลายปี สารพัดคำพูดต่ำๆที่พวกมันจะหยิบมาล้อเลียนผมได้พวกมันก็ทำ

ผมอยากจะต้องพวกมันให้เลือดกบปากให้หมด แต่หน้าพี่ปราบก็ลอยมาทุกครั้ง ผมไม่อยากทำให้พี่ปราบผิดหวังในตัวผม แม้ว่าความอดทนจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากก็ตาม

วันนี้ผมฝืนตื่นนอนก่อนพี่ปราบ คิดไว้แล้วว่าจะต้องไปโรงเรียนเองให้ได้ ผมคิดว่าผมทำอะไรไวแล้ว ต่างจากพี่ปราบที่จะค่อนข้างพิถีพิถันเรื่องการแต่งตัว แต่วันนี้พี่ปราบก็ทำเวลาได้ค่อนข้างดี เขาอาบน้ำเสร็จทันผมที่กำลังจะออกจากห้อง

“พี่ปราบ ผมไปเรียนก่อนนะ” ผมบอกโดยไม่มองหน้า รีบหยิบกระเป๋าเป้เตรียมออกจากห้อง

“เดี๋ยว จะรีบไปไหน กูแต่งตัวใกล้จะเสร็จแล้วเนี่ย” พี่ปราบเดินมาดึงแขนผมไว้ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ผ้าเช็ดตัวพันเอว

“วันนี้พี่ไม่ต้องไปส่งผมหรอก เดี๋ยวผมไปเอง” ผมปั้นหน้าเริงร่า แต่ใจกลับเต้นแรง เหมือนผมกำลังแอบทำความผิด แต่มันไม่ใช่ ผมแค่อยากไปโรงเรียนเอง

“กูจะไปส่ง วันนี้กูไม่ติดธุระอะไรช่วงเช้าอยู่แล้ว”

“ไม่เป็นไรจริงๆพี่ ผมไปได้”

“มึงคงไม่ได้ปฏิเสธเพราะเกรงใจใช่ไหม”

“เอ่อ เปล่าพี่ คือผมไม่อยากให้พี่ย้อนไปย้อนมา”

“แต่กูเต็มใจ”

ผมแพ้ให้คำนี้ทุกที วันนี้เลยเป็นอีกวันที่พี่ปราบมาส่งผม โดยที่ผมขัดหรือแย้งอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ยอมให้พี่ปราบขับรถมาส่งที่โรงเรียน พี่ปราบยังคงขับรถเข้ามาจอดในโรงเรียนเหมือนเดิม แต่วันนี้พิเศษกว่าทุกวันจนทำให้ผมเกือบจะตะโกนร้องเย้ออกมา เพราะพี่ปราบบอกว่าวันนี้จะให้ผมกลับเอง น่าจะอยู่ประชุมยาวไม่ว่างมารับ ส่วนคนขับรถลากลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน จากที่อารมณ์หม่นๆผมก็ยิ้มออกได้

“ตั้งใจเรียนนะ”

“ครับ ผมไปเรียนละ” ผมยกมือไหว้อย่างทุกครั้ง แล้วลงจากรถ

ทันทีที่ก้าวขาเหยียบพื้น ทุกสายตาที่อยู่ใกล้ก็จับจ้องผมเป็นตาเดียว ผมสูดลมหายใจแล้วก้มหน้ามองเท้า เดินไปข้างหน้าโดยไม่คิดจะมองใครทั้งสิ้น ทำเป็นไม่ใส่ใจคำพูดเสียดสีที่ลอยมาตามลมหลังจากที่พี่ปราบขับรถออกไป

อดทนไว้ไอ้ซ่า อีกไม่นานมึงก็จะเรียนจบแล้วไม่ต้องเจอพวกเหี้ยพวกนี้อีกแล้ว

มีเพียงช่วงเที่ยงท่านั้นที่ผมสามารถหายใจได้เป็นปกติเมื่ออยู่กับเพื่อนของตัวเอง มันทำให้ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวหรือแปลกแยก พวกมันก็เหมือนจะเข้าใจว่าผมรู้สึกไม่ดี ตลอดช่วงพักเที่ยงไอ้กานกับไอ้นุ๊กพยายามสรรหาเรื่องตลกมาเล่าให้ผมหัวเราะ ซึ่งก็ขำบ้างไม่ขำบ้างปนกันไป ไอ้หวายที่ชอบตีกับผมก็เลิกหาเรื่องมาเอาอกเอาจนผมจนน่าขนลุก ไอ้ตูนไม่ต้องทำอะไร ใครพูดทำนองล้อผม ไอ้นี่เดินเขาใส่ก่อนเลย ด้วยความเป็นรุ่นพี่ของพวกมัน ทำให้ไอ้พวกปีต่ำๆกว่าที่ใจกล้าพูดถากถางเรื่องของผมหัวหดกันได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ถึงพวกมันจะดูขาดๆเกินๆไปบ้าง แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตผม และมันคงจะดีกว่านี้ถ้าเวลาเรียนผมได้เรียนกับพวกมัน แต่มันก็เป็นไปไม้ได้ แต่ก็ไม่ได้เสียใจที่ผมต้องขาดเรียนไปบวช ยังไงการบวชก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตผมได้มาก นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ผมจะมีในชีวิตนี้

ทันทีที่เสียงออดคาบสุดท้ายดังขึ้น ผมก็คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องทันที แต่ความเร็วของผมก็ช้ากว่าหมาในปากของไอ้ธนัช

“จะรีบไปให้ผัวแหย่ตูดหรือไงมึง ฮ่าๆๆๆๆ”

ผมอยากจะเดินกลับไปซ้ำแผลเก่าให้มันอีกรอบ แต่ก็ทำได้แต่รีบเดินออกจากโรงเรียนให้เร็วที่สุด

เพราะวันนี้ได้กลับบ้านเอง ผมก็เลยขอเตร็ดเตร่เดินเที่ยวเล่นในตลาดใกล้ๆโรงเรียน หลายวันมานี้พี่ปราบทำกับข้าวให้ผมทานตลอด ไม่ก็ขับรถออกไปหากินเอาที่ร้านอาหาร แต่วันนี้ผมอยากดูแลพี่ปราบบ้าง แต่จะให้ผมกำกับข้าวก็คงเป็นไปไม่ได้ ทำได้แค่ซื้อแกงถุงเท่านั้น แต่ร้านที่ผมจะไปซื้อเนี่ยเด็ดมาก อร่อยมากด้วย ราคาแพงหน่อย ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยซื้อ เพราะถุงหนึ่งมันห้าสิบหกสิบบาทต่อถุง ถ้าเป็นพวกปลาหรืออาหารทะเลก็แปดสิบถึงร้อย ถ้าซื้อกินเองผมก็เสียดายเงิน แต่กับพี่ปราบผมอยากให้เขากินของอร่อยๆดีๆ จะได้ไม่ท้องเสีย

แต่ร้านที่ว่าอยู่ในซอยเล็กๆท้ายตลาดสด และคิวรอซื้อเยอะมาก แต่ผมก็รอจนได้กับข้าวมาสี่อย่าง แต่ละอย่างเป็นของโปรดพี่ปราบทั้งนั้น

ซื้อเสร็จผมก็เตรียมจะกลับบ้าน คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอโจทย์เก่าระหว่างทางที่กำลังจะเดินออกจากซอยเล็ก โจทย์ที่ว่าก็คือแฟนใหม่ของพลอย ที่ไม่รู้ยังคบกันอยู่หรือเปล่า

ไอ้ปาร์ค

“ไงมึง ไม่เจอกันนานเลยนะ ตั้งแต่ที่กูแย่งเมียมึงมา”

ผมยืนประจันหน้ากับมัน มองหน้ามันนิ่งๆไม่คิดจะพูดอะไร

“ว่าแต่พลอยเป็นไงบ้างวะ กูเขี่ยทิ้งไปแล้ว มันกลับไปซบอกมึงหรือยัง”

“...”

“แต่ก็คงไม่ เพราะกูได้ข่าวมาว่า เดี๋ยวนี้มึงหันไปหันหลังยื่นตูดให้กระเทยเอาแล้วเหรอวะ”

ดวงตาของผมวาวโรจน์ขึ้นทันทีจนตัวเองรู้สึกได้ กล้ามเนื้อบนร่างกายที่มีมากกว่าแต่ก่อนหดตัวเข้าหากันเมื่อผมกำมือทั้งสองข้างแน่น

“ไอ้กระเทยนั้นมันให้เงินมึงหนักเหรอวะ ถึงได้ยอมนอนอ้าขาให้ตัวผู้เอาแล้ว”

“...”

“ตูดมึงนี่ขายครั้งละกี่บาทวะ ให้กูบอกเพื่อนกูให้ไหม เผื่อมึงจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น”

ไม่ต้องรอให้มันพูดจบ ผมปาถุงกับข้าวในมือใส่หน้าไอ้ปาร์คทีเดียวสี่ถุง น้ำแกงที่ยังร้อนๆลวกหน้ามันเละเทะไปหมด ไม่รอให้มันตั้งตัว ผมจับแขนมันได้ก็เหวี่ยงตัวมันกระแทกพื้นดังอั๊ก ทุกกระบวนท่าไม่ว่าจะมวยไทยหรือเทควันโด ผมงัดออกมาใช้เท่าที่พี่ปราบเคยสอน

ทั้งความแค้นก่อนหน้าและตอนนี้ ผมใส่คืนมันไม่ยั้ง จนมันไม่มีแรงจะพูดจาหมาๆได้อีกผมถึงได้หยุดมือ แล้วเดินจากมาเพื่อกลับคอนโด

ถึงผมจะได้ระบายความอัดอั้นที่สะสมมาทั้งหมดกับไอ้ปาร์ค แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่พอ ผมยังรู้สึกเจ็บแน่นในอก จะหายใจเข้าออกแต่ละทีมันแสนยากเย็น ทุกคำพูดดูถูกที่เอ่ยถึงผมกับพี่ปราบตะโกนก้องอยู่ในหัวผมไม่หยุด และผมไม่สามารถมีความสุขกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้ แม้ว่าพี่ปราบจะยืนอยู่ตรงหน้าผม ผมก็ไม่สามารถยิ้มได้อย่างเคย

ทำไมวะ แค่ชอบผู้ชายที่เขารักและดีกับผม มันทำให้ผมน่ารังเกียจมากขนาดนั้นเลยเหรอไง

หรือสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้มันจะเป็นสิ่งที่ผิด

แค่อยากมีใครที่รักผมจริงๆในชีวิต มันผิดมากเลยใช่ไหม









..............................................................
สวัสดีค่ะ
อ่านตอนนี้จบแล้วรู้สึกยังไงบ้างเอ่ย เห็นหวานๆกับหลายตอนที่ผ่านมา (?) ก็กลัวว่าจะเลี่ยน เลยเอาต้มมะระมาให้กินแก้เลี่ยนสักหน่อย จะได้ไม่เบื่อกัน (หรา)  :o9:
ตอนหน้าพี่ปราบจะเป็นฝ่ายออกมาพูดความในใจบ้างนะคะ เราเห็นนะว่าทุกคนอยากได้พี่ปราบกันมากมายเหลือเกิน ไปขอน้องซ่าเอาแล้วกันนะ แต่ไม่รู้ว่ามันจะให้หรือเปล่านะ เห็นเงียบๆแบบนี้ ขี้หวงอยู่นะยู ฮ่าๆๆๆ  :laugh:
มีคนบอกว่าไม่อยากให้จบไวเลย เอาจริงๆไม่กี่ตอนของริริ มันก็หลายตอนอยู่นะ เอาเป็นว่ารออ่านเอาแล้วกันค่ะ ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะ ม๊วฟฟฟฟ  :จุ๊บๆ:
พรุ่งนี้ถ้าไฟลท์ไม่ดีเลย์จนดึกดื่นค่ำมืด ริริจะมาลงตอนต่อไปให้เลยนะคะ แต่ถ้ากลับมาไม่ทัน ก็รออ่านวันถัดไปค่ะ
ใครที่เพิ่งแวะเข้ามาอ่านไหม กราบสวัสดีไว้ ณ ที่นี้นะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและทุกคอมเม้มที่เม้นเข้ามาหวีดร้องความเป็นหลัวแห่งชาติของพี่ปราบนะคะ ปลื้มปลิ่ม  :m3:
ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ
บ๊ายบายยยยย  :bye2:


หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 15-01-2018 22:59:39
นักเรียนโรงเรียนนี้ ทำไมเหมือนไปอยู่หลังเขามาเลยอ่ะ  o22
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 15-01-2018 23:03:00
เฮ้อ เกิดเป๊นซ่านี่ไม่ง่ายเลย เหมือนจะดีหวานแป้บๆ เรื่องเข้ามาอีกแล้ว
เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกับพี่ปราบอีกชัวๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-01-2018 00:13:41
จริง ๆ ในชีวิตจริง มันก็มีทั้งคนที่รับได้และรับไม่ได้ในเรื่องแบบนี้ คิดว่าซ่าคงจะผ่านปัญหานี้ไปได้ เอาใจช่วยนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-01-2018 00:15:12
จะให้ซ่ามีความสุขแบบตลอดรอดฝั่งเลยไม่ได้ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 16-01-2018 02:16:12
ซ่าเอ้ยยย เหนื่อยใจแทนจริงๆ พี่ปราบโอ๋น้องหน่อยเร๊ววว :hao5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 16-01-2018 03:27:45
สู้ ๆ นะซ่า.

ผ่านมันไปให้ได้  :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-01-2018 05:51:07
นักเรียนช่างห้องซ่า ไม่มีจิตสำนึก เรื่องการเคารพสิทธิส่วนบุคคล
เข้าใจไปเอง คิดเองเออเอง แล้วมาประนาม เหยียดหยาม ดูถูก
จริงหรือไม่จริงก็แสดงท่าทางดูถูก เยาะเย้ยตามๆกัน
ทั้งที่เขาไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้เลย
คิดแต่ว่าความคิดของตัวเองถูกฝ่ายเดียว ตลก ประสาททททททท

สงสารซ่า พยายามอดทนก็แล้ว
แม่ที่ไม่ได้เลี้ยงก็มีแต่ตำหนิ
ดีนะที่ซ่า พยายามเรียนจนจบ

ไอ้ปาร์ค ปากหมา ทำตัวเลวยังมายุ่งกับซ่า
ถูกซ่าเอาคืนย้อนหลังซะ สมกับความเลวจริงๆ  :z6: :z6: :z6:
แต่ซ่ายังจิตใจไม่สงบนี่สิ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
พี่ปราบ ช่วยซ่าหน่อย  :mew2:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-01-2018 06:02:31
ขอแค่ซ่าไม่เอาเรื่องนี้มาทำร้ายตัวเองกับปราบก็พอ
ขอให้ซ่าผ่านไปให้ได้ ถ้าซ่าอยากมีความสุข ต้องแคร์ตัวเองก่อน
ซ่าน่าจะคุยกับปราบนะ

คนรับได้ไม่ได้ กับคนปากเสียกวนต่อมอะ มันไม่ต่างกัน
เพราะสุดท้ายก็มีคำพูดว่าร้ายเหมือนกัน

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-01-2018 06:07:08
ซ่าไม่น่าเจอพวกเด็กเวรนี่เลย ความคิดต่ำไม่อยากเห็นคนอื่นมีความสุข อย่าไปสนใจเลยปล่อยๆไปอดทนเรียนอีกนิดเดียวก็จะจบแล้ว สู้ๆ ลูก :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 16-01-2018 06:12:22
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 16-01-2018 06:54:36
ฮืออออ ชีวิตมีแต่มารผจญ อดทนนะซ่า วันนึงซ่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น  อย่างตอนซ่าจะไปบวชแล้วใจมันร้อนรุ่ม พี่ปราบมาช่วยดึงสติไว้ ซีนนี้เราขนลุกเลย เราเชื่อว่าอีเว้นนี้ซ่ากับพี่ปราบก็จะผ่านไปได้เหมือนกัน  จับมือกันแน่น ๆ ก็พอนะ 
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 16-01-2018 07:46:35
 :a6: :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-01-2018 08:01:40
ซ่าดูถูกตัวเองจนชิน แล้วก็แคร์คนอื่นมากเกินไป
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 16-01-2018 09:52:42
สงสารซ่า เข้าใจได้น่ะยิ่งสังคมแคบเรื่องรักเพศเดียวกันก้อจะยิ่งถูกจับตามอง พี่ปราบน่าจะรู้แหละแต่คงอยากให้ซ่ารับมือกับปัญหาดู
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 16-01-2018 13:09:37
รอตอนหวาน เฮอะ :sad4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-01-2018 16:10:33
พี่ปราบช่วยน้องด้วย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 16-01-2018 16:35:08
เรื่องนี้น้องซ่าคงต้องให้พี่ปราบช่วยจัดการแล้วหล่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 16-01-2018 19:21:35
ไอ้เด็กโรงเรียนนี้แม่งดักดานมาก โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว ฆวย!!!
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 16-01-2018 23:32:13
ซ่าต้องคุยกับพี่ปราบ เชื่อใจพี่เขาหน่อย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่28:: 15/1/2018 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 17-01-2018 01:15:54
หนักใจแทนซ่าจังงงง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 17-01-2018 18:09:09
ปราบซ่า
ตอนที่29


[ปราบ]

คำถามเดียวในหัวที่คิดได้ตอนนี้ก็คือว่า...ใครทำเด็กกูวะ

ตาแดงๆนั่นคงไม่ได้ร้องไห้มาใช่ไหม

ผมเปิดประตูออกกว้าง ถอยหลังให้ซ่าเดินเข้ามาในห้อง มันพูดขอบคุณเสียงเบาก่อนจะเดินเข้าห้องไปเงียบๆ ผมโคลงหัวคิดว่ามันเป็นอะไร หรือวันนี้อะไรเกิดขึ้นกับมัน ถึงได้มีสีหน้าที่แย่แบบนี้

ซ่าวางกระเป๋าไว้บนข้างโต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะเดินแยกไปเข้าห้องน้ำ มันใช้เวลาอยู่ในนั้นนานราวสิบนาทีเห็นจะได้ จึงค่อยเดินออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เปียกซก

“ซ่า มานี่สิ” ผมตบที่นอนข้างๆให้มันมานั่ง มันทำอะไรเชื่องช้าขัดกับชีวิตปกติที่มักจะโผงผาง ต้องยืนคิดแล้วถึงจะเดินมานั่ง ผมดึงมันเข้ามาใกล้เมื่อซ่าเว้นระยะห่างไว้มากเกินความจำเป็น แต่มันก็ขืนตัวไม่ยอมขยับเข้าหาผม

“เป็นอะไร”

“...”

มันไม่ตอบ เอาแต่ก้มหน้าหลุบตามองต่ำ เมื่อมองตามสายตาก็ได้เห็นว่ามือทั้งสองข้างมีรอยถลอก ที่เห็นได้ชัดเลยคือข้อนิ้วมือที่มีรอยแผลแตกและมีเลือดซึม จากประสบการณ์ที่เคยเป็นนักเรียนให้ป๊าซ้อมและครูฝึกศิลปะป้องกันตัว หรือแม้แต่ไปต่อยตีกับชาวบ้านด้วยตัวเอง รู้เลยว่าแผลเหล่านี้ได้มายังไง และคิดว่าสาเหตุน่าจะเรื่องเดียวกับบาดแผลในครั้งก่อน

“มีอะไรจะพูดกับกูหรือจะฟ้องกูไหม”

ผมไม่อยากให้มันทำหน้าเศร้า ไม่ชอบแววตาดื้อรั้นกลายเป็นหมดอาลัยตายอยาก ผมพอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมันที่โรงเรียน แต่ก็ไม่ได้รู้มาก เพราะสายสืบที่ผมสั่งให้ดูแลซ่าเรียนคนละห้องคนละชั้นกับเด็กผม อะไรที่ซ่าประสบด้วยตัวเองไอ้พวกนั้นคงไม่รู้ เพราะไอ้เด็กนี่คงไม่บอกหรือเล่าให้ใครฟัง

ผมแอบคิดว่ามันจะตกใจที่ผมถามเหมือนรู้ทัน ตรงกันข้าม นั่งก้มหน้านิ่งยังไงก็นิ่งอย่างนั้น เหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อผมวางมือลงบนหน้าขา ซ่าก็สะดุ้งปัดมือผมทิ้ง ผมใจแกว่งเล็กน้อยกับปฏิกิริยาของซ่า แต่แค่เล็กน้อยเท่านั้น ผมคิดว่ามันกำลังอ่อนแอ และผมต้องเข้มแข็งพามันผ่านอุปสรรคในครั้งนี้ไปได้

ตั้งแต่ที่มันตกลงคบกับผม ผมก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้น เท่าที่ไอ้หวายเล่าให้ผมฟังก็จับใจความได้ว่า รุ่นน้องของพวกมันที่ซ่าเรียนร่วมชั้นอยู่ด้วย เห็นผมไปรับไปส่งซ่า ยังมีภาพถ่ายอะไรสักอย่างที่ไอ้หวายได้ยินเด็กในโรงเรียนพูดถึง แต่มันไม่เคยเห็น คนที่เห็นก็คงจะเป็นไอ้เด็กที่นั่งหน้าเครียดอยู่ข้างๆ แต่มันไม่เคยคิดจะเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาสักพักหนึ่งแล้วให้ผมฟัง

ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า สังคมในกลุ่มเด็กเทคนิคหรือเด็กช่างมันแคบกว่าเด็กมหาวิทยาลัย รักในเพศเดียวกันคงไม่ใช่เรื่องที่เท่และดูดีในกลุ่มวัยรุ่นขาโจ๋ป่วนเมือง ดังนั้นการที่เด็กผู้ชายในโรงเรียนสักคนจะเป็นตุ๊ดเป็นกระเทยย่อมต้องถูกจับตามองและเปอร์เซ็นต์การถูกกลั่นแกล้งก็สูงมากกว่าเด็กเนิร์ดคงแก่เรียน ยิ่งสิ่งที่ซ่าโดนไม่ใช่แค่เรื่องที่เป็นมาคบกับผู้ชาย แต่เป็นข่าวลือว่าซ่าขายตัวให้ผม นั่นเลยทำให้เด็กในโรงเรียนมองซ่าในทางที่แย่เข้าไปใหญ่

ทำไมผมรู้แล้วถึงไม่จัดการอะไรสักอย่าง ผมยังยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างซ่าและดูแลมันให้ดีที่สุด ผมทำให้มันได้ทุกอย่างขอแค่มันบอก เพียงแต่ผมรอให้มันพูดออกมาเท่านั้น ผมยินดีที่จะรับฟังพร้อมช่วยแก้ปัญหา บางอย่างแก้ที่คนอื่นไม่ได้ ก็ต้องแก้ที่ตัวเราเอง

“พี่ปราบ” หลังจากปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปประมาณหนึ่ง ผมทำได้แค่นั่งรออย่างใจเย็น ซ่าก็เริ่มเปิดปากพูด แต่ยังคงไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตา

“ว่าไง”

“เรา...”

“อยากพูดอะไรก็พูดเลย กูฟังอยู่” คืนนี้ผมมีเวลาให้มันพูดทั้งคืน

“มันดีแล้วจริงเหรอพี่” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาอ่อนแรงจนสงสาร

“หมายถึงเรื่องอะไรล่ะ”

“ที่เราคบกัน”

คำตอบที่ได้ ไม่ได้ทำให้แปลกใจอะไรมากนัก ก็อย่างที่บอกว่าผมพอจะรู้คร่าวๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับซ่าที่โรงเรียน และพอจะเดาได้ว่าซ่าจะคิดและรู้สึกยังไงกับเรื่องแบบนี้ แค่ยอมรับใจตัวเองก็ยากพออยู่แล้ว การทำให้สังคมรอบข้างยอมรับมันยากยิ่งกว่าหลายเท่า

“แล้วคบกับกูมันไม่ดีหรือไง หรือมึงไม่ชอบกูแล้ว” ผมคาดหวังว่าอย่างน้องถ้าไม่ตอบซ่าก็ต้องส่ายหน้า แต่มันกลับนิ่งจนผมใจเขว

คงไม่ได้เลิกชอบกูจริงๆใช่ไหม?

ผมประคองใบหน้ามันขึ้น ขยับตัวผมและดึงตัวมันให้หันหน้าเข้าหากัน เพื่อที่ผมจะได้มองดูสีหน้าและแววตาขมขื่นของมันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดวงตาที่เพิ่งจะมีความสุขแต่งแต้มได้ไม่นาน กลับมาเศร้าหมองเหมือนแต่ก่อน ผมโคตรไม่ชอบแววตาแบบนี้เลยให้ตายเถอะ

“ซ่า มองตากูนะ แล้วตอบกูว่ามึงยังชอบกูอยู่ไหม” ผมขอความมั่นใจให้ตัวเองหน่อย จะได้มีแรงไปต่อ และคราวนี้มันก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังเมื่อซ่ามันพยักหน้าช้าๆ

“ถ้างั้นเล่าได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”

“ผมไม่อยากเล่าเลย มันโคตรแย่” เสียงของมันสั่น ก่อนที่น้ำตาหยดหนึ่งจะไหลลงมาโดนมือผม มันลนลานรีบปาดน้ำตาทิ้ง

“แย่ยังไงก็เล่าให้กูฟังได้ หรือมึงไม่ไว้ใจกู”

“ผมเปล่า”

“ถ้าอย่างนั้นก็เล่ามา

ซ่ายอมช้อนสายตาขึ้นสบกับผม ผมอยากดึงมันมากอดแล้วโอ๋ให้หายเศร้า เพียงแต่การรอฟังสิ่งที่มันจะเล่านั้นสำคัญกว่า ไว้เคลียร์ปัญหานี้จบแล้วโอ๋ทีเดียวก็ยังไม่สาย

เรื่องราวที่ซ่าต้องเผชิญมาในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคำๆเป็นท่อนๆ เล่าไปหยุดไปเหมือนมันไม่อยากจะพูด แต่สุดท้ายมันก็ยอมพูดออกมา ความจริงที่เพิ่งรู้กับเรื่องที่รู้ว่ามาจากไอ้หวาย เรียกได้ว่าสิบในร้อย ยิ่งเล่าไหล่กว้างก็ค่อยๆหลู่ตก จนเหมือนจะห่อตัวเองเพื่อป้องกันคำต่อว่าติฉินของคนรอบข้าง

สิ่งเดียวที่ผมลืมคำนึงจนปล่อยให้เรื่องราวมันเลวร้ายมากขึ้นก็คือซ่ามักเลือกทิ้งความสุขของตัวเองเพื่อให้คนอื่นพอใจ

แต่จะโทษมันคนเดียวก็ไม่ได้ ต้องโทษที่คนรอบข้างหล่อหลอมให้มันเป็นคนไม่กล้าที่จะมีความสุขมานานเกินไป

“ผมกลัว...กลัวว่าผมจะทนไม่ไหว” ประโยคสุดท้ายที่บอกว่าความอดทนของมันใกล้จะหมดลงทุกที

“มึงจะผ่านมันไปได้ซ่า”

“ผมไม่รู้เลยพี่ปราบ...ผมไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ผมไม่มีความสุขเลย”

“...”

“ผมไม่ได้อยากยินคำพูดแย่ๆพวกนั้นอีกแล้ว ผมอยากให้เวลามันผ่านไปไวๆ เรียนจบไวๆ แต่เวลาแม่งกลับเดินช้ายิ่งกว่าเดิม ผมคิดนะ คิดว่า ถ้าผม...ถ้าหากเรา...” ซ่าเหมือนต้องการจะพูดอะไรสักอย่างที่คงไม่ใช่เรื่องดี ริมฝีปากอิ่มซีดที่เคยขึ้นสีระเรื่อเม้มเข้าหากันแน่น แล้วน้ำตาหยดที่สองก็ไหลออกมา พร้อมกับประโยคที่แทบกระชากลมหายใจของผม

“ถ้าเราเป็นแค่พี่น้องกัน ถ้าเราไม่ได้คบกัน...”

อย่ารอให้มันพูดจบเลย ไม่งั้นมันจะยิ่งเลอะเทอะไปมากกว่านี้

“มึงพูดอะไรซ่า รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา” ผมกระชากตัวมันเข้าหาตัวแล้วเอ่ยต่อว่าเสียงดุ “เรื่องแค่นี้มึงก็คิดจะเลิกกับกูแล้วเหรอ”

“พี่ไม่ได้เป็นคนฟังคำพูดพวกนั้น พี่จะรู้อะไร” ซ่ากระชากเสียงใส่ผม มันอาจจะไม่ได้ตั้งใจพูด เพราะแววตาของมันเต็มไปด้วยคำขอโทษและรู้สึกผิด แต่สิ่งที่เพิ่งจะพูดก็ทำเอาผมเดือดจนอยากจะตีมันสักที

“มึงแคร์คำพูดมันหรือมึงแคร์คำพูดของกู”

ซ่าไม่ยอมสบตากับผม ผมจึงต้องบังคับด้วยการประคองใบหน้าของมันไว้ในมือ ล็อคเอาไว้ไม่ให้มันเบี่ยงหน้าหนี หมั่นไส้ปนหมั่นเขี้ยวจนอยากจะบีบหน้ามันให้แหลกคามือ

“งั้นมึงก็เลือกที่จะอยู่กับคำพูดของมันแล้วปล่อยกูไป เลิกกันไหมล่ะ”

เพี๊ยะ!

ไอ้ซ่ามือลั่นตีปากผม และมันเหมือนจะเพิ่งว่าทำอะไรลงไป ใบหน้าเลิ่กลั่กตกใจ เบ้หน้าปากสั่นอย่างคนตกใจสุดขีด เหนือกว่านั้นคือมันสามารถส่งสายตาตัดพ้อต่อว่ามาให้ผมได้ในเวลาเดียวกัน สามารถจริงๆเด็กกู แต่ผมดีใจนะที่มันลงมือลงไม้กับผมน่ะ เพราะหมายความว่ามันไม่อยากให้ผมพูดคำว่าเลิกออกมา แต่ผมบอกตัวเองว่าอย่าเพิ่งดีใจตอนนี้ จนกว่าผมกับมันจะทำความเข้าใจตรงกัน ผมต้องเก๊กโกรธเอาไว้ก่อน

“ไอ้ซ่า กูเจ็บนะ มึงตบกูทำไมเนี่ย” ผมถามมันเสียงเข้ม ตีหน้าเอาเรื่องพอสมควร จากที่หงอยอยู่แล้ว หงอยลงไปอีกสิบระดับ

“ก็พี่พูดว่าเลิก”

“มึงพูดก่อนนะ”

“ผมไม่ได้พูด” มันเถียง

“ทำไมมึงจะไม่ได้พูด มึงบอกว่าถ้ามึงกับกูเป็นแค่พี่น้องกัน ถ้าไม่คบกัน ที่พูดเนี่ยไม่ได้ความว่าเลิกกับกูมันจะดีกว่าเหรอไง”

“ผมแค่สมมุติ ผมไม่ได้พูด แต่พี่พูด” ไอ้ซ่าไม่ยอมรับว่ามันเองก็คิดแบบที่ผมพูด ยังจะทำตาขวางใส่ผมอีก ไอ้เด็กคนนี้นี่แม่งเอาใจยากจริงๆ

“เออๆ ไม่เลิกๆ ทั้งๆที่มึงเป็นคนลังเลแท้ๆ แม่ง” ผมบ่น เห็นกูยอมหน่อยนี่เอาใหญ่เลย

“ผมไม่ได้ลังเล”

“ถ้ามึงไม่ได้ลังเลแล้วมึงสมมุติขึ้นมาทำไม จะคิดมากใส่ใจคำพูดของคนอื่นทำไม ทำไมมึงไม่ใส่ใจความรู้สึกของตัวเอง คำพูดมันไม่ได้หวังดีกับมึงเลยด้วยซ้ำ มึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาใส่ใจเลยสักนิด”

“พี่ไม่โดนพี่ก็พูดง่าย”

ผมถอนหายใจหนักๆ ก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจนะว่าสถานการณ์ที่มันต้องเผชิญมันหนักหนากับคนที่ไม่ได้เป็นเกย์มาตั้งแต่เกิดพอสมควร แต่มองไม่เห็นประโยชน์ที่จะเก็บคำพูดไร้สาระพวกนั้นมาใส่ใจ แต่ก็อย่างว่าแหละ คนเราเติบโตมาไม่เหมือนกัน ผมไม่เคยแคร์อะไรมาตั้งแต่เด็กเพราะถูกปลูกฝังให้ทำอะไรตามใจตัวเอง ถ้าเรื่องนั้นไม่เดือดร้อนใครทุกคนในครอบครัวพร้อมจะสนับสนุน ไม่เหมือนกับซ่าที่ไม่เคยมีใครบอกหรือชี้แนะแนวทางจนกระทั่งได้มาเจอกับผม ดังนั้นผมต้องใจเย็นและค่อยๆสอนมัน

“อย่าพูดว่ากูไม่เข้าใจมึง เพราะกูเข้าใจมึงดี อาจดีกว่าที่ตัวมึงเองด้วยซ้ำ กูรู้นะว่าเวลาฟังคำพูดที่มันบั่นทอนความรู้สึกทุกวัน มันก็ต้องโมโหกันบ้าง แต่ว่าไอ้คนที่พูดเป็นใครก็ไม่รู้ สำคัญกับชีวิตมึงหรือก็ไม่ ทำไมต้องเอาคำพูดมันมาทำลายความรู้สึกของตัวเองด้วย จริงไหม”

ผมปล่อยใบหน้าของมันออก แล้วแบมือทั้งสองข้างตรงหน้าของซ่า บอกให้มันรู้ว่ามือคู่นี้ของผมพร้อมจะให้กำลังใจและจับมือมันก้าวผ่านปัญหาต่างไปได้ แค่มันวางมือลงบนมือของผม ผมจะจับเอาไว้แน่นไม่ปล่อยให้มันต้องผ่านพ้นอุปสรรคแต่เพียงลำพัง

มือแห้งสากของซ่ายกขึ้นแล้ววางไว้บนมือของผมอย่างไม่ลังเล แม้ว่าความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาเงียบๆจะเต็มไปด้วยความกังวล ผมบีบกระชับมือของมันแนบแน่น กะน้ำหนักมือไม่ให้ซ่ารู้สึกเจ็บหรืออึดอัดจนเกินไป เหตุการณ์ที่มันต้องเจอส่วนหนึ่งก็มาจากผม ถ้าผมไม่ยัดเหยียดตัวเองให้มันจนมันขาดผมไม่ได้ มันคงไม่ถูกสังคมในรั้วโรงเรียนประณามและดูถูกเหยียดหยามอย่างไม่ยุติธรรม

ผมสมควรที่จะรับผิดชอบความผิดของตัวเอง

“สิ่งที่กูจะถามมึงต่อไปนี้ มึงต้องคิดให้ดีก่อนที่จะตอบ ตอบตามความรู้สึก ใช้หัวใจตอบคำถาม อย่าใช้สมอง อะไรที่ไม่ใช่ก็พูดออกมาตามความจริง กูจะไม่ว่าไม่แย้งใดๆทั้งสิ้น มึงทำได้ไหม”

ผมไม่ได้รู้สึกกังวลใจกับคำตอบที่ซ่าจะตอบมากนัก เพราะรอยตบเมื่อสักครู่นี้บอกได้ดีในระดับหนึ่งว่ามันเองก็ไม่อยากเลิกกับผมเหมือนกัน แต่ที่ต้องถามย้ำก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเด็กมันเอง

และเมื่อซ่าพยักหน้าเป็นอันว่าเข้าใจ ผมก็เริ่มถามคำถามในทันที

“อันดับแรง มึงลองถามใจมึงดูนะซ่าว่าเป็นแฟนกูทำให้มึงรู้สึกแย่หรือเปล่า มึงรู้สึกรังเกียจตัวเองไหมที่มาคบกับกู ตอบตามที่ใจมึงคิด เอาตามความรู้สึกจริงๆของมึง”

ซ่าไม่ได้ตอบในทันที มันใช้เวลาคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบ

“ผมไม่ได้รังเกียจพี่ ไม่ได้รู้สึกแย่”

ผมระบายยิ้มพึงพอใจกับคำตอบที่ได้

“ถ้าอย่างนั้น อยู่กับกูมีความสุขไหม กูทำให้มึงมีความสุขหรือเปล่า”

ข้อนี้มันไม่ต้องใช้เวลาคิด ซ่าก็พยักหน้าตอบอย่างไว “ผมมีความสุข”

“กูสำคัญกับมึงไหม”

มันพยักหน้าเช่นเดิม

“กูกับไอ้พวกปากหมาในโรงเรียน ใครสำคัญกว่ากัน”

ซ่าตวัดลูกตามองหน้าผมเหมือนจะต่อว่าผมถามคำถามบ้าบออะไรกับมัน แต่มันก็ไม่ได้พูดออกมา ยินยอมตอบคำถามผมแต่โดยดี

“ก็ต้องพี่สิ”

“ถ้ากูสำคัญกว่าพวกมัน งั้นมึงแคร์คำพูดพวกมันทำไม”

“...”

“มันไม่ได้ให้ความสุขมึงเท่ากูใช่ไหม ไม่ได้หวังดีกับมึงอย่างกู ไม่ได้รักมึงอย่างกู แล้วมึงให้ค่าคำพูดพวกมันทำไมซ่า ตอบกูหน่อยสิ”

พอโดนผมจี้เข้าจุดแบบติดๆกัน ท่าประจำก็กลับมาปรากฏให้เห็นอีกรอบ ทั้งก้มหน้าห่อไหล่และเม้มริมฝีปาก ถ้าไม่ติดว่าผมจับมือของมันไว้ มันจะต้องบีบมือตัวเองเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งอย่าง

“ขอโทษ” ทันทีที่รู้ตัวว่าผิด ซ่าก็ไม่อายที่จะเอ่ยคำขอโทษ เท่านั้นไม่พอ มันยังปล่อยมือผมแล้วพุ่งตัวเข้ามากอดผมด้วยตัวเอง ตั้งแต่คบกับมันมา มันไม่เคยเป็นฝ่ายกอดผมก่อนเลยด้วยซ้ำ นี่นับเป็นครั้งแรก และผมโคตรจะดีใจ

“ผมขอโทษ”

ซ่าร้องไห้อยู่กับไหล่ผมเงียบๆ ผมลูบหัวลูบหลังที่สั่นสะท้านเพื่อปลอบโยน ไม่มีเสียงสะอื้น มีเพียงความชื้นบนไหล่เท่านั้นที่ผมสัมผัสได้ว่ามันเสียใจมากแค่ไหนกับอุปสรรคในครั้งนี้

“อยากร้องก็ร้อง ถ้ากูอยู่ตรงนี้กูอนุญาตให้ร้องไห้ได้ แต่ถ้ากูไม่อยู่ใกล้ๆ ห้ามร้องไห้เด็ดขาด เข้าใจไหม”

ซ่าพยักหน้าทั้งน้ำตา เกือบสิบนาทีที่มันร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของผม ยอมเผยด้านที่อ่อนแอให้ผมได้เห็น จวบจนมันยกหน้าขึ้นจากไหล่ ผมก็ปล่อยมือที่โอบกอด เปลี่ยนมาลูบแผ่วที่แก้มตอบเพื่อเช็ดน้ำตา

“ยังรู้สึกว่าคิดผิดอีกไหมที่คบกับกู” ผมถามซ้ำอีกครั้ง

“ไม่” คำตอบสั้นๆคำเดียว แต่ทิ้งเสียงหนักแน่นมั่นใจ

“จำเอาไว้นะซ่า การที่ผู้ชายสองคนรักกันคบหากันไม่ใช่เรื่องผิด มันคือความพึงพอใจของคนสองคน อาจจะมีคนที่เข้าใจเราและไม่เข้าใจเรา ก็ช่างเขา เราไม่สามารถทำตัวให้ถูกใจคนทั้งโลกได้ ต่อให้มึงคบกับผู้หญิง ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเทิดทูนบูชาความรักของมึง ในเมื่อเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน การที่มึงคบกับกูไม่ได้ทำให้ใครตาย มึงก็ไม่ต้องรู้สึกผิดรู้สึกแย่ใดๆทั้งสิ้น”

“...”

“มึงยังต้องออกไปเจอโลกที่กว้างกว่าในพื้นที่โรงเรียน มึงจะเจอทั้งคนที่รับได้และรับไม่ได้ที่มึงคบกับผู้ชาย แต่สิ่งที่มึงจะเผชิญ กูเองก็ต้องเจอไม่ต่างกัน กูมีหน้ามีตาในสังคม มีหน้าที่การงานและลูกจ้างนับพันนับหมื่นที่ต้องดูแล ถ้าบอร์ดบริหารรู้คนในสังคมรู้ว่ากูมีแฟนเป็นผู้ชาย พวกเขาต้องวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่แล้ว และมันจะมีทั้งคนที่รับได้และรับไม่ได้ ยิ่งโตขึ้นความกดดันรอบข้างต่อความรักของเราจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่กูกำลังจะบอกมึงก็คือว่า...กูไม่เคยกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นเหล่านั้นเลย เพราะอะไรมึงรู้ไหม เพราะการที่กูรักมึงไม่ได้ทำให้ใครตาย ไม่ได้ทำให้โลกร้อนขึ้น ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจแย่ และโลกจะไม่แตกเพียงเพราะกูคบกับผู้ชายด้วยกัน กูไม่ได้ไปรักมึงบนหัวใคร กูไม่ได้แย่งมึงมาจากคนอื่น ในเมื่อกูไม่ได้ทำผิดต่อใคร ทำไมกูจะคบกับคนเพศเดียวกันไม่ได้”

“...”

“สุดท้ายแล้วคนเราเกิดมาก็แค่ชีวิตเดียว จะตายวันไหนก็ไม่รู้ ทำไมกูจะต้องแคร์คนอื่นมากกว่าตัวกูเอง ทำไมต้องแคร์ว่าคนอื่นจะพอใจกับความรักของกูหรือไม่มากกว่าความพอใจของตัวกูเอง ขอแค่วันนี้กูมีความสุขอยู่กับสิ่งที่เลือก มันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอวะซ่า”

“พี่ปราบ...”


“มึงไม่ได้ทำอะไรผิด และมึงควรจะมีความสุขได้แล้ว” ผมโอบมันเข้ามากอด จนตัวมันขึ้นมานั่งซ้อนอยู่บนตักของผม แตะนิ้วที่เปลือกตาบวมให้ปิดลง กระซิบเบาๆที่ใบหูให้มันได้ยินเพียงคนเดียว

“หลังจากวันนี้มึงจะต้องมีแต่ความสุข มึงทำตามใจตัวเองได้เต็มที่ อย่ากลัวที่จะรัก อย่ากลัวที่จะยิ้ม อย่ากลัวที่จะทำตามความต้องการของตัวเอง อยู่กับกูมึงเอาแต่ใจได้เต็มที่ ถ้าผิดกูจะสอน ถ้าถูกกูจะสนับสนุน มึงเชื่อใจกูไหม”

น้ำตามันไหลลงมาอีกแล้ว คราวนี้ผมใช้ริมฝีปากของตัวเองซับน้ำตาให้ซ่า ก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากแห้งผากเบาๆ

“พี่ปราบ”

“หืม”

“ผมรักพี่”

ผมชะงักทุกความเคลื่อนไหวของร่างกาย เพราะไม่คิดว่าซ่าจะบอกรักผม ทั้งยังไม่เคยคิดด้วยความมันจะรู้สึกตามที่พูด ขอแค่ในเวลานี้มันเองก็ชอบผมบ้างผมก็พอใจแล้ว

“ไม่ได้พูดเพราะอยากเอาใจกูใช่ไหม”

“รัก...รักจริงๆ”

“...” กลายเป็นผมเองที่พูดอะไรไม่ออก

“ต่อไปนี้ผมจะไม่ฟังคำพูดใครอีกแล้ว ผมจะเชื่อฟังพี่คนเดียว”
 
“อืม ดีแล้ว” ผมยิ้ม มองคนที่ทำหน้าหงอยเพลินตา

“ผมจะมีความสุขใจไหม”

“มึงจะมีความสุข” ผมกดจูบที่ขมับบาง นับได้ว่าอุปสรรคในครั้งนี้ให้ผลลัพธ์ท้ายสุดที่ดีเกินคาด

“ขอบคุณครับ”

“I love you my good boy”

ซ่าอาจจะไม่ได้เป็นเด็กเรียนเก่ง แต่ประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆพวกนี้ผมว่ามันเข้าใจได้ ไม่อย่างนั้นใบหน้าของมันคงไม่ขึ้นสีแดงระเรื่อ

ตั้งแต่คบกับมันมา ผมไม่เคยวางใจได้สักวันจนกระทั้งวันนี้ที่มันบอกว่ารักผม ผมกลัวมันเปลี่ยนใจอยู่ตลอดเวลา คนอย่างผมที่คนอื่นมองว่าเพียบพร้อม แต่กับเด็กคนนี้ มันทำให้ผมหวาดหวั่นกับใจของมันได้ตลอด เพราะมันไม่ได้เป็นเกย์และคบผู้หญิงมาตลอด ผมจึงกลัวว่ามันจะค้นพบว่านี่ไม่ใช่ทางของมันแล้วมันจะเปลี่ยนใจจากผม

แต่หลังจากนี้ผมไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว เพราะมันกล้าที่จะรุกจูบผมก่อนขนาดนี้ เท่ากับว่ามันเปิดใจให้ผมเต็มร้อย

รสจูบครั้งนี้ดุเดือดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าซ่าจะทิ้งความเขินอายไปจนหมด จากที่ผมมักจะเป็นฝ่ายไล่ต้อนให้มันตอบสนอง คราวนี้เป็นมันที่ไล่ต้อนผมบ้าง ดูดดุนลิ้นของผมบ้าง จนผมรู้สึกว่าอ่อนข้อให้ไม่ได้และต้องพลิกสถานการณ์ขึ้นมาเป็นฝ่ายไล่ต้อนบ้าง กว่าสงครามน้ำลายจะสิ้นสุดลงก็ตอนที่สัมผัสได้ถึงรสเค็มปร่าของเลือด

ปากซ่าแตกจนได้...แต่แตกเพราะฝีปากผมมันก็โอเค





เช้าวันต่อมามันไม่อิดออดกับการที่ผมจะไปส่งมันที่โรงเรียน มันนั่งนิ่งๆชวนผมคุยนู่นนี่เป็นปกติ ไม่ได้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้กังวลเหมือนอาทิตย์ที่ผ่านมา

ก่อนมันจะลงจากรถ ผมก็ดังแขนซ่าเอาไว้ มันหันมาเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าผมมีอะไรกับมันหือเปล่า เพราะวันนี้เราออกมาสายกว่าปกติ และใกล้จะได้เวลาเข้าแถมเคารพธงชาติเต็มที

“มีอะไรเหรอเปล่าพี่” ซ่าถาม

“ถ้ามีเรื่องอะไรโทรหากูได้ตลอด”

“ผมจะมีเรื่องอะไรเล่า”

“เพื่อมึงอยากจะตั๊นหน้าพวกปากหมา ก็โทรมาได้ กูจะมาเป็นผู้ปกครองให้”

ผมรู้เรื่องที่แม่มันถูกเรียกให้มาฟังความผิดของมันเนื่องจากต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียน มันเล่าแค่นิดหน่อยไม่ได้เล่าทั้งหมด ดูน่ามันเหมือนจะไม่อยากพูดถึงพี่แนน ผมเลยไม่เข้าไปยุ่ง เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟสำหรับซ่าเสมอ และยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะต้องเข้าไปยุ่มย่ามให้มากเกินพอดี

“ผมไม่ต่อยพวกมันในโรงเรียนแล้ว จัดข้างนอกง่ายกว่า ขี้เกียจฟังครูบ่น ไหนจะต้องไปบำเพ็ญประโยชน์หลังเลิกเรียนอีก”

“หึหึ คิดได้แบบนั้นก็ดี หมาจะเห่าจะหอนก็ปล่อยมันไป แต่มันมาแย่งความสุขมึงไม่ได้หรอก เข้าใจไหม”

“ครับ”

“ไปเรียกเถอะ ตั้งใจเรียน”

“สวัสดีครับ ขับรถดีๆนะพี่”

“อืม เจอกันตอนเย็น”

ซ่าโบกมือบ๊ายบายพลางเอียงคอ ผมมองท่าทางน่ารักนั้นนิ่ง คนทำมันก็คงไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป เพราะโบกมือลาเสร็จมันก็ลงจากรถแล้ววิ่งไปทางที่อาคารเรียน ถ้าไม่ติดว่ามันจะสาย ผมจะดึงมันมาจูบส่งก่อนเข้าเรียนสักทีสองที

หมั่นเขี้ยวโว้ย!

วันนี้ผมขับรถตรงไปที่โรงฝึกก่อนเข้าออฟฟิศ หยิบซองเอกสารที่ได้มาจากลูกน้องติดมือเข้าไปด้วย เสียงในโรงฝึกเงียบเชียบ ไม่มีเสียงวิ่งเล่นเจี๊ยวจ๊าวน่ารำคาญ เนื่องจากวันนี้ป๊าเข้ามาคุมเด็กเอง

“ไงไอ้ลูกชาย มาทำอะไรแต่เช้า” ป๊าทักเมื่อเห็นผมเดินเข้าไปใกล้ มองดูเด็กๆในโรงฝึกก้มหน้าซ้อมกันอย่างขะมักเขม้น

“แวะมาเลือกเด็กไปทดสอบนอกสถานที่หน่อย”

“ใครไปกระตุกตีนเข้าล่ะ” ป๊าพูดโดยไม่มองหน้าผม สายตากวาดมองไปที่เด็กๆที่กำลังซ้อมกับครูฝึกอยู่

“มีฝูงหมาจรจัดมันมาแหย่เด็กผมจนร้องไห้ ก็เลยต้องไปจัดการสั่งสอนสักหน่อย”

“จะเอาเด็กกี่คน” อย่างป๊าไม่เคยห้าม กฎของบ้านผมคือ เหี้ยได้ทันทีที่มีคนแกล้งเมีย

“สามคนก็พอป๊า”

“อืม เดี๋ยวกูคัดให้ ว่าแต่อย่างเด็กมึงนี่ยังมีคนกล้าแกล้งอีกเหรอไง” ป๊าหันมาเลิกคิ้วสูงถามผมเหมือนสงสัยและไม่เชื่อว่าไอ้ซ่าจะโดนแกล้ง

“มันเป็นเด็กดีแล้วนะป๊า ผมสอนมากับมือ ไอ้พวกหมาไม่มีเจ้าของเล่นกล้าแหย่หนวดเสือ”

ป๊าพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหัวขวับมาจ้องผมอีกรอบ  “เด็กมันยอมมึงแล้ว”

“มันรักผมแล้วเถอะ” ผมยักคิ้วให้ป๊า ระดับนี้แล้วไม่ปล่อยให้ลูกไก่ในกำมือหลุดไปอยู่ในเล้าของคนอื่นหรอก

“แต่ก็ยังไม่ได้กิน หึ กระจอกวะ อย่าไปบอกใครว่าเป็นลูกกูนะ” ป๊าแสยะยิ้มมุมปาก เหลือบมองผมด้วยสายตาดูแคลน

เวลาโดนดูถูกเรื่องนี้แล้วของมันขึ้น เดี๋ยวคอยดูเลย อีกไม่นานผมกินไอ้ซ่าแน่ ไม่งั้นป๊าต้องล้อผมไปทั้งชาติ ซึ่งผมจะไม่ยอมเสียหน้าเป็นอันขาด ฆ่าได้หยามไม่ได้เว้ย

“ว่างๆก็พามากินข้าวที่บ้านบ้าง ไปแอบอยู่ด้วยกันมันใช้ได้เหรอวะ”

“ไม่นานหรอกป๊า เดี๋ยวพามาเปิดตัวเลย” คิดไว้แล้วว่าเสาร์อาทิตย์นี้จะพามันมากินข้าวที่บ้าน จะได้ทำความรู้จักและทำความคุ้นเคยกับครอบครัวผมอย่างเป็นทางการในฐานะลูกสะใภ้

“ไอ้ซู่ซ่ากับปาปิก้ามันชะเง้อหามึงหน้าบ้านทุกวันอ่ะ อย่าลืมแวะเข้าบ้านไปดูมันหน่อย”

“ครับผม”

เย็นของวันนั้นผมก็ไม่ดูการฝึกน้องสถานที่ของเด็กสามคนด้วยตัวเอง ปล่อยให้ซ่ากลับคอนโดพร้อมคนขับรถแทน อ้างว่าติดงานยังกลับไม่ได้ แต่ความจริงแล้วผมต้องการมาดูบทเรียนของพวกหมาปากเปราะที่เห่าหอนไม่ดูตามาตาเรือกับตาตัวเอง

“พอแล้ว อึก ผมกลัวแล้ว ยอมแล้ว”

“ถ้าไม่อยากเสียตูดให้ตัวผู้จริงๆล่ะก็ อย่ามายุ่งกับเด็กเฮียกูอีก เข้าใจไหม”

“อึก ขะ...เข้าใจครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมไหว้แล้ว ปล่อยพวกผมไปเถอะ”

บทเรียนสั่งสอนที่ผมมอบให้พวกมันไม่ได้ทำให้เลือดตกยางออก ให้เด็กมันซ้อมร่างกายตามกระบวนท่าคาราเต้แบบถูกต้องและปลอดภัยเล็กน้อย แต่ความเจ็บเป็นของจริง ก่อนจะข่มขู่ให้มันกลัวก็เท่านั้นว่าความรู้สึกที่จะต้องเสียตูดให้คนเพศเดียวกันมันเป็นยังไง แต่ถ้าหลังจากนี้ยังไม่หยุด ผมก็คงต้องจัดบทเรียนขั้นเด็ดขาดให้ จะได้ไม่กล้ามาล้อเด็กผมอีก







...............................................................................
สวัสดีค่า ไม่ได้มาเมื่อวาน เพราะเพลียเหลือหลาย  o19
ไม่คิดว่าตอนนี้จะสามารถบรรยายออกมาได้ยาวขนาดนี้ แต่ต้องให้พี่กับน้องเขาเคลียร์ปัญหาทางใจให้จบๆ จะได้ไม่มีกำแพงมาความกั้นความรู้สึกของทั้งสองคนที่จะส่งทอดหากัน  :oni1:
และตอนนี้เขารักกันอย่างเป็นทางการแล้วค่ะคุณผู้ชมมมมม! เจอแบบพี่ปราบเข้าไป ซ่าจะใจแข็งได้นานเหรอ ไม่มีทางหรอก ทางเราเองก็อยากจะแย่งพี่ปราบวันละสามเวลาหลังอาหาร แต่ก็ใจร้ายกับน้องซ่าไม่ลง
หลังจากนี้มารอดูกันสิว่า อิพี่จะมีน้ำยาทำให้น้องมันยอมเป็นเมียได้หรือไม่ มารอลุ้นกันค่า :impress2:
จุ๊บบบบ
 :mew1:


หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 17-01-2018 18:36:56
ชอบแนวนี้ ขอบคุณที่มาต่อนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 17-01-2018 18:37:21
ชอบพี่ปราบ พี่ปราบคนจริง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-01-2018 18:41:36
เคลียร์ใจกันแล้ว มีบอกรักให้อิพี่ตะลึงด้วย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 17-01-2018 18:43:28
พี่ปราบโคตรเท่ๆๆๆๆๆ ปลื้มมม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-01-2018 19:02:24
พี่ปราบ เยี่ยมมาก พูดให้ซ่าได้คิด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
".........การที่กูรักมึงไม่ได้ทำให้ใครตาย ไม่ได้ทำให้โลกร้อนขึ้น
ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจแย่ และโลกจะไม่แตกเพียงเพราะกูคบกับผู้ชายด้วยกัน
กูไม่ได้ไปรักมึงบนหัวใคร กูไม่ได้แย่งมึงมาจากคนอื่น
ในเมื่อกูไม่ได้ทำผิดต่อใคร ทำไมกูจะคบกับคนเพศเดียวกันไม่ได้”


ซ่า บอกรักพี่ปราบ และเป็นฝ่ายกอดก่อน จูบก่อนซะด้วย  :o8: :-[ :impress2:
ทำเอาพี่ปราบใจพองโตไปเลย
พี่ปราบ ซ่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

พวกชอบเผือกเรื่องคนอื่นจะเป็นยังไงนะหลังจากนี้เลาเจอซ่า  :angry2:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: 
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 17-01-2018 19:12:11
ชอบพี่ปราบอ่ะ พระเอกคนดี คนจริง รักและเข้าใจนายเอกสุดๆ  o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 17-01-2018 19:39:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-01-2018 19:55:33
 o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 17-01-2018 20:01:04
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 17-01-2018 20:43:01
พี่ปราบดีเลิศ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-01-2018 21:02:44
คาดผิดไปเยอะ คิดว่าซ่าจะจัดการได้ ลืมไปว่าซ่าเป็นน้องใหม่ในวงการนี้ เลยต้องให้พี่ปราบเขาจัดการให้ แต่ก็ยินดีด้วยที่ผ่านไปด้วยดี  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-01-2018 21:08:27
ซ่าบอกรักเฮียปราบแล้วดีใจ มีอะไรขอให้บอกเฮียเดี๋ยวเฮียจัดการให้ ชอบกฎของบ้านนี้อ่ะ เหี้ยได้ทันทีที่เมียโดนแกล้ง55555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 17-01-2018 21:14:43
โอ๊ยยย พี่ปราบ หลัวแห่งชาติ รับมงไปค่ะ  :hao5:
ซ่าอยู่กะพี่ปราบเนี่ยดีแล้ว มีแนวโน้มโตไปเป็นคนดีของสังคม ว่าง ๆ ก็ให้รางวัลพี่มันบ้างนะ  :-[
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 17-01-2018 21:33:47
พี่ปราบเป็นที่พึ่งได้เสมอ แต่แหมบอกซ่าอย่าสนใจคำพูดคนอื่น ตัวเองนี่ไปแก้แค้นแทนให้เชียวนะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-01-2018 21:34:19
มารับรางวัลหลัวดีเด่นทางนี้ค่ะพี่~♡♡♡
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 17-01-2018 22:05:28
พี่ปราบนี่พึ่งได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 17-01-2018 22:16:49
ซ่าบอกรักเฮียปราบแล้ว ดีใจๆ ชอบประโยคที่ปราบบอกซ่านะ มันดูจริง ก็เฮียปราบคนจริงอยู่แล้วนี่นา 555555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-01-2018 22:36:16
มีความเมียมาเฟีย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 17-01-2018 23:49:07
กฎบ้านนี้ดีจริงๆค่ะคุณป๊า
ว่าแต่พี่ปราบจะได้กินน้องมั้ยน้าาา เสียงเชิงป๊าล้อแย่  :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 17-01-2018 23:58:02
  :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 18-01-2018 00:16:26
นิยายเรื่องนี้โคตรดีต่อใจ
อ่านจบรวดเดียว รอนะค้า
มีจองนิยาย แจ้งข่าวด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 18-01-2018 02:40:23
สมแล้วที่เป็นพี่ปราบ จัดการได้ทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-01-2018 15:01:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 18-01-2018 16:05:13
ความหลงเมียของอิพี่
ซ่าถ้าไม่รีบรวบหัวรวบหางพี่ปราบรี้แย่แน่.   คือพี่ปราบคือดีมากกก ผชแบบนี้
ว่าแต่พี่ปราบ มีน้ำยาแน่เคอะ. ยังไม่เห็นหนทางที่ซ่าจะยอมเลย555555
ป้าแนะนำ ถ้าอยากจัดการพี่ปราบไห้อยู่หมัด ครั้งแรก จัดการรุกพี่ปราบ ออนท็อปไปเลยลูกกกกก. กิก ิ ทีนี้พี่ปราบแบบว่าทั้งรักทั้งหลงบัว
5555555555555555555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 18-01-2018 16:33:03
ดีต่อใจน้องจริงๆค่ะพี่ปราบ น้องเชื่อว่าพี่มีน้ำยา...แต่ถ้าไม่ เดี๋ยวน้องซื้อน้ำยาไปให้นะคะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 18-01-2018 17:21:28
มีแฟนอย่างพี่ปราบดีเลิศเป็นล้านเท่า
อย่าไปแคร์ปากๆ พวกหมานิสัยเสียเลยซ่า
พี่ปราบ ปราบได้อยู่หมัด เท่จิมๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 18-01-2018 19:53:08
ยิ้มตามเลยอะ  แบบว่าเอ็นดูเด็กเฮีย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 18-01-2018 21:02:11
โอ๊ยยยย  มันดีมากกกก
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้... ชอบพี่ปราบ อยากได้อย่างพี่ปราบสักคน หาได้ที่ไหนค๊าาา  :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-01-2018 22:14:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 18-01-2018 23:08:08
ช่วยน้องด้วยนะพี่ปราบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 18-01-2018 23:26:06
มารอน้องซ่ากะพี่ปราบ ฮิ้วฮิ้ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-01-2018 23:29:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-01-2018 00:27:34
คำพูดเริศ ใช่ การมีแฟนเพศเดียวไม่ได้ทำให้สังคมเดือดร้อนค่ะ

ผู้ชายไม่จำเป็นต้องคู่ผู้หญิงเสมอไป สู้ ๆ น้าา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่29:: 17/1/2018 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 19-01-2018 02:16:12
โดนซะบ้าง ตอนนี้ซ่าเข้มแข็งขึ้นยัง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-01-2018 18:56:40
ปราบซ่า 
ตอนที่30



[ซ่า]

ผมเตรียมใจและทำใจได้แล้วว่า ถ้าใครจะนินทาเรื่องที่ผมคบกับพี่ปราบหรือแม้แต่ข่าวลือที่ว่าผมขายตัวให้เสี่ยแก่หลายต่อหลายคน ผมก็จะไม่สนใจ และจะไม่รู้สึกอะไรกับมัน เพราะผมไม่ได้ทำแบบที่คนพวกนั้นพูด และพี่ปราบได้ให้คำยืนยันกับผมแล้วว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ผิด

ผมจะไม่สนใจคำพูดของคนอื่นอีกแล้ว ชีวิตนี้ผมมีแค่พี่ปราบคนเดียวก็พอ

แต่ไม่คิดว่าเรื่องของผมมันจะเงียบเร็วขนาดนี้ ผมทำความเข้าใจกับพี่ปราบผ่านไปไม่ถึงสองวัน ทุกคนก็ไม่ค่อยจะสนใจผมเหมือนก่อนหน้า มีมองมาบ้าง แต่พอผมกวาดสายตาไปมองทุกคนก็รีบหลบตา ยิ่งพวกไอ้ธนัชที่หยุดเรียนไปสามวัน กลับมาอีกทีพร้อมใบหน้าที่บวมเขียวและช้ำ ดูก็รู้ว่าโดนยำตีนมา แต่ผมว่าไม่แปลกหรอก ปากหมาและกวนตีนอย่างมันคงไปเจอคนจริงเล่นงานเข้า ถึงกับเปรี้ยวไม่ออก แม้แต่ผมที่มันชอบมาล้อเลียนมันก็เงียบไม่กล้าแม้แต่มองหน้าผมด้วยซ้ำ

เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ผมแค่ต้องการมาเรียนให้มันจบๆ แล้วผมจะได้ไม่ต้องมาเจอไอ้พวกนี้อีก


วันหยุดวันเสาร์นี้ พี่ปราบปลุกผมแต่เช้า บอกว่าจะพาไปเล่นที่บ้าน ผมนอนคว่ำหน้าซุกหน้าลงกับหมอน เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตีสี่ เลิกงานแล้วอาเจก็ชวนเด็กๆในร้านนั่งดื่มนั่งกินกันก่อนกลับ ผมเองก็ดื่มไปไม่น้อย กลับถึงห้องได้ก็หลับเป็นตาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนได้ยังไง

“ทำไมยังไม่ตื่น” พี่ปราบที่อาบน้ำเสร็จแล้ว สวมกางเกงยีนส์แค่ตัวเดียวเสื้อยังไม่ใส่ นั่งลงบนเตียงข้างๆผม สะบัดผ้านวมที่คลุมหัวผมออกให้ได้เจอกับแสงแดดที่แยงตาจนต้องหันหน้าหนี

“ผมเวียนหัว” ผมตอบ แต่ง่วงมากกว่า

“ก็ตื่นไปอาบน้ำ จะได้สดชื่น” พี่ปราบวางมือลูบตั้งแต่หัวลงไปถึงกลางหลัง และไม่หยุดอยู่แค่นั้น มือใหญ่ค่อยๆลากลงต่ำจนถึงก้นทั้งสองก้อนแล้วลูบเล่น

“พี่ปราบ อย่าลูบ” ผมบอกเสียงอู้อี้

“ก้นงอนเหมือนกันนะเนี่ย” ลูบไม่พอยังจะตีเล่นด้วย ถูกก่อกวนมากๆผมก็เลยต้องจำใจลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังง่วงแบบสุดๆ หนังตาหนักอึ้งจนลืมตาได้แค่ข้างเดียว

“อย่าทำหน้าบึ้งน่า กูจะพาไปกินข้าวที่บ้าน” พี่ปราบดึงผมให้ลุกออกจากเตียง ดันหลังเข้าห้องน้ำ

“พี่ปราบ มันเพิ่งหกโมงเช้า” ผมแอบเห็นนาฬิกาเมื่อตะกี้

“ก็ไปกินข้าวเช้าบ้านกูไง”

“ข้าวเที่ยงไม่ได้เหรอ ขอผมนอนต่ออีกนิด” ผมต่อรองแล้วหมุนตัวเตรียมเดินกลับไปนอน แต่ไปไหนไม่ได้ เพราะมีคนตัวใหญ่กว่ายืนขวางอยู่หน้าประตูห้องน้ำ

วันนี้สามมื้อจะกินข้าวที่บ้านกู เพราะว่าคืนนี้เราจะไปนอนที่บ้านกูกัน”

“แต่ผมทำงานนะพี่”

“วันนี้ไม่ทำ อาเจก็ไม่เข้าร้าน เพราะบ้านกูนัดรวมญาติกันวันนี้”

“ผมว่าผมไม่ง่วงล่ะ ตื่นเต็มตาเลย นัดรวมญาตินี่คืออะไร ผมควรกังวลไหม ควรสิเนอะ และสีหน้าผมแสดงออกไปก่อนความคิด พี่ปราบเลยขยับเข้ามานวดที่หว่างคิ้วให้ผม

“ไม่ต้องกังวลหรอกน่า ป๊า พ่อ พี่ริช พี่เค้ก อาเจ มึงเคยเจอพวกเขาหมดแล้ว ที่จะมีเพิ่งเข้ามาก็ลุงสอง ถ้ามึงเข้ากับอาเจได้ มึงเข้ากับลุงสองได้แน่ รายนี้อัธยาศัยดีโคตรๆ จริงๆครอบครัวกูยังมีอีกสองคน ป๋าคาร์ลอสกับพี่เลโอ แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่อิตาลี ครั้งก่อนที่กูไปอิตาลีกูก็ไปพักกับเขา แต่เดี๋ยวอีกสองเดือนก็จะกลับมาไทยละ ถึงตอนนั้นกูจะพามึงไปเจอ”

ผมยืนแปรงฟันไปฟังพี่ปราบเล่าไปด้วย เท่ากับว่าคนที่ผมต้องไปรู้จักเพิ่มก็คือคนที่ชื่อลุงสอง กับอาเจผมไม่เกร็งเพราะคุ้นเคยกันแล้ว กับพี่เค้กพี่ริชผมก็เฉยๆ พี่ทั้งสองใจดีมากๆ อยู่ด้วยแล้วไม่ค่อยเกร็ง แต่ป๊ากับพ่อของพี่ปราบ ผมเคยเจอแค่ครั้งสองครั้ง ยังไม่เคยได้พูดอะไรกันมากนัก ไม่รู้ว่าทั้งพ่อพี่ปราบทั้งสองคนจะชอบผมไหม

ไหนจะตอนนี้ที่สถานะผมกับพี่ปราบไม่ใช่เหมือนเมื่อก่อน พี่ริชรู้แล้วว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่ปราบ และรู้ว่าพี่ปราบก็ชอบผม แต่พ่อกับป๊าของพี่ปราบจะรู้เรื่องนี้ไหม แล้วจะรับได้หรือเปล่า ยิ่งพี่ปราบเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน พ่อพี่ปราบก็คงอยากให้ลูกชายมีแฟนเป็นผู้หญิง วันข้างหน้าแต่งงานกันก็จะมีลูก

แต่ผมเป็นแค่ผู้ชาย มีลูกไม่ได้หรอก

“คิดอะไรอยู่” พี่ปราบถาม

“...” ผมส่ายหน้า บ้วนยาสีฟันในปากทิ้ง

“กังวลเรื่องไปเจอครอบครัวกูหรือไง มึงก็เคยเจอแล้วนี่”

“พี่ปราบ ถอยไปสิ ผมจะอาบน้ำ” ผมไม่ตอบอะไร ดันตัวพี่ปราบออกจากกรอบประตู แล้วดึงประตูปิด ถ้าผมอยู่คนเดียวผมจะไม่ล็อคห้องน้ำนะ แต่พี่ปราบมันไว้ใจไม่ได้ ชอบมองผมด้วยสายตาลามกตลอดเวลา

เช้าวันเสาร์ถนนโล่งมาก ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านพี่ปราบ เสียงแรกที่ได้ยินหลังลงจากรถก็คือเสียงเห่าของหมาตัวใหญ่สองตัว ผมอยากเล่นกับพวกมันมากๆ แต่พวกมันเอาแต่กระโจนเข้าหาพี่ปราบเต็มแรง ดูน่ากลัวมากกว่าจะน่าเอ็นดู

“ไอ้ซู่ซ่า ไอ้ปาปิก้า มึงหยุดเดี๋ยวนี้ หยุด นั่งลง” พี่ปราบสั่งหมาที่ไม่ค่อยจะสงบให้สงบลงได้

“พี่ มันจะกัดผมไหม” ผมถาม ยืนห่างจากพี่ปราบและหมาประมาณสามก้าว ผมไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่หมามันตัวใหญ่ และมันยังไม่รู้จักผม ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อน

“ไม่กัดหรอก ไอ้พวกนี้มันติ๊งต๊องจะตาย”

ผมมองพี่ปราบสลับกับมองหมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ คือหน้ามันอย่างโหดเลยนะ จัดว่าเป็นหมาที่หน้าหล่อเข้มมาก มันจะติ๊งต๊องได้ยังไง มันต้องดุและโหดดิ

“เข้าไปข้างในเถอะ” พี่ปราบเดินมาจูงมือผมเข้าบ้าง ผมมองข้อมือตัวเองที่ถูกจับเอาไว้ ก่อนที่จะคิดได้ว่าควรจะต้องดึงมือออก เบื้องหน้าของผมก็เป็นป๊ากับพ่อของพี่ปราบที่ยืนมองผมกับลูกชายตัวเองนิ่งๆ

ทั้งสองคนมองผมกับพี่ปราบ แล้วสายตาคมก็เลื่อนลงมามองที่มือที่จับกันไว้ เท่านั้นแหละผมรีบดึงมือกลับมาแล้วยกมือไหว้ผู้ใหญ่แทบไม่ทัน

“สวัสดีครับ” แล้วทำไมเสียงผมต้องสั่นด้วยวะ

“อืม”

“สวัสดี”

เสียงตอบรับกลับมานิ่งๆ ทำเอาผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง

“ป๊า พ่อ เล่นอะไรกันเนี่ย แฟนผมกลัวจนหางลู่หูตกหมดแล้วเนี่ย” แล้วเสียงพี่ปราบก็แหวขึ้น ผมตวัดหน้าขึ้นมองทันทีที่พี่ปราบพูดออกไปแบบนั้น กล้าบอกว่าผมเป็นแฟนได้ไงวะ เดี๋ยวพ่อกับป๊าพี่ก็ไล่ตะเพิดผมออกจากบ้านแทบไม่ทันหรอก

ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนอาจจะไม่ได้อะไรกับผม แต่ไม่ใช่ตอนนี้ไงที่ผมเป็นแฟนลูกชายเขา ถึงทั้งสองคนจะมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกันอย่างพี่ริชกับพี่เค้ก แต่ใครจะบอกได้ว่าเขาจะไม่อยากให้ลูกชายมีแฟนเป็นผู้หญิง

“ก็กูอยากเห็นแฟนมึงร้องไห้อ่ะ” ป๊าพี่ปราบพูด ผมได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจ ประโยคเมื่อตะกี้มันหมายความว่ายังไงวะ

“แล้วพ่อก็เอากับป๊าด้วยเนี่ยนะ”

“ก็น่าสนุกดีนี่”

“มันไม่สนุกครับพ่อ กว่าผมจะทำให้ซ่าตกลงคบกับผมได้นี่ไม่ง่ายนะ เกิดมันใจเสียบอกเลิกผมขึ้นมาจะทำยังไง”

“เหอะ กระจอกวะ” ป๊าพี่ปราบแค่นเสียงก่อนจะจ้องมายังผม ผมที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวก็ได้แต่สะดุ้ง

“พ่อๆเลิกแกล้งเด็กผมได้แล้ว ไม่งั้นผมจะฟ้อง...”

“เออๆ กูไม่แกล้งแล้ว พอใจยัง”

“เอ้า ไหนๆก็มาแล้ว เค้ก ริช ปราบกับน้องซ่ามาแล้ว” พ่อพี่ปราบตะโกนเรียกสมาชิกอีกสองคนในบ้านที่ผมยังไม่เจอตั้งแต่เข้าบ้านมา แปบเดียวพี่เค้กกับพี่ริชก็เดินออกมาจากครัว

“มากันแล้วเหรอ” พี่เค้กยิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มตอบ พี่เค้กน่ารักมาก ถึงจะอายุเยอะแต่ก็ยังดูเด็กอยู่

“ไปคุยกันที่ห้องนั่งเล่นไป ไอ้เจกับไอ้สองยังไม่มาเลย” ป๊าพูดแล้วก็เดินนำทุกคนไปที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ที่กินพื้นที่บ้านเกินกว่าครึ่ง

พี่ริชยิ้มให้ผมก่อนจะจับแขนผมให้เดินไปกับเขา พี่ปราบเดินตามมาข้างหลัง ผมหันไปมองหน้าเขาเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง พี่ปราบส่งยิ้มมาให้ผม แล้วพยักหน้าให้ผมเดินตามพี่ริชไป

คงจะไม่มีอะไร เพราะตอนที่ป๊ากับพ่อพี่ปราบรู้ว่าผมกับพี่ปราบเป็นแฟนกัน เขาก็ไม่ได้ควักปืนออกมายิงผมทิ้ง หรือเอาไม้ไล่ตีผม โทษฐานที่กล้ามาเป็นแฟนลูกชายเขา

ต้องยอมรับนะว่าพี่ปราบเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่ใครๆก็อยากได้ ผู้หญิงร้อยคนผมว่าทั้งร้อยคนก็ต้องชอบพี่ปราบหมดนั่นแหละ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาชอบผม แต่ผมก็เป็นคนเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง ที่รักใครแล้วผมก็ไม่คิดจะปล่อยไปให้ใครหรอก ยกเว้นแต่ว่าพ่อแม่พี่ปราบจะไม่ชอบผม ผมก็คงทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อผมมันไม่คู่ควรจริงๆ

ผู้ใหญ่ในบ้านทั้งสี่คนนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ตรงกลาง ผมกับพี่ปราบนั่งบนโซฟาขนาดกลางที่อยู่ข้างซ้ายมือ ในขณะที่ทุกคนนั่งเอนกายกันอย่างสบายใจ คงมีผมคนเดียวที่นั่งเกร็งหายใจติดขัด

“ไหนๆก็ไหนแล้ว ผมแนะนำอย่างเป็นทางการเลยนะ” พี่ปราบพูดขึ้น พี่ริชกับพี่เค้กพยักหน้ารับ แล้วมองผมพร้อมรอยยิ้มสดใส ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ มากกว่านั้นคือเขินไง แต่สามีพี่เขานั่งขนาบข้างหน้าเข้มแบบนั้น ผมก็ได้แต่เก็บอาการ

“พ่อครับ ป๊าครับ พี่เค้กพี่ริช นี่ซ่าแฟนผมครับ” พี่ปราบแนะนำผมให้กับคนในครอบครัวเขารู้จัก ผมวางตัวไม่ถูกกับสถานการณ์ตรงหน้า ก็เลยได้แต่ยกมือไหว้อย่างเงอะๆงะๆ ทำให้พี่เค้กถึงกับหลุดหัวเราะ

“แล้วก็ นี่ป๊ากู ชื่อสงคราม เรียกป๊าเฉยๆหรือป๊าครามก็ได้ ส่วนพี่ริช เมียป๊า ส่วนนี่พ่อกู ชื่อเล่นทราฟ มึงรู้อยู่แล้วทำไมกูมีพ่อสองคน และนี่พี่เค้ก เมียพ่อ และกูไม่มีแม่ พี่เค้กกับพี่ริชถึงจะเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่กูก็เคารพเขาเหมือนแม่ของกู เพราะเขาสองคนเลี้ยงกูมาเหมือนแม่ และพ่อกับป๊าก็คอยสั่งสอนกูมาตั้งแต่เล็กๆ”

ผมไม่รู้ว่าควรจะต้องพูดอะไรหรือทำหน้าอะไร ก็เลยนั่งยิ้มแห้งๆ

“นั่งตามสบาย จะเกร็งอะไรขนาดนั้น” พอโดนป๊าครามทัก ผมก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อย

“ทำตัวตามสบายเลยลูก ไม่ต้องเกร็ง” พ่อทราฟยิ้มหล่อใส่ผม บ้านนี้คือหน้าตาดีทุกคนจนผมอาย

“ก็ ยินดีต้อนรับแฟนปราบอย่างเป็นทางการก็แล้วกันนะ” ป๊าพูดขึ้นอีกรอบ ก่อนจะจ้องหน้าผมจริงจัง “คิดดีแล้วใช่ไหมที่คบกับปราบ”

“เฮ้ ป๊า...”

“มึงหยุด กูจะคุยกับลูกสะใภ้กู”

เดี๋ยวนะ...อะไรคือลูกสะใภ้วะ

ถึงจะไม่เข้าใจแต่ก็ไม่กล้าขัด คือป๊าครามแกหน้าโคตรดุไง ดุกว่าพี่ปราบเป็นสองสามเท่าได้ ผมไม่กล้าหือด้วยจริงๆ ผมกลัว

“ว่าไง คิดดีแล้วใช่ไหม” ป๊าถามอีกรอบ

“ครับ คิดดีแล้ว” ผมตอบอย่างระมัดระวัง

“คนบ้านนี้พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่มีปิดบัง ป๊ารู้เรื่องที่เราคบกับปราบมาตั้งแต่แรก ความจริงก็ไม่คิดว่าปราบมันจะสมหวัง เพราะเราเองก็เป็นผู้ชายแท้ๆไม่ใช่เหรอยังไง”

“เอ่อ ครับ”

“ความรักแบบนี้ จะทำให้การใช้ชีวิตยากลำบากขึ้นอีกนิดหนึ่ง ด้วยปัญหาคนรอบข้าง แต่ไม่หนักหนาถึงตาย มีอะไรมาปรึกษาป๊าได้ คนที่นี่ปรึกษาได้ทุกคน โดยเฉพาะปราบ พี่เขาคือคนแรกที่เราจะต้องพูดคุยกันด้วยความเข้าใจ ตอนนี้เราถือเป็นสมาชิกในครอบครัวนี้แล้ว อยากรู้หรือสงสัยอะไรก็ให้ถาม อยากได้อะไรก็ให้พูด เวลามีค่ามากกว่าจะต้องมานั่งเดาใจกัน เพราะฉะนั้นก็เลิกทำหน้ากลัวได้แล้ว ถามจริง หน้ากูนี่เหมือนผีเหรอวะ” ป๊าพูดด้วยใบหน้าดุดันแล้วก็จริงจัง ผมกำลังนั่งฟังอย่างตั้งใจ ไม่รู้ว่าเผลอทำหน้าแบบไหนขึ้นมา ป๊าถึงได้หันไปถามพี่ริช ให้พี่ริชต้องกรอกตามองบนใส่

“พี่ยังต้องถามอีกเหรอ พี่น่ากลัวกว่าผีอีก”

“แต่กูไม่เห็นมึงกลัวกูเลยนะริชทั้งที่มึงก็กลัวผี”

“เหอะ”

“อ้าว ตีกันซะงั้น” พี่เค้กหันไปมองงงๆ พ่อทราฟได้แต่ส่ายหน้าขำๆ

“ซ่า คิดว่าที่นี่เป็นบ้านนะ ที่บอกว่าทำตัวตามสบายนะ ไม่ได้พูดไปตามมารยาท แต่หมายความตามนั้นจริงๆ ซ่าคบกับปราบแล้ว ก็เหมือนเป็นลูกพ่อคนหนึ่ง ไม่ต้องคิดว่าตัวเองเป็นคนอื่น เข้าใจไหม”

“ขอบคุณครับ” ผมเข้าใจที่ทุกคนพูดนะ แต่ก็ขอเวลาอีกหน่อยก็แล้วกัน เพราะผมเองก็ยังเกรงใจอยู่ อยู่ๆจะให้มาพูดเล่นทำตัวสนิทสนมเลยมันก็ไม่ถูก

“ว่าแต่ชื่อซ่า แล้วซ่าจริงไหม” ป๊าถามหน้าตาย

“เอ่อ” ถามแบบนี้จะให้ตอบยังไง

“กูว่าต้องซ่าสมชื่อ ไม่งั้นจะทำให้ปราบหัวหมุนได้ยังไง” พ่อทราฟหันพูดกับป๊าคราม

“เออ มึงพูดถูกไอ้ทราฟ แสดงว่าไอ้เด็กนี่มันแน่จริง”

“เดี๋ยวนะเดี๋ยว จะนินทาลูก ก็ลับหลังหน่อยไหม” พี่ปราบที่โดนพาดพิงเอ่ยขัดอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ดูจะโกรธเคืองอะไรขนาดนั้น เหมือนพูดขำๆมากกว่า

ไม่นานอาเจกับลุงสองก็มาถึง อาเจเดินเข้าไปโอบไหล่ผมแล้วถามว่าโอเคดีไหม ผมก็พยักหน้าเบาๆ ส่วนคนที่ชื่อลุงสอง เขามองผมกับอาเจแล้วทำหน้าเข้ม

“ไอ้เจ เด็กใหม่มึงเหรอ”

“เออ เด็กใหม่กู” อาเจยิ้มตาหยีใส่ลุงสองที่ทำหน้าบูด

“เป็นเหี้ยอะไรไอ้สอง ทำหน้าเหมือนหมาถูกทิ้ง ยกมือไหว้ลูกสะใภ้กูหรือยัง” พ่อทราฟเดินมายืนข้างๆผมแล้วคุยกับลุงสองที่เลิกทำหน้าเข้ม แต่หันซ้ายหันขวาเหรอหราเหมือนจะมองหาอะไรสักอย่าง

“ไหนวะ สวยไหม”

“นี่ไง ลูกสะใภ้กู” พ่อทราฟจับไหล่ผมทั้งสองข้างดันไปข้างหน้าลุงสอง ที่หันขวับมามองหน้าผมอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา

“นี่มันเด็กไอ้เจไม่ใช่เหรอ” ลุงสองถามเสียงขาดหาย

“เด็กผมต่างหากลุง” พี่ปราบเดินมาสมทบ ยืนยันอีกเสียง

“สวัสดีครับลุง” ผมยกมือไหว้ ลุงสองเหมือนจะช็อก แต่ก็ปรับสีหน้าเป็นยิ้มหล่ออย่างรวดเร็ว

“สวัสดีลูกสวัสดี แฟนปราบเหรอ ไม่ใช่เด็กไอ้เจนี่ใช่ไหม” ลุงสองชี้นิ้วไปทางอาเจ

“เอ่อ ครับ ผม...แฟนพี่ปราบ” ผมเขินนิดหน่อยที่จะต้องพูดว่าตัวเองเป็นอะไรกับพี่ปราบ

“ไอ้เจ มึงหลอกกูเหรอฮะ” แล้วอาเจกับลุงสองก็วิ่งไล่กันเป็นเด็กๆ

“มึงอยากโง่เชื่อเองทำไมละ ฮ่าๆๆ”

“เลิกเล่นแล้วมากินข้าวได้แล้ว อายเด็กบ้างไหมพวกมึง!”

ทุกอย่างยุติลงเพียงเพราะเสียงตะโกนของป๊าคราม ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรีบพาตัวเองเข้าไปนั่งกินข้าวในห้องอาหาร

เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งกินข้าวเช้าแบบเป็นครอบครัว และทุกคนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ลุงสองใจดีกว่าที่คิด เขาชวนผมคุยและถามไถ่หลายๆเรื่องว่ามารู้จักกับพี่ปราบได้ยังไง แต่ส่วนมากเป็นพี่ปราบตอบ โดยรวมผมชอบที่นี่ ทุกคนดูมีความสุขดี และผมเองก็มีความสุขเหมือนกัน

อีกอย่างที่ผมสัมผัสได้ก็คือ พวกเขาไม่รังเกียจเด็กที่ไม่มีอะไรดีอย่างผม กลับใจดีกับผมมากกว่าที่คิด ผมอดรู้สึกอิจฉาพี่ปราบไม่ได้ ที่มีครอบครัวที่อบอุ่นอย่างที่ผมไม่เคยมี





กินข้าวเช้าเสร็จ พี่ปราบก็ไปช่วยพวกพ่อทำสวนที่หลังบ้าน เพราะป๊าสั่งต้นไม้มาลงหลายต้น ต้นเก่าบางต้นไม่ก็ตายแต่ไม่โต หรือต้องย้ายที่ปลูกเพื่อให้สวนสวยเป็นสัดส่วน พวกพ่อก็เลยลากพี่ปราบออกไปช่วยงาน ผมก็กะว่าจะไปช่วยด้วย งานใช้แรงนี่ไว้ใจผมได้เลย แต่พี่ปราบห้ามไว้ แล้วบอกให้มาอยู่กับพี่เค้กพี่ริชแทน ตอนนี้ผมก็เลยมานั่งเล่นช่วยหยิบจับข้าวของกับพี่ริชและพี่เค้กในครัว เพราะพวกพี่เขากำลังทำขนมเป็นของว่างช่วงบ่าย

สิ่งที่ผมทำได้ก็คือเด็ดเอาขั้วใบออกจากลูกสตรอเบอร์รี่ และนั่งมองเฉยๆ ไม่กล้าเข้าไปยุ่งวุ่นวาย เพราะผมทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง

“คบกับพี่ปราบเป็นไงบ้าง พี่เขาทำให้ลำบากใจอะไรหรือเปล่า” พี่ริชถาม มือก็ร่อนแป้งทำเค้ก

“ไม่ครับ” พี่ปราบน่ะไม่ทำให้ผมลำบากใจหรอก เป็นผมต่างหากที่ก่อแต่เรื่อง สร้างแต่ปัญหา

“ถ้าปราบเอาแต่ใจกับซ่าเกินไป ก็มาบอกพี่ได้นะ” พี่เค้กยิ้ม เป็นคนที่ยิ้มได้ทั้งวัน เหมือนคนมีความสุขตลอดเวลา

“ไม่หรอกครับ ผมไม่มีอะไรให้พี่ปราบมาเอาแต่ใจหรอก” พี่ปราบเป็นผู้ใหญ่กว่าผมตั้งเยอะ

“ทำไมจะไม่มี ทั้งพ่อทั้งลูกมันเอาแต่ใจตัวเองกันทั้งนั้น ทั้งขี้หึง ชอบวางอำนาจ เจ้าเล่ห์ และยังหื่นขึ้นสมองอีก” พี่ริชบ่นป๊าอย่างเมามัน ผมว่าอันนี้น่าจะบ่นส่วนตัวมากกว่า ดูแล้วตลกดี

“เออ ซ่า พี่ถามอะไรหน่อยสิ” บ่นยังไม่ทันเว้นช่วงหายใจ พี่ริชก็เดินมานั่งข้างๆผม มองซ้ายมองขวาก่อนจะกระซิบถาม “นอนกับปราบไปแล้วหรือยัง”

“...!” อะไรนะ

“ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ” พี่ริชยิ้มล้อ แล้วหันไปยักคิ้วกับพี่เค้กที่หันมาให้ผมสนใจผมอีกคน ตอนนี้ผมโดนขนาบข้างโดยพี่ริชกับพี่เค้ก

“เอ่อ คือ...” ผมไม่ใช่คนใสๆอ่อนต่อโลก ผมเป็นคนหยาบกระด้าง แต่เรื่องนอนกับผู้ชายด้วยกันผมยังใหม่และไม่รู้เรื่องอะไร มาโดนถามก็กระด้างอายเล็กน้อย

“ว่าไงครับ” พี่ริชใช้ไหล่กระแซะไม่ยอมให้ผมปิดปากเงียบ

“ยังครับ” ผมตอบไปตามตรง ไม่ปิดบัง

“จริงเหรอ ปราบไม่ทำอะไรซ่าเลยเหรอ” คราวนี้พี่เค้กทำตาโตเหมือนไม่เชื่อ

ถึงจะเป็นผู้ชาย แต่สถานะของผมในตอนนี้ มาโดนถามเรื่องบนเตียง มันก็ไปไม่ถูกเหมือนกันนะ

“ไม่น่าเป็นไปได้นะพี่ริช ปราบเนี่ยนะจะไม่ทำอะไรซ่า ผมว่าไม่ใช่อ่ะพี่ริช”

“นั่นดิ ปราบร้ายกว่าพี่ทราฟอีกนะ ไม่มีทางปล่อยซ่ารอดมาจนทุกวันนี้หรอก”

แล้วทั้งสองคนก็หันมาจ้องหน้าผมเขม็ง

“อะไรครับ” ผมควรหลบฉากตอนนี้ดีไหม

“ซ่า ยังไม่เคยมีอะไรกับปราบจริงเหรอ โกหกพี่หรือเปล่า ไม่ต้องอายหรอกนะ เรื่องธรรมชาติทั้งนั้น” คราวนี้ไม่มีการล้อหรือแซว พี่ริชทำหน้าจริงจังมากจนผมอดจริงจังไม่ได้

“ยังไม่เคยจริงๆครับ”

“แล้ว เขาทำอะไรอย่างอื่นไหม”

ผมกำลังสงสัยว่าตอนนี้ เราจำเป็นต้องคุยเรื่องพวกนี้จริงเหรอ เรื่องบนเตียงเนี่ยนะ ว่าผมเสร็จพี่ปราบไปหรือยัง ถ้าแฟนผมเป็นผู้หญิง ผมบอกเลยว่าผมไม่อายที่จะพูดคุยเรื่องลามก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ไง สถานะผมเปลี่ยนไปแล้ว

“ก็ทำครับ”

“กอดจูบ” พี่ริชเดา แล้วผมก็ตอบโดยการพยักหน้า

“แต่ผมไม่เข้าใจ” อันนี้ผมสงสัยจริงๆ และไม่กล้าถามพี่ปราบโดยตรง ไหนๆตรงนี้ก็มีพี่เค้กกับพี่ริชที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกับผม ถ้าผมถาม มันคงไม่ผิดอะไร

“ไม่เข้าใจเรื่อง?”

“ผมไม่ได้น่ารักแบบพี่เค้กกับพี่ริช แล้วทำไมพี่ปราบถึง...เอ่อ...ถึงมีอารมณ์กับผม”

“พี่ไม่ได้น่ารักนะ” พี่ริชรีบปฏิเสธ

“แต่ก็น่ารักกว่าผม”

“ไม่หรอก ซ่าก็น่ารัก อย่าเพิ่งทำหน้าอย่างนั้น พี่รู้ว่าผู้ชายไม่ชอบให้ชมว่าตัวเองน่ารักหรอก

“จริง พี่ก็ไม่ชอบ” พี่เค้กรีบพูด แต่ผมว่าพี่เค้กน่ารักจริงๆ น่ารักแบบน่ารักอ่ะ บอกไม่ถูก

“แต่ความน่ารักของคนเรานะไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ใบหน้าอย่างเดียว บางทีตอนที่พี่ครามไม่ดื้อไม่โวยวาย พี่ว่าเขาก็น่ารัก ซ่าเองก็มีมุมที่น่ารักของซ่าที่ปราบเขาคงมองเห็นนั่นแหละ”

มุมที่น่ารักของผม...คิดยังไงก็ไม่เห็น 

“ซ่าคบกับปราบมากี่เดือนแล้วนะ” พี่เค้กทำหน้าครุ่นคิด ผมก็เลยตอบให้

“เกือบสองเดือนครับ”

“อืม...แสดงว่าปราบรักซ่ามากเลยนะเนี่ย”

“ทำไมพี่ริชถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ” ผมถามอย่างอยากรู้

“ก็ผู้ชายบ้านนี้นะ เชื้อไม่ทิ้งแถว กี่คนๆก็ความต้องการสูงทั้งนั้น อย่างพี่ทราฟที่ดูจะอบอุ่น แต่ซ่ายังไม่เคยเห็นตอนที่เค้กนอนซมบนเตียงเพราะโดนจัดหนักจัดเต็มทั้งวันทั้งคืน ยิ่งถ้าโมโหหึงด้วยแล้วยิ่งหนัก ดังนั้นพี่ว่าปราบก็ไม่ต่างกัน อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำเพราะซึมซับป๊ากับพ่อมันมาเยอะ ไหนจะทั้งลุงทั้งอา เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มแน่นอน พี่ก็เลยค่อนข้างจะเป็นห่วงซ่าว่าจะรับความต้องการของปราบไม่ไหว”

บอกผมที่ว่าผมควรจะทำหน้ายังไงเมื่อได้ฟังสิ่งที่พี่ริชเล่า ถอนตัวตอนนี้ทันไหมวะ

“ถ้ายังไม่เคย พี่ว่าเตรียมตัวไว้หน่อยก็ดี”

“เตรียมตัวอะไรเหรอครับ” ผมถามอย่างสงสัย

“ก็เซ็กส์ไง ยังไงมันก็เรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว สักวันซ่าก็ต้องนอนกับปราบเขา พี่ว่าปราบทนมาได้เท่านี้ก็เก่งมากแล้ว”

“ถ้าอยากรู้ว่าต้องทำยังไง เตรียมตัวยังไงไม่ให้เจ็บ ดูแลรักษาความสะอาดยังไงเนี่ย ถามพวกพี่ได้นะ ไม่ต้องอาย ไม่ต้องเกรงใจ” พี่ริชพูด

“ผม ยังไม่คิดเรื่องนั้นเลย” ผมก้มหน้าตอบ

“กังวลเหรอ” พี่เค้กถาม ผมพยักหน้าตอบ ก็ผมไม่เคย

“พี่รู้นะว่า มันยากที่จะทำใจ ถ้าเราเป็นผู้ชายแท้ๆ ก็คงคิดว่าการให้ผู้ชายมาเข้าข้างหลังเรามันไม่เท่ มันเสียศักดิ์ศรี แต่ว่าถ้าทำกับคนรัก มันคือการเมคเลิฟ ไม่ว่าเราจะอยู่ตำแหน่งไหน คนที่เรารักก็ไม่ดูถูกเราหรอก” พี่ริชลูบศีรษะของผมเบาๆ ผมชอบที่มีคนทำแบบนี้ พี่ปราบก็ชอบลูบหัวผม ทั้งอบอุ่นและเหมือนได้รับการใส่ใจ

เหมือนพี่ริชเข้ามานั่งอยู่ในใจผม ถึงสามารถพูดสิ่งที่ผมคิดออกมาได้อย่างครบถ้วน ผมคิดเสมอและกังวลกับเรื่องนั้นทุกครั้งที่พี่ปราบกอดและจูบผม ผมเป็นผู้ชายผอมๆแห้งๆ ผิวก็หยาบ มือก็สาก นมไม่มี สะโพกไม่มี ไม่รู้ว่าถ้าถึงตอนนั้นจริงๆ จะทำให้พี่ปราบอ้วกแตกก่อนมีความสุขจากการปลดปล่อยหรือเปล่า เพราะอย่างนั้น ผมถึงได้ไม่อยากให้พี่ปราบทำ เพราะถ้าเกิดผมเผลอทำอะไรน่าเกลียดแล้วเขารู้สึกแย่ ผมอาจจะเสียพี่ปราบไป

“จำที่พี่ครามบอกได้ไหม ถ้าซ่าสงสัยหรืออยากรู้อะไร อยากปรึกษาอะไร อยู่ที่นี่ซ่าพูดได้ทุกเรื่องนะ เราไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน พี่สามารถเดาความคิดปราบได้เพราะพี่เลี้ยงเขามา แต่กับซ่า เรายังใหม่ด้วยกันทั้งหมด ดังนั้น ซ่าต้องเริ่มพูดให้มาก ถามให้มาก และบอกเล่าความคิดเห็นของตัวเองให้มากขึ้น พี่และคนอื่นๆ โดยเฉพาะปราบจะได้รู้และเข้าใจว่าซ่ากำลังคิดอะไรอยู่ เข้าใจไหมครับ”

“เข้าใจครับ” ผมยิ้มให้พี่ริชและพี่เค้กแทนคำขอบคุณ มันรู้สึกตื้นตันจนพูดไม่ถูก เพราะผมไม่เคยได้รับอนุญาตให้พูดในสิ่งที่คิดจากคนในครอบครัวเลยสักครั้ง ถ้าไม่นับพี่ปราบ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสได้ถึงคำว่าครอบครัวจริงๆ





อ่านต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 19-01-2018 18:56:59




คืนนี้ผมต้องนอนค้างที่บ้านพี่ปราบ หลังกินข้าวเสร็จทุกคนในบ้านก็มานั่งนอนเอกเขนกกันในห้องนั่งเล่น ทีแรกผมก็ว่าห้องนั่งเล่นพี่ปราบใหญ่เกินไปนะ แต่ตอนนี้กลายเป็นพอดิบพอดีกับจำนวนคนซะอย่างนั้น ขนาดยังไม่ไม่ครบองค์ ถ้ามาพร้อมกับถ้วนหน้าคงแออัดพอควร
กิจกรรมยามค่ำคืนของบ้านหลังนี้ก็ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไปมากนัก ด้วยการเล่นไพ่ป็อกเด้งพร้อมจิบเบียร์ ผมเองก็อยากเล่นแต่ไม่มีเงิน ที่บ้านนี้เล่นกันโหด ตาละร้อย ถ้าผมเล่นคาดว่าไม่กี่ตาก็หมดตูดแล้ว

พี่ปราบเล่าให้ฟังว่า เล่นไพ่จะเล่นได้แค่ตอนอยู่ที่บ้านเท่านั้น เพราะถือเป็นคำสั่งสูงสุดของพี่เค้กและพี่ริช ที่ให้เล่นไพ่แค่ในบ้านกับคนในครอบครัว ไม่อนุญาตให้ออกไปเล่นในบ่อนหรือคาสิโน เนื่องจากการพนันไม่เคยทำให้ใครได้ดี มีแต่หมดเนื้อหมดตัวเสียผู้เสียคน ซึ่งผมก็เห็นด้วย ปกติถ้าผมเล่นตอนอยู่บ้าน ก็ตาละบาทสองบาทหรือไม่ก็ห้าบาท ไม่เล่นมากกว่านี้เพราะไม่มีเงิน เล่นเอาขำๆสนุกๆก็พอ

“ซ่า ไม่เล่นเหรอ เล่นดิ สนุกๆ” ลุงสองรีบชักชวนผม ผมส่ายหน้าอยู่ข้างหลังพี่ปราบ

“ถ้าตาละห้าบาทผมจะเล่นนะ” ผมพูดขำๆ

“ไอ้คราม มึงรับขวัญลูกสะใภ้ดิ ให้ทุนไปเลย” ลุงสองหันไปพูดกับป๊า ที่เหลือบมองผมแวะหนึ่ง

“ไม่เป็นไร ผมนั่งดูเฉยๆได้” มีเบียร์ให้จิบๆก็ดีแล้ว แม้จะคันไม้คันมือก็ตาม

แต่ป๊าทำให้ทุกคนในวงอึ้งรวมทั้งผมที่อึ้งหนักกว่าใคร ด้วยการลุกออกไปแล้วยื่นปึกเงินที่มีแต่แบงค์ร้อยส่งให้ผม

“รับสิ แล้วก็เล่นด้วยกัน”

ผมยังไม่กล้ารับ เพราะงั้นมันเยอะไป แต่พี่ปราบเป็นคนยื่นมือมารับแทน ป๊าถึงได้เดินกลับไปนั่งที่เดิม เตรียมตัวเป็นเจ้า

“ถ้าป๊าให้ของ ห้ามปฏิเสธ ป๊าไม่ชอบ” พี่ปราบกระซิบบอกกับผม ขยับที่ทางให้ผมเข้ามานั่งเล่นไพ่ด้วย

“แต่เงินมันเยอะ” ผมบอกอย่างเกรงใจ แต่พอเขาเริ่มเล่นผมก็ต้องหยิบไพ่ขึ้นมาดู ตาแรกก็ได้ป็อกเก้าเลยสองเด้งด้วย สองร้อยบาทจะเป็นของผมแล้ว

“อย่าไปคิดมาก ป๊าเขาเต็มใจ ป๊าไม่เคยทำอะไรโดยที่ไม่อยากทำอยู่แล้ว เล่นให้สนุกก็พอ” พี่ปราบลูบหัวผมแล้วเลื่อนลงมาบีบที่ต้นคอ ก่อนจะทำหน้าเซ็งเมื่อไพ่ที่ขอมาเพิ่มทำให้จำนวนไพ่ในมือบอด นอกนั้นเสียหมดเพราะป๊าป็อกแปด มีผมคนเดียวที่ได้ ผมนี่ยิ้มหน้าบานเลย

วันนี้ผมได้กำลังมาเกือบสามพันบาท ไหนจะเงินทุนอีกหมื่นหนึ่งที่ป๊าไม่ยอมเอาคืน บอกว่าให้ค่าขนม ไม่ก็ให้ผมเก็บไว้เป็นทุนเล่นครั้งต่อไป ผมก็ได้แต่ยกมือไหว้แล้วเก็บเงินใส่กระเป๋า

ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันเข้านอนเพราะเกือบจะตีสองเข้าไปแล้ว คืนนี้อาเจและลุงสองก็นอนที่นี่ด้วย เพราะมีห้องนอนของพวกเขาอยู่แล้วคนละห้อง แต่ลุงสองไม่ยอมนอนห้องตัวเอง ร้องขอไปนอนกับอาเจ จนอาเจรำคาญยอมให้ไปนอนด้วยเพื่อตัดความรำคาญ

พี่ริชกับพี่เค้กขึ้นไปนอนก่อนตั้งแต่ห้าทุ่มแล้ว หน้าที่เก็บจานชามแก้วก็เลยตกเป็นหน้าที่ของผมกับพี่ปราบ พ่อทราฟเช็คความเรียบร้อยในบ้าน ส่วนป๊าครามเช็ครอบๆบ้าน ตรวจตราจนเสร็จก็เดินขึ้นชั้นสองพร้อมกัน

“ซ่า มาหาป๊าแป๊บดิ”

ผมกำลังจะเดินตามพี่ปราบเข้าห้อง ป๊าก็ตะโกนมาเรียกผมไว้ก่อน ผมกำลังจะเดินไปหาป๊าคราม แต่พี่ปราบดึงมือผมไว้

“มีอะไรป๊า ไว้คุยพรุ่งนี้ ง่วงแล้ว”

“ซ่า มานี่ก่อน” ป๊าไม่มองหน้าพี่ปราบเลย กระดิกนิ้วเรียกผมท่าเดียว ผมที่เป็นเด็กก็ต้องเชื่อฟังคนที่มีอำนาจมากที่สุดในบ้านไว้ก่อน

“ครับ” ผมเดินมายืนตรงหน้าป๊า ที่มองเลยไปทางด้านหลังผมแล้วกระตุกยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าลงมาพูดกับผมด้วยสีหน้าเรียบเฉยขัดกับสิ่งที่พูด

“ถ้าไอ้ปราบมันจะเอา อย่าไปยอมมันง่ายๆ เข้าใจไหม”

ผมควรตอบว่าอะไรดี เข้าใจหรือไม่เข้าใจ

แต่เพราะไม่กล้าขัดป๊า ก็เลยพยักหน้าแทนคำตอบ เพราะยังไงเรื่องนั้นก็คงยังไม่เกิดขึ้นในคืนนี้หรอก...มั้ง







...........................................
อิพี่ปราบมันโดนป๊ามันเล่นงานแล้วไง คุณสงครามเขาไม่ได้หวงลูกหรอกนะ เขากะจะกวนบาทาลูกชายเพราะความรักและความหมั่นไส้ก็เท่านั้น ฮ่าๆๆๆ  :m4:
ตอนนี้มันก็จะเฮฮาปาจิ้งโก๊ะหน่อย เพราะเรารู้ว่าคนอ่านไม่ชอบดราม่า ซึ่งบอกเลยว่าดราม่าล็อตใหญ่ๆไม่มีแล้วค่ะ ไม่มีจริงๆ ก็มันใกล้จะจบแล้วไง แค่นี้พอแล้ว สงสารเด็กมัน กร๊ากกกก  :laugh:
อย่างน้อยๆตอนนี้น้องซ่ายิ้มออกได้ คนเขียนเองก็ดีใจที่สุดแล้วค่ะ :m1:
และขอบคุณทุกคนที่ช่วยกับสงมอบความรักให้น้องซ่าและพี่ปราบนะคะ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
บ๊ายบายยย
 :bye2:




หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-01-2018 19:24:57
โล่งใจ น้องซ่ามีความาขกับเค้าบ้าง บ้านซ่าเป็นบ้านที่เห็นแก่ตัวทั้งบ้าน มีแต่ผลาญเงิน แม่แท้ๆก็ไม่ได้เรียกแม่ แถมหลงผัวใหม่ด้วย ออกมาจากบ้านแบบนั้นได้แล้ว บ้านพี่ปราบเนี่ย น่ารักกว่าตั้งเยอะ เฮฮาดีกว่าด้วย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-01-2018 19:26:31
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 19-01-2018 19:35:42
ป๊าเล่นสั่งน้องซ่าอย่างงี้พี่ปราบแย่แน่ๆ :m20:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 19-01-2018 19:59:00
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 19-01-2018 19:59:53
ป๊าคราม  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 19-01-2018 20:01:49
 :o12: :o12:  แอบสงสารอิพี่  โห้กว่าจะได้ กอด ได้จูบ ก็ปาไปเกือบสามสิบตอน นี้ พ่อ กับ ป็า ยังแกล้งแกอีก วะฮ่าๆๆๆๆ

พี่ปราบคนดี  ทำไห้ซ่าสงสารเยอะๆซิ ฮ่าๆๆ
ซ่าสงสารพี่แกด้วยเถ้อ น่าสงสารเขานะครับ 5555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 19-01-2018 20:22:59
คนบ้านนี้น่ารัก :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 19-01-2018 20:28:08
ครอบครัวนึ้น่ารัก (♡˙︶˙♡)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-01-2018 20:30:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 19-01-2018 20:39:37
อ้าวป๊าทำไมทำลูกงี้ล่ะ แค่นี่พี่ปราบก็อดอยากปากแห้งแล้ว จะแกล้งลูกไปทำไม
พนันอะไรกันไว้กับคนในบ้านป่าวเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 19-01-2018 20:49:43
โดนป๊าเล่นเส้นแล้วพี่ปราบ ไว้อาลัยครึ่งวิ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-01-2018 20:59:37
ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่มีอะไร แต่ไอ้คำว่า "มั้ง" ท้ายประโยคของซ่า มันทำให้คิดว่า มันต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ ตามประสาผู้ใหญ่ห้าม แต่เด็กทำ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-01-2018 21:33:23
ป๊าครามแกล้งพี่ปราบ
ครอบครัวฮาเฮจริงๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-01-2018 21:55:41
ขำก๊ากกกก เลย ที่ป๊าพูดกับซ่า
“ถ้าไอ้ปราบมันจะเอา อย่าไปยอมมันง่ายๆ เข้าใจไหม”
ป๊า เล่นพี่ปราบแล้ว

พี่ปราบ ซ่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-01-2018 22:04:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 19-01-2018 22:34:41
ซ่ามีความสุขเราก็ดีใจ ส่วนพี่ปราบนั้นเจอป๊าสะกัดดาวรุ่งน่าจะอดกิน :laugh: แต่ป๊าอย่าทำงี้บ่อยนะสงสารพี่ปราบเค้าจะลงแดงซะก่อน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 19-01-2018 22:38:45
 :mew5: โถ่ววว แล้วพี่ปราบจะได้กินน้องซ่า เมื่อไหร่ละเนี๊ยะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-01-2018 22:50:20
ป๊าคะ 55555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 19-01-2018 23:18:32
ดราม่าใหญ่
น่าจะเป็นตอนที่ซ่าไม่ยอม
ให้พี่ปราบเอา
ฮ่าฮ่า
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 20-01-2018 00:10:35
เตะตัดขาลูกซะขาสั้นเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 20-01-2018 00:15:40
55555 รู้ได้ไงซ่าว่าจะพ้นคืนนี้
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 20-01-2018 01:59:35
เหมือนเห็นลูกที่รักโตเป็นฝั่งเป็นฝา โฮร
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 20-01-2018 04:55:05
คุณป๊า! สงสารลูกชายเถอะค่ะ จะเหี่ยวตายแล้ววว  :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 20-01-2018 11:36:29
น่ารักที่ซู้ดดดด
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 20-01-2018 11:53:58
ป๊าาาา ทำไมขี้แกล้ง  ฮ่า ๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 20-01-2018 12:31:10
คุณป๊า เสี้ยมลูกสะใภ้ดีจริงๆ ระวัง เดี๋ยวลูกชายจะเอาคืน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 20-01-2018 15:34:45
 :mew4:ป๋าร้ายไปไหม555 พี่ปราบโดนแทงข้างหลังแล้ว โดนแซวต่อไป จะจบแล้วเรอะ อย่าเพิ่ง รอซ่าทำงานก่อน 555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Disthaporn ที่ 20-01-2018 23:18:29
เเอบรออยู่ว่าเจ ออกมาเเล้ว สองจะมารึยัง นี่ติ่งพี่ริริมาตั้งเเต่pretty boy เลยนะคะ :L1: ท้ายสุดก็มาา เเอบคิดถึงช่วงนั้น จำได้ว่าพี่สงครามจะใหญ่สุดเเบบพูดไรทุกคนจะฟังหมด ตอนนี้เป็นป๊า เป็นลุงกันไปหมดเเล้ววว อ่านตอนนี้เเล้วไม่ใช่เจกับสองมีซัมติงกันนะคะ5555555555555 ป๊านี่น่าจะหมั่นไส้ลูกชายจริงอ่ะ เเกล้งเรื่องเเบบนี้ พี่ปราบถึงขาดใจได้เลยนาา. เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ รอตอนต่อไปปก :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-01-2018 05:18:42
โอ๊ยยย ปฏิกิริยาแรงนะคะ ซ่า ถึงขั้นตบปากพี่ปราบเลยนะ
กลัวต้องเลิกกัน พี่ปราบพูดทำไมนะ 55555

ปราบรู้ ปราบเห็น แต่ไม่ทั้งหมด
ปราบใจเย็นมาก รู้ทางมาก เข้าใจและรักมากอะเนาะ

เข้าใจซ่านะ ชีวิตเปราะบางมาตลอด เจอแต่เรื่องที่ไม่มีใครเข้าใจ
ครอบครัวไม่เข้าใจ ไม่ยอมสนใจสิ่งที่ซ่าเป็น
แต่ในที่สุด ซ่าก็ได้เจอแล้วนะ ครอบครัวใหญ่ด้วย ทุกคนอยู่กับซ่านะ

ปราบจะรู้ตัวไหม ว่าโดนสกัดตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มเลย
ทำไมป๊าร้ายแบบนี้ล่ะ 555555

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 21-01-2018 19:16:09
พี่ปราบโดนป๊าเล่นซะแล้ว 55555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-01-2018 00:18:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 23-01-2018 11:31:14
 :L2: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่30:: 19/1/2018 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 24-01-2018 09:55:52
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 24-01-2018 21:38:52
ปราบซ่า 
ตอนที่31



[ปราบ]

“ป๊าเรียกไปพูดอะไร” ผมถามซ่า ตอนนี้ผมกับมันอยู่ในห้องนอนของผมกันสองคน ไม่มีใครมาคอยกวนประสาทอีกต่อไป

“เปล่า” แต่ซ่าไม่บอก ก้มหน้าแล้วก็ส่ายหน้า ท่าทางมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด ไม่เนียนเลย

“กูไม่เชื่อ”

“ก็...” ซ่าทำตาหลุกหลิก มองแล้วก็อยากจะขำ

“ก็อะไร”

“ก็บอกฝันดี”

“คิดดีแล้วใช่ไหมที่พูดเนี่ย”

“เอ่อ”

“ตั้งแต่กูโตมา ป๊าไม่เคยพูดว่าฝันดีเลย ถ้ามึงไม่ใช่เมียป๊าละก็ ไม่มีสิทธิ์ได้ยินหรอก” ผมโกหก แต่ป๊าก็ไม่ค่อยบอกฝันดีใครจริงๆนั่นแหละ

แต่คำโกหกไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ของผมก็ดูจะได้ผล เมื่อซ่าถอนหายใจยาวก่อนจะพูดความจริงออกมา

“ป๊าบอกไม่ให้ผมยอมพี่ พอใจยัง”

เป็นความจริงที่กูอยากจะวิ่งไปก่อกวนที่ห้องนอนป๊ากับพี่ริชเลย เอาให้แบบคืนนี้นอนหง่าว งดสวีทกับพี่ริชไปเลย ไม่ช่วยให้ได้เมียแล้วยังจะกันท่าอีก โมโหโว้ย!

ผมได้แต่ฟึดฟัดอยู่คนเดียว มองซ่าที่เดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ ก่อนจะแสยะยิ้มคิดอะไรดีๆออก ผมหยิบโทรศัพท์มือถือกดโทรหาพี่ริชทันที ไม่นานพี่ริชก็รับสาย

“วางสาย” เสียงป๊านี่หว่า

“อะไรพี่ ลูกโทรมา คุยแปบหนึ่ง”

“กูบอกให้วางไง มันจะโทรมาก่อกวนกู”

“พี่ริช” ผมเรียกพี่ริชไว้

“อ่ะ ฮัลโหล ว่าไงปราบ มีอะไรหรือเปล่า เอ้ พี่คราม อย่ายุ่งได้ไหมเนี่ย”

“มึงก็วางสายมันเซ่ ถ้าแค่นี้จับเด็กทำเมียไม่ได้ก็โคตรกระจอกของกระจอกเลย”

“อะไรเนี่ย” พี่ริชบ่นไม่เข้าใจ

ก่อนที่จะยืดเยื้อไปมากกว่านี้ ผมบอกจุดประสงค์ตัวเองทันที แล้วรีบกดตัดสายซะ

“พี่ริช ป๊าแกล้งผม บอกไม่ให้ซ่ายอมผม คืนนี้พี่ริชไม่ต้องยอมป๊านะครับ แค่นี้แหละ ฝันดีครับ”

ถ้าผมไม่ได้ ป๊าก็ต้องไม่ได้

ไม่นานผมก็ได้ข้อความจากป๊าว่า ‘ไอ้ลูกเวร!’

เหอะ กรรมตามสนองเหอะ

เอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรซ่าที่นี่คืนนี้ ถ้าผมคิดจะทำจริงๆ กลับไปทำที่คอนโดดีกว่า เป็นส่วนตัวแล้วก็สามารถทำได้เต็มที่แบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อยากทำตรงไหนมุมไหนก็ได้หมด ป๊าคิดได้ไงว่าผมจะเอามันคืนนี้ แต่ไหนๆก็ไหนแล้ว แกล้งป๊าได้แล้ว ก็ขอแกล้งเด็กสักหน่อยเถอะ คิดว่ามีป๊าให้ท้ายแล้วกูจะฟังหรือไง บอกเลยว่าไม่มีทาง

ผมปล่อยให้ซ่ามันได้ใจไปก่อน มันออกมาจากห้องน้ำ ผมก็เข้าไปแปรงฟันก่อนนอน ทำเหมือนว่าผมไม่มีแผนร้ายในหัว ซ่าที่ดูจะระมัดระวังตัวในตอนแรกก็วางใจ นอนเกลือกกลิ้งบนเตียงของผมแล้วเล่นโทรศัพท์ ไม่สนใจเสื้อยืดที่เลิกขึ้นโชว์ช่วงเอวบางที่ไม่มีทั้งไขมันและกล้ามเนื้อ ผมว่าผมก็ขุนมันดีอยู่นะ สงสัยต้องเพิ่มการออกกำลังกายกับการดูแลอาหาร มากขึ้นกว่านี้

แต่ถึงมันจะผอมแห้ง แต่ผมรักมันไปแล้ว อะไรที่เป็นซ่าผมก็พอใจและชอบไปหมดนั่นแหละ

ผมบอกให้ซ่าเอื้อมไปเปิดไฟหัวเตียง ก่อนจะปิดไฟในห้อง ความสว่างเหลือเพียงไฟเหลืองนวลดวงเล็กเท่านั้น ซ่าที่นอนกางแข้งกางขาขยับที่นอนชิดด้านหนึ่งเลิกเล่นโทรศัพท์ แล้วเว้นที่ให้ผมได้ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ

เราสองคนนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน มองสบตาอีกฝ่ายท่ามกลางไฟสลัว แล้วมันก็ยิ้ม ยิ้มที่ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ที่มองแล้วรับรู้ได้ว่ามันยิ้มเพราะมีความสุข

“คนในบ้านกูเป็นยังไง ชอบไหม” ผมถามความเห็นหลังจากที่วันนี้ซ่าใช้เวลาอยู่กับครอบครัวผมทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเข้านอน

ผมอยากให้ซ่าเข้ากับคนในครอบครัวผมได้ ถึงปากทุกคนจะพูดว่าผมรักใครก็รักด้วย แต่วันนี้ป๊าแอบทดสอบมันเรื่องเงินตอนเล่นไพ่ สุดท้ายพอมันเลือกที่จะคืนเงินตอนที่ได้เงินกำไรมาจำนวนรวมพันกว่าบาท พอซ่าแสดงให้รู้ว่าไม่ได้เห็นแก่เงิน แกก็นั่งยิ้มอย่างพึงพอใจ

ป๊าเขาให้เงินใครแล้วเขาก็ไม่เอาคืนหรอก เงินหมื่นหนึ่งสำหรับคนอื่นอาจจะเยอะและอยู่ได้เดือนถึงสองเดือน แต่สำหรับป๊าถ้าทำหายก็ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ นั่นเพราะป๊าหาได้ต่อวันมากกว่านี้หลายร้อยเท่า เขาไม่กลัวเสียเงินหรอก แต่ป๊าเขากลัวผมเจอคนที่เขาหาเพราะเรื่องเงิน เชื่อเลยว่าเจออีหรอบนี้เข้าไป ต่อให้ซ่าไม่ขอเขาก็ให้

“อืม ทุกคนใจดี” ซ่าอมยิ้มพยักหน้าตอบ

“ถ้ามึงชอบ กูก็ดีใจ” ผมลูบหัวมัน ค่อยกระเถิบเข้าไปใกล้ มันก็ไม่ถอยหนี แต่ต่อให้หนีก็ไม่ทันเสียแล้ว ผมโอบเอวกอดมันไว้ให้ร่างกายสัมผัสกัน

อาจเป็นเพราะซ่ามันกำลังมีความสุขจนไม่ทันระวังตัว ผมจะกอดจะจูบมันก็ไม่ขัดขืน กลับจูบตอบผมด้วยความเต็มใจ มือข้างหนึ่งของมันเกาะที่ไหล่ อีกข้างวางทับมือผมที่ประคองพลิกใบหน้าตามองศาริมฝีปาก ผมผละริมฝีปากออกแล้วก็กดจูบที่ลึกล้ำกว่าเมื่อครู่ ให้ลิ้นโรมรันสัมผัสกับลิ้นเล็กที่สู้ไม่ถอย

ช่องว่างระหว่างกายลดน้อยลงเรื่อยๆจนแนบสนิท ผมพลิกตัวขึ้นนอนคร่อมคนตัวผอมแห้ง ใช้ข้อศอกยันเตียงไม่ให้น้ำหนักตัวทับลงไปทั้งหมด ไม่อย่างนั้นซ่าจะหายใจไม่ออก ลำตัวของเราเสียดสีกันไปมาโดยเฉพาะท่อนล่างที่ออกอาการอย่างโจ่งแจ้ง อวัยวะที่ตื่นตัวง่ายและไม่เคยโกหกต่อความรู้สึก

ผมใช้มือลูบไล้ตามผิวกายภายใต้เสื้อยืดตัวบาง กล้ามเนื้ออันน้อยนิดหดเกร็งตามรอยมือที่ลากผ่าน เสียงครางถูกอันเอาไว้ในลำคอ ซ่าไม่ยอมร้องส่งเสียงคราง เกิดอาการต่อต้านเล็กน้อยเมื่อมือของผมใกล้จุดสงวน

“พี่ปราบ...ไม่” เสียงซ่าขาดหายและงอตัวเป็นกุ้งทันทีที่ผมสัมผัสกับซ่าน้อยเต็มกำมือ ยิ่งผมลูบไล้และบีบมือลงน้ำหนัก ซ่าก็ยิ่งครางเสียงรัญจวนที่ดังเพียงในลำคอ

ผมลูบไล้ฝ่ามือตั้งแต่หัวไหล่ไปตามท่อนแขน ใช้ปลายนิ้วแตะเบาๆที่เอว ค่อยๆขยับมือลูบแถวๆหน้าท้องแบนราบ

“ไม่อะไร มันแข็งสู้มือกูแล้ว” ผมกระซิบแซวข้างใบหู ก่อนจะแลบลิ้นเลียติ่งหูเล็กๆสร้างความเสียวซ่านให้แก่คนที่อยู่ใต้ร่าง

“อย่าลูบ อึก” ซ่าส่ายหน้าหวือ เส้นผมที่ยาวไม่เป็นทรงสะบัดพลิ้วไปตามแรง ดูเซ็กซี่แปลกตา

“กูรู้ว่ามึงต้องการ ให้กูช่วยนะ”

“ไม่...”

“แค่ช่วยมึง กูไม่ทำอะไรหรอก สัญญา”

ซ่าไม่ยอมตอบและไม่ปฏิเสธซ้ำสอง ดวงตาของมันหลับปี๋จนตาหยีทั้งสองข้าง มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าของมันไว้ เพื่อที่ผมจะได้พรมจูบใบหน้าของซ่าได้ถนัดถนี่ แล้วใช้มืออีกข้างปรนเปรอซ่าน้อยอย่างระมัดระวัง ด้วยกลัวว่าถ้าผมทำรุนแรงเกินไปมันจะตื่นตระหนกจนพาลไม่ชอบสัมผัสจากผม ผมต้องการให้มันหลงใหลเคลิบเคลิ้มไปกับทุกสัมผัสที่ผมมอบให้ จะทำให้เสพติดจนร้องขอขึ้นมาเอง

ในที่สุดซ่าก็ไม่สามารถอดทนอดกลั้นกับความต้องการที่พุ่งขึ้นสูงจนทะลักทะลาย ปลดปล่อยความเสียวซ่านออกมาเป็นหยาดหยดอุ่นร้อน เสียงหอบหายใจที่ดังเบาขาดห้วงไม่เป็นจังหวะ ดวงตาทั้งสองข้างปิดไม่สนิทนัก คล้ายกับจะพักเอาแรง

ในขณะที่ผมช่วยให้ซ่าได้ปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศแล้ว แต่ผมเองกลับยังคงอึดอัดไปด้วยความต้องการที่อยากจะกอดมันทั้งตัว แต่ผมก็อยากให้ซ่าพร้อมจริงๆ และผมสัญญากับมันแล้ว ผมจะไม่ทำร้ายน้ำใจมัน ยังไงก็ต้องมีสักวันที่มันเป็นของผม ผมไม่ปล่อยให้ซ่าลอยนวลได้นานหรอก ผมไม่ใจดีขนาดนั้น แค่ต้องกระตุ้นนิดหน่อย ครั้งแรกของเรามันควรต้องเต็มใจ ‘เสียตัว’ ไม่ใช่จำใจเพราะรัก

“นอนซะ เดี๋ยวกูมา” ผมจูบที่ขมับเพื่อซับเหงื่อให้คนที่นอนตัวอ่อนหมดแรง

“พี่...” หน้าคว้ามือผมเอาไว้ สายตาที่ยังปรือหวานค่อยๆขยับสายตามองตามผม “จะไปไหน”

“ไปห้องน้ำ มึงนอนไปเลย เดี๋ยวกูมาทำความสะอาดให้”

“พี่จะทำอะไร” ถามเป็นเด็กไร้เดียงสาเลยวะ แต่มันก็น่าจะรู้แหละ เพราะสายตามันมองต่ำที่ไอ้เบบี้ปราบที่ไม่น้อยอย่างชื่อ แก้มที่แดงเพราะเหนื่อยอยู่แล้วยิ่งแดงเข้าไปอีก เห็นคนซ่ามันเขินที่สุขใจผมจริงๆ

“ไปจัดการของกูไง ปวดจะตายแล้ว ปล่อยก่อน เดี๋ยวกูมานอนด้วย” ผมดึงมือมันออก แต่ซ่าขืนมือไว้ แล้วเบนสายตามองไปทางอื่น ปากก็ขมุบขมิบเหมือนจะพูดคนเดียวเสียงเบา

“ให้ผมช่วยไหม”

ยอมรับว่าก็ตกใจนะที่มันเอ่ยอาสาด้วยตัวเองโดยที่ผมไม่ต้องร้องขอ และผมไม่คิดจะปฏิเสธแล้วด้วย กล้วยแหย่เข้ามาในปากช้างขนาดนี้ ไม่กินก็โง่แล้ว

ผมลากมันเข้ามาในห้องน้ำ เสร็จภารกิจแล้วจะได้ล้างทำความเนื้อตัวไปเลยทีเดียว ซ่าเดินตามผมเหมือนหุ่นยนต์ มือที่ผมจับไว้ชื้นเหงื่อ ที่ไม่รู้ว่าได้มาจากการเสียน้ำเมื่อสักครู่ หรือจากอาการตื่นเต้นกันแน่

ผมจับให้ซ่านั่งลงบนขอบอ่างอาบน้ำ ส่วนผมก็ยืนอยู่ตรงหน้ามัน ลูกชายผมชี้ตรงอยู่เบื้องหน้า ซ่ามองจ้องก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ ที่ให้ความรู้สึกว่ามันกลัวมากกว่าจะอยากครอบครอง แต่ผมไม่ใช้ร้ายให้มันใช้ริมฝีปากกลืนกินมันเข้าไปหรอก บทเรียนนี้ยังเร็วเกินไปสำหรับซ่า ผมไม่รีบร้อน แค่เล็กๆน้อยที่มันทำให้ผมได้ ก็ถือว่าคืนทุน เรื่องกำไรค่อยว่ากันอีกทีในอนาคต

“ลองจับมันดู เหมือนที่มึงจับของมึงนั่นแหละ” ผมลูบหัวมันให้เงยขึ้นมองผม

ซ่ามองสบตาผมก่อนจะเม้มปากแล้วก้มลงมองไอ้ปราบน้อยที่ไม่น้อยอย่างที่เรียก ซ่าค่อยๆใช้มือจับเบาๆเหมือนกลัวผมจะเจ็บ ผมเลยใช้มือของตัวเองกุมมือมันไว้อีกแล้ว แล้วออกแรงนำทางให้ซ่าเรียนรู้

และกับเรื่องนี้ซ่าหัวไวใช้ได้ ไม่นานผมก็ไม่ต้องควบคุมจังหวะการขยับ ยิ่งก้มมองสีหน้าใครรู้ของซ่าที่ช้อนมองปฏิกิริยาของผมเรื่อยๆ ไอ้ปราบน้อยมันก็ดูจะพอใจแล้วพองตัวใหญ่ขึ้นอีกหนึ่งระดับ ให้คนที่รีดเค้นมันอยู่ทำตาโต

“พี่ปราบ...มันใหญ่ขึ้น” ซ่าอุทานเบาๆ คล้ายจะบ่นกับตัวเอง

“มันชอบมือมึง ขยับต่อสิ กูไม่ไหวแล้ว” ผมลูบแก้มมันแล้วเร่งให้มันขยับมือที่หยุดไปชั่วครู่

ซ่าพยักหน้าเข้าใจแล้วลงมือต่อ และเพื่อให้เด็กมันรู้สึกสนุกและไม่มองเรื่องที่ผู้ชายจะช่วยกันปลดเปลื้องอารมณ์ทางเพศเป็นเรื่องน่ารังเกียจ แต่เป็นเรื่องที่กับความพึงพอใจของคนสองคน ผมจึงต้องทำให้ซ่ามันได้ใจ แล้วคิดว่าผมตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือมัน ด้วยการส่งเสียงครางซี้ด เชิดหน้าขึ้นเหมือนสุขสมกับการปรนเปรอที่มันทำให้

และแผนของผมก็ได้ผม เมื่อซ่าเหมือนจะได้ใจ ยิ่งเร็วมือหนักขึ้น จากที่ขยับมือขึ้นลงเร็วๆเพียงอย่างเดียว ซ่าก็ได้ขยับความกล้าขึ้นไปอีก ด้วยการใช้นิ้วหัวแม่โป้งลูบคลึงส่วนปลายที่คอยจะพ่นน้ำออกมาเรื่อยๆ ผมขนลุกเกรียวไปทั่วทั้งร่าง และบางครั้งก็ครางเสียงต่ำในลำคอด้วยความสุขสม ไม่นานผมเสร็จสิ้นคามือเด็กใหม่ฝึกหัด ที่คงจะได้เลื่อนขั้นในเร็วๆนี้

คืนนี้ผมนอนหลับสนิทยิ่งกว่าคืนไหน ตัวเบาโล่งแบบที่ไม่ต้องพึ่งแม่นางทั้งห้าของตัวเอง เพราะมีน้องนางของซ่าช่วยรีดน้ำออกจนเบาสบายไปทั้งตัว เอาจริงๆเลยว่า ผมเกือบจะตบะแตกหลายรอบ แต่ก็ต้องกัดฟันเอาไว้ พลางท่องในใจเงียบๆว่าผมต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน...อดเปรี้ยวไว้กินหวาน








เช้าวันถัดมาผมตื่นตั้งแต่ตีห้า เพราะที่บ้านมีกฎระเบียบที่จะต้องตื่นมาออกกำลังกายในช่วงเช้า หนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่งเป็นอย่างต่ำ ดังนั้นเลยต้องตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สร่าง

ผมปลุกซ่าให้ตื่น มันงัวเงียขยับตัวหนีมือผม ทำเสียงจิ๊จ๊ะในรำคาญอย่างรำคาญ แต่ผมจะไม่ปล่อยให้มันนอนสบายๆแม้ว่าจะเป็นเช้าวันอาทิตย์ก็ตาม ผมตามใจมันได้ทุกอย่าง แต่ต้องทำให้เป็นเด็กที่มีวินัยในตัวเองด้วย

“ซ่า ตื่น” ผมตบก้นมันที่เด้งสู้มือเล็กน้อย ไม่มากเพราะมันไม่ใช่คนที่มีก้นเด้งตึงอย่างคนที่ออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อก้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็กลมมนเนียนดีเท่าที่เคยเห็น และลูบเพลินมือดี  เวลามันหลับผมแอบลูบประจำแหละแต่มันไม่รู้เพราะโคตรขี้เซา

“พี่ ผมง่วง จะนอน”

“ไม่นอนแล้ว ตื่นไปออกกำลังกาย”

“อื้อ” เป็นการปฏิเสธว่าไม่

“ซ่า”

มันยังคงนิ่ง เริ่มมีเสียงหายใจฟี้ๆดังตามมาให้ได้รู้ว่ามันไปเฝ้าพระอินทร์อีกแล้ว

ผมยืนเท้าเอวแล้วก็มองคนที่นอนคว่ำตะแคงหน้าหลับอย่างสบายใจ ผมก็อยากให้มันนอนต่อนะ ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาก่อนจะเจอผม มันได้นอนหลับสนิทอย่างสบายใจแบบนี้บ้างไหม แต่ผมเองก็อยากให้มันมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตที่แจ่มใสอย่างที่เด็กอายุสิบเก้าควรจะเป็น

และเช้านี้ผมจะต้องขุดมันขึ้นมาจากเตียงให้ได้

ผมขยับคลานขึ้นเตียงแล้วยกเข่าคร่อมร่างที่นอนหลับสบายเอาไว้ ก้มลงจูบตามขมับ ไรผมแล้วก็แก้ม ให้คนนอนรำคาญใจ ก่อนจะจับไหล่ของซ่าให้พลิกตัวนอนหงาย ด้วยความแข็งแรงทางด้านร่างกาย ผมจับซ่านอนหงายได้โดยง่าย เด็กที่โดนกวนคิ้วขมวดทันทีแล้วชักสีหน้าหงุดหงิด

“ตื่นไปออกกำลังกายก่อน ป๊ารออยู่ มึงอยากให้ป๊ากับพ่อรอนานหรือไง”

ซ่าลืมตาขึ้นทันที แม้ว่าตามันจะเปิดขึ้นแค่ครึ่งเดียวก็ตาม ก่อนที่จะยกมือปิดหน้าแล้วบิดขี้เกียจจนหวั่นว่าตัวมันจะหักเสียก่อน บิดอีกนิดก็เป็นเลขแปดละ

“ไม่ออกไม่ได้เหรอ” ซ่าขยับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง โดยที่ยังมีตัวของผมคร่อมทับอยู่ด้านบน

“ไหนว่าจะเชื่อฟังกูทุกอย่างไง แค่นี้ก็ทำไม่ได้แล้ว” ผมลูบหัวที่ยุ่งเหยิงให้ อดไม่ได้ต้องยื่นหน้าไปหอมแก้มตอบสักที

“ผมทำได้” ซ่าทำหน้าขึงขังที่ค่อนไปทางงัวเงียเสียมากกว่า ผมหัวเราะขำเบาๆกับความเอาจริงเอาจังที่ช่างไม่หนักแน่นเอาเสียเลย

“ทำได้ก็ลุกได้แล้ว” ผมขยับ

“โอ๊ย ง่วง”

ในที่สุดมันก็ยอมลุกขึ้นไปล้างหน้า แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกายที่ผมเตรียมไว้ให้ ทุกวันนี้ผมอาจจะทำทุกอย่างให้มันเหมือนจะเป็นทั้งพ่อและพี่ชาย แต่จริงๆแล้วผมหวังจะเป็นสามีมันต่างหาก เมล็ดกล้าต้นนี้ ผมเฝ้ารดน้ำพรวดดินและใส่ปุ๋ยด้วยความเต็มใจ เชื่อได้เลยว่าอีกไม่นานมันจะต้องเติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่งและสวยงาม







 ใกล้จะสอบไฟนอลซ่าก็ดูเคร่งเครียดจริงจังกว่าทุกครั้ง แต่ก็ยังมีบ้างที่เกเรอิดออดไม่อ่านหนังสือ อิดออดไม่ยอมออกกำลังกาย แต่ผมก็เข็นมันได้อยู่ตลอดเวลา ด้วยการหลอกล่อพาไปกินของอร่อยที่มันอยากกินบ้าง ให้มันขับรถยนต์ลูกรักของผมบ้าง แต่สายตาที่มองมอเตอร์ไซค์ของผมก็ตาละห้อยเช่นกัน ผมไม่หวงรถหรอกถ้ามันอยากจะขับ แต่เห็นมันไม่กล้าพูดได้แต่ส่งสายตาเว้าวอนก็แต่ขบขันในใจ คิดไว้ว่าถ้าคะแนนสอบมันออกมาดีผม ผมจะให้มันลองขี่ดูคาติลูกชายคนใหม่ดู

วันนี้ผมมีเอกสารที่ต้องอ่านและเซ็นจนล้นโต๊ะ คงไม่รับซ่าที่โรงเรียนหลังสอบเสร็จไม่ทัน ผมเลยให้คนขับรถไปรับมันที่โรงเรียน ซึ่งก็ตามสไตล์ที่เด็กผมจะปฏิเสธแล้วขอกลับเอง บอกว่าจะไปเดินเล่นกับเพื่อน แต่ผมไม่ยอม ออกคำสั่งให้มันกลับพร้อมคนขับรถ

สิ่งที่ผมทำมีเหตุผล ไม่ใช่ว่าดูแลจนดูเหมือนผู้หญิง ถ้ามันเรียนโรงเรียนมัธยมหรือเข้ามหาวิทยาลัยแล้วผมจะไม่ห่วงเลย จะโยนกุญแจรถให้มันขับรถไปเรียนเองเลย แต่เพราะมันเรียนเทคนิค และเด็กพวกนี้ต่อยตีกับอริทุกเย็นหรือทุกครั้งที่เจอหน้า ก่อนหน้านี้ที่มันรอดชีวิตมาได้ทุกครั้งที่มีเรื่องต่อยตี ผมก็ถือว่ามันโชคดีมากพอแล้ว ถ้าผมไม่ไปรับไปส่งเอง ปล่อยให้มันต้องนั่งรถเมล์ไปเรียน ผมคงต้องได้ไปรับมันที่โรงพยาบาลแทน

ทางไหนที่ป้องกันไม่ให้มันเจ็บตัวได้ผมก็อยากจะทำ ต้องเข้าใจว่าสังคมของเด็กช่าง ศักดิ์ศรีมันมาก่อนความกลัวตาย ไอ้ความคิดเพื่อนกันไม่ทิ้งกัน เลือดสถาบันมันเข้มข้น ใครมาหยามไม่ได้ เล่นกันถึงตายก็มี ไม่มีการหมายหัวเป็นตัวบุคคล แต่ถ้าไม่ใช่โรงเรียนเดียวกันก็พร้อมตีกันได้เสมอ เพราะอย่างนั้นผมถึงไม่เคยวางใจให้มันไปกลับเอง รอให้มันจบจากที่นี่ก่อนผมถึงจะหมดห่วง

สิ่งหนึ่งที่ผมถูกสอนมาตั้งแต่เล็กๆเลยก็คือ คนเราไม่ทำงานก็ไม่มีคุณค่าไม่มีความหมาย แต่ต้องไม่ทำงานจนเบียดเบียนเวลาของคนในครอบครัว ยังไงคนรักและครอบครัวก็ต้องมาก่อนงานเสมอ ที่เห็นว่าผมทำตัวว่างงานไปรับไปส่ง ไปเฝ้าที่ร้านอาเจเวลาทำงาน

ความจริงผมไม่ได้ว่าง งานน่ะมีล้นมือ ทั้งกิจการของป๊าที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม รีสอร์ททั้งหลายแหล่ ไหนจะกิจการนำเข้ารถและอะไหล่รถของพ่อ อู่ซ่อมรถแต่งรถถูกกฎหมายของพี่ริช และโรงเรียนสอนดนตรีของพี่เค้ก แต่กิจการของพี่เค้กกับพี่ริช ผมแค่แวะเข้าไปดูแลและช่วยงานบางครั้ง แต่ของพ่อกับป๊า ผมต้องดูแลเต็มตัว อำนาจการตัดสินใจมีเทียบเท่าป๊ากับพ่อ แต่ทุกการทำงานและการตัดสินใจที่เกี่ยวกับงาน ป๊าและพ่อจะคอยควบคุมและคอยสอนพร้อมให้คำแนะนำอยู่เสมอ

แต่ที่ทำตัวว่างงานได้ก็เพราะเงิน ผมมีเลขาสองคนในออฟฟิศของป๊า และเลขาอีกคนที่คอยช่วยงานที่ทำงานของพ่อ ผมจ่ายเงินเดือนให้พวกเขาหนักมากพอที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของผมได้ ผมสามารถทำงานได้ทุกทีเพราะเอกสารจะถูกสแกนเป็นไฟล์ลับส่งมาให้ผมอ่านและทำความเข้าใจ ก่อนที่เข้าไปเซ็นในบริษัท และเลขาทั้งสามคนของผมก็เก่งพอที่จะรับมือลูกค้าแทนผมได้โดยที่ไม่เคยมีปัญหา ผมจะมีเงินไว้ทำไมถ้าไม่ใช้ทำให้ชีวิตของตัวเองสะดวกสบายขึ้น

แต่วันนี้งานเข้ากะทันหันหลายทาง ทำให้ผมทำงานไม่เสร็จก่อนบ่ายสาม วันนี้ผมเลยให้คนขับรถที่ความจริงคือบอดี้การ์ดฝีมือดีหาตัวจับยากไปรับมันมาจากที่โรงเรียน และตอนนี้ก็น่าจะมาถึงได้แล้ว

แค่คิดโทรศัพท์มือถือของผมก็สว่างวาบขึ้น หน้าจอขึ้นชื่อคนที่ผมกำลังรอ ผมกดรับสายทันที

“อยู่ไหนแล้ว” ผมถามไป

“พี่ปราบ ผมไม่ขึ้นไปได้ไหม ขอรอที่รถนะ” ซ่าทำเสียงกล้าๆกลัวๆ

“มึงดื้อกับพี่ทศหรือไง ทำไมไม่ขึ้นมาข้างบน กูบอกพี่เขาไว้แล้วว่าให้พามึงขึ้นมาหากูเลย” ผมถาม

พี่ทศก็คือคนที่ขับรถไปรับมันนั่นแหละ พี่ทศเป็นคนสนิทเก่าของป๊าที่ตอนนี้มาช่วยงานผมอีกทาง เพราะป๊าอยากให้พี่ทศได้พักผ่อนและมีเวลาให้กับครอบครัว ทีแรกพี่ทศก็ไม่ยอมเพราะอยู่กับผมก็ไม่ได้แสดงฝีมืออะไรมากกว่า แต่พอภรรยาของพี่ทศตั้งท้อง พี่ทศก็ยอมมาทำงานให้ผมแต่โดยดี

ผมสั่งพี่ทศไว้ตั้งแต่วานให้ไปรับซ่าแล้วว่าถ้ามาถึงแล้วก็ให้พาซ่าขึ้นมาหาผมที่ห้องทำงานได้เลย เพราะผมน่าจะเสร็จงานประมาณทุ่มหนึ่งได้ วันนี้ซ่าสอบเสร็จเป็นวันสุดท้าย เท่ากับว่ามันเรียนจบปวช.แล้ว ผมเลยจะพามันไปผ่อนคลายหลังจากที่อ่านหนังสือสอบมาเกือบสองอาทิตย์

อีกอย่างคืนนี้ที่บ้านผมจะออกไปปล่อยผีกันด้วย ที่ผับชื่อดังสุดหรูที่เจ้าของเป็นเพื่อนของป๊า ก็เลยว่าจะถือโอกาสพามันไปเปิดหูเปิดตา และทำตามแผนการบางอย่างที่จะทำให้ซ่าสมยอมเป็นเมียผมได้เร็วขึ้น

แผนการก็ไม่มีอะไรมาก แค่พี่ริชกับพี่เค้กจะช่วยกันยุยงให้ซ่ากล้าที่จะเผยความรู้สึกแล้วอยากจะครอบครองผมให้ผมเป็นคนของมันอย่างสมบูรณ์ เพราะผมต้องการให้ผมสมยอมก็เลยต้องใส่เชื้อไฟเร่งปฏิกิริยาเข้าไปเยอะหน่อย เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพอใจในอนาคต

นอกจากพี่ริชกับพี่เค้กจะถือหางผมเรื่องซ่าแล้ว ยังมีพี่ทศที่ผมปรึกษาเรื่องหัวใจได้ แต่กับพ่อและป๊าผมถือว่าเป็นฝั่งตรงกันข้าม ไม่ช่วยแล้วยังขัดขวางกันอีก

“ไม่เอาอ่ะ ผมไม่กล้าเข้าไป” ซ่าว่ามาแบบนั้น

“ตึกบริษัทกูไม่มีผีหรอกนะ มึงจะกลัวอะไร” จะบอกให้ว่าซ่ากลัวผีมากๆ ขี้ขึ้นสมองเลยก็ว่าได้ เป็นความลับใหม่ที่ผมเองก็เพิ่งจะรู้เหมือนกัน

“ก็...” มันจะพูดแล้วก็เงียบ ไม่อยู่ต่อหน้าผมก็เดาไม่ได้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่

“ขึ้นมาเถอะ อยู่กับพี่ทศมีอะไรต้องกลัว รีบๆขึ้นมา กูรออยู่” ผมชิงตัดสายไม่ให้มันได้พูดอะไรต่อ แล้วก็ต่อสายหาพี่ทศทันที

“พี่ทศ พาซ่าขึ้นมาหาผมเลยนะ อนุญาตให้ดุได้ แต่อย่าแรงมาก เดี๋ยวมันร้อง”

“ได้ เดี๋ยวพี่พาเขาขึ้นไปหาที่ห้องทำงาน”

“ขอบคุณครับ”

ผมวางสาย แล้วก้มหน้าอ่านเอกสารอีกหนึ่งแฟ้ม ผ่านไปยี่สิบกว่านาทีเลขาของผมก็เปิดประตูให้ซ่าและพี่ทศเข้ามาในห้อง ช้ากว่าที่ผมคิดเอาไว้เยอะ เพราะที่จริงใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็น่าจะถึงได้แล้ว

“ทำไมมาช้าล่ะ” ผมถามซ่า ที่เดินหน้านิ่งเข้ามาในห้อง ไม่พูดไม่จา ไม่มองหน้าผมด้วย ไม่รู้มันเป็นอะไร ผมมองหน้าพี่ทศเพื่อขอคำตอบ พี่ทศไม่พูด แต่ทำมือว่าเดี๋ยวจะส่งข้อความมาหาแล้วก็ขอตัวออกไป

“ซ่า มานั่งนี่” ผมเรียกให้มันมานั่งหน้าโต๊ะทำงานของผม ซ่าก็เชื่อฟังเดินมานั่งแต่โดยดี ผมพิจารณาสีหน้าของซ่าแล้วก็ดูปกติดี ติดที่เงียบและแววตาติดจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างตลอดเวลา

ผมเหลือบมองโทรศัพท์ รอว่าพี่ทศจะส่งข้อความอะไรมาเล่าให้ผมฟัง และน่าจะเกี่ยวกับอาการเงียบผิดปกติของซ่าด้วย

“เป็นอะไร ทำข้อสอบไม่ได้เหรอ” ผมถามด้วยความเป็นห่วง วันสอบวันก่อนๆมันยังร่าเริงดีกลับมาโอ้อวดให้ผมได้หมั่นเขี้ยวทุกวัน แต่วันนี้กลับดูเครียดผิดปกติ

“เปล่า” ซ่าส่ายหน้าเบาๆ

ผมกำลังจะถามถึงสาเหตุอื่น โทรศัพท์ก็สั่นเตือนว่ามีคนโทรเข้ามา เป็นสายโทรเข้าจากพี่ทศ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับก่อนที่ซ่าจะเหลือบมองมาทัน

 ผมกดรับสายแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ลุกขึ้นไปเดินห่างออกมายืนคุยตรงหน้ากระจกมองวิวของกรุงเทพ

“ครับ เล่ามาเลยพี่” ผมบอก

“ตอนที่พาขึ้นมาบังเอิญเจอกับเด็กเก่าปราบที่ชื่อฟิล์มที่ข้างล่าง เขาก็คุยอยู่กับพนักงานแล้วก็ทักพี่บอกว่าถ้าไม่รีบไปทำธุระจะขึ้นมาเจอปราบเพราะคิดถึง ตอนนั้นซ่าก็ยังยืนฟังเฉยๆนะ แต่ตอนขึ้นลิฟต์มาพนักงานที่คุยกับฟิล์มเข้ามาในลิฟต์ด้วยก็พูดถึงฟิล์มว่าดูดีเหมาะกับปราบและเชียร์ให้ปราบกับไปคบกับเขาอีก เรื่องก็มีแค่นี้”

พี่ทศเล่าว่ามีแค่นี้ แต่สิ่งที่อยู่ในหัวของซ่าตอนนี้ไม่น่าจะมีแค่นี้แน่

“พี่คิดว่าไง” ผมถามความเห็น

“อืม...อาจจะคิดมาก หรือไม่ก็หึง”

หึง?

“พี่คิดว่างั้นเหรอ” ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองนะ แต่ใจมันสั่นนำไปละ

“ก็ไม่รู้สิ แค่นี้นะ พี่จะไปทำงานต่อ”

“ครับ ขอบคุณมากครับ”  ผมตอบแล้ววางสาย หมุนตัวหันไปมองคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์เหมือนไม่สนใจอะไร แต่ข้างในคงกำลังคิดอะไรเพ้อเจ้ออยู่แน่ๆ

หึงงั้นเหรอ?

ถ้าเป็นความรู้สึกนี้ ก็ถือว่าเข้าทางผมมากๆ

ตั้งแต่ผมรู้จักมันมา ซ่าจะมีอาการสองอย่างก็คือ ร่าเริงเมื่อไม่คิดอะไรกับเรื่องนั้น กับเงียบเมื่อมีเรื่องให้ต้องคิด และเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวมันเองโดยตรง

ผมยิ้มให้กับอาการที่ซ่าแสดงออกมา แล้วเดินไปยืนข้างหลัง ก่อนจะโน้มตัวลงไปโอบกอดช่วงอกของมันไว้จากด้านหลังแล้วกดจูบที่แก้มเนียนฟอดใหญ่

อาทิตย์ที่แล้วพี่เค้กทำสปาผิวหน้าขัดตัวให้ทุกคนในบ้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งป๊าที่โดนขัดหน้าไปตามๆกัน ผลที่ได้ก็คือ ใบหน้าของซ่าเนียนและนุ่มขึ้นจนผมติดใจ ติดหอมแก้มมันตลอดเวลาที่อยู่กันสองต่อสอง

“คิดถึงวะ” ผมบอกติดกับแก้ม ที่พอหน้าใสขึ้นกว่าเดิมก็ยิ่งขึ้นริ้วสีแดงให้ได้เห็นบ่อยขึ้น

“ไม่ทำงานเหรอ ผมหิวแล้ว” ไม่เบี่ยงหน้าหนีการลวนลามของผม แต่ถามนิ่งๆพูดนิ่งๆแทน ผมเลยจับหน้ามันหันมาแล้วจูบปากมันไปอีกที ก่อนจะกลับไปทำงานต่อให้เสร็จ จะได้พาเด็กไปกินข้าวมื้อเย็น พร้อมกับคิดไปด้วยว่า ถ้าซ่ามันหึงผมจริงๆ และถ้ามันหึงมากกว่านี้ หวงมากกว่านี้ มันจะทำยังไง จะแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของไหม ด้วยนิสัยอย่างมันแล้ว ทำผมตื่นเต้นสุดๆ

ซ่าเป็นเด็กที่รักใครรักจริง และขี้หึงขี้หวงสุดๆ จบบางครั้งกลายเป็นรักแบบไม่ลืมหูลืมตา ดูได้จากตอนที่มันคบกับเด็กที่ชื่อพลอย ถ้ามันแสดงอาการเหมือนที่เคยทำตอนคบแฟนเก่ากับผมล่ะก็ ถ้ามันรักผมได้อย่างแฟนเก่ามันละก็ อยากได้อะไรกูให้หมดเลย งานนี้พี่ทุ่มหมดตัวเลยเอ้า!










................................................
สวัสดีค่า กลับมาแล้วๆ
ตอนนี้เป็นแค่ออร์เดิร์ฟเท่านั้น ตอนนี้ของจริง จัดหนักแน่นอน ด้วยความร้ายของอิพี่แล้ว บอกเลยว่าไม่น่าสงสารอิพี่ปราบตั้งแต่ทีแรก ถ้าเป็นคนอื่นเขาก็รวบหัวรวบหางบังคับกันไปเลย แต่นี่ไม่นะคะ นางวางแผนนะคะ กะว่าจะให้ซ่าเอ่ยปากสมยอมเองเลย   :z1:
มาเดากันสิว่า พี่ปราบจะทำสำเร็จหรือไม่ในตอนหน้าค่า  :-[
บ๊ายบายยย  :bye2:



หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 24-01-2018 22:25:34
พี่ปราบบบ มีความใกล้ตบะแตกสุดๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 24-01-2018 22:28:25
 :jul1: โอ้นอิพี่ปราบ ผีร้ายเว่อร์ เฮียแกร้ายตั้งแต่ทำไห้ซ่าขาดแก มีที่พึ่งแค่แก นั้นแหละ

ฟซ่าลูกอย่าไปยอม หนูต้องรุกพี่มัน รุกขึ้นมาออนท็อปเลยลูก เอาไห้พี่มันหลงเมียหัวปรักหัวปรำไปเลย เจ้าแผนการดีนัก
รอตอนนหน้าอย่างใจจดใจจ้อเด้อค่าาาาาาา



สู้ๆน้าคุณคนเขียน สนุกมากค้า
นี้มาอ่านรอซ้ำวนหลายรอบเว่อร์ :ling1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 24-01-2018 22:30:34
ซ่าจะไหวเหรอ
อิเบบี้ปราบ..ขนาดนั้น

น้องแย่แน่เลยพี่
อย่าเกินสาม..นะพี่ปราบ
น้องซ่าจะตายเอา
อิอิ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-01-2018 22:41:51
อยากเห็นเหมือนกันน่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 24-01-2018 22:49:30
 :hao3: อะโห ต้องให้น้องซ่าสมยอมเลยงี้..
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 24-01-2018 22:53:46
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 24-01-2018 23:03:03
ร้ายกาจอ่ะ อิพี่ปราบ  :z2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-01-2018 23:17:50
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 24-01-2018 23:23:12
อิพี่มันร้าย ล่อลวงน้องซ่า
ระวังตัวไว้ดีดีนะซ่าอิพี่มันจะตะครุบแล้ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-01-2018 23:25:19
อิพี่ปราบนี่ร้ายสุดดดด
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-01-2018 23:29:40
ใครว่าพี่ปราบร้ายกาจ คนแก่ขอเถียงนะ พี่ปราบน่ารักจะตาย มีทะนุถนอมซ่าออกขนาดนั้น พี่ปราบแค่เป็นคนขี้หื่นเท่านั้นเอง  :o10:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 24-01-2018 23:30:24
อิพี่มันร้ายยยยยย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 24-01-2018 23:47:06
มีแผนด้วยยย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 25-01-2018 01:45:37
อิพี่ปราบโคตรร้าย 5555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 25-01-2018 06:10:16
พี่ปราบเจ้าแผนการมาก ระวังแผนล่มนะพี่
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-01-2018 06:41:23
เอาล่ะสิ 
เด็กเก่าพี่ปราบทำให้ซ่า คิดมาก
ถ้าซ่าหึง หวง พี่ปราบ ระเบิดออกมาเลย
พี่ปราบ กระหยิ่มยินดี ใจพองอยากเห็นเต็มที่อยู่แล้ว :z3: :z3: :z3:
คนอ่าน ก็อยากเหมือนกัน  :z3: :z3: :z3:

พี่ปราบ ซ่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขำป๊า โดนพี่ปราบ เอาคืนที่ไปยุยงซ่า   :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-01-2018 07:07:33
บ้านนี้สายเปย์ทั้งบ้าน 5555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-01-2018 08:17:40
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 25-01-2018 08:41:10
พี่ปราบ  แกก็เกินไป  นับวันยิ่งน่ากลัวขึ้นทุกวันนะเสี่ย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 25-01-2018 11:26:54
งานนี้ต้องมีตลบหลัง55
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 25-01-2018 12:00:35
อิพี่ปราบบบบ อย่ามาแกล้งน้องฉันอย่างนี้นะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-01-2018 17:53:47
พี่ปราบมันร้าย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 25-01-2018 19:30:18
เธอมันร้ายยอิพี่ปราบบบบบ ขอให้ชวดน้องมันดีไหมนี่?
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 27-01-2018 12:09:16
อิพี่ปราบ ถ้าน้องมันขอจะให้จริงๆเหรอ คิคิคิ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 28-01-2018 17:38:16
วางแผนไปเถอะพี่ปราบ  ได้น้องซ่าเป็นเมียเมื่อไหร่ ตัวเองได้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือน้องซ่าแน่ๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 29-01-2018 07:43:36
รอชม ^^
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-01-2018 18:15:34
โอ๊ยยย สงสารซ่ามาก ทำไมทุกคนรุม 55555
พี่ปราบก็จ้องตะครุบ
พี่ริชกับพี่เค้กก็จ้องจะช่วย

วางแผนกันอย่างเนียน ยิ่งกว่าดาราตัวพ่อ
แผนล่อซ่าให้ปราบ

ซ่าเอ้ยย หลงกลซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 30-01-2018 14:53:07
มารอพี่ปราบกินเด็ก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่31:: 24/1/2018 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 30-01-2018 15:36:27
รอตอนต่อไปค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 30-01-2018 18:51:17
ปราบซ่า
ตอนที่32



[ซ่า]

เลิกเรียนแล้ว พี่ปราบก็ส่งคนมารับ เขาชื่อพี่ทศ ผมไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไร แต่เขามักจะขับรถมารับผมตลอดถ้าพี่ปราบไม่ว่าง

ทุกครั้งเขาจะพาผมไปส่งที่คอนโด แต่ครั้งนี้เขาขับรถเข้ามาในตึกสูงใหญ่ใจกลางกรุงเทพ  ถึงจะไม่ใช่เวลาเลิกงาน แต่ก็มีคนเดินควักไขว่เข้าออกตึกอยู่พอสมควร

“ผมต้องเข้าไปเหรอ” ผมถามพี่ทศ

“อืม ปราบบอกให้พี่พาซ่าเข้าไป” พี่ทศตอบ

“ผมขอโทรหาพี่ปราบก่อนนะ”

“ได้”

ผมกดโทรศัพท์โทรหาพี่ปราบ ผมไม่อยากเข้าไปเพราะที่นี่ดูไม่เหมาะกับผม เด็กช่างทุกคนดูไม่ดีใจสายตาใครต่อใครอยู่แล้ว และพวกเขาคงไม่ต้อนรับให้เด็กที่ยังใส่ชุดนักเรียนช่างเต็มยศอย่างผมเข้าไปวิ่งเล่น ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็ไม่แคร์หรอกนะ แต่พอคิดถึงพี่ปราบผมก็รู้สึกหวั่นๆขึ้นมาบ้าง

“อยู่ไหนแล้ว” พี่ปราบรับสายแล้วก็ถามทันที

“พี่ปราบ ผมไม่ขึ้นไปได้ไหม ขอรอที่รถนะ” ผมลองถามดู

“มึงดื้อกับพี่ทศหรือไง ทำไมไม่ขึ้นมาข้างบน กูบอกพี่เขาไว้แล้วว่าให้พามึงขึ้นมาหากูเลย”

“ไม่เอาอ่ะ ผมไม่กล้าเข้าไป” ผมตอบอย่างที่คิด

“ตึกบริษัทกูไม่มีผีหรอกนะ มึงจะกลัวอะไร”

“ก็...” ผมไม่ได้กลัวผีที่นี่สักหน่อย แค่ไม่อยากเข้าไปก็เท่านั้น 

“ขึ้นมาเถอะ อยู่กับพี่ทศมีอะไรต้องกลัว รีบๆขึ้นมา กูรออยู่” ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ พี่ปราบก็กดตัดสายผมทิ้งไปเลย แต่โทรศัพท์ของพี่ทศดังขึ้นแทน ผมเหลือบเห็นว่าเป็นชื่อของพี่ปราบ ก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วคิดว่าคงเลี่ยงไม่ได้

“ได้ เดี๋ยวพี่พาซ่าขึ้นไปหาที่ห้องทำงาน” พี่ทศตอบคนปลายสายแล้วก็กดวาง

ผมมองด้านนอกอีกครั้ง ก่อนจะยอมลงจากรถแต่โดยดี เดินตามหลังพี่ทศเข้าไปในตึกสูงลับฟ้า ที่ๆคนเรียนสูงมีอนาคตเขามาทำงานกัน ไม่รู้ว่าชาตินี้ทั้งชาติผมจะได้มีชีวิตแบบนี้ไหม

“อ้าว พี่ทศ สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานเลยนะ”

“สวัสดีครับ”

เขาชายตามองผมเล็กน้อยแล้วก็ไม่ให้ความสนใจต่อ นั่นก็ดีแล้ว ผมไม่ต้องการให้ใครที่นี่สนใจผมสักคน มองผ่านผมไปได้จะดีมาก

“พี่ปราบยังทำงานอยู่เหรอครับ” คนถือฟิล์มถามพี่ทศ

“ครับ” พี่ทศก็ตอบแค่สั้นๆ

“ฟิล์มก็คิดถึงพี่ปราบมาก อยากจะขึ้นไปหาพี่ปราบเหมือนกัน แต่ติดธุระต้องรีบไปแล้ว ยังไงฝากพี่ทศบอกพี่ปราบด้วยนะครับว่าฟิล์มคิดถึงอยากจะเจอ”

“อืม” พี่ทศตอบรับไปสั้นๆ

“งั้นฟิล์มไปแล้วนะครับ ไปก่อนนะครับพี่ๆ วันหลังฟิล์มแวะมาหาพี่ปราบแล้วจะมาคุยด้วยใหม่”

“บ๊ายบายค่ะน้องฟิล์ม”

“เจอกันค่ะคุณน้อง”

ผมเดินตามพี่ทศไปขึ้นลิฟต์ กลุ่มผู้หญิงพวกนั้นก็ตามเข้ามาด้วย พี่ทศกดลิฟต์ขึ้นไปบนชั้นสูงสุดของตึก  มีคนเข้ามาในลิฟต์มาขึ้น ผมถอยหลังจนติดผนังลิฟต์ รอจนกระทั่งลิฟต์ค่อยๆเคลื่อนตัวสูงขึ้น

“คุณฟิล์มนี่น่ารักเนอะ มีการบอกคิดถึงคุณปราบด้วย”

“นั่นสิแก ฉันชอบคุณฟิล์มนะ น่ารัก ดูเป็นผู้ชายเซ็กซี่มาก เหมาะกับคุณปราบสุดหล่อของพวกเราที่สุด”

“จริงแก ฉันเห็นด้วย ถ้าพวกเขาทั้งสองคนกลับมาคบกันนะ ฉันเชียร์สุดใจขาดดิ้นเลยแก”

“เนอะๆ ก็คุณฟิลม์นะ ทั้งดูดี ทั้งน่ารักขนาดนี้ ฉันยังชอบเลยแก”

“ฉันก็อยากให้คุณฟิล์มกลับมาคบกับคุณปราบมากๆเลยแก”

“ถ้าคุณฟิล์มง้อคุณปราบอาจจะใจอ่อนก็ได้แก”

“นั่นสิ หน้าอย่างคุณฟิล์มถ้ายิ้มถ้าอ้อนก็คงน่ารักน่ากดอ่ะเนอะ”

แล้วพวกสาวๆที่พูดคุยกันก็เดินออกไปเมื่อถึงชั้นที่สิบสี่ ประตูลิบปิดอีกครั้ง แต่คำพูดของพวกผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้ออกจากลิฟต์ตามไปด้วย มันกลับมาเข้ามาอยู่ในหัวสมองของผมแทน

ผู้ชายคนนั้น ดูดีจริงๆอย่างที่ทุกคนพูด เท่าที่ผมเห็นแค่แวบเดียว ผมยังรู้เลยว่าเขาผิวขาวใสจนอมชมพู หน้าตาดีแบบที่คงเป็นดาราได้ง่ายๆ ถ้าผมชอบผู้ชายด้วยกันแล้วเจอคนหน้าตาดีหน้าตาน่ารักแบบนี้ผมก็คงชอบ แถมยังตัวเล็กไม่สูงเก้งก้างเหมือนผม คนแบบนั้นถึงจะทำให้ผู้ชายชอบและรู้สึกดีด้วยได้

มาคิดๆดูแล้ว ถ้าผู้ชายคนนั้นเคยคบกับพี่ปราบ พวกเขาก็คงต้องเคยนอนด้วยกัน ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่แปลกเพราะผู้ชายคนนั้นดูดีขนาดนี้ ตอนอยู่บนเตียงก็คงดูดีทำให้เกิดอารมณ์ขึ้นมาได้ไม่ยาก ต่างกับผมที่ไม่น่ามองเลยสักนิด

มาถึงชั้นบนสุด พี่ทศก็เดินออกไปจากลิฟต์ให้ผมเดินตาม ชั้นนี้เป็นทางเดินที่สองข้างมีแต่ห้องทำงาน และมีคนนั่งโต๊ะประจำหน้าห้อง นี่แหละมั้งที่เขาเรียกว่าเลขา

พี่ทศเดินมาหยุดที่หน้าห้องทำงานห้องหนึ่ง มีผู้หญิงหน้าตาดีกำลังนั่งทำงานอยู่ เธอดูดี สวยเก่ง เลขาพี่ปราบคนนี้สวยดีจริงๆ เธอยิ้มให้ที่ทศก่อนจะยิ้มให้ผม ผมทำตัวไม่ถูกเลยยกมือไหว้แล้วยิ้มตอบกลับไปบางๆ

“เชิญเข้าไปเลยค่ะคุณทศ”

“วันนี้งานหนักนะคุณแคท”

“นิดหน่อยค่ะ วันนี้งานเข้าหลายงานเลย น่าจะต้องได้กลับดึกแน่ๆ”

“อืม ผมพาคนเข้าไปก่อนนะ ตั้งใจทำงานครับ” 

“ขอบคุณค่ะ เชิญเลยค่ะ”

พี่ทศเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของพี่ปราบ พอเห็นหน้าเขาผมก็นึกถึงหน้าของผู้ชายที่เจอกันข้างล่างขึ้นมาพลางเปรียบเทียบว่า ถ้าคนนั้นได้ยืนอยู่ข้างๆพี่ปราบ ก็ต้องยอมรับว่าเหมาะสม

“ทำไมมาช้าล่ะ”

แล้วลองนึกดูว่าถ้าเป็นผมไปยืนตรงนั้น...นั่นแหละผมถึงได้บอกว่าผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ปราบถึงมาชอบคนอย่างผมได้

เรื่องนี้ไม่ถูกต้อง แต่ผมไม่แคร์หรอก ผมรักของผม ห่วงก็แต่คนอื่นจะมองพี่ปราบไม่ดี

“ซ่า มานั่งนี่”

ผมมองหน้าคนเรียกชื่อ ก่อนจะเดินไปนั่งตรงหน้าพี่ปราบ เห็นกองเอกสารตรงหน้าแล้วก็เหนื่อยแทน เขาทำงานหนักขนาดนี้ ยังจะเสียเวลามาคอยใส่ใจเรื่องของผมอีก ยังจะให้พี่ทศไปรับผมที่โรงเรียน แล้วคืนนี้ก็ยังจะพาผมไปกินข้าวไปเที่ยวกับครอบครัว

“เป็นอะไร ทำข้อสอบไม่ได้เหรอ” พี่ปราบถามด้วยความเป็นห่วง

“เปล่า” ผมส่ายหน้า ข้อสอบวันนี้ผมทำได้เกินกว่าครึ่ง ที่เหลือก็ไม่มั่นใจ เดาบ้างไม่รู้คำตอบบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมเครียด

พี่ปราบมองจ้องผมราวกับจะมองให้ทะลุถึงความจริง แต่ผมจะไม่พูดหรอกว่าผมอิจฉาผู้ชายคนนั้นน่ะ อิจฉาที่เขาดูดี และอิจฉาที่คนอื่นมองว่าเขาเหมาะสม ผมไม่อยากพูด แค่คิดก็ยังรับตัวเองไม่ได้เลย

พี่ปราบลุกออกจากโต๊ะไปรับสายคนที่โทรมาหา ผมมองตามพี่ปราบเล็กน้อย ก่อนจะเลิกสนใจเลิกฟุ้งซ่าน ด้วยการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเกม เกือบจะลืมเรื่องบ้าๆในหัวไปได้แล้ว พี่ปราบก็มากอดช่วงอกของผมจากด้านหลัง ก้มหน้าลงมาหอมแก้ม พักหลังมานี่พี่ปราบชอบหอมแก้มผมบ่อยๆ

“คิดถึงวะ” พี่ปราบพูด ปากก็คลอเคลียอยู่กับใบหน้าผมไม่หยุด ผมก็ปล่อยให้เขาทำไป เพราะมันทำให้ผมรู้สึกดี ลบล้างความอิจฉาเมื่อตะกี้ไปได้

“ไม่ทำงานเหรอ ผมหิวแล้ว” ผมถาม หางตาแอบเห็นพี่ปราบยิ้มก่อนจะดันหน้าผมหันไปหาแล้วจูบลงมา แล้วจึงกลับไปทำงานต่อด้วยสีหน้ามีความสุขแบบที่ผมไม่เข้าใจ

ระหว่างที่รอพี่ปราบทำงาน ผมก็รู้สึกหิวขึ้นมา จะไปหาอะไรกินรองท้องก็ไม่สะดวก ไม่รู้จะลงไปยังไง ร้านค้าอยู่แถวไหนก็ไม่รู้ พี่ปราบเองก็ดูมีสมาธิกับการทำงานมากจนไม่อยากกวน แต่นานเข้าก็เริ่มไม่ไหว สุดท้ายต้องเอ่ยปาก

“พี่ปราบ

“หืม”

“ผมหิว”

พี่ปราบเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะถอนหายใจแล้วปิดแฟ้มเอกสารที่กำลังอ่านอยู่พร้อมลุกขึ้น

“ไปเถอะ กลับกัน” พี่ปราบเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหาผม

“แต่พี่ยังทำงานไม่เสร็จ” ผมท้วง

“ไม่เป็นไร งานที่เหลือไม่ค่อยเร่งเท่าไหร่ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูมาทำต่อ” พี่ปราบดึงแขนผมให้เดินออกจากห้อง ถ้าพี่ปราบว่ามาอย่างนั้นผมก็จะไม่แย้ง เพราะผมหิวจนแสบท้อง อาการหนักขนาดที่ส่งเสียงให้คนรอบข้างได้ยิน

“ทีหลังหิวข้าวก็รีบบอก เป็นโรคกระเพาะขึ้นมามันจะลำบาก” พี่ปราบหันมาดุไม่จริงจัง ผมพยักหน้ารับเฉยๆ เพราะผมเป็นโรคกระเพาะแล้ว แต่ไม่กล้าบอกกลัวโดนด่ามากกว่านี้

ลงมาข้างล่างตึกก็มีร้านของกินอยู่ใกล้ๆ พี่ปราบพาผมเดินไปซื้อขนมปังกินรองท้องระหว่างขับรถกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโด

ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปผมไม่ต้องไปโรงเรียนแล้ว เหลือแค่ฟังผลสอบและรับวุฒิจบก็เป็นอันเรียบร้อย ผมยังไม่เคยคิดจริงจังเลยว่าจะเอายังไงต่อดี แต่ผมคิดไว้คร่าวๆแล้วว่าผมอยากต่อมหาวิทยาลัย ผมอยากเก่งและเท่ เป็นที่พึ่งพาของคนอื่นได้อย่างพี่ปราบ ขอสักเสี้ยวหนึ่งก็ยังดี

เพราะผมสามารถผ่านเทอมสุดท้ายมาได้แบบราบรื่น ไม่เกเร และเชื่อฟังพี่ปราบดีพอสมควร พี่ปราบก็เลยจะพาผมไปเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่แบบที่ผมอยากจะกิน นั่นก็คือบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ผมอยากกินไอ้ปูที่มันตัวใหญ่ๆขาใหญ่ๆ แล้วก็กุ้งล็อบสเตอร์อะไรนั่นด้วย ตอนนั้นผมเล่นเฟสบุ๊คแล้วเห็นคนแชร์มา เลยชี้ชวนให้พี่ปราบดูว่าน่ากิน ไม่คิดว่าพี่ปราบจะพาไปกินจริงๆ

 พอได้ขนมปังรองท้องผมก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาอาหารลงท้อง ก่อนที่มันจะประท้วงอีกรอบแล้วแผลงฤทธิ์ด้วยการแสดงอาการปวดจนถูกจับได้

“รีบอะไรขนาดนั้น หิวมากเหรอ” พี่ปราบมองขำๆที่ผมรีบแต่งตัว ส่วนพี่ปราบก็อาบน้ำไวกว่าปกติเพราะกลัวผมจะหิวตาย

“หิวแล้วพี่” ผมรีบบอก พี่ปราบก็เลยรีบแต่งตัว

“ไป กูเสร็จแล้ว” พี่ปราบเดินเข้ามากอดไหล่ผม และจูบขมับของผมไปที

โรงแรมที่พี่ปราบพาผมมากินเป็นโรงแรมของพี่ปราบเอง ความจริงก็คือของป๊าคราม แต่ว่าตอนนี้ป๊าให้พี่ปราบดูแลเกือบทั้งหมด ผมว่าอีกไม่นานโรงแรมและธุรกิจทั้งหลายก็คงกลายเป็นของพี่ปราบเต็มตัว ไม่ต้องบอกว่าผู้ชายคนนี้ทั้งหล่อและรวยมากแค่ไหน

ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในโรงแรม ผมก็ไม่เห็นว่าพี่ปราบจะเหมือนคนธรรมดา เพราะมีแต่ผู้คนจับตามองจนผมอดจะรำคาญแทนไม่ได้ ถ้าผมเป็นพี่ปราบผมคงทำตัวไม่ถูกที่ต้องโดนจับจ้องตลอดเวลา แต่คนอย่างพี่ปราบคงเจอแบบนี้จนชินแล้ว เพราะไม่เห็นเขารู้สึกอะไรทำหน้าหล่ออย่างเดียว

ทีแรกพี่ปราบอยากจะนั่งห้องแยกแล้วให้พนักงานมาเสิร์ฟอาหารให้ แต่ผมไม่เอา อยากเดินไปตักกินเองมากกว่า ก็เลยได้ที่นั่งตรงมุมดี ชนิดที่ติดกับโซนอาหารเลยก็ว่าได้

“ผมไปตักอาหารเลยนะ” ผมบอกพี่ปราบอย่างตื่นเต้น แค่เห็นอาหารก็น้ำลายไหลแล้ว

“ได้ แต่ตักมาแต่พอกิน อยากกินอะไรตักมาได้ทุกอย่าง แต่อย่าให้เหลือก็พอ เพราะมันจะเป็นการทำลายทรัพยากรเข้าใจหรือไม่”

“รับทราบครับผม” ผมเต๊ะท่าเหมือนทหาร จากนั้นก็ลุกเดินไปตักอาหารทันที

เพราะว่าวันนี้ผมมากับพี่ปราบ ก็เลยว่าตัวดีนิดหนึ่ง พยายามจะไม่ทำให้พี่ปราบขายขี้หน้า ยังไงที่นี่ก็มีแต่ลูกน้องพี่ปราบทั้งนั้น ถ้าผมทำตัวไม่ดี พี่ปราบก็จะพลอยเสียชื่อไปด้วย

อาหารหลากหลายอย่างที่ผมไม่เคยกินผมได้ลองกินทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ ปูตัวใหญ่ที่ผมเพิ่งจะรู้จักชื่อของมันอร่อยมาก และผมก็ซัดน้องปูอลาสก้าไปถึงสองตัวเลยทีเดียว ยังมีกุ้งล็อบสเตอร์ต้มกับย่างอีกที่ผมกินอย่างเต็มที่ และขอบอกเลยว่าไวน์แดงที่ผมไม่ชินปากเพราะคอถึงแต่เหล้าไทย พอมากินคู่กับสเต็กเนื้อชั้นดีที่พี่ปราบสั่งมาให้เป็นพิเศษแล้วโคตรของโคตรจะเข้ากัน เนื้อนุ่มอร่อยและหวานลิ้น ถ้ามีโอกาสผมอยากให้พี่ปราบมากินอีก

“อร่อยไหม” พี่ปราบถามหลังทานเสร็จ รอผมกินผลไม้ล้างปาก

“อร่อยมากอ่ะ มองแล้วยังอยากกินอีกเลย แต่อิ่มแล้ว”

“ถ้าชอบ ไว้วันหลังกูจะพามากินอีก”

“จริงนะ” ผมตาโตเลย

“อืม แต่ต้องเป็นเด็กดี”

“ผมเป็นเด็กดีอยู่แล้ว” ผมยักคิ้วให้พี่อย่างมั่นใจ พี่ปราบก็ยิ้มขำ

หลังจากที่ผมไม่สามารถยัดอะไรลงท้องต่อได้ พี่ปราบถึงได้เรียกพนักงานมาเคลียร์บิล ผมไม่รู้ว่าเจ้าของโรงแรมต้องจ่ายเงินค่าอาหารให้โรงแรมของตัวเองไหม แต่พี่ปราบทำ เขาบอกให้พนักงานบริการเขาเหมือนเขาเป็นลูกค้าคนหนึ่งไม่ใช่เจ้าของ ผมยิ่งรู้สึกชอบพี่ปราบมากขึ้นไปอีก

กินข้าวเสร็จพี่ปราบก็ขับรถไปที่ผับแห่งหนึ่ง ตอนแรกผมก็ยังไม่คิดอะไรนะจนกระทั่งมาถึงหน้าผับเท่านั้นแหละ ผมเหมือนได้ออกมาจากในกะลาใบเล็กที่เคยอยู่ ผับนี้ไม่เหมือนผับอื่นที่ผมเคยเข้า คนที่มามีแต่คนแต่งตัวดี หน้าตาดี ดูมีสง่าราศี และรถที่ขับเข้าออกก็แพงๆทั้งนั้น

นี่สินะโลกของคนรวย

ผมคิดว่าผมเองก็เป็นผู้ชายตัวใหญ่เพราะผมสูง แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงไปถนัดตา เล็กจนเหมือนแค่มดตัวจี๊ดเดียว

“ไปเถอะ คนอื่นมากันหมดแล้ว” พี่ปราบแตะไหล่ผมให้ออกเดิน

ผมห่อไหล่เดินแบบไม่รู้ตัวเพราะความเกร็ง แต่โดนพี่ปราบตีเข้าที่หลังให้ผมเดินอกผายไหล่ผึ่ง ผมยิ้มแหยะๆแล้วยืดอกขึ้น แต่พักเดียวไหล่มันก็ห่อตัวลงมาเอง จนมาถึงโต๊ะใหญ่ที่ทุกคนนั่งอยู่ ผมยกมือไหว้ผู้ใหญ่ก่อนจะนั่งลงตรงที่ว่าง แล้วพี่ปราบก็นั่งที่ริมสุดข้างๆผม

“น้องซ่าอยากกินอะไรอะไร เหล้า เบียร์ หรือว่าจะเอาค็อกเทลดี” พี่ริชถามผม

“เหล้าครับ” ผมตอบ ถึงผมจะเป็นผู้ช่วยบาร์เทนเดอร์ แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบกินค็อกเทลเท่าไหร่ ชอบกินเหล้าผสมโซดามากกว่า ไม่อย่างนั้นก็กินเบียร์ไปเลย

“วันนี้เต็มที่เลยนะซ่า เรียนจบแล้วก็เติบโตขึ้นอีกขั้น พ่อดีใจด้วย” พ่อทราฟเอ่ยกับผมเป็นคนแรก ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่ม ยังไม่ดึกมากพอสำหรับการเที่ยวกลางคืน ในผับนี้ก็เลยยังเปิดเพลงเสียงเบาไม่ดังจนพูดคุยกันไม่ได้

“ใช่ๆ ซ่าเก่งมากเลย” พี่เค้กยิ้มกว้างน่ารักให้ผม พี่ริชเองก็ยกนิ้วโป้งให้ผม ส่วนป๊าครามก็สื่อสารผ่านด้วยตาและรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก

อยู่ๆก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมา ดวงตามันร้อนผ่าวแล้วก็มีน้ำเอ่อคลอ แต่ผมรีบกระพริบตากลืนมันลงไป ไม่อยากร้องไห้ให้ต้องเสียบรรยากาศ

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนบอกว่าผมทำดีแล้วก็ยินดีที่ผมเรียนจบ ไม่มีใครเคยพูดกับผมแบบนี้มาก่อนเลย ไม่เคยเอ่ยชม ไม่เคยมองว่าสิ่งที่ผมทำมันดี และไม่เคยรับฟังสิ่งที่ผมต้องการ จนกระทั่งผมได้มาเจอพี่ปราบและครอบครัวของเขา มันทำให้ผมรับรู้รสชาติของคำว่าครอบครัวเป็นครั้งแรก มันดีมาก ดีเกินไป ดีจนผมกลัวว่านี่จะกลายเป็นยาพิษที่ทำให้ผมเสพติด และถ้าไม่มีมันผมจะต้องตาย

แต่มันดีจริงๆ...ที่เหมือนได้รับการยอมรับจากคนที่เรารัก

“ปิดเทอมแล้วใช่ไหม มีแพลนจะทำอะไรช่วงปิดเทอมหรือเปล่า” ป๊าถามผมบ้าง ผมรีบตั้งสติเพื่อตอบคำถามป๊าคราม

“ก็...ผม...คือผม”

มีอย่างหนึ่งที่ผมคิดจะทำ ความจริงก็ปรึกษาพี่ปราบแล้ว พี่ปราบก็เห็นด้วยและบอกว่าจะไปคุยกับพี่ริชให้ แต่ว่าผมโตแล้ว เรื่องนี้ผมควรจะต้องคุยกับพี่ริชเอง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ให้พี่ปราบทำให้อย่างเดียว ผมอยากคบกับพี่ปราบ แต่ไม่อยากเป็นภาระให้เขา อะไรช่วยตัวเองได้ผมก็ควรทำด้วยตัวเองก่อน

“พูดเลย” พี่ปราบกระซิบบอกข้างหู

“ช่วงปิดเทอมผมว่าง ก็เลยอยากจะไปทำงานที่อู่รถของพี่ริช ได้ไหมครับ” ผมถามอย่างกล้าๆกลัวๆ กลัวโดนปฏิเสธด้วย กลัวว่าผมจะไปเพิ่มภาระให้พี่ริชอีก ที่ผ่านมาผมมักทำให้ใครต่อใครเดือดร้อน ผมชอบพี่ปราบและครอบครัวของเขา อยากจะอยู่ด้วยไปนานๆ เลยไม่อยากทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ดีกับผม

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ มาเลย พี่ว่าจะบอกซ่าอยู่พอดีว่าถ้าไม่ได้ไปสมัครงานที่ไหนก็มาทำกับพี่ก่อน” พี่ริชตอบโดยทันที กลายเป็นผมเองที่ตกใจตั้งตัวไม่ทัน

“ได้เหรอครับ” ผมถามย้ำ กลัวตัวเองจะหูฝาดฟังผิด

พี่ริชยิ้มขำ รวมทั้งคนอื่นๆด้วย สายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู ก็ทำให้ผมเขินขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ต้องยกมือเกาแก้มแก้เขิน

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ซ่าจบช่างยนต์มาไม่ใช่เหรอ มาทำกับพี่น่ะถูกแล้ว จะได้เป็นการฝึกงานไปในตัว” พี่ริชพูด

“ว่าแต่ซ่าจะเรียนต่อด้านอะไรล่ะ” พ่อทราฟถามในสิ่งที่ผมเองก็ยังไม่กล้าตัดสินใจ ทั้งยังไม่กล้าพูดสิ่งที่ตัวเองคิด เพราะกลัวจะโดนดูถูกเหมือนที่พี่แนนเคยพูดเอาไว้ ว่าผมไม่สามารถทำได้ ทุกอย่างที่ผมอยากทำ พี่แนนมักพูดเสมอว่าคนอย่างผมมันจะไปทำอะไรได้ ทำไม่ได้หรอก เดี๋ยวผมก็ล้มเลิก ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จ

“ซ่าจบปวช. ใช่ไหม มันต้องต่อปวส. หรือเปล่า” พี่เค้กทำหน้าคิด

“มันต่อมหาวิทยาลัยได้นะ แต่เข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลชั้นนำคงไม่ได้ ถ้าอยากเรียนต่อปริญญาตรีจริงๆ พ่อแนะนำให้เรียนเอกชนดีกว่า” พ่อทราฟแสดงความคิดเห็น แล้วหลังจากนั้นทุกคนก็พูดคุยเรื่องเรียนต่อของผมอย่างเอาจริงเอาจัง ผมที่เป็นคนต้องเรียนกลับคิดตามไม่ทัน จนเมื่อป๊าหันมาถามว่าผมอยากเรียนต่อปวส. หรือว่ามหาวิทยาลัย ผมก็ตอบไม่ได้ เพราะผมกำลังงงว่าทำไมทุกคนถึงได้พูดเรื่องของผมเหมือนเป็นเรื่องของตัวเอง ทำไมต้องให้ความสำคัญขนาดนี้

“ว่ายังไง ป๊าถามอ่ะ”

“ผม...”

ผมไม่รู้ ผมอยากพูดคำนี้ แต่ว่าจริงๆแล้วผมรู้ว่าผมอยากเรียนต่ออะไร แต่ผมไม่รู้ว่าควรพูดออกไปดีไหม

“พูดออกมาเลยซ่า ว่าอยากเรียนต่ออะไร พ่อจะได้ช่วยดูที่เรียนให้”

ทั้งๆที่ผมก็เป็นแค่คนนอก แต่ทุกคนก็ยังยิ้มให้ผมแล้วบอกอย่างเต็มใจว่าจะช่วย

“ผมอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยครับ”

“ดีมากเลย เป็นความคิดที่ดี” พี่เค้กรีบเห็นด้วย

“จริงๆ ทีแรกพี่คิดว่าซ่าอยากเรียนต่อปวส.นะเนี่ย แต่พี่อยากให้เรียนต่อมหาวิทยาลัยมากกว่า เพราะมันดีกว่า จบไปก็มีงานทำได้มากกว่า” พี่ริชก็สนับสนุน ทำให้ผมยิ้มออก

“โตขึ้นแล้วนะ” ป๊าพูดกับผม

“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ป๊าคราม พ่อทราฟ พี่เค้ก และพี่ริช รู้สึกขอบคุณจากหัวใจที่ทุกคนดีกับผมขนาดนี้

“ยังไงก็ค่อยมาดูกันว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยไหน แต่จริงๆถ้าเรียนมหาวิทยาลัยของเพื่อนป๊า ก็เข้าได้เลย ป๊าจับยัดได้สบาย”

“อ่อ เพื่อนมึงที่เป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยนี้ติดหนี้บุญคุณมึงอยู่นิ” พ่อทราฟหันไปคุยกับป๊าคราม

“เออ ก่อนหน้านี้กูไม่ได้ต้องการอะไรจากมันเพราะกูมีทุกอย่างครบแล้ว มันก็มาร่ำๆอยากจะชดใช้กูเหลือเกิน คราวนี้คงสมใจมัน”

“ก็ดีนะเว้ย มหาวิทยาลัยนี้ดีถึงจะเป็นเอกชน อุปการณ์การเรียนแล้วสื่อการสอนครบครับสะดวกสบาย ถ้าเรียนที่นี่ก็ดีเลย โอเคไหมซ่า” พ่อทราฟหันมาถามผม

“กูว่าก็ดีนะ” พี่ปราบเองก็เห็นด้วย แต่ผมกลับไม่กล้าตอบ

“ทำไมเงียบล่ะ” พี่ปราบถาม ผมว่าผมต้องทำหน้าเครียดให้ทุกคนเห็นแล้วแน่ๆ

“คิดมากเหรอ ไม่อยากเรียนที่นี่เหรอซ่า” พี่ริชถามผม

“นั่นสิ พี่เค้กว่าที่นี่ก็ดีนะ” พี่เค้กพูด

ผมนั่งบีบมือด้วยความประหม่า มืออุ่นร้อนวางทับบนมือของผมแล้วบีบกำชับทับมือของผมที่เริ่มชื้นเหงื่อ

“เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่ปราบถามผม

“มีอะไรคิดอะไรก็พูดออกมาได้เลย ป๊าเคยพูดว่ายังไง จำได้ไหม” ป๊าถามผมเสียงเข้ม ไม่ใช่การดุ แต่เป็นน้ำเสียงทุ้มต่ำที่ทรงพลัง สามารถโน้มน้าวให้คนฟังทำตาม

ผมเรียบเรียงคำพูดอยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็พูดได้แค่สองพยางค์สั้นๆ “มันแพง”

หลังจากที่ผมพูดสิ่งที่คิด ทุกคนก็นิ่งไป ก่อนจะถอนหายใจแล้วยิ้มออกมา ในขณะที่ผมเองกลับยิ้มไม่ออก

“โธ่ พี่ก็คิดว่าเรื่องอะไร” พี่ริชถอนหายใจ

“มึงจัดการ” ป๊าพูดกับพี่ปราบ ผมเงยหน้ามองเขาที่มองผมด้วยสายตาหวานเชื่อม ไม่เข้ากับอารมณ์ของผมเลยสักนิด

“เรื่องค่าเรียนมึงไม่ต้องกังวลเลย กูจัดการเอง”

ผมรีบส่ายหน้า ทำไมเขาต้องมาเสียค่าเล่าเรียนให้ผมด้วย มันควรต้องเป็นแม่หรือคนที่บ้านผมเป็นคนจ่าย ไม่ใช่พี่ปราบ

“ทำไม” พี่ปราบถาม

“ผมไม่อยากรบกวนพี่” ผมตอบ

“กูตีมึงได้ไหมซ่า ตีได้ไหมห๊ะ!” พี่ปราบกัดฟันพูด ดึงผมเข้าไปกอดแรงๆจนเจ็บ

“ซ่าครับ” พี่เค้กเรียกผม “ซ่ารักปราบไหม” พี่เค้กถาม

“ครับ” ผมพยักหน้า

“แล้วซ่ารังเกียจพวกเราไหม” พี่เค้กถามอีก

“ไม่ครับ ผมไม่รังเกียจ” ผมจะรังเกียจคนที่ดีกับผมได้ยังไง ผมทำไม่ได้หรอก

“ซ่าเป็นคนรักของปราบ ขอแค่ซ่าจริงใจกับปราบ ไม่เข้ามาเพื่อหลอกลวงลูกชายของพี่ ซ่าก็เหมือนเป็นลูกชายพวกพี่อีกคน อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนอื่น หรือว่าซ่าไม่อยากเป็นครอบครัวเดียวกับพวกพี่”

ผมคิดตามก่อนจะตอบ “อยากครับ”

ผมอยากอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นของพี่ปราบ

“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าคิดว่าเป็นการรบกวน” พี่ริชพูดขึ้น “อย่าหาว่าพี่อวดรวยเลย ทุกวันนี้เงินที่พวกเราสี่คนหากันมาได้ ทุกปีก็นำไปทำบุญเป็นหลักล้าน ใช้จ่ายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องก็หลักล้าน ถ้าจะต้องจ่ายเงินแค่ปีล่ะไม่กี่แสนเพื่อการศึกษาของคนในครอบครัว มันจะหนักหนาอะไร เงินที่จะต้องเสียไปมันไม่สูญเปล่า ถ้าซ่าได้ความรู้แล้วสามารถช่วยพี่ทำงาน ช่วยปราบทำงานได้ มันดีเหรอ”

ทำไมจะไม่ดี ผมเองก็ดีใจถ้าจะได้เรียนโดยที่มีคนออกค่าเรียนให้ แต่ว่าผมไม่อยากเป็นภาระให้ใคร วันหนึ่งเกิดเขาไม่รักผมและเห็นผมเป็นภาระเหมือนคนที่บ้านผม ผมจะทำยังไงถ้ายังเรียนไม่จบแล้วต้องจ่ายค่าเทอมแสนแพง ผมคงไม่มีปัญญาเรียนต่อ

“มึงอย่าคิดมากสิ มึงรู้ไหม เด็กที่โรงฝึกหลายคนที่มีมีปัญหาเรื่องเงิน บ้านกูกูก็ส่งเสียให้เรียน ขอแค่ตั้งใจจะเรียนจริงๆ ตอนนี้มึงเป็นคนในครอบครัวกูแล้ว มันไม่ได้ลำบากอะไรเลย กูอยากให้มึงเรียนต่อนะซ่า เพื่ออนาคตของมึงเอง” พี่ปราบพูดเกลี้ยกล่อมผม

“เอาอย่างนี้ ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่บอกซะ ค่าเล่าเรียนป๊าออกเอง ปราบมันโตแล้วมีงานทำแล้ว ป๊าไม่ต้องดูแลอะไรมันอีก เรื่องเรียนของเราก็ถือว่าให้อยู่ในความดูแลของป๊ากับไอ้ทราฟมัน โอเคไหม”

“ไม่ต้องคิดมากหรอกซ่า ถ้าอยากเรียนก็ต้องได้เรียน แต่ก่อนพี่เค้กก็ได้พี่ทราฟส่งเสียให้เรียน ตอนนั้นพี่ก็ไม่มีเงินสักบาท จนตอนนี้พี่สามารถใช้ความรู้ทำมาหากินเลี้ยงตัวเองได้ แต่ก่อนพี่ก็เคยรู้สึกเหมือนซ่า แต่ว่าโอกาสดีๆไม่ได้มีเข้ามาตลอด เราควรคว้าไว้แล้วทำให้ดีที่สุด เมื่อเรียนจบแล้วค่อยตอบแทนก็ยังไม่สาย”

“ถ้าซ่าไม่อยากรับเงินของปราบ ค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัย ก็ให้พ่อกับครามมันออกก็แล้วกันนะ โอเคไหม”

ทุกคนเงียบเพื่อรอคำตอบจากผม มันยากมากกับการตัดสินใจ แต่ผมไม่ควรทำให้ผู้ใหญ่ลำบากใจไปมากกว่านี้ พี่ปราบก็ตบมือบนหน้าขาให้ผมยอมรับน้ำใจจากครอบครัวของเขา ผมก็ได้แต่รับไว้ด้วยความกังวลเล็กน้อย

“ครับ”

“ดีแล้ว ไม่ต้องคิดมากนะซ่า พวกพี่เต็มใจทำให้” พี่ริชพูด

“ขอบคุณมากเลยครับ” ผมยกมือไหว้พวกป๊าๆอีกครั้ง ไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีไปมากกว่านี้

“เอาล่ะ เครียดกันพอแล้ว มาชนแก้ว” พี่ปราบยกแก้วขึ้นเป็นคนแรก ใช้ข้อศอกสะกิดแขนผมให้ยกแก้วขึ้นมาชนกับทุกคน ก่อนจะยกดื่มหมดแก้ว

บรรยากาศตึงเครียดหายไปพร้อมกับเหล้าที่ไหลลงท้อง เสียงเพลงก็ดังขึ้นกว่าเก่า จังหวะเพลงก็หนักหน่วงและสนุกขึ้น ผมมองบรรยากาศโดยรอบพลางจิบเหล้าต่อเนื่อง อยากใช้ความมึนเมากำจัดความละอายใจ

“คิดมากเหรอ” พี่ปราบโอบไหล่ให้ผมขยับเข้าไปชิด

“อืม” ผมไม่โกหก พี่ปราบไม่ชอบ และผมยังจำได้เสมอว่าพี่ปราบอยากให้ผมพูดแต่ความจริง

“แค่เป็นเด็กดีแล้วตั้งใจเรียนก็ถือว่าตอบแทนแล้ว มึงยังเด็ก ยังต้องเรียนรู้ให้มากกว่านี้ ถ้าไม่เรียนอนาคตข้างหน้าก็จะลำบาก อยากเป็นแบบนั้นเหรอ”

“ไม่อยาก”

“ถ้างั้นก็รับข้อเสนอของป๊าซะ เขารวยเป็นพันล้าน แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก มึงอย่าคิดมาก”

“ครับ” ผมจะพยายาม

“ดื่มซะ วันนี้กูอนุญาต กูแบกกลับเอง” พี่ปราบขยี้หัวผม

“ผมไม่เมาหรอกน่า”

“กูจะคอยดู”






ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 30-01-2018 18:54:06
 :L2: สนุกมากค่ะ ไม่ค่อยเจอนิยายที่เป็นเด็กเทคนิคเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 30-01-2018 18:57:09

ผมบอกเลยว่าที่นี่ไม่ใช่แค่ผับธรรมดา มันต่างจากที่อื่นยังไงน่ะเหรอ เพราะผับอื่นเขามากินมาดื่มแล้วก็เมา เต้นจนเหงื่อไหลไคลย้อย จากนั้นก็สีหญิงแล้วก็ลากกลับห้อง แม้ว่าผมจะไม่เคยลากผู้หญิงกลับบ้านนอกจากแฟนตัวเอง แต่โดยส่วนมากก็จะเป็นแบบนั้น เอาง่ายๆก็คือ ที่อื่นมาเพื่อสนุกสนานได้เพื่อนใหม่ ได้แฟนใหม่ หรืออาจจะได้กิ๊กเพิ่ม แต่ที่นี่คือจุดรวมนักธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ มากกว่าการมาหาความสุขสนุกแล้ว ก็เหมือนมาคุยงานหาลูกค้านอกสถานที่

อย่างตอนนี้ที่พี่ปราบถูกป๊าและพ่อลากไปคุยกับใครสักคนที่อายุเท่าๆกับป๊าคราม ก่อนจะย้ายไปคุยกับคนรุ่นเดียวกับพี่ปราบ พวกเขาบอกว่าออกไปคุยธุรกิจ แต่ผมว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะไม่ได้มีความคิดแค่งานอย่างเดียว ผมดูสายตาของเขาแล้วรู้สึกแปลกๆยังไงบอกไม่ถูก

“พี่ว่าคนนั้นต้องชอบปราบแน่ๆ” พี่ริชกระซิบบอกกับผม ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพี่เค้กกับพี่ริช ทั้งสองคนชวนผมคุยบ้างแล้วก็คุยกันเองบ้าง แต่ส่วนมากจะชวนผมคุยเรื่องพี่ปราบมากกว่า

“ไม่หรอกมั้งครับ”

“แต่พี่ว่าชอบ” พี่เค้กที่มักมองโลกในแง่ดีพูดขึ้น ผมมองตาม ก็เห็นผู้ชายหน้าติ๋มคนนั้นวางมือลงบนอกพี่ปราบ ดูจากระยะไกลยังรู้เลยว่า มีการลากมือลงน้ำหนักเลื้อยไปตามร่างกายกำยำของแฟนผม

ที่บอกว่าหน้าติ๋มน่ะ ผมหมายถึงหน้าละอ่อน ดูดี ปากนิดจมูกหน่อย ผิวก็ขาวเรืองแสง แถมยังใส่เสื้อเชิ้ตรัดรูปอีก

“พวกเขาเป็นผู้ชายด้วยกัน” ผมพยายามบอกตัวเองไม่ให้คิดมาก เพราะสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คิด

“โธ่ ซ่า ดูสายตาเขาที่มองปราบสิ จะกินเข้าไปทั้งตัวแล้ว”

“พี่ปราบอาจจะชอบแบบนั้น” ผมพูดตามที่คิด ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นเกย์จริงๆล่ะก็ ก็เหมาะสมอยู่ เพราะเขาก็เหมือนกับคนที่ชื่อฟิล์มนั่นแหละ ดึงดูดสายตาแม้ในเพศเดียวกัน

“ปราบไม่ชอบหรอก เขาชอบแบบซ่าไง” พี่ริชหลิ่วตาล้อผม

“ผมไม่น่ามองแบบนั้นหรอก”

ผมรู้ว่าพี่ปราบเขาไม่ได้อะไรกับคนนั้น เพราะเขาขยับตัวออกห่างแล้วก็ดึงมือคนอื่นออกตลอด ป๊าครามกับพ่อทราฟไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เหลือพี่ปราบอยู่ตรงนั้นแค่คนเดียวกับใครหลายคนที่ผมไม่รู้จัก แต่พี่ปราบดูจะรู้จักดี

“ใครบอก แบบซ่านะน่ามองกว่าพวกนั้นอีก” พี่เค้กพูดให้ท้ายผมแบบที่ไม่น่าเชื่อถือ ผมก็เลยหัวเราะออกมา

“พี่เค้กอย่ามาหลอกผมเลย”

“ฮ่าๆๆ พี่ไม่ได้หลอกสักหน่อย”

“ผมแค่คนธรรมดาต่างหาก” ผมพูด

“แต่ปราบชอบซ่านะ อย่าคิดมาก พวกนั้นเพื่อนปราบทั้งนั้น ก็มีเกย์บ้าง ไบบ้าง พี่ก็พอรู้จัก พอจะเคยเห็นหน้าบ้าง แต่ไม่มีใครที่เป็นสเปคปราบหรอก”

“แล้ว...สเปคพี่ปราบเป็นแบบไหนเหรอครับ”

ผมอยากรู้ เพราะผมอยากจะเป็นแบบคนที่พี่ปราบชอบ ผมคิดว่าผมตอนนี้ไม่น่ามองและไม่น่าดึงดูดเหมือนคนพวกนั้น ผมไม่อยากให้พี่ปราบเบื่อผมเพราะผมไม่มีอะไรดี

“ที่ถามเนี่ย กังวลว่าตัวเองจะไม่ตรงสเปคปราบเหรอ” พี่เค้กถามตรงเกินไปจนผมทำหน้าไม่ถูก แต่ก็ต้องยอมรับว่าผมคิดแบบนั้นจริงๆ

“ครับ”

“เด็กน้อย” พี่เค้กลูบหัวผมเบาๆ

“ปราบเขาไม่ใช่คนมีสเปคสูงหรอก ใครถูกใจเขา เขาก็ชอบนั่นแหละ แต่เขาไม่ชอบคนที่ไม่จริงใจ ปราบน่ะดูคนเก่ง เขารู้ว่าใครเข้าหาเขายังไง โตมาจนป่านนี้ปราบมีแฟนไม่กี่คนหรอก แต่ก็ไม่ได้คบจริงจัง ที่เห็นจริงจังก็มีซ่าเนี่ยแหละ เพราะคนอื่นปราบไม่พามาให้ที่บ้านรู้จักด้วยซ้ำ” พี่ริชเล่า

ฟังแล้วผมก็สบายใจได้นิดหนึ่ง คิดๆดูแล้ว ทั้งคนที่ชื่อฟิล์ม ทั้งคนที่รุมล้อมพี่ปราบอยู่ตอนนี้ มีเหนือกว่าผมตั้งมากมาย ทั้งรูปร่างหน้าตา ทั้งการศึกษา อาชีพการงานก็น่าจะดี ทำยังไงผมถึงจะดีได้อย่างคนพวกนั้นบ้าง

“คิ้วขมวดอีกแล้ว” พี่เค้กจิ้มนิ้วที่หว่างคิ้วของผม กดนวดให้คลายออก

“เอางี้นะ ถ้าซ่าไม่สบายใจ พี่จะบอกเคล็ดลับวิธีมัดใจปราบให้”

“มัดใจ?” ผมทวนคำซ้ำ ไอ้ที่พี่ริชพูดเมื่อกี้ มันไม่ดูแต๋วแหววไปสักหน่อยเหรอ

“ใช่ มัดใจ หนึ่งเลยนะ ถ้าเราดูดี คนที่มองก็จะรู้สึกดี ซ่าเองเป็นคนที่หน้าตาดีนะ หล่อเลยละ เพียงแต่ว่าผมต้องตัดให้เข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ ไว้ว่างๆพี่พาไปตัด เสื้อผ้าก็ต้องซื้อใหม่ เสื้อผ้ากับรองเท้าต้องเลือกให้เข้ากับรูปร่าง จะทำให้เราดูดีขึ้น”

ฟังดูไม่ยาก แค่ตัดผมกับเลือกเสื้อผ้าใหม่ แต่ที่ยากก็คือ ผมไม่รู้ว่าแบบไหนถึงจะเรียกว่าเหมาะกับตัวเอง

“ผมไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย” ผมสารภาพอย่างไม่อาย

พี่เค้กกับพี่ริชยิ้มให้กัน ก่อนจะพูดพร้อมกันเหมือนนัดกันเอาไว้ “ไม่ต้องห่วง พวกพี่จะจัดการให้เอง”

ถ้าอย่างนั้น เรื่องนี้ก็คงไม่ยากเท่าไหร่ เพราะพี่เค้กกับพี่ริชแต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า พี่เขาอาจจะช่วยให้ผมดูดีมากกว่านี้

“ข้อสอง มากกว่าการแต่งตัวแล้ว ซ่าต้องแสดงความรู้สึกเยอะๆรู้ไหม การแสดงความรู้สึกให้คนที่เรารักรู้ว่าเราชอบและรักเขาน่ะ จะทำให้เขาไปไหนไม่รอด”

เป็นคำแนะนำที่ยากกว่าข้อแรกเสียอีก

“ผมต้องทำยังไง” ผมถามด้วยความอยากรู้

“ไม่ยากเลย เริ่มจากอยู่กันสองคนก่อนก็ได้ ซ่ารู้สึกดีไหมเวลาที่ปราบกอดหรือจูบ” พี่ริชจู่โจมด้วยคำถาม

“ก็ดีครับ” ดีมากๆเลยแหละ

“นั่นแหละ ซ่าต้องแสดงออกแบบนั้นบ้าง ถ้าอยากกอดปราบ ก็เข้าไปกอดเลย ถ้าอยากจูบก็จูบเลย ถ้าปราบเป็นฝ่ายได้รับบ้าง เขาก็จะรู้สึกดี คนรับรับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องให้ด้วย”

“จริงๆนะ ตอนพี่คบกับพี่ทราฟใหม่ๆ พี่ก็ไม่กล้าหรอก แต่พอคิดว่าถ้ามีคนอื่นที่กล้าแสดงความรักต่อพี่ทราฟมากกว่าพี่ แล้วพี่ทราฟไปชอบเขา พี่คงทนไม่ได้ พี่ก็เลยต้องทำเป็นหน้าหนา จูบพี่ปราบก่อนบ้าง แล้วก็ได้ผล พี่ทราฟชอบใจและมีความสุขขึ้นจนพี่รับรู้ได้ ของแบบนี้มันต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ มันช่วยเติมเต็มความรักได้”

“ตอนทำพี่เค้กรู้สึกยังไง” เพราะด้อยประสบการณ์ความรักระหว่างผู้ชายด้วยกัน ผมต้องถามและเก็บข้อมูลให้มากที่สุด ตองขอบคุณเหล้าที่ทำให้ผมหน้าด้านขึ้น

“แรกๆก็เขินแหละ แต่ถ้าเราไม่หอมเขา ไม่กอด ไม่จูบเขาบ้าง แล้วเราจะยอมให้คนอื่นทำแบบนั้นเหรอ เพราะฉะนั้นถึงจะอายก็ไม่เป็นไร ขอแค่ให้พี่ทราฟรู้สึกดีพี่ก็ทำได้ นานๆไปเดี๋ยวก็ชินไปเอง”

“จริง ของแบบนี้หน้าด้านเข้าไว้ ยังไงปราบก็คนของเรา เราจะทำอะไรกับปราบก็ไม่ผิด จะรุกก่อนก็ไม่ผิดหรอก เรื่องธรรมชาติ ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น ทุกคนมีความเขินอายนั่นแหละ แต่เราไม่ใช่ผู้หญิงไง เรื่องปลดปล่อยความต้องการเป็นเรื่องปกติสุดๆ ว่าแต่...ซ่านอนกับปราบหรือยัง”

คำถามนี้ผมเคยโดนถามไปแล้ว และครั้งนี้คำตอบก็ยังเหมือนเดิม

“ยังครับ”

“เห้ย! ได้ไง” พี่ริชทำหน้าตกใจเหมือนครั้งก่อนไม่มีผิด อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

“ซ่ายังกลัวเหรอ” พี่เค้กถามด้วยความเป็นห่วง

ผมก็ยังกลัวอยู่นะ แต่ว่าก็ทำใจมาสักระยะ หาข้อมูลมาบ้างแล้ว แต่ว่าพี่ปราบเขาไม่เคยทำถึงขั้นนั้น ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง มากกว่าครึ่งผมก็โล่งอกที่รอดมาได้ทุกครั้งที่ถูกพี่ปราบจู่โจม แต่ก็แค่เสียน้ำด้วยมือเท่านั้น พี่ปราบไม่เคยทำมากกว่านี้ ผมถึงได้คิดไงว่าผมไม่มีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้พี่ปราบอยากนอนกับผม

อย่าเพิ่งคิดว่าผมอยากถูกกอดนะ แต่มันแปลกเกินไป ถ้าพี่ปราบรั้นจะเอาให้ได้ ผมก็คงไม่ขัดขืน แต่เขาไม่เริ่ม ผมจะหน้าด้านพูดได้ยังไงเล่า

แรกผมก็บอกตัวเองหรอกนะว่าผมไม่พร้อม จะยังไม่ยอมพี่ปราบ แต่นานวันเข้าผมก็เริ่มเกิดความสงสัย พวกไอ้หวายล้อผมบ่อยๆ วันไหนผมไปสายมันก็หาว่าผมโดนพี่ปราบจัดหนัก ผมด่ามันไปทุกครั้งพวกมันก็หาว่าผมเขิน แต่ความจริงคือพี่ปราบไม่ได้ทำอะไรผมเลย

จากที่คิดว่าเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง กลายเป็นผมคอยแต่คิดว่าพี่ปราบจะจูบผมไหม เขาจะกอดผมไหม แล้วตอนนอนเขาจะทำอะไรผมหรือเปล่า ซึ่งพี่ปราบก็ทำ แต่แค่จูบ ลูบคลำ แล้วก็ช่วยให้ตัวโล่งด้วยสองมือเขาและสองมือผมเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านี้ ผมไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน

“พี่ปราบเขาไม่ทำ” ไหนๆก็คุยมาถึงขนาดนี้แล้ว ผมก็พูดออกไปเลยแล้วกัน

“ห๊ะ! อะไรนะ”

“ซ่าพูดใหม่อีกทีสิ”

ผมมองไปทางพี่ปราบ ที่หันมามองผมแล้วยิ้มหล่อให้ผมจากระยะใกล้ ข้างๆเขาก็ยังมีผู้ชายและผู้หญิงหน้าตาดีดูมีเสน่ห์แบบที่ถ้าลากขึ้นเตียงก็คงให้ความรู้สึกดีด้วยความเซ็กซี่และรูปร่างที่ดูเย้ายวนน่ามอง ผมนี่สิที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างเดียว ไม่แปลกที่พี่ปราบไม่อยากนอนด้วย

“พี่เขาคงไม่อยากทำแบบนั้นกับผม”

“ทำไมคิดแบบนั้น” พี่เค้กถาม ผมก้มหน้ามองมือตัวเองที่บีบกันเพราะความเครียด ผมต้องมาถึงจุดที่เครียดเรื่องแฟนไม่ยอมมีอะไรด้วยเนี่ยนะ แถมเป็นแฟนผู้ชายด้วย โคตรน่าขายหน้าเลยให้ตายเถอะ

“ไหนเล่ามาสิ ว่าปราบทำอะไรซ่าบ้าง ไม่ต้องอายนะ พวกพี่สองคนจะไม่บอกใครทั้งนั้น และพี่สองคนจะช่วยซ่าเอง” สีหน้าของพี่ริชตอนพูดจริงจังจนน่ากลัว

“ก็..หอมแก้ม กอด จูบ” ผมเอ่ยถึงการกระทำที่แสนจะธรรมดาก่อน

“แล้วอะไรอีก แค่นี้เหรอ”

“ไม่ต้องอายหรอกนะ พูดเลย”

ผมหายใจเข้าออกลึกหนึ่งทีก่อนจะพูด เป็นไงเป็นกัน ผมจะได้หายสงสัยสักที

“พี่ปราบแค่ช่วยผมปลดปล่อยด้วยมือครับ ผมเองก็ทำให้พี่ปราบ”

“แค่นี้?” พี่ริชเลิกคิ้วถามอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ผมเล่า

“ครับ”

พี่ปราบทำแค่นี้จริงๆ แล้วก็ไม่บ่อยด้วย จากที่กลัวก็กลายเป็นสงสัยและไม่เข้าใจ จนเผลอคิดไปว่าผมมันไม่น่าสนใจ แบบเห็นหน้าก็ทำไม่ลงแล้ว

“เห็นหน้าผมพี่ปราบก็คงหมดอารมณ์แล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆ” ผมแกล้งพูดติดตลก แต่ในใจกลับขำไม่ออก

ผมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง มองจับจ้องไปยังพี่ปราบที่ยังคงคุยอยู่กับเพื่อน ผู้ชายคนนั้นที่ดูมีเสน่ห์ เขากำลังกระซิบกระซาบอะไรกับพี่ปราบ และผู้หญิงที่ยืนข้างๆก็หน้าตาสวยหุ่นดี มองแล้วผมเองยังรู้สึกว่าน่ากอด แล้วผมมีดีอะไร ไม่แปลกที่พี่ปราบจะทำไม่ลง

“พี่ว่าซ่าคิดมากเกินไปแล้ว”

“ใช่ๆ พี่มองออกว่าปราบรักซ่านะ ที่เขาไม่ทำก็เพราะรอให้ซ่าเต็มใจต่างหาก”

“รอผม?”

“เรื่องแบบนี้ซ่าก็ต้องถามตัวเอง คนรักกับมันก็ต้องมีอารมณ์อยากนอนกับคนที่เรารักด้วยกันทั้งนั้นแหละ พี่ไม่เชื่อว่าปราบเขาจะไม่รู้สึกกับซ่า ถ้าไม่รู้สึกจริงๆแม้แต่กอดหรือหอมแก้มก็ยังไม่อยากทำเลย ซ่าว่าจริงไหม”

“อืม ลองคิดดูดีๆสิซ่า ว่าปราบเขาแสดงออกยังไง”

คิดเหรอ?

จะว่าไป ตอนนั้นที่พี่ปราบสอนผมหั่นแครอท ลูกชายของเขาก็แข็งขึ้นตอนที่กอดผม บางทีเวลาเขาจูบผมก็รุนแรงจนผมปากแตกก็มี และตอนที่เขาใช้มือทำให้ผมครั้งแรก เขาก็มีอารมณ์ร่วมด้วย เพียงแต่เขาไม่ทำอะไรต่อ แล้วคิดจะไปจัดการเอง ถ้าผมไม่หน้าด้านอยากตอบแทนที่เขาทำให้ผม ก็คงไม่เอ่ยปากอาสา หลังจากนั้นพี่ปราบก็ชอบมาหอมแก้มผมบ่อยๆ ถึงเนื้อถึงตัวตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่เคยพาผมไปจุดนั้น บ่อยครั้งเข้าผมก็เลยไม่รู้ว่าทำไม

ตอนผมคบกับพลอย ถ้าผมอยากผมก็ทำเลย ตอนที่ผมนอนกับพลอยครั้งแรกเธอก็ขัดขืนบ้าง แต่ผมก็ทู่ซี้เอาจนได้ นั่นเพราะผมต้องการมากจริงๆ แต่ทำไมพี่ปราบกลับตัดใจเลิกทำง่ายๆ บางทีผมไม่ขัดขืนด้วยซ้ำแต่เขาก็ไม่ทำ เป็นแบบนี้ผมควรคิดว่ายังไง

“ผมไม่รู้” ผมจนปัญญาจะคิดจริงๆ

“ซ่าแสดงอาการว่าไม่อยากให้พี่ปราบทำหรือเปล่า” พี่ริชถาม

“ก็...ครับ แต่บางครั้งผมไม่ได้อะไร เขาก็ไม่ทำ”

“ถ้าถามความคิดพี่นะ บางทีซ่าอาจจะต้องจู่โจมปราบบ้าง แสดงออกให้เขารู้ว่าว่าเราเองเต็มใจ”

ก็ไม่ถึงกับขนาดว่าเต็มใจ แต่ถ้าแฟนเราไม่คิดจะทำอะไรเราเลย มันก็ทำให้หมดความมั่นใจไปเหมือนกัน

นี่ผมมาถึงจุดที่อยากให้ผู้ชายด้วยกันทำเรื่องอย่างว่ากับผมเนี่ยนะ 

“อย่าอาย ถ้าซ่าเคยมีอะไรกับแฟนมาก่อน แล้วไม่รู้สึกว่าผู้หญิงที่ยอมให้ซ่ากอดเขาน่ารังเกียจ หรือซ่าคิดว่าผู้หญิงที่ยอมมีอะไรกับซ่าเขาทำตัวน่าอาย อย่างนั้นหรือเปล่า”

“เปล่าครับ” ผมตอบในทันที ตอนนั้นผมไม่เคยคิดว่าพลอยทำตัวน่าอาย เพราะทุกครั้งที่พลอยยอมมีอะไรกับผม ผมก็รู้สึกดีทุกครั้ง

“ปราบก็คงคิดเหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่กล้าที่จะเริ่ม เพราะกลัวซ่าจะไม่ชอบ ดังนั้นซ่าต้องแสดงให้ปราบรู้ว่าซ่าเต็มใจ” พี่เค้กลูบหัวผม และส่งรอยยิ้มมาเป็นแรงใจให้ผม

“ผมต้องทำยังไง” ผมถามอีกครั้ง

“ง่ายมากเลย” พี่ริชยกยิ้มมุมปาก “ลองแสดงความเจ้าของบ้าง ด้วยการเดินไปดึงปราบกลับมานั่งที่โต๊ะ ซ่ามีดีในตัวของซ่าที่ทำให้ปราบชอบได้ อย่ามองตัวเองต่ำต้อย”

พี่ริชมองไปทางพี่ปราบกับเพื่อนของเขา แล้วชี้นำให้ผมเดินไปเรียกพี่ปราบ

“ข้อสอง แสดงความรักก่อนบ้าง เข้าไปกอดจูบก่อนได้เลย แล้วพอถึงจุดนั้นแล้วปราบจะหยุด ซ่าต้องรุกให้ปราบล่าถอยไม่ได้ ถ้าซ่าแสดงออกว่าไม่รังเกียจ พี่เชื่อว่าปราบไปไหนไม่รอดหรอก เชื่อพี่ พี่ทำมาหมดแล้ว”

ผมมองพี่ริชตาโต พี่เค้กก็หัวเราะใส่พี่ริชที่ยืดอกอย่างภาคภูมิใจ จนผมเองยังหลุดขำออกมาเลย

“พี่ไม่อยากจะโอ้อวดลูกตัวเองหรอกนะ แต่อย่างปราบเนี่ย อย่าปล่อยให้หลุดมือเป็นอันขาด  พี่เอาใจช่วยเต็มที่”

“สู้ๆนะน้องซ่า” พี่เค้กชูกำปั้นให้ผม

เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน ชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แค่เสียตัวผมคงไม่ตาย แต่ผมจะไม่ยอมปล่อยให้พี่ปราบออกไปจากชีวิตผม ทำให้ผมรักแล้ว ก็ต้องอยู่กับผมไปชั่วชีวิต







........................................................
สวัสดีค่ะ มาแล้วๆๆ ตอนนี้ยาวมากๆๆๆ มากกว่าทุกตอน สิ่งที่ทุกคนรอคอยและลอยคออยู่นั้น หึหึ ตอนหน้าไม่รอดแน่ ฮ่าๆๆๆๆ :laugh:
เอาเป็นว่า สำรองเลือดไว้ให้พอก็แล้วกัน ไม่งั้นจะหาว่าเราไม่เตือน :z1:
เจอกันตอนหน้านะคะ
บายยย :bye2:

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 30-01-2018 19:19:04
รอตอนหน้า  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-01-2018 19:21:37
เอาละเว้ยยยยยน น้องซ่าจะรุกพี่ปราบแล้ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 30-01-2018 19:41:09
พี่ปราบนี่แบ็คดีสุดๆ ทั้งพี่เค้ก พี่ริช 5555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 30-01-2018 19:42:32
โห่มีตอนใหม่มาด้วย ดีใจจัง

ยังค้างอยู่อ่ะค่ะ รีบมาต่อด่วนเลยนะค่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 30-01-2018 19:48:09
น้องซ่าน่าร้ากกกก เตรียมลุยค่ะลูก
มีแม่เค้ก แม่ริชช่วยซะอย่าง 5555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 30-01-2018 19:48:40
 :กอด1: :กอด1: :katai5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-01-2018 19:50:10
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 30-01-2018 19:52:55
โดนพวกแม่ๆยุ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 30-01-2018 20:01:21
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-01-2018 20:18:25
ได้ครูดี
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 30-01-2018 20:19:19
กูรูมาเอง พี่ปราบหนีไม่พ้นแน่  :impress2: :impress2:
อยากอ่านต่อแล้วววววว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-01-2018 20:22:48
รอ.....ซ่ารุกพี่ปราบ  :ling1: :ling1: :ling1:

พี่เค้ก พี่ริช เป็นที่ปรึกษาสุดยอดดดด  :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-01-2018 20:24:37
รอ ๆ ตอนหน้าซ่าจะอ่อยพี่ปราบแย้ววววววววววว  :-[
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 30-01-2018 20:33:34
โอ๊ยยย อยากจะวาร์ปไปตอนหน้าเลยได้ไหมคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 30-01-2018 20:42:48
รอตอนหน้าอย่างใจจดจ่ออออ ฮิ้ววววว :hao6: :z2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 30-01-2018 21:09:47
พี่ปราบไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 30-01-2018 21:11:00
ทีมงานพี่ปราบนี่ดีสุดๆ ช่วยกระตุ้นน้อง
ซ่าจะจัดการพี่ปราบหรือพี่ปราบจะจัดการซ่า
อยากให้ตอนต่อไปเร็วๆแล้ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 30-01-2018 21:15:18
เอาใจช่วยน้องซ่า และยินดีกับพี่ปราบที่แผนการสำเร็จ  555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 30-01-2018 21:16:09
แม่ๆช่วยลูกชายเต็มที่จริงๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 30-01-2018 21:18:05
สมาคมแม่บ้านนี้ได้ค่าจ้างมาจากพี่ปราบเท่าไหร่กันคะ สนับสนุนว่าที่ลูกสะใภ้เวอร์
ลุยเลยน้องซ่า พี่ปราบอยากกิาจะแย่แล้วลูก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-01-2018 21:40:47
ตัวแม่มาเองเลยค่ะ ที่ปรึกษาใหญ่พิเศษใกล้ชิดติดขอบไปอีก
ชักนำ ชักจูง ตบให้เข้ามุมสุดๆ ค่ะ

ปราบรอรับผลได้เลยนะ คนชงเข้มมากเลยตอนนี้
ซ่าก็ไม่ได้ไม่ชอบ ก็รอให้พี่ทำอยู่ พอซ่าจะรุกเองแบบนี้
ไม่รู้ว่ายิ่งทำปราบหลง หรือซ่าทำสำเร็จ

คือริช เค้ก ต้องรักปราบขนาดไหนล่ะ ช่วยกันหนักมาก 5555

ซ่าน่ารักดี ซ่ามีความสุขบ้างแล้วนะ
อย่าไปคิดถึงแต่เรื่องไม่ดีเลย

วั้ยยยย ซ่าบอกจะไม่ปล่อยปราบไปไหนนะ ไม่ต้องห่วงแล้ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 30-01-2018 21:57:11
น้องซ่าลุยเลย...ขุ่นแม่ทั้งสองแนะแนวทางให้แล้ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 30-01-2018 22:28:08
สมาคมแม่บ้านนี่น่ารักทุกคนเลย555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 30-01-2018 22:53:44
กรี๊ดด น้องซ่ามีติวเตอร์ที่ดีมาก ดีงามมาก สู้ๆนะน้องซ่า นี่เอาใจช่วยสุดช่วงตัว  :mew3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-01-2018 23:03:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 30-01-2018 23:12:48
ทำงานกันเป็นทีมมาก พี่ปราบนี่กองหนุนเยอะเนอะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 31-01-2018 00:11:47
 :o8: ทำไมซ่ามันน่ารักขนาดนี้ ห่วงวว่าคนจะมองพี่มันไม่ดี ไม่ต้องห่วงแค่พี่ปราบรักหนูก็พอลูกกกกกก.  น่ารักอ่ะ ไม่ไหวแล้วหมันเขี้ยว อยากหยิกแก้ม. มีที่ปรึกษาดีขนาดนี้ แบคดีขนาดนี้ซ่าหนูไม่ต้องกลัวลูก จะมีอีกกี่ร้อย กี่พันฟิลม์ ซ่าสู้ได้หมด  รอเลยนี้แค่นี้พี่มันก็รักซะขนาดนี้. ถ้าหลังจากนี้ นี้คงขังน้องไม่ไห้ออกไปไหนเลยมั้งงงง. น่าร้ากกกกกกกก ว่าแต่ฟิมนี้ยังไง หรือเพราะรู้ว่าซ่าเป็นเด็กพี่ปราบเลยพูดลอยๆ เพราะดูแล้วพี่ปราบคงไม่ได้กลับไปติดต่อมานานแล้วป่าวตั้งแต่จีบเด็กซ่าอะ

แล;ถ้าอิพี่ทำน้อองคิดมากอีก นี้จะไม่ยอมยกไห้เลยนะ ไห้ป๋ากะพวกแม่ๆขวางไห้พี่ปราบหงอเลย

รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ. ลงพรุ้งเลยเถอะพลิสละ

สู้ๆค้า คุณคนเขียนนนนน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 31-01-2018 06:11:39
มั่นใจในตัวเองหน่อยซ่าาาา สู้ๆ รุกพี่ปราบเลย พี่ปราบชอบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 31-01-2018 08:39:14
ยกนิ้วให้ทีมกำลังเสริมค่าาา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: GimNgek ที่ 31-01-2018 14:02:38
รอตอนหน้า อย่างกระวนกระวายเลยยยย  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 31-01-2018 23:49:52
โดนรุมยุอย่างหนักหน่วง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-02-2018 01:30:40
ลุยเลยน้องซ่า :z1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 01-02-2018 02:25:31
คุณแม่ๆทำงานกันดีมากเคอะ :mew4: น้ำตาจิไหล ถ้าปลอยให้ซ่าคิดเองได้ ก็ไม่รู้ว่าอิแย้มต้องลอยคอรออีกนานเพียงใด กระซิกๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 01-02-2018 02:55:04
น้องซ่าสู้ๆ รุกพี่ปราบให้ได้เลยนะ งานนี้พี่ปราบมีแต่กำไร
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-02-2018 12:52:21
กำลังสนุกเลย ซ่าจัดมาเลยลูก หนักๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 02-02-2018 20:00:30
รอน้องซ่ารุกพี่ปราบ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 02-02-2018 21:07:35
กำลังเสริมแข็งแกร่งมาก 555

น้องซ่าไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่32:: 30/1/2018 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 03-02-2018 00:06:40
 :o8: :o8: มาส่องพี่ปราบน้องซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 03-02-2018 16:21:01
ปราบซ่า : ตอนที่33



[ซ่า]

ถึงจะมีพี่ริชกับพี่เค้กให้คำแนะนำมาแล้ว แต่เอาเข้าจริงผมก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะทำยังไง แต่พอคิดว่าถ้าพี่ปราบถูกคนอื่นทำให้รู้สึกดี แล้วพี่ปราบจะทิ้งผม ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน

ทั้งชีวิตนี้ผมมีแค่พี่ปราบแล้ว ผมจะไม่ยอมเสียเขาไป

ผมเดินตรงไปยังจุดที่พี่ปราบยืนคุยกับเพื่อน ระยะแค่สิบก้าวเห็นจะได้ พี่ปราบก็หันมาเห็นผม เขายืนมองงงๆ ก่อนจะเผยยิ้มหล่อเมื่อผมเดินเข้าไปถึงตัว

“พี่ปราบ” ผมเรียกไม่ดัง แต่ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆก็หันมาให้ความสนใจผมกันหมด และมองจ้องผมด้วยความสงสัยว่าผมเป็นใคร

“เบื่อแล้วเหรอ ทำไมทำหน้าเครียดจัง” พี่ปราบดึงแขนผมเขาไปใกล้ ใช้มือเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากและจิ้มลูกตาออกให้

ผมไม่พูดอะไร แต่ใช้สายตาสื่อแทน ด้วยการมองคนข้างๆตัวพี่ปราบ แล้วสบตาพี่ปราบอีกที เขาเองก็รู้ว่าผมคิดอะไร ไม่อย่างนั้นพี่ปราบไม่กระตุกยิ้มที่มุมปากหรอก

“ขอตัวก่อนนะ ไว้ค่อยคุยกัน” พี่ปราบบอกเพื่อนๆของเขา

“ทำไมรีบกลับล่ะ ยังคุยกันไม่หายคิดถึงเลย” ผู้ชายที่ใส่เสื้อเชิ้ตรัดจนแนบตัวดึงแขนพี่ปราบเอาไว้ ผมจ้องมองที่แขนนั่นโดยไม่ได้คิดจะทำอะไร เพราะพี่ปราบได้จัดการดึงมือของคนๆนั้นออกด้วยตัวเอง

“ไว้คราวหลังก็แล้วกัน แฟนผมเขามาตามแล้ว ขอตัวก่อนนะ”

“แฟนเหรอ?”

“อะไรนะ”

เสียงของคนอื่นดังขึ้นด้วยความสงสัยปนตกใจ ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กันที่พี่ปราบกล้าบอกทุกคนว่าผมเป็นแฟนเขา

พี่ปราบไม่พูดอะไรต่อ โอบเอวผมเดินแทรกออกมาจากวงเพื่อพาผมกลับไปที่นั่ง พี่เค้กกับพี่ริชลุกออกจากที่นั่งเมื่อผมและพี่ปราบกลับมา บอกว่าจะเดินไปหาป๊ากับพ่อ แล้วปล่อยให้ผมนั่งกับพี่ปราบแค่สองคน

“วันนี้เป็นไง สนุกไหม” พี่ปราบเอนหลังพิงกับพนักโซฟา กวาดแขนวางไว้ด้านหลังจนเหมือนผมถูกโอบไว้

“ก็สนุกดี แต่ผมชอบผับธรรมดามากกว่า” ผมพูดตามความจริง ที่นี่มันดูเป็นธุรกิจเกินไป ไม่เหมาะกับผม

พี่ปราบฟังแล้วก็พยักหน้าๆ เหมือนจะเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมบอก

ผมนั่งฟังเพลงจิบเหล้าและคุยกับพี่ปราบไปพลางๆ ก็มีพนักงานเอาแก้วเหล้ามาส่งให้พี่ปราบ บอกว่ามีคนเลี้ยง ก่อนจะชี้ไปที่ผู้หญิงสวยที่นั่งอยู่ไม่ไกล พี่ปราบหันมามองหน้าผม แล้วโครงหัวไปทางแก้วเหล้า ผมก็เลยเป็นคนคว้าเหล้าแก้วนั้นมาดื่มเอง

เอาเป็นว่าน้ำใจนี้ผมจะรับไว้แทนแฟนผมก็แล้วกัน

“ฝากไปบอกเขาด้วยนะว่าผมกับแฟนขอบใจที่เลี้ยงเหล้านะครับ” คงเป็นเพราะเหล้ามันแรงเกินไป ผมถึงได้พูดกับพนักงานไปแบบนั้น

คล้อยหลังพนักงาน พี่ปราบที่ดูจะอึ้งกับคำพูดของผมก็ระเบิดหัวเราะแล้วดึงผมเข้าไปกอด

“รู้จักแสดงความเป็นเจ้าของบ้างแล้วนะเด็กน้อย” พูดแล้วก็กดจูบที่ขมับของผม

“น่าเบื่อจะตาย มีแต่แมลงหวี่แมลงวัน” ผมบ่น พี่ปราบเสน่ห์แรง ใครเห็นใครก็ชอบ จึงมักมีผู้หญิงและผู้ชายทอดสะพานให้พี่ปราบอยู่เรื่อย

“ขอบใจนะ” พี่ปราบกระซิบข้างหู

“ขอบใจผมเรื่องอะไร” ผมหันไปถาม

“ขอบใจที่แสดงออกว่ากูสำคัญไง”

“พี่ก็สำคัญอยู่แล้ว”

ตั้งแต่เขาเข้ามาในชีวิตผม ไม่เคยมีสักวันที่ผมไม่เห็นว่าเขาสำคัญ

“เพราะมึงไม่ค่อยแสดงออกไง แต่วันนี้กูดีใจมาก ตั้งแต่มึงเดินไปตามกู และที่ดื่นเหล้าแก้วเมื่อตะกี้ให้ เหมือนมึงหึงกูเลย”

“...” ถ้าไม่โกหกตัวเอง ผมก็รู้สึกหึงอยู่แหละ แต่พอพี่ปราบเป็นผู้ชายด้วยกัน ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องแสดงออกยังไง มันทำตัวไม่ถูกไปเสียทุกอย่าง จนบางครั้งผมคิดว่าผมไม่เป็นตัวของตัวเองเลย แต่เมื่อตะกี้ที่ทำลงไป ผมกลับรู้สึกโล่งเสียอย่างนั้น

“ไม่ตอบนี่ มึงหึงจริงๆเหรอ”

“แล้วแต่พี่จะคิดสิ”

“งั้นกูคิดว่าหึงนะ” พี่ปราบเอานิ้วมาเขี่ยแก้มผม ด้วยความรำคาญผมเลยงับนิ้วมือพี่ปราบเข้าให้ เกิดกระแสไฟฟ้าแล่นปราบไปทั่วร่าง

ไม่ทันได้ตั้งตัว ผมก็ถูกพี่ปราบดึงเข้าไปบดจูบ ผมตกใจเล็กน้อย เพราะที่นี่มันที่สาธารณะ คนอื่นจะมองยังไงที่ผู้ชายกับผู้ชายจูบกัน ดีที่พี่ปราบแค่บดจูบภายนอก ไม่ได้ใช้ลิ้นเหมือนทุกครั้ง ไม่กี่วินาทีเขาก็ถอนริมฝีปากออก แล้วกระซิบถามคำถามเสียงนุ่ม

“กลับกันเลยไหม”

“อืม” ผมตอบอย่างไม่ลังเล

คืนนี้จะเป็นยังไงก็เป็นกัน ผมจะไม่ถอยหนีเด็ดขาด











พี่ปราบส่งข้อความไปบอกป๊าว่าเขาจะพาผมกลับก่อน จากนั้นรถยนต์คันหรูของพี่ปราบก็พุ่งทะยานกลับคอนโดสุดหรูด้วยความเร็วเกือบหนึ่งร้อยสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง อึดใจเดียวพวกเราก็มาถึงคอนโดของพี่ปราบ

“เรียนจบแล้ว ก็ย้ายมาอยู่ที่คอนโดกูนะ ไว้ค่อยไปเก็บของกัน” พี่ปราบพูดขึ้นระหว่างที่เราสองคนอยู่ในลิฟต์

“แล้วคอนโดห้องนั้นอ่ะ” ผมถาม

“ก็เก็บไว้อย่างนั้นแหละ มึงไม่ต้องไปที่โรงเรียนแล้วนี่ มาอยู่กับกูเลยที่นี่ กูจะได้ไปทำงานสะดวก”

“ก็ได้” ผมตอบ

ที่ผ่านมาผมเองก็ลืมไปเลย ว่าคอนโดเล็กที่ปราบซื้อไว้ให้ผมเช่าอยู่ก่อนจะอยู่ฟรีในภายหลัง ก็เพื่อความสะดวกสบายในการไปโรงเรียนและร้านอาหารของอาเจ เพราะคอนโดอยูไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก และอยู่ตรงกลางระหว่างโรงเรียนและที่ทำงาน แต่คอนโดหลังเล็กนี้ ไม่ใกล้ที่ทำงานพี่ปราบแม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว เหลือก็แค่รอเรียนต่อมหาวิทยาลัย ถึงตอนนั้นก็ค่อยคิด ปิดเทอมนี้ผมก็มาอยู่พี่ปราบที่นี่น่าจะดีกว่า

ว่ากันตามจริง ผมเองก็อยากอยู่กับพี่ปราบทุกวันเหมือนกัน

กลับมาถึงห้อง พี่ปราบก็ให้ผมอาบน้ำก่อน แล้วเขาอาบต่อทีหลัง ผมนอนกลิ้งอยู่บนเตียงก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นนั่ง สายตาจับจ้องไปที่ประตูห้องน้ำ คิดถึงคำแนะนำของพี่ริชก่อนหน้านี้

‘แสดงความรักก่อนบ้าง เข้าไปกอดจูบก่อนได้เลย แล้วพอถึงจุดนั้นแล้วปราบจะหยุด ซ่าต้องรุกให้ปราบล่าถอยไม่ได้ ถ้าซ่าแสดงออกว่าไม่รังเกียจ พี่เชื่อว่าปราบไปไหนไม่รอดหรอก เชื่อพี่ พี่ทำมาหมดแล้ว’

คืนนี้ผมต้องรุกพี่ปราบจริงๆใช่ไหมวะ

“เอาวะกู”

ผมลุกออกจากเตียง วิ่งออกไปที่ห้องครัว เปิดตู้เย็นแล้วคว้ากระป๋องเบียร์ออกมาสองกระเป๋า ถ้าหน้าไม่ด้านพอ ก็ต้องใช้ความเมาเข้าช่วย

หมดเบียร์ไปสี่กระป๋อง ผมถึงได้เริ่มมีอาการมึงเมามากขึ้น เมื่อเดินกลับไปที่ห้อง พี่ปราบก็อาบน้ำเสร็จแล้ว เขามองผมงงๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้แล้วก้มลงมาดมแถวๆใบหน้าผม

“กลิ่นเบียร์?”

“เอ่อ...” ผมไม่รู้จะตอบอะไร แค่ยืนนิ่งๆ พี่ปราบก็ไม่ติดใจเอาความ เดินไปแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้า ผมก็เลยรีบเข้าไปแปรงฟังบ้วนปากอีกรอบ

นาฬิกาบอกเวลาตีสอง เป็นเวลาที่ทุกคนควรเข้านอน แต่ผมได้แต่นอนตาเบิกโผลงอยู่ในความมืด โดยมีพี่ปราบกอดผมไว้จากทางด้านหลัง

เราทั้งคู่ยังไม่มีใครหลับ เพราะพี่ปราบยังคงกดจูบแถวๆต้นคอและสันกรามของผมเล่น มือก็ลูบไล้อยู่ที่หน้าท้อง บ้างก็สะกิดที่แอ่งสะดือ ทำผมเสียววาบในท้องเป็นระยะๆ

“ไม่ง่วงเหรอ” พี่ปราบกระซิบข้างใบหู จมูกโด่งขยับเกลี่ยติ่งหูและไรผม ให้ขนอ่อนตรงต้นคอลุกเกรียว

“ยังครับ” ผมตอบ ก่อนจะพลิกตัวหันเข้าหาพี่ปราบ แล้วกอดพี่ปราบเอาไว้บ้าง ปกติผมไม่เคยทำ ได้แต่ปล่อยให้พี่ปราบกอด แต่คราวนี้ผมจะทำใหม่ ผมจะเป็นฝ่ายให้บ้าง เพราะการถูกกอดมันรู้สึกดีมากจริงๆ

“เป็นอะไร นี่เรียกว่าอ้อนหรือเปล่า” พี่ปราบกอดผมแน่นขึ้นไปอีก และยังกดจูบลงผมเส้นผม

ผมไม่ตอบ พี่ปราบมีกลิ่นตัวที่หอมแบบสดชื่นๆและเซ็กซี่ ผมกดจูบลงบนหน้าอกผ่านเสื้อของพี่ปราบ ไล่จูบขึ้นไปจนถึงคอ แล้วจบลงที่ริมฝีปาก พี่ปราบชะงักเมื่อผมเริ่มจู่โจมจูบ แต่ก็ตอบสนองกลับได้อย่างรวดเร็ว ลิ้นเราพัวพันกันจนแทบแยกไม่ออกว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร

จากที่นอนตะแคงก็เปลี่ยนเป็นนอนหงาย มีพี่ปราบคร่อมทับอยู่ด้านบน และครั้งที่เขาไม่ใช้ขาทั้งสองข้างกางคร่อมผม แต่เป็นผมที่อ้าขาทั้งสองข้างออกเพื่อให้พี่ปราบได้แทรกตัวอยู่ตรงกลาง

เป็นอีกเรื่องที่ผมไม่เคยทำ แต่ผมยอมทำถ้ามันทำให้พี่ปราบพอใจ

ผมพยายามคิดว่าเมื่อก่อนผมทำยังไงกับแฟนเก่า และนำมาใช้กับพี่ปราบ เราจูบกันแต่มือไม้ก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ผมดึงเสื้อนอนของพี่ปราบออกจากตัว ส่วนพี่ปราบก็ดึงของผมออกเช่นกัน

เสียงหอบหายใจของผมดังเหมือนคนเป็นโรคหอบ ผมรับรู้สัมผัสได้ทุกอย่างตั้งแต่ฝ่ามือร้อนที่ลูบสีข้างขึ้นมาจนถึงหน้าอก ปลายนิ้วที่สะกิดหยอกเย้ากับตุ่มเม็ดเล็กสองตุ่มบนหน้าอก

ผมเริ่มหายใจไม่ออกเพราะพี่ปราบจูบผมเหมือนหิวกระหาย จนต้องตบหลังที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นสัญญาณให้ปล่อย พี่ปราบจึงผละริมฝีปากออก ย้ายไปจูบเม้มที่ซอกคอ เขาจะต้องทำรอยเอาไว้ที่คอผมแน่ๆ เพราะผมรู้สึกเจ็บจี๊ดในบริเวณที่ถูกดูด ยิ่งไปกว่านั้นคือผมเกิดอารมณ์ยิ่งขึ้นเมื่อถูกจี้จุดแถวๆลำคอ ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด ความเสียวซ่านแล่นพล่านตั้งแต่ปลายเท้าจรดหัว

“อ๊า...พี่”

มากไปแล้ว

มากเกินไปแล้ว

เขาทำได้ยังไง ทำให้ผมรู้สึกต้องการได้มากขนาดนี้

ครั้งนี้พี่ปราบคงเอาจริง เขาช่ำชองและเร่าร้อนกว่าทุกครั้ง สามารถทำผมสติขาดร้องครางเสียงหลงเมื่อริมฝีปากร้อนเข้าแทนที่นิ้วมือที่สะกิดเล่นกับหัวนม ผมเคยดูดของผู้หญิง รู้ว่ามันทำให้ผู้หญิงครางได้ แต่ไม่คิดว่ามันจะรู้สึกดีขนาดนี้ เหมือนเล่นเครื่องเล่นที่ถูกเหวี่ยงขึ้นไปสูงแล้วทิ้งดิ่งลงมา

ดีจนไม่อยากให้หยุด

ผมพยายามดึงรั้งสติของตัวเองไว้ แล้วเป็นฝ่ายสัมผัสพี่ปราบบ้าง เลียนแบบสิ่งที่พี่ปราบทำ ได้ยินเสียงครางต่ำในลำคอผมก็ยิ่งได้ใจ ดันตัวให้พี่ปราบลุกออกจากตัวผม เปลี่ยนเป็นท่านั่ง เขาสบตากับผ่านความมืด แต่ถึงจะไม่มีแสงสว่างจะหลอดไฟ ผมก็ยังเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพี่ปราบต้องการผม และผมก็ต้องการเขา

อะไรก็ได้ผมยอม ถ้ามันทำให้พี่ปราบติดอยู่กับผม ไม่ไปหลงรักหรือชอบคนอื่น

ผมพุ่งเข้าจูบพี่ปราบอีกครั้งในท่าคุกเข่า พี่ปราบคว้ากอดเอวผมไว้ และเลื่อนมือลงต่ำบีบก้นผมจนเจ็บ แต่ผมก็ไม่ร้องห้าม ปล่อยให้พี่ปราบทำในสิ่งที่อยากทำ

ส่วนสำคัญที่ยังไม่ถูกสัมผัสปวดหนึบจนแทบทนไม่ไหว ผมเอื้อมมือลงไปจับมันผ่านกางเกงนอนตัวบาง พี่ปราบเหมือนจะรู้ เขาใช้มือของเขาทับซ้อนมือของผมก่อนจะดึงมือของผมออกแล้วดึงไอ้ซ่าน้อยออกมาดูโลก แต่ยังไม่สนใจ เพราะพี่ปราบดึงกางเกงนอนและกางเกงในของผมออก โถมกายลงดันร่างให้ผมทิ้งตัวลงนอนหงายอีกครั้ง เสี้ยววินาทีเดียวผมก็ไม่เหลือเศษผ้าไว้ปกปิดร่างกาย

ผมเหมือนถูกจู่โจมทุกทาง ใบหน้าหล่อเข้มฝังเข้าที่ซอกคอทั้งเลียทั้งดูด ผมต้องฝังหน้าลงกับซอกคอพี่ปราบ ฝากรอยกัดไว้เล็กน้อยเป็นการระบายความเสียวซ่าน ที่เกิดจากน้ำมือของคนบนตัวที่ขยับมือดึงรูดไอ้ซ่าน้อยด้วยความเร็วและหนักหน่วง จนมันทนไม่ไหวต้องร้องไห้ออกมาอย่างกับเขื่อนแตก

หลังจากปลดปล่อยไปแล้วหนึ่งครั้ง ผมก็หมดแรงนอนแผ่หลาไปกับเตียง

“อยากอาบน้ำใหม่ไหม” พี่ปราบกระซิบถาม ผมขมวดคิ้วทันทีทั้งที่หมดแรง

อย่าบอกนะว่าเขาจะทิ้งผมไปอีก

ครั้งนี้ผมไม่ยอมจริงๆ

“พี่ปราบ”

“หืม”

“ต่อได้ไหม” ผมพูดอย่างหน้าไม่อาย แต่ผมไม่ยอมให้มันจบแบบทุกครั้ง ครั้งนี้พี่ปราบจะต้องเป็นของผม ผมจะไม่ให้เขาบ่ายเบี่ยงอีกแล้ว!

พี่ปราบจ้องผมนิ่งๆ และเปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มร้าย ดูน่ากลัวในความมืดยังไงชอบกล

“แน่ใจนะว่าอยากให้กูทำต่อ”

“อืม” ผมพยักหน้า ไม่มีความลังเล ผมเตรียมใจมาแล้ว ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญมาแล้วด้วย ถ้าไม่ไปต่อก็จะเสียแรงเปล่า

“ถ้าจะให้กูไปต่อ กูจะไม่หยุดอีกแล้วนะ”

“ก็ไม่ต้องหยุด”

“มึงคิดดีแล้วใช่ไหม”

“ผมคิดดีแล้วน่า”

“โอเค หลังจากนี้ถ้าร้องไห้งอแงล่ะก็ กูจะซ้ำให้หนักให้ร้องยิ่งกว่าเดิมอีก”

ผมทุบหน้าอกพี่ปราบเพราะคำพูดของเขาเริ่มทำให้ผมรู้สึกกลัว พี่ปราบหัวเราะเหมือนคนโรคจิต แล้วจู่โจมผมต่อในทันที

ผมปล่อยตัวปล่อยใจรับสัมผัสที่พี่ปราบปรนเปรอให้ ขาทั้งสองข้างของผมถูกจับให้อ้าออกกว้าง ผมหลับตาปี๋ไม่อยากมองว่าตอนนี้ตัวเองมีท่าทางยังไง ไม่เป็นไร แค่หลับตาผมก็ไม่เห็นอะไรแล้ว

“ลืมตาสิ ไม่อยากเห็นหน้ากูเหรอไง” พี่ปราบจูบเบาๆที่ริมฝีปากแล้วกระซิบเสียงพร่า ฟังแล้วสยิวไปทั่วร่าง พี่ปราบขยับตัวไปหยิบของบางอย่างออกมาจากลิ้นชักโต๊ะหัวเตียง ผมไม่ทันได้มองว่ามันคืออะไร มารู้อีกทีก็ตอนนี้นิ้วแข็งกับความชื้อแฉะสัมผัสกับร่องก้น

เจลหล่อลื่นแน่ๆ เพราะมันทั้งลื่นทั้งเย็น มีกลิ่นสตรอเบอร์รี่ด้วย

“อึก...” ผมสะดุ้งที่ช่องแคบน้อยถูกกดย้ำ นิ้วร้อนคอยนวดและดันเข้ามาเรื่อยๆ ร่างกายผมต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่ต้องการบุกรุกโดยอัตโนมัติ

“อย่าเกร็งสิ ไม่งั้นมึงจะเจ็บ”

“มันเกร็งเอง” ผมตอบเสียงอึกอัก เพราะเริ่มเจ็บแล้วจริงๆ

“หายใจเข้าลึกๆ ปล่อยให้นิ้วกูเข้าไป ควบคุมร่างกายตัวเองให้ได้” พี่ปราบไกด์ไลน์ให้ผมเป็นระยะๆ แน่นอนว่าผมทำไม่ได้ตามที่แนะนำหรอก ได้แต่กัดฟันทนเอา เจ็บก็ต้องจน ในที่สุดพี่ปราบก็เอานิ้วเข้ามาได้ทั้งสามนิ้ว ผมไม่รู้หรอกเพราะเจ็บตึงจนชาหนึบ แต่พี่ปราบเป็นคนกระซิบบอก

“เจ็บไหม” พี่ปราบถาม ผมพยักหน้า ค่อยๆผ่อนลมหายใจ แล้วลองไม่เกร็งอีกครั้ง ดีกว่าตอนแรกนิดหน่อย พี่ปราบเริ่มจะขยับนิ้วเข้าออกได้อย่างช้าๆ ไม่นานก็เข้าออกได้อย่างคล่องตัว

ถามว่ายังเจ็บอยู่ไหม มันก็ยังเจ็บ แต่ที่มากกว่านั้นคือความเสียว ผมไม่เคยคิดว่าถูกเอาผ่านช่องทางด้านหลังจะทำให้รู้สึกเสียวซ่านได้มากขนาดนี้ ผมเกือบจะปลดปล่อยออกมาอีกรอบ แต่พี่ปราบหยุดมือเอาไว้ก่อน ผมที่กำลังจะได้แตะขอบฟ้า ก็ร่วงลงพื้นดังแอ๊ก 

“ใจเย็นๆ รอกูด้วยสิ” พี่ปราบพูดกลั้วหัวเราะ ผมมองค้อนเพราะไม่ขำด้วย ปวดไปหมดแล้ว

เห็นผมไม่ไหว พี่ปราบก็แนบร่างกายเข้าชิดอีกครั้ง โน้มขาทั้งสองข้างของผมจนเกือบจะติดหน้าออก ของจริงเป็นยังไงผมก็เพิ่งจะรู้ เมื่อของแข็งที่ร้อนและเต้นตุบๆจ่ออยู่ที่ปากทางเข้า มันแข็งและใหญ่มากจนทำให้ผมรู้สึกเจ็บแม้ว่าจะกดเข้ามาได้เพียงเล็กน้อย

ผมพยายามจะไม่เกร็ง แต่มันเจ็บยิ่งกว่าตอนใช้นิ้วเข้ามาเสียอีก พี่ปราบถอนออกไปอีกครั้งแล้วกดลงมาอีกรอบ แต่มันก็ยังเข้าได้ยากจนผมรู้สึกว่าโลกหมุนและหน้ามืด

“เดี๋ยว” ผมรีบร้องห้าม ใช้มือดันหน้าท้องแข็งเป็นลอนเอาไว้

“ทำไม ลังเลหรือไง จะให้หยุดไหม”

“เดี๋ยวๆ...” ผมบอก ทำใจรับความเจ็บอยู่

“กูหยุดให้ได้นะ กูไม่ใจร้ายกับมึงขนาดนั้นหรอก” พี่ปราบทำท่าจะผละออกไป

“เฮ้ย!” ผมร้องเสียงดัง แล้วใช้มือหนึ่งคว้าตัวพี่ปราบเอาไว้ ที่ตกใจก็เพราะพี่ปราบจับมือผมให้จับที่น้องชายเขา แล้วไง แข็งสู้มือไปดิ แม่งเอ้ยเสือกใหญ่ด้วย T^T

“หึหึ กลัวหรือเปล่า”

“...” ถ้าบอกว่าไม่กลัวก็คงจะโกหก

“มันต้องการมึงนะ ไม่งั้นมันไม่แข็งจนพองตัวใหญ่ขนาดนี้หรอก”

ผมรู้ รู้ว่าทำมาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าหยุดก็เท่ากับพัง ใครจะพูดว่าเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับคู่รัก คนๆนั้นคงจะวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ถ้าผมให้ความสุขกับพี่ปราบไม่ได้ ผมกลัวเขาจะไปหาเอาจากที่อื่น เหมือนกับคนก่อนที่ทิ้งผมเพราะผมไม่มีเวลาไปนอนด้วย

ผมไม่เอาเด็ดขาด

“ว่ายังไง ต่อไหม”

“แล้วแต่สิ!” แค่นี้ผมก็อายจะตายอยู่แล้ว ทำไมต้องถามด้วย

“กูทำนะ...”

“...”

“ซ่า...”

“พี่ปราบแม่ง จะทำก็ทำ ถ้าผมเจ็บนะ ผมจะถีบพี่” ผมว่าให้หน้าหงิก

“ฮ่าๆๆ จุ๊บ มึงมันน่ารัก เชื่อกูเถอะ ถึงมึงเจ็บ มึงก็ไม่มีแรงจะถีบกูหรอก เพราะกูจะ ‘รัก’ จนมึงไม่มีแรงมาถีบกู”

ผมไม่โต้ตอบ เพราะคิดหาคำพูดดีๆไม่ได้ นอกจากแหงนหน้ารับความรู้สึกที่ส่งผ่านมาจากปลายลิ้นร้อนที่ก้มลงดูดหัวนมจนมันเปียกแฉะ

เป็นจริงอย่างที่พี่ปราบพูด แม่งโคตรเจ็บเลย เจ็บแบบนี้แข้งขาหมดแรง ปากก็สั่นระริก ที่สำคัญกูร้องไห้ตอนโดนของแข็งดันเข้ามาจนสุดด้วย

“เก่งมากเด็กดี” พี่ปราบพรมจูบทั่วไปหน้าผมไม่หยุด หยาดเหงื่อของเขาตกลงกระทบแก้ม ผมเผยอเปลือกตามองงหน้าพี่ปราบ เขากัดฟันแน่นขมความต้องการของตัวเองที่กำลังพุ่งพ่านได้ที่ แต่เขาขยับไม่ได้เพราะผมรัดเขาไว้แน่น ผมรู้ว่าเขาจะต้องเจ็บมาก เพราะส่วนนั้นอ่อนไหวพอควรแม้ว่ามันจะแข็งตัว โดนรัดแน่นขนาดนี้คงทั้งเจ็บและจุก ดังนั้นผมต้องรีบคลายแรงตอดรัดเพื่อให้พี่ปราบสบายตัว

“ผมไหว พี่ทำเลย” ผมกระซิบบอก คิดว่าตัวเองไหวแล้ว

“กูทำเลยนะ”

“อืม”

ปราบน้อยที่ขับเคลื่อนอยู่ในตัวผมเหมือนปืนไรเฟิล ยิงแรงยิงไกล ใส่แบบไม่ยั้งจนผมแทบขาดใจ ตอนนี้กลายเป็นเสียวมากกว่าเจ็บ และร่างกายของผมมันแปลกมาก ผมไม่เคยรู้เลยว่ามันจะมีจุดที่ทำให้สุขสมได้มากอย่างคาดไม่ถึง ทุกครั้งที่ปราบกระแทกตัวเข้ามาโดนจุดนั้น ผมก็แทบจะหลั่งออกมา ผมพยายามจะไม่ส่งเสียงร้อง แต่ก็เผลอตัวไปทุกครั้ง

ร่างกายนี้ไม่ใช่ของผมอีกแล้ว มันเป็นของพี่ปราบโดยสมบูรณ์ เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับผม หรือท่าไหนตรงไหนของห้อง ผมก็ห้ามปรามไม่ได้ ได้แต่ปล่อยตัวให้เขาควบคุมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ความรู้สึกยามถูกกอด แม้จะเจ็บแต่ก็ได้รับจูบปลอบโยนทุกครั้ง เสียงลมหายใจที่ประสานกันมันน่าฟังยิ่งกว่าเสียงเพลงที่ฮิตติดชาร์ตเสียอีก

ที่เคยคิดไว้มันผิดโผไปไกลมาก มันไม่ได้น่าอายและมันไม่ได้แย่เลย พี่ปราบกอดผมด้วยความรุนแรงก็จริง แต่ก็แฝงความอ่อนโยนเอาไว้

“ฮึก” ผมน้ำตาไหลอีกครั้ง แต่ไม่ใช่เพราะผมเจ็บ แต่ผมรู้สึกดีมากๆที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของพี่ปราบ ผมรู้สึกปลอดภัยและรู้สึกว่าตัวเองถูกรักอย่างแท้จริง

ขอแค่พี่ปราบรักผม ผมก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว

“พี่ปราบ”

“หืม เจ็บเหรอ”

ผมส่ายหน้า แล้วยิ้มให้พี่ปราบ ขยับสะโพกรับแรงกระแทกกระทั้นอย่างเต็มใจ

“ผมรักพี่”

ผมรักจริงๆ ผู้ชายคนนี้นี้ดีกับผมมากๆ มากจนคิดว่า...ชีวิตนี้ผมให้พี่ปราบได้ทุกอย่าง ขอแค่พี่ปราบต้องการ ผมก็ยินดี

พี่ปราบลูบหัวผม แล้วจูบที่หน้าผาก อบอุ่นกว่ารอยจูบทุกครั้ง

“พี่ก็รักซ่า ขอบคุณที่ยอมให้กอด”

ผมยิ้ม แล้วแหงนหน้ารับทุกอารมณ์ที่พี่ปราบมอบให้ ต่อให้พรุ่งนี้ต้องนอนซมอยู่บนเตียง มันก็คุ้ม








…………………………………………….
สวัสดีค่ะ
ขอโทษที่หายไปหลายวันนะคะ พอดีติดบินแล้วก็เร่งแต่ตอนพิเศษปิดต้นฉบับอยู่  :katai4:
สมใจแล้วนะคะ น้องซ่าเป็นเมียโดยสมบูรณ์แบบเต็มใจเกินร้อย  :oo1:
แผนอิพี่มันได้ผล ความจริงน้องไม่ควรต้องมาเจอคนเจ้าเล่ห์แบบนี้ ฮ่าๆๆๆๆ   :katai3:
แต่เอาเถอะ เห็นว่าดูแลน้องซ่าดีหรอกนะ เราจะยอมปล่อยลูกชายเราให้ :m14:
ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วนะคะ ควรต้องจบได้แล้ว อะไรก็คลี่คลายลงตัวแล้ว
แถมอิพี่ก็ฟัดอิน้องไปแล้วด้วย ดีใจที่ลูกชายได้ออกเรือน  :katai2-1:
แอบคิดๆอยู่ว่าจะแต่งภาคสองดีไหม แต่ตอนนี้เอาเท่านี้ก่อน ขอไปแต่งเรื่องอื่นบ้าง
ก็ไม่มีอะไรคุยละ ไว้เจอกันตอนจบเลยนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและกำลังใจมากๆเลยนะคะ  :m3:
ด้วยรัก :L1:
ริริ
 :กอด1:






หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-02-2018 16:46:39
น้องซ่าาา ดีใจนะในที่สุดก็มีความสุขซักที ^^
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 03-02-2018 16:47:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 03-02-2018 16:58:19
 :haun4: มันคุ้มจริงๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 03-02-2018 17:09:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 03-02-2018 17:29:13
ลูกซ่าเป็นฝั่งเป็นฝาละ ตายอย่างสงบแปบบ :m25:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 03-02-2018 17:36:26
 :o8: เป็นฝั่งเป็นฝาเต็มตัวละลูกสาววว เอ๊ย!ลูกชายคูมแม่
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 03-02-2018 18:38:37
 :o8: ดีใจกับซ่า ได้มีความสุขซักที เก้อปลื้มปริ่มสุดๆ. ว่าแต่อิพี่ปราบนั้นครั้งแรกของน่อง เข้าใจว่าน้องแกร่ง อดทน แต่ทุกท่า ทุกที่ นี้ก็เกินไปปปปปปปปปปปปป. ซ่าเอ้ยทีนี้แหละปกติก็รักอยู่แล้ว นี้หลังจากนี้อิพี่คงทั้งรักทั้งหลงแบบโงหัวไม่ขึ้นเลยละ  ต้องบอกว่าได้คำแนะนำดีๆมาจากผู้เชี่ยวชาญทั้งสอง55555555
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 03-02-2018 18:46:36
ออกเรือนเต็มตัวแล้ววววว
รออ่านต่อน้าา
ปล.อยากอ้านภาค2ค่ะ แต่เว้นช่วงก้ได้รอได้เสมออ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-02-2018 18:53:35
 :-[
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 03-02-2018 19:00:00
แหมะ ได้กินสมใจสักที ไปกราบขอบคุณบรรดาแม่ๆ นะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 03-02-2018 19:16:39
เป็นฝั่งเป็นฝามีซะมีเต็มตัว เริ่มต้นชีิวิตเมียซะทีนะซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-02-2018 19:17:59
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 03-02-2018 19:20:56
รอลุ้น หลังจากนี้พี่ปราบต้องอยู่ในกำมือเมีย เหมือนอย่างที่พ่อและป๊าเป็นแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-02-2018 19:36:07
เช็ดน้ำตาด้วยความปลื้มใจ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 03-02-2018 19:40:02
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-02-2018 20:05:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 03-02-2018 20:06:27
ในที่สุดก็ได้ส่งลูกสาวเข้าหอ :impress2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-02-2018 20:14:54
แล้วพี่ปราบ ก็ปราบซ่า   :hao5: :sad4: :heaven

พี่ปราบ ไม่กาก อย่างป๊าว่าแล้ว
ซ่า หึงหวงพี่ปราบแล้ว
พี่ปราบ แสนจะยินดี ใจพองโต
พี่ปราบ ซ่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ให้สงสัยว่าพี่แนน ยังจะมาดูถูก ไม่เห็นค่าของซ่าอีกไหม
ช่างเป็นแม่ ที่ลูกอยากไม่อยากอยู่ใกล้จริงๆ  :ling3: :ling3: :ling3:
แล้วครอบครัวยาย จะเห็นความดีซ่ามั้ยนะ ที่ช่วยเหลือยาย  :hao3:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 03-02-2018 20:50:44
ดีใจจัง เค้าเข้าหอกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-02-2018 21:05:30
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


 55
ตื่นตันใจ   สุดท้ายก็ได้รักกันสักที
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 03-02-2018 21:07:01
นั่นไงน้องซ่าหลงกลจนได้ แต่มันคุ้มใช่มั้ยละ รุ้ความจริงตอนหลังนี้จะงอนอิพี่มันมั้ย
 :z1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 03-02-2018 22:21:38
อร๊าย... วิ่งไปหุงข้าวแดงฉลอง  :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 03-02-2018 22:46:01
 :pighaun: ซ่าของพี่
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 03-02-2018 22:57:17
เห็นเขาได้กินกันเสียที อิคนอ่านก็มีความสุข ^^
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 03-02-2018 22:59:00
 :mew3:ในที่สุด
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: wwll ที่ 03-02-2018 23:25:09
พี่ปราบสามีแห่งชาติได้อีก (กรีดร้อง มีอีกสักคนมั้ย)
ชอบที่ไม่เคยบังคับน้อง แต่ให้น้องคิดเอง เลือกเอง
 (ถึงจะแอบใช้ตัวช่วยก็เถอะ ถือว่าเป็นทริคเล็กๆน้อยๆ ให้สามผ่าน)

ซ่าลูก หนูคิดถูกแล้ว ผู้ชายแบบพี่ปราบนี่ฟ้าประทานมาชัดๆ
หนูต้องทำให้เค้าเป็นของหนูไว้ลูก มีแต่ได้กับได้ (พวกเราชาวใต้เตียงก็ฟินไปด้วย อิอิ)

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 03-02-2018 23:57:05
ยินดีด้วยยยย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 04-02-2018 00:06:04
น้องซ่าาาาาา คริคริ :pighaun:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 04-02-2018 00:21:24
ฮือออ มาส่งน้องซ้าเข้าเรือนหอค่ะ พี่ปราบคนจริงพระเอกแห่งปี 2018  :hao5:
ตอนนี้มันดี๊ดีอะ ภาคสองอย่าเพิ่งเลยนะคะ คือกว่าซ่าจะมาถึงจุดนี้ แล้วตอนนี้มันสุขนิยมมาก เรากลัวมาม่าซองใหม่อะ ขอทิ้งช่วงฟินไปสักพักก่อนนะ 5555 แต่อยากได้ภาคสองมั้ยคืออยากกกกค่ะ นู๋รักพี่ปราบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-02-2018 01:58:21
และแล้วพี่ปราบก็เสร็จซ่าจนได้  :laugh: เอ๊ะ...... หรือไม่ใช่  :confuse: :confuse:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 04-02-2018 05:55:39
อื้อหืออ ได้ผลดีเยี่ยมเลยทีเดียว
สมใจปราบอย่างหนัก
ซ่ารู้จักเรียกร้อง และสมยอม

พี่ริชพี่เค้กมือโปรมากค่ะ กระตุ้นซ่าซะน้องคิด

ปราบคงต้องไปขอแล้วนะ จะได้ควบรวมสักที
ซ่าจะได้ไม่มีปัญหากับที่บ้านมากวนใจอีก

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 04-02-2018 06:08:20
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 04-02-2018 07:57:20
โอ้ ซ่าน้อยมีหลัวเต็มตัวแล้วค่ะ เจ้ปลื้มปริ่มเหลือเกินลูกเอ้ย
ปอลอ.จะจบแล้ว แอบใจหายมากเลยค่ะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-02-2018 08:49:10
เรียบร้อยเสร็จพี่ปราบ อิอิ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-02-2018 12:22:12
โดนกินจนได้นะซ่า พี่ปราบกินแบบไม่ยั้งเลยนอนซมแน่ ดีใจที่ซ่ามีความสุขซักที อยากอ่านตอนซ่าทำงานกับพี่ปราบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: armize ที่ 04-02-2018 12:24:43
ชอบมากรักซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 04-02-2018 12:26:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: indyska ที่ 05-02-2018 00:36:27
มุมบนฝาผนังแจ่มมาก วอนยูชเซอร์ข้างๆอย่าเบียดได้ไหม เฮ้ !บนเพดานว่าไงวิวดีบ่
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 06-02-2018 08:54:43
เป็นเมียพี่ปราบอย่างสมบรูณ์ :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 07-02-2018 13:45:38
เสร็จพี่ปราบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบครั้งที่33:: 3/1/2018 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-02-2018 15:19:59
น้องซ่า เป็นเมียพี่ปราบแล้ว
เช้ามาจะเป็นไงบ้างนะ รอ รอ ฟิน
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-02-2018 18:37:41
ปราบซ่า ตอนที่33 บทส่งท้าย



[ซ่า]
ผมกลับมาบ้านในรอบสองเดือนเห็นจะได้ กลับมาก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือตื่นตาตื่นใจ แม่เจอหน้าผม คำแรกที่พูดเลยก็คือให้ผมไปช่วยยกของ ผมวางกระเป๋าสะพายไว้ในบ้าน ก่อนจะออกไปที่โกดังเก็บของช่วยขนของขึ้นรถ

ผมช่วยแม่ทำงานตั้งแต่สิบโมงเช้าจนบ่ายสามถึงได้หยุด พ่อกับน้าตั้มยังคงเป็นคนเอาของไปขายเช่นเดิม ผมนั่งพักอยู่ในบ้าน มองไปรอบๆ ผมดูเลวมากไหมที่ทิ้งทุกคนแล้วหนีไปอยู่อย่างสุขสบาย แต่ผมอยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ อยากเป็นคนมีอนาคต ถ้าผมยังอยู่ที่นี่ผมรู้เลยว่าผมจะต้องกลับไปสู่จุดเดิม ดังนั้นผมก็ทำได้แค่ส่งเงินให้แม่ใช้เท่าที่ผมจะหาได้

“เหนื่อยโว้ย แม่ง แต่ละคนทำงานกันเหมือนเล่นขายของ แต่ถึงเวลาเงินจะเอาครบ กินแรงกูพวกแม่งไม่มีทางเจริญหรอก” แม่บ่นหลังจากที่จ่ายค่าแรงรายวันเสร็จ

ผมนั่งฟังเฉยๆ ไม่ออกความเห็น ขืนพูดไม่เข้าหูแล้วจะเข้าตัว

แม่อาบน้ำเสร็จก็ออกมานั่งรับลมหน้าบ้าน ไอ้มิวแต่งตัวออกไปเที่ยวข้างนอกตั้งแต่บ่ายแล้ว ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายกลับห้องใครห้องมัน

“ซ่า มาบีบขาให้แม่หน่อยดิ ปวดขามาก” แม่เรียกผมเข้าไปใกล้ ผมไปช่วยแม่บีบขาแล้วก็ยาน้ำมันนวดขา

ผมสงสารแม่ที่ต้องเหนื่อย แต่แม่เป็นแม่ พ่อเป็นพ่อ ถ้าพ่อกับแม่บอกให้คนในบ้านช่วยไม่ได้ ก็ไม่มีใครพูดได้ ผมยิ่งพูดไม่ได้ สุดท้ายทุกคนก็จะไม่ทำงานทำการ แต่ตกเย็นก็เอาเงินครบ บางทีเบิกล่วงหน้าตอนเช้า แต่ตกเย็นเอาเงินอีกก็มี ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ให้ผมอยู่ช่วยงานที่นี่ผมคงได้ติดแหงกไปไหนไม่ได้อีก ไม่ใช่แค่เรื่องเที่ยวเล่น แต่อนาคตของผมที่ผมเริ่มจะวาดฝันเอาไว้มันจะพังลงมาด้วย

“แม่...เงินเดือนเดือนนี้ ผมให้แม่ไว้ใช้นะ ถ้าไม่พอก็บอก” ผมส่งยื่นเงินจำนวนห้าพันให้แม่ ผมอยากให้มากกว่านี้ แต่ถ้าให้เยอะก็หมดไวอยู่ดี ไว้ถ้าไม่พอเขาก็จะโทรมาขอผมเพิ่มเอง

“เออ ขอบใจเองมาก ขอให้เจริญๆ” แม่พูดกับผม มือที่รับเงินไปกำเงินในมือแน่น

“แม่ก็พักบ้างนะ ผมให้เงินก็เอาไปซื้อของดีๆกินบ้าง” ผมเป็นห่วงเพราะรู้ว่าแม่ปล่อยให้ตัวเองกินแบบตามมีตามเกิด

“เออ แม่ดูแลตัวเองได้ เอ็งก็ดูแลตัวเอง อย่าไปก่อเรื่องก่อราวให้เขาไล่ออกจากงานอีกรู้ไหม”

“ครับ”

“เรียนจบแล้วเอ็งจะทำอะไรต่อ จะทำงานเลยหรือไง” แม่ถาม

“ผมจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยอ่ะแม่ แต่ก็ทำงานไปด้วยเหมือนเดิม”

“เรียนต่อมหาวิทยาลัยเนี่ยนะ มึงจะทำได้เหรอไอ้ซ่า” แม่พูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย ผมไม่ได้โกรธ เพราะผมคนก่อนมันไม่เอาไหนจริงๆ ไม่ว่าใครก็มักจะดูถูก

“ก็ลองดูแม่”

“เออ แล้วแต่มึง ชีวิตมึง ถ้าไม่รักดีกูก็ไม่รูจะช่วยยังไง กูก็แก่มากแล้ว จะตายวันไหนก็ไม่รู้”

ผมออกแรงบีบนวดหัวเข่าที่แม่งชอบบ่นว่าปวดบ่อยๆ แต่ก่อนผมไม่ค่อยได้บีบขาให้แม่ เพราะแม่จะใช้ไอ้สี่ทำมากกว่า หรือถ้าใช้ผม ผมก็จะบีบแค่แปบเดียว แต่วันนี้ผมตั้งใจบีบให้ เพราะรู้ว่าหลังจากนี้ผมจะไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน

“ถ้าว่างผมจะกลับมาช่วยงานนะแม่”

“เออ ไม่เป็นไร แค่เอ็งคิดจะเรียนต่อข้าก็ดีใจแล้ว แต่เรื่องค่าเรียนใครจะออก เอ็งบอกอีแนนแม่เอ็งหรือยัง”

“หึ ไม่ได้บอก” ผมส่ายหน้า “แต่ค่าเรียนผมออกเองได้แม่ ไม่ต้องห่วง”

“ไหวเหรอ”

“ไหวครับ ค่าเรียนถูก ไม่แพงเท่าไหร่ ปิดเทอมนี้ผมได้งานทำที่อู่ซ่อมรถ ก็เดี๋ยวเก็บเงินเอา” ผมโกหกแม่ออกไป เพราะถ้าบอกพี่แนน ผมคงได้แต่คำดูถูกกลับมา สู้อย่าบอกเลยจะดีกว่า

“เออ งั้นก็ดี ถ้าให้กูออกให้ก็ไม่มีปัญญา”

ก่อนกลับผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปซื้อกับข้าวมาไว้ให้แม่ ซื้อข้าวสารเพิ่มเพร้าวสารที่บ้านหมด ทุกครอบครัวพอไม่มีข้าวก็มาเอาข้าวบ้านแม่ ทั้งๆที่ได้ค่าแรงไปแต่ก็ไม่ยอมซื้อกินเอง พอข้าวสารแม่หมดแม่ก็ไม่มีเงินจะซื้อ พี่แนนนานๆเข้ามาที่บ้านที ก็เลยไม่ค่อยจะรู้ว่าบางวันแม่ก็ไม่มีข้าวหุง เห็นไอ้มิวบอกว่าพี่แนนหลงผัวใหม่ ก็เลยไม่ค่อยได้เข้ามาบ้าน แต่ถ้าเข้ามาเขาก็ยังดูแล คอยซื้อของเข้ามาให้แม่อยู่ ผมก็เลยไม่ต้องห่วงเรื่องนี้มากนัก

สำหรับผมแล้ว พี่แนนไม่ต้องดีต่อผมก็ได้ เพราะผมมันเป็นตัวซวยสำหรับชีวิตเขา แต่ขอให้เขาดีกับแม่ก็พอ ผมจะได้ออกไปอยู่เองโดยไม่ต้องรู้สึกผิดมากไปกว่านี้

ผมหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่รุ่นล่าสุดที่พี่ปราบซื้อให้ขึ้นมาส่งข้อความหาพี่ปราบ บอกว่าผมกำลังจะกลับคอนโด


พี่ปราบ ผมออกจากบ้านแม่แล้ว : Patcharakan
ผมกลับคอนโดเลยนะ : Patcharakan

ผมกดส่งข้อความ รถเมล์สายที่วิ่งผ่านรถไฟฟ้าก็มาพอดี ผมรีบเก็บโทรศัพท์แล้วกระโดดขึ้นรถเมล์แบบสองประตูยี่สิบหน้าต่าง พักหลังมานี้ไม่ค่อยได้นั่งรถเมล์ กลัวตัวเองจะติดความสะดวกสบายจนเคยตัว วันนี้ก็เลยขอนั่งรถเมล์สักหน่อย


MuePrab : คิดถึงวะ มาหากูที่ออฟฟิศสิ
MuePrab : จะได้กลับพร้อมกัน



ผมอ่านข้อความแล้วก็ได้แต่ยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า ต้องยกมือปิดปากไม่ให้คนข้างๆเห็น หลังจากควบคุมริมฝีปากไม่ให้ยกยิ้มได้แล้ว ผมก็ส่งข้อความตอบกลับไป


ผมเหนื่อย อยากกลับห้อง : Patcharakan
พี่กลับกี่โมง : Patcharakan


ผมยังไม่ได้กินข้าวมาจากบ้านแม่ เพราะอยากลับมากินกับพี่ปราบมากกว่า ทุกวันนี้ถ้ากินข้าวที่คอนโด พี่ปราบจะเป็นคนทำและผมเป็นลูกมือ อย่างน้อยๆผมก็สามารถหั่นผักได้ขนาด ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปสำหรับแต่ละเมนู แต่ส่วนมากก็เป็นเมนูง่ายๆ

แต่มีหนึ่งเมนูที่ผมจะได้รับหน้าที่ทำตลอดก็คือทอดไข่เจียว ผมทอดไข่อร่อยมาก พี่ปราบยังติดใจเลย


MuePrab : คงถึงทุ่มหน่อยๆ
MuePrab : จะกินข้าวที่บ้านหรือจะออกไปกินข้าวนอก

กินที่ห้องเถอะ : Patcharakan
ผมขี้เกียจออกแล้ว : Patcharakan
MuePrab : โอเค
MuePrab : งั้นก็อาบน้ำแต่งตัวนอนรอบนเตียงเลยนะ
MuePrab :เดี๋ยวกลับไปแล้วจัดมื้อเย็นให้



ผมไม่ตอบอะไรกลับไป กดปิดหน้าจอทันที ก่อนจะเหลือบมองว่ามีใครแอบเห็นข้อความเมื่อตะกี้หรือไม่ แต่ทุกคนนั่งก้มหน้าอยู่กับโทรศัพท์ของตัวเองก็ถอนหายใจ จากนั้นก็กดเปิดโทรศัพท์อ่านข้อความเมื่อตะกี้อีกครั้ง

“ไอ้พี่บ้า” ผมด่าพี่ปราบเสียงเบา แล้วก็ได้แต่แอบขำอยู่ในใจ ทำมาเป็นพูดว่าจะจัดให้ ตั้งแต่วันนั้นพี่ปราบก็ไม่ได้ทำอะไรลึกซึ้งอีกเลย

ผมจำได้ขึ้นใจเลยว่าครั้งแรกของผู้ชายมันโคตรเจ็บ หลังจากนั้นผมก็มาหาข้อมูล ถึงได้รู้ว่าบางคนถึงกับเลือดออกก็ยังมี ของผมนี่โชคดีแค่ไหนที่แค่บวมกับช้ำ จะต้องให้พูดไหมว่าของพี่ปราบแม่งใหญ่ขนาดไหน ผมไม่ได้เลือดนี่แปลว่าคงใช้แต้มบุญหมดไปแล้ว ถ้าจะทำอีกครั้งน่าจะต้องไปทำบุญเพิ่มก่อนเป็นอย่างแรก

ในตอนเช้าที่ตื่นมา ผมปวดเมื่อยเนื้อตัว ไม่ถึงกับเป็นไข้เพราะร่างกายผมอึดทึกทนพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็เคล็ดขัดยอกไม่น้อย โดยเฉพาะเวลาเดินมันจะเสียดสีและขัดจนแสบ สองวันแรกทำได้แค่อยู่ห้องเพื่อพักรักษาตัว จนผมหายดีแล้วพี่ปราบอยากจะทำอีกก็งานเข้ากะทันหัน ผ่านมาจะเดือนหนึ่งแล้วที่พี่ปราบงานยุ่งกลับบ้านค่ำตลอด แต่เวลาอยู่กันสองคนทีไร ต้องคอยลวนลามผมเสมอ

ผมเองก็ไม่น้อยหน้า เสียตัวไปแล้วก็เริ่มจะหน้าด้านขึ้น ผมมีความรู้สึกที่อยู่ดีๆก็อยากกอด อยากจูบพี่ปราบ ผมก็ทำเลย แรกๆพี่ปราบก็มองหน้าผมเหมือนเห็นพี่ที่บางทีผมก็พุ่งตัวเข้าไปกอดรัดเขาแล้วปล้ำจูบที่หน้าโซฟา บ่อยครั้งเขาเขาก็พร้อมรับมือกับผมเสมอ

ผมกลับมาถึงคอนโดก่อนช่วงหนึ่งทุ่ม ก็เข้าไปอาบน้ำจนร่างกายสะอาดดี วันนี้ช่วยพ่อขนของเอาไปขายของตัวผมเปรอะคราบฝุ่นคราบน้ำมัน เพราะของที่ว่าก็เป็นเศษเหล็กกึ่งขยะกลายๆ วันนี้จึงอาบน้ำนานกว่าทุกวัน

จะเล่าให้ฟังว่า ก่อนจะคบกับพี่ปราบ ผมใช้เวลาอาบน้ำแค่สามนาทีเท่านั้น พอตัวเปียกน้ำผมก็ฟอกสบู่เลย ใช้สบู่ก้อนด้วย ถูๆๆรอบเดียวเดียวจบแล้วล้างตัวเป็นอันเสร็จ โดยไม่รู้ว่าตัวผมมีขี้ไคลเยอะมาก เป็นสาเหตุให้ผมผิวขาวแซมดำ เพราะความจริงผมเป็นคนขาวพอตัว แต่เพราะความซกมกไม่ยอมขัดตัวไม่อาบน้ำให้สะอาด มันก็เลยเกิดคราบดำเป็นปื้นๆบนตัว

แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วนะ เพราะได้พี่ริชกับพี่เค้กจับถลกหนังทุกเย็นวันเสาร์เวลาไปที่บ้านใหญ่ ครั้งแรกผมแสบผิวไปทั้งตัวจนต้องร้องขอชีวิต แต่หลังจากที่ผมได้เจอกับแฟนเก่าพี่ปราบที่ชื่อฟิล์ม และผู้หญิงผู้ชายคนอื่นที่เข้าหาพี่ปราบเขาดูดี ผมก็เลยอยากให้ตัวเองดูดีบ้าง สุดท้ายต้องกลับไปให้พี่เค้กกับพี่ริชถลกหนังอีกรอบ จนตอนนี้จะมีแค่ผิวนอกร่มผ้าที่เข้มกว่าข้างในเสื้อผ้าเพราะเจอแดด แต่ไม่มีคราบไคลสกปรกแล้ว

แต่ผมก็ไม่ถึงกับขนาดขัดผิวเองหรอกนะ แค่ใช้ฟองน้ำขัดตัวคู่กับครีมอาบน้ำถูๆวนไปวนมาเท่านั้น จากอาบน้ำสามนาทีก็เป็นหกนาที เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งเท่าตัว ถือว่าเป็นเวลาที่ดีจริงๆ

“นี่อาบน้ำเตรียมนอนรอกูบนเตียงจริงเหรอเนี่ย” ผมออกมาจากห้องน้ำก็เจอพี่ปราบยืนปลดเนคไทอยู่ในห้อง มองผมด้วยสายตาหยาบโลน ไม่ปกปิดความหื่นแม้แต่น้อย

“ตลกเถอะ ผมช่วยงานที่บ้านมา กลับมาก็ต้องอาบน้ำสิ”

“แน่ใจ” พี่ปราบหลิ่วตากวนประสาท

“แน่ใจดิ หนีเลย ผมจะไปแต่งตัว” ผมดันตัวพี่ปราบที่ก้าวเข้ามายืนขวางทางออก แอร์ที่นี่หนาวจับใจ ยืนเปลือยท่อนบนนานๆมันก็หนาวเหมือนกันนะ

“ดูดิ หัวนมแข็งเชียว” พี่ปราบใช้นิ้วสะกิดนมผมเล่น ผมบิดตัวหนีเพราะมันเสียว

“อย่าเล่นสิพี่ ถอยไป ผมหนาว” รู้ว่าผมหนาวก็ยังจะแกล้ง

“หนาวหรือมีอารมณ์ จัดก่อนกินข้าวดีไหม”

“ผมหนาวโว้ย ถอยไป”

“ฮ่าๆๆ โอเคครับเมีย หนาวก็หนาว”

“ไม่ใช่เมียโว้ย” ผมปาผ้าเช็คหัวใส่พี่ปราบที่ยืนขำตัวงออยู่กลางห้องนอน แต่ไม่ระวังเกือบทำผ้าเช็ดตัวที่พันเอวหลุด ดีนะคว้าหมับตรงไอ้ซ่าน้อยได้ทัน จึงเป็นจุดเดียวที่ได้รับการปิดบังไว้อย่างเดียว

“แหนะๆ ปากบอกแค่หนาว แต่แก้ผ้ายั่วเราเลย สรุปเอาไงเนี่ย”

“กวนตีน” ผมบ่นกับตัวเอง รีบจับผ้าพันเอวแล้วไปรื้อหาเสื้อผ้าในตู้ แต่งตัวเสร็จก็หนีออกมานั่งรอที่โซฟา จนพี่ปราบอาบน้ำแต่งตัวเสร็จถึงได้เริ่มกินข้าวเย็นที่ปราบซื้อกลับมาด้วย

อยู่กับพี่ปราบอีกสักปีสองปี ผมต้องอ้วนกลายเป็นหมูแน่ๆ ของกินแต่ละอย่างที่พี่ปราบสรรหาซื้อกลับมาอร่อยๆทั้งนั้น ไม่มีที่จะไม่อร่อย ยิ่งถ้ากลับบ้านใหญ่วันเสาร์อาทิตย์นะ ยิ่งอิ่มหมีพลีมัน อิ่มเปรมสุดๆ

   “สุดสัปดาห์นี้กูต้องไปตรวจโรงแรมที่เขาใหญ่ ไปกับกูไหม”

   พอได้ยินว่าเขาใหญ่ผมก็หูผึ่ง

“ผมไปได้เหรอพี่” ผมรีบถาม ผมเคยไปเขาใหญ่ครั้งเดียวกับที่บ้าน เมื่อประมาณห้าปีที่แล้วมั้ง ไปนอนรีสอร์ทด้วย จำได้ว่าผมชอบมาก แต่มันก็นานมาแล้ว หลังจากนั้นบ้านผมก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกเลย

“ไปได้สิ ตรวจงานไม่เยอะหรอก กูขอวันหยุดป๊าแล้วด้วย หยุดยาวถึงวันพุธเลย”

“งั้นผมไป แต่ผมยังไม่ได้บอกพี่ริชกับอาเจเลย”

ตอนนี้ผมทำงานสองที่ ตอนกลางวันไปทำงานเป็นเด็กฝึกงานที่อู่รถของพี่ริช จะทำเฉพาะวันที่ไม่ต้องไปทำงานที่ร้านอาเจ ส่วนวันไหนทำงานที่ร้านอาเจผมก็ไม่ต้องไปทำงานที่อู่ ไปทำงานกับพี่ริชให้เงินผมด้วยนะ ผมดีใจ จะได้มีเงินเก็บไว้ให้แม่ใช้ เพราะตัวผมเองไม่ต้องใช้อะไรมาก เกือบทุกอย่างพี่ปราบออกให้หมด

“กูบอกให้แล้ว พวกเขาอนุญาต”

“ขอบคุณครับ”

ครั้งก่อนที่ไปกาญจนบุรี ผมก็สนุกมาก แต่ดันมีเรื่องพี่ปราบคอยก่อกวนหัวใจ จึงทำให้รู้สึกไม่สนุกเต็มที่ คราวนี้แหละ ผมจะไปเที่ยวให้สำราญไปเลย




ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 07-02-2018 18:38:26
รอ...ตอนจบค่าาาา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: RiRi ที่ 07-02-2018 18:39:51
ผมรอไปเที่ยวอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดวันเสาร์ที่รักที่ผมรอคอยก็มาถึง ผมตื่นเต้นไม่ได้นอนทั้งคืน ก็เลยโดนพี่ปราบจับรีดน้ำ แต่ไม่ได้ใส่เข้ามาเพราะเขากลัวผมเดินทางไม่ไหว หากร่างกายไม่พร้อมจะทำให้เที่ยวไม่สนุก ผมก็เลยได้หลับตอนตีสองเห็นจะได้ ตื่นอีกทีก็ตีห้า

“พี่ปราบ ผมหิว” พอตื่นมาท้องก็ร้องเลย

“อยากกินอะไร จะได้แวะซื้อ” พี่ปราบคาดเข็มขัดรถเสร็จก็หันมาถาม

“ผมอยากกินหมูปิ้งกับข้าวเหนียว ขอน้ำเต้าหู้ด้วย” ผมร้องขอ

ตั้งแต่ย้ายมาอยู่คอนโดพี่ปราบ ผมก็ไม่ได้กินอะไรแบบนี้เท่าไหร่ เพราะคอนโดของพี่ปราบตั้งอยู่แถบคนมีอันจะกิน แถวๆหน้าคอนโดเลยไม่มีรถเข็นของกินมาขาย ถ้าจะกินก็ต้องเดินออกไปไกล และตอนเช้าผมตรู่ผมก็ไม่มีความพยายามขนาดนั้น

“แต่มันจะเหม็นรถพี่ปราบไหม” ผมรีบถาม ถึงจะเป็นแฟนกัน แต่เรื่องกลิ่นในรถมันก็ต้องเกรงใจเจ้าของรถด้วย

“ช่างมันเถอะ” พี่ปราบพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“แต่กลิ่นมันเหม็นนะ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้แกล้งพี่ปราบที่กำลังใช้สมาธิขับรถ เขาเหลือบมองผมเล็กน้อยแล้วพูดเสียงเรียบ

“งั้นไม่ต้องกินเนอะ”

“ไม่เอา กินสิ ผมอยากกิน”

ถึงจะง่วง แต่ได้แกล้งพี่ปราบก่อนไปก็ทำให้ผมอารมณ์ดี พี่ปราบแวะจอดรถให้ผมลงไปซื้อข้าเหนียวหมูปิ้งพร้อมน้ำเต้าหู้ ขึ้นรถมาผมก็ลงมือกินพร้อมป้อนพี่ปราบไปด้วย

“เลอะปากเลยอ่ะพี่” ผมจิ้มหมูใส่ปากพี่ปราบจังหวะที่รถเบรก จากที่จะเข้าปากก็เลยจิ้มไปที่จมูก

“เช็ดให้หน่อย”

ผมรีบหากระดาษทิชชู่เช็ดคราบที่เลอะให้จนสะอาด ก็ป้อนข้าวเหนียวที่ปั้นเป็นคำต่อ พี่ปราบถอยมองเพื่อกะระยะในการงับข้าว แต่ไม่รู้ว่ากะพลาดหรือจงใจ ปากพี่ปราบดูดนิ้วชี้กับนิ้วโป้งไปด้วย

“อร่อย” พูดพร้องเหล่ตามอง

เข้าใจล่ะ...ผมโดนแกล้งคืนแล้วแบบนี้

กินเสร็จจนท้องอิ่มผมก็ง่วง พี่ปราบได้กาแฟไปแล้วก็เลยตาสว่าง แต่ผมไม่กินกาแฟก็เลยนั่งสัปหงกไปเรื่อยๆ ไม่อยากปล่อยให้พี่ปราบขับรถไปคนเดียว

“ง่วงก็นอน”

“ไม่เอา จะอยู่เป็นเพื่อนพี่”

“กูเพื่อนมึงเหรอ” พี่ปราบเริ่มแล่นลิ้น

“เปล่าเป็นแฟน” ผมก็หน้าด้านตอบ

“อ้าว กูไม่ได้เป็นผัวมึงเหรอ”

ผมสตั้นไปสามวิ ก่อนจะรีบตีหน้านิ่งตอบกลับไป

“ไม่ได้เป็นนิ” อย่าไปกลัวครับ โต้มาโตกลับ

“งั้นคืนนี้เตรียมตัวนะ เดี๋ยวพี่เลื่อนสถานะให้ หึหึ”

“ใครจะให้” ผมบ่นกับตัวเอง สู้ไม่ชนะเราก็ต้องเงียบครับ

คราวนี้ผมเงียบยาว หลับไปเลย ตื่นอีกทีก็ถึงโรงแรมพอดี พอได้เห็นวิวในโรงแรมผมก็ตาสว่างแบบไม่ต้องพึ่งของเปรี้ยว

“โคตรสวยเลย”

ตัวโรงแรมน่ะยังไม่ถึง แต่วิวสองข้างทางจากทางเข้ายาวไปถึงข้างในสวยมาก สวนทั้งสองด้านตกแต่งสวยงาม ทั้งต้นสนสูงใหญ่ ซุ้มเถาวัลย์ และแปลงดอกไม้ บรรยากาศไม่เหมือนอยู่เมืองไทย เหมือนอยู่เมืองนอกมากกว่า

“ตื่นแล้วเหรอ”

“ครับ พี่ปราบ ที่นี่โรงแรมพี่ปราบจริงๆเหรอ”

“ของป๊าต่างหาก”

“ก็เหมือนกันนั่นแหละ สวยมากเลยอ่ะ”

“ไว้ว่างๆมาเดินเล่นได้”

“โห แต่กว้างใหญ่ขนาดนี้ อยู่เป็นเดือนก็น่าจะยังเดินไม่ทั่ว”

ขับรถเข้ามาถึงพี่ปราบก็พาผมไปส่งที่ห้องพัก ส่วนพี่ปราบขอแยกตัวไปทำงาน แต่เดี๋ยวตอนเที่ยงจะกลับมากินข้าวด้วย

ห้องพักของผมน่าจะเป็นห้องที่ดีที่สุด เพราะได้วิวมุมสูง กวาดมองได้หมดทั่วทุกมุม ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่สบายขึ้น พี่ปราบน่าจะยุ่งอยู่กับงาน ผมก็เลยลงไปเดินเล่นคนเดียว พี่ปราบมีกล้องถ่ายรูปที่คงจะแพงและใช้งานได้ดี แต่ผมใช้ไม่เป็น ทำได้แค่กดชัตเตอร์เท่านั้น สวยบ้างเบลอบ้างปนๆกันไป

พอถึงเวลาเที่ยงพี่ปราบก็โทรหา บอกให้ผมไปรอที่ห้องอาหาร แต่ผมยังไม่ทันเดินไปถึง ก็มีพนักงานชายเดินมารับถึงที่

จบมื้อกลางวันพี่ปราบก็ต้องไปทำงานต่อ แต่เขาบอกแค่ว่าทำงานแค่วันแรกวันเดียว วันต่อๆไปก็แค่เดินดูเท่านั้น จะมีเวลาอยู่กับผมได้มากกว่านี้ ผมไม่ซีเรียสนะ ผมเข้าใจว่าพี่ปราบงานหนักงานเยอะ ผมไม่อยากเป็นภาระ การนั่งชิวๆริมสนะว่ายน้ำมองสาวๆในชุดบิกินี่มันก็ดีไปอีกแบบ

ประมาณสี่โมงเย็นผมก็กลับไปที่ห้อง รอพี่ปราบกลับมาจากทำงาน ผมส่งข้อความคุยกับพี่ริช พี่เขาแนะนำให้ผมทำน้ำร้อนใส่อ่างอาบน้ำไว้ พอพี่ปราบกลับมาก็จะได้แช่น้ำร้อนๆให้สบายตัว

“เหงาไหม” พี่ปราบถามเป็นคำแรกเมื่อกลับมาที่ห้อง

“ไม่เหงาหรอก ผมเดินเล่นถ่ายรูปแถวนี้ไปเรื่อย”

“ก็ดีแล้ว พรุ่งนี้กูจะพาไปขี่ม้านะ” พี่ปราบดึงผมเข้าไปกอด แล้วหอมแก้มผมทั้งสองข้าง

พี่ปราบไปทำงานมาทั้งวัน แต่ตัวของเขาก็ยังหอมอยู่ดี ไม่มีกลิ่นเหงื่อไคลที่เป็นกลิ่นสกปรก อาจจะด้วยเพราะน้ำหอมผสมเข้ากับกลิ่นตัว เลยทำให้พี่ปราบดูมีเสน่ห์ดึงดูด จนผมอยากกอดอยากดมทั้งวัน

“ที่นี่มีม้าด้วยเหรอ” ผมเงยหน้าถามด้วยความตื่นเต้น ผมไม่เคยขี่ม้าเลยสักครั้ง แต่อยากลองขี่มากถึงมากที่สุด

“มี อยู่ที่ท้ายโรงแรม เข้าไปลึกหน่อย เพราะถ้าอยู่โซนหน้าจะทำให้โรงแรมมีกลิ่นเหม็น”

“อ่อ งั้นพรุ่งนี้เราไปขี่ม้ากันนะ”

“อืม”

“พี่ปราบ ผมรองน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว พี่ไปอาบน้ำได้เลย”

พี่ปราบเลิกคิ้วสูง มองหน้าเหมือนจะถามว่าผมพูดจริงหรือล้อเล่น พอผมพยักหน้าให้พี่ปราบก็ก้มหน้าลงมาจูบ ก่อนจะผละไปที่ห้องน้ำ

“อาบด้วยกันไหม ไหนๆก็เตรียมน้ำในอ่างไว้แล้ว” พี่ปราบชะโงกหน้าออกมาถาม แต่ผมส่ายหน้า ไว้อาบทีเดียวคืนนี้ เพราะถ้าออกไปกินข้าวเดี๋ยวก็เหนียวตัวอีก

ไม่รู้ว่าผมกลายเป็นคนเริ่มรักความสะอาดตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ว่าผมยังชอบที่พี่ปราบตัวหอม ผมก็อยากให้ตัวของผมหอมเหมือนกัน

 ข้าวเย็นพี่ปราบจัดเต็มด้วยอาหารฝรั่งแบบเต็มรูปแบบ ผมนั่งอึ้งเพราะทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่พี่ปราบก็คอยสอนตั้งแต่ว่าส้อมที่ขนาดต่างกันใช้ยังไง ช้อนอันไหนใช้กับซุป อันไหนใช้กับขนมหวาน และวันนี้พี่ปราบสอนให้ผมกินข้าๆ ค่อยๆกิน ไม่ใช่กินแบบจ้วงเอาๆแบบทุกที

“หัดเอาไว้ วันข้างหน้ามึงต้องไปออกงานพร้อมกูและครอบครัวกู ถึงตอนนั้นจะได้ทำเป็น กูไม่แคร์ที่ใครจะมองมึงยังไง แต่มึงจะต้องแคร์หน้าตาตัวเอง คนในสังคมตัดสินคนที่มารยาทของชนชั้นสูงและเม็ดเงิน ดังนั้นมึงจะต้องไม่ทำให้ใครดูถูกตัวมึงเอง

“ผมกลัวทำได้ไม่ดี”

“ทุกคนต้องมีครั้งแรก และต้องมีการฝึกฝนถึงจะทำได้ กูก็ผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่ยังเป็นเด็กไม่รู้ความด้วยซ้ำ ในเมื่อกูผ่านมันมาได้ มึงก็จะผ่านมันไปได้”

“ผมจะพยายาม”

ในเมื่อผมตัดสินใจแล้วว่าจะยืนอยู่เคียงข้างพี่ปราบ คนที่สมบูรณ์ไปทุกด้าน ผมก็ควรจะถีบตัวเองให้เสมอเท่าเขา อย่างนั้นจะได้ไม่ทำให้พี่ปราบและครอบครัวของเขาต้องขายขี้หน้า

ช่วงค่ำพี่ปราบพาผมเดินย่อยอาหาร ดูบรรยากาศยามค่ำคืนในโรงแรม มีโซนบาร์เปิดเพลงและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผมนั่งจิบค็อกเทลไปสี่แก้วกูรู้สึกว่ามึน พี่ปราบเลยชวนกลับมาที่ห้อง ผมรีบพุ่งตัวเข้าไปอาบน้ำก่อนเลย พร้อมกับออกมาด้วยชุดเสื้อคลุม

วันทั้งวันผมก็ไม่ได้ทำอะไร แต่ไม่รู้ทำไมถึงเพลีย เห็นเตียงนอนก็อยากจะทิ้งตัวลงเต็มที่ อะไรที่ผมต้องการผมก็จะทำสิ่งนั้น ผมเดินไปนอนแผ่คว่ำหน้าลงกับเตียง แอร์เย็นช่ำกระทบกับผิวที่ยังเปียกน้ำ มันช่างสดชื่นจนผมเคลิ้มหลับไม่รู้ตัว

“ทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะนอน” พี่ปราบตีแก้มผมเบาๆเป็นการปลุก

“ไม่เปลี่ยนแล้ว ผมขี้เกียจ” ผมตอบเสียงอู้อี้

“ถ้าไม่เปลี่ยนงั้นก็ถอดนะ”

“...” ถอดทำไม ทำไมต้องถอด

พี่ปราบจับผมให้นอนหงาย ผมลืมตามอง ถึงได้รู้ว่าพี่ปราบเองก็ออกมาตัวเปล่า ไม่มีผ้าเช็ดตัวปกปิดร่างกายเลยสักนิด มากไปกว่านั้นคือปราบน้อยมันกำลังชี้หน้าผมอยู่

“จะทำเหรอ” ผมถาม

“ได้ไหมละ”

ผมไม่ตอบ แต่เป็นฝ่ายลุกขึ้นไปจูบพี่ปราบแทน ถือซะว่าเป็นการตอบแทนที่เขาพาผมมาเที่ยวแล้วกัน อยากทำอะไรผมจะไม่ห้าม แม้ว่าเขาจะลากผมไปกอดที่ประตูกระจกตรงระเบียง หรือแม้แต่ที่โซฟาพี่ปราบก็ยังอุ้มผมไปได้ ทั้งที่เขาไม่หยุดกระแทกผมแม้แต่น้อย

นอกจากให้ความร่วมมือแล้วก็ตอบรับความเสียงซ่านแล้ว ผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกเลย

ครั้งที่สองดีกว่าครั้งแรกหน่อย เจ็บหน่อยกว่า และสนุกกว่ามาก







ตื่นอีกที่หนึ่งก็สายของวันใหม่ ผมตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอพี่ปราบ ก็เลยนอนเรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียง ดีที่เมื่อคืนตัดสินใจอาบน้ำแม้ว่าแทบจะไม่มีแรงเหลือแล้วก็ตาม วันนี้ตื่นมาก็เลยไม่เหนียวเหนอะให้รำคาญตัว

ผมนอนเล่นโทรศัพท์ คุยเล่นกับพวกไอ้หวาย พวกมันยังคงสาปแช่งผมที่ผมไม่ชวนมันมาเที่ยว และล้อผมตลอดว่าผมมาฮันนีมูนกับพี่ปราบ บอกผมกับพี่ปราบมาผลิตลูกกัน

ผลิตลูกพ่อง

กูไม่มีมดลูก ไอ้พวกเพื่อนเหี้ยนี่ กวนตีนจริงๆ

 “ตื่นแล้วทำไมไม่ไปอาบน้ำ” พี่ปราบนั่งลงบนเตียง ทำไมผมไม่เห็นรู้สึกตัวเลยว่าพี่ปราบกลับเข้ามาในห้อง เป็นแบบนี้หลายรอบแล้ว ผมแทบไม่เคยได้ยินเสียงผีเท้าพี่ปราบเลย ไม่รู้จะเท้าเบาไปไหน ถ้าเวลาอื่นทำเบาๆได้ก็คงจะดี

“พี่ไปไหนมา” ผมถาม

“ออกไปเดินดูงานมาเฉยๆ กูสั่งอาหารเช้าให้ขึ้นมาส่งให้แล้ว เพราะป่านนี้ข้างล่างเข้าเก็บอาหารเช้าแล้วเรียบร้อย”

“ขอบคุณครับ อื้อ...ขี้เกียจสุดๆไปเลย” ผมลุกขึ้นนั่งพลางบิดขี้เกียจ

ไม่มีเวลาให้อิดออด ผมก็ต้องลุกไปอาบน้ำแล้วออกมากินข้าวเช้าที่มีหลากหลายเมนู ตั้งแต่อาหารไทยอย่างข้าวต้ม ไข่ลวก และพวกขนมปังปิ้งไส้กรอก เขาจัดมาให้เท่าไหร่ผมก็กินหมดเท่านั้น กินจนจุกเพราะเมื่อคืนใช้พลังงานไปก็ไม่นอน แถมวันนี้ต้องใช้พลังงานอีก จะไหวไหมเนี่ยกู

“ยังเจ็บก้นอยู่หรือเปล่า” พี่ปราบเดินมาถามผมที่กำลังแต่งตัว แต่ไม่ถามแค่ปากไง มือก็ลูบก้นผมไปด้วย

“เจ็บนิดหน่อย พอทนได้” ผมตอบ

“ถ้าตอนขี่ม้าแล้วเกิดเจ็บจนไม่ไหวก็บอก ห้ามฝืนเด็ดขาด”

“ครับผม”

โรงแรมของพี่ปราบมีพื้นที่มากกว่า1500ไร่ เรียกได้ว่าใหญ่มากๆ จะมาที่ฟาร์มม้าก็ต้องขับรถเข้ามา ไม่สามารถเดินมาได้ ด้วยเพราะด้านหน้าเป็นต้นลม หากจะเลี้ยงม้าก็ต้องเลี้ยงท้ายไร่ กลิ่นขี้ม้าจะได้ไม่ไปรบกวนแขก

พอเข้ามาในฟาร์มม้าทุกตัวก็ส่งเสียงทักทายพี่ปราบ มีทั้งม้าตัวใหญ่และม้าตัวเล็ก บางตัวก็สีดำเป็นเงา บางตัวก็สีขาว

พี่ปราบเลือกม้าให้ผมตัวหนึ่งเป็นสีน้ำตาล มันดูเป็นมิตรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นมิตรกับผม มันเลยดูน่ารักน่าขี่สุดๆ

พี่ปราบสอนให้ผมขึ้นมา และสอนวิธีควบคุมและกำกับให้มันเลี้ยวซ้ายขวาหรือหยุดเดิน ผมใช้เวลาฝึกพื้นฐานราวครึ่งชั่วโมง พี่ปราบถึงพาขี่ม้าแบบเหยาะๆออกไปดูบรรยากาศท้ายไร่ ม้าที่พี่ปราบขี่เป็นสีดำเงาทั้งตัว แววตาของมันดูดื้อ แต่มันก็เชื่องกับพี่ปราบ

ต้องขอบคุณที่วันนี้มีเมฆมาก ทำให้แดดไม่แรง อากาศก็เย็นสบาย ได้ขี้ม้ารับลมแบบนี้เหมือนได้ชาร์ตแบตไปในตัว

เบื้องหน้าของผมเป็นเส้นทางที่ทอดยาวไปไกล เหมือนกับตัวผมที่เพิ่งจะอยู่แค่จุดเริ่มต้น หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลที่ผมจะต้องฝ่าฝันไปให้ได้ แต่ผมก็พร้อมแล้วที่จะเติบโตเป็นคนดีมีอนาคต

โลกนี้กว้างใหญ่กว่าที่ผมเคยคิด และผมอยากเห็นโลกที่ใหญ่กว่านี้และสวยงามกว่านี้

“ซ่า”

“ครับ” ผมหันไปมองพี่ปราบ ดวงตาของเขาทอดมองผมด้วยความภูมิใจ เป็นสิ่งที่ผมต้องการและเขาเป็นคนแรกที่ให้มันกับผม

“ชอบไหม” พี่ปราบถาม

ผมฉีกยิ้มจนออกทางดวงตา “ชอบมากครับ”

“อยู่กับกูไปนานๆนะ”

“ผมจะอยู่กับพี่ไม่ไปไหน” ผมให้คำมั่นสัญญา

พี่ปราบควบม้าเข้ามาใกล้ผม ก่อนจะแบมือข้างขวาที่ตรงหน้า มือคู่นี้เคยประคับประคองผมครั้งแล้วครั้งเล่า คอยฉุดผมให้ลุกขึ้นสู้กับชะตาชีวิต และเป็นมือคู่นี้ที่เติบเต็มความรักและกำลังใจให้ผมเสมอมา

“เชื่อใจกูไหม”

‘ผมเชื่อ’

ผมตอบพี่ปราบในใจ ให้การกระทำเป็นคำตอบ ด้วยการวางมือลงตัวเองลงบนมือของพี่ปราบ มือของเขาจับกันแน่น ก่อนที่ตัวผมจะลอยหลุดออกจากตัวม้า แล้วขึ้นมานั่งอยู่บนม้าตัวเดียวกับพี่ปราบ ผมนั่งอยู่ข้างหน้า พี่ปราบซ้อนอยู่ข้างหลัง จากที่วิ่งเหยาะๆเช้าๆ ม้าก็พุ่งทะยายไปข้างหน้า ราวกับว่าไม่มีอะไรจะขวางกั้นพวกเราไว้ได้

ผมไม่รู้หรอกว่าเราจะเดินกันไปได้ไกลแค่ไหน ความรักระหว่างผู้ชายด้วยกันมันจะยั่งยืนไหม แต่ตอนนี้ผมรู้แค่ว่า ผมรักผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ชื่อว่าปราบ เขาปราบผมได้อยู่หมัด และทำให้ผมรักเขาจนไปไหนไม่รอด

ถ้าคุณถามผมว่าพี่ปราบมีความหมายกับผมยังไง ผมจะขอตอบว่า...

“พี่คือความโชคดีของผม ขอบคุณที่รักผมนะครับ”







จบบริบูรณ์





...................................................................
สวัสดีค่ะ
ในที่สุดก็จบลงจนได้ ริริเองก็เต็มอิ่มและปลื้มปลิ่มมากกับนิยายเรื่องนี้  :m1:
เนื่องด้วยที่ริริเคยบอกไว้ว่า ตัวละครของน้องซ่านั้น เป็นชีวิตจริงของคนใกล้ตัวริริเอง สถานการณ์ทางครอบครัวที่ริริเขียนลงไป อิงเค้าโครงจากเรื่องจริงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็น ด้วยตัวยายของซ่าเคยไปดูดวง แล้วบอกว่าอนาคตของซ่าจะได้คนเลี้ยงดูแต่เป็นผู้ชาย และจะมีอนาคตที่ดี เรื่องนี้ตัวน้องซ่า(ตัวจริง) ไม่รู้ แต่เรารู้ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าวันหนึ่งน้องได้เจอกับใครสักคนหนึ่งที่จะช่วยน้องได้ มันคงจะดีมากๆ นิยายเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นเพราะเหตุนี้
ถึงแม้ว่าเรื่องจริงจะยังไม่เกิด แต่ในนิยายก็ถือว่าน้องซ่าได้มีความสุขและเจอคนที่รักจริงเสียที
ขอขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะ ที่ติดตามอ่านนิยายเรื่องนี้จนจบ ร่วมทุกร่วมสุขกับพี่ปราบและน้องซ่า
ขอบคุณทุกคอมเม้นเม้นและคะแนนที่กดให้ ถือเป็นแรงใจที่ดีมากๆเลยค่ะ
นิยายเรื่องนี้ จะตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ฟาไฉนะคะ สามารถไปกดติดตามได้ที่เพจของริริ หรือเพจของสำนักพิมพ์ได้เลยค่ะ
FaCai Novels (https://www.facebook.com/Facai.Publishing/)
ยังไงถ้าชื่นชอบก็ฝากน้องซ่ากับพี่ปราบไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ รับไปดูแลกันหน่อยนะคะ
ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆที่มีร่วมกันกับนิยายเรื่องนี้ค่ะ
ด้วยรัก
ริริ
 :L1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 07-02-2018 18:57:31
 :hao3: ยังดีที่น้องขี่ม้าไหวเราเลยได้ฉากจบแบบโรแมนติก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-02-2018 19:07:58
 :pig4: :pig4: ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-02-2018 19:27:45
จบแล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:
 
ปราบ  ซ่า   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ซ่า มีความสุขแล้ว มีคนรัก ที่เห็นความสำคัญของซ่า
ได้เรียนต่อ ได้อยู่เคียงข้างพี่ปราบ
ขอบคุณไรท์
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-02-2018 19:42:12
 :pig4: อยากอ่านตอนที่ซ่าประสบความสำเร็จในชีวิตจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 07-02-2018 19:50:37
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 07-02-2018 20:05:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 07-02-2018 20:10:20
ซ่ามีเทรนเนอดีจากพี่ริช พี่เค้ก เราติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกรู้สึกประทับใจมาก รู้ถึงนิสัยที่เริ่มพัฒนาดีขึ้นของซ่า ทั้งความคิด และการกระทำ ไม่ไช่การพัฒนาแบบก้าวกระโดดแต่ค่อยๆพัฒนาไปทีละนิด  พี่ปราบก็ดีกับน้องมาก อ่านถึงตอนจบเราก็รู้สึกว่าอนาคตซ่าจะดีขึ้นกว่านี้อีก ประทับใจมากๆคะ  อยากไห้มีภาค2ต่อ ยังอยากเห็นซ่าตามรอยพี่ปราบสามารถยืนเคียงข้างพี่ปราบด้วยความภูมิใจมากกว่านี้. รอภาค2คะ ไม่มีก็ไม่เป็นไรคะ :ling2:  ขอตอนพิเศษหน่อยยยยยยย  :-[ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 07-02-2018 20:15:14
 :pig4:  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 07-02-2018 20:17:53
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 07-02-2018 20:27:04
จะมีตอนพิเศษไหมค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-02-2018 20:34:08
ยินดีด้วยกับชีวิตคูนะปราบ-ซ่า  o15
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-02-2018 20:48:06
ดีใจที่สุดท้ายแล้วซ่ามีความสุขและได้เดินในทางที่ควรเดิน อิอิ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 07-02-2018 20:49:50
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้นะคับ ตามกันมายาวนานสุดท้ายซ่าก็ได้พบกับความสุขสักที ขอให้ปราบซ่าครองรักกันยืนยาวตลอดไป และขอให้น้องซ่าตัวจริง ได้พบกับความสุขเร็วๆ นะคับ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-02-2018 20:54:05
ขอตอนพิเศษได้ไหมค่ะ  น่ะๆๆ  อยากเห็นน้องซ่าในรั้วมหาลัย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-02-2018 21:32:27
มีความสุขอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ ขอบคุณค่ะสนุกมาก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 07-02-2018 21:34:11
ชอบมว๊ากกก…อะเรื่องนี้    :m3:

ขอบคุณคนแต่งมาก ๆ


รออุดหนุนรวมเล่มฮะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 07-02-2018 21:37:04
ปลื้มปริ่ม รักกันไปนานๆนะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 07-02-2018 21:48:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 07-02-2018 21:49:30
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ปลื้มใจกับความรักของน้องซ่าและพี่ปราบค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 07-02-2018 21:55:00
โคตรน่ารักจริง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 07-02-2018 22:11:27
ฮืออ แอบเสียดายที่จบแล้ว
แต่ก็ขอบคุณที่เขียนมาจนจบนะคะ สนุกมากมันมีความเรียลในนั้นจริงๆ
นับถือใจพี่ปราบที่อดทนรอน้อง ไม่ใช่ว่าคนๆนึงจะเปลี่ยนรสนิยมกันง่ายๆ
และหวังว่าน้องซ่าตัวจริงจะมีความสุขเช่นกันค่ะ

รอตอนพิเศษน้า รอเล่มด้วย
ที่สำคัญ รอเรื่องต่อไปค่าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 07-02-2018 22:52:23
ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายดีๆ มาให้อ่าน
ขอตอนพิเศษด้วยจร้าาา  :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 07-02-2018 22:57:07
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ หวังว่าจะได้ติดตามเรื่องอื่นๆอีกต่อไปค่าา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 07-02-2018 23:28:34
หูยยย จบแล้วคะคูณณณณณ หวานซะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 08-02-2018 01:54:13
รักกกกก กลิ่นไอความสุขลอยฟุ้งจริงๆนะ
ดีใจที่ซ่าได้เจอพี่ปราบ ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 08-02-2018 10:26:43
โอ้ย จบดีเวอร์ นึกว่าจะไม่รอดแล้วเว่ย ซ่าเอ้ย ดีๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 08-02-2018 10:47:54
ความรักช่างอวบอวล
บวกและเป็ด ขอบคุณพี่ปราบและซ่า
สนุกมาก
 :3123:
 
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 08-02-2018 10:57:29
ฮือออ ดี๊ดีอะ ดีมากๆ พระเอกโคตรดี รักแบบค่อยๆสอนค่อยๆปลุกปั้น ซ่าก็พยายามเพื่อพี่ปราบ ก็เข้มแข็งขึ้นมาได้ กลายเป็นคนใหม่ที่ค่อยๆเติบโตต่อไป พี่ปราบบบบ พ่อพระของน้องซ่า ไม่ต้องมีดราม่าความรักอะไรเลย เพราะชีวิตก็ยากเกินพอแล้ว จับมือฝ่ากันมาได้ตั้งหากที่สำคัญ ตัวละครพัฒนาแลบเห็นชัดมาก นี่แหละนิยายรักที่ใฝ่ฝัน
อยากได้ตอนพิเศษๆๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-02-2018 16:32:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-02-2018 18:50:21
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ สนุกมากๆค่ะ และขอให้น้องซ่า(ตัวจริง)ได้พบเจอพี่ปราบของน้องและมีความสุขเหมือนน้องซ่าในเรื่องนี้นะคะ :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 08-02-2018 19:52:58
ขอบคุณค่า คงคอถึง นิยายเรื่องนี้น่าดู

ซ่า น้องเรากำลังโตขึ้นไปในทางทีดี สู้ ๆ นะซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 08-02-2018 20:03:08
 :katai2-1:  สนุกดี เสียดายมาอ่านเรื่องนี้ช้าไปหน่อย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-02-2018 21:39:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 09-02-2018 19:19:37
อ่านรวดเดียวจบ วางไม่ลง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 10-02-2018 12:49:23
ขอบคุณค่ะ สนุกมากๆเลย
ช่วงแรกๆขัดใจซ่าจนอยากให้พี่ปราบปล่อย5555
แต่หลังๆมาซ่าน่ารักมากดีใจที่ซ่ารักพี่ปราบ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 10-02-2018 17:04:59
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 11-02-2018 10:48:24
จบลงอย่างมีความสุข
ดีใจที่ซ่ามึชีวิตที่ดีซะที
หลังจากเจ็บปวดกับครอบครัวมานาน
พี่ปราบเป็นผู้ชายที่ดีมาก
เข้าใจน้องซ่า และช่วยชักนำให้พบกับสิ่งดีๆ
และสุดท้ายขอบคุณคนเขียน
เราอ่านเรืีองของริริมาหลายเรืีอง
เรืีองนี้เป็นอีกเรืีองที่ชอบมากกกกก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 12-02-2018 16:02:06
สนุกมาก...
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 13-02-2018 21:26:45
หลัง ๆ นี่ ซ่าเคะแตกมากกกกลูก

เรื่องที่บ้านเคลียร์แล้ว แต่ส่วนตัวเราก็อยากให้เคลียร์กว่านี้ ขยี้เข้าไปให้ดราม่า อุ๊บส์  o18

ดีแล้วค่ะ จบแบบนี้ดีแล้ว มีเหตุผลดี o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 13-02-2018 21:29:30
สนุกมากค่ะ ชอบคนแบบพี่ปราบ ที่คอยสอนน้องด้วยความหวังดีตลอด สงสารซ่าที่เจอแต่เรื่องแย่ๆ ทำให้กลายเป็นคนไม่มั่นใจไปเลย แต่ครอบครัวของพี่ปราบก็เข้ามาเติมเต็มได้ ดีมากจริงๆ
 บางทีก็คิดว่าพี่ปราบสอนน้องแบบรวบรัดไปนิด เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ อารมณ์นั้น555555
แอบเคืองตอนที่พี่ปราบลองใจ ในมุมของเราคือซ่าแมนมากถึงมากที่สุด มันไม่ผิดเลยที่น้องจะลังเลหนักมากเพราะความคิดในหัวน้องมันก็เป็นไปในมุมของเด็กผู้ชายที่เหมือนเจอพี่ชายใจดี แต่ก็ดีใจที่สุดท้ายแล้วทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ซ่าเจอคนดีๆมีชีวิตที่ดี
พิมพ์มาขนาดนี้รู้เลยว่าทีมน้องซ่า เอ็นดูน้อง555555555

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 14-02-2018 12:01:27
ขอบคุณคนแต่ง. ที่นำเสนอเรื่องราวดีๆ

มีแง่คิดดีๆหลายเรื่องเลยทีเดียว

ขอบคุณน๊า :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: pummy09 ที่ 14-02-2018 15:59:05
ขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับนิยายสนุกๆๆเรื่องนี้ ลุ้นตั้งนานว่ามะไหร่น้องซ่าจะยอมพีปราบ ฮ่าาาาา
 ในที่สุดก็เรียบร้อย  ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-02-2018 13:14:22
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: armsa2531 ที่ 15-02-2018 14:26:44
 :ling1:ง่วงมากอะแต่ไม่อยากนอน กำลังสนุก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 16-02-2018 14:26:52
ผู้ขายแบบปราบเนี่ยหาได้จากที่ไหน
ซ่าโชคดีมากๆ
อยากอ่านตอนพิเศษจัง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-02-2018 21:29:46
ขอบคุณมากนะคะ ส่งท้ายได้อย่างสวยงาม และสมยอม
ถึงแม้เรื่องจริงยังเป็นเรื่องของอนาคต
แต่ขอให้น้องเค้ามีความสุขตั้งแต่ปัจจุบันเลยนะคะ

ซ่าน่ารักมาก พอยอมรับ พอรักแล้ว พอชัดเจน
ทุกอย่างดูละมุน ซ่าพยายาม ซ่าสู้ ซ่าพร้อมที่จะไปข้างหน้า
อาการอยากตัวติดกัน อยากกอด อยากหอม มีไม่ขาด

ปราบก็ไม่เคยทิ้งน้องไปไหน
และแสดงออกชัดเจนมากว่าแคร์คนนี้ที่สุด
หลงน้องหนักมาก และรักน้องหนักเพิ่มไปอีก

ซ่าโชคดีที่มาเจอปราบ ทุกอย่างดีขึ้นไปหมด
สภาพจิตใจของซ่าคือสำคัญ เพราะตอนนี้ซ่ารู้แล้ว
ว่ายังมีคนให้ความสำคัญและอยู่เคียงข้างเสมอ

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ รอติดตามเรื่องต่อไปค่ะ

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 18-02-2018 00:35:31
สนุกมากๆเลยค่ะ เป็นเรื่องที่มีเนื้อหาสะท้อนสังคมอยู่มากๆเลย โดยเฉพาะครอบครัวของซ่า และการใช้ชีวิตของซ่าเอง
ถ้ามีจิงๆ คนแบบซ่าจะโชคดีมากๆ ที่ได้มาเจอคนดีมากๆแบบพี่ปราบและครอบครัวที่ดีของพี่ปราบ แถมรวยด้วยหล่อด้วยอีก 55555
ค่อนข้างจะไม่ค่อยชอบครอบครัวซ่าเท่าไหร่ ทำแบบนี้ทำให้เด็กเก็บกดได้แล้วจะมีหัวรุนแรงมาก แต่ซ่าก็เป็นเด็กดีที่ไม่ขึ้นเสียงกับคนที่ครอบครัว
ในความคิดเราเรื่องความรักสมัยนี้มันเปิดกว้างมาก แต่ก็มีบางคนที่ไม่ยอมรับจิงๆ เราก็ทีเพื่อนที่เป็นทั้งทอมดี้ เลสเบี้ยน เกย์ ก็มี เราว่ามันก็ไม่ได้แปลกอะไร อยู่ที่ใครจะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้มากกว่า
สู้ๆคนเขียนต่อไปนะค่า เนื้อเรื่องดีเนื้อหาดี เอาใจช่วยค่าาาาา  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: เมียงู ที่ 19-02-2018 20:31:16
แอบใจร้ายนะคะ อิพี่จัดก่อนแล้วพาน้องไปขี่ม้า สงสาร55555555555

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ สนุกมาก  o1
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 19-02-2018 21:51:05
 :pig4: น่ารักมากๆ ปราบดูเป็นผู้ชายอบอุ่น อยากได้จุง :hao7:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-02-2018 18:40:14
อยากอ่านตอนพิเศษ จะมีไหมหนอ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Mosskerr ที่ 21-02-2018 13:56:20
ประทับใจมากอีกเรื่องเลย รักพี่ปราบและน้องซ่าจัง
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 23-02-2018 21:14:40
ชอบเรื่องนี้มากเลย เป็นเรื่องที่ดีค่ะ พระเอกเป็นคนที่มีความคิดดีมาก ได้ข้อเตือนใจหลายอย่าง เนื้อเรื่อก็ดี อยากให้มีภาคต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-02-2018 22:47:22
 :m3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-02-2018 13:05:29
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 24-02-2018 21:42:56
สนุกมากกกกค่าาาา พี่ปราบหลัวแห่งชาติจริงๆ ดีใจที่น้องซ่ามีพี่ปราบคอยดูแล
อ่านจบพร้อมรอยยิ้มและความสุข ขอบคุณมากค่ะ ริริ
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: gunnk16 ที่ 25-02-2018 10:21:09
ชอบบ อ่านรวดเดียวจบ

ชอบพี่ปราบ ผู้ชายอะไรดี๊ดีอ่ะ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 25-02-2018 20:13:31
อ๊าในที่สุด ซ่าน้อยของเจ้! รอบสองนี้ดีกว่าใช่มะ//ผิด!

จบแล้วใจหายมากเลยค่ะ แต่ดีใจมากที่ซ่าได้พบกับความสุข ขอบคุณมากๆนะคะที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้มาให้ได้อ่านกัน :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 26-02-2018 13:54:40
สนุกมาก พี่ปราบเป็นผู้ชายในฝันเลย หล่อ รวย เก่ง ใจดี(กับแฟน)
ซ่าก็ชีวิตน่่าสงสาร ค่อยโชคดีตรงมาเจอพี่ปราบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: numildkub ที่ 28-02-2018 00:42:55
ขอบคุณนักเขียนมากนะคะที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆออกมา
สร้างตัวละครที่น่ารักอย่างซ่าและพี่ปราบ
เนื้อเรื่องปูมาดีมากเลยค่ะ
แต่เสียดายตอนจบนิดหน่อย จบห้วนไปหน่อย
แต่ก็เคลียปมเกือบหมดนะคะ จริงๆอยากทีาบเรื่อวของพ่อ-แม่ จริงๆของซ่าด้วย
ส่วนตัวคิดว่าอยากให้จัดทำเป็นรูปเล่มมากเลยค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ:-)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: kakdtskaito ที่ 01-03-2018 12:01:20
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ค่ะ
อ่านแล้วอบอุ่นในใจมาก
และเราจะตามไปเก็บหนังสือนะค่ะ  o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-03-2018 21:39:30
นี่มันขบวนการต้มตุ๋นให้ชายแท้อย่างซ่าเสียตัวโดยแท้ 555
มากับทั้งครอบครัว ถ้าไม่ได้แม่ๆแนะนำ สงสัยปราบต้องรออีกนาน เอิ้กๆ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-03-2018 15:59:02
อยากอ่านตอนพิเศษค่ะ มีไหม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 13-03-2018 18:43:12
สนุกมากก ปราบซ่า
พี่ปราบนี่สามีแห่งชาติจริง มีอีกสักคนไหมม
ขอบคุณที่แบ่งปันนิยายดีๆนะค่าา
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Wanaree hem ที่ 03-04-2018 15:34:42
ชอบๆๆๆๆๆๆๆ เรื่องดีอ่านสนุก อยากได้แบบพี่ปราบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 05-04-2018 11:11:15
พี่ปราบคนดีมากๆ ฮืออออ
น้องซ่าโชคดีมากจริงๆ
คนอ่านปลื้มปริ่มค่าาา  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 18-04-2018 23:50:07
สงสาซ่ามาก สะท้อนปัญหาครอบครัวของไทยได้ดีเลย
แอบคิดว่าพี่ปราบจัดยาแรงให้น้องเกินไปหรือเปล่า
ตอนที่วัดใจน้อง สงสารมากเลย
ไม่เคยอ่านของบรรดาพ่อๆเลย แต่ละคนชีวิตโชกโชนมาก
อยากอ่านตอนซ่าเข้ามหาลัยเลย พี่ปราบจะหึงขนาดไหน

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 21-04-2018 09:38:00
รอรูปเล่มนะคะ 

ชอบมากกกกก

หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 21-04-2018 21:37:43
อ่านเรื่องบ้านซ่าแล้วก็ได้แต่ปลง มันมีจริงๆนะครอบครัวแบบนี้ ซ่าโชคดีมากนะที่มีเพื่อนดี แฟนดี
ว่าแต่เซเว่นมีพี่ปราบขายมั้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: spsygk ที่ 22-04-2018 15:42:05
ชอบมากกกกกกกกกกกกกก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 24-04-2018 00:44:11
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะคุณริริ แรกๆต้องยอมรับก่อนเลยว่าเราคิดว่าเป็นแนวแฟนตาซีเหมือนพี่งู ฮ่าาาาา แต่ก็ไม่ผิดหวังที่ได้มาอ่านค่ะ ช่วงแรกเราค่อนข้างหมั่นไส้น้องซ่ามาก อาจจะเพราะว่าน้องยังเด็กแถมเป็นชายแท้ ทำให้บางความคิดขัดใจเรายิ่งนัก แต่ก็เห็นพัฒนาการของน้องค่ะว่าค่อยๆเติบโตขึ้นอย่างดี ถูกเลี้ยงโดยพี่ปราบ //เรารู้สึกเหมือนเฮียเลี้ยงต้อยเลย 55555 พี่ปราบนี่งานดีมากนะคะ. อยากได้เป็นพ่อของลูก  :hao7: เป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 26-04-2018 22:24:18
ชอบทุกอย่างที่เป็นพี่ปราบเลย ฮื่ออออ
น้องซ่าโชคดีมากที่ได้เจอพี่ปราบ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 27-04-2018 14:07:07
ขอบคุณมาก อบอุ่นกับพี่ปราบสุดๆ มีความโดนพ่อช้อว่าอ่านแต่พี่ปราบสนไม่สนพ่อเลย กรรม  ซ่าน่ารักมากเลย ครอบครัวก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: gungchan ที่ 28-04-2018 02:18:52
ปราบซ่า มีให้มากกว่าคำว่าสนุกนะคะ ผู้แต่งเก่งมากค่ะ หลายๆ ตอน ในคำพูดของพี่ปราบ พี่ริช พี่เค้ก และ ป๊า จะแฝงประเด็นให้ซ่าคิดทบทวน อย่างเป็นเหตุเป็นผล เพื่อให้ซ่าได้ยอมเปิดใจ และยอมรับตัวเอง
ขอบคุณผู้แต่งมากนะคะ นิยายดีมากๆ กึ่งสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างในสังคมครอบครัว สถาบันการศึกษา
ปัญหาทุกอย่างมันมีทางออก แต่ตัวเราต้องเริ่มที่ตัวเอง ยอมรับ และแก้ไข ประเด็นที่สำคัญที่ผู้แต่งต้องการสื่อ คือ เราต้องรักตัวเองให้เป็น มันก้ำกึ่งกับคำว่า เห็นแก่ตัว การรักตัวเองโดยที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน นั้นต่างจากคำว่าเห็นแก่ตัว
 :L2: ส่งกำลังใจให้นะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 22-05-2018 20:10:27
สนุกมากกกกกก อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ  ตอนแรกมองข้ามเรื่องนี้ไป พอได้มาอ่านดูจริงๆดีใจมากที่ได้เจอ ชอบพี่ปราบมากๆ อบอุ่นอะไรขนาดนี้ ดีใจกับซ่าด้วยที่มีคนรักจริงๆสักที  :hao5:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Stmmltww ที่ 23-05-2018 04:03:40
ขอบคุณมากค่า พึ่งเจอเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวจบเลย เรื่องครอบครัวน้องก็พูดยากนะคะ เพราะก็มีครอบครัวแนวนี้อยู่จริงๆ แต่ดีใจที่น้องเจอครอบครัวที่ดีและรักน้องให้น้องในสิ่งที่น้องต้องการได้แล้ว แม้จะหมั่นไส้พี่ปราบมากก็ตาม
ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 25-05-2018 10:43:56
งืออออออ ชอบมากๆ เลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 25-05-2018 17:00:41
เป้นนิยายที่ดีมากๆอีกเรื่องเลยค่ะ อบอุ่นมากๆ ดีใจกับซ่าที่เจอที่ที่เป็นของตัวเอง ชอบพี่ปราบมาก หล่อ ฉลาด ใจดี สายเปย์ เก่งด้วย ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Wendy ที่ 26-05-2018 20:55:28
ชอบพี่ปราบมากที่รักใครแล้วอยากให้เขาเป็นคนดี หรือแม้น้องซ่าเองที่อยากเป็นคนดีเพราะรักพี่ปราบ. ต้องบอกว่าน้องซ่าโชคดีจริงๆ ที่ได้รู้จักกับครอบครัวพี่ปราบ.
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ที่นำเสนอแง่มุมนี้ออกมา.
 :L2:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 27-05-2018 18:20:53
มาอ่านอีกรอบ ก็ยังละมุนเหมือนเดิม  :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 28-05-2018 19:06:37
เป็นเรื่องที่มองข้ามมานานมาก สุดท้ายตัดสินใจไม่ผิดที่อ่าน อ่านรวดเดียวจบเลย เพลินมาก อยากได้พี่ปราบมาก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 29-05-2018 07:33:01
ขอบคุณมากค่ะ ดีใจกับน้องซ่าจริง ๆ 
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 29-05-2018 09:31:53
ชอบนิยายเรื่องนี้มาก อ่านแล้วปลื้มปริ่มมาก แรกๆก็ร้องไห้ไปกับชีวิตน้องซ่า หลังๆก็เริ่มอิจฉาน้องที่มีพี่ปราบมาดูแล
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 03-06-2018 17:08:26
สนุกมาก ซึ่งใจ อ่านแล้วให้ข้อคิดหลายอย่างเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 03-06-2018 22:19:50
เป็นเรื่องที่สนุกและดีงามมากจริงๆค่ะ พี่ปราบของเราก็แสนดีเป็นทุกอย่างให้น้องมีแต่ความหวังดี
ซ่าน่าสงสารมาก ดีใจที่มีพี่ปราบคอยดูแลแล้วว
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ ชอบมากๆค่ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 04-06-2018 11:00:40
เป็นนิยายอีกเรื่องที่ดีมาก
เราชอบซ่า ชอบพี่ปราบ ชอบครอบครัวพี่ปราบ
เราร้องไห้ให้กับชีวิตซ่าที่ต้องต่อสู้กับครอบครัวตัวเอง
ซ่าเป็นเด็กดีมากกกกก :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 10-06-2018 21:30:40
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะะะ เตรียมตังอุดหนุนรูปเล่มเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: เขมกันต์ ที่ 13-06-2018 19:43:01
พี่ปราบบบบบบบบบบบ ทูนหัว
ขออภัยที่มาเมนท์ช้านะคะ อ่านจบไปเมื่ออาทิตย์ก่อน มาช้าก็ดีกว่าไม่มาเนาะ

สารภาพว่าไม่เคยอ่านงานของคุณเลยค่ะ แต่ในที่สุดเราก็ได้อ่านค่ะ
หลงพี่ปราบมาก ชอบการสอนของพี่ปราบ ที่ไม่ได้ยื่นมือไปตลอดเวลา
ให้ซ่าได้จัดการแก้ไขปัญหาตัวเอง และไม่เคยทิ้งกำลังใจให้เด็กดื้อเลย
มันยังไงดีล่ะ มันให้ฟีลแบบ ยังไงก็มีคนที่คอยห่วงจากตรงนี้นะ มันแบบ เออ ดีอะ

ชอบทั้งรุ่นพ่อด้วยค่ะ ป๊า คุณพ่อ พี่ริช พี่เค้ก (จะตามไปอ่านรุ่นคุณพ่อคุณป๊านะคะ)
แต่ละคนมีวิธีการเป็นตัวของตัวเองที่เด่นมาก และเลี้ยงพี่ปราบให้เติบโตมาได้อย่างดีเยี่ยมเลย
น่ารักมากกกกกกกกก

มีหลายช่วงอ่านไปลุ้นไปว่า พี่ปราบจะอดทนไม่กินน้องได้ถึงเมื่อไหร่ ลุ้นตลอด ฮ่าๆ
นับถือใจของพี่ปราบเลยนะ เฮียแมนมาก ซ่าเองก็รู้จักปรับตัว โตขึ้นมาก ถึงแม้จะมีบางช่วง
ที่งี่เง่ากับแฟนเก่าไปบ้าง แต่ก็นั่นแหละค่ะ คนเรามันต้องมีบทเรียน


ขอบคุณนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 14-06-2018 11:21:02
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนิยายดีๆ คุณริริแต่งออกมาได้สนุกจริงๆค่ะ ตามอ่านผลงานมานาน สงสัยต้องกลับไปอ่านเรื่องราวของรุ่นป๊ากันอีกรอบ คิดถึงงง
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้ออกมานะคะ รอติดตามผลงานเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 16-06-2018 15:16:11
สนุกมากเลยค่ะ แอบเสียน้ำตาให้น้องซ่าไปหลายหยด ซ่าโชคดีมาก ๆ ที่เจอพี่ปราบ หวังว่าน้องจะได้มีความสุขกับเขาจริง ๆ สักที
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 16-06-2018 15:53:03
น่าร๊ากกกก  ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: 19august ที่ 18-06-2018 18:22:44
น่ารักมากกกกพี่ปราบคือดีสุดๆๆๆ เป็นหลัวที่ดีต่อใจม้ากกก
น้องซ่าก็น่าร้ากกกกกก ขอบคุณมากนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 20-06-2018 18:51:21
สนุกมากค่ะ รักทุกคนเลย รุ่นพ่อก็มาให้หายคิดถึง ขอบคุณมากค่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 24-06-2018 20:13:04
อยากอ่านตอนที่น้องมั่นใจแบบนางพญาบ้างงงงง :)
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 13-08-2018 21:38:32
สนุกมากค่ะ เกือบพลาดเรื่องดี ๆ ไปซะแล้วเรา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 19-08-2018 18:45:59
นี่วนกลับมาอ่านรอบสอง รอบแรกอ่านในเด็กดี แล้วก็ยังประทับใจกับเรื่องราวดีๆแบบนี้

ซ่าเป็นคาแรกเตอร์ที่เราชอบมาก ภายนอกที่ดูเข้มแข็งและกระด้าง แต่ภายในกลับเปราะบาง เก็บความทุกข์ไว้แต่เพียงในใจเพราะคิดว่าบอกไปใครก็ไม่สน มันทำให้เรารู้สึกอยากปกป้องดูแลและผ่อนคลายความกังวลในใจของเค้ามากๆ ยิ่งซ่ามีปัญหาในใจกับคนในครอบครัว เรายิ่งรู้สึกว่าซ่าเป็นคนที่เข้มแข็งมากๆในระดับหนึ่งเลยที่ยังประคับประคองตัวเองให้เป็นคนเอาการเอางานได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นเราคนที่บ้านแสดงออกว่าไม่ใส่ใจ โดนด่าว่าแบบซ่า มีแม่แท้ๆไม่อยากให้เกิดมา แถมมารู้ว่าเป็นเด็กที่เกือบตายเพราะโดนทำแท้งเนี่ย เป็นเราเราอาจจะเกลียดแม่ตัวเองไปเลยด้วยซ้ำ แล้วก็คงจะเกลียดตัวเองมากๆจนทำตัวแหลวแหลกกว่าซ่าอ่ะ เราเลยดีใจมากๆที่ชีวิตนี้ซ่าได้เจอพี่ปราบ เพราะในโลกนี้มันจะมีคนซักกี่คนกันที่รักตัวตนของเราและดูแลเราดีกว่าคนในครอบครัว ขอบคุณพี่ปราบจริงๆที่รักซ่า#แฟนดี2017,2018 and forever

เอาจริงๆนะ นี่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไงต่อไป แม้ว่าทั้งสองคนจะเลิกรักกัน แต่เราว่าจะไม่มีใครเสียใจเลยที่ได้ใช้ช่วงเวลาดีๆร่วมกับอีกฝ่ายอ่ะ ปลื้มใจมาก ขอให้ทั้งคู่มีกันและกันตลอดไป //ยิ้มเช็ดน้ำตา
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Kio ที่ 14-11-2018 10:26:35
อ่านทั้งคืนเลยทีเดียว ชีวิตน้องซ่าน่าสงสารมาก มีความเรียลแบบเรียลลิตี้ เด็กช่างมีแฟน ต่อยตี อ่านถึงตอนพลอยก็สะดุ้งเป็นพักๆ เพราะรู้สึกเหมือนโดนด่า (อ่านนิยายที่มีชื่อตัวเองเป็นตัวละครนี่มันแย่ว์จริงๆ) เป็นผู้หญิงเห็นแก่ได้และไม่รู้จักพอจริงๆ ของดีมีอยู่แล้วดันทิ้งไป ถึงซ่าจะโมโหร้ายยังไงก็ไม่ถึงกับตบตี แต่ฉากบีบคอขอให้เลิกนี่เรากลัวมาก ซึ่งถ้าเป็นเมืองนอกคงพาไปบำบัดแล้ว น้องเก็บกดอะ แอบเส้าที่ไม่กล้าซ่ากับพี่ปราบแต่แรก ก็เออ ใครจะกล้าวะ แบคใหญ่ บ้านรวย แบบ พี่ปราบเป็นพระเอกที่เพอร์เฟคมากกกก เพอเฟคจนเราไม่อาจเอื้อม เป็นพระเอกแบบที่ทนรอน้องมันบวชอพ คิดดู๊ ถึงแค่ตอนเดียวเราก้หน่วงละ อิพี่มันอดทนขนาดไหน ที่อ่านๆ มานี่เหมือนจะไม่มีข้อเสีย คอยสอน คอยบอก นำทางให้เด็ก ถ้ามีคนแบบพี่ปราบเยอะๆ ก็ดี แต่คงยาก พี่ปราบเหมือนไม่ใช่คนจริง เอื้อมไม่ถึง ก็ดีใจแทนน้องมัน ซวยมาทั้งชีวิต จากนี้จะได้ดีขึ้นๆ ขอบคุณที่พี่ปราบเข้ามาช่วยน้องซ่า ปลื้มใจแทน ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆ ให้อ่านนะคะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: jbook ที่ 28-12-2018 10:49:15
 :mew1:สนุกมากเลยอ่ะ พี่ปราบดีงาม
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: auza_jub ที่ 02-02-2019 16:25:17
สนุกมากๆเลยค่ะ อยากให้พี่ปราบมีอยู่ในชีวิตจริงเลยค่ะ อบอุ่นและก็มีเหตุผล แง้ :-[ :ling1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวยุ่ง ที่ 04-02-2019 10:31:31
สนุกมากกก อ่านเพลินมากก สงสารเจ้าซ่าที่สุด พี่ปราบคือความดีงามจริงๆ ดีใจที่ซ่าได้มาเจอพี่ปราบ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าอ้วงงง ที่ 16-02-2019 12:49:56
สนุกดีค่ะ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 20-02-2019 00:23:03
สนุกและชอบมาก ๆ เลยค่ะ อ่านแล้วสงสารซ่ามาก ซ่าโชคดีที่เจอพี่ปราบที่รักและเข้าใจซ่า ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-02-2019 01:20:46
วกกลับมาอ่านอีกค่ะ​ ด้วยใจหวังว่าจะมีตอนพิเศษ​ในความสำเร็จ​ของ​ซ่า
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 23-02-2019 20:50:29
ขอบคุณจ้า ปราบซ่าเป็นคู่ที่น่ารักค่อยๆสอนค่อยๆรักเติมเต็มซึ่งกันและกันน่ารักมากจ้า :pig4: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ffern ที่ 08-04-2019 11:28:09
 :ling1: :ling1: อ่านจบเเล้วววเสียดายมากเเง้ใจหายสุดๆไม่อยากให้จบเลย เราไม่ได้อ่านฟิคเเบบไม่ทำอะไรเลยทั้งวันมานานมาก ปราบซ่าเป็นเรื่องที่ทำให้เรากลับไปเป็นเเบบนั้นอีก เรียกว่าอ่านทั้งวันทั้งคืน จบลงภายในสองวันเเบบดีมากๆ ดีสุดๆเราก็รู้สึกนะว่าชีวิตซ่ามันเรียลมาก มันมีคนเเบบนี้อยู่จริงๆ ส่วนคนเเบบพี่ปราบก็มีจริงๆ คนที่พร้อใจะเป็นผู้ใหญ่คอยสอนเราเสมอ คอยปกป้องเเเต่ให้เราออกไปเรียนรู้โลกได้ด้วยตัวเอง เวลาเราทำผิดก็พร้อมที่จะช่วยเสมอ ชอบมากรักเลยเรื่องนี้ประทับใจสุดๆ แปะไว้ในใจว่าชอบมากๆ อยากซื้อพี่ปราบเป็นของตัวเอง ดีมากอบอุ่นมากนึกว่าไมโครเวฟ เเต่อ่านจบเเล้ว ต่อจากนี้ขอให้พี่ปราบกับซ่ามีความสุขมากๆ ตัวละครทั้งหมดจะอยู่ในใจเราจลอดไปเลย รักกกกก :mew2: :mew3:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 27-06-2019 20:23:53
เรื่องนี้น่ารักมาก พี่ปราบคือเป็นผู้ใหญ่ อบอุ่นสุด :hao5:
อิจฉาซ่าเลยนะเนี่ย ยังไม่อยากให้จบเลยค่ะ อยากติดตามต่อไปเรื่อยๆ
ขอบคุณมากนะคะ ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ช่วยให้เราได้ผ่อนคลาย
ได้คลายเครียดจากชีวิตการทำงาน T^T ** แอบอ่านตอนอยู่ที่ทำงานด้วยนิดนึงแหละ 5555
รอติดตามผลงานต่อๆไปนะคะ เสียดาย มาไม่ทันตอนออนแอร์ มาอีกทีก็จบซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 22-07-2019 11:08:51
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ชอบบบ เรื่องนี้ดีมาก ทำไมชั้นถึงทิ้งไว้แล้วไม่อ่าน  :katai1: :katai1: :katai1: ขอบคูรมากเลยค่ะสำหรับนิยายเรื่องนี้ เดี๋ยวจะไปซื้อหนังสือมาอ่านตอนพิเศษ o13 o13
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: rutchi ที่ 17-03-2020 22:17:09
ขอบคุณคนเขียนนะครับ สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 10:20:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 04-05-2020 16:15:59
สนุกมากกก แต่รวบจบเร็วไปหน่อย อยากอ่านเรื่องราวต่อไปอีกยาว ๆ

 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 15-05-2020 11:37:34
สนุกมากค่ะ คุณแต่งเรื่องได้realistic มีความจริงบรรยายสวย ทุกอย่างลงตัวไปหมดเลยค่ะ ขอบคนะคะ
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: FaX ที่ 28-05-2020 00:30:04
สนุกมากเลยค่ะ เคมีเข้ากันสุดๆ น่ารักมากก  :haun4:  :pighaun:
หัวข้อ: Re: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: maedaekoara ที่ 04-06-2020 10:51:51
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: